📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

สํยุตฺตนิกาเย

ขนฺธวคฺค-อฏฺกถา

๑. ขนฺธสํยุตฺตํ

๑. นกุลปิตุวคฺโค

๑. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา

. ขนฺธิยวคฺคสฺส ปเม ภคฺเคสูติ เอวํนามเก ชนปเท. สุสุมารคิเรติ สุสุมารคิรนคเร. ตสฺมึ กิร มาปิยมาเน สุสุมาโร สทฺทมกาสิ, เตนสฺส ‘‘สุสุมารคิร’’นฺตฺเวว นามํ อกํสุ. เภสกฬาวเนติ เภสกฬาย นาม ยกฺขินิยา อธิวุตฺถตฺตา เอวํลทฺธนาเม วเน. ตเทว มิคคณสฺส อภยตฺถาย ทินฺนตฺตา มิคทาโยติ วุจฺจติ. ภควา ตสฺมึ ชนปเท ตํ นครํ นิสฺสาย ตสฺมึ วนสณฺเฑ วิหรติ. นกุลปิตาติ นกุลสฺส นาม ทารกสฺส ปิตา.

ชิณฺโณติ ชราชิณฺโณ. วุฑฺโฒติ วโยวุฑฺโฒ. มหลฺลโกติ ชาติมหลฺลโก. อทฺธคโตติ ติยทฺธคโต. วโยอนุปฺปตฺโตติ เตสุ ตีสุ อทฺเธสุ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺโต. อาตุรกาโยติ คิลานกาโย. อิทฺหิ สรีรํ สุวณฺณวณฺณมฺปิ นิจฺจปคฺฆรณฏฺเน อาตุรํเยว นาม. วิเสเสน ปนสฺส ชราตุรตา พฺยาธาตุรตา มรณาตุรตาติ ติสฺโส อาตุรตา โหนฺติ. ตาสุ กิฺจาปิ เอโส มหลฺลกตฺตา ชราตุโรว, อภิณฺหโรคตาย ปนสฺส พฺยาธาตุรตา อิธ อธิปฺเปตา. อภิกฺขณาตงฺโกติ อภิณฺหโรโค นิรนฺตรโรโค. อนิจฺจทสฺสาวีติ ตาย อาตุรตาย อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ อาคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต กทาจิเทว ทฏฺุํ ลภามิ, น สพฺพกาลนฺติ อตฺโถ. มโนภาวนียานนฺติ มนวฑฺฒกานํ. เยสุ หิ ทิฏฺเสุ กุสลวเสน จิตฺตํ วฑฺฒติ, เต สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย มหาเถรา มโนภาวนียา นาม. อนุสาสตูติ ปุนปฺปุนํ สาสตุ. ปุริมฺหิ วจนํ โอวาโท นาม, อปราปรํ อนุสาสนี นาม. โอติณฺเณ วา วตฺถุสฺมึ วจนํ โอวาโท นาม, อโนติณฺเณ ตนฺติวเสน วา ปเวณิวเสน วา วุตฺตํ อนุสาสนี นาม. อปิจ โอวาโทติ วา อนุสาสนีติ วา อตฺถโต เอกเมว, พฺยฺชนมตฺตเมว นานํ.

อาตุโร หายนฺติ อาตุโร หิ อยํ, สุวณฺณวณฺโณ ปิยงฺคุสาโมปิ สมาโน นิจฺจปคฺฆรณฏฺเน อาตุโรเยว. อณฺฑภูโตติ อณฺฑํ วิย ภูโต ทุพฺพโล. ยถา กุกฺกุฏณฺฑํ วา มยูรณฺฑํ วา เคณฺฑุกํ วิย คเหตฺวา ขิปนฺเตน วา ปหรนฺเตน วา น สกฺกา กีฬิตุํ, ตาวเทว ภิชฺชติ, เอวมยมฺปิ กาโย กณฺฏเกปิ ขาณุเกปิ ปกฺขลิตสฺส ภิชฺชตีติ อณฺฑํ วิย ภูโตติ อณฺฑภูโต. ปริโยนทฺโธติ สุขุเมน ฉวิมตฺเตน ปริโยนทฺโธ. อณฺฑฺหิ สารตเจน ปริโยนทฺธํ, เตน ฑํสมกสาทโย นิลียิตฺวาปิ ฉวึ ฉินฺทิตฺวา ยูสํ ปคฺฆราเปตุํ น สกฺโกนฺติ. อิมสฺมึ ปน ฉวึ ฉินฺทิตฺวา ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ กโรนฺติ. เอวํ สุขุมาย ฉวิยา ปริโยนทฺโธ. กิมฺตฺร พาลฺยาติ พาลภาวโต อฺํ กิมตฺถิ? พาโลเยว อยนฺติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา อยํ กาโย เอวรูโป, ตสฺมา.

เตนุปสงฺกมีติ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อุปฏฺานํ คนฺตฺวา อนนฺตรํ ปริณายกรตนสฺส อุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต ราชปุริโส วิย, สทฺธมฺมจกฺกวตฺติสฺส ภควโต อุปฏฺานํ คนฺตฺวา, อนนฺตรํ ธมฺมเสนาปติสฺส อปจิตึ กาตุกาโม เยนายสฺมา สาริปุตฺโต, เตนุปสงฺกมิ. วิปฺปสนฺนานีติ สุฏฺุ ปสนฺนานิ. อินฺทฺริยานีติ มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ. ปริสุทฺโธติ นิทฺโทโส. ปริโยทาโตติ ตสฺเสว เววจนํ. นิรุปกฺกิเลสตาเยว หิ เอส ปริโยทาโตติ วุตฺโต, น เสตภาเวน. เอตสฺส จ ปริโยทาตตํ ทิสฺวาว อินฺทฺริยานํ วิปฺปสนฺนตํ อฺาสิ. นยคฺคาหปฺา กิเรสา เถรสฺส.

กถฺหิ โน สิยาติ เกน การเณน น ลทฺธา ภวิสฺสติ? ลทฺธาเยวาติ อตฺโถ. อิมินา กึ ทีเปติ? สตฺถุวิสฺสาสิกภาวํ. อยํ กิร สตฺถุ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ปิติเปมํ, อุปาสิกา จสฺส มาติเปมํ ปฏิลภติ. อุโภปิ ‘‘มม ปุตฺโต’’ติ สตฺถารํ วทนฺติ. ภวนฺตรคโต หิ เนสํ สิเนโห. สา กิร อุปาสิกา ปฺจ ชาติสตานิ ตถาคตสฺส มาตาว, โส จ, คหปติ, ปิตาว อโหสิ. ปุน ปฺจ ชาติสตานิ อุปาสิกา มหามาตา, อุปาสโก มหาปิตา, ตถา จูฬามาตา จูฬปิตาติ. เอวํ สตฺถา ทิยฑฺฒอตฺตภาวสหสฺสํ เตสํเยว หตฺเถ วฑฺฒิโต. เตเนว เต ยํ เนว ปุตฺตสฺส, น ปิตุ สนฺติเก กเถตุํ สกฺกา, ตํ สตฺถุ สนฺติเก นิสินฺนา กเถนฺติ. อิมินาเยว จ การเณน ภควา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ อุปาสกานํ วิสฺสาสิกานํ ยทิทํ นกุลปิตา คหปติ, ยทิทํ นกุลมาตา คหปตานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๕๗) เต เอตทคฺเค เปสิ. อิติ โส อิมํ วิสฺสาสิกภาวํ ปกาเสนฺโต กถฺหิ โน สิยาติ อาห. อมเตน อภิสิตฺโตติ นสฺสิธ อฺํ กิฺจิ ฌานํ วา วิปสฺสนา วา มคฺโค วา ผลํ วา ‘‘อมตาภิเสโก’’ติ ทฏฺพฺโพ, มธุรธมฺมเทสนาเยว ปน ‘‘อมตาภิเสโก’’ติ เวทิตพฺโพ. ทูรโตปีติ ติโรรฏฺาปิ ติโรชนปทาปิ.

อสฺสุตวา ปุถุชฺชโนติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว. อริยานํ อทสฺสาวีติอาทีสุ อริยาติ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย อิริยนโต, สเทวเกน จ โลเกน อรณียโต พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ วุจฺจนฺติ. พุทฺธา เอว วา อิธ อริยา. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… ตถาคโต อริโย’’ติ วุจฺจตีติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๘). สปฺปุริสานนฺติ เอตฺถ ปน ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ สปฺปุริสาติ เวทิตพฺพา. เต หิ โลกุตฺตรคุณโยเคน โสภนา ปุริสาติ สปฺปุริสา. สพฺเพว วา เอเต ทฺเวธาปิ วุตฺตา. พุทฺธาปิ หิ อริยา จ สปฺปุริสา จ, ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธสาวกาปิ. ยถาห –

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร,

กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;

ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ,

ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);

‘‘กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’’ติ เอตฺตาวตา หิ พุทฺธสาวโก วุตฺโต, กตฺุตาทีหิ ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธาติ. อิทานิ โย เตสํ อริยานํ อทสฺสนสีโล, น จ ทสฺสเน สาธุการี, โส ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ จกฺขุนา อทสฺสาวี, าเณน อทสฺสาวีติ ทุวิโธ. เตสุ าเณน อทสฺสาวี อิธ อธิปฺเปโต. มํสจกฺขุนา หิ ทิพฺพจกฺขุนา วา อริยา ทิฏฺาปิ อทิฏฺาว โหนฺติ เตสํ จกฺขูนํ วณฺณมตฺตคฺคหณโต น อริยภาวโคจรโต. โสณสิงฺคาลาทโยปิ จกฺขุนา อริเย ปสฺสนฺติ, น เจเต อริยานํ ทสฺสาวิโน นาม.

ตตฺริทํ วตฺถุ – จิตฺตลปพฺพตวาสิโน กิร ขีณาสวตฺเถรสฺส อุปฏฺาโก วุฑฺฒปพฺพชิโต เอกทิวสํ เถเรน สทฺธึ ปิณฺฑาย จริตฺวา, เถรสฺส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา, ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺโต เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘อริยา นาม, ภนฺเต, กีทิสา’’ติ? เถโร อาห – ‘‘อิเธกจฺโจ มหลฺลโก อริยานํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา สหจรนฺโตปิ เนว อริเย ชานาติ, เอวํ ทุชฺชานาวุโส, อริยา’’ติ. เอวํ วุตฺเตปิ โส เนว อฺาสิ. ตสฺมา น จกฺขุนา ทสฺสนํ ทสฺสนํ, าเณน ทสฺสนเมว ทสฺสนํ. ยถาห – ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน? โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสติ. โย มํ ปสฺสติ, โส ธมฺมํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗). ตสฺมา จกฺขุนา ปสฺสนฺโตปิ าเณน อริเยหิ ทิฏฺํ อนิจฺจาทิลกฺขณํ อปสฺสนฺโต, อริยาธิคตฺจ ธมฺมํ อนธิคจฺฉนฺโต อริยกรธมฺมานํ อริยภาวสฺส จ อทิฏฺตฺตา ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติ เวทิตพฺโพ.

อริยธมฺมสฺส อโกวิโทติ, สติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อกุสโล. อริยธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถ ปน –

‘‘ทุวิโธ วินโย นาม, เอกเมเกตฺถ ปฺจธา;

อภาวโต ตสฺส อยํ, อวินีโตติ วุจฺจติ’’.

อยฺหิ สํวรวินโย ปหานวินโยติ ทุวิโธ วินโย. เอตฺถ จ ทุวิเธปิ วินเย เอกเมโก วินโย ปฺจธา ภิชฺชติ. สํวรวินโยปิ หิ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธ. ปหานวินโยปิ ตทงฺคปฺปหานํ, วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิโธ.

ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อยํ สีลสํวโร. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ อยํ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) สติสํวโร.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา)

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ,

ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส.๔) –

อยํ าณสํวโร. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ ขนฺติสํวโร. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ วีริยสํวโร. สพฺโพปิ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต ‘‘สํวโร’’ วินยนโต ‘‘วินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ตาว สํวรวินโย ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

ตถา ยํ นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสุ ปฏิปกฺขภาวโต ทีปาโลเกเนว ตมสฺส, เตน เตน วิปสฺสนาาเณน ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ. เสยฺยถิทํ – นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, ตสฺเสว อปรภาเคน กงฺขาวิตรเณน กถํกถีภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน ‘‘อหํ มมา’’ติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสนาย อภิรติสฺาย, มุจฺจิตุกมฺยตาาเณน อมุจฺจิตุกามตาย. อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลเมน ธมฺมฏฺิติยํ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคาหสฺส ปหานํ, เอตํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม.

ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต ฆฏปฺปหาเรเนว อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส, เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, เอตํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา นเยน (ธ. ส. ๒๗๗; วิภ. ๖๒๘) วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ปหานํ, อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ กิเลสานํ, เอตํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นาม.

ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, เอตํ นิสฺสรณปฺปหานํ นาม. สพฺพมฺปิ เจตํ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. ตํตํปหานวโต วา ตสฺส ตสฺส วินยสฺส สมฺภวโตเปตํ ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ปหานวินโยปิ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวมยํ สงฺเขปโต ทุวิโธ, เภทโต จ ทสวิโธ วินโย ภินฺนสํวรตฺตา ปหาตพฺพสฺส จ อปฺปหีนตฺตา ยสฺมา เอตสฺส อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโต ตสฺส อยํ ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจตีติ. เอส นโย สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถาปิ. นินฺนานากรณฺหิ เอตํ อตฺถโต. ยถาห –

‘‘เยว เต อริยา, เตว เต สปฺปุริสา. เยว เต สปฺปุริสา, เตว เต อริยา. โย เอว โส อริยานํ ธมฺโม, โส เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม. โย เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม, โส เอว โส อริยานํ ธมฺโม. เยว เต อริยวินยา, เตว เต สปฺปุริสวินยา. เยว เต สปฺปุริสวินยา, เตว เต อริยวินยา. อริเยติ วา สปฺปุริเสติ วา, อริยธมฺเมติ วา สปฺปุริสธมฺเมติ วา, อริยวินเยติ วา สปฺปุริสวินเยติ วา เอเสเส เอเก เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.

รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, ‘‘ยํ รูปํ, โส อหํ, โย อหํ, ตํ รูป’’นฺติ รูปฺจ อตฺตฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต ยา อจฺจิ, โส วณฺโณ. โย วณฺโณ, สา อจฺจีติ อจฺจิฺจ วณฺณฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ, เอวเมว อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ…เป… อทฺวยํ สมนุปสฺสตีติ เอวํ รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ อรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ฉายาวนฺตํ รุกฺขํ วิย ตํ รูปวนฺตํ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ปุปฺผสฺมึ คนฺธํ วิย อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา กรณฺฑเก มณึ วิย ตํ อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ. ปริยุฏฺฏฺายีติ ปริยุฏฺานากาเรน อภิภวนากาเรน ิโต, ‘‘อหํ รูปํ, มม รูป’’นฺติ เอวํ ตณฺหาทิฏฺีหิ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คณฺหนโก นาม โหตีติ อตฺโถ. ตสฺส ตํ รูปนฺติ ตสฺส ตํ เอวํ คหิตํ รูปํ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ สุทฺธรูปเมว อตฺตาติ กถิตํ. ‘‘รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ, เวทนํ อตฺตโต…เป… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ อรูปํ อตฺตาติ กถิตํ. ‘‘เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตาน’’นฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต. ตตฺถ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา, อวเสเสสุ สสฺสตทิฏฺีติ เอวเมตฺถ ปนฺนรส ภวทิฏฺิโย ปฺจ วิภวทิฏฺิโย โหนฺติ, ตา สพฺพาปิ มคฺคาวรณา, น สคฺคาวรณา, ปมมคฺควชฺฌาติ เวทิตพฺพา.

เอวํ โข, คหปติ, อาตุรกาโย เจว โหติ อาตุรจิตฺโต จาติ กาโย นาม พุทฺธานมฺปิ อาตุโรเยว. จิตฺตํ ปน ราคโทสโมหานุคตํ อาตุรํ นาม, ตํ อิธ ทสฺสิตํ. โน จ อาตุรจิตฺโตติ อิธ นิกฺกิเลสตาย จิตฺตสฺส อนาตุรภาโว ทสฺสิโต. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต โลกิยมหาชโน อาตุรกาโย เจว อาตุรจิตฺโต จาติ ทสฺสิโต, ขีณาสวา อาตุรกายา อนาตุรจิตฺตา, สตฺต เสขา เนว อาตุรจิตฺตา, น อนาตุรจิตฺตาติ เวทิตพฺพา. ภชมานา ปน อนาตุรจิตฺตตํเยว ภชนฺตีติ. ปมํ.

๒. เทวทหสุตฺตวณฺณนา

. ทุติเย เทวทหนฺติ เทวา วุจฺจนฺติ ราชาโน, เตสํ มงฺคลทโห, สยํชาโต วา โส ทโหติ, ตสฺมา ‘‘เทวทโห’’ติ วุตฺโต. ตสฺส อวิทูเร นิคโม เทวทหนฺตฺเวว นปุํสกลิงฺควเสน สงฺขํ คโต. ปจฺฉาภูมคมิกาติ ปจฺฉาภูมํ อปรทิสายํ นิวิฏฺํ ชนปทํ คนฺตุกามา. นิวาสนฺติ เตมาสํ วสฺสาวาสํ. อปโลกิโตติ อาปุจฺฉิโต. อปโลเกถาติ อาปุจฺฉถ. กสฺมา เถรํ อาปุจฺฉาเปติ? เต สภาเร กาตุกามตาย. โย หิ เอกวิหาเร วสนฺโตปิ สนฺติกํ น คจฺฉติ ปกฺกมนฺโต อนาปุจฺฉา ปกฺกมติ, อยํ นิพฺภาโร นาม. โย เอกวิหาเร วสนฺโตปิ อาคนฺตฺวา ปสฺสติ, ปกฺกมนฺโต อาปุจฺฉติ, อยํ สภาโร นาม. อิเมปิ ภิกฺขู ภควา ‘‘เอวมิเม สีลาทีหิ วฑฺฒิสฺสนฺตี’’ติ สภาเร กาตุกาโม อาปุจฺฉาเปติ.

ปณฺฑิโตติ ธาตุโกสลฺลาทินา จตุพฺพิเธน ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. อนุคฺคาหโกติ อามิสานุคฺคเหน จ ธมฺมานุคฺคเหน จาติ ทฺวีหิปิ อนุคฺคเหหิ อนุคฺคาหโก. เถโร กิร อฺเ ภิกฺขู วิย ปาโตว ปิณฺฑาย อคนฺตฺวา สพฺพภิกฺขูสุ คเตสุ สกลํ สงฺฆารามํ อนุวิจรนฺโต อสมฺมฏฺฏฺานํ สมฺมชฺชติ, อฉฑฺฑิตํ กจวรํ ฉฑฺเฑติ, สงฺฆาราเม ทุนฺนิกฺขิตฺตานิ มฺจปีทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมติ. กึ การณา? ‘‘มา อฺติตฺถิยา วิหารํ ปวิฏฺา ทิสฺวา ปริภวํ อกํสู’’ติ. ตโต คิลานสาลํ คนฺตฺวา คิลาเน อสฺสาเสตฺวา ‘‘เกนตฺโถ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เยน อตฺโถ โหติ, ตทตฺถํ เตสํ ทหรสามเณเร อาทาย ภิกฺขาจารวตฺเตน วา สภาคฏฺาเน วา เภสชฺชํ ปริเยสิตฺวา เตสํ ทตฺวา, ‘‘คิลานุปฏฺานํ นาม พุทฺธปจฺเจกพุทฺเธหิ วณฺณิตํ, คจฺฉถ สปฺปุริสา อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ เต เปเสตฺวา สยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา อุปฏฺากกุเล วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ คจฺฉติ. อิทํ ตาวสฺส นิพทฺธวาสฏฺาเน อาจิณฺณํ.

ภควติ ปน จาริกํ จรมาเน ‘‘อหํ อคฺคสาวโก’’ติ อุปาหนํ อารุยฺห ฉตฺตํ คเหตฺวา ปุรโต ปุรโต น คจฺฉติ. เย ปน ตตฺถ มหลฺลกา วา อาพาธิกา วา อติทหรา วา, เตสํ รุชฺชนฏฺานานิ เตเลน มกฺขาเปตฺวา ปตฺตจีวรํ อตฺตโน ทหรสามเณเรหิ คาหาเปตฺวา ตํทิวสํ วา ทุติยทิวสํ วา เต คณฺหิตฺวาว คจฺฉติ. เอกทิวสฺหิ ตฺเว อายสฺมนฺตํ อติวิกาเล สมฺปตฺตตฺตา เสนาสนํ อลภิตฺวา, จีวรกุฏิยํ นิสินฺนํ ทิสฺวา, สตฺถา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา, หตฺถิวานรติตฺติรวตฺถุํ กเถตฺวา, ‘‘ยถาวุฑฺฒํ เสนาสนํ ทาตพฺพ’’นฺติ สิกฺขาปทํ ปฺาเปสิ. เอวํ ตาเวส อามิสานุคฺคเหน อนุคฺคณฺหาติ. โอวทนฺโต ปเนส สตวารมฺปิ สหสฺสวารมฺปิ ตาว โอวทติ, ยาว โส ปุคฺคโล โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาติ, อถ นํ วิสฺสชฺเชตฺวา อฺํ โอวทติ. อิมินา นเยน โอวทโต จสฺส โอวาเท ตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา คณนปถํ อติกฺกนฺตา. เอวํ ธมฺมานุคฺคเหน อนุคฺคณฺหาติ.

ปจฺจสฺโสสุนฺติ เต ภิกฺขู ‘‘อมฺหากํ เนว อุปชฺฌาโย, น อาจริโย น สนฺทิฏฺสมฺภตฺโต. กึ ตสฺส สนฺติเก กริสฺสามา’’ติ? ตุณฺหีภาวํ อนาปชฺชิตฺวา ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ สตฺถุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉึสุ. เอฬคลาคุมฺเพติ คจฺฉมณฺฑปเก. โส กิร เอฬคลาคุมฺโพ ธุวสลิลฏฺาเน ชาโต. อเถตฺถ จตูหิ ปาเทหิ มณฺฑปํ กตฺวา ตสฺส อุปริ ตํ คุมฺพํ อาโรเปสุํ, โส ตํ มณฺฑปํ ฉาเทสิ. อถสฺส เหฏฺา อิฏฺกาหิ ปริจินิตฺวา วาลิกํ โอกิริตฺวา อาสนํ ปฺาปยึสุ. สีตลํ ทิวาฏฺานํ อุทกวาโต วายติ. เถโร ตสฺมึ นิสีทิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอฬคลาคุมฺเพ’’ติ.

นานาเวรชฺชคตนฺติ เอกสฺส รฺโ รชฺชโต นานาวิธํ รชฺชคตํ. วิรชฺชนฺติ อฺํ รชฺชํ. ยถา หิ สเทสโต อฺโ วิเทโส, เอวํ นิวุตฺถรชฺชโต อฺํ รชฺชํ วิรชฺชํ นาม, ตํ เวรชฺชนฺติ วุตฺตํ. ขตฺติยปณฺฑิตาติ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย ปณฺฑิตราชาโน. พฺราหฺมณปณฺฑิตาติ จงฺกีตารุกฺขาทโย ปณฺฑิตพฺราหฺมณา. คหปติปณฺฑิตาติ จิตฺตสุทตฺตาทโย ปณฺฑิตคหปตโย. สมณปณฺฑิตาติ สภิยปิโลติกาทโย ปณฺฑิตปริพฺพาชกา. วีมํสกาติ อตฺถคเวสิโน. กึวาทีติ กึ อตฺตโน ทสฺสนํ วทติ, กึ ลทฺธิโกติ อตฺโถ. กิมกฺขายีติ กึ สาวกานํ โอวาทานุสาสนึ อาจิกฺขติ? ธมฺมสฺส จานุธมฺมนฺติ ภควตา วุตฺตพฺยากรณสฺส อนุพฺยากรณํ. สหธมฺมิโกติ สการโณ. วาทานุวาโทติ ภควตา วุตฺตวาทสฺส อนุวาโท. ‘‘วาทานุปาโต’’ติปิ ปาโ, สตฺถุ วาทสฺส อนุปาโต อนุปตนํ, อนุคมนนฺติ อตฺโถ. อิมินาปิ วาทํ อนุคโต วาโทเยว ทีปิโต โหติ.

อวิคตราคสฺสาติอาทีสุ ตณฺหาวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตณฺหา หิ รชฺชนโต ราโค, ฉนฺทิยนโต ฉนฺโท, ปิยายนฏฺเน เปมํ, ปิวิตุกามฏฺเน ปิปาสา, อนุทหนฏฺเน ปริฬาโหติ วุจฺจติ. อกุสเล จาวุโส, ธมฺเมติอาทิ กสฺมา อารทฺธํ? ปฺจสุ ขนฺเธสุ อวีตราคสฺส อาทีนวํ, วีตราคสฺส จ อานิสํสํ ทสฺเสตุํ. ตตฺร อวิฆาโตติ นิทฺทุกฺโข. อนุปายาโสติ นิรุปตาโป. อปริฬาโหติ นิทฺทาโห. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทุติยํ.

๓. หาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา

. ตติเย อวนฺตีสูติ อวนฺติทกฺขิณาปถสงฺขาเต อวนฺติรฏฺเ. กุรรฆเรติ เอวํนามเก นคเร. ปปาเตติ เอกโต ปปาเต. ตสฺส กิร ปพฺพตสฺส เอกํ ปสฺสํ ฉินฺทิตฺวา ปาติตํ วิย อโหสิ. ‘‘ปวตฺเต’’ติปิ ปาโ, นานาติตฺถิยานํ ลทฺธิปวตฺตฏฺาเนติ อตฺโถ. อิติ เถโร ตสฺมึ รฏฺเ ตํ นครํ นิสฺสาย ตสฺมึ ปพฺพเต วิหรติ. หาลิทฺทิกานีติ เอวํนามโก. อฏฺกวคฺคิเย มาคณฺฑิยปฺเหติ อฏฺกวคฺคิกมฺหิ มาคณฺฑิยปฺโห นาม อตฺถิ, ตสฺมึ ปฺเห. รูปธาตูติ รูปกฺขนฺโธ อธิปฺเปโต. รูปธาตุราควินิพทฺธนฺติ รูปธาตุมฺหิ ราเคน วินิพทฺธํ. วิฺาณนฺติ กมฺมวิฺาณํ. โอกสารีติ เคหสารี อาลยสารี.

กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘วิฺาณธาตุ โข, คหปตี’’ติ น วุตฺตนฺติ? สมฺโมหวิฆาตตฺถํ. ‘‘โอโก’’ติ หิ อตฺถโต ปจฺจโย วุจฺจติ, ปุเรชาตฺจ กมฺมวิฺาณํ ปจฺฉาชาตสฺส กมฺมวิฺาณสฺสปิ วิปากวิฺาณสฺสปิ วิปากวิฺาณฺจ วิปากวิฺาณสฺสปิ กมฺมวิฺาณสฺสปิ ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ‘‘กตรํ นุ โข อิธ วิฺาณ’’นฺติ? สมฺโมโห ภเวยฺย, ตสฺส วิฆาตตฺถํ ตํ อคเหตฺวา อสมฺภินฺนาว เทสนา กตา. อปิจ อารมฺมณวเสน จตสฺโส อภิสงฺขารวิฺาณฏฺิติโย วุตฺตาติ ตา ทสฺเสตุมฺปิ อิธ วิฺาณํ น คหิตํ.

อุปยุปาทานาติ ตณฺหูปยทิฏฺูปยวเสน ทฺเว อุปยา, กามุปาทานาทีนิ จตฺตาริ อุปาทานานิ จ. เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยาติ อกุสลจิตฺตสฺส อธิฏฺานภูตา เจว อภินิเวสภูตา จ อนุสยภูตา จ. ตถาคตสฺสาติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. สพฺเพสมฺปิ หิ ขีณาสวานํ เอเต ปหีนาว, สตฺถุ ปน ขีณาสวภาโว โลเก อติปากโฏติ อุปริมโกฏิยา เอวํ วุตฺตํ. วิฺาณธาตุยาติ อิธ วิฺาณํ กสฺมา คหิตํ? กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถํ. กิเลสา หิ น เกวลํ จตูสุเยว ขนฺเธสุ ปหีนา ปหียนฺติ, ปฺจสุปิ ปหียนฺติเยวาติ กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถํ คหิตํ. เอวํ โข, คหปติ, อโนกสารี โหตีติ เอวํ กมฺมวิฺาเณน โอกํ อสรนฺเตน อโนกสารี นาม โหติ.

รูปนิมิตฺตนิเกตวิสารวินิพนฺธาติ รูปเมว กิเลสานํ ปจฺจยฏฺเน นิมิตฺตํ, อารมฺมณกิริยสงฺขาตนิวาสนฏฺานฏฺเน นิเกตนฺติ รูปนิมิตฺตนิเกตํ. วิสาโร จ วินิพนฺโธ จ วิสารวินิพนฺธา. อุภเยนปิ หิ กิเลสานํ ปตฺถฏภาโว จ วินิพนฺธนภาโว จ วุตฺโต, รูปนิมิตฺตนิเกเต วิสารวินิพนฺธาติ รูปนิมิตฺตนิเกตวิสารวินิพนฺธา, ตสฺมา รูปนิมิตฺตนิเกตมฺหิ อุปฺปนฺเนน กิเลสวิสาเรน เจว กิเลสพนฺธเนน จาติ อตฺโถ. นิเกตสารีติ วุจฺจตีติ อารมฺมณกรณวเสน นิวาสนฏฺานํ สารีติ วุจฺจติ. ปหีนาติ เต รูปนิมิตฺตนิเกตกิเลสวิสารวินิพนฺธา ปหีนา.

กสฺมา ปเนตฺถ ปฺจกฺขนฺธา ‘‘โอกา’’ติ วุตฺตา, ฉ อารมฺมณานิ ‘‘นิเกต’’นฺติ? ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตาย. สมาเนปิ หิ เอเตสํ อาลยฏฺเน วิสยภาเว โอโกติ นิจฺจนิวาสนฏฺานเคหเมว วุจฺจติ, นิเกตนฺติ ‘‘อชฺช อสุกฏฺาเน กีฬิสฺสามา’’ติ กตสงฺเกตฏฺานํ นิวาสฏฺานํ อุยฺยานาทิ. ตตฺถ ยถา ปุตฺตทารธนธฺปุณฺณเคเห ฉนฺทราโค พลวา โหติ, เอวํ อชฺฌตฺติเกสุ ขนฺเธสุ. ยถา ปน อุยฺยานฏฺานาทีสุ ตโต ทุพฺพลตโร โหติ, เอวํ พาหิเรสุ ฉสุ อารมฺมเณสูติ ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตาย เอวํ เทสนา กตาติ เวทิตพฺโพ.

สุขิเตสุ สุขิโตติ อุปฏฺาเกสุ ธนธฺลาภาทิวเสน สุขิเตสุ ‘‘อิทานาหํ มนาปํ โภชนํ ลภิสฺสามี’’ติ เคหสิตสุเขน สุขิโต โหติ, เตหิ ปตฺตสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน วิย จรติ. ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโตติ เตสํ เกนจิเทว การเณน ทุกฺเข อุปฺปนฺเน สยํ ทฺวิคุเณน ทุกฺเขน ทุกฺขิโต โหติ. กิจฺจกรณีเยสูติ กิจฺจสงฺขาเตสุ กรณีเยสุ. เตสุ โยคํ อาปชฺชตีติ อุปโยคํ สยํ เตสํ กิจฺจานํ กตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ. เอวํ โข, คหปติ, กาเมหิ อริตฺโต โหตีติ เอวํ กิเลสกาเมหิ อริตฺโต โหติ อนฺโต กามานํ ภาเวน อตุจฺโฉ. สุกฺกปกฺโข เตสํ อภาเวน ริตฺโต ตุจฺโฉติ เวทิตพฺโพ.

ปุรกฺขราโนติ วฏฺฏํ ปุรโต กุรุมาโน. เอวํรูโป สิยนฺติอาทีสุ ทีฆรสฺสกาโฬทาตาทีสุ รูเปสุ ‘‘เอวํรูโป นาม ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺเถติ. สุขาทีสุ เวทนาสุ เอวํเวทโน นาม; นีลสฺาทีสุ สฺาสุ เอวํ สฺโ นาม; ปุฺาภิสงฺขาราทีสุ สงฺขาเรสุ เอวํสงฺขาโร นาม; จกฺขุวิฺาณาทีสุ วิฺาเณสุ ‘‘เอวํ วิฺาโณ นาม ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺเถติ.

อปุรกฺขราโนติ วฏฺฏํ ปุรโต อกุรุมาโน. สหิตํ เม, อสหิตํ เตติ ตุยฺหํ วจนํ อสหิตํ อสิลิฏฺํ, มยฺหํ สหิตํ สิลิฏฺํ มธุรปานสทิสํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตุยฺหํ ทีเฆน กาเลน ปริจิตํ สุปฺปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม สพฺพํ ขเณน วิปราวตฺตํ นิวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ โทโส มยา อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ตํ ตํ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา อุตฺตริ ปริเยสนฺโต อิมสฺส วาทสฺส โมกฺขาย จร อาหิณฺฑาหิ. นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อถ สยเมว ปโหสิ, อิเธว นิพฺเพเหีติ. ตติยํ.

๔. ทุติยหาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา

. จตุตฺเถ สกฺกปฺเหติ จูฬสกฺกปฺเห, มหาสกฺกปฺเหเปตํ วุตฺตเมว. ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตาติ ตณฺหาสงฺขเย นิพฺพาเน ตทารมฺมณาย ผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตา. อจฺจนฺตนิฏฺาติ อนฺตํ อติกฺกนฺตนิฏฺา สตตนิฏฺา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. จตุตฺถํ.

๕. สมาธิสุตฺตวณฺณนา

. ปฺจเม สมาธินฺติ อิทํ ภควา เต ภิกฺขู จิตฺเตกคฺคตาย ปริหายนฺเต ทิสฺวา, ‘‘จิตฺเตกคฺคตํ ลภนฺตานํ อิเมสํ กมฺมฏฺานํ ผาตึ คมิสฺสตี’’ติ ตฺวา อาห. อภินนฺทตีติ ปตฺเถติ. อภิวทตีติ ตาย อภินนฺทนาย ‘‘อโห ปิยํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ วทติ. วาจํ อภินนฺทนฺโตปิ จ ตํ อารมฺมณํ นิสฺสาย เอวํ โลภํ อุปฺปาเทนฺโต อภิวทติเยว นาม. อชฺโฌสาย ติฏฺตีติ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คณฺหาติ. ยา รูเป นนฺทีติ ยา สา รูเป พลวปตฺถนาสงฺขาตา นนฺที. ตทุปาทานนฺติ ตํ คหณฏฺเน อุปาทานํ. นาภินนฺทตีติ น ปตฺเถติ. นาภิวทตีติ ปตฺถนาวเสน น ‘‘อิฏฺํ กนฺต’’นฺติ วทติ. วิปสฺสนาจิตฺเตน เจตสา ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺข’’นฺติ วจีเภทํ กโรนฺโตปิ นาภิวทติเยว. ปฺจมํ.

๖. ปฏิสลฺลาณสุตฺตวณฺณนา

. ฉฏฺเ ปฏิสลฺลาเณติ อิทํ ภควา เต ภิกฺขู กายวิเวเกน ปริหายนฺเต ทิสฺวา ‘‘กายวิเวกํ ลภนฺตานํ อิเมสํ กมฺมฏฺานํ ผาตึ คมิสฺสตี’’ติ ตฺวา อาห. ฉฏฺํ.

๗. อุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

. สตฺตเม อุปาทาปริตสฺสนนฺติ คหเณน อุปฺปนฺนํ ปริตสฺสนํ. อนุปาทาอปริตสฺสนนฺติ อคฺคหเณน อปริตสฺสนํ. รูปวิปริณามานุปริวตฺติวิฺาณํ โหตีติ ‘‘มม รูปํ วิปริณต’’นฺติ วา ‘‘อหุ วต เมตํ, ทานิ วต เม นตฺถี’’ติ วา อาทินา นเยน กมฺมวิฺาณํ รูปสฺส เภทานุปริวตฺติ โหติ. วิปริณามานุปริวตฺติชาติ วิปริณามสฺส อนุปริวตฺติโต วิปริณามารมฺมณจิตฺตโต ชาตา. ปริตสฺสนา ธมฺมสมุปฺปาทาติ ตณฺหาปริตสฺสนา จ อกุสลธมฺมสมุปฺปาทา จ. จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺตํ. ปริยาทาย ติฏฺนฺตีติ ปริยาทิยิตฺวา ติฏฺนฺติ. อุตฺตาสวาติ สอุตฺตาโส. วิฆาตวาติ สวิฆาโต สทุกฺโข. อเปกฺขวาติ สาลโย. อุปาทาย จ ปริตสฺสตีติ คณฺหิตฺวา ปริตสฺสโก นาม โหติ. น รูปวิปริณามานุปริวตฺตีติ ขีณาสวสฺส กมฺมวิฺาณเมว นตฺถิ, ตสฺมา รูปเภทานุปริวตฺติ น โหตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยอุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

. อฏฺเม ตณฺหามานทิฏฺิวเสน เทสนา กตา. อิติ ปฏิปาฏิยา จตูสุ สุตฺเตสุ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ. อฏฺมํ.

