📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
สํยุตฺตนิกาเย
สฬายตนวคฺคฏีกา
๑. สฬายตนสํยุตฺตํ
๑. อนิจฺจวคฺโค
๑. อชฺฌตฺตานิจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑. จกฺขตีติ ¶ ¶ จกฺขุ, าณํ, ยถาสภาวโต อารมฺมณสฺส ชานเนน สมวิสมํ อาจิกฺขนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ตถา มํสจกฺขุ. ตมฺปิ หิ รูปทสฺสเน จกฺขตีติ จกฺขุ. พุทฺธานํเยว จกฺขูติ พุทฺธจกฺขุ, อสาธารณโต หิ สตฺตสนฺตาเนสุ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ อนุโลมิกาณยถาภูตาณานฺเจว กามราคานุสยาทีนฺจ ยาถาวโต วิภาวิตาณํ อาสยานุสยาณํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณฺจ. เหฏฺิมา ตโย มคฺคา จตุสจฺจธมฺเมสุ วุตฺตากาเรน ปวตฺติยา ธมฺเม จกฺขูติ ธมฺมจกฺขุ, ตถา เตสํ ผลานิ ตํตํปฏิปกฺเขสุ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานวเสน ¶ ปวตฺตนโต. สมนฺตโต สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุกิจฺจสาธนโต สมนฺตจกฺขุ, สพฺพฺุตฺาณํ. ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสเยน ลทฺธพฺพโต เทวานํ ทิพฺพจกฺขุ วิยาติ ตํ ทิพฺพจกฺขุ, อภิฺาวิเสโส. อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา รูปทสฺสนโต ‘‘อาโลกผรเณนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาที’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕) นเยน ¶ อาคตตฺตา จตุสจฺจปริจฺเฉทกาณํ ‘‘ปฺาจกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ตทิทํ ‘‘วิปสฺสนาาณ’’นฺติ วทนฺติ, ‘‘วิปสฺสนามคฺคผลปจฺจเวกฺขณาณานี’’ติ อปเร.
ปจฺจยภูเตหิ เอเตหิ อภิสมฺภรียนฺตีติ สมฺภารา, อุปตฺถมฺภภูตา จตุสมุฏฺานิกรูปา. สห สมฺภาเรหีติ สสมฺภารํ. มหาภูตานํ อุปาทาย ปสีทตีติ ปสาโท. อกฺขิกูปเก อกฺขิปฏเลหีติ อุโภหิ อกฺขิทเลหิ. สมฺภโวติ อาโปธาตุเมว สมฺภวภูตมาห. อิธ ‘‘เตรส สมฺภารา’’ติ วุตฺตํ. อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๙๖) ปน สณฺาเนน สทฺธึ ‘‘จุทฺทส สมฺภารา’’ติ อาคตํ. ตตฺถ สณฺานนฺติ วณฺณายตนเมว ปริมณฺฑลาทิสณฺานภูตํ. วิสุํ วจนํ ปน เนสํ ตถาภูตานํ อตถาภูตานฺจ อาโปธาตุวณฺณายตนานํ ยถาวุตฺเต มํสปิณฺเฑ วิชฺชมานตฺตา. สมฺภวสฺส จตุธาตุนิสฺสิเตหิ สห วุตฺตสฺส ธาตุตฺตยนิสฺสิตตา โยเชตพฺพา. ทิฏฺิมณฺฑเลติ อภิมุขํ ิตานํ ปฏิพิมฺพปฺายนฏฺานภูเต จกฺขุสฺิตาย ทิฏฺิยา ปวตฺติฏฺานภูเต มณฺฑเล. สนฺนิวิฏฺนฺติ เอเตน จกฺขุปสาทสฺส อเนกกลาปคตภาโว ทสฺสิโต. ตถา หิ โส สตฺต อกฺขิปฏลานิ อภิพฺยาเปตฺวา วตฺตติ. ยสฺมา โส สตฺต อกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ิเตหิ อตฺตโน นิสฺสยภูเตหิ กตูปการํ ตํนิสฺสิเตเหว อายุวณฺณาทีหิ อนุปาลิตปริวาริตํ ติสนฺตติรูปสมุฏฺาปเกหิ อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ หุตฺวา ติฏฺติ. รูปทสฺสนสมตฺถนฺติ อตฺตานํ นิสฺสาย ปวตฺตวิฺาณสฺส วเสน รูปายตนทสฺสนสมตฺถํ. วิตฺถารกถาติ ตสฺส จกฺขุโน โสตาทีนฺจ เหตุปจฺจยาทิวเสน เจว ลกฺขณาทิวเสน จ วิตฺถารกถา.
สมฺมสนจารจิตฺตนฺติ วิปสฺสนาย ปวตฺติฏฺานภูตํ วิปสฺสิตพฺพํ จิตฺตํ. เกจิ ‘‘วิปสฺสนุปคตกิริยมยจิตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. ตีณิ ลกฺขณานิ ทสฺเสตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตสฺส ปาปนวเสน เทสนาย ปวตฺตตฺตา.
อชฺฌตฺตานิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๓. อชฺฌตฺตทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา
๒-๓. ทฺเว ¶ ¶ ลกฺขณานีติ ทุกฺขานตฺตลกฺขณานิ. เอกํ ลกฺขณนฺติ อนตฺตลกฺขณํ. เสสานีติ วุตฺตาวเสสานิ ลกฺขณานิ. เตหีติ เยหิ ทุติยตติยานิ สุตฺตานิ เทสิตานิ, เตหิ. สลฺลกฺขิตานีติ สมฺมเทว อุปธาริตานิ. เอตฺตเกนาติ ทฺวินฺนํ เอกสฺเสว วา ลกฺขณสฺส กถเนน.
อชฺฌตฺตทุกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๖. พาหิรานิจฺจสุตฺตาทิวณฺณนา
๔-๖. วุตฺตสทิโสวาติ ‘‘ทฺเว ลกฺขณานี’’ติอาทินา วุตฺตสทิโส เอว. นโยติ อติเทสนโย.
พาหิรานิจฺจสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๑๒. อชฺฌตฺตานิจฺจาตีตานาคตสุตฺตาทิวณฺณนา
๗-๑๒. สลฺลกฺเขตฺวาติ อตีตานาคตานํ อวิชฺชมานตฺตา คาหสฺส ทฬฺหตาย สลฺลกฺเขตฺวา. ปจฺจุปฺปนฺเนสุ วิชฺชมานตฺตา พลวตา ตณฺหาทิคาเหน วิปสฺสนาวีถึ ปฏิปาเทตุํ กิลมนฺตานํ วิเนยฺยานํ วเสน.
อชฺฌตฺตานิจฺจาตีตานาคตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนิจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ยมกวคฺโค
๑-๔. ปมปุพฺเพสมฺโพธสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓-๑๖. ทฺวีสุปิ สุตฺเตสุ อายตนานํ วเสน เทสนา เอกรสาวาติ ‘‘ปมทุติเยสู’’ติ เอกชฺฌํ ปทุทฺธาโร กโต. อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. อตฺตานมธิ อชฺฌตฺตํ, ตปฺปริยาปนฺนตฺตา ตตฺถ ภวานิ อชฺฌตฺติกานิ, เตสํ อชฺฌตฺติกานํ. อชฺฌตฺตฺจ ¶ นาม อชฺฌตฺตชฺฌตฺตํ ¶ , นิยกชฺฌตฺตํ, โคจรชฺฌตฺตํ, วิสยชฺฌตฺตนฺติ จตุพฺพิธํ. ตตฺถ อชฺฌตฺตชฺฌตฺตํ อชฺฌตฺเต ภวนฺติ อชฺฌตฺติกนฺติ อาห ‘‘อชฺฌตฺตชฺฌตฺตวเสน อชฺฌตฺติกาน’’นฺติ. เตสํ จกฺขาทีนํ อชฺฌตฺเตสุปิ อชฺฌตฺติกภาโว อธิกสิเนหวตฺถุตายาติ อาห ‘‘ฉนฺทราคสฺส อธิมตฺตพลวตายา’’ติ. อิทานิ ตตฺถ ตมตฺถํ ปฏิโยคินา สทฺธึ อุทาหรณวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘มนุสฺสานํ หี’’ติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานเมว. พาหิรานีติ อชฺฌตฺติกโต พหิ ภวานิ.
ปมปุพฺเพสมฺโพธสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. ปมโนเจอสฺสาทสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗-๑๘. นิกฺขนฺตาติ โลกโต นิกฺขนฺตา. วิสํยุตฺตา สํโยคเหตูนํ กิเลสานํ ปหีนตฺตา โน สํยุตฺตา. โน อธิมุตฺตาติ น อุสฺสุกฺกชาตา. วิมริยาที…เป… เจตสาติ วิคตกิเลสวฏฺฏมริยาทตาย นิมฺมริยาทีกเตน จิตฺเตน. จตุสจฺจเมว กถิตํ จกฺขาทีนํ อสฺสาทาทิโน กถิตตฺตา.
ปมโนเจอสฺสาทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๑๐. ปมาภินนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๙-๒๒. วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ อภินนฺทนานํ อุปฺปาทนิโรธานฺจ วเสน เทสนาย ปวตฺตตฺตา. อนุปุพฺพกถาติ อาทิโต ปฏฺาย ปทตฺถวณฺณนา. เนสนฺติ สุตฺตานํ.
ปมาภินนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ยมกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สพฺพวคฺโค
๑. สพฺพสุตฺตวณฺณนา
๒๓. สพฺพ-สทฺโท ¶ ปกรณวเสน กตฺถจิ สปฺปเทเสปิ ปวตฺตตีติ ตโต นิวตฺตนตฺถํ อนวเสสวิสเยน สพฺพ-สทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘สพฺพสพฺพ’’นฺติ, สพฺพเมว หุตฺวา สพฺพนฺติ อตฺโถ. อายตนภาวํ สพฺพํ อายตนสพฺพํ, เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย.
ตสฺส ¶ อวิสยาภาวโต น อทฺทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจีติ. อิธาติ นิปาตมตฺตํ, อิธ วา สเทวเก โลเก, ทสฺสนภูเตน าเณน อทิฏฺํ นาม กิฺจิ นตฺถีติ อตฺโถ. ยทิ เอวํ อนุมานวิสยํ นุ โข กถนฺติ อาห ‘‘อโถ อวิฺาต’’นฺติ. อฺเสํ อปจฺจกฺขมฺปิ อวิฺาตํ ตสฺส กิฺจิ นตฺถีติ อทิฏฺํ อวิฺาตํ นตฺถิ. ปจฺจุปฺปนฺนํ อตีตเมว เยฺยํ คหิตํ, อนาคตํ นุ โข กถนฺติ อาห – ‘‘อชานิตพฺพ’’นฺติ, ตสฺส กิฺจิ นตฺถีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ชานิตุํ าตุํ อสกฺกุเณยฺยํ นาม ตสฺส กิฺจิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สพฺพํ อภิฺาสี’’ติอาทิ.
สกลสฺส สกฺกายธมฺมสฺส ปริคฺคหิตตฺตา สกฺกายสพฺพํ. สพฺพธมฺเมสูติ ปฺจนฺนํ ทฺวารานํ อารมฺมณภูเตสุ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ. ยสฺมา ฉสุปิ อารมฺมเณสุ คหิเตสุ ปเทสสพฺพํ นาม น โหติ, ตสฺมา ‘‘ปฺจารมฺมณมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ปเทสสพฺพํ สกฺกายสพฺพํ น ปาปุณาติ ตสฺส เตภูมกธมฺเมสุ เอกเทสสฺส อสงฺคณฺหนโต. สกฺกายสพฺพํ อายตนสพฺพํ น ปาปุณาติ โลกุตฺตรธมฺมานํ อสงฺคณฺหนโต. อายตนสพฺพํ สพฺพสพฺพํ น ปาปุณาติ. ยสฺมา อายตนสพฺเพน จตุภูมกธมฺมาว ปริคฺคหิตา, น ลกฺขณปฺตฺติโย, ยสฺมา สพฺพสพฺพํ ทสฺเสนฺเตน พุทฺธาณวิสโย ทสฺสิโต, ตสฺมา ‘‘สพฺพสพฺพํ น ปาปุณาตี’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘กสฺมา…เป… นตฺถิตายา’’ติ สพฺพํ าตารมฺมเณเนว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตํ. ‘‘อายตนสพฺเพปิ อิธ วิปสฺสนุปคธมฺมาว คเหตพฺพา อภิฺเยฺยนิทฺเทสวเสนปิ สมฺมสนจารสฺเสว อิจฺฉิตตฺตา’’ติ วทนฺติ.
ปฏิกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อิทํ สพฺพํ นาม น โหตี’’ติ เอวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา. ตสฺสาติ ‘‘อฺํ สพฺพํ ปฺาเปสฺสามี’’ติ วทนฺตสฺส. วาจาย วตฺตพฺพวตฺถุมตฺตกเมวาติ วฺฌาปุตฺตคคนกุสุมาทิวาจา วิย เอตสฺส วาจาย เกวลํ วตฺตพฺพวตฺถุกเมว ภเวยฺย, น อตฺโถ, วจนมตฺตกเมวาติ อตฺโถ ¶ . อติกฺกมิตฺวาติ อนามสิตฺวา อคฺคเหตฺวา. ตํ กิสฺส เหตูติ วิฆาตาปชฺชนํ เกน เหตุนา. ยถา ตํ อวิสยสฺมินฺติ ยถา อฺโปิ โกจิ อวิสเย วายมนฺโต, เอวนฺติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน ยสฺมา ปาฬิยํ ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติ วุตฺตการณเมว อุปนยนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. การโณปนยนฺจ การณเมวาติ ‘‘ยถาติ การณวจน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘เอวํ อิมสฺมิมฺปิ อวิสเย’’ติอาทิ.
สพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปหานสุตฺตวณฺณนา
๒๔. สพฺพสฺสาติ ทฺวารารมฺมเณหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺตสฺส. ปหานายาติ ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปหานวเสน ¶ ปชหนาย. จกฺขุสมฺผสฺสนฺติ จกฺขุสนฺนิสฺสิตผสฺสํ. มูลปจฺจยนฺติ มูลภูตํ ปจฺจยํ กตฺวา, สหชาตเวทนาย จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เอเสว นโยติ อปเทเสน ‘‘โสตสมฺผสฺสํ มูลปจฺจยํ กตฺวา’’ติอาทินา วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. มโนติ ภวงฺคจิตฺตํ มโนทฺวารสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อารมฺมณนฺติ ธมฺมารมฺมณํ. สหาวชฺชนกชวนนฺติ สหมโนทฺวาราวชฺชนกํ ชวนํ. ตํปุพฺพกตฺตา มโนวิฺาณผสฺสเวทนานํ มูลปจฺจยภูตา สพฺเพสฺเวว จกฺขุทฺวาราทีสุ วุตฺติตฺตา ตทนุรูปโต ‘‘ภวงฺคสหชาโต สมฺผสฺโส’’ติ วุตฺตํ. สหาวชฺชนเวทนาย ชวนเวทนา ‘‘เวทยิต’’นฺติ อธิปฺเปตา, ภวงฺคสมฺปยุตฺตาย ปน เวทนาย คหเณ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ภวงฺคโต อโมเจตฺวา ภวงฺคจิตฺเตน สทฺธึเยว อาวชฺชนํ คเหตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ ทฏฺพฺพํ. ยา ปเนตฺถ เทสนาติ ยา เอตฺถ ‘‘ปหานายา’’ติอาทินา ปวตฺตเทสนา สตฺถุ อนสิฏฺิ อาณา. อยํ ปณฺณตฺติ นาม ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปการโต าปนโต. เอตฺถ สพฺพคฺคหเณน สพฺเพ สภาวธมฺมา คหิตา, ปฺตฺติ ปน กตมาติ วิจารณาย ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยา ปเนตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ปหานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อภิฺาปริฺาปหานสุตฺตวณฺณนา
๒๕. อภิฺาติ ¶ อภิฺาย. ย-การโลปวเสนายํ นิทฺเทโส ‘‘สยํ อภิฺา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘, ๔๐๕; ม. นิ. ๑.๑๕๔) วิย, ตถา ‘‘ปริฺา’’ติ เอตฺถาปิ. สพฺพนฺติ อายตนสพฺพํ. ตฺหิ อภิฺเยฺยํ. อภิชานิตฺวาติ อภิฺาย ชานิตฺวา. ปริชานิตฺวาติ ตีรณปริฺาย อนิจฺจาทิโต ปริชานิตฺวา. ปชหนตฺถายาติ ปหานปริฺาย อนวเสสโต ปชหนาย.
อภิฺาปริฺาปหานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมอปริชานนสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ‘‘อภิชาน’’นฺติอาทินา เอตฺถ ภควา ปมํ กณฺหปกฺขํ ทสฺเสตฺวา สุกฺกปกฺขํ ทสฺเสติ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน. เตเนตฺถ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
ปมอปริชานนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยอปริชานนสุตฺตวณฺณนา
๒๗. จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺพธมฺโม ¶ นาม รูปายตนเมวาติ อาห ‘‘เหฏฺา คหิตรูปเมวา’’ติ. อิธ อนาปาถคตํ ‘‘จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺพา ธมฺมา’’ติ วุตฺตตฺตา. เหฏฺา อาปาถคตมฺปิ อนาปาถคตมฺปิ คหิตเมว ‘‘เย จ รูปา’’ติ อนวเสสโต วุตฺตตฺตา. เต หิ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา สห จกฺขุวิฺาเณน วิฺาตพฺพตฺตา. ตถา หิ จกฺขุวิฺาณํ เตหิ เอกุปฺปาทํ เอกวตฺถุกํ เอกนิโรธํ เอการมฺมณเมว. เสสปเทสูติ เสเสสุ ‘‘ยฺจ โสตํ เย จ สทฺทา’’ติอาทินา อาคเตสุ กณฺหปกฺเข ปฺจสุ, สุกฺกปกฺเข ฉสุปิ ปเทสุ. เอเสว นโยติ ยฺวายํ ‘‘เหฏฺา คหิตรูปเมว คณฺหิตฺวา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. เอโส เอว ตตฺถปิ อตฺถวณฺณนานโย.
ทุติยอปริชานนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๘. คยานามิกาย ¶ นทิยา อวิทูเร ปวตฺโต คาโม คยา นาม, ตสฺสํ คยายํ วิหรตีติ สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. คยาคามสฺส หิ อาสนฺเน คยาสีสนามเก ปิฏฺิปาสาเณ ภควา ตทา วิหาสิ. เตนาห ‘‘ภควา ตตฺถ วิหรตี’’ติ.
ตตฺราติ ‘‘ภิกฺขู อามนฺเตสี’’ติ เย ภิกฺขู อามนฺเตสิ, ยถา จายํ เทสนา เตสํ สปฺปายา ชาตา, ตตฺร ตสฺมึ อตฺถทฺวเย วิภาเวตพฺเพ อยํ อนุปุพฺพิกถา สมุทาคมโต ปฏฺาย อนุปฏิปาฏิกถา. อิโตติ อิมสฺมา กปฺปโต. กิราติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. ปารมิตาปริภาวนาย ปริปากคเต. าเณติ โพธิาเณ. กนิฏฺปุตฺโต เวมาติกภาตา ภควโต. เวฬุภิตฺติกุฏิกาหิ ปริกฺขิปิตฺวา พหิทฺธา, อนฺโต ปน ปฏสาณีหิ.
สพฺเพสํ สตฺตานํ. ปฺุเจตนํ อนฺโต อพฺภนฺตเร ปเวเสติ. ภควาปิ ตสฺส ปุตฺโตติ กตฺวา ‘‘อฺเ ตโย ปุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อวิปฺปกิริตฺวาติ ปราชเยน อวิปฺปกิริย อปลายิตฺวา. ปิทหีติ ทาตุํ น สกฺโกมีติ ตถา อกาสิ. สจฺจวาทิตาย คณฺหึสูติ ราชกุลสฺส สจฺจวาทิตาย อตฺตโน วรํ คณฺหึสุ.
วินิวตฺติตุนฺติ ปฏิฺาย นิวตฺติตุํ. อนฺตราติ ตุมฺเหหิ ปริจฺฉินฺนกาลสฺส อนฺตรา เอว มตา. อฏฺวีสติหตฺถฏฺานํ อุสภํ นาม. อุสเภ อฏฺวีสติหตฺถปฺปมาเณ าเน. ทานคฺเค พฺยาวโฏติ ปสุโต.
โสติ ¶ ภควา. ตถารูปฺหิ พุทฺธานํ เทสนาปาฏิหาริยํ, ยถา เทสนาย คหิโต อตฺโถ ปจฺจกฺขโต วิภูโต หุตฺวา อุปฏฺาติ. เตนาห ‘‘อิเมสํ…เป… เทเสสฺสามี’’ติ. สนฺนิฏฺานนฺติ จิรกาลปริจิตาทิตฺตอคฺคิกานํ อาทิตฺตปริยายเทสนาว สปฺปายาติ นิจฺฉยมกาสิ. ปทิตฺตนฺติ ปทีปิตํ เอกาทสหิ อคฺคีหิ เอกชาลีภูตํ. เตนาห ‘‘สมฺปชฺชลิต’’นฺติ. ทุกฺขลกฺขณํ กถิตํ จกฺขาทีนํ เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาเวน ทุกฺขมตาย ทุกฺขสฺส กถิตตฺตา.
อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อทฺธภูตสุตฺตวณฺณนา
๒๙. อธิสทฺเทน ¶ สมานตฺโถ อทฺธสทฺโทติ อาห ‘‘อทฺธภูตนฺติ อธิภูต’’นฺติอาทิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อทฺธภูตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สมุคฺฆาตสารุปฺปสุตฺตวณฺณนา
๓๐. มฺิตํ นาม ตณฺหามานทิฏฺีหิ คเหตพฺพํ มฺิตํ. สพฺพสฺมึ มฺิตนฺติ สพฺพมฺิตํ, ตสฺส สมุคฺฆาโต เสตุฆาโต, ตทาวหํ สพฺพมฺิตสมุคฺฆาตสารุปฺปํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘มฺิตํ นาม จกฺขาทีสุ เอว อุปฺปชฺชติ, นาฺสฺมิ’’นฺติ ทุติยนโย วุตฺโต. อนุจฺฉวิกนฺติ อนุรูปํ อวิโลมํ. อิธาติ อิเธว สาสเน อฺตฺถ ตทภาวโต. ‘‘ตณฺหา-มานทิฏฺิมฺิตาน’’นฺติ วุตฺตํ มฺิตตฺตยํ สปรสนฺตาเนสุ ปฏิปกฺขวเสน โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุํ อหนฺติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘จกฺขุํ อห’’นฺติ อิมินา อชฺฌตฺตวิสยํ ทิฏฺิมฺิตฺจ ทสฺเสติ อตฺตาภินิเวสาหํการทีปนโต. ‘‘มม’’นฺติ อิมินา ตณฺหามฺิตํ มานมฺิตมฺปิ วา, ปริคฺคหมุเขนปิ เสยฺยาทิโต มานุปฺปชฺชนโต. เสสปททฺวเยปิ อิมินา นเยน มฺิตวิภาโค เวทิตพฺโพ. อหนฺติ อตฺตาว, โส จ จกฺขุสฺมึ ตทธีนวุตฺติตฺตา ‘‘ปโร’’ติ น มฺติ. มม กิฺจนปลิโพโธ จกฺขุสฺมึ สติ ลพฺภนโต, อสติ น มฺติ ตถามฺิตสฺส ปจฺจยฆาตโต. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
อหํ จกฺขุโต นิคฺคโตติ ‘‘อห’’นฺติ วตฺตพฺโพ อยํ สตฺโต จกฺขุโต นิคฺคโต ตตฺถ สุขุมากาเรน อุปลพฺภนโต. มม กิฺจนปลิโพโธ จกฺขุโต นิคฺคโต ตสฺมึ สติ เอว อุปลพฺภนโต ¶ . เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปโรติ ปโร สตฺโต. มม จกฺขูติ น มฺติ ยสฺส ตํ จกฺขุ, ตสฺส ‘‘อห’’นฺติ วตฺตพฺพสฺเสว อภาวโต. มมตฺตภูตนฺติ มม การณํ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอวเมตสฺมึ สุตฺเต จกฺขุรูป-จกฺขุวิฺาณ-จกฺขุสมฺผสฺส-สุขทุกฺขาทุกฺขมสุขวเสน สตฺต วารา จกฺขุทฺวาเร, ตถา โสตทฺวาราทีสูติ ฉ สตฺตกา ทฺเวจตฺตาลีส. ปุน สกฺกายวเสน ‘‘สพฺพํ น มฺตี’’ติอาทินา วุตฺตํ, เตน เตจตฺตาลีส. ปุน เตภูมกวฏฺฏํ ‘‘โลโก’’ติ คเหตฺวา ‘‘น กิฺจิ โลเก อุปาทิยตี’’ติ ¶ วุตฺตํ, เตน จตุจตฺตาลีส โหนฺติ. เอวํ สพฺพถาปิ จตุจตฺตาลีสาย าเนสุ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา วิปสฺสนา กถิตาติ เวทิตพฺพา. ‘‘จตุจตฺตาลีสาธิกสเตสู’’ติ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ลิขนฺติ, สา จ ปมาทเลขา.
สมุคฺฆาตสารุปฺปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมสมุคฺฆาตสปฺปายสุตฺตวณฺณนา
๓๑. อุปการภูตา ตทาวหตฺตา. ตโตติ มฺิตาการโต. ตนฺติ มฺนาวตฺถุํ. อฺเนากาเรนาติ ยถา มฺติ อนิจฺจาทิอาการโต, อฺเน อนิจฺจาทินา อากาเรน โหติ. อฺถาภาวํ วิปริณามนฺติ อุปฺปาทวยตาย อฺถาภาวํ ชราย มรเณน จ ทฺเวธา วิปริณาเมตพฺพํ. ตํ อุปคมเนน อฺถาภาวี, เอวํภูโต หุตฺวาปิ ชีรณภิชฺชนสภาเวสุ. ภเวสุ สตฺโต โลโก อุปริปิ ภวํเยว อภินนฺทติ. เหฏฺา คหิตเมว สงฺกฑฺฒิตฺวาติ ‘‘จกฺขุํ น มฺตี’’ติอาทินา เหฏฺา คหิตเมว ขนฺธธาตุอายตนาติ ขนฺธาทิปริยาเยน เอกโต คเหตฺวา ปุนปิ มฺนาวตฺถุํ ทสฺเสติ. อวสาเน ‘‘ตโต ตํ โหตี’’ติ วุตฺตปเทน สทฺธึ สพฺพวาเรสุ อฏฺ อฏฺ โหนฺตีติ ‘‘อฏฺจตฺตาลีสาย าเนสู’’ติ วุตฺตํ.
ปมสมุคฺฆาตสปฺปายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยสมุคฺฆาตสปฺปายสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ทสฺเสตฺวาติ เอตฺถ ลกฺขเณ อยํ ตฺวา-สทฺโท, เหตุมฺหิ วา. อนาทิสตฺตสนฺตานคตคาหตฺตยลกฺขิตา หิ สตฺถุ, ติปริวฏฺฏเทสนา ตํนิมิตฺตํ ยาวเทว ตปฺปหานาย ปวตฺติตภาวโต. อรหตฺตํ ปาเปตฺวา วิปสฺสนา กถิตาติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สห วิปสฺสนาย จตฺตาโรปิ มคฺคา กถิตา’’ติ.
ทุติยสมุคฺฆาตสปฺปายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สพฺพวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ชาติธมฺมวคฺควณฺณนา
๓๓-๔๒. นิพฺพตฺตนสภาวนฺติ ¶ ¶ เหตุปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชนสภาวํ. อุปฺปาทานนฺตรํ พุทฺธิปฺปตฺติยา ชีรณสภาวํ. ยตฺถ จกฺขาทโย, ตตฺเถว วิสภาคสมุฏฺานลกฺขเณน พฺยาธิโน อุปฺปตฺติปจฺจยภาเวน พฺยาธิสภาวํ. มรณสภาวนฺติ วินาสสภาวํ. โสกสภาวนฺติ าติพฺยสนาทินา ฑยฺหมานทุกฺขสภาวํ. สํกิเลสิกสภาวนฺติ ตณฺหาทิวเสน สํกิลิสฺสนสภาวํ.
ชาติธมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สพฺพอนิจฺจวคฺควณฺณนา
๔๓-๕๒. าตปริฺา อาคตา วิสยวเสน ตพฺพิสยสฺส ธมฺมสฺส โชติตตฺตา. อิตรา ทฺเว ตีรณปหานปริฺาปิ อาคตา เอวาติ เวทิตพฺพา, ตาสํ อภิฺเยฺยธมฺมวิสยตฺตา าณสฺส จ ตีรณปหานปริฺาสมฺภวโต. ปริฺเยฺยปเท ตีรณปริฺาว อาคตา, ปหาตพฺพปเท ปหานปริฺาว อาคตาติ โยชนา. อิตราปิ ทฺเว คหิตาเยว ตาหิ วินา อตฺถสิทฺธิยา อภาวโต. ปจฺจกฺขํ กาตพฺพํ อารมฺมณโต อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. อวุตฺตาปิ คหิตาเยว ปริชานนสฺส ยาวเทว ปหานตฺถตฺตา. เอกสภาเวน วินาภาโว อเนกคฺคฏฺโ. อุปสฏฺโรเคน วิย อนฺโต เอว อภิหตสพฺพตา อุปหตฏฺโ.
สพฺพอนิจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ปโม ปณฺณาสโก.
๖. อวิชฺชาวคฺควณฺณนา
๕๓-๖๒. จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ ตปฺปฏิจฺฉาทกสมฺโมโห. อวินฺทิยํ วินฺทติ, วินฺทิยํ น วินฺทตีติ กตฺวา วิชฺชาย ปฏิปกฺโขว อวิชฺชา. วิชฺชาย อุปฺปนฺนาย อนวเสสโต อวิชฺชา ปหียติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺควิชฺชา’’ติ ¶ อาห. น เกวลํ ¶ อนิจฺจานุปสฺสนาวเสเนว มคฺควุฏฺานํ, อถ โข อิตรานุปสฺสนาวเสนปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทุกฺขา…เป… ปหียติเยวา’’ติ อาห. สพฺพตฺถาติ อุปริสุตฺตนฺเต สนฺธายาห. ตโต อปเรปิ ตํอตฺถลกฺขณวเสน กถิตสุตฺตนฺเตปิ. ตานิปิ หิ ตถา พุชฺฌนกปุคฺคลานมชฺฌาสเยน วุตฺตานีติ.
อวิชฺชาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มิคชาลวคฺโค
๑. ปมมิคชาลสุตฺตวณฺณนา
๖๓. จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจนฺติ วุตฺตจกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตพฺพนฺติ อาห ‘‘อิฏฺารมฺมณภูตา’’ติ. กมนียาติ กาเมตพฺพา. มนํ อปฺปายนฺตีติ มนาปาติ อาห ‘‘มนวฑฺฒนกา’’ติ. ปิยายิตพฺพสภาวา ปิยรูปา. กามูปสํหิตาติ กามปฏิสํยุตฺตา. อาลมฺพิตพฺพตา เอว เจตฺถ อุปสํหิตตาติ ‘‘อารมฺมณํ กตฺวา’’ติอาทิมาห. ตณฺหาสงฺขาตา นนฺที ตณฺหานนฺที, น ตุฏฺินนฺทีเยว ‘‘นนฺทึ จรตี’’ติอาทีสุ วิย. คามนฺตนฺติ คามสมีปํ. ‘‘อนุปจารฏฺาน’’นฺติ วตฺวา ตํ ทสฺเสติ ‘‘ยตฺถา’’ติอาทินา.
เอตฺถาติ ยถานีหเต ปาเ. ‘‘อิมํ เอกํ ปริยายํ เปตฺวา’’ติ วุตฺตํ ตสฺส ‘‘ปนฺตานี’’ติปเทน สงฺคหิตตฺตา. อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานีติ เอตฺถ อปฺป-สทฺโท อภาวตฺโถ.
ปมมิคชาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สมิทฺธิโลกปฺหาสุตฺตวณฺณนา
๖๘. อายาจนสุตฺตโต ปฏฺายาติ มิคชาลวคฺเค ทุติยสุตฺตโต ปฏฺาย. ปมสุตฺเต ปน ทุติยกวิหาราทิภาโว วุตฺโตติ.
สมิทฺธิโลกปฺหาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อุปเสนอาสีวิสสุตฺตวณฺณนา
๖๙. คเหตฺวาติ ¶ ¶ ปารุปนสฺส สิถิลกรเณน วีมํสโต โมเจตฺวา. เลณจฺฉายายาติ ปุริมทิสาย เลณจฺฉายายํ. ปติตฺวาติ เลณจฺฉทนโต ภสฺสิตฺวา. ผุฏฺวิโสติ จตูสุ อาสีวิเสสุ โส ผุฏฺวิโส. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ปริยาทิยมานเมวาติ เขเปนฺตเมว, วินาเสนฺตเมวาติ อตฺโถ. ยถาปริจฺเฉเทนาติ อตฺตโน วิสปริจฺเฉทานุรูปํ. อฺถาภาวนฺติ วฑฺฒภาวาทิปกติชหนํ. สภาววิคโมติ วินาโส.
อุปเสนอาสีวิสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปวาณสนฺทิฏฺิกสุตฺตวณฺณนา
๗๐. รูปํ ปฏิสํวิทิตํ กโรติ าตปริฺาวเสน. รูปราคนฺติ นีลาทิเภเท รูปธมฺเม ราคํ. ปฏิสํวิทิตํ กโรติ ‘‘อยํ เม ราโค อปฺปหีโน’’ติ. เอเตน เสกฺขานํ ปจฺจเวกฺขณา กถิตา. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวมฺปิ โข, อุปวาณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหตี’’ติอาทิ. รูปราคํ ปฏิสํวิทิตํ กโรติ ‘‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ รูเปสุ ราโค’’ติ ปชานาติ. อเสกฺขานํ หายํ ปจฺจเวกฺขณา.
อุปวาณสนฺทิฏฺิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมฉผสฺสายตนสุตฺตวณฺณนา
๗๑. ผสฺสากรานนฺติ ฉนฺนํ ผสฺสานํ อากรานํ อุปฺปตฺติฏฺานานํ, จกฺขาทีนนฺติ อตฺโถ. นฏฺโ นาม อหนฺติ วทติ, โย ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยาทึ ยถาภูตํ ปชานาติ, โส วุสิตวา, อิตโร อวุสิตวา อหฺจ ตาทิโสติ. อยเมวาติ อยํ จกฺขุสฺมึ ‘‘เนตํ มมา’’ติอาทินา ติณฺณํ คาหานํ อภาโว เอว.
ปมฉผสฺสายตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยฉผสฺสายตนสุตฺตวณฺณนา
๗๒. อปุนพฺภโวติ ¶ ปุนพฺภวาภาโว.
๑๑. ตติยฉผสฺสายตนสุตฺตวณฺณนา
๗๓. ปนสฺสสนฺติ ¶ เอกํเสน นฏฺโติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อตินฏฺโ’’ติ, ธุรโต เอว นฏฺโติ อตฺโถ.
ตติยฉผสฺสายตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
มิคชาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. คิลานวคฺโค
๑-๕. ปมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา
๗๔-๗๘. อปฺปฺาโตติ นามโคตฺตโต เจว สีลาทิคุเณหิ จ อปฺปฺาโต อวิสฺสุโต. เถรมชฺฌิมภาวํ อปฺปตฺตตาย นโว.
ปมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทุติยอวิชฺชาปหานสุตฺตวณฺณนา
๘๐. อนิจฺจาทิวเสน อภินิวิสนํ อภินิเวโส, โส เอว ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสนโต ปรามาโส, โส เอว คาโห. เตน อภินิเวสปรามาสคฺคาเหน คณฺหิตุํ น ยุตฺตา อนิจฺจาทิสภาวตฺตา. สงฺขารา เอว ปวตฺติยา การณภาวโต สงฺขารนิมิตฺตานิ. โย สงฺขาเรสุ อปริฺาตาภินิเวเสน ปสฺสิตพฺโพ อตฺตากาโร, โส น โหตีติ อฺโ อนตฺตากาโร, ตโต อฺโต ปสฺสติ. ปริฺาตาภินิเวโสติ ตีรณปริฺาย ปริจฺฉิชฺช าตมิจฺฉาภินิเวโส. ปริฺาตาภินิเวโสติ วา ปริฺาตวิปสฺสนาภินิเวโส. วิปสฺสนาติ อรูปสตฺตกวเสน วิปสฺสนาย ปริชานิตพฺพา.
ทุติยอวิชฺชาปหานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สมฺพหุลภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๘๑. เกวลนฺติ ¶ อิตรลกฺขเณหิ อโวมิสฺสํ.
๑๐. ผคฺคุนปฺหาสุตฺตวณฺณนา
๘๓. ตณฺหาย ¶ ปหีนาย ทิฏฺิมานาปิ ปหีนา เอวาติ ‘‘ตณฺหาปปฺจสฺส ฉินฺนตฺตา ฉินฺนปปฺเจ’’ติ วุตฺตํ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อิธ สตฺตโวหาโร จกฺขาทีสุ วิชฺชมาเนสุ เอว โหติ, ตสฺมา ปรินิพฺพุตานฺจ โวหาโร จกฺขาทีสุ สนฺนิสฺสเยเนว, นาฺถาติ อติกฺกนฺตพุทฺเธหิ ปริหริตานิ จกฺขุโสตาทีนิ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ ‘‘อตฺถิ นุ โข ภนฺเต’’ติอาทินา. จกฺขุโสตาทิวฏฺฏํ วฏฺเฏ ปวตฺเตยฺย.
ผคฺคุนปฺหาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
คิลานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ฉนฺนวคฺโค
๑. ปโลกธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๘๔. อนิจฺจลกฺขณเมว กถิตํ, ตฺจ ปริยาเยน, อนิจฺจลกฺขเณ กถิเต อิตรลกฺขณานิ กถิตาเนว โหนฺติ พฺยภิจารภาวโต.
๒. สฺุตโลกสุตฺตวณฺณนา
๘๕. อตฺตโน อิทนฺติ อตฺตนิยนฺติ อาห ‘‘อตฺตโน สนฺตเกนา’’ติ.
๓. สํขิตฺตธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๘๖. วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ ขนฺธิยวคฺเค ขนฺธวเสน อาคตํ, อิธ อายตนวเสนาติ อยเมว วิเสโส.
๔. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา
๘๗. สพฺพนิมิตฺเตหิ ปฏิสลฺลียติ เอเตนาติ ปฏิสลฺลานํ, ผลสมาปตฺติ. ชีวิตหารกสตฺถํ ¶ ชีวิตสฺส หรณโต, สตฺตานฺจ สสนโต หึสนโต ¶ . ปริจริโตติ ปยิรุปาสิโต. เตน ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชินฺติ ทีเปติ.
อนุปวชฺชนฺติ ปเรหิ น อุปวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตฺถ อายตึ อปฺปฏิสนฺธิภาวโต โหตีติ อาห ‘‘อปฺปวตฺติก’’นฺติ. ‘‘เนตํ มมา’’ติอาทีนิ วทนฺโต อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวา กเถสิ. ปุถุชฺชนภาวเมว ทีเปนฺโต วทติ อกตกิจฺจภาวทีปเนน. กิฺจาปิ เถโร ปุจฺฉิตํ ปฺหํ อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวา กเถสิ, ‘‘น สมนุปสฺสามี’’ติ ปน วทนฺโต กิฺจิ นิปฺผตฺตึ น กเถสิ, ตสฺมา ‘‘อิทมฺปิ มนสิ กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.
