📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาเย
ทุกนิปาต-อฏฺกถา
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. กมฺมการณวคฺโค
๑. วชฺชสุตฺตวณฺณนา
๑. ทุกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม วชฺชานีติ โทสา อปราธา. ทิฏฺธมฺมิกนฺติ ทิฏฺเว ธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํ. สมฺปรายิกนฺติ สมฺปราเย อนาคเต อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํ. อาคุจารินฺติ ปาปการึ อปราธการกํ. ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเตติ โจรํ คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา ราชปุริสา กโรนฺติ, ราชาโน ปน ตา กาเรนฺติ นาม. ตํ โจรํ เอวํ ¶ กมฺมการณา การิยมานํ เอส ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปสฺสติ โจรํ อาคุจารึ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเต’’ติ. อทฺธทณฺฑเกหีติ มุคฺคเรหิ, ปหารสาธนตฺถํ วา จตุหตฺถทณฺฑํ ทฺเวธา เฉตฺวา คหิตทณฺฑเกหิ. พิลงฺคถาลิกนฺติ กฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สีสกฏาหํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุถิตฺวา ¶ อุตฺตรติ. สงฺขมุณฺฑิกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฏกปริจฺเฉเทน ¶ จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺึ กตฺวา ทณฺฑเกน เวเตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺหติ. ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติ. ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺาย มุขํ นิขาทเนน ขนนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติ.
โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา อาลิมฺเปนฺติ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติ. เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา เหฏฺาคีวโต ปฏฺาย จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา โคปฺผเก เปนฺติ, อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ. โส อตฺตโน จมฺมวฏฺเฏ อกฺกมิตฺวา อกฺกมิตฺวา ปตติ. จีรกวาสิกนฺติ จีรกวาสิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ, กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺติ, อุปริเมหิ เหฏฺิมสรีรํ จีรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติ. เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ อุโภสุ ชาณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติ. โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺหติ. อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคึ กโรนฺติ. ‘‘เอเณยฺยโก โชติปริคฺคโห ยถา’’ติ อาคตฏฺาเนปิ อิทเมว วุตฺตํ. ตํ กาเลน กาลํ สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺิโกฏีหิเยว เปนฺติ. เอวรูปา กมฺมการณา นาม นตฺถิ.
พฬิสมํสิกนฺติ ¶ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนฺหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติ. กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติณฺหาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺาย กหาปณมตฺตํ, กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํสนฺติ, จมฺมมํสนฺหารูนิ ปคฺฆริตฺวา อฏฺิกสงฺขลิกาว ติฏฺติ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเทน อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ. อถ นํ ปาเท ¶ คเหตฺวา อาวิฺฉนฺติ. ปลาลปีกนฺติ เฉโก ¶ การณิโก ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปเตหิ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, มํสราสิเยว โหติ. อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺติ, ปลาลวฏฺฏึ วิย กตฺวา ปุน เวเนฺติ. สุนเขหิปีติ กติปยานิ ทิวสานิ อาหารํ อทตฺวา ฉาตกสุนเขหิ ขาทาเปนฺติ. เต มุหุตฺเตน อฏฺิกสงฺขลิกเมว กโรนฺติ. สูเล อุตฺตาเสนฺเตติ สูเล อาโรเปนฺเต.
น ปเรสํ ปาภตํ วิลุมฺปนฺโต จรตีติ ปเรสํ สนฺตกํ ภณฺฑํ ปรมฺมุขํ อาภตํ อนฺตมโส อนฺตรวีถิยํ ปติตํ สหสฺสภณฺฑิกมฺปิ ทิสฺวา ‘‘อิมินา ชีวิสฺสามี’’ติ วิลุมฺปนฺโต น วิจรติ, โก อิมินา อตฺโถติ ปิฏฺิปาเทน วา ปวฏฺเฏตฺวา คจฺฉติ.
ปาปโกติ ¶ ลามโก. ทุกฺโขติ อนิฏฺโ. กิฺจ ตนฺติ กึ นาม ตํ การณํ ภเวยฺย. ยาหนฺติ เยน อหํ. กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตาทิ ติวิธํ อกุสลํ กายกมฺมํ. กายสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํ. วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาทาทิ จตุพฺพิธํ อกุสลํ วจีกมฺมํ. วจีสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ จตุพฺพิธํ กุสลกมฺมํ. มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาทิ ติวิธํ อกุสลกมฺมํ. มโนสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํ. สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตีติ เอตฺถ ทุวิธา สุทฺธิ – ปริยายโต จ นิปฺปริยายโต จ. สรณคมเนน หิ ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นาม. ตถา ปฺจหิ สีเลหิ, ทสหิ สีเลหิ – จตุปาริสุทฺธิสีเลน, ปมชฺฌาเนน…เป… เนวสฺานาสฺายตเนน, โสตาปตฺติมคฺเคน, โสตาปตฺติผเลน…เป… อรหตฺตมคฺเคน ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นาม. อรหตฺตผเล ปติฏฺิโต ปน ขีณาสโว ฉินฺนมูลเก ปฺจกฺขนฺเธ นฺหาเปนฺโตปิ ขาทาเปนฺโตปิ ภฺุชาเปนฺโตปิ นิสีทาเปนฺโตปิ นิปชฺชาเปนฺโตปิ นิปฺปริยาเยเนว สุทฺธํ นิมฺมลํ อตฺตานํ ปริหรติ ปฏิชคฺคตีติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว วชฺชาเนว, โน น วชฺชานิ, ตสฺมา. วชฺชภีรุโนติ วชฺชภีรุกา. วชฺชภยทสฺสาวิโนติ วชฺชานิ ภยโต ทสฺสนสีลา. เอตํ ปาฏิกงฺขนฺติ เอตํ อิจฺฉิตพฺพํ, เอตํ อวสฺสํภาวีติ อตฺโถ. ยนฺติ นิปาตมตฺตํ, การณวจนํ วา เยน การเณน ปริมุจฺจิสฺสติ สพฺพวชฺเชหิ ¶ . เกน ปน การเณน ปริมุจฺจิสฺสตีติ? จตุตฺถมคฺเคน เจว จตุตฺถผเลน จ. มคฺเคน ¶ หิ ปริมุจฺจติ นาม, ผลํ ปตฺโต ปริมุตฺโต นาม โหตีติ. กึ ปน ¶ ขีณาสวสฺส อกุสลํ น วิปจฺจตีติ? วิปจฺจติ, ตํ ปน ขีณาสวภาวโต ปุพฺเพ กตํ. ตฺจ โข อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว, สมฺปราเย ปนสฺส กมฺมผลํ นาม นตฺถีติ. ปมํ.
๒. ปธานสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย ปธานานีติ วีริยานิ. วีริยฺหิ ปทหิตพฺพโต ปธานภาวกรณโต วา ปธานนฺติ วุจฺจติ. ทุรภิสมฺภวานีติ ทุสฺสหานิ ทุปฺปูริยานิ, ทุกฺกรานีติ อตฺโถ. อคารํ อชฺฌาวสตนฺติ อคาเร วสนฺตานํ. จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทานตฺถํ ปธานนฺติ เอเตสํ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อนุปฺปทานตฺถาย ปธานํ นาม ทุรภิสมฺภวนฺติ ทสฺเสติ. จตุรตนิกมฺปิ หิ ปิโลติกํ, ปสตตณฺฑุลมตฺตํ วา ภตฺตํ, จตุรตนิกํ วา ปณฺณสาลํ, เตลสปฺปินวนีตาทีสุ วา อปฺปมตฺตกมฺปิ เภสชฺชํ ปเรสํ เทถาติ วตฺตุมฺปิ นีหริตฺวา ทาตุมฺปิ ทุกฺกรํ อุภโตพฺยูฬฺหสงฺคามปฺปเวสนสทิสํ. เตนาห ภควา –
‘‘ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมานมาหุ,
อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺติ;
อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ,
เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ. (ชา. ๑.๘.๗๒; สํ. นิ. ๑.๓๓);
อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานนฺติ เคหโต นิกฺขมิตฺวา อคารสฺส ฆราวาสสฺส หิตาวเหหิ กสิโครกฺขาทีหิ วิรหิตํ อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ อุปคตานํ. สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถาย ปธานนฺติ สพฺเพสํ ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธิสงฺขาตานํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺคสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อตฺถาย วิปสฺสนาย เจว มคฺเคน จ สหชาตวีริยํ. ตสฺมาติ ¶ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ, ตสฺมา. ทุติยํ.
๓. ตปนียสุตฺตวณฺณนา
๓. ตติเย ¶ ตปนียาติ อิธ เจว สมฺปราเย จ ตปนฺตีติ ตปนียา. ตปฺปตีติ จิตฺตสนฺตาเปน ¶ ตปฺปติ อนุโสจติ กายทุจฺจริตํ กตฺวา นนฺทยกฺโข วิย นนฺทมาณโว วิย นนฺทโคฆาตโก วิย เทวทตฺโต วิย ทฺเวภาติกา วิย จ. เต กิร คาวํ วธิตฺวา มํสํ ทฺเว โกฏฺาเส อกํสุ. ตโต กนิฏฺโ เชฏฺกํ อาห – ‘‘มยฺหํ ทารกา พหู, อิมานิ เม อนฺตานิ เทหี’’ติ. อถ นํ โส ‘‘สพฺพํ มํสํ ทฺเวธา วิภตฺตํ, ปุน กึ มคฺคสี’’ติ ปหริตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. นิวตฺติตฺวา จ นํ โอโลเกนฺโต มตํ ทิสฺวา ‘‘ภาริยํ เม กมฺมํ กต’’นฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส พลวโสโก อุปฺปชฺชิ. โส ิตฏฺาเนปิ นิสินฺนฏฺาเนปิ ตเทว กมฺมํ อาวชฺเชติ, จิตฺตสฺสาทํ น ลภติ. อสิตปีตขายิตสายิตมฺปิสฺส สรีเร โอชํ น ผรติ, อฏฺิจมฺมมตฺตเมว อโหสิ. อถ นํ เอโก เถโร ทิสฺวา – ‘‘อุปาสก, ตฺวํ ปหูตอนฺนปาโน, อฏฺิจมฺมมตฺตเมว เต อวสิฏฺํ, อตฺถิ นุ โข เต กิฺจิ ตปนียกมฺม’’นฺติ? โส ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ สพฺพํ อาโรเจสิ. อถ นํ เถโร ‘‘ภาริยํ เต อุปาสก กมฺมํ กตํ, อนปราธฏฺาเน อปรทฺธ’’นฺติ อาห. โส เตเนว กมฺเมน กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโต. วจีทุจฺจริเตน สุปฺปพุทฺธสกฺกโกกาลิกจิฺจมาณวิกาทโย วิย ตปฺปติ. เสสเมตฺถ จตุตฺเถ จ อุตฺตานตฺถเมว. ตติยํ.
๕. อุปฺาตสุตฺตวณฺณนา
๕. ปฺจเม ทฺวินฺนาหนฺติ ทฺวินฺนํ อหํ. อุปฺาสินฺติ อุปคนฺตฺวา คุณํ อฺาสึ, ชานึ ปฏิวิชฺฌินฺติ อตฺโถ. อิทานิ เต ธมฺเม ทสฺเสนฺโต ยา จ อสนฺตุฏฺิตาติอาทิมาห. อิมฺหิ ¶ ธมฺมทฺวยํ นิสฺสาย สตฺถา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, ตสฺมา ตสฺสานุภาวํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อิมินา อิมํ ทีเปติ – ‘‘อหํ ฌานมตฺตเกน วา โอภาสนิมิตฺตมตฺตเกน วา อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา อรหตฺตมคฺคเมว อุปฺปาเทสึ. ยาว โส น อุปฺปชฺชิ, น ตาวาหํ สนฺตุฏฺโ อโหสึ. ปธานสฺมึ จ อนุกฺกณฺิโต หุตฺวา อโนสกฺกนาย ตฺวาเยว ปธานกิริยํ อกาสิ’’นฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ยา จ อปฺปฏิวานิตาติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปฏิวานิตาติ อปฺปฏิกฺกมนา อโนสกฺกนา. อปฺปฏิวานี สุทาหํ ¶ , ภิกฺขเว, ปทหามีติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อหํ, ภิกฺขเว, อโนสกฺกนายํ ิโต โพธิสตฺตกาเล สพฺพฺุตํ ปตฺเถนฺโต ปธานมกาสินฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
อิทานิ ยถา เตน ตํ ปธานํ กตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต กามํ ตโจ จาติอาทิมาห. ตตฺถ ปตฺตพฺพนฺติ ¶ อิมินา ปตฺตพฺพํ คุณชาตํ ทสฺเสติ. ปุริสถาเมนาติอาทินา ปุริสสฺส าณถาโม าณวีริยํ าณปรกฺกโม จ กถิโต. สณฺานนฺติ ปนา อปฺปวตฺตนา โอสกฺกนา, ปฏิปฺปสฺสทฺธีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เตน จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยาธิฏฺานํ นาม กถิตํ. เอตฺถ หิ กามํ ตโจ จาติ เอกํ องฺคํ, นฺหารุ จาติ เอกํ, อฏฺิ จาติ เอกํ, มํสโลหิตนฺติ เอกํ, อิมานิ จตฺตาริ องฺคานิ. ปุริสถาเมนาติอาทีนิ อธิมตฺตวีริยาธิวจนานิ. อิติ ปุริเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน หุตฺวา เอวํ อธิฏฺิตํ วีริยํ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยาธิฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา ¶ เตน โพธิปลฺลงฺเก อตฺตโน อาคมนียปฏิปทา กถิตา.
อิทานิ ตาย ปฏิปทาย ปฏิลทฺธคุณํ กเถตุํ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปมาทาธิคตาติ สติอวิปฺปวาสสงฺขาเตน อปฺปมาเทน อธิคตา, น สุตฺตปฺปมตฺเตน ลทฺธา. สมฺโพธีติ จตุมคฺคาณฺเจว สพฺพฺุตฺาณฺจ. น หิ สกฺกา เอตํ สุตฺตปฺปมตฺเตน อธิคนฺตุนฺติ. เตนาห – ‘‘อปฺปมาทาธิคตา สมฺโพธี’’ติ. อนุตฺตโร โยคกฺเขโมติ น เกวลํ โพธิเยว, อรหตฺตผลนิพฺพานสงฺขาโต อนุตฺตโร โยคกฺเขโมปิ อปฺปมาทาธิคโตว.
อิทานิ อตฺตนา ปฏิลทฺธคุเณสุ ภิกฺขุสงฺฆํ สมาทเปนฺโต ตุมฺเห เจปิ ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส อตฺถาย, ยํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุกามา หุตฺวาติ อตฺโถ. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อริยผลํ. อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อภิฺาย อุตฺตมปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถาติ ปฏิลภิตฺวา ปาปุณิตฺวา วิหริสฺสถ. ตสฺมาติ ยสฺมา อปฺปฏิวานปธานํ นาเมตํ พหูปการํ อุตฺตมตฺถสาธกํ, ตสฺมา. ปฺจมํ.
๖. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา
๖. ฉฏฺเ ¶ สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสูติ ทสนฺนํ สํโยชนานํ ปจฺจยภูเตสุ เตภูมกธมฺเมสุ. อสฺสาทานุปสฺสิตาติ อสฺสาทโต ปสฺสิตา ปสฺสนภาโวติ อตฺโถ. นิพฺพิทานุปสฺสิตาติ นิพฺพิทาวเสน อุกฺกณฺนวเสน ปสฺสนภาโว. ชาติยาติ ขนฺธนิพฺพตฺติโต. ชรายาติ ขนฺธปริปากโต. มรเณนาติ ขนฺธเภทโต. โสเกหีติ อนฺโตนิชฺฌายนลกฺขเณหิ โสเกหิ. ปริเทเวหีติ ¶ ¶ ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปิตลกฺขเณหิ ปริเทเวหิ. ทุกฺเขหีติ กายปฏิปีฬนทุกฺเขหิ. โทมนสฺเสหีติ มโนวิฆาตโทมนสฺเสหิ. อุปายาเสหีติ อธิมตฺตายาสลกฺขณอุปายาเสหิ. ทุกฺขสฺมาติ สกลวฏฺฏทุกฺขโต. ปชหตีติ มคฺเคน ปชหติ. ปหายาติ เอตฺถ ปน ผลกฺขโณ กถิโต. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ. ฉฏฺํ.
๗. กณฺหสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม กณฺหาติ น กาฬวณฺณตาย กณฺหา, กณฺหตาย ปน อุปเนนฺตีติ นิปฺผตฺติกาฬตาย กณฺหา. สรเสนาปิ วา สพฺพากุสลธมฺมา กณฺหา เอว. น หิ เตสํ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ ปภสฺสรํ โหติ. อหิริกนฺติ อหิริกภาโว. อโนตฺตปฺปนฺติ อโนตฺตาปิภาโว. สตฺตมํ.
๘. สุกฺกสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม สุกฺกาติ น วณฺณสุกฺกตาย สุกฺกา, สุกฺกตาย ปน อุปเนนฺตีติ นิปฺผตฺติสุกฺกตาย สุกฺกา. สรเสนาปิ วา สพฺพกุสลธมฺมา สุกฺกา เอว. เตสํ หิ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ ปภสฺสรํ โหติ. หิรี จ โอตฺตปฺปฺจาติ เอตฺถ ปาปโต ชิคุจฺฉนลกฺขณา หิรี, ภายนลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ. ยํ ปเนตฺถ วิตฺถารโต วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. อฏฺมํ.
๙. จริยสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม โลกํ ปาเลนฺตีติ โลกํ สนฺธาเรนฺติ เปนฺติ รกฺขนฺติ. นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ อิมสฺมึ โลเก ชนิกา มาตา ‘‘อยํ เม มาตา’’ติ ¶ ครุจิตฺตีการวเสน น ปฺาเยถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สมฺเภทนฺติ สงฺกรํ มริยาทเภทํ วา. ยถา อเชฬกาติอาทีสุ เอเต หิ สตฺตา ‘‘อยํ เม มาตา’’ติ วา ‘‘มาตุจฺฉา’’ติ วา ครุจิตฺตีการวเสน น ชานนฺติ. ยํ วตฺถุํ ¶ นิสฺสาย อุปฺปนฺนา, ตตฺเถว วิปฺปฏิปชฺชนฺติ. ตสฺมา อุปมํ อาหรนฺโต ‘‘ยถา อเชฬกา’’ติอาทิมาห. นวมํ.
๑๐. วสฺสูปนายิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสมํ ¶ อฏฺุปฺปตฺติยํ วุตฺตํ. กตรอฏฺุปฺปตฺติยํ? มนุสฺสานํ อุชฺฌายเน. ภควตา หิ ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ วสฺสูปนายิกา อปฺปฺตฺตา อโหสิ. ภิกฺขู อนิพทฺธวาสา วสฺเสปิ อุตุวสฺเสปิ ยถาสุขํ วิจรึสุ. เต ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา เหมนฺตมฺปิ คิมฺหมฺปิ วสฺสมฺปิ จาริกํ จริสฺสนฺติ หริตานิ ติณานิ สมฺมทฺทนฺตา เอกินฺทฺริยํ ชีวํ วิเหเนฺตา พหู ขุทฺทเก ปาเณ สงฺฆาตํ อาปาเทนฺตา. อิเม หิ นาม อฺติตฺถิยา ทุรกฺขาตธมฺมา วสฺสาวาสํ อลฺลียิสฺสนฺติ สํกสายิสฺสนฺติ, อิเม นาม สกุณา รุกฺขคฺเคสุ กุลาวกานิ กตฺวา วสฺสาวาสํ อลฺลียิสฺสนฺติ สํกสายิสฺสนฺตี’’ติอาทีนิ วตฺวา อุชฺฌายึสุ. ตมตฺถํ ภิกฺขู ภควโต อาโรเจสุํ. ภควา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา อิมํ สุตฺตํ เทเสนฺโต ปมํ ตาว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๘๔) เอตฺตกเมวาห. อถ ภิกฺขูนํ ‘‘กทา นุ โข วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ อุปฺปนฺนํ วิตกฺกํ สุตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสาเน วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ อาห. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กติ นุ โข วสฺสูปนายิกา’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา สกลมฺปิ อิทํ สุตฺตํ เทเสนฺโต ทฺเวมา, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ วสฺสูปนายิกาติ วสฺสูปคมนานิ. ปุริมิกาติ อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพา ปุริมกตฺติกปุณฺณมิปริโยสานา ปมา เตมาสี. ปจฺฉิมิกาติ มาสคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพา ปจฺฉิมกตฺติกปริโยสานา ปจฺฉิมา เตมาสีติ. ทสมํ.
กมฺมการณวคฺโค ปโม.
๒. อธิกรณวคฺควณฺณนา
๑๑. ทุติยสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม พลานีติ เกนฏฺเน พลานิ. อกมฺปิยฏฺเน พลานิ นาม, ตถา ทุรภิภวนฏฺเน อนชฺโฌมทฺทนฏฺเน จ. ปฏิสงฺขานพลนฺติ ปจฺจเวกฺขณพลํ. ภาวนาพลนฺติ พฺรูหนพลํ วฑฺฒนพลํ. สุทฺธํ อตฺตานนฺติ อิทํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺราติ เตสุ ทฺวีสุ พเลสุ. ยมิทนฺติ ยํ อิทํ. เสขานเมตํ พลนฺติ สตฺตนฺนํ เสขานํ าณพลเมตํ. เสขฺหิ โส, ภิกฺขเว, พลํ อาคมฺมาติ สตฺตนฺนํ เสขานํ าณพลํ อารพฺภ สนฺธาย ปฏิจฺจ. ปชหตีติ มคฺเคน ปชหติ. ปหายาติ อิมินา ปน ผลํ กถิตํ. ยํ ปาปนฺติ ยํ ปาปกํ ลามกํ. ยสฺมา ปเนตานิ ทฺเวปิ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตสฺมา เอตฺถ เอตทคฺคํ นาคตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๒. ทุติเย สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตีติอาทีสุ อยํ เหฏฺา อนาคตานํ ปทานํ วเสน อตฺถวณฺณนา – วิเวกนิสฺสิตนฺติ วิเวกํ นิสฺสิตํ. วิเวโกติ วิวิตฺตตา. สฺวายํ ตทงฺควิเวโก วิกฺขมฺภน-สมุจฺเฉท-ปฏิปฺปสฺสทฺธิ-นิสฺสรณวิเวโกติ ปฺจวิโธ. ตสฺมึ ปฺจวิเธ วิเวเก. วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตฺจ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ สติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนานุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกาเล ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ. ปฺจวิธวิเวกนิสฺสิตมฺปีติ เอเก. เต หิ น เกวลํ พลววิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณสุเยว ¶ โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ, วิปสฺสนาปาทกกสิณชฺฌานอานาปานาสุภพฺรหฺมวิหารชฺฌาเนสุปิ อุทฺธรนฺติ, น จ ปฏิสิทฺธา อฏฺกถาจริเยหิ. ตสฺมา เตสํ มเตน เอเตสํ ฌานานํ ปวตฺติกฺขเณ กิจฺจโต เอว วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ. ยถา จ ‘‘วิปสฺสนากฺขเณ อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิต’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตมฺปิ ภาเวตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตนฺติอาทีสุ. วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย.
เกวลํ ¶ เหตฺถ โวสฺสคฺโค ทุวิโธ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จาติ. ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโคติ ¶ วิปสฺสนากฺขเณ จ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ จ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ ปน อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ. ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก อตฺถวณฺณนานเย วฏฺฏติ. ตถา หิ อยํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส ปริจฺจชติ, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ. โวสฺสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน โวสฺสคฺคตฺถํ ปริณมนฺตํ ปริณตฺจ, ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจาติ อิทํ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ โพชฺฌงฺคภาวนานุยุตฺโต ภิกฺขุ ยถา สติสมฺโพชฺฌงฺโค กิเลสปริจฺจาคโวสฺสคฺคตฺถํ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺโก โหติ, ตถา นํ ภาเวตีติ. เอส นโย เสสโพชฺฌงฺเคสุ.
อิธ ปน นิพฺพานํเยว สพฺพสงฺขเตหิ วิวิตฺตตฺตา วิเวโก, สพฺเพสํ วิราคภาวโต วิราโค, นิโรธภาวโต นิโรโธติ วุตฺตํ. มคฺโค เอว ¶ จ โวสฺสคฺคปริณามี, ตสฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺติยา วิเวกนิสฺสิตํ, ตถา วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ. ตฺจ โข อริยมคฺคกฺขณุปฺปตฺติยา กิเลสานํ สมุจฺเฉทโต ปริจฺจาคภาเวน จ นิพฺพานปกฺขนฺทนภาเวน จ ปริณตํ ปริปกฺกนฺติ อยเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอส นโย เสสโพชฺฌงฺเคสุ. อิติ อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา. อิเมสุปิ ทฺวีสุ พเลสุ เอตทคฺคภาโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๑๓. ตติเย วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ ปาฬิอตฺโถ จ ภาวนานโย จ สพฺโพ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๙-๗๐) วิตฺถาริโตเยว. อิมานิ ปน จตฺตาริ ฌานานิ เอโก ภิกฺขุ จิตฺเตกคฺคตฺถาย ภาเวติ, เอโก วิปสฺสนาปาทกตฺถาย, เอโก อภิฺาปาทกตฺถาย, เอโก นิโรธปาทกตฺถาย, เอโก ภววิเสสตฺถาย. อิธ ปน ตานิปิ วิปสฺสนาปาทกานิ อธิปฺเปตานิ. อยํ หิ ภิกฺขุ อิมานิ ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา เหตุปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา สปฺปจฺจยํ ¶ นามรูปฺจ ววตฺถเปตฺวา อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เอวเมตานิ ฌานานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาเนว กถิตานิ. อิมสฺมิมฺปิ พลทฺวเย เอตทคฺคภาโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๑๔. จตุตฺเถ ¶ สํขิตฺเตน จ วิตฺถาเรน จาติ สํขิตฺตธมฺมเทสนา วิตฺถารธมฺมเทสนา จาติ ทฺเวเยว ธมฺมเทสนาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ มาติกํ อุทฺทิสิตฺวา กถิตา เทสนา สํขิตฺตเทสนา นาม. ตเมว มาติกํ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา กถิตา วิตฺถารเทสนา นาม. มาติกํ วา เปตฺวาปิ อฏฺเปตฺวาปิ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา กถิตา วิตฺถารเทสนา นาม ¶ . ตาสุ สํขิตฺตเทสนา นาม มหาปฺสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน กถิตา, วิตฺถารเทสนา นาม มนฺทปฺสฺส. มหาปฺสฺส หิ วิตฺถารเทสนา อติปปฺโจ วิย โหติ. มนฺทปฺสฺส สงฺเขปเทสนา สสกสฺส อุปฺปตนํ วิย โหติ, เนว อนฺตํ น โกฏึ ปาปุณิตุํ สกฺโกติ. สงฺเขปเทสนา จ อุคฺฆฏิตฺุสฺส วเสน กถิตา, วิตฺถารเทสนา อิตเรสํ ติณฺณํ วเสน. สกลมฺปิ หิ เตปิฏกํ สงฺเขปเทสนา วิตฺถารเทสนาติ เอตฺเถว สงฺขํ คจฺฉติ.
