📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาเย

ทุกนิปาต-อฏฺกถา

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. กมฺมการณวคฺโค

๑. วชฺชสุตฺตวณฺณนา

. ทุกนิปาตสฺส ปเม วชฺชานีติ โทสา อปราธา. ทิฏฺธมฺมิกนฺติ ทิฏฺเว ธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํ. สมฺปรายิกนฺติ สมฺปราเย อนาคเต อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํ. อาคุจารินฺติ ปาปการึ อปราธการกํ. ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเตติ โจรํ คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา ราชปุริสา กโรนฺติ, ราชาโน ปน ตา กาเรนฺติ นาม. ตํ โจรํ เอวํ กมฺมการณา การิยมานํ เอส ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปสฺสติ โจรํ อาคุจารึ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเต’’ติ. อทฺธทณฺฑเกหีติ มุคฺคเรหิ, ปหารสาธนตฺถํ วา จตุหตฺถทณฺฑํ ทฺเวธา เฉตฺวา คหิตทณฺฑเกหิ. พิลงฺคถาลิกนฺติ กฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สีสกฏาหํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุถิตฺวา อุตฺตรติ. สงฺขมุณฺฑิกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฏกปริจฺเฉเทน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺึ กตฺวา ทณฺฑเกน เวเตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺหติ. ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติ. ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺาย มุขํ นิขาทเนน ขนนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติ.

โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา อาลิมฺเปนฺติ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติ. เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา เหฏฺาคีวโต ปฏฺาย จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา โคปฺผเก เปนฺติ, อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ. โส อตฺตโน จมฺมวฏฺเฏ อกฺกมิตฺวา อกฺกมิตฺวา ปตติ. จีรกวาสิกนฺติ จีรกวาสิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ, กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺติ, อุปริเมหิ เหฏฺิมสรีรํ จีรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติ. เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ อุโภสุ ชาณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติ. โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺหติ. อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคึ กโรนฺติ. ‘‘เอเณยฺยโก โชติปริคฺคโห ยถา’’ติ อาคตฏฺาเนปิ อิทเมว วุตฺตํ. ตํ กาเลน กาลํ สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺิโกฏีหิเยว เปนฺติ. เอวรูปา กมฺมการณา นาม นตฺถิ.

พฬิสมํสิกนฺติ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนฺหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติ. กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติณฺหาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺาย กหาปณมตฺตํ, กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํสนฺติ, จมฺมมํสนฺหารูนิ ปคฺฆริตฺวา อฏฺิกสงฺขลิกาว ติฏฺติ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเทน อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ. อถ นํ ปาเท คเหตฺวา อาวิฺฉนฺติ. ปลาลปีกนฺติ เฉโก การณิโก ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปเตหิ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, มํสราสิเยว โหติ. อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺติ, ปลาลวฏฺฏึ วิย กตฺวา ปุน เวเนฺติ. สุนเขหิปีติ กติปยานิ ทิวสานิ อาหารํ อทตฺวา ฉาตกสุนเขหิ ขาทาเปนฺติ. เต มุหุตฺเตน อฏฺิกสงฺขลิกเมว กโรนฺติ. สูเล อุตฺตาเสนฺเตติ สูเล อาโรเปนฺเต.

น ปเรสํ ปาภตํ วิลุมฺปนฺโต จรตีติ ปเรสํ สนฺตกํ ภณฺฑํ ปรมฺมุขํ อาภตํ อนฺตมโส อนฺตรวีถิยํ ปติตํ สหสฺสภณฺฑิกมฺปิ ทิสฺวา ‘‘อิมินา ชีวิสฺสามี’’ติ วิลุมฺปนฺโต น วิจรติ, โก อิมินา อตฺโถติ ปิฏฺิปาเทน วา ปวฏฺเฏตฺวา คจฺฉติ.

ปาปโกติ ลามโก. ทุกฺโขติ อนิฏฺโ. กิฺจ ตนฺติ กึ นาม ตํ การณํ ภเวยฺย. ยาหนฺติ เยน อหํ. กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตาทิ ติวิธํ อกุสลํ กายกมฺมํ. กายสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํ. วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาทาทิ จตุพฺพิธํ อกุสลํ วจีกมฺมํ. วจีสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ จตุพฺพิธํ กุสลกมฺมํ. มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาทิ ติวิธํ อกุสลกมฺมํ. มโนสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํ. สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตีติ เอตฺถ ทุวิธา สุทฺธิ – ปริยายโต จ นิปฺปริยายโต จ. สรณคมเนน หิ ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นาม. ตถา ปฺจหิ สีเลหิ, ทสหิ สีเลหิ – จตุปาริสุทฺธิสีเลน, ปมชฺฌาเนน…เป… เนวสฺานาสฺายตเนน, โสตาปตฺติมคฺเคน, โสตาปตฺติผเลน…เป… อรหตฺตมคฺเคน ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นาม. อรหตฺตผเล ปติฏฺิโต ปน ขีณาสโว ฉินฺนมูลเก ปฺจกฺขนฺเธ นฺหาเปนฺโตปิ ขาทาเปนฺโตปิ ภุฺชาเปนฺโตปิ นิสีทาเปนฺโตปิ นิปชฺชาเปนฺโตปิ นิปฺปริยาเยเนว สุทฺธํ นิมฺมลํ อตฺตานํ ปริหรติ ปฏิชคฺคตีติ เวทิตพฺโพ.

ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว วชฺชาเนว, โน น วชฺชานิ, ตสฺมา. วชฺชภีรุโนติ วชฺชภีรุกา. วชฺชภยทสฺสาวิโนติ วชฺชานิ ภยโต ทสฺสนสีลา. เอตํ ปาฏิกงฺขนฺติ เอตํ อิจฺฉิตพฺพํ, เอตํ อวสฺสํภาวีติ อตฺโถ. นฺติ นิปาตมตฺตํ, การณวจนํ วา เยน การเณน ปริมุจฺจิสฺสติ สพฺพวชฺเชหิ. เกน ปน การเณน ปริมุจฺจิสฺสตีติ? จตุตฺถมคฺเคน เจว จตุตฺถผเลน จ. มคฺเคน หิ ปริมุจฺจติ นาม, ผลํ ปตฺโต ปริมุตฺโต นาม โหตีติ. กึ ปน ขีณาสวสฺส อกุสลํ น วิปจฺจตีติ? วิปจฺจติ, ตํ ปน ขีณาสวภาวโต ปุพฺเพ กตํ. ตฺจ โข อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว, สมฺปราเย ปนสฺส กมฺมผลํ นาม นตฺถีติ. ปมํ.

๒. ปธานสุตฺตวณฺณนา

. ทุติเย ปธานานีติ วีริยานิ. วีริยฺหิ ปทหิตพฺพโต ปธานภาวกรณโต วา ปธานนฺติ วุจฺจติ. ทุรภิสมฺภวานีติ ทุสฺสหานิ ทุปฺปูริยานิ, ทุกฺกรานีติ อตฺโถ. อคารํ อชฺฌาวสตนฺติ อคาเร วสนฺตานํ. จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทานตฺถํ ปธานนฺติ เอเตสํ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อนุปฺปทานตฺถาย ปธานํ นาม ทุรภิสมฺภวนฺติ ทสฺเสติ. จตุรตนิกมฺปิ หิ ปิโลติกํ, ปสตตณฺฑุลมตฺตํ วา ภตฺตํ, จตุรตนิกํ วา ปณฺณสาลํ, เตลสปฺปินวนีตาทีสุ วา อปฺปมตฺตกมฺปิ เภสชฺชํ ปเรสํ เทถาติ วตฺตุมฺปิ นีหริตฺวา ทาตุมฺปิ ทุกฺกรํ อุภโตพฺยูฬฺหสงฺคามปฺปเวสนสทิสํ. เตนาห ภควา –

‘‘ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมานมาหุ,

อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺติ;

อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ,

เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ. (ชา. ๑.๘.๗๒; สํ. นิ. ๑.๓๓);

อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานนฺติ เคหโต นิกฺขมิตฺวา อคารสฺส ฆราวาสสฺส หิตาวเหหิ กสิโครกฺขาทีหิ วิรหิตํ อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ อุปคตานํ. สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถาย ปธานนฺติ สพฺเพสํ ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธิสงฺขาตานํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺคสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อตฺถาย วิปสฺสนาย เจว มคฺเคน จ สหชาตวีริยํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ, ตสฺมา. ทุติยํ.

๓. ตปนียสุตฺตวณฺณนา

. ตติเย ตปนียาติ อิธ เจว สมฺปราเย จ ตปนฺตีติ ตปนียา. ตปฺปตีติ จิตฺตสนฺตาเปน ตปฺปติ อนุโสจติ กายทุจฺจริตํ กตฺวา นนฺทยกฺโข วิย นนฺทมาณโว วิย นนฺทโคฆาตโก วิย เทวทตฺโต วิย ทฺเวภาติกา วิย จ. เต กิร คาวํ วธิตฺวา มํสํ ทฺเว โกฏฺาเส อกํสุ. ตโต กนิฏฺโ เชฏฺกํ อาห – ‘‘มยฺหํ ทารกา พหู, อิมานิ เม อนฺตานิ เทหี’’ติ. อถ นํ โส ‘‘สพฺพํ มํสํ ทฺเวธา วิภตฺตํ, ปุน กึ มคฺคสี’’ติ ปหริตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. นิวตฺติตฺวา จ นํ โอโลเกนฺโต มตํ ทิสฺวา ‘‘ภาริยํ เม กมฺมํ กต’’นฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส พลวโสโก อุปฺปชฺชิ. โส ิตฏฺาเนปิ นิสินฺนฏฺาเนปิ ตเทว กมฺมํ อาวชฺเชติ, จิตฺตสฺสาทํ น ลภติ. อสิตปีตขายิตสายิตมฺปิสฺส สรีเร โอชํ น ผรติ, อฏฺิจมฺมมตฺตเมว อโหสิ. อถ นํ เอโก เถโร ทิสฺวา – ‘‘อุปาสก, ตฺวํ ปหูตอนฺนปาโน, อฏฺิจมฺมมตฺตเมว เต อวสิฏฺํ, อตฺถิ นุ โข เต กิฺจิ ตปนียกมฺม’’นฺติ? โส ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ สพฺพํ อาโรเจสิ. อถ นํ เถโร ‘‘ภาริยํ เต อุปาสก กมฺมํ กตํ, อนปราธฏฺาเน อปรทฺธ’’นฺติ อาห. โส เตเนว กมฺเมน กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโต. วจีทุจฺจริเตน สุปฺปพุทฺธสกฺกโกกาลิกจิฺจมาณวิกาทโย วิย ตปฺปติ. เสสเมตฺถ จตุตฺเถ จ อุตฺตานตฺถเมว. ตติยํ.

๕. อุปฺาตสุตฺตวณฺณนา

. ปฺจเม ทฺวินฺนาหนฺติ ทฺวินฺนํ อหํ. อุปฺาสินฺติ อุปคนฺตฺวา คุณํ อฺาสึ, ชานึ ปฏิวิชฺฌินฺติ อตฺโถ. อิทานิ เต ธมฺเม ทสฺเสนฺโต ยา จ อสนฺตุฏฺิตาติอาทิมาห. อิมฺหิ ธมฺมทฺวยํ นิสฺสาย สตฺถา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, ตสฺมา ตสฺสานุภาวํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อิมินา อิมํ ทีเปติ – ‘‘อหํ ฌานมตฺตเกน วา โอภาสนิมิตฺตมตฺตเกน วา อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา อรหตฺตมคฺคเมว อุปฺปาเทสึ. ยาว โส น อุปฺปชฺชิ, น ตาวาหํ สนฺตุฏฺโ อโหสึ. ปธานสฺมึ จ อนุกฺกณฺิโต หุตฺวา อโนสกฺกนาย ตฺวาเยว ปธานกิริยํ อกาสิ’’นฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ยา จ อปฺปฏิวานิตาติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปฏิวานิตาติ อปฺปฏิกฺกมนา อโนสกฺกนา. อปฺปฏิวานี สุทาหํ, ภิกฺขเว, ปทหามีติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อหํ, ภิกฺขเว, อโนสกฺกนายํ ิโต โพธิสตฺตกาเล สพฺพฺุตํ ปตฺเถนฺโต ปธานมกาสินฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

อิทานิ ยถา เตน ตํ ปธานํ กตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต กามํ ตโจ จาติอาทิมาห. ตตฺถ ปตฺตพฺพนฺติ อิมินา ปตฺตพฺพํ คุณชาตํ ทสฺเสติ. ปุริสถาเมนาติอาทินา ปุริสสฺส าณถาโม าณวีริยํ าณปรกฺกโม จ กถิโต. สณฺานนฺติ ปนา อปฺปวตฺตนา โอสกฺกนา, ปฏิปฺปสฺสทฺธีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เตน จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยาธิฏฺานํ นาม กถิตํ. เอตฺถ หิ กามํ ตโจ จาติ เอกํ องฺคํ, นฺหารุ จาติ เอกํ, อฏฺิ จาติ เอกํ, มํสโลหิตนฺติ เอกํ, อิมานิ จตฺตาริ องฺคานิ. ปุริสถาเมนาติอาทีนิ อธิมตฺตวีริยาธิวจนานิ. อิติ ปุริเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน หุตฺวา เอวํ อธิฏฺิตํ วีริยํ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยาธิฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา เตน โพธิปลฺลงฺเก อตฺตโน อาคมนียปฏิปทา กถิตา.

อิทานิ ตาย ปฏิปทาย ปฏิลทฺธคุณํ กเถตุํ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปมาทาธิคตาติ สติอวิปฺปวาสสงฺขาเตน อปฺปมาเทน อธิคตา, น สุตฺตปฺปมตฺเตน ลทฺธา. สมฺโพธีติ จตุมคฺคาณฺเจว สพฺพฺุตฺาณฺจ. น หิ สกฺกา เอตํ สุตฺตปฺปมตฺเตน อธิคนฺตุนฺติ. เตนาห – ‘‘อปฺปมาทาธิคตา สมฺโพธี’’ติ. อนุตฺตโร โยคกฺเขโมติ น เกวลํ โพธิเยว, อรหตฺตผลนิพฺพานสงฺขาโต อนุตฺตโร โยคกฺเขโมปิ อปฺปมาทาธิคโตว.

อิทานิ อตฺตนา ปฏิลทฺธคุเณสุ ภิกฺขุสงฺฆํ สมาทเปนฺโต ตุมฺเห เจปิ ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส อตฺถาย, ยํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุกามา หุตฺวาติ อตฺโถ. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อริยผลํ. อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อภิฺาย อุตฺตมปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถาติ ปฏิลภิตฺวา ปาปุณิตฺวา วิหริสฺสถ. ตสฺมาติ ยสฺมา อปฺปฏิวานปธานํ นาเมตํ พหูปการํ อุตฺตมตฺถสาธกํ, ตสฺมา. ปฺจมํ.

๖. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา

. ฉฏฺเ สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสูติ ทสนฺนํ สํโยชนานํ ปจฺจยภูเตสุ เตภูมกธมฺเมสุ. อสฺสาทานุปสฺสิตาติ อสฺสาทโต ปสฺสิตา ปสฺสนภาโวติ อตฺโถ. นิพฺพิทานุปสฺสิตาติ นิพฺพิทาวเสน อุกฺกณฺนวเสน ปสฺสนภาโว. ชาติยาติ ขนฺธนิพฺพตฺติโต. ชรายาติ ขนฺธปริปากโต. มรเณนาติ ขนฺธเภทโต. โสเกหีติ อนฺโตนิชฺฌายนลกฺขเณหิ โสเกหิ. ปริเทเวหีติ ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปิตลกฺขเณหิ ปริเทเวหิ. ทุกฺเขหีติ กายปฏิปีฬนทุกฺเขหิ. โทมนสฺเสหีติ มโนวิฆาตโทมนสฺเสหิ. อุปายาเสหีติ อธิมตฺตายาสลกฺขณอุปายาเสหิ. ทุกฺขสฺมาติ สกลวฏฺฏทุกฺขโต. ปชหตีติ มคฺเคน ปชหติ. ปหายาติ เอตฺถ ปน ผลกฺขโณ กถิโต. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ. ฉฏฺํ.

๗. กณฺหสุตฺตวณฺณนา

. สตฺตเม กณฺหาติ น กาฬวณฺณตาย กณฺหา, กณฺหตาย ปน อุปเนนฺตีติ นิปฺผตฺติกาฬตาย กณฺหา. สรเสนาปิ วา สพฺพากุสลธมฺมา กณฺหา เอว. น หิ เตสํ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ ปภสฺสรํ โหติ. อหิริกนฺติ อหิริกภาโว. อโนตฺตปฺปนฺติ อโนตฺตาปิภาโว. สตฺตมํ.

๘. สุกฺกสุตฺตวณฺณนา

. อฏฺเม สุกฺกาติ น วณฺณสุกฺกตาย สุกฺกา, สุกฺกตาย ปน อุปเนนฺตีติ นิปฺผตฺติสุกฺกตาย สุกฺกา. สรเสนาปิ วา สพฺพกุสลธมฺมา สุกฺกา เอว. เตสํ หิ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ ปภสฺสรํ โหติ. หิรี จ โอตฺตปฺปฺจาติ เอตฺถ ปาปโต ชิคุจฺฉนลกฺขณา หิรี, ภายนลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ. ยํ ปเนตฺถ วิตฺถารโต วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. อฏฺมํ.

๙. จริยสุตฺตวณฺณนา

. นวเม โลกํ ปาเลนฺตีติ โลกํ สนฺธาเรนฺติ เปนฺติ รกฺขนฺติ. นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ อิมสฺมึ โลเก ชนิกา มาตา ‘‘อยํ เม มาตา’’ติ ครุจิตฺตีการวเสน น ปฺาเยถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สมฺเภทนฺติ สงฺกรํ มริยาทเภทํ วา. ยถา อเชฬกาติอาทีสุ เอเต หิ สตฺตา ‘‘อยํ เม มาตา’’ติ วา ‘‘มาตุจฺฉา’’ติ วา ครุจิตฺตีการวเสน น ชานนฺติ. ยํ วตฺถุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนา, ตตฺเถว วิปฺปฏิปชฺชนฺติ. ตสฺมา อุปมํ อาหรนฺโต ‘‘ยถา อเชฬกา’’ติอาทิมาห. นวมํ.

๑๐. วสฺสูปนายิกสุตฺตวณฺณนา

๑๐. ทสมํ อฏฺุปฺปตฺติยํ วุตฺตํ. กตรอฏฺุปฺปตฺติยํ? มนุสฺสานํ อุชฺฌายเน. ภควตา หิ ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ วสฺสูปนายิกา อปฺปฺตฺตา อโหสิ. ภิกฺขู อนิพทฺธวาสา วสฺเสปิ อุตุวสฺเสปิ ยถาสุขํ วิจรึสุ. เต ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา เหมนฺตมฺปิ คิมฺหมฺปิ วสฺสมฺปิ จาริกํ จริสฺสนฺติ หริตานิ ติณานิ สมฺมทฺทนฺตา เอกินฺทฺริยํ ชีวํ วิเหเนฺตา พหู ขุทฺทเก ปาเณ สงฺฆาตํ อาปาเทนฺตา. อิเม หิ นาม อฺติตฺถิยา ทุรกฺขาตธมฺมา วสฺสาวาสํ อลฺลียิสฺสนฺติ สํกสายิสฺสนฺติ, อิเม นาม สกุณา รุกฺขคฺเคสุ กุลาวกานิ กตฺวา วสฺสาวาสํ อลฺลียิสฺสนฺติ สํกสายิสฺสนฺตี’’ติอาทีนิ วตฺวา อุชฺฌายึสุ. ตมตฺถํ ภิกฺขู ภควโต อาโรเจสุํ. ภควา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา อิมํ สุตฺตํ เทเสนฺโต ปมํ ตาว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๘๔) เอตฺตกเมวาห. อถ ภิกฺขูนํ ‘‘กทา นุ โข วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ อุปฺปนฺนํ วิตกฺกํ สุตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสาเน วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ อาห. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กติ นุ โข วสฺสูปนายิกา’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา สกลมฺปิ อิทํ สุตฺตํ เทเสนฺโต ทฺเวมา, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ วสฺสูปนายิกาติ วสฺสูปคมนานิ. ปุริมิกาติ อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพา ปุริมกตฺติกปุณฺณมิปริโยสานา ปมา เตมาสี. ปจฺฉิมิกาติ มาสคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพา ปจฺฉิมกตฺติกปริโยสานา ปจฺฉิมา เตมาสีติ. ทสมํ.

กมฺมการณวคฺโค ปโม.

๒. อธิกรณวคฺควณฺณนา

๑๑. ทุติยสฺส ปเม พลานีติ เกนฏฺเน พลานิ. อกมฺปิยฏฺเน พลานิ นาม, ตถา ทุรภิภวนฏฺเน อนชฺโฌมทฺทนฏฺเน จ. ปฏิสงฺขานพลนฺติ ปจฺจเวกฺขณพลํ. ภาวนาพลนฺติ พฺรูหนพลํ วฑฺฒนพลํ. สุทฺธํ อตฺตานนฺติ อิทํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺราติ เตสุ ทฺวีสุ พเลสุ. ยมิทนฺติ ยํ อิทํ. เสขานเมตํ พลนฺติ สตฺตนฺนํ เสขานํ าณพลเมตํ. เสขฺหิ โส, ภิกฺขเว, พลํ อาคมฺมาติ สตฺตนฺนํ เสขานํ าณพลํ อารพฺภ สนฺธาย ปฏิจฺจ. ปชหตีติ มคฺเคน ปชหติ. ปหายาติ อิมินา ปน ผลํ กถิตํ. ยํ ปาปนฺติ ยํ ปาปกํ ลามกํ. ยสฺมา ปเนตานิ ทฺเวปิ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตสฺมา เอตฺถ เอตทคฺคํ นาคตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๒. ทุติเย สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตีติอาทีสุ อยํ เหฏฺา อนาคตานํ ปทานํ วเสน อตฺถวณฺณนา – วิเวกนิสฺสิตนฺติ วิเวกํ นิสฺสิตํ. วิเวโกติ วิวิตฺตตา. สฺวายํ ตทงฺควิเวโก วิกฺขมฺภน-สมุจฺเฉท-ปฏิปฺปสฺสทฺธิ-นิสฺสรณวิเวโกติ ปฺจวิโธ. ตสฺมึ ปฺจวิเธ วิเวเก. วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตฺจ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ สติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนานุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกาเล ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ. ปฺจวิธวิเวกนิสฺสิตมฺปีติ เอเก. เต หิ น เกวลํ พลววิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณสุเยว โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ, วิปสฺสนาปาทกกสิณชฺฌานอานาปานาสุภพฺรหฺมวิหารชฺฌาเนสุปิ อุทฺธรนฺติ, น จ ปฏิสิทฺธา อฏฺกถาจริเยหิ. ตสฺมา เตสํ มเตน เอเตสํ ฌานานํ ปวตฺติกฺขเณ กิจฺจโต เอว วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ. ยถา จ ‘‘วิปสฺสนากฺขเณ อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิต’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตมฺปิ ภาเวตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตนฺติอาทีสุ. วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย.

เกวลํ เหตฺถ โวสฺสคฺโค ทุวิโธ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จาติ. ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ จ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ จ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ ปน อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ. ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก อตฺถวณฺณนานเย วฏฺฏติ. ตถา หิ อยํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส ปริจฺจชติ, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ. โวสฺสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน โวสฺสคฺคตฺถํ ปริณมนฺตํ ปริณตฺจ, ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจาติ อิทํ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ โพชฺฌงฺคภาวนานุยุตฺโต ภิกฺขุ ยถา สติสมฺโพชฺฌงฺโค กิเลสปริจฺจาคโวสฺสคฺคตฺถํ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺโก โหติ, ตถา นํ ภาเวตีติ. เอส นโย เสสโพชฺฌงฺเคสุ.

อิธ ปน นิพฺพานํเยว สพฺพสงฺขเตหิ วิวิตฺตตฺตา วิเวโก, สพฺเพสํ วิราคภาวโต วิราโค, นิโรธภาวโต นิโรโธติ วุตฺตํ. มคฺโค เอว จ โวสฺสคฺคปริณามี, ตสฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺติยา วิเวกนิสฺสิตํ, ตถา วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ. ตฺจ โข อริยมคฺคกฺขณุปฺปตฺติยา กิเลสานํ สมุจฺเฉทโต ปริจฺจาคภาเวน จ นิพฺพานปกฺขนฺทนภาเวน จ ปริณตํ ปริปกฺกนฺติ อยเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอส นโย เสสโพชฺฌงฺเคสุ. อิติ อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา. อิเมสุปิ ทฺวีสุ พเลสุ เอตทคฺคภาโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๑๓. ตติเย วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ ปาฬิอตฺโถ จ ภาวนานโย จ สพฺโพ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๙-๗๐) วิตฺถาริโตเยว. อิมานิ ปน จตฺตาริ ฌานานิ เอโก ภิกฺขุ จิตฺเตกคฺคตฺถาย ภาเวติ, เอโก วิปสฺสนาปาทกตฺถาย, เอโก อภิฺาปาทกตฺถาย, เอโก นิโรธปาทกตฺถาย, เอโก ภววิเสสตฺถาย. อิธ ปน ตานิปิ วิปสฺสนาปาทกานิ อธิปฺเปตานิ. อยํ หิ ภิกฺขุ อิมานิ ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา เหตุปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา สปฺปจฺจยํ นามรูปฺจ ววตฺถเปตฺวา อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เอวเมตานิ ฌานานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาเนว กถิตานิ. อิมสฺมิมฺปิ พลทฺวเย เอตทคฺคภาโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๑๔. จตุตฺเถ สํขิตฺเตน จ วิตฺถาเรน จาติ สํขิตฺตธมฺมเทสนา วิตฺถารธมฺมเทสนา จาติ ทฺเวเยว ธมฺมเทสนาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ มาติกํ อุทฺทิสิตฺวา กถิตา เทสนา สํขิตฺตเทสนา นาม. ตเมว มาติกํ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา กถิตา วิตฺถารเทสนา นาม. มาติกํ วา เปตฺวาปิ อฏฺเปตฺวาปิ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา กถิตา วิตฺถารเทสนา นาม. ตาสุ สํขิตฺตเทสนา นาม มหาปฺสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน กถิตา, วิตฺถารเทสนา นาม มนฺทปฺสฺส. มหาปฺสฺส หิ วิตฺถารเทสนา อติปปฺโจ วิย โหติ. มนฺทปฺสฺส สงฺเขปเทสนา สสกสฺส อุปฺปตนํ วิย โหติ, เนว อนฺตํ น โกฏึ ปาปุณิตุํ สกฺโกติ. สงฺเขปเทสนา จ อุคฺฆฏิตฺุสฺส วเสน กถิตา, วิตฺถารเทสนา อิตเรสํ ติณฺณํ วเสน. สกลมฺปิ หิ เตปิฏกํ สงฺเขปเทสนา วิตฺถารเทสนาติ เอตฺเถว สงฺขํ คจฺฉติ.

๑๕. ปฺจเม ยสฺมึ, ภิกฺขเว, อธิกรเณติ วิวาทาธิกรณํ, อนุวาทาธิกรณํ, อาปตฺตาธิกรณํ, กิจฺจาธิกรณนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ อธิกรณานํ ยสฺมึ อธิกรเณ. อาปนฺโน จ ภิกฺขูติ อาปตฺตึ อาปนฺโน ภิกฺขุ จ. ตสฺเมตนฺติ ตสฺมึ เอตํ. ทีฆตฺตายาติ ทีฆํ อทฺธานํ ติฏฺนตฺถาย. ขรตฺตายาติ ทาส-โกณฺฑ-จณฺฑาล-เวนาติ เอวํ ขรวาจาปวตฺตนตฺถาย. วาฬตฺตายาติ ปาณิ เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปหรณวเสน กกฺขฬภาวตฺถาย. ภิกฺขู จ น ผาสุํ วิหริสฺสนฺตีติ อฺมฺํ วิวาทาปนฺเน ภิกฺขุสงฺเฆ เยปิ อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา คเหตุกามา ปธานํ วา อนุยุฺชิตุกามา, เต ผาสุํ น วิหริสฺสนฺติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺมึ หิ อุโปสถปวารณาย ิตาย อุทฺเทสาทีหิ อตฺถิกา อุทฺเทสาทีนิ คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, วิปสฺสกานํ จิตฺตุปฺปาโท น เอกคฺโค โหติ, ตโต วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกนฺติ. เอวํ ภิกฺขู จ น ผาสุํ วิหริสฺสนฺติ. น ทีฆตฺตายาติอาทีสุ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. อกุสลํ อาปนฺโนติ เอตฺถ อกุสลนฺติ อาปตฺติ อธิปฺเปตา, อาปตฺตึ อาปนฺโนติ อตฺโถ. กฺจิเทว เทสนฺติ น สพฺพเมว อาปตฺตึ, อาปตฺติยา ปน กฺจิเทว เทสํ อฺตรํ อาปตฺตินฺติ อตฺโถ. กาเยนาติ กรชกาเยน. อนตฺตมโนติ อตุฏฺจิตฺโต. อนตฺตมนวาจนฺติ อตุฏฺวาจํ. มเมวาติ มํเยว. ตตฺถาติ ตสฺมึ อธิกรเณ. อจฺจโย อจฺจคมาติ อปราโธ อติกฺกมิตฺวา มทฺทิตฺวา คโต, อหเมเวตฺถ อปราธิโก. สุงฺกทายกํว ภณฺฑสฺมินฺติ ยถา สุงฺกฏฺานํ ปริหริตฺวา นีเต ภณฺฑสฺมึ สุงฺกทายกํ อปราโธ อภิภวติ, โส จ ตตฺถ อปราธิโก โหติ, น ราชาโน น ราชปุริสาติ อตฺโถ.

อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย หิ รฺา ปิตํ สุงฺกฏฺานํ ปริหริตฺวา ภณฺฑํ หรติ, ตํ สห ภณฺฑสกเฏน อาเนตฺวา รฺโ ทสฺเสนฺติ. ตตฺถ เนว สุงฺกฏฺานสฺส โทโส อตฺถิ, น รฺโ น ราชปุริสานํ, ปริหริตฺวา คตสฺเสว ปน โทโส, เอวเมวํ ยํ โส ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตตฺถ เนว อาปตฺติยา โทโส, น โจทกสฺส. ตีหิ ปน การเณหิ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โทโส. ตสฺส หิ อาปตฺตึ อาปนฺนภาเวนปิ โทโส, โจทเก อนตฺตมนตายปิ โทโส, อนตฺตมนสฺส สโต ปเรสํ อาโรจเนนปิ โทโส. โจทกสฺส ปน ยํ โส ตํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตํ อทฺทส, ตตฺถ โทโส นตฺถิ. อนตฺตมนตาย โจทนาย ปน โทโส. ตมฺปิ อมนสิกริตฺวา อยํ ภิกฺขุ อตฺตโนว โทสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘อิติ มเมว ตตฺถ อจฺจโย อจฺจคมา สุงฺกทายกํว ภณฺฑสฺมิ’’นฺติ เอวํ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อตฺโถ. ทุติยวาเร โจทกสฺส อนตฺตมนตา จ อนตฺตมนตาย โจทิตภาโว จาติ ทฺเว โทสา, เตสํ วเสน ‘‘อจฺจโย อจฺจคมา’’ติ เอตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

๑๖. ฉฏฺเ อฺตโรติ เอโก อปากฏนาโม พฺราหฺมโณ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ เยนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ตสฺมา ยตฺถ ภควา, ตตฺถ อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เยน วา การเณน ภควา เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ภควา อุปสงฺกมิตพฺโพ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย. อุปสงฺกมีติ คโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวํ คโต ตโต อาสนฺนตรํ านํ ภควโต สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.

ภควตา สทฺธึ สมฺโมทีติ ยถา จ ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต ภควา เตน, เอวํ โสปิ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ, สีโตทกํ วิย อุณฺโหทเกน สมฺโมทิตํ เอกีภาวํ อคมาสิ. ยาย จ ‘‘กจฺจิ, โภ โคตม, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โภโต โคตมสฺส จ สาวกานฺจ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหาโร’’ติอาทิกาย กถาย สมฺโมทิ, ตํ ปีติปาโมชฺชสงฺขาตสฺส สมฺโมทสฺส ชนนโต สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต จ สมฺโมทนียํ, อตฺถพฺยฺชนมธุรตาย สุจิรมฺปิ กาลํ สาเรตุํ นิรนฺตรํ ปวตฺเตตุํ อรหรูปโต สริตพฺพภาวโต จ สารณียํ. สุยฺยมานสุขโต วา สมฺโมทนียํ, อนุสฺสริยมานสุขโต สารณียํ, ตถา พฺยฺชนปริสุทฺธตาย สมฺโมทนียํ, อตฺถปริสุทฺธตาย สารณียนฺติ เอวํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ สมฺโมทนียํ สารณียํ กถํ วีติสาเรตฺวา ปริโยสาเปตฺวา นิฏฺเปตฺวา เยนตฺเถน อาคโต, ตํ ปุจฺฉิตุกาโม เอกมนฺตํ นิสีทิ.

เอกมนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ตสฺมา ยถา นิสินฺโน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหติ, ตถา นิสีทีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. นิสีทีติ อุปาวิสิ. ปณฺฑิตา หิ ปุริสา ครุฏฺานียํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ นิสีทนฺติ. อยฺจ เนสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

กถํ นิสินฺโน ปน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหตีติ? ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ – อติทูรํ, อจฺจาสนฺนํ, อุปริวาตํ, อุนฺนตปฺปเทสํ, อติสมฺมุขํ อติปจฺฉาติ. อติทูเร นิสินฺโน หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ, อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน นิสินฺโน สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ. อุปริวาเต นิสินฺโน สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺโน อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา นิสีทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ.

เอตทโวจาติ ทุวิธา หิ ปุจฺฉา – อคาริกปุจฺฉา, อนคาริกปุจฺฉา จ. ตตฺถ ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสล’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๒๙๖) อิมินา นเยน อคาริกปุจฺฉา อาคตา. ‘‘อิเม นุ โข, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ (ม. นิ. ๓.๘๖) อิมินา นเยน อนคาริกปุจฺฉา. อยํ ปน อตฺตโน อนุรูปํ อคาริกปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺโต เอตํ ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ เหตุ ปจฺจโยติ อุภยมฺเปตํ การณเววจนเมว. อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตูติ อธมฺมจริยาสงฺขาตาย วิสมจริยาย เหตุ, ตํการณา ตปฺปจฺจยาติ อตฺโถ. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – อธมฺมสฺส จริยา อธมฺมจริยา, อธมฺมการณนฺติ อตฺโถ. วิสมํ จริยา, วิสมสฺส วา กมฺมสฺส จริยาติ วิสมจริยา. อธมฺมจริยา จ สา วิสมจริยา จาติ อธมฺมจริยาวิสมจริยา. เอเตนุปาเยน สุกฺกปกฺเขปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺถโต ปเนตฺถ อธมฺมจริยาวิสมจริยา นาม ทส อกุสลกมฺมปถา, ธมฺมจริยาสมจริยา นาม ทส กุสลกมฺมปถาติ เวทิตพฺพา.

อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมาติ เอตฺถ อยํ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทเนสุ ทิสฺสติ. ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติอาทีสุ (อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๓; อ. นิ. ๘.๒๐) หิ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) สุนฺทเร.

‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. –

อาทีสุ (วิ. ว. ๘๕๗) อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๐; ปารา. ๑๕) อพฺภนุโมทเน. อิธาปิ อพฺภนุโมทเนเยว. ยสฺมา จ อพฺภนุโมทเน, ตสฺมา สาธุ สาธุ, โภ โคตมาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

‘‘ภเย โกเธ ปสํสายํ, ตุริเต โกตูหลจฺฉเร;

หาเส โสเก ปสาเท จ, กเร อาเมฑิตํ พุโธ’’ติ. –

อิมินา จ ลกฺขเณน อิธ ปสาทวเสน ปสํสาวเสน จายํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อถ วา อภิกฺกนฺตนฺติ อภิกฺกนฺตํ อติอิฏฺํ อติมนาปํ, อติสุนฺทรนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ เอเกน อภิกฺกนฺตสทฺเทน เทสนํ โถเมติ, เอเกน อตฺตโน ปสาทํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนา, อภิกฺกนฺตํ ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อาคมฺม มม ปสาโทติ. ภควโตเยว วา วจนํ ทฺเว ทฺเว อตฺเถ สนฺธาย โถเมติ – โภโต โคตมสฺส วจนํ อภิกฺกนฺตํ โทสนาสนโต, อภิกฺกนฺตํ คุณาธิคมนโต, ตถา สทฺธาชนนโต, ปฺาชนนโต, สาตฺถโต, สพฺยฺชนโต, อุตฺตานปทโต, คมฺภีรตฺถโต, กณฺณสุขโต, หทยงฺคมโต, อนตฺตุกฺกํสนโต, อปรวมฺภนโต, กรุณาสีตลโต, ปฺาวทาตโต, อาปาถรมณียโต, วิมทฺทกฺขมโต, สุยฺยมานสุขโต, วีมํสิยมานหิตโตติ เอวมาทีหิ โยเชตพฺพํ.

ตโต ปรมฺปิ จตูหิ อุปมาหิ เทสนํเยว โถเมติ. ตตฺถ นิกฺกุชฺชิตนฺติ อโธมุขปิตํ, เหฏฺามุขชาตํ วา. อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อุปริมุขํ กเรยฺย. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ติณปณฺณาทิฉาทิตํ. วิวเรยฺยาติ อุคฺฆาเฏยฺย. มูฬฺหสฺสาติ ทิสามูฬฺหสฺส. มคฺคํ อาจิกฺเขยฺยาติ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘เอส มคฺโค’’ติ วเทยฺย. อนฺธกาเรติ กาฬปกฺขจาตุทฺทสีอฑฺฒรตฺตฆนวนสณฺฑเมฆปฏเลหิ จตุรงฺเค ตเม. อยํ ตาว อนุตฺตานปทตฺโถ.

อยํ ปน อธิปฺปายโยชนา – ยถา โกจิ นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, เอวํ สทฺธมฺมวิมุขํ อสทฺธมฺเม ปติตํ มํ อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปนฺเตน, ยถา ปฏิจฺฉนฺนํ วิวเรยฺย, เอวํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานโต ปภุติ มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺนํ สาสนํ วิวรนฺเตน, ยถา มูฬฺหสฺส มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, เอวํ กุมฺมคฺคมิจฺฉามคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส เม สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาวิกโรนฺเตน, ยถา อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, เอวํ โมหนฺธกาเร นิมุคฺคสฺส เม พุทฺธาทิรตนรูปานิ อปสฺสโต ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหนฺธการวิทฺธํสกเทสนาปชฺโชตธารเณน มยฺหํ โภตา โคตเมน เอเตหิ ปริยาเยหิ ปกาสิตตฺตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตติ.

เอวํ เทสนํ โถเมตฺวา อิมาย เทสนาย รตนตฺตเย ปสนฺนจิตฺโต ปสนฺนาการํ กโรนฺโต เอสาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาหนฺติ เอโส อหํ. ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามีติ ภวํ เม โคตโม สรณํ ปรายณํ อฆสฺส ตาตา หิตสฺส จ วิธาตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภวนฺตํ โคตมํ คจฺฉามิ ภชามิ เสวามิ ปยิรุปาสามิ, เอวํ วา ชานามิ พุชฺฌามีติ. เยสฺหิ ธาตูนํ คติ อตฺโถ, พุทฺธิปิ เตสํ อตฺโถ. ตสฺมา คจฺฉามีติ อิมสฺส ชานามิ พุชฺฌามีติ อยมตฺโถ วุตฺโต. ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ เอตฺถ ปน อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จ จตูสุ อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม. โส อตฺถโต อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔) วิตฺถาโร. น เกวลฺจ อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ, อปิจ โข อริยผเลหิ สทฺธึ ปริยตฺติธมฺโมปิ. วุตฺตฺเหตํ ฉตฺตมาณวกวิมาเน –

‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ, ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;

มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๗);

เอตฺถ ราควิโรโคติ มคฺโค กถิโต. อโนชมโสกนฺติ ผลํ. ธมฺมมสงฺขตนฺติ นิพฺพานํ. อปฺปฏิกูลํ มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตนฺติ ปิฏกตฺตเยน วิภตฺตา สพฺพธมฺมกฺขนฺธาติ. ทิฏฺิสีลสงฺฆาเตน สํหโตติ สงฺโฆ. โส อตฺถโต อฏฺอริยปุคฺคลสมูโห. วุตฺตฺเหตํ ตสฺมิเยว วิมาเน –

‘‘ยตฺถ จ ทินฺนมหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสุ;

อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๘);

ภิกฺขูนํ สงฺโฆ ภิกฺขุสงฺโฆ. เอตฺตาวตา พฺราหฺมโณ ตีณิ สรณคมนานิ ปฏิเวเทสิ.

อิทานิ เตสุ สรณคมเนสุ โกสลฺลตฺถํ สรณํ, สรณคมนํ, โย จ สรณํ คจฺฉติ, สรณคมนปฺปเภโท, สรณคมนผลํ, สํกิเลโส, เภโทติ อยํ วิธิ เวทิตพฺโพ.

เสยฺยถิทํ – ปทตฺถโต ตาว หึสตีติ สรณํ, สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุกฺขํ ทุคฺคติปริกิเลสํ หนติ วินาเสตีติ อตฺโถ, รตนตฺตยสฺเสเวตํ อธิวจนํ. อถ วา หิเต ปวตฺตเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ พุทฺโธ, ภวกนฺตารา อุตฺตารเณน โลกสฺส อสฺสาสทาเนน จ ธมฺโม, อปฺปกานมฺปิ การานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สงฺโฆ. ตสฺมา อิมินาปิ ปริยาเยน รตนตฺตยํ สรณํ. ตปฺปสาทตคฺครุตาหิ วิหตกิเลโส ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ. ตํสมงฺคีสตฺโต สรณํ คจฺฉติ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตุปฺปาเทน ‘‘เอตานิ เม ตีณิ รตนานิ สรณํ, เอตานิ ปรายณ’’นฺติ เอวํ อุเปตีติ อตฺโถ. เอวํ ตาว สรณํ สรณคมนํ โย จ สรณํ คจฺฉติ อิทํ ตยํ เวทิตพฺพํ.

สรณคมนปฺปเภเท ปน ทุวิธํ สรณคมนํ โลกุตฺตรํ โลกิยฺจาติ. ตตฺถ โลกุตฺตรํ ทิฏฺสจฺจานํ มคฺคกฺขเณ สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน อารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌติ. โลกิยํ ปุถุชฺชนานํ สรณคมนุปกฺกิเลสวิกฺขมฺภเนน อารมฺมณโต พุทฺธาทิคุณารมฺมณํ หุตฺวา อิชฺฌติ. ตํ อตฺถโต พุทฺธาทีสุ วตฺถูสุ สทฺธาปฏิลาโภ, สทฺธามูลิกา จ สมฺมาทิฏฺิ ทสสุ ปุฺกิริยาวตฺถูสุ ทิฏฺิชุกมฺมนฺติ วุจฺจติ.

ตยิทํ จตุธา ปวตฺตติ อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน ตปฺปรายณตาย สิสฺสภาวูปคมเนน ปณิปาเตนาติ. ตตฺถ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส นิยฺยาเตมิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีนํ อตฺตปริจฺจชนํ. ตปฺปรายณตา นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ พุทฺธปรายโณ, ธมฺมปรายโณ, สงฺฆปรายโณ อิติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ ตปฺปรายณภาโว. สิสฺสภาวูปคมนํ นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ พุทฺธสฺส อนฺเตวาสิโก, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺส อิติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ สิสฺสภาวูปคโม. ปณิปาโต นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม-สามีจิกมฺมํ พุทฺธาทีนํเยว ติณฺณํ วตฺถูนํ กโรมิ อิติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีสุ ปรมนิปจฺจกาโร. อิเมสฺหิ จตุนฺนมฺปิ อาการานํ อฺตรมฺปิ กโรนฺเตน คหิตํเยว โหติ สรณคมนํ.

อปิจ ‘‘ภควโต อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺส อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, ปริจฺจตฺโตเยว เม อตฺตา, ปริจฺจตฺตํเยว เม ชีวิตํ, ชีวิตปริยนฺติกํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, พุทฺโธ เม สรณํ เลณํ ตาณ’’นฺติ เอวมฺปิ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘สตฺถารฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยํ, สุคตฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยํ, สมฺมาสมฺพุทฺธฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) เอวมฺปิ มหากสฺสปสฺส สรณคมเน วิย สิสฺสภาวูปคมนํ ทฏฺพฺพํ.

‘‘โส อหํ วิจริสฺสามิ, คามา คามํ ปุรา ปุรํ;

นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธํ, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๙๔; สํ. นิ. ๑.๒๔๖);

เอวมฺปิ อาฬวกาทีนํ สรณคมนํ วิย ตปฺปรายณตา เวทิตพฺพา. ‘‘อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ, ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ, นามฺจ สาเวติ – ‘พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ; พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ’’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๔) เอวมฺปิ ปณิปาโต เวทิตพฺโพ.

โส ปเนส าติภยาจริยทกฺขิเณยฺยวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ ทกฺขิเณยฺยปณิปาเตน สรณคมนํ โหติ, น อิตเรหิ. เสฏฺวเสเนว หิ สรณํ คณฺหาติ, เสฏฺวเสน จ ภิชฺชติ. ตสฺมา โย สากิโย วา โกลิโย วา ‘‘พุทฺโธ อมฺหากํ าตโก’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย วา ‘‘สมโณ โคตโม ราชปูชิโต มหานุภาโว อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ภเยน วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย วา โพธิสตฺตกาเล ภควโต สนฺติเก กิฺจิ อุคฺคหิตํ สรมาโน พุทฺธกาเล วา –

‘‘เอเกน โภเค ภุฺเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;

จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. (ที. นิ. ๓.๒๖๕) –

เอวรูปํ อนุสาสนึ อุคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย ปน ‘‘อยํ โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺโย’’ติ วนฺทติ, เตเนว คหิตํ โหติ สรณํ.

เอวํ คหิตสรณสฺส จ อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา อฺติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตมฺปิ าตึ ‘‘าตโก เม อย’’นฺติ วนฺทโต สรณคมนํ น ภิชฺชติ, ปเคว อปพฺพชิตํ. ตถา ราชานํ ภยวเสน วนฺทโต. โส หิ รฏฺปูชิตตฺตา อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยาติ. ตถา ยํ กิฺจิ สิปฺปํ สิกฺขาปกํ ติตฺถิยํ ‘‘อาจริโย เม อย’’นฺติ วนฺทโตปิ น ภิชฺชตีติ เอวํ สรณคมนปฺปเภโท เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ โลกุตฺตรสฺส สรณคมนสฺส จตฺตาริ สามฺผลานิ วิปากผลํ, สพฺพทุกฺขกฺขโย อานิสํสผลํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘โย จ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ, สงฺฆฺจ สรณํ คโต;

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. (ธ. ป. ๑๙๐);

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยฺจฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ. (ธ. ป. ๑๙๑);

‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตมํ;

เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๒);

อปิจ นิจฺจโต อนุปคมนาทิวเสนเปตสฺส อานิสํสผลํ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, สุขโต อุปคจฺเฉยฺย, กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย, มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปิตรํ, อรหนฺตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปทุฏฺจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๘-๑๓๐; อ. นิ. ๑.๒๗๒-๒๗๗).

โลกิยสฺส ปน สรณคมนสฺส ภวสมฺปทาปิ โภคสมฺปทาปิ ผลเมว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เย เกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส,

น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;

ปหาย มานุสํ เทหํ,

เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๓๗);

อปรมฺปิ วุตฺตํ –

‘‘อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อสีติยา เทวตาสหสฺเสหิ สทฺธึ เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ…เป… เอกมนฺตํ ิตํ โข สกฺกํ เทวานมินฺทํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ – ‘สาธุ โข, เทวานมินฺท, พุทฺธสรณคมนํ โหติ. พุทฺธสรณคมนเหตุ โข เทวานมินฺท เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. เต อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหนฺติ ทิพฺเพน อายุนา ทิพฺเพน วณฺเณน สุเขน ยเสน อาธิปเตยฺเยน ทิพฺเพหิ รูเปหิ สทฺเทหิ คนฺเธหิ รเสหิ โผฏฺพฺเพหี’’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๑).

เอเสว นโย ธมฺเม สงฺเฆ จ. อปิจ เวลามสุตฺตาทิวเสนาปิ (อ. นิ. ๙.๒๐ อาทโย) สรณคมนสฺส ผลวิเสโส เวทิตพฺโพ. เอวํ สรณคมนผลํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ โลกิยสรณคมนํ ตีสุ วตฺถูสุ อฺาณสํสยมิจฺฉาาณาทีหิ สํกิลิสฺสติ, น มหาชุติกํ โหติ น มหาวิปฺผารํ. โลกุตฺตรสฺส นตฺถิ สํกิเลโส. โลกิยสฺส จ สรณคมนสฺส ทุวิโธ เภโท สาวชฺโช อนวชฺโช จ. ตตฺถ สาวชฺโช อฺสตฺถาราทีสุ อตฺตสนฺนิยฺยาตนาทีหิ โหติ, โส อนิฏฺผโล. อนวชฺโช กาลกิริยาย, โส อวิปากตฺตา อผโล. โลกุตฺตรสฺส ปน เนวตฺถิ เภโท. ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก อฺํ สตฺถารํ น อุทฺทิสตีติ เอวํ สรณคมนสฺส สํกิเลโสเภโท จ เวทิตพฺโพ.

อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตูติ มํ ภวํ โคตโม ‘‘อุปาสโก อย’’นฺติ เอวํ ธาเรตุ, ชานาตูติ อตฺโถ. อุปาสกวิธิโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ โก อุปาสโก, กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจติ, กิมสฺส สีลํ, โก อาชีโว, กา วิปตฺติ, กา สมฺปตฺตีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ โก อุปาสโกติ โย โกจิ สรณคโต คหฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).

กสฺมา อุปาสโกติ. รตนตฺตยสฺส อุปาสนโต. โส หิ พุทฺธํ อุปาสตีติ อุปาสโก. ธมฺมํ, สงฺฆํ อุปาสตีติ อุปาสโกติ.

กิมสฺส สีลนฺติ. ปฺจ เวรมณิโย. ยถาห –

‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา, กาเมสุมิจฺฉาจารา, มุสาวาทา, สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).

โก อาชีโวติ. ปฺจ มิจฺฉาวณิชฺชา ปหาย ธมฺเมน สเมน ชีวิกกปฺปนํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา. กตมา ปฺจ. สตฺถวณิชฺชา, สตฺตวณิชฺชา, มํสวณิชฺชา, มชฺชวณิชฺชา, วิสวณิชฺชา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๗).

กา วิปตฺตีติ. ยา ตสฺเสว สีลสฺส จ อาชีวสฺส จ วิปตฺติ, อยมสฺส วิปตฺติ. อปิจ ยาย เอส จณฺฑาโล เจว โหติ มลฺจ ปติกุฏฺโ จ, สาปิ ตสฺส วิปตฺตีติ เวทิตพฺพา. เต จ อตฺถโต อสฺสทฺธิยาทโย ปฺจ ธมฺมา โหนฺติ. ยถาห –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกจณฺฑาโล จ โหติ อุปาสกมลฺจ อุปาสกปติกุฏฺโ จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อสฺสทฺโธ โหติ, ทุสฺสีโล โหติ, โกตูหลมงฺคลิโก โหติ, มงฺคลํ ปจฺเจติ โน กมฺมํ, อิโต จ พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสติ, ตตฺถ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๕).

กา สมฺปตฺตีติ. ยา จสฺส สีลสมฺปทา จ อาชีวสมฺปทา จ, สา สมฺปตฺติ. เย จสฺส รตนภาวาทิกรา สทฺธาทโย ปฺจ ธมฺมา. ยถาห –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกรตนฺจ โหติ อุปาสกปทุมฺจ อุปาสกปุณฺฑรีกฺจ. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ โหติ, สีลวา โหติ, น โกตูหลมงฺคลิโก โหติ, กมฺมํ ปจฺเจติ โน มงฺคลํ, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๕).

อชฺชตคฺเคติ เอตฺถ อยํ อคฺคสทฺโท อาทิโกฏิโกฏฺาสเสฏฺเสุ ทิสฺสติ. ‘‘อชฺชตคฺเค สมฺม, โทวาริก, อาวรามิ ทฺวารํ นิคณฺานํ นิคณฺีน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๐) หิ อาทิมฺหิ ทิสฺสติ. ‘‘เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ ปรามเสยฺย (กถา. ๔๔๑). อุจฺฉคฺคํ เวฬคฺค’’นฺติอาทีสุ โกฏิยํ. ‘‘อมฺพิลคฺคํ วา มธุรคฺคํ วา ติตฺตกคฺคํ วา (สํ. นิ. ๕.๓๗๔), อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิหารคฺเคน วา ปริเวณคฺเคน วา ภาเชตุ’’นฺติอาทีสุ (จูฬว. ๓๑๘) โกฏฺาเส. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา…เป… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๔) เสฏฺเ. อิธ ปนายํ อาทิมฺหิ ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา อชฺชตคฺเคติ อชฺชตํ อาทึ กตฺวาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อชฺชตนฺติ อชฺชภาวํ. อชฺชทคฺเคติ วา ปาโ, ทกาโร ปทสนฺธิกโร, อชฺช อคฺคํ กตฺวาติ อตฺโถ.

ปาณุเปตนฺติ ปาเณหิ อุเปตํ, ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว อุเปตํ, อนฺสตฺถุกํ ตีหิ สรณคมเนหิ สรณํ คตํ อุปาสกํ กปฺปิยการกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ ชานาตุ. อหฺหิ สเจปิ เม ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺเทยฺย, เนว พุทฺธํ ‘‘น พุทฺโธ’’ติ วา ธมฺมํ ‘‘น ธมฺโม’’ติ วา สงฺฆํ ‘‘น สงฺโฆ’’ติ วา วเทยฺยนฺติ เอวํ อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน สรณํ คนฺตฺวา จตูหิ จ ปจฺจเยหิ ปวาเรตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามีติ.

๑๗. สตฺตเม ชาณุสฺโสณีติ ชาณุสฺโสณิานนฺตรํ กิร นาเมกํ านนฺตรํ, ตํ เยน กุเลน ลทฺธํ, ตํ ชาณุสฺโสณิกุลนฺติ วุจฺจติ. อยํ ตสฺมึ กุเล ชาตตฺตา รฺโ สนฺติเก จ ลทฺธชาณุสฺโสณิสกฺการตฺตา ชาณุสฺโสณีติ วุจฺจติ. เตนุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ กิร โคตโม ปณฺฑิโต พฺยตฺโต พหุสฺสุโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สเจ โส ลิงฺควิภตฺติการกาทิเภทํ ชานิสฺสติ, อมฺเหหิ าตเมว ชานิสฺสติ, อฺาตํ กึ ชานิสฺสติ. าตเมว กเถสฺสติ, อฺาตํ กึ กเถสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา มานทฺธชํ ปคฺคยฺห สิงฺคํ อุกฺขิปิตฺวา มหาปริวาเรหิ ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จาติ สตฺถา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ อิธ อาคจฺฉนฺโต น ชานิตุกาโม อตฺถคเวสี หุตฺวา อาคโต, มานํ ปน ปคฺคยฺห สิงฺคํ อุกฺขิปิตฺวา อาคโต. กึ นุ ขฺวสฺส ยถา ปฺหสฺส อตฺถํ ชานาติ, เอวํ กถิเต วฑฺฒิ ภวิสฺสติ, อุทาหุ ยถา น ชานาตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ยถา น ชานาติ, เอวํ กถิเต วฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จา’’ติ อาห.

พฺราหฺมโณ ตํ สุตฺวา ‘‘สมโณ โคตโม กตตฺตาปิ อกตตฺตาปิ นิรเย นิพฺพตฺตึ วทติ, อิทํ อุภยการเณนาปิ เอกฏฺาเน นิพฺพตฺติยา กถิตตฺตา ทุชฺชานํ มหนฺธการํ, นตฺถิ มยฺหํ เอตฺถ ปติฏฺา. สเจ ปนาหํ เอตฺตเกเนว ตุณฺหี ภเวยฺยํ, พฺราหฺมณานํ มชฺเฌ กถนกาเลปิ มํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘ตฺวํ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ มานํ ปคฺคยฺห สิงฺคํ อุกฺขิปิตฺวา คโตสิ, เอกวจเนเนว ตุณฺหี หุตฺวา กิฺจิ วตฺตุํ นาสกฺขิ, อิมสฺมึ าเน กสฺมา กเถสี’ติ. ตสฺมา ปราชิโตปิ อปราชิตสทิโส หุตฺวา ปุน สคฺคคมนปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา โก นุ โข, โภ โคตมาติ อิมํ ทุติยปฺหํ อารภิ.

เอวมฺปิ ตสฺส อโหสิ – ‘‘อุปริปฺเหน เหฏฺาปฺหํ ชานิสฺสามิ, เหฏฺาปฺเหน อุปริปฺห’’นฺติ. ตสฺมาปิ อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. สตฺถา ปุริมนเยเนว จินฺเตตฺวา ยถา น ชานาติ, เอวเมว กเถนฺโต ปุนปิ ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จา’’ติ อาห. พฺราหฺมโณ ตสฺมิมฺปิ ปติฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อลํ, โภ, น อีทิสสฺส ปุริสสฺส สนฺติกํ อาคเตน อชานิตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ, สกวาทํ ปหาย สมณํ โคตมํ อนุวตฺติตฺวา มยฺหํ อตฺถํ คเวสิสฺสามิ, ปรโลกมคฺคํ โสเธสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา สตฺถารํ อายาจนฺโต น โข อหนฺติอาทิมาห. อถสฺส นิหตมานตํ ตฺวา สตฺถา อุปริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต เตน หิ, พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ เตน หีติ การณนิทฺเทโส. ยสฺมา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส อตฺถํ อชานนฺโต วิตฺถารเทสนํ ยาจสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๑๘. อฏฺเม อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํ. อานนฺโทติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. เอกํเสนาติ เอกนฺเตน. อนุวิจฺจาติ อนุปวิสิตฺวา. วิฺูติ ปณฺฑิตา. ครหนฺตีติ นินฺทนฺติ, อวณฺณํ ภาสนฺติ. เสสเมตฺถ นวเม จ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.

๒๐. ทสเม ทุนฺนิกฺขิตฺตฺจ ปทพฺยฺชนนฺติ อุปฺปฏิปาฏิยา คหิตปาฬิปทเมว หิ อตฺถสฺส พฺยฺชนตฺตา พฺยฺชนนฺติ วุจฺจติ. อุภยเมตํ ปาฬิยาว นามํ. อตฺโถ จ ทุนฺนีโตติ ปริวตฺเตตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา คหิตา อฏฺกถา. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ ทุนฺนโย โหตีติ ปริวตฺเตตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา คหิตาย ปาฬิยา อฏฺกถา นาม ทุนฺนยา ทุนฺนีหารา ทุกฺกถา นาม โหติ. เอกาทสเม วุตฺตปฏิปกฺขนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อธิกรณวคฺโค ทุติโย.

๓. พาลวคฺควณฺณนา

๒๒. ตติยสฺส ปเม อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสตีติ ‘‘อปรชฺฌิตฺวา อปรทฺธํ มยา’’ติ อตฺตโน อปราธํ น ปสฺสติ, อปรทฺธํ มยาติ วตฺวา ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา น ขมาเปตีติ อตฺโถ. อจฺจยํ เทเสนฺตสฺสาติ เอวํ วตฺวา ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ขมาเปนฺตสฺส. ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘ปุน เอวํ น กริสฺสามิ, ขมถ เม’’ติ วุจฺจมาโน อจฺจยํ อิมํ ยถาธมฺมํ ยถาสภาวํ น ปฏิคฺคณฺหาติ. ‘‘อิโต ปฏฺาย ปุน เอวรูปํ มา อกาสิ, ขมามิ ตุยฺห’’นฺติ น วทติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๒๓. ทุติเย อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อภิภวิตฺวา อาจิกฺขนฺติ, อภูเตน วทนฺติ. โทสนฺตโรติ อนฺตเร ปติตโทโส. เอวรูโป หิ ‘‘นตฺถิ สมณสฺส โคตมสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม’’ติอาทีนิ วทนฺโต สุนกฺขตฺโต วิย ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขติ. สทฺโธ วา ทุคฺคหิเตนาติ โย หิ าณวิรหิตาย สทฺธาย อติสทฺโธ โหติ มุทฺธปฺปสนฺโน, โสปิ ‘‘พุทฺโธ นาม สพฺพโลกุตฺตโร, สพฺเพ ตสฺส เกสาทโย พาตฺตึส โกฏฺาสา โลกุตฺตราเยวา’’ติอาทินา นเยน ทุคฺคหิตํ คณฺหิตฺวา ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขติ. ตติยํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๒๕. จตุตฺเถ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตนฺติ ยสฺส อตฺโถ เนตพฺโพ, ตํ เนตพฺพตฺถํ สุตฺตนฺตํ. นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปตีติ กถิตตฺโถ อยํ สุตฺตนฺโตติ วทติ. ตตฺถ ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา, ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา, จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา’’ติ เอวรูโป สุตฺตนฺโต เนยฺยตฺโถ นาม. เอตฺถ หิ กิฺจาปิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว’’ติอาทิ วุตฺตํ, ปรมตฺถโต ปน ปุคฺคโล นาม นตฺถีติ เอวมสฺส อตฺโถ เนตพฺโพว โหติ. อยํ ปน อตฺตโน พาลตาย นีตตฺโถ อยํ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ. ปรมตฺถโต หิ ปุคฺคเล อสติ น ตถาคโต ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว’’ติอาทีนิ วเทยฺย. ยสฺมา ปน เตน วุตฺตํ, ตสฺมา ปรมตฺถโต อตฺถิ ปุคฺคโลติ คณฺหนฺโต ตํ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ. นีตตฺถนฺติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ เอวํ กถิตตฺถํ. เอตฺถ หิ อนิจฺจเมว ทุกฺขเมว อนตฺตาเยวาติ อตฺโถ. อยํ ปน อตฺตโน พาลตาย ‘‘เนยฺยตฺโถ อยํ สุตฺตนฺโต, อตฺถมสฺส อาหริสฺสามี’’ติ ‘‘นิจฺจํ นาม อตฺถิ, สุขํ นาม อตฺถิ, อตฺตา นาม อตฺถี’’ติ คณฺหนฺโต นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ นาม. ปฺจมํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๒๗. ฉฏฺเ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺสาติ ปาปกมฺมสฺส. ปาปํ หิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กโรนฺติ. โน เจปิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กโรนฺติ, ปาปกมฺมํ ปฏิจฺฉนฺนเมวาติ วุจฺจติ. นิรโยติ สโหกาสกา ขนฺธา. ติรจฺฉานโยนิยํ ขนฺธาว ลพฺภนฺติ. สตฺตมฏฺมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๓๐. นวเม ปฏิคฺคาหาติ ปฏิคฺคาหกา, ทุสฺสีลํ ปุคฺคลํ ทฺเว านานิ ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ อตฺโถ.

๓๑. ทสเม อตฺถวเสติ การณานิ. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺานิ จ วนปตฺถานิ จ. ตตฺถ กิฺจาปิ อภิธมฺเม นิปฺปริยาเยน ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา, สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) วุตฺตํ, ตถาปิ ยํ ตํ ‘‘ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อารฺกงฺคนิปฺผาทกํ เสนาสนํ วุตฺตํ, ตเทว อธิปฺเปตนฺติ เวทิตพฺพํ. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสียติ น วปียติ. ปนฺตานีติ ปริยนฺตานิ อติทูรานิ, ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ โลกิยโลกุตฺตรํ ผาสุวิหารํ. ปจฺฉิมฺจ ชนตํ อนุกมฺปมาโนติ ปจฺฉิเม มม สาวเก อนุกมฺปนฺโต.

๓๒. เอกาทสเม วิชฺชาภาคิยาติ วิชฺชาโกฏฺาสิกา. สมโถติ จิตฺเตกคฺคตา. วิปสฺสนาติ สงฺขารปริคฺคาหกาณํ. กมตฺถมนุโภตีติ กตมํ อตฺถํ อาราเธติ สมฺปาเทติ ปริปูเรติ. จิตฺตํ ภาวียตีติ มคฺคจิตฺตํ ภาวียติ พฺรูหียติ วฑฺฒียติ. โย ราโค, โส ปหียตีติ โย รชฺชนกวเสน ราโค, โส ปหียติ. ราโค หิ มคฺคจิตฺตสฺส ปจฺจนีโก, มคฺคจิตฺตํ ราคสฺส จ. ราคกฺขเณ มคฺคจิตฺตํ นตฺถิ, มคฺคจิตฺตกฺขเณ ราโค นตฺถิ. ยทา ปน ราโค อุปฺปชฺชติ, ตทา มคฺคจิตฺตสฺส อุปฺปตฺตึ นิวาเรติ, ปทํ ปจฺฉินฺทติ. ยทา ปน มคฺคจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตทา ราคํ สมูลกํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา สมุคฺฆาเตนฺตเมว อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ราโค ปหียตี’’ติ.

วิปสฺสนา, ภิกฺขเว, ภาวิตาติ วิปสฺสนาาณํ พฺรูหิตํ วฑฺฒิตํ. ปฺา ภาวียตีติ มคฺคปฺา ภาวียติ พฺรูหียติ วฑฺฒียติ. ยา อวิชฺชา, สา ปหียตีติ อฏฺสุ าเนสุ วฏฺฏมูลิกา มหาอวิชฺชา ปหียติ. อวิชฺชา หิ มคฺคปฺาย ปจฺจนีกา, มคฺคปฺา อวิชฺชาย. อวิชฺชากฺขเณ มคฺคปฺา นตฺถิ, มคฺคปฺากฺขเณ อวิชฺชา นตฺถิ. ยทา ปน อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตทา มคฺคปฺาย อุปฺปตฺตึ นิวาเรติ, ปทํ ปจฺฉินฺทติ. ยทา มคฺคปฺา อุปฺปชฺชติ, ตทา อวิชฺชํ สมูลิกํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา สมุคฺฆาตยมานาว อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อวิชฺชา ปหียตี’’ติ. อิติ มคฺคจิตฺตํ มคฺคปฺาติ ทฺเวปิ สหชาตธมฺมาว กถิตา.

ราคุปกฺกิลิฏฺํ วา, ภิกฺขเว, จิตฺตํ น วิมุจฺจตีติ ราเคน อุปกฺกิลิฏฺตฺตา มคฺคจิตฺตํ น วิมุจฺจตีติ ทสฺเสติ. อวิชฺชุปกฺกิลิฏฺา วา ปฺา น ภาวียตีติ อวิชฺชาย อุปกฺกิลิฏฺตฺตา มคฺคปฺา น ภาวียตีติ ทสฺเสติ. อิติ โข, ภิกฺขเวติ เอวํ โข, ภิกฺขเว. ราควิราคา เจโตวิมุตฺตีติ ราคสฺส ขยวิราเคน เจโตวิมุตฺติ นาม โหติ. ผลสมาธิสฺเสตํ นามํ. อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตีติ อวิชฺชาย ขยวิราเคน ปฺาวิมุตฺติ นาม โหติ. อิมสฺมึ สุตฺเต นานากฺขณิกา สมาธิวิปสฺสนา กถิตาติ.

พาลวคฺโค ตติโย.

๔. สมจิตฺตวคฺควณฺณนา

๓๓. จตุตฺถสฺส ปเม อสปฺปุริสภูมีติ อสปฺปุริสานํ ปติฏฺานฏฺานํ. สปฺปุริสภูมิยมฺปิ เอเสว นโย. อกตฺูติ กตํ น ชานาติ. อกตเวทีติ กตํ ปากฏํ กตฺวา น ชานาติ. อุปฺาตนฺติ วณฺณิตํ โถมิตํ ปสตฺถํ. ยทิทนฺติ ยา อยํ. อกตฺุตา อกตเวทิตาติ ปเรน กตสฺส อุปการสฺส อชานนฺเจว ปากฏํ กตฺวา อชานนฺจ. เกวลาติ สกลา. สุกฺกปกฺเขปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๔. ทุติเย มาตุ จ ปิตุ จาติ ชนกมาตุ จ ชนกปิตุ จ. เอเกน, ภิกฺขเว, อํเสน มาตรํ ปริหเรยฺยาติ เอกสฺมึ อํสกูเฏ เปตฺวา มาตรํ ปฏิชคฺเคยฺย. เอเกน อํเสน ปิตรํ ปริหเรยฺยาติ เอกสฺมึ อํสกูเฏ เปตฺวา ปิตรํ ปฏิชคฺเคยฺย. วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวีติ วสฺสสตายุกกาเล ชาโต สกลํ วสฺสสตํ ชีวนฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ ปุตฺโต นาม ‘‘มาตาปิตูนํ ปฏิกริสฺสามี’’ติ อุฏฺาย สมุฏฺาย ทกฺขิเณ อํสกูเฏ มาตรํ, วาเม ปิตรํ เปตฺวา วสฺสสตายุโก สกลมฺปิ วสฺสสตํ ชีวมาโน ปริหเรยฺย. โส จ เนสํ อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหเนนาติ โส จ ปุตฺโต เนสํ มาตาปิตูนํ อํสกูเฏสุ ิตานํเยว ทุคฺคนฺธปฏิวิโนทนตฺถํ สุคนฺธกรเณน อุจฺฉาทเนน, ปริสฺสมวิโนทนตฺถํ หตฺถปริมทฺทเนน, สีตุณฺหกาเล จ อุณฺโหทกสีโตทกนฺหาปเนน, หตฺถปาทาทีนํ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนสงฺขาเตน สมฺพาหเนน อุปฏฺานํ กเรยฺย. เต จ ตตฺเถวาติ เต จ มาตาปิตโร ตตฺเถว ตสฺส อํสกูเฏสุ นิสินฺนาว มุตฺตกรีสํ จเชยฺยุํ. นตฺเวว , ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, เอวมฺปิ นตฺเวว มาตาปิตูนํ กตํ วา โหติ ปฏิกตํ วา.

อิสฺสราธิปจฺเจ รชฺเชติ จกฺกวตฺติรชฺชํ สนฺธาเยวมาห. อาปาทกาติ วฑฺฒกา อนุปาลกา. ปุตฺตา หิ มาตาปิตูหิ วฑฺฒิตา เจว อนุปาลิตา จ. โปสกาติ หตฺถปาเท วฑฺเฒตฺวา หทยโลหิตํ ปาเยตฺวา โปสกา. ปุตฺตา หิ มาตาปิตูหิ ปุฏฺา ภตา อนฺนปานาทีหิ ปฏิชคฺคิตา. อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโรติ สเจ หิ มาตาปิตโร ชาตทิวเสเยว ปุตฺตํ ปาเท คเหตฺวา อรฺเ วา นทิยํ วา ปปาเต วา ขิเปยฺยุํ, อิมสฺมึ โลเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ น ปสฺเสยฺย. เอวํ อกตฺวา อาปาทิตตฺตา โปสิตตฺตา เอส อิมสฺมึ โลเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ มาตาปิตโร นิสฺสาย ปสฺสตีติ ตฺยาสฺส อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร นาม โหนฺติ. สมาทเปตีติ คณฺหาเปติ. อิมสฺมึ สุตฺเต สทฺธาสีลจาคปฺา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา. ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสทิโสว ภิกฺขุ เตสุ ปติฏฺาเปติ นามาติ เวทิตพฺโพ.

