📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

สํยุตฺตนิกาเย

มหาวคฺค-อฏฺกถา

๑. มคฺคสํยุตฺตํ

๑. อวิชฺชาวคฺโค

๑-๒. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑-๒. มหาวคฺคสฺส ปเม ปุพฺพงฺคมาติ สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ ปุพฺพงฺคมา. สมาปตฺติยาติ สมาปชฺชนาย สภาวปฏิลาภาย, อุปฺปตฺติยาติ อตฺโถ. อนฺวเทว อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ สา ปเนสา ยเทตํ อลชฺชนาการสณฺิกํ อหิริกํ, อภายนาการสณฺิตฺจ อโนตฺตปฺปํ, เอตํ อนุเทว สเหว เอกโตว, น วินา เตน อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อวิชฺชาคตสฺสาติ อวิชฺชาย อุปคตสฺส สมนฺนาคตสฺส. มิจฺฉาทิฏฺีติ อยาถาวทิฏฺิ อนิยฺยานิกทิฏฺิ. ปโหตีติ โหติ อุปฺปชฺชติ. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีสุปิ อยาถาวอนิยฺยานิกวเสเนว มิจฺฉาภาโว เวทิตพฺโพ. อิติ อิมานิ อฏฺปิ อกุสลธมฺมสมาปตฺติยา มิจฺฉตฺตองฺคานิ นาม โหนฺติ. ตานิ ปน น เอกกฺขเณ สพฺพานิ ลพฺภนฺติ, นานกฺขเณ ลพฺภนฺติ.

กถํ? ยทา หิ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตํ กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปนฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตทา มิจฺฉาทิฏฺิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ มิจฺฉาสมาธิ มิจฺฉากมฺมนฺโตติ ฉ องฺคานิ โหนฺติ. ยทา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตํ, ตทา มิจฺฉาทิฏฺิวชฺชานิ ปฺจ. ยทา ตาเนว ทฺเว วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปนฺติ, ตทา มิจฺฉากมฺมนฺตฏฺาเน มิจฺฉาวาจาย สทฺธึ ตาเนว ฉ วา ปฺจ วา. อยํ อาชีโว นาม กุปฺปมาโน กายวจีทฺวาเรสุเยว อฺตรสฺมึ กุปฺปติ, น มโนทฺวาเร. ตสฺมา ยทา อาชีวสีเสน ตาเนว จิตฺตานิ กายวจีวิฺตฺติโย สมุฏฺาเปนฺติ, ตทา กายกมฺมํ มิจฺฉาชีโว นาม โหติ, ตถา วจีกมฺมนฺติ มิจฺฉาชีวสฺส วเสน ตาเนว ฉ วา ปฺจ วา. ยทา ปน วิฺตฺตึ อสมุฏฺาเปตฺวา ตานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตทา มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปมิจฺฉาวายามมิจฺฉาสติมิจฺฉาสมาธิวเสน ปฺจ วา, มิจฺฉาสงฺกปฺปาทิวเสน จตฺตาริ วา โหนฺตีติ เอวํ น เอกกฺขเณ สพฺพานิ ลพฺภนฺติ, นานกฺขเณ ลพฺภนฺตีติ.

สุกฺกปกฺเข วิชฺชาติ กมฺมสฺสกตาณํ. อิหาปิ สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ ปุพฺพงฺคมตา เวทิตพฺพา. หิโรตฺตปฺปนฺติ หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. ตตฺถ ลชฺชนาการสณฺิตา หิรี, ภายนาการสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโตว. วิชฺชาคตสฺสาติ วิชฺชาย อุปคตสฺส สมนฺนาคตสฺส. วิทฺทสุโนติ วิทุโน ปณฺฑิตสฺส. สมฺมาทิฏฺีติ ยาถาวทิฏฺิ นิยฺยานิกทิฏฺิ. สมฺมากมฺมนฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ กุสลธมฺมสมาปตฺติยา อิมานิ อฏฺงฺคานิ โหนฺติ, ตานิ โลกิยมคฺคกฺขเณ น เอกโต สพฺพานิ ลพฺภนฺติ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน ลพฺภนฺติ. ตานิ จ โข ปมชฺฌานิกมคฺเค, ทุติยชฺฌานิกาทีสุ ปน สมฺมาสงฺกปฺปวชฺชานิ สตฺเตว โหนฺติ.

ตตฺถ โย เอวํ วเทยฺย ‘‘ยสฺมา มชฺฌิมนิกายมฺหิ มหาสฬายตนิกสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๔๓๑) ‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺิ, สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ. โย ตถาภูตสฺส, สงฺกปฺโป, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสงฺกปฺโป. โย ตถาภูตสฺส วายาโม, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม. ยา ตถาภูตสฺส สติ, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสติ. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสมาธิ. ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว จ สุปริสุทฺโธ’ติ วุตฺตํ ตสฺมา ปฺจงฺคิโกปิ โลกุตฺตรมคฺโค โหตี’’ติ โส วตฺตพฺโพ – ตสฺมึเยว สุตฺเต ‘‘เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ อิทํ กสฺมา น ปสฺสสิ? ยํ ปเนตํ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ปริสุทฺธภาวทสฺสนตฺถํ. ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย หิ ปริสุทฺธานิ กายกมฺมาทีนิ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อติปริสุทฺธานิ โหนฺตีติ อยมตฺโถ ทีปิโต.

ยมฺปิ อภิธมฺเม วุตฺตํ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ (วิภ. ๒๑๒), ตํ เอกํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมิฺหิ กาเล มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปหาย สมฺมากมฺมนฺตํ ปูเรติ, ตสฺมึ กาเล มิจฺฉาวาจา วา มิจฺฉาชีโว วา น โหติ, ทิฏฺิ สงฺกปฺโป วายาโม สติ สมาธีติ อิเมสุเยว ปฺจสุ การกงฺเคสุ สมฺมากมฺมนฺโต ปูรติ. วิรติวเสน หิ สมฺมากมฺมนฺโต ปูรติ นาม. สมฺมาวาจาสมฺมาอาชีเวสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิมํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺตํ. โลกิยมคฺคกฺขเณ จ ปฺเจว โหนฺติ, วิรติ ปน อนิยตา. ตสฺมา ‘‘ฉองฺคิโก’’ติ อวตฺวา ‘‘ปฺจงฺคิโก’’ตฺเวว วุตฺตํ. ‘‘ยา จ, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ตีหิ กายทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี อกิริยา อกรณํ, อยํ ภิกฺขเว สมฺมากมฺมนฺโต อริโย อนาสโว โลกุตฺตรมคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๙). เอวํ ปน มหาจตฺตาลีสกสุตฺตาทีสุ อเนเกสุ สุตฺเตสุ สมฺมากมฺมนฺตาทีนฺจ โลกุตฺตรมคฺคสฺส องฺคภาวสิทฺธิโต อฏฺงฺคิโกว โลกุตฺตรมคฺโค โหตีติ เวทิตพฺโพติ. อิมสฺมึ สุตฺเต อยํ อฏฺงฺคิโก มคฺโค โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโกว กถิโต. ทุติยํ โกสลสํยุตฺเต วุตฺตเมว.

๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

. ตติเย สกลมิทํ ภนฺเตติ อานนฺทตฺเถโร สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ อปฺปตฺตตาย สกลมฺปิ มคฺคพฺรหฺมจริยํ กลฺยาณมิตฺตสนฺนิสฺสเยน ลพฺภตีติ น อฺาสิ, ธมฺมเสนาปติ ปน สาวกปารมีาณสฺส มตฺถเก ิตตฺตา อฺาสิ, ตสฺมา เอวมาห. เตเนวสฺส ภควา สาธุ สาธูติ สาธุการมทาสิ.

๔. ชาณุสฺโสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

. จตุตฺเถ สพฺพเสเตน วฬวาภิรเถนาติ สกลเสเตน จตูหิ วฬวาหิ ยุตฺตรเถน. โส กิร สพฺโพ สจกฺกปฺชรกุพฺพโร รชตปริกฺขิตฺโต โหติ. รโถ จ นาเมส ทุวิโธ โหติ – โยธรโถ, อลงฺการรโถติ. ตตฺถ โยธรโถ จตุรสฺสสณฺาโน โหติ นาติมหา ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา ชนานํ คหณสมตฺโถ. อลงฺการรโถ มหา โหติ ทีฆโต ทีโฆ ปุถุลโต ปุถุโล จ, ตตฺถ ฉตฺตคฺคาหโก วาลพีชนิคฺคาหโก ตาลวณฺฏคฺคาหโกติ เอวํ อฏฺ วา ทส วา สุเขเนว าตุํ วา นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา สกฺโกนฺติ. อยมฺปิ อลงฺการรโถเยว.

เสตา สุทํ อสฺสาติ ตา วฬวา ปกติยา เสตวณฺณาว. เสตาลงฺการาติ ปสาธนํ ตาสํ รชตมยํ อโหสิ. เสโต รโถติ รโถปิ วุตฺตนเยเนว รชตปริกฺขิตฺตตฺตา ตตฺถ ตตฺถ ทนฺตกมฺมขจิตตฺตา จ เสโตว. เสตปริวาโรติ ยถา อฺเ รถา สีหจมฺมปริวาราปิ โหนฺติ, พฺยคฺฆจมฺมปริวาราปิ ปณฺฑุกมฺพลปริวาราปิ โหนฺติ, น เอวํ เอส. เอส ปน ฆนทุกูเลน ปริวาริโต อโหสิ. เสตา รสฺมิโยติ รสฺมิโยปิ รชตปนาฬิสุปริกฺขิตฺตา. เสตา ปโตทลฏฺีติ ปโตทลฏฺิปิ รชตปริกฺขิตฺตา.

เสตํ ฉตฺตนฺติ รถมชฺเฌ อุสฺสาปิตฉตฺตมฺปิ เสตเมว อโหสิ. เสตํ อุณฺหีสนฺติ อฏฺงฺคุลวิตฺถาโร รชตมโย อุณฺหีสปฏฺโฏ เสโต. เสตานิ วตฺถานีติ วตฺถานิปิ เสตานิ เผณปุฺชวณฺณานิ. เตสุ นิวาสนํ ปฺจสตคฺฆนกํ, อุตฺตราสงฺโค สหสฺสคฺฆนโก. เสตา อุปาหนาติ อุปาหนา นาม มคฺคารุฬฺหสฺส วา โหนฺติ อฏวึ วา ปวิสนฺตสฺส. อยํ ปน รถํ อภิรุฬฺโห, เตนสฺส ตทนุจฺฉวิโก รชตปฏิเสวิโต ปาทาลงฺกาโร นาม เอส เอวํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. เสตาย สุทํ วาลพีชนิยาติ ผลิกมยทณฺฑาย เสตจมรวาลพีชนิยา. น เกวลฺจ เอตฺตกเมวสฺส เสตํ อโหสิ, โส ปน พฺราหฺมโณ เสตวิเลปนํ วิลิมฺปิ, เสตมาลํ ปิฬนฺธิ, ทสสุ องฺคุลีสุ องฺคุลิมุทฺทิกา กณฺเณสุ กุณฺฑลานีติ เอวมาทิ อลงฺกาโรปิสฺส รชตมโยว อโหสิ. ปริวารพฺราหฺมณาปิสฺส ทสสหสฺสมตฺตา ตเถว เสตวตฺถวิเลปนมาลาลงฺการา อเหสุํ.

ยํ ปเนตํ สาวตฺถิยา นิยฺยายนฺตนฺติ วุตฺตํ, ตตฺรายํ นิยฺยายนวิภาวนา – โส กิร ฉนฺนํ ฉนฺนํ มาสานํ เอกวารํ นครํ ปทกฺขิณํ กโรติ – ‘‘อิโต เอตฺตเกหิ ทิวเสหิ นครํ ปทกฺขิณํ กริสฺสตี’’ติ ปุเรตรเมว โฆสนา กยิรติ. ตํ สุตฺวา เย นครโต น ปกฺกนฺตา, เต น ปกฺกมนฺติ. เยปิ ปกฺกนฺตา, เตปิ ‘‘ปุฺวโต สิริสมฺปตฺตึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อาคจฺฉนฺติ. ยํ ทิวสํ พฺราหฺมโณ นครํ อนุวิจรติ, ตทา ปาโตว นครวีถิโย สมฺมชฺชิตฺวา วาลิกํ โอกิริตฺวา ลาชปฺจเมหิ ปุปฺเผหิ วิปฺปกิริตฺวา ปุณฺณฆเฏ เปตฺวา กทลิโย จ ธเช จ อุสฺสาเปตฺวา สกลนครํ ธูปิตวาสิตํ กโรนฺติ.

พฺราหฺมโณ ปาโตว สีสํ นฺหายิตฺวา ปุเรภตฺตํ ภุฺชิตฺวา วุตฺตนเยเนว เสตวตฺถาทีหิ อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห รถํ อภิรุหติ. อถ นํ เต พฺราหฺมณา สพฺพเสตวตฺถวิเลปนมาลาลงฺการา เสตจฺฉตฺตานิ คเหตฺวา ปริวาเรนฺติ. ตโต มหาชนสฺส สนฺนิปาตตฺถํ ปมํเยว ตรุณทารกานํ ผลาผลานิ วิกิรนฺติ, ตทนนฺตรํ มาสกรูปาทีนิ, ตทนนฺตรํ กหาปเณ วิกิรนฺติ. มหาชโน สนฺนิปตติ, อุกฺกุฏฺิโย เจว เจลุกฺเขปา จ วตฺตนฺติ. อถ พฺราหฺมโณ มงฺคลิกโสวตฺถิกาทีสุ มงฺคลานิ เจว สุวตฺถิโย จ กโรนฺเตสุ มหาสมฺปตฺติยา นครํ อนุวิจรติ. ปุฺวนฺตา มนุสฺสา เอกภูมิกาทิปาสาเท อารุยฺห สุกปตฺตสทิสานิ วาตปานกวาฏานิ วิวริตฺวา โอโลเกนฺติ. พฺราหฺมโณปิ อตฺตโน ยสสิริสมฺปตฺติยา นครํ อชฺโฌตฺถรนฺโต วิย ทกฺขิณทฺวาราภิมุโข โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ตเมนํ ชโน ทิสฺวาติ มหาชโน ตํ รถํ ทิสฺวา. พฺรหฺมนฺติ เสฏฺาธิวจนเมตํ. พฺรหฺมํ วต โภ ยานนฺติ เสฏฺยานสทิสํ วต โภ ยานนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิมสฺเสว โข เอตนฺติ, อานนฺท, มนุสฺสา นาม วณฺณภาณกานํ ธนํ ทตฺวา อตฺตโน ทาริกานํ วณฺณคีตํ คายาเปนฺติ ‘‘อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย มหทฺธโน มหาโภโค’’ติ, น จ เตน วณฺณภณนมตฺเตน อภิรูปา วา โหนฺติ มหทฺธนา วา, เอวเมว มหาชโน พฺราหฺมณสฺส รถํ ทิสฺวา – ‘‘พฺรหฺมํ วต โภ ยาน’’นฺติ กิฺจาปิ เอวํ วณฺณํ ภณติ, น ปเนตํ ยานํ วณฺณภณนมตฺเตเนว พฺรหฺมยานํ นาม โหติ. ลามกฺหิ เอตํ ฉวํ. ปรมตฺเถน ปน อิมสฺเสว โข เอตํ, อานนฺท, อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส อธิวจนํ. อยฺหิ สพฺพโทสวิคเมน เสฏฺโ, อิมินา จ อริยา นิพฺพานํ ยนฺตีติ พฺรหฺมยานํ อิติปิ, ธมฺมภูตตฺตา ยานตฺตา จ ธมฺมยานํ อิติปิ, อนุตฺตรตฺตา กิเลสสงฺคามสฺส จ วิชิตตฺตา อนุตฺตโร สงฺคามวิชโย อิติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อิทานิสฺส นิทฺโทสภาวฺเจว สงฺคามวิชยภาวฺจ ทสฺเสนฺโต ราควินยปริโยสานาติอาทิมาห. ตตฺถ ราคํ วินยมานา ปริโยสาเปติ ปริโยสานํ คจฺฉติ นิปฺผชฺชตีติ ราควินยปริโยสานา. เอส นโย สพฺพตฺถ.

ยสฺส สทฺธา จ ปฺา จาติ ยสฺส อริยมคฺคยานสฺส สทฺธานุสาริวเสน สทฺธา, ธมฺมานุสาริวเสน ปฺาติ อิเม ทฺเว ธมฺมา สทา ธุรํ ยุตฺตา, ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ยุตฺตาติ อตฺโถ. หิรี อีสาติ อตฺตนา สทฺธึ อธิวิฏฺเน พหิทฺธาสมุฏฺาเนน โอตฺตปฺเปน สทฺธึ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี ยสฺส มคฺครถสฺส อีสา. มโน โยตฺตนฺติ วิปสฺสนาจิตฺตฺจ มคฺคจิตฺตฺจ โยตฺตํ. ยถา หิ รถสฺส วากาทิมยํ โยตฺตํ โคเณ เอกาพทฺเธ กโรติ เอกสงฺคหิเต, เอวํ มคฺครถสฺส โลกิยวิปสฺสนาจิตฺตํ อติเรกปฺาส, โลกุตฺตรวิปสฺสนาจิตฺตํ อติเรกสฏฺิ กุสลธมฺเม เอกาพทฺเธ เอกสงฺคเห กโรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มโน โยตฺต’’นฺติ. สติ อารกฺขสารถีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ อารกฺขสารถิ. ยถา หิ รถสฺส อารกฺโข สารถิ นาม โยคฺคิโย. ธุรํ วาเหติ โยเชติ อกฺขํ อพฺภฺชติ รถํ เปเสติ รถยุตฺตเก นิพฺพิเสวเน กโรติ, เอวํ มคฺครถสฺส สติ. อยฺหิ อารกฺขปจฺจุปฏฺานา เจว กุสลากุสลานฺจ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสตีติ วุตฺตา.

รโถติ อริยอฏฺงฺคิกมคฺครโถ. สีลปริกฺขาโรติ จตุปาริสุทฺธิสีลาลงฺกาโร. ฌานกฺโขติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตานํ ปฺจนฺนํ ฌานงฺคานํ วเสน ฌานมยอกฺโข. จกฺกวีริโยติ วีริยจกฺโก, กายิกเจตสิกสงฺขาตานิ ทฺเว วีริยานิ อสฺส จกฺกานีติ อตฺโถ. อุเปกฺขา ธุรสมาธีติ ธุรสฺส สมาธิ, อุนฺนโตนตาการสฺส อภาเวน ทฺวินฺนมฺปิ ยุคปเทสานํ สมตาติ อตฺโถ. อยฺหิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จิตฺตุปฺปาทสฺส ลีนุทฺธจฺจภาวํ หริตฺวา ปโยคมชฺฌตฺเต จิตฺตํ เปติ, ตสฺมา อิมสฺส มคฺครถสฺส ‘‘ธุรสมาธี’’ติ วุตฺตา. อนิจฺฉา ปริวารณนฺติ พาหิรกรถสฺส สีหจมฺมาทีนิ วิย อิมสฺสาปิ อริยมคฺครถสฺส อโลภสงฺขาตา อนิจฺฉา ปริวารณํ นาม.

อพฺยาปาโทติ เมตฺตา จ เมตฺตาปุพฺพภาโค จ. อวิหึสาติ กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ. วิเวโกติ กายวิเวกาทิ ติวิธวิเวโก. ยสฺส อาวุธนฺติ ยสฺส อริยมคฺครเถ ิตสฺส กุลปุตฺตสฺส เอตํ ปฺจวิธํ อาวุธํ. ยถา หิ รเถ ิโต ปฺจหิ อาวุเธหิ สปตฺเต วิชฺฌติ, เอวํ โยคาวจโรปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมคฺครเถ ิโต เมตฺตาย โทสํ วิชฺฌติ, กรุณาย วิหึสํ, กายวิเวเกน คณสงฺคณิกํ, จิตฺตวิเวเกน กิเลสสงฺคณิกํ, อุปธิวิเวเกน สพฺพากุสลํ วิชฺฌติ. เตนสฺเสตํ ปฺจวิธํ ‘‘อาวุธ’’นฺติ วุตฺตํ. ติติกฺขาติ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อธิวาสนกฺขนฺติ. จมฺมสนฺนาโหติ สนฺนทฺธจมฺโม. ยถา หิ รเถ ิโต รถิโก ปฏิมุกฺกจมฺโม อาคตาคเต สเร ขมติ, น นํ เต วิชฺฌนฺติ, เอวํ อธิวาสนกฺขนฺติสมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาคตาคเต วจนปเถ ขมติ, น นํ เต วิชฺฌนฺติ. ตสฺมา ‘‘ติติกฺขา จมฺมสนฺนาโห’’ติ วุตฺโต. โยคกฺเขมาย วตฺตตีติ จตูหิ โยเคหิ เขมาย นิพฺพานาย วตฺตติ, นิพฺพานาภิมุโข คจฺฉติเยว, น ติฏฺติ น ภิชฺชตีติ อตฺโถ.

เอตทตฺตนิ สมฺภูตนฺติ เอตํ มคฺคยานํ อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ลทฺธตฺตา อตฺตนิ สมฺภูตํ นาม โหติ. พฺรหฺมยานํ อนุตฺตรนฺติ อสทิสํ เสฏฺยานํ. นิยฺยนฺติ ธีรา โลกมฺหาติ เยสํ เอตํ ยานํ อตฺถิ, เต ธีรา ปณฺฑิตปุริสา โลกมฺหา นิยฺยนฺติ คจฺฉนฺติ. อฺทตฺถูติ เอกํเสน. ชยํ ชยนฺติ ราคาทโย สปตฺเต ชินนฺตา ชินนฺตา.

๕-๖. กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา

๕-๖. ปฺจเม อยเมวาติ เอวสทฺโท นิยมตฺโถ. เตน อฺํ มคฺคํ ปฏิกฺขิปติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขฺเจว มิสฺสกมคฺโค จ กถิโต. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.

๗. ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

. สตฺตเม นิพฺพานธาตุยา โข เอตํ ภิกฺขุ อธิวจนนฺติ อสงฺขตาย อมตาย นิพฺพานธาตุยา เอตํ อธิวจนํ. อาสวานํ ขโย เตน วุจฺจตีติ อปิจ เตน ราคาทิวินเยน อาสวานํ ขโยติปิ วุจฺจติ. อาสวกฺขโย นาม อรหตฺตํ, อรหตฺตสฺสาปิ เอตํ ราควินโยติอาทิ นามเมวาติ ทีเปติ. เอตทโวจาติ ‘‘สตฺถารา นิพฺพานธาตูติ วทนฺเตน อมตํ นิพฺพานํ กถิตํ, มคฺโค ปนสฺส น กถิโต. ตํ กถาเปสฺสามี’’ติ อนุสนฺธิกุสลตาย ปุจฺฉนฺโต เอตํ อโวจ.

๘. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

. อฏฺเม กตมา จ ภิกฺขเว สมฺมาทิฏฺีติ เอเกน ปริยาเยน อฏฺงฺคิกมคฺคํ วิภชิตฺวา ปุน อปเรน ปริยาเยน วิภชิตุกาโม อิทํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ทุกฺเข าณนฺติ สวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณวเสน จตูหากาเรหิ อุปฺปนฺนํ าณํ. สมุทเยปิ เอเสว นโย. เสเสสุ ปน ทฺวีสุ สมฺมสนสฺส อภาวา ติวิธเมว วฏฺฏติ. เอวเมตํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ทสฺสิตํ.

ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ. เตสุ ภิกฺขุโน วฏฺเฏ กมฺมฏฺานาภินิเวโส โหติ, วิวฏฺเฏ นตฺถิ อภินิเวโส. ปุริมานิ หิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย’’ติ เอวํ สงฺเขเปน จ, ‘‘กตเม ปฺจกฺขนฺธา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน จ อาจริยสนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺวา วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต โยคาวจโร กมฺมํ กโรติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ สจฺเจสุ – ‘‘นิโรธสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ เอวํ สวเนเนว กมฺมํ กโรติ. โส เอวํ กโรนฺโต จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ. ทุกฺขํ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน…เป… มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ.

เอวมสฺส ปุพฺพภาเค ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ โหติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธเยว. อปรภาเค ตีสุ กิจฺจโต ปฏิเวโธ โหติ, นิโรเธ อารมฺมณปฏิเวโธ. ปจฺจเวกฺขณา ปน ปตฺตสจฺจสฺส โหติ. อิมสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺเพ ปริคฺคหโต – ‘‘ทุกฺขํ ปริชานามิ, สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหโต ปฏฺาย โหติ. อปรภาเค ปน ทุกฺขํ ปริฺาตเมว โหติ…เป… มคฺโค ภาวิโตว โหติ.

ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. ทุกฺขสจฺจฺหิ อุปฺปตฺติโต ปากฏํ, ขาณุกณฺฏกปหาราทีสุ ‘‘อโห ทุกฺข’’นฺติ วตฺตพฺพตมฺปิ อาปชฺชติ. สมุทยมฺปิ ขาทิตุกามตาภุฺชิตุกามตาทิวเสน อุปฺปตฺติโต ปากฏํ. ลกฺขณปฏิเวธโต ปน อุภยมฺปิ คมฺภีรํ. อิติ ตานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ. อิตเรสํ ทฺวินฺนํ ทสฺสนตฺถาย ปโยโค ภวคฺคคฺคหณตฺถํ หตฺถปสารณํ วิย อวีจิผุสนตฺถํ ปาทปสารณํ วิย สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาทนํ วิย จ โหติ. อิติ ตานิ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีเรสุ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทเสสุ จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน อิทํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว ตํ าณํ โหติ.

เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีสุ กามปจฺจนีกฏฺเน กามโต นิสฺสฏภาเวน วา, กามํ สมฺมสนฺตสฺส อุปฺปนฺโนติ วา, กามปทฆาตํ กามวูปสมํ กโรนฺโต อุปฺปนฺโนติ วา, กามวิวิตฺตนฺเต อุปฺปนฺโนติ วา เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. สพฺเพปิ จ เต เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย กามพฺยาปาทวิหึสาวิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนสฺส อกุสลสงฺกปฺปสฺส ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นาม.

มุสาวาทา เวรมณีอาทโยปิ มุสาวาทาทีหิ วิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ จตูสุ าเนสุ อุปฺปนฺนาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวาจา นาม.

ปาณาติปาตา เวรมณี อาทโยปิ ปาณาติปาตาทีหิ วิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย อกิริยโต ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมากมฺมนฺโต นาม.

มิจฺฉาอาชีวนฺติ ขาทนียโภชนียาทีนํ อตฺถาย ปวตฺติตํ กายวจีทุจฺจริตํ. ปหายาติ วชฺเชตฺวา. สมฺมาอาชีเวนาติ พุทฺธปสตฺเถน อาชีเวน. ชีวิกํ กปฺเปตีติ ชีวิตวุตฺตึ ปวตฺเตติ. สมฺมาชีโวปิ กุหนาทีหิ วิรมณสฺานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา. มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุเยว สตฺตสุ าเนสุ อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาชีวทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาอาชีโว นาม.

อนุปฺปนฺนานนฺติ เอกสฺมึ ภเว ตถารูเป วา อารมฺมเณ อตฺตโน น อุปฺปนฺนานํ, ปรสฺส ปน อุปฺปชฺชมาเน ทิสฺวา – ‘‘อโห วต เม เอวรูปา ปาปกา ธมฺมา น อุปฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติ เอวํ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย. ฉนฺทนฺติ เตสํ อกุสลานํ อนุปฺปาทกปฏิปตฺติสาธกํ วีริยจฺฉนฺทํ ชเนติ. วายมตีติ วายามํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ วีริยํ ปวตฺเตติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ วีริเยน จิตฺตํ ปคฺคหิตํ กโรติ. ปทหตีติ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๔) ปธานํ ปวตฺเตติ. อุปฺปนฺนานนฺติ สมุทาจารวเสน อตฺตโน อุปฺปนฺนปุพฺพานํ. อิทานิ ตาทิเส น อุปฺปาเทสฺสามีติ เตสํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ.

อนุปฺปนฺนานํ กุสลานนฺติ อปฏิลทฺธานํ ปมชฺฌานาทีนํ. อุปฺปนฺนานนฺติ เตสํเยว ปฏิลทฺธานํ. ิติยาติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติปพนฺธวเสน ิตตฺถํ. อสมฺโมสายาติ อวินาสตฺถํ. ภิยฺโยภาวายาติ อุปริภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ปาริปูริยาติ ภาวนาย ปริปูรณตฺถํ. อยมฺปิ สมฺมาวายาโม อนุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ อนุปฺปาทนาทิจิตฺตนานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา. มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุเยว จตูสุ าเนสุ กิจฺจสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานํ เอกเมว กุสลวีริยํ อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวายาโม นาม.

สมฺมาสติปิ กายาทิปริคฺคาหกจิตฺตานํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ จตูสุ าเนสุ กิจฺจสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกา สติ อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสติ นาม.

ฌานาทีนิ ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ นานา, ปุพฺพภาเค สมาปตฺติวเสน นานา, มคฺคกฺขเณ นานามคฺควเสน. เอกสฺส หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, ทุติยมคฺคาทโยปิ ปมชฺฌานิกา วา ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกา วา. เอกสฺส ปมมคฺโค ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิโก โหติ, ทุติยาทโยปิ ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิกา วา ปมชฺฌานิกา วา. เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺคา ฌานวเสน สทิสา วา อสทิสา วา เอกจฺจสทิสา วา โหนฺติ.

อยํ ปนสฺส วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยเมน โหติ. ปาทกชฺฌานนิยเมน หิ ปมชฺฌานลาภิโน ปมชฺฌานา วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺนมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานิ ปเนตฺถ ปริปุณฺณาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานโต วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน ทุติยชฺฌานิโก โหติ, มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต โหนฺติ. ตติยชฺฌานโต วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน ตติยชฺฌานิโก, มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต, โพชฺฌงฺคานิ ฉ โหนฺติ. เอส นโย จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว เนวสฺานาสฺายตนา.

อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โลกุตฺตรํ, โน โลกิยนฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ กถนฺติ? เอตฺถาปิ ปมชฺฌานาทีสุ ยโต วุฏฺาย โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา อรูปสมาปตฺตึ ภาเวตฺวา โส อารุปฺเป อุปฺปนฺโน, ตํฌานิกาวสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ. เกจิ ปน เถรา – ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา นิยเมตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ วาทวินิจฺฉโย วิสุทฺธิมคฺเค วุฏฺานคามินีวิปสฺสนาธิกาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธีติ อยํ ปุพฺพภาเค โลกิโย, อปรภาเค โลกุตฺตโร สมฺมาสมาธีติ วุจฺจติ.

๙. สูกสุตฺตวณฺณนา

. นวเม มิจฺฉาปณิหิตนฺติ สูกํ นาม อุทฺธคฺคํ กตฺวา ปิตํ หตฺถํ วา ปาทํ วา ภินฺทติ, ตถา อฏฺปิตํ ปน มิจฺฉาปณิหิตํ นาม. มิจฺฉาปณิหิตาย ทิฏฺิยาติ มิจฺฉาปิตาย กมฺมสฺสกตปฺาย. อวิชฺชํ ภินฺทิสฺสตีติ จตุสจฺจปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชํ ภินฺทิสฺสติ. วิชฺชํ อุปฺปาเทสฺสตีติ อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทสฺสติ. มิจฺฉาปณิหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิยาติ กมฺมสฺสกตปฺาย เจว มคฺคภาวนาย จ มิจฺฉา ปิตตฺตา, อปฺปวตฺติตตฺตาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต กมฺมสฺสกตาณํ มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มิสฺสกมคฺโค กถิโต.

๑๐. นนฺทิยสุตฺตวณฺณนา

๑๐. ทสเม ปริพฺพาชโกติ ฉนฺนปริพฺพาชโก. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อวิชฺชาวคฺโค ปโม.

๒. วิหารวคฺโค

๑. ปมวิหารสุตฺตวณฺณนา

๑๑. ทุติยวคฺคสฺส ปเม อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ อหํ, ภิกฺขเว, เอกํ อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ นิลียิตุํ เอโกว หุตฺวา วิหริตุํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนาติ โย อตฺตนา ปยุตฺตวาจํ อกตฺวา มมตฺถาย สทฺเธสุ กุเลสุ ปฏิยตฺตํ ปิณฺฑปาตํ นีหริตฺวา มยฺหํ อุปนาเมยฺย, ตํ ปิณฺฑปาตนีหารกํ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา นมฺหิ อฺเน เกนจิ ภิกฺขุนา วา คหฏฺเน วา อุปสงฺกมิตพฺโพติ.

กสฺมา ปน เอวมาหาติ? ตสฺมึ กิร อฑฺฒมาเส วิเนตพฺโพ สตฺโต นาโหสิ. อถ สตฺถา – ‘‘อิมํ อฑฺฒมาสํ ผลสมาปตฺติสุเขเนว วีตินาเมสฺสามิ, อิติ มยฺหฺเจว สุขวิหาโร ภวิสฺสติ, อนาคเต จ ปจฺฉิมา ชนตา ‘สตฺถาปิ คณํ วิหาย เอกโก วิหาสิ, กิมงฺคํ ปน มย’นฺติ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชิสฺสติ, ตทสฺสา ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ อิมินา การเณน เอวมาห. ภิกฺขุสงฺโฆปิ สตฺถุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกํ ภิกฺขุํ อทาสิ. โส ปาโตว คนฺธกุฏิปริเวณสมฺมชฺชนมุโขทกทนฺตกฏฺทานาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ ตสฺมึ ขเณ กตฺวา อปคจฺฉติ.

เยน สฺวาหนฺติ เยน โส อหํ. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมํเยว เอกูนปฺาสทิวสพฺภนฺตเร. วิหรามีติ อิทํ อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ. ตสฺส ปเทเสน วิหาสินฺติ ตสฺส ปมาภิสมฺพุทฺธวิหารสฺส ปเทเสน. ตตฺถ ปเทโส นาม ขนฺธปเทโส อายตนธาตุสจฺจอินฺทฺริยปจฺจยาการสติปฏฺานฌานนามรูปปเทโส ธมฺมปเทโสติ นานาวิโธ. ตํ สพฺพมฺปิ สนฺธาย – ‘‘ตสฺส ปเทเสน วิหาสิ’’นฺติ อาห. ภควา หิ ปมโพธิยํ เอกูนปฺาสทิวสพฺภนฺตเร ยถา นาม ปตฺตรชฺโช ราชา อตฺตโน วิภวสารทสฺสนตฺถํ ตํ ตํ คพฺภํ วิวราเปตฺวา สุวณฺณรชตมุตฺตามณิอาทีนิ รตนานิ ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหเรยฺย, เอวเมว ปฺจกฺขนฺเธ นิปฺปเทเส กตฺวา สมฺมสนฺโต ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. อิมสฺมึ ปน อฑฺฒมาเส เตสํ ขนฺธานํ ปเทสํ เวทนากฺขนฺธเมว ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. ตสฺส ‘‘อิเม สตฺตา เอวรูปํ นาม สุขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, เอวรูปํ ทุกฺข’’นฺติ โอโลกยโต ยาว ภวคฺคา ปวตฺตา สุขเวทนา, ยาว อวีจิโต ปวตฺตา ทุกฺขเวทนา, สพฺพา สพฺพากาเรน อุปฏฺาสิ. อถ นํ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิต’’นฺติอาทินา นเยน ปริคฺคณฺหนฺโต วิหาสิ.

ตถา ปมโพธิยํ ทฺวาทสายตนานิ นิปฺปเทสาเนว กตฺวา วิหาสิ, อิมสฺมึ ปน อฑฺฒมาเส เตสํ อายตนานํ ปเทสํ เวทนาวเสน ธมฺมายตเนกเทสํ, ธาตูนํ ปเทสํ เวทนาวเสน ธมฺมธาตุเอกเทสํ, สจฺจานํ ปเทสํ เวทนากฺขนฺธวเสเนว ทุกฺขสจฺเจกเทสํ, ปจฺจยานํ ปเทสํ ผสฺสปจฺจยา เวทนาวเสน ปจฺจเยกเทสํ ฌานานํ ปเทสํ เวทนาวเสเนว ฌานงฺเคกเทสํ, นามรูปานํ ปเทสํ เวทนาวเสเนว นาเมกเทสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. ปมโพธิยฺหิ เอกูนปฺาสทิวสพฺภนฺตเร กุสลาทิธมฺเม นิปฺปเทเส กตฺวา อนนฺตนยานิ สตฺต ปกรณานิ ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. อิมสฺมึ ปน อฑฺฒมาเส สพฺพธมฺมานํ ปเทสํ เวทนาตฺติกเมว ปจฺจเวกฺขนฺโต วิหาสิ. ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สา สา จ วิหารสมาปตฺติ เวทนานุภาเวน ชาตา.

อิทานิ เยนากาเรน วิหาสิ, ตํ ทสฺเสนฺโต มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปีติอาทิมาห. ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปีติ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา เวทนาปิ วฏฺฏติ. ทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนา กุสลากุสลเวทนาปิ วฏฺฏติ วิปากเวทนาปิ. ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา อกุสลาว โหติ, ทิฏฺึ ปน อุปนิสฺสาย กุสลาปิ อุปฺปชฺชนฺติ อกุสลาปิ. มิจฺฉาทิฏฺิกา หิ ทิฏฺึ อุปนิสฺสาย ปกฺขทิวเสสุ ยาคุภตฺตาทีนิ เทนฺติ, อทฺธิกาทีนํ วฏฺฏํ ปฏฺเปนฺติ, จตุมหาปเถ สาลํ กโรนฺติ, โปกฺขรณิฺจ ขณาเปนฺติ, เทวกุลาทีสุ มาลาคจฺฉํ โรเปนฺติ, นทีวิทุคฺคาทีสุ เสตุํ อตฺถรนฺติ, วิสมํ สมํ กโรนฺติ, อิติ เนสํ กุสลเวทนา อุปฺปชฺชติ. มิจฺฉาทิฏฺึ ปน นิสฺสาย สมฺมาทิฏฺิเก อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ, วธพนฺธนาทีนิ กโรนฺติ, ปาณํ วธิตฺวา เทวตานํ อุปหารํ อุปหรนฺติ, อิติ เนสํ อกุสลเวทนา อุปฺปชฺชติ. วิปากเวทนา ปน ภวนฺตรคตานํเยว โหติ.

สมฺมาทิฏฺิปจฺจยาติ เอตฺถาปิ สมฺมาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา เวทนาปิ วฏฺฏติ, สมฺมาทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนา กุสลากุสลเวทนาปิ วิปากเวทนาปิ. ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา กุสลาว โหติ, สมฺมาทิฏฺึ ปน อุปนิสฺสาย พุทฺธปูชํ ทีปมาลํ มหาธมฺมสฺสวนํ อปฺปติฏฺิเต ทิสาภาเค เจติยปติฏฺาปนนฺติ เอวมาทีนิ ปุฺานิ กโรนฺติ, อิติ เนสํ กุสลา เวทนา อุปฺปชฺชติ. สมฺมาทิฏฺึเยว นิสฺสาย มิจฺฉาทิฏฺิเก อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ, อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ, อิติ เนสํ อกุสลเวทนา อุปฺปชฺชติ. วิปากเวทนา ปน ภวนฺตรคตานํเยว โหติ. มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ฉนฺทปจฺจยาติอาทีสุ ปน ฉนฺทปจฺจยา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทิตพฺพา, วิตกฺกปจฺจยา ปมชฺฌานเวทนาว. สฺา ปจฺจยา เปตฺวา ปมชฺฌานํ เสสา ฉ สฺาสมาปตฺติเวทนา.

ฉนฺโท จ อวูปสนฺโตติอาทีสุ ติณฺณํ อวูปสเม อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา เวทนา โหติ, ฉนฺทมตฺตสฺส วูปสเม ปมชฺฌานเวทนาว. ฉนฺทวิตกฺกานํ วูปสเม ทุติยชฺฌานาทิเวทนา อธิปฺเปตา, ติณฺณมฺปิ วูปสเม เนวสฺานาสฺายตนเวทนา. อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถาย. อตฺถิ อายามนฺติ อตฺถิ วีริยํ. ตสฺมิมฺปิ าเน อนุปฺปตฺเตติ ตสฺส วีริยารมฺภสฺส วเสน ตสฺส อรหตฺตผลสฺส การเณ อนุปฺปตฺเต. ตปฺปจฺจยาปิ เวทยิตนฺติ อรหตฺตสฺส านปจฺจยา เวทยิตํ. เอเตน จตุมคฺคสหชาตา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนาว คหิตา.

๒. ทุติยวิหารสุตฺตวณฺณนา

๑๒. ทุติเย ปฏิสลฺลานการณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. มิจฺฉาทิฏฺิวูปสมปจฺจยาติ มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม นาม สมฺมาทิฏฺิ. ตสฺมา ยํ สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา เวทยิตํ วุตฺตํ, ตเทว มิจฺฉาทิฏฺิวูปสมปจฺจยา เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต วิปากเวทนํ อติทูเรติ มฺมานา น คณฺหนฺตีติ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺส ยสฺส หิ วูปสมปจฺจยาติ วุจฺจติ, ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขธมฺมปจฺจยาว ตํ ตํ เวทยิตํ อธิปฺเปตํ. ฉนฺทวูปสมปจฺจยาติอาทีสุ ปน ฉนฺทวูปสมปจฺจยา ตาว ปมชฺฌานเวทนา เวทิตพฺพา. วิตกฺกวูปสมปจฺจยา ทุติยชฺฌานเวทนา. สฺาปจฺจยา ฉสมาปตฺติเวทนา. สฺาวูปสมปจฺจยา เนวสฺานาสฺายตนเวทนา. ฉนฺโท จ วูปสนฺโตติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.

๓-๗. เสกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓-๑๗. ตติเย เสกฺโขติ สิกฺขนสีโล. กึ สิกฺขตีติ? ติสฺโส สิกฺขา. เสกฺขายาติ ตีหิ ผเลหิ จตูหิ จ มคฺเคหิ สทฺธึ อุปฺปนฺนาย. สาปิ หิ อนิฏฺิตกิจฺจตฺตา อตฺตโน กิจฺจํ สิกฺขเตวาติ เสกฺขา. จตุตฺถปฺจมฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.

๘-๑๐. ปมกุกฺกุฏารามสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๘-๒๐. อฏฺเม อุมฺมงฺโคติ ปฺาอุมฺมงฺโค, ปฺาวีมํสนํ, ปฺาคเวสนนฺติ อตฺโถ. เอวฺหิ ตฺวํ อาวุโสติ อิทํ ตสฺส ปุจฺฉาปติฏฺาปนตฺถาย อาห. นวมทสมานิ อุตฺตานตฺถาเมวาติ.

วิหารวคฺโค ทุติโย.

๓. มิจฺฉตฺตวคฺควณฺณนา

๒๑-๓๐. ตติยวคฺคสฺส ปเม มิจฺฉตฺตนฺติ มิจฺฉาสภาวํ. สมฺมตฺตนฺติ สมฺมาสภาวํ. มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตูติ มิจฺฉาปฏิปตฺติกรณเหตุ. ยสฺมา มิจฺฉาปฏิปตฺตึ กโรติ, ตสฺมาติ อตฺโถ. นาราธโกติ น สมฺปาทโก. ายํ ธมฺมนฺติ อริยมคฺคธมฺมํ. มิจฺฉาาณีติ มิจฺฉาวิฺาโณ มิจฺฉาปจฺจเวกฺขโณ. มิจฺฉาวิมุตฺตีติ อยาถาววิมุตฺติ, อนิยฺยานิกวิมุตฺติ. อิเมสุ ตติยาทีสุ จตูสุ สุตฺเตสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ, ปจฺฉิเมสุ ปเนตฺถ ทฺวีสุ ปุคฺคโล ปุจฺฉิโต ธมฺโม วิภตฺโต, เอวํ ธมฺเมน ปุคฺคโล ทสฺสิโตติ. สุปฺปวตฺติโยติ สุปฺปวตฺตนิโย. ยถา อิจฺฉิติจฺฉิตํ ทิสํ ปวตฺเตนฺโต ธาวติ, เอวํ ปวตฺเตตุํ สกฺกา โหตีติ อตฺโถ. สอุปนิสํ สปริกฺขารนฺติ สปฺปจฺจยํ สปริวารํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

มิจฺฉตฺตวคฺโค ตติโย.

๔. ปฏิปตฺติวคฺควณฺณนา

๓๑-๔๐. จตุตฺเถ มิจฺฉาปฏิปตฺตินฺติ อยาถาวปฏิปตฺตึ. มิจฺฉาปฏิปนฺนนฺติ อยาถาวปฏิปนฺนํ. อิติ เอกํ สุตฺตํ ธมฺมวเสน กถิตํ, เอกํ ปุคฺคลวเสน. อปารา ปารนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพานํ. ปารคามิโนติ เอตฺถ เยปิ ปารงฺคตา, เยปิ คจฺฉนฺติ, เยปิ คมิสฺสนฺติ, สพฺเพ ปารคามิโนตฺเวว เวทิตพฺพา.

ตีรเมวานุธาวตีติ วฏฺฏเมว อนุธาวติ, วฏฺเฏ วิจรติ. กณฺหนฺติ อกุสลธมฺมํ. สุกฺกนฺติ กุสลธมฺมํ. โอกา อโนกนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพานํ. อาคมฺมาติ อารพฺภ สนฺธาย ปฏิจฺจ. ปริโยทเปยฺยาติ ปริสุทฺธํ กเรยฺย. จิตฺตกฺเลเสหีติ จิตฺตํ กิลิสฺสาเปนฺเตหิ นีวรเณหิ. สมฺโพธิยงฺเคสูติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ.

สามฺตฺถนฺติ นิพฺพานํ. ตฺหิ สามฺเน อุปคนฺตพฺพโต สามฺตฺโถติ วุจฺจติ. พฺรหฺมฺนฺติ เสฏฺภาวํ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ นิพฺพานํ พฺรหฺมฺเน อุปคนฺตพฺพโต. ยตฺถ ยตฺถ ปน เหฏฺา จ อิเมสุ จ ตีสุ สุตฺเตสุ ‘‘ราคกฺขโย’’ติ อาคตํ, ตตฺถ ตตฺถ อรหตฺตมฺปิ วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ.

ปฏิปตฺติวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา

๔๑-๔๘. อฺติตฺถิยเปยฺยาเล อทฺธานปริฺตฺถนฺติ สํสารทฺธานํ นิพฺพานํ ปตฺวา ปริฺาตํ นาม โหติ. ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘อทฺธานปริฺา’’ติ วุจฺจติ, ตทตฺถนฺติ อตฺโถ. อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถนฺติ อปจฺจยปรินิพฺพานตฺถํ. อิติ อิมสฺมึ เปยฺยาเล วิชฺชาวิมุตฺติผเลน อรหตฺตํ กถิตํ. าณทสฺสเนน ปจฺจเวกฺขณา, เสเสหิ นิพฺพานนฺติ.

อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺโค.

๖. สูริยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา

๔๙-๖๒. สูริยเปยฺยาเล อรุณุคฺคํ วิย กลฺยาณมิตฺตตฺตา, กลฺยาณมิตฺตตาย ตฺวา นิพฺพตฺติโต สวิปสฺสนอริยมคฺโค สูริยปาตุภาโว วิยาติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สีลสมฺปทาติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ฉนฺทสมฺปทาติ กุสลกตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. อตฺตสมฺปทาติ สมฺปนฺนจิตฺตตา. ทิฏฺิสมฺปทาติ าณสมฺปตฺติ. อปฺปมาทสมฺปทาติ การาปกอปฺปมาทสมฺปตฺติ. โยนิโสมนสิการสมฺปทาติ อุปายมนสิการสมฺปตฺติ. ปุน กลฺยาณมิตฺตตาติอาทีนิ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อฺเนปิ อากาเรน ภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. สพฺพาเนว เจตานิ สุตฺตานิ ปาฏิเยกฺกํ ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน วุตฺตานีติ.

สูริยเปยฺยาลวคฺโค.

๗. เอกธมฺมเปยฺยาลวคฺคาทิวณฺณนา

๖๓-๑๓๘. เอกธมฺมเปยฺยาโลปิ คงฺคาเปยฺยาโลปิ ปาฏิเยกฺกํ ปุคฺคลชฺฌาสยวเสเนว ตถา ตถา วุตฺเต พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน กถิโต.

๘. อปฺปมาทเปยฺยาลวคฺโค

๑. ตถาคตสุตฺตวณฺณนา

๑๓๙. อปฺปมาทเปยฺยาเล เอวเมว โขติ เอตฺถ ยถา สพฺพสตฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อคฺโค, เอวํ สพฺเพสํ กุสลธมฺมานํ การาปกอปฺปมาโท อคฺโคติ ทฏฺพฺโพ. นนุ เจส โลกิโยว, กุสลธมฺมา ปน โลกุตฺตราปิ. อยฺจ กามาวจโรว, กุสลธมฺมา ปน จตุภูมกา. กถเมส เตสํ อคฺโคติ? ปฏิลาภกฏฺเน. อปฺปมาเทน หิ เต ปฏิลพฺภนฺติ, ตสฺมา โส เตสํ อคฺโค. เตเนตํ วุตฺตํ สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกาติอาทิ.

๒. ปทสุตฺตวณฺณนา

๑๔๐. ชงฺคลานนฺติ ปถวีตลวาสีนํ. ปาณานนฺติ สปาทกปาณานํ. ปทชาตานีติ ปทานิ. สโมธานํ คจฺฉนฺตีติ โอธานํ อุปกฺเขปํ คจฺฉนฺติ. อคฺคมกฺขายตีติ เสฏฺํ อกฺขายติ. ยทิทํ มหนฺตตฺเตนาติ มหนฺตภาเวน อคฺคมกฺขายติ, น คุณวเสนาติ อตฺโถ.

๓-๑๐. กูฏสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๔๑-๑๔๘. วสฺสิกนฺติ สุมนปุปฺผํ. อิมํ กิร สุตฺตํ สุตฺวา ภาติยมหาราชา วีมํสิตุกามตาย เอกสฺมึ คพฺเภ จตุชาติคนฺเธหิ ปริภณฺฑํ กาเรตฺวา สุคนฺธานิ ปุปฺผานิ อาหราเปตฺวา เอกสฺส สมุคฺคสฺส มชฺเฌ สุมนปุปฺผมุฏฺึ เปตฺวา เสสานิ ตสฺส สมนฺตโต มุฏฺิมุฏฺึ กตฺวา เปตฺวา ทฺวารํ ปิธาย พหิ นิกฺขนฺโต. อถสฺส มุหุตฺตํ วีตินาเมตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา ปวิสนฺตสฺส สพฺพปมํ สุมนปุปฺผคนฺโธ ฆานํ ปหริ. โส มหาตลสฺมึเยว มหาเจติยาภิมุโข นิปชฺชิตฺวา – ‘‘วสฺสิกํ เตสํ อคฺคนฺติ กเถนฺเตน สุกถิตํ สมฺมาสมฺพุทฺเธนา’’ติ เจติยํ วนฺทิ. กุฏฺฏราชาโนติ ขุทฺทกราชาโน. ‘‘ขุทฺทราชาโน’’ติปิ ปาโ. ตนฺตาวุตานนฺติ ตนฺเต อาวุตานํ, ตนฺตํ อาโรเปตฺวา วายิตานนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ ปจฺจตฺเต สามิวจนํ. ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานิ วตฺถานีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. อถ วา ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ ยานิ กานิจิ วตฺถานีติ เอวํ สาวเสสปานเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อปฺปมาทวคฺโค อฏฺโม.

๙. พลกรณียวคฺโค

๑. พลสุตฺตวณฺณนา

๑๔๙. พลกรณียวคฺเค พลกรณียาติ อูรุพลพาหุพเลน กตฺตพฺพา ธาวนลงฺฆนตาปนวหนาทโย กมฺมนฺตา. สีเล ปติฏฺายาติ จตุปาริสุทฺธิสีเล ตฺวา. อฏฺงฺคิกํ มคฺคนฺติ สหวิปสฺสนํ อริยมคฺคํ.

๒. พีชสุตฺตวณฺณนา

๑๕๐. พีชคามภูตคามาติ เอตฺถ ปฺจวิธมฺปิ พีชํ พีชคาโม นาม, ตเทว ปณฺณสมฺปนฺนํ นีลภาวโต ปฏฺาย ภูตคาโมติ เวทิตพฺพํ.

๓. นาคสุตฺตวณฺณนา

๑๕๑. พลํ คาเหนฺตีติ พลํ คณฺหนฺติ, คหิตพลา ถิรสรีรา โหนฺติ. กุโสพฺเภ โอตรนฺตีติอาทีสุ อยมนุปุพฺพิกถา – นาคินิโย กิร อุตุสมเย ปติฏฺิตคพฺภา จินฺเตนฺติ – ‘‘สเจ มยํ อิธ วิชายิสฺสาม, เอวํ โน ทารกา อูมิเวคฺจ สุปณฺณสฺส จ ปกฺขนฺทิตฺวา อาคตสฺส เวคํ สหิตุํ น สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ ตา มหาสมุทฺเท นิมุชฺชิตฺวา สมฺภชฺชมุขทฺวารํ ปตฺวา ปฺจ มหานทิโย ปวิสิตฺวา หิมวนฺตํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ สุปณฺเณหิ อปกฺขนฺทนียาสุ สุวณฺณรชตมณิคุหาสุ วสมานา วิชายิตฺวา นาคโปตเก โคปฺผกาทิปมาเณสุ อุทเกสุ โอตาเรตฺวา อุทกตรณํ สิกฺขาเปนฺติ.

อถ ยทา อนุกฺกเมน เต นาคา คงฺคาทีนํ นทีนํ โอริมตีรโต ปรตีรํ, ปรตีรโต โอริมตีรนฺติ ตรณปฏิตรณํ กาตุํ สกฺโกนฺติ, ตทา ‘‘อิทานิ โน ทารกา อูมิเวคฺจ ครุฬเวคฺจ สหิตุํ สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ ตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน มหาเมฆํ สมุฏฺาเปตฺวา สกลหิมวนฺตํ เอโกทกํ วิย กุรุมานา เทวํ วสฺสาเปตฺวา สุวณฺณรชตาทิมยา นาวา มาเปตฺวา อุปริ สุวณฺณตารกวิจิตฺตํ สโมสริตคนฺธปุปฺผทามํ เจลวิตานํ พนฺธิตฺวา สุรภิจนฺทนคนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย ตาหิ นาวาหิ ปฺจ มหานทิโย โอคาหิตฺวา อนุกฺกเมน มหาสมุทฺทํ ปาปุณนฺติ. ตตฺถ จ วสนฺตา ทสพฺยาม-สตพฺยาม-สหสฺสพฺยาม-สตสหสฺสพฺยาม-ปมาณตํ อาปชฺชนฺตา มหนฺตตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ อาปชฺชนฺติ นาม.

เอวเมว โขติ เอตฺถ หิมวนฺตปพฺพโต วิย จตุปาริสุทฺธิสีลํ ทฏฺพฺพํ, นาคโปตกา วิย โยคาวจรา, กุโสพฺภาทโย วิย อริยมคฺโค, มหาสมุทฺโท วิย นิพฺพานํ. ยถา นาคโปตกา หิมวนฺเต ปติฏฺาย กุโสพฺภาทีหิ มหาสมุทฺทํ ปตฺวา กายมหนฺตตฺตํ อาปชฺชนฺติ, เอวํ โยคิโน สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย อริยมคฺเคน นิพฺพานํ ปตฺวา อรหตฺตมคฺเคเนว อาคเตสุ ฉสุ อภิฺาธมฺเมสุ คุณสรีรมหนฺตตฺตํ ปาปุณนฺตีติ.

๕. กุมฺภสุตฺตวณฺณนา

๑๕๓. กุมฺโภติ อุทกฆโฏ. โน ปจฺจาวมตีติ น ปติอาวมติ, น อนฺโต ปเวเสตีติ อตฺโถ.

๗. อากาสสุตฺตวณฺณนา

๑๕๕. ปุรตฺถิมาติ ปุรตฺถิมทิสโต อาคตวาตา. ปจฺฉิมทิสาทีสุปิ เอเสว นโย. จตฺตาโรปิ สติปฏฺานาติ ยเถว หิ เอเตสํ ปุรตฺถิมาทิเภทานํ วาตานํ สนฺนิปาโต อากาเส อิชฺฌติ, เอวํ อิธาปิ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา โพธิปกฺขิยธมฺมา สหวิปสฺสนสฺส อริยมคฺคสฺส ภาวนาย อิชฺฌนฺติ, เตเนตํ วุตฺตํ.

๘-๙. ปมเมฆสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๖-๑๕๗. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหมาเส. อูหตนฺติ ทฺวิปทจตุปฺปทานํ ปาทปฺปหาเรน ปถวีตเล อุฏฺหิตฺวา อุทฺธํ คตํ วฏฺฏิวฏฺฏิ หุตฺวา อากาเส ปกฺขนฺตํ. รโชชลฺลนฺติ ปํสุรโชชลฺลํ.

๑๐. นาวาสุตฺตวณฺณนา

๑๕๘. สามุทฺทิกาย นาวายาติอาทิ เหฏฺา วาณิชโกปเม วิตฺถาริตเมว.

๑๑-๑๒. อาคนฺตุกสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๙-๑๖๐. อาคนฺตุกาคารนฺติ ปุฺตฺถิเกหิ นครมชฺเฌ กตํ อาคนฺตุกฆรํ, ยตฺถ ราชราชมหามตฺเตหิปิ สกฺกา โหติ นิวาสํ อุปคนฺตุํ. อภิฺา ปริฺเยฺยาติ ยเถว หิ เตสํ ปุรตฺถิมทิสาทีหิ อาคตานํ ขตฺติยาทีนํ วาโส อาคนฺตุกาคาเร อิชฺฌติ, เอวํ อิเมสํ อภิฺาปริฺเยฺยาติอาทีนํ ธมฺมานํ อภิฺาปริชานนาทีหิ สหวิปสฺสนสฺส อริยมคฺคสฺส ภาวนาย อิชฺฌนฺติ, เตเนตํ วุตฺตํ. นทีสุตฺตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

พลกรณียวคฺโค นวโม.

๑๐. เอสนาวคฺโค

๑. เอสนาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๑. เอสนาวคฺเค กาเมสนาติ กามานํ เอสนา คเวสนา มคฺคนา ปตฺถนา. ภเวสนาติ ภวานํ เอสนา. พฺรหฺมจริเยสนาติ มิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส เอสนา.

๒-๑๑. วิธาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๖๒-๑๗๑. วิธาติ มานโกฏฺาสา มานปนา วา. เสยฺโยหมสฺมีติ วิธาติ อหมสฺมิ เสยฺโยติ เอวํ มานโกฏฺาโส มานปนา วา. นีฆาติ ทุกฺขา. วจนตฺโถ ปเนตฺถ ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ ปุริสํ นีหนนฺตีติ นีฆา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

เอสนาวคฺโค ทสโม.

๑๑. โอฆวคฺโค

๑-๒. โอฆสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๒-๑๗๓. โอฆวคฺเค กาโมโฆติ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค. ภโวโฆติ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค. ทิฏฺโโฆติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. อวิชฺโชโฆติ จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ. กามโยคาทีสุปิ เอเสว นโย.

๓-๔. อุปาทานสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๔-๑๗๕. กามุปาทานนฺติ กามคฺคหณํ. ทิฏฺุปาทานาทีสุปิ เอเสว นโย. คนฺถาติ คนฺถนา ฆฏนา. กายคนฺโถติ นามกายสฺส คนฺโถ คนฺถนฆฏนกิเลโส. อิทํสจฺจาภินิเวโสติ อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน อุปฺปนฺโน ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ อภินิเวโส.

๕-๑๐. อนุสยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๖-๑๘๑. กามราคานุสโยติ ถามคตฏฺเน กามราโคว อนุสโย กามราคานุสโย. เสเสสุปิ เอเสว นโย. โอรมฺภาคิยานีติ เหฏฺาโกฏฺาสิยานิ. สํโยชนานีติ พนฺธนานิ. อุทฺธมฺภาคิยานีติ อุปริโกฏฺาสิยานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

โอฆวคฺโค เอกาทสโม.

มคฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โพชฺฌงฺคสํยุตฺตํ

๑. ปพฺพตวคฺโค

๑. หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๘๒. โพชฺฌงฺคสํยุตฺตสฺส ปเม นาคาติ อิเมปิ มหาสมุทฺทปิฏฺเ อูมิอนฺตรวาสิโนว, น วิมานฏฺกนาคา. เตสํ หิมวนฺตํ นิสฺสาย กายวฑฺฒนาทิสพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. โพชฺฌงฺเคติ เอตฺถ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. กึ วุตฺตํ โหติ? ยา หิ อยํ ธมฺมสามคฺคี, ยาย โลกิยโลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหน กามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ. พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๘; ที. นิ. ๓.๑๔๓). ตสฺสา ธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิย. โยเปส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา – ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วา โพชฺฌงฺคา’’ติ.

อปิจ ‘‘โพชฺฌงฺคาติ เกนฏฺเน โพชฺฌงฺคา? โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, อนุพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, ปฏิพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, สมฺพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’อิจฺจาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๑๗) ปฏิสมฺภิทานเยนาปิ โพชฺฌงฺคตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สติสมฺโพชฺฌงฺคนฺติอาทีสุ ปน ปสตฺโถ สุนฺทโร จ โพชฺฌงฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค. สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโคติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคนฺติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ, อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน ปุนปฺปุนํ ชเนติ, อภินิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีนิ โกสลสํยุตฺเต ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตนฺติ, วิเวกตฺตยเมว วุตฺตํ, โพชฺฌงฺคภาวนํ ปตฺวา ปน ปฺจวิธวิเวกนิสฺสิตมฺปิ เอเก วณฺณยนฺติ. เต หิ น เกวลํ พลววิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณสุ เอว โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ วิปสฺสนาปาทก-กสิณชฺฌาน-อานาปานาสุภ-พฺรหฺมวิหารชฺฌาเนสุปิ อุทฺธรนฺติ, น จ ปฏิสิทฺธา อฏฺกถาจริเยหิ. ตสฺมา เตสํ มเตน เอเตสํ ฌานานํ ปวตฺติกฺขเณ กิจฺจโต เอว วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ. ยถา จ วิปสฺสนากฺขเณ ‘‘อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิต’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ปฏิปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตมฺปิ ภาเวตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

๒. กายสุตฺตวณฺณนา

๑๘๓. ทุติเย อาหารฏฺิติโกติ ปจฺจยฏฺิติโก. อาหารํ ปฏิจฺจาติ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ. สุภนิมิตฺตนฺติ สุภมฺปิ สุภนิมิตฺตํ, สุภสฺส อารมฺมณมฺปิ สุภนิมิตฺตํ. อโยนิโสมนสิกาโรติ อนุปายมนสิกาโร อุปฺปถมนสิกาโร อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วา, ทุกฺเข ‘‘สุข’’นฺติ, อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ วา, อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ วา, มนสิกาโร. ตํ ตสฺมึ สุภารมฺมเณ พหุลํ ปวตฺตยโต กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, สุภนิมิตฺต’’นฺติอาทิ. เอวํ สพฺพนีวรเณสุ โยชนา เวทิตพฺพา.