กิเลสปสฺสทฺธีติ กิเลสปริฬาหวูปสโม. ภวตฺถาย ปุน ภวตฺถาย. อาลยนิกนฺติ ปริยุฏฺาเนติ ภวนฺตเร อเปกฺขาสฺิเต อาลเย นิกนฺติยา จ ปริยุฏฺานปฺปตฺติยา. อสติ อวิชฺชมานาย. ปฏิสนฺธิวเสน อฺภวโต อิธาคมนํ อาคติ นาม. จุติวเสน คมนนฺติ จวนวเสน อิโต คติ. อนุรูปคมนํ คติ นาม ตทุภยํ น โหติ. จุตูปปาโต อปราปรภวนวเสน จุติ, อุปปชฺชนวเสน อุปปาโต, ตทุภยมฺปิ น โหติ. เอวํ ปน จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น อิธ โลเก. น หุรํ น ปรโลเก โหติ. ตโต เอว น อุภยตฺถ โหติ. อยเมว อนฺโต อยํ อิธโลเก ปรโลเก จ อภาโวเยว ทุกฺขสฺส ปริโยสานํ. อยเมวาติ ยถาวุตฺโต เอว – เอตฺถ เอตสฺมึ ปาเ ปรมฺปราคโต ปมาณภูโต อตฺโถ.
เย ปนาติ สมฺมวาทิโน สนฺธาย วทติ. อนฺตราภวํ อิจฺฉนฺติ ‘‘เอวํ ภเวน ภวนฺตรสมฺพนฺโธ ยุชฺเชยฺยา’’ติ. นิรตฺถกํ อนฺตราภวสฺส นาม กสฺสจิ อภาวโต. จุติกฺขนฺธานนฺตรฺหิ ปฏิสนฺธิกฺขนฺธานํเยว ปาตุภาโว. เตนาห ‘‘อนฺตราภวสฺส…เป… ปฏิกฺขิตฺโตเยวา’’ติ. ตตฺถ ภาโวติ อตฺถิตา. อภิธมฺเม กถาวตฺถุปฺปกรเณ (กถา. ๕๐๕-๕๐๗) ปฏิกฺขิตฺโตเยว. ยทิ เอวํ ‘‘อนฺตเรนา’’ติ อิทํ กถนฺติ อาห ‘‘อนฺตเรนา’’ติอาทิ. วิกปฺปโต อฺํ วิกปฺปนฺตรํ, ตสฺส ทีปนํ ‘‘อนฺตเรนา’’ติ วจนํ. น อนฺตราภวทีปนํ ตาทิสสฺส อนุปลพฺภนโต ปโยชนาภาวโต จ. ยตฺถ หิ วิปากวิฺาณสฺส ปจฺจโย, ตตฺถสฺส นิสฺสยภูตสฺส วตฺถุสฺส สหภาวีนฺจ ¶ ขนฺธานํ สมฺภโวติ สทฺธึ อตฺตโน นิสฺสเยน วิฺาณํ อุปฺปชฺชเตวาติ นาสฺส อุปฺปตฺติยา เทสทูรตา เวทิตพฺพา. ‘‘เนว อิธ น หุร’’นฺติ วุตฺตทฺวยโต อปรํ วิกปฺเปน ‘‘น อุภย’’นฺติ, ตตฺถปิ น โหติเยวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อนฺตเรนา’’ติ วา ‘‘วินา’’ติ อิมินา สมานตฺโถ นิปาโต, ตสฺมา เนวิธ, น หุรํ, อุภยํ วินาปิ เนวาติ อตฺโถ.
อาหรีติ ¶ ฉินฺนวเสน คณฺหิ. เตนาห ‘‘กณฺนาฬํ ฉินฺที’’ติ. ปริคฺคณฺหนฺโตติ สมฺมสนฺโต. ปรินิพฺพุโต ทีฆรตฺตํ วิปสฺสนายํ ยุตฺตปยุตฺตภาวโต. ‘‘อนุปวชฺชํ ฉนฺเนน ภิกฺขุนา สตฺถํ อาหริต’’นฺติ, กเถสีติ อเสกฺขกาเล พฺยากรณํ วิย กตฺวา กเถสิ.
อิมินาติ ‘‘อุปวชฺชกุลานี’’ติ อิมินา วจเนน. เถโรติ สาริปุตฺตตฺเถโร. เอวนฺติ เอวํ ปุพฺพกาเลสุ สํสฏฺวิหารี หุตฺวา ิโต ปจฺฉา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตีติ อาสงฺกนฺโต ปุจฺฉติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. ปุณฺณสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๘-๘๙. ตนฺติ จกฺขุรูปทฺวยํ. เตนาห ‘‘จกฺขฺุเจว รูปฺจา’’ติ. นนฺทิสมุทยาติ นนฺทิยา สมุทยตณฺหาย เสสการเณหิ นนฺทิยา สมุทิติ สโมธานํ นนฺทิสมุทโย, ตสฺมา นนฺทิสมุทยา. เตนาห ‘‘ตณฺหาย สโมธาเนนา’’ติ. ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส ทุกฺขสฺส สโมธาเนน สมุทิติ ปวตฺติเยวาติ สห สมุทเยน ทุกฺขสฺส ทสฺสิตตฺตา ‘‘วฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ. นิโรธูปาเยน สทฺธึ นิโรธสฺส ทสฺสิตตฺตา ‘‘วิวฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา’’ติ. ปุจฺฉานุสนฺธิอาทีสุ อฺตโร น โหตีติ อาห – ‘‘ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธี’’ติ.
จณฺฑาติ โกธนา. ทุฏฺาติ โทสวนฺโตติ อตฺโถ. กิพฺพิสาติ ปาปา. กกฺขฬาติ ทารุณา. ฆฏิกมุคฺคเรนาติ เอกสฺมึ ปกฺเข ฆฏิกํ ทสฺเสตฺวา กเตน รสฺสทณฺเฑน. สตฺตานํ สสนโต สตฺถํ, ตโต เอว ชีวิตสฺส หรณโต หารกฺจาติ สตฺถหารกํ. อินฺทฺริยสํวโร ‘‘ทโม’’ติ วุตฺโต มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ ทมนโต. ปฺา ‘‘ทโม’’ติ วุตฺตา กิเลสวิเสวิตานํ ทมนโต วูปสมนโต. อุโปสถกมฺมํ ‘‘ทโม’’ติ ¶ วุตฺตํ กายทฺวาราทีหิ อุปฺปชฺชนกอสมสฺส ทมนโต. ขนฺติ ‘‘ทโม’’ติ เวทิตพฺพา อกฺขนฺติยา ทมนโต วูปสมนโต. เตนาห ‘‘อุปสโมติ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ.
เอตฺถาติ สุนาปรนฺตชนปเท. เอเต ทฺเวติ อยํ ปุณฺณตฺเถโร ตสฺส กนิฏฺโติ เอเต ทฺเว ภาตโร. อาหจฺจ อฏฺาสิ อุฬารํ พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา. สตฺต สีหนาเท นทิตฺวาติ มมฺมจฺเฉทกานมฺปิ อกฺโกสปริภาสานํ ขมเน สนฺโตสาภาวทีปนํ, ปาณิปฺปหารสฺส, เลฑฺฑุปฺปหารสฺส, ทณฺฑปฺปหารสฺส, สตฺถปฺปหารสฺส, ชีวิตโวโรปนสฺส, ขมเน สนฺโตสาภาวทีปนฺจาติ ¶ เอวํ สตฺต สีหนาเท นทิตฺวา. จตูสุ าเนสุ วสิตตฺตา ปาฬิยํ วสนฏฺานํ อนุทฺเทสิกํ กตฺวา ‘‘สุนาปรนฺตสฺมึ ชนปเท วิหรติ’’อิจฺเจว วุตฺตํ.
จตูสุ าเนสูติ อพฺพุหตฺถปพฺพเต, สมุทฺทคิริวิหาเร, มาตุลคิริมฺหิ, มกุฬการามวิหาเรติ อิเมสุ จตูสุ าเนสุ. ตนฺติ จงฺกมํ อารุยฺห โกจิ ภิกฺขุ จงฺกมิตุํ สมตฺโถ นตฺถิ มหตา สมุทฺทปริสฺสเยน ภาวนามนสิการสฺส อนภิสมฺภุณนโต. อุปฺปาติกนฺติ อุปฺปาตกรํ มหาสงฺโขภํ อุฏฺเปตฺวา. สมฺมุเขติ อนิลปเทเส. ปฏิเวเทสุนฺติ ปเวเทสุํ.
อารทฺธกาลโต ปฏฺายาติ มณฺฑลมาฬสฺส กาตุํ ปถวีมิตกาลโต ปภุติ. สจฺจพนฺเธน ปฺจสตานิ ปริปูเรตุํ ‘‘เอกูนปฺจสตาน’’นฺติ วุตฺตํ. คนฺธกุฏินฺติ เชตวนมหาวิหาเร มหาคนฺธกุฏึ.
สจฺจพนฺธนาโมติ สจฺจพนฺเธ ปพฺพเต จิรนิวาสิตาย ‘‘สจฺจพนฺโธ’’ตฺเวว ลทฺธนาโม. อรหตฺตํ ปาปุณีติ ปฺจาภิฺาปริวารํ อรหตฺตํ อธิคจฺฉิ. เตนาห ‘‘มคฺเคเนวสฺส อภิฺา อาคตา’’ติ.
ตสฺมึ สนฺนิปติตา มหาชนา เกจิ โสตาปนฺนา, เกจิ สกทาคามิโน, เกจิ อนาคามิโน, เกจิ อรหนฺโต อเหสุํ. ตตฺถาปิ เกจิ เตวิชฺชา, เกจิ ฉฬภิฺา, เกจิ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺตา อเหสุํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘มหาชนสฺส พนฺธนโมกฺโข ชาโต’’ติ. เย ปน ตตฺถ สรณคมนปฺจสีลทสสีลสมาทาเนน ลทฺธานุคฺคหา, เตสํ เทวตานฺจ วเสน ‘‘มหนฺตํ พุทฺธโกลาหลํ อโหสี’’ติ วุตฺตํ.
อรุณํ ¶ ปน มหาคนฺธกุฏิยํเยว อุฏฺเปสิ เทวตานุคฺคหตฺถฺเจว กุลานุทยาย จ. อปายมคฺเค โอตาริโต ‘‘โกจิ โลกสฺส สชิตา อตฺถิ, ตสฺส วเสน ปวตฺติสํหารา โหนฺติ, เตเนวายํ ปชา สนาถา โหติ, ตํ ยฺุชติ จ ตสฺมึ ตสฺมึ กมฺเม’’ติ มิจฺฉาคาเหหิ. ปริจริตพฺพํ ยาจิ ‘‘เอตฺถ มยา จิรํ วสิตพฺพ’’นฺติ.
ฉฏฺนฺติ พาหิยสุตฺตํ. ตํ อุตฺตานเมว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
ปุณฺณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. ปมเอชาสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๐-๙๑. เอชติ ¶ ฉฬารมฺมณนิมิตฺตํ กมฺปตีติ เอชา. เตนาห ‘‘จลนฏฺเนา’’ติ. อาพาธนฏฺเน ปีฬนฏฺเน. อนฺโต โทสนฏฺเนาติ อนฺโตจิตฺเต เอว ปทุสฺสนฏฺเน. นิกนฺตนฏฺเนาติ ฉินฺทนฏฺเน. เหฏฺา คหิตเมวาติ เหฏฺา มฺิตสมุคฺฆาตสารุปฺปสุตฺเต อาคตเมว. วุตฺตนยเมว มฺิตสมุคฺฆาตสุตฺเต.
ปมเอชาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. ปมทฺวยสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๒-๙๓. ทฺวยนฺติ ทุกํ. ปาฬิยํ อาเมฑิตโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ทฺเว ทฺเว โกฏฺาเส’’ติ. เอวเมตนฺติ เอวํ อนิจฺจาทิภาเวน เอตํ จกฺขุรูปฺจาติ ทฺวยํ. จลตีติ อนวฏฺาเนน ปจลติ. พฺยถตีติ ชราย มรเณน จ ปเวธติ. เหตุ เจว อุปฺปตฺตินิมิตฺตตฺตา. สหคตีติ สหปฺปวตฺติ, ตาย คเหตพฺพตฺตา ‘‘สงฺคตี’’ติ ผสฺโส วุตฺโต. เอส นโย เสสปททฺวเยปิ. ยสฺมา จ สํคจฺฉมานธมฺมวิมุตฺตา สงฺคติ นาม นตฺถิ, ตถา สนฺนิปาตสมวายา, เตสํ วเสน นิพฺพตฺโต ผสฺโส ตถา วุจฺจตีติ. เตนาห ‘‘อิมินา’’ติอาทิ.
วตฺถูติ ¶ จกฺขุ นิสฺสยปจฺจยาทิภาเวน. อารมฺมณนฺติ รูปํ อารมฺมณปจฺจยาทิภาเวน. สหชาตา ตโย ขนฺธา เวทนาทโย, เต สหชาตาทิปจฺจยภาเวน. อยํ เหตูติ อยํ ติวิโธ เหตู. ผสฺเสนาติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมา รูปารมฺมเณ ผสฺเส อตฺตโน ผุสนกิจฺจํ กโรนฺเต เอวํ เวทนา อนุภวนกิจฺจํ, สฺา สฺชานนกิจฺจํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘ผสฺเสน ผุฏฺเมวา’’ติอาทิวุตฺตเมว อตฺถํ อิทานิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ทสฺเสตุํ ‘‘ผุฏฺโ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺเจว ขนฺธา ภควตา สมตึสาย อากาเรหิ วุตฺตา. กสฺมาติ อาห ‘‘กถ’’นฺติอาทิ. รุกฺขสาขาสุ รุกฺขโวหาโร วิย เอเกกธมฺเมปิ ขนฺธโวหาโร โหติเยว. เตนาห ภควา – ‘‘วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ (ยม. ขนฺธยมก ๒).
ปมทฺวยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉนฺนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สฬวคฺโค
๑. อทนฺตอคุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๙๔. อทมิตาติ ¶ ทมํ นิพฺพิเสวนภาวํ อนีตา. อโคปิตาติ สติสงฺขาตาย วติยา น รกฺขิตา. อปิหิตาติ สติกวาเฏน น ปิหิตา. จตูหิปิ ปเทหิ อินฺทฺริยานํ อนาวรณเมวาห. อธิกํ วหนฺตีติ อธิวาหา, ทุกฺขสฺส อธิวาหา ทุกฺขาธิวาหา. นิรเยสุ อุปฺปชฺชนกํ เนรยิกํ. อาทิ-สทฺเทน เสสปาฬึ สงฺคณฺหาติ.
สเฬวาติ ฉ-การสฺส ส-กาโร, ฬ-กาโร ปทสนฺธิกโร. ยตฺถาติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. อนวสฺสุตา อตินฺตาติ ราเคน อเตมิตา.
อสฺสาทิตนฺติ อสฺสาทํ อิตํ อุปคตํ. เตนาห ‘‘อสฺสาทวนฺต’’นฺติ. สุขทุกฺขนฺติ อิฏฺานิฏฺํ. อนฺวยตีติ อนฺวโย, เหตุ. ผสฺโสติ อนฺวโย เอตสฺสาติ ผสฺสนฺวยนฺติ อาห – ‘‘ผสฺสเหตุก’’นฺติ. ‘‘อวิรุทฺธ’’อิติ วิภตฺติโลเปน นิทฺเทโส.
ปปฺจสฺาติ ¶ ตณฺหาทิสมธูปสํหตสฺา. เตนาห ‘‘กิเลสสฺาย ปปฺจสฺา นาม หุตฺวา’’ติ. ปปฺจสฺา เอเตสํ อตฺถีติ ปปฺจสฺา, อิตรีตรา นรา. ปปฺจยนฺตาติ สํสาเร ปปฺจํ จิรายนํ กโรนฺตา. สฺิโนติ เคหสฺสิตสฺาย สฺาวนฺโต. มโนมยํ วิตกฺกนฺติ เกวลํ มนสา สมฺภาวิตํ มิจฺฉาวิตกฺกํ. อิรียตีติ อิริยํ ปฏิปตฺตึ อิรียติ ปฏิปชฺชติ.
สุฏฺุ ภาวิโตติ สุฏฺุภาวํ สุภาวนํ อิโต ภาวิตภาวิโต. ผุฏฺสฺส จิตฺตนฺติ เตน ยถาวุตฺตผสฺเสน ผุฏฺํ อสฺส จิตฺตํ. น วิกมฺปเต กฺวจีติ กิสฺมิฺจิ อิฏฺานิฏฺารมฺมเณ น กมฺปติ. ปารคาติ ปารคามิโน ภวถ.
อทนฺตอคุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๙๕. อปสาเทตีติ ¶ ตชฺเชติ. อุสฺสาเทตีติ อุกฺกํเสติ. อยํ กิร เถโร มาลุกฺยปุตฺโต. ปมชฺชิตฺวาติ โยนิโสมนสิการสฺส อนนุยุชฺชเนน ปมชฺชิตฺวา.
ยตฺราติ ปจฺจตฺตํ วจนาลงฺกาเร. นามาติ อสมฺภาวเน อปสาทนปกฺเข, อุสฺสาทนปกฺเข ปน สมฺภาวเน. กึ ชาตนฺติ กึ เตน มหลฺลกภาเวน ชาตนฺติ มหลฺลกภาวํ ติณายปิ อมฺมาโน วทติ. เตนาห ‘‘ยทิ…เป… อนุคฺคณฺหนฺโต’’ติ. อนุคฺคณฺหนฺโตติ อจินฺเตนฺโต. มาทิสานํ ภควโต โอวาโท อุปการาวโหติ เอตรหิ โอวาทฺจ ปสํสนฺโต.
‘‘อทิฏฺา อทิฏฺปุพฺพา’’ติอาทินา ปริกปฺปวเสน วุตฺตนิทสฺสนํ ‘‘ยถา เอเตสุ ฉนฺทาทโย น โหนฺติ, เอวมิตเรสุปิ ปริฺาเตสู’’ติ นยปฏิปชฺชนตฺถํ, เตสมฺปิ อิเมหิ สมาเนตพฺพตฺตา. เตน วุตฺตํ ‘‘สุปินกูปมา กามา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ๒.๔๖; ปาจิ. ๔๑๗; จูฬว. ๖๕).
จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส รูปายตนํ ยตฺตโก คหณากาโร, ตตฺตกํ. กิตฺตกํ ปมาณนฺติ อตฺตสํเวทิยํ ปรสฺส น ¶ ทิสิตพฺพํ, กปฺปนามตฺตํ รูปํ. เตนาห ‘‘จกฺขุวิฺาณํ หี’’ติอาทิ. รูเปติ รูปายตเน. รูปมตฺตเมวาติ นีลาทิเภทํ รูปายตนมตฺตํ, น นีลาทิ. วิเสสนิวตฺตนตฺโถ หิ อยํ มตฺต-สทฺโท. ยทิ เอวํ, เอว-กาโร กิมตฺถิโย? จกฺขุวิฺาณฺหิ รูปายตเน ลพฺภมานมฺปิ นีลาทิวิเสสํ ‘‘อิทํ นีลํ นาม, อิทํ ปีตํ นามา’’ติ น คณฺหาติ. กุโต นิจฺจานิจฺจาทิสภาวตฺถนฺติ สํหิตสฺสปิ นิวตฺตนตฺถํ เอวการคฺคหณํ. เตนาห ‘‘น นิจฺจาทิสภาว’’นฺติ. เสสวิฺาเณหิปีติ ชวนวิฺาเณหิปิ.
ทิฏฺํ นาม จกฺขุวิฺาณํ รูปายตนสฺส ทสฺสนนฺติ กตฺวา. เตนาห ‘‘รูเป รูปวิชานน’’นฺติ. จกฺขุวิฺาณมตฺตเมวาติ ยตฺตกํ จกฺขุวิฺาณํ รูปายตเน คหณมตฺตํ, ตํมตฺตเมว เม สพฺพํ จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. ‘‘ราคาทิรเหนา’’ติ วา ปาโ. ทิฏฺํ นาม ปทตฺถโต จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺํ รูปํ. ตตฺเถวาติ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺมตฺเต รูเป. จิตฺตตฺตยํ ทิฏฺมตฺตํ นาม จกฺขุวิฺาณํ วิย ราคาทิวิรเหน ปวตฺตนโต. เตนาห ‘‘ยถา ต’’นฺติ อาทิ.
มโนทฺวาราวชฺชเนน ¶ วิฺาตารมฺมณํ วิฺาตนฺติ อธิปฺเปตํ ราคาทิวิรเหน วิฺเยฺยโต. เตนาห ‘‘ยถา อาวชฺชเนนา’’ติอาทิ.
ตทาติ ตสฺมึ กาเล, น ตโต ปฏฺายาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ ทสฺเสติ. ‘‘ทิฏฺมตฺต’’นฺติอาทินา เยสํ ราคาทีนํ นิวตฺตนํ อธิปฺเปตํ, เต ‘‘เตนา’’ติ เอตฺถ ต-สทฺเทน ปจฺจามสียนฺตีติ ‘‘เตน ราเคน วา รตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ วิสเย ภุมฺมํ, วิสยภาโว จ วิสยินา สมฺพนฺธวเสน อิจฺฉิตพฺโพติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิพทฺโธ’’ติอาทิ.
สตีติ รูปสฺส ยถาสภาวสลฺลกฺขณา สติ มุฏฺา ปิยนิมิตฺตมนสิกาเรน อนุปฺปชฺชนโต น ทิสฺสติ นปฺปวตฺตติ. อชฺโฌสาติ อชฺโฌสาย. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา อตฺตนิยกรเณน.
อภิชฺฌา จ วิเหสา จาติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห – ‘‘อภิชฺฌาย จ วิเหสาย จา’’ติ. อตฺถวเสน วิภตฺติปริณาโมติ อาห – ‘‘อภิชฺฌาวิเหสาหี’’ติ. อาจินนฺตสฺสาติ วฑฺเฒนฺตสฺส. ปฏิสฺสโตติ ปติสฺสโต สพฺพตฺถ สติยา ยุตฺโต. เสวโต จาปีติ เอตฺถ จ-สทฺโท อปิ-สทฺโท จ นิปาตมตฺตนฺติ ‘‘เสวนฺตสฺส’’อิจฺเจว อตฺโถ วุตฺโต.
มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปริหานสุตฺตวณฺณนา
๙๖. ปริหานสภาวนฺติ ¶ อนวชฺชธมฺเมหิ ปริหายนสภาวํ. อภิภวิตานีติ อภิภูตานิ นิพฺพิเสวนภาวากาเรน. สรสงฺกปฺปาติ ตสฺมึ ตสฺมึ วิสเย อนวฏฺิตภาเวน สงฺกปฺปา. สํโยชนิยาติ สํโยเชตพฺพา. สํโยชนานฺหิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติยา โอกาสํ เทนฺโต กิเลสชาตํ อธิวาเสติ นาม. กิเลโส เอว กิเลสชาตํ. อารมฺมณํ ปน จิตฺเต กโรนฺโต อธิวาเสติ นาม. ฉนฺทราคปฺปหาเนน น ปชหติ อารมฺมณํ, กิเลสํ ปน อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน เอว. อภิภวิตํ อายตนนฺติ กถิตํ อธิวาสนาทินา. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปริหานธมฺโม โหตี’’ติ ธมฺมํ ปุจฺฉิตฺวา ตํ วิภชนฺเตน ภควตา ‘‘ตฺเจ ภิกฺขุ อธิวาเสตี’’ติอาทินา ปุคฺคเลน ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ธมฺโม ทสฺสิโต.
ปริหานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมาทวิหารีสุตฺตวณฺณนา
๙๗. น ¶ ปิทหิตฺวา จกฺขุนฺทฺริยํ น ปิทหิตฺวา สฺฉาทิตฺวา ิตสฺส. พฺยาสิฺจตีติ กิเลเสหิ วิเสเสน อาสิฺจติ. กิเลสตินฺตนฺติ กิเลเสหิ อวสฺสุตํ. ทุพฺพลปีติ ตรุณา น พลปฺปตฺตา. พลวปีติ อุพฺเพคา ผรณปฺปตฺตา จ ปีติ. ทรถปฺปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา ปสฺสทฺธิ. น อุปฺปชฺชนฺติ ปจฺจยปรมฺปราย อสิทฺธตฺตา. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปมาทวิหารี โหตี’’ติอาทินา ปุคฺคลํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปาโมชฺชํ น โหติ, ปาโมชฺชํ ชายตี’’ติอาทินา จ, ธมฺเมน ‘‘ปมาทวิหารี อปฺปมาทวิหารี’’ติ จ ปุคฺคโล ทสฺสิโต.
ปมาทวิหารีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สํวรสุตฺตวณฺณนา
๙๘. อิทนฺติ ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสํวโร’’ติ? อิทํ วจนํ. ปหาตพฺพธมฺมกฺขานวเสนาติ ปหาตพฺพธมฺมสฺเสว กถนํ วุตฺตํ. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสํวโร ¶ โหตี’’ติ ธมฺมํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา’’ติอาทินา ธมฺโมว วิภตฺโต.
สํวรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สมาธิสุตฺตวณฺณนา
๙๙. จิตฺเตกคฺคตายาติ สมถวเสน จิตฺเตกคฺคตาย. ปริหายมาเนติ ตสฺส อลาเภน ปริหายมาเน. กมฺมฏฺานนฺติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ, สมถเมว วา.
๗. ปฏิสลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐. กมฺมฏฺานนฺติ สมถวิปสฺสนากมฺมฏฺานํ.
๘-๙. ปมนตุมฺหากํสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๑-๑๐๒. อุปมํ ปริวาเรตฺวาติ อุปมํ ปริหริตฺวา. สุทฺธิกวเสนาติ อุปมาย วินา เกวลเมว.
๑๐. อุทกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓. อุทโกติ ¶ ตสฺส นามํ. เวทํ าณํ. สพฺพํ ชิตวาติ สพฺพชิ. อวขตนฺติ นิขตํ. อุจฺฉาทนธมฺโมติ อุจฺฉาเทตพฺพสภาโว. ปริมทฺทนธมฺโมติ ปริมทฺทิตพฺพสภาโว. ปริหโตติ ปริหริโต. โอทนกุมฺมาสูปจยุจฺฉาทนปริมทฺทนปเทหีติ วตฺตพฺพํ. อุจฺฉาทนํ วา ปริมทฺทนมตฺตเมวาติ กตฺวา น คหิตํ.
อุทกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติโย ปณฺณาสโก.
๑๑. โยคกฺเขมิวคฺโค
๑. โยคกฺเขมิสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔. จตูหิ ¶ โยเคหีติ กามโยคาทีหิ จตูหิ โยเคหิ. เขมิโนติ เขมวโต กุสลิโน. การณภูตนฺติ กตฺตพฺพอุปายสฺส การณภูตํ. ปริยายติ ปวตฺตึ นิวตฺติฺจ าเปตีติ ปริยาโย, ธมฺโม จ โส ปริยตฺติธมฺมตฺตา ปริยาโย จาติ ธมฺมปริยาโย, ตํ ธมฺมปริยายํ. ยสฺมา ปน โส ตสฺสาธิคมสฺส การณํ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ธมฺมการณ’’นฺติ. ยุตฺตินฺติ สมถวิปสฺสนาธมฺมานีติ วา จตุสจฺจธมฺมานีติ วา. ‘‘ตสฺมา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา – ‘‘กสฺมา’’ติ การณํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กึ อกฺขาตตฺตา, อุทาหุ ปหีนตฺตา’’ติ วิภชิตฺวา ปุจฺฉิ. ยสฺมา ปน ฉนฺทราคปฺปหานํ โยคกฺเขมิภาวสฺส การณํ, น กถนํ, ตสฺมา ‘‘ปหีนตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
โยคกฺเขมิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๑๐. อุปาทายสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๕-๑๑๓. เวทนาสุขทุกฺขนฺติ เวทนาสงฺขาตํ สุขฺจ ทุกฺขฺจ กถิตํ. ‘‘อชฺฌตฺตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตตฺตา วิมุตฺติสุขสฺส จ สฬายตนทุกฺขสฺส จ กถิตตฺตา วิวฏฺฏสุขํ เจตฺถ กถิตเมวาติ ¶ สกฺกา วิฺาตุํ. กามํ ขนฺธิยวคฺเค ขนฺธวเสน เทสนา อาคตา, น อายตนวเสน. เอตฺถ ปน วตฺตพฺพํ อตฺถชาตํ ขนฺธิยวคฺเค วุตฺตนยเมวาติ.
อุปาทายสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
โยคกฺเขมิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. โลกกามคุณวคฺโค
๑-๒. ปมมารปาสสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๔-๑๑๕. อาวสติ เอตฺถ กิเลสมาโรติ อาวาโส. กามคุณอชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. กิเลสมารสฺส อาวาสํ คโต ¶ วสํ คโต. ติวิธสฺสาติ ปปฺจสฺาสงฺขาตสฺส ติวิธสฺสปิ มารสฺส. ตโต เอว เทวปุตฺตมารสฺสปิ วสํ คโตติ สกฺกา วิฺาตุํ.
ปมมารปาสสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โลกนฺตคมนสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. โลกิยนฺติ เอตฺถ สตฺตกายภูตคามาทีติ โลโก, จกฺกวาโฬ. สงฺขาโร ปน ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก. อนฺตนฺติ โอสานํ. สพฺพฺุตฺาเณน สํสนฺทิตฺวาติ สพฺพฺุตฺาณคติยา สมาเนตฺวา อวิโรเธตฺวา. โถเมสฺสามีติ ปสํสิสฺสามิ.
เอวํสมฺปตฺติกนฺติ เอวํสมฺปชฺชนกํ เอวํปสฺสิตพฺพํ อิทํ มม อชฺเฌสนํ. เตนาห ‘‘อีทิสนฺติ อตฺโถ’’ติ. ชานํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานิตพฺพํ ชานาติ เอว. น หิ ปเทสฺาเณ ิโต ชานิตพฺพํ สพฺพํ ชานาติ. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน หิ อวิเสสคฺคหเณน จ ‘‘ชาน’’นฺติ อิมินา นิรวเสสํ เยฺยชาตํ ปริคฺคยฺหตีติ ตพฺพิสยาย ชานนกิริยาย สพฺพฺุตฺาณเมว กรณํ ภวิตุํ ยุตฺตํ. ปกรณวเสน ‘‘ภควา’’ติ ปทสนฺนิธาเนน จ อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. ปสฺสิตพฺพเมว ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุ-ปฺาจกฺขุ-ธมฺมจกฺขุ-พุทฺธจกฺขุ-สมนฺตจกฺขุ-สงฺขาเตหิ าณจกฺขูหิ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ เอว. อถ วา ชานํ ชานาตีติ ยถา อฺเ ¶ สวิปลฺลาสา กามรูปปริฺาวาทิโน ชานนฺตาปิ วิปลฺลาสวเสน ชานนฺติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน ปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชานนฺโต ชานาติ เอว, ทิฏฺิทสฺสนสฺส อภาวา ปสฺสนฺโต ปสฺสติ เอวาติ อตฺโถ.
ทสฺสนปริณายกฏฺเนาติ ยถา จกฺขุ สตฺตานํ ทสฺสนตฺถํ ปริเณติ สาเธติ, เอวํ โลกสฺส ยาถาวทสฺสนสาธนโตปิ ทสฺสนกิจฺจปริณายกฏฺเน จกฺขุภูโต, ปฺาจกฺขุมยตฺตา วา สยมฺภูาเณน ปฺาจกฺขุํ ภูโต ปตฺโตติ วา จกฺขุภูโต. าณภูโตติ เอตสฺส จ เอวเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมา วา โพธิปกฺขิยา, เตหิ อุปฺปนฺนตฺตา โลกสฺส จ ตทุปฺปาทนโต อนฺสาธารณํ วา ธมฺมํ ปตฺโต อธิคโตติ ธมฺมภูโต. ‘‘พฺรหฺมา’’วุจฺจติ เสฏฺฏฺเน มคฺคาณํ, เตน อุปฺปนฺนตฺตา โลกสฺส ¶ จ ตทุปฺปาทนโต ตฺจ สยมฺภูาเณน ปตฺโตติ พฺรหฺมภูโต. จตุสจฺจธมฺมํ วทตีติ วตฺตา. จิรํ สจฺจปฏิเวธํ ปวตฺเตนฺโต วทตีติ ปวตฺตา. อตฺถํ นีหริตฺวาติ ทุกฺขาทิอตฺถํ อุทฺธริตฺวา. ปรมตฺถํ วา นิพฺพานํ ปาปยิตา. อมตสจฺฉิกิริยํ สตฺเตสุ อุปฺปาเทนฺโต อมตํ ททาตีติ อมตสฺส ทาตา. โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตทายตฺตภาวโต ธมฺมสฺสามี. ปุนปฺปุนํ ยาจาเปนฺโต ภาริยํ กโรนฺโต ครุํ กโรติ นาม, ตถา ทุวิฺเยฺยํ กตฺวา กเถนฺโตปิ.
จกฺขุนา วิชฺชมาเนน โลกสฺี โหติ, น ตสฺมึ อสติ. น หิ อชฺฌตฺติกายตนวิรเหน โลกสมฺา อตฺถิ. เตนาห ‘‘จกฺขฺุหิ โลโก’’ติอาทิ. อปฺปหีนทิฏฺีติ อสมูหตสกฺกายทิฏฺิโก ฆนวินิพฺโภคํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต สมุทายํ วิย อวยวํ ‘‘โลโก’’ติ สฺชานาติ เจว มฺติ จ. ตถาติ อิมินา ‘‘โลโกติ สฺชานาติ เจว มฺติ จา’’ติ ปทตฺตยํ อากฑฺฒติ. ตสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส, จกฺกวาฬโลกสฺส วา. จกฺขาทิเมว หิ สโหกาเสน ‘‘จกฺกวาโฬ’’ติ ปุถุชฺชโน สฺชานาติ. คมเนนาติ ปทสา คมเนน. น สกฺกา เตสํ อนนฺตตฺตา. ลุชฺชนฏฺเนาติ อภิสงฺขารโลกวเสน โลกสฺส อนฺตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตสฺส อนฺโต นาม นิพฺพานํ. ตํ ปตฺตุํ สกฺกา สมฺมาปฏิปตฺติยา ปตฺตพฺพตฺตา. จกฺกวาฬโลกสฺส ปน อนฺโต นาม, นตฺถิ ตสฺส คมเนน อปฺปตฺตพฺพตฺตา.
อิเมหิ ปเทหีติ อิเมหิ วากฺยวิภาเคหิ ปเทหิ. ตานิ ปน อกฺขรสมุทายลกฺขณานีติ อาห ‘‘อกฺขรสมฺปิณฺฑเนหี’’ติ. ปาฏิเยกฺกอกฺขเรหีติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปเท ปฏินิยตสนฺนิเวเสหิ วิสุํ วิสุํ จิตฺเตน คยฺหมาเนหิ อกฺขเรหีติ อตฺโถ.
คมนฏฺเน ‘‘ปณฺฑา’’ วุจฺจติ ปฺา, ตาย อิโต คโต ปตฺโตติ ปณฺฑิโต, ปฺวา. มหาปฺตา ¶ นาม ปฏิสมฺภิทาวเสน เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘มหนฺเต อตฺเถ’’ติอาทิ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ ปมวิกปฺเป, ทุติยวิกปฺเป ปน ปจฺจามสนนฺติ อาห ‘‘ตํ พฺยากต’’นฺติ.
โลกนฺตคมนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กามคุณสุตฺตวณฺณนา
๑๑๗. เจตโสติ ¶ กรเณ สามิวจนํ. จิตฺเตน สํผุสนํ นาม อนุภโวติ อาห ‘‘จิตฺเตน อนุภูตปุพฺพา’’ติ. อุตุตฺตยานุรูปตาวเสน ปาสาทตฺตยํ, ตํ วเสน ติวิธนาฏกเภโท. มโนรมฺมตามตฺเตน กามคุณํ กตฺวา ทสฺสิตํ, น กามวเสน. น หิ อภินิกฺขมนโต อุทฺธํ โพธิสตฺตสฺส กามวิตกฺกา ภูตปุพฺพา. เตนาห มาโร ปาปิมา –
‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;
โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘);
เมตฺเตยฺโย นามาติอาทิ อนาคตารมฺมณทสฺสนมตฺตํ, น โพธิสตฺตสฺส เอวํ อุปฺปชฺชตีติ. อตฺตา ปิยายิตพฺพรูโป เอตสฺสาติ อตฺตรูโป, อุตฺตรปเท ปุริมปทโลเปนาติ ‘‘อตฺตโน หิตกามชาติเกนา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. อตฺตรูเปนาติ วา ปีติโสมนสฺเสหิ คหิตสภาเวน ตุฏฺปหฏฺเน อุทคฺคุทคฺเคน. อปฺปมาโทติ อปฺปมชฺชนํ กุสลธมฺเมสุ อขณฺฑการิตาติ อาห ‘‘สาตจฺจกิริยา’’ติ. อโวสฺสคฺโคติ จิตฺตสฺส กามคุเณสุ อโวสฺสชฺชนํ ปกฺขนฺทิตุํ อปฺปทานํ. ปุริโม วิกปฺโป กุสลานํ ธมฺมานํ กรณวเสน ทสฺสิโต, ปจฺฉิโม อกุสลานํ อกรณวเสน. ทฺเว ธมฺมาติ อปฺปมาโท สตีติ ทฺเว ธมฺมา. อปฺปมาโท สติ จ ตถา ปวตฺตา จตฺตาโร กุสลธมฺมกฺขนฺธา เวทิตพฺพา. กตฺตพฺพาติ ปวตฺเตตพฺพา.
ตสฺมึ อายตเนติ ตสฺมึ นิพฺพานสฺิเต การเณ ปฏิเวเธ. ตํ การณนฺติ ฉนฺนํ อายตนานํ การณํ. สฬายตนํ นิรุชฺฌติ เอตฺถาติ สฬายตนนิโรโธ วุจฺจติ นิพฺพานํ. เตนาห ‘‘นิพฺพานํ. ตํ สนฺธายา’’ติอาทิ. นิพฺพานสฺมินฺติ นิพฺพานมฺหิ.
กามคุณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. สกฺกปฺหสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๘-๑๑๙. ทิฏฺเติ ¶ ปจฺจกฺขภูเต. ธมฺเมติ อุปาทานกฺขนฺธธมฺเม. ตตฺถ หิ อตฺตาติ ภวติ สฺา ทิฏฺิ จาติ อตฺตภาวสฺา. เตนาห – ‘‘ทิฏฺเว ¶ ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว’’ติ. ‘‘ตนฺนิสฺสิต’’นฺติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน เหฏฺา อภินนฺทนาทิปริยาเยน วุตฺตา ตณฺหา ปจฺจามฏฺาติ อาห – ‘‘ตณฺหานิสฺสิต’’นฺติ. ตํ อุปาทานํ เอตสฺสาติ ตทุปาทานํ. เตนาห – ‘‘ตํคหณ’’นฺติอาทิ. ตณฺหุปาทานสงฺขาตํ คหณํ เอตสฺสาติ ตํคหณํ. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว ปฺจเม วุตฺตนยตฺตา.
สกฺกปฺหสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สาริปุตฺตสทฺธิวิหาริกสุตฺตวณฺณนา
๑๒๐. ฆเฏสฺสตีติ ปุพฺเพนาปรํ ฆฏิตํ สมฺพนฺธํ กริสฺสติ. วิจฺเฉทนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส วิโรธิปจฺจยสมุปฺปตฺติยา อุจฺเฉทํ.
๘. ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา
๑๒๑. เย ธมฺมา สมฺมเทว ภาวิตา พหุลีกตา วิมุตฺติยา อรหตฺตสฺส สจฺฉิกิริยาย สํวตฺตนฺติ, เต สทฺธาทโย สมฺภารา วิมุตฺติปริปาจนิยาติ อธิปฺเปตา. ปริปาเจนฺตีติ ปริปากํ ปริณามํ คเมนฺติ. ธมฺมาติ การณภูตา ธมฺมา. วิสุทฺธิการณวเสนาติ วิสุทฺธิการณตาวเสน, สา ปน สทฺธินฺทฺริยาทีนํ การณโต วิสุทฺธิ. ยถา นาม ชาติสมฺปนฺนสฺส ขตฺติยกุมารสฺส วิปกฺขวิคเมน ปกฺขสงฺคเหน ปวตฺติฏฺานสมฺปตฺติยา จ ปริสุทฺธิ โหติ, เอวเมวํ ทฏฺพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิมาห.