๙. กาลตฺตยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา

. นวเม โก ปน วาโท ปจฺจุปฺปนฺนสฺสาติ ปจฺจุปฺปนฺนมฺหิ กถาว กา, อนิจฺจเมว ตํ. เต กิร ภิกฺขู อตีตานาคตํ อนิจฺจนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ปจฺจุปฺปนฺเน กิลมึสุ, อถ เนสํ อิโต อตีตานาคเตปิ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจ’’นฺติ วุจฺจมาเน พุชฺฌิสฺสนฺตีติ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา สตฺถา ปุคฺคลชฺฌาสเยน อิมํ เทสนํ เทเสสิ. นวมํ.

๑๐-๑๑. กาลตฺตยทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐-๑๑. ทสเมกาทสมานิ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ปเทหิ วิเสเสตฺวา ตถารูเปเนว ปุคฺคลชฺฌาสเยน กถิตานีติ. ทสเมกาทสมานิ.

นกุลปิตุวคฺโค ปโม.

๒. อนิจฺจวคฺโค

๑-๑๐. อนิจฺจสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒-๒๑. อนิจฺจวคฺเค ปริโยสานสุตฺตํ ปุจฺฉาวสิกํ, เสสานิ ตถา ตถา พุชฺฌนกานฺจ วเสน เทสิตานีติ. ปมาทีนิ.

อนิจฺจวคฺโค ทุติโย.

๓. ภารวคฺโค

๑. ภารสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ภารวคฺคสฺส ปเม ปฺจุปาทานกฺขนฺธาติสฺส วจนียนฺติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อิติ อสฺส วจนียํ, เอวํ วตฺตพฺพํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาโรติ เย อิเม ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, อยํ ภาโรติ วุจฺจติ. เกนฏฺเนาติ? ปริหารภาริยฏฺเน. เอเตสฺหิ าปนคมนนิสีทาปนนิปชฺชาปนนฺหาปนมณฺฑนขาทาปนภุฺชาปนาทิปริหาโร ภาริโยติ ปริหารภาริยฏฺเน ภาโรติ วุจฺจติ. เอวํนาโมติ ติสฺโส ทตฺโตติอาทินาโม. เอวํโคตฺโตติ กณฺหายโน วจฺฉายโนติอาทิโคตฺโต. อิติ โวหารมตฺตสิทฺธํ ปุคฺคลํ ‘‘ภารหาโร’’ติ กตฺวา ทสฺเสติ. ปุคฺคโล หิ ปฏิสนฺธิกฺขเณเยว ขนฺธภารํ อุกฺขิปิตฺวา ทสปิ วสฺสานิ วีสติปิ วสฺสสตมฺปีติ ยาวชีวํ อิมํ ขนฺธภารํ นฺหาเปนฺโต โภเชนฺโต มุทุสมฺผสฺสมฺจปีเสุ นิสีทาเปนฺโต นิปชฺชาเปนฺโต ปริหริตฺวา จุติกฺขเณ ฉฑฺเฑตฺวา ปุน ปฏิสนฺธิกฺขเณ อปรํ ขนฺธภารํ อาทิยติ, ตสฺมา ภารหาโรติ ชาโต.

โปโนภวิกาติ ปุนพฺภวนิพฺพตฺติกา. นนฺทีราคสหคตาติ นนฺทิราเคน สห เอกตฺตเมว คตา. ตพฺภาวสหคตฺหิ อิธ อธิปฺเปตํ. ตตฺร ตตฺราภินนฺทินีติ อุปปตฺติฏฺาเน วา รูปาทีสุ วา อารมฺมเณสุ ตตฺถ ตตฺถ อภินนฺทนสีลาว. กามตณฺหาทีสุ ปฺจกามคุณิโก ราโค กามตณฺหา นาม, รูปารูปภวราโค ฌานนิกนฺติ สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโคติ อยํ ภวตณฺหา นาม, อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค วิภวตณฺหา นาม. ภาราทานนฺติ ภารคหณํ. ตณฺหาย หิ เอส ภารํ อาทิยติ. อเสสวิราคนิโรโธติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานสฺเสว เววจนํ. ตฺหิ อาคมฺม ตณฺหา อเสสโต วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ จชิยติ ปฏินิสฺสชฺชิยติ วิมุจฺจติ, นตฺถิ เจตฺถ กามาลโย วา ทิฏฺาลโย วาติ นิพฺพานํ เอตานิ นามานิ ลภติ. สมูลํ ตณฺหนฺติ ตณฺหาย อวิชฺชา มูลํ นาม. อพฺพุยฺหาติ อรหตฺตมคฺเคน ตํ สมูลกํ อุทฺธริตฺวา. นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโตติ นิตฺตณฺโห ปรินิพฺพุโต นามาติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ. ปมํ.

๒. ปริฺสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ทุติเย ปริฺเยฺเยติ ปริชานิตพฺเพ, สมติกฺกมิตพฺเพติ อตฺโถ. ปริฺนฺติ อจฺจนฺตปริฺํ, สมติกฺกมนฺติ อตฺโถ. ราคกฺขโยติอาทิ นิพฺพานสฺส นามํ. ตฺหิ อจฺจนฺตปริฺา นาม. ทุติยํ.

๓. อภิชานสุตฺตวณฺณนา

๒๔. ตติเย อภิชานนฺติ อภิชานนฺโต. อิมินา าตปริฺา กถิตา, ทุติยปเทน ตีรณปริฺา, ตติยจตุตฺเถหิ ปหานปริฺาติ อิมสฺมึ สุตฺเต ติสฺโส ปริฺา กถิตาติ. ตติยํ.

๔-๙. ฉนฺทราคสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๕-๓๐. จตุตฺถาทีนิ ธาตุสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ปฏิปาฏิยา ปเนตฺถ ปฺจมฉฏฺสตฺตเมสุ จตฺตาริ สจฺจานิ กถิตานิ, อฏฺมนวเมสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ. จตุตฺถาทีนิ.

๑๐. อฆมูลสุตฺตวณฺณนา

๓๑. ทสเม อฆนฺติ ทุกฺขํ. เอวเมตฺถ ทุกฺขลกฺขณเมว กถิตํ. ทสมํ.

๑๑. ปภงฺคุสุตฺตวณฺณนา

๓๒. เอกาทสเม ปภงฺคุนฺติ ปภิชฺชนสภาวํ. เอวมิธ อนิจฺจลกฺขณเมว กถิตนฺติ. เอกาทสมํ.

ภารวคฺโค ตติโย.

๔. นตุมฺหากวคฺโค

๑. นตุมฺหากสุตฺตวณฺณนา

๓๓. นตุมฺหากวคฺคสฺส ปเม ปชหถาติ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหถ. ติณาทีสุ ติณํ นาม อนฺโตเผคฺคุ พหิสารํ ตาลนาฬิเกราทิ. กฏฺํ นาม อนฺโตสารํ พหิเผคฺคุ ขทิรสาลสากปนสาทิ. สาขา นาม รุกฺขสฺส พาหา วิย นิกฺขนฺตา. ปลาสํ นาม ตาลนาฬิเกรปณฺณาทิ. ปมํ.

๒. ทุติยนตุมฺหากสุตฺตวณฺณนา

๓๔. ทุติยํ วินา อุปมาย พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสเยน วุตฺตํ. ทุติยํ.

๓. อฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๓๕. ตติเย รูปฺเจ, ภนฺเต, อนุเสตีติ ยทิ รูปํ อนุเสติ. เตน สงฺขํ คจฺฉตีติ กามราคาทีสุ เยน อนุสเยน ตํ รูปํ อนุเสติ, เตเนว อนุสเยน ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโห’’ติ ปณฺณตฺตึ คจฺฉติ. น เตน สงฺขํ คจฺฉตีติ เตน อภูเตน อนุสเยน ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโห’’ติ สงฺขํ น คจฺฉตีติ. ตติยํ.

๔. ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๓๖. จตุตฺเถ ตํ อนุมียตีติ ตํ อนุสยิตํ รูปํ มรนฺเตน อนุสเยน อนุมรติ. น หิ อารมฺมเณ ภิชฺชมาเน ตทารมฺมณา ธมฺมา ติฏฺนฺติ. ยํ อนุมียตีติ ยํ รูปํ เยน อนุสเยน อนุมรติ. เตน สงฺขํ คจฺฉตีติ เตน อนุสเยน ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโห’’ติ สงฺขํ คจฺฉติ. อถ วา นฺติ กรณวจนเมตํ, เยน อนุสเยน อนุมียติ, เตน ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโห’’ติ สงฺขํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. จตุตฺถํ.

๕-๖. อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๗-๓๘. ปฺจเม ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตีติ ธรมานสฺส ชีวมานสฺส ชรา ปฺายติ. ิตีติ หิ ชีวิตินฺทฺริยสงฺขาตาย อนุปาลนาย นามํ. อฺถตฺตนฺติ ชราย. เตนาหุ โปราณา –

‘‘อุปฺปาโท ชาติ อกฺขาโต, ภงฺโค วุตฺโต วโยติ จ;

อฺถตฺตํ ชรา วุตฺตา, ิตี จ อนุปาลนา’’ติ.

เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส อุปฺปาทชราภงฺคสงฺขาตานิ ตีณิ ลกฺขณานิ โหนฺติ ยานิ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗).

ตตฺถ สงฺขตํ นาม ปจฺจยนิพฺพตฺโต โย โกจิ สงฺขาโร. สงฺขาโร จ น ลกฺขณํ, ลกฺขณํ น สงฺขาโร, น จ สงฺขาเรน วินา ลกฺขณํ ปฺาเปตุํ สกฺกา, นาปิ ลกฺขณํ วินา สงฺขาโร, ลกฺขเณน ปน สงฺขาโร ปากโฏ โหติ. ยถา หิ น จ คาวีเยว ลกฺขณํ, ลกฺขณเมว น คาวี, นาปิ คาวึ มุฺจิตฺวา ลกฺขณํ ปฺาเปตุํ สกฺกา, นาปิ ลกฺขณํ มุฺจิตฺวา คาวึ, ลกฺขเณน ปน คาวี ปากฏา โหติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ สงฺขารานํ อุปฺปาทกฺขเณ สงฺขาโรปิ อุปฺปาทลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ. ‘‘อุปฺปาโทปี’’ติ วุตฺเต สงฺขาโรปิ ชราลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ. ภงฺคกฺขเณ สงฺขาโรปิ ตํลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ. อปเร ปน วทนฺติ ‘‘อรูปธมฺมานํ ชราขโณ นาม น สกฺกา ปฺาเปตุํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ จ ‘เวทนาย อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตาย อฺถตฺตํ ปฺายตี’ติ วทนฺโต อรูปธมฺมานมฺปิ ตีณิ ลกฺขณานิ ปฺาเปติ, ตานิ อตฺถิกฺขณํ อุปาทาย ลพฺภนฺตี’’ติ วตฺวา –

‘‘อตฺถิตา สพฺพธมฺมานํ, ิติ นาม ปวุจฺจติ;

ตสฺเสว เภโท มรณํ, สพฺพทา สพฺพปาณิน’’นฺติ. –

อิมาย อาจริยคาถาย ตมตฺถํ สาเธนฺติ. อถ วา สนฺตติวเสน านํ ิตีติ เวทิตพฺพนฺติ จ วทนฺติ. ยสฺมา ปน สุตฺเต อยํ วิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา อาจริยมติยา สุตฺตํ อปฏิพาเหตฺวา สุตฺตเมว ปมาณํ กตฺตพฺพํ. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว. ปฺจมฉฏฺานิ.

๗-๑๐. อนุธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๙-๔๒. สตฺตเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนสฺสาติ นวนฺนํ โลกุตฺตรธมฺมานํ อนุโลมธมฺมํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปฏิปนฺนสฺส. อยมนุธมฺโมติ อยํ อนุโลมธมฺโม โหติ. นิพฺพิทาพหุโลติ อุกฺกณฺนพหุโล หุตฺวา. ปริชานาตีติ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานาติ. ปริมุจฺจตีติ มคฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนาย ปหานปริฺาย ปริมุจฺจติ. เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต มคฺโคว กถิโต โหติ, ตถา อิโต ปเรสุ ตีสุ. อิธ ปน อนุปสฺสนา อนิยมิตา, เตสุ นิยมิตา. ตสฺมา อิธาปิ สา ตตฺถ นิยมิตวเสเนว นิยเมตพฺพา. น หิ สกฺกา ตีสุ อฺตรํ อนุปสฺสนํ วินา นิพฺพินฺทิตุํ ปริชานิตุํ วาติ. สตฺตมาทีนิ.

นตุมฺหากวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. อตฺตทีปวคฺโค

๑. อตฺตทีปสุตฺตวณฺณนา

๔๓. อตฺตทีปวคฺคสฺส ปเม อตฺตทีปาติ อตฺตานํ ทีปํ ตาณํ เลณํ คตึ ปรายณํ ปติฏฺํ กตฺวา วิหรถาติ อตฺโถ. อตฺตสรณาติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. อนฺสรณาติ อิทํ อฺสฺส สรณปฏิกฺเขปวจนํ. น หิ อฺโ อฺสฺส สรณํ โหติ อฺสฺส วายาเมน อฺสฺส อสิชฺฌนโต, วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ,

โก หิ นาโถ ปโร สิยา’’ติ. (ธ. ป. ๑๖๐);

เตนาห ‘‘อนฺสรณา’’ติ. โก ปเนตฺถ อตฺตา นาม? โลกิยโลกุตฺตโร ธมฺโม. เตเนวาห – ‘‘ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา’’ติ. โยนีติ การณํ – ‘‘โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๒๗) วิย. กึปโหติกาติ กึปภุติกา, กุโต ปภวนฺตีติ อตฺโถ? รูปสฺส ตฺเววาติ อิทํ เตสํเยว โสกาทีนํ ปหานทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. น ปริตสฺสตีติ น คณฺหาติ น คหติ. ตทงฺคนิพฺพุโตติ เตน วิปสฺสนงฺเคน กิเลสานํ นิพฺพุตตฺตา ตทงฺคนิพฺพุโต. อิมสฺมึ สุตฺเต วิปสฺสนาว กถิตา. ปมํ.

๒. ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา

๔๔. ทุติเย ทุกฺขสมุทยคามินี สมนุปสฺสนาติ ยสฺมา สกฺกาโย ทุกฺขํ, ตสฺส จ สมุทยคามินี ปฏิปทา นาม ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ เอวํ ทิฏฺิสมนุปสฺสนา วุตฺตา, ตสฺมา ทุกฺขสมุทยคามินี สมนุปสฺสนาติ อยเมตฺถ อตฺโถ โหติ. ทุกฺขนิโรธคามินี สมนุปสฺสนาติ เอตฺถ สห วิปสฺสนาย จตุมคฺคาณํ ‘‘สมนุปสฺสนา’’ติ วุตฺตํ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ. ทุติยํ.

๓. อนิจฺจสุตฺตวณฺณนา

๔๕. ตติเย สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพนฺติ สห วิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ทฏฺพฺพํ. วิรชฺชติ วิมุจฺจตีติ มคฺคกฺขเณ วิรชฺชติ, ผลกฺขเณ วิมุจฺจติ. อนุปาทาย อาสเวหีติ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺเธหิ อาสเวหิ อคเหตฺวา อิติ วิมุจฺจติ. รูปธาตุยาติอาทิ ปจฺจเวกฺขณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สห ผเลน ปจฺจเวกฺขณทสฺสนตฺถนฺติปิ วทนฺติเยว. ิตนฺติ อุปริ กตฺตพฺพกิจฺจาภาเวน ิตํ. ิตตฺตา สนฺตุสฺสิตนฺติ ปตฺตพฺพํ ปตฺตภาเวน สนฺตุฏฺํ. ปจฺจตฺตํเยว ปรินิพฺพายตีติ สยเมว ปรินิพฺพายติ. ตติยํ.

๔. ทุติยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา

๔๖. จตุตฺเถ ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโยติ ปุพฺพนฺตํ อนุคตา อฏฺารส ทิฏฺิโย น โหนฺติ. อปรนฺตานุทิฏฺิโยติ อปรนฺตํ อนุคตา จตุจตฺตาลีส ทิฏฺิโย น โหนฺติ. ถามโส ปรามาโสติ ทิฏฺิถามโส เจว ทิฏฺิปรามาโส จ น โหติ. เอตฺตาวตา ปมมคฺโค ทสฺสิโต. อิทานิ สห วิปสฺสนาย ตโย มคฺเค จ ผลานิ จ ทสฺเสตุํ รูปสฺมินฺติอาทิ อารทฺธํ. อถ วา ทิฏฺิโย นาม วิปสฺสนาย เอว ปหีนา, อิทํ ปน อุปริ สห วิปสฺสนาย จตฺตาโร มคฺเค ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. จตุตฺถํ.

๕. สมนุปสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

๔๗. ปฺจเม ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ สมนุปสฺสนฺติ เอเตสํ วา อฺตรนฺติ ปริปุณฺณคาหวเสน ปฺจกฺขนฺเธ สมนุปสฺสนฺติ, อปริปุณฺณคาหวเสน เอเตสํ อฺตรํ. อิติ อยฺเจว สมนุปสฺสนาติ อิติ อยฺจ ทิฏฺิสมนุปสฺสนา. อสฺมีติ จสฺส อวิคตํ โหตีติ ยสฺส อยํ สมนุปสฺสนา อตฺถิ, ตสฺมึ อสฺมีติ ตณฺหามานทิฏฺิสงฺขาตํ ปปฺจตฺตยํ อวิคตเมว โหติ. ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อวกฺกนฺติ โหตีติ ตสฺมึ กิเลสชาเต สติ กมฺมกิเลสปจฺจยานํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นิพฺพตฺติ โหติ.

อตฺถิ, ภิกฺขเว, มโนติ อิทํ กมฺมมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ธมฺมาติ อารมฺมณํ. อวิชฺชาธาตูติ ชวนกฺขเณ อวิชฺชา. อวิชฺชาสมฺผสฺสเชนาติ อวิชฺชาสมฺปยุตฺตผสฺสโต ชาเตน. อปิจ มโนติ ภวงฺคกฺขเณ วิปากมโนธาตุ, อาวชฺชนกฺขเณ กิริยมโนธาตุ. ธมฺมาทโย วุตฺตปฺปการาว. อสฺมีติปิสฺส โหตีติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน อสฺมีติ เอวมฺปิสฺส โหติ. อิโต ปเรสุ อยมหมสฺมีติ รูปาทีสุ กิฺจิเทว ธมฺมํ คเหตฺวา ‘‘อยํ อหมสฺมี’’ติ อตฺตทิฏฺิวเสน วุตฺตํ. ภวิสฺสนฺติ สสฺสตทิฏฺิวเสน. น ภวิสฺสนฺติ อุจฺเฉททิฏฺิวเสน. รูปี ภวิสฺสนฺติอาทีนิ สพฺพานิ สสฺสตเมว ภชนฺติ. อเถตฺถาติ อถ เตเนวากาเรน ิเตสุ เอเตสุ อินฺทฺริเยสุ. อวิชฺชา ปหียตีติ จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณภูตา อวิชฺชา ปหียติ. วิชฺชา อุปฺปชฺชตีติ อรหตฺตมคฺควิชฺชา อุปฺปชฺชติ. เอวเมตฺถ อสฺมีติ ตณฺหามานทิฏฺิโย. กมฺมสฺส ปฺจนฺนฺจ อินฺทฺริยานํ อนฺตเร เอโก สนฺธิ, วิปากมนํ ปฺจินฺทฺริยปกฺขิกํ กตฺวา ปฺจนฺนฺจ อินฺทฺริยานํ กมฺมสฺส จ อนฺตเร เอโก สนฺธีติ. อิติ ตโย ปปฺจา อตีโต อทฺธา, อินฺทฺริยาทีนิ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา, ตตฺถ กมฺมมนํ อาทึ กตฺวา อนาคตสฺส ปจฺจโย ทสฺสิโตติ. ปฺจมํ.

๖. ขนฺธสุตฺตวณฺณนา

๔๘. ฉฏฺเ รูปกฺขนฺโธ กามาวจโร, จตฺตาโร ขนฺธา จตุภูมกา. สาสวนฺติ อาสวานํ อารมฺมณภาเวน ปจฺจยภูตํ. อุปาทานิยนฺติ ตเถว จ อุปาทานานํ ปจฺจยภูตํ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ – อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺเตหิ สห อาสเวหีติ สาสวํ. อุปาทาตพฺพนฺติ อุปาทานิยํ. อิธาปิ รูปกฺขนฺโธ กามาวจโร, อวเสสา เตภูมกา วิปสฺสนาจารวเสน วุตฺตา. เอวเมตฺถ รูปํ ราสฏฺเน ขนฺเธสุ ปวิฏฺํ, สาสวราสฏฺเน อุปาทานกฺขนฺเธสุ. เวทนาทโย สาสวาปิ อตฺถิ, อนาสวาปิ อตฺถิ. เต ราสฏฺเน สพฺเพปิ ขนฺเธสุ ปวิฏฺา, เตภูมกา ปเนตฺถ สาสวฏฺเน อุปาทานกฺขนฺเธสุ ปวิฏฺาติ. ฉฏฺํ.

๗-๘. โสณสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๙-๕๐. สตฺตเม เสยฺโยหมสฺมีติ วิสิฏฺโ อุตฺตโม อหมสฺมิ. กิมฺตฺร ยถาภูตสฺส อทสฺสนาติ ยถาภูตสฺส อทสฺสนโต อฺํ กึ ภเวยฺย? อทสฺสนํ อฺาณเมว ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อิทานิสฺส เต ปริวฏฺฏํ วชิรเภทเทสนํ อารภนฺโต ตํ กึ มฺสิ โสโณติอาทิมาห. อฏฺมํ อุตฺตานเมว. สตฺตมอฏฺมานิ.

๙-๑๐. นนฺทิกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๑-๕๒. นวมทสเมสุ นนฺทิกฺขยา ราคกฺขโย, ราคกฺขยา นนฺทิกฺขโยติ อิทํ นนฺทีติ วา ราโคติ วา อิเมสํ อตฺถโต นินฺนานากรณตาย วุตฺตํ. นิพฺพิทานุปสฺสนาย วา นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ ปชหติ, วิราคานุปสฺสนาย วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหติ. เอตฺตาวตา วิปสฺสนํ นิฏฺเปตฺวา ‘‘ราคกฺขยา นนฺทิกฺขโย’’ติ อิธ มคฺคํ ทสฺเสตฺวา ‘‘นนฺทิราคกฺขยา จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ ผลํ ทสฺสิตนฺติ. นวมทสมานิ.

อตฺตทีปวคฺโค ปฺจโม.

มูลปณฺณาสโก สมตฺโต.

๖. อุปยวคฺโค

๑. อุปยสุตฺตวณฺณนา

๕๓. อุปยวคฺคสฺส ปเม อุปโยติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน ปฺจกฺขนฺเธ อุปคโต. วิฺาณนฺติ กมฺมวิฺาณํ. อาปชฺเชยฺยาติ กมฺมํ ชวาเปตฺวา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตาย วุทฺธิอาทีนิ อาปชฺเชยฺย. วิฺาณุปยนฺติ ปทสฺส อคฺคหเณ การณํ วุตฺตเมว. โวจฺฉิชฺชตารมฺมณนฺติ ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตาย อภาเวน อารมฺมณํ โวจฺฉิชฺชติ. ปติฏฺา วิฺาณสฺสาติ กมฺมวิฺาณสฺส ปติฏฺา น โหติ. ตทปฺปติฏฺิตนฺติ ตํ อปฺปติฏฺิตํ. อนภิสงฺขจฺจ วิมุตฺตนฺติ ปฏิสนฺธึ อนภิสงฺขริตฺวา วิมุตฺตํ. ปมํ.

๒. พีชสุตฺตวณฺณนา

๕๔. ทุติเย พีชชาตานีติ พีชานิ. มูลพีชนฺติ วจํ วจตฺตํ หลิทฺทํ สิงฺคิเวรนฺติ เอวมาทิ. ขนฺธพีชนฺติ อสฺสตฺโถ นิคฺโรโธติ เอวมาทิ. ผลุพีชนฺติ อุจฺฉุ เวฬุ นโฬติ เอวมาทิ. อคฺคพีชนฺติ อชฺชุกํ ผณิชฺชกนฺติ เอวมาทิ. พีชพีชนฺติ สาลิวีหิอาทิ ปุพฺพณฺณฺเจว มุคฺคมาสาทิ อปรณฺณฺจ. อขณฺฑานีติ อภินฺนานิ. ภินฺนกาลโต ปฏฺาย พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. อปูติกานีติ อุทกเตมเนน อปูติกานิ. ปูติพีชฺหิ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. อวาตาตปหตานีติ วาเตน จ อาตเปน จ น หตานิ, นิโรชตํ น ปาปิตานิ. นิโรชฺหิ กสฏํ พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. สาราทานีติ คหิตสารานิ ปติฏฺิตสารานิ. นิสฺสารฺหิ พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. สุขสยิตานีติ จตฺตาโร มาเส โกฏฺเ ปกฺขิตฺตนิยาเมเนว สุขํ สยิตานิ. ปถวีติ เหฏฺา ปติฏฺานปถวี. อาโปติ อุปริสฺเนหนอาโป. จตสฺโส วิฺาณฏฺิติโยติ กมฺมวิฺาณสฺส อารมฺมณภูตา รูปาทโย จตฺตาโร ขนฺธา. เต หิ อารมฺมณวเสน ปติฏฺาภูตตฺตา ปถวีธาตุสทิสา. นนฺทิราโค สิเนหนฏฺเน อาโปธาตุสทิโส. วิฺาณํ สาหารนฺติ สปฺปจฺจยํ กมฺมวิฺาณํ. ตฺหิ พีชํ วิย ปถวิยํ อารมฺมณปถวิยํ วิรุหติ. ทุติยํ.

๓. อุทานสุตฺตวณฺณนา

๕๕. ตติเย อุทานํ อุทาเนสีติ พลวโสมนสฺสสมุฏฺานํ อุทานํ อุทาหริ. กึ นิสฺสาย ปเนส ภควโต อุปฺปนฺโนติ. สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ. กถํ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ, ‘‘ตโยเม อุปนิสฺสยา – ทานูปนิสฺสโย สีลูปนิสฺสโย ภาวนูปนิสฺสโย จา’’ติ. เตสุ ทานสีลูปนิสฺสยา ทุพฺพลา, ภาวนูปนิสฺสโย พลวา. ทานสีลูปนิสฺสยา หิ ตโย มคฺเค จ ผลานิ จ ปาเปนฺติ, ภาวนูปนิสฺสโย อรหตฺตํ ปาเปติ. อิติ ทุพฺพลูปนิสฺสเย ปติฏฺิโต ภิกฺขุ ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ปฺโจรมฺภาคิยานิ พนฺธนานิ เฉตฺวา ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตติ, ‘‘อโห สาสนํ นิยฺยานิก’’นฺติ อาวชฺเชนฺตสฺส อยํ อุทปาทิ.

ตตฺถ ‘‘ทุพฺพลูปนิสฺสเย ตฺวา ฆฏมาโน ตีณิ มคฺคผลานิ ปาปุณาตี’’ติ อิมสฺสตฺถสฺสาวิภาวนตฺถํ มิลกตฺเถรสฺส วตฺถุ เวทิตพฺพํ – โส กิร คิหิกาเล ปาณาติปาตกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปนฺโต อรฺเ ปาสสตฺเจว อทูหลสตฺจ โยเชสิ. อเถกทิวสํ องฺคารปกฺกมํสํ ขาทิตฺวา ปาสฏฺาเนสุ วิจรนฺโต ปิปาสาภิภูโต เอกสฺส อรฺวาสิตฺเถรสฺส วิหารํ คนฺตฺวา เถรสฺส จงฺกมนฺตสฺส อวิทูเร ิตํ ปานียฆฏํ วิวริ, หตฺถเตมนมตฺตมฺปิ อุทกํ นาทฺทส. โส กุชฺฌิตฺวา อาห – ‘‘ภิกฺขุ, ภิกฺขุ ตุมฺเห คหปติเกหิ ทินฺนํ ภุฺชิตฺวา ภุฺชิตฺวา สุปถ, ปานียฆเฏ อฺชลิมตฺตมฺปิ อุทกํ น เปถ, น ยุตฺตเมต’’นฺติ. เถโร ‘‘มยา ปานียฆโฏ ปูเรตฺวา ปิโต, กึ นุ โข เอต’’นฺติ? คนฺตฺวา โอโลเกนฺโต ปริปุณฺณฆฏํ ทิสฺวา ปานียสงฺขํ ปูเรตฺวา อทาสิ. โส ทฺวตฺติสงฺขปูรํ ปิวิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เอวํ ปูริตฆโฏ นาม มม กมฺมํ อาคมฺม ตตฺตกปาโล วิย ชาโต. กึ นุ โข อนาคเต อตฺตภาเว ภวิสฺสตี’’ติ? สํวิคฺคจิตฺโต ธนุํ ฉฑฺเฑตฺวา, ‘‘ปพฺพาเชถ มํ, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตฺวา ตํ ปพฺพาเชสิ.

ตสฺส สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺส พหูนํ มิคสูกรานํ มาริตฏฺานํ ปาสอทูหลานฺจ โยชิตฏฺานํ อุปฏฺาติ. ตํ อนุสฺสรโต สรีเร ทาโห อุปฺปชฺชติ, กูฏโคโณ วิย กมฺมฏฺานมฺปิ วีถึ น ปฏิปชฺชติ. โส ‘‘กึ กริสฺสามิ ภิกฺขุภาเวนา’’ติ? อนภิรติยา ปีฬิโต เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘น สกฺโกมิ, ภนฺเต, สมณธมฺมํ กาตุ’’นฺติ. อถ นํ เถโร ‘‘หตฺถกมฺมํ กโรหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อุทุมฺพราทโย อลฺลรุกฺเข ฉินฺทิตฺวา มหนฺตํ ราสึ กตฺวา, ‘‘อิทานิ กึ กโรมี’’ติ ปุจฺฉิ? ฌาเปหิ นนฺติ. โส จตูสุ ทิสาสุ อคฺคึ ทตฺวา ฌาเปตุํ อสกฺโกนฺโต, ‘‘ภนฺเต, น สกฺโกมี’’ติ อาห. เถโร ‘‘เตน หิ อเปหี’’ติ ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา อวีจิโต ขชฺโชปนกมตฺตํ อคฺคึ นีหริตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปิ. โส ตาว มหนฺตํ ราสึ สุกฺขปณฺณํ วิย ขเณน ฌาเปสิ. อถสฺส เถโร อวีจึ ทสฺเสตฺวา, ‘‘สเจ วิพฺภมิสฺสสิ, เอตฺถ ปจฺจิสฺสสี’’ติ สํเวคํ ชเนสิ. โส อวีจิทสฺสนโต ปฏฺาย ปเวธมาโน ‘‘นิยฺยานิกํ, ภนฺเต, พุทฺธสาสน’’นฺติ ปุจฺฉิ, อามาวุโสติ. ภนฺเต, พุทฺธสาสนสฺส นิยฺยานิกตฺเต สติ มิลโก อตฺตโมกฺขํ กริสฺสติ, มา จินฺตยิตฺถาติ. ตโต ปฏฺาย สมณธมฺมํ กโรติ ฆเฏติ, ตสฺส วตฺตปฏิวตฺตํ ปูเรติ, นิทฺทาย พาธยมานาย ตินฺตํ ปลาลํ สีเส เปตฺวา ปาเท โสณฺฑิยํ โอตาเรตฺวา นิสีทติ. โส เอกทิวสํ ปานียํ ปริสฺสาเวตฺวา ฆฏํ อูรุมฺหิ เปตฺวา อุทกมณิกานํ ปจฺเฉทํ อาคมยมาโน อฏฺาสิ. อถ โข เถโร สามเณรสฺส อิมํ อุทฺเทสํ เทติ –

‘‘อุฏฺานวโต สตีมโต,

สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมการิโน;

สฺตสฺส ธมฺมชีวิโน,

อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๔);

โส จตุปฺปทิกมฺปิ ตํ คาถํ อตฺตนิเยว อุปเนสิ – ‘‘อุฏฺานวตา นาม มาทิเสน ภวิตพฺพํ. สติมตาปิ มาทิเสเนว…เป… อปฺปมตฺเตนปิ มาทิเสเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ. เอวํ ตํ คาถํ อตฺตนิ อุปเนตฺวา ตสฺมึเยว ปทวาเร ิโต ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ฉินฺทิตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺาย หฏฺตุฏฺโ –

‘‘อลฺลํ ปลาลปุฺชาหํ, สีเสนาทาย จงฺกมึ;

ปตฺโตสฺมิ ตติยํ านํ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย’’ติ. –

อิมํ อุทานคาถํ อาห. เอวํ ทุพฺพลูปนิสฺสเย ิโต ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ฉินฺทิตฺวา ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตติ. เตนาห ภควา – ‘‘โน จสฺสํ, โน จ เม สิยา, นาภวิสฺส, น เม ภวิสฺสตีติ เอวํ อธิมุจฺจมาโน ภิกฺขุ ฉินฺเทยฺย โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานี’’ติ.

ตตฺถ โน จสฺสํ, โน จ เม สิยาติ สเจ อหํ น ภเวยฺยํ, มม ปริกฺขาโรปิ น ภเวยฺย. สเจ วา ปน เม อตีเต กมฺมาภิสงฺขาโร นาภวิสฺส, อิทํ เม เอตรหิ ขนฺธปฺจกํ น ภเวยฺย. นาภวิสฺส, น เม ภวิสฺสตีติ อิทานิ ปน ตถา ปรกฺกมิสฺสามิ, ยถา เม อายตึ ขนฺธาภินิพฺพตฺตโก กมฺมสงฺขาโร น ภวิสฺสติ, ตสฺมึ อสติ อายตึ ปฏิสนฺธิ นาม น เม ภวิสฺสติ. เอวํ อธิมุจฺจมาโนติ เอวํ อธิมุจฺจนฺโต ภิกฺขุ ทุพฺพลูปนิสฺสเย ิโต ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ฉินฺเทยฺย. เอวํ วุตฺเตติ เอวํ สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ อาวชฺเชนฺเตน ภควตา อิมสฺมึ อุทาเน วุตฺเต. รูปํ วิภวิสฺสตีติ รูปํ ภิชฺชิสฺสติ. รูปสฺส วิภวาติ วิภวทสฺสเนน สหวิปสฺสเนน. สหวิปสฺสนกา หิ จตฺตาโร มคฺคา รูปาทีนํ วิภวทสฺสนํ นาม. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เอวํ อธิมุจฺจมาโน, ภนฺเต, ภิกฺขุ ฉินฺเทยฺยาติ, ภนฺเต, เอวํ อธิมุจฺจมาโน ภิกฺขุ ฉินฺเทยฺเยว ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ. กสฺมา น ฉินฺทิสฺสตีติ?

อิทานิ อุปริ มคฺคผลํ ปุจฺฉนฺโต กถํ ปน, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ อนนฺตราติ ทฺเว อนนฺตรานิ อาสนฺนานนฺตรฺจ ทูรานนฺตรฺจ. วิปสฺสนา มคฺคสฺส อาสนฺนานนฺตรํ นาม, ผลสฺส ทูรานนฺตรํ นาม. ตํ สนฺธาย ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, ชานโต กถํ ปสฺสโต วิปสฺสนานนฺตรา ‘อาสวานํ ขโย’ติ สงฺขํ คตํ อรหตฺตผลํ โหตี’’ติ ปุจฺฉติ. อตสิตาเยติ อตสิตพฺเพ อภายิตพฺเพ านมฺหิ. ตาสํ อาปชฺชตีติ ภยํ อาปชฺชติ. ตาโส เหโสติ ยา เอสา ‘‘โน จสฺสํ, โน จ เม สิยา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ทุพฺพลวิปสฺสนา, สา ยสฺมา อตฺตสิเนหํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส ตาโส นาม โหติ. โส หิ ‘‘อิทานาหํ อุจฺฉิชฺชิสฺสามิ, น ทานิ กิฺจิ ภวิสฺสามี’’ติ อตฺตานํ ปปาเต ปตนฺตํ วิย ปสฺสติ อฺตโร พฺราหฺมโณ วิย. โลหปาสาทสฺส กิร เหฏฺา ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ติลกฺขณาหตํ ธมฺมํ ปริวตฺเตติ. อถ อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส เอกมนฺเต ตฺวา ธมฺมํ สุณนฺตสฺส สงฺขารา สุฺโต อุปฏฺหึสุ. โส ปปาเต ปตนฺโต วิย หุตฺวา วิวฏทฺวาเรน ตโต ปลายิตฺวา เคหํ ปวิสิตฺวา, ปุตฺตํ อุเร สยาเปตฺวา, ‘‘ตาต, สกฺยสมยํ อาวชฺเชนฺโต มนมฺหิ นฏฺโ’’ติ อาห. น เหโส ภิกฺขุ ตาโสติ เอสา เอวํ ปวตฺตา พลววิปสฺสนา สุตวโต อริยสาวกสฺส น ตาโส นาม โหติ. น หิ ตสฺส เอวํ โหติ ‘‘อหํ อุจฺฉิชฺชิสฺสามี’’ติ วา ‘‘วินสฺสิสฺสามี’’ติ วาติ. เอวํ ปน โหติ ‘‘สงฺขาราว อุปฺปชฺชนฺติ, สงฺขาราว นิรุชฺฌนฺตี’’ติ. ตติยํ.