ปฏิฆนิมิตฺตนฺติอาทีสุ ปน ปฏิโฆปิ ปฏิฆนิมิตฺตํ ปฏิฆารมฺมณมฺปิ. อรตีติ อุกฺกณฺิตา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตมา อรติ? ปนฺเตสุ วา เสนาสเนสุ อฺตรฺตเรสุ วา อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อรติ อรติตา อนภิรติ อนภิรมนา อุกฺกณฺิตา ปริตสฺสิตา, อยํ วุจฺจติ อรตี’’ติ (วิภ. ๘๕๖).

ตนฺทีติ อติสีตาทิปจฺจยา อุปฺปนฺนํ อาคนฺตุกกายาลสิยํ. ยสฺมึ อุปฺปนฺเน ‘‘อติสีตํ อติอุณฺหํ อติจฺฉาโตสฺมิ อติธาโตสฺมิ อติทูรมคฺคํ คโตสฺมี’’ติ วทติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ กตมา ตนฺทิ, ยา ตนฺที ตนฺทิยนา ตนฺทิมนกตา อาลสฺยํ อาลสฺยายนา อาลสฺยายิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ ตนฺที’’ติ (วิภ. ๘๕๗).

วิชมฺภิตาติ กิเลสวเสน กายวินมนา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตมา วิชมฺภิตา? ยา กายสฺส ชมฺภนา วิชมฺภนา อานมนา วินมนา สนฺนมนา ปณมนา พฺยาธิยกํ, อยํ วุจฺจติ วิชมฺภิตา’’ติ (วิภ. ๘๕๘).

ภตฺตสมฺมโทติ ภตฺตปริฬาโห. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม ภตฺตสมฺมโท? ยา ภุตฺตาวิสฺส ภตฺตมุจฺฉา ภตฺตกิลมโถ ภตฺตปริฬาโห กายทุฏฺุลฺลํ, อยํ วุจฺจติ ภตฺตสมฺมโท’’ติ (วิภ. ๘๕๙).

เจตโส จ ลีนตฺตนฺติ จิตฺตสฺส ลียนากาโร, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ เจตโส ลีนตฺตํ? ยา จิตฺตสฺส อกลฺยตา อกมฺมฺตา โอลียนา สลฺลียนา ลีนํ ลียนา ลียิตตฺตํ ถินํ ถิยนา ถิยิตตฺตํ จิตฺตสฺส, อิทํ วุจฺจติ เจตโส ลีนตฺต’’นฺติ (วิภ. ๘๖๐).

เจตโส อวูปสโมติ ยถา นาม วีตจฺจิโกปิ องฺคาโร เนว ตาว สนฺนิสีทติ ปตาปํ กโรติเยว, ยถา จ ปตฺตปจนฏฺาเน เนว ตาว สนฺนิสีทติ ปตาปํ กโรติเยว, เอวํ จิตฺตสฺส อวูปสนฺตากาโร, อตฺถโต ปเนตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมว โหติ.

วิจิกิจฺฉฏฺานียา ธมฺมาติ วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา. อโยนิโสมนสิกาโร สพฺพตฺถ วุตฺตนโยว. เอวเมตฺถ กามจฺฉนฺโท วิจิกิจฺฉาติ อิเม ทฺเว ธมฺมา อารมฺมเณน กถิตา, พฺยาปาโท อารมฺมเณน จ อุปนิสฺสเยน จ, เสสา สหชาเตน จ อุปนิสฺสเยน จาติ.

สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมาติ สติยา อารมฺมณธมฺมา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยา จ นว โลกุตฺตรธมฺมา จ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโรติ ตตฺถ อุปายมนสิการสฺส ปุนปฺปุนํ กรณํ.

กุสลากุสลา ธมฺมาติอาทีสุ กุสลาติ โกสลฺลสมฺภูตา อนวชฺชสุขวิปากา. อกุสลาติ อโกสลฺลสมฺภูตา สาวชฺชทุกฺขวิปากา. สาวชฺชาติ อกุสลา. อนวชฺชาติ กุสลา. หีนปณีตกณฺหสุกฺเกสุปิ เอเสว นโย. สปฺปฏิภาคาติ กณฺหสุกฺกาเยว. กณฺหา หิ กณฺหวิปากทานโต, สุกฺกา จ สุกฺกวิปากทานโต สปฺปฏิภาคา นาม, สทิสวิปากโกฏฺาสาติ อตฺโถ. ปฏิปกฺขภูตสฺส วา ภาคสฺส อตฺถิตาย สปฺปฏิภาคา. กณฺหานฺหิ สุกฺกา ปฏิปกฺขภาคา, สุกฺกานฺจ กณฺหา ปฏิปกฺขภาคาติ เอวมฺปิ สปฺปฏิภาคา. สปฺปฏิพาหิตฏฺเน วา สปฺปฏิภาคา. อกุสลฺหิ กุสลํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากํ เทติ, กุสลฺจ อกุสลํ ปฏิพาหิตฺวาติ เอวมฺปิ กณฺหสุกฺกา สปฺปฏิภาคา.

อารมฺภธาตูติ ปมารมฺภวีริยํ. นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตรํ. ปรกฺกมธาตูติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนตาย ตโตปิ พลวตรนฺติ ตีหิปิ ปเทหิ วีริยเมว กถิตํ.

ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียาติ ปีติยา อารมฺมณธมฺมา. กายปสฺสทฺธีติ ติณฺณํ ขนฺธานํ ทรถปสฺสทฺธิ. จิตฺตปสฺสทฺธีติ วิฺาณกฺขนฺธสฺส ทรถปสฺสทฺธิ. สมถนิมิตฺตนฺติ สมโถปิ สมถนิมิตฺตํ, อารมฺมณมฺปิ. อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.

อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียาติ อุเปกฺขาย อารมฺมณธมฺมา, อตฺถโต ปน มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาฏฺานียา ธมฺโมติ เวทิตพฺโพ. เอวเมตฺถ สติธมฺมวิจยอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคา อารมฺมเณน กถิตา, เสสา อารมฺมเณนปิ อุปนิสฺสเยนปิ.

๓. สีลสุตฺตวณฺณนา

๑๘๔. ตติเย สีลสมฺปนฺนาติ เอตฺถ ขีณาสวสฺส โลกิยโลกุตฺตรสีลํ กถิตํ, เตน สมฺปนฺนาติ อตฺโถ. สมาธิปฺาสุปิ เอเสว นโย. วิมุตฺติ ปน ผลวิมุตฺติเยว. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. เอวเมตฺถ สีลาทโย ตโย โลกิยโลกุตฺตรา, วิมุตฺติ โลกุตฺตราว, วิมุตฺติาณทสฺสนํ โลกิยเมว.

ทสฺสนมฺปาหนฺติ ทสฺสนมฺปิ อหํ. ตํ ปเนตํ ทสฺสนํ – จกฺขุทสฺสนํ, าณทสฺสนนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ ปสนฺเนหิ จกฺขูหิ อริยานํ ทสฺสนํ โอโลกนํ จกฺขุทสฺสนํ นาม. อริเยหิ ปน ทิฏฺสฺส ลกฺขณสฺส ทสฺสนํ, ปฏิวิทฺธสฺส จ ปฏิวิชฺฌนํ ฌาเนน วา วิปสฺสนาย วา มคฺคผเลหิ วา าณทสฺสนํ นาม. อิมสฺมึ ปเนตฺถ จกฺขุทสฺสนํ อธิปฺเปตํ. อริยานฺหิ ปสนฺเนหิ จกฺขูหิ โอโลกนมฺปิ พหุการเมว. สวนนฺติ ‘‘อสุโก นาม ขีณาสโว อสุกสฺมึ นาม รฏฺเ วา ชนปเท วา คาเม วา นิคเม วา วิหาเร วา เลเณ วา วสตี’’ติ กเถนฺตานํ โสเตน สวนํ, เอตมฺปิ พหุการเมว. อุปสงฺกมนนฺติ ‘‘ทานํ วา ทสฺสามิ, ปฺหํ วา ปุจฺฉิสฺสามิ, ธมฺมํ วา โสสฺสามิ, สกฺการํ วา กริสฺสามี’’ติ เอวรูเปน จิตฺเตน อริยานํ อุปสงฺกมนํ. ปยิรุปาสนนฺติ ปฺหาปยิรุปาสนํ. อริยานํ คุเณ สุตฺวา เต อุปสงฺกมิตฺวา นิมนฺเตตฺวา ทานํ ทตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสล’’นฺติอาทินา นเยน ปฺหปุจฺฉนนฺติ อตฺโถ.

อนุสฺสตินฺติ รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ นิสินฺนสฺส ‘‘อิทานิ อริยา เลณคุหมณฺฑปาทีสุ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลสุเขหิ วีตินาเมนฺตี’’ติ อนุสฺสรณํ. โย วา เตสํ สนฺติเก โอวาโท ลทฺโธ โหติ, ตํ อาวชฺชิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, อิมสฺมึ สมาธิ, อิมสฺมึ วิปสฺสนา, อิมสฺมึ มคฺโค, อิมสฺมึ ผล’’นฺติ เอวํ อนุสฺสรณํ. อนุปพฺพชฺชนฺติ อริเยสุ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา ฆรา นิกฺขมฺม เตสํ สนฺติเก ปพฺพชฺชํ. อริยานฺหิ สนฺติเก จิตฺตํ ปสาเทตฺวา เตสํเยว สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา เตสํเยว โอวาทานุสาสนึ ปจฺจาสีสมานสฺส จรโตปิ ปพฺพชฺชา อนุปพฺพชฺชา นาม. อริเยสุ ปสาเทน อฺตฺถ ปพฺพชิตฺวา อริยานํ สนฺติเก โอวาทานุสาสนึ ปจฺจาสีสมานสฺส จรโต ปพฺพชฺชาปิ อนุปพฺพชฺชา นาม. อฺเสุ ปน ปสาเทน อฺเสํเยว สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อฺเสํเยว โอวาทานุสาสนึ ปจฺจาสีสมานสฺส จรโต ปพฺพชฺชา อนุปพฺพชฺชา นาม น โหติ.

เอวํ ปพฺพชิเตสุ ปน มหากสฺสปตฺเถรสฺส ตาว อนุปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตา สตสหสฺสมตฺตา อเหสุํ, ตถา เถรสฺเสว สทฺธิวิหาริกสฺส จ จนฺทคุตฺตตฺเถรสฺส, ตสฺสาปิ สทฺธิวิหาริกสฺส สูริยคุตฺตตฺเถรสฺส, ตสฺสาปิ สทฺธิวิหาริกสฺส อสฺสคุตฺตตฺเถรสฺส, ตสฺสาปิ สทฺธิวิหาริกสฺส โยนกธมฺมรกฺขิตตฺเถรสฺส, ตสฺส ปน สทฺธิวิหาริโก อโสกรฺโ กนิฏฺภาตา ติสฺสตฺเถโร นาม อโหสิ, ตสฺส อนุปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตา อฑฺฒเตยฺยโกฏิสงฺขา อเหสุํ. มหินฺทตฺเถรสฺส อนุปพฺพชิตานํ คณนปริจฺเฉโท นตฺถิ. ยาวชฺชทิวสา ลงฺกาทีเป สตฺถริ ปสาเทน ปพฺพชนฺตา มหินฺทตฺเถรสฺเสว ปพฺพชฺชํ อนุปพฺพชนฺติ นาม.

ตํ ธมฺมนฺติ ตํ เตสํ โอวาทานุสาสนีธมฺมํ. อนุสฺสรตีติ สรติ. อนุวิตกฺเกตีติ วิตกฺกาหตํ กโรติ. อารทฺโธ โหตีติ ปริปุณฺโณ โหติ. ปวิจินตีติอาทิ สพฺพํ ตตฺถ าณจารวเสเนว วุตฺตํ. อถ วา ปวิจินตีติ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ลกฺขณํ วิจินติ. ปวิจรตีติ ตตฺถ าณํ จราเปติ. ปริวีมํสมาปชฺชตีติ วีมํสนํ โอโลกนํ คเวสนํ อาปชฺชติ.

สตฺต ผลา สตฺตานิสํสาติ อุภยมฺเปตํ อตฺถโต เอกํ. ทิฏฺเว ธมฺเม ปฏิกจฺจ อฺํ อาราเธตีติ อรหตฺตํ อาราเธนฺโต อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อาราเธติ, ตฺจ โข ปฏิกจฺจ, อสมฺปตฺเตเยว มรณกาเลติ อตฺโถ. อถ มรณกาเลติ อถ มรณสฺส อาสนฺนกาเล.

อนฺตราปรินิพฺพายีติ โย อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายติ, โส ติวิโธ โหติ. กปฺปสหสฺสายุเกสุ ตาว อวิเหสุ นิพฺพตฺติตฺวา เอโก นิพฺพตฺตทิวเสเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. โน เจ นิพฺพตฺตทิวเส ปาปุณาติ, ปมสฺส ปน กปฺปสตสฺส มตฺถเก ปาปุณาติ. อยเมโก อนฺตราปรินิพฺพายี. อปโร เอวํ อสกฺโกนฺโต ทฺวินฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ทุติโย. อปโร เอวมฺปิ อสกฺโกนฺโต จตุนฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ตติโย อนฺตราปรินิพฺพายี.

ปฺจมํ ปน กปฺปสตํ อติกฺกมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม โหติ. อตปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปนฺโน ปน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน อรหตฺตํ ปตฺโต สสงฺขารปรินิพฺพายี นาม, อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน ปตฺโต อสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. อวิหาทีสุปิ นิพฺพตฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อุปรูปริ นิพฺพตฺติตฺวา อกนิฏฺํ ปตฺโต อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม.

อิมสฺมึ ปน าเน อฏฺจตฺตารีส อนาคามิโน กเถตพฺพา. อวิเหสุ หิ ตโย อนฺตราปรินิพฺพายี, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ โหนฺติ. เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจ, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจาติ ทส โหนฺติ, ตถา อตปฺปาทีสุ. อกนิฏฺเสุ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ, ตสฺมา ตตฺถ จตฺตาโร สสงฺขารปรินิพฺพายี, จตฺตาโร อสงฺขารปรินิพฺพายีติ อฏฺาติ เอวํ อฏฺจตฺตาลีส โหนฺติ. เตสํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี สพฺพเชฏฺโ เจว โหติ สพฺพกนิฏฺโ จ. กถํ? โส หิ โสฬสกปฺปสหสฺสายุกตฺตา อายุนา สพฺเพสํ เชฏฺโ, สพฺพปจฺฉา อรหตฺตํ ปาปุณีติ สพฺเพสํ กนิฏฺโ. อิมสฺมึ สุตฺเต อปุพฺพํ อจริมํ เอกจิตฺตกฺขณิกา นานาลกฺขณา อรหตฺตมคฺคสฺส ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคา กถิตา.

๔. วตฺถสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. จตุตฺเถ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจ เม โหตีติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ เอวํ เจ มยฺหํ โหติ. อปฺปมาโณติ เม โหตีติ อปฺปมาโณติ เอวํ เม โหติ. สุสมารทฺโธติ สุปริปุณฺโณ. ติฏฺตีติ เอตฺถ อฏฺหากาเรหิ สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ – อุปฺปาทํ อนาวชฺชิตตฺตา อนุปฺปาทํ อาวชฺชิตตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ, ปวตฺตํ, อปฺปวตฺตํ, นิมิตฺตํ, อนิมิตฺตํ สงฺขาเร อนาวชฺชิตตฺตา, วิสงฺขารํ อาวชฺชิตตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺตีติ. อิเมหิ อฏฺหากาเรหิ ติฏฺตีติ เถโร ชานาติ, วุตฺตาการวิปรีเตเหว อฏฺหากาเรหิ จวนฺตํ จวตีติ ปชานาติ. เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ เอเสว นโย.

อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต เถรสฺส ผลโพชฺฌงฺคา กถิตา. ยทา หิ เถโร สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตทา อิตเร ฉ ตทนฺวยา โหนฺติ. ยทา ธมฺมวิจยาทีสุ อฺตรํ, ตทาปิ เสสา ตทนฺวยา โหนฺตีติ เอวํ ผลสมาปตฺติยํ อตฺตโน จิณฺณวสิตํ ทสฺเสนฺโต เถโร อิมํ สุตฺตํ กเถสีติ.

๕. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๑๘๖. ปฺจเม โพธาย สํวตฺตนฺตีติ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. กึ พุชฺฌนตฺถาย? มคฺเคน อสงฺขตํ นิพฺพานํ, ปจฺจเวกฺขณาย กตกิจฺจตํ, มคฺเคน วา กิเลสนิทฺทาโต ปพุชฺฌนตฺถาย, ผเลน ปพุชฺฌนภาวตฺถายาติปิ วุตฺตํ โหติ. เตเนเวตฺถ นิพฺพานสจฺฉิกิริยา กิเลสปหานปจฺจเวกฺขณาติ สพฺพํ ทสฺสิตํ.

๖-๗. กุณฺฑลิยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๘๗-๑๘๘. ฉฏฺเ อารามนิสฺสยีติ อารามํ นิสฺสาย วสนภาเวน อารามนิสฺสยี. ปริสาวจโรติ ปริสาย อวจโร. ปริสํ นาม พาลาปิ, ปณฺฑิตาปิ โอสรนฺติ, โย ปน ปรปฺปวาทํ มทฺทิตฺวา อตฺตโน วาทํ ทีเปตุํ สกฺโกติ, อยํ ปริสาวจโร นาม. อาราเมน อารามนฺติ อาราเมเนว อารามํ อนุจงฺกมามิ, น พาหิเรนาติ อตฺโถ. อุยฺยาเนน อุยฺยานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อฺเน วา อาราเมน ปวิสิตฺวา อฺํ อารามํ, อฺเน อุยฺยาเนน อฺํ อุยฺยานนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสนฺติ ‘‘เอวํ ปุจฺฉา โหติ, เอวํ วิสฺสชฺชนํ, เอวํ คหณํ, เอวํ นิพฺเพน’’นฺติ อิมินา นเยน อิติวาโท โหติ อิติวาทปฺปโมกฺโขติ เอตํ อานิสํสํ. อุปารมฺภานิสํสนฺติ ‘‘อยํ ปุจฺฉาย โทโส, อยํ วิสฺสชฺชเน’’ติ เอวํ วาทโทสานิสํสํ.

กถํ ภาวิโต จ, กุณฺฑลิย, อินฺทฺริยสํวโรติ สตฺถา ‘‘เอตฺตกํ านํ ปริพฺพาชเกน ปุจฺฉิตํ, อิทานิ ปุจฺฉิตุํ น สกฺโกตี’’ติ ตฺวา ‘‘น ตาว อยํ เทสนา ยถานุสนฺธึ คตา. อิทานิ นํ ยถานุสนฺธึ ปาเปสฺสามี’’ติ สยเมว ปุจฺฉนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ มนาปํ นาภิชฺฌตีติ อิฏฺารมฺมณํ นาภิชฺฌายติ. นาภิหํสตีติ น สามิสาย ตุฏฺิยา อภิหํสติ. ตสฺส ิโต จ กาโย โหติ, ิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตนฺติ ตสฺส นามกาโย จ จิตฺตฺจ โคจรชฺฌตฺเต ิตํ โหติ. สุสณฺิตนฺติ กมฺมฏฺานวเสน สุฏฺุ สณฺิตํ. สุวิมุตฺตนฺติ กมฺมฏฺานวิมุตฺติยา สุวิมุตฺตํ. อมนาปนฺติ อนิฏฺารมฺมณํ. น มงฺกุ โหตีติ ตสฺมึ น มงฺกุ โหติ. อปฺปติฏฺิตจิตฺโตติ กิเลสวเสน อฏฺิตจิตฺโต. อทีนมานโสติ โทมนสฺสวเสน อทีนจิตฺโต. อพฺยาปนฺนเจตโสติ โทสวเสน อปูติจิตฺโต.

เอวํ ภาวิโต โข, กุณฺฑลิย, อินฺทฺริยสํวโร เอวํ พหุลีกโต ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรตีติ เอตฺถ เอวํ สุจริตปูรณํ เวทิตพฺพํ – อิเมสุ ตาว ฉสุ ทฺวาเรสุ อฏฺารส ทุจฺจริตานิ โหนฺติ. กถํ? จกฺขุทฺวาเร ตาว อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา ตสฺมึ อารมฺมเณ โลภํ อุปฺปาเทนฺตสฺส มโนทุจฺจริตํ โหติ. โลภสหคเตน จิตฺเตน ‘‘อโห วติทํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ ภณนฺตสฺส วจีทุจฺจริตํ, ตเทว หตฺเถน ปรามสนฺตสฺส กายทุจฺจริตํ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.

อยํ ปน วิเสโส – โสตทฺวารสฺมิฺหิ สทฺทารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ สงฺขปณวาทิตูริยภณฺฑํ อนามาสํ อามสนฺตสฺส, ฆานทฺวาเร คนฺธารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ คนฺธมาลาทึ, ชิวฺหาทฺวาเร รสารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ มจฺฉมํสาทึ, กายทฺวาเร โผฏฺพฺพารมฺมณสฺส วตฺถุภูตํ วตฺถตูลกปาวาราทึ, มโนทฺวาเร ปฺตฺติวเสน ธมฺมารมฺมณภูตํ สปฺปิเตลมธุผาณิตาทึ อามสนฺตสฺส กายทุจฺจริตํ เวทิตพฺพํ. สงฺเขปโต ปเนตฺถ ฉสุ ทฺวาเรสุ กายวีติกฺกโม กายทุจฺจริตํ, วจีวีติกฺกโม วจีทุจฺจริตํ, มโนวีติกฺกโม มโนทุจฺจริตนฺติ ตีเณว ทุจฺจริตานิ โหนฺติ.

อยํ ปน ภิกฺขุ อตฺตโน ภาวนาปฏิสงฺขาเน ิโต อิมานิ ทุจฺจริตานิ สุจริตํ กตฺวา วิปริณาเมติ. กถํ? จกฺขุทฺวาเร ตาว อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต กายงฺควาจงฺคานิ อจาเลตฺวา รูปารมฺมณํ วิปสฺสนํ ปฏฺาปยโต มโนสุจริตํ โหติ, วิปสฺสนาสหคเตน จิตฺเตน ขยธมฺมํ วยธมฺมนฺติ ภณนฺตสฺส วจีสุจริตํ, ‘‘อนามาสภณฺฑํ เอต’’นฺติ อนามสนฺตสฺส กายสุจริตํ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. เอวํ อิมานิ วิตฺถารโต อฏฺารส สุจริตานิ โหนฺติ. สงฺเขปโต ปเนตฺถาปิ ฉสุ ทฺวาเรสุ กายสํวโร กายสุจริตํ, วจีสํวโร วจีสุจริตํ, มโนสํวโร มโนสุจริตนฺติ ตีเณว สุจริตานิ โหนฺติ. เอวํ อินฺทฺริยสํวโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรตีติ เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา สีลานุรกฺขิตํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ กถิตํ.

กายทุจฺจริตํ ปหายาติอาทีสุ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ, จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ, ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ. ตสฺส ปฏิปกฺขวเสน กายสุจริตาทีนิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺตาวตา กายสํวรวจีสํวเรหิ ปาติโมกฺขสีลํ, มโนสํวเรน ตีณิ สีลานีติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ กถิตํ โหติ. สกเล ปน อิมสฺมึ สุตฺเต สุจริตมูลกา สติปฏฺานา โลกุตฺตรมิสฺสกา, สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ มูลภูตา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, เตปิ สติปฏฺานมูลกา โพชฺฌงฺคา ปุพฺพภาคาว. วิชฺชาวิมุตฺติมูลกา ปน โลกุตฺตราว กถิตาติ เวทิตพฺพา. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

๘. อุปวานสุตฺตวณฺณนา

๑๘๙. อฏฺเม ปจฺจตฺตนฺติ อตฺตนาว. โยนิโสมนสิการาติ โยนิโส มนสิกาเรน. อารพฺภมาโนวาติ กุรุมาโนเยว. สุวิมุตฺตนฺติ กมฺมฏฺานวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตํ. อฏฺึกตฺวาติ อตฺถํ กริตฺวา, อตฺถิโก หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๙. ปมอุปฺปนฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๙๐. นวเม นาฺตฺร ตถาคตสฺส ปาตุภาวาติ ตถาคตสฺส ปาตุภาวํ วินา น อฺสฺมึ กาเล อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

๑๐. ทุติยอุปฺปนฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๙๑. ทสเม นาฺตฺร สุคตวินยาติ สุคโตวาทํ วินา น อุปฺปชฺชนฺตีติ.

ปพฺพตวคฺโค.

๒. คิลานวคฺโค

๑-๓. ปาณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๙๒-๑๙๔. ทุติยวคฺคสฺส ปเม จตฺตาโร อิริยาปเถ กปฺเปนฺตีติ เยสํ จตฺตาโร อิริยาปถา อตฺถิ, เตสํเยว วเสเนตํ วุตฺตํ. สีลํ นิสฺสายาติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ นิสฺสยํ กตฺวา. สตฺต โพชฺฌงฺเคติ สหวิปสฺสนเก มคฺคโพชฺฌงฺเค. ทุติยตติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๔-๑๐. ปมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๙๕-๒๐๑. จตุตฺเถ ตถา ปหีโน จายสฺมโต มหากสฺสปสฺส โส อาพาโธ อโหสีติ เถรสฺส กิร อิมํ โพชฺฌงฺคภาวนํ สาธุกํ สุณนฺตสฺส เอตทโหสิ ‘‘มยฺหํ ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส อิเม โพชฺฌงฺคา ปาตุภูตา’’ติ. อถสฺส ‘‘นิยฺยานิกํ วต สตฺถุสาสน’’นฺติ จินฺตยโต โลหิตํ ปสีทิ, อุปาทารูปํ วิสุทฺธํ อโหสิ, โปกฺขรปตฺเต ปติตอุทกพินฺทุ วิย สรีรโต โรโค วินิวตฺติตฺวา คโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ตถา ปหีโน จายสฺมโต มหากสฺสปสฺส โส อาพาโธ อโหสี’’ติ. ปฺจมฉฏฺเสุปิ เอเสว นโย. อิเมสํ ปน ติณฺณมฺปิ ชนานํ ปพฺพตปาเท ปุปฺผิตวิสรุกฺขวาตสมฺผสฺเสน อุปฺปนฺโน มนฺทสีตชโร อาพาโธติ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

คิลานวคฺโค.

๓. อุทายิวคฺโค

๑-๒. โพธายสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๒-๒๐๓. ตติยวคฺคสฺส ปเม กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, โพชฺฌงฺคาติ วุจฺจนฺตีติ ภนฺเต, กิตฺตเกน นุ โข พุชฺฌนกองฺคา นาม วุจฺจนฺตีติ ปุจฺฉติ. โพธาย สํวตฺตนฺตีติ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. อิมสฺมึ สุตฺเต มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา. ทุติเย ธมฺมปริจฺเฉโท กถิโต.

๓-๕. านิยสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๔-๒๐๖. ตติเย กามราคฏฺานิยานนฺติ กามราคสฺส การณภูตานํ อารมฺมณธมฺมานํ. พฺยาปาทฏฺานิยาทีสุปิ เอเสว นโย. สกลฺหิ อิทํ สุตฺตํ อารมฺมเณเนว กถิตํ. ปมวคฺคสฺส ทุติยสุตฺเต วุตฺตปริจฺเฉโทเปตฺถ ลพฺภเตว. จตุตฺเถ มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา. ปฺจเม อปริหานิเย ธมฺเมติ อปริหานิกเร สภาวธมฺเม.

๖-๗. ตณฺหกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๗-๒๐๘. ฉฏฺเ เอตทโวจาติ ‘‘อิมิสฺสํ ปริสติ นิสินฺโน อุทายิตฺเถโร นาม อนุสนฺธิกุสโล ภิกฺขุ อตฺถิ, โส มํ ปุจฺฉิสฺสตีติ ภควตา โอสาปิตเทสนํ ตฺวา เทสนานุสนฺธึ ฆเฏสฺสามี’’ติ ปุจฺฉนฺโต เอตํ อโวจ. วิปุลนฺติอาทิ สพฺพํ สุภาวิตตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สุภาวิโต หิ สติสมฺโพชฺฌงฺโค วิปุโล จ มหคฺคโต จ อปฺปมาโณ จ อพฺยาปชฺโช จ นาม โหติ. โส หิ ปตฺถฏตฺตา วิปุโล, มหนฺตภาวํ คตตฺตา มหคฺคโต, วฑฺฒิปมาณตฺตา อปฺปมาโณ, นีวรณานํ ทูรีภาเวน พฺยาปาทรหิตตฺตา อพฺยาปชฺโฌ นาม โหติ. ตณฺหาย ปหานา กมฺมํ ปหียตีติ ยํ ตณฺหามูลกํ กมฺมํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ ตณฺหาปหาเนน ปหียติ. กมฺมสฺส ปหานา ทุกฺขนฺติ ยมฺปิ กมฺมมูลกํ วฏฺฏทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ กมฺมปหาเนน ปหียติ. ตณฺหกฺขยาทโย ตณฺหาทีนํเยว ขยา, อตฺถโต ปเนเตหิ นิพฺพานํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

๘. นิพฺเพธภาคิยสุตฺตวณฺณนา

๒๐๙. อฏฺเม นิพฺเพธภาคิยนฺติ นิพฺพิชฺฌนโกฏฺาสิยํ. สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาวิเตนาติ สติสมฺโพชฺฌงฺเคน ภาวิเตน, สติสมฺโพชฺฌงฺคํ วา ภาเวตฺวา ิเตน, เอวเมตฺถ มคฺคโพชฺฌงฺคา มิสฺสกา. เตหิ ภาวิตํ, เต วา ภาเวตฺวา ิตํ จิตฺตํ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว. ตมฺปิ ปน มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มิสฺสกเมว กเถตุํ วฏฺฏติ.

๙. เอกธมฺมสุตฺตวณฺณนา

๒๑๐. นวเม สํโยชนวินิพนฺธาติ สํโยชนสงฺขาตา วินิพนฺธา. อชฺโฌสานาติ ปรินิฏฺเปตฺวา คหณา.

๑๐. อุทายิสุตฺตวณฺณนา

๒๑๑. ทสเม อพหุกโตติ อกตพหุมาโน. อุกฺกุชฺชาวกุชฺชนฺติ เอตฺถ อุกฺกุชฺชํ วุจฺจติ อุทโย, อวกุชฺชํ วโยติ อุทยพฺพยวเสน ปริวตฺเตนฺโต สมฺมสนฺโตติ ทีเปติ. ธมฺโม จ เม, ภนฺเต, อภิสมิโตติ วิปสฺสนาธมฺโม อภิสมาคโต. มคฺโคติ วิปสฺสนามคฺโคว. สเจ หิ เถโร ตสฺมึ สมเย โสตาปนฺโน, อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ อตฺถาย, สเจ อนาคามี, อรหตฺตมคฺคสฺส อตฺถาย อยํ วิปสฺสนา เวทิตพฺพา. ตถา ตถา วิหรนฺตนฺติ เตน เตนากาเรน วิหรนฺตํ. ตถตฺตายาติ ตถาภาวาย. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตถตฺตายาติ อธิปฺเปตํ ตถาภาวํ ทสฺเสติ. ปจฺจเวกฺขณตฺถาย อุปนียตีติ หิ เอตฺถ อธิปฺปาโย, ตํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อุทายิวคฺโค.

๔. นีวรณวคฺโค

๓-๔. อุปกฺกิเลสสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๑๔-๒๑๕. จตุตฺถวคฺคสฺส ตติเย น จ ปภสฺสรนฺติ น จ ปภาวนฺตํ. ปภงฺคุ จาติ ปภิชฺชนสภาวํ. อโยติ กาฬโลหํ. เปตฺวา อิธ วุตฺตานิ จตฺตาริ อวเสสํ โลหํ นาม. สชฺฌูติ รชตํ. จิตฺตสฺสาติ จตุภูมกจิตฺตสฺส. โลกิยสฺส ตาว อุปกฺกิเลโส โหตุ, โลกุตฺตรสฺส กถํ โหตีติ? อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน. ยทคฺเคน หิ อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, ตทคฺเคเนว เต โลกิยสฺสาปิ โลกุตฺตรสฺสาปิ อุปกฺกิเลสา นาม โหนฺติ. ปภงฺคุ จาติ อารมฺมเณ จุณฺณวิจุณฺณภาวูปคมเนน ภิชฺชนสภาวํ. อนาวรณา อนีวรณาติ กุสลธมฺเม น อาวรนฺตีติ อนาวรณา, น นีวรนฺติ น ปฏิจฺฉาเทนฺตีติ อนีวรณา. เจตโส อนุปกฺกิเลสาติ จตุภูมกจิตฺตสฺส อนุปกฺกิเลสา.

๘. อาวรณนีวรณสุตฺตวณฺณนา

๒๑๙. อฏฺเม ปฺาย ทุพฺพลีกรณาติ ปฺาย มนฺทภาวกรา. นีวรณานฺหิ อภิณฺหุปฺปาเท สติ อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมานา ปฺา ทุพฺพลา โหติ มนฺทา อวิสทา.

ปฺจ นีวรณา ตสฺมึ สมเย น โหนฺติ. สตฺตโพชฺฌงฺคา ตสฺมึ สมเย ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ อริยสาวกสฺส หิ สปฺปายธมฺมสฺสวนํ สุณนฺตสฺส ปฺจ นีวรณา ทูเร โหนฺติ. โส สเจ ตสฺมึเยว าเน วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ, เอวมสฺส สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. โน เจ สกฺโกติ, ตโต วุฏฺาย รตฺติฏฺานทิวาฏฺานํ คโต ตเมว ปีตึ อวิชหนฺโต ปฺจ นีวรเณ วิกฺขมฺเภตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสติ. ตตฺถ อสกฺโกนฺโตปิ ยาว สตฺตทิวสพฺภนฺตรา ตเมว ปีตึ อวิชหนฺโต นีวรเณ วิกฺขมฺเภตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสตีติ อิทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ธมฺมสฺสวนวเสน สกึ ปีติปาโมชฺชปกฺขิยา ปฏิลทฺธโพชฺฌงฺคา หิ กมฺมารามตาทีนิ อาคมฺม นสฺสนฺติ, ตถารูปํ ปน อุตุสปฺปายาทึ ลภิตฺวา ปุน อุปฺปชฺชนฺตาปิ ตสฺมึ สมเย ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ อิจฺเจว วุจฺจติ.

๙. รุกฺขสุตฺตวณฺณนา

๒๒๐. นวเม อชฺฌารุหาติ อภิรุหนกา. กจฺฉโกติ อฏฺิกจฺฉโก. กปิตฺถโนติ มกฺกฏถนสทิสผโล วิชาตปิลกฺโข.

๑๐. นีวรณสุตฺตวณฺณนา

๒๒๑. ทสเม อนฺธกรณาติ อนฺธภาวกรณา. อจกฺขุกรณาติ ปฺาจกฺขุสฺส อกรณา. ปฺานิโรธิกาติ ปฺาย นิโรธนา. วิฆาตปกฺขิยาติ ทุกฺขปกฺขิกา. อนิพฺพานสํวตฺตนิกาติ นิพฺพานตฺถาย อสํวตฺตนิกา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. สกเลปิ อิมสฺมึ วคฺเค มิสฺสกโพชฺฌงฺคาว กถิตาติ.

นีวรณวคฺโค.

๕. จกฺกวตฺติวคฺโค

๑. วิธาสุตฺตวณฺณนา

๒๒๒. ปฺจมวคฺคสฺส ปเม ติสฺโส วิธาติ ตโย มานโกฏฺาสา, มาโนเยว วา. ตถา ตถา วิทหนโต หิ มาโนว วิธาติ วุจฺจติ.

๒. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. ทุติเย รฺโ, ภิกฺขเว, จกฺกวตฺติสฺสาติ เอตฺถ อตฺตโน สิริสมฺปตฺติยา ราชติ, จตูหิ วา สงฺคหวตฺถูหิ โลกํ รฺเชตีติ ราชา, ตสฺส รฺโ. ‘‘ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตน’’นฺติ ปุฺานุภาเวน อพฺภุคฺคตาย วาจาย โจเทนฺโต จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี, ตสฺส จกฺกวตฺติสฺส. ปาตุภาวาติ ปาตุภาเวน. สตฺตนฺนนฺติ คณนปริจฺเฉโท. รตนานนฺติ ปริจฺฉินฺนอตฺถทสฺสนํ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ รติชนนฏฺเน รตนํ. อปิจ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ.

จกฺกรตนสฺส จ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย อฺํ เทวฏฺานํ นาม น โหติ, สพฺเพว คนฺธปุปฺผาทีหิ ตสฺเสว ปูชฺจ อภิวาทนาทีนิ จ กโรนฺตีติ จิตฺตีกตฏฺเน รตนํ. จกฺกรตนสฺส จ ‘‘เอตฺตกํ นาม ธนํ อคฺฆตี’’ติ อคฺโฆ นตฺถิ, อิติ มหคฺฆฏฺเนาปิ รตนํ. จกฺกรตนฺจ อฺเหิ โลเก วิชฺชมานรตเนหิ อสทิสนฺติ อตุลฏฺเน รตนํ. ยสฺมา ปน ยสฺมึ กปฺเป พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมึเยว จกฺกวตฺติโน, พุทฺธา จ กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ทุลฺลภทสฺสนฏฺเน รตนํ. ตเทตํ ชาติรูปกุลอิสฺสริยาทีหิ อโนมสฺส อุฬารสตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชติ, น อฺสฺสาติ อโนมสตฺตปริโภคฏฺเนาปิ รตนํ. ยถา จ จกฺกรตนํ, เอวํ เสสานิปีติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ.

ปาตุภาโว โหตีติ นิพฺพตฺติ โหติ. ตตฺรายํ โยชนา – จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา สตฺตนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโวติ อยุตฺตํ. อุปฺปนฺนฺหิ จกฺกํ วตฺเตตฺวา โส จกฺกวตฺตี นาม โหตีติ นายุตฺตํ. กสฺมา? จกฺกวตฺตนนิยมาเปกฺขตาย. โย หิ นิยเมน จกฺกํ วตฺเตสฺสติ, โส ปฏิสนฺธิโต ปภุติ ‘‘จกฺกวตฺติ ปาตุภูโต’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. ลทฺธนามสฺส จ ปุริสสฺส มูลุปฺปตฺติวจนโตปิ ยุตฺตเมเวตํ. โย หิ เอส จกฺกวตฺตีติ ลทฺธนาโม สตฺตวิเสโส, ตสฺส ปฏิสนฺธิสงฺขาโต ปาตุภาโวติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตสฺส หิ ปาตุภาวา รตนานิ ปาตุภวนฺติ. ปาตุภูเตหิ ปน เตหิ สทฺธึ ปริปกฺเก ปุฺสมฺภาเร โส สํยุชฺชติ, ตทา โลกสฺส เตสุ ปาตุภาวจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. พหุลวจนโต จาปิ ยุตฺตเมเวตํ. ยทา หิ โลกสฺส เตสุ ปาตุภาวสฺา อุปฺปชฺชติ, ตทา เอกเมว ปมํ, ปจฺฉา อิตรานิ ฉ ปาตุภวนฺตีติ พหุลวจนโต จาปิ เอตํ ยุตฺตํ. ปาตุภาวสฺส จ อตฺถเภทโตปิ ยุตฺตเมเวตํ. น เกวลฺหิ ปาตุภูตเมว ปาตุภาโว, ปาตุภาวยตีติ ปาตุภาโว. อยํ ปาตุภาวสฺส อตฺถเภโท. ยสฺมา โย โส ปุฺสมฺภาโร ราชานํ จกฺกวตฺตึ ปฏิสนฺธิวเสน ปาตุภาวยติ, ตสฺมา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา. น เกวลฺหิ จกฺกวตฺติเยว, อิมานิ ปน สตฺต รตนานิปิ ปาตุภวนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ยเถว หิ โส ปุฺสมฺภาโร รฺโ ชนกเหตุ, เอวํ รตนานมฺปิ ปริยาเยน อุปนิสฺสยเหตูติ ยุตฺตเมเวตํ ‘‘รฺโ, ภิกฺขเว, จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา สตฺตนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโว โหตี’’ติ.

อิทานิ เตสํ รตนานํ สรูปวเสน ทสฺสนตฺถํ กตเมสํ สตฺตนฺนํ จกฺกรตนสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺกรตนสฺสาติอาทีสุ อยํ สงฺเขปาธิปฺปาโย – ทฺวิสหสฺสทีปปริวารานํ จตุนฺนํ มหาทีปานํ สิริวิภวํ คเหตฺวา ทาตุํ สมตฺถสฺส จกฺกรตนสฺส ปาตุภาโว โหติ, ตถา ปุเรภตฺตเมว สาครปริยนฺตํ ปถวึ อนุปริยายนสมตฺถสฺส เวหาสงฺคมสฺส หตฺถิรตนสฺส, ตาทิสสฺเสว อสฺสรตนสฺส, จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร โยชนปฺปมาณํ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกทสฺสนสมตฺถสฺส มณิรตนสฺส, ฉพฺพิธํ โทสํ วิวชฺเชตฺวา มนาปจาริโน อิตฺถิรตนสฺส, โยชนปฺปมาเณ ปเทเส อนฺโตปถวิคตานํ นิธีนํ ทสฺสนสมตฺถสฺส คหปติรตนสฺส, อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา สกลรชฺชานุสาสนสมตฺถสฺส เชฏฺปุตฺตสงฺขาตสฺส ปริณายกรตนสฺส จ ปาตุภาโว โหตีติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน เตสํ จกฺกรตนาทีนํ ปาตุภาววิธานํ มหาสุทสฺสนาทีสุ สุตฺเตสุ อาคตเมว. อตฺโถปิสฺส เตสํ วณฺณนาย สํวณฺณิโตเยว.

สติสมฺโพชฺฌงฺครตนสฺสาติอาทีสุ สริกฺขกตา เอวํ เวทิตพฺพา – ยเถว หิ จกฺกวตฺติโน จกฺกรตนํ สพฺพรตนานํ ปุเรจรํ, เอวํ สติสมฺโพชฺฌงฺครตนํ สพฺเพสํ จตุภูมกธมฺมานํ ปุเรจรนฺติ, ปุเรจรณฏฺเน จกฺกวตฺติรฺโ จกฺกรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน จ รตเนสุ มหากายูปปนฺนํ อจฺจุคฺคตํ วิปุลํ มหนฺตํ หตฺถิรตนํ, อิทมฺปิ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺครตนํ มหนฺตํ ธมฺมกายูปปนฺนํ อจฺจุคฺคตํ วิปุลํ มหนฺตนฺติ หตฺถิรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน อสฺสรตนํ สีฆํ ลหุ ชวํ, อิทมฺปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺครตนํ สีฆํ ลหุ ชวนฺติ อิมาย สีฆลหุชวตาย อสฺสรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน มณิรตนํ อนฺธการํ วิธมติ, อาโลกํ ทสฺเสติ, อิทมฺปิ ปีติสมฺโพชฺฌงฺครตนํ ตาย เอกนฺตกุสลตฺตา กิเลสนฺธการํ วิธมติ, สหชาตปจฺจยาทิวเสน าณาโลกํ ทสฺเสตีติ อิมินา อนฺธการวิธมนอาโลกทสฺสนภาเวน มณิรตนสทิสํ โหติ.

จกฺกวตฺติโน อิตฺถิรตนํ กายจิตฺตทรถํ ปฏิปสฺสมฺเภติ, ปริฬาหํ วูปสเมติ. อิทมฺปิ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺครตนํ กายจิตฺตทรถํ ปฏิปสฺสมฺเภติ, ปริฬาหํ วูปสเมตีติ อิตฺถิรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน คหปติรตนํ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ธนทาเนน วิกฺเขปํ ปจฺฉินฺทิตฺวา จิตฺตํ เอกคฺคํ กโรติ, อิทมฺปิ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺครตนํ ยถิจฺฉิตาทิวเสน อปฺปนํ สมฺปาเทติ, วิกฺเขปํ ปจฺฉินฺทิตฺวา จิตฺตํ เอกคฺคํ กโรตีติ คหปติรตนสทิสํ โหติ. จกฺกวตฺติโน จ ปริณายกรตนํ สพฺพตฺถกิจฺจสมฺปาทเนน อปฺโปสฺสุกฺกตํ กโรติ. อิทมฺปิ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺครตนํ จิตฺตุปฺปาทํ ลีนุทฺธจฺจโต โมเจตฺวา ปโยคมชฺฌตฺเต ปยมานํ อปฺโปสฺสุกฺกตํ กโรตีติ ปริณายกรตนสทิสํ โหติ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต จตุภูมโก สพฺพสงฺคาหิกธมฺมปริจฺเฉโท กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

๔-๑๐. ทุปฺปฺสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๒๕-๒๓๑. จตุตฺเถ เอฬมูโคติ มุเขน วาจํ นิจฺฉาเรตุํ สกฺโกนฺโตปิ โทเสหิ มูโค อสมฺปนฺนวจโน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

จกฺกวตฺติวคฺโค.

๖. สากจฺฉวคฺโค

๑. อาหารสุตฺตวณฺณนา

๒๓๒. ฉฏฺวคฺคสฺส ปเม อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทายาติอาทีสุ อยํ ปุริมนยโต วิเสโส. น เกวลฺหิ สติสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ เอเต วุตฺตปฺปการาว อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนานํ วา ภาวนาย ปาริปูริยา ปจฺจยา โหนฺติ, อฺเปิ ปน เอวํ เวทิตพฺพา. อปเรปิ หิ จตฺตาโร ธมฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ สติสมฺปชฺํ มุฏฺสฺสติปุคฺคลปริวชฺชนตา อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคลเสวนตา ตทธิมุตฺตตาติ. อภิกฺกนฺตาทีสุ หิ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺเน, ภตฺตนิกฺขิตฺตกากสทิเส มุฏฺสฺสติปุคฺคเล ปริวชฺชเนน, ติสฺสทตฺตตฺเถรอภยตฺเถราทิสทิเส อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคเล เสวเนน, านนิสชฺชาทีสุ สติสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาย จ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. เอวํ จตูหิ การเณหิ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปริปุจฺฉกตา วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ ปริปุจฺฉกตาติ ขนฺธธาตุอายตนอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคสมถวิปสฺสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตปริปุจฺฉาพหุลตา.

วตฺถุวิสทกิริยาติ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณํ. ยทา หิสฺส เกสนขโลมานิ ทีฆานิ โหนฺติ, สรีรํ วา อุสฺสนฺนโทสฺเจว เสทมลมกฺขิตฺจ, ตทา อชฺฌตฺติกวตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ยทา ปน จีวรํ ชิณฺณํ กิลิฏฺํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, เสนาสนํ วา อุกฺลาปํ, ตทา พาหิรวตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ตสฺมา เกสาทิเฉทเนน อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ สรีรสลฺลหุกภาวกรเณน อุจฺฉาทนนหาปเนน จ อชฺฌตฺติกวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. สูจิกมฺมโธวนรชนปริภณฺฑกรณาทีหิ พาหิรวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. เอตสฺมิฺหิ อชฺฌตฺติกพาหิเร วตฺถุมฺหิ อวิสเท อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ อวิสทํ อปริสุทฺธํ โหติ อปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. วิสเท ปน อชฺฌตฺติกพาหิเร วตฺถุมฺหิ อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ วิสทํ โหติ ปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. เตน วุตฺตํ – ‘‘วตฺถุวิสทกิริยา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตตี’’ติ.

อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. สเจ หิสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อิตรานิ มนฺทานิ, ตโต วีริยินฺทฺริยํ ปคฺคหกิจฺจํ, สตินฺทฺริยํ อุปฏฺานกิจฺจํ, สมาธินฺทฺริยํ อวิกฺเขปกิจฺจํ, ปฺินฺทฺริยํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน วา, ยถา วา มนสิกโรโต พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกรเณน หาเปตพฺพํ. วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. สเจ ปน วีริยินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อถ เนว สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกติ, น อิตรานิ อิตรกิจฺจเภทํ. ตสฺมา ตํ ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพํ. ตตฺถาปิ โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ เอกสฺส พลวภาเว สติ อิตเรสํ อตฺตโน กิจฺเจสุ อสมตฺถตา เวทิตพฺพา.

วิเสสโต ปเนตฺถ สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมตํ ปสํสนฺติ. พลวสทฺโธ หิ มนฺทปฺโ มุธปฺปสนฺโน โหติ, อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ. พลวปฺโ ปน มนฺทสทฺโธ เกราฏิกปกฺขํ ภชติ, เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหติ. จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนว กุสลํ โหตีติ อติธาวิตฺวา ทานาทีนิ อกโรนฺโต นิรเย อุปฺปชฺชติ. อุภินฺนํ สมตาย วตฺถุสฺมึเยว ปสีทติ. พลวสมาธึ ปน มนฺทวีริยํ สมาธิสฺส โกสชฺชปกฺขตฺตา โกสชฺชํ อภิภวติ. พลววีริยํ มนฺทสมาธึ วีริยสฺส อุทฺธจฺจปกฺขตฺตา อุทฺธจฺจํ อภิภวติ. สมาธิ ปน วีริเยน สํโยชิโต โกสชฺเช ปติตุํ น ลภติ, วีริยํ สมาธินา สํโยชิตํ อุทฺธจฺเจ ปติตุํ น ลภติ. ตสฺมา ตทุภยํ สมํ กาตพฺพํ. อุภยสมตาย หิ อปฺปนา โหติ.

อปิ จ สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตีปิ สทฺธา วฏฺฏติ. เอวํ สทฺทหนฺโต โอกปฺเปนฺโต อปฺปนํ ปาปุณิสฺสติ. สมาธิปฺาสุ ปน สมาธิกมฺมิกสฺส เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ปฺา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส ลกฺขณปฏิเวธํ ปาปุณาติ. อุภินฺนํ ปน สมตายปิ อปฺปนา โหติเยว. สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏติ. สติ หิ จิตฺตํ อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สทฺธาวีริยปฺานํ วเสน อุทฺธจฺจปาตโต, โกสชฺชปกฺขิเกน จ สมาธินา โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. ตสฺมา สา โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ, สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺพราชกิจฺเจสุ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา. เตนาห ‘‘สติ จ ปน สพฺพตฺถิกา วุตฺตา ภควตา. กึ การณา? จิตฺตฺหิ สติปฏิสรณํ, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา จ สติ, น วินา สติยา จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคโห โหตี’’ติ.

ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา นาม ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานํ ทุมฺเมธปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา นาม สมปฺาสลกฺขณปริคฺคาหิกาย อุทยพฺพยปฺาย สมนฺนาคตปุคฺคลเสวนา. คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา นาม คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

เอกาทส ธมฺมา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – อปายภยปจฺจเวกฺขณตา, อานิสํสทสฺสาวิตา, คมนวีถิปจฺจเวกฺขณตา, ปิณฺฑปาตาปจายนตา, ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตา, อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

ตตฺถ ‘‘นิรเยสุ ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺาย มหาทุกฺขํ อนุภวนกาเลปิ, ติรจฺฉานโยนิยํ ชาลขิปนกุมีนาทีหิ คหิตกาเลปิ, ปาชนกณฺฏกาทิปฺปหารตุนฺนสฺส ปน สกฏวหนาทิกาเลปิ, เปตฺติวิสเย อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกํ พุทฺธนฺตรมฺปิ ขุปฺปิปาสาหิ อาตุรีภูตกาเลปิ, กาลกฺจิกอสุเรสุ สฏฺิหตฺถอสีติหตฺถปฺปมาเณน อฏฺิจมฺมมตฺเตเนว อตฺตภาเวน วาตาตปาทิทุกฺขานุภวนกาเลปิ น สกฺกา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ อุปฺปาเทตุํ. อยเมว เต ภิกฺขุ กาโล’’ติ เอวํ อปายภยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ.

‘‘น สกฺกา กุสีเตน นวโลกุตฺตรธมฺมํ ลทฺธุํ, อารทฺธวีริเยเนว สกฺกา อยมานิสํโส วีริยสฺสา’’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวิโนปิ อุปฺปชฺชติ. ‘‘สพฺพพุทฺธ-ปจฺเจกพุทฺธ-มหาสาวเกเหว คตมคฺโค เต คนฺตพฺโพ. โส จ น สกฺกา กุสีเตน คนฺตุ’’นฺติ เอวํ คมนวีถึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘เย ตํ ปิณฺฑปาตาทีหิ อุปฏฺหนฺติ, อิเม เต มนุสฺสา เนว าตกา, น ทาสกมฺมกรา, นาปิ ‘ตํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’ติ เต ปณีตานิ ปิณฺฑปาตาทีนิ เทนฺติ. อถ โข อตฺตโน การานํ มหปฺผลตํ ปจฺจาสีสมานา เทนฺติ. สตฺถาราปิ ‘‘อยํ อิเม ปจฺจเย ปริภุฺชิตฺวา กายทฬฺหิพหุโล สุขํ วิหริสฺสตี’’ติ น เอวํ สมฺปสฺสตา ตุยฺหํ ปจฺจยา อนุฺาตา, อถ โข ‘‘อยํ อิเม ปริภุฺชมาโนว สมณธมฺมํ กตฺวา วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจิสฺสตี’ติ เต ปจฺจยา อนุฺาตา, โส ทานิ ตฺวํ กุสีโต วิหรนฺโต น ตํ ปิณฺฑํ อปจายิสฺสสิ, อารทฺธวีริยสฺเสว หิ ปิณฺฑปาตาปจายนํ นาม โหตี’’ติ เอวํ ปิณฺฑปาตาปจายนํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ มหามิตฺตตฺเถรสฺส วิย.

เถโร กิร กสฺสกเลเณ นาม ปฏิวสติ. ตสฺเสว โคจรคาเม เอกา มหาอุปาสิกา เถรํ ปุตฺตํ กตฺวา ปฏิชคฺคติ. สา เอกทิวสํ อรฺํ คจฺฉนฺตี ธีตรํ อาห – ‘‘อมฺม, อสุกสฺมึ าเน ปุราณตณฺฑุลา, อสุกสฺมึ ขีรํ, อสุกสฺมึ สปฺปิ, อสุกสฺมึ ผาณิตํ, ตว ภาติกสฺส อยฺยมิตฺตสฺส อาคตกาเล ภตฺตํ ปจิตฺวา ขีรสปฺปิผาณิเตหิ สทฺธึ เทหิ, ตฺวฺจ ภุฺเชยฺยาสิ, อหํ ปน หิยฺโย ปกฺกํ ปาริวาสิกภตฺตํ กฺชิเยน ภุตฺตามฺหี’’ติ. ‘‘ทิวา กึ ภุฺชิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘สากปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กณตณฺฑุเลหิ อมฺพิลยาคุํ ปจิตฺวา เปหิ, อมฺมา’’ติ.

เถโร จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ นีหรนฺโตว ตํ สทฺทํ สุตฺวา อตฺตานํ โอวทิ ‘‘มหาอุปาสิกา กิร กฺชิเยน ปาริวาสิกภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ทิวาปิ กณปณฺณมฺพิลยาคุํ ภุฺชิสฺสติ, ตุยฺหํ อตฺถาย ปน ปุราณตณฺฑุลาทีนิ อาจิกฺขติ, ตํ นิสฺสาย โข ปเนสา เนว เขตฺตํ น วตฺถุํ น ภตฺตํ น วตฺถํ ปจฺจาสีสติ, ติสฺโส ปน สมฺปตฺติโย ปตฺถยมานา เทติ, ตฺวํ เอติสฺสา ตา สมฺปตฺติโย ทาตุํ สกฺขิสฺสสิ, น สกฺขิสฺสสีติ, อยํ โข ปน ปิณฺฑปาโต ตยา สราเคน สโทเสน สโมเหน น สกฺกา คณฺหิตุ’’นฺติ ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คณฺิกํ มุฺจิตฺวา นิวตฺติตฺวา กสฺสกเลณเมว คนฺตฺวา ปตฺตํ เหฏฺามฺเจ, จีวรํ จีวรวํเส เปตฺวา ‘‘อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา นิสีทิ. ทีฆรตฺตํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา นิวุตฺถภิกฺขุ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปุเรภตฺตเมว อรหตฺตํ ปตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ มหาขีณาสโว สิตํ กโรนฺโตว นิกฺขมิ. เลณทฺวาเร รุกฺขมฺหิ อธิวตฺถา เทวตา –

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริสา’’ติ. –

อุทานํ อุทาเนตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ตุมฺหาทิสานํ อรหนฺตานํ ภิกฺขํ ทตฺวา มหลฺลกิตฺถิโย ทุกฺขา มุจฺจิสฺสนฺตี’’ติ อาห. เถโร อุฏฺหิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา กาลํ โอโลเกนฺโต ‘‘ปาโตเยวา’’ติ ตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย คามํ ปาวิสิ.

ทาริกาปิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ‘‘อิทานิ เม ภาตา อาคมิสฺสติ, อิทานิ อาคมิสฺสตี’’ติ ทฺวารํ โอโลกยมานา นิสีทิ. สา เถเร ฆรทฺวารํ สมฺปตฺเต ปตฺตํ คเหตฺวา สปฺปิผาณิตโยชิตสฺส ขีรปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา หตฺเถ เปสิ. เถโร ‘‘สุขํ โหตู’’ติ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สาปิ ตํ โอโลกยมานาว อฏฺาสิ. เถรสฺส หิ ตทา อติวิย ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ อโหสิ, วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, มุขํ พนฺธนา มุตฺตตาลปกฺกํ วิย อติวิย วิโรจิตฺถ.

มหาอุปาสิกา อรฺโต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ, อมฺม, ภาติโก เต อาคโต’’ติ ปุจฺฉิ. สา สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อุปาสิกา ‘‘อชฺช เม ปุตฺตสฺส ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺต’’นฺติ ตฺวา ‘‘อภิรมติ เต, อมฺม, ภาตา พุทฺธสาสเน, น อุกฺกณฺตี’’ติ อาห.

‘‘มหนฺตํ โข ปเนตํ สตฺถุทายชฺชํ, ยทิทํ สตฺต อริยธนานิ นาม, ตํ น สกฺกา กุสีเตน คเหตุํ. ยถา หิ วิปฺปฏิปนฺนํ ปุตฺตํ มาตาปิตโร ‘อยํ อมฺหากํ อปุตฺโต’ติ ปริพาหิรํ กโรนฺติ, โส เตสํ อจฺจเยน ทายชฺชํ น ลภติ, เอวํ กุสีโตปิ อิทํ อริยธนทายชฺชํ น ลภติ, อารทฺธวีริโยว ลภตี’’ติ ทายชฺชมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘มหา โข ปน เต สตฺถา, สตฺถุโน หิ เต มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเลปิ อภินิกฺขมเนปิ อภิสมฺโพธิยมฺปิ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตน-ยมกปาฏิหาริย-เทโวโรหน-อายุสงฺขารโวสฺสชฺชเนสุปิ ปรินิพฺพานกาเลปิ ทสสหสฺสิโลกธาตุ อกมฺปิตฺถ. ยุตฺตํ นุ โข เต เอวรูปสฺส สตฺถุ สาสเน ปพฺพชิตฺวา กุสีเตน ภวิตุ’’นฺติ เอวํ สตฺถุมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘ชาติยาปิ ตฺวํ อิทานิ น ลามกชาติโก, อสมฺภินฺนาย มหาสมฺมตปเวณิยา อาคตอุกฺกากราชวํเส ชาโตสิ, สุทฺโธทนมหาราชสฺส จ มหามายาเทวิยา จ นตฺตา, ราหุลภทฺทสฺส กนิฏฺโ, ตยา นาม เอวรูเปน ชินปุตฺเตน หุตฺวา น ยุตฺตํ กุสีเตน วิหริตุ’’นฺติ เอวํ ชาติมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เจว อสีติ มหาสาวกา จ วีริเยเนว โลกุตฺตรธมฺมํ ปฏิวิชฺฌึสุ. ตฺวํ ปน เอเตสํ สพฺรหฺมจารีนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชสิ, น ปฏิปชฺชสี’’ติ เอวํ สพฺรหฺมจาริมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.

กุจฺฉึ ปูเรตฺวา ิตอชครสทิเส วิสฺสฏฺกายิกเจตสิกวีริเย กุสีตปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต ปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ านนิสชฺชาทีสุ วีริยุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

เอกาทส ธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – พุทฺธานุสฺสติ ธมฺโม, สงฺโฆ, สีลํ, จาโค, เทวตานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา, สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา, ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

พุทฺธคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ หิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ, ธมฺมสงฺฆคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ, ทีฆรตฺตํ อขณฺฑํ กตฺวา รกฺขิตํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโน ทสสีลปฺจสีลานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, ทุพฺภิกฺขภยาทีสุ ปณีตํ โภชนํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวา ‘‘เอวํ นาม อทมฺหา’’ติ จาคํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโนปิ เอวรูเป กาเล สีลวนฺตานํ ทินฺนทานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เยหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา เทวตฺตํ ปตฺตา, ตถารูปานํ อตฺตนิ อตฺถิตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิตา กิเลสา สฏฺิปิ สตฺตติปิ วสฺสานิ น สมุทาจรนฺตีติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เจติยทสฺสนโพธิทสฺสนเถรทสฺสเนสุ อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว พุทฺธาทีสุ ปสาทสิเนหาภาเวน คทฺรภปิฏฺรชสทิเส ลูขปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, พุทฺธาทีสุ ปสาทพหุเล มุทุจิตฺเต สินิทฺธปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ, รตนตฺตยคุณปริทีปเก ปสาทนีเย สุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปีติอุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

สตฺต ธมฺมา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปณีตโภชนเสวนตา, อุตุสุขเสวนตา, อิริยาปถสุขเสวนตา, มชฺฌตฺตปโยคตา, สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา, ปสฺสทฺธกาย-ปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

ปณีตฺหิ สินิทฺธํ โภชนํ ภุฺชนฺตสฺสาปิ, สีตุณฺเหสุ อุตูสุ านาทีสุ จ อิริยาปเถสุ สปฺปายํ อุตุฺจ อิริยาปถฺจ เสวนฺตสฺสาปิ ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. โย ปน มหาปุริสชาติโก สพฺพอุตุอิริยาปถกฺขโมว โหติ, น ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยสฺส สภาควิสภาคตา อตฺถิ, ตสฺเสว วิสภาเค อุตุอิริยาปเถ วชฺเชตฺวา สภาเค เสวนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. มชฺฌตฺตปโยโค วุจฺจติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขณา. อิมินา มชฺฌตฺตปโยเคน อุปฺปชฺชติ. โย เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปรํ วิเหยมาโนว วิจรติ, เอวรูปํ สารทฺธกายปุคฺคลํ ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สํยตปาทปาณึ ปสฺสทฺธกายํ ปุคฺคลํ เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปสฺสทฺธิอุปฺปาทนตฺถาย นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

ทส ธมฺมา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – วตฺถุวิสทกิริยตา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, นิมิตฺตกุสลตา, สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนตา, สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนตา, สมเย สมฺปหํสนตา, สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา, สมาหิตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ วตฺถุวิสทกิริยตาอินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา. สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนตาติ ยสฺมึ สมเย อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส ปคฺคณฺหนํ. สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนตาติ ยสฺมึ สมเย อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส นิคฺคณฺหนํ. สมเย สมฺปหํสนตาติ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานํ วิคเมน วา นิรสฺสาทํ โหติ, ตสฺมึ สมเย อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน สํเวเชติ. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จ ปสาทํ ชเนติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘สมเย สมฺปหํสนตา’’ติ.

สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา นาม ยสฺมึ สมเย สมฺมาปฏิปตฺตึ อาคมฺม อลีนํ อนุทฺธตํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตทาสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ น พฺยาปารํ อาปชฺชติ สารถิ วิย สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ. อยํ วุจฺจติ ‘‘สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา’’ติ. อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา นาม อุปจารํ วา อปฺปนํ วา อปฺปตฺตานํ วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ ปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. สมาหิตปุคฺคลเสวนตา นาม อุปจาเรน วา อปฺปนาย วา สมาหิตจิตฺตานํ เสวนา ภชนา ปยิรุปาสนา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ สมาธิอุปฺปาทนตฺถเมว นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวฺหิ ปฏิปชฺชโต เอส อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

ปฺจ ธมฺมา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – สตฺตมชฺฌตฺตตา, สงฺขารมชฺฌตฺตตา, สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ สตฺตมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘‘ตฺวํ อตฺตโนว กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสสิ, เอโสปิ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสติ, ตฺวํ กํ เกลายสี’’ติ เอวํ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขเณน จ – ‘‘ปรมตฺถโต สตฺโตเยว นตฺถิ, โส ตฺวํ กํ เกลายสี’’ติ เอวํ นิสฺสตฺตปจฺจเวกฺขเณน จ. ทฺวีเหวากาเรหิ สงฺขารมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘‘อิทํ จีวรํ อนุปุพฺเพน วณฺณวิการตฺเจว ชิณฺณภาวฺจ อุปคนฺตฺวา ปาทปุฺฉนโจฬกํ หุตฺวา ยฏฺิโกฏิยา ฉฑฺฑนียํ ภวิสฺสติ, สเจ ปนสฺส สามิโก ภเวยฺย, นายํ เอวํ วินสฺสิตุํ ทเทยฺยา’’ติ เอวํ อสฺสามิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ, ‘‘อนทฺธนิยํ อิทํ ตาวกาลิก’’นฺติ เอวํ ตาวกาลิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ. ยถา จ จีวเร, เอวํ ปตฺตาทีสุปิ โยชนา กาตพฺพา.

สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตาติ เอตฺถ โย ปุคฺคโล คิหิ วา อตฺตโน ปุตฺตธีตาทิเก, ปพฺพชิโต วา อตฺตโน อนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกาทิเก มมายติ, สหตฺถาว เนสํ เกสจฺเฉทน-สูจิกมฺม-จีวรโธวน-รชน-ปตฺตปจนาทีนิ กโรติ, มุหุตฺตมฺปิ อปสฺสนฺโต ‘‘อสุโก สามเณโร กุหึ, อสุโก ทหโร กุหิ’’นฺติ ภนฺตมิโค วิย อิโต จิโต จ อาโลเกติ, อฺเน เกสจฺเฉทนาทีนํ อตฺถาย ‘‘มุหุตฺตํ ตาว อสุกํ เปเสถา’’ติ ยาจิยมาโนปิ ‘‘อมฺเหปิ ตํ อตฺตโน กมฺมํ น กาเรม, ตุมฺเห นํ คเหตฺวา กิลเมสฺสถา’’ติ น เทติ, อยํ สตฺตเกลายโน นาม. โย ปน จีวรปตฺตถาลกกตฺตรยฏฺิอาทีนิ มมายติ, อฺสฺส หตฺเถน ปรามสิตุมฺปิ น เทติ, ตาวกาลิกํ ยาจิโตปิ ‘‘มยมฺปิ อิมํ ธนายนฺตา น ปริภุฺชาม, ตุมฺหากํ กึ ทสฺสามา’’ติ วทติ, อยํ สงฺขารเกลายโน นาม. โย ปน เตสุ ทฺวีสุปิ วตฺถูสุ มชฺฌตฺโต อุทาสิโน, อยํ สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺโต นาม. อิติ อยํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค เอวรูปํ สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลํ อารกา ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลํ เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ตทุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ.

อสุภนิมิตฺตนฺติ อุทฺธุมาตกาทิเภทา ทส อสุภารมฺมณา ธมฺมา. โยนิโสมนสิการพหุลีกาโรติ เอตฺถ ปน โยนิโสมนสิกาโร นาม อุปายมนสิกาโร, ปถมนสิกาโร, อุปฺปาทกมนสิกาโร. อปิจ ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, อสุภภาวนานุโยโค, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

ทสวิธฺหิ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ, ภาเวนฺตสฺสาปิ, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารสฺสาปิ, จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อาโลปานํ โอกาเส สติ อุทกํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลตาย โภชเน มตฺตฺุโนปิ. เตเนตํ วุตฺตํ –

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓);

อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถรสทิเส อสุภภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ ทสอสุภนิมิตฺตาย-สปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ.

เมตฺตา เจโตวิมุตฺตีติ เอตฺถ เมตฺตาติ วุตฺเต อปฺปนาปิ อุปจาโรปิ วฏฺฏติ, เจโตวิมุตฺตีติ อปฺปนาเยว. โยนิโสมนสิกาโร วุตฺตลกฺขโณว. อปิจ ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, เมตฺตาภาวนานุโยโค, กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณตา, ปฏิสงฺขานพหุลตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณานฺหิ อฺตรวเสน เมตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ, ตถา โอธิโสอโนธิโสทิสาผรณวเสน เมตฺตํ ภาเวนฺตสฺสาปิ. ‘‘ตฺวํ เอตสฺส กุทฺโธ กึ กริสฺสสิ? กิมสฺส สีลาทีนิ นาเสตุํ สกฺขิสฺสสิ? นนุ ตฺวํ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสสิ? ปรสฺส กุชฺฌนํ นาม วีตจฺจิกงฺคารตตฺตอยสลากคูถาทีนิ คเหตฺวา ปรํ ปหริตุกามตาสทิสํ โหติ. เอโสปิ ตว กุทฺโธ กึ กริสฺสติ? กึ เต สีลาทีนิ วินาเสตุํ สกฺขิสฺสติ? เอส อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสติ? อปฺปฏิจฺฉิตปเหณกํ วิย ปฏิวาตํ ขิตฺตรโชมุฏฺิ วิย จ เอตสฺเสเวส โกโธ มตฺถเก ปติสฺสตี’’ติ เอวํ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ, อุภยกมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปฏิสงฺขาเน ิตสฺสาปิ, อสฺสคุตฺตตฺเถรสทิเส เมตฺตาภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ เมตฺตานิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส พฺยาปาทสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ.

อตฺถิ ภิกฺขเว อรตีติอาทิ วุตฺตตฺถเมว. อปิ จ ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโห, อิริยาปถสมฺปริวตฺตนตา, อาโลกสฺามนสิกาโร, อพฺโภกาสวาโส, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

อาหรหตฺถกํ, ภุตฺตวมิตกํ, ตตฺรวฏฺฏกํ, อลํสาฏกํ, กากมาสกโภชนํ ภุฺชิตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส หิ สมณธมฺมํ กโรโต ถินมิทฺธํ มหาหตฺถี วิย โอตฺถรนฺตํ อาคจฺฉติ, จตุปฺจอาโลปโอกาสํ ปน เปตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลสฺส ภิกฺขุโน ตํ น โหตีติ เอวํ อติโภชเน นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺสปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ. ยสฺมึ อิริยาปเถ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, ตโต อฺํ ปริวตฺเตนฺตสฺสาปิ, รตฺตึ จนฺทาโลกทีปาโลกอุกฺกาโลเก ทิวา สูริยาโลกํ มนสิกโรนฺตสฺสาปิ, อพฺโภกาเส วสนฺตสฺสาปิ, มหากสฺสปตฺเถรสทิเส ปหีนถินมิทฺเธ กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส ถินมิทฺธสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ.

อตฺถิ ภิกฺขเว เจตโส วูปสโมติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อปิจ ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, วุทฺธเสวิตตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา จตฺตาโร วา ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ, วินยปฺตฺติยํ จิณฺณวสีภาวตาย ปกตฺุโนปิ, วุทฺเธ มหลฺลกตฺเถเร อุปสงฺกมนฺตสฺสาปิ, อุปาลิตฺเถรสทิเส วินยธเร กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจ อุทฺธจฺจสฺส อรหตฺตมคฺเคน, กุกฺกุจฺจสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ.

กุสลากุสลา ธมฺมาติอาทีนิปิ วุตฺตตฺถาเนว. อปิจ ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, อธิโมกฺขพหุลตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ.

พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา…เป… ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตีณิ รตนานิ อารพฺภ ปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ, วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสาปิ, ตีสุ รตเนสุ โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาปิ, สทฺธาธิมุตฺเต วกฺกลิตฺเถรสทิเส กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, านนิสชฺชาทีสุ ติณฺณํ รตนานํ คุณนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย โสตาปตฺติมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหติ. อิติ ภควา อิมสฺมึ สุตฺเต เทสนํ ตีหิ ภเวหิ นิวตฺเตตฺวา อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหิ. เทสนาปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

๒. ปริยายสุตฺตวณฺณนา

๒๓๓. ทุติเย สมฺพหุลาติ วินยปริยาเยน ตโย ชนา สมฺพหุลาติ วุจฺจนฺติ, ตโต ปรํ สงฺโฆ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ตโย ตโย เอว, ตโต อุทฺธํ สมฺพหุลา. อิธ สุตฺตนฺตปริยาเยน สมฺพหุลาติ เวทิตพฺพา. ปิณฺฑาย ปวิสึสูติ ปิณฺฑาย ปวิฏฺา. เต ปน น ตาว ปวิฏฺา, ‘‘ปวิสิสฺสามา’’ติ นิกฺขนฺตตฺตา ปน ปวิสึสูติ วุตฺตา. ยถา กึ? ยถา ‘‘คามํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺตปุริโส ตํ คามํ อปตฺโตปิ ‘‘กหํ อิตฺถนฺนาโม’’ติ วุตฺเต ‘‘คามํ คโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ. ปริพฺพาชกานํ อาราโมติ เชตวนสฺส อวิทูเร อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม อตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สมโณ อาวุโสติ อาวุโส ตุมฺหากํ สตฺถา สมโณ โคตโม.

มยมฺปิ โข อาวุโส สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสมาติ ติตฺถิยานํ สมเย ‘‘ปฺจ นีวรณา ปหาตพฺพา, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาเวตพฺพา’’ติ เอตํ นตฺถิ. เต ปน อารามํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ตฺวา อฺํ โอโลเกนฺโต วิย อฺวิหิตกา วิย หุตฺวา ภควโต ธมฺมเทสนํ สุณนฺติ. ตโต ‘‘สมโณ โคตโม ‘อิทํ ปชหถ อิทํ ภาเวถา’ติ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน อารามํ คนฺตฺวา อารามมชฺเฌ อาสนํ ปฺาเปตฺวา อุปฏฺายกอุปฏฺายิกาหิ ปริวุตา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา กายํ อุนฺนาเมตฺวา อตฺตโน สยมฺภูาเณน ปฏิวิทฺธาการํ ทสฺเสนฺตา – ‘‘ปฺจ นีวรณา นาม ปหาตพฺพา, สตฺต โพชฺฌงฺคา นาม ภาเวตพฺพา’’ติ กเถนฺติ.

อิธ โน อาวุโสติ เอตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ ปฺาปเน. โก วิเสโสติ กึ อธิกํ? โก อธิปฺปยาโสติ โก อธิกปฺปโยโค? กึ นานากรณนฺติ กึ นานตฺตํ? ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนนฺติ ยทิทํ สมณสฺส วา โคตมสฺส ธมฺมเทสนาย สทฺธึ อมฺหากํ ธมฺมเทสนํ, อมฺหากํ วา ธมฺมเทสนาย สทฺธึ สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อารพฺภ นานากรณํ วุจฺเจยฺย, ตํ กินฺนามาติ วทนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย.

เนว อภินนฺทึสูติ ‘‘เอวเมว’’นฺติ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. นปฺปฏิกฺโกสึสูติ ‘‘นยิทํ เอว’’นฺติ น ปฏิเสธึสุ. กึ ปน เต ปโหนฺตา เอวํ อกํสุ, อุทาหุ อปฺปโหนฺตาติ? ปโหนฺตา. น หิ เต เอตฺตกํ กถํ กเถตุํ น สกฺโกนฺติ ‘‘อาวุโส ตุมฺหากํ สมเย ปฺจ นีวรณา ปหาตพฺพา นาม นตฺถิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาเวตพฺพา นาม นตฺถี’’ติ. เอวํ ปน เตสํ อโหสิ – ‘‘อตฺถิ โน เอตํ กถาปาภตํ, มยํ เอตํ สตฺถุ อาโรเจสฺสาม, อถ โน สตฺถา มธุรธมฺมเทสนํ เทเสสฺสตี’’ติ.

ปริยาโยติ การณํ. น เจว สมฺปายิสฺสนฺตีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. อุตฺตริฺจ วิฆาตนฺติ อสมฺปายนโต อุตฺตริมฺปิ ทุกฺขํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺตานฺหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมินฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถาติ การณวจนํ, ยสฺมา อวิสเย ปฺโห ปุจฺฉิโตติ อตฺโถ. สเทวเกติ สห เทเวหิ สเทวเก. สมารกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ตีณิ านานิ โลเก ปกฺขิปิตฺวา ทฺเว ปชายาติ, ปฺจหิปิ สตฺตโลกเมว ปริยาทิยิตฺวา เอตสฺมึ สเทวกาทิเภเท โลเก เทวํ วา มนุสฺสํ วา น สมนุปสฺสามีติ ทีเปติ. อิโต วา ปน สุตฺวาติ อิโต วา ปน มม สาสนโต สุตฺวา. อิโต สุตฺวา หิ ตถาคโต ตถาคตสาวโกปิ อาราเธยฺย, ปริโตเสยฺย, อฺถา อาราธนา นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ.

อิทานิ อตฺตโน เตสํ ปฺหานํ เวยฺยากรเณน จิตฺตาราธนํ ทสฺเสนฺโต กตโม จ ภิกฺขเว ปริยาโยติอาทิมาห. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโทติ อตฺตโน ปฺจกฺขนฺเธ อารพฺภ อุปฺปนฺนฉนฺทราโค. พหิทฺธา กามจฺฉนฺโทติ ปเรสํ ปฺจกฺขนฺเธ อารพฺภ อุปฺปนฺนฉนฺทราโค. อุทฺเทสํ คจฺฉตีติ คณนํ คจฺฉติ. อชฺฌตฺตํ พฺยาปาโทติ อตฺตโน หตฺถปาทาทีสุ อุปฺปนฺนปฏิโฆ. พหิทฺธา พฺยาปาโทติ ปเรสํ เตสุ อุปฺปนฺนปฏิโฆ. อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉาติ อตฺตโน ขนฺเธสุ วิมติ. พหิทฺธา ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉาติ พหิทฺธา อฏฺสุ าเนสุ มหาวิจิกิจฺฉา. อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ สตีติ อชฺฌตฺติเก สงฺขาเร ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนา สติ. พหิทฺธา ธมฺเมสุ สตีติ พหิทฺธา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนา สติ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคปิ เอเสว นโย.

กายิกนฺติ จงฺกมํ อธิฏฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. เจตสิกนฺติ – ‘‘น ตาวาหํ อิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ, ยาว เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’’ติ เอวํ กายปโยคํ วินา อุปฺปนฺนวีริยํ. กายปฺปสฺสทฺธีติ ติณฺณํ ขนฺธานํ ทรถปสฺสทฺธิ. จิตฺตปฺปสฺสทฺธีติ วิฺาณกฺขนฺธสฺส ทรถปสฺสทฺธิ. อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺเค สติสมฺโพชฺฌงฺคสทิโสว วินิจฺฉโย.

อิมสฺมึ สุตฺเต มิสฺสกสมฺโพชฺฌงฺคา กถิตา. เอเตสุ หิ อชฺฌตฺตธมฺเมสุ สติ, ปวิจโย, อุเปกฺขาติ อิเม อตฺตโน ขนฺธารมฺมณตฺตา โลกิยาว โหนฺติ, ตถา มคฺคํ อปตฺตํ กายิกวีริยํ. อวิตกฺกอวิจารา ปน ปีติสมาธี กิฺจาปิ รูปาวจรา โหนฺติ, รูปาวจเร ปน โพชฺฌงฺคา น ลพฺภนฺตีติ โลกุตฺตราว โหนฺติ. เย จ เถรา พฺรหฺมวิหารวิปสฺสนาปาทกชฺฌานาทีสุ โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ, เตสํ มเตน รูปาวจราปิ อรูปาวจราปิ โหนฺติ. โพชฺฌงฺเคสุ หิ อรูปาวจเร ปีติเยว เอกนฺเตน น ลพฺภติ, เสสา ฉ มิสฺสกาว โหนฺตีติ. เทสนาปริโยสาเน เกจิ ภิกฺขู โสตาปนฺนา ชาตา, เกจิ สกทาคามี, เกจิ อนาคามี, เกจิ อรหนฺโตติ.

๓. อคฺคิสุตฺตวณฺณนา

๒๓๔. ตติเย สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามีติ โลณธูปนํ วิย สพฺพกมฺมิกามจฺจํ วิย จ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพํ วทามีติ อตฺโถ. ยถา หิ โลณธูปนํ สพฺพพฺยฺชเนสุปิ นิวิสติ, ยถา จ สพฺพกมฺมิโก อมจฺโจ โยธกมฺมมฺปิ กโรติ มนฺตกมฺมมฺปิ ปฏิหารกมฺมมฺปีติ สพฺพกิจฺจานิ สาเธติ, เอวํ อุทฺธตสฺส จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนํ, ลีนสฺส ปคฺคณฺหนนฺติ สพฺพเมตํ สติยา อิชฺฌติ, น สกฺกา วินา สติยา เอตํ สมฺปาเทตุํ, ตสฺมา เอวมาห. อิมสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคาว กถิตา.

๔. เมตฺตาสหคตสุตฺตวณฺณนา

๒๓๕. จตุตฺเถ เมตฺตาสหคเตน เจตสาติอาทิ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐-๒๔๑) วิตฺถาริตเมว. มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสมาติ อิทมฺปิ เต ปุริมนเยเนว สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา วทนฺติ. ติตฺถิยานฺหิ สมเย ปฺจนีวรณปฺปหานํ วา เมตฺตาทิพฺรหฺมวิหารภาวนา วา นตฺถิ. กึ คติกา โหตีติ กึ นิปฺผตฺติ โหติ. กึ ปรมาติ กึ อุตฺตมา. กึ ผลาติ กึ อานิสํสา. กึ ปริโยสานาติ กึ นิฏฺา. เมตฺตาสหคตนฺติ เมตฺตาย สหคตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. วิเวกนิสฺสิตาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.

อปฺปฏิกูลนฺติ ทุวิธํ อปฺปฏิกูลํ – สตฺตอปฺปฏิกูลฺจ, สงฺขารอปฺปฏิกูลฺจ. ตสฺมึ อปฺปฏิกูเล อิฏฺเ วตฺถุสฺมินฺติ อตฺโถ. ปฏิกูลสฺีติ อนิฏฺสฺี. กถํ ปเนตฺถ เอวํ วิหรติ? อสุภผรณํ วา อนิจฺจนฺติ มนสิการํ วา กโรนฺโต. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘‘กถํ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี วิหรติ. อิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรตี’’ติ. ปฏิกูเล ปน อนิฏฺเ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาผรณํ วา ธาตุมนสิการํ วา กโรนฺโต อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ นาม. ยถาห ‘‘กถํ ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ. อนิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๗). อุภยมิสฺสกปเทสุปิ เอเสว นโย. อปฺปฏิกูลปฺปฏิกูเลสุ หิ ตเทว อสุภผรณํ วา อนิจฺจนฺติ มนสิการํ วา กโรนฺโต ปฏิกูลสฺี วิหรติ นาม. ปฏิกูลาปฏิกูเลสุ จ ตเทว เมตฺตาผรณํ วา ธาตุมนสิการํ วา กโรนฺโต อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ นาม. ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๑๗) นเยน วุตฺตํ ปน ฉฬงฺคุเปกฺขํ ปวตฺตยมาโน ‘‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ เวทิตพฺโพ.

เอตฺตาวตา จ อิมสฺส ภิกฺขุโน เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส สห วิปสฺสนาย มคฺคสมฺโพชฺฌงฺคานํ อริยิทฺธิยา จ ทสฺสิตตฺตา เทสนา วินิวฏฺเฏตพฺพา สิยา. อิทํ ปน เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโตปิ โย อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, ยสฺมา ตสฺส อรหตฺตปรมา เมตฺตา น โหติ. ยํปรมา ปน โหติ, ตํ ทสฺเสตพฺพํ. ตสฺมา ตสฺส ทสฺสนตฺถํ อยํ เทสนา อารทฺธา. ปรโต สพฺพโส วา ปน รูปสฺานํ สมติกฺกมาติอาทีสุปิ อิมินา นเยน ปุน เทสนารมฺภปโยชนํ เวทิตพฺพํ.

สุภปรมนฺติ สุภนิฏฺํ, สุภโกฏิกํ, สุภนิปฺผตฺตึ. อิธปฺสฺสาติ อิเธว ปฺา อสฺส, นยิมํ โลกํ อติกฺกมตีติ อิธปฺโ, ตสฺส อิธปฺสฺส, โลกิยปฺสฺสาติ อตฺโถ. อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโตติ โลกุตฺตรธมฺมํ อปฺปฏิวิชฺฌนฺตสฺส. โย ปน ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกติ, ตสฺส อรหตฺตปรมาว เมตฺตา โหตีติ อตฺโถ. กรุณาทีสุปิ เอเสว นโย.

กสฺมา ปเนตาสํ เมตฺตาทีนํ สุภปรมาทิตา วุตฺตา ภควตาติ? สภาควเสน ตสฺส ตสฺส อุปนิสฺสยตฺตา. เมตฺตาวิหาริสฺส หิ สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ, อถสฺส อปฺปฏิกูลปริจยา อปฺปฏิกูเลสุ ปริสุทฺธวณฺเณสุ นีลาทีสุ จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ เมตฺตา สุภวิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา สุภปรมาติ วุตฺตา.

กรุณาวิหาริสฺส อุณฺหาภิฆาตาทิรูปนิมิตฺตํ สตฺตทุกฺขํ สมนุปสฺสนฺตสฺส กรุณาย ปวตฺติสมฺภวโต รูเป อาทีนโว ปริวิทิโต โหติ, อถสฺส ปริวิทิตรูปาทีนวตฺตา ปถวีกสิณาทีสุ อฺตรํ อุคฺฆาเฏตฺวา รูปนิสฺสรเณ อากาเส จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ กรุณา อากาสานฺจายตนสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา อากาสานฺจายตนปรมาติ วุตฺตา.

มุทิตาวิหาริสฺส ปน เตน เตน ปาโมชฺชการเณน อุปฺปนฺนปาโมชฺชสตฺตานํ วิฺาณํ สมนุปสฺสนฺตสฺส มุทิตาย ปวตฺติสมฺภวโต วิฺาณคฺคหณปริจิตํ โหติ, อถสฺส อนุกฺกมาธิคตํ อากาสานฺจายตนํ อติกฺกมฺม อากาสนิมิตฺตโคจเร วิฺาเณ จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ มุทิตา วิฺาณฺจายตนสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา วิฺาณฺจายตนปรมาติ วุตฺตา.

อุเปกฺขาวิหาริสฺส ปน ‘‘สตฺตา สุขิตา วา โหนฺตุ, ทุกฺขโต วา วิมุจฺจนฺตุ, สมฺปตฺตสุขโต วา มา วิคจฺฉนฺตู’’ติ อาโภคาภาวโต สุขทุกฺขาทิปรมตฺถคาหวิมุขสมฺภวโต อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขจิตฺตํ โหติ. อถสฺส ปรมตฺถคาหโต วิมุขภาวปริจิตจิตฺตสฺส ปรมตฺถโต อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขจิตฺตสฺส จ อนุกฺกมาธิคตํ วิฺาณาฺจายตนํ สมติกฺกมฺมสมฺภวโต อวิชฺชมาเน ปรมตฺถภูตสฺส วิฺาณสฺส อภาเว จิตฺตํ อุปสํหรโต อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. อิติ อุเปกฺขา อากิฺจฺายตนสฺส อุปนิสฺสโย โหติ, น ตโต ปรํ, ตสฺมา อากิฺจฺายตนปรมาติ วุตฺตา. เทสนาปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตาติ.

๕. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๒๓๖. ปฺจเม ปเควาติ ปมฺเว. กามราคปริยุฏฺิเตนาติ กามราคคหิเตน. กามราคปเรเตนาติ กามราคานุคเตน. นิสฺสรณนฺติ ติวิธํ กามราคสฺส นิสฺสรณํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ ตทงฺคนิสฺสรณํ สมุจฺเฉทนิสฺสรณนฺติ. ตตฺถ อสุเภ ปมชฺฌานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ นาม, วิปสฺสนา ตทงฺคนิสฺสรณํ นาม, อรหตฺตมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ นาม. ตํ ติวิธมฺปิ นปฺปชานาตีติ อตฺโถ. อตฺตตฺถมฺปีติอาทีสุ อรหตฺตสงฺขาโต อตฺตโน อตฺโถ อตฺตตฺโถ นาม, ปจฺจยทายกานํ อตฺโถ ปรตฺโถ นาม, สฺเวว ทุวิโธปิ อุภยตฺโถ นาม. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณนฺติอาทีสุ หิ ทฺเวว นิสฺสรณานิ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณฺจ สมุจฺเฉทนิสฺสรณฺจ. ตตฺถ พฺยาปาทสฺส ตาว เมตฺตาย ปมชฺฌานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, อนาคามิมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. ถินมิทฺธสฺส อาโลกสฺา วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, อรหตฺตมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส โย โกจิ สมโถ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, อุทฺธจฺจสฺส ปเนตฺถ อรหตฺตมคฺโค, กุกฺกุจฺจสฺส อนาคามิมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ. วิจิกิจฺฉาย ธมฺมววตฺถานํ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ, ปมมคฺโค สมุจฺเฉทนิสฺสรณํ.

ยา ปเนตฺถ เสยฺยถาปิ พฺราหฺมณ อุทปตฺโต สํสฏฺโ ลาขาย วาติอาทิกา อุปมา วุตฺตา, ตาสุ อุทปตฺโตติ อุทกภริตา ปาติ. สํสฏฺโติ วณฺณเภทกรณวเสน สํสฏฺโ. ปกฺกุถิโตติ กุถิโต. อุสฺมุทกชาโตติ อุสุมชาโต. เสวาลปณกปริโยนทฺโธติ ติลพีชกาทิเภเทน เสวาเลน วา นีลมณฺฑูกปิฏฺิวณฺเณน วา อุทกปิฏฺึ ฉาเทตฺวา นิพฺพตฺตปณเกน ปริโยนทฺโธ. วาเตริโตติ วาเตน เอริโต กมฺปิโต. อาวิโลติ อปฺปสนฺโน. ลุฬิโตติ อสนฺนิสินฺโน. กลลีภูโตติ กทฺทมีภูโต. อนฺธกาเร นิกฺขิตฺโตติ โกฏฺนฺตราทิเภเท อนาโลกฏฺาเน ปิโต. อิมสฺมึ สุตฺเต ภควา ตีหิ ภเวหิ เทสนํ นิวตฺเตตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, พฺราหฺมโณ ปน สรณมตฺเต ปติฏฺิโต.

๖. อภยสุตฺตวณฺณนา

๒๓๗. ฉฏฺเ อฺาณาย อทสฺสนายาติ อฺาณตฺถาย อทสฺสนตฺถาย. ตคฺฆ ภควา นีวรณาติ เอกํเสน ภควา นีวรณา. กายกิลมโถติ กายทรโถ. จิตฺตกิลมโถติ จิตฺตทรโถ. โสปิ เม ปฏิปฺปสฺสทฺโธติ ตสฺส กิร สตฺถุ สนฺติเก สีตลํ อุตุสปฺปายฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส กายทรโถ ปฏิปสฺสมฺภิ, ตสฺมึ ปฏิปสฺสทฺเธ ตทนฺวเยเนว จิตฺตทรโถปิ. อปิจ มคฺเคเนวสฺส เอตํ อุภยมฺปิ ปสฺสทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.

๗. อานาปานวคฺโค

๑. อฏฺิกมหปฺผลสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๓๘. สตฺตมาทีสุ อฏฺิกสฺาติ อฏฺิกํ อฏฺิกนฺติ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. ตํ ปเนตํ ภาวยโต ยาว นิมิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ, ตาว ฉวิปิ จมฺมมฺปิ อุปฏฺาติ. นิมิตฺเต ปน อุปฺปนฺเน ฉวิจมฺมานิ เนว อุปฏฺหนฺติ, สงฺขวณฺโณ สุทฺธอฏฺิกสงฺฆาโฏว อุปฏฺาติ หตฺถิกฺขนฺธคตํ ธมฺมิกติสฺสราชานํ โอโลเกนฺตสฺส สามเณรสฺส วิย, ปฏิมคฺเค หสมานํ อิตฺถึ โอโลเกนฺตสฺส เจติยปพฺพตวาสิโน ติสฺสตฺเถรสฺส วิย จาติ. วตฺถูนิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕) วิตฺถาริตานิ. สติ วา อุปาทิเสเสติ คหณเสเส อุปาทานเสเส วิชฺชมานมฺหิ.

๒-๑๐. ปุฬวกสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๓๙-๒๔๗. ปุฬวกสฺาติ ปุฬวํ ปุฬวนฺติ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. วินีลกสฺาทีสุปิ เอเสว นโย. วินิจฺฉยกถา ปเนตฺถ สทฺธึ ภาวนานเยน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๒) วุตฺตา. เมตฺตาทโย ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน เวทิตพฺพา, อุเปกฺขา จตุตฺถชฺฌานวเสเนว.

๘. นิโรธวคฺโค

๑-๑๐. อสุภสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๔๘-๒๕๗. อสุภสฺาติ อสุเภ ปมชฺฌานสฺา. มรณสฺาติ ‘‘อวสฺสํ มริตพฺพํ, มรณปฏิพทฺธํ เม ชีวิต’’นฺติ อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. อาหาเร ปฏิกูลสฺาติ โอทนกุมฺมาสาทิมฺหิ อชฺโฌหรณีเย ปฏิกูลสฺา. สพฺพโลเก อนภิรติสฺาติ สกลโลกสฺมึ อนภิรตึ อุปฺปาเทนฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺา. ปหานสฺาวิราคสฺาติ ทฺเว ปุพฺพภาคา. นิโรธสฺา มิสฺสกา. เอวเมตานิ อฏฺิกสฺาทีนิ วีสติ กมฺมฏฺานานิ นิทฺทิฏฺานิ. เตสํ นวสุ อปฺปนา โหนฺติ, เอกาทส อุปจารชฺฌานิกา. เสสา ปเนตฺถ วินิจฺฉยกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๔) อาคตาว. คงฺคาเปยฺยาลาทโย มคฺคสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

โพชฺฌงฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สติปฏฺานสํยุตฺตํ

๑. อมฺพปาลิวคฺโค

๑. อมฺพปาลิสุตฺตวณฺณนา

๓๖๗. สติปฏฺานสํยุตฺตสฺส ปเม อมฺพปาลิวเนติ อมฺพปาลิยา นาม รูปูปชีวินิยา โรปิเต อมฺพวเน. ตํ กิร ตสฺสา อุยฺยานํ อโหสิ. สา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺตา ตตฺถ วิหารํ กาเรตฺวา ตถาคตสฺส นิยฺยาเตสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เอกายนฺวายนฺติ เอกายโน อยํ. ตตฺถ เอกายโนติ เอกมคฺโค. มคฺคสฺส หิ –

‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช, อฺชสํ วฏุมายนํ;

นาวา อุตฺตรเสตู จ, กุลฺโล จ ภิสิ สงฺกโม’’ติ. (จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทโส ๑๐๑) –

พหูนิ นามานิ. สฺวายํ อิธ อยนนาเมน วุตฺโต. ตสฺมา เอกายนฺวายํ, ภิกฺขเว, มคฺโคติ เอตฺถ เอกมคฺโค. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโค? นิพฺพานคมนฏฺเน, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคนียฏฺเน จ.

สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ ราคาทีหิ มเลหิ อภิชฺฌาวิสมโลภาทีหิ จ อุปกฺกิเลเสหิ สํกิลิฏฺจิตฺตานํ สตฺตานํ วิสุทฺธตฺถาย. โสกปริเทวานํ สมติกฺกมายาติ โสกสฺส จ ปริเทวสฺส จ สมติกฺกมาย, ปหานายาติ อตฺโถ. ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมายาติ กายิกทุกฺขสฺส จ เจตสิกโทมนสฺสสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ อตฺถงฺคมาย, นิโรธายาติ อตฺโถ. ายสฺส อธิคมายาติ าโย วุจฺจติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ตสฺส อธิคมาย ปตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ ปุพฺพภาเค โลกิโย สติปฏฺานมคฺโค ภาวิโต โลกุตฺตรมคฺคสฺส อธิคมาย สํวตฺตติ. เตนาห ‘‘ายสฺส อธิคมายา’’ติ. นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายาติ ตณฺหาวานวิรหิตตฺตา นิพฺพานนฺติ ลทฺธนามสฺส อมตสฺส สจฺฉิกิริยาย, อตฺตปจฺจกฺขายาติ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ มคฺโค ภาวิโต อนุปุพฺเพน นิพฺพานสจฺฉิกิริยํ สาเธติ. เตนาห ‘‘นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.

เอวํ ภควตา สตฺตหิ ปเทหิ เอกายนมคฺคสฺส วณฺโณ ภาสิโต, โส กสฺมาติ เจ? ภิกฺขูนํ อุสฺสาหชนนตฺถํ. วณฺณภาสนฺหิ สุตฺวา เต ภิกฺขู – ‘‘อยํ กิร มคฺโค หทยสนฺตาปภูตํ โสกํ, วาจาวิปฺปลาปภูตํ ปริเทวํ, กายิกอสาตภูตํ ทุกฺขํ, เจตสิกอสาตภูตํ โทมนสฺสนฺติ จตฺตาโร อุปทฺทเว หรติ. วิสุทฺธึ, ายํ, นิพฺพานนฺติ ตโย วิเสเส อาวหตี’’ติ อุสฺสาหชาตา อิมํ เทสนํ อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ, ธาเรตพฺพํ, อิมฺจ มคฺคํ ภาเวตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ. อิติ เตสํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหชนนตฺถํ วณฺณํ อภาสิ กมฺพลวาณิชาทโย กมฺพลาทีนํ วณฺณํ วิย.

ยทิทนฺติ นิปาโต, เย อิเมติ อยมสฺส อตฺโถ. จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เตน ‘‘น ตโต เหฏฺา, น อุทฺธ’’นฺติ สติปฏฺานปริจฺเฉทํ ทีเปติ. สติปฏฺานาติ ตโย สติปฏฺานา สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามิ ตํ สุณาถ. โก จ, ภิกฺขเว, กายสฺส สมุทโย? อาหรสมุทยา กายสมุทโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร สติปฏฺานนฺติ วุตฺโต. ตถา ‘‘กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จา’’ติอาทีสุปิ (ปฏิ. ม. ๒.๓๕). ตสฺส อตฺโถ – ปติฏฺาติ อสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ปธานํ านนฺติ วา ปฏฺานํ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ หตฺถิฏฺานอสฺสฏฺานาทีนิ วิย.

‘‘ตโย สติปฏฺานา, ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺโพติ? สติยา. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ.

‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗; สํ. นิ. ๕.๙๘๙) ปน สติเยว สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ปฏฺานํ, อิติ สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ อธิปฺเปตํ.

ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘สติปฏฺานา’’ติ พหุวจนํ กตนฺติ? สตีนํ พหุตฺตา. อารมฺมณเภเทน หิ พหุกา สติโย. อถ ‘‘มคฺโค’’ติ กสฺมา เอกวจนนฺติ? มคฺคนฏฺเน เอกตฺตา. จตสฺโสปิ หิ เอตา สติโย มคฺคนฏฺเน เอกตฺตํ คจฺฉนฺติ. วุตฺเหตํ ‘‘มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโค? นิพฺพานมคฺคนฏฺเน, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคนียฏฺเน จา’’ติ. จตสฺโสปิ เจตา อปรภาเค กายาทีสุ อารมฺมเณสุ กิจฺจํ สาธยมานา นิพฺพานํ คจฺฉนฺติ, อาทิโต ปฏฺาย จ นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคิยนฺตีติ ตสฺมา จตสฺโสปิ เอโก มคฺโคติ วุตฺตา. เอวฺจ สติ วจนานุสนฺธินา สานุสนฺธิกาว เทสนา โหติ.

กตเม จตฺตาโรติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. กาเยติ รูปกาเย. กายานุปสฺสีติ กายํ อนุปสฺสนสีโล, กายํ วา อนุปสฺสมาโน. อยฺหิ ภิกฺขุ อิมํ กายํ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ วเสน อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต, ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ, โน อตฺตโต, นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติ, วิรชฺชติ, โน รชฺชติ, นิโรเธติ, โน สมุเทติ, ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติ. โส ตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ ปชหติ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ ปชหติ, นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ ปชหติ, วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหติ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ ปชหติ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตีติ เวทิตพฺโพ.

วิหรตีติ อิรียติ. อาตาปีติ ตีสุ ภเวสุ กิเลเส อาตปตีติ อาตาโป, วีริยสฺเสตํ นามํ. อาตาโป อสฺส อตฺถีติ อาตาปี. สมฺปชาโนติ สมฺปชฺสงฺขาเตน าเณน สมนฺนาคโต. สติมาติ กายปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคโต. อยํ ปน ยสฺมา สติยา อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ปฺาย อนุปสฺสติ. น หิ สติวิรหิตสฺส อนุปสฺสนา นาม อตฺถิ, เตเนวาห ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). ตสฺมา เอตฺถ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ เอตฺตาวตา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยสฺมา อนาตาปิโน อนฺโตสงฺเขโป อนฺตรายกโร โหติ, อสมฺปชาโน อุปายปริคฺคเห อนุปายปริวชฺชเน จ สมฺมุยฺหติ, มุฏฺสฺสติ อุปายาปริจฺจาเค อนุปายาปริคฺคเห จ อสมตฺโถ โหติ, เตนสฺส ตํ กมฺมฏฺานํ น สมฺปชฺชติ. ตสฺมา เยสํ ธมฺมานํ อานุภาเวน ตํ สมฺปชฺชติ, เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาตาปี สมฺปชาโน สติมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ สมฺปโยคงฺคฺชสฺส ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปหานงฺคํ ทสฺเสตุํ วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ วิเนยฺยาติ ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา วินยิตฺวา. โลเกติ ตสฺมึเยว กาเย. กาโย หิ อิธ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อธิปฺเปโต. ยสฺมา ปนสฺส น กายมตฺเตเยว อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ปหียติ, เวทนาทีสุปิ ปหียติ เอว. ตสฺมา ‘‘ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโก’’ติ วิภงฺเค (วิภ. ๓๖๒) วุตฺตํ. โลกสงฺขาตตฺตา วา เตสํ ธมฺมานํ อตฺถุทฺธารนเยเนตํ วุตฺตํ. ยํ ปนาห ‘‘ตตฺถ กตโม โลโก, สฺเวว กาโย โลโก’’ติ, อยเมเวตฺถ อตฺโถ. ตสฺมึ โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ วิเนยฺยาติ เอวํ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ.

เวทนาสูติ เอตฺถ ติสฺโส เวทนา, ตา จ โลกิยา เอว, จิตฺตมฺปิ โลกิยํ, ตถา ธมฺมา. ยถา ปน เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา, ตถา อนุปสฺสนฺโต เอส เวทนานุปสฺสีติ เวทิตพฺโพ. เอส นโย จิตฺตธมฺเมสุ. กถฺจ เวทนา อนุปสฺสิตพฺพาติ? สุขา ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา อนิจฺจโต. ยถาห –

‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;

ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ.

สพฺพา เอว เจตา ทุกฺขาติปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํกิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา, ยถาห – ‘‘สุขา โข, อาวุโส วิสาข, เวทนา ิติสุขา วิปริณามทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อปิจ อนิจฺจาทิสตฺตอนุปสฺสนาวเสนปิ อนุปสฺสิตพฺพา.

จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนานํ สราคาทีนฺจ เภทานํ วเสน อนุปสฺสิตพฺพํ. ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สุฺตธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตอนุปสฺสนานํ ‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺท’’นฺติอาทีนฺจ ปเภทานํ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมว. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ทีฆมชฺฌิมฏฺกถาสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓ อาทโย; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๕ อาทโย) สติปฏฺานวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๒. สติสุตฺตวณฺณนา

๓๖๘. ทุติเย สโตติ กายาทิอนุปสฺสนาสติยา สมนฺนาคโต. สมฺปชาโนติ จตุสมฺปชฺปฺาย สมนฺนาคโต. อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ เอตฺถ อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ คมนํ, ปฏิกฺกนฺตํ นิวตฺตนํ, ตทุภยมฺปิ จตูสุ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. คมเน ตาว ปุรโต กายํ อภิหรนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปฏินิวตฺตนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. าเนปิ ิตโกว กายํ ปุรโต โอนมนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉโต อปนาเมนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิสชฺชายปิ นิสินฺนโกว อาสนสฺส ปุริมองฺคาภิมุโข สํสรนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉิมองฺคปฺปเทสํ ปจฺจาสํสรนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิปชฺชเนปิ เอเสว นโย.

สมฺปชานการี โหตีติ สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี, สมฺปชฺสฺเสว วา การี. โส หิ อภิกฺกนฺตาทีสุ สมฺปชฺํ กโรเตว, น กตฺถจิ สมฺปชฺวิรหิโต โหติ.

ตตฺถ สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ, อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ จตุพฺพิธํ สมฺปชฺํ. ตตฺถ อภิกฺกมนจิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว อคนฺตฺวา ‘‘กึ นุ เม เอตฺถ คเตน อตฺโถ อตฺถิ, นตฺถี’’ติ อตฺถานตฺถํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. ตตฺถ จ อตฺโถติ เจติยทสฺสนโพธิทสฺสนสงฺฆทสฺสนเถรทสฺสนอสุภทสฺสนาทิวเสน ธมฺมโต วฑฺฒิ. เจติยํ ทิสฺวาปิ หิ พุทฺธารมฺมณํ, สงฺฆทสฺสเนน สงฺฆารมฺมณํ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ. มหาวิหารสฺมิฺหิ ทกฺขิณทฺวาเร ตฺวา มหาเจติยํ โอโลเกนฺตา ตึสสหสฺสภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, ตถา ปจฺฉิมทฺวาเร อุตฺตรทฺวาเร ปาจีนทฺวาเร จ, ตถา ปฺหมณฺฑปฏฺาเน อภยวาปิปาฬิยํ, ถูปารามทฺวาเร นครสฺส ทกฺขิณทฺวาเร อนุราธวาปิปาฬิยํ.

มหาอริยวํสภาณกตฺเถโร ปนาห ‘‘กึ ตุมฺเห วทถ, มหาเจติยสฺส สมนฺตา กุจฺฉิเวทิกาย เหฏฺิมภาคโต ปฏฺาย ปฺายนฏฺาเน ยตฺถ ยตฺถ ทฺเว ปาทา สกฺกา โหนฺติ สมํ ปติฏฺาเปตุํ, ตตฺถ ตตฺถ เอกปทุทฺธาเร ตึสตึส ภิกฺขุสหสฺสานิ อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ สกฺกา วตุ’’นฺติ. อปโร ปน มหาเถโร อาห – ‘‘มหาเจติยตเล อากิณฺณวาลิกาย พหุตรา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตา’’ติ. เถเร ทิสฺวา เตสํ โอวาเท ปติฏฺาย อสุภํ ทิสฺวา ตตฺถ ปมํ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตสฺมา เอเตสํ ทสฺสนํ สาตฺถํ. เกจิ ปน – ‘‘อามิสโตปิ วฑฺฒิ อตฺโถเยว, ตํ นิสฺสาย พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย ปฏิปนฺนตฺตา’’ติ วทนฺติ.

ตสฺมึ ปน คมเน สปฺปายาสปฺปายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. เสยฺยถิทํ? เจติยทสฺสนํ ตาว สาตฺถํ. สเจ ปน เจติยสฺส มหาปูชาย ทสทฺวาทสโยชนนฺตเร ปริสา สนฺนิปตนฺติ, อตฺตโน วิภวานุรูปา อิตฺถิโยปิ ปุริสาปิ อลงฺกตปฏิยตฺตา จิตฺตกมฺมรูปกานิ วิย สฺจรนฺติ. ตตฺร จสฺส อิฏฺเ อารมฺมเณ โลโภ, อนิฏฺเ ปฏิโฆ, อสมเปกฺขเน โมโห อุปฺปชฺชติ, กายสํสคฺเค กายสํสคฺคาปตฺตึ อาปชฺชติ, ชีวิตพฺรหฺมจริยานํ วา อนฺตราโย จ โหติ. เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ โหติ, วุตฺตปฺปการอนฺตรายาภาเว สปฺปายํ. สงฺฆทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ. สเจ ปน อนฺโตคาเม มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ กาเรนฺเตสุ มนุสฺเสสุ วุตฺตปฺปกาเรเนว ชนสนฺนิปาโต เจว อนฺตราโย จ โหติ, เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ, อนฺตรายาภาเว สปฺปายํ. มหาปริวารานํ เถรานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย.

อสุภทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ. ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ทหรภิกฺขุ สามเณรํ คเหตฺวา ทนฺตกฏฺตฺถาย คโต. สามเณโร มคฺคา โอกฺกมิตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺโต อสุภํ ทิสฺวา ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต ตีณิ ผลานิ สจฺฉิกตฺวา อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อฏฺาสิ. ทหโร ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘สามเณรา’’ติ ปกฺโกสิ. โส – ‘‘มยา ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ภิกฺขุนา สทฺธึ ทฺเว กถา นาม น กถิตปุพฺพา, อฺสฺมิมฺปิ ทิวเส อุปริวิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต,’’ติ ปฏิวจนํ อทาสิ. ‘‘เอหี’’ติ วุตฺเต เอกวจเนเนว อาคนฺตฺวา – ‘‘ภนฺเต, อิมินา ตาว มคฺเคน คนฺตฺวา มยา ิโตกาเส มุหุตฺตํ ปุรตฺถาภิมุขา หุตฺวา โอโลเกถา’’ติ อาห. โส ตถา กตฺวา เตน ปตฺตวิเสสเมว ปาปุณิ. เอวํ เอกํ อสุภํ ทฺวินฺนํ ชนานํ อตฺถาย ชาตํ. เอวํ สาตฺถมฺปิ ปเนตํ ปุริสสฺส มาตุคามาสุภํ อสปฺปายํ, มาตุคามสฺส จ ปุริสาสุภํ, สภาคเมว สปฺปายนฺติ เอวํ สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ.

เอวํ ปริคฺคหิตสาตฺถสปฺปายสฺส ปน อฏฺตึสกมฺมฏฺาเนสุ อตฺตโน จิตฺตรุจิกํ กมฺมฏฺานสงฺขาตํ โคจรํ อุคฺคเหตฺวา ภิกฺขาจารโคจเร ตํ คเหตฺวาว คมนํ โคจรสมฺปชฺํ นาม.

ตสฺสาวิภาวตฺถํ อิทํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ – อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ หรติ น ปจฺจาหรติ, เอกจฺโจ ปจฺจาหรติ น หรติ, เอกจฺโจ ปน เนว หรติ น ปจฺจาหรติ, เอกจฺโจ หรติ จ ปจฺจาหรติ จ.

ตตฺถ โย ภิกฺขุ ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย จ อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธตฺวา ตถา รตฺติยา ปมํ ยามํ มชฺฌิมยาเม เสยฺยํ กปฺเปตฺวา, ปจฺฉิมยาเมปิ นิสชฺชาจงฺกเมหิ วีตินาเมตฺวา, ปเคว เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวตฺตํ กตฺวา โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิฺจิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อาจริยุปชฺฌายวตฺตาทีนิ สมาทาย วตฺตติ. โส สรีรปริกมฺมํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ทฺเว ตโย ปลฺลงฺเก อุสุมํ คาหาเปนฺโต กมฺมฏฺานมนุยุฺชิตฺวา ภิกฺขาจารเวลาย อุฏฺหิตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว ปตฺตจีวรมาทาย เสนาสนโต นิกฺขมิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโตว เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา สเจ พุทฺธานุสฺสติกมฺมฏฺานํ โหติ, ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว เจติยงฺคณํ ปวิสติ. อฺํ เจ กมฺมฏฺานํ โหติ, โสปานปาทมูเล ตฺวา หตฺเถน คหิตภณฺฑํ วิย ตํ เปตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา เจติยงฺคณํ อารุยฺห มหนฺตํ เจติยํ เจ, ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตพฺพํ, ขุทฺทกํ เจ, ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา อฏฺสุ าเนสุ วนฺทิตพฺพํ. เจติยํ วนฺทิตฺวา โพธิยงฺคณํ ปตฺเตนาปิ พุทฺธสฺส ภควโต สมฺมุขา วิย นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา โพธิ วนฺทิตพฺพา. โส เอวํ เจติยฺจ โพธิฺจ วนฺทิตฺวา ปฏิสามิตฏฺานํ คนฺตฺวา ปฏิสามิตภณฺฑกํ หตฺเถน คณฺหนฺโต วิย นิกฺขิตฺตกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คามสมีเป กมฺมฏฺานสีเสเนว จีวรํ ปารุปิตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ.

อถ นํ มนุสฺสา ทิสฺวา ‘‘อยฺโย โน อาคโต’’ติ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อาสนสาลาย วา เคเห วา นิสีทาเปตฺวา ยาคุํ ทตฺวา ยาว ภตฺตํ น นิฏฺาติ, ตาว ปาเท โธวิตฺวา มกฺเขตฺวา ปุรโต นิสีทิตฺวา ปฺหํ วา ปุจฺฉนฺติ, ธมฺมํ วา โสตุกามา โหนฺติ. สเจปิ น กถาเปนฺติ, ชนสงฺคหณตฺถํ ธมฺมกถา นาม กาตพฺพาเยวาติ อฏฺกถาจริยา วทนฺติ. ธมฺมกถา หิ กมฺมฏฺานวินิมุตฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา กมฺมฏฺานสีเสเนว ธมฺมํ กเถตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว อาหารํ ปริภุฺชิตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา นิวตฺติยมาเนหิปิ มนุสฺเสหิ อนุคโตว คามโต นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ เต นิวตฺเตตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชติ.

อถ นํ ปุเรตรํ นิกฺขมิตฺวา พหิคาเม กตภตฺตกิจฺจา สามเณรทหรภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรมสฺส คณฺหนฺติ. โปราณกภิกฺขู กิร น ‘‘อมฺหากํ อุปชฺฌาโย อาจริโย’’ติ มุขํ โอโลเกตฺวา วตฺตํ กโรนฺติ, สมฺปตฺตปริจฺเฉเทเนว กโรนฺติ. เต ตํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ภนฺเต, เอเต มนุสฺสา ตุมฺหากํ กึ โหนฺติ, มาติปกฺขโต สมฺพนฺธา ปิติปกฺขโต’’ติ? กึ ทิสฺวา ปุจฺฉถาติ? ตุมฺเหสุ เอเตสํ เปมํ พหุมานนฺติ. ‘‘อาวุโส, ยํ มาตาปิตูหิปิ ทุกฺกรตรํ, ตํ เอเต อมฺหากํ กโรนฺติ, ปตฺตจีวรมฺปิ โน เอเตสํ สนฺตกเมว, เอเตสํ อานุภาเวน เนว ภเย ภยํ, น ฉาตเก ฉาตกํ ชานาม, เอทิสา นาม อมฺหากํ อุปการิโน นตฺถี’’ติ เตสํ คุเณ กถยนฺโต คจฺฉติ. อยํ วุจฺจติ หรติ น ปจฺจาหรตีติ.

ยสฺส ปน ปเคว วุตฺตปฺปการํ วตฺตปฏิปตฺตึ กโรนฺตสฺส กมฺมชเตโช ปชฺชลติ, อนุปาทิณฺณกํ มุฺจิตฺวา อุปาทิณฺณกํ คณฺหาติ, สรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ, กมฺมฏฺานวีถึ นาโรหติ, โส ปเคว ปตฺตจีวรมาทาย เวคสาว เจติยํ วนฺทิตฺวา โครูปานํ นิกฺขมนเวลายเมว คามํ ยาคุภิกฺขาย ปวิสิตฺวา ยาคุํ ลภิตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปิวติ. อถสฺส ทฺวิตฺติกฺขตฺตุํ อชฺโฌหรณมตฺเตเนว กมฺมชเตโช อุปาทิณฺณกํ มุฺจิตฺวา อนุปาทิณฺณกํ คณฺหาติ, ฆฏสเตน นฺหาโต วิย เตโชธาตุปริฬาหนิพฺพานํ ปตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน ยาคุํ ปริภุฺชิตฺวา ปตฺตฺจ มุขฺจ โธวิตฺวา อนฺตราภตฺเต กมฺมฏฺานํ มนสิกตฺวา อวเสสฏฺาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน อาหารํ ปริภุฺชิตฺวา ตโต ปฏฺาย โปงฺขานุโปงฺขํ อุปฏฺหมานํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว อาคจฺฉติ. อยํ วุจฺจติ ปจฺจาหรติ น หรตีติ. เอทิสา จ ภิกฺขู ยาคุํ ปิวิตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา พุทฺธสาสเน อรหตฺตํ ปตฺตา นาม คณนปถํ วีติวตฺตา. สีหฬทีเปเยว เตสุ เตสุ คาเมสุ อาสนสาลายํ น ตํ อาสนมตฺถิ, ยตฺถ ยาคุํ ปิวิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา ภิกฺขู นตฺถีติ.

โย ปน ปมาทวิหารี โหติ นิกฺขิตฺตธุโร, สพฺพวตฺตานิ ภินฺทิตฺวา ปฺจวิธเจโตวินิพนฺธพทฺธจิตฺโต วิหรนฺโต ‘‘กมฺมฏฺานํ นาม อตฺถี’’ติปิ สฺํ อกตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน สํสฏฺโ จริตฺวา จ ภุฺชิตฺวา จ ตุจฺโฉ นิกฺขมติ. อยํ วุจฺจติ เนว หรติ น ปจฺจาหรตีติ.

โย ปนายํ หรติ จ ปจฺจาหรติ จาติ วุตฺโต, โส คตปจฺจาคติกวตฺตวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺตกามา หิ กุลปุตฺตา สาสเน ปพฺพชิตฺวา ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปฺาสมฺปิ สตมฺปิ เอกโต วสนฺตา กติกวตฺตํ กตฺวา วิหรนฺติ ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห น อิณฏฺฏา, น ภยฏฺฏา, น ชีวิกาปกตา ปพฺพชิตา, ทุกฺขา มุจฺจิตุกามา ปเนตฺถ ปพฺพชิตา, ตสฺมา คมเน อุปฺปนฺนกิเลสํ คมเนเยว นิคฺคณฺหถ, าเน, นิสชฺชาย, สยเน อุปฺปนฺนกิเลสํ สยเนเยว นิคฺคณฺหถา’’ติ. เต เอวํ กติกวตฺตํ กตฺวา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา อฑฺฒอุสภอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตนฺตเรสุ ปาสาณา โหนฺติ, ตาย สฺาย กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตาว คจฺฉนฺติ. สเจ กสฺสจิ คมเน กิเลโส อุปฺปชฺชติ, ตตฺเถว นํ นิคฺคณฺหาติ. ตถา อสกฺโกนฺโต ติฏฺติ. อถสฺส ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโตปิ ติฏฺติ, โส ‘‘อยํ ภิกฺขุ ตุยฺหํ อุปฺปนฺนวิตกฺกํ ชานาติ, อนนุจฺฉวิกํ เต เอต’’นฺติ อตฺตานํ ปฏิโจเทตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ตตฺเถว อริยภูมึ โอกฺกมติ, ตถา อสกฺโกนฺโต นิสีทตีติ โส เอว นโย. อริยภูมึ โอกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ, ตํ กิเลสํ วิกฺขมฺเภตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโตว คจฺฉติ, น กมฺมฏฺานวิปฺปยุตฺเตน จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรติ. อุทฺธรติ เจ, ปฏินิวตฺติตฺวา ปุริมปเทสํเยว เอติ อาลินฺทกวาสี มหาผุสฺสเทวตฺเถโร วิย.

โส กิร เอกูนวีสติ วสฺสานิ คตปจฺจาคติกวตฺตํ ปูเรนฺโต เอว วิหาสิ. มนุสฺสาปิ สุทํ อนฺตรามคฺเค กสนฺตา จ วปนฺตา จ มทฺทนฺตา จ กมฺมานิ จ กโรนฺตา เถรํ ตถา คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘อยํ เถโร ปุนปฺปุนํ นิวตฺติตฺวา คจฺฉติ, กึ นุ โข มคฺคมูฬฺโห, อุทาหุ กิฺจิ ปมุฏฺโ’’ติ สมุลฺลปนฺติ. โส ตํ อนาทิยิตฺวา กมฺมฏฺานยุตฺตจิตฺเตเนว สมณธมฺมํ กโรนฺโต วีสติวสฺสพฺภนฺตเร อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตปฺปตฺตทิวเส จสฺส จงฺกมนโกฏิยํ อธิวตฺถา เทวตา องฺคุลีหิ ทีปํ อุชฺชาเลตฺวา อฏฺาสิ. จตฺตาโรปิ มหาราชาโน สกฺโก จ เทวานมินฺโท พฺรหฺมา จ สหมฺปติ อุปฏฺานํ อาคมํสุ. ตฺจ โอภาสํ ทิสฺวา วนวาสีมหาติสฺสตฺเถโร ตํ ทุติยทิวเส ปุจฺฉิ – ‘‘รตฺติภาเค อายสฺมโต สนฺติเก โอภาโส อโหสิ, กึ โส โอภาโส’’ติ? เถโร วิกฺเขปํ กโรนฺโต ‘‘โอภาโส นาม ทีโปภาโสปิ โหติ, มณิโอภาโสปี’’ติ เอวมาทิมาห. ตโต ‘‘ปฏิจฺฉาเทถ ตุมฺเห’’ติ นิพทฺโธ อามาติ ปฏิชานิตฺวา อาโรเจสิ.

กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสีมหานาคตฺเถโร วิย จ. โสปิ กิร คตปจฺจาคติกวตฺตํ ปูเรนฺโต ปมํ ตาว ‘‘ภควโต มหาปธานํ ปูเชสฺสามี’’ติ สตฺต วสฺสานิ านจงฺกมเมว อธิฏฺาสิ. ปุน โสฬส วสฺสานิ คตปจฺจาคติกวตฺตํ ปูเรตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส กมฺมฏฺานยุตฺเตเนว จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรนฺโต วิปฺปยุตฺเตน อุทฺธเฏ ปฏินิวตฺตนฺโต คามสมีปํ คนฺตฺวา ‘‘คาวี นุ ปพฺพชิโต นู’’ติ อาสงฺกนียปเทเส ตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา กจฺฉกรกโต อุทเกน ปตฺตํ โธวิตฺวา อุทกคณฺฑูสํ กโรติ. กึ การณา? ‘‘มา เม ภิกฺขํ ทาตุํ วา วนฺทิตุํ วา อาคเต มนุสฺเส ‘ทีฆายุกา โหถา’ติ วจนมตฺเตนาปิ กมฺมฏฺานวิกฺเขโป อโหสี’’ติ ‘‘อชฺช, ภนฺเต, กติมี’’ติ ทิวสํ วา ภิกฺขุคณนํ วา ปฺหํ วา ปุจฺฉิโต ปน อุทกํ คิลิตฺวา อาโรเจติ. สเจ ทิวสาทิปุจฺฉกา น โหนฺติ, นิกฺขมนเวลายํ คามทฺวาเร นิฏฺุภิตฺวา ยาติ.

กลมฺพติตฺถวิหาเร วสฺสูปคตา ปฺาส ภิกฺขู วิย จ. เต กิร อาสาฬฺหิปุณฺณมิยํ กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘อรหตฺตํ อปตฺวา อฺมฺํ นาลปิสฺสามา’’ติ. คามฺจ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตา อุทกคณฺฑูสํ กตฺวา ปวิสึสุ. ทิวสาทีสุ ปุจฺฉิเตสุ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชึสุ. ตตฺถ มนุสฺสา นิฏฺุภนํ ทิสฺวา ชานึสุ – ‘‘อชฺเชโก อาคโต, อชฺช ทฺเว’’ติ. เอวฺจ จินฺเตสุํ – ‘‘กึ นุ โข เอเต อมฺเหเหว สทฺธึ น สลฺลปนฺติ, อุทาหุ อฺมฺมฺปิ. ยทิ อฺมฺํ น สลฺลปนฺติ, อทฺธา วิวาทชาตา ภวิสฺสนฺติ. เอถ เน อฺมฺํ ขมาเปสฺสามา’’ติ สพฺเพ วิหารํ คนฺตฺวา ปฺาสาย ภิกฺขูสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู เอโกกาเส นาทฺทสํสุ. ตโต โย เตสุ จกฺขุมา ปุริโส, โส อาห – ‘‘น โภ กลหการกานํ โอกาโส อีทิโส โหติ, สุสมฺมฏฺํ เจติยงฺคณํ โพธิยงฺคณํ, สุนิกฺขิตฺตา สมฺมชฺชนิโย, สุปฏฺิตํ ปานียํ ปริโภชนีย’’นฺติ. เต ตโตว นิวตฺตา. เตปิ ภิกฺขู อนฺโตเตมาเสเยว อรหตฺตํ ปตฺวา มหาปวารณายํ วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสุํ.