อสฺสทฺธาทโยปิ ปุคฺคลา สทฺธาทีนํ ยาวเทว ปริหานาย โหนฺติ, สทฺธาทโย ปาริปูริยาว, ตถา ปสาทนิยสุตฺตนฺตาทิปจฺจเวกฺขณา, ปสาทนิยสุตฺตนฺตา นาม สมฺปสาทนียสุตฺตาทโย. สมฺมปฺปธาเนติ สมฺมปฺปธานสุตฺตนฺเต. สติปฏฺาเนติ จตฺตาโร สติปฏฺาเน. ฌานวิโมกฺเขติ ฌานานิ เจว วิโมกฺเข จ อุทฺทิสฺส ปวตฺตสุตฺตนฺเต. คมฺภีราณจริเยติ ขนฺธายตนธาตุปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิสํยุตฺตสุตฺตนฺเต.
กลฺยาณมิตฺตตาทโยติ กลฺยาณมิตฺตตา สีลสํวโร อภิสลฺเลขกถา วีริยารมฺโภ นิพฺเพธิกปฺาติ ¶ อิเม กลฺยาณมิตฺตาทโย ปฺจ ธมฺมา, เย ‘‘อิธ, เมฆิย, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหตี’’ติอาทินา อุทาเน ¶ (อุทา. ๓๑) กถิตา. โลกํ โวโลเกนฺตสฺสาติ อายสฺมโต ราหุลสฺส ตาสฺจ เทวตานํ อินฺทฺริยปริปากํ ปสฺสนฺตสฺส. ตโต เยน อนฺธวนํ, ตตฺถ ทิวาวิหาราย มหาสมาคโม ภวิสฺสตีติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เอตฺตกาติ คณนาวเสน ปริจฺเฉโท นตฺถี’’ติ.
รุกฺขปพฺพตนิสฺสิตา ภูมฏฺกา, อากาสจาริวิมานวาสิโน อนฺตลิกฺขฏฺกา. ธมฺมจกฺขุนฺติ เวทิตพฺพานิ จตุสจฺจธมฺมานํ ทสฺสนฏฺเน.
ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
โลกกามคุณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. คหปติวคฺโค
๑-๓. เวสาลีสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๒๔-๑๒๖. ทฺวีสูติ อิมสฺมึ คหปติวคฺเค ปมทุติเยสุ ตติเย จ วุตฺตตฺถเมว ปาชาตํ อปุพฺพํ นตฺถีติ อตฺโถ.
๔-๕. ภารทฺวาชสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๒๗-๑๒๘. กามํ อฺเปิ ปพฺพชิตา ยุตฺตกาเล ปิณฺฑํ อุลมานา จรนฺติเยว, อยํ ปน โอทริโต, เตเนว การเณน ปพฺพชิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปิณฺฑํ อุลมาโน’’ติอาทิมาห. ฆํสนฺโตวาติ ภูมิยํ ฆํสนฺโต เอว ปตฺตํ เปติ. ปริกฺขีณนฺติ สมนฺตโต ปริกฺขีณํ. นาฬิโก …เป… ชาตํ, อติเรกปตฺตฏฺปนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา อฺํ น คณฺหาติ. ‘‘อินฺทฺริยภาวนนฺติ จกฺขาทิปฺจินฺทฺริยภาวน’’นฺติ เกจิ วทนฺติ, ตถา วิปสฺสนาภินิเวสํ กตฺวา อุปริวิปสฺสนํ วฑฺฒิตฺวาติ อธิปฺปาโย. อปเร ปน ‘‘สทฺธาปฺจมานํ อินฺทฺริยานํ วเสน วิปสฺสนาภินิเวสํ กตฺวา เตน สุเขน อภิฺาปหานานํ สมฺปาทนวเสน อินฺทฺริยํ ภาเวตฺวา’’ติ วทนฺติ.
อุปสงฺกมตีติ ¶ ¶ เอตฺถ ยถา โส ราชา อุปสงฺกมิ, ตํ อาคมนโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ อารทฺธํ. มหาปานํ นาม อฺํ กมฺมํ อกตฺวา ปานปสุโต หุตฺวา สตฺตาหํ ตทนุรูปปริชนสฺส สุราปิวนํ. เตนาห ‘‘มหาปานํ นาม ปิวิตฺวา’’ติ. สาลิถุเสหีติ รตฺตสาลิถุเสหิ. ฑยฺหมานํ วิย กิปิลฺลิกทํสนชาตาหิ ทุกฺขเวทนาหิ. มุขสตฺตีหิ วิชฺฌึสุ วลฺลภตาย. อิตฺถิโลโล หิ โส ราชา.
ปเวณินฺติ เตสํ สมาทานปเวณึ พฺรหฺมจริยปพนฺธํ. ปฏิปาเทนฺตีติ สมฺปาเทนฺติ. ครุการมฺมณนฺติ ครุกาตพฺพอารมฺมณํ, อวีติกฺกมิตพฺพารมฺมณนฺติ อตฺโถ. อสฺสาติ รฺโ. จิตฺตํ อโนตรนฺตนฺติ ปสาทวีถึ อโนตรนฺตํ อนุปคจฺฉนฺตํ. วิเหเตุนฺติ วิพาธิตุํ.
โลภสฺส อปราปรุปฺปตฺติยา พหุวจนวเสน ‘‘โลภธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปชฺชนฺตีติปิ อตฺโถ เยว, ยสฺมา อุปฺปชฺชมาโน โลภธมฺโม อตฺตโน เหตุปจฺจเย ปริคฺคหาเปนฺโต ชานาเปนฺโต วิย สหติ ปวตฺตตีติ. อิมเมว กายนฺติ เอตฺถ สมูหตฺเถ เอว กาย-สทฺโท คพฺภาสยาทิฏฺาเนสุ อุปฺปชฺชนธมฺมสมูหวิสยตฺตา, อิตเร ปน กายูปลกฺขิตตาย ‘‘กาโย’’ติ เวทิตพฺพา. อุตฺตานเมว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
ภารทฺวาชสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โฆสิตสุตฺตวณฺณนา
๑๒๙. รูปา จ มนาปาติ นีลาทิเภทา รูปธมฺมา จ มนสา มนฺุา ปิยรูปา สํวิชฺชนฺติ, อิทฺจ สุขเวทนียสฺส ผสฺสสฺส สภาวทสฺสนตฺถํ. เอวํ ‘‘รูปา จ มนาปา อุเปกฺขาเวทนิยา’’ติ เอตฺถาปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. จกฺขุวิฺาณ…เป… ผสฺสนฺติ วุตฺตํ. อุปนิสฺสยโกฏิยา หิ จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตผสฺโส สุขเวทนีโย, น สหชาตโกฏิยา. เตนาห – ‘‘เอกํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ ชวนวเสน สุขเวทนา อุปฺปชฺชตี’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘สํวิชฺชติ โข, คหปติ, โสตธาตู’’ติ อาคเตสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ.
เตวีสติ ¶ ธาตุโย กถิตา ฉนฺนํ ทฺวารานํ วเสน วิภชฺชคหเณน. วตฺถุนิสฺสิตนฺติ หทยวตฺถุนิสฺสิตํ. ปฺจทฺวาเร วีสติ, มโนทฺวาเร ติสฺโส เอวํ เตวีสติ.
โฆสิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. หาลิทฺทิกานิสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓๐-๑๓๑. ตํ ¶ อิตฺเถตนฺติ จกฺขุนา ยํ รูปํ ทิฏฺํ, ตํ อิตฺถนฺติ อตฺโถ. ตํ สุขเวทนิยนฺติ ตํ สุขเวทนาย อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจยภูตํ จกฺขุวิฺาณฺเจว, โย จ ยถารหํ อุปนิสฺสยโกฏิยา วา, อนนฺตโร เจ อนนฺตรโกฏิยา วา, สหชาโต เจ สมฺปยุตฺตโกฏิยา วา, สุขเวทนาย ปจฺจโย ผสฺโส. ตํ สุขเวทนิยฺจ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขเวทนาติ โยชนา. เอส นโย สพฺพตฺถ สพฺเพสุ เสเสสุ สตฺตสุ วาเรสุ. มโนธาตุเยว วา สมานาติ อภิธมฺมนเยน. สุตฺตนฺตนเยน ปน สฺุตฏฺเน นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน จ มโนธาตุสมฺํ ลภเตว. อฏฺมํ อุตฺตานเมว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
หาลิทฺทิกานิสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. โลหิจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑๓๒. เตปิ มาณวกาตฺเวว วุตฺตา, น พฺราหฺมณกุมารา เอว. เสเลยฺยกานีติ อฺมฺํ สิลิสฺสนลงฺฆนกีฬนานิ.
อุปฏฺานวเสน อิภํ หรนฺตีติ อิพฺภา, หตฺถิโคปกา. เต ปน นิหีนกุฏุมฺพสฺส โภคฺคํ อุปาทาย คหปติภาวํ อุปาทาย ‘‘คหปติกา’’ติปิ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘คหปติกา’’ติ. กณฺหาติ กณฺหาภิชาติกา. รฏฺํ ภรนฺตีติ ยสฺมึ รฏฺเ วสนฺติ, ตสฺส รฏฺสฺส พลึ ภรเณน, อตฺตโน วา กุฏุมฺพสฺส ภรเณน ภรตา. ปริยายนฺตาติ ปริโต สํจรนฺตา กีฬนฺติ.
สีลเชฏฺกาติ สีลปฺปธานา. เย ปุราณํ สรนฺติ, เต สีลุตฺตมา อเหสุํ. ทฺวารานิ จกฺขาทิทฺวารานิ.
อปกฺกมิตฺวา ¶ อเปตา วิรหิตา หุตฺวา. วิสมานีติ วิคตสมานิ ทุจฺจริตสภาวานิ. นานาวิธทณฺฑา นานาวิธทณฺฑนิปาตา.
อนาหารกาติ กิฺจิ อภฺุชนกา. ปงฺโก วิย ปงฺโก, มลํ. ทนฺตปงฺโก ปุริมปทโลเปน ปงฺโกติ วุตฺโตติ ‘‘ปงฺโก นาม ทนฺตมล’’นฺติ วุตฺตํ. อเชหิ กาตพฺพกานํ อโกเปตฺวา กรณํ สมาทานวเสน วตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. โกหฺํ นาม อตฺตนิ วิชฺชมานโทสํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ¶ อสนฺตคุณปกาสนาติ อาห – ‘‘ปฏิจฺฉนฺน…เป… โกหฺฺเจวา’’ติ. ปริกฺขารภณฺฑกวณฺณาติ ปริกฺขารภณฺฑา กปฺปกาติ. เต จ โข อตฺตโน ชีวิกตฺถาย อามิสกิฺชกฺขสฺส อตฺตนิพนฺธนตฺถาย อโมจนตฺถาย กตา.
อขิลนฺติ เจโตขิลรหิตํ พฺรหฺมวิหารวเสน. เตนาห ‘‘มุทุ อถทฺธ’’นฺติ.
อธิมุตฺโตติ อภิรติวเสน ยุตฺตปยุตฺโต. ปริตฺตจิตฺโตติ ปริโต ขณฺฑิตจิตฺโต. อปฺปมาณจิตฺโตติ เอตฺถ ‘‘โก อย’’นฺติ ปฏิกฺขิตุํ สกฺกุเณยฺยจิตฺโต.
โลหิจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. เวรหจฺจานิสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. พฺราหฺมณึ ธมฺมสวนาย โจเทนฺโต มาณวโก ‘‘ยคฺเฆ’’ติ อโวจ. เตนาห ‘‘ยคฺเฆติ โจทนตฺเถ นิปาโต’’ติ.
เวรหจฺจานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
คหปติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. เทวทหวคฺโค
๑. เทวทหสุตฺตวณฺณนา
๑๓๔. มนํ รมยนฺตาติ อาปาถคตา มนสฺส รมณวเสน ปิยายิตพฺพตาวเสน ปวตฺตนฺตา.
๒. ขณสุตฺตวณฺณนา
๑๓๕. ฉผสฺสายตนิกาติ ¶ ฉหิ ผสฺสายตเนหิ อนิฏฺสํเวทนิยา. ฉทฺวารผสฺสปฏิวิฺตฺตีติ ฉหิปิ ทฺวาเรหิ อารมฺมณสฺส ปฏิสํเวทนา โหติเยว สพฺพโส ทุกฺขานุภวนตฺถํ. ตาวตึสปุรนฺติ ¶ สุทสฺสนมหานครํ. อภาโว นาม นตฺถิ สพฺพถา สุขานุภวนโต. นิรเยติ อิมินา ทุคฺคติ ภวสามฺเน อิตราปายาปิ คหิตา เอว. มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสิตุํ น สกฺกาติ อิมินา ปน สพฺเพสมฺปิ อจฺฉินฺทิกฏฺานานํ คหณํ ทฏฺพฺพํ. อิเมวาติ อิมสฺมึ มนุสฺสโลเก เอว. อปาโยปิ ปฺายติ อปายทุกฺขสทิสสฺส ทุกฺขสฺส กทาจิ ปฏิสํเวทนโต. สคฺโคปิ ปฺายติ เทวโภคสทิสสมฺปตฺติยา กทาจิ ปฏิลภิตพฺพโต.
อยํ กมฺมภูมีติ อยํ มนุสฺสโลโก ปุริสถามกรณาย กมฺมภูมิ นาม ตาสํ โยคฺยฏฺานภาวโต. ตตฺถ ปธานกมฺมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธ มคฺคภาวนา’’ติ อาห. านานีติ การณานิ. สํเวชนิยานีติ สํเวคชนนานิ พหูนิ ชาติอาทีนิ. ตถา หิ ชาติ, ชรา, พฺยาธิ, มรณํ, อปายภวํ, ตตฺถปิ นิรยูปปตฺติเหตุกํ, ติรจฺฉานุปปตฺติเหตุกํ, อสูรกายูปปตฺติเหตุกํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกนฺติ พหูนิ สํเวควตฺถูนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สํเวคชาโต สฺชาตสํเวโค โยนิโส ปธานมนุยฺุชสฺสุ. สํเวคาติ สํเวคมาปชฺชสฺสุ.
ขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปมรูปารามสุตฺตวณฺณนา
๑๓๖. สมฺมุทิตา สมฺโมทปฺปตฺตา, ปโมทิตา สฺชาตปโมทา. ทุกฺขาติ ทุกฺขวนฺโต สฺชาตทุกฺขา. เตนาห ‘‘ทุกฺขิตา’’ติ. สุขํ เอตสฺส อตฺถีติ สุโข, สุขี. เตนาห ‘‘สุขิโต’’ติ. ยตฺตกา รูปาทโย ธมฺมา โลเก อตฺถีติ วุจฺจติ. ปสฺสนฺตานนฺติ สจฺจปฏิเวเธน สมฺมเทว ปสฺสนฺตานํ. ‘‘ปจฺจนีกํ โหตี’’ติ วตฺวา ตํ ปจฺจนีกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘โลโก หี’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. อสุภาติ ‘‘อาหู’’ติปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. สพฺพเมตนฺติ ‘‘สุขํ ทิฏฺมริเยภิ…เป… ตทริยา สุขโต วิทู’’ติ จ วุตฺตํ. สพฺพเมตํ นิพฺพานเมว สนฺธาย วุตฺตํ. นิพฺพานเมว หิ เอกนฺตโต สุขํ นาม.
ปฺจนวุติปาสณฺฑิโน เตสฺจ ปาสณฺฑิภาโว ปปฺจสูทนิฏฺกถายํ ปกาสิโต เอว. กิเลสนีวรเณน นิวุตานนฺติ กิเลสขนฺธา กิเลสนีวรณํ, เตน นิวาริตานํ. นิพฺพานทสฺสนํ นาม อริยมคฺโค, เตน ตสฺส ปฏิวิชฺฌนฺจ กาฬเมฆอวจฺฉาทิตํ วิย จนฺทมณฺฑลํ.
ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ ¶ อสุภภาวปริจฺฉินฺทเนน สมฺมาวิฺาณทสฺสเนน จ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. มคฺคธมฺมสฺสาติ อริยมคฺคธมฺมสฺส.
อนุปนฺเนหีติ อนุ อนุ อวิหาย ปฏิปนฺเนหิ. โก นุ อฺโ ชานิตุํ อรหติ, อฺโ น ชานาตีติ ทสฺเสติ.
ปมรูปารามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๑๒. ทุติยรูปารามสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓๗-๑๔๕. สุทฺธิกํ กตฺวา คาถาพนฺธเนน วินา เกวลํ จุณฺณิยปทวเสเนว. ตถา ตถาติ อชฺฌตฺติกานิ พาหิรานิ จ อายตนานิ อนิจฺจลกฺขเณน ทุกฺขานตฺตลกฺขเณหิ จ โยเชตฺวา ทสฺสนวเสน.
ทุติยรูปารามสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
เทวทหวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. นวปุราณวคฺโค
๑. กมฺมนิโรธสุตฺตวณฺณนา
๑๔๖. สมฺปติ วิชฺชมานสฺส จกฺขุสฺส ตํนิพฺพตฺตสฺส กมฺมสฺส จ อธิปฺเปตตฺตา ‘‘น จกฺขุ ปุราณํ, กมฺมเมว ปุราณ’’นฺติ วตฺวา ยถา ตสฺส จกฺขุสฺส ปุราณปริยาโย ¶ วุตฺโต, ตํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘กมฺมโต ปนา’’ติอาทิ. ปจฺจยนาเมนาติ ปุริมชาติสํสิทฺธตฺตา ‘‘ปุราณ’’นฺติ วตฺตพฺพสฺส ปจฺจยภูตสฺส กมฺมสฺส นาเมน. เอวํ วุตฺตนฺติ ‘‘ปุราณกมฺม’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ. ปจฺจเยหิ อภิสมาคนฺตฺวา กตนฺติ ตณฺหาวิชฺชาทิปจฺจเยหิ อภิมุขภาเวน สมาคนฺตฺวา สเมจฺจ นิพฺพตฺติตํ. เจตนายาติ กมฺมเจตนาย. ปกปฺปิตนฺติ อภิสมีหิตํ. เวทนายาติ อตฺตานํ นิสฺสาย อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตาย เวทนาย. วตฺถูติ นิพฺพตฺติการณํ ปวตฺตฏฺานนฺติ วิปสฺสนาปฺาย ปสฺสิตพฺพํ. กมฺมสฺส นิโรเธนาติ กิเลสานํ อนุปฺปาทนิโรธสิทฺเธน กมฺมสฺส นิโรเธน. วิมุตฺตึ ผุสตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺตึ ปาปุณาติ. อารมฺมณภูโต นิโรโธ นิพฺพานํ ‘‘กมฺมนิโรโธ’’ติ ¶ วุจฺจติ, ‘‘กมฺมํ นิรุชฺฌติ เอตฺถา’’ติ กตฺวา. ‘‘ฌายถ, ภิกฺขเว, มา ปมาทตฺถา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปุพฺพภาควิปสฺสนา กถิตา’’ติ วุตฺตํ.
กมฺมนิโรธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๕. อนิจฺจนิพฺพานสปฺปายสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๔๗-๑๕๐. นิพฺพานสฺสาติ นิพฺพานาธิคมสฺส, กิเลสนิพฺพานสฺเสว วา. อุปการปฏิปทนฺติ อุปการาวหํ ปฏิปทํ. จตูสูติ ทุติยาทีสุ จตูสุ. นิพฺพานสปฺปายา ปฏิปทา เทสิตาติ กตฺวา ‘‘สห วิปสฺสนาย จตฺตาโร มคฺคา กถิตา’’ติ วุตฺตํ.
อนิจฺจนิพฺพานสปฺปายสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๗. อนฺเตวาสิกสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๑-๑๕๒. อนฺต-สทฺโท สมีปตฺเถ วตฺตติ ‘‘อุทกนฺตํ วนนฺต’’นฺติอาทีสุ, กิเลโส ปน อติอาสนฺเน วสติ อพฺภนฺตรวุตฺติตายาติ ‘‘อนฺเตวาสิก’’นฺติ วุตฺโต วิภตฺติอโลเปน ยถา ‘‘วเนกุสโล, กูเลรุกฺขา’’ติ. เตนาห – ‘‘อนนฺเตวาสิกนฺติ อนฺโตวสนกิเลสวิรหิต’’นฺติ. อาจรณกกิเลสวิรหิตนฺติ สมุทาจรณกิเลสรหิตํ. อนฺโต ¶ อสฺส วสนฺตีติ อสฺส ปุคฺคลสฺส อนฺโต อพฺภนฺตเร จิตฺเต วสนฺติ ปวตฺตนฺติ. เต เอตํ อธิภวนฺตีติ เต กิเลสา เอตํ ปุคฺคลํ อภิภวิตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตนฺติ. เตนาห – ‘‘อชฺโฌตฺถรนฺติ สิกฺขาเปนฺติ วา’’ติ. เตหิ อาจริเยหีติ เตหิ กิเลสสงฺขาเตหิ สตฺเต อตฺตโน คติยํ เปนฺเตหิ อาจริเยหิ. สตฺตมํ เหฏฺา กถิตนยเมวาติ ยสฺมา เหฏฺา ขนฺธวเสน เทสนา อาคตา, อิธ อายตนวเสนาติ อยเมว วิเสโส.
อนฺเตวาสิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อตฺถินุโขปริยายสุตฺตวณฺณนา
๑๕๓. ปริยายติ ปริคจฺฉติ ผลํ เอตสฺสาติ ปริยาโย เหตูติ อาห – ‘‘ยํ ปริยายนฺติ ยํ การณ’’นฺติ. ปจฺจกฺขทิฏฺเ อวิปรีเต อตฺเถ ปวตฺตสทฺธา ปจฺจกฺขสทฺธา ยถา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวาขาโต ธมฺโม’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๘) จ. เอวํ กิราติ อิติ กิราย อุปฺปนฺโน สทฺทหนากาโร สทฺธาปติรูปโก. เอตนฺติ ‘‘อฺตฺเรว สทฺธายา’’ติ เอตํ วจนํ ¶ . รุจาเปตฺวาติ กิฺจิ อตฺถํ อตฺตโน มติยา โรเจตฺวา. ขมาเปตฺวาติ ตสฺเสว เววจนํ, จิตฺตํ ตถา ขมาเปตฺวา. เตนาห – ‘‘อตฺเถตนฺติ คหณากาโร’’ติ. ปรมฺปราคตสฺส อตฺถสฺส เอวํ กิรสฺสาติ อนุสฺสวนํ. การณํ จินฺเตนฺตสฺสาติ ยุตฺตึ จินฺเตนฺตสฺส. การณํ อุปฏฺาตีติ ‘‘สาธู’’ติ อตฺตโน จิตฺตสฺส อุปติฏฺติ. อตฺเถตนฺติ ‘‘เอตํ การณํ เอวมยมตฺโถ ยุชฺชตี’’ติ จิตฺเตน คหณํ. อาการปริวิตกฺโกติ ยุตฺติปริกปฺปนา. ลทฺธีติ นิจฺฉเยน คหณํ, สา จ โข ทิฏฺิ อยาถาวคฺคหเณน อฺาณเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ตนฺติ ลทฺธึ. อตฺเถสาติ เอสา ลทฺธิ มม อุปฺปนฺนา อตฺถิ ยุตฺตรูปา หุตฺวา อุปลพฺภติ. เอวํ คหณากาโร ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ นาม, ปมุปฺปนฺนลทฺธิสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิชฺฌานํ ขมนากาโร ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ นาม. ปฺจ านานีติ ยถาวุตฺตานิ สทฺธาทีนิ ปฺจ การณานิ. มฺุจิตฺวา อคฺคเหตฺวา. เหฏฺิมมคฺควชฺฌานํ ราคาทีนํ อภาวํ สนฺธาย ‘‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราคโทสโมโห’’ติ อยํ เสกฺขานํ ปจฺจเวกฺขณา, สพฺพโส อภาวํ สนฺธาย อเสกฺขานนฺติ อาห – ‘‘เสกฺขาเสกฺขานํ ปจฺจเวกฺขณา กถิตา’’ติ. ‘‘สนฺตํ ¶ วา อชฺฌตฺต’’นฺติอาทินา เสกฺขานํ, ‘‘อสนฺตํ วา อชฺฌตฺต’’นฺติอาทินา อเสกฺขานํ ปจฺจเวกฺขณา กถิตาติ ทฏฺพฺพํ.
อตฺถินุโขปริยายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. อินฺทฺริยสมฺปนฺนสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๔-๑๕๕. ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๔) วิย ปริปุณฺณตฺโถ อิธ สมฺปนฺน-สทฺโทติ อาห ‘‘ปริปุณฺณินฺทฺริโย’’ติ. อินฺทฺริเยหิ สมนฺนาคตตฺตา ปริปุณฺณินฺทฺริโย นาม โหตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สติ สมนฺนาคมสมฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อาสงฺกนฺโต ‘‘จกฺขาทีนิ วา’’ติอาทิมาห. ตํ สนฺธายาติ ทุติยวิกปฺเปน วุตฺตมตฺถํ สนฺธาย. เหฏฺา ขนฺธิยวคฺเค ขนฺธวเสน เทสนา อาคตา, อิธ อายตนวเสนาติ อาห ‘‘วุตฺตนยเมวา’’ติ.
อินฺทฺริยสมฺปนฺนสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นวปุราณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติโย ปณฺณาสโก.
๑๖. นนฺทิกฺขยวคฺโค
๑-๔. อชฺฌตฺตนนฺทิกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๖-๑๕๙. อตฺถโตติ ¶ สภาวโต. าเณน อริยโต าตพฺพโต อตฺโถ, สภาโวติ. เอวฺหิ อภิชฺชนสภาโว นนฺทนฏฺเน นนฺที, รฺชนฏฺเน ราโค. วิมุตฺติวเสนาติ วิมุตฺติยา อธิคมวเสน. เอตฺถาติ อิมสฺมึ ปมสุตฺเต. ทุติยาทีสูติ ทุติยตติยจตุตฺเถสุ. อุตฺตานเมว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
อชฺฌตฺตนนฺทิกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. ชีวกมฺพวนสมาธิสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๐-๑๖๑. สมาธิวิกลานํ ¶ จิตฺเตกคฺคตํ ลภนฺตานํ, ปฏิสลฺลานวิกลานํ กายวิเวกฺจ จิตฺเตกคฺคตฺจ ลภนฺตานนฺติ โยชนา. ปากฏํ โหตีติ วิภูตํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. โอกฺขายติ ปจฺจกฺขายตีติ จตุสจฺจธมฺมานํ วิภูตภาเวน อุปฏฺานสฺส กถิตตฺตา วุตฺตํ – ‘‘ทฺวีสุปิ…เป… กถิตา’’ติ.
ชีวกมฺพวนสมาธิสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๙. โกฏฺิกอนิจฺจสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๒-๑๖๔. อนิจฺจานุปสฺสนาทโย เอว วิมุตฺติปริปาจนิยา ธมฺมา นาม. เถรสฺส ตทา สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ น ปริปากํ อุปคตานิ, เถโร อิมาหิ เทสนาหิ อินฺทฺริยปริปากมคมาสิ.
โกฏฺิกอนิจฺจสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐-๑๒. มิจฺฉาทิฏฺิปหานสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๕-๑๖๗. ปาฏิเยกฺกนฺติ ¶ วิสุํ วิสุํ. วุตฺตนเยเนวาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อปุพฺพสฺส วตฺตพฺพสฺส อภาวา.
มิจฺฉาทิฏฺิปหานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นนฺทิกฺขยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. สฏฺิเปยฺยาลวคฺโค
๑-๖๐. อชฺฌตฺตอนิจฺจฉนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๘-๒๒๗. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ, ตตฺร โว ฉนฺโท ปหาตพฺโพ’’ติอาทินา เตสํ เตสํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน สฏฺิ สุตฺตานิ กถิตานิ ¶ , ตานิ จ เปยฺยาลนเยน เทสนํ อารุฬฺหานีติ ‘‘สฏฺิเปยฺยาโล นาม โหตี’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ยานิ ปเนตฺถา’’ติอาทิ.
อชฺฌตฺตอนิจฺจฉนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สฏฺิเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. สมุทฺทวคฺโค
๑. ปมสมุทฺทสุตฺตวณฺณนา
๒๒๘. ยทิ ‘‘ทุปฺปูรณฏฺเน สมุทฺทนฏฺเนา’’ติ อิมินา อตฺถทฺวเยน สาคโร ‘‘สมุทฺโท’’ติ วุจฺจติ, จกฺขุสฺเสเวตํ นิปฺปริยายโต ยุชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยที’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุปฺปูรณฏฺเนาติ ปูเรตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน. สมุทฺทนฏฺเนาติ สพฺพโส อุปรูปริปกฺขิตฺตคมเนน. มหาคงฺคาทิมหานทีนํ มหตา อุทโกเฆน อนุสํวจฺฉรํ อนุปกฺขนฺทมาโนปิ หิ สมุทฺโท ปาริปูรึ น คจฺฉติ, ยฺจ ภูมิปเทสํ โอตฺถรติ, ตํ สมุทฺทภาวํ เนติ, อภาวํ วา ปาปุณาติ อปยาเต สมุทฺโททเก, ตํ วา อนุทกภาวปตฺติยา อตถเมว โหติ. กามฺเจส ทุปฺปูรณฏฺโ สมุทฺทนฏฺโ ¶ สาคเร ลพฺภติ, ตถาปิ ตํ ทฺวยํ จกฺขุสฺมึเยว วิเสสโต ลพฺภตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิมาห. สโมสรนฺตนฺติ สพฺพโส นีลาทิภาเคหิ โอสรนฺตํ, อาปาถํ อาคจฺฉนฺตนฺติ อตฺโถ. กาตุํ น สกฺโกติ ทุปฺปูรณียตฺตา. สโทสคมเนน คจฺฉติ สตฺตสนฺตานสฺส ทุสฺสนโต. ทุสฺสนฏฺตา จสฺส จกฺขุทฺวาริกตณฺหาวเสน เวทิตพฺพา. ยถา สมุทฺเท อปราปรํ ปริวตฺตมาโน อูมิยา เวโค สมุทฺทสฺสาติ วุจฺจติ, เอวํ จกฺขุสมุทฺทสฺส ปุรโต อปราปรํ ปริวตฺตมานํ นีลาทิเภทํ รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺสาติ วตฺตพฺพตํ อรหติ อนฺสาธารณตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘รูปมโย เวโค’’ติ. อสมเปกฺขิเตติ สมฺมาทสฺสเน รูเป มนาปภาวํ อมนาปภาวฺจ คเหตฺวา, ‘‘อิทํ นาม มยา ทิฏฺ’’นฺติ อนุปธาเรนฺตสฺส เกวลํ สมูหฆนวเสน คณฺหนฺตสฺส คหณํ อสมเปกฺขนํ. สหตีติ อธิภวติ, ตํนิมิตฺตํ กฺจิ วิการํ นาปชฺชติ.
อูมีติ ¶ วีจิโย. อาวฏฺโฏ อาวฏฺฏนวเสน ปวตฺตํ อุทกํ. คาหรกฺขสมกราทโย คาหรกฺขโส. ยถา สมุทฺเท อูมิโย อุปรูปริ วตฺตมานา อตฺตนิ ปติตปุคฺคลํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อนยพฺยสนํ อาปาเทนฺติ, ตถา อาวฏฺฏคาหรกฺขสา. เอวเมเต ราคาทโย กิเลสา สยํ อุปฺปนฺนกสตฺเต อชฺโฌตฺถริตฺวา อนยพฺยสนํ อาปาเทนฺติ, กิเลสุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย สตฺตานํ อนยพฺยสนาปตฺติเหตุภูตสฺส อูมิภยสฺส อารมฺมณวเสน จกฺขุสมุทฺโท ‘‘สอูมิสาวฏฺโฏ สคาโห สรกฺขโส’’ติ วุตฺโต.
อูมิภยนฺติ เอตฺถ ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, อูมีว ภยํ อูมิภยํ. กุชฺฌนฏฺเน โกโธ. สฺเวว จิตฺตสฺส จ อภิมทฺทนวเสนุปฺปาทนตฺเถน ทฬฺหํ อายาสนฏฺเน อุปายาโส. เอตฺถ จ อเนกวารํ ปวตฺติตฺวา สตฺเต อชฺโฌตฺถริตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตุํ อทตฺวา อนยพฺยสนนิปฺผาทเนน โกธูปายาสสฺส อูมิสทิสตา ทฏฺพฺพา. ตถา กามคุณา กิเลสาภิภูเต สตฺเต มาเน วิย รูปาทิวิสยสงฺขาเต อตฺตนิ สํสาเรตฺวา ยถา ตโต พหิภูเต เนกฺขมฺเม จิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชติ, เอวํ อาวฏฺเฏตฺวา พฺยสนาปาทเนน อาวฏฺฏสทิสตา ทฏฺพฺพา. ยทา ปน คาหรกฺขโส อารกฺขรหิตํ อตฺตโน โคจรภูมิคตํ ปุริสํ อภิภุยฺย คเหตฺวา อโคจเร ิตมฺปิ โคจรํ เนตฺวา เภรวรูปทสฺสนาทินา อตฺตโน อุปกฺกมํ กาตุํ อสมตฺถํ กตฺวา อนฺวาวิสิตฺวา วณฺณพลโภคอายุสุเขหิ วิโยเชตฺวา มหนฺตํ อนยพฺยสนํ อาปาเทติ, เอวํ มาตุคาโมปิ โยนิโสมนสิการรหิตํ อวีรปุริสํ อตฺตโน รูปาทีหิ ปโลภนวเสน อภิภุยฺย คเหตฺวา วา วีรชาติยมฺปิ อิตฺถิกุตฺตภูเตหิ อตฺตโน หาวภาววิลาเสหิ อิตฺถิมายาย อนฺวาวิสิตฺวา วา อวสํ อตฺตโน อุปการธมฺเม สีลาทโย สมฺปาเทตุํ อสมตฺถํ กโรนฺโต คุณวณฺณาทีหิ วิโยเชตฺวา มหนฺตํ อนยพฺยสนํ อาปาเทติ, เอวํ มาตุคามสฺส คาหรกฺขสสทิสตา ทฏฺพฺพา. อูมิภยนฺติ ลกฺขณวจนํ ¶ . ยถา หิ อูมิ ภายิตพฺพฏฺเน ภยํ, เอวํ อาวฏฺฏคาหรกฺขสาปีติ อูมิอาทิภเยน สภยนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนฺตํ อวสานํ คโต, เอวํ ปารํ นิพฺพานํ คโตติ วุจฺจติ.
ปมสมุทฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๓. ทุติยสมุทฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๒๙-๒๓๐. กิเลสานํ ¶ อลฺลภาวูปนยนนฺติ อาห ‘‘เตมนฏฺเนา’’ติ. อริยสาวเกติ อนาคามิโน. เต หิ กามภววเสน อตินฺตตาย น สมุนฺนา. ตโย มจฺจูติ กิเลสาภิสงฺขารเทวปุตฺตมาเร. ตีหิ อุปธีหีติ กิเลสาภิสงฺขารกามคุณานํ วเสน ตีหิ อุปธีหิ. ขนฺธุปธินา ปน โส น นิรูปธิ สอุปาทิเสสสฺเสว นิพฺพานสฺส อธิคตตฺตา. คโตติ ปฏิปตฺติคมเนน คโต.
ทุติยสมุทฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๖. ขีรรุกฺโขปมสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๓๑-๒๓๓. อปฺปหีนฏฺเนาติ มคฺเคน อสมุคฺฆาฏิตภาเวน. อตฺถีติ วิชฺชติ. สติ ปจฺจเย วิชฺชมานกิจฺจกรณโต ปริยุฏฺานํ อปฺปกํ มูสิกาวิสํ วิย ปริตฺตํ นาม โหติ อปฺปานุภาวตฺตา. เอวรูปาปีติ อปฺปกาปิ. อสฺสาติ อปฺปหีนกิเลสสฺส. อธิมตฺตานนฺติ อิฏฺานํ รชนียานํ, วตฺถุวเสน ปริตฺตกมฺปิ อิฏฺารมฺมณํ อธิมตฺตเมว. เตนาห ‘‘นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปี’’ติอาทิ. ทหโรติอาทีนิ ตีณิปิ ปทานิ. อาภินฺเทยฺยาติ ภินฺเทยฺย. ตํ อุภยนฺติ ตํ จกฺขุรูปนฺติ อุภยมฺปิ อายตนํ.
ขีรรุกฺโขปมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อุทายีสุตฺตวณฺณนา
๒๓๔. อิติปีติ อิมินาปิ การเณน. อนิจฺเจนาติ อนิจฺจภาเวน อนตฺตลกฺขณํ กถิตํ. ยสฺมา เหตุปจฺจยา วิฺาณสฺส อุปฺปตฺติ สติ จ อุปฺปาเท นิโรเธน ภวิตพฺพํ, อุปฺปาทวยวนฺตตาย อนิจฺจํ วิฺาณํ, ยทิ จ อตฺตา สิยา ปจฺจเยหิ วินา สิชฺเฌยฺย, น จ ตถาสฺส สิทฺธิ, ตสฺมา ‘‘วิฺาณํ อนตฺตา’’ติ อนิจฺจตาย อนตฺตตา กถิตา.
อุทายีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อาทิตฺตปริยายสุตฺตวณฺณนา
๒๓๕. กิเลสานํ ¶ ¶ อนุ อนุ พฺยฺชนโต ปริพฺยตฺติยา อุปฺปตฺติปจฺจยภาวโต อนุพฺยฺชนํ, หตฺถปาทาทิอวยวาติ อาห – ‘‘หตฺถา โสภนา’’ติอาทิ. นิมิตฺตคฺคาโหติ กิเลสุปฺปตฺติยา นิมิตฺตภูโต คาโห. สํสนฺเทตฺวา คหณนฺติ อวยเว สโมธาเนตฺวา ‘‘อิตฺถิปุริโส’’ติอาทินา เอกชฺฌํ คหณํ. วิภตฺติคหณนฺติ วิภาเคน อนวเสสคฺคหณํ. กุมฺภีลสทิโสติ กุมฺภีลคาหสทิโส. เตนาห – ‘‘สพฺพเมว คณฺหาตี’’ติ หตฺถปาทาทีสุ ตํ ตํ โกฏฺาสํ วิภชิตฺวา คหณํ รตฺตปาสทิโส ชลูกคาหสทิโส. เอกชวนวาเรปิ ลพฺภนฺตีติ อิทํ จกฺขุทฺวารานุสาเรน อุปฺปนฺนมโนทฺวาริกชวนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
นิมิตฺตสฺสาเทน คนฺถิตนฺติ ยถาวุตฺเต นิมิตฺเต อสฺสาทคาเหน คนฺถิตํ สมฺพทฺธํ. ภวงฺเคเนวาติ มูลภวงฺเคเนว. กิเลสภยํ ทสฺเสนฺโตติ ตถา กิเลสุปฺปตฺติยา สติ อกุสลจิตฺเตน อนฺตริตํ เจ มรณจิตฺตํ ภเวยฺย, เอกนฺตโต นิรเย วา ติรจฺฉานโยนิยา วา อุปฺปตฺติ สิยาติ กิเลสานํ ภายิตพฺพํ ทสฺเสนฺโต. ‘‘สมยวเสน วา เอวํ วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘จกฺขุทฺวารสฺมิฺหี’’ติอาทิมาห. รตฺตจิตฺตํ วาติ ราควเสน รตฺตจิตฺตํ วา. ทุฏฺจิตฺเตน กถํ อารมฺมณรสานุภวนนฺติ? โทมนสฺสเวทนุปฺปตฺติ เอว ตสฺส อารมฺมณรสานุภวนํ ทฏฺพฺพํ. อิมสฺส สมยสฺสาติ มรณสมยสฺส.
อุภินฺนํ นาสจฺฉิทฺทานํ มชฺเฌ ิต-อฏฺิตุทนํ สห ขุรฏฺเน ฉินฺทนํ. ทณฺฑกวาสีติ ทีฆทณฺฑกา มหาวาสิ. นิปชฺชิตฺวา นิทฺโทกฺกมนนฺติ อิมินา ปจลายิกนิทฺทํ ปฏิกฺขิปติ. ตตฺถ หิ กทาจิ อนฺตรา มิจฺฉาวิตกฺกานํ สลฺลกานํ อวสโร สิยา, นตฺเถว นิปชฺชิตฺวา มหานิทฺทํ โอกฺกนฺตกาเล. วิตกฺกานนฺติ มิจฺฉาวิตกฺกานํ.
อาทิตฺตปริยายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. ปมหตฺถปาโทปมสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๓๖-๒๓๗. นวมํ ¶ ‘‘ปฺายตี’’ติ วุจฺจมาเน พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ทสเม น โหตีติ วุจฺจมาเน’’ติอาทิ. เอตฺตกเมว หิ ทฺวินฺนํ สุตฺตานํ วิเสโสติ.
ปมหตฺถปาโทปมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุทฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙. อาสีวิสวคฺโค
๑. อาสีวิโสปมสุตฺตวณฺณนา
๒๓๘. เย ¶ ภิกฺขู ตทา ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา, เตสุ เกจิ เอกวิหาริโน, เกจิ อตฺตทุติยา, เกจิ อตฺตตติยา, เกจิ อตฺตจตุตฺถา, เกจิ อตฺตปฺจมา หุตฺวา อรฺายตเนสุ วิหรนฺตีติ วุตฺตํ – ‘‘เอกจาริก…เป… ปฺจจาริเก’’ติ. สมานชฺฌาสยตา สภาควุตฺติโน. กมฺมฏฺานานุยฺุชนสฺส การเก. ตโต เอว ตตฺถ ยุตฺตปยุตฺเต. ปุคฺคลชฺฌาสเยน การณภูเตน. ปจฺจยภูตนฺติ อปสฺสยภูตํ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติ อยํ มาติกานิกฺเขโป. เตสํ มาติกาย วิตฺถารภาชนํ. วาสนา ภวิสฺสตีติ วาสนาวหํ ภวิสฺสติ. สิเนรุํ อุกฺขิปนฺโต วิยาติอาทิ อิมิสฺสา เทสนาย อนฺสาธารณตาย สุทุกฺกรภาวทสฺสนํ.
มฺจฏฺเสุ มฺจสมฺา วิย มุขฏฺํ วิสํ ‘‘มุข’’นฺติ อธิปฺเปตํ. สุกฺขกฏฺสทิสภาวาปาทนโต ‘‘กฏฺ’’นฺติ วุจฺจตีติ กฏฺํ มุขํ เอตสฺสาติ กฏฺมุโข, ทํสนาทินา กฏฺสทิสภาวกโร สปฺโป. อถ วา กฏฺสทิสภาวาปาทนโต กฏฺํ วิสํ วา มุเข เอตสฺสาติ กฏฺมุโข. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิเม จตฺตาโรติ อิเม วิสกิจฺจเภเทน จตฺตาโร. อิทานิ ตํ เนสํ วิสกิจฺจเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยสูลสมปฺปิตํ วิยาติ อพฺภนฺตเร อยสูลํ อนุปฺปเวสิตํ วิย. ปกฺกปูติปนสํ วิยาติ ปจฺจิตฺวา กาลาติกฺกเม กุถิตปนสผลํ ¶ วิย. จงฺควาเรติ รชกานํ ขารปริสฺสาวเน สุราปริสฺสาวเน วา. อนวเสสํ ฉิชฺชเนน อสนิปาตฏฺานํ วิย. มหานิขาทเนนาติ มหนฺเตน นิขาทเนน.
วิสเวควิกาเรนาติ วิสเวคคเตน วิกาเรน. วาเตนาติ ตสฺส สปฺปสฺส สรีรํ ผุสิตฺวา อุคฺคตวาเตน. นาสวาเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ปุคฺคลปณฺณตฺติวเสนาติ เตสํเยว โสฬสนฺนํ สปฺปานํ อาคตวิโสติอาทิปุคฺคลนามสฺส วเสน จตุสฏฺิ โหนฺติ ปจฺเจกํ จตุพฺพิธภาวโต. อาคตวิโสติ อาคจฺฉวิโส, สีฆตรํ อภิรุหนวิโสติ อตฺโถ. โฆรวิโสติ กกฺขฬวิโส, ทุตฺติกิจฺฉวิโส. อยํ สีตอุทกํ วิย โหติ คาฬฺหทุพฺพินิมฺโมจยภาเวน. อุทกสปฺโป หิ โฆรวิโส โหติ เยวาติ วุตฺตํ – ‘‘อุทกสปฺปาทีนํ วิสํ วิยา’’ติ. ปฺายตีติ คณฺฑปิฬกาทิวเสน ปฺายติ. อเนฬกสปฺโป นาม มหาอาสีวิโส. นีลสปฺโป นาม สาขวณฺโณ ¶ รุกฺขคฺคาทีสุ วิจรณกสปฺโป. อิมินา อุปาเยนาติ โยยํ กฏฺมุเขสุ ทฏฺวิสานํเยว ‘‘อาคตวิโส โน โฆรวิโส’’ติอาทินา จตุพฺพิธภาโว วุตฺโต, อิมินา อุปาเยน. กฏฺมุเข ทฏฺวิสาทโยติ กฏฺมุเขสุ ทฏฺวิโส, ผุฏฺวิโส, วาตวิโภติ ตโย, ปูติมุขาทีสุ จ ทฏฺวิสาทโย จตฺตาโร จตฺตาโร เวทิตพฺโพ.
เอเกกนฺติ จตุสฏฺิโย เอเกกํ. จตุธาติ อณฺฑชาทิวิภาเคน จตุธา วิภชิตฺวา. ฉปณฺณาสานีติ ฉปณฺณาสาธิกานิ. คตมคฺคสฺสาติ ยถาวุตฺตสงฺขฺยาคตมคฺคสฺส ปฏิโลมโต สํขิปฺปมานา อนุกฺกเมน จตฺตาโรว โหนฺติ. กุลวเสนาติ กฏฺมุขาทิชาติวเสน.
สกลกาเย อาสิฺจิตฺวา วิย ปิตวิสาติ หิ เตสํ ผุฏฺวิสตา, วาตวิสตา วุจฺจติ. เอวนฺติ ‘‘อาสิตฺตวิสา’’ติอาทินา. เอตฺถาติ อาสีวิสสทฺเท วจนตฺโถ นิรุตฺตินเยน เวทิตพฺโพ. อุคฺคตเตชาติ อุทคฺคเตชา, อตฺตโน วิสเตเชน เนสํ กุรูรทพฺพตา วา. ทุนฺนิมฺมทฺทนวิสาติ มนฺตาคเทหิ อนิมฺมทฺทนียวิสา. จตฺตาโร อาสีวิสาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตเนตฺถ อวเสสปาฬึ สงฺคณฺหาติ.
อาสีวิเสสูติ ¶ อิเม อาสีวิสา ทฏฺวิสา เอวาติ เวทิตพฺพา. สรีรฏฺเกสุเยวาติ เตน ปุริเสน เตสํ กสฺสจิ อนิฏฺสฺส อกตตฺตา อายุเสสสฺส จ วิชฺชมานตฺตา นํ น ทํสึสูติ ทฏฺพฺพํ. ปุจฺฉิ ยถาภูตํ ปเวเทตุกาโม. ทุรุปฏฺาหาติ ทุรุปฏฺานา. โสตฺถิมคฺโคติ โสตฺถิภาวสฺส อุปาโย.
อนฺตรจโรติ อนฺตรํ จโร สุขสตฺตุ วิสฺสาสฆาตี. เตนาห ‘‘วธโก’’ติ. อิทานิ ตาสํ เปสเน การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อภิมุขคตํ วิย อภิมุขคตํ. อีทิสีปิ หิ วโจยุตฺติ โลเก นิรูปียติ สนฺติยํ ปุริสํ เปตีติ วิย. ตสฺมา อภิมุขคตนฺติ อภิมุขํ เตน สมฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. วงฺกสณฺานํ ผลกํ รุกฺขมูเล อาคตาคตานํ นิสีทนตฺถาย อตฺถตํ.
อริตฺตหตฺโถ ปุริโส สนฺตาเรติ เอตายาติ สนฺตารณี. โอริมตีรโต อุตฺตรณาย เสตุ อุตฺตรเสตุ. เอเกน ทฺวีหิ วา คนฺตพฺโพ รุกฺขมโย เสตุ รุกฺขเสตุ. ชงฺฆสตฺเถน คมนโยคฺโค เสตุ ชงฺฆเสตุ. สกเฏน คนฺตุํ สกฺกุเณยฺโย สกฏเสตุ. น โข เอส พฺราหฺมโณ ปรมตฺถโต. ตทตฺโถ ปน เอกเทเสน สมฺภวตีติ ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺตกานํ ปจฺจตฺถิกานํ พาหิตตฺตา’’ติ อาห. เทสนนฺติ ¶ อุทฺเทสเทสนํ. วินิวตฺเตนฺโตติ ปฏิสํหรนฺโต. น ลทฺโธ วตาสีติ น ลทฺโธ วต อาสิ.
ราชา วิย กมฺมํ สตฺเตสุ อิสฺสริยสฺส วตฺตาปนโต. ราชา…เป… ปุถุชฺชโน วฏฺฏทุกฺขสงฺขาตาปราธตาย. าณปลายเนนาติ มหาภูเตหิ นิพฺพินฺทิตฺวา วิรชฺชิตฺวา วิมุจฺจิตุกามตาวเสน อุปฺปนฺนาณปลายเน มคฺคาธิคมสิทฺเธเนว าณปลายเนน. เอวฺเหตฺถ อุปมาสํสนฺทนํ มตฺถกํ ปาปิตเมว โหติ.
ยเถว หีติอาทินา เอกเทสนาสมุทายสฺส นิทสฺสนํ อารทฺธํ. ยถาวุตฺตวจนํ อฏฺกถาจริยานํ วจเนน สมตฺเถติ ‘‘ปตฺถทฺโธ ภวตี’’ติอาทินา. ตตฺถ กฏฺมุเขน วาติ วา-สทฺโท อุปมตฺโถ. ยถา กฏฺมุเขน สปฺเปน ทฏฺโ ปตฺถทฺโธ โหติ, เอวํ ปถวีธาตุปฺปโกเปน โส ¶ กาโย กฏฺมุเขว โหติ, กฏฺมุขคโต วิย ปตฺถทฺโธ โหตีติ อตฺโถ. อถ วา วา-สทฺโท อวธารณตฺโถ. โส ‘‘ปถวีธาตุปโกเปน วา’’ติ เอวํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – กฏฺมุเขน ทฏฺโปิ กาโย ปถวีธาตุปฺปโกเปเนว ปตฺถทฺโธ โหติ, ตสฺมา ปถวีธาตุยา อวิยุตฺโต โส กาโย สพฺพทา กฏฺมุขคโต วิย โหตีติ. วา-สทฺโท วา อนิยมตฺโถ. ตตฺรายมตฺโถ – กฏฺมุเขน ทฏฺโ กาโย ปตฺถทฺโธ โหติ วา, น วา มนฺตาคทวเสน. ปถวีธาตุปฺปโกเปน ปน มนฺตาคทรหิโต โส กาโย กฏฺมุขคโต วิย โหติ เอกนฺตปตฺถทฺโธติ. ตตฺถ กาโยติ ปกติกาโย. ปูติโกติ กุถิโต. สนฺตตฺโตติ สพฺพโส ตตฺโต มหาทาหปฺปตฺโต. สฺฉินฺโนติ สพฺพโส ฉินฺโน จุณฺณวิจุณฺณภูโต. ยทา กาโย ปตฺถทฺธาทิภาวปฺปตฺโต โหติ, ตทา ปุริโส กฏฺมุขาทิสปฺปสฺส มุเข วตฺตมาโน วิย โหตีติ อตฺโถ.
วิเสสโตติ กฏฺมุขาทิวิเสสโต จ ปถวีอาทิวิเสสโต จ. อนตฺถคฺคหณโตติอาทิ อเจตเนสุปิ ภูเตสุ สเจตเนสุ วิย อนตฺถาทีนํ ปจฺจกฺขตาย นิพฺเพทชนนตฺถํ อารทฺธํ. ตตฺถ อาสยโตติ ปวตฺติฏฺานโต. เอเตสนฺติ มหาภูตานํ. สทิสตาติ วมฺมิกาสยสุสิรคหนสงฺการฏฺานาสยตาย จ สทิสตา.
ปจฺจตฺตลกฺขณวเสนาติ วิสุํ วิสุํ ลกฺขณวเสน. ปถวีอาทีนํ กกฺขฬภาวาทิ, ตํสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส กกฺขฬภาวาปาทนาทินา วิการุปฺปาทนโต วิสเวควิการโต สทิสตา เวทิตพฺพา.
อนตฺถาติ ¶ พฺยสนา. พฺยาธินฺติ กุฏฺาทิพฺยาธึ. ภเว ชาตาภินนฺทิโนติ ภเวสุ ชาติยา อภินนฺทนสีลา. ปฺจโวกาเร หิ ชาติยา อภินนฺทนา นาม มหาภูตาภินนฺทนา เอว.
ทุรุปฏฺานตรานีติ ทุปฺปฏิการตรานิ. ทุราสทาติ ทุรุปสงฺกมนา. ‘‘อุปฏฺามี’’ติ อุปสงฺกมิตุํ น สกฺโกนฺติ. ปริชานาม กมฺมนามานิ, อุปการา นาม นตฺถิ. อนนฺตโทสูปทฺทวโตติ อปริมาณโทสูปทฺทวเหตุโต. เอกปกฺขลนฺติ เอกทุกฺขํ.
รูปกฺขนฺโธ ¶ ภิชฺชมาโน จตฺตาโร อรูปกฺขนฺเธ คเหตฺวาว ภิชฺชติ อรูปกฺขนฺธานํ เอกนิโรธตฺตา. วตฺถุรูปมฺปิ คเหตฺวาว ภิชฺชนฺติ ปฺจโวกาเร อรูปกฺขนฺเธสุ ภินฺเนสุ รูปกฺขนฺธสฺส อวฏฺานาภาวโต. เอตฺตาวตาติ โลภุปฺปาทนมตฺเตน. ปฺา นาม อตฺตภาเว อุตฺตมงฺคํ ปฺุตฺตรตฺตา กุสลธมฺมานํ, สติ จ กิเลสุปฺปตฺติยํ ปฺาย อนุปฺปชฺชนโต วุตฺตํ – ‘‘เอตฺตาวตา ปฺาสีสํ ปติตํ นาม โหตี’’ติ. โยนิโย อุปเนติ ตทุปคสฺส กมฺมปจฺจยสฺส ภาเว. ‘‘ชาติภยํ, ชราภยํ, มรณภยํ, โจรภย’’นฺติอาทินา อาคตานิ ปฺจวีสติ มหาภยานิ, ‘‘หตฺถมฺปิ ฉินฺทตี’’ติอาทินา อาคตานิ ทฺวตฺตึส กมฺมการณานิ อาคตาเนว โหนฺติ การณสฺส สมวฏฺิตตฺตา. นนฺทีราโค สงฺขารกฺขนฺโธติ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตํ.
ปาฬิยํเยว อาคตา ‘‘จกฺขุโต เจปิ นํ, ภิกฺขเว’’ติอาทินา. กิฺจิ อลภิตฺวาติ ตสฺมึ สฺุคาเม โจรานํ คยฺหูปคสฺส อลาภวจเนเนว ตสฺส ปุริสสฺส อตฺตโน ปฏิสรณสฺส อลาโภ วุตฺโต เอว โหตีติ น อุทฺธโฏ, ปุริสฏฺานิโย ภิกฺขุ, โจรา ปน พาหิรายตนฏฺานิยา. อภินิวิสิตฺวาติ วิปสฺสนาภินิเวสํ กตฺวา. อชฺฌตฺติกายตนวเสน เทสนาย อาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อุปาทารูปกมฺมฏฺานวเสนา’’ติ.
พาหิรานนฺติ พาหิรายตนานํ. ปฺจ กิจฺจานีติ โจเรหิ ตทา กาตพฺพานิ ปฺจ กิจฺจานิ. หตฺถสารนฺติ อตฺตโน สนฺตเก หตฺเถหิ คเหตพฺพสารภณฺฑํ. ปาตนาทิวเสน หตฺถปรามาสํ กโรนฺติ. ปหาราเนติ ปหฏฏฺาเน. านโส ตสฺมึ เอว ขเณติ วทนฺติ. อตฺตโน สุขาวหํ กุสลธมฺมํ ปหาย ทุกฺขาวเหน อกุสเลน สมงฺคิตา สุขาวหํ ภณฺฑํ ปหาย พหิ นิกฺขมนํ วิยาติ วุตฺตํ สุขนิสฺสยตฺตา ตสฺส. หตฺถปรา…เป… อาปชฺชนกาโล คุณสรีรสฺส ตทา ปมาเทน พาธิตตฺตา. ปหาร…เป… กาโล ตโต ทฬฺหตรํ คุณสรีรสฺส พาธิตตฺตา. ปหารํ…เป… อสฺสมณกาโล คุณสรีรสฺส มรณปฺปตฺติสทิสตฺตา. อวเสสชนสฺส ทาสปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพตา อฺถตฺตปฺปตฺติคิหิภาวาปตฺติยา นิทสฺสนภาเวน วุตฺตา. ยํ ‘‘ฉสุ ทฺวาเรสุ อารมฺมเณ ¶ อาปาถคเต’’ติ วุตฺตํ, ตเมว อารมฺมณํ นิสฺสาย สมฺปรายิโก ทุกฺขกฺขนฺโธ เวทิตพฺโพติ โยชนา.
รูปาทีนีติ ¶ รูปสทฺทคนฺธรสานิ. เตสนฺติ ยถาวุตฺตภูตุปาทารูปานํ. ลหุตาทิวเสนาติ เตสํ ลหุตาทิวเสน. ทุรุตฺตรณฏฺโติ อุตฺตริตุํ อสกฺกุเณยฺยภาโว โอฆฏฺโ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘สมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. จตุมหาภูตาทีหีติ อาทิสทฺเทน อุปาทานกฺขนฺธาทีนํ คหณํ. จิตฺตกิริยทสฺสนตฺถนฺติ จิตฺตปโยคทสฺสนตฺถํ. วุตฺตวายามเมวาติ ‘‘สมฺมาวายาโม’’ติ โย อริยมคฺเค วุตฺโต. ภทฺเทกรตฺตาทีนีติ ‘‘อชฺเชว กิจฺจํ อาตปฺป’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๒๗๒, ๒๗๕, ๒๗๖) วุตฺตานิ ภทฺเทกรตฺตสุตฺตาทีนิ.
กุณฺปาโทติ ฉินฺนปาโทว หุตฺวา คติวิกโล. มานสํ พนฺธตีติ ตสฺมึ จิตฺเต กิจฺจํ นิพนฺธติ. ‘‘อยํ อริยมคฺโค มยฺหํ โอฆุตฺตรนุปาโย’’ติ ตตฺถ จิตฺตสฺส สนฺนิฏฺานํ ปุน ตตฺถ ปวตฺตนํ วีริยารมฺโภ จิตฺตพนฺธนํ.
ตสฺส นามรูปสฺส อิเม นนฺทีราคาทโย ตณฺหาวิชฺชาทโยติ กตฺวา ปจฺจโย ธมฺมายตเนกเทโส. อริยมคฺคนิพฺพานตณฺหาวชฺโช อิธ ธมฺมายตเนกเทโสติ จ. โสฬสหากาเรหีติ ปีฬนาทีหิ โสฬสหิ อากาเรหิ. สติปฏฺานวิภงฺเค อาคตนเยน สฏฺินยสหสฺเสหิ. เทสนาปริโยสาเน…เป… ปติฏฺหึสูติ วิปฺจิตฺู เอเวตฺถ คหณวเสน อธิคตวิเสสา ปริจฺฉินฺทิตา. เต หิ ตทา ธมฺมปฏิคฺคาหกภาเวน สตฺถุ สนฺติเก สนฺนิสินฺนา. อุคฺฆฏิตฺูนํ ปน เนยฺยานฺจ วิเสสาธิคโม อฏฺกถายํ น รุฬฺโหติ อิธ น คหิโตติ.
อาสีวิโสปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รโถปมสุตฺตวณฺณนา
๒๓๙. สุสํวุตินฺทฺริยสฺส โภชเน มตฺตฺุโน สตสฺส สมฺปชานสฺส วิหรโต กิเลสนิมิตฺตํ ทุกฺขํ อนวสรนฺติ สุขโสมนสฺสพหุลตา วุตฺตา. ยวติ เตน ผลํ มิสฺสิตํ วิย โหตีติ โยนิ, เอกนฺติกํ การณํ. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. ปริปุณฺณนฺติ อวิกลํ. อนวเสสํ อาสเว เขเปตีติ อาสวกฺขโย, อคฺคมคฺโค. ยํ ยนฺติ ทนฺธํ มชฺฌํ ชโวติ ชวาทีสุ ยํ ยํ คมนํ. รกฺขณตฺถายาติ กิเลสโจเรหิ รกฺขณตฺถาย ¶ . เวคนิคฺคหณตฺถายาติ กิเลสเหตุกสฺส ¶ อินฺทฺริยเวคสฺส นิคฺคณฺหนตฺถาย. นิพฺพิเสวนตฺถายาติ วิเสวนสฺส วิปฺผนฺทิตสฺส นิโรธนาย. กิเลสูปสมตฺถายาติ กิเลสานํ อุปรูปริ สมนตฺถาย วูปสมนตฺถาย.
สมณรติ นาม สมถวิปสฺสนามคฺคผลสุขานิ. ทนฺตานมฺปิ สินฺธวานํ สารถิโน ปโยเคน สิยา กาจิ วิเสวนมตฺตาติ ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพิเสวเน กตฺวา เปเสนฺโต’’ติ วุตฺตํ. าณํ คจฺฉตีติ อสงฺคมนํ ปวตฺตติ ปเคว อินฺทฺริยภาวนาย กตตฺตา, กิเลสนิคฺคหสฺส สุเขเนว สิทฺธตฺตา. ทายกสฺส อชฺฌาสโย วโส อุฬาโร ลามโก. เทยฺยธมฺมสฺส ปมาณํ วโส อปฺปกํ พหุกฺจ.
มหามณฺฑปฏฺานํ นาม โลหปาสาทสฺส ปุรโต เอว มหาภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺนิปาตกาเล เตสํ ปโหนกวเสน มหามณฺฑปสฺส กตฺตพฺพฏฺานํ. คหณมานนฺติ ปริวิสคหณภาชนํ.
ปกติยา ภตฺตการกิจฺเจ อธิคโต อุปฏฺากุปาสโก. มุทุสมขรสฺิเตหิ, ทหนปจนภชฺชนสฺิเตหิ วา ตีหิ ปาเกหิ.
ปริโสเธตฺวาติ รฺโ อนุจฺฉวิกภาวํ ปริโสเธตฺวา. ภูมิยํ ฉฑฺเฑสิ ‘‘ภิกฺขูนํ อทตฺวา มยา มุเข ปกฺขิตฺต’’นฺติ. มุเขน คณฺหิ ตสฺส นิทฺโทสภาวํ ทสฺเสตุํ. มตฺตํ ชานาเปตุํ ปมชฺชิ. ‘‘ตฺวํ กุโต อาคโต’’ติ ปุจฺฉเน ปมาทํ อาปชฺชิ. อนุภาโคติ อวสิฏฺภาโค. อิทมตฺถิยนฺติ อิทํ ปโยชนํ. อิตรนฺติ ปาฬิยํ อนาคตมฺปิ อาหาเร ปมาณชานนํ.
สยนํ เสยฺยา, กามโภคีนํ เสยฺยา กามโภคิเสยฺยา. ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ ทกฺขิณหตฺเถน กาตพฺพกิจฺจกรณโต. เตชุสฺสทตฺตาติ อิทํ อนุตฺราสสฺเสว สีหสฺส สยนนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ, ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมึ าเน เปตฺวาติ หิ อิทํ ปาทานํ อวิกฺขิตฺตภาวกรณทสฺสนํ.
จตุตฺถชฺฌานเสยฺยาติ จตุตฺถชฺฌานิกํ ผลสมาปตฺตึ วทติ. เยภุยฺเยน หิ ตถาคตา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวาว สยนฺติ. สา จ เนสํ จตุตฺถชฺฌานโต วุฏฺาย, กิเลสปรินิพฺพานสฺส จ กตตฺตาติ วทนฺติ ¶ . อิธ สีหเสยฺยา อาคตา ปาทํ อจฺจาธาย ปุพฺเพนาปรํ อชหิตสํลกฺขณา เสยฺยาติ กตฺวา. เตนาห ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ. เอวนฺติ ‘‘ทกฺขิเณน ปสฺเสนา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรน เสยฺยํ กปฺเปติ.
กถํ ¶ นิทฺทายนฺโต สโต สมฺปชาโน โหติ? ภวงฺคจิตฺเตน หิ นิทฺทูปคมนนฺติ อธิปฺปาโย. อปฺปหาเนนาติ ตทธิมุตฺตตาย ตทปฺปหานํ ทฏฺพฺพํ. ตถา เตสุ นิทฺโทกฺกมนสฺส อาทิปริโยสาเนสุ อชหิตสติสมฺปชฺํ โหติ. เตนาห – ‘‘นิทฺทํ โอกฺกมนฺโตปิ สโต สมฺปชาโน โหตี’’ติ. เอตํ ปนาติ ‘‘นิทฺทํ โอกฺกมนฺโตปิ สโต สมฺปชาโน โหตี’’ติ วุตฺตนยํ วทติ. าณธาตุกนฺติ น โรจยึสูติ นิทฺโทกฺกมเนปิ ชาครเณ ปวตฺตาณสภาวเมวาติ น โรจยึสุ โปราณา. นิรนฺตรํ ภวงฺคจิตฺเตสุ วตฺตมาเนสุ สติสมฺปชฺาสมฺภโวติ อธิปฺปาโย. ปุริมสฺมิฺหิ นเย สติสมฺปชฺสฺส อสํวโร, น ภวงฺคสฺส. อินฺทฺริยสํวโร, โภชเน มตฺตฺุตา, ชาคริยานุโยโคติ อิเมหิ ติวงฺคิกา, นิมิตฺตานุพฺยฺชนปริวชฺชนาทิ สพฺพํ วิปสฺสนาปกฺขิกเมวาติ อธิปฺปาโย.
ตาเนวาติ วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตานิ อินฺทฺริยาทีนิ. ยาว อรหตฺตา เทสนา วิตฺถารโต กเถตพฺพา. ปาฬิยํ ปน ‘‘โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยายา’’ติ สงฺเขเปน กถิตา.
รโถปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. กุมฺโมปมสุตฺตวณฺณนา
๒๔๐. อฏฺิกุมฺโมติ ปิฏฺิยํ ติขิณฏฺิโก กุมฺโม. ตนฺติพนฺโธติ พฺยาวโฏ. สมุคฺเค วิย อตฺตโน กปาเล ปกฺขิปิตฺวา. สโมทหนฺโต สมฺมา โอทหนฺโต อชฺฌตฺตเมว ทหนฺโต. อารมฺมณกปาเลติ อารมฺมณกฏาเห. สโมทหนฺโตติ ทิฏฺมตฺตสฺเสว จ คหณโต มโนวิตกฺเก ตตฺเถว สมฺมเทว โอทหนฺโต. ตฺหิ วิสยวเสน ปวตฺติตุํ อเทนฺโต. ปฺจ ธมฺเมติ ‘‘กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๒) วุจฺจมาเน.
กุมฺโมปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมทารุกฺขนฺโธปมสุตฺตวณฺณนา
๒๔๑. วิลาสมาโน ¶ วิย สาครํ ปตฺวา. อนฺโตสาโขติ คงฺคาย ตีรสฺส อนฺโต โอนตสาโข. เตเมตีติ ตินฺโต โหติ. ติริยํ ปติโต ทณฺฑเสตุ วิย ิตตฺตา มหาชนสฺส ปจฺจโย ชาโต, ตถา มหนฺตภาเวน คงฺคาโสตํ โอตรณาทิ นตฺถิ.
อยํ ¶ หีติ อนนฺตรํ วุตฺตปุคฺคโล. อริยมคฺคํ โอรุยฺหาติ จตุพฺพิธํ อริยมคฺควีถึ โอตริตฺวา. ‘‘จิตฺตํ นาเมต’’นฺติอาทินา จินฺเตตฺวา คิหิพนฺธนํ น วิสฺสชฺเชตีติ สมฺพนฺโธ. อตฺตโน ภชมานเกติ อตฺตโน ภชนฺเต. ชีวิกตฺถาย ปยุชฺชิตพฺพโต ปโยโค, เขตฺตวตฺถาทิ. ตโต ปโยคโต อุฏฺิตํ อายํ. กิฺจาปิ ภิกฺขูนํ กายสามคฺคึ เทติ ภิกฺขตฺถาย.
มุณฺฑฆฏนฺติ ภินฺโนฏฺํ ฆฏํ. ขนฺเธติ อํเส. สงฺฆโภคนฺติ สงฺฆสนฺตกํ โภคคามํ คนฺตฺวา. อตฺถโต เอวํ วทนฺตีติ ตถา อตฺถสฺส สมฺภวโต เอวํ วทนฺตา วิย โหนฺติ. ยาคุมตฺตเก ยาคุนฺติ ยาคุํ ปิวิตฺวา ตาย อปริปกฺกาย เอว อฺํ ยาคุํ อชฺโฌหริตฺวาติ สมฺพนฺโธ.
กิเลสานุรฺชิโตวาติ โยนิโสมนสิการสฺส อภาเวน กิเลสานุคตจิตฺโต เอว. อกฺขีนิ นีหริตฺวาติ โกธวเสน อกฺขิเก กโรนฺโต อกฺขีนิ นีหริตฺวา วิจริสฺสติ. อุทฺธโต โหติ อวูปสนฺโต.
ทิฏฺิคติโกติ สาสนิโก เอวํ อโยนิโส อุมฺมุชฺชิตฺวา สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา ทีเปนฺโต อริฏฺสทิโส. เตนาห ‘‘โส หี’’ติอาทิ. อรูปภเว รูปํ อตฺถิ, อฺถา ตโต จุตสฺส กุโต รูปกฺขนฺธสฺส สมฺภโว. อสฺีภเว จิตฺตํ อตฺถีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. พหุจิตฺตกฺขณิโก โลกุตฺตรมคฺโค ‘‘โย อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวยฺย สตฺตวสฺสานี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๒.๔๐๔; ม. นิ. ๑.๑๓๗). อนุสโย จิตฺตวิปฺปยุตฺโต, อฺถา สาวชฺชานวชฺชธมฺมานํ เอกชฺฌํ อุปฺปตฺติ สิยา. เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ, อฺถา กมฺมผลานํ สมฺพนฺโธ น สิยาติ. อิติ วทนฺโต เอวํ มิจฺฉาวาทํ ปคฺคยฺห วทนฺโต.
เตมนรุกฺโข วิย…เป… ทุลฺลภธมฺมสฺสวโน จ ปุคฺคโล สทฺธาสิเนเหน อเตมนโต. กตวินโย สิกฺขิตวินโย ยถา ‘‘กตวิชฺโช’’ติ. ธมฺมกถิกานํ ¶ วิจาเรถาติ อิทํ เทยฺยธมฺมํ ธมฺมกถิกานํ อยฺยานํ ตสฺส ตสฺส ยุตฺตวเสน วิจาเรถาติ นิยฺยาตนวเสน วตฺวา. ทิวากถิโก สรภาณโก สายนฺเห กเถติ, ปุริมยามํ กเถนฺโต รตฺติกถิโก ภาณกปุคฺคโล.
นนฺทนวนาภิราเมติ นนฺทนวนํ วิย มโนรเม. อสฺส ภารหารภิกฺขูติ อสฺส กิจฺจวาหกภิกฺขู อุปชฺฌายาทโย. สุขนิสินฺนกถนฺติ ปฏิสนฺถารกถาปุพฺพกํ อุปนิสินฺนกถํ สุตฺวา.
ิตสณฺาเนเนว ¶ ิตากาเรเนว ิตํ, นปฺปยุตฺตนฺติ อตฺโถ. จิตฺตกมฺมมูลาทีนิ ิตสณฺาเนเนว ิตาติ โยชนา. มุทุตายาติ มุทุหทยตาย สาเปกฺขตาย.
ปฏิปทนฺติ สมถวิปสฺสนาปฏิปตฺตึ. ทีเปตฺวา ปกาเสตฺวา ปากฏํ กตฺวา. ตตฺรุปฺปาโทติ ตตฺร อุปฺปชฺชนกอายุปฺปาโท. เขตฺตํ สนฺธาย วทติ. เตล…เป… หตฺถาติ เตลฆฏ-มธุฆฏผาณิตฆฏาทิหตฺถา. อปกฺกมึสุ ทุพฺพิจาริตตฺตา. ปูเรสีติ เหฏฺา จ ตตฺถ ตตฺถ อตีตานิ กาลวจนานิ โปราณฏฺกถาย อาคตตฺตา กิร วุตฺตานิ.
อุปคมนานุปคมนาทีนิ โอริมสฺส ปาริมสฺส จ อุปคมนานุปคมนานิ เจว มชฺเฌ สํสีทนานิ จ. ปฏิวิชฺฌิตุนฺติ ชานิตุํ. เอตนฺติ ยถาวุตฺตํ จกฺขุสภาวํ. โทมนสฺสนฺติ ตสฺเสว มนฺทภาวปจฺจยํ โทมนสฺสํ. อาปชฺชนฺโตปิ อุปคจฺฉติ นาม ตนฺนิมิตฺตสํกิเลสสฺส อุปฺปาทิตตฺตา. ติณฺณํ ลกฺขณานนฺติ หุตฺวา อภาวโต อาทิอนฺตวนฺตโต ตาวกาลิกโต นิจฺจปฏิกฺเขปโตติอาทีนํ ติณฺณํ ลกฺขณานํ สลฺลกฺขณวเสน.
วามโตติ มิจฺฉา. ทกฺขิณโตติ สมฺมา. ยถา ตสฺส ตสฺส สตฺตสฺส โอรภาวตฺตา อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ โอริมํ ตีรํ กตฺวา วุตฺตานิ, เอวํ เนสํ ปรภาวตฺตา พาหิรานิ อายตนานิ ปาริมํ วุตฺตานิ. อปายมชฺเฌ สํสรณเหตุตาย นนฺทีราโคว ‘‘มชฺเฌ สํสาโท’’ติ วุตฺโต.
อุนฺนโตติ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา อุนฺนตึ อุปคโต. อตฺตุกฺกํสเน ปํสุกูลิกภาเวน อตฺตานํ ทหนโต อฺาการตาคเหตพฺโพ. ปาสาโณ นุ โข เอส ขาณุโกติ คเหตพฺพทารุกฺขนฺธสทิโส วุตฺโต.
จุณฺณวิจุณฺณํ ¶ โหติ อาวฏฺฏเวคสฺส พลวภาวโต. จตูสุ อปาเยสูติ ปฺจกามคุณาวฏฺเฏ ปติตปุคฺคโล มนุสฺสโลเกปิ คุณสรีรเภทเนน ทีฆรตฺตํ จุณฺณวิจุณฺณํ อาปชฺชติเยว, ตสฺส ตถา อาปนฺนตฺตา. เอวฺหิ โส อปาเยสุ ตาทิเสสุ ชายติ.
สีลสฺส ทุฏฺํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อภาวตฺโถ อิธ ทุ-สทฺโทติ อาห ‘‘นิสฺสีโล’’ติ. ‘‘ปาปํ ปาเปน สุกร’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๔๘) วิย ปาป-สทฺโท นิหีนปริยาโยติ อาห ‘‘ลามกธมฺโม’’ติ. น สุจีติ กายวาจาจิตฺเตหิ น สุจิ. สงฺกาย วาติ อตฺตโน วา สงฺกาย ¶ ปเรสํ สมาจารกิริยํ สรติ อาสงฺกติ. เตนาห ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ. ตานิ กมฺมานิ ปวิสตีติ ตานิ กมฺมานิ กโรนฺตานํ อนฺตเร ปวิสติ. คุณานํ ปูติภาเวนาติ คุณภาเวน คหิตานํ สีลธมฺมานํ สํกิลิฏฺภาวปฺปตฺติยา. กจวรชาโตติ อพฺภนฺตรํ สฺชาตกจวโร, กจวรภูโต วา.
อณณา ปพฺพชฺชาติ อณณสฺเสว ปพฺพชฺชา. โอริมตีราทีนํ อุปคมนานุปคมนาทีนํ โชติตตฺตา วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
ปมทารุกฺขนฺโธปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยทารุกฺขนฺโธปมสุตฺตวณฺณนา
๒๔๒. ยา อาปตฺติ วุฏฺานคามินี เทสนาคามินี, ตํ ปฏิจฺฉาทิตกาลโต ปฏฺาย สํกิลิฏฺา นาม อนฺตรายิกภาวโต. อาวีกตา ปน อนาปตฺติฏฺาเน ติฏฺตีติ อสํกิลิฏฺา นาม. เตนาห – ‘‘อาวีกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ. เอวรูปํ สํกิลิฏฺนฺติ ปฏิจฺฉาทิตตาย วา ทุฏฺุลฺลภาเวน วา สํกิลิฏฺํ.
ทุติยทารุกฺขนฺโธปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อวสฺสุตปริยายสุตฺตวณฺณนา
๒๔๓. สนฺถาคารนฺติ สฺาปนาคารํ. เตนาห ‘‘อุยฺโยคกาลาทีสู’’ติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน มงฺคลมหาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สนฺถรนฺตีติ วิสฺสมนฺติ ¶ , ปริสฺสมํ วิโนเทนฺตีติ อตฺโถ. สหาติ สนฺนิปาตวเสน เอกชฺฌํ. สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติ ตสฺมึ อตฺเถ ตฺถ-การสฺส นฺถ-การํ กตฺวา ‘‘สนฺถาคาร’’นฺติ วุจฺจตีติ ทฏฺพฺพํ, ปมํ ตตฺถ สมฺมนฺตนวเสน สนฺถรนฺติ วิจาเรนฺตีติ อตฺโถ.
เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อาคตเมว ภวิสฺสตีติ พุทฺธวจนสฺส อาคมนสีเสน อริยผลธมฺมานมฺปิ อาคมนํ วุตฺตเมว. ติยามรตฺตึ ตตฺถ วสนฺตานํ ผลสมาปตฺติวฬฺชนํ โหตีติ. ตสฺมิฺจ ภิกฺขุสงฺเฆ กลฺยาณธมฺมา กลฺยาณปุถุชฺชนา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺตา โหนฺตีติ อริยมคฺคธมฺมานมฺปิ ตตฺถ อาคมนํ โหติเยว.
อลฺลโคมเยนาติ ¶ อจฺเฉน อลฺลโคมยรเสน. โอปฺุชาเปตฺวาติ วิลิมฺเปตฺวา. จตุชฺชาติยคนฺเธหีติ กุงฺกุมตุรุกฺขยวนปุปฺผตมาลปตฺตคนฺเธหิ. นานาวณฺเณติ นีลาทิวเสน นานาวณฺเณ, ภิตฺติวิเสสวเสน นานาสณฺานรูเป. ‘‘มหาปิฏฺิกโกชเวติ หตฺถิปิฏฺิอาทีสุ อตฺถริตพฺพตาย ‘มหาปิฏฺิกา’ติ ลทฺธสมฺเ โกชเว’’ติ วทนฺติ. กุตฺตเก ปน สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, ‘‘จตุรงฺคุลาธิกปุปฺผา มหาปิฏฺิกโกชวา’’ติปิ วทนฺติ. หตฺถตฺถรอสฺสตฺถรา หตฺถิอสฺสปิฏฺีสุ อตฺถริตพฺพา หตฺถิอสฺสรูปวิจิตฺตา จ อตฺถรกา. สีหตฺถรกาทโย ปน สีหรูปาทิวิจิตฺตา เอว อตฺถรกา. จิตฺตตฺถรกํ นานาวิธรูเปหิ เจว นานาวิธมาลากมฺมาทีหิ จ วิจิตฺตํ อตฺถรกํ.