๔. อุปาทานปริปวตฺตสุตฺตวณฺณนา

๕๖. จตุตฺเถ จตุปริวฏฺฏนฺติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ จตุนฺนํ ปริวฏฺฏนวเสน. รูปํ อพฺภฺาสินฺติ รูปํ ทุกฺขสจฺจนฺติ อภิฺาสึ. เอวํ สพฺพปเทสุ จตุสจฺจวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อาหารสมุทยาติ เอตฺถ สจฺฉนฺทราโค กพฬีการาหาโร อาหาโร นาม. ปฏิปนฺนาติ สีลโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา ปฏิปนฺนา โหนฺติ. คาธนฺตีติ ปติฏฺหนฺติ. เอตฺตาวตา เสกฺขภูมึ กเถตฺวา อิทานิ อเสกฺขภูมึ กเถนฺโต เย จ โข เกจิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. สุวิมุตฺตาติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตา. เกวลิโนติ สกลิโน กตสพฺพกิจฺจา. วฏฺฏํ เตสํ นตฺถิ ปฺาปนายาติ เยน เต อวสิฏฺเน วฏฺเฏน ปฺาเปยฺยุํ, ตํ เนสํ วฏฺฏํ นตฺถิ ปฺาปนาย. อถ วา วฏฺฏนฺติ การณํ, ปฺาปนาย การณํ นตฺถีติ. เอตฺตาวตา อเสกฺขภูมิวาโร กถิโต. จตุตฺถํ.

๕. สตฺตฏฺานสุตฺตวณฺณนา

๕๗. ปฺจเม สตฺตฏฺานกุสโลติ สตฺตสุ โอกาเสสุ เฉโก. วุสิตวาติ วุสิตวาโส. อุตฺตมปุริโสติ เสฏฺปุริโส. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ ปน สุตฺตํ อุสฺสทนนฺทิยฺเจว ปโลภนียฺจาติ เวทิตพฺพํ. ยถา หิ ราชา วิชิตสงฺคาโม สงฺคาเม วิชยิโน โยเธ อุจฺจฏฺาเน เปตฺวา เตสํ สกฺการํ กโรติ. กึ การณา? เอเตสํ สกฺการํ ทิสฺวา เสสาปิ สูรา ภวิตุํ มฺิสฺสนฺตีติ, เอวเมว ภควา อปฺปเมยฺยํ กาลํ ปารมิโย ปูเรตฺวา มหาโพธิมณฺเฑ กิเลสมารวิชยํ กตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต สาวตฺถิยํ เชตวนมหาวิหาเร นิสีทิตฺวา อิมํ สุตฺตํ เทเสนฺโต ขีณาสเว อุกฺขิปิตฺวา โถเมสิ วณฺเณสิ. กึ การณา? เอวํ อวเสสา เสกฺขปุคฺคลา อรหตฺตผลํ ปตฺตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติ. เอวเมตํ สุตฺตํ ขีณาสวานํ อุกฺขิปิตฺวา ปสํสิตตฺตา อุสฺสทนนฺทิยํ, เสกฺขานํ ปโลภิตตฺตา ปโลภนียนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺตฏฺานกุสโล โหตีติ เอตฺตาวตา เจตฺถ มคฺคผลปจฺจเวกฺขณวเสน เทสนํ นิฏฺเปตฺวาปิ ปุน กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติวิธูปปริกฺขี โหตีติ อิทํ ‘‘ขีณาสโว ยสฺมึ อารมฺมเณ สตตวิหาเรน วิหรติ, ตํ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา น โหติ, ธาตุอาทิมตฺตเมว ปน โหตี’’ติ เอวํ ขีณาสวสฺส สตตวิหารฺจ, ‘‘อิเมสุ ธมฺเมสุ กมฺมํ กตฺวา อยํ อาคโต’’ติ อาคมนียปฏิปทฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ธาตุโส อุปปริกฺขตีติ ธาตุสภาเวน ปสฺสติ โอโลเกติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปฺจมํ.

๖. สมฺมาสมฺพุทฺธสุตฺตวณฺณนา

๕๘. ฉฏฺเ โก อธิปฺปยาโสติ โก อธิกปโยโค. อนุปฺปนฺนสฺสาติ อิมฺหิ มคฺคํ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปฺปาเทสิ, อนฺตรา อฺโ สตฺถา อุปฺปาเทตุํ นาสกฺขิ, อิติ ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา นาม. นคโรปมสฺมิฺหิ อวฬฺชนฏฺาเนสุ ปุราณมคฺโค ชาโต, อิธ อวตฺตมานฏฺเน อนุปฺปนฺนมคฺโค นาม. อสฺชาตสฺสาติ ตสฺเสว เววจนํ. อนกฺขาตสฺสาติ อกถิตสฺส. มคฺคํ ชานาตีติ มคฺคฺู. มคฺคํ วิทิตํ ปากฏํ อกาสีติ มคฺควิทู. มคฺเค จ อมคฺเค จ โกวิโทติ มคฺคโกวิโท. มคฺคานุคาติ มคฺคํ อนุคจฺฉนฺตา. ปจฺฉา สมนฺนาคตาติ อหํ ปมํ คโต, สาวกา ปจฺฉา สมนฺนาคตา. ฉฏฺํ.

๗. อนตฺตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

๕๙. สตฺตเม ปฺจวคฺคิเยติ อฺาสิ โกณฺฑฺตฺเถราทิเก ปฺจ ชเน ปุราณุปฏฺาเก. อามนฺเตสีติ อาสาฬฺหิปุณฺณมทิวเส ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิเต ‘‘อิทานิ เนสํ อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ ปฺจมิยํ ปกฺขสฺส อามนฺเตสิ. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนตฺตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ อนตฺตลกฺขณสุตฺตํ อโวจ. ตตฺถ อนตฺตาติ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ จตูหิ การเณหิ อนตฺตา. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเวติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ? เอตฺตเกน าเนน อนตฺตลกฺขณเมว กถิตํ, น อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานิ, อิทานิ ตานิ ทสฺเสตฺวา สโมธาเนตฺวา ตีณิปิ ลกฺขณานิ ทสฺเสตุํ อิทมารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อิเม ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา, ตสฺมา. ยํกิฺจิ รูปนฺติอาทีสุ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค ปฺาภาวนาธิกาเร ขนฺธนิทฺเทเส วุตฺตาว. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อนตฺตลกฺขณเมว กถิตนฺติ. สตฺตมํ.

๘. มหาลิสุตฺตวณฺณนา

๖๐. อฏฺเม เอกนฺตทุกฺขนฺติอาทีนิ ธาตุสํยุตฺเต วุตฺตนยาเนว. อฏฺมํ.

๙. อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๖๑. นวเม อาทิตฺตนฺติ เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตํ ปชฺชลิตํ. อิติ ทฺวีสุปิ อิเมสุ สุตฺเตสุ ทุกฺขลกฺขณเมว กถิตํ. นวมํ.

๑๐. นิรุตฺติปถสุตฺตวณฺณนา

๖๒. ทสเม นิรุตฺติโยว นิรุตฺติปถา, อถ วา นิรุตฺติโย จ ตา นิรุตฺติวเสน วิฺาตพฺพานํ อตฺถานํ ปถตฺตา ปถา จาติ นิรุตฺติปถา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตีณิปิ เจตานิ อฺมฺเววจนาเนวาติ เวทิตพฺพานิ. อสํกิณฺณาติ อวิชหิตา, ‘‘โก อิเมหิ อตฺโถ’’ติ วตฺวา อฉฑฺฑิตา. อสํกิณฺณปุพฺพาติ อตีเตปิ น ชหิตปุพฺพา. น สํกียนฺตีติ เอตรหิปิ ‘‘กิเมเตหี’’ติ น ฉฑฺฑียนฺติ. น สํกียิสฺสนฺตีติ อนาคเตปิ น ฉฑฺฑียิสฺสนฺติ. อปฺปฏิกุฏฺาติ อปฺปฏิพาหิตา. อตีตนฺติ อตฺตโน สภาวํ ภงฺคเมว วา อติกฺกนฺตํ. นิรุทฺธนฺติ เทสนฺตรํ อสงฺกมิตฺวา ตตฺเถว นิรุทฺธํ วูปสนฺตํ. วิปริณตนฺติ วิปริณามํ คตํ นฏฺํ. อชาตนฺติ อนุปฺปนฺนํ. อปาตุภูตนฺติ อปากฏีภูตํ.

อุกฺกลาติ อุกฺกลชนปทวาสิโน. วสฺสภฺาติ วสฺโส จ ภฺโ จ. ทฺเวปิ หิ เต มูลทิฏฺิคติกา. อเหตุกวาทาติอาทีสุ ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย’’ติ คหิตตฺตา อเหตุกวาทา. ‘‘กโรโต น กรียติ ปาป’’นฺติ คหิตตฺตา อกิริยวาทา. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิคหณโต นตฺถิกวาทา. ตตฺถ อิเม ทฺเว ชนา, ติสฺโส ทิฏฺิโย, กึ เอเกกสฺส ทิยฑฺฒา โหตีติ? น ตถา, ยถา ปน เอโก ภิกฺขุ ปฏิปาฏิยา จตฺตาริปิ ฌานานิ นิพฺพตฺเตติ, เอวเมตฺถ เอเกโก ติสฺโสปิ ทิฏฺิโย นิพฺพตฺเตสีติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย’’ติ ปุนปฺปุนํ อาวชฺเชนฺตสฺส อาหรนฺตสฺส อภินนฺทนฺตสฺส อสฺสาเทนฺตสฺส มคฺคทสฺสนํ วิย โหติ. โส มิจฺฉตฺตนิยามํ โอกฺกมติ, โส เอกนฺตกาฬโกติ วุจฺจติ. ยถา ปน อเหตุกทิฏฺิยํ, เอวํ ‘‘กโรโต น กรียติ ปาปํ, นตฺถิ ทินฺน’’นฺติ อิเมสุปิ าเนสุ มิจฺฉตฺตนิยามํ โอกฺกมติ.

น ครหิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ อมฺึสูติ เอตฺถ ‘‘ยเทตํ อตีตํ นาม, นยิทํ อตีตํ, อิทมสฺส อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา’’ติ วทนฺโต ครหติ นาม. ตตฺถ โทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กึ อิมินา ครหิเตนา’’ติ? วทนฺโต ปฏิกฺโกสติ นาม. อิเม ปน นิรุตฺติปเถ เตปิ อจฺจนฺตกาฬกา ทิฏฺิคติกา น ครหิตพฺเพ น ปฏิกฺโกสิตพฺเพ มฺึสุ. อตีตํ ปน อตีตเมว, อนาคตํ อนาคตเมว, ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺนเมว กถยึสุ. นินฺทาฆฏฺฏนพฺยาโรสอุปารมฺภภยาติ วิฺูนํ สนฺติกา นินฺทาภเยน จ ฆฏฺฏนภเยน จ โทสาโรปนภเยน จ อุปารมฺภภเยน จ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต จตุภูมิกขนฺธานํ ปณฺณตฺติ กถิตาติ. ทสมํ.

อุปยวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. อรหนฺตวคฺโค

๑. อุปาทิยมานสุตฺตวณฺณนา

๖๓. อรหนฺตวคฺคสฺส ปเม อุปาทิยมาโนติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน คณฺหมาโน. พทฺโธ มารสฺสาติ มารสฺส ปาเสน พทฺโธ นาม. มุตฺโต ปาปิมโตติ ปาปิมโต ปาเสน มุตฺโต นาม โหติ. ปมํ.

๒. มฺมานสุตฺตวณฺณนา

๖๔. ทุติเย มฺมาโนติ ตณฺหามานทิฏฺิมฺนาหิ มฺมาโน. ทุติยํ.

๓. อภินนฺทมานสุตฺตวณฺณนา

๖๕. ตติเย อภินนฺทมาโนติ ตณฺหามานทิฏฺิอภินนฺทนาหิเยว อภินนฺทมาโน. ตติยํ.

๔-๕. อนิจฺจสุตฺตาทิวณฺณนา

๖๖-๖๘. จตุตฺเถ ฉนฺโทติ ตณฺหาฉนฺโท. ปฺจมฉฏฺเสุปิ เอเสว นโย. จตุตฺถาทีนิ.

๗. อนตฺตนิยสุตฺตวณฺณนา

๖๙. สตฺตเม อนตฺตนิยนฺติ น อตฺตโน สนฺตกํ, อตฺตโน ปริกฺขารภาเวน สุฺตนฺติ อตฺโถ. สตฺตมํ.

๘-๑๐. รชนียสณฺิตสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๐-๗๒. อฏฺเม รชนียสณฺิตนฺติ รชนีเยน อากาเรน สณฺิตํ, ราคสฺส ปจฺจยภาเวน ิตนฺติ อตฺโถ. นวมทสมานิ ราหุลสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ. อฏฺมาทีนิ.

อรหนฺตวคฺโค สตฺตโม.

๘. ขชฺชนียวคฺโค

๑-๓. อสฺสาทสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๓-๗๕. ขชฺชนียวคฺคสฺส อาทิโต ตีสุ สุตฺเตสุ จตุสจฺจเมว กถิตํ. ปมาทีนิ.

๔. อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา

๗๖. จตุตฺเถ ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตาวาสาติ, ภิกฺขเว, ยตฺตกา สตฺตาวาสา นาม อตฺถิ. ยาวตา ภวคฺคนฺติ ยตฺตกํ ภวคฺคํ นาม อตฺถิ. เอเต อคฺคา เอเต เสฏฺาติ เอเต อคฺคภูตา เจว เสฏฺภูตา จ. ยทิทํ อรหนฺโตติ เย อิเม อรหนฺโต นาม. อิทมฺปิ สุตฺตํ ปุริมนเยเนว อุสฺสทนนฺทิยฺจ ปโลภนียฺจาติ เวทิตพฺพํ.

อถาปรํ เอตทโวจาติ ตทตฺถปริทีปนาหิ เจว วิเสสตฺถปริทีปนาหิ จ คาถาหิ เอตํ ‘‘สุขิโน วต อรหนฺโต’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ สุขิโนติ ฌานสุเขน มคฺคสุเขน ผลสุเขน จ สุขิตา. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ เตสํ อปายทุกฺขชนิกา ตณฺหา น วชฺชติ. เอวํ เต อิมสฺสปิ ตณฺหามูลกสฺส อภาเวน สุขิตาว. อสฺมิมาโน สมุจฺฉินฺโนติ นววิโธ อสฺมิมาโน อรหตฺตมคฺเคน สมุจฺฉินฺโน. โมหชาลํ ปทาลิตนฺติ าเณน อวิชฺชาชาลํ ผาลิตํ.

อเนชนฺติ เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย ปหานภูตํ อรหตฺตํ. อนุปลิตฺตาติ ตณฺหาทิฏฺิเลเปหิ อลิตฺตา. พฺรหฺมภูตาติ เสฏฺภูตา. ปริฺายาติ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. สตฺตสทฺธมฺมโคจราติ สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ พาหุสจฺจํ อารทฺธวีริยตา อุปฏฺิตสฺสติตา ปฺาติ อิเม สตฺต สทฺธมฺมา โคจโร เอเตสนฺติ สตฺตสทฺธมฺมโคจรา.

สตฺตรตนสมฺปนฺนาติ สตฺตหิ โพชฺฌงฺครตเนหิ สมนฺนาคตา. อนุวิจรนฺตีติ โลกิยมหาชนาปิ อนุวิจรนฺติเยว. อิธ ปน ขีณาสวานํ นิราสงฺกจาโร นาม คหิโต. เตเนวาห ‘‘ปหีนภยเภรวา’’ติ. ตตฺถ ภยํ ภยเมว, เภรวํ พลวภยํ. ทสหงฺเคหิ สมฺปนฺนาติ อเสกฺเขหิ ทสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา. มหานาคาติ จตูหิ การเณหิ มหานาคา. สมาหิตาติ อุปจารปฺปนาหิ สมาหิตา. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ ‘‘อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโสติ โข, มหาราช, เตน ภควตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) เอวํ วุตฺตา ทาสการิกา ตณฺหาปิ เตสํ นตฺถิ. อิมินา ขีณาสวานํ ภุชิสฺสภาวํ ทสฺเสติ.

อเสขาณนฺติ อรหตฺตผลาณํ. อนฺติโมยํ สมุสฺสโยติ ปจฺฉิโม อยํ อตฺตภาโว. โย สาโร พฺรหฺมจริยสฺสาติ สาโร นาม ผลํ. ตสฺมึ อปรปจฺจยาติ ตสฺมึ อริยผเล, น อฺํ ปตฺติยายนฺติ, ปจฺจกฺขโตว ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตา. วิธาสุ น วิกมฺปนฺตีติ ตีสุ มานโกฏฺาเสสุ น วิกมฺปนฺติ. ทนฺตภูมินฺติ อรหตฺตํ. วิชิตาวิโนติ ราคาทโย วิเชตฺวา ิตา.

อุทฺธนฺติอาทีสุ อุทฺธํ วุจฺจติ เกสมตฺถโก, อปาจีนํ ปาทตลํ, ติริยํ เวมชฺฌํ. อุทฺธํ วา อตีตํ, อปาจีนํ อนาคตํ, ติริยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. อุทฺธํ วา วุจฺจติ เทวโลโก, อปาจีนํ อปายโลโก, ติริยํ มนุสฺสโลโก. นนฺที เตสํ น วิชฺชตีติ เอเตสุ าเนสุ สงฺเขปโต วา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ขนฺเธสุ เตสํ ตณฺหา นตฺถิ. อิธ วฏฺฏมูลกตณฺหาย อภาโว ทสฺสิโต. พุทฺธาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุทฺธา.

อิทํ ปเนตฺถ สีหนาทสโมธานํ – ‘‘วิมุตฺติสุเขนมฺหา สุขิตา, ทุกฺขชนิกา โน ตณฺหา ปหีนา, ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา, ทาสการิกตณฺหา เจว วฏฺฏมูลิกตณฺหา จ ปหีนา, อนุตฺตรมฺหา อสทิสา, จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุทฺธา’’ติ ภวปิฏฺเ ตฺวา อภีตนาทสงฺขาตํ สีหนาทํ นทนฺติ ขีณาสวาติ. จตุตฺถํ.

๕. ทุติยอรหนฺตสุตฺตวณฺณนา

๗๗. ปฺจมํ วินา คาถาหิ สุทฺธิกเมว กตฺวา กถิยมานํ พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสเยน วุตฺตํ. ปฺจมํ.

๖. สีหสุตฺตวณฺณนา

๗๘. ฉฏฺเ สีโหติ จตฺตาโร สีหา – ติณสีโห, กาฬสีโห, ปณฺฑุสีโห, เกสรสีโหติ. เตสุ ติณสีโห กโปตวณฺณคาวิสทิโส ติณภกฺโข จ โหติ. กาฬสีโห กาฬคาวิสทิโส ติณภกฺโขเยว. ปณฺฑุสีโห ปณฺฑุปลาสวณฺณคาวิสทิโส มํสภกฺโข. เกสรสีโห ลาขารสปริกมฺมกเตเนว มุเขน อคฺคนงฺคุฏฺเน จตูหิ จ ปาทปริยนฺเตหิ สมนฺนาคโต, มตฺถกโตปิสฺส ปฏฺาย ลาขาตูลิกาย กตฺวา วิย ติสฺโส ราชิโย ปิฏฺิมชฺเฌน คนฺตฺวา อนฺตรสตฺถิมฺหิ ทกฺขิณาวตฺตา หุตฺวา ิตา, ขนฺเธ ปนสฺส สตสหสฺสคฺฆนิกกมฺพลปริกฺเขโป วิย เกสรภาโร โหติ, อวเสสฏฺานํ ปริสุทฺธํ สาลิปิฏฺสงฺขจุณฺณปิจุวณฺณํ โหติ. อิเมสุ จตูสุ สีเหสุ อยํ เกสรสีโห อิธ อธิปฺเปโต.

มิคราชาติ มิคคณสฺส ราชา. อาสยาติ วสนฏฺานโต สุวณฺณคุหโต วา รชตมณิผลิกมโนสิลาคุหโต วา นิกฺขมตีติ วุตฺตํ โหติ. นิกฺขมมาโน ปเนส จตูหิ การเณหิ นิกฺขมติ อนฺธการปีฬิโต วา อาโลกตฺถาย, อุจฺจารปสฺสาวปีฬิโต วา เตสํ วิสฺสชฺชนตฺถาย, ชิฆจฺฉาปีฬิโต วา โคจรตฺถาย, สมฺภวปีฬิโต วา อสฺสทฺธมฺมปฏิเสวนตฺถาย. อิธ ปน โคจรตฺถาย นิกฺขนฺโตติ อธิปฺเปโต.

วิชมฺภตีติ สุวณฺณตเล วา รชตมณิผลิกมโนสิลาตลานํ วา อฺตรสฺมึ ทฺเว ปจฺฉิมปาเท สมํ ปติฏฺาเปตฺวา ปุริมปาเท ปุรโต ปสาเรตฺวา สรีรสฺส ปจฺฉาภาคํ อากฑฺฒิตฺวา ปุริมภาคํ อภิหริตฺวา ปิฏฺึ นาเมตฺวา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา อสนิสทฺทํ กโรนฺโต วิย นาสปุฏานิ โปเถตฺวา สรีรลคฺคํ รชํ วิธุนนฺโต วิชมฺภติ. วิชมฺภนภูมิยฺจ ปน ตรุณวจฺฉโก วิย อปราปรํ ชวติ. ชวโต ปนสฺส สรีรํ อนฺธกาเร ปริพฺภมนฺตํ อลาตํ วิย ขายติ.

อนุวิโลเกตีติ กสฺมา อนุวิโลเกติ? ปรานุทฺทยตาย. ตสฺมึ กิร สีหนาทํ นทนฺเต ปปาตาวาฏาทีสุ วิสมฏฺาเนสุ จรนฺตา หตฺถิโคกณฺณมหึสาทโย ปาณา ปปาเตปิ อาวาเฏปิ ปตนฺติ, เตสํ อนุทฺทยาย อนุวิโลเกติ. กึ ปนสฺส ลุทฺทกมฺมสฺส ปรมํสขาทิโน อนุทฺทยา นาม อตฺถีติ? อาม อตฺถิ. ตถา เหส ‘‘กึ เม พหูหิ ฆาติเตหี’’ติ? อตฺตโน โคจรตฺถายปิ ขุทฺทเก ปาเณ น คณฺหาติ, เอวํ อนุทฺทยํ กโรติ. วุตฺตมฺปิเจตํ – ‘‘มาหํ โข ขุทฺทเก ปาเณ วิสมคเต สงฺฆาตํ อาปาเทสิ’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๒๑).

สีหนาทํ นทตีติ ติกฺขตฺตุํ ตาว อภีตนาทํ นทติ. เอวฺจ ปนสฺส วิชมฺภนภูมิยํ ตฺวา นทนฺตสฺส สทฺโท สมนฺตา ติโยชนปเทสํ เอกนินฺนาทํ กโรติ, ตมสฺส นินฺนาทํ สุตฺวา ติโยชนพฺภนฺตรคตา ทฺวิปทจตุปฺปทคณา ยถาาเน าตุํ น สกฺโกนฺติ. โคจราย ปกฺกมตีติ อาหารตฺถาย คจฺฉติ. กถํ? โส หิ วิชมฺภนภูมิยํ ตฺวา ทกฺขิณโต วา วามโต วา อุปฺปตนฺโต อุสภมตฺตํ านํ คณฺหาติ, อุทฺธํ อุปฺปตนฺโต จตฺตาริปิ อฏฺปิ อุสภานิ อุปฺปตติ, สมฏฺาเน อุชุกํ ปกฺขนฺทนฺโต โสฬสอุสภมตฺตมฺปิ วีสติอุสภมตฺตมฺปิ านํ ปกฺขนฺทติ, ถลา วา ปพฺพตา วา ปกฺขนฺทนฺโต สฏฺิอุสภมตฺตมฺปิ อสีติอุสภมตฺตมฺปิ านํ ปกฺขนฺทติ, อนฺตรามคฺเค รุกฺขํ วา ปพฺพตํ วา ทิสฺวา ตํ ปริหรนฺโต วามโต วา ทกฺขิณโต วา, อุสภมตฺตมฺปิ อปกฺกมติ. ตติยํ ปน สีหนาทํ นทิตฺวา เตเนว สทฺธึ ติโยชเน าเน ปฺายติ. ติโยชนํ คนฺตฺวา นิวตฺติตฺวา ิโต อตฺตโนว นาทสฺส อนุนาทํ สุณาติ. เอวํ สีเฆน ชเวน ปกฺกมตีติ.

เยภุยฺเยนาติ ปาเยน. ภยํ สํเวคํ สนฺตาสนฺติ สพฺพํ จิตฺตุตฺราสสฺเสว นามํ. สีหสฺส หิ สทฺทํ สุตฺวา พหู สตฺตา ภายนฺติ, อปฺปกา น ภายนฺติ. เก ปน เตติ? สมสีโห หตฺถาชานีโย อสฺสาชานีโย อุสภาชานีโย ปุริสาชานีโย ขีณาสโวติ. กสฺมา ปเนเต น ภายนฺตีติ? สมสีโห นาม ‘‘ชาติโคตฺตกุลสูรภาเวหิ สมาโนสฺมี’’ติ น ภายติ, หตฺถาชานียาทโย อตฺตโน สกฺกายทิฏฺิพลวตาย น ภายนฺติ, ขีณาสโว สกฺกายทิฏฺิปหีนตฺตา น ภายติ.

พิลาสยาติ พิเล สยนฺตา พิลวาสิโน อหินกุลโคธาทโย. ทกาสยาติ อุทกวาสิโน มจฺฉกจฺฉปาทโย. วนาสยาติ วนวาสิโน หตฺถิอสฺสโคกณฺณมิคาทโย. ปวิสนฺตีติ ‘‘อิทานิ อาคนฺตฺวา คณฺหิสฺสตี’’ติ มคฺคํ โอโลเกนฺตาว ปวิสนฺติ. ทฬฺเหหีติ ถิเรหิ. วรตฺเตหีติ จมฺมรชฺชูหิ. มหิทฺธิโกติอาทีสุ วิชมฺภนภูมิยํ ตฺวา ทกฺขิณปสฺสาทีหิ อุสภมตฺตํ, อุชุกํ วีสติอุสภมตฺตาทิลงฺฆนวเสน มหิทฺธิกตา, เสสมิคานํ อธิปติภาเวน มเหสกฺขตา, สมนฺตา ติโยชเน สทฺทํ สุตฺวา ปลายนฺตานํ วเสน มหานุภาวตา เวทิตพฺพา.

เอวเมว โขติ ภควา เตสุ เตสุ สุตฺเตสุ ตถา ตถา อตฺตานํ กเถสิ. ‘‘สีโหติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๕.๙๙; ๑๐.๒๑) อิมสฺมึ ตาว สุตฺเต สีหสทิสํ อตฺตานํ กเถสิ. ‘‘ภิสกฺโก สลฺลกตฺโตติ โข, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๖๕) อิมสฺมึ เวชฺชสทิสํ. ‘‘พฺราหฺมโณติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๘๕) อิมสฺมึ พฺราหฺมณสทิสํ. ‘‘ปุริโส มคฺคกุสโลติ โข, ติสฺส, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๘๔) อิมสฺมึ มคฺคเทสกปุริสสทิสํ. ‘‘ราชาหมสฺมิ เสลา’’ติ (สุ. นิ. ๕๕๙) อิมสฺมึ ราชสทิสํ. ‘‘สีโหติ โข ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (อ. นิ. ๕.๙๙; ๑๐.๒๑) อิมสฺมึ ปน สุตฺเต สีหสทิสเมว กตฺวา อตฺตานํ กเถนฺโต เอวมาห.

ตตฺรายํ สทิสตา – สีหสฺส กฺจนคุหาทีสุ วสนกาโล วิย หิ ตถาคตสฺส ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหารสฺส อปริมิตกาลํ ปารมิโย ปูเรตฺวา ปจฺฉิมภเว ปฏิสนฺธิคฺคหเณน เจว มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเนน จ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ กมฺเปตฺวา วุทฺธิมนฺวาย ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสํ สมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ตีสุ ปาสาเทสุ นิวาสกาโล ทฏฺพฺโพ. สีหสฺส กฺจนคุหาทิโต นิกฺขนฺตกาโล วิย ตถาคตสฺส เอกูนตึเส สํวจฺฉเร วิวเฏน ทฺวาเรน กณฺฑกํ อารุยฺห ฉนฺนสหายสฺส นิกฺขมิตฺวา ตีณิ รชฺชานิ อติกฺกมิตฺวา อโนมานทีตีเร พฺรหฺมุนา ทินฺนานิ กาสายานิ ปริทหิตฺวา ปพฺพชิตสฺส สตฺตเม ทิวเส ราชคหํ คนฺตฺวา ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปณฺฑวคิริปพฺภาเร กตภตฺตกิจฺจสฺส สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺวา, ปมเมว มคธรฏฺํ อาคมนตฺถาย ยาว รฺโ ปฏิฺาทานกาโล.

สีหสฺส วิชมฺภนกาโล วิย ตถาคตสฺส ทินฺนปฏิฺสฺส อาฬารกาลามอุปสงฺกมนํ อาทึ กตฺวา ยาว สุชาตาย ทินฺนปายาสสฺส เอกูนปณฺณาสาย ปิณฺเฑหิ ปริภุตฺตกาโล เวทิตพฺโพ. สีหสฺส เกสรวิธุนนํ วิย สายนฺหสมเย โสตฺติเยน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตาหิ โถมิยมานสฺส คนฺธาทีหิ ปูชิยมานสฺส ติกฺขตฺตุํ โพธึ ปทกฺขิณํ กตฺวา โพธิมณฺฑํ อารุยฺห จุทฺทสหตฺถุพฺเพเธ าเน ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย นิสินฺนสฺส ตํขณํเยว มารพลํ วิธมิตฺวา ตีสุ ยาเมสุ ติสฺโส วิชฺชา วิโสเธตฺวา อนุโลมปฏิโลมํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทมหาสมุทฺทํ ยมกาณมนฺถเนน มนฺเถนฺตสฺส สพฺพฺุตฺาเณ ปฏิวิทฺเธ ตทนุภาเวน ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺปนํ เวทิตพฺพํ.

สีหสฺส จตุทฺทิสาวิโลกนํ วิย ปฏิวิทฺธสพฺพฺุตฺาณสฺส สตฺตสตฺตาหํ โพธิมณฺเฑ วิหริตฺวา ปริภุตฺตมธุปิณฺฑิกาหารสฺส อชปาลนิคฺโรธมูเล มหาพฺรหฺมุโน ธมฺมเทสนายาจนํ ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺถ วิหรนฺตสฺส เอกาทสเม ทิวเส ‘‘สฺเว อาสาฬฺหิปุณฺณมา ภวิสฺสตี’’ติ ปจฺจูสสมเย ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ? อาฬารุทกานํ กาลงฺกตภาวํ ตฺวา ธมฺมเทสนตฺถาย ปฺจวคฺคิยานํ โอโลกนํ ทฏฺพฺพํ. สีหสฺส โคจรตฺถาย ติโยชนํ คมนกาโล วิย อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ‘‘ปฺจวคฺคิยานํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสฺสามี’’ติ ปจฺฉาภตฺเต อชปาลนิคฺโรธโต วุฏฺิตสฺส อฏฺารสโยชนมคฺคํ คมนกาโล.

สีหนาทกาโล วิย ตถาคตสฺส อฏฺารสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิเย สฺาเปตฺวา อจลปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส ทสหิ จกฺกวาฬสหสฺเสหิ สนฺนิปติเตน เทวคเณน ปริวุตสฺส ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓) นเยน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนกาโล เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิฺจ ปน ปเท เทสิยมาเน ตถาคตสีหสฺส ธมฺมโฆโส เหฏฺา อวีจึ อุปริ ภวคฺคํ คเหตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปฏิจฺฉาเทสิ. สีหสฺส สทฺเทน ขุทฺทกปาณานํ สนฺตาสํ อาปชฺชนกาโล วิย ตถาคตสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ ทีเปตฺวา จตฺตาริ สจฺจานิ โสฬสหากาเรหิ สฏฺิยา จ นยสหสฺเสหิ วิภชิตฺวา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส ทีฆายุกเทวตานํ าณสนฺตาสสฺส อุปฺปตฺติกาโล เวทิตพฺโพ.

ยทาติ ยสฺมึ กาเล. ตถาคโตติ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต – ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถาวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต. อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ. เตสํ วิตฺถาโร พฺรหฺมชาลวณฺณนายมฺปิ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗) มูลปริยายวณฺณนายมฺปิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๒) วุตฺโตเยว. โลเกติ สตฺตโลเก. อุปฺปชฺชตีติ อภินีหารโต ปฏฺาย ยาว โพธิปลฺลงฺกา วา อรหตฺตมคฺคาณา วา อุปฺปชฺชติ นาม, อรหตฺตผเล ปน ปตฺเต อุปฺปนฺโน นาม. อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานิ.

อิติ รูปนฺติ อิทํ รูปํ เอตฺตกํ รูปํ, น อิโต ภิยฺโย รูปํ อตฺถีติ. เอตฺตาวตา สภาวโต สรสโต ปริยนฺตโต ปริจฺเฉทโต ปริจฺฉินฺทนโต ยาวตา จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปํ, ตํ สพฺพํ ทสฺสิตํ โหติ. อิติ รูปสฺส สมุทโยติ อยํ รูปสฺส สมุทโย นาม. เอตฺตาวตา หิ ‘‘อาหารสมุทโย รูปสมุทโย’’ติอาทิ สพฺพํ ทสฺสิตํ โหติ. อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโมติ อยํ รูปสฺส อตฺถงฺคโม. อิมินาปิ ‘‘อาหารนิโรธา รูปนิโรโธ’’ติอาทิ สพฺพํ ทสฺสิตํ โหติ. อิติ เวทนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

วณฺณวนฺโตติ สรีรวณฺเณน วณฺณวนฺโต. ธมฺมเทสนํ สุตฺวาติ อิมํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปณฺณาสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา. เยภุยฺเยนาติ อิธ เก เปติ? อริยสาวเก เทเว. เตสฺหิ ขีณาสวตฺตา จิตฺตุตฺราสภยมฺปิ น อุปฺปชฺชติ, สํวิคฺคสฺส โยนิโส ปธาเนน ปตฺตพฺพํ ปตฺตตาย าณสํเวโคปิ. อิตเรสํ ปน เทวานํ ‘‘ตาโส เหโส ภิกฺขู’’ติ อนิจฺจตํ มนสิกโรนฺตานํ จิตฺตุตฺราสภยมฺปิ, พลววิปสฺสนากาเล าณภยมฺปิ อุปฺปชฺชติ. โภติ ธมฺมาลปนมตฺตเมตํ. สกฺกายปริยาปนฺนาติ ปฺจกฺขนฺธปริยาปนฺนา. อิติ เตสํ สมฺมาสมฺพุทฺเธ วฏฺฏโทสํ ทสฺเสตฺวา ติลกฺขณาหตํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺเต าณภยํ นาม โอกฺกมติ.

อภิฺายาติ ชานิตฺวา. ธมฺมจกฺกนฺติ ปฏิเวธาณมฺปิ เทสนาาณมฺปิ. ปฏิเวธาณํ นาม เยน าเณน โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตฺตาริ สจฺจานิ โสฬสหากาเรหิ สฏฺิยา จ นยสหสฺเสหิ ปฏิวิชฺฌิ. เทสนาาณํ นาม เยน าเณน ติปริวฏฺฏํ ทฺวาทสาการํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. อุภยมฺปิ ตํ ทสพลสฺส อุเร ชาตาณเมว. เตสุ อิธ เทสนาาณํ คเหตพฺพํ. ตํ ปเนส ยาว อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรสฺส โสตาปตฺติผลํ อุปฺปชฺชติ, ตาว ปวตฺเตติ นาม. ตสฺมึ อุปฺปนฺเน ปวตฺติตํ นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ. อปฺปฏิปุคฺคโลติ สทิสปุคฺคลรหิโต. ยสสฺสิโนติ ปริวารสมฺปนฺนา. ตาทิโนติ ลาภาลาภาทีหิ เอกสทิสสฺส. ฉฏฺํ.

