📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
สํยุตฺตนิกาเย
มหาวคฺคฏีกา
๑. มคฺคสํยุตฺตํ
๑. อวิชฺชาวคฺโค
๑-๒. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑-๒. ปุพฺพงฺคมาติ ¶ ¶ ปุพฺเพจรา. อวิชฺชา หิ อฺาณลกฺขณา สมฺมุยฺหนากาเรน อารมฺมเณ ปวตฺตตีติ สมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ ตทาการานุวิธานตาย ปจฺจโย โหติ. ตถา หิ เต อนิจฺจาสุภทุกฺขานตฺตสภาเวปิ ธมฺเม นิจฺจาทิโต คณฺหนฺติ, อยมสฺสา เตสํ สหชาตวเสน ปุพฺพงฺคมตา. ยํ ปน โมเหน อภิภูโต ปาปกิริยาย อาทีนวํ อปสฺสนฺโต ปาณํ หนติ, อทินฺนํ อาทิยติ, กาเมสุ มิจฺฉา จรติ, มุสา ภณติ, อฺมฺปิ วิวิธํ ทุสฺสีลฺยํ อาจรติ, อยมสฺส สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จ ปุพฺพงฺคมตา. สมาปชฺชนายาติ ตพฺภาวาปชฺชนาย ¶ อกุสลปฺปตฺติยา. สภาวปฏิลาภายาติ อตฺตลาภาย. เตนาห ‘‘อุปฺปตฺติยา’’ติ. สา ปเนสา วุตฺตากาเรน อกุสลานํ ปุพฺพงฺคมภูตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ยเทตนฺติ ยํ เอตํ ปาปาชิคุจฺฉนตาย ปาปโต อลชฺชนาการสณฺิตํ อหิริกํ, ปาปานุตฺราสตาย ปาปโต อภายนาการสณฺิตฺจ อโนตฺตปฺปํ, เอตํ ¶ ทฺวยํ อนุเทว อนฺวาคตเมว. อนุ-สทฺเทน เจตฺถ เอตนฺติ อุปโยควจนํ. อนุเทวาติ เอตสฺส อตฺโถ สเหว เอกโตติ. เอตฺถ อวิชฺชาย วุตฺตนยานุสาเรน ตปฺปฏิปกฺขโต จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ยถา อกุสลกมฺมปถวเสน ปวตฺติยํ ปุพฺพงฺคมตา อวิชฺชาย, เอวํ กุสลกมฺมปถวเสน ปฺุกิริยวตฺถุวเสน จ ปวตฺติยํ วิชฺชาย ปุพฺพงฺคมตา วตฺตพฺพา. วีมํสาธิปติวเสน ปวตฺติยํ อาธิปจฺจาการวเสน จ ปุพฺพงฺคมตา เวทิตพฺพา. ทฺวีเหวาติ จ อวธารณํ อาธิปจฺจาการสฺส สหชาเตเนว สงฺคเหตพฺพโต.
ลชฺชนาการสณฺิตาติ ปาปโต ชิคุจฺฉนาการสณฺิตา. ภายนาการสณฺิตนฺติ อุตฺตสนาการสณฺิตํ. เอตฺถาติ หิริโอตฺตปฺเป. วิทติ, วินฺทตีติ วา วิชฺชา. วิทฺทสูติ จ สปฺปฺปริยาโยติ อาห ‘‘วิทฺทสุโนติ วิทุโน’’ติ. ยาถาวทิฏฺีติ อวิปรีตา ทิฏฺิ, สํกิเลสโต นิยฺยานิกทิฏฺิ. สมฺมาทิฏฺิ ปโหตีติ เอตฺถ สา วิชฺชา สมฺมาทิฏฺิ เวทิตพฺพา. น เอกโต สพฺพานิ ลพฺภนฺติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวานํ ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส อเนกรูปตฺตา. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ เอกโต ลพฺภนฺติ กิจฺจโต ภินฺนานมฺปิ ตาสํ ตตฺถ สรูปโต อภินฺนตฺตา. เอกา เอว หิ วิรติ มคฺคกฺขเณ ติสฺสนฺนมฺปิ วิรตีนํ กิจฺจํ สาเธนฺตี ปวตฺตติ, ยถา เอกา เอว สมฺมาทิฏฺิ ปริชานนาทิวเสน จตุพฺพิธกิจฺจํ สาเธนฺตี ปวตฺตติ. ตานิ จ โข สพฺพานิ อฏฺปิ ปมชฺฌานิเก มคฺเค ลพฺภนฺตีติ โยชนา. ปมชฺฌานิเกติ ปมฌานวนฺเต.
ตถาภูตสฺสาติ อริยมคฺคสมงฺคิโน. ยสฺมา มหาสฬายตนสุตฺเต วุตฺตํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ปฺจนฺนํ เอว องฺคานํ วเสนา’’ติ, ตสฺมา ปฺจงฺคิโก โลกุตฺตรมคฺโค โหติ. ‘‘ปุพฺเพว โข ปนา’’ติ หิ วจนํ ตทา มคฺคกฺขเณ วิรตีนํ อภาวํ าเปติ, ตสฺมา กามาวจรจิตฺเตสุ วิย โลกุตฺตรจิตฺเตสุ วิรติ อนิยตาติ อธิปฺปาโย. ปริสุทฺธภาวทสฺสนนฺติ ปริสุทฺธสีลภาวทสฺสนตฺถํ. อยมตฺโถ ทีปิโต, น อริยมคฺเค วิรตีนํ อภาโว.
ยทิ เอวํ กสฺมา อภิธมฺเม มคฺควิภงฺเค ปฺจงฺคิกวาโร อาคโตติ อาห ‘‘ยมฺปิ อภิธมฺเม’’ติอาทิ. ตนฺติ ‘‘ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ วจนํ. ‘‘เอกํ ¶ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุํ วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมิฺหิ กาเล’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมิฺหิ กาเลติ โลกิยกาเล ¶ . เตน ‘‘เอกํ กิจฺจนฺตร’’นฺติ วุตฺตํ อฏฺงฺคิกกิจฺจํ ทสฺเสติ. วิรติอุปฺปาทเนน มิจฺฉาวาจาทีนิ ปุคฺคเลน มคฺคสมเย ปชหาเปนฺตีติ สมฺมาทิฏฺิอาทีนิ ‘‘ปฺจ การกงฺคานี’’ติ วุตฺตานิ. สมฺมาวาจาทิกิริยา หิ วิรติ, ตฺจ เอตานิ การาเปนฺตีติ. วิรติวเสนาติ วิรมณกิริยาวเสน การาปกภาเวน, กตฺตุภาเวน วาติ อตฺโถ. ‘‘วิรติตฺตยวเสนา’’ติ วา ปาโ.
สมฺมากมฺมนฺโต ปูรตีติ อิเมหิ สมฺมาทิฏฺิอาทีหิ สมฺมากมฺมนฺตกิจฺจํ ปูรติ นาม เตหิ วีริยาทิเกหิ ตทตฺถสิทฺธิโต. ตมฺปิ สนฺธาย ‘‘เอกํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุ’’นฺติ วุตฺตํ. อิมํ กิจฺจนฺตรํ ทสฺเสตุนฺติ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณปิ อิมาเนว ปฺจ สมฺมาวาจาทิวิรติตฺตยสฺส เอกกฺขเณ การาปกงฺคานีติ ทสฺเสตุํ. เอวํ วุตฺตนฺติ ‘‘ตสฺมึ สมเย ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ (วิภ. ๔๙๔) เอวํ วุตฺตํ. โลกิยมคฺคกฺขเณ ปฺเจว โหนฺติ, วิรติ ปน อนิยตา, ตสฺมา ‘‘ฉองฺคิโก’’ติ อวตฺวา ‘‘ปฺจงฺคิโก’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ตยิทํ อภิธมฺเม ปฺจงฺคิกวารเทสนาย การณกิตฺตนมคฺโค, อริยมคฺโค ปน อฏฺงฺคิโกวาติ ทสฺเสตุํ, ‘‘ยา จ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. มิจฺฉาทิฏฺิอาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา อกุสลา จ ทสาติ วีสติ อกุสลปกฺขิยา, สมฺมาทิฏฺิอาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา กุสลา จ ทสาติ วีสติ กุสลปกฺขิยา มหาจตฺตารีสกสุตฺเต วุตฺตา. มหาจตฺตารีสกนฺติ ตสฺเสตํ นามํ. มิสฺสโกว กถิโต โลกุตฺตรสฺสปิ อิธ ลพฺภมานตฺตา.
ยสฺมา โกสลสํยุตฺเตปิ อิธ จ เถเรน ‘‘อุปฑฺฒมิทํ, ภนฺเต, พฺรหฺมจริยสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตํ ‘‘มา เหวํ อานนฺทา’’ติอาทินา ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สกลเมวิทํ อานนฺทา’’ติอาทินา ภควตา เทสิตํ สุตฺตํ อาคตํ. ตสฺสตฺโถ โกสลสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺโต, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โกสลสํยุตฺเต วุตฺตตฺถเมวา’’ติ.
อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓. สาวกโพธิ ¶ สาวกปารมิโย, ตปฺปริยาปนฺนํ าณํ สาวกปารมิาณํ, ตํ ปน ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ตตฺถปิ ธมฺมเสนาปติโน เอว สวิเสสํ มตฺถกํ ปตฺตํ, น อิตเรสนฺติ อาห – ‘‘สาวก…เป… อปฺปตฺตตายา’’ติ. ตสฺมา ตสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา มคฺคพฺรหฺมจริเย อิชฺฌนฺเต ตสฺส เอกเทโส อิธ อิชฺฌติ, น สกลนฺติ. น หิ อทฺธพฺรหฺมจริยํ นาม อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ, ‘‘สกลมฺปิ ¶ …เป… ลพฺภตี’’ติ, ตํ ปน ภณฺฑาคาริโก นาฺาสิ าณสฺส สาวกวิสเยปิ สปฺปเทสิกตฺตา, ธมฺมเสนาปติ ปน าณสฺส ตตฺถ นิปฺปเทสิกตฺตา อฺาสีติ. เตนาห – ‘‘อานนฺทตฺเถโร…เป… อฺาสี’’ติ. เอวมาหาติ ‘‘สกลมิทํ, ภนฺเต’’ติ เอวํ อโวจ.
สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ชาณุสฺโสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๔. วฬวาภิ-สทฺโท วฬวาปริยาโยติ อาห ‘‘จตูหิ วฬวาหิ ยุตฺตรเถนา’’ติ. โยธรโถติ โยเธหิ ยุชฺฌนตฺถํ อาโรหิตพฺพรโถ. อลงฺการรโถ มงฺคลทิวเสสุ อลงฺกตปฏิยตฺเตหิ อาโรหิตพฺพรโถ. ฆนทุกุเลน ปริวาริโตติ รชตปฏฺฏวณฺเณน เสตทุกุเลน ปฏิจฺฉาทิโต. ปฏิจฺฉาทนตฺโถ หิ อิธ ปริวารสทฺโท. รชตปนาฬิสุปริกฺขิตฺตา เสตภาวกรณตฺถํ.
ฉนฺนํ ฉนฺนํ มาสานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. เอกวารํ นครํ ปทกฺขิณํ กโรตีติ อิทํ ตสฺมึ านนฺตเร ิเตน กาตพฺพํ จาริตฺตํ. นครโต น ปกฺกนฺตาติ นครโต พหิ น คตา. มงฺคลวจเน นิยุตฺตา มงฺคลิกา, สุวตฺถิวจเน นิยุตฺตา โสวตฺถิกา. อาทิ-สทฺเทน ถุติมาคธวนฺทิกาจริยเก สงฺคณฺหาติ. สุกปตฺตสทิสานิ วณฺณโต.
วณฺณคีตนฺติ ถุติคีตํ. พฺรหฺมภูตํ เสฏฺภูตํ ยานํ, พฺรหฺมภูตานํ เสฏฺภูตานํ ยานนฺติ วา พฺรหฺมยานํ. วิชิตตฺตา วิเสเสน ชินนโต. ราคํ วินยมานา ปริโยสาเปตีติ สพฺพมฺปิ ราคํ สมุจฺเฉทวินยวเสน วิเนติ, อตฺตโน กิจฺจํ ปริโยสาเปติ. กิจฺจปริโยสาปเนเนว หิ สยมฺปิ ¶ ปริโยสานํ นิปฺผตฺตึ อุปคจฺฉติ. เตนาห ‘‘ปริโยสานํ คจฺฉติ นิปฺผชฺชตี’’ติ.
ธุรนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ยุตฺตา’’ติ. อีสาติ ยุคสนฺธาริกา ทารุยุคฬา. ยถา วา พาหิรํ ยุคํ ธาเรติ, ตสฺสา ิตาย เอว กิจฺจสิทฺธิ, เอวํ กิริยาวเสน ลทฺธพเลน ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ถิรํ ธาเรติ, เตเหว อริยมคฺครถสฺส ปวตฺตนํ. หิริคฺคหเณน เจตฺถ ตํสหจรณโต โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตํเยว โหติ. เตนาห ‘‘อตฺตนา สทฺธิ’’นฺติอาทิ. นาฬิยา มินมาโน ปุริโส วิย อารมฺมณํ มินาตีติ มโน. กตรํ ปน ตํ มโน, กถฺจสฺส โยตฺตสทิสตาติ อาห ‘‘วิปสฺสนาจิตฺต’’นฺติอาทิ. เตน โยตฺตํ วิยาติ โยตฺตนฺติ ทสฺเสติ. โลกิยวิปสฺสนาจิตฺตํ อติเรกปฺาส กุสลธมฺเม เอกาพทฺเธ เอกสงฺคหิเต กโรตีติ สมฺพนฺโธ. เต ปน ‘‘ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’’ติ จิตฺตงฺควเสน ธมฺมสงฺคเห (ธ. ส. ๑) อาคตนเยเนว ¶ เวทิตพฺพา. โลกุตฺตรวิปสฺสนาจิตฺตนฺติ มคฺคจิตฺตํ อาห. อติเรกสฏฺีติ เต เอว สมฺมากมฺมนฺตาชีเวหิ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีหิ จ สทฺธึ อติเรกสฏฺิ กุสลธมฺเม. เอกาพทฺเธติ เอกสฺมึ เอว อารมฺมเณ อาพทฺเธ. เอกสงฺคเหติ ตเถว วิปสฺสนากิจฺจวเสน เอกสงฺคเห กโรติ. ปุพฺพงฺคมภาเวน อารกฺขํ สาเรตีติ อารกฺขสารถี. ‘‘ยถา หิ รถสฺส…เป… สารถี’’ติ วตฺวา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โยคฺคิโย’’ติ วุตฺตํ. ธุรํ วาเหติ โยคฺเค. โยเชติ โยคฺเค สมคติยฺจ. อกฺขํ อพฺภฺชติ สุขปฺปวตฺตนตฺถํ. รถํ เปเสติ โยคฺคโจทเนน. นิพฺพิเสวเน กโรติ คมนวีถิยํ ปฏิปาทเนน สนฺนิโยเชติ. อารกฺขปจฺจุปฏฺานาติ อารกฺขํ ปจฺจุปฏฺเปติ อสมฺโมสสภาวตฺตา. คติโยติ ปวตฺติโย, นิปฺผตฺติโย วา. สมนฺเวสตีติ คเวสติ.
อริยปุคฺคลสฺส นิพฺพานํ ปฏิมุขํ สมฺปาปเน รโถ วิยาติ รโถ. ปริกโรติ วิภูสยตีติ ปริกฺขาโร, วิภูสนํ, สีลฺจ อริยมคฺคสฺส วิภูสนฏฺานิยํ. เตน วุตฺตํ ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลาลงฺกาโร’’ติ, สีลภูสโนติ อตฺโถ. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตานนฺติ โลกิยาย โลกุตฺตราย จ วิปสฺสนาย สมฺปยุตฺตานํ. วิธินา อีเรตพฺพโต ปวตฺเตตพฺพโต วีริยํ, ¶ สมฺมาวายาโม. สมํ สมฺมา จ ธิยตีติ สมาธิ, ธุรฺจ ตํ สมาธิ จาติ ธุรสมาธิ, อุเปกฺขา ธุรสมาธิ เอตสฺสาติ อุเปกฺขาธุรสมาธิ, อริยมคฺโค อุเปกฺขาสงฺขาตธุรสมาธีติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา ธุรสมาธิสทฺทานํ ภินฺนาธิกรณตา วุตฺตา. ปโยคมชฺฌตฺเตติ วีริยสมตาย. อนิจฺฉาติ อิจฺฉาปฏิปกฺขา. เตนาห ‘‘อโลภสงฺขาตา’’ติ. ปริวารณนฺติ ปริวาโร, ปริจฺฉโทติ อตฺโถ.
เมตฺตาติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. ตถา กรุณา. ปุพฺพภาโคติ อุภินฺนมฺปิ อุปจาโร. ทฺเวปิ กายจิตฺตวิเวกา วิย ปุพฺพภาคธมฺมวเสน วุตฺตา. อริยมคฺครเถติ ปริสุทฺธมคฺคสงฺขาเต รเถ. อริยมคฺครโถ จ มคฺครโถ จาติ อริยมคฺครโถ, เอวํ เอกเสสนเยน วา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมคฺครเถ ิโต’’ติ. สนฺนทฺธจมฺโมติ โยคาวจรสฺส ปฏิมุกฺกจมฺมํ. น นํ เต วิชฺฌนฺตีติ วจนปถา น นํ วิชฺฌนฺติ. ธมฺมเภทนวเสน น ภฺชติ, ตสฺส อริยมคฺคสฺส รถสฺส สมฺมา โยชิตสฺส อนฺตรา ภงฺโค นตฺถีติ อตฺโถ.
อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ลทฺธตฺตา อตฺตโน สนฺตาเนติ อธิปฺปาโย. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรรหิตํ. ตโต เอว เสฏฺยานํ, นสฺส เกนจิ สทิสนฺติ อสทิสํ. ธิติสมฺปนฺนตาย ธีรา ปณฺฑิตปุริสา ¶ โลกมฺหา นิยฺยนฺติ คจฺฉนฺติ. ‘‘ชยํ ชย’’นฺติ คาถายํ วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ชินนฺตา ชินนฺตา’’ติ.
ชาณุสฺโสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา
๕-๖. นิยมตฺโถติ อวธารณตฺโถ. เตน นิยเมน อวธารเณน – อฺํ มคฺคํ ปฏิกฺขิปติ อิโต อฺสฺส นิยฺยานิกมคฺคสฺส อภาวโต. ‘‘ทุกฺขสฺส ปริฺตฺถ’’นฺติ วุตฺตตฺตา วฏฺฏทุกฺขํ กถิตํ. อริยมคฺเค คหิเต ตสฺส ปุพฺพภาคมคฺโค วิปสฺสนาย คหิโต เอวาติ ‘‘มิสฺสกมคฺโค กถิโต’’ติ วุตฺตํ. อุตฺตานเมว อปุพฺพสฺส อภาวา. อยํ ปน วิเสโส ‘‘ราคกฺขโย’’ติอาทีหิ ¶ ยทิปิ นิพฺพานํ วุตฺตํ. ตถาปิ อรหตฺตํ วิย พฺรหฺมจริยมฺปิ. เตน นิพฺพานํ เอว วุจฺจติ ‘‘อิทํ พฺรหฺมจริยปริโยสาน’’นฺติ.
กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๗. ราควินยาทิปเทหิ นิพฺพานํ วาปิ วุจฺเจยฺย อรหตฺตํ วาปิ. ยสฺมา โส ภิกฺขุ อุภยตฺถปิ นิวิฏฺพุทฺธิ, ตสฺมา ภควา ตสฺส อชฺฌาสยวเสน ‘‘นิพฺพานธาตุยา โข เอต’’นฺติอาทินา นิพฺพานธาตุํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ‘‘อาสวานํ ขโย เตน วุจฺจตี’’ติ อาห. ยสฺมา อริยมคฺโค ราคาทิเก สมุจฺเฉทวเสน วิเนติ, อาสวฺจ สพฺพโส เขเปติ, เตน จ วุตฺตํ นิพฺพานํ อรหตฺตฺจ, ตสฺมา ตทุภยํ ‘‘ราควินโยติอาทิ นามเมวา’’ติ วุตฺตํ. อนุสนฺธิกุสลตาย ปุจฺฉนฺโต เอตํ อโวจาติ อิมินา ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธิ อิธ ลพฺภตี’’ติ ทีปิตํ, อชฺฌาสยานุสนฺธิปิ เอตฺถ ลพฺภเตวาติ ทฏฺพฺพํ.
ทุติยอฺตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๘. เอเกน ปริยาเยน อฏฺงฺคิกมคฺคํ วิภชิตฺวาติ ‘‘สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา เอเกน ปริยาเยน อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ วิภาเคน ทสฺเสตฺวา ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา ¶ ปุน อปเรน ปริยาเยน วิภชิตุกาโม. อุคฺคหธารณปริจยาณานิปิ สวนาเณ เอว อวโรธํ คจฺฉนฺตีติ ‘‘สวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณวเสนา’’ติ วุตฺตํ.
กมฺมฏฺานาภินิเวโสติ กมฺมฏฺานปฏิปตฺติ. ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ อุคฺคณฺหิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. อิฏฺํ กนฺตํ มนาปนฺติ นิโรธมคฺเคสุ นินฺนภาวํ ทสฺเสติ, น อภินนฺทนํ, ตนฺนินฺนภาโว เอว จ ตตฺถ กมฺมกรณํ ทฏฺพฺพํ. เอเกเนวากาเรน สจฺจานํ ปฏิเวธนิมิตฺตตา, โส เอว อภิมุขภาโว เตสํ สมาคโมติ เอกาภิสมโย.
อสฺสาติ ¶ าณสฺส, โยคิโน วา. เอตฺถ จ เกจิ ‘‘โลกิยาณมฺปิ ปฏิเวโธ สพฺพสฺส ยาถาวโพธภาวโต’’ติ วทนฺติ. นนุ อุคฺคหาทิปฏิเวโธ จ ปฏิเวโธว, น จ โส โลกุตฺตโรติ? ตํ น, เกวเลน ปฏิเวธ-สทฺเทน อุคฺคหาทิปฏิเวธานํ อวจนียตฺตา, ปฏิเวธนิมิตฺตตฺตา วา อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺตํ ทุกฺขาทีสุ ปุพฺพภาเค าณํ ‘‘ปฏิเวโธ’’ติ วุจฺจติ, น ปฏิเวธตฺตา, ปฏิเวธภูตเมว ปน าณํ อุชุกํ ปฏิเวโธติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. กิจฺจโตติ ปริฺาทิกิจฺจโต. อารมฺมณปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวธมาห. กิจฺจโตติ อสมฺโมหปฏิเวธํ. อุคฺคหาทีหิ สจฺจสฺส ปริคฺคณฺหนํ ปริคฺคโห.
ทุทฺทสตฺตาติ อนธิคตาเณน ยาถาวสรสลกฺขณโต ทฏฺุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อุปฺปตฺติโต ปากฏานิปิ. เตนาห ‘‘ทุกฺขสจฺจํ หี’’ติอาทิ. อุภยนฺติ ปุริมํ สจฺจทฺวยํ. ปโยโคติ กิริยา, วายาโม วา. ตสฺส มหนฺตตรสฺส อิจฺฉิตพฺพตํ ทุกฺกรตรตฺจ อุปมาหิ ทสฺเสติ ‘‘ภวคฺคคฺคหณตฺถ’’นฺติอาทินา. ยถา ปุริมํ สจฺจทฺวยํ วิย เกนจิ ปริยาเยน อปากฏตาย ปรมคมฺภีรตฺตา อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาเค ปวตฺติเภทํ คเหตฺวา ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุพฺพิธํ กตฺวา วุตฺตํ. เอกเมว ตํ าณํ โหติ เอกาภิสมยวเสเนว ปวตฺตนโต.
กามปจฺจนีกฏฺเนาติ กามานํ อุชุปจฺจนีกภาเวน. กามโต นิสฺสฏภาเวนาติ กาเมหิ วิสํยุตฺตภาเวน. กามํ สมฺมสนฺตสฺสาติ ทุวิธมฺปิ กามํ อนิจฺจาทิโต สมฺมสนฺตสฺส. ปชฺชติ ปวตฺตติ เอเตนาติ ปทํ, กามสฺส ปทนฺติ กามปทํ, กามสฺส อุปฺปตฺติการณสฺส ฆาโต สมุคฺฆาโต, ตํ กามปทฆาตํ. เตนาห ‘‘กามวูปสม’’นฺติ. กาเมหิ วิวิตฺตํ กามวิวิตฺตํ. โส เอว จ เนสํ อนฺโต สมุจฺเฉทวิเวเกติ กตฺวา ตสฺมึ สาเธตพฺเพ อุปฺปนฺโนติ วุตฺตํ ‘‘กามวิวิตฺตนฺเต อุปฺปนฺโน’’ติ. กามโต นิกฺขมตีติ นิกฺขโม, โส เอว เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. อิมสฺมิฺจ ¶ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปสฺส สทฺทตฺถวิภาเวน ยถาวุตฺโต กามปจฺจนีกฏฺาทิโก อตฺถนิทฺธารณวิเสโส อนฺโตคโธ.
เอเสว นโยติ อิมินา พฺยาปาทปจฺจนีกฏฺเน วิหึสาย ปจฺจนีกฏฺเนาติอาทิกํ อพฺยาปาทาวิหึสาสงฺกปฺปานํ อตฺถุทฺธารณวิธึ อติทิสติ. เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อพฺยาปาทอวิหึสาสงฺกปฺเป เอว สงฺคณฺหาติ. กาม…เป… สฺานนฺติ กามวิตกฺกาทิวิรติสมฺปยุตฺตานํ เนกฺขมฺมาทิสฺานํ. นานตฺตาติ นานาขณิกตฺตา. ตีสุ าเนสูติ ¶ ติปฺปกาเรสุ การเณสุ. อุปฺปนฺนสฺสาติ อุปฺปชฺชนารหสฺส. ภูมิลทฺธอุปฺปนฺนํ อิธาธิปฺเปตํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. ปทจฺเฉทโตติ การณุปจฺเฉทโต. ปทนฺติ หิ อุปฺปตฺติการณนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. อนุปฺปตฺติสาธนวเสนาติ ยถา สงฺกปฺโป อายตึ นุปฺปชฺชติ, เอวํ อนุปฺปตฺติสาธนวเสน. สมฺมาทิฏฺิ วิย เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ.
จตูสุ าเนสูติ วิสํวาทนาทีสุ จตูสุ วีติกฺกมฏฺาเนสุ. ปพฺพชิตานํ มิจฺฉาชีโว นาม อาหารนิมิตฺตโกติ อาห ‘‘ขาทนียโภชนียาทีนํ อตฺถายา’’ติ. สพฺพโส อเนสนาย ปหานํ สมฺมาอาชีโวติ อาห ‘‘พุทฺธปฺปสตฺเถน อาชีเวนา’’ติ. กมฺมปถปตฺตานํ วเสน ‘‘สตฺตสุ าเนสู’’ติ วุตฺตํ. อกมฺมปถปตฺตาย หิ อเนสนาย โส ปทฆาตํ กโรติเยว.
ตถารูเป วา อารมฺมเณติ ยสฺมึ อารมฺมเณ อิมสฺส ปุพฺเพ กิเลสา น อุปฺปนฺนา, ตสฺมึ เอว. อนุปฺปนฺนานนฺติ อนุปฺปาทสฺสปิ ปตฺถนาวเสน อนุปฺปนฺนานํ. วีริยจฺฉนฺทนฺติ วีริยสฺส นิพฺพตฺเตตุกามตาฉนฺทํ. ‘‘ฉนฺทสมฺปยุตฺตวีริยฺจา’’ติ วทนฺติ. วีริยเมว ปน อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทเน ลพฺภมานฉนฺทตาย ธุรสมฺปคฺคหตาย ฉนฺทปริยาเยน วุตฺตํ. ตถา หิ วีริยํ – ‘‘อนิกฺขิตฺตฉนฺทตา อนิกฺขิตฺตธุรตา’’ติ (ธ. ส. ๒๖) นิทฺทิฏฺํ. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา จิตฺตํ ปคฺคหิตํ กโรติ. ปธานนฺติ ปธานภูตวีริยํ.
อุปฺปตฺติปพนฺธวเสนาติ นิรนฺตรุปฺปาทนวเสน. จตูสุ าเนสุ กิจฺจสาธนวเสนาติ ยถาวุตฺเตสุ จตูสุ าเนสุ ปธานกิจฺจสฺส นิปฺผาทนวเสน อนุปฺปาทนาทิวเสน. กิจฺจสาธนวเสนาติ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ สุภสุขนิจฺจอตฺตคาหวิธมนวเสน อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตสาธนวเสน.
อยนฺติ ยถาวุตฺโต สทิสาสทิสตาวิเสโส. อสฺสาติ มคฺคสฺส. เอตฺถ กถนฺติ ยทิ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานโต ¶ ปฏฺาย ยาว สพฺพภวคฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานํ สทิสตา, เอวํ สนฺเต ‘‘อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โลกุตฺตร’’นฺติ เอตฺถ กถํ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘เอตฺถาปี’’ติอาทิ. ตํฌานิกาวาติ ปมชฺฌานาทีสุ ยํ ฌานํ มคฺคปฏิลาภสฺส ปาทกภูตํ, ตํฌานิกาว อสฺส อริยสฺส อุปริปิ ตโย มคฺคา ¶ . เอวนฺติ วุตฺตากาเรน. ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานุปฺปตฺติยํ. วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธาติ สมฺมสิตขนฺเธ วทนฺติ. ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมติ ปาทกสมฺมสิตชฺฌานานํ เภเท. ยสฺมา สงฺขารุเปกฺขาาณเมว อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคาทิวิเสสํ นิยเมติ, ตโต ทุติยาทิปาทกชฺฌานโต อุปฺปนฺนสฺส สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวโต อิตรสฺส จ อตพฺภาวโต ตีสุปิ วาเทสุ วิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺโพ, ตสฺมา วิปสฺสนานิยเมเนว หิ ปมวาเทปิ อปาทกชฺฌานาทิปาทกาปิ มคฺคา ปมชฺฌานิกา โหนฺติ. อิตเรหิ จ ปาทกชฺฌาเนหิ วิปสฺสนานิยเมหิ ตํตํฌานิกาว. เอวํ เสสวาเทสุ วิปสฺสนานิยโม ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ. ทุติยวาเท ตํตํฌานิกตา สมฺมสิตสงฺขารวิปสฺสนานิยเมหิ โหติ. ตตฺร หิ วิปสฺสนา ตํตํวิราคภาวนา ภาเวตพฺพา, น โสมนสฺสสหคตา อุเปกฺขาสหคตา หุตฺวา ฌานงฺคาทินิยมํ มคฺคสฺส กโรตีติ เอวํ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิฺจ วาเท ปาทกสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสยสพฺภาเว อชฺฌาสโย เอกนฺเตน โหตีติ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตีติ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ, อฏฺกถายํ ปน วิสุทฺธิมคฺคสฺส เอติสฺสา อฏฺกถาย เอกสงฺคหิตตฺตา ‘‘เตสํ วาทวินิจฺฉโย…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพภาเคติ วิปสฺสนากฺขเณ.
วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สูกสุตฺตวณฺณนา
๙. สูกนฺติ สาลิยวาทีนํ วาลมาห. โส หิ นิกนฺตกสทิโส ปฏิมุขคตํ หตฺถํ วา ปาทํ วา ภินฺทติ, ตสฺมา เภทํ อิจฺฉนฺเตน อุทฺธคฺคํ กตฺวา ปิตํ สมฺมาปณิหิตํ นาม, ตถา อฏฺปิตํ มิจฺฉาปณิหิตํ นามาติ วุตฺตํ. มิจฺฉาปณิหิตายาติ กมฺมสฺสกตปฺาย มิจฺฉาปนํ นาม – ‘‘อิเม สตฺตา กมฺมวเสน สุขทุกฺขํ ปจฺจนุภวนฺติ, ตํ ปน กมฺมํ อิสฺสรสฺส อิจฺฉาวเสน พฺรหฺมา นิมฺมินาตี’’ติอาทินา มิจฺฉาปกปฺปนํ. เกจิ ปน ‘‘นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทินา นเยน ปวตฺติ, ตสฺส วา าณสฺส อปฺปวตฺตี’’ติ วทนฺติ. มคฺคภาวนายาติ ¶ เอตฺถาปิ มิจฺฉามคฺคสฺส ปวตฺตนํ, อริยมคฺคสฺส วา อปฺปวตฺตนํ มิจฺฉาปนํ. เตนาห ‘‘อปฺปวตฺติตตฺตา’’ติ. อวิชฺชํ ภินฺทิสฺสตีติ อวิชฺชํ สมุจฺฉินฺทิสฺสติ. มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มคฺเค ¶ เอว ปกฺขิปิตฺวา. ตฺหิ าณํ มคฺคสฺส มูลการณํ มคฺเค สิทฺเธ ตสฺส กิจฺจสฺส มตฺถกปฺปตฺติโต. ‘‘สมฺมาปณิหิตาย ทิฏฺิยา สมฺมาปณิหิตาย มคฺคภาวนายา’’ติ วุตฺตตฺตา มิสฺสกมคฺโค กถิโต. ฉวิเภทสทิโส เจตฺถ อวิชฺชาเภโท, โลหิตุปฺปาทสทิโส โลกุตฺตรมคฺคภาโว ทฏฺพฺโพ.
สูกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. นนฺทิยสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ฉนฺนปริพฺพาชโก วตฺถจฺฉาทิยา ฉนฺนงฺคปริพฺพาชโก, น นคฺคปริพฺพาชโก.
อวิชฺชาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วิหารวคฺโค
๑. ปมวิหารสุตฺตวณฺณนา
๑๑. อฑฺฒมาสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ปฏิสลฺลียิตุนฺติ ยถาวุตฺตํ กาลํ ปฏิ ทิวเส ทิวเส สมาปตฺติยํ ธมฺมจินฺตายํ จิตฺตํ นิลียิตุํ. วิเนตพฺโพติ สมุจฺเฉทวินเยน วิเนตพฺโพ อริยมคฺคาธิคนฺตพฺโพ. ตนฺติ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนํ. อสฺสาติ ชนตาย. อปคจฺฉตีติ สตฺถุ สนฺติกโต อเปติ. สูติ นิปาตมตฺตํ.
ปเทเสนาติ เอกเทเสน. สห ปเทเสนาติ สปเทโส. สฺวายํ สปเทโส ยสฺมา เวทนาวเสเนว ปาฬิยํ อาคโต, ตสฺมา ปรมตฺถธมฺมโกฏฺาเส เวทนา อนวเสสโต ลพฺภติ, เต คณฺหนฺโต ‘‘ขนฺธปเทโส’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพนฺติ ขนฺธปเทสาทิกํ สพฺพมฺปิ. ‘‘สมฺมสนฺโต’’ติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนวเสน ‘‘ปจฺจเวกฺขนฺโต’’ติ อาห. ปจฺจเวกฺขณา อิธ สมฺมสนํ นาม, น วิปสฺสนา. วิปสฺสนาสมฺมสนํ ปน ภควโต ¶ วิสาขปุณฺณมายํ เอว นิปฺผนฺนํ, ตสฺมา ภควโต อฺภูมิกาปิ เวทนา อฺภูมิกานํ สตฺตานํ วิรุทฺธา อุปฺปชฺชเตวาติ วุตฺตํ ‘‘ยาว ภวคฺคา ปวตฺตา สุขา เวทนา’’ติ. สพฺพากาเรนาติ สรูปโต สมุทยโต อตฺถงฺคมโต อสฺสาทาทิโตติ สพฺพากาเรน. ปริคฺคณฺหนฺโต อุปปริกฺขนฺโต.
นิปฺปเทสาเนว ¶ อนวเสสาเนว. อินฺทฺริยสติปฏฺานปเทโส สุวิฺเยฺโยติ อนุทฺธโต. อสฺสาติ ภควโต. าเนติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปจฺจเวกฺขิตพฺพสงฺขาเต โอกาเส. สา สา จ วิหารสมาปตฺตีติ ขนฺธวเสน อายตนาทิวเสน จ ปวตฺติตฺวา เตสํ เอกเทสภูตํ เวทนํเยว ปริคฺคเหตฺวา ตํ สมฺมสิตฺวา อนุกฺกเมน สมาปนฺนา ฌานสมาปตฺติ ผลสมาปตฺติ จ. ผลสมาปตฺติ หิ ตถา สมฺมสิตฺวา ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชนวเสน อตฺถโต อภินฺนาปิ อธิฏฺานภูตธมฺมเภเทน ภินฺนา วิย วุจฺจติ, ยโต จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสเภทา เทวสิกํ วฬฺชนสมาปตฺติโย อฏฺกถายํ วุตฺตา. กามํ อฺธมฺมวเสนปิ ชาตา เอว, เวทนาวเสน ปเนตฺถ อภินิเวโส กโต เวทนานุภาเวน ชาตา. กสฺมา เอวํ ชาตาติ? พุทฺธานํ าณปทสฺส อนฺตรวิภาคตฺตา. ตถา หิ ภควา สกลมฺปิ อฑฺฒมาสํ เวทนาวเสเนว สมฺมสนํ ปวตฺเตติ, ตทนุสาเรน จ ตา วิหารสมาปตฺติโย สมาปชฺชิ. ตยิทํ อจฺฉริยํ อนฺสาธารณํ ภิกฺขู ปเวเทนฺโต สตฺถา – ‘‘เยน สฺวาห’’นฺติอาทิมโวจ.
อกุสลาวาติ ปาณาติปาต-อทินฺนาทาน-กาเมสุมิจฺฉาจาร-มุสาวาท-ปิสุณวาจาสมฺผปฺปลาป-อภิชฺฌา-พฺยาปาทวเสน ตํตํมิจฺฉาทสฺสนวเสน จ อกุสลา เวทนา เอว โหติ. พฺรหฺมโลกาทีสุ อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ นิจฺจา ธุวา ภวิสฺสามาติ เอวํ ทิฏฺึ อุปนิสฺสายาติ โยเชตพฺพํ. เทวกุลาทีสุ เทวปูชตฺถํ, สพฺพชนปริโภคตฺถํ วา มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติ. วธพนฺธนาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทาน-มิจฺฉาจาร-มุสาวาท-ปิสุณวาจา-สมฺผปฺปลาปาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ทิฏฺธมฺมวิปากสฺส อปจุรตฺตา อปากฏตฺตา จ ‘‘ภวนฺตรคตาน’’นฺติ วุตฺตํ.
อิติ เนสนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ยถา ผรุสวาจาวเสน, เอวํ ตทฺเสมฺปิ อกุสลกมฺมานํ วเสน สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา ¶ อกุสลเวทนาปฺปวตฺติ ยถารหํ นีหริตฺวา วตฺตพฺพา. เอเสว นโยติ อิมินา ยถา มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ กุสลากุสลวิปากเวทนา สหชาตโกฏิยา อุปนิสฺสยโกฏิยา จ วเสน ยถารหํ โยเชตฺวา ทสฺสิตา, เอวํ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยาทีสุปิ ยถารหํ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. ฉนฺทปจฺจยาติ เอตฺถ ตณฺหาฉนฺทสหิโต กตฺตุกามตาฉนฺโท อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ฉนฺทปจฺจยาติอาทีสุ ปน ฉนฺทปจฺจยา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทิตพฺพา’’ติ. วิตกฺกปจฺจยาติ เอตฺถ อปฺปนาปฺปตฺโตว วิตกฺโก อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺกปจฺจยา ปมชฺฌานเวทนาวา’’ติ. วิตกฺกปจฺจยา ปมชฺฌานเวทนาย คหิตตฺตา ‘‘เปตฺวา ปมชฺฌาน’’นฺติ. อุปริ ติสฺโส รูปาวจรา, เหฏฺา ติสฺโส อรูปาวจรา เอวํ เสสา ฉ สฺาสมาปตฺติเวทนา.
ติณฺณนฺติ ¶ ฉนฺทวิตกฺกสฺานํ. อวูปสเมติ ปฏิปกฺเขน อวูปสมิเต. ติณฺณฺหิ เตสํ สหภาเวน ปจฺจยตา อฏฺโลภสหคตจิตฺเตสุ เอว. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว. ฉนฺทมตฺตสฺสาติ เตสุ ตีสุ ฉนฺทมตฺตสฺส. วูปสเม ปมชฺฌานเวทนาว อปฺปนาปฺปตฺตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ฉนฺทวิตกฺกานํ วูปสเม ทุติยชฺฌานาทิเวทนา อธิปฺเปตา สฺาย อวูปสนฺตตฺตา. ทุติยชฺฌานาทิเวทนาคหเณน หิ สพฺพา สฺาสมาปตฺติโย จ คหิตาว โหนฺติ. ติณฺณมฺปิ วูปสเมติ ฉนฺทวิตกฺกสฺานํ วูปสเม เนวสฺานาสฺายตนเวทนา อธิปฺเปตา. ภวคฺคปฺปตฺตสฺา หิ วูปสมนฺติ ฉนฺทสงฺกปฺปานํ อจฺจนฺตสุขุมภาวปฺปตฺติยา. เหฏฺา ‘‘สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา’’ติ เอตฺถ สมฺมาทิฏฺิคฺคหเณน เหฏฺิมมคฺคสมฺมาทิฏฺิปิ คหิตาว โหตีติ อาห – ‘‘อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถายา’’ติ. อถ วา เหฏฺิมมคฺคาธิคเมน วินา อคฺคมคฺโค นตฺถีติ เหฏฺิมมคฺคาธิคมํ อตฺถาปนฺนํ กตฺวา ‘‘อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. อายเมติ ผเลน มิสฺสิโต โหติ เอเตนาติ อายาโม, สมฺมาวายาโมติ อาห ‘‘อตฺถิ อายามนฺติ อตฺถิ วีริย’’นฺติ. ตสฺส วีริยารมฺภสฺสาติ อฺาธิคมการณสฺส สมฺมาวายามสฺส วเสน. ปาฬิยํ าน-สทฺโท การณปริยาโยติ อาห – ‘‘อรหตฺตผลสฺส การเณ’’ติ. ตปฺปจฺจยาติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน ‘‘าเน’’ติ วุตฺตการณเมว ปจฺจามฏฺนฺติ อาห – ‘‘อรหตฺตสฺส านปจฺจยา’’ติ. จตุมคฺคสหชาตาติ เอเตน ‘‘อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถายา’’ติ ¶ เอตฺถ เหฏฺิมมคฺคานํ อตฺถาปตฺติวเสน คหิตภาวเมว โชเตติ. เกจิ ปน ‘‘จตุมคฺคสหชาตาติ วตฺวา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนาติ ภูตกถนํ วิเสสนํ. นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนาติ ปมํ อเปกฺขิตพฺพํ, ปจฺฉา จตุมคฺคสหชาตา’’ติ วทนฺติ.
ปมวิหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวิหารสุตฺตวณฺณนา
๑๒. มิจฺฉาทิฏฺิ วูปสมติ สพฺพโส ปหียติ เอเตนาติ มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม. ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม นาม สมฺมาทิฏฺิ. ภวนฺตเร อุปฺปชฺชนฺโต อติทูเรติ มฺมาโน วิปากเวทนํ น คณฺหาตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘อิมินา นเยนา’’ติ อติทิสิตฺวาปิ ตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยสฺส ยสฺสา’’ติอาทึ วตฺวา เอว สามฺวเสน วุตฺตมตฺถํ ปจฺฉิเมสุ ตีสุ ปเทสุ สรูปโตว ทสฺเสตุํ ‘‘ฉนฺทวูปสมปจฺจยา’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. วุตฺตตฺถาเนว อนนฺตรสุตฺเต.
ทุติยวิหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๗. เสกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓-๑๗. ติสฺสนฺนมฺปิ ¶ สิกฺขานํ สิกฺขนํ สีลํ เอตสฺสาติ สิกฺขนสีโล. สิกฺขตีติปิ วา เสกฺโข. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สิกฺขตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา เสกฺโขติ วุจฺจติ. กิฺจ สิกฺขติ? อธิสีลมฺปิ สิกฺขตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๓.๘๖). ตีหิ ผเลหิ เหฏฺา. สาปิ จตุตฺถมคฺเคน สทฺธึ อุปฺปนฺนสิกฺขาปิ. มคฺคกฺขเณ หิ สิกฺขากิจฺจํ น นิฏฺิตํ วิปฺปกตภาวโต, ผลกฺขเณ ปน นิฏฺิตํ นาม. อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
เสกฺขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิหารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มิจฺฉตฺตวคฺควณฺณนา
๒๑-๓๐. มิจฺฉาสภาวนฺติ ¶ อยาถาวสภาวํ อนิยฺยานิกสภาวํ. สมฺมาสภาวนฺติ ยาถาวสภาวํ นิยฺยานิกสภาวํ. มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตูติ เอตฺถ อธิ-สทฺโท อนตฺถโกติ อาห – ‘‘มิจฺฉาปฏิปตฺติกรณเหตู’’ติ. ายติ ปฏิวิทฺธวเสน นิพฺพานํ คจฺฉตีติ าโย. โส เอว ตํสมงฺคีนํ วฏฺฏทุกฺขปาตโต ธารณฏฺเน ธมฺโมติ อาห – ‘‘ายํ ธมฺมนฺติ อริยมคฺคธมฺม’’นฺติ. าณสฺส มิจฺฉาสภาโว นาม นตฺถีติ วิฺาณเมเวตฺถ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺตํ าณ-สทฺเทน วุจฺจตีติ อาห ‘‘มิจฺฉาวิฺาโณ’’ติ. มิจฺฉาปจฺจเวกฺขโณติ กิฺจิ ปาปํ กตฺวา ‘‘อโห มยา กตํ สุกต’’นฺติ เอวํ ปวตฺโต มิจฺฉาปจฺจเวกฺขโณ. โคสีลโควตาทิปูรณํ มุตฺตีติ เอวํ คณฺหโต มิจฺฉาวิมุตฺติ นาม. มิจฺฉาปฏิปทาทีหิ วิวฏฺฏนฺติ เอวํ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ. ปุคฺคโล ปุจฺฉิโตติ นิคมิโต จ ‘‘อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส’’ติอาทินา. กิฺจาปิ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก โหตี’’ติอาทินา ปุคฺคโลว นิทฺทิฏฺโ, ตถาปิ ปุคฺคลสีเสนายํ ธมฺมเทสนาติ อาห ‘‘ธมฺโม วิภตฺโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘ธมฺเมน ปุคฺคโล ทสฺสิโต’’ติ. ธมฺเมนาติ มิจฺฉาทิฏฺิอาทิเกน ธมฺเมน. กลฺยาณปุถุชฺชนโต ปฏฺาย สพฺพโส สปฺปุริสา นาม, ขีณาสโว สปฺปุริสตโร. สุปฺปวตฺตนิโยติ สุเขน ปวตฺเตตุํ สกฺกุเณยฺโย. ธาวตีติ คจฺฉติ. ปจฺจยุปฺปนฺเนน อุเปจฺจ นิสฺสิตพฺพโต อุปนิสา, ปจฺจโย, เอกสฺส ส-การสฺส โลปํ กตฺวา วาติ อาห – ‘‘สอุปนิสํ สปจฺจย’’นฺติ. ปริกรณโต ปริกฺขาโร, ปริวาโรติ ¶ อาห – ‘‘สปริกฺขารํ สปริวาร’’นฺติ. สหชาตวเสน อุปนิสฺสยวเสน จ สปจฺจยตา กิจฺจสาธเน นิปฺผาทเน สหายภาวูปคมเน จ สปริวารตา ทฏฺพฺพา.
มิจฺฉตฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปฏิปตฺติวคฺควณฺณนา
๓๑-๔๐. อยาถาวปฏิปตฺติ, น ยถาปฏิปตฺติ, เหตุมฺหิปิ ผเลปิ อยาถาววตฺถุสาธนโต. เอกํ สุตฺตํ ธมฺมวเสน กถิตํ ปฏิปตฺติวเสน. เอกํ สุตฺตํ ปุคฺคลวเสน กถิตํ ปฏิปนฺนกวเสน. สํสารมโหฆสฺส ปรตีรภาวโต โย นํ อธิคจฺฉติ, ตํ ปาเรติ คเมตีติ ปารํ, นิพฺพานํ, ตพฺพิธุรตาย ¶ นตฺถิ เอตฺถ ปารนฺติ อปารํ, สํสาโรติ วุตฺตํ – ‘‘อปาราปารนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพาน’’นฺติ. ปารงฺคตาติ อเสกฺเข สนฺธาย. เยปิ คจฺฉนฺตีติ เสกฺเข. เยปิ คมิสฺสนฺตีติ กลฺยาณปุถุชฺชเน. ปารคามิโนติ เอตฺถ กิต-สทฺโท ติกาลวาจีติ เอวํ วุตฺตํ.
ตีรนฺติ โอริมตีรมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘วฏฺฏเมว อนุธาวตี’’ติ. เอกนฺตกาฬกตฺตา จิตฺตสฺส อปภสฺสรภาวกรณโต กณฺหาภิชาติเหตุโต จ วุตฺตํ ‘‘กณฺหนฺติ อกุสลธมฺม’’นฺติ. โวทานภาวโต จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณโต สุกฺกาภิชาติเหตุโต จ วุตฺตํ – ‘‘สุกฺกนฺติ กุสลธมฺม’’นฺติ. กิเลสมาร-อภิสงฺขารมาร-มจฺจุมารานํ ปวตฺติฏฺานตาย โอกํ วุจฺจติ วฏฺฏํ, ตพฺพิธุรตาย อโนกนฺติ นิพฺพานนฺติ อาห – ‘‘โอกา อโนกนฺติ วฏฺฏโต นิพฺพาน’’นฺติ.
ปรมตฺถโต สมณา วุจฺจนฺติ อริยา, สมณานํ ภาโว สามฺํ, อริยมคฺโค, เตน อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต สามฺตฺโถ นิพฺพานนฺติ อาห – ‘‘สามฺตฺถนฺติ นิพฺพานํ, ตํ หี’’ติอาทิ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. พฺรหฺมฺเน อริยมคฺเคน. ราคกฺขโยติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิสทฺทตฺโถ. เตน ‘‘โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ ปททฺวยํ สงฺคณฺหาติ. วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ ‘‘ราคกฺขโย’’ติ. ปริยาเยน หิ อรหตฺตสฺส วตฺตพฺพตฺตาติ.
ปฏิปตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา
๔๑-๔๘. อปราปรํ ¶ ปริวตฺตมาเนน วตฺตสมฺปนฺเนน สํสารทฺธานปริฺาวเสเนว นิพฺพานสฺส ปตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ – ‘‘นิพฺพานํ ปตฺวา ปริฺาตํ นาม โหตี’’ติ. นิพฺพานํ ปตฺวาติ นิพฺพานปฺปตฺติเหตุ. เหตุอตฺโถ หิ อยํ ตฺวา-สทฺโท ยถา – ‘‘ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหติ, สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา อปริฺเยฺยปริชานนกิจฺเจน นิพฺพานสฺส ปตฺติยา อทฺธานปริฺาสิทฺธิ ายติ, ตสฺมา อุปจารวเสน นิพฺพานํ ‘‘อทฺธานปริฺา’’ติ วุจฺจติ ยถา ‘‘หิมสนฺติ สูริยํ อุคฺคเมตี’’ติ. วิชฺชาวิมุตฺติผลสจฺฉิกิริยตฺถนฺติ เอตฺถ วิชฺชาติ อคฺคมคฺควิชฺชา. วิมุตฺตีติ อคฺคมคฺคสมาธิ อธิปฺเปโต ¶ . เตสํ ผลํ อฺาติ อาห – ‘‘วิชฺชาวิมุตฺติผเลน อรหตฺตํ กถิต’’นฺติ. ยาถาวโต ชานนโต ปจฺจกฺขโต ทสฺสนโต จ าณทสฺสนนฺติ อิธ ผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณา อธิปฺเปตาติ อาห – ‘‘าณทสฺสเนน ปจฺจเวกฺขณา กถิตา’’ติ. เสเสหีติ ราค-วิราค-สํโยชนปฺปหาน-อนุสยสมุคฺฆาต-อทฺธานปริฺา- อาสวกฺขย-วิชฺชา-วิมุตฺติ-ผลสจฺฉิกิริยา-าณทสฺสน-อนุปาทาปรินิพฺพานปเทหิ.
อฺติตฺถิยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สูริยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา
๔๙-๖๒. ยถา อรุณุคฺคํ สูริยุคฺคมนสฺส เอกนฺติกํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, เอวํ กลฺยาณมิตฺตตา อริยมคฺคปาตุภาวสฺสาติ สทิสูปมา อรุณุคฺคํ กลฺยาณมิตฺตตาย. กลฺยาณมิตฺโตติ เจตฺถ อริโย, อริยมคฺโค วา ทฏฺพฺโพ สูริยปาตุภาโว วิย เตน วิธูปนียนฺธการวิธมนโต. กุสลกตฺตุกมฺยตาฉนฺโท ฉนฺทสมฺปทา อิตรฉนฺทโต สมฺปนฺนตฺตา. การาปกอปฺปมาทสฺสาติ สจฺจปฏิเวธสฺส การาปกสฺส. เอวํ สพฺพตฺเถว สมฺปทาสทฺทา วิเสสาธิคมเหตุตาย เวทิตพฺพา. อฺเนปิ อากาเรนาติ ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทิอาการโต อฺเน ‘‘ราควินยปริโยสาน’’นฺติอาทินา อากาเรน.
สูริยเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เอกธมฺมเปยฺยาลวคฺคาทิวณฺณนา
๖๓-๑๓๘. ตถา ¶ ตถา วุตฺเต พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน กถิโต, ตสฺมา ‘‘วุตฺโต เอว อตฺโถ, กสฺมา ปุน วุตฺโต’’ติ น โจเทตพฺพํ.
เอกธมฺมเปยฺยาลวคฺคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อปฺปมาทเปยฺยาลวคฺโค
๑. ตถาคตสุตฺตวณฺณนา
๑๓๙. การาปกอปฺปมาโท ¶ นาม ‘‘อิเม อกุสลา ธมฺมา ปหาตพฺพา, อิเม กุสลา ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา’’ติ วุตฺตวชฺเชตพฺพวชฺชนสมฺปาเทตพฺพสมฺปาทนวเสน ปวตฺโต อปฺปมาโท. เอสาติ อปฺปมาโท. โลกิโยว. น โลกุตฺตโร. อยนฺติ เอสาติ จ อปฺปมาทเมว วทติ. เตสนฺติ จตุภูมกธมฺมานํ. ปฏิลาภกฏฺเนาติ ปฏิลาภาปนฏฺเน.
ตถาคตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปทสุตฺตวณฺณนา
๑๔๐. ชงฺคลานนฺติ ชงฺคลวาสีนํ. ชงฺคล-สทฺโท เจตฺถ ถทฺธภาวสามฺเน ปถวีปริยาโย, น อนุปฏฺานวิทูรเทสวาจี. เตนาห – ‘‘ปถวีตลวาสีน’’นฺติ. ปทานํ วุจฺจมานตฺตา ‘‘สปาทกปาณาน’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. สโมธานนฺติ อนฺโตคธภาวํ. เตนาห – ‘‘โอธานํ อุปกฺเขป’’นฺติ, อุปเนตฺวา ปกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ปทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๑๐. กูฏสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๔๑-๑๔๘. วสฺสิกาย ปุปฺผํ วสฺสิกํ ยถา ‘‘อามลกิยา ผลํ อามลก’’นฺติ. มหาตลสฺมินฺติ ¶ อุปริปาสาเท. ‘‘ยานิ กานิจี’’ติ ปเทหิ อิตรานิ สมานาธิกรณานิ ภวิตุํ ยุตฺตานีติ ‘‘ปจฺจตฺเต สามิวจน’’นฺติ วตฺวา ตถา วิภตฺติวิปริณาโม กโต. ‘‘ตนฺตาวุตาน’’นฺติ ปทํ นิทฺธารเณ สามิวจนนฺติ ตตฺถ ‘‘วตฺถานี’’ติ วจนเสเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
กูฏสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปฺปมาทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. พลกรณียวคฺโค
๑. พลสุตฺตวณฺณนา
๑๔๙. กมฺมานิเยว ¶ กมฺมนฺตา ยถา สุตฺตนฺตา. อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคนฺติ เอตฺถ นานนฺตริยกตาย วิปสฺสนาปิ คหิตา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สหวิปสฺสน’’นฺติ.
๒. พีชสุตฺตวณฺณนา
๑๕๐. ปฺจวิธมฺปิ สมูหฏฺเน พีชคาโม นาม. ตเทวาติ มูลพีชาทิ เอว. สมฺปนฺนนฺติ สหชาตมูลวนฺตํ. นีลภาวโต ปฏฺายาติ นีลภาวาปตฺติโต ปฏฺาย.
๓. นาคสุตฺตวณฺณนา
๑๕๑. พลํ คาเหนฺตีติ อตฺตโน สรีรพลํ คาเหนฺติ. ตํ ปน นาคานํ พลปฺปตฺติ เอวาติ อาห – ‘‘พลํ คณฺหนฺตี’’ติ. สมฺเภชฺชมุขทฺวารนฺติ มหาสมุทฺเทน สมฺเภทคตมหานทีนํ มุขทฺวารํ. นาคา กายํ วฑฺเฒนฺตีติอาทิ ยสฺมา จ ภควตา อุปมาวเสน อาภตํ, ตสฺมา เอวเมว โขติ เอตฺถาติอาทินา อุปมํ สํสนฺทติ. อาคเตสูติอาทีสุ ตีสุ ปเทสุ ภาเวนภาวลกฺขเณ.
๕. กุมฺภสุตฺตวณฺณนา
๑๕๓. น ¶ ปติอาวมตีติ จ นิกุชฺชิตภาเวน อุทกวมโน ฆโฏ, น ตํ ปุน มุเขน คณฺหาติ. เตนาห ‘‘น อนฺโต ปเวเสตี’’ติ.
๗. อากาสสุตฺตวณฺณนา
๑๕๕. เตเนตํ วุตฺตนฺติ เตน อริยมคฺคสฺส อิชฺฌเนน เอเตสํ สพฺเพสํ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ อิชฺฌนํ วุตฺตํ.
๘-๙-๑๐. ปมเมฆสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๖-๑๕๘. ปํสุรโชชลฺลนฺติ ภูมิเรณุสหชาตมลํ. วาณิชโกปเมติ วาณิชโกปมปมสุตฺเต จาปิ.
๑๑-๑๒. อาคนฺตุกสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๙-๑๖๐. สหวิปสฺสนสฺส ¶ อริยมคฺคสฺส ภาวนาย อิชฺฌเนน เอตํ อภิฺาปริฺเยฺยาทิธมฺมานํ อภิฺาปริชานนาทีนํ อิชฺฌนํ วุตฺตํ ขตฺติยาทีนํ วิสยอาทิกํ กโรนฺตสฺส กถาย สชฺชิตตฺตา.
พลกรณียวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. เอสนาวคฺโค
๑. เอสนาสุตฺตวณฺณนา
๑๖๑. กามานนฺติ วตฺถุกามกิเลสกามานํ. กิเลสกาโมปิ หิ กามิตนฺติ ปริกปฺปิเตน วิธินา จ อธิกราเคหิ เอสนีโย. ภวานนฺติ ติณฺณํ คตีนํ. ทิฏฺิคติกปริกปฺปิตสฺส ¶ พฺรหฺมจริยสฺส นิมิตฺตภาวโต มิจฺฉาทิฏฺิ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ อธิปฺเปตา.
๒-๑๑. วิธาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๒-๑๗๑. เสยฺโยหมสฺมีติอาทินา ตํตํวิภาเคน ธียนฺติ วิธียนฺตีติ วิธา, มานโกฏฺาสา, มานฏฺปนา วา. นีหนนฺตีติ วิพาเธนฺติ.
เอสนาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. โอฆวคฺโค
๑-๒. โอฆสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๒-๑๗๓. วฏฺเฏ โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา. รูปารูปภเวติ รูปภเว จ อรูปภเว จ รูปารูปตณฺโหปนิสฺสยา รูปารูปาวจรกมฺมนิพฺพตฺตา ขนฺธา. โยชนฏฺเน โยโค.
๓-๔. อุปาทานสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๔-๑๗๕. กามนวเสน อุปาทิยนโต กามุปาทานํ. เตนาห ‘‘กามคฺคหณ’’นฺติ. นามกายสฺสาติ เวทนาทีนํ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ. ฆฏนปพนฺธนกิเลโสติ ¶ เหตุนา ผลสฺส กมฺมวฏฺฏสฺส วิปากวฏฺเฏน ทุกฺขปฺปพนฺธสฺิตสฺส ฆฏนสฺส สมฺพชฺฌนสฺส นิพฺพตฺตกกิเลโส. อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิ สสฺสตุจฺเฉทคาโห.
อุปาทานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๑๐. อนุสยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๖-๑๘๑. ถามคตฏฺเนาติ สตฺตสนฺตาเน ถิรภาวูปคมนภาเวน. ถามคตนฺติ จ อฺเหิ อสาธารโณ กามราคาทีนํเยว อาเวณิโก สภาโว ทฏฺพฺโพ. กามราโควาติ กามราโค ¶ เอว อปฺปหีโน. โส สติ ปจฺจยลาเภ อุปฺปชฺชนารหตาย สนฺตาเน อนุเสตีติ อนุสโย. เสเสสุปีติ ปฏิฆานุสยาทีสุ. โอรมฺภาโค วุจฺจติ กามธาตุ รูปารูปภาวโต เหฏฺาภูตตฺตา. ตตฺถ ปวตฺติยา ปจฺจยภาวโต โอรมฺภาคิยานิ ยถา ‘‘ปจฺฉิโย โคทุหโก’’ติ. สํโยเชนฺตีติ สํโยชนานิ, เหฏฺา วิย อตฺโถ วตฺตพฺโพ. อุทฺธมฺภาโค มหคฺคตภาโค, ตสฺส หิตานีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
อนุสยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
โอฆวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มคฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. โพชฺฌงฺคสํยุตฺตํ
๑. ปพฺพตวคฺโค
๑.หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๘๒. พุชฺฌติ ¶ ¶ จตุสจฺจํ อริยสาวโก เอตายาติ โพธํ, ธมฺมสามคฺคี, อริยสาวโก ปน จตุสจฺจํ พุชฺฌตีติ โพธิ. องฺคาติ การณา. ยาย ธมฺมสามคฺคิยาติ สมฺพนฺโธ. ตณฺหาวเสน ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนา. สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺานํ, อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา. ลีนวเสน ปติฏฺานํ, อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา. กามสุขานุโยควเสน ปติฏฺานํ, อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนา. โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ (สํ. นิ. ๑.๑) –
‘‘กิเลสวเสน ปติฏฺานํ, อภิสงฺขารวเสน อายูหนา. ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺานํ, อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนา, สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานํ, สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนา’’ติ –
วุตฺเตสุ ปกาเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ. กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหตีติ เอเตน สิขาปตฺตวิปสฺสนาสหคตานมฺปิ สติอาทีนํ โพชฺฌงฺคภาวํ ทสฺเสติ. จตฺตารีติอาทินา มคฺคผเลน สหคตานํ. สตฺตหิ โพชฺฌงฺเคหิ ภาวิเตหิ สจฺจปฏิเวโธ โหตีติ กถมิทํ ชานิตพฺพนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ. ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิยาติ เอเตน โพธิโพชฺฌงฺคสทฺทานํ สมุทายาวยววิสยตํ ทสฺเสติ. เสนงฺครถงฺคาทโย วิยาติ เอเตน ปุคฺคลปฺตฺติยา อวิชฺชมานปฺตฺติภาวํ ทสฺเสติ.
โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ ‘‘การณตฺโถ องฺคสทฺโท’’ติ. พุชฺฌตีติ โพธิ, โพธิยา เอว องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ ‘‘พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. วิปสฺสนาทีนํ การณานํ พุชฺฌิตพฺพานํ สจฺจานํ อนุรูปํ ปจฺจกฺขภาเวน ปฏิมุขํ อวิปรีตํ สมฺมา พุชฺฌนฺตีติ เอวํ วตฺถุวิเสสทีปเกหิ ¶ อุปริมคฺเคหิ อนุพุชฺฌนฺตีติอาทินา วุตฺตโพธิสทฺเทหิ นิปฺปเทเสน วุตฺตํ ¶ ‘‘พุชฺฌนตาสามฺเน สงฺคณฺหาตี’’ติ. เอตฺถ จ ลีนปติฏฺาน-กามสุขลฺลิกานุโยค-อุจฺเฉทาภินิเวสานํ ธมฺมวิจย-วีริยปีติปธาน-ธมฺมสามคฺคี ปฏิปกฺโข. อุทฺธจฺจายูหนอตฺตกิลมถานุโยค-สสฺสตาภินิเวสานํ ปสฺสทฺธิสมาธิ-อุเปกฺขาปธาน-ธมฺมสามคฺคี ปฏิปกฺโข. สติ ปน อุภยตฺถาปิ อิจฺฉิตพฺพา. ตถา หิ สา สพฺพตฺถิกา วุตฺตา.
สํ-สทฺโท ปสํสายํ. ปุนเทว สุนฺทโร จ อตฺโถปีติ อาห ‘‘ปสตฺโถ สุนฺทโร จ โพชฺฌงฺโค’’ติ. อภินิพฺพตฺเตตีติ อภิวิสิฏฺภาเวน นิพฺพตฺเตติ สวิเสสภาวํ วทติ. ‘‘เอเก วณฺณยนฺตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ ยถาวุตฺตวิเวกตฺตยโต อฺํ วิเวกทฺวยํ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เต หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ฌานกฺขเณ ตาว กิจฺจโต วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ, วิปสฺสนากฺขเณ อชฺฌาสยโต ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตํ ภาเวตีติ. เตนาห – ‘‘อนุตฺตรํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ. ตตฺถ ตตฺถ นิจฺฉยตาย กสิณชฺฌานคฺคหเณน อนุปฺปาทานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ.
หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กายสุตฺตวณฺณนา
๑๘๓. ติฏฺนฺติ เอเตนาติ ิติ, การณํ. กมฺมอุตุจิตฺตาหารสฺิโต จตุพฺพิโธ ปจฺจโย ิติ เอตสฺสาติ ปจฺจยฏฺิติโก. อาหารปจฺจยสทฺทา หิ เอกตฺถา. สุภมฺปีติ กามจฺฉนฺโท ปจฺจโย, อสุเภ สุภากาเรน ปวตฺตนโต สุภนฺติ วุจฺจติ. เตน การเณน ปวตฺตนกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา สุภนิมิตฺตนฺติ. สุภสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส สุภสฺส. อารมฺมณมฺปีติ สุภากาเรน, อิฏฺากาเรน วา คยฺหมานํ รูปาทิอารมฺมณมฺปิ สุภนิมิตฺตํ วุตฺตากาเรน. อนุปายมนสิกาโรติ อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต มนสิกาโร, ตโต เอว อุปฺปถมนสิกาโรติ อโยนิโสมนสิกาโร. ตสฺมินฺติ ยถานิทฺธาริเต กามจฺฉนฺทภูเต ตทารมฺมณภูเต จ ทุวิเธปิ สุภนิมิตฺเต. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สุภารมฺมเณ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, สุภนิมิตฺตนฺติอาทีติ อาทิ-สทฺเทน กามจฺฉนฺทนีวรณสฺส อาหารทสฺสนปาฬิ อุตฺตานาติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘เอวํ สพฺพนีวรเณสุ โยชนา เวทิตพฺพา’’ติ.
ปฏิโฆปิ ¶ ปฏิฆนิมิตฺตํ ปุริมุปฺปนฺนสฺส ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกสฺส นิมิตฺตภาวโต. ปฏิฆารมฺมณํ นาม เอกูนวีสติ อาฆาตวตฺถุภูตา สตฺตสงฺขารา. อรตีติ ปนฺตเสนาสนาทีสุ อรมณํ ¶ . อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺภาโว. ปนฺเตสูติ ทูเรสุ, วิวิตฺเตสุ วา. อธิกุสเลสูติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ. อรติ รติปฏิปกฺโข. อรติตาติ อรมณากาโร. อนภิรตีติ อนภิรตภาโว. อนภิรมณาติ อนภิรมณากาโร. อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺนากาโร. ปริตสฺสิตาติ อุกฺกณฺนวเสเนว ปริตสฺสนา.
อาคนฺตุกํ, น สภาวสิทฺธํ. กายาลสิยนฺติ นามกาเย อลสภาโว. สมฺโมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘ตนฺทีติ ชาติอาลสิย’’นฺติ วุตฺตํ. วทตีติ เอเตน อติสีตาทิปจฺจยา สงฺโกจาปตฺตึ ทสฺเสติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ กิเลสวตฺถุวิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๘๕๗). ตนฺทีติ ชาติอาลสิยํ. ตนฺทิยนาติ ตนฺทิยนากาโร. ตนฺทิมนกตาติ ตนฺทิยา อภิภูตจิตฺตตา. อลสสฺส ภาโว อาลสฺยํ. อาลสฺยายนากาโร อาลสฺยายนา. อาลสฺยายิตสฺส ภาโว อาลสฺยายิตตฺตํ. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายาลสิยํ กถิตํ.
กิเลสวเสนาติ สมฺโมหวเสน. กายวินมนาติ กายสฺส วิรูปโต นมนา. ชมฺภนาติ ผนฺทนา. ปุนปฺปุนํ ชมฺภนา วิชมฺภนา. อานมนาติ ปุรโต นมนา. วินมนาติ ปจฺฉโต นมนา. สนฺนมนาติ สมนฺตโต นมนา. ปณมนาติ ยถา หิ ตนฺตโต อุฏฺิตเปสกาโร กิฺจิเทว อุปริฏฺิตํ คเหตฺวา อุชุํ กายํ อุสฺสาเปติ, เอวํ กายสฺส อุทฺธํ ปนา. พฺยาธิยกนฺติ อุปฺปนฺนพฺยาธิตา. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายผนฺทนเมว กถิตํ (วิภ. อฏฺ. ๘๕๘).
ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตวเสน ปริฬาหุปฺปตฺติ. ภุตฺตาวิสฺสาติ ภุตฺตวโต. ภตฺตมุจฺฉาติ ภตฺตเคลฺํ. อติภุตฺตปจฺจยา หิ มุจฺฉาปตฺโต วิย โหติ. ภตฺตกิลมโถติ ภุตฺตปจฺจยา กิลนฺตภาโว. ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตทรโถ. กุจฺฉิปูรํ ภุตฺตวโต หิ ปริฬาหุปฺปตฺติยา อุปหตินฺทฺริโย วิย โหติ, กาโย ขิชฺชติ. กายทุฏฺุลฺลนฺติ ภุตฺตภตฺตํ นิสฺสาย กายสฺส อกมฺมฺตา.
จิตฺตสฺส ¶ ลียนากาโรติ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส สงฺโกจปฺปตฺติ. จิตฺตสฺส อกลฺยตาติ จิตฺตสฺส คิลานภาโว. คิลาโนติ อกลฺลโก วุจฺจติ. ตถา จาห ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺลโก’’ติ. อกมฺมฺตาติ จิตฺตเคลฺสงฺขาโต อกมฺมฺนากาโร. โอลียนาติ โอลียนากาโร. อิริยาปถิกมฺปิ จิตฺตํ ยสฺส วเสน อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต โอลียติ, ตสฺส ตํ อาการํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอลียนา’’ติ. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. ลีนนฺติ อวิปฺผาริกตาย ¶ สงฺโกจปฺปตฺตํ. อิตเร ทฺเว อาการนิทฺเทสา. ถินนฺติ อวิปฺผาริกตาย อนุสฺสาหนา อสงฺคหนสงฺคหนํ. ถิยนากาโร ถิยนา. ถิยิตตฺตนฺติ ถิยิตสฺส อากาโร, อวิปฺผาริกตาติ อตฺโถ.
เจตโส อวูปสโมติ จิตฺตสฺส อวูปสนฺตตา อสนฺนิสินฺนภาโว. เตนาห – ‘‘อวูปสนฺตากาโร’’ติ. อตฺถโต ปเนตนฺติ สฺวายํ อวูปสนฺตากาโร วิกฺเขปสภาวตฺตา วิกฺเขปเหตุตาย จ อตฺถโต เอตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมว.
วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา นาม ‘‘พุทฺเธ กงฺขตี’’ติอาทินา อาคตอฏฺกงฺขาวตฺถุภูตา ธมฺมา. ยสฺมา วิจิกิจฺฉา พฺยาปาทาทโย วิย อนุ อนุ อุคฺคหณปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา กงฺขาฏฺานียํ อารมฺมณเมว ทสฺสิตํ ‘‘วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา’’ติ. ยสฺมา ปุริมุปฺปนฺนา วิจิกิจฺฉา ปจฺฉา วิจิกิจฺฉาย ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วิจิกิจฺฉาปิ วิจิกิจฺฉาฏฺานียธมฺมา เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ติฏฺนฺติ ปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ านียา, วิจิกิจฺฉา เอว านียา วิจิกิจฺฉาฏฺานียา. อฏฺกถายํ ปน อารมฺมณสฺสปิ ตตฺถ วิเสสปจฺจยตํ อุปาทาย ‘‘กามจฺฉนฺโท วิจิกิจฺฉาติ อิเม ทฺเว ธมฺมา อารมฺมเณน กถิตา’’ติ วุตฺตํ. สุภนิมิตฺตสฺส หิ ปจฺจยภาวมตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, ตถาปิ ยถา ‘‘ปฏิฆมฺปิ ปฏิฆนิมิตฺต’’นฺติ กตฺวา ‘‘พฺยาปาโท อุปนิสฺสเยน กถิโต’’ติ วุตฺตํ, เอวํ สุภมฺปิ สุภนิมิตฺตนฺติ กตฺวา กามจฺฉนฺโท อุปนิสฺสเยน กถิโตติ สกฺกา วิฺาตุํ. เสสา ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานิ. ตตฺถ ถินมิทฺธํ อฺมฺํ สหชาตาทิวเสน ปจฺจโย, ตถา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนฺติ. อุภเยสมฺปิ อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจยภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘สหชาเตน จ อุปนิสฺสเยน จา’’ติ.
ยสฺมา ¶ สติ นาม ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อนุสฺสรณวเสน วตฺตติ, ตสฺมา เต ธมฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา นาม. โลกุตฺตรธมฺเม จ อนุสฺสวาทิวเสน คเหตฺวา ตถา ปวตฺตเตว. เตน วุตฺตํ ‘‘สติยา’’ติอาทิ.
โกสลฺลํ วุจฺจติ ปฺา, ตโต อุปฺปนฺนา โกสลฺลสมฺภูตา. อนวชฺชสุขวิปากาติ อนวชฺชา หุตฺวา สุขวิปากา วิปจฺจนกา. ปททฺวเยน ปจฺจยโต สภาวโต กิจฺจโต ผลโต กุสลธมฺมํ ทสฺเสติ. อกุสลนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. สาวชฺชาติ คารยฺหา. อนวชฺชาติ อคารยฺหา. หีนา ลามกา. ปณีตา เสฏฺา. กณฺหา กาฬกา อสุทฺธา. สุกฺกา โอทาตา สุทฺธา ¶ . ปฏิภาค-สทฺโท ปเม วิกปฺเป สทิสโกฏฺาสตฺโถ, ทุติเย ปฏิปกฺขโกฏฺาสตฺโถ, ตติเย นิคฺคเหตพฺพปฏิปกฺขโกฏฺาสตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
กุสลกิริยาย อาทิกมฺมภาเวน ปวตฺตวีริยํ ธิติสภาวตาย ธาตูติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อารมฺภธาตูติ ปมารมฺภวีริย’’นฺติ. ลทฺธาเสวนํ วีริยํ พลปฺปตฺตํ หุตฺวา ปฏิปกฺขํ วิธมตีติ อาห – ‘‘นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตร’’นฺติ. อธิมตฺตาธิมตฺตตรานํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิธมนสมตฺถํ ปฏุปฏุตราทิภาวปฺปตฺตํ โหตีติ อาห – ‘‘ปรกฺกมธาตูติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนตาย ตโตปิ พลวตร’’นฺติ.
ติฏฺติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ านียา. อารมฺมณธมฺมา, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส านียาติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียาติ ‘‘ปีติยา อารมฺมณธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา อปราปรุปฺปตฺติยา ปีติปิ ตถา วตฺตพฺพตํ ลภตีติ วุตฺตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘ปีติยา เอว ตํ นาม’’นฺติ. ทรถปสฺสทฺธีติ ทรโถ กิเลสปริฬาโห, โส ปสฺสมฺภติ เอตายาติ ทรถปสฺสทฺธิ, กายปสฺสทฺธิยา เวทนาทิขนฺธตฺตยสฺส วิย รูปกายสฺสปิ ปสฺสมฺภนํ โหติ, จิตฺตปสฺสทฺธิยา จิตฺตสฺเสว ปสฺสมฺภนํ, ตโต เอเวตฺถ ภควตา ลหุตาทีนํ วิย ทุวิธตา วุตฺตา. ตถา สมาหิตาการํ สลฺลกฺเขตฺวา คยฺหมาโน สมโถว สมถนิมิตฺตํ, ตสฺส อารมฺมณภูตํ ปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ. วิวิธํ อคฺคํ เอตสฺสาติ พฺยคฺโค, วิกฺเขโป. ตถา หิ โส อนวฏฺานรโส ภนฺตตาปจฺจุปฏฺาโน วุตฺโต. เอกคฺคภาวโต พฺยคฺคปฏิปกฺโขติ อพฺยคฺโค, สมาธิ, โส เอว นิมิตฺตนฺติ ปุพฺเพ วิย วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘ตสฺเสว เววจน’’นฺติ.
โย ¶ อารมฺมเณ อิฏฺานิฏฺาการํ อนาทิยิตฺวา คเหตพฺโพ มชฺฌตฺตากาโร, โย จ ปุพฺเพ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาวเสน อุปฺปนฺโน มชฺฌตฺตากาโร, ทุวิโธปิ โส อุเปกฺขาย อารมฺมณธมฺโมติ อธิปฺเปโตติ อาห – ‘‘อตฺถโต ปน มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาฏฺานียา ธมฺมาติ เวทิตพฺโพ’’ติ. อารมฺมเณน กถิตา อารมฺมณสฺเสว เตสํ วิเสสปจฺจยภาวโต. เสสาติ วีริยาทโย จตฺตาโร ธมฺมา. เตสฺหิ อุปนิสฺสโยว สาติสโย อิจฺฉิตพฺโพติ.
กายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สีลสุตฺตวณฺณนา
๑๘๔. ขีณาสวสฺส โลกุตฺตรํ สีลํ นาม มคฺคผลปริยาปนฺนา สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา สีลลกฺขณปฺปตฺตา ¶ ตทฺเ เจตนาทโย. โลกิยํ ปน กิริยาพฺยากตจิตฺตปริยาปนฺนํ จาริตฺตสีลํ, วาริตฺตสีลสฺส ปน สมฺภโว เอว นตฺถิ วิรมณวเสน ปวตฺติยา อภาวโต. ‘‘ปุพฺพภาคสีลํ โลกิยสีล’’นฺติ เกจิ.
จกฺขุทสฺสนนฺติ จกฺขูหิ ทสฺสนํ. ลกฺขณสฺส ทสฺสนนฺติ สภาวธมฺมานํ สงฺขตานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสฺส าตปริฺาย, อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณสฺส ตีรณปริฺาย ทสฺสนํ. ปชหนฺโตปิ หิ เต ปหาตพฺพาการโต ปสฺสติ นาม. นิพฺพานสฺส ตถลกฺขณํ มคฺคผเลหิ ทสฺสนํ, ตํ ปน ปฏิวิชฺฌนํ. ฌาเนน ปถวีกสิณาทีนํ, อภิฺาหิ รูปานํ ทสฺสนมฺปิ าณทสฺสนเมว. จกฺขุทสฺสนํ อธิปฺเปตํ สวนปยิรุปาสนานํ ปรโต คหิตตฺตา. ปฺหปยิรุปาสนนฺติ ปฺหปุจฺฉนวเสน ปยิรุปาสนํ อฺกมฺมตฺถาย อุปสงฺกมนสฺส เกวลํ อุปสงฺกมเนเนว โชติตตฺตา.
อริยานํ อนุสฺสติ นาม คุณวเสน, ตตฺถาปิ ลทฺธโอวาทาวชฺชนมุเขน ยถาภูตสีลาทิคุณานุสฺสรณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ฌานวิปสฺสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฺเสํเยว สนฺติเกติ อริเยหิ อฺเสํ สาสนิกานํเยว สนฺติเก. เตนาห – ‘‘อนุปพฺพชฺชา นามา’’ติ. อฺเสูติ สาสนิเกหิ อฺเสุ ตาปสปริพฺพาชกาทีสุ. ตตฺถ หิ ปพฺพชฺชา อริยานํ อนุปพฺพชฺชา นาม น โหตีติ วุตฺตํ.
สตสหสฺสมตฺตา ¶ อเหสุํ สมนฺตปาสาทิกตฺตา มหาเถรสฺส. ลงฺกาทีเปติ นิสฺสยสีเสน นิสฺสิตสลฺลกฺขณํ. น หิ ปพฺพชฺชา ทีปปฏิลทฺธา, อถ โข ทีปนิวาสิอาจริยปฏิลทฺธา. มหินฺท…เป… ปพฺพชนฺติ นาม ตสฺส ปริวารตาย ปพฺพชฺชายาติ.
สรตีติ ตํ โอวาทานุสาสนิธมฺมํ จินฺเตติ จิตฺเต กโรติ. วิตกฺกาหตํ กโรตีติ ปุนปฺปุนํ ปริวิตกฺกเนน ตทตฺถํ วิตกฺกนิปฺผาทิตํ กโรติ. อารทฺโธ โหตีติ สมฺปาทิโต โหติ. ตํ ปน สมฺปาทนํ ปาริปูริ เอวาติ อาห ‘‘ปริปุณฺโณ โหตี’’ติ. ตตฺถาติ ยถาวุตฺเต ธมฺเม. าณจารวเสนาติ าณสฺส ปวตฺตนวเสน. เตสํ เตสํ ธมฺมานนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ โอวาทธมฺเม อาคตานํ รูปารูปธมฺมานํ. ลกฺขณนฺติ วิเสสลกฺขณํ สามฺลกฺขณฺจ. ปวิจินตีติ ‘‘อิทํ รูปํ เอตฺตกํ รูป’’นฺติอาทินา วิจยํ อาปชฺชติ. าณฺจ โรเปตีติ ‘‘อนิจฺจํ จลํ ปโลกํ ปภงฺคู’’ติอาทินา าณํ ปวตฺเตติ. วีมํสนํ…เป… อาปชฺชตีติ รูปสตฺตการูปสตฺตกกฺกเมน ¶ วิปสฺสนํ ปจฺจกฺขโต วิย อนิจฺจตาทีนํ ทสฺสนํ สมฺมสนํ อาปชฺชติ.
อุภยมฺเปตนฺติ ผลานิสํสาติ วุตฺตทฺวยํ. อตฺถโต เอกํ ปริยายสทฺทตฺตา. ปฏิกจฺจาติ ปเคว. มรณกาเลติ มรณกาลสมีเป. สมีปตฺเถ หิ อิทํ ภุมฺมนฺติ อาห ‘‘มรณสฺส อาสนฺนกาเล’’ติ.
โส ติวิโธ โหติ าณสฺส ติกฺขมชฺฌมุทุภาเวน. เตนาห ‘‘กปฺปสหสฺสายุเกสู’’ติอาทิ. อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ยตฺถ กตฺถจีติ อวิหาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ. สปฺปโยเคนาติ วิปสฺสนาาณสงฺขารสงฺขาเตน ปโยเคน, สห วิปสฺสนาปโยเคนาติ อตฺโถ. สุทฺธาวาสภูมิยํ อุทฺธํเยว มคฺคโสโต เอตสฺสาติ อุทฺธํโสโต. ปฏิสนฺธิวเสน อกนิฏฺภวํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี.
อวิหาทีสุ วตฺตมาโนปิ เอกํสโต อุทฺธํคมนารโห ปุคฺคโล อกนิฏฺคามี เอว นามาติ วุตฺตํ ‘‘เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ โหนฺตี’’ติ. เตสนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อุทฺธํโสตภาวโต ยทิปิ เหฏฺิมาทีสุปิ อริยภูมิ นิพฺพตฺตเตว, ตถาปิ ตตฺถ ภูมีสุ อายุํ ¶ อคฺคเหตฺวา อกนิฏฺภเว อายุวเสเนว โสฬสกปฺปสหสฺสายุกตา ทฏฺพฺพา. ‘‘สตฺต ผลา สตฺตานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อรหตฺตมคฺคสฺส ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคา กถิตา’’ติ วุตฺตํ. สตฺตนฺนมฺปิ สหภาโว ลพฺภตีติ ‘‘อปุพฺพํ อจริมํ เอกจิตฺตกฺขณิกา’’ติ วุตฺตํ. ตยิทํ ปาฬิยํ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ อาคตวจเนน วิฺายติ, โพชฺฌงฺคานํ ปน นานาสภาวตฺตา ‘‘นานาลกฺขณา’’ติ วุตฺตํ.
สีลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วตฺถสุตฺตวณฺณนา
๑๘๕. ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺโค’’ติ เอวํ เจ มยฺหํ โหตีติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค นาม เสฏฺโ อุตฺตโม ปวโร, ตสฺมาหํ สติสมฺโพชฺฌงฺคสีเสน ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วิหริสฺสามีติ เอวํ เจ มยฺหํ ปุพฺพภาเค โหตีติ อตฺโถ. ‘‘อปฺปมาโณ’’ติ เอวํ มยฺหํ โหตีติ สฺวายํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, สพฺพโส ปมาณกรกิเลสาภาวโต อปฺปมาณธมฺมารมฺมณโต จ อปฺปมาโณติ เอวํ มยฺหํ อนฺโตสมาปตฺติยํ อสมฺโมหวเสน โหติ. สุปริปุณฺโณติ ภาวนาปาริปูริยา สุฏฺุ ปริปุณฺโณติ เอวํ ¶ มยฺหํ อนฺโตสมาปตฺติยํ อสมฺโมหวเสน โหตีติ. ติฏฺตีติ ยถากาลปริจฺเฉทสมาปตฺติยา อวฏฺาเนน ตปฺปริยาปนฺนตาย สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ ปฏิพนฺธวเสน. อุปฺปาทํ อนาวชฺชิตตฺตาติ อุปฺปาทสฺส อนาวชฺชเนน อสมนฺนาหาเรน. อุปฺปาทสีเสน เจตฺถ อุปฺปาทวนฺโตว สงฺขารา คหิตา. อนุปฺปาทนฺติ นิพฺพานํ อุปฺปาทาภาวโต อุปฺปาทวนฺเตหิ จ วินิสฺสฏตฺตา. ปวตฺตนฺติ วิปากปฺปวตฺตํ. อปฺปวตฺตนฺติ นิพฺพานํ ตปฺปฏิกฺเขปโต. นิมิตฺตนฺติ สพฺพสงฺขารนิมิตฺตํ. อนิมิตฺตนฺติ นิพฺพานํ. สงฺขาเรติ อุปฺปาทาทิอนามสเนน เกวลเมว สงฺขารคหณํ. วิสงฺขารนฺติ นิพฺพานํ. อาวชฺชิตตฺตา อาวชฺชิตกาลโต ปฏฺาย อารพฺภ ปวตฺติยา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ติฏฺติ. อฏฺหากาเรหีติ อฏฺหิ การเณหิ. ชานาตีติ สมาปตฺติโต วุฏฺิตกาเล ปชานาติ. อฏฺหากาเรหีติ อุปฺปาทาวชฺชนาทีหิ เจว อนุปฺปาทาวชฺชนาทีหิ จ วุตฺตาการวิปรีเตหิ อฏฺหิ อากาเรหิ จวนฺตํ สมาปตฺติวเสน อนวฏฺานโตปิ คจฺฉนฺตํ จวตีติ เถโร ปชานาตีติ.
ผลโพชฺฌงฺคาติ ¶ ผลสมาปตฺติปริยาปนฺนา โพชฺฌงฺคา. กึ ปน เต วิสุํ วิสุํ ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘ยทา หี’’ติอาทิ. สีสํ กตฺวาติ ปธานํ เสฏฺํ กตฺวา. ตทนฺวยาติ ตทนุคตา สติสมฺโพชฺฌงฺคํ อนุคจฺฉนกา. ตฺจ โข ตถา กตฺวา ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขณวเสน. เกจิ ปน ‘‘ตํ ปจฺจเวกฺขณาทิกํ กตฺวา’’ติ วทนฺติ.
วตฺถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๑๘๖. โพธายาติ เอตฺถ โพโธ นาม พุชฺฌนํ, ตํ ปน กิสฺส เกนาติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กึ พุชฺฌนตฺถายา’’ติ วตฺวา ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มคฺเคนา’’ติอาทิมาห. มคฺเคน นิพฺพานํ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ, ปจฺจเวกฺขณาย กตกิจฺจตํ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ, ปมวิกปฺเป สจฺฉิกิริยาภิสมโย เอว ทสฺสิโตติ เตน อตุฏฺเ ‘‘มคฺเคน วา’’ติ ทุติยวิกปฺปมาห. วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตนฺติ ปเทหิ สพฺพํ มคฺคกิจฺจํ ตสฺส ผลฺจ ทสฺสิตํ. นิโรธนิสฺสิตนฺติ อิมินา นิพฺพานสจฺฉิกิริยา. กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติอาทินา กิเลสปฺปหานํ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหตีติอาทินา ปจฺจเวกฺขณา ทสฺสิตา.
ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๗. กุณฺฑลิยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๘๗-๑๘๘. นิพทฺธวาสวเสน ¶ อาราเม นิสีทนสีโลติ อารามนิสาที. ปริสํ โอคาฬฺโห หุตฺวา จรตีติ ปริสาวจโรติ อาห – ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ. เอวนฺติ อิมินากาเรน. คหณนฺติ นิคฺคหณํ. เตน ปุจฺฉาปทสฺส อตฺถํ วิวรติ. นิพฺเพนนฺติ นิคฺคหนิพฺเพนํ. เตน วิสฺสชฺชนปทสฺส อตฺถํ วิวรติ. อิมินา นเยนาติ เอเตน ‘‘อิติวาโท’’ติ เอตฺถ อิติ-สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ. อุปารมฺภาธิปฺปาโย วทติ เอเตนาติ วาโท, โทโส. อิติวาโท โหตีติ เอวํ อิมสฺส อุปริ วาทาโรปนํ โหติ. อิติวาทปฺปโมกฺโขติ เอวํ ตโต ปโมกฺโข โหติ ¶ . เอวํ วาทปฺปโมกฺขานิสํสํ ปเรหิ อาโรปิตโทสสฺส นิพฺเพนวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ โทสปเวทนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ ปุจฺฉาย โทโส’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอตฺตกํ านนฺติอาทิโต ปฏฺาย ยาว ‘‘ตีณิ สุจริตานี’’ติ เอตฺตกํ านํ. อิมํ เทสนนฺติ ‘‘อินฺทฺริยสํวโร โข’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ อิมํ เทสนํ. นาภิชฺฌายตีติ น อภิชฺฌายติ. นาภิหํสตีติ น อภิตุสฺสติ. โคจรชฺฌตฺเต ิตํ โหตีติ กมฺมฏฺานารมฺมเณ สมาธานวเสน ิตํ โหติ อวฏฺิตํ. เตนาห ‘‘สุสณฺิต’’นฺติ. สุสณฺิตนฺติ สมฺมา อวิกฺเขปวเสน ิตํ. กมฺมฏฺานวิมุตฺติยาติ กมฺมฏฺานานุยฺุชนวเสน ปฏิปกฺขโต นีวรณโต วิมุตฺติยา. สุฏฺุ วิมุตฺตนฺติ สุวิมุตฺตํ. ตสฺมึ อมนาปรูปทสฺสเน น มงฺกุ วิลกฺโข น โหติ. กิเลสวเสน โทสวเสน. อฏฺิตจิตฺโต อถทฺธจิตฺโต. โกเวเสน หิ จิตฺตํ ถทฺธํ โหติ, น มุทุกํ. อทีนมานโสติ โทมนสฺสวเสน โย ทีนภาโว, ตทภาเวน นิทฺโทสมานโส. อปูติจิตฺโตติ พฺยาปชฺชาภาเวน สีติภูตจิตฺโต.
อิเมสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ อฏฺารส ทุจฺจริตานิ โหนฺติ ปจฺเจกํ กายวจีมโนทุจฺจริตเภเทน. ตานิ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเตติ นยทานมตฺตเมตํ. เตน ‘‘อนิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต โทสํ อุปฺปาเทนฺตสฺสา’’ติอาทินา ติวิธทุจฺจริตํ นีหริตฺวา วตฺตพฺพํ, ตถา ‘‘มชฺฌตฺตารมฺมเณ โมหํ อุปฺปาเทนฺตสฺสา’’ติอาทินา จ. มโนทุจฺจริตาทิสามฺเน ปน ตีณิเยว ทุจฺจริตานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
ปฺตฺติวเสนาติ วตฺถุํ อนามสิตฺวา ปิณฺฑคหณมุเขน เกวลํ ปฺตฺติวเสเนว. ภาวนาปฏิสงฺขาเนติ ภาวนาสิทฺเธ ปฏิสงฺขาเน, ภาวนาย ปฏิสงฺขาเน วาติ อตฺโถ. อิมานีติ ยถาวุตฺตานิ ฉทฺวารารมฺมณานิ. ทุจฺจริตานีติ ทุจฺจริตการณานิ. อปฺปฏิสงฺขาเน ิตสฺส ทุจฺจริตานิ ¶ สุจริตานิ กตฺวา. ปริณาเมตีติ ปริวตฺเตติ ทุจฺจริตานิ ตตฺถ อนุปฺปาเทตฺวา สุจริตานิ ¶ อุปฺปาเทนฺโต. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. อินฺทฺริยสํวโร…เป… เวทิตพฺโพ อินฺทฺริยสํวรสมฺปาทนวเสน ติณฺณํ สุจริตานํ สิชฺฌนโต. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ. เอตฺตาวตาติ อาทิโต ปฏฺาย ยาว ‘‘ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรนฺตี’’ติ ปทํ, เอตฺตาวตา. สีลานุรกฺขกํ อินฺทฺริยสํวรสีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลสฺส อนุรกฺขกํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ กถิกํ. กถํ ปน ตเทว ตสฺส อนุรกฺขกํ โหตีติ? อปราปรุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสยภาวโต.
ตีณิ สีลานีติ อินฺทฺริยสํวร-อาชีวปาริสุทฺธิ-ปจฺจยสนฺนิสฺสิต-สีลานิ. โลกุตฺตรมิสฺสกาติ โลกิยาปิ โลกุตฺตราปิ โหนฺตีติ อตฺโถ. สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานนฺติ โลกุตฺตรานํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ. มูลภูตา สติปฏฺานา ปุพฺพภาคา, เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จตฺตาโร โข, กุณฺฑลิย, สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติ. เตปีติ ยถาวุตฺตสติปฏฺานา. สติปฏฺานมูลกา โพชฺฌงฺคาติ โลกิยสติปฏฺานมูลกา โพชฺฌงฺคาว. ปุพฺพภาคาวาติ เอตฺถ เกจิ ‘‘ปุพฺพภาคา จา’’ติ ปาํ กตฺวา ‘‘ปุพฺเพว โลกุตฺตรา ปุพฺพภาคา จา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. วิชฺชาวิมุตฺติมูลกาติ ‘‘สตฺต โข, กุณฺฑลิย, โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตา โพชฺฌงฺคา โลกุตฺตราว วิชฺชาวิมุตฺติสหคตภาวโต.
กุณฺฑลิยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปวานสุตฺตวณฺณนา
๑๘๙. ปจฺจตฺตนฺติ กรณนิทฺเทโส อยนฺติ อาห – ‘‘อตฺตนาวา’’ติ. กุรุมาโนเยวาติ อุปฺปาเทนฺโต เอว. กมฺมฏฺานวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตนฺติ กมฺมฏฺานมนสิกาเรน นีวรณานํ ทูรีภาวโต เตหิ สุฏฺุ วิมุตฺตํ. อตฺถํ กริตฺวาติ ภาวนามนสิการํ อุตฺตมํ กตฺวา. ‘‘มหา วต เม อยํ อตฺโถ อุปฺปนฺโน’’ติ อตฺถิโก หุตฺวา.
๙. ปมอุปฺปนฺนสุตฺตวณฺณนา
๑๙๐. ตถาคตสฺส ปาตุภาวาติอาทินา พุทฺธุปฺปาทกาเล เอว โพชฺฌงฺครตนปฏิลาโภติ ทสฺเสติ.
ปพฺพตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. คิลานวคฺโค
๑-๓. ปาณสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๙๒-๑๙๔. เยสนฺติ ¶ ¶ เยสํ สตฺตานํ. จตฺตาโร อิริยาปถา อตฺถิ ลพฺภนฺติ ตทุปคสรีราวยวลาเภน. เอตนฺติ ‘‘จตฺตาโร อิริยาปเถ กปฺเปนฺตี’’ติ เอตํ วจนํ. ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทิวจนโต ‘‘สหวิปสฺสนเก มคฺคโพชฺฌงฺเค’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ทุติยตติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.
๔-๑๐. ปมคิลานสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๙๕-๒๐๑. วิสุทฺธํ อโหสิ วิสภาคธาตุกฺโขภํ วูปสเมนฺตํ. เตนาห – ‘‘โปกฺขรปตฺเต …เป… วินิวตฺติตฺวา คโต’’ติ. เอเสว นโย ปาฬิโต อตฺถโต จ จตุตฺเถน ปฺจมฉฏฺานํ สมานตฺตา. วิสรุกฺขวาตสมฺผสฺเสนาติ วิสรุกฺขสนฺนิสฺสิตวาตสมฺผสฺเสน. มนฺทสีตชโรติ มุทุโก สีตชโร. เสสนฺติ วุตฺตาวเสสํ. สพฺพตฺถาติ สตฺตมาทีสุ จตูสุ.
คิลานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุทายิวคฺโค
๑-๒. โพธายสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๒-๒๐๓. กิตฺตเกน นุ โข การเณน พุชฺฌนกองฺคา นาม วุจฺจนฺติ พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วตฺตพฺพตํ ลภนฺติ. มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา สหวิปสฺสนา มคฺคโพชฺฌงฺคา กถิตาติ กตฺวา. ธมฺมปริจฺเฉโท กถิโต คณนามตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตตฺตา น ภูมนฺตรปริจฺเฉโท, วิปสฺสนาทิปริจฺเฉโท วา.
๓-๕. านิยสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๔-๒๐๖. กามราเคน ¶ คธิตพฺพฏฺานภูตา กามราคฏฺานิยาติ อาห ‘‘อารมฺมณธมฺมาน’’นฺติ. ‘‘มนสิการพหุลีการา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อารมฺมเณเนว กถิต’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. วุตฺตปริจฺเฉโทติ เอเตน น เกวลํ อารมฺมณวเสเนว, อถ โข อุปนิสฺสยวเสนเปตฺถ อตฺโถ ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. ปมวคฺคสฺส หิ ทุติเย สุตฺเต อุปนิสฺสยวเสเนว อตฺโถ ทสฺสิโต. มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา อวิภาเคเนว กถิตตฺตา. อปริหานิเยติ ตีหิ สิกฺขาหิ อปริหานาวเห.
๖-๗. ตณฺหกฺขยสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๐๗-๒๐๘. ‘‘โส มํ ปุจฺฉิสฺสตี’’ติ อธิปฺปาเยน ภควตา โอสาปิตเทสนํ. ปตฺถฏตฺตา ภาวนาปาริปูริยา วิตฺถาริตํ คตตฺตา. มหนฺตภาวนฺติ ภาวนาวเสเนว มหตฺตํ คตตฺตา. ตโต เอว วฑฺฒิปฺปมาณา. นีวรณวิคเม สมฺภวโต ปจฺจยโต พฺยาปาโท วิคโต โหตีติ อาห – ‘‘นีวรณานํ ทูรีภาเวน พฺยาปาทวิรหิตตฺตา’’ติ. ตณฺหามูลกนฺติ ตณฺหาปจฺจยํ. ยฺหิ ตณฺหาสหคตํ อสหคตมฺปิ ตณฺหํ อุปนิสฺสาย นิปฺผนฺนํ, สพฺพํ ตํ ตณฺหามูลกํ. ปหียติ อนุปฺปาทปฺปหาเนน. ตณฺหาทีนํเยว ขยา, น เตสํ สงฺขารานํ ขยา. เอเตหิ ตณฺหกฺขยาทิปเทหิ.
๘. นิพฺเพธภาคิยสุตฺตวณฺณนา
๒๐๙. นิพฺพิชฺฌนฺตีติ นิพฺเพธา, นิพฺพิชฺฌนธมฺมา ธมฺมวินยาทโย, ตปฺปริยาปนฺนตาย นิพฺเพธภาเค คโต นิพฺเพธภาคิโย, ตํ นิพฺเพธภาคิยํ. เตนาห ‘‘นิพฺพิชฺฌนโกฏฺาสิย’’นฺติ. ภาเวตฺวา ิเตน จิตฺเตน. วิปสฺสนามคฺคมฺปิ คเหตฺวา ‘‘มคฺคโพชฺฌงฺคา มิสฺสกา’’ติ วุตฺตา. เตหีติ โพชฺฌงฺเคหิ ภาวิตํ จิตฺตํ. เต วา โพชฺฌงฺเค ภาเวตฺวา ิตํ จิตฺตํ นาม ผลจิตฺตํ, ตสฺมา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว. ตมฺปีติ ผลจิตฺตมฺปิ มคฺคานนฺตรตาย มคฺคนิสฺสิตํ กตฺวา มิสฺสกเมว กเถตุํ วฏฺฏติ ‘‘โพธาย สํวตฺตนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา.
๙. เอกธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๒๑๐. สํโยชนสงฺขาตา วินิพนฺธาติ กามราคาทิสํโยชนสฺิตา พนฺธนา. ปรินิฏฺเปตฺวา คหณาติ คิลิตฺวา วิย ปรินิฏฺเปตฺวา คหณาการา.
๑๐. อุทายิสุตฺตวณฺณนา
๒๑๑. พหุกตํ ¶ ¶ วุจฺจติ พหุกาโร พหุมาโน, นตฺถิ เอตสฺส พหุกตนฺติ อพหุกโต, อกตพหุมาโน. ธมฺโม อุปฺปชฺชมาโน อุกฺกุชฺชนฺโต วิย นิรุชฺฌมาโน อวกุชฺชนฺโต วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุกฺกุชฺชํ วุจฺจติ อุทโย, อวกุชฺชํ วโย’’ติ. ปริวตฺเตนฺโตติ อนิจฺจาติปิ ทุกฺขาติปิ อนตฺตาติปิ. ‘‘เอโส หิ เต อุทายิ มคฺโค ปฏิลทฺโธ, โย เต…เป… ตถตฺตาย อุปเนสฺสตี’’ติ ปริโยสาเน ภควโต วจนฺเจตฺถ สาธกํ ทฏฺพฺพํ. เตน เตนากาเรน วิหรนฺตนฺติ เยน สมฺมสนากาเรน วิปสฺสนาวิหาเรน วิหรนฺตํ. ตถาภาวายาติ ขีณาสวภาวปจฺจเวกฺขณาย. เตนาห – ‘‘ขีณา ชาตีติ…เป… ตํ ทสฺเสนฺโต เอวมาหา’’ติ.
อุทายิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นีวรณวคฺโค
๓-๔. อุปกฺกิเลสสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑๔-๒๑๕. น จ ปภาวนฺตนฺติ น จ ปภาสมฺปนฺนํ. ปภิชฺชนสภาวนฺติ ตาเปตฺวา ตาลเน ปภงฺคุตํ. อวเสสํ โลหนฺติ วุตฺตาวเสสํ ชาติโลหํ, วิชาติโลหํ, กิตฺติมโลหนฺติ ปเภทํ สพฺพมฺปิ โลหํ. อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนนาติ เอตฺถ นนุ โลกิยกุสลจิตฺตสฺสปิ สุวิสุทฺธสฺส อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน อุปกฺกิเลสตาติ? สจฺจเมตํ, ยสฺมึ ปน สนฺตาเน นีวรณานิ ลทฺธปติฏฺานิ, ตตฺถ มหคฺคตกุสลสฺสปิ อสมฺภโว, ปเคว โลกุตฺตรกุสลสฺส, ปริตฺตกุสลํ ปน ยถาปจฺจยํ อุปฺปชฺชติ. นีวรเณ หิ วูปสนฺเต สนฺตาเน อุปฺปตฺติยา อปริสุทฺธํ โหติ, อุปกฺกิลิฏฺํ นาม โหติ, อปริสุทฺธทีปกปลฺลิกวฏฺิเตลาทิสนฺนิสฺสโย ทีโป วิย, อปิจ นิปฺปริยายโต อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนเนว เตสํ อุปกฺกิเลสตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทคฺเคน หี’’ติอาทิมาห. อารมฺมเณ วิกฺขิตฺตปฺปตฺติวเสน จุณฺณวิจุณฺณตา เวทิตพฺพา. น อาวรนฺตีติ กุสลธมฺเม อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานวเสน น อาวรนฺติ, อถ โข เตสํ อุปฺปตฺติยา โหนฺติ. น ปฏิจฺฉาเทนฺตีติ น ¶ วินนฺธนฺติ. จตุภูมกจิตฺตสฺสาติ จตุตฺถภูมกกุสลจิตฺตสฺส อนุปกฺกิเลสา, เตหิ อกิลิสฺสนโต.
๘. อาวรณนีวรณสุตฺตวณฺณนา
๒๑๙. ปฺา ¶ ทุพฺพลา โหติ, น พลวตี ปฏิปกฺเขน อุปกฺกิลิฏฺภาวโต. เตนาห ‘‘มนฺทา อวิสทา’’ติ.
ปฺจ นีวรณา ทูเร โหนฺติ อาวรณาภาวโต. ตเมว ปีตินฺติ สปฺปายธมฺมสวเน อุปฺปนฺนํ ปีตึ. ตสฺสา ตทา อุปฺปนฺนาการสลฺลกฺขเณน อวิชหนฺโต ปุนปฺปุนํ ตสฺสา นิพฺพตฺตเนน. เตนาห ‘‘ปฺจ นีวรเณ วิกฺขมฺเภตฺวา’’ติ. อิทํ สนฺธายาติ เอตฺตเก ทิวเสปิ น วินสฺสนฺติ, สา ธมฺมปีติ ลทฺธปจฺจยา หุตฺวา วิเสสาวหาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เอตํ ‘‘อิมสฺส ปฺจ นีวรณา ตสฺมึ สมเย น โหนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปีติปาโมชฺชปกฺขิยาติ ปีติปาโมชฺชปจฺจยา. นสฺสนฺตีติ นิโรธปจฺจยวเสน ปวตฺตนโต นสฺสนฺติ. สภาคปจฺจยวเสน ปุน อุปฺปชฺชนฺตาปิ…เป… วุจฺจติ กิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตนโต.
๙. รุกฺขสุตฺตวณฺณนา
๒๒๐. อภิรุหนกาติ สมีปรุกฺเข อภิภวิตฺวา รุหนกา. อฏฺิกจฺฉโกติ อฏฺิพหุลกจฺฉโก. กปิถนสทิสผลตฺตา กปิตฺถโนติ ลทฺธนาโม.
๑๐. นีวรณสุตฺตวณฺณนา
๒๒๑. อนฺธภาวกรณา ปฺาจกฺขุสฺส วิพนฺธนโต. ตถา หิ เต ‘‘อจกฺขุกรณา ปฺานิโรธิกา’’ติ วุตฺตา. วิหนติ วิพาธตีติ วิฆาโต, ทุกฺขนฺติ อาห ‘‘วิฆาตปกฺขิยาติ ทุกฺขปกฺขิกา’’ติ. นิพฺพานตฺถาย น สํวตฺตนฺตีติ อนิพฺพานสํวตฺตนิกา. มิสฺสกโพชฺฌงฺคาว กถิตา ปุพฺพภาคิกานํ กถิตตฺตา.
นีวรณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จกฺกวตฺติวคฺโค
๑. วิธาสุตฺตวณฺณนา
๒๒๒. วิธียนฺตีติ ¶ ¶ วิธา, มานาทิภาคา โกฏฺาสาติ อาห ‘‘ตโย มานโกฏฺาสา’’ติ. ตถา ตถา วิทหนโตติ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา เตน เตนากาเรน วิทหนโต ปนโต, เปตพฺพโต วา.
๒. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา
๒๒๓. สิริสมฺปตฺติยา ราชติ ทิปฺปติ โสภตีติ ราชา, ทานปิยวจนอตฺถจริยาสมานตฺตตาสงฺขาเตหิ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ. รฺเชตีติ รเมติ. อพฺภุคฺคตายาติ อุทีริตา นิพฺพตฺติโต ตตฺถ ตตฺถ คจฺฉนโต. จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกรตนํ ปวตฺเตติ. เทวฏฺานนฺติ ปูชนียเทวฏฺานํ. จิตฺตีกตฏฺเนาติ ปูชนียภาเวน. อคฺโฆ นตฺถิ จิรกาลสมฺภวปฺุานุภาวสิทฺธรตนสพฺภาวโต. อฺเหิ จกฺกวตฺติโน ปริคฺคหภูตรตเนหิ. โลเกติ มนุสฺสโลเก. เตน ตทฺโลกํ นิวตฺเตติ. วิชฺชมานคฺคหเณน อตีตานาคตํ นิวตฺเตติ. พุทฺธา จ กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ จกฺกวตฺติโนปิ เยภุยฺเยน ตสฺมึเยว อุปฺปชฺชนโตติ อธิปฺปาโย. อโนมสฺสาติ อลามกสฺส อุกฺกฏฺสฺส. เสสานิ รตนานิ.
ตตฺราติ วากฺโยปฺาสเน นิปาโต, ตสฺมึ ปาตุภาววจเน. ‘‘อยุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ อธิปฺปายํ วิวรนฺโต ‘‘อุปฺปนฺนํ หี’’ติอาทิมาห. เตหิ รตเนหิ จกฺกวตฺตนนิยมาเปกฺขตาย จกฺกวตฺติวจนสฺส. นิยเมนาติ เอกนฺเตน. วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ ภาวินิ ภูเต วิย อุปจาโรติ ยถา – ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติ (สุ. นิ. ๔๑๐). ลทฺธนามสฺสาติ จกฺกวตฺตีติ โลเก ลทฺธสมฺสฺส ปตฺถนียสฺส ปุริสวิเสสสฺส. มูลุปฺปตฺติวจนโตปีติ ‘‘จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา’’ติ เอตสฺส ปมุปฺปตฺติยา วจนโตปิ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห. โย หิ จกฺกวตฺติราชา, ตสฺส อุปฺปตฺติยา จกฺกรตนสฺส อุปฺปชฺชนโต จกฺกวตฺตีติ เอวํ นามํ อุปฺปชฺชติ. ‘‘จกฺกํ วตฺเตสฺสตี’’ติ อิทํ ปน นิยามํ อนเปกฺขิตฺวา ตสฺส อุปฺปชฺชตีติ รตนานุปฺปตฺตึ ¶ คเหตฺวา วุตฺตนยโต สฺา อุปฺปชฺชติ ‘‘จกฺกวตฺตี’’ติ. เอกเมวาติ จกฺกรตนเมว ปมํ ปาตุภวติ. ยสฺมึ ภูเต รฺโ จกฺกวตฺติสมฺา, อถ ปจฺฉา ¶ รตนานิ ปาตุภวนฺตีติ พหูนํ ปาตุภาวํ อุปาทาย พหุลวจนโตปิ เอตํ ‘‘จกฺกวตฺติสฺส ปาตุภาวา รตนานํ ปาตุภาโว’’ติ วุตฺตํ. อยํ เหตุกตฺตุสฺิโต อตฺถเภโท. ปาตุภาวาติ ปาตุภาวโต. ปฺุสมฺภาโร ภินฺนสนฺตานตาย รตนานมฺปิ ปริยาเยน อุปนิสฺสยเหตูติ วุตฺตํ. ยุตฺตเมเวตํ ยถาวุตฺตยุตฺติยุตฺตตฺตา.
วตฺตพฺพภูโต อธิปฺปาโย เอตสฺส อตฺถีติ อธิปฺปาโย, อตฺถนิทฺเทโส, สงฺเขปโต อธิปฺปาโย สงฺเขปาธิปฺปาโย. จกฺกรตนานุภาเวน จกฺกวตฺติสฺสริยสฺส สิชฺฌนโต ‘‘ทาตุํ สมตฺถสฺสา’’ติ วุตฺตํ. โยชนปฺปมาเณ ปเทเส ปวตฺตตฺตา โยชนปฺปมาณํ อนฺธการํ. อติทีฆาติรสฺสตาทึ ฉพฺพิธํ โทสํ วิวชฺเชตฺวา ิตสฺสาติ วจนเสโส.
สพฺเพสํ จตุภูมกธมฺมานํ ปุเรจรํ กุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสนวเสน ปวตฺตนโต. พุทฺธาทีหิปิ อปฺปหานียตาย มหนฺตธมฺมสภาวตฺตา ธมฺมกาเย จ เชฏฺกฏฺเน ธมฺมกายูปปนฺนํ. ปฺาปาสาทตาย จสฺส อุปริคตฏฺเน อจฺจุคฺคตํ. วิตฺถตฏฺเน วิปุลํ. มหนฺตตาย มหนฺตํ. อนาทิกาลภาวิตสฺส กิเลสสนฺตานสฺส ขเณเนว วิทฺธํสนโต สีฆํ ลหุ ชวนฺติ ปริยายา. โพชฺฌงฺคธมฺมปริยาปนฺนตฺตา หิ วุตฺตํ ‘‘เอกนฺต-กุสลตฺตา’’ติ. สมฺปยุตฺตวเสน ปีติยา อาโลกวิทฺธํสนภาววเสนาติ วุตฺตํ ‘‘สหชาตปจฺจยาที’’ติอาทิ. สพฺพสงฺคาหิกธมฺมปริจฺเฉโทติ จตุภูมกตฺตา สพฺพสงฺคาหโก โพชฺฌงฺคธมฺมปริจฺเฉโท กถิโต.
๔-๑๐. ทุปฺปฺสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๒๕-๒๓๑. เอฬํ วุจฺจติ โทโส, เอเฬน มูโค วิยาติ เอฬมูโคติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มุเขน วาจ’’นฺติอาทิมาห.
จกฺกวตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สากจฺฉวคฺโค
๑. อาหารสุตฺตวณฺณนา
๒๓๒. ปุริมนยโตติ ¶ ¶ ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียานํ ธมฺมาน’’นฺติอาทินา อาคตนยโต. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. สติ จ สมฺปชฺฺจ สติสมฺปชฺํ. สติปธานํ วา อภิกฺกนฺตาทีสุ สตฺถกภาวปริคฺคณฺหกาณํ สติสมฺปชฺํ. ตํ สพฺพตฺถ สโตการีภาวาวหตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตติ. ยถา จ ปจฺจนีกธมฺมปฺปหานํ อนุรูปธมฺมเทสนา จ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย โหติ, เอวํ สติรหิตปุคฺคลวชฺชนา สโตการีปุคฺคลเสวนา จ ตตฺถ จ ยุตฺตปยุตฺตตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สติสมฺปชฺ’’นฺติอาทินา. อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ. ตถา หิ อรหาว ‘‘สติเวปุลฺลปฺปตฺโต’’ติ วุจฺจติ.
ธมฺมานํ, ธมฺเมสุ วา วิจโย, โส เอว เหฏฺา วุตฺตนเยน สมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. ปริปุจฺฉกตาติ อาจริยํ ปยิรุปาสิตฺวา ปฺจปิ นิกาเย สหฏฺกถาย ปริโยคาเหตฺวา ยํ ยํ ตตฺถ คณฺิฏฺานํ, ตสฺส ตสฺส ‘‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ เอวํ ขนฺธาทีสุ อตฺถปุจฺฉกภาโว. เตนาห ‘‘ขนฺธ…เป… พหุลตา’’ติ.
วตฺถุวิสทกิริยาติ จิตฺตเจตสิกานํ ปวตฺติฏฺานภาวโต สรีรํ ตปฺปฏิพทฺธานิ จ จีวราทีนิ อิธ ‘‘วตฺถูนี’’ติ อธิปฺเปตานิ, ตานิ ยถา จิตฺตสฺส สุขาวหานิ โหนฺติ, ตถา กรณํ เตสํ วิสทภาวกรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺติกพาหิราน’’นฺติอาทิ. อุสฺสนฺนโทสนฺติ วาตาทิอุสฺสนฺนโทสํ. เสทมลมกฺขิตนฺติ เสเทน เจว ชลฺลิกาสงฺขาเตน สรีรมเลน จ มกฺขิตํ. จ-สทฺเทน อฺมฺปิ สรีรสฺส จ จิตฺตสฺส จ ปีฬาวหํ สงฺคณฺหาติ. เสนาสนํ วาติ วา-สทฺเทน ปตฺตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อวิสเท สติ, วิสยภูเต วา. กถํ ภาวนมนุยุตฺตสฺส ตานิ วิสโยติ? อนฺตรนฺตรา ปวตฺตนกจิตฺตุปฺปาทวเสน เอวํ วุตฺตํ. เต หิ จิตฺตุปฺปาทา จิตฺเตกคฺคตาย อิชฺฌนฺติยาปิ อปริสุทฺธภาวาย สํวตฺตนฺติ. จิตฺตเจตสิเกสุ นิสฺสยาทิปจฺจยภูเตสุ. าณมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑเน. เตน น เกวลํ ตํ วตฺถุเยว ¶ , อถ โข ตสฺมึ อปริสุทฺเธ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหตีติ นิสฺสยาปริสุทฺธิยา นิสฺสิตาปริสุทฺธิ วิย วิสยสฺส อปริสุทฺธตาย วิสยีนํ อปริสุทฺธึ ทสฺเสติ อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ.