๑๕. ปฺจเม ยสฺมึ, ภิกฺขเว, อธิกรเณติ วิวาทาธิกรณํ, อนุวาทาธิกรณํ, อาปตฺตาธิกรณํ, กิจฺจาธิกรณนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ อธิกรณานํ ยสฺมึ อธิกรเณ. อาปนฺโน จ ภิกฺขูติ อาปตฺตึ อาปนฺโน ภิกฺขุ จ. ตสฺเมตนฺติ ตสฺมึ เอตํ. ทีฆตฺตายาติ ทีฆํ อทฺธานํ ติฏฺนตฺถาย. ขรตฺตายาติ ทาส-โกณฺฑ-จณฺฑาล-เวนาติ เอวํ ขรวาจาปวตฺตนตฺถาย. วาฬตฺตายาติ ปาณิ เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปหรณวเสน กกฺขฬภาวตฺถาย. ภิกฺขู จ น ผาสุํ วิหริสฺสนฺตีติ อฺมฺํ วิวาทาปนฺเน ภิกฺขุสงฺเฆ เยปิ อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา คเหตุกามา ปธานํ วา อนุยฺุชิตุกามา, เต ผาสุํ น วิหริสฺสนฺติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺมึ หิ อุโปสถปวารณาย ิตาย อุทฺเทสาทีหิ อตฺถิกา อุทฺเทสาทีนิ คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, วิปสฺสกานํ จิตฺตุปฺปาโท น เอกคฺโค โหติ, ตโต วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกนฺติ. เอวํ ภิกฺขู จ น ผาสุํ วิหริสฺสนฺติ. น ทีฆตฺตายาติอาทีสุ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิธาติ ¶ ¶ อิมสฺมึ สาสเน. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. อกุสลํ อาปนฺโนติ เอตฺถ อกุสลนฺติ อาปตฺติ อธิปฺเปตา, อาปตฺตึ อาปนฺโนติ อตฺโถ. กฺจิเทว เทสนฺติ น สพฺพเมว อาปตฺตึ, อาปตฺติยา ปน กฺจิเทว เทสํ อฺตรํ อาปตฺตินฺติ อตฺโถ. กาเยนาติ กรชกาเยน. อนตฺตมโนติ อตุฏฺจิตฺโต. อนตฺตมนวาจนฺติ อตุฏฺวาจํ. มเมวาติ มํเยว. ตตฺถาติ ตสฺมึ อธิกรเณ. อจฺจโย อจฺจคมาติ อปราโธ อติกฺกมิตฺวา มทฺทิตฺวา คโต, อหเมเวตฺถ อปราธิโก. สุงฺกทายกํว ภณฺฑสฺมินฺติ ยถา สุงฺกฏฺานํ ปริหริตฺวา นีเต ภณฺฑสฺมึ ¶ สุงฺกทายกํ อปราโธ อภิภวติ, โส จ ตตฺถ อปราธิโก โหติ, น ราชาโน น ราชปุริสาติ อตฺโถ.
อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย หิ รฺา ปิตํ สุงฺกฏฺานํ ปริหริตฺวา ภณฺฑํ หรติ, ตํ สห ภณฺฑสกเฏน อาเนตฺวา รฺโ ทสฺเสนฺติ. ตตฺถ เนว สุงฺกฏฺานสฺส โทโส อตฺถิ, น รฺโ น ราชปุริสานํ, ปริหริตฺวา คตสฺเสว ปน โทโส, เอวเมวํ ยํ โส ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตตฺถ เนว อาปตฺติยา โทโส, น โจทกสฺส. ตีหิ ปน การเณหิ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โทโส. ตสฺส หิ อาปตฺตึ อาปนฺนภาเวนปิ โทโส, โจทเก อนตฺตมนตายปิ โทโส, อนตฺตมนสฺส สโต ปเรสํ อาโรจเนนปิ โทโส. โจทกสฺส ปน ยํ โส ตํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตํ อทฺทส, ตตฺถ โทโส นตฺถิ. อนตฺตมนตาย โจทนาย ปน โทโส. ตมฺปิ อมนสิกริตฺวา อยํ ภิกฺขุ อตฺตโนว โทสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘อิติ มเมว ตตฺถ อจฺจโย อจฺจคมา สุงฺกทายกํว ¶ ภณฺฑสฺมิ’’นฺติ เอวํ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อตฺโถ. ทุติยวาเร โจทกสฺส อนตฺตมนตา จ อนตฺตมนตาย โจทิตภาโว จาติ ทฺเว โทสา, เตสํ วเสน ‘‘อจฺจโย อจฺจคมา’’ติ เอตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๑๖. ฉฏฺเ อฺตโรติ เอโก อปากฏนาโม พฺราหฺมโณ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ เยนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ตสฺมา ยตฺถ ภควา, ตตฺถ อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เยน วา การเณน ภควา เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ภควา อุปสงฺกมิตพฺโพ ¶ ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย. อุปสงฺกมีติ คโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวํ คโต ตโต อาสนฺนตรํ านํ ภควโต สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.
ภควตา สทฺธึ สมฺโมทีติ ยถา จ ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต ภควา เตน, เอวํ โสปิ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ, สีโตทกํ วิย อุณฺโหทเกน สมฺโมทิตํ เอกีภาวํ อคมาสิ. ยาย จ ‘‘กจฺจิ, โภ โคตม, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โภโต โคตมสฺส จ สาวกานฺจ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหาโร’’ติอาทิกาย กถาย ¶ สมฺโมทิ, ตํ ปีติปาโมชฺชสงฺขาตสฺส สมฺโมทสฺส ชนนโต สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต จ สมฺโมทนียํ, อตฺถพฺยฺชนมธุรตาย สุจิรมฺปิ กาลํ สาเรตุํ นิรนฺตรํ ปวตฺเตตุํ อรหรูปโต สริตพฺพภาวโต จ สารณียํ. สุยฺยมานสุขโต วา สมฺโมทนียํ, อนุสฺสริยมานสุขโต สารณียํ, ตถา พฺยฺชนปริสุทฺธตาย สมฺโมทนียํ, อตฺถปริสุทฺธตาย ¶ สารณียนฺติ เอวํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ สมฺโมทนียํ สารณียํ กถํ วีติสาเรตฺวา ปริโยสาเปตฺวา นิฏฺเปตฺวา เยนตฺเถน อาคโต, ตํ ปุจฺฉิตุกาโม เอกมนฺตํ นิสีทิ.
เอกมนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ตสฺมา ยถา นิสินฺโน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหติ, ตถา นิสีทีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. นิสีทีติ อุปาวิสิ. ปณฺฑิตา หิ ปุริสา ครุฏฺานียํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ นิสีทนฺติ. อยฺจ เนสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
กถํ นิสินฺโน ปน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหตีติ? ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ – อติทูรํ, อจฺจาสนฺนํ, อุปริวาตํ, อุนฺนตปฺปเทสํ, อติสมฺมุขํ อติปจฺฉาติ. อติทูเร นิสินฺโน หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ, อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน นิสินฺโน สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ ¶ . อุปริวาเต นิสินฺโน สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺโน อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา นิสีทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ.
เอตทโวจาติ ทุวิธา หิ ปุจฺฉา – อคาริกปุจฺฉา, อนคาริกปุจฺฉา จ. ตตฺถ ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสล’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๒๙๖) อิมินา นเยน อคาริกปุจฺฉา อาคตา. ‘‘อิเม นุ โข, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ (ม. นิ. ๓.๘๖) อิมินา นเยน อนคาริกปุจฺฉา. อยํ ปน อตฺตโน อนุรูปํ อคาริกปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺโต เอตํ ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ เหตุ ปจฺจโยติ อุภยมฺเปตํ การณเววจนเมว. อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตูติ อธมฺมจริยาสงฺขาตาย วิสมจริยาย เหตุ, ตํการณา ตปฺปจฺจยาติ อตฺโถ ¶ . ตตฺรายํ ปทตฺโถ – อธมฺมสฺส จริยา อธมฺมจริยา, อธมฺมการณนฺติ ¶ อตฺโถ. วิสมํ จริยา, วิสมสฺส วา กมฺมสฺส จริยาติ วิสมจริยา. อธมฺมจริยา จ สา วิสมจริยา จาติ อธมฺมจริยาวิสมจริยา. เอเตนุปาเยน สุกฺกปกฺเขปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺถโต ปเนตฺถ อธมฺมจริยาวิสมจริยา นาม ทส อกุสลกมฺมปถา, ธมฺมจริยาสมจริยา นาม ทส กุสลกมฺมปถาติ เวทิตพฺพา.
อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมาติ เอตฺถ อยํ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทเนสุ ทิสฺสติ. ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติอาทีสุ (อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๓; อ. นิ. ๘.๒๐) หิ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) สุนฺทเร.
‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. –
อาทีสุ ¶ (วิ. ว. ๘๕๗) อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๐; ปารา. ๑๕) อพฺภนุโมทเน. อิธาปิ อพฺภนุโมทเนเยว. ยสฺมา จ อพฺภนุโมทเน, ตสฺมา สาธุ สาธุ, โภ โคตมาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
‘‘ภเย โกเธ ปสํสายํ, ตุริเต โกตูหลจฺฉเร;
หาเส โสเก ปสาเท จ, กเร อาเมฑิตํ พุโธ’’ติ. –
อิมินา จ ลกฺขเณน อิธ ปสาทวเสน ปสํสาวเสน จายํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อถ วา อภิกฺกนฺตนฺติ อภิกฺกนฺตํ อติอิฏฺํ อติมนาปํ, อติสุนฺทรนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ เอเกน อภิกฺกนฺตสทฺเทน เทสนํ โถเมติ, เอเกน อตฺตโน ปสาทํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อภิกฺกนฺตํ, โภ ¶ โคตม, ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนา, อภิกฺกนฺตํ ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อาคมฺม มม ปสาโทติ. ภควโตเยว วา วจนํ ทฺเว ทฺเว อตฺเถ สนฺธาย โถเมติ – โภโต โคตมสฺส วจนํ อภิกฺกนฺตํ โทสนาสนโต, อภิกฺกนฺตํ คุณาธิคมนโต ¶ , ตถา สทฺธาชนนโต, ปฺาชนนโต, สาตฺถโต, สพฺยฺชนโต, อุตฺตานปทโต, คมฺภีรตฺถโต, กณฺณสุขโต, หทยงฺคมโต, อนตฺตุกฺกํสนโต, อปรวมฺภนโต, กรุณาสีตลโต, ปฺาวทาตโต, อาปาถรมณียโต, วิมทฺทกฺขมโต, สุยฺยมานสุขโต, วีมํสิยมานหิตโตติ เอวมาทีหิ โยเชตพฺพํ.
ตโต ปรมฺปิ จตูหิ อุปมาหิ เทสนํเยว โถเมติ. ตตฺถ นิกฺกุชฺชิตนฺติ อโธมุขปิตํ, เหฏฺามุขชาตํ วา. อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อุปริมุขํ กเรยฺย. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ติณปณฺณาทิฉาทิตํ. วิวเรยฺยาติ อุคฺฆาเฏยฺย. มูฬฺหสฺสาติ ทิสามูฬฺหสฺส. มคฺคํ อาจิกฺเขยฺยาติ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘เอส มคฺโค’’ติ วเทยฺย. อนฺธกาเรติ กาฬปกฺขจาตุทฺทสีอฑฺฒรตฺตฆนวนสณฺฑเมฆปฏเลหิ จตุรงฺเค ตเม. อยํ ตาว อนุตฺตานปทตฺโถ.
อยํ ปน อธิปฺปายโยชนา – ยถา โกจิ นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, เอวํ สทฺธมฺมวิมุขํ อสทฺธมฺเม ปติตํ มํ อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปนฺเตน, ยถา ปฏิจฺฉนฺนํ วิวเรยฺย, เอวํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานโต ปภุติ มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺนํ ¶ สาสนํ วิวรนฺเตน, ยถา มูฬฺหสฺส มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, เอวํ กุมฺมคฺคมิจฺฉามคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส เม สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาวิกโรนฺเตน, ยถา อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, เอวํ โมหนฺธกาเร นิมุคฺคสฺส เม พุทฺธาทิรตนรูปานิ อปสฺสโต ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหนฺธการวิทฺธํสกเทสนาปชฺโชตธารเณน ¶ มยฺหํ โภตา โคตเมน เอเตหิ ปริยาเยหิ ปกาสิตตฺตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตติ.
เอวํ เทสนํ โถเมตฺวา อิมาย เทสนาย รตนตฺตเย ปสนฺนจิตฺโต ปสนฺนาการํ กโรนฺโต เอสาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาหนฺติ เอโส อหํ. ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามีติ ภวํ เม โคตโม สรณํ ปรายณํ อฆสฺส ตาตา หิตสฺส จ วิธาตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภวนฺตํ โคตมํ คจฺฉามิ ภชามิ เสวามิ ปยิรุปาสามิ, เอวํ วา ชานามิ พุชฺฌามีติ. เยสฺหิ ธาตูนํ คติ อตฺโถ, พุทฺธิปิ เตสํ อตฺโถ. ตสฺมา คจฺฉามีติ อิมสฺส ชานามิ พุชฺฌามีติ อยมตฺโถ วุตฺโต. ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ เอตฺถ ปน อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จ จตูสุ อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม. โส อตฺถโต อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔) วิตฺถาโร. น เกวลฺจ อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ ¶ , อปิจ โข อริยผเลหิ สทฺธึ ปริยตฺติธมฺโมปิ. วุตฺตฺเหตํ ฉตฺตมาณวกวิมาเน –
‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ, ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;
มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๗);
เอตฺถ ราควิโรโคติ มคฺโค กถิโต. อโนชมโสกนฺติ ผลํ. ธมฺมมสงฺขตนฺติ นิพฺพานํ. อปฺปฏิกูลํ มธุรมิมํ ¶ ปคุณํ สุวิภตฺตนฺติ ปิฏกตฺตเยน วิภตฺตา สพฺพธมฺมกฺขนฺธาติ. ทิฏฺิสีลสงฺฆาเตน สํหโตติ สงฺโฆ. โส อตฺถโต อฏฺอริยปุคฺคลสมูโห. วุตฺตฺเหตํ ตสฺมิเยว วิมาเน –
‘‘ยตฺถ จ ทินฺนมหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสุ;
อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๘);
ภิกฺขูนํ ¶ สงฺโฆ ภิกฺขุสงฺโฆ. เอตฺตาวตา พฺราหฺมโณ ตีณิ สรณคมนานิ ปฏิเวเทสิ.
อิทานิ เตสุ สรณคมเนสุ โกสลฺลตฺถํ สรณํ, สรณคมนํ, โย จ สรณํ คจฺฉติ, สรณคมนปฺปเภโท, สรณคมนผลํ, สํกิเลโส, เภโทติ อยํ วิธิ เวทิตพฺโพ.
เสยฺยถิทํ – ปทตฺถโต ตาว หึสตีติ สรณํ, สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุกฺขํ ทุคฺคติปริกิเลสํ หนติ วินาเสตีติ อตฺโถ, รตนตฺตยสฺเสเวตํ อธิวจนํ. อถ วา หิเต ปวตฺตเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ พุทฺโธ, ภวกนฺตารา อุตฺตารเณน โลกสฺส อสฺสาสทาเนน จ ธมฺโม, อปฺปกานมฺปิ การานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สงฺโฆ. ตสฺมา อิมินาปิ ปริยาเยน รตนตฺตยํ สรณํ. ตปฺปสาทตคฺครุตาหิ วิหตกิเลโส ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ. ตํสมงฺคีสตฺโต สรณํ คจฺฉติ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตุปฺปาเทน ‘‘เอตานิ เม ตีณิ รตนานิ สรณํ, เอตานิ ปรายณ’’นฺติ เอวํ อุเปตีติ อตฺโถ. เอวํ ตาว สรณํ สรณคมนํ โย จ สรณํ คจฺฉติ อิทํ ตยํ เวทิตพฺพํ.
สรณคมนปฺปเภเท ¶ ¶ ปน ทุวิธํ สรณคมนํ โลกุตฺตรํ โลกิยฺจาติ. ตตฺถ โลกุตฺตรํ ทิฏฺสจฺจานํ มคฺคกฺขเณ สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน อารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌติ. โลกิยํ ปุถุชฺชนานํ สรณคมนุปกฺกิเลสวิกฺขมฺภเนน อารมฺมณโต พุทฺธาทิคุณารมฺมณํ หุตฺวา อิชฺฌติ. ตํ อตฺถโต พุทฺธาทีสุ วตฺถูสุ สทฺธาปฏิลาโภ, สทฺธามูลิกา จ สมฺมาทิฏฺิ ทสสุ ปฺุกิริยาวตฺถูสุ ทิฏฺิชุกมฺมนฺติ วุจฺจติ.
ตยิทํ จตุธา ปวตฺตติ อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน ตปฺปรายณตาย สิสฺสภาวูปคมเนน ปณิปาเตนาติ. ตตฺถ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส นิยฺยาเตมิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีนํ อตฺตปริจฺจชนํ. ตปฺปรายณตา นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ พุทฺธปรายโณ, ธมฺมปรายโณ, สงฺฆปรายโณ อิติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ ตปฺปรายณภาโว. สิสฺสภาวูปคมนํ นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ พุทฺธสฺส ¶ อนฺเตวาสิโก, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺส อิติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ สิสฺสภาวูปคโม. ปณิปาโต นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม-สามีจิกมฺมํ พุทฺธาทีนํเยว ติณฺณํ วตฺถูนํ กโรมิ อิติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีสุ ปรมนิปจฺจกาโร. อิเมสฺหิ จตุนฺนมฺปิ อาการานํ อฺตรมฺปิ กโรนฺเตน คหิตํเยว โหติ สรณคมนํ.
อปิจ ‘‘ภควโต อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺส อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, ปริจฺจตฺโตเยว เม อตฺตา, ปริจฺจตฺตํเยว เม ชีวิตํ, ชีวิตปริยนฺติกํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, พุทฺโธ เม สรณํ เลณํ ตาณ’’นฺติ เอวมฺปิ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘สตฺถารฺจ ¶ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยํ, สุคตฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยํ, สมฺมาสมฺพุทฺธฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) เอวมฺปิ มหากสฺสปสฺส สรณคมเน วิย สิสฺสภาวูปคมนํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘โส อหํ วิจริสฺสามิ, คามา คามํ ปุรา ปุรํ;
นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธํ, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๙๔; สํ. นิ. ๑.๒๔๖);
เอวมฺปิ อาฬวกาทีนํ สรณคมนํ วิย ตปฺปรายณตา เวทิตพฺพา. ‘‘อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ¶ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ, ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ, นามฺจ สาเวติ – ‘พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ; พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ’’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๔) เอวมฺปิ ปณิปาโต เวทิตพฺโพ.
โส ปเนส าติภยาจริยทกฺขิเณยฺยวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ ทกฺขิเณยฺยปณิปาเตน สรณคมนํ โหติ, น อิตเรหิ. เสฏฺวเสเนว หิ สรณํ คณฺหาติ, เสฏฺวเสน จ ภิชฺชติ. ตสฺมา โย สากิโย วา โกลิโย วา ‘‘พุทฺโธ อมฺหากํ าตโก’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย วา ‘‘สมโณ โคตโม ราชปูชิโต มหานุภาโว อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ภเยน วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย วา โพธิสตฺตกาเล ภควโต สนฺติเก กิฺจิ อุคฺคหิตํ สรมาโน พุทฺธกาเล วา –
‘‘เอเกน ¶ โภเค ภฺุเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;
จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. (ที. นิ. ๓.๒๖๕) –
เอวรูปํ ¶ อนุสาสนึ อุคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย ปน ‘‘อยํ โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺโย’’ติ วนฺทติ, เตเนว คหิตํ โหติ สรณํ.
เอวํ คหิตสรณสฺส จ อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา อฺติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตมฺปิ าตึ ‘‘าตโก เม อย’’นฺติ วนฺทโต สรณคมนํ น ภิชฺชติ, ปเคว อปพฺพชิตํ. ตถา ราชานํ ภยวเสน วนฺทโต. โส หิ รฏฺปูชิตตฺตา อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยาติ. ตถา ยํ กิฺจิ สิปฺปํ สิกฺขาปกํ ติตฺถิยํ ‘‘อาจริโย เม อย’’นฺติ วนฺทโตปิ น ภิชฺชตีติ เอวํ สรณคมนปฺปเภโท เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ จ โลกุตฺตรสฺส สรณคมนสฺส จตฺตาริ สามฺผลานิ วิปากผลํ, สพฺพทุกฺขกฺขโย อานิสํสผลํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘โย ¶ จ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ, สงฺฆฺจ สรณํ คโต;
จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. (ธ. ป. ๑๙๐);
‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยฺจฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ. (ธ. ป. ๑๙๑);
‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตมํ;
เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๒);
อปิจ นิจฺจโต อนุปคมนาทิวเสนเปตสฺส อานิสํสผลํ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, สุขโต อุปคจฺเฉยฺย, กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย, มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปิตรํ, อรหนฺตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปทุฏฺจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๘-๑๓๐; อ. นิ. ๑.๒๗๒-๒๗๗).
โลกิยสฺส ¶ ¶ ปน สรณคมนสฺส ภวสมฺปทาปิ โภคสมฺปทาปิ ผลเมว. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เย เกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส,
น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;
ปหาย มานุสํ เทหํ,
เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๓๗);
อปรมฺปิ วุตฺตํ –
‘‘อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อสีติยา เทวตาสหสฺเสหิ สทฺธึ เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ…เป… เอกมนฺตํ ิตํ โข สกฺกํ เทวานมินฺทํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ¶ เอตทโวจ – ‘สาธุ โข, เทวานมินฺท, พุทฺธสรณคมนํ โหติ. พุทฺธสรณคมนเหตุ โข เทวานมินฺท เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. เต อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหนฺติ ทิพฺเพน อายุนา ทิพฺเพน วณฺเณน สุเขน ยเสน อาธิปเตยฺเยน ทิพฺเพหิ รูเปหิ สทฺเทหิ คนฺเธหิ รเสหิ โผฏฺพฺเพหี’’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๑).
เอเสว นโย ธมฺเม สงฺเฆ จ. อปิจ เวลามสุตฺตาทิวเสนาปิ (อ. นิ. ๙.๒๐ อาทโย) สรณคมนสฺส ผลวิเสโส เวทิตพฺโพ. เอวํ สรณคมนผลํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ โลกิยสรณคมนํ ตีสุ วตฺถูสุ อฺาณสํสยมิจฺฉาาณาทีหิ สํกิลิสฺสติ, น มหาชุติกํ โหติ น มหาวิปฺผารํ. โลกุตฺตรสฺส นตฺถิ สํกิเลโส. โลกิยสฺส จ สรณคมนสฺส ทุวิโธ เภโท สาวชฺโช อนวชฺโช จ. ตตฺถ สาวชฺโช อฺสตฺถาราทีสุ อตฺตสนฺนิยฺยาตนาทีหิ โหติ, โส อนิฏฺผโล. อนวชฺโช กาลกิริยาย, โส อวิปากตฺตา อผโล. โลกุตฺตรสฺส ปน เนวตฺถิ เภโท. ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก อฺํ สตฺถารํ น อุทฺทิสตีติ เอวํ สรณคมนสฺส สํกิเลโส จ เภโท จ เวทิตพฺโพ.
อุปาสกํ ¶ ¶ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตูติ มํ ภวํ โคตโม ‘‘อุปาสโก อย’’นฺติ เอวํ ธาเรตุ, ชานาตูติ อตฺโถ. อุปาสกวิธิโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ โก อุปาสโก, กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจติ, กิมสฺส สีลํ, โก อาชีโว, กา วิปตฺติ, กา สมฺปตฺตีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ โก อุปาสโกติ โย โกจิ สรณคโต คหฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).
กสฺมา ¶ อุปาสโกติ. รตนตฺตยสฺส อุปาสนโต. โส หิ พุทฺธํ อุปาสตีติ อุปาสโก. ธมฺมํ, สงฺฆํ อุปาสตีติ อุปาสโกติ.
กิมสฺส สีลนฺติ. ปฺจ เวรมณิโย. ยถาห –
‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา, กาเมสุมิจฺฉาจารา, มุสาวาทา, สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).
โก อาชีโวติ. ปฺจ มิจฺฉาวณิชฺชา ปหาย ธมฺเมน สเมน ชีวิกกปฺปนํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา. กตมา ปฺจ. สตฺถวณิชฺชา, สตฺตวณิชฺชา, มํสวณิชฺชา, มชฺชวณิชฺชา, วิสวณิชฺชา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๗).
กา วิปตฺตีติ. ยา ตสฺเสว สีลสฺส จ อาชีวสฺส จ วิปตฺติ, อยมสฺส วิปตฺติ. อปิจ ยาย เอส จณฺฑาโล เจว โหติ มลฺจ ปติกุฏฺโ จ, สาปิ ตสฺส วิปตฺตีติ เวทิตพฺพา. เต จ อตฺถโต อสฺสทฺธิยาทโย ปฺจ ธมฺมา โหนฺติ. ยถาห –
‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกจณฺฑาโล จ โหติ อุปาสกมลฺจ อุปาสกปติกุฏฺโ จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อสฺสทฺโธ โหติ, ทุสฺสีโล โหติ, โกตูหลมงฺคลิโก ¶ โหติ, มงฺคลํ ปจฺเจติ โน กมฺมํ, อิโต จ พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสติ, ตตฺถ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๕).
กา สมฺปตฺตีติ. ยา จสฺส สีลสมฺปทา จ อาชีวสมฺปทา จ, สา สมฺปตฺติ. เย จสฺส รตนภาวาทิกรา สทฺธาทโย ปฺจ ธมฺมา. ยถาห –
‘‘ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกรตนฺจ โหติ อุปาสกปทุมฺจ อุปาสกปุณฺฑรีกฺจ. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ โหติ, สีลวา โหติ, น โกตูหลมงฺคลิโก โหติ, กมฺมํ ปจฺเจติ โน มงฺคลํ, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๕).