๗. ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา

๗๙. สตฺตเม ปุพฺเพนิวาสนฺติ น อิทํ อภิฺาวเสน อนุสฺสรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิปสฺสนาวเสน ปน ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺเต สมณพฺราหฺมเณ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘สพฺเพเต ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อนุสฺสรนฺติ, เอเตสํ วา อฺตร’’นฺติ. อภิฺาวเสน หิ สมนุสฺสรนฺตสฺส ขนฺธาปิ อุปาทานกฺขนฺธาปิ ขนฺธปฏิพทฺธาปิ ปณฺณตฺติปิ อารมฺมณํ โหติเยว. รูปํเยว อนุสฺสรตีติ เอวฺหิ อนุสฺสรนฺโต น อฺํ กิฺจิ สตฺตํ วา ปุคฺคลํ วา อนุสฺสรติ, อตีเต ปน นิรุทฺธํ รูปกฺขนฺธเมว อนุสฺสรติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโยติ. สุฺตาปพฺพํ นิฏฺิตํ.

อิทานิ สุฺตาย ลกฺขณํ ทสฺเสตุํ กิฺจ, ภิกฺขเว, รูปํ วเทถาติอาทิมาห. ยถา หิ นฏฺํ โคณํ ปริเยสมาโน ปุริโส โคคเณ จรมาเน รตฺตํ วา กาฬํ วา พลีพทฺทํ ทิสฺวาปิ น เอตฺตเกเนว ‘‘อยํ มยฺหํ โคโณ’’ติ สนฺนิฏฺานํ กาตุํ สกฺโกติ. กสฺมา? อฺเสมฺปิ ตาทิสานํ อตฺถิตาย. สรีรปเทเส ปนสฺส สตฺติสูลาทิลกฺขณํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ สนฺตโก’’ติ สนฺนิฏฺานํ โหติ, เอวเมว สุฺตาย กถิตายปิ ยาว สุฺตาลกฺขณํ น กถียติ, ตาว สา อกถิตาว โหติ, ลกฺขเณ ปน กถิเต กถิตา นาม โหติ. โคโณ วิย หิ สุฺตา, โคณลกฺขณํ วิย สุฺตาลกฺขณํ. ยถา โคณลกฺขเณ อสลฺลกฺขิเต โคโณ น สุฏฺุ สลฺลกฺขิโต โหติ, ตสฺมึ ปน สลฺลกฺขิเต โส สลฺลกฺขิโต นาม โหติ, เอวเมว สุฺตาลกฺขเณ อกถิเต สุฺตา อกถิตาว โหติ, ตสฺมึ ปน กถิเต สา กถิตา นาม โหตีติ สุฺตาลกฺขณํ ทสฺเสตุํ กิฺจ, ภิกฺขเว, รูปํ วเทถาติอาทิมาห.

ตตฺถ กิฺจาติ การณปุจฺฉา, เกน การเณน รูปํ วเทถ, เกน การเณเนตํ รูปํ นามาติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ โขติ เอตฺถ อิตีติ การณุทฺเทโส, ยสฺมา รุปฺปติ, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬียติ, ภิชฺชตีติ อตฺโถ. สีเตนปิ รุปฺปตีติอาทีสุ สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. ติณฺณํ ติณฺณฺหิ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย นาม โหติ อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ. ยสฺส เนว เหฏฺา ปถวี อตฺถิ, น อุปริ จนฺทิมสูริยทีปมณิอาโลโก, นิจฺจนฺธกาโร. ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺตานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติ, เต วคฺคุลิโย วิย ปพฺพตปาเท ทีฆปุถุเลหิ นเขหิ ลคฺคิตฺวา อวํสิรา โอลมฺพนฺติ. ยทา สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสาคตา โหนฺติ, อถ ‘‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’’ติ? มฺมานา ตตฺถ พฺยาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารเก อุทเก ปตนฺติ, วาเต ปหรนฺเตปิ มธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ, ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเร อุทเก ตตฺตเตเล ปติตปิฏฺปิณฺฑิ วิย ปฏปฏายมานา วิลียนฺติ. เอวํ สีเตน รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. มหึสกรฏฺาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมว. ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติ.

อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํ โหติ. ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ปากฏํ. ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกฺชิกาทีสุ ปากฏํ. เอโก กิร กาลกฺชิกอสุโร ปิปาสํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต โยชนคมฺภีรวิตฺถารํ มหาคงฺคํ โอตริ, ตสฺส คตคตฏฺาเน อุทกํ ฉิชฺชติ, ธูโม อุคฺคจฺฉติ, ตตฺเต ปิฏฺิปาสาเณ จงฺกมนกาโล วิย โหติ. ตสฺส อุทกสทฺทํ สุตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺตสฺเสว รตฺติ วิภายิ. อถ นํ ปาโตว ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา ตึสมตฺตา ปิณฺฑจาริกภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘โก นาม ตฺวํ สปฺปุริสา’’ติ? ปุจฺฉึสุ. ‘‘เปโตหมสฺมิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปริเยสสี’’ติ? ‘‘ปานียํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อยํ คงฺคา ปริปุณฺณา, กึ ตฺวํ น ปสฺสสี’’ติ? ‘‘น อุปกปฺปติ, ภนฺเต’’ติ. เตน หิ คงฺคาปิฏฺเ นิปชฺช, มุเข เต ปานียํ อาสิฺจิสฺสามา’’ติ. โส วาลิกาปุฬิเน อุตฺตาโน นิปชฺชิ. ภิกฺขู ตึสมตฺเต ปตฺเต นีหริตฺวา อุทกํ อาหริตฺวา ตสฺส มุเข อาสิฺจึสุ. เตสํ ตถา กโรนฺตานํเยว เวลา อุปกฏฺา ชาตา. ตโต ‘‘ภิกฺขาจารกาโล อมฺหากํ สปฺปุริส, กจฺจิ เต อสฺสาทมตฺตา ลทฺธา’’ติ อาหํสุ. เปโต ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ตึสมตฺตานํ อยฺยานํ ตึสปตฺเตหิ อาสิตฺตอุทกโต อฑฺฒปสตมตฺตมฺปิ ปรคลํ คตํ, เปตตฺตภาวโต โมกฺโข มา โหตู’’ติ อาห. เอวํ ปิปาสาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย ปากฏํ.

ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํ. เอตฺถ จ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. มกสาติ มกสาว. วาตาติ กุจฺฉิวาตปิฏฺิวาตาทิวเสน เวทิตพฺพา. สรีรสฺมิฺหิ วาตโรโค อุปฺปชฺชิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺิอาทีนิ ภินฺทติ, กาณํ กโรติ, ขุชฺชํ กโรติ, ปีสปฺปึ กโรติ. อาตโปติ สูริยาตโป. เตน รุปฺปนํ มรุกนฺตาราทีสุ ปากฏํ. เอกา กิร อิตฺถี มรุกนฺตาเร รตฺตึ สตฺถโต โอหีนา ทิวา สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต วาลิกาย ตปฺปมานาย ปาเท เปตุํ อสกฺโกนฺตี สีสโต ปจฺฉึ โอตาเรตฺวา อกฺกมิ. กเมน ปจฺฉิยา อุณฺหาภิตตฺตาย าตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺสา อุปริ สาฏกํ เปตฺวา อกฺกมิ. ตสฺมิมฺปิ สนฺตตฺเต อตฺตโน องฺเกน คหิตปุตฺตกํ อโธมุขํ นิปชฺชาเปตฺวา กนฺทนฺตํเยว อกฺกมิตฺวา สทฺธึ เตน ตสฺมึเยว าเน อุณฺหาภิตตฺตา กาลมกาสิ.

สรีสปาติ เย เกจิ ทีฆชาติกา สรนฺตา คจฺฉนฺติ. เตสํ สมฺผสฺเสน รุปฺปนํ อาสีวิสทฏฺกาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํ. อิติ ภควตา ยานิ อิมานิ สามฺปจฺจตฺตวเสน ธมฺมานํ ทฺเว ลกฺขณานิ, เตสุ รูปกฺขนฺธสฺส ตาว ปจฺจตฺตลกฺขณํ ทสฺสิตํ. รูปกฺขนฺธสฺเสว หิ เอตํ, น เวทนาทีนํ, ตสฺมา ปจฺจตฺตลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณํ ปน เวทนาทีนมฺปิ โหติ, ตสฺมา ตํ สามฺลกฺขณนฺติ วุจฺจติ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, เวทนํ วเทถาติอาทีสุ ปุริมสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ปุริเมน อสทิสํ, ตสฺสายํ วิภาวนา – สุขมฺปิ เวทยตีติ สุขํ อารมฺมณํ เวเทติ อนุภวติ. ปรโต ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. กถํ ปเนตํ อารมฺมณํ สุขํ ทุกฺขํ อทุกฺขมสุขํ นาม ชาตนฺติ? สุขาทีนํ ปจฺจยโต. สฺวายมตฺโถ ‘‘ยสฺมา จ โข, มหาลิ, รูปํ สุขํ สุขานุปติตํ สุขาวกฺกนฺต’’นฺติ อิมสฺมึ มหาลิสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๖๐) อาคโตเยว. เวทยตีติ เอตฺถ จ เวทนาว เวทยติ, น อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา. เวทนา หิ เวทยิตลกฺขณา, ตสฺมา วตฺถารมฺมณํ ปฏิจฺจ เวทนาว เวทยตีติ. เอวมิธ ภควา เวทนายปิ ปจฺจตฺตลกฺขณเมว ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ.

นีลมฺปิ สฺชานาตีติ นีลปุปฺเผ วา วตฺเถ วา ปริกมฺมํ กตฺวา อุปจารํ วา อปฺปนํ วา ปาเปนฺโต สฺชานาติ. อยฺหิ สฺา นาม ปริกมฺมสฺาปิ อุปจารสฺาปิ อปฺปนาสฺาปิ วฏฺฏติ, นีลํ นีลนฺติ อุปฺปชฺชนสฺาปิ วฏฺฏติเยว. ปีตกาทีสุปิ เอเสว นโย. อิธาปิ ภควา สฺชานนลกฺขณาย สฺาย ปจฺจตฺตลกฺขณเมว ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ.

รูปํ รูปตฺตาย สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ ยถา ยาคุเมว ยาคุตฺตาย, ปูวเมว ปูวตฺตาย ปจติ นาม, เอวํ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตภาเวน สงฺขตนฺติ ลทฺธนามํ รูปเมว รูปตฺตาย ยถา อภิสงฺขตํ รูปํ นาม โหติ, ตถตฺตาย รูปภาวาย อภิสงฺขโรติ อายูหติ สมฺปิณฺเฑติ, นิปฺผาเทตีติ อตฺโถ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – อตฺตนา สห ชายมานํ รูปํ สมฺปยุตฺเต จ เวทนาทโย ธมฺเม อภิสงฺขโรติ นิพฺพตฺเตตีติ. อิธาปิ ภควา เจตยิตลกฺขณสฺส สงฺขารสฺส ปจฺจตฺตลกฺขณเมว ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ.

อมฺพิลมฺปิ วิชานาตีติ อมฺพอมฺพาฏกมาตุลุงฺคาทิอมฺพิลํ ‘‘อมฺพิล’’นฺติ วิชานาติ. เอเสว นโย สพฺพปเทสุ. อปิ เจตฺถ ติตฺตกนฺติ นิมฺพปโฏลาทินานปฺปการํ กฏุกนฺติ ปิปฺปลิมริจาทินานปฺปการํ. มธุรนฺติ สปฺปิผาณิตาทินานปฺปการํ. ขาริกนฺติ วาติงฺคณนาฬิเกร จตุรสฺสวลฺลิเวตฺตงฺกุราทินานปฺปการํ. อขาริกนฺติ ยํ วา ตํ วา ผลชาตํ การปณฺณาทิมิสฺสกปณฺณํ. โลณิกนฺติ โลณยาคุโลณมจฺฉโลณภตฺตาทินานปฺปการํ. อโลณิกนฺติอโลณยาคุอโลณมจฺฉอโลณภตฺตาทินานปฺปการํ. ตสฺมา วิฺาณนฺติ วุจฺจตีติ ยสฺมา อิมํ อมฺพิลาทิเภทํ อฺมฺวิสิฏฺเน อมฺพิลาทิภาเวน ชานาติ, ตสฺมา วิฺาณนฺติ วุจฺจตีติ. เอวมิธาปิ ภควา วิชานนลกฺขณสฺส วิฺาณสฺส ปจฺจตฺตลกฺขณเมว ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ.

ยสฺมา ปน อารมฺมณสฺส อาการสณฺานคหณวเสน สฺา ปากฏา โหติ, ตสฺมา สา จกฺขุทฺวาเร วิภตฺตา. ยสฺมา วินาปิ อาการสณฺานา อารมฺมณสฺส ปจฺจตฺตเภทคหณวเสน วิฺาณํ ปากฏํ โหติ, ตสฺมา ตํ ชิวฺหาทฺวาเร วิภตฺตํ. อิเมสํ ปน สฺาวิฺาณปฺานํ อสมฺโมหโต สภาวสลฺลกฺขณตฺถํ สฺชานาติ, วิชานาติ, ปชานาตีติ เอตฺถ วิเสสา เวทิตพฺพา. ตตฺถ อุปสคฺคมตฺตเมว วิเสโส, ชานาตีติ ปทํ ปน อวิเสโส. ตสฺสปิ ชานนฏฺเน วิเสโส เวทิตพฺโพ. สฺา หิ นีลาทิวเสน อารมฺมณสฺชานนมตฺตเมว, อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ลกฺขณปฏิเวธํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. วิฺาณํ นีลาทิวเสน อารมฺมณฺเจว ชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธฺจ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา ปน มคฺคปาตุภาวํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. ปฺา นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ ชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ.

ยถา หิ เหรฺิกผลเก กหาปณราสิมฺหิ กเต อชาตพุทฺธิทารโก คามิกปุริโส มหาเหรฺิโกติ ตีสุ ชเนสุ โอโลเกตฺวา ิเตสุ อชาตพุทฺธิทารโก กหาปณานํ จิตฺตวิจิตฺตจตุรสฺสมณฺฑลาทิภาวเมว ชานาติ, ‘‘อิทํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ รตนสมฺมต’’นฺติ น ชานาติ. คามิกปุริโส จิตฺตาทิภาวฺจ ชานาติ, มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภครตนสมฺมตภาวฺจ, ‘‘อยํ กูโฏ, อยํ เฉโก, อยํ กรโฏ, อยํ สณฺโห’’ติ น ชานาติ. มหาเหรฺิโก จิตฺตาทิภาวมฺปิ รตนสมฺมตภาวมฺปิ กูฏาทิภาวมฺปิ ชานาติ. ชานนฺโต จ ปน รูปํ ทิสฺวาปิ สทฺทํ สุตฺวาปิ คนฺธํ ฆายิตฺวาปิ รสํ สายิตฺวาปิ หตฺเถน ครุลหุภาวํ อุปธาเรตฺวาปิ ‘‘อสุกคาเม กโต’’ติปิ ชานาติ, ‘‘อสุกนิคเม อสุกนคเร อสุกปพฺพตจฺฉายาย อสุกนทีตีเร กโต’’ติปิ, ‘‘อสุกาจริเยน กโต’’ติปิ ชานาติ. เอวเมว สฺา อชาตพุทฺธิทารกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมตฺตเมว ชานาติ. วิฺาณํ คามิกปุริสสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ ชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ. ปฺา มหาเหรฺิกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ ชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ.

โส ปน เนสํ วิเสโส ทุปฺปฏิวิชฺโฌ. เตนาห อายสฺมา นาคเสโน –

‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตนฺติ. กึ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ทุกฺกรํ กตนฺติ? ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ, อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๗.๑๖).

ยถา หิ ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ วสาเตลนฺติ อิมานิ ปฺจ เตลานิ เอกจาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา ทิวสํ ยมกมนฺเถ หิ มนฺเถตฺวา ตโต ‘‘อิทํ ติลเตลํ, อิทํ สาสปเตล’’นฺติ เอเกกสฺส ปาฏิเยกฺกํ อุทฺธรณํ นาม ทุกฺกรํ, อิทํ ตโต ทุกฺกรตรํ. ภควา ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ธมฺมิสฺสโร ธมฺมราชา อิเมสํ อรูปีนํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกาสิ. ปฺจนฺนํ มหานทีนํ สมุทฺทํ ปวิฏฺฏฺาเน ‘‘อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนายา’’ติ เอวํ ปาฏิเยกฺกํ อุทกุทฺธรเณนาปิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อิติ ปมปพฺเพน สุฺตํ, ทุติเยน สุฺตาลกฺขณนฺติ ทฺวีหิ ปพฺเพหิ อนตฺตลกฺขณํ กเถตฺวา อิทานิ ทุกฺขลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ขชฺชามีติ น รูปํ สุนโข วิย มํสํ ลุฺจิตฺวา ลุฺจิตฺวา ขาทติ, ยถา ปน กิลิฏฺวตฺถนิวตฺโถ ตโตนิทานํ ปีฬํ สนฺธาย ‘‘ขาทติ มํ วตฺถ’’นฺติ ภณติ, เอวมิทมฺปิ ปีฬํ อุปฺปาเทนฺตํ ขาทติ นามาติ เวทิตพฺพํ. ปฏิปนฺโน โหตีติ สีลํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคา ปฏิปนฺโน โหติ. โย ปเนตฺถ พลวาโณ ติกฺขพุทฺธิ าณุตฺตโร โยคาวจโร ปธานภูมิยํ วายมนฺโต ขาณุนา วา กณฺฏเกน วา วิทฺโธ อาวุเธน วา ปหโฏ พฺยคฺฆาทีหิ วา คเหตฺวา ขชฺชมาโน ตํ เวทนํ อพฺโพหาริกํ กตฺวา มูลกมฺมฏฺานํ สมฺมสนฺโต อรหตฺตเมว คณฺหาติ, อยํ เวทนาย นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม วุจฺจติ ปีตมลฺลตฺเถโร วิย กุฏุมฺพิยปุตฺตมหาติสฺสตฺเถโร วิย วตฺตนิอฏวิยํ ตึสมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อฺตโร พฺยคฺฆมุเข นิปนฺนภิกฺขุ วิย กณฺฏเกน วิทฺธตฺเถโร วิย จ.

ทฺวาทสสุ กิร ภิกฺขูสุ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา อรฺเ ปธานมนุยุฺชนฺเตสุ เอโก สูริเย อตฺถงฺคตมตฺเตเยว ฆณฺฏึ ปหริตฺวา จงฺกมํ โอรุยฺห จงฺกมนฺโต ติริยํ นิมฺมเถนฺโต ติณปฏิจฺฉนฺนํ กณฺฏกํ อกฺกมิ. กณฺฏโก ปิฏฺิปาเทน นิกฺขนฺโต. ตตฺตผาเลน วินิวิทฺธกาโล วิย เวทนา วตฺตติ. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘กึ อิมํ กณฺฏกํ อุทฺธรามิ, อุทาหุ ปกติยา วิชฺฌิตฺวา ิตกณฺฏก’’นฺติ? ตสฺส เอวมโหสิ – ‘‘อิมินา กณฺฏเกน วิทฺธตฺตา นิรยาทีสุ ภยํ นาม นตฺถิ, ปกติยา วิชฺฌิตฺวา ิตกณฺฏกํเยวา’’ติ. โส ตํ เวทนํ อพฺโพหาริกํ กตฺวา สพฺพรตฺตึ จงฺกมิตฺวา วิภาตาย รตฺติยา อฺสฺส สฺํ อทาสิ. โส อาคนฺตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิ? ‘‘กณฺฏเกนมฺหิ, อาวุโส, วิทฺโธ’’ติ. ‘‘กาย เวลาย, ภนฺเต’’ติ? ‘‘สายเมว, อาวุโส’’ติ. ‘‘กสฺมา น อมฺเห ปกฺโกสิตฺถ, กณฺฏกํ อุทฺธริตฺวา ตตฺถ เตลมฺปิ สิฺเจยฺยามา’’ติ? ‘‘ปกติยา วิชฺฌิตฺวา ิตกณฺฏกเมว อุทฺธริตุํ วายมิมฺหา, อาวุโส’’ติ. ‘‘สกฺกุณิตฺถ, ภนฺเต, อุทฺธริตุ’’นฺติ. ‘‘เอกเทสมตฺเตน เม, อาวุโส, อุทฺธโฏ’’ติ. เสสวตฺถูนิ ทีฆมชฺฌิมฏฺกถาสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖) สติปฏฺานสุตฺตนิทฺเทเส วิตฺถาริตาเนว.

ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารทฺธํ? อิมสฺมึ ปพฺเพ ทุกฺขลกฺขณเมว กถิตํ, น อนิจฺจลกฺขณํ. ตํ ทสฺเสตุํ อิทมารทฺธํ. ตีณิ ลกฺขณานิ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสตุมฺปิ อารทฺธเมว. อปจินาติ โน อาจินาตีติ วฏฺฏํ วินาเสติ, เนว จินาติ. ปชหติ น อุปาทิยตีติ ตเทว วิสฺสชฺเชติ, น คณฺหาติ. วิสิเนติ น อุสฺสิเนตีติ วิกิรติ น สมฺปิณฺเฑติ. วิธูเปติ น สนฺธูเปตีติ นิพฺพาเปติ น ชาลาเปติ.

เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเวติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ? วฏฺฏํ วินาเสตฺวา ิตํ มหาขีณาสวํ ทสฺเสสฺสามีติ อารทฺธํ. เอตฺตเกน วา าเนน วิปสฺสนา กถิตา, อิทานิ สห วิปสฺสนาย จตฺตาโร มคฺเค ทสฺเสตุํ อิทํ อารทฺธํ. อถ วา เอตฺตเกน าเนน ปมมคฺโค กถิโต, อิทานิ สห วิปสฺสนาย ตโย มคฺเค ทสฺเสตุํ อิทมารทฺธํ. เอตฺตเกน วา าเนน ตีณิ มคฺคานิ กถิตานิ, อิทานิ สห วิปสฺสนาย อรหตฺตมคฺคํ ทสฺเสตุมฺปิ อิทํ อารทฺธเมว.

สปชาปติกาติ สทฺธึ ปชาปตินา เทวราเชน. อารกาว นมสฺสนฺตีติ ทูรโตว นมสฺสนฺติ, ทูเรปิ ิตํ นมสฺสนฺติเยว อายสฺมนฺตํ นีตตฺเถรํ วิย.

เถโร กิร ปุปฺผจฺฉฑฺฑกกุลโต นิกฺขมฺม ปพฺพชิโต, ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อชฺเชว ปพฺพชิโต อชฺเชว เม ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺตํ, จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามมณฺฑิตํ มหาอริยวํสปฏิปทํ ปูเรสฺสามี’’ติ. โส ปํสุกูลตฺถาย สาวตฺถึ ปวิสิตฺวา โจฬกํ ปริเยสนฺโต วิจริ. อเถโก มหาพฺรหฺมา สมาปตฺติโต วุฏฺาย มนุสฺสปถํ โอโลเกนฺโต เถรํ ทิสฺวา – ‘‘อชฺเชว ปพฺพชิตฺวา อชฺเชว ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺวา มหาอริยวํสปฏิปทํ ปูเรตุํ โจฬกํ ปริเยสตี’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมาโน อฏฺาสิ. ตมฺโ มหาพฺรหฺมา ทิสฺวา ‘‘กํ นมสฺสสี’’ติ? ปุจฺฉิ. นีตตฺเถรํ นมสฺสามีติ. กึ การณาติ? อชฺเชว ปพฺพชิตฺวา อชฺเชว ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺวา มหาอริยวํสปฏิปทํ ปูเรตุํ โจฬกํ ปริเยสตีติ. โสปิ นํ นมสฺสมาโน อฏฺาสิ. อถฺโ, อถฺโติ สตฺตสตา มหาพฺรหฺมาโน นมสฺสมานา อฏฺํสุ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ตา เทวตา สตฺตสตา อุฬารา,

พฺรหฺมา วิมานา อภินิกฺขมิตฺวา;

นีตํ นมสฺสนฺติ ปสนฺนจิตฺตา,

‘ขีณาสโว คณฺหติ ปํสุกูลํ’’’.

‘‘ตา เทวตา สตฺตสตา อุฬารา,

พฺรหฺมา วิมานา อภินิกฺขมิตฺวา;

นีตํ นมสฺสนฺติ ปสนฺนจิตฺตา,

‘ขีณาสโว กยิรติ ปํสุกูลํ’’’.

‘‘‘ขีณาสโว โธวติ ปํสุกูลํ’;

‘ขีณาสโว รชติ ปํสุกูลํ’;

‘ขีณาสโว ปารุปติ ปํสกูล’’’นฺติ.

อิติ ภควา อิมสฺมึ สุตฺเต เทสนํ ตีหิ ภเวหิ วินิวตฺเตตฺวา อรหตฺตสฺส กูฏํ คณฺหิ. เทสนาปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. สตฺตมํ.

๘. ปิณฺโฑลฺยสุตฺตวณฺณนา

๘๐. อฏฺเม กิสฺมิฺจิเทว ปกรเณติ กิสฺมิฺจิเทว การเณ. ปณาเมตฺวาติ นีหริตฺวา. กิสฺมึ ปน การเณ เอเต ภควตา ปณามิตาติ? เอกสฺมิฺหิ อนฺโตวสฺเส ภควา สาวตฺถิยํ วสิตฺวา วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร สาวตฺถิโต นิกฺขมิตฺวา ชนปทจาริกํ จรนฺโต กปิลวตฺถุํ ปตฺวา นิคฺโรธารามํ ปาวิสิ. สกฺยราชาโน ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา ปจฺฉาภตฺเต กปฺปิยานิ เตลมธุผาณิตาทีนิ เจว ปานกานิ จ กาชสเตหิ คาหาเปตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สงฺฆสฺส นิยฺยาเตตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺตา เอกมนฺเต นิสีทึสุ. สตฺถา เตสํ มธุรธมฺมกถํ กเถนฺโต นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ เอกจฺเจ ภิกฺขู เสนาสนํ ปฏิชคฺคนฺติ, เอกจฺเจ มฺจปีาทีนิ ปฺาเปนฺติ, สามเณรา อปฺปหริตํ กโรนฺติ. ภาชนียฏฺาเน สมฺปตฺตภิกฺขูปิ อตฺถิ, อสมฺปตฺตภิกฺขูปิ อตฺถิ. สมฺปตฺตา อสมฺปตฺตานํ ลาภํ คณฺหนฺตา, ‘‘อมฺหากํ เทถ, อมฺหากํ อาจริยสฺส เทถ อุปชฺฌายสฺส เทถา’’ติ กเถนฺตา มหาสทฺทมกํสุ. สตฺถา สุตฺวา เถรํ ปุจฺฉิ ‘‘เก ปน เต, อานนฺท, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? เถโร เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. สตฺถา สุตฺวา ‘‘อามิสเหตุ, อานนฺท, ภิกฺขู มหาสทฺทํ กโรนฺตี’’ติ อาห. ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, อานนฺท, อปฺปติรูปํ. น หิ มยา กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ จีวราทิเหตุ ปารมิโย ปูริตา, นาปิ อิเม ภิกฺขู จีวราทิเหตุ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, อรหตฺตเหตุ ปพฺพชิตฺวา อนตฺถํ อตฺถสทิสํ อสารํ สารสทิสํ กโรนฺติ, คจฺฉานนฺท, เต ภิกฺขู ปณาเมหี’’ติ.

ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ทุติยทิวเส ปุพฺพณฺหสมยํ. เพลุวลฏฺิกาย มูเลติ ตรุณเพลุวรุกฺขมูเล. ปพาฬฺโหติ ปพาหิโต. ปวาฬฺโหติปิ ปาโ, ปวาหิโตติ อตฺโถ. อุภยมฺปิ นีหฏภาวเมว ทีเปติ. สิยา อฺถตฺตนฺติ ปสาทฺถตฺตํ วา ภาวฺถตฺตํ วา ภเวยฺย. กถํ? ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน มยํ ลหุเก การเณ ปณามิตา’’ติ ปสาทํ มนฺทํ กโรนฺตานํ ปสาทฺถตฺตํ นาม โหติ. สลิงฺเคเนว ติตฺถายตนํ ปกฺกมนฺตานํ ภาวฺถตฺตํ นาม. สิยา วิปริณาโมติ เอตฺถ ปน ‘‘มยํ สตฺถุ อชฺฌาสยํ คณฺหิตุํ สกฺขิสฺสามาติ ปพฺพชิตา, นํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตานํ กึ อมฺหากํ ปพฺพชฺชายา’’ติ? สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตนํ วิปริณาโมติ เวทิตพฺโพ. วจฺฉสฺสาติ ขีรูปกวจฺฉสฺส. อฺถตฺตนฺติ มิลายนอฺถตฺตํ. ขีรูปโก หิ วจฺโฉ มาตุ อทสฺสเนน ขีรํ อลภนฺโต มิลายติ กมฺปติ ปเวธติ. วิปริณาโมติ มรณํ. โส หิ ขีรํ อลภมาโน ขีรปิปาสาย สุสฺสนฺโต ปติตฺวา มรติ.

พีชานํ ตรุณานนฺติ อุทเกน อนุคฺคเหตพฺพานํ วิรูฬฺหพีชานํ. อฺถตฺตนฺติ มิลายนฺถตฺตเมว. ตานิ หิ อุทกํ อลภนฺตานิ มิลายนฺติ. วิปริณาโมติ วินาโส. ตานิ หิ อุทกํ อลภนฺตานิ สุกฺขิตฺวา วินสฺสนฺติ, ปลาลเมว โหนฺติ. อนุคฺคหิโตติ อามิสานุคฺคเหน เจว ธมฺมานุคฺคเหน จ อนุคฺคหิโต. อนุคฺคณฺเหยฺยนฺติ ทฺวีหิปิ เอเตหิ อนุคฺคเหหิ อนุคฺคณฺเหยฺยํ. อจิรปพฺพชิตา หิ สามเณรา เจว ทหรภิกฺขู จ จีวราทิปจฺจยเวกลฺเล วา สติ เคลฺเ วา สตฺถารา วา อาจริยุปชฺฌาเยหิ วา อามิสานุคฺคเหน อนนุคฺคหิตา กิลมนฺตา น สกฺโกนฺติ สชฺฌายํ วา มนสิการํ วา กาตุํ, ธมฺมานุคฺคเหน อนนุคฺคหิตา อุทฺเทเสน เจว โอวาทานุสาสนิยา จ ปริหายมานา น สกฺโกนฺติ อกุสลํ ปริวชฺเชตฺวา กุสลํ ภาเวตุํ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ อนุคฺคเหหิ อนุคฺคหิตา กาเยน อกิลมนฺตา สชฺฌายมนสิกาเร ปวตฺติตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมานา อปรภาเค ตํ อนุคฺคหํ อลภนฺตาปิ เตเนว ปุริมานุคฺคเหน ลทฺธพลา สาสเน ปติฏฺหนฺติ, ตสฺมา ภควโต เอวํ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ.

ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสีติ สตฺถุ จิตฺตํ ตฺวา – ‘‘อิเม ภิกฺขู ภควตา ปณามิตา, อิทานิ เนสํ อนุคฺคหํ กาตุกาโม เอวํ จินฺเตสิ, การณํ ภควา จินฺเตสิ, อหเมตฺถ อุสฺสาหํ ชเนสฺสามี’’ติ ปุรโต ปากโฏ อโหสิ. สนฺเตตฺถ ภิกฺขูติ อิทํ โส มหาพฺรหฺมา ยถา นาม พฺยตฺโต สูโท ยเทว อมฺพิลคฺคาทีสุ รสชาตํ รฺโ รุจฺจติ, ตํ อภิสงฺขาเรน สาทุตรํ กตฺวา ปุนทิวเส อุปนาเมติ, เอวเมว อตฺตโน พฺยตฺตตาย ภควตา อาหฏอุปมํเยว เอวเมตํ ภควาติอาทิวจเนหิ อภิสงฺขริตฺวา ภควนฺตํ ยาจนฺโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส อนุคฺคหกรณตฺถํ วทติ. ตตฺถ อภินนฺทตูติ ‘‘มม สนฺติกํ ภิกฺขุสงฺโฆ อาคจฺฉตู’’ติ. เอวมสฺส อาคมนํ สมฺปิยายมาโน อภินนฺทตุ. อภิวทตูติ อาคตสฺส จ โอวาทานุสาสนึ ททนฺโต อภิวทตุ.

ปฏิสลฺลานาติ เอกีภาวา. อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสีติ อิทฺธึ อกาสิ. เอกทฺวีหิกายาติ เอเกโก เจว ทฺเว ทฺเว จ หุตฺวา. สารชฺชมานรูปาติ โอตฺตปฺปมานสภาวา ภายมานา. กสฺมา ปน ภควา เตสํ ตถา อุปสงฺกมนาย อิทฺธิมกาสีติ? หิตปตฺถนาย. ยทิ หิ เต วคฺควคฺคา หุตฺวา อาคจฺเฉยฺยุํ, ‘‘ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ ปณาเมตฺวา อรฺํ ปวิฏฺโ เอกทิวสมฺปิ ตตฺถ วสิตุํ นาสกฺขิ, เวเคเนว อาคโต’’ติ เกฬิมฺปิ กเรยฺยุํ. อถ เนสํ เนว พุทฺธคารวํ ปจฺจุปฏฺเหยฺย, น ธมฺมเทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ สมตฺถา ภเวยฺยุํ. สภยานํ ปน สสารชฺชานํ เอกทฺวีหิกาย อาคจฺฉนฺตานํ พุทฺธคารวฺเจว ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ, ธมฺมเทสนฺจ สมฺปฏิจฺฉิตุํ สกฺขิสฺสนฺตีติ จินฺเตตฺวา เตสํ หิตปตฺถนาย ตถารูปํ อิทฺธึ อกาสิ.

นิสีทึสูติ เตสุ หิ สารชฺชมานรูเปสุ อาคจฺฉนฺเตสุ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มมํเยว สตฺถา โอโลเกติ, มํเยว มฺเ นิคฺคณฺหิตุกาโม’’ติ สณิกํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสีทิ, อถฺโ อถฺโติ เอวํ ปฺจภิกฺขุสตานิ นิสีทึสุ. เอวํ นิสินฺนํ ปน ภิกฺขุสงฺฆํ สีทนฺตเร สนฺนิสินฺนํ มหาสมุทฺทํ วิย นิวาเต ปทีปํ วิย จ นิจฺจลํ ทิสฺวา สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมสํ ภิกฺขูนํ กีทิสี ธมฺมเทสนา วฏฺฏตี’’ติ? อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม อาหารเหตุ ปณามิตา, ปิณฺฑิยาโลปธมฺมเทสนาว เนสํ สปฺปายา, ตํ ทสฺเสตฺวา มตฺถเก ติปริวฏฺฏเทสนํ เทเสสฺสามิ, เทสนาปริโยสาเน สพฺเพ อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ. อถ เนสํ ตํ ธมฺมเทสนํ เทเสนฺโต อนฺตมิทํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห.

ตตฺถ อนฺตนฺติ ปจฺฉิมํ ลามกํ. ยทิทํ ปิณฺโฑลฺยนฺติ ยํ เอวํ ปิณฺฑปริเยสเนน ชีวิกํ กปฺเปนฺตสฺส ชีวิตํ. อยํ ปเนตฺถ ปทตฺโถ – ปิณฺฑาย อุลตีติ ปิณฺโฑโล, ปิณฺโฑลสฺส กมฺมํ ปิณฺโฑลฺยํ, ปิณฺฑปริเยสเนน นิปฺผาทิตชีวิตนฺติ อตฺโถ. อภิสาโปติ อกฺโกโส. กุปิตา หิ มนุสฺสา อตฺตโน ปจฺจตฺถิกํ ‘‘จีวรํ นิวาเสตฺวา กปาลํ คเหตฺวา ปิณฺฑํ ปริเยสมาโน จริสฺสตี’’ติ อกฺโกสนฺติ. อถ วา ปน ‘‘กึ ตุยฺหํ อกาตพฺพํ อตฺถิ, โย ตฺวํ เอวํ พลวา วีริยสมฺปนฺโนปิ หิโรตฺตปฺปํ ปหาย กปโณ วิย ปิณฺโฑโล วิจรสิ ปตฺตปาณี’’ติ? เอวมฺปิ อกฺโกสนฺติเยว. ตฺจ โข เอตนฺติ เอวํ ตํ อภิสาปํ สมานมฺปิ ปิณฺโฑลฺยํ. กุลปุตฺตา อุเปนฺติ อตฺถวสิกาติ มม สาสเน ชาติกุลปุตฺตา จ อาจารกุลปุตฺตา จ อตฺถวสิกา การณวสิกา หุตฺวา การณวสํ ปฏิจฺจ อุเปนฺติ.