สมภาวกรณํ ¶ กิจฺจโต อนูนาธิกภาวกรณํ. ยถาปจฺจยํ สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อธิโมกฺขกิจฺจสฺส ปฏุตรภาเวน ปฺาย อวิสทตาย วีริยาทีนฺจ อนุพลปฺปทานสิถิลตาทินา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ. เตนาห ‘‘อิตรานิ มนฺทานี’’ติ. ตโตติ ตสฺมา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาวโต อิตเรสฺจ มนฺทตฺตา. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนํ อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห, ปคฺคหกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกตีติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อุปฏฺานํ, วิกฺเขปปฏิปกฺโข. เยน วา สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส อวิกฺเขโป. รูปคตํ วิย จกฺขุนา เยน ยาถาวโต วิสยสภาวํ ปสฺสติ, ตํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ พลวตา สทฺธินฺทฺริเยน อภิภูตตฺตา. สหชาตธมฺเมสุ หิ อินฺทฏฺํ กโรนฺตานํ สห ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ เอกรสตาวเสเนว อตฺถสิทฺธิ, น อฺถา. ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. ตนฺติ สทฺธินฺทฺริยํ.
ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณนาติ ยสฺส สทฺเธยฺยวตฺถุโน อุฬารตาทิคุเณ อธิมุจฺจนสฺส สาติสยปฺปวตฺติยา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตสฺส ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาทิวิภาคโต ยาถาวโต วีมํสเนน. เอวฺหิ เอวํธมฺมตานเยน สภาวสรสโต ปริคฺคยฺหมาเน สวิปฺผาโร อธิโมกฺโข น โหติ – ‘‘อยํ อิเมสํ ธมฺมานํ สภาโว’’ติ ปฺาพฺยาปารสฺส สาติสยตฺตา. ธุริยธมฺเมสุ หิ ยถา สทฺธาย พลวภาเว ปฺาย มนฺทภาโว โหติ, เอวํ ปฺาย พลวภาเว สทฺธาย มนฺทภาโว โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน…เป… หาเปตพฺพ’’นฺติ. ตถา อมนสิกรเณนาติ เยนากาเรน ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, เตนากาเรน ภาวนํ นานุยฺุชเนนาติ วุตฺตํ โหติ. อิธ ทุวิเธน สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว อตฺตโน วา ปจฺจยวิเสเสน กิจฺจุตฺตริยโต วีริยาทีนํ วา มนฺทกิจฺจตาย. ตตฺถ ปมวิกปฺเป หาปนวิธิ ทสฺสิโต, ทุติยวิกปฺเป ปน ยถา มนสิกโรโต วีริยาทีนํ มนฺทกิจฺจตาย สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน วีริยาทีนํ ปฏุตรภาวาวเหน มนสิกาเรน สทฺธินฺทฺริยํ เตหิ ¶ สมตํ กโรนฺเตน หาเปตพฺพํ. อิมินา นเยน เสสินฺทฺริเยสุปิ หาปนวิธิ เวทิตพฺโพ.
วกฺกลิตฺเถรวตฺถูติ โส หิ อายสฺมา สทฺธาธิมุตฺโต ตตฺถ จ กตาธิกาโร สตฺถุ รูปกายทสฺสเน ปสุโต เอว หุตฺวา วิหรนฺโต สตฺถารา – ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน, โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๘๗) โอวทิยมาโน กมฺมฏฺาเน นิโยชิโตปิ ตํ อนนุยฺุชนฺโต ปณามิโต อตฺตานํ ¶ วินิปาเตตุํ ปปาตฏฺานํ อภิรุหิ. อถ นํ สตฺถา ยถานิสินฺโนว โอภาสวิสฺสชฺชเนน อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน;
อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๘๑) –
คาถํ วตฺวา ‘‘เอหิ, วกฺกลี’’ติ อาห. โส เตน วจเนน อมเตเนว อภิสิตฺโต หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ, สทฺธาย พหุลภาวโต วิปสฺสนาวีถึ นาโรหติ. ตํ ตฺวา ภควา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนาย กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเยน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ. เอตฺถาติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตภาเว เสสินฺทฺริยานํ สกิจฺจากรเณ.
อิตรกิจฺจเภทนฺติ อุปฏฺานาทิกิจฺจวิเสสํ. ปสฺสทฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. หาเปตพฺพนฺติ ยถา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หายติ, เอวํ วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตา ปสฺสทฺธิยาทิภาวนาย หายติ สมาธิปกฺขิกตฺตา ตสฺสา. ตถา หิ สมาธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ โกสชฺชปาตโต รกฺขนฺตี วีริยาทิภาวนา วิย วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขนฺตี เอกํสโต หาเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพ’’นฺติ. โสณตฺเถรสฺส วตฺถูติ สุกุมารโสณตฺเถรสฺส วตฺถุ. โส หิ อายสฺมาปิ สตฺถุ สนฺติกา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สีตวเน วิหรนฺโต – ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวาปิ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’’ติ านจงฺกมนเมว อธิฏฺาย ¶ ปธานมนุยฺุชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหวีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ ปวตฺเตตุํ นาสกฺขิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา วีโณปโมวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. เถโรปิ สตฺถารา ทินฺนนเยน วีริยสมตํ ยาเชตฺวา ภาเวนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเตว ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ. เสเสสุปีติ สติสมาธิปฺินฺทฺริเยสุปิ.
สมตนฺติ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ อนูนาธิกภาวํ, ตถา สมาธิวีริยานฺจ. ยถา หิ สทฺธาปฺานํ วิสุํ วิสุํ ธุริยธมฺมภูตานํ กิจฺจโต อฺมฺนาติวตฺตนํ วิเสสโต อิจฺฉิตพฺพํ. ยโต เตสํ สมธุรตาย อปฺปนา สมฺปชฺชติ, เอวํ สมาธิวีริยานํ โกสชฺชุทฺธจฺจปกฺขิกานํ ¶ สมตาย สติ อฺมฺุปตฺถมฺภนโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนฺตทฺวยปาตาภาเวน สมฺมเทว อปฺปนา อิชฺฌตีติ. พลวสทฺโธติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส พฺยติเรกมุเขน สมตฺถนํ. ตสฺสตฺโถ – โย พลวติยา สทฺธาย สมนฺนาคโต อวิสทาโณ, โส มุธปฺปสนฺโน โหติ, น อเวจฺจปฺปสนฺโน. ตถา หิ โส อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ, เสยฺยถาปิ ติตฺถิยสาวกา. เกราฏิกปกฺขนฺติ สาเยฺยปกฺขํ ภชติ. สทฺธาหีนาย ปฺาย อติธาวนฺโต ‘‘เทยฺยวตฺถุปริจฺจาเคน วินา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ ทานมยํ ปฺุํ โหตี’’ติอาทีนิ ปริกปฺเปติ เหตุปติรูปเกหิ วฺจิโต, เอวํภูโต จ ลูขตกฺกวิลุตฺตจิตฺโต ปณฺฑิตานํ วจนํ นาทิยติ, สฺตฺตึ น คจฺฉติ. เตนาห ‘‘เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหตี’’ติ. ยถา เจตฺถ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ สมภาโว อตฺถาวโห, วิสมภาโว อนตฺถาวโห, เอวํ สมาธิวีริยานํ อฺมฺํ สมภาโว อตฺถาวโห, อิตโร อนตฺถาวโห, ตถา สมภาโว อวิกฺเขปาวโห, อิตโร วิกฺเขปาวโห. โกสชฺชํ อภิภวติ, เตน อปฺปนํ น ปาปุณาตีติ อธิปฺปาโย. เอส นโย อุทฺธจฺจํ อภิภวตีติ เอตฺถาปิ. ตทุภยนฺติ สทฺธาปฺาทฺวยํ สมาธิวีริยทฺวยฺจ. สมํ กาตพฺพนฺติ สมตํ กาตพฺพํ.
สมาธิกมฺมิกสฺสาติ สมถกมฺมฏฺานิกสฺส. เอวนฺติ เอวํ สนฺเต, สทฺธาย โถกํ พลวภาเว สตีติ อตฺโถ. สทฺทหนฺโตติ ‘‘ปถวี ปถวีติ มนสิการมตฺเตน ¶ กถํ ฌานุปฺปตฺตี’’ติ อจินฺเตตฺวา ‘‘อทฺธา สมฺพุทฺเธน วุตฺตวิธิ อิชฺฌตี’’ติ สทฺทหนฺโต สทฺธํ ชเนนฺโต. โอกปฺเปนฺโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนวเสน อวกปฺเปนฺโต ปกฺขนฺทนฺโต. เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ สมาธิปธานตฺตา ฌานสฺส. อุภินฺนนฺติ สมาธิปฺานํ. สมาธิกมฺมิกสฺส สมาธิโน อธิมตฺตตาย ปฺาย อธิมตฺตตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘สมตายปี’’ติ, สมภาเวนาปีติ อตฺโถ. อปฺปนาติ โลกิยอปฺปนา. ตถา หิ ‘‘โหติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ, โลกุตฺตรปฺปนา ปน เตสํ สมภาเวเนว อิจฺฉิตา. ยถาห ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐). ยทิ วิเสสโต สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมานตํ อิจฺฉติ, กถํ สตีติ อาห – ‘‘สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏตี’’ติ. สพฺพตฺถาติ ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเกสุ ปฺจินฺทฺริเยสุ. อุทฺธจฺจปกฺขิเกกเทเส คณฺหนฺโต ‘‘สทฺธาวีริยปฺาน’’นฺติ อาห. อฺถา ปีติ จ คเหตพฺพา สิยา. ตถา หิ ‘‘โกสชฺชปกฺขิเกน สมาธินา’’อิจฺเจว วุตฺตํ, น จ ‘‘ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาหี’’ติ. สาติ สติ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโตติ สพฺพกมฺมิโก. เตนาติ เยน การเณน สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา, เตน อาห อฏฺกถายํ. สพฺพตฺถ นิยุตฺตา สพฺพตฺถิกา ¶ , สพฺเพน วา ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเกน โพชฺฌงฺเคน อตฺเถตพฺพา สพฺพตฺถิยา, สพฺพตฺถิยาว สพฺพตฺถิกา. จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺตํ. ตสฺส หิ สติปฏิสรณํ ปรายณํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย. เตนาห – ‘‘อารกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติอาทิ.
ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานนฺติ ปริยตฺติพาหุสจฺจวเสนปิ ขนฺธายตนาทีสุ อปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ. พหุสฺสุตเสวนา หิ สุตมยาณาวหา. ตรุณวิปสฺสนาสมงฺคีปิ ภาวนามยาเณ ิตตฺตา เอกํสโต ปฺวา เอว นาม โหตีติ อาห – ‘‘สมปฺาส…เป… ปุคฺคลเสวนา’’ติ. เยฺยธมฺมสฺส คมฺภีรภาววเสน ตปฺปริจฺเฉทกาณสฺส คมฺภีรภาวคหณนฺติ อาห – ‘‘คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺายา’’ติ. ตฺหิ เยฺยํ ตาทิสาย ปฺาย จริตพฺพโต คมฺภีราณจริยํ, ตสฺสา วา ปฺาย ตตฺถ ปเภทโต ปวตฺติ คมฺภีราณจริยา, ตสฺสา ปจฺจเวกฺขณาติ อาห ‘‘คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา’’ติ. ยถา สติเวปุลฺลปฺปตฺโต นาม อรหา เอว, เอวํ โส เอว ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโตปีติ อาห ¶ ‘‘อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหตี’’ติ. วีริยาทีสุปิ เอเสว นโยติ.
‘‘ตตฺตํ อโยขิลํ หตฺเถ คเมนฺตี’’ติอาทินา วุตฺตปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณา นิรเย นิพฺพตฺตสตฺตสฺส สพฺพปมํ กโรนฺตีติ เทวทูตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๕๐), ตสฺสา อาทิโต วุตฺตตฺตา จ อาห – ‘‘ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺายา’’ติ. สกฏวหนาทิกาเลติ อาทิ-สทฺเทน ตทฺมนุสฺเสหิ ติรจฺฉาเนหิ จ วิพาธนียกาลํ สงฺคณฺหาติ. เอกํ พุทฺธนฺตรนฺติ อิทํ อปราปรํ เปเตสุ เอว อุปฺปชฺชนกสตฺตวเสน วุตฺตํ, เอกจฺจานํ วา เปตานํ, เอกจฺจติรจฺฉานานํ วิย ตถา ทีฆายุกตาปิ สิยาติ ตถา วุตฺตํ. ตถา หิ กาโล นาคราชา จตุนฺนํ พุทฺธานํ รูปทสฺสาวี.
เอวํ อานิสํสทสฺสาวิโนติ ‘‘วีริยายตฺโต เอว สกลโลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคโม’’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสนสีลสฺส. คมนวีถินฺติ สปุพฺพภาคํ นิพฺพานคามินึ ปฏิปทํ. สห วิปสฺสนาย อริยมคฺคปฏิปาฏิ, สตฺตวิสุทฺธิปรมฺปรา วา. สา หิ วฏฺฏโต นิยฺยานาย คนฺตพฺพา ปฏิปทาติ กตฺวา คมนวีถิ นาม.
กายทฬฺหีพหุโลติ กายสฺส โปสนปสุโต. ปิณฺฑนฺติ รฏฺปิณฺฑํ. ปจฺจยทายกานํ อตฺตนิ การสฺส อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา มหปฺผลภาวสฺส กรเณน ปิณฺฑาย ภิกฺขาย ปฏิปูชนา ปิณฺฑาปจายนา. นีหรนฺโตติ ปตฺตตฺถวิกโต นีหรนฺโต. ตํ สทฺทํ สุตฺวาติ ตํ อุปาสิกาย วจนํ ปณฺณสาลทฺวาเร ิโตว ปฺจาภิฺตาย ทิพฺพโสเตน สุตฺวาติ วทนฺติ. มนุสฺสสมฺปตฺติ, ทิพฺพสมฺปตฺติ ¶ , อนฺเต นิพฺพานสมฺปตฺตีติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย. สิตํ กโรนฺโตวาติ ‘‘อกิจฺเฉเนว มยา วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกนฺต’’นฺติ ปจฺจเวกฺขณาวสาเน สฺชาตปาโมชฺชวเสน สิตํ กโรนฺโต เอว.
อลสานํ ภาวนาย นามมตฺตมฺปิ อชานนฺตานํ กายสฺส โปสนพหุลานํ ยาวทตฺถํ ปริภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขาทึ อนุยฺุชนฺตานํ ติรจฺฉานกถิกานํ ทูรโตว วชฺชนํ กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนา. ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติอาทินา ภาวนารมฺภวเสน อารทฺธวีริยานํ ทฬฺหปรกฺกมานํ กาเลนกาลํ ¶ อุปสงฺกมนา อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนา. เตนาห ‘‘กุจฺฉึ ปูเรตฺวา’’ติอาทิ.
วิสุทฺธิมคฺเค ปน ‘‘ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณา’’ติ อิทํ ทฺวยํ น คหิตํ, ‘‘ถินมิทฺธวิโนทนตา, สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณา’’ติ อิทํ ทฺวยํ คหิตํ. ตตฺถ อานิสํสทสฺสาวิตาย เอว สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณา คหิตา โลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคมสฺส วีริยายตฺตตาทสฺสนภาวโต. ถินมิทฺธวิโนทนํ ตทธิมุตฺตตาย คหิตํ, วีริยุปฺปาทเน ยุตฺตปยุตฺตสฺส ถินมิทฺธวิโนทนํ อตฺถโต สิทฺธเมว. ตตฺถ ถินมิทฺธวิโนทนํ กุสีตปุคฺคลปริวชฺชน-อารทฺธวีริยปุคฺคล-เสวน- ตทธิมุตฺตตาปฏิปกฺขวิธมน-ปจฺจยูปสํหารวเสน, อปายภยปจฺจเวกฺขณาทโย สมุตฺเตชนวเสน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทกาติ ทฏฺพฺพา.
พุทฺธานุสฺสติยา อุปจารสมาธินิฏฺตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยาว อุปจารา’’ติ. สกลสรีรํ ผรมาโนติ ปีติสมุฏฺาเนหิ ปณีตรูเปหิ สกลสรีรํ ผรมาโน. ธมฺมสงฺฆคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสปิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชตีติ โยชนา. เอวํ เสสอนุสฺสตีสุ ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณาย จ โยเชตพฺพํ ตสฺสาปิ วิมุตฺตายตนภาเวน ตคฺคติกตฺตา. เอวรูเป กาเลติ ทุพฺภิกฺขภยาทีสูติ วุตฺตกาเล. สมาปตฺติยา…เป… น สมุทาจรนฺตีติ อิทํ อุปสมานุสฺสติยา วเสน วุตฺตํ. สงฺขารานฺหิ สปฺปเทสวูปสเมปิ นิปฺปเทสวูปสเม วิย ตตฺถ สปฺาย ปวตฺตนโต ภาวนามนสิกาโร กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺโถ หุตฺวา อุปจารสมาธึ อาวหนฺโต ตถารูปปีติโสมนสฺสสมนฺนาคโต ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ. ปสาทนีเยสุ าเนสุ ปสาทสิเนหาภาเวน สํสูจิตหทยตา ลูขตา. สา จ ตตฺถ อาทรคารวากรเณน วิฺายตีติ อาห ‘‘อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว’’ติ.
กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา ปสฺสทฺธิ เอว ยถาวุตฺตโพธิองฺคภูโต ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ¶ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. ปณีตโภชนเสวนตาติ ปณีตสปฺปายโภชนเสวนตา. อุตุอิริยาปถสุขคฺคหเณหิ สปฺปายอุตุอิริยาปถํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตฺหิ ติวิธมฺปิ สปฺปายํ เสวิยมานํ กายสฺส กลฺลตาปาทนวเสน จิตฺตสฺส กลฺลตํ ¶ อาวหนฺตํ ทุวิธายปิ ปสฺสทฺธิยา การณํ โหติ. สตฺเตสุ ลพฺภมานํ สุขทุกฺขํ อเหตุกนฺติ อยเมโก อนฺโต, อิสฺสราทิวิสมเหตุกนฺติ อยํ ทุติโย, เอเต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม ยถาสกํ กมฺมุนา โหตีติ อยํ มชฺฌิมา ปฏิปตฺติ. มชฺฌตฺโต ปโยโค ยสฺส โส มชฺฌตฺตปโยโค, ตสฺส ภาโว มชฺฌตฺตปโยคตา. อยฺหิ ปหานสารทฺธกายตา-สงฺขาตปสฺสทฺธกายตาย การณํ โหนฺตี ปสฺสทฺธิทฺวยํ อาวหติ. เอเตเนว สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชน-ปสฺสทฺธกายปุคฺคลเสวนานํ ตทาวหนตา สํวณฺณิตาติ ทฏฺพฺพํ.
วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา จ ‘‘ปฺาวหา’’ติ วุตฺตา. สมถาวหาปิ ตา โหนฺติ สมถาวหภาเวเนว ปฺาวหตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘วตฺถุวิสท…เป… เวทิตพฺพา’’ติ.
กรณโกสลฺลภาวนาโกสลฺลานํ นานนฺตริยภาวโต รกฺขณโกสลฺลสฺส จ ตํมูลกตฺตา ‘‘นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อติสิถิลวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคมนฺทตํ อปฺปมาทเวกลฺลฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส ปคฺคณฺหนนฺติ ตสฺส ลีนสฺส จิตฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน ลยาปตฺติโต สมุฏฺาปนํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุสมุฏฺาปยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, มุขวาตฺจ ทเทยฺย, น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุนฺติ. เอวํ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).
เอตฺถ จ ยถาสกํ อาหารวเสน ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา สมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพา, สา อนนฺตรํ วิภาวิตา เอว.
อจฺจารทฺธวีริยตาทีหีติ ¶ ¶ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคพลวตํ ปโมทุปฺปิลาวนฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส นิคฺคณฺหนนฺติ ตสฺส อุทฺธตสฺส จิตฺตสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน อุทฺธตาปตฺติโต นิเสธนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –
‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุวูปสมยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ….เป… ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ. เอวํ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).
เอตฺถาปิ ยถาสกํ อาหารวเสน ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา สมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนา วุตฺตา เอว, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส วุจฺจมานา, อิตรสฺส อนนฺตรํ วกฺขติ. ปฺาปโยคมนฺทตายาติ ปฺาพฺยาปารสฺส อปฺปภาเวน. ยถา หิ ทานํ อโลภปฺปธานํ, สีลํ อโทสปฺปธานํ, เอวํ ภาวนา อโมหปฺปธานา. ตตฺถ ยทา ปฺา น พลวตี โหติ, ตทา ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสาวหา น โหติ, อนภิสงฺขโต วิย อาหาโร ปุริสสฺส โยคิโน จิตฺตสฺส อภิรุจึ น อุปฺปาเทติ, เตน ตํ นิรสฺสาทํ โหติ. ตถา ภาวนาย สมฺมเทว วีถิปฏิปตฺติยา อภาเวน อุปสมสุขํ น วินฺทติ, เตนปิ จิตฺตํ นิรสฺสาทํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฺาปโยค…เป… นิรสฺสาทํ โหตี’’ติ.
ตสฺส สํเวคุปฺปาทนฺจ ปสาทุปฺปาทนฺจ ติกิจฺฉนนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฏฺ สํเวควตฺถูนี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติชราพฺยาธิมรณานิ ยถารหํ สุคติยํ ทุคฺคติยฺจ โหนฺตีติ ตทฺเมว ปฺจวิธพนฺธนาทิขุปฺปิปาสาทิอฺมฺวิพาธนาทิเหตุกํ อปายทุกฺขํ ทฏฺพฺพํ. ตยิทํ สพฺพํ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺนภวนิสฺสิตํ คหิตนฺติ อตีเต อนาคเต จ กาเล ¶ วฏฺฏมูลกทุกฺขานิ วิสุํ คหิตานิเยว. เย ปน สตฺตา อาหารูปชีวิโน ตตฺถ จ อุฏฺานผลูปชีวิโน, เตสํ อฺเหิ อสาธารณํ ชีวิกทุกฺขํ อฏฺมํ สํเวควตฺถุ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย สมฺปหํสนาติ อยํ สมฺปหํสิตพฺพสมเย วุตฺตนเยน สํเวคชนนวเสน เจว ปสาทุปฺปาทนวเสน จ สมฺมเทว ปหํสนา, สํเวคชนนปุพฺพกปสาทุปฺปาทเนน ภาวนาจิตฺตสฺส โตสนาติอตฺโถ.
สมฺมาปฏิปตฺตึ ¶ อาคมฺมาติ ลีนุทฺธจฺจวิรเหน สมถวีถิปฏิปตฺติยา จ สมฺมเทว ภาวนาปฏิปตฺตึ อาคมฺม.
อลีนนฺติอาทีสุ โกสชฺชปกฺขิกานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อลีนํ, อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ อนธิมตฺตตาย อนุทฺธตํ, ปฺาปโยคสมฺปตฺติยา อุปสมสุขาธิคเมน จ อนิรสฺสาทํ, ตโต เอว อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนฺจ. ตตฺถ อลีนตาย ปคฺคเห, อนุทฺธตาย จ นิคฺคเห, อนิรสฺสาทตาย สมฺปหํสเน น พฺยาปารํ อาปชฺชติ. อลีนานุทฺธจฺจตาหิ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ, อนิรสฺสาทตาย สมถวีถิปฏิปนฺนํ, สมปฺปวตฺติยา วา อลีนํ อนุทฺธตํ, สมถวีถิปฏิปตฺติยา อนิรสฺสาทนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย อชฺฌุเปกฺขนตาติ อยํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพสมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ พฺยาวฏตาสงฺขาตํ ปฏิปกฺขํ อภิภุยฺย อุเปกฺขนา วุจฺจติ. เอสาติ สมาธิโพชฺฌงฺโค อนุปฺปนฺโน อุปฺปชฺชติ. อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหตีติ เอเตน นิปฺปริยายโต สมาธิเวปุลฺลปฺปตฺโตปิ อรหา เอวาติ ทสฺเสติ.
อนุโรธวิโรธปหานวเสน มชฺฌตฺตภาโว อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส การณํ ตสฺมึ สติ สิชฺฌนโต, อสติ จ อสิชฺฌนโต, โส จ มชฺฌตฺตภาโว วิสยวเสน ทุวิโธติ อาห ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา สงฺขารมชฺฌตฺตตา’’ติ. ตทุภยวเสน จสฺส วิรุชฺฌนํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย เอว ทูรีกตนฺติ อนุรุชฺฌนสฺเสว ปหานวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา’’ติอาทิมาห. ตถา หิสฺส สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนํ ‘‘อุปฺปตฺติยา การณ’’นฺติ วุจฺจติ. อุเปกฺขาย หิ วิเสสโต ราโค ปฏิปกฺโข, ตโต ราคพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส อุเปกฺขา ‘‘วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ วุจฺจติ. ทฺวีหากาเรหีติ กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณํ อตฺตสฺุตาปจฺจเวกฺขณนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. ทฺวีเหวาติ อวธารณํ สงฺขารสหิตาย สงฺขฺยาสมานตาย ทสฺสนตฺถํ. สงฺขฺยา เอว เหตฺถ สมานํ, น ¶ สงฺขฺเยยฺยํ สพฺพถา สมานนฺติ. อสฺสามิกภาโว อนตฺตนิยตา. สติ หิ อตฺตนิ ตสฺส กิฺจนภาเวน จีวรํ อฺํ วา กิฺจิ อตฺตนิยํ นาม สิยา, โส ปน โกจิ นตฺเถวาติ อธิปฺปาโย. อนทฺธนิยนฺติ, น อทฺธานกฺขมํ, น จิรฏฺายิ อิตฺตรํ อนิจฺจนฺติ อตฺโถ. ตาวกาลิกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.
มมายตีติ มมตฺตํ กโรติ. มมาติ ตณฺหาย ปริคฺคยฺห ติฏฺติ. ธนายนฺตาติ ธนํ ทพฺพํ กโรนฺตา. อสฺสาติ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหติ. ตถา หิ อรหโต เอว ฉฬงฺคุเปกฺขานิปฺผตฺติ.
อสุภารมฺมณา ¶ ธมฺมาติ อสุภปฺปการา อสุภฌานสฺส อารมฺมณภูตา ธมฺมา. กามํ อินฺทฺริยพทฺธาปิ เกสาทโย อสุภปฺปการา เอว, วิเสสโต ปน ชิคุจฺฉิตพฺเพ ชิคุจฺฉาวเห คณฺหนฺโต ‘‘ทสา’’ติ อาห. ยถา มนสิกโรโต สภาวสรสโต ตตฺถ อสุภสฺา สนฺติฏฺติ, ตถา ปวตฺโต มนสิกาโร อุปายมนสิกาโร. อสุเภ อสุภปฏิกฺกูลาการสฺส อุคฺคณฺหนํ, ยถา วา ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตถา มนสิกาโร อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. อุปจารปฺปนาวหาย อสุภภาวนาย อนุยฺุชนา อสุภภาวนานุโยโค.
มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สุฏฺุ สุสํวรเณ สติ อวสรํ อลภนฺโต กามจฺฉนฺโท ปหียเตว, ตถา โภชเน มตฺตฺุโน มิตาหารสฺส ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามจฺฉนฺโท ปหียติ. โย ปน อาหาเร ปฏิกฺกูลสฺํ ตพฺพิปริณามสฺส ตทาธารสฺส ตสฺส จ อุทริยภูตสฺส อติวิย เชคุจฺฉตํ, กายสฺส จ อาหารติฏฺกตํ สมฺมเทว ชานาติ, โส สพฺพโส โภชเน ปมาณสฺส ชานเนน วิเสสโต โภชเน มตฺตฺู นาม. ตสฺส กามจฺฉนฺโท ปหียเตว, อฏฺกถายํ ปน อปฺปาหารตํเยว ทสฺเสตุํ ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถโร ทนฺตฏฺิทสฺสาวี. ปหีนสฺสาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนสฺส. อภิธมฺมปริยาเยน สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ ‘‘อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท’’ติ วุตฺตํ.
เมชฺชติ หิตผรณวเสน สินิยฺหตีติ มิตฺโต, หิเตสี ปุคฺคโล, ตสฺมึ มิตฺเต ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสาติ เมตฺตา, หิเตสิตา. สา เอว ปฏิปกฺขโต ¶ เจตโส วิมุตฺตีติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. ตตฺถ เมตฺตายนสฺส สตฺเตสุ หิตผรณสฺส อุปฺปาทนํ ปวตฺตนํ เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. เตนาห ‘‘โอทิสฺสกา’’ติอาทิ.
ตตฺถ อตฺตปิยสหายมชฺฌตฺตเวริวเสน โอทิสฺสกตา. สีมาสมฺเภเท กเต อโนทิสฺสกตา. เอกาทิทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคณฺหเน เวทิตพฺพา. อุคฺคโห ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ. อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา, สพฺพา อิตฺถิโย ปุริสา อริยา อนริยา เทวา มนุสฺสา วินิปาติกาติ สตฺโตธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา, อฏฺวีสติวิธา วา, ทสหิ ทิสาหิ ทิโสธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา, เอเกกาย ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถาทิอเวราทิเภเทน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา จ โอธิโสผรณเมตฺตา. สพฺเพ สตฺตา, ปาณา, ภูตา, ปุคฺคลา, อตฺตภาวปริยาปนฺนาติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา. เอเกกสฺมึ อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺชา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตูติ จตุธา ปวตฺติยา วีสติวิธา อโนธิโสผรณเมตฺตา, ตํ สนฺธายาห – ‘‘โอธิโส…เป… ภาเวนฺตสฺสปี’’ติ. ตฺวํ เอตสฺสาติอาทินา กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณํ ทสฺเสติ ¶ . ปฏิสงฺขาเน ิตสฺสาติ โกเธ ยถาวุตฺตสฺส อาทีนวสฺส ตปฺปฏิปกฺขโต อโกเธ เมตฺตาย อานิสํสสฺส จ ปฏิสงฺขาเน สมฺมเทว ชานเน. เสวนฺตสฺสาติ ภชนฺตสฺส พฺยาปาโท ปหียติ.
อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโหติ อาหารสฺส อธิกโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห, ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ, เอตฺตเก โน’’ติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคฺคาโหติ อตฺโถ. ทิวา สูริยาโลกนฺติ ทิวา คหิตนิมิตฺตํ สูริยาโลกํ, รตฺติยํ มนสิกโรนฺตสฺสปีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.
กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ เจตโส อวูปสมาวหตาย อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณเมวาติ ตทุภยสฺส ปหานการณํ ทสฺเสนฺโต ภควา – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, เจตโส วูปสโม’’ติอาทิมาห. ตสฺมา พาหุสจฺจาทิ ตสฺส ปหานการณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจ ฉ ธมฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต, อตฺถโต ธมฺมํ วิจาเรนฺตสฺส อตฺตเวทาทิปฏิลาภสมฺภวโต วิกฺเขโป น โหติ. ยถาวิหิตปฏิปตฺติยา ¶ ยถาธมฺมปฏิการปฺปตฺติยา จ วิปฺปฏิสาโร อนวสโรวาติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ…เป… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ วุตฺตํ. ยทคฺเคน พหุสฺสุตสฺส ปฏิสงฺขานวโต อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, ตทคฺเคน ปริปุจฺฉกตาวินยปกตฺุตาหิปิ ตํ ปหียตีติ ทฏฺพฺพํ. วุทฺธเสวิตา จ วุทฺธสีลิตํ อาวหตีติ เจตโส วูปสมกรตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานการี วุตฺตา, วุทฺธภาวํ ปน อนเปกฺขิตฺวา วินยธรา กุกฺกุจฺจวิโนทกา กลฺยาณมิตฺตาติ ทฏฺพฺพา. วิกฺเขโป จ ภิกฺขูนํ เยภุยฺเยน กุกฺกุจฺจเหตุโก โหตีติ ‘‘กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสา’’ติอาทินา วินยนเยเนว ปริปุจฺฉกตาทโย นิทฺทิฏฺา. ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. กุกฺกุจฺจสฺส โทมนสฺสสหคตตฺตา อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท วุตฺโต.
กุสลากุสลา ธมฺมาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. กามํ พาหุสจฺจปริปุจฺฉกตาหิ อฏฺวตฺถุกาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภา’’ติอาทิ. วินเย ปกตฺุตาย จ สติ สิกฺขาย กงฺขาย อสมฺภโว เอว, ตถา รตนตฺตยคุณาวโพเธ สติ ปุพฺพนฺตาทีสุ สํสยสฺสาติ อาห – ‘‘วินเย’’ติอาทิ. โอกปฺปนียสทฺธา สทฺเธยฺยวตฺถุํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนํ, ตฺจ ตถา อธิโมกฺขุปฺปาทนเมว. สทฺธาย นินฺนโปณปพฺภารตา อธิมุตฺติ. อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหิ สตฺตปิ โพชฺฌงฺเค วิตฺถาเรตฺวา เทสนาย โอสาปิตตฺตา.
อาหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปริยายสุตฺตวณฺณนา
๒๓๓. สมฺพหุลาติ ¶ วุจฺจนฺติ สงฺฆสมฺาย อภาวโต. ตโต ปรนฺติ ติณฺณํ ชนานํ อุปริ สงฺโฆ จตุวคฺคกรณียาทิสงฺฆกมฺมวเสน กมฺมปฺปตฺตตฺตา. ปวิสึสูติ ภาวินิ ปวิสเน ภูเต วิย กตฺวา อุปจาเรน วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปวิฏฺา’’ติ. ภาวินิ หิ ภูเต วิย อุปจาโร. เตนาห – ‘‘เต ปนา’’ติอาทิ, เต ปน ภิกฺขูติ อตฺโถ. ปุน เต ปนาติ ติตฺถิยา ติตฺถิยสาวกา จ.
อิมสฺมึ ¶ ปฺาปเนติ ‘‘ปฺจ นีวรเณ ปหายา’’ติอาทินยปฺปวตฺเต อิมสฺมึ ปกาเร อตฺถปฺาปเน. วิสิสฺสติ อฺมฺโต ปภิชฺชตีติ วิเสโส, เภโท. สฺวายํ อิธ อนฺโตคธาธิกภาโว อธิปฺเปโตติ อาห – ‘‘โก วิเสโสติ กึ อธิก’’นฺติ. อธิกํ ปยสนํ ปยฺุชนนฺติ อธิปฺปยาโส, อธิกปฺปโยโค. นานา กรียติ เอเตนาติ นานากรณํ, เภโทติ อาห – ‘‘กึ นานตฺต’’นฺติ. ทุติยปเทติ ‘‘อนุสาสนิยา วา อนุสาสนิ’’นฺติ เอตสฺมึ ปเท. เอเสว นโยติ ยถา ปมสฺมึ ปเท อตฺถโยชนา, เอวํ ทุติยปเทปิ โยเชตพฺพา.
ตีณิ านานีติ เทวมารพฺรหฺมฏฺานานิ ตีณิ ‘‘สเทวเก โลเก’’ติอาทินา โลเก ปกฺขิปิตฺวา. ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสายา’’ติ ทฺเว านานิ. ‘‘ปชายา’’ติ เอตฺถ ปกฺขิปิตฺวา อิติ ปฺจหิ ปเทหิ. อุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺพตํ. คณนนฺติ เอโก กามจฺฉนฺโทติ คเหตพฺพตํ คจฺฉติ. อตฺตโน หตฺถปาทาทีสูติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ สมุทายํ อารพฺภ ปฏิฆสฺส อุปฺปชฺชนโต. อตฺตโน ขนฺเธสุ วิมติ ‘‘อหํ นุ โขสฺมี’’ติอาทินา.
กิฺจาปิ สพฺพํ วีริยํ เจตสิกเมว, ยํ ปน กายกมฺมาธิฏฺานาทิวเสน มนสิ กายิกปโยคสมุฏฺาปนํ วีริยํ กายิกนฺติ ลทฺธปริยายนฺติ ตโต วิเสเสตฺวา เจตสิกนฺติ ยถาธิปฺเปตทุติยตาทสฺสนตฺถํ. ยทิปิ ยถากปฺปิตอิริยาปถสนฺธารณวเสน ปวตฺตมานํ วีริยํ กายสฺส ตถาปวตฺตสฺส ปจฺจยภูตนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตถาปิ น ตาทิโส กายปโยโค, ตทา ปวตฺโต นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘กายปโยคํ วินา อุปฺปนฺนวีริย’’นฺติ. สติสมฺโพชฺฌงฺคสทิโส วาติ อิมินา อชฺฌตฺติเก สงฺขาเร อชฺฌุเปกฺขนวเสน ปวตฺตา อชฺฌตฺตธมฺเมสุ อุเปกฺขาติอาทินยํ อติทิสติ.
‘‘มิสฺสกโพชฺฌงฺคา กถิตา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เอเตสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. จงฺกมนฺเตนปิ ¶ อริยมคฺคํ อธิคนฺตุํ สกฺกาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘มคฺคํ อปตฺตํ กายิกวีริย’’นฺติ. โพชฺฌงฺคา น ลพฺภนฺตีติ นิปฺปริยายโพชฺฌงฺคา น ลพฺภนฺตี. โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ ปริยายโตติ อธิปฺปาโย. เสสาติ พหิทฺธาธมฺเมสุ สติ-ธมฺมวิจย-อุเปกฺขา-เจตสิก-วีริย-สวิตกฺก-สวิจาร-ปีติ-สมาธี ทฺเว ปสฺสทฺธิโย จ. อยํ ปน นโย ปจุรปฺปวตฺติวเสน อฏฺกถานเยเนว ¶ วุตฺโต. เถรวาทวเสน ปน อวิตกฺกอวิจารมตฺตา ปีติสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคา รูปาวจราปิ อตฺถีติ เตปิ คเหตฺวา ทส มิสฺสกาว โหนฺตีติ วตฺตพฺพํ สิยาติ.
ปริยายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อคฺคิสุตฺตวณฺณนา
๒๓๔. โลณธูปนนฺติ โลณฺจ ธูปนฺจ โลณธูปนํ. โยธกมฺมนฺติ โยธปุคฺคเลน กตฺตพฺพํ กมฺมํ. มนฺตกมฺมนฺติ ราชกิจฺจมนฺตนํ. ปฏิหารกมฺมนฺติ รฺโ สนฺติกํ อาคตานํ วจนํ รฺโ นิเวเทตฺวา ตโต เนสํ ปฏิหรณกมฺมํ. ตสฺมาติ สพฺพตฺถิกตฺตา สติยา. เอวํ ‘‘สติฺจ ขฺวาห’’นฺติอาทิกํ อโวจ. ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคาว กถิตา ปคฺคหนิคฺคหวิโนทิตตฺตา.
อคฺคิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เมตฺตาสหคตสุตฺตวณฺณนา
๒๓๕. กีทิสา คติ นิพฺพตฺติ เอติสฺสาติ กึคติกา, กึนิฏฺาติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสี ปรมา อุตฺตมา โกฏิ เอติสฺสาติ กึปรมา. กีทิสํ ผลํ อานิสํสํ อุทโย เอติสฺสาติ กึผลา. สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตนฺติ อิทํ สหคต-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนมตฺตํ, อิธ ปน เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนาปุพฺพภาคโพชฺฌงฺคา จ ‘‘เมตฺตาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺค’’นฺติอาทินา วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ โพชฺฌงฺเคสุ สพฺเพสุ จ พฺรหฺมวิหาเรสุ.
ปฏิกูเลติ วิรชฺชตีติ ปฏิกูลํ, อนิฏฺํ. น ปฏิกูลํ อปฺปฏิกูลํ, อิฏฺํ. เตนาห ‘‘อิฏฺเ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ. เอตฺถาติ อปฺปฏิกูลวตฺถุสฺมึ. เอวนฺติ ปฏิกูลสฺี. สตฺเต อปฺปฏิกูเล อสุภผรณํ, สงฺขาเร อปฺปฏิกูเล อนิจฺจนฺติ มนสิการํ กโรนฺโต. อสุภายาติ อสุภสฺาย. อนิจฺจโต วา อุปสํหรตีติ อนิจฺจนฺติ มนสิการํ ปวตฺเตติ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อปฺปฏิกูลปฏิกูเลสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ฉฬงฺคุเปกฺขนฺติ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปหีนานุโรธสฺส อุปฺปตฺติยา ฉฬงฺควนฺตํ อุเปกฺขํ.
เมตฺตายาติ ¶ ¶ เมตฺตาภาวนาย. ปฏิกูลาทีสุ วตฺถูสุ อิจฺฉิตวิหาเรน วิหริตุํ สมตฺถตา อริยานํ เอว, ตตฺถ จ อรหโต เอว อิชฺฌนโต อริยิทฺธิ นาม. ตสฺสา อริยิทฺธิยา จ ทสฺสิตตฺตา เทสนา วินิวฏฺเฏตพฺพา ปริโยสาเนตพฺพา สิยา. อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ อินฺทฺริยานํ อปริปกฺกตฺตา นิกนฺติยา จ ทุปฺปริยาทานโต. อยํ เทสนาติ ‘‘เมตฺตาสหคตํ โพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา อยํ เทสนา อารทฺธา. โย หิ เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา สมฺมสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺโต ปริสุทฺเธสุ วณฺณกสิเณสุ วิโมกฺขสงฺขาตํ รูปาวจรชฺฌานํ นิพฺพตฺเตติ, ตํ สนฺธายาห ภควา – ‘‘สุภํ โข ปน วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
สุภปรมนฺติ สุภวิโมกฺขปรมํ. อิธ โลเก เอว ปฺา อสฺส. เตนาห ‘‘โลกิยปฺสฺสาติ อตฺโถ’’ติ. อรหตฺตปรมาว เมตฺตา อรหตฺตมคฺคสฺส ปาทกตฺตา. กรุณาทีสุปิ เอเสว นโยติ กรุณาทิฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ สกฺโกติ, ตสฺส อรหตฺถปรมา กรุณา โหติ, เอวํ มุทิตาอุเปกฺขาสุปิ วตฺตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. ปุน เทสนารมฺภปโยชนํ ปน ‘‘อิมินา นเยนา’’ติ เหฏฺา อติทิฏฺเมว.
สุภปรมาทิตาติ เมตฺตากรุณามุทิตาอุเปกฺขานํ สุภปรมตา อากาสานฺจายตนปรมตา, วิฺาณฺจายตนปรมตา, อากิฺจฺายตนปรมตา. ตสฺส ตสฺสาติ สุภวิโมกฺขสฺส เหฏฺา ติณฺณํ อรูปชฺฌานานฺจ ยถากฺกมํ อุปนิสฺสยตฺตา. อปฺปฏิกูลปริจยาติ อิฏฺารมฺมเณ มนสิการพหุลีการา. อปฺปกสิเรเนวาติ สุเขเนว. ตตฺถาติ วิสุทฺธตาย อิฏฺเสุ วณฺณกสิเณสุ. จิตฺตนฺติ ภาวนามยจิตฺตํ ปกฺขนฺทติ อปฺปนาวเสน. ตโต ปรนฺติ ตโต สุภวิโมกฺขโต ปรํ วิโมกฺขานํ อุปนิสฺสโย นาม น โหติ, เมตฺตาสหคตภาโว ทฏฺพฺโพ.
สตฺตทุกฺขํ สมนุปสฺสนฺตสฺสาติ ทณฺเฑน อภิหฏปฺปตฺตรูปเหตุํ สตฺเตสุ อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ าเณน วีมํสนฺตสฺส. ตยิทํ รูปนิมิตฺตกํ สตฺเตสุ อุปฺปชฺชนกํ ทุกฺขํ าเณน กรุณาวิหาริสฺส วิเสสโต ปกฺขนฺทตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อปฺปกสิเรเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตี’’ติ, น ปน สพฺพโส อรูเป อานิสํสทสฺสนโต.
วิฺาณํ ¶ สมนุปสฺสนฺตสฺสาติ อิทํ ปาโมชฺชคหณมุเขน ตนฺนิสฺสยวิฺาณสฺส คหณํ สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺตํ. วิฺาณคฺคหณปริจิตนฺติ วุตฺตนเยน วิฺาณคฺคหเณ ปริจิตํ.
อุเปกฺขาวิหาริสฺสาติ ¶ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารํ วิหรโต. อาโภคาภาวโตติ สุขาทิวเสน อาภุชนาภาวโต. สุข…เป… สมฺภวโตติ สุขทุกฺขาติ ปรมตฺถกมฺมคฺคหเณ วิมุขตาสมฺภวโต. อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขนฺติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานสตฺตปฺตฺติคหณปริจิตํ ตสฺส ตสฺส อภาวมตฺตกสฺส คหณมฺปิ ทุกฺขํ กุสลมฺปิ โหติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
เมตฺตาสหคตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา
๒๓๖. ปมฺเวาติ ปุเรตรํเยว. อสชฺฌายกตานํ มนฺตานํ อปฺปฏิภานํ ปเคว ปมํเยว สิทฺธํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ปริยุฏฺานํ นาม อภิภโว คหณนฺติ อาห – ‘‘กามราคปริยุฏฺิเตนาติ กามราคคหิเตนา’’ติ. วิกฺขมฺเภติ อปเนตีติ วิกฺขมฺภนํ, ปฏิปกฺขโต นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, วิกฺขมฺภนฺจ ตํ นิสฺสรณฺจาติ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ. เตนาห – ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อตฺตนา อรณิโย ปตฺตพฺโพ อตฺตตฺโถ, ตถา ปรตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทีสุ พฺยาปาทาทีนํ อนาคตตฺตา อพฺยาปาทวาเร ตทงฺคนิสฺสรณํ น คหิตํ. กิฺจาปิ น คหิตํ, ปฏิสงฺขานวเสน ปน ตสฺส วิโนเทตพฺพตาย ตทงฺคนิสฺสรณมฺปิ ลพฺภเตวาติ สกฺกา วิฺาตุํ. อาโลกสฺา อุปจารปฺปตฺตา, อปฺปนาปฺปตฺตา วา, โย โกจิ กสิณชฺฌานาทิเภโท สมโถ. ธมฺมววตฺถานํ อุปจารปฺปนาปฺปตฺตวเสน คเหตพฺพํ.
กุถิโตติ ตตฺโต. อุสฺมุทกชาโตติ ตสฺเสว กุถิตภาวสฺส อุสฺมุทกตํ อจฺจุณฺหตํ ปตฺโต. เตนาห ‘‘อุสุมชาโต’’ติ. ติลพีชกาทิเภเทนาติ ติลพีชกกณฺณิกเกสราทิเภเทน. เสวาเลน…เป… ปณเกนาติ อุทกปิจฺฉิเลน. อปฺปสนฺโน อากุลตาย. อสนฺนิสินฺโน ¶ กลลุปฺปตฺติยา. อนาโลกฏฺาเนติ อาโลกรหิเต าเน.
สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อภยสุตฺตวณฺณนา
๒๓๗. เอกํเสน ภควา นีวรณาติ เอกํสโต เอว ภควา เอเต ธมฺมา นีวรณา จิตฺเต กุสลปฺปวตฺติยา ¶ นีวรณโต. กายกิลมโถติ กายปริสฺสโม, โส ปน อฏฺุปฺปตฺติยา ปจฺจยตฺตา ‘‘ทรโถ’’ติ วุตฺโต. จิตฺตกิลมโถ ตปฺปจฺจยชาโต ทฏฺพฺโพ. เตนาห – ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ. จิตฺตทรโถปิ ปฏิปฺปสฺสมฺภีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. มคฺเคเนวาติ ยถาธิคเตน อริยมคฺเคเนว. อสฺสาติ อภยสฺส ราชกุมารสฺส. เอตํ กายจิตฺตทรถทฺวยํ.
อภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สากจฺฉวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อานาปานวคฺโค
๑. อฏฺิกมหปฺผลสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๓๘. อุปฺปนฺนสฺาติ สฺาสีเสน อุปจารชฺฌานํ วทติ. เตนาห ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิ. ฉวิจมฺมมฺปิ อุปฏฺาตีติ อิทํ สวิฺาณกํ อวิฺาณกมฺปิ กายสามฺโต คเหตฺวา วุตฺตํ. สติ วา อุปาทิเสเสติ เอตฺถ อุปาทิยติ อตฺตโน อารมฺมณํ คณฺหาตีติ อุปาทิ, อุปาทานํ, เอตสฺส เอกเทเส อปฺปหีเน สตีติ อตฺโถ.
อานาปานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นิโรธวคฺโค
๑-๑๐. อสุภสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๔๘-๒๕๗. อนภิรตินฺติ อนภิรมณํ อนเปกฺขิตํ. อจฺจนฺตนิโรธภูเต นิพฺพาเน ปวตฺตสฺา นิโรธสฺา. ตตฺถ สา มคฺคสหคตา โลกุตฺตรา ¶ , ยา ปน นิพฺพาเน นินฺนภาเวน ปวตฺตา, อุปสมานุสฺสติสหคตา จ, สา โลกิยาติ อาห – ‘‘นิโรธสฺา มิสฺสกา’’ติ. ‘‘เตสํ นวสู’’ติอาทิ ปมาทปาโ. ‘‘เอกาทสสุ อปฺปนา โหติ, นว อุปจารชฺฌานิกา’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. วีสติ กมฺมฏฺานานีติ อิทมฺปิ อิธาคตนโย, น วิสุทฺธิมคฺคาทีสุ อาคตนโย ¶ . เอตฺถ จ อารมฺมณาทีสุ ยถาโยคํ อปฺปนํ อุปจารํ วา ปาปุณิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคภูตา วิปสฺสนามคฺคโพชฺฌงฺคา กถิตา.
นิโรธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
โพชฺฌงฺคสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สติปฏฺานสํยุตฺตํ
๑. อมฺพปาลิวคฺโค
๑. อมฺพปาลิสุตฺตวณฺณนา
๓๖๗. เอกายนฺวายนฺติ ¶ ¶ สนฺธิวเสน วุตฺตํ โอ-การสฺส ว-การํ อ-การสฺส ทีฆํ กตฺวา. อยํ กิร สํยุตฺตาภิลาโป, ตตฺถ อยน-สทฺโท มคฺคปริยาโย. น เกวลํ อยเมว, อถ โข อฺเปิ มคฺคปริยายาติ ปทุทฺธารํ กโรนฺโต ‘‘มคฺคสฺส หี’’ติอาทึ วตฺวา ยทิ มคฺคปริยาโย อายน-สทฺโท, กสฺมา ปุน มคฺโคติ วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกมคฺโคติ เอโกว มคฺโค. น หิ นิพฺพานคามิมคฺโค อฺโ อตฺถีติ. นนุ สติปฏฺานํ อิธ มคฺโคติ อธิปฺเปตํ, ตทฺเปิ พหู มคฺคธมฺมา อตฺถีติ? สจฺจํ อตฺถิ, เต ปน สติปฏฺานคฺคหเณเนว คหิตา ตทวินาภาวโต. ตถา หิ าณวีริยาทโย นิทฺเทเส คหิตา, อุทฺเทเส สติยา เอว คหณํ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสนาติ ทฏฺพฺพํ, สติยา มคฺคภาวทสฺสนตฺถฺจ. น ทฺเวธาปถภูโตติ อิมินา อิมสฺส ทฺวยภาวาภาวํ วิย อนิพฺพานคามิภาวาภาวฺจ ทสฺเสติ. นิพฺพานคมนฏฺเนาติ นิพฺพานํ คจฺฉติ เอเตนาติ นิพฺพานคมนํ, โส เอว อวิปรีตภาวนาย อตฺโถ, เตน นิพฺพานคมนฏฺเน, นิพฺพานาธิคมูปายตายาติ อตฺโถ. มคฺคนียฏฺเนาติ คเวสิตพฺพตาย.
ราคาทีหีติ ‘‘ราโค มลํ, โทโส มลํ, โมโห มล’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) เอวํ วุตฺเตหิ ราคาทีหิ มเลหิ. สา ปนายํ สํกิลิฏฺจิตฺตานํ วิสุทฺธิ สิชฺฌมานา ยสฺมา โสกาทีนํ อนุปฺปาทาย สํวตฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกมายา’’ติอาทิ. ตตฺถ โสจนํ าติพฺยสนาทินิมิตฺตํ เจตโส สนฺตาโป อนฺโตนิชฺฌานํ โสโก. าติพฺยสนาทินิมิตฺตเมว โสกาธิกตาชนิโต ‘‘กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทินา ปริเทวนวเสน วาจาวิปฺปลาโป ปริเทวนํ ปริเทโว. ตสฺส อายตึ อนุปฺปชฺชนํ อิธ สมติกฺกโมติ อาห ‘‘ปหานายา’’ติ. ทุกฺขโทมนสฺสานนฺติ เอตฺถ เจตสิกทุกฺขตาย โทมนสฺสสฺสปิ ทุกฺขสทฺเทเนว คหเณ ¶ สิทฺเธ สทฺเทน อนิวตฺตนโต ¶ สามฺโชตนาย วิเสสวจนํ เสฏฺนฺติ ‘‘โทมนสฺสาน’’นฺเตว วุตฺตํ. เจตสิกโทมนสฺสสฺสาติ ภูตกถนํ ทฏฺพฺพํ. ายติ เอเตน ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌียติ จตุสจฺจนฺติ าโย วุจฺจติ อริยมคฺโค. นนุ อยมฺปิ มคฺโค, กึ มคฺโค เอว มคฺคสฺส อธิคมาย โหตีติ โจทนํ สนฺธายาห – ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ. ตณฺหาว กมฺมกิเลสวิปากานํ วินนฏฺเน สํสิพฺพนฏฺเน วานํ. เตน ตณฺหาวาเนน วิรหิตตฺตา ตสฺส อภาวาติ อตฺโถ. อตฺตปจฺจกฺขายาติ อตฺตปจฺจกฺขตฺถาย.
วณฺณภาสนนฺติ ปสํสาวจนํ. วิสุทฺธินฺติ วิสุชฺฌนํ กิเลสปฺปหานํ. อุคฺคเหตพฺพนฺติ เอตฺถ วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. ปริจยกรณํ ปริปุจฺฉามูลกตฺตา ตคฺคหเณเนว คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
น ตโต เหฏฺาติ อิธ อธิปฺเปตกายาทีนํ เวทนาทิสภาวตฺตาภาวา กายเวทนาจิตฺตวิมุตฺตสฺส เตภูมกธมฺมสฺส วิสุํ วิปลฺลาสวตฺถนฺตรภาเวน คหิตตฺตา จ เหฏฺา คหเณสุ วิปลฺลาสวตฺถูนํ อนิฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจมสฺส ปน วิปลฺลาสวตฺถุโน อภาเวน ‘‘น อุทฺธ’’นฺติ อาห. อารมฺมณวิภาเคน เหตฺถ สติปฏฺานวิภาโคติ. ตโย สติปฏฺานาติ สติปฏฺานสทฺทสฺส อตฺถุทฺธารทสฺสนํ, น อิธ ปาฬิยํ วุตฺตสฺส สติปฏฺานสทฺทสฺส อตฺถทสฺสนํ. อาทีสุ หีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, นามรูปสมุทยา จิตฺตสฺส สมุทโย, มนสิการสมุทยา ธมฺมานํ สมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สติปฏฺานาติ วุตฺตานํ สติโคจรานํ ปกาสเก สุตฺตปเทเส สงฺคณฺหาติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิยมฺปิ อวเสสปาฬิปเทสทสฺสนตฺโถ อาทิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. สติยา ปฏฺานนฺติ สติยา ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ.
อริโยติ อารกตฺตาทินา อริยํ สมฺมาสมฺพุทฺธมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สฬายตนวิภงฺคสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๑๑). ตตฺถ หิ –
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย…เป… มรหตีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย – ‘อิทํ โว ¶ หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย เสวติ…เป... มรหติ. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา ¶ …เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, น เจว อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อนตฺตมนตฺจ อตฺตมนตฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ สติปฏฺานํ…เป… มรหติ. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว,…เป… สุขายาติ, ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ สติปฏฺาน’’นฺติ –
เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตาย ตทุภยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. พุทฺธานํเยว หิ นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตา โหติ อาเวณิกธมฺมภาวโต, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนํ. ป-สทฺโท อารมฺภํ โชเตติ, อารมฺโภ จ ปวตฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ’’ติ. สติยา กรณภูตาย ปฏฺานํ ปฏฺเปตพฺพํ สติปฏฺานํ. อน-สทฺโท หิ พหุลวจเนน กมฺมตฺโถปิ โหตีติ.
ตถาสฺส กตฺตุอตฺโถปิ ลพฺภตีติ ‘‘ปติฏฺาตีติ ปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปฏฺาตีติ เอตฺถ อุป-สทฺโท ภุสตฺถวิสิฏฺํ ปกฺขนฺทนํ ทีเปตีติ ‘‘โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. ปุน ภาวตฺถํ สติสทฺทํ ปฏฺานสทฺทฺจ วณฺเณนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. เตน ปุริมวิกปฺเป สติ-สทฺโท ปฏฺาน-สทฺโท จ กตฺตุอตฺโถติ วิฺายติ. สรณฏฺเนาติ จิรกตสฺส จิรภาสิตสฺส จ อนุสฺสรณฏฺเน. อิทนฺติ ยํ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิทํ อิธ อิมสฺมึ สุตฺตปเทเส อธิปฺเปตํ.
ยทิ ¶ เอวนฺติ ยทิ สติ เอว สติปฏฺานํ, สติ นาม เอโก ธมฺโม, เอวํ สนฺเต กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘สตีนํ พหุตฺตา’’ติอาทิ. ยทิ พหุกา ตา สติโย, อถ กสฺมา มคฺโคติ เอกวจนนฺติ โยชนา. มคฺคนฏฺเนาติ นิยฺยานฏฺเน. นิยฺยานิโก หิ มคฺคธมฺโม, เตเนว นิยฺยานิกภาเวน เอกตฺตุปคโต เอกนฺตโต นิพฺพานํ คจฺฉติ, อตฺถิเกหิ จ ตทตฺถํ มคฺคียตีติ อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ จตสฺโสปิ เจตาติ กายานุปสฺสนาทิวเสน จตุพฺพิธาปิ จ เอตา สติโย. อปรภาเคติ อริยมคฺคกฺขเณ. กิจฺจํ สาธยมานาติ ปุพฺพภาเค กายาทีสุ อารมฺมเณสุ สุภสฺาทิวิธมนวเสน วิสุํ วิสุํ ปวตฺติตฺวา มคฺคกฺขเณ สกึเยว ¶ ตตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ วิปลฺลาสสฺส สมุจฺเฉทวเสน ปหานกิจฺจํ สาธยมานา อารมฺมณกรณวเสน นิพฺพานํ คจฺฉนฺติ, ตเมวสฺส จตุกิจฺจสาธนตํ อุปาทาย พหุวจนนิทฺเทโส, ตถาปิ อตฺถโต เภทาภาวโต มคฺโคติ เอกวจเนน วุจฺจติ. เตนาห – ‘‘ตสฺมา จตสฺโสปิ เอโก มคฺโคติ วุตฺตา’’ติ.
กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา อิตราสํ ปุจฺฉานํ อิธ อสมฺภวโต นิทฺเทสาทิวเสน เทเสตุกามตาย จ ตถา วุตฺตตฺตา. ‘‘อยฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูป’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗, ๒๙๗; ปารา. ๑๑) ขนฺธปฺจกํ, ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทีสุ เวทนาทโย ตโย อรูปกฺขนฺธา, ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย กายสฺส ปสฺสทฺธิ ปฏิปฺปสฺสทฺธี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๔๐) เวทนาทโย ตโย เจตสิกา ขนฺธา ‘‘กาโย’’ติ วุจฺจนฺติ, ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘กาเยติ รูปกาเย’’ติ อาห. กายานุปสฺสีติ เอตฺถ ตสฺสีลตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กายํ อนุปสฺสนสีโล’’ติ อาห. อนิจฺจโต อนุปสฺสตีติ จตุสมุฏฺานิกกายํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสติ, เอวํ ปสฺสนฺโต เอว จสฺส อนิจฺจาการมฺปิ อนุปสฺสตีติ วุจฺจติ, ตถาภูตสฺส จสฺส นิจฺจคาหสฺส วิเสโสปิ น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ. ตถา เหส ‘‘นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๘) วุตฺโต. เอตฺถ จ อนิจฺจโต เอว อนุปสฺสตีติ เอวกาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เตน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ วุตฺตํ. น เจตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนาทินิวตฺตนมาสงฺกิตพฺพํ ปฏิโยคินิวตฺตนปรตฺตา เอว-การสฺส, อุปริ เทสนาอารุฬฺหตฺตา จ ตาสํ. ทุกฺขโต อนุปสฺสตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา ¶ ตเมว กายํ ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, ทุกฺขสฺส อนตฺตตฺตา อนตฺตโต อนุปสฺสตีติ.
ยสฺมา ปน ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, น ตํ อภินนฺทิตพฺพํ, ยฺจ น อภินนฺทิตพฺพํ, น ตตฺถ รชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต, ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ, โน อตฺตโต, นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติ, วิรชฺชติ, โน รชฺชตี’’ติ. โส เอวํ อรชฺชนฺโต ราคํ นิโรเธติ, โน สมุเทติ, สมุทยํ น กโรตีติ อตฺโถ. เอวํ ปฏิปนฺโน จ ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติ. อยฺหิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนา ตทงฺควเสน สทฺธึ กายตนฺนิสฺสยขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลสานํ ปริจฺจชนโต สงฺขตโทสทสฺสเนน ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทนโต ‘‘ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จา’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา ตาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วุตฺตนเยน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพาเน จ ปกฺขนฺทติ, ตถาภูโต จ ปริจฺจชนวเสน กิเลเส ¶ น อาทิยติ, นาปิ อโทสทสฺสิตาวเสน สงฺขตารมฺมณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยตี’’ติ. อิทานิ นิสฺสิตาหิ อนุปสฺสนาหิ เยสํ ธมฺมานํ ปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิจฺจสฺนฺติ สงฺขารา นิจฺจาติ เอวํ ปวตฺตํ วิปรีตสฺํ. ทิฏฺิจิตฺตวิปลฺลาสปหานมุเขเนว สฺาวิปลฺลาสปฺปหานนฺติ สฺาคหณํ, สฺาสีเสน วา เตสมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
วิหรตีติ อิมินา กายานุปสฺสนาสมงฺคิโน อิริยาปถวิหาโร วุตฺโตติ อาห – ‘‘อิริยตี’’ติ, อิริยาปถํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. อารมฺมณกรณวเสน อภิพฺยาปนโต ‘‘ตีสุ ภเวสู’’ติ วุตฺตํ, อุปฺปชฺชนวเสน ปน กิเลสา ปริตฺตภูมกา เอวาติ. ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนนฺติ ตํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนมฺปิ อตฺเถว, อาตปฺป-สทฺโทวิย ปน อาตาป-สทฺโทปิ วีริเย เอว นิรุฬฺโหติ วุตฺตํ ‘‘วีริยสฺเสตํ นาม’’นฺติ. อถ วา ปฏิปกฺขปฺปหาเน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภุสฺสหนวเสน ปวตฺตมานสฺส วีริยสฺส สาติสยํ ตทาตาปนนฺติ วีริยเมว ตถา วุจฺจติ, น อฺเ ธมฺมา.
อาตาปีติ จายมีกาโร ปสํสาย, อติสยสฺส วา ทีปโกติ อาตาปีคหเณน สมฺมปฺปธานสมงฺคิตํ ทสฺเสติ. สมฺมา สมนฺตโต สามฺจ ปชานนฺโต สมฺปชาโน, อสมฺมิสฺสโต ววตฺถาเน อฺธมฺมานุปสฺสิตาภาเวน ¶ สมฺมา อวิปรีตํ, สพฺพาการปชานเนน สมนฺตโต, อุปรูปริ วิเสสาวหภาเวน ปวตฺติยา สามํ ปชานนฺโตติ อตฺโถ. ยทิ ปฺาย อนุปสฺสติ, กถํ สติปฏฺานตาติ อาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. ตสฺมา สติยา ลทฺธุปการาย เอว ปฺาย เอตฺถ ยถาวุตฺเต กาเย กมฺมฏฺานิโก ภิกฺขุ อนุปสฺสโก, ตสฺมา ‘‘กายานุปสฺสี’’ติ วุจฺจติ. อนฺโตสงฺเขโป อนฺโตลีนตา, โกสชฺชนฺติ อตฺโถ. อุปายปริคฺคโหติ เอตฺถ สีลวิโสธนาทิ คณนาทิ อุคฺคหโกสลฺลาทิ จ อุปาโย, ตพฺพิปริยายโต อนุปาโย เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ อุปฏฺิตสฺสตี ยถาวุตฺตํ อุปายํ น ปริจฺจชติ, อนุปายฺจ น อุปาทิยติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มุฏฺสฺสติ…เป… อสมตฺโถ โหตี’’ติ. เตนาติ อุปายานุปายานํ ปริคฺคหปริวชฺชเนสุ อปริจฺจาคาปริคฺคเหสุ จ อสมตฺถภาเวน. อสฺส โยคิโน.
ยสฺมา สติเยเวตฺถ สติปฏฺานํ วุตฺตา, ตสฺมาสฺส สมฺปยุตฺตธมฺมา วีริยาทโย องฺคนฺติ อาห – ‘‘สมฺปโยคงฺคฺจสฺส ทสฺเสตฺวา’’ติ. องฺค-สทฺโท เจตฺถ การณปริยาโย ทฏฺพฺโพ. สติคฺคหเณเนเวตฺถ สมฺมาสมาธิสฺสปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ ตสฺสา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตตฺตา. ยสฺมา วา สติสีเสนายํ ¶ เทสนา. น หิ เกวลาย สติยา กิเลสปฺปหานํ สมฺภวติ, นิพฺพานาธิคโม วา, นาปิ เกวลา สติ ปวตฺตติ, ตสฺมาสฺส ฌานเทสนายํ สวิตกฺกาทิวจนสฺส วิย สมฺปโยคงฺคทสฺสนตาติ องฺค-สทฺทสฺส อวยวปริยายตา ทฏฺพฺพา. ปหานงฺคนฺติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทีสุ วิย ปหาตพฺพงฺคํ ทสฺเสตุํ. ยสฺมา เอตฺถ ปุพฺพภาคมคฺโค อธิปฺเปโต, น โลกุตฺตรมคฺโค, ตสฺมา ปุพฺพภาคิยเมว วินยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา’’ติ อาห. อสฺสาติ โยคิโน. เตสํ ธมฺมานนฺติ เวทนาทิธมฺมานํ. เตสฺหิ ตตฺถ อนธิปฺเปตตฺตา ‘‘อตฺถุทฺธารนเยเนตํ วุตฺต’’นฺติ อาห. ยํ ปนาติ วิภงฺเค, วิภงฺคปกรเณติ อธิปฺปาโย. เอตฺถาติ ‘‘โลเก’’ติ เอตสฺมึ ปเท, ตา จ โลกิยา เอว อนุปสฺสนา นาม สมฺมสนนฺติ กตฺวา.
ทุกฺขโตติ วิปริณามสงฺขารทุกฺขตาหิ ทุกฺขสภาวโต, ทุกฺขาติ อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. โย สุขํ ¶ ทุกฺขโต อทฺทาติ โย ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ วิปริณามทุกฺขตาย ทุกฺขนฺติ ปฺาจกฺขุนา อทฺทกฺขิ. ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโตติ ทุกฺขเวทนํ ปีฬาชนนโต อนฺโตตุทนโต ทุนฺนีหรณโต จ สลฺลนฺติ อทฺทกฺขิ ปสฺสิ. อทุกฺขมสุขนฺติ อุเปกฺขาเวทนํ. สนฺตนฺติ สุขทุกฺขานํ วิย อโนฬาริกตาย ปจฺจยวเสน วูปสนฺตสภาวตฺตา จ สนฺตํ. อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวโต อุทยพฺพยวนฺตโต ตาวกาลิกโต นิจฺจปฏิกฺเขปโต จ อนิจฺจนฺติ โย อทฺทกฺขิ. ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขูติ โส ภิกฺขุ เอกํเสน, ปริพฺยตฺตํ วา เวทนาย สมฺมา ปสฺสนโกติ อตฺโถ.
ทุกฺขาติปีติ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขา อิติปิ. สพฺพํ ตํ เวทยิตํ ทุกฺขสฺมึ อนฺโตคธํ ปริยาปนฺนนฺติ วทามิ สงฺขารทุกฺขนฺติ วตฺตพฺพโต. สุขทุกฺขโตปิ จาติ สุขาทีนํ ิติวิปริณามาณสุขตาย จ วิปริณามฏฺิติอฺาณทุกฺขตาย จ วุตฺตตฺตา ติสฺโสปิ สุขโต ติสฺโสปิ จ ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ. สตฺต อนุปสฺสนา เหฏฺา ปกาสิตา เอว.
อารมฺมณา…เป… เภทานนฺติ รูปาทิอารมฺมณนานตฺตสฺส นีลาทิตพฺเภทสฺส, ฉนฺทาทิอธิปตินานตฺตสฺส หีนาทิตพฺเภทสฺส, าณฌานาทิสหชาตนานตฺตสฺส สสงฺขาริกาสงฺขาริก-สวิตกฺก-สวิจาราทิตพฺเภทสฺส, กามาวจราทิภูมินานตฺตสฺส, อุกฺกฏฺมชฺฌิมาทิตพฺเภทสฺส, กุสลาทิกมฺมนานตฺตสฺส, เทวคติสํวตฺตนิยตาทิตพฺเภทสฺส, กณฺหสุกฺกวิปากนานตฺตสฺส, ทิฏฺธมฺมเวทนียตาทิตพฺเภทสฺส, ปริตฺตภูมกาทิกิริยานานตฺตสฺส, ติเหตุกาทิตพฺเภทสฺส วเสน อนุปสฺสิตพฺพนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน สวตฺถุกาวตฺถุกาทินานตฺตสฺส ปุคฺคลตฺตยสาธารณาทิตพฺเภทสฺส ¶ จ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สราคาทีนนฺติ มหาสติปฏฺานสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๘๑; ม. นิ. ๑.๑๑๔) อาคตานํ สราควีตราคาทิเภทานํ. สลกฺขณ-สามฺลกฺขณานนฺติ ผุสนาทิตํตํสลกฺขณานฺเจว อนิจฺจตาทิสามฺลกฺขณานฺจ วเสนาติ โยชนา.
สฺุตธมฺมสฺสาติ อนตฺตตาสงฺขาตสฺุตสภาวสฺส. ‘‘สลกฺขณ-สามฺลกฺขณาน’’นฺติ หิ อิมินา โย อิโต พาหิรเกหิ สามินิวาสีการกเวทกอธิฏฺายกภาเวน ปริกปฺปิโต อตฺตา, ตสฺส สงฺขาเรสุ นิจฺจตา สุขตา วิย กตฺถจิปิ อภาโว วิภาวิโต. นตฺถิ เอเตสํ อตฺตาติ อนตฺตา, ยสฺมา ปน สงฺขาเรสุ เอกธมฺโมปิ อตฺตา ¶ น โหติ, ตสฺมา เต น อตฺตาติปิ อนตฺตาติ อยํ เตสํ สฺุตธมฺโม. ตสฺส สฺุตธมฺมสฺส, ยํ วิภาเวตุํ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๒๑) ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺตี’’ติอาทินา สฺุตวารเทสนา วุตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อมฺพปาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สติสุตฺตวณฺณนา
๓๖๘. สรตีติ สโต. อยํ ปน น ยาย กายจิ สติยา สโต, อถ โข เอทิสายาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กายาทิอนุปสฺสนาสติยา’’ติ อาห. จตุสมฺปชฺปฺายาติ จตุพฺพิธสมฺปชฺปฺาย, อภิกฺกมนํ อภิกฺกนฺตนฺติ อาห – ‘‘อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ คมน’’นฺติ. ตถา ปฏิกฺกมนํ ปฏิกฺกนฺตนฺติ วุตฺตํ – ‘‘ปฏิกฺกนฺตํ นิวตฺตน’’นฺติ. นิวตฺตนฺจ นิวตฺติมตฺตํ, นิวตฺติตฺวา ปน คมนํ คมนเมว. กายํ อภิหรนฺโต อภิคมนวเสน กายํ นาเมนฺโต. านนิสชฺชาสยเนสุ โย คมนาทิวิธินา กายสฺส ปุรโต อภิหาโร, โส อภิกฺกโม, ปจฺฉโต อปหรณํ ปฏิกฺกโมติ ทสฺเสนฺโต ‘‘าเนปี’’ติอาทิมาห. อาสนสฺสาติ ปีกาทิอาสนสฺส. ปุริมองฺคาภิมุโขติ อฏนิกาทิปุริมาวยวาภิมุโข. สํสรนฺโตติ สํสปฺปนฺโต. ปจฺจาสํสรนฺโตติ ปฏิอาสปฺปนฺโต. เอเสว นโยติ อิมินา สรีรสฺเสว อภิมุขสํสปฺปนปฏิอาสปฺปนานิ นิทสฺเสติ.
สมฺมา ปชานนํ สมฺปชานํ. เตน อตฺตนา กาตพฺพกิจฺจสฺส กรณสีโล สมฺปชานการีติ อาห – ‘‘สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี’’ติ. สมฺปชานเมว หิ สมฺปชฺํ. สมฺปชฺสฺเสว วา การีติ ¶ สมฺปชฺสฺเสว กรณสีโล. สมฺปชฺํ กโรเตวาติ อภิกฺกนฺตาทีสุ อสมฺโมหํ อุปฺปาเทติ เอว, สมฺปชานสฺเสว วา กาโร เอตสฺส อตฺถีติ สมฺปชานการี.
ธมฺมโต วฑฺฒิตสงฺขาเตน สห อตฺเถน วตฺตตีติ สาตฺถกํ, อภิกฺกนฺตาทิ, สาตฺถกสฺส สมฺปชานนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. สปฺปายสฺส อตฺตโน ¶ อุปการาวหสฺส หิตสฺส สมฺปชานนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ ภิกฺขาจารโคจเร, อฺตฺถาปิ จ ปวตฺเตสุ อวิชหิเต กมฺมฏฺานสงฺขาเต โคจเร สมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนเมว สมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ปริคฺคณฺหิตฺวาติ ตุลยิตฺวา ตีเรตฺวา, ปฏิสงฺขายาติ อตฺโถ. สงฺฆทสฺสเนเนว อุโปสถปวารณาทิอตฺถํ คมนํ สงฺคหิตํ. อสุภทสฺสนาทีติ อาทิ-สทฺเทน กสิณปริกมฺมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘เจติยํ ทิสฺวาปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อรหตฺตํ ปาปุณาตีติ อุกฺกฏฺนิทฺเทโส เอโส. สมถวิปสฺสนุปฺปาทนมฺปิ หิ ภิกฺขุโน วุทฺธิ เอว. ทกฺขิณทฺวาเรติ เจติยงฺคณสฺส ทกฺขิณทฺวาเร, ตถา ปจฺฉิมทฺวาเรติอาทีสุ. อภยวาปิ ปาฬิยนฺติ อภยวาปิยา ปุรตฺถิมตีเร.
พุทฺธวํส-อริยวํส-เจติยวํส-ทีปวํสาทิวํสกถนโต มหาอริยวํสภาณโก เถโร. ปฺายนฏฺาเนติ เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน. เอกปทุทฺธาเรติ ปทุทฺธารปติฏฺานปริวตฺตนํ อกตฺวา เอกสฺมึเยว อวฏฺาเน. เกจีติ อภยคิริวาสิโน.
ตสฺมึ ปนาติ สาตฺถกสมฺปชฺวเสน ปริคฺคหิตอตฺเถปิ คมเน. อตฺโถ นาม ธมฺมโต วฑฺฒีติ ยํ สาตฺถกนฺติ อธิปฺเปตํ คมนํ, ตํ สปฺปายเมวาติ สิยา กสฺสจิ อาสงฺกาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘เจติยทสฺสนํ ตาวา’’ติอาทิ อารทฺธํ. จิตฺตกมฺมรูปกานิ วิยาติ จิตฺตกมฺมกตา ปฏิมาโย วิย, ยนฺตปโยเคน วา วิจิตฺตกมฺมา ปฏิมาย สทิสา ยนฺตรูปกา วิย. อสมเปกฺขนํ เคหสฺสิตอฺาณุเปกฺขาวเสน อารมฺมเณ อโยนิโส โอโลกนาทิ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๓๐๘). หตฺถิอาทิสมฺมทฺเทน ชีวิตนฺตราโย. วิสภาครูปทสฺสนาทินา พฺรหฺมจริยนฺตราโย.
ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ อนุวตฺตนกถา อาจิณฺณา, อนนุวตฺตนกถา ปน ตสฺสา อปรา ทุติยา นาม โหตีติ อาห – ‘‘ทฺเว กถา นาม น กถิตปุพฺพา’’ติ. เอวนฺติ อิมินา ¶ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิกํ สพฺพมฺปิ วุตฺตาการํ ปจฺจามสติ, น ‘‘ปุริสสฺส มาตุคามาสุภ’’นฺติอาทิกํ วุจฺจมานํ.
โยคกมฺมสฺส ¶ ปวตฺติฏฺานตาย ภาวนาย อารมฺมณํ กมฺมฏฺานํ วุจฺจตีติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานสงฺขาตํ โคจร’’นฺติ. อุคฺคเหตฺวาติ ยถา อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุคฺคหโกสลฺลสฺส สมฺปาทนวเสน อุคฺคเหตฺวา.
หรตีติ กมฺมฏฺานํ ปวตฺเตติ, ยาว ปิณฺฑปาตปฏิกฺกมา อนุยฺุชตีติ อตฺโถ. น ปจฺจาหรตีติ อาหารูปโภคโต ยาว ทิวาฏฺานุปสงฺกมนา กมฺมฏฺานํ น ปฏิเนติ. สมาทาย วตฺตติ สมฺมา อาทิยิตฺวา เตสํ วตฺตานํ ปริปูรณวเสน วตฺตติ. สรีรปริกมฺมนฺติ มุขโธวนาทิสรีรปฏิชคฺคนํ. ทฺเว ตโย ปลฺลงฺเกติ ทฺเว ตโย นิสชฺชาวาเร ทฺเว ตีณิ อุณฺหาสนานิ. เตนาห – ‘‘อุสุมํ คาหาเปนฺโต’’ติ. กมฺมฏฺานสีเสเนวาติ กมฺมฏฺานมุเขเนว กมฺมฏฺานํ อวิชหนฺโต เอว. เตน ‘‘ปตฺโตปิ อเจตโน’’ติอาทินา ปวตฺเตตพฺพกมฺมฏฺานํ, ยถาปริหริยมานํ วา กมฺมฏฺานํ อวิชหิตฺวาติ ทสฺเสติ. ตเถวาติ ติกฺขตฺตุเมว. ปริโภคเจติยโต สรีรเจติยํ ครุตรนฺติ กตฺวา ‘‘เจติยํ วนฺทิตฺวา’’ติ เจติยวนฺทนาย ปมํ กรณียตา วุตฺตา. ตถา หิ อฏฺกถายํ – ‘‘เจติยํ พาธยมานา โพธิสาขา หริตพฺพา’’ติ วุตฺตา. พุทฺธคุณานุสฺสรณวเสเนว โพธิฺจ ปณิปาตกรณนฺติ อาห – ‘‘พุทฺธสฺส ภควโต สมฺมุขา วิย นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา’’ติ. คามสมีเปติ คามสฺส อุปจารฏฺาเน.
ชนสงฺคหณตฺถนฺติ ‘‘มยิ อกเถนฺเต เอเตสํ โก กเถสฺสตี’’ติ ธมฺมานุคฺคเหน ชนสงฺคหณตฺถํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘ธมฺมกถา นาม กเถตพฺพา เอวา’’ติ อฏฺกถาจริยา วทนฺติ, ยสฺมา จ ธมฺมกถา กมฺมฏฺานวินิมุตฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา. กมฺมฏฺานสีเสเนวาติ อตฺตนา ปริหริยมานํ กมฺมฏฺานํ อวิชหนฺโต ตทนุคุณํเยว ธมฺมกถํ กเถตฺวา. อนุโมทนํ กตฺวาติ เอตฺถาปิ ‘‘กมฺมฏฺานสีเสเนวา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. สมฺปตฺตปริจฺเฉเทเนวาติ ปริจิโต อปริจิโตติอาทิวิภาคํ อกตฺวา สมฺปตฺตโกฏิยา เอว, สมาคมมตฺเตเนวาติ อตฺโถ. ภเยติ ปรจกฺกาทิภเย.
กมฺมชเตโชติ คหณึ สนฺธายาห. กมฺมฏฺานวีถึ นาโรหติ ขุทาปริสฺสเมน กิลนฺตกายตฺตา สมาธานาภาวโต. อวเสสฏฺาเนติ ยาคุยา ¶ อคฺคหิตฏฺาเน. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ กมฺมฏฺานุปฏฺานสฺส ¶ อวิจฺเฉท-ทสฺสนเมตํ, ยถา โปงฺขานุโปงฺขํ ปวตฺตาย สรปฏิปาฏิยา อนวิจฺเฉโท, เอวเมตสฺสปิ กมฺมฏฺานุปฏฺานสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
นิกฺขิตฺตธุโร ภาวนานุโยเค. วตฺตปฏิปตฺติยา อปูรเณน สพฺพวตฺตานิ ภินฺทิตฺวา. กาเม อวีตราโค โหติ. กาเย อวีตราโค. รูเป อวีตราโค. ยาวทตฺถํ อุทราวเทหํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ. อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๐; ม. นิ. ๑.๑๘๖) เอวํ วุตฺตํ ปฺจวิธเจโตวินิพนฺธจิตฺโต. จริตฺวาติ ปวตฺติตฺวา.
คตปจฺจาคติกวตฺตวเสนาติ ภาวนาสหิตํเยว ภิกฺขาย คตปจฺจาคตํ คมนปจฺจาคมนํ เอตสฺส อตฺถีติ คตปจฺจาคติกํ, ตเทว วตฺตํ, ตสฺส วเสน. อตฺตโน หิตสุขํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อตฺตกามา, ธมฺมจฺฉนฺทวนฺโต. ‘‘ธมฺโม’’ติ หิ หิตํ ตํนิมิตฺตกฺจ สุขนฺติ. อถ วา วิฺูนํ ธมฺมานํ อตฺตนิยตฺตา อตฺตภาวปริจฺฉนฺนตฺตา จ อตฺตา นาม ธมฺโม. เตนาห ภควา – ‘‘อตฺตทีปา, ภิกฺขเว, วิหรถ อตฺตสรณา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๔๓). ตํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อตฺตกามา. อุสภํ นาม วีสติ ยฏฺิโย. ตาย สฺายาติ ตาย ปาสาณสฺาย, ‘‘เอตฺตกํ านมาคตา’’ติ ชานนฺตาติ อธิปฺปาโย. โส เอว นโย อยํ ภิกฺขูติอาทิโก โย าเน วุตฺโต, โส เอว นิสชฺชายปิ นโย. ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตานํ ฉินฺนภตฺตภาวภเยนปิ โยนิโสมนสิการํ ปริพฺรูเหติ.
มทฺทนฺตาติ ธฺกรณฏฺาเน สาลิสีสานิ มทฺทนฺตา. มหาปธานํ ปูเชสฺสามีติ อมฺหากํ อตฺถาย โลกนาเถน ฉ วสฺสานิ กตํ ทุกฺกรจริยํ เอวาหํ ยถาสตฺติ ปูเชสฺสามีติ. ปฏิปตฺติปูชา หิ สตฺถุปูชา, น อามิสปูชาติ. านจงฺกมเมวาติ อธิฏฺาตพฺพอิริยาปถกาลวเสน วุตฺตํ, น โภชนาทิกาเลสุ อวสฺสํ กาตพฺพนิสชฺชาย ปฏิกฺเขปวเสน.
วีถึ โอตริตฺวา อิโต จิโต อโนโลเกตฺวา ปมเมว วีถิโย สลฺลกฺเขตพฺพาติ อาห ‘‘วีถิโย สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ. ยํ สนฺธาย ¶ วุจฺจติ – ‘‘ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตนา’’ติอาทิ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาหาเร ปฏิกูลสฺํ อุปฏฺเปตฺวาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อฏฺงฺคสมนฺนาคตนฺติ ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; ๒.๒๔; ๓.๗๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙) วุตฺเตหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กตฺวา. เนว ทวายาติอาทิ ปน ปฏิกฺเขปทสฺสนํ.
ปจฺเจกโพธึ ¶ สจฺฉิกโรติ, ยทิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหตีติ สมฺพนฺโธ. อิทฺจ ยถา เหฏฺา ตีสุ าเนสุ, เอวํ อิโต ปเรสุ าเนสุ อุปเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถ ปจฺเจกโพธิยา อุปนิสฺสยสมฺปทา กปฺปานํ ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ สตสหสฺสฺจ ตชฺชํ ปฺุาณสมฺภารสมฺภรณํ, สาวกโพธิยํ อคฺคสาวกานํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ กปฺปสตสหสฺสฺจ, มหาสาวกานํ กปฺปสตสหสฺสเมว ตชฺชํ สมฺภารสมฺภรณํ, อิตเรสํ อตีตาสุ ชาตีสุ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสยวเสน นิพฺพตฺติตํ นิพฺเพธภาคิยํ กุสลํ. พาหิโย ทารุจีริโยติ พาหิยวิสเย ชาตสํวทฺธตาย พาหิโย, ทารุจีรปริหรเณน ทารุจีริโยติ ลทฺธสมฺโ. โส หิ อายสฺมา ‘‘ตสฺมาติห เต, พาหิย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติอาทิวสปฺปวตฺเตน (อุทา. ๑๐) สํขิตฺเตเนว โอวาเทน ขิปฺปตรํ วิเสสํ อธิคจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ขิปฺปาภิฺโ วา โหติ เสยฺยถาปิ เถโร พาหิโย ทารุจีริโย’’ติ. เอวํ มหาปฺโ วาติอาทีสุ ยถารหํ วตฺตพฺพนฺติ.
ตนฺติ อสมฺมุยฺหนํ. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานาการทสฺสนํ. อตฺตา อภิกฺกมตีติ อิมินา อนฺธปุถุชฺชนสฺส ทิฏฺิคฺคาหวเสน อภิกฺกเม สมฺมุยฺหนํ ทสฺเสติ, อหํ อภิกฺกมามีติ ปน อิมินา มานคฺคาหวเสน, ตทุภยํ ปน ตณฺหาย วินา น โหตีติ ตณฺหาคฺคาหวเสนปิ สมฺมุยฺหนํ ทสฺสิตเมว โหติ, ‘‘ตถา อสมฺมุยฺหนฺโต’’ติ วตฺวา ตํ อสมฺมุยฺหนํ เยน ฆนวินิพฺโภเคน โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิกฺกมามีติ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา วาโยธาตุยา อนุคตา เตโชธาตุ อุทฺธรณสฺส ปจฺจโย. อุทฺธรณคติกา หิ เตโชธาตูติ อุทฺธรเณ วาโยธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตสฺมา อิมาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ ธาตูนํ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเกกปาทุทฺธรเณ…เป… พลวติโย’’ติ อาห. ยสฺมา ปน เตโชธาตุยา อนุคตา ¶ วาโยธาตุ อติหรณวีติหรณานํ ปจฺจโย. ติริยคติกาย หิ วาโยธาตุยา อติหรณวีติหรเณสุ สาติสโย พฺยาปาโรติ เตโชธาตุยา ตสฺสานุคตภาโว, ตสฺมา อิมาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา อติหรณวีติหรเณสู’’ติ อาห. สติปิ อนุคมนานุคนฺตพฺพตาวิเสเส เตโชธาตุวาโยธาตุภาวมตฺตํ สนฺธาย ตถา-สทฺทคฺคหณํ.
ตตฺถ อกฺกนฺตฏฺานโต ปาทสฺส อุกฺขิปนํ อุทฺธรณํ, ิตฏฺานํ อติกฺกมิตฺวา ปุรโต หรณํ อติหรณํ. รุกฺขขาณุอาทิปริหรณตฺถํ, ปติฏฺิตปาทฆฏฺฏนปริหรณตฺถํ วา ปสฺเสน หรณํ วีติหรณํ. ยาว ปติฏฺิตปาโท, ตาว อาหรณํ อติหรณํ, ตโต ปรํ หรณํ วีติหรณนฺติ อยํ วา เอเตสํ วิเสโส. ยสฺมา ปถวีธาตุยา อนุคตา อาโปธาตุ โวสฺสชฺชนสฺส ปจฺจโย. ครุตรสภาวา หิ อาโปธาตูติ โวสฺสชฺชเน ปถวีธาตุยา ตสฺสานุคตภาโว, ตสฺมา ตาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ ¶ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โวสฺสชฺชเน…เป… พลวติโย’’ติ. ยสฺมา ปน อาโปธาตุยา อนุคตา ปถวีธาตุ สนฺนิกฺเขปนสฺส ปจฺจโย. ปติฏฺาภาเว วิย ปติฏฺาปเนปิ ตสฺสา สาติสยกิจฺจตฺตา อาโปธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตถา ฆฏฺฏนกิริยาย ปถวีธาตุยา วเสน สนฺนิรุมฺภนสฺส สิชฺฌนโต ตตฺถาปิ ปถวีธาตุยา อาโปธาตุอนุคตภาโว, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ตถา สนฺนิกฺเขปนสนฺนิรุมฺภเนสู’’ติ.
ตตฺถาติ ตสฺมึ อภิกฺกมเน, เตสุ วา วุตฺเตสุ อุทฺธรณาทีสุ ฉสุ โกฏฺาเสสุ. อุทฺธรเณติ อุทฺธรณกฺขเณ. รูปารูปธมฺมาติ อุทฺธรณากาเรน ปวตฺตา รูปธมฺมา ตํสมุฏฺาปกา อรูปธมฺมา จ. อติหรณํ น ปาปุณนฺติ ขณมตฺตาวฏฺานโต. ตตฺถ ตตฺเถวาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปนฺนา, ตตฺถ ตตฺเถว. น หิ ธมฺมานํ เทสนฺตรสงฺกมนํ อตฺถิ. ปพฺพํ ปพฺพนฺติอาทิ อุทฺธรณาทิโกฏฺาเส สนฺธาย สภาคสนฺตติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อติอิตฺตโร หิ รูปธมฺมานมฺปิ ปวตฺติกฺขโณ, คมนสฺสาทานํ เทวปุตฺตานํ เหฏฺุปริยาเยน ¶ ปฏิมุขํ ธาวนฺตานํ สิรสิ ปาเท จ พทฺธขุรธาราสมาคมโตปิ สีฆตโร. ยถา ติลานํ ภชฺชิยมานานํ ตฏตฏายเนน เภโท ลกฺขียติ, เอวํ สงฺขตธมฺมานํ อุปฺปาเทนาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ตฏตฏายนฺตา’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปนฺนา หิ เอกนฺตโต ภิชฺชนฺตีติ.
สทฺธึ รูเปนาติ อิทํ ตสฺส ตสฺส จิตฺตสฺส นิโรเธน สทฺธึ นิรุชฺฌนกรูปธมฺมวเสน วุตฺตํ, ยํ ตโต สตฺตรสมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ. อฺถา ยทิ รูปารูปธมฺมา สมานกฺขณา สิยุํ, ‘‘รูปํ ครุปริณามํ ทนฺธนิโรธ’’นฺติอาทิวจเนหิ วิโรโธ สิยา. ตถา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ลหุปริวตฺตํ, ยถยิทํ จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘) เอวมาทิปาฬิยา จ. จิตฺตเจตสิกา หิ สารมฺมณสภาวา ยถาพลํ อตฺตโน อารมฺมณปจฺจยภูตมตฺถํ วิภาเวนฺตาเยว อุปฺปชฺชนฺตีติ เตสํ ตํสภาวนิปฺผตฺติอนนฺตรํ นิโรโธ, รูปธมฺมา ปน อนารมฺมณา ปกาเสตพฺพา. เอวํ เตสํ ปกาเสตพฺพภาวนิปฺผตฺติ โสฬสหิ จิตฺเตหิ โหตีติ ตงฺขณายุกตา เตสํ อิจฺฉิตา, ลหุกวิฺาณสฺส วิสยสงฺคติมตฺตปจฺจยตาย ติณฺณํ ขนฺธานํ, วิสยสงฺคติมตฺตตาย จ วิฺาณสฺส ลหุปริวตฺติตา, ทนฺธมหาภูตปจฺจยตาย รูปธมฺมานํ ทนฺธปริวตฺติตา. นานาธาตุยา ยถาภูตาณํ โข ปน ตถาคตสฺเสว, เตน จ ปุเรชาตปจฺจโย รูปธมฺโมว วุตฺโต, ปจฺฉาชาตปจฺจโย จ ตสฺเสวาติ รูปารูปธมฺมานํ สมานกฺขณตา น ยุชฺชเตว, ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อฺํ ¶ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ, อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌตีติ ยํ ปุริมุปฺปนฺนํ จิตฺตํ, ตํ อฺํ, ตํ ปน นิรุชฺฌนฺตํ อปรสฺส อนนฺตราทิปจฺจโย หุตฺวา เอว นิรุชฺฌตีติ ตถาลทฺธปจฺจยํ อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ. ยทิ เอวํ เตสํ อนฺตโร ลพฺเภยฺยาติ, โนติ อาห ‘‘อวีจิมนุปพนฺโธ’’ติ. ยถา วีจิ อนฺตโร น ลพฺภติ, ‘‘ตเทเวต’’นฺติ อวิเสสวิทู มฺนฺติ, เอวํ อนุ อนุ ปพนฺโธ จิตฺตสนฺตาโน รูปสนฺตาโน จ นทีโสโตว นทิยํ อุทกปฺปวาโห วิย วตฺตติ.
อภิมุขํ โลกิตํ อาโลกิตนฺติ อาห ‘‘ปุรโตเปกฺขน’’นฺติ. ยสฺมา ยํทิสาภิมุโข คจฺฉติ ติฏฺติ นิสีทติ วา, ตทภิมุขํ เปกฺขนํ อาโลกิตํ ¶ , ตสฺมา ตทนุคตํ วิทิสาโลกนํ วิโลกิตนฺติ อาห ‘‘วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขน’’นฺติ. สมฺมชฺชนปริภณฺฑาทิกรเณ โอโลกิตสฺส, อุลฺโลกาหรณาทีสุ อุลฺโลกิตสฺส, ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตสฺส ปริสฺสยสฺส ปริวชฺชนาทิวเสน อปโลกิตสฺส จ สิยา สมฺภโวติ อาห – ‘‘อิมินา วา มุเขน สพฺพานิปิ ตานิ คหิตาเนวา’’ติ.
กายสกฺขินฺติ กาเยน สจฺฉิกตวนฺตํ, ปจฺจกฺขการินนฺติ อตฺโถ. โสหายสฺมา วิปสฺสนากาเล เอว ‘‘ยเมวาหํ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ นิสฺสาย สาสเน อนภิรติอาทิวิปฺปการํ ปตฺโต, ตเมว สุฏฺุ นิคฺคเหสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต พลวหิโรตฺตปฺโป, ตตฺถ จ กตาธิการตฺตา อินฺทฺริยสํวเร อุกฺกํสปารมิปฺปตฺโต, เตเนว นํ สตฺถา – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานํ ยทิทํ นนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๓๐) เอตทคฺเค เปสิ.
สาตฺถกตา จ สปฺปายตา จ เวทิตพฺพา อาโลกิตวิโลกิตสฺสาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ตสฺมาติ กมฺมฏฺานาวิชหนสฺเสว โคจรสมฺปชฺภาวโตติ วุตฺตเมวตฺถํ เหตุภาเวน ปจฺจามสติ. อตฺตโน กมฺมฏฺานวเสเนว อาโลกนวิโลกนํ กาตพฺพํ, ขนฺธาทิกมฺมฏฺานิเกหิ อฺโ อุปาโย น คเวสิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา อาโลกิตาทิสมฺาปิ ธมฺมมตฺตสฺเสว ปวตฺติวิเสโส, ตสฺมา ตสฺส ยาถาวโต ปชานนํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อพฺภนฺตเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสนาติ กิริยมยจิตฺตสมุฏฺานวาโยธาตุยา จลนาการปวตฺติวเสน. อโธ สีทตีติ โถกํ โอตรติ. อุทฺธํ ลงฺเฆตีติ ลงฺฆนฺตํ วิย อุปริ คจฺฉติ.
องฺคกิจฺจํ สาธยมานนฺติ ปธานภูตํ องฺคกิจฺจํ นิปฺผาเทนฺตํ, อุปปตฺติภวสฺส สรีรํ หุตฺวาติ อตฺโถ. ปมชวเนปิ…เป… สตฺตมชวเนปิ น โหตีติ อิทํ ปฺจทฺวารวิฺาณวีถิยํ ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ ¶ รชฺชนาทีนํ อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ อาวชฺชนโวฏฺพฺพนานํ อโยนิโส อาวชฺชนโวฏฺพฺพนวเสน อิฏฺเ อิตฺถิรูปาทิมฺหิ โลภมตฺตํ, อนิฏฺเ ปฏิฆมตฺตํ อุปฺปชฺชติ. มโนทฺวาเร ปน ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิ โหติ, ตสฺส ปฺจทฺวารชวนํ มูลํ, ยถาวุตฺตํ ¶ วา สพฺพํ ภวงฺคาทิ. เอวํ มโนทฺวารชวนสฺส มูลภูตธมฺมปริชานนวเสเนว มูลปริฺา วุตฺตา, อาคนฺตุกตาวกาลิกตา ปน ปฺจทฺวารชวนสฺเสว อปุพฺพภาววเสน เจว อิตฺตรภาววเสน จ วุตฺตา. เหฏฺุปริยวเสน ภิชฺชิตฺวา ปติเตสูติ เหฏฺิมสฺส อุปริมสฺส จ อปราปรํ ภงฺคปฺปตฺติมาห.
ตนฺติ ชวนํ. ตสฺส ชวนสฺส น ยุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อาคนฺตุโก อพฺภาคโต. อุทยพฺพยปริจฺฉินฺโน ตาวตโก กาโล เอเตสนฺติ ตาวกาลิกานิ.
เอตํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. สมวาเยติ สามคฺคิยํ. ตตฺถาติ ปฺจกฺขนฺธวเสน อาโลกนวิโลกเน ปฺายมาเน ตพฺพินิมุตฺโต – โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ. อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อิทํ สุตฺตนฺตนเยน ปริยายโต วุตฺตํ. สหชาตปจฺจโยติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ อฺมฺสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตาทิปจฺจยานมฺปิ ลพฺภนโต.
กาเลติ สมิฺชิตุํ ยุตฺตกาเล สมิฺชนฺตสฺส, ตถา ปสาเรตุํ ยุตฺตกาเล ปสาเรนฺตสฺส. ‘‘มณิสปฺโป นาม เอกา สปฺปชาตี’’ติ วทนฺติ. ลฬนนฺติ กมฺปนํ, ลีฬากรณํ วา.
อุณฺหปกติโก ปริฬาหพหุลกาโย. สีลสฺส วิทูสเนน อหิตาวหตฺตา มิจฺฉาชีววเสน อุปฺปนฺนํ อสปฺปายํ. ‘‘จีวรมฺปิ อเจตน’’นฺติอาทินา จีวรสฺส วิย กาโยปิ อเจตโนติ กายสฺส อตฺตสฺุตาวิภาวเนน ‘‘อพฺภนฺตเร’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปริทีเปนฺโต อิตรีตรสนฺโตสสฺส การณํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ.
จตุปฺจคณฺิกาหโตติ อาหตจตุปฺจคณฺิโก, จตุปฺจคณฺิกาหิ วา หตโสโภ.
อฏฺวิโธปิ อตฺโถติ อฏฺวิโธปิ ปโยชนวิเสโส. มหาสิวตฺเถรวาทวเสน ‘‘อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต ทฏฺพฺโพ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘เนว ทวายาติอาทินา นเยนา’’ติ ปน อิทํ ปฏิกฺเขปงฺคทสฺสนมุเขน ปาฬิ อาคตาติ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ปถวีสนฺธารกชลสฺส ¶ ¶ ตํสนฺธารกวายุนา วิย ปริภุตฺตสฺส อาหารสฺส วาโยธาตุยาว อาสเย อวฏฺานนฺติ อาห – ‘‘วาโยธาตุวเสเนว ติฏฺตี’’ติ. อติหรตีติ ยาว มุขา อภิหรติ. วีติหรตีติ ตโต กุจฺฉิยํ วิมิสฺสํ กโรนฺโต หรติ. อติหรตีติ วา มุขทฺวารํ อติกฺกาเมนฺโต หรติ. วีติหรตีติ กุจฺฉิคตํ ปสฺสโต หรติ. ปริวตฺเตตีติ อปราปรํ จาเรติ. เอตฺถ จ อาหารสฺส ธารณปริวตฺตนสฺจุณฺณนวิโสสนานิ ปถวีธาตุสหิตา เอว วาโยธาตุ กโรติ, น เกวลาติ ตานิ ปถวีธาตุยา กิจฺจภาเวน วุตฺตานิ, สา เอว ธารณาทีนิ กิจฺจานิ กโรนฺตสฺส สาธารณาติ วุตฺตานิ. อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลตีติ ยถา วาโยธาตุอาทีหิ อฺเหิ วิโสสนํ น โหติ, ตถา อนุปาเลติ อลฺลภาวํ. เตโชธาตูติ คหณีสงฺขาตา เตโชธาตุ. สา หิ อนฺโตปวิฏฺํ อาหารํ ปริปาเจติ. อฺชโส โหตีติ อาหารสฺส ปวิสนาทีนํ มคฺโค โหติ. อาภุชตีติ ปริเยสนวเสน, อชฺโฌหรณชิณฺณาชิณฺณตาทิปฏิสํเวทนวเสน จ อาวชฺเชติ, วิชานาตีติ อตฺโถ. ตํตํวิชานนสฺส ปจฺจยภูโตเยว หิ ปโยโค ‘‘สมฺมาปโยโค’’ติ วุตฺโต. เยน หิ ปโยเคน ปริเยสนาทิ นิปฺผชฺชติ, โส ตพฺพิสยวิชานนมฺปิ นิปฺผาเทติ นาม ตทวินาภาวโต. อถ วา สมฺมาปโยคํ สมฺมาปฏิปตฺตึ อนฺวาย อาคมฺม อาภุชติ สมนฺนาหรติ. อาโภคปุพฺพโก หิ สพฺโพปิ วิฺาณพฺยาปาโรติ ตถา วุตฺตํ.
คมนโตติ ภิกฺขาจารวเสน โคจรคามํ อุทฺทิสฺส คมนโต. ปริเยสนโตติ โคจรคาเม ภิกฺขตฺถํ อาหิณฺฑนโต. ปริโภคโตติ อาหารสฺส ปริภฺุชนโต. อาสยโตติ ปิตฺตาทิอาสยโต. อาสยติ เอตฺถ เอกชฺฌํ ปวตฺตมาโนปิ กมฺมพลววตฺถิโต หุตฺวา มริยาทวเสน อฺมฺํ อสงฺกรโต สยติ ติฏฺติ ปวตฺตตีติ อาสโย, อามาสยสฺส อุปริ ติฏฺนโก ปิตฺตาทิโก. มริยาทตฺโถ หิ อยมากาโร. นิเธติ ยถาภุตฺโต อาหาโร นิจิโต หุตฺวา ติฏฺติ เอตฺถาติ นิธานํ, อามาสโย, ตโต นิธานโต. อปริปกฺกโตติ คหณีสงฺขาเตน กมฺมชเตเชน อวิปกฺกโต. ปริปกฺกโตติ ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปกฺกภาวโต. ผลโตติ นิปฺผตฺติโต. นิสฺสนฺทโตติ อิโต จิโต จ วิสฺสนฺทนโต ¶ . สมฺมกฺขนโตติ สพฺพโส มกฺขนโต. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาย (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๒๙๔) คเหตพฺโพ.
สรีรโต เสทา มุจฺจนฺตีติ เวคสนฺธารเณน อุปฺปนฺนปริฬาหโต สรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ. อฺเ จ โรคา กณฺณสูลภคนฺทราทโย. อฏฺาเนติ มนุสฺสามนุสฺสปริคฺคเห อยุตฺตฏฺาเน เขตฺตเทวายตนาทิเก. กุทฺธา หิ มนุสฺสา อมนุสฺสาปิ วา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ. วิสฺสฏฺตฺตา เนว ตสฺส ¶ ภิกฺขุโน อตฺตโน, กสฺสจิ อนิสฺสชฺชิตตฺตา ชิคุจฺฉนียตฺตา จ น ปรสฺส, อุทกตุมฺพโตติ เวฬุนาฬิอาทิอุทกภาชนโต. ตนฺติ ฉฑฺฑิตอุทกํ.
เอตฺถ จ เอโก อิริยาปโถ ทฺวีสุ าเนสุ อาคโต, โส ปุพฺเพ อภิกฺกมปฏิกฺกมคหเณน. ‘‘คมเนปิ ปุรโต ปจฺฉโต จ กายสฺส อภิหรณํ วุตฺตนฺติ อิธ คมนเมว คหิต’’นฺติ อปเร. ยสฺมา อิธ สมฺปชฺกถายํ อสมฺโมหสมฺปชฺเมว ธุรํ, ตสฺมา อนฺตรนฺตเร อิริยาปเถ ปวตฺตานํ รูปารูปธมฺมานํ ตตฺถ ตตฺเถว นิโรธทสฺสนวเสน สมฺปชานการิตา คหิตาติ. มชฺฌิมภาณกา ปน เอวํ วทนฺติ – เอโก หิ ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต, อฺํ วิตกฺเกนฺโต คจฺฉติ, เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว คจฺฉติ, ตถา เอโก ติฏฺนฺโต, นิสีทนฺโต, สยนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต, อฺํ วิตกฺเกนฺโต สยติ, เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยติ. เอตฺตเกน ปน น ปากฏํ โหตีติ จงฺกมเนน ทีเปนฺติ. โย ภิกฺขุ จงฺกมนํ โอตริตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ิโต ปริคฺคณฺหาติ – ‘‘ปาจีนจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตาปิ ปาจีนจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, จงฺกมนมชฺเฌ ปวตฺตา อุโภ โกฏิโย อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, จงฺกมเน ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา านํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, าเน ปวตฺตา นิสชฺชํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, นิสชฺชาย ปวตฺตา สยนํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ปริคฺคณฺหนฺโต เอว จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตาเรติ, อุฏฺหนฺโต ปน กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว อุฏฺหติ. อยํ ภิกฺขุ คตาทีสุ สมฺปชานการี นาม โหตีติ.
เอวมฺปิ ¶ สุตฺเต กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ โหติ, กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ น กาตพฺพํ, ตสฺมา โส ภิกฺขุ ยาว สกฺโกติ, ตาว จงฺกมิตฺวา ตฺวา นิสีทิตฺวา สยมาโน เอวํ ปริคฺคเหตฺวา สยติ – ‘‘กาโย อเจตโน มฺโจ อเจตโน, กาโย น ชานาติ ‘อหํ มฺเจ สยิโต’ติ, มฺโจปิ น ชานาติ ‘มยิ กาโย สยิโต’ติ, อเจตโน กาโย อเจตเน มฺเจ สยิโต’’ติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต เอว จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตาเรติ, ปพุชฺฌนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว ปพุชฺฌตีติ อยํ สุตฺเต สมฺปชานการี นาม โหติ. กายิกาทิกิริยานิพฺพตฺตเนน ตมฺมยตฺตา อาวชฺชนกิริยานิพฺพตฺตกตฺตา อาวชฺชนกิริยาสมุฏฺิตตฺตา จ ชวนํ, สพฺพมฺปิ วา ฉทฺวารปฺปวตฺตํ กิริยามยปวตฺตํ นาม, ตสฺมึ สติ ชาคริตํ นาม โหตีติ ปริคฺคณฺหนฺโต ชาคริเต สมฺปชานการี นาม. อปิจ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ปฺจ โกฏฺาเส ชคฺคนฺโตปิ ชาคริเต สมฺปชานการี นาม โหตีติ.
วิมุตฺตายตนสีเส ¶ ตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโตปิ พาตฺตึสติรจฺฉานกถํ ปหาย ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตสปฺปายกถํ กเถนฺโตปิ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม โหติ. อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิยํ อารมฺมณํ มนสิการํ ปวตฺเตนฺโตปิ ทุติยชฺฌานํ สมาปนฺโนปิ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นาม. ทุติยฺหิ ฌานํ วจีสงฺขารปฺปหานโต วิเสสโต ตุณฺหีภาโว นามาติ. โอฏฺเ จาติอาทีสุ จ-สทฺเทน กณฺสีสนาภิอาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตทนุรูปํ ปโยคนฺติ ตสฺส อุปฺปตฺติยา อนุจฺฉวิกํ จิตฺตสฺส ปวตฺติอาการสฺิตํ ปโยคํ, ยโต สพฺเพ วิจาราทโย นิปฺผชฺชนฺติ. อุปาทารูปปวตฺติยาติ วิฺตฺติวิการสหิตสทฺทายตนุปฺปตฺติยา. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. สตฺตสุปิ าเนสุ อสมฺมุยฺหนวเสน ‘‘มิสฺสก’’นฺติ วุตฺตํ. มคฺคสมฺมาสติยาปิ กายานุปสฺสนาทิอนุรูปตฺตา สมฺปชฺานุรูปปุพฺพภาคํ สตฺตฏฺานิยสฺส เอกนฺตโลกิยตฺตา.
สติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา
๓๖๙. ยสฺมา โส ภิกฺขุ ‘‘เทเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺม’’นฺติ สํขิตฺเตน ธมฺมเทสนํ ยาจิ, ตสฺส สํขิตฺตรุจิภาวโต, ตสฺมา สํขิตฺเตเนว ¶ ธมฺมํ เทเสตุกาโม ภควา ‘‘ตสฺมาติหา’’ติอาทิมาหาติ วุตฺตํ – ‘‘ยสฺมา สํขิตฺเตน เทสนํ ยาจสิ, ตสฺมา’’ติ. กมฺมสฺสกตาทิฏฺิกสฺเสว โลกิยโลกุตฺตรคุณวิเสสา อิชฺฌนฺติ, น ทิฏฺิวิปนฺนสฺส, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺีติ กมฺมสฺสกตาทิฏฺี’’ติ.
๔. สาลสุตฺตวณฺณนา
๓๗๐. ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายทุกฺเข อปาตนวเสน ธารณฏฺเน ธมฺโม, สาสนพฺรหฺมจริยํ, ตเทว ตทงฺคาทิวเสน กิเลสานํ วินยนฏฺเน วินโยติ อาห – ‘‘ธมฺโมติ วา…เป… นาม’’นฺติ. ปฏิปกฺขธมฺเมหิ อนภิภูตตาย เอโก อุเทตีติ เอโกทีติ ลทฺธนาโม สมาธิ ภูโต ชาโต เอเตสนฺติ เอโกทิภูตา. เอตฺถ จ เอโกทิภูตาติ เอเตน อุปจารชฺฌานาวโห ปุพฺพภาคิโก สมาธิ วุตฺโต. สมาหิตาติ เอเตน อุปจารปฺปนาสมาธิ. เอกคฺคจิตฺตาติ เอเตน สุภาวิโต วสิปฺปตฺโต อปฺปนาสมาธิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. นวกภิกฺขูหิ ภาวิตสติปฏฺานา ปุพฺพภาคา. เต หิ ยถาภูตาณาย ภาวิตา. ยถาภูตาณนฺติ หิ โสตาปตฺติมคฺคาณํ อิธาธิปฺเปตํ. ขีณาสเวหิ ภาวิตสติปฏฺานาปิ ปุพฺพภาคา. เตสฺหิ กตกรณียานํ ¶ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สติปฏฺานภาวนา, เสกฺขานํ ปน สติปฏฺานภาวนา ปริฺตฺถาย ปวตฺตา โลกิยา, ปริชานนวเสน ปวตฺตา โลกุตฺตราติ ‘‘มิสฺสกา’’ติ วุตฺตํ.
๕. อกุสลราสิสุตฺตวณฺณนา
๓๗๑. ปฺจเม เกวโลติ กุสลธมฺเมหิ อสมฺมิสฺโส, ตโต เอว สกโล สุกฺกปกฺโข อนวชฺชฏฺโ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
๖. สกุณคฺฆิสุตฺตวณฺณนา
๓๗๒. ปากติกสกุณกุเลสุ พลวภาวโต เตสํ หนนโต สกุณคฺฆิ. เสโนติ วุตฺตํ ‘‘เสนสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ, เสนวิเสโส ปน โส เวทิตพฺโพ. อามิสตฺถาย ปตฺตตฺตา ‘‘โลภสาหเสน ปตฺตา’’ติ วุตฺตํ, โลภนิมิตฺเตน สาหสากาเรน ปตฺตาติ อตฺโถ. นงฺคเลน กฏฺํ กสิตํ นงฺคลกฏฺํ, ตํ กรียติ เอตฺถาติ นงฺคลกฏฺกรณนฺติ ¶ อาห – ‘‘อธุนา กฏฺํ เขตฺตฏฺาน’’นฺติ. เลฑฺฑุโย ติฏฺนฺติ เอตฺถาติ เลฑฺฑุฏฺานํ, เลฑฺฑุนิมิตฺตํ กสิตฏฺานํ. วชฺชตีติ วทํ, วจนํ. กุจฺฉิตํ วทํ อวทํ. ครหเน หิ อยํ อ-กาโร ยถา – ‘‘อปุตฺโต อภริยา’’ติ. อวทํ มาเนตีติ อวทมานา, อตฺตโน พลมเทน ลาปํ อติมฺิตฺวา วทนฺตีติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘คจฺฉ โข, ตฺวํ ลาป, ตตฺรปิ เม คนฺตฺวา น โมกฺขสี’’ติ. ยํ ปน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน พลสฺส สุฏฺุ วณฺณํ วทมานา’’ติ, ตตฺถ อตฺตโต อาปนฺนํ คเหตฺวา วุตฺตํ. ‘‘วทมาโน’’ติ วา ปาโ, สารมฺภวเสน อวฺหายนฺโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอหิ โข ทานิ สกุณคฺฆี’’ติ. สุฏฺุ เปตฺวาติ ชิยามุตฺตสรสฺส วิย สีฆปาตโยคฺยตากรเณน อุโภ ปกฺเข สมฺมา เปตฺวา. อยนฺติ สกุณคฺฆิ. ตฺวาติ ยถาภูตทสฺสเนน อตฺตโน าเณน ชานิตฺวา. ผาลียิตฺถาติ ผาลจฺเฉทติขิณสิขเร สุกฺขเลฑฺฑุสฺมึ ภิชฺชิตฺถ.
๗. มกฺกฏสุตฺตวณฺณนา
๓๗๓. สฺจาโรติ สฺจรณํ. เลปนฺติ สิเลสสทิสํ อาเลปนํ. กาชสิกฺกา วิยาติ กาชทณฺฑเก โอลคฺเคตพฺพา สิกฺกา วิย. อปิจ จตสฺโส รชฺชุโย อุปริ พนฺธนฏฺานฺจาติ ปฺจฏฺานํ. โอฑฺฑิโตติ โอลมฺพิโต. ถุนนฺโตติ นิตฺถุนนฺโต.
๘. สูทสุตฺตวณฺณนา
๓๗๔. อาหารสมฺปาทเนน ¶ ตํตํอาหารวตฺถุคเต สูเทติ ปคฺฆเรตีติ สูโท, ภตฺตการโก. ทหเรหิ มนาปตรํ อจฺเจตพฺพโต อติกฺกมิตพฺพโต อจฺจยา, โภชเน รสวิเสสา, ตสฺมา นานจฺจเยหีติ นานปฺปการรสวิเสเสหีติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ ‘‘นานจฺจเยหี’’ติอาทิ. อคฺคียติ อสงฺกรโต วิภชียตีติ อคฺโค, อมฺพิลเมว อคฺโค อมฺพิลคฺโคติ อาห – ‘‘อมฺพิลคฺเคหีติ อมฺพิลโกฏฺาเสหี’’ติ. ทาตุํ อภิหริตพฺพตาย อภิหารา, เทยฺยธมฺมา. เตนาห – ‘‘อภิหฏานํ ทายาน’’นฺติ. อิทํ เม กมฺมฏฺานํ อนุโลมํวาติ อิทํ มม กมฺมฏฺานํ เอวํ ปวตฺตมานํ อนุโลมาวสานเมว หุตฺวา ติฏฺติ. เอวํ ปุน ปวตฺตมานํ ¶ อุสฺสกฺกิตฺวา วิเสสนิพฺพตฺตนตฺถเมว โหตีติ เอวํ นิมิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ พาโล อพฺยตฺโต, ปณฺฑิโต ปน สกฺโกติ. อตฺตโน จิตฺตสฺสาติ อตฺตโน ภาวนาจิตฺตสฺส. ปุพฺพภาควิปสฺสนา สติปฏฺานาว กถิตา ‘‘สกสฺส จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาตี’’ติ วุตฺตตฺตา.
๙. คิลานสุตฺตวณฺณนา
๓๗๕. ปาทคาโมติ นครสฺส ปทสทิโส มหนฺตคาโม. เตเนวาห ‘‘เวสาลิยํ วิหรติ เวฬุวคามเก’’ติ. อหิตนิเสธน-หิตนิโยชน-พฺยสนปริจฺจชน-ลกฺขโณ มิตฺตภาโว เยสุ อตฺถิ, เต มิตฺตา. เย ปน ทิฏฺมตฺตสหายา, เต สนฺทิฏฺา. เย สวิเสสํ ภตฺติมนฺโต, เต สมฺภตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มิตฺตาติ มิตฺตาวา’’ติอาทิมาห. อสฺสาติ ภควโต. ปฺจมิยํ อฏฺมิยํ จาตุทฺทสิยํ ปฺจทสิยนฺติ เอเกกสฺมึ ปกฺเข จตฺตาโร วาเร กตฺวา มาสสฺส อฏฺวาเร.