๓๕. ตติเย เตนุปสงฺกมีติ โส หิ พฺราหฺมโณ ‘‘สมโณ กิร โคตโม กถิตํ วิสฺสชฺเชติ, ปุจฺฉายสฺส วิรชฺฌนํ นาม นตฺถิ. อหมสฺส วิรชฺฌนปฺหํ อภิสงฺขริสฺสามี’’ติ ปณีตโภชนํ ภุฺชิตฺวา คพฺภทฺวารํ ปิทหิตฺวา นิสินฺโน จินฺเตตุํ อารภิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺมึ าเน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺโท วตฺตติ, จิตฺตํ น เอกคฺคํ โหติ, ภูมิฆรํ กาเรสฺสามี’’ติ ภูมิฆรํ กาเรตฺวา ตตฺถ ปวิสิตฺวา – ‘‘เอวํ ปุฏฺโ เอวํ กเถสฺสติ, เอวํ ปุฏฺโ เอวํ กเถสฺสตี’’ติ เอกํ คณฺหิตฺวา เอกํ วิสฺสชฺเชนฺโต สกลทิวสํ กิฺจิ ปสฺสิตุํ นาสกฺขิ. ตสฺส อิมินาว นีหาเรน จตฺตาโร มาสา วีติวตฺตา. โส จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อุภโตโกฏิกํ ปฺหํ นาม อทฺทส. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘กึวาที ภว’นฺติ ปุจฺฉิสฺสามิ. สเจ ‘กิริยวาทิมฺหี’ติ วกฺขติ, ‘สพฺพากุสลานํ นาม ตุมฺเห กิริยํ วเทถา’ติ นํ นิคฺคณฺหิสฺสามิ. สเจ ‘อกิริยวาทิมฺหี’ติ วกฺขติ, ‘กุสลธมฺมานํ นาม ตุมฺเห อกิริยํ วเทถา’ติ นํ นิคฺคณฺหิสฺสามิ. อิทฺหิ อุภโตโกฏิกํ ปฺหํ ปุฏฺโ เนว อุคฺคิลิตุํ สกฺขิสฺสติ น นิคฺคิลิตุํ. เอวํ มม ชโย ภวิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ปราชโย’’ติ อุฏฺาย อปฺโผเฏตฺวา ภูมิฆรา นิกฺขมฺม ‘‘เอวรูปํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺเตน น เอกเกน คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ นคเร โฆสนํ กาเรตฺวา สกลนาคเรหิ ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. กึวาทีติ กึลทฺธิโก. กิมกฺขายีติ กึ นาม สาวกานํ ปฏิปทํ อกฺขายีติ ปุจฺฉิ. อถสฺส ภควา จตูหิ มาเสหิ ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา ‘‘ทิฏฺโ เม สมณสฺส โคตมสฺส ปราชยปฺโห’’ติ มานํ ปคฺคยฺห อาคตภาวํ ตฺวา เอกปเทเนว ตํ ปฺหํ ภินฺทนฺโต กิริยวาที จาหํ, พฺราหฺมณาติอาทิมาห. อถ พฺราหฺมโณ อตฺตโน มานํ อปเนตฺวา ภควนฺตํ อายาจนฺโต ยถากถํ ปนาติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๓๖. จตุตฺเถ ทกฺขิเณยฺยาติ ทกฺขิณา วุจฺจติ ทานํ, ตสฺส ปฏิคฺคหณยุตฺตา กติ ปุคฺคลาติ ปุจฺฉติ. เสโขติ อิมินา สตฺต เสกฺเข ทสฺเสติ. เอตฺถ จ สีลวนฺตปุถุชฺชโนปิ โสตาปนฺเนเนว สงฺคหิโต. อาหุเนยฺยา ยชมานานํ โหนฺตีติ ทานํ ททนฺตานํ อาหุนสฺส อรหา ทานปฏิคฺคาหกา นาม โหนฺตีติ อตฺโถ. เขตฺตนฺติ วตฺถุ ปติฏฺา, ปุฺสฺส วิรุหนฏฺานนฺติ อตฺโถ.

๓๗. ปฺจเม ปุพฺพาราเมติ สาวตฺถิโต ปุรตฺถิมทิสาภาเค อาราเม. มิคารมาตุปาสาเทติ วิสาขาย อุปาสิกาย ปาสาเท. สา หิ มิคารเสฏฺินา มาตุฏฺาเน ปิตตฺตาปิ, สพฺพเชฏฺกสฺส ปุตฺตสฺส อยฺยกเสฏฺิโนว สมานนามกตฺตาปิ มิคารมาตาติ วุจฺจติ. ตาย การิโต สหสฺสคพฺโภ ปาสาโท มิคารมาตุปาสาโท นาม. เถโร ตสฺมึ วิหรติ. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโตติ ตสฺมึ ปาสาเท วิหรนฺโต ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร.

ภิกฺขู อามนฺเตสีติ กสฺมึ กาเล อามนฺเตสิ? กานิจิ หิ สุตฺตานิ ปุเรภตฺเต ภาสิตานิ อตฺถิ, กานิจิ ปจฺฉาภตฺเต, กานิจิ ปุริมยาเม, กานิจิ มชฺฌิมยาเม, กานิจิ ปจฺฉิมยาเม. อิทํ ปน สมจิตฺตปฏิปทาสุตฺตํ ปจฺฉาภตฺเต ภาสิตํ. ตสฺมา สายนฺหสมเย อามนฺเตสิ.

น เกวลํ เจตํ เถเรเนว ภาสิตํ, ตถาคเตนาปิ ภาสิตํ. กตฺถ นิสีทิตฺวาติ? วิสาขาย รตนปาสาเท นิสีทิตฺวา. ตถาคโต หิ ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ อนิพทฺธวาโส หุตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ผาสุกํ โหติ, ตตฺถ ตตฺเถว คนฺตฺวา วสิ. ปมํ อนฺโตวสฺสฺหิ อิสิปตเน ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา อฏฺารส มหาพฺรหฺมโกฏิโย อมตปานํ ปาเยตฺวา พาราณสึ อุปนิสฺสาย อิสิปตเน วสิ. ทุติยํ อนฺโตวสฺสํ ราชคหํ อุปนิสฺสาย เวฬุวเน, ตติยจตุตฺถานิปิ ตตฺเถว, ปฺจมํ อนฺโตวสฺสํ เวสาลึ อุปนิสฺสาย มหาวเน กูฏาคารสาลายํ, ฉฏฺํ อนฺโตวสฺสํ มกุลปพฺพเต, สตฺตมํ ตาวตึสภวเน, อฏฺมํ ภคฺเค สุสุมารคิรํ นิสฺสาย เภสกฬาวเน, นวมํ โกสมฺพิยํ, ทสมํ ปาลิเลยฺยเก วนสณฺเฑ, เอกาทสมํ นาลายํ พฺราหฺมณคาเม, ทฺวาทสมํ เวรฺชายํ, เตรสมํ จาลิยปพฺพเต, จุทฺทสมํ เชตวเน, ปฺจทสมํ กปิลวตฺถุสฺมึ, โสฬสมํ อาฬวกํ ทเมตฺวา จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปาเยตฺวา อาฬวิยํ, สตฺตรสมํ ราชคเหเยว, อฏฺารสมํ จาลิยปพฺพเตเยว, ตถา เอกูนวีสติมํ, วีสติมํ ปน อนฺโตวสฺสํ ราชคหํเยว อุปนิสฺสาย วสิ. เอวํ วีสติ วสฺสานิ อนิพทฺธวาโส หุตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ผาสุกํ โหติ, ตตฺถ ตตฺเถว วสิ.

ตโต ปฏฺาย ปน ทฺเว เสนาสนานิ ธุวปริโภคานิ อกาสิ. กตรานิ ทฺเว? เชตวนฺจ ปุพฺพารามฺจ. กสฺมา? ทฺวินฺนํ กุลานํ คุณมหนฺตตาย. อนาถปิณฺฑิกสฺส หิ วิสาขาย จ คุณํ สนฺธาย คุณํ ปฏิจฺจ สตฺถา ตานิ เสนาสนานิ ธุวปริโภเคน ปริภุฺชิ. อุตุวสฺสํ จาริกํ จริตฺวาปิ หิ อนฺโตวสฺเส ทฺวีสุเยว เสนาสเนสุ วสติ. เอวํ วสนฺโต ปน เชตวเน รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ทกฺขิณทฺวาเรน สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปุพฺพาราเม ทิวาวิหารํ กโรติ. ปุพฺพาราเม รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส ปาจีนทฺวาเรน สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เชตวเน ทิวาวิหารํ กโรติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส สมฺมาสมฺพุทฺโธ เชตวเนเยว วสิ. ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺตสฺส จสฺส ปฺจวิธกิจฺจํ อวิชหิตเมว โหติ. ตํ เหฏฺา วิตฺถาริตเมว. เตสุ กิจฺเจสุ ปจฺฉิมยามกิจฺจกาเล ภควา โลกํ โอโลเกนฺโต สาวตฺถิวาสีนฺจ สมนฺตา จ สาวตฺถิยา คาวุตอฑฺฒโยชนโยชนปรเม าเน อปริมาณานํ สตฺตานํ อภิสมยภาวํ อทฺทส.

ตโต ‘‘กสฺมึ นุ โข กาเล อภิสมโย ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘สายนฺหสมเย’’ติ ทิสฺวา ‘‘มยิ นุ โข กเถนฺเต อภิสมโย ภวิสฺสติ, สาวเก กเถนฺเต ภวิสฺสตี’’ติ ‘‘สาริปุตฺตตฺเถเร กเถนฺเต ภวิสฺสตี’’ติ อทฺทส. ตโต ‘‘กตฺถ นิสีทิตฺวา กเถนฺเต ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘วิสาขาย รตนปาสาเท นิสีทิตฺวา’’ติ ทิสฺวา ‘‘พุทฺธานํ นาม ตโย สาวกสนฺนิปาตา โหนฺติ, อคฺคสาวกานํ เอโก. เตสุ อชฺช ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส สาวกสนฺนิปาโต ภวิสฺสตี’’ติ อทฺทส. ทิสฺวา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา นิวตฺถนิวาสโน สุคตจีวรํ ปารุปิตฺวา เสลมยปตฺตํ อาทาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ปิณฺฑาย จรนฺโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส สุลภปิณฺฑปาตํ กตฺวา วาตปฺปหตา วิย นาวา ปฏินิวตฺติตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวาเร อฏฺาสิ. ตโต อสีติ มหาสาวกา ภิกฺขุนิปริสา อุปาสกปริสา อุปาสิกาปริสาติ จตสฺโส ปริสา สตฺถารํ ปริวารยึสุ.

สตฺถา สาริปุตฺตตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘สาริปุตฺต, ตยา ปุพฺพารามํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, ตว จ ปริสํ คเหตฺวา คจฺฉาหี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ เถโร อตฺตโน ปริวาเรหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ ปริวุโต ปุพฺพารามํ อคมาสิ. เอเตเนว นิยาเมน อสีติ มหาสาวเก ปุพฺพารามเมว เปเสตฺวา สยํ เอเกน อานนฺทตฺเถเรเนว สทฺธึ เชตวนํ อคมาสิ. อานนฺทตฺเถโรปิ วิหาเร สตฺถุ วตฺตํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ปุพฺพารามํ คจฺฉามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. เอวํ กโรหิ อานนฺทาติ. สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ตตฺเถว อคมาสิ. สตฺถา เอกโกว เชตวเน โอหีโน.

ตํ ทิวสฺหิ จตสฺโส ปริสา เถรสฺเสว ธมฺมกถํ โสตุกามา อเหสุํ. โกสลมหาราชาปิ พลกาเยน ปริวุโต ปุพฺพารามเมว คโต. ตถา ปฺจสตอุปาสกปริวาโร อนาถปิณฺฑิโก. วิสาขา ปน มหาอุปาสิกา ทฺวีหิ ชงฺฆสหสฺเสหิ ปริวุโต อคมาสิ. สตฺตปณฺณาสาย กุลสตสหสฺสานํ วสนฏฺาเน สาวตฺถินคเร เคหปาลกทารเก เปตฺวา เสสชโน คนฺธจุณฺณมาลาทีนิ คเหตฺวา ปุพฺพารามเมว อคมาสิ. จตูสุ ทฺวารคาเมสุ คาวุตอฑฺฒโยชนโยชนปรมฏฺาเน สพฺเพเยว มนุสฺสา คนฺธจุณฺณมาลาทิหตฺถา ปุพฺพารามเมว อคมํสุ. สกลวิหาโร มิสฺสกปุปฺเผหิ อภิกิณฺโณ วิย อโหสิ.

ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ โข วิหารํ คนฺตฺวา วิหารปริเวเณ องฺคณฏฺาเน อฏฺาสิ. ภิกฺขู เถรสฺส อาสนํ ปฺาปยึสุ. เถโร ตตฺถ นิสีทิตฺวา อุปฏฺากตฺเถเรน วตฺเต กเต ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาทํ กตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิ. โส ปริจฺฉินฺนกาลวเสน สมาปตฺติโต วุฏฺาย อจิรวตึ คนฺตฺวา รโชชลฺลํ ปวาเหตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ โอติณฺณติตฺเถเนว อุตฺตริตฺวา นิวตฺถนิวาสโน สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา อฏฺาสิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ สมฺมุขสมฺมุขฏฺาเนน โอตริตฺวา สรีเร รโชชลฺลํ ปวาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เถรํ ปริวารยึสุ. อนฺโตวิหาเรปิ เถรสฺส ธมฺมาสนํ ปฺาปยึสุ. จตสฺโสปิ ปริสา อตฺตโน อตฺตโน โอกาสํ ตฺวา มคฺคํ เปตฺวา นิสีทึสุ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ปฺจภิกฺขุสตปริวาโร ธมฺมสภํ อาคนฺตฺวา สีหมตฺถกปฺปติฏฺิเต สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต รตนปลฺลงฺเก จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ. นิสีทิตฺวา ปริสํ โอโลเกตฺวา – ‘‘มหตี วตายํ ปริสา, อิมิสฺสา น อปฺปมตฺติกา ปริตฺตกธมฺมเทสนา อนุจฺฉวิกา, กตรธมฺมเทสนา นุ โข อนุจฺฉวิกา ภวิสฺสตี’’ติ ตีณิ ปิฏกานิ อาวชฺชมาโน อิมํ สํโยชนปริยาย ธมฺมเทสนํ อทฺทส.

เอวํ เทสนํ สลฺลกฺเขตฺวา ตํ เทเสตุกาโม ภิกฺขู อามนฺเตสิ อาวุโส, ภิกฺขเวติ. อาวุโสติ หิ อวตฺวา, ภิกฺขเวติ วจนํ พุทฺธาลาโป นาม โหติ, อยํ ปนายสฺมา ‘‘ทสพเลน สมานํ อาลปนํ น กริสฺสามี’’ติ สตฺถุ คารววเสน สาวกาลาปํ กโรนฺโต, ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ อาห. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโส, ปุคฺคลํ เทเสสฺสามิ พหิทฺธาสํโยชนฺจา’’ติ ธมฺมเทสนาปทํ อโวจ.

ตสฺมึ ปน รตนปาสาเท อธิวตฺโถ เอโก โสตาปนฺโน เทวปุตฺโต อตฺถิ, โส พุทฺเธหิ วา สาวเกหิ วา เทสนาย อารทฺธมตฺตายเยว ชานาติ – ‘‘อยํ เทสนา อุตฺตานิกา ภวิสฺสติ, อยํ คมฺภีรา. อยํ ฌานนิสฺสิตา ภวิสฺสติ, อยํ วิปสฺสนานิสฺสิตา. อยํ มคฺคนิสฺสิตา อยํ ผลนิสฺสิตา, อยํ นิพฺพานนิสฺสิตา’’ติ. โส ตสฺมิมฺปิ ทิวเส เถเรน เทสนาย อารทฺธมตฺตาย เอวํ อฺาสิ – ‘‘เยน นีหาเรน มยฺหํ อยฺเยน ธมฺมเสนาปตินา สาริปุตฺตตฺเถเรน เทสนา อารทฺธา, อยํ เทสนา วิปสฺสนาคาฬฺหา ภวิสฺสติ, ฉหิ มุเขหิ วิปสฺสนํ กเถสฺสติ. เทสนาปริโยสาเน โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺติ, โสตาปนฺนาทีนํ ปน เทวมนุสฺสานํ ปริจฺเฉโท น ภวิสฺสติ. เทสนาย อนุจฺฉวิกํ กตฺวา มยฺหํ อยฺยสฺส สาธุการํ ทสฺสามี’’ติ เทวานุภาเวน มหนฺตํ สทฺทํ กตฺวา – ‘‘สาธุ สาธุ อยฺยา’’ติ อาห.

เทวราเชน สาธุกาเร ทินฺเน ปริวารกปาสาทสหสฺเส อธิวตฺถา เทวตา สพฺพาว สาธุการํ อทํสุ. ตาสํ สาธุการสทฺเทน สพฺพา ปุพฺพาราเม วสนเทวตา, ตาสํ สทฺเทน คาวุตมตฺเต เทวตา, ตโต อฑฺฒโยชเน โยชเนติ เอเตนุปาเยน เอกจกฺกวาเฬ, ทฺวีสุ จกฺกวาเฬสุ, ตีสุ จกฺกวาเฬสูติ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ เทวตา สาธุการมทํสุ. ตาสํ สาธุการสทฺเทน ปถวิฏฺกนาคา จ อากาสฏฺกเทวตา จ. ตโต อพฺภวลาหกา, อุณฺหวลาหกา, สีตวลาหกา, วสฺสวลาหกา, จาตุมหาราชิกา จตฺตาโร มหาราชาโน, ตาวตึสา เทวตา, สกฺโก เทวราชา, ยามา เทวตา, สุยาโม เทวราชา, ตุสิตา เทวตา, สนฺตุสิโต เทวราชา, นิมฺมานรตี เทวตา, สุนิมฺมิโต เทวราชา, วสวตฺตี เทวตา, วสวตฺตี เทวราชา, พฺรหฺมปาริสชฺชา, พฺรหฺมปุโรหิตา, มหาพฺรหฺมาโน, ปริตฺตาภา, อปฺปมาณาภา, อาภสฺสรา, ปริตฺตสุภา, อปฺปมาณสุภา, สุภกิณฺหา, เวหปฺผลา, อวิหา, อตปฺปา, สุทสฺสา, สุทสฺสี, อกนิฏฺา เทวตาติ อสฺเ จ อรูปาวจรสตฺเต จ เปตฺวา โสตายตนปวตฺติฏฺาเน สพฺพา เทวตา สาธุการมทํสุ.

ตโต ขีณาสวมหาพฺรหฺมาโน – ‘‘มหา วตายํ สาธุการสทฺโท, ปถวิตลโต ปฏฺาย ยาว อกนิฏฺโลกํ อาคโต, กิมตฺถํ นุ โข เอโส’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร ปุพฺพาราเม วิสาขาย รตนปาสาเท นิสีทิตฺวา สํโยชนปริยายธมฺมเทสนมารภิ, อมฺเหหิปิ ตตฺถ กายสกฺขีหิ ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ อคมํสุ. ปุพฺพาราโม เทวตาหิ ปริปุณฺโณ, สมนฺตา ปุพฺพารามสฺส คาวุตํ อฑฺฒโยชนํ, โยชนนฺติ สกลจกฺกวาฬํ เหฏฺา ปถวิตเลน ติริยํ จกฺกวาฬปริยนฺเตน ปริจฺฉินฺนํ ทสหิ จกฺกวาฬสหสฺเสหิ สนฺนิปติตาหิ เทวตาหิ นิรนฺตรมโหสิ, อารคฺคนิตุทนมตฺเต าเน อุปริมโกฏิยา สฏฺิ เทวตา สุขุมตฺตภาเว มาเปตฺวา อฏฺํสุ.

อถายสฺมา สาริปุตฺโต ‘‘มหนฺตํ วติทํ หลาหลํ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ ิตานํ เทวตานํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปติตภาวํ อทฺทส. อถ ยสฺมา พุทฺธานํ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ, ปริสปริมาเณเนว ปสฺสนฺติ เจว สทฺทฺจ สาเวนฺติ. สาวกานํ ปน อธิฏฺานํ วฏฺฏติ. ตสฺมา เถโร สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย มหคฺคตจิตฺเตน อธิฏฺาสิ – ‘‘จกฺกวาฬปริยนฺตา ปริสา สพฺพาปิ มํ ปสฺสตุ, ธมฺมฺจ เม เทเสนฺตสฺส สทฺทํ สุณาตู’’ติ. อธิฏฺิตกาลโต ปฏฺาย ทกฺขิณชาณุปสฺเส จ จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยฺจ นิสีทิตฺวา ‘‘ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร นาม กีทิโส ทีโฆ รสฺโส สาโม โอทาโต’’ติ วตฺตพฺพการณํ นาโหสิ, สพฺเพสมฺปิ สพฺพทิสาสุ นิสินฺนานํ อภิมุเขเยว ปฺายิตฺถ, นภมชฺเฌ ิตจนฺโท วิย อโหสิ. ธมฺมํ เทเสนฺตสฺสาปิสฺส ทกฺขิณชาณุปสฺเส จ จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยฺจ นิสินฺนา สพฺเพ เอกกํเสเนว สทฺทํ สุณึสุ.

เอวํ อธิฏฺหิตฺวา เถโร อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโสติ อิมํ ธมฺมเทสนํ อารภิ. ตตฺถ อชฺฌตฺตนฺติ กามภโว. พหิทฺธาติ รูปารูปภโว. กิฺจาปิ หิ สตฺตา กามภเว อปฺปํ กาลํ วสนฺติ กปฺปสฺส จตุตฺถเมว โกฏฺาสํ, อิตเรสุ ตีสุ โกฏฺาเสสุ กามภโว สุฺโ โหติ ตุจฺโฉ, รูปภเว พหุํ กาลํ วสนฺติ, ตถาปิ เตสํ ยสฺมา กามภเว จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา โหนฺติ, อปฺปกา รูปารูปภเวสุ. ยตฺถ จ จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา, ตตฺถ อาลโยปิ ปตฺถนาปิ อภิลาโสปิ พหุ โหติ. ยตฺถ อปฺปา, ตตฺถ อปฺโป. ตสฺมา กามภโว อชฺฌตฺตํ นาม ชาตํ, รูปารูปภวา พหิทฺธา นาม. อิติ อชฺฌตฺตสงฺขาเต กามภเว ฉนฺทราโค อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม, พหิทฺธาสงฺขาเตสุ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค พหิทฺธาสํโยชนํ นาม. โอรมฺภาคิยานิ วา ปฺจ สํโยชนานิ อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม, อุทฺธมฺภาคิยานิ ปฺจ พหิทฺธาสํโยชนํ นาม. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. อุทฺธํ วุจฺจติ รูปารูปธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ อุทฺธํ ภชนฺตีติ อุทฺธมฺภาคิยานิ.

เอวํ วุตฺตปฺปเภเทน อชฺฌตฺตสํโยชเนน สํยุตฺโต ปุคฺคโล อชฺฌตฺตสํโยชโน, พหิทฺธาสํโยชเนน สํยุตฺโต ปุคฺคโล พหิทฺธาสํโยชโน. อุภยมฺปิ เจตํ น โลกิยสฺส วฏฺฏนิสฺสิตมหาชนสฺส นามํ. เยสํ ปน ภโว ทฺเวธา ปริจฺฉินฺโน, เตสํ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํ อริยสาวกานํ เอตํ นามํ. ยถา หิ มหาอรฺเ ขทิรวนสาลวนาทีนิ ถมฺโภ ตุลาสงฺฆาโฏติ นามํ น ลภนฺติ, ขทิรวนํ สาลวนนฺติ นามเมว ลภนฺติ. ยทา ปน ตโต รุกฺขา ติณฺหาย กุาริยา ฉินฺทิตฺวา ถมฺภาทิสณฺาเนน ตจฺฉิตา โหนฺติ, ตทา ถมฺโภ ตุลาสงฺฆาโฏติ นามํ ลภนฺติ. เอวเมวํ อปริจฺฉินฺนภโว พหลกิเลโส ปุถุชฺชโน เอตํ นามํ น ลภติ, ภวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กิเลเส ตนุเก กตฺวา ิตา โสตาปนฺนาทโยว ลภนฺติ.

อิมสฺส จ ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ อิทํ วจฺฉกสาโลปมํ เวทิตพฺพํ. วจฺฉกสาลํ หิ กตฺวา อนฺโต ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา วจฺฉเก โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา เตสุ อุปนิพนฺธนฺติ, โยตฺเตสุ อปฺปโหนฺเตสุ กณฺเณสุปิ คเหตฺวา ตตฺถ วจฺฉเก ปเวเสนฺติ, อนฺโตสาลาย โอกาเส อปฺปโหนฺเต พหิ ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวาปิ เอวเมว กโรนฺติ. ตตฺถ โกจิ อนฺโตพทฺโธ วจฺฉโก พหินิปนฺโน โหติ, โกจิ พหิพทฺโธ อนฺโตนิปนฺโน, โกจิ อนฺโตพทฺโธ อนฺโตว นิปนฺโน, โกจิ พหิพทฺโธ พหิเยว นิปนฺโน. โกจิ อนฺโตปิ อพทฺโธว จรติ, พหิปิ อพทฺโธว. ตตฺถ อนฺโตพทฺธสฺส พหินิปนฺนสฺส พนฺธนํ ทีฆํ โหติ. โส หิ อุณฺหาทิปีฬิโต นิกฺขมิตฺวา พหิ วจฺฉกานํ อพฺภนฺตเร นิปชฺชติ. พหิพทฺเธ อนฺโตนิปนฺเนปิ เอเสว นโย. โย ปน อนฺโตพทฺโธ อนฺโตนิปนฺโน, ตสฺส พนฺธนํ รสฺสํ โหติ. พหิพทฺเธ พหินิปนฺเนปิ เอเสว นโย. อุโภปิ หิ เต ทิวสมฺปิ ขาณุกํ อนุปริคนฺตฺวา ตตฺเถว สยนฺติ. โย ปน อนฺโต อพทฺโธ ตตฺเถว วจฺฉกานํ อนฺตเร วิจรติ. อยํ สีลวา วจฺฉโก กณฺเณ คเหตฺวา วจฺฉกานํ อนฺตเร วิสฺสฏฺโ ทิวสมฺปิ อฺตฺถ อคนฺตฺวา ตตฺเถว จรติ. พหิ อพทฺเธ ตตฺเถว วิจรนฺเตปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ วจฺฉกสาลา วิย ตโย ภวา เวทิตพฺพา. วจฺฉกสาลายํ ขาณุกา วิย อวิชฺชาขาณุโก. วจฺฉกพนฺธนโยตฺตํ วิย ทส สํโยชนานิ. วจฺฉกา วิย ตีสุ ภเวสุ นิพฺพตฺตสตฺตา. อนฺโตพทฺโธ พหิสยิตวจฺฉโก วิย รูปารูปภเวสุ โสตาปนฺนสกทาคามิโน. เต หิ กิฺจาปิ ตตฺเถว วสนฺติ, สํโยชนํ ปน เตสํ กามาวจรูปนิพทฺธเมว. เกนฏฺเน? อปฺปหีนฏฺเน. รูปารูปภเวสุ ปุถุชฺชโนปิ เอเตเหว สงฺคหิโต. โสปิ หิ กิฺจาปิ ตตฺถ วสติ, สํโยชนํ ปนสฺส กามาวจรูปนิพทฺธเมว. พหิพทฺโธ อนฺโตสยิตวจฺฉโก วิย กามาวจเร อนาคามี. โส หิ กิฺจาปิ กามาวจเร วสติ, สํโยชนํ ปนสฺส รูปารูปภวูปนิพทฺธเมว. อนฺโตพทฺโธ อนฺโตนิปนฺโน วิย กามาวจเร โสตาปนฺนสกทาคามิโน. เต หิ สยมฺปิ กามาวจเร วสนฺติ, สํโยชนมฺปิ เตสํ กามาวจรูปนิพทฺธเมว. พหิพทฺโธ พหินิปนฺโน วิย รูปารูปภเวสุ อนาคามี. โส หิ สยมฺปิ ตตฺถ วสติ, สํโยชนมฺปิสฺส รูปารูปภวูปนิพทฺธเมว. อนฺโตอพทฺโธ อนฺโตวิจรณวจฺฉโก วิย กามาวจเร ขีณาสโว. พหิอพทฺโธ พหิวิจรณวจฺฉโก วิย รูปารูปภเว ขีณาสโว. สํโยชเนสุ ปน สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโสติ อิมานิ ตีณิ คจฺฉนฺตํ นิวาเรนฺติ, คตํ ปฏิอาเนนฺติ. กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโทติ อิมานิ ปน ทฺเว สํโยชนานิ สมาปตฺติยา วา อวิกฺขมฺเภตฺวา มคฺเคน วา อสมุจฺฉินฺทิตฺวา รูปารูปภเว นิพฺพตฺติตุํ น สกฺโกติ.

กตโม จาวุโสติ อิทํ เถโร ยถา นาม ปุริโส ทฺเว รตนเปฬา ปสฺเส เปตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ทฺเว หตฺเถ ปูเรตฺวา สตฺตวิธํ รตนํ ภาเชตฺวา ทเทยฺย, เอวํ ปมํ รตนเปฬํ ทตฺวา ทุติยมฺปิ ตเถว ทเทยฺย. เอวเมวํ ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโส, ปุคฺคลํ เทเสสฺสามิ พหิทฺธาสํโยชนฺจา’’ติ อิมานิ ทฺเว ปทานิ มาติกาวเสน เปตฺวา อิทานิ อฏฺวิธาย ปริสาย ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ วิตฺถารกถํ อารภิ.

ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. สีลวา โหตีติ จตุปาริสุทฺธิสีเลหิ สีลสมฺปนฺโน โหติ. อิติ เถโร เอตฺตาวตา จ กิร จตุปาริสุทฺธิสีลํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติ อิมินา ตตฺถ เชฏฺกสีลํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสสีติ ทีปวิหารวาสี สุมฺมตฺเถโร อาห. อนฺเตวาสิโก ปนสฺส ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร อาห – ‘‘อุภยตฺถาปิ ปาติโมกฺขสํวโรว วุตฺโต. ปาติโมกฺขสํวโรเยว หิ สีลํ, อิตรานิ ปน ตีณิ สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม อตฺถี’’ติ อนนุชานนฺโต อุตฺตริ อาห – อินฺทฺริยสํวโร นาม ฉทฺวารรกฺขามตฺตกเมว, อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมน สเมน ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกํ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปจฺจเย ‘‘อิทมตฺถ’’นฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนมตฺตกํ, นิปฺปริยาเยน ปน ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํ. ยสฺส โส ภินฺโน, อยํ ฉินฺนสีโส วิย ปุริโส หตฺถปาเท เสสานิ รกฺขิสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. ยสฺส ปน โส อโรโค, อยํ อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส ชีวิตํ เสสานิ ปุน ปากติกานิ กตฺวา รกฺขิตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา สีลวาติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรํ อุทฺทิสิตฺวา ตํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติอาทิมาหาติ.

ตตฺถ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวเรน สมนฺนาคโต. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อาจาเรน จ โคจเรน จ สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสูติ อปฺปมตฺตเกสุ. วชฺเชสูติ อกุสลธมฺเมสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสี. สมาทายาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา. สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ. อปิจ สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํกิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ สิกฺขิตพฺพํ กายิกํ วา วาจสิกํ วา, ตํ สพฺพํ สมฺมา อาทาย สิกฺขติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน สพฺพาเนตานิ ปาติโมกฺขสํวราทีนิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔ อาทโย) วุตฺตานิ, จตุปาริสุทฺธิสีลฺจ สพฺพากาเรน วิภชิตฺวา ทสฺสิตํ. อฺตรํ เทวนิกายนฺติ ฉสุ กามาวจรเทวฆฏาสุ อฺตรํ เทวฆฏํ. อาคามี โหตีติ เหฏฺา อาคามี โหติ. อาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถตฺตํ มานุสกปฺจกฺขนฺธภาวเมว อาคนฺตา โหติ. ตตฺรูปปตฺติโก วา อุปรูปปตฺติโก วา น โหติ, ปุน เหฏฺาคามีเยว โหตีติ ทสฺเสติ. อิมินา องฺเคน สุกฺขวิปสฺสกสฺส ธาตุกมฺมฏฺานิกภิกฺขุโน เหฏฺิมํ มคฺคทฺวยฺเจว ผลทฺวยฺจ กถิตํ.

อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตินฺติ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ อฺตรํ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺตึ. สา หิ ปจฺจนีกกิเลสานํ สนฺตตฺตา สนฺตา, เตเหว จ กิเลเสหิ เจตโส วิมุตฺตตฺตา เจโตวิมุตฺตีติ วุจฺจติ. อฺตรํ เทวนิกายนฺติ ปฺจสุ สุทฺธาวาสเทวนิกาเยสุ อฺตรํ. อนาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ ปุน อิมํ ปฺจกฺขนฺธภาวํ อนาคนฺตา, เหฏฺูปปตฺติโก น โหติ, อุปรูปปตฺติโก วา โหติ ตตฺเถว วา ปรินิพฺพายีติ ทสฺเสติ. อิมินา องฺเคน สมาธิกมฺมิกสฺส ภิกฺขุโน ตโย มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ.

กามานํเยว นิพฺพิทายาติ ทุวิธานมฺปิ กามานํ นิพฺพินฺทนตฺถาย อุกฺกณฺนตฺถาย. วิราคายาติ วิรชฺชนตฺถาย. นิโรธายาติ อปฺปวตฺติกรณตฺถาย. ปฏิปนฺโน โหตีติ ปฏิปตฺตึ ปฏิปนฺโน โหติ. เอตฺตาวตา โสตาปนฺนสฺส จ สกทาคามิโน จ ปฺจกามคุณิกราคกฺขยตฺถาย อนาคามิมคฺควิปสฺสนา กถิตา โหติ. ภวานํเยวาติ ติณฺณํ ภวานํ. อิมินา อนาคามิโน ภวราคกฺขยตฺถาย อรหตฺตมคฺควิปสฺสนา กถิตา โหติ. ตณฺหากฺขยาย ปฏิปนฺโน โหตีติ อิมินาปิ โสตาปนฺนสกทาคามีนํเยว ปฺจกามคุณิกตณฺหากฺขยกรณตฺถํ อนาคามิมคฺควิปสฺสนา กถิตา. โส โลภกฺขยายาติ อิมินาปิ อนาคามิโน ภวโลภกฺขยตฺถาย อรหตฺตมคฺควิปสฺสนาว กถิตา. อฺตรํ เทวนิกายนฺติ สุทฺธาวาเสสฺเวว อฺตรํ เทวนิกายํ. อนาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ อิมํ ขนฺธปฺจกภาวํ อนาคนฺตา, เหฏฺูปปตฺติโก น โหติ, อุปรูปปตฺติโก วา โหติ, ตตฺเถว วา ปรินิพฺพายติ.

อิติ ปเมน องฺเคน สุกฺขวิปสฺสกสฺส ธาตุกมฺมฏฺานิกภิกฺขุโน เหฏฺิมานิ ทฺเว มคฺคผลานิ กถิตานิ, ทุติเยน สมาธิกมฺมิกสฺส ตีณิ มคฺคผลานิ, ‘‘โส กามาน’’นฺติ อิมินา โสตาปนฺนสกทาคามีนํ ปฺจกามคุณิกราคกฺขยาย อุปริ อนาคามิมคฺควิปสฺสนา, ‘‘โส ภวานํเยวา’’ติ อิมินา อนาคามิสฺส อุปริ อรหตฺตมคฺควิปสฺสนา, ‘‘โส ตณฺหากฺขยายา’’ติ อิมินา โสตาปนฺนสกทาคามีนํ ปฺจกามคุณิกตณฺหากฺขยาย อุปริ อนาคามิมคฺควิปสฺสนา, ‘‘โส โลภกฺขยายา’’ติ อิมินา อนาคามิโน ภวโลภกฺขยาย อุปริ อรหตฺตมคฺควิปสฺสนา กถิตาติ เอวํ ฉหิ มุเขหิ วิปสฺสนํ กเถตฺวา เทสนํ ยถานุสนฺธึ ปาเปสิ. เทสนาปริโยสาเน โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, โสตาปนฺนาทีนํ ปริจฺเฉโทว นาโหสิ. ยถา จ อิมสฺมึ สมาคเม, เอวํ มหาสมยสุตฺเต มงฺคลสุตฺเต จ จูฬราหุโลวาทสุตฺเต จ โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, โสตาปนฺนาทีนํ เทวมนุสฺสานํ ปริจฺเฉโท นาโหสิ.

สมจิตฺตา เทวตาติ จิตฺตสฺส สุขุมภาวสมตาย สมจิตฺตา. สพฺพาปิ หิ ตา อตฺตโน อตฺตภาเว สุขุเม จิตฺตสริกฺขเก กตฺวา มาเปสุํ. เตน สมจิตฺตา นาม ชาตา. อปเรนปิ การเณน สมจิตฺตา – ‘‘เถเรน สมาปตฺติ ตาว กถิตา, สมาปตฺติถาโม ปน น กถิโต. มยํ ทสพลํ ปกฺโกสิตฺวา สมาปตฺติยา ถามํ กถาเปสฺสามา’’ติ สพฺพาปิ เอกจิตฺตา อเหสุนฺติปิ สมจิตฺตา. อปรมฺปิ การณํ – ‘‘เถเรน เอเกน ปริยาเยน สมาปตฺติปิ สมาปตฺติถาโมปิ กถิโต, โก นุ โข อิมํ สมาคมํ สมฺปตฺโต, โก น สมฺปตฺโต’’ติ โอโลกยมานา ตถาคตสฺส อสมฺปตฺตภาวํ ทิสฺวา ‘‘มยํ ตถาคตํ ปกฺโกสิตฺวา ปริสํ ปริปุณฺณํ กริสฺสามา’’ติ สพฺพาปิ เอกจิตฺตา อเหสุนฺติปิ สมจิตฺตา. อปรมฺปิ การณํ – อนาคเต โกจิเทว ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา เทโว วา มนุสฺโส วา ‘‘อยํ เทสนา สาวกภาสิตา’’ติ อคารวํ กเรยฺย, สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปกฺโกสิตฺวา อิมํ เทสนํ สพฺพฺุภาสิตํ กริสฺสาม. เอวํ อนาคเต ครุภาวนียา ภวิสฺสตีติ สพฺพาว เอกจิตฺตา อเหสุนฺติปิ สมจิตฺตา. อปรมฺปิ การณํ – สพฺพาปิ หิ ตา เอกสมาปตฺติลาภินิโย วา อเหสุํ เอการมฺมณลาภินิโย วาติ เอวมฺปิ สมจิตฺตา.

หฏฺาติ ตุฏฺปหฏฺา อาโมทิตา ปโมทิตา. สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต. อนุกมฺปํ อุปาทายาติ น เถรสฺส อนุกมฺปํ การุฺํ อนุทฺทยํ ปฏิจฺจ, น จ อิมสฺมึ าเน เถรสฺส อนุกมฺปิตพฺพกิจฺจํ อตฺถิ. ยสฺมึ หิ ทิวเส เถโร สูกรขตเลณทฺวาเร ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนากมฺมฏฺาเน (ม. นิ. ๒.๒๐๖) กถิยมาเน ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา สตฺถารํ พีชมาโน ิโต ปรสฺส วฑฺฒิตโภชนํ ภุฺชิตฺวา ขุทํ วิโนเทนฺโต วิย ปรสฺส สชฺชิตปสาธนํ สีเส ปฏิมุฺจนฺโต วิย จ สาวกปารมิาณสฺส นิปฺปเทสโต มตฺถกํ ปตฺโต, ตสฺมึเยว ทิวเส ภควตา อนุกมฺปิโต นาม. อวเสสานํ ปน ตํ านํ สมฺปตฺตานํ เทวมนุสฺสานํ อนุกมฺปํ อุปาทาย คจฺฉตุ ภควาติ ภควนฺตํ ยาจึสุ.

พลวา ปุริโสติ ทุพฺพโล หิ ขิปฺปํ สมิฺชนปสารณํ กาตุํ น สกฺโกติ, พลวาว สกฺโกติ. เตเนตํ วุตฺตํ. สมฺมุเข ปาตุรโหสีติ สมฺมุขฏฺาเน ปุรโตเยว ปากโฏ อโหสิ. ภควา เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อิธ สาริปุตฺตา’’ติอาทินา นเยน อตฺตโน อาคมนการณํ อโวจ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สเจ โกจิ พาโล อกตฺู ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อุปาสโก วา อุปาสิกา วา เอวํ จินฺเตยฺย – ‘สาริปุตฺตตฺเถโร มหนฺตํ ปริสํ อลตฺถ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอตฺตกํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อุสูยาย ปริสํ อุฏฺาเปตุํ อาคโต’ติ. โส อิมํ มยิ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ. อถตฺตโน อาคมนการณํ กเถนฺโต เอตํ ‘‘อิธ สาริปุตฺตา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.

เอวํ อตฺตโน อาคมนการณํ กเถตฺวา อิทานิ สมาปตฺติยา ถามํ กเถตุํ ตา โข ปน, สาริปุตฺต, เทวตา ทสปิ หุตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสวเสน วา อตฺถํ อาหริตุํ วฏฺฏติ สมาปตฺติวเสน วา. ยสวเสน ตาว มเหสกฺขา เทวตา ทส ทส เอกฏฺาเน อฏฺํสุ, ตาหิ อปฺเปสกฺขตรา วีสติ วีสติ เอกฏฺาเน อฏฺํสุ, ตาหิ อปฺเปสกฺขตรา…เป… สฏฺิ สฏฺิ เอกฏฺาเน อฏฺํสุ. สมาปตฺติวเสน ปน ยาหิ ปณีตา สมาปตฺติ ภาวิตา, ตา สฏฺิ สฏฺิ เอกฏฺาเน อฏฺํสุ. ยาหิ ตโต หีนตรา, ตา ปฺาส ปฺาส…เป… ยาหิ ตโต หีนตรา สมาปตฺติ ภาวิตา…เป… ตา ทส ทส เอกฏฺาเน อฏฺํสุ. ยาหิ วา หีนา ภาวิตา, ตา ทส ทส เอกฏฺาเน อฏฺํสุ. ยาหิ ตโต ปณีตตรา ภาวิตา, ตา วีสติ วีสติ. ยาหิ ตโต ปณีตตรา…เป… ตา สฏฺิ สฏฺิ เอกฏฺาเน อฏฺํสุ.

อารคฺคโกฏินิตุทนมตฺเตติ อารคฺคโกฏิยา ปตนมตฺเต โอกาเส. จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ เอวํ สมฺพาเธ าเน ติฏฺนฺติโยปิ อฺมฺํ น พฺยาพาเธนฺติ น ฆฏฺเฏนฺติ, อสมฺปีฬา อสมฺพาธาว อเหสุํ. ‘‘ตว หตฺโถ มํ พาธติ, ตว ปาโท มํ พาธติ, ตฺวํ มํ มทฺทนฺตี ิตา’’ติ วตฺตพฺพการณํ นาโหสิ. ตตฺถ นูนาติ ตสฺมึ ภเว นูน. ตถาจิตฺตํ ภาวิตนฺติ เตนากาเรน จิตฺตํ ภาวิตํ. เยน ตา เทวตาติ เยน ตถาภาวิเตน จิตฺเตน ตา เทวตา ทสปิ หุตฺวา…เป… ติฏฺนฺติ, น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ. อิเธว โขติ สาสเน วา มนุสฺสโลเก วา ภุมฺมํ, อิมสฺมึเยว สาสเน อิมสฺมึเยว มนุสฺสโลเกติ อตฺโถ. ตาสฺหิ เทวตานํ อิมสฺมึเยว มนุสฺสโลเก อิมสฺมึเยว จ สาสเน ตํ จิตฺตํ ภาวิตํ, เยน ตา สนฺเต รูปภเว นิพฺพตฺตา, ตโต จ ปน อาคนฺตฺวา เอวํ สุขุเม อตฺตภาเว มาเปตฺวา ิตา. ตตฺถ กิฺจาปิ กสฺสปทสพลสฺส สาสเน ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตเทวตาปิ อตฺถิ, สพฺพพุทฺธานํ ปน เอกาว อนุสาสนี เอกํ สาสนนฺติ กตฺวา ‘‘อิเธว โข, สาริปุตฺตา’’ติ อฺพุทฺธานํ สาสนมฺปิ อิมเมว สาสนํ กโรนฺโต อาห. เอตฺตาวตา ตถาคเตน สมาปตฺติยา ถาโม กถิโต.

อิทานิ สาริปุตฺตตฺเถรํ อารพฺภ ตนฺติวเสน อนุสาสนึ กเถนฺโต ตสฺมาติห, สาริปุตฺตาติ อาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ตา เทวตา อิเธว สนฺตํ สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา สนฺเต ภเว นิพฺพตฺตา, ตสฺมา. สนฺตินฺทฺริยาติ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ สนฺตตาย นิพฺพุตตาย ปณีตตาย สนฺตินฺทฺริยา. สนฺตมานสาติ มานสสฺส สนฺตตาย นิพฺพุตตาย ปณีตตาย สนฺตมานสา. สนฺตํเยว อุปหารํ อุปหริสฺสามาติ กายจิตฺตูปหารํ สนฺตํ นิพฺพุตํ ปณีตํเยว อุปหริสฺสาม. สพฺรหฺมจารีสูติ สมานํ เอกุทฺเทสตาทึ พฺรหฺมํ จรนฺเตสุ สหธมฺมิเกสุ. เอวฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพนฺติ อิมินา เอตฺตเกน วาเรน ภควา เทสนํ สพฺพฺุภาสิตํ อกาสิ. อนสฺสุนฺติ นฏฺา วินฏฺา. เย อิมํ ธมฺมปริยายํ นาสฺโสสุนฺติ เย อตฺตโน ปาปิกํ ตุจฺฉํ นิรตฺถกํ ทิฏฺึ นิสฺสาย อิมํ เอวรูปํ ธมฺมเทสนํ โสตุํ น ลภึสูติ ยถานุสนฺธินา เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

๓๘. ฉฏฺเ วรณายํ วิหรตีติ วรณา นาม เอกํ นครํ, ตํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานเหตูติ กามราคาภินิเวสเหตุ, กามราควินิพนฺธเหตุ, กามราคปลิเคธเหตุ, กามราคปริยุฏฺานเหตุ, กามราคอชฺโฌสานเหตูติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยฺวายํ ปฺจ กามคุเณ นิสฺสาย อุปฺปชฺชติ กามราโค, ตสฺสาภินิเวสาทิเหตุ. กามราเคน อภินิวิฏฺตฺตา วินิพทฺธตฺตา ตสฺมึเยว จ กามราเค มหาปงฺเก วิย ปลิเคธตฺตา อนุปวิฏฺตฺตา เตเนว จ กามราเคน ปริยุฏฺิตตฺตา คหิตตฺตา กามราเคเนว จ อชฺโฌสิตตฺตา คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหิตตฺตาติ. ทิฏฺิราคาทิปเทสุปิ เอเสว นโย. ทิฏฺิราโคติ ปเนตฺถ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกราโค เวทิตพฺโพ. ปุรตฺถิเมสุ ชนปเทสูติ เถรสฺส วสนฏฺานโต สาวตฺถิชนปโท ปุรตฺถิมทิสาภาเค โหติ, เถโร จ นิสีทนฺโตปิ ตโตมุโขว นิสินฺโน, ตสฺมา เอวมาห. อุทานํ อุทาเนสีติ อุทาหารํ อุทาหริ. ยถา หิ ยํ เตลํ มานํ คเหตุํ น สกฺโกติ, วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ อวเสสโกติ วุจฺจติ. ยฺจ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อชฺโฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ, ตํ โอโฆติ วุจฺจติ, เอวเมวํ ยํ ปีติวจนํ หทยํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อธิกํ หุตฺวา อนฺโต อสณฺหิตฺวา พหิ นิกฺขมติ, ตํ อุทานนฺติ วุจฺจติ, เอวรูปํ ปีติมยวจนํ นิจฺฉาเรสีติ อตฺโถ.

๓๙. สตฺตเม คุนฺทาวเนติ เอวํ นามเก วเน. อุปสงฺกมีติ ‘‘มหากจฺจานตฺเถโร กิร นาม อตฺตโน ปิตุมตฺตมฺปิ อยฺยกมตฺตมฺปิ ทิสฺวา เนว อภิวาเทติ น ปจฺจุฏฺเติ น อาสเนน นิมนฺเตตี’’ติ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา เอตฺตเกน นิฏฺํ คนฺตุํ, อุปสงฺกมิตฺวา นํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ. ชิณฺเณติ ชราชิณฺเณ. วุทฺเธติ วโยวุทฺเธ. มหลฺลเกติ ชาติมหลฺลเก. อทฺธคเตติ ทีฆกาลทฺธานํ อติกฺกนฺเต. วโยอนุปฺปตฺเตติ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺเต. ตยิทํ, โภ กจฺจาน, ตเถวาติ, โภ กจฺจาน, ยํ ตํ อมฺเหหิ เกวลํ สุตเมว, ตํ อิมินา ทิฏฺเน สเมติ. ตสฺมา ตํ ตเถว, น อฺถา. น หิ ภวํ กจฺจาโน พฺราหฺมเณติ อิทํ อตฺตานํ สนฺธาย วทติ. อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย – อมฺเห เอวํ มหลฺลเก ทิสฺวา โภโต กจฺจานสฺส อภิวาทนมตฺตมฺปิ ปจฺจุฏฺานมตฺตมฺปิ อาสเนน นิมนฺตนมตฺตมฺปิ นตฺถีติ. น สมฺปนฺนเมวาติ น ยุตฺตเมว น อนุจฺฉวิกเมว.

เถโร พฺราหฺมณสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เนว วุทฺเธ ชานาติ น ทหเร, อาจิกฺขิสฺสามิสฺส วุทฺเธ จ ทหเร จา’’ติ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต อตฺถิ พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ ชานตาติ สพฺพํ เนยฺยํ ชานนฺเตน. ปสฺสตาติ ตเทว หตฺเถ ปิตํ อามลกํ วิย ปสฺสนฺเตน. วุทฺธภูมีติ เยน การเณน วุทฺโธ นาม โหติ, ตํ การณํ. ทหรภูมีติ เยน การเณน ทหโร นาม โหติ, ตํ การณํ. อาสีติโกติ อสีติวสฺสวโย. นาวุติโกติ นวุติวสฺสวโย. กาเม ปริภุฺชตีติ วตฺถุกาเม กิเลสกาเมติ ทุวิเธปิ กาเม กมนวเสน ปริภุฺชติ. กามมชฺฌาวสตีติ ทุวิเธปิ กาเม ฆเร ฆรสฺสามิโก วิย วสติ อธิวสติ. กามปริเยสนาย อุสฺสุโกติ ทุวิธานมฺปิ กามานํ ปริเยสนตฺถํ อุสฺสุกฺกมาปนฺโน. พาโล น เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ โส น เถโร พาโล มนฺโทตฺเวว คณนํ คจฺฉติ. วุตฺตํ เหตํ –

‘‘น เตน เถโร โส โหติ, เยนสฺส ปลิตํ สิโร;

ปริปกฺโก วโย ตสฺส, โมฆชิณฺโณติ วุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๖๐);

ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. สุสุกาฬเกโสติ สุฏฺุ กาฬเกโส. ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโตติ เยน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ยุวา, ตํ โยพฺพนํ ภทฺรํ ลทฺธกนฺติ ทสฺเสติ. ปเมน วยสาติ ปมวโย นาม เตตฺตึส วสฺสานิ, เตน สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปณฺฑิโต เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล ปณฺฑิโตติ จ เถโรติ จ คณนํ คจฺฉติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ยมฺหิ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, อหึสา สํยโม ทโม;

ส เว วนฺตมโล ธีโร, เถโร อิติ ปวุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๖๑);

๔๐. อฏฺเม โจรา พลวนฺโต โหนฺตีติ ปกฺขสมฺปนฺนา, ปริวารสมฺปนฺนา, ธนสมฺปนฺนา, นิวาสฏฺานสมฺปนฺนา, วาหนสมฺปนฺนา จ โหนฺติ. ราชาโน ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ราชาโน ตาสํ สมฺปตฺตีนํ อภาเวน ทุพฺพลา โหนฺติ. อติยาตุนฺติ พหิทฺธา ชนปทจาริกํ จริตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ อนฺโตนครํ ปวิสิตุํ. นิยฺยาตุนฺติ ‘‘โจรา ชนปทํ วิลุมฺปนฺติ มทฺทนฺติ, เต นิเสเธสฺสามา’’ติ ปมยาเม วา มชฺฌิมยาเม วา ปจฺฉิมยาเม วา นิกฺขมิตุํ ผาสุกํ น โหติ. ตโต อุฏฺาย โจรา มนุสฺเส โปเถตฺวา อจฺฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อนุสฺาตุนฺติ คามํ วาสกรณตฺถาย เสตุํ อตฺถรณตฺถาย โปกฺขรณึ ขณาปนตฺถาย สาลาทีนํ กรณตฺถาย ปจฺจนฺติเม ชนปเท อนุสฺาตุมฺปิ น สุขํ โหติ. พฺราหฺมณคหปติกานนฺติ อนฺโตนครวาสีนํ พฺราหฺมณคหปติกานํ. พาหิรานิ วา กมฺมนฺตานีติ พหิคาเม อาราเม เขตฺตกมฺมนฺตานิ. ปาปภิกฺขู พลวนฺโต โหนฺตีติ ปกฺขุตฺตรา ยสุตฺตรา ปุฺวนฺโต พหุเกหิ อุปฏฺาเกหิ จ อุปฏฺากีหิ จ สมนฺนาคตา ราชราชมหามตฺตสนฺนิสฺสิตา. เปสลา ภิกฺขู ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ปิยสีลา ภิกฺขู ตาสํ สมฺปตฺตีนํ อภาเวน ทุพฺพลา โหนฺติ. ตุณฺหีภูตา ตุณฺหีภูตาว สงฺฆมชฺเฌ สงฺกสายนฺตีติ นิสฺสทฺทา หุตฺวา สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺนา กิฺจิ เอกวจนมฺปิ มุขํ อุกฺขิปิตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺตา ปชฺฌายนฺตา วิย นิสีทนฺติ. ตยิทนฺติ ตเทตํ การณํ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ.

๔๑. นวเม มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตูติ มิจฺฉาปฏิปตฺติยา การณเหตุ ปฏิปชฺชนเหตูติ อตฺโถ. ายํ ธมฺมํ กุสลนฺติ สหวิปสฺสนกํ มคฺคํ. เอวรูโป หิ สหวิปสฺสนกํ มคฺคํ อาราเธตุํ สมฺปาเทตุํ ปูเรตุํ น สกฺโกติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ สุตฺเต สห วิปสฺสนาย มคฺโค กถิโต.

๔๒. ทสเม ทุคฺคหิเตหีติ อุปฺปฏิปาฏิยา คหิเตหิ. พฺยฺชนปฺปติรูปเกหีติ พฺยฺชนโส ปติรูปเกหิ อกฺขรจิตฺรตาย ลทฺธเกหิ. อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปฏิพาหนฺตีติ สุคฺคหิตสุตฺตนฺตานํ อตฺถฺจ ปาฬิฺจ ปฏิพาหนฺติ, อตฺตโน ทุคฺคหิตสุตฺตนฺตานํเยว อตฺถฺจ ปาฬิฺจ อุตฺตริตรํ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ สุตฺเต สาสนสฺส วุทฺธิ จ ปริหานิ จ กถิตาติ.

สมจิตฺตวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. ปริสวคฺควณฺณนา

๔๓. ปฺจมสฺส ปเม อุตฺตานาติ ปากฏา อปฺปฏิจฺฉนฺนา. คมฺภีราติ คุฬฺหา ปฏิจฺฉนฺนา. อุทฺธตาติ อุทฺธจฺเจน สมนฺนาคตา. อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา, อุฏฺิตตุจฺฉมานาติ วุตฺตํ โหติ. จปลาติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺตา. มุขราติ มุขขรา ขรวจนา. วิกิณฺณวาจาติ อสํยตวจนา ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปลาปิโน. มุฏฺสฺสตีติ วิสฺสฏฺสติโน. อสมฺปชานาติ นิปฺปฺา. อสมาหิตาติ จิตฺเตกคฺคตามตฺตสฺสาปิ อลาภิโน. ปากตินฺทฺริยาติ ปกติยา ิเตหิ วิวเฏหิ อรกฺขิเตหิ อินฺทฺริเยหิ สมนฺนาคตา. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ.

๔๔. ทุติเย ภณฺฑนชาตาติ ภณฺฑนํ วุจฺจติ กลหสฺส ปุพฺพภาโค, ตํ เตสํ ชาตนฺติ ภณฺฑนชาตา. ตถา ‘‘มยํ ตุมฺเห ทณฺฑาเปสฺสาม พนฺธาเปสฺสามา’’ติอาทิวจนปฺปวตฺติยา สฺชาตกลหา. อยํ ตาว คิหีสุ นโย. ปพฺพชิตา ปน อาปตฺติวีติกฺกมวาจํ วทนฺตา กลหชาตา นาม. วิวาทาปนฺนาติ วิรุทฺธวาทํ อาปนฺนา. มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตาติ คุณานํ ฉินฺทนฏฺเน ทุพฺภาสิตา วาจา มุขสตฺติโยติ วุจฺจนฺติ, ตาหิ วิตุทนฺตา วิชฺฌนฺตา. สมคฺคาติ เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส สมสิกฺขตาติ เอเตสํ กรเณน สมคฺคตาย สหิตา. ปิยจกฺขูหีติ เมตฺตาจกฺขูหิ.

๔๕. ตติเย อคฺควตีติ อุตฺตมปุคฺคลวตี, อคฺคาย วา อุตฺตมาย ปฏิปตฺติยา สมนฺนาคตา. ตโต วิปรีตา อนคฺควตี. พาหุลิกาติ จีวราทิพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา. สาสนํ สิถิลํ คณฺหนฺตีติ สาถลิกา. โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมาติ เอตฺถ โอกฺกมนํ วุจฺจติ อวคมนฏฺเน ปฺจ นีวรณานิ, เตน ปฺจนีวรณปูรเณ ปุพฺพงฺคมาติ วุตฺตํ โหติ. ปวิเวเกติ อุปธิวิเวเก นิพฺพาเน. นิกฺขิตฺตธุราติ ติวิเธปิ วิเวเก โอโรปิตธุรา. น วีริยํ อารภนฺตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ น กโรนฺติ. อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ ปุพฺเพ อปฺปตฺตสฺส ฌานวิปสฺสนามคฺคผลวิเสสสฺส ปตฺติอตฺถาย. อิตรํ ปททฺวยํ ตสฺเสว เววจนํ. ปจฺฉิมา ชนตาติ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกชโน. ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชตีติ อาจริยุปชฺฌาเยหิ กตํ อนุกโรนฺโต ทิฏฺสฺส เตสํ อาจารสฺส อนุคตึ อาปชฺชติ นาม. เสสํ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ.

๔๖. จตุตฺเถ อริยาติ อริยสาวกปริสา. อนริยาติ ปุถุชฺชนปริสา. ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺตีติ เปตฺวา ตณฺหํ เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ นาม, เอตฺตกเมว ทุกฺขํ, อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ นตฺถีติ ยถาสภาวโต นปฺปชานนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เสสปเทสุ ปน ตสฺส ทุกฺขสฺส สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทโย นาม, ตสฺสาเยว ตณฺหาย, ทฺวินฺนมฺปิ วา เตสํ สจฺจานํ อจฺจนฺตกฺขโย อสมุปฺปตฺติ ทุกฺขนิโรโธ นาม, อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา นามาติ เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต จตูหิ สจฺเจหิ จตฺตาโร มคฺคา จ จตฺตาริ จ ผลานิ กถิตานิ.

๔๗. ปฺจเม ปริสากสโฏติ กสฏปริสา กจวรปริสา ปลาปปริสาติ อตฺโถ. ปริสามณฺโฑติ ปสนฺนปริสา สารปริสาติ อตฺโถ. ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺตีติ ฉนฺเทน อคตึ คจฺฉนฺติ, อกตฺตพฺพํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิมานิ ปน จตฺตาริ อคติคมนานิ ภณฺฑภาชนีเย จ วินิจฺฉยฏฺาเน จ ลพฺภนฺติ. ตตฺถ ภณฺฑภาชนีเย ตาว อตฺตโน ภารภูตานํ ภิกฺขูนํ อมนาเป ภณฺฑเก ปตฺเต ตํ ปริวตฺเตตฺวา มนาปํ เทนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อตฺตโน ปน อภารภูตานํ มนาเป ภณฺฑเก ปตฺเต ตํ ปริวตฺเตตฺวา อมนาปํ เทนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. ภณฺฑกภาชนียวตฺถุฺจ ิติกฺจ อชานนฺโต โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. มุขรานํ วา ราชาทินิสฺสิตานํ วา ‘‘อิเม เม อมนาเป ภณฺฑเก ทินฺเน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยุ’’นฺติ ภเยน ปริวตฺเตตฺวา มนาปํ เทนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน เอวํ น คจฺฉติ, สพฺเพสํ ตุลาภูโต ปมาณภูโต มชฺฌตฺโต หุตฺวา ยํ ยสฺส ปาปุณาติ, ตฺเว ตสฺส เทติ, อยํ จตุพฺพิธมฺปิ อคติคมนํ น คจฺฉติ นาม. วินิจฺฉยฏฺาเน ปน อตฺตโน ภารภูตสฺส ครุกาปตฺตึ ลหุกาปตฺตีติ กตฺวา กเถนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อิตรสฺส ลหุกาปตฺตึ ครุกาปตฺตีติ กตฺวา กเถนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. อาปตฺติวุฏฺานํ ปน สมุจฺจยกฺขนฺธกฺจ อชานนฺโต โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. มุขรสฺส วา ราชปูชิตสฺส วา ‘‘อยํ เม ครุกํ กตฺวา อาปตฺตึ กเถนฺตสฺส อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ครุกเมว ลหุกาติ กตฺวา กเถนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน สพฺเพสํ ยถาภูตเมว กเถติ, อยํ จตุพฺพิธมฺปิ อคติคมนํ น คจฺฉติ นาม.

๔๘. ฉฏฺเ โอกฺกาจิตวินีตาติ ทุพฺพินีตา. โน ปฏิปุจฺฉาวินีตาติ น ปุจฺฉิตฺวา วินีตา. คมฺภีราติ ปาฬิวเสน คมฺภีรา สลฺลสุตฺตสทิสา. คมฺภีรตฺถาติ อตฺถวเสน คมฺภีรา มหาเวทลฺลสุตฺตสทิสา. โลกุตฺตราติ โลกุตฺตรอตฺถทีปกา. สุฺตาปฏิสํยุตฺตาติ สตฺตสุฺํ ธมฺมมตฺตเมว ปกาสกา อสงฺขตสํยุตฺตสทิสา. น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺตีติ วิชานนตฺถาย จิตฺตํ น อุปฏฺเปนฺติ, นิทฺทายนฺติ วา อฺวิหิตา วา โหนฺติ. อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพนฺติ อุคฺคเหตพฺเพ จ ปริยาปุณิตพฺเพ จ. กวิตาติ กวีหิ กตา. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. จิตฺตกฺขราติ วิจิตฺรอกฺขรา. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. พาหิรกาติ สาสนโต พหิภูตา. สาวกภาสิตาติ เตสํ เตสํ สาวเกหิ ภาสิตา. สุสฺสูสนฺตีติ อกฺขรจิตฺตตาย เจว สรสมฺปตฺติยา จ อตฺตมนา หุตฺวา สุณนฺติ. น เจว อฺมฺํ ปฏิปุจฺฉนฺตีติ อฺมฺํ อตฺถํ วา อนุสนฺธึ วา ปุพฺพาปรํ วา น ปุจฺฉนฺติ. น จ ปฏิวิจรนฺตีติ ปุจฺฉนตฺถาย จาริกํ น วิจรนฺติ. อิทํ กถนฺติ อิทํ พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพํ กินฺติ โรเปตพฺพํ? อิมสฺส โก อตฺโถติ อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถ, กา อนุสนฺธิ, กึ ปุพฺพาปรํ? อวิวฏนฺติ ปฏิจฺฉนฺนํ. น วิวรนฺตีติ น อุคฺฆาเฏนฺติ. อนุตฺตานีกตนฺติ อปากฏํ กตํ. น อุตฺตานึ กโรนฺตีติ ปากฏํ น กโรนฺติ. กงฺขาานิเยสูติ กงฺขาย การณภูเตสุ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ.

๔๙. สตฺตเม อามิสครูติ จตุปจฺจยครุกา โลกุตฺตรธมฺมํ ลามกโต คเหตฺวา ิตปริสา. สทฺธมฺมครูติ นว โลกุตฺตรธมฺเม ครุเก กตฺวา จตฺตาโร ปจฺจเย ลามกโต คเหตฺวา ิตปริสา. อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต. ปฺาวิมุตฺโตติ ปฺาย วิมุตฺโต สุกฺขวิปสฺสกขีณาสโว. กายสกฺขีติ กาเยน ฌานผสฺสํ ผุสิตฺวา ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา ิโต. ทิฏฺิปฺปตฺโตติ ทิฏฺนฺตํ ปตฺโต. อิเม ทฺเวปิ ฉสุ าเนสุ ลพฺภนฺติ. สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺทหนฺโต วิมุตฺโต. อยมฺปิ ฉสุ าเนสุ ลพฺภติ. ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. สทฺธํ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี. อิเม ทฺเวปิ ปมมคฺคสมงฺคิโน. กลฺยาณธมฺโมติ สุนฺทรธมฺโม. ทุสฺสีโล ปาปธมฺโมติ นิสฺสีโล ลามกธมฺโม. อิมํ กสฺมา คณฺหนฺติ? สพฺเพสุ หิ เอกสทิเสสุ ชาเตสุ สีลวนฺเตสุ พลวคารวํ น โหติ, เอกจฺเจสุ ปน ทุสฺสีเลสุ สติ สีลวนฺตานํ อุปริ พลวคารวํ โหตีติ มฺนฺตา คณฺหนฺติ. เต เตน ลาภํ ลภนฺตีติ เต ภิกฺขู เอกจฺจานํ วณฺณํ เอกจฺจานํ อวณฺณํ กเถตฺวา จตฺตาโร ปจฺจเย ลภนฺติ. คถิตาติ ตณฺหาย คนฺถิตา. มุจฺฉิตาติ ตณฺหาวเสเนว มุจฺฉิตา. อชฺโฌปนฺนาติ อชฺโฌสาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ิตา. อนาทีนวทสฺสาวิโนติ อปจฺจเวกฺขิตปริโภเค อาทีนวํ อปสฺสนฺตา. อนิสฺสรณปฺาติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ฉนฺทราคอปกฑฺฒนาย นิสฺสรณปฺาย วิรหิตา อิทมตฺถํ เอตนฺติ อชานนฺตา. ปริภุฺชนฺตีติ สจฺฉนฺทราคา หุตฺวา ปริภุฺชนฺติ.

สุกฺกปกฺเข อุภโตภาควิมุตฺโตติอาทีสุ อยํ สตฺตนฺนมฺปิ อริยปุคฺคลานํ สงฺเขปปกาสนา – เอโก ภิกฺขุ ปฺาธุเรน อภินิวิฏฺโ อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ ธมฺมานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ กายสกฺขิ นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ อุภโตภาควิมุตฺโต นาม. สมาปตฺตีหิ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา มคฺเคน สมุจฺเฉทวิมุตฺติยาติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ทฺวีหิ วา ภาเคหิ วิมุตฺโตติ อตฺโถ. อปโร ปฺาธุเรน อภินิวิฏฺโ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต สุกฺขวิปสฺสโกว หุตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ ธมฺมานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ ปฺาวิมุตฺโต นาม. อปโร สทฺธาธุเรน อภินิวิฏฺโ อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ สทฺธานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ กายสกฺขิ นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ อุภโตภาควิมุตฺโต นาม. อปโร สทฺธาธุเรน อภินิวิฏฺโ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต สุกฺขวิปสฺสโกว หุตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ สทฺธานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ ปฺาวิมุตฺโต นาม.

๕๐. อฏฺเม วิสมาติ สปกฺขลนฏฺเน วิสมา. สมาติ นิปกฺขลนฏฺเน สมา. อธมฺมกมฺมานีติ อุทฺธมฺมานิ กมฺมานิ. อวินยกมฺมานีติ อุพฺพินยานิ กมฺมานิ.

๕๑. นวเม อธมฺมิกาติ นิทฺธมฺมา. ธมฺมิกาติ ธมฺมยุตฺตา.

๕๒. ทสเม อธิกรณนฺติ วิวาทาธิกรณาทิจตุพฺพิธํ อธิกรณํ. อาทิยนฺตีติ คณฺหนฺติ. สฺาเปนฺตีติ ชานาเปนฺติ. น จ สฺตฺตึ อุปคจฺฉนฺตีติ สฺาปนตฺถํ น สนฺนิปตนฺติ. น จ นิชฺฌาเปนฺตีติ น เปกฺขาเปนฺติ. น จ นิชฺฌตฺตึ อุปคจฺฉนฺตีติ อฺมฺํ นิชฺฌาปนตฺถาย น สนฺนิปตนฺติ. อสฺตฺติพลาติ อสฺตฺติเยว พลํ เอเตสนฺติ อสฺตฺติพลา. อปฺปฏินิสฺสคฺคมนฺติโนติ เยสํ หิ เอวํ โหติ – ‘‘สเจ อมฺเหหิ คหิตํ อธิกรณํ ธมฺมิกํ ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสาม. สเจ อธมฺมิกํ, วิสฺสชฺเชสฺสามา’’ติ, เต ปฏินิสฺสคฺคมนฺติโน นาม โหนฺติ. อิเม ปน น ตถา มนฺเตนฺตีติ อปฺปฏินิสฺสคฺคมนฺติโน. ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺสาติ ทิฏฺิถาเมน จ ทิฏฺิปรามาเสน จ อภินิวิสิตฺวา. อิทเมว สจฺจนฺติ อิทํ อมฺหากํ วจนเมว สจฺจํ. โมฆมฺนฺติ อวเสสานํ วจนํ โมฆํ ตุจฺฉํ. สุกฺกปกฺโข อุตฺตานตฺโถเยวาติ.

ปริสวคฺโค ปฺจโม.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. ปุคฺคลวคฺควณฺณนา

๕๓. ทุติยปณฺณาสกสฺส ปเม จกฺกวตฺตินา สทฺธึ คหิตตฺตา ‘‘โลกานุกมฺปายา’’ติ น วุตฺตํ. เอตฺถ จ จกฺกวตฺติโน อุปฺปตฺติยา ทฺเว สมฺปตฺติโย ลภนฺติ, พุทฺธานํ อุปฺปตฺติยา ติสฺโสปิ.

๕๔. ทุติเย อจฺฉริยมนุสฺสาติ อาจิณฺณมนุสฺสา อพฺภุตมนุสฺสา.

๕๕. ตติเย พหุโน ชนสฺส อนุตปฺปา โหตีติ มหาชนสฺส อนุตาปการี โหติ. ตตฺถ จกฺกวตฺติโน กาลกิริยา เอกจกฺกวาเฬ เทวมนุสฺสานํ อนุตาปํ กโรติ, ตถาคตสฺส กาลกิริยา ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ.

๕๖. จตุตฺเถ ถูปารหาติ ถูปสฺส ยุตฺตา อนุจฺฉวิกา. จกฺกวตฺติโน หิ เจติยํ ปฏิชคฺคิตฺวา ทฺเว สมฺปตฺติโย ลภนฺติ, พุทฺธานํ เจติยํ ปฏิชคฺคิตฺวา ติสฺโสปิ.

๕๗. ปฺจเม พุทฺธาติ อตฺตโน อานุภาเวน จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺธา.

๕๘. ฉฏฺเ ผลนฺติยาติ สทฺทํ กโรนฺติยา. น สนฺตสนฺตีติ น ภายนฺติ. ตตฺถ ขีณาสโว อตฺตโน สกฺกายทิฏฺิยา ปหีนตฺตา น ภายติ, หตฺถาชานีโย สกฺกายทิฏฺิยา พลวตฺตาติ. สตฺตมฏฺเมสุปิ เอเสว นโย.

๖๑. นวเม กึปุริสาติ กินฺนรา. มานุสึ วาจํ น ภาสนฺตีติ มนุสฺสกถํ น กเถนฺติ. ธมฺมาโสกสฺส กิร เอกํ กินฺนรํ อาเนตฺวา ทสฺเสสุํ. โส ‘‘กถาเปถ น’’นฺติ อาห. กินฺนโร กเถตุํ น อิจฺฉติ. เอโก ปุริโส ‘‘อหเมตํ กถาเปสฺสามี’’ติ เหฏฺาปาสาทํ โอตาเรตฺวา ทฺเว ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา อุกฺขลึ อาโรเปสิ. สา อุภโตปสฺเสหิ ปตติ. ตํ ทิสฺวา กินฺนโร ‘‘กึ อฺํ เอกํ ขาณุกํ โกฏฺเฏตุํ น วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกเมว อาห. ปุน อปรภาเค ทฺเว กินฺนเร อาเนตฺวา ทสฺเสสุํ. ราชา ‘‘กถาเปถ เน’’ติ อาห. เต กเถตุํ น อิจฺฉึสุ. เอโก ปุริโส ‘‘อหเมเต กถาเปสฺสามี’’ติ เต คเหตฺวา อนฺตราปณํ อคมาสิ. ตตฺเถโก อมฺพปกฺกฺจ มจฺเฉ จ อทฺทส, เอโก กพิฏฺผลฺจ อมฺพิลิกาผลฺจ. ตตฺถ ปุริโม ‘‘มหาวิสํ มนุสฺสา ขาทนฺติ, กถํ เต กิลาสิโน น โหนฺตี’’ติ อาห. อิตโร ‘‘กถํ อิเม เอตํ นิสฺสาย กุฏฺิโน น โหนฺตี’’ติ อาห. เอวํ มานุสึ วาจํ กเถตุํ สกฺโกนฺตาปิ ทฺเว อตฺเถ สมฺปสฺสมานา น กเถนฺตีติ.

๖๒. ทสเม อปฺปฏิวาโนติ อนุกณฺิโต อปจฺโจสกฺกิโต.

๖๓. เอกาทสเม อสนฺตสนฺนิวาสนฺติ อสปฺปุริสานํ สนฺนิวาสํ. น วเทยฺยาติ โอวาเทน วา อนุสาสนิยา วา น วเทยฺย, มา วทตูติ อตฺโถ. เถรมฺปาหํ น วเทยฺยนฺติ อหมฺปิ เถรํ ภิกฺขุํ โอวาทานุสาสนิวเสน น วเทยฺยํ. อหิตานุกมฺปีติ อหิตํ อิจฺฉมาโน. โน หิตานุกมฺปีติ หิตํ อนิจฺฉมาโน. โนติ นํ วเทยฺยนฺติ ‘‘อหํ ตว วจนํ น กริสฺส’’นฺติ นํ วเทยฺยํ. วิเหเยฺยนฺติ วจนสฺส อกรเณน วิเหเยฺยํ. ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฏิกเรยฺยนฺติ ปสฺสนฺโตปิ ชานนฺโตปิ อหํ ตสฺส วจนํ น กเรยฺยํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สุกฺกปกฺเข ปน สาธูติ นํ วเทยฺยนฺติ ‘‘สาธุ ภทฺทกํ สุกถิตํ ตยา’’ติ ตสฺส กถํ อภินนฺทนฺโต นํ วเทยฺยนฺติ อตฺโถ.

๖๔. ทฺวาทสเม อุภโต วจีสํสาโรติ ทฺวีสุปิ ปกฺเขสุ อฺมฺํ อกฺโกสนปจฺจกฺโกสนวเสน สํสรมานา วาจา วจีสํสาโร. ทิฏฺิปฬาโสติ ทิฏฺึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส ทิฏฺิปฬาโส นาม. เจตโส อาฆาโตติ โกโป. โส หิ จิตฺตํ อาฆาเตนฺโต อุปฺปชฺชติ. อปฺปจฺจโยติ อตุฏฺากาโร, โทมนสฺสนฺติ อตฺโถ. อนภิรทฺธีติ โกโปเยว. โส หิ อนภิราธนวเสน อนภิรทฺธีติ วุจฺจติ. อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตํ โหตีติ สพฺพมฺเปตํ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาเต อตฺตโน จิตฺเต จ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกสงฺขาตาย อตฺตโน ปริสาย จ อวูปสนฺตํ โหติ. ตสฺเมตนฺติ ตสฺมึ เอตํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ปุคฺคลวคฺโค ปโม.

(๗) ๒. สุขวคฺควณฺณนา

๖๕. ทุติยสฺส ปเม คิหิสุขนฺติ คิหีนํ สพฺพกามนิปฺผตฺติมูลกํ สุขํ. ปพฺพชิตสุขนฺติ ปพฺพชิตานํ ปพฺพชฺชามูลกํ สุขํ.

๖๖. ทุติเย กามสุขนฺติ กาเม อารพฺภ อุปฺปชฺชนกสุขํ. เนกฺขมฺมสุขนฺติ เนกฺขมฺมํ วุจฺจติ ปพฺพชฺชา, ตํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกสุขํ.

๖๗. ตติเย อุปธิสุขนฺติ เตภูมกสุขํ. นิรุปธิสุขนฺติ โลกุตฺตรสุขํ.

๖๘. จตุตฺเถ สาสวสุขนฺติ อาสวานํ ปจฺจยภูตํ วฏฺฏสุขํ. อนาสวสุขนฺติ เตสํ อปจฺจยภูตํ วิวฏฺฏสุขํ.

๖๙. ปฺจเม สามิสนฺติ สํกิเลสํ วฏฺฏคามิสุขํ. นิรามิสนฺติ นิกฺกิเลสํ วิวฏฺฏคามิสุขํ.

๗๐. ฉฏฺเ อริยสุขนฺติ อปุถุชฺชนสุขํ. อนริยสุขนฺติ ปุถุชฺชนสุขํ.

๗๑. สตฺตเม กายิกนฺติ กายวิฺาณสหชาตํ. เจตสิกนฺติ มโนทฺวาริกสุขํ. ตํ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ กถิตํ.

๗๒. อฏฺเม สปฺปีติกนฺติ ปมทุติยชฺฌานสุขํ. นิปฺปีติกนฺติ ตติยจตุตฺถชฺฌานสุขํ. ตตฺถ โลกิยสปฺปีติกโต โลกิยนิปฺปีติกํ, โลกุตฺตรสปฺปีติกโต จ โลกุตฺตรนิปฺปีติกํ อคฺคนฺติ เอวํ ภุมฺมนฺตรํ อภินฺทิตฺวา อคฺคภาโว เวทิตพฺโพ.

๗๓. นวเม สาตสุขนฺติ ตีสุ ฌาเนสุ สุขํ. อุเปกฺขาสุขนฺติ จตุตฺถชฺฌานสุขํ.

๗๔. ทสเม สมาธิสุขนฺติ อปฺปนํ วา อุปจารํ วา ปตฺตสุขํ. อสมาธิสุขนฺติ ตทุภยํ อปฺปตฺตสุขํ.

๗๕. เอกาทสเม สปฺปีติการมฺมณนฺติ สปฺปีติกํ ฌานทฺวยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนสุขํ. นิปฺปีติการมฺมเณปิ เอเสว นโย. ทฺวาทสเมปิ อิมินาว อุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๗๗. เตรสเม รูปารมฺมณนฺติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานารมฺมณํ, ยํกิฺจิ รูปํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกํ วา. อรูปารมฺมณนฺติ อรูปาวจรชฺฌานารมฺมณํ, ยํกิฺจิ อรูปํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกํ วาติ.

สุขวคฺโค ทุติโย.

(๘) ๓. สนิมิตฺตวคฺควณฺณนา

๗๘-๗๙. ตติยสฺส ปเม สนิมิตฺตาติ สการณา. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. นิทานํ เหตุ สงฺขาโร ปจฺจโย รูปนฺติ สพฺพานิปิ หิ เอตานิ การณเววจนาเนว.

๘๔. สตฺตเม สเวทนาติ ปจฺจยภูตาย สมฺปยุตฺตเวทนาย สติเยว อุปฺปชฺชนฺติ, นาสตีติ อตฺโถ. อฏฺมนวเมสุปิ เอเสว นโย.

๘๗. ทสเม สงฺขตารมฺมณาติ ปจฺจยนิพฺพตฺตํ สงฺขตธมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวาว อุปฺปชฺชนฺติ. โน อสงฺขตารมฺมณาติ อสงฺขตํ ปน นิพฺพานํ อารพฺภ น อุปฺปชฺชนฺติ. น โหนฺตีติ มคฺคกฺขเณ น โหนฺติ นาม, ผเล ปตฺเต นาเหสุนฺติ. เอวเมเตสุ ทสสุปิ าเนสุ ยาว อรหตฺตา เทสนา เทสิตาติ.

สนิมิตฺตวคฺโค ตติโย.

(๙) ๔. ธมฺมวคฺควณฺณนา

๘๘. จตุตฺถสฺส ปเม เจโตวิมุตฺตีติ ผลสมาธิ. ปฺาวิมุตฺตีติ ผลปฺา.

๘๙. ทุติเย ปคฺคาโหติ วีริยํ. อวิกฺเขโปติ จิตฺเตกคฺคตา.

๙๐. ตติเย นามนฺติ จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา. รูปนฺติ รูปกฺขนฺโธ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ธมฺมโกฏฺาสปริจฺเฉทาณํ นาม กถิตํ.

๙๑. จตุตฺเถ วิชฺชาติ ผลาณํ. วิมุตฺตีติ ตํสมฺปยุตฺตา เสสธมฺมา.

๙๒. ปฺจเม ภวทิฏฺีติ สสฺสตทิฏฺิ. วิภวทิฏฺีติ อุจฺเฉททิฏฺิ. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๙๕. อฏฺเม โทวจสฺสตาติ ทุพฺพจภาโว. ปาปมิตฺตตาติ ปาปมิตฺตเสวนภาโว. นวมํ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพํ.

๙๗. ทสเม ธาตุกุสลตาติ อฏฺารส ธาตุโย ธาตูติ ชานนํ. มนสิการกุสลตาติ ตาสํเยว ธาตูนํ อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา ชานนํ.

๙๘. เอกาทสเม อาปตฺติกุสลตาติ ปฺจนฺนฺจ สตฺตนฺนฺจ อาปตฺติกฺขนฺธานํ ชานนํ. อาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ เทสนาย วา กมฺมวาจาย วา อาปตฺตีหิ วุฏฺานชานนนฺติ.

ธมฺมวคฺโค จตุตฺโถ.

(๑๐) ๕. พาลวคฺควณฺณนา

๙๙. ปฺจมสฺส ปเม อนาคตํ ภารํ วหตีติ ‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ, ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท, ปาติโมกฺขํ เถรภาโรติ วุจฺจตี’’ติ อิมํ ทสวิธํ เถรภารํ นวโก หุตฺวา เถเรน อนชฺฌิฏฺโ กโรนฺโต อนาคตํ ภารํ วหติ นาม. อาคตํ ภารํ น วหตีติ เถโร สมาโน ตเมว ทสวิธํ ภารํ อตฺตนา วา อกโรนฺโต ปรํ วา อสมาทเปนฺโต อาคตํ ภารํ น วหติ นาม. ทุติยสุตฺเตปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๐๑. ตติเย อกปฺปิเย กปฺปิยสฺีติ อกปฺปิเย สีหมํสาทิมฺหิ ‘‘กปฺปิยํ อิท’’นฺติ เอวํสฺี. กปฺปิเย อกปฺปิยสฺีติ กุมฺภีลมํสพิฬารมํสาทิมฺหิ กปฺปิเย ‘‘อกปฺปิยํ อิท’’นฺติ เอวํสฺี. จตุตฺถํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๐๓. ปฺจเม อนาปตฺติยา อาปตฺติสฺีติ อาปุจฺฉิตฺวา ภณฺฑกํ โธวนฺตสฺส, ปตฺตํ ปจนฺตสฺส, เกเส ฉินฺทนฺตสฺส, คามํ ปวิสนฺตสฺสาติอาทีสุ อนาปตฺติ, ตตฺถ ‘‘อาปตฺติ อย’’นฺติ เอวํสฺี. อาปตฺติยา อนาปตฺติสฺีติ เตสฺเว วตฺถูนํ อนาปุจฺฉากรเณ อาปตฺติ, ตตฺถ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ เอวํสฺี. ฉฏฺเปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สตฺตมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๑๐๙. เอกาทสเม อาสวาติ กิเลสา. น กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ สงฺฆโภคสฺส อปฏฺปนํ อวิจารณํ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ นาม, ตํ กุกฺกุจฺจายติ. กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ ตสฺเสว ปฏฺปนํ วิจารณํ, ตํ น กุกฺกุจฺจายติ. ทฺวาทสมาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ.

พาลวคฺโค ปฺจโม.

ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๓. ตติยปณฺณาสกํ

(๑๑) ๑. อาสาทุปฺปชหวคฺควณฺณนา

๑๑๙. ตติยสฺส ปณฺณาสกสฺส ปเม อาสาติ ตณฺหา. ทุปฺปชหาติ ทุจฺจชา ทุนฺนีหรา. ลาภาสาย ทุปฺปชหภาเวน สตฺตา ทสปิ วสฺสานิ วีสติปิ สฏฺิปิ วสฺสานิ ‘‘อชฺช ลภิสฺสาม, สฺเว ลภิสฺสามา’’ติ ราชานํ อุปฏฺหนฺติ, กสิกมฺมาทีนิ กโรนฺติ, อุภโตพฺยูฬฺหํ สงฺคามํ ปกฺขนฺทนฺติ, อชปถสงฺกุปถาทโย ปฏิปชฺชนฺติ, นาวาย มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ชีวิตาสาย ทุปฺปชหตฺตา สมฺปตฺเต มรณกาเลปิ วสฺสสตชีวึ อตฺตานํ มฺนฺติ. โส กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทีนิ ปสฺสนฺโตปิ ‘‘ทานํ เทหิ ปูชํ, กโรหี’’ติ อนุกมฺปเกหิ วุจฺจมาโน ‘‘นาหํ มริสฺสามิ, ชีวิสฺสามิ’’จฺเจว อาสาย กสฺสจิ วจนํ น คณฺหาติ.

๑๒๐. ทุติเย ปุพฺพการีติ ปมํ อุปการสฺส การโก. กตฺูกตเวทีติ เตน กตํ ตฺวา ปจฺฉา การโก. เตสุ ปุพฺพการี ‘‘อิณํ เทมี’’ติ สฺํ กโรติ, ปจฺฉา การโก ‘‘อิณํ ชีราเปมี’’ติ สฺํ กโรติ.

๑๒๑. ตติเย ติตฺโต จ ตปฺเปตา จาติ ปจฺเจกพุทฺโธ จ ตถาคตสาวโก จ ขีณาสโว ติตฺโต นาม, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ติตฺโต จ ตปฺเปตา จ.

๑๒๒. จตุตฺเถ ทุตฺตปฺปยาติ ทายเกน ทุตฺตปฺปยา ตปฺเปตุํ น สุกรา. นิกฺขิปตีติ นิทหติ น ปริภุฺชติ. วิสฺสชฺเชตีติ ปเรสํ เทติ.

๑๒๓. ปฺจเม น วิสฺสชฺเชตีติ สพฺพํเยว ปเรสํ น เทติ, อตฺตโน ปน ยาปนมตฺตํ คเหตฺวา อวเสสํ เทติ.

๑๒๔. ฉฏฺเ สุภนิมิตฺตนฺติ อิฏฺารมฺมณํ.

๑๒๕. สตฺตเม ปฏิฆนิมิตฺตนฺติ อนิฏฺนิมิตฺตํ.

๑๒๖. อฏฺเม ปรโต จ โฆโสติ ปรสฺส สนฺติกา อสฺสทฺธมฺมสวนํ.

๑๒๗. นวเม ปรโต จ โฆโสติ ปรสฺส สนฺติกา สทฺธมฺมสวนํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อาสาทุปฺปชหวคฺโค ปโม.

(๑๒) ๒. อายาจนวคฺควณฺณนา

๑๓๑. ทุติยสฺส ปเม เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺยาติ สทฺโธ ภิกฺขุ อุฏฺหิตฺวา ‘‘ยาทิโส สาริปุตฺตตฺเถโร ปฺาย, อหมฺปิ ตาทิโส โหมิ. ยาทิโส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อิทฺธิยา, อหมฺปิ ตาทิโส โหมี’’ติ เอวํ อายาจนฺโต ปิเหนฺโต ปตฺเถนฺโต ยํ อตฺถิ, ตสฺเสว ปตฺถิตตฺตา สมฺมา ปตฺเถยฺย นาม. อิโต อุตฺตริ ปตฺเถนฺโต มิจฺฉา ปตฺเถยฺย. เอวรูปา หิ ปตฺถนา ยํ นตฺถิ, ตสฺส ปตฺถิตตฺตา มิจฺฉาปตฺถนา นาม โหติ. กึ การณา? เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณนฺติ ยถา หิ สุวณฺณํ วา หิรฺํ วา ตุเลนฺตสฺส ตุลา อิจฺฉิตพฺพา, ธฺํ มินนฺตสฺส มานนฺติ ตุลเน ตุลา, มินเน จ มานํ ปมาณํ โหติ, เอวเมว มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ เอสา ตุลา เอตํ ปมาณํ ยทิทํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา. เต คเหตฺวา ‘‘อหมฺปิ าเณน วา อิทฺธิยา วา เอตมฺปมาโณ โหมี’’ติ อตฺตานํ ตุเลตุํ วา ปมาเณตุํ วา สกฺกา, น อิโต อฺถา.

๑๓๒. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ – เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จาติ เอตาสุ หิ เขมา ปฺาย อคฺคา, อุปฺปลวณฺณา อิทฺธิยา. ตสฺมา ‘‘ปฺาย วา อิทฺธิยา วา เอตาทิสี โหมี’’ติ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย. ตถา จิตฺโต คหปติ ปฺาย อคฺโค, หตฺถโก ราชกุมาโร มหิทฺธิกตาย. ตสฺมา ‘‘ปฺาย วา อิทฺธิยา วา เอทิโส โหมี’’ติ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย. ขุชฺชุตฺตราปิ มหาปฺตาย อคฺคา, นนฺทมาตา มหิทฺธิกตาย. ตสฺมา ‘‘ปฺาย วา อิทฺธิยา วา เอตาทิสี โหมี’’ติ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย.

๑๓๕. ปฺจเม ขตนฺติ คุณานํ ขตตฺตา ขตํ. อุปหตนฺติ คุณานํ อุปหตตฺตา อุปหตํ, ฉินฺนคุณํ นฏฺคุณนฺติ อตฺโถ. อตฺตานํ ปริหรตีติ นิคฺคุณํ อตฺตานํ ชคฺคติ โคปายติ. สาวชฺโชติ สโทโส. สานุวชฺโชติ สอุปวาโท. ปสวตีติ ปฏิลภติ. อนนุวิจฺจาติ อชานิตฺวา อวินิจฺฉินิตฺวา. อปริโยคาเหตฺวาติ อนนุปวิสิตฺวา. อวณฺณารหสฺสาติ อวณฺณยุตฺตสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส ติตฺถิยสฺส วา ติตฺถิยสาวกสฺส วา. วณฺณํ ภาสตีติ ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน เอส สมฺมาปฏิปนฺโน’’ติ คุณํ กเถติ. วณฺณารหสฺสาติ พุทฺธาทีสุ อฺตรสฺส สมฺมาปฏิปนฺนสฺส. อวณฺณํ ภาสตีติ ‘‘ทุปฺปฏิปนฺโน เอส มิจฺฉาปฏิปนฺโน’’ติ อคุณํ กเถติ. อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสตีติ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุปฺปฏิปนฺนานํ มิจฺฉาปฏิปนฺนานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกานํ ‘‘อิติปิ ทุปฺปฏิปนฺนา อิติปิ มิจฺฉาปฏิปนฺนา’’ติ อวณฺณํ ภาสติ. วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสตีติ สุปฺปฏิปนฺนานํ สมฺมาปฏิปนฺนานํ พุทฺธานํ พุทฺธสาวกานํ ‘‘อิติปิ สุปฺปฏิปนฺนา อิติปิ สมฺมาปฏิปนฺนา’’ติ วณฺณํ ภาสติ.

๑๓๖. ฉฏฺเ อปฺปสาทนีเย าเนติ อปฺปสาทการเณ. ปสาทํ อุปทํเสตีติ ทุปฺปฏิปทาย มิจฺฉาปฏิปทาย ‘‘อยํ สุปฺปฏิปทา สมฺมาปฏิปทา’’ติ ปสาทํ ชเนติ. ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทนฺติ สุปฺปฏิปทาย สมฺมาปฏิปทาย ‘‘อยํ ทุปฺปฏิปทา มิจฺฉาปฏิปทา’’ติ อปฺปสาทํ ชเนตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๑๓๗. สตฺตเม ทฺวีสูติ ทฺวีสุ โอกาเสสุ ทฺวีสุ การเณสุ. มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโนติ มิจฺฉาปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชมาโน. มาตริ จ ปิตริ จาติ มิตฺตวินฺทโก วิย มาตริ, อชาตสตฺตุ วิย ปิตริ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๑๓๘. อฏฺเม ตถาคเต จ ตถาคตสาวเก จาติ เทวทตฺโต วิย ตถาคเต, โกกาลิโก วิย จ ตถาคตสาวเก. สุกฺกปกฺเข อานนฺทตฺเถโร วิย ตถาคเต, นนฺทโคปาลกเสฏฺิปุตฺโต วิย จ ตถาคตสาวเก.

๑๓๙. นวเม สจิตฺตโวทานนฺติ สกจิตฺตสฺส โวทานํ, อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ เอตํ นามํ. น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยตีติ โลเก จ รูปาทีสุ ธมฺเมสุ กิฺจิ เอกํ ธมฺมมฺปิ น คณฺหาติ น ปรามสติ. เอวเมตฺถ อนุปาทานํ นาม ทุติโย ธมฺโม โหติ. ทสเมกาทสมานิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.

อายาจนวคฺโค ทุติโย.

(๑๓) ๓. ทานวคฺควณฺณนา

๑๔๒. ตติยสฺส ปเม ทานานีติ ทิยฺยนกวเสน ทานานิ, เทยฺยธมฺมสฺเสตํ นามํ. สวตฺถุกา วา เจตนา ทานํ, สมฺปตฺติปริจฺจาคสฺเสตํ นามํ. อามิสทานนฺติ จตฺตาโร ปจฺจยา ทิยฺยนกวเสน อามิสทานํ นาม. ธมฺมทานนฺติ อิเธกจฺโจ อมตปตฺติปฏิปทํ กเถตฺวา เทติ, อิทํ ธมฺมทานํ นาม.

๑๔๓. ทุติเย จตฺตาโร ปจฺจยา ยชนกวเสน ยาโค นาม ธมฺโมปิ ยชนกวเสน ยาโคติ เวทิตพฺโพ.

๑๔๔. ตติเย อามิสสฺส จชนํ อามิสจาโค, ธมฺมสฺส จชนํ ธมฺมจาโค. จตุตฺเถ อุปสคฺคมตฺตํ วิเสโส.

๑๔๖. ปฺจเม จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ภุฺชนํ อามิสโภโค, ธมฺมสฺส ภุฺชนํ ธมฺมโภโค. ฉฏฺเ อุปสคฺคมตฺตํ วิเสโส.

๑๔๘. สตฺตเม จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สํวิภชนํ อามิสสํวิภาโค, ธมฺมสฺส สํวิภชนํ ธมฺมสํวิภาโค.

๑๔๙. อฏฺเม จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคโห อามิสสงฺคโห, ธมฺเมน สงฺคโห ธมฺมสงฺคโห.

๑๕๐. นวเม จตูหิ ปจฺจเยหิ อนุคฺคณฺหนํ อามิสานุคฺคโห, ธมฺเมน อนุคฺคณฺหนํ ธมฺมานุคฺคโห.

๑๕๑. ทสเม จตูหิ ปจฺจเยหิ อนุกมฺปนํ อามิสานุกมฺปา, ธมฺเมน อนุกมฺปนํ ธมฺมานุกมฺปาติ.

ทานวคฺโค ตติโย.

(๑๔) ๔. สนฺถารวคฺควณฺณนา

๑๕๒. จตุตฺถสฺส ปเม จตูหิ ปจฺจเยหิ อตฺตโน จ ปรสฺส จ อนฺตรปฏิจฺฉาทนวเสน สนฺถรณํ อามิสสนฺถาโร, ธมฺเมน สนฺถรณํ ธมฺมสนฺถาโร. ทุติเย อุปสคฺคมตฺตํ วิเสโส.

๑๕๔. ตติเย วุตฺตปฺปการสฺส อามิสสฺส เอสนา อามิเสสนา, ธมฺมสฺส เอสนา ธมฺเมสนา. จตุตฺเถ อุปสคฺคมตฺตเมว วิเสโส.

๑๕๖. ปฺจเม มตฺถกปฺปตฺตา อามิสปริเยสนา อามิสปริเยฏฺิ, มตฺถกปฺปตฺตาว ธมฺมปริเยสนา ธมฺมปริเยฏฺีติ วุตฺตา.

๑๕๗. ฉฏฺเ อามิเสน ปูชนํ อามิสปูชา, ธมฺเมน ปูชนํ ธมฺมปูชา.

๑๕๘. สตฺตเม อาติเถยฺยานีติ อาคนฺตุกทานานิ. อติเถยฺยานีติปิ ปาโ.

๑๕๙. อฏฺเม อามิสํ อิชฺฌนกสมิชฺฌนกวเสน อามิสิทฺธิ, ธมฺโมปิ อิชฺฌนกสมิชฺฌนกวเสน ธมฺมิทฺธิ.

๑๖๐. นวเม อามิเสน วฑฺฒนํ อามิสวุทฺธิ, ธมฺเมน วฑฺฒนํ ธมฺมวุทฺธิ.

๑๖๑. ทสเม รติกรณฏฺเน อามิสํ อามิสรตนํ, ธมฺโม ธมฺมรตนํ.

๑๖๒. เอกาทสเม อามิสสฺส จินนํ วฑฺฒนํ อามิสสนฺนิจโย, ธมฺมสฺส จินนํ วฑฺฒนํ ธมฺมสนฺนิจโย.

๑๖๓. ทฺวาทสเม อามิสสฺส วิปุลภาโว อามิสเวปุลฺลํ, ธมฺมสฺส วิปุลภาโว ธมฺมเวปุลฺลนฺติ.

สนฺถารวคฺโค จตุตฺโถ.

(๑๕) ๕. สมาปตฺติวคฺควณฺณนา

๑๖๔. ปฺจมสฺส ปเม สมาปตฺติกุสลตาติ อาหารสปฺปายํ อุตุสปฺปายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชเน เฉกตา. สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ ยถาปริจฺเฉเทน คเต กาเล วิยตฺโต หุตฺวา อุฏฺหนฺโต วุฏฺานกุสโล นาม โหติ, เอวํ กุสลตา.

๑๖๕. ทุติเย อชฺชวนฺติ อุชุภาโว. มทฺทวนฺติ มุทุภาโว.

๑๖๖. ตติเย ขนฺตีติ อธิวาสนขนฺติ. โสรจฺจนฺติ สุสีลฺยภาเวน สุรตภาโว.

๑๖๗. จตุตฺเถ สาขลฺยนฺติ สณฺหวาจาวเสน สมฺโมทมานภาโว. ปฏิสนฺถาโรติ อามิเสน วา ธมฺเมน วา ปฏิสนฺถรณํ.

๑๖๘. ปฺจเม อวิหึสาติ กรุณาปุพฺพภาโค. โสเจยฺยนฺติ สีลวเสน สุจิภาโว. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๑๗๑. อฏฺเม ปฏิสงฺขานพลนฺติ ปจฺจเวกฺขณพลํ.

๑๗๒. นวเม มุฏฺสฺสจฺเจ อกมฺปเนน สติเยว สติพลํ. อุทฺธจฺเจ อกมฺปเนน สมาธิเยว สมาธิพลํ.

๑๗๓. ทสเม สมโถติ จิตฺเตกคฺคตา. วิปสฺสนาติ สงฺขารปริคฺคาหกฺาณํ.

๑๗๔. เอกาทสเม สีลวิปตฺตีติ ทุสฺสีลฺยํ. ทิฏฺิวิปตฺตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ.

๑๗๕. ทฺวาทสเม สีลสมฺปทาติ ปริปุณฺณสีลตา. ทิฏฺิสมฺปทาติ สมฺมาทิฏฺิกภาโว. เตน กมฺมสฺสกตสมฺมาทิฏฺิ, ฌานสมฺมาทิฏฺิ, วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ, มคฺคสมฺมาทิฏฺิ, ผลสมฺมาทิฏฺีติ สพฺพาปิ ปฺจวิธา สมฺมาทิฏฺิ สงฺคหิตา โหติ.

๑๗๖. เตรสเม สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิสมฺปาปกํ สีลํ. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิสมฺปาปิกา จตุมคฺคสมฺมาทิฏฺิ, ปฺจวิธาปิ วา สมฺมาทิฏฺิ.

๑๗๗. จุทฺทสเม ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิสมฺปาปิกา สมฺมาทิฏฺิเยว. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ เหฏฺิมมคฺคสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. ตฺหิ ตสฺสา ทิฏฺิยา อนุรูปตฺตา ‘‘ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธาน’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๗๘. ปนฺนรสเม อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อฺตฺร อรหตฺตมคฺคา กุสเลสุ ธมฺเมสุ อสนฺตุฏฺิภาโว.

๑๗๙. โสฬสเม มุฏฺสฺสจฺจนฺติ มุฏฺสฺสติภาโว. อสมฺปชฺนฺติ อฺาณภาโว.

๑๘๐. สตฺตรสเม อปิลาปนลกฺขณา สติ. สมฺมา ปชานนลกฺขณํ สมฺปชฺนฺติ.

สมาปตฺติวคฺโค ปฺจโม. ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๑. โกธเปยฺยาลํ

๑๘๑. อิโต ปเรสุ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห. สุกตกรณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปลาโส. อุสูยนลกฺขณา อิสฺสา. ปฺจมจฺเฉรภาโว มจฺฉริยํ. ตํ สพฺพมฺปิ มจฺฉรายนลกฺขณํ. กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา. เกราฏิกลกฺขณํ สาเยฺยํ. อลชฺชนากาโร อหิริกํ. อุปวาทโต อภายนากาโร อโนตฺตปฺปํ. อกฺโกธาทโย เตสํ ปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา.

๑๘๕. เสกฺขสฺส ภิกฺขุโนติ สตฺตวิธสฺสาปิ เสกฺขสฺส อุปริอุปริคุเณหิ ปริหานาย สํวตฺตนฺติ, ปุถุชฺชนสฺส ปน ปมตรํเยว ปริหานาย สํวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา. อปริหานายาติ อุปริอุปริคุเณหิ อปริหานตฺถาย.

๑๘๗. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโตติ ยถา อาเนตฺวา นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย ปติฏฺิโต วาติ เวทิตพฺโพ.

๑๙๐. เอกจฺโจติ ยสฺเสเต โกธาทโย อตฺถิ, โส เอกจฺโจ นาม.

โกธเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

๒. อกุสลเปยฺยาลํ

๑๙๑-๒๐๐. สาวชฺชาติ สโทสา. อนวชฺชาติ นิทฺโทสา. ทุกฺขุทฺรยาติ ทุกฺขวฑฺฒิกา. สุขุทฺริยาติ สุขวฑฺฒิกา. สพฺยาพชฺฌาติ สทุกฺขา. อพฺยาพชฺฌาติ นิทฺทุกฺขา. เอตฺตาวตา วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.

อกุสลเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

๓. วินยเปยฺยาลํ

๒๐๑. ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อตฺถวเส ปฏิจฺจาติ, ภิกฺขเว, ทฺเว อตฺเถ นิสฺสาย ทฺเว การณานิ สนฺธาย. สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ สิกฺขาโกฏฺาโส ปิโต. สงฺฆสุฏฺุตายาติ สงฺฆสฺส สุฏฺุภาวาย, ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา สมฺปฏิจฺฉนตฺถายาติ อตฺโถ. สงฺฆผาสุตายาติ สงฺฆสฺส ผาสุวิหารตฺถาย. ทุมฺมงฺกูนนฺติ ทุสฺสีลานํ. เปสลานนฺติ ปียสีลานํ. ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานนฺติ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วีติกฺกมปจฺจยา ปฏิลทฺธพฺพานํ วธพนฺธนาทิทุกฺขธมฺมสงฺขาตานํ อาสวานํ. สํวรายาติ ปิทหนตฺถาย. สมฺปรายิกานนฺติ ตถารูปานํเยว อปายทุกฺขสงฺขาตานํ สมฺปราเย อุปฺปชฺชนกอาสวานํ. ปฏิฆาตายาติ ปฏิเสธนตฺถาย. เวรานนฺติ อกุสลเวรานมฺปิ ปุคฺคลเวรานมฺปิ. วชฺชานนฺติ โทสานํ. เต เอว วา ทุกฺขธมฺมา วชฺชนียตฺตา อิธ วชฺชาติ อธิปฺเปตา. ภยานนฺติ จิตฺตุตฺราสภยานมฺปิ ภยเหตูนํ เตสํเยว ทุกฺขธมฺมานมฺปิ. อกุสลานนฺติ อกฺขมฏฺเน อกุสลสงฺขาตานํ ทุกฺขธมฺมานํ. คิหีนํ อนุกมฺปายาติ คิหีสุ อุชฺฌายนฺเตสุ ปฺตฺตสิกฺขาปทํ คิหีนํ อนุกมฺปาย ปฺตฺตํ นาม. ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปจฺเฉทายาติ ปาปิจฺฉา ปกฺขํ นิสฺสาย สงฺฆํ ภินฺเทยฺยุนฺติ เตสํ ปกฺขุปจฺเฉทนตฺถาย. อปฺปสนฺนานํ ปสาทายาติ ปุพฺเพ อปฺปสนฺนานมฺปิ ปณฺฑิตมนุสฺสานํ สิกฺขาปทปฺตฺติสมฺปทํ ทิสฺวา ปสาทุปฺปตฺติอตฺถาย. ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวายาติ ปสนฺนานํ อุปรูปริปสาทภาวาย. สทฺธมฺมฏฺิติยาติ สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตตฺถํ. วินยานุคฺคหายาติ ปฺจวิธสฺสาปิ วินยสฺส อนุคฺคณฺหนตฺถาย.

๒๐๒-๒๓๐. ปาติโมกฺขํ ปฺตฺตนฺติ ภิกฺขุปาติโมกฺขํ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขนฺติ ทุวิธํ ปาติโมกฺขํ ปฺตฺตํ. ปาติโมกฺขุทฺเทโสติ ภิกฺขูนํ ปฺจ, ภิกฺขุนีนํ จตฺตาโรติ นว ปาติโมกฺขุทฺเทสา ปฺตฺตา. ปาติโมกฺขฏฺปนนฺติ อุโปสถฏฺปนํ. ปวารณา ปฺตฺตาติ จาตุทฺทสิกา ปนฺนรสิกาติ ทฺเว ปวารณา ปฺตฺตา. ปวารณฏฺปนํ ปฺตฺตนฺติ สาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน ปวารณา อุตฺติยา วตฺตมานาย ปวารณฏฺปนํ ปฺตฺตํ. ตชฺชนียกมฺมาทีสุ ภิกฺขู วาจาสตฺตีหิ วิตุทนฺตานํ ปณฺฑุกโลหิตกานํ ภิกฺขูนํ ตชฺชนียกมฺมํ (จูฬว. ๑ อาทโย) ปฺตฺตํ. พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส เสยฺยสกสฺส ภิกฺขุโน นิยสฺสกมฺมํ ปฺตฺตํ. กุลทูสเก อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู อารพฺภ ปพฺพาชนียกมฺมํ (จูฬว. ๒๑ อาทโย) ปฺตฺตํ. คิหีนํ อกฺโกสกสฺส สุธมฺมตฺเถรสฺส ปฏิสารณียกมฺมํ (จูฬว. ๓๓ อาทโย) ปฺตฺตํ. อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺเขปนียกมฺมํ ปฺตฺตํ. ครุกาปตฺตึ อาปนฺนสฺส ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสทานํ ปฺตฺตํ. ปริวาเส อนฺตราปตฺตึ อาปนฺนสฺส มูลาย ปฏิกสฺสนํ ปฺตฺตํ. ปฏิจฺฉนฺนายปิ อปฺปฏิจฺฉนฺนายปิ อาปตฺติยา มานตฺตทานํ ปฺตฺตํ. จิณฺณมานตฺตสฺส อพฺภานํ ปฺตฺตํ. สมฺมา วตฺตนฺตสฺส โอสารณียํ ปฺตฺตํ. อสมฺมาวตฺตนาทีสุ นิสฺสารณียํ ปฺตฺตํ.

เอหิภิกฺขูปสมฺปทา สรณคมนูปสมฺปทา โอวาทูปสมฺปทา ปฺหาพฺยากรณูปสมฺปทา ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทา ครุธมฺมูปสมฺปทา อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปทา ทูเตน อุปสมฺปทาติ อฏฺวิธา อุปสมฺปทา ปฺตฺตา. ตฺติกมฺมํ นว านานิ คจฺฉตีติ เอวํ นวฏฺานิกํ ตฺติกมฺมํ ปฺตฺตํ. ตฺติทุติยกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉตีติ เอวํ สตฺตฏฺานิกเมว ตฺติทุติยกมฺมํ ปฺตฺตํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉตีติ เอวํ สตฺตฏฺานิกเมว ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ปฺตฺตํ. ปมปาราชิกาทีนํ ปมปฺตฺติ อปฺตฺเต ปฺตฺตํ. เตสํเยว อนุปฺตฺติ ปฺตฺเต อนุปฺตฺตํ. ธมฺมสมฺมุขตา วินยสมฺมุขตา สงฺฆสมฺมุขตา ปุคฺคลสมฺมุขตาติ อิมสฺส จตุพฺพิธสฺส สมฺมุขีภาวสฺส วเสน สมฺมุขาวินโย ปฺตฺโต. สติเวปุลฺลปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส อโจทนตฺถาย สติวินโย ปฺตฺโต. อุมฺมตฺตกสฺส ภิกฺขุโน อมูฬฺหวินโย ปฺตฺโต. อปฺปฏิฺาย จุทิตกสฺส อาปตฺติยา อตรณตฺถํ ปฏิฺาตกรณํ ปฺตฺตํ. พหุตรานํ ธมฺมวาทีนํ ลทฺธึ คเหตฺวา อธิกรณวูปสมนตฺถํ. เยภุยฺยสิกา ปฺตฺตา. ปาปุสฺสนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส นิคฺคณฺหนตฺถํ ตสฺสปาปิยสิกา ปฺตฺตา. ภณฺฑนาทิวเสน พหุํ อสฺสามณกํ กตฺวา อาปตฺตึ อาปนฺนานํ ภิกฺขูนํ เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺตฺจ อวเสสาปตฺตีนํ วูปสมนตฺถาย ติณวตฺถารโก ปฺตฺโต.

วินยเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

๔. ราคเปยฺยาลํ

๒๓๑. ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺายาติ ปฺจกามคุณิกราคสฺส อภิชานนตฺถํ ปจฺจกฺขกรณตฺถํ. ปริฺายาติ ปริชานนตฺถํ. ปริกฺขยายาติ ปริกฺขยคมนตฺถํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถํ. ขยาย วยายาติ ขยวยคมนตฺถํ. วิราคายาติ วิรชฺชนตฺถํ. นิโรธายาติ นิรุชฺฌนตฺถํ. จาคายาติ จชนตฺถํ. ปฏินิสฺสคฺคายาติ ปฏินิสฺสชฺชนตฺถํ.

๒๓๒-๒๔๖. ถมฺภสฺสาติ โกธมานวเสน ถทฺธภาวสฺส. สารพฺภสฺสาติ การณุตฺตริยลกฺขณสฺส สารพฺภสฺส. มานสฺสาติ นววิธมานสฺส. อติมานสฺสาติ อติกฺกมิตฺวา มฺนมานสฺส. มทสฺสาติ มชฺชนาการมทสฺส. ปมาทสฺสาติ สติวิปฺปวาสสฺส, ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตโวสฺสคฺคสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย

ทุกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาเย

ติกนิปาต-อฏฺกถา

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. พาลวคฺโค

๑. ภยสุตฺตวณฺณนา

. ติกนิปาตสฺส ปเม ภยานีติอาทีสุ ภยนฺติ จิตฺตุตฺราโส. อุปทฺทโวติ อเนกคฺคตากาโร. อุปสคฺโคติ อุปสฏฺากาโร ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคนากาโร.

เตสํ เอวํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – ปพฺพตวิสมนิสฺสิตา โจรา ชนปทวาสีนํ เปเสนฺติ – ‘‘มยํ อสุกทิวเส นาม ตุมฺหากํ คามํ ปหริสฺสามา’’ติ. เต ตํ ปวตฺตึ สุตกาลโต ปฏฺาย ภยํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ. อยํ จิตฺตุตฺราโส นาม. ‘‘ยถา โน เต โจรา กุปิตา อนตฺถมฺปิ อาวเหยฺยุ’’นฺติ หตฺถสารํ คเหตฺวา ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ สทฺธึ อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ภูมิยํ นิปชฺชนฺติ ฑํสมกสาทีหิ ขชฺชมานา, คุมฺพนฺตรานิ ปวิสนฺตา ขาณุกณฺฏเก มทฺทนฺติ. เตสํ เอวํ วิจรนฺตานํ วิกฺขิตฺตภาโว อเนกคฺคตากาโร นาม. ตโต โจเรสุ ยถาวุตฺเต ทิวเส อนาคจฺฉนฺเตสุ ‘‘ตุจฺฉกสาสนํ ภวิสฺสติ, คามํ ปวิสิสฺสามา’’ติ สปริกฺขารา คามํ ปวิสนฺติ. อถ เตสํ ปวิฏฺภาวํ ตฺวา คามํ ปริวาเรตฺวา ทฺวาเร อคฺคึ ทตฺวา มนุสฺเส ฆาเตตฺวา โจรา สพฺพํ วิภวํ วิลุมฺปิตฺวา คจฺฉนฺติ. เตสุ ฆาติตาวเสสา อคฺคึ นิพฺพาเปตฺวา โกฏฺกจฺฉายาภิตฺติจฺฉายาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคิตฺวา นิสีทนฺติ นฏฺํ อนุโสจมานา. อยํ อุปสฏฺากาโร ลคฺคนากาโร นาม.

นฬาคาราติ นเฬหิ ฉนฺนปฏิจฺฉนฺนอคารา. เสสสมฺภารา ปเนตฺถ รุกฺขมยา โหนฺติ. ติณาคาเรปิ เอเสว นโย. กูฏาคารานีติ กูฏสงฺคหิตานิ อคารานิ. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตานีติ อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตานิ. นิวาตานีติ นิวาริตวาตปฺปเวสานิ. ผุสิตคฺคฬานีติ เฉเกหิ วฑฺฒกีหิ กตตฺตา ปิฏฺสงฺฆาฏมฺหิ สุฏฺุ ผุสิตกวาฏานิ. ปิหิตวาตปานานีติ ยุตฺตวาตปานานิ. อิมินา ปททฺวเยน กวาฏวาตปานานํ นิจฺจปิหิตตํ อกเถตฺวา สมฺปตฺติเยว กถิตา. อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปน ตานิ ปิธียนฺติ จ วิวรียนฺติ จ.

พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ พาลเมว นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺติ. พาโล หิ อปณฺฑิตปุริโส รชฺชํ วา โอปรชฺชํ วา อฺํ วา ปน มหนฺตํ านํ ปตฺเถนฺโต กติปเย อตฺตนา สทิเส วิธวปุตฺเต มหาธุตฺเต คเหตฺวา ‘‘เอถ อหํ ตุมฺเห อิสฺสเร กริสฺสามี’’ติ ปพฺพตคหนาทีนิ นิสฺสาย อนฺตมนฺเต คาเม ปหรนฺโต ทามริกภาวํ ชานาเปตฺวา อนุปุพฺเพน นิคเมปิ ชนปเทปิ ปหรติ. มนุสฺสา เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา เขมฏฺานํ ปตฺถยมานา ปกฺกมนฺติ. เต นิสฺสาย วสนฺตา ภิกฺขูปิ ภิกฺขุนิโยปิ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานานิ ปหาย ปกฺกมนฺติ. คตคตฏฺาเน ภิกฺขาปิ เสนาสนมฺปิ ทุลฺลภํ โหติ. เอวํ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหติ. ปพฺพชฺชิเตสุปิ ทฺเว พาลา ภิกฺขู อฺมฺํ วิวาทํ ปฏฺเปตฺวา โจทนํ อารภนฺติ. อิติ โกสมฺพิวาสิกานํ วิย มหากลโห อุปฺปชฺชติ. จตุนฺนํ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหตีติ เอวํ ยานิ กานิจิ ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ ยถานุสนฺธินา เทสนํ นิฏฺเปสิ.

๒. ลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

. ทุติเย กายทฺวาราทิปวตฺตํ กมฺมํ ลกฺขณํ สฺชานนการณํ อสฺสาติ กมฺมลกฺขโณ. อปทานโสภนี ปฺาติ ยา ปฺา นาม อปทาเนน โสภติ, พาลา จ ปณฺฑิตา จ อตฺตโน อตฺตโน จริเตเนว ปากฏา โหนฺตีติ อตฺโถ. พาเลน หิ คตมคฺโค รุกฺขคจฺฉคามนิคมาทีนิ ฌาเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อินฺทคฺคิโน คตมคฺโค วิย โหติ, ฌามฏฺานมตฺตเมว องฺคารมสิฉาริกาสมากุลํ ปฺายติ. ปณฺฑิเตน คตมคฺโค กุโสพฺภาทโย ปูเรตฺวา วิวิธสสฺสสมฺปทํ อาวหมาเนน จตุทีปิกเมเฆน คตมคฺโค วิย โหติ. ยถา เตน คตมคฺเค อุทกปูรานิ เจว วิวิธสสฺสผลาผลานิ จ ตานิ ตานิ านานิ ปฺายนฺติ, เอวํ ปณฺฑิเตน คตมคฺเค สมฺปตฺติโยว ปฺายนฺติ โน วิปตฺติโยติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๓. จินฺตีสุตฺตวณฺณนา

. ตติเย พาลลกฺขณานีติ ‘‘พาโล อย’’นฺติ เอเตหิ ลกฺขียติ ายตีติ พาลลกฺขณานิ. ตาเนวสฺส สฺชานนการณานีติ พาลนิมิตฺตานิ. พาลาปทานานีติ พาลสฺส อปทานานิ. ทุจฺจินฺติตจินฺตีติ จินฺตยนฺโต อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทสฺสนวเสน ทุจฺจินฺติตเมว จินฺเตติ. ทุพฺภาสิตภาสีติ ภาสมาโนปิ มุสาวาทาทิเภทํ ทุพฺภาสิตเมว ภาสติ. ทุกฺกฏกมฺมการีติ กโรนฺโตปิ ปาณาติปาตาทิวเสน ทุกฺกฏกมฺมเมว กโรติ. ปณฺฑิตลกฺขณานีติอาทิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. สุจินฺติตจินฺตีติอาทีนิ เจตฺถ มโนสุจริตาทีนํ วเสน โยเชตพฺพานิ.

๔. อจฺจยสุตฺตวณฺณนา

. จตุตฺเถ อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสตีติ อตฺตโน อปราธํ อปราธโต น ปสฺสติ. อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ นปฺปฏิกโรตีติ ‘‘อปรทฺธํ มยา’’ติ ตฺวาปิ โย ธมฺโม, ตํ น กโรติ, ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา อจฺจยํ น เทเสติ นกฺขมาเปติ. อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหาตีติ ปรสฺส ‘‘วิรทฺธํ มยา’’ติ ตฺวา ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ขมาเปนฺตสฺส นกฺขมติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ.

๕. อโยนิโสสุตฺตวณฺณนา

. ปฺจเม อโยนิโส ปฺหํ กตฺตา โหตีติ ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุพฺเพนิวาโส อนุสฺสติฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ลาฬุทายิตฺเถโร วิย อนุปายจินฺตาย อปฺหเมว ปฺหนฺติ กตฺตา โหติ. อโยนิโส ปฺหํ วิสฺสชฺเชตา โหตีติ เอวํ จินฺติตํ ปน ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโตปิ ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาติ’’นฺติอาทินา นเยน โสเยว เถโร วิย อโยนิโส วิสฺสชฺเชตา โหติ, อปฺหเมว ปฺหนฺติ กเถติ. ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหีติ เอตฺถ ปทเมว อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปทพฺยฺชนํ. ตํ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา ทสวิธํ พฺยฺชนพุทฺธึ อปริหาเปตฺวา วุตฺตํ ปริมณฺฑลํ นาม โหติ, เอวรูเปหิ ปทพฺยฺชเนหีติ อตฺโถ. สิลิฏฺเหีติ ปทสิลิฏฺตาย สิลิฏฺเหิ. อุปคเตหีติ อตฺถฺจ การณฺจ อุปคเตหิ. นาพฺภนุโมทิตาติ เอวํ โยนิโส สพฺพํ การณสมฺปนฺนํ กตฺวาปิ วิสฺสชฺชิตํ ปรสฺส ปฺหํ นาภินุโมทติ นาภินนฺทติ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปฺหํ ลาฬุทายิตฺเถโร วิย. ยถาห –

‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อนวกาโส, ยํ โส อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ, นตฺเถตํ าน’’นฺติ (อ. นิ. ๕.๑๖๖).

โยนิโส ปฺหํ กตฺตาติอาทีสุ อานนฺทตฺเถโร วิย โยนิโสว ปฺหํ จินฺเตตฺวา โยนิโส วิสฺสชฺชิตา โหติ. เถโร หิ ‘‘กติ นุ โข, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘อยํ ปฺโห ภวิสฺสตี’’ติ โยนิโส จินฺเตตฺวา โยนิโส วิสฺสชฺเชนฺโต อาห – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํภาวิตํ เอวํพหุลีกตํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตตี’’ติ. อพฺภนุโมทิตา โหตีติ ตถาคโต วิย โยนิโส อพฺภนุโมทิตา โหติ. ตถาคโต หิ อานนฺทตฺเถเรน ปฺเห วิสฺสชฺชิเต ‘‘สาธุ สาธุ, อานนฺท, เตน หิ ตฺวํ, อานนฺท, อิมมฺปิ ฉฏฺํ อนุสฺสติฏฺานํ ธาเรหิ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ สโตว อภิกฺกมติ สโตว ปฏิกฺกมตี’’ติอาทิมาห. ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๙. ขตสุตฺตวณฺณนา

. นวเม สุกฺกปกฺโข ปุพฺพภาเค ทสหิปิ กุสลกมฺมปเถหิ ปริจฺฉินฺโน, อุปริ ยาว อรหตฺตมคฺคา ลพฺภติ. พหุฺจ ปุฺํ ปสวตีติ เอตฺถ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกปุฺํ กถิตํ.

๑๐. มลสุตฺตวณฺณนา

๑๐. ทสเม ทุสฺสีลภาโว ทุสฺสีลฺยํ, ทุสฺสีลฺยเมว มลํ ทุสฺสีลฺยมลํ. เกนฏฺเน มลนฺติ? อนุทหนฏฺเน ทุคฺคนฺธฏฺเน กิลิฏฺกรณฏฺเน จ. ตฺหิ นิรยาทีสุ อปาเยสุ อนุทหตีติ อนุทหนฏฺเนปิ มลํ. เตน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล มาตาปิตูนมฺปิ สนฺติเก ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ อนฺตเร โพธิเจติยฏฺาเนสุปิ ชิคุจฺฉนีโย โหติ, สพฺพทิสาสุ จสฺส ‘‘เอวรูปํ กิร เตน ปาปกมฺมํ กต’’นฺติ อวณฺณคนฺโธ วายตีติ ทุคฺคนฺธฏฺเนปิ มลํ. เตน จ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล คตคตฏฺาเน อุปตาปฺเจว ลภติ, กายกมฺมาทีนิ จสฺส อสุจีนิ โหนฺติ อปภสฺสรานีติ กิลิฏฺกรณฏฺเนปิ มลํ. อปิจ ตํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติโย เจว นิพฺพานสมฺปตฺติฺจ มิลาเปตีติ มิลาปนฏฺเนปิ มลนฺติ เวทิตพฺพํ. อิสฺสามลมจฺเฉรมเลสุปิ เอเสว นโย.

พาลวคฺโค ปโม.

๒. รถการวคฺโค

๑. าตสุตฺตวณฺณนา

๑๑. ทุติยสฺส ปเม าโตติ ปฺาโต ปากโฏ. อนนุโลมิเกติ สาสนสฺส น อนุโลเมตีติ อนนุโลมิกํ, ตสฺมึ อนนุโลมิเก. กายกมฺเมติ ปาณาติปาตาทิมฺหิ กายทุจฺจริเต. โอฬาริกํ วา เอตํ, น เอวรูเป สมาทเปตุํ สกฺโกติ. ทิสา นมสฺสิตุํ วฏฺฏติ, ภูตพลึ กาตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูเป สมาทเปติ คณฺหาเปติ. วจีกมฺเมปิ มุสาวาทาทีนิ โอฬาริกานิ, อตฺตโน สนฺตกํ ปรสฺส อทาตุกาเมน ‘‘นตฺถี’’ติ อยํ วฺจนมุสาวาโท นาม วตฺตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูเป สมาทเปติ. มโนกมฺเมปิ อภิชฺฌาทโย โอฬาริกา, กมฺมฏฺานํ วิสํวาเทตฺวา กเถนฺโต ปน อนนุโลมิเกสุ ธมฺเมสุ สมาทเปติ นาม ทกฺขิณวิหารวาสิตฺเถโร วิย. ตํ กิร เถรํ เอโก อุปฏฺาโก อมจฺจปุตฺโต อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เมตฺตายนฺเตน ปมํ กีทิเส ปุคฺคเล เมตฺตายิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. เถโร สภาควิสภาคํ อนาจิกฺขิตฺวา ‘‘ปิยปุคฺคเล’’ติ อาห. ตสฺส จ ภริยา ปิยา โหติ มนาปา, โส ตํ อารพฺภ เมตฺตายนฺโต อุมฺมาทํ ปาปุณิ. กถํ ปเนส พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหตีติ? เอวรูปสฺส หิ สทฺธิวิหาริกาทโย เจว อุปฏฺากาทโย จ เตสํ อารกฺขเทวตา อาทึ กตฺวา ตาสํ ตาสํ มิตฺตภูตา ยาว พฺรหฺมโลกา เสสเทวตา จ ‘‘อยํ ภิกฺขุ น อชานิตฺวา กริสฺสตี’’ติ เตน กตเมว กโรนฺติ, เอวเมส พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ.

สุกฺกปกฺเข ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีนํเยว วเสน กายกมฺมวจีกมฺมานิ เวทิตพฺพานิ. กมฺมฏฺานํ ปน อวิสํวาเทตฺวา กเถนฺโต อนุโลมิเกสุ ธมฺเมสุ สมาทเปติ นาม โกฬิตวิหารวาสี จตุนิกายิกติสฺสตฺเถโร วิย. ตสฺส กิร เชฏฺภาตา นนฺทาภยตฺเถโร นาม โปตลิยวิหาเร วสนฺโต เอกสฺมึ โรเค สมุฏฺิเต กนิฏฺํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘อาวุโส, มยฺหํ สลฺลหุกํ กตฺวา เอกํ กมฺมฏฺานํ กเถหี’’ติ. กึ, ภนฺเต, อฺเน กมฺมฏฺาเนน, กพฬีการาหารํ ปริคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ? กิมตฺถิโก เอส, อาวุโสติ? ภนฺเต, กพฬีการาหาโร อุปาทารูปํ, เอกสฺมิฺจ อุปาทารูเป ทิฏฺเ เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปากฏานิ โหนฺตีติ. โส ‘‘วฏฺฏิสฺสติ, อาวุโส, เอตฺตก’’นฺติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา กพฬีการาหารํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อุปาทารูปํ สลฺลกฺเขตฺวา วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถ นํ เถรํ พหิวิหารา อนิกฺขนฺตเมว ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘อาวุโส, มหาอวสฺสโยสิ มยฺหํ ชาโต’’ติ กนิฏฺตฺเถรสฺส อตฺตนา ปฏิลทฺธคุณํ อาโรเจสิ. พหุชนหิตายาติ เอตสฺสปิ หิ สทฺธิวิหาริกาทโย ‘‘อยํ น อชานิตฺวา กริสฺสตี’’ติ เตน กตเมว กโรนฺตีติ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน นาม โหตีติ.

๒. สารณียสุตฺตวณฺณนา

๑๒. ทุติเย ขตฺติยสฺสาติ ชาติยา ขตฺติยสฺส. มุทฺธาวสิตฺตสฺสาติ ราชาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺตสฺส. สารณียานิ ภวนฺตีติ สริตพฺพานิ อสมฺมุสฺสนียานิ โหนฺติ. ชาโตติ นิพฺพตฺโต. ยาวชีวํ สารณียนฺติ ทหรกาเล ชานิตุมฺปิ น สกฺกา, อปรภาเค ปน มาตาปิตุอาทีหิ าตเกหิ วา ทาสาทีหิ วา ‘‘ตฺวํ อสุกชนปเท อสุกนคเร อสุกทิวเส อสุกนกฺขตฺเต ชาโต’’ติ อาจิกฺขิเต สุตฺวา ตโต ปฏฺาย ยาวชีวํ สรติ น สมฺมุสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยาวชีวํ สารณียํ โหตี’’ติ.

อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยนฺติ อภิเสกฏฺานํ นาม รฺโ พลวตุฏฺิกรํ โหติ, เตนสฺส ตํ ยาวชีวํ สารณียํ. สงฺคามวิชยฏฺาเนปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน สงฺคามนฺติ ยุทฺธํ. อภิวิชินิตฺวาติ ชินิตฺวา สตฺตุมทฺทนํ กตฺวา. ตเมว สงฺคามสีสนฺติ ตเมว สงฺคามฏฺานํ. อชฺฌาวสตีติ อภิภวิตฺวา อาวสติ.

อิทานิ ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส รฺโ ชาติฏฺานาทีหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน สาสเน ตปฺปฏิภาเค ตโย ปุคฺคเล ทสฺเสตุํ อิทํ การณํ อาภตํ, ตสฺมา เต ทสฺเสนฺโต เอวเมว โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหตีติ เอตฺถ จตุปาริสุทฺธิสีลมฺปิ ปพฺพชฺชานิสฺสิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. สารณียํ โหตีติ ‘‘อหํ อสุกรฏฺเ อสุกชนปเท อสุกวิหาเร อสุกมาฬเก อสุกทิวาฏฺาเน อสุกจงฺกเม อสุกรุกฺขมูเล ปพฺพชิโต’’ติ เอวํ ยาวชีวํ สริตพฺพเมว โหติ น สมฺมุสฺสิตพฺพํ.

อิทํ ทุกฺขนฺติ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ อตฺถิ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ เอตฺตโก ทุกฺขสมุทโย, น อิโต อุทฺธํ ทุกฺขสมุทโย อตฺถีติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ จตูหิ สจฺเจหิ โสตาปตฺติมคฺโค กถิโต. กสิณปริกมฺมวิปสฺสนาาณานิ ปน มคฺคสนฺนิสฺสิตาเนว โหนฺติ. สารณียํ โหตีติ ‘‘อหํ อสุกรฏฺเ…เป… อสุกรุกฺขมูเล โสตาปนฺโน ชาโต’’ติ ยาวชีวํ สารณียํ โหติ อสมฺมุสฺสนียํ.

อาสวานํ ขยาติ อาสวานํ ขเยน. เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลปฺํ. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาว อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ ปฏิลภิตฺวา วิหรติ. สารณียนฺติ ‘‘มยา อสุกรฏฺเ…เป… อสุกรุกฺขมูเล อรหตฺตํ ปตฺต’’นฺติ อตฺตโน อรหตฺตปตฺติฏฺานํ นาม ยาวชีวํ สารณียํ โหติ อสมฺมุสฺสนียนฺติ ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสิ.

๓. อาสํสสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ตติเย สนฺโตติ อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. สํวิชฺชมานาติ ตสฺเสว เววจนํ. โลกสฺมินฺติ สตฺตโลเก. นิราโสติ อนาโส อปตฺถโน. อาสํโสติ อาสํสมาโน ปตฺถยมาโน. วิคตาโสติ อปคตาโส. จณฺฑาลกุเลติ จณฺฑาลานํ กุเล. เวนกุเลติ วิลีวการกุเล. เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกานํ กุเล. รถการกุเลติ จมฺมการกุเล. ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผจฺฉฑฺฑกกุเล.

เอตฺตาวตา กุลวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา นีจกุเล ชาโตปิ เอกจฺโจ อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน, อยํ ปน น ตาทิโส, ตสฺมาสฺส โภควิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ทลิทฺเทติอาทิมาห. ตตฺถ ทลิทฺเทติ ทาลิทฺทิเยน สมนฺนาคเต. อปฺปนฺนปานโภชเนติ ปริตฺตกอนฺนปานโภชเน. กสิรวุตฺติเกติ ทุกฺขชีวิเก, ยตฺถ วายาเมน ปโยเคน ชีวิตวุตฺตึ สาเธนฺติ, ตถารูเปติ อตฺโถ. ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภตีติ ยสฺมึ กุเล ทุกฺเขน ยาคุภตฺตฆาโส จ โกปีนมตฺตํ อจฺฉาทนฺจ ลพฺภติ.

อิทานิ ยสฺมา เอกจฺโจ นีจกุเล ชาโตปิ อุปธิสมฺปนฺโน โหติ อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ิโต, อยฺจ น ตาทิโส, ตสฺมาสฺส สรีรวิปตฺติมฺปิ ทสฺเสตุํ โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณติอาทิมาห. ตตฺถ ทุพฺพณฺโณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี. ปทีเปยฺยสฺสาติ วฏฺฏิเตลกปลฺลกาทิโน ปทีปอุปกรณสฺส. ตสฺส น เอวํ โหตีติ. กสฺมา น โหติ? นีจกุเล ชาตตฺตา.

เชฏฺโติ อฺสฺมึ เชฏฺเ สติ กนิฏฺโ อาสํ น กโรติ, ตสฺมา เชฏฺโติ อาห. อาภิเสโกติ เชฏฺโปิ น อภิเสการโห อาสํ น กโรติ, ตสฺมา อาภิเสโกติ อาห. อนภิสิตฺโตติ อภิเสการโหปิ กาณกุณิอาทิโทสรหิโต สกึ อภิสิตฺโต ปุน อภิเสเก อาสํ น กโรติ, ตสฺมา อนภิสิตฺโตติ อาห. อจลปฺปตฺโตติ เชฏฺโปิ อาภิเสโก อนภิสิตฺโต มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก, โสปิ อภิเสเก อาสํ น กโรติ. โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก ปน ปฺายมานมสฺสุเภโท อจลปฺปตฺโต นาม โหติ, มหนฺตมฺปิ รชฺชํ วิจาเรตุํ สมตฺโถ, ตสฺมา ‘‘อจลปฺปตฺโต’’ติ อาห. ตสฺส เอวํ โหตีติ กสฺมา โหติ? มหาชาติตาย.

ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม. อสุจีติ อสุจีหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต. สงฺกสฺสรสมาจาโรติ สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโร, กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปเรสํ อาสงฺกนียสมาจาโร, อตฺตนาเยว วา สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโร, สาสงฺกสมาจาโรติ อตฺโถ. ตสฺส หิ ทิวาฏฺานาทีสุ สนฺนิปติตฺวา กิฺจิเทว มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘อิเม เอกโต หุตฺวา มนฺเตนฺติ, กจฺจิ นุ โข มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’’ติ เอวํ สาสงฺกสมาจาโร โหติ. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ปฏิจฺฉาเทตพฺพยุตฺตเกน ปาปกมฺเมน สมนฺนาคโต. อสฺสมโณ สมณปฏิฺโติ อสฺสมโณ หุตฺวาว สมณปติรูปกตาย ‘‘สมโณ อห’’นฺติ เอวํ ปฏิฺโ. อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโติ อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฏิปชฺชนโต ‘‘อหํ พฺรหฺมจารี’’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหติ. ‘‘อหํ ภิกฺขู’’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต. อนฺโตปูตีติ ปูตินา กมฺเมน อนฺโต อนุปวิฏฺโ. อวสฺสุโตติ ราคาทีหิ ตินฺโต. กสมฺพุชาโตติ สฺชาตราคาทิกจวโร. ตสฺส น เอวํ โหตีติ. กสฺมา น โหติ? โลกุตฺตรธมฺมอุปนิสฺสยสฺส นตฺถิตาย. ตสฺส เอวํ โหตีติ. กสฺมา โหติ? มหาสีลสฺมึ ปริปูรการิตาย.

๔. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา

๑๔. จตุตฺเถ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ รฺเชตีติ ราชา. จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี. วตฺติตํ วา อเนน จกฺกนฺติ จกฺกวตฺตี. ธมฺโม อสฺส อตฺถีติ ธมฺมิโก. ธมฺเมเนว ทสวิเธน จกฺกวตฺติวตฺเตน ราชา ชาโตติ ธมฺมราชา. โสปิ น อราชกนฺติ โสปิ อฺํ นิสฺสยราชานํ อลภิตฺวา จกฺกํ นาม วตฺเตตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. อิติ สตฺถา เทสนํ ปฏฺเปตฺวา ยถานุสนฺธึ อปาเปตฺวาว ตุณฺหี อโหสิ. กสฺมา? อนุสนฺธิกุสลา อุฏฺหิตฺวา อนุสนฺธึ ปุจฺฉิสฺสนฺติ, พหู หิ อิมสฺมึ าเน ตถารูปา ภิกฺขู, อถาหํ เตหิ ปุฏฺโ เทสนํ วฑฺเฒสฺสามีติ. อเถโก อนุสนฺธิกุสโล ภิกฺขุ ภควนฺตํ ปุจฺฉนฺโต โก ปน, ภนฺเตติอาทิมาห. ภควาปิสฺส พฺยากโรนฺโต ธมฺโม ภิกฺขูติอาทิมาห.

ตตฺถ ธมฺโมติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม. ธมฺมนฺติ ตเมว วุตฺตปฺปการํ ธมฺมํ. นิสฺสายาติ ตทธิฏฺาเนน เจตสา ตเมว นิสฺสยํ กตฺวา. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติ ยถา กโต โส ธมฺโม สุฏฺุ กโต โหติ, เอวเมตํ กโรนฺโต. ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโตติ ตสฺมึ คารวุปฺปตฺติยา ตํ ครุกโรนฺโต. ธมฺมํ อปจายมาโนติ ตสฺเสว ธมฺมสฺส อฺชลิกรณาทีหิ นีจวุตฺติตํ กโรนฺโต. ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตูติ ตํ ธมฺมํ ธชมิว ปุรกฺขตฺวา เกตุมิว อุกฺขิปิตฺวา ปวตฺติยา ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ จ หุตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺมาธิปเตยฺโยติ ธมฺมาธิปติภูตาคตภาเวน ธมฺมวเสเนว จ สพฺพกิริยานํ กรเณน ธมฺมาธิปเตยฺโย หุตฺวา. ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหตีติ ธมฺโม อสฺสา อตฺถีติ ธมฺมิกา, รกฺขา จ อาวรณฺจ คุตฺติ จ รกฺขาวรณคุตฺติ. ตตฺถ ‘‘ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขตี’’ติ วจนโต ขนฺติอาทโย รกฺขา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขติ. ขนฺติยา อวิหึสาย เมตฺตจิตฺตตาย อนุทฺทยายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๕). นิวาสนปารุปนเคหาทีนิ อาวรณํ. โจราทิอุปทฺทวนิวารณตฺถํ โคปายนา คุตฺติ. ตํ สพฺพมฺปิ สุฏฺุ วิทหติ ปวตฺเตติ เปตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ยตฺถ สา สํวิทหิตพฺพา, ตํ ทสฺเสนฺโต อนฺโตชนสฺมินฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อนฺโตชนสงฺขาตํ ปุตฺตทารํ สีลสํวเร ปติฏฺาเปนฺโต วตฺถคนฺธมาลาทีนิ จสฺส ททมาโน สพฺโพปทฺทเว จสฺส นิวารยมาโน ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหติ นาม. ขตฺติยาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อภิสิตฺตขตฺติยา ภทฺรอสฺสาชานียาทิรตนสมฺปทาเนนปิ อุปคณฺหิตพฺพา, อนุยนฺตา ขตฺติยา เตสํ อนุรูปยานวาหนสมฺปทาเนนปิ ปริโตเสตพฺพา, พลกาโย กาลํ อนติกฺกเมตฺวา ภตฺตเวตนสมฺปทาเนนปิ อนุคฺคเหตพฺโพ, พฺราหฺมณา อนฺนปานวตฺถาทินา เทยฺยธมฺเมน, คหปติกา ภตฺตพีชนงฺคลพลิพทฺทาทิสมฺปทาเนน, ตถา นิคมวาสิโน เนคมา ชนปทวาสิโน จ ชานปทา. สมิตปาปพาหิตปาปา ปน สมณพฺราหฺมณา สมณปริกฺขารสมฺปทาเนน สกฺกาตพฺพา, มิคปกฺขิโน อภยทาเนน สมสฺสาเสตพฺพา.

ธมฺเมเนว จกฺกํ วตฺเตตีติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเมเนว จกฺกํ ปวตฺเตติ. ตํ โหติ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ตํ เตน เอวํ ปวตฺติตํ อาณาจกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ โหติ. เกนจิ มนุสฺสภูเตนาติ เทวตา นาม อตฺตนา อิจฺฉิติจฺฉิตเมว กโรนฺติ, ตสฺมา ตา อคฺคณฺหิตฺวา ‘‘มนุสฺสภูเตนา’’ติ วุตฺตํ. ปจฺจตฺถิเกนาติ ปฏิอตฺถิเกน, ปฏิสตฺตุนาติ อตฺโถ. ธมฺมิโกติ จกฺกวตฺตี ทสกุสลกมฺมปถวเสน ธมฺมิโก, ตถาคโต ปน นวโลกุตฺตรธมฺมวเสน. ธมฺมราชาติ นวหิ โลกุตฺตรธมฺเมหิ มหาชนํ รฺเชตีติ ธมฺมราชา. ธมฺมํเยวาติ นวโลกุตฺตรธมฺมเมว นิสฺสาย ตเมว สกฺกโรนฺโต ตํ ครุกโรนฺโต ตํ อปจายมาโน. โสวสฺส ธมฺโม อพฺภุคฺคตฏฺเน ธโชติ ธมฺมทฺธโช. โสวสฺส เกตูติ ธมฺมเกตุ. ตเมว อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา วิหรตีติ ธมฺมาธิปเตยฺโย. ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตินฺติ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมทายิกรกฺขฺจ อาวรณฺจ คุตฺติฺจ. สํวิทหตีติ เปติ ปฺเปติ. เอวรูปนฺติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ น เสวิตพฺพํ, สุจริตํ เสวิตพฺพนฺติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สํวิทหิตฺวาติ เปตฺวา กเถตฺวา. ธมฺเมเนว อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ นวโลกุตฺตรธมฺเมเนว อสทิสํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. ตํ โหติ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ตํ เอวํ ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ เอเตสุ สมณาทีสุ เอเกนปิ ปฏิวตฺเตตุํ ปฏิพาหิตุํ น สกฺกา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

๕. สเจตนสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ปฺจเม อิสิปตเนติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสงฺขาตานํ อิสีนํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถาย เจว อุโปสถกรณตฺถาย จ อาคนฺตฺวา ปตเน, สนฺนิปาตฏฺาเนติ อตฺโถ. ปทเนติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ. มิคทาเยติ มิคานํ อภยตฺถาย ทินฺเน. ฉหิ มาเสหิ ฉารตฺตูเนหีติ โส กิร รฺา อาณตฺตทิวเสเยว สพฺพูปกรณานิ สชฺเชตฺวา อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ อรฺํ ปวิสิตฺวา คามทฺวารคามมชฺฌเทวกุลสุสานาทีสุ ิตรุกฺเข เจว ฌามปติตสุกฺขรุกฺเข จ วิวชฺเชตฺวา สมฺปนฺนปเทเส ิเต สพฺพโทสวิวชฺชิเต นาภิอรเนมีนํ อนุรูเป รุกฺเข คเหตฺวา ตํ จกฺกํ อกาสิ. ตสฺส รุกฺเข วิจินิตฺวา คณฺหนฺตสฺส เจว กโรนฺตสฺส จ เอตฺตโก กาโล วีติวตฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘ฉหิ มาเสหิ ฉารตฺตูเนหี’’ติ. นานากรณนฺติ นานตฺตํ. เนสนฺติ น เอสํ. อตฺเถสนฺติ อตฺถิ เอสํ. อภิสงฺขารสฺส คตีติ ปโยคสฺส คมนํ. จิงฺคุลายิตฺวาติ ปริพฺภมิตฺวา. อกฺขาหตํ มฺเติ อกฺเข ปเวเสตฺวา ปิตมิว.

สโทสาติ สคณฺฑา อุณฺณโตณตฏฺานยุตฺตา. สกสาวาติ ปูติสาเรน เจว เผคฺคุนา จ ยุตฺตา. กายวงฺกาติอาทีนิ กายทุจฺจริตาทีนํ นามานิ. เอวํ ปปติตาติ เอวํ คุณปตเนน ปติตา. เอวํ ปติฏฺิตาติ เอวํ คุเณหิ ปติฏฺิตา. ตตฺถ โลกิยมหาชนา ปปติตา นาม, โสตาปนฺนาทโย ปติฏฺิตา นาม. เตสุปิ ปุริมา ตโย กิเลสานํ สมุทาจารกฺขเณ ปปติตา นาม, ขีณาสวา ปน เอกนฺเตเนว ปติฏฺิตา นาม. ตสฺมาติ ยสฺมา อปฺปหีนกายวงฺกาทโย ปปตนฺติ, ปหีนกายวงฺกาทโย ปติฏฺหนฺติ, ตสฺมา. กายวงฺกาทีนํ ปน เอวํ ปหานํ เวทิตพฺพํ – ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ มิจฺฉาจาโร มุสาวาโท ปิสุณาวาจา มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ตาว ฉ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, ผรุสาวาจา พฺยาปาโทติ ทฺเว อนาคามิมคฺเคน, อภิชฺฌา สมฺผปฺปลาโปติ ทฺเว อรหตฺตมคฺเคนาติ.

๖. อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา

๑๖. ฉฏฺเ อปณฺณกปฏิปทนฺติ อวิรทฺธปฏิปทํ เอกํสปฏิปทํ นิยฺยานิกปฏิปทํ การณปฏิปทํ สารปฏิปทํ มณฺฑปฏิปทํ อปจฺจนีกปฏิปทํ อนุโลมปฏิปทํ ธมฺมานุธมฺมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ, น ตกฺกคฺคาเหน วา นยคฺคาเหน วา. เอวํ คเหตฺวา ปฏิปนฺโน หิ ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อุปาสโก วา อุปาสิกา วา มนุสฺสเทวนิพฺพานสมฺปตฺตีหิ หายติ ปริหายติ, อปณฺณกปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ปน ตาหิ สมฺปตฺตีหิ น ปริหายติ. อตีเต กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺเนสุ ทฺวีสุ สตฺถวาเหสุ ยกฺขสฺส วจนํ คเหตฺวา พาลสตฺถวาโห สทฺธึ สตฺเถน อนยพฺยสนํ ปตฺโต, ยกฺขสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา ‘‘อุทกทิฏฺฏฺาเน อุทกํ ฉฑฺเฑสฺสามา’’ติ สตฺถเก สฺาเปตฺวา มคฺคํ ปฏิปนฺโน ปณฺฑิตสตฺถวาโห วิย. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘อปณฺณกํ านเมเก, ทุติยํ อาหุ ตกฺกิกา;

เอตทฺาย เมธาวี, ตํ คณฺเห ยทปณฺณก’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๑);

โยนิ จสฺส อารทฺธา โหตีติ เอตฺถ โยนีติ ขนฺธโกฏฺาสสฺสปิ การณสฺสปิ ปสฺสาวมคฺคสฺสปิ นามํ. ‘‘จตสฺโส โข อิมา, สาริปุตฺต, โยนิโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๒) หิ ขนฺธโกฏฺาโส โยนิ นาม. ‘‘โยนิ เหสา ภูมิช ผลสฺส อธิคมายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๒๖) การณํ. ‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภว’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๔๕๗; ธ. ป. ๓๙๖) จ ‘‘ตเมนํ กมฺมชวาตา นิวตฺติตฺวา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ สมฺปริวตฺเตตฺวา มาตุ โยนิมุเข สมฺปฏิปาเทนฺตี’’ติ จ อาทีสุ ปสฺสาวมคฺโค. อิธ ปน การณํ อธิปฺเปตํ. อารทฺธาติ ปคฺคหิตา ปริปุณฺณา.