เอวํ กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร วิย, กลมฺพติตฺถวิหาเร วสฺสูปคตา ภิกฺขู วิย จ กมฺมฏฺานยุตฺเตเนว จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรนฺโต คามสมีปํ คนฺตฺวา อุทกคณฺฑูสํ กตฺวา วีถิโย สลฺลกฺเขตฺวา ยตฺถ สุราโสณฺฑธุตฺตาทโย กลหการกา จณฺฑหตฺถิอสฺสาทโย วา นตฺถิ, ตํ วีถึ ปฏิปชฺชติ. ตตฺถ จ ปิณฺฑาย จรมาโน น ตุริตตุริโต วิย ชเวน คจฺฉติ. น หิ ชเวน ปิณฺฑปาติกธุตงฺคํ นาม กิฺจิ อตฺถิ. วิสมภูมิภาคปตฺตํ ปน อุทกสกฏํ วิย นิจฺจโล หุตฺวา คจฺฉติ. อนุฆรํ ปวิฏฺโ จ ทาตุกามํ วา อทาตุกามํ วา สลฺลกฺเขตุํ ตทนุรูปํ กาลํ อาคเมนฺโต ภิกฺขํ คเหตฺวา อนฺโตคาเม วา พหิคาเม วา วิหารเมว วา อาคนฺตฺวา ยถาผาสุเก ปติรูเป โอกาเส นิสีทิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต อาหาเร ปฏิกูลสฺํ อุปฏฺเปตฺวา อกฺขพฺภฺชนวณเลปนปุตฺตมํสูปมาวเสน ปจฺจเวกฺขนฺโต อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรติ, เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย…เป… ภุตฺตาวี จ อุทกกิจฺจํ กตฺวา มุหุตฺตํ ภตฺตกิลมถํ ปฏิปสฺสมฺเภตฺวา ยถา ปุเรภตฺตํ, เอวํ ปจฺฉาภตฺตํ ปุริมยามํ ปจฺฉิมยามฺจ กมฺมฏฺานเมว มนสิกโรติ. อยํ วุจฺจติ หรติ จ ปจฺจาหรติ จาติ.

อิมํ ปน หรณปจฺจาหรณสงฺขาตํ คตปจฺจาคติกวตฺตํ ปูเรนฺโต ยทิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหติ, ปมวเย เอว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. โน เจ ปมวเย ปาปุณาติ, อถ มชฺฌิมวเย ปาปุณาติ. โน เจ มชฺฌิมวเย ปาปุณาติ, อถ ปจฺฉิมวเย ปาปุณาติ, โน เจ ปจฺฉิมวเย ปาปุณาติ, อถ มรณสมเย. โน เจ มรณสมเย ปาปุณาติ, อถ เทวปุตฺโต หุตฺวา. โน เจ เทวปุตฺโต หุตฺวา ปาปุณาติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ นิพฺพตฺโต ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ. โน เจ ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ, อถ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว ขิปฺปาภิฺโ วา โหติ, เสยฺยถาปิ เถโร พาหิโย ทารุจีริโย มหาปฺโ วา, เสยฺยถาปิ เถโร สาริปุตฺโต, มหิทฺธิโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร มหาโมคฺคลฺลาโน, ธุตวาโท วา, เสยฺยถาปิ เถโร มหากสฺสโป, ทิพฺพจกฺขุโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร อนุรุทฺโธ, วินยธโร วา, เสยฺยถาปิ เถโร อุปาลิ, ธมฺมกถิโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต, อารฺิโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร เรวโต, พหุสฺสุโต วา, เสยฺยถาปิ เถโร อานนฺโท, สิกฺขากาโม วา, เสยฺยถาปิ เถโร ราหุโล พุทฺธปุตฺโตติ. อิติ อิมสฺมึ จตุกฺเก ยฺวายํ หรติ ปจฺจาหรติ จ, ตสฺส โคจรสมฺปชฺํ สิขาปตฺตํ โหติ.

อภิกฺกมาทีสุ ปน อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อิธ ภิกฺขุ อภิกฺกมนฺโต วา ปฏิกฺกมนฺโต วา ยถา อนฺธปุถุชฺชนา อภิกฺกมาทีสุ – ‘‘อตฺตา อภิกฺกมติ, อตฺตนา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’’ติ วา ‘‘อหํ อภิกฺกมามิ, มยา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’’ติ วา สมฺมุยฺหนฺติ, ตถา อสมฺมุยฺหนฺโต อภิกฺกมามีติ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน เตเนว จิตฺเตน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ วิฺตฺตึ ชนยมานา อุปฺปชฺชติ, อิติ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสน อยํ กายสมฺมโต อฏฺิสงฺฆาโฏ อภิกฺกมติ. ตสฺเสวํ อภิกฺกมโต เอเกกปาทุทฺธรเณ ปถวีธาตุ อาโปธาตูติ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา โหนฺติ พลวติโย, ตถา อติหรณวีติหรเณสุ, โวสฺสชฺชเน เตโชธาตุ วาโยธาตูติ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา โหนฺติ พลวติโย, ตถา สนฺนิกฺเขปนสนฺนิรุมฺภเนสุ.

ตตฺถ อุทฺธรเณ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา อติหรณํ น ปาปุณนฺติ, ตถา อติหรเณ ปวตฺตา วีติหรณํ, วีติหรเณ ปวตฺตา โวสฺสชฺชนํ, โวสฺสชฺชเน ปวตฺตา สนฺนิกฺเขปนํ, สนฺนิกฺเขปเน ปวตฺตา สนฺนิรุมฺภนํ น ปาปุณนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว ปพฺพปพฺพํ สนฺธิสนฺธิ โอธิโอธิ หุตฺวา ตตฺตกปาเล ปกฺขิตฺตติลานิ วิย ตฏตฏายนฺตา ภิชฺชนฺติ. ตตฺถ โก เอโก อภิกฺกมติ, กสฺส วา เอกสฺส อภิกฺกมนํ? ปรมตฺถโต หิ ธาตูนํเยว คมนํ, ธาตูนํ านํ, ธาตูนํ นิสชฺชา, ธาตูนํ สยนํ. ตสฺมึ ตสฺมิฺหิ โกฏฺาเส สทฺธึ รูเปน –

‘‘อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ, อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌติ;

อวีจิมนุสมฺพนฺโธ, นทีโสโตว วตฺตตี’’ติ. –

เอวํ อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ นามาติ.

นิฏฺิโต ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหตี’’ติปทสฺส อตฺโถ.

อาโลกิเต วิโลกิเตติ เอตฺถ ปน อาโลกิตํ นาม ปุรโต เปกฺขนํ, วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขนํ. อฺานิปิ เหฏฺา อุปริ ปจฺฉโต อนุเปกฺขนวเสน โอโลกิตอุลฺโลกิตาปโลกิตานิ นาม โหนฺติ. ตานิ อิธ น คหิตานิ, สารุปฺปวเสน ปน อิมาเนว ทฺเว คหิตานิ. อิมินา วา มุเขน สพฺพานิปิ ตานิ คหิตาเนวาติ.

ตตฺถ ‘‘อาโลเกสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว อโนโลเกตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. ตํ อายสฺมนฺตํ นนฺทํ กายสกฺขึ กตฺวา เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปุรตฺถิมา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นนฺโท ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลเกติ ‘เอวํ เม ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลกยโต นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปจฺฉิมา ทิสา, อุตฺตรา ทิสา, ทกฺขิณา ทิสา, อุทฺธํ, อโธ, อนุทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นนฺโท อนุทิสํ อาโลเกติ ‘เอวํ เม อนุทิสํ อาโลกยโต’…เป… สมฺปชาโน โหตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๙).

อปิจ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺตเจติยทสฺสนาทิวเสเนว สาตฺถกตา จ สปฺปายตา จ เวทิตพฺพา. กมฺมฏฺานสฺส ปน อวิชหนเมว โคจรสมฺปชฺํ, ตสฺมา ขนฺธธาตุอายตนกมฺมฏฺานิเกหิ อตฺตโน กมฏฺานวเสเนว กสิณาทิกมฺมฏฺานิเกหิ วา ปน กมฺมฏฺานสีเสเนว อาโลกนวิโลกนํ กาตพฺพํ.

‘‘อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม อาโลเกตา วา วิโลเกตา วา นตฺถิ, ‘อาโลเกสฺสามี’ติ ปน จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน เตเนว จิตฺเตน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ วิฺตฺตึ ชนยมานา อุปฺปชฺชติ. อิติ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสน เหฏฺิมํ อกฺขิทลํ อโธ สีทติ, อุปริมํ อุทฺธํ ลงฺเฆติ, โกจิ ยนฺตเกน วิวรนฺโต นาม นตฺถิ, ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาเธนฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ เอวํ ปชานนํ ปเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ นาม.

อปิจ มูลปริฺาอาคนฺตุกตาวกาลิกภาววเสนเปตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. มูลปริฺาวเสน ตาว –

‘‘ภวงฺคาวชฺชนฺเจว, ทสฺสนํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

สนฺตีรณํ โวฏฺพฺพนํ, ชวนํ ภวติ สตฺตมํ’’.

ตตฺถ ภวงฺคํ อุปปตฺติภวสฺส องฺคกิจฺจํ สาธยมานํ ปวตฺตติ, ตํ อาวฏฺเฏตฺวา กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา, ตนฺนิโรธา จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาธยมานํ, ตนฺนิโรธา วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาธยมานา, ตนฺนิโรธา วิปากมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา, ตนฺนิโรธา กิริยมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาธยมานา, ตนฺนิโรธา สตฺตกฺขตฺตุํ ชวนํ ชวติ. ตตฺถ ปมชวเนปิ ‘‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’’ติ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อาโลกิตวิโลกิตํ น โหติ, ทุติยชวเนปิ…เป… สตฺตมชวเนปิ. เอเตสุ ปน ยุทฺธมณฺฑเล โยเธสุ วิย เหฏฺุปริยวเสน ภิชฺชิตฺวา ปติเตสุ ‘‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิวเสน อาโลกิตวิโลกิตํ โหติ. เอวํ ตาเวตฺถ มูลปริฺาวเสน อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

จกฺขุทฺวาเร ปน รูเป อาปาถมาคเต ภวงฺคจลนโต อุทฺธํ สกกิจฺจนิปฺผาทนวเสน อาวชฺชนาทีสุ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธสุ อวสาเน ชวนํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนานํ อาวชฺชนาทีนํ เคหภูเต จกฺขุทฺวาเร อาคนฺตุกปุริโส วิย โหติ. ตสฺส ยถา ปรเคเห กิฺจิ ยาจิตุํ ปวิฏฺสฺส อาคนฺตุกปุริสสฺส เคหสามิเกสุ ตุณฺหีมาสิเนสุ อาณากรณํ น ยุตฺตํ, เอวํ อาวชฺชนาทีนํ เคหภูเต จกฺขุทฺวาเร อาวชฺชนาทีสุปิ อรชฺชนฺเตสุ อทุสฺสนฺเตสุ อมุยฺหนฺเตสุ จ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนํ อยุตฺตนฺติ เอวํ อาคนฺตุกภาววเสน อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

ยานิ ปเนตานิ จกฺขุทฺวาเร โวฏฺพฺพนปริโยสานานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิ สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ, อฺมฺํ น ปสฺสนฺติ, อิตฺตรานิ ตาวกาลิกานิ โหนฺติ. ตตฺถ ยถา เอกสฺมึ ฆเร สพฺเพสุ มานุสเกสุ มเตสุ อวเสสสฺส เอกสฺส ตงฺขณํเยว มรณธมฺมสฺส น ยุตฺตา นจฺจคีตาทีสุ อภิรติ นาม, เอวเมว เอกทฺวาเร สสมฺปยุตฺเตสุ อาวชฺชนาทีสุ ตตฺถ ตตฺเถว มเตสุ อวเสสสฺส ตงฺขณํเยว มรณธมฺมสฺส ชวนสฺสาปิ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อภิรติ นาม น ยุตฺตาติ เอวํ ตาวกาลิกภาววเสน อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อปิจ ขนฺธายตนธาตุปจฺจยปจฺจเวกฺขณวเสนเปตํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ หิ จกฺขุ เจว รูปา จ รูปกฺขนฺโธ, ทสฺสนํ วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺสาทิกา สงฺขารา สงฺขารกฺขนฺโธ, เอวเมเตสํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ? ตถา จกฺขุ จกฺขายตนํ, รูปํ รูปายตนํ, ทสฺสนํ มนายตนํ, เวทนาทโย สมฺปยุตฺตธมฺมา ธมฺมายตนํ, เอวเมเตสํ จตุนฺนํ อายตนานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ? ตถา จกฺขุ จกฺขุธาตุ, รูปํ รูปธาตุ, ทสฺสนํ จกฺขุวิฺาณธาตุ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนาทโย ธมฺมา ธมฺมธาตุ, เอวเมเตสํ จตุนฺนํ ธาตูนํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ? ตถา จกฺขุ นิสฺสยปจฺจโย, รูปํ อารมฺมณปจฺจโย, อาวชฺชนํ อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตปจฺจโย, อาโลโก อุปนิสฺสยปจฺจโย, เวทนาทโย สหชาตปจฺจโย. เอวเมเตสํ ปจฺจยานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกตีติ เอวเมตฺถ ขนฺธายตนธาตุปจฺจยปจฺจเวกฺขณวเสนปิ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

สมิฺชิเต ปสาริเตติ ปพฺพานํ สมิฺชนปสารเณ. ตตฺถ จิตฺตวเสเนว สมิฺชนปสารณํ อกตฺวา หตฺถปาทานํ สมิฺชนปสารณปจฺจยา อตฺถานตฺถํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. ตตฺถ หตฺถปาเท อติจิรํ สมิฺชิตฺวา วา ปสาเรตฺวา วา ิตสฺส ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ น ลภติ, กมฺมฏฺานํ ปริปตติ, วิเสสํ นาธิคจฺฉติ. กาเล สมิฺชนฺตสฺส กาเล ปสาเรนฺตสฺส ปน ตา เวทนา นุปฺปชฺชนฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ ผาตึ คจฺฉติ, วิเสสมธิคจฺฉตีติ เอวํ อตฺถานตฺถปริคฺคณฺหนํ เวทิตพฺพํ.

อตฺเถ ปน สติปิ สปฺปายาสปฺปายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. ตตฺรายํ นโย – มหาเจติยงฺคเณ กิร ทหรภิกฺขู สชฺฌายํ คณฺหนฺติ. เตสํ ปิฏฺิปสฺเส ทหรภิกฺขุนิโย ธมฺมํ สุณนฺติ. ตตฺเถโก ทหโร หตฺถํ ปสาเรนฺโต กายสํสคฺคํ ปตฺวา เตเนว การเณน คิหี ชาโต. อปโร ภิกฺขุ ปาทํ ปสาเรนฺโต อคฺคิมฺหิ ปสาเรสิ, อฏฺึ อาหจฺจ ปาโท ฌายิ. อปโร วมฺมิเก ปสาเรสิ, โส อาสีวิเสน ทฏฺโ. อปโร จีวรกุฏิทณฺฑเก ปสาเรสิ, ตํ มณิสปฺโป ฑํสิ. ตสฺมา เอวรูเป อสปฺปาเย อปสาเรตฺวา สปฺปาเย ปสาเรตพฺพํ. อิทเมตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ.

โคจรสมฺปชฺํ ปน มหาเถรวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ – มหาเถโร กิร ทิวาฏฺาเน นิสินฺโน อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ กถยมาโน สหสา หตฺถํ สมิฺชิตฺวา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สณิกํ สมิฺเชสิ. ตํ อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, สหสา หตฺถํ สมิฺชิตฺวา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สณิกํ สมิฺชิตฺถา’’ติ. ยโต ปฏฺายาหํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ มนสิกาตุํ อารทฺโธ, น เม กมฺมฏฺานํ มุฺจิตฺวา หตฺโถ สมิฺชิตปุพฺโพ, อิทานิ ปน ตุมฺเหหิ สทฺธึ กถยมาเนน กมฺมฏฺานํ มุฺจิตฺวา สมิฺชิโต, ตสฺมา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สมิฺเชสินฺติ. สาธุ, ภนฺเต, ภิกฺขุนา นาม เอวรูเปน ภวิตพฺพนฺติ. เอวเมตฺถาปิ กมฺมฏฺานาวิชหนเมว โคจรสมฺปชฺนฺติ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ สมิฺชนฺโต วา ปสาเรนฺโต วา นตฺถิ, วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรน ปน สุตฺตากฑฺฒนวเสน ทารุยนฺตสฺส หตฺถปาทลฬนํ วิย สมิฺชนปสารณํ โหตีติ ปริชานนํ ปเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ เวทิตพฺพํ.

สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณติ เอตฺถ สงฺฆาฏิจีวรานํ นิวาสนปารุปนวเสน, ปตฺตสฺส ภิกฺขาปฏิคฺคหณาทิวเสน ปริโภโค ธารณํ นาม. ตตฺถ สงฺฆาฏิจีวรธารเณ ตาว นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา จ ปิณฺฑาย จรโต อามิสลาโภ, ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา นเยน ภควตา วุตฺตปฺปกาโรเยว จ อตฺโถ อตฺโถ นาม. ตสฺส วเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อุณฺหปกติกสฺส ปน ทุพฺพลสฺส จ จีวรํ สุขุมํ สปฺปายํ, สีตาลุกสฺส ฆนํ ทุปฏฺฏํ. วิปรีตํ อสปฺปายํ. ยสฺส กสฺสจิ ชิณฺณํ อสปฺปายเมว. อคฺคฬาทิทาเนน หิสฺส ตํ ปลิโพธกรํ โหติ. ตถา ปฏฺฏุณฺณทุกูลาทิเภทํ โลภนียจีวรํ. ตาทิสฺหิ อรฺเ เอกกสฺส นิวาสนฺตรายกรํ, ชีวิตนฺตรายกรฺจาปิ โหติ. นิปฺปริยาเยน ปน ยํ นิมิตฺตกมฺมาทิมิจฺฉาชีววเสน อุปฺปนฺนํ, ยฺจสฺส เสวมานสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, ตํ อสปฺปายํ. วิปรีตํ สปฺปายํ, ตสฺส วเสเนตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ, กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ จีวรํ ปารุปนฺโต นตฺถิ, วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปน จีวรปารุปนํ โหติ. ตตฺถ จีวรมฺปิ อเจตนํ, กาโยปิ อเจตโน. จีวรํ น ชานาติ ‘‘มยา กาโย ปารุปิโต’’ติ. กาโยปิ น ชานาติ ‘‘อหํ จีวเรน ปารุปิโต’’ติ. ธาตุโยว ธาตุสมูหํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ ปฏปิโลติกาย โปตฺถกรูปปฏิจฺฉาทเน วิย. ตสฺมา เนว สุนฺทรํ จีวรํ ลภิตฺวา โสมนสฺสํ กาตพฺพํ, น อสุนฺทรํ ลภิตฺวา โทมนสฺสํ. นาควมฺมิกเจติยรุกฺขาทีสุ หิ เกจิ มาลาคนฺธธูมวตฺถาทีหิ สกฺการํ กโรนฺติ, เกจิ คูถมุตฺตกทฺทมทณฺฑสตฺถปหาราทีหิ อสกฺการํ. น เตหิ นาควมฺมิกรุกฺขาทโย โสมนสฺสํ วา กโรนฺติ โทมนสฺสํ วา. เอวเมวํ เนว สุนฺทรํ จีวรํ ลภิตฺวา โสมนสฺสํ กาตพฺพํ, น อสุนฺทรํ ลภิตฺวา โทมนสฺสนฺติ เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

ปตฺตธารเณปิ ปตฺตํ สหสาว อคฺคเหตฺวา – ‘‘อิมํ คเหตฺวา ปิณฺฑาย จรมาโน ภิกฺขํ ลภิสฺสามี’’ติ เอวํ ปตฺตคฺคหณปจฺจยา ปฏิลภิตพฺพอตฺถวเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. กิสทุพฺพลสรีรสฺส ปน ครุปตฺโต อสปฺปาโย. ยสฺส กสฺสจิ จตุปฺจคณฺิกาหโต ทุพฺพิโสธนีโย อสปฺปาโยว. ทุทฺโธตปตฺโต หิ น วฏฺฏติ, ตํ โธวนฺตสฺเสว จสฺส ปลิโพโธ โหติ. มณิวณฺณปตฺโต ปน โลภนีโย จีวเร วุตฺตนเยเนว อสปฺปาโย. นิมิตฺตกมฺมาทิวเสน ลทฺโธ, ปน ยฺจสฺส เสวมานสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อยํ เอกนฺตอสปฺปาโยว. วิปรีโต สปฺปาโย. ตสฺส วเสเนตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ, กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ ปตฺตํ คณฺหนฺโต นตฺถิ, วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปตฺตคฺคหณํ นาม โหติ. ตตฺถ ปตฺโตปิ อเจตโน, หตฺถาปิ อเจตนา. ปตฺโต น ชานาติ ‘‘อหํ หตฺเถหิ คหิโต’’ติ. หตฺถาปิ น ชานนฺติ ‘‘ปตฺโต อมฺเหหิ คหิโต’’ติ. ธาตุโยว ธาตุสมูหํ คณฺหนฺติ, สณฺฑาเสน อคฺคิวณฺณปตฺตคฺคหเณ วิยาติ เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อปิจ ยถา ฉินฺนหตฺถปาเท วณมุเขหิ ปคฺฆริตปุพฺพโลหิตกิมิกุเล นีลมกฺขิกสมฺปริกิณฺเณ อนาถสาลาย อนาถมนุสฺเส ทิสฺวา ทยาลุกา ปุริสา เตสํ วณปฏฺฏโจฬกานิ เจว กปาลาทีหิ เภสชฺชานิ จ อุปนาเมนฺติ. ตตฺถ โจฬกานิปิ เกสฺจิ สณฺหานิ, เกสฺจิ ถูลานิ ปาปุณนฺติ, เภสชฺชกปาลานิปิ เกสฺจิ สุสณฺานานิ, เกสฺจิ ทุสฺสณฺานานิ ปาปุณนฺติ, น เต ตตฺถ สุมนา วา ทุมฺมนา วา โหนฺติ. วณปฏิจฺฉาทนมตฺเตเนว หิ โจฬเกน เภสชฺชปฏิคฺคหมตฺเตเนว จ กปาลเกน เตสํ อตฺโถ. เอวเมว โย ภิกฺขุ วณโจฬกํ วิย จีวรํ, เภสชฺชกปาลกํ วิย จ ปตฺตํ, กปาเล เภสชฺชมิว จ ปตฺเต ลทฺธภิกฺขํ สลฺลกฺเขติ. อยํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสมฺโมหสมฺปชฺเน อุตฺตมสมฺปชานการีติ เวทิตพฺโพ.

อสิตาทีสุ อสิเตติ ปิณฺฑปาตโภชเน. ปีเตติ ยาคุอาทิปาเน. ขายิเตติ ปิฏฺขชฺชกาทิขาทเน. สายิเตติ มธุผาณิตาทิสายเน. ตตฺถ ‘‘เนว ทวายา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต อฏฺวิโธปิ อตฺโถ อตฺโถ นาม, ตสฺส วเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

ลูขปณีตติตฺตมธุราทีสุ ปน เยน โภชเนน ยสฺส อผาสุ โหติ, ตํ ตสฺส อสปฺปายํ. ยํ ปน นิมิตฺตกมฺมาทิวเสน ปฏิลทฺธํ, ยฺจสฺส ภุฺชโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, ตํ เอกนฺตอสปฺปายเมว. วิปรีตํ สปฺปายํ. ตสฺส วเสเนตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ, กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ ภุฺชโก นตฺถิ, วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปตฺตปฏิคฺคหณํ นาม โหติ, จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว หตฺถสฺส ปตฺเต โอตารณํ นาม โหติ, จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว อาโลปกรณํ อาโลปุทฺธรณํ มุขวิวรณฺจ โหติ. น โกจิ กุฺจิกาย น ยนฺตเกน หนุกฏฺีนิ วิวรติ, จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว อาโลปสฺส มุเข ปนํ อุปริทนฺตานํ มุสลกิจฺจสาธนํ เหฏฺาทนฺตานํ อุทุกฺขลกิจฺจสาธนํ ชิวฺหาย หตฺถกิจฺจสาธนฺจ โหติ. อิติ นํ ตตฺถ อคฺคชิวฺหาย ตนุกเขโฬ, มูลชิวฺหาย พหลเขโฬ มกฺเขติ. ตํ เหฏฺาทนฺตอุทุกฺขเล ชิวฺหาหตฺถปริวตฺติตํ เขฬอุทกเตมิตํ อุปริทนฺตมุสลสฺจุณฺณิตํ โกจิ กฏจฺฉุนา วา ทพฺพิยา วา อนฺโต ปเวเสนฺโต นาม นตฺถิ, วาโยธาตุยาว ปวิสติ. ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ โกจิ ปลาลสนฺถรํ กตฺวา ธาเรนฺโต นาม นตฺถิ, วาโยธาตุวเสเนว ติฏฺติ. ิตํ ิตํ โกจิ อุทฺธนํ กตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา ปจนฺโต นาม นตฺถิ, เตโชธาตุยาว ปจฺจติ. ปกฺกํ ปกฺกํ โกจิ ทณฺฑเกน วา ยฏฺิยา วา พหิ นีหรโก นาม นตฺถิ, วาโยธาตุเยว นีหรติ. อิติ วาโยธาตุ อติหรติ จ วีติหรติ จ ธาเรติ จ ปริวตฺเตติ จ สฺจุณฺเณติ จ วิโสเสติ จ นีหรติ จ; ปถวีธาตุ ธาเรติ จ ปริวตฺเตติ จ สฺจุณฺเณติ จ วิโสเสติ จ; อาโปธาตุ สิเนเหติ จ อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลติ; เตโชธาตุ อนฺโตปวิฏฺํ ปริปาเจติ; อากาสธาตุ อฺชโส โหติ; วิฺาณธาตุ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคมนฺวาย อาภุชตีติ เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อปิจ คมนโต, ปริเยสนโต, ปริโภคโต, อาสยโต, นิธานโต, อปริปกฺกโต, ปริปกฺกโต, ผลโต, นิสฺสนฺทโต, สมฺมกฺขนโตติ เอวํ ทสวิธํ ปฏิกูลภาวํ ปจฺจเวกฺขณโตเปตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๔ อาทโย) อาหารปฏิกูลสฺานิทฺเทสโต คเหตพฺพา.

อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมติ อุจฺจารสฺส จ ปสฺสาวสฺส จ กรเณ. ตตฺถ ปตฺตกาเล อุจฺจารปสฺสาวํ อกโรนฺตสฺส สกลสรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ, อกฺขีนิ ภมนฺติ, จิตฺตํ น เอกคฺคํ โหติ, อฺเ จ โรคา อุปฺปชฺชนฺติ. กโรนฺตสฺส ปน สพฺพํ ตํ น โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตสฺส วเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. อฏฺาเน อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺตสฺส ปน อาปตฺติ โหติ, อยโส วฑฺฒติ, ชีวิตนฺตราโยปิ โหติ. ปติรูเป าเน กโรนฺตสฺส สพฺพํ ตํ น โหตีติ อิทเมตฺถ สปฺปายํ. ตสฺส วเสน สปฺปายสมฺปชฺํ, กมฺมฏฺานาวิชหนวเสน จ โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ อุจฺจารปสฺสาวกมฺมํ กโรนฺโต นตฺถิ, จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปน อุจฺจารปสฺสาวกมฺมํ โหติ. ยถา ปน ปกฺเก คณฺเฑ คณฺฑเภเทน ปุพฺพโลหิตํ อกามตาย นิกฺขมติ, ยถา จ อติภริตา อุทกภาชนา อุทกํ อกามตาย นิกฺขมติ, เอวํ ปกฺกาสยมุตฺตวตฺถีสุ สนฺนิจิตา อุจฺจารปสฺสาวา วายุเวคสมุปฺปีฬิตา อกามตายปิ นิกฺขมนฺติ. โส ปนายํ เอวํ นิกฺขมนฺโต อุจฺจารปสฺสาโว เนว ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตโน โหติ น ปรสฺส, เกวลํ สรีรนิสฺสนฺโทว โหติ. ยถา กึ? ยถา อุทกตุมฺพโต ปุราณอุทกํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส เนว ตํ อตฺตโน โหติ น ปเรสํ, เกวลํ ปฏิชคฺคนมตฺตเมว โหติ. เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

คตาทีสุ คเตติ คมเน. ิเตติ าเน. นิสินฺเนติ นิสชฺชาย. สุตฺเตติ สยเน. ชาคริเต ติ ชาครเณ. ภาสิเตติ กถเน. ตุณฺหีภาเวติ อกถเน. เอตฺถ จ โย จิรํ คนฺตฺวา วา จงฺกมิตฺวา วา อปรภาเค ิโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘‘จงฺกมนกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ, อยํ คเต สมฺปชานการี นาม.

โย สชฺฌายํ วา กโรนฺโต ปฺหํ วา วิสฺสชฺเชนฺโต กมฺมฏฺานํ วา มนสิกโรนฺโต จิรํ ตฺวา อปรภาเค นิสินฺโน อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘‘ิตกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ, อยํ ิเต สมฺปชานการี นาม.

โย สชฺฌายาทิกรณวเสเนว จิรํ นิสีทิตฺวา อปรภาเค นิปนฺโน อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘นิสินฺนกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ, อยํ นิสินฺเน สมฺปชานการี นาม.

โย ปน นิปนฺนโกว สชฺฌายํ กโรนฺโต กมฺมฏฺานํ วา มนสิกโรนฺโต นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา อปรภาเค อุฏฺาย อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘สยนกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ, อยํ สุตฺเต จ ชาคริเต จ สมฺปชานการี นาม. กิริยมยจิตฺตานฺหิ อปฺปวตฺตํ สุตฺตํ นาม, ปวตฺตํ ชาคริตํ นามาติ.

โย ปน ภาสมาโน – ‘‘อยํ สทฺโท นาม โอฏฺเ จ ปฏิจฺจ ทนฺเต จ ชิวฺหฺจ ตาลุฺจ ปฏิจฺจ จิตฺตสฺส จ ตทนุรูปํ ปโยคํ ปฏิจฺจ ชายตี’’ติ สโต สมฺปชาโน ภาสติ, จิรํ วา ปน กาลํ สชฺฌายํ กตฺวา ธมฺมํ วา กเถตฺวา กมฺมฏฺานํ วา ปริวตฺเตตฺวา ปฺหํ วา วิสฺสชฺเชตฺวา อปรภาเค ตุณฺหีภูโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘‘ภาสิตกาเล อุปฺปนฺนา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ อยํ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม.

โย ตุณฺหีภูโต จิรํ ธมฺมํ วา กมฺมฏฺานํ วา มนสิกตฺวา อปรภาเค อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ตุณฺหีภูตกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ. อุปาทารูปปวตฺติยา สติ ภาสติ นาม, อสติ ตุณฺหี ภวติ นามาติ, อยํ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นามาติ. เอวเมตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ ตสฺส วเสน สมฺปชานการิตา เวทิตพฺพา. อิมสฺมึ สุตฺเต สติปฏฺานมิสฺสกสมฺปชฺํ ปุพฺพภาคํ กถิตํ.

๓. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

๓๖๙. ตติเย เอวเมว ปนิเธกจฺเจติ โส กิร ภิกฺขุ กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหิณฺฑติ, กายวิเวกํ นานุยุฺชติ. เตน นํ ภควา นิคฺคณฺหนฺโต เอวมาห. ตสฺมาติ ยสฺมา สํขิตฺเตน เทสนํ ยาจสิ, ตสฺมา. ทิฏฺีติ กมฺมสฺสกตาทิฏฺิ.

๔. สาลสุตฺตวณฺณนา

๓๗๐. จตุตฺเถ ธมฺมวินโยติ ธมฺโมติ วา วินโยติ วา อุภยเมตํ สตฺถุสาสนสฺเสว นามํ. สมาทเปตพฺพาติ คณฺหาเปตพฺพา. เอโกทิภูตาติ ขณิกสมาธินา เอกคฺคภูตา. สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตาติ อุปจารปฺปนาวเสน สมฺมา ปิตจิตฺตา จ เอกคฺคจิตฺตา จ. อิมสฺมึ สุตฺเต นวกภิกฺขูหิ เจว ขีณาสเวหิ จ ภาวิตสติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, สตฺตหิ เสเขหิ ภาวิตา มิสฺสกา.

๖. สกุณคฺฆิสุตฺตวณฺณนา

๓๗๒. ฉฏฺเ สกุณคฺฆีติ สกุณํ หนตีติ สกุณคฺฆิ, เสนสฺเสตํ อธิวจนํ. สหสา อชฺฌปตฺตาติ โลภสาหเสน ปตฺตา. อลกฺขิกาติ นิสฺสิริกา. อปฺปปุฺาติ ปริตฺตปุฺา. สเจชฺช มยนฺติ สเจ อชฺช มยํ. นงฺคลกฏฺกรณนฺติ นงฺคเลน กสิกรณํ, อธุนา กฏฺํ เขตฺตฏฺานนฺติ อตฺโถ. เลฑฺฑุฏฺานนฺติ เลฑฺฑูนํ านํ. สํวทมานาติ สมฺมา วทมานา, อตฺตโน พลสฺส สุฏฺุ วณฺณํ วทมานาติ อตฺโถ. มหนฺตํ เลฑฺฑุํ อภิรุหิตฺวาติ อุทฺธนสณฺาเนน ิเตสุ ตีสุ เลฑฺฑูสุ ‘‘อิโต เสเน อาคจฺฉนฺเต อิโต นิกฺขมิสฺสามิ, อิโต อาคจฺฉนฺเต อิโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา เตสุ เอกํ เลฑฺฑุํ อภิรุหิตฺวา อฏฺาสิ อวทมาโน. สนฺนยฺหาติ ขุรปฺปํ สนฺนยฺหมาโน วิย สนฺนยฺหิตฺวา สุฏฺุ เปตฺวา. พหุอาคโต โข มฺยายนฺติ ‘‘มยฺหํ อตฺถาย อยํ พหุตํ านํ อาคโต, อปฺปํ อวสิฏฺํ, อิทานิ มํ คณฺหิสฺสตี’’ติ ตฺวา ทารุคุโฬ วิย วินิวตฺติตฺวา ตสฺเสว เลฑฺฑุสฺส อนฺตเร ปจฺจุปาทิ, ปฏิปนฺโน ปวิฏฺโติ อตฺโถ. อุรํ ปจฺจตาเฬสีติ ‘‘เอกปฺปหาเรเนว ลาปสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา คเหสฺสามี’’ติ ปกฺขนฺทตฺตา เวคํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺมึ เลฑฺฑุสฺมึ อุรํ ปตาเฬสิ. ตาวเทวสฺส หทยมํสํ ผาลิยิตฺถ. อถ ลาโป ‘‘ทิฏฺา วต สตฺตุโน ปิฏฺี’’ติ หฏฺตุฏฺโ ตสฺส หทเย อปราปรํ จงฺกมิ.

๗. มกฺกฏสุตฺตวณฺณนา

๓๗๓. สตฺตเม ทุคฺคาติ ทุคฺคมา. จารีติ สฺจาโร. เลปํ โอฑฺเฑนฺตีติ วฏรุกฺขขีราทีหิ โยเชตฺวา เลปํ กโรนฺติ, ตํ มกฺกฏานํ ธุวคมนฏฺานนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา รุกฺขสาขาทีสุ เปนฺติ. ปฺโจฑฺฑิโตติ ปฺจสุ าเนสุ กาชทณฺฑกํ ปเวเสตฺวา คเหตพฺพา กาชสิกฺกา วิย โอฑฺฑิโต. ถุนํ เสตีติ ถุนนฺโต สยติ.

๘. สูทสุตฺตวณฺณนา

๓๗๔. อฏฺเม สูโทติ ภตฺตการโก. นานจฺจเยหีติ นานาจเยหิ, นานาวิเธหีติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. อมฺพิลคฺเคหีติ อมฺพิลโกฏฺาเสหิ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. อภิหรตีติ คหณตฺถาย หตฺถํ ปสาเรติ. พหุํ คณฺหาตีติ เอกคฺคหเณน พหุํ คณฺหนฺโตปิ ปุนปฺปุนํ คณฺหนฺโตปิ พหุํ คณฺหเตว. อภิหารานนฺติ สตํ วา สหสฺสํ วา อุกฺขิปิตฺวา อภิหฏานํ ทายานํ. อุปกฺกิเลสาติ ปฺจ นีวรณา. นิมิตฺตํ น อุคฺคณฺหาตีติ ‘‘อิมํ เม กมฺมฏฺานํ อนุโลมํ วา โคตฺรภุํ วา อาหจฺจ ิต’’นฺติ น ชานาติ, อตฺตโน จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ คณฺหิตุํ น สกฺโกติ. อิมสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพภาควิปสฺสนา สติปฏฺานาว กถิตา.

๙. คิลานสุตฺตวณฺณนา

๓๗๕. นวเม เพฬุวคามเกติ เวสาลิยา สมีเป เอวํนามโก ปาทคาโม อตฺถิ, ตสฺมึ. ยถามิตฺตนฺติอาทีสุ มิตฺตาติ มิตฺตาว. สนฺทิฏฺาติ ตตฺถ ตตฺถ สงฺคมฺม ทิฏฺมตฺตา นาติทฬฺหมิตฺตา. สมฺภตฺตาติ สุฏฺุ ภตฺตา สิเนหวนฺโต ทฬฺหมิตฺตา. เยสํ ยตฺถ ยตฺถ เอวรูปา ภิกฺขู อตฺถิ, เต ตตฺถ ตตฺถ วสฺสํ อุเปถาติ อตฺโถ. กสฺมา เอวมาห? เตสํ ผาสุวิหารตฺถาย. เตสํ กิร เพฬุวคามเก เสนาสนํ นปฺปโหติ, ภิกฺขาปิ มนฺทา. สมนฺตา เวสาลิยา ปน พหูนิ เสนาสนานิ, ภิกฺขาปิ สุลภา. ตสฺมา เอวมาห.

อถ กสฺมา ‘‘ยถาสุขํ คจฺฉถา’’ติ น วิสฺสชฺเชสิ? เตสํ อนุกมฺปาย. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ ทสมาสมตฺตํ ตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามิ. สเจ อิเม ทูรํ คจฺฉิสฺสนฺติ, มํ ปรินิพฺพานกาเล ทฏฺุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. อถ เนสํ ‘สตฺถา ปรินิพฺพายนฺโต อมฺหากํ สติมตฺตมฺปิ น อทาสิ. สเจ ชาเนยฺยาม, น เอวํ ทูเร วเสยฺยามา’ติ วิปฺปฏิสาโร ภเวยฺย. เวสาลิยา สมนฺตา ปน วสฺสํ วสนฺตา มาสสฺส อฏฺ วาเร อาคนฺตฺวา ธมฺมํ สุณิสฺสนฺติ, สุคโตวาทํ ลภิสฺสนฺตี’’ติ น วิสฺสชฺเชสิ.

ขโรติ ผรุโส. อาพาโธติ วิสภาคโรโค. พาฬฺหาติ พลวติโย. มารณนฺติกาติ มรณนฺตํ มรณสนฺติกํ ปาปนสมตฺถา. สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสีติ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อธิวาเสสิ. อวิหฺมาโนติ เวทนานุวตฺตนวเสน อปราปรํ ปริวตฺตนํ อกโรนฺโต อปีฬิยมาโน อทุกฺขิยมาโน จ อธิวาเสสิ. อนามนฺเตตฺวาติ อชานาเปตฺวา. อนปโลเกตฺวาติ อชานาเปตฺวาว โอวาทานุสาสนึ อทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วีริเยนาติ ปุพฺพภาควีริเยน เจว ผลสมาปตฺติวีริเยน จ. ปฏิปณาเมตฺวาติ วิกฺขมฺเภตฺวา. ชีวิตสงฺขารนฺติ เอตฺถ ชีวิตมฺปิ ชีวิตสงฺขาโร. เยน ชีวิตํ สงฺขรียติ ฉิชฺชมานํ ฆเฏตฺวา ปียติ, โส ผลสมาปตฺติธมฺโมปิ ชีวิตสงฺขาโร. โส อิธ อธิปฺเปโต. อธิฏฺายาติ อธิฏฺหิตฺวา ปวตฺเตตฺวา ชีวิตปนสมตฺถํ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺเชยฺยนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ.

กึ ปน ภควา อิโต ปุพฺเพ ผลสมาปตฺตึ น สมาปชฺชตีติ? สมาปชฺชติ. สา ปน ขณิกสมาปตฺติ. ขณิกสมาปตฺติ จ อนฺโตสมาปตฺติยํเยว เวทนํ วิกฺขมฺเภติ, สมาปตฺติโต วุฏฺิตมตฺตสฺส กฏฺปาเตน วา กลปาเตน วา ฉินฺนเสวาโล วิย อุทกํ, ปุน สรีรํ เวทนา อชฺโฌตฺถรติ. ยา ปน รูปสตฺตกํ อรูปสตฺตกฺจ นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ กตฺวา มหาวิปสฺสนาวเสน สมาปนฺนา สมาปตฺติ, สา สุฏฺุ วิกฺขมฺเภติ. ยถา นาม ปุริเสน โปกฺขรณึ โอคาเหตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ สุฏฺุ อปพฺยุฬฺหเสวาโล จิเรน อุทกํ โอตฺถรติ, เอวเมว ตโต วุฏฺิตสฺส จิเรน เวทนา อุปฺปชฺชติ. อิติ ภควา ตํทิวสํ มหาโพธิปลฺลงฺเก อภินวํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺโต วิย รูปสตฺตกํ อรูปสตฺตกฺจ นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ กตฺวา จุทฺทสหากาเรหิ สนฺเนตฺวา มหาวิปสฺสนาย เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา ‘‘ทสมาเส มา อุปฺปชฺชิตฺถา’’ติ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิ, สมาปตฺติวิกฺขมฺภิตา เวทนา ทส มาเส น อุปฺปชฺชิเยว.

คิลานา วุฏฺิโตติ คิลาโน หุตฺวา ปุน วุฏฺิโต. มธุรกชาโต วิยาติ สฺชาตครุภาโว สฺชาตถทฺธภาโว สูเล อุตฺตาสิตปุริโส วิย. น ปกฺขายนฺตีติ น ปกาสนฺติ, นานาการโต น อุปฏฺหนฺติ. ธมฺมาปิ มํ นปฺปฏิภนฺตีติ สติปฏฺานธมฺมา มยฺหํ ปากฏา น โหนฺตีติ ทีเปติ. ตนฺติธมฺมา ปน เถรสฺส สุปฺปคุณา. น อุทาหรตีติ ปจฺฉิมโอวาทํ น เทติ, ตํ สนฺธาย วทติ.

อนนฺตรํ อพาหิรนฺติ ธมฺมวเสน วา ปุคฺคลวเสน วา อุภยํ อกตฺวา. ‘‘เอตฺตกํ ธมฺมํ ปรสฺส น เทเสสฺสามี’’ติ หิ จินฺเตนฺโต ธมฺมํ อพฺภนฺตรํ กโรติ นาม, ‘‘เอตฺตกํ ปรสฺส เทเสสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต พาหิรํ กโรติ นาม. ‘‘อิมสฺส ปุคฺคลสฺส เทเสสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต ปน ปุคฺคลํ อพฺภนฺตรํ กโรติ นาม, ‘‘อิมสฺส น เทเสสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต ปุคฺคลํ พาหิรํ กโรติ นาม. เอวํ อกตฺวา เทสิโตติ อตฺโถ. อาจริยมุฏฺีติ ยถา พาหิรกานํ อาจริยมุฏฺิ นาม โหติ, ทหรกาเล กสฺสจิ อกเถตฺวา ปจฺฉิมกาเล มรณมฺเจ นิปนฺนา ปิยมนาปสฺส อนฺเตวาสิกสฺส กเถนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส ‘‘อิทํ มหลฺลกกาเล ปจฺฉิมาเน กเถสฺสามี’’ติ มุฏฺึ กตฺวา ปริหริตฺวา ปิตํ กิฺจิ นตฺถีติ ทสฺเสติ.

อหํ ภิกฺขุสงฺฆนฺติ อหเมว ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามีติ วา, มมุทฺเทสิโกติ อหํ อุทฺทิสิตพฺพฏฺเน อุทฺเทโส อสฺสาติ มมุทฺเทสิโก, มเมว อุทฺทิสฺสิตฺวา มํ ปจฺจาสีสมาโน ภิกฺขุสงฺโฆ โหตุ มม อจฺจเยน มา วา อโหสิ, ยํ วา ตํ วา โหตูติ อิติ วา ปน ยสฺส อสฺสาติ อตฺโถ. น เอวํ โหตีติ โพธิปลฺลงฺเกเยว อิสฺสามจฺเฉรานํ วิคตตฺตา เอวํ น โหติ. ส กินฺติ โส กึ. อาสีติโกติ อสีติสํวจฺฉริโก, อิทํ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺตภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ. เวมิสฺสเกนาติ พาหพนฺธจกฺกพนฺธาทินา ปฏิสงฺขรเณน เวมิสฺสเกน. มฺเติ ชรสกฏํ วิย เวมิสฺสเกน มฺเ ยาเปติ, อรหตฺตผลเวเนน จตุอิริยาปถกปฺปนํ ตถาคตสฺส โหตีติ ทสฺเสติ.

อิทานิ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต ยสฺมึ อานนฺท สมเยติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปนิมิตฺตาทีนํ. เอกจฺจานํ เวทนานนฺติ โลกิยานํ เวทนานํ. ตสฺมาติหานนฺทาติ ยสฺมา อิมินา ผลสมาปตฺติวิหาเรน ผาสุ โหติ, ตสฺมา ตุมฺเหปิ ตทตฺถาย เอวํ วิหรถาติ ทสฺเสติ. อตฺตทีปาติ มหาสมุทฺทคตา ทีปํ วิย อตฺตานํ ทีปํ ปติฏฺํ กตฺวา วิหรถ. อตฺตสรณาติ อตฺตคติกาว โหถ, มา อฺคติกา. ธมฺมทีปธมฺมสรณปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ธมฺโมติ นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม เวทิตพฺโพ. ตมตคฺเคติ ตมอคฺเค, มชฺเฌ ต-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม อคฺคตมาติ ตมตคฺคาติ. เอวํ สพฺพํ ตมโสตํ ฉินฺทิตฺวา อติวิย อคฺเค อุตฺตมภาเว เอเต, อานนฺท, มม ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ, เตสํ อคฺเค ภวิสฺสนฺติ. เย เกจิ สิกฺขากามา, สพฺเพสํ เตสํ จตุสติปฏฺานโคจราว ภิกฺขู อคฺเค ภวิสฺสนฺตีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ คณฺหีติ.

๑๐. ภิกฺขุนุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา

๓๗๖. ทสเม เตนุปสงฺกมีติ ตสฺมึ อุปสฺสเย กมฺมฏฺานกมฺมิกา ภิกฺขุนิโย อตฺถิ, ตาสํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา กมฺมฏฺานํ กเถสฺสามีติ อุปสงฺกมิ. อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสนฺติ ปุพฺพวิเสสโต อปรํ อุฬารวิเสสํ. ตตฺถ มหาภูตปริคฺคโห ปุพฺพวิเสโส, อุปาทารูปปริคฺคโห อปรวิเสโส นาม. ตถา สกลรูปปริคฺคโห ปุพฺพวิเสโส, อรูปปริคฺคโห อปรวิเสโส นาม. รูปารูปปริคฺคโห ปุพฺพวิเสโส, ปจฺจยปริคฺคโห อปรวิเสโส นาม สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ ปุพฺพวิเสโส, ติลกฺขณาโรปนํ อปรวิเสโส นาม. เอวํ ปุพฺเพนาปรํ อุฬารวิเสสํ ชานาตีติ อตฺโถ.

กายารมฺมโณติ ยํ กายํ อนุปสฺสติ, ตเมว อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ กิเลสปริฬาโห. พหิทฺธา วา จิตฺตํ วิกฺขิปตีติ พหิทฺธา วา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตุปฺปาโท วิกฺขิปติ. กิสฺมิฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิตฺเต จิตฺตํ ปณิทหิตพฺพนฺติ เอวํ กิเลสปริฬาเห จ ลีนตฺเต จ พหิทฺธาวิกฺเขเป จ อุปฺปนฺเน กิเลสานุรฺชิเตน น วตฺติตพฺพํ, กิสฺมิฺจิเทว ปสาทนีเย ปสาทาวเห พุทฺธาทีสุ อฺตรสฺมึ าเน กมฺมฏฺานจิตฺตํ เปตพฺพํ. จิตฺตํ สมาธิยตีติ อารมฺมเณ สมฺมา อาธิยติ สุฏฺุ ปิตํ ปิยติ. ปฏิสํหรามีติ ปสาทนียฏฺานโต ปฏิสํหรามิ, มูลกมฺมฏฺานาภิมุขํเยว นํ กโรมีติ อตฺโถ. โส ปฏิสํหรติ เจวาติ มูลกมฺมฏฺานาภิมุขฺจ เปเสติ. น จ วิตกฺเกติ น จ วิจาเรตีติ กิเลสวิตกฺกํ น วิตกฺเกติ, กิเลสวิจารํ น วิจาเรติ. อวิตกฺโกมฺหิ อวิจาโรติ กิเลสวิตกฺกวิจาเรหิ อวิตกฺกาวิจาโร. อชฺฌตฺตํ สติมา สุขมสฺมีติ โคจรชฺฌตฺเต ปวตฺตาย สติยา ‘‘สติมาหมสฺมิ สุขิโต จา’’ติ ปชานาติ.

เอวํ โข, อานนฺท, ปณิธาย ภาวนา โหตีติ เอวํ, อานนฺท, เปตฺวา ภาวนา โหติ. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ยถา นาม ปุริสสฺส มหนฺตํ อุจฺฉุภารํ อุกฺขิปิตฺวา ยนฺตสาลํ เนนฺตสฺส กิลนฺตกิลนฺตกาเล ภูมิยํ เปตฺวา อุจฺฉุขณฺฑํ ขาทิตฺวา ปุน อุกฺขิปิตฺวา คมนํ โหติ; เอวเมว อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ อุคฺคหิตกมฺมฏฺานสฺส กายปริฬาหาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตํ กมฺมฏฺานํ เปตฺวา พุทฺธคุณาทิอนุสฺสรเณน จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กมฺมนิยํ กตฺวา ภาวนา ปวตฺตา, ตสฺมา ‘‘ปณิธาย ภาวนา โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ปน ปุริสสฺส อุจฺฉุภารํ ยนฺตสาลํ เนตฺวา ปีเฬตฺวา รสปานํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ผลสมาปตฺติสุขานุภวนํ เวทิตพฺพํ.

พหิทฺธาติ มูลกมฺมฏฺานํ ปหาย พหิ อฺสฺมึ อารมฺมเณ. อปฺปณิธายาติ อฏฺเปตฺวา. อถ ปจฺฉา ปุเร อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺติ ปชานาตีติ เอตฺถ กมฺมฏฺานวเสน วา สรีรวเสน วา เทสนาวเสน วา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ กมฺมฏฺาเน ตาว กมฺมฏฺานสฺส อภินิเวโส ปุเร นาม, อรหตฺตํ ปจฺฉา นาม. ตตฺถ โย ภิกฺขุ มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา กิเลสปริฬาหสฺส วา ลีนตฺตสฺส วา พหิทฺธาวิกฺเขปสฺส วา อุปฺปชฺชิตุํ โอกาสํ อเทนฺโต สุทนฺตโคเณ โยเชตฺวา สาเรนฺโต วิย จตุรสฺสจฺฉิทฺเท สุตจฺฉิตํ จตุรสฺสฆฏิกํ ปกฺขิปนฺโต วิย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อติฏฺนฺโต อลคฺคนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โส ปุเรสงฺขาตสฺส กมฺมฏฺานาภินิเวสสฺส ปจฺฉาสงฺขาตสฺส อรหตฺตสฺส จ วเสน ปจฺฉา ปุเร อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺติ ปชานาติ นาม.

สรีเร ปน ปาทงฺคุลีนํ อคฺคปพฺพานิ ปุเร นาม, สีสกฏาหํ ปจฺฉา นาม. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ปาทงฺคุลีนํ อคฺคปพฺพอฏฺิเกสุ อภินิวิสิตฺวา พฺยาภงฺคิยา ยวกลาปํ โมเจนฺโต วิย วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน อฏฺีนิ ปริคฺคณฺหนฺโต อนฺตรา กิเลสปริฬาหาทีนํ อุปฺปตฺตึ วาเรตฺวา ยาว สีสกฏาหา ภาวนํ ปาเปติ, โส ปุเรสงฺขาตานํ อคฺคปาทงฺคุลิปพฺพานํ ปจฺฉาสงฺขาตสฺส สีสกฏาหสฺส จ วเสน ปจฺฉา ปุเร อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺติ ปชานาติ นาม.

เทสนายปิ ทฺวตฺตึสาการเทสนาย เกสา ปุเร นาม, มตฺถลุงฺคํ ปจฺฉา นาม. ตตฺถ โย ภิกฺขุ เกเสสุ อภินิวิสิตฺวา วณฺณสณฺานทิโสกาสวเสน เกสาทโย ปริคฺคณฺหนฺโต อนฺตรา กิเลสปริฬาหาทีนํ อุปฺปตฺตึ วาเรตฺวา ยาว มตฺถลุงฺคา ภาวนํ ปาเปติ. โส ปุเรสงฺขาตานํ เกสานํ ปจฺฉาสงฺขาตสฺส มตฺถลุงฺคสฺส จ วเสน ปจฺฉา ปุเร อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺติ ปชานาติ นาม.

เอวํ โข, อานนฺท, อปฺปณิธาย ภาวนา โหตีติ เอวํ, อานนฺท, อฏฺเปตฺวา ภาวนา โหติ. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ยถา นาม ปุริสสฺส คุฬภารํ ลภิตฺวา อตฺตโน คามํ อติหรนฺตสฺส อนฺตรา อฏฺเปตฺวาว อุจฺจงฺเค ปกฺขิตฺตานิ คุฬขณฺฑาทีนิ ขาทนียานิ ขาทนฺตสฺส อตฺตโน คาเมเยว โอตรณํ โหติ, เอวเมว อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ อารทฺธภาวนสฺส กายปริฬาหาทีนํ อุปฺปตฺตึ วาเรตฺวา กมฺมฏฺานภาวนา ปวตฺตา, ตสฺมา ‘‘อปฺปณิธาย ภาวนา’’ติ วุตฺตา. ตสฺส ปน ปุริสสฺส ตํ คุฬภารํ อตฺตโน คามํ เนตฺวา าตีหิ สทฺธึ ปริโภโค วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ผลสมาปตฺติสุขานุภวนํ เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพภาควิปสฺสนา กถิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อมฺพปาลิวคฺโค ปโม.

๒. นาลนฺทวคฺโค

๒. นาลนฺทสุตฺตวณฺณนา

๓๗๘. ทุติยวคฺคสฺส ทุติเย นาลนฺทายนฺติ นาลนฺทาติ เอวํนามเก นคเร, ตํ นครํ โคจรคามํ กตฺวา. ปาวาริกมฺพวเนติ ทุสฺสปาวาริกเสฏฺิโน อมฺพวเน. ตํ กิร ตสฺส อุยฺยานํ อโหสิ. โส ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ภควติ ปสนฺโน ตสฺมึ อุยฺยาเน กุฏิเลณมณฺฑปาทิปฏิมณฺฑิตํ ภควโต วิหารํ กตฺวา นิยฺยาเตสิ. โส วิหาโร ชีวกมฺพวนํ วิย ปาวาริกมฺพวนนฺตฺเวว สงฺขํ คโต. ตสฺมึ ปาวาริกมฺพวเน วิหรตีติ อตฺโถ.

เอวํปสนฺโนติ เอวํ อุปฺปนฺนสทฺโธ, เอวํ สทฺทหามีติ อตฺโถ. ภิยฺโยภิฺตโรติ ภิยฺยตโร อภิฺาโต ภิยฺยตราภิยฺโย วา, อุตฺตริตราโณติ อตฺโถ. สมฺโพธิยนฺติ สพฺพฺุตฺาเณ อรหตฺตมคฺคาเณ วา อรหตฺตมคฺเคเนว หิ พุทฺธคุณา นิปฺปเทสา คหิตา โหนฺติ, ทฺเวปิ อคฺคสาวกา อรหตฺตมคฺเคเนว สาวกปารมีาณํ ปฏิลภนฺติ, ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกโพธิาณํ, พุทฺธา สพฺพฺุตฺาณฺเจว สกเล จ พุทฺธคุเณ. สพฺพมฺปิ เนสํ อรหตฺตมคฺเคเนว อิชฺฌติ. ตสฺมา อรหตฺตมคฺคาณํ สมฺโพธิ นาม โหติ. เตน อุตฺตริตโร จ ภควตา นตฺถิ. เตนาห ‘‘ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร, ยทิทํ สมฺโพธิย’’นฺติ.

อุฬาราติ เสฏฺา. อยฺหิ อุฬารสทฺโท ‘‘อุฬารานิ ขาทนียานิ ขาทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๖๖) มธุเร อาคจฺฉติ. ‘‘อุฬาราย ขลุ ภวํ วจฺฉายโน สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘๘) เสฏฺเ. ‘‘อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๒; ม. นิ. ๓.๒๐๑) วิปุเล. สฺวายมิธ เสฏฺเ อาคโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อุฬาราติ เสฏฺา’’ติ. อาสภีติ อุสภสฺส วาจาสทิสี อจลา อสมฺปเวธี. เอกํโส คหิโตติ อนุสฺสเวน วา อาจริยปรมฺปราย วา อิติกิราย วา ปิฏกสมฺปทาเนน วา อาการปริวิตกฺเกน วา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา วา ตกฺกเหตุ วา นยเหตุ วา อกเถตฺวา ปจฺจกฺขโต าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิย เอกํโส คหิโต, สนฺนิฏฺานกถาว กถิตาติ อตฺโถ. สีหนาโทติ เสฏฺนาโท, วเน อุนฺนาทยนฺเตน สีเหน วิย อุตฺตมนาโท นทิโตติ อตฺโถ.

กึ นุ เต สาริปุตฺตาติ อิมํ เทสนํ กสฺมา อารภิ? อนุโยคทาปนตฺถํ. เอกจฺโจ หิ สีหนาทํ นทิตฺวา อตฺตโน สีหนาเท อนุโยคํ ทาตุํ น สกฺโกติ, นิฆํสนํ น ขมติ, สิเลเส ปติตมกฺกโฏ วิย โหติ. ยถา ธมมานํ อปริสุทฺธํ โลหํ ฌายิตฺวา องฺคาโร โหติ, เอวํ ฌามงฺคาโร วิย โหติ. เอโก สีหนาเท อนุโยคํ ทาปิยมาโน ทาตุํ สกฺโกติ, นิฆํสนํ ขมติ, ธมมานํ นิทฺโทสชาตรูปํ วิย อธิกตรํ โสภติ, ตาทิโส เถโร. เตน นํ ภควา ‘‘อนุโยคกฺขโม อย’’นฺติ ตฺวา สีหนาเท อนุโยคทาปนตฺถํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ สพฺเพ เตติ สพฺเพ เต ตยา. เอวํสีลาติ มคฺคสีเลน ผลสีเลน โลกิยโลกุตฺตรสีเลน เอวํสีลา. เอวํธมฺมาติ เอตฺถ สมาธิปกฺขา ธมฺมา อธิปฺเปตา, มคฺคสมาธินา ผลสมาธินา โลกิยโลกุตฺตเรน สมาธินา เอวํสมาธีติ อตฺโถ. เอวํปฺาติ มคฺคปฺาทิวเสเนว เอวํปฺา. เอวํวิหาริโนติ เอตฺถ ปน เหฏฺา สมาธิปกฺขานํ ธมฺมานํ คหิตตฺตา วิหาโร คหิโตปิ ปุน กสฺมา คหิตเมว คณฺหตีติ เจ. เถเรน อิทํ คหิตเมว. อิทฺหิ นิโรธสมาปตฺติทีปนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺมา เอวํ นิโรธสมาปตฺติวิหาริโน เต ภควนฺโต อเหสุนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

เอวํวิมุตฺตาติ เอตฺถ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติ, ตทงฺควิมุตฺติ, สมุจฺเฉทวิมุตฺติ, ปฏิปสฺสทฺธิวิมุตฺติ, นิสฺสรณวิมุตฺตีติ ปฺจวิธา วิมุตฺติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย สยํ วิกฺขมฺภิเตหิ นีวรณาทีหิ วิมุตฺตตฺตา วิกฺขมฺภนวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. อนิจฺจานุปสฺสนาทิกา สตฺต อนุปสฺสนา สยํ ตสฺส ตสฺส ปจฺจนีกวเสน ปริจฺจตฺตาหิ นิจฺจสฺาทีหิ วิมุตฺตตฺตา ตทงฺควิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาโร อริยมคฺคา สยํ สมุจฺฉินฺเนหิ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา สมุจฺเฉทวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาริ สามฺผลานิ มคฺคานุภาเวน กิเลสานํ ปฏิปสฺสทฺธนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิปสฺสทฺธิวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. นิพฺพานํ สพฺพกิเลเสหิ นิสฺสฏตฺตา อปคตตฺตา ทูเร ิตตฺตา นิสฺสรณวิมุตฺตีติ สงฺขํ คตํ. อิติ อิมาสํ ปฺจนฺนํ วิมุตฺตีนํ วเสน เอวํ วิมุตฺตาติ เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กึ ปน เต สาริปุตฺต เย เต ภวิสฺสนฺตีติ อตีตา ตาว นิรุทฺธา อปณฺณตฺติกภาวํ คตา ทีปสิขา วิย นิพฺพุตา, เอวํ นิรุทฺเธ อปณฺณตฺติกภาวํ คเต ตฺวํ กถํ ชานิสฺสสิ, อนาคตพุทฺธานํ ปน คุณา กึ ตยา อตฺตโน จิตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตาติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห.