อชฺชตคฺเคติ เอตฺถ อยํ อคฺคสทฺโท อาทิโกฏิโกฏฺาสเสฏฺเสุ ทิสฺสติ. ‘‘อชฺชตคฺเค สมฺม, โทวาริก, อาวรามิ ทฺวารํ นิคณฺานํ นิคณฺีน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๐) หิ อาทิมฺหิ ทิสฺสติ. ‘‘เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ ปรามเสยฺย (กถา. ๔๔๑). อุจฺฉคฺคํ เวฬคฺค’’นฺติอาทีสุ โกฏิยํ. ‘‘อมฺพิลคฺคํ วา มธุรคฺคํ วา ติตฺตกคฺคํ วา (สํ. นิ. ๕.๓๗๔), อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิหารคฺเคน วา ปริเวณคฺเคน วา ภาเชตุ’’นฺติอาทีสุ (จูฬว. ๓๑๘) โกฏฺาเส. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา…เป… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๔) เสฏฺเ. อิธ ปนายํ อาทิมฺหิ ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา อชฺชตคฺเคติ อชฺชตํ อาทึ กตฺวาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อชฺชตนฺติ อชฺชภาวํ. อชฺชทคฺเคติ วา ปาโ, ทกาโร ปทสนฺธิกโร, อชฺช อคฺคํ กตฺวาติ อตฺโถ.
ปาณุเปตนฺติ ปาเณหิ อุเปตํ, ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว ¶ อุเปตํ, อนฺสตฺถุกํ ตีหิ สรณคมเนหิ สรณํ คตํ อุปาสกํ กปฺปิยการกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ ชานาตุ. อหฺหิ สเจปิ เม ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺเทยฺย, เนว พุทฺธํ ‘‘น พุทฺโธ’’ติ วา ธมฺมํ ‘‘น ¶ ธมฺโม’’ติ วา สงฺฆํ ‘‘น สงฺโฆ’’ติ วา วเทยฺยนฺติ เอวํ อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน สรณํ คนฺตฺวา จตูหิ จ ปจฺจเยหิ ปวาเรตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามีติ.
๑๗. สตฺตเม ชาณุสฺโสณีติ ชาณุสฺโสณิานนฺตรํ กิร นาเมกํ านนฺตรํ, ตํ เยน กุเลน ลทฺธํ, ตํ ชาณุสฺโสณิกุลนฺติ วุจฺจติ. อยํ ตสฺมึ กุเล ชาตตฺตา รฺโ สนฺติเก จ ลทฺธชาณุสฺโสณิสกฺการตฺตา ชาณุสฺโสณีติ วุจฺจติ. เตนุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ กิร โคตโม ปณฺฑิโต พฺยตฺโต พหุสฺสุโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สเจ โส ลิงฺควิภตฺติการกาทิเภทํ ชานิสฺสติ, อมฺเหหิ าตเมว ชานิสฺสติ, อฺาตํ กึ ชานิสฺสติ. าตเมว กเถสฺสติ, อฺาตํ กึ กเถสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา มานทฺธชํ ปคฺคยฺห สิงฺคํ อุกฺขิปิตฺวา มหาปริวาเรหิ ปริวุโต เยน ภควา ¶ เตนุปสงฺกมิ. กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จาติ สตฺถา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ อิธ อาคจฺฉนฺโต น ชานิตุกาโม อตฺถคเวสี หุตฺวา อาคโต, มานํ ปน ปคฺคยฺห สิงฺคํ อุกฺขิปิตฺวา อาคโต. กึ นุ ขฺวสฺส ยถา ปฺหสฺส อตฺถํ ชานาติ, เอวํ กถิเต วฑฺฒิ ภวิสฺสติ, อุทาหุ ยถา น ชานาตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ยถา น ชานาติ, เอวํ กถิเต วฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จา’’ติ อาห.
พฺราหฺมโณ ตํ สุตฺวา ‘‘สมโณ โคตโม กตตฺตาปิ อกตตฺตาปิ นิรเย นิพฺพตฺตึ วทติ, อิทํ อุภยการเณนาปิ เอกฏฺาเน นิพฺพตฺติยา กถิตตฺตา ทุชฺชานํ มหนฺธการํ, นตฺถิ ¶ มยฺหํ เอตฺถ ปติฏฺา. สเจ ปนาหํ เอตฺตเกเนว ตุณฺหี ภเวยฺยํ, พฺราหฺมณานํ มชฺเฌ กถนกาเลปิ มํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘ตฺวํ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ มานํ ปคฺคยฺห สิงฺคํ อุกฺขิปิตฺวา คโตสิ, เอกวจเนเนว ตุณฺหี หุตฺวา กิฺจิ วตฺตุํ นาสกฺขิ, อิมสฺมึ าเน กสฺมา กเถสี’ติ. ตสฺมา ปราชิโตปิ อปราชิตสทิโส หุตฺวา ปุน สคฺคคมนปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา โก นุ โข, โภ โคตมาติ อิมํ ทุติยปฺหํ อารภิ.
เอวมฺปิ ¶ ตสฺส อโหสิ – ‘‘อุปริปฺเหน เหฏฺาปฺหํ ชานิสฺสามิ, เหฏฺาปฺเหน อุปริปฺห’’นฺติ. ตสฺมาปิ อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. สตฺถา ปุริมนเยเนว จินฺเตตฺวา ยถา น ชานาติ, เอวเมว กเถนฺโต ปุนปิ ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จา’’ติ อาห. พฺราหฺมโณ ตสฺมิมฺปิ ปติฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อลํ, โภ, น อีทิสสฺส ปุริสสฺส สนฺติกํ อาคเตน อชานิตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ, สกวาทํ ปหาย สมณํ โคตมํ อนุวตฺติตฺวา มยฺหํ อตฺถํ คเวสิสฺสามิ, ปรโลกมคฺคํ โสเธสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา สตฺถารํ อายาจนฺโต น โข อหนฺติอาทิมาห. อถสฺส นิหตมานตํ ตฺวา สตฺถา อุปริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต เตน หิ, พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ เตน หีติ การณนิทฺเทโส. ยสฺมา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส อตฺถํ อชานนฺโต วิตฺถารเทสนํ ยาจสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๑๘. อฏฺเม อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํ. อานนฺโทติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. เอกํเสนาติ เอกนฺเตน. อนุวิจฺจาติ อนุปวิสิตฺวา. วิฺูติ ปณฺฑิตา. ครหนฺตีติ นินฺทนฺติ, อวณฺณํ ภาสนฺติ. เสสเมตฺถ นวเม จ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.
๒๐. ทสเม ¶ ¶ ทุนฺนิกฺขิตฺตฺจ ปทพฺยฺชนนฺติ อุปฺปฏิปาฏิยา คหิตปาฬิปทเมว หิ อตฺถสฺส พฺยฺชนตฺตา พฺยฺชนนฺติ วุจฺจติ. อุภยเมตํ ปาฬิยาว นามํ. อตฺโถ จ ทุนฺนีโตติ ปริวตฺเตตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา คหิตา อฏฺกถา. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ ทุนฺนโย โหตีติ ปริวตฺเตตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา คหิตาย ปาฬิยา อฏฺกถา นาม ทุนฺนยา ทุนฺนีหารา ทุกฺกถา นาม โหติ. เอกาทสเม วุตฺตปฏิปกฺขนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
อธิกรณวคฺโค ทุติโย.
๓. พาลวคฺควณฺณนา
๒๒. ตติยสฺส ¶ ปเม อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสตีติ ‘‘อปรชฺฌิตฺวา อปรทฺธํ มยา’’ติ อตฺตโน อปราธํ น ปสฺสติ, อปรทฺธํ มยาติ วตฺวา ทณฺฑกมฺมํ ¶ อาหริตฺวา น ขมาเปตีติ อตฺโถ. อจฺจยํ เทเสนฺตสฺสาติ เอวํ วตฺวา ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ขมาเปนฺตสฺส. ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘ปุน เอวํ น กริสฺสามิ, ขมถ เม’’ติ วุจฺจมาโน อจฺจยํ อิมํ ยถาธมฺมํ ยถาสภาวํ น ปฏิคฺคณฺหาติ. ‘‘อิโต ปฏฺาย ปุน เอวรูปํ มา อกาสิ, ขมามิ ตุยฺห’’นฺติ น วทติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๒๓. ทุติเย อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อภิภวิตฺวา อาจิกฺขนฺติ, อภูเตน วทนฺติ. โทสนฺตโรติ อนฺตเร ปติตโทโส. เอวรูโป หิ ‘‘นตฺถิ สมณสฺส โคตมสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม’’ติอาทีนิ วทนฺโต สุนกฺขตฺโต วิย ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขติ. สทฺโธ ¶ วา ทุคฺคหิเตนาติ โย หิ าณวิรหิตาย สทฺธาย อติสทฺโธ โหติ มุทฺธปฺปสนฺโน, โสปิ ‘‘พุทฺโธ นาม สพฺพโลกุตฺตโร, สพฺเพ ตสฺส เกสาทโย พาตฺตึส โกฏฺาสา โลกุตฺตราเยวา’’ติอาทินา นเยน ทุคฺคหิตํ คณฺหิตฺวา ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขติ. ตติยํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๒๕. จตุตฺเถ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตนฺติ ยสฺส อตฺโถ เนตพฺโพ, ตํ เนตพฺพตฺถํ สุตฺตนฺตํ. นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปตีติ กถิตตฺโถ อยํ สุตฺตนฺโตติ วทติ. ตตฺถ ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา, ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา, จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา’’ติ เอวรูโป สุตฺตนฺโต เนยฺยตฺโถ นาม. เอตฺถ หิ กิฺจาปิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว’’ติอาทิ วุตฺตํ, ปรมตฺถโต ปน ปุคฺคโล นาม นตฺถีติ เอวมสฺส อตฺโถ เนตพฺโพว โหติ. อยํ ปน อตฺตโน พาลตาย นีตตฺโถ อยํ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ. ปรมตฺถโต หิ ปุคฺคเล อสติ น ตถาคโต ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว’’ติอาทีนิ วเทยฺย. ยสฺมา ปน เตน วุตฺตํ, ตสฺมา ปรมตฺถโต อตฺถิ ปุคฺคโลติ คณฺหนฺโต ตํ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ. นีตตฺถนฺติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ เอวํ กถิตตฺถํ. เอตฺถ หิ อนิจฺจเมว ทุกฺขเมว อนตฺตาเยวาติ อตฺโถ. อยํ ปน อตฺตโน พาลตาย ‘‘เนยฺยตฺโถ อยํ สุตฺตนฺโต, อตฺถมสฺส อาหริสฺสามี’’ติ ¶ ‘‘นิจฺจํ นาม อตฺถิ, สุขํ นาม อตฺถิ, อตฺตา นาม อตฺถี’’ติ คณฺหนฺโต นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ นาม. ปฺจมํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๒๗. ฉฏฺเ ¶ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺสาติ ปาปกมฺมสฺส. ปาปํ ¶ หิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กโรนฺติ. โน เจปิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กโรนฺติ, ปาปกมฺมํ ปฏิจฺฉนฺนเมวาติ วุจฺจติ. นิรโยติ สโหกาสกา ขนฺธา. ติรจฺฉานโยนิยํ ขนฺธาว ลพฺภนฺติ. สตฺตมฏฺมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๓๐. นวเม ปฏิคฺคาหาติ ปฏิคฺคาหกา, ทุสฺสีลํ ปุคฺคลํ ทฺเว านานิ ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ อตฺโถ.
๓๑. ทสเม อตฺถวเสติ การณานิ. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺานิ จ วนปตฺถานิ จ. ตตฺถ กิฺจาปิ อภิธมฺเม นิปฺปริยาเยน ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา, สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) วุตฺตํ, ตถาปิ ยํ ตํ ‘‘ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อารฺกงฺคนิปฺผาทกํ เสนาสนํ วุตฺตํ, ตเทว อธิปฺเปตนฺติ เวทิตพฺพํ. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสียติ น วปียติ. ปนฺตานีติ ปริยนฺตานิ อติทูรานิ, ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ โลกิยโลกุตฺตรํ ผาสุวิหารํ. ปจฺฉิมฺจ ชนตํ อนุกมฺปมาโนติ ปจฺฉิเม มม สาวเก อนุกมฺปนฺโต.
๓๒. เอกาทสเม วิชฺชาภาคิยาติ วิชฺชาโกฏฺาสิกา. สมโถติ จิตฺเตกคฺคตา. วิปสฺสนาติ สงฺขารปริคฺคาหกาณํ. กมตฺถมนุโภตีติ กตมํ อตฺถํ อาราเธติ สมฺปาเทติ ปริปูเรติ. จิตฺตํ ภาวียตีติ มคฺคจิตฺตํ ภาวียติ พฺรูหียติ วฑฺฒียติ. โย ราโค, โส ปหียตีติ โย รชฺชนกวเสน ราโค, โส ปหียติ. ราโค หิ มคฺคจิตฺตสฺส ปจฺจนีโก, มคฺคจิตฺตํ ราคสฺส จ. ราคกฺขเณ ¶ มคฺคจิตฺตํ นตฺถิ, มคฺคจิตฺตกฺขเณ ราโค นตฺถิ. ยทา ปน ราโค อุปฺปชฺชติ, ตทา มคฺคจิตฺตสฺส อุปฺปตฺตึ นิวาเรติ, ปทํ ปจฺฉินฺทติ. ยทา ปน มคฺคจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตทา ราคํ สมูลกํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา สมุคฺฆาเตนฺตเมว อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ราโค ปหียตี’’ติ.
วิปสฺสนา, ภิกฺขเว, ภาวิตาติ วิปสฺสนาาณํ พฺรูหิตํ วฑฺฒิตํ. ปฺา ภาวียตีติ มคฺคปฺา ¶ ภาวียติ พฺรูหียติ วฑฺฒียติ. ยา อวิชฺชา, สา ปหียตีติ อฏฺสุ าเนสุ วฏฺฏมูลิกา มหาอวิชฺชา ปหียติ. อวิชฺชา หิ มคฺคปฺาย ปจฺจนีกา, มคฺคปฺา อวิชฺชาย. อวิชฺชากฺขเณ มคฺคปฺา นตฺถิ ¶ , มคฺคปฺากฺขเณ อวิชฺชา นตฺถิ. ยทา ปน อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตทา มคฺคปฺาย อุปฺปตฺตึ นิวาเรติ, ปทํ ปจฺฉินฺทติ. ยทา มคฺคปฺา อุปฺปชฺชติ, ตทา อวิชฺชํ สมูลิกํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา สมุคฺฆาตยมานาว อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อวิชฺชา ปหียตี’’ติ. อิติ มคฺคจิตฺตํ มคฺคปฺาติ ทฺเวปิ สหชาตธมฺมาว กถิตา.
ราคุปกฺกิลิฏฺํ วา, ภิกฺขเว, จิตฺตํ น วิมุจฺจตีติ ราเคน อุปกฺกิลิฏฺตฺตา มคฺคจิตฺตํ น วิมุจฺจตีติ ทสฺเสติ. อวิชฺชุปกฺกิลิฏฺา วา ปฺา น ภาวียตีติ อวิชฺชาย อุปกฺกิลิฏฺตฺตา มคฺคปฺา น ภาวียตีติ ทสฺเสติ. อิติ โข, ภิกฺขเวติ เอวํ โข, ภิกฺขเว. ราควิราคา เจโตวิมุตฺตีติ ราคสฺส ขยวิราเคน เจโตวิมุตฺติ นาม โหติ. ผลสมาธิสฺเสตํ นามํ. อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตีติ อวิชฺชาย ขยวิราเคน ปฺาวิมุตฺติ นาม โหติ. อิมสฺมึ สุตฺเต นานากฺขณิกา สมาธิวิปสฺสนา กถิตาติ.
พาลวคฺโค ตติโย.
๔. สมจิตฺตวคฺควณฺณนา
๓๓. จตุตฺถสฺส ¶ ¶ ปเม อสปฺปุริสภูมีติ อสปฺปุริสานํ ปติฏฺานฏฺานํ. สปฺปุริสภูมิยมฺปิ เอเสว นโย. อกตฺูติ กตํ น ชานาติ. อกตเวทีติ กตํ ปากฏํ กตฺวา น ชานาติ. อุปฺาตนฺติ วณฺณิตํ โถมิตํ ปสตฺถํ. ยทิทนฺติ ยา อยํ. อกตฺุตา อกตเวทิตาติ ปเรน กตสฺส อุปการสฺส อชานนฺเจว ปากฏํ กตฺวา อชานนฺจ. เกวลาติ สกลา. สุกฺกปกฺเขปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๔. ทุติเย มาตุ จ ปิตุ จาติ ชนกมาตุ จ ชนกปิตุ จ. เอเกน, ภิกฺขเว, อํเสน มาตรํ ปริหเรยฺยาติ เอกสฺมึ อํสกูเฏ เปตฺวา มาตรํ ปฏิชคฺเคยฺย. เอเกน อํเสน ปิตรํ ปริหเรยฺยาติ เอกสฺมึ อํสกูเฏ เปตฺวา ปิตรํ ปฏิชคฺเคยฺย. วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวีติ วสฺสสตายุกกาเล ชาโต สกลํ วสฺสสตํ ชีวนฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ ปุตฺโต นาม ‘‘มาตาปิตูนํ ปฏิกริสฺสามี’’ติ อุฏฺาย สมุฏฺาย ทกฺขิเณ อํสกูเฏ มาตรํ, วาเม ปิตรํ ¶ เปตฺวา วสฺสสตายุโก สกลมฺปิ วสฺสสตํ ชีวมาโน ปริหเรยฺย. โส จ เนสํ อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหเนนาติ โส จ ปุตฺโต เนสํ มาตาปิตูนํ อํสกูเฏสุ ิตานํเยว ทุคฺคนฺธปฏิวิโนทนตฺถํ สุคนฺธกรเณน อุจฺฉาทเนน, ปริสฺสมวิโนทนตฺถํ หตฺถปริมทฺทเนน, สีตุณฺหกาเล จ อุณฺโหทกสีโตทกนฺหาปเนน, หตฺถปาทาทีนํ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนสงฺขาเตน สมฺพาหเนน อุปฏฺานํ กเรยฺย. เต จ ตตฺเถวาติ เต จ มาตาปิตโร ตตฺเถว ตสฺส อํสกูเฏสุ นิสินฺนาว มุตฺตกรีสํ จเชยฺยุํ. นตฺเวว ¶ , ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, เอวมฺปิ นตฺเวว มาตาปิตูนํ กตํ วา โหติ ปฏิกตํ วา.
อิสฺสราธิปจฺเจ รชฺเชติ จกฺกวตฺติรชฺชํ สนฺธาเยวมาห. อาปาทกาติ วฑฺฒกา อนุปาลกา. ปุตฺตา หิ มาตาปิตูหิ วฑฺฒิตา เจว อนุปาลิตา จ. โปสกาติ หตฺถปาเท วฑฺเฒตฺวา หทยโลหิตํ ปาเยตฺวา โปสกา. ปุตฺตา หิ มาตาปิตูหิ ปุฏฺา ภตา อนฺนปานาทีหิ ปฏิชคฺคิตา. อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโรติ สเจ หิ มาตาปิตโร ชาตทิวเสเยว ปุตฺตํ ปาเท คเหตฺวา อรฺเ วา นทิยํ วา ปปาเต วา ขิเปยฺยุํ, อิมสฺมึ โลเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ น ปสฺเสยฺย. เอวํ อกตฺวา อาปาทิตตฺตา ¶ โปสิตตฺตา เอส อิมสฺมึ โลเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ มาตาปิตโร นิสฺสาย ปสฺสตีติ ตฺยาสฺส อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร นาม โหนฺติ. สมาทเปตีติ คณฺหาเปติ. อิมสฺมึ สุตฺเต สทฺธาสีลจาคปฺา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา. ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสทิโสว ภิกฺขุ เตสุ ปติฏฺาเปติ นามาติ เวทิตพฺโพ.
๓๕. ตติเย เตนุปสงฺกมีติ โส หิ พฺราหฺมโณ ‘‘สมโณ กิร โคตโม กถิตํ วิสฺสชฺเชติ, ปุจฺฉายสฺส วิรชฺฌนํ นาม นตฺถิ. อหมสฺส วิรชฺฌนปฺหํ อภิสงฺขริสฺสามี’’ติ ปณีตโภชนํ ภฺุชิตฺวา คพฺภทฺวารํ ปิทหิตฺวา นิสินฺโน จินฺเตตุํ อารภิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺมึ าเน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺโท วตฺตติ, จิตฺตํ น เอกคฺคํ โหติ, ภูมิฆรํ กาเรสฺสามี’’ติ ภูมิฆรํ กาเรตฺวา ตตฺถ ปวิสิตฺวา – ‘‘เอวํ ปุฏฺโ เอวํ กเถสฺสติ, เอวํ ปุฏฺโ เอวํ กเถสฺสตี’’ติ เอกํ คณฺหิตฺวา เอกํ ¶ วิสฺสชฺเชนฺโต สกลทิวสํ กิฺจิ ปสฺสิตุํ นาสกฺขิ. ตสฺส อิมินาว นีหาเรน จตฺตาโร มาสา วีติวตฺตา. โส จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อุภโตโกฏิกํ ปฺหํ นาม ¶ อทฺทส. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘กึวาที ภว’นฺติ ปุจฺฉิสฺสามิ. สเจ ‘กิริยวาทิมฺหี’ติ วกฺขติ, ‘สพฺพากุสลานํ นาม ตุมฺเห กิริยํ วเทถา’ติ นํ นิคฺคณฺหิสฺสามิ. สเจ ‘อกิริยวาทิมฺหี’ติ วกฺขติ, ‘กุสลธมฺมานํ นาม ตุมฺเห อกิริยํ วเทถา’ติ นํ นิคฺคณฺหิสฺสามิ. อิทฺหิ อุภโตโกฏิกํ ปฺหํ ปุฏฺโ เนว อุคฺคิลิตุํ สกฺขิสฺสติ น นิคฺคิลิตุํ. เอวํ มม ชโย ภวิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ปราชโย’’ติ อุฏฺาย อปฺโผเฏตฺวา ภูมิฆรา นิกฺขมฺม ‘‘เอวรูปํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺเตน น เอกเกน คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ นคเร โฆสนํ กาเรตฺวา สกลนาคเรหิ ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. กึวาทีติ กึลทฺธิโก. กิมกฺขายีติ กึ นาม สาวกานํ ปฏิปทํ อกฺขายีติ ปุจฺฉิ. อถสฺส ภควา จตูหิ มาเสหิ ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา ‘‘ทิฏฺโ เม สมณสฺส โคตมสฺส ปราชยปฺโห’’ติ มานํ ปคฺคยฺห อาคตภาวํ ตฺวา เอกปเทเนว ตํ ปฺหํ ภินฺทนฺโต กิริยวาที จาหํ, พฺราหฺมณาติอาทิมาห. อถ พฺราหฺมโณ อตฺตโน มานํ อปเนตฺวา ภควนฺตํ อายาจนฺโต ยถากถํ ปนาติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๓๖. จตุตฺเถ ทกฺขิเณยฺยาติ ทกฺขิณา วุจฺจติ ทานํ, ตสฺส ปฏิคฺคหณยุตฺตา กติ ปุคฺคลาติ ปุจฺฉติ. เสโขติ อิมินา สตฺต เสกฺเข ทสฺเสติ. เอตฺถ จ สีลวนฺตปุถุชฺชโนปิ โสตาปนฺเนเนว ¶ สงฺคหิโต. อาหุเนยฺยา ยชมานานํ โหนฺตีติ ทานํ ททนฺตานํ อาหุนสฺส อรหา ทานปฏิคฺคาหกา นาม โหนฺตีติ อตฺโถ. เขตฺตนฺติ วตฺถุ ปติฏฺา, ปฺุสฺส วิรุหนฏฺานนฺติ อตฺโถ.
๓๗. ปฺจเม ¶ ปุพฺพาราเมติ สาวตฺถิโต ปุรตฺถิมทิสาภาเค อาราเม. มิคารมาตุปาสาเทติ วิสาขาย อุปาสิกาย ปาสาเท. สา หิ มิคารเสฏฺินา มาตุฏฺาเน ปิตตฺตาปิ, สพฺพเชฏฺกสฺส ปุตฺตสฺส อยฺยกเสฏฺิโนว สมานนามกตฺตาปิ มิคารมาตาติ วุจฺจติ. ตาย การิโต สหสฺสคพฺโภ ปาสาโท มิคารมาตุปาสาโท นาม. เถโร ¶ ตสฺมึ วิหรติ. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโตติ ตสฺมึ ปาสาเท วิหรนฺโต ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร.
ภิกฺขู อามนฺเตสีติ กสฺมึ กาเล อามนฺเตสิ? กานิจิ หิ สุตฺตานิ ปุเรภตฺเต ภาสิตานิ อตฺถิ, กานิจิ ปจฺฉาภตฺเต, กานิจิ ปุริมยาเม, กานิจิ มชฺฌิมยาเม, กานิจิ ปจฺฉิมยาเม. อิทํ ปน สมจิตฺตปฏิปทาสุตฺตํ ปจฺฉาภตฺเต ภาสิตํ. ตสฺมา สายนฺหสมเย อามนฺเตสิ.
น เกวลํ เจตํ เถเรเนว ภาสิตํ, ตถาคเตนาปิ ภาสิตํ. กตฺถ นิสีทิตฺวาติ? วิสาขาย รตนปาสาเท นิสีทิตฺวา. ตถาคโต หิ ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ อนิพทฺธวาโส หุตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ผาสุกํ โหติ, ตตฺถ ตตฺเถว คนฺตฺวา วสิ. ปมํ อนฺโตวสฺสฺหิ อิสิปตเน ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา อฏฺารส มหาพฺรหฺมโกฏิโย อมตปานํ ปาเยตฺวา พาราณสึ อุปนิสฺสาย อิสิปตเน วสิ. ทุติยํ อนฺโตวสฺสํ ราชคหํ อุปนิสฺสาย เวฬุวเน, ตติยจตุตฺถานิปิ ตตฺเถว, ปฺจมํ อนฺโตวสฺสํ เวสาลึ อุปนิสฺสาย มหาวเน กูฏาคารสาลายํ, ฉฏฺํ อนฺโตวสฺสํ มกุลปพฺพเต, สตฺตมํ ตาวตึสภวเน, อฏฺมํ ภคฺเค สุสุมารคิรํ นิสฺสาย เภสกฬาวเน, นวมํ โกสมฺพิยํ, ทสมํ ปาลิเลยฺยเก วนสณฺเฑ, เอกาทสมํ นาลายํ พฺราหฺมณคาเม, ทฺวาทสมํ เวรฺชายํ, เตรสมํ จาลิยปพฺพเต, จุทฺทสมํ เชตวเน, ปฺจทสมํ กปิลวตฺถุสฺมึ, โสฬสมํ อาฬวกํ ทเมตฺวา จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปาเยตฺวา อาฬวิยํ, สตฺตรสมํ ราชคเหเยว, อฏฺารสมํ จาลิยปพฺพเตเยว, ตถา เอกูนวีสติมํ, วีสติมํ ปน อนฺโตวสฺสํ ราชคหํเยว ¶ อุปนิสฺสาย วสิ. เอวํ วีสติ วสฺสานิ อนิพทฺธวาโส หุตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ผาสุกํ โหติ, ตตฺถ ตตฺเถว วสิ.