อุปธานนฺติ อปสฺสยนํ. อุปทหิตฺวาติ อปสฺสยโยคฺคภาเวน เปตฺวา. คนฺเธหิ กตมาลา คนฺธทามํ. ตมาลปตฺตาทีหิ กตมาลา ปตฺตทามํ. อาทิ-สทฺเทน หิงฺคุลตกฺโกลชาติผลชาติปุปฺผาทีหิ กตทามํ สงฺคณฺหาติ. ปลฺลงฺกากาเรน กตปีํ ปลฺลงฺกปีํ. ตีสุ ปสฺเสสุ เอกปสฺเส เอว วา สอุปสฺสยํ อปสฺสยปีํ. อนปสฺสยํ มุณฺฑปีํ. โยชนาวฏฺเฏติ โยชนปริกฺเขโปกาเส.
สํวิธายาติ อนฺตรวาสกสฺส โกณปเทสํ อิตรปเทสฺจ สมํ กตฺวา วิธาย. เตนาห – ‘‘กตฺตริยา ปทุมํ กนฺเตนฺโต วิยา’’ติ, ‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต’’ติ จ. ยสฺมา พุทฺธานํ รูปสมฺปทา วิย อากปฺปสมฺปทาปิ ปรมุกฺกํสตํ คตา, ตสฺมา ตทา ภควา เอวํ โสเภยฺยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุวณฺณปามงฺเคนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อสเมน พุทฺธเวเสนา’’ติอาทินา ¶ ตทา ภควา พุทฺธานุภาวสฺส นิคุหเน การณาภาวโต ตตฺถ สนฺนิปติตเทวมนุสฺสนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีนํ ปสาทชนนตฺถํ อตฺตโน สภาวปกติยาว กปิลวตฺถุํ ปาวิสีติ ทสฺเสติ. พุทฺธานํ กายปภา นาม ปกติยา อสีติหตฺถมตฺตปเทสํ วิสรตีติ อาห ‘‘อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสี’’ติ. นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺปภสฺสรานํ วเสน ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย.
สพฺพปาลิผุลฺโลติ มูลโต ปฏฺาย ยาว สาขคฺคา สมนฺตโต ผุลฺโล วิกสิโต. ปฏิปาฏิยา ปิตานนฺติอาทิ ปริกปฺปูปมา, ยถา ตํ…เป… อลงฺกตํ อฺํ วิโรจติ, เอวํ วิโรจิตฺถ, สมตึสาย ปารมิตาหิ อภิสงฺขตตฺตา เอวํ วิโรจิตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปฺจวีสติยา คงฺคานนฺติ สตมุขา หุตฺวา สมุทฺทํ ปวิฏฺาย มหาคงฺคาย มหนฺตมหนฺตานํ คงฺคานํ ปฺจวีสตี’’ติ วทนฺติ. ปปฺจสูทนิยํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒) ‘‘ปฺจวีสติยา นทีน’’นฺติ วุตฺตํ, คงฺคาทีนํ จนฺทภาคาปริโยสานานํ ปฺจวีสติยา มหานทีนนฺติ อตฺโถ. ปริกปฺปวจนฺเหตํ. สมฺภิชฺชาติ สมฺเภทํ มิสฺสีภาวํ ปตฺวา มุขทฺวาเรติ สมุทฺทํ ปวิฏฺฏฺาเน.
นาคสุปณฺณคนฺธพฺพยกฺขาทีนนฺติอาทิ ¶ ปริกปฺปวเสน วุตฺตํ. สหสฺเสนาติ ปทสหสฺเสน, ภาณวารปฺปมาเณน คนฺเถนาติ อตฺโถ.
กมฺปยนฺโต วสุนฺธรนฺติ อตฺตโน คุณวิเสเสหิ ปถวีกมฺมํ อุนฺนาเทนฺโต, เอวํภูโตปิ อเหยนฺโต ปาณานิ. สพฺพปทกฺขิณตฺตา พุทฺธานํ ทกฺขิณํ ปมํ ปาทํ อุทฺธรนฺโต. สมํ สมฺผุสเต ภูมึ สุปฺปติฏฺิตปาทตาย. ยทิปิ ภูมึ สมํ ผุสติ, รชสา นุปลิปฺปติ สุขุมตฺตา ฉวิยา. นินฺนฏฺานํ อุนฺนมตีติอาทิ พุทฺธานํ สุปฺปติฏฺิตปาทตาสงฺขาตมหาปุริสลกฺขณปฏิลาภสฺส นิสฺสนฺทผลํ. นาติทูเร อุทฺธรตีติ อติทูเร เปตุํ น อุทฺธรติ. นจฺจาสนฺเน จ นิกฺขิปนฺติ อจฺจาสนฺเน จ าเน อนิกฺขิปนฺโต นิยฺยาติ. หาสยนฺโต สเทวเก โลเก โตเสนฺโต. จตูหิ ปาเทหิ จรตีติ จตุจารี.
พุทฺธานุภาวสฺส ปกาสนวเสน คตตฺตา วณฺณกาโล นาม เอส. สรีรวณฺเณ วา คุณวณฺเณ วา กถิยมาเน ทุกฺกถิตนฺติ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อปฺปมาณวณฺณา หิ พุทฺธา ภควนฺโต, พุทฺธคุณสํวณฺณนา ชานนฺตสฺส ยถารทฺธสํวณฺณนํเยว ¶ อนุปวิสติ. ทุกูลจุมฺพฏเกนาติ คนฺถิตฺวา คหิตทุกูลวตฺเถน.
นาควิกฺกนฺตจารโณติ หตฺถินาคสทิสปทนิกฺเขโป. สตปฺุลกฺขโณติ อเนกสตปฺุาภินิพฺพตฺตมหาปุริสลกฺขโณ. มณิเวโรจโน ยถาติ จตุราสีติสหสฺสมณิปริวาริโต อติวิย วิโรจมาโน วิชฺโชตมาโน มณิ วิย. ‘‘เวโรจโน นาม เอโก มณี’’ติ เกจิ. มหาสาโลวาติ มหนฺโต สาลรุกฺโข วิย, สุทฺธฏฺิโต โกวิฬาราทิ มหารุกฺโข วิย วา. ปทุโม โกกนโท ยถาติ โกกนทสงฺขาตํ มหาปทุมํ วิย, วิกสมานปทุมํ วิย วา.
อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิยาติอาทิ ตสฺสา ปกิณฺณกกถาย อฺเสํ สุทุกฺกรภาวทสฺสนฺเจว สุณนฺตานํ อจฺจนฺตสุขาวหภาวทสฺสนฺจ. ปถโวชํ อากฑฺฒนฺโต วิยาติ นาฬิยนฺตํ โยเชตฺวา มหาปถวิยา เหฏฺิมตเล ปปฺปฏโกชํ อุทฺธํ มุขํ กตฺวา อากฑฺฒนฺโต วิย. โยชนิกนฺติ โยชนปมาณํ. มธุภณฺฑนฺติ มธุปฏลํ.
มหนฺตนฺติ วิปุลํ อุฬารปฺุํ. สพฺพทานํ ทินฺนเมว โหตีติ สพฺพเมว ปจฺจยชาตํ อาวาสทายเกน ทินฺนเมว โหติ. ตถา หิ ทฺเว ตโย คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา กิฺจิ อลทฺธา อาคตสฺสปิ ¶ ฉายูทกสมฺปนฺนํ อารามํ ปวิสิตฺวา นฺหายิตฺวา ปฏิสฺสเย มุหุตฺตํ นิปชฺชิตฺวา อุฏฺาย นิสินฺนสฺส กาเย พลํ อาหริตฺวา ปกฺขิตฺตํ วิย โหติ. พหิ วิจรนฺตสฺส จ กาเย วณฺณธาตุ วาตาตเปหิ กิลมติ, ปฏิสฺสยํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย มุหุตฺตํ นิสินฺนสฺส วิสภาคสนฺตติ วูปสมฺมติ, สภาคสนฺตติ ปติฏฺาติ, วณฺณธาตุ อาหริตฺวา ปกฺขิตฺตา วิย โหติ, พหิ วิจรนฺตสฺส จ ปาเท กณฺฏกา วิชฺฌนฺติ, ขาณุ ปหรติ, สรีสปาทิปริสฺสยา เจว โจรภยฺจ อุปฺปชฺชติ, ปฏิสฺสยํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิสินฺนสฺส ปน สพฺเพเปเต ปริสฺสยา น โหนฺติ. สชฺฌายนฺตสฺส ธมฺมปีติสุขํ, กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตสฺส อุปสมสุขํ อุปฺปชฺชติ พหิทฺธา วิกฺเขปาภาวโต. พหิ วิจรนฺตสฺส จ กาเย เสทา มุจฺจนฺติ, อกฺขีนิ ผนฺทนฺติ, เสนาสนํ ปวิสนกฺขเณ มฺจปีาทีนิ น ปฺายนฺติ, มุหุตฺตํ นิสินฺนสฺส ปน อกฺขิปสาโท อาหริตฺวา ปกฺขิตฺโต วิย โหติ, ทฺวารวาตปานมฺจปีาทีนิ ปฺายนฺติ. เอตสฺมิฺจ อาวาเส วสนฺตํ ทิสฺวา มนุสฺสา จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อาวาสทานสฺมิฺหิ ทินฺเน สพฺพทานํ ทินฺนเมว โหตี’’ติ. ภูมฏฺก…เป… น ¶ สกฺกาติ อยมตฺโถ มหาสุทสฺสนวตฺถุนา (ที. นิ. ๒.๒๔๑ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. มาตุกุจฺฉิ อสมฺพาโธว โหตีติ อยมตฺโถ อนฺติมภวิกานํ มหาโพธิสตฺตานํ ปฏิสนฺธิวเสน ทีเปตพฺโพ.
สีตนฺติ อชฺฌตฺตํ ธาตุกฺโขภวเสน วา พหิทฺธา อุตุวิปริณามวเสน วา อุปฺปชฺชนกสีตํ. อุณฺหนฺติ อคฺคิสนฺตาปํ, ตสฺส จ ทวทาหาทีสุ สมฺภโว ทฏฺพฺโพ. ปฏิหนฺตีติ ปฏิหนติ. ยถา ตทุภยวเสน กายจิตฺตานํ อาพาโธ น หนติ, เอวํ กโรติ. สีตุณฺหพฺภาหเต หิ สรีเร วิกฺขิตฺตจิตฺโต ภิกฺขุ โยนิโส ปทหิตุํ น สกฺโกติ. วาฬมิคานีติ สีหพฺยคฺฆาทิวาฬมิเค. คุตฺตเสนาสนฺหิ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิสินฺนสฺส เต ปริสฺสยา น โหนฺติ. สรีสเปติ เย เกจิ สรนฺตา คจฺฉนฺเต ทีฆชาติเก สปฺปาทิเก อฺเ จ ตถารูเป. มกเสติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, ฑํสาทีนํ เอเตเนว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สิสิเรติ สีตกาลวเสน สตฺตาหวทฺทลิกาทิวเสน จ อุปฺปนฺเน สิสิรสมฺผสฺเส. วุฏฺิโยติ ยทา ตทา อุปฺปนฺนา วสฺสวุฏฺิโย ปฏิหนตีติ โยชนา.
วาตาตโป โฆโรติ รุกฺขคจฺฉาทีนํ อุพฺพหนภฺชนาทิวเสน ปวตฺติยา โฆโร สรชอรชาทิเภโท วาโต เจว คิมฺหปริฬาหสมเยสุ อุปฺปตฺติยา โฆโร สูริยาตโป จ. ปฏิหฺตีติ ปฏิพาหียติ. เลณตฺถนฺติ นานารมฺมณโต จิตฺตํ นิวตฺติตฺวา ปฏิสลฺลาณารามตฺถํ. สุขตฺถนฺติ วุตฺตปริสฺสยาภาเวน ผาสุวิหารตฺถํ. ฌายิตุนฺติ อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ ยตฺถ กตฺถจิ ¶ จิตฺตํ อุปนิพนฺธิตฺวา สมาทหนวเสน ฌายิตุํ. วิปสฺสิตุนฺติ อนิจฺจาทิวเสน สงฺขาเร สมฺมสิตุํ.
วิหาเรติ ปฏิสฺสเย. การเยติ การาเปยฺย. รมฺเมติ มโนรเม. วาสเยตฺถ พหุสฺสุเตติ กาเรตฺวา ปน เอตฺถ วิหาเรสุ พหุสฺสุเต สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม นิวาเสยฺย. เต นิวาเสนฺโต ปน เตสํ พหุสฺสุตานํ ยถา ปจฺจเยหิ กิลมโถ น โหติ. เอวํ อนฺนฺจ ปานฺจ วตฺถเสนาสนานิ จ ทเทยฺย อุชุภูเตสุ อชฺฌาสยสมฺปนฺเนสุ กมฺมผลานํ รตนตฺตยคุณานฺจ สทฺทหเนน วิปฺปสนฺเนน เจตสา. อิทานิ คหฏฺปพฺพชิตานํ อฺมฺูปการตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เต ตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ เตติ พหุสฺสุตา. ตสฺสาติ อุปาสกสฺส. ธมฺมํ เทเสนฺตีติ สกลวฏฺฏทุกฺขปนูทนํ ¶ นิยฺยานิกํ ธมฺมํ กเถนฺติ. ยํ โส ธมฺมํ อิธฺายาติ โส ปุคฺคโล ยํ สทฺธมฺมํ อิมสฺมึ สาสเน สมฺมาปฏิปชฺชเนน ชานิตฺวา อคฺคมคฺคาธิคเมน อนาสโว หุตฺวา ปรินิพฺพายติ.
อาวาเสติ อาวาสทาเน. อานิสํโสติ อุทฺรโย. ปูชาสกฺการวเสน ปมยาโม เขปิโต, สตฺถุ ธมฺมเทสนาย อปฺปาวเสโส มชฺฌิมยาโม คโตติ ปาฬิยํ ‘‘พหุเทว รตฺติ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อติเรกตรํ ทิยฑฺฒยาม’’นฺติ. สงฺคหํ นาโรหติ วิปุลวิตฺถารภาวโต. พุทฺธานฺหิ ภตฺตานุโมทนาปิ โถกํ วฑฺเฒตฺวา วุจฺจมานา ทีฆมชฺฌิมปมาณาปิ โหติ. ตถา หิ สุผุสิตํ ทนฺตาวรณํ, ชิวฺหา ตนุกา, ภวงฺคปริวาโส ปริตฺโต, นตฺถิ เวคายิตํ, นตฺถิ วิตฺถายิตํ, นตฺถิ อพฺยาวฏมโน, สพฺพฺุตฺาณํ สมุปพฺยูฬฺหํ, อปริกฺขยา ปฏิสมฺภิทา.
สนฺทสฺเสตฺวาติอาทีสุ สนฺทสฺเสตฺวา อาวาสทานปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ กตฺวา. ตโต ปรํ, มหาราช, อิติปิ สีลํ, อิติปิ สมาธิ, อิติปิ ปฺาติ สีลาทิคุเณ เตสํ สมฺมา ทสฺเสตฺวา หตฺเถน คเหตฺวา วิย ปจฺจกฺขโต ปกาเสตฺวา. สมาทเปตฺวาติ เอวํ สีลํ สมาทาตพฺพํ, สีเล ปติฏฺิเตน เอวํ สมาธิปฺา ภาเวตพฺพาติ ยถา เต สีลาทิคุเณ สมฺมา อาทิยนฺติ, ตถา คณฺหาเปตฺวา. สมุตฺเตเชตฺวาติ ยถาสมาทินฺนํ สีลํ สุวิสุทฺธํ โหติ, สมถวิปสฺสนา จ ภาวิยมานา ยถา สุฏฺุ วิโสธิตา อุปรูปริ วิเสสาวหา โหนฺติ, เอวํ สมุตฺเตเชตฺวา นิสามนวเสน โวทาเปตฺวา. สมฺปหํเสตฺวาติ ยถานุสิฏฺํ ิตสีลาทิคุเณหิ สมฺปติ ปฏิลทฺธคุณานิสํเสหิ เจว อุปริลทฺธพฺพผลวิเสเสหิ จ จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา ลทฺธสฺสาสวเสน สุฏฺุ โตเสตฺวา. เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สกฺยราชาโน เยภุยฺเยน ภควโต ธมฺมเทสนาย สาสเน ลทฺธสฺสาทา ลทฺธปฺปติฏฺา จ.
อุปสคฺคสทฺทานํ ¶ อเนกตฺถตฺตา อภิ-สทฺโท อติ-สทฺเทน สมานตฺโถปิ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา’’ติ.
ตตฺร กิราติอาทิ เกจิวาโทติ พทฺโธปิ น โหติ. เตนาห ‘‘อการณเมต’’นฺติอาทิ. กายจิตฺตลหุตาทโย อุปฺปชฺชนฺตีติ อิทํ กายิกเจตสิกอฺถาภาวสฺส การณวจนํ, ลหุตาทิอุปฺปนฺเน สวนานุตฺตริยปฏิลาเภน ลทฺธพฺพธมฺมตฺถเวทสมธิคมโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ยถา ¶ , ยถาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา วา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโก สพฺรหฺมจารี, ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺช’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๓.๓๒๒, ๓๕๕; อ. นิ. ๕.๒๖).
ปิฏฺิวาโต อุปฺปชฺชิ อุปาทินฺนสรีรสฺส ตถารูปตฺตา สงฺขารานฺจ อนิจฺจตาย ทุกฺขานุพนฺธตฺตา. อการณํ วา เอตนฺติ เยนาธิปฺปาเยน วุตฺตํ, ตเมว อธิปฺปายํ วิวริตุํ ‘‘ปโหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิตุํ ปโหติ ยถา ตํ เวลุวคามเก. เอตฺตเก าเนติ เอตฺตเก าเน านํ นิปฺผนฺนนฺติ โยชนา. ตฺจ โขติ วุฏฺานสฺํ จิตฺเต ปนํ. ธมฺมกถํ สุณมาโน ธมฺมคารเวน.
อวสฺสุตสฺสาติ อวสฺสุตภาวสฺส ราคาทิวเสน. อวสฺสุตสฺส การณนฺติ ตินฺตภาวการณํ. กิเลสาธิมุจฺจเนนาติ กิเลสวเสน ปริปฺผนฺทิตวเสน. นิพฺพาปนํ วิยาติ วูปสโม วิย. นิพฺพิเสวนานนฺติ ปริปฺผนฺทนรหิตานํ.
อวสฺสุตปริยายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทุกฺขธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๒๔๔. ทุกฺขธมฺมานนฺติ ทุกฺขการณานํ. เตนาห ‘‘ทุกฺขสมฺภวธมฺมาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ กึ ทุกฺขํ, กา ทุกฺขธมฺมาติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจสุ หี’’ติ วุตฺตํ. เตติ ปฺจกฺขนฺธา. ทุกฺขสมฺภวธมฺมตฺตาติ ทุกฺขุปฺปตฺติการณตฺตา. อสฺสาติ เตน. กรเณ เหตํ สามิวจนํ. กาเมติ วตฺถุกาเม กิเลสกาเม จ. ปุน อสฺสาติ สามิอตฺเถ เอว สามิวจนํ. จารนฺติ จิตฺตาจารํ. วิหารนฺติ ปฺจทฺวารปฺปวตฺติจารวิหารํ. ‘‘เอกฏฺา’’ติ จ วทนฺติ. เตเนว หิ ‘‘อนุพนฺธิตฺวา จรนฺตํ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อนุพนฺธิตฺวาติ จ วีถิจิตฺตปฺปวตฺติโต ปฏฺาย ยาว ตติยชวนวารา อนุ ¶ อนุ พนฺธิตฺวา. ปกฺขนฺทนาทีติ อาทิ-สทฺเทน กสิโครกฺขาทิวเสนปิ กามานํ ปริเยสนทุกฺขํ สงฺคณฺหาติ.
ทายตีติ ¶ ทาโย, วนํ. เตนาห ‘‘อฏวิ’’นฺติ. กณฺฏกคพฺภนฺติ โอวรกสทิสํ วนํ. นามปทํ นาม กิริยาปทาเปกฺขนฺติ ‘‘วิชฺฌี’’ติ วจนเสเสน กิริยาปทํ คณฺหาติ.
ทนฺธายิตตฺตํ อุปฺปนฺนกิเลสานํ อวฏฺานํ. เตนาห ‘‘อุปฺปนฺนมตฺตายา’’ติอาทิ. ตายาติ สติยา. กาจิ กิเลสาติ จุทฺทสวิเธ จิตฺตสฺส กิจฺเจ ชวนกิจฺเจ เอว จิตฺตกิเลสานํ อุปฺปตฺตึ กตฺวา ตถา วุตฺตํ. นิคฺคหิตาว โหนฺติ ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน. เตนาห ‘‘น สณฺาตุํ สกฺโกนฺตี’’ติ. จกฺขุทฺวารสฺมินฺติ ปาฬิยํ ตสฺส ปมํ คหิตตาย วุตฺตํ, เตน นเยน เสสทฺวารานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ. ราคาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ปมชวนวาเร. สติสมฺโมเสน ‘‘กิเลสา เม อุปฺปนฺนา’’ติ ตฺวา ตถา ปจฺจามาสสติยา ลพฺภนโต. เตนาห – ‘‘อนจฺฉริยํ เจต’’นฺติ. อาวฏฺเฏตฺวาติ อโยนิโส อาวฏฺเฏตฺวา. อาวชฺชนาทีสูติ ตโต เอว อโยนิโส อาวชฺชนาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ อิฏฺารมฺมณสฺส ลทฺธตฺตา ปจฺจยสิทฺธิยา สมฺปตฺตํ ปวตฺตนารหํ. นิวตฺเตตฺวาติ ทุติยชวนวาเรปิ กิเลสุปฺปตฺตึ นิวตฺเตตฺวา. กถํ ปนสฺส เอวํ ลทฺธุํ สกฺกาติ อาห ‘‘อารทฺธวิปสฺสกานํ หี’’ติอาทิ. ภาวนาปฏิสงฺขาเนติ ภาวนายํ ปฏิสงฺขาเน จ โยคิโน ปติฏฺิตภาโว. ตสฺส อยมานิสํโส – ยํ ปจฺจยลาเภน อุปฺปชฺชิตุํ ลทฺโธกาสาปิ กิเลสา ปุพฺเพ ปวตฺตภาวนานุภาเวน วิกฺขมฺภิตา ตถา ตถา นิคฺคหิตา เอว หุตฺวา นิวตฺตนฺติ, กุสลา ธมฺมาว ลทฺโธกาสา อุปรูปริ วฑฺฒนฺติ.
อภิหฏฺุนฺติ อภิหริตฺวา. อนุทหนฺตีติ อนุทหนฺตา วิย โหนฺติ. อนุเสนฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อนาวฏฺฏนฺเตติ อนิวตฺตนฺเต สามฺโตติ อธิปฺปาโย. วิปสฺสนาพลเมว ทีปิตํ มคฺคผลาธิคมสฺส อโชติตตฺตา.
ทุกฺขธมฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. กึสุโกปมสุตฺตวณฺณนา
๒๔๕. จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน วิวิธทสฺสนนฺติ กิจฺจวเสน นานาทสฺสนํ โหตีติ วุตฺตํ, ‘‘ทสฺสนนฺติ ปมมคฺคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ ¶ . ตยิทํ อุปริมคฺเคสุ ภาวนาปริยายสฺส นิรุฬฺหตฺตา ปมมคฺคสฺส ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต. เตนาห ‘‘ปมมคฺโค หี’’ติอาทิ ¶ . โกจิ ยถาวุตฺตํ อวิปรีตํ อตฺถํ อชานนฺโต าณทสฺสนํ นาม อารมฺมณกรณสฺส วเสน อติปฺปสงฺคํ อาสงฺเกยฺยาติ ตํ นิวตฺเตตุํ ‘‘โคตฺรภู ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ทสฺสนนฺติ วุจฺจตีติ เอตฺถ ราชทสฺสนํ อุทาหรนฺติ. จตฺตาโรปิ มคฺคา ทสฺสนเมว ยถาวุตฺเตนตฺเถน, ภาวนาปริยาโย ปน อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ ปมมคฺคอุปายสฺส ภาวนากาเรน ปวตฺตนโต. ทสฺสนํ วิสุทฺธิ เอตฺถาติ ทสฺสนวิสุทฺธิกํ, นิพฺพานํ. ผสฺสายตนํ กมฺมฏฺานํ อสฺส อตฺถีติ ผสฺสายตนกมฺมฏฺานิโก. เอส นโย เสเสสุปิ ปเทสุ.
ปเทสสงฺขาเรสูติ สงฺขาเรกเทเสสุ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ปถวิอาทิเก ธมฺมมตฺเต ทิฏฺเ รูปปริคฺคโห, จกฺขุวิฺาณาทิเก ตํสหคตธมฺมมตฺเต ทิฏฺเ อรูปปริคฺคโห จ สิชฺฌตีติ วทนฺติ.
อธิคตมคฺคเมว กเถสีติ เยน มุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ อกาสิ, ตเมวสฺส มุขํ กเถสิ. อยํ ปนาติ กมฺมฏฺานํ ปุจฺฉนฺโต ภิกฺขุ. อิเมสนฺติ ผสฺสายตนกมฺมฏฺานิกปฺจกฺขนฺธกมฺมฏฺานิกานํ วจนํ. ‘‘อฺมฺํ น สเมตี’’ติ วตฺวา ตเมวตฺถํ ปากฏํ กโรติ ‘‘ปเมนา’’ติอาทินา. ปฺจกฺขนฺธวิมุตฺตสฺส สงฺขารสฺส อภาวา ‘‘นิปฺปเทเสสู’’ติ วุตฺตํ. ตเถวาติ ยเถว ผสฺสายตนกมฺมฏฺานิกํ, ตเถว ตํ ปฺจกฺขนฺธกมฺมฏฺานิกํ ปุจฺฉิตฺวา.
สมปฺปวตฺตา ธาตุโยติ รสาทโย สรีรธาตุโย สมปฺปวตฺตา, น วิสมาการสณฺิตา อเหสุํ. เตนาห ‘‘กลฺลสรีรํ พลปฺปตฺต’’นฺติ. ‘‘อตีตา สงฺขารา’’ติอาทิ วิปสฺสนาภินิเวสวเสน วุตฺตํ. สมฺมสนํ สพฺพตฺถกเมว อิจฺฉิตพฺพํ. จาริภูมินฺติ โคจรฏฺานํ.
การกภาวนฺติ ภาวนานุยฺุชนภาวํ. ปณฺฑุโรคปุริโสติ ปณฺฑุโรคี ปุริโส. อริฏฺนฺติ สุตฺตํ. เภสชฺชํ กตฺวาติ เภสชฺชปโยคํ กตฺวา. กริสฺสามีติ เภสชฺชํ กริสฺสามิ. ฌามถุโณ วิยาติ ทฑฺฒถุโณ วิย ขารกชาลนทฺธตฺตา ตรุณมกุลสนฺตานสฺฉนฺนตฺตา.
ทกฺขิณทฺวารคาเมติ ทกฺขิณทฺวารสมีเป คาเม. โลหิตโกติ โลหิตวณฺโณ. โอจิรกชาโตติ ชาตโอลมฺพมานจิรโก วิย. อาทินฺนสิปาฏิโกติ ¶ คหิตผลโปตโก. สนฺทจฺฉาโยติ พหลจฺฉาโย. ยสฺมา ตสฺส รุกฺขสฺส สาขา อวิรฬา ฆนปฺปตฺตา อฺมฺํ สํสนฺทิตฺวา ิตา, ตสฺมา ฉายาปิสฺส ตาทิสีติ วุตฺตํ ‘‘สนฺทจฺฉาโย นาม สํสนฺทิตฺวา ิตจฺฉาโย’’ติ, ฆนจฺฉาโยติ อตฺโถ. ตตฺถาติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ.
เยน ¶ เยนากาเรน อธิมุตฺตานนฺติ ฉผสฺสายตนาทิมุเขน เยน เยน วิปสฺสนาภินิเวเสน วิปสฺสนฺตานํ นิพฺพานฺจ อธิมุตฺตานํ. สุฏฺุ วิสุทฺธํ ปริฺาติสมยาทิสิทฺธิยา. เตน เตเนวากาเรนาติ อตฺตนาธิมุตฺตากาเรน. อิทานิ ตํ ตํ อาการํ อุปมาย สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
อิทนฺติ นคโรปมํ. ตํ สลฺลกฺขิตนฺติ กึสุโกปมทีปิตํ อตฺถชาตํ สเจ สลฺลกฺขิตํ. อสฺส ภิกฺขุโน. ธมฺมเทสนตฺถนฺติ ยถาสลฺลกฺขิตสฺส อตฺถสฺส วเสน ลทฺธวิเสสสฺส อุปพฺรูหนาย. ตสฺเสวตฺถสฺสาติ ตสฺส ทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส. โจราสงฺกา น โหนฺติ มชฺฌิมเทสรชฺชสฺส ปสนฺนภาวโต. ติปุริสุพฺเพธานีติ อุพฺเพเธน ติปุริสปฺปมาณานิ นานาภิตฺติวิจิตฺตานิ ถมฺภานํ อุปริ วิวิธมาลากมฺมาทิวิจิตฺตธนุราการลกฺขิตานิ มโนรมานิ. เตนาห ‘‘นครสฺส อลงฺการตฺถ’’นฺติ. นครทฺวารสฺส ถิรภาวาปาทนวเสน เปตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘โจรนิวารณตฺถานิปิ โหนฺติเยวา’’ติ. ปิฏฺสงฺฆาตสฺสาติ ทฺวารพาหสฺส. ‘‘อิเม อาวาสิกา, อิเม อาคนฺตุกา, ตตฺถาปิ จ อิเมหิ นครสฺส นครสามิกสฺส จ อตฺโถ. อิเมสํ วเสน อนตฺโถ สิยา’’ติ ชานนาณสงฺขาเตน ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. อฺาตนิวารเณ ปฏุภาวสงฺขาเตน เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต. านุปฺปตฺติกปฺาสงฺขาตายาติ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺถกิจฺเจ ตงฺขณุปฺปชฺชนกปฏิภานสงฺขาตาย.
รฺา อายุตฺโต นิโยชิโต ราชายุตฺโต, ตตฺถ ตตฺถ รฺโ กาตพฺพกิจฺเจ ปิตปุริโส. กติปาเหเยวาติ กติปยทิวเสเยว อกิจฺจกรเณน ตสฺส านํ วิพฺภโม ชาโตติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘สพฺพานิ วินิจฺฉยฏฺานาทีนิ หาเรตฺวา’’ติ.
สีสมสฺส ฉินฺทาหีติ สีสภูตํ อุตฺตมงฺคฏฺานิยํ ตตฺถ ตสฺส ราชกิจฺจํ ฉินฺทาติ อตฺโถ. อฺถา ตสฺส ปากติเก อตฺเถ คยฺหมาเน ปาณาติปาโต ¶ อาณตฺโต นาม สิยา. น หิ จกฺกวตฺติราชา ตาทิสํ อาณาเปติ, อฺเสมฺปิ ตโต นิวารกตฺตา. อถ วา ฉินฺทาหีติ มม อาณาย อสฺส สีสํ ฉินฺทนฺโต วิย อตฺตานํ ทสฺเสหิ, เอวํ โส ตตฺโถวาทปฏิกรตฺตปตฺโต โอทเมยฺยาติ, ตถา เจว อุปริ ปฏิปตฺติ อาคตา. ตตฺถาติ เอตสฺมึ ปจฺจนฺติมนคเร.
อุปฺปนฺเนนาติ สมถกมฺมฏฺาเน อุปฺปนฺเนน.
ตสฺเสวาติ สกฺกายสงฺขาตสฺส นครสฺส ‘‘ทฺวารานี’’ติ วุตฺตานีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ‘‘สีฆํ ¶ ทูตยุค’’นฺติ วุตฺตาติ โยชนา. หทยวตฺถุรูปสฺส มชฺเฌ สิงฺฆาฏกภาเวน คหิตตฺตา ‘‘หทยวตฺถุสฺส นิสฺสยภูตานํ มหาภูตาน’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ วตฺถุรูปเมว คเหตพฺพํ, ตเทเวตฺถ อคฺคเหตฺวา กสฺมา มหาภูตคฺคหณนฺติ อาห ‘‘วตฺถุรูปสฺส หี’’ติอาทิ. ยาทิโสติ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ วเสน ยาทิโส เอว ปุพฺเพ อาคตวิปสฺสนามคฺโค. ‘‘อยมฺปิ อฏฺงฺคสมนฺนาคตตฺตา ตาทิโส เอวา’’ติ วตฺวา อริยมคฺโค ‘‘ยถาคตมคฺโค’’ติ วุตฺโต. อิทํ ตาเวตฺถาติ เอตฺถ เอตสฺมึ สุตฺเต ธมฺมเทสนตฺถํ อาภตาย ยถาวุตฺตอุปมาย อิทํ สํสนฺทนํ.
อิทํ สํสนฺทนนฺติ อิทานิ วกฺขมานํ อุปมาย สํสนฺทนํ. นครสามิอุปมา ปฺจกฺขนฺธวเสน ทสฺสนวิสุทฺธิปตฺตํ ขีณาสวํ ทสฺเสตุํ อาภตา. สิงฺฆาฏกูปมา จตุมหาภูตวเสน ทสฺสนวิสุทฺธิปตฺตํ ขีณาสวํ ทสฺเสตุํ อาภตาติ โยชนา. ‘‘จตุสจฺจเมว กถิต’’นฺติ วตฺวา ตานิ สจฺจานิ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สกเลนปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิธ นครสมฺภาโร ฉทฺวาราทโย. เตน หิ ฉผสฺสายตนาทโย อุปมิตา. เต ปน ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนาติ วุตฺตํ ‘‘นครสมฺภาเรน ทุกฺขสจฺจเมว กถิต’’นฺติ.
กึสุโกปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วีโณปมสุตฺตวณฺณนา
๒๔๖. ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วาติ กามํ ปาฬิยํ ปริสาทฺวยเมว คหิตํ, เสสปริสานํ ปน ตทฺเสมฺปิ เทวมนุสฺสานนฺติ สพฺพสาธารโณวายํ ธมฺมสงฺคโหติ อิมมตฺถํ อุปมาปุพฺพกํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ ¶ อารทฺธํ. ยชนฺโตติ ททนฺโต. วินฺทิตพฺโพติ ลทฺธพฺโพ, อธิคนฺตพฺโพติ อตฺโถ.
ฉนฺโทติ ตณฺหาฉนฺโท. เตนาห – ‘‘ทุพฺพลตณฺหา โส รฺเชตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ปุพฺพุปฺปตฺติกา เอกสฺมึ อารมฺมเณ ปมํ อุปฺปนฺนา. สา หิ อนาเสวนตฺตา มนฺทา. โสติ ฉนฺโท. รฺเชตุํ น สกฺโกติ ลทฺธาเสวนตฺตา. โทโส นาม จิตฺตทูสนตฺตา. ตานีติ ทณฺฑาทานาทีนิ. ตมฺมูลกาติ โลภมูลกา ตาว มายาสาเยฺยมานาติมานทิฏฺิจาปลาทโย, โทสมูลกา อุปนาหมกฺขปลาสอิสฺสามจฺฉริยถมฺภสารมฺภาทโย, โมหมูลกา อหิริก-อโนตฺตปฺป-ถินมิทฺธวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจ-วิปรีตมนสิการาทโย, สํกิเลสธมฺมา คหิตาว โหนฺติ ตํมูลกตฺตา. ยสฺมา ปน สพฺเพปิ สํกิเลสธมฺมา ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนา เอว, ตสฺมา เตสมฺเปตฺถ คหิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉนฺโท ราโคติ วา’’ติ วุตฺตํ.
ภายิตพฺพฏฺเน ¶ สภโย. เภรวฏฺเน สปฺปฏิภโย. กุสลปกฺขสฺส วิกฺขมฺภนฏฺเน สกณฺฏโก. กุสลอนวชฺชธมฺเมหิ ทุรวคาหฏฺเน สคหโน. ภวสมฺปตฺติภวนิพฺพานานํ อปฺปทานภาวโต อุมฺมคฺโค. ทุคฺคติคามิมคฺคตฺตา กุมฺมคฺโค. อิริยนาติ วตฺตนา ปฏิปชฺชนา. ทุคฺคติคามิตาย กิเลโส เอว กิเลสมคฺโค. น สกฺกา สมฺปตฺติภวํ คนฺตุํ กุโต นิพฺพานคมนนฺติ อธิปฺปาโย.
อสุภาวชฺชนาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน อนิจฺจมนสิการาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. จิตฺตํ นิวตฺตติ สราคจิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ ปฏิปกฺขมนสิกาเรน วิโนทิตตฺตา. มชฺฌตฺตารมฺมเณติ อฺาณุเปกฺขฏฺานิเย อารมฺมเณ. อุทฺเทส…เป… อาวชฺชนฺตสฺสาติ อุทฺทิสาปนวเสน อุทฺเทสํ, ปริปุจฺฉาปนวเสน ปริปุจฺฉํ, ครูนํ สนฺติเก วสนวเสน ครุวาสํ อาวชฺชนฺตสฺส. จิตฺตนฺติ คมฺภีราณจริย-ปจฺจเวกฺขณ-ปฺวนฺต-ปุคฺคลเสวนวเสน ตทธิมุตฺติสิทฺธิยา อฺาณจิตฺตํ นิวตฺตติ.
ยถา ‘‘ปุชฺชภวผลํ ปฺุ’’นฺติ วุตฺตํ ‘‘เอวมิทํ ปฺุํ ปวฑฺฒตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๘๐), เอวํ กิฏฺสมฺภวตฺตา ‘‘กิฏฺ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กิฏฺนฺติ กิฏฺฏฺาเน อุปฺปนฺนสสฺส’’นฺติ.
ฆฏาติ ¶ สิงฺคยุคํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ทฺวินฺนํ สิงฺคานํ อนฺตเร’’ติ. ฆฏาติ โคณาทีนํ สิงฺคนฺตรฏฺสฺส สมฺาติ วทนฺติ. นาสารชฺชุเกติ นาสารชฺชุปาตฏฺาเน.
ทเมติ ปุถุตฺตารมฺมณโต นิวาเรติ. นนฺติ จิตฺตํ. ยํ สุตฺตํ สุภาสิตํ มยา. ตทสฺสาติ ตทา อสฺส ภิกฺขุโน. อารมฺมเณติ กมฺมฏฺานารมฺมเณ.
สุทุชิตนฺติ นิพฺพิเสวนภาวกรเณน ชิตํ. สุตชฺชิตนฺติ สุฏฺุ ทูรกรเณน ชิตํ, ตถาภูตฺจ ตชฺชิตํ นาม โหตีติ ตถา วุตฺตํ. โคจรชฺฌตฺตนฺติ อชฺฌตฺตภูโต โคจโร. กมฺมฏฺานารมฺมณฺหิ พหิทฺธารูปาทิอารมฺมณวิธุรตาย อชฺฌตฺตนฺติ วุจฺจติ. สมโถ อนุรกฺขณํ เอตสฺสาติ สมถานุรกฺขณํ. ยถา อินฺทฺริยสํวรสีลํ สมถานุรกฺขณํ โหติ, ตถา กถิตนฺติ อตฺโถ. ยถา หิ อินฺทฺริยสํวรสีลํ สมถสฺส ปจฺจโย, เอวํ สมโถปิ ตสฺส ปจฺจโยติ.
วาทิยมานาย วีณาย. จิตฺตํ รฺเชตีติ รชฺชเนน. อวิสฺสชฺชนียตาย จิตฺตํ พนฺธตีติ ¶ พนฺธนีโย. เวฏฺเกติ ตนฺตีนํ อาสชฺชนเวฏฺเก. โกณนฺติ กวณโต วีณาย สทฺทกรณโต โกณนฺติ ลทฺธนามํ ทารุทณฺฑํ สิงฺคาทีสุ เยน เกนจิ กตํ ฆฏิกํ. เตนาห ‘‘จตุรสฺสํ สารทณฺฑก’’นฺติ.