เวทนานํ พลวภาเวน ขโร ผรุโส กกฺขโฬ. อาพาโธติ ปุพฺพกมฺมเหตุตาย กมฺมสมุฏฺาโน อาพาโธ สงฺขารทุกฺขตาสงฺขาโต สพฺพกาลิกตฺตา สรีรสฺส สภาคโรโค นาม. นายมีทิโส อาพาโธ, อยํ ปน พหลตรพฺยาธิตาย ‘‘วิสภาคโรโค’’ติ วุตฺโต. อนฺต-สทฺโท สมีปปวตฺโตติ อาห – ‘‘มรณนฺตํ มรณสนฺติก’’นฺติ. เวทนา…เป… อกโรนฺโต อุกฺกํสคตภาวิตกายาทิตาย. อปีฬิยมาโนติ อปีฬิยมาโน วิย. โอวาทเมว ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปโลกนนฺติ อาห – ‘‘โอวาทานุสาสนึ อทตฺวาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปุพฺพภาควีริยํ นาม ผลสมาปตฺติยา ปริกมฺมภูตวิปสฺสนาวีริยํ. ชีวิตมฺปิ ชีวิตสงฺขาโร ปติตุํ อทตฺวา อตฺตภาวสฺส อภิสงฺขรณโต.
‘‘เอตฺตกํ ¶ กาลํ อติกฺกมิตฺวา วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ขณปริจฺเฉทวตี สมาปตฺติ ขณิกสมาปตฺติ. นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ กตฺวาติ รูปสตฺตการูปสตฺตกวเสน ปวตฺติยมานํ วิปสฺสนาภาวนํ สพฺพโส ขิลวิรเหน นิคฺคุมฺพํ, อพฺยากุลตาย นิชฺชฏํ กตฺวา. มหาวิปสฺสนาวเสนาติ ปจฺเจกํ สวิเสสํ วิตฺถาริตานํ อฏฺารสาทีนํ มหาวิปสฺสนานํ วเสน วิปสฺสิตฺวา สมาปนฺนา ยา สมาปตฺติ, สา สุฏฺุ วิกฺขมฺเภติ เวทนํ มหาพลวตาย ปุพฺพารมฺมณสฺส, มหานุภาวตาย ตถาปวตฺติตวิปสฺสนาวีริยสฺส. ยถา ¶ นามาติอาทินา ตสฺส นิทสฺสนํ ทสฺเสติ. เวทนาติ ทุกฺขเวทนา. จุทฺทสหากาเรหีติ ตสฺเสว สตฺตกทฺวยสฺส วเสน วทติ. สนฺเนตฺวาติ อนฺตรนฺตรา สมาปนฺนชฺฌานสมาปตฺติสมฺภูเตน วิปสฺสนาปีติสิเนเหน เตเมตฺวา. สมาปตฺตีติ ผลสมาปตฺติ.
คิลานา วุฏฺิโตติ คิลานภาวโต วุฏฺิโต. สรีรสฺส ครุถทฺธภาวปฺปตฺติ มธุรกตาติ อาห – ‘‘สฺชาตครุภาโว สฺชาตถทฺธภาโว’’ติ. นานาการโตติ ปุรตฺถิมาทิเภทโต. สติปฏฺานธมฺมาติ ปุพฺเพ อตฺตนา ภาวิยมานา สติปฏฺานธมฺมา. ปากฏา น โหนฺติ กายจิตฺตานํ อกมฺมฺตาย. ตนฺติ ธมฺมาติ ปริยตฺติธมฺมา น ายนฺติ.
อนนฺตรํ อพาหิรนฺติ ธมฺมวเสน ปุคฺคลวเสน จ อนฺตรพาหิรํ อกตฺวา. เอตฺตกนฺติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ วิวรติ. ทหรกาเลติ อตฺตโน ทหรกาเล. น เอวํ โหตีติ ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติอาทิโก มานตณฺหามูลโก อิสฺสามจฺฉริยานํ ปวตฺติอากาโร ตถาคตสฺส น โหติ, นตฺเถว ปเคว เตสํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ อาห – ‘‘โพธิปลฺลงฺเกเยวา’’ติอาทิ. ปฏิสงฺขรเณน เวเน มิสฺสเกน. มฺเติ ยถาวุตฺตํ ปฏิสงฺขรณสฺิเตน เวมิสฺสเกน วิย ชรสกฏํ. อรหตฺตผลเวเนาติ อรหตฺตผลสมาปตฺติสฺิเตน อตฺถภาวเวเน.
ผลสมาปตฺติยา อธิปฺเปตตฺตา ‘‘เอกจฺจานํ เวทนานนฺติ โลกิยานํ เวทนาน’’นฺติ วุตฺตํ. อตฺตทีปาติ เอตฺถ อตฺต-สทฺเทน ธมฺโม เอว วุตฺโต, สฺวายมตฺโถ เหฏฺา วิภาวิโต เอว. นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม เวทิตพฺโพ. โส หิ จตูหิ โอเฆหิ อนชฺโฌตฺถรณียโต ‘‘ทีโป’’ติ วุตฺโต. ตมอคฺเคติ ตมโยคาภาเวน สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺเค. สพฺเพสนฺติ สพฺเพสํ สิกฺขากามานํ. เต ‘‘ธมฺมทีปา วิหรถา’’ติ วุตฺตา จตุสติปฏฺานโคจราว ภิกฺขู อคฺเค ภวิสฺสนฺติ.
๑๐. ภิกฺขุนุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา
๓๗๖. กมฺมฏฺานกมฺมิกาติ ¶ กมฺมฏฺานมนุยุตฺตา. วิเสเสตีติ วิเสโส, อติสโย, สฺวายํ ปุพฺพาปรวิเสโส อุปาทายุปาทาย คเหตพฺโพติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห.
อุปฺปชฺชติ ¶ กิเลสปริฬาโหติ กาเย อสุภาทิวเสน มนสิการํ อทหนฺตสฺส มนสิการสฺส วีถิยํ อปฏิปนฺนตา สุภาทิวเสน กายารมฺมโณ กิเลสปริฬาโห จ อุปฺปชฺชติ. วีริยารมฺภสฺส อภาเวน ตสฺมึ อารมฺมเณ เจตโส วา ลีนตฺตํ โหติ, โคจรชฺฌตฺตโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. เอวํ กิเลสปริฬาเห จาติอาทินา ติวิธมฺปิ ภาวนานุโยคสฺส กิเลสวตฺถุภาวํ อุปาทาย สมุจฺจยวเสน อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน เต ปริฬาหลีนตฺตวิกฺเขปา เอกชฺฌํ น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ปาฬิยํ ‘‘กายารมฺมโณ วา’’ติอาทินา อนิยมตฺโถ วา-สทฺโท คหิโต. กิเลสานุรฺชิเตนาติ กิเลสวิวณฺณิตจิตฺเตน หุตฺวา น วตฺติตพฺพํ. กถํ ปน วตฺติตพฺพนฺติ อาห ‘‘กิสฺมิฺจิเทวา’’ติ. น จ วิตกฺเกติ น จ วิจาเรตีติ กิเลสสหคเต วิตกฺกวิจาเร น ปวตฺเตติ. สุขิโตติ ฌานสุเขน สุขิโต.
อิมสฺส ภิกฺขุโน ภาวนา ปวตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ยสฺมา หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ตํ มูลกมฺมฏฺานํ ปริปนฺเถ สติ เปตฺวา พุทฺธคุณาทิอนุสฺสรเณน จิตฺตํ ปสาเทตฺวา มูลกมฺมฏฺานภาวนา ปวตฺตา, ตสฺมา ปณิธาย ภาวนาติ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อฏฺเปตฺวาติ จิตฺตํ อปฺปวตฺเตตฺวาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กมฺมฏฺานาทีนํ ติณฺณมฺปิ วเสน อตฺถโยชนา สมฺภวติ. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. สาเรนฺโต วิยาติ รถํ วาหยนฺโต วิย. สมปฺปมาณโต อฏฺกาทิวเสน สุตจฺฉิตํ ปกฺขิปนฺโต วิย. สุเขเนว กิเลสานํ โอกาสํ อเทนฺโต อนฺตรา อสชฺชนฺโต อลคฺคนฺโต. วิปสฺสนาจารสฺส อารทฺธวุตฺติตํ อปริปนฺถตฺจ ทสฺเสนฺโต โอปมฺมทฺวยมาห. พฺยาภงฺคิยาติ กาชทณฺเฑน. กิเลสปริฬาหาทีนนฺติ กิเลสปริฬาหลีนตฺตวิกฺเขปานํ.
คุฬขณฺฑาทีนีติ คุฬขณฺฑสกฺขรขณฺฑาทีนิ อุจฺฉุวิการภูตานิ. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรามี’’ติอาทิวจนโต ‘‘ปุพฺพภาควิปสฺสนา กถิตา’’ติ วุตฺตํ.
อมฺพปาลิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. นาลนฺทวคฺโค
๒. นาลนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๗๘. ทุติยวคฺเค ¶ ¶ ปมสุตฺตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยนฺติ ตํ ลงฺฆิตฺวา ‘‘ทุติเย’’ติ วุตฺตํ.
ภิยฺยตโร อภิฺาโตติ สมฺโพธิยา เสฏฺตโรติ อภิลกฺขิโต. ภิยฺยตราภิฺโติ สพฺพสตฺเตสุ อธิกตรปฺโ. เตนาห ‘‘อุตฺตริตราโณ’’ติ. สมฺมา อนวเสสโต พุชฺฌติ เอเตนาติ สมฺโพธีติ อาห – ‘‘สมฺโพธิยนฺติ สพฺพฺุตฺาเณ’’ติ. นิปฺปเทสา คหิตาติ อนวเสสา พุทฺธคุณา คหิตา อคฺคมคฺคสิทฺธิยาว ภควโต สพฺพคุณานํ สิทฺธตฺตา. น เกวลฺจ พุทฺธานํ, อถ โข อคฺคสาวกปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ตํตํคุณสมิชฺฌนํ อคฺคมคฺคาธิคเมเนวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺเวปิ อคฺคสาวกา’’ติอาทิมาห.
อปโร นโย – ปสนฺโนติ อิมินา ปสาทสฺส วตฺตมานตา ทีปิตาติ อุปฺปนฺนสทฺโธติ อิมินาปิ สทฺธาย ปจฺจุปฺปนฺนตา ปกาสิตาติ อาห – ‘‘เอวํ สทฺทหามีติ อตฺโถ’’ติ. อภิชานาติ อภิมุขภาเวน สพฺพฺเยฺยํ ชานาตีติ อภิฺโ, ภิยฺโย อธิโก อภิฺโติ ภิยฺโยภิฺโ. โส เอว อติสยวจนิจฺฉาวเสน ภิยฺโยภิฺตโรติ วุตฺโตติ อาห – ‘‘ภิยฺยตโร อภิฺาโต’’ติ. ทุติยวิกปฺเป ปน อภิชานาตีติ อภิฺา, อภิวิสิฏฺา ปฺา. ภิยฺโย อภิฺา เอตสฺสาติ ภิยฺโยภิฺโ, โส เอว อติสยวจนิจฺฉาวเสน ภิยฺโยภิฺตโร. สฺวายํ อสฺส อติสโย อภิฺาย ภิยฺโยภาวกโตติ อาห – ‘‘ภิยฺยตราภิฺโ วา’’ติ. สมฺพุชฺฌติ เอตายาติ สมฺโพธิ, สพฺพฺุตฺาณํ อคฺคมคฺคาณฺจ. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺหิ อคฺคมคฺคาณํ, อคฺคมคฺคาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ สมฺโพธิ นาม. ตตฺถ ปธานวเสน ตทตฺถทสฺสเน ปมวิกปฺโป, ปทฏฺานวเสน ทุติยวิกปฺโป. กสฺมา ปเนตฺถ อรหตฺตมคฺคาณสฺเสว คหณํ, นนุ เหฏฺิมานิปิ ภควโต มคฺคาณานิ สวาสนเมว ยถาสกํ ปฏิปกฺขวิธมนวเสน ปวตฺตานิ. สวาสนปฺปหานฺหิ เยฺยาวรณปฺปหานนฺติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน อปริปุณฺณํ ปฏิปกฺขวิธมนสฺส วิปฺปกตภาวโตติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคาเณ วา’’ติ. สพฺพนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน อธิคนฺตพฺพํ สพฺพํ.
ขาทนียานํ ¶ ¶ อุฬารตา สาตรสานุภาเวนาติ อาห ‘‘มธุเร อาคจฺฉตี’’ติ. ปสํสาย อุฬารตา วิสิฏฺภาเวนาติ อาห – ‘‘เสฏฺเ’’ติ. โอภาสสฺส อุฬารตา มหนฺตภาเวนาติ วุตฺตํ – ‘‘วิปุเล’’ติ. อุสภสฺส อยนฺติ อาสภี, อิธ ปน อาสภี วิยาติ อาสภี. เตนาห – ‘‘อุสภสฺส วาจาสทิสี’’ติ. เยน คุเณน สา ตํสทิสา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อจลา อสมฺปเวธี’’ติ วุตฺตํ. ยโต กุโตจิ อนุสฺสวนํ อนุสฺสโว. วิชฺชาฏฺานาทีสุ กตปริจยานํ อาจริยานํ ตํ ตํ อตฺถํ าเปนฺตี ปเวณี อาจริยปรมฺปรา. เกวลํ อตฺตโน มติยา ‘‘อิติ กิร เอวํ กิรา’’ติ ปริกปฺปนา อิติกิรา. ปิฏกสฺส คนฺถสฺส สมฺปทานโต ภูตโต ตสฺส คหณํ ปิฏกสมฺปทานํ. ยถาสุตานํ อตฺตานํ อาการสฺส ปริวิตกฺกนํ อาการปริวิตกฺโก. ตเถวสฺส ‘‘เอวเมต’’นฺติ ทิฏฺิยา นิชฺฌานกฺขมนํ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ. อาคมาธิคเมหิ วินา เกวลํ อนุสฺสุตโต ตกฺกมคฺคํ นิสฺสาย ตกฺกนํ ตกฺโก. อนุมานวิธึ นิสฺสาย คหณํ นยคฺคาโห. ยสฺมา พุทฺธวิสเย ตฺวา ภควโต อยํ เถรสฺส โจทนา เถรสฺส จ โส อวิสโย, ตสฺมา ‘‘ปจฺจกฺขโต าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิยา’’ติ วุตฺตํ. สีหนาโท วิยาติ สีหนาโท. ตํสทิสตา จสฺส เสฏฺภาเวน, โส เจตฺถ เอวํ เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สีหนาโท’’ติอาทิมาห. อุนฺนาทยนฺเตนาติ อสนิสทิสํ กโรนฺเตน.
อนุโยคทาปนตฺถนฺติ อนุโยคํ โสธาเปตุํ. วิมทฺทกฺขมฺหิ สีหนาทํ นทนฺโต อตฺถโต อนุโยคํ โสเธติ นาม, อนุยุชฺฌนฺโต จ นํ โสธาเปติ นาม. ทาตุนฺติ โสเธตุํ. เกจิ ‘‘ทานตฺถ’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. น หิ โย สีหทานํ นทติ, โส เอว ตตฺถ อนุโยคํ เทตีติ ยุชฺชติ. นิฆํสนนฺติ วิมทฺทนํ. ธมมานนฺติ ตาปยมานํ. ตาปนฺเจตฺถ คคฺคริยา ธมฺมาปนสีเสน วทติ.
สพฺเพ เตติ สพฺเพ เต อตีเต นิรุทฺเธ สมฺมาสมฺพุทฺเธ. เตเนตํ ทสฺเสติ – เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ ตว อภินีหารโต โอรํ สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสํ ตาว สาวกาณโคจเร ธมฺเม ปริจฺฉินฺทนฺโต มาราทโย วิย จ พุทฺธานํ โลกิยจิตฺตาจารํ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ. เย ปน เต อพฺภตีตา, ตโต ปรโต ฉินฺนวฏุมา ฉินฺนปปฺจา ปริยาทินฺนวฏฺฏา สพฺพทุกฺขวีติวตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ตว สาวกาณสฺส ¶ อวิสยภูเต ธมฺเม กถํ ชานิสฺสสีติ. เตนาติ สมฺโพธิสงฺขาเตน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺาเนน อรหตฺตมคฺคาเณน. เอวํสีลาติ ตาทิสสีลา. สมาธิปกฺขาติ สมาธิ จ สมาธิปกฺขา จ สมาธิปกฺขา เอกเทสสรูเปกเสสนเยน. ตตฺถ สมาธิปกฺขาติ วีริยสติโย ตทนุคุณา จ ธมฺมา เวทิตพฺพา ¶ . ฌานสมาปตฺตีสุ เยภุยฺเยน วิหารโวหาโร, ฌานสมาปตฺติโย สมาธิปฺปธานาติ วุตฺตํ ‘‘สมาธิปกฺขานํ ธมฺมานํ คหิตตฺตา วิหาโร คหิโต’’ติ.
ยถา ปน เหฏฺา คหิตาปิ สมาธิปฺา ปฏิปกฺขโต วิมุตฺตตฺตา วิมุจฺจน-สงฺขาต-กิจฺจวิเสส-ทสฺสนวเสน วิมุตฺติปริยาเยน ปุน คหิตา ‘‘เอวํวิมุตฺตา’’ติ, เอวํ ทิพฺพวิหาโร ทิพฺพวิหารวิเสสทสฺสนวเสน ปุน คหิโต ‘‘เอวํวิหารี’’ติ, ตสฺมา สพฺเพสํ สมาปตฺติวิหารานํ วเสเนตฺถ อตฺโถ ยุชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ. วิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ วิมุจฺจิตฺถาติ กตฺวา. เอส นโย เสเสสุปิ. ปฏิปฺปสฺสทฺธนฺเตติ ปฏิปฺปสฺสมฺภโนสาปเนน. สพฺพกิเลเสหิ นิสฺสฏตฺตา อสํสฏฺตฺตา วิมุตฺตตฺตา จ นิสฺสรณวิมุตฺติ นิพฺพานํ.
อนาคตพุทฺธานํ ปนาติ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโน. เตน อตีเตสุ ตาว ขนฺธานํ ภูตปุพฺพตฺตา ตตฺถ สิยา าณสฺส สวิสเย คติ, อนาคเตสุ ปน สพฺพโส อสฺชาเตสุ กถนฺติ อิมมตฺถํ โชเตติ. เตนาห ‘‘อนาคตาปี’’ติอาทิ. ‘‘อตฺตโน เจตสา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ อตีตานาคเต สตฺตาเห เอว ปวตฺตํ จิตฺตํ เจโตปริยาณสฺส วิสโย, น ตโต ปรนฺติ? นยิทํ เจโตปริยาณกิจฺจวเสน วุตฺตํ, อถ โข ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาณานํ วเสน วุตฺตํ, ตสฺมา นายํ โทโส. วิทิตฏฺาเน น กโรติ สิกฺขาปเทเนว ตาทิสสฺส ปฏิกฺเขปสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เสตุฆาตโต จ. กถํ ปน เถโร ทฺวยสมฺภเว ปฏิกฺเขปเมว อกาสิ, น วิภชฺช พฺยากาสีติ อาห ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ. ปารํ ปริยนฺตํ มิโนตีติ ปารมี, สา เอว าณนฺติ ปารมิาณํ, สาวกานํ ปารมิาณํ สาวกปารมิาณํ. ตสฺมึ สาวกานํ อุกฺกํสปริยนฺตคเต ชานเน นายมนุโยโค, อถ โข สพฺพฺุตฺาเณ สพฺพฺุตาย ชานเน. เกจิ ปน ‘‘สาวกปารมิาเณติ สาวกปารมิาณวิสเย’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, ตถา เสสปเทสุปิ. สีล…เป… สมตฺถนฺติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติาณสงฺขาตานํ การณานํ ¶ ชานนสมตฺถํ. พุทฺธสีลาทโย หิ พุทฺธานํ พุทฺธกิจฺจสฺส ปเรหิ เอเต พุทฺธาติ ชานนสฺส จ การณํ.
อนุมานาณํ วิย สํสยฏฺิตํ อหุตฺวา อิทมิทนฺติ ยถาสภาวโต เยฺยํ ธาเรติ นิจฺฉิโนตีติ ธมฺโม, ปจฺจกฺขาณนฺติ อาห ‘‘ธมฺมสฺส ปจฺจกฺขโต าณสฺสา’’ติ. อนุเอตีติ อนฺวโยติ อาห ‘‘อนุโยคํ อนุคนฺตฺวา’’ติ. ปจฺจกฺขสิทฺธฺหิ อตฺถํ อนุคนฺตฺวา อนุมานาณสฺส ปวตฺติ ‘‘ทิฏฺเน อทิฏฺสฺส อนุมาน’’นฺติ เวทิตพฺพา. วิทิเต เวทกมฺปิ าณํ อตฺถโต วิทิตเมว โหตีติ ‘‘อนุมานาณํ นยคฺคาโห วิทิโต’’ติ วุตฺตํ. วิทิโตติ วิทฺโธ ¶ ปฏิลทฺโธ, อธิคโตติ อตฺโถ. อปฺปมาโณติ อปริมาโณ มหาวิสยตฺตา. เตนาห ‘‘อปริยนฺโต’’ติ. เตนาติ อปริยนฺตตฺตา. เตน วา อปริยนฺเตน าเณน. เอเตน เถโร ยํ ยํ อนุเมยฺยมตฺถํ าตุกาโม โหติ, ตตฺถ ตตฺถ ตสฺส อสงฺคมปฺปฏิหตํ อนุมานาณํ ปวตฺเตตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘โส อิมินา’’ติอาทิ. ตตฺถ อิมินาติ อิมินา การเณน.
ปาการสฺส ถิรภาวํ อุทฺธมุทฺธํ อาเปตีติ อุทฺธาปํ, ปาการมูลํ. อาทิ-สทฺเทน ปาการทฺวารพนฺธปริขาทีนํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปจฺจนฺเต ภวํ ปจฺจนฺติมํ. ปณฺฑิตโทวาริกฏฺานิยํ กตฺวา เถโร อตฺตานํ ทสฺเสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกทฺวารนฺติ กสฺมา อาหา’’ติ โจทนํ สมุฏฺาเปสิ.
ยสฺสา ปฺาย วเสน ปุริโส ปณฺฑิโตติ วุจฺจติ, ตํ ปณฺฑิจฺจนฺติ อาห – ‘‘ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต’’ติ. ตํตํอิติกตฺตพฺพตาสุ เฉกภาโว พฺยตฺตภาโว เวยฺยตฺติยํ. เมธติ อฺาณํ หึสติ วิธมตีติ เมธา, สา เอตสฺส อตฺถีติ เมธาวี. าเน าเน อุปฺปตฺติ เอติสฺสา อตฺถีติ านุปฺปตฺติกา, านโส อุปฺปชฺชนปฺา. อนุปริยายนฺติ เอเตนาติ อนุปริยาโย, โส เอว ปโถติ อนุปริยายปโถ, ปริโต ปาการสฺส อนุยายนมคฺโค. ปาการภาคา สมฺพนฺธิตพฺพา เอตฺถาติ ปาการสนฺธิ, ปาการสฺส ผุลฺลิตปเทโส. โส ปน เหฏฺิมนฺเตน ทฺวินฺนมฺปิ อิฏฺกานํ วิคเมน เอวํ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘ทฺวินฺนํ อิฏฺกานํ อปคตฏฺาน’’นฺติ. ฉินฺนฏฺานนฺติ ฉินฺนภินฺนปเทสํ, ฉินฺนฏฺานํ วา. ตฺหิ ‘‘วิวร’’นฺติ วุจฺจติ. กีลิฏฺนฺติ มลีนํ. อุปตาเปนฺตีติ กิเลสปริฬาเหน สนฺตาเปนฺติ. วิพาเธนฺตีติ ปีเฬนฺติ. อุปฺปนฺนาย ปฺาย นีวรเณหิ น กิฺจิ กาตุํ สกฺกาติ อาห ‘‘อนุปฺปนฺนาย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺตี’’ติ. ตสฺมาติ ปจฺจยูปฆาเตน ¶ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานโต. จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุฏฺุ ปิตจิตฺตาติ จตุพฺพิธายปิ สติปฏฺานภาวนาย สมฺมเทว ปิตจิตฺตา อปฺปิตจิตฺตา. ยถาสภาเวน ภาเวตฺวาติ ยาถาวโต สมฺมเทว ยถา ปฏิปกฺขา สมุจฺฉิชฺชนฺติ, เอวํ ภาเวตฺวา.
ปุริมนเย สติปฏฺานานิ โพชฺฌงฺคา จ มิสฺสกา อธิปฺเปตาติ ตโต อฺถา วตฺตุํ ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มิสฺสกาติ สมถวิปสฺสนามคฺควเสน มิสฺสกา. ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตาติ ปมํ วุตฺตตฺตา สติปฏฺาเนสุ วิปสฺสนํ คเหตฺวา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวาติ วุตฺตตฺตา มคฺคปริยาปนฺนานํเยว จ เนสํ นิปฺปริยายโพชฺฌงฺคภาวโต เตสุ จ อธิคตเมว โหตีติ โพชฺฌงฺเค มคฺโค จ สพฺพฺุตฺาณฺจาติ คหิเต สุนฺทโร ปฺโห ภเวยฺยา’’ติ มหาสิวตฺเถโร อาห. น ปเนวํ คหิตํ โปราเณหีติ อธิปฺปาโย. อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ. เถโรติ สาริปุตฺตตฺเถโร.
ตตฺถาติ ¶ เตสุ ปจฺจนฺตนคราทีสุ. นครํ วิย นิพฺพานํ ตทตฺถิเกหิ อุปคนฺตพฺพโต อุปคตานฺจ ปริสฺสยรหิตสุขาธิคมฏฺานโต. ปากาโร วิย สีลํ ตทุปคตานํ ปริโต อารกฺขภาวโต. อนุปริยายปโถ วิย หิรี สีลปาการสฺส อธิฏฺานภาวโต. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปริยายปโถติ โข ภิกฺขุ หิริยา เอตํ อธิวจน’’นฺติ. ทฺวารํ วิย อริยมคฺโค นิพฺพานนครปฺปเวสเน อฺชสภาวโต. ปณฺฑิตโทวาริโก วิย ธมฺมเสนาปติ นิพฺพานนครํ ปวิฏฺปวิสนกานํ สตฺตานํ สลฺลกฺขณโต. ทินฺโนติ ทาปิโต, โสธิโตติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
๓. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๗๙. ปุพฺเพ สาวตฺถิโต เวฬุวคามสฺส คตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อาคตมคฺเคเนว ปฏินิวตฺตนฺโต’’ติ. สตฺตนฺนนฺติ อุปเสโน, เรวโต, ขทิรวนิโย, จุนฺโท, สมณุทฺเทโส อหนฺติ จตุนฺนํ, จาลา, อุปจาลา, สีสูปจาลาติ, ติสฺสนฺนนฺติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ อรหนฺตานํ. นตฺถิ นุ โขติ เอตฺถาปิ ‘‘โอโลเกนฺโต’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ สีหาวโลกนาเยน. ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร หริตุํ นาสกฺขีติ สมฺพนฺโธ. อิทํ ทานิ ปจฺฉิมทสฺสนนฺติ ภูตกถนมตฺตํ, น ตตฺถ สาลยตาทสฺสนํ ยถา ตถาคตสฺส เวสาลิยา นิกฺขมิตฺวา นาคาปโลกิตํ.
ตสฺส ¶ ตสฺส วิเสสสฺส อธิฏฺานวเสเนว อิทฺธิเภททสฺสนํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ. สีหสฺส วิชมฺภนาทิวเสน กีฬิตฺวา นาทสทิสี อยํ ธมฺมกถาติ วุตฺตํ ‘‘สีหวิกีฬิโต ธมฺมปริยาโย’’ติ. คมนกาโล มยฺหนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปริสมาปเน. เตน เถเรน ยถารมฺภสฺส วจนปพนฺธสฺส สมาปิตภาวํ โชเตติ. เอส นโย เสเสสุปิ เอทิเสสุ สพฺพฏฺาเนสุ. ยุคนฺธราทโย ปริภณฺฑปพฺพตาติ เวทิตพฺพา. เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกปฺปหาเรน อิว. สฺวายํ อิว-สทฺโท น สกฺโกมีติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ.
ปฏิปาเทสฺสามีติ ิตกายํ ปฏิปาเทสฺสามิ. ปตฺถนากาเล อโนมทสฺสิสฺส ภควโต วจนสุตานุสาเรน าเณน ทิฏฺมตฺตตํ สนฺธาย ‘‘ตํ ปมทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. ธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี คุณสารํ. เอส มคฺโคติ เอโส ชาตานํ สตฺตานํ มรณนิฏฺิโต ปนฺโถ. ปุนปิ เอวํภาวิโน นาม สงฺขาราติ สงฺขารา นาม เอวํภาวิโน, มรณปริโยสานาติ อตฺโถ. เอตฺตกนฺติ เอตฺตกํ กาลํ. สงฺกฑฺฒิตฺวา สํหริตฺวา. มุขํ ปิธายาติ มุขํ ฉาเทตฺวา. อคฺฆิกสตานีติ มกุฬงฺกุรเจติยสตานิ.
ปุริมทิวเสติ ¶ อตีตทิวเส. ยสฺมา ธมฺมเสนาปติโน อรหตฺตปฺปตฺตทิวเสเยว สตฺถุ สาวกสนฺนิปาโต อโหสิ, ตสฺมา ‘‘ปูริตสาวกสนฺนิปาโต เอส ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ปฺจ ชาติสตานีติ ภุมฺมตฺเถ, อจฺจนฺตสํโยเค วา อุปโยควจนํ.
กโฬปิหตฺโถติ วิลีวมยภาชนหตฺโถ. ‘‘จมฺมมยภาชนหตฺโถ’’ติ จ วทนฺติ. ปุรนฺตเรติ นครมชฺเฌ. วเนติ อรฺเ.
โอสกฺกนาการวิรหิโตติ ธมฺมเทสนาย สงฺโกจเหตุวิรหิโต. วิสารโทติ สารทวิรหิโต. ธมฺโมชนฺติ ธมฺมรสํ, โอชวนฺตํ เทสนาธมฺมนฺติ อตฺโถ. ธมฺมโภคนฺติ ธมฺมปริโภคํ, ปเรหิ สทฺธึ สํวิภชนวเสน ปวตฺตํ ธมฺมสมฺโภคนฺติ เทสนาธมฺมเมว วทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุภเยนปิ ธมฺมปริโภโคว กถิโต’’ติ.
ปิยายิตพฺพโต ปิเยหิ. มนสฺส วฑฺฒนโต มนาเปหิ. ชาติยาติ ขตฺติยาทิชาติยา. นานาภาโว อสหภาโว วิสุํภาโว. อฺถาภาโว อฺถตฺตํ. สรีรนฺติ รูปธมฺมกายสงฺขาตํ สรีรํ. รูปกาเย ¶ หิ ภิชฺชนฺเต ภิชฺชนฺเตว. โส ภิชฺเชยฺยาติ โส มหนฺตตโร ขนฺโธ ภิชฺเชยฺย.
ทกฺขิณทิสํ คโตติ ทกฺขิณทิสามุเข ปวตฺโต. มหาขนฺโธ วิยาติ มหนฺโต สารวนฺโต สาขาขนฺโธ วิย. สาขขนฺธา หิ ทิสาภิมุขปวตฺตาการา, มูลขนฺโธ ปน อุทฺธมุคฺคโต. โสฬสนฺนํ ปฺหานนฺติ โสฬสนฺนํ อปราปริยปวตฺตนิยานํ อตฺถานํ. าตุํ อิจฺฉิโต หิ อตฺโถ ปฺโห.
๔-๕. อุกฺกเจลสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๘๐-๓๘๑. อมาวสุโปสเถติ อมาวสิอุโปสเถ, กาลปกฺขอุโปสเถติ อตฺโถ. ปุริมนเยเนวาติ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตนเยเนว.
๖. อุตฺติยสุตฺตวณฺณนา
๓๘๒. มจฺจุเธยฺยสฺสาติ มจฺจุโน ปวตฺติฏฺานสฺส.
๘. พฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา
๓๘๔. ตสฺมึ ¶ กาเลติ ปมาภิสมฺโพธิยํ. ภิกฺขุเยว นตฺถิ ธมฺมจกฺกสฺส อปฺปวตฺติตตฺตา, ภิกฺขุเยว ภิกฺขุลกฺขณโยคโต. เอกโก มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ เอกมคฺโค, ตํ เอกมคฺคํ. ชาติยา ขโย วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตภูโตติ ชาติกฺขยนฺโต, นิพฺพานํ, ตํ ทิฏฺตฺตา ชาติกฺขยนฺตทสฺสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๙. เสทกสุตฺตวณฺณนา
๓๘๕. อยํ ตสฺส ลทฺธีติ อยํ อิทานิ วุจฺจมานา ตสฺส อาจริยสฺส ลทฺธิ. ตโต อนาเมนฺโตติ เยน วํโส นมติ, เตน กายํ อนาเมนฺโต. ตถา นมนฺโต หิ ปติตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ. ตนฺติ กายํ, ตํ วํสํ วา. อากฑฺเฒนฺโต วิยาติ นมิตฏฺานโต ปรภาเคน อากฑฺเฒนฺโต วิย. เอกโตภาคิยํ กตฺวาติ ยถาวุตฺตํ สตึ สูปฏฺิตํ ¶ กตฺวา โอนตํ วิย กตฺวา. ตถา กรณํ ปน ตถา วาตูปตฺถมฺภคาหาปเนนาติ อาห – ‘‘วาตูปตฺถมฺภํ คาหาเปตฺวา’’ติ. ตฺจ สติยา ตทตฺถํ อุปฏฺาเนนาติ วุตฺตํ ‘‘สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา’’ติ. นิจฺจโลว นิสีทนฺโต อนฺเตวาสี อาจริยํ รกฺขติ, เอตฺตกํ อาจริยสฺส ลทฺธิวเสน วุตฺตํ. ‘‘อาจริโย วํสํ สุคฺคหิตํ คณฺหนฺโต’’ติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
‘‘อตฺตานเมว รกฺขตี’’ติ อิทํ อตฺตโน รกฺขณํ ปธานํ กตฺวา วุตฺตํ, น อนฺเตวาสิกนฺติ อวธารณผลํ. อตฺตรกฺขาย ปเนตฺถ สิชฺฌมานาย อนฺเตวาสิกรกฺขาปิ สิทฺธา เอว โหตีติ. ทุติยปกฺเขปิ เอเสว นโย. โส ตตฺถ าโยติ ยา อตฺตโน เอว รกฺขา, สา อตฺถโต ปรรกฺขาปิ โหตีติ อยเมตฺถ าโย ยุตฺตปฺปโยโค. อนุวฑฺฒิยาติ ยถาวฑฺฒิตสฺส อนุอนุวฑฺฒิยา. เอเตน ปฏิลทฺธสมฺปยุตฺตปโมทนากาโร ทสฺสิโตติ อาห – ‘‘สปุพฺพภาคาย มุทิตายาติ อตฺโถ’’ติ. อาเสวนายาติอาทีนิ ปทานิ อนุทยตาปริโยสานานิ (ยสฺมา สติปฏฺานํ เสวนฺตสฺส สิทฺธํ อตฺตโน จ ปรสฺส จ รกฺขณํ ปกาเสนฺติ, ตสฺมา) – ‘‘อตฺตานํ, ภิกฺขเว, รกฺขิสฺสามีติ สติปฏฺานํ เสวิตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
๑๐. ชนปทกลฺยาณีสุตฺตวณฺณนา
๓๘๖. ชนปทสฺมึ กลฺยาณีติ สกลชนปเท ภทฺทา รูปสมฺปตฺติยา สิกฺขาสมฺปตฺติยา จ สุนฺทรา ¶ เสฏฺา. รูปสมฺปตฺติ จ นาม สพฺพโส รูปโทสาภาเวน รูปคุณปาริปูริยา โหตีติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉสรีรโทสรหิตา ปฺจกลฺยาณสมนฺนาคตา’’ติ วุตฺตํ. ตํ ทุวิธมฺปิ วิวรนฺโต ‘‘สา หี’’ติอาทิมาห. ปฺจกลฺยาณสมนฺนาคตาติ ปฺจวิธสรีรคุณสมฺปทาหิ สมนฺนาคตา. นาติทีฆา นาติรสฺสาติ ปมาณมชฺฌิมา ทีฆตรปฺปมาณา น โหติ, น อติรสฺสา, ลกุณฺฑกรูปา น โหติ. นาติกิสาติ อติวิย กิสถทฺธมํสโลหิตา ทิสฺสมานา อฏฺิสรีรา ชาลสรีรา น โหติ. นาติถูลาติ ภาริยมํสา มโหทรา น โหติ. นาติกาฬา นาจฺโจทาตาติ อติวิย กาฬวณฺณา ฌามงฺคาโร วิย ¶ , ทธิตกฺกาทีหิ ปมชฺชิตมตฺตกํสโลหวณฺณา น โหติ. มนุสฺสโลเก ตาทิสิยา รูปสมฺปตฺติยา อภาวโต อติกฺกนฺตา มนุสฺสวณฺณํ. ยถา ปมาณยุตฺตา, เอวํ อาโรหปริณาหโยคโต จ ปเรสํ ปสาทาวหา นาติทีฆตาทโย. เอวํ มนุสฺสานํ ทิพฺพรูปตาสมฺปตฺตีปีติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณ’’นฺติ. เอตฺถ จ นาติทีฆนาติรสฺสตาวจเนน อาโรหสมฺปตฺติ วุตฺตา อุพฺเพเธน ปาสาทิกภาวโต. กิสถูลโทสาภาววจเนน ปริณาหสมฺปตฺติ วุตฺตา. อุภเยนปิ สณฺานสมฺปทา วิภาวิตา, นาติกาฬตาวจเนน วณฺณสมฺปตฺติ วุตฺตา วิวณฺณตาภาวโต. ปิยงฺคุสามาติ ปริณตปิยงฺคุปุปฺผสทิสสรีรนิภาสา. มุขปริโยสานนฺติ อธโรฏฺมาห. อยํ ยถาวุตฺตา สรีรวณฺณสมฺปตฺติ. อสฺสาติ ชนปทกลฺยาณิยา. ฉวิกลฺยาณตา ฉวิสมฺปตฺติเหตุกตฺตา ตสฺสา. เอส นโย เสเสสุปิ. นขา เอว ปตฺตสทิสตาย นขปตฺตานิ.
(ปสาโว สรีราวยเวน อิริยนนฺติ อาห – ‘‘ปวตฺตีติ อตฺโถ’’ติ, ปสาโว ยถาปริตเมว กนตนฺติ, น สภาวสนฺธานํ. ยถาวิภาวเสน อุตฺตมเมว นจฺจํ นจฺจติ. เต วา วีสติยาสูติรํ ธานปฺปตฺติยา ปวตฺติยา ปวตฺติมกตมนฺทตา วิภาวสุฏตสฺส อุตฺตมเมว คีตฺจ คายตีติ อตฺโถ.) [เอตฺถนฺตเร ปาโ อสุทฺโธ ทุสฺโสธนีโย จ. สุทฺธปาโ คเวสิตพฺโพ.] สมติตฺติโก เตลปตฺโตติ มุขวตฺติสมํ เตลานํ ปูริตตฺตา สมติตฺติกมุขํ เตลภาชนํ. อนฺตเรน จ มหาสมชฺชํ อนฺตเรน จ ชนปทกลฺยาณินฺติ ชนปทกลฺยาณิยา, ตสฺสา จ นจฺจคีตํ เปกฺขิตุํ สนฺนิปติตมหาชนสมูหสฺส มชฺฌโต ปริหริตพฺโพ เนตพฺโพ. นนฺติ เตลํ. อาหเรยฺยาติ อาปชฺเชยฺย. ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – เตลปตฺตํ วิย กายคตาสติ, ตสฺส ปริหรณปุคฺคโล วิย วิปสฺสโก, ชนกายา วิย ปุถุตฺตารมฺมณานิ, อสิปุริโส วิย มโน, เตลสฺส จชนํ วิย กิเลสุปฺปาทนํ, สีสปาตนํ วิย อริยมคฺคาณสีสานุปฺปตฺติ. ‘‘กายคตา สติ โน ภาวิตา…เป… สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปุพฺพภาควิปสฺสนาว กถิตา’’ติ วุตฺตํ.
นาลนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สีลฏฺิติวคฺโค
๑-๒. สีลสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๘๗-๓๘๘. สีลานีติ ¶ ¶ พหุวจนํ อเนกวิธตฺตา สีลสฺส. ตฺหิ สีลนฏฺเน เอกวิธมฺปิ จาริตฺตาทิวเสน อเนกวิธํ. เตนาห – ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลานี’’ติ. ปฺหมคฺโคติ าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส วีมํสนํ. เตนาห – ‘‘ปฺหคเวสน’’นฺติ.
๓-๕. ปริหานสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๘๙-๓๙๑. ปุคฺคลวเสน ปริหานํ โหติ น ธมฺมวเสน. โย น ภาเวติ, ตสฺเสว ปริหายติ. เตนาห ‘‘โย หี’’ติอาทิ.
๖. ปเทสสุตฺตวณฺณนา
๓๙๒. ปเทสโต ภาวิตตฺตาติ เอกเทสโต ภาวิตตฺตา ภาวนาปาริปูริยา อนนุปฺปตฺตตฺตา. เตนาห – ‘‘จตฺตาโร หิ มคฺเค’’ติอาทิ.
๗. สมตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๙๓. สมตฺตา ภาวิตตฺตาติ ปริยตฺตา ภาวิตตฺตา.
๘-๑๐. โลกสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๙๔-๓๙๖. มหาวิสยตฺตา มหติโย อภิฺา เอตสฺสาติ มหาภิฺโ, ตสฺส ภาโวติ สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ‘‘สตตวิหารวเสน วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสาติ เถรสฺส. อาวชฺชนสฺส คตินฺติ เอกาวชฺชนสฺเสว คมนวีถึ. อนุพนฺธติ จกฺกวาฬานํ สหสฺสํ เอกาวชฺชเนเนว สหสฺสโลกธาตุยา อิจฺฉิตมตฺถํ ชานิตุํ สมตฺโถติ ทสฺเสติ.
สีลฏฺิติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อนนุสฺสุตวคฺควณฺณนา
๓๙๗-๔๐๗. ยา ¶ ¶ เวทนา สมฺมสิตฺวาติ ยา เตภูมกเวทนา สมฺมสิตฺวา. ตาวสฺสาติ ตา เตภูมกเวทนา เอว อสฺส ภิกฺขุโน. สทิสวเสน เจตํ วุตฺตํ, อนิจฺจาทิสมฺมสนวเสน วิทิตา ปุพฺพภาเค สมฺมสนกาเล อุปฏฺหนฺติ. ปริคฺคหิเตสูติ ปริชานนวเสน ปริจฺฉิชฺช คหิเตสุ. ‘‘เวทนา ตณฺหาปปฺจสฺส, วิตกฺโก มานปปฺจสฺส, สฺา ทิฏฺิปปฺจสฺส มูลวเสน สมฺมสนํ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. ‘‘เวทนาวิตกฺกสฺา ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจานํ มูลทสฺสนวเสนา’’ติ อปเร.
อนนุสฺสุตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อมตวคฺโค
๒. สมุทยสุตฺตวณฺณนา
๔๐๘. สารมฺมณสติปฏฺานาติ อารมฺมณลกฺขิตา สติปฏฺานา กถิตา, น สติลกฺขณา.
๔. สติสุตฺตวณฺณนา
๔๑๐. สุทฺธิกํ กตฺวา วิสุํ วิสุํ กตฺวา. ตถา จ วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘กาเย วา ภิกฺขู’’ติ.
๖. ปาติโมกฺขสํวรสุตฺตวณฺณนา
๔๑๒. เชฏฺกสีลนฺติ ปธานกสีลํ. สีลคฺคหณฺหิ ปาฬิยํ ปาติโมกฺขสํวรวเสเนว อาคตํ. เตนาห ‘‘ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปาติโมกฺขสํวโรว สีลนฺติ อวธารณํ อิตเรสํ ติณฺณํ เอกเทเสน ปาติโมกฺขนฺโตคธภาวํ ทีเปติ. ตถา หิ อโนโลกิโยโลกเน อาชีวเหตุ จ ฉสิกฺขาปทวีติกฺกมเน คิลานปจฺจยสฺส อปฺปจฺจเวกฺขิตปริโภเค ¶ จ อาปตฺติ วิหิตาติ. ตีณีติ อินฺทฺริยสํวราทีนิ. สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม นตฺถีติ สีลปริยาเยน เตสํ กตฺถจิ สุตฺเต คหิตฏฺานํ นาม นตฺถีติ นิปฺปริยายสีลตํ เตสํ ¶ ปฏิกฺขิปติ. ฉทฺวารรกฺขณมตฺตเมวาติ ตสฺส สลฺลหุกตมาห จิตฺตาธิฏฺานมตฺเตน ปฏิปากติกภาวปฺปตฺติโต. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกนฺติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสติ. อุปฺปาทนเหตุกา หิ ปจฺจยานํ อุปฺปตฺติ. อิทมตฺถนฺติ อิทํ ปโยชนํ อิมสฺส ปจฺจยสฺส ปริภฺุชเนติ อธิปฺปาโย. นิปฺปริยาเยนาติ อิมินา อินฺทฺริยสํวราทีนิ ตีณิ ปธานสีลสฺส ปริปาลนปริโสธนวเสน ปวตฺติยา ปริยายสีลานิ นามาติ ทสฺเสติ. อิทานิ ปาติโมกฺขสีลสฺเสว ปธานภาวํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โสติ ปาติโมกฺขสํวโร. เสสานิ อินฺทฺริยสํวราทีนิ. ปาติโมกฺขสทฺทสฺส อตฺโถ ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาทีสุ วิตฺถาริโต, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อาจาเรน จ โคจเรน จ สมฺปนฺโนติ กายิกเจตสิกอวีติกฺกมสงฺขาเตน อาจาเรน จ นเวสิยาทิโคจรตาทิสงฺขาเตน โคจเรน จ สมฺปนฺโน, สมฺปนฺนอาจารโคจโรติ อตฺโถ. อปฺปมตฺตเกสูติ อติปริตฺตเกสุ อนาปตฺติคมนีเยสุ. ‘‘ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺเตสู’’ติ อปเร. วชฺเชสูติ อกรณีเยสุ คารยฺเหสุ. เต ปน เอกนฺตโต อกุสลา โหนฺตีติ อาห – ‘‘อกุสลธมฺเมสู’’ติ. ภยทสฺสาวีติ ภยโต ทสฺสนสีโล, ปรมาณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ สิเนรุปฺปมาณํ วิย กตฺวา ทสฺสนสีโล. สมฺมา อาทิยิตฺวาติ สมฺมเทว สกฺกจฺจํ สพฺพโส จ อาทิยิตฺวา. สิกฺขาปเทสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมนฺติ สมุทายโต อวยวนิทฺธารณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขาปเทสุ ตํ ตํ สิกฺขาปท’’นฺติอาทิมาห. สิกฺขาปทํ สมาทาตพฺพํ สิกฺขิตพฺพฺจาติ อธิปฺปาโย. สิกฺขาติ อธิสีลสิกฺขา. ปุพฺเพ ปท-สทฺโท อธิฏฺานฏฺโ, อิธ ภาคตฺโถติ ทฏฺพฺพนฺติ อาห – ‘‘สิกฺขาโกฏฺาเสสู’’ติ. มูลปฺตฺติอนุปฺตฺติอาทิเภทํ ยํกิฺจิ สิกฺขิตพฺพํ ปูเรตพฺพํ สีลํ, ตํ ปน ทฺวารวเสน ทุวิธเมวาติ อาห – ‘‘กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สิกฺขาปเทสูติ อาธาเร ภุมฺมํ สิกฺขาภาเคสุ กสฺสจิ วิสุํ อคฺคหณโต. เตนาห – ‘‘ตํ ตํ สพฺพ’’นฺติ. ‘‘ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ สีลํ นิสฺสายา’’ติ วจนโต อนภิชฺฌา อพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิโยปิ สีลนฺติ วุตฺตา, ตสฺมา อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสีลเมว กถิต’’นฺติ วุตฺตํ.
๗. ทุจฺจริตสุตฺตวณฺณนา
๔๑๓. เอตฺถาปิ ¶ มโนสุจริตํ สีลํ นามาติ ทสฺเสตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉิมาปิ ตโย’’ติ. อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิธมฺมา สีลํ โหตีติ เวทิตพฺพา กายวจีสุจริเตหิ สทฺธึ ¶ มโนสุจริตมฺปิ วตฺวา ‘‘ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺายา’’ติ วุตฺตตฺตา. เสสํ วุตฺตนยเมว. ฉฏฺสตฺตเมสูติ ฉฏฺสตฺตมวคฺเคสุ อปุพฺพํ นตฺถิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ. วคฺคเปยฺยาลโต ปน อิมสฺมึ สติปฏฺานสํยุตฺเต กติปยวคฺคา สงฺคหํ อารูฬฺหา, ตถาปิ เตสํ อตฺถวิเสสาภาวโต เอกจฺเจสุ โปตฺถเกสุ มุขมตฺตํ ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตา, เอกจฺเจสุ อติสํขิตฺตาว, เต สงฺเขปวเสน ทฺเว กตฺวา ‘‘ฉฏฺสตฺตเมสู’’ติ วุตฺตํ.
อมตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สติปฏฺานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อินฺทฺริยสํยุตฺตํ
๑. สุทฺธิกวคฺโค
๑. สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา
๔๗๑. จตุภูมก ¶ ¶ …เป… ลพฺภนฺติ กุสลาพฺยากตภาวโต เตสํ ติณฺณํ อินฺทฺริยานํ. วีริยินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยานิ…เป… สพฺพตฺถ ลพฺภนฺติ กุสลตฺติกสาธารณตฺตา. จตุภูมก …เป… วเสนาติ จตุภูมกธมฺมปริจฺเฉทวเสน เจว กุสลาทีหิ สพฺพสงฺคาหกธมฺมปริจฺเฉทวเสน จ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ทุติยสมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๔๗๗. ทุกฺขสจฺจวเสนาติ ทุกฺขสจฺจภาเวน น ปชานนฺติ. ตฺหิ ปริฺเยฺยตาย ทุกฺขสจฺจสงฺคหํ. สมุทยสจฺจวเสนาติ ตณฺหาวิชฺชาทึ สทฺธินฺทฺริยสฺส สมุทยสจฺจภาเวน น ปชานนฺติ. นิโรธนฺติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อนุปาทาย นิโรธนิมิตฺตํ นิพฺพานํ. ปฏิปทนฺติ สทฺธินฺทฺริยนิโรธคามินึ ปฏิปทํ อริยมคฺคํ. เสเสสูติ วีริยินฺทฺริยาทีสุ.
สุกฺกปกฺเขติ ‘‘สทฺธินฺทฺริยํ ปชานนฺตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเต อนวชฺชปกฺเข. อธิโมกฺขวเสน อาวชฺชนสมุทยาติ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตปุพฺพภาคภูตสทฺธาธิโมกฺขวเสน อาวชฺชนุปฺปตฺติยา. ตสฺมา ปมุปฺปนฺนา สทฺธา เอว เหตฺถ ‘‘อาวชฺชน’’นฺติ วุตฺตา, น มโนทฺวาราวชฺชนํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตสฺมา ปมุปฺปนฺนา อาวชฺชนา ปคฺคหุปฺปตฺติฏฺานานํ ติกฺขานํ วีริยินฺทฺริยาทีนํ ปมุปฺปตฺติยา อาวชฺชนปริยาเยน วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ทุพฺพลา หิ ปมุปฺปนฺนา ปคฺคหาภาวโต วีริยินฺทฺริยาทีนํ สมุทโยติ พลวภาวปฺปตฺตวีริยินฺทฺริยาทิกสฺส อาวชฺชนฏฺานิยานิ โหนฺตีติ เตสํ สมุทโยติ วุตฺตา, ปุพฺเพ อธิมุจฺจนาทิวเสน ปวตฺตสฺส อาวชฺชนสฺส สมุทยาติ อตฺโถ. ปุน ฉนฺทวเสนาติ กตฺตุกามตากุสลจฺฉนฺทวเสน สทฺธาทีนํ อุปฺปาเทตุกามตาการปฺปวตฺตสฺส ¶ ฉนฺทสฺส วเสน. มนสิการวเสน อาวชฺชนสมุทยาติ สทฺธินฺทฺริยาทิวเสน ปวตฺตสฺส ทุพฺพลสฺส ตสฺส นิพฺพตฺตกโยนิโสมนสิการวเสน อาวชฺชนสฺส อุปฺปตฺติยา. เอวมฺปีติ ‘‘อธิโมกฺขวเสนา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรนปิ. ฉสุ สุตฺเตสูติ ¶ ทุติยโต ปฏฺาย ฉสุ สุตฺเตสุ. จตุสจฺจเมว กถิตํ. อสฺสาทคฺคหเณน หิ สมุทยสจฺจํ, อาทีนวคฺคหเณน ทุกฺขสจฺจํ, นิสฺสรณคฺคหเณน นิโรธมคฺคสจฺจานิ คหิตานีติ. ปมสุตฺเต ปน อินฺทฺริยานํ สรูปทสฺสนเมวาติ.
๘. ทพฺพสุตฺตวณฺณนา
๔๗๘. โสโต อาปชฺชียติ เอเตนาติ โสตาปตฺติ, อนาคตํ ปติ ปมมคฺโค. โสโตติ อริยมคฺคโสโต ทฏฺพฺโพ. อาปชฺชียตีติอาทิโต ปฏิปชฺชียติ. ปมมคฺคปฏิลาภนิมิตฺตานิ โสตาปนฺนสฺส องฺคานิ อิธ ‘‘โสตาปตฺติยงฺคานี’’ติ วุตฺตานิ. ตานิ ปน ตีสุ าเนสุ สทฺธา อริยกนฺตสีลฺจาติ เวทิตพฺพานิ. สวิสเยติ สกวิสเย. เชฏฺกภาวทสฺสนตฺถนฺติ ปธานภาวทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ สทฺธาทิอินฺทฺริยานํ สาติสยกิจฺจํ, เตสํ กิจฺจาติเรกตํ ทสฺเสตุนฺติ อตฺโถ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาหิ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปตฺวาติ อตฺตโน กิจฺจาติเรกฏฺานํ ปฏิลภิตฺวา. ปุพฺพงฺคมนฺติ สทฺทหนกิจฺเจสุ ปุเรจารํ โธรยฺหํ. เสสานิ วีริยินฺทฺริยาทีนิ. ตทนฺวยานีติ ตทนุคตานิ ตสฺส สทฺธินฺทฺริยาทิกสฺส ปกฺขิกานิ. เอส นโย เสเสสุปิ. ฌานวิโมกฺเขติ ฌานสงฺขาเต วิโมกฺเข สมาธิปธานตาย ฌานานํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘โสตาปตฺติยงฺคานิ ปตฺวา’’ติ อิทฺจ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. สทฺธูปนิสฺหิ สีลนฺติ. อริยสจฺจานิ ปตฺวาติ จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสเมตพฺพานิ ปาปุณิตฺวา.
๙-๑๐. ปมวิภงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๗๙-๔๘๐. เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺาติ อาห – ‘‘ปฺาเยตํ นาม’’นฺติ. นิปายติ สํกิเลสธมฺเม วิโสเสติ นิกฺขาเมตีติ นิปโก, ถิรติกฺขสติปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว เนปกฺกนฺติ สติยาปิ เนปกฺกภาโว ยุชฺชเตว. เอวฺหิ ‘‘สติเนปกฺเกนา’’ติ อิทํ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ, สติยา จ เนปกฺเกนาติ เอวํ วุจฺจมาเนน สตินิทฺเทโส นาม กโต โหติเยว. อสุกํ นาม สุตฺตํ วา กมฺมฏฺานํ วา เม ภาสิตนฺติ. โวสฺสชฺชียติ สงฺขารคตํ เอตสฺมึ อธิคเตติ โวสฺสคฺโค, นิพฺพานํ. ตํ อารมฺมณํ ¶ กริตฺวาติ อาห – ‘‘นิพฺพานารมฺมณํ กตฺวา’’ติ. คจฺฉนฺติยาติ สงฺขารานํ อุทยฺจ วยฺจ อุทยพฺพยํ คจฺฉนฺติยา พุชฺฌนฺติยา. เตนาห ¶ ‘‘อุทยพฺพยปริคฺคาหิกายา’’ติ. สทฺธาสติปฺินฺทฺริยานิ ปุพฺพภาคานิ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา, อุทยตฺถคามินิยา ปฺายา’’ติ จ วุตฺตตฺตา. ‘‘อารทฺธวีริโย วิหรติ, โส อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทินา จ วุตฺตตฺตา วีริยินฺทฺริยํ มิสฺสกํ. ‘‘โวสฺสคฺคารมฺมณํ กริตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา สมาธินฺทฺริยํ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว. อยเมวาติ ยฺวายํ นวเม วุตฺโต. อยเมว ปุพฺพภาคมิสฺสกโลกุตฺตรตฺตธมฺมปริจฺเฉโท.
สุทฺธิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มุทุตรวคฺโค
๑. ปฏิลาภสุตฺตวณฺณนา
๔๘๑. สมฺมปฺปธาเน อารพฺภาติ สมฺมปฺปธาเน ภาวนาวเสน อารพฺภ. เตนาห ‘‘ภาเวนฺโต’’ติ. ยถา วีริยินฺทฺริยนิทฺเทเส ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อารพฺภ วีริยํ ปฏิลภตี’’ติ เทสนา อาคตา, เอวํ สตินฺทฺริยนิทฺเทเส ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺาเน อารพฺภ สตึ ปฏิลภตี’’ติ, ตสฺมา ‘‘สตินฺทฺริเยปิ เอเสว นโย’’ติ วุตฺตํ. สทฺธินฺทฺริยาทินิทฺเทเสสุ ปน น ตถา เทเสติ.