กึ ปน ตฺยาหํ สาริปุตฺต เอตรหีติ อนาคตาปิ พุทฺธา อชาตา อนิพฺพตฺตา อนุปฺปนฺนา, เต กถํ ชานิสฺสสิ. เตสฺหิ ชานนํ อปเท อากาเส ปททสฺสนํ วิย โหติ. อิทานิ มยา สทฺธึ เอกวิหาเร วสสิ, เอกโต ภิกฺขาย จรสิ, ธมฺมเทสนากาเล ทกฺขิณปสฺเส นิสีทสิ, กึ ปน มยฺหํ คุณา อตฺตโน เจตสา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตา ตยาติ อนุยุฺชนฺโต เอวมาห. เถโร ปน ปุจฺฉิตปุจฺฉิเต ‘‘โน เหตํ ภนฺเต’’ติ ปฏิกฺขิปติ.

เถรสฺส จ วิทิตมฺปิ อตฺถิ, อวิทิตมฺปิ. กึ โส อตฺตโน วิทิตฏฺาเน ปฏิกฺเขปํ กโรติ, อวิทิตฏฺาเนติ? วิทิตฏฺาเน น กโรติ, อวิทิตฏฺาเนเยว กโรติ. เถโร กิร อนุโยเค อารทฺเธ เอวํ อฺาสิ ‘‘นายํ อนุโยโค สาวกปารมีาเณ, สพฺพฺุตฺาเณ ปน อยํ อนุโยโค’’ติ อตฺตโน สาวกปารมีาเณ ปฏิกฺเขปํ อกตฺวาว อวิทิตฏฺาเน สพฺพฺุตฺาเณ ปฏิกฺเขปํ กโรติ. เตน อิทมฺปิ ทีเปติ – ภควา มยฺหํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ พุทฺธานํ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติการณชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตฺาณํ นตฺถีติ.

เอตฺถาติ เอเตสุ อตีตาทิเภเทสุ พุทฺเธสุ. อถ กิฺจรหีติ อถ กสฺมา เอวํ าเณ อสติ ตยา เอวํ กถิตนฺติ วทติ. ธมฺมนฺวโยติ ธมฺมสฺส ปจฺจกฺขโต าณสฺส อนุโยคํ อนุคนฺตฺวา อุปฺปนฺนํ อนุมานาณํ นยคฺคาโห วิทิโต, สาวกปารมีาเณ ตฺวาว อิมินา อากาเรน ชานามิ ภควาติ วทติ. เถรสฺส หิ นยคฺคาโห อปฺปมาโณ อปริยนฺโต. ยถา จ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปมาณํ วา ปริยนฺโต วา นตฺถิ, เอวํ ธมฺมเสนาปติโน นยคฺคาหสฺส. เตน โส – ‘‘อิมินา เอวํวิโธ อิมินา เอวํวิโธ, อิมินา อนุตฺตโร อิมินา อนุตฺตโร สตฺถา’’ติ ชานาติ. เถรสฺส หิ นยคฺคาโห สพฺพฺุตฺาณคติโก เอว.

อิทานิ ตํ นยคฺคาหํ ปากฏํ กาตุํ อุปมํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา มชฺฌิมเทเส นครสฺส อุทฺธาปปาการาทีนิ ถิรานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพลานิ วา, สพฺพโส วา ปน มา โหนฺตุ, โจรานํ อาสงฺกา น โหติ. ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวา ปจฺจนฺติมํ นครนฺติ อาห. ทฬฺหุทฺธาปนฺติ ถิรมูลปาการํ. ทฬฺหปาการโตรณนฺติ ถิรปาการฺเจว ถิรปิฏฺสงฺฆาฏฺจ. เอกทฺวารนฺติ กสฺมา อาห? พหุทฺวาเร หิ นคเร พหูหิ ปณฺฑิตโทวาริเกหิ ภวิตพฺพํ, เอกทฺวาเรว เอโก วฏฺฏติ. เถรสฺส จ ปฺาย สทิโส อฺโ นตฺถิ, ตสฺมา อตฺตโน ปณฺฑิตภาวสฺส โอปมฺมตฺถํ เอกํเยว โทวาริกํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกทฺวาร’’นฺติ อาห.

ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. พฺยตฺโตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต วิสทาโณ. เมธาวีติ านุปฺปตฺติกปฺาสงฺขาตาย เมธาย สมนฺนาคโต. อนุปริยายปถนฺติ อนุปริยายนามกํ ปาการมคฺคํ. ปาการสนฺธินฺติ ทฺวินฺนํ อิฏฺกานํ อปคตฏฺานํ. ปาการวิวรนฺติ ปาการสฺส ฉินฺนฏฺานํ. เจตโส อุปกฺกิเลเสติ ปฺจนีวรณา จิตฺตํ อุปกฺกิลิสฺสนฺติ กิลิฏฺํ กโรนฺติ อุปตาเปนฺติ วิเหเนฺติ, ตสฺมา ‘‘เจตโส อุปกฺกิเลสา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุจฺจนฺติ. สุปติฏฺิตจิตฺตาติ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุฏฺุ ปิตจิตฺตา หุตฺวา. สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตนฺติ สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาสภาเวน ภาเวตฺวา. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ อรหตฺตํ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌึสูติ ทสฺเสติ.

อปิเจตฺถ สติปฏฺานาติ วิปสฺสนา, โพชฺฌงฺคา มคฺโค, อนุตฺตรสมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตํ. สติปฏฺานาติ วา วิปสฺสนา, โพชฺฌงฺคามิสฺสกา, สมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตเมว. ทีฆภาณกมหาสีวตฺเถโร ปนาห ‘‘สติปฏฺาเน วิปสฺสนํ คเหตฺวา โพชฺฌงฺเค มคฺโค จ สพฺพฺุตฺาณฺจาติ คหิเต สุนฺทโร ปฺโห ภเวยฺย, น ปเนวํ คหิต’’นฺติ. อิติ เถโร สพฺพพุทฺธานํ นีวรณปฺปหาเน สติปฏฺานภาวนาย สมฺโพธิยฺจ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณรชตานํ วิย นานตฺตาภาวํ ทสฺเสติ.

อิธ ตฺวา อุปมา สํสนฺเทตพฺพา – อายสฺมา หิ สาริปุตฺโต ปจฺจนฺตนครํ ทสฺเสสิ, ปาการํ ทสฺเสสิ, อนุปริยายปถํ ทสฺเสสิ, ทฺวารํ ทสฺเสสิ, ปณฺฑิตโทวาริกํ ทสฺเสสิ, นครํ ปวิสนกนิกฺขมนเก โอฬาริเก ปาเณ ทสฺเสสิ, โทวาริกสฺส เตสํ ปาณานํ ปากฏภาวํ ทสฺเสสิ. ตตฺถ กึ เกน สทิสนฺติ เจ? นครํ วิย หิ นิพฺพานํ, ปากาโร วิย สีลํ, อนุปริยายปโถ วิย หิรี, ทฺวารํ วิย อริยมคฺโค, ปณฺฑิตโทวาริโก วิย ธมฺมเสนาปติ, นครํ ปวิสนกนิกฺขมนกา โอฬาริกปาณา วิย อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา พุทฺธา, โทวาริกสฺส เตสํ ปาณานํ ปากฏภาโว วิย อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ พุทฺธานํ สีลสมถาทีหิ ปากฏภาโว. เอตฺตาวตา เถเรน ภควโต – ‘‘เอวมหํ สาวกปารมีาเณ ตฺวา ธมฺมนฺวเยน นยคฺคาเหน ชานามี’’ติ อตฺตโน สีหนาทสฺส อนุโยโค ทินฺโน โหติ.

ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘น โข เมตํ, ภนฺเต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อรหนฺเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เจโตปริยาณํ อตฺถิ, อปิจ ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ วทติ, ตสฺมา. อภิกฺขณํ ภาเสยฺยาสีติ ปุนปฺปุนํ ภาเสยฺยาสิ, ‘‘ปุพฺพณฺเห เม กถิต’’นฺติ มา มชฺฌนฺหิกาทีสุ น กถยิตฺถ, ‘‘อชฺช วา เม กถิต’’นฺติ มา ปรทิวสาทีสุ น กถยิตฺถาติ อตฺโถ. สา ปหียิสฺสตีติ ‘‘สาริปุตฺตสทิโสปิ นาม าณชวนสมฺปนฺโน สาวโก พุทฺธานํ จิตฺตาจารํ ชานิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ อปฺปเมยฺยา ตถาคตา’’ติ จินฺเตนฺตานํ ยา ตถาคเต กงฺขา วา วิมติ วา, สา ปหียิสฺสตีติ.

๓. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา

๓๗๙. ตติเย มคเธสูติ เอวํนามเก ชนปเท. นาลกคามเกติ ราชคหสฺส อวิทูเร อตฺตโน กุลสนฺตเก เอวํนามเก คาเม. จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ อยํ เถโร ธมฺมเสนาปติสฺส กนิฏฺภาติโก, ตํ ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺนกาเล ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ สมุทาจริตฺวา เถรกาเลปิ ตเถว สมุทาจรึสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ. อุปฏฺาโก โหตีติ มุโขทกทนฺตกฏฺทาเนน เจว ปริเวณสมฺมชฺชน-ปิฏฺิปริกมฺมกรณ-ปตฺตจีวรคฺคหเณน จ อุปฏฺานกโร โหติ. ปรินิพฺพายีติ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต. กตรสฺมึ กาเลติ? ภควโต ปรินิพฺพานสํวจฺฉเร.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – ภควา กิร วุตฺถวสฺโส เวฬุวคามกา นิกฺขมิตฺวา ‘‘สาวตฺถึ คมิสฺสามี’’ติ อาคตมคฺเคเนว ปฏินิวตฺตนฺโต อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนํ ปาวิสิ. ธมฺมเสนาปติ ภควโต วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ทิวาฏฺานํ คโต, โส ตตฺถ อนฺเตวาสิเกสุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺกนฺเตสุ ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา จมฺมขณฺฑํ ปฺาเปตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ผลสมาปตฺตึ ปาวิสิ. อถสฺส ยถา ปริจฺเฉเทน ตโต วุฏฺิตสฺส อยํ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘‘พุทฺธา นุ โข ปมํ ปรินิพฺพายนฺติ, อุทาหุ อคฺคสาวกาติ, ตโต ‘‘อคฺคสาวกา ปม’’นฺติ ตฺวา อตฺตโน อายุสงฺขารํ โอโลเกสิ. โส ‘‘สตฺตาหเมว เม อายุสงฺขารา ปวตฺติสฺสนฺตี’’ติ ตฺวา ‘‘กตฺถ ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

ตโต ‘‘ราหุโล ตาวตึเสสุ ปรินิพฺพุโต, อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถโร ฉทฺทนฺตทเห, อหํ กตฺถ ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ ปุนปฺปุนํ จินฺเตนฺโต มาตรํ อารพฺภ สตึ อุปฺปาเทสิ – ‘‘มยฺหํ มาตา สตฺตนฺนํ อรหนฺตานํ มาตา หุตฺวาปิ พุทฺธธมฺมสงฺเฆสุ อปฺปสนฺนา, อตฺถิ นุ โข ตสฺสา อุปนิสฺสโย, นตฺถิ นุ โข’’ติ. โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ‘‘กสฺส เทสนาย อภิสมโย ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘มเมว ธมฺมเทสนาย ภวิสฺสติ, น อฺสฺส. สเจ โข ปนาหํ อปฺโปสฺสุกฺโก ภเวยฺยํ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘‘สาริปุตฺตตฺเถโร อวเสสชนานมฺปิ อวสฺสโย โหติ. ตถา หิสฺส สมจิตฺตสุตฺตนฺตเทสนาทิวเส (อ. นิ. ๒.๓๓-๓๗) โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปตฺตา, ตโย มคฺเค ปฏิวิทฺธเทวตานํ คณนา นตฺถิ, อฺเสุ จ าเนสุ อเนกา อภิสมยา ทิสฺสนฺติ, เถเร จ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตาเนว อสีติ กุลสหสฺสานิ, โส ทานิ สกมาตุมิจฺฉาทสฺสนมตฺตมฺปิ หริตุํ นาสกฺขี’’ติ. ตสฺมา มาตรํ มิจฺฉาทสฺสนา โมเจตฺวา ชาโตวรเกเยว ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ‘‘อชฺเชว ภควนฺตํ อนุชานาเปตฺวา นิกฺขมิสฺสามี’’ติ จุนฺทตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, จุนฺท, อมฺหากํ ปฺจสตาย ภิกฺขุปริสาย สฺํ เทหิ. ‘คณฺหถาวุโส ปตฺตจีวรานิ, ธมฺมเสนาปติ นาลกคามํ คนฺตุกาโม’’’ติ. เถโร ตถา อกาสิ.

ภิกฺขู เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เถรสฺส สนฺติกํ อคมํสุ. เถโร เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาฏฺานทฺวาเร ตฺวา ทิวาฏฺานํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ ทานิ ปจฺฉิมทสฺสนํ, ปุน อาคมนํ นตฺถี’’ติ ปฺจสตภิกฺขูหิ ปริวุโต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ ‘‘อนุชานาตุ เม ภนฺเต ภควา, อนุชานาตุ สุคโต. ปรินิพฺพานกาโล เม, โอสฺสฏฺโ เม อายุสงฺขาโร’’ติ. พุทฺธา ปน ยสฺมา ‘‘ปรินิพฺพาหี’’ติ วุตฺเต มรณวณฺณํ สํวณฺเณนฺตีติ, ‘‘มา ปรินิพฺพาหี’’ติ วุตฺเต วฏฺฏสฺส คุณํ กเถนฺตีติ มิจฺฉาทิฏฺิกา โทสํ อาโรเปสฺสนฺติ, ตสฺมา ตทุภยมฺปิ น วทนฺติ. เตน นํ ภควา – ‘‘กตฺถ ปรินิพฺพายิสฺสสิ สาริปุตฺตา’’ติ วตฺวา – ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, มคเธสุ นาลกคาเม ชาโตวรโก, ตตฺถาหํ ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วุตฺเต – ‘‘ยสฺส ทานิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, กาลํ มฺสิ, อิทานิ ปน เต เชฏฺกนิฏฺภาติกานํ ตาทิสสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนํ ทุลฺลภํ ภวิสฺสติ, เทเสหิ เนสํ ธมฺม’’นฺติ อาห.

เถโร – ‘‘สตฺถา มยฺหํ อิทฺธิวิกุพฺพนปุพฺพงฺคมํ ธมฺมเทสนํ ปจฺจาสีสตี’’ติ ตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ตาลปฺปมาณํ อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา โอรุยฺห ทสพลสฺส ปาเท วนฺทิ, ปุน ทฺวิตาลปฺปมาณํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา โอรุยฺห ทสพลสฺส ปาเท วนฺทิ, เอเตนุปาเยน สตฺตตาลปฺปมาณํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อเนกานิ ปาฏิหาริยสตานิ ทสฺเสนฺโต ธมฺมกถํ อารภิ. ทิสฺสมาเนนปิ กาเยน กเถติ, อทิสฺสมาเนนปิ. อุปริเมน วา เหฏฺิเมน วา อุปฑฺฒกาเยน กเถติ อทิสฺสมาเนนปิ ทิสฺสมาเนนปิ, กาเลน จนฺทวณฺณํ ทสฺเสติ, กาเลน สูริยวณฺณํ, กาเลน ปพฺพตวณฺณํ, กาเลน สมุทฺทวณฺณํ, กาเลน จกฺกวตฺติราชา โหติ, กาเลน เวสฺสวณมหาราชา, กาเลน สกฺโก เทวราชา, กาเลน มหาพฺรหฺมาติ เอวํ อเนกานิ ปาฏิหาริยสตานิ ทสฺเสนฺโต ธมฺมกถํ กเถสิ. สกลนครํ สนฺนิปติ. เถโร โอรุยฺห ทสพลสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘โก นาโม อยํ สาริปุตฺต ธมฺมปริยาโย’’ติ. สีหวิกีฬิโต นาม, ภนฺเตติ. ตคฺฆ, สาริปุตฺต, สีหวิกีฬิโต ตคฺฆ, สาริปุตฺต, สีหวิกีฬิโตติ.

เถโร อลตฺตกวณฺเณ หตฺเถ ปสาเรตฺวา สตฺถุ สุวณฺณกจฺฉปสทิเส ปาเท โคปฺผเกสุ คเหตฺวา – ‘‘ภนฺเต, อิเมสํ ปาทานํ วนฺทนตฺถาย กปฺปสตสหสฺสาธิกํ อสงฺขฺเยยฺยํ ปารมิโย ปูริตา, โส เม มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, อิโต ทานิ ปฏฺาย ปฏิสนฺธิวเสน น ปุน เอกฏฺาเน สนฺนิปาโต สมาคโม อตฺถิ, ฉินฺโน เอส วิสฺสาโส, อเนเกหิ พุทฺธสตสหสฺเสหิ ปวิฏฺํ อชรํ อมรํ เขมํ สุขํ สีตลํ อภยํ นิพฺพานปุรํ ปวิสิสฺสามิ, สเจ เม กิฺจิ กายิกํ วา วาจสิกํ วา น โรเจถ, ขมถ ตํ ภควา, คมนกาโล มยฺห’’นฺติ. ขมามิ เต, สาริปุตฺต, น โข ปน เต กิฺจิ กายิกํ วา วาจสิกํ วา มยฺหํ อรุจฺจนกํ อตฺถิ, ยสฺส ทานิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, กาลํ มฺสีติ.

อิติ ภควตา อนุฺาตสมนนฺตรํ สตฺถุ ปาเท วนฺทิตฺวา อุฏฺิตมตฺเต อายสฺมนฺเต สาริปุตฺเต สิเนรุจกฺกวาฬหิมวนฺตปริภณฺฑปพฺพเต ธารยมานาปิ – ‘‘อชฺช อิมํ คุณราสึ ธาเรตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทนฺตี วิย เอกปฺปหาเรเนว วิรวมานา มหาปถวี ยาว อุทกปริยนฺตา อกมฺปิ, อากาเส เทวทุนฺทุภิโย ผลึสุ, มหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิ.

สตฺถา – ‘‘ธมฺมเสนาปตึ ปฏิปาเทสฺสามี’’ติ ธมฺมาสนา วุฏฺาย คนฺธกุฏิอภิมุโข คนฺตฺวา มณิผลเก อฏฺาสิ. เถโร ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา – ‘‘ภควา อิโต กปฺปสตสหสฺสาธิกสฺส อสงฺขฺเยยฺยสฺส อุปริ อโนมทสฺสีสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ตุมฺหากํ ทสฺสนํ ปตฺเถสึ, สา เม ปตฺถนา สมิทฺธา, ทิฏฺา ตุมฺเห, ตํ ปมทสฺสนํ, อิทํ ปจฺฉิมทสฺสนํ. ปุน ตุมฺหากํ ทสฺสนํ นตฺถี’’ติ วตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาว ทสฺสนวิสยา อภิมุโขว ปฏิกฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. ปุน มหาปถวี ธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อกมฺปิ.

ภควา ปริวาเรตฺวา ิเต ภิกฺขู อาห – ‘‘อนุคจฺฉถ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เชฏฺภาติก’’นฺติ. ตสฺมึ ขเณ จตสฺโสปิ ปริสา สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอกกํเยว เชตวเน โอหาย นิรวเสสา นิกฺขมึสุ. สาวตฺถินครวาสิโนปิ – ‘‘สาริปุตฺตตฺเถโร กิร สมฺมาสมฺพุทฺธํ อาปุจฺฉิตฺวา ปรินิพฺพายิตุกาโม นิกฺขนฺโต, ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ นครทฺวารานิ นิโรกาสานิ กโรนฺตา นิกฺขมิตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา เกเส วิกิริตฺวา – ‘‘อิทานิ มยํ กหํ มหาปฺโ นิสินฺโน, กหํ ธมฺมเสนาปติ นิสินฺโน’’ติ ปุจฺฉนฺตา – ‘‘กสฺส สนฺติกํ คมิสฺสาม, กสฺส หตฺเถ สตฺถารํ เปตฺวา เถโร ปกฺกนฺโต’’ติอาทินา นเยน ปริเทวนฺตา โรทนฺตา เถรํ อนุพนฺธึสุ.

เถโร มหาปฺาย ิตตฺตา – ‘‘สพฺเพสํ อนติกฺกมนีโย เอส มคฺโค’’ติ มหาชนํ โอวทิตฺวา – ‘‘ตุมฺเหปิ, อาวุโส, ติฏฺถ, มา ทสพเล ปมาทํ อาปชฺชิตฺถา’’ติ ภิกฺขุสงฺฆมฺปิ นิวตฺเตตฺวา อตฺตโน ปริสาเยว สทฺธึ ปกฺกามิ. เยปิ มนุสฺสา – ‘‘ปุพฺเพ อยฺโย ปจฺจาคมนจาริกํ จรติ, อิทํ อิทานิ คมนํ น ปุน ปจฺจาคมนายา’’ติ ปริเทวนฺตา อนุพนฺธึสุเยว. เตปิ – ‘‘อปฺปมตฺตา, อาวุโส, โหถ, เอวํภาวิโน นาม สงฺขารา’’ติ นิวตฺเตสิ.

อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สพฺพตฺถ เอกรตฺติวาเสน อนฺตรามคฺเค สตฺตาหํ มนุสฺสานํ สงฺคหํ กโรนฺโต สายํ นาลกคามํ ปตฺวา คามทฺวาเร นิคฺโรธรุกฺขมูเล อฏฺาสิ. อถ อุปเรวโต นาม เถรสฺส ภาคิเนยฺโย พหิคามํ คจฺฉนฺโต เถรํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. เถโร ตํ อาห – ‘‘อตฺถิ เคเห เต อยฺยิกา’’ติ. อาม ภนฺเตติ. คจฺฉ อมฺหากํ อิธาคตภาวํ อาโรเจหิ. ‘‘กสฺมา อาคโต’’ติ จ วุตฺเต – ‘‘อชฺช กิร เอกทิวสํ อนฺโตคาเม วสิสฺสติ, ชาโตวรกํ ปฏิชคฺคถ, ปฺจนฺนฺจ กิร ภิกฺขุสตานํ วสนฏฺานํ ชานาถา’’ติ. โส คนฺตฺวา – ‘‘อยฺยิเก มยฺหํ มาตุโล อาคโต’’ติ อาห. อิทานิ กุหินฺติ? คามทฺวาเรติ. เอกโกว, อฺโปิ โกจิ อตฺถีติ? อตฺถิ ปฺจสตา ภิกฺขูติ. กึการณา อาคโตติ? โส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. พฺราหฺมณี – ‘‘กึ นุ โข เอตฺตกานํ วสนฏฺานํ ปฏิชคฺคาเปติ, ทหรกาเล ปพฺพชิตฺวา มหลฺลกกาเล คิหี โหตุกาโม’’ติ จินฺเตนฺตี ชาโตวรกํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา ปฺจสตานํ วสนฏฺานํ กาเรตฺวา ทณฺฑทีปิกา ชาเลตฺวา เถรสฺส ปาเหสิ.

เถโร ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปาสาทํ อารุยฺห ชาโตวรกํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ, นิสีทิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วสนฏฺานํ คจฺฉถา’’ติ ภิกฺขู อุยฺโยเชสิ. เตสุ คตมตฺเตสุเยว เถรสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, โลหิตปกฺขนฺทิกา มารณนฺติกา เวทนา วตฺตนฺติ. เอกํ ภาชนํ ปวิสติ, เอกํ นิกฺขมติ. พฺราหฺมณี – ‘‘มม ปุตฺตสฺส ปวตฺติ มยฺหํ น รุจฺจตี’’ติ อตฺตโน วสนคพฺภทฺวารํ นิสฺสาย อฏฺาสิ.

จตฺตาโร มหาราชาโน ‘‘ธมฺมเสนาปติ กุหึ วิหรตี’’ติ โอโลเกนฺตา นาลกคาเม ชาโตวรเก ปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺโน, ปจฺฉิมทสฺสนํ คมิสฺสามา’’ติ อาคมฺม วนฺทิตฺวา อฏฺํสุ. เก ตุมฺเหติ? มหาราชาโน ภนฺเตติ. กสฺมา อาคตตฺถาติ? คิลานุปฏฺากา ภวิสฺสามาติ. ‘‘โหตุ, อตฺถิ คิลานุปฏฺาโก, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ อุยฺโยเชสิ. เตสํ คตาวสาเน เตเนว นเยน สกฺโก เทวานมินฺโท. ตสฺมึ คเต มหาพฺรหฺมา จ อาคมึสุ. เตปิ ตเถว เถโร อุยฺโยเชสิ.

พฺราหฺมณี เทวตานํ อาคมนฺจ คมนฺจ ทิสฺวา ‘‘เก นุ โข เอเต มม ปุตฺตํ วนฺทิตฺวา คจฺฉนฺตี’’ติ เถรสฺส คพฺภทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘ตาต, จุนฺท, กา ปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘มหาอุปาสิกา, ภนฺเต, อาคตา’’ติ อาห. เถโร ‘‘กสฺมา อเวลาย อาคตา’’ติ ปุจฺฉิ. สา ‘‘ตุยฺหํ, ตาต, ทสฺสนตฺถายา’’ติ วตฺวา ‘‘ตาต, ปมํ เก อาคตา’’ติ ปุจฺฉิ. จตฺตาโร มหาราชาโน อุปาสิเกติ. ตาต, ตฺวํ จตูหิ มหาราเชหิ มหนฺตตโรติ? อารามิกสทิสา เอเต อุปาสิเก, อมฺหากํ สตฺถุ ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ขคฺคหตฺถา หุตฺวา อารกฺขํ อกํสูติ. เตสํ ตาต คตาวสาเน โก อาคโตติ? สกฺโก เทวานมินฺโทติ. เทวราชโตปิ ตฺวํ ตาต มหนฺตตโรติ? ภณฺฑคฺคาหกสามเณรสทิโส เอส อุปาสิเก, อมฺหากํ สตฺถุ ตาวตึสโต โอตรณกาเล ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โอติณฺโณติ. ตสฺส ตาต คตาวสาเน โชตยมาโน วิย โก อาคโตติ? อุปาสิเก, ตุยฺหํ ภควา จ สตฺถา จ มหาพฺรหฺมา นาม เอโสติ. มยฺหํ ภควโต มหาพฺรหฺมโตปิ ตฺวํ, ตาต, มหนฺตตโรติ? อาม อุปาสิเก, เอเต นาม กิร อมฺหากํ สตฺถุ ชาตทิวเส จตฺตาโร มหาพฺรหฺมาโน มหาปุริสํ สุวณฺณชาเลน ปฏิคฺคณฺหึสูติ.

อถ พฺราหฺมณิยา – ‘‘ปุตฺตสฺส ตาว เม อยํ อานุภาโว, กีทิโส วต มยฺหํ ปุตฺตสฺส ภควโต สตฺถุ อานุภาโว ภวิสฺสตี’’ติ จินฺตยนฺติยา สหสา ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิตฺวา สกลสรีรํ ผริ. เถโร – ‘‘อุปฺปนฺนํ เม มาตุ ปีติโสมนสฺสํ, อยํ ทานิ กาโล ธมฺมเทสนายา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ จินฺเตสิ มหาอุปาสิเก’’ติ อาห. สา ‘‘ปุตฺตสฺส ตาว เม อยํ คุโณ, สตฺถุ ปนสฺส กีทิโส ภวิสฺสตีติ อิทํ, ตาต, จินฺเตมี’’ติ อาห. มหาอุปาสิเก, มยฺหํ สตฺถุชาตกฺขเณ มหาภินิกฺขมเน สมฺโพธิยํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน จ ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ. สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน สโม นาม นตฺถิ, อิติปิ โส ภควาติ วิตฺถาเรตฺวา พุทฺธคุณปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมเทสนํ กเถสิ.

พฺราหฺมณี ปิยปุตฺตสฺส ธมฺมเทสนาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย ปุตฺตํ อาห – ‘‘ตาต อุปติสฺส, กสฺมา เอวมกาสิ, เอวรูปํ นาม อมตํ มยฺหํ เอตฺตกํ กาลํ น อทาสี’’ติ. เถโร – ‘‘ทินฺนํ ทานิ เม มาตุ รูปสาริยา พฺราหฺมณิยา โปสาวนิกมูลํ, เอตฺตเกน วฏฺฏิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘คจฺฉ มหาอุปสิเก’’ติ พฺราหฺมณึ อุยฺโยเชตฺวา – ‘‘จุนฺท กา เวลา’’ติ อาห. พลวปจฺจูสกาโล, ภนฺเตติ. ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตหีติ. สนฺนิปติโต ภนฺเต ภิกฺขุสงฺโฆติ. ‘‘มํ อุกฺขิปิตฺวา นิสีทาเปหิ จุนฺทา’’ติ อุกฺขิปิตฺวา นิสีทาเปสิ.

เถโร ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส จตุจตฺตาลีสํ โว วสฺสานิ มยา สทฺธึ วิจรนฺตานํ ยํ เม กายิกํ วา วาจสิกํ วา น โรเจถ, ตํ ขมถ อาวุโส’’ติ. เอตฺตกํ, ภนฺเต, อมฺหากํ ฉายา วิย ตุมฺเห อมุฺจิตฺวา วิจรนฺตานํ อรุจฺจนกํ นาม นตฺถิ, ตุมฺเห ปน อมฺหากํ ขมถาติ. อถ เถโร มหาจีวรํ สงฺกฑฺฒิตฺวา มุขํ ปิธาย ทกฺขิเณน ปสฺเสน นิปนฺโน สตฺถา วิย นว อนุปุพฺพสมาปตฺติโย อนุโลมปฏิโลมโต สมาปชฺชิตฺวา ปุน ปมชฺฌานํ อาทึ กตฺวา ยาว จตุตฺถชฺฌานา สมาปชฺชิ. ตโต วุฏฺาย อนนฺตรํเยว มหาปถวึ อุนฺนาเทนฺโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ.

อุปาสิกา – ‘‘กึ นุ โข เม ปุตฺโต, น กิฺจิ กเถตี’’ติ อุฏฺาย ปิฏฺิปาเท ปริมชฺชนฺตี ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา มหาสทฺทํ กุรุมานา ปาเทสุ นิปติตฺวา – ‘‘ตาต มยํ อิโต ปุพฺเพ ตว คุณํ น ชานิมฺหา, อิทานิ ปน ตํ อาทึ กตฺวา อเนกสเต อเนกสหสฺเส อเนกสตสหสฺเส ภิกฺขู อิมสฺมึ นิเวสเน นิสีทาเปตฺวา โภเชตุํ น ลภิมฺหา, จีวเรหิ อจฺฉาเทตุํ น ลภิมฺหา, วิหารสตํ วิหารสหสฺสํ กาเรตุํ น ลภิมฺหา’’ติ ยาว อรุณุคฺคมนา ปริเทวิ. อรุเณ อุคฺคตมตฺเตเยว สุวณฺณกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา สุวณฺณคพฺภํ วิวราเปตฺวา สุวณฺณฆฏิโย มหาตุลาย ตุลาเปตฺวา – ‘‘ปฺจ กูฏาคารสตานิ ปฺจ อคฺฆิกสตานิ กโรถา’’ติ ทาเปติ.

สกฺโกปิ เทวราชา วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘ตาต ธมฺมเสนาปติ ปรินิพฺพุโต, ปฺจ กูฏาคารสตานิ ปฺจ อคฺฆิกสตานิ จ มาเปหี’’ติ อาห. อิติ อุปาสิกาย การิตานิ จ วิสฺสกมฺเมน นิมฺมิตานิ จ สพฺพานิปิ ทฺเวสหสฺสานิ อเหสุํ. ตโต นครมชฺเฌ สารมยํ มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา มณฺฑปมชฺเฌ มหากูฏาคารํ เปตฺวา เสสานิ ปริวารสงฺเขเปน เปตฺวา สาธุกีฬิกํ อารภึสุ. เทวานํ อนฺตเร มนุสฺสา, มนุสฺสานํ อนฺตเร เทวา อเหสุํ.

เรวตี นาม เอกา เถรสฺส อุปฏฺายิกา – ‘‘อหํ เถรสฺส ปูชํ กริสฺสามี’’ติ สุวณฺณปุปฺผานํ ตโย กุมฺเภ กาเรสิ. ‘‘เถรสฺส ปูชํ กริสฺสามี’’ติ สกฺโก เทวราชา อฑฺฒเตยฺยโกฏินาฏเกหิ ปริวาริโต โอตริ. ‘‘สกฺโก โอตรตี’’ติ มหาชโน ปจฺฉามุโข ปฏิกฺกมิ. ตตฺถ สาปิ อุปาสิกา ปฏิกฺกมมานา ครุภารตฺตา เอกมนฺตํ อปสกฺกิตุํ อสกฺโกนฺตี มนุสฺสานํ อนฺตเร ปติ. มนุสฺสา อปสฺสนฺตา ตํ มทฺทิตฺวา อคมึสุ. สา ตตฺเถว กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. นิพฺพตฺตกฺขเณเยวสฺสา รตนกฺขนฺโธ วิย ติคาวุตปฺปมาโณ อตฺตภาโว อโหสิ สฏฺิสกฏปูรปฺปมาณอลงฺการปฏิมณฺฑิตา อจฺฉราสหสฺสปริวาริตา. อถสฺสา ทิพฺพํ สพฺพกายิกาทาสํ ปุรโต ปยึสุ. สา อตฺตโน สิริสมฺปตฺตึ ทิสฺวา – ‘‘อุฬารา อยํ สมฺปตฺติ, กึ นุ โข เม กมฺมํ กต’’นฺติ จินฺตยมานา อทฺทส – ‘‘มยา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปรินิพฺพุตฏฺาเน ตีหิ สุวณฺณปุปฺผกุมฺเภหิ ปูชา กตา, มหาชโน มํ มทฺทิตฺวา คโต, สาหํ ตตฺถ กาลํ กตฺวา อิธูปปนฺนา, เถรํ นิสฺสาย ลทฺธํ อิทานิ ปุฺวิปากํ มนุสฺสานํ กเถสฺสามี’’ติ สห วิมาเนเนว โอตริ.

มหาชโน ทูรโตว ทิสฺวา – ‘‘กึ นุ โข ทฺเว สูริยา อุฏฺิตา’’ติ? โอโลเกนฺโต – ‘‘วิมาเน อาคจฺฉนฺเต กูฏาคารสณฺานํ ปฺายติ, นายํ สูริโย, วิมานเมตํ เอก’’นฺติ อาห. ตมฺปิ วิมานํ ตาวเทว อาคนฺตฺวา เถรสฺส ทารุจิตกมตฺถเก เวหาสํ อฏฺาสิ. เทวธีตา วิมานํ อากาเสเยว เปตฺวา ปถวึ โอตริ. มหาชโน – ‘‘กา ตฺวํ, อยฺเย’’ติ? ปุจฺฉิ. ‘‘น มํ ตุมฺเห ชานาถ, เรวตี นามาหํ, ตีหิ สุวณฺณปุปฺผกุมฺเภหิ เถรํ ปูชํ กตฺวา มนุสฺเสหิ มทฺทิตา กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺตา, ปสฺสถ เม สิริสมฺปตฺตึ, ตุมฺเหปิ ทานิ ทานานิ เทถ, ปุฺานิ กโรถา’’ติ กุสลกิริยาย วณฺณํ กเถตฺวา เถรสฺส จิตกํ ปทกฺขิณํ กตฺวา วนฺทิตฺวา อตฺตโน เทวฏฺานํเยว คตา.

มหาชโนปิ สตฺตาหํ สาธุกีฬิกํ กีฬิตฺวา สพฺพคนฺเธหิ จิตกํ อกาสิ, จิตกา เอกูนรตนสติกา อโหสิ. เถรสฺส สรีรํ จิตกํ อาโรเปตฺวา อุสีรกลาปเกหิ อาลิมฺเปสุํ. อาฬาหเน สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ ปวตฺติ. อนุรุทฺธตฺเถโร สพฺพคนฺโธทเกน เถรสฺส จิตกํ นิพฺพาเปสิ. จุนฺทตฺเถโร ธาตุโย ปริสฺสาวเน ปกฺขิปิตฺวา – ‘‘น ทานิ มยา อิเธว สกฺกา าตุํ, มยฺหํ เชฏฺภาติกสฺส ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ ธาตุปริสฺสาวนํ เถรสฺส จ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา สาวตฺถึ อคมาสิ. เอกฏฺาเนปิ จ ทฺเว รตฺติโย อวสิตฺวา สพฺพตฺถ เอกรตฺติวาเสเนว สาวตฺถึ ปาปุณิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโสติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ เยนายสฺมา อานนฺโทติ เยน อตฺตโน อุปชฺฌาโย ธมฺมภณฺฑาคาริโก อายสฺมา อานนฺโท, เตนุปสงฺกมิ. กสฺมา ปเนส อุชุกํ สตฺถุ สนฺติกํ อคนฺตฺวา เถรสฺส สนฺติกํ อคมาสีติ? สตฺถริ จ เถเร จ คารเวน. เชตวนมหาวิหาเร โปกฺขรณิยํ กิรสฺส นฺหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา สุนิวตฺถสุปารุตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘พุทฺธา นาม มหาปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุโน, ผณกตสปฺป สีหพฺยคฺฆมตฺตวรวารณาทโย วิย จ ทุราสทา, น สกฺกา มยา อุชุกเมว สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา กเถตุํ, กสฺส นุ โข สนฺติกํ คนฺตพฺพ’’นฺติ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม ธมฺมภณฺฑาคาริโก เชฏฺภาติกตฺเถรสฺส อุตฺตมสหาโย, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาทาย สตฺถารา สทฺธึ กเถสฺสามี’’ติ สตฺถริ เจว เถเร จ คารเวน อุปสงฺกมิ.

อิทมสฺส ปตฺตจีวรนฺติ ‘‘อยมสฺส ปริโภคปตฺโต, อิทํ ธาตุปริสฺสาวน’’นฺติ เอวํ เอเกกํ อาจิกฺขิ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อิทมสฺส ปตฺตจีวร’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. กถาปาภตนฺติ กถามูลํ. มูลฺหิ ปาภตนฺติ วุจฺจติ. ยถาห –

‘‘อปฺปเกนปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;

สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๔);

ภควนฺตํ ทสฺสนายาติ ภควนฺตํ ทสฺสนตฺถาย. กึ ปนิมินา ภควา น ทิฏฺปุพฺโพติ? โน น ทิฏฺปุพฺโพ. อยฺหิ อายสฺมา ทิวา นว วาเร, รตฺตึ นว วาเรติ เอกาหํ อฏฺารส วาเร อุปฏฺานเมว คจฺฉติ. ทิวสสฺส ปน สตวารํ วา สหสฺสวารํ วา คนฺตุกาโม สมาโนปิ น อการณา คจฺฉติ, เอกํ ปฺหทฺวารํ คเหตฺวาว คจฺฉติ. โส ตํทิวสํ เตน กถาปาภเตน คนฺตุกาโม เอวมาห. อิทมสฺส ปตฺตจีวรนฺติ เถโรปิ – ‘‘อิทํ ตสฺส ปตฺตจีวรํ, อิทฺจ ธาตุปริสฺสาวน’’นฺติ ปาฏิเยกฺกํเยว ทสฺเสตฺวา อาจิกฺขิ.

สตฺถา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ธาตุปริสฺสาวนํ คเหตฺวา หตฺถตเล เปตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปุริมทิวเส อเนกานิ ปาฏิหาริยสตานิ กตฺวา ปรินิพฺพานํ อนุชานาเปสิ, ตสฺส อิทานิ อิมา สงฺขวณฺณสนฺนิภา ธาตุโยว ปฺายนฺติ, กปฺปสตสหสฺสาธิกํ อสงฺขฺเยยฺยํ ปูริตปารมี เอส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ, มยา ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ อนุปวตฺตโก เอส ภิกฺขุ, ปฏิลทฺธทุติยอาสโน เอส ภิกฺขุ, ปูริตสาวกสนฺนิปาโต เอส ภิกฺขุ, เปตฺวา มํ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ ปฺาย อสทิโส เอส ภิกฺขุ, มหาปฺโ เอส ภิกฺขุ, ปุถุปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ เอส ภิกฺขุ, อปฺปิจฺโฉ เอส ภิกฺขุ, สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย โจทโก ปาปครหี เอส ภิกฺขุ, ปฺจ ชาติสตานิ ปฏิลทฺธมหาสมฺปตฺติโย ปหาย ปพฺพชิโต เอส ภิกฺขุ, มม สาสเน ปถวีสมขนฺติโก เอส ภิกฺขุ, ฉินฺนวิสาณอุสภสทิโส เอส ภิกฺขุ, จณฺฑาลปุตฺตสทิสนีจจิตฺโต เอส ภิกฺขุ. ปสฺสถ, ภิกฺขเว, มหาปฺสฺส ธาตุโย, ปสฺสถ, ภิกฺขเว, ปุถุปฺสฺส หาสปฺสฺส ชวนปฺสฺส ติกฺขปฺสฺส นิพฺเพธิกปฺสฺส อปฺปิจฺฉสฺส สนฺตุฏฺสฺส ปวิวิตฺตสฺส อสํสฏฺสฺส อารทฺธวีริยสฺส, โจทกสฺส, ปสฺสถ, ภิกฺขเว, ปาปครหิสฺส ธาตุโยติ.

‘‘โย ปพฺพชี ชาติสตานิ ปฺจ,

ปหาย กามานิ มโนรมานิ;

ตํ วีตราคํ สุสมาหิตินฺทฺริยํ,

ปรินิพฺพุตํ วนฺทถ สาริปุตฺตํ.

‘‘ขนฺติพโล ปถวิสโม น กุปฺปติ,

น จาปิ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติ;

อนุกมฺปโก การุณิโก จ นิพฺพุโต,

ปรินิพฺพุตํ วนฺทถ สาริปุตฺตํ.

‘‘จณฺฑาลปุตฺโต ยถา นครํ ปวิฏฺโ,

นีจมโน จรติ กโฬปิหตฺโถ;

ตถา อยํ วิหรติ สาริปุตฺโต,

ปรินิพฺพุตํ วนฺทถ สาริปุตฺตํ.

‘‘อุสโภ ยถา ฉินฺนวิสาณโก,

อเหยนฺโต จรติ ปุรนฺตเร วเน;

ตถา อยํ วิหรติ สาริปุตฺโต,

ปรินิพฺพุตํ วนฺทถ สาริปุตฺต’’นฺติ.

อิติ ภควา ปฺจหิ คาถาสเตหิ เถรสฺส วณฺณํ กเถสิ. ยถา ยถา ภควา เถรสฺส วณฺณํ กเถสิ, ตถา ตถา อานนฺทตฺเถโร สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ, พิฬารมุเข ปกฺขนฺตกุกฺกุโฏ วิย ปเวธติ. เตนาห อปิจ เม, ภนฺเต, มธุรกชาโต วิย กาโยติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตตฺถ มธุรกชาโตติอาทีนํ อตฺโถ วุตฺโตเยว. อิธ ปน ธมฺมาติ อุทฺเทสปริปุจฺฉาธมฺมา อธิปฺเปตา. ตสฺส หิ อุทฺเทสปริปุจฺฉาธมฺเม อคหิเต วา คเหตุํ, คหิเต วา สชฺฌายํ กาตุํ จิตฺตํ น ปวตฺตติ. อถ สตฺถา ปฺจปสาทวิจิตฺรานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เถรํ โอโลเกนฺโต ‘‘อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ อสฺสาเสนฺโต กึ นุ โข เต, อานนฺท, สาริปุตฺโตติอาทิมาห.

ตตฺถ สีลกฺขนฺธนฺติ โลกิยโลกุตฺตรสีลํ. สมาธิปฺาสุปิ เอเสว นโย. วิมุตฺติ ปน โลกุตฺตราว. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณาณํ, ตํ โลกิยเมว. โอวาทโกติ โอวาททายโก. โอติณฺโณติ โอติณฺเณสุ วตฺถูสุ นานปฺปกาเรน โอตรณสีโล. วิฺาปโกติ ธมฺมกถากาเล อตฺถฺจ การณฺจ วิฺาเปตา. สนฺทสฺสโกติ ขนฺธธาตุอายตนวเสน เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ทสฺเสตา. สมาทปโกติ ‘‘อิทฺจิทฺจ คณฺหถา’’ติ เอวํ คณฺหาปโก. สมุตฺเตชโกติ อพฺภุสฺสาหโก. สมฺปหํสโกติ ปฏิลทฺธคุเณหิ โมทาปโก โชตาปโก.

อกิลาสุ ธมฺมเทสนายาติ ธมฺมเทสนํ อารภิตฺวา ‘‘สีสํ วา เม รุชฺชติ, หทยํ วา กุจฺฉิ วา ปิฏฺิ วา’’ติ เอวํ โอสกฺกนาการวิรหิโต นิกฺกิลาสุ วิสารโท เอกสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ สีหเวเคเนว ปกฺขนฺทติ. อนุคฺคาหโก สพฺรหฺมจารีนนฺติ ปทสฺส อตฺโถ ขนฺธกวคฺเค วิตฺถาริโตว. ธมฺโมชํ ธมฺมโภคนฺติ อุภเยนปิ ธมฺมปริโภโคว กถิโต. ธมฺมานุคฺคหนฺติ ธมฺเมน อนุคฺคหณํ.

สตฺถา ‘‘อติวิย อยํ ภิกฺขุ กิลมตี’’ติ ปุน ตํ อสฺสาเสนฺโต นนุ ตํ, อานนฺท, มยาติอาทิมาห. ตตฺถ ปิเยหิ มนาเปหีติ มาตาปิตาภาตาภคินีอาทิเกหิ ชาติยา นานาภาโว, มรเณน วินาภาโว, ภเวน อฺถาภาโว. ตํ กุเตตฺถ, อานนฺท, ลพฺภาติ นฺติ ตสฺมา. ยสฺมา สพฺเพหิ ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว, ตสฺมา ทส ปารมิโย ปูเรตฺวาปิ สมฺโพธึ ปตฺวาปิ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวาปิ ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวาปิ เทโวโรหนํ กตฺวาปิ ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ ตถาคตสฺสาปิ สรีรํ มา ปลุชฺชีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, โรทนฺเตนปิ กนฺทนฺเตนปิ น สกฺกา ตํ การณํ ลทฺธุนฺติ. โส ปลุชฺเชยฺยาติ โส ภิชฺเชยฺย.

เอวเมว โขติ เอตฺถ โยชนสตุพฺเพโธ มหาชมฺพุรุกฺโข วิย ภิกฺขุสงฺโฆ ตสฺส ทกฺขิณทิสํ คโต ปฺาสโยชนิโก มหาขนฺโธ วิย ธมฺมเสนาปติ. ตสฺมึ มหาขนฺเธ ภินฺเน ตโต ปฏฺาย อนุปุพฺเพน วฑฺฒิตฺวา ปุปฺผผลาทีหิ ตํ านํ ปูเรตุํ สมตฺถสฺส อฺสฺส ขนฺธสฺส อภาโว วิย เถเร ปรินิพฺพุเต โสฬสนฺนํ ปฺานํ มตฺถกํ ปตฺตสฺส อฺสฺส ทกฺขิณาสเน นิสีทนสมตฺถสฺส สาริปุตฺตสทิสสฺส ภิกฺขุโน อภาโว. ตาย ปริภินฺนาย โส รุกฺโข วิย ภิกฺขุสงฺโฆ ขนฺโธตฺเวว ชาโตติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา สพฺพํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ มา ปลุชฺชีติ น สกฺกา ลทฺธุํ, ตสฺมา.

๔-๕. อุกฺกเจลสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๘๐-๓๘๑. จตุตฺเถ อจิรปรินิพฺพุเตสุ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสูติ นจิรปรินิพฺพุเตสุ ทฺวีสุ อคฺคสาวเกสุ. เตสฺหิ ธมฺมเสนาปติ กตฺติกมาสปุณฺณมาย ปรินิพฺพุโต, มหาโมคฺคลฺลาโน ตโต อฑฺฒมาสํ อติกฺกมฺม อมาวสุโปสเถ. สตฺถา ทฺวีสุ อคฺคสาวเกสุ ปรินิพฺพุเตสุ มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร มหามณฺฑเล จาริกํ จรมาโน อนุปุพฺเพน อุกฺกเจลนครํ ปตฺวา ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา คงฺคาปิฏฺเ รชตปฏฺฏวณฺณวาลิกาปุลิเน วิหาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อจิรปรินิพฺพุเตสุ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสู’’ติ. เย มหนฺตตรา ขนฺธา เต ปลุชฺเชยฺยุนฺติ อิธาปิ โยชนสตุพฺเพโธ มหาชมฺพุรุกฺโข วิย ภิกฺขุสงฺโฆ, ตสฺส ทกฺขิณโต จ อุตฺตรโต จ คตา ปณฺณาสโยชนิกา ทฺเว มหาขนฺธา วิย ทฺเว อคฺคสาวกาติ. เสสํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. ปฺจเม ทิฏฺีติ กมฺมสฺสกทิฏฺิ.

๖. อุตฺติยสุตฺตวณฺณนา

๓๘๒. ฉฏฺเ มจฺจุเธยฺยสฺส ปารนฺติ เตภูมกวฏฺฏสฺส ปารภูตํ, นิพฺพานํ.

๘. พฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๓๘๔. อฏฺเม กาเย วา ภิกฺขูติ ตสฺมึ กาเล ภิกฺขุเยว นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ โย สติปฏฺาเน ภาเวติ, โส กิเลสภินฺทเนน ภิกฺขุเยวาติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เอกายนนฺติ เอกมคฺคํ. ชาติกฺขยนฺตทสฺสีติ ชาติยา ขโยติ จ อนฺโตติ จ นิพฺพานํ, ตํ ปสฺสตีติ อตฺโถ. มคฺคํ ปชานาตีติ เอกายนสงฺขาตํ เอกมคฺคภูตํ มคฺคํ ปชานาติ. เอกายนมคฺโค วุจฺจติ ปุพฺพภาคสติปฏฺานมคฺโค, ตํ ปชานาตีติ อตฺโถ.

๙. เสทกสุตฺตวณฺณนา

๓๘๕. นวเม สุมฺเภสูติ เอวํนามเก ชนปเท. เมทกถาลิกาติ เอวํ อิตฺถิลิงฺควเสน ลทฺธนามํ. มมํ รกฺข, อหํ ตํ รกฺขิสฺสามีติ เอตฺถ อยํ ตสฺส ลทฺธิ – อาจริโย อุกฺขิตฺตวํสํ สุคฺคหิตํ อคณฺหนฺโต, อนฺเตวาสิเกน ปกฺขนฺตปกฺขนฺตทิสํ อคจฺฉนฺโต, สพฺพกาลฺจ วํสคฺคํ อนุลฺโลเกนฺโต อนฺเตวาสิกํ น รกฺขติ นาม, เอวํ อรกฺขิโต อนฺเตวาสิโก ปติตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ. วํสํ ปน สุคฺคหิตํ คณฺหนฺโต, เตน ปกฺขนฺตปกฺขนฺตทิสํ คจฺฉนฺโต, สพฺพกาลฺจ วํสคฺคํ อุลฺโลเกนฺโต ตํ รกฺขติ นาม. อนฺเตวาสิโกปิ อิโต จิโต จ ปกฺขนฺทิตฺวา มิโค วิย กีฬนฺโต อาจริยํ น รกฺขติ นาม. เอวฺหิ สติ ติขิณวํสโกฏิ อาจริยสฺส คลวาฏเก วา นลาเฏ วา ปิตา ิตฏฺานํ ภินฺทิตฺวา คจฺเฉยฺย. อาจารสมฺปนฺนตาย ปน ยโต วํโส นมติ, ตโต อนาเมนฺโต ตํ อากฑฺเฒนฺโต วิย เอกโตภาคิยํ กตฺวา วาตูปถมฺภํ คาหาเปตฺวา สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา นิจฺจโลว นิสีทนฺโต อาจริยํ รกฺขติ นามาติ.

ตฺวํ อาจริย อตฺตานํ รกฺข, อหํ อตฺตานํ รกฺขิสฺสามีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – อาจริโย วํสํ สุคฺคหิตํ คณฺหนฺโต, อนฺเตวาสิเกน ปกฺขนฺตปกฺขนฺตทิสํคจฺฉนฺโต, สพฺพกาลฺจ วํสคฺคํ อุลฺโลเกนฺโต, อตฺตานเมว รกฺขติ, น อนฺเตวาสิกํ. อนฺเตวาสิโกปิ กายมฺปิ เอกโตภาคิยํ กตฺวา วาตูปถมฺภํ คาหาเปตฺวา สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา นิจฺจโลว นิสีทมาโน อตฺตานํเยว รกฺขติ นาม, น อาจริยํ.

โส ตตฺถ าโยติ ยํ เมทกถาลิกา อาห. โส ตตฺถ าโย, โส อุปาโย, ตํ การณนฺติ อตฺโถ. สติปฏฺานํ เสวิตพฺพนฺติ จตุพฺพิธํ สติปฏฺานํ เสวิตพฺพํ. อาเสวนายาติ กมฺมฏฺานาเสวนาย. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตานํ รกฺขนฺโต ปรํ รกฺขตีติ โย ภิกฺขุ กมฺมารามตาทีนิ ปหาย รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ มูลกมฺมฏฺานํ อาเสวนฺโต ภาเวนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อถ นํ ปโร ทิสฺวา – ‘‘ภทฺทโก วตายํ, ภิกฺขุ, สมฺมาปฏิปนฺโน’’ติ ตสฺมึ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา สคฺคปรายโณ โหติ. อยํ อตฺตานํ รกฺขนฺโต ปรํ รกฺขติ นาม.

ขนฺติยาติ อธิวาสนขนฺติยา. อวิหึสายาติ สปุพฺพภาคาย กรุณาย. เมตฺตจิตฺตตายาติ สปุพฺพภาคาย เมตฺตาย. อนุทยตายาติ อนุวฑฺฒิยา, สปุพฺพภาคาย มุทิตายาติ อตฺโถ. ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขตีติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานํ คโต ตีสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ ติกจตุกฺกชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อยํ ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขติ นามาติ เวทิตพฺโพ.

๑๐. ชนปทกลฺยาณีสุตฺตวณฺณนา

๓๘๖. ทสเม ชนปทกลฺยาณีติ ชนปทมฺหิ กลฺยาณี อุตฺตมา ฉสรีรโทสรหิตา ปฺจกลฺยาณสมนฺนาคตา. สา หิ ยสฺมา นาติทีฆา นาติรสฺสา, นาติกิสา นาติถูลา, นาติกาฬา นาจฺโจทาตา, อติกฺกนฺตา, มานุสวณฺณํ อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณํ, ตสฺมา ฉสรีรโทสรหิตา. ฉวิกลฺยาณํ, มํสกลฺยาณํ, นฺหารุกลฺยาณํ, อฏฺิกลฺยาณํ, วยกลฺยาณนฺติ อิเมหิ ปน กลฺยาเณหิ สมนฺนาคตตฺตา ปฺจกลฺยาเณหิ สมนฺนาคตา นาม. ตสฺสา หิ อาคนฺตุโกภาสกิจฺจํ นตฺถิ, อตฺตโน สรีโรภาเสเนว ทฺวาทสหตฺถฏฺาเน อาโลกํ กโรติ, ปิยงฺคุสามา วา โหติ, สุวณฺณสามา วา, อยมสฺสา ฉวิกลฺยาณตา. จตฺตาโร ปนสฺสา หตฺถปาทา มุขปริโยสานฺจ ลาขารสปริกมฺมกตํ วิย รตฺตปวาฬรตฺตกมฺพลสทิสํ โหติ, อยมสฺสา มํสกลฺยาณตา. วีสติ ปน นขปตฺตานิ มํสโต อมุตฺตฏฺาเน ลาขารสปูริตานิ วิย, มุตฺตฏฺาเน ขีรธาราสทิสานิ, โหนฺติ อยมสฺสา นฺหารุกลฺยาณกตา. ทฺวตฺตึส ทนฺตา สุผุสิตา สุโธตวชิรปนฺติ วิย ขายนฺติ, อยมสฺสา อฏฺิกลฺยาณตา. วีสติวสฺสสติกาปิ ปน สมานา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา วิย โหติ นิปฺปลิตา, อยมสฺสา วยกลฺยาณตา.

ปรมปาสาวินีติ เอตฺถ ปสวนํ ปสาโว, ปวตฺตีติ อตฺโถ. ปสาโว เอว ปาสาโว. ปรโม ปาสาโว ปรมปาสาโว, โส อสฺสา อตฺถีติ ปรมปาสาวินี. นจฺเจ จ คีเต จ อุตฺตมปวตฺติ เสฏฺกิริยา, อุตฺตมเมว นจฺจํ นจฺจติ, คีตํ วา คายตีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. อิเมสุ ปน ทฺวีสุ สุตฺเตสุ ปุพฺพภาควิปสฺสนาว กถิตาติ.

นาลนฺทวคฺโค ทุติโย.

๓. สีลฏฺิติวคฺโค

๑-๒. สีลสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๘๗-๓๘๘. ตติยวคฺคสฺส ปเม สีลานีติ จตุปาริสุทฺธิสีลานิ. ทุติเย อุมฺมงฺโคติ ปฺหมคฺโค ปฺหคเวสนํ.

๓-๕. ปริหานสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๘๙-๓๙๑. ตติเย ปริหานํ โหตีติ ปุคฺคลวเสน ปริหานํ โหติ. โย หิ พุทฺเธสุ ธรนฺเตสุปิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน น ภาเวติ, ตสฺส สทฺธมฺโม อนฺตรหิโต นาม โหติ เทวทตฺตาทีนํ วิย. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ตสฺส ปุคฺคลสฺเสว ธมฺมนฺตรธานํ กถิตํ. จตุตฺถปฺจเมสุ สพฺพํ อุตฺตานเมว.

๖. ปเทสสุตฺตวณฺณนา

๓๙๒. ฉฏฺเ ปเทสํ ภาวิตตฺตาติ ปเทสโต ภาวิตตฺตา. จตฺตาโร หิ มคฺเค ตีณิ จ ผลานิ นิพฺพตฺเตนฺเตน สติปฏฺานา ปเทสํ ภาวิตา นาม โหนฺติ.

๗. สมตฺตสุตฺตวณฺณนา

๓๙๓. สตฺตเม สมตฺตํ ภาวิตตฺตาติ สมตฺตา ภาวิตตฺตา. อรหตฺตผลํ อุปฺปาเทนฺเตน หิ สติปฏฺานา สมตฺตํ ภาวิตา นาม โหนฺติ.

๘-๑๐. โลกสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๙๔-๓๙๖. อฏฺเม มหาภิฺตนฺติ ฉนฺนํ อภิฺานํ วเสน วุตฺตํ. สหสฺสํ โลกํ อภิชานามีติ สตตวิหารวเสเนว วุตฺตํ. เถโร กิร ปาโตว อุฏฺาย มุขํ โธวิตฺวา เสนาสเน นิสินฺโน อตีเต กปฺปสหสฺสํ, อนาคเต กปฺปสหสฺสํ อนุสฺสรติ, ปจฺจุปฺปนฺเนปิ สหสฺสํ จกฺกวาฬานํ ตสฺสาวชฺชนสฺส คตึ อนุพนฺธติ. อิติ โส ทิพฺเพน จกฺขุนา สหสฺสํ โลกํ อภิชานาติ, อยมสฺส สตตวิหาโร. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สีลฏฺิติวคฺโค ตติโย.

๔. อนนุสฺสุตวคฺควณฺณนา

๔๐๑-๔๐๖. จตุตฺถวคฺคสฺส ปฺจเม วิทิตา เวทนาติ ยา เวทนา สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต ตาวสฺส วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ นาม. ยา จ ปน ปริคฺคหิเตสุ วตฺถารมฺมเณสุ ปวตฺตา เวทนา, ตาปิ วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ นาม. วิตกฺกาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อนนุสฺสุตวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. อมตวคฺโค

๒. สมุทยสุตฺตวณฺณนา

๔๐๘. ปฺจมวคฺคสฺส ทุติเย อาหารสมุทยา กายสฺส สมุทโยติ อาหารสมุทเยน กายสมุทโย. เอเสว นโย เสเสสุ. มนสิการสมุทยาติ เอตฺถ ปน โยนิโสมนสิการสมุทยา โพชฺฌงฺคธมฺมานํ สมุทโย, อโยนิโสมนสิการสมุทยา นีวรณธมฺมานํ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต สารมฺมณสติปฏฺานา กถิตา.

๔. สติสุตฺตวณฺณนา

๔๑๐. จตุตฺถํ สุทฺธิกํ กตฺวา สมุทเย กถิเต พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสเยน วุตฺตํ.

๖. ปาติโมกฺขสํวรสุตฺตวณฺณนา

๔๑๒. ฉฏฺเ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ จตุนฺนํ สีลานํ เชฏฺกสีลํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํ, อิตรานิ ตีณิ สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ. วตฺวา ตํ อนุชานนฺโต อาห – ‘‘อินฺทฺริยสํวโร นาม ฉทฺวารรกฺขณมตฺตเมว, อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมเนว สเมน ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกํ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปจฺจเย อิทมตฺถนฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนมตฺตกํ. นิปฺปริยาเยน ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํ. ยสฺส โส ภินฺโน, อยํ ฉินฺนสีโส วิย ปุริโส หตฺถปาเท, เสสานิ รกฺขิสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. ยสฺส ปน โส อโรโค, อยํ อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส ชีวิตํ, เสสานิ ปุน ปากติกานิ กตฺวา รกฺขิตุมฺปิ สกฺโกตี’’ติ. ตสฺมา ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํ, เตน ปาติโมกฺขสํวเรน สํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต, อุเปโต สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.

อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อาจาเรน จ โคจเรน จ สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสูติ อปฺปมตฺตเกสุ. วชฺเชสูติ อกุสลธมฺเมสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสี. สมาทายาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา. สิกฺขสฺสุ สิกฺขาปเทสูติ สิกฺขาปเทสุ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺข, ยํ ยํ ปน กิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ สิกฺขิตพฺพํ กายิกํ วา วาจสิกํ วา, ตํ ตํ สพฺพํ สมฺมา อาทาย สิกฺขสฺสูติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔) วุตฺโต. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ปาติโมกฺขสํวรสีลเมว กถิตํ.