ตโต ¶ ปฏฺาย ปน ทฺเว เสนาสนานิ ธุวปริโภคานิ อกาสิ. กตรานิ ทฺเว? เชตวนฺจ ปุพฺพารามฺจ. กสฺมา? ทฺวินฺนํ กุลานํ คุณมหนฺตตาย. อนาถปิณฺฑิกสฺส หิ วิสาขาย จ คุณํ สนฺธาย คุณํ ปฏิจฺจ สตฺถา ตานิ เสนาสนานิ ธุวปริโภเคน ปริภฺุชิ. อุตุวสฺสํ จาริกํ จริตฺวาปิ หิ อนฺโตวสฺเส ทฺวีสุเยว เสนาสเนสุ วสติ. เอวํ วสนฺโต ¶ ปน เชตวเน รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ทกฺขิณทฺวาเรน สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปุพฺพาราเม ทิวาวิหารํ กโรติ. ปุพฺพาราเม รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส ปาจีนทฺวาเรน สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เชตวเน ทิวาวิหารํ กโรติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส สมฺมาสมฺพุทฺโธ เชตวเนเยว วสิ. ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺตสฺส จสฺส ปฺจวิธกิจฺจํ อวิชหิตเมว โหติ. ตํ เหฏฺา วิตฺถาริตเมว. เตสุ กิจฺเจสุ ปจฺฉิมยามกิจฺจกาเล ภควา โลกํ โอโลเกนฺโต สาวตฺถิวาสีนฺจ สมนฺตา จ สาวตฺถิยา คาวุตอฑฺฒโยชนโยชนปรเม าเน อปริมาณานํ สตฺตานํ อภิสมยภาวํ อทฺทส.
ตโต ‘‘กสฺมึ นุ โข กาเล อภิสมโย ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘สายนฺหสมเย’’ติ ทิสฺวา ‘‘มยิ นุ โข กเถนฺเต อภิสมโย ภวิสฺสติ, สาวเก กเถนฺเต ภวิสฺสตี’’ติ ‘‘สาริปุตฺตตฺเถเร กเถนฺเต ภวิสฺสตี’’ติ อทฺทส. ตโต ‘‘กตฺถ นิสีทิตฺวา กเถนฺเต ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘วิสาขาย รตนปาสาเท นิสีทิตฺวา’’ติ ทิสฺวา ‘‘พุทฺธานํ นาม ตโย สาวกสนฺนิปาตา โหนฺติ, อคฺคสาวกานํ เอโก. เตสุ อชฺช ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส สาวกสนฺนิปาโต ภวิสฺสตี’’ติ อทฺทส. ทิสฺวา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา นิวตฺถนิวาสโน ¶ สุคตจีวรํ ปารุปิตฺวา เสลมยปตฺตํ อาทาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ปิณฺฑาย จรนฺโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส สุลภปิณฺฑปาตํ กตฺวา วาตปฺปหตา วิย นาวา ปฏินิวตฺติตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวาเร อฏฺาสิ. ตโต อสีติ มหาสาวกา ภิกฺขุนิปริสา อุปาสกปริสา อุปาสิกาปริสาติ จตสฺโส ปริสา สตฺถารํ ปริวารยึสุ.
สตฺถา สาริปุตฺตตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘สาริปุตฺต, ตยา ปุพฺพารามํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, ตว จ ปริสํ คเหตฺวา คจฺฉาหี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ เถโร อตฺตโน ปริวาเรหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ ปริวุโต ปุพฺพารามํ อคมาสิ. เอเตเนว นิยาเมน อสีติ มหาสาวเก ปุพฺพารามเมว เปเสตฺวา สยํ เอเกน อานนฺทตฺเถเรเนว สทฺธึ เชตวนํ อคมาสิ. อานนฺทตฺเถโรปิ วิหาเร สตฺถุ วตฺตํ ¶ กตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ปุพฺพารามํ คจฺฉามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. เอวํ ¶ กโรหิ อานนฺทาติ. สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ตตฺเถว อคมาสิ. สตฺถา เอกโกว เชตวเน โอหีโน.
ตํ ทิวสฺหิ จตสฺโส ปริสา เถรสฺเสว ธมฺมกถํ โสตุกามา อเหสุํ. โกสลมหาราชาปิ พลกาเยน ปริวุโต ปุพฺพารามเมว คโต. ตถา ปฺจสตอุปาสกปริวาโร อนาถปิณฺฑิโก. วิสาขา ปน มหาอุปาสิกา ทฺวีหิ ชงฺฆสหสฺเสหิ ปริวุโต อคมาสิ. สตฺตปณฺณาสาย กุลสตสหสฺสานํ วสนฏฺาเน สาวตฺถินคเร เคหปาลกทารเก เปตฺวา เสสชโน คนฺธจุณฺณมาลาทีนิ คเหตฺวา ปุพฺพารามเมว อคมาสิ. จตูสุ ทฺวารคาเมสุ คาวุตอฑฺฒโยชนโยชนปรมฏฺาเน สพฺเพเยว มนุสฺสา คนฺธจุณฺณมาลาทิหตฺถา ปุพฺพารามเมว อคมํสุ. สกลวิหาโร มิสฺสกปุปฺเผหิ อภิกิณฺโณ วิย อโหสิ.
ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ โข วิหารํ คนฺตฺวา วิหารปริเวเณ องฺคณฏฺาเน อฏฺาสิ. ภิกฺขู เถรสฺส อาสนํ ปฺาปยึสุ. เถโร ตตฺถ นิสีทิตฺวา อุปฏฺากตฺเถเรน วตฺเต กเต ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาทํ กตฺวา คนฺธกุฏึ ¶ ปวิสิตฺวา สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิ. โส ปริจฺฉินฺนกาลวเสน สมาปตฺติโต วุฏฺาย อจิรวตึ คนฺตฺวา รโชชลฺลํ ปวาเหตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ โอติณฺณติตฺเถเนว อุตฺตริตฺวา นิวตฺถนิวาสโน สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา อฏฺาสิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ สมฺมุขสมฺมุขฏฺาเนน โอตริตฺวา สรีเร รโชชลฺลํ ปวาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เถรํ ปริวารยึสุ. อนฺโตวิหาเรปิ เถรสฺส ธมฺมาสนํ ปฺาปยึสุ. จตสฺโสปิ ปริสา อตฺตโน อตฺตโน โอกาสํ ตฺวา มคฺคํ เปตฺวา นิสีทึสุ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ปฺจภิกฺขุสตปริวาโร ธมฺมสภํ อาคนฺตฺวา สีหมตฺถกปฺปติฏฺิเต สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต รตนปลฺลงฺเก จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ. นิสีทิตฺวา ปริสํ โอโลเกตฺวา – ‘‘มหตี วตายํ ปริสา, อิมิสฺสา น อปฺปมตฺติกา ปริตฺตกธมฺมเทสนา อนุจฺฉวิกา, กตรธมฺมเทสนา นุ โข อนุจฺฉวิกา ภวิสฺสตี’’ติ ตีณิ ปิฏกานิ อาวชฺชมาโน อิมํ สํโยชนปริยาย ธมฺมเทสนํ อทฺทส.
เอวํ ¶ เทสนํ สลฺลกฺเขตฺวา ตํ เทเสตุกาโม ภิกฺขู อามนฺเตสิ อาวุโส, ภิกฺขเวติ. อาวุโสติ หิ อวตฺวา, ภิกฺขเวติ วจนํ พุทฺธาลาโป นาม โหติ, อยํ ปนายสฺมา ‘‘ทสพเลน สมานํ อาลปนํ น กริสฺสามี’’ติ สตฺถุ คารววเสน สาวกาลาปํ กโรนฺโต, ‘‘อาวุโส ¶ ภิกฺขเว’’ติ อาห. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโส, ปุคฺคลํ เทเสสฺสามิ พหิทฺธาสํโยชนฺจา’’ติ ธมฺมเทสนาปทํ อโวจ.
ตสฺมึ ปน รตนปาสาเท อธิวตฺโถ เอโก โสตาปนฺโน เทวปุตฺโต อตฺถิ, โส พุทฺเธหิ วา สาวเกหิ วา เทสนาย อารทฺธมตฺตายเยว ชานาติ – ‘‘อยํ เทสนา อุตฺตานิกา ภวิสฺสติ, อยํ คมฺภีรา. อยํ ฌานนิสฺสิตา ภวิสฺสติ, อยํ วิปสฺสนานิสฺสิตา. อยํ มคฺคนิสฺสิตา อยํ ผลนิสฺสิตา, อยํ นิพฺพานนิสฺสิตา’’ติ. โส ตสฺมิมฺปิ ทิวเส เถเรน เทสนาย ¶ อารทฺธมตฺตาย เอวํ อฺาสิ – ‘‘เยน นีหาเรน มยฺหํ อยฺเยน ธมฺมเสนาปตินา สาริปุตฺตตฺเถเรน เทสนา อารทฺธา, อยํ เทสนา วิปสฺสนาคาฬฺหา ภวิสฺสติ, ฉหิ มุเขหิ วิปสฺสนํ กเถสฺสติ. เทสนาปริโยสาเน โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺติ, โสตาปนฺนาทีนํ ปน เทวมนุสฺสานํ ปริจฺเฉโท น ภวิสฺสติ. เทสนาย อนุจฺฉวิกํ กตฺวา มยฺหํ อยฺยสฺส สาธุการํ ทสฺสามี’’ติ เทวานุภาเวน มหนฺตํ สทฺทํ กตฺวา – ‘‘สาธุ สาธุ อยฺยา’’ติ อาห.
เทวราเชน สาธุกาเร ทินฺเน ปริวารกปาสาทสหสฺเส อธิวตฺถา เทวตา สพฺพาว สาธุการํ อทํสุ. ตาสํ สาธุการสทฺเทน สพฺพา ปุพฺพาราเม วสนเทวตา, ตาสํ สทฺเทน คาวุตมตฺเต เทวตา, ตโต อฑฺฒโยชเน โยชเนติ เอเตนุปาเยน เอกจกฺกวาเฬ, ทฺวีสุ จกฺกวาเฬสุ, ตีสุ จกฺกวาเฬสูติ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ เทวตา สาธุการมทํสุ. ตาสํ สาธุการสทฺเทน ปถวิฏฺกนาคา จ อากาสฏฺกเทวตา จ. ตโต อพฺภวลาหกา, อุณฺหวลาหกา, สีตวลาหกา, วสฺสวลาหกา, จาตุมหาราชิกา จตฺตาโร มหาราชาโน, ตาวตึสา เทวตา, สกฺโก เทวราชา, ยามา เทวตา, สุยาโม เทวราชา ¶ , ตุสิตา เทวตา, สนฺตุสิโต เทวราชา, นิมฺมานรตี เทวตา, สุนิมฺมิโต เทวราชา, วสวตฺตี เทวตา, วสวตฺตี เทวราชา, พฺรหฺมปาริสชฺชา, พฺรหฺมปุโรหิตา, มหาพฺรหฺมาโน, ปริตฺตาภา, อปฺปมาณาภา, อาภสฺสรา, ปริตฺตสุภา, อปฺปมาณสุภา, สุภกิณฺหา, เวหปฺผลา, อวิหา, อตปฺปา, สุทสฺสา, สุทสฺสี, อกนิฏฺา เทวตาติ อสฺเ จ อรูปาวจรสตฺเต จ เปตฺวา โสตายตนปวตฺติฏฺาเน สพฺพา เทวตา สาธุการมทํสุ.
ตโต ขีณาสวมหาพฺรหฺมาโน – ‘‘มหา วตายํ สาธุการสทฺโท, ปถวิตลโต ปฏฺาย ยาว อกนิฏฺโลกํ อาคโต, กิมตฺถํ นุ โข เอโส’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร ปุพฺพาราเม ¶ ¶ วิสาขาย รตนปาสาเท นิสีทิตฺวา สํโยชนปริยายธมฺมเทสนมารภิ, อมฺเหหิปิ ตตฺถ กายสกฺขีหิ ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ อคมํสุ. ปุพฺพาราโม เทวตาหิ ปริปุณฺโณ, สมนฺตา ปุพฺพารามสฺส คาวุตํ อฑฺฒโยชนํ, โยชนนฺติ สกลจกฺกวาฬํ เหฏฺา ปถวิตเลน ติริยํ จกฺกวาฬปริยนฺเตน ปริจฺฉินฺนํ ทสหิ จกฺกวาฬสหสฺเสหิ สนฺนิปติตาหิ เทวตาหิ นิรนฺตรมโหสิ, อารคฺคนิตุทนมตฺเต าเน อุปริมโกฏิยา สฏฺิ เทวตา สุขุมตฺตภาเว มาเปตฺวา อฏฺํสุ.
อถายสฺมา สาริปุตฺโต ‘‘มหนฺตํ วติทํ หลาหลํ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ ิตานํ เทวตานํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปติตภาวํ อทฺทส. อถ ยสฺมา พุทฺธานํ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ, ปริสปริมาเณเนว ปสฺสนฺติ เจว สทฺทฺจ สาเวนฺติ. สาวกานํ ปน อธิฏฺานํ วฏฺฏติ. ตสฺมา เถโร สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย มหคฺคตจิตฺเตน อธิฏฺาสิ – ‘‘จกฺกวาฬปริยนฺตา ปริสา สพฺพาปิ มํ ปสฺสตุ, ธมฺมฺจ เม เทเสนฺตสฺส สทฺทํ สุณาตู’’ติ. อธิฏฺิตกาลโต ปฏฺาย ทกฺขิณชาณุปสฺเส จ จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยฺจ นิสีทิตฺวา ‘‘ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร นาม กีทิโส ทีโฆ รสฺโส สาโม โอทาโต’’ติ วตฺตพฺพการณํ นาโหสิ, สพฺเพสมฺปิ สพฺพทิสาสุ นิสินฺนานํ อภิมุเขเยว ปฺายิตฺถ, นภมชฺเฌ ิตจนฺโท วิย อโหสิ. ธมฺมํ เทเสนฺตสฺสาปิสฺส ¶ ทกฺขิณชาณุปสฺเส จ จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยฺจ นิสินฺนา สพฺเพ เอกกํเสเนว สทฺทํ สุณึสุ.
เอวํ อธิฏฺหิตฺวา เถโร อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโสติ อิมํ ธมฺมเทสนํ อารภิ. ตตฺถ ¶ อชฺฌตฺตนฺติ กามภโว. พหิทฺธาติ รูปารูปภโว. กิฺจาปิ หิ สตฺตา กามภเว อปฺปํ กาลํ วสนฺติ กปฺปสฺส จตุตฺถเมว โกฏฺาสํ, อิตเรสุ ตีสุ โกฏฺาเสสุ กามภโว สฺุโ โหติ ตุจฺโฉ, รูปภเว พหุํ กาลํ วสนฺติ, ตถาปิ เตสํ ยสฺมา กามภเว จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา โหนฺติ, อปฺปกา รูปารูปภเวสุ. ยตฺถ จ จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา, ตตฺถ อาลโยปิ ปตฺถนาปิ อภิลาโสปิ พหุ โหติ. ยตฺถ อปฺปา, ตตฺถ อปฺโป. ตสฺมา กามภโว อชฺฌตฺตํ นาม ชาตํ, รูปารูปภวา พหิทฺธา นาม. อิติ อชฺฌตฺตสงฺขาเต กามภเว ฉนฺทราโค อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม, พหิทฺธาสงฺขาเตสุ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค พหิทฺธาสํโยชนํ นาม. โอรมฺภาคิยานิ วา ปฺจ สํโยชนานิ อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม, อุทฺธมฺภาคิยานิ ปฺจ พหิทฺธาสํโยชนํ นาม. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ ¶ . อุทฺธํ วุจฺจติ รูปารูปธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ อุทฺธํ ภชนฺตีติ อุทฺธมฺภาคิยานิ.
เอวํ วุตฺตปฺปเภเทน อชฺฌตฺตสํโยชเนน สํยุตฺโต ปุคฺคโล อชฺฌตฺตสํโยชโน, พหิทฺธาสํโยชเนน สํยุตฺโต ปุคฺคโล พหิทฺธาสํโยชโน. อุภยมฺปิ เจตํ น โลกิยสฺส วฏฺฏนิสฺสิตมหาชนสฺส นามํ. เยสํ ปน ภโว ทฺเวธา ปริจฺฉินฺโน, เตสํ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํ อริยสาวกานํ เอตํ นามํ. ยถา หิ มหาอรฺเ ขทิรวนสาลวนาทีนิ ถมฺโภ ตุลาสงฺฆาโฏติ นามํ น ลภนฺติ, ขทิรวนํ สาลวนนฺติ นามเมว ลภนฺติ. ยทา ปน ตโต รุกฺขา ติณฺหาย กุาริยา ฉินฺทิตฺวา ถมฺภาทิสณฺาเนน ตจฺฉิตา โหนฺติ, ตทา ถมฺโภ ตุลาสงฺฆาโฏติ นามํ ลภนฺติ. เอวเมวํ อปริจฺฉินฺนภโว พหลกิเลโส ปุถุชฺชโน ¶ เอตํ นามํ น ลภติ, ภวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กิเลเส ตนุเก กตฺวา ิตา โสตาปนฺนาทโยว ลภนฺติ.
อิมสฺส จ ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ อิทํ วจฺฉกสาโลปมํ เวทิตพฺพํ. วจฺฉกสาลํ หิ กตฺวา อนฺโต ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา วจฺฉเก โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา ¶ เตสุ อุปนิพนฺธนฺติ, โยตฺเตสุ อปฺปโหนฺเตสุ กณฺเณสุปิ คเหตฺวา ตตฺถ วจฺฉเก ปเวเสนฺติ, อนฺโตสาลาย โอกาเส อปฺปโหนฺเต พหิ ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวาปิ เอวเมว กโรนฺติ. ตตฺถ โกจิ อนฺโตพทฺโธ วจฺฉโก พหินิปนฺโน โหติ, โกจิ พหิพทฺโธ อนฺโตนิปนฺโน, โกจิ อนฺโตพทฺโธ อนฺโตว นิปนฺโน, โกจิ พหิพทฺโธ พหิเยว นิปนฺโน. โกจิ อนฺโตปิ อพทฺโธว จรติ, พหิปิ อพทฺโธว. ตตฺถ อนฺโตพทฺธสฺส พหินิปนฺนสฺส พนฺธนํ ทีฆํ โหติ. โส หิ อุณฺหาทิปีฬิโต นิกฺขมิตฺวา พหิ วจฺฉกานํ อพฺภนฺตเร นิปชฺชติ. พหิพทฺเธ อนฺโตนิปนฺเนปิ เอเสว นโย. โย ปน อนฺโตพทฺโธ อนฺโตนิปนฺโน, ตสฺส พนฺธนํ รสฺสํ โหติ. พหิพทฺเธ พหินิปนฺเนปิ เอเสว นโย. อุโภปิ หิ เต ทิวสมฺปิ ขาณุกํ อนุปริคนฺตฺวา ตตฺเถว สยนฺติ. โย ปน อนฺโต อพทฺโธ ตตฺเถว วจฺฉกานํ อนฺตเร วิจรติ. อยํ สีลวา วจฺฉโก กณฺเณ คเหตฺวา วจฺฉกานํ อนฺตเร วิสฺสฏฺโ ทิวสมฺปิ อฺตฺถ อคนฺตฺวา ตตฺเถว จรติ. พหิ อพทฺเธ ตตฺเถว วิจรนฺเตปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ วจฺฉกสาลา วิย ตโย ภวา เวทิตพฺพา. วจฺฉกสาลายํ ขาณุกา วิย อวิชฺชาขาณุโก. วจฺฉกพนฺธนโยตฺตํ วิย ทส สํโยชนานิ. วจฺฉกา วิย ตีสุ ภเวสุ นิพฺพตฺตสตฺตา ¶ . อนฺโตพทฺโธ พหิสยิตวจฺฉโก วิย ¶ รูปารูปภเวสุ โสตาปนฺนสกทาคามิโน. เต หิ กิฺจาปิ ตตฺเถว วสนฺติ, สํโยชนํ ปน เตสํ กามาวจรูปนิพทฺธเมว. เกนฏฺเน? อปฺปหีนฏฺเน. รูปารูปภเวสุ ปุถุชฺชโนปิ เอเตเหว สงฺคหิโต. โสปิ หิ กิฺจาปิ ตตฺถ วสติ, สํโยชนํ ปนสฺส กามาวจรูปนิพทฺธเมว. พหิพทฺโธ อนฺโตสยิตวจฺฉโก วิย กามาวจเร อนาคามี. โส หิ กิฺจาปิ กามาวจเร วสติ, สํโยชนํ ปนสฺส รูปารูปภวูปนิพทฺธเมว. อนฺโตพทฺโธ อนฺโตนิปนฺโน วิย กามาวจเร โสตาปนฺนสกทาคามิโน. เต หิ สยมฺปิ กามาวจเร วสนฺติ, สํโยชนมฺปิ เตสํ กามาวจรูปนิพทฺธเมว. พหิพทฺโธ พหินิปนฺโน วิย รูปารูปภเวสุ อนาคามี. โส หิ สยมฺปิ ตตฺถ วสติ, สํโยชนมฺปิสฺส รูปารูปภวูปนิพทฺธเมว. อนฺโตอพทฺโธ อนฺโตวิจรณวจฺฉโก วิย กามาวจเร ขีณาสโว. พหิอพทฺโธ พหิวิจรณวจฺฉโก ¶ วิย รูปารูปภเว ขีณาสโว. สํโยชเนสุ ปน สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโสติ อิมานิ ตีณิ คจฺฉนฺตํ นิวาเรนฺติ, คตํ ปฏิอาเนนฺติ. กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโทติ อิมานิ ปน ทฺเว สํโยชนานิ สมาปตฺติยา วา อวิกฺขมฺเภตฺวา มคฺเคน วา อสมุจฺฉินฺทิตฺวา รูปารูปภเว นิพฺพตฺติตุํ น สกฺโกติ.
กตโม จาวุโสติ อิทํ เถโร ยถา นาม ปุริโส ทฺเว รตนเปฬา ปสฺเส เปตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ทฺเว หตฺเถ ปูเรตฺวา สตฺตวิธํ รตนํ ภาเชตฺวา ทเทยฺย, เอวํ ปมํ รตนเปฬํ ทตฺวา ทุติยมฺปิ ตเถว ทเทยฺย. เอวเมวํ ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโส, ปุคฺคลํ เทเสสฺสามิ พหิทฺธาสํโยชนฺจา’’ติ อิมานิ ทฺเว ปทานิ มาติกาวเสน เปตฺวา อิทานิ อฏฺวิธาย ปริสาย ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ วิตฺถารกถํ อารภิ.
ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. สีลวา ¶ โหตีติ จตุปาริสุทฺธิสีเลหิ สีลสมฺปนฺโน โหติ. อิติ เถโร เอตฺตาวตา จ กิร จตุปาริสุทฺธิสีลํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติ อิมินา ตตฺถ เชฏฺกสีลํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสสีติ ทีปวิหารวาสี สุมฺมตฺเถโร อาห. อนฺเตวาสิโก ปนสฺส ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร อาห – ‘‘อุภยตฺถาปิ ปาติโมกฺขสํวโรว วุตฺโต. ปาติโมกฺขสํวโรเยว หิ สีลํ, อิตรานิ ปน ตีณิ สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม อตฺถี’’ติ อนนุชานนฺโต อุตฺตริ อาห – อินฺทฺริยสํวโร นาม ฉทฺวารรกฺขามตฺตกเมว, อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมน สเมน ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกํ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปจฺจเย ‘‘อิทมตฺถ’’นฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชนมตฺตกํ, นิปฺปริยาเยน ปน ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํ ¶ . ยสฺส โส ภินฺโน, อยํ ฉินฺนสีโส วิย ปุริโส หตฺถปาเท เสสานิ รกฺขิสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. ยสฺส ปน โส อโรโค, อยํ อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส ชีวิตํ เสสานิ ปุน ปากติกานิ กตฺวา รกฺขิตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา สีลวาติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรํ อุทฺทิสิตฺวา ตํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติอาทิมาหาติ.
ตตฺถ ¶ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวเรน สมนฺนาคโต. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อาจาเรน จ โคจเรน จ สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสูติ อปฺปมตฺตเกสุ. วชฺเชสูติ อกุสลธมฺเมสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสี. สมาทายาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา. สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ. อปิจ สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํกิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ สิกฺขิตพฺพํ กายิกํ วา วาจสิกํ วา, ตํ สพฺพํ สมฺมา อาทาย สิกฺขติ. อยเมตฺถ ¶ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน สพฺพาเนตานิ ปาติโมกฺขสํวราทีนิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔ อาทโย) วุตฺตานิ, จตุปาริสุทฺธิสีลฺจ สพฺพากาเรน วิภชิตฺวา ทสฺสิตํ. อฺตรํ เทวนิกายนฺติ ฉสุ กามาวจรเทวฆฏาสุ อฺตรํ เทวฆฏํ. อาคามี โหตีติ เหฏฺา อาคามี โหติ. อาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถตฺตํ มานุสกปฺจกฺขนฺธภาวเมว อาคนฺตา โหติ. ตตฺรูปปตฺติโก วา อุปรูปปตฺติโก วา น โหติ, ปุน เหฏฺาคามีเยว โหตีติ ทสฺเสติ. อิมินา องฺเคน สุกฺขวิปสฺสกสฺส ธาตุกมฺมฏฺานิกภิกฺขุโน เหฏฺิมํ มคฺคทฺวยฺเจว ผลทฺวยฺจ กถิตํ.
อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตินฺติ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ อฺตรํ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺตึ. สา หิ ปจฺจนีกกิเลสานํ สนฺตตฺตา สนฺตา, เตเหว จ กิเลเสหิ เจตโส วิมุตฺตตฺตา เจโตวิมุตฺตีติ วุจฺจติ. อฺตรํ เทวนิกายนฺติ ปฺจสุ สุทฺธาวาสเทวนิกาเยสุ อฺตรํ. อนาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ ปุน อิมํ ปฺจกฺขนฺธภาวํ อนาคนฺตา, เหฏฺูปปตฺติโก น โหติ, อุปรูปปตฺติโก วา โหติ ตตฺเถว วา ปรินิพฺพายีติ ทสฺเสติ. อิมินา องฺเคน สมาธิกมฺมิกสฺส ภิกฺขุโน ตโย มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ.