อาสวานํ ขยายาติ เอตฺถ อาสวนฺตีติ อาสวา, จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปิ สนฺทนฺติ ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุ, โอกาสโต ยาว ภวคฺคา สวนฺตีติ วา อาสวา, เอเต ธมฺเม เอตฺจ โอกาสํ อนฺโตกริตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อนฺโตกรณตฺโถ หิ อยํ อากาโร. จิรปาริวาสิยฏฺเน มทิราทโย อาสวา, อาสวา วิยาติปิ อาสวา. โลกสฺมิมฺปิ หิ จิรปาริวาสิกา มทิราทโย อาสวาติ วุจฺจนฺติ, ยทิ จ จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวา, เอเตเยว ภวิตุมรหนฺติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺติ ปสวนฺตีติปิ อาสวา. ปุริมานิ เจตฺถ นิพฺพจนานิ ยตฺถ กิเลสา อาสวาติ อาคจฺฉนฺติ, ตตฺถ ยุชฺชนฺติ, ปจฺฉิมํ กมฺเมปิ. น เกวลฺจ กมฺมกิเลสาเยว อาสวา, อปิจ โข นานปฺปการา อุปทฺทวาปิ. สุตฺเตสุ หิ ‘‘นาหํ, จุนฺท, ทิฏฺธมฺมิกานํเยว อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ เทเสมี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๒) เอตฺถ วิวาทมูลภูตา กิเลสา อาสวาติ อาคตา.

‘‘เยน เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;

ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;

เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๖) –

เอตฺถ เตภูมกํ จ กมฺมํ อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา. ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ (ปารา. ๓๙; อ. นิ. ๒.๒๐๒-๒๓๐) เอตฺถ ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธาทโย เจว อปายทุกฺขภูตา จ นานปฺปการา อุปทฺทวา.

เต ปเนเต อาสวา ยตฺถ ยถา อาคตา, ตตฺถ ตถา เวทิตพฺพา. เอเต หิ วินเย ตาว ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ (ปารา. ๓๙; อ. นิ. ๒.๒๐๒-๒๓๐) ทฺเวธา อาคตา. สฬายตเน ‘‘ตโย เม, อาวุโส, อาสวา กามาสโว ภวาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๑) ติธา อาคตา. อฺเสุ จ สุตฺตนฺเตสุ (จูฬนิ. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๖๙; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๗) อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๑๐๒-๑๑๐๖; วิภ. ๙๓๗) จ เตเยว ทิฏฺาสเวน สห จตุธา อาคตา. นิพฺเพธิกปริยาเยน ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เทวโลกคามินิยา’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓) ปฺจธา อาคตา. กมฺมเมว เจตฺถ อาสวาติ วุตฺตํ. ฉกฺกนิปาเต ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวราปหาตพฺพา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน ฉธา อาคตา. สพฺพาสวปริยาเย (ม. นิ. ๑.๑๔ อาทโย) เตเยว ทสฺสเนน ปหาตพฺเพหิ สทฺธึ สตฺตธา อาคตา. อิธ ปน อภิธมฺมนเยน จตฺตาโร อาสวา อธิปฺเปตาติ เวทิตพฺพา.

ขยายาติ เอตฺถ ปน อาสวานํ สรสเภโทปิ ขีณากาโรปิ มคฺคผลนิพฺพานานิปิ ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุจฺจติ. ‘‘โย อาสวานํ ขโย วโย เภโท ปริเภโท อนิจฺจตา อนฺตรธาน’’นฺติ เอตฺถ หิ อาสวานํ สรสเภโท ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุตฺโต. ‘‘ชานโต อหํ, ภิกฺขเว, ปสฺสโต อาสวานํ ขยํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕; สํ. นิ. ๒.๒๓; อิติวุ. ๑๐๒) เอตฺถ อาสวปฺปหานํ อาสวานํ อจฺจนฺตกฺขโย อสมุปฺปาโท ขีณากาโร นตฺถิภาโว ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุตฺโต.

‘‘เสขสฺส สิกฺขมานสฺส, อุชุมคฺคานุสาริโน;

ขยสฺมึ ปมํ าณํ, ตโต อฺา อนนฺตรา’’ติ. (อิติวุ. ๖๒) –

เอตฺถ มคฺโค ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุตฺโต. ‘‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๓๘) เอตฺถ ผลํ.

‘‘ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส, นิจฺจํ อุชฺฌานสฺิโน;

อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ, อารา โส อาสวกฺขยา’’ติ. (ธ. ป. ๒๕๓) –

เอตฺถ นิพฺพานํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ผลํ สนฺธาย ‘‘อาสวานํ ขยายา’’ติ อาห, อรหตฺตผลตฺถายาติ อตฺโถ.

อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโรติ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ ปิหิตทฺวาโร. โภชเน มตฺตฺูติ โภชนสฺมึ ปมาณฺู, ปฏิคฺคหณปริโภคปจฺจเวกฺขณมตฺตํ ชานาติ ปชานาตีติ อตฺโถ. ชาคริยํ อนุยุตฺโตติ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ชาครณภาวํ อนุยุตฺโต, ชาครเณเยว ยุตฺตปฺปยุตฺโตติ อตฺโถ.

เอวํ มาติกํ เปตฺวา อิทานิ ตเมว ปิตปฏิปาฏิยา วิภชนฺโต กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติอาทีนํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕) วิตฺถาริโต, ตถา ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ เนว ทวายาติอาทีนํ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๘). อาวรณีเยหิ ธมฺเมหีติ ปฺจหิ นีวรเณหิ ธมฺเมหิ. นีวรณานิ หิ จิตฺตํ อาวริตฺวา ติฏฺนฺติ, ตสฺมา อาวรณียา ธมฺมาติ วุจฺจนฺติ. สีหเสยฺยํ กปฺเปตีติ สีโห วิย เสยฺยํ กปฺเปติ. ปาเท ปาทํ อจฺจาธายาติ วามปาทํ ทกฺขิณปาเท อติอาธาย. สมํ ปิเต หิ ปาเท ชาณุเกน ชาณุกํ โคปฺผเกน จ โคปฺผกํ ฆฏียติ, ตโต เวทนา อุฏฺหนฺติ. ตสฺมา ตสฺส โทสสฺส ปริวชฺชนตฺถํ โถกํ อติกฺกมิตฺวา เอส ปาทํ เปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปาเท ปาทํ อจฺจาธายา’’ติ.

สโต สมฺปชาโนติ สติยา เจว สมฺปชฺเน จ สมนฺนาคโต. กถํ ปเนส นิทฺทายนฺโต สโต สมฺปชาโน นาม โหตีติ? ปุริมปฺปวตฺติวเสน. อยํ หิ จงฺกเม จงฺกมนฺโต นิทฺทาย โอกฺกมนภาวํ ตฺวา ปวตฺตมานํ กมฺมฏฺานํ เปตฺวา มฺเจ วา ผลเก วา นิปนฺโน นิทฺทํ อุปคนฺตฺวา ปุน ปพุชฺฌมาโน กมฺมฏฺานํ ิตฏฺาเน คณฺหนฺโตเยว ปพุชฺฌติ. ตสฺมา นิทฺทายนฺโตปิ สโต สมฺปชาโน นาม โหติ. อยํ ตาว มูลกมฺมฏฺาเน นโยว. ปริคฺคหกมฺมฏฺานวเสนาปิ ปเนส สโต สมฺปชาโน นาม โหติ. กถํ? อยํ หิ จงฺกมนฺโต นิทฺทาย โอกฺกมนภาวํ ตฺวา ปาสาณผลเก วา มฺเจ วา ทกฺขิเณน ปสฺเสน นิปชฺชิตฺวา ปจฺจเวกฺขติ – ‘‘อเจตโน กาโย อเจตเน มฺเจ ปติฏฺิโต, อเจตโน มฺโจ อเจตนาย ปถวิยา, อเจตนา ปถวี อเจตเน อุทเก, อเจตนํ อุทกํ อเจตเน วาเต, อเจตโน วาโต อเจตเน อากาเส ปติฏฺิโต. ตตฺถ อากาสมฺปิ ‘อหํ วาตํ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ น ชานาติ, วาโตปิ ‘อหํ อากาเส ปติฏฺิโต’ติ น ชานาติ. ตถา วาโต น ชานาติ. ‘อหํ อุทกํ อุกฺขิปิตฺวา ิโต’ติ…เป… มฺโจ น ชานาติ, ‘อหํ กายํ อุกฺขิปิตฺวา ิโต’ติ, กาโย น ชานาติ ‘อหํ มฺเจ ปติฏฺิโต’ติ. น หิ เตสํ อฺมฺํ อาโภโค วา สมนฺนาหาโร วา มนสิกาโร วา เจตนา วา ปตฺถนา วา อตฺถี’’ติ. ตสฺส เอวํ ปจฺจเวกฺขโต ตํ ปจฺจเวกฺขณจิตฺตํ ภวงฺเค โอตรติ. เอวํ นิทฺทายนฺโตปิ สโต สมฺปชาโน นาม โหตีติ.

อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวาติ ‘‘เอตฺตกํ านํ คเต จนฺเท วา ตารกาย วา อุฏฺหิสฺสามี’’ติ อุฏฺานกาลปริจฺเฉทิกํ สฺํ มนสิกริตฺวา, จิตฺเต เปตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ กริตฺวา สยิโต หิ ยถาปริจฺฉินฺเนเยว กาเล อุฏฺหติ.

๗. อตฺตพฺยาพาธสุตฺตวณฺณนา

๑๗. สตฺตเม อตฺตพฺยาพาธายาติ อตฺตทุกฺขาย. ปรพฺยาพาธายาติ ปรทุกฺขาย. กายสุจริตนฺติอาทีนิ ปุพฺพภาเค ทสกุสลกมฺมปถวเสน อาคตานิ, อุปริ ปน ยาว อรหตฺตา อวาริตาเนว.

๘. เทวโลกสุตฺตวณฺณนา

๑๘. อฏฺเม อฏฺฏีเยยฺยาถาติ อฏฺฏา ปีฬิตา ภเวยฺยาถ. หราเยยฺยาถาติ ลชฺเชยฺยาถ. ชิคุจฺเฉยฺยาถาติ คูเถ วิย ตสฺมึ วจเน สฺชาตชิคุจฺฉา ภเวยฺยาถ. อิติ กิราติ เอตฺถ อิตีติ ปทสนฺธิพฺยฺชนสิลิฏฺตา, กิราติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต. ทิพฺเพน กิร อายุนา อฏฺฏียถาติ เอวมสฺส สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปเคว โข ปนาติ ปมตรํเยว.

๙. ปมปาปณิกสุตฺตวณฺณนา

๑๙. นวเม ปาปณิโกติ อาปณิโก, อาปณํ อุคฺฆาเฏตฺวา ภณฺฑวิกฺกายกสฺส วาณิชสฺเสตํ อธิวจนํ. อภพฺโพติ อภาชนภูโต. สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาตีติ ยถา อธิฏฺิตํ สุอธิฏฺิตํ โหติ, เอวํ สยํ อตฺตปจฺจกฺขํ กโรนฺโต นาธิฏฺาติ. ตตฺถ ปจฺจูสกาเล ปทสทฺเทน อุฏฺาย ทีปํ ชาเลตฺวา ภณฺฑํ ปสาเรตฺวา อนิสีทนฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาติ นาม. อยํ หิ ยํ โจรา รตฺตึ ภณฺฑํ หริตฺวา ‘‘อิทํ อมฺหากํ หตฺถโต วิสฺสชฺเชสฺสามา’’ติ อาปณํ คนฺตฺวา อปฺเปน อคฺเฆน เทนฺติ, ยมฺปิ พหุเวริโน มนุสฺสา รตฺตึ นคเร วสิตฺวา ปาโตว อาปณํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ คณฺหนฺติ, ยํ วา ปน ชนปทํ คนฺตุกามา มนุสฺสา ปาโตว อาปณํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ กิณนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติ.

อฺเสํ โภชนเวลาย ปน ภุฺชิตุํ อาคนฺตฺวา ปาโตว ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา ภุฺชิตฺวา นิทฺทายิตฺวา สายํ ปุน อาปณํ อาคจฺฉนฺโต มชฺฌนฺหิกสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาติ นาม. โส หิ ยํ โจรา ปาโตว วิสฺสชฺเชตุํ น สมฺปาปุณึสุ, ทิวากาเล ปน ปเรสํ อสฺจารกฺขเณ อาปณํ คนฺตฺวา อปฺปคฺเฆน เทนฺติ, ยฺจ โภชนเวลาย ปุฺวนฺโต อิสฺสรา ‘‘อาปณโต อิทฺจิทฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ปหิณิตฺวา อาหราเปนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติ.

ยาว ยามเภรินิกฺขมนา ปน อนฺโตอาปเณ ทีปํ ชาลาเปตฺวา อนิสีทนฺโต สายนฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาติ นาม. โส หิ ยํ โจรา ปาโตปิ ทิวาปิ วิสฺสชฺเชตุํ น สมฺปาปุณึสุ, สายํ ปน อาปณํ คนฺตฺวา อปฺปคฺเฆน เทนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติ.

น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาตีติ สกฺกจฺจกิริยาย สมาธึ น สมาปชฺชติ. เอตฺถ จ ปาโตว เจติยงฺคณโพธิยงฺคเณสุ วตฺตํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ยาว ภิกฺขาจารเวลา, ตาว สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อนิสีทนฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาติ นาม. ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต รตฺติฏฺานทิวาฏฺานํ ปวิสิตฺวา ยาว สายนฺหสมยา สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อนิสีทนฺโต มชฺฌนฺหิกสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาติ นาม. สายํ ปน เจติยํ วนฺทิตฺวา เถรูปฏฺานํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ปมยามํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา อนิสีทนฺโต สายนฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาติ นาม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ‘‘สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา’’ติ วุตฺตฏฺาเน สมาปตฺติยา อสติ วิปสฺสนาปิ วฏฺฏติ, สมาธินิมิตฺตนฺติ จ สมาธิอารมฺมณมฺปิ วฏฺฏติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘สมาธิปิ สมาธินิมิตฺตํ, สมาธารมฺมณมฺปิ สมาธินิมิตฺต’’นฺติ.

๑๐. ทุติยปาปณิกสุตฺตวณฺณนา

๒๐. ทสเม จกฺขุมาติ ปฺาจกฺขุนา จกฺขุมา โหติ. วิธุโรติ วิสิฏฺธุโร อุตฺตมธุโร าณสมฺปยุตฺเตน วีริเยน สมนฺนาคโต. นิสฺสยสมฺปนฺโนติ อวสฺสยสมฺปนฺโน ปติฏฺานสมฺปนฺโน. ปณิยนฺติ วิกฺกายิกภณฺฑํ. เอตฺตกํ มูลํ ภวิสฺสติ เอตฺตโก อุทโยติ ตสฺมึ ‘‘เอวํ กีตํ เอวํ วิกฺกายมาน’’นฺติ วุตฺตปณิเย เยน กเยน ตํ กีตํ, ตํ กยสงฺขาตํ มูลํ เอตฺตกํ ภวิสฺสติ. โย จ ตสฺมึ วิกฺกยมาเน วิกฺกโย, ตสฺมึ วิกฺกเย เอตฺตโก อุทโย ภวิสฺสติ, เอตฺติกา วฑฺฒีติ อตฺโถ.

กุสโล โหติ ปณิยํ เกตุฺจ วิกฺเกตุฺจาติ สุลภฏฺานํ คนฺตฺวา กิณนฺโต ทุลฺลภฏฺานํ คนฺตฺวา วิกฺกิณนฺโต จ เอตฺถ กุสโล นาม โหติ, ทสคุณมฺปิ วีสติคุณมฺปิ ลาภํ ลภติ.

อฑฺฒาติ อิสฺสรา พหุนา นิกฺขิตฺตธเนน สมนฺนาคตา. มหทฺธนาติ วฬฺชนกวเสน มหทฺธนา. มหาโภคาติ อุปโภคปริโภคภณฺเฑน มหาโภคา. ปฏิพโลติ กายพเลน เจว าณพเลน จ สมนฺนาคตตฺตา สมตฺโถ. อมฺหากฺจ กาเลน กาลํ อนุปฺปทาตุนฺติ อมฺหากฺจ คหิตธนมูลิกํ วฑฺฒึ กาเลน กาลํ อนุปฺปทาตุํ. นิปตนฺตีติ นิมนฺเตนฺติ. นิปาเตนฺตีติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ.

กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทายาติ กุสลธมฺมานํ สมฺปาทนตฺถาย ปฏิลาภตฺถาย. ถามวาติ าณถาเมน สมนฺนาคโต. ทฬฺหปรกฺกโมติ ถิเรน าณปรกฺกเมน สมนฺนาคโต. อนิกฺขิตฺตธุโรติ ‘‘อคฺคมคฺคํ อปาปุณิตฺวา อิมํ วีริยธุรํ น เปสฺสามี’’ติ เอวํ อฏฺปิตธุโร.

พหุสฺสุตาติ เอกนิกายาทิวเสน พหุ พุทฺธวจนํ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. อาคตาคมาติ เอโก นิกาโย เอโก อาคโม นาม, ทฺเว นิกายา ทฺเว อาคมา นาม, ปฺจ นิกายา ปฺจ อาคมา นาม, เอเตสุ อาคเมสุ เยสํ เอโกปิ อาคโม อาคโต ปคุโณ ปวตฺติโต, เต อาคตาคมา นาม. ธมฺมธราติ สุตฺตนฺตปิฏกธรา. วินยธราติ วินยปิฏกธรา. มาติกาธราติ ทฺเวมาติกาธรา. ปริปุจฺฉตีติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ ปุจฺฉติ. ปริปฺหตีติ ‘‘อิมํ นาม ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ อฺาติ ตุเลติ ปริคฺคณฺหาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ปมํ ปฺา อาคตา, ปจฺฉา วีริยฺจ กลฺยาณมิตฺตเสวนา จ. ตตฺถ ปมํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปจฺฉา วีริยํ กตฺวา กลฺยาณมิตฺตา เสวิตพฺพาติ น เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, เทสนาย นาม เหฏฺิเมน วา ปริจฺเฉโท โหติ อุปริเมน วา ทฺวีหิปิ วา โกฏีหิ. อิธ ปน อุปริเมน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตสฺมา กเถนฺเตน ปมํ กลฺยาณมิตฺตอุปนิสฺสยํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ วีริยํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา อรหตฺตํ กเถตพฺพนฺติ.

รถการวคฺโค ทุติโย.

๓. ปุคฺคลวคฺโค

๑. สมิทฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ตติยสฺส ปเม ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขิ. ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. ขมตีติ รุจฺจติ. อภิกฺกนฺตตโรติ อติสุนฺทรตโร. ปณีตตโรติ อติปณีตตโร. สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตีติ สมิทฺธตฺเถรสฺส กิร อรหตฺตมคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ, เสสานิ จตฺตาริ สหชาตินฺทฺริยานิ ตสฺเสว ปริวารานิ อเหสุํ. อิติ เถโร อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคํ กเถนฺโต เอวมาห. มหาโกฏฺิกตฺเถรสฺส ปน อรหตฺตมคฺคกฺขเณ สมาธินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ, เสสานิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ตสฺเสว ปริวารานิ อเหสุํ. ตสฺมา โสปิ สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺตนฺติ กเถนฺโต อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคเมว กเถสิ. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปน อรหตฺตมคฺคกฺขเณ ปฺินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ. เสสานิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ตสฺเสว ปริวารานิ อเหสุํ. ตสฺมา โสปิ ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตนฺติ กเถนฺโต อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคเมว กเถสิ.

ขฺเวตฺถาติ น โข เอตฺถ. เอกํเสน พฺยากาตุนฺติ เอกนฺเตน พฺยากริตุํ. อรหตฺตาย ปฏิปนฺโนติ อรหตฺตมคฺคสมงฺคึ ทสฺเสติ. เอวเมตสฺมึ สุตฺเต ตีหิปิ เถเรหิ อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺโคว กถิโต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน ภุมฺมนฺตเรเนว กเถสิ.

๒. คิลานสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย สปฺปายานีติ หิตานิ วุทฺธิกรานิ. ปติรูปนฺติ อนุจฺฉวิกํ. เนว วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา อเตกิจฺเฉน วาตาปมาราทินา โรเคน สมนฺนาคโต นิฏฺาปตฺตคิลาโน กถิโต. วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา ขิปิตกกจฺฉุติณปุปฺผกชราทิเภโท อปฺปมตฺตอาพาโธ กถิโต. ลภนฺโต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโตติ อิมินา ปน เยสํ ปฏิชคฺคเนน ผาสุกํ โหติ, สพฺเพปิ เต อาพาธา กถิตา. เอตฺถ จ ปติรูโป อุปฏฺาโก นาม คิลานุปฏฺากองฺเคหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต ทกฺโข อนลโส เวทิตพฺโพ. คิลานุปฏฺาโก อนุฺาโตติ ภิกฺขุสงฺเฆน ทาตพฺโพติ อนุฺาโต. ตสฺมิฺหิ คิลาเน อตฺตโน ธมฺมตาย ยาเปตุํ อสกฺโกนฺเต ภิกฺขุสงฺเฆน ตสฺส ภิกฺขุโน เอโก ภิกฺขุ จ สามเณโร จ ‘‘อิมํ ปฏิชคฺคถา’’ติ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพา. ยาว ปน เต ตํ ปฏิชคฺคนฺติ, ตาว คิลานสฺส จ เตสฺจ ทฺวินฺนํ เยนตฺโถ, สพฺพํ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว ภาโร.

อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพาติ อิตเรปิ ทฺเว คิลานา อุปฏฺาเปตพฺพา. กึ การณา? โยปิ หิ นิฏฺปตฺตคิลาโน, โส อนุปฏฺิยมาโน ‘‘สเจ มํ ปฏิชคฺเคยฺยุํ, ผาสุกํ เม ภเวยฺย. น โข ปน มํ ปฏิชคฺคนฺตี’’ติ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺย. ปฏิชคฺคิยมานสฺส ปนสฺส เอวํ โหติ ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆน ยํ กาตพฺพํ, ตํ กตํ. มยฺหํ ปน กมฺมวิปาโก อีทิโส’’ติ. โส ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติสฺสติ. โย ปน อปฺปมตฺตเกน พฺยาธินา สมนฺนาคโต ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ วุฏฺาติเยว, ตสฺส วินาปิ เภสชฺเชน วูปสมนพฺยาธิ เภสชฺเช กเต ขิปฺปตรํ วูปสมฺมติ. โส ตโต พุทฺธวจนํ วา อุคฺคณฺหิตุํ สกฺขิสฺสติ, สมณธมฺมํ วา กาตุํ สกฺขิสฺสติ. อิมินา การเณน ‘‘อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.

เนว โอกฺกมตีติ เนว ปวิสติ. นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ มคฺคนิยามสงฺขาตํ สมฺมตฺตํ. อิมินา ปทปรโม ปุคฺคโล กถิโต. ทุติยวาเรน อุคฺฆฏิตฺู คหิโต สาสเน นาลกตฺเถรสทิโส พุทฺธนฺตเร เอกวารํ ปจฺเจกพุทฺธานํ สนฺติเก โอวาทํ ลภิตฺวา ปฏิวิทฺธปจฺเจกโพธิาโณ จ. ตติยวาเรน วิปฺจิตฺู ปุคฺคโล กถิโต, เนยฺโย ปน ตนฺนิสฺสิโตว โหติ.

ธมฺมเทสนา อนุฺาตาติ มาสสฺส อฏฺ วาเร ธมฺมกถา อนุฺาตา. อฺเสมฺปิ ธมฺโม เทเสตพฺโพติ อิตเรสมฺปิ ธมฺโม กเถตพฺโพ. กึ การณา? ปทปรมสฺส หิ อิมสฺมึ อตฺตภาเว ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺตสฺสาปิ อนาคเต ปจฺจโย ภวิสฺสติ. โย ปน ตถาคตสฺส รูปทสฺสนํ ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมวินยฺจ สวนาย ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมํ อภิสเมติ, โส อลภนฺโต ตาว อภิสเมติ. ลภนฺโต ปน ขิปฺปเมว อภิสเมสฺสตีติ อิมินา การเณน เตสํ ธมฺโม เทเสตพฺโพ. ตติยสฺส ปน ปุนปฺปุนํ เทเสตพฺโพว.

๓. สงฺขารสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย สพฺยาพชฺฌนฺติ สทุกฺขํ. กายสงฺขารนฺติ กายทฺวาเร เจตนาราสึ. อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ ราสึ กโรติ ปิณฺฑํ กโรติ. วจีมโนทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. สพฺยาพชฺฌํ โลกนฺติ สทุกฺขํ โลกํ. สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺตีติ สทุกฺขา วิปากผสฺสา ผุสนฺติ. สพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยตีติ สทุกฺขํ วิปากเวทนํ เวทิยติ, สาพาธํ นิรสฺสาทนฺติ อตฺโถ. เสยฺยถาปิ สตฺตา เนรยิกาติ ยถา นิรเย นิพฺพตฺตสตฺตา เอกนฺตทุกฺขํ เวทนํ เวทิยนฺติ, เอวํ เวทิยตีติ อตฺโถ. กึ ปน ตตฺถ อุเปกฺขาเวทนา นตฺถีติ? อตฺถิ, ทุกฺขเวทนาย ปน พลวภาเวน สา อพฺโพหาริกฏฺาเน ิตา. อิติ นิรโยว นิรยสฺส อุปมํ กตฺวา อาหโฏ. ตตฺร ปฏิภาคอุปมา นาม กิร เอสา.

เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหาติ อิธาปิ เทวโลโกว เทวโลกสฺส อุปมํ กตฺวา อาหโฏ. ยสฺมา ปน เหฏฺิเมสุ พฺรหฺมโลเกสุ สปฺปีติกชฺฌานวิปาโก วตฺตติ, สุภกิณฺเหสุ นิปฺปีติโก เอกนฺตสุโขว, ตสฺมา เต อคฺคเหตฺวา สุภกิณฺหาว กถิตา. อิติ อยมฺปิ ตตฺร ปฏิภาคอุปมา นามาติ เวทิตพฺพา.

โวกิณฺณสุขทุกฺขนฺติ โวมิสฺสกสุขทุกฺขํ. เสยฺยถาปิ มนุสฺสาติ มนุสฺสานํ หิ กาเลน สุขํ โหติ, กาเลน ทุกฺขํ. เอกจฺเจ จ เทวาติ กามาวจรเทวา. เตสมฺปิ กาเลน สุขํ โหติ, กาเลน ทุกฺขํ. เตสํ หิ หีนตรานํ มเหสกฺขตรา เทวตา ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ โหติ, มคฺคา อุกฺกมิตพฺพํ, ปารุตวตฺถํ อปเนตพฺพํ, อฺชลิกมฺมํ กาตพฺพนฺติ ตํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ นาม โหติ. เอกจฺเจ จ วินิปาติกาติ เวมานิกเปตา. เต หิ กาเลน สมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ กาเลน กมฺมนฺติ โวกิณฺณสุขทุกฺขาว โหนฺติ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ตีณิ สุจริตานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานีติ เวทิตพฺพานิ.

๔. พหุการสุตฺตวณฺณนา

๒๔. จตุตฺเถ ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลาติ ตโย อาจริยปุคฺคลา. ปุคฺคลสฺส พหุการาติ อนฺเตวาสิกปุคฺคลสฺส พหูปการา. พุทฺธนฺติ สพฺพฺุพุทฺธํ. สรณํ คโต โหตีติ อวสฺสยํ คโต โหติ. ธมฺมนฺติ สตนฺติกํ นวโลกุตฺตรธมฺมํ. สงฺฆนฺติ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหํ. อิทฺจ ปน สรณคมนํ อคฺคหิตสรณปุพฺพสฺส อกตาภินิเวสสฺส วเสน วุตฺตํ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต สรณทายโก โสตาปตฺติมคฺคสมฺปาปโก อรหตฺตมคฺคสมฺปาปโกติ ตโย อาจริยา พหุการาติ อาคตา, ปพฺพชฺชาทายโก พุทฺธวจนทายโก กมฺมวาจาจริโย สกทาคามิมคฺคสมฺปาปโก อนาคามิมคฺคสมฺปาปโกติ อิเม อาจริยา น อาคตา, กึ เอเต น พหุการาติ? โน, น พหุการา. อยํ ปน เทสนา ทุวิเธน ปริจฺฉินฺนา. ตสฺมา สพฺเพเปเต พหุการา. เตสุ สรณคมนสฺมึเยว อกตาภินิเวโส วฏฺฏติ, จตุปาริสุทฺธิสีลกสิณปริกมฺมวิปสฺสนาาณานิ ปน ปมมคฺคสนฺนิสฺสิตานิ โหนฺติ, อุปริ ทฺเว มคฺคา จ ผลานิ จ อรหตฺตมคฺคสนฺนิสฺสิตานีติ เวทิตพฺพานิ.

อิมินา ปุคฺคเลนาติ อิมินา อนฺเตวาสิกปุคฺคเลน. น สุปฺปติการํ วทามีติ ปติการํ กาตุํ น สุกรนฺติ วทามิ. อภิวาทนาทีสุ อเนกสตวารํ อเนกสหสฺสวารมฺปิ หิ ปฺจปติฏฺิเตน นิปติตฺวา วนฺทนฺโต อาสนา วุฏฺาย ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต ทิฏฺทิฏฺกฺขเณ อฺชลึ ปคฺคณฺหนฺโต อนุจฺฉวิกํ สามีจิกมฺมํ กโรนฺโต ทิวเส ทิวเส จีวรสตํ จีวรสหสฺสํ ปิณฺฑปาตสตํ ปิณฺฑปาตสหสฺสํ ททมาโน จกฺกวาฬปริยนฺเตน สพฺพรตนมยํ อาวาสํ กโรนฺโต สปฺปินวนีตาทินานปฺปการํ เภสชฺชํ อนุปฺปทชฺชมาโน เนว สกฺโกติ อาจริเยน กตสฺส ปติการํ นาม กาตุนฺติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๕. วชิรูปมสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปฺจเม อรุกูปมจิตฺโตติ ปุราณวณสทิสจิตฺโต. วิชฺชูปมจิตฺโตติ อิตฺตรกาโลภาสเนน วิชฺชุสทิสจิตฺโต. วชิรูปมจิตฺโตติ กิเลสานํ มูลฆาตกรณสมตฺถตาย วชิเรน สทิสจิตฺโต. อภิสชฺชตีติ ลคฺคติ. กุปฺปตีติ โกปวเสน กุปฺปติ. พฺยาปชฺชตีติ ปกติภาวํ ปชหติ, ปูติโก โหติ. ปติตฺถียตีติ ถินภาวํ ถทฺธภาวํ อาปชฺชติ. โกปนฺติ ทุพฺพลโกธํ. โทสนฺติ ทุสฺสนวเสน ตโต พลวตรํ. อปฺปจฺจยนฺติ อตุฏฺาการํ โทมนสฺสํ. ทุฏฺารุโกติ ปุราณวโณ. กฏฺเนาติ ทณฺฑกโกฏิยา. กเลนาติ กปาเลน. อาสวํ เทตีติ อปราปรํ สวติ. ปุราณวโณ หิ อตฺตโน ธมฺมตาเยว ปุพฺพํ โลหิตํ ยูสนฺติ อิมานิ ตีณิ สวติ, ฆฏฺฏิโต ปน ตานิ อธิกตรํ สวติ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ทุฏฺารุโก วิย หิ โกธนปุคฺคโล, ตสฺส อตฺตโน ธมฺมตาย สวนํ วิย โกธนสฺสปิ อตฺตโน ธมฺมตาย อุทฺธุมาตสฺส วิย จณฺฑิกตสฺส จรณํ, กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏนํ วิย อปฺปมตฺตํ วจนํ, ภิยฺโยโสมตฺตาย สวนํ วิย ‘‘มาทิสํ นาม เอส เอวํ วทตี’’ติ ภิยฺโยโสมตฺตาย อุทฺธุมายนภาโว ทฏฺพฺโพ.

รตฺตนฺธการติมิสายนฺติ รตฺตึ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารเณน อนฺธภาวกรเณ พหลตเม. วิชฺชนฺตริกายาติ วิชฺชุปฺปตฺติกฺขเณ. อิธาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – จกฺขุมา ปุริโส วิย หิ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ, อนฺธการํ วิย โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา กิเลสา, วิชฺชุสฺจรณํ วิย โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อุปฺปตฺติกาโล, วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สมนฺตา รูปทสฺสนํ วิย โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ, ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย สกทาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา, ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย สกทาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท, วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สมนฺตา รูปทสฺสนํ วิย สกทาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ, ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อนาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา, ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย อนาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท, วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สมนฺตา รูปทสฺสนํ วิย อนาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ เวทิตพฺพํ.

วชิรูปมจิตฺตตายปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – วชิรํ วิย หิ อรหตฺตมคฺคาณํ ทฏฺพฺพํ, มณิคณฺิปาสาณคณฺิ วิย อรหตฺตมคฺควชฺฌา กิเลสา, วชิรสฺส มณิคณฺิมฺปิ วา ปาสาณคณฺิมฺปิ วา วินิวิชฺฌิตฺวา อคมนภาวสฺส นตฺถิตา วิย อรหตฺตมคฺคาเณน อจฺเฉชฺชานํ กิเลสานํ นตฺถิภาโว, วชิเรน นิพฺพิทฺธเวธสฺส ปุน อปติปูรณํ วิย อรหตฺตมคฺเคน ฉินฺนานํ กิเลสานํ ปุน อนุปฺปาโท ทฏฺพฺโพติ.

๖. เสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา

๒๖. ฉฏฺเ เสวิตพฺโพติ อุปสงฺกมิตพฺโพ. ภชิตพฺโพติ อลฺลียิตพฺโพ. ปยิรุปาสิตพฺโพติ สนฺติเก นิสีทนวเสน ปุนปฺปุนํ อุปาสิตพฺโพ. สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวาติ สกฺการฺเจว ครุการฺจ กตฺวา. หีโน โหติ สีเลนาติอาทีสุ อุปาทายุปาทาย หีนตา เวทิตพฺพา. ตตฺถ โย หิ ปฺจ สีลานิ รกฺขติ, โส ทส สีลานิ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ. โย ทส สีลานิ รกฺขติ, โส จตุปาริสุทฺธิสีลํ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ. อฺตฺร อนุทฺทยา อฺตฺร อนุกมฺปาติ เปตฺวา อนุทฺทยฺจ อนุกมฺปฺจ. อตฺตโน อตฺถาเยว หิ เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ, อนุทฺทยานุกมฺปาวเสน ปน ตํ อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ.

สีลสามฺคตานํ สตนฺติ สีเลน สมานภาวํ คตานํ สนฺตานํ. สีลกถา จ โน ภวิสฺสตีติ เอวํ สมานสีลานํ อมฺหากํ สีลเมว อารพฺภ กถา ภวิสฺสติ. สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสตีติ สา จ อมฺหากํ กถา ทิวสมฺปิ กเถนฺตานํ ปวตฺติสฺสติ น ปฏิหฺิสฺสติ. สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสตีติ สา จ ทิวสมฺปิ ปวตฺตมานา สีลกถา อมฺหากํ ผาสุวิหาโร สุขวิหาโร ภวิสฺสติ. สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย.

สีลกฺขนฺธนฺติ สีลราสึ. ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ เอตฺถ สีลสฺส อสปฺปาเย อนุปการธมฺเม วชฺเชตฺวา สปฺปาเย อุปการธมฺเม เสวนฺโต ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สีลกฺขนฺธํ ปฺาย อนุคฺคณฺหาติ นาม. สมาธิปฺากฺขนฺเธสุปิ เอเสว นโย. นิหียตีติ อตฺตโน หีนตรํ ปุคฺคลํ เสวนฺโต ขารปริสฺสาวเน อาสิตฺตอุทกํ วิย สตตํ สมิตํ หายติ ปริหายติ. ตุลฺยเสวีติ อตฺตนา สมานเสวี. เสฏฺมุปนมนฺติ เสฏฺํ ปุคฺคลํ โอณมนฺโต. อุเทติ ขิปฺปนฺติ ขิปฺปเมว วฑฺฒติ. ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตรึ ภเชถาติ ยสฺมา เสฏฺํ ปุคฺคลํ อุปนมนฺโต อุเทติ ขิปฺปํ, ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตริตรํ วิสิฏฺตรํ ภเชถ.

๗. ชิคุจฺฉิตพฺพสุตฺตวณฺณนา

๒๗. สตฺตเม ชิคุจฺฉิตพฺโพติ คูถํ วิย ชิคุจฺฉิตพฺโพ. อถ โข นนฺติ อถ โข อสฺส. กิตฺติสทฺโทติ กถาสทฺโท. เอวเมว โขติ เอตฺถ คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺยํ ทฏฺพฺพํ. คูถกูเป ปติตฺวา ิโต ธมฺมนิอหิ วิย ทุสฺสีลปุคฺคโล. คูถกูปโต อุทฺธริยมาเนน เตน อหินา ปุริสสฺส สรีรํ อารุฬฺเหนาปิ อทฏฺภาโว วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺสาปิ ตสฺส กิริยาย อกรณภาโว. สรีรํ คูเถน มกฺเขตฺวา อหินา คตกาโล วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺส ปาปกิตฺติสทฺทอพฺภุคฺคมนกาโล เวทิตพฺโพ.

ตินฺทุกาลาตนฺติ ตินฺทุกรุกฺขอลาตํ. ภิยฺโยโสมตฺตาย จิจฺจิฏายตีติ ตํ หิ ฌายมานํ ปกติยาปิ ปปฏิกาโย มุฺจนฺตํ จิจฺจิฏาติ ‘‘จิฏิจิฏา’’ติ สทฺทํ กโรติ, ฆฏฺฏิตํ ปน อธิมตฺตํ กโรตีติ อตฺโถ. เอวเมว โขติ เอวเมวํ โกธโน อตฺตโน ธมฺมตายปิ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ, อปฺปมตฺตกํ ปน วจนํ สุตกาเล ‘‘มาทิสํ นาม เอวํ วทติ เอวํ วทตี’’ติ อติเรกตรํ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ. คูถกูโปติ คูถปุณฺณกูโป, คูถราสิเยว วา. โอปมฺมสํสนฺทนํ ปเนตฺถ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพติ ยสฺมา โกธโน อติเสวิยมาโน อติอุปสงฺกมิยมาโนปิ กุชฺฌติเยว, ‘‘กึ อิมินา’’ติ ปฏิกฺกมนฺเตปิ กุชฺฌติเยว. ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? โย หิ ปลาลคฺคึ อติอุปสงฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สรีรํ ฌายติ. โย อติปฏิกฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สีตํ น วูปสมฺมติ. อนุปสงฺกมิตฺวา อปฏิกฺกมิตฺวา ปน มชฺฌตฺตภาเวน ตปฺปนฺตสฺส สีตํ วูปสมฺมติ, ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย โกธโน ปุคฺคโล มชฺฌตฺตภาเวน อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ.

กลฺยาณมิตฺโตติ สุจิมิตฺโต. กลฺยาณสหาโยติ สุจิสหาโย. สหายา นาม สหคามิโน สทฺธึจรา. กลฺยาณสมฺปวงฺโกติ กลฺยาเณสุ สุจิปุคฺคเลสุ สมฺปวงฺโก, ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารมานโสติ อตฺโถ.

๘. คูถภาณีสุตฺตวณฺณนา

๒๘. อฏฺเม คูถภาณีติ โย คูถํ วิย ทุคฺคนฺธกถํ กเถติ. ปุปฺผภาณีติ โย ปุปฺผานิ วิย สุคนฺธกถํ กเถติ. มธุภาณีติ โย มธุ วิย มธุรกถํ กเถติ. สภคฺคโตติ สภาย ิโต. ปริสคฺคโตติ คามปริสาย ิโต. าติมชฺฌคโตติ าตีนํ มชฺเฌ ิโต. ปูคมชฺฌคโตติ เสณีนํ มชฺเฌ ิโต. ราชกุลมชฺฌคโตติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต. อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถายานีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลฺโช อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ อนฺตมโส ติตฺติริยวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิมตฺตกสฺส ลฺชสฺส เหตูติ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กตฺตา โหติ.

เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺส เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ. ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕) เอตฺถ วุตฺตสีลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติ นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ, ปิติมตฺตํ ปิตาติ, มาติมตฺตํ มาตาติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุทฺธิกราติ พหุชนมนาปา.

๙. อนฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๙. นวเม จกฺขุ น โหตีติ ปฺาจกฺขุ น โหติ. ผาตึ กเรยฺยาติ ผีตํ วฑฺฒิตํ กเรยฺย. สาวชฺชานวชฺเชติ สโทสนิทฺโทเส. หีนปฺปณีเตติ อธมุตฺตเม. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคติ กณฺหสุกฺกาเยว อฺมฺํ ปฏิพาหนโต ปฏิปกฺขวเสน สปฺปฏิภาคาติ วุจฺจนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – กุสเล ธมฺเม ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ ชาเนยฺย, อกุสเล ธมฺเม ‘‘อกุสลา ธมฺมา’’ติ ชาเนยฺย. สาวชฺชาทีสุปิ เอเสว นโย. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคสุ ปน กณฺหธมฺเม ‘‘สุกฺกสปฺปฏิภาคา’’ติ ชาเนยฺย, สุกฺกธมฺเม ‘‘กณฺหสปฺปฏิภาคา’’ติ เยน ปฺาจกฺขุนา ชาเนยฺย, ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหตีติ. อิมินา นเยน เสสวาเรสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

น เจว โภคา ตถารูปาติ ตถาชาติกา โภคาปิสฺส น โหนฺติ. น จ ปุฺานิ กุพฺพตีติ ปุฺานิ จ น กโรติ. เอตฺตาวตา โภคุปฺปาทนจกฺขุโน จ ปุฺกรณจกฺขุโน จ อภาโว วุตฺโต. อุภยตฺถ กลิคฺคาโหติ อิธโลเก จ ปรโลเก จาติ อุภยสฺมิมฺปิ อปรทฺธคฺคาโห, ปราชยคฺคาโห โหตีติ อตฺโถ. อถ วา อุภยตฺถ กลิคฺคาโหติ อุภเยสมฺปิ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ อตฺถานํ กลิคฺคาโห, ปราชยคฺคาโหติ อตฺโถ. ธมฺมาธมฺเมนาติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเมนปิ ทสอกุสลกมฺมปถอธมฺเมนปิ. สโติ เกราฏิโก. โภคานิ ปริเยสตีติ โภเค คเวสติ. เถยฺเยน กูฏกมฺเมน, มุสาวาเทน จูภยนฺติ เถยฺยาทีสุ อุภเยน ปริเยสตีติ อตฺโถ. กถํ? เถยฺเยน กูฏกมฺเมน จ ปริเยสติ, เถยฺเยน มุสาวาเทน จ ปริเยสติ, กูฏกมฺเมน มุสาวาเทน จ ปริเยสติ. สงฺฆาตุนฺติ สงฺฆริตุํ. ธมฺมลทฺเธหีติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ อโกเปตฺวา ลทฺเธหิ. อุฏฺานาธิคตนฺติ วีริเยน อธิคตํ. อพฺยคฺฆมานโสติ นิพฺพิจิกิจฺฉจิตฺโต. ภทฺทกํ านนฺติ เสฏฺํ เทวฏฺานํ. น โสจตีติ ยสฺมึ าเน อนฺโตโสเกน น โสจติ.

๑๐. อวกุชฺชสุตฺตวณฺณนา

๓๐. ทสเม อวกุชฺชปฺโติ อโธมุขปฺโ. อุจฺฉงฺคปฺโติ อุจฺฉงฺคสทิสปฺโ. ปุถุปฺโติ วิตฺถาริกปฺโ. อาทิกลฺยาณนฺติอาทีสุ อาทีติ ปุพฺพปฏฺปนา. มชฺฌนฺติ กถาเวมชฺฌํ. ปริโยสานนฺติ สนฺนิฏฺานํ. อิติสฺส เต ธมฺมํ กเถนฺตา ปุพฺพปฏฺปเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา กเถนฺติ, เวมชฺเฌปิ ปริโยสาเนปิ. เอตฺถ จ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานานิ, อตฺถิ สาสนสฺส. ตตฺถ เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกคาถาย ปมปทํ อาทิ, ทฺเว ปทานิ มชฺฌํ, อวสานปทํ ปริโยสานํ. เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, อนุสนฺธิ มชฺฌํ, อิทมโวจาติ อปฺปนา ปริโยสานํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส ปโม อนุสนฺธิ อาทิ, ตโต ปรํ เอโก วา อเนเก วา มชฺฌํ, ปจฺฉิโม ปริโยสานํ. อยํ ตาว เทสนาย นโย. สาสนสฺส ปน สีลํ อาทิ, สมาธิ มชฺฌํ, วิปสฺสนา ปริโยสานํ. สมาธิ วา อาทิ, วิปสฺสนา มชฺฌํ, มคฺโค ปริโยสานํ. วิปสฺสนา วา อาทิ, มคฺโค มชฺฌํ, ผลํ ปริโยสานํ. มคฺโค วา อาทิ, ผลํ มชฺฌํ, นิพฺพานํ ปริโยสานํ. ทฺเว ทฺเว วา กยิรมาเน สีลสมาธโย อาทิ, วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ.

สาตฺถนฺติ สาตฺถกํ กตฺวา เทเสนฺติ. สพฺยฺชนนฺติ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา เทเสนฺติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ สกลปริปุณฺณํ อนูนํ กตฺวา เทเสนฺติ. ปริสุทฺธนฺติ ปริสุทฺธํ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺึ กตฺวา เทเสนฺติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺตีติ เอวํ เทเสนฺตา จ เสฏฺจริยภูตํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ปกาเสนฺติ. เนว อาทึ มนสิ กโรตีติ เนว ปุพฺพปฏฺปนํ มนสิ กโรติ.

กุมฺโภติ ฆโฏ. นิกุชฺโชติ อโธมุโข ปิโต. เอวเมว โขติ เอตฺถ กุมฺโภ นิกุชฺโช วิย อวกุชฺชปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ, อุทกาสิฺจนกาโล วิย ธมฺมเทสนาย ลทฺธกาโล, อุทกสฺส วิวฏฺฏนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคเหตุํ อสมตฺถกาโล, อุทกสฺส อสณฺานกาโล วิย วุฏฺหิตฺวา อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ.

อากิณฺณานีติ ปกฺขิตฺตานิ. สติสมฺโมสาย ปกิเรยฺยาติ มุฏฺสฺสติตาย วิกิเรยฺย. เอวเมว โขติ เอตฺถ อุจฺฉงฺโค วิย อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ, นานาขชฺชกานิ วิย นานปฺปการํ พุทฺธวจนํ, อุจฺฉงฺเค นานาขชฺชกานิ ขาทนฺตสฺส นิสินฺนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคณฺหนกาโล, วุฏฺหนฺตสฺส สติสมฺโมสา ปกิรณกาโล วิย ตสฺมา อาสนา วุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ.

อุกฺกุชฺโชติ อุปริมุโข ปิโต. สณฺาตีติ ปติฏฺหติ. เอวเมว โขติ เอตฺถ อุปริมุโข ปิโต กุมฺโภ วิย ปุถุปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ, อุทกสฺส อาสิตฺตกาโล วิย เทสนาย ลทฺธกาโล, อุทกสฺส สณฺานกาโล วิย ตตฺถ นิสินฺนสฺส อุคฺคณฺหนกาโล, โน วิวฏฺฏนกาโล วิย วุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส สลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ.

ทุมฺเมโธติ นิปฺปฺโ. อวิจกฺขโณติ สํวิทหนปฺาย รหิโต. คนฺตาติ คมนสีโล. เสยฺโย เอเตน วุจฺจตีติ เอตสฺมา ปุคฺคลา อุตฺตริตโรติ วุจฺจติ. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโนติ นวโลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุธมฺมํ สห สีเลน ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปฏิปนฺโน. ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส. อนฺตกโร สิยาติ โกฏิกโร ปริจฺเฉทกโร ปริวฏุมกโร ภเวยฺยาติ.

ปุคฺคลวคฺโค ตติโย.

๔. เทวทูตวคฺโค

๑. สพฺรหฺมกสุตฺตวณฺณนา

๓๑. จตุตฺถสฺส ปเม อชฺฌาคาเรติ สเก ฆเร. ปูชิตา โหนฺตีติ ยํ ฆเร อตฺถิ, เตน ปฏิชคฺคิตา โคปิตา โหนฺติ. อิติ มาตาปิตุปูชกานิ กุลานิ มาตาปิตูหิ สพฺรหฺมกานีติ ปกาเสตฺวา อิทานิ เนสํ สปุพฺพาจริยกาทิภาวํ ปกาเสนฺโต สปุพฺพาจริยกานีติอาทิมาห. ตตฺถ พฺรหฺมาติอาทีนิ เตสํ พฺรหฺมาทิภาวสาธนตฺถํ วุตฺตานิ. พหุการาติ ปุตฺตานํ พหูปการา. อาปาทกาติ ชีวิตสฺส อาปาทกา. ปุตฺตกานํ หิ มาตาปิตูหิ ชีวิตํ อาปาทิตํ ปาลิตํ ฆฏิตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติตํ. โปสกาติ หตฺถปาเท วฑฺเฒตฺวา หทยโลหิตํ ปาเยตฺวา โปเสตาโร. อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโรติ ปุตฺตานํ หิ อิมสฺมึ โลเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณสฺส ทสฺสนํ นาม มาตาปิตโร นิสฺสาย ชาตนฺติ อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร นาม.

พฺรหฺมาติ มาตาปิตโรติ เสฏฺาธิวจนํ. ยถา พฺรหฺมุโน จตสฺโส ภาวนา อวิชหิตา โหนฺติ เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขาติ, เอวเมว มาตาปิตูนํ ปุตฺตเกสุ จตสฺโส ภาวนา อวิชหิตา โหนฺติ. ตา ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล เวทิตพฺพา – กุจฺฉิคตสฺมึ หิ ทารเก ‘‘กทา นุ โข ปุตฺตกํ อโรคํ ปริปุณฺณงฺคปจฺจงฺคํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ มาตาปิตูนํ เมตฺตจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปเนส มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก อูกาหิ วา มงฺกุลาทีหิ ปาณเกหิ ทฏฺโ ทุกฺขเสยฺยาย วา ปน ปีฬิโต ปโรทติ วิรวติ, ตทาสฺส สทฺทํ สุตฺวา มาตาปิตูนํ การุฺํ อุปฺปชฺชติ, อาธาวิตฺวา วิธาวิตฺวา กีฬนกาเล ปน โลภนียวยสฺมึ วา ิตกาเล ทารกํ โอโลเกตฺวา มาตาปิตูนํ จิตฺตํ สปฺปิมณฺเฑ ปกฺขิตฺตสตวิหตกปฺปาสปิจุปฏลํ วิย มุทุกํ โหติ อาโมทิตํ ปโมทิตํ, ตทา เตสํ มุทิตา ลพฺภติ. ยทา ปเนส ปุตฺโต ทาราภรณํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ปาฏิเยกฺกํ อคารํ อชฺฌาวสติ, ตทา มาตาปิตูนํ ‘‘สกฺโกติ ทานิ โน ปุตฺตโก อตฺตโน ธมฺมตาย ยาเปตุ’’นฺติ มชฺฌตฺตภาโว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ กาเล อุเปกฺขา ลพฺภตีติ อิมินา การเณน ‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร’’ติ วุตฺตํ.

ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเรติ มาตาปิตโร หิ ชาตกาลโต ปฏฺาย ‘‘เอวํ นิสีท, เอวํ ติฏฺ, เอวํ คจฺฉ, เอวํ สย, เอวํ ขาท, เอวํ ภุฺช, อยํ เต, ตาตาติ วตฺตพฺโพ, อยํ ภาติกาติ, อยํ ภคินีติ, อิทํ นาม กาตุํ วฏฺฏติ, อิทํ น วฏฺฏติ, อสุกํ นาม อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ, อสุกํ น วฏฺฏตี’’ติ คาหาเปนฺติ สิกฺขาเปนฺติ. อถาปรภาเค อฺเ อาจริยา หตฺถิสิปฺปอสฺสสิปฺปรถสิปฺปธนุสิปฺปถรุสิปฺปมุทฺทาคณนาทีนิ สิกฺขาเปนฺติ. อฺโ สรณานิ เทติ, อฺโ สีเลสุ ปติฏฺาเปติ, อฺโ ปพฺพาเชติ, อฺโ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปติ, อฺโ อุปสมฺปาเทติ, อฺโ โสตาปตฺติมคฺคาทีนิ ปาเปติ. อิติ สพฺเพปิ เต ปจฺฉาจริยา นาม โหนฺติ, มาตาปิตโร ปน สพฺพปมา, เตนาห – ‘‘ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร’’ติ. ตตฺถ วุจฺจเรติ วุจฺจนฺติ กถิยนฺติ. อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานนฺติ ปุตฺตานํ อาหุตํ ปาหุตํ อภิสงฺขตํ อนฺนปานาทึ อรหนฺติ, อนุจฺฉวิกา ตํ ปฏิคฺคเหตุํ. ตสฺมา ‘‘อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปชาย อนุกมฺปกาติ ปเรสํ ปาเณ อจฺฉินฺทิตฺวาปิ อตฺตโน ปชํ ปฏิชคฺคนฺติ โคปายนฺติ. ตสฺมา ‘‘ปชาย อนุกมฺปกา’’ติ วุตฺตํ.

นมสฺเสยฺยาติ นโม กเรยฺย. สกฺกเรยฺยาติ สกฺกาเรน ปฏิมาเนยฺย. อิทานิ ตํ สกฺการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนฺเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนฺเนนาติ ยาคุภตฺตขาทนีเยน. ปาเนนาติ อฏฺวิธปาเนน. วตฺเถนาติ นิวาสนปารุปนเกน วตฺเถน. สยเนนาติ มฺจปีานุปฺปทาเนน. อุจฺฉาทเนนาติ ทุคฺคนฺธํ ปฏิวิโนเทตฺวา สุคนฺธกรณุจฺฉาทเนน. นฺหาปเนนาติ สีเต อุณฺโหทเกน, อุณฺเห สีโตทเกน คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา นฺหาปเนน. ปาทานํ โธวเนนาติ อุณฺโหทกสีโตทเกหิ ปาทโธวเนน เจว เตลมกฺขเนน จ. เปจฺจาติ ปรโลกํ คนฺตฺวา. สคฺเค ปโมทตีติ อิธ ตาว มาตาปิตูสุ ปาริจริยํ ทิสฺวา ปาริจริยการณา ตํ ปณฺฑิตมนุสฺสา อิเธว ปสํสนฺติ, ปรโลกํ ปน คนฺตฺวา สคฺเค ิโต โส มาตาปิตุอุปฏฺาโก ทิพฺพสมฺปตฺตีหิ อาโมทติ ปโมทตีติ.

๒. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๓๒. ทุติเย ตถารูโปติ ตถาชาติโก. สมาธิปฏิลาโภติ จิตฺเตกคฺคตาลาโภ. อิมสฺมึ จ สวิฺาณเกติ เอตฺถ อตฺตโน จ ปรสฺส จาติ อุภเยสมฺปิ กาโย สวิฺาณกฏฺเน เอกโต กตฺวา อิมสฺมินฺติ วุตฺโต. อหงฺการมมงฺการมานานุสยาติ อหงฺการทิฏฺิ จ มมงฺการตณฺหา จ มานานุสโย จาติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กิเลสา. นาสฺสูติ น ภเวยฺยุํ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสูติ รูปนิมิตฺตํ, สทฺทนิมิตฺตํ, คนฺธนิมิตฺตํ, รสนิมิตฺตํ, โผฏฺพฺพนิมิตฺตํ, สสฺสตาทินิมิตฺตํ, ปุคฺคลนิมิตฺตํ ธมฺมนิมิตฺตนฺติ เอวรูเปสุ จ พหิทฺธา สพฺพนิมิตฺเตสุ. เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธิฺเจว ผลาณฺจ. สิยาติ ภเวยฺย.

อิธานนฺท, ภิกฺขุโนติ, อานนฺท, อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุโน. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ นิพฺพานํ ทสฺเสนฺโต อาห. นิพฺพานํ หิ กิเลสานํ สนฺตตาย สนฺตํ นาม, นิพฺพานํ สนฺตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวาว ทิวสมฺปิ นิสินฺนสฺส จิตฺตุปฺปาโท สนฺตนฺเตว ปวตฺตตีติปิ สนฺตํ. ปณีตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺสาปิ จิตฺตุปฺปาโท ปณีตนฺเตว ปวตฺตตีติ นิพฺพานํ ปณีตํ นาม. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส หิ ทิวสภาคมฺปิ จิตฺตุปฺปาโท สพฺพสงฺขารสมโถเตว ปวตฺตติ…เป… ตถา ตีสุ ภเวสุ วานสงฺขาตาย ตณฺหาย อภาเวน นิพฺพานนฺติ ลทฺธนาเม ตสฺมึ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส จิตฺตุปฺปาโท นิพฺพานํ นิพฺพานนฺเตว ปวตฺตตีติ สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิ นามานิ ลภติ. อิมสฺมึ ปน อฏฺวิเธ อาโภคสมนฺนาหาเร อิมสฺมึ าเน เอโกปิ ลพฺภติ, ทฺเวปิ สพฺเพปิ ลพฺภนฺเตว.

สงฺขายาติ าเณน ชานิตฺวา. ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอปรานิ จ. ปรอตฺตภาวสกอตฺตภาวานิ หิ ปรานิ จ โอปรานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺสาติ ยสฺส อรหโต. อิฺชิตนฺติ ราคิฺชิตํ โทสโมหมานทิฏฺิกิเลสทุจฺจริติฺชิตนฺติ อิมานิ สตฺต อิฺชิตานิ จลิตานิ ผนฺทิตานิ. นตฺถิ กุหิฺจีติ กตฺถจิ เอการมฺมเณปิ นตฺถิ. สนฺโตติ ปจฺจนีกกิเลสานํ สนฺตตาย สนฺโต. วิธูโมติ กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโต. อนีโฆติ ราคาทิอีฆวิรหิโต. นิราโสติ นิตฺตณฺโห. อตารีติ ติณฺโณ อุตฺติณฺโณ สมติกฺกนฺโต. โสติ โส อรหํ ขีณาสโว. ชาติชรนฺติ เอตฺถ ชาติชราคหเณเนว พฺยาธิมรณมฺปิ คหิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. อิติ สุตฺตนฺเตปิ คาถายปิ อรหตฺตผลสมาปตฺติเยว กถิตาติ.

๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

๓๓. ตติเย สํขิตฺเตนาติ มาติกาปเนน. วิตฺถาเรนาติ ปิตมาติกาวิภชเนน. สํขิตฺตวิตฺถาเรนาติ กาเล สํขิตฺเตน กาเล วิตฺถาเรน. อฺาตาโร จ ทุลฺลภาติ ปฏิวิชฺฌนกปุคฺคลา ปน ทุลฺลภา. อิทํ ภควา ‘‘สาริปุตฺตตฺเถรสฺส าณํ ฆฏฺเฏมี’’ติ อธิปฺปาเยน กเถสิ. ตํ สุตฺวา เถโร กิฺจาปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อาชานิสฺสามี’’ติ น วทติ, อธิปฺปาเยน ปน ‘‘วิสฺสตฺถา ตุมฺเห, ภนฺเต, เทเสถ, อหํ ตุมฺเหหิ เทสิตํ ธมฺมํ นยสเตน นยสหสฺเสน ปฏิวิชฺฌิสฺสามิ, มเมส ภาโร โหตู’’ติ สตฺถารํ เทสนาย อุสฺสาเหนฺโต เอตสฺส ภควา กาโลติอาทิมาห.

อถสฺส สตฺถา ตสฺมาติหาติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเกติอาทิ วุตฺตนยเมว. อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหนฺติ มคฺคาณสตฺเถน ตณฺหํ ฉินฺทิ. วิวตฺตยิ สํโยชนนฺติ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ สมูลกํ อุพฺพตฺเตตฺวา ฉฑฺเฑสิ. สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสาติ สมฺมา อุปาเยน สมฺมา ปฏิปตฺติยา นววิธสฺส มานสฺส ปหานาภิสมเยน วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตมกาสิ. อิทฺจ ปน เมตํ, สาริปุตฺต, สนฺธาย ภาสิตนฺติ, สาริปุตฺต, มยา ปารายเน อุทยปฺเห อิทํ ผลสมาปตฺติเมว สนฺธาย เอตํ ภาสิตํ.

อิทานิ ยํ ตํ ภควตา ภาสิตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ปหานํ กามสฺานนฺติอาทิ อารทฺธํ. อุทยปฺเห จ เอตํ ปทํ ‘‘ปหานํ กามจฺฉนฺทาน’’นฺติ (สุ. นิ. ๑๑๑๒; จูฬนิ. อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๗๕) อาคตํ, อิธ ปน องฺคุตฺตรภาณเกหิ ‘‘กามสฺาน’’นฺติ อาโรปิตํ. ตตฺถ พฺยฺชนเมว นานํ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. กามสฺานนฺติ กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺนสฺานํ, อฏฺหิ วา โลภสหคตจิตฺเตหิ สหชาตสฺานํ. โทมนสฺสาน จูภยนฺติ เอตาสฺจ กามสฺานํ เจตสิกโทมนสฺสานฺจาติ อุภินฺนมฺปิ ปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานสงฺขาตํ อรหตฺตผลํ อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมีติ อตฺโถ. นิทฺเทเส ปน ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส จ โทมนสฺสสฺส จ อุภินฺนํ ปหานํ วูปสมํ ปฏินิสฺสคฺคํ ปฏิปฺปสฺสทฺธึ อมตํ นิพฺพาน’’นฺติ (จูฬนิ. อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๗๕) วุตฺตํ, ตํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. ปหานนฺติ หิ ขีณาการสงฺขาโต วูปสโมปิ วุจฺจติ, กิเลเส ปฏินิสฺสชฺชนฺโต มคฺโคปิ, กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิสงฺขาตํ ผลมฺปิ, ยํ อาคมฺม กิเลสา ปหียนฺติ, ตํ อมตํ นิพฺพานมฺปิ. ตสฺมา ตตฺถ ตานิ ปทานิ อาคตานิ. ‘‘อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมี’’ติ วจนโต ปน อรหตฺตผลเมว อธิปฺเปตํ. ถินสฺส จ ปนูทนนฺติปิ ถินสฺส จ ปนูทนนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อรหตฺตผลเมว อธิปฺเปตํ. กุกฺกุจฺจานํ นิวารณนฺติ กุกฺกุจฺจนิวารณสฺส มคฺคสฺส อนนฺตรํ อุปฺปนฺนตฺตา ผลเมว อธิปฺเปตํ.

อุเปกฺขาสติสํสุทฺธนฺติ จตุตฺถชฺฌานิเก ผเล อุปฺปนฺนาย อุเปกฺขาย จ สติยา จ สํสุทฺธํ. ธมฺมตกฺกปุเรชวนฺติ ธมฺมตกฺโก วุจฺจติ สมฺมาสงฺกปฺโป, โส อาทิโต โหติ, ปุรโต โหติ, ปุพฺพงฺคโม โหติ อฺาวิโมกฺขสฺสาติ ธมฺมตกฺกปุเรชโว. ตํ ธมฺมตกฺกปุเรชวํ. อฺาวิโมกฺขนฺติ อฺินฺทฺริยปริโยสาเน อุปฺปนฺนํ วิโมกฺขํ, อฺาย วา วิโมกฺขํ อฺาวิโมกฺขํ, ปฺาวิมุตฺตนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชาย ปเภทนนฺติ อวิชฺชาย ปเภทนนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา, อวิชฺชาย ปเภทนสงฺขาตํ วา นิพฺพานํ อารพฺภ อุปฺปนฺนตฺตา เอวํลทฺธนามํ อรหตฺตผลเมว. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปหานนฺติอาทีหิ ปเทหิ อรหตฺตผลเมว ปกาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๔. นิทานสุตฺตวณฺณนา

๓๔. จตุตฺเถ นิทานานีติ การณานิ. กมฺมานนฺติ วฏฺฏคามิกมฺมานํ. โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายาติ ลุพฺภนปลุพฺภนสภาโว โลโภ วฏฺฏคามิกมฺมานํ สมุทยาย ปิณฺฑกรณตฺถาย นิทานํ การณํ ปจฺจโยติ อตฺโถ. โทโสติ ทุสฺสนปทุสฺสนสภาโว โทโส. โมโหติ มุยฺหนปมุยฺหนสภาโว โมโห.

โลภปกตนฺติ โลเภน ปกตํ, โลภาภิภูเตน ลุทฺเธน หุตฺวา กตกมฺมนฺติ อตฺโถ. โลภโต ชาตนฺติ โลภชํ. โลโภ นิทานมสฺสาติ โลภนิทานํ. โลโภ สมุทโย อสฺสาติ โลภสมุทยํ. สมุทโยติ ปจฺจโย, โลภปจฺจยนฺติ อตฺโถ. ยตฺถสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตตีติ ยสฺมึ าเน อสฺส โลภชกมฺมวโต ปุคฺคลสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตติ, ขนฺธา ปาตุภวนฺติ. ตตฺถ ตํ กมฺมํ วิปจฺจตีติ เตสุ ขนฺเธสุ ตํ กมฺมํ วิปจฺจติ. ทิฏฺเ วา ธมฺเมติอาทิ ยสฺมา ตํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา โหติ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา, ตสฺมา ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย.

อขณฺฑานีติ อภินฺนานิ. อปูตีนีติ ปูติภาเวน อพีชตฺตํ อปฺปตฺตานิ. อวาตาตปหตานีติ น วาเตน น จ อาตเปน หตานิ. สาราทานีติ คหิตสารานิ สารวนฺตานิ น นิสฺสารานิ. สุขสยิตานีติ สนฺนิจยภาเวน สุขํ สยิตานิ. สุเขตฺเตติ มณฺฑเขตฺเต. สุปริกมฺมกตาย ภูมิยาติ นงฺคลกสเนน เจว อฏฺทนฺตเกน จ สุฏฺุ ปริกมฺมกตาย เขตฺตภูมิยา. นิกฺขิตฺตานีติ ปิตานิ โรปิตานิ. อนุปฺปเวจฺเฉยฺยาติ อนุปฺปเวเสยฺย. วุทฺธินฺติอาทีสุ อุทฺธคฺคมเนน วุทฺธึ, เหฏฺา มูลปฺปติฏฺาเนน วิรูฬฺหึ, สมนฺตา วิตฺถาริกภาเวน เวปุลฺลํ.

ยํ ปเนตฺถ ทิฏฺเ วา ธมฺเมติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ อสมฺโมหตฺถํ อิมสฺมึ าเน กมฺมวิภตฺติ นาม กเถตพฺพา. สุตฺตนฺติกปริยาเยน หิ เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถิทํ – ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียํ, ยคฺครุกํ ยพฺพหุลํ ยทาสนฺนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ, ชนกํ อุปตฺถมฺภกํ อุปปีฬกํ อุปฆาตกนฺติ. ตตฺถ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ กากวฬิยปุณฺณเสฏฺีนํ วิย กุสลํ, นนฺทยกฺขนนฺทมาณวกนนฺทโคฆาตกโกกาลิยสุปฺปพุทฺธเทวทตฺตจิฺจมาณวิกานํ วิย จ อกุสลํ. ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ, อวิปากํ สมฺปชฺชติ. ตํ มิคลุทฺทโกปมาย สาเธตพฺพํ. ยถา หิ มิคลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา ธนุํ อากฑฺฒิตฺวา ขิตฺโต สโร สเจ น วิรชฺฌติ, ตํ มิคํ ตตฺเถว ปาเตติ, อถ นํ มิคลุทฺทโก นิจฺจมฺมํ กตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉตฺวา มํสํ อาทาย ปุตฺตทารํ โตเสนฺโต คจฺฉติ. สเจ ปน วิรชฺฌติ, มิโค ปลายิตฺวา ปุน ตํ ทิสํ น โอโลเกติ. เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. สรสฺส อวิรชฺฌิตฺวา มิควิชฺฌนํ วิย หิ ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส กมฺมสฺส วิปากวารปฏิลาโภ, อวิชฺฌนํ วิย อวิปากภาวาย สมฺปชฺชนนฺติ.

อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตํ ปเนตํ กุสลปกฺเข อฏฺสมาปตฺติวเสน, อกุสลปกฺเข ปฺจานนฺตริยกมฺมวเสน เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อฏฺสมาปตฺติลาภี เอกาย สมาปตฺติยา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. ปฺจนฺนมฺปิ อานนฺตริยานํ กตฺตา เอเกน กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตติ, เสสสมาปตฺติโย จ กมฺมานิ จ อโหสิกมฺมภาวํเยว อาปชฺชนฺติ, อวิปากานิ โหนฺติ. อยมฺปิ อตฺโถ ปุริมอุปมายเยว ทีเปตพฺโพ.

อุภินฺนํ อนฺตเร ปน ปฺจชวนเจตนา อปรปริยายเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ. ตํ สพฺพํ สุนขลุทฺทเกน ทีเปตพฺพํ. ยถา หิ สุนขลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา สุนโข วิสฺสชฺชิโต มิคํ อนุพนฺธิตฺวา ยสฺมึ าเน ปาปุณาติ, ตสฺมึ เยว ฑํสติ; เอวเมวํ อิทํ กมฺมํ ยสฺมึ าเน โอกาสํ ลภติ, ตสฺมึเยว วิปากํ เทติ, เตน มุตฺโต สตฺโต นาม นตฺถิ.

กุสลากุสเลสุ ปน ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ โหติ, ตํ ยคฺครุกํ นาม. ตเทตํ กุสลปกฺเข มหคฺคตกมฺมํ, อกุสลปกฺเข ปฺจานนฺตริยกมฺมํ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ สติ เสสานิ กุสลานิ วา อกุสลานิ วา วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตเทว ทุวิธมฺปิ ปฏิสนฺธึ เทติ. ยถา หิ สาสปปฺปมาณาปิ สกฺขรา วา อยคุฬิกา วา อุทกรหเท ปกฺขิตฺตา อุทกปิฏฺเ อุปฺลวิตุํ น สกฺโกติ, เหฏฺาว ปวิสติ; เอวเมว กุสเลปิ อกุสเลปิ ยํ ครุกํ, ตเทว คณฺหิตฺวา คจฺฉติ.

กุสลากุสเลสุ ปน ยํ พหุลํ โหติ, ตํ ยพฺพหุลํ นาม. ตํ ทีฆรตฺตํ ลทฺธาเสวนวเสน เวทิตพฺพํ. ยํ วา พลวกุสลกมฺเมสุ โสมนสฺสกรํ, อกุสลกมฺเมสุ สนฺตาปกรํ, เอตํ ยพฺพหุลํ นาม. ตเทตํ ยถา นาม ทฺวีสุ มลฺเลสุ ยุทฺธภูมึ โอติณฺเณสุ โย พลวา, โส อิตรํ ปาเตตฺวา คจฺฉติ; เอวเมว อิตรํ ทุพฺพลกมฺมํ อวตฺถริตฺวา ยํ อาเสวนวเสน วา พหุลํ, อาสนฺนวเสน วา พลวํ, ตํ วิปากํ เทติ, ทุฏฺคามณิอภยรฺโ กมฺมํ วิย.

โส กิร จูฬงฺคณิยยุทฺเธ ปราชิโต วฬวํ อารุยฺห ปลายิ. ตสฺส จูฬุปฏฺาโก ติสฺสามจฺโจ นาม เอกโกว ปจฺฉโต อโหสิ. โส เอกํ อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน ชิฆจฺฉาย พาธยมานาย – ‘‘ภาติก ติสฺส, อติวิย โน ชิฆจฺฉา พาธติ, กึ กริสฺสามา’’ติ อาห. อตฺถิ, เทว, มยา สาฏกนฺตเร เปตฺวา เอกํ สุวณฺณสรกภตฺตํ อาภตนฺติ. เตน หิ อาหราติ. โส นีหริตฺวา รฺโ ปุรโต เปสิ. ราชา ทิสฺวา, ‘‘ตาต, จตฺตาโร โกฏฺาเส กโรหี’’ติ อาห. มยํ ตโย ชนา, กสฺมา เทโว จตฺตาโร โกฏฺาเส การยตีติ? ภาติก ติสฺส, ยโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, น เม อยฺยานํ อทตฺวา อาหาโร ปริภุตฺตปุพฺโพ อตฺถิ, สฺวาหํ อชฺชปิ อทตฺวา น ปริภุฺชิสฺสามีติ. โส จตฺตาโร โกฏฺาเส อกาสิ. ราชา ‘‘กาลํ โฆเสหี’’ติ อาห. ฉฑฺฑิตารฺเ กุโต, อยฺเย, ลภิสฺสาม เทวาติ. ‘‘นายํ ตว ภาโร. สเจ มม สทฺธา อตฺถิ, อยฺเย, ลภิสฺสาม, วิสฺสตฺโถ กาลํ โฆเสหี’’ติ อาห. โส ‘‘กาโล, ภนฺเต, กาโล, ภนฺเต’’ติ ติกฺขตฺตุํ โฆเสสิ.

อถสฺส โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถโร ตํ สทฺทํ ทิพฺพาย โสตธาตุยา สุตฺวา ‘กตฺถายํ สทฺโท’ติ ตํ อาวชฺเชนฺโต ‘‘อชฺช ทุฏฺคามณิอภยมหาราชา ยุทฺธปราชิโต อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กาเรตฺวา ‘เอกโกว น ปริภุฺชิสฺสามี’ติ กาลํ โฆสาเปสี’’ติ ตฺวา ‘‘อชฺช มยา รฺโ สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ มโนคติยา อาคนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อฏฺาสิ. ราชา ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘ปสฺส, ภาติก, ติสฺสา’’ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ปตฺตํ, ภนฺเต, เทถา’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ นีหริ. ราชา อตฺตโน โกฏฺาเสน สทฺธึ เถรสฺส โกฏฺาสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อาหารปริสฺสโย นาม มา กทาจิ โหตู’’ติ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. ติสฺสามจฺโจปิ ‘‘มม อยฺยปุตฺเต ปสฺสนฺเต ภุฺชิตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ อตฺตโน โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต อากิริ. วฬวาปิ จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหมฺปิ โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา วฬวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยมฺปิ อตฺตโน โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต ปกฺขิปนํ ปจฺจาสีสตี’’ติ ตฺวา ตมฺปิ ตตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. เถโร ตํ ภตฺตํ อาทาย คนฺตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโลปสงฺเขเปน อทาสิ.

ราชาปิ จินฺเตสิ – ‘‘อติวิยมฺหา ชิฆจฺฉิตา, สาธุ วตสฺส สเจ อติเรกภตฺตสิตฺถานิ ปหิเณยฺยา’’ติ. เถโร รฺโ จิตฺตํ ตฺวา อติเรกภตฺตํ เอเตสํ ยาปนมตฺตํ กตฺวา ปตฺตํ อากาเส ขิปิ, ปตฺโต อาคนฺตฺวา รฺโ หตฺเถ ปติฏฺาสิ. ภตฺตํ ติณฺณมฺปิ ชนานํ ยาวทตฺถํ อโหสิ. อถ ราชา ปตฺตํ โธวิตฺวา ‘‘ตุจฺฉปตฺตํ น เปสิสฺสามี’’ติ อุตฺตริสาฏกํ โมเจตฺวา อุทกํ ปุฺฉิตฺวา สาฏกํ ปตฺเต เปตฺวา ‘‘ปตฺโต คนฺตฺวา มม อยฺยสฺส หตฺเถ ปติฏฺาตู’’ติ อากาเส ขิปิ. ปตฺโต คนฺตฺวา เถรสฺส หตฺเถ ปติฏฺาสิ.

อปรภาเค รฺโ ตถาคตสฺส สรีรธาตูนํ อฏฺมภาคํ ปติฏฺาเปตฺวา วีสรตนสติกํ มหาเจติยํ กาเรนฺตสฺส อปรินิฏฺิเตเยว เจติเย กาลกิริยาสมโย อนุปฺปตฺโต. อถสฺส มหาเจติยสฺส ทกฺขิณปสฺเส นิปนฺนสฺส ปฺจนิกายวเสน ภิกฺขุสงฺเฆ สชฺฌายํ กโรนฺเต ฉหิ เทวโลเกหิ ฉ รถา อาคนฺตฺวา ปุรโต อากาเส อฏฺํสุ. ราชา ‘‘ปุฺโปตฺถกํ อาหรถา’’ติ อาทิโต ปฏฺาย ปุฺโปตฺถกํ วาจาเปสิ. อถ นํ กิฺจิ กมฺมํ น ปริโตเสสิ. โส ‘‘ปรโต วาเจถา’’ติ อาห. โปตฺถกวาจโก ‘‘จูฬงฺคณิยยุทฺเธ ปราชิเตน เต เทว อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺเนน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กาเรตฺวา โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถรสฺส ภิกฺขา ทินฺนา’’ติ อาห. ราชา ‘‘เปหี’’ติ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ, ‘‘ภนฺเต, กตโร เทวโลโก รมณีโย’’ติ? สพฺพโพธิสตฺตานํ วสนฏฺานํ ตุสิตภวนํ มหาราชาติ. ราชา กาลํ กตฺวา ตุสิตภวนโต อาคตรเถว ปติฏฺาย ตุสิตภวนํ อคมาสิ. อิทํ พลวกมฺมสฺส วิปากทาเน วตฺถุ.

ยํ ปน กุสลากุสเลสุ อาสนฺนมรเณ อนุสฺสริตุํ สกฺโกติ, ตํ ยทาสนฺนํ นาม. ตเทตํ ยถา นาม โคคณปริปุณฺณสฺส วชสฺส ทฺวาเร วิวเฏ ปรภาเค ทมฺมควพลวคเวสุ สนฺเตสุปิ โย วชทฺวารสฺส อาสนฺโน โหติ อนฺตมโส ทุพฺพลชรคฺคโวปิ, โส เอว ปมตรํ นิกฺขมติ, เอวเมว อฺเสุ กุสลากุสเลสุ สนฺเตสุปิ มรณกาลสฺส อาสนฺนตฺตา วิปากํ เทติ.

ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – มธุองฺคณคาเม กิร เอโก ทมิฬโทวาริโก ปาโตว พฬิสํ อาทาย คนฺตฺวา มจฺเฉ วธิตฺวา ตโย โกฏฺาเส กตฺวา เอเกน ตณฺฑุลํ คณฺหาติ, เอเกน ทธึ, เอกํ ปจติ. อิมินา นีหาเรน ปฺาส วสฺสานิ ปาณาติปาตกมฺมํ กตฺวา อปรภาเค มหลฺลโก อนุฏฺานเสยฺยํ อุปคจฺฉติ. ตสฺมึ ขเณ คิริวิหารวาสี จูฬปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถโร ‘‘มา อยํ สตฺโต มยิ ปสฺสนฺเต นสฺสตู’’ติ คนฺตฺวา ตสฺส เคหทฺวาเร อฏฺาสิ. อถสฺส ภริยา, ‘‘สามิ, เถโร อาคโต’’ติ อาโรเจสิ. อหํ ปฺาส วสฺสานิ เถรสฺส สนฺติกํ น คตปุพฺโพ, กตเรน เม คุเณน เถโร อาคมิสฺสติ, คจฺฉาติ นํ วทถาติ. สา ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ‘‘อุปาสกสฺส กา สรีรปฺปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ทุพฺพโล, ภนฺเตติ. เถโร ฆรํ ปวิสิตฺวา สตึ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สีลํ คณฺหิสฺสสี’’ติ อาห. อาม, ภนฺเต, เทถาติ. เถโร ตีณิ สรณานิ ทตฺวา ปฺจ สีลานิ ทาตุํ อารภิ. ตสฺส ปฺจ สีลานีติ วจนกาเลเยว ชิวฺหา ปปติ. เถโร ‘‘วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตก’’นฺติ นิกฺขมิตฺวา คโต. โสปิ กาลํ กตฺวา จาตุมหาราชิกภวเน นิพฺพตฺติ. นิพฺพตฺตกฺขเณเยว จ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา มยา อิทํ ลทฺธ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต เถรํ นิสฺสาย ลทฺธภาวํ ตฺวา เทวโลกโต อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ‘‘โก เอโส’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อหํ, ภนฺเต, ทมิฬโทวาริโก’’ติ อาห. กุหึ นิพฺพตฺโตสีติ? จาตุมหาราชิเกสุ, ภนฺเต, สเจ เม อยฺโย ปฺจ สีลานิ อทสฺส, อุปริ เทวโลเก นิพฺพตฺโต อสฺสํ. อหํ กึ กริสฺสามิ, ตฺวํ คณฺหิตุํ นาสกฺขิ, ปุตฺตกาติ. โส เถรํ วนฺทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. อิทํ ตาว กุสลกมฺเม วตฺถุ.

อนฺตรคงฺคาย ปน มหาวาจกาลอุปาสโก นาม อโหสิ. โส ตึส วสฺสานิ โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายิตฺวา ‘‘อหํ เอวํ ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺโต โอภาสมตฺตมฺปิ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึ, พุทฺธสาสนํ อนิยฺยานิกํ ภวิสฺสตี’’ติ ทิฏฺิวิปลฺลาสํ ปตฺวา กาลกิริยํ กตฺวา มหาคงฺคาย นวอุสภิโก สุสุมารเปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เอกํ สมยํ กจฺฉกติตฺเถน สฏฺิ ปาสาณตฺถมฺภสกฏานิ อคมํสุ. โส สพฺเพปิ เต โคเณ จ ปาสาเณ จ ขาทิ. อิทํ อกุสลกมฺเม วตฺถุ.

เอเตหิ ปน ตีหิ มุตฺตํ อฺาณวเสน กตํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ นาม. ตํ ยถา นาม อุมฺมตฺตเกน ขิตฺตทณฺฑํ ยตฺถ วา ตตฺถ วา คจฺฉติ, เอวเมว เตสํ อภาเว ยตฺถ กตฺถจิ วิปากํ เทติ.

ชนกํ นาม เอกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา ปวตฺตึ น ชเนติ, ปวตฺเต อฺํ กมฺมํ วิปากํ นิพฺพตฺเตติ. ยถา หิ มาตา ชเนติเยว, ธาติเยว ปน ชคฺคติ; เอวเมวํ มาตา วิย ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ ชนกกมฺมํ, ธาติ วิย ปวตฺเต สมฺปตฺตกมฺมํ. อุปตฺถมฺภกํ นาม กุสเลปิ ลพฺภติ อกุสเลปิ. เอกจฺโจ หิ กุสลํ กตฺวา สุคติภเว นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ ิโต ปุนปฺปุนํ กุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อเนกานิ วสฺสสตสหสฺสานิ สุคติภวสฺมึเยว วิจรติ. เอกจฺโจ อกุสลํ กตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ ิโต ปุนปฺปุนํ อกุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ทุคฺคติภวสฺมึเยว วิจรติ.

อปโร นโย – ชนกํ นาม กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ. ตํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากกฺขนฺเธ ชเนติ. อุปตฺถมฺภกํ ปน วิปากํ ชเนตุํ น สกฺโกติ, อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติ. อุปปีฬกํ นาม อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาเธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทติ. ตตฺรายํ นโย – กุสลกมฺเม วิปจฺจมาเน อกุสลกมฺมํ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ. อกุสลกมฺเม วิปจฺจมาเน กุสลกมฺมํ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ. ยถา วฑฺฒมานกํ รุกฺขํ วา คจฺฉํ วา ลตํ วา โกจิเทว ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา ภินฺเทยฺย วา ฉินฺเทยฺย วา, อถ โส รุกฺโข วา คจฺโฉ วา ลตา วา วฑฺฒิตุํ น สกฺกุเณยฺย; เอวเมวํ กุสลํ วิปจฺจมานํ อกุสเลน อุปปีฬิตํ, อกุสลํ วา ปน วิปจฺจมานํ กุสเลน อุปปีฬิตํ วิปจฺจิตุํ น สกฺโกติ. ตตฺถ สุนกฺขตฺตสฺส อกุสลกมฺมํ กุสลํ อุปปีเฬสิ, โจรฆาตกสฺส กุสลกมฺมํ อกุสลํ อุปปีเฬสิ.

ราชคเห กิร วาตกาฬโก ปฺาส วสฺสานิ โจรฆาตกมฺมํ อกาสิ. อถ นํ รฺโ อาโรเจสุํ – ‘‘เทว, วาตกาฬโก มหลฺลโก โจเร ฆาเตตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ‘‘อปเนถ นํ ตสฺมา านนฺตราติ. อมจฺจา นํ อปเนตฺวา อฺํ ตสฺมึ าเน ปยึสุ. วาตกาฬโกปิ ยาว ตํ กมฺมํ อกาสิ, ตาว อหตวตฺถานิ วา อจฺฉาทิตุํ สุรภิปุปฺผานิ วา ปิฬนฺธิตุํ ปายาสํ วา ภุฺชิตุํ อุจฺฉาทนนฺหาปนํ วา ปจฺจนุโภตุํ นาลตฺถ. โส ‘‘ทีฆรตฺตํ เม กิลิฏฺเวเสน จริต’’นฺติ ‘‘ปายาสํ เม ปจาหี’’ติ ภริยํ อาณาเปตฺวา นฺหานียสมฺภารานิ คาหาเปตฺวา นฺหานติตฺถํ คนฺตฺวา สีสํ นฺหตฺวา อหตวตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา คนฺเธ วิลิมฺปิตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา ฆรํ อาคจฺฉนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรํ ทิสฺวา ‘‘สํกิลิฏฺกมฺมโต จมฺหิ อปคโต, อยฺโย จ เม ทิฏฺโ’’ติ ตุฏฺมานโส เถรํ ฆรํ เนตฺวา นวสปฺปิสกฺกรจุณฺณาภิสงฺขเตน ปายาเสน ปริวิสิ. เถโร ตสฺส อนุโมทนมกาสิ. โส อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺตมาโน อนฺตรามคฺเค ตรุณวจฺฉาย คาวิยา มทฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปิโต คนฺตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ภิกฺขู ตถาคตํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, โจรฆาตโก อชฺเชว กิลิฏฺกมฺมโต อปนีโต, อชฺเชว กาลงฺกโต, กหํ นุ โข นิพฺพตฺโต’’ติ? ตาวตึสภวเน, ภิกฺขเวติ. ภนฺเต, โจรฆาตโก ทีฆรตฺตํ ปุริเส ฆาเตสิ, ตุมฺเห จ เอวํ วเทถ, นตฺถิ นุ โข ปาปกมฺมสฺส ผลนฺติ. มา, ภิกฺขเว, เอวํ อวจุตฺถ, พลวกลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ธมฺมเสนาปติสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา โส ตตฺถ นิพฺพตฺโตติ.

‘‘สุภาสิตํ สุณิตฺวาน, นาคริโย โจรฆาตโก;

อนุโลมขนฺตึ ลทฺธาน, โมทตี ติทิวํ คโต’’ติ.

อุปฆาตกํ ปน สยํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อฺํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจติ. อุปจฺเฉทกนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ตตฺรายํ นโย – กุสลกมฺมสฺส วิปจฺจนกาเล เอกํ อกุสลกมฺมํ อุฏฺาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อกุสลกมฺมสฺสปิ วิปจฺจนกาเล เอกํ กุสลกมฺมํ อุฏฺาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อิทํ อุปจฺเฉทกํ นาม. ตตฺถ อชาตสตฺตุโน กมฺมํ กุสลจฺเฉทกํ อโหสิ, องฺคุลิมาลตฺเถรสฺส อกุสลจฺเฉทกนฺติ. เอวํ สุตฺตนฺติกปริยาเยน เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.

อภิธมฺมปริยาเยน ปน โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ กาลสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺตึ, กาลวิปตฺตึ, ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺติ, กาลวิปตฺติ, ปโยควิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิสมฺปตฺตึ, กาลสมฺปตฺตึ, ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตี’’ติ (วิภ. ๘๑๐).

ตตฺถ ปาปกานีติ ลามกานิ. กมฺมสมาทานานีติ กมฺมคฺคหณานิ. คหิตสมาทินฺนานํ กมฺมานเมตํ อธิวจนํ. คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติอาทีสุ อนิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยว สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. คติสมฺปตฺติยา ปติพาหิตํ หุตฺวา น วิปจฺจตีติ อตฺโถ. โย ปน ปาปกมฺเมน ทาสิยา วา กมฺมการิยา วา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปนฺโน โหติ, อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ติฏฺติ. อถสฺส สามิกา ตสฺส รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘นายํ กิลิฏฺกมฺมสฺสานุจฺฉวิโก’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อตฺตโน ชาตปุตฺตํ วิย ภณฺฑาคาริกาทิฏฺาเนสุ เปตฺวา สมฺปตฺตึ โยเชตฺวา ปริหรนฺติ. เอวรูปสฺส กมฺมํ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปมกปฺปิกกาลสทิเส สุลภสมฺปนฺนรสโภชเน สุภิกฺขกาเล นิพฺพตฺตติ, ตสฺส วิชฺชมานมฺปิ ปาปกมฺมํ กาลสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน สมฺมาปโยคํ นิสฺสาย ชีวติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมติ, ปฏิกฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล ปฏิกฺกมติ, ปลายิตพฺพยุตฺตกาเล ปลายติ. ลฺชทานยุตฺตกาเล ลฺชํ เทติ, โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ กโรติ, เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม.

ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ปน ปาปกมฺมํ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทาสิยา วา กมฺมการิยา วา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโต ทุพฺพณฺโณ โหติ ทุสฺสณฺาโน, ‘‘ยกฺโข นุ โข มนุสฺโส นุ โข’’ติ วิมตึ อุปฺปาเทติ. โส สเจ ปุริโส โหติ, อถ นํ ‘‘นายํ อฺสฺส กมฺมสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ หตฺถึ วา รกฺขาเปนฺติ อสฺสํ วา โคเณ วา, ติณกฏฺาทีนิ วา อาหราเปนฺติ, เขฬสรกํ วา คณฺหาเปนฺติ. สเจ อิตฺถี โหติ, อถ นํ หตฺถิอสฺสาทีนํ ภตฺตมาสาทีนิ วา ปจาเปนฺติ, กจวรํ วา ฉฑฺฑาเปนฺติ, อฺํ วา ปน ชิคุจฺฉนียกมฺมํ กาเรนฺติ. เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ อุปธิวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ กาลวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมิตุํ น ชานาติ…เป… โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ กาตุํ น ชานาติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม.

โย ปน อิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยว คนฺตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กมฺมํ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปุฺานุภาเวน ราชราชมหามตฺตาทีนํ เคเห นิพฺพตฺติตฺวา กาโณ วา โหติ กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, ตสฺส โอปรชฺชเสนาปติภณฺฑาคาริกฏฺานาทีนิ น อนุจฺฉวิกานีติ น เทนฺติ. อิจฺจสฺส ตํ ปุฺํ อุปธิวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กลฺยาณกมฺมํ กาลวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ ปโยควิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม.

กลฺยาณกมฺเมน ปน สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. ราชราชมหามตฺตาทีนํ กุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปตฺตึ ปตฺตสฺส อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ิตสฺส เทวนคเร สมุสฺสิตรตนโตรณสทิสํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส โอปรชฺชเสนาปติภณฺฑาคาริกฏฺานาทีนิ อนุจฺฉวิกานี’’ติ ทหรสฺเสว สโต ตานิ านนฺตรานิ เทนฺติ, เอวรูปสฺส กลฺยาณกมฺมํ อุปธิสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปมกปฺปิเกสุ วา สุลภนฺนปานกาเล วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ กาลสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ ชานาติ, ตสฺส กมฺมํ ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. เอวํ อภิธมฺมปริยาเยน โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.

อปรานิปิ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔).

ตตฺถ ยํ กมฺมํ อตีเต อายูหิตํ อตีเตเยว วิปากวารํ ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนสิ, รูปชนกํ รูปํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ เอตรหิ ลทฺธวิปากวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา รูปชนกํ รูปํ ชเนตฺวา ิตํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ อลทฺธวิปากวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ วา ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ อนาคเต วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ.

ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ เอตรหิเยว วิปากวารํ ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ วิปากวารํ น ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ.

ยํ ปนานาคเต อายูหิสฺสติ, อนาคเตเยว วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.

อิติ อิมานิ เจว ทฺวาทส อภิธมฺมปริยาเยน วิภตฺตานิ จ โสฬส กมฺมานิ อตฺตโน านา โอสกฺกิตฺวา สุตฺตนฺติกปริยาเยน วุตฺตานิ เอกาทส กมฺมานิเยว ภวนฺติ. ตานิปิ ตโต โอสกฺกิตฺวา ตีณิเยว กมฺมานิ โหนฺติ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ, อุปปชฺชเวทนียํ, อปรปริยายเวทนียนฺติ. เตสํ สงฺกมนํ นตฺถิ, ยถาาเนเยว ติฏฺนฺติ. ยทิ หิ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม’’ติ สตฺถา น วเทยฺย. สเจปิ อุปปชฺชเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘อุปปชฺช วา’’ติ สตฺถา น วเทยฺย. อถาปิ อปรปริยายเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา อุปปชฺชเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘อปเร วา ปริยาเย’’ติ สตฺถา น วเทยฺย.

สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ ปน โลเภ วิคเตติ โลเภ อปคเต นิรุทฺเธ. ตาลวตฺถุกตนฺติ ตาลวตฺถุ วิย กตํ, มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย ปุน อวิรุฬฺหิสภาวํ กตนฺติ อตฺโถ. อนภาวํ กตนฺติ อนุอภาวํ กตํ, ยถา ปุน นุปฺปชฺชติ, เอวํ กตนฺติ อตฺโถ. เอวสฺสูติ เอวํ ภเวยฺยุํ. เอวเมว โขติ เอตฺถ พีชานิ วิย กุสลากุสลํ กมฺมํ ทฏฺพฺพํ, ตานิ อคฺคินา ฑหนปุริโส วิย โยคาวจโร, อคฺคิ วิย มคฺคาณํ, อคฺคึ ทตฺวา พีชานํ ฑหนกาโล วิย มคฺคาเณน กิเลสานํ ทฑฺฒกาโล, มสิกตกาโล วิย ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ฉินฺนมูลเก กตฺวา ปิตกาโล, มหาวาเต โอปุนิตฺวา นทิยา วา ปวาเหตฺวา อปฺปวตฺติกตกาโล วิย อุปาทินฺนกสนฺตานสฺส นิโรเธน ฉินฺนมูลกานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกภาเวน นิรุชฺฌิตฺวา ปุน ภวสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคหิตกาโล เวทิตพฺโพ.

โมหชฺจาปวิทฺทสูติ โมหชฺจาปิ อวิทฺทสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ โส อวิทู อนฺธพาโล โลภชฺจ โทสชฺจ โมหชฺจาติ กมฺมํ กโรติ, เอวํ กโรนฺเตน ยํ เตน ปกตํ กมฺมํ อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ. อิเธว ตํ เวทนิยนฺติ ตํ กมฺมํ เตน พาเลน อิธ สเก อตฺตภาเวเยว เวทนียํ, ตสฺเสว ตํ อตฺตภาเว วิปจฺจตีติ อตฺโถ. วตฺถุํ อฺํ น วิชฺชตีติ ตสฺส กมฺมสฺส วิปจฺจนตฺถาย อฺํ วตฺถุ นตฺถิ. น หิ อฺเน กตํ กมฺมํ อฺสฺส อตฺตภาเว วิปจฺจติ. ตสฺมา โลภฺจ โทสฺจ, โมหชฺจาปิ วิทฺทสูติ ตสฺมา โย วิทู เมธาวี ปณฺฑิโต ตํ โลภชาทิเภทํ กมฺมํ น กโรติ, โส วิชฺชํ อุปฺปาทยํ ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห, อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ วา ปน วิชฺชํ อุปฺปาเทนฺโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหติ. เทสนาสีสเมเวตํ, สุคติโยปิ ปน โส ขีณาสโว ชหติเยว. ยมฺปิ เจตํ ‘‘ตสฺมา โลภฺจ โทสฺจา’’ติ วุตฺตํ, เอตฺถาปิ โลภโทสสีเสน โลภชฺจ โทสชฺจ กมฺมเมว นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ สุตฺตนฺเตสุปิ คาถายปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตนฺติ.

๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา

๓๕. ปฺจเม อาฬวิยนฺติ อาฬวิรฏฺเ. โคมคฺเคติ คุนฺนํ คมนมคฺเค. ปณฺณสนฺถเรติ สยํ ปติตปณฺณสนฺถเร. อถาติ เอวํ คุนฺนํ คมนมคฺคํ อุชุํ มหาปถํ นิสฺสาย สึสปาวเน สยํ ปติตปณฺณานิ สงฺกฑฺฒิตฺวา กตสนฺถเร สุคตมหาจีวรํ ปตฺถริตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺเน ตถาคเต. หตฺถโก อาฬวโกติ หตฺถโต หตฺถํ คตตฺตา เอวํลทฺธนาโม อาฬวโก ราชปุตฺโต. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, ภควา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. กสฺมา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตํ านํ คนฺตฺวา นิสินฺโน, กสฺมา ราชกุมาโร ตตฺถ คโตติ? สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตาว อฏฺุปฺปตฺติกาย ธมฺมเทสนาย สมุฏฺานํ ทิสฺวา ตตฺถ นิสินฺโน, ราชกุมาโรปิ ปาโตว อุฏฺาย ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต มหามคฺคา โอกฺกมฺม โคปถํ คเหตฺวา ‘‘พุทฺธานํ ปูชนตฺถาย มิสฺสกมาลํ โอจินิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต สตฺถารํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอวํ โส ตตฺถ คโตติ. สุขมสยิตฺถาติ สุขํ สยิตฺถ.

อนฺตรฏฺโกติ มาฆผคฺคุณานํ อนฺตเร อฏฺทิวสปริมาโณ กาโล. มาฆสฺส หิ อวสาเน จตฺตาโร ทิวสา, ผคฺคุณสฺส อาทิมฺหิ จตฺตาโรติ อยํ ‘‘อนฺตรฏฺโก’’ติ วุจฺจติ. หิมปาตสมโยติ หิมสฺส ปตนสมโย. ขราติ ผรุสา กกฺขฬา วา. โคกณฺฏกหตาติ นววุฏฺเ เทเว คาวีนํ อกฺกนฺตกฺกนฺตฏฺาเน ขุรนฺตเรหิ กทฺทโม อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺติ, โส วาตาตเปน สุกฺโข กกจทนฺตสทิโส โหติ ทุกฺขสมฺผสฺโส. ตํ สนฺธายาห – ‘‘โคกณฺฏกหตา ภูมี’’ติ. คุนฺนํ ขุรนฺตเรหิ ฉินฺนาติปิ อตฺโถ. เวรมฺโภ วาโต วายตีติ จตูหิ ทิสาหิ วายนฺโต วาโต วายติ. เอกาย ทิสาย วา ทฺวีหิ วา ทิสาหิ ตีหิ วา ทิสาหิ วายนฺโต วาโต เวรมฺโภติ น วุจฺจติ.

เตน หิ ราชกุมาราติ อิทํ สตฺถา ‘‘อยํ ราชกุมาโร โลกสฺมึ เนว สุขวาสิโน, น ทุกฺขวาสิโน ชานาติ, ชานาเปสฺสามิ น’’นฺติ อุปริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต อาห. ตตฺถ ยถา เต ขเมยฺยาติ ยถา ตุยฺหํ รุจฺเจยฺย. อิธสฺสาติ อิมสฺมึ โลเก อสฺส. โคนกตฺถโตติ จตุรงฺคุลาธิกโลเมน กาฬโกชเวน อตฺถโต. ปฏิกตฺถโตติ อุณฺณามเยน เสตตฺถรเณน อตฺถโต. ปฏลิกตฺถโตติ ฆนปุปฺเผน อุณฺณามยอตฺถรเณน อตฺถโต. กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณติ กทลิมิคจมฺมมเยน อุตฺตมปจฺจตฺถรเณน อตฺถโต. ตํ กิร ปจฺจตฺถรณํ เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิพฺพิตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉโทติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุปริ พทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. อุภโตโลหิตกูปธาโนติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ปลฺลงฺกสฺส อุภโต ปิตโลหิตกูปธาโน. ปชาปติโยติ ภริยาโย. มนาเปน ปจฺจุปฏฺิตา อสฺสูติ มนาเปน อุปฏฺานวิธาเนน ปจฺจุปฏฺิตา ภเวยฺยุํ.

กายิกาติ ปฺจทฺวารกายํ โขภยมานา. เจตสิกาติ มโนทฺวารํ โขภยมานา. โส ราโค ตถาคตสฺส ปหีโนติ ตถารูโป ราโค ตถาคตสฺส ปหีโนติ อตฺโถ. โย ปน ตสฺส ราโค, น โส ตถาคตสฺส ปหีโน นาม. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย.

พฺราหฺมโณติ พาหิตปาโป ขีณาสวพฺราหฺมโณ. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. น ลิมฺปติ กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ จ กิเลสกาเมสุ จ ตณฺหาทิฏฺิเลเปหิ น ลิมฺปติ. สีติภูโตติ อพฺภนฺตเร ตาปนกิเลสานํ อภาเวน สีติภูโต. นิรูปธีติ กิเลสูปธีนํ อภาเวน นิรูปธิ. สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวาติ อาสตฺติโย วุจฺจนฺติ ตณฺหาโย, ตา สพฺพาปิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อาสตฺตวิสตฺตา อาสตฺติโย ฉินฺทิตฺวา. วิเนยฺย หทเย ทรนฺติ หทยนิสฺสิตํ ทรถํ วินยิตฺวา วูปสเมตฺวา. สนฺตึ ปปฺปุยฺย เจตโสติ จิตฺตสฺส กิเลสนิพฺพานํ ปาปุณิตฺวา. กรณวจนํ วา เอตํ ‘‘สพฺพเจตโส สมนฺนาหริตฺวา’’ติอาทีสุ วิย, เจตสา นิพฺพานํ ปาปุณิตฺวาติ อตฺโถ.

๖. เทวทูตสุตฺตวณฺณนา

๓๖. ฉฏฺเ เทวทูตานีติ เทวทูตา. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – เทโวติ มจฺจุ, ตสฺส ทูตาติ เทวทูตา. ชิณฺณพฺยาธิมตา หิ สํเวคชนนฏฺเน ‘‘อิทานิ เต มจฺจุสมีปํ คนฺตพฺพ’’นฺติ โจเทนฺติ วิย, ตสฺมา เทวทูตาติ วุจฺจนฺติ. เทวา วิย ทูตาติปิ เทวทูตา. ยถา หิ อลงฺกตปฏิยตฺตาย เทวตาย อากาเส ตฺวา ‘‘ตฺวํ อสุกทิวเส มริสฺสสี’’ติ วุตฺเต ตสฺสา วจนํ สทฺธาตพฺพํ โหติ; เอวเมวํ ชิณฺณพฺยาธิมตาปิ ทิสฺสมานา ‘‘ตฺวมฺปิ เอวํธมฺโม’’ติ โจเทนฺติ วิย, เตสฺจ ตํ วจนํ อนฺถาภาวิตาย เทวตาย พฺยากรณสทิสเมว โหตีติ เทวา วิย ทูตาติ เทวทูตา. วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตา. สพฺพโพธิสตฺตา หิ ชิณฺณพฺยาธิมตปพฺพชิเต ทิสฺวาว สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชึสุ. เอวํ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตา. อิธ ปน ลิงฺควิปลฺลาเสน ‘‘เทวทูตานี’’ติ วุตฺตํ.

กาเยน ทุจฺจริตนฺติอาทิ กสฺมา อารทฺธํ? เทวทูตานุยุฺชนฏฺานุปกฺกมกมฺมทสฺสนตฺถํ. อิมินา หิ กมฺเมน อยํ สตฺโต นิรเย นิพฺพตฺตติ, อถ นํ ตตฺถ ยโม ราชา เทวทูเต สมนุยุฺชติ. ตตฺถ กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติ กายทฺวาเรน ติวิธํ ทุจฺจริตํ จรติ. วาจายาติ วจีทฺวาเรน จตุพฺพิธํ ทุจฺจริตํ จรติ. มนสาติ มโนทฺวาเรน ติวิธํ ทุจฺจริตํ จรติ.

ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลาติ เอตฺถ เอกจฺเจ เถรา ‘‘นิรยปาลา นาม นตฺถิ, ยนฺตรูปํ วิย กมฺมเมว การณํ กาเรตี’’ติ วทนฺติ. ตํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลาติ, อามนฺตา. อตฺถิ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖) ปฏิเสธิตเมว. ยถา หิ มนุสฺสโลเก กมฺมการณการกา อตฺถิ, เอวเมว นิรเย นิรยปาลา อตฺถีติ. ยมสฺส รฺโติ ยมราชา นาม เวมานิกเปตราชา. เอกสฺมึ กาเล ทิพฺพวิมาเน ทิพฺพกปฺปรุกฺขทิพฺพอุยฺยานทิพฺพนาฏกาทิสพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวติ, เอกสฺมึ กาเล กมฺมวิปากํ, ธมฺมิโก ราชา, น เจส เอโกว โหติ, จตูสุ ปน ทฺวาเรสุ จตฺตาโร ชนา โหนฺติ. อมตฺเตยฺโยติ มาตุ หิโต มตฺเตยฺโย, มาตริ สมฺมา ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. น มตฺเตยฺโยติ อมตฺเตยฺโย, มาตริ มิจฺฉา ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อพฺรหฺมฺโติ เอตฺถ จ ขีณาสวา พฺราหฺมณา นาม, เตสุ มิจฺฉา ปฏิปนฺโน อพฺรหฺมฺโ นาม.

สมนุยุฺชตีติ อนุโยควตฺตํ อาโรเปนฺโต ปุจฺฉติ, ลทฺธึ ปติฏฺาเปนฺโต ปน สมนุคฺคาหติ นาม, การณํ ปุจฺฉนฺโต สมนุภาสติ นาม. นาทฺทสนฺติ อตฺตโน สนฺติเก ปหิตสฺส กสฺสจิ เทวทูตสฺส อภาวํ สนฺธาย เอวํ วทติ.

อถ นํ ยโม ‘‘นายํ ภาสิตสฺส อตฺถํ สลฺลกฺเขตี’’ติ ตฺวา อตฺถํ สลฺลกฺขาเปตุกาโม อมฺโภติอาทิมาห. ตตฺถ ชิณฺณนฺติ ชราชิณฺณํ. โคปานสิวงฺกนฺติ โคปานสี วิย วงฺกํ. โภคฺคนฺติ ภคฺคํ. อิมินาปิสฺส วงฺกภาวเมว ทีเปติ. ทณฺฑปรายณนฺติ ทณฺฑปฏิสรณํ ทณฺฑทุติยํ. ปเวธมานนฺติ กมฺปมานํ. อาตุรนฺติ ชราตุรํ. ขณฺฑทนฺตนฺติ ชรานุภาเวน ขณฺฑิตทนฺตํ. ปลิตเกสนฺติ ปณฺฑรเกสํ. วิลูนนฺติ ลุฺจิตฺวา คหิตเกสํ วิย ขลฺลาฏํ. ขลิตสิรนฺติ มหาขลฺลาฏสีสํ. วลิตนฺติ สฺชาตวลึ. ติลกาหตคตฺตนฺติ เสตติลกกาฬติลเกหิ วิกิณฺณสรีรํ. ชราธมฺโมติ ชราสภาโว, อปริมุตฺโต ชราย, ชรา นาม มยฺหํ อพฺภนฺตเรเยว ปวตฺตตีติ. ปรโต พฺยาธิธมฺโม มรณธมฺโมติ ปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

ปมํ เทวทูตํ สมนุยุฺชิตฺวาติ เอตฺถ ชราชิณฺณสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย ตรุโณ อโหสึ อูรุพลี พาหุพลี ชวสมฺปนฺโน, ตสฺส เม ตา พลชวสมฺปตฺติโย อนฺตรหิตา, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, ชรายมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชราย อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชรา อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเวส เทวทูโต นาม ชาโต. อาพาธิกนฺติ พาธิกํ. ทุกฺขิตนฺติ ทุกฺขปฺปตฺตํ. พาฬฺหคิลานนฺติ อธิมตฺตคิลานํ.

ทุติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถปิ คิลานสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย นิโรโค อโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ พฺยาธินา อภิหโต, สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกมิ. วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, พฺยาธิโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ พฺยาธิโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ พฺยาธิ อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเวส เทวทูโต นาม ชาโต.

เอกาหมตนฺติอาทีสุ เอกาหํ มตสฺส อสฺสาติ เอกาหมโต, ตํ เอกาหมตํ. ปรโต ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ภสฺตา วิย วายุนา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถากฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน อุทฺธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตกํ. วินีโล วุจฺจติ วิปริภินฺนวณฺโณ, วินีโลว วินีลโก, ตํ วินีลกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํ. วิปุพฺพกนฺติ วิสฺสนฺทมานปุพฺพกํ, ปริภินฺนฏฺาเน หิ ปคฺฆริเตน ปุพฺเพน ปลิมกฺขิตนฺติ อตฺโถ.

ตติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถ มตกสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, มํ อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ อุทฺธุมาตกาทิภาวปฺปตฺตํ, มรณโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ มรณโต อปริมุตฺตา. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ มรณํ อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนวสฺส เทวทูโต นาม ชาโต.

อิมํ ปน เทวทูตานุโยคํ โก ลภติ, โก น ลภติ? เยน ตาว พหุํ ปาปํ กตํ, โส คนฺตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติเยว. เยน ปน ปริตฺตํ ปาปํ กตํ, โส ลภติ. ยถา หิ สภณฺฑํ โจรํ คเหตฺวา กตฺตพฺพเมว กโรนฺติ น วินิจฺฉินนฺติ. อนุวิชฺชิตฺวา คหิตํ ปน วินิจฺฉยฏฺานํ นยนฺติ, โส วินิจฺฉยํ ลภติ. เอวํสมฺปทเมตํ. ปริตฺตปาปกมฺมา หิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สรนฺติ, สารียมานาปิ สรนฺติ.

ตตฺถ ทีฆชยนฺตทมิโฬ นาม อตฺตโน ธมฺมตาย สริ. โส กิร ทมิโฬ สุมนคิริมหาวิหาเร อากาสเจติยํ รตฺตปเฏน ปูเชสิ, อถ นิรเย อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต อคฺคิชาลสทฺทํ สุตฺวาว อตฺตนา ปูชิตปฏํ อนุสฺสริ, โส คนฺตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. อปโรปิ ปุตฺตสฺส ทหรภิกฺขุโน ขลิสาฏกํ เทนฺโต ปาทมูเล เปสิ, มรณกาลมฺหิ ปฏปฏาติ สทฺเท นิมิตฺตํ คณฺหิ, โสปิ อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต ชาลสทฺเทน ตํ สาฏกํ อนุสฺสริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. เอวํ ตาว อตฺตโน ธมฺมตาย กุสลํ กมฺมํ สริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ.

อตฺตโน ธมฺมตาย อสรนฺเต ปน ตโย เทวทูเต ปุจฺฉติ. ตตฺถ โกจิ ปเมน เทวทูเตน สรติ, โกจิ ทุติยตติเยหิ, โกจิ ตีหิปิ นสฺสรติ. ตํ ยโม ราชา ทิสฺวา สยํ สาเรติ. เอโก กิร อมจฺโจ สุมนปุปฺผกุมฺเภน มหาเจติยํ ปูเชตฺวา ยมสฺส ปตฺตึ อทาสิ, ตํ อกุสลกมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตํ ยมสฺส สนฺติกํ นยึสุ. ตสฺมึ ตีหิปิ เทวทูเตหิ กุสลํ อสรนฺเต ยโม สยํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา – ‘‘นนุ ตฺวํ มหาเจติยํ สุมนปุปฺผกุมฺเภน ปูเชตฺวา มยฺหํ ปตฺตึ อทาสี’’ติ สาเรสิ, โส ตสฺมึ กาเล สริตฺวา เทวโลกํ คโต. ยโม ปน สยํ โอโลเกตฺวาปิ อปสฺสนฺโต – ‘‘มหาทุกฺขํ นาม อนุภวิสฺสติ อยํ สตฺโต’’ติ ตุณฺหี อโหสิ.

ตตฺตํ อโยขิลนฺติ ติคาวุตํ อตฺตภาวํ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา ทกฺขิณหตฺเถ ตาลปฺปมาณํ อยสูลํ ปเวเสนฺติ, ตถา วามหตฺถาทีสุ. ยถา จ ตํ อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา, เอวํ อุเรนปิ วามปสฺเสนปิ ทกฺขิณปสฺเสนปิ นิปชฺชาเปตฺวา เต ตํ กมฺมการณํ กโรนฺติเยว. สํเวเสตฺวาติ ชลิตาย โลหปถวิยา ติคาวุตํ อตฺตภาวํ นิปชฺชาเปตฺวา. กุารีหีติ มหตีหิ เคหสฺส เอกปกฺขจฺฉทนมตฺตาหิ กุารีหิ ตจฺฉนฺติ, โลหิตํ นที หุตฺวา สนฺทติ, โลหปถวิโต ชาลา อุฏฺหิตฺวา ตจฺฉิตฏฺานํ คณฺหาติ, มหาทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ตจฺฉนฺตา ปน สุตฺตาหตํ กริตฺวา ทารุํ วิย อฏฺํสมฺปิ ฉฬํสมฺปิ กโรนฺติ. วาสีหีติ มหาสุปฺปปฺปมาณาหิ วาสีหิ. รเถ โยเชตฺวาติ สทฺธึ ยุคโยตฺตปกฺขรถจกฺกกุพฺพรปาชเนหิ สพฺพโต ปชฺชลิเต รเถ โยเชตฺวา. มหนฺตนฺติ มหากูฏาคารปฺปมาณํ. อาโรเปนฺตีติ สมฺปชฺชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. สกิมฺปิ อุทฺธนฺติ สุปกฺกุถิตาย อุกฺขลิยา ปกฺขิตฺตตณฺฑุลา วิย อุทฺธมโธติริยฺจ คจฺฉติ. มหานิรเยติ อวีจิมหานิรยมฺหิ.

ภาคโส มิโตติ ภาเค เปตฺวา วิภตฺโต. ปริยนฺโตติ ปริกฺขิตฺโต. อยสาติ อุปริ อยปฏฺเฏน ฉาทิโต. สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอวํ ผริตฺวา ติฏฺติ, ยถา ตํ สมนฺตา โยชนสเต ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส อกฺขีนิ ยมกโคฬกา วิย นิกฺขมนฺติ.

หีนกายูปคาติ หีนํ กายํ อุปคตา หุตฺวา. อุปาทาเนติ ตณฺหาทิฏฺิคฺคหเณ. ชาติมรณสมฺภเวติ ชาติยา จ มรณสฺส จ การณภูเต. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา. ชาติมรณสงฺขเยติ ชาติมรณสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุจฺจนฺติ. ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตาติ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สพฺพกิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา. สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สกลวฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตา.

๗. จตุมหาราชสุตฺตวณฺณนา

๓๗. สตฺตเม อมจฺจา ปาริสชฺชาติ ปริจาริกเทวตา. อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตีติ อฏฺมีทิวเส กิร สกฺโก เทวราชา จตฺตาโร มหาราชาโน อาณาเปติ – ‘‘ตาตา, อชฺช อฏฺมีทิวเส มนุสฺสโลกํ อนุวิจริตฺวา ปุฺานิ กโรนฺตานํ นามโคตฺตํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน ปริจารเก เปเสนฺติ – ‘‘คจฺฉถ, ตาตา, มนุสฺสโลกํ วิจริตฺวา ปุฺการกานํ นามโคตฺตานิ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขิตฺวา อาเนถา’’ติ. เต ตถา กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตี’’ติ. กจฺจิ พหูติอาทิ เตสํ อุปปริกฺขาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ อุปปริกฺขนฺตา หิ เต อนุวิจรนฺติ. ตตฺถ อุโปสถํ อุปวสนฺตีติ มาสสฺส อฏฺวาเร อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺหนฺติ. ปฏิชาคโรนฺตีติ ปฏิชาครอุโปสถกมฺมํ นาม กโรนฺติ. ตํ กโรนฺตา เอกสฺมึ อทฺธมาเส จตุนฺนํ อุโปสถทิวสานํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน กโรนฺติ. ปฺจมีอุโปสถํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา จตุตฺถิยํ อุโปสถิกา โหนฺติ, อนุคจฺฉนฺตา ฉฏฺิยํ. อฏฺมีอุโปสถํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา สตฺตมิยํ, อนุคจฺฉนฺตา นวมิยํ. จาตุทฺทสึ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา เตรสิยํ, ปนฺนรสีอุโปสถํ อนุคจฺฉนฺตา ปาฏิปเท อุโปสถิกา โหนฺติ. ปุฺานิ กโรนฺตีติ สรณคมนนิจฺจสีลปุปฺผปูชาธมฺมสฺสวนปทีปสหสฺสอาโรปนวิหารกรณาทีนิ นานปฺปการานิ ปุฺานิ กโรนฺติ. เต เอวํ อนุวิจริตฺวา ปุฺกมฺมการกานํ นามโคตฺตานิ โสวณฺณมเย ปฏฺเฏ ลิขิตฺวา อาหริตฺวา จตุนฺนํ มหาราชานํ เทนฺติ. ปุตฺตา อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตีติ จตูหิ มหาราเชหิ ปุริมนเยเนว ปหิตตฺตา อนุวิจรนฺติ. ตทหูติ ตํทิวสํ. อุโปสเถติ อุโปสถทิวเส.

สเจ, ภิกฺขเว, อปฺปกา โหนฺตีติ จตุนฺนํ มหาราชานํ อมจฺจา ปาริสชฺชา ตา ตา คามนิคมราชธานิโย อุปสงฺกมนฺติ, ตโต ตํ อุปนิสฺสาย อธิวตฺถา เทวตา ‘‘มหาราชานํ อมจฺจา อาคตา’’ติ ปณฺณาการํ คเหตฺวา เตสํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติ. เต ปณฺณาการํ คเหตฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข มาริสา พหู มนุสฺสา มตฺเตยฺยา’’ติ วุตฺตนเยน มนุสฺสานํ ปุฺปฏิปตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, มาริส, อิมสฺมึ คาเม อสุโก จ อสุโก จ ปุฺานิ กโรนฺตี’’ติ วุตฺเต เตสํ นามโคตฺตํ ลิขิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉนฺติ. อถ จาตุทฺทสิยํ จตุนฺนํ มหาราชานํ ปุตฺตาปิ ตเมว สุวณฺณปฏฺฏํ คเหตฺวา เตเนว นเยน อนุวิจรนฺตา นามโคตฺตานิ ลิขนฺติ. ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส จตฺตาโรปิ มหาราชาโน เตเนว นเยน ตสฺมึเยว สุวณฺณปฏฺเฏ นามโคตฺตานิ ลิขนฺติ. เต สุวณฺณปฏฺฏปริมาเณเนว – ‘‘อิมสฺมึ กาเล มนุสฺสา อปฺปกา, อิมสฺมึ กาเล พหุกา’’ติ ชานนฺติ. ตํ สนฺธาย ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อปฺปกา โหนฺติ มนุสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เทวานํ ตาวตึสานนฺติ ปมํ อภินิพฺพตฺเต เตตฺตึส เทวปุตฺเต อุปาทาย เอวํลทฺธนามานํ. เตสํ ปน อุปฺปตฺติกถา ทีฆนิกาเย สกฺกปฺหสุตฺตวณฺณนาย วิตฺถาริตา. เตนาติ เตน อาโรจเนน, เตน วา ปุฺการกานํ อปฺปกภาเวน. ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริหายิสฺสนฺตีติ นวนวานํ เทวปุตฺตานํ อปาตุภาเวน เทวกายา ปริหายิสฺสนฺติ, รมณียํ ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ สุฺํ ภวิสฺสติ. ปริปูริสฺสนฺติ อสุรกายาติ จตฺตาโร อปายา ปริปูริสฺสนฺติ. อิมินา ‘‘มยํ ปริปุณฺเณ เทวนคเร เทวสงฺฆมชฺเฌ นกฺขตฺตํ กีฬิตุํ น ลภิสฺสามา’’ติ อนตฺตมนา โหนฺติ. สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว อุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโทติ อตฺตโน สกฺกเทวราชกาลํ สนฺธาย กเถติ. เอกสฺส วา สกฺกสฺส อชฺฌาสยํ คเหตฺวา กเถตีติ วุตฺตํ. อนุนยมาโนติ อนุโพธยมาโน. ตายํ เวลายนฺติ ตสฺมึ กาเล.

ปาฏิหาริยปกฺขฺจาติ เอตฺถ ปาฏิหาริยปกฺโข นาม อนฺโตวสฺเส เตมาสํ นิพทฺธุโปสโถ, ตํ อสกฺโกนฺตสฺส ทฺวินฺนํ ปวารณานํ อนฺตเร เอกมาสํ นิพทฺธุโปสโถ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตสฺส ปมปวารณโต ปฏฺาย เอโก อทฺธมาโส ปาฏิหาริยปกฺโขเยว นาม. อฏฺงฺคสุสมาคตนฺติ อฏฺหิ คุณงฺเคหิ สมนฺนาคตํ. โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส ภเวยฺย. สกฺโกปิ กิร วุตฺตปฺปการสฺส อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานิตฺวา ทฺเว เทวโลกสมฺปตฺติโย ปหาย มาสสฺส อฏฺ วาเร อุโปสถํ อุปวสติ. ตสฺมา เอวมาห. อปโร นโย – โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส อสฺส, มยา ปตฺตํ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. สกฺกา หิ เอวรูเปน อุโปสถกมฺเมน สกฺกสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

วุสิตวาติ วุตฺถวาโส. กตกรณีโยติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา ิโต. โอหิตภาโรติ ขนฺธภารกิเลสภารอภิสงฺขารภาเร โอตาเรตฺวา ิโต. อนุปฺปตฺตสทตฺโถติ สทตฺโถ วุจฺจติ อรหตฺตํ, ตํ อนุปฺปตฺโต. ปริกฺขีณภวสํโยชโนติ เยน สํโยชเนน พทฺโธ ภเวสุ อากฑฺฒียติ, ตสฺส ขีณตฺตา ปริกฺขีณภวสํโยชโน. สมฺมทฺา วิมุตฺโตติ เหตุนา นเยน การเณน ชานิตฺวา วิมุตฺโต. กลฺลํ วจนายาติ ยุตฺตํ วตฺตุํ.

โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ มาทิโส ขีณาสโว อสฺส, โสปิ เอวรูปํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยาติ อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานนฺโต เอวํ วเทยฺย. อปโร นโย โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส อสฺส, มยา ปตฺตํ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. สกฺกา หิ เอวรูเปน อุโปสถกมฺเมน ขีณาสวสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว.

๙. สุขุมาลสุตฺตวณฺณนา

๓๙. นวเม สุขุมาโลติ นิทฺทุกฺโข. ปรมสุขุมาโลติ ปรมนิทฺทุกฺโข. อจฺจนฺตสุขุมาโลติ สตตนิทฺทุกฺโข. อิมํ ภควา กปิลปุเร นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย นิทฺทุกฺขภาวํ คเหตฺวา อาห, จริยกาเล ปน เตน อนุภูตทุกฺขสฺส อนฺโต นตฺถีติ. เอกตฺถาติ เอกิสฺสา โปกฺขรณิยา. อุปฺปลํ วปฺปตีติ อุปฺปลํ โรเปติ. สา นีลุปฺปลวนสฺฉนฺนา โหติ. ปทุมนฺติ ปณฺฑรปทุมํ. ปุณฺฑรีกนฺติ รตฺตปทุมํ. เอวํ อิตราปิ ทฺเว ปทุมปุณฺฑรีกวเนหิ สฺฉนฺนา โหนฺติ. โพธิสตฺตสฺส กิร สตฺตฏฺวสฺสิกกาเล ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘ตรุณทารกา กตรกีฬิกํ ปิยายนฺตี’’ติ? อุทกกีฬิกํ เทวาติ. ตโต ราชา กุทฺทาลกมฺมการเก สนฺนิปาเตตฺวา โปกฺขรณิฏฺานานิ คณฺหาเปสิ. อถ สกฺโก เทวราชา อาวชฺเชนฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา – ‘‘น ยุตฺโต มหาสตฺตสฺส มานุสกปริโภโค, ทิพฺพปริโภโค ยุตฺโต’’ติ วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘คจฺฉ, ตาต, มหาสตฺตสฺส กีฬาภูมิยํ โปกฺขรณิโย มาเปหี’’ติ อาห. กีทิสา โหนฺตุ, เทวาติ? อปคตกลลกทฺทมา โหนฺตุ วิปฺปกิณฺณมณิมุตฺตปวาฬิกา สตฺตรตนมยปาการปริกฺขิตฺตา ปวาฬมยอุณฺหีเสหิ มณิมยโสปานพาหุเกหิ สุวณฺณรชตมณิมยผลเกหิ โสปาเนหิ สมนฺนาคตา. สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยา เจตฺถ นาวา โหนฺตุ, สุวณฺณนาวาย รชตปลฺลงฺโก โหตุ, รชตนาวาย สุวณฺณปลฺลงฺโก, มณินาวาย ปวาฬปลฺลงฺโก, ปวาฬนาวาย มณิปลฺลงฺโก, สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยาว อุทกเสจนนาฬิกา โหนฺตุ, ปฺจวณฺเณหิ จ ปทุเมหิ สฺฉนฺนา โหนฺตูติ. ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโต สกฺกสฺส ปฏิสฺสุตฺวา รตฺติภาเค โอตริตฺวา รฺโ คาหาปิตโปกฺขรณิฏฺาเนสุเยว เตเนว นิยาเมน โปกฺขรณิโย มาเปสิ.

นนุ เจตา อปคตกลลกทฺทมา, กถเมตฺถ ปทุมานิ ปุปฺผึสูติ? โส กิร ตาสุ โปกฺขรณีสุ ตตฺถ ตตฺถ สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยา ขุทฺทกนาวาโย มาเปตฺวา ‘‘เอตา กลลกทฺทมปูริตา จ โหนฺตุ, ปฺจวณฺณานิ เจตฺถ ปทุมานิ ปุปฺผนฺตู’’ติ อธิฏฺาสิ. เอวํ ปฺจวณฺณานิ ปทุมานิ ปุปฺผึสุ, เรณุวฏฺฏิโย อุคฺคนฺตฺวา อุทกปิฏฺํ อชฺโฌตฺถริตฺวา วิจรนฺติ. ปฺจวิธา ภมรคณา อุปกูชนฺตา วิจรนฺติ. เอวํ ตา มาเปตฺวา วิสฺสกมฺโม เทวปุรเมว คโต. ตโต วิภาตาย รตฺติยา มหาชโน ทิสฺวา ‘‘มหาปุริสฺสสฺส มาปิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา มหาชนปริวาโร คนฺตฺวา โปกฺขรณิโย ทิสฺวา ‘‘มม ปุตฺตสฺส ปุฺิทฺธิยา เทวตาหิ มาปิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตมโน อโหสิ. ตโต ปฏฺาย มหาปุริโส อุทกกีฬิกํ อคมาสิ.

ยาวเทว มมตฺถายาติ เอตฺถ ยาวเทวาติ ปโยชนาวธินิยามวจนํ, ยาว มเมว อตฺถาย, นตฺเถตฺถ อฺํ การณนฺติ อตฺโถ. น โข ปนสฺสาหนฺติ น โข ปนสฺส อหํ. อกาสิกํ จนฺทนนฺติ อสณฺหํ จนฺทนํ. กาสิกํ, ภิกฺขเว, สุ เม ตํ เวนนฺติ, ภิกฺขเว, เวนมฺปิ เม กาสิกํ โหติ. เอตฺถ หิ สุอิติ จ นฺติ จ นิปาตมตฺตํ, เมติ สามิวจนํ. เวนมฺปิ เม สณฺหเมว โหตีติ ทสฺเสติ. กาสิกา กฺจุกาติ ปารุปนกฺจุโกปิ สณฺหกฺจุโกว. เสตจฺฉตฺตํ ธารียตีติ มานุสกเสตจฺฉตฺตมฺปิ ทิพฺพเสตจฺฉตฺตมฺปิ อุปริธาริตเมว โหติ. มา นํ ผุสิ สีตํ วาติ มา เอตํ โพธิสตฺตํ สีตํ วา อุณฺหาทีสุ วา อฺตรํ ผุสตูติ อตฺโถ.

ตโย ปาสาทา อเหสุนฺติ โพธิสตฺเต กิร โสฬสวสฺสุทฺเทสิเก ชาเต สุทฺโธทนมหาราชา ‘‘ปุตฺตสฺส วสนกปาสาเท กาเรสฺสามี’’ติ วฑฺฒกิโน สนฺนิปาตาเปตฺวา ภทฺทเกน นกฺขตฺตมุหุตฺเตน นวภูมิกตปริกมฺมํ กาเรตฺวา ตโย ปาสาเท การาเปสิ. เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เหมนฺติโกติอาทีสุ ยตฺถ สุขํ เหมนฺเต วสิตุํ, อยํ เหมนฺติโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – เหมนฺเต วาโส เหมนฺตํ, เหมนฺตํ อรหตีติ เหมนฺติโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ เหมนฺติโก ปาสาโท นวภูมโก อโหสิ, ภูมิโย ปนสฺส อุณฺหอุตุคฺคาหาปนตฺถาย นีจา อเหสุํ. ตตฺถ ทฺวารวาตปานานิ สุผุสิตกวาฏานิ อเหสุํ นิพฺพิวรานิ. จิตฺตกมฺมมฺปิ กโรนฺตา ตตฺถ ตตฺถ ปชฺชลิเต อคฺคิกฺขนฺเธเยว อกํสุ. ภูมตฺถรณํ ปเนตฺถ กมฺพลมยํ, ตถา สาณิวิตานนิวาสนปารุปนเวนานิ. วาตปานานิ อุณฺหคฺคาหาปนตฺถํ ทิวา วิวฏานิ รตฺตึ ปิหิตานิ โหนฺติ.

คิมฺหิโก ปน ปฺจภูมโก อโหสิ. สีตอุตุคฺคาหาปนตฺถํ ปเนตฺถ ภูมิโย อุจฺจา อสมฺพาธา อเหสุํ. ทฺวารวาตปานานิ นาติผุสิตานิ สวิวรานิ สชาลานิ อเหสุํ. จิตฺตกมฺเม อุปฺปลานิ ปทุมานิ ปุณฺฑรีกานิเยว อกํสุ. ภูมตฺถรณํ ปเนตฺถ ทุกูลมยํ, ตถา สาณิวิตานนิวาสนปารุปนเวนานิ. วาตปานสมีเปสุ เจตฺถ นว จาฏิโย เปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลาทีหิ สฺฉาเทนฺติ. เตสุ เตสุ ปเทเสสุ อุทกยนฺตานิ กโรนฺติ, เยหิ เทเว วสฺสนฺเต วิย อุทกธารา นิกฺขมนฺติ. อนฺโตปาสาเท ตตฺถ ตตฺถ กลลปูรา โทณิโย เปตฺวา ปฺจวณฺณานิ ปทุมานิ โรปยึสุ. ปาสาทมตฺถเก สุกฺขมหึสจมฺมํ พนฺธิตฺวา ยนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา ยาว ฉทนปิฏฺิยา ปาสาเณ อาโรเปตฺวา ตสฺมึ วิสฺสชฺเชนฺติ. เตสํ จมฺเม ปวฏฺฏนฺตานํ สทฺโท เมฆคชฺชิตํ วิย โหติ. ทฺวารวาตปานานิ ปเนตฺถ ทิวา ปิหิตานิ โหนฺติ รตฺตึ วิวฏานิ.

วสฺสิโก สตฺตภูมโก อโหสิ. ภูมิโย ปเนตฺถ ทฺวินฺนมฺปิ อุตูนํ คาหาปนตฺถาย นาติอุจฺจา นาตินีจา อกํสุ. เอกจฺจานิ ทฺวารวาตปานานิ สุผุสิตานิ, เอกจฺจานิ สวิวรานิ. ตตฺถ จิตฺตกมฺมมฺปิ เกสุจิ าเนสุ ปชฺชลิตอคฺคิกฺขนฺธวเสน, เกสุจิ ชาตสฺสรวเสน กตํ. ภูมตฺถรณาทีนิ ปเนตฺถ กมฺพลทุกูลวเสน อุภยมิสฺสกานิ. เอกจฺเจ ทฺวารวาตปานา รตฺตึ วิวฏา ทิวา ปิหิตา, เอกจฺเจ ทิวา วิวฏา รตฺตึ ปิหิตา. ตโยปิ ปาสาทา อุพฺเพเธน สมปฺปมาณา. ภูมิกาสุ ปน นานตฺตํ อโหสิ.

เอวํ นิฏฺิเตสุ ปาสาเทสุ ราชา จินฺเตสิ – ‘‘ปุตฺโต เม วยปฺปตฺโต, ฉตฺตมสฺส อุสฺสาเปตฺวา รชฺชสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ. โส สากิยานํ ปณฺณานิ ปหิณิ – ‘‘ปุตฺโต เม วยปฺปตฺโต, รชฺเช นํ ปติฏฺาเปสฺสามิ, สพฺเพ อตฺตโน อตฺตโน เคเหสุ วยปฺปตฺตา, ทาริกา อิมํ เคหํ เปเสนฺตู’’ติ. เต สาสนํ สุตฺวา – ‘‘กุมาโร เกวลํ ทสฺสนกฺขโม รูปสมฺปนฺโน, น กิฺจิ สิปฺปํ ชานาติ, ทารภรณํ กาตุํ น สกฺขิสฺสติ, น มยํ ธีตโร ทสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ราชา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจสิ. โพธิสตฺโต ‘‘กึ สิปฺปํ ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ, ตาตา’’ติ อาห. สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ วฏฺฏติ, ตาตาติ. เตน หิ อาหราเปถาติ. ราชา อาหราเปตฺวา อทาสิ. ธนุํ ปุริสสหสฺสํ อาโรเปติ, ปุริสสหสฺสํ โอโรเปติ. มหาปุริโส ธนุํ อาหราเปตฺวา ปลฺลงฺเก นิสินฺโนว ชิยํ ปาทงฺคุฏฺเก เวเตฺวา กฑฺฒนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกเนว ธนุํ อาโรเปตฺวา วาเมน หตฺเถน ทณฺเฑ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน กฑฺฒิตฺวา ชิยํ โปเถสิ. สกลนครํ อุปฺปตนาการปฺปตฺตํ อโหสิ. ‘‘กึ สทฺโท เอโส’’ติ จ วุตฺเต ‘‘เทโว คชฺชตี’’ติ อาหํสุ. อถฺเ ‘‘ตุมฺเห น ชานาถ, น เทโว คชฺชติ, องฺคีรสสฺส กุมารสฺส สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตฺวา ชิยํ โปเถนฺตสฺส ชิยปฺปหารสทฺโท เอโส’’ติ อาหํสุ. สากิยา ตาวตเกเนว อารทฺธจิตฺตา อเหสุํ.

มหาปุริโส ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. อฏฺงฺคุลมตฺตพหลํ อโยปฏฺฏํ กณฺเฑน วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. จตุรงฺคุลพหลํ อสนผลกํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. วิทตฺถิพหลํ อุทุมฺพรผลกํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยนฺเต พทฺธํ ผลกสตํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. สฏฺิปฏลํ สุกฺขมหึสจมฺมํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ตโต วาลิกสกฏาทีนิ อาจิกฺขึสุ. มหาสตฺโต วาลิกสกฏมฺปิ ปลาลสกฏมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา อุทเก เอกุสภปฺปมาณํ กณฺฑํ เปเสสิ, ถเล อฏฺอุสภปฺปมาณํ. อถ นํ ‘‘อิทานิ วาติงฺคณสฺาย วาลํ วิชฺฌิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ. เตน หิ พนฺธาเปถาติ. สทฺทนฺตเร พชฺฌตุ, ตาตาติ. ปุรโต คจฺฉนฺตุ, คาวุตนฺตเร พนฺธนฺตูติ. ปุรโต คจฺฉนฺตุ, อทฺธโยชเน พนฺธนฺตูติ. ปุรโต คจฺฉนฺตุ โยชเน พนฺธนฺตูติ. พนฺธาเปถ, ตาตาติ โยชนมตฺถเก วาติงฺคณสฺาย วาลํ พนฺธาเปตฺวา รตฺตนฺธกาเร เมฆปฏลจฺฉนฺนาสุ ทิสาสุ กณฺฑํ ขิปิ, ตํ คนฺตฺวา โยชนมตฺถเก วาลํ ผาเลตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, ตํ ทิวสํ ปน มหาสตฺโต โลเก วตฺตมานสิปฺปํ สพฺพเมว สนฺทสฺเสสิ. สกฺยราชาโน อตฺตโน อตฺตโน ธีตโร อลงฺกริตฺวา เปสยึสุ, จตฺตาลีสสหสฺสนาฏกิตฺถิโย อเหสุํ. มหาปุริโส ตีสุ ปาสาเทสุ เทโว มฺเ ปริจาเรนฺโต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวติ.

นิปฺปุริเสหีติ ปุริสวิรหิเตหิ. น เกวลํ เจตฺถ ตูริยาเนว นิปฺปุริสานิ, สพฺพฏฺานานิปิ นิปฺปุริสาเนว. โทวาริกาปิ อิตฺถิโยว, นฺหาปนาทิปริกมฺมกราปิ อิตฺถิโยว. ราชา กิร ‘‘ตถารูปํ อิสฺสริยสุขสมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ปุริสํ ทิสฺวา ปริสงฺกา อุปฺปชฺชติ, สา เม ปุตฺตสฺส มา อโหสี’’ติ สพฺพกิจฺเจสุ อิตฺถิโยว เปสิ. ปริจารยมาโนติ โมทมาโน. น เหฏฺาปาสาทํ โอโรหามีติ ปาสาทโต เหฏฺา น โอตรามิ. อิติ มํ จตฺตาโร มาเส อฺโ สิขาพทฺโธ ปุริโส นาม ปสฺสิตุํ นาลตฺถ. ยถาติ เยน นิยาเมน. ทาสกมฺมกรโปริสสฺสาติ ทาสานฺเจว เทวสิกภตฺตเวตนาภตานํ กมฺมกรานฺจ นิสฺสาย ชีวมานปุริสานฺจ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ.

เอวรูปาย อิทฺธิยาติ เอวํชาติกาย ปุฺิทฺธิยา สมนฺนาคตสฺส. เอวรูเปน จ สุขุมาเลนาติ เอวํชาติเกน จ นิทฺทุกฺขภาเวน. โสขุมาเลนาติปิ ปาโ. เอวํ ตถาคโต เอตฺตเกน าเนน อตฺตโน สิริสมฺปตฺตึ กเถสิ. กเถนฺโต จ น อุปฺปิลาวิตภาวตฺถํ กเถสิ, ‘‘เอวรูปายปิ ปน สมฺปตฺติยา ิโต ปมาทํ อกตฺวา อปฺปมตฺโตว อโหสิ’’นฺติ อปฺปมาทลกฺขณสฺเสว ทีปนตฺถํ กเถสิ. เตเนว อสฺสุตวา โข ปุถุชฺชโนติอาทิมาห. ตตฺถ ปรนฺติ ปรปุคฺคลํ. ชิณฺณนฺติ ชราชิณฺณํ. อฏฺฏียตีติ อฏฺโฏ ปีฬิโต โหติ. หรายตีติ หิรึ กโรติ ลชฺชติ. ชิคุจฺฉตีติ อสุจึ วิย ทิสฺวา ชิคุจฺฉํ อุปฺปาเทติ. อตฺตานํเยว อติสิตฺวาติ ชราธมฺมมฺปิ สมานํ อตฺตานํ อติกฺกมิตฺวา อฏฺฏียติ หรายตีติ อตฺโถ. ชราธมฺโมติ ชราสภาโว. ชรํ อนตีโตติ ชรํ อนติกฺกนฺโต, อนฺโต ชราย วตฺตามิ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขโตติ เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. โยพฺพนมโทติ โยพฺพนํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. สพฺพโส ปหียีติ สพฺพากาเรน ปหีโน. มคฺเคน ปหีนสทิโส กตฺวา ทสฺสิโต. น ปเนส มคฺเคน ปหีโน, ปฏิสงฺขาเนน ปหีโนว กถิโตติ เวทิตพฺโพ. โพธิสตฺตสฺส หิ เทวตา ชราปตฺตํ ทสฺเสสุํ. ตโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตา อนฺตรา มหาสตฺตสฺส โยพฺพนมโท นาม น อุปฺปชฺชติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อาโรคฺยมโทติ อหํ นิโรโคติ อาโรคฺยํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. ชีวิตมโทติ อหํ จิรํ ชีวีติ ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. สิกฺขํ ปจฺจกฺขายาติ สิกฺขํ ปฏิกฺขิปิตฺวา. หีนายาวตฺตตีติ หีนาย ลามกาย คิหิภาวาย อาวตฺตติ.

ยถาธมฺมาติ พฺยาธิอาทีหิ ยถาสภาวา. ตถาสนฺตาติ ยถา สนฺตา เอว อวิปรีตพฺยาธิอาทิสภาวาว หุตฺวาติ อตฺโถ. ชิคุจฺฉนฺตีติ ปรปุคฺคลํ ชิคุจฺฉนฺติ. มม เอวํ วิหาริโนติ มยฺหํ เอวํ ชิคุจฺฉาวิหาเรน วิหรนฺตสฺส เอวํ ชิคุจฺฉนํ นปฺปติรูปํ ภเวยฺย นานุจฺฉวิกํ. โสหํ เอวํ วิหรนฺโตติ โส อหํ เอวํ ปรํ ชิคุจฺฉมาโน วิหรนฺโต, เอวํ วา อิมินา ปฏิสงฺขานวิหาเรน วิหรนฺโต. ตฺวา ธมฺมํ นิรูปธินฺติ สพฺพูปธิวิรหิตํ นิพฺพานธมฺมํ ตฺวา. สพฺเพ มเท อภิโภสฺมีติ สพฺเพ ตโยปิ มเท อภิภวึ สมติกฺกมึ. เนกฺขมฺเม ทฏฺุ เขมตนฺติ นิพฺพาเน เขมภาวํ ทิสฺวา. เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโตติปิ ปาโ, นิพฺพานํ เขมโต ทิสฺวาติ อตฺโถ. ตสฺส เม อหุ อุสฺสาโหติ ตสฺส มยฺหํ ตํ เนกฺขมฺมสงฺขาตํ นิพฺพานํ อภิปสฺสนฺตสฺส อุสฺสาโห อหุ, วายาโม อโหสีติ อตฺโถ. นาหํ ภพฺโพ เอตรหิ, กามานิ ปฏิเสวิตุนฺติ อหํ ทานิ ทุวิเธปิ กาเม ปฏิเสวิตุํ อภพฺโพ. อนิวตฺติ ภวิสฺสามีติ ปพฺพชฺชโต จ สพฺพฺุตฺาณโต จ น นิวตฺติสฺสามิ, อนิวตฺตโก ภวิสฺสามิ. พฺรหฺมจริยปรายโณติ มคฺคพฺรหฺมจริยปรายโณ ชาโตสฺมีติ อตฺโถ. อิติ อิมาหิ คาถาหิ มหาโพธิปลฺลงฺเก อตฺตโน อาคมนียวีริยํ กเถสิ.

๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา

๔๐. ทสเม อาธิปเตยฺยานีติ เชฏฺกการณโต นิพฺพตฺตานิ. อตฺตาธิปเตยฺยนฺติอาทีสุ อตฺตานํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ คุณชาตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. โลกํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ โลกาธิปเตยฺยํ. นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ ธมฺมาธิปเตยฺยํ. น อิติ ภวาภวเหตูติ อิติ ภโว, อิติ ภโวติ เอวํ อายตึ, น ตสฺส ตสฺส สมฺปตฺติภวสฺส เหตุ. โอติณฺโณติ อนุปวิฏฺโ. ยสฺส หิ ชาติ อนฺโตปวิฏฺา, โส ชาติยา โอติณฺโณ นาม. ชราทีสุปิ เอเสว นโย. เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขราสิสฺส. อนฺตกิริยา ปฺาเยถาติ อนฺตกรณํ ปริจฺเฉทปริวฏุมกรณํ ปฺาเยยฺย. โอหายาติ ปหาย. ปาปิฏฺตเรติ ลามกตเร. อารทฺธนฺติ ปคฺคหิตํ ปริปุณฺณํ, อารทฺธตฺตาว อสลฺลีนํ. อุปฏฺิตาติ จตุสติปฏฺานวเสน อุปฏฺิตา. อุปฏฺิตตฺตาว อสมฺมุฏฺา. ปสฺสทฺโธ กาโยติ นามกาโย จ กรชกาโย จ ปสฺสทฺโธ วูปสนฺตทรโถ. ปสฺสทฺธตฺตาว อสารทฺโธ. สมาหิตํ จิตฺตนฺติ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อาหิตํ สุฏฺุ ปิตํ. สมฺมา อาหิตตฺตาว เอกคฺคํ. อธิปตึ กริตฺวาติ เชฏฺกํ กตฺวา. สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตีติ สุทฺธํ นิมฺมลํ กตฺวา อตฺตานํ ปริหรติ ปฏิชคฺคติ, โคปายตีติ อตฺโถ. อยฺจ ยาว อรหตฺตมคฺคา ปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ นาม, ผลปฺปตฺโตว ปน นิปฺปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ.

สฺวากฺขาโตติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๗) วิตฺถาริตานิ. ชานํ ปสฺสํ วิหรนฺตีติ ตํ ธมฺมํ ชานนฺตา ปสฺสนฺตา วิหรนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อาธิปเตยฺยานีติ เอตฺตาวตา ตีณิ อาธิปเตยฺยานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานิ.

ปกุพฺพโตติ กโรนฺตสฺส. อตฺตา เต ปุริส ชานาติ, สจฺจํ วา ยทิ วา มุสาติ ยํ ตฺวํ กโรสิ, ตํ ยทิ วา ยถาสภาวํ ยทิ วา โน ยถาสภาวนฺติ ตว อตฺตาว ชานาติ. อิมินา จ การเณน เวทิตพฺพํ ‘‘ปาปกมฺมํ กโรนฺตสฺส โลเก ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ. กลฺยาณนฺติ สุนฺทรํ. อติมฺสีติ อติกฺกมิตฺวา มฺสิ. อตฺตานํ ปริคูหสีติ ยถา เม อตฺตาปิ น ชานาติ, เอวํ นํ ปริคูหามีติ วายมสิ. อตฺตาธิปเตยฺยโกติ อตฺตเชฏฺโก. โลกาธิโปติ โลกเชฏฺโก. นิปโกติ ปฺวา. ฌายีติ ฌายนฺโต. ธมฺมาธิโปติ ธมฺมเชฏฺโก. สจฺจปรกฺกโมติ ถิรปรกฺกโม ภูตปรกฺกโม. ปสยฺห มารนฺติ มารํ ปสหิตฺวา. อภิภุยฺย อนฺตกนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. โย จ ผุสี ชาติกฺขยํ ปธานวาติ โย ฌายี ปธานวา มารํ อภิภวิตฺวา ชาติกฺขยํ อรหตฺตํ ผุสิ. โส ตาทิโสติ โส ตถาวิโธ ตถาสณฺิโต. โลกวิทูติ ตโย โลเก วิทิเต ปากเฏ กตฺวา ิโต. สุเมโธติ สุปฺโ. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อตมฺมโย มุนีติ สพฺเพ เตภูมกธมฺเม ตณฺหาสงฺขาตาย ตมฺมยตาย อภาเวน อตมฺมโย ขีณาสวมุนิ กทาจิ กตฺถจิ น หียติ น ปริหียตีติ วุตฺตํ โหตีติ.

เทวทูตวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. จูฬวคฺโค

๑. สมฺมุขีภาวสุตฺตวณฺณนา

๔๑. ปฺจมสฺส ปเม สมฺมุขีภาวาติ สมฺมุขีภาเวน, วิชฺชมานตายาติ อตฺโถ. ปสวตีติ ปฏิลภติ. สทฺธาย สมฺมุขีภาวาติ ยทิ หิ สทฺธา น ภเวยฺย, เทยฺยธมฺโม น ภเวยฺย, ทกฺขิเณยฺยสงฺขาตา ปฏิคฺคาหกปุคฺคลา น ภเวยฺยุํ, กถํ ปุฺกมฺมํ กเรยฺย. เตสํ ปน สมฺมุขีภาเวน สกฺกา กาตุนฺติ ตสฺมา ‘‘สทฺธาย สมฺมุขีภาวา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ จ ทฺเว ธมฺมา สุลภา เทยฺยธมฺมา เจว ทกฺขิเณยฺยา จ, สทฺธา ปน ทุลฺลภา. ปุถุชฺชนสฺส หิ สทฺธา อถาวรา ปทวาเรน นานา โหติ, เตเนว มหาโมคฺคลฺลานสทิโสปิ อคฺคสาวโก ปาฏิโภโค ภวิตุํ อสกฺโกนฺโต อาห – ‘‘ทฺวินฺนํ โข เต อหํ, อาวุโส, ธมฺมานํ ปาฏิโภโค โภคานฺจ ชีวิตสฺส จ, สทฺธาย ปน ตฺวํเยว ปาฏิโภโค’’ติ (อุทา. ๑๘).

๒. ติานสุตฺตวณฺณนา

๔๒. ทุติเย วิคตมลมจฺเฉเรนาติ วิคตมจฺฉริยมเลน. มุตฺตจาโคติ วิสฺสฏฺจาโค. ปยตปาณีติ โธตหตฺโถ. อสฺสทฺโธ หิ สตกฺขตฺตุํ หตฺเถ โธวิตฺวาปิ มลินหตฺโถว โหติ, สทฺโธ ปน ทานาภิรตตฺตา มลินหตฺโถปิ โธตหตฺโถว. โวสฺสคฺครโตติ โวสฺสคฺคสงฺขาเต ทาเน รโต. ยาจโยโคติ ยาจิตุํ ยุตฺโต, ยาจเกหิ วา โยโค อสฺสาติปิ ยาจโยโค. ทานสํวิภาครโตติ ทานํ ททนฺโต สํวิภาคฺจ กโรนฺโต ทานสํวิภาครโต นาม โหติ.

ทสฺสนกาโม สีลวตนฺติ ทสปิ โยชนานิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ โยชนสตมฺปิ คนฺตฺวา สีลสมฺปนฺเน ทฏฺุกาโม โหติ ปาฏลิปุตฺตกพฺราหฺมโณ วิย สทฺธาติสฺสมหาราชา วิย จ. ปาฏลิปุตฺตสฺส กิร นครทฺวาเร สาลาย นิสินฺนา ทฺเว พฺราหฺมณา กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสิมหานาคตฺเถรสฺส คุณกถํ สุตฺวา ‘‘อมฺเหหิ ตํ ภิกฺขุํ ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ ทฺเวปิ ชนา นิกฺขมึสุ. เอโก อนฺตรามคฺเค กาลมกาสิ. เอโก สมุทฺทตีรํ ปตฺวา นาวาย มหาติตฺถปฏฺฏเน โอรุยฺห อนุราธปุรํ อาคนฺตฺวา ‘‘กาฬวลฺลิมณฺฑโป กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉิ. โรหณชนปเทติ. โส อนุปุพฺเพน เถรสฺส วสนฏฺานํ ปตฺวา จูฬนครคาเม ธุรฆเร นิวาสํ คเหตฺวา เถรสฺส อาหารํ สมฺปาเทตฺวา ปาโตว วุฏฺาย เถรสฺส วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา ชนปริยนฺเต ิโต เถรํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สกึ ตตฺเถว ิโต วนฺทิตฺวา ปุน อุปสงฺกมิตฺวา โคปฺผเกสุ ทฬฺหํ คเหตฺวา วนฺทนฺโต ‘‘อุจฺจา, ภนฺเต, ตุมฺเห’’ติ อาห. เถโร จ นาติอุจฺโจ นาติรสฺโส ปมาณยุตฺโตว, เตน นํ ปุน อาห – ‘‘นาติอุจฺจา ตุมฺเห, ตุมฺหากํ ปน คุณา เมจกวณฺณสฺส สมุทฺทสฺส มตฺถเกน คนฺตฺวา สกลชมฺพุทีปตลํ อชฺโฌตฺถริตฺวา คตา, อหมฺปิ ปาฏลิปุตฺตนครทฺวาเร นิสินฺโน ตุมฺหากํ คุณกถํ อสฺโสสิ’’นฺติ. โส เถรสฺส ภิกฺขาหารํ ทตฺวา อตฺตโน ติจีวรํ ปฏิยาเทตฺวา เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตสฺโสวาเท ปติฏฺาย กติปาเหเนว อรหตฺตํ ปาปุณิ.

สทฺธาติสฺสมหาราชาปิ, ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ วนฺทิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ อยฺยํ อาจิกฺขถา’’ติ ปุจฺฉิ. ภิกฺขู ‘‘มงฺคลวาสี กุฏฺฏติสฺสตฺเถโร’’ติ อาหํสุ. ราชา มหาปริวาเรน ปฺจโยชนมคฺคํ อคมาสิ. เถโร ‘‘กึ สทฺโท เอโส, อาวุโส’’ติ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ. ‘‘ราชา, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย อาคโต’’ติ. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘กึ มยฺหํ มหลฺลกกาเล ราชเคเห กมฺม’’นฺติ ทิวาฏฺาเน มฺเจ นิปชฺชิตฺวา ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺโต อจฺฉิ. ราชา ‘‘กหํ เถโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทิวาฏฺาเน’’ติ สุตฺวา ตตฺถ คจฺฉนฺโต เถรํ ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ขีณาสวสฺส นาม หตฺถกุกฺกุจฺจํ นตฺถิ, นายํ ขีณาสโว’’ติ อวนฺทิตฺวาว นิวตฺติ. ภิกฺขุสงฺโฆ เถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, เอวํวิธสฺส สทฺธสฺส ปสนฺนสฺส รฺโ กสฺมา วิปฺปฏิสารํ กริตฺถา’’ติ. ‘‘อาวุโส, รฺโ ปสาทรกฺขนํ น ตุมฺหากํ ภาโร, มหลฺลกตฺเถรสฺส ภาโร’’ติ วตฺวา อปรภาเค อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ อาห – ‘‘มยฺหํ กูฏาคารมฺหิ อฺมฺปิ ปลฺลงฺกํ อตฺถรถา’’ติ. ตสฺมึ อตฺถเต เถโร – ‘‘อิทํ กูฏาคารํ อนฺตเร อปฺปติฏฺหิตฺวา รฺา ทิฏฺกาเลเยว ภูมิยํ ปติฏฺาตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพายิ. กูฏาคารํ ปฺจโยชนมคฺคํ อากาเสน อคมาสิ. ปฺจโยชนมคฺเค ธชํ ธาเรตุํ สมตฺถา รุกฺขา ธชปคฺคหิตาว อเหสุํ. คจฺฉาปิ คุมฺพาปิ สพฺเพ กูฏาคาราภิมุขา หุตฺวา อฏฺํสุ.

รฺโปิ ปณฺณํ ปหิณึสุ ‘‘เถโร ปรินิพฺพุโต, กูฏาคารํ อากาเสน อาคจฺฉตี’’ติ. ราชา น สทฺทหิ. กูฏาคารํ อากาเสน คนฺตฺวา ถูปารามํ ปทกฺขิณํ กตฺวา สิลาเจติยฏฺานํ อคมาสิ. เจติยํ สห วตฺถุนา อุปฺปติตฺวา กูฏาคารมตฺถเก อฏฺาสิ, สาธุการสหสฺสานิ ปวตฺตึสุ. ตสฺมึ ขเณ มหาพฺยคฺฆตฺเถโร นาม โลหปาสาเท สตฺตมกูฏาคาเร นิสินฺโน ภิกฺขูนํ วินยกมฺมํ กโรนฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ สทฺโท เอโส’’ติ ปฏิปุจฺฉิ. ภนฺเต, มงฺคลวาสี กุฏฺฏติสฺสตฺเถโร ปรินิพฺพุโต, กูฏาคารํ ปฺจโยชนมคฺคํ อากาเสน อาคตํ, ตตฺถ โส สาธุการสทฺโทติ. อาวุโส, ปุฺวนฺเต นิสฺสาย สกฺการํ ลภิสฺสามาติ อนฺเตวาสิเก ขมาเปตฺวา อากาเสเนว อาคนฺตฺวา ตํ กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา ทุติยมฺเจ นิสีทิตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. ราชา คนฺธปุปฺผจุณฺณานิ อาทาย คนฺตฺวา อากาเส ิตํ กูฏาคารํ ทิสฺวา กูฏาคารํ ปูเชสิ. ตสฺมึ ขเณ กูฏาคารํ โอตริตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิตํ. ราชา มหาสกฺกาเรน สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ธาตุโย คเหตฺวา เจติยํ อกาสิ. เอวรูปา สีลวนฺตานํ ทสฺสนกามา นาม โหนฺติ.

สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉตีติ ตถาคตปฺปเวทิตํ สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ ปิณฺฑปาติกตฺเถราทโย วิย. คงฺคาวนวาลิองฺคณมฺหิ กิร ตึส ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา อนฺวทฺธมาสํ อุโปสถทิวเส จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามมหาอริยวํสฺจ (อ. นิ. ๔.๒๘) กเถนฺติ. เอโก ปิณฺฑปาติกตฺเถโร ปจฺฉาภาเคน อาคนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิ. อถ นํ เอโก โคนโส ชงฺฆปิณฺฑิมํสํ สณฺฑาเสน คณฺหนฺโต วิย ฑํสิ. เถโร โอโลเกนฺโต โคนสํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช ธมฺมสฺสวนนฺตรายํ น กริสฺสามี’’ติ โคนสํ คเหตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา ถวิกามุขํ พนฺธิตฺวา อวิทูเร าเน เปตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโตว นิสีทิ. อรุณุคฺคมนฺจ วิสํ วิกฺขมฺเภตฺวา เถรสฺส ติณฺณํ ผลานํ ปาปุณนฺจ วิสสฺส ทฏฺฏฺาเนเนว โอตริตฺวา ปถวิปวิสนฺจ ธมฺมกถิกตฺเถรสฺส ธมฺมกถานิฏฺาปนฺจ เอกกฺขเณเยว อโหสิ. ตโต เถโร อาห – ‘‘อาวุโส เอโก เม โจโร คหิโต’’ติ ถวิกํ มุฺจิตฺวา โคนสํ วิสฺสชฺเชสิ. ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กาย เวลาย ทฏฺตฺถ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉึสุ. หิยฺโย สายนฺหสมเย, อาวุโสติ. กสฺมา, ภนฺเต, เอวํ ภาริยํ กมฺมํ กริตฺถาติ. อาวุโส, สจาหํ ทีฆชาติเกน ทฏฺโติ วเทยฺยํ, นยิมํ เอตฺตกํ อานิสํสํ ลเภยฺยนฺติ. อิทํ ตาว ปิณฺฑปาติกตฺเถรสฺส วตฺถุ.

ทีฆวาปิยมฺปิ ‘‘มหาชาตกภาณกตฺเถโร คาถาสหสฺสํ มหาเวสฺสนฺตรํ กเถสฺสตี’’ติ ติสฺสมหาคาเม ติสฺสมหาวิหารวาสี เอโก ทหโร สุตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา เอกาเหเนว นวโยชนมคฺคํ อาคโต. ตสฺมึเยว ขเณ เถโร ธมฺมกถํ อารภิ. ทหโร ทูรมคฺคาคมเนน สฺชาตกายทรถตฺตา ปฏฺานคาถาย สทฺธึ อวสานคาถํเยว ววตฺถเปสิ. ตโต เถรสฺส ‘‘อิทมโวจา’’ติ วตฺวา อุฏฺาย คมนกาเล ‘‘มยฺหํ อาคมนกมฺมํ โมฆํ ชาต’’นฺติ โรทมาโน อฏฺาสิ. เอโก มนุสฺโส ตํ กถํ สุตฺวา คนฺตฺวา เถรสฺส อาโรเจสิ, ‘‘ภนฺเต, ‘ตุมฺหากํ ธมฺมกถํ โสสฺสามี’ติ เอโก ทหรภิกฺขุ ติสฺสมหาวิหารา อาคโต, โส ‘กายทรถภาเวน เม อาคมนํ โมฆํ ชาต’นฺติ โรทมาโน ิโต’’ติ. คจฺฉถ สฺาเปถ นํ ‘‘ปุน สฺเว กเถสฺสามา’’ติ. โส ปุนทิวเส เถรสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ.

อปราปิ อุลฺลโกลิกณฺณิวาสิกา เอกา อิตฺถี ปุตฺตกํ ปายมานา ‘‘ทีฆภาณกมหาอภยตฺเถโร นาม อริยวํสปฏิปทํ กเถตี’’ติ สุตฺวา ปฺจโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ทิวากถิกตฺเถรสฺส นิสินฺนกาเลเยว วิหารํ ปวิสิตฺวา ภูมิยํ ปุตฺตํ นิปชฺชาเปตฺวา ทิวากถิกตฺเถรสฺส ิตกาว ธมฺมํ อสฺโสสิ. สรภาณเก เถเร อุฏฺิเต ทีฆภาณกมหาอภยตฺเถโร จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามมหาอริยวํสํ อารภิ. สา ิตกาว ปคฺคณฺหาติ. เถโร ตโย เอว ปจฺจเย กเถตฺวา อุฏฺานาการํ อกาสิ. สา อุปาสิกา อาห – ‘‘อยฺโย, ‘อริยวํสํ กเถสฺสามี’ติ สินิทฺธโภชนํ ภุฺชิตฺวา มธุรปานกํ ปิวิตฺวา ยฏฺิมธุกเตลาทีหิ เภสชฺชํ กตฺวา กเถตุํ ยุตฺตฏฺาเนเยว อุฏฺหตี’’ติ. เถโร ‘‘สาธุ, ภคินี’’ติ วตฺวา อุปริ ภาวนารามํ ปฏฺเปสิ. อรุณุคฺคมนฺจ เถรสฺส ‘‘อิทมโวจา’’ติ วจนฺจ อุปาสิกาย โสตาปตฺติผลุปฺปตฺติ จ เอกกฺขเณเยว อโหสิ.

อปราปิ กฬมฺปรวาสิกา อิตฺถี องฺเกน ปุตฺตํ อาทาย ‘‘ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ จิตฺตลปพฺพตํ คนฺตฺวา เอกํ รุกฺขํ นิสฺสาย ทารกํ นิปชฺชาเปตฺวา สยํ ิตกาว ธมฺมํ สุณาติ. รตฺติภาคสมนนฺตเร เอโก ทีฆชาติโก ตสฺสา ปสฺสนฺติยาเยว สมีเป นิปนฺนทารกํ จตูหิ ทาาหิ ฑํสิตฺวา อคมาสิ. สา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ ‘ปุตฺโต เม สปฺเปน ทฏฺโ’ติ วกฺขามิ, ธมฺมสฺส อนฺตราโย ภวิสฺสติ. อเนกกฺขตฺตุํ โข ปน เม อยํ สํสารวฏฺเฏ วฏฺฏนฺติยา ปุตฺโต อโหสิ, ธมฺมเมว จริสฺสามี’’ติ ติยามรตฺตึ ิตกาว ธมฺมํ ปคฺคณฺหิตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย อรุเณ อุคฺคเต สจฺจกิริยาย ปุตฺตสฺส วิสํ นิมฺมเถตฺวา ปุตฺตํ คเหตฺวา คตา. เอวรูปา ปุคฺคลา ธมฺมํ โสตุกามา นาม โหนฺติ.

๓. อตฺถวสสุตฺตวณฺณนา

๔๓. ตติเย ตโย, ภิกฺขเว, อตฺถวเส สมฺปสฺสมาเนนาติ ตโย อตฺเถ ตีณิ การณานิ ปสฺสนฺเตน. อลเมวาติ ยุตฺตเมว. โย ธมฺมํ เทเสตีติ โย ปุคฺคโล จตุสจฺจธมฺมํ ปกาเสติ. อตฺถปฺปฏิสํเวทีติ อฏฺกถํ าเณน ปฏิสํเวที. ธมฺมปฺปฏิสํเวทีติ ปาฬิธมฺมํ ปฏิสํเวที.

๔. กถาปวตฺติสุตฺตวณฺณนา

๔๔. จตุตฺเถ าเนหีติ การเณหิ. ปวตฺตินีติ อปฺปฏิหตา นิยฺยานิกา.

๕. ปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา

๔๕. ปฺจเม ปณฺฑิตปฺตฺตานีติ ปณฺฑิเตหิ ปฺตฺตานิ กถิตานิ ปสตฺถานิ. สปฺปุริสปฺตฺตานีติ สปฺปุริเสหิ มหาปุริเสหิ ปฺตฺตานิ กถิตานิ ปสตฺถานิ. อหึสาติ กรุณา เจว กรุณาปุพฺพภาโค จ. สํยโมติ สีลสํยโม. ทโมติ อินฺทฺริยสํวโร, อุโปสถวเสน วา อตฺตทมนํ, ปุณฺโณวาเท (ม. นิ. ๓.๓๙๕ อาทโย; สํ. นิ. ๔.๘๘ อาทโย) ทโมติ วุตฺตา ขนฺติปิ อาฬวเก (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๓ อาทโย) วุตฺตา ปฺาปิ อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏติเยว. มาตาปิตุ อุปฏฺานนฺติ มาตาปิตูนํ รกฺขนํ โคปนํ ปฏิชคฺคนํ. สนฺตานนฺติ อฺตฺถ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวกา สนฺโต นาม, อิธ ปน มาตาปิตุอุปฏฺากา อธิปฺเปตา. ตสฺมา อุตฺตมฏฺเน สนฺตานํ, เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจารีนํ. อิทํ มาตาปิตุอุปฏฺานํ สพฺภิ อุปฺาตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สตํ เอตานิ านานีติ สนฺตานํ อุตฺตมปุริสานํ เอตานิ านานิ การณานิ. อริโย ทสฺสนสมฺปนฺโนติ อิธ อิเมสํเยว ติณฺณํ านานํ การเณน อริโย เจว ทสฺสนสมฺปนฺโน จ เวทิตพฺโพ, น พุทฺธาทโย น โสตาปนฺนา. อถ วา สตํ เอตานิ านานีติ มาตุปฏฺานํ ปิตุปฏฺานนฺติ เอตานิ านานิ สนฺตานํ อุตฺตมปุริสานํ การณานีติ เอวํ มาตาปิตุอุปฏฺากวเสน อิมิสฺสา คาถาย อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มาตาปิตุอุปฏฺาโกเยว หิ อิธ ‘‘อริโย ทสฺสนสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺโต. ส โลกํ ภชเต สิวนฺติ โส เขมํ เทวโลกํ คจฺฉตีติ.

๖. สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๖. ฉฏฺเ ตีหิ าเนหีติ ตีหิ การเณหิ. กาเยนาติอาทีสุ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺตา คจฺฉนฺเต อนุคจฺฉนฺตา อาสนสาลาย สมฺมชฺชนอุปเลปนาทีนิ กโรนฺตา อาสนานิ ปฺาเปนฺตา ปานียํ ปจฺจุปฏฺาเปนฺตา กาเยน ปุฺํ ปสวนฺติ นาม. ภิกฺขุสงฺฆํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ยาคุํ เทถ, ภตฺตํ เทถ, สปฺปินวนีตาทีนิ เทถ, คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูเชถ, อุโปสถํ อุปวสถ, ธมฺมํ สุณาถ, เจติยํ วนฺทถา’’ติอาทีนิ วทนฺตา วาจาย ปุฺํ ปสวนฺติ นาม. ภิกฺขู ปิณฺฑาย จรนฺเต ทิสฺวา ‘‘ลภนฺตู’’ติ จินฺเตนฺตา มนสา ปุฺํ ปสวนฺติ นาม. ปสวนฺตีติ ปฏิลภนฺติ. ปุฺํ ปเนตฺถ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ กถิตํ.

๗. สงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

๔๗. สตฺตเม สงฺขตสฺสาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตสฺส. สงฺขตลกฺขณานีติ สงฺขตํ เอตนฺติ สฺชานนการณานิ นิมิตฺตานิ. อุปฺปาโทติ ชาติ. วโยติ เภโท. ิตสฺส อฺถตฺตํ นาม ชรา. ตตฺถ สงฺขตนฺติ เตภูมกา ธมฺมา. มคฺคผลานิ ปน อสมฺมสนูปคตฺตา อิธ น กถียนฺติ. อุปฺปาทาทโย สงฺขตลกฺขณา นาม. เตสุ อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปาโท, านกฺขเณ ชรา, เภทกฺขเณ วโย. ลกฺขณํ น สงฺขตํ, สงฺขตํ น ลกฺขณํ, ลกฺขเณน ปน สงฺขตํ ปริจฺฉินฺนํ. ยถา หตฺถิอสฺสโคมหึสาทีนํ สตฺติสูลาทีนิ สฺชานนลกฺขณานิ น หตฺถิอาทโย, นปิ หตฺถิอาทโย ลกฺขณาเนว, ลกฺขเณหิ ปน เต ‘‘อสุกสฺส หตฺถี, อสุกสฺส อสฺโส, อสุกหตฺถี, อสุกอสฺโส’’ติ วา ปฺายนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.

๘. อสงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

๔๘. อฏฺเม อสงฺขตสฺสาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา อกตสฺส. อสงฺขตลกฺขณานีติ อสงฺขตํ เอตนฺติ สฺชานนการณานิ นิมิตฺตานิ. น อุปฺปาโท ปฺายตีติอาทีหิ อุปฺปาทชราภงฺคานํ อภาโว วุตฺโต. อุปฺปาทาทีนฺหิ อภาเวน อสงฺขตนฺติ ปฺายติ.

๙. ปพฺพตราชสุตฺตวณฺณนา

๔๙. นวเม มหาสาลาติ มหารุกฺขา. กุลปตินฺติ กุลเชฏฺกํ. เสโลติ สิลามโย. อรฺสฺมินฺติ อคามกฏฺาเน. พฺรหฺมาติ มหนฺโต. วเนติ อฏวิยํ. วนปฺปตีติ วนเชฏฺกา. อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, มคฺคํ สุคติคามินนฺติ สุคติคามิกมคฺคสงฺขาตํ ธมฺมํ จริตฺวา.

๑๐. อาตปฺปกรณียสุตฺตวณฺณนา

๕๐. ทสเม อาตปฺปํ กรณียนฺติ วีริยํ กาตุํ ยุตฺตํ. อนุปฺปาทายาติ อนุปฺปาทตฺถาย, อนุปฺปาทํ สาเธสฺสามีติ อิมินา การเณน กตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปรโตปิ เอเสว นโย. สารีริกานนฺติ สรีรสมฺภวานํ. ทุกฺขานนฺติ ทุกฺขมานํ. ติพฺพานนฺติ พหลานํ, ตาปนวเสน วา ติพฺพานํ. ขรานนฺติ ผรุสานํ. กฏุกานนฺติ ติขิณานํ. อสาตานนฺติ อมธุรานํ. อมนาปานนฺติ มนํ วฑฺเฒตุํ อสมตฺถานํ. ปาณหรานนฺติ ชีวิตหรานํ. อธิวาสนายาติ อธิวาสนตฺถาย สหนตฺถาย ขมนตฺถาย.

เอตฺตเก าเน สตฺถา อาณาเปตฺวา อาณตฺตึ ปวตฺเตตฺวา อิทานิ สมาทเปนฺโต ยโต โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ยโตติ ยทา. อาตาปีติ วีริยวา. นิปโกติ สปฺปฺโ. สโตติ สติยา สมนฺนาคโต. ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริจฺเฉทปริวฏุมกิริยาย. อิเม จ ปน อาตาปาทโย ตโยปิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.

๑๑. มหาโจรสุตฺตวณฺณนา

๕๑. เอกาทสเม มหาโจโรติ มหนฺโต พลวโจโร. สนฺธินฺติ ฆรสนฺธึ. นิลฺโลปนฺติ มหาวิโลปํ. เอกาคาริกนฺติ เอกเมว เคหํ ปริวาเรตฺวา วิลุมฺปนํ. ปริปนฺเถปิ ติฏฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรติ. นทีวิทุคฺคนฺติ นทีนํ ทุคฺคมฏฺานํ อนฺตรทีปกํ, ยตฺถ สกฺกา โหติ ทฺวีหิปิ ตีหิปิ ชงฺฆสหสฺเสหิ สทฺธึ นิลียิตุํ. ปพฺพตวิสมนฺติ ปพฺพตานํ วิสมฏฺานํ ปพฺพตนฺตรํ, ยตฺถ สกฺกา โหติ สตฺตหิ วา อฏฺหิ วา ชงฺฆสหสฺเสหิ สทฺธึ นิลียิตุํ. ติณคหนนฺติ ติเณน วฑฺฒิตฺวา สฺฉนฺนํ ทฺวตฺติโยชนฏฺานํ. โรธนฺติ ฆนํ อฺมฺํ สํสฏฺสาขํ เอกาพทฺธํ มหาวนสณฺฑํ. ปริโยธาย อตฺถํ ภณิสฺสนฺตีติ ปริโยทหิตฺวา ตํ ตํ การณํ ปกฺขิปิตฺวา อตฺถํ กถยิสฺสนฺติ. ตฺยาสฺสาติ เต อสฺส. ปริโยธาย อตฺถํ ภณนฺตีติ กิสฺมิฺจิ กิฺจิ วตฺตุํ อารทฺเธเยว ‘‘มา เอวํ อวจุตฺถ, มยํ เอตํ กุลปรมฺปราย ชานาม, น เอส เอวรูปํ กริสฺสตี’’ติ ตํ ตํ การณํ ปกฺขิปิตฺวา มหนฺตมฺปิ โทสํ หรนฺตา อตฺถํ ภณนฺติ. อถ วา ปริโยธายาติ ปฏิจฺฉาเทตฺวาติปิ อตฺโถ. เต หิ ตสฺสปิ โทสํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อตฺถํ ภณนฺติ. ขตํ อุปหตนฺติ คุณขนเนน ขตํ, คุณุปฆาเตน อุปหตํ. วิสเมน กายกมฺเมนาติ สมฺปกฺขลนฏฺเน วิสเมน กายทฺวาริกกมฺเมน. วจีมโนกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. อนฺตคฺคาหิกายาติ ทสวตฺถุกาย อนฺตํ คเหตฺวา ิตทิฏฺิยา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

จูฬวคฺโค ปฺจโม.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. พฺราหฺมณวคฺโค

๑. ปมทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๒. พฺราหฺมณวคฺคสฺส ปเม ชิณฺณาติ ชราชิณฺณา. วุทฺธาติ วโยวุทฺธา. มหลฺลกาติ ชาติมหลฺลกา. อทฺธคตาติ ตโย อทฺเธ อติกฺกนฺตา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ตติยํ วยํ อนุปฺปตฺตา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ปุตฺตทาเร อตฺตโน วจนํ อกโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นิยฺยานิกมคฺคํ คเวสิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมึสุ. มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณาติ; โภ โคตม, มยํ พฺราหฺมณา น ขตฺติยา นามจฺจา น คหปติกาติ พฺราหฺมณภาวํ ชานาเปตฺวา ชิณฺณาติอาทิมาหํสุ. อกตภีรุตฺตาณาติ อกตภยปริตฺตาณา. อวสฺสยภูตํ ปติฏฺากมฺมํ อมฺเหหิ น กตนฺติ ทสฺเสนฺติ. ตคฺฆาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต, สมฺปฏิจฺฉนตฺเถ วา. เอกนฺเตน ตุมฺเห เอวรูปา, อหมฺปิ โข เอตํ สมฺปฏิจฺฉามีติ จ ทสฺเสติ. อุปนียตีติ อุปสํหรียติ. อยํ หิ ชาติยา ชรํ อุปนียติ, ชราย พฺยาธึ, พฺยาธินา มรณํ, มรเณน ปุน ชาตึ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปนียตี’’ติ.

อิทานิ ยสฺมา เต พฺราหฺมณา มหลฺลกตฺตา ปพฺพชิตฺวาปิ วตฺตํ ปูเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, ตสฺมา เน ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปนฺโต ภควา โยธ กาเยน สํยโมติอาทิมาห. ตตฺถ กาเยน สํยโมติ กายทฺวาเรน สํวโร. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตํ ตสฺส เปตสฺสาติ ตํ ปุฺํ ตสฺส ปรโลกํ คตสฺส ตายนฏฺเน ตาณํ, นิลียนฏฺเน เลณํ, ปติฏฺานฏฺเน ทีโป, อวสฺสยนฏฺเน สรณํ, อุตฺตมคติวเสน ปรายณฺจ โหตีติ ทสฺเสติ. คาถา อุตฺตานตฺถาเยว. เอวํ เต พฺราหฺมณา ตถาคเตน ปฺจสุ สีเลสุ สมาทปิตา ยาวชีวํ ปฺจ สีลานิ รกฺขิตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตึสุ.

๒. ทุติยทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๓. ทุติเย ภาชนนฺติ ยํกิฺจิ ภณฺฑกํ. เสสํ ปเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๓. อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๔. ตติเย สมฺโมทนียนฺติ สมฺโมทชนนึ. สารณียนฺติ สริตพฺพยุตฺตกํ. วีติสาเรตฺวาติ ปริโยสาเปตฺวา. กิตฺตาวตาติ กิตฺตเกน. สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหตีติ สามํ ปสฺสิตพฺโพ โหติ. อกาลิโกติ น กาลนฺตเร ผลทายโก. เอหิปสฺสิโกติ ‘‘เอหิ ปสฺสา’’ติ เอวํ ทสฺเสตุํ สกฺกาติ อาคมนียปฏิปทํ ปุจฺฉติ. โอปเนยฺยิโกติ อตฺตโน จิตฺตํ อุปเนตพฺโพ. ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพติ สามํเยว ชานิตพฺโพ. วิฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ. ปริยาทินฺนจิตฺโตติ อาทินฺนคหิตปรามฏฺจิตฺโต หุตฺวา. เจเตตีติ จินฺเตติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต พฺราหฺมเณน โลกุตฺตรมคฺโค ปุจฺฉิโต, สตฺถาราปิ โสเยว กถิโต. โส หิ สามํ ปสฺสิตพฺพตฺตา สนฺทิฏฺิโก นามาติ.

๔. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา

๕๕. จตุตฺเถ พฺราหฺมณปริพฺพาชโกติ พฺราหฺมณชาติโก ปริพฺพาชโก, น ขตฺติยาทิชาติโก. อตฺตตฺถมฺปีติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ อตฺตโน อตฺถํ.

๕. นิพฺพุตสุตฺตวณฺณนา

๕๖. ปฺจเม อกาลิกนฺติ น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพํ. โอปเนยฺยิกนฺติ ปฏิปตฺติยา อุปคนฺตพฺพํ.

๖. ปโลกสุตฺตวณฺณนา

๕๗. ฉฏฺเ อาจริยปาจริยานนฺติ อาจริยานฺเจว อาจริยาจริยานฺจ. อวีจิ มฺเ ผุโฏ อโหสีติ ยถา อวีจิ มหานิรโย นิรนฺตรผุโฏ เนรยิกสตฺเตหิ ปริปุณฺโณ, มนุสฺเสหิ เอวํ ปริปุณฺโณ โหติ. กุกฺกุฏสํปาติกาติ เอกคามสฺส ฉทนปิฏฺิโต อุปฺปติตฺวา อิตรคามสฺส ฉทนปิฏฺเ ปตนสงฺขาโต กุกฺกุฏสํปาโต เอตาสุ อตฺถีติ กุกฺกุฏสํปาติกา. กุกฺกุฏสํปาทิกาติปิ ปาโ, คามนฺตรโต คามนฺตรํ กุกฺกุฏานํ ปทสา คมนสงฺขาโต กุกฺกุฏสํปาโท เอตาสุ อตฺถีติ อตฺโถ. อุภยมฺเปตํ ฆนนิวาสตํเยว ทีเปติ. อธมฺมราครตฺตาติ ราโค นาม เอกนฺเตเนว อธมฺโม, อตฺตโน ปริกฺขาเรสุ ปน อุปฺปชฺชมาโน น อธมฺมราโคติ อธิปฺเปโต, ปรปริกฺขาเรสุ อุปฺปชฺชมาโนว อธมฺมราโคติ. วิสมโลภาภิภูตาติ โลภสฺส สมกาโล นาม นตฺถิ, เอกนฺตํ วิสโมว เอส. อตฺตนา ปริคฺคหิตวตฺถุมฺหิ ปน อุปฺปชฺชมาโน สมโลโภ นาม, ปรปริคฺคหิตวตฺถุมฺหิ อุปฺปชฺชมาโนว วิสโมติ อธิปฺเปโต. มิจฺฉาธมฺมปเรตาติ อวตฺถุปฏิเสวนสงฺขาเตน มิจฺฉาธมฺเมน สมนฺนาคตา. เทโว น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉตีติ วสฺสิตพฺพยุตฺเต กาเล วสฺสํ น วสฺสติ. ทุพฺภิกฺขนฺติ ทุลฺลภภิกฺขํ. ทุสฺสสฺสนฺติ วิวิธสสฺสานํ อสมฺปชฺชเนน ทุสฺสสฺสํ. เสตฏฺิกนฺติ สสฺเส สมฺปชฺชมาเน ปาณกา ปตนฺติ, เตหิ ทฏฺตฺตา นิกฺขนฺตนิกฺขนฺตานิ สาลิสีสานิ เสตวณฺณานิ โหนฺติ นิสฺสารานิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เสตฏฺิก’’นฺติ. สลากาวุตฺตนฺติ วปิตํ วปิตํ สสฺสํ สลากามตฺตเมว สมฺปชฺชติ, ผลํ น เทตีติ อตฺโถ. ยกฺขาติ ยกฺขาธิปติโน. วาเฬ อมนุสฺเส โอสฺสชฺชนฺตีติ จณฺฑยกฺเข มนุสฺสปเถ วิสฺสชฺเชนฺติ, เต ลทฺโธกาสา มหาชนํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ.

๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา

๕๘. สตฺตเม มหปฺผลนฺติ มหาวิปากํ. ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ เอตฺถ ธมฺโม นาม กถิตกถา, อนุธมฺโม นาม กถิตสฺส ปฏิกถนํ. สหธมฺมิโกติ สการโณ สเหตุโก. วาทานุปาโตติ วาทสฺส อนุปาโต, อนุปตนํ ปวตฺตีติ อตฺโถ. คารยฺหํ านนฺติ ครหิตพฺพยุตฺตํ การณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โภตา โคตเมน วุตฺตา สการณา วาทปฺปวตฺติ กิฺจิปิ คารยฺหํ การณํ น อาคจฺฉตีติ. อถ วา เตหิ ปเรหิ วุตฺตา สการณา วาทปฺปวตฺติ กิฺจิ คารยฺหํ การณํ น อาคจฺฉตีติ ปุจฺฉติ.

อนฺตรายกโร โหตีติ อนฺตรายํ วินาสํ กิจฺฉลาภกํ วิโลมกํ กโรติ. ปาริปนฺถิโกติ ปนฺถทูหนโจโร. ขโต จ โหตีติ คุณขนเนน ขโต โหติ. อุปหโตติ คุณุปฆาเตเนว อุปหโต.

จนฺทนิกายาติ อสุจิกลลกูเป. โอลิคลฺเลติ นิทฺธมนกลเล. โส จาติ โส สีลวาติ วุตฺตขีณาสโว. สีลกฺขนฺเธนาติ สีลราสินา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ วิมุตฺติาณทสฺสนํ วุจฺจติ ปจฺจเวกฺขณาณํ, ตํ อเสกฺขสฺส ปวตฺตตฺตา อเสกฺขนฺติ วุตฺตํ. อิตรานิ สิกฺขาปริโยสานปฺปตฺตตาย สยมฺปิ อเสกฺขาเนว. ตานิ จ ปน โลกุตฺตรานิ, ปจฺจเวกฺขณาณํ โลกิยํ.

โรหิณีสูติ รตฺตวณฺณาสุ. สรูปาสูติ อตฺตโน วจฺฉเกหิ สมานรูปาสุ. ปาเรวตาสูติ กโปตวณฺณาสุ. ทนฺโตติ นิพฺพิเสวโน. ปุงฺคโวติ อุสโภ. โธรยฺโหติ ธุรวาโห. กลฺยาณชวนิกฺกโมติ กลฺยาเณน อุชุนา ชเวน คนฺตา. นาสฺส วณฺณํ ปริกฺขเรติ อสฺส โคณสฺส สรีรวณฺณํ น อุปปริกฺขนฺติ, ธุรวหนกมฺมเมว ปน อุปปริกฺขนฺติ. ยสฺมึ กสฺมิฺจิ ชาติเยติ ยตฺถ กตฺถจิ กุลชาเต. ยาสุ กาสุจิ เอตาสูติ เอตาสุ ขตฺติยาทิปฺปเภทาสุ ยาสุ กาสุจิ ชาตีสุ.

พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ พฺรหฺมจริยสฺส เกวเลน สมนฺนาคโต, ปริปุณฺณภาเวน ยุตฺโตติ อตฺโถ. ขีณาสโว หิ สกลพฺรหฺมจารี นาม โหติ. เตเนตํ วุตฺตํ. ปนฺนภาโรติ โอโรปิตภาโร, ขนฺธภารํ กิเลสภารํ กามคุณภารฺจ โอโรเปตฺวา ิโตติ อตฺโถ. กตกิจฺโจติ จตูหิ มคฺเคหิ กิจฺจํ กตฺวา ิโต. ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺพธมฺมา วุจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย, เตสํ สพฺพธมฺมานํ อภิฺาปารํ, ปริฺาปารํ, ปหานปารํ, ภาวนาปารํ, สจฺฉิกิริยาปารํ, สมาปตฺติปารฺจาติ ฉพฺพิธํ ปารํ คตตฺตา ปารคู. อนุปาทายาติ อคฺคเหตฺวา. นิพฺพุโตติ กิเลสสนฺตาปรหิโต. วิรเชติ ราคโทสโมหรชรหิเต.

อวิชานนฺตาติ เขตฺตํ อชานนฺตา. ทุมฺเมธาติ นิปฺปฺา. อสฺสุตาวิโนติ เขตฺตวินิจฺฉยสวเนน รหิตา. พหิทฺธาติ อิมมฺหา สาสนา พหิทฺธา. น หิ สนฺเต อุปาสเรติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสเว อุตฺตมปุริเส น อุปสงฺกมนฺติ. ธีรสมฺมเตติ ปณฺฑิเตหิ สมฺมเต สมฺภาวิเต. มูลชาตา ปติฏฺิตาติ อิมินา โสตาปนฺนสฺส สทฺธํ ทสฺเสติ. กุเล วา อิธ ชายเรติ อิธ วา มนุสฺสโลเก ขตฺติยพฺราหฺมณเวสฺสกุเล ชายนฺติ. อยเมว หิ ติวิธา กุลสมฺปตฺติ นาม. อนุปุพฺเพน นิพฺพานํ, อธิคจฺฉนฺตีติ สีลสมาธิปฺาติ อิเม คุเณ ปูเรตฺวา อนุกฺกเมน นิพฺพานํ อธิคจฺฉนฺตีติ.

๘. ติกณฺณสุตฺตวณฺณนา

๕๙. อฏฺเม ติกณฺโณติ ตสฺส นามํ. อุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ กิร โคตโม ปณฺฑิโต, คจฺฉิสฺสามิ ตสฺส สนฺติก’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภุตฺตปาตราโส มหาชนปริวุโต อุปสงฺกมิ. ภควโต สมฺมุขาติ ทสพลสฺส ปุรโต นิสีทิตฺวา. วณฺณํ ภาสตีติ กสฺมา ภาสติ? โส กิร อิโต ปุพฺเพ ตถาคตสฺส สนฺติกํ อคตปุพฺโพ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘พุทฺธา นาม ทุราสทา, มยิ ปมตรํ อกเถนฺเต กเถยฺย วา น วา. สเจ น กเถสฺสติ, อถ มํ สมาคมฏฺาเน กเถนฺตํ เอวํ วกฺขนฺติ ‘ตฺวํ อิธ กสฺมา กเถสิ, เยน เต สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วจนมตฺตมฺปิ น ลทฺธ’นฺติ. ตสฺมา ‘เอวํ เม อยํ ครหา มุจฺจิสฺสตี’’’ติ มฺมาโน ภาสติ. กิฺจาปิ พฺราหฺมณานํ วณฺณํ ภาสติ, ตถาคตสฺส ปน าณํ ฆฏฺเฏสฺสามีติ อธิปฺปาเยเนว ภาสติ. เอวมฺปิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณาติ เตวิชฺชกพฺราหฺมณา เอวํปณฺฑิตา เอวํธีรา เอวํพฺยตฺตา เอวํพหุสฺสุตา เอวํวาทิโน, เอวํสมฺมตาติ อตฺโถ. อิติปีติ อิมินา เตสํ ปณฺฑิตาทิอาการปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. เอตฺตเกน การเณน ปณฺฑิตา…เป… เอตฺตเกน การเณน สมฺมตาติ อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ.

ยถา กถํ ปน พฺราหฺมณาติ เอตฺถ ยถาติ การณวจนํ, กถํ ปนาติ ปุจฺฉาวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณา เตวิชฺชํ ปฺาเปนฺติ. ยถา เอวํ สกฺกา โหติ ชานิตุํ, ตํ การณํ วเทหีติ. ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ‘‘ชานนฏฺาเนเยว มํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุจฺฉิ, โน อชานนฏฺาเน’’ติ อตฺตมโน หุตฺวา อิธ, โภ โคตมาติอาทิมาห. ตตฺถ อุภโตติ ทฺวีหิปิ ปกฺเขหิ. มาติโต จ ปิติโต จาติ ยสฺส มาตา พฺราหฺมณี, มาตุ มาตา พฺราหฺมณี, ตสฺสาปิ มาตา พฺราหฺมณี. ปิตา พฺราหฺมโณ, ปิตุ ปิตา พฺราหฺมโณ, ตสฺสาปิ ปิตา พฺราหฺมโณ, โส อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ. สํสุทฺธคหณิโกติ ยสฺส สํสุทฺธา มาตุ คหณี, กุจฺฉีติ อตฺโถ. ‘‘สมเวปากินิยา คหณิยา’’ติ ปน เอตฺถ กมฺมชเตโชธาตุ คหณีติ วุจฺจติ.

ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ เอตฺถ ปิตุ ปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ, อตฺถโต ปน ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส, ตาว สํสุทฺธคหณิโก, อถ วา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนาติ ทสฺเสติ. อกฺขิตฺโตติ ‘‘อปเนถ เอตํ, กึ อิมินา’’ติ เอวํ อกฺขิตฺโต อนวกฺขิตฺโต. อนุปกฺกุฏฺโติ น อุปกฺกุฏฺโ, น อกฺโกสํ วา นินฺทํ วา ปตฺตปุพฺโพ. เกน การเณนาติ? ชาติวาเทน. ‘‘อิติปิ หีนชาติโก เอโส’’ติ เอวรูเปน วจเนนาติ อตฺโถ.

อชฺฌายโกติ อิทํ ‘‘น ทานิเม ฌายนฺติ, น ทานิเม ฌายนฺตีติ โข, วาเสฏฺ, อชฺฌายกา อชฺฌายกาเตว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๒) เอวํ ปมกปฺปิกกาเล ฌานวิรหิตานํ พฺราหฺมณานํ ครหวจนํ อุปฺปนฺนํ. อิทานิ ปน ตํ อชฺฌายตีติ อชฺฌายโก, มนฺเต ปริวตฺเตตีติ อิมินา อตฺเถน ปสํสาวจนํ กตฺวา โวหรนฺติ. มนฺเต ธาเรตีติ มนฺตธโร.

ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุพฺเพทยชุพฺเพทสามพฺเพทานํ. โอฏฺปหตกรณวเสน ปารํ คโตติ ปารคู. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ. นิฆณฺฑูติ นามนิฆณฺฑุรุกฺขาทีนํ เววจนปกาสกสตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการาย สตฺถํ. สห อกฺขรปฺปเภเทน สากฺขรปฺปเภทานํ. อกฺขรปฺปเภโทติ สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา อิติห อาส, อิติห อาสาติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต ขตฺตวิชฺชาสงฺขาโต วา อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา. เตสํ อิติหาสปฺจมานํ เวทานํ.

ปทํ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ อธียติ เวเทติ จาติ ปทโก เวยฺยากรโณ. โลกายตํ วุจฺจติ วิตณฺฑวาทสตฺถํ. มหาปุริสลกฺขณนฺติ มหาปุริสานํ พุทฺธาทีนํ ลกฺขณทีปกํ ทฺวาทสสหสฺสคนฺถปมาณํ สตฺถํ, ยตฺถ โสฬสสหสฺสคาถาปทปริมาณา พุทฺธมนฺตา นาม อเหสุํ, เยสํ วเสน ‘‘อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคตา พุทฺธา นาม โหนฺติ, อิมินา ปจฺเจกพุทฺธา, ทฺเว อคฺคสาวกา, อสีติ มหาสาวกา, พุทฺธมาตา, พุทฺธปิตา, อคฺคุปฏฺากา, อคฺคุปฏฺายิกา, ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ อยํ วิเสโส ายติ. อนวโยติ อิเมสุ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนูโน ปริปูรการี, อวโย น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อวโย นาม โย ตานิ อตฺถโต จ คนฺถโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ. อถ วา อนวโยติ อนุ อวโย, สนฺธิวเสน อุการโลโป. อนุ อวโย ปริปุณฺณสิปฺโปติ อตฺโถ.

เตน หีติ อิทํ ภควา นํ อายาจนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิทานิสฺส ปฺหํ กเถตุํ กาโล’’ติ ตฺวา อาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา มํ อายาจสิ, ตสฺมา สุณาหีติ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๗๐) วิตฺถาริตเมว. อิธ ปเนตํ ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ ปุพฺพภาคปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ทฺวินฺนํ วิชฺชานํ อนุปทวณฺณนา เจว ภาวนานโย จ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๒ อาทโย) วิตฺถาริโตว.

ปมา วิชฺชาติ ปมํ อุปฺปนฺนาติ ปมา, วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชา. กึ วิทิตํ กโรติ? ปุพฺเพนิวาสํ. อวิชฺชาติ ตสฺเสว ปุพฺเพนิวาสสฺส อวิทิตกรณฏฺเน ตปฺปฏิจฺฉาทโก โมโห วุจฺจติ. ตโมติ สฺเวว โมโห ปฏิจฺฉาทกฏฺเน ตโมติ วุจฺจติ. อาโลโกติ สาเยว วิชฺชา โอภาสกรณฏฺเน อาโลโกติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ วิชฺชา อธิคตาติ อยํ อตฺโถ. เสสํ ปสํสาวจนํ. โยชนา ปเนตฺถ อยมสฺส วิชฺชา อธิคตา, อถสฺส อธิคตวิชฺชสฺส อวิชฺชา วิหตา วินฏฺาติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนา. อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย เอเสว นโย. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ยถาติ โอปมฺมํ, นฺติ นิปาตมตฺตํ. สติยา อวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺตสฺส. วีริยาตาเปน อาตาปิโน. กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย ปหิตตฺตสฺส. เปสิตตฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิชฺชา วิหฺเยฺย, วิชฺชา อุปฺปชฺเชยฺย. ตโม วิหฺเยฺย, อาโลโก อุปฺปชฺเชยฺย, เอวเมว ตสฺส อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา. ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน. เอตสฺส เตน ปธานานุโยคสฺส อนุรูปเมว ผลํ ลทฺธนฺติ.

จุตูปปาตกถายํ วิชฺชาติ ทิพฺพจกฺขุาณวิชฺชา. อวิชฺชาติ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิปฺปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ตติยวิชฺชาย โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยาณายาติ อรหตฺตมคฺคาณตฺถาย. อรหตฺตมคฺโค หิ อาสววินาสนโต อาสวานํ ขโยติ วุจฺจติ, ตตฺร เจตํ าณํ ตตฺถ ปริยาปนฺนตฺตาติ. จิตฺตํ อภินินฺนาเมตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ อภินีหรติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโยติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฺปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌติ, ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ, ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อปวตฺตึ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฺปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต อิเม อาสวาติอาทิมาห. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโตติ ตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ ชานนฺตสฺส เอวํ ปสฺสนฺตสฺส. สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถสิ. กามาสวาติ กามาสวโต. วิมุจฺจตีติ อิมินา มคฺคกฺขณํ ทสฺเสติ. มคฺคกฺขเณ หิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ผลกฺขเณ วิมุตฺตํ โหติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณํ ทสฺเสติ. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมึ. เตน หิ าเณน โส ปจฺจเวกฺขนฺโต ขีณา ชาตีติอาทีนิ ปชานาติ. กตมา ปนสฺส ชาติ ขีณา, กถฺจ นํ ปชานาตีติ? น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา ปุพฺเพว ขีณตฺตา, น อนาคตา, อนาคเต วายามาภาวโต, น ปจฺจุปฺปนฺนา, วิชฺชมานตฺตา. ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตา อุปฺปชฺเชยฺย เอกจตุปฺจโวการภเวสุ เอกจตุปฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติ, สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา. ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายติอปฺปฏิสนฺธิกํ โหตีติ ชานนฺโต ปชานาติ.

วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ, กตํ จริตํ นิฏฺิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ สทฺธึ สตฺต เสกฺขา พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม, ขีณาสโว วุตฺถวาโส. ตสฺมา โส อตฺตโน พฺรหฺมจริยวาสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘วุสิตํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ ปชานาติ. กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย หิ ตํ กิจฺจํ กโรนฺติ, ขีณาสโว กตกรณีโย. ตสฺมา โส อตฺตโน กรณียํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘กตํ กรณีย’’นฺติ ปชานาติ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปุน อิตฺถภาวาย, เอวํ โสฬสวิธกิจฺจภาวาย กิเลสกฺขยาย วา มคฺคภาวนากิจฺจํ เม นตฺถีติ ปชานาติ. อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถภาวโต, อิมสฺมา เอวํ ปการา อิทานิ วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานา อปรํ ขนฺธสนฺตานํ มยฺหํ นตฺถิ, อิเม ปน ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิย. เต จริมกวิฺาณนิโรเธน อนุปาทาโน วิย ชาตเวโท นิพฺพายิสฺสนฺตีติ ปชานาติ. อิธ วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺคาณวิชฺชา. อวิชฺชาติ จตุสจฺจปฺปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อนุจฺจาวจสีลสฺสาติ ยสฺส สีลํ กาเลน หายติ, กาเลน วฑฺฒติ, โส อุจฺจาวจสีโล นาม โหติ. ขีณาสวสฺส ปน สีลํ เอกนฺตวฑฺฒิตเมว. ตสฺมา โส อนุจฺจาวจสีโล นาม โหติ. วสีภูตนฺติ วสิปฺปตฺตํ. สุสมาหิตนฺติ สุฏฺุ สมาหิตํ, อารมฺมณมฺหิ สุฏฺปิตํ. ธีรนฺติ ธิติสมฺปนฺนํ. มจฺจุหายินนฺติ มจฺจุํ ชหิตฺวา ิตํ. สพฺพปฺปหายินนฺติ สพฺเพ ปาปธมฺเม ปชหิตฺวา ิตํ. พุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธํ. อนฺติมเทหินนฺติ สพฺพปจฺฉิมสรีรธารินํ. ตํ นมสฺสนฺติ โคตมนฺติ ตํ โคตมโคตฺตํ พุทฺธสาวกา นมสฺสนฺติ. อถ วา โคตมพุทฺธสฺส สาวโกปิ โคตโม, ตํ โคตมํ เทวมนุสฺสา นมสฺสนฺตีติ อตฺโถ.

ปุพฺเพนิวาสนฺติ ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธปรมฺปรํ. โยเวตีติ โย อเวติ อวคจฺฉติ. โยเวทีติปิ ปาโ. โย อเวทิ, วิทิตํ ปากฏํ กตฺวา ิโตติ อตฺโถ. สคฺคาปายฺจ ปสฺสตีติ ฉ กามาวจเร นว พฺรหฺมโลเก จตฺตาโร จ อปาเย ปสฺสติ. ชาติกฺขยํ ปตฺโตติ อรหตฺตํ ปตฺโต. อภิฺาโวสิโตติ ชานิตฺวา กิจฺจโวสาเนน โวสิโต. มุนีติ โมเนยฺเยน สมนฺนาคโต ขีณาสวมุนิ. เอตาหีติ เหฏฺา นิทฺทิฏฺาหิ ปุพฺเพนิวาสาณาทีหิ. นาฺํ ลปิตลาปนนฺติ โย ปนฺโ เตวิชฺโชติ อฺเหิ ลปิตวจนมตฺตเมว ลปติ, ตมหํ เตวิชฺโชติ น วทามิ, อตฺตปจฺจกฺขโต ตฺวา ปรสฺสปิ ติสฺโส วิชฺชา กเถนฺตเมวาหํ เตวิชฺโชติ วทามีติ อตฺโถ. กลนฺติ โกฏฺาสํ. นาคฺฆตีติ น ปาปุณาติ. อิทานิ พฺราหฺมโณ ภควโต กถาย ปสนฺโน ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อภิกฺกนฺตนฺติอาทิมาห.

๙. ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา

๖๐. นวเม ยสฺสสฺสูติ ยสฺส ภเวยฺยุํ. ยฺโติอาทีสุ ยชิตพฺโพติ ยฺโ, เทยฺยธมฺมสฺเสตํ นามํ. สทฺธนฺติ มตกภตฺตํ. ถาลิปาโกติ วรปุริสานํ ทาตพฺพยุตฺตํ ภตฺตํ. เทยฺยธมฺมนฺติ วุตฺตาวเสสํ ยํกิฺจิ เทยฺยธมฺมํ นาม. เตวิชฺเชสุ พฺราหฺมเณสุ ทานํ ทเทยฺยาติ สพฺพเมตํ ทานํ เตวิชฺเชสุ ทเทยฺย, เตวิชฺชา พฺราหฺมณาว ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตาติ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๖๑. ทสเม สงฺคารโวติ เอวํนามโก ราชคหนคเร ชิณฺณปฏิสงฺขรณการโก อายุตฺตกพฺราหฺมโณ. อุปสงฺกมีติ ภุตฺตปาตราโส หุตฺวา มหาชนปริวุโต อุปสงฺกมิ. มยมสฺสูติ เอตฺถ อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ, มยํ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นามาติ อิทเมว อตฺถปทํ. ยฺํ ยชามาติ พาหิรสมเย สพฺพจตุกฺเกน สพฺพฏฺเกน สพฺพโสฬสเกน สพฺพทฺวตฺตึสาย สพฺพจตุสฏฺิยา สพฺพสเตน สพฺพปฺจสเตนาติ จ เอวํ ปาณฆาตปฏิสํยุตฺโต ยฺโ นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยวมาห. อเนกสารีริกนฺติ อเนกสรีรสมฺภวํ. ยทิทนฺติ ยา เอสา. ยฺาธิกรณนฺติ ยชนการณา เจว ยาชนการณา จาติ อตฺโถ. เอกสฺมิฺหิ พหูนํ ททนฺเตปิ ทาเปนฺเตปิ พหูสุปิ พหูนํ เทนฺเตสุปิ ทาเปนฺเตสุปิ ปุฺปฏิปทา อเนกสารีริกา นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตุยฺหฺจ ตุยฺหฺจ ยชามีติ วทนฺตสฺสาปิ ตฺวฺจ ตฺวฺจ ยชาหีติ อาณาเปนฺตสฺสาปิ จ อเนกสารีริกาว โหติ. ตมฺปิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยสฺส วา ตสฺส วาติ ยสฺมา วา ตสฺมา วา. เอกมตฺตานํ ทเมตีติ อตฺตโน อินฺทฺริยทมนวเสน เอกํ อตฺตานเมว ทเมติ. เอกมตฺตานํ สเมตีติ อตฺตโน ราคาทิสมนวเสน เอกํ อตฺตานเมว สเมติ. ปรินิพฺพาเปตีติ ราคาทิปรินิพฺพาเนเนว ปรินิพฺพาเปติ. เอวมสฺสายนฺติ เอวํ สนฺเตปิ อยํ.

เอวมิทํ พฺราหฺมณสฺส กถํ สุตฺวา สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปสุฆาตกสํยุตฺตํ มหายฺํ อเนกสารีริกํ ปุฺปฏิปทํ วเทติ, ปพฺพชฺชามูลกํ ปน ปุฺุปฺปตฺติปฏิปทํ เอกสารีริกนฺติ วเทติ. เนวายํ เอกสารีริกํ ชานาติ, น อเนกสารีริกํ, หนฺทสฺส เอกสารีริกฺจ อเนกสารีริกฺจ ปฏิปทํ เทเสสฺสามี’’ติ อุปริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต เตน หิ พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา เต ขเมยฺยาติ ยถา ตุยฺหํ รุจฺเจยฺย. อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตีติอาทิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตเมว. เอถายํ มคฺโคติ เอถ ตุมฺเห, อหมนุสาสามิ, อยํ มคฺโค. อยํ ปฏิปทาติ ตสฺเสว เววจนํ. ยถา ปฏิปนฺโนติ เยน มคฺเคน ปฏิปนฺโน. อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริโยคธนฺติ อรหตฺตมคฺคสงฺขาตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส อนุตฺตรํ โอคธํ อุตฺตมปติฏฺาภูตํ นิพฺพานํ. อิจฺจายนฺติ อิติ อยํ.

อปฺปฏฺตราติ ยตฺถ พหูหิ เวยฺยาวจฺจกเรหิ วา อุปกรเณหิ วา อตฺโถ นตฺถิ. อปฺปสมารมฺภตราติ ยตฺถ พหูนํ กมฺมจฺเฉทวเสน ปีฬาสงฺขาโต สมารมฺโภ นตฺถิ. เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม, ภวํ จานนฺโท, เอเต เม ปุชฺชาติ ยถา ภวํ โคตโม, ภวฺจานนฺโท, เอวรูปา มม ปูชิตา, ตุมฺเหเยว ทฺเว ชนา มยฺหํ ปุชฺชา จ ปาสํสา จาติ อิมมตฺถํ สนฺธาเยตํ วทติ. ตสฺส กิร เอวํ อโหสิ – ‘‘อานนฺทตฺเถโร มํเยว อิมํ ปฺหํ กถาเปตุกาโม, อตฺตโน โข ปน วณฺเณ วุตฺเต ปทุสฺสนโก นาม นตฺถี’’ติ. ตสฺมา ปฺหํ อกเถตุกาโม วณฺณภณเนน วิกฺเขปํ กโรนฺโต เอวมาห.

โข ตฺยาหนฺติ น โข เต อหํ. เถโรปิ กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปฺหํ อกเถตุกาโม ปริวตฺตติ, อิมํ ปฺหํ เอตํเยว กถาเปสฺสามี’’ติ. ตสฺมา นํ เอวมาห.

สหธมฺมิกนฺติ สการณํ. สํสาเทตีติ สํสีทาเปติ. โน วิสฺสชฺเชตีติ น กเถติ. ยํนูนาหํ ปริโมเจยฺยนฺติ ยํนูนาหํ อุโภเปเต วิเหสโต ปริโมเจยฺยํ. พฺราหฺมโณ หิ อานนฺเทน ปุจฺฉิตํ ปฺหํ อกเถนฺโต วิเหเสติ, อานนฺโทปิ พฺราหฺมณํ อกเถนฺตํ กถาเปนฺโต. อิติ อุโภเปเต วิเหสโต โมเจสฺสามีติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. กา นฺวชฺชาติ กา นุ อชฺช. อนฺตรากถา อุทปาทีติ อฺิสฺสา กถาย อนฺตรนฺตเร กตรา กถา อุปฺปชฺชีติ ปุจฺฉติ. ตทา กิร ราชนฺเตปุเร ตีณิ ปาฏิหาริยานิ อารพฺภ กถา อุทปาทิ, ตํ ปุจฺฉามีติ สตฺถา เอวมาห. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘อิทานิ วตฺตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ราชนฺเตปุเร อุปฺปนฺนํ กถํ อาโรเจนฺโต อยํ ขฺวชฺช, โภ โคตมาติอาทิมาห. ตตฺถ อยํ ขฺวชฺชาติ อยํ โข อชฺช. ปุพฺเพ สุทนฺติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมาติ ทสกุสลกมฺมปถสงฺขาตา มนุสฺสธมฺมา อุตฺตรึ. อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสสุนฺติ ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา อากาเสเนว คมึสุ เจว อาคมึสุ จาติ เอวํ ปุพฺเพ ปวตฺตํ อากาสคมนํ สนฺธาเยวมาห. เอตรหิ ปน พหุตรา จ ภิกฺขูติ อิทํ โส พฺราหฺมโณ ‘‘ปุพฺเพ ภิกฺขู ‘จตฺตาโร ปจฺจเย อุปฺปาเทสฺสามา’ติ มฺเ เอวมกํสุ, อิทานิ ปจฺจยานํ อุปฺปนฺนภาวํ ตฺวา โสปฺเปน เจว ปมาเทน จ วีตินาเมนฺตี’’ติ ลทฺธิยา เอวมาห.

ปาฏิหาริยานีติ ปจฺจนีกปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยานิ. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อิชฺฌนวเสน อิทฺธิ, ปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยํ, อิทฺธิเยว ปาฏิหาริยํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธนฺติอาทีนํ อตฺโถ เจว ภาวนานโย จ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕) วิตฺถาริโตว.

นิมิตฺเตน อาทิสตีติ อาคตนิมิตฺเตน วา คตนิมิตฺเตน วา ิตนิมิตฺเตน วา ‘‘อิทํ นาม ภวิสฺสตี’’ติ กเถติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ราชา ติสฺโส มุตฺตา คเหตฺวา ปุโรหิตํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ เม, อาจริย, หตฺเถ’’ติ. โส อิโต จิโต จ โอโลเกสิ, เตน จ สมเยน เอกา สรพู ‘‘มกฺขิกํ คเหสฺสามี’’ติ ปกฺขนฺตา, คหณกาเล มกฺขิกา ปลาตา. โส มกฺขิกาย มุตฺตตฺตา ‘‘มุตฺตา มหาราชา’’ติ อาห. มุตฺตา ตาว โหนฺตุ, กติ มุตฺตาติ. โส ปุน นิมิตฺตํ โอโลเกสิ. อถาวิทูเร กุกฺกุโฏ ติกฺขตฺตุํ สทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ติสฺโส มหาราชา’’ติ อาห. เอวํ เอกจฺโจ อาคตนิมิตฺเตน กเถติ. เอเตนุปาเยน คติตนิมิตฺเตหิปิ กถนํ เวทิตพฺพํ. เอวมฺปิ เต มโนติ เอวํ ตว มโน โสมนสฺสิโต วา โทมนสฺสิโต วา กามวิตกฺกาทิสํยุตฺโต วาติ. ทุติยํ ตสฺเสว เววจนํ. อิติปิ เต จิตฺตนฺติ อิติปิ ตว จิตฺตํ, อิมฺจ อิมฺจ อตฺถํ จินฺตยมานํ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. พหุํ เจปิ อาทิสตีติ พหุํ เจปิ กเถติ. ตเถว ตํ โหตีติ ยถา กถิตํ, ตเถว โหติ.

อมนุสฺสานนฺติ ยกฺขปิสาจาทีนํ. เทวตานนฺติ จาตุมหาราชิกาทีนํ. สทฺทํ สุตฺวาติ อฺสฺส จิตฺตํ ตฺวา กเถนฺตานํ สุตฺวา. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทนฺติ วิตกฺกวิปฺผารวเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปฺปมตฺตาทีนํ สทฺทํ. สุตฺวาติ ตํ สุตฺวา. ยํ วิตกฺกยโต ตสฺส โส สทฺโท อุปฺปนฺโน, ตสฺส วเสน ‘‘เอวมฺปิ เต มโน’’ติอาทิสติ.

ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เอโก กิร มนุสฺโส ‘‘อฏฺฏํ กริสฺสามี’’ติ คามา นครํ คจฺฉนฺโต นิกฺขนฺตฏฺานโต ปฏฺาย ‘‘วินิจฺฉยสภายํ รฺโ จ ราชมหามตฺตานฺจ อิทํ กเถสฺสามิ อิทํ กเถสฺสามี’’ติ วิตกฺเกนฺโต ราชกุลํ คโต วิย รฺโ ปุรโต ิโต วิย อฏฺฏการเกน สทฺธึ กเถนฺโต วิย จ อโหสิ, ตสฺส ตํ วิตกฺกวิปฺผารวเสน นิจฺฉรนฺตํ สทฺทํ สุตฺวา เอโก ปุริโส ‘‘เกนฏฺเน คจฺฉสี’’ติ อาห. อฏฺฏกมฺเมนาติ. คจฺฉ, ชโย เต ภวิสฺสตีติ. โส คนฺตฺวา อฏฺฏํ กตฺวา ชยเมว ปาปุณิ.

อปโรปิ เถโร โมฬิยคาเม ปิณฺฑาย จริ. อถ นํ นิกฺขมนฺตํ เอกา ทาริกา อฺวิหิตา น อทฺทส. โส คามทฺวาเร ตฺวา นิวตฺติตฺวา โอโลเกตฺวา ตํ ทิสฺวา วิตกฺเกนฺโต อคมาสิ. คจฺฉนฺโตเยว จ ‘‘กึ นุ โข กุรุมานา ทาริกา น อทฺทสา’’ติ วจีเภทํ อกาสิ. ปสฺเส ิโต เอโก ปุริโส สุตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, โมฬิยคาเม จริตฺถา’’ติ อาห.

มโนสงฺขารา ปณิหิตาติ จิตฺตสงฺขารา สุฏฺปิตา. วิตกฺเกสฺสตีติ วิตกฺกยิสฺสติ ปวตฺตยิสฺสตีติ ปชานาติ. ปชานนฺโต จ อาคมเนน ชานาติ, ปุพฺพภาเคน ชานาติ, อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ อปโลเกตฺวา ชานาติ. อาคมเนน ชานาติ นาม กสิณปริกมฺมกาเลเยว ‘‘เยนากาเรเนส กสิณภาวนํ อารทฺโธ ปมชฺฌานํ วา…เป… จตุตฺถชฺฌานํ วา อฏฺ วา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตสฺสตี’’ติ ชานาติ. ปุพฺพภาเคน ชานาติ นาม ปมวิปสฺสนาย อารทฺธายเยว ชานาติ, ‘‘เยนากาเรน เอส วิปสฺสนํ อารทฺโธ โสตาปตฺติมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ…เป… อรหตฺตมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสตี’’ติ ชานาติ. อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ นาม – ‘‘เยนากาเรน อิมสฺส มโนสงฺขารา สุฏฺปิตา, อิมสฺส นาม จิตฺตสฺส อนนฺตรา อิมํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสติ, อิโต วุฏฺิตสฺส เอตสฺส หานภาคิโย วา สมาธิ ภวิสฺสติ ิติภาคิโย วา วิเสสภาคิโย วา นิพฺเพธภาคิโย วา, อภิฺาโย วา นิพฺพตฺเตสฺสตี’’ติ ชานาติ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน เจโตปริยาณลาภี ปุถุชฺชนานํเยว จิตฺตํ ชานาติ, น อริยานํ. อริเยสุปิ เหฏฺิโม อุปริมสฺส จิตฺตํ น ชานาติ, อุปริโม ปน เหฏฺิมสฺส ชานาติ. เอเตสุ จ โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ…เป… อรหา อรหตฺตผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. อุปริโม เหฏฺิมํ น สมาปชฺชติ. เตสฺหิ เหฏฺิมา เหฏฺิมา สมาปตฺติ ตตฺรวตฺติเยว โหติ. ตเถว ตํ โหตีติ เอตํ เอกํเสน ตเถว โหติ. เจโตปริยาณวเสน าตฺหิ อฺถาภาวิ นาม นตฺถิ.

เอวํ วิตกฺเกถาติ เอวํ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา วิตกฺเกถ. มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถาติ เอวํ กามวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา มา วิตกฺกยิตฺถ. เอวํ มนสิ กโรถาติ เอวํ อนิจฺจสฺเมว, ทุกฺขสฺาทีสุ วา อฺตรํ มนสิ กโรถ. มา เอวนฺติ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน มา มนสา กริตฺถ. อิทนฺติ อิทํ ปฺจกามคุณราคํ ปชหถ. อิทฺจ อุปสมฺปชฺชาติ อิทํ จตุมคฺคผลปฺปเภทํ โลกุตฺตรธมฺมเมว อุปสมฺปชฺช ปาปุณิตฺวา นิปฺผาเทตฺวา วิหรถ.

มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายตีติ มายาย สมานการณชาติกํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. มายากาโรปิ หิ อุทกํ คเหตฺวา เตลํ กโรติ, เตลํ คเหตฺวา อุทกนฺติ เอวํ อเนกรูปํ มายํ ทสฺเสติ. อิทมฺปิ ปาฏิหาริยํ ตถารูปเมวาติ. อิทมฺปิ เม, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายตีติ จินฺตามณิกวิชฺชาสริกฺขกตํ สนฺธาย เอวํ อาห. จินฺตามณิกวิชฺชํ ชานนฺตาปิ หิ อาคจฺฉนฺตเมว ทิสฺวา ‘‘อยํ อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต อาคจฺฉตี’’ติ ชานนฺติ. ตถา ‘‘อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต ิโต, อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต นิสินฺโน, อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต นิปนฺโน’’ติ ชานนฺติ.

อภิกฺกนฺตตรนฺติ สุนฺทรตรํ. ปณีตตรนฺติ อุตฺตมตรํ. ภวฺหิ โคตโม อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ อิธ พฺราหฺมโณ อวเสสํ อาเทสนาปาฏิหาริยํ พาหิรกนฺติ น คณฺหิ. อิทฺจ ปน สพฺพํ โส พฺราหฺมโณ ตถาคตสฺส วณฺณํ กเถนฺโตเยว อาห. อทฺธา โข ตฺยายนฺติ เอกํเสเนว ตยา อยํ. อาสชฺช อุปนีย วาจา ภาสิตาติ มม คุเณ ฆฏฺเฏตฺวา มเมว คุณานํ สนฺติกํ อุปนีตา วาจา ภาสิตา. อปิจ ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามีติ อปิจ เต อหเมว กเถสฺสามีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

พฺราหฺมณวคฺโค ปโม.