ยสฺมา โส ราชา ราชมหามตฺโต วา สทฺทํ ยถาสภาวโต น อฺาสิ, ตสฺมึ ตสฺส อชานนาการเมว ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺทํ ปสฺสิสฺสามี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อสตี กิรายนฺติ ปาฬิยํ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ ยถาลิงฺคเมว วทนฺโต ‘‘อสา’’ติ อาห. ‘‘อสตีติ ลามกาธิวจน’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ ปโยคํ ทสฺเสตุํ ‘‘อสา โลกิตฺถิโย นามา’’ติ วุตฺตํ, โลเก อิตฺถิโย นาม อสติโยติ อตฺโถ, ตตฺถ การณมาห ‘‘เวลา ตาสํ น วิชฺชตี’’ติ. ปกติยา โลเก เชฏฺภาตา กนิฏฺภาตา มาตุโลติอาทิกา เวลา มริยาทา ตาสํ น วิชฺชติ. กสฺมา? สารตฺตา จ ปคพฺพา จ สพฺเพสมฺปิ สมฺโภควเสน วินิโยคํ คจฺฉนฺติ. กถํ? สิขี สพฺพฆโส ยถา. เตเนวาห –
‘‘สพฺพา ¶ นที วงฺกคตี, สพฺเพ กฏฺมยา วนา;
สพฺพิตฺถิโย กเร ปาปํ, ลภมาเน นิวาตเก’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๓๐๘);
อฺมฺปิ ตนฺติพทฺธํ จตุรสฺสอมฺพณวาทิตาทีนิ. วีณา วิย ปฺจกฺขนฺธา อเนกธมฺมสมูหภาวโต. ราชา วิย โยคาวจโร ตปฺปฏิพทฺธธมฺมคเวสกตฺตา. อสฺสาติ โยคาวจรสฺส.
นิรยาทิโต อฺสฺมิมฺปิ คติ-สทฺโท วตฺตติ. ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘คติคตี’’ติ วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขทุกฺขํ, รูปรูป’’นฺติ จ ยถา, คติสฺิตํ ปวตฺติฏฺานนฺติ อตฺโถ. เตนาห – ‘‘เอตฺถนฺตเร สํสรติ วตฺตตี’’ติ. สฺชายนปเทโส เอว คตีติ สฺชาติคติ.
ตํ ปน คตึ สตฺตานํ สํเวควตฺถุภูตสฺส ปจฺจกฺขสฺส คพฺภาสยสฺส วเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อยมสฺส กาโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. รูปธมฺมสฺส สลกฺขณํ คติ นิฏฺา, ตโต ปรํ อฺํ กิฺจิ นตฺถีติ สลกฺขณคติ. อภาโว อจฺจนฺตาภาโว. สนฺตานวิจฺเฉโท วิภวคติ ตํนิฏฺานภาวา. เภโทติ ขณนิโรโธ, อิธาปิ ตํนิฏฺานตาเยว ปริยาโย. ยาว ภวคฺคาติ ยาว สพฺพภวคฺคา. สลกฺขณวิภวคติเภทคติโย ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินาว ปกาสิตาติ น คหิตา. ตสฺส ขีณาสวสฺส น โหติ อคฺคมคฺเคน สมุจฺฉินฺนตฺตา.
สีลํ ¶ กถิตํ รูปาทีสุ ฉนฺทาทินิวารณสฺส กถิตตฺตา. มชฺเฌ สมาธิภาวนา กถิตา ‘‘อชฺฌตฺตเมว สนฺติฏฺติ…เป… สมาธิยตี’’ติ โชติตตฺตา. ปริโยสาเน จ นิพฺพานํ กถิตํ ‘‘ยมฺปิสฺส…เป… น โหตี’’ติ วจนโต.
วีโณปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ฉปฺปาณโกปมสุตฺตวณฺณนา
๒๔๗. วณสรีโรติ วณิตสรีโร. ปกฺกตฺตาติ กุถิตตฺตา. สรทณฺเฑสุ สรสมฺาติ กณฺฑ-สทฺโท สรปริยาโยติ อาห – ‘‘สรวนนฺติ กณฺฑวน’’นฺติ. อรุคตฺโต…เป… เวทิตพฺโพ คุณสรีรสฺส ขณฺฑฉิทฺทสีลาทีหิ เหฏฺา มชฺเฌ อุปริภาเค จ เภทวิสมจฺฉินฺนวิการโทสตฺตา. เอตฺถ ¶ กุสา ‘‘กณฺฏกา’’ติ อธิปฺเปตา กณฺฏกสทิสตฺตา, กุสติณานํ เอว วา วุตฺตาการปเทโส ‘‘กุสกณฺฏโก’’ติ วุตฺโต.
คามวาสีนํ วิชฺฌนฏฺเนาติ นารโหว หุตฺวา เตสํ การานํ ปฏิคฺคหณวเสน ปีฬนฏฺเน.
ปกฺขินฺติ หตฺถิลิงฺคสกุณํ. ตสฺส กิร หตฺถิโสณฺฑสทิสํ มุขํ, ตสฺมา ‘‘หตฺถิโสณฺฑสกุณ’’นฺติ วุตฺตํ. วิสฺสชฺเชยฺยาติ รชฺชุยา ยถาพทฺธํ เอว วิสฺสชฺเชยฺย.
โภเคหีติ อตฺตโน สรีรโภเคหิ. มณฺฑลํ พนฺธิตฺวาติ ยถา สรีรํ มณฺฑลากาเรน ติฏฺติ, เอวํ กตฺวา. สุปิสฺสามีติ นิทฺทํ โอกฺกมิสฺสามิ. เฑตุกาโมติ อุปฺปติตุกาโม. ทิสา ทิสนฺติ ทิสโต ทิสํ.
ฉ ปาณกา วิย ฉ อายตนานิ นานชฺฌาสยตฺตา, นานชฺฌาสยตา จ เนสํ นานาวิสยนินฺนตาย ทฏฺพฺพา. ทฬฺหรชฺชุ วิย ตณฺหา เตสํ พนฺธนโต. มชฺเฌ คณฺิ วิย อวิชฺชา พนฺธนสฺส ทุพฺพินิมฺโมจนเหตุโต. อารมฺมณํ พลวํ โหติ มนฺุภาเวน เจว ตตฺถ ตณฺหาภินิเวสสฺส ทฬฺหภาเวน จ.
สริกฺขเกน วา อุปมาย อาหรณปกฺเข. อปฺปนาติ สํสนฺทนา. ปาฬิยํเยว อปฺปิตา อุปมา ‘‘เอวเมว โข’’ติอาทินา. รูปจิตฺตาทิวิสมนินฺนตฺตา จกฺขุสฺส วิสมชฺฌาสยตา. เอส นโย เสเสสุปิ.
กณฺณจฺฉิทฺทกูปเกติ ¶ กณฺณจฺฉิทฺทสฺิเต อาวาเฏ. ตสฺสาติ โสตสฺส. ปจฺจโย โหตีติ อุปนิสฺสโย โหติ เตน วินา สทฺทคฺคหณสฺส อภาวโต. ‘‘อชฏากาโสปิ วฏฺฏติ เอวา’’ติ วตฺวา ตสฺส ปจฺจยภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนฺโตเลณสฺมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ธาตุปรมฺปรา ฆฏฺเฏนฺโตติ ภูตปรมฺปราสงฺฆฏฺเฏนฺโต.
เอวํ สนฺเตติ เอวํ ภูตปรมฺปราวเสน สทฺเท โสตปถมาคจฺฉนฺเต. สมฺปตฺตโคจรตา โหติ โสตสฺส. ฆานาทีนํ วิย ‘‘ทูเร สทฺโท’’ติ ชานนํ น สมฺภเวยฺย สมฺปตฺตคาหิภาวโต. ตถา ตถา ชานนากาโร โหติ มโนวิฺาณสฺส คหณาการวิเสสโต. โสตวิฺาณปฺปวตฺติ ปน อุภยตฺถ สมานาว. ทูเร ิโตปิ สทฺโท ตาทิเส าเน ¶ ปฏิโฆสาทีนํ ปจฺจโย โหติ อโยกนฺโต วิย อโยจลนสฺสาติ ทฏฺพฺพํ. ธมฺมตาติ ธมฺมสภาโว, สทฺทสฺส โส สภาโวติ อตฺโถ. ตโต ตโต สวนํ โหติ อากาสสฺิตสฺส อุปนิสฺสยสฺส ลพฺภนโต. ยทิ ปน โสตํ สมฺปตฺตคาหี สิยา, จิตฺตสมุฏฺานสทฺโท โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจโย น สิยา. ปฏฺาเน จ อวิเสเสน ‘‘สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺโต, พหิทฺธา จ จิตฺตชสฺส สทฺทสฺส สมฺภโว นตฺถิ. อถ วา จิตฺตโช สทฺโท ธาตุปรมฺปราย โสตปสาทํ ฆฏฺเฏติ, น โส จิตฺตโช สทฺโท, โย ปรมฺปราย ปวตฺโต. อุตุโช หิ โส, ตสฺมา ยถุปฺปนฺโน สทฺโท, ตตฺถ ิโตว โสตปสาทสฺส อาปาถํ อาคจฺฉตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อสมฺปตฺตโคจรเมเวต’’นฺติ.
ตทา เอกคฺคจิตฺตตํ อาปชฺชติ ปริสฺสยานํ อภาวโต. นาสจฺฉิทฺทสงฺขาตอากาสสนฺนิสฺสเย วตฺตนโต ฆานํ อากาสชฺฌาสยํ วุตฺตํ. วาเตน วินา คนฺธคหณสฺส อสมฺภวโต วาตูปนิสฺสยคนฺธโคจรํ. เตนาห ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ.
คามโต ลทฺธพฺพํ อาหารํ คามํ, ตนฺนินฺนตาย คามชฺฌาสยตา วุตฺตา. ตถา หิ ชีวิตนิมิตฺตํ รโส ชีวิตํ, ตสฺมึ นินฺนตาย ตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา. น สกฺกา เขเฬน อเตมิตสฺส รสํ ชานิตุํ, ตสฺมา อาโปสนฺนิสฺสิตรสารมฺมณา ชิวฺหาติ.
อามกสุสานโต พหิ. อุปาทิณฺณกชฺฌาสโยติ อุปาทิณฺณกนินฺโน. กายปสาทสนฺนิสฺสยภูตาย ปถวิยา โผฏฺพฺพารมฺมเณ ฆฏิเต เอว ตตฺถ วิฺาณุปฺปตฺติ, น อฺถาติ วุตฺตํ ‘‘ปถวีสนฺนิสฺสิตโผฏฺพฺพารมฺมโณ’’ติ. ตถา หีติอาทิ กายสฺส อุปาทิณฺณกชฺฌาสยตาย สาธกํ ¶ . อชฺฌตฺติกพาหิราติ อชฺฌตฺติกา พาหิรา วา. อสฺสาติ กายสฺส. สุสนฺถตสฺสาติอาทิ ตสฺส ปถวิยา ปจฺจยภาวทสฺสนํ.
นานชฺฌาสโยติ นานารมฺมณนินฺโน. เตน มนสฺส มกฺกฏสฺส วิย อนวฏฺิตตํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ทิฏฺปุพฺเพปี’’ติอาทิ. มูลภวงฺคคฺคหเณน ปิฏฺิภวงฺคํ นิวตฺเตติ. อสฺสาติ มนสฺส. เอวํ กิริยมยํ วิฺาณํ ทฏฺพฺพํ. นานตฺตนฺติ เภโท.
ยถารุจิปฺปวตฺติยา ¶ นิวารณวเสน พทฺธานํ. นิพฺพิเสวนภาวนฺติ โลลตาสงฺขาตปริปฺผนฺทสฺส อภาวํ. นากฑฺฒตีติ สวิสเย รูปารมฺมเณ จิตฺตสนฺตานํ, ตํสมงฺคินํ วา ปุคฺคลํ นากฑฺฒติ. ปุพฺพภาควิปสฺสนาว กถิตา อายตนมุเขน ‘‘เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา.
ฉปฺปาณโกปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ยวกลาปิสุตฺตวณฺณนา
๒๔๘. ยวปฺุโช สุปริปกฺกยวสมุทาโย. กาชหตฺถาติ ทณฺฑหตฺถา. โปเถยฺยุนฺติ ยถา ยวสงฺขาตํ ธฺํ วณฺฏโต มุจฺจติ, เอวํ โปเถยฺยุํ. ยเว สาเวตฺวาติ ยวสีสโต ยเว โปถเนน โมเจตฺวา วิเวเจตฺวา.
จตุมหาปโถ วิย ฉ อายตนานิ อารมฺมณทณฺฑเกหิ หนนฏฺานตฺตา. ยวกลาปี วิย สตฺโต เตหิ หฺมานตฺตา. ฉ พฺยาภงฺคิโย วิย สภาวโต ฉธาปิ ปจฺเจกํ อิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺตวเสน อฏฺารส อารมฺมณานิ ยวกลาปฏฺานิยสฺส สตฺตสฺส หนนโต. ภวปตฺถนาย อปราปรุปฺปตฺตึ สนฺธาย ‘‘ภวปตฺถนา กิเลสา’’ติ พหุวจนนิทฺเทโส. ภวปตฺถนา จ ตสฺส ปจฺจยภูตา กิเลสา จาติ ภวปตฺถนากิเลสาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา สตฺตานํ วฏฺฏทุกฺขํ นาม สพฺพมฺปิ ตํ ภวปตฺถนามูลกํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เอวํ สตฺตา’’ติอาทิ. ภวปตฺถนกิเลสาติ จ ภวปตฺถนามูลกํ กิเลสํ.
ภุมฺมนฺติ สมีปตฺเถ ภุมฺมํ. เตนาห ‘‘สุธมฺมาย ทฺวาเร’’ติ. น กตนฺติ ทุกฺขุปฺปาทนํ น กตํ. นวคูถสูกรํ วิยาติ นวคูถภกฺขสูกรํ วิย. จิตฺเตเนวาติ โย พชฺฌติ, ตสฺส จิตฺเตเนว ¶ . ตสฺมาติ ยสฺมา เวปจิตฺติพนฺธนสฺส พนฺธนมุจฺจนํ วิย, ตสฺมา ‘‘เวปจิตฺติพนฺธน’’นฺติ วุตฺตํ. าณโมกฺขํ พนฺธนนฺติ าเณน มุจฺจนํ พนฺธนํ.
มฺมาโนติ ปริกปฺปิตตณฺหาวเสน ‘‘เอตํ มมา’’ติ, ทิฏฺิวเสน ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ, มานวเสน ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ มฺนฺโต. ขนฺธวินิมุตฺตสฺส มฺมานวตฺถุโน อภาวา ‘‘ขนฺเธ มฺนฺโต’’ติ วุตฺตํ. เอตนฺติ ‘‘มารสฺสา’’ติ ¶ เอตํ สามิวจนํ. กิเลสมาเรน พทฺโธติ กิเลสมาเรน เตเนว กิเลสพนฺธเนน พทฺโธ. มุตฺโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
ตณฺหามฺนาย สติ ทิฏฺิมานมฺนานํ ปสงฺโค เอว นตฺถีติ ยถา ‘‘อสฺมี’’ติ ปเทน ทิฏฺิมานมฺนา วุตฺตา โหนฺติ, เอวํ ตณฺหามฺิตาปีติ วุตฺตํ ‘‘อสฺมีติ ปเทน ตณฺหามฺิตํ วุตฺต’’นฺติ. อยมหมสฺมีติ ปเทน ทิฏฺิมฺิตนฺติ เอตรหิ ลพฺภมานทิฏฺิวตฺถุวเสเนว. ภวิสฺสนฺติ อนาคตทิฏฺิวตฺถุปริกปฺปนวเสเนว ทิฏฺิมฺิตํ. เยภุยฺเยน หิ อนาคตาลิงฺคนา สสฺสตทิฏฺิ. อุจฺเฉทวเสน ทิฏฺิมฺิตเมวาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. รูปีติอาทีนิ ปทานิ. สสฺสตสฺเสวาติ สสฺสตคาหสฺเสว ปเภททีปนานิ. ยสฺมา มฺิตํ อาพาธวเสน โรโค, อนฺโตโทสวเสน คณฺโฑ, องฺคนิกนฺตวเสน สลฺลํ, ตสฺมา อิเมหิ ตณฺหาทีหิ กิเลเสหิ ปากฏจลนวเสน อิฺชนฺติ เจว, อปากฏสฺจลนวเสน ผนฺทนฺติ จ. ปปฺจิตํ สํสาเร จิรายนํ ทฏฺพฺพํ, ขนฺธสนฺตานสฺส วา วิตฺถารณํ. ปมตฺตาการปฺปตฺตา มุจฺฉนาการปฺปตฺตา. เตสนฺติ ตณฺหาทิฏฺิกิเลสานํ. อาการทสฺสนตฺถนฺติ ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ.
มาโน นาม ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา มชฺชนาการปฺปวตฺติ. ตณฺหาย สมฺปยุตฺตมานวเสนาติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ สพฺโพ มาโน ตณฺหาสมฺปยุตฺโต? สติ หิ พฺยภิจาเร วิเสสนํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ. สจฺจเมตํ, ตณฺหา ปน อตฺถิ มานสฺส ปจฺจยภูตา, อตฺถิ มานสฺส อปฺปจฺจยภูตา, ยโต มาโน อนิยโต วุจฺจติ. ตถา หิ ปฏฺาเน ‘‘สํโยชนํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ สํโยชโน ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา’’ติ เอตฺถ สํโยชนานิ สํโยชเนหิ ยถาลาภํ โยเชตฺวา ทสฺสิตโยชนาย ‘‘กามราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ มานสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ วตฺวา ‘‘กามราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ, ‘‘มานสํโยชนํ ปฏิจฺจ ภวราคสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ จ วตฺวา ‘‘ภวราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ กามราคภวราคสํโยชเนหิ มานสฺส อนิยตภาโว ปกาสิโต. ตตฺถ ยา ตณฺหา พลวตี, ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาย สมฺปยุตฺตมานวเสนา’’ติ. พลวตณฺหาสมฺปยุตฺโต หิ มาโน สยมฺปิ พลวา หุตฺวา อสฺมีติ สวิเสสํ มชฺชนวเสน ปวตฺตตีติ.
ทิฏฺิวเสนาติ ¶ ¶ มานมูลกทิฏฺิวเสน. ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา หิ พหุลมานุเปตสฺส ปุคฺคลสฺส รูปาทีสุ เอกํ อุทฺทิสฺส อยมหมสฺมีติ ทิฏฺิยา อุปฺปนฺนาย มานสฺส อปฺปหีนตฺตา มาโนปิ ตตฺถ ตตฺเถว อุปฺปชฺชติ. อิติ มานมูลกํ ทิฏฺึ สนฺธายาห ‘‘อยมหมสฺมีติ ทิฏฺิวเสน วุตฺต’’นฺติ. โจทโก ปน อิมมตฺถํ อชานนฺโต อนุปลพฺภมานเมว สมฺปโยคตฺถํ คเหตฺวา ‘‘นนุ จา’’ติอาทินา โจเทติ. อิตโร ‘‘อาม นตฺถี’’ติ ตมตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘มานสฺส ปนา’’ติอาทินา ปริหารมาห. ตสฺสตฺโถ วุตฺโต เอว.
ยวกลาปิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาสีวิสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺโถ ปณฺณาสโก.
สฬายตนสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เวทนาสํยุตฺตํ
๑. สคาถาวคฺโค
๑. สมาธิสุตฺตวณฺณนา
๒๔๙. เวทนา ¶ ¶ จ ปชานาตีติ สจฺจาภิสมฺโพธวเสน วุจฺจมานเวทนานํ ปชานนํ สาติสยสมาธานปุพฺพกนฺติ ภควตา ‘‘สมาหิโต’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุปจาเรน วา อปฺปนาย วา สมาหิโต’’ติ. เวทนาติ ติสฺโสปิ เวทนา. ทุกฺขสจฺจวเสนาติ ทุกฺขสจฺจภาเวน, ปริชานนวเสนาติ อตฺโถ. สมฺภวนฺติ สมุทยํ ตณฺหาวิชฺชากมฺมผสฺสาทิปฺปเภทํ อุปฺปตฺติการณํ. เตนาห ‘‘สมุทยสจฺจวเสน ปชานาตี’’ติ. ยตฺถาติ ยํนิมิตฺตํ, ยํ อาคมฺม กามตณฺหาวิชฺชาทินิโรธา เวทนานิโรโธ, เตสํ อยํ นิโรโธ. นิพฺพานํ อารพฺภ อริยมคฺคปฺปวตฺติยา หิ นิพฺพานํ เวทนานิโรโธติ วุตฺโต. ขยํ คเมตีติ ขยคามี, ตํ ขยคามินํ. ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา กามานํ ปาตุกามตาวเสน ปวตฺตนโต, อจฺจนฺตเมว สมุจฺฉินฺนตฺตา นตฺถิ เอตสฺมึ ฉาตนฺติ นิจฺฉาโต. เตนาห ‘‘นิตฺตณฺโห’’ติ. สมฺมสนจารเวทนาติ สมฺมสนูปจารเวทนา. ทฺวีหิ ปเทหีติ ‘‘สมาหิโต สมฺปชาโน’’ติ อิเมหิ ทฺวีหิ. ‘‘สโต’’ติ ปน อิทํ สมฺปชานปทสฺเสว อุปพฺรูหนนฺติ อธิปฺปาโย. เสเสหิ จตูหิ จตุสจฺจํ กถิตํ, อิตเรหิ ปน ทฺวีหิ จตุสจฺจพุชฺฌนเมว กถิตํ. สพฺพสงฺคาหิโกติ สพฺพสภาวธมฺมานํ สงฺคณฺหนโก. เตนาห ‘‘จตุภูมกธมฺมปริจฺเฉโท วุตฺโต’’ติ.
สมาธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สุขสุตฺตวณฺณนา
๒๕๐. ทุกฺขํ น โหตีติ อทุกฺขํ, สุขํ น โหตีติ อสุขํ, ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. อทุกฺขมสุขนฺติ เวทยิตสทฺทาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. สปรสนฺตานคเต สนฺธาย อชฺฌตฺตพหิทฺธาคหณนฺติ อาห ‘‘อตฺตโน จ ปรสฺส จา’’ติ. เตน สพฺพมฺปิ เวทยิตํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ ¶ . นสฺสนสภาวนฺติ อิตฺตรขณตาย ¶ ภงฺคโต อุทฺธํ อปสฺสิตพฺพสภาวํ. ปโลโก เภโท เอตสฺส อตฺถีติ ปโลกินํ. เตนาห ‘‘ภิชฺชนสภาว’’นฺติ. าเณน ผุสิตฺวา ผุสิตฺวาติ ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาาเณน อนิจฺจา ปภงฺคุโนติ อารมฺมณโต, อุตฺตรกาลํ อสมฺโมหโต มคฺคปรมฺปราย ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา วยํ ปสฺสนฺโต. วิรชฺชตีติ มคฺควิราเคน วิรชฺชติ. สมฺมสนจารเวทนา กถิตา อารทฺธวิปสฺสกานํ วเสน เทสนาติ. โลกิยโลกุตฺตเรหิ าเณหิ ยาถาวโต ปริชานนํ ปฏิวิชฺฌนํ าณผุสนํ.
สุขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปหานสุตฺตวณฺณนา
๒๕๑. สพฺพมฺปิ อฏฺสตปเภทํ ตณฺหํ ฉินฺทิ สมุจฺเฉทปหานวเสน ปชหิ. เตนาห ‘‘สมุจฺฉินฺที’’ติ. ยทคฺเคน ตณฺหา สพฺพโส สมุจฺฉินฺนา, ตทคฺเคน สพฺพานิปิ สฺโชนานีติ อาห ‘‘ทสวิธมฺปี’’ติอาทิ. สมฺมาติ สุฏฺุ. ปหานฺจ นาม อุปาเยน าเยน ปหานนฺติ อาห ‘‘เหตุนา การเณนา’’ติ. ทสฺสนาภิสมยาติ อสมฺโมหปฏิเวธา. อรหตฺตมคฺโค หิ อุปฺปชฺชมาโนว สภาวปฏิจฺฉาทกํ โมหํ วิทฺธํเสนฺโต เอว ปวตฺตติ, เตน มาโน ยาถาวโต ทิฏฺโ นาม โหติ, อยมสฺส ทสฺสนาภิสมโย. ยถา หิ สูริเย อุฏฺิเต อนฺธกาโร วิทฺธํสิยมาโน วิหโต, เอวํ อรหตฺตมคฺเค อุปฺปชฺชมาเน โส สพฺพโส ปหีโน เอว โหติ, น ตสฺมึ สนฺตาเน ปติฏฺํ ลภติ, อยมสฺส ปหานาภิสมโย. เตน วุตฺตํ ‘‘อรหตฺตมคฺโค หี’’ติอาทิ. กิจฺจวเสนาติ อสมฺโมหปฏิเวธสงฺขาตสฺส ทสฺสนกิจฺจสฺส อนิปฺผาทนวเสน.
เย อิเม จตฺตาโร อนฺตาติ สมฺพนฺโธ. มริยาทนฺโตติ มริยาทสงฺขาโต อนฺโต. เอส นโย เสสตฺตเยปิ. เตสูติ จตูสุ อนฺเตสุ. อทุํ จตุตฺถโกฏิสงฺขาตํ สพฺพสฺเสว วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ ปริจฺเฉทํ อรหตฺตมคฺเคน มานสฺส ทิฏฺตฺตา ปหีนตฺตา จ อกาสีติ โยชนา. สมุสฺสโย อตฺตภาโว.
น ริฺจตีติ น วิเวเจติ น วิสฺสชฺเชติ. เตนาห ‘‘สมฺปชฺํ น ชหตี’’ติ, สมฺปชฺํ น ปริจฺจชตีติ อตฺโถ. สงฺขฺยํ โนเปตีติ อิมสฺส ‘‘ทิฏฺธมฺเม อนาสโว’’ติ ¶ อิมสฺส วเสน อตฺถํ วทนฺโต ‘‘รตฺโต ทุฏฺโ’’ติ อโวจ สอุปาทิเสสนิพฺพานวเสน. สงฺขฺยํ โนเปตีติ วา ทิฏฺเ-ธมฺเม อนาสโว ธมฺมฏฺโ เวทคู กายสฺส เภทา มนุสฺโส เทโวติ วา ปฺตฺตึ น อุเปตีติ อนุปาทิเสสนิพฺพานวเสนปิ อตฺโถ วตฺตพฺโพ. เอตฺถ จ สุขาทีสุ เวทนาสุ ยถากฺกมํ ¶ ราคานุสยาทโย กถิตาติ อาห – ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต อารมฺมณานุสโย กถิโต’’ติ. โย หิ ราคาทิ ปจฺจยสมวาเย อติอิฏฺาทีสุ อุปฺปชฺชนารโห มคฺเคน อปฺปหีโน, โส ‘‘ราคานุสโย’’ติอาทินา วุตฺโต, อปฺปหีนตฺโถ โส มคฺเคน ปหาตพฺโพ, น ปริยุฏฺานาภิภวตฺโถติ.
ปหานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปาตาลสุตฺตวณฺณนา
๒๕๒. ยตฺถ ปติฏฺา นตฺถิ เอกนฺติกาติ เอกนฺติกสฺส มหโต ปาตสฺส อลนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘นตฺถิ เอตฺถ ปติฏฺา’’ติ. อสมฺภูตตฺถนฺติ น สมฺภูตตฺถํ, มุสาติ อตฺโถ. โสติ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน. ยํ ตํ อุทกํ ปตตีติ โยชนา. ยสฺมา สมุทฺทปิฏฺเ อนฺตรนฺตรา เวรมฺภวาตสทิโส มหาวาโต อุฏฺหิตฺวา มหาสมุทฺเท อุทกํ อุคฺคจฺฉาเปติ, ตํ กทาจิ จกฺกวาฬาภิมุขํ, กทาจิ สิเนรุปาทาภิมุขํ คนฺตฺวา ตํ ปติหนติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘พลวามุขํ มหาสมุทฺทสฺสา’’ติอาทิ. เวเคน ปกฺขนฺทิตฺวาติ มหตา วาตเวเคน สมุทฺธตํ เตเนว เวเคน ปกฺขนฺทนฺตฺจ หุตฺวา. มหานรกปปาโต วิยาติ โยชนายามวิตฺถารคมฺภีรโสพฺภปปาโต วิย โหติ. ตถารูปานนฺติ ตตฺถ วสิตุํ สมตฺถานํ. อสนฺตนฺติ อภูตํ. อตฺถวเสน หิ วาจา อภูตํ นาม.
น ปติฏฺาสีติ ปติฏฺํ น ลภิ. อนิพทฺธนฺติ อนิพนฺธนตฺถํ ยํกิฺจิ. ทุพฺพลาโณติ าณพลรหิโต. ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ วตฺวา ‘‘สุตวา อริยสาวโก’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โสตาปนฺโน ธุร’’นฺติ วุตฺตํ. อิตเรสุ อริยสาวเกสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เตสฺหิ เวทนา สุปริฺาตา. พลววิปสฺสโก…เป… โยคาวจโรปิ วฏฺฏติ มตฺตโส เวทนานํ ปริฺาตตฺตา.
ปาตาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทฏฺพฺพสุตฺตวณฺณนา
๒๕๓. วิปริณามนวเสน ¶ ทุกฺขโต ทฏฺพฺพาติ กิฺจาปิ สุขา, ปริณามทุกฺขตา ปน สุขเวทนาย เอกนฺติกาติ. วินิวิชฺฌนฏฺเนาติ ปีฬนวเสน อตฺตภาวสฺส วิชฺฌนฏฺเน. หุตฺวาติ ปจฺจยสมาคเมน อุปฺปชฺชิตฺวา. เตน ปากภาวปุพฺพโก อตฺตลาโภ วุตฺโต. อภาวากาเรนาติ ภงฺคุปคมนากาเรน. เตน วิทฺธํสภาโว วุตฺโต. อุภเยน อุทยพฺพยปริจฺฉินฺนตาย สิขปฺปตฺตํ อนิจฺจตํ ¶ ทสฺเสติ. สฺวายํ หุตฺวา อภาวากาโร อิตราสุปิ เวทนาสุ ลพฺภเตว, อธิโก จ ปน ทฺวินฺนํ ทุกฺขสภาโว. ทุกฺขตาวเสน ปุริมานํ เวทนานํ ทฏฺพฺพตาย ทสฺสิตตฺตา ปจฺฉิมาย เวทนาย เอวํ ทฏฺพฺพตา ทสฺสิตา. อทฺทาติ าณคติยา สจฺฉิกตฺวา อทกฺขิ. าณคมนฺเหตํ, ยทิทํ ทุกฺขโต ทสฺสนํ. สนฺตสภาวํ สุขทุกฺขโต อุปสนฺตรูปตฺตา.
ทฏฺพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สลฺลสุตฺตวณฺณนา
๒๕๔. ทฺวีสุ ชเนสูติ สุตวนฺตอสฺสุตวนฺเตสุ ทฺวีสุ ชเนสุ. อนุคตเวธนฺติ ปุพฺเพ ปวตฺตเวธสฺส อนุคตเวธํ. พลวตรา ทิคุณา วิย หุตฺวา ทฬฺหตรปวตฺติยา. เอวเมวาติ ยถา วิทฺธสฺส ปุริสสฺส อนุเวธนา พลวตรา, เอวเมว. สมาธิมคฺคผลานิ นิสฺสรณํ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน. สมาธิสีเสน เหตฺถ ฌานฺจ คหิตํ. โส น ชานาติ อนธิคตตฺตา. นิสฺสรณนฺติ ชานาติ อนิสฺสรณเมว. ตาสํ สมธิคตานํ สุขทุกฺขเวทนานํ. น วิปฺปยุตฺโต อปฺปหีนกิเลสตฺตา. สงฺขาตธมฺมสฺสาติ สงฺขาย ปฺาย ปริฺาตจตุกฺขนฺธสฺส. เตนาห ‘‘ตุลิตธมฺมสฺสา’’ติ. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต ปุริมสุตฺเต วิย อารมฺมณานุสโยว กถิโต, โส ปน ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อนุโรธวิโรธปหานสฺส วุตฺตตฺตา ขีณาสโว ธุรํ. อนาคามีปิ วฏฺฏติ, ตสฺส วิโรธปฺปหานํ ลพฺภติ.
สลฺลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปมเคลฺสุตฺตวณฺณนา
๒๕๕. สทฺทหิตฺวา ¶ คิลาเน อุปฏฺาตพฺเพ มฺิสฺสนฺตีติ โยชนา. ตตฺถาติ ตสฺมึ าเน. กมฺมฏฺานานุโยโค สปฺปาโย เยสํ เต กมฺมฏฺานสปฺปายา, สติปฏฺานรตาติ อตฺโถ. อนิจฺจตํ อนุปสฺสนฺโตติ กายํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนาย เวทนาย จ อนิจฺจตํ อนุปสฺสนฺโต. วยํ อนุปสฺสนฺโตติอาทีสุปิ เอเสว นโย. วยนฺติ ปน ตาย เอว ขยสงฺขาตํ. วิราคนฺติ วิรชฺชนํ. ปฏินิสฺสคฺคนฺติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺคํ, ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺคมฺปิ วา.
อาคมนียปฏิปทาติ อริยมคฺคสฺส อาคมนฏฺานิยา ปุพฺพภาคปฏิปทา. ปุพฺพภาคาเยว น โลกุตฺตรา. สมฺปชฺํ ปุพฺพภาคิยเมว. ติสฺโส อนุปสฺสนา ปุพฺพภาคาเยว วิปสฺสนาปริยาปนฺนตฺตา ¶ . มิสฺสกาติ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ภาวนากาโล ทสฺสิโต ‘‘นิโรธานุปสฺสิโน วิหรโต, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิโน วิหรโต ราคานุสโย ปหียตี’’ติ วุตฺตตฺตา.
ปมเคลฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๙. ทุติยเคลฺสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๕๖-๒๕๗. ผสฺสํ ปฏิจฺจาติ เอตฺถ ผสฺสสีเสน ผสฺสายตนานํ คหณํ. น หิ ผสฺสายตเนหิ วินา ผสฺสสฺส สมฺภโว. เตนาห ‘‘กาโยว หิ เอตฺถ ผสฺโสติ วุตฺโต’’ติ, ผสฺสสีเสน วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. นวมํ อุตฺตานเมว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
ทุติยเคลฺสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ผสฺสมูลกสุตฺตวณฺณนา
๒๕๘. สุขเวทนาย หิตํ สุขเวทนิยํ. โส ปเนส หิตภาโว ปจฺจยภาเวนาติ อาห ‘‘สุขเวทนาย ปจฺจยภูต’’นฺติ. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺตทฺวเยติ ¶ อิมสฺมึ นวเม ทสเม จ สุตฺเตปิ. สมฺมสนจารเวทนาติ สมฺมสนียเวทนา เอว กถิตา, น โลกุตฺตราติ อธิปฺปาโย.
ผสฺสมูลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สคาถาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รโหคตวคฺโค
๑. รโหคตสุตฺตวณฺณนา
๒๕๙. ยํกิฺจิ เวทยิตนฺติ ‘‘สุขํ ทุกฺขํ อทุกฺขมสุข’’นฺติ วุตฺตํ เวทยิตํ ทุกฺขสฺมึ อนฺโตคธํ, ทุกฺขนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ ปริยาเยนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตํ สพฺพํ ทุกฺขนฺติ อตฺโถ’’ติ. ยา เอสาติอาทีสุ โย สงฺขารานํ อนิจฺจตาสงฺขาโต หุตฺวา อภาวากาโร, ยา ขยสภาวตา วินสฺสนสภาวตา ชราย มรเณน จาติ ทฺวิธา วิปริณามนสภาวตา, เอตํ สนฺธาย อุทฺทิสฺส สพฺพํ เวทยิตํ ทุกฺขนฺติ มยา วุตฺตนฺติ อยํ สงฺเขปตฺโถ. สาติ สงฺขารานํ อนิจฺจตา ¶ . เวทนานมฺปิ อนิจฺจตา เอว สงฺขารสภาวตฺตา. ตาสํ อนิจฺจตา จ นาม มรณํ ภงฺโคติ กตฺวา ตโต อุตฺตริ ทุกฺขํ นาม นตฺถีติ สพฺพา เวทนา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วุตฺตา, ยถา ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ จ, ‘‘ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ จ วุตฺตํ. อิทํ สุตฺตปทํ. จตฺตาโร อารุปฺปาติ จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย. เอตฺถาติ จ เอตสฺมึ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวาเร.
รโหคตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อคารสุตฺตวณฺณนา
๒๖๒. ปุรตฺถิมาติ วิภตฺติโลเปน นิทฺเทโส, นิสฺสกฺเก วา เอตํ ปจฺจตฺตวจนํ. ปมชฺฌานาทิวเสนาติ ปมทุติยชฺฌานวเสน. อนุสฺสติวเสนาติ นิทสฺสนมตฺตํ อฺสฺสปิ อุปจารชฺฌานคฺคหิตสฺส สวิตกฺกจารสฺส นิรามิสสฺส สุขสฺส ลพฺภนโต. ตสฺสปิ วา ปมชฺฌานาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. กามเหตุ ทุกฺขปฺปตฺตานํ ทุกฺขเวทนา กามามิเสน ¶ สามิสา เวทนา. อนุตฺตรวิโมกฺขา นาม อรหตฺตผลํ. ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ เอวํ ปิหํ อุปฏฺาปยโต ตสฺมึ อนิชฺฌมาเน ปิหปฺปจฺจยา อุปฺปนฺนโทมนสฺสเวทนา. เนกฺขมฺมนิสฺสิตา อุเปกฺขาเวทนา นิรามิสา อทุกฺขมสุขา นาม. สวิเสสํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘จตุตฺถชฺฌานวเสน อุปฺปนฺนา อทุกฺขมสุขเวทนา’’ติ วุตฺตํ.
อคารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๘. ปมอานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๖๓-๒๖๖. เหฏฺา กถิตนยาเนว, เวเนยฺยชฺฌาสยโต ปน เตสํ เทสนาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถาติ เอเตสุ จตูสุ สุตฺเตสุ. ปุริมานิ ทฺเว ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วาจา ปฏิปฺปสฺสทฺธา โหตี’’ติอาทินา นเยน ยาว ขีณาสวสฺส กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิ, ตาว เทสนาย ปวตฺตตฺตา ‘‘ปริปุณฺณปสฺสทฺธิกานี’’ติ วุตฺตานิ. ตาว ปริปูรํ กตฺวา อเทสิตตฺตา ‘‘ปจฺฉิมานิ อุปฑฺฒปสฺสทฺธิกานิ, เทสนายา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ปมอานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. ปฺจกงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๖๗-๒๖๘. ทณฺฑมุคฺครํ อคฺคโสณฺฑมุคฺครํ. กาฬสุตฺตปกฺขิปนํ กาฬสุตฺตนาฬิ. วาสิอาทีนิ ¶ ปฺจ องฺคานิ อสฺสาติ ปฺจกงฺโค. วตฺถุวิชฺชาย วุตฺตวิธินา กตฺตพฺพนิสฺสยานิ เปตีติ ถปติ. ปณฺฑิตอุทายิตฺเถโร, น ลาฬุทายิตฺเถโร. ทฺเวปานนฺทาติ อฏฺกถาย ปทุทฺธาโร กโต – ‘‘ทฺเวปิ มยา อานนฺทา’’ติ ปน ปาฬิยํ. ปสาทกายสนฺนิสฺสิตา กายิกา, เจโตสนฺนิสฺสิตา เจตสิกา. อาธิปจฺจฏฺเน สุขเมว อินฺทฺริยนฺติ สุขินฺทฺริยํ. อุปวิจารวเสนาติ รูปาทีนิ อุเปจฺจ วิจรณวเสน. อตีเต อารมฺมเณ. ปจฺจุปฺปนฺเนติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเน. เอวํ อฏฺาธิกํ สตํ อฏฺสตํ.
ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธีติ ปุจฺฉานุสนฺธิอาทีหิ วิสุํ เตหิ อสมฺมิสฺโส เอโก อนุสนฺธิ. เอกาปิ เวทนา กถิตา ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก’’ติ อาหริตฺวา ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ. ยสฺมา ภควา ¶ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขาเวทนํ วตฺวา – ‘‘อตฺถานนฺท, เอตสฺมา สุขา อฺํ สุข’’นฺติอาทึ วทนฺโต ถปติโน วาทํ อุปตฺถมฺเภติ นาม. เตน หิ อุเปกฺขาเวทนา ‘‘สุข’’นฺเตว วุตฺตา สนฺตสภาวตฺตา. อภิกฺกนฺตตรนฺติ อติวิย กนฺตตรํ มโนรมตรํ. เตนาห ‘‘สุนฺทรตร’’นฺติ. ปณีตตรนฺติ ปธานภาวํ นีตตาย อุฬารตรํ. เตนาห ‘‘อตปฺปกตร’’นฺติ. สุขนฺติ วุตฺตา ปฏิปกฺขสฺส สุฏฺุ ขาทเนน, สุกรํ โอกาสทานมสฺสาติ วา. นิโรโธ สุขํ นาม สพฺพโส อุทยพฺพยาภาวโต. เตนาห ‘‘นิทฺทุกฺขภาวสงฺขาเตน สุขฏฺเนา’’ติ.
สุขสฺมึเยวาติ สุขมิจฺเจว ปฺเปติ. นิโรธสมาปตฺตึ สีสํ กตฺวาติ นิโรธสมาปตฺติเทสนาย สีสํ อุตฺตมํ กตฺวา. เทสนาย อุทฺเทสาธิมุตฺเต อุฏฺาเปตฺวา วิตฺถาริตตฺตา ‘‘เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสนา’’ติ วุตฺตํ. ทสมํ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.
ปฺจกงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
รโหคตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อฏฺสตปริยายวคฺโค
๑. สีวกสุตฺตวณฺณนา
๒๖๙. จูฬา ปน อสฺส มหตี อตฺถิ สวิเสสา, ตสฺมา ‘‘โมฬิยสีวโก’’ติ วุจฺจติ. ฉนฺนปริพฺพาชโกติ กมฺพลาทินา โกปีนปฏิจฺฉาทกปริพฺพาชโก. ปิตฺตปจฺจยานีติ ปิตฺตเหตุกานิ ¶ . ‘‘ติสฺโส เวทนา’’ติ วตฺวา ตาสํ สมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. กุสลเวทนา อุปฺปชฺชติ ปิตฺตปจฺจยา. ปิตฺตเภสชฺชํ กริสฺสามีติ เภสชฺชสมฺภรณตฺถฺเจว ตทตฺถํ อามิสกิฺชกฺขสมฺภรณตฺถฺจ ปาณํ หนตีติ โยชนา. มชฺฌตฺโต เภสชฺชกรเณ อุทาสีโน.
ตสฺมาติ ยสฺมา ปิตฺตาทิปจฺจยเหตุกนฺติ อตฺตโน จ โลกสฺส จ ปจฺจกฺขํ อติธาวนฺติ เย สมณา วา พฺราหฺมณา วา, ตสฺมา เตสํ มิจฺฉา. ปิตฺตาทีนํ ติณฺณมฺปิ สโมธานสนฺนิปาเต ชาตานิ สนฺนิปาติกานิ. ปุริมอุตุโน วิสทิโส อุตุวิปริณาโมติ อาห ‘‘วิสภาคอุตุโต ชาตานี’’ติ ¶ . อนุทโก ถทฺธลูขภูมิวิภาโค ชงฺคลเทโส, วุตฺตวิปริยาเยน อนุปเทโส เวทิตพฺโพ. มลยํ หิมสีตพหุโล, อิตโร อุณฺหพหุโล.
อตฺตโน ปกติจริยานํ วิสมํ กายสฺส ปริหรณวเสน, ชาตานิ ปน อสยฺหสหนอเทสอกาลจรณาทินา เวทิตพฺพานีติ อาห ‘‘มหาภารวหนา’’ติอาทิ. ปรสฺส อุปกฺกมโต นิพฺพตฺตานิ โอปกฺกมิกานีติ อาห – ‘‘อยํ โจโร วา’’ติอาทิ. เกวลนฺติ พาหิรปจฺจยํ อนเปกฺขิตฺวา เกวลํ เตเนว. เตนาห ‘‘กมฺมวิปากโตว ชาตานี’’ติ. สกฺกา ปฏิพาหิตุํ ปตีกาเรน. โลกโวหาโร นาม กถิโต ปิตฺตสมุฏฺานาทิสมฺาย โลกสิทฺธตฺตา. กามํ สรีรสนฺนิสฺสิตา เวทนา กมฺมนิพฺพตฺตาว, ตสฺสา ปน ปจฺจุปฺปนฺนปจฺจยวเสน เอวมยํ โลกโวหาโรติ วุตฺตฺเจว คเหตฺวา ปรวาทปฏิเสโธ กโตติ ทฏฺพฺพํ.
สีวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๑๐. อฏฺสตสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๗๐-๒๗๘. เวทนานํ อฏฺาธิกํ สตํ, ตสฺส อฏฺสตสฺส ตพฺภาวสฺส ปริยาโย การณํ เอตฺถ อตฺถีติ อฏฺสตปริยาโย, สุตฺตํ. เตนาห ‘‘อฏฺสตสฺส การณภูต’’นฺติ. ธมฺมการณนฺติ ปริยตฺติธมฺมภูตํ การณํ. กายิกาติ ปฺจทฺวารกายิกา. เตนาห ‘‘กามาวจเรเยว ลพฺภนฺตี’’ติ, กามภูมิกาติ อตฺโถ. อรูปาวจเร นตฺถิ, ติภูมิกาติ อตฺโถ. เตนาห – ‘‘อรูเป ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โข โลกุตฺตรํ, น โลกิย’’นฺติ. อิตรา อุเปกฺขาเวทนา. อุปวิจรนฺติ อุเปจฺจ ปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. ตํสมฺปยุตฺตานนฺติ วิจารสมฺปยุตฺตานํ.
ปฏิลาภโตติ ปฏิลทฺธภาวโต. สมนุปสฺสโตติ ปจฺจเวกฺขโต ปสฺสโต. อตีตํ ขณตฺตยาติกฺกเมน อติกฺกนฺตํ, นิรุทฺธปฺปตฺติยา นิรุทฺธํ, ปกติวิชหเนน วิปริณตํ. สมนุสฺสรโตติ ¶ จินฺตยโต. เคหสฺสิตนฺติ กามคุณนิสฺสิตํ. กามคุณา หิ อิธ เคหนิสฺสิตธมฺเมน เคหปริยาเยน วุตฺตา.
วิปริณามวิราคนิโรธนฺติ ¶ วิปริณามนํ วิรชฺชนลกฺขณํ นิรุชฺฌนฺจ วิทิตฺวา. ปุพฺเพติ อตีเต. เอตรหีติ อิทานิ วตฺตมานา. สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโตติ วิปสฺสนาปฺาย เจว มคฺคปฺาย จ ยาถาวโต ปสฺสโต. อุสฺสุกฺกาเปตุนฺติ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา มคฺคปฏิเวธํ ปาเปตุํ. นิพฺพานํ อุทฺทิสฺส ปวตฺติตตฺตา เนกฺขมฺมสฺสิตโสมนสฺสานิ นาม. โลกามิสปฏิสํยุตฺตานนฺติ กามคุณนิสฺสิตานํ. ตทายตนนฺติ ตํ อายตนํ ตํ การณํ อรหตฺตํ. อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสูติ อริยผลธมฺเมสุ. ปิหนฺติ อธิคมิจฺฉํ.
อุเปกฺขาติ โสมนสฺสรหิตอฺาณุเปกฺขา. พาลฺยโยคโต พาลสฺส, ตโต เอว มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺส. กิเลโสธีนํ มคฺโคธีหิ อชิตตฺตา อโนธิชินสฺส. สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตนวิปากสฺส อชิตตฺตา อวิปากชินสฺส. อเนกาทีนเว วฏฺเฏ อาทีนวสฺส อชานเนน อนาทีนวทสฺสาวิโน. ปฏิปตฺติปฏิเวธพาหุสจฺจาภาเวน อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส. รูปํ สา นาติวตฺตติ น อติกฺกมติ าณสมฺปยุตฺตาภาวโต. สพฺพสงฺคาหโกติ สพฺพธมฺเม สงฺคณฺหนโก. ตติยาทีนิ ยาว ทสมา เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถาเนว.
อฏฺสตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. นิรามิสสุตฺตวณฺณนา
๒๗๙. อารมฺมณโต สมฺปโยคโต จ กิเลสามิเสน สามิสา. นิรามิสายาติ นิสฺสกฺกวจนํ. นิรามิสตราวาติ เอกํสวจนํ ตสฺสา ตถา นิสฺสเมตพฺพตาย. สา หิ ปีติ สพฺพโส สนฺตกิเลสามิเส สนฺตาเน ปวตฺติยา อจฺจนฺตสภาวธมฺมารมฺมณวิสยตาย สยมฺปิ สาติสยํ สนฺตสภาวากาเรน ปวตฺติยา นิรามิสายปิ นิรามิสตรา วุตฺตา. เตนาห ‘‘นนุ จา’’ติอาทิ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. อปฺปฏิหาริกนฺติ ปฏิหรณรหิตํ อปฺปฏิหารํ, เกนจิ อนาวฏนฺติ อตฺโถ. เสสวาเรสูติ สุขวารอุเปกฺขาวาเรสุ.
วิโมกฺขวาโร ปน น อติทิฏฺโ อิตเรหิ วิสทิสตฺตา. เตนาห ‘‘วิโมกฺขวาเร ปนา’’ติอาทิ. รูปปฏิสํยุตฺโตติ ภาวิตรูปปฏิสํยุตฺโต. สามิโส นาม ยสฺมา สามิสรูปปฏิพทฺธวุตฺติ ¶ เจว สามิสรูปปฏิภาคฺจ ¶ , ตสฺมา ‘‘รูปามิส’’นฺติ วุจฺจติ, เตน รูปามิเสน สามิโส นาม. อรูปามิสสฺส อภาวโต อรูปปฏิสํยุตฺโต วิโมกฺโข นิรามิโส นาม.
นิรามิสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺสตปริยายวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนาสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มาตุคามสํยุตฺตํ
๑. ปมเปยฺยาลวคฺโค
๑-๒. มาตุคามสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๘๐-๒๘๑. อคุณงฺเคหีติ ¶ ¶ อคุณโกฏฺาเสหิ. รูปยตีติ รูปํ, สรีรรูปํ. สรีรรูปํ ปาสํสํ เอตสฺส อตฺถีติ รูปวา, ตปฺปฏิกฺเขเปน น จ รูปวา, สมฺปนฺนรูโป น โหตีติ อตฺโถ. าติกุลโต อฺโต วา อาคตาย โภคสมฺปทาย อภาเวน น โภคสมฺปนฺโน. ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. นิสฺสีลตาย เอว จสฺสา ปุพฺพุฏฺายิตาทิอาจาราภาโว วุตฺโต. อาลสิโยติ อาลสิยตาย ยุตฺโต. ปชฺจสฺส น ลภตีติ ปชาภาวสีเสน ตสฺสา ปริวารหานิ วุตฺตา. ปริวตฺเตตพฺพนฺติ ปุริสวเสน ปริวตฺเตตพฺพํ.
มาตุคามสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อาเวณิกทุกฺขสุตฺตวณฺณนา
๒๘๒. อาเวณิตพฺพโต มริยาทาย วิสุํ อสาธารณโต ปสฺสิตพฺพโต อาเวณิกานิ. ปฏิปจฺเจเก ปุคฺคเล นิยุตฺตานีติ ปาฏิปุคฺคลิกานิ. ปริจาริกภาวนฺติ อุปฏฺายิกภาวํ.
อาเวณิกทุกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ตีหิธมฺเมหิสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๘๓-๓๐๓. มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตนาติ มจฺฉริยมเลน อภิภูเตน. เตนาติ กสฺสจิ กิฺจิ อทาเนน จ. เอตํ ‘‘มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิโลเกนฺโต วิจรติ อิสฺสาปกตจิตฺตตาย. ปฺจมาทีนิ ยาว เอกาทสมา อุตฺตานตฺถาเนว.
ตีหิธมฺเมหิสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. พลวคฺโค
๑. วิสารทสุตฺตวณฺณนา
๓๐๔. รูปสมฺปตฺติ ¶ ¶ รูปพลํ ตํสมงฺคิโน อุปตฺถมฺภกภาวโต. เอส นโย เสเสสุปิ. พลานิ หิ สตฺตานํ วุฑฺฒิยา อุปตฺถมฺภกปจฺจโย โหติ, ยถา ตํ อาหาโร. เตนาห – ‘‘อิมานี’’ติอาทิ.
วิสารทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๑๐. ปสยฺหสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๐๕-๓๑๓. อภิภวิตฺวา สพฺพํ อนฺโตชนํ สามิกฺจ. นาเสนฺตีติ นาสนํ อทสฺสนํ เนนฺติ นีหรนฺตีติ อตฺโถ.
ปสยฺหสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
มาตุคามสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ชมฺพุขาทกสํยุตฺตํ
๑. นิพฺพานปฺหสุตฺตวณฺณนา
๓๑๔. นิพฺพานํ ¶ ¶ อาคมฺมาติ เอตฺถ อาคมฺมาติ สพฺพสงฺขาเรหิ นิพฺพินฺนสฺส วิสงฺขารนินฺนสฺส โคตฺรภุนา วิวฏฺฏิตมานสสฺส มคฺเคน สจฺฉิกรเณนาติ อตฺโถ. สจฺฉิกิริยมานฺหิ ตํ อธิคนฺตฺวา อารมฺมณปจฺจยภูตฺจ ปฏิจฺจ อธิปติปจฺจยภูเต จ ตสฺมึ ปรมสฺสาสภาเวน วิมุตฺตสงฺขารสฺส ปรมคติภาเวน จ ปติฏฺานภูเต ปติฏฺาย ขยสงฺขาโต มคฺโค ราคาทิเก เขเปตีติ ตํสจฺฉิกรณาภาเว ราคาทีนํ อนุปฺปตฺตินิโรธคมนาภาวโต ‘‘นิพฺพานํ อาคมฺม ราโค ขียตี’’ติ วุตฺตํ.
อิมินาว สุตฺเตนาติ อิมินาว ชมฺพุขาทกสุตฺเตน. กิเลสกฺขยมตฺตํ นิพฺพานนฺติ วเทยฺย ‘‘ราคกฺขโย’’ติอาทินา สุตฺเต อาคตตฺตา. ‘‘กิเลสกฺขยมตฺต’’นฺติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อาห ‘‘กสฺสา’’ติอาทิ. อทฺธา อตฺตโนติ วกฺขติ ‘‘ปรสฺส กิเลสกฺขเยน ปรสฺส นิพฺพานสมฺปตฺติ น ยุตฺตา’’ติ. นิพฺพานารมฺมณกรเณน โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสกฺขยปฺปตฺติตา จ อาปนฺนาติ อาห – ‘‘กึ ปน เตสุ อขีเณสุเยวา’’ติอาทิ. นนุ อารมฺมณกรณมตฺเตน กิเลสกฺขโย อนุปฺปตฺโตติ น สกฺกา วตฺตุํ. จิตฺตฺหิ อตีตานาคตาทิสพฺพํ อาลมฺพนํ กโรติ, น นิปฺผนฺนเมวาติ. โคตฺรภูปิ มคฺเคน ยา กิเลสานํ อนุปฺปตฺติธมฺมตา กาตพฺพา, ตํ อารพฺภ ปวตฺติสฺสตีติ? น, อปฺปตฺตนิพฺพานสฺส นิพฺพานารมฺมณาณาภาวโต. น หิ อฺเ ธมฺมา วิย นิพฺพานํ, ตํ ปน อติคมฺภีรตฺตา อปฺปตฺเตน อาลมฺพิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา เตน โคตฺรภุนา ปตฺตพฺเพน ติกาลิกสภาวาติกฺกนฺตคมฺภีรภาเวน ภวิตพฺพํ, กิเลสกฺขยมตฺตตํ วา อิจฺฉโต โคตฺรภุโต ปุเรตรํ นิปฺผนฺเนน กิเลสกฺขเยน ภวิตพฺพํ. อปฺปตฺตกิเลสกฺขยารมฺมณกรเณ หิ สติ โคตฺรภุโต ปุเรตรจิตฺตานิปิ อาลมฺเพยฺยุนฺติ.
ตสฺมาติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส นิคมนํ. ตํ ปเนตํ นิพฺพานํ. รูปิโน ธมฺมา อรูปิโน ธมฺมาติอาทีสูติ อาทิสทฺเทน โลกุตฺตรอนาสวาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อรูปธมฺมาทิภาวคฺคหเณน จสฺส ¶ ปรินิปฺผนฺนตา ทีปิตา. เตนาห ‘‘น กิเลสกฺขยมตฺตเมวา’’ติ. กิเลสกฺขยมตฺตตาย ¶ หิ สติ นิพฺพานสฺส พหุตา อาปชฺชติ ‘‘ยตฺตกา กิเลสา ขียนฺติ, ตตฺตกานิ นิพฺพานานี’’ติ. อภาวสฺสภาวโต คมฺภีราทิภาโว อสงฺขตาทิภาโว จ น สิยา, วุตฺโต จ โส นิพฺพานสฺส, ตสฺมาสฺส ปจฺเจตพฺโพ ปรินิปฺผนฺนภาโว. ยสฺมา จ สมฺมุติสจฺจารมฺมณํ สงฺขตธมฺมารมฺมณํ วา สมุจฺเฉทวเสน กิเลเส ปชหิตุํ น สกฺโกติ, ยโต มหคฺคตาณํ วิปสฺสนาาณํ วา กิเลสวิกฺขมฺภนวเสน ตทงฺควเสน วา ปชหติ, ตสฺมา อริยมคฺคาณสฺส สมฺมุติสจฺจสงฺขตธมฺมารมฺมเณหิ วิปรีตสภาเวน อารมฺมเณน ภวิตพฺพํ. ตถา หิ ตํ สมุจฺเฉทวเสน กิเลเส ปชหีติ เอวํ ปรินิปฺผนฺนาสงฺขตสภาวํ นิพฺพานนฺติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพนฺติ.
นิพฺพานปฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๑๕. ธมฺมวาทีปฺหสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๑๖-๓๒๘. ปหาย คตตฺตาติ อริยมคฺเคน ชหิตฺวา าณคมเนน คตตฺตา. สุฏฺุ คตาติ สมฺมา คตา ปฏิปนฺนาติ สุคตา. ปริชานนตฺถนฺติ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานนตฺถํ. ทุกฺขสงฺขาโตติ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ สงฺขาตพฺโพ วิทิตพฺโพ จ ทุกฺขสภาโว ธมฺโม ทุกฺขทุกฺขตา. ยสฺมา ทุกฺขเวทนาวินิมุตฺตสงฺขตธมฺเม สุขเวทนาย จ ยถา อิธ สงฺขารทุกฺขตา วิปริณามทุกฺขตาติ ทุกฺขปริยาโย นิรุปฺปเตว, ตสฺมา ทุกฺขสภาโว ธมฺโม เอเกน ทุกฺขสทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺโต ‘‘ทุกฺขทุกฺขตา’’ติ. เสสปททฺวเยติ สงฺขารทุกฺขตา วิปริณามทุกฺขตาติ เอตสฺมึ ปททฺวเย. สงฺขารภาเวน ทุกฺขสภาโว สงฺขารทุกฺขตา. สุขสฺส วิปริณามเนน ทุกฺขสภาโว วิปริณามทุกฺขตา.
ธมฺมวาทีปฺหสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. ทุกฺกรปฺหสุตฺตวณฺณนา
๓๒๙. ปพฺพชฺชายาติ ¶ ปพฺพชิตปฏิปตฺติยํ. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน ภิกฺขูติ ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชมาโน ภิกฺขุ. ปาตนฺติ ปาโต. นจิรสฺสนฺติ ขิปฺปเมว. เตนาห ‘‘ลหุเยวา’’ติ.
ทุกฺกรปฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชมฺพุขาทกสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สามณฺฑกสํยุตฺตวณฺณนา
๓๓๐-๓๓๑. อิมินาว ¶ นเยนาติ โย ชมฺพุขาทกสํยุตฺเต อตฺถนโย, อิมินาว นเยน. อิมินา หิ ทฺเว สํยุตฺตานิ ปาฬิโต อตฺถโต จ อฺมฺํ สทิสาเนวาติ ทสฺเสติ.
สามณฺฑกสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โมคฺคลฺลานสํยุตฺตํ
๑-๘. ปมชฺฌานปฺหสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๓๒-๓๓๙. กามสหคเตสุ ¶ ¶ สฺามนสิกาเรสุ อุปฏฺหนฺเตสุ พฺยาปาทาทิสหคตาปิ สฺามนสิการา ยถาปจฺจยํ อุปฏฺหนฺติเยวาติ วุตฺตํ ‘‘กามสหคตาติ ปฺจนีวรณสหคตา’’ติ. นีวรณานฺเหตฺถ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, ยทิทํ กามคฺคหณํ. ปหีนาวเสสา เจตฺถ นีวรณา เวทิตพฺพา, ตสฺมา ปฺจคฺคหณํ น กตฺตพฺพํ. ตสฺสาติ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส สนฺตโต อุปฏฺหึสุ อจิณฺณวสิตาย. เตนาห ‘‘หานภาคิยํ นาม อโหสี’’ติ. อารมฺมณ…เป… สหคตนฺติ วุตฺตํ อิตเรสํ อภาวโต.
ปมชฺฌานปฺหสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อนิมิตฺตปฺหสุตฺตวณฺณนา
๓๔๐. วิปสฺสนาสมาธึเยว, น ผลสมาธึ. เฉชฺชกิจฺจํ น นิปฺผชฺชติ อวิจฺเฉทวเสน อปฺปวตฺตนโต. นิกนฺตีติ วิปสฺสนํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตตณฺหา. สาเธตุํ นาสกฺขิ อุปกฺกิลิฏฺตฺตา. นิมิตฺตานุสารีติ นิจฺจสุขอตฺตนิมิตฺตานํ อปูรณโต ราคโทสโมหนิมิตฺตานิเปตฺถ นิมิตฺตาเนว. วุฏฺาน…เป… สมาธินฺติ เอเตน ยาว มคฺโค นาธิคโต, ตาว วุฏฺานคามินิวิปสฺสนมนุยฺุชนฺโตปิ ยถารหํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตํ สฺุตํ เจโตสมาธึ อนุยุตฺโต วิหรตีติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ทสฺเสติ. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตนฺติ วิปสฺสนาสงฺขาตาณสมฺปยุตฺตํ. เจโตสมาธินฺติ จิตฺตสีเสน วิปสฺสนาสมาธิมาห. อุปริมคฺคผลสมาธินฺติ ปมมคฺคสมาธิสฺส ปเคว อธิคตตฺตา.
อนิมิตฺตปฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐-๑๑. สกฺกสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๔๑-๓๔๒. อเวจฺจปฺปสาเทนาติ ¶ ¶ วตฺถุตฺตยํ ยาถาวโต ตฺวา อุปฺปนฺนปสาเทน, มคฺเคนาคตปสาเทนาติ อตฺโถ. โส ปน เกนจิ อสํหาริโย อสมฺปเวธีติ อาห ‘‘อจลปฺปสาเทนา’’ติ. อภิภวนฺติ อตฺตโน ปฺุานุภาเวน.
สกฺกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
โมคฺคลฺลานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. จิตฺตสํยุตฺตํ
๑. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา
๓๔๓. โภคคามนฺติ ¶ ¶ โภคุปฺปตฺติคามํ. ปวตฺตตีติ อปฺปฏิหตํ หุตฺวา ปวตฺตติ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺติยา.
สํโยชนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปมอิสิทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๔๔. อวิสารทตฺตาติ ปฺหํ พฺยากาตุํ เวยฺยตฺติยาภาเวน อสมตฺถตฺตา. อุปาสโก เถเรสุ พฺยากาตุํ อสกฺโกนฺเตสุ สยํ พฺยากาตุกาโม ปุจฺฉติ, น วิเหสาธิปฺปาโย. ปมวจเนน อพฺยากโรนฺเต ทิสฺวาว ปุนปฺปุนํ ปุจฺฉิตํ วิเหโส วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘วิเหเสตี’’ติ.
ปมอิสิทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทุติยอิสิทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๔๕. อวนฺติยาติ อวนฺติรฏฺเ, ตํ ปน มชฺฌิมปเทสโต ทกฺขิณทิสายํ. เตนาห ‘‘ทกฺขิณาปเถ’’ติ. อธิปฺปาเยนาติ ตสฺส วจนสฺส อนุโมทนาธิปฺปาเยน วทติ, น ปน ตโต กิฺจิ คเหตุกามตาธิปฺปาเยน.
ทุติยอิสิทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มหกปาฏิหาริยสุตฺตวณฺณนา
๓๔๖. เตสํ อนุชานนฺโตติ เตสํ ทาสกมฺมกรานํ เสสเก ยถารุจิ วิจารณํ อนุชานนฺโต. กุธิตนฺติ พลวตา สูริยสนฺตาเปน สงฺกุถิตํ ¶ . เตนาห ‘‘เหฏฺา’’ติอาทิ. อติติขิณนฺติ อติวิย ติกฺขธาตุกํ. อสมฺภินฺนปทนฺติ ¶ อฺตฺถ อนาคตตฺตา ติปิฏเก อโวมิสฺสกปทํ, อิเธว อาคตปทนฺติ อตฺโถ. ปฏิลียมาเนนาติ ปฏิกํเสน วิเสสเนน วิลียมาเนน กาเยน.
เอตฺถ จาติ เอตสฺมึ อธิฏฺานิทฺธิกรเณ. อพฺภมณฺฑปํ กตฺวาติ สมนฺตโต ฉาทนวเสน มณฺฑปํ วิย เมฆปฏลํ อุปฺปาเทตฺวา. เทโวติ เมโฆ. เอกเมกํ ผุสิตกํ ผุสายตุ ชาลวินทฺธํ วิย วสฺสตุ. เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน นานาปริกมฺมํ นานาธิฏฺานํ เอกโต ปริกมฺมํ เอกโต อธิฏฺานนฺติ จตุกฺกเมตฺถ สมฺภวตีติ ทสฺเสติ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทินา. ยถา ตถาติ ยถาวุตฺเตสุ จตูสุ ปกาเรสุ เยน วา เตน วา ปกาเรน กโรนฺตสฺส. กตปริกมฺมสฺสาติ ‘‘เอวํ วา เอวํ วา โหตู’’ติ ปวตฺติตปริกมฺมจิตฺตสฺส. ‘‘ปริกมฺมานนฺตเรนาติ อธิฏฺานจิตฺตุปฺปาทนตฺถํ สมาปนฺนปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย อธิฏฺานจิตฺตสฺส เอกาวชฺชนวีถิยํ ปวตฺตปริกมฺมํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.
มหกปาฏิหาริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปมกามภูสุตฺตวณฺณนา
๓๔๗. เอลํ วุจฺจติ โทโส, ตํ เอตสฺส นตฺถีติ เนลํ, ตํ องฺคํ เอตสฺสาติ เนลงฺโค, สุวิสุทฺธสีลคุโณ. เตนาห ‘‘เนลงฺคนฺติ โข, ภนฺเต, สีลานเมตํ อธิวจน’’นฺติ. อฏฺกถายํ ปน โทสาภาวเมว ทสฺเสตุํ ‘‘เนลงฺโคติ นิทฺโทโส’’ติ วุตฺตํ. เอตํ ภิกฺขุํ อาคจฺฉนฺตนฺติ มหากปฺปินตฺเถรํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺตโน ทิฏฺเน กเถสีติ อตฺตโน สพฺพฺุตฺาเณน ปจฺจกฺขโต อุปลกฺขิเตน อตฺเถน กเถสิ. อยํ ปน นยคฺคาเหนาติ อยํ ปน คหปติ อสุตฺวา เกวลํ นยคฺคาเหน อาห.
ปมกามภูสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยกามภูสุตฺตวณฺณนา
๓๔๘. นิโรธํ ¶ วลฺเชติ อนาคามิภาวโต. อิเม สงฺขาราติ อิเม ‘‘กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติ วุจฺจมานา ตโย สงฺขารา. สทฺทโตปิ, อตฺถโตปิ อฺมฺํ มิสฺสา, ตโต เอว อาลุฬิตา อากุลา, อวิภูตา ทุพฺพิภาวนา, ทุทฺทีปนา อสงฺกรโต ทีเปตุํ ทุกฺกรา. ตถา หิ กุสลเจตนา เอว ‘‘กายสงฺขาโร’’ติปิ ¶ วุจฺจติ, ‘‘วจีสงฺขาโร’’ติปิ, ‘‘จิตฺตสงฺขาโร’’ติปิ. อสฺสาสปสฺสาสาปิ กตฺถจิ ‘‘กายสงฺขาโร’’ติ, วิตกฺกวิจาราปิ ‘‘วจีสงฺขาโร’’ติ วุจฺจนฺติ, สฺาเวทนาปิ ‘‘จิตฺตสงฺขาโร’’ติ วุจฺจนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ. ตตฺถ อากฑฺฒิตฺวา คหณํ อาทานํ, สมฺปตฺตสฺส หตฺเถ กรณํ คหณํ, คหิตสฺส วิสฺสชฺชนํ มฺุจนํ, ผนฺทนํ โจปนํ ปาเปตฺวา นิปฺผาเทตฺวา. หนุสฺโจปนนฺติ กายวิฺตฺติวเสน ปุพฺพภาเค หนุสฺโจปนํ กตฺวา. เอวฺหิ วจีเภทกรณํ. เอวํ อิเมติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนํ.
ปทตฺถํ ปุจฺฉติ อิตรสงฺขาเรหิ ปทตฺถโต วิเสสํ กถาเปสฺสามีติ. กายนิสฺสิตาติ เอตฺถ กายนิสฺสิตตา จ เนสํ ตพฺภาวภาวิตาย เวทิตพฺพา, น กายสฺส นิสฺสยปจฺจยตาวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาเย สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺตี’’ติ อาห. กาโยติ เจตฺถ กรชกาโย ทฏฺพฺโพ. จิตฺตนิสฺสิตาติ จิตฺตํ นิสฺสาย ตํ นิสฺสยปจฺจยภูตํ ลภิตฺวา อุปฺปนฺนา.
‘‘สมาปชฺชามี’’ติ ปทสฺส สมีเป วุจฺจมานํ ‘‘สมาปชฺชิสฺส’’นฺติ ปทํ อาสนฺนานาคตกาลวาจี เอว ภวิตุํ ยุตฺตํ, น อิตรนฺติ อาห – ‘‘ปททฺวเยน เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติกาโล กถิโต’’ติ. ตยิทํ ตสฺส ตถา วตฺตพฺพตาย วุตฺตํ, น ปน ตสฺส ตถา จิตฺตปวตฺติสมฺภวโต. สมาปนฺเนปิ เอเสว นโย. ปุริเมหีติ ‘‘สมาปชฺชิสฺสํ สมาปชฺชามี’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ. ปจฺฉิเมนาติ ‘‘สมาปนฺโน’’ติ ปเทน.
ภาวิตํ โหติ อุปฺปาทิตํ โหติ นิโรธสมาปนฺนตฺถาย. อนุปุพฺพสมาปตฺติสมาปชฺชนสงฺขาตาย นิโรธภาวนาย ตํ จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ. เตนาห ‘‘ยํ ต’’นฺติอาทิ. ทุติยชฺฌาเนเยวาติ ทุติยชฺฌานกฺขเณ นิรุชฺฌติ. ตตฺถ อนุปฺปชฺชนโต อนุปฺปาทนโต เหฏฺา นิโรโธติ อธิปฺเปโต. จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ ตชฺชา ปริกมฺมสิทฺธา ยา อปฺปวตฺติ ¶ , ตตฺถ ‘‘นิโรธสมาปตฺติสฺา’’ติ, ยา เนสํ ตถา อปฺปวตฺติ. สา ‘‘อนฺโตนิโรเธ นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตา.
‘‘จิตฺตสงฺขาโร นิรุทฺโธ’’ติ วจนโต ตทฺเสํ อนิโรธํ อิจฺฉนฺตานํ วาทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิตฺตสงฺขาโร นิรุทฺโธติ วจนโต’’ติอาทึ วตฺวา ตตฺถ อติปฺปสงฺคทสฺสนมุเขน ตํ วาทํ นิเสเธตุํ ‘‘เต วตฺตพฺพา’’ติอาทิมาห. อภินิเวสํ อกตฺวาติ ยถาคเต พฺยฺชนมตฺเต อภินิเวสํ อกตฺวา. อาจริยานํ นเยติ อาจริยานํ ปรมฺปราคเต ธมฺมนเย ธมฺมเนตฺติยํ ตฺวา.
กิริยมยปวตฺตสฺมินฺติ ¶ ปริตฺตภูมกกุสลากุสลธมฺมปพนฺเธ วตฺตมาเน. ตสฺมิฺหิ วตฺตมาเน กายิก-วาจสิก-กิริยสมฺปวตฺติ โหติ, ทสฺสน-สวนาทิวเสน อารมฺมณคฺคหเณ ปวตฺตมาเนติ อตฺโถ. เตนาห – ‘‘พหิทฺธารมฺมเณสุ ปสาเท ฆฏฺเฏนฺเตสู’’ติ. มกฺขิตานิ วิยาติ ปฺุฉิตานิ วิย โหนฺติ ฆฏฺฏนาย วิพาธิตตฺตา. เอเตนายํ ฆฏฺฏนา ปฺจทฺวาริกวิฺาณานํ เวคสา อุปฺปชฺชนาย น อารมฺมณนฺติ ทสฺเสติ. เตเนวาห – ‘‘อนฺโตนิโรเธ ปฺจ ปสาทา อติวิย วิโรจนฺตี’’ติ.
ตโต ปรํ สจิตฺตโก ภวิสฺสามีติ อิทํ อตฺถโต อาปนฺนํ คเหตฺวา วุตฺตํ – ‘‘เอตฺตกํ กาลํ อจิตฺตโก ภวิสฺสามี’’ติ เอเตเนว ตสฺส อตฺถสฺส สิทฺธตฺตา. ยํ เอวํ ภาวิตนฺติ เอตฺถ วิสุํ จิตฺตสฺส ภาวนา นาม นตฺถิ, อทฺธานปริจฺเฉทํ ปน กตฺวา นิโรธสมาปตฺตตฺถาย กาตพฺพปริกมฺมภาวนาย เอว ตสฺส สิชฺฌนโต.
สา ปเนสา นิโรธกถา. ทฺวีหิ พเลหีติ สมถวิปสฺสนาพเลหิ. ตโย จ สงฺขารานนฺติ ติณฺณํ กายวจีจิตฺตสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา. โสฬสหิ าณจริยาหีติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ อฏฺนฺนํ อนุปสฺสนาาณานํ, อฏฺนฺนฺจ มคฺคผลาณานํ วเสน อิมาหิ โสฬสหิ าณปฺปวตฺตีหิ. นวหิ สมาธิจริยาหีติ อฏฺ สมาปตฺติโย อฏฺ สมาธิจริยา, ตาสํ อุปจารสมาธิ สมาธิภาวสามฺเน เอกา สมาธิจริยาติ เอวํ นวหิ สมาธิจริยาหิ. วสีภาวตาปฺาติ วสีภาวตาสงฺขาตา ปฺา. สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค กถิตา, เต ตาว อาการา ¶ ติฏฺนฺตุ, สรูปมตฺตสฺส ปนสฺส วตฺตพฺพนฺติ อาห – ‘‘โก ปนายํ นิโรโธ นามา’’ติ. ยทิ ขนฺธานํ อปฺปวตฺติ, อถ กิมตฺถเมตํ ฌานสุขาทึ วิย สมาปชฺชนฺตีติ อาห ‘‘สงฺขาราน’’นฺติอาทิ.
ผลสมาปตฺติจิตฺตนฺติ อรหตฺตํ อนาคามิผลจิตฺตํ. ‘‘ตโต ปรํ ภวงฺคสมเย’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘กึ ปน…เป… น สมุฏฺาเปตี’’ติ. สมุฏฺาเปติ รูปสมุปฺปาทกตฺตา. อิมสฺสาติ นิโรธํ สมาปนฺนภิกฺขุโน. สา น สมุฏฺาเปตีติ สา จตุตฺถชฺฌานิกา ผลสมาปตฺติ น สมุฏฺาเปติ อสฺสาสปสฺสาเส. ผลสมาปตฺติยา จตุตฺถชฺฌานิกภาโว กถํ นิจฺฉิโตติ อาห – ‘‘กึ วา เอเตนา’’ติอาทิ. วกฺขมานากาเรนปิ ปริหาโร โหตีติ. สนฺตสมาปตฺติโตติ นิโรธสมาปตฺติเมว สนฺธาย วทติ. อพฺโพหาริกา โหนฺติ อติสุขุมสภาวตฺตา, สฺชีวตฺเถรสฺส ปุพฺเพ สมาปตฺติกฺขเณ อสฺสาสปสฺสาสา อพฺโพหาริกภาวํ คจฺฉนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภวงฺคสมเยเนเวตํ กถิต’’นฺติ.
กิริยมย ¶ …เป… อุปฺปชฺชตีติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ ภวงฺคุปฺปตฺติกาลมฺปิ วิตกฺกวิจารา อุปฺปชฺชนฺเตวาติ? กิฺจาปิ อุปฺปชฺชนฺติ, วจีสงฺขารลกฺขณปฺปตฺตา ปน น โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กึ ภวงฺค’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
สฺุโต ผสฺโสติอาทโย สคุเณนปิ อารมฺมเณนาติ อารมฺมณภูตเมตํ. สฺุตา นาม ผลสมาปตฺติ นิจฺจสุขอตฺตสภาวโต สฺุตฺตา. ‘‘สฺุโต ผสฺโส’’ติ วุตฺตํ วุตฺตนเยน สฺุสภาวตฺตา. อนิมิตฺตา นาม ผลสมาปตฺติ ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาวโต. อปฺปณิหิตา นาม ผลสมาปตฺติ ราคปณิธิอาทีนมภาวโต. เสสํ วุตฺตนยเมว. เตนาห ‘‘อนิมิตฺตปฺปณิหิเตสุปิ เอเสว นโย’’ติ. ราคนิมิตฺตาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สงฺขารนิมิตฺตสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ยทคฺเคน ผลสมาปตฺติสมฺผสฺโส สฺุโต นาม, ตทคฺเคน ผลสมาปตฺติปิ สฺุตา นาม, ผสฺสสีเสน ปน เทสนา อาคตาติ ตถา วุตฺตํ. อนิมิตฺตปฺปณิหิเตสุปิ เอเสว นโย.
อาคมนํ เอตฺถ, เอตายาติ วา อาคมนิกา, สา เอว อาคมนิยา ก-การสฺส ย-การํ กตฺวา. วุฏฺาติ นิมิตฺตโต มคฺคสฺส อุปฺปาทเนน. อนิมิตฺตา นาม นิจฺจนิมิตฺตสฺส อุคฺฆาฏนโต. เอตฺถ จ วุฏฺานเมว ปมาณํ, น ¶ ปริคฺคหทสฺสนานิ. อปฺปณิหิตา นาม สุขปณิธิยา ปฏิปกฺขโต. สฺุตา นาม อตฺตทิฏฺิยา อุชุปฏิปกฺขตฺตา สตฺตสฺุตาย สุทิฏฺตฺตา. มคฺโค อนิมิตฺโต นาม วิปสฺสนาคมนโต. ผลํ อนิมิตฺตํ นาม มคฺคาคมนโต. วิกปฺโป อาปชฺเชยฺย อาคมนสฺส ววตฺถานสฺส อภาเวน, วิปสฺสนาย อนิมิตฺตาทินามลาโภ อววตฺถิโตติ อธิปฺปาโย. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ยสฺมา ปน สา มคฺควุฏฺานกาเล เอวรูปาปิ โหตีติ ตสฺส วเสน มคฺคผลานํ วิย ผสฺสสฺสปิ ปวตฺติรูปตฺตา ยถาวุตฺโต วิกปฺโป อนวสโรติ ทฏฺพฺพํ. ตโย ผสฺสา ผุสนฺตีติ ปุคฺคลเภทวเสน วุตฺตํ. น หิ เอกํเยว ปุคฺคลํ เอตสฺมึ ขเณ ตโย ผสฺสา ผุสนฺติ. ‘‘ติวิโธ ผสฺโส ผุสตี’’ติ วา ภวิตพฺพํ. ยสฺมา ปน ‘‘นิโรธผลสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺสา’’ติอาทิ ยสฺส ยถาวุตฺตา ตโย เอว ผสฺสา สมฺภวนฺติ, ตสฺส อนวเสสคฺคหณวเสเนว วุตฺตํ ‘‘ตโย ผสฺสา ผุสนฺตี’’ติ.