๒. ปมสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๘๒. อินฺทฺริยานํ ติกฺขาทิภาโว วิปสฺสนาวเสน วา มคฺควเสน วา ผลวเสน วา คเหตพฺโพติ วุตฺตํ ‘‘ตโตติ…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ. นนุ เจตฺถ มุทุภาโว เอว ปาฬิยํ คหิโตติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน ติกฺขภาเว อสติ น โหติ ติกฺขาทิภาโวติ วุตฺตํ. ยโต หิ อยํ มุทุ, อิโต ตํ ติกฺขนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ อเปกฺขาสิทฺธตฺตา ติกฺขมุทุภาวานํ ปาราปารํ วิย. อิทานิ ‘‘ตโต’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘สมตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมตฺตานีติ สมฺปนฺนานิ. อิตรํ ¶ ตสฺเสว เววจนํ. สมตฺตานีติ วา ปริยตฺตานิ, สมตฺตานีติ อตฺโถ. ‘‘ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสารีมคฺคสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? ตโตติ หิ โสตาปตฺติมคฺควิปสฺสนินฺทฺริยานิ อธิปฺเปตานิเยว, ‘‘ตโต มุทุตรานี’’ติ วุตฺตปมมคฺโค ธมฺมานุสารี วา สิยา สทฺธานุสารี วาติ พฺยภิจรติ? นายํ โทโส, โสตาปตฺติมคฺเคกเทสวเสเนว ¶ ลทฺธพฺพปมมคฺคาเปกฺขาย วิปสฺสนาย วิภาคสฺส อธิปฺเปตตฺตา. โย หิ โสตาปนฺโน หุตฺวา อิริยาปถํ อโกเปตฺวา ยถานิสินฺโนว สกทาคามิมคฺคํ ปาปุณาติ, ตสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ สนฺธาย อวิภาเคน วุตฺตํ – ‘‘ตโต มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นามา’’ติ. โย ปน โสตาปนฺโน หุตฺวา กาลนฺตเรน สกทาคามี โหติ, ตสฺส โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย ปวตฺตานิ วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ. โส เจ ธมฺมานุสารีโคตฺโต, ตสฺส ยถาวุตฺตวิปสฺสนินฺทฺริยโต มุทุตรานีติ ‘‘ตโต มุทุตรานิ ธมฺมานุสารีมคฺคสฺสา’’ติ วุตฺตํ. วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นามาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ธมฺมานุสารีวิปสฺสนินฺทฺริยโต สทฺธานุสารีวิปสฺสนินฺทฺริยานํ มุทุภาวสฺส การณํ สยเมว วกฺขติ. ธมฺเมน ปฺาย มคฺคโสตํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี, ปฺุตฺตโร อริโย. สทฺธาย มคฺคโสตํ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี, สทฺธุตฺตโร อริโย.
เอวํ วิปสฺสนาวเสน ทสฺเสตฺวา มคฺควเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา’’ติอาทิ อารทฺธํ. สมฺปโยคโต สภาวโต จ อรหตฺตมคฺคปริยาปนฺนานิ อรหตฺตมคฺคินฺทฺริยานิ. อรหตฺตผลินฺทฺริยานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
อิทานิ ผลวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘สมตฺตานิ ปริปุณฺณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสตาปตฺติมคฺคฏฺปุคฺคลวเสน นานตฺตํ ชาตํ, ตสฺมา เต ทฺเวปิ อิธ ตติยวาเร น ลพฺภนฺตีติ อธิปฺปาโย. ธมฺมานุสารีสทฺธานุสารีนํ นานตฺตํ กถํ ชาตนฺติ อาห ‘‘อาคมเนนปิ มคฺเคนปี’’ติ. ตทุภยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธานุสารีปุคฺคโล’’ติอาทิมาห. อุทฺทิสาเปนฺโตติ อุทฺเทสํ คณฺหนฺโต.
มคฺโค ติกฺโข โหติ อุปนิสฺสยินฺทฺริยานํ ติกฺขวิสทภาวโต. เตนาห ‘‘สูรํ าณํ วหตี’’ติ. อสงฺขาเรนาติ สรเสเนว. อปฺปโยเคนาติ ตสฺเสว เววจนํ. ธมฺมานุสารีปุคฺคโล หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อปฺปทุกฺเขน อปฺปกสิเรน อกิลมนฺโตว วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ. สทฺธานุสารีปุคฺคโล ปน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต หุตฺวา วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ธมฺมานุสาริสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ ¶ กิเลสจฺเฉทกาณํ อทนฺธํ ติขิณํ หุตฺวา วหติ, ยถา นาม ติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ ขิปฺปํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ธมฺมานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ, สทฺธานุสาริโน ปน ปุพฺพภาคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ ทนฺธํ น ติขิณํ อสูรํ หุตฺวา วหติ, ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ น วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ อิจฺฉิตพฺพํ ¶ โหติ, เอวรูปา สทฺธานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ. เอวํ สนฺเตปิ กิเลสกฺขเย นานตฺตํ นตฺถิ. เตนาห ‘‘กิเลสกฺขเย ปนา’’ติอาทิ. อวเสสา จ กิเลสา ขียนฺติ สํโยชนกฺขยาย โยคตฺตา.
๓. ทุติยสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๘๓. ตโตติ ผลโต ผลเวมตฺตตาย จริยมานตฺตา. อินฺทฺริยเวมตฺตตา สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ นานตฺเตน. ผลนานตฺตนฺติ อรหตฺตผลาทินานตฺตํ. ปุคฺคลนานตฺตนฺติ อนาคามิอาทิปุคฺคลนานตฺตํ.
๔. ตติยสํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๘๔. สีลกฺขนฺธาทีหิ สทฺธินฺทฺริยาทีหิ จ ปริโต ปูรเณน ปริปูรํ อรหตฺตมคฺคํ กโรนฺโต นิปฺผตฺติโต อรหตฺตผลํ อาราเธติ นิปฺผาเทติ. ตโย ปเทสมคฺเคติ สีลกฺขนฺธาทีนํ อปาริปูริยา เอกเทสภูเต ตโย เหฏฺิมมคฺเค. ปเทสํ เหฏฺิมผลตฺตยํ. จตูสูติ อิมสฺมึ วคฺเค ปมาทีสุ จตูสุ สุตฺเตสุ. กามฺเจตฺถ ตติเย ‘‘ตโตติ ผลวเสน นิสฺสกฺก’’นฺติ วุตฺตํ, จตุตฺเถ ‘‘ปริปูรํ ปริปูรการี อาราเธติ, ปเทสํ ปเทสการี’’ติ, ‘‘จตูสุปิ สุตฺเตสุ มิสฺสกาเนว อินฺทฺริยานิ กถิตานี’’ติ ปน วจนโต วิปสฺสนาวเสนปิ โยชนา ลพฺภเตวาติ ทฏฺพฺพํ.
๕-๗. ปมวิตฺถารสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๘๕-๔๘๗. วิปสฺสนาวเสน นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํ, น มคฺคผลวเสน, อิมสฺมึ สุตฺเต สพฺพโสว วิปสฺสนินฺทฺริยานํ เอว อธิปฺเปตตฺตา. อิทานิ ตมตฺถํ ¶ ปากฏํ กาตุํ ‘‘ปริปุณฺณานิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิหาทีสุ ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ ตตฺถ ตตฺถ อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตรา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต อนฺตราปรินิพฺพายี, อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน สรสโตว ปรินิพฺพายนโต อสงฺขารปรินิพฺพายี, ตพฺพิปริยายโต สสงฺขารปรินิพฺพายี, อุทฺธํ วาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วาติ อุทฺธํโสโต, อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโสโต, อกนิฏฺภวํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามีติ เอวเมตฺถ สทฺทตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อิมสฺมึ ปน าเนติ ‘‘วิปสฺสนาวเสน นิสฺสกฺก’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน. อรหตฺตมคฺเคเยว ตฺวาติ อิมสฺมึเยว ¶ ภเว อรหตฺตมคฺเคเยว, น วิปสฺสนาย จ ตฺวา. ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นีหริตพฺพานีติ ‘‘ตโต มุทุตเรหิ อนฺตราปรินิพฺพายี โหตี’’ติอาทีนิ ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นิทฺธาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. อิทานิ ตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘อรหตฺตมคฺคสฺส หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวิหาทีสุ อุปฺปชฺชิตฺวา อุปฺปนฺนสมนนฺตราย ปรินิพฺพายนโต ปมอนฺตราปรินิพฺพายี. ตตฺถ อายุปฺปมาณเวมชฺฌํ อปฺปตฺวาว ปรินิพฺพายนโต ทุติยอนฺตราปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนโต ตโต ปรํ ตติยอนฺตราปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. ‘‘ปฺจ นิสฺสกฺกานี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายีติ วตฺตพฺพนฺติ? น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส สสงฺขารปรินิพฺพายิโนปิ เอเตว ปฺจ ชนา’’ติ.
ตีณิ นิสฺสกฺกานีติ ‘‘ตโต มุทุตเรหิ โสตาปนฺโน โหตี’’ติอาทีนิ ตีณิ นิสฺสกฺกปทานิ. อิธ สกทาคามี น คหิโต, โส อนาคามิมคฺเค ตฺวา นีหริตพฺโพ, อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตเรหิ สกทาคามี โหติ. สกทา…เป… มุทุตรานีติ อิทํ สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ เอกพีชิสงฺขาตโสตาปนฺนวิปสฺสนินฺทฺริยานิ มุทุตรานิ โหนฺตีติ ตีณิ กตฺวา วุตฺตํ. ธมฺมานุสารีติอาทิทฺวยํ โกลํโกลาทิทฺวเยน คหิตํ โหตีติ. สกทาคามิมคฺคสฺส หีติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส วิวรณํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ฉฏฺสตฺตมานิ วุตฺตนยาเนวาติ ฉฏฺสตฺตมานิ สุตฺตานิ ทุติยตติเยสุ วุตฺตนยาเนว. ตตฺถ ปน มิสฺสกานิ อินฺทฺริยานิ กถิตานิ, อิธ ปุพฺพภาควิปสฺสนินฺทฺริยานิ กถิตานีติ อยเมว วิเสโส.
๘. ปฏิปนฺนสุตฺตวณฺณนา
๔๘๘. ตนฺติ ¶ มคฺคผลวเสน นิสฺสกฺกํ. ปาฬิยํ วุตฺตเมว ‘‘อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติอาทินา. อฏฺหีติ จตูหิ ผเลหิ จตูหิ จ มคฺเคหีติ อฏฺหิ. พหิภูโต น อนฺโตภาโว. โลกุตฺตราเนว อินฺทฺริยานิ กถิตานิ มคฺคผลจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตฺตา.
๙-๑๐. สมฺปนฺนสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๘๙-๔๙๐. อินฺทฺริยสมฺปนฺโนติ เอตฺถ สมฺปนฺนสทฺโท ปริปูริอตฺโถติ อาห ‘‘ปริปุณฺณินฺทฺริโย’’ติ. มิสฺสกานิ อินฺทฺริยานิ กถิตานิ สามฺโตว เทสิตตฺตา.
มุทุตรวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ฉฬินฺทฺริยวคฺโค
๒. ชีวิตินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา
๔๙๒. อิตฺถิภาเวติ ¶ อิตฺถิตาย. อินฺทฏฺํ กโรติ ตถาสตฺตชนสามฺการณภาวโต. อิตฺถิยา เอว อินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ. เอส นโย ปุริสินฺทฺริเย. ชีวิเตติ สหชาตธมฺมานํ ชีวเน ปาลเน ปวตฺตเน. วฏฺฏินฺทฺริยานีติ วฏฺฏเหตุภูตานิ อินฺทฺริยานิ. อิเมสุ หิ อุปาทินฺนอินฺทฺริเยสุ สติ วฏฺฏํ วตฺตติ ปฺายติ.
๓. อฺินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา
๔๙๓. อชานิตปุพฺพํ ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมมาห, ตถา เตสํเยว าตธมฺมานนฺติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อาชานาตีติ อฺา, ปมมคฺเคน าตมนติกฺกมิตฺวา ชานาตีติ อตฺโถ. โสตาปนฺนาทีนํ ฉอริยานํ เอตํ นามํ. อฺสฺส อินฺทฺริยานิ อฺินฺทฺริยานิ. อฺาตาวีสูติ อาชานิตวนฺเตสุ. ยสฺมา อคฺคผลธมฺเมสุ าณกิจฺจํ สาติสยํ, ตสฺมา ตํ กิจฺจํ เสสธมฺเมสุปิ สมาโรเปตฺวา วุตฺตํ ‘‘อฺาตาวีสุ อรหตฺตผลธมฺเมสู’’ติ. ตตฺถ ตตฺถ เตสุ เตสุ มคฺคผเลสุ. เตน เตนากาเรนาติ อนฺาตชานนาทิอากาเรน.
๔. เอกพีชิสุตฺตวณฺณนา
๔๙๔. วิปสฺสนโต ¶ นิสฺสกฺกนฺติ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ นิสฺสกฺกํ. อิทานิ ตเมว สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘สมตฺตานี’’ติอาทิมาห. ตีณิ นิสฺสกฺกานิ เอวมิธ ปฺจ นิสฺสกฺกานิ นีหริตพฺพานิ เอกพีชิอาทิวิภาวนโต. เตนาห ‘‘สกทาคามิมคฺคสฺส หี’’ติอาทิ. โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม เตนตฺตภาเวน สกทาคามิมคฺคํ ปตฺตุํ คจฺฉนฺตสฺส โสตาปนฺนสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ. ปฺจปิ เต โสตาปตฺติมคฺคสฺส เภทาเยวาติ ‘‘สกทาคามิมคฺเค ตฺวา นีหริตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ.
เอกพีชีติ เอตฺถ ขนฺธพีชํ นาม กถิตํ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํ ขนฺธพีชํ อตฺถิ, เอกํ อตฺตภาวคฺคหณํ, โส เอกพีชิ นาม. เตนาห – ‘‘โสตาปนฺโน หุตฺวา’’ติอาทิ. มานุสกํ ¶ ภวนฺติ อิทํ ปเนตฺถ เทสนามตฺตํ, เทวภวํ นิพฺพตฺเตตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ภควตา คหิตนามาเนตานิ. เอตฺตกฺหิ ปมาณํ คโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ เอกพีชีติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ.
ทฺเว ตโย ภเวติ เทวมนุสฺเสสุ เอว ทฺเว ตโย ภเว. สมฺโพธิจตุสจฺจธมฺโม ปรํ อยนํ นิสฺสโย คติ เอตสฺสาติ สมฺโพธิปรายโณ. กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยโต ปฏฺาย หิ นีจกุเล อุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ, มหาโภเคสุ กุเลสุ เอว นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. เกวโลปิ หิ กุล-สทฺโท มหาโภคกุลเมว วทติ. ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานีติ เทวมนุสฺสวเสน ทฺเว วา ตโย วา ภเวติ อยมฺปิ มิสฺสกภเวน กถิโต. ชาตสฺส กุมารสฺส วิย อริยาย ชาติยา ชาตสฺส นามเมตํ, ยทิทํ นิยโตติ สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิโกติ จ สมฺาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควตา คหิตนามวเสเนวา’’ติอาทิ.
ยทิ ปุพฺพเหตุนิยมโต โสตาปนฺโน จ นิยโตติ โสตาปตฺติมคฺคโต อุทฺธํ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปนิสฺสยาภาวโต ปุพฺพเหตุกิจฺจํ นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยภาโว อาปชฺชติ. ยทิ ตสฺสปิ ปุพฺพเหตุอุปนิสฺสโย สิยา, ตาว นิยมโต โสตาปตฺติมคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ เอว นิยมิโต, ยาวฺจ อกนิฏฺํ ตสฺส ปุพฺพเหตุ นาม ¶ , อเหตุกตา อาปนฺนา, อิจฺจสฺส อเหตุ อปฺปจฺจยา นิปฺผตฺติ ปาปุณาติ. กิฺจ เหตุ เจ? นิยมโต โสตาปนฺโน จ นิยโตติ ปมมคฺคาธิคเมเนว อนุกฺกเมน อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ กิจฺจานิ นิปฺผชฺชนฺติ, เอวํ สตฺตกฺขตฺตุปรมตาทินิยเม สติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตตาย ทุกฺขสฺส มูลภูตา กิเลสา ปมมคฺเคเนว ขีณาติ อุปริ ตโย มคฺคา อกิจฺจา สิยุํ. เตนาห ‘‘ปมมคฺคสฺส อุปนิสฺสโย กโต นามา’’ติอาทิ.
ยทิ อุปริ ตโย มคฺคา สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิตํ นิยเมนฺติ, ตโต จ อฺโ โสตาปนฺโน นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อกิจฺจกตา นิปฺปโยชนตา อาปชฺเชยฺย. อถ สกฺกายทิฏฺิอาทิปฺปหานํ ตสฺส กิจฺจํ, เตสํ เตสํ ปหาเนน สตฺตกฺขตฺตุปรมาทินิยมตาย. ภวิตพฺพํ, ยาว อุปริมคฺคา เอว โหนฺตีติ สตฺตภวาทิโต อุทฺธมปวตฺตนโต เตน วินาเนน สกฺกายทิฏฺิอาทิปฺปหาเนน จ เตน วินา ภวิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘ปมมคฺเค อนุปฺปนฺเนว อุปริ ตโย มคฺคา อุปฺปนฺนาติ อาปชฺชตี’’ติ. ติณฺณํ มคฺคานนฺติ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ. วิปสฺสนา นิยเมตีติ ยุชฺชตีติ วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘สเจ หี’’ติอาทิมาห.
โสตาปนฺโน ¶ วฏฺฏชฺฌาสโย. ตตฺเรกจฺเจ ปากเฏ ปฺาเต ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาถปิณฺฑิโก’’ติอาทิมาห. อิธฏฺกโวกิณฺณสุกฺขวิปสฺสกสฺสาติ โย อิมสฺมึ กามภเว ิโต มนุสฺสเทววเสน โวกิณฺณภวูปปตฺติโก สุกฺขวิปสฺสโก จ, ตสฺส วเสน. นามํ กถิตนฺติ สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ นามํ กถิตํ. เกจิ ปน ‘‘กามภเว สตฺตกฺขตฺตุํเยว อุปฺปชฺชติ, น ตโต’’ติ วทนฺติ, ตํ วีมํสิตพฺพํ.
โสเธสฺสามีติ ชมฺพุทีเป เกนจิ เตปิฏเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ ปิฏกตฺตยเมว มยฺหํ อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน โสเธยฺยามีติ ปรตีรํ ชมฺพุทีปํ คโต. โย ภิกฺขุ สกฺโกตีติ โยชนา. อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ เอกมุเขน อภินิวิฏฺเนปิ อภิธมฺมปริยาเยน ตีหิ เอว วิโมกฺเขหิ มคฺคํ ลภตีติ อภินิเวสเภเทน ตโย ปุคฺคลา สฺุตโต วุฏฺิตา, ตถา ตโย อปฺปณิหิตโต วุฏฺิตาติ ฉ โหนฺติ, เตว สทฺธาธุรปฺาธุรวเสน ทฺวาทส สกทาคามิโน. ตถา อรหนฺโต, ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน ¶ เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ, เต อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายิเภเทน ทสาติ อวิหาทีสุ จตูสุปิ จตฺตาลีส, อกนิฏฺเ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถีติ อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน. วิปสฺสนา กถิตา สมฺมสนจารสฺส กถิตตฺตา.
๕-๑๐. สุทฺธกสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๙๕-๕๐๐. ยถา จกฺขุสฺส สหชาตตทินฺทฺริยนิสฺสิตธมฺเมสุ อธิปเตยฺยํ อนุวตฺตนียตฺตา, เอวํ ตํทฺวาริกธมฺเมสุปิ อธิปเตยฺยํ เตหิ อนุวตฺตนียตฺตาติ วุตฺตํ – ‘‘อธิปเตยฺยสงฺขาเตน อินฺทฏฺเนา’’ติ. เอส นโย เสสินฺทฺริยาทีสุปิ. จตุสจฺจวเสน กถิตานิ สภาวาทิวิภาวนสฺส กถิตตฺตา.
ฉฬินฺทฺริยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สุขินฺทฺริยวคฺโค
๑-๕. สุทฺธิกสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๐๑-๕๐๕. ยถา จกฺขุ ทสฺสเน อธิปเตยฺยฏฺเน จกฺขุนฺทฺริยํ, เอวํ สุขเวทนา สุขเน อธิปเตยฺยฏฺเน ¶ สุขินฺทฺริยํ. เอส นโย เสเสสุปิ. เสสํ เตภูมกนฺติ เสสํ ภูมิตฺตยวเสน เตภูมกํ.
๖. ปมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๕๐๖. กายิกนฺติ อยมสฺส นิสฺสยวเสน นิทฺเทโสติ อาห – ‘‘กายปสาทวตฺถุก’’นฺติ. สรูปนิทฺเทโส สุขํ สุขินฺทฺริยสฺส สรูปนฺติ. สาทนียฏฺเน ธมฺมปทานิ อตฺตนิ อสฺสาทยตีติ สาตํ, มธุรํ. เวทยิตนฺติ เวทิยนํ, อนุภวนนฺติ อตฺโถ. อฺธมฺมวิสิฏฺโติ ผสฺสาทีหิ อฺเหิ ธมฺเมหิ วิสทิโส. กายิกนฺติ ปสาทกายสนฺนิสฺสิตํ. เจตสิกนฺติ เจโตสนฺนิสฺสิตํ, เตน วุตฺตํ ‘‘เอตฺถ ปนา’’ติอาทิ. กายปสาท…เป… นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘จตฺตาโร ปสาทกาเย วตฺถุํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ.
๙. กฏฺโปมสุตฺตวณฺณนา
๕๐๙. ทฺวินฺนํ ¶ อรณีนนฺติ อธรุตฺตรารณีนํ. กิฺจิ ทฺวยํ สงฺฆฏฺฏิตมตฺตํ หุตฺวา น สโมธานคตํ โหตีติ ตํนิวตฺตนตฺถํ ‘‘สงฺฆฏฺฏนสโมธานา’’ติ วุตฺตํ. ปุนปฺปุนํ สงฺฆฏฺฏเนน หิ เตโชปาตุภาโว. อธรารณี วิย วตฺถารมฺมณํ อสติปิ วายาเม ตชฺชสมฺผสฺสปจฺจยโต. อุตฺตรารณี วิย ผสฺโส วตฺถารมฺมณาทิผสฺเสน ปวตฺตนโต. สงฺฆฏฺโฏ วิย ผสฺสสงฺฆฏฺฏนํ อรณิทฺวยสงฺฆฏฺฏนา วิย ผสฺสสฺเสว วตฺถารมฺมเณสุ สงฺฆฏฺฏนากาเรน ปวตฺติโต. อคฺคิ วิย เวทนา อนุทหนฏฺเน ขณิกาวายฺจ. วตฺถารมฺมณํ วา อุตฺตรารณี วิย อินฺธนาปาตคหณาทีสุ อุสฺสาหสฺส วิย ปวตฺติสมฺภวโต. ผสฺโส อธรารณี วิย นิรุสฺสาหนิรีหตาวเสน อตฺตสาธนโต.
๑๐. อุปฺปฏิปาฏิกสุตฺตวณฺณนา
๕๑๐. รสนํ ภฺชนํ นิรุชฺฌนํ รโส. โย โย ธมฺมานํ รโส ยถาธมฺมรโส, เตน ยถาธมฺมรเสน. ปฏิปาฏิยาติ กเมน, อุภเยนปิ ธมฺมานํ ปหานกฺกเมนาติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺมึ อินฺทฺริยวิภงฺเคติ อิมสฺมึ อินฺทฺริยสํยุตฺตสฺิเต อินฺทฺริยวิภงฺเค. อเทสิตตฺตาติ เสสสุตฺตานิ วิย ‘‘สุขินฺทฺริย’’นฺติอาทินา อเทสิตตฺตา อิทํ อุปฺปฏิปาฏิกสุตฺตํ นาม. วลิยา ขรสมฺผสฺสาย ผุฏฺสฺส. ตนฺติ กณฺฏกเวทนาทึ. เอตสฺส ทุกฺขินฺทฺริยสฺส.
เตสํ ¶ เตสนฺติ โทมนสฺสินฺทฺริยาทีนํ. การณวเสเนวาติ ตํตํอสาธารณการณวเสน. เตสฺหิ วิเสสการณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺตจีวราทีนํ วา’’ติ อาห.
เอกโตวาติ ปุนปฺปุนํ ปทุทฺธารณํ อกตฺวา เอกชฺฌเมว. ทุติยชฺฌานาทีนํ อุปจารกฺขเณ เอว นิรุชฺฌนฺตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. เตสํ ทุกฺขินฺทฺริยโทมนสฺสาทีนํ. อติสยนิโรโธติ สุฏฺุ ปหานํ อุชุปฺปฏิปกฺเขน วูปสโม. นิโรโธเยวาติ นิโรธมตฺตเมว. นานาวชฺชเนติ เยน อาวชฺชเนน อปฺปนาวีถิ โหติ, ตโต ภิชฺชาวชฺชเน, อเนกาวชฺชเน วา. อปฺปนาวีถิยฺหิ อุปจาโร เอกาวชฺชโน, อิตโร อเนกาวชฺชโน อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตนโต. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป ¶ . ปีติผรเณนาติ ปีติยา ผรณรสตฺตา. ปีติสมุฏฺานานํ วา ปณีตรูปานํ กายสฺส พฺยาปนโต วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหตี’’ติ. วิตกฺกวิจารปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท อฏฺานปยุตฺโต, โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ ‘‘ปหีนสฺสปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสา’’ติ. เอตํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺส มยฺหํ อติจิรํ วิตกฺกยโต วิจารยโต กาโยปิ กิลมิ, จิตฺตมฺปิ วิหฺี’’ติ จ วจนโต กายจิตฺตเขทานํ วิตกฺกวิจารปจฺจยตา เวทิตพฺพา. วิตกฺกวิจารภาเว อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริยนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ ตตฺถ ทุติยชฺฌานุปจาเร อสฺส โทมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ภเวยฺย. ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ อิทํ ปริกปฺปวจนํ อุปจารกฺขเณ โทมนสฺสสฺส สุปฺปหีนภาวทสฺสนตฺถํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน ปหีนปจฺจยตฺตา’’ติ. ปหีนมฺปิ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ปีติ วิย น ทูเรติ กตฺวา ‘‘อาสนฺนตฺตา’’ติ วุตฺตํ. นานาวชฺชนุปจาเร ปหีนมฺปิ ปหานงฺคํ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺเชยฺยาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตายา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตาทิสาย อาเสวนาย อิจฺฉิตพฺพตฺตา ยถา มคฺควีถิโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา สทิสานุปสฺสนาว ปวตฺตนฺติ, เอวมิธาปิ อปฺปนาวารโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา อุเปกฺขาสหคตาว ปวตฺตนฺตี’’ติ วทนฺติ. อปริเสสนฺติ สุวิกฺขมฺภิตนฺติ กตฺวา วิกฺขมฺภเนน อนวเสสํ.
ตถตฺตายาติ ตถภาวาย ปมชฺฌานสมงฺคิตาย. สา ปนสฺส อุปฺปาทเนน วา อุปฺปนฺนสฺส สมาปชฺชเนน วา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุปฺปาทนตฺถาย สมาปชฺชนตฺถายา’’ติ. ทฺวีสูติ นวมทสเมสุ สุตฺตนฺเตสุ.
สุขินฺทฺริยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ชราวคฺโค
๑. ชราธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๕๑๑. ปมุเข ¶ , ปาสาทสฺส จ ปจฺฉิมภาเค อาตโป ปจฺฉาตโป, ตสฺมึ ปจฺฉาตเป. โส หิ ปาสาทสฺส ปมุขภาเวน กโต. กึ ปน ภควโต วชิรสารํ สรีรํ โอตาเปตพฺพํ โหตีติ อาห – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติอาทิ ¶ . อยฺจ อิมํ สุตฺตํ เทสิตสมเย. น สกฺโกติ พฺยามปฺปภาย กายจิ ปภาย อนภิภวนียตฺตา. กิฺจาปิ พุทฺธาภา สูริยาภาย อนภิภวนียา, ฆมฺมสภาวตาย ปน รสฺมีนํ ปริโต ผรนฺตี สูริยาภา ติขิณา อุณฺหาติ อาห ‘‘รสฺมิเตช’’นฺติ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยเถว หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สุวณฺณาวฏฺฏํ วิยาติ อจฺเฉ สุวณฺณปตฺเต วินิวตฺตอาวฏฺฏํ วิย. ครหณจฺฉริยํ นาม กิเรตํ ‘‘อจฺฉริยเมตํ อวิสิจฺเฉผลวท’’นฺติอาทีสุ วิย. น เอวเมตรหีติ อตฺตโน ปากฏวเสน วทติ, น อิตเรสมฺปีติ. สิราชาลาติ สิราสนฺตานา. เอวรูปํ น โหตีติ อฺเสํ ปากติกสตฺตานํ วุตฺตาการํ วิย น โหติ ปฺุสมฺภารสฺส อุฬารตมตฺตา วิปจฺจนสฺส ปริยนฺตคตตฺตา. เตนาห ‘‘อฺเสํ อปากฏ’’นฺติ. วลิยาวฏฺฏกนฺติ อปฺปกํ วลิยาวฏฺฏํ. เตนาห ‘‘เกสคฺคปฺปมาณ’’นฺติ. สพฺพานีติ สิราชาลานิ. ปุรโต วงฺโกติ โถกํ ปุรโต นตมตฺตํ สนฺธายาห. เตน วุตฺตํ ‘‘สฺวายํ อฺเสํ อปากโฏ’’ติ. นยคฺคาหโตติ อนุมานโต. ธี ตนฺติ ธี-สทฺทโยเค อุปโยควจนํ. ธีติ ชิคุจฺฉนตฺเถ นิปาโต. ธิกฺกาโรติ ชิคุจฺฉาปโยโค. ตํ ผุสตูติ ตุยฺหํ ปาปุณาตุ.
๒. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๕๑๒. อฺมฺสฺสาติ อฺโ อฺสฺส. น ปจฺจนุโภติ อตฺตโน อวิสยภาวโต. อิทานิ ตํ อฺวิสยตํ อนฺวยโต พฺยติเรกโต วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
วิสยานิ ปฏิสรนฺติ เอตฺถาติ ปฏิสรณํ. อินฺทฺริยวิฺาณานิ หิ อสติปิ ตาทิเส อธิปฺปาเย อตฺตโน อารมฺมณสฺส ยาถาวโต สมฺปชานนโต ปเวทนวิชานนานิ กโรนฺตานิ วิย ปวตฺตนฺติ, ตถา โลกสฺส อฺตฺถ สิทฺธิโต. เตนาห ภควา – ‘‘มโน ปฏิสรณํ, มโนว เนสํ ¶ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ มโนทฺวาริกชวนมโน หิ สวิเสสํ มโนวิสยํ ปจฺจนุโภติ, ปฺจทฺวาริกชวนมโน มนนมตฺตเมว ปจฺจนุภวติ. รชฺชนาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ, ตสฺมา สทฺทหนาทิปิ คหิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ, ปฺจทฺวารปฺปวตฺติวเสน ตถา วุตฺตํ. เอกสฺมึ ปน ทฺวาเรติ จกฺขุทฺวาเร.
ทุพฺพลโภชกาติ ¶ อปฺปานุภาวา ราชโภคฺคา. อายนฺติ โภคุปฺปตฺติฏฺานํ. โยตฺตพนฺธาทินิมิตฺตํ ลทฺธพฺพกหาปโณ โยตฺตกหาปโณ. อทฺทุพนฺธาทินิมิตฺตํ คเหตพฺพกหาปโณ อทฺทุกหาปโณ. มาฆาตโฆสนาย กตาย หึสานิมิตฺตํ คเหตพฺพกหาปโณ มาปหารกหาปโณ. ตสฺส ปริมาณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺกหาปโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. สตวตฺถุกนฺติ สตกรีสวตฺถุกํ.
มคฺคสตีติ อริยมคฺคสติ. ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส หิ ชวนมโน อุสฺสกฺกิตฺวาว มคฺคสตึ ปฏิสรติ ตปฺปริโยสานตฺตา. ตนฺติ นิพฺพานํ. สาติ ผลวิมุตฺติ. ปฏิสรติ อคฺคมคฺคสติยา. ผลวิมุตฺติ นิพฺพานนฺติ อุภยํ มคฺคสฺส สิทฺธาเยวาติ. อารมฺมณวเสน นตฺถิ เอตสฺส ปฏิสรณนฺติ อปฺปฏิสรณํ อสงฺขตามตสฺส สนฺตินิจฺจสภาวตฺตา. สยํ ปน สพฺเพสํเยว อริยานํ ปฏิสรณํ. เตนาห ‘‘นิพฺพานํ อรหโต คตี’’ติ (ปริ. ๓๓๙). นิพฺพานํ อนุปวิฏฺํ นิพฺพานนิสฺสยตฺตา. น ตโต ปรํ คจฺฉติ คตสฺส อฺสฺส ตาทิสสฺส อภาวา. นิพฺพานํ ปริ สพฺพโส โอสานนฺติ นิพฺพานปริโยสานํ.
มูลชาตา ชาตมูลา. ตโต เอว ปติฏฺิตา. กา ปนสฺสาติ อาห ‘‘มคฺเคน อาคตสทฺธา’’ติ. มคฺโค ทฬฺหาย อสํหาริยสทฺธาย มูลํ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตานิ เจว วิจิกิจฺฉาจิตฺตฺจาติ ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ สมุจฺเฉทวเสน ปหีนานิ. ปฺจ นีวรณานีติ เอตฺถ อปายคมนียานิ ปมมคฺเคเนว ปหีนานิ, อิตรานิ วิกฺขมฺภนวเสน ฌาเนน ปหีนานีติ ปฺจสุ โอรมฺภาคิยกิเลสสํโยชเนสุ เอกเทสวิคเมเนว พหิทฺธาสํโยชโน วิย ชาโตติ วุตฺตํ ‘‘ฌานอนาคามิฏฺาเน ิโต’’ติ. เตนาห ‘‘โส อปริหีน…เป… นิพฺพาเยยฺยา’’ติ.
๕. ปมปุพฺพารามสุตฺตวณฺณนา
๕๑๕. ปุพฺพโกฏฺเก เอวํ อาคตสุตฺตํ อาทึ กตฺวา ผลินฺทฺริยาเนว กถิตานิ อคฺคผลวเสน เทสนาย อาคตตฺตา.
๑๐. อาปณสุตฺตวณฺณนา
๕๒๐. อุปริ ¶ สห วิปสฺสนาย ตโย มคฺคาติ วิปสฺสนาย สห โสตาปตฺติผลโต อุปริ ตโย มคฺคา. มคฺคาธิคเมน อิทานิ ปจฺจกฺขภูตตฺตา ¶ ‘‘อิเม โข เต ธมฺมา’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ ยํ อคฺคภูตํ, ตสฺส วเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อรหตฺตผลินฺทฺริยํ นามา’’ติ วุตฺตํ อินฺทฺริยภาวสามฺเน เอกชฺฌํ กตฺวา. อติวิชฺฌิตฺวา ปสฺสามีติ สจฺฉิกตฺวา ยาถาวโต ปสฺสามิ. จตูหิ อินฺทฺริเยหีติ วีริยินฺทฺริยาทีหิ จตูหิ อินฺทฺริเยหิ. สา วิปสฺสนามคฺคผลสหคตา สิยาติ มิสฺสกา วุตฺตา.
ชราวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สูกรขตวคฺโค
๑. สาลสุตฺตวณฺณนา
๕๒๑. สูรภาเวนาติ อติสูรภาเวน. พุชฺฌนตฺถายาติ สจฺจปฏิเวธาย.
๒. มลฺลิกสุตฺตวณฺณนา
๕๒๒. จตฺตาริ อินฺทฺริยานีติ ปฺินฺทฺริยํ เปตฺวา เสสานิ จตฺตาริ. ‘‘อริยาณํ โลกุตฺตร’’นฺติ วุตฺตํ มคฺคาณํ กตฺวา. อริย-สทฺโท ปน ยถา ตถา วิสุทฺเธปิ โหตีติ ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตมฺปิ ปนา’’ติอาทิ. ยถา หิ จตฺตารินฺทฺริยานิ มิสฺสกานิ, เอวํ ปฺินฺทฺริยมฺปิ มิสฺสกนฺติ วุจฺจมาเน น โกจิ วิโรโธติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ตมฺปิ ปน…เป… วฏฺฏตี’’ติ.
๓. เสขสุตฺตวณฺณนา
๕๒๓. น สกฺโกติ อินฺทฺริยานํ อปริปกฺกตฺตา. อตฺถีติ ปชานาติ นยคฺคาเหน, น ปจฺจกฺขโต. น หิ อริยาปิ อนธิคตํ มคฺคผลํ ปจฺจเวกฺขิตุํ สกฺโกนฺติ.
๖. ปติฏฺิตสุตฺตวณฺณนา
๕๒๖. สาสเวสูติ ¶ จตุราสววินิมุตฺเตสุ เสสธมฺเมสุ อารมฺมเณสุ. เตสุปิ อุปฺปชฺชนกอนตฺถโต จิตฺตํ รกฺขติ นาม.
๘. สูกรขตสุตฺตวณฺณนา
๕๒๘. ตํ ¶ สนฺธายาติ ตํ สูกรขตเลณํ สนฺธาย. เอตํ ‘‘สูกรขตาย’’นฺติ วจนํ วุตฺตํ. ภาวนปุํสกนฺติ ภาวโชตกํ นปุํสกวจนํ ยถา ‘‘วิสมํ วาตา วายนฺติ, เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ. กิจฺจปฏิปตฺติ เตสํ สํกาสนฏฺเน สปติโส, สปติโส เอว สปฺปติสฺโส, สเชฏฺโกติ อาห ‘‘สปฺปติสฺโสติ สเชฏฺโก’’ติ.
สูกรขตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. โพธิปกฺขิยวคฺควณฺณนา
๕๓๑-๖๕๐. สตฺตานํ ผลานํ เหตุภูตานิ ‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา’’ติอาทินา วุตฺตานิ, ปฺจินฺทฺริยานิเยว ผลูปจาเรน ‘‘สตฺต ผลานี’’ติ วุตฺตานิ. ตานิ จ ปุพฺพภาคานิ ‘‘อิเมสํ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา…เป… สตฺตานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ วจนโต. เตสนฺติ สตฺตานํ ผลานํ. ‘‘ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผล’’นฺติ เอวํ อตีตสุตฺเต วุตฺตานิ เหฏฺา ทฺเว ผลานิ นามาติ วทนฺติ. เยหิ ปน อินฺทฺริเยหิ อฺตฺร ปน อนฺตราปรินิพฺพายึ เสสานิ ผลานิ โหนฺติ, ตานิ จตฺตาริ สปุพฺพภาคานิ โลกุตฺตรานีติ วุตฺตํ สิยา.
อินฺทฺริยสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สมฺมปฺปธานสํยุตฺตวณฺณนา
๖๕๑-๗๐๔. สมฺมปฺปธานสํยุตฺเต ¶ ปุพฺพภาควิปสฺสนาว กถิตา ‘‘อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานายา’’ติอาทิวจนโต.
สมฺมปฺปธานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. พลสํยุตฺตวณฺณนา
๗๐๕-๘๑๒. พลสํยุตฺเต พลานิ มิสฺสกาเนว กถิตานิ ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ วจนโต.
พลสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อิทฺธิปาทสํยุตฺตํ
๑. จาปาลวคฺโค
๑. อปารสุตฺตวณฺณนา
๘๑๓. ฉนฺทํ ¶ ¶ นิสฺสาย ปวตฺโต สมาธีติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ อธิปตึ กตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิ ฉนฺธสมาธิ. ปธานสงฺขาราติ จตุกิจฺจสาธกสฺส สมฺมปฺปธานวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. เตหีติ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขาเรหิ. อิทฺธิยา ปาทนฺติ นิปฺผตฺติปริยาเยน อิชฺฌนฏฺเน, อิชฺฌนฺติ เอตาย สทฺธา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน ‘‘อิทฺธี’’ติ สงฺขาตานํ อุปจารชฺฌานาทิกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารานํ อธิฏฺานฏฺเน ปาทภูตํ, เสสจิตฺตเจตสิกราสินฺติ อตฺโถ. สา เอว จ ยถาวุตฺตอิทฺธิ ยสฺมา เหฏฺิมา เหฏฺิมา อุปริมาย อุปริมาย ปาทภูตา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อิทฺธิภูตํ วา ปาทนฺติ อิทฺธิปาท’’นฺติ. เสเสสูติ วีริยสมาธิอาทีสุ. ตตฺถ หิ วีริยํ จิตฺตํ วีมํสํ อธิปตึ กตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิ วีมํสาสมาธีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธาติ อิมสฺมึ อิทฺธิปาทสํยุตฺเต. เอกปริจฺเฉโทว อตฺถนิทฺเทโส.
๕. อิทฺธิปเทสสุตฺตวณฺณนา
๘๑๗. อิทฺธิปเทสนฺติ อิทฺธิยา เอกเทสํ. โก ปน โสติ อาห – ‘‘ตโย จ มคฺเค ตีณิ จ ผลานี’’ติ.
๖. สมตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๑๘. สมตฺตนฺติ สามฺสฺส สมํ อตฺตนํ อิชฺฌนํ สมตฺตํ ปริปุณฺณํ. วิวฏฺฏปาทกา เอว อิทฺธิปาทา กถิตา ‘‘อปารา ปารํ คมนาย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทิวจนโต.
๑๐. เจติยสุตฺตวณฺณนา
๘๒๒. อุเทนยกฺขสฺส ¶ เจติยฏฺาเนติ อุเทนสฺส นาม ยกฺขสฺส เทวายตนสงฺเขเปน อิฏฺกาหิ กเต มหาชนสฺส จิตฺตีกตฏฺาเน. กตวิหาโรติ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ตตฺถ กตวิหาโร. วุจฺจตีติ ปุริมโวหาเรน ¶ ‘‘อุเทนเจติย’’นฺติ วุจฺจติ. โคตมกาทีสุปีติ โคตมกเจติยนฺติ เอวมาทีสุปิ. เอเสว นโยติ เจติยฏฺาเน กตวิหารภาวํ อติทิสติ. วฑฺฒิตาติ ภาวนาปาริปูริวเสน ปริพฺรูหิตา. ปุนปฺปุนํ กตาติ ภาวนาย พหุลีกรณวเสน อปราปรํ ปวตฺติตา อานีตา. ยุตฺตยานํ วิย กตาติ ยถา ยุตฺตมาชฺยานํ เฉเกน สารถินา อธิฏฺิตํ ยถารุจิ ปวตฺติมรหติ, เอวํ ยถารุจิ ปวตฺตนารหตํ คมิตา. ปติฏฺานฏฺเนาติ อธิฏฺานฏฺเน. วตฺถุ วิย กตาติ สพฺพโส อุปกฺกิเลสวิโสธเนน อิทฺธิวิเสสานํ ปวตฺติฏฺานภาวโต สุวิโสธิตปริสฺสยวตฺถุ วิย กตา. อธิฏฺิตาติ ปฏิปกฺขทูรีภาวโต สุภาวิตภาเวน ตํตํอธิฏฺานโยคฺยตาย ปิตา. สมนฺตโต จิตาติ สพฺพภาเคน ภาวนุปจยํ คมิตา. เตนาห ‘‘สุวฑฺฒิตา’’ติ. สุฏฺุ สมารทฺธาติ อิทฺธิภาวนาย สิขปฺปตฺติยา สมฺมเทว สํเสวิตา.
อนิยเมนาติ ‘‘ยสฺส กสฺสจี’’ติ อนิยตวจเนน. นิยเมตฺวาติ ‘‘ตถาคตสฺสา’’ติ สรูปคฺคหเณน นิยเมตฺวา. อายุปฺปมาณนฺติ ปรมายุปฺปมาณํ วทติ. ตสฺเสว คหเณ การณํ พฺรหฺมชาลวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. มหาสีวตฺเถโร ปน มหาโพธิสตฺตานํ จริมภเว ปฏิสนฺธิทายิโน กมฺมสฺส อสงฺเขยฺยายุกตาสํวตฺตนสมตฺถตํ หทเย เปตฺวา พุทฺธานํ อายุสงฺขารสฺส ปริสฺสยวิกฺขมฺภนสมตฺถตา ปาฬิยํ อาคตา เอวาติ อิมํ ภทฺทกปฺปเมว ติฏฺเยฺยาติ อโวจ.
ขณฺฑิจฺจาทีหิ อภิสุยฺยตีติ เอเตน ยถา อิทฺธิพเลน ชราย น ปฏิฆาโต, เอวํ เตน มรณสฺสปิ น ปฏิฆาโตติ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติ. ‘‘กฺว สโร ขิตฺโต, กฺวจนิ ปติโต’’ติ อฺถา วุฏฺิเตนปิ เถรวาเทน อฏฺกถาวจนเมว สมตฺถิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘โส ปน น รุจฺจติ…เป… นิยมิต’’นฺติ.
ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ ยถา กิฺจิ อตฺถานตฺถํ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺกา, เอวํ อภิภูตจิตฺโต. โส ปน อภิภโว มหตา อุทโกเฆน อปฺปกสฺส อุทกสฺส อชฺโฌตฺถรณํ วิย อโหสีติ วุตฺตํ ‘‘อชฺโฌตฺถฏจิตฺโต’’ติ. อฺโติ เถรโต, อริเยหิ วา อฺโ โย โกจิ ปโร ¶ ปุถุชฺชโน. ปุถุชฺชนคฺคหณฺเจตฺถ ยถา สพฺเพน สพฺพํ อปฺปหีนวิปลฺลาโส มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต กิฺจิ อตฺถานตฺถํ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺโกติ, เอวํ เถโร ภควตา กตํ นิมิตฺโตภาสํ สพฺพโส น ¶ สลฺลกฺเขสีติ ทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘มาโร หี’’ติอาทิ. จตฺตาโร วิปลฺลาสาติ อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ สฺาวิปลฺลาโส, จิตฺตวิปลฺลาโส, ทุกฺเข ‘‘สุข’’นฺติ สฺาวิปลฺลาโส, จิตฺตวิปลฺลาโสติ อิเม จตฺตาโร วิปลฺลาสา. เตนาติ ยทิปิ อิตเร อฏฺ วิปลฺลาสา ปหีนา, ยถาวุตฺตานํ จตุนฺนํ วิปลฺลาสานํ อปฺปหีนภาเวน. อสฺสาติ เถรสฺส.
มทฺทตีติ ผุสนมตฺเตน มทฺทนฺโต วิย โหติ, อฺถา เตน มทฺทิเต สตฺตานํ มรณเมว สิยา, กึ สกฺขิสฺสติ น สกฺขิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. กสฺมา น สกฺขิสฺสติ? นนุ เอส อคฺคสาวกสฺส มหิทฺธิกสฺส มหานุภาวสฺส กุจฺฉึ ปวิฏฺโติ? สจฺจํ ปวิฏฺโ, ตฺจ โข อตฺตโน มหานุภาวสฺส ทสฺสนตฺถํ, น วิพาธนาธิปฺปาเยน. วิพาธนาธิปฺปาเยน ปน อิธ ‘‘กึ สกฺขิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ หทยมทฺทนสฺส อธิกตตฺตา. นิมิตฺโตภาสนฺติ เอตฺถ ‘‘ติฏฺตุ ภควา กปฺป’’นฺติ สกลกปฺปํ อวฏฺานยาจนาย ‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา’’ติอาทินา อฺาปเทเสน อตฺตโน จตุริทฺธิปาทภาวนานุภาเวน กปฺปํ อวฏฺานสมตฺถตาวเสน สฺุปฺปาทนํ นิมิตฺตํ. ตถา ปน ปริยายคฺคหณํ มฺุจิตฺวา อุชุกํเยว อตฺตโน อธิปฺปายวิภาวนํ โอภาโส. ชานนฺโตเยวาติ มาเรน ปริยุฏฺิตภาวํ ชานนฺโต เอว. อตฺตโน อปราธเหตุโก สตฺตานํ โสโก ตนุโก โหติ, น พลวาติ อาห – ‘‘โทสาโรปเนน โสกตนุกรณตฺถ’’นฺติ. กึ ปน เถโร มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตกาเล ปวตฺตึ ปจฺฉา ชานาตีติ? น ชานาติ สภาเวน, พุทฺธานุภาเวน ปน ชานาติ.
อนตฺเถ นิโยเชนฺโต คุณมารเณน มาเรติ, วิราควิพนฺธเนน วา ชาตินิมิตฺตตาย ตตฺถ ตตฺถ ชาตํ มาเรนฺโต วิย โหตีติ ‘‘มาเรตีติ มาโร’’ติ วุตฺตํ. อติปาปตฺตา ปาปิมา. กณฺหธมฺมสมนฺนาคโต กณฺโห. วิราคาทิคุณานํ อนฺตกรณโต อนฺตโก. สตฺตานํ อนตฺถาวหํ ปฏิปตฺตึ น มฺุจตีติ นมุจิ. อตฺตโน มารปาเสน ปมตฺเต พนฺธติ, ปมตฺตา วา พนฺธู เอตสฺสาติ ปมตฺตพนฺธุ. สตฺตมสตฺตาหโต ปรํ สตฺต ¶ อหานิ สนฺธายาห ‘‘อฏฺเม สตฺตาเห’’ติ, น ปน ปลฺลงฺกสตฺตาหาทิ วิย นิยตกิจฺจสฺส อฏฺมสตฺตาหสฺส นาม ลพฺภนโต. สตฺตมสตฺตาหสฺส หิ ปรโต อชปาลนิคฺโรธมูเล พฺรหฺมุโน สกฺกสฺส จ ปฏิฺาตธมฺมเทสนํ ภควนฺตํ ตฺวา ‘‘อิทานิ สตฺเต ธมฺมเทสนาย มม วิสยํ อติกฺกาเมสฺสตี’’ติ สฺชาตโทมนสฺโส หุตฺวา ิโต จินฺเตสิ, ‘‘หนฺทาหํ ทานิ นํ อุปาเยน ปรินิพฺพาเปสฺสามิ, เอวมสฺส มโนรโถ อฺถตฺตํ คมิสฺสติ, มม มโนรโถ อิชฺฌิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต – ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา’’ติอาทินา ปรินิพฺพานํ ยาจิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อฏฺเม สตฺตาเห’’ติอาทิ. ตตฺถ อชฺชาติ อายุสงฺขารโวสฺสชฺชนทิวสํ สนฺธายาห. ภควา จสฺส อติพนฺธนาธิปฺปายํ ¶ ชานนฺโตปิ ตํ อนาวิกตฺวา ปรินิพฺพานสฺส อกาลภาวเมว ปกาเสนฺโต ยาจนํ ปฏิกฺขิปิ. เตนาห ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทิ.
มคฺควเสน พฺยตฺตาติ สจฺจปฏิเวธเวยฺยตฺติเยน พฺยตฺตา. ตเถว วินีตาติ มคฺควเสน กิเลสานํ สมุจฺเฉทวินเยน วินีตา. ตถา วิสารทาติ อริยมคฺคาธิคเมเนว สตฺถุสาสเน เวสารชฺชปฺปตฺติยา วิสารทา, สารชฺชกรานํ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทิปาปธมฺมานํ วิคเมน วิสารทภาวํ ปตฺตาติ อตฺโถ. ยสฺส สุตสฺส วเสน วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรณํ สมฺภวติ, ตํ อิธ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ‘‘สุต’’นฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘เตปิฏกวเสนา’’ติ. ติณฺณํ ปิฏกานํ สมูโห เตปิฏกํ, ตีณิ วา ปิฏกานิ ติปิฏกํ, ติปิฏกเมว เตปิฏกํ, ตสฺส วเสน. ตเทวาติ ยํ ตํ เตปิฏกํ โสตพฺพภาเวน สุตนฺติ วุตฺตํ, ตเมว. ธมฺมนฺติ ปริยตฺติธมฺมํ. ธาเรนฺตีติ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสํ วิย อวินสฺสนฺตํ กตฺวา สุปฺปคุณสุปฺปวตฺติภาเวน ธาเรนฺติ หทเย เปนฺติ. อิติ ปริยตฺติธมฺมวเสน พหุสฺสุตธมฺมธรภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฏิเวธวเสนปิ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อริยธมฺมสฺสาติ มคฺคผลธมฺมสฺส, นววิธสฺส วา โลกุตฺตรธมฺมสฺส. อนุธมฺมภูตนฺติ อธิคมายานุรูปํ ธมฺมภูตํ. อนุจฺฉวิกปฏิปทนฺติ ตเมว วิปสฺสนาธมฺมมาห, ฉพฺพิธา วิสุทฺธิโย วา. อนุธมฺมนฺติ นิพฺพานธมฺมสฺส อนุธมฺโม, ยถาวุตฺตปฏิปทา, ตสฺสานุรูปํ อภิสลฺเลขิตํ อปฺปิจฺฉตาทิธมฺมํ. จรณสีลาติ สมาทาย วตฺตนสีลา. อนุมคฺคผลธมฺโม เอติสฺสาติ วา อนุธมฺมา, วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา, ตสฺส จรณสีลา. อตฺตโน อาจริยวาทนฺติ อตฺตโน อาจริยสฺส ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วาทํ. สเทวกสฺส โลกสฺส อาจารสิกฺขาปเนน อาจริโย, ภควา, ตสฺส วาโท, จตุสจฺจเทสนา.
อาจิกฺขิสฺสนฺตีติ อาทิโต กเถสฺสนฺติ, อตฺตนา อุคฺคหิตนิยาเมน ปเร อุคฺคณฺหาเปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. เทเสสฺสนฺตีติ วาเจสฺสนฺติ, ปาฬึ สมฺมา ปโพเธสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ปฺเปสฺสนฺตีติ ปชานาเปสฺสนฺติ, สงฺกาเสสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ปฏฺเปสฺสนฺตีติ ปกาเรหิ เปสฺสนฺติ, ปกาเสสฺสนฺตีติ อตฺโถ. วิวริสฺสนฺตีติ วิวฏํ กริสฺสนฺติ. วิภชิสฺสนฺตีติ วิภตฺตํ กริสฺสนฺติ. อุตฺตานีกริสฺสนฺตีติ อนุตฺตานํ คมฺภีรํ อุตฺตานํ ปากฏํ กริสฺสนฺติ. สหธมฺเมนาติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท การณปริยาโย ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๐) วิยาติ อาห ‘‘สเหตุเกน สการเณน วจเนนา’’ติ.
สปฺปาฏิหาริยนฺติ สนิสฺสรณํ. ยถา ปรวาทํ ภฺชิตฺวา สกวาโท ปติฏฺหติ, เอวํ เหตุทาหรเณหิ ยถาธิคตมตฺถํ สมฺปาเทตฺวา ธมฺมํ กเถสฺสนฺติ. เตนาห ‘‘นิยฺยานิกํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’’ติ ¶ , นววิธํ โลกุตฺตรํ ธมฺมํ ปโพเธสฺสนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปฺเปสฺสนฺตี’’ติอาทีหิ ฉหิ ปเทหิ ฉ อตฺถปทานิ ทสฺสิตานิ, อาทิโต ปน ทฺวีหิ ปเทหิ ฉ พฺยฺชนปทานิ. เอตฺตาวตา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สํวณฺณนานเยน สงฺคเหตฺวา ทสฺสิตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ เนตฺติยํ (เนตฺติ. สงฺคหวาร) ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺตํ, ตํ สพฺพํ พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จา’’ติ.
สิกฺขตฺตยสงฺคหิตนฺติ อธิสีลสิกฺขาทิสิกฺขตฺตยสงฺคหํ. สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยนฺติ อนวเสสํ สตฺถุสาสนภูตํ เสฏฺจริยํ. สมิทฺธนฺติ สมฺมเทว วฑฺฒิตํ. ฌานสฺสาทวเสนาติ เตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ สมธิคตฌานสุขวเสน. วุฑฺฒิปฺปตฺตนฺติ อุฬารปณีตภาวูปคมเนน สพฺพโส ปริวุฑฺฒิมุปคตํ. สพฺพปาลิผุลฺลํ วิย อภิฺาสมฺปทาหิ สาสนาภิวุฑฺฒิยา มตฺถกปฺปตฺติโต. ปติฏฺิตวเสนาติ ปติฏฺานวเสน, ปติฏฺปฺปตฺติยาติ อตฺโถ. ปฏิเวธวเสน พหุโน ชนสฺส หิตํ พาหุชฺํ. เตนาห ‘‘มหาชนาภิสมยวเสนา’’ติ. ปุถุ ปุถุลํ ภูตํ ชาตํ, ปุถุตฺตํ ภูตํ ปตฺตนฺติ วา ปุถุภูตํ. เตนาห ‘‘สพฺพากาเรน ปุถุลภาวปฺปตฺต’’นฺติ. สุฏฺุ ปกาสิตนฺติ สมฺมเทว อาทิกลฺยาณาทิภาเวน ปเวทิตํ.
สตึ ¶ สูปฏฺิตํ กตฺวาติ อยํ กายาทิวิภาโค อตฺตภาวสฺิโต ทุกฺขภาโร มยา เอตฺตกํ กาลํ วหิโต, อิทานิ ปน น วหิตพฺโพ, เอตสฺส อวหนตฺถํ จิรตรํ กาลํ อริยมคฺคสมฺภาโร สมฺภโต, สฺวายํ อริยมคฺโค ปฏิวิทฺโธ, ยโต อิเม กายาทโย อสุภาทิโต สภาวาทิโต สมฺมเทว ปริฺาตาติ จตุพฺพิธมฺปิ สตึ ยถาตถํ วิสเย สุฏฺุ อุปฏฺิตํ กตฺวา. าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ ยสฺมา อิมสฺส อตฺตภาวสฺิตสฺส ทุกฺขภารสฺส วหเน ปโยชนภูตํ อตฺตหิตํ โพธิมูเล เอว ปริสมาปิตํ, ปรหิตํ ปน พุทฺธเวเนยฺยวินยนํ ปริสมาปิตํ มตฺถกปฺปตฺตํ, ตํ ทานิ มาสตฺตเยเนว ปริสมาปนํ ปาปุณิสฺสติ, ตสฺมา อาห ‘‘วิสาขปุณฺณมายํ ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ, เอวํ พุทฺธาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา สจฺจภาเคน วินิจฺฉยํ กตฺวา. อายุสงฺขารํ วิสฺสชีติ อายุโน ชีวิตสฺส อภิสงฺขรณํ ผลสมาปตฺติธมฺมํ น สมาปชฺชิสฺสามีติ วิสฺสชิ, ตํ วิสฺสชฺชเนเนว เตน อภิสงฺขรียมานํ ชีวิตสงฺขารํ น ปวตฺตยิสฺสามีติ วิสฺสชิ. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ.
านมหนฺตตายปิ ปวตฺติอาการมหนฺตตายปิ มหนฺโต ปถวีกมฺโป. ตตฺถ านมหนฺตตาย ภูมิจาลสฺส มหนฺตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตทา…เป… อกมฺปิตฺถา’’ติ วุตฺตํ, สา ปน ชาติเขตฺตภูตา ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอว, น ยา กาจิ. ยา มหาภินีหารมหาชาติอาทีสุปิ อกมฺปิตฺถ, ตทาปิ ¶ ตตฺตกาย เอว กมฺปเน กึ การณํ? ชาติเขตฺตภาเวน ตสฺเสว อาทิโต ปริคฺคหสฺส กตตฺตา, ปริคฺคหณฺจสฺส ธมฺมตาวเสน เวทิตพฺพํ. ตถา หิ ปุริมพุทฺธานมฺปิ ตตฺตกเมว ชาติเขตฺตํ อโหสิ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ทสสหสฺสี โลกธาตุ นิสฺสทฺทา โหติ นิรากุลา…เป… มหาสมุทฺโท อาภุชติ, ทสสหสฺสี ปกมฺปตี’’ติ จ อาทิ. อุทกปริยนฺตํ กตฺวา ฉปฺปการปฺปเวธเนน. อวีตราเค ภึเสตีติ ภึสโน, โส เอว ภึสนโกติ อาห ‘‘ภยชนโก’’ติ. เทวเภริโยติ เทวทุนฺทุภิสทฺทสฺส ปริยายวจนมตฺตํ, น เจตฺถ กาจิ เภรี เทวทุนฺทุภีติ อธิปฺเปตา, อถ โข อุปฺปาตภาเวน ลพฺภมาโน อากาสโต นิคฺโฆสสทฺโท. เตนาห ‘‘เทโว’’ติอาทิ. เทโวติ เมโฆ. ตสฺส หิ ตทา อจฺฉภาเวน อากาสสฺส วสฺสาภาเวน สุกฺขคชฺชิตสฺิเต ¶ สทฺเท นิจฺฉรนฺเต เทวทุนฺทุภิสมฺา. เตนาห ‘‘เทโว สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชี’’ติ.