(๗) ๒. มหาวคฺโค

๑. ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา

๖๒. ทุติยสฺส ปเม ติตฺถายตนานีติ ติตฺถภูตานิ อายตนานิ, ติตฺถิยานํ วา อายตนานิ. ตตฺถ ติตฺถํ ชานิตพฺพํ, ติตฺถกรา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยสาวกา ชานิตพฺพา. ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. ติตฺถิกรา นาม ตาสํ ทิฏฺีนํ อุปฺปาทกา. ติตฺถิยา นาม เยสํ ตา ทิฏฺิโย รุจฺจนฺติ ขมนฺติ. ติตฺถิยสาวกา นาม เตสํ ปจฺจยทายกา. อายตนนฺติ ‘‘กมฺโพโช อสฺสานํ อายตนํ, คุนฺนํ ทกฺขิณาปโถ อายตน’’นฺติ เอตฺถ สฺชาติฏฺานํ อายตนํ นาม.

‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา;

ฉายํ ฉายตฺถิโน ยนฺติ, ผลตฺถํ ผลโภชิโน’’ติ. (อ. นิ. ๕.๓๘) –

เอตฺถ สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, วิมุตฺตายตนานี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖) เอตฺถ การณํ. ตํ อิธ สพฺพมฺปิ ลพฺภติ. สพฺเพปิ หิ ทิฏฺิคติกา สฺชายมานา อิเมสุเยว ตีสุ าเนสุ สฺชายนฺติ, สโมสรณมานาปิ เอเตสุเยว ตีสุ าเนสุ สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ, ทิฏฺิคติกภาเว จ เนสํ เอตาเนว ตีณิ การณานีติ ติตฺถภูตานิ สฺชาติอาทินา อตฺเถน อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. เตเนวตฺเถน ติตฺถิยานํ อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. สมนุยุฺชิยมานานีติ กา นาเมตา ทิฏฺิโยติ เอวํ ปุจฺฉิยมานานิ. สมนุคาหิยมานานีติ กึการณา เอตา ทิฏฺิโย อุปฺปนฺนาติ เอวํ สมฺมา อนุคฺคาหิยมานานิ. สมนุภาสิยมานานีติ ปฏินิสฺสชฺเชถ เอตานิ ปาปกานิ ทิฏฺิคตานีติ เอวํ สมฺมา อนุสาสิยมานานิ. อปิจ ตีณิปิ เอตานิ อนุโยคปุจฺฉาเววจนาเนว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ – ‘‘สมนุยุฺชตีติ วา สมนุคฺคาหตีติ วา สมนุภาสตีติ วา เอเสเส เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.

ปรมฺปิ คนฺตฺวาติ อาจริยปรมฺปรา ลทฺธิปรมฺปรา อตฺตภาวปรมฺปราติ เอเตสุ ยํกิฺจิ ปรมฺปรํ คนฺตฺวาปิ. อกิริยาย สณฺหนฺตีติ อกิริยมตฺเต สํติฏฺนฺติ. ‘‘อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ ปาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย ปุพฺเพกตวาที. อมฺหากํ อาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที, อมฺหากํ ปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที. อมฺหากํ อาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที, อมฺหากํ ปาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ หิ เอตานิ อาจริยปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. ‘‘อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตลทฺธิโก, อมฺหากํ ปาจริโย…เป… อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อเหตุอปจฺจยลทฺธิโก’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ ลทฺธิปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. ‘‘อมฺหากํ อาจริยสฺส อตฺตภาโว ปุพฺเพกตเหตุ, อมฺหากํ ปาจริยสฺส…เป… อมฺหากํ อาจริยปาจริยสฺส อตฺตภาโว อเหตุ อปจฺจโย’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ อตฺตภาวปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. เอวํ ปน สุวิทูรมฺปิ คจฺฉนฺตานิ อกิริยมตฺเตเยว สณฺหนฺติ, เอโกปิ เอเตสํ ทิฏฺิคติกานํ กตฺตา วา กาเรตา วา น ปฺายติ.

ปุริสปุคฺคโลติ สตฺโต. กามฺจ ปุริโสติปิ วุตฺเต ปุคฺคโลติปิ วุตฺเต สตฺโตเยว วุตฺโต โหติ, อยํ ปน สมฺมุติกถา นาม โย ยถา ชานาติ, ตสฺส ตถา วุจฺจติ. ปฏิสํเวเทตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ชานาติ ปฏิสํวิทิตํ กโรติ, อนุภวติ วา. ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพกตการณา, ปุพฺเพกตกมฺมปจฺจเยเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อิมินา กมฺมเวทนฺจ กิริยเวทนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เย วา อิเม ปิตฺตสมุฏฺานา อาพาธา เสมฺหสมุฏฺานา วาตสมุฏฺานา สนฺนิปาติกา อุตุปริณามชา วิสมปริหารชา โอปกฺกมิกา อาพาธา กมฺมวิปากชา อาพาธาติ อฏฺ โรคา วุตฺตา, เตสุ สตฺต ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียนฺติ ตโย กมฺมราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายกมฺมํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนีโย วิปาโก อุปปชฺชเวทนีโย อปรปริยายเวทนีโยติ ตโย วิปากราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายวิปากเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม กุสลเจตนา อกุสลเจตนา วิปากเจตนา กิริยเจตนาติ จตฺตาโร เจตนาราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ตโย ปฏิพาหิตฺวา เอกํ วิปากเจตนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ.

อิสฺสรนิมฺมานเหตูติ อิสฺสรนิมฺมานการณา, อิสฺสเรน นิมฺมิตตฺตา ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ หิ เตสํ อธิปฺปาโย – อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อเหตุอปจฺจยา วา ปฏิสํเวทิตุํ นาม น สกฺกา, อิสฺสรนิมฺมานการณาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ อฏฺสุ โรเคสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพ ปฏิพาหนฺติ, เหฏฺา วุตฺเตสุ จ ตีสุ กมฺมราสีสุ ตีสุ วิปากราสีสุ จตูสุ เจตนาราสีสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพปิ ปฏิพาหนฺติ.

อเหตุอปจฺจยาติ เหตุฺจ ปจฺจยฺจ วินา, อการเณเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย – อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา วา ปฏิสํเวทิตุํ นาม น สกฺกา, อเหตุอปจฺจยาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ โรคาทีสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ.

เอวํ สตฺถา มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ วทามีติ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ ทสฺเสติ. ลทฺธิฺหิ อปฺปติฏฺาเปตฺวา นิคฺคยฺหมานา ลทฺธิโต ลทฺธึ สงฺกมนฺติ, โภ โคตม, น มยํ ปุพฺเพกตวาทํ วทามาติอาทีนิ วทนฺติ. ลทฺธิยา ปน ปติฏฺาปิตาย สงฺกมิตุํ อลภนฺตา สุนิคฺคหิตา โหนฺติ, อิติ เนสํ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ อาห. เตนหายสฺมนฺโตติ เตน หิ อายสฺมนฺโต. กึ วุตฺตํ โหติ – ยทิ เอตํ สจฺจํ, เอวํ สนฺเต เตน ตุมฺหากํ วาเทน. ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตูติ เย เกจิ โลเก ปาณํ อติปาเตนฺติ, สพฺเพ เต ปุพฺเพกตเหตุ ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ. กึการณา? น หิ ปาณาติปาตกมฺมํ อตฺตนา กตมูลเกน น อาณตฺติมูลเกน น อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา น อเหตุอปจฺจยา สกฺกา ปฏิสํเวเทตุํ, ปุพฺเพกตเหตุเยว ปฏิสํเวเทตีติ อยํ โว ลทฺธิ. ยถา จ ปาณาติปาติโน, เอวํ ปาณาติปาตา วิรมนฺตาปิ ปุพฺเพกตเหตุเยว วิรมิสฺสนฺตีติ. อิติ ภควา เตสํเยว ลทฺธึ คเหตฺวา เตสํ นิคฺคหํ อาโรเปติ. อิมินา นเยน อทินฺนาทายิโนติอาทีสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.

สารโต ปจฺจาคจฺฉตนฺติ สารภาเวน คณฺหนฺตานํ. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. อิทํ วา กรณียํ อิทํ วา อกรณียนฺติ เอตฺถ อยํ อธิปฺปาโย – อิทํ วา กรณียนฺติ กตฺตพฺพสฺส กรณตฺถาย, อิทํ วา อกรณียนฺติ อกตฺตพฺพสฺส อกรณตฺถาย กตฺตุกมฺยตา วา ปจฺจตฺตปุริสกาโร วา น โหติ. ฉนฺทวายาเมสุ วา อสนฺเตสุ ‘‘อิทํ กตฺตพฺพ’’นฺติปิ ‘‘อิทํ น กตฺตพฺพ’’นฺติปิ น โหติ. อิติ กรณียากรณีเย โข ปน สจฺจโต เถตโต อนุปลพฺภิยมาเนติ เอวํ กตฺตพฺเพ จ อกตฺตพฺเพ จ ภูตโต ถิรโต อปฺายมาเน อลพฺภมาเน. ยทิ หิ กตฺตพฺพํ กาตุํ อกตฺตพฺพโต จ วิรมิตุํ ลเภยฺย, กรณียากรณียํ สจฺจโต เถตโต อุปลพฺเภยฺย. ยสฺมา ปน อุภยมฺปิ ตํ เอส นุปลพฺภติ, ตสฺมา ตํ สจฺจโต เถตโต น อุปลพฺภติ, เอวํ ตสฺมึ จ อนุปลพฺภิยมาเนติ อตฺโถ. มุฏฺสฺสตีนนฺติ นฏฺสฺสตีนํ วิสฺสฏฺสฺสตีนํ. อนารกฺขานํ วิหรตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ นิรารกฺขานํ วิหรนฺตานํ. น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโทติ เอวํ ภูตานํ ตุมฺหากํ วา อฺเสํ วา มยํ สมณาติ ปจฺจตฺตํ สการโณ สมณวาโท น โหติ น อิชฺฌติ. สมณาปิ หิ ปุพฺเพกตการณาเยว โหนฺติ, อสฺสมณาปิ ปุพฺเพกตการณาเยวาติ. สหธมฺมิโกติ สการโณ. นิคฺคโห โหตีติ มม นิคฺคโห โหติ, เต ปน นิคฺคหิตา โหนฺตีติ.

เอวํ ปุพฺเพกตวาทิโน นิคฺคเหตฺวา อิทานิ อิสฺสรนิมฺมานวาทิโน นิคฺคเหตุํ ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปุพฺเพกตวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ, ตถา อเหตุกวาเทปิ.

เอวํ อิเมสํ ติตฺถายตนานํ ปรมฺปิ คนฺตฺวา อกิริยาย สณฺหนภาเวน ตุจฺฉภาวํ อนิยฺยานิกภาวํ, อสารภาเวน ถุสโกฏฺฏนสทิสตํ อาปชฺชนภาเวน อคฺคิสฺาย ธมมานขชฺชุปนกสริกฺขตํ ตํทิฏฺิกานํ ปุริมสฺสปิ มชฺฌิมสฺสปิ ปจฺฉิมสฺสปิ อตฺถทสฺสนตาย อภาเวน อนฺธเวณูปมตํ สทฺทมตฺเตเนว ตานิ คเหตฺวา สารทิฏฺิกานํ ปถวิยํ ปติตสฺส เพลุวปกฺกสฺส ททฺทภายิตสทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปถวี สํวฏฺฏมานา อาคจฺฉตี’’ติ สฺาย ปลายนฺเตน สสเกน สริกฺขภาวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตนา เทสิตสฺส ธมฺมสฺส สารภาวฺเจว นิยฺยานิกภาวฺจ ทสฺเสตุํ อยํ โข ปน, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนิคฺคหิโตติ อฺเหิ อนิคฺคหิโต นิคฺคเหตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อสํกิลิฏฺโติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ, ‘‘สํกิลิฏฺํ นํ กริสฺสามา’’ติ ปวตฺเตหิปิ ตถา กาตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อนุปวชฺโชติ อุปวาทวินิมุตฺโต. อปฺปฏิกุฏฺโติ ‘‘กึ อิมินา หรถ น’’นฺติ เอวํ อปฺปฏิพาหิโต, อนุปกฺกุฏฺโ วา. วิฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ. อปณฺฑิตานฺหิ อชานิตฺวา กเถนฺตานํ วจนํ อปฺปมาณํ. ตสฺมา วิฺูหีติ อาห.

อิทานิ ตสฺส ธมฺมสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมา ฉ ธาตุโย’’ติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ยถาปฏิปาฏิยา วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ปุน อิมา ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ ธาตุโยติ สภาวา. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวปฺปกาสโก หิ สภาวฏฺโ ธาตฺวฏฺโ นาม. ผสฺสายตนานีติ วิปากผสฺสานํ อากรฏฺเน อายตนานิ. มโนปวิจาราติ วิตกฺกวิจารปาเทหิ อฏฺารสสุ าเนสุ มนสฺส อุปวิจารา.

ปถวีธาตูติ ปติฏฺาธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ. เอวมิทํ ธาตุกมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ, วิตฺถารโตว วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติตฺถายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ อุภยถาปิ กเถตุํ วฏฺฏติ.

สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ ปริคฺคณฺหนฺโตปิ เอวํ ปริคฺคณฺหาติ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ อิมานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, อากาสธาตุ อุปาทารูปํ. เอกสฺมึ จ อุปาทารูเป ทิฏฺเ เสสานิ เตวีสติ ทิฏฺาเนวาติ สลฺลกฺเขตพฺพานิ. วิฺาณธาตูติ จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นาม. จตฺตาริ ปน มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทารูปํ รูปกฺขนฺโธ นาม. ตตฺถ จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นามํ, รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ นามฺจ รูปฺจาติ ทฺเวเยว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ เอวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

วิตฺถารโต ปริคฺคณฺหนฺโต ปน จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหิตฺวา อากาสธาตุปริคฺคหานุสาเรน เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปริคฺคณฺหาติ. อถ เนสํ ปจฺจยํ อุปปริกฺขนฺโต ปุน จตฺตาเรว มหาภูตานิ ทิสฺวา เตสุ ปถวีธาตุ วีสติโกฏฺาสา, อาโปธาตุ ทฺวาทส, เตโชธาตุ จตฺตาโร, วาโยธาตุ ฉโกฏฺาสาติ โกฏฺาสวเสน สโมธาเนตฺวา ทฺวาจตฺตาลีส มหาภูตานิ จ ววตฺถเปตฺวา เตสุ เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปกฺขิปิตฺวา ปฺจสฏฺิ รูปานิ ววตฺถเปติ. ตานิ จ วตฺถุรูเปน สทฺธึ ฉสฏฺิ โหนฺตีติ ฉสฏฺิ รูปานิ ปสฺสติ. วิฺาณธาตุ ปน โลกิยจิตฺตวเสน เอกาสีติ จิตฺตานิ. ตานิ สพฺพานิปิ วิฺาณกฺขนฺโธ นาม โหติ. เตหิ สหชาตา เวทนาทโยปิ ตตฺตกาเยวาติ เอกาสีติ เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, เอกาสีติ สฺา สฺากฺขนฺโธ, เอกาสีติ เจตนา สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา เตภูมกวเสน คยฺหมานา จตุวีสาธิกานิ ตีณิ ธมฺมสตานิ โหนฺตีติ อิติ อิเม จ อรูปธมฺมา ฉสฏฺิ จ รูปธมฺมาติ สพฺเพปิ สโมธาเนตฺวา นามฺจ รูปฺจาติ ทฺเวว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ นามรูปวเสน ปฺจกฺขนฺเธ ววตฺถเปตฺวา เตสํ ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต อวิชฺชาปจฺจยา ตณฺหาปจฺจยา กมฺมปจฺจยา อาหารปจฺจยาติ เอวํ ปจฺจยํ ทิสฺวา ‘‘อตีเตปิ อิเมหิ ปจฺจเยหิ อิทํ วฏฺฏํ ปวตฺติตฺถ, อนาคเตปิ เอเตหิ ปจฺจเยหิ ปวตฺติสฺสติ, เอตรหิปิ เอเตหิเยว ปวตฺตตี’’ติ ตีสุ กาเลสุ กงฺขํ วิตริตฺวา อนุกฺกเมน ปฏิปชฺชมาโน อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เอวํ วิตฺถารโตปิ ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

จกฺขุ ผสฺสายตนนฺติ สุวณฺณาทีนํ สุวณฺณาทิอากโร วิย ทฺเว จกฺขุวิฺาณานิ ทฺเว สมฺปฏิจฺฉนานิ ตีณิ สนฺตีรณานีติ อิเมหิ สตฺตหิ วิฺาเณหิ สหชาตานํ สตฺตนฺนํ ผสฺสานํ สมุฏฺานฏฺเน อากโรติ อายตนํ. โสตํ ผสฺสายตนนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มโน ผสฺสายตนนฺติ เอตฺถ ปน ทฺวาวีสติ วิปากผสฺสา โยเชตพฺพา. อิติ หิทํ ฉผสฺสายตนานํ วเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตพฺพํ. สงฺเขปโต ตาว – เอตฺถ หิ ปุริมานิ ปฺจ อายตนานิ อุปาทารูปํ, เตสุ ทิฏฺเสุ อวเสสํ อุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. ฉฏฺํ อายตนํ จิตฺตํ, ตํ วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนาทโย เสสา ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสสฺส การณภูตํ. อุปวิจรตีติ ตตฺถ มนํ จาเรนฺโต อุปวิจรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ อิฏฺํ วา โหตุ อนิฏฺํ วา, ยํ รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โสมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โทมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา อุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ, ตํ อุเปกฺขาฏฺานิยํ นามาติ เวทิตพฺพํ. สทฺทาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิทํ สงฺเขปโต กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติตฺถายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต อฏฺารสมโนปวิจารวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ.

ตตฺถ สงฺเขปโต ตาว – จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย, รูปํ สทฺโท คนฺโธ รโสติ อิมานิ นว อุปาทารูปานิ, เตสุ ทิฏฺเสุ เสสํ อุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. โผฏฺพฺพํ ตีณิ มหาภูตานิ, เตหิ ทิฏฺเหิ จตุตฺถํ ทิฏฺเมว โหติ. มโน วิฺาณกฺขนฺโธ, เตน สหชาตา เวทนาทโย ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

อริยสจฺจานีติ อริยภาวกรานิ, อริยปฏิวิทฺธานิ วา สจฺจานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตํ ปทํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๙) ปกาสิตํ. ฉนฺนํ, ภิกฺขเว, ธาตูนนฺติ อิทํ กิมตฺถํ อารทฺธํ? สุขาวโพธนตฺถํ. ยสฺส หิ ตถาคโต ทฺวาทสปทํ ปจฺจยาวฏฺฏํ กเถตุกาโม โหติ, ตสฺส คพฺภาวกฺกนฺติ วฏฺฏํ ทสฺเสติ. คพฺภาวกฺกนฺติ วฏฺฏสฺมึ หิ ทสฺสิเต กเถตุมฺปิ สุขํ โหติ ปรํ อวโพเธ อุตุมฺปีติ สุขาวโพธนตฺถํ อิทมารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ฉนฺนํ ธาตูนนฺติ เหฏฺา วุตฺตานํเยว ปถวีธาตุอาทีนํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. เอเตน ปจฺจยมตฺตํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ฉธาตุปจฺจยา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ. กสฺส ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน, กึ มาตุ, อุทาหุ ปิตูติ? น มาตุ น ปิตุ, ปฏิสนฺธิคฺคณฺหนกสตฺตสฺเสว ปน ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ นาม โหติ. คพฺโภ จ นาเมส นิรยคพฺโภ ติรจฺฉานโยนิคพฺโภ เปตฺติวิสยคพฺโภ มนุสฺสคพฺโภ เทวคพฺโภติ นานปฺปกาโร โหติ. อิมสฺมึ ปน าเน มนุสฺสคพฺโภ อธิปฺเปโต. อวกฺกนฺติ โหตีติ โอกฺกนฺติ นิพฺพตฺติ ปาตุภาโว โหติ, กถํ โหตีติ? ติณฺณํ สนฺนิปาเตน. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. กตเมสํ ติณฺณํ? อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ น อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘).

โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปนฺติ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน วตฺถุทสกํ กายทสกํ ภาวทสกํ ตโย อรูปิโน ขนฺธาติ เตตฺตึส ธมฺมา คหิตา, อิมสฺมึ ปน ‘‘โอกฺกนฺติยา สติ นามรูป’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน วิฺาณกฺขนฺธมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จตุตฺตึส ธมฺมา คหิตาติ เวทิตพฺพา. นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติอาทีหิ ยเถว โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปปาตุภาโว ทสฺสิโต, เอวํ นามรูเป สติ สฬายตนปาตุภาโว, สฬายตเน สติ ผสฺสปาตุภาโว, ผสฺเส สติ เวทนาปาตุภาโว ทสฺสิโต.

เวทิยมานสฺสาติ เอตฺถ เวทนํ อนุภวนฺโตปิ เวทิยมาโนติ วุจฺจติ ชานนฺโตปิ. ‘‘เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) เอตฺถ หิ อนุภวนฺโต เวทิยมาโน นาม, ‘‘สุขํ เวทนํ เวทิยมาโน สุขํ เวทนํ เวทิยามีติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๑๓; ที. นิ. ๒.๓๘๐; วิภ. ๓๖๓) เอตฺถ ชานนฺโต. อิธาปิ ชานนฺโตว อธิปฺเปโต. อิทํ ทุกฺขนฺติ ปฺเปมีติ เอวํ ชานนฺตสฺส สตฺตสฺส ‘‘อิทํ ทุกฺขํ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, นตฺถิ อิโต อุทฺธํ ทุกฺข’’นฺติ ปฺเปมิ โพเธมิ ชานาเปมิ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อยํ สนฺนิฏฺานกถา – เปตฺวา หิ ตณฺหํ เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ นาม, ตสฺเสว ปภาวิกา ปุพฺพตณฺหา ทุกฺขสมุทโย นาม, เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ สจฺจานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ นาม, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา นาม. อิติ ภควา โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปนฺติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ กเถนฺโตปิ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ กเถนฺโตปิ, ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ กเถนฺโตปิ, เวทิยมานสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อิทํ ทุกฺขนฺติ ปฺเปมีติ กเถนฺโตปิ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ปฺเปมีติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ.

อิทานิ ตานิ ปฏิปาฏิยา ปิตานิ สจฺจานิ วิตฺถาเรนฺโต กตมฺจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๓๗) วิตฺถาริตเมว. ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ‘‘ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๓; ที. นิ. ๒.๔๐๐; วิภ. ๒๐๓) อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปจฺจยาการวเสน. ตตฺถ จ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ ‘‘โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๔; ที. นิ. ๒.๔๐๑; วิภ. ๒๐๔) อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติ ปจฺจยาการนิโรธวเสน.

ตตฺถ อเสสวิราคนิโรธาติ อเสสวิราเคน จ อเสสนิโรเธน จ. อุภยมฺเปตํ อฺมฺเววจนเมว. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิเมหิ ปน ปเทหิ ยํ อาคมฺม อวิชฺชาทโย นิรุชฺฌนฺติ, อตฺถโต ตํ นิพฺพานํ ทีปิตํ โหติ. นิพฺพานฺหิ อวิชฺชานิโรโธติปิ สงฺขารนิโรโธติปิ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ นิโรธนาเมน กถียติ. เกวลสฺสาติ สกลสฺส. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อปฺปวตฺติ โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อวิชฺชาทีนํ นิโรโธ นาม ขีณากาโรปิ วุจฺจติ อรหตฺตมฺปิ นิพฺพานมฺปิ, ตสฺมา อิธ ขีณาการทสฺสนวเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ อรหตฺตํ, ทฺวาทสสุเยว นิพฺพานํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ วุจฺจตีติ เอตฺถ นิพฺพานเมว สนฺธาย อิทนฺติ วุตฺตํ. อฏฺงฺคิโกติ น อฏฺหิ องฺเคหิ วินิมุตฺโต อฺโ มคฺโค นาม อตฺถิ. ยถา ปน ปฺจงฺคิกํ ตูริยนฺติ วุตฺเต ปฺจงฺคมตฺตเมว ตูริยนฺติ วุตฺตํ โหติ, เอวมิธาปิ อฏฺงฺคิกมตฺตเมว มคฺโค โหตีติ เวทิตพฺโพ. อนิคฺคหิโตติ น นิคฺคหิโต. นิคฺคณฺหนฺโต หิ หาเปตฺวา วา ทสฺเสติ วฑฺเฒตฺวา วา ตํ ปริวตฺเตตฺวา วา. ตตฺถ ยสฺมา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ‘‘น อิมานิ จตฺตาริ, ทฺเว วา ตีณิ วา’’ติ เอวํ หาเปตฺวาปิ ‘‘ปฺจ วา ฉ วา’’ติ เอวํ วฑฺเฒตฺวาปิ ‘‘น อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อฺาเนว จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ติ ทสฺเสตุํ น สกฺกา. ตสฺมา อยํ ธมฺโม อนิคฺคหิโต นาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

๒. ภยสุตฺตวณฺณนา

๖๓. ทุติเย อมาตาปุตฺติกานีติ มาตา จ ปุตฺโต จ มาตาปุตฺตํ, ปริตฺตาตุํ สมตฺถภาเวน นตฺถิ เอตฺถ มาตาปุตฺตนฺติ อมาตาปุตฺติกานิ. นฺติ ยสฺมึ สมเย. ตตฺถ มาตาปิ ปุตฺตํ นปฺปฏิลภตีติ ตสฺมึ อคฺคิภเย อุปฺปนฺเน มาตาปิ ปุตฺตํ ปสฺสิตุํ น ลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ ปสฺสิตุํ น ลภตีติ อตฺโถ. ภยํ โหตีติ จิตฺตุตฺราสภยํ โหติ. อฏวิสงฺโกโปติ อฏวิยา สงฺโกโป. อฏวีติ เจตฺถ อฏวิวาสิโน โจรา เวทิตพฺพา. ยทา หิ เต อฏวิโต ชนปทํ โอตริตฺวา คามนิคมราชธานิโย ปหริตฺวา วิลุมฺปนฺติ, ตทา อฏวิสงฺโกโป นาม โหติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. จกฺกสมารูฬฺหาติ เอตฺถ อิริยาปถจกฺกมฺปิ วฏฺฏติ ยานจกฺกมฺปิ. ภยสฺมึ หิ สมฺปตฺเต เยสํ ยานกานิ อตฺถิ, เต อตฺตโน ปริกฺขารภณฺฑํ เตสุ อาโรเปตฺวา ปลายนฺติ. เยสํ นตฺถิ, เต กาเชน วา อาทาย สีเสน วา อุกฺขิปิตฺวา ปลายนฺติเยว. เต จกฺกสมารูฬฺหา นาม โหนฺติ. ปริยายนฺตีติ อิโต จิโต จ คจฺฉนฺติ. กทาจีติ กิสฺมิฺจิเทว กาเล. กรหจีติ ตสฺเสว เววจนํ. มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภตีติ อาคจฺฉนฺตํ วา คจฺฉนฺตํ วา เอกสฺมึ าเน นิลีนํ วา ปสฺสิตุํ ลภติ. อุทกวาหโกติ นทีปูโร. มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภตีติ กุลฺเล วา อุฬุมฺเป วา มตฺติกาภาชเน วา ทารุกฺขณฺเฑ วา ลคฺคํ วุยฺหมานํ ปสฺสิตุํ ปฏิลภติ, โสตฺถินา วา ปุน อุตฺตริตฺวา คาเม วา อรฺเ วา ิตํ ปสฺสิตุํ ลภตีติ.

เอวํ ปริยายโต อมาตาปุตฺติกานิ ภยานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺปริยาเยน ทสฺเสนฺโต ตีณิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ ชราภยนฺติ ชรํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ชรํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ภยํ ภยานกํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส เจตโส อุตฺราโส. พฺยาธึ ปฏิจฺจ, มรณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ภยํ ภยานกํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส เจตโส อุตฺราโส’’ติ (วิภ. ๙๒๑). เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

๓. เวนาคปุรสุตฺตวณฺณนา

๖๔. ตติเย โกสเลสูติ เอวํนามเก ชนปเท. จาริกํ จรมาโนติ อทฺธานคมนํ คจฺฉนฺโต. จาริกา จ นาเมสา ภควโต ทุวิธา โหติ ตุริตจาริกา จ อตุริตจาริกา จาติ. ตตฺถ ทูเรปิ โพธเนยฺยปุคฺคลํ ทิสฺวา ตสฺส โพธนตฺถาย สหสา คมนํ ตุริตจาริกา นาม. สา มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทีสุ ทฏฺพฺพา. ยํ ปน คามนิคมปฏิปาฏิยา เทวสิกํ โยชนอทฺธโยชนวเสน ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส คมนํ, อยํ อตุริตจาริกา นาม. อิมํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘จาริกํ จรมาโน’’ติ. วิตฺถาเรน ปน จาริกากถา สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย อมฺพฏฺสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๔) วุตฺตา. พฺราหฺมณคาโมติ พฺราหฺมณานํ สโมสรณคาโมปิ พฺราหฺมณคาโมติ วุจฺจติ, พฺราหฺมณานํ โภคคาโมปิ. อิธ สโมสรณคาโม พฺราหฺมณวสนคาโมติ อธิปฺเปโต. ตทวสรีติ ตตฺถ อวสริ, สมฺปตฺโตติ อตฺโถ. วิหาโร ปเนตฺถ อนิยามิโต. ตสฺมา ตสฺส อวิทูเร พุทฺธานํ อนุจฺฉวิโก เอโก วนสณฺโฑ อตฺถิ, สตฺถา ตํ วนสณฺฑํ คโตติ เวทิตพฺโพ.

อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ อุปลภึสุ, โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน ชานึสุ. โขติ อวธารณตฺเถ, ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต. ตตฺถ อวธารณตฺเถน ‘‘อสฺโสสุํ เอว, น เตสํ โกจิ สวนนฺตราโย อโหสี’’ติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว.

อิทานิ ยมตฺถํ อสฺโสสุํ, ตํ ปกาเสตุํ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโมติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา สมโณติ เวทิตพฺโพ. ขลูติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต. โภติ เตสํ อฺมฺํ อาลปนมตฺตํ. โคตโมติ ภควโต โคตฺตวเสน ปริทีปนํ, ตสฺมา ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม’’ติ เอตฺถ สมโณ กิร, โภ, โคตมโคตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สกฺยปุตฺโตติ อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวปริทีปนํ, เกนจิ ปาริชุฺเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตํ โข ปนาติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต, เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยว, ถุติโฆโส วา. อพฺภุคฺคโตติ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโต. กินฺติ? อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควาติ. ตตฺรายํ ปทสมฺพนฺโธ – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ. อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ ‘‘อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ เวทิตพฺโพ’’ติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา สพฺพาเนว เอตานิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕-๑๒๗) พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานีติ ตโต เนสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.

โส อิมํ โลกนฺติ โส ภวํ โคตโม อิมํ โลกํ, อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. สเทวกนฺติ สห เทเวหิ สเทวกํ. เอวํ สห มาเรน สมารกํ. สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกํ. สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณึ. ปชาตตฺตา ปชา, ตํ ปชํ. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ, สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ, สสฺสมณพฺราหฺมณิวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ, สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ, ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ, สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลเกน สทฺธึ สตฺตโลโก, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโกว คหิโตติ เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต, สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก, สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปีพฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน, สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา. โปราณา ปนาหุ – สเทวกนฺติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. สมารกนฺติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลกํ. สพฺรหฺมกนฺติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทาตุํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสนฺติ วุตฺตํ. เอวํ ปฺจหิ ปเทหิ เตน เตนากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ.

สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทตีติ สยนฺติ สามํ, อปรเนยฺโย หุตฺวา. อภิฺาติ อภิฺาย, อธิเกน าเณน ตฺวาติ อตฺโถ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา, เอเตน อนุมานาทิปฏิกฺเขโป กโต. ปเวเทตีติ โพเธติ าเปติ ปกาเสติ.

โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริโยสานกลฺยาณนฺติ โส ภควา สตฺเตสุ การุฺตํ ปฏิจฺจ หิตฺวาปิ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ ธมฺมํ เทเสติ. ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสติ, อาทิมฺหิปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสติ, มชฺเฌปิ, ปริโยสาเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสตีติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ, อตฺถิ สาสนสฺส. เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกายปิ คาถาย ปมปาโท อาทิ นาม, ตโต ทฺเว มชฺฌํ นาม, อนฺเต เอโก ปริโยสานํ นาม. เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสานํ, อุภินฺนํ อนฺตรา มชฺฌํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส ปมานุสนฺธิ อาทิ, อนฺเต อนุสนฺธิ ปริโยสานํ, มชฺเฌ เอโก วา ทฺเว วา พหู วา มชฺฌเมว.

สาสนสฺส สีลสมาธิวิปสฺสนา อาทิ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ วุตฺโต ปน อริยมคฺโค มชฺฌํ นาม. ผลฺเจว นิพฺพานฺจ ปริโยสานํ นาม. ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยํ เอตํปารํ เอตํปริโยสาน’’นฺติ เอตฺถ ผลํ ปริโยสนนฺติ วุตฺตํ. ‘‘นิพฺพาโนคธฺหิ, อาวุโส วิสาข, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ นิพฺพานปรายณํ นิพฺพานปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๖) เอตฺถ นิพฺพานํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ อธิปฺเปตํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ มคฺคํ ปริโยสาเน นิพฺพานํ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ. ตสฺมา อฺโปิ ธมฺมกถิโก ธมฺมํ กเถนฺโต –

‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย, มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;

ปริโยสานมฺหิ นิพฺพานํ, เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ.

สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ ยสฺส หิ ยาคุภตฺตอิตฺถิปุริสาทิวณฺณนานิสฺสิตา เทสนา โหติ, น โส สาตฺถํ เทเสติ. ภควา ปน ตถารูปํ เทสนํ ปหาย จตุสติปฏฺานาทินิสฺสิตํ เทสนํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สาตฺถํ เทเสตี’’ติ วุจฺจติ. ยสฺส ปน เทสนา เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วา สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพวิสฺสฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพนิคฺคหิตพฺยฺชนา วา, ตสฺส ทมิฬกิราตยวนาทิมิลกฺขานํ ภาสา วิย พฺยฺชนปาริปูริยา อภาวโต อพฺยฺชนา นาม เทสนา โหติ. ภควา ปน –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ลหุกํ ครุกฺจ นิคฺคหีตํ;

สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. –

เอวํ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สพฺยฺชนํ กตฺวา เทเสตี’’ติ วุจฺจติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ เอตฺถ เกวลนฺติ สกลาธิวจนํ. ปริปุณฺณนฺติ อนูนาธิกวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สกลปริปุณฺณเมว เทเสติ, เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถีติ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. โย หิ ‘‘อิมํ ธมฺมเทสนํ นิสฺสาย ลาภํ วา สกฺการํ วา ลภิสฺสามี’’ติ เทเสติ, ตสฺส อปริสุทฺธา เทสนา นาม โหติ. ภควา ปน โลกามิสนิรเปกฺโข หิตผรเณเนว เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโย อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตน จิตฺเตน เทเสติ. ตสฺมา ปริสุทฺธํ เทเสตีติ วุจฺจติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอตฺถ พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนํ. ตสฺมา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริสุทฺธํ, เอวํ เทเสนฺโต จ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลสาสนพฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตํ จริยํ, พฺรหฺมภูตานํ วา พุทฺธาทีนํ จริยนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน, อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปานํ อรหตนฺติ ยถารูโป โส ภวํ โคตโม, เอวรูปานํ อเนเกหิปิ กปฺปโกฏิสตสหสฺเสหิ ทุลฺลภทสฺสนานํ พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺเตหิ อสีติอนุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิเตหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวเรหิ สมากิณฺณมโนรมสรีรานํ อนปฺปกทสฺสนานํ อติมธุรธมฺมนิคฺโฆสานํ ยถาภูตคุณาธิคเมน โลเก อรหนฺโตติ ลทฺธสทฺทานํ อรหตํ. ทสฺสนํ โหตีติ ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหติ. สเจ ปน อฏฺงฺคสมนฺนาคเตน พฺรหฺมสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส เอกปทมฺปิ โสตุํ ลภิสฺสาม, สาธุตรํเยว ภวิสฺสตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ สพฺพกิจฺจานิ ปหาย ตุฏฺมานสา อคมํสุ. อฺชลึ ปณาเมตฺวาติ เอเต อุภโตปกฺขิกา, เต เอวํ จินฺเตสุํ – ‘‘สเจ โน มิจฺฉาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ ‘กสฺมา ตุมฺเห สมณํ โคตมํ วนฺทิตฺถา’ติ, เตสํ ‘กึ อฺชลิกรณมตฺเตนาปิ วนฺทิตํ โหตี’ติ วกฺขาม. สเจ โน สมฺมาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ ‘กสฺมา ภควนฺตํ น วนฺทิตฺถา’ติ, ‘กึ สีเสน ภูมึ ปหรนฺเตเนว วนฺทิตํ โหติ. นนุ อฺชลิกมฺมมฺปิ วนฺทนา เอวา’ติ วกฺขามา’’ติ.

นามโคตฺตนฺติ, ‘‘โภ โคตม, อหํ อสุกสฺส ปุตฺโต ทตฺโต นาม มิตฺโต นาม อิธาคโต’’ติ วทนฺตา นามํ สาเวนฺติ นาม. ‘‘โภ โคตม, อหํ วาเสฏฺโ นาม กจฺจาโน นาม อิธาคโต’’ติ วทนฺตา โคตฺตํ สาเวนฺติ นาม. เอเต กิร ทลิทฺทา ชิณฺณกุลปุตฺตา ‘‘ปริสมชฺเฌ นามโคตฺตวเสน ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ เอวํ อกํสุ. เย ปน ตุณฺหีภูตา นิสีทึสุ, เต เกราฏิกา เจว อนฺธพาลา จ. ตตฺถ เกราฏิกา ‘‘เอกํ ทฺเว กถาสลฺลาเป กโรนฺเต วิสฺสาสิโก โหติ, อถ วิสฺสาเส สติ เอกํ ทฺเว ภิกฺขา อทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ตโต อตฺตานํ โมเจนฺตา ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ. อนฺธพาลา อฺาณตาเยว อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺฑา วิย ยตฺถ กตฺถจิ ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ.

เวนาคปุริโกติ เวนาคปุรวาสี. เอตทโวจาติ ปาทนฺตโต ปฏฺาย ยาว เกสคฺคา ตถาคตสฺส สรีรํ โอโลเกนฺโต อสีติอนุพฺยฺชนสมุชฺชเลหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปฏิมณฺฑิตํ สรีรา นิกฺขมิตฺวา สมนฺตโต อสีติหตฺถปฺปเทสํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตาหิ ฉพฺพณฺณาหิ ฆนพุทฺธรํสีหิ สมฺปริวาริตํ ตถาคตสฺส สรีรํ ทิสฺวา สฺชาตวิมฺหโย วณฺณํ ภณนฺโต เอตํ ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตมา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.

ตตฺถ ยาวฺจิทนฺติ อธิมตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทวจนเมตํ. ตสฺส วิปฺปสนฺนปเทน สทฺธึ สมฺพนฺโธ. ยาวฺจ วิปฺปสนฺนานิ อธิมตฺตวิปฺปสนฺนานีติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานีติ จกฺขาทีนิ ฉ อินฺทฺริยานิ. ตสฺส หิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปติฏฺิโตกาสสฺส วิปฺปสนฺนตํ ทิสฺวา เตสํ วิปฺปสนฺนตา ปากฏา อโหสิ. ยสฺมา ปน สา มเน วิปฺปสนฺเนเยว โหติ, อวิปฺปสนฺนจิตฺตานฺหิ อินฺทฺริยปฺปสาโท นาม นตฺถิ, ตสฺมาสฺส มนินฺทฺริยปฺปสาโทปิ ปากโฏ อโหสิ. ตํ เอส วิปฺปสนฺนตํ คเหตฺวา ‘‘วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานี’’ติ อาห. ปริสุทฺโธติ นิมฺมโล. ปริโยทาโตติ ปภสฺสโร. สารทํ พทรปณฺฑุนฺติ สรทกาเล ชาตํ นาติสุปริปกฺกํ พทรํ. ตฺหิ ปริสุทฺธฺเจว โหติ ปริโยทาตฺจ. ตาลปกฺกนฺติ สุปริปกฺกตาลผลํ. สมฺปติ พนฺธนา ปมุตฺตนฺติ ตํขณฺเว พนฺธนา ปมุตฺตํ. ตสฺส หิ พนฺธนมูลํ อปเนตฺวา ปรมุขํ กตฺวา ผลเก ปิตสฺส จตุรงฺคุลมตฺตํ านํ โอโลเกนฺตานํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ หุตฺวา ขายติ. ตํ สนฺธาเยวมาห. เนกฺขํ ชมฺโพนทนฺติ สุรตฺตวณฺณสฺส ชมฺโพนทสุวณฺณสฺส ฆฏิกา. ทกฺขกมฺมารปุตฺตสุปริกมฺมกตนฺติ ทกฺเขน สุวณฺณการปุตฺเตน สุฏฺุ กตปริกมฺมํ. อุกฺกามุเข สุกุสลสมฺปหฏฺนฺติ สุวณฺณการอุทฺธเน ปจิตฺวา สุกุสเลน สุวณฺณกาเรน ฆฏฺฏนปริมชฺชนหํสเนน สุฏฺุ ปหฏฺํ สุปริมทฺทิตนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตนฺติ อคฺคินา ปจิตฺวา ทีปิทาาย ฆํสิตฺวา เครุกปริกมฺมํ กตฺวา รตฺตกมฺพเล ปิตํ. ภาสเตติ สฺชาตโอภาสตาย ภาสเต. ตปเตติ อนฺธการวิทฺธํสนตาย ตปเต. วิโรจตีติ วิชฺโชตมานํ หุตฺวา วิโรจติ, โสภตีติ อตฺโถ.

อุจฺจาสยนมหาสยนานีติ เอตฺถ อติกฺกนฺตปฺปมาณํ อุจฺจาสยนํ นาม, อายตวิตฺถตํ อกปฺปิยภณฺฑํ มหาสยนํ นาม. อิทานิ ตานิ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถิทํ, อาสนฺทีติอาทิมาห. ตตฺถ อาสนฺทีติ อติกฺกนฺตปฺปมาณํ อาสนํ. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต. โคนโกติ ทีฆโลมโก มหาโกชโว. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ. จิตฺตโกติ วานจิตฺตํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกาติ อุณฺณามโย เสตตฺถรโก. ปฏลิกาติ ฆนปุปฺโผ อุณฺณามยตฺถรโก, โย อามลกปฏฺโฏติปิ วุจฺจติ. ตูลิกาติ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณา ตูลิกา. วิกติกาติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโก. อุทฺทโลมีติ อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เกจิ เอกโต อุคฺคตปุปฺผนฺติ วทนฺติ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เกจิ อุภโต อุคฺคตปุปฺผนฺติ วทนฺติ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตเมว โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. หตฺถตฺถราทโย หตฺถิปิฏฺาทีสุ อตฺถรณกอตฺถรกา เจว หตฺถิรูปาทีนิ ทสฺเสตฺวา กตอตฺถรกา จ. อชินปฺปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตปฺปเวณี. เสสํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.

นิกามลาภีติ อติกามลาภี อิจฺฉิติจฺฉิตลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี มหนฺตลาภี, อุฬารุฬาราเนว ลภติ มฺเติ สนฺธาย วทติ. อยํ กิร พฺราหฺมโณ สยนครุโก, โส ภควโต วิปฺปสนฺนินฺทฺริยาทิตํ ทิสฺวา ‘‘อทฺธา เอส เอวรูเปสุ อุจฺจาสยนมหาสยเนสุ นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ. เตนสฺส วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต’’ติ มฺมาโน อิมํ เสนาสนวณฺณํ กเถสิ.

ลทฺธา จ ปน น กปฺปนฺตีติ เอตฺถ กิฺจิ กิฺจิ กปฺปติ. สุทฺธโกเสยฺยฺหิ มฺเจปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏติ, โคนกาทโย จ ภูมตฺถรณปริโภเคน, อาสนฺทิยา ปาเท ฉินฺทิตฺวา, ปลฺลงฺกสฺส วาเฬ ภินฺทิตฺวา, ตูลิกํ วิชเฏตฺวา ‘‘พิมฺโพหนฺจ กาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อิมานิปิ เอเกน วิธาเนน กปฺปนฺติ. อกปฺปิยํ ปน อุปาทาย สพฺพาเนว น กปฺปนฺตีติ วุตฺตานิ.

วนนฺตฺเว ปวิสามีติ อรฺํเยว ปวิสามิ. ยเทวาติ ยานิเยว. ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทนฺโต อุชุํ กายํ เปตฺวา. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ เปตฺวา, ปริคฺคหิตนิยฺยานํ วา กตฺวาติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔). อุปสมฺปชฺช วิหรามีติ ปฏิลภิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วิหรามิ. เอวํภูโตติ เอวํ ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรสมงฺคี หุตฺวา. ทิพฺโพ เม เอโส ตสฺมึ สมเย จงฺกโม โหตีติ จตฺตาริ หิ รูปชฺฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา จงฺกมนฺตสฺส จงฺกโม ทิพฺพจงฺกโม นาม โหติ, สมาปตฺติโต วุฏฺาย จงฺกมนฺตสฺสาปิ จงฺกโม ทิพฺพจงฺกโมเยว. านาทีสุปิ เอเสว นโย. ตถา อิตเรสุ ทฺวีสุ วิหาเรสุ.

โส เอวํ ปชานามิ ‘‘ราโค เม ปหีโน’’ติ มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺเคน ปหีนราคเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘โส เอวํ ปชานามิ ราโค เม ปหีโน’’ติ อาห. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิมินา ปน กึ กถิตํ โหตีติ? ปจฺจเวกฺขณา กถิตา, ปจฺจเวกฺขณาย ผลสมาปตฺติ กถิตา. ผลสมาปตฺติฺหิ สมาปนฺนสฺสปิ สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺสาปิ จงฺกมาทโย อริยจงฺกมาทโย โหนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๔. สรภสุตฺตวณฺณนา

๖๕. จตุตฺเถ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร. คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ คิชฺฌสทิสานิสฺส กูฏานิ, คิชฺฌา วา ตสฺส กูเฏสุ วสนฺตีติ คิชฺฌกูโฏ, ตสฺมึ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เอเตนสฺส ราชคหํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส วสนฏฺานํ ทสฺสิตํ. คิชฺฌกูฏสฺมิฺหิ ตถาคตํ อุทฺทิสฺส วิหาโร การิโต, คิชฺฌกูฏวิหาโรตฺเววสฺส นามํ. ตตฺถายํ ตสฺมึ สมเย วิหรตีติ. สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหตีติ สรโภติ เอวํนามโก ปริพฺพาชโก อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว ปกฺกนฺโต โหติ, อธุนา วิพฺภนฺโตติ อตฺโถ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ หิ โลเก อุปฺปนฺเน ติตฺถิยา นฏฺลาภสกฺการา อเหสุํ, ติณฺณํ รตนานํ มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. ยถาห –

‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อฺติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ (อุทา.๑๔; สํ.นิ.๑.๒.๗๐).

เต เอวํ ปริหีนลาภสกฺการา ปฺจสตมตฺตา เอกสฺมึ ปริพฺพาชการาเม สนฺนิปติตฺวา สมฺมนฺตยึสุ – ‘‘โภ, มยํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย หตลาภสกฺการา ชาตา, สมณสฺส โคตมสฺส สาวกานฺจสฺส เอกํ อวณฺณํ อุปธาเรถ, อวณฺณํ ปตฺถริตฺวา เอตสฺส สาสนํ ครหิตฺวา อมฺหากํ ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทสฺสามา’’ติ. เต วชฺชํ โอโลเกนฺตา – ‘‘ตีสุ ทฺวาเรสุ อาชีเว จาติ จตูสุปิ าเนสุ สมณสฺส โคตมสฺส วชฺชํ ปสฺสิตุํ น สกฺกา, อิมานิ จตฺตาริ านานิ มุฺจิตฺวา อฺตฺถ โอโลเกถา’’ติ อาหํสุ. อถ เนสํ อนฺตเร เอโก เอวมาห – ‘‘อหํ อฺํ น ปสฺสามิ, อิเม อนฺวฑฺฒมาสํ สนฺนิปติตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิธาย สามเณรานมฺปิ ปเวสนํ น เทนฺติ. ชีวิตสทิสาปิ อุปฏฺากา ทฏฺุํ น ลภนฺติ, อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา โอสาเรตฺวา ชนํ อาวฏฺเฏตฺวา อาวฏฺเฏตฺวา ขาทนฺติ. สเจ ตํ มยํ อาหริตุํ สกฺขิสฺสาม, เอวํ โน ลาภสกฺการอุฬาโร ภวิสฺสตี’’ติ. อปโรปิ เอวเมว วทนฺโต อุฏฺาสิ. สพฺเพ เอกวาทา อเหสุํ. ตโต อาหํสุ – ‘‘โย ตํ อาหริตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ มยํ อมฺหากํ สมเย เชฏฺกํ กริสฺสามา’’ติ.

ตโต โกฏิโต ปฏฺาย ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสิ, ตฺวํ สกฺขิสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ น สกฺขิสฺสามิ, อหํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ พหูหิ วุตฺเต สรภํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสิ อาจริยา’’ติ. โส อาห – ‘‘อครุ เอตํ อาหริตุํ, สเจ ตุมฺเห อตฺตโน กถาย ตฺวา มํ เชฏฺกํ กริสฺสถา’’ติ. อครุ เอตมาจริย อาหร, ตฺวํ กโตเยวาสิ อมฺเหหิ เชฏฺโกติ. โส อาห – ‘‘ตํ อาหรนฺเตน เถเนตฺวา วา วิลุมฺปิตฺวา วา อาหริตุํ น สกฺกา, สมณสฺส ปน โคตมสฺส สาวกสทิเสน หุตฺวา ตสฺส สาวเก วนฺทิตฺวา วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา เตสํ ปตฺเต ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา อาหริตุํ สกฺกา. รุจฺจติ โว เอตสฺส เอตฺตกสฺส กิริยา’’ติ. ยํกิฺจิ กตฺวา อาหริตฺวา จ โน เทหีติ. เตน หิ มํ ทิสฺวา อปสฺสนฺตา วิย ภเวยฺยาถาติ ปริพฺพาชกานํ สฺํ ทตฺวา ทุติยทิวเส ปาโตว อุฏฺาย คิชฺฌกูฏมหาวิหารํ คนฺตฺวา ทิฏฺทิฏฺานํ ภิกฺขูนํ ปฺจปติฏฺิเตน ปาเท วนฺทิ. ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อฺเ ปริพฺพาชกา จณฺฑา ผรุสา, อยํ ปน สทฺโธ ภวิสฺสติ ปสนฺโน’’ติ. ภนฺเต, ตุมฺเห ตฺวา ยุตฺตฏฺานสฺมึเยว ปพฺพชิตา, มยํ ปน อนุปธาเรตฺวา อติตฺเถเนว ปกฺขนฺตา อนิยฺยานิกมคฺเค วิจรามาติ. โส เอวํ วตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺเ ภิกฺขู ปุนปฺปุนํ วนฺทติ, นฺหาโนทกาทีนิ ปฏิยาเทติ, ทนฺตกฏฺํ กปฺปิยํ กโรติ, ปาเท โธวติ มกฺเขติ, อติเรกภตฺตํ ลภิตฺวา ภุฺชติ.

ตํ อิมินา นีหาเรน วสนฺตํ เอโก มหาเถโร ทิสฺวา, ‘‘ปริพฺพาชก, ตฺวํ สทฺโธ ปสนฺโน, กึ น ปพฺพชสี’’ติ. โก มํ, ภนฺเต, ปพฺพาเชสฺสติ. มยฺหิ จิรกาลํ ภทนฺตานํ ปจฺจตฺถิกา หุตฺวา วิจริมฺหาติ. เถโร ‘‘สเจ ตฺวํ ปพฺพชิตุกาโม, อหํ ตํ ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ วตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ วตฺตปฏิวตฺตมกาสิ. อถ นํ เถโร วตฺเต ปสีทิตฺวา นจิรสฺเสว อุปสมฺปาเทสิ. โส อุโปสถทิวเส ภิกฺขูหิ สทฺธึ อุโปสถคฺคํ ปวิสิตฺวา ภิกฺขู มหนฺเตน อุสฺสาเหน ปาติโมกฺขํ ปคฺคณฺหนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิมินา นีหาเรน โอสาเรตฺวา โอสาเรตฺวา โลกํ ขาทนฺติ, กติปาเหน หริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. โส ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, โก นาโม อยํ ธมฺโม’’ติ ปุจฺฉิ. ปาติโมกฺโข นาม, อาวุโสติ. อุตฺตมธมฺโม เอส, ภนฺเต, ภวิสฺสตีติ. อาม, อาวุโส, สกลสาสนธารณี อยํ สิกฺขาติ. ภนฺเต, สเจ เอส สิกฺขาธมฺโม อุตฺตโม, อิมเมว ปมํ คณฺหามีติ. คณฺหาวุโสติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ. โส คณฺหนฺโต ปริพฺพาชเก ปสฺสิตฺวา ‘‘กีทิสํ อาจริยา’’ติ ปุจฺฉิโต, ‘‘อาวุโส, มา จินฺตยิตฺถ, กติปาเหน อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา นจิรสฺเสว อุคฺคณฺหิตฺวา อุปชฺฌายํ อาห – ‘‘เอตฺตกเมว, ภนฺเต, อุทาหุ อฺมฺปิ อตฺถี’’ติ. เอตฺตกเมว, อาวุโสติ.

โส ปุนทิวเส ยถานิวตฺถปารุโตว คหิตนีหาเรเนว ปตฺตํ คเหตฺวา คิชฺฌกูฏา นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการามํ อคมาสิ. ปริพฺพาชกา ทิสฺวา ‘‘กีทิสํ, อาจริย, นาสกฺขิตฺถ มฺเ อาวฏฺฏนิมายํ อาหริตุ’’นฺติ ตํ ปริวารยึสุ. มา จินฺตยิตฺถ, อาวุโส, อาหฏา เม อาวฏฺฏนิมายา, อิโต ปฏฺาย อมฺหากํ ลาภสกฺกาโร มหา ภวิสฺสติ. ตุมฺเห อฺมฺํ สมคฺคา โหถ, มา วิวาทํ อกตฺถาติ. สเจ เต, อาจริย, สุคฺคหิตา, อมฺเหปิ นํ วาเจหีติ. โส อาทิโต ปฏฺาย ปาติโมกฺขํ โอสาเรสิ. อถ เต สพฺเพปิ – ‘‘เอถ, โภ, นคเร วิจรนฺตา สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ กเถสฺสามา’’ติ อนุคฺฆาฏิเตสุเยว นครทฺวาเรสุ ทฺวารสมีปํ คนฺตฺวา วิวเฏน ทฺวาเรน สพฺพปมํ ปวิสึสุ. เอวํ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺตํ ตํ ปริพฺพาชกํ สนฺธาย – ‘‘สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหตี’’ติ วุตฺตํ.

ตํ ทิวสํ ปน ภควา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต อิทํ อทฺทส – ‘‘อชฺช สรโภ ปริพฺพาชโก นคเร วิจริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กริสฺสติ, ติณฺณํ รตนานํ อวณฺณํ กเถนฺโต วิสํ สิฺจิตฺวา ปริพฺพาชการามํ คมิสฺสติ, อหมฺปิ ตตฺเถว คมิสฺสามิ, จตสฺโสปิ ปริสา ตตฺเถว โอสริสฺสนฺติ. ตสฺมึ สมาคเม จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต ‘‘ตสฺส โอกาโส โหตุ, ยถารุจิยา อวณฺณํ ปตฺถรตู’’ติ จินฺเตตฺวา อานนฺทตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘อานนฺท, อฏฺารสสุ มหาวิหาเรสุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มยา สทฺธึเยว ปิณฺฑาย จริตุํ อาโรเจหี’’ติ. เถโร ตถา อกาสิ. ภิกฺขู ปตฺตจีวรมาทาย สตฺถารเมว ปริวารยึสุ. สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆํ อาทาย ทฺวารคามสมีเปเยว ปิณฺฑาย จริ. สรโภปิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ นครํ ปวิฏฺโ ตตฺถ ตตฺถ ปริสมชฺเฌ ราชทฺวารวีถิจตุกฺกาทีสุ จ คนฺตฺวา ‘‘อฺาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อภาสิ. ตํ สนฺธาย โส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺาโตติ าโต อวพุทฺโธ, ปากฏํ กตฺวา อุคฺคหิโตติ ทีเปติ. อฺายาติ ชานิตฺวา. อปกฺกนฺโตติ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺโต. สเจ หิ สมณสฺส โคตมสฺส สาสเน โกจิ สาโร อภวิสฺส, นาหํ อปกฺกมิสฺสํ. ตสฺส ปน สาสนํ อสารํ นิสฺสารํ, อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา สมณา โลกํ ขาทนฺตีติ เอวมตฺถํ ทีเปนฺโต เอวมาห.

อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขูติ อถ เอวํ ตสฺมึ ปริพฺพาชเก ภาสมาเน อรฺวาสิโน ปฺจสตา ภิกฺขู ‘‘อสุกฏฺานํ นาม สตฺถา ปิณฺฑาย จริตุํ คโต’’ติ อชานนฺตา ภิกฺขาจารเวลายํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ‘‘อิมํ การณํ ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามา’’ติ อุปสงฺกมึสุ.

สิปฺปินิกาตีรนฺติ สิปฺปินิกาติ เอวํนามิกาย นทิยา ตีรํ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเร ขนฺตึ ธาเรตฺวา จิตฺเตเนว อธิวาเสสีติ อตฺโถ. เอวํ อธิวาเสตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข อชฺช มยา สรภสฺส วาทํ มทฺทิตุํ คจฺฉนฺเตน เอกเกน คนฺตพฺพํ, อุทาหุ ภิกฺขุสงฺฆปริวุเตนา’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – สจาหํ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คมิสฺสามิ, มหาชโน เอวํ จินฺเตสฺสติ – ‘‘สมโณ โคตโม วาทุปฺปตฺติฏฺานํ คจฺฉนฺโต ปกฺขํ อุกฺขิปิตฺวา คนฺตฺวา ปริสพเลน อุปฺปนฺนํ วาทํ มทฺทติ, ปรวาทีนํ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น เทตี’’ติ. น โข ปน มยฺหํ อุปฺปนฺเน วาเท ปรํ คเหตฺวา มทฺทนกิจฺจํ อตฺถิ, อหเมว คนฺตฺวา มทฺทิสฺสามิ. อนจฺฉริยํ เจตํ ยฺวาหํ อิทานิ พุทฺธภูโต อตฺตโน อุปฺปนฺนํ วาทํ มทฺเทยฺยํ, จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา วหิตพฺพํ ธุรํ อฺโ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส สาธนตฺถํ –

‘‘ยโต ยโต ครุ ธุรํ, ยโต คมฺภีรวตฺตนี;

ตทาสฺสุ กณฺหํ ยุฺเชนฺติ, สฺวาสฺสุ ตํ วหเต ธุร’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๒๙) –

อิทํ กณฺหชาตกํ อาหริตพฺพํ. อตีเต กิร เอโก สตฺถวาโห เอกิสฺสา มหลฺลิกาย เคเห นิวาสํ คณฺหิ. อถสฺส เอกิสฺสา เธนุยา รตฺติภาคสมนนฺตเร คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. สา เอกํ วจฺฉกํ วิชายิ. มหลฺลิกาย วจฺฉกํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ปุตฺตสิเนโห อุทปาทิ. ปุนทิวเส สตฺถวาหปุตฺโต – ‘‘ตว เคหเวตนํ คณฺหาหี’’ติ อาห. มหลฺลิกา ‘‘มยฺหํ อฺเน กิจฺจํ น อตฺถิ, อิมเมว วจฺฉกํ เทหี’’ติ อาห. คณฺห, อมฺมาติ. สา ตํ คณฺหิตฺวา ขีรํ ปาเยตฺวา ยาคุภตฺตติณาทีนิ ททมานา โปเสสิ. โส วุทฺธิมนฺวาย ปริปุณฺณรูโป พลวีริยสมฺปนฺโน อโหสิ สมฺปนฺนาจาโร, กาฬโก นาม นาเมน. อเถกสฺส สตฺถวาหสฺส ปฺจหิ สกฏสเตหิ อาคจฺฉนฺตสฺส อุทกภินฺนฏฺาเน สกฏจกฺกํ ลคฺคิ. โส ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ โยเชตฺวา นีหราเปตุํ อสกฺโกนฺโต กาฬกํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘ตาต, ตว เวตนํ ทสฺสามิ, สกฏํ เม อุกฺขิปิตฺวา เทหี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ตํ อาทาย – ‘‘อฺโ อิมินา สทฺธึ ธุรํ วหิตุํ สมตฺโถ นตฺถี’’ติ ธุรสกเฏ โยตฺตํ พนฺธิตฺวา ตํ เอกกํเยว โยเชสิ. โส ตํ สกฏํ อุกฺขิปิตฺวา ถเล ปติฏฺาเปตฺวา เอเตเนว นิหาเรน ปฺจ สกฏสตานิ นีหริ. โส สพฺพปจฺฉิมสกฏํ นีหริตฺวา โมจิยมาโน ‘‘สุ’’นฺติ กตฺวา สีสํ อุกฺขิปิ.

สตฺถวาโห ‘‘อยํ เอตฺตกานิ สกฏานิ อุกฺขิปนฺโต เอวํ น อกาสิ, เวตนตฺถํ มฺเ กโรตี’’ติ สกฏคณนาย กหาปเณ คเหตฺวา ปฺจสตภณฺฑิกํ ตสฺส คีวาย พนฺธาเปสิ. โส อฺเสํ อตฺตโน สนฺติกํ อลฺลียิตุํ อเทนฺโต อุชุกํ เคหเมว อคมาสิ. มหลฺลิกา ทิสฺวา โมเจตฺวา กหาปณภาวํ ตฺวา ‘‘กสฺมา, ปุตฺต, เอวมกาสิ, มา ตฺวํ ‘มยา กมฺมํ กตฺวา อาภเตน อยํ ชีวิสฺสตี’ติ สฺมกาสี’’ติ วตฺวา โคณํ อุณฺโหทเกน นฺหาเปตฺวา เตเลน อพฺภฺชิตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ปุน มา เอวมกาสี’’ติ โอวทิ. เอวํ สตฺถา ‘‘จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา วหิตพฺพธุรํ อฺโ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกโกว อคมาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ ปุถุตฺตารมฺมเณหิ จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา สลฺลานโต, ผลสมาปตฺติโตติ อตฺโถ. เตนุปสงฺกมีติ ปริพฺพาชเกสุ สกลนคเร ปกาสนียกมฺมํ กตฺวา นครา นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการาเม สนฺนิปติตฺวา ‘‘สเจ, อาวุโส สรภ, สมโณ โคตโม อาคมิสฺสติ, กึ กริสฺสสี’’ติ. สมเณ โคตเม เอกํ กโรนฺเต อหํ ทฺเว กริสฺสามิ, ทฺเว กโรนฺเต จตฺตาริ, จตฺตาริ กโรนฺเต ปฺจ, ปฺจ กโรนฺเต ทส, ทส กโรนฺเต วีสติ, วีสติ กโรนฺเต ตึสํ, ตึสํ กโรนฺเต จตฺตาลีสํ, จตฺตาลีสํ กโรนฺเต ปฺาสํ, ปฺาสํ กโรนฺเต สตํ, สตํ กโรนฺเต สหสฺสํ กริสฺสามีติ เอวํ อฺมฺํ สีหนาทกถํ สมุฏฺาเปตฺวา นิสินฺเนสุ อุปสงฺกมิ.

อุปสงฺกมนฺโต ปน ยสฺมา ปริพฺพาชการามสฺส นครมชฺเฌเนว มคฺโค, ตสฺมา สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา สุคตมหาจีวรํ ปารุปิตฺวา วิสฺสฏฺพโล ราชา วิย เอกโกว นครมชฺเฌน อคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺิกา ทิสฺวา ‘‘ปริพฺพาชกา สมณสฺส โคตมสฺส ปกาสนียกมฺมํ กโรนฺตา อวณฺณํ ปตฺถรึสุ, โส เอเต อนุวตฺติตฺวา สฺาเปตุํ คจฺฉติ มฺเ’’ติ อนุพนฺธึสุ. สมฺมาทิฏฺิกาปิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปตฺตจีวรํ อาทาย เอกโกว นิกฺขนฺโต, อชฺช สรเภน สทฺธึ มหาธมฺมสงฺคาโม ภวิสฺสติ. มยมฺปิ ตสฺมึ สมาคเม กายสกฺขิโน ภวิสฺสามา’’ติ อนุพนฺธึสุ. สตฺถา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส ปริพฺพาชการามํ อุปสงฺกมิ.

ปริพฺพาชกา รุกฺขานํ ขนฺธวิฏปสาขนฺตเรหิ สมุคฺคจฺฉนฺตา ฉพฺพณฺณฆนพุทฺธรสฺมิโย ทิสฺวา ‘‘อฺทา เอวรูโป โอภาโส นาม นตฺถิ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ อุลฺโลเกตฺวา ‘‘สมโณ โคตโม อาคจฺฉตี’’ติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวาว สรโภ ชาณุกนฺตเร สีสํ เปตฺวา อโธมุโข นิสีทิ. เอวํ ตสฺมึ สมเย ภควา ตํ อารามํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. ตถาคโต หิ ชมฺพุทีปตเล อคฺคกุเล ชาตตฺตา อคฺคาสนารโหติสฺส สพฺพตฺถ อาสนํ ปฺตฺตเมว โหติ. เอวํ ปฺตฺเต มหารเห พุทฺธาสเน นิสีทิ.

เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺเธ กิร สรเภน สทฺธึ เอตฺตกํ กเถนฺเตเยว ภิกฺขุสงฺโฆ สตฺถุ ปทานุปทิโก หุตฺวา ปริพฺพาชการามํ สมฺปาปุณิ, จตสฺโสปิ ปริสา ปริพฺพาชการาเมเยว โอสรึสุ. ตโต เต ปริพฺพาชกา ‘‘อจฺฉริยํ สมณสฺส โคตมสฺส กมฺมํ, สกลนครํ วิจริตฺวา อวณฺณํ ปตฺถริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กตฺวา อาคตานํ เวรีนํ ปฏิสตฺตูนํ ปจฺจามิตฺตานํ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา โถกมฺปิ วิคฺคาหิกกถํ น กเถสิ, อาคตกาลโต ปฏฺาย สตปากเตเลน มกฺเขนฺโต วิย อมตปานํ ปาเยนฺโต วิย มธุรกถํ กเถตี’’ติ สพฺเพปิ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อนุวตฺตนฺตา เอตทโวจุํ.

ยาเจยฺยาสีติ อายาเจยฺยาสิ ปตฺเถยฺยาสิ ปิเหยฺยาสิ. ตุณฺหีภูโตติ ตุณฺหีภาวํ อุปคโต. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชตํ อาปนฺโน. ปตฺตกฺขนฺโธติ โอนตคีโว. อโธมุโขติ เหฏฺามุโข. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ ‘‘อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺเพ ธมฺมา มยา อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ ปฏิชานโต ตว. อนภิสมฺพุทฺธาติ อิเม นาม ธมฺมา ตยา อนภิสมฺพุทฺธา. ตตฺถาติ เตสุ อนภิสมฺพุทฺธาติ เอวํ ทสฺสิตธมฺเมสุ. อฺเน วา อฺํ ปฏิจริสฺสตีติ อฺเน วา วจเนน อฺํ วจนํ ปฏิจฺฉาเทสฺสติ, อฺํ ปุจฺฉิโต อฺํ กเถสฺสตีติ อธิปฺปาโย. พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสตีติ พหิทฺธา อฺํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต ปุริมกถํ อปนาเมสฺสติ. อปฺปจฺจยนฺติ อนภิรทฺธึ อตุฏฺาการํ ปาตุกริสฺสตีติ ปากฏํ กริสฺสติ. เอตฺถ จ อปฺปจฺจเยน โทมนสฺสํ วุตฺตํ, ปุริเมหิ ทฺวีหิ มนฺทพลวเภโท โกโธเยว.

เอวํ ภควา ปมเวสารชฺเชน สีหนาทํ นทิตฺวา ปุน ทุติยาทีหิ นทนฺโต โย โข มํ ปริพฺพาชกาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส มคฺคสฺส วา ผลสฺส วา อตฺถาย ตยา จตุสจฺจธมฺโม เทสิโต. โส น นิยฺยาตีติ โส ธมฺโม น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉติ, น ตํ อตฺถํ สาเธตีติ วุตฺตํ โหติ. ตกฺกรสฺสาติ โย นํ กโรติ, ตสฺส ปฏิปตฺติปูรกสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ. สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เหตุนา นเยน การเณน สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส ขยาย. อถ วา ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต. เสยฺยถิทํ – ราคปฏิฆาตตฺถาย อสุภกมฺมฏฺานํ, โทสปฏิฆาตตฺถาย เมตฺตาภาวนา, โมหปฏิฆาตตฺถาย ปฺจ ธมฺมา, วิตกฺกุปจฺเฉทาย อานาปานสฺสติ. โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ โส ธมฺโม โย นํ ยถาเทสิตํ กโรติ, ตสฺส ตกฺกรสฺส สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน วฏฺฏทุกฺขกฺขยาย น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉติ, ตํ อตฺถํ น สาเธตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโกติ ยถา อยํ สรโภ ปริพฺพาชโก ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสินฺโน, เอวํ นิสีทิสฺสตีติ.

เอวํ ตีหิ ปเทหิ สีหนาทํ นทิตฺวา เทสนํ นิวตฺเตนฺตสฺเสว ตถาคตสฺส ตสฺมึ าเน สนฺนิปติตา จตุราสีติปาณสหสฺสปริมาณา ปริสา อมตปานํ ปิวิ, สตฺถา ปริสาย อมตปานสฺส ปีตภาวํ ตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีหนาทนฺติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ อปฺปฏินาทํ. เวหาสํ ปกฺกามีติ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน อากาสํ ปกฺขนฺทิ. เอวํ ปกฺขนฺโท จ ปน ตํขณฺเว คิชฺฌกูฏมหาวิหาเร ปติฏฺาสิ.

วาจาย สนฺนิโตทเกนาติ วจนปโตเทน. สฺชมฺภริมกํสูติ สมฺภริตํ นิรนฺตรผุฏํ อกํสุ, อุปริ วิชฺฌึสูติ วุตฺตํ โหติ. พฺรหารฺเติ มหารฺเ. สีหนาทํ นทิสฺสามีติ สีหสฺส นทโต อาการํ ทิสฺวา ‘‘อยมฺปิ ติรจฺฉานคโต, อหมฺปิ, อิมสฺส จตฺตาโร ปาทา, มยฺหมฺปิ, อหมฺปิ เอวเมว สีหนาทํ นทิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. โส สีหสฺส สมฺมุขา นทิตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺมึ โคจราย ปกฺกนฺเต เอกโก นทิตุํ อารภิ. อถสฺส สิงฺคาลสทฺโทเยว นิจฺฉริ. เตน วุตฺตํ – สิงฺคาลกํเยว นทตีติ. เภรณฺฑกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อปิจ ภินฺนสฺสรํ อมนาปสทฺทํ นทตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวเมว โข ตฺวนฺติ อิมินา โอปมฺเมน ปริพฺพาชกา ตถาคตํ สีหสทิสํ กตฺวา สรภํ สิงฺคาลสทิสํ อกํสุ. อมฺพุกสฺจรีติ ขุทฺทกกุกฺกุฏิกา. ปุริสกรวิตํ รวิสฺสามีติ มหากุกฺกุฏํ รวนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺสปิ ทฺเว ปาทา ทฺเว ปกฺขา, มยฺหมฺปิ ตเถว, อหมฺปิ เอวรูปํ รวิตํ รวิสฺสามี’’ติ สา ตสฺส สมฺมุขา รวิตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺมึ ปกฺกนฺเต รวมานา กุกฺกุฏิการวํเยว รวิ. เตน วุตฺตํ – อมฺพุกสฺจริรวิตํเยว รวตีติ. อุสโภติ โคโณ. สุฺายาติ ตุจฺฉาย เชฏฺกวสเภหิ วิรหิตาย. คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มฺตีติ เชฏฺกวสภสฺส นาทสทิสํ คมฺภีรนาทํ นทิตพฺพํ มฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๕. เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา

๖๖. ปฺจเม กาลามานํ นิคโมติ กาลามา นาม ขตฺติยา, เตสํ นิคโม. เกสมุตฺติยาติ เกสมุตฺตนิคมวาสิโน. อุปสงฺกมึสูติ สปฺปินวนีตาทิเภสชฺชานิ เจว อฏฺวิธปานกานิ จ คาหาเปตฺวา อุปสงฺกมึสุ. สกํเยว วาทํ ทีเปนฺตีติ อตฺตโนเยว ลทฺธึ กเถนฺติ. โชเตนฺตีติ ปกาเสนฺติ. ขุํเสนฺตีติ ฆฏฺเฏนฺติ. วมฺเภนฺตีติ อวชานนฺติ. ปริภวนฺตีติ ลามกํ กโรนฺติ. โอมกฺขึ กโรนฺตีติ อุกฺขิตฺตกํ กโรนฺติ, อุกฺขิปิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ. อปเรปิ, ภนฺเตติ โส กิร อฏวิมุเข คาโม, ตสฺมา ตตฺถ อฏวึ อติกฺกนฺตา จ อติกฺกมิตุกามา จ วาสํ กปฺเปนฺติ. เตสุปิ ปมํ อาคตา อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ปกฺกมึสุ, ปจฺฉา อาคตา ‘‘กึ เต ชานนฺติ, อมฺหากํ อนฺเตวาสิกา เต, อมฺหากํ สนฺติเก กิฺจิ กิฺจิ สิปฺปํ อุคฺคณฺหึสู’’ติ อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ปกฺกมึสุ. กาลามา เอกลทฺธิยมฺปิ สณฺหิตุํ น สกฺขึสุ. เต เอตมตฺถํ ทีเปตฺวา ภควโต เอวมาโรเจตฺวา เตสํ โน, ภนฺเตติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ โหเตว กงฺขาติ โหติเยว กงฺขา. วิจิกิจฺฉาติ ตสฺเสว เววจนํ. อลนฺติ ยุตฺตํ.