กามานํเยว นิพฺพิทายาติ ทุวิธานมฺปิ กามานํ นิพฺพินฺทนตฺถาย อุกฺกณฺนตฺถาย. วิราคายาติ วิรชฺชนตฺถาย. นิโรธายาติ อปฺปวตฺติกรณตฺถาย. ปฏิปนฺโน โหตีติ ปฏิปตฺตึ ปฏิปนฺโน โหติ. เอตฺตาวตา โสตาปนฺนสฺส จ สกทาคามิโน จ ปฺจกามคุณิกราคกฺขยตฺถาย อนาคามิมคฺควิปสฺสนา ¶ กถิตา โหติ. ภวานํเยวาติ ติณฺณํ ภวานํ. อิมินา อนาคามิโน ภวราคกฺขยตฺถาย อรหตฺตมคฺควิปสฺสนา กถิตา โหติ. ตณฺหากฺขยาย ปฏิปนฺโน โหตีติ อิมินาปิ ¶ โสตาปนฺนสกทาคามีนํเยว ¶ ปฺจกามคุณิกตณฺหากฺขยกรณตฺถํ อนาคามิมคฺควิปสฺสนา กถิตา. โส โลภกฺขยายาติ อิมินาปิ อนาคามิโน ภวโลภกฺขยตฺถาย อรหตฺตมคฺควิปสฺสนาว กถิตา. อฺตรํ เทวนิกายนฺติ สุทฺธาวาเสสฺเวว อฺตรํ เทวนิกายํ. อนาคนฺตา อิตฺถตฺตนฺติ อิมํ ขนฺธปฺจกภาวํ อนาคนฺตา, เหฏฺูปปตฺติโก น โหติ, อุปรูปปตฺติโก วา โหติ, ตตฺเถว วา ปรินิพฺพายติ.
อิติ ปเมน องฺเคน สุกฺขวิปสฺสกสฺส ธาตุกมฺมฏฺานิกภิกฺขุโน เหฏฺิมานิ ทฺเว มคฺคผลานิ กถิตานิ, ทุติเยน สมาธิกมฺมิกสฺส ตีณิ มคฺคผลานิ, ‘‘โส กามาน’’นฺติ อิมินา โสตาปนฺนสกทาคามีนํ ปฺจกามคุณิกราคกฺขยาย อุปริ อนาคามิมคฺควิปสฺสนา, ‘‘โส ภวานํเยวา’’ติ อิมินา อนาคามิสฺส อุปริ อรหตฺตมคฺควิปสฺสนา, ‘‘โส ตณฺหากฺขยายา’’ติ อิมินา โสตาปนฺนสกทาคามีนํ ปฺจกามคุณิกตณฺหากฺขยาย อุปริ อนาคามิมคฺควิปสฺสนา, ‘‘โส โลภกฺขยายา’’ติ อิมินา อนาคามิโน ภวโลภกฺขยาย อุปริ อรหตฺตมคฺควิปสฺสนา กถิตาติ เอวํ ฉหิ มุเขหิ วิปสฺสนํ กเถตฺวา เทสนํ ยถานุสนฺธึ ปาเปสิ. เทสนาปริโยสาเน โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, โสตาปนฺนาทีนํ ปริจฺเฉโทว นาโหสิ. ยถา จ อิมสฺมึ สมาคเม, เอวํ มหาสมยสุตฺเต มงฺคลสุตฺเต จ จูฬราหุโลวาทสุตฺเต จ โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, โสตาปนฺนาทีนํ เทวมนุสฺสานํ ปริจฺเฉโท นาโหสิ.
สมจิตฺตา เทวตาติ จิตฺตสฺส สุขุมภาวสมตาย สมจิตฺตา. สพฺพาปิ หิ ตา อตฺตโน อตฺตภาเว สุขุเม จิตฺตสริกฺขเก กตฺวา มาเปสุํ. เตน สมจิตฺตา นาม ชาตา. อปเรนปิ การเณน สมจิตฺตา – ‘‘เถเรน สมาปตฺติ ตาว กถิตา, สมาปตฺติถาโม ¶ ปน น กถิโต. มยํ ทสพลํ ปกฺโกสิตฺวา สมาปตฺติยา ถามํ กถาเปสฺสามา’’ติ สพฺพาปิ เอกจิตฺตา อเหสุนฺติปิ สมจิตฺตา. อปรมฺปิ การณํ – ‘‘เถเรน เอเกน ปริยาเยน สมาปตฺติปิ สมาปตฺติถาโมปิ กถิโต, โก นุ โข อิมํ สมาคมํ สมฺปตฺโต, โก น สมฺปตฺโต’’ติ โอโลกยมานา ตถาคตสฺส อสมฺปตฺตภาวํ ทิสฺวา ‘‘มยํ ตถาคตํ ปกฺโกสิตฺวา ¶ ปริสํ ปริปุณฺณํ กริสฺสามา’’ติ สพฺพาปิ เอกจิตฺตา อเหสุนฺติปิ สมจิตฺตา. อปรมฺปิ การณํ – อนาคเต โกจิเทว ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี ¶ วา เทโว วา มนุสฺโส วา ‘‘อยํ เทสนา สาวกภาสิตา’’ติ อคารวํ กเรยฺย, สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปกฺโกสิตฺวา อิมํ เทสนํ สพฺพฺุภาสิตํ กริสฺสาม. เอวํ อนาคเต ครุภาวนียา ภวิสฺสตีติ สพฺพาว เอกจิตฺตา อเหสุนฺติปิ สมจิตฺตา. อปรมฺปิ การณํ – สพฺพาปิ หิ ตา เอกสมาปตฺติลาภินิโย วา อเหสุํ เอการมฺมณลาภินิโย วาติ เอวมฺปิ สมจิตฺตา.
หฏฺาติ ตุฏฺปหฏฺา อาโมทิตา ปโมทิตา. สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต. อนุกมฺปํ อุปาทายาติ น เถรสฺส อนุกมฺปํ การฺุํ อนุทฺทยํ ปฏิจฺจ, น จ อิมสฺมึ าเน เถรสฺส อนุกมฺปิตพฺพกิจฺจํ อตฺถิ. ยสฺมึ หิ ทิวเส เถโร สูกรขตเลณทฺวาเร ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนากมฺมฏฺาเน (ม. นิ. ๒.๒๐๖) กถิยมาเน ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา สตฺถารํ พีชมาโน ิโต ปรสฺส วฑฺฒิตโภชนํ ภฺุชิตฺวา ขุทํ วิโนเทนฺโต วิย ปรสฺส สชฺชิตปสาธนํ สีเส ปฏิมฺุจนฺโต วิย จ สาวกปารมิาณสฺส นิปฺปเทสโต มตฺถกํ ปตฺโต, ตสฺมึเยว ทิวเส ภควตา อนุกมฺปิโต นาม. อวเสสานํ ปน ตํ านํ สมฺปตฺตานํ เทวมนุสฺสานํ อนุกมฺปํ อุปาทาย คจฺฉตุ ภควาติ ภควนฺตํ ยาจึสุ.
พลวา ปุริโสติ ทุพฺพโล หิ ขิปฺปํ สมิฺชนปสารณํ ¶ กาตุํ น สกฺโกติ, พลวาว สกฺโกติ. เตเนตํ วุตฺตํ. สมฺมุเข ปาตุรโหสีติ สมฺมุขฏฺาเน ปุรโตเยว ปากโฏ อโหสิ. ภควา เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อิธ สาริปุตฺตา’’ติอาทินา นเยน อตฺตโน อาคมนการณํ อโวจ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สเจ โกจิ พาโล อกตฺู ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อุปาสโก วา อุปาสิกา วา เอวํ จินฺเตยฺย – ‘สาริปุตฺตตฺเถโร มหนฺตํ ปริสํ อลตฺถ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอตฺตกํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อุสูยาย ปริสํ อุฏฺาเปตุํ อาคโต’ติ. โส อิมํ มยิ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ. อถตฺตโน อาคมนการณํ กเถนฺโต เอตํ ‘‘อิธ สาริปุตฺตา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
เอวํ ¶ อตฺตโน อาคมนการณํ กเถตฺวา อิทานิ สมาปตฺติยา ถามํ กเถตุํ ตา โข ปน, สาริปุตฺต, เทวตา ทสปิ หุตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสวเสน วา อตฺถํ อาหริตุํ วฏฺฏติ สมาปตฺติวเสน วา. ยสวเสน ตาว มเหสกฺขา เทวตา ทส ทส เอกฏฺาเน อฏฺํสุ, ตาหิ อปฺเปสกฺขตรา วีสติ วีสติ เอกฏฺาเน อฏฺํสุ, ตาหิ อปฺเปสกฺขตรา…เป… สฏฺิ สฏฺิ เอกฏฺาเน ¶ อฏฺํสุ. สมาปตฺติวเสน ปน ยาหิ ปณีตา สมาปตฺติ ภาวิตา, ตา สฏฺิ สฏฺิ เอกฏฺาเน อฏฺํสุ. ยาหิ ตโต หีนตรา, ตา ปฺาส ปฺาส…เป… ยาหิ ตโต หีนตรา สมาปตฺติ ภาวิตา…เป… ตา ทส ทส เอกฏฺาเน อฏฺํสุ. ยาหิ วา หีนา ภาวิตา, ตา ทส ทส เอกฏฺาเน อฏฺํสุ. ยาหิ ตโต ปณีตตรา ภาวิตา, ตา วีสติ วีสติ. ยาหิ ตโต ปณีตตรา…เป… ตา สฏฺิ สฏฺิ เอกฏฺาเน อฏฺํสุ.
อารคฺคโกฏินิตุทนมตฺเตติ อารคฺคโกฏิยา ปตนมตฺเต โอกาเส. น ¶ จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ เอวํ สมฺพาเธ าเน ติฏฺนฺติโยปิ อฺมฺํ น พฺยาพาเธนฺติ น ฆฏฺเฏนฺติ, อสมฺปีฬา อสมฺพาธาว อเหสุํ. ‘‘ตว หตฺโถ มํ พาธติ, ตว ปาโท มํ พาธติ, ตฺวํ มํ มทฺทนฺตี ิตา’’ติ วตฺตพฺพการณํ นาโหสิ. ตตฺถ นูนาติ ตสฺมึ ภเว นูน. ตถาจิตฺตํ ภาวิตนฺติ เตนากาเรน จิตฺตํ ภาวิตํ. เยน ตา เทวตาติ เยน ตถาภาวิเตน จิตฺเตน ตา เทวตา ทสปิ หุตฺวา…เป… ติฏฺนฺติ, น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ. อิเธว โขติ สาสเน วา มนุสฺสโลเก วา ภุมฺมํ, อิมสฺมึเยว สาสเน อิมสฺมึเยว มนุสฺสโลเกติ อตฺโถ. ตาสฺหิ เทวตานํ อิมสฺมึเยว มนุสฺสโลเก อิมสฺมึเยว จ สาสเน ตํ จิตฺตํ ภาวิตํ, เยน ตา สนฺเต รูปภเว นิพฺพตฺตา, ตโต จ ปน อาคนฺตฺวา เอวํ สุขุเม อตฺตภาเว มาเปตฺวา ิตา. ตตฺถ กิฺจาปิ กสฺสปทสพลสฺส สาสเน ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตเทวตาปิ อตฺถิ, สพฺพพุทฺธานํ ปน เอกาว อนุสาสนี เอกํ สาสนนฺติ กตฺวา ‘‘อิเธว โข, สาริปุตฺตา’’ติ อฺพุทฺธานํ สาสนมฺปิ อิมเมว สาสนํ กโรนฺโต อาห. เอตฺตาวตา ตถาคเตน สมาปตฺติยา ถาโม กถิโต.
อิทานิ ¶ สาริปุตฺตตฺเถรํ อารพฺภ ตนฺติวเสน อนุสาสนึ กเถนฺโต ตสฺมาติห, สาริปุตฺตาติ อาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ตา เทวตา อิเธว สนฺตํ สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา สนฺเต ภเว นิพฺพตฺตา, ตสฺมา. สนฺตินฺทฺริยาติ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ สนฺตตาย นิพฺพุตตาย ปณีตตาย สนฺตินฺทฺริยา. สนฺตมานสาติ มานสสฺส สนฺตตาย นิพฺพุตตาย ปณีตตาย สนฺตมานสา. สนฺตํเยว อุปหารํ อุปหริสฺสามาติ กายจิตฺตูปหารํ สนฺตํ นิพฺพุตํ ปณีตํเยว อุปหริสฺสาม. สพฺรหฺมจารีสูติ ¶ สมานํ เอกุทฺเทสตาทึ พฺรหฺมํ จรนฺเตสุ สหธมฺมิเกสุ. เอวฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพนฺติ อิมินา เอตฺตเกน วาเรน ภควา เทสนํ สพฺพฺุภาสิตํ อกาสิ. อนสฺสุนฺติ นฏฺา ¶ วินฏฺา. เย อิมํ ธมฺมปริยายํ นาสฺโสสุนฺติ เย อตฺตโน ปาปิกํ ตุจฺฉํ นิรตฺถกํ ทิฏฺึ นิสฺสาย อิมํ เอวรูปํ ธมฺมเทสนํ โสตุํ น ลภึสูติ ยถานุสนฺธินา เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
๓๘. ฉฏฺเ วรณายํ วิหรตีติ วรณา นาม เอกํ นครํ, ตํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานเหตูติ กามราคาภินิเวสเหตุ, กามราควินิพนฺธเหตุ, กามราคปลิเคธเหตุ, กามราคปริยุฏฺานเหตุ, กามราคอชฺโฌสานเหตูติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยฺวายํ ปฺจ กามคุเณ นิสฺสาย อุปฺปชฺชติ กามราโค, ตสฺสาภินิเวสาทิเหตุ. กามราเคน อภินิวิฏฺตฺตา วินิพทฺธตฺตา ตสฺมึเยว จ กามราเค มหาปงฺเก วิย ปลิเคธตฺตา อนุปวิฏฺตฺตา เตเนว จ กามราเคน ปริยุฏฺิตตฺตา คหิตตฺตา กามราเคเนว จ อชฺโฌสิตตฺตา คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหิตตฺตาติ. ทิฏฺิราคาทิปเทสุปิ เอเสว นโย. ทิฏฺิราโคติ ปเนตฺถ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกราโค เวทิตพฺโพ. ปุรตฺถิเมสุ ชนปเทสูติ เถรสฺส วสนฏฺานโต สาวตฺถิชนปโท ปุรตฺถิมทิสาภาเค โหติ, เถโร จ นิสีทนฺโตปิ ตโตมุโขว นิสินฺโน, ตสฺมา เอวมาห. อุทานํ อุทาเนสีติ อุทาหารํ อุทาหริ. ยถา หิ ยํ เตลํ มานํ คเหตุํ น สกฺโกติ, วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ อวเสสโกติ ¶ วุจฺจติ. ยฺจ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อชฺโฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ ¶ , ตํ โอโฆติ วุจฺจติ, เอวเมวํ ยํ ปีติวจนํ หทยํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อธิกํ หุตฺวา อนฺโต อสณฺหิตฺวา พหิ นิกฺขมติ, ตํ อุทานนฺติ วุจฺจติ, เอวรูปํ ปีติมยวจนํ นิจฺฉาเรสีติ อตฺโถ.
๓๙. สตฺตเม คุนฺทาวเนติ เอวํ นามเก วเน. อุปสงฺกมีติ ‘‘มหากจฺจานตฺเถโร กิร นาม อตฺตโน ปิตุมตฺตมฺปิ อยฺยกมตฺตมฺปิ ทิสฺวา เนว อภิวาเทติ น ปจฺจุฏฺเติ น อาสเนน นิมนฺเตตี’’ติ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา เอตฺตเกน นิฏฺํ คนฺตุํ, อุปสงฺกมิตฺวา นํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ. ชิณฺเณติ ชราชิณฺเณ. วุทฺเธติ วโยวุทฺเธ. มหลฺลเกติ ชาติมหลฺลเก. อทฺธคเตติ ทีฆกาลทฺธานํ อติกฺกนฺเต. วโยอนุปฺปตฺเตติ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺเต. ตยิทํ, โภ กจฺจาน, ตเถวาติ, โภ กจฺจาน, ยํ ตํ อมฺเหหิ เกวลํ สุตเมว, ตํ อิมินา ทิฏฺเน สเมติ. ตสฺมา ตํ ตเถว, น อฺถา. น หิ ภวํ กจฺจาโน พฺราหฺมเณติ อิทํ อตฺตานํ สนฺธาย วทติ. อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย – อมฺเห เอวํ มหลฺลเก ทิสฺวา โภโต กจฺจานสฺส อภิวาทนมตฺตมฺปิ ปจฺจุฏฺานมตฺตมฺปิ ¶ อาสเนน นิมนฺตนมตฺตมฺปิ นตฺถีติ. น สมฺปนฺนเมวาติ น ยุตฺตเมว น อนุจฺฉวิกเมว.
เถโร พฺราหฺมณสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เนว วุทฺเธ ชานาติ น ทหเร, อาจิกฺขิสฺสามิสฺส วุทฺเธ จ ทหเร จา’’ติ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต อตฺถิ พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ ชานตาติ สพฺพํ เนยฺยํ ชานนฺเตน. ปสฺสตาติ ตเทว หตฺเถ ปิตํ อามลกํ วิย ปสฺสนฺเตน. วุทฺธภูมีติ เยน การเณน วุทฺโธ นาม โหติ, ตํ การณํ. ทหรภูมีติ ¶ เยน การเณน ทหโร นาม โหติ, ตํ การณํ. อาสีติโกติ อสีติวสฺสวโย. นาวุติโกติ นวุติวสฺสวโย. กาเม ปริภฺุชตีติ วตฺถุกาเม กิเลสกาเมติ ทุวิเธปิ กาเม กมนวเสน ปริภฺุชติ. กามมชฺฌาวสตีติ ทุวิเธปิ กาเม ฆเร ฆรสฺสามิโก วิย วสติ อธิวสติ. กามปริเยสนาย อุสฺสุโกติ ทุวิธานมฺปิ กามานํ ปริเยสนตฺถํ อุสฺสุกฺกมาปนฺโน. พาโล น เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ โส น เถโร พาโล มนฺโทตฺเวว คณนํ คจฺฉติ. วุตฺตํ เหตํ –
‘‘น ¶ เตน เถโร โส โหติ, เยนสฺส ปลิตํ สิโร;
ปริปกฺโก วโย ตสฺส, โมฆชิณฺโณติ วุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๖๐);
ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. สุสุกาฬเกโสติ สุฏฺุ กาฬเกโส. ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโตติ เยน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ยุวา, ตํ โยพฺพนํ ภทฺรํ ลทฺธกนฺติ ทสฺเสติ. ปเมน วยสาติ ปมวโย นาม เตตฺตึส วสฺสานิ, เตน สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ปณฺฑิโต เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล ปณฺฑิโตติ จ เถโรติ จ คณนํ คจฺฉติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ยมฺหิ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, อหึสา สํยโม ทโม;
ส เว วนฺตมโล ธีโร, เถโร อิติ ปวุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๖๑);
๔๐. อฏฺเม ¶ โจรา พลวนฺโต โหนฺตีติ ปกฺขสมฺปนฺนา, ปริวารสมฺปนฺนา, ธนสมฺปนฺนา, นิวาสฏฺานสมฺปนฺนา, วาหนสมฺปนฺนา จ โหนฺติ. ราชาโน ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ราชาโน ตาสํ สมฺปตฺตีนํ อภาเวน ทุพฺพลา โหนฺติ. อติยาตุนฺติ พหิทฺธา ชนปทจาริกํ ¶ จริตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ อนฺโตนครํ ปวิสิตุํ. นิยฺยาตุนฺติ ‘‘โจรา ชนปทํ วิลุมฺปนฺติ มทฺทนฺติ, เต นิเสเธสฺสามา’’ติ ปมยาเม วา มชฺฌิมยาเม วา ปจฺฉิมยาเม วา นิกฺขมิตุํ ผาสุกํ น โหติ. ตโต อุฏฺาย โจรา มนุสฺเส โปเถตฺวา อจฺฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อนุสฺาตุนฺติ คามํ วาสกรณตฺถาย เสตุํ อตฺถรณตฺถาย โปกฺขรณึ ขณาปนตฺถาย สาลาทีนํ กรณตฺถาย ปจฺจนฺติเม ชนปเท อนุสฺาตุมฺปิ น สุขํ โหติ. พฺราหฺมณคหปติกานนฺติ อนฺโตนครวาสีนํ พฺราหฺมณคหปติกานํ. พาหิรานิ วา กมฺมนฺตานีติ พหิคาเม อาราเม เขตฺตกมฺมนฺตานิ. ปาปภิกฺขู พลวนฺโต โหนฺตีติ ปกฺขุตฺตรา ยสุตฺตรา ปฺุวนฺโต พหุเกหิ อุปฏฺาเกหิ จ อุปฏฺากีหิ จ สมนฺนาคตา ราชราชมหามตฺตสนฺนิสฺสิตา. เปสลา ภิกฺขู ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ปิยสีลา ภิกฺขู ตาสํ สมฺปตฺตีนํ อภาเวน ทุพฺพลา โหนฺติ. ตุณฺหีภูตา ตุณฺหีภูตาว สงฺฆมชฺเฌ สงฺกสายนฺตีติ ¶ นิสฺสทฺทา หุตฺวา สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺนา กิฺจิ เอกวจนมฺปิ มุขํ อุกฺขิปิตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺตา ปชฺฌายนฺตา วิย นิสีทนฺติ. ตยิทนฺติ ¶ ตเทตํ การณํ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ.
๔๑. นวเม มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตูติ มิจฺฉาปฏิปตฺติยา การณเหตุ ปฏิปชฺชนเหตูติ อตฺโถ. ายํ ธมฺมํ กุสลนฺติ สหวิปสฺสนกํ มคฺคํ. เอวรูโป หิ สหวิปสฺสนกํ มคฺคํ อาราเธตุํ สมฺปาเทตุํ ปูเรตุํ น สกฺโกติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ สุตฺเต สห วิปสฺสนาย มคฺโค กถิโต.
๔๒. ทสเม ทุคฺคหิเตหีติ อุปฺปฏิปาฏิยา คหิเตหิ. พฺยฺชนปฺปติรูปเกหีติ พฺยฺชนโส ปติรูปเกหิ อกฺขรจิตฺรตาย ลทฺธเกหิ. อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปฏิพาหนฺตีติ สุคฺคหิตสุตฺตนฺตานํ อตฺถฺจ ปาฬิฺจ ปฏิพาหนฺติ, อตฺตโน ทุคฺคหิตสุตฺตนฺตานํเยว อตฺถฺจ ปาฬิฺจ อุตฺตริตรํ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ สุตฺเต สาสนสฺส วุทฺธิ จ ปริหานิ จ กถิตาติ.
สมจิตฺตวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. ปริสวคฺควณฺณนา
๔๓. ปฺจมสฺส ¶ ปเม อุตฺตานาติ ปากฏา อปฺปฏิจฺฉนฺนา. คมฺภีราติ คุฬฺหา ปฏิจฺฉนฺนา. อุทฺธตาติ อุทฺธจฺเจน สมนฺนาคตา. อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา, อุฏฺิตตุจฺฉมานาติ วุตฺตํ โหติ. จปลาติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺตา. มุขราติ มุขขรา ขรวจนา. วิกิณฺณวาจาติ อสํยตวจนา ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปลาปิโน. มุฏฺสฺสตีติ ¶ วิสฺสฏฺสติโน. อสมฺปชานาติ นิปฺปฺา. อสมาหิตาติ จิตฺเตกคฺคตามตฺตสฺสาปิ อลาภิโน. ปากตินฺทฺริยาติ ปกติยา ิเตหิ วิวเฏหิ อรกฺขิเตหิ อินฺทฺริเยหิ สมนฺนาคตา. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ.
๔๔. ทุติเย ¶ ภณฺฑนชาตาติ ภณฺฑนํ วุจฺจติ กลหสฺส ปุพฺพภาโค, ตํ เตสํ ชาตนฺติ ภณฺฑนชาตา. ตถา ‘‘มยํ ตุมฺเห ทณฺฑาเปสฺสาม พนฺธาเปสฺสามา’’ติอาทิวจนปฺปวตฺติยา สฺชาตกลหา. อยํ ตาว คิหีสุ นโย. ปพฺพชิตา ปน อาปตฺติวีติกฺกมวาจํ วทนฺตา กลหชาตา นาม. วิวาทาปนฺนาติ วิรุทฺธวาทํ อาปนฺนา. มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตาติ คุณานํ ฉินฺทนฏฺเน ทุพฺภาสิตา วาจา มุขสตฺติโยติ วุจฺจนฺติ, ตาหิ วิตุทนฺตา วิชฺฌนฺตา. สมคฺคาติ เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส สมสิกฺขตาติ เอเตสํ กรเณน สมคฺคตาย สหิตา. ปิยจกฺขูหีติ เมตฺตาจกฺขูหิ.
๔๕. ตติเย อคฺควตีติ อุตฺตมปุคฺคลวตี, อคฺคาย วา อุตฺตมาย ปฏิปตฺติยา สมนฺนาคตา. ตโต วิปรีตา อนคฺควตี. พาหุลิกาติ จีวราทิพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา. สาสนํ สิถิลํ คณฺหนฺตีติ สาถลิกา. โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมาติ เอตฺถ โอกฺกมนํ วุจฺจติ อวคมนฏฺเน ปฺจ นีวรณานิ, เตน ปฺจนีวรณปูรเณ ปุพฺพงฺคมาติ วุตฺตํ โหติ. ปวิเวเกติ อุปธิวิเวเก นิพฺพาเน. นิกฺขิตฺตธุราติ ติวิเธปิ วิเวเก โอโรปิตธุรา. น วีริยํ อารภนฺตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ น กโรนฺติ. อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ ปุพฺเพ อปฺปตฺตสฺส ฌานวิปสฺสนามคฺคผลวิเสสสฺส ปตฺติอตฺถาย. อิตรํ ¶ ปททฺวยํ ตสฺเสว เววจนํ. ปจฺฉิมา ชนตาติ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกชโน ¶ . ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชตีติ อาจริยุปชฺฌาเยหิ กตํ อนุกโรนฺโต ทิฏฺสฺส เตสํ อาจารสฺส อนุคตึ อาปชฺชติ นาม. เสสํ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ.