ราชาภินีตาติอาทีสุ เย รฺโ สนฺตกํ ขาทิตฺวา รฺา พนฺธนาคาเร พนฺธาปิตา ปลายิตฺวา ปพฺพชนฺติ, เต ราชาภินีตา นาม. เต หิ รฺา พนฺธนํ อภินีตตฺตา ราชาภินีตา นาม. เย ปน โจเรหิ อฏวิยํ คเหตฺวา เอกจฺเจสุ มาริยมาเนสุ เอกจฺเจ ‘‘มยํ สามิ ตุมฺเหหิ วิสฺสฏฺา เคหํ อนชฺฌาวสิตฺวา ปพฺพชิสฺสาม, ตตฺถ ยํ ยํ พุทฺธปูชาทิปุฺํ กริสฺสาม, ตโต ตุมฺหากํ ปตฺตึ ทสฺสามา’’ติ เตหิ วิสฺสฏฺา ปพฺพชนฺติ, เต โจราภินีตา นาม. เตปิ หิ โจเรหิ มาเรตพฺพตํ อภินีตาติ โจราภินีตา นาม. เย ปน อิณํ คเหตฺวา ปฏิทาตุํ อสกฺโกนฺตา ปลายิตฺวา ปพฺพชนฺติ, เต อิณฏฺฏา นาม, อิณปีฬิตาติ อตฺโถ. อิณฏฺาติปิ ปาโ, อิเณ ิตาติ อตฺโถ. เย ราชโจรฉาตกโรคภยานํ อฺตเรน อภิภูตา อุปทฺทุตา ปพฺพชนฺติ, เต ภยฏฺฏา นาม, ภยปีฬิตาติ อตฺโถ. ภยฏฺาติปิ ปาโ, ภเย ิตาติ อตฺโถ. อาชีวิกาปกตาติ อาชีวิกาย อุปทฺทุตา อภิภูตา, ปุตฺตทารํ โปเสตุํ อสกฺโกนฺตาติ อตฺโถ. โอติณฺณามฺหาติ อนฺโต อนุปวิฏฺา.

โส จ โหติ อภิชฺฌาลูติ อิทํ โส กุลปุตฺโต ‘‘ทุกฺขสฺส อนฺตํ กริสฺสามี’’ติอาทิวเสน จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา ปพฺพชิโต, อปรภาเค, ตํ ปพฺพชฺชํ ตถารูปํ กาตุํ น สกฺโกติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อภิชฺฌาลูติ ปรภณฺฑานํ อภิชฺฌายิตา. ติพฺพสาราโคติ พหลราโค. พฺยาปนฺนจิตฺโตติ ปูติภาเวน วิปนฺนจิตฺโต. ปทุฏฺมนสงฺกปฺโปติ ติขิณสิงฺโค วิย โคโณ ทุฏฺจิตฺโต. มุฏฺสฺสตีติ ภตฺตนิกฺขิตฺตกาโก วิย นฏฺสฺสติ, อิธ กตํ เอตฺถ นสฺสติ. อสมฺปชาโนติ นิปฺปฺโ. ขนฺธาทิปริจฺเฉทรหิโต. อสมาหิโตติ จณฺฑโสเต พทฺธนาวา วิย อุปจารปฺปนาภาเวน อสณฺิโต. วิพฺภนฺตจิตฺโตติ พนฺธารุฬฺหมโค วิย สนฺตมโน. ปากตินฺทฺริโยติ ยถา คิหี ปุตฺตธีตโร โอโลเกนฺโต อสํวุตินฺทฺริโย โหติ, เอวํ อสํวุตินฺทฺริโย.

ฉวาลาตนฺติ ฉวานํ ทฑฺฒฏฺาเน อลาตํ. อุภโตปทิตฺตํ มชฺเฌ คูถคตนฺติ ปมาเณน อฏฺงฺคุลมตฺตํ ทฺวีสุ าเนสุ อาทิตฺตํ มชฺเฌ คูถมกฺขิตํ. เนว คาเมติ สเจ หิ ตํ ยุคนงฺคลโคปานสิปกฺขปาสกาทีนํ อตฺถาย อุปเนตุํ สกฺกา อสฺส, คาเม กฏฺตฺถํ ผเรยฺย. สเจ เขตฺตกุฏิยํ กฏฺตฺถรมฺจกาทีนํ อตฺถาย อุปเนตุํ สกฺกา, อรฺเ กฏฺตฺถํ ผเรยฺย. ยสฺมา ปน อุภยถาปิ น สกฺกา, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. คิหิโภคา จ ปริหีโนติ โย อคาเร วสนฺเตหิ คิหีหิ ทายชฺเช ภาชิยมาเน โภโค ลทฺธพฺโพ อสฺส, ตโต จ ปริหีโน. สามฺตฺถฺจาติ อาจริยุปชฺฌายานํ โอวาเท ตฺวา ปริยตฺติปฏิเวธวเสน ปตฺตพฺพํ สามฺตฺถฺจ. อิมฺจ ปน อุปมํ สตฺถา น ทุสฺสีลสฺส วเสน อาหริ, ปริสุทฺธสีลสฺส ปน อลสสฺส อภิชฺฌาทีหิ โทเสหิ อุปหตสฺส ปุคฺคลสฺส อิมํ อุปมํ อาหริ.

ตโยเม, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารทฺธํ? อิมสฺส ปุคฺคลสฺส ฉวาลาตสทิสภาโว เนว มาตาปิตูหิ กโต, น อาจริยุปชฺฌาเยหิ, อิเมหิ ปน ปาปวิตกฺเกหิ กโตติ ทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. อนิมิตฺตํ วา สมาธินฺติ วิปสฺสนาสมาธึ. โส หิ นิจฺจนิมิตฺตาทีนํ สมุคฺฆาตเนน อนิมิตฺโตติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ จตฺตาโร สติปฏฺานา มิสฺสกา, อนิมิตฺตสมาธิ ปุพฺพภาโค. อนิมิตฺตสมาธิ วา มิสฺสโก, สติปฏฺานา ปุพฺพภาคาติ เวทิตพฺพา.

ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิโยติ อิทํ ปน น เกวลํ อนิมิตฺตสมาธิภาวนา อิเมสํเยว ติณฺณํ มหาวิตกฺกานํ ปหานาย สํวตฺตติ, สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีนมฺปิ ปน สมุคฺฆาตํ กโรตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. น วชฺชวา อสฺสนฺติ นิทฺโทโส ภเวยฺยํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิติ ภควา อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต เทสนํ ตีหิ ภเวหิ วินิวตฺเตตฺวา อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหิ. เทสนาวสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ. อฏฺมํ.

๙. ปาลิเลยฺยสุตฺตวณฺณนา

๘๑. นวเม จาริกํ ปกฺกามีติ โกสมฺพิกานํ ภิกฺขูนํ กลหกาเล สตฺถา เอกทิวสํ ทีฆีติสฺส โกสลรฺโ วตฺถุํ อาหริตฺวา ‘‘น หิ เวเรน เวรานิ, สมฺมนฺตีธ กุทาจน’’นฺติอาทีหิ (ธ. ป. ๕) คาถาหิ โอวทติ. ตํทิวสํ เตสํ กลหํ กโรนฺตานํเยว รตฺติ วิภาตา. ทุติยทิวเสปิ ภควา ตเมว วตฺถุํ กเถสิ. ตํทิวสมฺปิ เตสํ กลหํ กโรนฺตานํเยว รตฺติ วิภาตา. ตติยทิวเสปิ ภควา ตเมว วตฺถุํ กเถสิ. อถ นํ อฺตโร ภิกฺขุ เอวมาห – ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ, มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปฺายิสฺสามา’’ติ. สตฺถา ‘‘ปริยาทิณฺณรูปจิตฺตา โข อิเม โมฆปุริสา, น อิเม สกฺกา สฺาเปตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา – ‘‘กึ มยฺหํ อิเมหิ, เอกจารวาสํ วสิสฺสามี’’ติ? โส ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กฺจิปิ อนามนฺเตตฺวา เอโกว อทุติโย จาริกํ ปกฺกามิ.

ยสฺมึ, อาวุโส, สมเยติ อิทํ เถโร ยสฺมาสฺส อชฺช ภควา เอเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ ปกฺกมิสฺสติ, อชฺช ทฺวีหิ, อชฺช สเตน, อชฺช สหสฺเสน, อชฺช เอกโกวาติ สพฺโพ ภควโต จาโร วิทิโต ปากโฏ ปจฺจกฺโข, ตสฺมา อาห.

อนุปุพฺเพนาติ คามนิคมปฏิปาฏิยา ปิณฺฑาย จรมาโน เอกจารวาสํ ตาว วสมานํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตุกาโม หุตฺวา พาลกโลณการคามํ อคมาสิ. ตตฺถ ภคุตฺเถรสฺส สกลปจฺฉาภตฺตฺเจว ติยามรตฺติฺจ เอกจารวาเส อานิสํสํ กเถตฺวา ปุนทิวเส เตน ปจฺฉาสมเณน ปิณฺฑาย จริตฺวา ตํ ตตฺเถว นิวตฺเตตฺวา ‘‘สมคฺควาสํ วสมาเน ตโย กุลปุตฺเต ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปาจีนวํสมิคทายํ อคมาสิ. เตสมฺปิ สกลปจฺฉาภตฺตฺเจว ติยามรตฺติฺจ เอกจารวาเส อานิสํสํ กเถตฺวา เต ตตฺเถว นิวตฺเตตฺวา เอกโกว ปาลิเลยฺย นคราภิมุโข ปกฺกมิตฺวา อนุปุพฺเพน ปาลิเลยฺยนครํ สมฺปตฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ปาลิเลยฺยกํ, ตทวสรี’’ติ.

ภทฺทสาลมูเลติ ปาลิเลยฺยวาสิโน ภควโต ทานํ ทตฺวา ปาลิเลยฺยโต อวิทูเร รกฺขิตวนสณฺโฑ นาม อตฺถิ, ตตฺถ ภควโต ปณฺณสาลํ กตฺวา ‘‘เอตฺถ วสถา’’ติ ปฏิฺํ กาเรตฺวา วาสยึสุ. ภทฺทสาโล ปน ตตฺเถโก มนาโป ลทฺธโก สาลรุกฺโข. ภควา ตํ นครํ อุปนิสฺสาย ตสฺมึ วนสณฺเฑ ปณฺณสาลสมีเป ตสฺมึ รุกฺขมูเล วิหรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภทฺทสาลมูเล’’ติ.

เอวํ วิหรนฺเต ปเนตฺถ ตถาคเต อฺตโร หตฺถินาโค หตฺถินีหิ หตฺถิโปตกาทีหิ โคจรภูมิติตฺโถคาหนาทีสุ อุพฺพาฬฺโห ยูเถ อุกฺกณฺิโต ‘‘กึ เม อิเมหิ หตฺถีหี’’ติ? ยูถํ ปหาย มนุสฺสปถํ คจฺฉนฺโต ปาลิเลยฺยกวนสณฺเฑ ภควนฺตํ ทิสฺวา ฆฏสหสฺเสน นิพฺพาปิตสนฺตาโป วิย นิพฺพุโต หุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก อฏฺาสิ. โส ตโต ปฏฺาย สตฺถุ วตฺตปฏิวตฺตํ กโรนฺโต มุขโธวนํ เทติ, นฺหาโนทกํ อาหรติ, ทนฺตกฏฺํ เทติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชติ, อรฺโต มธุรานิ ผลาผลานิ อาหริตฺวา สตฺถุโน เทติ. สตฺถา ปริโภคํ กโรติ.

เอกทิวสํ สตฺถา รตฺติภาคสมนนฺตเร จงฺกมิตฺวา ปาสาณผลเก นิสีทิ. หตฺถีปิ อวิทูเร าเน อฏฺาสิ. สตฺถา ปจฺฉโต โอโลเกตฺวา น กิฺจิ อทฺทส, เอวํ ปุรโต จ อุภยปสฺเสสุ จ. อถสฺส ‘‘สุขํ วตาหํ อฺตฺร เตหิ ภณฺฑนการเกหิ วสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ. หตฺถิโนปิ ‘‘มยา นามิตสาขํ อฺเ ขาทนฺตา นตฺถี’’ติอาทีนิ จินฺเตตฺวา – ‘‘สุขํ วต เอกโกว วสามิ, สตฺถุ วตฺตํ กาตุํ ลภามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ. สตฺถา อตฺตโน จิตฺตํ โอโลเกตฺวา – ‘‘มม ตาว อีทิสํ จิตฺตํ, กีทิสํ นุ โข หตฺถิสฺสา’’ติ ตสฺสาปิ ตาทิสเมว ทิสฺวา ‘‘สเมติ โน จิตฺต’’นฺติ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘เอตํ นาคสฺส นาเคน, อีสาทนฺตสฺส หตฺถิโน;

สเมติ จิตฺตํ จิตฺเตน, ยเทโก รมตี วเน’’ติ. (มหาว. ๔๖๗);

อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขูติ อถ เอวํ ตถาคเต ตตฺถ วิหรนฺเต ปฺจสตา ทิสาสุ วสฺสํวุตฺถา ภิกฺขู. เยนายสฺมา อานนฺโทติ ‘‘สตฺถา กิร ภิกฺขุสงฺฆํ ปณาเมตฺวา อรฺํ ปวิฏฺโ’’ติ อตฺตโน ธมฺมตาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตุํ อสกฺโกนฺตา เยนายสฺมา อานนฺโท, เตนุปสงฺกมึสุ.

อนนฺตรา อาสวานํ ขโยติ มคฺคานนฺตรํ อรหตฺตผลํ. วิจยโสติ วิจเยน, เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาววิจินนสมตฺเถน าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺโมติ สาสนธมฺโม. จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทิ เย เย โกฏฺาเส ปริจฺฉินฺทิตฺวา ธมฺโม เทสิโต, เตสํ ปกาสนตฺถาย วุตฺตํ. สมนุปสฺสนาติ ทิฏฺิสมนุปสฺสนา. สงฺขาโร โสติ ทิฏฺิสงฺขาโร โส. ตโตโช โส สงฺขาโรติ ตโต ตณฺหาโต โส สงฺขาโร ชาโต. ตณฺหาสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺเตสุปิ จตูสุ จิตฺเตสุ เอส ชายติ. สาปิ ตณฺหาติ สา ทิฏฺิสงฺขารสฺส ปจฺจยภูตา ตณฺหา. สาปิ เวทนาติ สา ตณฺหาย ปจฺจยภูตา เวทนา. โสปิ ผสฺโสติ โส เวทนาย ปจฺจโย อวิชฺชาสมฺผสฺโส. สาปิ อวิชฺชาติ สา ผสฺสสมฺปยุตฺตา อวิชฺชา.

โน จสฺสํ, โน จ เม สิยาติ สเจ อหํ น ภเวยฺยํ, มม ปริกฺขาโรปิ น ภเวยฺย. นาภวิสฺสํ, น เม ภวิสฺสตีติ สเจ ปน อายติมฺปิ อหํ น ภวิสฺสามิ, เอวํ มม ปริกฺขาโรปิ น ภวิสฺสติ. เอตฺตเก าเน ภควา เตน ภิกฺขุนา คหิตคหิตทิฏฺึ วิสฺสชฺชาเปนฺโต อาคโต ปุคฺคลชฺฌาสเยนปิ เทสนาวิลาเสนปิ. ตโตโช โส สงฺขาโรติ ตณฺหาสมฺปยุตฺตจิตฺเต วิจิกิจฺฉาว นตฺถิ, กถํ วิจิกิจฺฉาสงฺขาโร ตณฺหาโต ชายตีติ? อปฺปหีนตฺตา. ยสฺส หิ ตณฺหาย อปฺปหีนาย โส อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิยาปิ เอเสว นโย ลพฺภติเยว จตูสุ หิ จิตฺตุปฺปาเทสุ สมฺปยุตฺตทิฏฺิ นาม นตฺถิ. ยสฺมา ปน ตณฺหาย อปฺปหีนตฺตา สา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ สนฺธาย ตตฺราปิ อยมตฺโถ ยุชฺชติ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต เตวีสติยา าเนสุ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา วิปสฺสนา กถิตา. นวมํ.

๑๐. ปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา

๘๒. ทสเม ตทหุโปสเถติอาทิ ปวารณสุตฺเต วิตฺถาริตเมว. กิฺจิเทว เทสนฺติ กิฺจิ การณํ. สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉ ยทากงฺขสีติ กสฺมา เอวมาห? โส กิร ภิกฺขุ ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร. อาจริเย ปน ิตเก ปุจฺฉนฺเต สเจ เต ภิกฺขู นิสีทนฺติ, สตฺถริ คารวํ กตํ โหติ, อาจริเย อคารวํ. สเจ อุฏฺหนฺติ, อาจริเย คารวํ กตํ โหติ, สตฺถริ อคารวํ. อิติ เนสํ จิตฺตํ อเนกคฺคํ ภวิสฺสติ, เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. ตสฺมึ ปน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉนฺเต เตสํ จิตฺตํ เอกคฺคํ ภวิสฺสติ, เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ สกฺขิสฺสนฺตีติ ตฺวา ภควา เอวมาห. อิเม นุ โข, ภนฺเตติ อยํ เถโร ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อาจริโย, ปฺจกฺขนฺธมตฺตมฺปิ นปฺปชานาตีติ น วตฺตพฺโพ. ปฺหํ ปุจฺฉนฺเตน ปน ‘‘อิเม ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, น อฺเ’’ติ เอวํ ชานนฺเตน วิย หุตฺวา ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา อชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ. เตปิ จสฺส อนฺเตวาสิกา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย ‘อหํ ชานามี’ติ น กเถติ, สพฺพฺุตฺาเณน ปน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวาว กเถตี’’ติ โสตพฺพํ สทฺธาตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติปิ อชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ.

ฉนฺทมูลกาติ ตณฺหาฉนฺทมูลกา. น โข ภิกฺขุ ตฺเว อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธาติ ยสฺมา ฉนฺทราคมตฺตํ ปฺจกฺขนฺธา น โหติ, ตสฺมา อิทํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน สหชาตโต วา อารมฺมณโต วา ขนฺเธ มุฺจิตฺวา อุปาทานํ นตฺถิ, ตสฺมา นาปิ อฺตฺร ปฺจหิ อุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานนฺติ วุตฺตํ. ตณฺหาสมฺปยุตฺตสฺมิฺหิ จิตฺเต วตฺตมาเน ตํจิตฺตสมุฏฺานรูปํ รูปกฺขนฺโธ, เปตฺวา ตํ ตณฺหํ เสสา อรูปธมฺมา จตฺตาโร ขนฺธาติ สหชาตโตปิ ขนฺเธ มุฺจิตฺวา อุปาทานํ นตฺถิ. อุปาทานสฺส ปน รูปาทีสุ อฺตรํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนโต อารมฺมณโตปิ ปฺจกฺขนฺเธ มุฺจิตฺวา อุปาทานํ นตฺถิ. ฉนฺทราคเวมตฺตตาติ ฉนฺทราคนานตฺตํ. เอวํ โข ภิกฺขูติ เอวํ รูปารมฺมณสฺส ฉนฺทราคสฺส เวทนาทีสุ อฺตรํ อารมฺมณํ อกรณโต สิยา ฉนฺทราคเวมตฺตตา. ขนฺธาธิวจนนฺติ ขนฺธาติ อยํ ปฺตฺติ. อยํ ปน อนุสนฺธิ น ฆฏิยติ, กิฺจาปิ น ฆฏิยติ, สานุสนฺธิกาว ปุจฺฉา, สานุสนฺธิกํ วิสฺสชฺชนํ. อยฺหิ เถโร เตสํ เตสํ ภิกฺขูนํ อชฺฌาสเยน ปุจฺฉติ, สตฺถาปิ เตสํ เตสํ อชฺฌาสเยเนว วิสฺสชฺเชติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. ทสมํ.

อิมสฺส จ ปน วคฺคสฺส เอเกกสฺมึ สุตฺเต ปฺจสตา ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตาติ.

ขชฺชนียวคฺโค อฏฺโม.

๙. เถรวคฺโค

๑. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๘๓. เถรวคฺคสฺส ปเม มนฺตาณิปุตฺโตติ, มนฺตาณิยา นาม พฺราหฺมณิยา ปุตฺโต. อุปาทายาติ อาคมฺม อารพฺภ สนฺธาย ปฏิจฺจ. อสฺมีติ โหตีติ อสฺมีติ เอวํ ปวตฺตํ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจตฺตยํ โหติ. ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. มณฺฑนกชาติโกติ มณฺฑนกสภาโว มณฺฑนกสีโล. มุขนิมิตฺตนฺติ มุขปฏิพิมฺพํ. ตฺหิ ปริสุทฺธํ อาทาสมณฺฑลํ ปฏิจฺจ ปฺายติ. กึ ปน ตํ โอโลกยโต สกมุขํ ปฺายติ, ปรมุขนฺติ? ยทิ สกํ ภเวยฺย, ปรมฺมุขํ หุตฺวา ปฺาเยยฺย, อถ ปรสฺส ภเวยฺย, วณฺณาทีหิ อสทิสํ หุตฺวา ปฺาเยยฺย. ตสฺมา น ตํ อตฺตโน, น ปรสฺส, อาทาสํ ปน นิสฺสาย นิภาสรูปํ นาม ตํ ปฺายตีติ วทนฺติ. อถ ยํ อุทเก ปฺายติ, ตํ เกน การเณนาติ? มหาภูตานํ วิสุทฺธตาย. ธมฺโม เม อภิสมิโตติ มยา าเณน จตุสจฺจธมฺโม อภิสมาคโต, โสตาปนฺโนสฺมิ ชาโตติ กเถสิ. ปมํ.

๒. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา

๘๔. ทุติเย มธุรกชาโต วิยาติ สฺชาตครุภาโว วิย อกมฺมฺโ. ทิสาปิ เมติ อยํ ปุรตฺถิมา อยํ ทกฺขิณาติ เอวํ ทิสาปิ มยฺหํ น ปกฺขายนฺติ, น ปากฏา โหนฺตีติ วทติ. ธมฺมาปิ มํ น ปฏิภนฺตีติ ปริยตฺติธมฺมาปิ มยฺหํ น อุปฏฺหนฺติ, อุคฺคหิตํ สชฺฌายิตํ น ทิสฺสตีติ วทติ. วิจิกิจฺฉาติ โน มหาวิจิกิจฺฉา. น หิ ตสฺส ‘‘สาสนํ นิยฺยานิกํ นุ โข, น นุ โข’’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ. เอวํ ปนสฺส โหติ ‘‘สกฺขิสฺสามิ นุ โข สมณธมฺมํ กาตุํ, อุทาหุ ปตฺตจีวรธารณมตฺตเมว กริสฺสามี’’ติ.

กามานเมตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ นินฺนํ ปลฺลลํ โอโลเกนฺตสฺส ทสฺสนรามเณยฺยกมตฺตํ อตฺถิ, โย ปเนตฺถ โอตรติ, ตํ จณฺฑมีนากุลตาย อากฑฺฒิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปติ, เอวเมวํ ปฺจสุ กามคุเณสุ จกฺขุทฺวาราทีนํ อารมฺมเณ รามเณยฺยกมตฺตํ อตฺถิ, โย ปเนตฺถ เคธํ อาปชฺชติ, ตํ อากฑฺฒิตฺวา นิรยาทีสุ เอว ปกฺขิปนฺติ. อปฺปสฺสาทา หิ กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโยติ อิมํ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ‘‘กามานเมตํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํ. อหมนุคฺคเหนาติ อหํ ธมฺมามิสานุคฺคเหหิ อนุคฺคณฺหามิ. อภินนฺทีติ สมฺปฏิจฺฉิ. น เกวลฺจ อภินนฺทิ, อิมํ ปน สตฺถุ สนฺติกา อสฺสาสํ ลภิตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต กติปาเหน อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. ทุติยํ.

๓. ยมกสุตฺตวณฺณนา

๘๕. ตติเย ทิฏฺิคตนฺติ สเจ หิสฺส เอวํ ภเวยฺย ‘‘สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ เจว นิรุชฺฌนฺติ จ, สงฺขารปฺปวตฺตเมว อปฺปวตฺตํ โหตี’’ติ, ทิฏฺิคตํ นาม น ภเวยฺย, สาสนาวจริกํ าณํ ภเวยฺย. ยสฺมา ปนสฺส ‘‘สตฺโต อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ อโหสิ, ตสฺมา ทิฏฺิคตํ นาม ชาตํ. ถามสา ปรามาสาติ ทิฏฺิถาเมน เจว ทิฏฺิปรามาเสน จ.

เยนายสฺมา สาริปุตฺโตติ ยถา นาม ปจฺจนฺเต กุปิเต ตํ วูปสเมตุํ อสกฺโกนฺตา ราชปุริสา เสนาปติสฺส วา รฺโ วา สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, เอวํ ทิฏฺิคตวเสน ตสฺมึ เถเร กุปิเต ตํ วูปสเมตุํ อสกฺโกนฺตา เต ภิกฺขู เยน ธมฺมราชสฺส ธมฺมเสนาปติ อายสฺมา สาริปุตฺโต, เตนุปสงฺกมึสุ. เอวํพฺยาโขติ เตสํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก วิย เถรสฺส สมฺมุขา ปคฺคยฺห วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต โอลมฺพนฺเตน หทเยน ‘‘เอวํพฺยาโข’’ติ อาห. ตํ กึ มฺสิ, อาวุโสติ? อิทํ เถโร ตสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘นายํ อตฺตโน ลทฺธิยํ โทสํ ปสฺสติ, ธมฺมเทสนาย อสฺส ตํ ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ติปริวฏฺฏํ เทสนํ เทเสตุํ อารภิ.

ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส ยมก, รูปํ ตถาคโตติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ? อนุโยควตฺตํ ทาปนตฺถํ. ติปริวฏฺฏเทสนาวสานสฺมิฺหิ เถโร โสตาปนฺโน ชาโต. อถ นํ อนุโยควตฺตํ ทาเปตุํ ‘‘ตํ กึ มฺสี’’ติอาทิมาห? ตถาคโตติ สตฺโต. รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณนฺติ อิเม ปฺจกฺขนฺเธ สมฺปิณฺเฑตฺวา ‘‘ตถาคโต’’ติ สมนุปสฺสสีติ ปุจฺฉติ. เอตฺถ จ เต, อาวุโสติ อิทํ เถรสฺส อนุโยเค ภุมฺมํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอตฺถ จ เต เอตฺตเก าเน ทิฏฺเว ธมฺเม สจฺจโต ถิรโต สตฺเต อนุปลพฺภิยมาเนติ. สเจ ตํ, อาวุโสติ อิทเมตํ อฺํ พฺยากราเปตุกาโม ปุจฺฉติ. ยํ ทุกฺขํ ตํ นิรุทฺธนฺติ ยํ ทุกฺขํ, ตเทว นิรุทฺธํ, อฺโ สตฺโต นิรุชฺฌนโก นาม นตฺถิ, เอวํ พฺยากเรยฺยนฺติ อตฺโถ.

เอตสฺเสว อตฺถสฺสาติ เอตสฺส ปมมคฺคสฺส. ภิยฺโยโสมตฺตาย าณายาติ อติเรกปฺปมาณสฺส าณสฺส อตฺถาย, สหวิปสฺสนกานํ อุปริ จ ติณฺณํ มคฺคานํ อาวิภาวตฺถายาติ อตฺโถ. อารกฺขสมฺปนฺโนติ อนฺโตอารกฺเขน เจว พหิอารกฺเขน จ สมนฺนาคโต. อโยคกฺเขมกาโมติ จตูหิ โยเคหิ เขมภาวํ อนิจฺฉนฺโต. ปสยฺหาติ ปสยฺหิตฺวา อภิภวิตฺวา. อนุปขชฺชาติ อนุปวิสิตฺวา.

ปุพฺพุฏฺายีติอาทีสุ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาสนโต ปมตรํ วุฏฺาตีติ ปุพฺพุฏฺายี. ตสฺส อาสนํ ทตฺวา ตสฺมึ นิสินฺเน ปจฺฉา นิปตติ นิสีทตีติ, ปจฺฉานิปาตี. ปาโตว วุฏฺาย ‘‘เอตฺตกา กสิตุํ คจฺฉถ, เอตฺตกา วปิตุ’’นฺติ วา สพฺพปมํ วุฏฺาตีติ ปุพฺพุฏฺายี. สายํ สพฺเพสุ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานํ คเตสุ เคหสฺส สมนฺตโต อารกฺขํ สํวิธาย ทฺวารานิ ถเกตฺวา สพฺพปจฺฉา นิปชฺชนโตปิ ปจฺฉานิปาตี. ‘‘กึ กโรมิ, อยฺยปุตฺต? กึ กโรมิ อยฺยปุตฺตา’’ติ? มุขํ โอโลเกนฺโต กึการํ ปฏิสาเวตีติ กึการปฏิสฺสาวี. มนาปํ จรตีติ มนาปจารี. ปิยํ วทตีติ ปิยวาที. มิตฺตโตปิ นํ สทฺทเหยฺยาติ มิตฺโต เม อยนฺติ สทฺทเหยฺย. วิสฺสาสํ อาปชฺเชยฺยาติ เอกโต ปานโภชนาทึ กโรนฺโต วิสฺสาสิโก ภเวยฺย. สํวิสฺสตฺโถติ สุฏฺุ วิสฺสตฺโถ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – พาลคหปติปุตฺโต วิย หิ วฏฺฏสนฺนิสฺสิตกาเล อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน, วธกปจฺจามิตฺโต วิย อพลทุพฺพลา ปฺจกฺขนฺธา, วธกปจฺจามิตฺตสฺส ‘‘พาลคหปติปุตฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อุปคตกาโล วิย ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปคตา ปฺจกฺขนฺธา, ตสฺส หิ ‘‘น เม อยํ สหาโย, วธกปจฺจตฺถิโก อย’’นฺติ อชานนกาโล วิย วฏฺฏนิสฺสิตปุถุชฺชนสฺส ปฺจกฺขนฺเธ ‘‘น อิเม มยฺห’’นฺติ อคเหตฺวา ‘‘มม รูปํ, มม เวทนา, มม สฺา, มม สงฺขารา, มม วิฺาณ’’นฺติ คหิตกาโล, วธกปจฺจตฺถิกสฺส ‘‘มิตฺโต เม อย’’นฺติ คเหตฺวา สกฺการกรณกาโล วิย ‘‘มม อิเม’’ติ คเหตฺวา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นฺหาปนโภชนาทีหิ สกฺการกรณกาโล, ‘‘อติวิสฺสตฺโถ เม อย’’นฺติ ตฺวา สกฺการํ กโรนฺตสฺเสว อสินา สีสจฺฉินฺทนํ วิย วิสฺสตฺถสฺส พาลปุถุชฺชนสฺส ติขิเณหิ ภิชฺชมาเนหิ ขนฺเธหิ ชีวิตปริยาทานํ เวทิตพฺพํ.

อุเปตีติ อุปคจฺฉติ. อุปาทิยตีติ คณฺหาติ. อธิฏฺาตีติ อธิติฏฺติ. อตฺตา เมติ อยํ เม อตฺตาติ. สุตวา จ โข, อาวุโส, อริยสาวโกติ ยถา ปน ปณฺฑิโต คหปติปุตฺโต เอวํ อุปคตํ ปจฺจตฺถิกํ ‘‘ปจฺจตฺถิโก เม อย’’นฺติ ตฺวา อปฺปมตฺโต ตานิ ตานิ กมฺมานิ กาเรตฺวา อนตฺถํ ปริหรติ, อตฺถํ ปาปุณาติ, เอวํ สุตวา อริยสาวโกปิ ‘‘น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา นเยน ปฺจกฺขนฺเธ อหนฺติ วา มมนฺติ วา อคเหตฺวา, ‘‘ปจฺจตฺถิกา เม เอเต’’ติ ตฺวา รูปสตฺตกอรูปสตฺตกาทิวเสน วิปสฺสนาย โยเชตฺวาว ตโตนิทานํ ทุกฺขํ ปริวชฺเชตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ตติยํ.

๔. อนุราธสุตฺตวณฺณนา

๘๖. จตุตฺเถ อรฺกุฏิกายนฺติ ตสฺเสว วิหารสฺส ปจฺจนฺเต ปณฺณสาลายํ. ตํ ตถาคโตติ ตุมฺหากํ สตฺถา ตถาคโต ตํ สตฺตํ ตถาคตํ. อฺตฺร อิเมหีติ ตสฺส กิร เอวํ อโหสิ ‘‘อิเม สาสนสฺส ปฏิปกฺขา ปฏิวิโลมา, ยถา อิเม ภณนฺติ, น เอวํ สตฺถา ปฺาเปสฺสติ, อฺถา ปฺาเปสฺสตี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห. เอวํ วุตฺเต เต อฺติตฺถิยาติ เอวํ เถเรน อตฺตโน จ ปเรสฺจ สมยํ อชานิตฺวา วุตฺเต เอกเทเสน สาสนสมยํ ชานนฺตา เถรสฺส วาเท โทสํ ทาตุกามา เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อายสฺมนฺตํ อนุราธํ เอตทโวจุํ.

ตํ กึ มฺสิ อนุราธาติ สตฺถา ตสฺส กถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ภิกฺขุ อตฺตโน ลทฺธิยํ โทสํ น ชานาติ, การโก ปเนส ยุตฺตโยโค, ธมฺมเทสนาย เอว นํ ชานาเปสฺสามี’’ติ ติปริวฏฺฏํ เทสนํ เทเสตุกาโม ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อนุราธา’’ติอาทิมาห. อถสฺส ตาย เทสนาย อรหตฺตปฺปตฺตสฺส อนุโยควตฺตํ อาโรเปนฺโต ตํ กึ มฺสิ, อนุราธ? รูปํ ตถาคโตติอาทิมาห. ทุกฺขฺเจว ปฺเปมิ, ทุกฺขสฺส จ นิโรธนฺติ วฏฺฏทุกฺขฺเจว วฏฺฏทุกฺขสฺส จ นิโรธํ นิพฺพานํ ปฺเปมิ. ทุกฺขนฺติ วา วจเนน ทุกฺขสจฺจํ คหิตํ. ตสฺมึ คหิเต สมุทยสจฺจํ คหิตเมว โหติ, ตสฺส มูลตฺตา. นิโรธนฺติ วจเนน นิโรธสจฺจํ คหิตํ. ตสฺมึ คหิเต มคฺคสจฺจํ คหิตเมว โหติ ตสฺส อุปายตฺตา. อิติ ปุพฺเพ จาหํ, อนุราธ, เอตรหิ จ จตุสจฺจเมว ปฺเปมีติ ทสฺเสติ. เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ. จตุตฺถํ.

๕. วกฺกลิสุตฺตวณฺณนา

๘๗. ปฺจเม กุมฺภการนิเวสเนติ กุมฺภการสาลายํ. เถโร กิร วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อาคจฺฉติ. ตสฺส นครมชฺเฌ มหาอาพาโธ อุปฺปชฺชิ, ปาทา น วหนฺติ. อถ นํ มฺจกสิวิกาย กุมฺภการสาลํ อาหรึสุ. สา จ สาลา เตสํ กมฺมสาลา, น นิเวสนสาลา. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กุมฺภการนิเวสเน วิหรตี’’ติ. พาฬฺหคิลาโนติ อธิมตฺตคิลาโน. สมโธสีติ สมนฺตโต อโธสิ, จลนากาเรน อปจิตึ ทสฺเสสิ. วตฺตํ กิเรตํ พาฬฺหคิลาเนนปิ พุฑฺฒตรํ ทิสฺวา อุฏฺานากาเรน อปจิติ ทสฺเสตพฺพา. เตน ปน ‘‘มา จลิ มา จลี’’ติ วตฺตพฺโพ. สนฺติมานิ อาสนานีติ พุทฺธกาลสฺมิฺหิ เอกสฺสปิ ภิกฺขุโน วสนฏฺาเน ‘‘สเจ สตฺถา อาคจฺฉิสฺสติ, อิธ นิสีทิสฺสตี’’ติ อาสนํ ปฺตฺตเมว โหติ อนฺตมโส ผลกมตฺตมฺปิ ปณฺณสนฺถารมตฺตมฺปิ. ขมนียํ ยาปนียนฺติ กจฺจิ ทุกฺขํ ขมิตุํ อิริยาปถํ วา ยาเปตุํ สกฺกาติ ปุจฺฉติ. ปฏิกฺกมนฺตีติ นิวตฺตนฺติ. อภิกฺกมนฺตีติ อธิคจฺฉนฺติ. ปฏิกฺกโมสานนฺติ ปฏิกฺกโม เอตาสํ. สีลโต น อุปวทตีติ สีลํ อารพฺภ สีลภาเวน น อุปวทติ. จิรปฏิกาหนฺติ จิรปฏิโก อหํ, จิรโต ปฏฺาย อหนฺติ อตฺโถ. ปูติกาเยนาติ อตฺตโน สุวณฺณวณฺณมฺปิ กายํ ภควา ธุวปคฺฆรณฏฺเน เอวมาห. โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมนฺติ อิธ ภควา ‘‘ธมฺมกาโย โข, มหาราช, ตถาคโต’’ติ วุตฺตํ ธมฺมกายตํ ทสฺเสติ. นววิโธ หิ โลกุตฺตรธมฺโม ตถาคตสฺส กาโย นาม.

อิทานิ เถรสฺส ติปริวฏฺฏธมฺมเทสนํ อารภนฺโต ตํ กึ มฺสีติอาทิมาห. กาฬสิลาติ กาฬสิลาวิหาโร. วิโมกฺขายาติ มคฺควิโมกฺขตฺถาย. สุวิมุตฺโต วิมุจฺจิสฺสตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา วิมุตฺโต หุตฺวา วิมุจฺจิสฺสติ. ตา กิร เทวตา ‘‘เยน นีหาเรน อิมินา วิปสฺสนา อารทฺธา, อนนฺตราเยน อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ ตฺวา เอวมาหํสุ. อปาปกนฺติ อลามกํ. สตฺถํ อาหเรสีติ เถโร กิร อธิมานิโก อโหสิ. โส สมาธิวิปสฺสนาหิ วิกฺขมฺภิตานํ กิเลสานํ สมุทาจารํ อปสฺสนฺโต ‘‘ขีณาสโวมฺหี’’ติ สฺี หุตฺวา ‘‘กึ เม อิมินา ทุกฺเขน ชีวิเตน? สตฺถํ อาหริตฺวา มริสฺสามี’’ติ ติขิเณน สตฺเถน กณฺนาฬํ ฉินฺทิ. อถสฺส ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชิ. โส ตสฺมึ ขเณ อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ตฺวา อวิสฺสฏฺกมฺมฏฺานตฺตา สีฆํ มูลกมฺมฏฺานํ อาทาย สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวาว กาลมกาสิ. ปจฺจเวกฺขณา ปนสฺส จ กถํ อโหสีติ? ขีณาสวสฺส เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณา น สพฺพาว อวสฺสํ ลทฺธพฺพา, ติขิเณนาปิ ปน อสินา สีเส ฉิชฺชนฺเต เอกํ ทฺเว าณานิ อวสฺสํ อุปฺปชฺชนฺติ.

วิวตฺตกฺขนฺธนฺติ ปริวตฺตกฺขนฺธํ. เสมานนฺติ สยมานํ. เถโร กิร อุตฺตานโก นิปนฺโน สตฺถํ อาหริ. ตสฺส สรีรํ ยถาิตเมว อโหสิ. สีสํ ปน ทกฺขิณปสฺเสน ปริวตฺติตฺวา อฏฺาสิ. อริยสาวกา หิ เยภุยฺเยน ทกฺขิณปสฺเสเนว กาลํ กโรนฺติ. เตนสฺส สรีรํ ยถาิตํเยว อโหสิ. สีสํ ปน ทกฺขิณปสฺเสน ปริวตฺติตฺวา ิตํ. ตํ สนฺธาย วิวตฺตกฺขนฺโธ นาม ชาโตติปิ วทนฺติ. ธูมายิตตฺตนฺติ ธูมายนภาวํ. ติมิรายิตตฺตนฺติ ติมิรายนภาวํ. ธูมวลาหกํ วิย ติมิรวลาหกํ วิย จาติ อตฺโถ. ปฺจมํ.

๖. อสฺสชิสุตฺตวณฺณนา

๘๘. ฉฏฺเ กสฺสปการาเมติ กสฺสปเสฏฺินา การิเต อาราเม. กายสงฺขาเรติ อสฺสาสปสฺสาเส. โส หิ เต จตุตฺถชฺฌาเนน ปสฺสมฺภิตฺวา ปสฺสมฺภิตฺวา วิหาสิ. เอวํ โหตีติ อิทานิ ตํ สมาธึ อปฺปฏิลภนฺตสฺส เอวํ โหติ. โน จสฺสาหํ ปริหายามีติ กจฺจิ นุ โข อหํ สาสนโต น ปริหายามิ? ตสฺส กิร อาพาธโทเสน อปฺปิตปฺปิตา สมาปตฺติ ปริหายิ, ตสฺมา เอวํ จินฺเตสิ. สมาธิสารกา สมาธิสามฺาติ สมาธึเยว สารฺจ สามฺฺจ มฺนฺติ. มยฺหํ ปน สาสเน น เอตํ สารํ, วิปสฺสนามคฺคผลานิ สารํ. โส ตฺวํ สมาธิโต ปริหายนฺโต กสฺมา จินฺเตสิ ‘‘สาสนโต ปริหายามี’’ติ. เอวํ เถรํ อสฺสาเสตฺวา อิทานิสฺส ติปริวฏฺฏํ ธมฺมเทสนํ อารภนฺโต ตํ กึ มฺสีติอาทิมาห. อถสฺส ติปริวฏฺฏเทสนาวสาเน อรหตฺตํ ปตฺตสฺส สตตวิหารํ ทสฺเสนฺโต โส สุขํ เจ เวทนํ เวทยตีติอาทิมาห. ตตฺถ อนภินนฺทิตาติ ปชานาตีติ สุขเวทนาย ตาว อภินนฺทนา โหตุ, ทุกฺขเวทนาย กถํ โหตีติ? ทุกฺขํ ปตฺวา สุขํ ปตฺเถติ, ยทคฺเคน สุขํ ปตฺเถติ, ตทคฺเคน ทุกฺขํ ปตฺเถติเยว. สุขวิปริณาเมน หิ ทุกฺขํ อาคตเมว โหตีติ เอวํ ทุกฺเข อภินนฺทนา เวทิตพฺพา. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมวาติ. ฉฏฺํ.

๗. เขมกสุตฺตวณฺณนา

๘๙. สตฺตเม อตฺตนิยนฺติ อตฺตโน ปริกฺขารชาตํ. อสฺมีติ อธิคตนฺติ อสฺมีติ เอวํ ปวตฺตา ตณฺหามานา อธิคตา. สนฺธาวนิกายาติ ปุนปฺปุนํ คมนาคมเนน. อุปสงฺกมีติ พทริการามโต คาวุตมตฺตํ โฆสิตารามํ อคมาสิ. ทาสกตฺเถโร ปน จตุกฺขตฺตุํ คมนาคมเนน ตํทิวสํ ทฺวิโยชนํ อทฺธานํ อาหิณฺฑิ. กสฺมา ปน ตํ เถรา ปหิณึสุ? วิสฺสุตสฺส ธมฺมกถิกสฺส สนฺติกา ธมฺมํ สุณิสฺสามาติ. สยํ กสฺมา น คตาติ? เถรสฺส วสนฏฺานํ อรฺํ สมฺพาธํ, ตตฺถ สฏฺิมตฺตานํ เถรานํ าตุํ วา นิสีทิตุํ วา โอกาโส นตฺถีติ น คตา. ‘‘อิธาคนฺตฺวา อมฺหากํ ธมฺมํ กเถตู’’ติปิ กสฺมา ปน น ปหิณึสูติ? เถรสฺส อาพาธิกตฺตา. อถ กสฺมา ปุนปฺปุนํ ปหิณึสูติ? สยเมว ตฺวา อมฺหากํ กเถตุํ อาคมิสฺสตีติ. เถโรปิ เตสํ อชฺฌาสยํ ตฺวาว อคมาสีติ.

น ขฺวาหํ, อาวุโส, รูปนฺติ โย หิ รูปเมว อสฺมีติ วทติ, เตน อิตเร จตฺตาโร ขนฺธา ปจฺจกฺขาตา โหนฺติ. โย อฺตฺร รูปา วทติ, เตน รูปํ ปจฺจกฺขาตํ โหติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. เถรสฺส ปน สมูหโต ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ อสฺมีติ อธิคโต, ตสฺมา เอวมาห. โหเตวาติ โหติเยว. อนุสหคโตติ สุขุโม. อูเสติ ฉาริกาขาเร. ขาเรติ อูสขาเร. สมฺมทฺทิตฺวาติ เตเมตฺวา ขาเทตฺวา.

เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – กิลิฏฺวตฺถํ วิย หิ ปุถุชฺชนสฺส จิตฺตาจาโร, ตโย ขารา วิย ติสฺโส อนุปสฺสนา, ตีหิ ขาเรหิ โธตวตฺถํ วิย เทสนาย มทฺทิตฺวา ิโต อนาคามิโน จิตฺตาจาโร, อนุสหคโต อูสาทิคนฺโธ วิย อรหตฺตมคฺควชฺฌา กิเลสา, คนฺธกรณฺฑโก วิย อรหตฺตมคฺคาณํ คนฺธกรณฺฑกํ อาคมฺม อนุสหคตานํ อูสคนฺธาทีนํ สมุคฺฆาโต วิย อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสกฺขโย, คนฺธปริภาวิตวตฺถํ นิวาเสตฺวา ฉณทิวเส อนฺตรวีถิยํ สุคนฺธคนฺธิโน วิจรณํ วิย ขีณาสวสฺส สีลคนฺธาทีหิ ทส ทิสา อุปวายนฺตสฺส ยถากามจาโร.

อาจิกฺขิตุนฺติ กเถตุํ. เทเสตุนฺติ ปกาเสตุํ. ปฺาเปตุนฺติ ชานาเปตุํ. ปฏฺเปตุนฺติ ปติฏฺาเปตุํ. วิวริตุนฺติ วิวฏํ กาตุํ. วิภชิตุนฺติ สุวิภตฺตํ กาตุํ. อุตฺตานีกาตุนฺติ อุตฺตานกํ กาตุํ. สฏฺิมตฺตานํ เถรานนฺติ เต กิร เถเรน กถิตกถิตฏฺาเน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุปรูปริ สมฺมสนฺตา เทสนาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. เถโรปิ อฺเน นีหาเรน อกเถตฺวา วิปสฺสนาสหคตจิตฺเตเนว กเถสิ. ตสฺมา โสปิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สฏฺิมตฺตานํ เถรานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ อายสฺมโต เขมกสฺส จา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา

๙๐. อฏฺเม อายสฺมา ฉนฺโนติ ตถาคเตน สทฺธึ เอกทิวเส ชาโต มหาภินิกฺขมนทิวเส สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ปุน อปรภาเค สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ‘‘อมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ ธมฺโม’’ติ เอวํ มกฺขี เจว ปฬาสี จ หุตฺวา สพฺรหฺมจารีนํ ผรุสวาจาย สงฺฆฏฺฏนํ กโรนฺโต เถโร. อวาปุรณํ อาทายาติ กุฺจิกํ คเหตฺวา. วิหาเรน วิหารํ อุปสงฺกมิตฺวาติ เอกํ วิหารํ ปวิสิตฺวา ตโต อฺํ, ตโต อฺนฺติ เอวํ เตน เตน วิหาเรน ตํ ตํ วิหารํ อุปสงฺกมิตฺวา. เอตทโวจ โอวทนฺตุ มนฺติ กสฺมา เอวํ มหนฺเตน อุสฺสาเหน ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา เอตํ อโวจาติ? อุปฺปนฺนสํเวคตาย. ตสฺส หิ ปรินิพฺพุเต สตฺถริ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ เปสิโต อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพึ คนฺตฺวา พฺรหฺมทณฺฑํ อทาสิ. โส ทินฺเน พฺรหฺมทณฺเฑ สฺชาตปริฬาโห วิสฺีภูโต ปติตฺวา ปุน สฺํ ลภิตฺวา วุฏฺาย เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คโต, โส เตน สทฺธึ กิฺจิ น กเถสิ. อฺสฺส สนฺติกํ อคมาสิ, โสปิ น กเถสีติ เอวํ สกลวิหารํ วิจริตฺวา นิพฺพินฺโน ปตฺตจีวรํ อาทาย พาราณสึ คนฺตฺวา อุปฺปนฺนสํเวโค ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา เอวํ อโวจ.

สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ สพฺเพ เตภูมกสงฺขารา อนิจฺจา. สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ สพฺเพ จตุภูมกธมฺมา อนตฺตา. อิติ สพฺเพปิ เต ภิกฺขู เถรํ โอวทนฺตา อนิจฺจลกฺขณํ อนตฺตลกฺขณนฺติ ทฺเวว ลกฺขณานิ กเถตฺวา ทุกฺขลกฺขณํ น กถยึสุ. กสฺมา? เอวํ กิร เนสํ อโหสิ – ‘‘อยํ ภิกฺขุ วาที ทุกฺขลกฺขเณ ปฺาปิยมาเน รูปํ ทุกฺขํ…เป… วิฺาณํ ทุกฺขํ, มคฺโค ทุกฺโข, ผลํ ทุกฺขนฺติ ‘ตุมฺเห ทุกฺขปฺปตฺตา ภิกฺขู นามา’ติ คหณํ คณฺเหยฺย, ยถา คหณํ คเหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ นิทฺโทสเมวสฺส กตฺวา กเถสฺสามา’’ติ ทฺเวว ลกฺขณานิ กถยึสุ.

ปริตสฺสนา อุปาทานํ อุปฺปชฺชตีติ ปริตสฺสนา จ อุปาทานฺจ อุปฺปชฺชติ. ปจฺจุทาวตฺตติ มานสํ, อถ โก จรหิ เม อตฺตาติ ยทิ รูปาทีสุ เอโกปิ อนตฺตา, อถ โก นาม เม อตฺตาติ เอวํ ปฏินิวตฺตติ ‘‘มยฺหํ มานส’’นฺติ. อยํ กิร เถโร ปจฺจเย อปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ, สาสฺส ทุพฺพลวิปสฺสนา อตฺตคาหํ ปริยาทาตุํ อสกฺกุณนฺตี สงฺขาเรสุ สุฺโต อุปฏฺหนฺเตสุ ‘‘อุจฺฉิชฺชิสฺสามิ วินสฺสิสฺสามี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺิยา เจว ปริตสฺสนาย จ ปจฺจโย อโหสิ. โส จ อตฺตานํ ปาปเต ปปตนฺตํ วิย ทิสฺวา, ‘‘ปริตสฺสนา อุปาทานํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺจุทาวตฺตติ มานสํ, อถ โก จรหิ เม อตฺตา’’ติ อาห. น โข ปเนวํ ธมฺมํ ปสฺสโต โหตีติ จตุสจฺจธมฺมํ ปสฺสนฺตสฺส เอวํ น โหติ. ตาวติกา วิสฺสฏฺีติ ตตฺตโก วิสฺสาโส. สมฺมุขา เมตนฺติ เถโร ตสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘กีทิสา นุ โข อิมสฺส ธมฺมเทสนา สปฺปายา’’ติ? จินฺเตนฺโต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ วิจินิตฺวา กจฺจานสุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๕) อทฺทส ‘‘อิทํ อาทิโตว ทิฏฺิวินิเวนํ กตฺวา มชฺเฌ พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา สณฺหสุขุมปจฺจยาการํ ปกาสยมานํ คตํ, อิทมสฺส เทเสสฺสามี’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺมุขา เมต’’นฺติอาทิมาห. อฏฺมํ.

๙-๑๐. ราหุลสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๑-๙๒. นวมทสมานิ ราหุลสํยุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๑๘๘) วุตฺตตฺถาเนว. เกวลํ เหตานิ อยํ เถรวคฺโคติ กตฺวา อิธาคตานีติ. นวมทสมานิ.

เถรวคฺโค นวโม.

๑๐. ปุปฺผวคฺโค

๑. นทีสุตฺตวณฺณนา

๙๓. ปุปฺผวคฺคสฺส ปเม ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพเต ปวตฺตา. โอหารินีติ โสเต ปติตปติตานิ ติณปณฺณกฏฺาทีนิ เหฏฺาหารินี. ทูรงฺคมาติ นิกฺขนฺตฏฺานโต ปฏฺาย จตุปฺจโยชนสตคามินี. สีฆโสตาติ จณฺฑโสตา. กาสาติอาทีนิ สพฺพานิ ติณชาตานิ. รุกฺขาติ เอรณฺฑาทโย ทุพฺพลรุกฺขา. เต นํ อชฺโฌลมฺเพยฺยุนฺติ เต ตีเร ชาตาปิ โอนมิตฺวา อคฺเคหิ อุทกํ ผุสนฺเตหิ อธิโอลมฺเพยฺยุํ, อุปริ ลมฺเพยฺยุนฺติ อตฺโถ. ปลุชฺเชยฺยุนฺติ สมูลมตฺติกาย สทฺธึ สีเส ปเตยฺยุํ. โส เตหิ อชฺโฌตฺถโฏ วาลุกมตฺติโกทเกหิ มุขํ ปวิสนฺเตหิ มหาวินาสํ ปาปุเณยฺย.

เอวเมว โขติ เอตฺถ โสเต ปติตปุริโส วิย วฏฺฏสนฺนิสฺสิโต พาลปุถุชฺชโน ทฏฺพฺโพ, อุภโตตีเร กาสาทโย วิย ทุพฺพลปฺจกฺขนฺธา, ‘‘อิเม คหิตาปิ มํ ตาเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ ตสฺส ปุริสสฺส อชานิตฺวา คหณํ วิย อิเม ขนฺธา ‘‘น มยฺหํ สหายา’’ติ พาลปุถุชฺชนสฺส อชานิตฺวา จตูหิ คาเหหิ คหณํ, คหิตคหิตานํ ปลุชฺชนตฺตา ปุริสสฺส พฺยสนปฺปตฺติ วิย จตูหิ คาเหหิ คหิตานํ ขนฺธานํ วิปริณาเม พาลปุถุชฺชนสฺส โสกาทิพฺยสนปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. ปมํ.

๒. ปุปฺผสุตฺตวณฺณนา

๙๔. ทุติเย วิวทตีติ ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อสุภ’’นฺติ ยถาสภาเวน วทนฺเตน สทฺธึ ‘‘นิจฺจํ สุขํ อตฺตา สุภ’’นฺติ วทนฺโต วิวทติ. โลกธมฺโมติ ขนฺธปฺจกํ. ตฺหิ ลุชฺชนสภาวตฺตา โลกธมฺโมติ วุจฺจติ. กินฺติ กโรมีติ กถํ กโรมิ? มยฺหฺหิ ปฏิปตฺติกถนเมว ภาโร, ปฏิปตฺติปูรณํ ปน กุลปุตฺตานํ ภาโรติ ทสฺเสติ. อิมสฺมึ สุตฺเต ตโย โลกา กถิตา. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, โลเกนา’’ติ เอตฺถ หิ สตฺตโลโก กถิโต, ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, โลเก โลกธมฺโม’’ติ เอตฺถ สงฺขารโลโก, ‘‘ตถาคโต โลเก ชาโต โลเก สํวฑฺโฒ’’ติ เอตฺถ โอกาสโลโก กถิโต. ทุติยํ.

๓. เผณปิณฺฑูปมสุตฺตวณฺณนา

๙๕. ตติเย คงฺคาย นทิยา ตีเรติ อยุชฺฌปุรวาสิโน อปริมาณภิกฺขุปริวารํ จาริกํ จรมานํ ตถาคตํ อตฺตโน นครํ สมฺปตฺตํ ทิสฺวา เอกสฺมึ คงฺคาย นิวตฺตนฏฺาเน มหาวนสณฺฑมณฺฑิตปฺปเทเส สตฺถุ วิหารํ กตฺวา อทํสุ. ภควา ตตฺถ วิหรติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คงฺคาย นทิยา ตีเร’’ติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ตสฺมึ วิหาเร วสนฺโต ภควา สายนฺหสมยํ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา คงฺคาตีเร ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน คงฺคาย นทิยา อาคจฺฉนฺตํ มหนฺตํ เผณปิณฺฑํ ทิสฺวา, ‘‘มม สาสเน ปฺจกฺขนฺธนิสฺสิตํ เอกํ ธมฺมํ กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปริวาเรตฺวา นิสินฺเน ภิกฺขู อามนฺเตสิ.

มหนฺตํ เผณปิณฺฑนฺติ อุฏฺานุฏฺาเน พทรปกฺกปฺปมาณโต ปฏฺาย อนุโสตาคมเนน อนุปุพฺเพน ปวฑฺฒิตฺวา ปพฺพตกูฏมตฺตํ ชาตํ, ยตฺถ อุทกสปฺปาทโย อเนกปาณโย นิวสนฺติ, เอวรูปํ มหนฺตํ เผณปิณฺฑํ. อาวเหยฺยาติ อาหเรยฺย. โส ปนายํ เผณปิณฺโฑ อุฏฺิตฏฺาเนปิ ภิชฺชติ, โถกํ คนฺตฺวาปิ, เอกทฺวิโยชนาทิวเสน ทูรํ คนฺตฺวาปิ, อนฺตรา ปน อภิชฺชนฺโตปิ มหาสมุทฺทํ ปตฺวา อวสฺสเมว ภิชฺชติ. นิชฺฌาเยยฺยาติ โอโลเกยฺย. โยนิโส อุปปริกฺเขยฺยาติ การเณน อุปปริกฺเขยฺย. กิฺหิ สิยา, ภิกฺขเว, เผณปิณฺเฑ สาโรติ, ภิกฺขเว, เผณปิณฺฑมฺหิ สาโร นาม กึ ภเวยฺย? วิลียิตฺวา วิทฺธํเสยฺเยว.

เอวเมว โขติ ยถา เผณปิณฺโฑ นิสฺสาโร, เอวํ รูปมฺปิ นิจฺจสารธุวสารอตฺตสารวิรเหน นิสฺสารเมว. ยถา จ โส ‘‘อิมินา ปตฺตํ วา ถาลกํ วา กริสฺสามี’’ติ คเหตุํ น สกฺกา, คหิโตปิ ตมตฺถํ น สาเธติ, ภิชฺชติ เอว, เอวํ รูปมฺปิ นิจฺจนฺติ วา ธุวนฺติ วา อหนฺติ วา มมนฺติ วา คเหตุํ น สกฺกา, คหิตมฺปิ น ตถา ติฏฺติ, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อสุภฺเว โหตีติ เอวํ เผณปิณฺฑสทิสเมว โหติ. ยถา วา ปน เผณปิณฺโฑ ฉิทฺทาวฉิทฺโท อเนกสนฺธิฆฏิโต พหูนํ อุทกสปฺปาทีนํ ปาณานํ อาวาโส, เอวํ รูปมฺปิ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ อเนกสนฺธิฆฏิตํ, กุลวเสเนเวตฺถ อสีติ กิมิกุลานิ วสนฺติ, ตเทว เตสํ สูติฆรมฺปิ วจฺจกุฏิปิ คิลานสาลาปิ สุสานมฺปิ, น เต อฺตฺถ คนฺตฺวา คพฺภวุฏฺานาทีนิ กโรนฺติ, เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ.

ยถา จ เผณปิณฺโฑ อาทิโต พทรปกฺกมตฺโต หุตฺวา อนุปุพฺเพน ปพฺพตกูฏมตฺโตปิ โหติ, เอวํ รูปมฺปิ อาทิโต กลลมตฺตํ หุตฺวา อนุปุพฺเพน พฺยามมตฺตมฺปิ โคมหึสหตฺถิอาทีนํ วเสน ปพฺพตกูฏาทิมตฺตํ โหติ มจฺฉกจฺฉปาทีนํ วเสน อเนกโยชนสตปมาณมฺปิ, เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ. ยถา จ เผณปิณฺโฑ อุฏฺิตมตฺโตปิ ภิชฺชติ, โถกํ คนฺตฺวาปิ, ทูรํ คนฺตฺวาปิ, สมุทฺทํ ปตฺวา ปน อวสฺสเมว ภิชฺชติ, เอวเมวํ รูปมฺปิ กลลภาเวปิ ภิชฺชติ อพฺพุทาทิภาเวปิ, อนฺตรา ปน อภิชฺชมานมฺปิ วสฺสสตายุกานํ วสฺสสตํ ปตฺวา อวสฺสเมว ภิชฺชติ, มรณมุเข จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ, เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ.

กิฺหิ สิยา, ภิกฺขเว, เวทนาย สาโรติอาทีสุ เวทนาทีนํ ปุพฺพุฬาทีหิ เอวํ สทิสตา เวทิตพฺพา. ยถา หิ ปุพฺพุโฬ อสาโร เอวํ เวทนาปิ. ยถา จ โส อพโล อคยฺหูปโค, น สกฺกา ตํ คเหตฺวา ผลกํ วา อาสนํ วา กาตุํ, คหิโตปิ ภิชฺชเตว, เอวํ เวทนาปิ อพลา อคยฺหูปคา, น สกฺกา นิจฺจาติ วา ธุวาติ วา คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา ติฏฺติ, เอวํ อคยฺหูปคตายปิ เวทนา ปุพฺพุฬสทิสา. ยถา ปน ตสฺมึ ตสฺมึ อุทกพินฺทุมฺหิ ปุพฺพุโฬ อุปฺปชฺชติ เจว ภิชฺชติ จ, น จิรฏฺิติโก โหติ, เอวํ เวทนาปิ อุปฺปชฺชติ เจว ภิชฺชติ จ, น จิรฏฺิติกา โหติ. เอกจฺฉรกฺขเณ โกฏิสตสหสฺสสงฺขา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ยถา จ ปุพฺพุโฬ อุทกตลํ, อุทกพินฺทุํ, อุทกชลฺลํ, สงฺกฑฺฒิตฺวา ปุฏํ กตฺวา คหณวาตฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ, เอวํ เวทนาปิ วตฺถุํ อารมฺมณํ กิเลสชลฺลํ ผสฺสสงฺฆฏฺฏนฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ. เอวมฺปิ เวทนา ปุพฺพุฬสทิสา.

สฺาปิ อสารกฏฺเน มรีจิสทิสา. ตถา อคยฺหูปคฏฺเน. น หิ สกฺกา ตํ คเหตฺวา ปิวิตุํ วา นฺหายิตุํ วา ภาชนํ วา ปูเรตุํ. อปิจ ยถา มรีจิ วิปฺผนฺทติ, สฺชาตูมิเวคา วิย ขายติ, เอวํ นีลสฺาทิเภทา สฺาปิ นีลาทิอนุภวนตฺถาย ผนฺทติ วิปฺผนฺทติ. ยถา จ มรีจิ มหาชนํ วิปฺปลมฺเภติ ‘‘ปุณฺณวาปิ วิย ปุณฺณนที วิย ทิสฺสตี’’ติ วทาเปติ, เอวํ สฺาปิ วิปฺปลมฺเภติ, ‘‘อิทํ นีลกํ สุภํ สุขํ นิจฺจ’’นฺติ วทาเปติ. ปีตกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ สฺา วิปฺปลมฺภเนนาปิ มรีจิสทิสา.

อกุกฺกุกชาตนฺติ อนฺโต อสฺชาตฆนทณฺฑกํ. สงฺขาราปิ อสารกฏฺเน กทลิกฺขนฺธสทิสา, ตถา อคยฺหูปคฏฺเน. ยเถว หิ กทลิกฺขนฺธโต กิฺจิ คเหตฺวา น สกฺกา โคปานสิอาทีนํ อตฺถาย อุปเนตุํ, อุปนีตมฺปิ น ตถา โหติ, เอวํ สงฺขาราปิ น สกฺกา นิจฺจาทิวเสน คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา โหนฺติ. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ พหุปตฺตวฏฺฏิสโมธาโน โหติ, เอวํ สงฺขารกฺขนฺโธ พหุธมฺมสโมธาโน. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ นานาลกฺขโณ. อฺโเยว หิ พาหิราย ปตฺตวฏฺฏิยา วณฺโณ, อฺโ ตโต อพฺภนฺตรอพฺภนฺตรานํ, เอวเมว สงฺขารกฺขนฺเธปิ อฺเทว ผสฺสสฺส ลกฺขณํ, อฺา เจตนาทีนํ, สโมธาเนตฺวา ปน สงฺขารกฺขนฺโธว วุจฺจตีติ เอวมฺปิ สงฺขารกฺขนฺโธ กทลิกฺขนฺธสทิโส.

จกฺขุมา ปุริโสติ มํสจกฺขุนา เจว ปฺาจกฺขุนา จาติ ทฺวีหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. มํสจกฺขุมฺปิ หิสฺส ปริสุทฺธํ วฏฺฏติ อปคตปฏลปิฬกํ, ปฺาจกฺขุมฺปิ อสารภาวทสฺสนสมตฺถํ. วิฺาณมฺปิ อสารกฏฺเน มายาสทิสํ, ตถา อคยฺหูปคฏฺเน. ยถา จ มายา อิตฺตรา ลหุปจฺจุปฏฺานา, เอวํ วิฺาณํ. ตฺหิ ตโตปิ อิตฺตรตรฺเจว ลหุปจฺจุปฏฺานตรฺจ. เตเนว หิ จิตฺเตน ปุริโส อาคโต วิย คโต วิย ิโต วิย นิสินฺโน วิย โหติ. อฺเทว จ อาคมนกาเล จิตฺตํ, อฺํ คมนกาลาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ. มายา จ มหาชนํ วฺเจติ, ยํกิฺจิเทว ‘‘อิทํ สุวณฺณํ รชตํ มุตฺตา’’ติ คาหาเปติ, วิฺาณมฺปิ มหาชนํ วฺเจติ. เตเนว หิ จิตฺเตน อาคจฺฉนฺตํ วิย คจฺฉนฺตํ วิย ิตํ วิย นิสินฺนํ วิย กตฺวา คาหาเปติ. อฺเทว จ อาคมเน จิตฺตํ, อฺํ คมนาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ.

ภูริปฺเนาติ สณฺหปฺเน เจว วิปุลวิตฺถตปฺเน จ. อายูติ ชีวิตินฺทฺริยํ. อุสฺมาติ กมฺมชเตโชธาตุ. ปรภตฺตนฺติ นานาวิธานํ กิมิคณาทีนํ ภตฺตํ หุตฺวา. เอตาทิสายํ สนฺตาโนติ เอตาทิสี อยํ ปเวณี มตกสฺส ยาว สุสานา ฆฏฺฏียตีติ. มายายํ พาลลาปินีติ ยฺวายํ วิฺาณกฺขนฺโธ นาม, อยํ พาลมหาชนลปาปนิกมายา นาม. วธโกติ ทฺวีหิ การเณหิ อยํ ขนฺธสงฺขาโต วธโก อฺมฺฆาตเนนปิ, ขนฺเธสุ สติ วโธ ปฺายตีติปิ. เอกา หิ ปถวีธาตุ ภิชฺชมานา เสสธาตุโย คเหตฺวาว ภิชฺชติ, ตถา อาโปธาตุอาทโย. รูปกฺขนฺโธ จ ภิชฺชมาโน อรูปกฺขนฺเธ คเหตฺวาว ภิชฺชติ, ตถา อรูปกฺขนฺเธสุ เวทนาทโย สฺาทิเก. จตฺตาโรปิ เจเต วตฺถุรูปนฺติ เอวํ อฺมฺวธเนเนตฺถ วธกตา เวทิตพฺพา. ขนฺเธสุ ปน สติ วธพนฺธนจฺเฉทาทีนิ สมฺภวนฺติ, เอวํ เอเตสุ สติ วธภาวโตปิ วธกตา เวทิตพฺพา. สพฺพสํโยคนฺติ สพฺพํ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ. อจฺจุตํ ปทนฺติ นิพฺพานํ. ตติยํ.

๔-๖. โคมยปิณฺฑสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๖-๙๘. จตุตฺเถ สสฺสติสมนฺติ สิเนรุมหาปถวีจนฺทิมสูริยาทีหิ สสฺสตีหิ สมํ. ปริตฺตํ โคมยปิณฺฑนฺติ อปฺปมตฺตกํ มธุกปุปฺผปฺปมาณํ โคมยขณฺฑํ. กุโต ปนาเนเนตํ ลทฺธนฺติ. ปริภณฺฑกรณตฺถาย อาภตโต คหิตนฺติ เอเก. อตฺถสฺส ปน วิฺาปนตฺถํ อิทฺธิยา อภิสงฺขริตฺวา หตฺถารุฬฺหํ กตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ. อตฺตภาวปฏิลาโภติ ปฏิลทฺธอตฺตภาโว. น ยิทํ พฺรหฺมจริยวาโส ปฺาเยถาติ อยํ มคฺคพฺรหฺมจริยวาโส นาม น ปฺาเยยฺย. มคฺโค หิ เตภูมกสงฺขาเร วิวฏฺเฏนฺโต อุปฺปชฺชติ. ยทิ จ เอตฺตโก อตฺตภาโว นิจฺโจ ภเวยฺย, มคฺโค อุปฺปชฺชิตฺวาปิ สงฺขารวฏฺฏํ วิวฏฺเฏตุํ น สกฺกุเณยฺยาติ พฺรหฺมจริยวาโส น ปฺาเยถ.

อิทานิ สเจ โกจิ สงฺขาโร นิจฺโจ ภเวยฺย, มยา มหาสุทสฺสนราชกาเล อนุภูตา สมฺปตฺติ นิจฺจา ภเวยฺย, สาปิ จ อนิจฺจาติ ตํ ทสฺเสตุํ ภูตปุพฺพาหํ ภิกฺขุ ราชา อโหสินฺติอาทิมาห. ตตฺถ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานีติ กุสาวตีราชธานี เตสํ นครานํ ปมุขา, สพฺพเสฏฺาติ อตฺโถ. สารมยานีติ รตฺตจนฺทนสารมยานิ. อุปธานํ ปน สพฺเพสํ สุตฺตมยเมว. โคณกตฺถตานีติ จตุรงฺคุลาธิกโลเมน กาฬโกชเวน อตฺถตานิ, ยํ มหาปิฏฺิยโกชโวติ วทนฺติ. ปฏกตฺถตานีติ อุภโตโลเมน อุณฺณามเยน เสตกมฺพเลน อตฺถตานิ. ปฏลิกตฺถตานีติ ฆนปุปฺเผน อุณฺณามยอตฺถรเณน อตฺถตานิ. กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานีติ กทลิมิคจมฺมมเยน อุตฺตมปจฺจตฺถรเณน อตฺถตานิ. ตํ กิร ปจฺจตฺถรณํ เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิพฺเพตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉทานีติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุปริ พทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. อุภโตโลหิตกูปธานีติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ปลฺลงฺกานํ อุภโตโลหิตกูปธานานิ. เวชยนฺตรถปฺปมุขานีติ เอตฺถ เวชยนฺโต นาม ตสฺส รฺโ รโถ, ยสฺส จกฺกานํ อินฺทนีลมณิมยา นาภิ, สตฺตรตนมยา อรา, ปวาฬมยา เนมิ, รชตมโย อกฺโข, อินฺทนีลมณิมยํ อุปกฺขรํ, รชตมยํ กุพฺพรํ. โส เตสํ รถานํ ปมุโข อคฺโค. ทุกูลสนฺทานานีติ ทุกูลสนฺถรานิ. กํสูปธารณานีติ รชตมยโทหภาชนานิ. วตฺถโกฏิสหสฺสานีติ ยถารุจิตํ ปริภุฺชิสฺสตีติ นฺหตฺวา ิตกาเล อุปนีตวตฺถาเนว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ภตฺตาภิหาโรติ อภิหริตพฺพภตฺตํ.

ยมหํ เตน สมเยน อชฺฌาวสามีติ ยตฺถ วสามิ, ตํ เอกฺเว นครํ โหติ, อวเสเสสุ ปุตฺตธีตาทโย เจว ทาสมนุสฺสา จ วสึสุ. ปาสาทกูฏาคาราทีสุปิ เอเสว นโย. ปลฺลงฺกาทีสุ เอกํเยว สยํ ปริภุฺชติ, เสสา ปุตฺตาทีนํ ปริโภคา โหนฺติ. อิตฺถีสุ เอกาว ปจฺจุปฏฺาติ, เสสา ปริวารมตฺตา โหนฺติ. เวลามิกาติ ขตฺติยสฺส วา พฺราหฺมณิยา, พฺราหฺมณสฺส วา ขตฺติยานิยา กุจฺฉิสฺมึ ชาตา. ปริทหามีติ เอกํเยว ทุสฺสยุคํ นิวาเสมิ, เสสานิ ปริวาเรตฺวา วิจรนฺตานํ อสีติสหสฺสาธิกานํ โสฬสนฺนํ ปุริสสตสหสฺสานํ โหนฺตีติ ทสฺเสติ. ภุฺชามีติ ปรมปฺปมาเณน นาฬิโกทนมตฺตํ ภุฺชามิ, เสสํ ปริวาเรตฺวา วิจรนฺตานํ จตฺตาลีสสหสฺสาธิกานํ อฏฺนฺนํ ปุริสสตสหสฺสานํ โหตีติ ทสฺเสติ. เอกถาลิปาโก หิ ทสนฺนํ ชนานํ ปโหติ.

อิติ อิมํ มหาสุทสฺสนกาเล สมฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺสา อนิจฺจตํ ทสฺเสนฺโต อิติ โข ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ วิปริณตาติ ปกติชหเนน นิพฺพุตปทีโป วิย อปณฺณตฺติกภาวํ คตา. เอวํ อนิจฺจา โข ภิกฺขุ สงฺขาราติ เอวํ หุตฺวาอภาวฏฺเน อนิจฺจา. เอตฺตาวตา ภควา ยถา นาม ปุริโส สตหตฺถุพฺเพเธ จมฺปกรุกฺเข นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา อภิรุหิตฺวา จมฺปกปุปฺผํ อาทาย นิสฺเสณึ มุฺจนฺโต โอตเรยฺย, เอวเมวํ นิสฺเสณึ พนฺธนฺโต วิย อเนกวสฺสโกฏิสตสหสฺสุพฺเพธํ มหาสุทสฺสนสมฺปตฺตึ อารุยฺห สมฺปตฺติมตฺถเก ิตํ อนิจฺจลกฺขณํ อาทาย นิสฺเสณึ มุฺจนฺโต วิย โอติณฺโณ. เอวํ อทฺธุวาติ เอวํ อุทกปุพฺพุฬาทโย วิย ธุวภาวรหิตา. เอวํ อนสฺสาสิกาติ เอวํ สุปินเก ปีตปานียํ วิย อนุลิตฺตจนฺทนํ วิย จ อสฺสาสวิรหิตา. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต อนิจฺจลกฺขณํ กถิตํ. ปฺจเม สพฺพํ วุตฺตนยเมว. ฉฏฺํ ตถา พุชฺฌนกสฺส อชฺฌาสเยน วุตฺตํ. จตุตฺถาทีนิ.

๗. คทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา

๙๙. สตฺตเม ยํ มหาสมุทฺโทติ ยสฺมึ สมเย ปฺจเม สูริเย อุฏฺิเต มหาสมุทฺโท อุสฺสุสฺสติ. ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ อปฺปฏิวิชฺฌิตฺวา อวิชฺชาย นิวุตานํเยว สตํ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ ปริจฺเฉทํ น วทามิ. สา คทฺทุลพทฺโธติ คทฺทุเลน พทฺธสุนโข. ขีเลติ ปถวิยํ อาโกฏิเต มหาขีเล. ถมฺเภติ นิขณิตฺวา ปิเต ถมฺเภ. เอวเมว โขติ เอตฺถ สุนโข วิย วฏฺฏนิสฺสิโต พาโล, คทฺทุโล วิย ทิฏฺิ, ถมฺโภ วิย สกฺกาโย, คทฺทุลรชฺชุยา ถมฺเภ อุปนิพทฺธสุนขสฺส ถมฺภานุปริวตฺตนํ วิย ทิฏฺิตณฺหาย สกฺกาเย พทฺธสฺส ปุถุชฺชนสฺส สกฺกายานุปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐. อฏฺเม ตสฺมาติ ยสฺมา ทิฏฺิคทฺทุลนิสฺสิตาย ตณฺหารชฺชุยา สกฺกายถมฺเภ อุปนิพทฺโธ วฏฺฏนิสฺสิโต พาลปุถุชฺชโน สพฺพิริยาปเถสุ ขนฺธปฺจกํ นิสฺสาเยว ปวตฺตติ, ยสฺมา วา ทีฆรตฺตมิทํ จิตฺตํ สํกิลิฏฺํ ราเคน โทเสน โมเหน, ตสฺมา. จิตฺตสํกิเลสาติ สุนฺหาตาปิ หิ สตฺตา จิตฺตสํกิเลเสเนว สํกิลิสฺสนฺติ, มลคฺคหิตสรีราปิ จิตฺตสฺส โวทานตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘รูปมฺหิ สํกิลิฏฺมฺหิ, สํกิลิสฺสนฺติ มาณวา;

รูเป สุทฺเธ วิสุชฺฌนฺติ, อนกฺขาตํ มเหสินา.

‘‘จิตฺตมฺหิ สํกิลิฏฺมฺหิ, สํกิลิสฺสนฺติ มาณวา;

จิตฺเต สุทฺเธ วิสุชฺฌนฺติ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา’’ติ.

จรณํ นาม จิตฺตนฺติ วิจรณจิตฺตํ. สงฺขา นาม พฺราหฺมณปาสณฺฑิกา โหนฺติ, เต ปฏโกฏฺกํ กตฺวา ตตฺถ นานปฺปการา สุคติทุคฺคติวเสน สมฺปตฺติวิปตฺติโย เลขาเปตฺวา, ‘‘อิมํ กมฺมํ กตฺวา อิทํ ปฏิลภติ, อิทํ กตฺวา อิท’’นฺติ ทสฺเสนฺตา ตํ จิตฺตํ คเหตฺวา วิจรนฺติ. จิตฺเตเนว จิตฺติตนฺติ จิตฺตกาเรน จินฺเตตฺวา กตตฺตา จิตฺเตน จินฺติตํ นาม. จิตฺตฺเว จิตฺตตรนฺติ ตสฺส จิตฺตสฺส อุปายปริเยสนจิตฺตํ ตโตปิ จิตฺตตรํ. ติรจฺฉานคตา ปาณา จิตฺเตเนว จิตฺติตาติ กมฺมจิตฺเตเนว จิตฺติตา. ตํ ปน กมฺมจิตฺตํ อิเม วฏฺฏกติตฺติราทโย ‘‘เอวํ จิตฺตา ภวิสฺสามา’’ติ อายูหนฺตา นาม นตฺถิ. กมฺมํ ปน โยนึ อุปเนติ, โยนิมูลโก เตสํ จิตฺตภาโว. โยนิอุปคตา หิ สตฺตา ตํตํโยนิเกหิ สทิสจิตฺตาว โหนฺติ. อิติ โยนิสิทฺโธ จิตฺตภาโว, กมฺมสิทฺธา โยนีติ เวทิตพฺพา.

อปิจ จิตฺตํ นาเมตํ สหชาตํ สหชาตธมฺมจิตฺตตาย ภูมิจิตฺตตาย วตฺถุจิตฺตตาย ทฺวารจิตฺตตาย อารมฺมณจิตฺตตาย กมฺมนานตฺตมูลกานํ ลิงฺคนานตฺตสฺานานตฺตโวหารนานตฺตาทีนํ อเนกวิธานํ จิตฺตานํ นิปฺผาทนตายปิ ติรจฺฉานคตจิตฺตโต จิตฺตตรเมว เวทิตพฺพํ.

รชโกติ วตฺเถสุ รงฺเคน รูปสมุฏฺาปนโก. โส ปน อเฉโก อมนาปํ รูปํ กโรติ, เฉโก มนาปํ ทสฺสนียํ, เอวเมว ปุถุชฺชโน อกุสลจิตฺเตน วา าณวิปฺปยุตฺตกุสเลน วา จกฺขุสมฺปทาทิวิรหิตํ วิรูปํ สมุฏฺาเปติ, าณสมฺปยุตฺตกุสเลน จกฺขุสมฺปทาทิสมฺปนฺนํ อภิรูปํ. อฏฺมํ.

๙. วาสิชฏสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑. นวเม เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏิยา อณฺฑานีติ อิมา กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขวเสน ทฺเว อุปมา วุตฺตา. ตาสุ กณฺหปกฺขอุปมา อตฺถสฺส อสาธิกา, อิตรา สาธิกาติ. สุกฺกปกฺขอุปมาย เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – เสยฺยถาติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต, อปีติ สมฺภาวนตฺเถ. อุภเยนาปิ เสยฺยถา นาม, ภิกฺขเวติ ทสฺเสติ. กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ อฏฺ วา ทส วา ทส วา ทฺวาทส วาติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ กุกฺกุฏิยา วุตฺตปฺปการโต อูนาธิกานิปิ อณฺฑานิ โหนฺติ, วจนสิลิฏฺตาย ปน เอวํ วุตฺตํ. เอวฺหิ โลเก สิลิฏฺวจนํ โหติ. ตานสฺสูติ ตานิ อสฺสุ, ตานิ ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. กุกฺกุฏิยา สมฺมา อธิสยิตานีติ ตาย จ ชเนตฺติยา กุกฺกุฏิยา ปกฺเข ปสาเรตฺวา เตสํ อุปริ สยนฺติยา สมฺมา อธิสยิตานิ. สมฺมา ปริเสทิตานีติ กาเลน กาลํ อุตุํ คณฺหาเปนฺติยา สุฏฺุ สมนฺตโต เสทิตานิ อุสฺมีกตานิ. สมฺมา ปริภาวิตานีติ กาเลน กาลํ สุฏฺุ สมนฺตโต ภาวิตานิ, กุกฺกุฏคนฺธํ คาหาปิตานีติ อตฺโถ. กิฺจาปิ ตสฺสา กุกฺกุฏิยาติ ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อิมินา ติวิธกิริยากรเณน อปฺปมาทํ กตฺวา กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปชฺเชยฺย. อถ โข ภพฺพาว เตติ อถ โข เต กุกฺกุฏโปตกา วุตฺตนเยน โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุํ ภพฺพาว. เต หิ ยสฺมา ตาย กุกฺกุฏิยา เอวํ ตีหากาเรหิ ตานิ อณฺฑานิ ปริปาลิยมานานิ น ปูตีนิ โหนฺติ, โย เนสํ อลฺลสิเนโห, โสปิ ปริยาทานํ คจฺฉติ, กปาลํ ตนุกํ โหติ, ปาทนขสิขา จ มุขตุณฺฑกฺจ ขรํ โหติ, สยมฺปิ ปริณามํ คจฺฉนฺติ, กปาลสฺส ตนุตฺตา พหิ อาโลโก อนฺโต ปฺายติ, ตสฺมา ‘‘จิรํ วต มยํ สงฺกุฏิตหตฺถปาทา สมฺพาเธ สยิมฺหา, อยฺจ พหิ อาโลโก ทิสฺสติ, เอตฺถ ทานิ โน สุขวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตุกามา หุตฺวา กปาลํ ปาเทน ปหรนฺติ, คีวํ ปสาเรนฺติ, ตโต ตํ กปาลํ ทฺเวธา ภิชฺชติ. อถ เต ปกฺเข วิธุนนฺตา ตํขณานุรูปํ วิรวนฺตา นิกฺขมนฺติเยว, นิกฺขมิตฺวา จ คามกฺเขตฺตํ อุปโสภยมานา วิจรนฺติ.

เอวเมว โขติ อิทํ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ. ตํ เอวํ อตฺเถน สํสนฺทิตฺวา เวทิตพฺพํ – ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อณฺเฑสุ ติวิธกิริยากรณํ วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ภาวานุโยคํ อนุยุตฺตกาโล, กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยาสมฺปาทเนน อณฺฑานํ อปูติภาโว วิย ภาวนานุโยคมนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส อปริหานิ, ตสฺสา ติวิธกิริยากรเณน อลฺลสิเนหปริยาทานํ วิย ตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน ภวตฺตยานุคตนิกนฺติสิเนหปริยาทานํ, อณฺฑกปาลานํ ตนุภาโว วิย ตสฺส ภิกฺขุโน อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโว, กุกฺกุฏโปตกานํ ปาทนขสิขมุขตุณฺฑกานํ ถทฺธขรภาโว วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาาณสฺส ติกฺขขรวิปฺปสนฺน สูรภาโว, กุกฺกุฏโปตกานํ ปริณามกาโล วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาาณสฺส ปริณามกาโล วฑฺฒิตกาโล คพฺภคฺคหณกาโล, กุกฺกุฏโปตกานํ ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิทากาโล วิย ตสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนาาณคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา วิจรนฺตสฺส ตชฺชาติกํ อุตุสปฺปายํ วา โภชนสปฺปายํ วา ปุคฺคลสปฺปายํ วา ธมฺมสฺสวนสปฺปายํ วา ลภิตฺวา เอกาสเน นิสินฺนสฺเสว วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตสฺส อนุปุพฺพาธิคเตน อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภิฺาปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา อรหตฺตปตฺตกาโล เวทิตพฺโพ. ยถา ปน กุกฺกุฏโปตกานํ ปริณตภาวํ ตฺวา มาตาปิ อณฺฑโกสํ ภินฺทติ, เอวํ ตถารูปสฺส ภิกฺขุโน าณปริปากํ ตฺวา สตฺถาปิ –

‘‘อุจฺฉินฺท สิเนหมตฺตโน, กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา;

สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย, นิพฺพานํ สุคเตน เทสิต’’นฺติ. (ธ. ป. ๒๘๕) –

อาทินา นเยน โอภาสํ ผริตฺวา คาถาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปหรติ. โส คาถาปริโยสาเน อวิชฺชณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตโต ปฏฺาย ยถา เต กุกฺกุฏโปตกา คามกฺเขตฺตํ อุปโสภยมานา ตตฺถ วิจรนฺติ, เอวํ อยมฺปิ มหาขีณาสโว นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา สงฺฆารามํ อุปโสภยมาโน วิจรติ.

ปลคณฺฑสฺสาติ วฑฺฒกิสฺส. โส หิ โอลมฺพกสงฺขาตํ ปลํ ธาเรตฺวา ทารูนํ คณฺฑํ หรตีติ ปลคณฺโฑติ วุจฺจติ. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑกสฺส คหณฏฺาเน. เอตฺตกํ วต เม อชฺช อาสวานํ ขีณนฺติ ปพฺพชิตสฺส หิ ปพฺพชฺชาสงฺเขเปน อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โยนิโส มนสิกาเรน วตฺตปฏิปตฺติยา จ นิจฺจกาลํ อาสวา ขียนฺติ. เอวํ ขียมานานํ ปน เตสํ ‘‘เอตฺตกํ อชฺช ขีณํ, เอตฺตกํ หิยฺโย’’ติ เอวมสฺส าณํ น โหตีติ อตฺโถ. อิมาย อุปมาย วิปสฺสนายานิสํโส ทีปิโต. เหมนฺติเกนาติ เหมนฺตสมเยน. ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ถิรภาเวน ปริหายนฺติ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ มหาสมุทฺโท วิย สาสนํ ทฏฺพฺพํ, นาวา วิย โยคาวจโร, นาวาย มหาสมุทฺเท ปริยาทานํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อูนปฺจวสฺสกาเล อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺติเก วิจรณํ, นาวาย มหาสมุทฺโททเกน ขชฺชมานานํ พนฺธนานํ ตนุภาโว วิย ภิกฺขุโน ปพฺพชฺชาสงฺเขเปน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ เจว สํโยชนานํ ตนุภาโว, นาวาย ถเล อุกฺขิตฺตกาโล วิย ภิกฺขุโน นิสฺสยมุจฺจกสฺส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺเ วสนกาโล, ทิวา วาตาตเปน สํสุสฺสนํ วิย วิปสฺสนาาเณน ตณฺหาสฺเนหสํสุสฺสนํ, รตฺตึ หิโมทเกน เตมนํ วิย กมฺมฏฺานํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน ปีติปาโมชฺเชน จิตฺตเตมนํ, รตฺตินฺทิวํ วาตาตเปน เจว หิโมทเกน จ ปริสุกฺขปริตินฺตานํ พนฺธนานํ ทุพฺพลภาโว วิย เอกทิวสํ อุตุสปฺปายาทีนิ ลทฺธา วิปสฺสนาาณปีติปาโมชฺเชหิ สํโยชนานํ ภิยฺโยโสมตฺตาย ทุพฺพลภาโว, ปาวุสฺสกเมโฆ วิย อรหตฺตมคฺคาณํ, เมฆวุฏฺิอุทเกน นาวาย พนฺเธ ปูติภาโว วิย อารทฺธวิปสฺสกสฺส รูปสตฺตกาทิวเสน วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตสฺส โอกฺขายมาเน ปกฺขายมาเน กมฺมฏฺาเน เอกทิวสํ อุตุสปฺปายาทีนิ ลทฺธา เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส อรหตฺตผลาธิคโม, ปูติพนฺธนาวาย กฺจิ กาลํ านํ วิย ขีณสํโยชนสฺส อรหโต มหาชนํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส ยาวตายุกํ านํ, ปูติพนฺธนาวาย อนุปุพฺเพน ภิชฺชิตฺวา อปณฺณตฺติกภาวูปคโม วิย ขีณาสวสฺส อุปาทิณฺณกฺขนฺธเภเทน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตสฺส อปณฺณตฺติกภาวูปคโมติ อิมาย อุปมาย สํโยชนานํ ทุพฺพลตา ทีปิตา. นวมํ.

๑๐. อนิจฺจสฺาสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒. ทสเม อนิจฺจสฺาติ อนิจฺจํ อนิจฺจนฺติ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. ปริยาทิยตีติ เขปยติ. สพฺพํ อสฺมิมานนฺติ นววิธํ อสฺมิมานํ. มูลสนฺตานกานีติ สนฺตาเนตฺวา ิตมูลานิ. มหานงฺคลํ วิย หิ อนิจฺจสฺา, ขุทฺทานุขุทฺทกานิ มูลสนฺตานกานิ วิย กิเลสา, ยถา กสฺสโก กสนฺโต นงฺคเลน ตานิ ปทาเลติ, เอวํ โยคี อนิจฺจสฺํ ภาเวนฺโต อนิจฺจสฺาาเณน กิเลเส ปทาเลตีติ อิทเมตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ.

โอธุนาตีติ เหฏฺา ธุนาติ. นิทฺธุนาตีติ ปปฺโผเฏติ. นิจฺโฉเฏตีติ ปปฺโผเฏตฺวา ฉฑฺเฑติ. อิธาปิ ปพฺพชานิ วิย กิเลสา, ลายนํ นิจฺโฉฏนํ วิย อนิจฺจสฺาาณนฺติ อิมินา อตฺเถน อุปมา สํสนฺเทตพฺพา.

วณฺฏจฺฉินฺนายาติ ติณฺเหน ขุรปฺเปน วณฺฏจฺฉินฺนาย. ตทนฺวยานิ ภวนฺตีติ ตํ อมฺพปิณฺฑึ อนุคจฺฉนฺติ, ตสฺสา ปตมานาย อมฺพานิ ภูมิยํ ปตนฺติ. อิธาปิ อมฺพปิณฺฑิ วิย กิเลสา, ติณฺหขุรปฺโป วิย อนิจฺจสฺา, ยถา ขุรปฺเปน ฉินฺนาย อมฺพปิณฺฑิยา สพฺพานิ อมฺพานิ ภูมิยํ ปตนฺติ, เอวํ อนิจฺจสฺาาเณน กิเลสานํ มูลภูตาย อวิชฺชาย ฉินฺนาย สพฺพกิเลสา สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺตีติ, อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ.

กูฏงฺคมาติ กูฏํ คจฺฉนฺติ. กูฏนินฺนาติ กูฏํ ปวิสนภาเวน กูเฏ นินฺนา. กูฏสโมสรณาติ กูเฏ สโมสริตฺวา ิตา. อิธาปิ กูฏํ วิย อนิจฺจสฺา, โคปานสิโย วิย จตุภูมกกุสลธมฺมา, ยถา สพฺพโคปานสีนํ กูฏํ อคฺคํ, เอวํ กุสลธมฺมานํ อนิจฺจสฺา อคฺคา. นนุ จ อนิจฺจสฺา โลกิยา, สา โลกิยกุสลานํ ตาว อคฺคํ โหตุ, โลกุตฺตรานํ กถํ อคฺคนฺติ? เตสมฺปิ ปฏิลาภกรณตฺเถน อคฺคนฺติ เวทิตพฺพา. อิมินา อุปาเยน สพฺพาสุ อุปมาสุ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. ปุริมาหิ ปเนตฺถ ตีหิ อนิจฺจสฺาย กิจฺจํ, ปจฺฉิมาหิ พลนฺติ. ทสมํ.

ปุปฺผวคฺโค ทสโม.

มชฺฌิมปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๑. อนฺตวคฺโค

๑. อนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓. อนฺตวคฺคสฺส ปเม อนฺตาติ โกฏฺาสา. อิทํ สุตฺตํ จตุสจฺจวเสน ปฺจกฺขนฺเธ โยเชตฺวา อนฺโตติ วจเนน พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน วุตฺตํ. ปมํ.

๒-๓. ทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๔-๑๐๕. ทุติยมฺปิ ปฺจกฺขนฺเธ จตุสจฺจวเสน โยเชตฺวา ทุกฺขนฺติ พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสเยน กถิตํ. ตติยมฺปิ ตเถว สกฺกาโยติ พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสเยน กถิตํ. ทุติยตติยานิ.

๔. ปริฺเยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๖. จตุตฺเถ ปริฺเยฺเยติ ปริชานิตพฺเพ สมติกฺกมิตพฺเพ. ปริฺนฺติ สมติกฺกมํ. ปริฺาตาวินฺติ ตาย ปริฺาย ปริชานิตฺวา สมติกฺกมิตฺวา ิตํ. ราคกฺขโยติอาทีหิ นิพฺพานํ ทสฺสิตํ. จตุตฺถํ.

๕-๑๐. สมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๗-๑๑๒. ปฺจมาทีสุ จตูสุ จตฺตาริ สจฺจานิ กถิตานิ. นวมทสเมสุ กิเลสปฺปหานนฺติ. ปฺจมาทีนิ.

อนฺตวคฺโค เอกาทสโม.

๑๒. ธมฺมกถิกวคฺโค

๑-๒. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๓-๑๑๔. ธมฺมกถิกวคฺคสฺส ปเม เอตฺตาวตา จ อวิชฺชาคโต โหตีติ ยาวตา อิมาย จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณภูตาย อวิชฺชาย สมนฺนาคโต, เอตฺตาวตา อวิชฺชาคโต โหตีติ อตฺโถ. ทุติเยปิ เอเสว นโย. ปมทุติยานิ.

๓. ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕. ตติเย ปเมน ธมฺมกถิโก, ทุติเยน เสขภูมิ, ตติเยน อเสขภูมีติ เอวํ ธมฺมกถิกํ ปุจฺฉิเตน วิเสเสตฺวา ทฺเว ภูมิโย กถิตา. ตติยํ.

๔. ทุติยธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖. จตุตฺเถ ติสฺสนฺนมฺปิ ปุจฺฉานํ ตีณิ วิสฺสชฺชนานิ กถิตานิ. จตุตฺถํ.

๕-๙. พนฺธนสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๗-๑๒๑. ปฺจเม อตีรทสฺสีติ ตีรํ วุจฺจติ วฏฺฏํ, ตํ น ปสฺสติ. อปารทสฺสีติ ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตํ น ปสฺสติ. พทฺโธติ กิเลสพนฺธเนน พทฺโธ หุตฺวา ชียติ จ มียติ จ อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ คจฺฉตีติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขํ กถิตนฺติ. ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ปฺจมาทีนิ.

๑๐. สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๒๒. ทสเม อนิจฺจโตติอาทีสุ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจโต, ปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขโต, อาพาธฏฺเน โรคโต, อนฺโตโทสฏฺเน คณฺฑโต, เตสํ เตสํ คณฺฑานํ ปจฺจยภาเวน วา ขณนฏฺเน วา สลฺลโต ทุกฺขฏฺเน อฆโต, วิสภาคมหาภูตสมุฏฺานอาพาธปจฺจยฏฺเน อาพาธโต, อสกฏฺเน ปรโต, ปลุชฺชนฏฺเน ปโลกโต, สตฺตสุฺตฏฺเน สุฺโต, อตฺตาภาเวน อนตฺตโต. เอวเมตฺถ ‘‘อนิจฺจโต ปโลกโต’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ อนิจฺจมนสิกาโร, ‘‘สุฺโต อนตฺตโต’’ติ ทฺวีหิ อนตฺตมนสิกาโร, เสเสหิ ทุกฺขมนสิกาโร วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ทสมํ.

๑๑. สุตวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๒๓. ตถา เอกาทสเม. ทสมสฺมิฺหิ ‘‘สีลวตา’’ติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ วุตฺตํ, อิธ สุตวตาติ กมฺมฏฺานสุตํ อิทเมว นานากรณํ. เอกาทสมํ.

๑๒-๑๓. กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๔-๑๒๕. ทฺวาทสมเตรสมานิ ราหุโลวาทสทิสาเนวาติ. ทฺวาทสมเตรสมานิ.

ธมฺมกถิกวคฺโค ทฺวาทสโม.

๑๓. อวิชฺชาวคฺโค

๑-๑๐. สมุทยธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๖-๑๓๕. อวิชฺชาวคฺโค อุตฺตานตฺโถว. อิมสฺมิฺหิ วคฺเค สพฺพสุตฺเตสุ จตุสจฺจเมว กถิตํ.

อวิชฺชาวคฺโค เตรสโม.

๑๔. กุกฺกุฬวคฺโค

๑-๑๓. กุกฺกุฬสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓๖-๑๔๙. กุกฺกุฬวคฺคสฺส ปเม กุกฺกุฬนฺติ สนฺตตฺตํ อาทิตฺตํ ฉาริกราสึ วิย มหาปริฬาหํ. อิมสฺมึ สุตฺเต ทุกฺขลกฺขณํ กถิตํ, เสเสสุ อนิจฺจลกฺขณาทีนิ. สพฺพานิ เจตานิ ปาฏิเยกฺกํ ปุคฺคลชฺฌาสเยน กถิตานีติ.

กุกฺกุฬวคฺโค จุทฺทสโม.

๑๕. ทิฏฺิวคฺโค

๑-๙. อชฺฌตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๐-๑๕๘. ทิฏฺิวคฺคสฺส ปเม กึ อุปาทายาติ กึ ปฏิจฺจ. ทุติเย กึ อภินิวิสฺสาติ กึ อภินิวิสิตฺวา, ปจฺจยํ กตฺวาติ อตฺโถ. ตติยาทีสุ ทิฏฺีติอาทีนิ ปุคฺคลชฺฌาสเยน วุตฺตานิ. ปมาทีนิ.

๑๐. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๕๙. ทสเม อุปสงฺกมีติ อฺเ ภิกฺขู ปฺจกฺขนฺธกมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา ยุฺชิตฺวา ฆเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก อฺํ พฺยากโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อหมฺปิ ปฺจกฺขนฺธกมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา ยุฺชนฺโต ฆเฏนฺโต, อรหตฺตํ ปตฺวา อฺํ พฺยากริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ. สตฺถา ปน อตฺตโน ธรมานกาเล เถรสฺส อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌานํ กิเลสานํ ปหานํ อปสฺสนฺโตปิ ‘‘อิมสฺส จิตฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ กเถสิ. ตสฺสาปิ เอกํ ทฺเว วาเร มนสิ กตฺวาว พุทฺธุปฏฺานเวลา ชาตาติ คนฺตพฺพํ โหติ. อิติสฺส จิตฺตํ สมฺปหํสมาโน วิมุตฺติปริปาจนียธมฺโมว โส กมฺมฏฺานานุโยโค ชาโตติ. ทสมํ.

ทิฏฺิวคฺโค ปนฺนรสโม.

อุปริปณฺณาสโก สมตฺโต.

ขนฺธสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ราธสํยุตฺตํ

๑. ปมวคฺโค

๑. มารสุตฺตวณฺณนา

๑๖๐. ราธสํยุตฺตสฺส ปเม มาโร วา อสฺสาติ มรณํ วา ภเวยฺย. มาเรตา วาติ มาเรตพฺโพ วา. โย วา ปน มียตีติ โย วา ปน มรติ. นิพฺพิทตฺถนฺติ นิพฺพิทาาณตฺถํ. นิพฺพานตฺถาติ ผลวิมุตฺติ นาเมสา อนุปาทานิพฺพานตฺถาติ อตฺโถ. อจฺจยาสีติ อติกฺกนฺโตสิ. นิพฺพาโนคธนฺติ นิพฺพาเน ปติฏฺิตํ. อิทํ มคฺคพฺรหฺมจริยํ นาม นิพฺพานพฺภนฺตเร วุสฺสติ, น นิพฺพานํ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. นิพฺพานปริโยสานนฺติ นิพฺพานํ อสฺส ปริโยสานํ, นิปฺผตฺติ นิฏฺาติ อตฺโถ. ปมํ.

๒-๑๐. สตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๖๑-๑๖๙. ทุติเย สตฺโต สตฺโตติ ลคฺคปุจฺฉา. ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโตติ ตตฺร ลคฺโค ตตฺร วิลคฺโค. ปํสฺวาคารเกหีติ ปํสุฆรเกหิ. เกฬายนฺตีติ กีฬนฺติ. ธนายนฺตีติ ธนํ วิย มฺนฺติ. มมายนฺตีติ ‘‘มม อิทํ, มม อิท’’นฺติ มมตฺตํ กโรนฺติ, อฺสฺส ผุสิตุมฺปิ น เทนฺติ. วิกีฬนิยํ กโรนฺตีติ ‘‘นิฏฺิตา กีฬา’’ติ เต ภินฺทมานา กีฬาวิคมํ กโรนฺติ. ตติเย ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ. จตุตฺถํ อุตฺตานเมว. ปฺจมาทีสุ จตูสุ จตฺตาริ สจฺจานิ กถิตานิ, ทฺวีสุ กิเลสปฺปหานนฺติ. ทุติยาทีนิ.

ปโม วคฺโค.

๒. ทุติยวคฺโค

๑-๑๒. มารสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๐-๑๘๑. ทุติยวคฺคสฺส ปเม มาโร, มาโรติ มรณํ ปุจฺฉติ. ยสฺมา ปน รูปาทิวินิมุตฺตํ มรณํ นาม นตฺถิ, เตนสฺส ภควา รูปํ โข, ราธ, มาโรติอาทิมาห. ทุติเย มารธมฺโมติ มรณธมฺโม. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

ทุติโย วคฺโค.

๓-๔. อายาจนวคฺคาทิ

๑-๑๑. มาราทิสุตฺตเอกาทสกวณฺณนา

๑๘๒-๒๐๕. ตโต ปรํ อุตฺตานตฺถเมว. อยฺหิ ราธตฺเถโร ปฏิภานิยตฺเถโร นาม. ตถาคตสฺส อิมํ เถรํ ทิสฺวา สุขุมํ การณํ อุปฏฺาติ. เตนสฺส ภควา นานานเยหิ ธมฺมํ เทเสติ. เอวํ อิมสฺมึ ราธสํยุตฺเต อาทิโต ทฺเว วคฺคา ปุจฺฉาวเสน เทสิตา, ตติโย อายาจเนน, จตุตฺโถ อุปนิสินฺนกกถาวเสน. สกลมฺปิ ปเนตํ ราธสํยุตฺตํ เถรสฺส วิมุตฺติปริปาจนียธมฺมวเสเนว คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ราธสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทิฏฺิสํยุตฺตํ

๑. โสตาปตฺติวคฺโค

๑. วาตสุตฺตวณฺณนา

๒๐๖. ทิฏฺิสํยุตฺเต น วาตา วายนฺตีติอาทีสุ เอวํ กิร เตสํ ทิฏฺิ – ‘‘เยปิ เอเต รุกฺขสาขาทีนิ ภฺชนฺตา วาตา วายนฺติ, น เอเต วาตา, วาตเลโส นาเมโส, วาโต ปน เอสิกตฺถมฺโภ วิย ปพฺพตกูฏํ วิย จ ิโต. ตถา ยาปิ เอตา ติณกฏฺาทีนิ วหนฺติโย นทิโย สนฺทนฺติ, น เอตฺถ อุทกํ สนฺทกิ, อุทกเลโส นาเมส, อุทกํ ปน เอสิกตฺถมฺโภ วิย ปพฺพตกูฏํ วิย จ ิตํ. ยาปิมา คพฺภินิโย วิชายนฺตีติ จ วุจฺจนฺติ, กิฺจาปิ ตา มิลาตุทรา โหนฺติ, คพฺโภ ปน น นิกฺขมติ, คพฺภเลโส นาเมโส, คพฺโภ ปน เอสิกตฺถมฺโภ วิย ปพฺพตกูฏํ วิย จ ิโต. เยปิ เอเต จนฺทิมสูริยา อุเทนฺติ วา อเปนฺติ วา, เนว เต อุเทนฺติ น อเปนฺติ, จนฺทิมสูริยเลโส นาเมส, จนฺทิมสูริยา ปน เอสิกตฺถมฺโภ วิย ปพฺพตกูฏํ วิย จ ิตา’’ติ.

๒-๔. เอตํมมสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๗-๒๐๙. ทิฏฺนฺติอาทีสุ ทิฏฺํ รูปายตนํ. สุตํ สทฺทายตนํ. มุตํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ. ตฺหิ ปตฺวา คเหตพฺพโต มุตนฺติ จ วุตฺตํ. อวเสสานิ สตฺตายตนานิ วิฺาตํ นาม. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ. โลกสฺมิฺหิ ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา โนปตฺตมฺปิ, อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ, อปริเยสิตฺวา โนปตฺตมฺปิ. ตตฺถ ปริเยสิตฺวา ปตฺตํ ปตฺตํ นาม, ปริเยสิตฺวา โนปตฺตํ ปริเยสิตํ นาม. อปริเยสิตฺวา ปตฺตฺจ อปริเยสิตฺวา โนปตฺตฺจ มนสานุวิจริตํ นาม. อถ วา ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ ปตฺตฏฺเน ปตฺตํ นาม, ปริเยสิตฺวา โนปตฺตเมว ปริเยสิตํ นาม, อปริเยสิตฺวา โนปตฺตํ มนสานุวิจริตํ นาม. สพฺพํ วา เอตํ มนสา อนุวิจริตเมว.

๕. นตฺถิทินฺนสุตฺตวณฺณนา

๒๑๐. นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีสุ นตฺถิ ทินฺนนฺติ ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธาย วทนฺติ. ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค. หุตนฺติ ปเหณกสกฺกาโร อธิปฺเปโต. ตมฺปิ อุภยํ ผลาภาวเมว สนฺธาย ปฏิกฺขิปนฺติ. สุกตทุกฺกฏานนฺติ สุกตทุกฺกตานํ, กุสลากุสลานนฺติ อตฺโถ. ผลํ วิปาโกติ ยํ ผลนฺติ วา วิปาโกติ วา วุจฺจติ, ตํ นตฺถีติ วทนฺติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถิ. นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธ โลเก ิตสฺสปิ ปโร โลโก นตฺถิ, สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตีติ ทสฺเสนฺติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ เตสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลาภาววเสน วทนฺติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวิตฺวา อุปฺปชฺชนกสตฺตา นาม นตฺถีติ วทนฺติ. นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณาติ โลเก สมฺมาปฏิปนฺนา สมณพฺราหฺมณา นาม นตฺถีติ วทนฺติ.

จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโย. ปถวี ปถวีกายนฺติ อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ พาหิรํ ปถวีธาตุํ. อนุเปตีติ อนุยาติ. อนุปคจฺฉตีติ ตสฺเสว เววจนํ, อนุคจฺฉตีติปิ อตฺโถ. อุภเยนาปิ อุเปติ อุปคจฺฉตีติ ทสฺเสนฺติ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. อินฺทฺริยานีติ มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ. สงฺกมนฺตีติ อากาสํ ปกฺขนฺทนฺติ. อาสนฺทิปฺจมาติ นิปนฺนมฺเจน ปฺจมา, มฺโจ เจว, จตฺตาโร มฺจปาเท คเหตฺวา ิตา จตฺตาโร ปุริสา จาติ อตฺโถ. ยาว อาฬาหนาติ ยาว สุสานา. ปทานีติ ‘‘อยํ เอวํ สีลวา อโหสิ, เอวํ ทุสฺสีโล’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตานิ คุณาคุณปทานิ. สรีรเมว วา เอตฺถ ปทานีติ อธิปฺเปตํ. กาโปตกานีติ กโปตกวณฺณานิ, ปาราวตปกฺขวณฺณานีติ อตฺโถ. ภสฺสนฺตาติ ภสฺมนฺตา. อยเมว วา ปาฬิ. อาหุติโยติ ยํ ปเหณกสกฺการาทิเภทํ ทินฺนทานํ, สพฺพํ ตํ ฉาริกาวสานเมว โหติ, น ตโต ปรํ ผลทายกํ หุตฺวา คจฺฉตีติ อตฺโถ. ทตฺตุปฺตฺตนฺติ ทตฺตูหิ พาลมนุสฺเสหิ ปฺตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พาเลหิ อพุทฺธีหิ ปฺตฺตมิทํ ทานํ, น ปณฺฑิเตหิ. พาลา เทนฺติ, ปณฺฑิตา คณฺหนฺตีติ ทสฺเสนฺติ.

๖. กโรโตสุตฺตวณฺณนา

๒๑๑. กโรโตติ สหตฺถา กโรนฺตสฺส. การยโตติ อาณตฺติยา กาเรนฺตสฺส. ฉินฺทโตติ ปเรสํ หตฺถาทีนิ ฉินฺทนฺตสฺส. เฉทาปยโตติ ปเรหิ เฉทาเปนฺตสฺส. ปจโตติ ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺส. ปจาปยโตติ ปเรหิ ทณฺฑาทินา ปีฬาเปนฺตสฺส. โสจโต โสจาปยโตติ ปรสฺส ภณฺฑหรณาทีหิ โสกํ สยํ กโรนฺตสฺสาปิ ปเรหิ กาเรนฺตสฺสาปิ. กิลมโต กิลมาปยโตติ อาหารุปจฺเฉทพนฺธนาคารปเวสนาทีหิ สยํ กิลเมนฺตสฺสปิ ปเรหิ กิลมาเปนฺตสฺสปิ. ผนฺทโต ผนฺทาปยโตติ ปรํ ผนฺทนฺตํ ผนฺทนกาเล สยมฺปิ ผนฺทโต ปเรมฺปิ ผนฺทาปยโต. ปาณมติปาตยโตติ ปาณํ หนนฺตสฺสปิ หนาเปนฺตสฺสปิ. เอวํ สพฺพตฺถ กรณการาปนวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สนฺธินฺติ ฆรสนฺธึ. นิลฺโลปนฺติ มหาวิโลปํ. เอกาคาริกนฺติ เอกเมว ฆรํ ปริวาเรตฺวา วิลุมฺปนํ. ปริปนฺเถ ติฏฺโตติ อาคตาคตานํ อจฺฉินฺทนตฺถํ มคฺเค ติฏฺโต. กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ ยํกิฺจิ ปาปํ กโรมีติ สฺาย กโรโตปิ ปาปํ น กรียติ, นตฺถิ ปาปํ. สตฺตา ปน กโรมาติ เอวํสฺิโน โหนฺตีติ ทีเปนฺติ. ขุรปริยนฺเตนาติ ขุรเนมินา, ขุรธารสทิสปริยนฺเตน วา. เอกมํสขลนฺติ เอกมํสราสึ. ปุฺชนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ตโตนิทานนฺติ เอกมํสขลกรณนิทานํ.

ทกฺขิณนฺติ ทกฺขิณตีเร มนุสฺสา กกฺขฬา ทารุณา, เต สนฺธาย หนนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. อุตฺตรนฺติ อุตฺตรตีเร สทฺธา โหนฺติ ปสนฺนา พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา, เต สนฺธาย ททนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยชนฺโตติ มหายาคํ กโรนฺโต. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน อุโปสถกมฺเมน. สํยเมนาติ สีลสํยเมน. สจฺจวชฺเชนาติ สจฺจวจเนน. อาคโมติ อาคมนํ, ปวตฺตีติ อตฺโถ. สพฺพถาปิ ปาปปุฺานํ กิริยเมว ปฏิกฺขิปนฺติ.

๗. เหตุสุตฺตวณฺณนา

๒๑๒. นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโยติ เอตฺถ ปจฺจโยติ เหตุเววจนเมว. อุภเยนาปิ วิชฺชมานเมว กายทุจฺจริตาทีนํ สํกิเลสปจฺจยํ, กายสุจริตาทีนฺจ วิสุทฺธิปจฺจยํ ปฏิกฺขิปนฺติ. นตฺถิ พลนฺติ ยมฺหิ อตฺตโน พเล ปติฏฺิตา อิเม สตฺตา เทวตฺตมฺปิ มารตฺตมฺปิ พฺรหฺมตฺตมฺปิ สาวกโพธิมฺปิ ปจฺเจกโพธิมฺปิ สพฺพฺุตมฺปิ ปาปุณนฺติ, ตํ พลํ ปฏิกฺขิปนฺติ. นตฺถิ วีริยนฺติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนาเนว. ‘‘อิทํ โน วีริเยน, อิทํ ปุริสถาเมน, อิทํ ปุริสปรกฺกเมน ปตฺต’’นฺติ, เอวํ ปวตฺตวจนปฏิกฺเขปกรณวเสน ปเนตานิ วิสุํ อาทิยนฺติ.

สพฺเพ สตฺตาติ โอฏฺโคณคทฺรภาทโย อนวเสเส ปริคฺคณฺหนฺติ. สพฺเพ ปาณาติ เอกินฺทฺริโย ปาโณ, ทฺวินฺทฺริโย ปาโณติอาทิวเสน วทนฺติ. สพฺเพ ภูตาติ อณฺฑโกสวตฺถิโกเสสุ ภูเต สนฺธาย วทนฺติ. สพฺเพ ชีวาติ สาลิยวโคธุมาทโย สนฺธาย วทนฺติ. เตสุ หิ เต วิรุหนภาเวน ชีวสฺิโน. อวสา อพลา อวีริยาติ เตสํ อตฺตโน วโส วา พลํ วา วีริยํ วา นตฺถิ. นิยติสงฺคติภาวปริณตาติ เอตฺถ นิยตีติ นิยตตา. สงฺคตีติ ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ภาโวติ สภาโวเยว. เอวํ นิยติยา จ สงฺคติยา จ ภาเวน จ ปริณตา นานปฺปการตํ ปตฺตา. เยน หิ ยถา ภวิตพฺพํ, โส ตเถว ภวติ. เยน น ภวิตพฺพํ, โส น ภวตีติ ทสฺเสนฺติ. ฉสฺเววาภิชาตีสูติ ฉสุ เอว อภิชาตีสุ ตฺวา สุขฺจ ทุกฺขฺจ ปฏิสํเวเทนฺติ, อฺา สุขทุกฺขภูมิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺติ.

๘-๑๐. มหาทิฏฺิสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๑๓-๒๑๕. อกฏาติ อกตา. อกฏวิธาติ อกตวิธานา, ‘‘เอวํ กโรหี’’ติ เกนจิ การิตาปิ น โหนฺตีติ อตฺโถ. อนิมฺมิตาติ อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตา. อนิมฺมาตาติ อนิมฺมาปิตา. ‘‘อนิมฺมิตพฺพา’’ติปิ ปาโ, น นิมฺมิตพฺพาติ อตฺโถ. วฺฌาติ วฺฌปสุวฺฌตาลาทโย วิย อผลา กสฺสจิ อชนกา. ปพฺพตกูฏํ วิย ิตาติ กูฏฏฺา. เอสิกฏฺายิโน วิย หุตฺวา ิตาติ เอสิกฏฺายิฏฺิตา, ยถา สุนิขาโต เอสิกตฺถมฺโภ นิจฺจโล ติฏฺติ, เอวํ ิตาติ อตฺโถ. อิฺชนฺตีติ เอสิกตฺถมฺโภ วิย ิตตฺตา น จลนฺติ. น วิปริณมนฺตีติ ปกตึ น วิชหนฺติ. น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ อฺมฺํ น อุปหนนฺติ. นาลนฺติ น สมตฺถา. ปถวีกาโยติอาทีสุ ปถวีเยว ปถวีกาโย, ปถวีสมูโห วา. สตฺตนฺนํตฺเวว กายานนฺติ ยถา มุคฺคราสิอาทีสุ ปหฏํ สตฺถํ มุคฺคราสิอาทีนํ อนฺตเรเนว ปวิสติ, เอวํ สตฺตนฺนํ กายานํ อนฺตเรน ฉิทฺเทน วิวเรน สตฺถํ ปวิสติ. ตตฺถ ‘‘อหํ อิมํ ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ เกวลํ สฺามตฺตเมว โหตีติ ทสฺเสนฺติ.

โยนิปมุขสตสหสฺสานีติ ปมุขโยนีนํ อุตฺตมโยนีนํ จุทฺทสสตสหสฺสานิ อฺานิ จ สฏฺิสตานิ อฺานิ จ ฉสตานิ ปฺจ จ กมฺมุโน สตานีติ ปฺจกมฺมสตานิ จาติ เกวลํ ตกฺกมตฺตเกน นิรตฺถกทิฏฺึ ทีเปนฺติ. ปฺจ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมฺมานีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เกจิ ปนาหุ ‘‘ปฺจ กมฺมานีติ ปฺจินฺทฺริยวเสน คณฺหนฺติ, ตีณีติ กายกมฺมาทิวเสนา’’ติ. กมฺเม จ อฑฺฒกมฺเม จาติ เอตฺถ ปนสฺส กายกมฺมวจีกมฺมานิ กมฺมนฺติ ลทฺธิ, มโนกมฺมํ อุปฑฺฒกมฺมนฺติ. ทฺวฏฺิปฏิปทาติ ทฺวาสฏฺิปฏิปทาติ วทนฺติ. ทฺวฏฺนฺตรกปฺปาติ เอกสฺมึ กปฺเป จตุสฏฺิ อนฺตรกปฺปา นาม โหนฺติ, อยํ ปน อฺเ ทฺเว อชานนฺโต เอวมาห.

ฉฬาภิชาติโยติ กณฺหาภิชาติ นีลาภิชาติ โลหิตาภิชาติ หลิทฺทาภิชาติ สุกฺกาภิชาติ ปรมสุกฺกาภิชาตีติ อิมา ฉ อภิชาติโย วทนฺติ. ตตฺถ โอรพฺภิกา สูกริกา สากุณิกา มาควิกา ลุทฺทา มจฺฉฆาตกา โจรา โจรฆาตกา พนฺธนาคาริกา, เย วา ปนฺเปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา, อยํ กณฺหาภิชาตีติ วทนฺติ. ภิกฺขู นีลาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ, ‘‘ภิกฺขู จ กณฺฏกวุตฺติกา’’ติ (อ. นิ. ๖.๕๗) อยํ หิสฺส ปาฬิ เอว. อถ วา กณฺฏกวุตฺติกา เอว นาม เอเก ปพฺพชิตาติ วทนฺติ. โลหิตาภิชาติ นาม นิคณฺา เอกสาฏกาติ วทนฺติ. อิเม กิร ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปณฺฑรตรา. คิหี โอทาตวสนา อเจลกสาวกา หลิทฺทาภิชาตีติ วทนฺติ. เอวํ อตฺตโน ปจฺจยทายเก นิคณฺเหิปิ เชฏฺกตเร กโรนฺติ. อาชีวกา อาชีวินิโย อยํ สุกฺกาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร ปุริเมหิ จตูหิ ปณฺฑรตรา. นนฺโท วจฺโฉ, กิโส สํกิจฺโจ, มกฺขลิ โคสาโล ปรมสุกฺกาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร สพฺเพหิ ปณฺฑรตรา.

อฏฺ ปุริสภูมิโยติ มนฺทภูมิ ขิฑฺฑาภูมิ วีมํสกภูมิ อุชุคตภูมิ เสขภูมิ สมณภูมิ ชานนภูมิ ปนฺนภูมีติ อิมา อฏฺ ปุริสภูมิโยติ วทนฺติ. ตตฺถ ชาตทิวสโต ปฏฺาย สตฺต ทิวเส สมฺพาธฏฺานโต นิกฺขนฺตตฺตา สตฺตา มนฺทา โหนฺติ โมมูหา, อยํ มนฺทภูมีติ วทนฺติ. เย ปน ทุคฺคติโต อาคตา โหนฺติ, เต อภิณฺหํ โรทนฺติ เจว วิรวนฺติ จ, สุคติโต อาคตา ตํ อนุสฺสริตฺวา อนุสฺสริตฺวา หสนฺติ, อยํ ขิฑฺฑาภูมิ นาม. มาตาปิตูนํ หตฺถํ วา ปาทํ วา มฺจํ วา ปีํ วา คเหตฺวา ภูมิยํ ปทนิกฺขิปนํ วีมํสกภูมิ นาม. ปทสา คนฺตุํ สมตฺถกาโล อุชุคตภูมิ นาม. สิปฺปานิ สิกฺขนกาโล เสขภูมิ นาม. ฆรา นิกฺขมฺม ปพฺพชนกาโล สมณภูมิ นาม. อาจริยํ เสวิตฺวา ชานนกาโล ชานนภูมิ นาม. ‘‘ภิกฺขุ จ ปนฺนโก ชิโน น กิฺจิ อาหา’’ติ เอวํ อลาภึ สมณํ ปนฺนภูมีติ วทนฺติ.

เอกูนปฺาส อาชีวกสเตติ เอกูนปฺาส อาชีววุตฺติสตานิ. ปริพฺพาชกสเตติ ปริพฺพาชกปพฺพชฺชาสตานิ. นาควาสสเตติ นาคมณฺฑลสตานิ. วีเส อินฺทฺริยสเตติ วีส อินฺทฺริยสตานิ. ตึเส นิรยสเตติ ตึส นิรยสตานิ. รโชธาตุโยติ รชโอกิรณฏฺานานิ. หตฺถปิฏฺิปาทปิฏฺาทีนิ สนฺธาย วทติ. สตฺต สฺีคพฺภาติ โอฏฺโคณคทฺรภอชปสุมิคมหึเส สนฺธาย วทติ. สตฺต อสฺีคพฺภาติ สาลิยวโคธุมมุคฺคกงฺคุวรกกุทฺรูสเก สนฺธาย วทติ. นิคณฺิคพฺภาติ คณฺิมฺหิ ชาตคพฺภา, อุจฺฉุเวฬุนฬาทโย สนฺธาย วทติ. สตฺต เทวาติ พหู เทวา, โส ปน สตฺตาติ วทติ. มนุสฺสาปิ อนนฺตา, โส สตฺตาติ วทติ. สตฺต เปสาจาติ ปิสาจา มหนฺตมหนฺตา, สตฺตาติ วทติ. สราติ มหาสรา. กณฺณมุณฺฑ-รถการ-อโนตตฺต-สีหปฺปปาต-ฉทฺทนฺต-มุจลินฺท-กุณาลทเห คเหตฺวา วทติ.

ปวุฏาติ คณฺิกา. ปปาตาติ มหาปปาตา. ปปาตสตานีติ ขุทฺทกปปาตสตานิ. สุปินาติ มหาสุปินา. สุปินสตานีติ ขุทฺทกสุปินสตานิ. มหากปฺปิโนติ มหากปฺปานํ. เอตฺถ เอกมฺหา มหาสรา วสฺสสเต วสฺสสเต กุสคฺเคน เอกํ อุทกพินฺทุํ นีหริตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ ตมฺหิ สเร นิรุทเก กเต เอโก มหากปฺโปติ วทติ. เอวรูปานํ มหากปฺปานํ จตุราสีติสตสหสฺสานิ เขเปตฺวา พาเล จ ปณฺฑิเต จ ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรนฺตีติ อยมสฺส ลทฺธิ. ปณฺฑิโตปิ กิร อนฺตราวิสุชฺฌิตุํ น สกฺโกติ, พาโลปิ ตโต อุทฺธํ น คจฺฉติ.

สีเลน วาติ อเจลกสีเลน วา อฺเน วา เยน เกนจิ. วเตนาติ ตาทิเสเนว วเตน. ตเปนาติ ตโปกมฺเมน. อปริปกฺกํ ปริปาเจติ นาม โย ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ อนฺตรา วิสุชฺฌติ. ปริปกฺกํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ นาม โย ‘‘อหํ พาโล’’ติ วุตฺตปริมาณกาลํ อติกฺกมิตฺวา ยาติ. เหวํ นตฺถีติ เอวํ นตฺถิ. ตฺหิ อุภยมฺปิ น สกฺกา กาตุนฺติ ทีเปติ. โทณมิเตติ โทเณน มิตํ วิย. สุขทุกฺเขติ สุขทุกฺขํ. ปริยนฺตกเตติ วุตฺตปริมาเณน กาเลน กตปริยนฺโต. นตฺถิ หายนวฑฺฒเนติ นตฺถิ หายนวฑฺฒนานิ, น สํสาโร ปณฺฑิตสฺส หายติ, น พาลสฺส วฑฺฒตีติ อตฺโถ. อุกฺกํสาวกํเสติ อุกฺกํสาวกํสา. หายนวฑฺฒนานเมเวตํ เววจนํ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปิ นามาติอาทิมาห. ตตฺถ สุตฺตคุเฬติ เวเตฺวา กตสุตฺตคุเฬ. นิพฺเพิยมานเมว ปเลตีติ ปพฺพเต วา รุกฺขคฺเค วา ตฺวา ขิตฺตํ สุตฺตปฺปมาเณน นิพฺเพิยมานเมว คจฺฉติ, สุตฺเต ขีเณ ตตฺเถว ติฏฺติ, น คจฺฉติ เอวเมว พาลา จ ปณฺฑิตา จ กาลวเสน นิพฺเพิยมานา สุขทุกฺขํ ปเลนฺติ, ยถาวุตฺเตน กาเลน อติกฺกมนฺตีติ ทสฺเสติ.

๑๑-๑๘. อนฺตวาสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๑๖-๒๒๓. อนฺตวา โลโกติ เอกโต วฑฺฒิตนิมิตฺตํ โลโกติ คาเหน วา ตกฺเกน วา อุปฺปนฺนทิฏฺิ. อนนฺตวาติ สพฺพโต วฑฺฒิตํ อปฺปมาณนิมิตฺตํ โลโกติ คาเหน วา ตกฺเกน วา อุปฺปนฺนทิฏฺิ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีวฺจ สรีรฺจ เอกเมวาติ อุปฺปนฺนทิฏฺิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ. อิมานิ ตาว โสตาปตฺติมคฺควเสน อฏฺารส เวยฺยากรณานิ เอกํ คมนํ.

๒. ทุติยคมนาทิวคฺควณฺณนา

๒๒๔-๓๐๑. ทุติยํ คมนํ ทุกฺขวเสน วุตฺตํ. ตตฺราปิ อฏฺารเสว เวยฺยากรณานิ, ตโต ปรานิ ‘‘รูปี อตฺตา โหตี’’ติอาทีนิ อฏฺ เวยฺยากรณานิ, เตหิ สทฺธึ ตํ ทุติยเปยฺยาโลติ วุตฺโต.

ตตฺถ รูปีติ อารมฺมณเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คหิตทิฏฺิ. อรูปีติ ฌานํ ‘‘อตฺตา’’ติ คหิตทิฏฺิ. รูปี จ อรูปี จาติ อารมฺมณฺจ ฌานฺจ ‘‘อตฺตา’’ติ คหิตทิฏฺิ. เนว รูปี นารูปีติ ตกฺกมตฺเตน คหิตทิฏฺิ. เอกนฺตสุขีติ ลาภีตกฺกีชาติสฺสรานํ อุปฺปนฺนทิฏฺิ. ฌานลาภิโนปิ หิ อตีเต เอกนฺตสุขํ อตฺตภาวํ มนสิกโรโต เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ตกฺกิโนปิ ‘‘ยถา เอตรหิ อหํ เอกนฺตสุขี, เอวํ สมฺปราเยปิ ภวิสฺสามี’’ติ อุปฺปชฺชติ. ชาติสฺสรสฺสปิ สตฺตฏฺภเว สุขิตภาวํ ปสฺสนฺตสฺส เอวํ อุปฺปชฺชติ, เอกนฺตทุกฺขีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตติยเปยฺยาโล อนิจฺจทุกฺขวเสน เตหิเยว ฉพฺพีสติยา สุตฺเตหิ วุตฺโต, จตุตฺถเปยฺยาโล ติปริวฏฺฏวเสนาติ.

ทิฏฺิสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โอกฺกนฺตสํยุตฺตํ

๑-๑๐. จกฺขุสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๐๒-๓๑๑. โอกฺกนฺตสํยุตฺเต อธิมุจฺจตีติ สทฺธาธิโมกฺขํ ปฏิลภติ. โอกฺกนฺโต สมฺมตฺตนิยามนฺติ ปวิฏฺโ อริยมคฺคํ. อภพฺโพ จ ตาว กาลํ กาตุนฺติ อิมินา อุปฺปนฺเน มคฺเค ผลสฺส อนนฺตรายตํ ทีเปติ. อุปฺปนฺนสฺมิฺหิ มคฺเค ผลสฺส อนฺตรายกรณํ นาม นตฺถิ. เตเนวาห – ‘‘อยฺจ ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน อสฺส, กปฺปสฺส จ อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺส, เนว ตาว กปฺโป อุฑฺฑยฺเหยฺย, ยาวายํ ปุคฺคโล น โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกโรติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ิตกปฺปี’’ติ (ปุ. ป. ๑๗). มตฺตโส นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ ปมาณโต โอโลกนํ ขมนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

โอกฺกนฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อุปฺปาทสํยุตฺตวณฺณนา

๓๑๒-๓๒๑. อุปฺปาทสํยุตฺเต สพฺพํ ปากฏเมว.

อุปฺปาทสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กิเลสสํยุตฺตวณฺณนา

๓๒๒-๓๓๑. กิเลสสํยุตฺเต จิตฺตสฺเสโส อุปกฺกิเลโสติ กตรจิตฺตสฺส? จตุภูมกจิตฺตสฺส. เตภูมกจิตฺตสฺส ตาว โหตุ, โลกุตฺตรสฺส กถํ อุปกฺกิเลโส โหตีติ? อุปฺปตฺตินิวารณโต. โส หิ ตสฺส อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน อุปกฺกิเลโสติ เวทิตพฺโพ. เนกฺขมฺมนินฺนนฺติ นวโลกุตฺตรธมฺมนินฺนํ. จิตฺตนฺติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตํ. อภิฺา สจฺฉิกรณีเยสุ ธมฺเมสูติ ปจฺจเวกฺขณาเณน อภิชานิตฺวา สจฺฉิกาตพฺเพสุ ฉฬภิฺาธมฺเมสุ, เอกํ ธมฺมํ วา คณฺหนฺเตน เนกฺขมฺมนฺติ คเหตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

กิเลสสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สาริปุตฺตสํยุตฺตํ

๑-๙. วิเวกชสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๓๒-๓๔๐. สาริปุตฺตสํยุตฺตสฺส ปเม น เอวํ โหตีติ อหงฺการมมงฺการานํ ปหีนตฺตา เอวํ น โหติ. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. ปมาทีนิ.

๑๐. สุจิมุขีสุตฺตวณฺณนา

๓๔๑. ทสเม สุจิมุขีติ เอวํนามิกา. อุปสงฺกมีติ เถรํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ สุวณฺณวณฺณํ สมนฺตปาสาทิกํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา สทฺธึ ปริหาสํ กริสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิ. อถ เถเรน ตสฺมึ วจเน ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘อิทานิสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ มฺมานา เตน หิ, สมณ, อุพฺภมุโข ภุฺชสีติ อาห. ทิสามุโขติ จตุทฺทิสามุโข, จตสฺโส ทิสา โอโลเกนฺโตติ อตฺโถ. วิทิสามุโขติ จตสฺโส วิทิสา โอโลเกนฺโต.

วตฺถุวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชายาติ วตฺถุวิชฺชาสงฺขาตาย ติรจฺฉานวิชฺชาย. วตฺถุวิชฺชา นาม ลาพุวตฺถุ-กุมฺภณฺฑวตฺถุ-มูลกวตฺถุ-อาทีนํ วตฺถูนํ ผลสมฺปตฺติการณกาลชานนุปาโย. มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปนฺตีติ เตเนว วตฺถุวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาสงฺขาเตน มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, เตสํ วตฺถูนํ สมฺปาทเนน ปสนฺเนหิ มนุสฺเสหิ ทินฺเน ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตา ชีวนฺตีติ อตฺโถ. อโธมุขาติ วตฺถุํ โอโลเกตฺวา ภุฺชมานวเสน อโธมุขา ภุฺชนฺติ นาม. เอวํ สพฺพตฺถ โยชนา กาตพฺพา. อปิ เจตฺถ นกฺขตฺตวิชฺชาติ ‘‘อชฺช อิมํ นกฺขตฺตํ อิมินา นกฺขตฺเตน คนฺตพฺพํ, อิมินา อิทฺจิทฺจ กาตพฺพ’’นฺติ เอวํ ชานนวิชฺชา. ทูเตยฺยนฺติ ทูตกมฺมํ, เตสํ เตสํ สาสนํ คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหิณคมนนฺติ เอกคามสฺมึเยว เอกกุลสฺส สาสเนน อฺกุลํ อุปสงฺกมนํ. องฺควิชฺชาติ อิตฺถิลกฺขณปุริสลกฺขณวเสน องฺคสมฺปตฺตึ ตฺวา ‘‘ตาย องฺคสมฺปตฺติยา อิทํ นาม ลพฺภตี’’ติ เอวํ ชานนวิชฺชา. วิทิสามุขาติ องฺควิชฺชา หิ ตํ ตํ สรีรโกฏฺาสํ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา วิทิสาย ปวตฺตา นาม, ตสฺมา ตาย วิชฺชาย ชีวิกํ กปฺเปตฺวา ภุฺชนฺตา วิทิสามุขา ภุฺชนฺติ นาม. เอวมาโรเจสีติ ‘‘ธมฺมิกํ สมณา’’ติอาทีนิ วทมานา สาสนสฺส นิยฺยานิกํ คุณํ กเถสิ. ตฺจ ปริพฺพาชิกาย กถํ สุตฺวา ปฺจมตฺตานิ กุลสตานิ สาสเน โอตรึสูติ.

สาริปุตฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นาคสํยุตฺตํ

๑. สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา

๓๔๒. นาคสํยุตฺเต อณฺฑชาติ อณฺเฑ ชาตา. ชลาพุชาติ วตฺถิโกเส ชาตา. สํเสทชาติ สํเสเท ชาตา. โอปปาติกาติ อุปปติตฺวา วิย ชาตา. อิทฺจ ปน สุตฺตํ อฏฺุปฺปตฺติยา วุตฺตํ. ภิกฺขูนฺหิ ‘‘กติ นุ โข นาคโยนิโย’’ติ กถา อุทปาทิ. อถ ภควา ปุคฺคลานํ นาคโยนีหิ อุทฺธรณตฺถํ นาคโยนิโย อาวิกโรนฺโต อิมํ สุตฺตมาห.

๒-๕๐. ปณีตตรสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๔๓-๓๙๑. ทุติยาทีสุ โวสฺสฏฺกายาติ อหิตุณฺฑิกปริพุทฺธํ อคเณตฺวา วิสฺสฏฺกายา. ทฺวยการิโนติ ทุวิธการิโน, กุสลากุสลการิโนติ อตฺโถ. สจชฺช มยนฺติ สเจ อชฺช มยํ. สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติ สหภาวํ อาปชฺชติ. ตตฺรสฺส อกุสลํ อุปปตฺติยา ปจฺจโย โหติ, กุสลํ อุปปนฺนานํ สมฺปตฺติยา. อนฺนนฺติ ขาทนียโภชนียํ. ปานนฺติ ยํกิฺจิ ปานกํ. วตฺถนฺติ นิวาสนปารุปนํ. ยานนฺติ ฉตฺตุปาหนํ อาทึ กตฺวา ยํกิฺจิ คมนปจฺจยํ. มาลนฺติ ยํกิฺจิ สุมนมาลาทิปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ จนฺทนาทิคนฺธํ. วิเลปนนฺติ ยํกิฺจิ ฉวิราคกรณํ. เสยฺยาวสถปทีเปยฺยนฺติ มฺจปีาทิเสยฺยํ เอกภูมิกาทิอาวสถํ วฏฺฏิเตลาทิปทีปูปกรณฺจ เทตีติ อตฺโถ. เตสฺหิ ทีฆายุกตาย จ วณฺณวนฺตตาย จ สุขพหุลตาย จ ปตฺถนํ กตฺวา อิมํ ทสวิธํ ทานวตฺถุํ ทตฺวา ตํ สมฺปตฺตึ อนุภวิตุํ ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

นาคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สุปณฺณสํยุตฺตวณฺณนา

๓๙๒-๔๓๗. สุปณฺณสํยุตฺเต ปตฺตานํ วณฺณวนฺตตาย ครุฬา สุปณฺณาติ วุตฺตา. อิธาปิ ปมสุตฺตํ ปุริมนเยเนว อฏฺุปฺปตฺติยํ วุตฺตํ. หรนฺตีติ อุทฺธรนฺติ. อุทฺธรมานา จ ปน เต อตฺตนา หีเน วา สเม วา อุทฺธริตุํ สกฺโกนฺติ, น อตฺตนา ปณีตตเร. สตฺตวิธา หิ อนุทฺธรณียนาคา นาม ปณีตตรา กมฺพลสฺสตรา ธตรฏฺา สตฺตสีทนฺตรวาสิโน ปถวิฏฺกา ปพฺพตฏฺกา วิมานฏฺกาติ. ตตฺร อณฺฑชาทีนํ ชลาพุชาทโย ปณีตตรา, เต เตหิ อนุทฺธรณียา. กมฺพลสฺสตรา ปน นาคเสนาปติโน, เต ยตฺถ กตฺถจิ ทิสฺวา โย โกจิ สุปณฺโณ อุทฺธริตุํ น สกฺโกติ. ธตรฏฺา ปน นาคราชาโน, เตปิ โกจิ อุทฺธริตุํ น สกฺโกติ. เย ปน สตฺตสีทนฺตเร มหาสมุทฺเท วสนฺติ, เต ยสฺมา กตฺถจิ วิกมฺปนํ กาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา โกจิ อุทฺธริตุํ น สกฺโกติ. ปถวิฏฺกาทีนํ นิลียโนกาโส อตฺถิ, ตสฺมา เตปิ อุทฺธริตุํ น สกฺโกติ. เย ปน มหาสมุทฺเท อูมิปิฏฺเ วสนฺติ, เต โย โกจิ สโม วา ปณีตตโร วา สุปณฺโณ อุทฺธริตุํ สกฺโกติ. เสสํ นาคสํยุตฺเต วุตฺตนยเมวาติ.

สุปณฺณสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. คนฺธพฺพกายสํยุตฺตวณฺณนา

๔๓๘-๕๔๙. คนฺธพฺพกายสํยุตฺเต มูลคนฺเธ อธิวตฺถาติ ยสฺส รุกฺขสฺส มูเล คนฺโธ อตฺถิ, ตํ นิสฺสาย นิพฺพตฺตา. โส หิ สกโลปิ รุกฺโข เตสํ อุปกปฺปติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. คนฺธคนฺเธติ มูลาทิคนฺธานํ คนฺเธ. ยสฺส หิ รุกฺขสฺส สพฺเพสมฺปิ มูลาทีนํ คนฺโธ อตฺถิ, โส อิธ คนฺโธ นาม. ตสฺส คนฺธสฺส คนฺเธ, ตสฺมึ อธิวตฺถา. อิธ มูลาทีนิ สพฺพานิ เตสํเยว อุปกปฺปนฺติ. โส ทาตา โหติ มูลคนฺธานนฺติ โส กาฬานุสาริกาทีนํ มูลคนฺธานํ ทาตา โหติ. เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวฺหิ สริกฺขทานมฺปิ ทตฺวา ปตฺถนํ เปนฺติ, อสริกฺขทานมฺปิ. ตํ ทสฺเสตุํ โส อนฺนํ เทตีติอาทิ ทสวิธํ ทานวตฺถุ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

คนฺธพฺพกายสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. วลาหกสํยุตฺตวณฺณนา

๕๕๐-๖๐๖. วลาหกสํยุตฺเต วลาหกกายิกาติ วลาหกนามเก เทวกาเย อุปฺปนฺนา อากาสจาริกเทวา. สีตวลาหกาติ สีตกรณวลาหกา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เจโตปณิธิมนฺวายาติ จิตฺตฏฺปนํ อาคมฺม. สีตํ โหตีติ ยํ วสฺสาเน วา เหมนฺเต วา สีตํ โหติ, ตํ อุตุสมุฏฺานเมว. ยํ ปน สีเตปิ อติสีตํ, คิมฺเห จ อุปฺปนฺนํ สีตํ, ตํ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ สีตํ นาม. อุณฺหํ โหตีติ ยํ คิมฺหาเน อุณฺหํ, ตํ อุตุสมุฏฺานิกํ ปากติกเมว. ยํ ปน อุณฺเหปิ อติอุณฺหํ, สีตกาเล จ อุปฺปนฺนํ อุณฺหํ, ตํ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ อุณฺหํ นาม. อพฺภํ โหตีติ อพฺภมณฺฑโป โหติ. อิธาปิ ยํ วสฺสาเน จ สิสิเร จ อพฺภํ อุปฺปชฺชติ, ตํ อุตุสมุฏฺานิกํ ปากติกเมว. ยํ ปน อพฺเภเยว อติอพฺภํ, สตฺตสตฺตาหมฺปิ จนฺทสูริเย ฉาเทตฺวา เอกนฺธการํ กโรติ, ยฺจ จิตฺตเวสาขมาเสสุ อพฺภํ, ตํ เทวตานุภาเวน อุปฺปนฺนํ อพฺภํ นาม. วาโต โหตีติ โย ตสฺมึ ตสฺมึ อุตุมฺหิ อุตฺตรทกฺขิณาทิปกติวาโต โหติ, อยํ อุตุสมุฏฺาโนว. โยปิ ปน รุกฺขกฺขนฺธาทิปทาลโน อติวาโต นาม อตฺถิ, อยฺเจว, โย จ อฺโปิ อกาลวาโต, อยํ เทวตานุภาวนิพฺพตฺโต นาม. เทโว วสฺสตีติ ยํ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส วสฺสํ, ตํ อุตุสมุฏฺานเมว. ยํ ปน วสฺเสเยว อติวสฺสํ, ยฺจ จิตฺตเวสาขมาเสสุ วสฺสํ, ตํ เทวตานุภาวนิพฺพตฺตํ นาม.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร วสฺสวลาหกเทวปุตฺโต ตลกูฏกวาสิ ขีณาสวตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. เถโร ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ, ภนฺเต, วสฺสวลาหกเทวปุตฺโต’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ กิร จิตฺเตน เทโว วสฺสตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปสฺสิตุกามา มย’’นฺติ. ‘‘เตมิสฺสถ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เมฆสีสํ วา คชฺชิตํ วา น ปฺายติ, กถํ เตมิสฺสามา’’ติ? ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํจิตฺเตน เทโว วสฺสติ, ตุมฺเห ปณฺณสาลํ ปวิสถา’’ติ. ‘‘สาธุ เทวปุตฺตา’’ติ โส ปาเท โธวิตฺวา ปณฺณสาลํ ปาวิสิ. เทวปุตฺโต ตสฺมึ ปวิสนฺเตเยว เอกํ คีตํ คายิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิ. สมนฺตา ติโยชนฏฺานํ เอกเมฆํ อโหสิ. เถโร อทฺธตินฺโต ปณฺณสาลํ ปวิฏฺโติ. อปิจ เทโว นาเมส อฏฺหิ การเณหิ วสฺสติ นาคานุภาเวน สุปณฺณานุภาเวน เทวตานุภาเวน สจฺจกิริยาย อุตุสมุฏฺาเนน มาราวฏฺฏเนน อิทฺธิพเลน วินาสเมเฆนาติ.

วลาหกสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. วจฺฉโคตฺตสํยุตฺตวณฺณนา

๖๐๗-๖๖๑. วจฺฉโคตฺตสํยุตฺเต อฺาณาติ อฺาเณน. เอวํ สพฺพปเทสุ กรณวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สพฺพานิ เจตานิ อฺมฺเววจนาเนวาติ. อิมสฺมิฺจ ปน สํยุตฺเต เอกาทส สุตฺตานิ ปฺจปฺาส เวยฺยากรณานีติ เวทิตพฺพานิ.

วจฺฉโคตฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. ฌานสํยุตฺตํ

๑. สมาธิมูลกสมาปตฺติสุตฺตวณฺณนา

๖๖๒. ฌานสํยุตฺตสฺส ปเม สมาธิกุสโลติ ปมํ ฌานํ ปฺจงฺคิกํ ทุติยํ ติวงฺคิกนฺติ เอวํ องฺคววตฺถานกุสโล. น สมาธิสฺมึ สมาปตฺติกุสโลติ จิตฺตํ หาเสตฺวา กลฺลํ กตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตุํ น สกฺโกติ. อิมินา นเยน เสสปทานิปิ เวทิตพฺพานิ.

๒-๕๕. สมาธิมูลกิติสุตฺตาทิวณฺณนา

๖๖๓-๗๑๖. ทุติยาทีสุ น สมาธิสฺมึ ิติกุสโลติ ฌานํ เปตุํ อกุสโล, สตฺตฏฺอจฺฉรามตฺตํ ฌานํ เปตุํ น สกฺโกติ. น สมาธิสฺมึ วุฏฺานกุสโลติ ฌานโต วุฏฺาตุํ อกุสโล, ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาตุํ น สกฺโกติ. น สมาธิสฺมึ กลฺลิตกุสโลติ จิตฺตํ หาเสตฺวา กลฺลํ กาตุํ อกุสโล. น สมาธิสฺมึ อารมฺมณกุสโลติ กสิณารมฺมเณสุ อกุสโล. น สมาธิสฺมึ โคจรกุสโลติ กมฺมฏฺานโคจเร เจว ภิกฺขาจารโคจเร จ อกุสโล. น สมาธิสฺมึ อภินีหารกุสโลติ กมฺมฏฺานํ อภินีหริตุํ อกุสโล. น สมาธิสฺมึ สกฺกจฺจการีติ ฌานํ อปฺเปตุํ สกฺกจฺจการี น โหติ. น สมาธิสฺมึ สาตจฺจการีติ ฌานปฺปนาย สตตการี น โหติ, กทาจิเทว กโรติ. น สมาธิสฺมึ สปฺปายการีติ สมาธิสฺส สปฺปาเย อุปการกธมฺเม ปูเรตุํ น สกฺโกติ. ตโต ปรํ สมาปตฺติอาทีหิ ปเทหิ โยเชตฺวา จตุกฺกา วุตฺตา. เตสํ อตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สกลํ ปเนตฺถ ฌานสํยุตฺตํ โลกิยชฺฌานวเสเนว กถิตนฺติ.

ฌานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

ขนฺธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย ทุติโย ภาโค.