๗. ทุจฺจริตสุตฺตวณฺณนา

๔๑๓. สตฺตเม กายสุจริตวจีสุจริตานิ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ, มโนสุจริตํ อิตรานิ ตีณิ สีลานีติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ กถิตํ โหติ. อิมินา นเยน ปฺจสตฺตนวทสสุ กุสลกมฺมปเถสุ ปจฺฉิมาปิ ตโย สีลํ โหตีติ เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. ฉฏฺสตฺตเมสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อมตวคฺโค ปฺจโม.

สติปฏฺานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อินฺทฺริยสํยุตฺตํ

๑. สุทฺธิกวคฺโค

๑. สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา

๔๗๑. อินฺทฺริยสํยุตฺตสฺส ปเม สทฺธินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยนฺติ อิมานิ ตีณิ จตุภูมกกุสลวิปาเกสุ เจว กิริยาสุ จ ลพฺภนฺติ. วีริยินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยานิ จตุภูมกกุสเล อกุสเล วิปาเก กิริยายาติ สพฺพตฺถ ลพฺภนฺติ. อิติ อิทํ สุตฺตํ จตุภูมกสพฺพสงฺคาหกธมฺมปริจฺเฉทวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๗. ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๔๗๗. สตฺตเม สทฺธินฺทฺริยํ นปฺปชานนฺตีติ ทุกฺขสจฺจวเสน น ปชานนฺติ. สทฺธินฺทฺริยสมุทยํ นปฺปชานนฺตีติ สมุทยสจฺจวเสน น ปชานนฺติ. เอวํ นิโรธํ นิโรธสจฺจวเสน, ปฏิปทํ มคฺคสจฺจวเสนาติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

สุกฺกปกฺเข ปน อธิโมกฺขวเสน อาวชฺชนสมุทยา สทฺธินฺทฺริยสมุทโย โหติ, ปคฺคหวเสน อาวชฺชนสมุทยา วีริยินฺทฺริยสมุทโย, อุปฏฺานวเสน อาวชฺชนสมุทยา สตินฺทฺริยสมุทโย, อวิกฺเขปวเสน อาวชฺชนสมุทยา สมาธินฺทฺริยสมุทโย, ทสฺสนวเสน อาวชฺชนสมุทยา ปฺินฺทฺริยสมุทโย โหติ. ตถา ฉนฺทวเสน อาวชฺชนสมุทยา สทฺธินฺทฺริยสมุทโย โหติ, ฉนฺทวเสน อาวชฺชนสมุทยา วีริยสติสมาธิปฺินฺทฺริยสมุทโย โหติ. มนสิการวเสน อาวชฺชนสมุทยา สทฺธินฺทฺริยสมุทโย โหติ. มนสิการวเสน อาวชฺชนสมุทยา วีริยสติสมาธิปฺินฺทฺริยสมุทโย โหตีติ เอวมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิเมสุ ปฏิปาฏิยา ฉสุ สุตฺเตสุ จตุสจฺจเมว กถิตํ.

๘. ทฏฺพฺพสุตฺตวณฺณนา

๔๗๘. อฏฺเม กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สทฺธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ, จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสูติอาทิ อิเมสํ อินฺทฺริยานํ สวิสเย เชฏฺกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ราชาติ ราชปฺจเมสุ สหาเยสุ ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ วีถึ โอติณฺเณสุ เอกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว – ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. ทุติยสฺส, ตติยสฺส, จตุตฺถสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว – ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. อถ สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล กิฺจาปิ ราชา สพฺพตฺถ อิสฺสโร, อิมสฺมึ ปน กาเล อตฺตโน เคเหเยว – ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. เอวเมว สทฺธาปฺจมเกสุ อินฺทฺริเยสุ เตสุ สหาเยสุ เอกโต วีถึ โอตรนฺเตสุ วิย เอการมฺมเณ อุปฺปชฺชมาเนสุปิ ยถา ปมสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ โสตาปตฺติยงฺคานิ ปตฺวา อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ทุติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สมฺมปฺปธานานิ ปตฺวา ปคฺคหลกฺขณํ วีริยินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ตติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สติปฏฺานานิ ปตฺวา อุปฏฺานลกฺขณํ สตินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา จตุตฺถสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ ฌานวิโมกฺเข ปตฺวา อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล ปน ยถา อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, ราชาว เคเห วิจาเรติ, เอวเมว อริยสจฺจานิ ปตฺวา ปชานนลกฺขณํ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺตีติ.

๙-๑๐. ปมวิภงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๗๙-๔๘๐. นวเม สติเนปกฺเกนาติ เอตฺถ นิปกสฺส ภาโว เนปกฺกํ, ปฺาเยตํ นามํ. กสฺมา ปน สติภาชเน ปฺา วุตฺตาติ? สติยา พลวภาวทสฺสนตฺถํ. พลวสติ หิ อิธ อธิปฺเปตา. สา จ ปฺาสมฺปยุตฺตาว พลวตี โหติ, น วิปฺปยุตฺตาติ ปฺาสมฺปยุตฺตสตึ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. จิรกตนฺติ จิรกาลํ กตํ ทานํ วา สีลํ วา อุโปสถกมฺมํ วา. จิรภาสิตนฺติ ‘‘อสุกสฺมึ าเน อสุกํ นาม ภาสิต’’นฺติ เอวํ จิรกาเล ภาสิตํ. โวสฺสคฺคารมฺมณํ กตฺวาติ นิพฺพานารมฺมณํ กตฺวา. อุทยตฺถคามินิยาติ อุทยฺจ อตฺถฺจ คจฺฉนฺติยา, อุทยพฺพยปริคฺคหิกายาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต สทฺธาสติปฺินฺทฺริยานิ ปุพฺพภาคานิ, วีริยินฺทฺริยํ มิสฺสกํ, สมาธินฺทฺริยํ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว กถิตํ. ทสเมปิ อยเมว ธมฺมปริจฺเฉโทติ.

สุทฺธิกวคฺโค ปโม.

๒. มุทุตรวคฺโค

๑. ปฏิลาภสุตฺตวณฺณนา

๔๘๑. ทุติยวคฺคสฺส ปเม สมฺมปฺปธาเน อารพฺภาติ สมฺมปฺปธาเน ปฏิจฺจ, สมฺมปฺปธาเน ภาเวนฺโตติ อตฺโถ. สตินฺทฺริเยปิ เอเสว นโย.

๒. ปมสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๘๒. ทุติเย ตโตติ วิปสฺสนามคฺคผลวเสน นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํ. สมตฺตานิ หิ ปริปุณฺณานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ. ตโต มุทุตเรหีติ เตหิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ สกทาคามิมคฺคสฺส, ตโต มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสาริมคฺคสฺส, ตโต มุทุตรานิ สทฺธานุสาริมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ.

ตถา สมตฺตานิ ปริปุณฺณานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตมคฺคินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ อนาคามิมคฺคินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ สกทาคามิมคฺคินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสาริมคฺคินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ สทฺธานุสาริมคฺคินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ.

สมตฺตานิ ปริปุณฺณานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตผลินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ อนาคามิผลินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ สกทาคามิผลินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ โสตาปตฺติผลินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ. ธมฺมานุสาริสทฺธานุสาริโน ปน ทฺเวปิ โสตาปตฺติมคฺคฏฺปุคฺคลา, มคฺคฏฺปุคฺคลวเสน เนสํ นานตฺตํ ชาตนฺติ อาคมเนนปิ มคฺเคนปิ. สทฺธานุสารี ปุคฺคโล หิ อุทฺทิสาเปนฺโต ปริปุจฺฉนฺโต อนุปุพฺเพน มคฺคํ ปาปุณาติ, ธมฺมานุสารี เอเกน วา ทฺวีหิ วา สวเนหิ. เอวํ ตาว เนสํ อาคมเนน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมานุสาริสฺส ปน มคฺโค ติกฺโข โหติ, สูรํ าณํ วหติ, อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน กิเลเส ฉินฺทติ กทลิกฺขนฺธํ วิย ติขิณา อสิธารา. สทฺธานุสาริสฺส น ตสฺส วิย มคฺโค ติกฺโข โหติ, น สูรํ าณํ วหติ, สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส ฉินฺทติ กทลิกฺขนฺธํ วิย อติขิณา อสิธารา. กิเลสกฺขเย ปน เตสํ นานตฺตํ นตฺถิ. อวเสสา จ กิเลสา ขียนฺติ.

๓. ทุติยสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๘๓. ตติเย ตโตติ ผลวเสน นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํ. สมตฺตานิ หิ ปริปุณฺณานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตผลินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, อรหตฺตผเลน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล อรหา นาม โหติ. อรหตฺตผลโต มุทุตรานิ อนาคามิผลินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ สกทาคามิผลินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ โสตาปตฺติผลินฺทฺริยานิ, โสตาปตฺติผเลน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล โสตาปนฺโน นาม โหติ. อินฺทฺริยเวมตฺตตา ผลเวมตฺตตา โหตีติ อินฺทฺริยนานตฺเตน ผลนานตฺตํ, ผลนานตฺเตน ปุคฺคลนานตฺตนฺติ.

๔. ตติยสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๘๔. จตุตฺเถ ปริปูรํ ปริปูรการี อาราเธตีติ ปริปูรํ อรหตฺตมคฺคํ กโรนฺโต อรหตฺตผลํ อาราเธติ. ปเทสํ ปเทสการีติ อวเสเส ตโย ปเทสมคฺเค กโรนฺโต ปเทสํ ผลตฺตยมตฺตเมว อาราเธติ. อิติ อิเมสุ จตูสุปิ สุตฺเตสุ มิสฺสกาเนว อินฺทฺริยานิ กถิตานิ.

๕-๗. ปมวิตฺถารสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๘๕-๔๘๗. ปฺจเม ตโต มุทุตเรหีติ วิปสฺสนาวเสน นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํ. ปริปุณฺณานิ หิ ปฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อุทฺธํโสตอกนิฏฺคามิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ.

อิมสฺมึ ปน าเน อรหตฺตมคฺเคเยว ตฺวา ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นีหริตพฺพานิ. อรหตฺตมคฺคสฺส หิ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ ปมอนฺตราปรินิพฺพายิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ ทุติยอนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ ตติยอนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อุทฺธํโสตอกนิฏฺคามิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ. อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส สสงฺขารปรินิพฺพายิโนปิ เอเตว ปฺจ ชนา.

อิทานิ ตีณิ นิสฺสกฺกานิ. สกทาคามิมคฺคสฺส หิ อินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคินฺทฺริยานิ, โสตาปตฺติมคฺเคเยว อินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ ธมฺมานุสาริมคฺคินฺทฺริยานิ. เตหิปิ มุทุตรานิ สทฺธานุสาริมคฺคินฺทฺริยานิ. ฉฏฺสตฺตมานิ วุตฺตนยาเนว. อิเมสุ ปน ตีสุปิ สุตฺเตสุ ปุพฺพภาควิปสฺสนินฺทฺริยาเนว กถิตานิ.

๘. ปฏิปนฺนสุตฺตวณฺณนา

๔๘๘. อฏฺเม ตโต มุทุตเรหีติ มคฺคผลวเสน นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปาฬิยํ วุตฺตเมว. พาหิโรติ อิเมหิ อฏฺหิ ปุคฺคเลหิ พหิภูโต. ปุถุชฺชนปกฺเข ิโตติ ปุถุชฺชนโกฏฺาเส ิโต. อิมสฺมึ สุตฺเต โลกุตฺตราเนว อินฺทฺริยานิ กถิตานิ.

๙-๑๐. สมฺปนฺนสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๘๙-๔๙๐. นวเม อินฺทฺริยสมฺปนฺโนติ ปริปุณฺณินฺทฺริโย. ทสมํ อุตฺตานเมว. อิมสฺมึ สุตฺตทฺวเย มิสฺสกานิ อินฺทฺริยานิ กถิตานีติ.

มุทุตรวคฺโค ทุติโย.

๓. ฉฬินฺทฺริยวคฺโค

๒. ชีวิตินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา

๔๙๒. ตติยวคฺคสฺส ทุติเย อิตฺถินฺทฺริยนฺติอาทีสุ อิตฺถิภาเว อินฺทฏฺํ กโรตีติ อิตฺถินฺทฺริยํ. ปุริสภาเว อินฺทฏฺํ กโรตีติ ปุริสินฺทฺริยํ. ชีวิเต อินฺทฏฺํ กโรตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ. อตฺถุปฺปตฺติกํ กิเรตํ สุตฺตํ. สงฺฆมชฺฌสฺมิฺหิ ‘‘กติ นุ โข วฏฺฏินฺทฺริยานี’’ติ กถา อุทปาทิ, อถ ภควา วฏฺฏินฺทฺริยานิ ทสฺเสนฺโต ตีณิมานิ ภิกฺขเวติอาทิมาห.

๓. อฺินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา

๔๙๓. ตติเย อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนฺติ ‘‘อนมตคฺเค สํสาเร อชานิตปุพฺพํ ธมฺมํ ชานิสฺสามี’’ติ ปฏิปนฺนสฺส โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อินฺทฺริยํ. อฺินฺทฺริยนฺติ เตสํเยว าตธมฺมานํ อาชานนากาเรน โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ อุปฺปนฺนํ อินฺทฺริยํ. อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวีสุ อรหตฺตผลธมฺเมสุ อุปฺปนฺนํ อินฺทฺริยํ. ตตฺถ ตตฺถ เตน เตนากาเรน อุปฺปนฺนสฺส าณสฺเสเวตํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ สุตฺตํ อตฺถุปฺปตฺติกเมว. สงฺฆมชฺฌสฺมิฺหิ ‘‘กติ นุ โข โลกุตฺตรินฺทฺริยานี’’ติ กถา อุทปาทิ, อถ ภควา ตานิ ทสฺเสนฺโต ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานีติอาทิมาห.

๔. เอกพีชีสุตฺตวณฺณนา

๔๙๔. จตุตฺเถ ตโต มุทุตเรหีติ วิปสฺสนโต นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํ. สมตฺตานิ หิ ปฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อุทฺธํโสตอกนิฏฺคามิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม. อิธาปิ ปุริมนเยเนว อรหตฺตมคฺเค ตฺวา ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นีหริตพฺพานิ.

ยถา ปน ปุริมนเย สกทาคามิมคฺเค ตฺวา ตีณิ นิสฺสกฺกานิ, เอวมิธ ปฺจ นีหริตพฺพานิ. สกทาคามิมคฺคสฺส หิ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ, โสตาปตฺติมคฺคสฺส จ เตหิ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ เอกพีชิอาทีนํ มคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ.

เอตฺถ จ เอกพีชีติอาทีสุ โย โสตาปนฺโน หุตฺวา เอกเมว อตฺตภาวํ ชเนตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ เอกพีชี นาม. ยถาห ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล เอกพีชี, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, โส เอกฺเว มานุสกํ ภวํ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เอกพีชี’’ติ (ปุ. ป. ๓๓).

โย ปน ทฺเว ตโย ภเว สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ โกลํโกโล นาม. ยถาห ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล โกลํโกโล. อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, โส ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานิ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล โกลํโกโล’’ติ (ปุ. ป. ๓๒). ตตฺถ กุลานีติ ภวา เวทิตพฺพา. ‘‘ทฺเว วา ตีณิ วา’’ติ อิทํ เทสนามตฺตเมว, ยาว ฉฏฺภวา สํสรนฺโต ปน โกลํโกโลว โหติ.

ยสฺส สตฺตกฺขตฺตุํ ปรมา อุปปตฺติ, อฏฺมํ ภวํ นาทิยติ, อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม. ยถาห ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม. อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, โส สตฺตกฺขตฺตุํ เทเว จ มนุสฺเส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ (ปุ. ป. ๓๑).

ภควตา คหิตนามวเสเนว เจตานิ เตสํ นามานิ. ‘‘เอตฺตกฺหิ านํ คโต เอกพีชี นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ. นิยมโต ปน ‘‘อยํ เอกพีชี, อยํ โกลํโกโล, อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ นตฺถิ.

โก ปน เนสํ เอตํ ปเภทํ นิยเมตีติ? เกจิ ปน เถรา ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’’ติ วทนฺติ, เกจิ ‘‘ปมมคฺโค’’, เกจิ ‘‘อุปริม ตโย มคฺคา’’, เกจิ ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา’’ติ. ตตฺถ ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’’ติ วาเท ปมมคฺคสฺส อุปนิสฺสโย กโต นาม โหติ, อุปริ ตโย มคฺคา อนุปนิสฺสยา อุปฺปนฺนาติ วจนํ อาปชฺชติ. ‘‘ปมมคฺโค นิยเมตี’’ติ วาเท อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติ. ‘‘อุปริ ตโย มคฺคา นิยเมนฺตี’’ติ วาเท ปมมคฺเค อนุปฺปนฺเนว อุปริ ตโย มคฺคา อุปฺปนฺนาติ อาปชฺชติ. ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา นิยเมตี’’ติ วาโท ปน ยุชฺชติ. สเจ หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา พลวตี โหติ, เอกพีชี นาม โหติ, ตโต มนฺทตราย โกลํโกโล, ตโต มนฺทตราย สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ.

เอกจฺโจ หิ โสตาปนฺโน วฏฺฏชฺฌาสโย โหติ วฏฺฏาภิรโต ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว วิจรติ สนฺทิสฺสติ. อนาถปิณฺฑิโก เสฏฺิ, วิสาขา อุปาสิกา, จูฬรถมหารถา เทวปุตฺตา, อเนกวณฺโณ เทวปุตฺโต, สกฺโก เทวราชา, นาคทตฺโต เทวปุตฺโตติ อิเม หิ เอตฺตกา ชนา วฏฺฏชฺฌาสยา วฏฺฏาภิรตา อาทิโต ปฏฺาย ฉ เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺเ ตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, อิเม อิธ น คหิตา. น เกวลฺจิเม, โยปิ มนุสฺเสสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โยปิ เทวโลเก นิพฺพตฺโต เทเวสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ อปราปรํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อิเมปิ อิธ น คหิตา. กาเลน เทเว, กาเลน มนุสฺเส สํสริตฺวา ปน อรหตฺตํ ปาปุณนฺโตว อิธ คหิโต. ตสฺมา สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ อิทํ อิธฏฺกโวกิณฺณสุกฺขวิปสฺสกสฺส นามํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมานุสารี สทฺธานุสารีติ เอตฺถ ปน อิมสฺมึ สาสเน โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตนฺตสฺส ทฺเว ธุรานิ, ทฺเว สีสานิ, ทฺเว อภินิเวสา – สทฺธาธุรํ, ปฺาธุรํ, สทฺธาสีสํ, ปฺาสีสํ, สทฺธาภินิเวโส, ปฺาภินิเวโสติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ‘‘สเจ สทฺธาย สกฺกา นิพฺพตฺเตตุํ, นิพฺพตฺเตสฺสามิ โลกุตฺตรมคฺค’’นฺติ สทฺธํ ธุรํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ, โส มคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม โหติ. ผลกฺขเณ ปน สทฺธาวิมุตฺโต นาม หุตฺวา เอกพีชี โกลํโกโล สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ ติวิโธ โหติ. ตตฺถ เอเกโก ทุกฺขาปฏิปทาทิวเสน จตุพฺพิธภาวํ อาปชฺชตีติ สทฺธาธุเรน ทฺวาทส ชนา โหนฺติ.

โย ปน ‘‘สเจ ปฺาย สกฺกา นิพฺพตฺเตตุํ, นิพฺพตฺเตสฺสามิ โลกุตฺตรมคฺค’’นฺติ ปฺํ ธุรํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ, โส มคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี นาม โหติ. ผลกฺขเณ ปน ปฺาวิมุตฺโต นาม หุตฺวา เอกพีชิอาทิเภเทน ทฺวาทสเภโทว โหติ. เอวํ ทฺเว มคฺคฏฺา ผลกฺขเณ จตุวีสติ โสตาปนฺนา โหนฺตีติ.

ติปิฏกติสฺสตฺเถโร กิร ‘‘ตีณิ ปิฏกานิ โสเธสฺสามี’’ติ ปรตีรํ คโต. ตํ เอโก กุฏุมฺพิโก จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺาสิ, เถโร อาคมนกาเล ‘‘คจฺฉามิ อุปาสกา’’ติ อาห. ‘‘กหํ ภนฺเต’’ติ? ‘‘อมฺหากํ อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺติก’’นฺติ. ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต, มยา คนฺตุํ, ภทฺทนฺตํ ปน นิสฺสาย มยา สาสนสฺส คุโณ าโต, ตุมฺหากํ ปรมฺมุขา กีทิสํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมามี’’ติ? อถ นํ เถโร อาห – ‘‘โย ภิกฺขุ จตุวีสติ โสตาปนฺเน ทฺวาทส สกทาคามี อฏฺจตฺตาลีส อนาคามี ทฺวาทส อรหนฺเต ทสฺเสตฺวา ธมฺมกถํ กเถตุํ สกฺโกติ, เอวรูปํ ภิกฺขุํ อุปฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วิปสฺสนา กถิตาติ.

๕-๑๐. สุทฺธกสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๙๕-๕๐๐. ปฺจเม จกฺขุ จ ตํ จกฺขุทฺวาเร นิพฺพตฺตานํ ธมฺมานํ อาธิปเตยฺยสงฺขาเตน อินฺทฏฺเน อินฺทฺริยฺจาติ จกฺขุนฺทฺริยํ. โสตินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อิมสฺมึ วคฺเค ปมสุตฺตฺเจว ฉฏฺาทีนิ จ ปฺจาติ ฉ สุตฺตานิ จตุสจฺจวเสน กถิตานีติ.

ฉฬินฺทฺริยวคฺโค ตติโย.

๔. สุขินฺทฺริยวคฺโค

๑-๕. สุทฺธิกสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๐๑-๕๐๕. จตุตฺถวคฺคสฺส ปเม สุขฺจ ตํ สหชาตานํ อาธิปเตยฺยสงฺขาเตน อินฺทฏฺเน อินฺทฺริยฺจาติ สุขินฺทฺริยํ. ทุกฺขินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยโทมนสฺสินฺทฺริยานิ กามาวจราเนว, โสมนสฺสินฺทฺริยํ เปตฺวา อรูปาวจรํ เสสํ เตภูมกํ, อุเปกฺขินฺทฺริยํ จตุภูมกํ. ทุติยาทีนิ จตฺตาริ จตุสจฺจวเสเนว กถิตานิ.

๖. ปมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

๕๐๖. ฉฏฺเ กายิกนฺติ กายปสาทวตฺถุกํ. สุขนฺติ อยมสฺส สรูปนิทฺเทโส. สาตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ, มธุรนฺติ วุตฺตํ โหติ. กายสมฺผสฺสชนฺติ กายสมฺผสฺสโต ชาตํ. สุขํ สาตนฺติ วุตฺตนยเมว. เวทยิตนฺติ อยมสฺส สพฺพเวทนาสาธารโณ อฺธมฺมวิสิฏฺโ สภาวนิทฺเทโส. อิมินา นเยน เสเสสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กายิกํ วา เจตสิกํ วาติ เอตฺถ ปน จกฺขาทโย จตฺตาโร ปสาทกาเย วตฺถุํ กตฺวา อุปฺปตฺติวเสน กายิกนฺติ วุตฺตํ. กายปสาทวตฺถุกํ ปน อทุกฺขมสุขํ นาม นตฺถิ.

๙. กฏฺโปมสุตฺตวณฺณนา

๕๐๙. นวเม ทฺวินฺนํ กฏฺานนฺติ ทฺวินฺนํ อรณีนํ. สงฺฆฏฺฏนสโมธานาติ สงฺฆฏฺฏเนน เจว สโมธาเนน จ. อุสฺมาติ อุสุมากาโร. เตโชติ อคฺคิธูโม. เอตฺถ จ อธรารณี วิย วตฺถารมฺมณํ, อุตฺตรารณี วิย ผสฺโส, สงฺฆฏฺโฏ วิย ผสฺสสงฺฆฏฺฏนํ, อคฺคิ วิย เวทนา ทฏฺพฺพา. วตฺถารมฺมณํ วา อุตฺตรารณี วิย, ผสฺโส อธรารณี วิย ทฏฺพฺโพ.

๑๐. อุปฺปฏิปาฏิกสุตฺตวณฺณนา

๕๑๐. ทสมํ ยถาธมฺมรเสน ปฏิปาฏิยา วุตฺตมฺปิ อิมสฺมึ อินฺทฺริยวิภงฺเค เสสสุตฺตานิ วิย อเทสิตตฺตา อุปฺปฏิปาฏิกสุตฺตํ นามาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ นิมิตฺตนฺติอาทีนิ สพฺพานิ ปจฺจยเววจนาเนว. ทุกฺขินฺทฺริยฺจ ปชานาตีติ ทุกฺขสจฺจวเสเนว ปชานาติ. ทุกฺขินฺทฺริยสมุทยนฺติ กณฺฏเกน วา วิทฺธสฺส มงฺกุเลน วา ทฏฺสฺส ปจฺจตฺถรเณ วา วลิยา ผุฏฺสฺส ทุกฺขสหคตํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เอตสฺส สมุทโยติ ปชานาติ.

ปรโต โทมนสฺสินฺทฺริยสมุทยนฺติอาทีสุปิ เตสํ เตสํ การณวเสเนว สมุทโย เวทิตพฺโพ. ปตฺตจีวราทีนํ วา หิ สงฺขารานํ สทฺธิวิหาริกาทีนํ วา สตฺตานํ วินาเสน โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ เตสํ วินาสํ ตสฺส สมุทโยติ ปชานาติ. สุโภชนํ ภุฺชิตฺวา วรสยเน นิปนฺนสฺส หตฺถปาทสมฺพาหนตาลวณฺฏวาตาทิสมฺผสฺเสน สุขินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ผสฺสํ ตสฺส สมุทโยติ ปชานาติ. วุตฺตปฺปการานํ ปน สตฺตสงฺขารานํ มนาปานํ ปฏิลาภวเสน โสมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ปฏิลาภํ ตสฺส สมุทโยติ ปชานาติ. มชฺฌตฺตากาเรน ปน อุเปกฺขินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สตฺตสงฺขาเรสุ มชฺฌตฺตาการํ ตสฺส สมุทโยติ ปชานาติ.

กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ, อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีสุ ปน อยํ เอกโตว วินิจฺฉยกถา – ทุกฺขินฺทฺริยฺหิ ปมชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ ปหีนํ โหติ, โทมนสฺสาทีนิ ทุติยชฺฌานาทีนํ. เอวํ สนฺเตปิ เตสํ อติสยนิโรธตฺตา อยํ ฌาเนสุเยว นิโรโธ วุตฺโต. อติสยนิโรโธ หิ เตสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว, นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ, นาติสยนิโรโธ. ตถา หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานุปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ, สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺส โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว, อปฺปหีนา เอว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ. น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน ปหีนปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏฺกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธา. ตถา จตุตฺถชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา อปฺปนาปฺปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา ‘‘เอตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตํ.

ยํ ปเนตฺถ ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรตีติ วุตฺตํ, ตตฺถ อลาภี สมาโน อุปฺปาทนตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ, ลาภี สมาโน สมาปชฺชนตฺถายาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิเมสุ ทฺวีสุปิ สุตฺเตสุ สมฺมสนวาโรว กถิโตติ.

สุขินฺทฺริยวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. ชราวคฺโค

๑. ชราธมฺมสุตฺตวณฺณนา

๕๑๑. ปฺจมวคฺคสฺส ปเม ปจฺฉาตเปติ ปาสาทจฺฉายาย ปุรตฺถิมทิสํ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา ปาสาทสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค อาตโป โหติ, ตสฺมึ าเน ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโนติ อตฺโถ. ปิฏฺึ โอตาปยมาโนติ ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสปิ อุปาทินฺนกสรีเร อุณฺหกาเล อุณฺหํ โหติ, สีตกาเล สีตํ, อยฺจ หิมปาตสีตสมโย. ตสฺมา มหาจีวรํ โอตาเรตฺวา สูริยรสฺมีหิ ปิฏฺึ โอตาปยมาโน นิสีทิ.

กึ ปน พุทฺธรสฺมิโย มทฺทิตฺวา สูริยรสฺมิ อนฺโต ปวิสิตุํ สกฺโกตีติ? น สกฺโกติ. เอวํ สนฺเต กึ ตาเปตีติ? รสฺมิเตชํ. ยเถว หิ ิตมชฺฌนฺหิเก ปริมณฺฑลาย ฉายาย รุกฺขมูเล นิสินฺนสฺส กิฺจาปิ สูริยรสฺมิโย สรีรํ น ผุสนฺติ, สพฺพทิสาสุ ปน เตโช ผรติ, อคฺคิชาลาหิ ปริกฺขิตฺโต วิย โหติ, เอวํ สูริยรสฺมีสุ พุทฺธรสฺมิโย มทฺทิตฺวา อนฺโต ปวิสิตุํ อสกฺกุณนฺตีสุปิ สตฺถา เตชํ ตาเปนฺโต นิสินฺโนติ เวทิตพฺโพ.

อโนมชฺชนฺโตติ ปิฏฺิปริกมฺมกรณวเสน อนุมชฺชนฺโต. อจฺฉริยํ ภนฺเตติ เถโร ภควโต ปิฏฺิโต มหาจีวรํ โอตาเรตฺวา นิสินฺนสฺส ทฺวินฺนํ อํสกูฏานํ อนฺตเร สุวณฺณาวฏฺฏํ วิย เกสคฺคปฺปมาณํ วลิยาวฏฺฏํ ทิสฺวา – ‘‘เอวรูเปปิ นาม สรีเร ชรา ปฺายตี’’ติ สฺชาตสํเวโค ชรํ ครหนฺโต เอวมาห. ครหนจฺฉริยํ นาม กิเรตํ.

น เจวํ ทานิ, ภนฺเต, ภควโต ตาว ปริสุทฺโธติ ยถา ปกติยา ฉวิวณฺโณ ปริสุทฺโธ, น เอวเมตรหีติ ทีเปนฺโต เอวมาห. ตถาคตสฺส หิ ทหรกาเล สงฺกุสตสมพฺภาหตํ อุสภจมฺมํ วิย วิหตวลิโก กาโย โหติ, ตสฺมึ ปิโต หตฺโถ ภสฺสเตว, น สนฺติฏฺติ, เตลปุฺฉนาการปฺปตฺโต วิย โหติ. มหลฺลกกาเล ปน สิราชาลา มิลายนฺติ, สนฺธิปพฺพานิ สิถิลานิ โหนฺติ, มํสํ อฏฺิโต มุจฺจิตฺวา สิถิลภาวํ อาปชฺชิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ โอลมฺพติ. พุทฺธานํ ปน เอวรูปํ น โหติ. อฺเสํ อปากฏํ, สนฺติกาวจรตฺตา อานนฺทตฺเถรสฺเสว ปากฏํ โหติ, ตสฺมา เอวมาห.

สิถิลานิ จ คตฺตานีติ อฺเสํ มุเข อํสกูฏนฺตเรหิ เตสุ เตสุ าเนสุ วลิโย สนฺติฏฺนฺติ, สตฺถุ ปเนตํ นตฺถิ, เถโร จ ทฺวินฺนํ อํสกูฏานํ อนฺตเร วลิยาวฏฺฏกํ ทิสฺวา เอวมาห. สพฺพานิ วลิยชาตานีติ อิทมฺปิ อตฺตโน ปากฏวเสน เอวมาห – สตฺถุ ปน อฺเสํ วิย วลิโย นาม นตฺถิ. ปุรโต ปพฺภาโร จ กาโยติ สตฺถา พฺรหฺมุชุคตฺโต, เทวนคเร สมุสฺสิตสุวณฺณโตรณํ วิยสฺส กาโย อุชุกเมว อุคฺคโต. มหลฺลกกาเล ปน กาโย ปุรโต วงฺโก โหติ, สฺวายํ อฺเสํ อปากโฏ, สนฺติกาวจรตฺตา ปน เถรสฺเสว ปากโฏ, ตสฺมา เอวมาห. ทิสฺสติ จ อินฺทฺริยานํ อฺถตฺตนฺติ อินฺทฺริยานิ นาม น จกฺขุวิฺเยฺยานิ. ยโต ปน ปกติยา ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ, อิทานิ น ตถา ปริสุทฺโธ, อํสกูฏนฺตเร วลิ ปฺายติ, พฺรหฺมุชุกาโย ปุรโต วงฺโก, อิมินาว การเณน จกฺขาทีนฺจ อินฺทฺริยานํ อฺถตฺเตน ภวิตพฺพนฺติ นยคฺคาหโต เอวมาห. ธี ตํ ชมฺมิ ชเร อตฺถูติ ลามเก ชเร ธี ตํ ตุยฺหํ โหตุ, ธิกฺกาโร ตํ ผุสตุ. พิมฺพนฺติ อตฺตภาโว.

๒. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๑๒. ทุติเย โคจรวิสยนฺติ โคจรภูตํ วิสยํ. อฺมฺสฺสาติ จกฺขุ โสตสฺส, โสตํ วา จกฺขุสฺสาติ เอวํ เอกํ เอกสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภติ. สเจ หิ นีลาทิเภทํ รูปารมฺมณํ สโมธาเนตฺวา โสตินฺทฺริยสฺส อุปเนยฺย – ‘‘อิงฺฆ ตฺวํ ตาว นํ ววตฺถเปหิ วิภาเวหิ ‘กินฺนาเมตํ อารมฺมณ’’’นฺติ. จกฺขุวิฺาณํ วินาปิ มุเขน อตฺตโน ธมฺมตาย เอวํ วเทยฺย – ‘‘อเร, อนฺธพาล, วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ วสฺสสตสหสฺสมฺปิ ปริธาวมาโน อฺตฺร มยา กุหึ เอตสฺส ชานนกํ ลภิสฺสสิ, ตํ อาหร, จกฺขุปสาเท อุปเนหิ, อหเมตํ อารมฺมณํ ชานิสฺสามิ – ยทิ วา นีลํ, ยทิ วา ปีตกํ. น หิ เอโส อฺสฺส วิสโย, มยฺหเมเวโส วิสโย’’ติ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตานิ อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภนฺติ นาม.

กึ ปฏิสรณนฺติ เอเตสํ กึ ปฏิสรณํ, กึ เอตานิ ปฏิสรนฺตีติ ปุจฺฉติ. มโน ปฏิสรณนฺติ ชวนมโน ปฏิสรณํ. มโนว เนสนฺติ มโนทฺวาริกชวนมโนว เอเตสํ โคจรวิสยํ รชฺชนาทิวเสน อนุโภติ. จกฺขุวิฺาณฺหิ รูปทสฺสนมตฺตเมว, เอตฺถ รชฺชนํ วา ทุสฺสนํ วา มุยฺหนํ วา นตฺถิ. เอกสฺมึ ปน ทฺวาเร ชวนํ รชฺชติ วา ทุสฺสติ วา มุยฺหติ วา. โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺรายํ อุปมา – ปฺจ กิร ทุพฺพลโภชกา ราชานํ เสวิตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน เอกสฺมึ ปฺจกุลิเก คาเม ปริตฺตกํ อายํ ลภึสุ. เตสํ ตตฺถ มจฺฉภาโค มํสภาโค, อทฺทุกหาปโณ วา โยตฺตกหาปโณ วา มาสกหาปโณ วา อฏฺกหาปโณ วา โสฬสกหาปโณ วา จตุสฏฺิกหาปโณ วา ทณฺโฑติ เอตฺตกมตฺตเมว ปาปุณาติ, สตวตฺถุกํ ปฺจสตวตฺถุกํ สหสฺสวตฺถุกํ มหาพลึ ราชาว คณฺหาติ.

ตตฺถ ปฺจกุลิกคามา วิย ปฺจปสาทา ทฏฺพฺพา, ปฺจ ทุพฺพลโภชกา วิย ปฺจวิฺาณานิ; ราชา วิย ชวนํ, ทุพฺพลโภชกานํ ปริตฺตกอายปาปุณนํ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนํ รูปทสฺสนาทิมตฺตํ, รชฺชนาทิ ปน เอเตสุ นตฺถิ. รฺโ มหาพลิคฺคหณํ วิย เตสุ ทฺวาเรสุ ชวนสฺส รชฺชนาทีนิ เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ มโนติ กุสลากุสลชวนํ วุตฺตํ.

สติ ปฏิสรณนฺติ มคฺคสติ ปฏิสรณํ. ชวนมโน หิ มคฺคสตึ ปฏิสรติ. วิมุตฺตีติ ผลวิมุตฺติ. ปฏิสรณนฺติ ผลวิมุตฺติยา นิพฺพานํ ปฏิสรณํ. ตฺหิ สา ปฏิสรติ. นาสกฺขิ ปฺหสฺส ปริยนฺตํ คเหตุนฺติ ปฺหสฺส ปริจฺเฉทํ ปมาณํ คเหตุํ นาสกฺขิ, อปฺปฏิสรณํ ธมฺมํ ‘‘สปฺปฏิสรณ’’นฺติ ปุจฺฉิ. นิพฺพานํ นาเมตํ อปฺปฏิสรณํ, น กิฺจิ ปฏิสรติ. นิพฺพาโนคธนฺติ นิพฺพานพฺภนฺตรํ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺํ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. นิพฺพานปรายณนฺติ นิพฺพานํ ปรํ อยนมสฺส ปรา คติ, น ตโต ปรํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. นิพฺพานํ ปริโยสานํ อวสานํ อสฺสาติ นิพฺพานปริโยสานํ.

มูลชาตา ปติฏฺิตาติ มคฺเคน อาคตสทฺธา วุจฺจติ. อิมมฺหิ เจ, ภิกฺขเว, สมเยติ กึ สนฺธายาห? ฌานอนาคามิตํ. ตสฺมิฺหิ สมเย พฺราหฺมณสฺส ปมมคฺเคน ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหีนานิ, ปมชฺฌาเนน ปฺจ นีวรณานีติ ฌานอนาคามิฏฺาเน ิโต. โส อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพาเยยฺย. สเจ ปนสฺส ปุตฺตทารํ อนุสาสนฺตสฺส กมฺมนฺเต วิจาเรนฺตสฺส ฌานํ นสฺสติ, นฏฺเ ฌาเน คติ อนิพทฺธา โหติ, อนฏฺเ ปน นิพทฺธาติ อิมํ ฌานอนาคามิตํ สนฺธาย เอวมาห.

๓. สาเกตสุตฺตวณฺณนา

๕๑๓. ตติเย อฺชนวเนติ อฺชนวณฺณปุปฺผานํ รุกฺขานํ โรปิตวเน. ยํ, ภิกฺขเว, สทฺธินฺทฺริยํ, ตํ สทฺธาพลนฺติ ตฺหิ อธิโมกฺขลกฺขเณ อินฺทฏฺเน สทฺธินฺทฺริยํ, อสฺสทฺธิเย อกมฺปเนน สทฺธาพลํ. อิตเรสํ ปคฺคหอุปฏฺานอวิกฺเขปปชานนลกฺขเณสุ อินฺทฏฺเน อินฺทฺริยภาโว, โกสชฺชมุฏฺสจฺจวิกฺเขปาวิชฺชาสุ อกมฺปเนน พลภาโว เวทิตพฺโพ. เอวเมว โขติ ตสฺสา นทิยา เอกโสตํ วิย สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาวเสน เอเตสํ นินฺนานากรณํ เวทิตพฺพํ, ทฺเว โสตานิ วิย อินฺทฏฺอกมฺปนฏฺเหิ อินฺทฺริยพลวเสน นานากรณํ เวทิตพฺพํ.

๔. ปุพฺพโกฏฺกสุตฺตวณฺณนา

๕๑๔. จตุตฺเถ อมโตคธนฺติ อมตพฺภนฺตรํ. อมตปรายณนฺติ อมตนิพฺพตฺติกํ. อมตปริโยสานนฺติ อมตนิฏฺํ. สาธุ สาธูติ เถรสฺส พฺยากรณํ ปสํสนฺโต สาธุการํ เทติ.

๕. ปมปุพฺพารามสุตฺตวณฺณนา

๕๑๕. ปฺจเม ตทนฺวยาติ ตํ อนุคจฺฉมานา, อนุวตฺตมานาติ อตฺโถ. ปุพฺพโกฏฺกํ อาทึ กตฺวา ปฏิปาฏิยา ฉสุ สุตฺเตสุ ผลินฺทฺริยาเนว กถิตานิ.

๑๐. อาปณสุตฺตวณฺณนา

๕๒๐. ทสเม อิเม โข เต ธมฺมาติ อุปริ สห วิปสฺสนาย ตโย มคฺคา. เย เม ปุพฺเพ สุตาว อเหสุนฺติ เย ธมฺมา มยา ปุพฺเพ ‘‘อรหตฺตผลินฺทฺริยํ นาม อตฺถี’’ติ กเถนฺตานํเยว สุตา อเหสุํ. กาเยน จ ผุสิตฺวาติ นามกาเยน จ ผุสิตฺวา ปฏิลภิตฺวา. ปฺาย จ อติวิชฺฌ ปสฺสามีติ ปจฺจเวกฺขณปฺาย จ อติวิชฺฌิตฺวา ปสฺสามิ. ยา หิสฺส, ภนฺเต, สทฺธาติ อยํ กตรสทฺธา? จตูหิ อินฺทฺริเยหิ สมฺปยุตฺตา สทฺธา เหฏฺา กถิตาว, อยํ ปน ปจฺจเวกฺขณสทฺธา. สมฺปยุตฺตสทฺธา หิ มิสฺสกา, ปจฺจเวกฺขณสทฺธา โลกิยาว. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ชราวคฺโค ปฺจโม.

๖. สูกรขตวคฺโค

๑. สาลสุตฺตวณฺณนา

๕๒๑. ฉฏฺวคฺคสฺส ปเม สูเรนาติ สูรภาเวน. โพธายาติ พุชฺฌนตฺถาย.

๒. มลฺลิกสุตฺตวณฺณนา

๕๒๒. ทุติเย มลฺเลสูติ เอวํนามเก ชนปเท. อิมสฺมึ สุตฺเต จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ มิสฺสกานิ, อริยาณํ โลกุตฺตรํ. ตมฺปิ ปน จตุกฺกินฺทฺริยนิสฺสิตํ กตฺวา มิสฺสกนฺติ ภาเชตุํ วฏฺฏติ.

๓. เสขสุตฺตวณฺณนา

๕๒๓. ตติเย น เหว โข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ น นามกาเยน ผุสิตฺวา ปฏิลภิตฺวา วิหรติ, ผุสิตุํ ปฏิลภิตุํ น สกฺโกติ. ปฺาย จ อติวิชฺฌ ปสฺสตีติ ปจฺจเวกฺขณปฺาย ปน ‘‘อุปริ อรหตฺตผลินฺทฺริยํ นาม อตฺถี’’ติ ปชานาติ. อเสขภูมิยํ ผุสิตฺวา วิหรตีติ ปฏิลภิตฺวา วิหรติ. ปฺายาติ ปจฺจเวกฺขณปฺาย ‘‘อรหตฺตผลินฺทฺริยํ นาม อตฺถี’’ติ ปชานาติ. น กุหิฺจิ กิสฺมิฺจีติ ทฺเวปิ อฺมฺเววจนาเนว, กิสฺมิฺจิ ภเว น อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต ปฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานิ, ฉ โลกิกานิ วฏฺฏนิสฺสิตาเนว กถิตานิ.

๔-๕. ปทสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๒๔-๕๒๕. จตุตฺเถ ยานิ กานิจิ ปทานิ โพธาย สํวตฺตนฺตีติ ยานิ กานิจิ ธมฺมปทานิ, เย เกจิ ธมฺมโกฏฺาสา, พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. ปฺจมํ อุตฺตานเมว.

๖-๗. ปติฏฺิตสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๒๖-๕๒๗. ฉฏฺเ จิตฺตํ รกฺขติ อาสเวสุ จ สาสเวสุ จ ธมฺเมสูติ เตภูมกธมฺเม อารพฺภ อาสวุปฺปตฺตึ วาเรนฺโต อาสเวสุ จ สาสเวสุ จ ธมฺเมสุ จิตฺตํ รกฺขติ นาม. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

๘. สูกรขตสุตฺตวณฺณนา

๕๒๘. อฏฺเม สูกรขตายนฺติ สูกรขตเลเณ. กสฺสปพุทฺธกาเล กิร ตํ เลณํ เอกสฺมึ พุทฺธนฺตเร ปถวิยา วฑฺฒมานาย อนฺโตภูมิคตํ ชาตํ. อเถกทิวสํ เอโก สูกโร ตสฺส ฉทนปริยนฺตสมีเป ปํสุํ ขณิ. เทเว วุฏฺเ ปํสุ โธตา, ฉทนปริยนฺโต ปากโฏ อโหสิ. เอโก วนจรโก ทิสฺวา ‘‘ปุพฺเพ สีลวนฺเตหิ ปริภุตฺตฏฺาเนน ภวิตพฺพํ, ปฏิชคฺคิสฺสามิ น’’นฺติ สมนฺตโต ปํสุํ อปเนตฺวา เลณํ โสเธตฺวา กุฏิปริกฺเขปํ กตฺวา ทฺวารวาตปานํ โยเชตฺวา สุปรินิฏฺิตสุธากมฺมจิตฺตกมฺมํ รชตปฏฺฏสทิสาย วาลิกาย สนฺถริตํ ปริเวณํ กตฺวา มฺจปีํ ปฺาเปตฺวา ภควโต วสนตฺถาย อทาสิ, เลณํ คมฺภีรํ อโหสิ โอตริตฺวา อารุหิตพฺพํ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปรมนิปจฺจการนฺติ ภาวนปุํสกํ, ปรมนิปจฺจการี หุตฺวา ปวตฺตมาโน ปวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ. อนุตฺตรํ โยคกฺเขมนฺติ อรหตฺตํ. สปฺปติสฺโสติ สเชฏฺโก. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สูกรขตวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. โพธิปกฺขิยวคฺโค

๕๓๑-๖๕๐. สตฺตมวคฺเค สตฺต ผลานิ ปุพฺพภาคานิ, เตสํ เหฏฺา ทฺเว ผลานิ อาทึ กตฺวา มิสฺสกานิ. เสสเมตฺถ อิโต ปรฺจ สพฺพํ อุตฺตานเมวาติ.

อินฺทฺริยสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สมฺมปฺปธานสํยุตฺตวณฺณนา

๖๕๑-๗๐๔. สมฺมปฺปธานสํยุตฺเต สกเลปิ ปุพฺพภาควิปสฺสนาว กถิตาติ.

สมฺมปฺปธานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. พลสํยุตฺตวณฺณนา

๗๐๕-๘๑๒. พลสํยุตฺเต พลานิ มิสฺสกาเนว กถิตานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

พลสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อิทฺธิปาทสํยุตฺตํ

๑. จาปาลวคฺโค

๑. อปารสุตฺตวณฺณนา

๘๑๓. อิทฺธิปาทสํยุตฺตสฺส ปเม ฉนฺทํ นิสฺสาย ปวตฺโต สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา. สมนฺนาคตนฺติ เตหิ ธมฺเมหิ อุเปตํ. อิทฺธิยา ปาทํ, อิทฺธิภูตํ วา ปาทนฺติ อิทฺธิปาทํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อิทฺธิปาทวิภงฺเค (วิภ. ๔๓๑ อาทโย) อาคโตว. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓.๖๙ อาทโย) ปนสฺส อตฺโถ ทีปิโต. ตถา มคฺคโพชฺฌงฺคสติปฏฺานสํยุตฺเตสุ เจว อิธ จ เอกปริจฺเฉโทว.

๕. อิทฺธิปเทสสุตฺตวณฺณนา

๘๑๗. ปฺจเม อิทฺธิปเทสนฺติ ตโย จ มคฺเค ตีณิ จ ผลานิ.

๖. สมตฺตสุตฺตวณฺณนา

๘๑๘. ฉฏฺเ สมตฺตํ อิทฺธินฺติ อรหตฺตผลเมว. อาทิโต ปฏฺาย ปน นวสุปิ สุตฺเตสุ วิวฏฺฏปาทกา เอว อิทฺธิปาทา กถิตา.

๑๐. เจติยสุตฺตวณฺณนา

๘๒๒. ทสเม นิสีทนนฺติ จมฺมขณฺฑํ อธิปฺเปตํ. อุเทนํ เจติยนฺติ อุเทนยกฺขสฺส เจติยฏฺาเน กตวิหาโร วุจฺจติ. โคตมกาทีสุปิ เอเสว นโย. ภาวิตาติ วฑฺฒิตา. พหุลีกตาติ ปุนปฺปุนํ กตา. ยานีกตาติ ยุตฺตยานํ วิย กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตา. อนุฏฺิตาติ อธิฏฺิตา. ปริจิตาติ สมนฺตโต จิตา สุวฑฺฒิตา. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา.

อิติ อนิยเมน กเถตฺวา ปุน นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต ตถาคตสฺส โขติอาทิมาห. เอตฺถ จ กปฺปนฺติ อายุกปฺปํ, ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ยํ มนุสฺสานํ อายุปฺปมาณํ, ตํ ปริปุณฺณํ กโรนฺโต ติฏฺเยฺย. กปฺปาวเสสํ วาติ ‘‘อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ วุตฺตวสฺสสตโต อติเรกํ วา. มหาสีวตฺเถโร ปนาห ‘‘พุทฺธานํ อฏฺาเน คชฺชิตํ นาม นตฺถิ. ยเถว หิ เวฬุวคามเก อุปฺปนฺนํ มารณนฺติกเวทนํ ทส มาเส วิกฺขมฺเภสิ, เอวํ ปุนปฺปุนํ ตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ทส ทส มาเสปิ วิกฺขมฺเภนฺโต อิมํ ภทฺทกปฺปเมว ติฏฺเยฺยา’’ติ.

กสฺมา ปน น ิโตติ? อุปาทิณฺณกสรีรํ นาม ขณฺฑิจฺจาทีหิ อภิภุยฺยติ, พุทฺธา นาม ขณฺฑิจฺจาทิภาวํ อปตฺวาว ปฺจเม อายุโกฏฺาเส พหุชนสฺส ปิยมนาปกาเลเยว ปรินิพฺพายนฺติ. พุทฺธานุพุทฺเธสุ จ มหาสาวเกสุ ปรินิพฺพุเตสุ เอกเกน ขาณุเกน วิย าตพฺพํ โหติ, ทหรสามเณรปริวาริเตน วา, ตโต – ‘‘อโห พุทฺธานํ ปริสา’’ติ หีเฬตพฺพตํ อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา น ิโตติ. เอวํ วุตฺเตปิ โส ปน น รุจฺจติ, ‘‘อายุกปฺโป’’ติ อิทเมว อฏฺกถายํ นิยมิตํ.

ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. ยถา มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต อชฺโฌตฺถฏจิตฺโต อฺโปิ โกจิ ปุถุชฺชโน ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺกุเณยฺย, เอวเมว นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุนฺติ อตฺโถ. มาโร หิ ยสฺส สพฺเพน สพฺพํ ทฺวาทส วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, ตสฺส จิตฺตํ ปริยุฏฺาติ. เถรสฺส จ จตฺตาโร วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, เตนสฺส มาโร จิตฺตํ ปริยุฏฺาสิ. โส ปน จิตฺตปริยุฏฺานํ กโรนฺโต กึ กโรตีติ? เภรวํ รูปารมฺมณํ วา ทสฺเสติ, สทฺทารมฺมณํ วา สาเวติ, ตโต สตฺตา ตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา วิวฏมุขา โหนฺติ, เตสํ มุเขน หตฺถํ ปเวเสตฺวา หทยํ มทฺทติ, เต วิสฺี หุตฺวา ติฏฺนฺติ. เถรสฺส ปเนส มุเข หตฺถํ ปเวเสตุํ กึ สกฺขิสฺสติ? เภรวารมฺมณํ ปน ทสฺเสติ, ตํ ทิสฺวา เถโร นิมิตฺโตภาสํ น ปฏิวิชฺฌิ. ชานนฺโตเยว ภควา กิมตฺถํ ยาวตติยกํ อามนฺเตสีติ. ปรโต ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา’’ติ ยาจิเต ‘‘ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธ’’นฺติ โทสาโรปเนน โสกตนุกรณตฺถํ.

มาโร ปาปิมาติ เอตฺถ สตฺเต อนตฺเถ นิโยเชนฺโต มาเรตีติ มาโร. ปาปิมาติ ตสฺเสว เววจนํ. โส หิ ปาปธมฺมสมนฺนาคตตฺตา ‘‘ปาปิมา’’ติ วุจฺจติ. กณฺโห, อนฺตโก, นมุจิ, ปมตฺตพนฺธูติปิ ตสฺเสว นามานิ. ภาสิตา โข ปเนสาติ อยฺหิ ภควโต สมฺโพธิปตฺติยา อฏฺเม สตฺตาเห โพธิมณฺฑํเยว อาคนฺตฺวา – ‘‘ภควา ยทตฺถํ ตุมฺเหหิ ปารมิโย ปูริตา, โส โว อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, ปฏิวิทฺธํ สพฺพฺุตฺาณํ, กึ โว โลกวิจรเณนา’’ติ วตฺวา ยถา อชฺช, เอวเมว – ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ, สุคโต,’’ติ ยาจิ. ภควา จสฺส ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ปฏิกฺขิปิ. ตํ สนฺธาย ‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต,’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ วิยตฺตาติ มคฺควเสน พฺยตฺตา. ตเถว วินีตา. ตถา วิสารทา. พหุสฺสุตาติ เตปิฏกวเสน พหุ สุตเมเตสนฺติ พหุสฺสุตา. ตเทว ธมฺมํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมธรา. อถ วา ปริยตฺติพหุสฺสุตา เจว ปฏิเวธพหุสฺสุตา จ, ปริยตฺติปฏิเวธธมฺมานํเยว ธารณโต ธมฺมธราติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนาติ อริยธมฺมสฺส อนุธมฺมภูตํ วิปสฺสนาธมฺมํ ปฏิปนฺนา. สามีจิปฺปฏิปนฺนาติ อนุจฺฉวิกปฏิปทํ ปฏิปนฺนา. อนุธมฺมจาริโนติ อนุธมฺมจรณสีลา. สกํ อาจริยกนฺติ อตฺตโน อาจริยวาทํ. อาจิกฺขิสฺสนฺตีติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺสฺเสว เววจนานิ. สหธมฺเมนาติ สเหตุเกน สการเณน วจเนน. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ยาว นิยฺยานิกํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. อิทฺธนฺติ สมิทฺธํ ฌานสฺสาทวเสน. ผีตนฺติ วุฑฺฒิปตฺตํ สพฺพปาลิผุลฺลํ วิย อภิฺาสมฺปตฺติวเสน. วิตฺถาริกนฺติ วิตฺถตํ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ปติฏฺิตวเสน. พาหุชฺนฺติ พหูหิ าตํ ปฏิวิทฺธํ มหาชนาภิสมยวเสน. ปุถุภูตนฺติ สพฺพากาเรน ปุถุลภาวปตฺตํ. กถํ? ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ, ยตฺตกา วิฺุชาติกา เทวา เจว มนุสฺสา จ อตฺถิ, สพฺเพหิ สุฏฺุ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.

อปฺโปสฺสุกฺโกติ นิราลโย. ตฺวฺหิ ปาปิม อฏฺมสตฺตาหโต ปฏฺาย ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต’’ติ วิรวนฺโต อาหิณฺฑิตฺถ, อชฺช ทานิ ปฏฺาย วิคตุสฺสาโห โหหิ, มา มยฺหํ ปรินิพฺพานตฺถํ วายามํ กโรหีติ วทติ.

สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชีติ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อายุสงฺขารํ วิสฺสชิ ปชหิ. ตตฺถ น ภควา หตฺเถน เลฑฺฑุํ วิย อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ, เตมาสมตฺตเมว ปน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต ปรํ น สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอสฺสชี’’ติ. อุสฺสชีติปิ ปาโ. มหาภูมิจาโลติ มหนฺโต ปถวิกมฺโป. ตทา กิร ทสสหสฺสิโลกธาตุ อกมฺปิตฺถ. ภึสนโกติ ภยชนโก. เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสูติ เทวเภริโย ผลึสุ, เทโว สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชิ, อกาลวิชฺชุลตา นิจฺฉรึสุ, ขณิกวสฺสํ วสฺสีติ วุตฺตํ โหติ.

อุทานํ อุทาเนสีติ กสฺมา อุทาเนสิ? โกจิ นาม วเทยฺย ‘‘ภควา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อนุพนฺธิตฺวา – ‘ปรินิพฺพายถ, ภนฺเต, ปรินิพฺพายถ, ภนฺเต’ติ อุปทฺทุโต ภเยน อายุสงฺขารํ วิสฺสชฺเชสี’’ติ. ตสฺโสกาโส มา โหตูติ. ภีตสฺส หิ อุทานํ นาม นตฺถีติ ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทาเนสิ.

ตตฺถ สพฺเพสํ โสณสิงฺคาลาทีนมฺปิ ปจฺจกฺขภาวโต ตุลิตํ ปริจฺฉินฺนนฺติ ตุลํ. กึ ตํ? กามาวจรกมฺมํ. น ตุลํ, น วา ตุลํ สทิสมสฺส อฺํ โลกิยกมฺมํ อตฺถีติ อตุลํ. กึ ตํ? มหคฺคตกมฺมํ. อถ วา กามาวจรํ รูปาวจรฺจ ตุลํ, อรูปาวจรํ อตุลํ. อปฺปวิปากํ ตุลํ, พหุวิปากํ อตุลํ. สมฺภวนฺติ สมฺภวเหตุภูตํ, ปิณฺฑการกํ ราสิการกนฺติ อตฺโถ. ภวสงฺขารนฺติ ปุนพฺภวสฺส สงฺขารํ. อวสฺสชีติ วิสฺสชฺเชสิ. มุนีติ พุทฺธมุนิ. อชฺฌตฺตรโตติ นิยกชฺฌตฺตรโต. สมาหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิโต. อภินฺทิ กวจมิวาติ กวจํ วิย อภินฺทิ. อตฺตสมฺภวนฺติ อตฺตนิ ชาตกิเลสํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สวิปากฏฺเน สมฺภวํ ภวาภิสงฺขณฏฺเน ภวสงฺขารนฺติ จ ลทฺธนามํ ตุลาตุลสงฺขาตํ โลกิยกมฺมฺจ โอสฺสชิ, สงฺคามสีเส มหาโยโธ กวจํ วิย อตฺตสมฺภวํ กิเลสฺจ อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต หุตฺวา อภินฺทีติ.

อถ วา ตุลนฺติ ตุเลนฺโต ตีเรนฺโต. อตุลฺจ สมฺภวนฺติ นิพฺพานฺเจว ภวฺจ. ภวสงฺขารนฺติ ภวคามิกมฺมํ. อวสฺสชิ มุนีติ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา, ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ นิพฺพานํ นิจฺจ’’นฺติอาทินา นเยน ตุลยนฺโต พุทฺธมุนิ ภเว อาทีนวํ นิพฺพาเน จานิสํสํ ทิสฺวา ตํ ขนฺธานํ มูลภูตํ ภวสงฺขารํ ‘‘กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ เอวํ วุตฺเตน กมฺมกฺขยกเรน อริยมคฺเคน อวสฺสชิ. กถํ? อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภวํ. โส หิ วิปสฺสนาวเสน อชฺฌตฺตรโต, สมถวเสน สมาหิโตติ เอวํ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย สมถวิปสฺสนาพเลน กวจมิว อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ, อตฺตนิ สมฺภวตฺตา อตฺตสมฺภวนฺติ ลทฺธนามํ สพฺพํ กิเลสชาตํ อภินฺทิ. กิเลสาภาเวน จ กมฺมํ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อวสฺสฏฺํ นาม โหตีติ เอวํ กิเลสปฺปหาเนน กมฺมํ ชหิ. ปหีนกิเลสสฺส ภยํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา อภีโตว อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ. อภีตภาวาปนตฺถฺจ อุทานํ อุทาเนสีติ เวทิตพฺโพ.

จาปาลวคฺโค ปโม.

๒. ปาสาทกมฺปนวคฺโค

๑-๒. ปุพฺพสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๒๓-๘๒๔. ทุติยวคฺคสฺส ปเม น จ อติลีโนติอาทีนิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. อิมสฺมึ สุตฺเต ฉอภิฺาปาทกา อิทฺธิปาทา กถิตา, ตถา ทุติเย จ.

๓. ฉนฺทสมาธิสุตฺตวณฺณนา

๘๒๕. ตติเย ฉนฺทนฺติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ. นิสฺสายาติ นิสฺสยํ กตฺวา, อธิปตึ กตฺวาติ อตฺโถ. ปธานสงฺขาราติ ปธานภูตา สงฺขารา, จตุกิจฺจสาธกสมฺมปฺปธานวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อยฺจ ฉนฺโทติอาทีสุ ฉนฺโท ฉนฺทสมาธินา เจว ปธานสงฺขาเรหิ จ, ฉนฺทสมาธิ ฉนฺเทน เจว ปธานสงฺขาเรหิ จ, ปธานสงฺขาราปิ ฉนฺเทน เจว ฉนฺทสมาธินา จ สมนฺนาคตา. ตสฺมา สพฺเพ เต ธมฺเม เอกโต กตฺวา อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคโต อิทฺธิปาโทติ วุตฺตํ. อิทฺธิปาทวิภงฺเค (วิภ. ๔๓๗) ปน ‘‘โย ตถาภูตสฺส เวทนากฺขนฺโธ ติอาทินา นเยน อิเมหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา เสสอรูปิโน ธมฺมา อิทฺธิปาทาติ วุตฺตา.

อปิจ อิเมปิ ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ. กถํ? ฉนฺทฺหิ ภาวยโต ฉนฺโท อิทฺธิ นาม โหติ, สมาธิปฺปธานสงฺขารา ฉนฺทิทฺธิปาโท นาม. สมาธึ ภาเวนฺตสฺส สมาธิ อิทฺธิ นาม โหติ, ฉนฺทปฺปธานสงฺขารา สมาธิทฺธิยา ปาโท นาม. ปธานสงฺขาเร ภาเวนฺตสฺส ปธานสงฺขารา อิทฺธิ นาม โหติ, ฉนฺทสมาธิ ปธานสงฺขาริทฺธิยา ปาโท นาม, สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ หิ เอกสฺมึ อิชฺฌมาเน เสสาปิ อิชฺฌนฺติเยว.

อปิจ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปุพฺพภาควเสนาปิ เอเตสํ อิทฺธิปาทตา เวทิตพฺพา. ปมชฺฌานฺหิ อิทฺธิ นาม, ปมชฺฌานสฺส ปุพฺพภาคปริกมฺมสมฺปยุตฺตา ฉนฺทาทโย อิทฺธิปาโท นาม. เอเตนุปาเยน ยาว เนวสฺานาสฺายตนา, อิทฺธิวิธํ อาทึ กตฺวา ยาว ทิพฺพจกฺขุอภิฺา, โสตาปตฺติมคฺคํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคา นโย เนตพฺโพ. เสสิทฺธิปาเทสุปิ เอเสว นโย.