มา อนุสฺสเวนาติ อนุสฺสวกถายปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ปรมฺปรายาติ ปรมฺปรกถายปิ มา คณฺหิตฺถ. มา อิติกิรายาติ เอวํ กิร เอตนฺติ มา คณฺหิตฺถ. มา ปิฏกสมฺปทาเนนาติ อมฺหากํ ปิฏกตนฺติยา สทฺธึ สเมตีติ มา คณฺหิตฺถ. มา ตกฺกเหตูติ ตกฺกคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา นยเหตูติ นยคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา อาการปริวิตกฺเกนาติ สุนฺทรมิทํ การณนฺติ เอวํ การณปริวิตกฺเกนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยาติ อมฺหากํ นิชฺฌายิตฺวา ขมิตฺวา คหิตทิฏฺิยา สทฺธึ สเมตีติปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ภพฺพรูปตายาติ อยํ ภิกฺขุ ภพฺพรูโป, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถ. มา สมโณ โน ครูติ อยํ สมโณ อมฺหากํ ครุ, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถ. สมตฺตาติ ปริปุณฺณา. สมาทินฺนาติ คหิตา ปรามฏฺา. ยํส โหตีติ ยํ การณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส โหติ. อโลภาทโย โลภาทิปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา. วิคตาภิชฺโฌติอาทีหิ เมตฺตาย ปุพฺพภาโค กถิโต.

อิทานิ เมตฺตาทิกํ กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เมตฺตาสหคเตนาติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺมฏฺานกถาย วา ภาวนานเย วา ปาฬิวณฺณนาย วา ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐) วุตฺตเมว. เอวํ อเวรจิตฺโตติ เอวํ อกุสลเวรสฺส จ ปุคฺคลเวริโน จ นตฺถิตาย อเวรจิตฺโต. อพฺยาพชฺฌจิตฺโตติ โกธจิตฺตสฺส อภาเวน นิทฺทุกฺขจิตฺโต. อสํกิลิฏฺจิตฺโตติ กิเลสสฺส นตฺถิตาย อสํกิลิฏฺจิตฺโต. วิสุทฺธจิตฺโตติ กิเลสมลาภาเวน วิสุทฺธจิตฺโต โหตีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ตสฺส เอวรูปสฺส อริยสาวกสฺส. อสฺสาสาติ อวสฺสยา ปติฏฺา. สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโกติ ยทิ อิมมฺหา โลกา ปรโลโก นาม อตฺถิ. อถาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา…เป… อุปปชฺชิสฺสามีติ อตฺเถตํ การณํ, เยนาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามีติ เอวํ สพฺพตฺถ นโย เวทิตพฺโพ. อนีฆนฺติ นิทฺทุกฺขํ. สุขินฺติ สุขิตํ. อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามีติ ยฺจ ปาปํ น กโรมิ, ยฺจ กโรโตปิ น กรียติ, อิมินา อุภเยนาปิ วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา

๖๗. ฉฏฺเ มิคารนตฺตาติ มิคารเสฏฺิโน นตฺตา. เสขุนิยนตฺตาติ เสขุนิยเสฏฺิโน นตฺตา. อุปสงฺกมึสูติ ภุตฺตปาตราสา ทาสกมฺมกรปริวุตา อุปสงฺกมึสุ. เตสํ กิร ปุเรภตฺเต ปุพฺพณฺหสมเยเยว เคเห เอโก ปฺโห สมุฏฺิโต, ตํ ปน กเถตุํ โอกาโส นาโหสิ. เต ‘‘ตํ ปฺหํ โสสฺสามา’’ติ เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ตุณฺหี นิสีทึสุ. เถโร ‘‘คาเม ตํ สมุฏฺิตํ ปฺหํ โสตุํ อาคตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ มนํ ตฺวา ตเมว ปฺหํ อารภนฺโต เอถ ตุมฺเห สาฬฺหาติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถิ โลโภติ ลุพฺภนสภาโว โลโภ นาม อตฺถีติ ปุจฺฉติ. อภิชฺฌาติ โข อหํ สาฬฺหา เอตมตฺถํ วทามีติ เอตํ โลภสงฺขาตํ อตฺถํ อหํ ‘‘อภิชฺฌา’’ติ วทามิ, ‘‘ตณฺหา’’ติ วทามีติ สมุฏฺิตปฺหสฺส อตฺถํ ทีเปนฺโต อาห. เอวํ สพฺพวาเรสุ นโย เนตพฺโพ.

โส เอวํ ปชานาตีติ โส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา ิโต อริยสาวโก สมาปตฺติโต วุฏฺาย วิปสฺสนํ อารภนฺโต เอวํ ปชานาติ. อตฺถิ อิทนฺติ อตฺถิ ทุกฺขสจฺจสงฺขาตํ ขนฺธปฺจกํ นามรูปวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปชานนฺโต เอส ‘‘เอวํ ปชานาติ อตฺถิ อิท’’นฺติ วุตฺโต. หีนนฺติ สมุทยสจฺจํ. ปณีตนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิมสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตริ นิสฺสรณนฺติ อิมสฺส วิปสฺสนาสฺาสงฺขาตสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตริ นิสฺสรณํ นาม นิพฺพานํ, ตมตฺถีติ อิมินา นิโรธสจฺจํ ทสฺเสติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ กถิตํ. อหุ ปุพฺเพ โลโภติ ปุพฺเพ เม โลโภ อโหสิ. ตทหุ อกุสลนฺติ ตํ อกุสลํ นาม อโหสิ, ตทา วา อกุสลํ นาม อโหสิ. อิจฺเจตํ กุสลนฺติ อิติ เอตํ กุสลํ, ตสฺเสว อกุสลสฺส นตฺถิภาวํ กุสลํ เขมนฺติ สนฺธาย วทติ. นิจฺฉาโตติ นิตฺตณฺโห. นิพฺพุโตติ อพฺภนฺตเร สนฺตาปกรานํ กิเลสานํ อภาเวน นิพฺพุโต. สีติภูโตติ สีตลีภูโต. สุขปฺปฏิสํเวทีติ กายิกเจตสิกสฺส สุขสฺส ปฏิสํเวทิตา. พฺรหฺมภูเตนาติ เสฏฺภูเตน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๖๘. สตฺตเม กถาวตฺถูนีติ กถาการณานิ, กถาย ภูมิโย ปติฏฺาโยติ อตฺโถ. อตีตํ วา, ภิกฺขเว, อทฺธานนฺติ อตีตมทฺธานํ นาม กาโลปิ วฏฺฏติ ขนฺธาปิ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อตีเต กสฺสโป นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ, ตสฺส กิกี นาม กาสิกราชา อคฺคุปฏฺาโก อโหสิ, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ อายุ อโหสีติ อิมินา นเยน กเถนฺโต อตีตํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม. อนาคเต เมตฺเตยฺโย นาม พุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตสฺส สงฺโข นาม ราชา อคฺคุปฏฺาโก ภวิสฺสติ, อสีติ วสฺสสหสฺสานิ อายุ ภวิสฺสตีติ อิมินา นเยน กเถนฺโต อนาคตํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม. เอตรหิ อสุโก นาม ราชา ธมฺมิโกติ อิมินา นเยน กเถนฺโต ปจฺจุปฺปนฺนํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม.

กถาสมฺปโยเคนาติ กถาสมาคเมน. กจฺโฉติ กเถตุํ ยุตฺโต. อกจฺโฉติ กเถตุํ น ยุตฺโต. เอกํสพฺยากรณียํ ปฺหนฺติอาทีสุ, ‘‘จกฺขุ, อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเน, ‘‘อาม, อนิจฺจ’’นฺติ เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพํ. เอเสว นโย โสตาทีสุ. อยํ เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘อนิจฺจํ นาม จกฺขู’’ติ ปุฏฺเน ปน ‘‘น จกฺขุเมว, โสตมฺปิ อนิจฺจํ, ฆานมฺปิ อนิจฺจ’’นฺติ เอวํ วิภชิตฺวา พฺยากาตพฺพํ. อยํ วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘ยถา จกฺขุ, ตถา โสตํ. ยถา โสตํ, ตถา จกฺขู’’ติ ปุฏฺเน ‘‘เกนฏฺเน ปุจฺฉสี’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทสฺสนฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต ‘‘น หี’’ติ พฺยากาตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อามา’’ติ พฺยากาตพฺพํ. อยํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติอาทีนิ ปุฏฺเน ปน ‘‘อพฺยากตเมตํ ภควตา’’ติ เปตพฺโพ, เอส ปฺโห น พฺยากาตพฺโพ. อยํ ปนีโย ปฺโห.

านาาเน น สณฺาตีติ การณาการเณ น สณฺาติ. ตตฺรายํ นโย – สสฺสตวาที ยุตฺเตน การเณน ปโหติ อุจฺเฉทวาทึ นิคฺคเหตุํ, อุจฺเฉทวาที เตน นิคฺคยฺหมาโน ‘‘กึ ปนาหํ อุจฺเฉทํ วทามี’’ติ สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปติ, อตฺตโน วาเท ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. เอวํ อุจฺเฉทวาทิมฺหิ ปโหนฺเต สสฺสตวาที, ปุคฺคลวาทิมฺหิ ปโหนฺเต สุฺตวาที, สุฺตวาทิมฺหิ ปโหนฺเต ปุคฺคลวาทีติ เอวํ านาาเน น สณฺาติ นาม.

ปริกปฺเป น สณฺาตีติ อิทํ ปฺหปุจฺฉเนปิ ปฺหกถเนปิ ลพฺภติ. กถํ? เอกจฺโจ หิ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ กณฺํ โสเธติ, โส อิตเรน ‘‘อิทํ นาม ตฺวํ ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ วุตฺโต าตภาวํ ตฺวา ‘‘น เอตํ, อฺํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วทติ. ปฺหํ ปุฏฺโปิ ‘‘ปฺหํ กเถสฺสามี’’ติ หนุํ สํโสเธติ, โส อิตเรน ‘‘อิทํ นาม กเถสฺสสี’’ติ วุตฺโต าตภาวํ ตฺวา ‘‘น เอตํ, อฺํ กเถสฺสามี’’ติ วทติ. เอวํ ปริกปฺเป น สณฺาติ นาม.

อฺาตวาเท น สณฺาตีติ อฺาตวาเท ชานิตวาเท น สณฺาติ. กถํ? เอกจฺโจ ปฺหํ ปุจฺฉติ, ตํ อิตโร ‘‘มนาโป ตยา ปฺโห ปุจฺฉิโต, กหํ เต เอส อุคฺคหิโต’’ติ วทติ. อิตโร ปุจฺฉิตพฺพนิยาเมเนว ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวาปิ ตสฺส กถาย ‘‘อปฺหํ นุ โข ปุจฺฉิต’’นฺติ วิมตึ กโรติ. อปโร ปฺหํ ปุฏฺโ กเถติ, ตมฺโ ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห กถิโต, กตฺถ เต อุคฺคหิโต, ปฺหํ กเถนฺเตน นาม เอวํ กเถตพฺโพ’’ติ วทติ. อิตโร กเถตพฺพนิยาเมเนว ปฺหํ กเถตฺวาปิ ตสฺส กถาย ‘‘อปฺโห นุ โข มยา กถิโต’’ติ วิมตึ กโรติ.

ปฏิปทาย น สณฺาตีติ ปฏิปตฺติยํ น ติฏฺติ, วตฺตํ อชานิตฺวา อปุจฺฉิตพฺพฏฺาเน ปุจฺฉตีติ อตฺโถ. อยํ ปฺโห นาม เจติยงฺคเณ ปุจฺฉิเตน น กเถตพฺโพ, ตถา ภิกฺขาจารมคฺเค คามํ ปิณฺฑาย จรณกาเล. อาสนสาลาย นิสินฺนกาเล ยาคุํ วา ภตฺตํ วา คเหตฺวา นิสินฺนกาเล ปริภุฺชิตฺวา นิสินฺนกาเล ทิวาวิหารฏฺานคมนกาเลปิ. ทิวาฏฺาเน นิสินฺนกาเล ปน โอกาสํ กาเรตฺวาว ปุจฺฉนฺตสฺส กเถตพฺโพ, อกาเรตฺวา ปุจฺฉนฺตสฺส น กเถตพฺโพ. อิทํ วตฺตํ อชานิตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฏิปทาย น สณฺาติ นาม. เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกจฺโฉ โหตีติ, ภิกฺขเว, เอตํ อิมสฺมึ จ การเณ สติ อยํ ปุคฺคโล น กเถตุํ ยุตฺโต นาม โหติ.

านาาเน สณฺาตีติ สสฺสตวาที ยุตฺเตน การเณน ปโหติ อุจฺเฉทวาทึ นิคฺคเหตุํ, อุจฺเฉทวาที เตน นิคฺคยฺหมาโนปิ ‘‘อหํ ตยา สตกฺขตฺตุํ นิคฺคยฺหมาโนปิ อุจฺเฉทวาทีเยวา’’ติ วทติ. อิมินา นเยน สสฺสตปุคฺคลสุฺตวาทาทีสุปิ นโย เนตพฺโพ. เอวํ านาาเน สณฺาติ นาม. ปริกปฺเป สณฺาตีติ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ กณฺํ โสเธนฺโต ‘‘ตฺวํ อิมํ นาม ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, เอตํเยว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วทติ. ปฺหํ กเถสฺสามีติ หนุํ สํโสเธนฺโตปิ ‘‘ตฺวํ อิมํ นาม กเถสฺสสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, เอตํเยว กเถสฺสามี’’ติ วทติ. เอวํ ปริกปฺเป สณฺาติ นาม.

อฺาตวาเท สณฺาตีติ อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห ปุจฺฉิโต, ปุจฺฉนฺเตน นาม เอวํ ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉติ, วิมตึ น อุปฺปาเทติ. ปฺหํ กเถตฺวาปิ ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห กถิโต, กเถนฺเตน นาม เอวํ กเถตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉติ, วิมตึ น อุปฺปาเทติ. ปฏิปทาย สณฺาตีติ เคเห นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา ยาว ภตฺตํ นิฏฺาติ, ตสฺมึ อนฺตเร นิสินฺโน ปฺหํ ปุจฺฉติ. สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ อฏฺวิธานิ ปานกานิ วตฺถจฺฉาทนมาลาคนฺธาทีนิ วา อาทาย วิหารํ คนฺตฺวา ตานิ ทตฺวา ทิวาฏฺานํ ปวิสิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ. เอวฺหิ วตฺตํ ตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฏิปทาย สณฺาติ นาม. ตสฺส ปฺหํ กเถตุํ วฏฺฏติ.

อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน วจเนน อฺํ ปฏิจฺฉาเทติ, อฺํ วา ปุจฺฉิโต อฺํ กเถติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ อาคนฺตุกกถํ โอตาเรนฺโต ปุริมกถํ พหิทฺธา อปนาเมติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ภิกฺขู กิร สนฺนิปติตฺวา เอกํ ทหรํ, ‘‘อาวุโส, ตฺวํ อิมฺจิมฺจ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ อาหํสุ. โส อาห – ‘‘ภนฺเต, นาคทีปํ คโตมฺหี’’ติ. อาวุโส, น มยํ ตว นาคทีปคมเนน อตฺถิกา, อาปตฺตึ ปน อาปนฺโนติ ปุจฺฉามาติ. ภนฺเต, นาคทีปํ คนฺตฺวา มจฺเฉ ขาทินฺติ. อาวุโส, ตว มจฺฉขาทเนน กมฺมํ นตฺถิ, อาปตฺตึ กิรสิ อาปนฺโนติ. โส ‘‘นาติสุปกฺโก มจฺโฉ มยฺหํ อผาสุกมกาสิ, ภนฺเต’’ติ. อาวุโส, ตุยฺหํ ผาสุเกน วา อผาสุเกน วา กมฺมํ นตฺถิ, อาปตฺตึ อาปนฺโนสีติ. ภนฺเต, ยาว ตตฺถ วสึ, ตาว เม อผาสุกเมว ชาตนฺติ. เอวํ อาคนฺตุกกถาวเสน พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ เวทิตพฺพํ.

อภิหรตีติ อิโต จิโต จ สุตฺตํ อาหริตฺวา อวตฺถรติ. เตปิฏกติสฺสตฺเถโร วิย. ปุพฺเพ กิร ภิกฺขู มหาเจติยงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา สงฺฆกิจฺจํ กตฺวา ภิกฺขูนํ โอวาทํ ทตฺวา อฺมฺํ ปฺหสากจฺฉํ กโรนฺติ. ตตฺถายํ เถโร ตีหิ ปิฏเกหิ ตโต ตโต สุตฺตํ อาหริตฺวา ทิวสภาเค เอกมฺปิ ปฺหํ นิฏฺาเปตุํ น เทติ. อภิมทฺทตีติ การณํ อาหริตฺวา มทฺทติ. อนุปชคฺฆตีติ ปเรน ปฺเห ปุจฺฉิเตปิ กถิเตปิ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสติ, เยน ปรสฺส ‘‘อปุจฺฉิตพฺพํ นุ โข ปุจฺฉึ, อกเถตพฺพํ นุ โข กเถสิ’’นฺติ วิมติ อุปฺปชฺชติ. ขลิตํ คณฺหาตีติ อปฺปมตฺตกํ มุขโทสมตฺตํ คณฺหาติ, อกฺขเร วา ปเท วา พฺยฺชเน วา ทุรุตฺเต ‘‘เอวํ นาเมตํ วตฺตพฺพ’’นฺติ อุชฺฌายมาโน วิจรติ. สอุปนิโสติ สอุปนิสฺสโย สปจฺจโย.

โอหิตโสโตติ ปิตโสโต. อภิชานาติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ กุสลธมฺมํ อภิชานาติ อริยมคฺคํ. ปริชานาติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ ทุกฺขสจฺจธมฺมํ ตีรณปริฺาย ปริชานาติ. ปชหติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ สพฺพากุสลธมฺมํ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ. สจฺฉิกโรติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ อรหตฺตผลธมฺมํ นิโรธเมว วา ปจฺจกฺขํ กโรติ. สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสตีติ สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน อรหตฺตผลวิโมกฺขํ าณผสฺเสน ผุสติ.

เอตทตฺถา, ภิกฺขเว, กถาติ, ภิกฺขเว, ยา เอสา กถาสมฺปโยเคนาติ กถา ทสฺสิตา, สา เอตทตฺถา, อยํ ตสฺสา กถาย ภูมิ ปติฏฺา. อิทํ วตฺถุ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ เอวํ สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา. เอตทตฺถา มนฺตนาติ ยา อยํ กจฺฉากจฺเฉสุ ปุคฺคเลสุ กจฺเฉน สทฺธึ มนฺตนา, สาปิ เอตทตฺถาเยว. เอตทตฺถา อุปนิสาติ โอหิตโสโต สอุปนิโสติ เอวํ วุตฺตา อุปนิสาปิ เอตทตฺถาเยว. เอตทตฺถํ โสตาวธานนฺติ ตสฺสา อุปนิสาย โสตาวธานํ, ตมฺปิ เอตทตฺถเมว. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อคฺคเหตฺวา. จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อรหตฺตผลวิโมกฺโข. อรหตฺตผลตฺถาย หิ สพฺพเมตนฺติ สุตฺตนฺตํ วินิวตฺเตตฺวา อุปริ คาถาหิ กูฏํ คณฺหนฺโต เย วิรุทฺธาติอาทิมาห.

ตตฺถ วิรุทฺธาติ วิโรธสงฺขาเตน โกเปน วิรุทฺธา. สลฺลปนฺตีติ สลฺลาปํ กโรนฺติ. วินิวิฏฺาติ อภินิวิฏฺา หุตฺวา. สมุสฺสิตาติ มานุสฺสเยน สุฏฺุ อุสฺสิตา. อนริยคุณมาสชฺชาติ อนริยคุณกถํ คุณมาสชฺช กเถนฺติ. คุณํ ฆฏฺเฏตฺวา กถา หิ อนริยกถา นาม, น อริยกถา, ตํ กเถนฺตีติ อตฺโถ. อฺโฺวิวเรสิโนติ อฺมฺสฺส ฉิทฺทํ อปราธํ คเวสมานา. ทุพฺภาสิตนฺติ ทุกฺกถิตํ. วิกฺขลิตนฺติ อปฺปมตฺตกํ มุขโทสขลิตํ. สมฺปโมหํ ปราชยนฺติ อฺมฺสฺส อปฺปมตฺเตน มุขโทเสน สมฺปโมหฺจ ปราชยฺจ. อภินนฺทนฺตีติ ตุสฺสนฺติ. นาจเรติ น จรติ น กเถติ. ธมฺมฏฺปฏิสํยุตฺตาติ ยา จ ธมฺเม ิเตน กถิตกถา, สา ธมฺมฏฺา เจว โหติ เตน จ ธมฺเมน ปฏิสํยุตฺตาติ ธมฺมฏฺปฏิสํยุตฺตา. อนุนฺนเตน มนสาติ อนุทฺธเตน เจตสา. อปฬาโสติ ยุคคฺคาหปฬาสวเสน อปฬาโส หุตฺวา. อสาหโสติ ราคโทสโมหสาหสานํ วเสน อสาหโส หุตฺวา.

อนุสูยายมาโนติ น อุสูยมาโน. ทุพฺภฏฺเ นาปสาทเยติ ทุกฺกถิตสฺมึ น อปสาเทยฺย. อุปารมฺภํ น สิกฺเขยฺยาติ การณุตฺตริยลกฺขณํ อุปารมฺภํ น สิกฺเขยฺย. ขลิตฺจ น คาหเยติ อปฺปมตฺตกํ มุขขลิตํ ‘‘อยํ เต โทโส’’ติ น คาหเยยฺย. นาภิหเรติ นาวตฺถเรยฺย. นาภิมทฺเทติ เอกํ การณํ อาหริตฺวา น มทฺเทยฺย. วาจํ ปยุตํ ภเณติ สจฺจาลิกปฏิสํยุตฺตํ วาจํ น ภเณยฺย. อฺาตตฺถนฺติ ชานนตฺถํ. ปสาทตฺถนฺติ ปสาทชนนตฺถํ. น สมุสฺเสยฺย มนฺตเยติ น มานุสฺสเยน สมุสฺสิโต ภเวยฺย. น หิ มานุสฺสิตา หุตฺวา ปณฺฑิตา กถยนฺติ, มาเนน ปน อนุสฺสิโตว หุตฺวา มนฺตเย กเถยฺย ภาเสยฺยาติ.

๘. อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา

๖๙. อฏฺเม ภควํมูลกาติ ภควา มูลํ เอเตสนฺติ ภควํมูลกา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม, ภนฺเต, อมฺหากํ ธมฺมา ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธน อุปฺปาทิตา, ตสฺมึ ปรินิพฺพุเต เอกํ พุทฺธนฺตรํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ธมฺเม อุปฺปาเทตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ, ภควโต ปน โน อิเม ธมฺมา อุปฺปาทิตา. ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามาติ เอวํ ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมาติ. ภควํเนตฺติกาติ ภควา ธมฺมานํ เนตา วิเนตา อนุเนตา ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คเหตฺวาว ทสฺเสตาติ ธมฺมา ภควํเนตฺติกา นาม โหนฺติ. ภควํปฏิสรณาติ จตุภูมกธมฺมา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉมานา ภควติ ปฏิสรนฺติ นามาติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรนฺตีติ โอสรนฺติ สโมสรนฺติ. อปิจ มหาโพธิมณฺเฑ นิสินฺนสฺส ภควโต ปฏิเวธวเสน ผสฺโส อาคจฺฉติ – ‘‘อหํ ภควา กินฺนาโม’’ติ. ตฺวํ ผุสนฏฺเน ผสฺโส นาม. เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ อาคจฺฉติ – ‘‘อหํ ภควา กินฺนาม’’นฺติ. ตฺวํ วิชานนฏฺเน วิฺาณํ นามาติ. เอวํ จตุภูมกธมฺมานํ ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คณฺหนฺโต ภควา ธมฺเม ปฏิสรตีติ ภควํปฏิสรณา. ภควนฺตํเยว ปฏิภาตูติ ภควโตว เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ อุปฏฺาตุ, ตุมฺเหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อตฺโถ.

ราโค โขติ รชฺชนวเสน ปวตฺตราโค. อปฺปสาวชฺโชติ โลกวชฺชวเสนปิ วิปากวชฺชวเสนปีติ ทฺวีหิปิ วชฺเชหิ อปฺปสาวชฺโช, อปฺปโทโสติ อตฺโถ. กถํ? มาตาปิตโร หิ ภาติภคินิอาทโย จ ปุตฺตภาติกานํ อาวาหวิวาหมงฺคลํ นาม กาเรนฺติ. เอวํ ตาเวโส โลกวชฺชวเสน อปฺปสาวชฺโช. สทารสนฺโตสมูลิกา ปน อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม น โหตีติ เอวํ วิปากวชฺชวเสน อปฺปสาวชฺโช. ทนฺธวิราคีติ วิรชฺชมาโน ปเนส สณิกํ วิรชฺชติ, น สีฆํ มุจฺจติ. เตลมสิราโค วิย จิรํ อนุพนฺธติ, ทฺเว ตีณิ ภวนฺตรานิ คนฺตฺวาปิ นาปคจฺฉตีติ ทนฺธวิราคี.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ปุริโส ภาตุ ชายาย มิจฺฉาจารํ จรติ. ตสฺสาปิ อิตฺถิยา อตฺตโน สามิกโต โสเยว ปิยตโร อโหสิ. สา ตมาห – ‘‘อิมสฺมึ การเณ ปากเฏ ชาเต มหตี ครหา ภวิสฺสติ, ตว ภาติกํ ฆาเตหี’’ติ. โส ‘‘นสฺส, วสลิ, มา เอวํ ปุน อวจา’’ติ อปสาเทสิ. สา ตุณฺหี หุตฺวา กติปาหจฺจเยน ปุน กเถสิ, ตสฺส จิตฺตํ ทฺวชฺฌภาวํ อคมาสิ. ตโต ตติยวารํ กถิโต ‘‘กินฺติ กตฺวา โอกาสํ ลภิสฺสามี’’ติ อาห. อถสฺส สา อุปายํ กเถนฺตี ‘‘ตฺวํ มยา วุตฺตเมว กโรหิ, อสุกฏฺาเน มหากกุธสมีเป ติตฺถํ อตฺถิ, ตตฺถ ติขิณํ ทณฺฑกวาสึ คเหตฺวา ติฏฺาหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. เชฏฺภาตาปิสฺส อรฺเ กมฺมํ กตฺวา ฆรํ อาคโต. สา ตสฺมึ มุทุจิตฺตา วิย หุตฺวา ‘‘เอหิ สามิ, สีเส เต โอลิขิสฺสามี’’ติ โอลิขนฺตี ‘‘อุปกฺกิลิฏฺํ เต สีส’’นฺติ อามลกปิณฺฑํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ อสุกฏฺาเน สีสํ โธวิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ เปเสสิ. โส ตาย วุตฺตติตฺถเมว คนฺตฺวา อามลกกกฺเกน สีสํ มกฺเขตฺวา อุทกํ โอรุยฺห โอนมิตฺวา สีสํ โธวิ. อถ นํ อิตโร รุกฺขนฺตรโต นิกฺขมิตฺวา ขนฺธฏฺิเก ปหริตฺวา ชีวิตา โวโรเปตฺวา เคหํ อคมาสิ.

อิตโร ภริยาย สิเนหํ ปริจฺจชิตุมสกฺโกนฺโต ตสฺมึเยว เคเห มหาธมฺมนิ หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ตสฺสา ิตายปิ นิสินฺนายปิ คนฺตฺวา สรีเร ปตติ. อถ นํ สา ‘‘โสเยว อยํ ภวิสฺสตี’’ติ ฆาตาเปสิ. โส ปุน ตสฺสา สิเนเหน ตสฺมึเยว เคเห กุกฺกุโร หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ปทสา คมนกาลโต ปฏฺาย ตสฺสา ปจฺฉโต ปจฺฉโต จรติ. อรฺํ คจฺฉนฺติยาปิ สทฺธึเยว คจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘นิกฺขนฺโต สุนขลุทฺทโก, กตรฏฺานํ คมิสฺสตี’’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา ปุน ตํ ฆาตาเปสิ.

โสปิ ปุน ตสฺมึเยว เคเห วจฺฉโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตเถว ตสฺสา ปจฺฉโต ปจฺฉโต จรติ. ตทาปิ นํ มนุสฺสา ทิสฺวา ‘‘นิกฺขนฺโต โคปาลโก, กตฺถ คาวิโย จริสฺสนฺตี’’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา ตสฺมิมฺปิ าเน ตํ ฆาตาเปสิ. โส ตทาปิ ตสฺสา อุปริ สิเนหํ ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโต จตุตฺเถ วาเร ตสฺสาเยว กุจฺฉิยํ ชาติสฺสโร หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ปฏิปาฏิยา จตูสุ อตฺตภาเวสุ ตาย ฆาติตภาวํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปาย นาม ปจฺจตฺถิกาย กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโตสฺมี’’ติ ตโต ปฏฺาย ตสฺสา หตฺเถน อตฺตานํ ผุสิตุํ น เทติ. สเจ นํ สา ผุสติ, กนฺทติ โรทติ. อถ นํ อยฺยโกว ปฏิชคฺคติ. ตํ อปรภาเค วุทฺธิปฺปตฺตํ อยฺยโก อาห – ‘‘ตาต, กสฺมา ตฺวํ มาตุ หตฺเถน อตฺตานํ ผุสิตุํ น เทสิ. สเจปิ ตํ ผุสติ, มหาสทฺเทน โรทสิ กนฺทสี’’ติ. อยฺยเกน ปุฏฺโ ‘‘น เอสา มยฺหํ มาตา, ปจฺจามิตฺตา เอสา’’ติ ตํ ปวตฺตึ สพฺพํ อาโรเจสิ. โส ตํ อาลิงฺคิตฺวา โรทิตฺวา ‘‘เอหิ, ตาต, กึ อมฺหากํ อีทิเส าเน นิวาสกิจฺจ’’นฺติ ตํ อาทาย นิกฺขมิตฺวา เอกํ วิหารํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุโภปิ ตตฺถ วสนฺตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

มหาสาวชฺโชติ โลกวชฺชวเสนปิ วิปากวชฺชวเสนปีติ ทฺวีหิปิ การเณหิ มหาสาวชฺโช. กถํ? โทเสน หิ ทุฏฺโ หุตฺวา มาตริปิ อปรชฺฌติ, ปิตริปิ ภาติภคินิอาทีสุปิ ปพฺพชิเตสุปิ. โส คตคตฏฺาเนสุ ‘‘อยํ ปุคฺคโล มาตาปิตูสุปิ อปรชฺฌติ, ภาติภคินิอาทีสุปิ, ปพฺพชิเตสุปี’’ติ มหตึ ครหํ ลภติ. เอวํ ตาว โลกวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. โทสวเสน ปน กเตน อานนฺตริยกมฺเมน กปฺปํ นิรเย ปจฺจติ. เอวํ วิปากวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. ขิปฺปวิราคีติ ขิปฺปํ วิรชฺชติ. โทเสน หิ ทุฏฺโ มาตาปิตูสุปิ เจติเยปิ โพธิมฺหิปิ ปพฺพชิเตสุปิ อปรชฺฌิตฺวา ‘‘มยฺหํ ขมถา’’ติ. อจฺจยํ เทเสติ. ตสฺส สห ขมาปเนน ตํ กมฺมํ ปากติกเมว โหติ.

โมโหปิ ทฺวีเหว การเณหิ มหาสาวชฺโช. โมเหน หิ มูฬฺโห หุตฺวา มาตาปิตูสุปิ เจติเยปิ โพธิมฺหิปิ ปพฺพชิเตสุปิ อปรชฺฌิตฺวา คตคตฏฺาเน ครหํ ลภติ. เอวํ ตาว โลกวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. โมหวเสน ปน กเตน อานนฺตริยกมฺเมน กปฺปํ นิรเย ปจฺจติ. เอวํ วิปากวชฺชวเสนปิ มหาสาวชฺโช. ทนฺธวิราคีติ สณิกํ วิรชฺชติ. โมเหน มูฬฺเหน หิ กตกมฺมํ สณิกํ มุจฺจติ. ยถา หิ อจฺฉจมฺมํ สตกฺขตฺตุมฺปิ โธวิยมานํ น ปณฺฑรํ โหติ, เอวเมว โมเหน มูฬฺเหน กตกมฺมํ สีฆํ น มุจฺจติ, สณิกเมว มุจฺจตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

๙. อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา

๗๐. นวเม อกุสลมูลานีติ อกุสลานํ มูลานิ, อกุสลานิ จ ตานิ มูลานิ จาติ วา อกุสลมูลานิ. ยทปิ, ภิกฺขเว, โลโภติ โยปิ, ภิกฺขเว, โลโภ. ตทปิ อกุสลมูลนฺติ โสปิ อกุสลมูลํ. อกุสลมูลํ วา สนฺธาย อิธ ตมฺปีติ อตฺโถ วฏฺฏติเยว. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ นโย เนตพฺโพ. อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ สมฺปิณฺเฑติ ราสึ กโรติ. อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยตีติ อภูเตน อวิชฺชมาเนน ยํกิฺจิ ตสฺส อภูตํ โทสํ วตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ. วเธน วาติอาทิ เยนากาเรน ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานิยาติ ธนชานิยา. ปพฺพาชนายาติ คามโต วา รฏฺโต วา ปพฺพาชนียกมฺเมน. พลวมฺหีติ อหมสฺมิ พลวา. พลตฺโถ อิติปีติ พเลน เม อตฺโถ อิติปิ, พเล วา ิโตมฺหีติปิ วทติ.

อกาลวาทีติ กาลสฺมึ น วทติ, อกาลสฺมึ วทติ นาม. อภูตวาทีติ ภูตํ น วทติ, อภูตํ วทติ นาม. อนตฺถวาทีติ อตฺถํ น วทติ, อนตฺถํ วทติ นาม. อธมฺมวาทีติ ธมฺมํ น วทติ, อธมฺมํ วทติ นาม. อวินยวาทีติ วินยํ น วทติ, อวินยํ วทติ นาม.

ตถา หายนฺติ ตถา หิ อยํ. น อาตปฺปํ กโรติ ตสฺส นิพฺเพนายาติ ตสฺส อภูตสฺส นิพฺเพนตฺถาย วีริยํ น กโรติ. อิติเปตํ อตจฺฉนฺติ อิมินาปิ การเณน เอตํ อตจฺฉํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ.

ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขาติ นิรยาทิกา ทุคฺคติ อิจฺฉิตพฺพา, สา อสฺส อวสฺสภาวินี, ตตฺถาเนน นิพฺพตฺติตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุทฺธสฺโตติ อุปริ ธํสิโต. ปริโยนทฺโธติ สมนฺตา โอนทฺโธ. อนยํ อาปชฺชตีติ อวุฑฺฒึ อาปชฺชติ. พฺยสนํ อาปชฺชตีติ วินาสํ อาปชฺชติ. คิมฺหกาลสฺมิฺหิ มาลุวาสิปาฏิกาย ผลิตาย พีชานิ อุปฺปติตฺวา วฏรุกฺขาทีนํ มูเล ปตนฺติ. ตตฺถ ยสฺส รุกฺขสฺส มูเล ตีสุ ทิสาสุ ตีณิ พีชานิ ปติตานิ โหนฺติ, ตสฺมึ รุกฺเข ปาวุสฺสเกน เมเฆน อภิวฏฺเ ตีหิ พีเชหิ ตโย องฺกุรา อุฏฺหิตฺวา ตํ รุกฺขํ อลฺลียนฺติ. ตโต ปฏฺาย รุกฺขเทวตาโย สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. เตปิ องฺกุรา วฑฺฒมานา ลตาภาวํ อาปชฺชิตฺวา ตํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา สพฺพวิฏปสาขาปสาขา สํสิพฺพิตฺวา ตํ รุกฺขํ อุปริ ปริโยนนฺธนฺติ. โส มาลุวาลตาหิ สํสิพฺพิโต ฆเนหิ มหนฺเตหิ มาลุวาปตฺเตหิ สฺฉนฺโน เทเว วา วสฺสนฺเต วาเต วา วายนฺเต ตตฺถ ตตฺถ ปลุชฺชิตฺวา ขาณุมตฺตเมว อวสิสฺสติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อฺตรรุกฺโข วิย หิ อยํ สตฺโต ทฏฺพฺโพ, ติสฺโส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ยาว รุกฺขสาขา อสมฺปตฺตา, ตาว ตาสํ ลตานํ อุชุกํ รุกฺขาโรหนํ วิย โลภาทีนํ ทฺวารํ อสมฺปตฺตกาโล, สาขานุสาเรน คมนกาโล วิย ทฺวารวเสน คมนกาโล, ปริโยนทฺธกาโล วิย โลภาทีหิ ปริยุฏฺิตกาโล, ขุทฺทกสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ทฺวารปฺปตฺตานํ กิเลสานํ วเสน ขุทฺทานุขุทฺทกา อาปตฺติโย อาปนฺนกาโล, มหาสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ครุกาปตฺตึ อาปนฺนกาโล, ลตานุสาเรน โอติณฺเณน อุทเกน มูเลสุ ตินฺเตสุ รุกฺขสฺส ภูมิยํ ปตนกาโล วิย กเมน จตฺตาริ ปาราชิกานิ อาปชฺชิตฺวา จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตนกาโล ทฏฺพฺโพ.

สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อฺตรรุกฺโข วิย อยํ สตฺโต ทฏฺพฺโพ, ติสฺโส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ตาสํ อปฺปวตฺตึ กาตุํ อาคตปุริโส วิย โยคาวจโร, กุทฺทาโล วิย ปฺา, กุทฺทาลปิฏกํ วิย สทฺธาปิฏกํ, ปลิขนนขณิตฺติ วิย วิปสฺสนาปฺา, ขณิตฺติยา มูลจฺเฉทนํ วิย วิปสฺสนาาเณน อวิชฺชามูลสฺส ฉินฺทนกาโล, ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทนกาโล วิย ขนฺธวเสน ทิฏฺกาโล, ผาลนกาโล วิย มคฺคาเณน กิเลสานํ สมุคฺฆาติตกาโล, มสิกรณกาโล วิย ธรมานกปฺจกฺขนฺธกาโล, มหาวาเต โอปุณิตฺวา อปฺปวตฺตนกาโล วิย อุปาทินฺนกกฺขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธน นิรุชฺฌิตฺวา ปุนพฺภเว ปฏิสนฺธิอคฺคหณกาโล ทฏฺพฺโพติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.

๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา

๗๑. ทสเม ตทหุโปสเถติ ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ ตํ ทิวสํ อุโปสเถ, ปนฺนรสิกอุโปสถทิวเสติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมีติ อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย คนฺธมาลาทิหตฺถา อุปสงฺกมิ. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา นาม มชฺฌนฺโห, อิมสฺมึ ิเต มชฺฌนฺหิเก กาเลติ อตฺโถ. กุโต นุ ตฺวํ อาคจฺฉสีติ กึ กโรนฺตี วิจรสีติ ปุจฺฉติ. โคปาลกุโปสโถติ โคปาลเกหิ สทฺธึ อุปวสนอุโปสโถ. นิคณฺุโปสโถติ นิคณฺานํ อุปวสนอุโปสโถ. อริยุโปสโถติ อริยานํ อุปวสนอุโปสโถ. เสยฺยถาปิ วิสาเขติ ยถา นาม, วิสาเข. สายนฺหสมเย สามิกานํ คาโว นิยฺยาเตตฺวาติ โคปาลกา หิ เทวสิกเวตเนน วา ปฺจาหทสาหอทฺธมาสมาสฉมาสสํวจฺฉรปริจฺเฉเทน วา คาโว คเหตฺวา รกฺขนฺติ. อิธ ปน เทวสิกเวตเนน รกฺขนฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – นิยฺยาเตตฺวาติ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘เอตา โว คาโว’’ติ ทตฺวา. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ภุฺชิตฺวา มฺเจ นิปนฺโน เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. อภิชฺฌาสหคเตนาติ ตณฺหาย สมฺปยุตฺเตน. เอวํ โข, วิสาเข, โคปาลกุโปสโถ โหตีติ อริยุโปสโถว อยํ, อปริสุทฺธวิตกฺกตาย ปน โคปาลกอุโปสถฏฺาเน ิโต. น มหปฺผโลติ วิปากผเลน น มหปฺผโล. น มหานิสํโสติ วิปากานิสํเสน น มหานิสํโส. น มหาชุติโกติ วิปาโกภาเสน น มหาโอภาโส. น มหาวิปฺผาโรติ วิปากวิปฺผารสฺส อมหนฺตตาย น มหาวิปฺผาโร.

สมณชาติกาติ สมณาเยว. ปรํ โยชนสตนฺติ โยชนสตํ อติกฺกมิตฺวา ตโต ปรํ. เตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิปาหีติ เตสุ โยชนสตโต ปรภาเคสุ ิเตสุ สตฺเตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิป, นิกฺขิตฺตทณฺโฑ โหหิ. นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อหํ กตฺถจิ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนตสฺมึ น โหมิ. กิฺจนํ วุจฺจติ ปลิโพโธ, ปลิโพโธ น โหมีติ วุตฺตํ โหติ. น จ มม กฺวจนิ กตฺถจิ กิฺจนตตฺถีติ มมาปิ กฺวจนิ อนฺโต วา พหิทฺธา วา กตฺถจิ เอกปริกฺขาเรปิ กิฺจนตา นตฺถิ, ปลิโพโธ นตฺถิ, ฉินฺนปลิโพโธหมสฺมีติ วุตฺตํ โหติ. โภเคติ มฺจปียาคุภตฺตาทโย. อทินฺนํเยว ปริภุฺชตีติ ปุนทิวเส มฺเจ นิปชฺชนฺโตปิ ปีเ นิสีทนฺโตปิ ยาคุํ ปิวนฺโตปิ ภตฺตํ ภุฺชนฺโตปิ เต โภเค อทินฺเนเยว ปริภุฺชติ. น มหปฺผโลติ นิปฺผโล. พฺยฺชนเมว หิ เอตฺถ สาวเสสํ, อตฺโถ ปน นิรวเสโส. เอวํ อุปวุตฺถสฺส หิ อุโปสถสฺส อปฺปมตฺตกมฺปิ วิปากผลํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา นิปฺผโลตฺเวว เวทิตพฺโพ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺสาติ อิทํ กสฺมา อาห? สํกิลิฏฺเน หิ จิตฺเตน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ น มหปฺผโล โหตีติ ทสฺสิตตฺตา วิสุทฺเธน จิตฺเตน อุปวุตฺถสฺส มหปฺผลตา อนุฺาตา โหติ. ตสฺมา เยน กมฺมฏฺาเนน จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ตํ จิตฺตวิโสธนกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตุํ อิทมาห. ตตฺถ อุปกฺกเมนาติ ปจฺจตฺตปุริสกาเรน, อุปาเยน วา. ตถาคตํ อนุสฺสรตีติ อฏฺหิ การเณหิ ตถาคตคุเณ อนุสฺสรติ. เอตฺถ หิ อิติปิ โส ภควาติ โส ภควา อิติปิ สีเลน, อิติปิ สมาธินาติ สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรา พุทฺธคุณา สงฺคหิตา. อรหนฺติอาทีหิ ปาฏิเยกฺกคุณาว นิทฺทิฏฺา. ตถาคตํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทตีติ โลกิยโลกุตฺตเร ตถาคตคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺส จิตฺตุปฺปาโท ปสนฺโน โหติ.

จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสาติ ปฺจ นีวรณา. กกฺกนฺติ อามลกกกฺกํ. ตชฺชํ วายามนฺติ ตชฺชาติกํ ตทนุจฺฉวิกํ กกฺเกน มกฺขนฆํสนโธวนวายามํ. ปริโยทปนา โหตีติ สุทฺธภาวกรณํ โหติ. กิลิฏฺสฺมึ หิ สีเส ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมาโน น โสภติ, ปริสุทฺเธ ปน ตสฺมึ ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมาโน โสภติ, เอวเมว กิลิฏฺจิตฺเตน อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุโปสโถ อุปวุตฺโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺเธน ปน จิตฺเตน อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุปวุตฺโถ อุโปสโถ มหปฺผโล โหตีติ อธิปฺปาเยน เอวมาห. พฺรหฺมุโปสถํ อุปวสตีติ พฺรหฺมา วุจฺจติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตสฺส คุณานุสฺสรณวเสน อยํ อุโปสโถ พฺรหฺมุโปสโถ นาม, ตํ อุปวสติ. พฺรหฺมุนา สทฺธึ สํวสตีติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน สทฺธึ สํวสติ. พฺรหฺมฺจสฺส อารพฺภาติ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อารพฺภ.

ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ สหตนฺติกํ โลกุตฺตรธมฺมํ อนุสฺสรติ. โสตฺตินฺติ กุรุวินฺทกโสตฺตึ. กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺเณน หิ สทฺธึ ลาขํ โยเชตฺวา มณิเก กตฺวา วิชฺฌิตฺวา สุตฺเตน อาวุณิตฺวา ตํ มณิ กลาปปนฺตึ อุภโต คเหตฺวา ปิฏฺึ ฆํเสนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘โสตฺติฺจ ปฏิจฺจา’’ติ. จุณฺณนฺติ นฺหานียจุณฺณํ. ตชฺชํ วายามนฺติ อุพฺพฏฺฏนฆํสนโธวนาทิกํ ตทนุรูปวายามํ. ธมฺมุโปสถนฺติ สหตนฺติกํ นวโลกุตฺตรธมฺมํ อารพฺภ อุปวุตฺถตฺตา อยํ อุโปสโถ ‘‘ธมฺมุโปสโถ’’ติ วุตฺโต. อิธาปิ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพา.

สงฺฆํ อนุสฺสรตีติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อนุสฺสรติ. อุสฺมฺจ ปฏิจฺจาติ ทฺเว ตโย วาเร คาหาปิตํ อุสุมํ ปฏิจฺจ. อุสฺจาติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ขารนฺติ ฉาริกํ. โคมยนฺติ โคมุตฺตํ วา อชลณฺฑิกา วา. ปริโยทปนาติ อิธาปิ ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพา. สงฺฆุโปสถนฺติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อารพฺภ อุปวุตฺถตฺตา อยํ อุโปสโถ ‘‘สงฺฆุโปสโถ’’ติ วุตฺโต.

สีลานีติ คหฏฺโ คหฏฺสีลานิ, ปพฺพชิโต ปพฺพชิตสีลานิ. อขณฺฑานีติอาทีนํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑) วิตฺถาริโตว. วาลณฺฑุปกนฺติ อสฺสวาเลหิ วา มกจิวาลาทีหิ วา กตํ อณฺฑุปกํ. ตชฺชํ วายามนฺติ เตเลน เตเมตฺวา มลสฺส ตินฺตภาวํ ตฺวา ฉาริกํ ปกฺขิปิตฺวา วาลณฺฑุปเกน ฆํสนวายาโม. อิธ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา เอวํ โยชนา กาตพฺพา กิลิฏฺสฺมิฺหิ อาทาเส มณฺฑิตปสาธิโตปิ อตฺตภาโว โอโลกิยมาโน น โสภติ, ปริสุทฺเธ โสภติ. เอวเมว กิลิฏฺเน จิตฺเตน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺเธน ปน มหปฺผโล โหตีติ. สีลุโปสถนฺติ อตฺตโน สีลานุสฺสรณวเสน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ สีลุโปสโถ นาม. สีเลน สทฺธินฺติ อตฺตโน ปฺจสีลทสสีเลน สทฺธึ. สีลฺจสฺส อารพฺภาติ ปฺจสีลํ ทสสีลฺจ อารพฺภ.

เทวตา อนุสฺสรตีติ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุเณ อนุสฺสรติ. อุกฺกนฺติ อุทฺธนํ. โลณนฺติ โลณมตฺติกา. เครุกนฺติ เครุกจุณฺณํ. นาฬิกสณฺฑาสนฺติ ธมนนาฬิกฺเจว ปริวตฺตนสณฺฑาสฺจ. ตชฺชํ วายามนฺติ อุทฺธเน ปกฺขิปนธมนปริวตฺตนาทิกํ อนุรูปํ วายามํ. อิธ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา – สํกิลิฏฺสุวณฺณมเยน หิ ปสาธนภณฺเฑน ปสาธิตา นกฺขตฺตํ กีฬมานา น โสภนฺติ, ปริสุทฺธสุวณฺณมเยน โสภนฺติ. เอวเมว สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส อุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺธจิตฺตสฺส มหปฺผโล. เทวตุโปสถนฺติ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรนฺเตน อุปวุตฺถอุโปสโถ เทวตุโปสโถ นาม. เสสํ อิเมสุ พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ กมฺมฏฺาเนสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วุตฺตเมว.

ปาณาติปาตนฺติ ปาณวธํ. ปหายาติ ตํ ปาณาติปาตเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรตาติ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรตา วิรตาว. นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาติ ปรูปฆาตตฺถาย ทณฺฑํ วา สตฺถํ วา อาทาย อวตฺตนโต นิกฺขิตฺตทณฺฑา เจว นิกฺขิตฺตสตฺถา จาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา ทณฺฑํ สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณํ สตฺตานํ วิหึสนภาวโต สตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขู กตฺตรทณฺฑํ วา ทนฺตกฏฺวาสึ วา ปิปฺผลกํ วา คเหตฺวา วิจรนฺติ, น ตํ ปรูปฆาตตฺถาย. ตสฺมา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ลชฺชีติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคตา. ทยาปนฺนาติ ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺนา. สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปกา, ตาย เอว ทยาปนฺนตาย สพฺเพสํ ปาณภูตานํ หิตจิตฺตกาติ อตฺโถ. อหมฺปชฺชาติ อหมฺปิ อชฺช. อิมินาปิ องฺเคนาติ อิมินาปิ คุณงฺเคน. อรหตํ อนุกโรมีติ ยถา ปุรโต คจฺฉนฺตํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต อนุคจฺฉติ นาม, เอวํ อหมฺปิ อรหนฺเตหิ ปมํ กตํ อิมํ คุณํ ปจฺฉา กโรนฺโต เตสํ อรหนฺตานํ อนุกโรมิ. อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตีติ เอวํ กโรนฺเตน มยา อรหตฺจ อนุกตํ ภวิสฺสติ, อุโปสโถ จ อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.

อทินฺนาทานนฺติ อทินฺนสฺส ปรปริคฺคหิตสฺส อาทานํ, เถยฺยํ โจริกนฺติ อตฺโถ. ทินฺนเมว อาทิยนฺตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขนฺตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ เถโน, น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน, อเถนํ สุจิภูตํ อตฺตภาวํ กตฺวา วิหรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

อพฺรหฺมจริยนฺติ อเสฏฺจริยํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารํ จรนฺตีติ พฺรหฺมจารี. อาราจารีติ อพฺรหฺมจริยโต ทูราจารี. เมถุนาติ ราคปริยุฏฺานวเสน สทิสตฺตา เมถุนกาติ ลทฺธโวหาเรหิ ปฏิเสวิตพฺพโต เมถุโนติ สงฺขํ คตา อสทฺธมฺมา. คามธมฺมาติ คามวาสีนํ ธมฺมา.

มุสาวาทาติ อลิกวจนา ตุจฺฉวจนา. สจฺจํ วทนฺตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สํทหนฺติ ฆฏฺเฏนฺตีติ สจฺจสนฺธา, น อนฺตรนฺตรา มุสา วทนฺตีติ อตฺโถ. โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสาวาทํ วทติ, กทาจิ สจฺจํ. ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏียติ. ตสฺมา น โส สจฺจสนฺโธ. อิเม ปน น ตาทิสา, ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สํทหนฺติเยวาติ สจฺจสนฺธา. เถตาติ ถิรา, ิตกถาติ อตฺโถ. เอโก ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ น ิตกโถ โหติ. เอโก ปาสาณเลขา วิย อินฺทขีโล วิย จ ิตกโถ โหติ, อสินา สีสํ ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ. อยํ วุจฺจติ เถโต. ปจฺจยิกาติ ปตฺติยายิตพฺพกา, สทฺธายิกาติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกน นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมวํ อิท’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทกา โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทนฺตีติ อตฺโถ.

สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานนฺติ สุราเมรยมชฺชานํ ปานเจตนาสงฺขาตํ ปมาทการณํ. เอกภตฺติกาติ ปาตราสภตฺตํ สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ, อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภุฺชมานาปิ เอกภตฺติกาว โหนฺติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เอกภตฺติกา’’ติ. รตฺติโภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรตาติ รตฺตูปรตา. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรตา วิกาลโภชนา.

สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณิภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ, อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจฺจ คีตฺจ วาทิตฺจ, อนฺตมโส มยูรนจฺจนาทิวเสนาปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตํ ทสฺสนฺจาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนํ. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ปยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ, น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ.

มาลาทีสุ มาลาติ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺโต ธาเรติ นาม, อูนฏฺานํ ปูเรนฺโต มณฺเฑติ นาม, คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺโต วิภูเสติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ, ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ. อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ, มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรณํ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.

กีวมหปฺผโลติ กิตฺตกํ มหปฺผโล. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปหูตรตฺตรตนานนฺติ ปหูเตน รตฺตสงฺขาเตน รตเนน สมนฺนาคตานํ, สกลชมฺพุทีปตลํ เภริตลสทิสํ กตฺวา กฏิปฺปมาเณหิ สตฺตหิ รตเนหิ ปูริตานนฺติ อตฺโถ. อิสฺสริยาธิปจฺจนฺติ อิสฺสรภาเวน วา อิสฺสริยเมว วา อาธิปจฺจํ, น เอตฺถ สาหสิกกมฺมนฺติปิ อิสฺสริยาธิปจฺจํ. รชฺชํ กาเรยฺยาติ เอวรูปํ จกฺกวตฺติรชฺชํ กาเรยฺย. องฺคานนฺติอาทีนิ เตสํ ชนปทานํ นามานิ. กลํ นาคฺฆติ โสฬสินฺติ เอกํ อโหรตฺตํ อุปวุตฺถอุโปสเถ ปุฺํ โสฬสภาเค กตฺวา ตโต เอกํ ภาคฺจ น อคฺฆติ. เอกรตฺตุโปสถสฺส โสฬสิยา กลาย ยํ วิปากผลํ, ตํเยว ตโต พหุตรํ โหตีติ อตฺโถ. กปณนฺติ ปริตฺตกํ.

อพฺรหฺมจริยาติ อเสฏฺจริยโต. รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนนฺติ อุโปสถํ อุปวสนฺโต รตฺติโภชนฺจ ทิวาวิกาลโภชนฺจ น ภุฺเชยฺย. มฺเจ ฉมายํว สเยถ สนฺถเตติ มุฏฺิหตฺถปาทเก กปฺปิยมฺเจ วา สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยํ วา ติณปณฺณปลาลาทีนิ สนฺถริตฺวา กเต สนฺถเต วา สเยถาติ อตฺโถ. เอตํ หิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถนฺติ เอวํ ปาณาติปาตาทีนิ อสมาจรนฺเตน อุปวุตฺถํ อุโปสถํ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา อฏฺงฺคิกนฺติ วทนฺติ. ตํ ปน อุปวสนฺเตน ‘‘สฺเว อุโปสถิโก ภวิสฺสามี’’ติ อชฺเชว ‘‘อิทฺจ อิทฺจ กเรยฺยาถา’’ติ อาหาราทิวิธานํ วิจาเรตพฺพํ. อุโปสถทิวเส ปาโตว ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ทสสีลลกฺขณฺุโน อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา สนฺติเก วาจํ ภินฺทิตฺวา อุโปสถงฺคานิ สมาทาตพฺพานิ. ปาฬึ อชานนฺเตน ปน ‘‘พุทฺธปฺตฺตํ อุโปสถํ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. อฺํ อลภนฺเตน อตฺตนาปิ อธิฏฺาตพฺพํ, วจีเภโท ปน กาตพฺโพเยว. อุโปสถํ อุปวสนฺเตน ปรูปโรธปฏิสํยุตฺตา กมฺมนฺตา น วิจาเรตพฺพา, อายวยคณนํ กโรนฺเตน น วีตินาเมตพฺพํ, เคเห ปน อาหารํ ลภิตฺวา นิจฺจภตฺติกภิกฺขุนา วิย ปริภุฺชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺโม วา โสตพฺโพ, อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ อฺตรํ วา มนสิกาตพฺพํ.

สุทสฺสนาติ สุนฺทรทสฺสนา. โอภาสยนฺติ โอภาสยมานา. อนุปริยนฺตีติ วิจรนฺติ. ยาวตาติ ยตฺตกํ านํ. อนฺตลิกฺขคาติ อากาสงฺคมา. ปภาสนฺตีติ โชตนฺติ ปภา มุฺจนฺติ. ทิสาวิโรจนาติ สพฺพทิสาสุ วิโรจมานา. อถ วา ปภาสนฺตีติ ทิสาหิ ทิสา โอภาสนฺติ. วิโรจนาติ วิโรจมานา. เวฬุริยนฺติ มณีติ วตฺวาปิ อิมินา ชาติมณิภาวํ ทสฺเสติ. เอกวสฺสิกเวฬุวณฺณฺหิ เวฬุริยํ ชาติมณิ นาม. ตํ สนฺธาเยวมาห. ภทฺทกนฺติ ลทฺธกํ. สิงฺคีสุวณฺณนฺติ โคสิงฺคสทิสํ หุตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา เอวํ นามกํ สุวณฺณํ. กฺจนนฺติ ปพฺพเตยฺยํ ปพฺพเต ชาตสุวณฺณํ. ชาตรูปนฺติ สตฺถุวณฺณสุวณฺณํ. หฏกนฺติ กิปิลฺลิกาหิ นีหฏสุวณฺณํ. นานุภวนฺตีติ น ปาปุณนฺติ. จนฺทปฺปภาติ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตํ, จนฺทปฺปภายาติ อตฺโถ. อุปวสฺสุโปสถนฺติ อุปวสิตฺวา อุโปสถํ. สุขุทฺรยานีติ สุขผลานิ สุขเวทนียานิ. สคฺคมุเปนฺติ านนฺติ สคฺคสงฺขาตํ านํ อุปคจฺฉนฺติ, เกนจิ อนินฺทิตา หุตฺวา เทวโลเก อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.

มหาวคฺโค ทุติโย.

(๘) ๓. อานนฺทวคฺโค

๑. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา

๗๒. ตติยสฺส ปเม ฉนฺโนติ เอวํนามโก ฉนฺนปริพฺพาชโก. ตุมฺเหปิ, อาวุโสติ, อาวุโส, ยถา มยํ ราคาทีนํ ปหานํ ปฺาเปม, กึ เอวํ ตุมฺเหปิ ปฺาเปถาติ ปุจฺฉติ. ตโต เถโร ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก อมฺเห ราคาทีนํ ปหานํ ปฺาเปมาติ วทติ, นตฺถิ ปเนตํ พาหิรสมเย’’ติ ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต มยํ โข, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ โขติ อวธารณตฺเถ นิปาโต, มยเมว ปฺาเปมาติ อตฺโถ. ตโต ปริพฺพาชโก จินฺเตสิ ‘‘อยํ เถโร พาหิรสมยํ ลุฺจิตฺวา หรนฺโต ‘มยเมวา’ติ อาห. กึ นุ โข อาทีนวํ ทิสฺวา เอเต เอเตสํ ปหานํ ปฺาเปนฺตี’’ติ. อถ เถรํ ปุจฺฉนฺโต กึ ปน ตุมฺเหติอาทิมาห. เถโร ตสฺส พฺยากโรนฺโต รตฺโต โขติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตตฺถนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ โลกิยโลกุตฺตรํ อตฺตโน อตฺถํ. ปรตฺถอุภยตฺเถสุปิ เอเสว นโย.

อนฺธกรโณติอาทีสุ ยสฺส ราโค อุปฺปชฺชติ, ตํ ยถาภูตทสฺสนนิวารเณน อนฺธํ กโรตีติ อนฺธกรโณ. ปฺาจกฺขุํ น กโรตีติ อจกฺขุกรโณ. าณํ น กโรตีติ อฺาณกรโณ. กมฺมสฺสกตปฺา ฌานปฺา วิปสฺสนาปฺาติ อิมา ติสฺโส ปฺา อปฺปวตฺติกรเณน นิโรเธตีติ ปฺานิโรธิโก. อนิฏฺผลทายกตฺตา ทุกฺขสงฺขาตสฺส วิฆาตสฺเสว ปกฺเข วตฺตตีติ วิฆาตปกฺขิโก. กิเลสนิพฺพานํ น สํวตฺเตตีติ อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. อลฺจ ปนาวุโส อานนฺท, อปฺปมาทายาติ, อาวุโส อานนฺท, สเจ เอวรูปา ปฏิปทา อตฺถิ, อลํ ตุมฺหากํ อปฺปมาทาย ยุตฺตํ อนุจฺฉวิกํ, อปฺปมาทํ กโรถ, อาวุโสติ เถรสฺส วจนํ อนุโมทิตฺวา ปกฺกามิ. อิมสฺมึ สุตฺเต อริยมคฺโค โลกุตฺตรมิสฺสโก กถิโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๒. อาชีวกสุตฺตวณฺณนา

๗๓. ทุติเย เตน หิ คหปตีติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อิธ อาคจฺฉนฺโต น อฺาตุกาโม หุตฺวา อาคมิ, ปริคฺคณฺหนตฺถํ ปน อาคโต. อิมินา ปุจฺฉิตปฺหํ อิมินาว กถาเปสฺสามี’’ติ. อิติ ตํเยว กถํ กถาเปตุกาโม เตน หีติอาทิมาห. ตตฺถ เตน หีติ การณาปเทโส. ยสฺมา ตฺวํ เอวํ ปุจฺฉสิ, ตสฺมา ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉามีติ. เกสํ โนติ กตเมสํ นุ. สธมฺมุกฺกํสนาติ อตฺตโน ลทฺธิยา อุกฺขิปิตฺวา ปนา. ปรธมฺมาปสาทนาติ ปเรสํ ลทฺธิยา ฆฏฺฏนา วมฺภนา อวกฺขิปนา. อายตเนว ธมฺมเทสนาติ การณสฺมึเยว ธมฺมเทสนา. อตฺโถ จ วุตฺโตติ มยา ปุจฺฉิตปฺหาย อตฺโถ จ ปกาสิโต. อตฺตา จ อนุปนีโตติ อมฺเห เอวรูปาติ เอวํ อตฺตา จ น อุปนีโต. นุปนีโตติปิ ปาโ.

๓. มหานามสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๗๔. ตติเย คิลานา วุฏฺิโตติ คิลาโน หุตฺวา วุฏฺิโต. เคลฺาติ คิลานภาวโต. อุปสงฺกมีติ ภุตฺตปาตราโส มาลาคนฺธาทีนิ อาทาย มหาปริวารปริวุโต อุปสงฺกมิ. พาหายํ คเหตฺวาติ น พาหายํ คเหตฺวา อากฑฺฒิ, นิสินฺนาสนโต วุฏฺาย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทกฺขิณพาหายํ องฺคุฏฺเกน สฺํ ทตฺวา เอกมนฺตํ อปเนสีติ เวทิตพฺโพ. อถสฺส ‘‘เสขมฺปิ โข, มหานาม, สีล’’นฺติอาทินา นเยน สตฺตนฺนํ เสขานํ สีลฺจ สมาธิฺจ ปฺฺจ กเถตฺวา อุปริ อรหตฺตผลวเสน อเสขา สีลสมาธิปฺาโย กเถนฺโต – ‘‘เสขสมาธิโต เสขํ วิปสฺสนาาณํ อเสขฺจ ผลาณํ ปจฺฉา, เสขวิปสฺสนาาณโต จ อเสขผลสมาธิ ปจฺฉา อุปฺปชฺชตี’’ติ ทีเปสิ. ยานิ ปน สมฺปยุตฺตานิ สมาธิาณานิ, เตสํ อปจฺฉา อปุเร อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพาติ.

๔. นิคณฺสุตฺตวณฺณนา

๗๕. จตุตฺเถ กูฏาคารสาลายนฺติ ทฺเว กณฺณิกา คเหตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กตาย คนฺธกุฏิยา. อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาตีติ อปฺปมตฺตกมฺปิ อเสเสตฺวา สพฺพํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ. สตตํ สมิตนฺติ สพฺพกาลํ นิรนฺตรํ. าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ มยฺหํ อุปฏฺิตเมวาติ ทสฺเสติ. ปุราณานํ กมฺมานนฺติ อายูหิตกมฺมานํ. ตปสา พฺยนฺตีภาวนฺติ ทุกฺกรตเปน วิคตนฺตกรณํ. นวานํ กมฺมานนฺติ อิทานิ อายูหิตพฺพกมฺมานํ. อกรณาติ อนายูหเนน. เสตุฆาตนฺติ ปทฆาตํ ปจฺจยฆาตํ กเถติ. กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโยติ กมฺมวฏฺฏกฺขเยน ทุกฺขกฺขโย. ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโยติ ทุกฺขวฏฺฏกฺขเยน เวทนากฺขโย. ทุกฺขวฏฺฏสฺมิฺหิ ขีเณ เวทนาวฏฺฏมฺปิ ขีณเมว โหติ. เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ เวทนากฺขเยน ปน สกลวฏฺฏทุกฺขํ นิชฺชิณฺณเมว ภวิสฺสติ. สนฺทิฏฺิกายาติ สามํ ปสฺสิตพฺพาย ปจฺจกฺขาย. นิชฺชราย วิสุทฺธิยาติ กิเลสชีรณกปฏิปทาย กิเลเส วา นิชฺชีรณโต นิชฺชราย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา. สมติกฺกโม โหตีติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อติกฺกโม โหติ. อิธ, ภนฺเต, ภควา กิมาหาติ, ภนฺเต, ภควา อิมาย ปฏิปตฺติยา กิมาห, กึ เอตํเยว กิเลสนิชฺชีรณกปฏิปทํ ปฺเปติ, อุทาหุ อฺนฺติ ปุจฺฉติ.

ชานตาติ อนาวรณาเณน ชานนฺเตน. ปสฺสตาติ สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสนฺเตน. วิสุทฺธิยาติ วิสุทฺธิสมฺปาปนตฺถาย. สมติกฺกมายาติ สมติกฺกมนตฺถาย. อตฺถงฺคมายาติ อตฺถํ คมนตฺถาย. ายสฺส อธิคมายาติ สห วิปสฺสนาย มคฺคสฺส อธิคมนตฺถาย. นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายาติ อปจฺจยนิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณตฺถาย. นวฺจ กมฺมํ น กโรตีติ นวํ กมฺมํ นายูหติ. ปุราณฺจ กมฺมนฺติ ปุพฺเพ อายูหิตกมฺมํ. ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตี กโรตีติ ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา วิคตนฺตํ กโรติ, วิปากผสฺสํ ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ตํ กมฺมํ เขเปตีติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิกาติ สามํ ปสฺสิตพฺพา. อกาลิกาติ น กาลนฺตเร กิจฺจการิกา. เอหิปสฺสิกาติ ‘‘เอหิ ปสฺสา’’ติ เอวํ ทสฺเสตุํ ยุตฺตา. โอปเนยฺยิกาติ อุปนเย ยุตฺตา อลฺลียิตพฺพยุตฺตา. ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ อตฺตโน อตฺตโน สนฺตาเนเยว ชานิตพฺพา, พาเลหิ ปน ทุชฺชานา. อิติ สีลวเสน ทฺเว มคฺคา, ทฺเว จ ผลานิ กถิตานิ. โสตาปนฺนสกทาคามิโน หิ สีเลสุ ปริปูรการิโนติ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิกาย ปน สมาธิสมฺปทาย ตโย มคฺคา, ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ. อนาคามี อริยสาวโก หิ สมาธิมฺหิ ปริปูรการีติ วุตฺโต. อาสวานํ ขยาติอาทีหิ อรหตฺตผลํ กถิตํ. เกจิ ปน สีลสมาธโยปิ อรหตฺตผลสมฺปยุตฺตาว อิธ อธิปฺเปตา. เอเกกสฺส ปน วเสน ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วิสุํ วิสุํ ตนฺติ อาโรปิตาติ.

๕. นิเวสกสุตฺตวณฺณนา

๗๖. ปฺจเม อมจฺจาติ สุหชฺชา. าตีติ สสฺสุสสุรปกฺขิกา. สาโลหิตาติ สมานโลหิตา ภาติภคินิอาทโย. อเวจฺจปฺปสาเทติ คุเณ อเวจฺจ ชานิตฺวา อุปฺปนฺเน อจลปฺปสาเท. อฺถตฺตนฺติ ภาวฺถตฺตํ. ปถวีธาตุยาติอาทีสุ วีสติยา โกฏฺาเสสุ ถทฺธาการภูตาย ปถวีธาตุยา, ทฺวาทสสุ โกฏฺาเสสุ ยูสคตาย อาพนฺธนภูตาย อาโปธาตุยา, จตูสุ โกฏฺาเสสุ ปริปาจนภูตาย เตโชธาตุยา, ฉสุ โกฏฺาเสสุ วิตฺถมฺภนภูตาย วาโยธาตุยา สิยา อฺถตฺตํ. น ตฺเววาติ อิเมสํ หิ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อฺมฺภาวูปคมเนน สิยา อฺถตฺตํ, อริยสาวกสฺส ปน น ตฺเวว สิยาติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ อฺถตฺตนฺติ ปสาทฺถตฺตฺจ คติอฺถตฺตฺจ. ตฺหิ ตสฺส น โหติ, ภาวฺถตฺตํ ปน โหติ. อริยสาวโก หิ มนุสฺโส หุตฺวา เทโวปิ โหติ พฺรหฺมาปิ. ปสาโท ปนสฺส ภวนฺตเรปิ น วิคจฺฉติ, น จ อปายคติสงฺขาตํ คติอฺถตฺตํ ปาปุณาติ. สตฺถาปิ ตเทว ทสฺเสนฺโต ตตฺริทํ อฺถตฺตนฺติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๖. ปมภวสุตฺตวณฺณนา

๗๗. ฉฏฺเ กามธาตุเวปกฺกนฺติ กามธาตุยา วิปจฺจนกํ. กามภโวติ กามธาตุยํ อุปปตฺติภโว. กมฺมํ เขตฺตนฺติ กุสลากุสลกมฺมํ วิรุหนฏฺานฏฺเน เขตฺตํ. วิฺาณํ พีชนฺติ สหชาตํ อภิสงฺขารวิฺาณํ วิรุหนฏฺเน พีชํ. ตณฺหา สฺเนโหติ ปคฺคณฺหนานุพฺรูหนวเสน ตณฺหา อุทกํ นาม. อวิชฺชานีวรณานนฺติ อวิชฺชาย อาวริตานํ. ตณฺหาสํโยชนานนฺติ ตณฺหาพนฺธเนน พทฺธานํ. หีนาย ธาตุยาติ กามธาตุยา. วิฺาณํ ปติฏฺิตนฺติ อภิสงฺขารวิฺาณํ ปติฏฺิตํ. มชฺฌิมาย ธาตุยาติ รูปธาตุยา. ปณีตาย ธาตุยาติ อรูปธาตุยา. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

๗. ทุติยภวสุตฺตวณฺณนา

๗๘. สตฺตเม เจตนาติ กมฺมเจตนา. ปตฺถนาปิ กมฺมปตฺถนาว. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.

๘. สีลพฺพตสุตฺตวณฺณนา

๗๙. อฏฺเม สีลพฺพตนฺติ สีลฺเจว วตฺจ. ชีวิตนฺติ ทุกฺกรการิกานุโยโค. พฺรหฺมจริยนฺติ พฺรหฺมจริยวาโส. อุปฏฺานสารนฺติ อุปฏฺาเนน สารํ, ‘‘อิทํ วรํ อิทํ นิฏฺา’’ติ เอวํ อุปฏฺิตนฺติ อตฺโถ. สผลนฺติ สอุทฺรยํ สวฑฺฒิกํ โหตีติ ปุจฺฉติ. น ขฺเวตฺถ, ภนฺเต, เอกํเสนาติ, ภนฺเต, น โข เอตฺถ เอกํเสน พฺยากาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุปฏฺานสารํ เสวโตติ อิทํ สารํ วรํ นิฏฺาติ เอวํ อุปฏฺิตํ เสวมานสฺส. อผลนฺติ อิฏฺผเลน อผลํ. เอตฺตาวตา กมฺมวาทิกิริยวาทีนํ ปพฺพชฺชํ เปตฺวา เสโส สพ