ปีติเวควิสฺสฏฺนฺติ ‘‘เอวํ จิรตรกาลํ วหิโต อยํ อตฺตภาวสฺิโต ทุกฺขภาโร, ทานิ น จิรสฺเสว นิกฺขิปิสฺสามี’’ติ สฺชาตโสมนสฺโส ภควา สภาเวเนว ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทานํ อุทาเนติ, เอวํ อุทาเนนฺเตน อยมฺปิ อตฺโถ สาธิโต โหตีติ ทสฺสนตฺถํ อฏฺกถายํ ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตุลียตีติ ตุลนฺติ ตุล-สทฺโท กมฺมสาธโนติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตุลิต’’นฺติ วุตฺตํ. อปฺปานุภาวตาย ปริจฺฉินฺนํ. ตถา หิ ตํ ปฏิปกฺเขน ปริโต ขณฺฑิตภาเวน ปริตฺตนฺติ วุจฺจติ. ปฏิปกฺขวิกฺขมฺภนโต ทีฆสนฺตานตาย วิปุลผลตาย จ น ตุลํ น ปริจฺฉินฺนํ. เยหิ การเณหิ ปุพฺเพ อวิเสสโต ‘‘มหคฺคตํ อตุล’’นฺติ วุตฺตํ, ตานิ การณานิ รูปาวจรโต อารุปฺปสฺส สาติสยํ วิชฺชนฺตีติ อรูปาวจรํ อตุลนฺติ วุตฺตํ, อิตรฺจ ตุลนฺติ. อปฺปวิปากนฺติ ตีสุปิ กมฺเมสุ ยํ อปฺปวิปากํ หีนํ, ตํ ตุลํ. พหุวิปากนฺติ ยํ มหาวิปากํ ปณีตํ, ตํ อตุลํ. ยํ ปเนตฺถ มชฺฌิมํ, ตํ หีนํ อุกฺกฏฺนฺติ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ทฺวีสุ ภาเคสุ ปกฺขิปิตพฺพํ. หีนตฺติกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว อปฺปพหุวิปากตํ นิทฺธาเรตฺวา ตสฺส วเสน ตุลาตุลภาโว เวทิตพฺโพ. สมฺภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโวติ อาห ‘‘สมฺภว^ เหตุภูต’’นฺติ. นิยกชฺฌตฺตรโตติ สสนฺตานธมฺเมสุ วิปสฺสนาวเสน โคจราเสวนาย จ รโต. สวิปากํ สมานํ ปวตฺติวิปากมตฺตทายิกมฺมํ สวิปากฏฺเน สมฺภวํ, น จ ตํ กามาทิ^ ภวาภิสงฺขารกนฺติ ตโต วิเสสนตฺถํ สมฺภวนฺติ วตฺวา ‘‘ภวสงฺขาร’’นฺติ วุตฺตํ. โอสฺสชีติ อริยมคฺเคน อวสฺสชิ. กวจํ วิย อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ อตฺตนิ สมฺภูตตฺตา อตฺตสมฺภวํ ¶ กิเลสฺจ อภินฺทีติ กิเลสเภทสหภาวิกมฺโมสฺสชฺชนํ ทสฺเสนฺโต ตทุภยสฺส การณมาห ‘‘อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต’’ติ.
ปมวิกปฺเป อวสชฺชนเมว วุตฺตํ. เอตฺถ อวสชฺชนากาโรติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตีเรนฺโตติ ‘‘อุปฺปาโท ภยํ, อนุปฺปาโท เขม’’นฺติอาทินา วีมํสนฺโต. ตุเลนฺโต ตีเรนฺโตติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทึ วตฺวา ภวสงฺขารสฺส อวสชฺชนาการํ สรูปโต ทสฺเสติ. เอวนฺติอาทินา ¶ ปน อุทานคาถาวณฺณนายํ อาทิโต วุตฺตมตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสติ. อภีตภาวาปนตฺถฺจาติ อยมฺปิ อตฺโถ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
จาปาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปาสาทกมฺปนวคฺโค
๑-๒. ปุพฺพสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๒๓-๘๒๔. ปรโต อิมสฺมึ ปาสาทกมฺปนวคฺเค ทสมสุตฺเต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. ฉอภิฺาปาทกาติ ฉนฺนํ อภิฺานํ ปาทกภูตา ปธานภูตา. ยถา ปมสุตฺเต, ตถา ทุติยตติยสุตฺเตสุปิ จ ฉอภิฺาปาทกา อิทฺธิปาทา กถิตาติ อตฺโถ.
๓. ฉนฺทสมาธิสุตฺตวณฺณนา
๘๒๕. โย สมาธิสฺส นิสฺสยภูโต ฉนฺโท, โส อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ฉนฺทนฺติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺท’’นฺติ. ตสฺส จ อธิปเตยฺยฏฺโ นิสฺสยฏฺโ, น วินา ตํ ฉนฺทํ นิสฺสายาติ อาห – ‘‘นิสฺสายาติ นิสฺสยํ กตฺวา, อธิปตึ กตฺวาติ อตฺโถ’’ติ. ปธานภูตาติ เสฏฺภูตา, เสฏฺภาโว จ เอกสฺสปิ จตุกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺติยา, ตโต เอว พหุวจนนิทฺเทโส, ปธานสงฺขารฏฺเน ปธานสงฺขรณโต. ‘‘ฉนฺทํ เจ นิสฺสาย…เป… อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธี’’ติ อิมาย ปาฬิยา ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ อธิปติสทฺทโลปํ กตฺวา สมาโส วุตฺโตติ วิฺายติ, อธิปติสทฺทตฺถทสฺสนวเสน วา ฉนฺทเหตุโก, ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. เตน ‘‘ฉนฺทสมาธินา เจว ปธานสงฺขาเรหิ ปธานภูตสงฺขาเรหิ จ สมนฺนาคตา’’ติ วกฺขติ, ตํ อาเนตฺวา ¶ สมฺพนฺโธ. ปธานภูตาติ วีริยภูตา. เกจิ วทนฺติ – ‘‘สงฺขตสงฺขาราทินิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณ’’นฺติ. อถ วา ตํ ตํ วิเสสํ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, สพฺพมฺปิ วีริยํ. ตตฺถ จตุกิจฺจสาธกโต ตทฺสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณนฺติ. ยถา ฉนฺโท ฉนฺทสมาธินา เจว ปธานสงฺขาเรหิ จ สมนฺนาคโต, เอวํ ฉนฺทสมาธิ ฉนฺเทน เจว ปธานสงฺขาเรหิ จ สมนฺนาคโต. ปธานสงฺขาราปิ ฉนฺเทน ¶ เจว ฉนฺทสมาธินา จ สมนฺนาคตาติ ตีสุปิ ปเทสุ สมนฺนาคตสทฺโท โยเชตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา ตโยปิ ฉนฺทาทโย เอกจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนา, ตสฺมา สพฺเพ เต ธมฺมา เอกโต กตฺวา ‘‘อยํ วุจฺจติ…เป… อิทฺธิปาโท’’ติ วุตฺตนฺติ. เอวํ ฉนฺทาทีนํเยว เจตฺถ อิทฺธิปาทภาโว วุตฺโต, วิภงฺเค ปน เตสํ อิทฺธิภาโว สมฺปยุตฺตานํ อิทฺธิปาทภาโว วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทฺธิปาทวิภงฺเค ปนา’’ติอาทิมาห.
อิทานิ เนสํ อิทฺธิปาทตาปิ สมฺภวตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ฉนฺทฺหิ ภาวยโต ปธานํ กตฺวา ภาเวนฺตสฺส ตถา ปวตฺตปุพฺพาภิสงฺขารวเสน อิชฺฌมาโน ฉนฺโท อิทฺธิ นาม, ตสฺส นิสฺสยภูตา ปธานสงฺขารา อิทฺธิปาโท นาม. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. ตถา ภาวยนฺตสฺส มุขฺยตามตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อิชฺฌนตฺโถ ปน สพฺเพสํ สมานนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปยุตฺต…เป… อิชฺฌนฺติเยวา’’ติ อาห.
อิทฺธิปาเท อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ฉนฺทาทโยติ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารา. เสสิทฺธิปาเทสูติ วีริยิทฺธิปาทาทีสุ. ตตฺถ วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคโตติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตํ, ตตฺถ ปุริมํ สมาธิวิเสสํ, วีริยาธิปติสมาธิ เอว วีริยสมาธีติ ทุติยํ สมนฺนาคมงฺคทสฺสนํ. ทฺเวเยว หิ สพฺพตฺถ สมนฺนาคมงฺคานิ สมาธิ ปธานสงฺขาโร จ, ฉนฺทาทโย สมาธิวิเสสนานิ, ปธานสงฺขาโร ปน ปธานวจเนเนว วิเสสิโต, น ฉนฺทาทีหีติ น อิธ วีริยาธิปติตา ปธานสงฺขารสฺส วุตฺตา โหติ. วีริยฺจ สมาธึ วิเสเสตฺวา ิตเมว สมนฺนาคมงฺควเสน ปธานสงฺขารวจเนน วุตฺตนฺติ นาปิ ทฺวีหิ วีริเยหิ สมนฺนาคโม วุตฺโต โหติ. ยสฺมา ปน ฉนฺทาทีหิ วิสิฏฺโ สมาธิ, ตถาปิ วิสิฏฺเเนว จ เตน สมฺปยุตฺโต ปธานสงฺขาโร เสสธมฺมา จ, ตสฺมา สมาธิวิเสสนานํ วเสน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา วุตฺตา, วิเสสนภาโว จ ฉนฺทาทีนํ ตํตํอวสฺสยทสฺสนวเสน โหตีติ ‘‘ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาโท’’ติ เอตฺถ นิสฺสยตฺเถปิ ปาท-สทฺเท อุปาทายฏฺเน ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตา วุตฺตา โหติ, เตเนว อภิธมฺเม อุตฺตรจูฬภาชนิเย ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา (วิภ. ๔๕๗) ฉนฺทาทีนํเยว อิทฺธิปาทตา วุตฺตา, ปฺหปุจฺฉเก จ – ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธี’’ติอาทินาว (วิภ. ๔๓๑) อุทฺเทสํ กตฺวาปิ ปุน ¶ ฉนฺทาทีนํเยว กุสลาทิภาโว ¶ วิภตฺโต. อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมว หิ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ, อฺถา จตุพฺพิธตา น โหตีติ อยเมตฺถ ปาฬิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย. ตตฺถ อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมวาติ ฉนฺทาทิเก ธุเร เชฏฺเก ปุพฺพงฺคเม กตฺวา นิพฺพตฺติตสมาธิ ฉนฺทาธิปติสมาธีติ ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิยา อธิคมูปายทสฺสนํ อุปายิทฺธิปาททสฺสนํ, ตทตฺถเมว ‘‘ตถาภูตสฺส เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปาฬิยํ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ ฉนฺทาทิวิสิฏฺานํเยว เวทนากฺขนฺธาทีนํ อธิปฺเปตตฺตา. เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา เกวลํ อิทฺธิสมฺปยุตฺตานํเยว ขนฺธานํ วเสน อิทฺธิปาทภาเว คยฺหมาเน เตสํ จตุพฺพิธตา น โหติ วิเสสการณภาวโตติ อธิปฺปาโย.
เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิโน. อนิพฺพตฺโตติ เหตุปจฺจเยหิ น นิพฺพตฺโต, น สภาวธมฺโม, ปฺตฺติมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. วาทมทฺทนตฺถาย โหติ, อภิธมฺเม จ อาคโต อุตฺตรจูฬวาโรติ โยชนา. จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติอาทิ อุตฺตรจูฬวารทสฺสนํ. อิเม ปน อุตฺตรจูฬวาเร อาคตา อิทฺธิปาทา.
รฏฺปาลตฺเถโร ฉนฺเท สติ กถํ นานุชานิสฺสนฺตีติ สตฺตาหานิ ภตฺตานิ อภฺุชิตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ฉนฺทเมว นิสฺสาย อรหตฺตํ ปาปุณีติ อาห – ‘‘รฏฺปาลตฺเถโร ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสี’’ติ. โสณตฺเถโรติ สุขุมาลโสณตฺเถโร. โส หิ อายสฺมา อตฺตโน สุขุมาลภาวํ อจินฺเตตฺวา อติเวลํ จงฺกมเนน ปาเทสุ อุฏฺิเตสุปิ อุสฺสาหํ อวิสฺสชฺเชนฺโต วีริยํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ. สมฺภุตตฺเถโร ‘‘จิตฺตวโต เจ อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อิชฺเฌยฺย, มยฺหํ อิชฺเฌยฺยาติ จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ. โมฆราชา ‘‘ปฺวโต เจ มคฺคภาวนา อิชฺเฌยฺย, มยฺหํ อิชฺเฌยฺยา’’ติ ปฺาปุพฺพงฺคมํ ปฺาธุรํ ปฺาเชฏฺกํ กตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณีติ อาห ‘‘โมฆราชา วีมํสํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสี’’ติ. อิทานิ เนสํ อริยานํ อุปฏฺานุสฺสาหมนฺตชาติสมฺปทํ นิสฺสาย รฺโ สนฺติเก ลทฺธวิเสเส อมจฺจปุตฺเต นิทสฺสนภาเวน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ยถา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ ¶ จ ปุนปฺปุนํ ฉนฺทุปฺปาทนํ โตสนํ วิย โหตีติ ฉนฺทสฺส อุปฏฺานสทิสตา วุตฺตา, ถามภาวโต จ วีริยสฺส สูรตฺตสทิสตา, จินฺตนปฺปธานตฺตา จิตฺตสฺส มนฺตสํวิธานสทิสตา, โยนิโสมนสิการ-สมฺภูเตสุ กุสลธมฺเมสุ ปฺา เสฏฺาติ วีมํสาย ชาติสมฺปตฺติสทิสตา วุตฺตา.
๔. โมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๘๒๖. อุทฺธจฺจปกติกาติ ¶ วิกฺขิตฺตสภาวา, วิพฺภนฺตจิตฺตาติ อตฺโถ. อนวฏฺิตตาย วิปฺผนฺทิตจิตฺตตาย วิปฺผนฺทมานจิตฺตา. ตุจฺฉตาย นโฬ วิยาติ นโฬ, มาโน, อุคฺคโต นโฬ เอเตสนฺติ อุนฺนฬาติ อาห – ‘‘อุนฺนฬาติ…เป… วุตฺตํ โหตี’’ติ. จปลาติ จาปลฺยตา นาม โลลภาโว. มุราติ ขรวจนา, ผรุสวจนาติ อตฺโถ. วิกิณฺณวาจา นาม สมฺผปฺปลาปิโนติ วุตฺตํ ‘‘อสํยตวจนา’’ติอาทิ. ปฏิปตฺติธมฺเม ปมุฏฺา วินฏฺา ปฏิวินฏฺา สติ เอเตสนฺติ มุฏฺสตีติ อาห – ‘‘นฏฺสฺสติโน’’ติ. อุพฺภนฺตจิตฺตาติ สมาธิโน อภาเวน อุทฺธจฺเจเนว อุปรูปริ ภนฺตจิตฺตา. ปากตินฺทฺริยา อภาวิตกายตาย คามทารกา วิย ปกติภูตอินฺทฺริยา. เนโม วุจฺจติ ภูมิยา พทฺธภาวนิมิตฺตปเทโส, คมฺภีโร เนโม เอตสฺสาติ คมฺภีรเนโม. สุฏฺุ นิขาโตติอาทิ ตสฺส ปาทสฺส สุปฺปติฏฺิตภาวทสฺสนํ.
๕. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๘๒๗. ปหานตฺถนฺติ อนุปฺปาทปหานตฺถํ.
๙. อิทฺธาทิเทสนาสุตฺตวณฺณนา
๘๓๑. อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ อธิปฺเปตํ ‘‘อิทฺธิลาภาย ปวตฺตตี’’ติ วจนโต.
๑๐. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๘๓๒. ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวาติ ภาวนาฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา. ลีนากาโรติ ภาวนาจิตฺตสฺส ลยาปตฺติ. โกสชฺเชน โวกิณฺณาปชฺชนํ วุตฺตํ.
เอวํ ¶ ปสาทาภาเวน จิตฺตสฺส วิกฺเขปาปตฺติ, ตตฺถ ปสาทุปฺปาทเนน ยํ สมฺปหํสนํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตสฺส อุปฺปาทนาการํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘โส พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวชฺเชตฺวา’’ติอาทิ. วตฺถุกาเม อารพฺภ วิกฺขิตฺโต ปุนปฺปุนํ วิกฺขิตฺโต โหติเยวาติ วุตฺตํ ‘‘อนุวิกฺขิตฺโต’’ติ. อุปฺปถํ ปฏิปนฺนสฺส จิตฺตสฺส ทณฺฑนฏฺเน นิคฺคณฺหนฏฺเน สุตฺตานิ เอว ทณฺโฑติ สุตฺตทณฺโฑ, เตน สุตฺตทณฺเฑน ¶ จิตฺตํ ตชฺเชตฺวา. ปฺจกามคุเณ อารพฺภ ปวตฺโต จิตฺตวิกฺเขโป ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชเตวาติ วุตฺตํ ‘‘อนุวิกฺขิตฺโต อนุวิสโฏ’’ติ.
ปุเรปจฺฉาภาโว กมฺมฏฺานสฺส มนสิการวเสน อุคฺคหวเสน วาติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อติลีนาทีสุ จตูสุ าเนสูติ อติลีนาติปคฺคหิตสํขิตฺตอนุวิกฺขิตฺตสฺิเตสุ จตูสุ าเนสุ. ตตฺถ ภาวนํ อนชฺโฌคาเหตฺวาว สงฺโกโจ อติลีนตา, อชฺโฌคาเหตฺวา อนฺโต สงฺโกโจ สํขิตฺตตา, อนฺโตสงฺเขโป อติปคฺคหิตตา, อจฺจารทฺธวีริยตา อนุวิกฺขิตฺตตา. พหิทฺธา วิสมวิตกฺกานุภาวนํ อาปชฺชนฺโต ทฺวตฺตึสาการวเสน อฏฺิกสฺาวเสน วา คเหตพฺพนฺติ อาห – ‘‘สรีรวเสน เวทิตพฺพ’’นฺติ. เตนาห ‘‘อุทฺธํ ปาทตลา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐).
อฺมฺํ อสงฺกรโต อากิรียนฺติ ปการโต ปียนฺตีติ อาการา, ภาคาติ อาห – ‘‘เยหิ อากาเรหีติ เยหิ โกฏฺาเสหี’’ติ. ลิงฺคียติ สลฺลกฺขียตีติ ลิงฺคํ, สณฺานํ. นิมียติ นิทฺธาเรตฺวา ปริจฺฉินฺทียตีติ นิมิตฺตํ, อุปฏฺานํ. โย ภิกฺขูติอาทิ อาโลกสฺํ โย อุคฺคณฺหาติ, ตํ ทสฺสนํ. องฺคเณติ วิวฏงฺคเณ. อาโลกสฺํ มนสิกโรติ รตฺติยํ. วีริยาทีสุปีติ ยถา ‘‘อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ ฉนฺเท วิตฺถารนโย วุตฺโต, วีริยาทีสุปิ เอโส เอว วิตฺถารนโย โยเชตพฺโพ.
ปาสาทกมฺปนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อโยคุฬวคฺโค
๒. อโยคุฬสุตฺตวณฺณนา
๘๓๔. อิมินา จตุมหาภูตมเยนาติ อิมินา สพฺพโลกปจฺจกฺเขน จตูหิ มหาภูเตหิ นิพฺพตฺเตน จตุมหาภูตมเยน. มโนมโย ปน นิมฺมิตกาโย ¶ ภควโต รุจิวเสน ปเรสํ ปจฺจกฺโข โหติ. โอมาตีติ อวมาติ. อว-ปุพฺโพ หิ มา-สทฺโท สตฺติอตฺโถปิ โหตีติ ‘‘ปโหติ สกฺโกตี’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. อสมฺภินฺนปทนฺติ อสาธารณปทํ อฺตฺถ อนาคตตฺตา. กายสฺส ¶ จิตฺเต สโมทหนํ อาโรปนํ ตนฺนิสฺสิตตากรณฺจ อตฺถโต จิตฺตคติยา ปวตฺตนเมวาติ อาห ‘‘จิตฺตคติยา เปเสตี’’ติ.
ตตฺถ จิตฺตคติคมนํ นาม จิตฺตวเสน กายสฺส ปริณามเนน ‘‘อยํ กาโย อิมํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ กายสฺส จิตฺเตน สมานคติกตาปนํ. กถํ ปน กาโย ทนฺธปวตฺติโก ลหุปวตฺตินา จิตฺเตน สมานคติโก โหตีติ? น สพฺพถา สมานคติโก. ยเถว หิ กายวเสน จิตฺตปริณามเน จิตฺตํ สพฺพถา กาเยน สมานคติกํ น โหติ. น หิ กทาจิ ตํ สภาวสิทฺเธน อตฺตโน ขเณน อวตฺติตฺวา ทนฺธวุตฺติกสฺส รูปธมฺมสฺส วเสน ปวตฺติตุํ สกฺโกติ, ‘‘อิทํ จิตฺตํ อยํ กาโย วิย โหตู’’ติ ปน อธิฏฺาเนน ทนฺธคติกสฺส กายสฺส อนุวตฺตนโต ยาว อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติ, ตาว กายคติอนุโลเมเนว หุตฺวา สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ จิตฺตํ กายคติยา ปริณามิตํ นาม โหติ. เอวํ ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ อธิฏฺาเนน ปเคว สุขลหุสฺาย สมฺปาทิตตฺตา อภาวิติทฺธิปาทานํ วิย ทนฺธํ อวตฺติตฺวา ยถา ลหุกํ กติปยจิตฺตวาเรเนว อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติ โหติ, เอวํ ปวตฺตมาโน กาโย จิตฺตคติยา ปริณามิโต นาม โหติ, น เอกจิตฺตกฺขเณเนว อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติยา, เอวฺจ กตฺวา พาหาสมิฺชนปสารณูปมาปิ อุปจาเรน วินา สุฏฺุตรํ ยุตฺตา โหตีติ. อฺถา ธมฺมตาวิโลมตา สิยา, นาปิ ธมฺมานํ ลกฺขณฺถตฺตํ อิทฺธิพเลน กาตุํ สกฺกา, ภาวฺถตฺตเมว ปน กาตุํ สกฺกาติ.
๓-๑๐. ภิกฺขุสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๓๕-๘๔๒. ‘‘ทฺวินฺนํ ผลาน’’นฺติ อาคตสุตฺตํ สนฺธาย ‘‘ทฺเว ผลานิ อาทึ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อโยคุฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อิทฺธิปาทสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อนุรุทฺธสํยุตฺตํ
๑. รโหคตวคฺโค
๑-๒. ปมรโหคตสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๙๙-๙๐๐. ฉตฺตึสาย ¶ ¶ าเนสูติ อชฺฌตฺตํ กาเย สมุทยธมฺมานุปสฺสี, วโย, สมุทยวโย, พหิทฺธา สมุทโย, วโย, สมุทยวโย, อชฺฌตฺตพหิทฺธา สมุทโย, วโย, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสีติ นว อนุปสฺสนา, ตถา เวทนาย จิตฺเต ธมฺเมสูติ เอวํ ฉตฺตึสาย าเนสุ. ทุติเย ทฺวาทสสุ าเนสูติ กาเย อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา อชฺฌตฺตพหิทฺธา, เวทนาย จิตฺเต ธมฺเมสูติ เอวํ ทฺวาทสสุ าเนสุ.
๓. สุตนุสุตฺตวณฺณนา
๙๐๑. อิมาย ปาฬิยาติ อิมาย หีนตฺติกปาฬิยา. อิเม ธมฺมา หีนา ลามกฏฺเน. อิเม ธมฺมา มชฺฌิมา หีนปณีตานํ มชฺเฌ ภวาติ. อุตฺตมฏฺเน อตฺตปฺปกฏฺเน ปธานภาวํ นีตาติ ปณีตา.
๔-๗. ปมกณฺฑกีสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๐๒-๙๐๕. กณฺฑกา เอติสฺสา อตฺถีติ กณฺฑกี, กรมนฺทคจฺโฉ. โอสธิภาวาเปกฺขาย อิตฺถิลิงฺคนิทฺเทโส, ตพฺพหุลตาย ตํ วนํ ‘‘กณฺฑกีวน’’นฺเตว ปฺายิตฺถ. สหสฺสโลกนฺติ สหสฺสจกฺกวาฬโลกํ. ทสจกฺกวาฬสหสฺสํ เอกาวชฺชนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ ตถา อาโลกวฑฺฒนสฺส กตตฺตา.
๙. อมฺพปาลิวนสุตฺตวณฺณนา
๙๐๗. อรหตฺตภาวทีปกนฺติ ¶ อรหตฺตสฺส อตฺถิภาวทีปกํ. ‘‘อรหตฺตภาวทีปิก’’นฺติ วา ปาโ.
รโหคตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺควณฺณนา
๙๐๙-๙๒๒. ทสพลาณนฺติ ¶ ทสวิธพลาณํ. เอกเทเสนาติ ปเทสวเสน. สาวกานมฺปิ อตฺตโน อภินีหารานุรูปํ าณํ ปวตฺตตีติ เต กาลปเทสวเสน เจว ยถาปริจยสตฺตปเทสวเสน จ านานีติ ชานนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺธานํ ปน อนนฺตาณตาย สพฺพตฺเถว อปฺปฏิหตเมว าณนฺติ อาห – ‘‘สพฺพฺุพุทฺธานํ ปนา’’ติอาทิ. เอตํ ทสพลาณํ อนนฺตวิสยตฺตา นิปฺปเทสํ อนูนตาย สพฺพาการปริปูรํ.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อนุรุทฺธสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ฌานสํยุตฺตวณฺณนา
๙๒๓. ฌานสํยุตฺตํ ¶ สุวิฺเยฺยเมว, มิสฺสกนฺติ วทนฺติ.
ฌานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อานาปานสํยุตฺตํ
๑. เอกธมฺมวคฺโค
๑. เอกธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๙๗๗. เอตฺถาติ ¶ ¶ เอตสฺมึ ปมสุตฺเต. วุตฺตเมว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
๖. อริฏฺสุตฺตวณฺณนา
๙๘๒. โน-สทฺโท ปุจฺฉายํ, ตสฺมา นูติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘ภาเวถ นู’’ติ. กามจฺฉนฺโทติ วตฺถุกาเมสุ อิจฺฉาติ อาห ‘‘ปฺจกามคุณิกราโค’’ติ. ทฺวาทสสุ อายตนธมฺเมสุ สปรสนฺตติปริยาปนฺเนสุ. อิมินา กามจฺฉนฺทปฺปหานกิตฺตเนน ปฏิฆสฺาปฏิวินยกิตฺตเนน จ อนาคามิมคฺคํ กเถติ ปฺโจรมฺภาคิยสฺโชนสมุจฺเฉทสฺส พฺยากตตฺตา. วิปสฺสนํ ทสฺเสนฺโตติ ‘‘วิปสฺสนํ อนุยฺุชถา’’ติ ทสฺเสนฺโต.
๘. ปทีโปปมสุตฺตวณฺณนา
๙๘๔. ‘‘เนว กาโยปิ กิลมติ น จกฺขูนี’’ติ อฏฺกถายํ ปทุทฺธาโร กโต. ‘‘กาโยปิ กิลมติ, จกฺขูนิปิ วิหฺนฺตี’’ติ วตฺวา ยตฺถ ยถา โหติ, ตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ธาตุกมฺมฏฺานสฺมึ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. จกฺขูนิ ผนฺทนฺติ กิลมนฺตีติอาทิ อติเวลํ อุปนิชฺฌายเน โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน กมฺมฏฺาเนติ อานาปานกมฺมฏฺาเน. เอวมาหาติ ‘‘ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย, เนว กาโย กิลเมยฺยา’’ติ เอวมาห.
ลพฺภตีติ อฏฺกถาธิปฺปาเย ตฺวา วุตฺตํ, ปรโต อาคเตน เถรวาเทน โส อนิจฺฉิโต. น ¶ หิ ตารกรูปมุตฺตาวฬิกาทิสทิสํ นิมิตฺตูปฏฺานาการมตฺตํ ขณมตฺตฏฺายินํ กสิณนิมิตฺเตสุ วิย อุคฺฆาฏนํ กาตุํ สกฺโกติ. เตนาห ‘‘น ลพฺภเตวา’’ติ. อานิสํสทสฺสนตฺถํ คหิโต, อานาปานสฺสติสมาธิสฺมึ สิทฺเธ อยํ คุโณ สุเขเนว อิชฺฌตีติ. ยสฺมา ภิกฺขูติ อิมสฺมึ วาเร นาคตนฺติ ยถา ปุริมวาเร ‘‘ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺยา’’ติ ¶ อาคตํ, เอวํ อิธ ‘‘ภาวิเต โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธิมฺหี’’ติ อาคตวาเร ภิกฺขุคฺคหณมกตํ, ตสฺมา ‘‘โส’’ติ น วุตฺตํ.
๙. เวสาลีสุตฺตวณฺณนา
๙๘๕. ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนนาติ ปาการปริกฺเขเปน ภูมิยา วฑฺฒเนน. ราชคหสาวตฺถิโย วิย อิทมฺปิ จ นครํ…เป… สพฺพาการเวปุลฺลตํ ปตฺตํ. อเนกปริยาเยนาติ เอตฺถ ปริยายสทฺโท การณวจโนติ อาห ‘‘อเนเกหิ การเณหี’’ติ, อยํ กาโย อวิฺาณโกปิ สวิฺาณโกปิ เอวมฺปิ อสุโภ เอวมฺปิ อสุโภติ นานาวิเธหิ การเณหีติ อตฺโถ. อสุภาการสนฺทสฺสนปฺปวตฺตนฺติ เกสาทิวเสน ตตฺถาปิ วณฺณาทิโต อสุภาการสฺส สพฺพโส ทสฺสนวเสน ปวตฺตํ. กายวิจฺฉนฺทนียกถนฺติ อตฺตโน ปรสฺส จ กรชกาเย วิจฺฉนฺทนุปฺปาทนกถํ. มุตฺตํ วาติอาทินา พฺยติเรกมุเขน กายสฺส อมนฺุตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อาทิโต ตีหิ ปเทหิ อทสฺสนียตาย อสารกตาย จ, มชฺเฌ จตูหิ ทุคฺคนฺธตาย, อนฺเต เอเกน เลสมตฺเตนปิ มนฺุตาภาวมสฺส ทสฺเสติ. อถ โขติอาทินา อนฺวยโต สรูเปเนว อมนฺุตาย ทสฺสนํ. ‘‘เกสโลมาที’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘เยปี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
วณฺเณนฺโตติ วิตฺถาเรนฺโต. อสุภายาติ อสุภมาติกาย. ผาติกมฺมนฺติ พหุลีกาโร. กิเลสโจเรหิ อนภิภวนียตฺตา ฌานํ ‘‘จิตฺตมฺชูส’’นฺติ วุตฺตํ. นิสฺสายาติ ปาทกํ กตฺวา.
อปเร ปน ‘‘ตสฺมึ กิร อทฺธมาเส น โกจิ พุทฺธเวเนยฺโย อโหสิ, ตสฺมา ภควา เอวมาห – ‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว’ติอาที’’ติ วทนฺติ. ปเร กิราติ กิร-สทฺโท อรุจิสํสูจนตฺโถ. เตนาห ‘‘อิทํ ปน อิจฺฉามตฺต’’นฺติ.
อเนกการณสมฺมิสฺโสติ เอตฺถ การณํ นาม กายสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกูลตาว. สพฺพมกํสูติ ปุถุชฺชนา นาม สาวชฺเชปิ ตตฺถ อนวชฺชสฺิโน หุตฺวา กรณการาปนสมนฺุตาเภทํ ¶ สพฺพํ ปาปํ อกํสุ ¶ . กามํ ทสานุสฺสติคฺคหเณเนว อานาปานสฺสติ คหิตา, สา ปน ตตฺถ สนฺนิปติตภิกฺขูสุ พหูนํ สปฺปายา สาตฺถิกา จ, ตสฺมา ปุน คหิตา. ตถา หิ ภควา ตเมว กมฺมฏฺานํ อิมสฺมึ สุตฺเต กเถสิ. อาหาเร ปฏิกูลสฺา อสุภกมฺมฏฺานสทิสา, จตฺตาโร ปน อารุปฺปา อาทิกมฺมิกานํ อโยคฺยาติ เตสํ อิธ อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ.
เวสาลึ อุปนิสฺสายาติ เวสาลีนครํ โคจรคามํ กตฺวา. มุหุตฺเตเนวาติ สตฺถริ สทฺธมฺเม จ คารเวน อุปคตภิกฺขูนํ วจนสมนนฺตรเมว อุฏฺหึสูติ กตฺวา วุตฺตํ. พุทฺธกาเล กิร ภิกฺขู ภควโต สนฺเทสํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตุํ โอหิตโสตา วิหรนฺติ.
อานาปานปริคฺคาหิกายาติ อสฺสาสปสฺสาเส ปริคฺคณฺหนวเสน ปวตฺตาย สติยา. สมฺปยุตฺโต สมาธีติ ตาย สมฺปยุตฺตอฺมฺปจฺจยภูตาย อุปฺปนฺโน สมาธิ. อานาปานสฺสติยํ วา สมาธีติ อิมินา อุปนิสฺสยปจฺจยสภาวมฺปิ ทสฺเสติ, อุภยตฺถาปิ สหชาตาทีนํ สตฺตนฺนมฺปิ ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวนฺตี’’ติอาทีสุ อุปฺปาทนวฑฺฒนฏฺเน ภาวนาติ วุจฺจตีติ ตทุภยวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต วา’’ติ อาห. ตตฺถ ภาวํ วิชฺชมานตํ อิโต คโตติ ภาวิโต, อุปฺปาทิโต ปฏิลทฺธมตฺโตติ อตฺโถ. อุปฺปนฺโน ปน ลทฺธาเสวโน ภาวิโต, ปคุณภาวํ อาปาทิโต วฑฺฒิโตติ อตฺโถ. พหุลีกโตติ พหุลํ ปวตฺติโต. เตน อาวชฺชนาทิวสีภาวปฺปตฺติมาห. โย หิ วสีภาวมาปาทิโต, โส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตพฺพโต ปุนปฺปุนํ ปวตฺติสฺสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ กโต’’ติ. ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑), วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๒๗๑; สํ. นิ. ๒.๑๕๒; อ. นิ. ๔.๑๒๓) จ เอวมาทีสุ ปมปเท วุตฺโต เอว-สทฺโท ทุติยาทีสุปิ วุตฺโตเยว โหติ, เอวมิธาปีติ อาห ‘‘อุภยตฺถ เอวสทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ’’ติ. อุภยตฺถ นิยเมน ลทฺธคุณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อสุภกมฺมฏฺานนฺติ อสุภารมฺมณํ ฌานมาห. ตฺหิ อสุเภสุ โยคกมฺมภาวโต โยคิโน สุขวิเสสานํ การณภาวโต จ ‘‘อสุภกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. เกวลนฺติ อิมินา อารมฺมณํ นิวตฺเตติ. ปฏิเวธวเสนาติ ¶ ฌานปฏิเวธวเสน. ฌานฺหิ ภาวนาวิเสเสน อิชฺฌนฺตํ อตฺตโน วิสยํ ปฏิวิชฺฌนฺตเมว ปวตฺตติ ยถาสภาวโต ปฏิวิชฺฌิยติ จาติ ปฏิเวโธติ วุจฺจติ. โอฬาริการมฺมณตฺตาติ ¶ พีภจฺฉารมฺมณตฺตา. ปฏิกูลารมฺมณตฺตาติ ชิคุจฺฉิตพฺพารมฺมณตฺตา. ปริยาเยนาติ การเณน, เลสนฺตเรน วา. อารมฺมณสนฺตตายาติ อนุกฺกเมน วิจิตพฺพตํ ปตฺตารมฺมณสฺส ปรมสุขุมตํ สนฺธายาห. สนฺเตหิ สนฺนิสินฺเน อารมฺมเณ ปวตฺตมาโน ธมฺโม สยมฺปิ สนฺนิสินฺโนว โหติ. เตนาห ‘‘สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต’’ติ, นิพฺพุตสพฺพปริฬาโหติ อตฺโถ. อารมฺมณสนฺตตาย ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ สนฺตตา โลกุตฺตรธมฺมารมฺมณาหิ ปจฺจเวกฺขณาหิ เวทิตพฺพา.
นาสฺส สนฺตปณีตภาวาวหํ กิฺจิ เสจนนฺติ อเสจนโก. อเสจนกตฺตา อนาสิตฺตโก, อนาสิตฺตกตฺตา เอว อพฺโพกิณฺโณ, อสมฺมิสฺโส ปริกมฺมาทินา. ตโต เอว ปาฏิเยกฺโก วิสุํเยเวโก. อาเวณิโก อสาธารโณ. สพฺพเมตํ สรสโต เอว สนฺตภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, ปริกมฺมํ วา สนฺตภาวนิมิตฺตํ. ปริกมฺมนฺติ จ กสิณกรณาทินิมิตฺตุปฺปาทปริโยสานํ, ตาทิสํ เอตฺถ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ตทา หิ กมฺมฏฺานํ นิรสฺสาทตฺตา อสนฺตํ อปฺปณีตํ สิยา. อุปจาเร วา นตฺถิ เอตฺถ สนฺตตาติ โยชนา. ยถา อุปจารกฺขเณ นีวรณาทิวิคเมน องฺคปาตุภาเวน จ ปเรสํ สนฺตตา โหติ, น เอวมิมสฺส. อยํ ปน อาทิสมนฺนา…เป… ปณีโต จาติ โยชนา. เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิโน. อนาสิตฺตโกติ อุปเสจเนน อนาสิตฺตโก. เตนาห – ‘‘โอชวนฺโต’’ติ โอชวนฺตสทิโสติ อตฺโถ. มธุโรติ อิฏฺโ. เจตสิกสุขปฏิลาภสํวตฺตนํ ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน, อุเปกฺขาย วา สนฺตภาเวน สุขคติกตฺตา สพฺเพสมฺปิ ฌานานํ วเสน เวทิตพฺพํ. ฌานสมุฏฺานปณีตรูปผุฏฺสรีรตาวเสน ปน กายิกสุขปฏิลาภสํวตฺตนํ ทฏฺพฺพํ, ตฺจ โข ฌานโต วุฏฺิตกาเล. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ’’ติ อิทํ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนํ ทฏฺพฺพํ.
อวิกฺขมฺภิเตติ ฌาเนน สกสนฺตานโต อนีหเต อปฺปหีเน. อโกสลฺลสมฺภูเตติ อโกสลฺลํ วุจฺจติ อวิชฺชา, ตโต สมฺภูเต. อวิชฺชาปุพฺพงฺคมา หิ สพฺเพ ปาปธมฺมา. ขเณเนวาติ อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณเนว. อนฺตรธาเปตีติ เอตฺถ อนฺตรธาปนํ วินาสนํ, ตํ ปน ฌานกตฺตุกํ ¶ อิธาธิปฺเปตนฺติ ปริยุฏฺานปฺปหานํ โหตีติ อาห – ‘‘วิกฺขมฺเภตี’’ติ. วูปสเมตีติ วิเสเสน อุปสเมติ. วิเสเสน อุปสมนํ ปน สมฺมเทว อุปสมนํ โหตีติ อาห ‘‘สุฏฺุ อุปสเมตี’’ติ. สาสนิกสฺส ฌานภาวนา เยภุยฺเยน นิพฺเพธภาคิยา โหตีติ อาห ‘‘นิพฺเพธภาคิยตฺตา’’ติ. อริยมคฺคสฺส ปาทกภูโต อยํ สมาธิ อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อริยมคฺคภาวํ อุปคโต วิย โหตีติ อาห ‘‘อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุฑฺฒิปฺปตฺโต’’ติ. อยํ ปนตฺโถ วิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนานํ วเสน สมฺมเทว ยุชฺชติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
๑๐. กิมิลสุตฺตวณฺณนา
๙๘๖. เถโรติ ¶ อานนฺทตฺเถโร. อยํ เทสนาติ ‘‘กถํ วิภาวิโต นุ โข กิมิลา’’ติอาทินา ปวตฺตา เทสนา. กายฺตรนฺติ รูปกาเย อฺตรโกฏฺาเส. เอวนฺติ ยถา อานาปานํ อนุสฺสรนฺโต ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี ชาโต, เอวํ สพฺพตฺถ วาเรสุ เวทนานุปสฺสีติอาทิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เทสนาสีสนฺติ เทสนาปเทสํ. มนสิการปเทเสน เวทนา วุตฺตาติ ตํ สพฺพํ สรูปโต อฺาปเทสโต อปทิสติ. ยเถว หีติอาทินา ตตฺถ นิทสฺสนํ ทสฺเสติ. จิตฺตสงฺขารปททฺวเยติ ‘‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขาร’’นฺติ เอตสฺมึ ปททฺวเย.
เอวํ สนฺเตปีติ ปีติมนสิการจิตฺตสงฺขารปเทเสน ยทิ เวทนา วุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ. เอสา ยถาวุตฺตา เวทนา อารมฺมณํ น โหติ. เวทนารมฺมณา จ อนุปสฺสนา, ตสฺมา เวทนานุปสฺสนา น ยุชฺชติ. ยทิ เอวํ มหาสติปฏฺานาทีสุ ‘‘เวทนา เวทิยตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ กถนฺติ อาห – ‘‘มหาสติปฏฺานาทีสุปี’’ติอาทิ. ตตฺถ สุขาทีนํ วตฺถุนฺติ สุขาทีนํ อุปฺปตฺติยา วตฺถุภูตํ รูปสทฺทาทึ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนา เวทิยติ, น ปุคฺคโล ปุคฺคลสฺเสว อภาวโต. เวทนาปฺปวตฺตึ อุปาทาย นิสฺสาย ยถา ‘‘ปุคฺคโล เวทนํ เวทิยตี’’ติ โวหารมตฺตํ โหติ. เอวํ อิธาปิ เวทนาย อสฺสาสปสฺสาเส อารพฺภ ปวตฺติ, ตถา ปวตฺตมนสิการสีเสน ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี ภิกฺขุ ตสฺมึ สมเย วิหรตี’’ติ วุตฺโต. ตํ สนฺธายาติ ตํ เวทนาย อารมฺมณภาวํ สนฺธาย ¶ . อาทีนํ ปทานํ. เอตสฺส ‘‘เวทนานุปสฺสนา น ยุชฺชตี’’ติ วุตฺตอนุโยคสฺส.
สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชตีติ ปีติสหคตานิ ปมทุติยชฺฌานานิ ปฏิปาฏิยา สมาปชฺชติ. ตสฺสาติ เตน. ปฏิสํวิทิตสทฺทาเปกฺขาย หิ กตฺตุอตฺเถ เอตํ สามิวจนํ. สมาปตฺติกฺขเณติ สมาปชฺชนกฺขเณ. ฌานปฏิลาเภนาติ ฌาเนน สมงฺคีภาเวน. อารมฺมณโตติ อารมฺมณมุเขน ตทารมฺมณฌานปริยาปนฺนา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ยถา นาม สปฺปปริเยสนํ จรนฺเตน ตสฺส อาสเย ปฏิสํวิทิเต โสปิ ปฏิสํวิทิโต โหติ มนฺตาคทพเลน ตสฺส คหณสฺส สุกรตฺตา, เอวํ ปีติยา อาสยภูเต อารมฺมเณ ปฏิสํวิทิเต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตาว โหติ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ ตสฺสา คหณสฺส สุกรตฺตา. วิปสฺสนกฺขเณติ วิปสฺสนาปฺาย ติกฺขวิสทภาวปฺปตฺตาย ¶ วิสยโต ทสฺสนกฺขเณ. ลกฺขณปฺปฏิเวเธนาติ ปีติยา สลกฺขณสฺส สามฺลกฺขณสฺส จ ปฏิวิชฺฌเนน. ยฺหิ ปีติยา วิเสสโต สามฺโต จ ลกฺขณํ, ตสฺมึ วิทิเต สา ยาถาวโต วิทิตา เอว โหติ. เตนาห ‘‘อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’’ติ.
อิทานิ ตมตฺถํ ปาฬิยา เอว วิภาเวตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทีฆํ อสฺสาสวเสนาติ ทีฆสฺส อสฺสาสสฺส อารมฺมณภูตสฺส วเสน. ปชานโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโตติ ฌานปริยาปนฺนํ ‘‘อวิกฺเขโป’’ติ ลทฺธนามํ จิตฺตสฺเสกคฺคตํ ตํสมฺปยุตฺตาย ปฺาย ปชานโต. ยถา หิ อารมฺมณมุเขน ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, เอวํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ อารมฺมณมุเขน ปฏิสํวิทิตา เอว โหนฺตีติ. สติ อุปฏฺิตา โหตีติ ทีฆํ อสฺสาสวเสน ฌานสมฺปยุตฺตา สติ ตสฺมึ อารมฺมเณ อุปฏฺิตา อารมฺมณมุเขน ฌาเนปิ อุปฏฺิตา นาม โหติ. ตาย สติยาติ เอวํ อุปฏฺิตาย ตาย สติยา ยถาวุตฺเตน เตน าเณน สุปฺปฏิวิทิตตฺตา อารมฺมณสฺส ตสฺส วเสน ตทารมฺมณา สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสนาติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานี’’ติ.
ยเถวาติอาทีสุ ¶ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ฌานปฏิลาเภน ยถา อารมฺมณโต ปีติอาทโย ปฏิสํวิทิตา โหนฺติ เตน วินา เตสํ อปฺปวตฺตนโต. เอวํ ฌานสมฺปยุตฺเตน ตํปริยาปนฺเนน เวทนาสงฺขาตมนสิการปฏิลาเภน อารมฺมณโต เวทนา ปฏิสํวิทิตา โหติ อรุณุคฺคเมน วิย สูริยสฺส เตน วินา เวทนาย อปฺปวตฺตนโต. ตสฺมา วุตฺตนเยน อติสยปฺปวตฺติ เวทนา สุปฺปฏิวิทิตา, ตสฺมา สุวุตฺตเมตนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตโจทนํ นิรากโรติ.
อารมฺมเณติ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตํ วทติ. จิตฺตานุปสฺสีเยว นาเมส โหติ อสมฺโมหโต จิตฺตสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. จิตฺตปฏิสํวิทิตวเสนาติ อาทิ-สทฺเทน อิตรา ติสฺโสปิ จิตฺตานุปสฺสนา สงฺคณฺหาติ.
โสติ ธมฺมานุปสฺสนํ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ. ยํ ตํ ปหานํ ปหายกาณํ. ปฺายาติ อปราย วิปสฺสนาปฺาย อนิจฺจวิราคาทิโต ทิสฺวา ทุวิธายปิ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ. อิทฺหิ จตุกฺกนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสน วุตฺตํ จตุกฺกํ. ตสฺสาปิ ธมฺมานุปสฺสนาย. ปชหตีติ ¶ ปหานนฺติ อาห ‘‘นิจฺจสฺํ…เป… ปหานกราณํ อธิปฺเปต’’นฺติ. วิปสฺสนาปรมฺปรนฺติ ปฏิปาฏิยา วิปสฺสนมาห. ปถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขตีติ มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา สมฺมเทว วีถิปฏิปนฺนํ ภาวนาจิตฺตํ ปคฺคหนิคฺคหานํ อกรเณน อชฺฌุเปกฺขติ. เอกโต อุปฏฺานนฺติ ยสฺมา มชฺฌิมสมถวีถินาติวตฺติยา ตตฺถ จ ปกฺขนฺทเนน อินฺทฺริยานํ เอกรสภาเวน, ตตฺรมชฺฌตฺตตาย ภาวโต อวิเสสํ เอกคฺคภาวูปคมเนน เอกนฺตโต อุปฏฺาติ, ตสฺมา น ตตฺถ กิฺจิ กาตพฺพนฺติ อชฺฌุเปกฺขติ. ตตฺถาติ เอวํ อชฺฌุเปกฺขเน. สหชาตานมฺปิ อชฺฌุเปกฺขนา โหติ เตสํ ปวตฺตนาการสฺส อชฺฌุเปกฺขนโต. ‘‘ปฺาย ทิสฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา อารมฺมณอชฺฌุเปกฺขนา อธิปฺเปตา. น เกวลํ นีวรณาทิธมฺเม อชฺฌุเปกฺขิตา, อถ โข อภิชฺฌา …เป… ปฺาย ทิสฺวา อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ โยชนา.
ปํสุปฺุชฏฺานิยสฺส กิเลสสฺส อุปฺปตฺติฏฺานทสฺสนตฺถํ ‘‘จตุมหาปโถ วิย ฉ อายตนานิ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. กายาทโย จตฺตาโร อารมฺมณสติปฏฺานา. จตูสุ อารมฺมเณสูติ กายาทีสุ จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตา ¶ จตฺตาโร สติปฏฺานา ปํสุปฺุชฏฺานิยสฺส กิเลสสฺส อุปหนนโต.
เอกธมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺโค
๑-๒. อิจฺฉานงฺคลสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๘๗-๙๘๘. กสฺมาติอาทิ วิหารสมาปตฺติอาจิกฺขเณ การณํ วิภาเวตุํ อารทฺธํ.
เอว-วากาโรติ เอว-กาโร วา-กาโร จ. เอกนฺตสนฺตตฺตา เอกนฺเตน สนฺตมนสิการภาวโต. เสกฺขวจเนเนว เตสํ สิกฺขิตพฺพสฺส อตฺถิภาเว สิทฺเธปิ สิกฺขิตพฺพรหิเตสุ เตสุปิ เสกฺขปริยายสฺส วุจฺจมานตฺตา สิกฺขิตพฺพสทฺเทน เสกฺเข วิเสเสตฺวา วุตฺตา. อาสวกฺขยตฺถํ สิกฺขิตพฺพสฺส อภาเวปิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ ฌานาทิสิกฺขเนน วินา สิกฺขิตพฺพาภาวา ‘‘อเสกฺขา นามา’’ติ วุตฺตา. พุทฺธานํ ปน สพฺพโส สมฺมเทว ปรินิฏฺิตสิกฺขตฺตา ‘‘สิกฺขามี’’ติ น วุตฺตํ. อานาปานชฺฌานผลสมาปตฺติ ตถาคตวิหาโร.
๓-๑๐. ปมอานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๘๙-๙๙๖. อนิจฺจาทิวเสนาติ ¶ อนิจฺจทุกฺขานตฺตวเสน. ปวิจินติ ปกาเรหิ วิจินติ. นิกฺกิเลสาติ อปคตกิเลสา วิกฺขมฺภิตกิเลสา. ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโคติ ปาโ.
ยาย อโนสกฺกนํ อนติวตฺตนฺจ โหติ, อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา มชฺฌตฺตากาโรติ วุตฺตา. เอกจิตฺตกฺขณิกาติ เอกจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตฺตา.
จตฺตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน โสฬสกฺขตฺตุกา. อานาปานสนฺนิสฺสเยน ปวตฺตตฺตา อารมฺมณวเสน ปวตฺตา อานาปานารมฺมณาปิ อปรภาเค สติ อานาปานสฺสตีติ ปริยาเยน วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ‘‘อานาปานสฺสติ มิสฺสกา กถิตา’’ติ วุตฺตํ. อานาปานมูลกาติ อานาปานสนฺนิสฺสเยน ¶ ปวตฺตา สติปฏฺานา. เตสํ มูลภูตาติ เตสํ สติปฏฺานานํ มูลการณภูตา. โพชฺฌงฺคมูลกาติ โพชฺฌงฺคปจฺจยภูตา. เตปิ โพชฺฌงฺคาติ เอเต วีสติ สติปฏฺานเหตุกา โพชฺฌงฺคา. วิชฺชาวิมุตฺติปูรกาติ ตติยวิชฺชาย ตสฺส ผลสฺส จ ปริปูรณวเสน ปวตฺตา โพชฺฌงฺคา. ผลสมฺปยุตฺตาติ จตุตฺถผลสมฺปยุตฺตา, จตุพฺพิธผลสมฺปยุตฺตา วา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อานาปานสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. โสตาปตฺติสํยุตฺตํ
๑. เวฬุทฺวารวคฺโค
๑. จกฺกวตฺติราชสุตฺตวณฺณนา
๙๙๗. อนุคฺคหครหเณสุ ¶ ¶ นิปาโตติ อนุคฺคณฺหนครหตฺถโชตโก นิปาโต. กิเมตฺถ อนุคฺคณฺหาติ, กึ วา ครหตีติ อาห ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อนุคฺคณฺหนฺโต อนุจฺฉวิกํ กตฺวา คณฺหนฺโต. ครหนฺโต นินฺทนฺโต. อิสฺสรสีโล อิสฺสโร, ตสฺส ภาโว อิสฺสริยํ, ปภุตา. อธีนํ ปติ อธิปติ, ตสฺส ภาโว อาธิปจฺจํ, สามิภาโวติ อาห – ‘‘อิสฺสริยาธิปจฺจ’’นฺติอาทิ. อนนฺตกานีติ อนฺตรหิตานิ.
อเวจฺจปฺปสาเทนาติ วตฺถุตฺตยสฺส คุเณ ยาถาวโต อเวจฺจ ปวิสิตฺวา ปสาโท. โส ปน เกนจิ จลนรหิโตติ อาห ‘‘อจลปฺปสาเทนา’’ติ. มคฺเคนาติ อริยมคฺเคน. อาคตปฺปสาโท ตสฺส อธิคเมน ลทฺธปฺปสาโท. อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอกชฺฌํ. อริยสาวกานฺหิ อริยมคฺโค อุปฺปชฺชนฺโตว ตีสุ วตฺถูสุ อเวจฺจปฺปสาทํ อาวหนฺโต เอว อุปฺปชฺชติ. เตสนฺติ วิสยภูตานํ ติณฺณํ วตฺถูนํ วเสน ติธา วุตฺโต. ยสฺมา จ อตฺถโต เอโก, ตสฺมาว นินฺนานากรโณ โหติ ปวตฺตฏฺานเภเท สติปิ. อริยสาวกสฺส หีติอาทินา นเยน ตมตฺถํ วิวรติ. ปสาโท โอกปฺปนา. เปมํ ภตฺติ. คารวํ ครุกรณํ. มหนฺตํ อุฬารํ. เอตํ วิภาเคน นตฺถิ สพฺพตฺถ สมานตฺตา.
เอวนฺติ ภวนฺตเรปิ อโกปนียตาย. สทิสวเสนาติ อฺเหิ อขณฺฑาทีหิ สทิสวเสน. เตนาห ‘‘มุขวฏฺฏิ ยฺหิ ฉินฺเน’’ติอาทิ. ขณฺฑา เอติสฺสา อตฺถีติ ขณฺฑา. เอส นโย เสเสสุปิ. ปาติโมกฺเข อาคตานุกฺกเมน สีลสฺส อาทิมชฺฌวิภาโค เวทิตพฺโพ. ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วาติ สีลโกฏฺาสานํ. เอกนฺตรํ ภินฺนนฺติ อภินฺเนน เอกนฺตรํ หุตฺวา ภินฺนํ. เตสํ ขณฺฑาทีนํ. ‘‘ภุชิสฺเสหี’’ติ อุตฺตรปทโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ภุชิสฺสภาวกเรหี’’ติ. อิทํ ¶ วีติกฺกนฺตนฺติ อิทมฺปิ สีลํ วีติกฺกนฺตํ. ‘‘อยํ สีลสฺส วีติกฺกโม’’ติ เอวํ ปรามสิตุํ อสกฺกุเณยฺเยหิ.
๒. พฺรหฺมจริโยคธสุตฺตวณฺณนา
๙๙๘. เยสนฺติ ¶ อนิยมโต สทฺธาทีนมาธารภูตปุคฺคลทสฺสนํ. พุทฺเธ ปสาโท คหิโต. โส หิ อิตเรหิ ปมํ คเหตพฺโพติ. อริยกนฺตานิ สีลานิ คหิตานิ โสตาปนฺนสฺส สีลานํ อธิปฺเปตตฺตา. สงฺเฆ ปสาโท คหิโต ธมฺมปฺปสาทสฺส อนนฺตรํ วุจฺจมานตฺตา. ธมฺเม ปสาโท คหิโต อเวจฺจปฺปสาทภาวโต. โสตํ อริยมคฺคํ อาทิโต ปตฺติ โสตาปตฺติ, ตสฺสา องฺคานิ โสตาปตฺติยงฺคานิ. ปจฺเจนฺตีติ ปชายนฺติ อธิคจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘ปาปุณนฺตี’’ติ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. กตรปสาโท วตฺตมาโนติ อธิปฺปาโย. มคฺคปฺปสาโทติ มคฺคสมฺปยุตฺโต ปสาโท. อาคตมคฺคสฺสาติ อธิคตมคฺคสฺส. มิสฺสกปฺปสาโท เอโสติ ตสฺมา อุโภปิ เถรา ปณฺฑิตา พหุสฺสุตา.
๓. ทีฆาวุอุปาสกสุตฺตวณฺณนา
๙๙๙. ยทคฺเคน ตสฺมึ อุปาสเก ยถาวุตฺตานิ โสตาปตฺติยงฺคานิ สํวิชฺชนฺติ, ตทคฺเคน โส เตสุ วตฺติสฺสตีติ อาห ‘‘จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ สนฺทิสฺสสี’’ติ. วิชฺชํ ภชนฺตีติ วิชฺชาภาคิยา, เตสุ โกฏฺาเสสุ ปริยาปนฺนาติ วุตฺตํ ‘‘วิชฺชาภาคิเยติ วิชฺชาโกฏฺาสิเก’’ติ.
๔-๕. ปมสาริปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๐๐-๑๐๐๑. ‘‘โสตาปตฺตี’’ติ ปมมคฺโค อธิปฺเปโต, ตสฺส อธิคมูปาโย โสตาปตฺติยงฺคํ. เตนาห ‘‘โสตาปตฺติยา ปุพฺพภาคปฏิลาภงฺค’’นฺติ. โสตาปตฺติอตฺถายาติ โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย. องฺคนฺติ การณํ. อิตเร รตนตฺตยปฺปสาทาทโย. ปุพฺพภาคิยาย โสตาปตฺติยา องฺคํ การณนฺติ.
๖. ถปติสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐๒. (วิตานํ กายานํ กาลนกาย, การณสฺส อุปคตานํ สาตปริยา สิชฺฌติ. ตตฺถ ¶ กายปริปชฺฌายมุเขน ตนฺตึ เปสิ ภควา. น หิ ปสฺสถ นมตฺเถหิ กรเณ นิรตฺถโก ปิติ วตฺตติ. ‘‘นิยตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ตเมว นิยมํ ‘‘มชฺฌิมปเทเสเยวา’’ติ อวธารเณน วิภาเวติ ¶ . มหามณฺฑลจาริกํ จรนฺโตปิ มชฺฌิมปเทสสฺส อนฺตนฺเตเนว จรติ. ตตฺถ จ วิเนยฺยชนสฺส สโมสรณตา มตฺตปนวาจมหตฺถสุปนนฺติ.) [เอตฺถนฺตเร ปาโ อสุทฺโธ ทุสฺโสธนีโย จ, สุทฺธปาโ คเวสิตพฺโพ.] อรุณุฏฺาปนมฺปิ ตตฺเถว โหติ. ปจฺจนฺตปเทเส ปน ทูเร วิเนยฺยชนา โหนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา มคฺคผเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ตโต ปจฺจาคนฺตฺวา มชฺฌิมปเทเส เอว วาสํ อุปคจฺฉติ, ตตฺถ มนุสฺเสหิ กตานํ การานํ มหปฺผลภาวนิยมนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อาสนฺเน โน ภควา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวล’’นฺติ อาทิมาห.
สกิฺจนสปลิโพธนฏฺเนาติ เอตฺถ กิฺจนํ ปลิโพโธ อสมาปิตกิจฺจตา, ตทุภยสฺส อตฺถิภาเวนาติ อตฺโถ. มหาวาเสติ มหาเคเห.
ทฺเวปิ ชนาติ อิสิทตฺตปุราณา. สิตํ นาม มนฺทหสิตํ. หสิตํ นาม วิสฺสฏฺหสิตํ. มุตฺตจาโคติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺคฏีกายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๖๐) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. สํวิภาเคติ ปรสฺส ทานวเสน สํวิภชเน. อกตวิภาคนฺติ เทยฺยธมฺมวเสน น กตวิภาคํ. ปุคฺคลวเสน ปน ‘‘สีลวนฺเตหี’’ติ วุตฺตตฺตา กตวิภาคเมว มหปฺผลตากรเณน. เตนาห ‘‘สพฺพํ ทาตพฺพเมว หุตฺวา ิต’’นฺติ.
(เอตฺถนฺตเร ปาโ อสุทฺโธ ทุสฺโสธนีโย จ, สุทฺธปาโ คเวสิตพฺโพ.)
๗. เวฬุทฺวาเรยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐๓. ปเวณิอาคตสฺสาติ อเนกปุริสยุควเสน ปรมฺปราคตสฺส. อตฺตนิ อุปเนตพฺพนฺติ อตฺตนิ เนตฺวา ปรสฺมึ อุปเนตพฺพํ. เตนาห ‘‘โย โข มฺยายํ ธมฺโม อปฺปิโย อมนาโป, ปรสฺสเปโส ธมฺโม อปฺปิโย อมนาโป’’ติอาทิ. อมนฺตภาเสนาติ สมฺผสฺส สมฺผปฺปลาปสฺส อมนฺตาย มนฺตารหิตภาสเนน.
๘-๙. ปมคิฺชกาวสถสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๐๔-๕. ทฺเว คามา ทฺวินฺนํ าตีนํ คามาติ กตฺวา. าติเกติ เอวํลทฺธนาเม เอกสฺมึ ¶ คามเก. คิฺชกาวสเถติ คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, คิฺชกาหิ เอว กโต อาวสโถ, ตสฺมึ. โส กิร อาวาโส ยถา ¶ สุธาหิ ปริกมฺเมน ปโยชนํ นตฺถิ, เอวํ อิฏฺกาหิ เอว จินิตฺวา กโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อิฏฺกามเย อาวสเถ’’ติ. ตุลาถมฺภทฺวารพนฺธกวาฏผลกานิ ปน ทารุมยา เอว. โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ปจฺจยภาเวน ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ, โอรมฺภาคสฺส วา หิตานิ โอรมฺภาคิยานิ. เตนาห ‘‘เหฏฺาภาคิยาน’’นฺติอาทิ. ตีหิ มคฺเคหีติ เหฏฺิเมหิ ตีหิ มคฺเคหิ. เตหิ ปหาตพฺพตาย หิ เตสํ สฺโชนานํ โอรมฺภาคิยตา, โอรํ ภฺชิยานิ วา โอรมฺภาคิยานิ วุตฺตานิ นิรุตฺตินเยน. อิทานิ พฺยติเรกมุเขน เนสํ โอรมฺภาคิยภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิกฺขมฺภิตานิ สมตฺถตาวิฆาเตน ปุถุชฺชนานํ, สมุจฺฉินฺนานิ สพฺพโส อภาเวน อริยานํ รูปารูปภวูปปตฺติยา วิพนฺธนาย น โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อวิกฺขมฺภิตานิ มคฺเคน วา อสมุจฺฉินฺนานี’’ติ. นิพฺพตฺติวเสนาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน คนฺตุํ น เทนฺติ. มหคฺคตภวคามิกมฺมายูหนสฺส วิพนฺธนโต สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ ตีณิ สฺโชนานิ กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา วิย มหคฺคตภวูปปตฺติยา วิเสสปจฺจยตฺตา ตตฺถ มหคฺคตภเว นิพฺพตฺตมฺปิ ตนฺนิพฺพตฺติเหตุกมฺมปริกฺขเย กามภวูปปตฺติปจฺจยตาย มหคฺคตภวโต อาเนตฺวา อิเธว กามภเว เอว นิพฺพตฺตาเปนฺติ. ตสฺมา สพฺพานิปิ ปฺจปิ สํโยชนานิ โอรมฺภาคิยาเนว. ปฏิสนฺธิวเสน อนาคมนสภาโวติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ตสฺมา โลกา อิธ น อาคมนสภาโว. พุทฺธทสฺสน-เถรทสฺสน-ธมฺมสฺสวนานํ ปน อตฺถาย อสฺส อาคมนํ อนิวาริตํ.
กทาจิ อุปฺปตฺติยา วิรฬาการตา, ปริยุฏฺานมนฺทตาย อพหลตาติ ทฺเวธาปิ ตนุภาโว. อภิณฺหนฺติ พหุโส. พหลพหลาติ ติพฺพติพฺพา. ยตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ สนฺตานํ มทฺทนฺตา ผรนฺตา สาเธนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา อุปฺปชฺชนฺติ, ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา ตนุกตนุกา มนฺทมนฺทา อุปฺปชฺชนฺติ. ปุตฺตธีตโร โหนฺตีติ อิทํ อการณํ. ตถา หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมตฺเตนปิ เต โหนฺติ. อิทนฺติ ‘‘ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา’’ติ อิทํ วจนํ. ภวตนุกวเสนาติ อปฺปกภววเสน. ตนฺติ มหาสีวตฺเถรสฺส วจนํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เย ภวา อริยานํ ลพฺภนฺติ, เต ปริปุณฺณลกฺขณภวา เอว. เย น ลพฺภนฺติ, ตตฺถ กีทิสํ ตํ ภวตนุกํ. ตสฺมา อุภยถาปิ ภวตนุกสฺส อสมฺภโว เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปนฺนสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺเม ภเว ภวตนุกํ นตฺถิ อฏฺมสฺเสว ภวสฺส สพฺพสฺเสว อภาวโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
กามาวจรโลกํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ อิตรสฺส โลกสฺส วเสน ตถา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. โย หิ ¶ สกทาคามี เทวมนุสฺสโลเกสุ โวมิสฺสกวเสน นิพฺพตฺตติ, โสปิ กามภววเสเนว ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. ภควตา จ กามโลเก ตฺวา – ‘‘สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวาติ จ อิมินา ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ หิ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อิเม จตฺตาโร อิธ น ลพฺภนฺติ. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยมิธ อธิปฺเปโต. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิมํ โลกนฺติ กามภโว อธิปฺเปโต’’ติ อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทินา อฺํเยว จตุกฺกํ ทสฺสิตํ.
จตูสุ…เป… สภาโวติ อตฺโถ อปายคมนียานํ ปาปธมฺมานํ สพฺพโส ปหีนตฺตา. ธมฺมนิยาเมนาติ มคฺคธมฺมนิยาเมน นิยโต อุปริมคฺคาธิคมสฺส อวสฺสํภาวิภาวโต. เตนาห ‘‘สมฺโพธิปรายโณ’’ติ. เตสํ เตสํ าณคตินฺติ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ‘‘อสุโก โสตาปนฺโน, อสุโก สกทาคามี’’ติอาทินา ตํตําณาธิคมนํ าณูปปตฺตึ. าณาภิสมฺปรายนฺติ ตโต ปรมฺปิ – ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติอาทินา าณสหิตํ อุปปตฺติปจฺจยภวํ. โอโลเกนฺตสฺส าณจกฺขุนา อเปกฺขนฺตสฺส. เกวลํ กายกิลมโถว, น เตน กาจิ ปเรสํ อตฺถสิทฺธีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตวิเหสา จิตฺตเขโท, สา กิเลสูปสํหิตตฺตา พุทฺธานํ นตฺถิ.
อาทิสฺสติ อาโลกียติ อตฺตา เอเตนาติ อาทาสํ, ธมฺมภูตํ อาทาสํ ธมฺมาทาสํ, อริยมคฺคาณสฺเสตํ อธิวจนํ. เตน หิ อริยสาวโก จตูสุ อริยสจฺเจสุ วิทฺธสฺตสมฺโมหตฺตา อตฺตานํ ยาถาวโต ตฺวา ยาถาวโต พฺยากเรยฺย, ตปฺปกาสนโต ปน ธมฺมปริยายสฺส สุตฺตสฺส ธมฺมาทาสตา เวทิตพฺพาติ. เยน ธมฺมาทาเสนาติ อิธ ปน มคฺคธมฺมเมว วทติ. เสสํ อุตฺตานตฺถตฺตา สุวิฺเยฺยเมวาติ.
เวฬุทฺวารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ราชการามวคฺโค
๑. สหสฺสภิกฺขุนิสงฺฆสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐๗. ธมฺมิกตฺตา ¶ ¶ เทสวาสีหิ อนุกมฺปิโต ราชาติ ราชโก, ตสฺส อาราโม ราชการาโม, ตสฺมึ. ภูมิสีสํ เสฏฺปฺปเทโส, ยตฺถ วสนฺโต ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต โหตีติ เตสํ อธิปฺปาโย.
วาราเปหีติ ปฏิเสเธหิ. ยุชฺฌาเปตุนฺติ กลหํ การาเปตุํ. ปุน อาคจฺฉนฺตาติ อปรสฺมึ สํวจฺฉเร อาคจฺฉนฺตา. อุพฺพฏฺเฏตฺวาติ มหตี วีจิโย อุพฺพฏฺเฏตฺวา. ยถา ตสฺส สกลเมว รฏฺํ เอโกทกีภูตํ โหติ, เอวํ กตฺวา สมุทฺทเมว ชาตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมุทฺทเมว อกํสู’’ติ.
อิสีนมนฺตรํ กตฺวาติ อิสีนํ การณํ กตฺวา, อิสีนํ เหตูติ อตฺโถ, อิสีนํ วา อนฺตรเภทํ กตฺวา. ตถา โลเก โกลาหลสฺส ปตฺถฏตํ วิภาเวนฺโต ภควา ‘‘เม สุต’’นฺติ อาห ปจฺจกฺขโต ชานมฺปิ. อุจฺฉินฺโนติ กุลจฺเฉเทน อุจฺฉินฺโน. น เกวลํ สยเมว, อถ โข สห รฏฺเหิ. วิภวนฺติ วินาสํ อุปคโต.
ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ ตํ ยถาวุตฺตํ ปเสนทินา โกสลราเชน การิตํ วิหารํ สนฺธาย เอตํ ‘‘ราชการาเม’’ติ วุตฺตํ.
๒-๓. พฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๐๘-๙. อุทยคามินินฺติ อารมฺภโต ปฏฺาย สมฺปตฺติอาวหํ.
๔. ทุคฺคติภยสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๐. ทุฏฺา คติ นิปฺผตฺติ ทุคฺคติ, ทุคฺคตภาโว ทาลิทฺทิยํ, ตเทว ภยํ, ตํ สพฺพํ อนวเสสํ วา ทุคฺคติภยํ ทลิทฺทภยํ. สมฺมเทว อติกฺกนฺโตติ สมติกฺกนฺโต.
๖. ปมมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๒. โวหารมิตฺตาติ ¶ ตํตํทานคฺคหณวเสน โวหารกา มิตฺตา. อามนฺตนปฏิมนฺตนอิริยาปถาทีสุปีติ อาลาปสลฺลาปคมนนิสชฺชาทิอตฺถสํวิธานาทีสุ ¶ . เอกโต ปวตฺตกิจฺจาติ สห ปวตฺตกตฺตพฺพา. อมา สห ภวนฺตีติ อมจฺจา. ‘‘อมฺหากํ อิเม’’ติ ายนฺตีติ าตี, อาวาหวิวาหสมฺพทฺธา. เตนาห ‘‘สสฺสุสสุรปกฺขิกา’’ติ. โยนิสมฺพนฺธา วา สาโลหิตา. เตนาห ‘‘ภาติภคินิมาตุลาทโย’’ติ.
๗. ทุติยมิตฺตามจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๓. กิสฺมิฺจิ กสฺสจิ จ ตถา ตถา อุปฺปนฺนสฺส ปสาทสฺส อฺถาภาโว ปสาทฺถตฺตํ. ภูตสงฺฆาตสฺส ฆนอาทิกสฺส อฺถาภาโว ภาวฺถตฺตํ. นิรยาทิคติอนฺตรอุปปตฺติ คติอฺถตฺตํ. สภาวธมฺมานํ กกฺขฬผุสนาทิลกฺขณสฺส อฺถาภาโว ลกฺขณฺถตฺตํ. ‘‘ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ เอวํ วุตฺตํ อฺถตฺตํ วิปริณามฺถตฺตํ. ลกฺขณฺถตฺตํ น ลพฺภติ. เตนาห ‘‘ลกฺขณํ ปน น วิคจฺฉตี’’ติ, เสสํ ลพฺภตีติ. ปถวีธาตุยาติ สสมฺภารปถวีธาตุยา. อาโปธาตุยาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปุริมภาโวติ ฆนกินภาโว. ภาวฺถตฺตํ รสฺถตฺตสภาโว. คติอฺถตฺตํ อุคฺคตูปปตฺติ. เตนาห ‘‘ตฺหิ อริยสาวกสฺส นตฺถี’’ติ. ปสาทฺถตฺตมฺปิ นตฺถิเยว อริยสาวกสฺส.
ราชการามวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สรณานิวคฺโค
๑-๒. ปมมหานามสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๑๗-๑๘. สมิทฺธนฺติ สมฺปุณฺณํ. สุปุปฺผิตนฺติ อุปโสภิตตาย สุปุปฺผิตสทิสตฺตา. พฺยูหา นาม เยหิ เอว ปวิสนฺติ, เตหิ เอว นิกฺขมนฺติ. เตนาห ‘‘พฺยูหา วุจฺจนฺติ อวินิพฺพิทฺธรจฺฉาโย’’ติ. อุทฺธตจารินาติ ยฏฺนฺตรา.
๓. โคธสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑๙. ตีหีติ ¶ รตนตฺตเย อุปฺปนฺเนหิ ตีหิ ปสาทธมฺเมหิ. จตูหีติ เตหิ เอว สทฺธึ สีเลน. โกจิเทวาติอาทิ ปริกปฺปวเสน วุตฺตํ ภควติ ¶ อตฺตโน สทฺธาย อุฬารตมภาวทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘ภควโต สพฺพฺุตายา’’ติอาทิ. ธมฺโม สมุปฺปาโทติ วิวาทธมฺมอุปฺปตฺติเหตุ. ตเทว หิ สนฺธายาห ‘‘กิฺจิเทว การณ’’นฺติ. การณนฺติ นานาการณํ. กลฺยาณกุสลวิมุตฺตนฺติ อกลฺยาณํ อกุสลํ, ตทิทํ ยถาวุตฺตอปฺปสาทเนน อปนีตอตฺถทสฺสนตฺถํ. อสฺสาติ มหานามสกฺกสฺส. อนวชฺชนโทโส เอโสติ จตูสุ ธมฺเมสุ เอเกนปิ สมนฺนาคโต โสตาปนฺโน โหตีติ อนุชานิตฺวา จตูหิปิ สมนฺนาคเตน อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ยาถาวโต อนวชฺชนโทโสติ อตฺโถ.
๔. ปมสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๐. ปมาเณนาติ เอเกน ปมาเณน, น สพฺพโส. โอโลกนํ ขมนฺตีติ ทสฺสนมคฺเคน จตุสจฺจธมฺมา ปจฺจตฺตํ ปสฺสิตพฺพา ปฏิวิชฺฌิตพฺพา. ปมมคฺคกฺขเณ หิ จตุสจฺจธมฺมา เอกเทสโตว ทิฏฺา นาม โหนฺติ. ‘‘ปริมุจฺจตี’’ติ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ปฏิวิชฺฌนกิริยาย วตฺตมานตฺตา. อคนฺตฺวา อปาเยสุ อนุปฺปตฺติรหตฺตา. เตนาห ‘‘น คจฺฉตี’’ติ, น อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. มหาสารรุกฺเข ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘โย โกจิ วิฺุชาติโก มม เจ โคจรํ คจฺฉติ, เอกสฺส อาคมนํ อวฺฌํ อโมฆ’’นฺติ ทสฺเสตุํ.
๕. ทุติยสรณานิสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๑. ทุกฺเขตฺตํ นิโรชกํ, ตาย เอว ทุกฺเขตฺตตาย วิสมํ โหตีติ อาห ‘‘วิสมเขตฺต’’นฺติ. โลณูปหตนฺติ ชาตสภาเวน โลเณน อูสเรน อุปหตํ. ขณฺฑานีติ ขณฺฑิตานิ. เตเมตฺวาติ เตมิตตฺตา. วาตาตปหตานีติ จิรกาลํ วาเตน เจว อาตเปน จ อุปหตานิ อาพาธิตานิ.
๖. ปมอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๒. านนฺติ านโส. เตนาห ‘‘ขเณนา’’ติ. นิยฺยานิกนฺติ ปวตฺตํ าณปฏิรูปกํ ¶ ปกติปุริสนฺตรชานนาทิมิจฺฉาาณํ. ตํ ปน อนิยฺยานิกํ ‘‘นิยฺยานิก’’นฺติ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺเตยฺยาติ อาห ‘‘มิจฺฉาปจฺจเวกฺขเณนา’’ติ. คุณวิยุตฺตสฺส อตฺตโน สกตฺตนิ อวฏฺานสงฺขาตา วิมุตฺติ มิจฺฉาวิมุตฺติ.
๗. ทุติยอนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๓. ยถากมฺมํ ¶ สมฺปเรตพฺพโต สมฺปราโย, เปจฺจภโว, สมฺปรายเหตุกํ สมฺปรายิกํ, มรณภยํ.
สรณานิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปฺุาภิสนฺทวคฺโค
๑. ปมปฺุาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒๗. อวิจฺเฉเทน นิจฺจปฺปวตฺติยมานานิ ปฺุานิ อภิสนฺทนฏฺเน ‘‘ปฺุาภิสนฺทา’’ติ วุตฺตา, เตน ปฺุนทิโยติ อตฺโถ วุตฺโต. สุขสฺส อาหรณโต อานยนโต สุขสฺสาหาโร.
๔. ปมเทวปทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๐. เทวานนฺติ วิสุทฺธิเทวานํ. เทวปทานีติ เตสํ ปทานิ เทวปทานิ, เทโวติ วา สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เทวสฺส าเณน อกฺกนฺตปทานีติ ปฏิเวธาเณน เจว เทสนาาเณน จ อกฺกนฺตปทานิ. เทวา นาม ชาติเทวา. เตสมฺปิ เทวฏฺเน เทโวติ เทวเทโว, สมฺพุทฺโธ.
๘. วสฺสสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๔. ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สํสารมโหฆสฺส ปรตีรภาวโต. เตนาห – ‘‘ติณฺโณ ปารงฺคโต, ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘; อิติวุ. ๖๙; ปุ. ป. ๑๘๘), เย ¶ ชนา ปารคามิโน’’ติ (ธ. ป. ๘๕) จ. อถ วา ปาติ รกฺขตีติ ปารํ, นิพฺพานํ. โย ปฏิวิชฺฌติ, ตํ วฏฺฏทุกฺขโต ปาติ รกฺขติ, อจฺจนฺตหิเตน จ วิมุตฺติสุเขน จ รเมติ, ตสฺมา ปารนฺติ วุจฺจติ. คจฺฉมานา เอวาติ ปารํ นิพฺพานํ คจฺฉมานา เอว. เต ธมฺมา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺติ สจฺฉิกิริยาปหานปฏิเวธานํ สมกาลตฺตา.
๑๐. นนฺทิยสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๖. ปวิเวกตฺถายาติ ¶ ปวิเวกสุขตฺถาย. ปฏิสลฺลานตฺถายาติ พหิทฺธา นานารมฺมณโต จิตฺตํ ปฏินิวตฺเตตฺวา กมฺมฏฺาเน สมฺมเทว ลีนตฺถาย.
ปฺุาภิสนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สคาถกปฺุาภิสนฺทวคฺโค
๑. ปมอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๗. สงฺขฺยา อตฺถิ เหฏฺา มหาปถวิยา, อุปริ อากาเสน, ปริโต จกฺกวาฬปพฺพเตน, มชฺเฌ ตตฺถ ตตฺถ ิเตหิ ทีปปพฺพตปริยนฺเตหิ ปริจฺฉินฺนตฺตา. ชานนฺเตน โยชนโต สงฺขาตุํ สกฺกาติ อธิปฺปาโย. มหาสรีรมจฺฉ-กุมฺภีล-ยกฺข-รกฺขส-มหานาคทานวาทีนํ สวิฺาณกานํ, พฬวามุขปาตาลาทีนํ อวิฺาณกานํ เภรวารมฺมณานํ วเสน พหุเภรวํ.
๒. ทุติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๘. สมฺเภเทติ สมฺเภทํ สโมธานํ คตฏฺาเน. ยตฺถิมา มหานทิโย สํสนฺทนฺติ สเมนฺตีติ ปริกปฺปวจนเมตํ. ตาทิสาสุ หิ มหานทีสุ กาจิ ปุรตฺถิมสมุทฺทํ ปวิฏฺา, กาจิ ปจฺฉิมํ.
๓. ตติยอภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓๙. ‘‘กุสเล ¶ ปติฏฺิโต’’ติ เอตฺถ ยํ อจฺจนฺติกํ กุสเล ปติฏฺานํ. ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มคฺคกุสเล ปติฏฺิโต’’ติ อาห, เหฏฺิมมคฺคกุสเลติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ภาเวติ มคฺค’’นฺติ. อริยผลํเยว ธมฺมสาโร. กิเลสา ขียนฺติ เอตฺถาติ กิเลสกฺขโย, นิพฺพานํ, ตสฺมึ กิเลสกฺขเย รโต.
๔. ปมมหทฺธนสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔๐. อริยานํ ¶ พุทฺธานํ ธนนฺติปิ อริยธนํ, นิพฺพานนฺติ เกจิ. อนยโตปิ วิสุทฺธฏฺเน อริยฺจ ตํ ธนฺจ ธนายิตฏฺเนาติ อริยธนํ, เตน อริยธเนน. เตเนว โภเคนาติ อริยธนโภเคน.
สคาถกปฺุาภิสนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สปฺปฺวคฺโค
๒. วสฺสํวุตฺถสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔๘. สโมธาเนตฺวาติ เยหิ อินฺทฺริยาทีหิ ภาวิยมาเนหิ โสตาปตฺติมคฺโค อนุปฺปตฺโต, ตาเนว. ธมฺมสมานตาย เจตํ วุตฺตํ. อฺาเนว หิ อตฺถโต ตํ ตํ มคฺคํ สาธกานิ อินฺทฺริยาทีนิ. ตนฺติ ปเวณี กถิตาติ ยํ กฺจิ วิเนยฺยปุคฺคลํ อนเปกฺขิตฺวา เกวลํ ตนฺติวเสน ิติ กถิตา.
๓. ธมฺมทินฺนสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔๙. สตฺตสุ ชเนสูติ สตฺตสุ กิตฺติยมาเนสุ อุปาสกชเนสุ. คมฺภีราติอาทีสุ ธมฺมคมฺภีราติ ปาฬิคติยา คมฺภีรา, ตถา จ สลฺลสุตฺตํ เหฏฺา ปกาสิตเมว. ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๖.๖๓; กถา. ๕๓๙) อาคตํ เจตนาสุตฺตํ ¶ . ตตฺถ ‘‘เจตนาสหชาตํ นานากฺขณิก’’นฺติอาทินา ปฏฺาเน อาคตนเยน, สุตฺเตสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๑) จ ‘‘ทิฏฺธมฺมเวทนีย’’นฺติอาทินา อาคตนเยน คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ, นิพฺพานสฺส เจว อริยมคฺคสฺส จ ปกาสนโต อสงฺขตสํยุตฺตสฺส โลกุตฺตรตฺถทีปกตา. ‘‘อตีตํปาหํ รูเปน ขชฺชึ, เอตรหิ ขชฺชามี’’ติอาทินา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ขาทกภาวสฺส, ปุคฺคลสฺส ขาทิตพฺพตาย วิภาวเนน ขชฺชนียปริยาเย (สํ. นิ. ๓.๗๙) วิเสสโต นิสฺสตฺตนิชฺชีวตา ทีปิตาติ วุตฺตํ ‘‘สตฺตสฺุตาทีปกา ขชฺชนิกสุตฺตนฺตาทโย’’ติ. อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามาติ เย เตสุ สุตฺเตสุ วุตฺตปฏิปทํ สมฺมเทว ปริปูเรนฺติ, เต เตสุ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ นาม ¶ . เอตฺถาติ ‘‘น โข เนต’’นฺติ เอตฺถ น-กาโร ‘‘อฺมฺ’’นฺติ เอตฺถ ม-กาโร วิย พฺยฺชนสนฺธิมตฺตเมว, นาสฺส โกจิ อตฺโถ.
๔. คิลานสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕๐. น โข ปเนตนฺติ น โข เอตํ, โนติ จ อมฺเหหีติ อตฺโถติ อาห ‘‘น โข อมฺเหหี’’ติอาทิ. อสฺสสนฺตีติ อสฺสาสนียาติ อาห ‘‘อสฺสาสกเรหี’’ติ. มริสฺสตีติ มาริโส, เอกนฺตภาวิมรโณ, โส ปน มรณาธีนวุตฺติโกติ วุตฺตํ ‘‘มรณปฏิพทฺโธ’’ติ. อธิมุจฺเจหีติ อธิมุตฺตึ อุปฺปาเทหิ. ตํ ปน ตถา จิตฺตสฺส ปณิธานํ ปนนฺติ อาห ‘‘เปหี’’ติ. อาคมนียคุเณสูติ ปุพฺพภาคคุเณสุ. ปมาณํ นาม นตฺถิ อนนฺตาปริมาณตฺตา. นานากรณํ นตฺถิ วิมุตฺติยา นินฺนานตฺตา.
๙. ปฺาปฏิลาภสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕๕. ปฺาปฏิลาภายาติ มคฺคผลปฺาย ปฏิลาภตฺถํ. เตนาห ‘‘สตฺต เสกฺขา’’ติอาทิ.
สปฺปฺวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาปฺวคฺโค
๑. มหาปฺสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕๘. มหนฺเต ¶ อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิเก มหาวิตฺถาเร อตฺเถ ปริจฺฉิชฺช อเสเสตฺวา มุฏฺิคเต วิย กตฺวา คณฺหาติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
มหาปฺวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
โสตาปตฺติสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. สจฺจสํยุตฺตํ
๑. สมาธิวคฺโค
๑. สมาธิสุตฺตวณฺณนา
๑๐๗๑. จิตฺเตกคฺคตายาติ ¶ ¶ นิสฺสกฺกวจนํ ‘‘ปริหายนฺตี’’ติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา. ยถาภูตาทิวเสนาติ ยถาคตาทิวเสน. ยถาภูตํ นาม อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ตถา ยสฺมา’’ติอาทิสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ ยถาภูตวเสน การณจฺเฉโท กโต ‘‘ตถา ยสฺมา’’ติอาทิวจเนหิ. วณฺณาติ อกฺขรา, ‘‘คุณา’’ติ เกจิ. ปทพฺยฺชนานีติ นามาทิปทานิ เจว ตํสมุทายภูตพฺยฺชนานิ จ.
๓. ปมกุลปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๗๓-๗๕. สาสนาวจรา อธิปฺเปตา พาหิรกานํ สจฺจาภิสมยสฺส อภาวโต. ตถาติ อิมินา จตุตฺถปฺจเมสุ อตฺถวิเสสาภาวํ ทสฺเสติ. ยทิ เอวํ กสฺมา วิสุํ วิสุํ เทสนาติ อาห ‘‘เตน เตน อภิลาเปนา’’ติอาทิ.
๑๐. ติรจฺฉานกถาสุตฺตวณฺณนา
๑๐๘๐. ทุคฺคติโต สํสารโต จ นิยฺยาติ เอเตนาติ นิยฺยานํ, สคฺคมคฺโค โมกฺขมคฺโค จ. ตสฺมึ นิยฺยาเน นิยุตฺตา, ตํ เอตฺถ อตฺถีติ นิยฺยานิกา. วจีทุจฺจริตสํกิเลสโต วา นิยฺยาตีติ อี-การสฺส รสฺสตฺตํ ย-การสฺส ก-การํ กตฺวา นิยฺยานิกา. เจตนาย สทฺธึ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิ. ตปฺปฏิปกฺขโต อนิยฺยานิกา, ตสฺส ภาโว อนิยฺยานิกตฺตํ. ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ. กมฺมฏฺานภาเวติ อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตจตุสจฺจกมฺมฏฺานภาเว. สาตฺถกนฺติ ทานสีลาทินิสฺสิตตฺตา หิตปฏิสํยุตฺตํ.
วิสิขาติ ¶ ฆรสนฺนิเวโส. วิสิขาคหเณน จ คามาทิคหเณ วิย ตนฺนิวาสิโน วิเสสโต คหิตา ‘‘อาคโต คาโม’’ติอาทีสุ วิย ¶ . เตนาห ‘‘สูรา สมตฺถา’’ติ. กุมฺภฏฺานาปเทเสน กุมฺภทาสิโย วุตฺตาติ อาห – ‘‘กุมฺภทาสิกถา’’ติ. อยาถาวโต อุปฺปตฺติฏฺิติสํหาราทิวเสน โลโก อกฺขายติ เอเตนาติ โลกกฺขายิกา. อิติ อิมินา ปกาเรน ภโว, อิมินา อภโวติ เอวํ ปวตฺตาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ.
สมาธิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺโค
๑. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตวณฺณนา
๑๐๘๑. ‘‘อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน โอสีทนอุปฺปตนฏฺานวเสน เอวํ ‘อิสิปตน’นฺติ ‘ลทฺธนาเม’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘เอตฺถ หี’’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อามนฺเตสีติ เอตฺถ ยสฺมา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ อยํ อามนฺตนา, ตสฺมา สมุทาคมโต ปฏฺาย สตฺถุ ปุพฺพจริตํ สงฺเขเปเนว ปกาเสตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหารโต ปฏฺายา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มารพลํ ภินฺทิตฺวาติ มารฺจ มารพลฺจ ภฺชิตฺวา. อถ วา มารสฺส อพฺภนฺตรํ พาหิรฺจาติ ทุวิธํ พลํ ภฺชิตฺวา. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติ เอตฺถ อนฺต-สทฺโท ‘‘ปุพฺพนฺเต าณํ อปรนฺเต าณ’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๐๖๓) วิย ภาคปริยาโยติ อาห ‘‘ทฺเว อิเม, ภิกฺขเว, โกฏฺาสา’’ติ. สห สมุทาหาเรนาติ อุจฺจารณสมกาลํ. ปตฺถริตฺวา อฏฺาสิ พุทฺธานุภาเวน. พฺรหฺมาโน สมาคจฺฉึสุ ปริปกฺกกุสลมูลา สจฺจาภิสมฺโพธาย กตาธิการา.
คิหิสฺโชนนฺติ คิหิพนฺธนํ. ฉินฺทิตฺวาติ หริตฺวา. น วฬฺเชตพฺพาติ นานุยฺุเชตพฺพา. กิเลสกามสุขสฺสาติ กิเลสกามยุตฺตสฺส สุขสฺส. อนุโยโคติ อนุภโว. คามวาสีหิ เสวิตพฺพตฺตา คามวาสีนํ สนฺตโก. อตฺตโนติ อตฺตภาวสฺส. อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. ทุกฺขกรณนฺติ ทุกฺขุปฺปาทนํ. อตฺตมารเณหีติ ¶ อตฺตพาธเนหิ. อุปสมายาติ ¶ กิเลสวูปสโม อธิปฺเปโต, ตทตฺถสมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘กิเลสูปสมตฺถายา’’ติ. เอส นโย เสเสสุปิ.
สจฺจาณาทิวเสน ตโย ปริวฏฺฏา เอตสฺสาติ ติปริวฏฺฏํ, าณทสฺสนํ. เตนาห ‘‘สจฺจาณา’’ติอาทิ. ยถาภูตํ าณนฺติ ปฏิเวธาณํ อาห. เตสุเยว สจฺเจสุ. าเณน กตฺตพฺพสฺส จ ปริฺาปฏิเวธาทิกิจฺจสฺส จ ชานนาณํ, ‘‘ตฺจ โข ปฏิเวธโต ปเควา’’ติ เกจิ. ปจฺฉาติ อปเร. ตถา กตาณํ. ทฺวาทสาการนฺติ ทฺวาทสวิธอาการเภทํ. อฺตฺถาติ อฺเสุ สุตฺเตสุ.
ปฏิเวธาณมฺปิ เทสนาาณมฺปิ ธมฺมจกฺกนฺติ อิทํ ตตฺถ าณกิจฺจํ ปธานนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. สทฺธินฺทฺริยาทิธมฺมสมุทาโย ปน ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. อถ วา จกฺกนฺติ อาณา, ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมฺจ ตํ จกฺกฺจ, ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. ยถาห ‘‘ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน ปวตฺตตีติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺมจริยาย ปวตฺตตีติ ธมฺมจกฺก’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๒.๔๐-๔๑). อุภยมฺปีติ ปฏิเวธาณํ เทสนาาณนฺติ อุภยมฺปิ. เอตนฺติ ตทุภยํ. อิมาย เทสนายาติ อิมินา สุตฺเตน ปกาเสนฺเตน ภควตา ยถาวุตฺตาณทฺวยสงฺขาตํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ นาม ปวตฺตนกิจฺจสฺส อนิฏฺิตตฺตา. ปติฏฺิเตติ อฺาสิ โกณฺฑฺตฺเถเรน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิเต. ปวตฺติตํ นาม กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสนนฺตรธานโต ปฏฺาย ยาว พุทฺธุปฺปาโท, เอตฺตกํ กาลํ อปฺปวตฺตปุพฺพสฺส ปวตฺติตตฺตา, อุปริมคฺคาธิคโม ปนสฺส อตฺถงฺคโต เอวาติ.
เอกปฺปหาเรนาติ เอเกเนว ปหารสฺิเตน กาเลน. ทิวสสฺส หิ ตติโย ภาโค ปหาโร นาม. ปาฬิยํ ปน ‘‘เตน ขเณน เตน ลเยน เตน มุหุตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปหารกฺขณสลฺลกฺขณเมว. สพฺพฺุตฺาโณภาโสติ สพฺพฺุตฺาณานุภาเวน ปวตฺโต โอภาโส จิตฺตํ ปฏิจฺจ อุตุสมุฏฺาโน เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ภควโต ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสฺส อารมฺเภ วิย ปริสมาปเน อติวิย อุฬารตมํ ปีติโสมนสฺสํ อุทปาทิ, ตสฺมา ‘‘อิมสฺสปิ อุทานสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๙. สงฺกาสนสุตฺตวณฺณนา
๑๐๘๙. อตฺถสํวณฺณเน ¶ วณฺณียนฺเตติ วณฺณา. เตเยว ปริยาเยน อกฺขรณโต อกฺขรานิ ¶ . อตฺถํ พฺยฺเชนฺตีติ พฺยฺชนานิ. ยสฺมา ปน อการาทิเก สรสมฺา, กการาทิเก พฺยฺชนสมฺา, อุภยตฺถ วณฺณสมฺา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วณฺณานํ วา เอกเทสา ยทิทํ พฺยฺชนา นามา’’ติ. เนตฺติยํ ปน วากฺเย พฺยฺชนสมฺา. พฺยฺชนคฺคหเณเนว เจตฺถ อาการนิรุตฺตินิทฺเทสา คหิตา เอวาติ ทฏฺพฺพํ. สงฺกาสนาติ อตฺถสฺส าปนา ภาคโส. เตนาห ‘‘วิภตฺติโย’’ติ. สงฺกาสนคฺคหเณเนว เจตฺถ ปกาสนา วุตฺตา โหติ. วิภตฺติโย หิ อตฺถวจเนเนว วิวรนฺติ, ตาหิ การณปฺตฺติโย วุตฺตาเยวาติ, ตาหิปิ อตฺถปทานิ คหิตาเนว โหนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺควณฺณนายํ เนตฺติอฏฺกถายฺจ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. สพฺพากาเรนาติ สภาคาทิวิภาวนากาเรน. วณฺณาทีนนฺติ ตสฺมึ ปน วิตฺถาเร ปวตฺตวณฺณาทีนํ. ตสฺมาติ วณฺณาทีนํ อนฺตอภาวโต. เอวมาหาติ ‘‘อปริมาณา วณฺณา พฺยฺชนา สงฺกาสนา’’ติ เอวมาห.
๑๐. ตถสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙๐. สภาวาวิชหนฏฺเนาติ อตฺตโน ทุกฺขสภาวสฺส กทาจิปิ อปริจฺจชเนน ตถสภาวํ. เตนาห ‘‘ทุกฺขฺหิ ทุกฺขเมว วุตฺต’’นฺติ. สภาวสฺสาติ ทุกฺขสภาวสฺส. อโมฆตายาติ อวฺฌตาย. อวิตถนฺติ น วิตถํ. เตนาห ‘‘น หิ ทุกฺขํ อทุกฺขํ นาม โหตี’’ติ. อฺภาวานุปคเมนาติ สมุทยาทิสภาวานุปคมเนน มุสา น โหตีติ อฺโ อฺถา น โหตีติ อนฺถํ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ.
ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โกฏิคามวคฺโค
๑. โกฏิคามสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙๑. อนนุโพธาติ ¶ ปฏิเวธสฺส อนุรูปโพธาภาเวน. อปฺปฏิเวธาติ สจฺจานํ ปฏิมุขํ เวธาภาเวน.
๒. ทุติยโกฏิคามสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙๒. ผลสมาธิผลปฺานนฺติ ¶ อคฺคผลสมาธิอคฺคผลปฺานํ.
๗. ตถสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙๗. อริยานนฺติ พุทฺธานํ อริยานํ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ.
๘. โลกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙๘. ปฏิวิทฺธตฺตา เทสิตตฺตา จาติ อิมินา ปฏิเวธาเณน เทสนาาเณน จ ปริคฺคหิตตฺตา อริยสนฺตกานิ โหนฺติ อริยสฺส ภควโต สนฺตกภาวโต.
๑๐. ควมฺปติสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐๐. เอกปฺปฏิเวโธติ เอเกเนว าเณน จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ เอกชฺฌํ ปฏิเวโธ.
โกฏิคามวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สีสปาวนวคฺโค
๓. ทณฺฑสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐๑. ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว นิพฺพตฺตนฺติ อทิฏฺตฺตา จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ.
๕. สตฺติสตสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐๕. ภเวยฺย ¶ เจติ ทุกฺขโทมนสฺสานิ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา สหิเตหิ เตหิ สจฺจาภิสมโย ภเวยฺยาติ เอวํ ปริกปฺปนา น กาตพฺพาติ.
๙. อินฺทขีลสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐๙. อชฺฌาสยนฺติ ¶ สสฺสตาทิเภทํ อชฺฌาสยํ. โส หิ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ คาหสฺส มุขภูตตฺตา มุขนฺติ อธิปฺเปโต. ตฺจ อปเร อทิฏฺสจฺจา โอโลเกนฺติ, ทิฏฺสจฺจา ปน เนว โอโลเกนฺติ.
๑๐. วาทตฺถิกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑๐. กุกฺกุโก ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺโถติ อตฺโถ. กุกฺกูติ ตสฺเสว นามํ.
สีสปาวนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปปาตวคฺโค
๑. โลกจินฺตาสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑๑. โลกจินฺตนฺติ โลกสนฺนิเวสปฏิสํยุตฺตวีมํสาว. ‘‘โลกจิตฺต’’นฺติปิ ปาโ, ตํตํโลกปริยาปนฺนํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. นาฬิเกราทโยติ อาทิ-สทฺเทน อวุตฺตานํ โอสธิติณวนปฺปติอาทีนํ สงฺคโห. เอวรูปนฺติ เอทิสํ อฺมฺปิ ตํตํโลกจิตฺตํ.
วิคตจิตฺโตติ อตฺตตฺถปรตฺถโต อปคตวิตกฺโก อทฺทส เอวํ อธิฏฺหึสูติ สมฺพนฺโธ. สมฺพริมายนฺติ สมฺพเรน อสุรินฺเทน อุปฺปาทิตํ อสุรมายํ, ยํ ‘‘อินฺทชาล’’นฺติปิ วุจฺจติ อินฺทสฺส โมหนตฺถํ อุปฺปาทิตตฺตา. สมฺปริวตฺเตตฺวาติ ปริธาเวตฺวา. ยถา เนติ เน อสุเร ยถา โส ปุริโส ปสฺสติ, เอวํ อธิฏฺหึสุ. กสฺมา ปเนเต เอวํ อธิฏฺหึสูติ? ตํ ปุริสํ ตตฺถ ตถานิสินฺนํ ทิสฺวา ‘‘อยฺจ เทโว’’ติ อาสงฺกนฺตา ตถา อธิฏฺหิตฺวา ภิสมุฬาลฉิทฺเทหิ ปวิสิตฺวา อตฺตโน อสุรภวนํ คตา. เตนาห ภควา – ‘‘เทวานํเยว โมหยมานา’’ติ.
๒-๓. ปปาตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๑๒-๓. มริยาทปาสาโณติ ¶ ¶ คิชฺฌกูฏปพฺพตสฺส มริยาทปาการสทิโส มหนฺโต ปาสาโณ. อนิฏฺรูปนฺติ เอตฺถ รูป-สทฺโท สภาวตฺโถ ‘‘ปิยรูเป สาตรูเป’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๐๘-๔๐๙) วิยาติ อาห – ‘‘อนิฏฺสภาว’’นฺติ.
๕. วาลสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑๕. อุปาสนนฺติ อาจริยอุปาสนํ, อาจริยํ อนฺเตวาสินา วา ทิวเส ทิวเส สิกฺขนวเสน อุปาสิตพฺพโต อุปาสนนฺติ ลทฺธนามํ กณฺฑขิปนสิปฺปํ. กณฺฑํ อติกฺกมนฺเตติ สรํ ขิปนฺเต. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ โปงฺขสทฺทตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ กณฺฑํ ขิปิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปรํ อนุโปงฺขนฺติ เอตฺถ อปรนฺติ ตติยกณฺฑํ. อนุโปงฺขํ นาม อิทนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุโปงฺขํ นาม ทุติยสฺส โปงฺข’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺหิ ตติเยน สเรน วิชฺฌียติ. ปุน อปรํ ตสฺส โปงฺขนฺติ อิทํ ปน อปราปรํ อวิรชฺฌนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ทุรภิสมฺภวตรนฺติ อภิภวิตุํ อสกฺกุเณยฺยตรํ. วาลนฺติ เกสํ. สตฺตธา ภินฺทิตฺวาติ สตฺตกฺขตฺตุํ วิผาเลตฺวา. ตสฺส เอกํ เภทนฺติ ตสฺส เกสสฺส เอกํ อํสุสงฺขาตํ เภทํ คเหตฺวา. วาติงฺคณมชฺเฌ พนฺธิตฺวาติ วาติงฺคณผลสฺส มชฺฌฏฺาเน พนฺธิตฺวา. อปรํ เภทนฺติ อปรํ เกสสฺส อํสุสงฺขาตํ เภทํ. อคฺคโกฏิยํ พนฺธิตฺวาติ ยถา ตสฺส วาลเภทสฺส อูกามตฺตํ ลิขามตฺตํ วา กณฺฑสฺส อคฺคโกฏึ อธิกํ หุตฺวา ติฏฺติ, เอวํ พนฺธิตฺวา. อุสภมตฺเตติ วีสติยฏฺิมตฺเต าเน ิโต. กณฺฑพทฺธาย โกฏิยาติ กณฺฑพทฺธาย วาลสฺส โกฏิยา วาติงฺคณพนฺธนวาลสฺส โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺย.
๘. ทุติยฉิคฺคฬยุคสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑๘. อธิจฺจุปฺปตฺติกนฺติ ยทิจฺฉาวเสน อุปฺปชฺชนกํ. ฉิคฺคเฬนาติ ฉิคฺคฬปเทเสน. ฉิคฺคฬุปรีติ เหฏฺิมยุคสฺส ฉิคฺคฬปเทสสฺส อุปริ. อารุฬฺหสฺส ฉิคฺคเฬนาติ อุภินฺนมฺปิ ฉิทฺเทน. คีวปฺปเวสนํ วิยาติ จตุนฺนํ ยุคานํ ฉิทฺทปเทเสเนว อุปรูปริ ิตานํ ฉิทฺทนฺตเรน กาณกจฺฉปสฺส คีวปฺปเวสนํ ¶ อธิจฺจตรสมฺภวํ. ตโตปิ อธิจฺจตรสมฺภโว มนุสฺสตฺตลาโภ, ตโต อธิจฺจตมสมฺภโว อริยมคฺคปฏิลาโภติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จตุสจฺจปฏิเวโธ อติวิย อธิจฺจตรสมฺภโว’’ติ.
ปปาตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อภิสมยวคฺควณฺณนา
๑๑๒๑. อภิสมยสํยุตฺเต ¶ วิตฺถาริโตว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว ตสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๗. ปมอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค
๓. ปฺาสุตฺตวณฺณนา
๑๑๓๓. โลกิยมฺปิ วิสุทฺธตฺเถน ‘‘อริย’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ ‘‘โลกิยโลกุตฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ.
๔. สุราเมรยสุตฺตวณฺณนา
๑๑๓๔. ปิฏฺสุราติ ปิฏฺเน กาตพฺพสุรา, ตถา โอทนสุรา ปูวสุรา, มชฺชรสาทิภูเต กิณฺเณ ปกฺขิปิตฺวา กตฺตพฺพา สุรา กิณฺณปกฺขิตฺตสุรา. สมฺภารสํยุตฺตาติ มูลเภสชฺชสมฺภาเรหิ สํยุตฺตา. ปุปฺผาสโวติ นาฬิเกรปุปฺผาทิโต อสฺสวนกอาสโว. มุทฺทิกผลาทิโต อสฺสวนกอาสโว ผลาสโว. อิตีติอาทิอตฺโถ. เตน มธฺวาสวคุฬาสวสมฺภารสํยุตฺเต สงฺคณฺหาติ. สุราสววินิมุตฺตนฺติ ยถาวุตฺตสุราสววินิมุตฺตํ.
๑๐. ปจายิกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔๐. นีจวุตฺติโนติ กุเล เชฏฺานํ มหาปิตุจูฬปิตุเชฏฺภาติกาทีนํ อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมาทิวเสน นีจวุตฺติโน.
๘. ทุติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค
๘. พีชคามสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔๘. ‘‘มูลพีช’’นฺติอาทีสุ ¶ ¶ มูลเมว พีชนฺติ มูลพีชํ, มูลพีชํ เอตสฺสาติปิ มูลพีชํ. ตตฺถ ปุริเมน พีชคาโม วุตฺโต ‘‘พีชานํ สมูโห’’ติ กตฺวา, ทุติเยน ภูตคาโม. ทุวิโธเปโส สามฺนิทฺเทเสน, ‘‘มูลพีชฺจ มูลพีชฺจ มูลพีช’’นฺติ เอกเสสนเยน วา พีชตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอส นโย เสเสสุปิ. ผฬุพีชนฺติ ปพฺพพีชํ. พาหิรปจฺจยนฺตรสมวาเย สทิสผลุปฺปตฺติยา วิเสสการณภาวโต วิรุหนสมตฺเถ สารผเล นิรุฬฺโห พีช-สทฺโท. ตทตฺถสิทฺธิยา มูลาทีสุปิ เกสุจิ ปวตฺตตีติ ตโต นิวตฺตนตฺถํ เอเกน พีช-สทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘พีชพีช’’นฺติ ‘‘รูปรูปํ, ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๗) จ ยถา. นีลติณรุกฺขาทิกสฺสาติ อลฺลติณสฺส เจว อลฺลรุกฺขาทิกสฺส จ. อาทิ-สทฺเทน โอสธิคจฺฉลตาทีนํ คหณํ.
๙. วิกาลโภชนสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔๙. อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิโก, อยํ พุทฺธาทิอริยานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ โภชนสฺส กาโล, ตทฺโ วิกาโลติ อาห – ‘‘วิกาลโภชนาติ กาลาติกฺกนฺตโภชนา’’ติ.
๑๐. คนฺธวิเลปนสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕๐. ยํ กิฺจิ ปุปฺผนฺติ คนฺถิมํ อคนฺถิมํ วา ยํ กิฺจิ ปุปฺผชาตํ, ตถา ปิสิตาทิเภทํ ยํ กิฺจิ คนฺธชาตํ.
๙. ตติยอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค
๑. นจฺจคีตสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕๑. สงฺเขปโต ¶ ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ที.นิ. ๒.๙๐; ธ.ป. ๑๘๓) ภควโต สาสนํ อจฺจนฺตฉนฺทราคปวตฺติโต นจฺจาทีนํ ทสฺสนํ น อนุโลเมตีติ อาห ‘‘สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา’’ติ. อตฺตนา ปเรหิ จ ปโยชิยมานํ ¶ ปโยชาปิยมานฺจ เอเตเนว นจฺจ-สทฺเทน คหิตํ, ตถา คีตวาทิตสทฺเทหิ จาติ อาห – ‘‘นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสนา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน คายน-คายาปน-วาทน-วาทาปนาทีนิ สงฺคณฺหาติ. ทสฺสเนน เจตฺถ สวนมฺปิ สงฺคหิตํ วิรูเปกเสสนเยน. ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย วา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสงฺเขปสพฺภาวโต ‘‘ทสฺสนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อวิสูกภูตสฺส คีตสฺส สวนํ กทาจิ วฏฺฏตีติ อาห – ‘‘วิสูกภูตา ทสฺสนา จา’’ติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกอฏฺกถาย (ขุ. ปา. อฏฺ. ๒.ปจฺฉิมปฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) – ‘‘ธมฺมูปสํหิตํ คีตํ วฏฺฏติ, คีตูปสํหิโต ธมฺโม น วฏฺฏตี’’ติ.
๒. อุจฺจาสยนสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕๒. อุจฺจาติ อุจฺจ-สทฺเทน สมานตฺถํ เอกํ สทฺทนฺตรํ. เสติ เอตฺถาติ สยนํ, อุจฺจาสยนํ มหาสยนฺจ สมณสารุปฺปรหิตํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปมาณาติกฺกนฺตํ อกปฺปิยตฺถรณ’’นฺติ. อาสนฺทาทิอาสนฺเจตฺถ สยเนเนว สงฺคหิตํ. ยสฺมา ปน อาธาเร ปฏิกฺขิตฺเต ตทาธารกิริยา ปฏิกฺขิตฺตาว โหติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาสยนมหาสยนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ตทุปโภคภูตนิสชฺชานิปชฺชเนหิ วิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา อุจฺจาสยนมหาสยนฺจ อุจฺจาสยนมหาสยนฺจาติ อุจฺจาสยนมหาสยนนฺติ เอตสฺมึ อตฺเถ เอกเสสนเยน อยํ นิทฺเทโส กโต ยถา – ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ (อุทา. ๑). อาสนกิริยาปุพฺพกตฺตา วา สยนกิริยาย สยนคฺคหเณเนว อาสนมฺปิ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๓. ชาตรูปสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕๓. อฺเปิ อุคฺคหาปเน อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน จ ปฏิคฺคหณตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ¶ – ‘‘น อุคฺคณฺหาเปนฺติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยนฺตี’’ติ. อถ วา ติวิธํ ปฏิคฺคหณํ กาเยน วาจาย มนสาติ. ตตฺถ กาเยน ปฏิคฺคหณํ อุคฺคหณํ, วาจาย ปฏิคฺคหณํ อุคฺคหาปณํ, มนสา ปฏิคฺคหณํ สาทิยนํ. ติวิธมฺปิ ปฏิคฺคหณํ สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสสนเยน วา คเหตฺวา ‘‘ปฏิคฺคหณา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘เนว นํ อุคฺคณฺหนฺตี’’ติอาทิ. เอส นโย ‘‘อามกธฺปฏิคฺคหณา’’ติอาทีสุปิ.
๔. อามกธฺสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕๔. นีวาราทิอุปธฺสฺส ¶ สาลิอาทิมูลธฺนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ ‘‘สตฺตวิธสฺสา’’ติ.
๕. อามกมํสสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ วสานิ เภสชฺชานิ – อจฺฉวสํ, มจฺฉวสํ, สุสุกาวสํ, สูกรวสํ, คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒; ปารา. อฏฺ. ๖๒๓) วุตฺตตฺตา อิทํ อุทฺทิสฺส อนฺุาตํ นาม. ตสฺส ปน ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหณํ วฏฺฏตีติ อาห – ‘‘อฺตฺร อุทฺทิสฺส อนฺุาตา’’ติ. วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ, ตสฺมา สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วุตฺตนเยเนตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
๑๐. จตุตฺถอามกธฺเปยฺยาลวคฺโค
๒-๓. กยวิกฺกยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๖๒-๖๓. กสฺสจิ ภณฺฑสฺส คหณํ กโย, ทานํ วิกฺกโย. ตตฺถ ตตฺถาติ คามนฺตเร สนฺติเก จ คมนํ ทูตกมฺมนฺติ วุจฺจตีติ โยชนา. ปหิณคมนํ ขุทฺทกคมนํ.
๔. ตุลากูฏสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖๔. รูปกูฏํ สรูเปน สทิเสน ฉลโวหาโร. องฺคกูฏํ อตฺตโน หตฺถาทินา องฺคานํ ฉลกรณํ ¶ . คหณกูฏํ มาเนสุ คหณวเสน. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ อยจุณฺณาทินา ปฏิจฺฉนฺเนน ฉลกรณํ. มหติยา ตุลาย. ปจฺฉาภาเคติ ตุลาย ปจฺฉิมภาเค. หตฺเถนาติ หตฺถปเทเสน. อกฺกมตีติ อุฏฺาตุํ อเทนฺโต คณฺหาติ. ททนฺโต ปุพฺพภาเคติ ปเรสํ ททนฺโต ปุพฺพภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ. ตนฺติ อยจุณฺณํ.
โลหปาติโยติ ตมฺพโลหปาติโย. สุวณฺณวณฺณา กโรนฺตีติ อสนิขาทสุวณฺณกนกลิมฺปิตา สุวณฺณวณฺณา กโรนฺติ. มานภาชนสฺส ¶ หทยภูตสฺส อพฺภนฺตรสฺส ภินฺนํ หทยเภโท. นิมิยมานสฺส ติลตณฺฑุลาทิกสฺส สิขาย อคฺคโกฏิยา ภินฺนํ สิขาเภโท. เขตฺตาทีนํ มินนรชฺชุยา อฺถากรณํ รชฺชุเภโท. รชฺชุคหเณเนว เจตฺถ ทณฺฑกสฺส คหณํ กตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
๖-๑๑. เฉทนสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๖๖-๗๑. วโธติ มุฏฺิปฺปหารกสาตาฬนาทีหิ หึสนํ, วิเหนนฺติ อตฺโถ. วิเหนตฺโถปิ หิ วธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘อตฺถานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรเทยฺยา’’ติอาทีสุ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘มารณ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ปน โปถนํ สนฺธายาติ สกฺกา วิฺาตุํ มารณสทฺทสฺส วิหึสเนปิ ทิสฺสนโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อามกธฺเปยฺยาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
มหาวคฺควณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถาวณฺณนา
สกลรูปารูปสมฺมสเน ¶ สณฺหสุขุมวิสยาณตาย วิปสฺสนาจารนิปุณพุทฺธีนํ สุสํยตกายวจีสมาจารตาย สมถวิปสฺสนาสุ สมฺมเทว ยตนโต จ ยตีนํ ภิกฺขูนํ ขนฺธายตนธาตุสจฺจินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทเภเท ปรมตฺถธมฺเม นานานเยหิ าณวิภาคสฺส สนฺนิสฺสเยน พหุการสฺส สํยุตฺตาคมวรสฺส อตฺถสํวณฺณนํ กาตุํ สารตฺถปฺปกาสนโต เอว นิปุณา ยา มยา อฏฺกถา อารทฺธาติ สมฺพนฺโธ. สวิเสสํ ปฺาวหคุณตฺตา เอว หิสฺส คนฺถารมฺเภ อาทิโตปิ ‘‘ปฺาปเภทชนนสฺสา’’ติ ¶ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถาย สารนฺติ สํยุตฺตมหาอฏฺกถาย สารํ. เอกูนสฏฺิมตฺโตติ โถกํ อูนภาวโต มตฺต-สทฺทคฺคหณํ.
มูลฏฺกถาย สารนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตสํยุตฺตมหาอฏฺกถาย สารเมว ปุน นิคมนวเสน วุตฺตนฺติ. อถ วา มูลฏฺกถาย สารนฺติ โปราณฏฺกถาสุ อตฺถสารํ. เตน เอตํ ทสฺเสติ ‘‘สํยุตฺตมหาอฏฺกถาย อตฺถสารํ อาทาย อิมํ สารตฺถปฺปกาสินึ กโรนฺเตน เสสมหานิกายานมฺปิ มูลฏฺกถาสุ อิธ วิโยคกฺขมํ อตฺถสารํ อาทาย อกาสิ’’นฺติ. ‘‘มหาวิหาราธิวาสีน’’นฺติ จ อิทํ ปุริมปจฺฉิมปเทหิ สทฺธึ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘มหาวิหาราธิวาสีนํ สมยํ ปกาสยนฺตึ มหาวิหาราธิวาสีนํ มูลฏฺกถาย สารํ อาทายา’’ติ จ. เตน ปฺุเน. โหตุ สพฺโพ สุขี โลโกติ กามาวจราทิวิภาโค สพฺโพ สตฺตโลโก ยถารหํ โพธิตฺตยาธิคมวเสน สมฺปยุตฺเตน นิพฺพานสุเขน สุขิโต โหตูติ สเทวกสฺส โลกสฺส อจฺจนฺตํ สุขาธิคมาย อตฺตโน ปฺุํ ปริณาเมติ.
เอตฺตาวตา สารตฺถปฺปกาสินิยา
สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย ลีนตฺถปฺปกาสนา นิฏฺิตา.
สํยุตฺตฏีกา สมตฺตา.