เกจิ ปน ‘‘อนิพฺพตฺโต ฉนฺโท อิทฺธิปาโท’’ติ วทนฺติ. อิธ เตสํ วาทมทฺทนตฺถาย อภิธมฺเม อุตฺตรจูฬวาโร นาม อาคโต –

‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา – ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยิทฺธิปาโท, จิตฺติทฺธิปาโท, วีมํสิทฺธิปาโท. ตตฺถ กตโม ฉนฺทิทฺธิปาโท? อิธ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามึ ทิฏฺิคตานํ ปหานาย ปมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขาปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ, โย ตสฺมึ สมเย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา กุสโล ธมฺมจฺฉนฺโท, อยํ วุจฺจติ ฉนฺทิทฺธิปาโท. อวเสสา ธมฺมา ฉนฺทิทฺธิปาทสมฺปยุตฺตา’’ติ (วิภ. ๔๕๗-๔๕๘).

อิเม ปน โลกุตฺตรวเสเนว อาคตา.

ตตฺถ รฏฺปาลตฺเถโร ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ. โสณตฺเถโร วีริยํ ธุรํ กตฺวา; สมฺภุตตฺเถโร จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา, อายสฺมา โมฆราชา วีมํสํ ธุรํ กตฺวาติ. ตตฺถ ยถา จตูสุ อมจฺจปุตฺเตสุ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ราชานํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺเตสุ เอโก อุปฏฺาเน ฉนฺทชาโต รฺโ อชฺฌาสยฺจ รุจิฺจ ตฺวา ทิวา จ รตฺโต จ อุปฏฺหนฺโต ราชานํ อาราเธตฺวา านนฺตรํ ปาปุณิ. เอวํ ฉนฺทธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพ.

เอโก ปน – ‘‘ทิวเส ทิวเส อุปฏฺาตุํ น สกฺโกมิ, อุปฺปนฺเน กิจฺเจ ปรกฺกเมน อาราเธสฺสามี’’ติ กุปิเต ปจฺจนฺเต รฺา ปหิโต ปรกฺกเมน สตฺตุมทฺทนํ กตฺวา ปาปุณิ. ยถา โส, เอวํ วีริยธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพ. เอโก ‘‘ทิวเส ทิวเส อุปฏฺานมฺปิ อุเรน สตฺติสรสมฺปฏิจฺฉนมฺปิ ภาโรเยว, มนฺตพเลน อาราเธสฺสามี’’ติ ขตฺตวิชฺชาย กตปริจยตฺตา มนฺตสํวิธาเนน ราชานํ อาราเธตฺวา ปาปุณิ. ยถา โส, เอวํ จิตฺตธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพ.

อปโร – ‘‘กึ อิเมหิ อุปฏฺานาทีหิ, ราชาโน นาม ชาติสมฺปนฺนสฺส านนฺตรํ เทนฺติ, ตาทิสสฺส เทนฺโต มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ชาติสมฺปตฺติเมว นิสฺสาย านนฺตรํ ปาปุณิ. ยถา โส, เอวํ สุปริสุทฺธํ วีมํสํ นิสฺสาย วีมํสธุเรน โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก เวทิตพฺโพติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วิวฏฺฏปาทกอิทฺธิ กถิตา.

๔. โมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา

๘๒๖. จตุตฺเถ อุทฺธตาติ อุทฺธจฺจปกติกา วิปฺผนฺทมานจิตฺตา. อุทฺธจฺเจน หิ เอการมฺมเณ จิตฺตํ วิปฺผนฺทติ ธชยฏฺิยํ วาเตน ปหตธโช วิย. อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา, อุฏฺิตตุจฺฉมานาติ วุตฺตํ โหติ. จปลาติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทิจาปลฺเลน ยุตฺตา. มุขราติ มุขขรา, ขรวจนาติ วุตฺตํ โหติ. วิกิณฺณวาจาติ อสํยตวจนา ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปฺปลาปิโน. มุฏฺสฺสตีติ นฏฺสฺสติโน. อสมฺปชานาติ ปฺารหิตา. อสมาหิตาติ อุปจารปฺปนาสมาธิวิรหิตา. ภนฺตจิตฺตาติ อุพฺภนฺตจิตฺตา สมาธิวิรเหน ลทฺโธกาเสน อุทฺธจฺเจน. ปากตินฺทฺริยาติ อสํวุตินฺทฺริยา. อิทฺธาภิสงฺขารนฺติ อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปาสาทปติฏฺิตํ ปถวิภาคํ ‘‘อุทก’’นฺติ อธิฏฺาย, อุทกปิฏฺเ ิตปาสาทํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา องฺคุฏฺเกน ปหริ. คมฺภีรเนโมติ คมฺภีรอาวาโฏ, คมฺภีรภูมิภาคํ อนุปวิฏฺโติ อตฺโถ. สุนิขาโตติ สุฏฺุ นิขาโต, โกฏฺเฏตฺวา สุฏฺุ ปิโต. อิธ อภิฺาปาทกิทฺธิ กถิตา.

๕. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๘๒๗. ปฺจเม ฉนฺทปฺปหานตฺถนฺติ ตณฺหาฉนฺทสฺส ปหานตฺถํ. อิธาปิ วิวฏฺฏปาทกิทฺธิ กถิตา.

๙. อิทฺธาทิเทสนาสุตฺตวณฺณนา

๘๓๑. นวเม โย โส ภิกฺขเว มคฺโคติ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ อธิปฺเปตํ.

๑๐. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

๘๓๒. ทสเม โกสชฺชสหคโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส จิตฺเต ลีนากาโร โอกฺกมติ, โส ‘‘ลีนากาโร เม โอกฺกนฺโต’’ติ ตฺวา อปายภเยน จิตฺตํ ตชฺเชตฺวา ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน ลีนากาโร โอกฺกมติ. โส ปุน อปายภเยน จิตฺตํ ตชฺเชตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส โกสชฺเชน โวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท โกสชฺชสหคโต นาม โหติ. โกสชฺชสมฺปยุตฺโตติ ตสฺเสว เววจนํ.

อุทฺธจฺจสหคโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส จิตฺตํ อุทฺธจฺเจ ปตติ. โส พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวชฺเชตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา กมฺมนิยํ กตฺวา ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน จิตฺตํ อุทฺธจฺเจ ปตติ. โส ปุน พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวชฺเชตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา กมฺมนิยํ กตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส อุทฺธจฺเจน โวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท อุทฺธจฺจสหคโต นาม โหติ.

ถินมิทฺธสหคโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ. โส ‘‘อุปฺปนฺนํ เม ถินมิทฺธ’’นฺติ ตฺวา อุทเกน มุขํ ปุฺฉิตฺวา, กณฺเณ อากฑฺฒิตฺวา ปคุณํ ธมฺมํ สชฺฌายิตฺวา ทิวา คหิตํ วา อาโลกสฺํ มนสิกริตฺวา ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ. โส วุตฺตนเยเนว ปุน ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส ถินมิทฺเธน โวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท ถินมิทฺธสหคโต นาม โหติ.

อนุวิกฺขิตฺโตติ อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต นิสีทติ. อถสฺส กามคุณารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. โส ‘‘พหิทฺธา วิกฺขิตฺตํ เม จิตฺต’’นฺติ ตฺวา อนมตคฺค (สํ. นิ. ๒.๑๒๔-๑๒๕) เทวทูต- (ม. นิ. ๓.๒๖๑) เจโลปม (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๔) อนาคตภยสุตฺตาทีนิ (อ. นิ. ๕.๗๗) อาวชฺเชนฺโต สุตฺตทณฺเฑน จิตฺตํ ตชฺเชตฺวา กมฺมนิยํ กตฺวา ปุน ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ. อถสฺส ปุน จิตฺตํ วิกฺขิปติ. โส ปุน สุตฺตทณฺเฑน จิตฺตํ กมฺมนิยํ กตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรตีติ เอวมสฺส กามวิตกฺกโวกิณฺณตฺตา ฉนฺโท พหิทฺธา ปฺจ กามคุเณ อารพฺภ อนุวิกฺขิตฺโต อนุวิสโฏ โหติ.

ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ กมฺมฏฺานวเสนปิ เทสนาวเสนปิ ปุริมปจฺฉิมตา เวทิตพฺพา. กถํ? กมฺมฏฺาเน ตาว กมฺมฏฺานสฺส อภินิเวโส ปุเร นาม, อรหตฺตํ ปจฺฉา นาม. ตตฺถ โย ภิกฺขุ มูลกมฺมฏฺาเน อภินิวิสิตฺวา อติลีนาทีสุ จตูสุ าเนสุ จิตฺตสฺส โอกฺกมนํ ปฏิเสเธตฺวา, ทุฏฺโคเณ โยเชตฺวา สาเรนฺโต วิย จตุรสฺสฆฏิกํ โอตาเรนฺโต วิย จตุนฺนํ านานํ เอกฏฺาเนปิ อสชฺชนฺโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อยมฺปิ ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา วิหรติ นาม. อยํ กมฺมฏฺานวเสน ปุริมปจฺฉิมตา. เทสนาวเสน ปน เกสา ปุเร นาม, มตฺถลุงฺคํ ปจฺฉา นาม. ตตฺถ โย ภิกฺขุ เกเสสุ อภินิวิสิตฺวา วณฺณสณฺานาทิวเสน เกสาทโย ปริคฺคณฺหนฺโต จตูสุ าเนสุ อสชฺชนฺโต ยาว มตฺถลุงฺคา ภาวนํ ปาเปติ, อยมฺปิ ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา วิหรติ นาม. เอวํ เทสนาวเสน ปุริมปจฺฉิมตา เวทิตพฺพา. ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเรติ อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ.

ยถา อโธ ตถา อุทฺธนฺติ อิทํ สรีรวเสน เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา’’ติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ปาทตลโต ปฏฺาย ยาว เกสมตฺถกา ทฺวตฺตึสาการวเสน วา ปาทงฺคุลิอคฺคปพฺพฏฺิโต ยาว สีสกฏาหํ, สีสกฏาหโต ยาว ปาทงฺคุลีนํ อคฺคปพฺพฏฺีนิ, ตาว อฏฺิวเสน วา ภาวนํ ปาเปติ จตูสุ าเนสุ เอกฏฺาเนปิ อสชฺชนฺโต. อยํ ยถา อุทฺธํ ตถา อโธ, ยถา อโธ ตถา อุทฺธํ วิหรติ นาม.

เยหิ อากาเรหีติ เยหิ โกฏฺาเสหิ. เยหิ ลิงฺเคหีติ เยหิ สณฺาเนหิ. เยหิ นิมิตฺเตหีติ เยหิ อุปฏฺาเนหิ. อาโลกสฺา สุคฺคหิตา โหตีติ โย ภิกฺขุ องฺคเณ นิสีทิตฺวา อาโลกสฺํ มนสิ กโรติ, กาเลน นิมีเลติ, กาเลน อุมฺมีเลติ. อถสฺส ยทา นิมีเลนฺตสฺสาปิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกนฺตสฺส วิย เอกสทิสเมว อุปฏฺาติ, ตทา อาโลกสฺา ชาตา นาม โหติ. ‘‘ทิวาสฺา’’ติปิ ตสฺเสว นามํ. สา จ ปน รตฺตึ อุปฺปชฺชมานา สุคฺคหิตา นาม โหติ. สฺวาธิฏฺิตาติปิ ตสฺเสว เววจนํ. สุฏฺุ อธิฏฺิตา สุฏฺุ ปิตา สฺวาธิฏฺิตา นาม วุจฺจติ. สา อตฺถโต สุคฺคหิตาเยว. โย วา อาโลเกน ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ, ตสฺส ทิวาปิ อาโลกสฺา สุคฺคหิตา สฺวาธิฏฺิตา นาม. รตฺติ วา โหตุ ทิวา วา เยน อาโลเกน ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ, ตสฺมึ ถินมิทฺธวิโนทเน อาโลเก อุปฺปนฺนา สฺา สุคฺคหิตาเยว นาม. วีริยาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ สุตฺเต ฉนฺนํ อภิฺานํ ปาทกิทฺธิ กถิตา.

ปาสาทกมฺปนวคฺโค ทุติโย.

๓. อโยคุฬวคฺโค

๒. อโยคุฬสุตฺตวณฺณนา

๘๓๔. ตติยวคฺคสฺส ทุติเย อิมินา จาตุมหาภูติเกนาติ อิมินา จตุมหาภูตมเยน เอวํ ภาริเกน ครุเกน สมาเนนาปิ. โอมาตีติ ปโหติ สกฺโกติ, อิทํ เตปิฏเก พุทฺธวจเน อสมฺภินฺนปทํ. กายมฺปิ จิตฺเต สโมทหตีติ กายํ คเหตฺวา จิตฺเต อาโรเปติ, จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ กโรติ, จิตฺตคติยา เปเสติ. จิตฺตํ นาม มหคฺคตจิตฺตํ, จิตฺตคติคมนํ ลหุกํ โหติ. จิตฺตมฺปิ กาเย สโมทหตีติ จิตฺตํ คเหตฺวา กาเย อาโรเปติ, กายสนฺนิสฺสิตํ กโรติ, กายคติยา เปเสติ, กาโย นาม กรชกาโย, กายคติคมนํ ทนฺธํ โหติ. สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจาติ อภิฺาจิตฺตสหชาตสฺา. สา หิ สนฺตสุขสมนฺนาคตตฺตา สุขสฺา นาม โหติ, กิเลสทนฺธายิตตฺตสฺส จ อภาวา ลหุสฺา นาม.

อโยคุโฬ ทิวสํ สนฺตตฺโต ลหุตโร เจว โหตีติ โส หิ ทฺวีหิ ตีหิ ชเนหิ อุกฺขิปิตฺวา กมฺมารุทฺธเน ปกฺขิตฺโตปิ ทิวสํ ปจฺจมาโน วิวรานุปวิฏฺเน เตเชน เจว วาเยน จ วาโยสหคโต จ อุสฺมาสหคโต จ เตโชสหคโต จ หุตฺวา เอวํ ลหุโก โหติ, ยถา นํ กมฺมาโร มหาสณฺฑาเสน คเหตฺวา เอกโต ปริวตฺเตติ อุกฺขิปติ พหิ นีหรติ. เอวํ ปน มุทุ จ โหติ กมฺมนิโย จ. ยถา นํ โส ขณฺฑํ ขณฺฑํ วิจฺฉินฺทติ, กูเฏน หนนฺโต ทีฆจตุรสฺสาทิเภทํ กโรติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วิกุพฺพนิทฺธิ กถิตา.

๓-๑๐. ภิกฺขุสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๓๕-๘๔๒. ตติเย วิวฏฺฏปาทกิทฺธิ กถิตา, ตถา จตุตฺเถ. อปิจ ทฺเว ผลานิ อาทึ กตฺวา เหฏฺา มิสฺสกิทฺธิปาทา กถิตา, สตฺตสุ ผเลสุ ปุพฺพภาคา. สตฺตมาทีนิ จตฺตาริ เหฏฺา กถิตนยาเนว.

๑๑-๑๒. โมคฺคลฺลานสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๔๓-๘๔๔. เอกาทสมทฺวาทสเมสุ ฉ อภิฺา กถิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อิทฺธิปาทสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อนุรุทฺธสํยุตฺตํ

๑. รโหคตวคฺโค

๑-๒. ปมรโหคตสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๙๙-๙๐๐. อนุรุทฺธสํยุตฺตสฺส ปเม อารทฺธาติ ปริปุณฺณา. สงฺเขปโต ปเนตฺถ ฉตฺตึสาย าเนสุ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา วิปสฺสนา กถิตา, ทุติเย ทฺวาทสสุ าเนสุ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา วิปสฺสนา กถิตา.

๓. สุตนุสุตฺตวณฺณนา

๙๐๑. ตติเย มหาภิฺตนฺติ ฉอภิฺาภาวํ. หีนํ ธมฺมนฺติอาทีสุ อิมาย ปาฬิยา อตฺโถ เวทิตพฺโพ –

‘‘กตเม ธมฺมา หีนา? ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา, อิเม ธมฺมา หีนา. กตเม ธมฺมา มชฺฌิมา? ตีสุ ภูมีสุ กุสลํ, ตีสุ ภูมีสุ วิปาโก, ตีสุ ภูมีสุ กิริยาพฺยากตํ สพฺพฺจ รูปํ, อิเม ธมฺมา มชฺฌิมา. กตเม ธมฺมา ปณีตา? จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา, จตฺตาริ จ สามฺผลานิ นิพฺพานฺจ, อิเม ธมฺมา ปณีตา’’ติ (ธ. ส. ๑๔๒๓-๑๔๒๕).

๔-๗. ปมกณฺฑกีสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๐๒-๙๐๕. จตุตฺเถ กณฺฑกีวเนติ มหากรมนฺทวเน. ฉฏฺเ สหสฺสํ โลกนฺติ อิมินา เถรสฺส สตต วิหาโร ทสฺสิโต. เถโร หิ ปาโตว มุขํ โธวิตฺวา อตีตานาคเต กปฺปสหสฺสํ อนุสฺสรติ. ปจฺจุปฺปนฺเน ปน ทสจกฺกวาฬสหสฺสํ เอกาวชฺชนสฺส อาปาถมาคจฺฉติ. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

๘. สลฬาคารสุตฺตวณฺณนา

๙๐๖. อฏฺเม สลฬาคาเรติ สลฬรุกฺขมยาย ปณฺณสาลาย, สลฬรุกฺขสฺส วา ทฺวาเร ิตตฺตา เอวํนามเก อคาเร. อิมสฺมึ สุตฺเต วิปสฺสนาย สทฺธึ วิปสฺสกปุคฺคโล กถิโต.

๙. อมฺพปาลิวนสุตฺตวณฺณนา

๙๐๗. นวเม อาสภึ วาจนฺติ อตฺตโน อรหตฺตภาวทีปกํ อุตฺตมวาจํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

รโหคตวคฺโค ปโม.

๒. ทุติยวคฺควณฺณนา

๙๐๙-๙๒๒. ทุติยวคฺเค านฺจ านโตติอาทีหิ เถโร ทสพลาณํ ปฏิชานาติ. กิมฺปเนตํ สาวกานํ โหตีติ? เอกเทเสน โหติ, สพฺพฺุพุทฺธานํ ปเนตํ นิปฺปเทสํ สพฺพาการปริปูรนฺติ.

อนุรุทฺธสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ฌานสํยุตฺตวณฺณนา

๙๒๓. ฌานสํยุตฺตํ อุตฺตานตฺถเมว.

ฌานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อานาปานสํยุตฺตํ

๑. เอกธมฺมวคฺโค

๑. เอกธมฺมสุตฺตวณฺณนา

๙๗๗. อานาปานสํยุตฺตสฺส ปเม เอกธมฺโมติ เอโก ธมฺโม. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๕) อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานนิทฺเทเส วุตฺตเมว.

๖. อริฏฺสุตฺตวณฺณนา

๙๘๒. ฉฏฺเ ภาเวถ โนติ ภาเวถ นุ. กามจฺฉนฺโทติ ปฺจกามคุณิกราโค. อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ ธมฺเมสูติ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ ทฺวาทสสุ อายตนธมฺเมสุ. ปฏิฆสฺา สุปฺปฏิวินีตาติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตสฺา สุฏฺุ ปฏิวินีตา, สมุจฺฉินฺนาติ อตฺโถ. อิมินา อตฺตโน อนาคามิมคฺคํ กเถติ. อิทานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต โส สโตว อสฺสสิสฺสามีติอาทิมาห.

๗. มหากปฺปินสุตฺตวณฺณนา

๙๘๓. สตฺตเม อิฺชิตตฺตํ วา ผนฺทิตตฺตํ วาติ อุภเยนปิ จลนเมว กถิตํ.

๘. ปทีโปปมสุตฺตวณฺณนา

๙๘๔. อฏฺเม เนว กาโยปิ กิลมติ น จกฺขูนีติ อฺเสุ หิ กมฺมฏฺาเนสุ กมฺมํ กโรนฺตสฺส กาโยปิ กิลมติ, จกฺขูนิปิ วิหฺนฺติ. ธาตุกมฺมฏฺานสฺมิฺหิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส กาโย กิลมติ, ยนฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปีฬนาการปฺปตฺโต วิย โหติ. กสิณกมฺมฏฺาเน กมฺมํ กโรนฺตสฺส จกฺขูนิ ผนฺทนฺติ กิลมนฺติ, นิกฺขมิตฺวา ปตนาการปฺปตฺตานิ วิย โหนฺติ. อิมสฺมึ ปน กมฺมฏฺาเน กมฺมํ กโรนฺตสฺส เนว กาโย กิลมติ, น อกฺขีนิ วิหฺนฺติ. ตสฺมา เอวมาห.

สพฺพโส รูปสฺานนฺติอาทิ กสฺมา วุตฺตํ, กึ อานาปาเน กสิณุคฺฆาฏนํ ลพฺภตีติ? ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปนาห – ‘‘ยสฺมา อานาปานนิมิตฺตํ ตารกรูปมุตฺตาวลิกาทิสทิสํ หุตฺวา ปฺายติ, ตสฺมา ตตฺถ กสิณุคฺฆาฏนํ ลพฺภตี’’ติ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ‘‘น ลพฺภเตวา’’ติ อาห. อลพฺภนฺเต อยํ อริยิทฺธิอาทิโก ปเภโท กสฺมา คหิโตติ? อานิสํสทสฺสนตฺถํ. อริยํ วา หิ อิทฺธึ จตฺตาริ วา รูปาวจรชฺฌานานิ จตสฺโส วา อรูปสมาปตฺติโย นิโรธสมาปตฺตึ วา ปตฺถยมาเนน ภิกฺขุนา อยํ อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิกาตพฺโพ. ยถา หิ นคเร ลทฺเธ ยํ จตูสุ ทิสาสุ อุฏฺานกภณฺฑํ, ตํ จตูหิ ทฺวาเรหิ นครเมว ปวิสตีติ, ชนปโท ลทฺโธ จ โหติ. นครสฺเสว เหโส อานิสํโส. เอวํ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนาย อานิสํโส เอส อริยิทฺธิอาทิโก ปเภโท, สพฺพากาเรน ภาวิเต อานาปานสฺสติสมาธิสฺมึ สพฺพเมตํ โยคิโน นิปฺผชฺชตีติ อานิสํสทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สุขฺเจติ เอตฺถ โสติ กสฺมา น วุตฺตํ? ยสฺมา ภิกฺขูติ อิมสฺมึ วาเร นาคตํ.

๙. เวสาลีสุตฺตวณฺณนา

๙๘๕. นวเม เวสาลิยนฺติ เอวํนามเก อิตฺถิลิงฺควเสน ปวตฺตโวหาเร นคเร. ตฺหิ นครํ ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนน วิสาลีภูตตฺตา เวสาลีติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ จ นครํ สพฺพฺุตํ ปตฺเตเยว สมฺมาสมฺพุทฺเธ สพฺพาการเวปุลฺลตํ ปตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสฏฺานมาห มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ. ตตฺถ มหาวนํ นาม สยํชาตํ อโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ. อิทํ ตาทิสํ น โหติ, สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโตกตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กตา สพฺพาการสมฺปนฺนา พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธกุฏีติ เวทิตพฺพา.

อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถตีติ อเนเกหิ การเณหิ อสุภาการสนฺทสฺสนปฺปวตฺตํ กายวิจฺฉนฺทนียกถํ กเถติ. เสยฺยถิทํ – อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา…เป… มุตฺตนฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภิกฺขเว, อิมสฺมึ พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา จนฺทนํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปุรํ วา วาสจุณฺณาทึ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ, อถ โข ปรมทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉอสฺสิริกทสฺสนํ เกสโลมาทินานปฺปการํ อสุจิเมว ปสฺสติ, ตสฺมา น เอตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา กรณีโย. เยปิ อุตฺตมงฺเค สิรสิ ชาตา เกสา นาม, เตปิ อสุภา เจว อสุจิโน จ ปฏิกูลา จ. โส จ เนสํ อสุภาสุจิปฏิกูลภาโว วณฺณโตปิ สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปีติ ปฺจหากาเรหิ เวทิตพฺโพ. เอวํ โลมาทีนมฺปีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๗) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิติ ภควา เอกเมกสฺมึ โกฏฺาเส ปฺจปฺจปฺปเภเทน อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถติ.

อสุภาย วณฺณํ ภาสตีติ อุทฺธุมาตกาทิวเสน อสุภมาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปทภาชนีเยน ตํ วิภชนฺโต วณฺเณนฺโต อสุภาย วณฺณํ ภาสติ. อสุภภาวนาย วณฺณํ ภาสตีติ ยา อยํ เกสาทีสุ วา อุทฺธุมาตกาทีสุ วา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถูสุ อสุภาการํ คเหตฺวา ปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส ภาวนา วฑฺฒนา ผาติกมฺมํ, ตสฺสา อสุภภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต วณฺณํ ภาสติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภภาวนาภิยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เกสาทีสุ วา วตฺถูสุ อุทฺธุมาตกาทีสุ วา ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ปมชฺฌานํ ปฏิลภติ. โส ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ จิตฺตมฺชูสํ นิสฺสาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ.

อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ อหํ, ภิกฺขเว, เอกํ อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ นิลียิตุํ เอกโกว หุตฺวา วิหริตุํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. นามฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนาติ โย อตฺตนา ปยุตฺตวาจํ อกตฺวา มมตฺถาย สทฺเธสุ กุเลสุ ปฏิยตฺตปิณฺฑปาตํ นีหริตฺวา มยฺหํ อุปนาเมติ, ตํ ปิณฺฑปาตนีหารกํ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา นามฺหิ อฺเน เกนจิ ภิกฺขุนา วา คหฏฺเน วา อุปสงฺกมิตพฺโพติ.

กสฺมา ปน เอวมาหาติ? อตีเต กิร ปฺจสตา มิคลุทฺทกา มหตีหิ ทณฺฑวาคุราทีหิ อรฺํ ปริกฺขิปิตฺวา หฏฺตุฏฺา เอกโตเยว ยาวชีวํ มิคปกฺขิฆาตกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นิรเย อุปฺปนฺนา. เต ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ปุพฺเพ กเตน เกนจิเทว กุสลกมฺเมน มนุสฺเสสุ อุปฺปนฺนา กลฺยาณูปนิสฺสยวเสน สพฺเพปิ ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภึสุ. เตสํ ตโต มูลากุสลกมฺมโต อวิปกฺกวิปากา อปราปรเจตนา ตสฺมึ อฑฺฒมาสพฺภนฺตเร อตฺตูปกฺกเมน จ ปรูปกฺกเมน จ ชีวิตูปจฺเฉทาย โอกาสมกาสิ. ตํ ภควา อทฺทส. กมฺมวิปาโก จ นาม น สกฺกา เกนจิ ปฏิพาหิตุํ. เตสุ จ ภิกฺขูสุ ปุถุชฺชนาปิ อตฺถิ, โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิขีณาสวาปิ. ตตฺถ ขีณาสวา อปฺปฏิสนฺธิกา, อิตเร อริยสาวกา นิยตคติกา สุคติปรายณา, ปุถุชฺชนานํ คติ อนิยตา.

อถ ภควา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม อตฺตภาเว ฉนฺทราเคน มรณภยภีตา น สกฺขิสฺสนฺติ คตึ วิโสเธตุํ, หนฺท เนสํ ฉนฺทราคปฺปหานาย อสุภกถํ กเถมิ. ตํ สุตฺวา อตฺตภาเว วิคตจฺฉนฺทราคตาย คติวิโสธนํ กตฺวา สคฺเค ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสนฺติ, เอวํ เตสํ มม สนฺติเก ปพฺพชฺชา สาตฺถิกา ภวิสฺสตี’’ติ. ตโต เตสํ อนุคฺคหาย อสุภกถํ กเถสิ กมฺมฏฺานสีเสน, โน มรณวณฺณสํวณฺณนาธิปฺปาเยน. กเถตฺวา จ ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ อิมํ อฑฺฒมาสํ มํ ภิกฺขู ปสฺสิสฺสนฺติ, ‘อชฺช เอโก ภิกฺขุ มโต, อชฺช ทฺเว…เป… อชฺช ทสา’ติ อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ, อยฺจ กมฺมวิปาโก น สกฺกา มยา วา อฺเน วา ปฏิพาหิตุํ, สฺวาหํ ตํ สุตฺวาปิ กึ กริสฺสามิ, กึ เม อนตฺถเกน อนยพฺยสเนน สุเตน, หนฺทาหํ ภิกฺขูนํ อทสฺสนํ อุปคจฺฉามี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ, นามฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนา’’ติ.

อปเร ปนาหุ – ‘‘ปรูปวาทวิวชฺชนตฺถํ เอวํ วตฺวา ปฏิสลฺลีโน’’ติ. ปเร กิร ภควนฺตํ อุปวทิสฺสนฺติ – ‘‘อยํ ‘สพฺพฺู อหํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี’ติ ปฏิชานมาโน อตฺตโนปิ สาวเก อฺมฺํ ฆาเตนฺเต นิวาเรตุํ น สกฺโกติ, กึ อฺํ สกฺขิสฺสตี’’ติ? ตตฺร ปณฺฑิตา วกฺขนฺติ – ‘‘ภควา ปฏิสลฺลานมนุยุตฺโต น อิมํ ปวตฺตึ ชานาติ, โกจิสฺส อาโรจยิตาปิ นตฺถิ, สเจ ชาเนยฺย อทฺธา นิวาเรยฺยา’’ติ. อิทํ ปน อิจฺฉามตฺตํ, ปมเมเวตฺถ การณํ. นาสฺสุธาติ เอตฺถ อสฺสุธาติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ วา นิปาโต, เนว โกจิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมีติ อตฺโถ.

อเนเกหิ วณฺณสณฺานาทีหิ การเณหิ โวกาโร อสฺสาติ อเนกาการโวกาโร. อเนกาการโวกิณฺโณ อเนกากาเรน สมฺมิสฺโสติ วุตฺตํ โหติ. โก โส? อสุภภาวนานุโยโค, ตํ อเนกาการโวการํ. อสุภภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ ยุตฺตปฺปยุตฺตา วิหรนฺติ. อฏฺฏียมานาติ เตน กาเยน อฏฺฏา ทุกฺขิตา โหนฺติ. หรายมานาติ ลชฺชมานา. ชิคุจฺฉมานาติ ชิคุจฺฉํ อุปฺปาทยมานา. สตฺถหารกํ ปริเยสนฺตีติ ชีวิตหรณกสตฺถํ ปริเยสนฺติ. น เกวลฺจ เต สตฺถํ ปริเยสิตฺวา อตฺตนา วา อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, มิคลณฺฑิกมฺปิ ปน สมณกุตฺตกํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘สาธุ โน, อาวุโส, ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วทนฺติ. เอตฺถ จ อริยา เนว ปาณาติปาตํ กรึสุ, น สมาทเปสุํ, น สมนุฺา อเหสุํ. ปุถุชฺชนา ปน สพฺพมกํสุ.

ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เตสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ชีวิตกฺขยปฺปตฺตภาวํ ตฺวา ตโต เอกีภาวโต วุฏฺิโต ชานนฺโตปิ อชานนฺโต วิย กถาสมุฏฺาปนตฺถํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ. กึ นุ โข, อานนฺท, ตนุภูโต วิย ภิกฺขุสงฺโฆติ อิโต, อานนฺท, ปุพฺเพ พหู ภิกฺขู เอกโต อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺติ, สชฺฌายนฺติ, เอกปชฺโชโต วิย อาราโม ทิสฺสติ. อิทานิ ปน อฑฺฒมาสมตฺตสฺส อจฺจเยน ตนุภูโต วิย ตนุโก มนฺโท อปฺปโก วิรโฬ วิย ชาโต ภิกฺขุสงฺโฆ. กึ นุ โข การณํ? กึ ทิสาสุ ปกฺกนฺตา ภิกฺขูติ?

อถายสฺมา อานนฺโท กมฺมวิปาเกน เตสํ ชีวิตกฺขยปฺปตฺตึ อสลฺลกฺเขนฺโต อสุภกมฺมฏฺานานุโยคปจฺจยา ปน สลฺลกฺเขนฺโต ตถา หิ ปน, ภนฺเต ภควาติอาทึ วตฺวา ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา อฺํ กมฺมฏฺานํ ยาจนฺโต, สาธุ, ภนฺเต, ภควาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – สาธุ, ภนฺเต, ภควา อฺํ การณํ อาจิกฺขตุ, เยน ภิกฺขุสงฺโฆ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย. มหาสมุทฺทํ โอโรหณติตฺถานิ วิย อฺานิปิ ทสานุสฺสติ, ทสกสิณ, จตุธาตุววตฺถาน, พฺรหฺมวิหาร, อานาปานสฺสติปเภทานิ พหูนิ นิพฺพาโนโรหณกมฺมฏฺานานิ สนฺติ, เตสุ ภควา ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อฺตรํ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขตูติ อธิปฺปาโย.

อถ ภควา ตถา กาตุกาโม เถรํ อุยฺโยเชนฺโต เตนหานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ เวสาลึ อุปนิสฺสายาติ เวสาลิยํ อุปนิสฺสาย สมนฺตา คาวุเตปิ อฑฺฒโยชเนปิ ยาวติกา วิหรนฺติ, เต สพฺเพ สนฺนิปาเตหีติ อตฺโถ. สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวาติ อตฺตนา คนฺตุํ ยุตฺตฏฺานํ สยํ คนฺตฺวา อฺตฺถ ทหรภิกฺขู ปหิณิตฺวา มุหุตฺเตเนว อนวเสเส ภิกฺขู อุปฏฺานสาลายํ สมูหํ กตฺวา. ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ภควา ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิปติโต, เอส กาโล ภิกฺขูนํ ธมฺมกถํ กาตุํ, อนุสาสนึ ทาตุํ, อิทานิ ยสฺส ตุมฺเห กาลํ ชานาถ, ตํ กาตพฺพนฺติ.

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ, อยมฺปิ โข, ภิกฺขเวติ. อามนฺเตตฺวา จ ปน ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา ปุพฺเพ อาจิกฺขิตอสุภกมฺมฏฺานโต อฺํ ปริยายํ อาจิกฺขนฺโต อานาปานสฺสติสมาธีติอาทิมาห. ตตฺถ อานาปานสฺสติสมาธีติ อานาปานปริคฺคาหิกาย สติยา สทฺธึ สมฺปยุตฺโต สมาธิ, อานาปานสฺสติยํ วา สมาธิ, อานาปานสฺสติสมาธิ. ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต วา. พหุลีกโตติ ปุนปฺปุนํ กโต. สนฺโต เจว ปณีโต จาติ สนฺโต เจว ปณีโต เจว. อุภยตฺถ เอวสทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยฺหิ ยถา อสุภกมฺมฏฺานํ เกวลํ ปฏิเวธวเสน สนฺตฺจ ปณีตฺจ, โอฬาริการมฺมณตฺตา ปน ปฏิกูลารมฺมณตฺตา จ อารมฺมณวเสน เนว สนฺตํ น ปณีตํ, น เอวํ เกนจิ ปริยาเยน อสนฺโต วา อปฺปณีโต วา, อปิจ โข อารมฺมณสนฺตตายปิ สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต, ปฏิเวธสงฺขาตาย องฺคสนฺตตายปิ, อารมฺมณปณีตตาย ปณีโต อติตฺติกโร, องฺคปณีตตายปีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สนฺโต เจว ปณีโต จา’’ติ.

อเสจนโก จ สุโข จ วิหาโรติ เอตฺถ ปน นาสฺส เสจนนฺติ อเสจนโก, อนาสิตฺตโก อพฺโพกิณฺโณ ปาฏิเยกฺโก อาเวณิโก, นตฺถิ เอตฺถ ปริกมฺเมน วา อุปจาเรน วา สนฺตตา, อาทิสมนฺนาหารโต ปภุติ อตฺตโน สภาเวเนว สนฺโต จ ปณีโต จาติ อตฺโถ. เกจิ ‘‘อเสจนโก’’ติ อนาสิตฺตโก โอชวนฺโต, สภาเวเนว มธุโร’’ติ วทนฺติ. เอวมยํ อเสจนโก จ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ กายิกเจตสิกสุขปฺปฏิลาภาย สํวตฺตนโต สุโข จ วิหาโรติ เวทิตพฺโพ.

อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ อวิกฺขมฺภิเต. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม. านโส อนฺตรธาเปตีติ ขเณเนว อนฺตรธาเปติ วิกฺขมฺเภติ. วูปสเมตีติ สุฏฺุ อุปสเมติ, นิพฺเพธภาคิยตฺตา อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุทฺธิปฺปตฺโต สมุจฺฉินฺทติ, ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติ วุตฺตํ โหติ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหมาเส. อูหตํ รโชชลฺลนฺติ อฏฺ มาเส วาตาตปสุกฺขาย โคมหึสาทิปาทปฺปหารสมฺภินฺนาย ปถวิยา อุทฺธํ หตํ อูหตํ อากาเส สมุฏฺิตํ รชฺจ เรณุฺจ. มหา อกาลเมโฆติ สพฺพํ นภํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุฏฺิโต อาสาฬฺหชุณฺหปกฺเข สกลํ อฑฺฒมาสํ วสฺสนกเมโฆ. โส หิ อสมฺปตฺเต วสฺสกาเล อุปฺปนฺนตฺตา อกาลเมโฆติ อิธ อธิปฺเปโต. านโส อนฺตราธาเปติ วูปสเมตีติ ขเณเนว อทสฺสนํ เนติ ปถวิยํ สนฺนิสีทาเปติ. เอวเมว โขติ โอปมฺมนิทสฺสนเมตํ. ตโต ปรํ วุตฺตนยเมว.

๑๐. กิมิลสุตฺตวณฺณนา

๙๘๖. ทสเม กิมิลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. เอตทโวจาติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เทสนา น ยถานุสนฺธิกา กตา, ยถานุสนฺธึ คเมสฺสามี’’ติ เทสนานุสนฺธึ ฆเฏนฺโต เอตํ อโวจ. กายฺตรนฺติ ปถวีอาทีสุ กาเยสุ อฺตรํ วทามิ วาโยกายํ วทามีติ อตฺโถ. อถ วา จกฺขายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโรติ ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสา รูปกาโย นาม, เตสุ อานาปานํ โผฏฺพฺพายตเน สงฺคหิตตฺตา กายฺตรํ โหติ, ตสฺมาปิ เอวมาห. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา จตูสุ กาเยสุ อฺตรํ วาโยกายํ, ปฺจวีสติ โกฏฺาเส วา รูปกาเย อฺตรํ อานาปานํ อนุปสฺสติ, ตสฺมา กาเย กายานุปสฺสีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เวทนาฺตรนฺติ ตีสุ เวทนาสุ อฺตรํ, สุขเวทนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

สาธุกํ มนสิการนฺติ ปีติปฏิสํเวทิตาทิวเสน อุปฺปนฺนํ สุนฺทรํ มนสิการํ. กึ ปน มนสิกาโร สุขา เวทนา โหตีติ? น โหติ, เทสนาสีสํ ปเนตํ. ยเถว หิ ‘‘อนิจฺจสฺาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) เอตฺถ สฺานาเมน ปฺา วุตฺตา, เอวมิธาปิ มนสิการนาเมน ฌานเวทนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตสฺมิฺหิ จตุกฺเก ปมปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา, ทุติยปเท สุขนฺติ สรูเปเนว วุตฺตา. จิตฺตสงฺขารปททฺวเย ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฺปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔) วจนโต ‘‘วิตกฺกวิจาเร เปตฺวา สพฺเพปิ จิตฺตสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา จิตฺตสงฺขาเร สงฺคหิตา’’ติ วจนโต จิตฺตสงฺขารนาเมน เวทนา วุตฺตา. ตํ สพฺพํ มนสิการนาเมน สงฺคเหตฺวา อิธ ‘‘สาธุกํ มนสิการ’’นฺติ อาห.

เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา เอสา เวทนา อารมฺมณํ น โหติ, ตสฺมา เวทนานุปสฺสนา น ยุชฺชตีติ. โน น ยุชฺชติ, มหาสติปฏฺานาทีสุปิ หิ ตํ ตํ สุขาทีนํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนา เวทยติ, ตํ ปน เวทนาปวตฺตึ อุปาทาย ‘‘อหํ เวทยามี’’ติ โวหารมตฺตํ โหติ, ตํ สนฺธาย ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยมาโน สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปิจ ‘‘ปีติปฺปฏิสํเวที’’ติอาทีนํ อตฺถวณฺณนายเมตสฺส ปริหาโร วุตฺโตเยว. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค –

‘‘ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ – อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ. กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. กถํ อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฺปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๒) ‘‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ, ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’ติ. เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานี’’ติ.

อิติ ยเถว ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติสุขจิตฺตสงฺขารา ปฏิสํวิทิตา โหนฺติ, เอวํ อิมินาปิ ฌานสมฺปยุตฺเตน เวทนาสงฺขาตมนสิการปฏิลาเภน อารมฺมณโต เวทนา ปฏิสํวิทิตา โหติ. ตสฺมา สุวุตฺตเมตํ ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี ภิกฺขุ ตสฺมึ สมเย วิหรตี’’ติ.

นาหํ, อานนฺท, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺสาติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ยสฺมา ‘‘จิตฺตปฏิสํเวที อสฺสาสิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต ภิกฺขุ กิฺจาปิ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตมารมฺมณํ กโรติ, ตสฺส ปน จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สติฺจ สมฺปชฺฺจ อุปฏฺาเปตฺวา ปวตฺตนโต จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสีเยว นาเมส โหติ. น หิ มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา อตฺถิ, ตสฺมา อารมฺมณโต จิตฺตปฏิสํวิทิตวเสน ‘‘จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี ภิกฺขุ ตสฺมึ สมเย วิหรตี’’ติ.

โส ยํ ตํ โหติ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ ปหานํ, ตํ ปฺาย ทิสฺวา สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ เอตฺถ อภิชฺฌา กามจฺฉนฺทนีวรณเมว, โทมนสฺสวเสน พฺยาปาทนีวรณํ ทสฺสิตํ. อิทฺหิ จตุกฺกํ วิปสฺสนาวเสเนว วุตฺตํ, ธมฺมานุปสฺสนา จ นีวรณปพฺพาทิวเสน ปฺจวิธา โหติ, ตสฺสา นีวรณปพฺพํ อาทิ, ตสฺสาปิ อิทํ นีวรณทฺวยํ อาทิ. อิติ ธมฺมานุปสฺสนาย อาทึ ทสฺเสตุํ อภิชฺฌาโทมนสฺสานนฺติ อาห. ปหานนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปชหตีติ เอวํ ปหานกราณํ อธิปฺเปตํ. ตํ ปฺาย ทิสฺวาติ ตํ อนิจฺจวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคาณสงฺขาตํ ปหานาณํ อปราย วิปสฺสนาปฺาย, ตมฺปิ อปรายาติ เอวํ วิปสฺสนาปรมฺปรํ ทสฺเสติ. อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ ยฺจสฺส ปถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกโต อุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขตีติ ทฺวิธา อชฺฌุเปกฺขติ นาม. ตตฺถ สหชาตานมฺปิอชฺฌุเปกฺขนา โหติ อารมฺมณสฺสาปิ อชฺฌุเปกฺขนา. อิธ อารมฺมณ อชฺฌุเปกฺขนา อธิปฺเปตา. ตสฺมาติหานนฺทาติ ยสฺมา ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต น เกวลํ นีวรณาทิธมฺเม, อภิชฺฌาโทมนสฺสสีเสน ปน วุตฺตานํ ธมฺมานํ ปหานกราณมฺปิ ปฺาย ทิสฺวา อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ, ตสฺมา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี ภิกฺขุ ตสฺมึ สมเย วิหรตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ จตุมหาปโถ วิย ฉ อายตนานิ ทฏฺพฺพานิ. ตสฺมึ ปํสุปุฺโช วิย ฉสุ อายตเนสุ กิเลสา. จตูหิ ทิสาหิ อาคจฺฉนฺตา สกฏรถา วิย จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตา จตฺตาโร สติปฏฺานา. เอเกน สกเฏน วา รเถน วา ปํสุปุฺชสฺส อุปหนนํ วิย กายานุปสฺสนาทีหิ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุปฆาโต เวทิตพฺโพติ.

เอกธมฺมวคฺโค ปโม.

๒. ทุติยวคฺโค

๑-๒. อิจฺฉานงฺคลสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๘๗-๙๘๘. ทุติยวคฺคสฺส ปเม เอวํ พฺยากเรยฺยาถาติ กสฺมา อตฺตโน วิหารสมาปตฺตึ อาจิกฺขติ? อุปารมฺภโมจนตฺถํ. สเจ หิ เต ‘‘น ชานามา’’ติ วเทยฺยุํ, อถ เนสํ ติตฺถิยา ‘‘ตุมฺเห ‘อสุกสมาปตฺติยา นาม โน สตฺถา เตมาสํ วิหาสี’ติปิ น ชานาถ, อถ กสฺมา นํ อุปฏฺหนฺตา วิหรถา’’ติ อุปารมฺภํ อาโรเปยฺยุํ, ตโต โมจนตฺถํ เอวมาห.

อถ กสฺมา ยถา อฺตฺถ ‘‘สโตว อสฺสสติ, ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗; สํ. นิ. ๕.๙๗๗) เอว-วากาโร วุตฺโต. เอวํ อิธ น วุตฺโตติ? เอกนฺตสนฺตตฺตา. อฺเสฺหิ อสฺสาโส วา ปากโฏ โหติ ปสฺสาโส วา, ภควโต อุภยมฺเปตํ ปากฏเมว นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตายาติ เอกนฺตสนฺตตฺตา น วุตฺโต. อถ ‘‘สิกฺขามี’’ติ อวตฺวา กสฺมา ‘‘อสฺสสามี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ? สิกฺขิตพฺพาภาวา. สตฺต หิ เสขา สิกฺขิตพฺพภาวา เสขา นาม, ขีณาสวา สิกฺขิตพฺพาภาวา อเสขา นาม, ตถาคตา อสิกฺขิตพฺพา อเสกฺขา นาม นตฺถิ เตสํ สิกฺขิตพฺพกิจฺจนฺติ สิกฺขิตพฺพาภาวา น วุตฺตํ. ทุติยํ อุตฺตานเมว.

๓-๑๐. ปมอานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๘๙-๙๙๖. ตติเย ปวิจินตีติ อนิจฺจาทิวเสน ปวิจินติ. อิตรํ ปททฺวยํ เอตสฺเสว เววจนํ. นิรามิสาติ นิกฺกิเลสา กายิกเจตสิกทรถปฏิปสฺสทฺธิยา กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ. สมาธิยตีติ สมฺมา ปิยติ, อปฺปนาจิตฺตํ วิย โหติ. อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ สหชาตอชฺฌุเปกฺขนาย อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ.

เอวํ จุทฺทสวิเธน กายปริคฺคาหกสฺส ภิกฺขุโน ตสฺมึ กาเย สติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ตาย สติยา สมฺปยุตฺตาณํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, ตํสมฺปยุตฺตเมว กายิกเจตสิกวีริยํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติปสฺสทฺธิจิตฺเตกคฺคตา ปีติปสฺสทฺธิสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคา, อิเมสํ ฉนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. ยเถว หิ สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ สารถิโน ‘‘อยํ โอลียตี’’ติ ตุทนํ วา, ‘‘อยํ อติธาวตี’’ติ อากฑฺฒนํ วา นตฺถิ, เกวลํ เอวํ ปสฺสมานสฺส ิตากาโรว โหติ, เอวเมว อิเมสํ ฉนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค นาม โหติ. เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? เอกจิตฺตกฺขณิกา นานาสรสลกฺขณา วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคา นาม กถิตา.

วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เอตฺถ ปน โสฬสกฺขตฺตุกา อานาปานสฺสติ มิสฺสกา กถิตา, อานาปานมูลกา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, เตสํ มูลภูตา อานาปานสฺสติ ปุพฺพภาคา. โพชฺฌงฺคมูลกา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, เตปิ โพชฺฌงฺคา ปุพฺพภาคาว. วิชฺชาวิมุตฺติปูรกา ปน โพชฺฌงฺคา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรา, วิชฺชาวิมุตฺติโย อริยผลสมฺปยุตฺตา. วิชฺชา วา จตุตฺถมคฺคสมฺปยุตฺตา, วิมุตฺติ ผลสมฺปยุตฺตาติ. จตุตฺถปฺจมฉฏฺานิปิ อิมินาว สมานปริจฺเฉทานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อานาปานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. โสตาปตฺติสํยุตฺตํ

๑. เวฬุทฺวารวคฺโค

๑. จกฺกวตฺติราชสุตฺตวณฺณนา

๙๙๗. โสตาปตฺติสํยุตฺตสฺส ปเม กิฺจาปีติ อนุคฺคหครหเณสุ นิปาโต. จตุนฺนฺหิ มหาทีปานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ อนุคฺคณฺหนฺโต จตุนฺนฺจ อปายานํ อปฺปหีนภาวํ ครหนฺโต สตฺถา ‘‘กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จตุนฺนํ ทีปานนฺติ ทฺวิสหสฺสทีปปริวารานํ จตุนฺนํ มหาทีปานํ. อิสฺสริยาธิปจฺจนฺติ อิสฺสรภาโว อิสฺสริยํ, อธิปติภาโว อาธิปจฺจํ, อิสฺสริยํ อาธิปจฺจํ เอตสฺมึ รชฺเช, น เฉทนเภทนนฺติ อิสฺสริยาธิปจฺจํ. กาเรตฺวาติ เอวรูปํ รชฺชํ ปวตฺตาเปตฺวา. กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, อริยสาวโกติ เอตฺถ อนุคฺคหปสํสาสุ นิปาโต. ปิณฺฑิยาโลเปน หิ ยาปนํ อนุคฺคหนฺโต จตุนฺนฺจ อปายานํ ปหีนภาวํ ปสํสนฺโต สตฺถา ‘‘กิฺจาปิ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นนฺตกานีติ อนนฺตกานิ. เตรสหตฺโถปิ หิ วตฺถสาฏโก ทสจฺเฉทนโต ปฏฺาย นนฺตกนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.

อเวจฺจปฺปสาเทนาติ อจลปฺปสาเทน. โส ปนายํ ปสาโท กึ เอโก, อเนโกติ? เอโกว, โส มคฺเคน อาคตปฺปสาโท. เยสุ ปน วตฺถูสุ อปุพฺพํ อจริมํ รุหติ, เตสํ วเสน ‘‘พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทนา’’ติอาทินา นเยน ติธา วุตฺโต. ยสฺมา จ เอโก, ตสฺมาว นินฺนานากรโณ โหติ. อริยสาวกสฺส หิ พุทฺเธเยว ปสาโท จ เปมฺจ คารวฺจ มหนฺตํ, น ธมฺเม วา สงฺเฆ วา, ธมฺเมเยว วา มหนฺตํ, น พุทฺเธ วา สงฺเฆ วา, สงฺเฆเยว วา มหนฺตํ, น พุทฺเธ วา ธมฺเม วาติ เอตํ นตฺถิ. อิติปิ โส ภควาติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาเนว.

อริยกนฺเตหีติ อริยานํ กนฺเตหิ ปิเยหิ มนาเปหิ. ปฺจ หิ สีลานิ ภวนฺตรคตาปิ อริยา น โกเปนฺติ, เอวํ เตสํ ปิยานิ. ตานิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อขณฺเฑหีติอาทิ สทิสวเสน วุตฺตํ. มุขวฏฺฏิยฺหิ ฉินฺเนกเทสา ปาติ ขณฺฑาติ วุจฺจติ, มชฺเฌ ภินฺนา ฉิทฺทาติ, เอกสฺมึ ปเทเส วิสภาควณฺณา คาวี สพลาติ, นานาพินฺทุจิตฺตา กมฺมาสาติ, เอวเมว ปฏิปาฏิยา อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา ภินฺนํ สีลํ ขณฺฑํ นาม, มชฺเฌ ภินฺนํ ฉิทฺทํ, ยตฺถ กตฺถจิ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา ปฏิปาฏิยา ภินฺนตฺตา สพลํ, เอกนฺตรํ ภินฺนํ กมฺมาสํ. เตสํ โทสานํ อภาเวน อขณฺฑาทิตา เวทิตพฺพา. ภุชิสฺเสหีติ ภุชิสฺสภาวกเรหิ. วิฺุปฺปสตฺเถหีติ พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ ปสํสิเตหิ. อปรามฏฺเหีติ ‘‘อิทํ นาม ตยา กตํ, อิทํ วีติกฺกนฺต’’นฺติ เอวํ ปรามสิตุํ อสกฺกุเณยฺเยหิ. สมาธิสํวตฺตนิเกหีติ อปฺปนาสมาธึ อุปจารสมาธึ วา สํวตฺเตตุํ สมตฺเถหิ.

๒. พฺรหฺมจริโยคธสุตฺตวณฺณนา

๙๙๘. ทุติเย เยสํ สทฺธาติ ปเทน พุทฺเธ ปสาโท คหิโต. สีลนฺติ ปเทน อริยกนฺตานิ สีลานิ คหิตานิ. ปสาโทติ ปเทน สงฺเฆ ปสาโท คหิโต. ธมฺมทสฺสนนฺติ ปเทน ธมฺเม ปสาโท คหิโตติ เอวํ จตฺตาริ โสตาปตฺติยงฺคานิ วุตฺตานิ. กาเลน ปจฺเจนฺตีติ กาเลน ปาปุณนฺติ. พฺรหฺมจริโยคธํ สุขนฺติ พฺรหฺมจริยํ โอคาหิตฺวา ิตํ อุปริมคฺคตฺตยสมฺปยุตฺตํ สุขํ. โย ปเนส คาถาย อาคโต ปสาโท, โส กตรปสาโท โหตีติ. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ตาว ‘‘มคฺคปสาโท’’ติ อาห, ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ‘‘อาคตมคฺคสฺส ปจฺจเวกฺขณปฺปสาโท’’ติ. อุโภปิ เถรา ปณฺฑิตา พหุสฺสุตา, อุภินฺนํ สุภาสิตํ. มิสฺสกปฺปสาโท เอโสติ.

๓. ทีฆาวุอุปาสกสุตฺตวณฺณนา

๙๙๙. ตติเย ตสฺมาติ ยสฺมา จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ สนฺทิสฺสสิ, ตสฺมา. วิชฺชาภาคิเยติ วิชฺชาโกฏฺาสิเก. สพฺพสงฺขาเรสูติ สพฺเพสุ เตภูมกสงฺขาเรสุ. เอวมสฺส อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา กถิตา. วิฆาตนฺติ ทุกฺขํ.

๔-๕. ปมสาริปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๐๐-๑๐๐๑. จตุตฺถ อุตฺตานเมว. ปฺจเม โสตาปตฺติยงฺคนฺติ โสตาปตฺติยา ปุพฺพภาคปฏิลาภงฺคํ. พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาทาทโย ปน ปฏิลทฺธคุณา โสตาปนฺนสฺส องฺคา นาม, เตปิ ปน โสตาปตฺติยงฺคนฺติ อาคตา. ตตฺรายํ ทฺวินฺนมฺปิ วจนตฺโถ – สปฺปุริเส เสวนฺโต ภชนฺโต ปยิรุปาสนฺโต ธมฺมํ สุณนฺโต โยนิโส มนสิกโรนฺโต ธมฺมานุธมฺมํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปฏิปชฺชนฺโต โสตาปตฺตึ ปฏิลภตีติ สปฺปุริสสํเสวาทโย โสตาปตฺติอตฺถาย องฺคนฺติ โสตาปตฺติยงฺคํ นาม, อิตเร ปมมคฺคสงฺขาตาย โสตาปตฺติยา องฺคนฺติปิ โสตาปตฺติยงฺคํ, ปฏิวิทฺธโสตาปตฺติมคฺคสฺส โสตาปตฺติมคฺโค องฺคนฺติปิ โสตาปตฺติยงฺคํ.

๖. ถปติสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐๒. ฉฏฺเ สาธุเก ปฏิวสนฺตีติ สาธุกนามเก อตฺตโน โภคคามเก วสนฺติ. เตสุ อิสิทตฺโต สกทาคามี, ปุราโณ โสตาปนฺโน สทารสนฺตุฏฺโ. มคฺเค ปุริสํ เปสุนฺติ เตสํ กิร คามทฺวาเรน ภควโต คมนมคฺโค. ตสฺมา ‘‘ภควา กาเล วา อกาเล วา อมฺหากํ สุตฺตานํ วา ปมตฺตานํ วา คจฺเฉยฺย, อถ ปสฺสิตุํ น ลเภยฺยามา’’ติ มคฺคมชฺเฌ ปุริสํ เปสุํ.

อนุพนฺธึสูติ น ทูรโตว ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธึสุ, ภควา ปน สกฏมคฺคสฺส มชฺเฌ ชงฺฆมคฺเคน อคมาสิ, อิตเร อุโภสุ ปสฺเสสุ อนุคจฺฉนฺตา อคมํสุ. มคฺคา โอกฺกมฺมาติ พุทฺธานฺหิ เกนจิ สทฺธึ คจฺฉนฺตานํเยว ปฏิสนฺถารํ กาตุํ วฏฺฏติ เกนจิ สทฺธึ ิตกานํ, เกนจิ สทฺธึ ทิวสภาคํ นิสินฺนานํ. ตสฺมา ภควา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมหิ เม สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺส ปฏิสนฺถารํ กาตุํ อยุตฺตํ, ิตเกนปิ กาตุํ น ยุตฺตํ, อิเม หิ มยฺหํ สาสเน สามิโน อาคตผลา. อิเมหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวาว ทิวสภาคํ ปฏิสนฺถารํ กริสฺสามี’’ติ มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ.

ปฺตฺเต อาสเน นิสีทีติ เต กิร ฉตฺตุปาหนํ กตฺตรทณฺฑํ ปาทพฺภฺชนเตลาทีนิ เจว อฏฺวิธฺจ ปานกํ สรภปาทปลฺลงฺกฺจ คาหาเปตฺวา อคมํสุ, อาภตํ ปลฺลงฺกมฺปิ ปฺาเปตฺวา อทํสุ, สตฺถา ตสฺมึ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสีทึสูติ เสสานิ ฉตฺตุปาหนาทีนิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทถาติ วตฺวา สยมฺปิ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

สาวตฺถิยา โกสเลสุ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตีติอาทิ สพฺพํ มชฺฌิมปเทสวเสนว วุตฺตํ. กสฺมา? นิยตตฺตา. ภควโต หิ จาริกาจรณมฺปิ อรุณุฏฺาปนมฺปิ นิยตํ, มชฺฌิมปเทเสเยว จาริกํ จรติ, มชฺฌิมเทเส อรุณํ อุฏฺเปตีติ นิยตตฺตา มชฺฌิมเทสวเสน วุตฺตํ. อาสนฺเน โน ภควา ภวิสฺสตีติ เอตฺถ น เกวลํ อาสนฺนตฺตาเยว เตสํ โสมนสฺสํ โหติ, อถ โข ‘‘อิทานิ ทานํ ทาตุํ คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กาตุํ ธมฺมํ โสตุํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ ลภิสฺสามา’’ติ เตสํ โสมนสฺสํ โหติ.

ตสฺมาติห ถปตโย สมฺพาโธ ฆราวาโสติ ถปตโย ยสฺมา ตุมฺหากํ มยิ ทูรีภูเต อนปฺปกํ โทมนสฺสํ, อาสนฺเน อนปฺปกํ โสมนสฺสํ โหติ, ตสฺมาปิ เวทิตพฺพเมตํ ‘‘สมฺพาโธ ฆราวาโส’’ติ. ฆราวาสสฺส หิ โทเสน ตุมฺหากํ เอวํ โหติ. สเจ ปน ฆราวาสํ ปหาย ปพฺพชิตา, อถ เอวํ โว มยา สทฺธึเยว คจฺฉนฺตานฺจ อาคจฺฉนฺตานฺจ ตํ น ภเวยฺยาติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺโต เอวมาห. ตตฺถ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน สมฺพาธตา เวทิตพฺพา. มหาวาเส วสนฺตสฺสปิ หิ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธว. รชาปโถติ ราคโทสโมหรชานํ อาปโถ, อาคมนฏฺานนฺติ อตฺโถ. อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชาติ ปพฺพชฺชา ปน อกิฺจนอปลิโพธฏฺเน อพฺโภกาโส. จตุรตนิเกปิ หิ คพฺเภ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ ปลฺลงฺเกน ปลฺลงฺกํ ฆเฏตฺวา นิสินฺนานมฺปิ อกิฺจนอปลิโพธฏฺเน ปพฺพชฺชา อพฺโภกาโส นาม โหติ. อลฺจ ปน โว ถปตโย อปฺปมาทายาติ เอวํ สมฺพาเธ ฆราวาเส วสนฺตานํ ตุมฺหากํ อปฺปมาทเมว กาตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.

เอกํ ปุรโต เอกํ ปจฺฉโต นิสีทาเปมาติ เต กิร ทฺเวปิ ชนา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเตสุ ทฺวีสุ นาเคสุ ตา อิตฺถิโย เอวํ นิสีทาเปตฺวา รฺโ นาคํ มชฺเฌ กตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา เอวมาหํสุ. นาโคปิ รกฺขิตพฺโพติ ยถา กิฺจิ วิเสวิตํ น กโรติ, เอวํ รกฺขิตพฺโพ โหติ. ตาปิ ภคินิโยติ ยถา ปมาทํ นาปชฺชนฺติ, เอวํ รกฺขิตพฺพา โหนฺติ. อตฺตาปีติ สิตหสิตกถิตวิเปกฺขิตาทีนิ อกโรนฺเตหิ อตฺตาปิ รกฺขิตพฺโพ โหติ. (เตหิ ตถา กโรนฺเตหิ น อตฺตาปิ รกฺขิตพฺโพ โหติ). ตถา กโรนฺโต หิ ‘‘สามิทุพฺโภ เอโส’’ติ นิคฺคเหตพฺโพ โหติ. ตสฺมาติห ถปตโยติ ยสฺมา ตุมฺเห ราชา นิจฺจํ ราชภณฺฑํ ปฏิจฺฉาเปติ, ตสฺมาปิ สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ. ยสฺมา ปน ปํสุกูลิกภิกฺขุํ เอวํ ปฏิจฺฉาเปนฺโต นตฺถิ, ตสฺมา อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. เอวํ สพฺพตฺถาปิ อลฺจ ปน โว ถปตโย อปฺปมาทาย อปฺปมาทเมว กโรถาติ ทสฺเสติ.