๔๖. จตุตฺเถ อริยาติ อริยสาวกปริสา. อนริยาติ ปุถุชฺชนปริสา. ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺตีติ เปตฺวา ตณฺหํ เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ นาม, เอตฺตกเมว ทุกฺขํ, อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ นตฺถีติ ยถาสภาวโต นปฺปชานนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เสสปเทสุ ปน ตสฺส ทุกฺขสฺส สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทโย นาม, ตสฺสาเยว ตณฺหาย, ทฺวินฺนมฺปิ วา เตสํ สจฺจานํ อจฺจนฺตกฺขโย อสมุปฺปตฺติ ทุกฺขนิโรโธ นาม, อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา นามาติ ¶ เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต จตูหิ สจฺเจหิ จตฺตาโร มคฺคา จ จตฺตาริ จ ผลานิ กถิตานิ.
๔๗. ปฺจเม ปริสากสโฏติ กสฏปริสา กจวรปริสา ปลาปปริสาติ อตฺโถ. ปริสามณฺโฑติ ปสนฺนปริสา สารปริสาติ อตฺโถ. ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺตีติ ฉนฺเทน อคตึ คจฺฉนฺติ, อกตฺตพฺพํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิมานิ ปน จตฺตาริ อคติคมนานิ ภณฺฑภาชนีเย จ วินิจฺฉยฏฺาเน จ ลพฺภนฺติ. ตตฺถ ภณฺฑภาชนีเย ตาว อตฺตโน ภารภูตานํ ภิกฺขูนํ อมนาเป ภณฺฑเก ปตฺเต ตํ ปริวตฺเตตฺวา มนาปํ เทนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อตฺตโน ปน อภารภูตานํ มนาเป ภณฺฑเก ปตฺเต ตํ ปริวตฺเตตฺวา อมนาปํ เทนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. ภณฺฑกภาชนียวตฺถฺุจ ิติกฺจ อชานนฺโต โมหาคตึ ¶ คจฺฉติ นาม. มุขรานํ วา ราชาทินิสฺสิตานํ วา ‘‘อิเม เม อมนาเป ภณฺฑเก ทินฺเน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยุ’’นฺติ ภเยน ปริวตฺเตตฺวา มนาปํ เทนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน เอวํ น คจฺฉติ, สพฺเพสํ ตุลาภูโต ปมาณภูโต มชฺฌตฺโต หุตฺวา ยํ ยสฺส ปาปุณาติ, ตฺเว ตสฺส เทติ, อยํ จตุพฺพิธมฺปิ อคติคมนํ น คจฺฉติ นาม. วินิจฺฉยฏฺาเน ปน อตฺตโน ภารภูตสฺส ครุกาปตฺตึ ลหุกาปตฺตีติ กตฺวา กเถนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อิตรสฺส ลหุกาปตฺตึ ครุกาปตฺตีติ กตฺวา กเถนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. อาปตฺติวุฏฺานํ ปน สมุจฺจยกฺขนฺธกฺจ อชานนฺโต โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. มุขรสฺส วา ราชปูชิตสฺส วา ‘‘อยํ เม ครุกํ กตฺวา อาปตฺตึ กเถนฺตสฺส อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ครุกเมว ลหุกาติ กตฺวา กเถนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน สพฺเพสํ ยถาภูตเมว กเถติ, อยํ จตุพฺพิธมฺปิ อคติคมนํ น คจฺฉติ นาม.
๔๘. ฉฏฺเ ¶ โอกฺกาจิตวินีตาติ ทุพฺพินีตา. โน ปฏิปุจฺฉาวินีตาติ น ปุจฺฉิตฺวา วินีตา. คมฺภีราติ ปาฬิวเสน คมฺภีรา สลฺลสุตฺตสทิสา. คมฺภีรตฺถาติ อตฺถวเสน คมฺภีรา มหาเวทลฺลสุตฺตสทิสา. โลกุตฺตราติ โลกุตฺตรอตฺถทีปกา ¶ . สฺุตาปฏิสํยุตฺตาติ สตฺตสฺุํ ธมฺมมตฺตเมว ปกาสกา อสงฺขตสํยุตฺตสทิสา. น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺตีติ วิชานนตฺถาย จิตฺตํ น อุปฏฺเปนฺติ, นิทฺทายนฺติ วา อฺวิหิตา วา โหนฺติ. อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพนฺติ อุคฺคเหตพฺเพ จ ปริยาปุณิตพฺเพ จ. กวิตาติ ¶ กวีหิ กตา. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. จิตฺตกฺขราติ วิจิตฺรอกฺขรา. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. พาหิรกาติ สาสนโต พหิภูตา. สาวกภาสิตาติ เตสํ เตสํ สาวเกหิ ภาสิตา. สุสฺสูสนฺตีติ อกฺขรจิตฺตตาย เจว สรสมฺปตฺติยา จ อตฺตมนา หุตฺวา สุณนฺติ. น เจว อฺมฺํ ปฏิปุจฺฉนฺตีติ อฺมฺํ อตฺถํ วา อนุสนฺธึ วา ปุพฺพาปรํ วา น ปุจฺฉนฺติ. น จ ปฏิวิจรนฺตีติ ปุจฺฉนตฺถาย จาริกํ น วิจรนฺติ. อิทํ กถนฺติ อิทํ พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพํ กินฺติ โรเปตพฺพํ? อิมสฺส โก อตฺโถติ อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถ, กา อนุสนฺธิ, กึ ปุพฺพาปรํ? อวิวฏนฺติ ปฏิจฺฉนฺนํ. น วิวรนฺตีติ น อุคฺฆาเฏนฺติ. อนุตฺตานีกตนฺติ อปากฏํ กตํ. น อุตฺตานึ กโรนฺตีติ ปากฏํ น กโรนฺติ. กงฺขาานิเยสูติ กงฺขาย การณภูเตสุ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ.
๔๙. สตฺตเม อามิสครูติ จตุปจฺจยครุกา โลกุตฺตรธมฺมํ ลามกโต คเหตฺวา ิตปริสา. สทฺธมฺมครูติ นว โลกุตฺตรธมฺเม ครุเก กตฺวา จตฺตาโร ปจฺจเย ลามกโต คเหตฺวา ิตปริสา. อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต. ปฺาวิมุตฺโตติ ปฺาย วิมุตฺโต สุกฺขวิปสฺสกขีณาสโว. กายสกฺขีติ กาเยน ฌานผสฺสํ ผุสิตฺวา ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา ิโต. ทิฏฺิปฺปตฺโตติ ¶ ทิฏฺนฺตํ ปตฺโต. อิเม ทฺเวปิ ฉสุ าเนสุ ลพฺภนฺติ. สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺทหนฺโต วิมุตฺโต. อยมฺปิ ฉสุ าเนสุ ลพฺภติ. ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. สทฺธํ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี. อิเม ทฺเวปิ ปมมคฺคสมงฺคิโน. กลฺยาณธมฺโมติ สุนฺทรธมฺโม. ทุสฺสีโล ปาปธมฺโมติ นิสฺสีโล ลามกธมฺโม. อิมํ กสฺมา คณฺหนฺติ? สพฺเพสุ หิ เอกสทิเสสุ ชาเตสุ ¶ สีลวนฺเตสุ พลวคารวํ น โหติ, เอกจฺเจสุ ปน ทุสฺสีเลสุ สติ สีลวนฺตานํ อุปริ พลวคารวํ โหตีติ มฺนฺตา คณฺหนฺติ. เต เตน ลาภํ ลภนฺตีติ เต ภิกฺขู เอกจฺจานํ วณฺณํ เอกจฺจานํ อวณฺณํ กเถตฺวา จตฺตาโร ปจฺจเย ลภนฺติ. คถิตาติ ตณฺหาย คนฺถิตา. มุจฺฉิตาติ ตณฺหาวเสเนว มุจฺฉิตา. อชฺโฌปนฺนาติ อชฺโฌสาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ¶ ิตา. อนาทีนวทสฺสาวิโนติ อปจฺจเวกฺขิตปริโภเค อาทีนวํ อปสฺสนฺตา. อนิสฺสรณปฺาติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ฉนฺทราคอปกฑฺฒนาย นิสฺสรณปฺาย วิรหิตา อิทมตฺถํ เอตนฺติ อชานนฺตา. ปริภฺุชนฺตีติ สจฺฉนฺทราคา หุตฺวา ปริภฺุชนฺติ.
สุกฺกปกฺเข อุภโตภาควิมุตฺโตติอาทีสุ อยํ สตฺตนฺนมฺปิ อริยปุคฺคลานํ สงฺเขปปกาสนา – เอโก ภิกฺขุ ปฺาธุเรน อภินิวิฏฺโ อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ ธมฺมานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ กายสกฺขิ นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ อุภโตภาควิมุตฺโต นาม. สมาปตฺตีหิ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา มคฺเคน สมุจฺเฉทวิมุตฺติยาติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ทฺวีหิ วา ภาเคหิ วิมุตฺโตติ อตฺโถ. อปโร ปฺาธุเรน อภินิวิฏฺโ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตุํ ¶ อสกฺโกนฺโต สุกฺขวิปสฺสโกว หุตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ ธมฺมานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ ปฺาวิมุตฺโต นาม. อปโร สทฺธาธุเรน อภินิวิฏฺโ อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ สทฺธานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ กายสกฺขิ นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ อุภโตภาควิมุตฺโต นาม. อปโร สทฺธาธุเรน อภินิวิฏฺโ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต สุกฺขวิปสฺสโกว หุตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปาปุณาติ. โส ตสฺมึ ขเณ สทฺธานุสารี นาม โหติ, โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต นาม, อรหตฺตผลกฺขเณ ปฺาวิมุตฺโต นาม.
๕๐. อฏฺเม วิสมาติ สปกฺขลนฏฺเน วิสมา. สมาติ นิปกฺขลนฏฺเน สมา. อธมฺมกมฺมานีติ อุทฺธมฺมานิ กมฺมานิ. อวินยกมฺมานีติ อุพฺพินยานิ กมฺมานิ.
๕๑. นวเม ¶ อธมฺมิกาติ นิทฺธมฺมา. ธมฺมิกาติ ธมฺมยุตฺตา.
๕๒. ทสเม อธิกรณนฺติ วิวาทาธิกรณาทิจตุพฺพิธํ อธิกรณํ. อาทิยนฺตีติ คณฺหนฺติ. สฺาเปนฺตีติ ชานาเปนฺติ. น จ สฺตฺตึ อุปคจฺฉนฺตีติ สฺาปนตฺถํ น สนฺนิปตนฺติ. น จ นิชฺฌาเปนฺตีติ น เปกฺขาเปนฺติ. น จ นิชฺฌตฺตึ อุปคจฺฉนฺตีติ อฺมฺํ นิชฺฌาปนตฺถาย น สนฺนิปตนฺติ. อสฺตฺติพลาติ อสฺตฺติเยว พลํ เอเตสนฺติ อสฺตฺติพลา ¶ . อปฺปฏินิสฺสคฺคมนฺติโนติ เยสํ หิ เอวํ โหติ – ‘‘สเจ อมฺเหหิ คหิตํ อธิกรณํ ธมฺมิกํ ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสาม. สเจ อธมฺมิกํ, วิสฺสชฺเชสฺสามา’’ติ, เต ปฏินิสฺสคฺคมนฺติโน นาม ¶ โหนฺติ. อิเม ปน น ตถา มนฺเตนฺตีติ อปฺปฏินิสฺสคฺคมนฺติโน. ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺสาติ ทิฏฺิถาเมน จ ทิฏฺิปรามาเสน จ อภินิวิสิตฺวา. อิทเมว สจฺจนฺติ อิทํ อมฺหากํ วจนเมว สจฺจํ. โมฆมฺนฺติ อวเสสานํ วจนํ โมฆํ ตุจฺฉํ. สุกฺกปกฺโข อุตฺตานตฺโถเยวาติ.
ปริสวคฺโค ปฺจโม.
ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
(๖) ๑. ปุคฺคลวคฺควณฺณนา
๕๓. ทุติยปณฺณาสกสฺส ¶ ¶ ปเม จกฺกวตฺตินา สทฺธึ คหิตตฺตา ‘‘โลกานุกมฺปายา’’ติ น วุตฺตํ. เอตฺถ จ จกฺกวตฺติโน อุปฺปตฺติยา ทฺเว สมฺปตฺติโย ลภนฺติ, พุทฺธานํ อุปฺปตฺติยา ติสฺโสปิ.
๕๔. ทุติเย อจฺฉริยมนุสฺสาติ อาจิณฺณมนุสฺสา อพฺภุตมนุสฺสา.
๕๕. ตติเย พหุโน ชนสฺส อนุตปฺปา โหตีติ มหาชนสฺส อนุตาปการี โหติ. ตตฺถ จกฺกวตฺติโน กาลกิริยา เอกจกฺกวาเฬ เทวมนุสฺสานํ อนุตาปํ กโรติ, ตถาคตสฺส กาลกิริยา ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ.
๕๖. จตุตฺเถ ถูปารหาติ ถูปสฺส ยุตฺตา อนุจฺฉวิกา. จกฺกวตฺติโน หิ เจติยํ ปฏิชคฺคิตฺวา ทฺเว สมฺปตฺติโย ลภนฺติ, พุทฺธานํ เจติยํ ปฏิชคฺคิตฺวา ติสฺโสปิ.
๕๗. ปฺจเม พุทฺธาติ อตฺตโน อานุภาเวน จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺธา.
๕๘. ฉฏฺเ ผลนฺติยาติ สทฺทํ กโรนฺติยา. น สนฺตสนฺตีติ น ภายนฺติ. ตตฺถ ขีณาสโว อตฺตโน สกฺกายทิฏฺิยา ปหีนตฺตา น ภายติ, หตฺถาชานีโย สกฺกายทิฏฺิยา พลวตฺตาติ. สตฺตมฏฺเมสุปิ ¶ เอเสว นโย.
๖๑. นวเม กึปุริสาติ กินฺนรา. มานุสึ วาจํ น ภาสนฺตีติ มนุสฺสกถํ น กเถนฺติ. ธมฺมาโสกสฺส กิร เอกํ กินฺนรํ อาเนตฺวา ทสฺเสสุํ. โส ‘‘กถาเปถ น’’นฺติ อาห. กินฺนโร กเถตุํ ¶ น อิจฺฉติ. เอโก ปุริโส ‘‘อหเมตํ กถาเปสฺสามี’’ติ เหฏฺาปาสาทํ โอตาเรตฺวา ทฺเว ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา อุกฺขลึ อาโรเปสิ. สา อุภโตปสฺเสหิ ปตติ. ตํ ทิสฺวา กินฺนโร ‘‘กึ อฺํ เอกํ ขาณุกํ โกฏฺเฏตุํ ¶ น วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกเมว อาห. ปุน อปรภาเค ทฺเว กินฺนเร อาเนตฺวา ทสฺเสสุํ. ราชา ‘‘กถาเปถ เน’’ติ อาห. เต กเถตุํ น อิจฺฉึสุ. เอโก ปุริโส ‘‘อหเมเต กถาเปสฺสามี’’ติ เต คเหตฺวา อนฺตราปณํ อคมาสิ. ตตฺเถโก อมฺพปกฺกฺจ มจฺเฉ จ อทฺทส, เอโก กพิฏฺผลฺจ อมฺพิลิกาผลฺจ. ตตฺถ ปุริโม ‘‘มหาวิสํ มนุสฺสา ขาทนฺติ, กถํ เต กิลาสิโน น โหนฺตี’’ติ อาห. อิตโร ‘‘กถํ อิเม เอตํ นิสฺสาย กุฏฺิโน น โหนฺตี’’ติ อาห. เอวํ มานุสึ วาจํ กเถตุํ สกฺโกนฺตาปิ ทฺเว อตฺเถ สมฺปสฺสมานา น กเถนฺตีติ.
๖๒. ทสเม อปฺปฏิวาโนติ อนุกณฺิโต อปจฺโจสกฺกิโต.
๖๓. เอกาทสเม อสนฺตสนฺนิวาสนฺติ อสปฺปุริสานํ สนฺนิวาสํ. น วเทยฺยาติ โอวาเทน วา อนุสาสนิยา วา น วเทยฺย, มา วทตูติ อตฺโถ. เถรมฺปาหํ น วเทยฺยนฺติ อหมฺปิ เถรํ ภิกฺขุํ โอวาทานุสาสนิวเสน น วเทยฺยํ. อหิตานุกมฺปีติ อหิตํ อิจฺฉมาโน. โน หิตานุกมฺปีติ หิตํ อนิจฺฉมาโน. โนติ นํ วเทยฺยนฺติ ‘‘อหํ ตว วจนํ น กริสฺส’’นฺติ นํ วเทยฺยํ. วิเหเยฺยนฺติ วจนสฺส อกรเณน วิเหเยฺยํ. ปสฺสมฺปิสฺส ¶ นปฺปฏิกเรยฺยนฺติ ปสฺสนฺโตปิ ชานนฺโตปิ อหํ ตสฺส วจนํ น กเรยฺยํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สุกฺกปกฺเข ปน สาธูติ นํ วเทยฺยนฺติ ‘‘สาธุ ภทฺทกํ สุกถิตํ ตยา’’ติ ตสฺส กถํ อภินนฺทนฺโต นํ วเทยฺยนฺติ อตฺโถ.
๖๔. ทฺวาทสเม อุภโต วจีสํสาโรติ ทฺวีสุปิ ปกฺเขสุ อฺมฺํ อกฺโกสนปจฺจกฺโกสนวเสน สํสรมานา วาจา วจีสํสาโร. ทิฏฺิปฬาโสติ ทิฏฺึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส ทิฏฺิปฬาโส นาม. เจตโส อาฆาโตติ โกโป. โส หิ จิตฺตํ อาฆาเตนฺโต อุปฺปชฺชติ. อปฺปจฺจโยติ อตุฏฺากาโร, โทมนสฺสนฺติ อตฺโถ. อนภิรทฺธีติ โกโปเยว. โส หิ อนภิราธนวเสน อนภิรทฺธีติ วุจฺจติ. อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตํ โหตีติ สพฺพมฺเปตํ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาเต ¶ อตฺตโน จิตฺเต จ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกสงฺขาตาย ¶ อตฺตโน ปริสาย จ อวูปสนฺตํ โหติ. ตสฺเมตนฺติ ตสฺมึ เอตํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
ปุคฺคลวคฺโค ปโม.
(๗) ๒. สุขวคฺควณฺณนา
๖๕. ทุติยสฺส ¶ ปเม คิหิสุขนฺติ คิหีนํ สพฺพกามนิปฺผตฺติมูลกํ สุขํ. ปพฺพชิตสุขนฺติ ปพฺพชิตานํ ปพฺพชฺชามูลกํ สุขํ.
๖๖. ทุติเย กามสุขนฺติ กาเม อารพฺภ อุปฺปชฺชนกสุขํ. เนกฺขมฺมสุขนฺติ เนกฺขมฺมํ วุจฺจติ ปพฺพชฺชา, ตํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกสุขํ.
๖๗. ตติเย ¶ อุปธิสุขนฺติ เตภูมกสุขํ. นิรุปธิสุขนฺติ โลกุตฺตรสุขํ.
๖๘. จตุตฺเถ สาสวสุขนฺติ อาสวานํ ปจฺจยภูตํ วฏฺฏสุขํ. อนาสวสุขนฺติ เตสํ อปจฺจยภูตํ วิวฏฺฏสุขํ.
๖๙. ปฺจเม สามิสนฺติ สํกิเลสํ วฏฺฏคามิสุขํ. นิรามิสนฺติ นิกฺกิเลสํ วิวฏฺฏคามิสุขํ.
๗๐. ฉฏฺเ อริยสุขนฺติ อปุถุชฺชนสุขํ. อนริยสุขนฺติ ปุถุชฺชนสุขํ.
๗๑. สตฺตเม กายิกนฺติ กายวิฺาณสหชาตํ. เจตสิกนฺติ มโนทฺวาริกสุขํ. ตํ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ กถิตํ.
๗๒. อฏฺเม สปฺปีติกนฺติ ปมทุติยชฺฌานสุขํ. นิปฺปีติกนฺติ ตติยจตุตฺถชฺฌานสุขํ. ตตฺถ โลกิยสปฺปีติกโต โลกิยนิปฺปีติกํ, โลกุตฺตรสปฺปีติกโต จ โลกุตฺตรนิปฺปีติกํ อคฺคนฺติ เอวํ ภุมฺมนฺตรํ อภินฺทิตฺวา อคฺคภาโว เวทิตพฺโพ.
๗๓. นวเม ¶ สาตสุขนฺติ ตีสุ ฌาเนสุ สุขํ. อุเปกฺขาสุขนฺติ จตุตฺถชฺฌานสุขํ.
๗๔. ทสเม ¶ สมาธิสุขนฺติ อปฺปนํ วา อุปจารํ วา ปตฺตสุขํ. อสมาธิสุขนฺติ ตทุภยํ อปฺปตฺตสุขํ.
๗๕. เอกาทสเม สปฺปีติการมฺมณนฺติ สปฺปีติกํ ฌานทฺวยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนสุขํ. นิปฺปีติการมฺมเณปิ เอเสว นโย. ทฺวาทสเมปิ อิมินาว อุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๗๗. เตรสเม รูปารมฺมณนฺติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานารมฺมณํ, ยํกิฺจิ รูปํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกํ วา. อรูปารมฺมณนฺติ อรูปาวจรชฺฌานารมฺมณํ, ยํกิฺจิ อรูปํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกํ วาติ.
สุขวคฺโค ทุติโย.
(๘) ๓. สนิมิตฺตวคฺควณฺณนา
๗๘-๗๙. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม สนิมิตฺตาติ สการณา. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. นิทานํ เหตุ สงฺขาโร ปจฺจโย รูปนฺติ สพฺพานิปิ หิ เอตานิ การณเววจนาเนว.
๘๔. สตฺตเม สเวทนาติ ปจฺจยภูตาย สมฺปยุตฺตเวทนาย สติเยว อุปฺปชฺชนฺติ, นาสตีติ อตฺโถ. อฏฺมนวเมสุปิ เอเสว นโย.
๘๗. ทสเม สงฺขตารมฺมณาติ ปจฺจยนิพฺพตฺตํ สงฺขตธมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวาว อุปฺปชฺชนฺติ. โน อสงฺขตารมฺมณาติ อสงฺขตํ ปน นิพฺพานํ อารพฺภ น อุปฺปชฺชนฺติ. น โหนฺตีติ มคฺคกฺขเณ น โหนฺติ นาม, ผเล ปตฺเต นาเหสุนฺติ. เอวเมเตสุ ทสสุปิ าเนสุ ยาว อรหตฺตา เทสนา เทสิตาติ.
สนิมิตฺตวคฺโค ตติโย.
(๙) ๔. ธมฺมวคฺควณฺณนา
๘๘. จตุตฺถสฺส ¶ ¶ ปเม เจโตวิมุตฺตีติ ผลสมาธิ. ปฺาวิมุตฺตีติ ผลปฺา.
๘๙. ทุติเย ปคฺคาโหติ วีริยํ. อวิกฺเขโปติ จิตฺเตกคฺคตา.
๙๐. ตติเย นามนฺติ จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา. รูปนฺติ รูปกฺขนฺโธ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ธมฺมโกฏฺาสปริจฺเฉทาณํ นาม กถิตํ.
๙๑. จตุตฺเถ วิชฺชาติ ผลาณํ. วิมุตฺตีติ ตํสมฺปยุตฺตา เสสธมฺมา.
๙๒. ปฺจเม ภวทิฏฺีติ สสฺสตทิฏฺิ. วิภวทิฏฺีติ อุจฺเฉททิฏฺิ. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๙๕. อฏฺเม โทวจสฺสตาติ ทุพฺพจภาโว. ปาปมิตฺตตาติ ปาปมิตฺตเสวนภาโว. นวมํ ¶ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพํ.
๙๗. ทสเม ธาตุกุสลตาติ อฏฺารส ธาตุโย ธาตูติ ชานนํ. มนสิการกุสลตาติ ตาสํเยว ธาตูนํ อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา ชานนํ.
๙๘. เอกาทสเม อาปตฺติกุสลตาติ ปฺจนฺนฺจ สตฺตนฺนฺจ อาปตฺติกฺขนฺธานํ ชานนํ. อาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ เทสนาย วา กมฺมวาจาย วา อาปตฺตีหิ วุฏฺานชานนนฺติ.
ธมฺมวคฺโค จตุตฺโถ.
(๑๐) ๕. พาลวคฺควณฺณนา
๙๙. ปฺจมสฺส ¶ ปเม อนาคตํ ภารํ วหตีติ ‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ, ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท, ปาติโมกฺขํ เถรภาโรติ วุจฺจตี’’ติ อิมํ ทสวิธํ เถรภารํ นวโก หุตฺวา ¶ เถเรน อนชฺฌิฏฺโ กโรนฺโต อนาคตํ ภารํ วหติ นาม. อาคตํ ภารํ น วหตีติ เถโร สมาโน ตเมว ทสวิธํ ภารํ อตฺตนา วา อกโรนฺโต ปรํ วา อสมาทเปนฺโต อาคตํ ภารํ น วหติ นาม. ทุติยสุตฺเตปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๐๑. ตติเย อกปฺปิเย กปฺปิยสฺีติ อกปฺปิเย สีหมํสาทิมฺหิ ‘‘กปฺปิยํ อิท’’นฺติ เอวํสฺี. กปฺปิเย อกปฺปิยสฺีติ กุมฺภีลมํสพิฬารมํสาทิมฺหิ กปฺปิเย ‘‘อกปฺปิยํ อิท’’นฺติ เอวํสฺี. จตุตฺถํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๑๐๓. ปฺจเม อนาปตฺติยา อาปตฺติสฺีติ อาปุจฺฉิตฺวา ภณฺฑกํ โธวนฺตสฺส, ปตฺตํ ปจนฺตสฺส, เกเส ฉินฺทนฺตสฺส, คามํ ปวิสนฺตสฺสาติอาทีสุ อนาปตฺติ, ตตฺถ ‘‘อาปตฺติ อย’’นฺติ เอวํสฺี. อาปตฺติยา อนาปตฺติสฺีติ เตสฺเว วตฺถูนํ อนาปุจฺฉากรเณ อาปตฺติ, ตตฺถ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ เอวํสฺี. ฉฏฺเปิ ¶ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สตฺตมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๑๐๙. เอกาทสเม อาสวาติ กิเลสา. น กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ สงฺฆโภคสฺส อปฏฺปนํ อวิจารณํ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ นาม, ตํ กุกฺกุจฺจายติ. กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ ตสฺเสว ปฏฺปนํ วิจารณํ, ตํ น กุกฺกุจฺจายติ. ทฺวาทสมาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ.
พาลวคฺโค ปฺจโม.
ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๓. ตติยปณฺณาสกํ
(๑๑) ๑. อาสาทุปฺปชหวคฺควณฺณนา
๑๑๙. ตติยสฺส ¶ ¶ ปณฺณาสกสฺส ปเม อาสาติ ตณฺหา. ทุปฺปชหาติ ทุจฺจชา ทุนฺนีหรา. ลาภาสาย ทุปฺปชหภาเวน สตฺตา ทสปิ วสฺสานิ วีสติปิ สฏฺิปิ วสฺสานิ ‘‘อชฺช ลภิสฺสาม, สฺเว ลภิสฺสามา’’ติ ราชานํ อุปฏฺหนฺติ, กสิกมฺมาทีนิ กโรนฺติ, อุภโตพฺยูฬฺหํ สงฺคามํ ปกฺขนฺทนฺติ, อชปถสงฺกุปถาทโย ปฏิปชฺชนฺติ, นาวาย มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ชีวิตาสาย ทุปฺปชหตฺตา สมฺปตฺเต มรณกาเลปิ วสฺสสตชีวึ อตฺตานํ มฺนฺติ. โส กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทีนิ ปสฺสนฺโตปิ ‘‘ทานํ เทหิ ปูชํ, กโรหี’’ติ อนุกมฺปเกหิ วุจฺจมาโน ‘‘นาหํ มริสฺสามิ, ชีวิสฺสามิ’’จฺเจว อาสาย กสฺสจิ วจนํ น คณฺหาติ.
๑๒๐. ทุติเย ปุพฺพการีติ ปมํ อุปการสฺส การโก. กตฺูกตเวทีติ เตน กตํ ตฺวา ปจฺฉา การโก. เตสุ ปุพฺพการี ‘‘อิณํ เทมี’’ติ สฺํ กโรติ, ปจฺฉา การโก ‘‘อิณํ ชีราเปมี’’ติ สฺํ กโรติ.
๑๒๑. ตติเย ติตฺโต จ ตปฺเปตา จาติ ปจฺเจกพุทฺโธ จ ตถาคตสาวโก จ ขีณาสโว ติตฺโต นาม, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ติตฺโต จ ตปฺเปตา จ.
๑๒๒. จตุตฺเถ ทุตฺตปฺปยาติ ทายเกน ทุตฺตปฺปยา ตปฺเปตุํ น สุกรา. นิกฺขิปตีติ ¶ นิทหติ น ปริภฺุชติ. วิสฺสชฺเชตีติ ปเรสํ เทติ.
๑๒๓. ปฺจเม น วิสฺสชฺเชตีติ สพฺพํเยว ปเรสํ น เทติ, อตฺตโน ปน ยาปนมตฺตํ คเหตฺวา อวเสสํ เทติ.
๑๒๔. ฉฏฺเ ¶ สุภนิมิตฺตนฺติ อิฏฺารมฺมณํ.
๑๒๕. สตฺตเม ¶ ปฏิฆนิมิตฺตนฺติ อนิฏฺนิมิตฺตํ.
๑๒๖. อฏฺเม ปรโต จ โฆโสติ ปรสฺส สนฺติกา อสฺสทฺธมฺมสวนํ.
๑๒๗. นวเม ปรโต จ โฆโสติ ปรสฺส สนฺติกา สทฺธมฺมสวนํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อาสาทุปฺปชหวคฺโค ปโม.
(๑๒) ๒. อายาจนวคฺควณฺณนา
๑๓๑. ทุติยสฺส ¶ ปเม เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺยาติ สทฺโธ ภิกฺขุ อุฏฺหิตฺวา ‘‘ยาทิโส สาริปุตฺตตฺเถโร ปฺาย, อหมฺปิ ตาทิโส โหมิ. ยาทิโส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อิทฺธิยา, อหมฺปิ ตาทิโส โหมี’’ติ เอวํ อายาจนฺโต ปิเหนฺโต ปตฺเถนฺโต ยํ อตฺถิ, ตสฺเสว ปตฺถิตตฺตา สมฺมา ปตฺเถยฺย นาม. อิโต อุตฺตริ ปตฺเถนฺโต มิจฺฉา ปตฺเถยฺย. เอวรูปา หิ ปตฺถนา ยํ นตฺถิ, ตสฺส ปตฺถิตตฺตา มิจฺฉาปตฺถนา นาม โหติ. กึ การณา? เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณนฺติ ยถา หิ สุวณฺณํ วา หิรฺํ วา ตุเลนฺตสฺส ตุลา อิจฺฉิตพฺพา, ธฺํ มินนฺตสฺส มานนฺติ ตุลเน ตุลา, มินเน จ มานํ ปมาณํ โหติ, เอวเมว มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ เอสา ตุลา เอตํ ปมาณํ ยทิทํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา. เต คเหตฺวา ‘‘อหมฺปิ าเณน วา อิทฺธิยา วา เอตมฺปมาโณ โหมี’’ติ อตฺตานํ ตุเลตุํ วา ปมาเณตุํ วา สกฺกา, น อิโต อฺถา.
๑๓๒. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทํ ¶ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ – เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จาติ เอตาสุ หิ เขมา ปฺาย อคฺคา, อุปฺปลวณฺณา อิทฺธิยา. ตสฺมา ‘‘ปฺาย วา ¶ อิทฺธิยา วา เอตาทิสี โหมี’’ติ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย. ตถา จิตฺโต คหปติ ปฺาย อคฺโค, หตฺถโก ราชกุมาโร มหิทฺธิกตาย. ตสฺมา ‘‘ปฺาย วา อิทฺธิยา วา เอทิโส โหมี’’ติ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย. ขุชฺชุตฺตราปิ มหาปฺตาย อคฺคา, นนฺทมาตา มหิทฺธิกตาย. ตสฺมา ‘‘ปฺาย วา อิทฺธิยา วา เอตาทิสี โหมี’’ติ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย.
๑๓๕. ปฺจเม ขตนฺติ คุณานํ ขตตฺตา ขตํ. อุปหตนฺติ คุณานํ อุปหตตฺตา อุปหตํ, ฉินฺนคุณํ นฏฺคุณนฺติ อตฺโถ. อตฺตานํ ปริหรตีติ นิคฺคุณํ อตฺตานํ ชคฺคติ โคปายติ. สาวชฺโชติ สโทโส. สานุวชฺโชติ สอุปวาโท. ปสวตีติ ปฏิลภติ. อนนุวิจฺจาติ อชานิตฺวา อวินิจฺฉินิตฺวา. อปริโยคาเหตฺวาติ อนนุปวิสิตฺวา. อวณฺณารหสฺสาติ อวณฺณยุตฺตสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส ติตฺถิยสฺส วา ติตฺถิยสาวกสฺส วา. วณฺณํ ภาสตีติ ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ¶ เอส สมฺมาปฏิปนฺโน’’ติ คุณํ กเถติ. วณฺณารหสฺสาติ พุทฺธาทีสุ อฺตรสฺส สมฺมาปฏิปนฺนสฺส. อวณฺณํ ภาสตีติ ‘‘ทุปฺปฏิปนฺโน เอส มิจฺฉาปฏิปนฺโน’’ติ อคุณํ กเถติ. อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสตีติ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุปฺปฏิปนฺนานํ มิจฺฉาปฏิปนฺนานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกานํ ‘‘อิติปิ ทุปฺปฏิปนฺนา อิติปิ มิจฺฉาปฏิปนฺนา’’ติ อวณฺณํ ภาสติ. วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสตีติ สุปฺปฏิปนฺนานํ สมฺมาปฏิปนฺนานํ พุทฺธานํ พุทฺธสาวกานํ ‘‘อิติปิ สุปฺปฏิปนฺนา อิติปิ สมฺมาปฏิปนฺนา’’ติ วณฺณํ ภาสติ.
๑๓๖. ฉฏฺเ อปฺปสาทนีเย าเนติ อปฺปสาทการเณ. ปสาทํ ¶ อุปทํเสตีติ ทุปฺปฏิปทาย มิจฺฉาปฏิปทาย ‘‘อยํ สุปฺปฏิปทา สมฺมาปฏิปทา’’ติ ปสาทํ ชเนติ. ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทนฺติ สุปฺปฏิปทาย สมฺมาปฏิปทาย ‘‘อยํ ทุปฺปฏิปทา มิจฺฉาปฏิปทา’’ติ อปฺปสาทํ ชเนตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
๑๓๗. สตฺตเม ทฺวีสูติ ทฺวีสุ โอกาเสสุ ทฺวีสุ การเณสุ. มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโนติ มิจฺฉาปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชมาโน. มาตริ จ ปิตริ จาติ มิตฺตวินฺทโก วิย มาตริ, อชาตสตฺตุ วิย ปิตริ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๑๓๘. อฏฺเม ตถาคเต จ ตถาคตสาวเก จาติ เทวทตฺโต วิย ตถาคเต, โกกาลิโก วิย จ ตถาคตสาวเก. สุกฺกปกฺเข ¶ อานนฺทตฺเถโร วิย ตถาคเต, นนฺทโคปาลกเสฏฺิปุตฺโต วิย จ ตถาคตสาวเก.
๑๓๙. นวเม สจิตฺตโวทานนฺติ สกจิตฺตสฺส โวทานํ, อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ เอตํ นามํ. น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยตีติ โลเก จ รูปาทีสุ ธมฺเมสุ กิฺจิ เอกํ ธมฺมมฺปิ น คณฺหาติ น ปรามสติ. เอวเมตฺถ อนุปาทานํ นาม ทุติโย ธมฺโม โหติ. ทสเมกาทสมานิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.
อายาจนวคฺโค ทุติโย.
(๑๓) ๓. ทานวคฺควณฺณนา
๑๔๒. ตติยสฺส ¶ ปเม ทานานีติ ทิยฺยนกวเสน ทานานิ, เทยฺยธมฺมสฺเสตํ นามํ. สวตฺถุกา วา เจตนา ทานํ, สมฺปตฺติปริจฺจาคสฺเสตํ นามํ. อามิสทานนฺติ จตฺตาโร ปจฺจยา ทิยฺยนกวเสน อามิสทานํ นาม. ธมฺมทานนฺติ อิเธกจฺโจ อมตปตฺติปฏิปทํ กเถตฺวา เทติ, อิทํ ธมฺมทานํ นาม.
๑๔๓. ทุติเย ¶ จตฺตาโร ปจฺจยา ยชนกวเสน ยาโค นาม ธมฺโมปิ ยชนกวเสน ยาโคติ เวทิตพฺโพ.
๑๔๔. ตติเย อามิสสฺส จชนํ อามิสจาโค, ธมฺมสฺส จชนํ ธมฺมจาโค. จตุตฺเถ อุปสคฺคมตฺตํ วิเสโส.
๑๔๖. ปฺจเม จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ภฺุชนํ อามิสโภโค, ธมฺมสฺส ภฺุชนํ ธมฺมโภโค. ฉฏฺเ อุปสคฺคมตฺตํ วิเสโส.
๑๔๘. สตฺตเม จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สํวิภชนํ อามิสสํวิภาโค, ธมฺมสฺส สํวิภชนํ ธมฺมสํวิภาโค.
๑๔๙. อฏฺเม จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคโห อามิสสงฺคโห, ธมฺเมน สงฺคโห ธมฺมสงฺคโห.
๑๕๐. นวเม ¶ จตูหิ ปจฺจเยหิ อนุคฺคณฺหนํ อามิสานุคฺคโห, ธมฺเมน อนุคฺคณฺหนํ ธมฺมานุคฺคโห.
๑๕๑. ทสเม จตูหิ ปจฺจเยหิ อนุกมฺปนํ อามิสานุกมฺปา, ธมฺเมน อนุกมฺปนํ ธมฺมานุกมฺปาติ.
ทานวคฺโค ตติโย.
(๑๔) ๔. สนฺถารวคฺควณฺณนา
๑๕๒. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม จตูหิ ปจฺจเยหิ อตฺตโน จ ปรสฺส จ อนฺตรปฏิจฺฉาทนวเสน สนฺถรณํ อามิสสนฺถาโร, ธมฺเมน สนฺถรณํ ธมฺมสนฺถาโร. ทุติเย อุปสคฺคมตฺตํ วิเสโส.
๑๕๔. ตติเย วุตฺตปฺปการสฺส อามิสสฺส เอสนา อามิเสสนา, ธมฺมสฺส เอสนา ธมฺเมสนา. จตุตฺเถ อุปสคฺคมตฺตเมว วิเสโส.
๑๕๖. ปฺจเม มตฺถกปฺปตฺตา อามิสปริเยสนา อามิสปริเยฏฺิ, มตฺถกปฺปตฺตาว ธมฺมปริเยสนา ธมฺมปริเยฏฺีติ วุตฺตา.
๑๕๗. ฉฏฺเ อามิเสน ปูชนํ อามิสปูชา, ธมฺเมน ปูชนํ ธมฺมปูชา.
๑๕๘. สตฺตเม ¶ อาติเถยฺยานีติ อาคนฺตุกทานานิ. อติเถยฺยานีติปิ ปาโ.
๑๕๙. อฏฺเม อามิสํ อิชฺฌนกสมิชฺฌนกวเสน อามิสิทฺธิ, ธมฺโมปิ อิชฺฌนกสมิชฺฌนกวเสน ธมฺมิทฺธิ.
๑๖๐. นวเม อามิเสน วฑฺฒนํ อามิสวุทฺธิ, ธมฺเมน วฑฺฒนํ ธมฺมวุทฺธิ.
๑๖๑. ทสเม รติกรณฏฺเน อามิสํ อามิสรตนํ, ธมฺโม ธมฺมรตนํ.
๑๖๒. เอกาทสเม ¶ ¶ อามิสสฺส จินนํ วฑฺฒนํ อามิสสนฺนิจโย, ธมฺมสฺส จินนํ วฑฺฒนํ ธมฺมสนฺนิจโย.
๑๖๓. ทฺวาทสเม อามิสสฺส วิปุลภาโว อามิสเวปุลฺลํ, ธมฺมสฺส วิปุลภาโว ธมฺมเวปุลฺลนฺติ.
สนฺถารวคฺโค จตุตฺโถ.
(๑๕) ๕. สมาปตฺติวคฺควณฺณนา
๑๖๔. ปฺจมสฺส ¶ ปเม สมาปตฺติกุสลตาติ อาหารสปฺปายํ อุตุสปฺปายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชเน เฉกตา. สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ ยถาปริจฺเฉเทน คเต กาเล วิยตฺโต หุตฺวา อุฏฺหนฺโต วุฏฺานกุสโล นาม โหติ, เอวํ กุสลตา.
๑๖๕. ทุติเย อชฺชวนฺติ อุชุภาโว. มทฺทวนฺติ มุทุภาโว.
๑๖๖. ตติเย ขนฺตีติ อธิวาสนขนฺติ. โสรจฺจนฺติ สุสีลฺยภาเวน สุรตภาโว.
๑๖๗. จตุตฺเถ สาขลฺยนฺติ สณฺหวาจาวเสน สมฺโมทมานภาโว. ปฏิสนฺถาโรติ อามิเสน วา ธมฺเมน วา ปฏิสนฺถรณํ.
๑๖๘. ปฺจเม อวิหึสาติ กรุณาปุพฺพภาโค. โสเจยฺยนฺติ สีลวเสน สุจิภาโว. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๑๗๑. อฏฺเม ปฏิสงฺขานพลนฺติ ปจฺจเวกฺขณพลํ.
๑๗๒. นวเม ¶ มุฏฺสฺสจฺเจ อกมฺปเนน สติเยว สติพลํ. อุทฺธจฺเจ อกมฺปเนน สมาธิเยว สมาธิพลํ.
๑๗๓. ทสเม สมโถติ จิตฺเตกคฺคตา. วิปสฺสนาติ สงฺขารปริคฺคาหกฺาณํ.
๑๗๔. เอกาทสเม ¶ สีลวิปตฺตีติ ทุสฺสีลฺยํ. ทิฏฺิวิปตฺตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ.
๑๗๕. ทฺวาทสเม สีลสมฺปทาติ ปริปุณฺณสีลตา. ทิฏฺิสมฺปทาติ สมฺมาทิฏฺิกภาโว. เตน ¶ กมฺมสฺสกตสมฺมาทิฏฺิ, ฌานสมฺมาทิฏฺิ, วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ, มคฺคสมฺมาทิฏฺิ, ผลสมฺมาทิฏฺีติ สพฺพาปิ ปฺจวิธา สมฺมาทิฏฺิ สงฺคหิตา โหติ.
๑๗๖. เตรสเม สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิสมฺปาปกํ สีลํ. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิสมฺปาปิกา จตุมคฺคสมฺมาทิฏฺิ, ปฺจวิธาปิ วา สมฺมาทิฏฺิ.
๑๗๗. จุทฺทสเม ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิสมฺปาปิกา สมฺมาทิฏฺิเยว. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ เหฏฺิมมคฺคสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. ตฺหิ ตสฺสา ทิฏฺิยา อนุรูปตฺตา ‘‘ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธาน’’นฺติ วุตฺตํ.
๑๗๘. ปนฺนรสเม อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อฺตฺร อรหตฺตมคฺคา กุสเลสุ ธมฺเมสุ อสนฺตุฏฺิภาโว.
๑๗๙. โสฬสเม มุฏฺสฺสจฺจนฺติ มุฏฺสฺสติภาโว. อสมฺปชฺนฺติ อฺาณภาโว.
๑๘๐. สตฺตรสเม อปิลาปนลกฺขณา สติ. สมฺมา ปชานนลกฺขณํ สมฺปชฺนฺติ.
สมาปตฺติวคฺโค ปฺจโม. ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๑. โกธเปยฺยาลํ
๑๘๑. อิโต ¶ ¶ ปเรสุ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห. สุกตกรณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปลาโส. อุสูยนลกฺขณา อิสฺสา. ปฺจมจฺเฉรภาโว ¶ มจฺฉริยํ. ตํ สพฺพมฺปิ มจฺฉรายนลกฺขณํ. กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา. เกราฏิกลกฺขณํ สาเยฺยํ. อลชฺชนากาโร อหิริกํ. อุปวาทโต อภายนากาโร อโนตฺตปฺปํ. อกฺโกธาทโย เตสํ ปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา.
๑๘๕. เสกฺขสฺส ภิกฺขุโนติ สตฺตวิธสฺสาปิ เสกฺขสฺส อุปริอุปริคุเณหิ ปริหานาย สํวตฺตนฺติ, ปุถุชฺชนสฺส ปน ปมตรํเยว ปริหานาย สํวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา. อปริหานายาติ อุปริอุปริคุเณหิ อปริหานตฺถาย.
๑๘๗. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโตติ ยถา อาเนตฺวา นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย ปติฏฺิโต วาติ เวทิตพฺโพ.
๑๙๐. เอกจฺโจติ ยสฺเสเต โกธาทโย อตฺถิ, โส เอกจฺโจ นาม.
โกธเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.
๒. อกุสลเปยฺยาลํ
๑๙๑-๒๐๐. สาวชฺชาติ ¶ สโทสา. อนวชฺชาติ นิทฺโทสา. ทุกฺขุทฺรยาติ ทุกฺขวฑฺฒิกา. สุขุทฺริยาติ สุขวฑฺฒิกา. สพฺยาพชฺฌาติ สทุกฺขา. อพฺยาพชฺฌาติ นิทฺทุกฺขา. เอตฺตาวตา วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.
อกุสลเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.
๓. วินยเปยฺยาลํ
๒๐๑. ทฺเวเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อตฺถวเส ปฏิจฺจาติ, ภิกฺขเว, ทฺเว อตฺเถ นิสฺสาย ทฺเว การณานิ สนฺธาย. สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ สิกฺขาโกฏฺาโส ปิโต. สงฺฆสุฏฺุตายาติ สงฺฆสฺส สุฏฺุภาวาย, ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา สมฺปฏิจฺฉนตฺถายาติ อตฺโถ. สงฺฆผาสุตายาติ สงฺฆสฺส ผาสุวิหารตฺถาย. ทุมฺมงฺกูนนฺติ ทุสฺสีลานํ. เปสลานนฺติ ปียสีลานํ. ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานนฺติ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วีติกฺกมปจฺจยา ปฏิลทฺธพฺพานํ วธพนฺธนาทิทุกฺขธมฺมสงฺขาตานํ อาสวานํ. สํวรายาติ ปิทหนตฺถาย. สมฺปรายิกานนฺติ ¶ ตถารูปานํเยว อปายทุกฺขสงฺขาตานํ สมฺปราเย อุปฺปชฺชนกอาสวานํ. ปฏิฆาตายาติ ปฏิเสธนตฺถาย. เวรานนฺติ อกุสลเวรานมฺปิ ปุคฺคลเวรานมฺปิ. วชฺชานนฺติ โทสานํ. เต เอว วา ทุกฺขธมฺมา วชฺชนียตฺตา อิธ วชฺชาติ อธิปฺเปตา. ภยานนฺติ จิตฺตุตฺราสภยานมฺปิ ภยเหตูนํ เตสํเยว ทุกฺขธมฺมานมฺปิ. อกุสลานนฺติ อกฺขมฏฺเน อกุสลสงฺขาตานํ ทุกฺขธมฺมานํ. คิหีนํ อนุกมฺปายาติ คิหีสุ อุชฺฌายนฺเตสุ ปฺตฺตสิกฺขาปทํ คิหีนํ อนุกมฺปาย ปฺตฺตํ นาม. ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปจฺเฉทายาติ ปาปิจฺฉา ปกฺขํ นิสฺสาย สงฺฆํ ภินฺเทยฺยุนฺติ เตสํ ปกฺขุปจฺเฉทนตฺถาย. อปฺปสนฺนานํ ปสาทายาติ ปุพฺเพ อปฺปสนฺนานมฺปิ ปณฺฑิตมนุสฺสานํ สิกฺขาปทปฺตฺติสมฺปทํ ทิสฺวา ปสาทุปฺปตฺติอตฺถาย. ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวายาติ ปสนฺนานํ อุปรูปริปสาทภาวาย. สทฺธมฺมฏฺิติยาติ สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตตฺถํ. วินยานุคฺคหายาติ ปฺจวิธสฺสาปิ วินยสฺส อนุคฺคณฺหนตฺถาย.
๒๐๒-๒๓๐. ปาติโมกฺขํ ปฺตฺตนฺติ ภิกฺขุปาติโมกฺขํ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขนฺติ ทุวิธํ ปาติโมกฺขํ ปฺตฺตํ. ปาติโมกฺขุทฺเทโสติ ภิกฺขูนํ ปฺจ, ภิกฺขุนีนํ จตฺตาโรติ นว ปาติโมกฺขุทฺเทสา ปฺตฺตา. ปาติโมกฺขฏฺปนนฺติ อุโปสถฏฺปนํ. ปวารณา ปฺตฺตาติ จาตุทฺทสิกา ปนฺนรสิกาติ ทฺเว ปวารณา ปฺตฺตา. ปวารณฏฺปนํ ปฺตฺตนฺติ สาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน ปวารณา อุตฺติยา วตฺตมานาย ปวารณฏฺปนํ ปฺตฺตํ. ตชฺชนียกมฺมาทีสุ ¶ ภิกฺขู วาจาสตฺตีหิ วิตุทนฺตานํ ปณฺฑุกโลหิตกานํ ภิกฺขูนํ ตชฺชนียกมฺมํ (จูฬว. ๑ อาทโย) ปฺตฺตํ. พาลสฺส ¶ อพฺยตฺตสฺส เสยฺยสกสฺส ¶ ภิกฺขุโน นิยสฺสกมฺมํ ปฺตฺตํ. กุลทูสเก อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู อารพฺภ ปพฺพาชนียกมฺมํ (จูฬว. ๒๑ อาทโย) ปฺตฺตํ. คิหีนํ อกฺโกสกสฺส สุธมฺมตฺเถรสฺส ปฏิสารณียกมฺมํ (จูฬว. ๓๓ อาทโย) ปฺตฺตํ. อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺเขปนียกมฺมํ ปฺตฺตํ. ครุกาปตฺตึ อาปนฺนสฺส ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสทานํ ปฺตฺตํ. ปริวาเส อนฺตราปตฺตึ อาปนฺนสฺส มูลาย ปฏิกสฺสนํ ปฺตฺตํ. ปฏิจฺฉนฺนายปิ อปฺปฏิจฺฉนฺนายปิ อาปตฺติยา มานตฺตทานํ ปฺตฺตํ. จิณฺณมานตฺตสฺส อพฺภานํ ปฺตฺตํ. สมฺมา วตฺตนฺตสฺส โอสารณียํ ปฺตฺตํ. อสมฺมาวตฺตนาทีสุ นิสฺสารณียํ ปฺตฺตํ.
เอหิภิกฺขูปสมฺปทา สรณคมนูปสมฺปทา โอวาทูปสมฺปทา ปฺหาพฺยากรณูปสมฺปทา ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทา ครุธมฺมูปสมฺปทา อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปทา ทูเตน อุปสมฺปทาติ อฏฺวิธา อุปสมฺปทา ปฺตฺตา. ตฺติกมฺมํ นว านานิ คจฺฉตีติ เอวํ นวฏฺานิกํ ตฺติกมฺมํ ปฺตฺตํ. ตฺติทุติยกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉตีติ เอวํ สตฺตฏฺานิกเมว ตฺติทุติยกมฺมํ ปฺตฺตํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉตีติ เอวํ สตฺตฏฺานิกเมว ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ปฺตฺตํ. ปมปาราชิกาทีนํ ปมปฺตฺติ อปฺตฺเต ปฺตฺตํ. เตสํเยว อนุปฺตฺติ ปฺตฺเต อนุปฺตฺตํ. ธมฺมสมฺมุขตา วินยสมฺมุขตา สงฺฆสมฺมุขตา ปุคฺคลสมฺมุขตาติ อิมสฺส จตุพฺพิธสฺส สมฺมุขีภาวสฺส วเสน สมฺมุขาวินโย ปฺตฺโต. สติเวปุลฺลปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส อโจทนตฺถาย สติวินโย ปฺตฺโต. อุมฺมตฺตกสฺส ¶ ภิกฺขุโน อมูฬฺหวินโย ปฺตฺโต. อปฺปฏิฺาย จุทิตกสฺส อาปตฺติยา อตรณตฺถํ ปฏิฺาตกรณํ ปฺตฺตํ. พหุตรานํ ธมฺมวาทีนํ ลทฺธึ คเหตฺวา อธิกรณวูปสมนตฺถํ. เยภุยฺยสิกา ปฺตฺตา. ปาปุสฺสนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส นิคฺคณฺหนตฺถํ ตสฺสปาปิยสิกา ปฺตฺตา. ภณฺฑนาทิวเสน พหุํ อสฺสามณกํ กตฺวา อาปตฺตึ อาปนฺนานํ ภิกฺขูนํ เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺตฺจ อวเสสาปตฺตีนํ วูปสมนตฺถาย ติณวตฺถารโก ปฺตฺโต.
วินยเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.
๔. ราคเปยฺยาลํ
๒๓๑. ราคสฺส ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อภิฺายาติ ปฺจกามคุณิกราคสฺส อภิชานนตฺถํ ปจฺจกฺขกรณตฺถํ. ปริฺายาติ ปริชานนตฺถํ. ปริกฺขยายาติ ปริกฺขยคมนตฺถํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถํ. ขยาย วยายาติ ขยวยคมนตฺถํ. วิราคายาติ วิรชฺชนตฺถํ. นิโรธายาติ นิรุชฺฌนตฺถํ. จาคายาติ จชนตฺถํ. ปฏินิสฺสคฺคายาติ ปฏินิสฺสชฺชนตฺถํ.
๒๓๒-๒๔๖. ถมฺภสฺสาติ โกธมานวเสน ถทฺธภาวสฺส. สารพฺภสฺสาติ การณุตฺตริยลกฺขณสฺส สารพฺภสฺส. มานสฺสาติ นววิธมานสฺส. อติมานสฺสาติ อติกฺกมิตฺวา มฺนมานสฺส. มทสฺสาติ มชฺชนาการมทสฺส. ปมาทสฺสาติ สติวิปฺปวาสสฺส, ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตโวสฺสคฺคสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.
มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
ทุกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาเย
ติกนิปาต-อฏฺกถา
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. พาลวคฺโค
๑. ภยสุตฺตวณฺณนา
๑. ติกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม ภยานีติอาทีสุ ภยนฺติ จิตฺตุตฺราโส. อุปทฺทโวติ อเนกคฺคตากาโร. อุปสคฺโคติ อุปสฏฺากาโร ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคนากาโร.
เตสํ เอวํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – ปพฺพตวิสมนิสฺสิตา โจรา ชนปทวาสีนํ เปเสนฺติ – ‘‘มยํ อสุกทิวเส นาม ตุมฺหากํ คามํ ปหริสฺสามา’’ติ. เต ตํ ปวตฺตึ สุตกาลโต ปฏฺาย ภยํ ¶ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ. อยํ จิตฺตุตฺราโส นาม. ‘‘ยถา โน เต โจรา กุปิตา อนตฺถมฺปิ อาวเหยฺยุ’’นฺติ หตฺถสารํ คเหตฺวา ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ สทฺธึ อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ภูมิยํ นิปชฺชนฺติ ฑํสมกสาทีหิ ขชฺชมานา, คุมฺพนฺตรานิ ปวิสนฺตา ขาณุกณฺฏเก มทฺทนฺติ. เตสํ เอวํ วิจรนฺตานํ วิกฺขิตฺตภาโว อเนกคฺคตากาโร นาม. ตโต โจเรสุ ยถาวุตฺเต ทิวเส อนาคจฺฉนฺเตสุ ‘‘ตุจฺฉกสาสนํ ภวิสฺสติ, คามํ ปวิสิสฺสามา’’ติ สปริกฺขารา คามํ ปวิสนฺติ. อถ เตสํ ปวิฏฺภาวํ ตฺวา คามํ ปริวาเรตฺวา ทฺวาเร อคฺคึ ทตฺวา มนุสฺเส ฆาเตตฺวา โจรา สพฺพํ วิภวํ วิลุมฺปิตฺวา คจฺฉนฺติ. เตสุ ฆาติตาวเสสา อคฺคึ นิพฺพาเปตฺวา โกฏฺกจฺฉายาภิตฺติจฺฉายาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคิตฺวา นิสีทนฺติ นฏฺํ อนุโสจมานา. อยํ อุปสฏฺากาโร ลคฺคนากาโร นาม.
นฬาคาราติ ¶ นเฬหิ ฉนฺนปฏิจฺฉนฺนอคารา. เสสสมฺภารา ปเนตฺถ รุกฺขมยา โหนฺติ. ติณาคาเรปิ เอเสว นโย. กูฏาคารานีติ กูฏสงฺคหิตานิ อคารานิ. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตานีติ อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตานิ. นิวาตานีติ นิวาริตวาตปฺปเวสานิ. ผุสิตคฺคฬานีติ เฉเกหิ วฑฺฒกีหิ กตตฺตา ¶ ปิฏฺสงฺฆาฏมฺหิ สุฏฺุ ผุสิตกวาฏานิ. ปิหิตวาตปานานีติ ยุตฺตวาตปานานิ. อิมินา ปททฺวเยน กวาฏวาตปานานํ นิจฺจปิหิตตํ อกเถตฺวา สมฺปตฺติเยว กถิตา. อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปน ตานิ ปิธียนฺติ จ วิวรียนฺติ จ.
พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ พาลเมว นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺติ. พาโล หิ อปณฺฑิตปุริโส รชฺชํ วา โอปรชฺชํ วา อฺํ วา ปน มหนฺตํ านํ ปตฺเถนฺโต กติปเย อตฺตนา สทิเส วิธวปุตฺเต มหาธุตฺเต คเหตฺวา ‘‘เอถ อหํ ตุมฺเห อิสฺสเร กริสฺสามี’’ติ ปพฺพตคหนาทีนิ นิสฺสาย อนฺตมนฺเต คาเม ปหรนฺโต ทามริกภาวํ ชานาเปตฺวา อนุปุพฺเพน นิคเมปิ ชนปเทปิ ปหรติ. มนุสฺสา เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา เขมฏฺานํ ปตฺถยมานา ปกฺกมนฺติ. เต นิสฺสาย วสนฺตา ภิกฺขูปิ ภิกฺขุนิโยปิ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานานิ ปหาย ปกฺกมนฺติ. คตคตฏฺาเน ภิกฺขาปิ เสนาสนมฺปิ ทุลฺลภํ โหติ. เอวํ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหติ. ปพฺพชฺชิเตสุปิ ทฺเว พาลา ภิกฺขู อฺมฺํ วิวาทํ ปฏฺเปตฺวา โจทนํ อารภนฺติ. อิติ โกสมฺพิวาสิกานํ วิย มหากลโห อุปฺปชฺชติ. จตุนฺนํ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหตีติ เอวํ ยานิ กานิจิ ภยานิ ¶ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ ยถานุสนฺธินา เทสนํ นิฏฺเปสิ.
๒. ลกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย ¶ กายทฺวาราทิปวตฺตํ กมฺมํ ลกฺขณํ สฺชานนการณํ อสฺสาติ กมฺมลกฺขโณ. อปทานโสภนี ปฺาติ ยา ปฺา นาม อปทาเนน โสภติ, พาลา จ ปณฺฑิตา จ อตฺตโน อตฺตโน จริเตเนว ปากฏา โหนฺตีติ อตฺโถ. พาเลน หิ คตมคฺโค รุกฺขคจฺฉคามนิคมาทีนิ ฌาเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อินฺทคฺคิโน คตมคฺโค วิย โหติ, ฌามฏฺานมตฺตเมว องฺคารมสิฉาริกาสมากุลํ ปฺายติ. ปณฺฑิเตน คตมคฺโค กุโสพฺภาทโย ปูเรตฺวา วิวิธสสฺสสมฺปทํ อาวหมาเนน จตุทีปิกเมเฆน คตมคฺโค วิย โหติ. ยถา เตน คตมคฺเค อุทกปูรานิ เจว วิวิธสสฺสผลาผลานิ จ ตานิ ตานิ านานิ ปฺายนฺติ, เอวํ ปณฺฑิเตน คตมคฺเค สมฺปตฺติโยว ปฺายนฺติ โน วิปตฺติโยติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
๓. จินฺตีสุตฺตวณฺณนา
๓. ตติเย ¶ พาลลกฺขณานีติ ‘‘พาโล อย’’นฺติ เอเตหิ ลกฺขียติ ายตีติ พาลลกฺขณานิ. ตาเนวสฺส สฺชานนการณานีติ พาลนิมิตฺตานิ. พาลาปทานานีติ พาลสฺส อปทานานิ. ทุจฺจินฺติตจินฺตีติ จินฺตยนฺโต อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทสฺสนวเสน ทุจฺจินฺติตเมว จินฺเตติ. ทุพฺภาสิตภาสีติ ภาสมาโนปิ มุสาวาทาทิเภทํ ทุพฺภาสิตเมว ภาสติ. ทุกฺกฏกมฺมการีติ กโรนฺโตปิ ปาณาติปาตาทิวเสน ทุกฺกฏกมฺมเมว กโรติ. ปณฺฑิตลกฺขณานีติอาทิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. สุจินฺติตจินฺตีติอาทีนิ เจตฺถ มโนสุจริตาทีนํ วเสน โยเชตพฺพานิ.
๔. อจฺจยสุตฺตวณฺณนา
๔. จตุตฺเถ ¶ อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสตีติ อตฺตโน อปราธํ อปราธโต น ปสฺสติ. อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ นปฺปฏิกโรตีติ ‘‘อปรทฺธํ มยา’’ติ ตฺวาปิ โย ธมฺโม, ตํ น กโรติ, ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา อจฺจยํ น เทเสติ นกฺขมาเปติ. อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหาตีติ ปรสฺส ‘‘วิรทฺธํ มยา’’ติ ตฺวา ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ขมาเปนฺตสฺส นกฺขมติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ.
๕. อโยนิโสสุตฺตวณฺณนา
๕. ปฺจเม ¶ อโยนิโส ปฺหํ กตฺตา โหตีติ ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุพฺเพนิวาโส อนุสฺสติฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ลาฬุทายิตฺเถโร วิย อนุปายจินฺตาย อปฺหเมว ปฺหนฺติ กตฺตา โหติ. อโยนิโส ปฺหํ วิสฺสชฺเชตา โหตีติ เอวํ จินฺติตํ ปน ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโตปิ ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาติ’’นฺติอาทินา นเยน โสเยว เถโร วิย อโยนิโส วิสฺสชฺเชตา โหติ, อปฺหเมว ปฺหนฺติ กเถติ. ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหีติ เอตฺถ ปทเมว อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปทพฺยฺชนํ. ตํ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา ทสวิธํ พฺยฺชนพุทฺธึ อปริหาเปตฺวา ¶ วุตฺตํ ปริมณฺฑลํ นาม โหติ, เอวรูเปหิ ปทพฺยฺชเนหีติ อตฺโถ. สิลิฏฺเหีติ ปทสิลิฏฺตาย สิลิฏฺเหิ. อุปคเตหีติ อตฺถฺจ การณฺจ อุปคเตหิ. นาพฺภนุโมทิตาติ เอวํ โยนิโส สพฺพํ การณสมฺปนฺนํ กตฺวาปิ วิสฺสชฺชิตํ ปรสฺส ปฺหํ นาภินุโมทติ นาภินนฺทติ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปฺหํ ลาฬุทายิตฺเถโร วิย. ยถาห –
‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อนวกาโส, ยํ โส อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวานํ สหพฺยตํ อฺตรํ ¶ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโน สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺเชยฺยาปิ วุฏฺเหยฺยาปิ, นตฺเถตํ าน’’นฺติ (อ. นิ. ๕.๑๖๖).
โยนิโส ปฺหํ กตฺตาติอาทีสุ อานนฺทตฺเถโร วิย โยนิโสว ปฺหํ จินฺเตตฺวา โยนิโส วิสฺสชฺชิตา โหติ. เถโร หิ ‘‘กติ นุ โข, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘อยํ ปฺโห ภวิสฺสตี’’ติ โยนิโส จินฺเตตฺวา โยนิโส วิสฺสชฺเชนฺโต อาห – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํภาวิตํ เอวํพหุลีกตํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตตี’’ติ. อพฺภนุโมทิตา โหตีติ ตถาคโต วิย โยนิโส อพฺภนุโมทิตา โหติ. ตถาคโต หิ อานนฺทตฺเถเรน ปฺเห วิสฺสชฺชิเต ‘‘สาธุ สาธุ, อานนฺท, เตน หิ ตฺวํ, อานนฺท, อิมมฺปิ ฉฏฺํ อนุสฺสติฏฺานํ ธาเรหิ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ สโตว อภิกฺกมติ สโตว ปฏิกฺกมตี’’ติอาทิมาห. ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๙. ขตสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม ¶ สุกฺกปกฺโข ปุพฺพภาเค ทสหิปิ กุสลกมฺมปเถหิ ปริจฺฉินฺโน, อุปริ ยาว อรหตฺตมคฺคา ลพฺภติ. พหฺุจ ปฺุํ ปสวตีติ เอตฺถ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกปฺุํ กถิตํ.
๑๐. มลสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสเม ทุสฺสีลภาโว ทุสฺสีลฺยํ, ทุสฺสีลฺยเมว มลํ ทุสฺสีลฺยมลํ. เกนฏฺเน มลนฺติ? อนุทหนฏฺเน ทุคฺคนฺธฏฺเน กิลิฏฺกรณฏฺเน จ. ตฺหิ นิรยาทีสุ อปาเยสุ อนุทหตีติ อนุทหนฏฺเนปิ มลํ. เตน สมนฺนาคโต ¶ ปุคฺคโล มาตาปิตูนมฺปิ สนฺติเก ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ อนฺตเร โพธิเจติยฏฺาเนสุปิ ชิคุจฺฉนีโย โหติ, สพฺพทิสาสุ จสฺส ‘‘เอวรูปํ กิร เตน ปาปกมฺมํ กต’’นฺติ อวณฺณคนฺโธ วายตีติ ทุคฺคนฺธฏฺเนปิ มลํ. เตน จ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล คตคตฏฺาเน อุปตาปฺเจว ลภติ, กายกมฺมาทีนิ จสฺส อสุจีนิ โหนฺติ อปภสฺสรานีติ ¶ กิลิฏฺกรณฏฺเนปิ มลํ. อปิจ ตํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติโย เจว นิพฺพานสมฺปตฺติฺจ มิลาเปตีติ มิลาปนฏฺเนปิ มลนฺติ เวทิตพฺพํ. อิสฺสามลมจฺเฉรมเลสุปิ เอเสว นโย.
พาลวคฺโค ปโม.
๒. รถการวคฺโค
๑. าตสุตฺตวณฺณนา
๑๑. ทุติยสฺส ¶ ปเม าโตติ ปฺาโต ปากโฏ. อนนุโลมิเกติ สาสนสฺส น อนุโลเมตีติ อนนุโลมิกํ, ตสฺมึ อนนุโลมิเก. กายกมฺเมติ ปาณาติปาตาทิมฺหิ กายทุจฺจริเต. โอฬาริกํ วา เอตํ, น เอวรูเป สมาทเปตุํ สกฺโกติ. ทิสา นมสฺสิตุํ วฏฺฏติ, ภูตพลึ กาตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูเป สมาทเปติ คณฺหาเปติ. วจีกมฺเมปิ มุสาวาทาทีนิ โอฬาริกานิ, อตฺตโน สนฺตกํ ปรสฺส อทาตุกาเมน ‘‘นตฺถี’’ติ อยํ วฺจนมุสาวาโท นาม วตฺตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูเป สมาทเปติ. มโนกมฺเมปิ อภิชฺฌาทโย โอฬาริกา, กมฺมฏฺานํ วิสํวาเทตฺวา กเถนฺโต ปน อนนุโลมิเกสุ ธมฺเมสุ สมาทเปติ นาม ทกฺขิณวิหารวาสิตฺเถโร วิย. ตํ กิร เถรํ เอโก อุปฏฺาโก อมจฺจปุตฺโต อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เมตฺตายนฺเตน ปมํ กีทิเส ปุคฺคเล เมตฺตายิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. เถโร สภาควิสภาคํ อนาจิกฺขิตฺวา ‘‘ปิยปุคฺคเล’’ติ อาห. ตสฺส จ ภริยา ปิยา โหติ มนาปา, โส ตํ อารพฺภ เมตฺตายนฺโต อุมฺมาทํ ปาปุณิ. กถํ ปเนส พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหตีติ? เอวรูปสฺส หิ สทฺธิวิหาริกาทโย เจว อุปฏฺากาทโย จ เตสํ อารกฺขเทวตา อาทึ กตฺวา ตาสํ ตาสํ มิตฺตภูตา ยาว พฺรหฺมโลกา ¶ เสสเทวตา จ ‘‘อยํ ภิกฺขุ น อชานิตฺวา กริสฺสตี’’ติ ¶ เตน กตเมว กโรนฺติ, เอวเมส พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ.
สุกฺกปกฺเข ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีนํเยว วเสน กายกมฺมวจีกมฺมานิ เวทิตพฺพานิ. กมฺมฏฺานํ ปน อวิสํวาเทตฺวา กเถนฺโต อนุโลมิเกสุ ธมฺเมสุ สมาทเปติ นาม โกฬิตวิหารวาสี จตุนิกายิกติสฺสตฺเถโร วิย. ตสฺส กิร เชฏฺภาตา นนฺทาภยตฺเถโร นาม โปตลิยวิหาเร วสนฺโต เอกสฺมึ โรเค สมุฏฺิเต กนิฏฺํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘อาวุโส, มยฺหํ สลฺลหุกํ กตฺวา เอกํ กมฺมฏฺานํ กเถหี’’ติ. กึ, ภนฺเต, อฺเน กมฺมฏฺาเนน, กพฬีการาหารํ ปริคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ? กิมตฺถิโก เอส, อาวุโสติ? ภนฺเต, กพฬีการาหาโร อุปาทารูปํ, เอกสฺมิฺจ อุปาทารูเป ทิฏฺเ เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปากฏานิ โหนฺตีติ ¶ . โส ‘‘วฏฺฏิสฺสติ, อาวุโส, เอตฺตก’’นฺติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา กพฬีการาหารํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อุปาทารูปํ สลฺลกฺเขตฺวา วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถ นํ เถรํ พหิวิหารา อนิกฺขนฺตเมว ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘อาวุโส, มหาอวสฺสโยสิ มยฺหํ ชาโต’’ติ กนิฏฺตฺเถรสฺส อตฺตนา ปฏิลทฺธคุณํ อาโรเจสิ. พหุชนหิตายาติ เอตสฺสปิ หิ สทฺธิวิหาริกาทโย ‘‘อยํ น อชานิตฺวา กริสฺสตี’’ติ เตน กตเมว กโรนฺตีติ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน นาม โหตีติ.
๒. สารณียสุตฺตวณฺณนา
๑๒. ทุติเย ขตฺติยสฺสาติ ชาติยา ขตฺติยสฺส. มุทฺธาวสิตฺตสฺสาติ ราชาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺตสฺส. สารณียานิ ภวนฺตีติ สริตพฺพานิ อสมฺมุสฺสนียานิ โหนฺติ. ชาโตติ ¶ นิพฺพตฺโต. ยาวชีวํ สารณียนฺติ ทหรกาเล ชานิตุมฺปิ น สกฺกา, อปรภาเค ปน มาตาปิตุอาทีหิ าตเกหิ วา ทาสาทีหิ วา ‘‘ตฺวํ อสุกชนปเท อสุกนคเร อสุกทิวเส อสุกนกฺขตฺเต ชาโต’’ติ อาจิกฺขิเต สุตฺวา ตโต ปฏฺาย ยาวชีวํ สรติ น สมฺมุสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยาวชีวํ สารณียํ โหตี’’ติ.
อิทํ ¶ , ภิกฺขเว, ทุติยนฺติ อภิเสกฏฺานํ นาม รฺโ พลวตุฏฺิกรํ โหติ, เตนสฺส ตํ ยาวชีวํ สารณียํ. สงฺคามวิชยฏฺาเนปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน สงฺคามนฺติ ยุทฺธํ. อภิวิชินิตฺวาติ ชินิตฺวา สตฺตุมทฺทนํ กตฺวา. ตเมว สงฺคามสีสนฺติ ตเมว สงฺคามฏฺานํ. อชฺฌาวสตีติ อภิภวิตฺวา อาวสติ.
อิทานิ ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส รฺโ ชาติฏฺานาทีหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน สาสเน ตปฺปฏิภาเค ตโย ปุคฺคเล ทสฺเสตุํ อิทํ การณํ อาภตํ, ตสฺมา เต ทสฺเสนฺโต เอวเมว โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหตีติ เอตฺถ จตุปาริสุทฺธิสีลมฺปิ ปพฺพชฺชานิสฺสิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. สารณียํ โหตีติ ‘‘อหํ อสุกรฏฺเ อสุกชนปเท อสุกวิหาเร อสุกมาฬเก อสุกทิวาฏฺาเน อสุกจงฺกเม อสุกรุกฺขมูเล ปพฺพชิโต’’ติ เอวํ ยาวชีวํ สริตพฺพเมว โหติ น สมฺมุสฺสิตพฺพํ.
อิทํ ¶ ทุกฺขนฺติ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ อตฺถิ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ เอตฺตโก ทุกฺขสมุทโย, น อิโต อุทฺธํ ทุกฺขสมุทโย อตฺถีติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ จตูหิ สจฺเจหิ โสตาปตฺติมคฺโค กถิโต. กสิณปริกมฺมวิปสฺสนาาณานิ ปน มคฺคสนฺนิสฺสิตาเนว โหนฺติ. สารณียํ ¶ โหตีติ ‘‘อหํ อสุกรฏฺเ…เป… อสุกรุกฺขมูเล โสตาปนฺโน ชาโต’’ติ ยาวชีวํ สารณียํ โหติ อสมฺมุสฺสนียํ.
อาสวานํ ขยาติ อาสวานํ ขเยน. เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลปฺํ. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาว อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ ปฏิลภิตฺวา วิหรติ. สารณียนฺติ ‘‘มยา อสุกรฏฺเ…เป… อสุกรุกฺขมูเล อรหตฺตํ ปตฺต’’นฺติ อตฺตโน อรหตฺตปตฺติฏฺานํ นาม ยาวชีวํ สารณียํ โหติ อสมฺมุสฺสนียนฺติ ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสิ.
๓. อาสํสสุตฺตวณฺณนา
๑๓. ตติเย สนฺโตติ อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. สํวิชฺชมานาติ ตสฺเสว เววจนํ. โลกสฺมินฺติ สตฺตโลเก. นิราโสติ อนาโส อปตฺถโน. อาสํโสติ ¶ อาสํสมาโน ปตฺถยมาโน. วิคตาโสติ อปคตาโส. จณฺฑาลกุเลติ จณฺฑาลานํ กุเล. เวนกุเลติ วิลีวการกุเล. เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกานํ กุเล. รถการกุเลติ จมฺมการกุเล. ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผจฺฉฑฺฑกกุเล.
เอตฺตาวตา กุลวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา นีจกุเล ชาโตปิ เอกจฺโจ อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน, อยํ ปน น ตาทิโส, ตสฺมาสฺส โภควิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ทลิทฺเทติอาทิมาห. ตตฺถ ทลิทฺเทติ ทาลิทฺทิเยน สมนฺนาคเต. อปฺปนฺนปานโภชเนติ ปริตฺตกอนฺนปานโภชเน. กสิรวุตฺติเกติ ¶ ทุกฺขชีวิเก, ยตฺถ วายาเมน ปโยเคน ชีวิตวุตฺตึ สาเธนฺติ, ตถารูเปติ อตฺโถ. ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภตีติ ยสฺมึ กุเล ทุกฺเขน ยาคุภตฺตฆาโส จ โกปีนมตฺตํ อจฺฉาทนฺจ ลพฺภติ.
อิทานิ ยสฺมา เอกจฺโจ นีจกุเล ชาโตปิ อุปธิสมฺปนฺโน โหติ อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ิโต ¶ , อยฺจ น ตาทิโส, ตสฺมาสฺส สรีรวิปตฺติมฺปิ ทสฺเสตุํ โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณติอาทิมาห. ตตฺถ ทุพฺพณฺโณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี. ปทีเปยฺยสฺสาติ วฏฺฏิเตลกปลฺลกาทิโน ปทีปอุปกรณสฺส. ตสฺส น เอวํ โหตีติ. กสฺมา น โหติ? นีจกุเล ชาตตฺตา.
เชฏฺโติ อฺสฺมึ เชฏฺเ สติ กนิฏฺโ อาสํ น กโรติ, ตสฺมา เชฏฺโติ อาห. อาภิเสโกติ เชฏฺโปิ น อภิเสการโห อาสํ น กโรติ, ตสฺมา อาภิเสโกติ อาห. อนภิสิตฺโตติ อภิเสการโหปิ กาณกุณิอาทิโทสรหิโต สกึ อภิสิตฺโต ปุน อภิเสเก อาสํ น กโรติ, ตสฺมา อนภิสิตฺโตติ อาห ¶ . อจลปฺปตฺโตติ เชฏฺโปิ อาภิเสโก อนภิสิตฺโต มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก, โสปิ อภิเสเก อาสํ น กโรติ. โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก ปน ปฺายมานมสฺสุเภโท อจลปฺปตฺโต นาม ¶ โหติ, มหนฺตมฺปิ รชฺชํ วิจาเรตุํ สมตฺโถ, ตสฺมา ‘‘อจลปฺปตฺโต’’ติ อาห. ตสฺส เอวํ โหตีติ กสฺมา โหติ? มหาชาติตาย.
ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม. อสุจีติ อสุจีหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต. สงฺกสฺสรสมาจาโรติ สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโร, กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปเรสํ อาสงฺกนียสมาจาโร, อตฺตนาเยว วา สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโร, สาสงฺกสมาจาโรติ อตฺโถ. ตสฺส หิ ทิวาฏฺานาทีสุ สนฺนิปติตฺวา กิฺจิเทว มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘อิเม เอกโต หุตฺวา มนฺเตนฺติ, กจฺจิ นุ โข มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’’ติ เอวํ สาสงฺกสมาจาโร โหติ. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ปฏิจฺฉาเทตพฺพยุตฺตเกน ปาปกมฺเมน สมนฺนาคโต. อสฺสมโณ สมณปฏิฺโติ อสฺสมโณ หุตฺวาว สมณปติรูปกตาย ‘‘สมโณ อห’’นฺติ เอวํ ปฏิฺโ. อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโติ อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฏิปชฺชนโต ‘‘อหํ พฺรหฺมจารี’’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหติ. ‘‘อหํ ภิกฺขู’’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต. อนฺโตปูตีติ ปูตินา กมฺเมน อนฺโต ¶ อนุปวิฏฺโ. อวสฺสุโตติ ราคาทีหิ ตินฺโต. กสมฺพุชาโตติ สฺชาตราคาทิกจวโร. ตสฺส น เอวํ โหตีติ. กสฺมา น โหติ? โลกุตฺตรธมฺมอุปนิสฺสยสฺส นตฺถิตาย. ตสฺส ¶ เอวํ โหตีติ. กสฺมา โหติ? มหาสีลสฺมึ ปริปูรการิตาย.
๔. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา
๑๔. จตุตฺเถ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ รฺเชตีติ ราชา. จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี. วตฺติตํ วา อเนน จกฺกนฺติ จกฺกวตฺตี. ธมฺโม อสฺส ¶ อตฺถีติ ธมฺมิโก. ธมฺเมเนว ทสวิเธน จกฺกวตฺติวตฺเตน ราชา ชาโตติ ธมