📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
สํยุตฺตนิกาเย
ขนฺธวคฺคฏีกา
๑. ขนฺธสํยุตฺตํ
๑. นกุลปิตุวคฺโค
๑. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา
๑. ภคฺคา ¶ ¶ นาม ชานปทิโน ราชกุมารา. เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีวเสน ‘‘ภคฺคา’’ตฺเวว วุจฺจตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘เอวํนามเก ชนปเท’’ติ, เอวํ พหุวจนวเสน ลทฺธนาเม’’ติ อตฺโถ. ตสฺมึ วนสณฺเฑติ โย ปน วนสณฺโฑ ปุพฺเพ มิคานํ อภยตฺถาย ทินฺโน, ตสฺมึ วนสณฺเฑ. ยสฺมา โส คหปติ ตสฺมึ นคเร ‘‘นกุลปิตา’’ติ ปุตฺตสฺส วเสน ปฺายิตฺถ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นกุลปิตา’’ติ นกุลสฺส นาม ทารกสฺส ปิตาติ อตฺโถ. ภริยาปิสฺส ‘‘นกุลมาตา’’ติ ปฺายิตฺถ.
ชราชิณฺโณติ ¶ ชราวเสน ชิณฺโณ, น พฺยาธิอาทีนํ วเสน ชิณฺโณ. วโยวุฑฺโฒติ ชิณฺณตฺตา เอว วโยวุฑฺฒิปฺปตฺติยา วุฑฺโฒ, น สีลาทิวุฑฺฒิยา. ชาติยา มหนฺตตาย จิรรตฺตตาย ชาติมหลฺลโก. ติยทฺธคโตติ ปโม มชฺฌิโม ปจฺฉิโมติ ตโย อทฺเธ คโต. ตตฺถ ปมํ ทุติยฺจ อติกฺกนฺตตฺตา ปจฺฉิมํ อุปคตตฺตา วโยอนุปฺปตฺโต. อาตุรกาโยติ ทุกฺขเวทนาปวิสตาย อนสฺสาทกาโย. เคลฺํ ปน ทุกฺขคติกนฺติ ¶ ‘‘คิลานกาโย’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ สจฺจวิภงฺเค (วิภ. ๑๙๐ อาทโย) ทุกฺขสจฺจนิทฺเทเส ทุกฺขคฺคหเณเนว คหิตตฺตา พฺยาธิ น นิทฺทิฏฺโ. นิจฺจปคฺฆรณฏฺเนาติ สพฺพทา อสุจิปคฺฆรณภาเวน. โส ปนสฺส อาตุรภาเวนาติ อาห – ‘‘อาตุรํเยว นามา’’ติ. วิเสเสนาติ อธิกภาเวน. อาตุรตีติ อาตุโร. สงฺคามปฺปตฺโต สนฺตตฺตกาโย. ชราย อาตุรตา ชราตุรตา. กุสลปกฺขวฑฺฒเนน มโน ภาเวนฺตีติ มโนภาวนียา. มนสา วา ภาวนียา สมฺภาวนียาติ มโนภาวนียา. อนุสาสตูติ อนุ อนุ สาสตูติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห – ‘‘ปุนปฺปุนํ สาสตู’’ติ. อปราปรํ ปวตฺติตํ หิตวจนํ. อโนติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โย เอวํ กโรติ, ตสฺส อยํ คุโณ โทโสติ วจนํ. ตนฺติวเสนาติ ตนฺติสนฺนิสฺสเยน อยํ อนุสาสนี นาม. ปเวณีติ ตนฺติยา เอว เววจนํ.
อณฺฑํ วิย ภูโตติ อธิโกปมา กายสฺส อณฺฑโกสโต อพลทุพฺพลภาวโต. เตนาห ‘‘อณฺฑํ หี’’ติอาทิ. พาโลเยว ตาทิสตฺตภาวสมงฺคี มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฏิชานนฺโต.
วิปฺปสนฺนานีติ ปกติมาการํ อติกฺกมิตฺวา วิเสเสน ปสนฺนานิ. เตนาห – ‘‘สุอุ ปสนฺนานี’’ติ. ปสนฺนจิตฺตสมุฏฺิตรูปสมฺปทาหิ ตาหิ ตสฺส มุขวณฺณสฺส ปาริสุทฺธีติ อาห – ‘‘ปริสุทฺโธติ นิทฺโทโส’’ติ. เตเนวาห ‘‘นิรุปกฺกิเลสตายา’’ติอาทิ. เอเตเนวสฺสินฺทฺริยวิปฺปสนฺนตาการณมฺปิ สํวณฺณิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอส มุขวณฺโณ. นยคฺคาหปฺา กิเรสาติ อิทํ อนาวชฺชนวเสเนว วุตฺตภาวํ สนฺธายาห.
ยํ เนว ปุตฺตสฺสาติอาทิ ‘‘โอวทตุ โน, ภนฺเต, ภควา ยถา มยํ ปรโลเกปิ อฺมฺํ สมาคจฺเฉยฺยามา’’ติ วุตฺตวจนํ สนฺธาย วุตฺตเมว. มธุรธมฺมเทสนาเยว สตฺถุ สมฺมุขา ปฏิลทฺธา, ตสฺส อตฺตโน เปมคารวคหิตตฺตา ‘‘อมตาภิเสโก’’ติ เวทิตพฺโพ.
อิทํ ปททฺวยํ. อารกตฺตา กิเลเสหิ มคฺเคน สมุจฺฉินฺนตฺตา. อนเยติ อวฑฺฒิยํ, อนตฺเถติ อตฺโถ. อนเย วา อนุปาเย. น อิริยนโต อวตฺตนโต. อเยติ วฑฺฒิยํ อตฺเถ อุปาเย จ. อรณียโตติ ปยิรุปาสิตพฺพโต. นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา ปุริเมสุ อตฺถวิกปฺเปสุ ¶ , ปจฺฉิเม ¶ ปน สทฺทสตฺถวเสนปิ. ยทิปิ อริยสทฺโท ‘‘เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธกายกมฺมนฺตา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕) วิสุทฺธาสยปโยเคสุ ปุถุชฺชเนสุปิ วฏฺฏติ, อิธ ปน อริยมคฺคาธิคเมน สพฺพโลกุตฺตรภาเวน จ อริยภาโว อธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘พุทฺธา จา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ สปฺปุริสาติ อิทํ ‘‘อริยา สปฺปุริสา’’ติ อิธ วุตฺตปทานํ อตฺถํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน นิปฺปริยายโต อริยสปฺปุริสภาวา อภินฺนสภาวา, ตสฺมา ‘‘สพฺเพว วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอตฺตาวตา หิ พุทฺธสาวโก วุตฺโต, ตสฺส หิ เอกนฺเตน กลฺยาณมิตฺโต อิจฺฉิตพฺโพ ปรโต โฆสมนฺตเรน ปมมคฺคสฺส อนุปฺปชฺชนโต. วิเสสโต จสฺส ภควาว ‘‘กลฺยาณมิตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘มมฺหิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๑๒๙; ๕.๒). โส เอว จ อเวจฺจปสาทาธิคเมน ทฬฺหภตฺติ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’’ติ (อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๕). กตฺุตาทีหิ ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธาติ เอตฺถ กตํ ชานาตีติ กตฺู. กตํ วิทิตํ ปากฏํ กโรตีติ กตเวที. ปจฺเจกพุทฺธา หิ อเนเกสุปิ กปฺปสตสหสฺเสสุ กตํ อุปการํ ชานนฺติ, กตฺจ ปากฏํ กโรนฺติ สติชนนอามิสปฏิคฺคหณาทินา. ตถา สํสารทุกฺขทุกฺขิตสฺส สกฺกจฺจํ กโรนฺติ กิจฺจํ, ยํ อตฺตนา กาตุํ สกฺกา. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน กปฺปานํ อสงฺขฺเยยฺยสหสฺเสสุปิ กตํ อุปการํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสยฺจ ชานนฺติ, ปากฏฺจ กโรนฺติ. สีโห วิย จ เอวํ สพฺพตฺถ สกฺกจฺจเมว ธมฺมเทสนํ กโรนฺเตน พุทฺธกิจฺจํ กโรนฺติ. ยาย ปฏิปตฺติยา อริยา ทิฏฺา นาม โหนฺติ, ตสฺสา อปฺปฏิปชฺชนํ, ตตฺถ จ อาทราภาโว อริยานํ อทสฺสนสีลตา, น จ ทสฺสเน สาธุการิตาติ เวทิตพฺพา. จกฺขุนา อทสฺสาวีติ เอตฺถ จกฺขุ นาม น มํสจกฺขุ เอว, อถ โข ทิพฺพจกฺขุปีติ อาห ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา วา’’ติ. อริยภาโวติ เยหิ โยคโต ‘‘อริยา’’ติ วุจฺจนฺติ, เต มคฺคผลธมฺมา ทฏฺพฺพา.
ตตฺราติ าณทสฺสนสฺเสว ทสฺสนภาเว. วตฺถูติ อธิปฺเปตตฺถาปนการณํ. เอวํ วุตฺเตปีติ เอวํ อฺาปเทเสน อตฺตุปนายิกํ กตฺวา ¶ วุตฺเตปิ. ธมฺมนฺติ โลกุตฺตรธมฺมํ, จตุสจฺจธมฺมํ วา. อริยกรธมฺมา อนิจฺจานุปสฺสนาทโย, วิปสฺสิยมานา วา อนิจฺจาทโย, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ.
อวินีโตติ ¶ น วินีโต อธิสีลสิกฺขาทีนํ วเสน น สิกฺขิโต. เยสํ สํวรวินยาทีนํ อภาเวน อยํ ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจติ, เต ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิโธ วินโย นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สีลสํวโรติ ปาติโมกฺขสํวโร เวทิตพฺโพ, โส จ อตฺถโต กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. สติสํวโรติ อินฺทฺริยารกฺขา, สา จ ตถาปวตฺตา สติเยว. าณสํวโรติ ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๔๑) วตฺวา ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๔๑) วจนโต โสตสงฺขาตานํ ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตอวิชฺชาอวสิฏฺกิเลสานํ สํวโร ปิทหนํ สมุจฺเฉทาณนฺติ เวทิตพฺพํ. ขนฺติสํวโรติ อธิวาสนา, สา จ ตถาปวตฺตา ขนฺธา, อโทโส วา, ‘‘ปฺา’’ติ เกจิ วทนฺติ. วีริยสํวโร กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนวเสน ปวตฺตํ วีริยเมว. เตน เตน องฺเคน ตสฺส ตสฺส องฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. วิกฺขมฺภนวเสน ปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ. เสสปทตฺตเยปิ เอเสว นโย.
อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรนาติอาทิ สีลสํวราทีนํ วิวรณํ. ตตฺถ สมุเปโตติ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘อุปคโต’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๕๑๑) อาคตํ สํวรวิภงฺคํ ทสฺเสติ. กายทุจฺจริตาทีนนฺติ ทุสฺสีลฺยสงฺขาตานํ กายวจีทุจฺจริตาทีนํ มุฏฺสจฺจสงฺขาตสฺส ปมาทสฺส, อภิชฺฌาทีนํ วา อกฺขนฺติอฺาณโกสชฺชานฺจ. สํวรณโตติ ปิทหนโต, วินยนโตติ กายวาจาจิตฺตานํ วิรูปปวตฺติยา วินยนโต, กายทุจฺจริตาทีนํ วา อปนยนโต, กายาทีนํ วา ชิมฺหปวตฺตึ วิจฺฉินฺทิตฺวา อุชุกนยนโตติ อตฺโถ. ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารหานํ กายทุจฺจริตาทีนํ ตถา ตถา อนุปฺปาทนเมว สํวรณํ วินยนฺจ เวทิตพฺพํ.
ยํ ปหานนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสู’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ นามรูปปริจฺเฉทปจฺจยปริคฺคหกงฺขาวิตรณานิ น วิปสฺสนาาณานิ สมฺมสนากาเรน อปฺปวตฺตนโต? สจฺจเมตํ, วิปสฺสนาาณสฺส ปน อธิฏฺานภาวโต เอวํ วุตฺตํ. นามรูปมตฺตมิทํ, ‘‘นตฺถิ เอตฺถ อตฺตา วา อตฺตนิยํ ¶ วา’’ติ เอวํ ปวตฺตาณํ นามรูปววตฺถานํ. สติ วิชฺชมาเน ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย, สยํ วา สตี ตสฺมึ กาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ, สา จ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ เอวํ ปวตฺตา อตฺตทิฏฺิ. ตสฺส นามรูปสฺส กมฺมาวิชฺชาทิปจฺจยปริคฺคณฺหนาณํ ปจฺจยปริคฺคโห. ‘‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา อเหตุทิฏฺิ. ‘‘อิสฺสรปุริสปชาปติปกติอณุกาลาทีหิ โลโก ปวตฺตติ นิวตฺตติ จา’’ติ ตถา ตถา ปวตฺตา ทิฏฺิ วิสมเหตุทิฏฺิ. ตสฺเสวาติ ปจฺจยปริคฺคหสฺเสว. กงฺขาวิตรเณนาติ ยถา เอตรหิ นามรูปสฺส กมฺมาทิปจฺจยโต อุปฺปตฺติ, เอวํ อตีเต อนาคเตปีติ ตีสุ กาเลสุ วิจิกิจฺฉาปนยนาเณน. กถํกถีภาวสฺสาติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ ¶ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปวตฺตาย (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) สํสยปฺปวตฺติยา. กลาปสมฺมสเนนาติ ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๔๘-๔๙) ขนฺธปฺจกํ เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา สมฺมสนวเสน ปวตฺเตน วิปสฺสนาาเณน. อหํ มมาติ คาหสฺสาติ ‘‘อตฺตา อตฺตนิย’’นฺติ คหณสฺส. มคฺคามคฺคววตฺถาเนนาติ มคฺคามคฺคาณวิสุทฺธิยา. อมคฺเค มคฺคสฺายาติ อมคฺเค โอภาสาทิเก ‘‘มคฺโค’’ติ อุปฺปนฺนสฺาย. ยสฺมา สมฺมเทว สงฺขารานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต ‘‘เอวเมเต สงฺขารา อนุรูปการณโต อุปฺปชฺชนฺติ, น ปน อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ คณฺหาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา’’ติ. ยสฺมา ปน สงฺขารานํ วยํ ‘‘ยทิปิเม สงฺขารา อวิจฺฉินฺนา วตฺตนฺติ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา ปน อปฺปฏิสนฺธิกา นิรุชฺฌนฺเตวา’’ติ ปสฺสโต กุโต สสฺสตคฺคาโห. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา’’ติ. ภยทสฺสเนนาติ ภยตูปฏฺานาเณน. สภเยติ สพฺพภยานํ อากรภาวโต สกลทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภาวโต จ สภเย ขนฺธปฺจเก. อภยสฺายาติ ‘‘อภยํ เขม’’นฺติ อุปฺปนฺนสฺาย. อสฺสาทสฺา นาม ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อสฺสาทนวเสน ปวตฺตสฺา, โย ‘‘อาลยาภินิเวโส’’ติปิ วุจฺจติ. อภิรติสฺา ตตฺเถว อภิรมณวเสน ปวตฺตสฺา, ยา ‘‘นนฺที’’ติปิ วุจฺจติ. อมุจฺจิตุกามตา อาทานํ. อนุเปกฺขา สงฺขาเรหิ อนิพฺพินฺทนํ, สาลยตาติ อตฺโถ. ธมฺมฏฺิติยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท. ปฏิโลมภาโว สสฺสตุจฺเฉทคฺคาโห, ปจฺจยาการปฏิจฺฉาทกโมโห วา. นิพฺพาเน ¶ จ ปฏิโลมภาโว สงฺขาเรสุ นติ, นิพฺพานปฏิจฺฉาทกโมโห วา. สงฺขารนิมิตฺตคฺคาโหติ ยาทิสสฺส กิเลสสฺส อปฺปหีนตา วิปสฺสนา สงฺขารนิมิตฺตํ น มฺุจติ, โส กิเลโส, โย ‘‘สํโยคาภินิเวโส’’ติปิ วุจฺจติ, สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส, อติกฺกมนเมว วา ปหานํ.
ปวตฺติ เอว ปวตฺติภาโว, ปริยุฏฺานนฺติ อตฺโถ. นีวรณาทิธมฺมานนฺติ อาทิ-สทฺเทน นีวรณปกฺขิยา กิเลสา วิตกฺกวิจาราทโย จ คยฺหนฺติ. จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ยํ ปหานนฺติ สมฺพนฺโธ. เกน ปน ปหานนฺติ? ‘‘อริยมคฺเคเหวา’’ติ วิฺายมาโนยมตฺโถ เตสํ ภาวิตตฺตา อปฺปวตฺติวจนโต. ‘‘สมุทยปกฺขิกสฺสา’’ติ เอตฺถ จตฺตาโรปิ มคฺคา จตุสจฺจาภิสมยาติ กตฺวา เตหิ ปหาตพฺเพน เตน เตน สมุทยสงฺขาเตน โลเภน สห ปหาตพฺพตฺตา สมุทยสภาวตฺตา จ. สจฺจวิภงฺเค จ สพฺพกิเลสานํ สมุทยภาวสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘สมุทยปกฺขิกา’’ติ ทิฏฺิอาทโย วุจฺจนฺติ. ปฏิปสฺสทฺธตฺตํ วูปสนฺตตา.
สงฺขตนิสฺสฏตา สงฺขารสภาวาภาโว. ปหีนสพฺพสงฺขตนฺติ วิรหิตสพฺพสงฺขตํ, วิสงฺขารนฺติ อตฺโถ. ปหานฺจ ตํ วินโย จาติ ปหานวินโย ปุริเมน อตฺเถน. ทุติเยน ปน ปหียตีติ ปหานํ, ตสฺส วินโยติ โยเชตพฺโพ.
ภินฺนสํวรตฺตาติ ¶ นฏฺสํวรตฺตา, สํวราภาวโตติ อตฺโถ. เตน อสมาทินฺนสํวโรปิ สงฺคหิโตว โหติ. สมาทาเนน หิ สมฺปาเทตพฺโพ สํวโร, ตทภาเว น โหตีติ. อริเยติ อริโย. ปจฺจตฺตวจนฺเหตํ. เอเสเสติ เอโส เอโส, อตฺถโต อนฺโติ อตฺโถ. ตชฺชาเตติ อตฺถโต ตํสภาโว, สปฺปุริโส อริยสภาโว, อริโย จ สปฺปุริสภาโวติ อตฺโถ.
โส อหนฺติ อตฺตนา ปริกปฺปิตํ อตฺตานํ ทิฏฺิคติโก วทติ. ‘‘อหํพุทฺธินิพนฺธโน อตฺตา’’ติ หิ อตฺตวาทิโน ลทฺธิ. อทฺวยนฺติ ทฺวยตารหิตํ. อภินฺนํ วณฺณเมว ‘‘อจฺจี’’ติ คเหตฺวา ‘‘อจฺจีติ วณฺโณ เอวา’’ติ เตสํ เอกตฺตํ ปสฺสนฺโต วิย ยถาปริกปฺปิตํ อตฺตานํ ‘‘รูป’’นฺติ, ยถาทิฏฺํ วา รูปํ, ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา เตสํ เอกตฺตํ ปสฺสนฺโต ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ ‘‘รูปํ อตฺตา’’ติ ¶ อิมิสฺสา ปวตฺติยา อภาเวปิ รูเป อตฺตคฺคหณํ ปวตฺตมานํ อจฺจิยํ วณฺณคฺคหณํ วิย ‘‘อทฺวยทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปมาโย จ อนฺตฺตาทิคหณนิทสฺสนวเสเนว วุตฺตา, น วณฺณาทีนํ วิย อตฺตโน วิชฺชมานทสฺสนตฺถํ. น หิ อตฺตนิ สามิภาเวน รูปฺจ สกิฺจนภาเวน สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อตฺตานํ รูปสฺส สภาวโต อาธารณภาเวน. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ รูปสฺส อตฺตโน อาธารณภาเวน ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. ปริยุฏฺฏฺายีติ ปริยุฏฺานปฺปตฺตาหิ ทิฏฺิตณฺหาหิ ‘‘รูปํ อตฺตา, รูปวา อตฺตา’’ติอาทินา ขนฺธปฺจกํ มิจฺฉา คเหตฺวา ติฏฺนโต. เตนาห ‘‘ปริยุฏฺานากาเรนา’’ติอาทิ. เอเสว นโยติ โย ‘‘อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา รูปกฺขนฺเธ วุตฺโต สํวณฺณนานโย, เวทนากฺขนฺธาทีสุปิ เอโส เอว นโย เวทิตพฺโพ.
สุทฺธรูปเมวาติ อรูเปน อมิสฺสิตํ เกวลํ รูปเมว. อรูปนฺติ สุทฺธอรูปํ รูปสฺส อคฺคหิตตฺตา. จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสนาติ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ คหณวเสน รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต ตสฺมึ ตสฺมึ คหเณ เวทนาทิวินิมุตฺตอรูปธมฺเม กสิณรูเปน สทฺธึ สพฺพรูปธมฺเม จ เอกชฺฌํ คหณสิทฺธิโต. ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา, เต เต เอว ธมฺเม ‘‘อตฺตา’’ติ คหณโต เตสฺจ อุจฺเฉทภาวโต. อวเสเสสุ ปน ปนฺนรสสุ าเนสุ รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวาปิ ทิฏฺิคติโก ตตฺถ นิจฺจสฺํ น วิสฺสชฺเชติ กสิณรูเปน ตํ มิสฺเสตฺวา ตสฺส จ อุปฺปาทาทีนํ อทสฺสนโต, ตสฺมาสฺส ตตฺถปิ โหติเยว สสฺสตทิฏฺิ เอกจฺจสสฺสตคาหวเสนปิ. มคฺคาวรณา วิปรีตทสฺสนโต. น สคฺคาวรณา อกมฺมปถปฺปตฺตตาย. อกิริยาเหตุกนตฺถิกทิฏฺิโย เอว หิ กมฺมปถทิฏฺิโย.
กาโยติ รูปกาโย. โส อาตุโรเยว อสวสภาวโต. ราคโทสโมหานุคตนฺติ อปฺปหีนราคโทสโมหสนฺตาเน ¶ ปวตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. ทสฺสิตํ อาตุรภาเวน. นิกฺกิเลสตายาติ สยํ ปหีนกิเลสสนฺตานคตตาย. เสขา เนว อาตุรจิตฺตา ปหีนกิเลเส อุปาทาย, อปฺปหีเน ปน อุปาทาย อาตุรจิตฺตา. อนาตุรจิตฺตตํเยว ภชนฺติ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺส วิย เตสํ จิตฺตสฺส กิเลสวเสน อาตุรตฺตาภาวโต.
นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เทวทหสุตฺตวณฺณนา
๒. เทวา ¶ วุจฺจนฺติ ราชาโน ‘‘ทิพฺพนฺติ กามคุเณหิ กีฬนฺติ ลฬนฺติ, อตฺตโน วา ปฺุานุภาเวน โชตนฺตี’’ติ กตฺวา. เตสํ ทโหติ เทวทโห. สยํชาโต วา โส โหติ, ตสฺมาปิ ‘‘เทวทโห’’ติ วุตฺโต. ตสฺส อวิทูเร นิคโม ‘‘เทวทห’’นฺตฺเวว สงฺขํ คโต ยถา ‘‘วรณานครํ, โคธาคาโม’’ติ. ปจฺฉาภูมิยํ อปรทิสายํ นิวิฏฺชนปโท ปจฺฉาภูมํ, ตํ คนฺตุกามา ปจฺฉาภูมคมิกา. เต สภาเรติ เต ภิกฺขู เถรสฺส วเสน สภาเร กาตุกามตาย. ยทิ เถโร เตสํ ภาโร, เถรสฺสปิ เต ภารา เอวาติ ‘‘เต สภาเร กาตุกามตายา’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ เถโร เต โอวทิตพฺเพ อนุสาสิตพฺเพ มฺตีติ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห. อยํ นิพฺภาโร นาม กฺจิ ปุคฺคลํ อตฺตโน ภารํ กตฺวา อวตฺตนโต.
จตุพฺพิเธนาติ ธาตุโกสลฺลํ อายตนโกสลฺลํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทโกสลฺลํ านาฏฺานโกสลฺลนฺติ เอวํ จตุพฺพิเธน.
เต มหลฺลกาพาธิกาติทหรปุคฺคเล คณฺหิตฺวาว คจฺฉติ. เต หิ ทิวสทฺวเยน วูปสนฺตปริสฺสมา เอว. หตฺถิวานรติตฺติรปฏิพทฺธํ วตฺถุํ กเถตฺวา. ‘‘เอฬกาฬคุมฺเพติ กาฬติณคจฺฉมณฺฑเป’’ติปิ วทนฺติ.
วิวิธํ นานาภูตํ รชฺชํ วิรชฺชํ, วิรชฺชเมว เวรชฺชํ, ตตฺถ คตํ, ปรเทสคตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอกสฺสา’’ติอาทิ. จิตฺตสุทตฺตาทโยติ จิตฺตคหปติอนาถปิณฺฑิกาทโย. วีมํสกาติ ธมฺมวิจารกา. กินฺติ กีทิสํ. ทสฺสนนฺติ สิทฺธนฺตํ. อาจิกฺขติ กีทิสนฺติ อธิปฺปาโย. ธมฺมสฺสาติ ภควตา วุตฺตธมฺมสฺส. อนุธมฺมนฺติ อนุกูลํ อวิรุชฺฌนธมฺมํ. โส ปน เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปเทสนาวิตฺถาโรติ อาห – ‘‘วุตฺตพฺยากรณสฺส อนุพฺยากรณ’’นฺติ. ธาเรติ อตฺตโน ¶ ผลนฺติ ธมฺโม, การณนฺติ อาห – ‘‘สหธมฺมิโกติ สการโณ’’ติ. อิมินาปิ ปานฺตเรน วาโท เอว ทีปิโต, น เตน ปกาสิตา กิริยา.
ตณฺหาวเสเนว ฉนฺนมฺปิ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ราคาทโย ตณฺหาย เอว อวตฺถาวิเสสาติ. เตนาห ‘‘ตณฺหา หี’’ติอาทิ. วิหนนฺติ กายํ จิตฺตฺจาติ วิฆาโต, ทุกฺขนฺติ อาห – ‘‘อวิฆาโตติ ¶ นิทุกฺโข’’ติ. อุปายาเสติ อุปตาเปตีติ อุปายาโส, อุปตาโป. ตปฺปฏิปกฺโข ปน อนุปายาโส นิรูปตาโป ทฏฺพฺโพ. สพฺพตฺถาติ สพฺพวาเรสุ.
เทวทหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. หาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา
๓. ‘‘อวนฺติทกฺขิณาปเถ’’ติ อฺเสุ สุตฺตปเทสุ อาคตตฺตา อาห ‘‘อวนฺติทกฺขิณาปถสงฺขาเต’’ติ. มชฺฌิมเทสโต หิ ทกฺขิณทิสาย อวนฺติรฏฺํ. ปวตฺตยิตฺถ เอตฺถ ลทฺธีติ ปวตฺตํ, ปวตฺติตพฺพฏฺานนฺติ อาห ‘‘ลทฺธิปวตฺตฏฺาเน’’ติ. รุปฺปนสภาโว ธมฺโมติ กตฺวา รูปธาตูติ รูปกฺขนฺโธ วุตฺโต. รูปธาตุมฺหิ อารมฺมณปจฺจยภูเตน ราเคน สหชาเตนปิ อสหชาเตนปิ อุปนิสฺสยภูเตน อปฺปหีนภาเวเนว วินิพทฺธํ ปฏิพทฺธํ กมฺมวิฺาณํ. โอกสารีติ วุจฺจติ – ‘‘ตสฺมึ รูปธาตุสฺิเต โอเก สรติ ปวตฺตตี’’ติ กตฺวา. อวติ เอตฺถ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ โอกํ, ปวตฺติฏฺานํ. เตนาห – ‘‘เคหสารี อาลยสารี’’ติ.
อุคจฺฉติ วา เอตฺถ เวทนาทีหิ สทฺธึ สมเวตีติ โอโก, จกฺขุรูปาทิ. ปจฺจโยติ อารมฺมณาทิวเสน ปจฺจโย. ปจฺจโย โหตีติ อนนฺตรสมนนฺตราทินา เจว กมฺมูปนิสฺสยอารมฺมณาทินา จ. ‘‘วิฺาณธาตุ โข, คหปตี’’ติ เอวํ วุตฺเต ‘‘กมฺมวิฺาณวิปากวิฺาเณสุ กตรํ นุ โข’’ติ สมฺโมโห ภเวยฺย. ตสฺส สมฺโมหสฺส วิฆาตตฺถํ อปคมนตฺถํ. อสมฺภินฺนาวาติ อสํกิณฺณาว เทสนา กตา. อารมฺมณวเสน จตสฺโส อภิสงฺขารวิฺาณฏฺิติโย วุตฺตา – ‘‘รูปุปยํ วา, ภิกฺขเว, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺเยฺย, รูปารมฺมณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๕๓). ตา วิฺาณฏฺิติโย ทสฺเสตุมฺปิ.
ทฬฺหํ อภินิเวสวเสน อารมฺมณํ อุเปนฺตีติ อุปยา, ตณฺหาทิฏฺิโย. อธิฏฺานภูตาติ ปติฏฺานภูตา. อภินิเวสภูตาติ ตํ ตํ อารมฺมณํ อภินิวิสฺส อชฺโฌสาย ปวตฺติยา การณภูตา. อนุสยภูตาติ ราคานุสยทิฏฺานุสยภูตา. อุปริมโกฏิยาติ ปหานสฺส อุปริมโกฏิยา ¶ . พุทฺธานฺเว หิ เต สวาสนา ปหีนา. ปุพฺเพ อคฺคหิตํ วิฺาณํ อคฺคหิตเมวาติ กตฺวา กสฺมา อิธ เทสนา กตาติ โจเทติ – ‘‘อิธ ¶ วิฺาณํ กสฺมา คหิต’’นฺติ. ปุพฺเพ ‘‘วิฺาณธาตุราควินิพนฺธฺจ วิฺาณ’’นฺติ วุจฺจมาเน ยถา ยถา สมฺโมโห สิยา ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนวิภาคสฺส ทุกฺกรตฺตา, อิธ ปน สมฺโมหสฺส โอกาโสว นตฺถิ อวิเสเสน ปฺจสุ ขนฺเธสุ กิเลสปฺปหานวเสนาติ. เตนาห ‘‘กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถ’’นฺติอาทิ. กมฺมวิฺาเณน โอกํ อสรนฺเตนา’’ติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ. อสรนฺเตนาติ อนุปคจฺฉนฺเตน.
ปจฺจยฏฺเนาติ อารมฺมณาทิปจฺจยภาเวน. นิมิตฺตํ อุปฺปตฺติกํ. อารมฺมณ…เป… นิเกตนฺติ อารมฺมณกรณสงฺขาเตน นิวาสฏฺานภูเตน รูปเมว นิเกตนฺติ รูปนิมิตฺตนิเกตํ.
ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตายาติ อชฺฌตฺตขนฺธปฺจเก ฉนฺทราคสฺส พลวภาเวน ตํ ‘‘โอโก’’ติ, พหิทฺธา ฉสุ อารมฺมเณสุ ตสฺส ทุพฺพลตาย ตานิ ‘‘นิเกต’’นฺติ วุตฺตานิ. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สมาเนปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอโกติ วุจฺจติ เคหเมว รตฺติฏฺานภาวโต. นิเกตนฺติ วุจฺจติ อุยฺยานาทิ ทิวาฏฺานภาวโต. ตโต ทุพฺพลตโร โหติ ฉนฺทราโค.
เคหสฺสิตสุเขนาติ เคหนิสฺสิเตน จิตฺตสฺส สุเขน สุขิโต สุขปฺปตฺโต โหติ. กิจฺจกรณีเยสูติ ขุทฺทเกสุ เจว มหนฺเตสุ จ กตฺตพฺพตฺเถสุ. สยนฺติ อตฺตนา. อนฺโตติ จิตฺตชฺฌาสเย.
เอวํรูโปติ อีทิสรูโป. วณฺณสทฺโท วิย รูปสทฺโท รูปายตนสฺส วิย สณฺานสฺสปิ วาจโกติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทีฆรสฺส กาโฬทาตาทีสุ รูเปสู’’ติ วุตฺตํ. สุขาทีสูติ โสมนสฺสาทีสุ. ตตฺถ หิ ‘‘อภิณฺหํ โสมนสฺสิโต ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนา สิยา. เอวํสฺโ นามาติ วิสยวเสน สฺาวิเสสปตฺถนมาห. เอวํวิฺาโณติ ปน อิธ วิสยมุเขน วิฺาณวิเสสปตฺถนํ วทติ – ‘‘เอวํนิปุณรูปทสฺสนสมตฺถํ, เอวํปฺจปสาทปฏิมณฺฑิตนิสฺสยฺจ เม วิฺาณํ ภเวยฺยา’’ติ.
วฏฺฏํ ปุรโต อกุรูมาโนติ โลเก จิตฺตํ อปตฺเถนฺโต. อสิลิฏฺํ ปุพฺเพนาปรํ อสมฺพทฺธํ. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, โทโสติ อาห – ‘‘ตุยฺหํ โทโส’’ติอาทิ. อิเธว อิมสฺมึเยว สมาคเม. นิพฺเพเหิ โทสโต อตฺตานํ โมเจหิ.
หาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุติยหาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา
๔. จูฬฉกฺกปฺเหติ ¶ ¶ มูลปณฺณาเส จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๓๙๐ อาทโย). มหาสกฺกปฺเหปีติ มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺเตปิ (ม. นิ. ๑.๓๙๖ อาทโย). เอตนฺติ ‘‘เย เต สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทิสุตฺตปทํ. ตณฺหา สมฺมเทว ขียติ เอตฺถาติ ตณฺหาสงฺขโย, อสงฺขตา ธาตูติ อาห ‘‘ตณฺหาสงฺขเย นิพฺพาเน’’ติ. อนฺตํ อติกฺกนฺตนิฏฺาติ อนฺตรหิตนิฏฺา. เตนาห ‘‘สตตนิฏฺา’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘อจฺจนฺตโยคกฺเขมิโน’’ติอาทีสุ.
ทุติยหาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สมาธิสุตฺตวณฺณนา
๕. สมาธีติ อปฺปนาสมาธิ, อุปจารสมาธิ วา. กมฺมฏฺานนฺติ สมาธิปาทกํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ. ‘‘ผาตึ คมิสฺสตี’’ติ ปาโ. ปตฺเถตีติ ‘‘อโห วต เม อีทิสํ รูปํ ภเวยฺยา’’ติ. อภิวทตีติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินิเวสํ วทติ. เตนาห ‘‘ตาย อภินนฺทนายา’’ติอาทิ. ‘‘อโห ปิยํ อิฏฺ’’นฺติ วจีเภเท อสติปิ ตถา โลภุปฺปาเท สติ อภิวทติเยว นาม. เตนาห ‘‘วาจํ อภินฺทนฺโต’’ติ. ‘‘มม อิท’’นฺติ อตฺตโน ปริณาเมตฺวา อนฺโคจรํ วิย กตฺวา คณฺหนฺโต อชฺโฌสาย ติฏฺติ นามาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘คิลิตฺวาติ ปรินิฏฺเปตฺวา คณฺหาตี’’ติ. ‘‘อภินนฺทตี’’ติอาทโย ปุพฺพภาควเสน วุตฺตา, ‘‘อุปฺปชฺชติ นนฺที’’ติ ทฺวารปฺปตฺตวเสน. ปเมหิ ปเทหิ อนุสโย, ปจฺฉิเมน ปริยุฏฺานนฺติ เกจิ ‘‘คหณฏฺเน อุปาทาน’’นฺติ กตฺวา. นาภินนฺทติ นาภิวทตีติ เอตฺถ เหฏฺา วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. น ‘‘อิฏฺํ กนฺต’’นฺติ วทตีติ ‘‘อิฏฺ’’นฺติ น วทติ, ‘‘กนฺต’’นฺติ น วทติ. นาภิวทติเยว ตณฺหาย อนุปาทิยตฺตา.
สมาธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปฏิสลฺลาณสุตฺตวณฺณนา
๖. ตฺวา ¶ อาหาติ ‘‘สติ กายวิเวเก จิตฺตวิเวโก, ตสฺมึ สติ อุปธิวิเวโก จ อิเมสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ตฺวา อาห.
ปฏิสลฺลาณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา
๗. คหเณน ¶ อุปฺปนฺนํ ปริตสฺสนนฺติ ขนฺธปฺจเก ‘‘อหํ มมา’’ติ คหเณน อุปฺปนฺนํ ตณฺหาปริตสฺสนํ ทิฏฺิปริตสฺสนฺจ. อปริตสฺสนนฺติ ปริตสฺสนาภาวํ, ปริตสฺสนปฏิปกฺขํ วา. อหุ วต เมตํ พลโยพฺพนาทิ. กมฺมวิฺาณนฺติ วิปริณามารมฺมณํ ตณฺหาทิฏฺิสหคตํ วิฺาณํ ตทนุวตฺติ จ. อนุปริวตฺติ นาม ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺติ. เตนาห ‘‘วิปริณามารมฺมณจิตฺตโต’’ติ. อกุสลธมฺมสมุปฺปาทาติ ตณฺหาย อฺากุสลธมฺมสมุปฺปาทา. ปริยาทิยิตฺวาติ เขเปตฺวา, ตสฺส ปวตฺติตุํ โอกาสํ อทตฺวา. สอุตฺตาโสติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน สอุตฺตาโส. คณฺหิตฺวาติ ตณฺหาทิฏฺิคฺคาเหหิ คเหตฺวา เตสฺเจว วเสน ปริตสฺสโก. รูปเภทานุปริวตฺติ จิตฺตํ น โหติ. วฏฺฏตีติ สพฺพากาเรน วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
อุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุติยอุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา
๘. ตณฺหามานทิฏฺิวเสน เทสนา กตา ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ เทสนาย อาคตตฺตา. จตูสุ สุตฺเตสูติ ปฺจมาทีสุ จตูสุ สุตฺเตสุ. จตุตฺเถ ปน วิวฏฺฏเมว กถิตํ.
ทุติยอุปาทาปริตสฺสนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กาลตฺตยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา
๙. ยทิ ¶ อตีตานาคตํ เอตรหิ นตฺถิภาวโต อนิจฺจํ, ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ ตทา นตฺถีติ โก ปน วาโท ตสฺส อนิจฺจตาย, ปจฺจุปฺปนฺนมฺหิ กถาว กา อุทยพฺพยปริจฺฉินฺนตฺตา ตสฺส. วุตฺตฺเหตํ ‘‘นิพฺพตฺตา เย จ ติฏฺนฺติ, อารคฺเค สาสปูปมา’’ติ (มหานิ. ๑๐).
กาลตฺตยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐-๑๑. กาลตฺตยทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐-๑๑. ตถารูเปเนวาติ ยถารูเปเนว ปุคฺคลชฺฌาสเยน นวมํ สุตฺตํ กถิตํ, ตถารูเปเนวาติ. เต กิร ภิกฺขู อตีตานาคตํ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา, ตถา ‘‘อนตฺตา’’ติ ¶ สลฺลกฺเขตฺวา ปจฺจุปฺปนฺเน กิลมึสุ. ‘‘อถ เนส’’นฺติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยน วตฺตพฺพํ.
กาลตฺตยทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นกุลปิตุวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อนิจฺจวคฺโค
๑-๑๐. อนิจฺจาทิสุตฺตวณฺณนา
๑๒-๒๑. ปุจฺฉาวสิกํ อานนฺทตฺเถรสฺส ปุจฺฉาวเสน เทสิตตฺตา.
อนิจฺจาทิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนิจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ภารวคฺโค
๑. ภารสุตฺตวณฺณนา
๒๒. อุปาทานานํ อารมฺมณภูตา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา. ปริหารภาริยฏฺเนาติ ปริหารสฺส ภาริยภาเวน ครุตรภาเวน. วุตฺตเมว อตฺถํ ¶ ปากฏํ กาตุํ ‘‘เอเตสฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา เอตานิ านคมนาทีนิ รูปารูปธมฺมานํ ปงฺคุลชจฺจนฺธานํ วิย อฺมฺูปสฺสยวเสน อิชฺฌนฺติ, น ปจฺเจกํ, ตสฺมา ‘‘เอเตส’’นฺติ อวิเสสวจนํ กตํ. ปุคฺคลนฺติ ขนฺธสนฺตานํ วทติ. ขนฺธสนฺตาโน หิ อวิจฺเฉเทน ปวตฺตมาโน ยาว ปรินิพฺพานา ขนฺธภารํ วหนฺโต วิย โลเก ขายติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส สตฺตสฺส อภาวโต. เตนาห ‘‘ปุคฺคโล’’ติอาทิ. ภารหาโรติ ชาโตติ ภารหาโร นาม ชาโต.
ปุนพฺภวกรณํ ปุนพฺภโว, ตํ ผลํ อรหติ, ตตฺถ นิยุตฺตาติ วา โปโนภวิกา. ตพฺภาวสหคตํ ¶ ยถา ‘‘สนิทสฺสนา ธมฺมา’’ติ, น สํสฏฺสหคตํ, นาปิ อารมฺมณสหคตํ. ‘‘ตตฺร ตตฺรา’’ติ ยํ ยํ อุปฺปตฺติฏฺานํ, รูปาทิอารมฺมณํ วา ปตฺวา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี. เตนาห ‘‘อุปปตฺติฏฺาเน วา’’ติอาทิ. ปฺจกามคุณิโกติ ปฺจกามคุณารมฺมโณ. รูปารูปูปปตฺติภเว ราโค รูปารูปภวราโค. ฌานนิกนฺติ ฌานสงฺขาเต กมฺมภเว ราโค. สสฺสตาทิฏฺีติ ภวทิฏฺิ, ตํสหคโต ราโค. อยนฺติ ราโค ภวตณฺหา นาม. อุจฺเฉททิฏฺิ วิภวทิฏฺิ นาม, ตํสหคโต ฉนฺทราโค วิภวตณฺหา นาม. เอส ปุคฺคโล ขนฺธภารํ อาทิยติ ตณฺหาวเสน ปฏิสนฺธิคฺคหณโต. ‘‘อเสสเมตฺถ ตณฺหา วิรชฺชติ ปลุชฺชติ นิรุชฺฌติ ปหียตี’’ติอาทินา สพฺพปทานิ นิพฺพานวเสเนว เวทิตพฺพานีติ อาห ‘‘สพฺพํ นิพฺพานสฺเสว เววจน’’นฺติ.
ภารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปริฺสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ปริชานิตพฺเพติ ปหานปริฺาย ปริชานิตพฺเพ. ตถา ปริชานนฺจ ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหานํ, เตสํ อติกฺกโมติ อาห ‘‘สมติกฺกมิตพฺเพติ อตฺโถ’’ติ. อจฺจนฺตปริฺนฺติ นิพฺพานํ วทติ. เตนาห ‘‘สมติกฺกมนฺติ อตฺโถ’’ติ.
ปริฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อภิชานสุตฺตวณฺณนา
๒๔. าตปริฺา ¶ กถิตา ‘‘อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ชานน’’นฺติ กตฺวา. ทุติยปเทนาติ ‘‘ปริชาน’’นฺติ ปเทน. ตติยจตุตฺเถหีติ ‘‘วิราชยํ ปชห’’นฺติ ปเทหิ.
อภิชานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๙. ฉนฺทราคสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๕-๓๐. ธาตุสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ, เกวลฺหิ เอตฺถ ขนฺธวเสน เทสนา อาคตา, ตตฺถ ธาตุวเสนาติ อยเมว วิเสโส. จตฺตาริ สจฺจานิ กถิตานิ อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณวเสน เทสนาย ปวตฺตตฺตา.
ฉนฺทราคสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อฆมูลสุตฺตวณฺณนา
๓๑. อฆํ ¶ วุจฺจติ ปาปํ, อฆนิมิตฺตตาย อฆํ ทุกฺขํ. อิทฺหิ ทุกฺขํ นาม วิเสสโต ปาปเหตุกํ กมฺมผลสฺิตํ. ตถา วฏฺฏทุกฺขํ อวิชฺชาตณฺหามูลกตฺตา. อฆสฺส นิมิตฺตตาย อฆํ ทุกฺขํ. วฏฺฏานุสารี มหาชโน หิ ทุกฺขาภิภูโต ตสฺส ปติการํ มฺมาโน ตํ ตํ กโรตีติ.
อฆมูลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ปภงฺคุสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ปภิชฺชนสภาวนฺติ ขเณ ขเณ ปภงฺคุสภาวํ.
ปภงฺคุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นตุมฺหากํวคฺโค
๑. นตุมฺหากํสุตฺตวณฺณนา
๓๓. ฉนฺทราคปฺปหาเนนาติ ¶ ตปฺปฏิพทฺธสฺส ฉนฺทราคสฺส ปชหเนน. ทพฺพาทิ ปากติกติณํ ปากฏเมวาติ อปากฏํ ทสฺเสตุํ ตาลนาฬิเกราทิ ทสฺสิตํ, ติณกฏฺานํ วา เภททสฺสนตฺถํ. ปิยาโล ผารุสกํ.
นตุมฺหากํสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ยทิ รูปํ อนุเสตีติ รูปธมฺเม อารพฺภ ยทิ ราคาทโย อนุสยนวเสน ปวตฺตนฺติ. เตน สงฺขํ คจฺฉตีติ เตน ราคาทินา ตํสมงฺคีปุคฺคโล สงฺขาตพฺพตํ ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ’’ติอาทินา โวหริตพฺพตํ อุปคจฺฉตีติ. เตนาห ‘‘กามราคาทีสู’’ติอาทิ. อภูเตนาติ อชาเตน ¶ อนุสยวเสน อปฺปวตฺเตน. อนุสยสีเสน เหตฺถ อภิภวํ วทติ. ยโต ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโหติ สงฺขํ น คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. นิปฺปริยายโต หิ มคฺควชฺฌกิเลสา อนุสโย.
อฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ตํ อนุสยิตํ รูปนฺติ ตํ ราคาทินา อนุสยิตํ รูปํ มรนฺเตน อนุสเยน อนุมรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘น หี’’ติอาทิ. เยน อนุสเยน มรนฺเตน ตํ อนุมรติ. เตน สงฺขํ คจฺฉตีติ ตถาภูตโต เตน ‘‘รตฺโต’’ติอาทิโวหารํ ลภติ. เยน อนุสเยน การณภูเตน อนุมียติ, เตน.
ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๗-๓๘. ิติยา ¶ ิติกฺขเณน สหิตํ ิตํ. ิตสฺส อฺถตฺตนฺติ อุปฺปาทกฺขณโต อฺถาภาโว. ปฺายตีติ อุปลพฺภติ. ปจฺจยวเสน ธรมานตฺตา เอว ชีวมานสฺส ชีวิตินฺทฺริยวเสน ชรา ปฺายติ อุปฺปาทกฺขณโต อฺถตฺตปฺปตฺติยา. วุตฺตเมว อตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ิตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชีวิ…เป… นามํ. ตถา หิ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๙) ‘‘อายุ ิตี’’ติ นิทฺทิฏฺํ. อฺถตฺตนฺติ ชราย นามนฺติ สมฺพนฺโธ.
ตีณิ ลกฺขณานิ โหนฺติ สงฺขตสภาวลกฺขณโต. โย โกจิ รูปธมฺโม วา อรูปธมฺโม วา โลกิโย วา โลกุตฺตโร วา สงฺขาโร. สงฺขาโร, น ลกฺขณํ อุปฺปาทาทิสภาวตฺตา. ลกฺขณํ, น สงฺขาโร อุปฺปาทาทิรหิตตฺตา. น จ…เป… สกฺกา สงฺขารธมฺมตฺตา ลกฺขณสฺส. นาปิ ลกฺขณํ วินา สงฺขาโร ปฺาเปตุํ สกฺกา สงฺขารภาเวน. เตนาห ‘‘ลกฺขเณนา’’ติอาทิ. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ลกฺขณนฺติ กาฬรตฺตสพลาทิภาวลกฺขณํ ปากฏํ โหติ ‘‘อยํ อสุกสฺส คาวี’’ติ.
เอวํ สงฺขาโรปิ ปฺายติ สภาวโต อุปธาเรนฺตสฺส อุปฺปาทลกฺขณมฺปิ อุปฺปาทาวตฺถาติ กตฺวา. กาลสงฺขาโตติ อุปฺปชฺชมานกาลสงฺขาโต. ตสฺส สงฺขารสฺส. ขโณปีติ อุปฺปาทกฺขโณปิ ปฺายติ. อุปฺปาโทปีติ อุปฺปาทลกฺขโณปิ. ชราลกฺขณนฺติ อุปฺปนฺนชีรณลกฺขณํ, ตํ ‘‘ิตสฺส ¶ อฺถตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ภงฺคกฺขเณ สงฺขาโรปิ ตํลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายตี’’ติ ปาโ. เกจิ ปน ‘‘ชราปี’’ติ ปทมฺเปตฺถ ปกฺขิปนฺติ. เอวฺจ วทนฺติ ‘‘น หิ ตสฺมึ ขเณ ตรุโณ หุตฺวา สงฺขาโร ภิชฺชติ, อถ โข ชิยฺยมาโน มหลฺลโก วิย ชิณฺโณ เอว หุตฺวา ภิชฺชตี’’ติ, ภงฺเคเนว ปน ชรา อภิภุยฺยติ ขณสฺส อติอิตฺตรภาวโต น สกฺกา ปฺาเปตุํ ิติยาติ เตสํ อธิปฺปาโย. ตานีติ อรูปธมฺมานํ ตีณิ ลกฺขณานิ. อตฺถิกฺขณนฺติ อรูปธมฺมวิชฺชมานกฺขณํ, อุปฺปาทกฺขณนฺติ อธิปฺปาโย. สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ รูปารูปธมฺมานํ ิติยา น ภวิตพฺพํ. ตสฺเสวาติ ตสฺสา เอว ิติยา. ตมตฺถนฺติ ชราลกฺขณสฺส ปฺาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยภาวํ. อฺเ ปน ‘‘สนฺตติวเสน านํ ิตี’’ติ วทนฺติ, ตยิทํ ¶ อการณํ อฏฺานํ. ยสฺมา สุตฺเต ‘‘ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ อุปฺปาทวเยหิ นิพฺพิเสเสน ิติยา โชติตตฺตา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อปิจ ยถา ธมฺมสฺส อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาวตฺถา อิจฺฉิตา, อฺถา อุปฺปชฺชมานเมว ภิชฺชตีติ อาปชฺชติ, เอวํ ภงฺคาวตฺถายปิ ภินฺนา ภงฺคาภิมุขาวตฺถา อิจฺฉิตพฺพา. น หิ อภงฺคาภิมุโข ภิชฺชติ. น เจตฺถ สกฺกา อุปฺปาทาภิมุขาวตฺถํ ปริกปฺเปตุํ ตทา ตสฺส อลทฺธตฺตลาภตฺตา. อยํ วิเสโสติ ิติกฺขโณ นาม รูปธมฺมานํเยว, น อรูปธมฺมานนฺติ อยํ อีทิโส วิเสโส. อาจริยมติ นาม ตสฺเสว อาจริยสฺส มติ, สา สพฺพทุพฺพลาติ อาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ.
อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๑๐. อนุธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๙-๔๒. อปายทุกฺเข สกลสํสารทุกฺเข จ ปติตุํ อทตฺวา ธารณฏฺเน ธมฺโม, มคฺคผลนิพฺพานานิ. ตทนุโลมิกา จสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาติ อาห ‘‘ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺนสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘นิพฺพิทาพหุโล’’ติ อฏฺกถายํ ปทุทฺธาโร กโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘นิพฺพิทาพหุลํ วิหเรยฺยา’’ติ อาคตํ. อุกฺกณฺนพหุโลติ สพฺพภเวสุ อุกฺกณฺนพหุโล. ตีหิ ปริฺาหีติ าตตีรณปฺปหานปริฺาหิ. ปริชานาตีติ เตภูมกธมฺเม ปริจฺฉิชฺช ชานาติ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปติ. ปริมุจฺจติ สพฺพสํกิเลสโต ‘‘มคฺโค ปวตฺติโต ปริมุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ตถาติ อิมินา อิโต ปเรสุ ตีสุ มคฺโค โหตีติ ทสฺเสติ. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. อนิยมิตาติ อคฺคหิตา. เตสุ นิยมิตา ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี’’ติอาทิวจนโต. สาติ อนุปสฺสนา. ตตฺถ นิยมิตวเสเนวาติ อิทํ ลกฺขณวจนํ ยถา ‘‘ยทิ เม พฺยาธโย ภเวยฺยุํ ¶ , ทาตพฺพมิทโมสธ’’นฺติ. น หิ สกฺกา เอติสฺสา เอว อนุปสฺสนาย วเสน สมฺมสนาจารํ มตฺถกํ ปาเปตุนฺติ.
อนุธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นตุมฺหากํวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อตฺตทีปวคฺโค
๑. อตฺตทีปสุตฺตวณฺณนา
๔๓. ทฺวีหิ ¶ ภาเคหิ อาโป เอตฺถ คตาติ ทีโป, ทีโป วิยาติ ทีโป โอเฆหิ อนชฺโฌตฺถรนียตาย. โย ปโร น โหติ, โส อตฺตา, อิธ ปน ธมฺโม อธิปฺเปโต. อตฺตา ทีโป เอเตสนฺติ อตฺตทีปา. ปฏิสรณตฺโถ ทีปฏฺโติ อาห – ‘‘อตฺตสรณาติ อิทํ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. โลกิยโลกุตฺตโร ธมฺโม อตฺตา นาม เอกนฺตนาถภาวโต. ปเมน ปเทน วุตฺโต เอว อตฺโถ ทุติยปเทน วุจฺจตีติ วุตฺตํ ‘‘เตเนวาหา’’ติอาทิ. ยวติ เอตสฺมา ผลํ ปสวตีติ โยนิ, การณํ. กึ ปภุติ อุปฺปตฺติฏฺานํ เอเตสนฺติ กึ ปภุติกา. ปหานทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. เตเนวาห ‘‘ปุพฺเพ เจว…เป… เต ปหียนฺตี’’ติ. น ปริตสฺสติ ตณฺหาปริตฺตาสสฺส อภาวโต. วิปสฺสนงฺเคนาติ วิปสฺสนาสงฺขาเตน การเณน.
อตฺตทีปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา
๔๔. สภาวโตสนฺโต วิชฺชมาโน กาโย รูปาทิธมฺมสมูโหติ สกฺกาโยติ อาห – ‘‘สกฺกาโย ทุกฺข’’นฺติ. ทิฏฺิ เอว สมนุปสฺสนา, ทิฏฺิสหิตา วา สมนุปสฺสนา ทิฏฺิสมนุปสฺสนา, ทิฏฺิมฺนาย สทฺธึ อิตรมฺนา. สห วิปสฺสนาย จตุมคฺคาณํ สมนุปสฺสนา ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ สมฺมเทว อนุรูปโต ปสฺสนา’’ติ กตฺวา.
ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อนิจฺจสุตฺตวณฺณนา
๔๕. วิราโค ¶ นาม มคฺโค, วิมุตฺติผลนฺติ อาห – ‘‘มคฺคกฺขเณ วิรชฺชติ, ผลกฺขเณ วิมุจฺจตี’’ติ. อคฺคเหตฺวาติ เอวํ นิรุชฺฌมาเนหิ อาสเวหิ ‘‘อหํ มมา’’ติ กฺจิ ธมฺมํ อนาทิยิตฺวา. ‘‘จิตฺตํ วิรตฺตํ, วิมุตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา ¶ ผลํ คยฺหติ, ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทินา ปจฺจเวกฺขณาติ อาห ‘‘สห ผเลน ปจฺจเวกฺขณทสฺสนตฺถ’’นฺติ. อุปริ กตฺตพฺพกิจฺจาภาเวน ิตํ. เตนาห ‘‘วิมุตฺตตฺตา ิต’’นฺติ. ยํ ปตฺตพฺพํ, ตํ อคฺคผลสฺส ปตฺตภาเวน อธิคตตฺตา สนฺตุฏฺํ ปริตุฏฺํ.
อนิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุติยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา
๔๖. ปุพฺพนฺตํ อตีตขนฺธโกฏฺาสํ. อนุคตาติ สสฺสตาทีนิ กปฺเปตฺวา คหณวเสน อนุคตา. อฏฺารส ทิฏฺิโยติ จตสฺโส สสฺสตทิฏฺิโย, จตสฺโส เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิโย, จตสฺโส อนฺตานนฺติกทิฏฺิโย, จตสฺโส อมราวิกฺเขปทิฏฺิโย, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนทิฏฺิโยติ เอวํ อฏฺารส ทิฏฺิโย น โหนฺติ ปจฺจยฆาเตน. อปรนฺตนฺติ อนาคตํ ขนฺธโกฏฺาสํ สสฺสตาทิภาวํ กปฺเปตฺวา คหณวเสน อนุคตา. โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอวํ จตุจตฺตาลีส ทิฏฺิโย น โหนฺติ ปจฺจยฆาเตน. สสฺสตทิฏฺิถามโส เจว สีลพฺพตทิฏฺิปรามาโส จ น โหติ ปจฺจยฆาเตน. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา ปมมคฺโค ทสฺสิโต’’ติ อนวเสสทิฏฺิปหานกิตฺตนโต. ปหีนา วิกฺขมฺภิตา. อิทํ ปนาติ ‘‘รูปสฺมิ’’นฺติอาทิ.
ทุติยอนิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สมนุปสฺสนาสุตฺตวณฺณนา
๔๗. ปริปุณฺณคาหวเสนาติ ปฺจกฺขนฺเธ อเสเสตฺวา เอกชฺฌํ ‘‘อตฺตา’’ติ คหณวเสน. เอเตสํ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อฺตรํ ‘‘อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสนฺติ. อิตีติ เอวํ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ อตฺตทิฏฺิสงฺขาตา สมนุปสฺสนา อตฺถิ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา สํวิชฺชติ. ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานนฺติ จกฺขาทีนํ อินฺทฺริยานํ.
อารมฺมณนฺติ ¶ กมฺมวิฺาณสฺส อารมฺมณํ. มานวเสน จ ทิฏฺิวเสน จ ‘‘อสฺมี’’ติ คาเห สิชฺฌนฺเต ตํสหคตา ตณฺหาปิ ตคฺคหิตาว โหตีติ ¶ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิวเสน อสฺมีติ เอวมฺปิสฺส โหตี’’ติ. คเหตฺวาติ อหํการวตฺถุวเสน คเหตฺวา. อยํ อหมสฺมีติ อยํ จกฺขาทิโก, สุขาทิโก วา อหมสฺมิ. ‘‘รูปี อตฺตา อโรโค ปรํ มรณา’’ติ เอวมาทิคหณวเสน ปวตฺตนโต วุตฺตํ ‘‘รูปี ภวิสฺสนฺติอาทีนิ สพฺพานิ สสฺสตเมว ภชนฺตี’’ติ. วิปสฺสนาภินิเวสโต ปุพฺเพ ยเถวาการานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อถ วิปสฺสนาภินิเวสโต ปรํ เตเนวากาเรน ิเตสุ จกฺขาทีสุ อินฺทฺริเยสุ อวิชฺชา ปหียติ วิปสฺสนํ วฑฺฒเอตฺวา มคฺคสฺส อุปฺปาทเนน, อถ มคฺคปรมฺปราย อรหตฺตมคฺควิชฺชา อุปฺปชฺชติ. ตณฺหามานทิฏฺิโย กมฺมสมฺภารภาวโต. กมฺมสฺส…เป… เอโก สนฺธีติ เหตุผลสนฺธิ. ปุน เอโก สนฺธีติ ผลเหตุสนฺธิมาห. ตโย ปปฺจา อตีโต อทฺธา อตีตภวอทฺธานํ เตสํ อธิปฺเปตตฺตา. อนาคตสฺส ปจฺจโย ทสฺสิโต อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส วเสน. สุตวโต ปน อริยสาวกสฺส วเสน วฏฺฏสฺส วูปสโม ทสฺสิโตติ.
สมนุปสฺสนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ขนฺธสุตฺตวณฺณนา
๔๘. ตเถวาติ อารมฺมณภาเวเนว. อารมฺมณกรณวเสน อุปาทาเนหิ อุปาทาตพฺพนฺติ อุปาทานิยํ. อิธาปีติ อุปาทานกฺขนฺเธสุปิ. วิภาคตฺเถ คยฺหมาเน อนิฏฺปฺปสงฺโคปิ สิยา, อภิธมฺเม จ ราสฏฺโ เอว อาคโต, ‘‘ตเทกชฺฌํ อภิสํยุหิตฺวา’’ติ วจนโต ‘‘ราสฏฺเน’’อิจฺเจว วุตฺตํ.
ขนฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. โสณสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๙-๕๐. วิสิฏฺโติ ปธาโน. อุตฺตโมติ อุกฺกฏฺโ. อฺํ กึ ภเวยฺยาติ อฺํ กึ การณํ ภเวยฺย ตถา สมนุปสฺสนาย อฺเสํ อวิชฺชมานตาย วจนปริฏฺิติปภินฺนโต. วชิรเภทเทสนํ นาม อตฺถโต เตปริวฏฺฏเทสนา.
โสณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. นนฺทิกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๑-๕๒. นวมทสเมสูติ ¶ ¶ สุตฺตทฺวยํ สเหว อุทฺธฏํ, ทฺวีสุปิ อตฺถวณฺณนาย สริกฺขภาวโต. นนฺทนฏฺเน นนฺที, รฺชนฏฺเน ราโค. สติปิ สทฺทตฺถโต เภเท ‘‘อิเมสํ อตฺถโต นินฺนานากรณตายา’’ติ วตฺวาปิ ปหายกธมฺมเภเทน ปน ลพฺภเตว เภทมตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘นิพฺพิทานุปสฺสนาย วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหตีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺตาวตาติ ‘‘นนฺทิกฺขยา ราคกฺขโย’’ติ เอตฺตาวตา. วิปสฺสนํ นิฏฺเปตฺวา วิปสฺสนากิจฺจสฺส ปริโยสาเนน. ราคกฺขยาติ วุฏฺานคามินิปริโยสานาย วิปสฺสนาย ราคสฺส เขปิตตฺตา. อนนฺตรํ อุปฺปนฺเนน อริยมคฺเคน สมุจฺเฉทวเสน นนฺทิกฺขโยติ. เตนาห ‘‘อิธ มคฺคํ ทสฺเสตฺวา’’ติ. อนนฺตรํ ปน อุปฺปนฺเนน อริยผเลน ปฏิปสฺสทฺธิวเสน นนฺทิราคกฺขยา สพฺพํ สํกิเลสโต จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ. เตนาห ‘‘ผลํ ทสฺสิต’’นฺติ.
นนฺทิกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อตฺตทีปวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มูลปณฺณาสโก สมตฺโต.
๖. อุปยวคฺโค
๑. อุปยสุตฺตวณฺณนา
๕๓. อุเปตีติ อุปโย. กถมุเปติ? ตณฺหามานาทิวเสนาติ อาห ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิวเสนา’’ติ. กถมิทํ ลพฺภตีติ? ‘‘อวิมุตฺโต’’ติ วจนโต. ตณฺหาทิฏฺิวเสน หิ พทฺโธ, กึ อุเปตีติ อาห ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ’’ติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส ตถา อุเปตสฺส อภาวโต. โก ปนุเปตีติ? ตํสมงฺคีปุคฺคโล. ตณฺหาทิฏฺิวเสน อุปคมสฺส วุตฺตตฺตา วิฺาณนฺติ อกุสลกมฺมวิฺาณเมวาติ วทนฺติ. ชวาเปตฺวาติ คหิตชวํ กตฺวา. ยถา ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ สมตฺถํ, เอวํ กตฺวา. เตนาห ‘‘ปฏิสนฺธี’’ติอาทิ. อคฺคหเณ การณํ วุตฺตเมว ‘‘โอกํ ปหาย อนิเกตสารี’’ติ คาถาย วิสฺสชฺชเน. กมฺมนิมิตฺตาทิวเสน ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภูตํ ¶ อารมฺมณํ ปฏิสนฺธิชนกสฺส กมฺมสฺส วเสน โวจฺฉิชฺชติ. ปติฏฺา น โหติ สราคกาเล วิย อนุปฏฺานโต ¶ . อปฺปติฏฺิตํ วิฺาณํ วุตฺตปฺปกาเรน. อนภิสงฺขริตฺวาติ อนุปฺปาเทตฺวา ปจฺจยฆาเตน.
อุปยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. พีชสุตฺตวณฺณนา
๕๔. พีชชาตานีติ ชาต-สทฺโท ปทปูรณมตฺตนฺติ อาห ‘‘พีชานี’’ติ. วจนฺติ เสตวจํ. อชฺชุกนฺติ ตจฺฉกํ. ผณิชฺชกํ ตุลสิ. อภินฺนานีติ เอกเทเสนปิ อขณฺฑิตานิ. พีชตฺถายาติ พีชกิจฺจาย. น อุปกปฺปตีติ ปจฺจโย น โหตีติ ทสฺเสติ. น ปาปิตานีติ ปูติตํ น อุปคตานิ. ตณฺฑุลสารสฺส อาทานโต สาราทานิ. อารมฺมณคฺคหณวเสน วิฺาณํ ติฏฺติ เอตฺถาติ วิฺาณฏฺิติโย. อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณภาววเสน. สิเนหนฏฺเนาติ ตณฺหายนวเสน สินิทฺธตาปาทเนน, ยโต ‘‘นนฺทูปเสจน’’นฺติ วุตฺตํ. ตถา หิ วิโรปิตํ ตํ กมฺมวิฺาณํ ปฏิสนฺธิองฺกุรุปฺปาทนสมตฺถํ โหติ. สปฺปจฺจยนฺติ อวิชฺชาอโยนิโสนมนสิการาทิปจฺจเยหิ สปฺปจฺจยํ. วิรุหติ วิปากสนฺตานุปฺปาทนสมตฺโถ หุตฺวา.
พีชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุทานสุตฺตวณฺณนา
๕๕. อุทานํ อุทาหรีติ อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรสิ. เอส วุตฺตปฺปกาโร อุทาหาโร. ภุโส นิสฺสโย อุปนิสฺสโย, ทานเมว อุปนิสฺสโย ทานูปนิสฺสโย. เอส นโย เสเสสุปิ. ตตฺถ ทานูปนิสฺสโย อนฺนาทิวตฺถูสุ พลวาติ พลวภาเวน โหติ, ตสฺมา อุปนิสฺสยพหุโล กามราคปฺปหาเนเนว กตปริจยตฺตา วิปสฺสนมนุยฺุชนฺโต น จิรสฺเสว อนาคามิผลํ ปาปุณาติ, ตถา สุวิสุทฺธสีลูปนิสฺสโย กามโทสชิคุจฺฉเนน. ยทิ เอวํ กสฺมา อิเม ทฺเว อุปนิสฺสยา ทุพฺพลาติ วุตฺตา ¶ ? วิชฺชูปมฺาณสฺเสว ปจฺจยภาวโต. โสปิ ภาวนูปนิสฺสยสหายลาเภเนว, น เกวลํ. ภาวนา ปน ปฏิเวธสฺส วิเสสเหตุภาวโต พลวา อุปนิสฺสโย. ตถา หิ สา วชิรูปมาณสฺส วิเสสปจฺจโย. เตนาห ‘‘ภาวนูปนิสฺสโย อรหตฺตํ ปาเปตี’’ติ.
โสติ มิลกตฺเถโร. วิหารนฺติ วสนฏฺานํ. วิหารปจฺจนฺเต หิ ปณฺณสาลาย เถโร วิหรติ. อุปฏฺาติ เอกลกฺขเณน. กูฏโคโณ วิย คมนวีถึ. ตตฺถาติ อลฺลกฏฺราสิมฺหิ. อุทกมณิกานนฺติ อุทกเถวานํ.
อตฺตนิเยว ¶ อุปเนสิ อุทานกถาย วุตฺตธมฺมานํ ปริปุณฺณานํ อตฺตนิ สํวิชฺชมานตฺตา. เตนาห ‘‘อุฏฺานวตา’’ติอาทิ. อยฺหิ มิลกตฺเถโร สิกฺขาย คารโว สปฺปติสฺโส วตฺตปฏิวตฺตํ ปูเรนฺโต วิสุทฺธสีโล หุตฺวา ิโต, ตสฺมา ‘‘ทุพฺพลูปนิสฺสเย’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ภควา อุทาเนนฺโต ‘‘โน จสฺสํ…เป… สฺโชนานี’’ติ.
สเจ อหํ น ภเวยฺยนฺติ ยทิ อหํ นาม โกจิ น ภเวยฺยํ ตาทิสสฺส อหํสทฺทวจนียสฺส กสฺสจิ อตฺถสฺส อภาวโต. ตโต เอว มม ปริกฺขาโรปิ น ภเวยฺยตสฺส จ ปภงฺคุภาเวน อนวฏฺิตภาวโต. เอวํ อตฺตุทฺเทสิกภาเวน ปททฺวยสฺส อตฺถํ วตฺวา อิทานิ กมฺมผลวเสน วตฺตุํ ‘‘สเจ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนวเสน สฺุตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตวเสน ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทานิ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ อธิมุจฺจนฺโตติ เอทิสํ อธิมุตฺตึ ปวตฺเตนฺโต. วิภวิสฺสตีติ วินสฺสิสฺสติ. วิภโว หิ วินาโส. เตนาห ‘‘ภิชฺชิสฺสตี’’ติ. วิภวทสฺสนํ วิภโวติ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วิภวทสฺสเนนา’’ติ. วิภวทสฺสนํ นาม อจฺจนฺตาย วินาสสฺส ทสฺสนํ. ตนฺติ อริยมคฺคํ. สามฺโชตนา เหสา วิเสสนิฏฺา โหตีติ ตติยมคฺควเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อุปริ มคฺคผลนฺติ อคฺคมคฺคผลํ. นตฺถิ เอติสฺสา ชาติยา อนฺตรนฺติ อนนฺตรา, อนนฺตรา วิปสฺสนา มคฺคสฺส. โคตฺรภู ปน อนุโลมวีถิปริยาปนฺนตฺตา วิปสฺสนาคติกํ วา สิยา, นิพฺพานารมฺมณตฺตา มคฺคคติกํ วาติ น เตน มคฺโค อนฺตริโก นาม โหติ. เตนาห ‘‘วิปสฺสนา มคฺคสฺส อาสนฺนานนฺตรํ นามา’’ติ ¶ . ผลํ ปน นิพฺพานารมฺมณตฺตา กิเลสานํ ปชหนวเสน ปวตฺตนโต โลกุตฺตรภาวโต จ กมฺมมคฺคคติกเมว, กุสลวิปากภาเวน ปน เนสํ อตฺโถ ปเภโทติ วิปสฺสนาย ผลสฺส สิยา อนนฺตรตาติ วุตฺตํ ‘‘ผลสฺส ทูรานนฺตรํ นามา’’ติ. ‘‘อาสวานํ ขโย’’ติ ปน อคฺคมคฺเค วุจฺจมาเน วิปสฺสนานํ อาสนฺนตาย วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อตสิตาเยติ น ตสิตพฺเพ ตาสํ อนาปชฺชิตพฺเพ. ตาโสติ ตาสเหตุ ‘‘ตสติ เอตสฺมา’’ติ กตฺวา. โสติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน. ติลกฺขณาหตนฺติ อนิจฺจตาทิลกฺขณตฺตยลกฺขิตํ. มนมฺหิ นฏฺโติ อีสกํ นฏฺโมฺหิ, ตโต ปรมฺปิ ตตฺเถว ตฺวา กิฺจิ อปูริตตฺตา เอว มุตฺโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘น ตาโส นาม โหตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อตาสภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กลฺยาณปุถุชฺชโน หิ ภยตุปฏฺานาเณน ‘‘สภยา สงฺขารา’’ติ วิปสฺสนฺโต น อุตฺตสติ.
อุทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อุปาทานปริปวตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๖. จตุนฺนํ ¶ ปริวฏฺฏนวเสนาติ ปจฺเจกกฺขนฺเธสุ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริวฏฺฏนวเสน. รูปํ อพฺภฺาสินฺติ สกลภูตุปาทารูปํ กุจฺฉิตภาวโต ตตฺถ จ ตุจฺฉวิปลฺลาสตาย ‘‘ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ อภิวิสิฏฺเน าเณน อฺาสึ ปฏิวิชฺฌึ. อาหารวเสน รูปกายสฺส หานิวุทฺธาทีนํ ปากฏภาวโต วิเสสปจฺจยโต จ ตสฺส ‘‘อาหารสมุทยา’’ติ วุตฺตํ. ทุกฺขสมุทยกถา นาม วฏฺฏกถาติ ‘‘สจฺฉนฺทราโค’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. ฉนฺทราคคฺคหเณน จ อุปาทานกมฺมาวิชฺชาปิ คหิตา เอว. ปฏิปนฺนา โหนฺตีติ อตฺโถ. วตฺตมานกาลปฺปโยโค เหส ยถา ‘‘กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ. ปติฏฺหนฺตีติ ปติฏฺํ ลภนฺติ. เกวลิโนติ อิธ วิมุตฺติคุเณน ปาริปูรีติ อาห ‘‘สกลิโน กตสพฺพกิจฺจา’’ติ. เยน เตติ เยน อวสิฏฺเน เต อเสกฺเข ปฺาเปนฺตา ปฺาเปยฺยุํ, ตํ เนสํ วฏฺฏํ เสกฺขานํ วิย นตฺถิ ปฺาปนาย. วฏฺฏนฺติ การณํ วฏฺฏนฏฺเน ผลสฺส ปวตฺตนฏฺเน. อเสกฺขภูมิวาโรติ อเสกฺขภูมิปฺปวตฺติ.
อุปาทานปริปวตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สตฺตฏฺานสุตฺตวณฺณนา
๕๗. สตฺตสุ ¶ โอกาเสสูติ รูปปชานนาทีสุ สตฺตสุ โอกาเสสุ. วุสิตวาโสติ วุสิตอริยวาโส. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อุทฺเทเส. เสสํ นาม อิธ วุตฺตาวเสสํ. วุตฺตนเยนาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อุสฺสทนนฺทิยนฺติ อุสฺสนฺนคุณวโต โตสนํ สมฺโมทาปนํ. คุณกิตฺตเนน ปโลภนียํ เสกฺขกลฺยาณปุถุชฺชนานํ ปสาทุปฺปาทเนน. อิทานิ วุตฺตเมว อตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอตฺตาวตาติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ วเสน สตฺตสุ าเนสุ โกสลฺลทีปเนน เอตฺตเกน เทสนากฺกเมน. ตนฺติ อารมฺมณํ. ธาตุอาทิมตฺตเมวาติ ธาตายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทมตฺตเมว. อิเมสุ ธมฺเมสูติ อิเมสุ ชาตาทีสุ. กมฺมํ กตฺวาติ สมฺมสนกมฺมํ นิฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ วเสน สตฺตฏฺานโกสลฺลปวตฺติยา ปเภเทน วิภชิตฺวา ‘‘ติวิธูปปริกฺขี’’ติ ทสฺเสติ ธมฺมราชา.
สตฺตฏฺานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สมฺมาสมฺพุทฺธสุตฺตวณฺณนา
๕๘. อธิกํ ¶ สวิเสสํ ปยสติ ปยฺุชติ เอเตนาติ อธิปฺปยาโส, วิสิฏฺปโยโค. เตนาห ‘‘อธิกปโยโค’’ติ. อิมฺหิ มคฺคนฺติ อฏฺงฺคิกํ อริยมคฺคมาห. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. อวตฺตมานฏฺเนาติ พุทฺธุปฺปาทโต ปุพฺเพ น วตฺตมานภาเวน. มคฺคํ ชานาตีติ สมุทาคมโต ปฏฺาย สปุพฺพภาคํ สสมฺภารวิสยํ สผลํ สอุทฺรยํ อริยํ มคฺคํ ชานาติ อวพุชฺฌตีติ มคฺคฺู. วิทิตนฺติ อฺเสมฺปิ าตํ ปฏิลทฺธํ หตฺถตเล อามลกํ วิย ปากฏํ อกาสิ, ตถา กตฺวา เทเสสิ. อมคฺเค ปริวชฺชเนน มคฺเค ปฏิปตฺตีติ ตสฺส มคฺคกุสลตา วิย อมคฺคกุสลตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘มคฺเค จ อมคฺเค จ โกวิโท’’ติ. อหํ ปมํ คโตติ อหํ ปมมคฺเคน สมนฺนาคโต.
สมฺมาสมฺพุทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อนตฺตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๕๙. ปุราณุปฏฺาเกติ ¶ ปุพฺเพ ปธานปทหนกาเล อุปฏฺากภูเต. ‘‘อวสวตฺตนฏฺเน อสฺสามิกฏฺเน สฺุตฏฺเน อตฺตปฏิกฺเขปฏฺเนา’’ติ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ. เอตฺตเกน าเนนาติ ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนตฺตา’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘เอวํ เม วิฺาณํ มา อโหสี’’ติ เอตฺตเกน สุตฺตปเทเสน. อกถิตสฺเสว กถนํ อุตฺตรํ, น กถิตสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘ตานิ ทสฺเสตฺวา’’ติ. สโมธาเนตฺวาติ สมฺปิณฺฑิตฺวา. วิตฺถารกถาติ วิตฺถารโต อฏฺกถา. อนตฺตลกฺขณเมวาติ ตพฺพหุลตาย ตปฺปธานตาย จ วุตฺตํ. อนิจฺจตาทีนมฺปิ หิ ตตฺถ ตํทีปนตฺถเมว วุตฺตตฺตา ตเทว เชฏฺํ ปธานํ ตถา เวเนยฺยชฺฌาสยโต.
อนตฺตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. มหาลิสุตฺตวณฺณนา
๖๐. เอกนฺตทุกฺขนฺติอาทีนิ ปทานิ วุตฺตนยาเนว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ยถา สราโค เหตุ ปจฺจโย สํกิเลสาย, เอวํ สวิปสฺสโน มคฺโค เหตุ ปจฺจโย จ วิสุทฺธิยาติ ทฏฺพฺพํ.
มหาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๖๑. เอกาทสหีติ ¶ ราคาทีหิ อุปายาสปริโยสาเนหิ เอกาทสหิ สนฺตาปนฏฺเน อคฺคีหิ. ทฺวีสูติ อฏฺมนวเมสุ. ทุกฺขลกฺขณเมวาติ ตพฺพหุลตาย ตปฺปธานตาย จ วุตฺตํ.
อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. นิรุตฺติปถสุตฺตวณฺณนา
๖๒. นิรุตฺติโยว นิรุตฺติปถาติ ปถ-สทฺเทน ปทวฑฺฒนมาห ยถา ‘‘พีชานิเยว พีชชาตานี’’ติ. นิรุตฺติวเสนาติ นิพฺพจนวเสน. ปถา จ อตฺถานุรูปภาวโต ¶ . ตีณิปีติ นิรุตฺติอธิวจนปฺตฺติปถปทานิ. ตถา หิ ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส’’ติอาทินา นีหริตฺวา วจนํ นิรุตฺติ, ‘‘สิรีวฑฺฒโก ธนวฑฺฒโก’’ติอาทินา วจนมตฺตเมว อธิการํ กตฺวา ปวตฺตํ อธิวจนํ, ‘‘ตกฺโก วิตกฺโก’’ติอาทินา ตํตํปกาเรน าปนโต ปฺตฺติ. อถ วา ตํตํอตฺถปฺปกาสเนน นิจฺฉิตํ, นิยตํ วา วจนํ นิรุตฺติ. อธิ-สทฺโท อุปริภาเค, อุปริ วจนํ อธิวจนํ. กสฺส อุปริ? ปกาเสตพฺพสฺส อตฺถสฺสาติ ปากโฏยมตฺโถ. อธีนํ วจนํ อธิวจนํ. เกน อธีนํ? อตฺเถน. อตฺถสฺส ปฺาปนตฺเถน ปฺตฺตีติ เอวํ นิรุตฺติอาทิปทานํ สพฺพวจเนสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อฺถา ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส’’ติอาทิปฺปกาเรน นิทฺธารณวจนานํเยว นิรุตฺติตา, สิริวฑฺฒกธนวฑฺฒกปการานเมว อภิลาปนํ อธิวจนตา. ‘‘ตกฺโก วิตกฺโก’’ติ เอวํปการานเมว เอกเมว อตฺถํ เตน เตน ปกาเรน าเปนฺตานํ วจนานํ ปฺตฺติตา จ อาปชฺเชยฺย. อสํกิณฺณาติ น สํกิณฺณา. เตนาห ‘‘อวิชหิตา…เป… อฉฑฺฑิตา’’ติ. น สํกียนฺตีติ น สํกิรียนฺติ, น สํกียิสฺสนฺติ น สํกิรียิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิกุฏฺาติ น ปฏิกฺขิตฺตา. ยสฺมา ภงฺคํ อติกฺกนฺตํ อุปฺปาทาทิ อติกฺกนฺตเมว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภงฺคเมวา’’ติ. ยสฺมา เทสนฺตรํ สงฺกนฺโตปิ อติกฺกนฺตนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ตทาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เทสนฺตรํ อสงฺกมิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ นิรุชฺฌนฺติ วิปริณมนฺติ วินาสํ อาปชฺชนฺติ. เตนาห ‘‘วิปริณตนฺติ…เป… นฏฺ’’นฺติ. อปากฏีภูตํ อชาตตฺตา เอว.
วสภณโคตฺตตาย วสฺสภฺา. มูลทิฏฺิคติกาติ มูลภูตา ทิฏฺิคติกา, อิมสฺมึ กปฺเป สพฺพปมํ ตาทิสทิฏฺิสมุปฺปาทกา. ปุนปฺปุนํ อาวชฺเชนฺตสฺสาติ อเหตุวาทปฏิสํยุตฺตคนฺถํ อุคฺคเหตฺวา ปริยาปุณิตฺวา ตทตฺถํ วีมํสนฺตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติอาทินยปฺปวตฺตาย ¶ ลทฺธิยา อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, ‘‘นตฺถิ เหตู’’ติอาทิวเสน อนุสฺสวูปลทฺเธ อตฺเถ ตทาการปริวิตกฺกเนหิ สวิคฺคเห วิย สรูปโต จิตฺตสฺส ปจฺจุปฏฺิเต จิรกาลปริจเยน ‘‘เอวเมต’’นฺติ นิชฺฌานกฺขมภาวูปคมเนน นิชฺฌานกฺขนฺติยา ตถาคหิเต ปุนปฺปุนํ ตเถว อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส มิจฺฉาวิตกฺเกน สมาทิยมานา มิจฺฉาวายามูปตฺถมฺภิตา อตํสภาวํ ‘‘ตํสภาว’’นฺติ ¶ คณฺหนฺตี มิจฺฉาสตีติ ลทฺธนามา ตํลทฺธิสหคตา ตณฺหา สนฺติฏฺติ. ยถาสกํ วิตกฺกาทิปจฺจยลาเภน ตสฺมึ อารมฺมเณ อธิฏฺิตตาย อเนกคฺคตํ ปหาย จิตฺตํ เอกคฺคตํ อปฺปิตํ วิย โหติ มิจฺฉาสมาธินา. โสปิ หิ ปจฺจยวิเสเสหิ ลทฺธภาวนาพโล อีทิเส าเน สมาธานปติรูปกิจฺจกโร โหติเยว วาลวิชฺฌนาทีสุ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ อเนกกฺขตฺตุํ เตนากาเรน ปุพฺพภาคิเยสุ ชวนวาเรสุ ปวตฺเตสุ สพฺพปจฺฉิเม ชวนวาเร สตฺต ชวนานิ ชวนฺติ. ตตฺถ ปเม สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ. สตฺตเม ปน ชวเน สมฺปตฺเต อเตกิจฺโฉ โหติ. เตนาห ‘‘อสฺสาเทนฺตสฺสา’’ติอาทิ. อิเมสุปีติ ทฺวีสุปิ าเนสุ.
ปจฺจุปฺปนฺนํ วาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘ยเทตํ อนาคตํ นาม, นยิทํ อนาคต’’นฺติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. เตปีติ เต วสฺสภฺาปิ น มฺึสุ โลกสมฺาย อนติกฺกมนียโต. เตนาห ‘‘อตีตํ ปนา’’ติอาทิ. ขนฺธานํ อุปริ นิรุฬฺหา ปณฺณตฺติ.
นิรุตฺติปถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อรหนฺตวคฺโค
๑. อุปาทิยมานสุตฺตวณฺณนา
๖๓. คณฺหมาโนติ ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา คณฺหมาโน. ปาเสนาติ ราคปาเสน. ตฺหิ มาโร มารปาโสติ มฺติ. เตนาห ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓). มุตฺโต นาม โหติ อนุปาทิยโต สพฺพโส ขนฺธสฺส อภาวโต.
อุปาทิยมานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๖. มฺมานสุตฺตาทิวณฺณนา
๖๔-๖๘. ‘‘เอตํ ¶ ¶ มมา’’ติอาทินา. มฺนา อภินนฺทนา จ. ตณฺหาฉนฺโทติ ตณฺหา เอว ฉนฺโท. สา หิ ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา, ฉนฺทิกตฏฺเน ฉนฺโท. จตุตฺถํ อนิจฺจลกฺขณมุเขน วุตฺตํ, ปฺจมํ ทุกฺขลกฺขณมุเขน, ฉฏฺํ อนตฺตลกฺขณมุเขน. เสสํ ตีสุปิ สทิสเมวาติ วุตฺตํ ‘‘เอเสว นโย’’ติ.
มฺมานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อนตฺตนิยสุตฺตวณฺณนา
๖๙. อนตฺตนิยนฺติ น อตฺตนิยํ. เตนาห ‘‘น อตฺตโน สนฺตก’’นฺติ.
อนตฺตนิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๑๐. รชนียสณฺิตสุตฺตาทิวณฺณนา
๗๐-๗๒. รชนีเยนาติ รชนีเยน ราคุปฺปาทเกน. เตนาห ‘‘ราคสฺส ปจฺจยภาเวนา’’ติ. ราหุลสํยุตฺเต ราหุลตฺเถรสฺส ปุจฺฉาวเสน อาคตา. อิธ ราธตฺเถรสฺส สุราธตฺเถรสฺส จ ปุจฺฉาวเสน, ปาฬิ ปน สพฺพตฺถ สทิสา. เตนาห ‘‘วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานี’’ติ.
รชนียสณฺิตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อรหนฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ขชฺชนียวคฺโค
๑-๓. อสฺสาทสุตฺตาทิวณฺณนา
๗๓-๗๕. จตุสจฺจเมว กถิตํ อสฺสาทาทีนฺเจว สมุทยาทีนฺจ วเสน เทสนาย ปวตฺตตฺตา. ยสฺมา อสฺสาโท สมุทยสจฺจํ, อาทีนโว ทุกฺขสจฺจํ, นิสฺสรณํ มคฺคสจฺจํ นิโรธสจฺจฺจาติ วุตฺโตวายมตฺโถ; ทุติเย สมุทยสฺสาโท ¶ สมุทยสจฺจํ, อาทีนโว ทุกฺขสจฺจํ, อตฺถงฺคโม ¶ นิโรธสจฺจํ, นิสฺสรณํ มคฺคสจฺจนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ; ตติยํ อริยสาวกสฺเสว วเสน วุตฺตํ.
อสฺสาทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา
๗๖. ยตฺตกา สตฺตาวาสาติ ตสฺมึ ตสฺมึ สตฺตนิกาเย อาวสนฏฺเน สตฺตา เอว สตฺตาวาสา. เตน ยตฺตกา สตฺตาวาสา, เตหิ สพฺเพหิปิ เอเต อคฺคา เอเต เสฏฺา, เย อิเม อรหนฺตาติ ทสฺเสติ. ปุริมนเยเนวาติ ปุริมสฺมึ สตฺตฏฺานโกสลฺลสุตฺเต วุตฺตนเยน.
ตทตฺถปริทีปนาหีติ ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ ปริฺาย. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชติ. อสฺมิมาโน สมุจฺฉินฺโน’’ติอาทินา ตสฺส ยถานิทฺทิฏฺสฺส สุตฺตสฺส อตฺถทีปนาหิ เจว ‘‘อเนชํ เต อนุปฺปตฺตา, จิตฺตํ เตสํ อนาวิล’’นฺติอาทินา วิเสสตฺถปริทีปนาหิ จ. ฌานมคฺคผลปริยาปนฺนํ อติสยิตสุขํ เอเตสมตฺถีติ สุขิโนติ อาห ‘‘ฌาน…เป… สุขิตา’’ติ. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ เอตฺถ เตสํ อปายทุกฺขชนิกา ตณฺหา น วิชฺชตีติ วุตฺตํ. วฏฺฏมูลิกาย ตณฺหาย อภาวา ‘‘นนฺที เตสํ น วิชฺชตี’’ติ เอตฺถ วุจฺจตีติ. อิมสฺสปีติ ปิ-สทฺเทน ทุกฺขสฺสาภาเวนปีติ ทุกฺขาภาโว วิย วฏฺฏมูลิกตณฺหาภาโว สมฺปิณฺฑียตีติ ทฏฺพฺพํ. เตน หิ เต อนุปาทิเสสนิพฺพานปฺปตฺติยา อจฺจนฺตสุขิตา เอวาติ วุจฺจนฺตีติ. ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินยปฺปวตฺติยา นววิโธ. าเณนาติ อคฺคมคฺคฺาเณน.
อรหตฺตํ อนุปฺปตฺตา. อลิตฺตาติ อมกฺขิตา. พฺรหฺมภูตาติ พฺรหฺมภาวํ ปตฺตา, พฺรหฺมโต วา อริยมคฺคาณโต ภูตา อริยาย ชาติยา ชาตา. สตฺต สทฺธมฺมา โคจโร ปวตฺติฏฺานํ เอเตสนฺติ สตฺตสทฺธมฺมโคจรา.
นิราสงฺกจาโร นาม คหิโต กุโตจิปิ เตสํ อาสงฺกาย อภาวโต. สมฺมาทิฏฺิอาทีหิ ทสหิ องฺเคหิ สมฺมาวิมุตฺติ-สมฺมาาณปริโยสาเนหิ. ‘‘อาคุํ น กโรตี’’ติอาทีหิ จตูหิ การเณหิ. ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ อิทมฺปิ ตณฺหาปหานสฺส พหูปการตาทสฺสนํ. เตนาห ‘‘ทาสการิกา ตณฺหาปิ เตสํ นตฺถี’’ติ.
น ¶ วิกมฺปนฺติ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา.
อุทฺธํ ¶ ติริยํ อปาจีนนฺติ เอตฺถ ‘‘อุทฺธํ วุจฺจตี’’ติอาทินา รูปมุเขน อตฺตภาวํ คเหตฺวา ปวตฺโต ปมนโย. กาลตฺตยวเสน ธมฺมปฺปวตฺตึ คเหตฺวา ปวตฺโต ทุติยนโย. านวเสน สกลโลกธาตุํ คเหตฺวา ปวตฺโต ตติยนโย. พุทฺธาติ จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺธวนฺโต.
สีหนาทสโมธานนฺติ สีหนาทานํ สํกลนํ. โลเก อตฺตโน อุตฺตริตรสฺสาภาวา อนุตฺตรา. อุตฺตโร ตาว ติฏฺตุ ปุริโส, สทิโสปิ ตาว นตฺถีติ อสทิสา. สกลมฺปิ ภวํ อุตฺตริตฺวา ภวปิฏฺเ ตฺวา วิมุตฺติสุเขน สุขิตตฺตาทิวเสน เอกวีสติยากาเรหิ สีหนาทํ นทนฺติ.
อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยอรหนฺตสุตฺตวณฺณนา
๗๗. สุทฺธิกเมวาติ สุทฺธสํขิตฺตพนฺธเมว กตฺวา.
ทุติยอรหนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สีหสุตฺตวณฺณนา
๗๘. สีโหติ ปริสฺสยสหนโต ปฏิปกฺขหนนโต จ ‘‘สีโห’ติ ลทฺธนาโม มิคาธิปติ. จตฺตาโรติ จ สมาเนปิ สีหชาติกภาเว วณฺณวิเสสาทิสิทฺเธน วิเสเสน จตฺตาโร สีหา. เต อิทานิ นามโต วณฺณโต อาหารโต ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตสีหํ นานปฺปการโต วิภาเวตุํ ‘‘ติณสีโห’’ติอาทิ อารทฺธํ. ติณภกฺโข สีโห ติณสีโห ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘สากปตฺถิโว’’ติ. กาฬวณฺณตาย กาฬสีโห. ตถา ปณฺฑุสีโห. เตนาห ‘‘กาฬสีโห กาฬคาวิสทิโส, ปณฺฑุสีโห ปณฺฑุปลาสวณฺณคาวิสทิโส’’ติ. รตฺตกมฺพลสฺส วิย เกสโร เกสรกลาโป เอตสฺส อตฺถีติ เกสรี. ลาขารสปริกมฺมกเตหิ วิย ปาทปริยนฺเตหีติ โยชนา.
กมฺมานุภาวสิทฺธอาธิปจฺจมเหสกฺขตาหิ ¶ สพฺพมิคคณสฺส ราชา สุวณฺณคุหโต วาติอาทิ ‘‘สีหสฺส วิหาโร กิริยา เอวํ โหตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ.
สมํ ปติฏฺาเปตฺวาติ สพฺพภาเคหิ สมเมว ภูมิยํ ปติฏฺาเปตฺวา. อากฑฺฒิตฺวาติ ปุรโต อากฑฺฒิตฺวา ¶ . อภิหริตฺวาติ อภิมุขํ หริตฺวา. สงฺฆาตนฺติ วินาสํ. วีสติยฏฺิกํ านํ อุสภํ.
สมสีโหติ สมชาติโก สมภาโค จ สีโห. สมาโนสฺมีติ เทสนามตฺตํ, สมปฺปภาวตายปิ น ภายติ. สกฺกายทิฏฺิพลวตายาติ ‘‘เก อฺเ อมฺเหหิ อุตฺตริตรา, อถ โข มยเมว มหาพลา’’ติ เอวํ พลาติมานนิมิตฺตาย อหงฺการเหตุภูตาย สกฺกายทิฏฺิยา พลภาเวน. สกฺกายทิฏฺิปหีนตฺตาติ สกฺกายทิฏฺิยา ปหีนตฺตา นิรหงฺการตฺตา อตฺตสิเนหสฺส สุฏฺุ สมุคฺฆาฏิตตฺตา น ภายติ.
ตถา ตถาติ สีหสทิสตาทินา เตน เตน ปกาเรน อตฺตานํ กเถสีติ วตฺวา ตมตฺถํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สีโหติ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ.
กตาภินีหารสฺส โลกนาถสฺส โพธิยา นิยตภาวปฺปตฺติยา เอกนฺตภาวีพุทฺธภาโวติ กตฺวา ‘‘ตีสุ ปาสาเทสุ นิวาสกาโล, มคธรฺโ ปฏิฺาทานกาโล, ปายาสสฺส ปริภุตฺตกาโล’’ติอาทินา อภิสมฺโพธิโต ปุริมาวตฺถาปิ สีหสทิสํ กตฺวา ทสฺสิตา. ภาวินิ, ภูโตปจาโรปิ หิ โลกโวหาโร. วิชฺชาภาวสามฺโต ภูตวิชฺชา อิตรวิชฺชาปิ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสมฺมสนโต ตํ ปุเรตรํ สิทฺธํ วิปากํ วิย กตฺวา อาห ‘‘ติสฺโส วิชฺชา วิโสเธตฺวา’’ติ. อนุโลมปฏิโลมโต ปวตฺตาณวเสน ‘‘ยมกาณมนฺถเนนา’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ วิหรนฺตสฺสาติ อชปาลนิคฺโรธมูเล วิหรนฺตสฺส. เอกาทสเม ทิวเสติ สตฺตสตฺตาหโต ปรํ เอกาทสเม ทิวเส. อจลปลฺลงฺเกติ อิสิปตเน ธมฺมจกฺกปวตฺตนตฺถํ นิสินฺนปลฺลงฺเก. ตมฺปิ หิ เกนจิ อปฺปฏิวตฺติยธมฺมจกฺกปวตฺตนตฺถํ ¶ นิสชฺชาติ กตฺวา วชิราสนํ วิย อจลปลฺลงฺกํ วุจฺจติ. อิมสฺมิฺจ ปน ปเทติ ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทินยปฺปวตฺเต อิมสฺมึ สทฺธมฺมโกฏฺาเส. ธมฺมโฆโส…เป… ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปฏิจฺฉาเทสิ ‘‘สพฺพตฺถ ิตา สุณนฺตู’’ติ อธิฏฺาเนน. โสฬสหากาเรหีติ ‘‘ทุกฺขปริฺา, สมุทยปฺปหานํ, นิโรธสจฺฉิกิริยา, มคฺคภาวนา’’ติ เอวํ เอเกกสฺมึ มคฺเค จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา โสฬสหิ อากาเรหิ.
วุตฺโตเยว, น อิธ วตฺตพฺโพ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา จ อปเรหิปิ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโตติ อารภิตฺวา อุทานฏฺกถาทีสุปิ (อุทา. อฏฺ. ๑๘; อิติวุ. ๓๘) ตถาคตปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต เอว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ ¶ . ยทิปิ ภควา น โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนมตฺโตว อภิสมฺพุทฺโธ ชาโต, ตถาปิ ตาย นิสชฺชาย นิสินฺโนว ปนุชฺช สพฺพปริสฺสยํ อภิสมฺพุทฺโธ ชาโต. ตถา หิ ตํ ‘‘อปราชิตปลฺลงฺก’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘ยาว โพธิปลฺลงฺกา วา’’ติ วตฺวา เตน อปริตุสฺสนฺโต ‘‘ยาว อรหตฺตมคฺคาณา วา’’ติ อาห.
อิติ รูปนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท นิทสฺสนตฺโถ. เตน รูปํ สรูปโต ปริมาณโต ปริจฺเฉทโต ทสฺสิตนฺติ อาห ‘‘อิทํ รุป’’นฺติอาทิ. ‘‘อิทํ รูป’’นฺติ หิ อิมินา ภูตุปาทายเภทรูปํ สรูปโต ทสฺสิตํ. เอตฺตกํ รูปนฺติ อิมินา ตํ ปริมาณโต ทสฺสิตํ. ตสฺส จ ปริมาณสฺส เอกนฺตภาวทสฺสเนน ‘‘น อิโต ภิยฺโย รูปํ อตฺถี’’ติ วุตฺตํ. สภาวโตติ สลกฺขณโต. สรสโตติ สกิจฺจโต. ปริยนฺตโตติ ปริมาณปริยนฺตโต. ปริจฺเฉทโตติ ยตฺตเก าเน ตสฺส ปวตฺติ, ตสฺส ปริจฺเฉทนโต. ปริจฺฉินฺทนโตติ ปริโยสานปฺปตฺติโต. ตํ สพฺพํ ทสฺสิตํ โหติ ยถาวุตฺเตน วิภาเคน. อยํ รูปสฺส สมุทโย นามาติ อยํ อาหาราทิ รูปสฺส สมุทโย นาม. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ. อตฺถงฺคโมติ นิโรโธ. ‘‘อาหารสมุทยา อาหารนิโรธา’’ติ จ อสาธารณเมว คเหตฺวา เสเส อาทิ-สทฺเทน สงฺคณฺหาติ.
ปณฺณาสลกฺขณปฏิมณฺฑิตนฺติ ¶ ปณฺณาสอุทยพฺพยลกฺขณวิภูสิตํ สมุทยตฺถงฺคมคหณโต. ขีณาสวตฺตาติ อนวเสสํ สาวเสสฺจ อาสวานํ ปริกฺขีณตฺตา. อนาคามีนมฺปิ หิ ภยํ จิตฺตุตฺราโส จ น โหตีติ. าณสํเวโค ภยตูปฏฺานาณํ. อิตเรสํ ปน เทวานนฺติ อขีณาสเว เทเว สนฺธาย วทติ. โภติ ธมฺมาลปนมตฺตนฺติ วาจสิกํ ตถาลปนมตฺตํ.
จกฺกนฺติ สตฺถุ อาณาจกฺกํ, ตํ ปน ธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ตตฺถ อริยสาวกานํ ปฏิเวธธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. อิตเรสํ เทสนาธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ทุวิเธปิ าณํ ปธานนฺติ าณสีเสน วุตฺตํ ‘‘ปฏิเวธาณมฺปิ เทสนาาณมฺปี’’ติ. อิทานิ ตํ าณทฺวยํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิเวธาณํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา จสฺส าณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ภควา ตานิ สฏฺิ นยสหสฺสานิ เวเนยฺยานํ ทสฺเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ, ตสฺมา ตานิ สฏฺิ นยสหสฺสานิ เตน าเณน สทฺธึเยว สิทฺธานีติ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สฏฺิยา จ นยสหสฺเสหิ ปฏิวิชฺฌี’’ติ อาห. ติปริวฏฺฏนฺติ อิทํ ทุกฺขนฺติ จ, ปริฺเยฺยนฺติ จ, ปริฺาตนฺติ จ เอวํ ติปริวฏฺฏํ, ตํเยว ทฺวาทสาการํ. ตนฺติ เทสนาาณํ ปวตฺเตติ เอส ภควา. อปฺปฏิปุคฺคโลติ ปตินิธิภูตปุคฺคลรหิโต. เอกสทิสสฺสาติ นิพฺพิการสฺส.
สีหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา
๗๙. วิปสฺสนาวเสนาติ ¶ เอตรหิ รูปเวทนาทโย อนุสฺสริตฺวา ‘‘ปุพฺเพปาหํ เอวํเวทโน อโหสิ’’นฺติ อตีตานํ รูปเวทนาทีนํ ปจฺจุปฺปนฺเนหิ วิเสสาภาวทสฺสนา วิปสฺสนา, ตสฺสา วิปสฺสนาย วเสน. ยฺวายํ ‘‘น อิทํ อภิฺาวเสนา’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต, ตสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิฺาวเสน หี’’ติอาทิมาห. ขนฺธปฏิพทฺธา นาม โคตฺตวณฺณหาราทโย. เอวํ อนุสฺสรนฺโตติ ยถาวุตฺตวิปสฺสนาวเสน อนุสฺสรนฺโต. สภาวธมฺมานํ เอว อนุสฺสรณสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘สฺุตาปพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.
ยสฺมา ¶ เต เอว รูปาทโย เนว อตฺตา, น อตฺตนิยา อสารา อนิสฺสรา, ตสฺมา ตโต สฺุา, เตสํ ภาโว สฺุตา, ตสฺสา ลกฺขณํ รุปฺปนาทิกํ ทสฺเสตุํ.
กิฺจาติ เหตุอตฺถโชตเก การเณ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘กิฺจาติ การณปุจฺฉา, เกน การเณน รูปํ วเทถา’’ติ. เอตนฺติ เอตํ ภูตุปาทายเภทํ ธมฺมชาตํ. เกน การเณน รูปํ นามาติ กึ การณํ นิสฺสาย รูปนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. การณุทฺเทโสติ การณสฺส อุทฺทิสนํ. รุปฺปตีติ เอตฺถ รูปํ นาม สีตาทิวิโรธิปจฺจยสนฺนิปาเตน วิสทิสุปฺปตฺติ. เตนาห ‘‘สีเตนปี’’ติอาทิ. ปพฺพตปาเทติ จกฺกวาฬปพฺพตปาเท, โส ปน ตตฺถ อจฺจุคฺคโต ปากาโร วิย ิโต. ตถา หิ ตตฺถ สตฺตา โอลมฺพนฺตา ติฏฺนฺติ. หตฺถปาสาคตาติ หตฺถปาสํ อาคตา อุปาคตา. ตตฺถาติ ตสฺมึ หตฺถปาสาคเต สตฺเต. ฉิชฺชิตฺวาติ มุจฺฉาปตฺติยา มุจฺจิตฺวา, องฺคปจฺจงฺคอุจฺเฉทวเสน วา ปริจฺฉิชฺชิตฺวา. อจฺจนฺตขาเร อุทเกติ อาตปสนฺตาปาภาเวน อติสีตภาวเมว สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา สิยา. น หิ ตํ กปฺปสณฺานอุทกํ สมฺปตฺติกรมหาเมฆวุฏฺํ ปถวีสนฺธารกํ กปฺปวินาสอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุํ อรหติ, ตถา สติ ปถวีปิ วิลีเยยฺยาติ. มหึสกรฏฺํ นาม หิมวนฺตปเทเส เอกํ รฏฺํ.
อวีจิมหานิรเยติ สอุสฺสทํ อวีจินิรยํ วุตฺตํ. คงฺคาปิฏฺเติ คงฺคาตีเร.
สรนฺตา คจฺฉนฺตีติ สรีสปปทสฺส อตฺถํ วทติ. เอตนฺติ รุปฺปนํ. ยถา กินตา ปถวิยา ปจฺจตฺตลกฺขณํ, เอวํ รุปฺปนํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจตฺตลกฺขณํ, สภาวภูตลกฺขณนฺติ อตฺโถ.
ปุริมสทิสนฺติ ¶ ปุริเม รูปกฺขนฺเธ วุตฺเตน สทิสํ. ตํ ‘‘กินฺติ การณปุจฺฉา’’ติอาทินา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สุขํ อิฏฺารมฺมณํ. สุขาทีนํ เวทนานํ. ปจฺจยโตติ อารมฺมณปจฺจยโต. อยมตฺโถติ ‘‘สุขารมฺมณํ สุขนฺติ วุจฺจตี’’ติ อยมตฺโถ. อุตฺตรปทโลเปน เหส นิทฺเทโส. เวทยตีติ อนุภวติ. เวทยิตลกฺขณาติ อนุภวนลกฺขณา.
นีลปุปฺเผติ นีลวณฺณปุปฺเผ. วตฺเถ วาติ นีลวตฺเถ. วา-สทฺเทน วณฺณธาตุอาทึ สงฺคณฺหาติ. อปฺปนํ วา ฌานํ วาเปนฺโต. อุปฺปชฺชนสฺาปีติ ยํ ¶ กิฺจิ นีลํ รูปายตนํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนสฺาปิ, ยา ปกิณฺณกสฺาติ วุจฺจติ.
รูปตฺตายาติ รูปภาวาย. ยาคุเมวาติ ยาคุภาวินเมว วตฺถุํ. ยาคุตฺตาย ยาคุภาวาย. ปจติ นาม ปุคฺคโล. เอวนฺติ ยถา ยาคุอาทิวตฺถุํ ปุริโส ยาคุอาทิอตฺถาย ปจติ นิปฺผาเทติ, อยํ เอวํ รุปฺปนาทิสภาเว ธมฺมสมูเห ยถาสกํ ปจฺจเยหิ อภิสงฺขริยมาเน เจตนาปธาโน ธมฺมสมูโห ปวตฺตนตฺถํ วิเสสปจฺจโย หุตฺวา เต อภิสงฺขโรติ นิโรเปติ นิพฺพตฺเตติ. เตนาห ‘‘ปจฺจเยหี’’ติอาทิ. รูปเมวาติ รูปสภาวเมว, น อฺํ สภาวํ. อภิสงฺขโรตีติ อิตเรหิ ปจฺจยธมฺเมหิ อธิกํ สุฏฺุ ปจฺจยตํ กโรติ. ‘‘อุปคจฺฉติ ยาเปติ อายูหตี’’ติ ตสฺเสว เววจนานิ. อภิสงฺขรณเมว หิ อายูหนาทีนิ. นิพฺพตฺเตตีติ เตสํ ธมฺมานํ รุปฺปนาทิภาเวน นิพฺพตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. เจตยิตลกฺขณสฺส สงฺขารสฺสาติ อิทํ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ เจตนาปธานตฺตา วุตฺตํ. ตถา หิ ภควา สุตฺตนฺตภาชนีเย สงฺขารกฺขนฺธํ วิภชนฺเตน เจตนาว วิภตฺตา.
วาติงฺคณํ พฺรหติผลํ. จตุรสฺสวลฺลีติ ติวุตาลตา. อขาริกนฺติ ขารรสรหิตํ, ตํ ปน ปณฺณผลาทิ. ยตฺถ โลณรโส อธิโก, ตํ โลณิกนฺติ อาห ‘‘โลณยาคู’’ติอาทิ. อมฺพิลาทิเภทํ รสํ.
อาการสณฺานคหณวเสนาติ นีลปีตาทิอาการคหณวเสน เจว วฏฺฏจตุรสฺสาทิสณฺานคหณวเสน จ. วินาปิ อาการสณฺานาติ อาการสณฺาเนหิ วินา, เต เปตฺวาปิ. ปจฺจตฺตเภทคหณวเสนาติ ตสฺส ตสฺส อารมฺมณสฺส ปเภทคหณวเสน. อสมฺโมหโตติ ยาถาวโต. วิเสโส วิเสสตฺถทีปนโต, อวิเสโส อยํ ธมฺโม อวิเสสทีปนโต. เตนาห ‘‘วิเสโส เวทิตพฺโพ’’ติ. ชานนฺหิ อวิสิฏฺํ, ตํ สมาสปทโต อุปสคฺคา วิเสเสนฺติ. ตถา หิ สฺชานนปทํ ปจฺจภิฺาณนิมิตฺตํ อาการคหณมตฺตํ โพเธติ, วิชานนปทํ ตโต วิสิฏฺวิสยคหณํ ¶ . ปชานนปทํ ปน ตโตปิ วิสิฏฺตรํ ปการโต อวโพธํ โพเธติ. เตนาห ‘‘ตสฺสาปี’’ติอาทิ. อารมฺมณสฺชานนมตฺตเมวาติ นีลาทิเภทสฺส อารมฺมณสฺส ¶ สลฺลกฺขณมตฺตเมว. อวธารเณน ลกฺขณปฏิเวธตฺตํ นิวตฺเตติ. เตนาห ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทิ. าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตหิ วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนาย ปคุณภาเว สติ าณวิปฺปยุตฺเตน จิตฺเตนปิ วิปสฺสนา โหติเยวาติ อาห ‘‘อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธฺจ ปาเปตี’’ติ. ปฏิเวธนฺติ จ อุปลทฺธิเมว วทติ, น ปฏิวิชฺฌนํ. เตนาห ‘‘อุสฺสกฺกิตฺวา ปนา’’ติอาทิ. อุสฺสกฺกิตฺวาติ อุสฺสกฺกาเปตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ อสมฺโมหสภาวตฺตา. ยถา ลกฺขณปฏิเวธกาเล สฺชานนลกฺขณวเสน สฺาณอนุรูปวเสเนว ปวตฺตํ, เอวํ วิฺาณวิชานนวเสน วายํ อนุรูปวเสเนว ปวตฺตตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิทานิ ตมตฺถํ เหรฺิกาทิอุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. หิรฺํ วุจฺจติ กหาปณํ, หิรฺชานเน นิยุตฺโต เหรฺิโก. โลกโวหาเร อชาตา อสฺชาตา พุทฺธิ เอตสฺสาติ อชาตพุทฺธิ, พาลทารโก. โวหารกุสโล คามวาสี ปุริโส คามิกปุริโส. อุปโภคปริโภคารหตฺตา อุปโภคปริโภคํ. ตมฺพกํสมยตฺตา กูโฏ. มหาสารตฺตา เฉโก. อฑฺฒสารตฺตา กรโฏ. นิหีนสารตฺตา สณฺโห. เอตฺถ จ ยถา เหรฺิโก กหาปณํ จิตฺตาทิภาวโต อุทฺธํ กูฏาทิภาวํ รูปทสฺสนาทิวเสน อุปฺปตฺติฏฺานโตปิ ชานนฺโต อเนกาการโต ชานาติ, เอวํ ปฺา อารมฺมณํ นานปฺปการโต ชานาติ ปฏิวิชฺฌติ, ตาย สทฺธึ ปวตฺตมานวิฺาณมฺปิ ยถาวิสยํ อารมฺมณํ ชานาติ.
เอวํ สฺวายํ เนสํ ชานเน วิเสโส อฺเสํ อวิสโย, พุทฺธานํ เอว วิสโยติ อิทํ วิเสสํ มิลินฺทปฺเหน วิภาเวตุํ ‘‘เตนาหา’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
อตฺตสฺุานํ สภาวธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย กถิตตฺตา ‘‘อนตฺตลกฺขณํ กเถตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เหฏฺิมมคฺคา จ ยทิ อธิคตา, อรหตฺตสฺส อนธิคตตฺตา ‘‘เอกเทสมตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อนิจฺจลกฺขณํ ทสฺเสตุํ อิทํ ปพฺพมารทฺธํ, อิตรานิ ทฺเว ลกฺขณานิ ตสฺส ปริหารภาเวนาติ อธิปฺปาโย.
ยสฺมา ¶ ปเนตฺถ ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว’’ติอาทิเทสนาย ตีสุ ลกฺขเณสุ อิทเมว ปธานภาเวน ทสฺสิตํ, อิทํ อปฺปธานภาเวนาติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘‘ตีณิ ลกฺขณานิ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสตุมฺปี’’ติ วุตฺตํ. อปจินาตีติ อปจยคามิธมฺเม นิวตฺเตติ เอกํสโต อปจยคามิปฏิปทาย ¶ ปริปูรณโต. เตนาห ‘‘โน อาจินาตี’’ติอาทิ. วฏฺฏํ วินาเสตีติ วิธมติ อทสฺสนํ คเมติ. เนว จินาตีติ น วฑฺเฒติ. ตเทวาติ ตํ วฏฺฏํ เอว. วิสฺสชฺเชตีติ ฉฑฺเฑติ. วิกิรตีติ วิทฺธํเสติ. วิธูเปตีติ วฏฺฏตฺตยสงฺขาตํ อคฺคิกฺขนฺธํ วิคตธูมํ วิคตสนฺตาปํ กโรตีติ อตฺโถติ อาห ‘‘นิพฺพาเปตี’’ติ.
เอวํ ปสฺสนฺติอาทิ อนาคามิผเล ิตสฺส อริยสาวกสฺส อคฺคมคฺคผลาธิคมาย เทสนาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วฏฺฏํ วินาเสตฺวา ิตํ มหาขีณาสวํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ. ขีณาสวสฺส อนาคตภาวทสฺสนํเยว, สพฺพา จายํ เหฏฺิมา เทสนา สุทฺธวิปสฺสนากถา, สหปมมคฺคา วา สหวิชฺชูปมธมฺมา วา วิปสฺสนากถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺตเกน าเนนา’’ติอาทิมาห.
นมสฺสนฺติเยว มหตา คารวพหุมาเนน. เตนาห ‘‘นโม เต ปุริสาชฺา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิทสฺสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อายสฺมนฺตํ นีตตฺเถรํ วิยา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เถโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขุรคฺเคเยวาติ เกโสโรปนตฺถํ ขุรธาราย อคฺเค สีเส ปิเต ตจปฺจกกมฺมฏฺานมุเขน ภาวนํ อนุยฺุชนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา. พฺรหฺมวิมานาติ พฺรหฺมานํ นิวาสภูตา วิมานา.
ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปิณฺโฑลฺยสุตฺตวณฺณนา
๘๐. อปกรียติ เอเตนาติ อปกรณํ, ปทํ. อปกรณํ ปกรณํ การณนฺติ อตฺถโต เอกํ. เตนาห ‘‘กิสฺมิฺจิเทว การเณ’’ติ. นีหริตฺวาติ อตฺตโน สมีปจารภาวโต อปเนตฺวา. ตถากรณฺจ เอวเมเต ¶ เอตฺตกมฺปิ อปฺปฏิรูปํ อกตฺวา อายตึ สมฺมา ปฏิปชฺชิสฺสนฺตีติ. ลทฺธพลาติ ลทฺธาณพลา.
เอกทฺวีหิกายาติ เอเกกสฺส เจว ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนฺจ อีหิกา คติ อุปสงฺกมนา เอกทฺวีหิกา. เตนาห ‘‘เอเกโก เจว ทฺเว ทฺเว จ หุตฺวา’’ติ. ปุถุชฺชนานํ สมุทิตานํ นาม กิริยา ตาทิสีปิ สิยาติ วุตฺตํ ‘‘เกฬิมฺปิ กเรยฺยุ’’นฺติ. ปริกปฺปนวเสน สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุทฺทิสฺส เปสลา ภิกฺขูปิ เอวํ กโรนฺตีติ.
ยุคนฺธรปพฺพตาทีนํ อนฺตเร สีทนฺตรํ สมุทฺทํ นาม. ตตฺถ กิร วาโต น วายติ, ปติตํ ยํ ¶ กิฺจิปิ สีทนฺตรนทิยํ วิลียนฺตา สีทนฺเตว, ตสฺมา ตํ ปริวาเรตฺวา ิตา ยุคนฺธราทโยปิ สีทปพฺพตา นาม. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สีทนฺตเร สนฺนิสินฺนํ มหาสมุทฺทํ วิยา’’ติ. อาหารเหตูติ อามิสเหตุ สปฺปิเตลาทินิมิตฺตํ, เตสํ ปณามนา.
ปจฺฉิมนฺติ นิหีนํ. เตนาห ‘‘ลามก’’นฺติ, ลามกนฺโต อิธาธิปฺเปโต –
‘‘มิคานํ โกฏฺุโก อนฺโต, ปกฺขีนํ ปน วายโส;
เอรณฺโฑ อนฺโต รุกฺขานํ, ตโย อนฺตา สมาคตา’’ติ. –
อาทีสุ (ชา. ๑.๓.๑๓๕) วิย. อุลตีติ อภิจรติ. อภิสปนฺติ เอเตนาติ อภิสาโป. อภิสาปวตฺถุ ปิณฺโฑลฺยํ. อตฺโถ ผลํ วโส เอตสฺสาติ อตฺถวสํ, การณํ, ตมฺปิ เตสุ อตฺถิ, ตตฺถ นิยุตฺตาติ อตฺถวสิกา.
อนฺโต หทยสฺส อพฺภนฺตเร อนุปวิฏฺา โสกวตฺถูหิ.
อภิชฺฌายิตาติ อภิชฺฌายนสีโล. อภิณฺหปฺปวตฺติยา เจว พหุลภาเวน จ พหุลราโค. ปูติภาเวนาติ กุถิตภาเวน. พฺยาปาโท หิ อุปฺปชฺชมาโน จิตฺตํ อปคนฺธํ กโรติ, น สุจิมนฺุภาวํ. ภตฺตนิกฺขิตฺตกาโก วิยาติ อิทํ ภตฺตฏฺานสฺส อสรเณน กากสฺส นฏฺสติตา ปฺายตีติ กตฺวา วุตฺตํ, น ภตฺตนิกฺขิตฺตตาย. อสณฺิโตติ อสณฺิตจิตฺโต. กฏฺตฺถนฺติ กฏฺเน กตฺตพฺพกิจฺจํ.
ปาปวิตกฺเกหิ กโต, ตสฺมา เต อนวเสสโต ปหาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ. ทฺวินฺนํ วุตฺตตฺตา เอโก ปุพฺพภาโค, อิตโร มิสฺสโกติ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ¶ อธิปฺปาเยน ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ ตํ ภาเวนฺตสฺส นิรุชฺฌนฺติ เอวาติ เอเกกมิสฺสกตาวเสน คเหตพฺพนฺติ โปราณา. อุปริ ติปริวฏฺฏเทสนาย อนิมิตฺตสมาธิเยว ทีปิโต. เตนาห ‘‘ยาวฺจิท’’นฺติ. นิทฺโทโสติ วีตราคาทินา นิทฺโทโส.
ปิณฺโฑลฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปาลิเลยฺยสุตฺตวณฺณนา
๘๑. ปริยาทิณฺณรูปจิตฺตาติ ¶ ราคาทีหิ ปริยาทิยิตฺวา เขเปตฺวา คหิตจิตฺตา.
ภควโต จาโร วิทิโต ปริจยวเสน. สตฺถา ปริโภคํ กโรติ อนุคฺคณฺหนฺโต ‘‘เอวํ หิสฺส ทุคฺคติโมกฺโข ภวิสฺสตี’’ติ. อฺตฺราติ วินา.
นาเคนาติ พุทฺธนาเคน องฺกุสรหิเตน. ตโต เอว อุชุภูเตน จิตฺเตน. อีสาทนฺตสฺส นงฺคลสทิสทนฺตสฺส หตฺถิโน เอวํ จิตฺตํ สเมติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ยเทโก รมตี วเน’’ติ. เอเตน กายวิเวเกน รติสามฺํ วทติ.
อตฺตโน ธมฺมตายาติ ปกติยา สยเมว.
อาสวานํ ขโยติ อิธ อรหตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตํ ปน อคฺคมคฺคานนฺตรเมวาติ อาห ‘‘มคฺคานนฺตรํ อรหตฺตผล’’นฺติ. วิจโย เทสนาปฺา อธิปฺเปตา, สา จ อเนกธา ปวตฺตา เอวาติ วุตฺตํ ‘‘วิจยโส’’ติ, อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตมานาปิ วิจโย เอวาติ กตฺวา ‘‘วิจเยนา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. สาสนธมฺโมติ สีลกฺขนฺธาทิปริทีปโน ปริยตฺติธมฺโม. ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา, เอวํ โกฏฺาสโต ปริจฺฉิชฺช เทสิเต มยา ธมฺเม กตมสฺส ชานนสฺส อนฺตรา อาสวานํ ขโย โหตีติ เอกจฺจสฺส กงฺขา โหติเยวาติ อธิปฺปาโย. ทิฏฺิ เอว สมนุปสฺสนา ทิฏฺิสมนุปสฺสนา. ทิฏฺิสงฺขาโรติ ทิฏฺิปจฺจโย สงฺขาโร. ตโต เอว ตณฺหาปจฺจโย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตโตโช โส สงฺขาโร’’ติ. ตโต ตณฺหาโต โส สงฺขาโร ชาโตติ จตูสุ เอส ทิฏฺิสงฺขาโร ทิฏฺูปนิสฺสโย สงฺขาโร ชายติ. อวิชฺชาสมฺผสฺโสติ ¶ อวิชฺชาสมฺปยุตฺตสมฺผสฺโส. เอวเมตฺถ ภควา สฬายตนนามรูปวิฺาณานิ สงฺขารปกฺขิกาเนว กตฺวา ทสฺเสติ.
เอตฺตเก าเนติ ‘‘อิธ ภิกฺขเว อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติอาทึ กตฺวา ยาว ‘‘น เม ภวิสฺสตี’’ติ เอตฺตเก าเน. คหิตคหิตทิฏฺินฺติ สกฺกายทิฏฺิยา ‘‘โส อตฺตา, โส โลโก’’ติอาทินา ปวตฺตํ สสฺสตทิฏฺึ, โน จสฺสํ, โน จ เม สิยา’’ติอาทินา ปวตฺตํ อุจฺเฉททิฏฺินฺติ ตถา ตถา คหิตทิฏฺึ. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, โสปิ สงฺขาโร อนิจฺโจ’’ติอาทิเทสนาย วิสฺสชฺชาเปนฺโต อาคโต. ตตฺถ ตตฺเถวาสฺส อุปฺปนฺนทิฏฺิวิเวจนโต อิมิสฺสา เทสนาย ปุคฺคลชฺฌาสเยน ¶ ปวตฺติตตา เวทิตพฺพา, เตวีสติยา าเนสุ อรหตฺตปาปเนน เทสนาวิลาโส. ตโตโช โส สงฺขาโรติ ตโต วิจิกิจฺฉาย ปจฺจยภูตตณฺหาโต ชาโต วิจิกิจฺฉาย สมฺปยุตฺโต สงฺขาโร. ยทิ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ตโต ตณฺหาโต ชาโตติ ตโตโช สงฺขาโรติ วุจฺเจยฺย, อิทมยุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตณฺหาสมฺปยุตฺต…เป… ชายตี’’ติ โจเทติ. อิตโร อุปนิสฺสยโกฏิ อิธาธิปฺเปตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปหีนตฺตา’’ติ วตฺวา ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทินา ตมตฺถํ วิวรติ. น หิ ตณฺหาย วิจิกิจฺฉา สมฺภวติ. ยทิ อสติ สหชาตโกฏิยา อุปนิสฺสยโกฏิยา ตณฺหาปจฺจยา วิจิกิจฺฉาย สมฺภโว เอว. ทิฏฺิยาปีติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิยาปิ. เตนาห ‘‘จตูสุ หี’’ติอาทิ. วีสติ สกฺกายทิฏฺิโย สสฺสตทิฏฺึ อุจฺเฉททิฏฺึ วิจิกิจฺฉฺจ ปกฺขิปิตฺวา ปจฺเจกํ อนิจฺจตามุเขน วิปสฺสนํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ ปาเปตฺวา เทสนา นิฏฺาปิตาติ อาห ‘‘เตวีสติยา าเนสู’’ติอาทิ.
ปาลิเลยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา
๘๒. ทิสฺสติ อปทิสฺสตีติ เทโส, การณํ, ตฺจ โข าปกํ ทฏฺพฺพํ. ยฺหิ โส ชานิตุกาโม รุปฺปนาทิสภาวํ, ปมํ ปน สรูปํ ¶ ปุจฺฉิตฺวา ปุน ตสฺส วิเสโส ปุจฺฉิตพฺโพติ ปมํ ‘‘อิเม นุ โข’’ติอาทินา ปุจฺฉํ กโรติ, อิธาปิ จ โส วิเสโส เอว ตสฺส ภิกฺขุโน อนฺตนฺติ ทสฺเสติ. อชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ เตสํ เหตุนฺติ อธิปฺปาโย.
ตณฺหาฉนฺทมูลกา ปภวตฺตา. ปฺจุปาทานกฺขนฺธาติ เอตฺถ วิเสสโต ตณฺหุปาทานสฺส คหณํ อิตรสฺส ตคฺคหเณเนว คหิตํ ตทวินาภาวโตติ ฉนฺทราโค เอว อุทฺธโฏ. อิทนฺติ ตปฺปฺหปฏิกฺขิปนํ. ยทิปิ ขนฺธา อุปาทาเนหิ อสหชาตาปิ โหนฺติ อุปาทานสฺส อนารมฺมณภูตาปิ, อุปาทานํ ปน เตหิ สหชาตเมว, ตทารมฺมณฺจ โหติเยวาติ ทสฺเสติ. น หิ อสหชาตํ อนารมฺมณฺจ อุปาทานํ อตฺถีติ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหาสมฺปยุตฺตสฺมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. อารมฺมณโตติ อารมฺมณกรณโต. ‘‘เอวํรูโป สิย’’นฺติ เอวํปวตฺตสฺส ฉนฺทราคสฺส ‘‘เอวํเวทโน สิย’’นฺติ เอวํปวตฺติยา อภาวโต ตตฺถ ตตฺเถว นตสงฺขารา ภิชฺชนฺติ, ตสฺมา รูปเวทนารมฺมณานํ ฉนฺทราคาทีนํ อภาวโต อตฺเถว ฉนฺทราคเวมตฺตตา. ฉนฺทราคสฺส ปหานาทิวเสน ฉนฺทราคปฏิสํยุตฺตสฺส อปุจฺฉิตตฺตา, ‘‘อนุสนฺธิ น ฆฏิยตี’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ น ฆฏิยตีติ อฺสฺเสว ปุจฺฉิตตฺตา, ตถาปิ สานุสนฺธิกาว ปุจฺฉา ¶ , ตโต เอว สานุสนฺธิกํ วิสฺสชฺชนํ. ตตฺถ การณมาห ‘‘เตสํ เตส’’นฺติอาทินา. เตน อชฺฌาสยานุสนฺธิวเสน สานุสนฺธิกาเนว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานีติ ทสฺเสติ.
ปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขชฺชนียวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. เถรวคฺโค
๑. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๘๓. ปฏิจฺจาติ นิสฺสยํ กตฺวา. ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ ทิฏฺิคฺคาโห, ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานคฺคาโห จ ตณฺหาวเสเนว โหนฺตีติ ตณฺหาปิ ตถาปวตฺติยา ปจฺจยภูตา ตถาปวตฺติ เอวาติ วุตฺตํ ‘‘อสฺมีติ เอวํ ปวตฺตํ ¶ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจตฺตยํ โหตี’’ติ. ทหรสทฺโท พาลทารเกปิ ปวตฺตตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ยุวา’’ติ วุตฺตํ. ยุวาปิ เอโก อมณฺฑนสีโลติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘มณฺฑนกชาติโก’’ติ วุตฺตํ. เตน มุขนิมิตฺตปจฺจเวกฺขณสฺส สพฺภาวํ ทสฺเสติ. ตนฺติ อาทาสมณฺฑลํ โอโลกยโต. ปรมฺมุขํ หุตฺวา ปฺาเยยฺยาติ ยทิ ปุรตฺถิมทิสาภิมุขํ หุตฺวา ิตํ, มุขนิมิตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมทิสาภิมุขเมว หุตฺวา ปฺาเยยฺยาติ อตฺโถ. ยทิปิ ปรสฺส สทิสสฺส มุขํ ภเวยฺย, ตถาปิ กาจิ อสทิสตา ภเวยฺยาติ วุตฺตํ ‘‘วณฺณาทีหิ อสทิสํ หุตฺวา ปฺาเยยฺยา’’ติ. นิภาสรูปนฺติ ปฏิภาสรูปํ. นิภาสรูปํ ตาว กํสาทิมเย ปภสฺสเร มณฺฑเล ปฺายตุ, อุทเก ปน กถนฺติ ‘‘เกน การเณนา’’ติ ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘มหาภูตานํ วิสุทฺธตายา’’ติ วทนฺโต ตตฺถาปิ ยถาลทฺธปภสฺสรภาเวเนวาติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ มณฺฑนชาติโก ปุริโส วิย ปุถุชฺชโน, อาทาสตลาทโย วิย ปฺจกฺขนฺธา, มุขนิมิตฺตํ วิย ‘‘อสฺมี’’ติ คหณํ, มุขนิมิตฺตํ อุปาทาย ทิสฺสมานรูปาทิ วิย ‘‘อสฺมี’’ติ สติ ‘‘อหมสฺมี’’ติ ‘‘ปโรสฺมี’’ติอาทโย คาหวิเสสา. อภิสเมโตติ อภิสมิโต, อยเมว วา ปาโ.
อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา
๘๔. มธุรกํ ¶ วุจฺจติ กาเย วิภารนฺติ อาห – ‘‘มธุรกชาโต วิยาติ สฺชาตครุภาโว วิยา’’ติ. ครุภาเว สติ ลหุตา อโนกาสาว, ตถา มุทุตา กมฺมฺตา จาติ วุตฺตํ ‘‘อกมฺมฺโ’’ติ. ‘‘กาเย’’ติ อาเนตฺวา วตฺตพฺพํ. น ปกฺขายนฺตีติ ปกาสา หุตฺวา น ขายนฺติ. เตนาห ‘‘น ปากฏา โหนฺตี’’ติ. อุปฏฺหนฺตีติ อุปติฏฺนฺติ. น ทิสฺสตีติ คหณํ น คจฺฉติ. มหาวิจิกิจฺฉาติ อฏฺวตฺถุกา โสฬสวตฺถุกา จ วิมติ. น หิ อุปฺปชฺชติ ปริปกฺกกุสลมูลตฺตา.
กามานเมตํ อธิวจนนฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา เยน อธิปฺปาเยน ภควตา นินฺนํ ปลฺลลํ กามานํ นิทสฺสนภาเวน อาภตํ, ตํ อธิปฺปายํ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ติสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ยมกสุตฺตวณฺณนา
๘๕. ทิฏฺิ ¶ เอว ทิฏฺิคตํ ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๑๙; อ. นิ. ๙.๑๑) ยถา. ทิฏฺิคตํ นาม ชาตํ ขนฺธวินิมุตฺตสฺส สตฺตสฺส คหิตตฺตา.
กุปิเตติ ทิฏฺิสงฺขาตโรเคน กุปิเต. ปคฺคยฺหาติ เตสํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก วิย เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส สมฺมุขา อตฺตโน ลทฺธึ ปคฺคยฺห ‘‘เอวํ ขฺวาห’’นฺติ เอวํ นิจฺฉเยน วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต.
อนุโยควตฺตํ นาม เยน ยุตฺโต, ตสฺส อตฺตโน คาหํ นิชฺฌานกฺขนฺติยาว ยาถาวโต ปเวทนํ. เถรสฺส อนุโยเค ภุมฺมนฺติ ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส ยมกา’’ติอาทินา เถเรน กถิตปุจฺฉาย ภุมฺมนิทฺเทโส. สเจ ตํ อาวุโสติ อิทนฺติ ‘‘สเจ ตํ, อาวุโส’’ติ เอวมาทิกํ อิทํ วจนํ. เอตนฺติ ยมกตฺเถรํ. อฺนฺติ อรหตฺตํ. วตฺตพฺพากาเรน วทนฺโต อตฺถโต อรหตฺตํ พฺยากโรนฺโต นาม โหตีติ อธิปฺปาเยน วทติ.
เอตสฺส ปมมคฺคสฺสาติ เอตสฺส อิทานิเยว ติปริวฏฺฏเทสนาวสาเน ตยา อธิคตสฺส ปมมคฺคสฺส ¶ . จตูหิ โยเคหีติ อตฺตโต ปิยโต อุทาสินโต เวริโตติ จตูหิปิ อุปฺปชฺชนอนตฺถโยเคหิ.
อุเปตีติ ตณฺหุปยทิฏฺุปเยหิ อุปาทิยติ ตณฺหาทิฏฺิวตฺถุํ ปปฺโปติ. อุปาทิยตีติ ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหาติ. อธิติฏฺตีติ อภินิวิสฺส ติฏฺติ. กินฺติ? ‘‘อตฺตา เม’’ติ. ปจฺจตฺถิกา เม เอเตติ เอเต รูปเวทนาทโย ปฺจุปาทานกฺขนฺธา มยฺหํ ปจฺจตฺถิกา อนตฺถาวหตฺตาติ วิปสฺสนาาเณน ตฺวา. วิปสฺสนาย โยเชตฺวาติ วิปสฺสนาย ขนฺเธ โยเชตฺวา.
ยมกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อนุราธสุตฺตวณฺณนา
๘๖. ตสฺเสว วิหารสฺสาติ มหาวเน ยสฺมึ วิหาเร ภควา วิหรติ, ตสฺเสว วิหารสฺส. อิเมติ อฺติตฺถิยา. ยสฺมา อยํ เถโร ¶ ปนียํ ปฺหํ ปนียภาเวน น เปสิ, ตสฺมา. อฺติตฺถิยา…เป… เอตทโวจุํ. เตนาห ‘‘เอกเทเสน สาสนสมยํ ชานนฺตา’’ติ.
คหิตเมว โหติ ตโต ปเคว สิทฺธตฺตา. เตนาห ‘‘ตสฺส มูลตฺตา’’ติ. เอวนฺติ ‘‘ทุกฺขฺเจว ปฺเปมิ, ทุกฺขสฺส จ นิโรธ’’นฺติ เอวํ. วฏฺฏวิวฏฺฏเมวาติ ปฺจนฺนํ ปน ขนฺธานํ สมนุปสฺสนาย วเสน วฏฺฏํ, ‘‘เอวํ ปสฺส’’นฺติอาทินา วิวฏฺฏํ กถิตเมว.
อนุราธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. วกฺกลิสุตฺตวณฺณนา
๘๗. นครมชฺเฌ มหาอาพาโธ อุปฺปชฺชีติ นครมชฺเฌน อาคจฺฉนฺโต กมฺมสมุฏฺาโน มหนฺโต อาพาโธ อุปฺปชฺชติ. สมนฺตโต อโธสีติ สพฺพภาเคน ปริปฺผนฺทิ. อิริยาปถํ ยาเปตุนฺติ สยนนิสชฺชาทิเภทํ อิริยาปถํ ปวตฺเตตุํ. นิวตฺตนฺตีติ โอสกฺกนฺติ, ปริหายนฺตีติ อตฺโถ. อธิคจฺฉนฺตีติ วฑฺฒนฺติ. สตฺถุ คุณสรีรํ นาม นววิธโลกุตฺตรธมฺมาธิคมมูลนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘นววิโธ หิ…เป… กาโย นามา’’ติ, ยถา สตฺตานํ กาโย ปฏิสนฺธิมูลโก.
กาฬสิลายํ กตวิหาโร กาฬสิลาวิหาโร. มคฺควิโมกฺขตฺถายาติ อคฺคมคฺควิโมกฺขาธิคมาย. เทวตาติ สุทฺธาวาสเทวตา. อลามกํ นาม ปุถุชฺชนกาลกิริยาย อภาวโต. เตนาห ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ ¶ . เอกํ ทฺเว าณานีติ เอกํ ทฺเว ปจฺจเวกฺขณาณานิ สภาวโต อวสฺสํ อุปฺปชฺชนฺติ, อยํ ธมฺมตา. มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณานิ ตํตํมคฺควุฏฺาเน อุปฺปชฺชนฺติ เอว. เอกํ ทฺเวติ วจนํ อุปฺปนฺนภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
ธูมายนภาโว ธูมาการตา, ตถา ติมิรายนภาโว.
วกฺกลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อสฺสชิสุตฺตวณฺณนา
๘๘. ปสฺสมฺภิตฺวาติ ¶ นิโรเธตฺวา. โน จ สฺวาหนฺติ โน จ สุ อหํ. ปริหายิ กุปฺปธมฺมตฺตา. เอตนฺติ สมาธิมตฺตสารํ, สีลมตฺเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. กถํ โหตีติ กถํ อภินนฺทนา โหติ. ทุกฺขํ ปตฺวาติ ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุ สุขํ ปตฺเถติ ‘‘เอวํ เม ทุกฺขปริฬาโห น ภวิสฺสตี’’ติ. ยทคฺเคนาติ เยน ภาเคน. ‘‘ทุกฺขํ ปตฺเถติเยวา’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘สุขวิปริณาเมน หี’’ติอาทิ. สุขวิปริวตฺเต สุขวิปริณามทุกฺขํ, ตสฺมา สุขํ อภินนฺทนฺโต อตฺถโต ทุกฺขํ อภินนฺทติ นาม.
อสฺสชิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เขมกสุตฺตวณฺณนา
๘๙. อตฺตนิยนฺติ ทิฏฺิคติกปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน สนฺตกํ. เตนาห ‘‘อตฺตโน ปริกฺขารชาต’’นฺติ. ตณฺหามาโน อธิคโต อรหตฺตสฺส อนธิคตตฺตา, โน ทิฏฺิมาโน อธิคโต, ตถา กามราคพฺยาปาทาปิ. อนาคามี กิร เขมกตฺเถโร, ‘‘สกทาคามี’’ติ เกจิ วทนฺติ. สนฺธาวนิกายาติ สฺจรเณน. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุนํ คมนาคมเนนา’’ติ. จตุกฺขตฺตุํ คมนาคมเนนาติ จตุกฺขตฺตุํ คมเนน จ อาคมเนน จ. เตนาห – ‘‘ตํ ทิวสํ ทฺวิโยชนํ อทฺธานํ อาหิณฺฑี’’ติ. ตฺวาติ อชฺฌาสยํ ตฺวา. เถโรติ เขมกตฺเถโร.
รูปเมว อสฺมีติ วทตีติ รูปกฺขนฺธเมว ‘‘อสฺมี’’ติ คาหสฺส วตฺถุํ กตฺวา วทติ. อธิคโต ตณฺหามาโน.
อณุสหคโตติ ¶ อณุภาวํ คโต. เตนาห ‘‘สุขุโม’’ติ. ตโย ขารา วิย ติสฺโส อนุปสฺสนา จิตฺตสํกิเลสสฺส วิโสธนโต. สีลคนฺธาทีหิ คุณคนฺเธหิ.
กเถตุนฺติ อุทฺเทสวเสน กเถตุํ. ปกาเสตุนฺติ นิทฺเทสวเสน ตมตฺถํ ปกาเสตุํ. ชานาเปตุนฺติ การณวเสน ชานาเปตุํ. ปติฏฺาเปตุนฺติ กถาเปตุํ. วิวฏํ กาตุนฺติ อุทาหรณํ วณฺเณตฺวา ปากฏํ กาตุํ ¶ . สุวิภตฺตํ กาตุนฺติ อนฺวยโต พฺยติเรกโต สุฏฺุ, วิภตฺตํ กาตุํ. อุตฺตานกํ กาตุนฺติ อุปนยนิคเมหิ ตมตฺถํ วิภูตํ กาตุํ. อฺเน นีหาเรนาติ วิปสฺสนาวิมุตฺเตน จิตฺตาภินีหาเรน.
เขมกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา
๙๐. มกฺขีติ คุณมกฺขนลกฺขเณน มกฺเขน สมนฺนาคโต. ปฬาสีติ ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน สมนฺนาคโต. เอตํ อโวจาติ ‘‘โอวทนฺตุ มํ…เป… ปสฺเสยฺย’’นฺติ เอตํ อโวจ.
เถรนฺติ ฉนฺนตฺเถรํ. อตฺตโน ทุคฺคหเณน กฺจิ อุปารมฺภมฺปิ กเรยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ กิร เนสํ อโหสี’’ติอาทิ. นิทฺโทสเมวสฺส กตฺวาติ อาทิโต อนุรูปตฺตเมว กตฺวา สทฺธมฺมํ กเถสฺสามาติ.
ปริตสฺสนา อุปาทานนฺติ ภยปริตสฺสนา ทิฏฺุปาทานํ. อนตฺตนิ สติ อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตีติ ภยปริตสฺสนา เจว ทิฏฺุปาทานฺจ อุปฺปชฺชติ. ปฏินิวตฺตตีติ ยถารทฺธวิปสฺสนาโต ปฏินิวตฺตติ, นาสกฺขีติ อตฺโถ. กสฺมา ปเนตสฺส วิปสฺสนมนุยฺุชนฺตสฺส เอวํ อโหสีติ ตตฺถ การณํ วทติ ‘‘อยํ กิรา’’ติอาทินา. เอวนฺติ ‘‘โก นุ โข เม อตฺตา’’ติ เอวํ น โหติ. ตาวติกา วิสฺสตฺถีติ ‘‘มยฺหํ ธมฺมํ เทเสตู’’ติ วุตฺตวิสฺสาโส อตฺถีติ อตฺโถ. อิทํ กจฺจานสตฺถํ อทฺทสาติ โยชนา. ‘‘ทฺวยนิสฺสิโต, กจฺจาน, โลโก’’ติอาทิ ทิฏฺิวินิเวนา. ‘‘เอเต เต, กจฺจาน, อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมา’’ติอาทิ พุทฺธพลทีปนา.
ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. ราหุลสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๑-๙๒. เอตานิ ¶ สุตฺตานิ. อิธาคตานีติ อิมสฺมึ วคฺเค อานีตานิ สงฺคีติกาเรหีติ.
ราหุลสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
เถรวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปุปฺผวคฺโค
๑. นทีสุตฺตวณฺณนา
๙๓. ปพฺพเตยฺยาติ ¶ ปพฺพตโต อาคตา. ตโต เอว โอหารินี. เตนสฺสา จณฺฑโสตตํ ทสฺเสติ. ทูรํ คจฺฉตีติ ทูรงฺคมา. เตนสฺสา มโหฆตํ ทสฺเสติ.
โสเตติ วฏฺฏโสเต. จตูหิ คาเหหีติ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตหิ จตูหิ คาเหหิ. ปลุชฺชนตฺตาติ ฉินฺนตฺตา. โสกาทิพฺยสนปฺปตฺตีติ โสกาทิอนตฺถุปฺปตฺติ.
นทีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปุปฺผสุตฺตวณฺณนา
๙๔. วิวทตีติ วิวาทํ กโรติ. วทนฺโตติ อยถาสภาเวน วทนฺโต. วิวทติ ธมฺมตาย วิรุทฺธํ กตฺวา วทติ. โลกธมฺโมติ ลุชฺชนสภาวธมฺโม. โก ปน โสติ อาห ‘‘ขนฺธปฺจก’’นฺติ. เตนาห ‘‘ตํ หี’’ติอาทิ. กถํ กโรมีติ เกน ปกาเรนาหํ พาลํ อชานนฺตํ กโรมิ. เตนาห ‘‘มยฺหํ หี’’ติอาทิ. ตถา จาห ‘‘อกฺขาโต โว มยา มคฺโค’’ติอาทิ (ธ. ป. ๒๗๕). ‘‘ตโย โลกา กถิตา’’ติ วตฺวา ตํ วิวริตุํ ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห.
ปุปฺผสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เผณปิณฺฑูปมสุตฺตวณฺณนา
๙๕. เกนจิ ¶ การเณน ยุชฺฌิตฺวา คเหตุํ น สกฺกาติ อยุชฺฌา นาม. นิวตฺตนฏฺาเนติ อุทกปฺปวาหสฺส นิวตฺติตฏฺาเน.
อนุโสตาคมเนติ อนุโสตํ อาคมนเหตุ, ‘‘อนุโสตาคมเนนา’’ติ วา ปาโ. อนุปุพฺเพน ปวฑฺฒิตฺวาติ ตตฺถ ตตฺถ อุฏฺิตานํ ขุทฺทกมหนฺตานํ ¶ เผณปิณฺฑานํ สํสคฺเคน ปการโต วุทฺธึ ปตฺวา. อาวเหยฺยาติ อาเนตฺวา วเหยฺย. การเณน อุปปริกฺเขยฺยาติ าเณน วีมํเสยฺย. ‘‘สาโร นาม กึ ภเวยฺยา’’ติ วตฺวา สพฺพโส ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิลียิตฺวา วิทฺธํเสยฺเยวา’’ติ อาห. เตน รูปมฺปิ นิสฺสารตาย ภิชฺชเตวาติ ทสฺเสติ. ยถา หิ อนิจฺจตาย อสารตาสิทฺธิ, เอวํ อสารตายปิ อนิจฺจตาสิทฺธีติ อนิจฺจตาย เอว นิจฺจสารํ ถิรภาวสารํ ธุวสารํ สามีนิวาสีการกภูตสฺส อตฺตโน วเส ปวตฺตนมฺเปตฺถ นตฺถีติ อาห ‘‘รูปมฺปิ…เป… นิสฺสารเมวา’’ติ. โสติ เผณปิณฺโฑ. คหิโตปิ อุปาเยน ตมตฺถํ น สาเธติ อนรหตฺตา. อเนกสนฺธิฆฏิโต ตถา ตถา ฆฏิโต หุตฺวา.
พฺยามมตฺตมฺปิ เอตรหิ มนุสฺสานํ วเสน. อวสฺสเมว ภิชฺชติ ตรงฺคพฺภาหตํ หุตฺวา.
ตสฺมึ ตสฺมึ อุทกพินฺทุมฺหิ ปติเต. อุทกตลนฺติ อุทกปิฏฺึ. อฺโต ปตนฺตํ อุทกพินฺทุํ. อุทกชลฺลนฺติ สนฺตานกํ หุตฺวา ิตํ อุทกมลํ. ตฺหิ สํกฑฺฒิตฺวา ตโต อุทกํ ปุฏํ กโรติ, ตสฺมึ ปุเฏ ปุพฺพุฬสมฺา. วตฺถุนฺติ จกฺขาทิวตฺถุํ. อารมฺมณนฺติ รูปาทิอารมฺมณํ. กิเลสชลฺลนฺติ ปุริมสิทฺธํ, ปฏิลพฺภมานํ วา กิเลสมลํ. ผสฺสสงฺฆฏฺฏนนฺติ ผสฺสสโมธานํ. ปุพฺพุฬสทิสา มุหุตฺตรมณียตาย. ยสฺมา ฆมฺมกาเล สูริยาตปสนฺตาปาภินิพฺพตฺตรสฺมิชาลนิปาเต ตาทิเส ภูมิปเทเส อิโต จิโต สมุคฺคตวาตเวคสมุทฺธฏวิรุฬฺหสงฺขาเตสุ ปริพฺภมนฺเตสุ อณุปรมาณุตชฺชาริปฺปกาเรสุ ภูตสงฺฆาเตสุ มรีจิสมฺา, ตสฺมา สพฺพโส สารวิรหิตาติ วุตฺตํ ‘‘สฺาปิ อสารกฏฺเน มรีจิสทิสา’’ติ. ยสฺมา จ ปสฺสนฺตานํ เยภุยฺเยน อุทกากาเรน ขายติ, ตสฺมา ‘‘คเหตฺวา ปิวิตุํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นีลาทิอนุภวนตฺถายาติ นีลาทิอารมฺมณสฺส อนุภวนตฺถาย. ผนฺทตีติ ผนฺทนาการปฺปตฺตา วิย โหติ อปฺปหีนตณฺหสฺส ปุคฺคลสฺส. วิปฺปลมฺเภติ อปฺปหีนวิปลฺลาสํ ปุคฺคลํ. เตนาห ‘‘อิทํ นีลก’’นฺติอาทิ. สฺาวิปลฺลาสโต หิ จิตฺตวิปลฺลาโส, ตโต ทิฏฺิวิปลฺลาโสติ. วิปฺปลมฺภเนนาติ วิปฺปการวเสเนว อารมฺมณสฺส ลมฺภเนน. วิปฺปการวเสน หิ ¶ เอตํ ลมฺภนํ, ยทิทํ อนุทกเมว อุทกํ กตฺวา ทสฺสนํ อนครเมว นครํ กตฺวา คนฺธพฺพนาฏกาทิทสฺสนํ.
กุกฺกุกํ ¶ วุจฺจติ กทลิกฺขนฺธสฺส สพฺพปตฺตวฏฺฏีนํ อพฺภนฺตเร ทณฺฑกนฺติ อาห ‘‘อกุกฺกุกชาตนฺติ อนฺโต อสฺชาตฆนทณฺฑก’’นฺติ. น ตถา โหตีติ ยทตฺถาย อุปนีตํ, ตทตฺถาย น โหติ. นานาลกฺขโณติ นานาสภาโว. สงฺขารกฺขนฺโธวาติ เอโก สงฺขารกฺขนฺโธตฺเวว วุจฺจติ.
อสฺสาติ ปุริสสฺส. อปคตปฏลปิฬกนฺติ อปคตปฏลโทสฺเจว อปคตปิฬกโทสฺจ. อสารภาวทสฺสนสมตฺถนฺติ อสารสฺส อสารภาวทสฺสนสมตฺถํ. อิตฺตราติ ปริตฺตกาลา, น จิรฏฺิติกา. เตนาห ‘‘ลหุปจฺจุปฏฺานา’’ติ. อฺเทว จ อาคมนกาเล จิตฺตนฺติ อิทฺจ โอฬาริกวเสเนว วุตฺตํ. ตถา หิ เอกจฺฉรกฺขเณ อเนกโกฏิสตสหสฺสสงฺขานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. มายาย ทสฺสิตํ รูปํ มายาติ วุตฺตํ. ยํกิฺจิเทว กปาลิฏฺกปาสาณวาลิกาทึ. วฺเจตีติ อสุวณฺณเมว สุวณฺณนฺติ, อมุตฺตเมว มุตฺตาติอาทินา วฺเจติ. นนุ จ สฺาปิ มรีจิ วิย วิปฺปลมฺเภติ วฺเจติ, อิทมฺปิ วิฺาณํ มายา วิย วฺเจตีติ โก อิเมสํ วิเสโสติ? วจนตฺโถ เนสํ สาธารโณ. ตถาปิ สฺา อนุทกํเยว อุทกํ กตฺวา คาหาเปนฺตี, อปุริสฺเว ปุริสํ กตฺวา คาหาเปนฺตี วิปฺปลมฺภนวเสน อปฺปวิสยา, วิฺาณํ ปน ยํ กิฺจิ อตํสภาวํ ตํ กตฺวา ทสฺเสนฺตี มายา วิย มหาวิสยา. เตนาห ‘‘ยํกิฺจิเทวา’’ติอาทิ. เอวมฺปีติ อติวิย ลหุปริวตฺติภาเวนปิ มายาสทิสนฺติ.
เทสิตาติ เอวํ เทสิตา เผณปิณฺฑาทิอุปมาหิ.
ภูริ วุจฺจติ ปถวี, สณฺหฏฺเน วิปุลฏฺเน จ ภูริสทิสปฺตาย ภูริปฺโ. เตนาห ‘‘สณฺหปฺเน เจวา’’ติอาทิ. กิมิคณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อเนกคิชฺฌาทิเก สงฺคณฺหาติ. ปเวณีติ ธมฺมปพนฺโธ. พาลลาปินี ‘‘อหํ มมา’’ติอาทินา. เสสธาตุโย คเหตฺวาว ภิชฺชติ เอกุปฺปาเทกนิโรธตฺตา, วตฺถุรูปนิสฺสยปจฺจยตฺตา ‘‘อย’’นฺติ น วิสุํ คหิตํ. วธภาวโตติ วธสฺส มรณสฺส อตฺถิภาวโต. สรณนฺติ ปฏิสรณํ.
เผณปิณฺฑูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๖. โคมยปิณฺฑสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๖-๙๘. สสฺสตํ ¶ ¶ สพฺพกาลํ ยาว กปฺปวุฏฺานา โหนฺตีติ สสฺสติโย, สิเนรุอาทโย. ตาหิ สมํ สมกาลํ. อเนนาติ ภควตา. นยิทนฺติ เอตฺถ ย-กาโร ปทสนฺธิกโร, อิทนฺติ นิปาตปทํ. ตํ ปน เยน เยน สมฺพนฺธียติ, ตํ ติลิงฺโคว โหตีติ ‘‘อยํ มคฺคพฺรหฺมจริยวาโส’’ติ วุตฺตํ. ‘‘น ปฺาเยยฺยา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘มคฺโค หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิวฏฺเฏนฺโตติ วินิวฏฺเฏนฺโต อปฺปวตฺตึ กโรนฺโต.
ราชธานีติ รฺโ นิวาสนครํ. สุตฺตมยนฺติ จิตฺตวณฺณวฏฺฏิกามยํ.
โคมยปิณฺฑสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. คทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา
๙๙. ยํ มหาสมุทฺโทติ เอตฺถ ยนฺติ สมยสฺส ปจฺจามสนํ. ภุมฺมตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ. โส จ สมโย อยนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจเม สูริเย อุฏฺิเต’’ติ อาห. ปริจฺเฉทํ น วทามิ ปริจฺเฉทการิกาย อคฺคมคฺควิชฺชาย อนธิคตตฺตา. สุนโข วิย วฏฺฏนิสฺสิโต พาโล อสวสภาวโต. คทฺทุโล วิย ทิฏฺิพนฺโธ. สกฺกาโย ตสฺส อสวสภาวโต. ปุถุชฺชนสฺส สกฺกายานุปริวตฺตนนฺติ ‘‘สนฺตาเน สตฺตโวหาโร’’ติ ตํ ตโต อฺํ กตฺวา เภเทน นิทฺเทโส.
คทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐. ทิฏฺิคทฺทุลนิสฺสิตายาติ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ทิฏฺิคทฺทุลนิสฺสิตาย นิสฺสาเยว ปวตฺตติ ตโต อตฺตานํ วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. จิตฺตสํกิเลเสเนวาติ ทสวิธกิเลสวตฺถุวเสน จิตฺตสฺส สํกิลิฏฺภาเวน. อริยมคฺคาธิคมเนน จิตฺตสฺส โวทานตฺตา โวทายนฺติ วิสุชฺฌนฺติ.
วิจรณจิตฺตนฺติ ¶ คเหตฺวา วิจรณวเสน วิจรณจิตฺตํ. สงฺขานามาติ เอวํนามกา. พฺราหฺมณปาสณฺฑิกาติ ชาติยา พฺราหฺมณา, ฉนฺนวุติยา ปาสณฺเฑสุ ตํ สงฺขาสฺิตํ ปาสณฺฑํ ปคฺคยฺห วิจรณกา. ปฏโกฏฺกนฺติ ทุสฺสาปณกํ. ทสฺเสนฺตาติ ยถาคติกมฺมวิปากจิตฺตตํ ทสฺเสนฺตา ¶ . ตํ จิตฺตนฺติ ตํ ปฏโกฏฺกจิตฺตํ คเหตฺวา วิจรนฺติ. จินฺเตตฺวา กตตฺตาติ ‘‘อิมสฺส รูปสฺส เอวํ หตฺถปาทา, เอวํ มุขํ ลิขิตพฺพํ, เอวํ อาการวตฺถคฺคหณานิ, เอวํ กิริยาวิเสสา, เอวํ กิริยาวิภาคํ, สตฺตวิเสสานํ วิภาคํ กาตพฺพ’’นฺติ ตสฺส อุพฺพตฺตนขิปนปวตฺตนาทิปโยชนฺจาติ สพฺพเมตํ ตถา จินฺเตตฺวา กตตฺตา จิตฺเตน มนสา จินฺติตํ นาม. อุปายปริเยสนจิตฺตนฺติ ‘‘หตฺถปาทา เอวํ ลิขิตพฺพา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตอุปายสฺส เจว ปุพฺเพ ปวตฺตสฺส ภูมิปริกมฺมวณฺณธาตุสมฺมาโยชนุปายสฺส จ วเสน ปวตฺตํ จิตฺตํ. ตโตปิ จิตฺตตรนฺติ ตโต จิตฺตกมฺมโตปิ จิตฺตตรํ จิตฺตกาเรน จินฺติตปฺปการานํ สพฺเพสํเยว จิตฺตกมฺเม อนิปฺผชฺชนโต. กมฺมจิตฺเตนาติ กมฺมวิฺาเณน. กมฺมจิตฺเตนาติ วา กมฺมสฺส จิตฺตภาเวน. โส กมฺมสฺส วิจิตฺตภาโว ตณฺหาวเสน ชายตีติ เวทิตพฺโพ. สฺวายมตฺโถ อฏฺสาลินีฏีกายํ วิภาวิโต. เอวํ จิตฺตาติ เอวํ จิตฺตรูปวิเสสา. โยนึ อุปเนตีติ ตํ ตํ อณฺฑชาทิเภทํ โยนิวิเสสํ ปาเปติ วณฺณวิเสโส วิย ผลิกมณิกํ. น หิ วิเสสา หิตวิจิตฺตสามตฺถิยกมฺมํ โยนึ อุปเนติ, ตสฺส ตสฺส วิปากุปฺปตฺติยา ปจฺจโย โหติ. โยนิมูลโก เตสํ จิตฺตภาโวติ ยํ ยํ โยนึ กมฺมํ สตฺเต อุปเนติ, ตํตํโยนิมูลโก เตสํ สตฺตานํ จิตฺตวิจิตฺตภาโว. เตนาห ‘‘โยนิอุปคตา’’ติอาทิ. สทิสจิตฺตาว สทิสจิตฺตภาวา เอว. อิตีติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส อุปฺปฏิปาฏิยา นิคมนํ.
ติรจฺฉานคตจิตฺตภาวโต จิตฺตสฺเสว สวิเสสํ จิตฺตภาวกรณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จิตฺตํ นาเมตํ จิตฺตตรเมว เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. สหชาตธมฺมจิตฺตตายาติ ราคาทิสทฺธาทิธมฺมวิจิตฺตภาเวน. ภูมิจิตฺตตายาติ อธิฏฺานจิตฺตตาย. กมฺมนานตฺตํ มูลํ การณํ เอเตสนฺติ กมฺมนานตฺตมูลกา, เตสํ. ลิงฺคนานตฺตํ อิตฺถิลิงฺคาทินานตฺตวเสน เจว ตํตํสณฺานนานตฺตวเสน จ เวทิตพฺพํ. สฺานานตฺตํ อิตฺถิปุริสเทวมนุสฺสาทิสฺานานตฺตวเสน ¶ . โวหารนานตฺตํ ติสฺโสติอาทิโวหารนานตฺตวเสน. จิตฺตานํ วิจิตฺตานํ. ตํตํโวหารนานตฺตมฺปิ จิตฺเตเนว ปฺปียติ. รงฺคชาตรูปสมุฏฺาปนาทินา วตฺถํ รฺชยตีติ รชโก, วณฺณกาโร. ปุถุชฺชนสฺส อตฺตภาวสฺิตรูปสมุฏฺาปนตา นิยตา เอกนฺติกาติ ปุถุชฺชนคฺคหณํ. ‘‘อภิรูปํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.
ทุติยคทฺทุลพทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วาสิชฏสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑. อตฺถสฺสาติ หิตสฺส. อสาธิกา ‘‘ภาวนานุโยคํ อนนุยุตฺตสฺสา’’ติ อนนุยุตฺตสฺส ¶ วุตฺตตฺตา. อิตราติ สุกฺกปกฺขอุปมา. สาธิกา ภาวนาโยคสฺส อนุยุตฺตตฺตา. ตฺหิ ตสฺส สาธิกา เวทิตพฺพา. สมฺภาวนตฺเถติ ปรมตฺถสมฺภาวเน. เอวฺหิ กณฺหปกฺเขปิ อปิสทฺทคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ. สมฺภาวนตฺเถติ วา ปริกปฺปนตฺเถติ อตฺโถ. สงฺขาตพฺเพ อตฺเถ อนิยมโต วุจฺจมาเน สงฺขาโต อนิยมตฺโถ วาสทฺโท วตฺตพฺโพติ ‘‘อฏฺ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อูนาธิกานีติ อูนานิปิ อธิกานิปิ กิฺจาปิ โหนฺติ, เอกํโส ปน คเหตพฺโพติ ‘‘อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ วจนํ สนฺธาย ‘‘วจนสิลิฏฺตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปาทนขสิขาหิ อโกปนวเสน สมฺมา อธิสยิตานิ. อุตุนฺติ อุณฺหอุตุํ กายุสฺมาวเสน. เตนาห ‘‘อุสฺมีกตานี’’ติ. ภาวิตานีติ กุกฺกุฏวาสนาย วาสิตานิ. สมฺมาอธิสยนาทิติวิธกิริยากรเณน อิมํ อปฺปมาทํ กตฺวา. โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุนฺติ อนนฺตราเยน ตโต นิกฺขมิตุํ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘เต หี’’ติอาทิมาห. สยมฺปีติ อณฺฑานิ. ปริณามนฺติ ปริปกฺกํ พหินิกฺขมนโยคฺคตํ.
ตนฺติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. อตฺเถนาติ อุปเมยฺยตฺเถน. สํสนฺทิตฺวา สมฺมา โยเชตฺวา. สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน าณสฺส ติกฺขาทิภาโว เวทิตพฺโพ. าณสฺส หิ สภาวโต สติเนปกฺกโต จ ติกฺขภาโว, สมาธิวเสน สูรภาโว, สทฺธาวเสน วิปฺปสนฺนภาโว ¶ , วีริยวเสน ปริณามภาโว. ปริณามกาโลติ พลววิปสฺสนากาโล. วฑฺฒิตกาโลติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากาโล. อนุโลมฏฺานสฺส หิ วิปสฺสนา คหิตคพฺภา นาม ตทา มคฺคคพฺภสฺส คหิตตฺตา. ตชฺชาติกนฺติ ตสฺส วิปสฺสนานุโยคสฺส อนุรูปํ. สตฺถาปิ คาถาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปหรติ ภินฺทาเปติ.
โอลมฺพกสงฺขาตนฺติ โอลมฺพกสุตฺตสงฺขาตํ. ปลนฺติ ตสฺส สุตฺตสฺส นามํ. ธาเรตฺวาติ ทารูนํ เหยฺยาทิชานนตฺถํ อุปเนตฺวา. ทารูนํ คณฺฑํ หรตีติ ปลคณฺโฑติ เอเตน ปเลน คณฺฑหาโร ‘‘ปลคณฺโฑ’’ติ ปจฺฉิมปเท อุตฺตรปทโลเปน นิทฺเทโสติ ทสฺเสติ. คหณฏฺาเนติ หตฺเถน คเหตพฺพฏฺาเน. สมฺมเทว เขปียนฺติ เอเตน กายทุจฺจริตาทีนีติ สงฺเขโป, เตน. วิปสฺสนํ อนุยฺุชนฺตสฺส ปุคฺคลสฺเสว ทิวเส ทิวเส อาสวานํ ปริกฺขโย อิธ ‘‘วิปสฺสนายานิสํโส’’ติ อธิปฺเปโต. เหมนฺติเกน กรณภูเตน. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ กรณวจนํ, เหมนฺติเกติ อตฺโถ. ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ปฏิปฺปสฺสทฺธผลานิ โหนฺติ. เตนาห ‘‘ปูติกานิ ภวนฺตี’’ติ.
มหาสมุทฺโท วิย สาสนํ สภาวคมฺภีรภาวโต. นาวา วิย โยคาวจโร มโหฆุตฺตรณโต. ปริยาทานํ วิยาติ ปริโต อปริปูรณํ วิย. ขชฺชมานานนฺติ สงฺขาทนฺเตน วิย อุทเกน เขปิยมานานํ ¶ พนฺธนานํ. ตนุภาโวติ ปริยุฏฺานุปฺปตฺติยา อสมตฺถตาย ทุพฺพลภาโว. วิปสฺสนาาณปีติปาโมชฺเชหีติ วิปสฺสนาาณสมุฏฺิเตหิ ปีติปาโมชฺเชหิ. โอกฺขายมาเน ปกฺขายมาเนติ วิวิธปฏิปตฺติยา อุกฺขายมาเน ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย ปกฺขายมาเน. ทุพฺพลตา ทีปิตา ‘‘อปฺปกสิเรเนว สํโยชนานิ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, ปูติกานิ ภวนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา.
วาสิชฏสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อนิจฺจสฺาสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒. ภาเวนฺตสฺสาติ วิปสฺสนาย มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. เตนาห – ‘‘สพฺพํ กามราคํ ปริยาทิยตี’’ติอาทิ. สนฺตาเนตฺวาติ กสนฏฺานํ ¶ สพฺพโส วิตเนตฺวา ปตฺถริตฺวา. กิเลสาติ อุปกฺกิเลสปฺปเภทา กิเลสา. อนิจฺจสฺาาเณนาติ อนิจฺจสฺาสหคเตน าเณน.
ลายนนฺติ ลายนํ วิย นยนํ วิย นิจฺโฉฏนํ วิย จ อนิจฺจสฺาาณํ. อิมินา อตฺเถนาติ อิมินา ยถาวุตฺเตน ปาฬิยา อตฺเถน, อุปมา สํสนฺเทตพฺพาติ เอตฺถ ปพฺพชลายโก วิย โยคาวจโร. ลายนาทินา ตสฺส ตตฺถ กตกิจฺจตาย ปริตุฏฺิ วิย อิมสฺส กิเลเส สพฺพโส ฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน กาลสฺส วีตินามนา.
กูฏํ คจฺฉนฺตีติ ปาริมนฺเตน กูฏํ คจฺฉนฺติ. กูฏํ ปวิสนภาเวนาติ กูฏจฺฉิทฺทํ อคฺเคน ปวิสนวเสน. สโมสริตฺวาติ ฉิทฺเท อนุปวิสนวเสน จ อาหจฺจ อวฏฺาเนน จ สโมสริตฺวา ิตา. กูฏํ วิย อนิจฺจสฺา อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน อวฏฺานสฺส มูลภาวโต. โคปานสิโย วิย จตุภูมกกุสลา ธมฺมา อนิจฺจสฺามูลกตฺตา. กูฏํ อคฺคํ สพฺพโคปานสีนํ ตถาอธิฏฺานสฺส ปธานการณตฺตา. อนิจฺจสฺา อคฺคาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อนิจฺจสฺา โลกิยาติ อิทํ อนิจฺจสฺานุปสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนิจฺจานุปสฺสนามุเขน อธิคตอริยมคฺเค อุปฺปนฺนสฺา อนิจฺจสฺาติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ ‘‘อนิจฺจสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา สพฺพํ กามราคํ ปริยาทิยตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หิ ธมฺมสงฺคเห (ธ. ส. ๓๕๗, ๓๖๐) ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ สฺํ ภาเวตี’’ติอาทินา สฺาปิ อุทฺธฏา. สพฺพาสุ อุปมาสูติ มูลสนฺตานอุปมาทีสุ ปฺจสุ อุปมาสุ. ปุริมาหีติ กสฺสกปพฺพชลายนอมฺพปิณฺฑิอุปมาหิ อนิจฺจสฺาย กิจฺจํ วุตฺตํ มูลสนฺตานกปทาลนปพฺพชลายนวณฺฏจฺเฉทนปเทเสน ¶ อนิจฺจสฺาย ปฏิปกฺขปจฺเฉทนสฺส ทสฺสิตตฺตา. ปจฺฉิมาหิ พลํ ทสฺสิตํ ปฏิปกฺขาติภาวสฺส โชติตตฺตา.
อนิจฺจสฺาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปุปฺผวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มชฺฌิมปณฺณาสโก สมตฺโต.
๑๑. อนฺตวคฺโค
๑. อนฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓. อฺมฺํ ¶ อสํสฏฺภาเวน เอติ คจฺฉตีติ อนฺโต, ภาโคติ อาห ‘‘อนฺตาติ โกฏฺาสา’’ติ. ‘‘สกฺกายนิโรธนฺโต’’ติ นิโรธปจฺจยสฺส คหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘จตุสจฺจวเสน ปฺจกฺขนฺเธ โยเชตฺวา’’ติ. อนฺโตติ…เป… อชฺฌาสยวเสน วุตฺตํ ยถานุโลมเทสนตฺตา สุตฺตนฺตเทสนาย.
อนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๓. ทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๔-๑๐๕. ทุติยมฺปีติ อปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน น เกวลํ ปมสุตฺตเมว, อถ โข ทุติยมฺปีติ.
ตติยมฺปิ ตเถวาติ อิมินา ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ จตุสจฺจวเสน โยเชตฺวา’’ติ อิทํ อุปสํหรติ.
ทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปริฺเยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๐๖. ปริฺเยฺเยติ เอตฺถ ติสฺโส ปริฺา าตปริฺา, ตีรณปริฺา, ปหานปริฺาติ. ตาสุ าตปริฺา ยาวเทว ตีรณปริฺตฺถา. ตีรณปริฺา จ ยาวเทว ปหานปริฺตฺถาติ ¶ . ตตฺถ อุกฺกฏฺาย ปริฺาย กิจฺจทสฺสนวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริฺเยฺเยติ ปริชานิตพฺเพ สมติกฺกมิตพฺเพ’’ติ, ปหาตพฺเพติ อตฺโถ. เตนาห ภควา – ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ปริฺา? ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย’’ติ, ตสฺมา สมติกฺกมนฺติ, สมติกฺกนฺตํ ปหานสฺส อุปายํ. สมติกฺกมิตฺวา ิตนฺติ ปชหิตฺวา ิตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
ปริฺเยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๑๐. สมณสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๗-๑๑๒. จตฺตาริ ¶ สจฺจานิ กถิตานิ อสฺสาทาทีนํ สมุทยาทีนฺจ เทสิตตฺตา.
กิเลสปฺปหานํ กถิตํ ราคปฺปหานสฺส โชติตตฺตา.
สมณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ธมฺมกถิกวคฺโค
๑-๒. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๓-๑๑๔. ยาวตาติ ยสฺมา. อิมาย…เป… สมนฺนาคโตติ ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตาย จตูสุ อริยสจฺเจสุ อฺาณสภาวาย อวิชฺชาย สมฺโมเหน สมนฺนาคโต. เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน การเณน อวิชฺชาคโต สมงฺคีภูเตน อุปคโต, อวิชฺชาย วา อุเปโต นาม โหติ.
ทุติเยปีติ วิชฺชาสุตฺเต. ‘‘วิชฺชาวเสน เทสนา’’ติ อยเมว วิเสโสติ อาห ‘‘เอเสว นโย’’ติ.
อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕. ปเมน ¶ ธมฺมกถิโก กถิโต ‘‘ธมฺมํ เทเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ทุติเยน เสขภูมิ กถิตา ‘‘ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตติเยน อเสขภูมิ กถิตา ‘‘อนุปาทาวิมุตฺโต โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ธมฺมกถิกํ ปุจฺฉิเตน ภควตา. วิเสเสตฺวาติ ธมฺมกถิกภาวโต วิเสเสตฺวา อุกฺกํเสตฺวา. ทฺเว ภูมิโยติ เสกฺขาเสกฺขภูมิโย.
ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุติยธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. ตีณิ ¶ วิสฺสชฺชนานีติ ยถาปุจฺฉํ ตีณิ วิสฺสชฺชนานิ.
ทุติยธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๙. พนฺธนสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๗-๑๒๑. ตีรํ วุจฺจติ วฏฺฏํ โอริมตีรนฺติ กตฺวา. เตนาห ‘‘อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวตี’’ติ (ธ. ป. ๘๕). ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สํสารสฺส ปาริมนฺติ กตฺวา. พทฺโธติ อนุสยปฺปหานสฺส อกตตฺตา กิเลสพนฺธเนน พทฺโธ, สุกฺกปกฺเขปิ ทิฏฺิสมนุปสฺสนาย รูปาทิพนฺธนสฺส ปฏิกฺเขปมตฺตเมว วุตฺตํ, น วิโมกฺขนฺติ อธิปฺปาโย. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขํ กถิตนฺติ ‘‘ตีรทสฺสี ปารทสฺสี, ปริมุตฺโต โส ทุกฺขสฺมาติ วทามี’’ติ อาคตตฺตา วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิกนฺติ วตฺตุํ สกฺกา.
ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
พนฺธนสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๒๒. อาพาธฏฺเนาติ อาทิโต อุปฺปตฺติโต ปฏฺาย พาธนฏฺเน รุชนฏฺเน. อนฺโตโทสฏฺเนาติ อพฺภนฺตเร เอว ทุสฺสนฏฺเน กุปฺปนฏฺเน. ขณนฏฺเนาติ สสนฏฺเน. ทุกฺขฏฺเนาติ ทุกฺขมตฺตา ¶ ทุกฺขภาเวน. ทุกฺขฺหิ โลเก ‘‘อฆ’’นฺติ วุจฺจติ อติวิย หนนโต. วิสภาคํ …เป… ปจฺจยฏฺเนาติ ยถาปวตฺตมานานํ ธาตาทีนํ วิสภาคภูตมหาภูตสมุฏฺานสฺส อาพาธสฺส ปจฺจยภาเวน. อสกฏฺเนาติ อนตฺตนิยโต. ปลุชฺชนฏฺเนาติ ปการโต ภิชฺชนฏฺเน. สตฺตสฺุตฏฺเนาติ สตฺตสงฺขาตอตฺตสฺุตฏฺเน. อตฺตาภาเวนาติ ทิฏฺิคติกปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน อภาเวน. สฺุโต อนตฺตโตติ เอตฺถ ‘‘ปรโต’’ติ ปทสฺส สงฺคโห กาตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘ทฺวีหิ อนตฺตมนสิกาโร’’ติ วตฺตพฺพํ.
สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. สุตวนฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๒๓. ตถา ¶ เอกาทสเมติ เอตฺถ ตถา-สทฺเทน ‘‘อุตฺตานเมวา’’ติ อิทํ อากฑฺฒติ. อิธาติ เอกาทสเม. กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคหธารณปริจยมนสิการวเสน ปวตฺตาณํ กมฺมฏฺานสุตวเสน นิปฺผชฺชนโต ‘‘สุต’’นฺติ วุตฺตํ.
สุตวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒-๑๓. กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๒๔-๑๒๕. ราหุโลวาทสทิสานีติ ราหุโลวาทสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) อาคตสุตฺตสทิสานิ.
กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมกถิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อวิชฺชาวคฺโค
๑-๑๐. สมุทยธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๒๖-๑๓๕. อิมสฺมินฺติ ¶ อวิชฺชาวคฺเค. จตุสจฺจเมว กถิตํ, ตสฺมา เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ อธิปฺปาโย.
สมุทยธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. กุกฺกุฬวคฺโค
๑-๑๔. กุกฺกุฬสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓๖-๑๔๙. อนฺโต อคฺคิ มหนฺโต ฉาริกราสิ, ตตฺถ อุกฺกุฬวิกุลโต อกฺกมนฺตํ ยาว เกสคฺคํ อนุทหตาย กุจฺฉิตํ กุฬนฺติ กุกฺกุฬํ ¶ , รูปเวทนาทิ ปน ตโตปิ กฺจิ กาลํ อนุทหนโต มหาปริฬาหนฏฺเน จ กุกฺกุฬํ วิยาติ กุกฺกุฬํ. อนิจฺจลกฺขณาทีนีติ อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานิ.
กุกฺกุฬสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
กุกฺกุฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. ทิฏฺิวคฺโค
๑-๙. อชฺฌตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๐-๑๕๘. ปจฺจยํ กตฺวาติ อภินิเวสปจฺจยํ กตฺวา. อาทิสทฺเทน มิจฺฉาทิฏฺิสกฺกายทิฏฺิอตฺตานุทิฏฺิ สฺโชนาภินิเวส-วินิพนฺธอชฺโฌสานานิ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ อภินิเวสา ตณฺหามานทิฏฺิโย. วินิพนฺธา ‘‘กาเย อวีตราโค โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๒๐; ม. นิ. ๑.๑๘๖) อาคตเจตโสวินิพนฺธา ¶ . อชฺโฌสานาติ ตณฺหาทิฏฺิชฺโฌสานานิ. เสสานิ สุวิฺเยฺยาเนว.
อชฺฌตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐.อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๕๙. ธรมานกาเลติ ชีวมานกาเล. ปหานํ อปสฺสนฺโตติ เถรสฺส กิร ภควติ เปมํ อธิมตฺตํ. จิตฺตํ คณฺหิสฺสามีติ จิตฺตํ อาราเธสฺสามิ. คนฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา สปลิโพโธ. จิตฺตํ สมฺปหํสมาโนติ จิตฺตสฺส วิโพธโน. วิมุตฺติ…เป… ชาโต อายตึ ปฏิเวธปจฺจยตฺตา, น ปน ตทา วิเสสาวหภาวา นิพฺเพธภาคิโย.
อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทิฏฺิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปริปณฺณาสโก สมตฺโต.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
ขนฺธสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๒. ราธสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. มารสุตฺตวณฺณนา
๑๖๐. มารสทฺโทยํ ¶ ¶ ภาวสาธโนติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาโร วา อสฺสาติ มรณํ วา ภเวยฺยา’’ติ อาห. มาเรตาติ มริตพฺโพ มารํ มรณํ เอตพฺโพติ อาห ‘‘มาเรตพฺโพ’’ติ. อนุปาทานิพฺพานตฺถาติ ผลวิมุตฺติสงฺขาตา อรหโต อรหนฺตตา นาม ยาวเทว อนุปาทานิพฺพานตฺถา. นิพฺพานพฺภนฺตเรติ อนุปาทานิพฺพานาธิคมสฺส อพฺภนฺตเร ตโต โอรเมว อิทํ มคฺคํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, น ตโต ปรํ. อสฺสาติ พฺรหฺมจริยสฺส.
มารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๑๐. สตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๑-๑๖๙. ลคฺคปุจฺฉาติ ลคฺคนสฺส พชฺฌนสฺส ปุจฺฉา. ยทิ รูปาทีสุ สตฺตตฺตา สตฺโต, ขีณาสวา กถํ สตฺตาติ? สตฺตภูตปุพฺพาติ กตฺวา. กีฬาวิคมนฺติ กีฬาย อปนยนํ โอรมณํ. ยนฺตรชฺชุ วิย ภวปพนฺธสฺส นยนโต ภวรชฺชูติ ตณฺหา วุตฺตา.
สตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺโค
๑-๑๒. มารสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๐-๑๘๑. รูปาทิวินิมุตฺตํ ¶ มรณํ นาม นตฺถิ รูปาทีนํเยว วิภเว มรณสมฺาติ. มรณธมฺโม วินาสภาโว.
มารสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๔. อายาจนวคฺคาทิ
๑-๑๑. มาราทิสุตฺตเอกาทสกวณฺณนา
๑๘๒-๒๐๕. สุขุมํ ¶ การณํ อุปฏฺาติ, เตเนส เถโร ปฏิภาเนยฺยกานํ เอตทคฺเค ปิโต. วิมุตฺติปริปาจนียธมฺมวเสเนว, น ปฏิเวธาวหภาเวน.
มาราทิสุตฺตเอกาทสกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อายาจนวคฺคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
ราธสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๓. ทิฏฺิสํยุตฺตํ
๑. โสตาปตฺติวคฺโค
๑. วาตสุตฺตวณฺณนา
๒๐๖. น ¶ ¶ เอเต วาตาติ เย อิเม รุกฺขสาขาทิภฺชนกรา, เอเต สตฺตกายตฺตา วาตา นาม น โหนฺติ. เต หิ นิจฺจา ธุวา สสฺสตา. เตนาห ‘‘วาโต ปนา’’ติอาทิ. เตน สตฺตสุ กาเยสุ จตุตฺถํ กายมาห. รุกฺขสาขาทิภฺชนโก เอโส วาตเลโส นาม, วาตสทิโสติ อตฺโถ. เอสิกตฺถมฺโภ วิยาติ อิมินา นิจฺจลภาวเมว ทสฺเสติ, ปพฺพตกูฏํ วิยาติ อิมินา ปน สสฺสติสมํวาปิ. อยฺหิ วายุ กายสฺส นิจฺจตํ อภินิวิสฺส ิโต ‘‘มา จ อนิจฺจตา ปโร โหตู’’ติ น วาตา วายนฺตีติ พาธติ. เอส นโย นทิโย สนฺทนฺตีติอาทีสุ. อุทกํ ปนาติ ทุติยํ กายํ สนฺธายาห. คพฺโภ ปน น นิกฺขมติ กูฏฏฺาทิภาเวเนว ตสฺส ลพฺภนโต. เนว เต อุเทนฺติ ยถา วาตา, เอวํ ติฏฺนโต โลกสฺส ปน ตถา มติมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
วาตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๔. เอตํมมสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๗-๒๐๙. ทิฏฺํ รูปายตนํ จกฺขุนา ทฏฺพฺพโต. สุตํ สทฺทายตนํ โสเตน โสตพฺพโต. มุตํ คนฺธายตนาทิ ติวิธํ สมฺปตฺตคาหีหิ ฆานาทีหิ ปตฺวา คเหตพฺพโต. อวเสสานิ จกฺขาทีนิ สตฺตายตนานิ วิฺาตํ นาม เกวลํ มโนวิฺาเณน วิชานิตพฺพโต. ปตฺตนฺติ อนุปฺปตฺตํ, ยํ กิฺจิ ปาปุณิตพฺพํ ปริเยสิตฺวา คเวสิตฺวา สมฺปตฺตนฺติ อนุปฺปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปริยิฏฺํ. จิตฺเตน อนุสฺจริตนฺติ มนสา จินฺติตํ. ‘‘ปตฺตํ ปริเยสิต’’นฺติ เอตสฺมึ ปททฺวเย จตุกฺกํ สมฺภวตีติ ตํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส วเสน ปตฺตปริเยสิตปทานิ, ตโต มนสา อนุวิจริตฺจ นีหริตฺวา ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘โลกสฺมึ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปริเยสิตฺวา ปตฺตํ นาม ปริเยสนาย ¶ ปริคฺคาหภาวโต. ปริเยสิตํ นาม เกวลํ ปริเยสิตเมวาติ กตฺวา ปริเยสิตฺวา ปตฺตสฺส มนุสฺสานุวิจริตสฺส วุตฺตตฺตา. ปมวิกปฺเป สงฺกโร อตฺถีติ อสงฺกรโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพนฺติ วิฺาตาทิ. ตฺหิ มโนวิฺาเณน คหิตตฺตา มนสา อนุวิจริตํ นาม น ทิฏฺํ สุตํ มุตํ.
เอตํมมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นตฺถิทินฺนสุตฺตวณฺณนา
๒๑๐. ทินฺนนฺติ เทยฺยธมฺมสีเสน ทานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธายา’’ติ, ทินฺนํ ปน อนฺนาทิวตฺถุํ กถํ ปฏิกฺขิปนฺติ. เอส นโย ‘‘ยิฏฺํ หุต’’นฺติ เอตฺถาปิ. มหายาโคติ สพฺพสาธารณํ มหาทานํ. ปเหณกสกฺกาโรติ ปาหุนกานํ กาตพฺพสกฺกาโร. ผลนฺติ อานิสํสผลํ นิสฺสนฺทผลฺจ. วิปาโกติ สทิสผลํ. ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถีติ ปรโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ อยํ โลโก น โหติ. อิธโลเก ิตสฺสปิ ปรโลโก นตฺถีติ อิธโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ ปรโลโก น โหติ. ตตฺถ การณมาห – ‘‘สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ. อิเม สตฺตา ยตฺถ ยตฺถ ภเว โยนิอาทีสุ จ ิตา, ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺติ นิรุทยวินาสวเสน นสฺสนฺติ. ผลาภาววเสนาติ มาตาปิตูสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลสฺส อภาววเสน ‘‘นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา’’ติ วทนฺติ, น มาตาปิตูนํ, นาปิ เตสุ อิทานิ กริยมานสกฺการาสกฺการานํ อภาววเสน เตสํ โลกปจฺจกฺขตฺตา. ปุพฺพุฬกสฺส วิย อิเมสํ สตฺตานํ อุปฺปาโท นาม เกวโล, น ภวโต จวิตฺวา อาคมนปุพฺพโกติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘จวิตฺวา อุปฺปชฺชนกสตฺตา นาม นตฺถี’’ติ. สมเณน นาม ยาถาวโต ชานนฺเตน กสฺสจิ อกเถตฺวา สฺเตน ภวิตพฺพํ, อฺถา อาโหปุริสิกา นาม สิยา. กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ, ตถา จ อตฺตโน สมฺปาทนสฺส กสฺสจิ อวสฺสโย เอว น สิยา ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนโตติ อาห ‘‘เย อิมฺจ…เป… ปเวเทนฺตี’’ติ.
จตูสุ ¶ มหาภูเตสุ นิยุตฺโตติ จาตุมหาภูติโก. ยถา ปน มตฺติกาย นิพฺพตฺตํ ภาชนํ มตฺติกามยํ, เอวมยํ จตูหิ มหาภูเตหิ นิพฺพตฺโตติ อาห ‘‘จตุมหาภูตมโย’’ติ. อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตูติ สตฺตสนฺตานคตา ปถวีธาตุ. พาหิรํ ปถวีธาตุนฺติ พหิทฺธา มหาปถวึ. อนุยาตีติ ตสฺส อนุรูปภาเวน ยาติ อุเปติ. อุปคจฺฉตีติ ปุพฺเพ พาหิรปถวีกายโต ตเทกเทสภูตา ปถวี อาคนฺตฺวา อชฺฌตฺติกภาวปฺปตฺติยา สตฺตภาเวน สณฺิตา อิทานิ ฆฏาทิปถวี ¶ วิย ตเมว พาหิรปถวีกายํ อุเปติ อุปคจฺฉติ, สพฺพโส เตน นิพฺพิเสสตํ เอกีภาวเมว คจฺฉตีติ อตฺโถ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโยติ เอตฺถ ปชฺชุนฺเนน มหาสมุทฺทโต คหิตอาโป วิย วสฺโสทกภาเวน ปุนปิ มหาสมุทฺทํ, สูริยรํสิโต คหิตอินฺทคฺคิสงฺขาตเตโช วิย ปุนปิ สูริยรํสึ, มหาวายุขนฺธโต นิคฺคตมหาวาโย วิย ตเมว วายุขนฺธํ อุเปติ อุปคจฺฉตีติ ทิฏฺิคติโก สยเมว อตฺตโน วาทํ ภินฺทติ. อุมฺมตฺตกปจฺฉิสทิสฺหิ ทิฏฺิคติกทสฺสนํ. มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ อากาสํ ปกฺขนฺทนฺติ เตสํ วิสยภาวา วิสยาปีติ วทติ. วิสยิคฺคหเณน หิ วิสยา คหิตา เอว โหนฺตีติ. คุณาคุณปทานีติ คุณโทสโกฏฺาสา. สรีรเมว ปทานีติ อธิปฺเปตํ สรีเรน ตํตํกิริยาย ปชฺชิตพฺพโต. ทพฺพนฺติ มุยฺหนฺตีติ ทตฺตู, มูฬฺหปุคฺคลา. เตหิ ทตฺตูหิ พาลมนุสฺเสหิ ปฺตฺตํ.
นตฺถิทินฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กโรโตสุตฺตวณฺณนา
๒๑๑. สหตฺถา กโรนฺตสฺสาติ สหตฺเถน กโรนฺตสฺส. นิสฺสคฺคิยถาวราทโยปิ อิธ สหตฺถกรเณเนว สงฺคหิตา. หตฺถาทีนีติ หตฺถปาทกณฺณนาสาทีนิ. ปจนํ ทหนํ วิพาธนนฺติ อาห ‘‘ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺสา’’ติ. ปปฺจสูทนิยํ ‘‘ตชฺเชนฺตสฺส จา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต, อิธ ปน สุมงฺคลวิลาสินิยํ วิย ตชฺชนํ ปริภาสนํ ทณฺเฑเนว สงฺคเหตฺวา ‘‘ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺส’’อิจฺเจว วุตฺตํ. โสกํ สยํ กโรนฺตสฺสาติ ปรสฺส โสกการณํ สยํ กโรนฺตสฺส, โสกํ วา อุปฺปาเทนฺตสฺส. ปเรหิ อตฺตโน วจนกเรหิ. สยมฺปิ ผนฺทโตติ ปรสฺส วิพาธนปฺปโยเคน ¶ สยมฺปิ ผนฺทโต. อติปาตยโตติ ปทํ สุทฺธกตฺตุอตฺเถ เหตุกตฺตุอตฺเถ จ วตฺตตีติ อาห – ‘‘หนนฺตสฺสปิ หนาเปนฺตสฺสปี’’ติ. การณวเสนาติ การาปนวเสน.
ฆรสฺส ภิตฺติ อนฺโต จ พหิ จ สนฺธิตา หุตฺวา ิตาว ฆรสนฺธิ. กิฺจิปิ อเสเสตฺวา นิรวเสโส โลโป นิลฺโลโป. เอกาคาเร นิยุตฺโต วิโลโป เอกาคาริโก. ปริโต สพฺพโส ปนฺเถ หนนํ ปริปนฺโถ. ปาปํ น กรียติ ปุพฺเพ อสโต อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา, ตสฺมา นตฺถิ ปาปํ. ยทิ เอวํ กถํ สตฺตา ปาเป ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘สตฺตา ปน กโรมาติ เอวํสฺิโน โหนฺตี’’ติ เอวํ กิรสฺส โหติ อิเมสฺหิ สตฺตานํ หึสาทิกิริยา น อตฺตานํ ผุสติ ตสฺส นิจฺจตาย นิพฺพิการตฺตา, สรีรํ ปน อเจตนํ กฏฺกลิงฺครูปมํ, ตสฺมึ วิโกปิเตปิ น กิฺจิ ปาปนฺติ. ขุรเนมินาติ นิสิตขุรมยเนมินา, ขุรสทิสเนมินาติ อตฺโถ.
คงฺคาย ¶ ทกฺขิณา ทิสา อปฺปติรูปเทโส, อุตฺตรทิสา ปติรูปเทโสติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทกฺขิณฺเจปี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทกฺขิณตีเร มนุสฺสา กกฺขฬา’’ติอาทิ. มหายาคนฺติ มหาวิชิตยฺสทิสํ มหายาคํ. อุโปสถกมฺเมนาติ อุโปสถกมฺเมน จ. จ-สทฺโท เหตฺถ ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทมสทฺโท หิ อินฺทฺริยสํวรสฺส อุโปสถสีลสฺส จ วาจโก อิธาธิปฺเปโต. เกจิ ปน ‘‘อุโปสถกมฺเมนา’’ติ อิทํ อินฺทฺริยทมนสฺส วิเสสนํ, ตสฺมา ‘‘อุโปสถกมฺมภูเตน อินฺทฺริยทเมนา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. สีลสํยเมนาติ สีลสํวเรน. สจฺจวจเนนาติ สจฺจวาจาย. ตสฺสา วิสุํ วจนํ โลเก ครุตรปฺุสมฺมตภาวโต. ยถา หิ ปาปธมฺเมสุ มุสาวาโท ครุ, เอวํ ปฺุธมฺเมสุ สจฺจวาจา. เตนาห ภควา – ‘‘เอกํ ธมฺมํ อตีตสฺสา’’ติอาทิ (อิติวุ. ๒๕). ปวตฺตีติ โย กโรตีติ วุจฺจติ, ตสฺส สนฺตาเน ผลสฺส นิพฺพตฺติยา ปจฺจยภาเวน ปวตฺติ. สพฺพถาติ ‘‘กโรโต’’ติอาทินา วุตฺเตน สพฺพปฺปกาเรน กิริยเมว ปฏิกฺขิปนฺติ.
กโรโตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เหตุสุตฺตวณฺณนา
๒๑๒. อุภเยนาติ ¶ เหตุปจฺจยปฏิเสธวจเนน. สํกิเลสปจฺจยนฺติ สํกิลิสนสฺส มลีนภาวสฺส การณํ. วิสุทฺธิปจฺจยนฺติ สํกิเลสโต วิสุทฺธิยา โวทานสฺส การณํ. นตฺถิ พลนฺติ สตฺตานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกนิพฺพานสมฺปตฺติอาวหํ พลํ นาม กิฺจิ นตฺถิ. เตนาห ‘‘ยมฺหี’’ติอาทิ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, สํกิเลสิกมฺปิ จายํ ปฏิกฺขิปเตว. อฺมฺเววจนานีติ ตสฺสา ตสฺสา กิริยาย อุสฺสนฺนฏฺเน พลํ, สูรวีรภาวาวหฏฺเน วีริยํ, ตเมว ทฬฺหคฺคาหภาวโต โปริสํ ธุรํ วหนฺเตน ปวตฺเตตพฺพโต ปุริสถาโม, ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนปฺปวตฺติยา ปุริสปรกฺกโมติ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.
สตฺวโยคโต, รูปาทีสุ วา สตฺตตาย สตฺตา, ปาณนโต อสฺสาสนปสฺสาสนวเสน ปวตฺติยา ปาณา, เต ปน โส เอกินฺทฺริยาทิวเสน วิภชิตฺวา วทตีติ อาห ‘‘เอกินฺทฺริโย’’ติอาทิ. อณฺฑโกสาทีสุ ภวนโต ภูตาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘อณฺฑ…เป… วทนฺตี’’ติ. ชีวนโต ปาณํ ธาเรนฺตา วิย วฑฺฒนโต ชีวาติ สาลิยวาทิเก วทนฺติ. นตฺถิ เอเตสํ สํกิเลสวิสุทฺธีสุ วโสติ อวสา. นตฺถิ เตสํ พลํ วีริยนฺติ อพลา อวีริยา. นิยตตาติ อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณิโน วิย นิยตปฺปวตฺติตาย คติชาติพนฺธาปวคฺควเสน นิยโม. ตตฺถ ตตฺถ คมนนฺติ ฉนฺนํ อภิชาตีนํ วเสน ตาสุ ตาสุ คตีสุ อุปคมนํ. สมวาเยน สมาคโม สงฺคติ. สภาโวเยวาติ ยถา กณฺฏกสฺส ติกฺขตา, กปิตฺถผลานํ ปริมณฺฑลตา ¶ , มิคปกฺขีนํ วิจิตฺตาการตา, เอวํ สพฺพสฺสปิ โลกสฺส เหตุปจฺจเยหิ วินา ตถา ตถา ปริณาโม, อยํ สภาโว เอว อกิตฺติโม เอว. เตนาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิ. ฉฬภิชาติโย ปรโต วิตฺถารียนฺติ. สุขฺจ ทุกฺขฺจ ปฏิสํเวเทนฺตีติ วทนฺตา อทุกฺขมสุขภูภึ สพฺเพน สพฺพํ น ชานนฺตีติ อุลฺลิงฺเคนฺโต ‘‘อฺา สุขทุกฺขภูมิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺตี’’ติ อาห.
เหตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๑๐. มหาทิฏฺิสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑๓-๒๑๕. อกตาติ ¶ สเมน วา วิสเมน วา เกนจิ เหตุนา น กตา เอว. เกนจิ กตํ กรณํ วิธานํ นตฺถิ เอเตสนฺติ อกตวิธานา. ปททฺวเยนปิ โลเก เกนจิ เหตุปจฺจเยน เนสํ อภินิพฺพตฺติตาภาวํ ทสฺเสติ. อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตาติ กสฺสจิ อิทฺธิมโต เทวสฺส พฺรหฺมุโน วา อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตา. อนิมฺมิตาติ วา กสฺสจิ อนิมฺมาปกา. อชนกาติ เอเตน ปถวีกายาทีนํ รูปาทิชนกภาวํ ปฏิกฺขิปติ. รูปสทฺทาทโย หิ ปถวีกายาทีหิ อปฺปฏิพทฺธวุตฺติกาติ ตสฺส ลทฺธิ. ยถา ปพฺพตกูฏํ เกนจิ อนิพฺพตฺติตํ กสฺสจิ จ อนิพฺพตฺตกํ, เอวเมเตปีติ อาห ‘‘กูฏฏฺา’’ติ. ยมิทํ ‘‘พีชาทิโต องฺกุราทิ ชายตี’’ติ วุจฺจติ, ตฺจ วิชฺชมานเมว ตโต นิกฺขมติ, นาวิชฺชมานํ, อฺถา ยโต กุโตจิ ยสฺส กสฺสจิ อุปฺปตฺติ สิยาติ อธิปฺปาโย. ิตาติ นิพฺพิการภาเวน ิตา. น จลนฺตีติ น วิการํ อาปชฺชนฺติ. วิการาภาเวน หิ เตสํ สตฺตนฺนํ กายานํ เอสิกฏฺายิฏฺิตตา. อนิฺชนฺจ อตฺตโน ปกติยา อวฏฺานเมว. เตนาห ‘‘น วิปริณมนฺตี’’ติ. อวิปริณามธมฺมตฺตา เอว จ เน อฺมฺํ น พฺยาพาเธนฺติ. สติ หิ วิการํ อาปาเทตพฺพตาย พฺยาพาธกตาปิ สิยา, ตถา อนุคฺคเหตพฺพตาย อนุคฺคาหกตาติ ตทภาวํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘นาล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปถวี เอว กาเยกเทสตฺตา ปถวิกาโย. ชีวสตฺตมานํ กายานํ นิจฺจตาย นิพฺพิการาภาวโต น หนฺตพฺพตา, น ฆาเฏตพฺพตา จาติ เนว โกจิ หนฺตา ฆาเตตา วา. เตนาห ‘‘สตฺตนฺนนฺตฺเววา’’ติอาทิ. ยทิ โกจิ หนฺตา นตฺถิ, กถํ สตฺถปฺปหาโรติ อาห ‘‘ยถา มุคฺคราสิอาทีสู’’ติอาทิ. เกวลํ สฺามตฺตเมว โหติ, น ฆาตนาทิ, ปรมตฺถโต สตฺตนฺนนฺตฺเวว กายานํ อวิโกปนียภาวโตติ อธิปฺปาโย.
ปมุขโยนีนนฺติ มนุสฺสติรจฺฉานาทีสุ ขตฺติยพฺราหฺมณาทิสีหพฺยคฺฆาทิวเสน ปธานโยนีนํ. สฏฺิสตานิ ฉสหสฺสานิ. ‘‘ปฺจ จ กมฺมุโน สตานี’’ติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนํ ‘‘ปฺจ กมฺมสตานิ จา’’ติ ¶ . เอเสว นโยติ อิมินา ‘‘เกวลํ ตกฺกมตฺเตน นิรตฺถกทิฏฺึ ทีเปตี’’ติ อิมเมว อตฺถํ อติทิสติ. เอตฺถ จ ตกฺกมตฺตเกนาติ อิมินา ยสฺมา ตกฺกิกา นิรงฺกุสตาย ปริกปฺปนสฺส ยํ กิฺจิ อตฺตโน ปริกปฺปิตํ สารโต ¶ มฺมานา ตเถว อภินิวิสฺส ตกฺกทิฏฺิคาหํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา น เตสํ ทิฏฺิวตฺถูสุ วิฺูหิ วิจารณา กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิโน. เต หิ ‘‘ปฺจ กมฺมานีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ‘ปฺจ กมฺมานีติ ปฺาเปนฺตี’’ติ วทนฺติ. กมฺมนฺติ ลทฺธีติ โอฬาริกภาวโต ปริปุณฺณกมฺมนฺติ ลทฺธิ. มโนกมฺมํ อโนฬาริกตฺตา อุปฑฺฒกมฺมนฺติ ลทฺธีติ โยชนา. ‘‘ทฺวาสฏฺิปฏิปทา’’ติ วตฺตพฺเพ สภาวนิรุตฺตึ อชานนฺตา ‘‘ทฺวฏฺิปฏิปทา’’ติ วทนฺติ. เอกสฺมึ กปฺเปติ เอกสฺมึ มหากปฺเป. ตตฺถาปิ จ วิวฏฺฏฏฺายิสฺิเต เอกสฺมึ อสงฺขฺเยยฺยกปฺเป.
อุรพฺเภ หนนฺตีติ โอรพฺภิกา. เอวํ สูกริกาทโย เวทิตพฺพา. ลุทฺทาติ อฺเปิ เย เกจิ มาควิกเนสาทาทโย, เต ปาปกมฺมปสุตตาย กณฺหาภิชาตีติ วทนฺติ. ภิกฺขูติ พุทฺธสาสเน ภิกฺขู. เต กิร ‘‘สจฺฉนฺทราคา ปริภฺุชนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺตีติ วทนฺติ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา เต ปณีตปณีเต ปจฺจเย ปฏิเสวนฺตีติ ตสฺส มิจฺฉาคาโห. ายลทฺเธปิ ปจฺจเย ปริภฺุชมานา อาชีวกสมยสฺส วิโลมคาหิตาย ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ นามาติ วทนฺตีติ อปเร. เอเก ปพฺพชิตา, เย วิเสสโต อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา. ตถา หิ เต กณฺฏเก วตฺตนฺตา วิย โหนฺตีติ กณฺฏกวุตฺติกาติ วุตฺตา. ตฺวา ภฺุชนนหานปฏิกฺเขปาทิวตสมาโยเคน ปณฺฑรตรา. อเจลกสาวกาติ อาชีวกสาวเก วทติ. เต กิร อาชีวกสมเย อาชีวกลทฺธิยา ทฬฺหคาหิตาย นิคณฺเหิปิ ปณฺฑรตรา. นนฺทาทโย กิร ตถารูปํ อาชีวกปฏิปตฺตึ อุกฺกํสํ ปาเปตฺวา ิตา, ตสฺมา นิคณฺเหิ อาชีวกสาวเกหิ จ ปณฺฑรตรา วุตฺตา. ปรมสุกฺกาภิชาตีติ อยํ เตสํ ลทฺธิ.
ปุริสภูมิโยติ ปธานปุคฺคเลน นิทฺเทโส. อิตฺถีนมฺเปตา ภูมิโย อิจฺฉนฺเตว. ภิกฺขุ จ ปนฺนโกติอาทิ เตสํ ปาฬิ เอว. ตตฺถ ปนฺนโกติ ภิกฺขาย วิจรณโก, เตสํ วา ปฏิปตฺติยา ปฏิปนฺนโก. ชิโนติ ชิณฺโณ ชราวเสน หีนธาตุโก, อตฺตโน วา ปฏิปตฺติยา ปฏิปกฺเข ชินิตฺวา ิโต. โส กิร ตถาภูโต ธมฺมมฺปิ กสฺสจิ น กเถติ. เตนาห ‘‘น กิฺจิ อาหา’’ติ. นิฏฺุหนาทิวิปฺปกาเร เกนจิ กเตปิ ขมนวเสน ¶ น กิฺจิ วทตีติ วทนฺติ. อลาภินฺติ ‘‘โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๓๙๔) นเยน วุตฺตอลาภเหตุสมาโยเคน อลาภึ. ตโต เอว ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรตตาย สยนปรายณํ สมณํ ปนฺนภูมีติ วทนฺติ.
อาชีววุตฺติสตานีติ ¶ สตฺตานํ อาชีวภูตานิ ชีวิกาวุตฺติสตานิ. ปสุคฺคหเณน เอฬกชาติ คหิตา, มิคคฺคหเณน รุรุควยาทิสพฺพมิคชาติ. พหู เทวาติ จาตุมหาราชิกาทิพฺรหฺมกายิกาทิวเสน เตสํ อนฺตรเภทวเสน พหู เทวา. ตตฺถ จาตุมหาราชิกานํ เอกจฺเจ อนฺตรเภทา มหาสมยสุตฺตวเสน (ที. นิ. ๒.๓๓๑ อาทโย) ทีเปตพฺพา. มนุสฺสาปิ อนนฺตาติ ทีปเทสกุลวํสาชีวาทิวิภาเคน มนุสฺสาปิ อนนฺตเภทา. ปิสาจา เอว เปสาจา, เต มหนฺตมหนฺตา อชครเปตาทโย. ฉทฺทนฺตทหมนฺทากินิโย กุฬีรมุจลินฺทนาเมน วทนฺติ.
ปวุฏาติ สพฺพคณฺิกา. ปณฺฑิโตปิ…เป… อุทฺธํ น คจฺฉติ. กสฺมา? สตฺตานํ สํสรณกาลสฺส นิยตภาวโต.
อปริปกฺกํ สํสรณนิมิตฺตํ สีลาทินา ปริปาเจติ นาม สีฆํเยว วิสุทฺธิปฺปตฺติยา. ปริปกฺกํ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส ปตฺวา ปตฺวา กาเล ปริปกฺกภาวาปาทเนน พฺยนฺตี กโรติ นาม. สุตฺตคุเฬติ สุตฺตวฏฺฏิยํ. นิพฺเพิยมานเมว ปเลตีติ อุปมาย สตฺตานํ สํสาโร อนุกฺกเมน ขียเตว, น ตสฺส วฑฺฒีติ ทสฺเสติ ปริจฺฉินฺนรูปตฺตา. นิพฺเพิยมานเมว สุตฺตคุฬํ คจฺฉตีติ วุจฺจติ. ตฺจ โข สุตฺตปมาเณน, สุตฺเต ปน อสติ กุโต คจฺฉติ สุตฺตคุฬํ. เตนาห – ‘‘สุตฺเต ขีเณ น คจฺฉตี’’ติ. ตตฺเถว ติฏฺติ สุตฺตปริยนฺตนฺติ อธิปฺปาโย. กาลวเสนาติ อตฺตนิ เวเตฺวา ิตํ สุขทุกฺขํ ยถาวุตฺตสฺส กาลสฺส วเสน นิพฺเพิยมาโน พาโล จ ปณฺฑิโต จ ปเลติ คจฺฉติ, นาติกฺกมติ สํสารํ.
มหาทิฏฺิสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑-๑๘. อนฺตวาสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑๖-๒๒๓. เอกโต ¶ วฑฺฒิตนิมิตฺตนฺติ เอกปสฺเสน วฑฺฒิตํ กสิณนิมิตฺตํ. คาเหนาติ ลาภี ฌานจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา คหเณน. ตกฺเกนาติ น ลาภี ตกฺกมตฺเตน. อุปฺปนฺนทิฏฺีติ ‘‘โลโก’’ติ อุปฺปนฺนทิฏฺิ. สพฺพโต วฑฺฒิตนฺติ สมนฺตโต อปฺปมาณกสิณนิมิตฺตํ. เอกเมวาติ ‘‘เอกเมว วตฺถู’’ติ อุปฺปนฺนทิฏฺิ. อฏฺารส เวยฺยากรณานีติ เวยฺยากรณลกฺขณปฺปตฺตานิ อฏฺารส สุตฺตานิ. เอกํ คมนนฺติ เอกํ เวยฺยากรณคมนํ.
อนฺตวาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยคมนาทิวคฺควณฺณนา
๒๒๔-๓๐๑. ทุกฺขวเสน ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ทุกฺเข สติ ทุกฺขํ อุปาทายา’’ติอาทิทุกฺขวเสน วุตฺตํ. ตาทิสเมว ทุติยํ เวยฺยากรณคมนํ. เตนาห ‘‘ตตฺราปิ อฏฺารเสว เวยฺยากรณานี’’ติ. เตหีติ ‘‘รูปี อตฺตา โหตี’’ติอาทินยปวตฺเตหิ เวยฺยากรเณหิ สทฺธึ. ตนฺติ ทุติยํ คมนํ.
อารมฺมณเมวาติ กสิณสงฺขาตํ อารมฺมณเมว. ตกฺกิสทฺเทน สุทฺธตกฺกิกานํ คหณํ ทฏฺพฺพํ.
อนิจฺจทุกฺขวเสนาติ ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ, ตสฺมึ สติ ตทุปาทาย เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตอนิจฺจทุกฺขวเสนาติ. เตหิเยวาติ ทุติเย เปยฺยาเล วุตฺตปฺปกาเรหิเยว. ติปริวฏฺฏวเสนาติ เตหิเยว ฉพฺพีสติยา สุตฺเตหิ จตุตฺถเปยฺยาเล ติปริวฏฺฏวเสน วุตฺโตติ โยชนา.
ทุติยคมนาทิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
ทิฏฺิสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๔. โอกฺกนฺตสํยุตฺตํ
๑-๑๐. จกฺขุสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๐๒-๓๑๑. สทฺธาธิโมกฺขนฺติ ¶ ¶ สทฺทหนวเสน ปวตฺตํ อธิโมกฺขํ, น สนฺนิฏฺานมตฺตวเสน ปวตฺตํ อธิโมกฺขํ. ทสฺสนมฺปิ สมฺมตฺตํ, ตํสิชฺฌานวเสน ปวตฺตนิยาโม สมฺมตฺตนิยาโม, อริยมคฺโค. อนนฺตรายตํ ทีเปติ กปฺปวินาสปฏิภาเคน ปวตฺตตฺตา. ตถา จาห ‘‘เตเนวาหา’’ติอาทิ. กปฺปสีเสน ภาชนโลกํ วทติ. โส หิ อุฑฺฑยฺหติ, น กปฺโป, อุฑฺฑยฺหนเวลาติ ฌายนเวลา. ิโต กปฺโป ิตกปฺโป, โส อสฺส อตฺถีติ ิตกปฺปี, กปฺปํ เปตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ. โอโลกนนฺติ สจฺจาภิสมยสงฺขาตํ ทสฺสนํ. ขมนฺติ สหนฺติ, ายนฺตีติ อตฺโถ.
จกฺขุสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
โอกฺกนฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อุปฺปาทสํยุตฺตวณฺณนา
๓๑๒-๓๒๑. สพฺพํ ¶ ปากฏเมว อปุพฺพสฺส อภาวโต.
อุปฺปาทสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กิเลสสํยุตฺตวณฺณนา
๓๒๒-๓๓๑. เอโสติ ¶ จกฺขุสฺมึ ฉนฺทราโค. อุเปจฺจ กิเลเสตีติ อุปกฺกิเลโส. จิตฺตสฺสาติ สามฺวจนํ อนิจฺฉนฺโต โจทโก ‘‘กตรจิตฺตสฺสา’’ติ อาห. อิตโร กามํ อุปตาปนมลีนภาวกรณวเสน อุปกฺกิเลโส โลกุตฺตรสฺส นตฺถิ, วิพาธนฏฺโ ปน อตฺเถว อุปฺปตฺตินิวารณโตติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘จตุภูมกจิตฺตสฺสา’’ติ. โจทโก ‘‘เตภูมกา’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ, อิตโร ‘‘อุปฺปตฺตินิวารณโต’’ติอาทินา. อริยผลปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานวเสน ปวตฺติยา ¶ สพฺพสํกิเลสโต นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ, มคฺคนิพฺพานานํ ปน เนกฺขมฺมภาโว อุกฺกํสโต คหิโต เอวาติ อาห ‘‘เนกฺขมฺมนินฺนนฺติ นวโลกุตฺตรธมฺมนินฺน’’นฺติ. อภิชานิตฺวาติ อภิมุขภาเวน ชานิตฺวา. สจฺฉิกาตพฺเพสูติ ปจฺจกฺขกาตพฺเพสุ. ฉฬภิฺาธมฺเมสูติ อริยมคฺคสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ.
กิเลสสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สาริปุตฺตสํยุตฺตํ
๑-๙. วิเวกชสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๓๒-๓๔๐. น ¶ เอวํ โหตีติ เอตฺถ ‘‘อหํ สมาปชฺชามี’’ติ วา, ‘‘อหํ สมาปนฺโน’’ติ วา มา โหตุ ตทา ตาทิสาโภคาภาวโต. ‘‘อหํ วุฏฺิโต’’ติ ปน กสฺมา น โหตีติ? สพฺพถาปิ น โหตฺเวว อหงฺการสฺส สพฺพโส ปหีนตฺตา.
วิเวกชสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สูจิมุขีสุตฺตวณฺณนา
๓๔๑. ตสฺมึ วจเน ปฏิกฺขิตฺเตติ – ‘‘อโธมุโข ภฺุชสี’’ติ ปริพฺพาชิกาย วุตฺตวจเน – ‘‘น ขฺวาหํ ภคินี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต. วาทนฺติ โทสํ. อุพฺภมุโขติ อุปริมุโข. ปุรตฺถิมาทิกา จตสฺโส ทิสา. ทกฺขิณปุรตฺถิมาทิกา จตสฺโส วิทิสา.
อารามอารามวตฺถุอาทีสุ ภูมิปริกมฺมพีชาภิสงฺขรณาทิปฏิสํยุตฺตา วิชฺชา วตฺถุวิชฺชา, ตสฺสา ปน มิจฺฉาชีวภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตสํ เตสํ อตฺตโน ปจฺจยทายกานํ. ตตฺถ ตตฺถ คมนนฺติ เตสํ สาสนหรณวเสน ตํ ตํ คามนฺตรเทสนฺตรํ. เอวมาโรเจสีติ อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนรหิตํ กณฺณสุขํ เปมนียํ หทยงฺคมํ เถรสฺส ธมฺมกถํ ¶ สุตฺวา ปสนฺนมานสา เอวํ ‘‘ธมฺมิกํ สมณา สกฺยปุตฺติยา’’ติอาทินา สาสนสฺส คุณสํกิตฺตนวาจํ กุลานํ อาโรเจสิ.
สูจิมุขีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สาริปุตฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นาคสํยุตฺตํ
๑. สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา
๓๔๒. อณฺฑชาติ ¶ อณฺเฑ ชาตา. วตฺถิโกเสติ วตฺถิโกสสฺิเต ชรายุปุเฏ ชาตา. สํเสเทติ สํสินฺเน กิลินฺนฏฺาเน อุปฺปนฺนา. อุปปติตฺวา วิยาติ กุโตจิปิ อวปติตฺวา วิย นิพฺพตฺตา. ปุคฺคลานนฺติ ตถา วิเนตพฺพปุคฺคลานํ.
สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๕๐. ปณีตตรสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๔๓-๓๙๑. วิสฺสฏฺกายาติ ‘‘เย จมฺเมน วา รุธิเรน วา อฏฺินา วา อตฺถิกา, เต สพฺพํ คณฺหนฺตู’’ติ ตตฺถ นิรเปกฺขจิตฺตตาย อธิฏฺิตสีลตาย ปริจฺจตฺตสรีรา. ทุวิธการิโนติ ‘‘กาเลน กุสลํ, กาเลน อกุสล’’นฺติ เอวํ กุสลากุสลการิโน. สห พฺยยติ ปวตฺตตีติ สหพฺโย, สหจาโร. ตสฺส ภาโว สหพฺยตา, ตํ สหพฺยตํ. อทนียโต อนฺนํ. ขาทนียโต ขชฺชํ. ปาตพฺพโต ปานํ. นิวสนียโต วตฺถํ. นิวสิตพฺพํ นิวาสนํ. ปริวริตพฺพํ ปาวุรณํ. ยานฺติ เตนาติ ยานํ, อุปาหนาทิยานานิ. อาทิสทฺเทน วยฺหสิวิกาทีนํ สงฺคโห. ฉตฺตมฺปิ ปริสฺสยาตปทุกฺขปริรกฺขเณน มคฺคคมนสาธนนฺติ กตฺวา ‘‘ฉตฺตุปาหน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยํ กิฺจิ คมนปจฺจย’’นฺติ. ปตฺถนํ กตฺวา…เป… ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺติ จมฺเปยฺยนาคราชา วิยาติ ทฏฺพฺพํ.
ปณีตตรสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นาคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สุปณฺณสํยุตฺตวณฺณนา
๓๙๒-๔๓๗. ปตฺตานนฺติ ¶ ¶ อุโภสุ ปกฺเขสุ ปตฺตานํ. วณฺณวนฺตตายาติ อติสเยน วิจิตฺตวณฺณตาย. อติสยตฺโถ หิ อยํ วนฺต-สทฺโท. ปุริมนเยนาติ นาคสํยุตฺเต ปมสุตฺเต วุตฺตนเยน. อุทฺธรนฺตีติ สมุทฺทโต อุทฺธรนฺติ, ปถวนฺตรปพฺพตนฺตรโต ปน เตสํ อุทฺธรณํ ทุกฺกรเมว. ปณีตตเรติ พเลน ปณีตตเร, พลวนฺเตติ อตฺโถ. อนุทฺธรณียนาคาติ อานุภาวมหนฺตตาย จ วสนฏฺานวิทุคฺคตาย จ อุทฺธริตุํ อสกฺกุเณยฺยา นาคา. เต ‘‘สตฺตวิธา’’ติ วตฺวา สรูปโต วสนฏฺานโต จ ทสฺเสนฺโต ‘‘กมฺพลสฺสตรา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺพลสฺสตรา ธตรฏฺาติ อิเม ชาติวเสน วุตฺตา. สตฺตสีทนฺตรวาสิโนติ สตฺตวิธสีทสมุทฺทวาสิโน. ปถวิฏฺกาติ ปถวนฺตรวาสิโน, ตถา ปพฺพตฏฺกา. เต จ วิมานวาสิโน. เต นาเค โกจิ สุปณฺโณ อุทฺธริตุํ น สกฺโกตีติ สมฺพนฺโธ. เสสนฺติ ‘‘กาเยน ทฺวยการิโน’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ นาคสํยุตฺเต วุตฺตนยเมว, ตตฺถ จ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
สุปณฺณสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. คนฺธพฺพกายสํยุตฺตวณฺณนา
๔๓๘-๕๔๙. มูลคนฺธาทิเภทํ ¶ คนฺธํ อวนฺติ อปยฺุชนฺตีติ คนฺธพฺพา, เตสํ กาโย สมูโห คนฺธพฺพกาโย, คนฺธพฺพเทวนิกาโย. จาตุมหาราชิเกสุ เอกิยาว เต ทฏฺพฺพา, ตปฺปริยาปนฺนตาย ตตฺถ วา นิยุตฺตาติ คนฺธพฺพกายิกา. เตสํ เตสํ รุกฺขคจฺฉลตานํ มูลํ ปฏิจฺจ ปวตฺโต คนฺโธ มูลคนฺโธ, ตสฺมึ มูลคนฺเธ. อธิวตฺถาติ มูลคนฺธํ อธิฏฺาย, อภิภุยฺย วา วสนฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ. ตํ นิสฺสายาติ ตํ มูลคนฺธํ รุกฺขํ ปจฺจยํ กตฺวา นิพฺพตฺตา. น เกวลํ ตตฺถ คนฺโธ เอว, มูลเมว วา เตสํ ปจฺจโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส หี’’ติอาทิมาห. อุปกปฺปตีติ นิวาสฏฺานภาเวน วินิยฺุชติ. คนฺธคนฺเธติ คนฺธานํ คนฺธสมุทาเย. มูลาทิคนฺธานํ คนฺเธติ มูลาทิคตอวยวคนฺธานํ คนฺเธ, ติมูลาทิคตสมุทายภูเตติ อตฺโถ. ปุพฺเพ หิ ‘‘มูลคนฺเธ’’ติอาทินา รุกฺขานํ อวยวคนฺโธ ¶ คหิโต, อิธ ปน สพฺพโส คหิตตฺตา สมุทายคนฺโธ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ยสฺส หิ รุกฺขสฺสา’’ติอาทิ. โสติ โส สพฺโพ มูลาทิคโต คนฺโธ คนฺธสมุทาโย อิธ คนฺธคนฺโธ นาม. ตสฺส คนฺธสฺส คนฺเธติ ตสฺส สมุทายคนฺธสฺส ตถาภูเต คนฺเธ. สริกฺขํ สทิสํ ปฏิทานํ เอติสฺสาติ สริกฺขทานํ, ปตฺถนา. ยถาธิปฺเปตผลานิ สริกฺขทานตฺตาว อธิปฺเปตผลํ เทนฺตุ, อสริกฺขทานํ กถนฺติ? ตมฺปิ เทติเยว ปฺุสฺส สพฺพกามททตฺตาติ อาห ‘‘อสริกฺขทานมฺปี’’ติอาทิ.
คนฺธพฺพกายสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. วลาหกสํยุตฺตวณฺณนา
๕๕๐-๖๐๖. โลกํ ¶ วาเลนฺตา สํวรนฺตา ฉาเทนฺตา อหนฺติ ปริเยสนฺตีติ วลาหา, เทวปุตฺตา. เตสํ สมูโห วลาหกเทวกาโยติ อาห ‘‘วลาหกกายิกา’’ติอาทิ. สีตกรณวลาหกาติ สีตหรณวลาหกา. เสสปเทสูติ อุณฺหวลาหกาทิปเทสุ. เอเสว นโยติ ‘‘อุณฺหกรณวลาหกา’’ติอาทินา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. จิตฺตฏฺปนนฺติ ‘‘สีตํ โหตู’’ติ เอวํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทนํ. วสฺสาเนติ วสฺสกาเล. อุตุสมุฏฺานเมวาติ ปากติกสีตเมวาติ อตฺโถ. อุณฺเหปีติ อุณฺหกาเล. อพฺภมณฺฑโปติ มณฺฑปสทิสอพฺภปฏลวิตานมาห. อพฺภํ อุปฺปชฺชตีติ ตหํ ตหํ ปฏลํ อุฏฺหติ. อพฺเภเยวาติ อพฺภกาเล เอว, วสฺสาเนติ อตฺโถ. อติอพฺภนฺติ สตปฏลสหสฺสปฏลํ หุตฺวา อพฺภุฏฺานํ. จิตฺตเวสาขมาเสสูติ วสนฺตกาลํ สนฺธายาห. ตทา หิ วิทฺโธ วิคตวลาหโก เทโว ภวิตุํ ยุตฺโต. อุตฺตรทกฺขิณาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปจฺฉิมวาตาทึ สงฺคณฺหาติ. ปกติวาโตติ ปกติยา สภาเวน วายนกวาโต. ตํ อุตุสมุฏฺานเมวาติ อาหารูปชีวีนํ สตฺตานํ สาธารณกมฺมูปนิสฺสยอุตุสมุฏฺานเมว. เอส นโย อุตุสมุฏฺานสีตุณฺหวาเตสุปิ. ตมฺปิ หิ อาหารูปชีวีนํ สตฺตานํ สาธารณกมฺมูปนิสฺสยเมวาติ.
คีตนฺติ เมฆคีตํ. สจฺจกิริยายาติ ตาทิสานํ ปุริสวิเสสานํ สจฺจาธิฏฺาเนน. อิทฺธิพเลนาติ อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิอานุภาเวน. วินาสเมเฆนาติ ¶ กปฺปวินาสกเมเฆน. อฺเนปิ กณฺหปาปิกสตฺตานํ ปาปกมฺมปจฺจยา อุปฺปนฺนวินาสเมเฆน วุฏฺเน โส โส เทโส วินสฺสเตว.
วลาหกสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. วจฺฉโคตฺตสํยุตฺตวณฺณนา
๖๐๗-๖๖๑. อฺาณาติ ¶ อฺาณเหตุ, สจฺจปฏิจฺฉาทกสมฺโมหเหตูติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน อิมเมว อตฺถํ เหตุอตฺเถน กรณวจเนน ทสฺเสตุํ ‘‘อฺาเณนา’’ติ วุตฺตํ. สพฺพานีติ ‘‘อฺาณา อทสฺสนา อนภิสมยา’’ติอาทีนิ ปทานิ เอกาทสสุ สุตฺเตสุ อาคตานิ, ปฺจปฺาส เวยฺยากรณานิ วุตฺตานิ สุตฺเตสุ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ วเสน เวยฺยากรณสฺส อาคตตฺตา.
วจฺฉโคตฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. ฌานสํยุตฺตํ
๑. สมาธิมูลกสมาปตฺติสุตฺตวณฺณนา
๖๖๒. สมาธิกุสโลติ ¶ สมาธิสฺมึ กุสโล. ตยิทํ สมาธิโกสลฺลตฺตํ สห ฌานงฺคโยเคน จตุพฺพิโธ ฌานสมาธิ, ตสฺมา ตํ ตํ วิภาคํ ชานนฺตสฺส สิทฺธํ โหตีติ อาห – ‘‘ปมํ ฌาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ วิตกฺกวิจารปีติสุเขกคฺคตาวเสน ปมํ ปฺจงฺคิกํ, ปีติสุเขกคฺคตาวเสน ทุติยํ ติวงฺคิกํ, สุเขกคฺคตาวเสน ตติยํ ทุวงฺคิกํ, อุเปกฺเขกคฺคตาวเสน จตุตฺถํ ทุวงฺคิกเมวาติ เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ ฌาเน ตํตํองฺคานํ ววตฺถาเน กุสโล. สมาปตฺติกุสโลติ สมาปชฺชเน กุสโล. หาเสตฺวาติ โตเสตฺวา. กลฺลํ กตฺวาติ สมาธานสฺส ปฏิปกฺขธมฺมานํ ทูรีกรเณน สหการีการณฺจ สมาธาเนน สมาปชฺชเน จิตฺตํ สมตฺถํ กตฺวา. เสสปทานีติ เสสา ตโย โกฏฺาสา. ตติยาทีสุ นเยสุ อกุสโลปิ ฌานตฺถาย ปฏิปนฺนตฺตา ‘‘ฌายีเตวา’’ติ วุตฺโต.
สมาธิมูลกสมาปตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๕๕. สมาธิมูลกิติสุตฺตาทิวณฺณนา
๖๖๓-๗๑๖. ทุติยาทิสุตฺเตสุ ¶ ิติกุสโลติ เอตฺถ อนฺโตคธเหตุอตฺโถ ิติ-สทฺโท, ตสฺมิฺจ ปน กุสโลติ อตฺโถติ อาห – ‘‘ฌานํ เปตุํ อกุสโล’’ติ. สตฺตฏฺอจฺฉรามตฺตนฺติ สตฺตฏฺอจฺฉรามตฺตํ ขณํ ฌานํ เปตุํ น สกฺโกติ อธิฏฺานวสีภาวสฺส อนิปฺผาทิตตฺตา. ยถาปริจฺเฉเทน กาเลน วุฏฺาตุํ น สกฺโกติ วุฏฺานวสีภาวสฺส อนิปฺผาทิตตฺตา. กลฺลํ ชาตํ อสฺสาติ กลฺลิตํ, ตสฺมึ กลฺลิเต กลฺลิตภาเวน กสิณารมฺมเณสุ ‘‘อิทํ นาม อสุกสฺสา’’ติ วิสยวเสน สมาปชฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต น สมาธิสฺมึ อารมฺมณกุสโล. น สมาธิสฺมึ โคจรกุสโลติ สมาธิสฺมึ นิปฺผาทิตพฺเพ ตสฺส โคจเร กมฺมฏฺานสฺิเต ปวตฺติฏฺาเน ภิกฺขาจารโคจเร จ สติสมฺปชฺวิรหิโต อกุสโล. เกจิ ปน ‘‘กมฺมฏฺานโคจโร ปมชฺฌานาทิกํ, ‘เอวํ สมาปชฺชิตพฺพํ, เอวํ พหุลีกาตพฺพ’นฺติ อชานนฺโต ตตฺถ อกุสโล นามา’’ติ วทนฺติ. กมฺมฏฺานํ อภินีหริตุนฺติ กมฺมฏฺานํ วิเสสภาคิยตาย ¶ อภินีหริตุํ อกุสโล. สกฺกจฺจการีติ จิตฺตีการี. สาตจฺจการีติ นิยตการี. สมาธิสฺส อุปการกธมฺมาติ อปฺปนาโกสลฺลา. สมาปตฺติอาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน สกฺกจฺจการิปทาทีนํเยว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ จตุกฺกานํ วุตฺตตฺตา. เตนาห ‘‘โยเชตฺวา จตุกฺกา วุตฺตา’’ติ. โลกิยชฺฌานวเสเนว กถิตํ ‘‘สมาธิกุสโล’’ติอาทินา นเยน เทสนาย ปวตฺตตฺตา. น หิ โลกุตฺตรธมฺเมสุ อโกสลฺลํ นาม ลพฺภติ. ยทิ อโกสลฺลํ, น กุสลสทฺเทน วิเสสิตพฺพตา สิยาติ.
สมาธิมูลกิติสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฌานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ สารตฺถปฺปกาสินิยา
สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย ขนฺธวคฺควณฺณนา.