มุตฺตจาโคติ วิสฺสฏฺจาโค. ปยตปาณีติ อาคตาคตานํ ทานตฺถาย โธตหตฺโถ. โวสฺสคฺครโตติ โวสฺสคฺคสงฺขาเต จาเค รโต. ยาจโยโคติ ยาจิตพฺพกยุตฺโต. ทานสํวิภาครโตติ ทาเนน เจว อปฺปมตฺตกมฺปิ กิฺจิ ลทฺธา ตโตปิ สํวิภาเค รโต. อปฺปฏิวิภตฺตนฺติ ‘‘อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสติ, อิทํ ภิกฺขูน’’นฺติ เอวํ อกตวิภาคํ, สพฺพํ ทาตพฺพเมว หุตฺวา ิตนฺติ อตฺโถ.

๗. เวฬุทฺวาเรยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐๓. สตฺตเม เวฬุทฺวารนฺติ คามทฺวาเร ปเวณิอาคตสฺส เวฬุคจฺฉสฺส อตฺถิตาย เอวํลทฺธนาโม คาโม. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ อุปเนตพฺพํ. สมฺผภาเสนาติ อมนฺตภาเสน. สมฺผปฺปลาปภาเสนาติ สมฺผปฺปลาปสมฺภาเสน นิรตฺถเกน อฺาณวจเนนาติ อตฺโถ.

๘-๙. ปมคิฺชกาวสถสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๐๔-๕. อฏฺเม าติเกติ เอกํ ตฬากํ นิสฺสาย ทฺวินฺนํ จูฬปิติมหาปิติปุตฺตานํ ทฺเว คามา, เตสุ เอกสฺมึ คามเก. คิฺชกาวสเถติ อิฏฺกามเย อาวสเถ. โอรมฺภาคิยานนฺติ เหฏฺาภาคิยานํ, กามภเวเยว ปฏิสนฺธิคฺคาหาปกานนฺติ อตฺโถ. โอรนฺติ ลทฺธนาเมหิ วา ตีหิ มคฺเคหิ ปหาตพฺพานีติปิ โอรมฺภาคิยานิ. ตตฺถ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโทติ อิมานิ ทฺเว สมาปตฺติยา วา อวิกฺขมฺภิตานิ มคฺเคน วา อสมุจฺฉินฺนานิ นิพฺพตฺติวเสน อุทฺธํ ภาคํ รูปภวํ อรูปภวํ วา คนฺตุํ น เทนฺติ. สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ ตีณิ ตตฺถ นิพฺพตฺตมฺปิ อาเนตฺวา ปุน อิเธว นิพฺพตฺตาเปนฺตีติ สพฺพานิปิ โอรมฺภาคิยาเนว. อนาวตฺติธมฺโมติ ปฏิสนฺธิวเสน อนาคมนสภาโว.

ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตาติ เอตฺถ กทาจิ อุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จาติ ทฺเวธาปิ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ. สกทาคามิสฺส หิ ปุถุชฺชนานํ วิย อภิณฺหํ ราคาทโย น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ. อุปฺปชฺชมานา จ น ปุถุชฺชนานํ วิย พหลพหลา อุปฺปชฺชนฺติ, มกฺขิปตฺตํ วิย ตนุกา อุปฺปชฺชนฺติ. ทีฆภาณกติปิฏกมหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘‘ยสฺมา สกทาคามิสฺส ปุตฺตธีตโร โหนฺติ, โอโรธา จ โหนฺติ, ตสฺมา พหลา กิเลสา. อิทํ ปน ภวตนุกวเสน กถิต’’นฺติ. ตํ อฏฺกถายํ ‘‘โสตาปนฺนสฺส สตฺต ภเว เปตฺวา อฏฺเม ภเว ภวตนุกํ นตฺถิ, สกทาคามิสฺส ทฺเว ภเว เปตฺวา ปฺจสุ ภเวสุ ภวตนุกํ นตฺถิ, อนาคามิสฺส รูปารูปภวํ เปตฺวา กามภเว ภวตนุกํ นตฺถิ, ขีณาสวสฺส กิสฺมิฺจิ ภเว ภวตนุกํ นตฺถี’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ.

อิมํ โลกนฺติ อิมํ กามาวจรโลกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจ หิ มนุสฺเสสุ สกทาคามิผลํ ปตฺโต เทเวสุ นิพฺพตฺติตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อสกฺโกนฺโต ปน อวสฺสํ มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา สจฺฉิกโรติ. เทเวสุ สกทาคามิผลํ ปตฺโตปิ สเจ มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อสกฺโกนฺโต ปน อวสฺสํ เทวโลกํ คนฺตฺวา สจฺฉิกโรตีติ.

วินิปตนํ วินิปาโต, นาสฺส วินิปาโต ธมฺโมติ อวินิปาตธมฺโม, จตูสุ อปาเยสุ อวินิปาตนสภาโวติ อตฺโถ. นิยโตติ ธมฺมนิยาเมน นิยโต. สมฺโพธิปรายโณติ อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาตา สมฺโพธิ ปรํ อยนํ อสฺส คติ ปฏิสรณํ อวสฺสํ ปตฺตพฺพาติ สมฺโพธิปรายโณ. วิเหสาเวสาติ เตสํ เตสํ าณคตึ าณูปปตฺตึ าณาภิสมฺปรายํ โอโลเกนฺตสฺส กายกิลมโถว เอส, อานนฺท, ตถาคตสฺสาติ ทีเปติ. จิตฺตวิเหสา ปน พุทฺธานํ นตฺถิ.

ธมฺมาทาสนฺติ ธมฺมมยํ อาทาสํ. เยนาติ เยน ธมฺมาทาเสน สมนฺนาคโต. ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโตติ อิทํ นิรยาทีนํเยว เววจนวเสเนว วุตฺตํ. นิรยาทโย หิ วฑฺฒิสงฺขาตโต อยโต อเปตตฺตา อปาโย, ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ. ทุคฺคติ, ทุกฺกฏการิโน เอตฺถ วิวสา นิปตนฺตีติ วินิปาโต. นวมํ อุตฺตานเมว.

๑๐. ตติยคิฺชกาวสถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐๖. ทสเม ปโรปฺาสาติ อติเรกปฺาส. สาธิกนวุตีติ อติเรกนวุติ. ฉาติเรกานีติ ฉหิ อธิกานิ. โส กิร คาโม กิฺจาปิ นาติมหา อโหสิ, อริยสาวกา ปเนตฺถ พหู. ตตฺถ ตตฺถ อหิวาตโรเคน เอกปฺปหาเรเนว จตุวีสติ ปาณสตสหสฺสานิ กาลมกํสุ, เตสุ อริยสาวกา เอตฺตกา นาม อเหสุํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

เวฬุทฺวารวคฺโค ปโม.

๒. ราชการามวคฺโค

๑. สหสฺสภิกฺขุนิสงฺฆสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐๗. ทุติยสฺส ปเม ราชการาเมติ รฺา การิตตฺตา เอวํ ลทฺธนาเม อาราเม, ตํ รฺา ปเสนทิโกสเลน กตํ. ปมโพธิยํ กิร ลาภคฺคยสคฺคปตฺตํ สตฺถารํ ทิสฺวา ติตฺถิยา จินฺตยึสุ – ‘‘สมโณ โคตโม ลาภคฺคยสคฺคปตฺโต, น โข ปเนส อฺํ กิฺจิ สีลํ วา สมาธึ วา นิสฺสาย เอวํ ลาภคฺคยสคฺคปตฺโต. ภูมิสีสํ ปน เตน คหิตํ, สเจ มยมฺปิ เชตวนสมีเป อารามํ การาเปตุํ สกฺกุเณยฺยาม, ลาภคฺคยสคฺคปตฺตา ภเวยฺยามา’’ติ. เต อตฺตโน อตฺตโน อุปฏฺาเก สมาทเปตฺวา สตสหสฺสมตฺเต กหาปเณ ลภิตฺวา เต อาทาย รฺโ สนฺติกํ อคมํสุ. ราชา ‘‘กึ เอต’’นฺติ? ปุจฺฉิ. มยํ เชตวนสมีเป ติตฺถิยารามํ กโรม, สเจ สมโณ โคตโม วา สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา วา อาคนฺตฺวา วาเรสฺสนฺติ, วาเรตุํ มา อทตฺถาติ ลฺชํ อทํสุ. ราชา ลฺชํ คเหตฺวา ‘‘คจฺฉถ กาเรถา’’ติ อาห.

เต คนฺตฺวา, อตฺตโน อุปฏฺาเกหิ ทพฺพสมฺภาเร อาหราเปตฺวา, ถมฺภุสฺสาปนาทีนิ กโรนฺตา, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เอกโกลาหลํ อกํสุ. สตฺถา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม ปมุเข ตฺวา ‘‘เก ปน เต, อานนฺท, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ?, ปุจฺฉิ. ติตฺถิยา, ภนฺเต, เชตวนสมีเป ติตฺถิยารามํ กโรนฺตีติ. อานนฺท, อิเม สาสเนน ปฏิวิรุทฺธา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อผาสุวิหารํ กริสฺสนฺติ, รฺโ อาโรเจตฺวา วาราเปหีติ.

เถโร ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ คนฺตฺวา ราชทฺวาเร อฏฺาสิ. รฺโ ‘‘เถรา, เทว, อาคตา’’ติ นิเวทยึสุ. ราชา ลฺชสฺส คหิตตฺตา น นิกฺขมิ. เถรา คนฺตฺวา สตฺถุ อาโรจยึสุ. สตฺถา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน เปเสสิ. ราชา เตสมฺปิ ทสฺสนํ น อทาสิ. เต อาคนฺตฺวา สตฺถุ อาโรจยึสุ ‘‘น, ภนฺเต, ราชา นิกฺขนฺโต’’ติ. สตฺถา ตงฺขณํเยว พฺยากาสิ – ‘‘อตฺตโน รชฺเช ตฺวา กาลํ กาตุํ น ลภิสฺสตี’’ติ.

ทุติยทิวเส จ สามํเยว ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร คนฺตฺวา ราชทฺวาเร อฏฺาสิ. ราชา ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา, นิเวสนํ ปเวเสตฺวา, สารปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา, ยาคุขชฺชกํ อทาสิ. สตฺถา ปริภุตฺตยาคุขาทนีโย ‘‘ยาว ภตฺตํ นิฏฺาติ, ตาว สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา นิสินฺนํ ราชานํ ‘‘ตยา, มหาราช, อิทํ นาม กต’’นฺติ อวตฺวา, ‘‘การเณเนว นํ สฺาเปสฺสามี’’ติ อิทํ อตีตการณํ อาหริ – มหาราช, ปพฺพชิเต นาม อฺมฺํ ยุชฺฌาเปตุํ น วฏฺฏติ. อตีเตปิ อิสโย อฺมฺํ ยุชฺฌาเปตฺวา สห รฏฺเน ราชา สมุทฺทํ ปวิฏฺโติ. กทา ภควาติ?

อตีเต, มหาราช, ภรุรฏฺเ ภรุราชา นาม รชฺชํ กาเรติ. ปฺจสตา ปฺจสตา ทฺเว อิสิคณา ปพฺพตปาทโต โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ภรุนครํ คนฺตฺวา นครสฺส อวิทูเร ทฺเว รุกฺขา อตฺถิ, ปมํ อาคโต อิสิคโณ เอกสฺส รุกฺขสฺส มูเล นิสีทิ, ปจฺฉาคโตปิ เอกสฺสาติ. เต ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ปพฺพตปาทํ เอว อคมํสุ. เต ปุน อาคจฺฉนฺตาปิ อตฺตโน รุกฺขมูเลเยว นิสีทนฺติ. อทฺธาเน คจฺฉนฺเต เอโก รุกฺโข สุกฺขิ, ตสฺมึ สุกฺเข อาคตา ตาปสา ‘‘อยํ รุกฺโข มหา, อมฺหากมฺปิ เตสมฺปิ ปโหสฺสตี’’ติ อิตเรสํ รุกฺขมูลสฺส เอกปเทเส นิสีทึสุ. เต ปจฺฉา อาคจฺฉนฺตา รุกฺขมูลํ อปวิสิตฺวา พหิ ิตาว ‘‘กสฺมา ตุมฺเห เอตฺถ นิสีทถา’’ติ อาหํสุ. อาจริยา อมฺหากํ รุกฺโข สุกฺโข, อยํ รุกฺโข มหา, ตุมฺเหปิ ปวิสถ, ตุมฺหากมฺปิ อมฺหากมฺปิ ปโหสฺสตีติ. เต ‘‘น มยํ ปวิสาม, นิกฺขมถ ตุมฺเห’’ติ กถํ วฑฺเฒตฺวา ‘‘น ตุมฺเห อตฺตโนว มเนน นิกฺขมิสฺสถา’’ติ หตฺถาทีสุ คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒึสุ. เต ‘‘โหตุ สิกฺขาเปสฺสาม เน’’ติ อิทฺธิยา โสวณฺณมยานิ ทฺเว จกฺกานิ รชตมยฺจ อกฺขํ มาเปตฺวา ปวฏฺเฏนฺตา ราชทฺวารํ อคมึสุ. รฺโ ‘‘เอวรูปํ, เทว, ตาปสา ปณฺณาการํ คเหตฺวา ิตา’’ติ นิเวทยึสุ. ราชา ตุฏฺโ ‘‘ปกฺโกสถา’’ติ เต ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มหากมฺมํ ตุมฺเหหิ กตํ, อตฺถิ โว กิฺจิ มยา กตฺตพฺพ’’นฺติ อาห. อาม, มหาราช, อมฺหากํ นิสินฺนฏฺานํ เอกรุกฺขมูลํ อตฺถิ, ตํ อฺเหิ อิสีหิ คหิตํ, ตํ โน ทาเปหีติ. ราชา ปุริเส เปเสตฺวา ตาปเส นิกฺกฑฺฒาเปสิ.

เต พหิ ิตา ‘‘กึ นุ โข ทตฺวา ลภึสู’’ติ โอโลกยมานา ‘‘อิทํ นามา’’ติ ทิสฺวา ‘‘มยมฺปิ ลฺชํ ทตฺวา ปุน คณฺหิสฺสามา’’ติ อิทฺธิยา โสวณฺณมยํ รถปฺชรํ มาเปตฺวา อาทาย อคมํสุ. ราชา ทิสฺวา ตุฏฺโ – ‘‘กึ, ภนฺเต, กาตพฺพ’’นฺติ?, อาห. มหาราช อมฺหากํ รุกฺขมูเล อฺโ อิสิคโณ นิสินฺโน, ตํ โน รุกฺขมูลํ ทาเปหีติ. ราชา ปุริเส เปเสตฺวา เต นิกฺกฑฺฒาเปสิ. ตาปสา อฺมฺํ กลหํ กตฺวา, ‘‘อนนุจฺฉวิกํ อมฺเหหิ กต’’นฺติ วิปฺปฏิสาริโน หุตฺวา ปพฺพตปาทเมว อคมํสุ. ตโต เทวตา ‘‘อยํ ราชา ทฺวินฺนํ อิสิคณานํ หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา อฺมฺํ กลหํ การาเปสี’’ติ กุชฺฌิตฺวา มหาสมุทฺทํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ตสฺส รฺโ วิชิตํ โยชนสหสฺสมตฺตฏฺานํ สมุทฺทเมว อกํสูติ.

‘‘อิสีนมนฺตรํ กตฺวา, ภรุราชาติ เม สุตํ;

อุจฺฉินฺโน สห รฏฺเหิ, ส ราชา วิภวงฺคโต’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๒๕) –

เอวํ ภควตา อิมสฺมึ อตีเต ทสฺสิเต ยสฺมา พุทฺธานํ นาม กถา โอกปฺปนิยา โหติ, ‘‘ตสฺมา ราชา อตฺตโน กิริยํ สลฺลกฺเขตฺวา อนุปธาเรตฺวา มยา อกตฺตพฺพํ กมฺมํ กต’’นฺติ ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, ติตฺถิเย นิกฺกฑฺฒถา’’ติ นิกฺกฑฺฒาเปตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มยา การิโต วิหาโร นาม นตฺถิ, ตสฺมึเยว าเน วิหารํ กาเรสฺสามี’’ติ เตสํ ทพฺพสมฺภาเรปิ อทตฺวา วิหารํ กาเรสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

๒-๓. พฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๐๘-๙. ทุติเย อุทยคามินินฺติ อตฺตโน สมเย วฑฺฒิคามินึ. มรณํ อาคเมยฺยาสีติ มรณํ อิจฺเฉยฺยาสิ, ปตฺเถยฺยาสิ วา. ตติยํ อุตฺตานเมว.

๔. ทุคฺคติภยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๐. จตุตฺเถ สพฺพทุคฺคติภยํ สมติกฺกนฺโตติ มนุสฺสโทภคฺคํ ปฏิกฺขิตฺตํ.

๕. ทุคฺคติวินิปาตภยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๑. ปฺจเม สพฺพทุคฺคติวินิปาตภยํ สมติกฺกนฺโตติ มนุสฺสโทภคฺเคน สทฺธึ จตฺตาโร อปายา ปฏิกฺขิตฺตา.

๖. ปมมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๒. ฉฏฺเ มิตฺตาติ อฺมฺสฺส เคเห อามิสปริโภควเสน โวหารมิตฺตา. อมจฺจาติ อามนฺตนปฏิมนฺตนอิริยาปถาทีสุ เอกโต ปวตฺตกิจฺจา. าตีติ สสฺสุสสุรปกฺขิกา. สาโลหิตาติ สมานโลหิตา ภาติภคินิมาตุลาทโย.

๗. ทุติยมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๓. สตฺตเม อฺถตฺตํ นาม ปสาทฺถตฺตํ ภาวฺถตฺตํ คติอฺถตฺตํ ลกฺขณฺถตฺตํ วิปริณามฺถตฺตนฺติ อเนกวิธํ. ตตฺถ มหาภูเตสุ ภาวฺถตฺตํ อธิปฺเปตํ. สุวณฺณาทิภาเวน หิ ฆนสณฺิตาย ปถวิธาตุยา วิลียิตฺวา อุทกภาวํ อาปชฺชมานาย ปุริมภาโว วิคจฺฉติ, ภาวฺถตฺตํ ปฺายติ. ลกฺขณํ ปน น วิคจฺฉติ, กกฺขฬลกฺขณาว โหติ. อุจฺฉุรสาทิภาเวน จ ยูสาการสณฺิตาย อาโปธาตุยา สุสฺสิตฺวา ฆนปถวิภาวํ อาปชฺชมานาย ปุริมภาโว วิคจฺฉติ, ภาวฺถตฺตํ ปฺายติ. ลกฺขณํ ปน น วิคจฺฉติ, อาพนฺธนลกฺขณาว โหติ. ตตฺริทํ อฺถตฺตนฺติ เอตฺถ ปน คติอฺถตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตฺหิ อริยสาวกสฺส นตฺถิ. ปสาทฺถตฺตมฺปิ นตฺถิเยว, อิธ ปน ปสาทผลํ ปกาเสตุํ คติอฺถตฺตเมว ทสฺสิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ราชการามวคฺโค ทุติโย.

๓. สรณานิวคฺโค

๑-๒. ปมมหานามสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๑๗-๑๘. ตติยสฺส ปเม อิทฺธนฺติ เตลมธุผาณิตาทีหิ สมิทฺธํ. ผีตนฺติ หตฺถูปคสีสูปคคีวูปคาทิอลงฺการวเสน สุปุปฺผิตํ. อากิณฺณมนุสฺสนฺติ นิรนฺตรมนุสฺสํ. สมฺพาธพฺยูหนฺติ พฺยูหา วุจฺจนฺติ อวินิพฺพิทฺธรจฺฉาโย, ยา ปวิฏฺมคฺเคเนว นิคฺคจฺฉนฺติ, ตา สมฺพาธา พฺยูหา พหุกา เอตฺถาติ สมฺพาธพฺยูหํ. อิมินาปิ นครสฺส ฆนวาสเมว ทีเปติ. ภนฺเตนาติ อิโต จิโต จ ปริพฺภมนฺเตน อุทฺธตจารินา. ทุติยํ อุตฺตานเมว.

๓. โคธสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑๙. ตติเย ภควาว เอตํ ชาเนยฺย เอเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ วา อสมนฺนาคตํ วาติ อิทํ โส สกฺโก ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปนฺนภาวํ, จตูหิ วา ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส โสตาปนฺนภาวํ ภควาว ชานาตีติ อธิปฺปาเยน อาห.

โกจิเทว ธมฺมสมุปฺปาโท อุปฺปชฺเชยฺยาติ กิฺจิเทว การณํ อุปฺปชฺเชยฺย. เอกโต อสฺส ภควา, เอกโต ภิกฺขุสงฺโฆติ ยสฺมึ การเณ อุปฺปนฺเน ภควา ภิกฺขุสงฺเฆน นานาลทฺธิโก หุตฺวา เอกํ วาทํ วทนฺโต เอกโต อสฺส, ภิกฺขุสงฺโฆปิ เอกํ วทนฺโต เอกโตติ อตฺโถ. เตเนวาหนฺติ ยํ วาทํ ตุมฺเห วเทถ, ตเมวาหํ คณฺเหยฺยนฺติ. นนุ จ อริยสาวกสฺส รตนตฺตเย ปสาทนานตฺตํ นตฺถิ, อถ กสฺมา เอส เอวมาหาติ? ภควโต สพฺพฺุตาย. เอวฺหิสฺส โหติ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ อตฺตโน อสพฺพฺุตาย อชานิตฺวาปิ กเถยฺย, สตฺถุ ปน อฺาณํ นาม นตฺถี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห. อฺตฺร กลฺยาณา อฺตฺร กุสลาติ กลฺยาณเมว กุสลเมว วทามิ, น กลฺยาณกุสลวิมุตฺตนฺติ. อปิจสฺส อนวชฺชนโทโส เอโสติ.

๔. ปมสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๐. จตุตฺเถ อิธ มหานาม เอกจฺโจ ปุคฺคโลติ อิทํ น เกวลํ สรณานิ เอว อปายโต มุตฺโต, อิเมปิ ปุคฺคลา มุตฺตาติ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. มตฺตโส นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ ปมาเณน จ โอโลกนํ ขมนฺติ. อิมินา ธมฺมานุสาริมคฺคฏฺปุคฺคลํ ทสฺเสติ. อคนฺตา นิรยนฺติ มคฺคฏฺปุคฺคโล หิ อปายโต ปริมุตฺโตติ วา ปริมุจฺจิสฺสตีติ วา วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ปริมุจฺจตีติ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมา จ ปริมุจฺจติ, ตสฺมา คนฺตา นาม น โหตีติ, ‘‘อคนฺตา’’ติ วุตฺโต, น คจฺฉตีติ อตฺโถ. สทฺธามตฺตํ เปมมตฺตนฺติ อิมินา สทฺธานุสาริมคฺคฏฺปุคฺคลํ ทสฺเสติ. มหาสาลาติ สมีเป ิเตว จตฺตาโร มหาสารรุกฺเข ทสฺเสนฺโต อาห. มรณกาเล สิกฺขํ สมาทิยีติ มรณสมเย ตีสุ สิกฺขาสุ ปริปูรการี อโหสีติ ทสฺเสติ.

๕. ทุติยสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๑. ปฺจเม ทุกฺเขตฺตนฺติ วิสมเขตฺตํ. ทุพฺภูมนฺติ อูสรภูมึ โลณูปหตํ. ขณฺฑานีติ ปริภินฺนานิ. ปูตีนีติ อุทเกน เตเมตฺวา ปูติภาวํ อาปนฺนานิ. วาตาตปหตานีติ วาตาตเปน หตตฺตา นิโรชภาวํ คตานิ. อสาราทานีติ อนาทินฺนสารานิ อคหิตสารานิ. อสุขสยิตานีติ น โกฏฺาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา สุฏฺุ ปิตานิ. สุขสยิตานีติ ปิตฏฺานโต จตฺตาโร มาเส อจลิตานิ.

๖. ปมอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๒. ฉฏฺเ านโส เวทนา ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยาติ ขเณน เวทนา ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺย. มิจฺฉาาเณนาติ มิจฺฉาปจฺจเวกฺขเณน มิจฺฉาวิมุตฺติยาติ อนิยฺยานิกวิมุตฺติยา. ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจาติ คาถา วุตฺตตฺถา เอว. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.

๗. ทุติยอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๓. สตฺตเม สมฺปรายิกํ มรณภยนฺติ สมฺปรายเหตุกํ มรณภยํ คิหิสามีจิกานีติ คิหีนํ อนุจฺฉวิกานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

สรณานิวคฺโค ตติโย.

๔. ปุฺาภิสนฺทวคฺโค

๑. ปมปุฺาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒๗. จตุตฺถสฺส ปเม ปุฺาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทาติ ปุฺนทิโย กุสลนทิโย. สุขสฺสาหาราติ สุขสฺส ปจฺจยา.

๔. ปมเทวปทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๐. จตุตฺเถ เทวปทานีติ เทวานํ าเณน, เทวสฺส วา าเณน อกฺกนฺตปทานิ. วิสุทฺธิยาติ วิสุชฺฌนตฺถาย. ปริโยทปนายาติ ปุริโยทปนตฺถาย โชตนตฺถาย. อิมสฺมึ สุตฺเต จตฺตาโรปิ ผลฏฺปุคฺคลา วิสุทฺธฏฺเน เทวา นาม ชาตา.

๘. วสฺสสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๔. อฏฺเม ปารํคนฺตฺวาติ ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตํ ปตฺวาติ อตฺโถ. อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺตีติ น ปมํ นิพฺพานํ คนฺตฺวา ปจฺฉา สํวตฺตนฺติ, คจฺฉมานา เอว สํวตฺตนฺติ. เทสนา ปน เอวํ กตา.

๑๐. นนฺทิยสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๖. ทสเม ทิวา ปวิเวกาย รตฺตึ ปฏิสลฺลานายาติ ทิวา ปวิเวกตฺถาย รตฺตึ ปฏิสลฺลานตฺถาย. ธมฺมา น ปาตุภวนฺตีติ สมถวิปสฺสนา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปุฺาภิสนฺทวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. สคาถกปุฺาภิสนฺทวคฺโค

๑. ปมอภิอสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๗. ปฺจมสฺส ปเม อสงฺขฺเยยฺโยติ อาฬฺหกคณนาย อสงฺขฺเยยฺโย, โยชนวเสน ปนสฺส สงฺขฺยา อตฺถิ. พหุเภรวนฺติ สวิฺาณกอวิฺาณกานํ เภรวารมฺมณานํ วเสน พหุเภรวํ. ปุถูติ พหุ. สวนฺตีติ สนฺทมานา. อุปยนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ.

๒. ทุติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๘. ทุติเย ยตฺถิมา มหานทิโย สํสนฺทนฺติ สเมนฺตีติ ยสฺมึ สํภชฺเช เอตา มหานทิโย เอกีภวนฺติ, นิรนฺตรา ภวนฺตีติ อตฺโถ.

๓. ตติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๙. ตติเย ปุฺกาโมติ ปุฺตฺถิโก. กุสเล ปติฏฺิโตติ มคฺคกุสเล ปติฏฺิโต. ภาเวติ มคฺคํ อมตสฺส ปตฺติยาติ นิพฺพานสฺส ปาปุณนตฺถํ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวติ. ธมฺมสาราธิคโมติ ธมฺมสาโร วุจฺจติ อริยผลํ ธมฺมสาโร, อธิคโม อสฺสาติ ธมฺมสาราธิคโม, อธิคตผโลติ อตฺโถ. ขเย รโตติ กิเลสกฺขเย รโต.

๔. ปมมหทฺธนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔๐. จตุตฺเถ อฑฺโฒ มหทฺธโนติ สตฺตวิเธน อริยธเนน อฑฺโฒ เจว มหทฺธโน จ. เตเนว โภเคน มหาโภโค. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

สคาถกปุฺาภิสนฺทวคฺโค ปฺจโม.

๖. สปฺปฺวคฺโค

๒. วสฺสํวุตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔๘. ฉฏฺสฺส ทุติเย อยมธิปฺปาโย – โสตาปนฺโน ภิกฺขุ เอตฺตเกน โวสานํ อนาปชฺชิตฺวา ตาเนว อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สกทาคามิมคฺคํ ปาปุณิสฺสติ, สกทาคามี อนาคามิมคฺคํ, อนาคามี อรหตฺตมคฺคนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ภควตา อิมสฺมึ สุตฺเต สาสเน ตนฺติ ปเวณี กถิตาติ.

๓. ธมฺมทินฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔๙. ตติเย ธมฺมทินฺโนติ สตฺตสุ ชเนสุ เอโก. พุทฺธกาลสฺมิฺหิ ธมฺมทินฺโน อุปาสโก, วิสาโข อุปาสโก, อุคฺโค คหปติ, จิตฺโต คหปติ, หตฺถโก อาฬวโก, จูฬอนาถปิณฺฑิโก, มหาอนาถปิณฺฑิโกติ อิเม สตฺต ชนา ปฺจสตอุปาสกปริวารา อเหสุํ. เอเตสุ เอส อฺตโร.

คมฺภีราติ ธมฺมคมฺภีรา สลฺลสุตฺตาทโย. คมฺภีรตฺถาติ อตฺถคมฺภีรา เจตนาสุตฺตนฺตาทโย. โลกุตฺตราติ โลกุตฺตรตฺถทีปกา อสงฺขตสํยุตฺตาทโย. สุฺตปฺปฏิสํยุตฺตาติ สตฺตสุฺตาทีปกา ขชฺชนิกสุตฺตนฺตาทโย. อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามาติ ปฏิลภิตฺวา วิหริสฺสาม. เอวฺหิ โว, ธมฺมทินฺน, สิกฺขิตพฺพนฺติ เอวํ ตุมฺเหหิ จนฺโทปมปฏิปทํ รถวินีตปฏิปทํ โมเนยฺยปฏิปทํ มหาอริยวํสปฏิปทํ ปูเรนฺเตหิ สิกฺขิตพฺพํ. อิติ สตฺถา อิเมสํ อุปาสกานํ อสยฺหภารํ อาโรเปสิ. กสฺมา? เอเต กิร น อตฺตโน ภูมิยํ ตฺวา โอวาทํ ยาจึสุ, อวิเสเสน ปน สพฺพภารํ อุกฺขิปิตุํ สมตฺถา วิย ‘‘โอวทตุ โน, ภนฺเต, ภควา’’ติ ยาจึสุ. เตน เตสํ สตฺถา อสยฺหภารํ อาโรเปนฺโต เอวมาห. น โข เนตนฺติ น โข เอตํ. นกาโร ปเนตฺถ พฺยฺชนสนฺธิมตฺตเมวาติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา อิทานิ อตฺตโน ภูมิยํ ตฺวา โอวาทํ ยาจถ, ตสฺมา.

๔. คิลานสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๐. จตุตฺเถ น โข ปเนตนฺติ น โข อมฺเหหิ เอตํ. สปฺปฺโ อุปาสโกติ โสตาปนฺโน อธิปฺเปโต. อสฺสาสนีเยหิ ธมฺเมหีติ อสฺสาสกเรหิ ธมฺเมหิ. อสฺสาสตายสฺมาติ อสฺสาสตุ อายสฺมา. มาริโสติ มรณปฏิพทฺโธ. มรณธมฺโมติ มรณสภาโว. อธิโมเจหีติ เปหิ. อธิโมจิตนฺติ ปิตํ. เอวํ วิมุตฺตจิตฺตสฺสาติ เอวํ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตจิตฺตสฺส. ยทิทํ วิมุตฺติยา วิมุตฺตนฺติ ยํ อิทํ วิมุตฺตึ อารพฺภ วิมุตฺติยา นานากรณํ วตฺตพฺพํ สิยา, น ตํ วทามิ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส หิ เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวตฺเตสุ เจว อสีติกฺขนฺธกวตฺเตสุ จาติ อาคมนียคุเณสุ ปมาณํ นาม นตฺถิ, ปฏิวิทฺเธ ปน มคฺเค วา ผเล วา อุปาสกานฺจ ภิกฺขูนฺจ นานากรณํ นตฺถิ.

๙. ปฺาปฏิลาภสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๕. นวเม ปฺาปฏิลาภาย สํวตฺตนฺตีติ เอตฺถ สตฺต เสกฺขา ปฺํ ปฏิลภนฺติ นาม, ขีณาสโว ปฏิลทฺธปฺโ นามาติ เวทิตพฺโพ. ปรโต ปฺาพุทฺธิยาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

สปฺปฺวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. มหาปฺวคฺโค

๑. มหาปฺาสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๘. สตฺตเม มหาปฺตาย สํวตฺตนฺตีติอาทีสุ ‘‘มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา’’ติอาทินา ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๒.๔) วุตฺตนเยเนว สพฺพตฺถ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

โสตาปตฺติสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. สจฺจสํยุตฺตํ

๑. สมาธิวคฺโค

๑. สมาธิสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๑. สจฺจสํยุตฺตสฺส ปเม สมาธึ, ภิกฺขเวติ เต กิร ภิกฺขู จิตฺเตกคฺคตาย ปริหายนฺติ, อถ เนสํ สตฺถา – ‘‘เอวเมเต จิตฺเตกคฺคตํ ลภิตฺวา, กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา, วิเสสํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ โยโค กรณีโยติ เอตฺถ ยถาภูตาทิวเสน การณจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, ยสฺมา สมาหิโต ภิกฺขุ จตฺตาริ สจฺจานิ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตสฺมา ตุมฺเหหิ จ สมาหิเตหิ จตุนฺนํ สจฺจานํ ยถาภูตํ ปชานนตฺถาย ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ โยโค กรณีโย. ตถา ยสฺมา จตฺตาริ สจฺจานิ ตถาคตสฺเสว ปาตุภาวา ปากฏานิ โหนฺติ, ยสฺมา จ ตถาคเตน สุวิภตฺตานิ, ยสฺมา จ เตสุ อปริมาณา วณฺณา อปริมาณานิ ปทพฺยฺชนานิ, ยสฺมา จ เตสํ อปฺปฏิวิทฺธตฺตา วฏฺฏํ วฑฺฒติ, เตสํ ปฏิวิทฺธกาลโต ปฏฺาย น วฑฺฒติ, ตสฺมา ‘‘เอวํ โน วฏฺฏํ น วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ตุมฺเหหิ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ โยโค กรณีโย.

๒. ปฏิสลฺลานสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๒. ทุติยํ กายวิเวกวิกลานํ กายวิเวกปฏิลาภตฺถาย วุตฺตํ.

๓. ปมกุลปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๗๓-๗๕. ตติเย อภิสมยายาติ อภิสมยตฺถาย. สมณพฺราหฺมณาติ เจตฺถ สาสนาวจรา อธิปฺเปตา. ตถา จตุตฺถปฺจเมสุ, เตน เตน อภิลาเปน พุชฺฌนกานํ ปน อชฺฌาสเยเนตานิ วุตฺตานิ.

๖. ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๖. ฉฏฺเ อภิสมฺพุทฺธํ ปกาเสสุนฺติ อภิสมฺพุทฺโธ อหนฺติ เอวํ อตฺตานํ อภิสมฺพุทฺธํ ปกาสยึสุ. อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต สพฺพฺุพุทฺธา จ สมณคหเณน คหิตา.

๑๐. ติรจฺฉานกถาสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๐. ทสเม อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ. ติรจฺฉานกถนฺติ อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตํ กถํ. ราชกถนฺติอาทีสุ ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํ มหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตกถา ราชกถา. เอส นโย โจรกถาทีสุ. เตสุ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา นเยน เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ. ‘‘โสปิ นาม เอวํ มหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํ มหานุภาโว เมฆมาโล เอวํ มหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ ‘‘อโห สูรา’’ติ เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธปิ ภารตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา, ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานเมว โหติ. อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุฺชิมฺห ปิวิมฺห ปริภุฺชิมฺหา’’ติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ. สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลํ คนฺธํ วิเลปนํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติเย ปูชํ อกริมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติ.

าติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา, ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ. สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา, ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพา. คามกถาทีสุปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา, ‘‘ขยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโย.

อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. สูรกถาปิ ‘‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’’ติ อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺโธ ปสนฺโน อโหสิ, ขยํ คโต’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. สุรากถาติปิ ปาโ. สาปิ เจสา สุรากถา ‘‘เอวรูปา นาม สุรา ปีตา รติชนนี โหตี’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, อาทีนววเสน ปน ‘‘อุมฺมตฺตกสํวตฺตนิกา’’ติอาทินา นเยน วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกวิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา’’ติ วา, ‘‘อสุกวิสิขาย วาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา อสฺสาทวเสเนว วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ เอจฺเจวํ วฏฺฏติ. กุมฺภฏฺานกถาติ อุทกติตฺถกถา วุจฺจติ, กุมฺภทาสิกถา วา. สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติ.

ปุพฺพเปตกถาติ อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโย. นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาหิ วิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถา. โลกกฺขายิกาติ ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต, อสุเกน นาม นิมฺมิโต, กาโก เสโต อฏฺีนํ เสตตฺตา, พลากา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตา’’ติ เอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา. สมุทฺทกฺขายิกา นาม ‘‘กสฺมา สมุทฺโท สาคโร, สาครเทเวน ขนิตตฺตา สาคโร, ขโต เมติ หตฺถมุทฺทาย นิเวทิตตฺตา สมุทฺโท’’ติ เอวมาทิกา นิรตฺถกสมุทฺทกฺขายิกกถา. อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา. เอตฺถ จ ภโวติ สสฺสตํ, อภโวติ อุจฺเฉทํ. ภโวติ วุทฺธิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ กามสุขํ, อภโวติ อตฺตกิลมโถ. อิติ อิมาย ฉพฺพิธาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ พาตฺตึส ติรจฺฉานกถา นาม โหนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปโม วคฺโค.

๒. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺโค

๑. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๑. ทุติยสฺส ปเม พาราณสิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. อิสิปตเน มิคทาเยติ อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน เอวํลทฺธนาเม มิคานํ อภยทานวเสน ทินฺนตฺตา มิคทายสงฺขาเต อาราเม. เอตฺถ หิ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา สพฺพฺุอิสโย ปตนฺติ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสีทนฺตีติ อตฺโถ. นนฺทมูลกปพฺภารโต สตฺตาหจฺจเยน นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺิตา อโนตตฺตทเห กตมุขโธวนาทิกิจฺจา อากาเสน อาคนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธอิสโยเปตฺถ โอตรณวเสน ปตนฺติ, อุโปสถตฺถฺจ อนุโปสถตฺถฺจ สนฺนิปตนฺติ, คนฺธมาทนํ ปฏิคจฺฉนฺตาปิ ตโตว อุปฺปตนฺตีติ อิมินา อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน ตํ ‘‘อิสิปตน’’นฺติ วุจฺจติ.

อามนฺเตสีติ ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหารโต ปฏฺาย ปารมิโย ปูเรนฺโต อนุปุพฺเพน ปจฺฉิมภเว กตาภินิกฺขมโน อนุปุพฺเพน โพธิมณฺฑํ ปตฺวา ตตฺถ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน มารพลํ ภินฺทิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยามาวสาเน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺต สตฺตาหานิ โพธิมณฺเฑ วีตินาเมตฺวา มหาพฺรหฺมุนา อายาจิตธมฺมเทสโน พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตฺวา โลกานุคฺคเหน พาราณสึ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิเย สฺาเปตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุกาโม อามนฺเตสิ.

ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตาติ ทฺเว อิเม, ภิกฺขเว, โกฏฺาสา. อิมสฺส ปน ปทสฺส สห สมุทาหาเรน สมุทาหารนิคฺโฆโส เหฏฺา อวีจึ อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปตฺถริตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺมึเยว สมเย อฏฺารสโกฏิสงฺขา พฺรหฺมาโน สมาคจฺฉึสุ, ปจฺฉิมทิสาย สูริโย อตฺถเมติ, ปาจีนทิสาย อาสาฬฺหนกฺขตฺเตน ยุตฺโต ปุณฺณจนฺโท อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สมเย ภควา อิมํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตํ อารภนฺโต ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปพฺพชิเตนาติ คิหิสํโยชนํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชฺชุปคเตน. น เสวิตพฺพาติ น วฬฺเชตพฺพา. โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ โย จ อยํ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสุขสฺส อนุโยโค. หีโนติ ลามโก. คมฺโมติ คามวาสีนํ สนฺตโก. โปถุชฺชนิโกติ อนฺธพาลชเนน อาจิณฺโณ. อนริโยติ น อริโย น วิสุทฺโธ น อุตฺตโม น วา อริยานํ สนฺตโก. อนตฺถสํหิโตติ น อตฺถสํหิโต, หิตสุขาวหการณํ อนิสฺสิโตติ อตฺโถ. อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺตโน กิลมถสฺส อนุโยโค, อตฺตโน ทุกฺขกรณนฺติ อตฺโถ. ทุกฺโขติ กณฺฏกาปสฺสยเสยฺยาทีหิ อตฺตมารเณหิ ทุกฺขาวโห.

ปฺาจกฺขุํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. ทุติยปทํ ตสฺเสว เววจนํ. อุปสมายาติ กิเลสูปสมตฺถาย. อภิฺายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อภิชานนตฺถาย. สมฺโพธายาติ เตสํเยว สมฺพุชฺฌนตฺถาย. นิพฺพานายาติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว. สจฺจกถาปิ สพฺพากาเรเนว วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๙) วิตฺถาริตา.

ติปริวฏฺฏนฺติ สจฺจาณกิจฺจาณกตาณสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปริวฏฺฏานํ วเสน ติปริวฏฺฏํ. เอตฺถ หิ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อิทํ ทุกฺขสมุทย’’นฺติ เอวํ จตูสุ สจฺเจสุ ยถาภูตํ าณํ สจฺจาณํ นาม. เตสุเยว ‘‘ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพ’’นฺติ เอวํ กตฺตพฺพกิจฺจชานนาณํ กิจฺจาณํ นาม. ‘‘ปริฺาตํ ปหีน’’นฺติ เอวํ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส กตภาวชานนาณํ กตาณํ นาม. ทฺวาทสาการนฺติ เตสํเยว เอเกกสฺมึ สจฺเจ ติณฺณํ ติณฺณํ อาการานํ วเสน ทฺวาทสาการํ. าณทสฺสนนฺติ เอเตสํ ติปริวฏฺฏานํ ทฺวาทสนฺนํ อาการานํ วเสน อุปฺปนฺนาณสงฺขาตํ ทสฺสนํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ อฺตฺถ ตโย มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ ธมฺมจกฺขุ นาม โหนฺติ, อิธ ปมมคฺโคว.

ธมฺมจกฺเกติ ปฏิเวธาเณ เจว เทสนาาเณ จ. โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส หิ จตูสุ สจฺเจสุ อุปฺปนฺนํ ทฺวาทสาการํ ปฏิเวธาณมฺปิ, อิสิปตเน นิสินฺนสฺส ทฺวาทสาการาย สจฺจเทสนาย ปวตฺติตํ เทสนาาณมฺปิ ธมฺมจกฺกํ นาม. อุภยมฺปิ เหตํ ทสพลสฺส อุเร ปวตฺตาณเมว. อิมาย เทสนาย ปกาเสนฺเตน ภควตา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ นาม. ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ยาว อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถโร อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาติ, ตาว นํ ภควา ปวตฺเตติ นาม, ปติฏฺิเต จ ปวตฺติตํ นาม. ตํ สนฺธาย ปวตฺติเต จ ปน ภควตา ธมฺมจกฺเก ภุมฺมา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ภุมฺมาติ ภูมฏฺกเทวตา. สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ ทตฺวา – ‘‘เอตํ ภควตา’’ติอาทีนิ วทนฺตา อนุสาวยึสุ. โอภาโสติ สพฺพฺุตฺาโณภาโส. โส หิ ตทา เทวานํ เทวานุภาวํ อติกฺกมิตฺวา วิโรจิตฺถ. อฺาสิ วต, โภ, โกณฺฑฺโติ อิมสฺสปิ อุทานสฺส อุทาหารนิคฺโฆโส ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ.

๙. สงฺกาสนสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๙. นวเม อปริมาณา วณฺณาติ อปฺปมาณานิ อกฺขรานิ. พฺยฺชนาติ เตสํเยว เววจนํ, วณฺณานํ วา เอกเทสา ยทิทํ พฺยฺชนา นาม. สงฺกาสนาติ วิภตฺติโย. เอกเมกสฺมิฺหิ สจฺเจ สพฺพากาเรน วิตฺถาริยมาเน วณฺณาทีนํ อนฺโต นาม นตฺถิ. ตสฺมา เอวมาห.

๑๐. ตถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๐. ทสเม สภาวาวิชหนฏฺเน ตถํ. ทุกฺขฺหิ ทุกฺขเมว วุตฺตํ. สภาวสฺส อโมฆตาย อวิตถํ. น หิ ทุกฺขํ อทุกฺขํ นาม โหติ. อฺภาวานุปคเมน อนฺถํ. น หิ ทุกฺขํ สมุทยาทิภาวํ อุปคจฺฉติ. สมุทยาทีสุปิ เอเสว นโยติ.

ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺโค ทุติโย.

๓. โกฏิคามวคฺโค

๑. โกฏิคามสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๑. ตติยสฺส ปเม อนนุโพธาติ อนนุพุชฺฌเนน. อปฺปฏิเวธาติ อปฺปฏิวิชฺฌเนน.

๒. ทุติยโกฏิคามสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๒. ทุติเย เจโตวิมุตฺติ ปฺาวิมุตฺตีติ ผลสมาปตฺติผลปฺานํ นามํ.

๗. ตถสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๗. สตฺตเม ตสฺมา อริยสจฺจานีติ ยสฺมา ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ, ตสฺมา อริยานํ สจฺจานีติ วุจฺจนฺติ. น หิ วิตถานิ อริยา อริยสจฺจโต ปฏิวิชฺฌนฺติ.

๘. โลกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๘. อฏฺเม ตถาคโต อริโย, ตสฺมา ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ ยสฺมา อริเยน ตถาคเตน ปฏิวิทฺธตฺตา เทสิตตฺตา จ ตานิ อริยสนฺตกานิ โหนฺติ, ตสฺมา อริยสฺส สจฺจตฺตา อริยสจฺจานีติ อตฺโถ.

๑๐. ควมฺปติสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๐. ทสเม สหฺจนิเกติ สหฺจนิยนคเร. โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตีติอาทิ เอกปฏิเวธวเสน วุตฺตํ, อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต เอกปฏิเวโธว กถิโต.

โกฏิคามวคฺโค ตติโย.

๔. สีสปาวนวคฺโค

๑. สีสปาวนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๑. จตุตฺถสฺส ปเม ยทิทํ อุปรีติ ยานิ อิมานิ อุปริ. สีสปาวเนติ สีสปารุกฺเข.

๒. ขทิรปตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๒. ทุติเย อนภิสเมจฺจาติ าเณน อนภิสมาคนฺตฺวา, อปฺปฏิวิชฺฌิตฺวาติ อตฺโถ.

๓. ทณฺฑสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๓. ตติเย อสฺมา โลกา ปรํ โลกนฺติ อิมมฺหา มนุสฺสโลกา ปรํ นิรยมฺปิ, ติรจฺฉานโยนิมฺปิ, เปตฺติวิสยมฺปิ, มนุสฺสโลกมฺปิ, เทวโลกมฺปิ, คจฺฉนฺติ, ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว นิพฺพตฺตนฺตีติ อตฺโถ.

๕. สตฺติสตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๕. ปฺจเม เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, อสฺสาติ, ภิกฺขเว, เอวํ เจ เอตํ ภเวยฺย, นิรนฺตรํ สตฺติสเตหิ หฺมานสฺส ทุกฺขโทมนสฺเสหิ สเหเวส สจฺจาภิสมโย ภเวยฺย เจติ อตฺโถ.

๙. อินฺทขีลสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๙. นวเม มุขํ โอโลเกนฺตีติ อชฺฌาสยํ โอโลเกนฺติ. อชฺฌาสโย อิธ มุขนฺติ อธิปฺเปโต.

๑๐. วาทตฺถิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๐. ทสเม สิลายูโปติ สิลาถมฺโภ. โสฬสกุกฺกุโกติ โสฬสหตฺโถ. โสฬสกุกฺกูติปิ ปาโ. เหฏฺา เนมงฺคมาติ เหฏฺา อาวาฏํ ปวิฏฺา. อฏฺ กุกฺกุ อุปริเนมสฺสาติ อฏฺ หตฺถา อาวาฏสฺส อุปริ อุคฺคนฺตฺวา ิตา ภเวยฺยุํ. ภุสาติ พลวตี. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

สีสปาวนวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. ปปาตวคฺโค

๑. โลกจินฺตาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๑. ปฺจมสฺส ปเม สุมาคธาย โปกฺขรณิยาติ เอวํนามิกาย โปกฺขรณิยา. โลกจินฺตํ จินฺเตนฺโตติ, ‘‘เกน นุ โข จนฺทิมสูริยา กตา, เกน มหาปถวี, เกน มหาสมุทฺโท, เกน สตฺตา อุปฺปาทิตา, เกน ปพฺพตา, เกน อมฺพตาลนาฬิเกราทโย’’ติ เอวรูปํ โลกจินฺตํ จินฺเตนฺโต นิสีทิ.

วิเจโตติ วิคตจิตฺโต วิกฺขิตฺตจิตฺโต วา. ภูตํเยว อทฺทสาติ เต กิร อสุรา สมฺพริมายํ สมฺปริวตฺเตตฺวา ยถา เน โส ปุริโส หตฺถิอสฺสาทีสุ อารุหนฺเต อุกฺขิปิตฺวา, ภิสมุฬาลจฺฉิทฺเทหิ ปวิสนฺเต ปสฺสติ, เอวํ อธิฏฺหึสุ. ตํ สนฺธาย สตฺถา ‘‘ภูตํเยว อทฺทสา’’ติ อาห. เทวานํเยว โมหยมานาติ เทวานํ จิตฺตํ โมหยนฺตา. ตสฺมาติ ยสฺมา โลกจินฺตํ จินฺเตนฺโต อุมฺมตฺตโกปิ โหติ, ตสฺมา.

๒-๓. ปปาตสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๑๒-๑๓. ทุติเย ปฏิภานกูโฏติ เอโก มหนฺโต ปพฺพตสทิโส มริยาทปาสาโณ. ตติเย อนิฏฺรูปนฺติ อนิฏฺสภาวํ.

๔. กูฏาคารสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๔. จตุตฺเถ เหฏฺิมํ ฆรํ อกริตฺวาติ ถมฺภภิตฺติปาทุสฺสาปนาทินา ฆรสฺส เหฏฺิมภาคํ อกตฺวา.

๕. วาลสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๕. ปฺจเม สนฺถาคาเรติ สิปฺปุคฺคณฺหนสาลายํ. อุปาสนํ กโรนฺเตติ กณฺฑขิปนสิปฺปํ กโรนฺเต. อสนํ อติปาเตนฺเตติ กณฺฑํ อติกฺกเมนฺเต. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ เอกํ กณฺฑํ ขิปิตฺวา ยถา อสฺส สรสฺส โปงฺขํ วิชฺฌติ, อปรํ อนุโปงฺขํ นาม ทุติยสฺส โปงฺขํ, ปุน อปรํ ตสฺส โปงฺขนฺติ เอวํ อติปาเตนฺเต อทฺทส. ยตฺร หิ นามาติ เย นาม. ทุรภิสมฺภวตรนฺติ ทุกฺกรตรํ. สตฺตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ เอกํ วาลํ สตฺตธา ภินฺทิตฺวา, ตสฺส เอกํ เภทํ คเหตฺวา, วาติงฺคณมชฺเฌ พนฺธิตฺวา, อปรํ เภทํ กณฺฑสฺส อคฺคโกฏิยํ พนฺธิตฺวา, อุสภมตฺเต ิโต กณฺฑพทฺธาย โกฏิยา ตํ วาติงฺคณพทฺธโกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ ทุปฺปฏิวิชฺฌานิ จตฺตาริ สจฺจานิ, ตสฺมา.

๗. ปมฉิคฺคฬยุคสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๗. สตฺตเม อฺมฺขาทิกาติ อฺมฺํ ขาทนํ. ทุพฺพลขาทิกาติ พลวนฺเตหิ มจฺฉาทีหิ ทุพฺพลานํ มจฺฉาทีนํ ขาทนํ.

๘. ทุติยฉิคฺคฬยุคสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๘. อฏฺเม มหาปถวีติ จกฺกวาฬคพฺภนฺตรา มหาปถวี. อธิจฺจมิทํ, ภนฺเตติ อิทํ อธิจฺจุปฺปตฺติกํ สเจ ตํ ยุคํ น ปูติ ภเวยฺย, สมุทฺเท อุทกํ น สุสฺเสยฺย, โส จ กจฺฉโป น มเรยฺย, อปิ นาม ยทิจฺฉาวเสน สิยาติ อตฺโถ.

เอวํ อธิจฺจมิทํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ มหาสีวตฺเถโร จตฺตาริ ยุคานิ ทสฺเสติ – ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปุริเสน ปกฺขิตฺตยุคสฺส หิ ฉิคฺคเฬน ตสฺส อนฺธกจฺฉปสฺส คีวาย ปเวสนํ วิย มนุสฺสปฏิลาโภ อธิจฺจปฏิลาภี. ทกฺขิณจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปกฺขิตฺตสฺส ปน ปริพฺภมนฺตสฺส ปุริมยุคํ ปตฺวา ฉิคฺคเฬน ฉิคฺคฬุปริ อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬน คีวปฺปเวสนํ วิย ตถาคตุปฺปาโท อธิจฺจตรสมฺภโว. ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปกฺขิตฺตสฺส ปน ปริพฺภมนฺตสฺส ปุริมยุคทฺวยํ ปตฺวา ฉิคฺคเฬน ฉิคฺคฬุปริ อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬน คีวปฺปเวสนํ วิย ตถาคตปฺปเวทิตสฺส ธมฺมวินยสฺส ทีปนํ อธิจฺจตรสมฺภวํ. อุตฺตรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิเตน ปกฺขิตฺตสฺส ปน ปริพฺภมนฺตสฺส ปุริมยุคตฺตยํ ปตฺวา ฉิคฺคเฬน ฉิคฺคฬุปริ อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬน คีวปฺปเวสนํ วิย จตุสจฺจปฏิเวโธ อติวิย อธิจฺจตรสมฺภโว เวทิตพฺโพ. นวมาทีนิ อภิสมยสํยุตฺเต วุตฺตนยาเนวาติ.

ปปาตวคฺโค ปฺจโม.

๖. อภิสมยวคฺควณฺณนา

๑๑๒๑. อภิสมยวคฺโค นิทานวคฺเค อภิสมยสํยุตฺเต วิตฺถาริโตว.

๗. ปมอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๓. ปฺาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓๓. อามกธฺเปยฺยาเล อริเยน ปฺาจกฺขุนาติ วิปสฺสนํ อาทึ กตฺวา โลกิยโลกุตฺตเรน าณจกฺขุนา.

๔. สุราเมรยสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓๔. สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา ปฏิวิรตาติ เอตฺถ สุรา นาม ปิฏฺสุรา, โอทนสุรา, ปูวสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจวิธา. เมรยํ นาม ปุปฺผาสโว, ผลาสโวติ, เอวํ วุตฺโต โย โกจิ อาสโว. มชฺชนฺติ ตเทว อุภยํ, ยํ วา ปนฺมฺปิ สุราสววินิมุตฺตํ มทนียํ. ยาย เจตนาย ตํ ปิวนฺติ, สา ปมาทสฺส การณตฺตา ปมาทฏฺานํ นาม, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๖-๗. มตฺเตยฺยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๓๖-๓๗. มตฺเตยฺยาติ มาตุหิตา, มาตริ สมฺมาปฏิปนฺนาติ อตฺโถ. เปตฺเตยฺยาทีสุ ปิตุหิตา เปตฺเตยฺยา.

๘-๙. สามฺสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๓๘-๓๙. สมณานํ หิตา สามฺา. พฺราหฺมณานํ หิตา พฺรหฺมฺา. เตสุ เตสุ สมฺมา ปฏิปนฺนานํเยเวตํ อธิวจนํ.

๑๐. ปจายิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๐. กุเล เชฏฺาปจายิโนติ กุเล เชฏฺานํ อปจายิโน, นีจวุตฺติโนติ อตฺโถ.

๘. ทุติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๘. พีชคามสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๘. พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ มูลพีชํ, ขนฺธพีชํ, ผฬุพีชํ, อคฺคพีชํ, พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส เจว ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา, เฉทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๙. วิกาลโภชนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔๙. วิกาลโภชนาติ กาลาติกฺกนฺตโภชนา, มชฺฌนฺหิกาติกฺกมโต ปฏฺาย ยาวกาลิกปริโภคาติ อตฺโถ.

๑๐. คนฺธวิเลปนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๐. มาลาทีสุ มาลาติ ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํ กิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺตา ธาเรนฺติ นาม, อูนฏฺานํ ปูเรนฺตา มณฺเฑนฺติ นาม, คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺตา วิภูเสนฺติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ. ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๙. ตติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๑. นจฺจคีตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๑. สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ. อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจา จ คีตา จ วาทิตา จ อนฺตมโส มยูรนจฺจาทิวเสนาปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตา ทสฺสนา จาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ปยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ, น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ.

๒. อุจฺจาสยนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๒. อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ. มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรณํ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

๓. ชาตรูปสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๓. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ – โลหมาสโก, ชตุมาสโก, ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ, ตสฺส อุภยสฺสาปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรตา. เนว นํ อุคฺคณฺหนฺติ น อุคฺคณฺหาเปนฺติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยนฺตีติ อตฺโถ.

๔. อามกธฺสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๔. อามกธฺปฏิคฺคหณาติ สาลิ-วีหิ-ยว-โคธุม-กงฺคุ-วรก-กุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสาปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว.

๕. อามกมํสสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๕. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร อุทฺทิสฺส อนุฺาตา อามกมํสมจฺฉานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนํ.

๖. กุมาริกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๖. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา, อิตรา กุมาริกา นาม. ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว.

๗. ทาสิทาสสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕๗. ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ, ‘‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ, อารามิกํ ทมฺมี’’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ.

๑๐. จตุตฺถอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค

๑. เขตฺตวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖๑. อเชฬกาทีสุ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ. ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยํ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว.

๒-๓. กยวิกฺกยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๖๒-๖๓. กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ, คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหิณคมนํ วุจฺจติ ฆรา ฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ. ตสฺมา ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๔. ตุลากูฏสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖๔. ตุลากูฏาทีสุ กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ ตาว รูปกูฏํ, องฺคกูฏํ, คหณกูฏํ, ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สมรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ, ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.

กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ, ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรนฺติ. ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา, กิฺจิเทว อฑฺฒกุลํ ปวิสิตฺวา, ‘‘สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’’ติ วตฺวา, อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ, ตโต เตหิ ‘‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต ‘‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพปาติโย ทตฺวา คจฺฉนฺติ.

มานกูฏํ หทยเภท-สิขาเภท-รชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺาฉิทฺเทน มาเนน ‘‘สณิกํ อาสิฺจา’’ติ วตฺวา อนฺโตภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต เวเคน สิขํ ภินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตํ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.

๕. อุกฺโกฏนสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖๕. อุกฺโกฏนาทีสุ อุกฺโกฏนนฺติ สามิเก อสฺสามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํวตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต ‘‘กึ, โภ, มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ?, อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต กหาปณํ ทตฺวา, มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต ‘‘น เม, โภ, มิคโปตเกน อตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ทฺเว กหาปเณ เทหีติ. นนุ, โภ, มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโนติ. อาม ทินฺโนติ. อิมมฺปิ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ, อยฺจ กหาปณคฺฆนโก มิคโปตโกติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตีติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ.

นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ อมณึ มณินฺติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปติรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค. เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ. ตสฺมา อุกฺโกฏนสาจิโยคา วฺจนสาจิโยคา นิกติสาจิโยคาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ สาจิโยโคติ วทนฺติ. ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ.

๖-๑๑. เฉทนสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๖๖-๗๑. เฉทนาทีสุ เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มรณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส, คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยํ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทิปฏิจฺฉนฺนา มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส.

อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ สาหสกิริยา, เคหํ ปวิสิตฺวา, มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา, อิจฺฉิตภณฺฑคฺคหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อามกธฺเปยฺยาลวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา หิ –

‘‘พหุการสฺส ยตีนํ วิปสฺสนาจารนิปุณพุทฺธีนํ,

สํยุตฺตวรนิกายสฺส อตฺถสํวณฺณนํ กาตุํ.

‘‘สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติมาสิสมาเนน ยา มยา;

นิปุณา อฏฺกถา อารทฺธา สารตฺถปกาสินี นาม.

‘‘สา หิ มหาอฏฺกถาย สารมาทาย นิฏฺิตา เอสา;

อฏฺสตฺตติมตฺตาย ปาฬิยา ภาณวาเรหิ.

‘‘เอกูนสฏฺิมตฺโต วิสุทฺธิมคฺโคปิ ภาณวาเรหิ;

อตฺถปฺปกาสนตฺถาย อาคมานํ กโต ยสฺมา.

‘‘ตสฺมา เตน สหายํ อฏฺกถา ภาณวารคณนาย;

โถเกน อปริปูรํ สตฺตตึสสตํ โหติ.

‘‘สตฺตตึสาธิกสต-ปริมาณํ ภาณวารโต เอวํ;

สมยํ ปกาสยนฺตึ มหาวิหาราธิวาสีนํ.

‘‘มูลฏฺกถาย สารมาทาย มยา อิมํ กโรนฺเตน;

ยํ ปุฺมุปจิตํ เตน โหตุ สพฺโพ สุขี โลโก.

‘‘เอติสฺสา กรณตฺถํ เถเรน ภทนฺตโชติปาเลน;

สุจิสีเลน สุภาสิตสฺส ปกาสยนฺตาเณน.

‘‘สาสนวิภูติกาเมน ยาจมาเนน มํ สุภคุเณน;

ยํ สมธิคตํ ปุฺํ เตนาปิ ชโน สุขี ภวตู’’ติ.

ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฺปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปฺปเภทคุณปฺปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ สารตฺถปฺปกาสินี นาม สํยุตฺตนิกายฏฺกถา.

‘‘ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ สีลวิสุทฺธิยา.

‘‘ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโน’’ติ.

สารตฺถปฺปกาสินี นาม

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถา สพฺพากาเรน นิฏฺิตา.