นิพฺพานํ วิเวโก นาม สพฺพสงฺขารวิวิตฺตภาวโต. ตสฺมึ วิเวเก เอกนฺเตเนว นินฺนโปณตฺตา เอว หิ เต ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพุสฺสุกฺกา อุตฺตมปุริสา จตุนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปวตฺตึ อนวเสสคฺคหณลกฺขณํ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตีติ.
ทุติยกามภูสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. โคทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๔๙. เนสนฺติ ¶ อปฺปมาณเจโตวิมุตฺติ-อากิฺจฺเจโตวิมุตฺติสฺิตานํ ฌานานํ. อตฺโถปิ นานาติ อาเนตฺวา โยชนา. ผรณอปฺปมาณตาย ‘‘อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺตี’’ติ ลทฺธนามํ พฺรหฺมวิหารชฺฌานนฺติ อาห ‘‘ภูมนฺตรโต’’ติอาทิ. อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺตีติ อากิฺจฺายตนชฺฌานนฺติ อาห ‘‘ภูมนฺตรโต’’ติอาทิ. วิปสฺสนาติ อนิจฺจานุปสฺสนา, สพฺพาปิ วา. ปมาณกรโณ นาม ยสฺส สยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คุณาภาวทสฺสนวเสน ปมาณกรณโต.
ผรณอปฺปมาณตายาติ ¶ ผรณวเสน อปฺปมาณโคจรตาย. นิพฺพานมฺปิ อปฺปมาณเมว ปมาณโคจรานํ กิเลสานํ อารมฺมณภาวสฺสปิ อนาคมนโต. ขลนฺติ ขเล ปสาริตสาลิสีสาทิภณฺฑํ. กิฺเจหีติ มทฺทสฺสุ. เตนาห ‘‘มทฺทนฏฺโ’’ติ. อารมฺมณภูตํ, ปลิพุทฺธกํ วา นตฺถิ เอตสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อกิฺจนเมว อากิฺจฺํ.
รูปนิมิตฺตสฺสาติ กสิณรูปนิมิตฺตสฺส. น คหิตาติ สรูปโต น คหิตา, อตฺถโต ปน คหิตา เอว. เตนาห – ‘‘สา สฺุา ราเคนาติอาทิวจนโต สพฺพตฺถ อนุปวิตฺถาวา’’ติ.
นานาติ สทฺทวเสน. เอกตฺถาติ อารมฺมณวเสน อารมฺมณภาเวน เอกสภาวา. เตนาห ‘‘อปฺปมาณํ…เป… เอกตฺถา’’ติ. อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณสฺส วเสน. จตฺตาโร หิ มคฺคา, จตฺตาริ ผลานิ อารมฺมณวเสน นิพฺพานปวิฏฺตาย เอกตฺถา เอการมฺมณา. อฺสฺมึ ปน าเนติ อิทํ วิสุํ วิสุํ คเหตฺวา วุตฺตํ อปฺปมาณาทิ ปริยายวุตฺตํ, นิพฺพานํ อารพฺภ ปวตฺตนโต. ตสฺมา ‘‘อฺสฺมิ’’นฺติ อิทํ เตน เตน ปริยาเยน ตตฺถ ตตฺถ อาคตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.
โคทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นิคณฺนาฏปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๕๐. อาคตาคโมติ วาจุคฺคตปริยตฺติธมฺโม. วิฺาตสาสโนติ ปฏิวิทฺธสตฺถุสาสโน. เตนาห ‘‘อนาคามี’’ติอาทิ. นคฺคโภคฺคนฺติ อวสนภาเวน นคฺคํ, กุฏิลชฺฌาสยตาย โภคฺคํ, ตโต เอว นิสฺสิริกํ. นคฺคตาย หิ โส รูเปน นิสฺสิริโก, โภคฺคตาย จิตฺเตน. ภควโต สทฺธายาติ ภควติ สทฺธาย. ตสฺมึ สทฺทหนา โอกปฺปนา ตสฺส สทฺธาติปิ วตฺตพฺพตํ ลภติ. คจฺฉามีติ อาคจฺฉามิ, พุชฺฌามีติ อตฺโถ. เอตํ นิคณฺเน ปุจฺฉิตมตฺถมาห.
กายํ ¶ อุนฺนาเมตฺวาติ กายํ อพฺภุนฺนาเมตฺวา. กุจฺฉึ นีหริตฺวาติ ปิฏฺิยา นินฺนมเนน กุจฺฉึ ปุรโต นีหริตฺวา. คีวํ ปสารณวเสน ปคฺคยฺห ปคฺคเหตฺวา ¶ สพฺพํ ทิสํ เปกฺขมาโน. สพฺพมิทํ นิคณฺสฺส ปหฏฺาการทสฺสนตฺถํ ‘‘อิทานิ สมณสฺส โคตมสฺส อุปริ วาทํ อาโรเปตุํ ลพฺภตี’’ติ. เตนาห ‘‘วาตํ วา โส’’ติอาทิ. สการณาติ ยุตฺติสหิตา. ปฺหมคฺโคติ ปฺหสงฺขาโต วีมํสา, เอวํ ภวิตพฺพนฺติ จิตฺเตเนว ปริวีมํสา ปฺหา. เอโก อุทฺเทโสติ เอกํ อุทฺทิสนํ อตฺถสฺส สํขิตฺตวจนํ. เวยฺยากรณนฺติ นิทฺทิสนํ อตฺถสฺส วิจาเรตฺวา กถนํ. เอวนฺติ อิมินา นเยน. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ปฺหุทฺเทสเวยฺยากรเณสุ อตฺโถ วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ.
นิคณฺนาฏปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อเจลกสฺสปสุตฺตวณฺณนา
๓๕๑. อลํ สมตฺโถ อริยภาวายาติ อลมริโย. เยฺยชานนฏฺเน าณเมว ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน าณทสฺสนํ, โสเยว อติสยฏฺเน าณทสฺสนวิเสโส. ปาวฬา วุจฺจติ อานิสทปเทโส, ตํ ปาวฬํ รโชหรณตฺถํ นิปฺโผฏียติ เอตายาติ ปาวฬนิปฺโผฏนา, โมรปิฺฉวตฺติ.
อเจลกสฺสปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. คิลานทสฺสนสุตฺตวณฺณนา
๓๕๒. มตฺตราชา นาม เอโก ภุมฺมเทโว ภูตาธิปติ สุราโปตลรุกฺขนิวาสี. เตน วุตฺตํ ‘‘มตฺตราชกาเล’’ติ. ‘‘โอสธิติณวนปฺปตีสู’’ติ วตฺวา เต ยถากฺกมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘หรีตกา…เป… รุกฺเขสุ จา’’ติ อาห. ปตฺถนาวเสน จิตฺตํ เปหิ. สมิชฺฌิสฺสตีติ ยถาธิปฺปายํ สมิชฺฌิสฺสติ. เตน หีติ ยสฺมา ตํ เทวาปิ อาสนฺนมรณํ มฺนฺติ, ตสฺมา สา วรเมว ภวิสฺสติ, ตํ ตุมฺหากํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย.
คิลานทสฺสนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. คามณิสํยุตฺตํ
๑. จณฺฑสุตฺตวณฺณนา
๓๕๓. ‘‘เยน ¶ ¶ มิเธกจฺโจ จณฺโฑ จณฺโฑตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ เอวํ ปฺหปุจฺฉเนน ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ จณฺโฑติ คหิตนาโม. ปากฏํ กโรตีติ ทสฺเสติ อตฺตโน จณฺฑภาวํ.
จณฺฑสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ตาลปุฏสุตฺตวณฺณนา
๓๕๔. วาโลติ วุจฺจติ ตาโล, ตสฺส ตาลปุฏํ นาม. ยถา อามลกีผลสมานกํ, โส ปน ตาลสทิสมุขวณฺณตฺตา ตาลปุโฏติ เอวํนามโก. เตนาห ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ. อภินีหารสมฺปนฺโน อเนเกสุ กปฺเปสุ สมฺภตสาวกโพธิสมฺภาโร. ตถา เหส อสีติยา มหาสาวเกสุ อพฺภนฺตโร ชาโต. สหสฺสํ เทนฺติ นจฺจํ ปสฺสิตุกามา. สมชฺชเวสนฺติ เนปจฺจเวสํ. กีฬํ กตฺวาติ นจฺจกีฬิตํ กีฬิตฺวา, นจฺจิตฺวาติ อตฺโถ.
ปุพฺเพ ตถาปวตฺตวุตฺตนฺตทสฺสเน สจฺเจน, ตพฺพิปริยาเย อลิเกน. ราคปจฺจยาติ ราคุปฺปตฺติยา การณภูตา. มุขโต…เป… ทสฺสนาทโยติ อาทิ-สทฺเทน มุขโต อคฺคิชาลนิกฺขมทสฺสนาทิเก สงฺคณฺหาติ. อฺเ จ…เป… อภินยาติ กามสฺสาทสํยุตฺตานํ สิงฺคารหสฺสอพฺภุตรสานฺเจว ‘‘อฺเ จา’’ติ วุตฺตสนฺตพีภจฺฉรสานฺจ ทสฺสนกา อภินยา. โทสปจฺจยาติ โทสุปฺปตฺติยา การณภูตา. หตฺถปาทจฺเฉทาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตานํ รุทฺทวีรภยานกรสานํ ทสฺสนกา อภินยา. โมหปจฺจยาติ โมหุปฺปตฺติยา การณภูตา. เอวมาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตานํ กรุณาสนฺตภยานกรสานํ ทสฺสนกา อภินยา. เต หิ รเส สนฺธาย ปาฬิยํ ‘‘เย ธมฺมา รชนียา, เย ธมฺมา โทสนียา, เย ธมฺมา โมหนียา’’ติ จ วุตฺตํ.
นฏเวสํ ¶ คเหตฺวาว ปจฺจนฺติ กมฺมสริกฺขวิปากวเสน. ตํ สนฺธายาติ ตํ ยถาวุตฺตํ นิรเย ปจฺจนํ สนฺธาย. เอตํ ‘‘ปหาโส นาม นิรโย, ตตฺถ อุปปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. ยถา โลเก อตฺถวิเสสวเสน สกมฺมกานิปิ ปทานิ อกมฺมกานิ ภวนฺติ ‘‘วิมุจฺจติ ปุริโส’’ติ, เอวํ อิธ อตฺถวิเสสวเสน อกมฺมกํ สกมฺมกํ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, เอตํ โรทามี’’ติ. โก ¶ ปน โส อตฺถวิเสโส? อสหนํ อกฺขมนํ, ตสฺมา น โรทามิ น สหามิ, น อกฺขมามีติ อตฺโถ. โรทนการณฺหิ อสหนฺโต เตน อภิภูโต โรทติ. ตเมวสฺส สกมฺมกภาวสฺส การณภูตํ อตฺถวิเสสํ ‘‘น อสฺสุวิโมจนมตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. มตํ วา, อมฺม, โรทนฺตีติ เอตฺถาปิ มตํ โรทนฺติ, ตสฺส มรณํ น สหนฺติ, นกฺขมนฺตีติ ปากโฏยมตฺโถติ.
ตาลปุฏสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๕. โยธาชีวสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๕๕-๓๕๗. ยุชฺฌนํ โยโธ, โส อาชีโว เอตสฺสาติ โยธาชีโว. เตนาห – ‘‘ยุทฺเธน ชีวิกํ กปฺปนโก’’ติ, อุสฺสาหํ วายามํ กโรตีติ ยุชฺฌนวเสน อุสฺสาหํ วายามํ กโรติ. ปริยาปาเทนฺตีติ มรณปริยนฺติกํ อาปทํ ปาเปนฺติ. เตนาห ‘‘มรณํ ปฏิปชฺชาเปนฺตี’’ติ. ทุฏฺุ ปิตนฺติ ทุฏฺากาเรน อตฺตโน ปเรสฺจ อตฺถาวหภาวํ น คตํ ปฏิปนฺนํ. ปเรหิ สงฺคาเม ชิตา หตา เอตฺถ ชายนฺตีติ ปรชิโต นาม นิรโย. อสิธนุคทายสงฺกุจกฺกานิ ปฺจาวุธานิ. ตํ สนฺธายาติ ตํ โยธาชีวํ ปุคฺคลํ สนฺธาย. เอตํ ‘‘โย โส’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตุตฺถปฺจเมสูติ หตฺถาโรหอสฺสาโรหสุตฺเตสุ. เอเสว นโยติ เอโส ตติเย วุตฺโต เอว อตฺถโต วิเสสาภาวโต.
โยธาชีวสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อสิพนฺธกปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๕๘. ปจฺฉาภูมิวาสิโนติ ¶ อปรเทสวาสิโน. อุทกสุทฺธิกภาวชานนตฺถายาติ อตฺตโน อุทกสุทฺธิกภาวํ ชานนตฺถฺเจว โลกสฺส จ อุทเกน สุทฺธิ โหตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ชานนตฺถฺจ. อุปริ ยาเปนฺตีติ อุปริ พฺรหฺมโลกํ ยาเปนฺติ. สมฺมา าเปนฺตีติ สมฺมา อุชุกํเยว สคฺคํ โลกํ คเมนฺติ. เตนาห – ‘‘สคฺคํ นาม โอกฺกาเมนฺตี’’ติ, อวกฺกาเมนฺติ โอคาหาเปนฺตีติ อตฺโถ. อนุปริคจฺเฉยฺยาติ อนุปริโต คจฺเฉยฺย.
อสิพนฺธกปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เขตฺตูปมสุตฺตวณฺณนา
๓๕๙. ถทฺธนฺติ กถินํ ลูขํ. อูสรนฺติ อูสชาตํ. จตูหิปิ โอเฆหิ อนภิภวนียตาย ¶ อหํ ทีโป. สพฺพปริสฺสเยหิ อนภิภวนียตาย อหํ เลโณ. สพฺพทุกฺขปริตฺตาสนโต ตายนฏฺเน อหํ ตาณํ. สพฺพภยหึสนโต อหํ สรณนฺติ โยเชตพฺพํ.
อุทกมณิโกติ มหนฺตํ อุทกภาชนํ. พหิ วิสฺสนฺทนวเสน อุทกํ น หรตีติ อหารี, ปริโต น ปคฺฆรตีติ อปริหารี. สกฺกจฺจเมว เทเสนฺติ สทฺธมฺมคารวสฺส สพฺพสตฺเตสุ มหากรุณาย จ พุทฺธานํ สมานรสตฺตา. จตสฺโส ปน ปริสา สตฺถุคารเวน อตฺตโน จ สทฺธาสมฺปนฺนตาย สทฺทหิตฺวา โอกปฺเปตฺวา สุณนฺติ, ตสฺมา ตา เทสนาผเลน ยุชฺชนฺติ. กิจฺจสิทฺธิยา สตฺถุ เทสนา ตตฺถ สกฺกจฺจเทสนา นาม ชาตา.
เขตฺตูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สงฺขธมสุตฺตวณฺณนา
๓๖๐. ‘‘โย โกจิ ปุริโส ปาณาติปาตี มุสาวาที, สพฺโพ โส อาปายิโก’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ยํพหุลํ ยํพหุลํ กโรติ, เตน ¶ ทุคฺคตึ คจฺฉตี’’ติ วทนฺโต อตฺตนาว อตฺตโน วาทํ ภินฺทติ. เอวํ สนฺเตติ ยทิ พหุโส กเตน ปาปกมฺเมน อาปายิโก, ‘‘โย โกจิ ปาณมติปาเตตี’’ติอาทิวจนํ มิจฺฉาติ. จตฺตาริ ปทานีติ ‘‘โย โกจิ ปาณมติปาเตตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา จตฺตาโร อตฺถโกฏฺาสา. ทิฏฺิยา ปจฺจยา โหนฺติ ‘‘อตฺถิ โข ปน มยา’’ติอาทินา อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส. พลสมฺปนฺโนติ สมตฺโถ. สงฺขธมโกติ สงฺขสฺส ธมนกิจฺเจ เฉโก. อทุกฺเขนาติ สุเขน. อุปจาโรปิ อปฺปนาปิ วฏฺฏติ อุภินฺนํ สามฺวจนภาวโต. อปฺปมาณกตภาโว ลพฺภเตว. ตถา หิ ตํ กิเลสานํ วิกฺขมฺภนสมตฺถตาย ทีฆสนฺตานตาย วิปุลผลตาย จ ‘‘มหคฺคต’’นฺติ วุจฺจติ.
น โอหียตีติ ยสฺมึ สนฺตาเน กามาวจรกมฺมํ, มหคฺคตกมฺมฺจ กตูปจิตํ วิปากทาเน ลทฺธาวสรํ หุตฺวา ิตํ, เตสุ กามาวจรกมฺมํ อิตรํ นีหริตฺวา สยํ ตตฺถ โอหียิตฺวา อตฺตโน วิปากํ ทาตุํ น สกฺโกติ, มหคฺคตกมฺมเมว ปน อิตรํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากํ ทาตุํ สกฺโกติ ครุภาวโต. เตนาห ‘‘ตํ กามาวจรกมฺม’’นฺติอาทิ. กิเลสวเสนาติ ปาปกมฺมสฺส มูลภูตกิเลสวเสน. ปาณาติปาตาทโย หิ โทสโมหโลภาทิมูลกิเลสสมุฏฺานา. กิเลสวเสนาติ วา กมฺมกิเลสวเสน. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปาณาติปาโต โข, คหปติปุตฺต, กมฺมกิเลโส’’ติอาทิ (ที. นิ. ๓.๒๔๕). ยถานุสนฺธินาว คตนฺติ ยถานุสนฺธิสงฺขาตอนุสนฺธินา ¶ โอสานํ คตํ สํกิเลสสมฺมุเขน อุฏฺิตาย โวทานธมฺมวเสน นิฏฺาปิตตฺตา.
สงฺขธมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กุลสุตฺตวณฺณนา
๓๖๑. เอวํ ปวตฺตอีหิติกาติ เอวํ ทฺวิธา ปวตฺตอีหิติกา. ทฺวีหิติกา ทุกฺกรชีวิกปโยคา. สลากมตฺตํ วุตฺตํ เอตฺถาติ สลากา วุตฺตา, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลโป. อุภโตโกฏิกนฺติ ยทิ ‘‘กุลานุทยํ น วณฺเณมี’’ติ วทติ, ‘‘ภูตา นิกฺกรุณา สมณ ตุมฺเห’’ติ วาทํ อาโรเปหิ. อถ ¶ สพฺพทาปิ ‘‘กุลานุทยํ วณฺเณมี’’ติ วทติ. เอวํ สนฺเต ‘‘กสฺมา เอวํ ทุพฺภิกฺเข กาเล มหติยา ปริสาย ปริวุโต ชนปทจาริกํ จรนฺตา กุลูปจฺเฉทาย ปฏิปชฺชถา’’ติ เอวํ อุภโตโกฏิกํ วาทํ อาโรเปหีติ คามณึ อุยฺโยเชสิ.
ทฺเว อนฺเตติ อุโภ โกฏิโย. พหิ นีหริตุนฺติ น วณฺเณมิ วณฺเณมีติ ทฺเว อนฺเต โมเจนฺโต ตํ ปุจฺฉิตมตฺถํ พหิ นีหรติ นาม. ตตฺถ โทสํ ทตฺวา โจเทนฺโต ตํ อปุจฺฉํ กโรนฺโต คิลิตฺวา วิย อนฺโต ปเวเสติ นาม.
อิโต โส คามณีติอาทิ อตฺตโน ภิกฺขูนํ อฺเสฺจ อตฺถกามานํ ภิกฺขปฺปทาเนน อนิฏฺปฺปตฺติอภาวทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. ทาเนน สมฺภูตานีติ ทานมเยน ปฺุกิริยวตฺถุนา สมฺมเทว ภูตึ วฑฺฒึ ปตฺตานิ. สจฺเจน อริยโวหาเรน สมฺมเทว ภูตานิ อุปฺปนฺนานิ สจฺจสมฺภูตานีติ อาห ‘‘สจฺจํ นาม สจฺจวาทิตา’’ติ. เสสสีลนฺติ อฏฺวิธอริยโวหารโต อฺสีลํ. นิหิตนฺติ ตสฺมึ กุเล ปุพฺพปุริเสหิ นิธานภาเวน นิหิตํ. ทุปฺปยุตฺตาติ กสิวาณิชฺชาทิวเสน ทุฏฺุ ปยุตฺตา กมฺมนฺตา. วิปชฺชนฺตีติ นสฺสนฺติ. กุลงฺคาโรติ กุลสฺส องฺคารสทิโส วินาสกปุคฺคโล. อนิจฺจตาติ มรณํ. ตสฺมึ กุเล ปธานปุริสานํ โภคานํ วา สพฺพโส วินาโส. เตนาห ‘‘หุตฺวา อภาโว’’ติอาทิ.
กุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. มณิจูฬกสุตฺตวณฺณนา
๓๖๒. ตํ ¶ ปริสนฺติ ตํ ราชนฺเตปุเร นิสินฺนํ ราชปริสํ. นยคฺคาเหติ กุโตจิปิ อสุตฺวา เกวลํ อตฺตโน เอว มติยา นยคฺคหเณ ตฺวา.
กาเรตุํ วฏฺฏติ สติ สมฺภเว ปฏิสงฺขารสฺส, เสนาสนวินาโส น อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. อตฺตโน เอตฺถ กิจฺจาวสาเน ยํ คิหีนํเยว สนฺตกํ ตาวกาลิกํ, ตํ คิหิวิกตนฺติ อาห ‘‘คิหิวิกตํ กตฺวา’’ติ. น วทามิ ปพฺพชฺชิตาสารุปฺปโต.
มณิจูฬกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ภทฺรกสุตฺตวณฺณนา
๓๖๓. เอวํนามเกติ ¶ มลฺลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เนสํ นิวาสตาย ‘‘มลฺลา’’อิจฺเจว พหุวจนวเสน ลทฺธนามตฺตา เอวํนามเก ชนปเท. นตฺถิ เอตสฺส ปตฺติยา กาลนฺตรสฺิโต กาโลติ อกาโล, โส เอว อกาลิโก. เตนาห – ‘‘กาลํ อนติกฺกมิตฺวา ปตฺเตนา’’ติ. โส ปน ‘‘ยํกิฺจิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ ตํ ฉนฺทมูลก’’นฺติ เอวํ วุตฺโต ทุกฺขสฺส ฉนฺทมูลภาโว, เอวํ ฉนฺทมูลกสฺส ทุกฺขสฺส กถิตตฺตา ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขํ กถิต’’นฺติ วุตฺตํ.
ภทฺรกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ราสิยสุตฺตวณฺณนา
๓๖๔. ราสึ กตฺวา มารปาสวเสน, ตตฺราปิ อนฺตรเภเทน วิภชิตฺวา ปุจฺฉิตพฺพปฺเห เอกโต ราสึ กตฺวา. ตปนํ อตฺตปริตาปนํ ตโป, โส เอตสฺส อตฺถีติ ตปสฺสี, ตํ ตปสฺสึ. โส ปน ตํ ตปํ นิสฺสาย ิโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตปนิสฺสิตก’’นฺติ. โส ปน อเนกาการเภเทน ลูขํ ผรุสํ ชีวนสีลตฺตา ลูขชีวี นาม. เตนาห ‘‘ลูขชีวิก’’นฺติ. มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา อุปฺปถภาเวน อวนิยา คนฺธพฺพาติ อนฺตา, ตโต เอว ลามกตฺตา อนฺตา. ลามกมฺปิ ‘‘อนฺโต’’ติ วุจฺจติ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ (อิติวุ. ๙๑; สํ. นิ. ๓.๘๐), เอโก อนฺโต’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐). อฏฺกถายํ ปน อฺมฺอาธารภาวํ อุรีกตฺวา ‘‘โกฏฺาสา’’ติ วุตฺตํ. หีโน คาโมติ ปาฬิ. คาม-สทฺโท ¶ หีนปริยาโยติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘คามฺโม’’ติ. คาเม ภโวติ คามฺโม. คาม-สทฺโท เจตฺถ คามวาสิวิสโย ‘‘คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิย. อฏฺกถายํ ปน ‘‘คามวาสีนํ ธมฺโม’’ติ วุตฺตํ, เตสํ จาริตฺตนฺติ อตฺโถ. อตฺต-สทฺโท อิธ สรีรปริยาโย ‘‘อตฺตนฺตโป’’ติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘สรีรทุกฺขกรณนฺติ อตฺโถ’’ติ.
เอตฺถาติ ¶ เอตสฺมึ ตปนิสฺสิตครหิตพฺพปเท กสฺมา อนฺตทฺวยมชฺฌิมปฏิปทาคหณํ? อตฺตกิลมถานุโยโค ตาว คยฺหตุ อิทมตฺถิตายาติ อธิปฺปาโย. กามโภคีตปนิสฺสิตกนิชฺชรวตฺถูนํ ทสฺสเน ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส วิภชิตฺวา กถนํ สมฺภวตีติ เต ทสฺเสตฺวา อธิปฺเปตตฺโถ กถิโต.
ตมตฺถนฺติ โย ‘‘กามโภคีตปนิสฺสิตเกสุ ครหิตพฺเพเยว ครหติ, ปสํสิตพฺเพเยว จ ปสํสตี’’ติ วุตฺโต อตฺโถ, ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต. สาหสิกกมฺเมนาติ อยุตฺเตน กมฺเมน. ธมฺเมน จ อธมฺเมน จาติ ธมฺมิเกน อธมฺมิเกน จ. อโยนิโส ปวตฺตํ พาหิรกํ สนฺธาย โจทโก ‘‘กถ’’นฺติอาทิมาห. อิตโร นยิทํ ตาทิสํ อตฺตปริตาปนํ อธิปฺเปตํ, อถ โข โยนิโส ปวตฺตํ สาสนิกเมวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุรงฺควีริยวเสน จา’’ติ อาห. ตตฺถ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒.๒๓๗; อ. นิ. ๒.๕) นเยน วุตฺตา สรีเรนิรเปกฺขวิปสฺสนาย อุสฺสุกฺกาปนวเสน ปวตฺตา วีริยภาวนา ‘‘จตุรงฺควีริยวเสนา’’ติ วุตฺตา. ตถา อพฺโภกาสิกเนสชฺชิกตปาทินิสฺสิตาว กิเลสนิมฺมถนโยคฺยา วีริยภาวนา ‘‘ธุตงฺควเสน จา’’ติ วุตฺตาติ. อริยมคฺเคน นิสฺเสสกิเลสานํ ปชหนา นิชฺชรา. สา จ อตฺตปจฺจกฺขตาย สนฺทิฏฺิกา ติณฺณํ มูลกิเลสานํ ปชหเนน ‘‘ติสฺโส’’ติ จ วุตฺตา. เตนาห ‘‘เอโกปี’’ติอาทิ.
ราสิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. ปาฏลิยสุตฺตวณฺณนา
๓๖๕. ‘‘มายฺจาหํ ปชานามี’’ติ วจนํ กามํ เตสํ มายาวีภาวทสฺสนปรํ, ภควโต ปน มายาสาเยฺยาทิกสฺส สพฺพสฺส ปาปธมฺมสฺส โพธิมูเล เอว เสตุฆาโต, ตสฺมา สพฺพโส ปหีนมาโย, สพฺพฺุตาย มายํ อฺเ จ เยฺเย สพฺพโส ชานาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มายฺจาหํ, คามณิ, ปชานามี’’ติอาทิ. มายฺจ ปชานามีติ น เกวลมหํ มายํ เอว ชานามิ, อถ โข อฺมฺปิ อิทฺจิทฺจ ชานามีติ.
อิตฺถิกาเมหีติ ¶ ¶ อิตฺถีหิ เจว ตทฺกาเมหิ จ. เอกสฺมึ าเนติ เอกสฺมึ ปเทเส. เอเกกสฺเสว อาคนฺตุกสฺส คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา. สตฺติอนุรูเปนาติ วิภวสตฺติอนุรูเปน. พลานุรูเปนาติ ปริวารพลานุรูเปน. สตฺติอนุรูเปนาติ วา สทฺธาสตฺติอนุรูเปน. พลานุรูเปนาติ วิภวพลานุรูเปน. ธมฺเมสุ สมาธิ ทสกุสลธมฺเมสุ สมาธานํ. อคฺคหิตจิตฺตตา ปริยุฏฺการิตา. เตน โลกิยสีลวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ จ วุตฺตา. ตถา จาห – ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ตตฺถ ปติฏฺิตสฺส อุปริ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมสมาธิสฺมึ ิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยํ ปฏิปทาติ ตสฺส กมฺมผลวาทิโน สตฺถุ วจนํ สพฺเพสฺจ อยํ มยฺหํ สีลสํวรพฺรหฺมวิหารภาวนาสงฺขาตาปฏิปทา อนปราธกตาย เอว สํวตฺตติ. ชยคฺคาโหติ อุภยถาปิ มยฺหํ กาจิ ชานิ นตฺถิ.
ปฺจ ธมฺมา ธมฺมสมาธิ นาม, วิปสฺสนามคฺคผลธมฺมมตฺตํ วา. ตติยวิกปฺเป สีลาทิวิสุทฺธิยา สทฺธึ พฺรหฺมวิหารา ยถาวุตฺตติวิธธมฺมาวหตฺตา เอว ธมฺมสมาธิ นาม. ปูเรนฺตสฺส อุปฺปนฺนา จิตฺเตกคฺคตาติ วุตฺตขณิกจิตฺเตกคฺคตา. สาปิ จิตฺตสฺส สมาธานโต ‘‘จิตฺตสมาธี’’ติ วุตฺตา, ตสฺส ปฏิปกฺขํ วิกฺขมฺภนฺตี สมุจฺฉินฺทนฺตี จ หุตฺวา ปวตฺตา ยถาวุตฺตสมาธิ เอว วิเสเสน จิตฺตสมาธิ นาม.
ปาฏลิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
คามณิสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อสงฺขตสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑-๑๑. กายคตาสติสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๖๖-๓๗๖. อสงฺขตนฺติ ¶ ¶ น สงฺขตํ เหตุปจฺจเยติ. เตนาห ‘‘อกต’’นฺติ. หิตํ เอสนฺเตนาติ เมตฺตายนฺเตน. อนุกมฺปมาเนนาติ กรุณายนฺเตน. อุปาทายาติ อาทิยิตฺวาติ อยมตฺโถติอาห ‘‘จิตฺเตน ปริคฺคเหตฺวา’’ติ. อวิปรีตธมฺมเทสนาติ อวิปรีตธมฺมสฺส เทสนา, ปฏิปตฺติมฺปิ สาวกา วิย ครุโก ภควา. ทายชฺชํ อตฺตโน อธิฏฺิตํ นิยฺยาเตติ.
ภิกฺขาสมฺปตฺติกาลาทีนํ สตฺตนฺนํ สปฺปายานํ สมฺปตฺติยา ลพฺภนกาเล. วิปตฺติกาเล ปน เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาริยนฺติ ทุกฺขพหุลตาย ทารุณํ. อมฺหากํ สนฺติกา ลทฺธพฺพา. ตุมฺหากํ อนุสาสนีติ ตุมฺหากํ ทาตพฺพา อนุสาสนี.
กายคตาสติสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺโค
๒๓-๓๓. อสงฺขตสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๗๗-๔๐๙. ตตฺถ จ นตฺถิ เอตฺถ ตณฺหาสงฺขาตํ นตํ, นตฺถิ เอตสฺมึ วา อธิคเต ปุคฺคลภาโวติ อนตํ. อนาสวนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สจฺจธมฺมตาย สจฺจํ. วฏฺฏทุกฺขโต ปารเมตีติ ปารํ. สณฺหฏฺเนาติ สุขุมฏฺเน นิปุณํ. ตโต เอว ทุทฺทสตาย. อชชฺชรํ นิจฺจสภาวตฺตา. นตฺถิ เอตสฺส นิทสฺสนนฺติ วา อนิทสฺสนํ. เอตสฺมึ อธิคเต นตฺถิ สํสาเร. ปปฺจนฺติ วา นิปฺปปฺจํ.
เอตสฺมึ ¶ ¶ อธิคเต ปุคฺคลสฺส มรณํ นตฺถีติ วา อมตํ. อตปฺปกฏฺเน วา ปณีตํ. สุขเหตุตาย วา สิวํ. ตณฺหา ขียนฺติ เอตฺถาติ ตณฺหกฺขยํ.
อฺสฺส ตาทิสสฺส อภาวโต วิมฺหาปนียตาย อภูตเมวาติ. กุโตจิ ปจฺจยโต อนิพฺพตฺตเมว หุตฺวา ภูตํ วิชฺชมานํ. เตนาห ‘‘อชาตํ หุตฺวา อตฺถี’’ติ. นตฺถิ เอตฺถ ทุกฺขนฺติ นิทฺทุกฺขํ, ตสฺส ภาโว นิทฺทุกฺขตฺตํ. ตสฺมา อนีติกํ อีติรหิตํ. วานํ วุจฺจติ ตณฺหา, ตทภาเวน นิพฺพานํ. พฺยาพชฺฌํ วุจฺจติ ทุกฺขํ, ตทภาเวน อพฺยาพชฺฌํ. ปรมตฺถโต สจฺจโต สุทฺธิภาเวน. กามา เอว ปุถุชฺชเนหิ อลฺลียิตพฺพโต อาลยา. เอส นโย เสเสสุปิ. ปติฏฺฏฺเนาติ ปติฏฺาภาเวน วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจิตุกามานํ ทีปสทิสํ โอเฆหิ อนชฺโฌตฺถรณียตฺตา. อลฺลียิตพฺพยุตฺตฏฺเนาติ อลฺลียิตุํ อรหภาวโต. ตายนฏฺเนาติ สปรตายนฏฺเน. ภยสรณฏฺเนาติ ภยสฺส หึสนฏฺเน. เสฏฺํ อุตฺตมํ. คตีติ คนฺธพฺพฏฺานํ.
อสงฺขตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อสงฺขตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อพฺยากตสํยุตฺตํ
๑. เขมาสุตฺตวณฺณนา
๔๑๐. พิมฺพิสารสฺส ¶ ¶ อุปาสิกาติ พิมฺพิสารสฺส โอโรธภูตา อุปาสิกา. ปณฺฑิจฺจํ สิกฺขิตภาเวน. เวยฺยตฺติยํ วิสารทภาเวน. วิสารทา นาม ติเหตุกปฏิสนฺธิสิทฺธสาภาวิกปฺา, ตาย สมนฺนาคตา.
อจฺฉิทฺทกคณนาย กุสโลติ นวนฺตคณนาย กุสโล. องฺคุลิมุทฺทาย คณนาย กุสโลติ องฺคุลิกาย เอว คณนาย กุสโล เสยฺยถาปิ ปาทสิกา. ปิณฺฑคณนายาติ สงฺกลนปฏุปฺปนฺนการิโน ปิณฺฑวเสน คณนา. ตถาคโตติ ขีณาสโว, ตถาคตํ สนฺธาย ปุจฺฉตีติ ขีณาสโวติ จสฺส อรหตฺตผลวสิภาวิตขนฺเธ อุปาทาย อยํ ปฺตฺติ โหติ. เตสุ ขนฺเธสุ สติ ขีณาสวา สตฺตสงฺขาตา โหนฺตีติ โวหาเรน ปฺเปตุํ สกฺกา ภเวยฺย, อสนฺเตสุ น สกฺกา, ตสฺมา ปรํ มรณาติ วุตฺตตฺตา เตสํ อภาวา ‘‘อพฺยากตเมต’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ เตสํ อภาวโต ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ ปุฏฺาย ‘‘อามา’’ติ ปฏิชานิตพฺพา สิยา, ตํ ปน สตฺตสงฺขาตสฺส ปุจฺฉิตตฺตา น ปฏิฺาตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เยน รูเปนาติ สตฺตตถาคเต วุตฺตรูปํ สพฺพฺุตถาคเต ปฏิกฺขิปิตุํ ‘‘ตํ รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยํ อุปาทายาติ ยํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. ตทภาเวนาติ ตสฺส ขนฺธปฺจกสฺส อภาเวน. ตสฺสา ปฺตฺติยาติ สตฺตปฺตฺติยา อภาวํ. นิรุทฺธํ น นิทสฺเสติ.
เขมาย เถริยา วุตฺตํ ปมํ สุตฺตํ ภควโต เสฏฺตฺถทีปนโต อคฺคปทาวจรํว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อคฺคปทสฺมิ’’นฺติ.
เขมาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อนุราธสุตฺตวณฺณนา
๔๑๑. อิธ สฬายตนวคฺเค สงฺคายนวเสน สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตํ.
๓-๘. ปมสาริปุตฺตโกฏฺิกสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๑๒-๔๑๗. รูปมตฺตนฺติ ¶ ¶ เอตฺถ มตฺต-สทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถ. โก ปน โส วิเสโสติ? โย พาหิรปริกปฺปิโต อิธ ตถาคโตติ วุจฺจมาโน อตฺตา. อนุปลพฺภิยสภาโวติ อนุปลพฺภิยตฺตา.
ปมสาริปุตฺตโกฏฺิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กุตูหลสาลาสุตฺตวณฺณนา
๔๑๘. นานาวิธนฺติ ตํตํทิฏฺิวาทปฏิสํยุตฺตํ อฺมฺปิ วา นานาวิธํ ติรจฺฉานกถํ. พหูนํ กุตูหลุปฺปตฺติฏฺานโตติ โยชนา. ยาว อาภสฺสรพฺรหฺมโลกา คจฺฉตีติ อคฺคินา กปฺปวุฏฺานกาเล คจฺฉติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิมฺจ กายนฺติ อิมํ รูปกายํ. จุติจิตฺเตน นิกฺขิปตีติ จุติจิตฺเตน ภิชฺชมาเนน นิกฺขิปติ. จุติจิตฺตสฺส หิ โอรํ สตฺตรสมสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ กมฺมชรูปํ จุติจิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌติ, ตโต ปรํ กมฺมชรูปํ น อุปฺปชฺชติ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, มรณํ น สิยา, จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ, อาหารชสฺส จ อสมฺภโว เอว, อุตุชํ ปน วตฺตเตว. ยสฺมา ปฏิสนฺธิกฺขเณ สตฺโต อฺตรณาย อุปปชฺชติ นาม, จุติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อลทฺธํ อฺตรณาย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จุติกฺขเณ…เป… โหตี’’ติ.
กุตูหลสาลาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๔๑๙. เตสํ ลทฺธิยาติ เตสํ สสฺสตวาทานํ ลทฺธิยา สทฺธึ เอตํ ‘‘อตฺถตฺตา’’ติ วจนํ เอกํ อภวิสฺส. ตโต เอว อนุโลมํ ตํ นาภวิสฺส าณสฺสาติ อสารํ เอตนฺติ อธิปฺปาโย. อปิ นุ เมตสฺสาติ เม เอตสฺส อนตฺตาติ วิปสฺสนาาณสฺส อนุโลมํ อปิ นุ อภวิสฺส, วิโลมกเมว ตสฺส สิยาติ อตฺโถ.
อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. สภิยกจฺจานสุตฺตวณฺณนา
๔๒๐. ยสฺสป’สฺสาติ ¶ ¶ ปาสฺส อยํ ปิณฺฑตฺโถ ‘‘อาวุโส’’ติอาทิ. ตตฺถายํ สมฺพนฺโธ – อาวุโส, ยสฺสปิ ปุคฺคลสฺส ตีณิ วสฺสานิ วุฏฺโ, เอตฺตเกน กาเลน ‘‘เหตุมฺหิ สติ รูปีติอาทิปฺาปนา โหติ, อสติ น โหตี’’ติ เอตฺตกํ พฺยากรณํ ภเวยฺย, ตสฺส ปุคฺคลสฺส เอตฺตกเมว พหุ, โก ปน วาโท อติกฺกนฺเต! อิโต อติกฺกนฺเต ธมฺมเทสนานเย วาโทเยว วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ เถรสฺส ปฺหพฺยากรณํ สุตฺวา ปริพฺพาชโก ปีติโสมนสฺสํ ปเวเทสิ.
สภิยกจฺจานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อพฺยากตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
สฬายตนวคฺควณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.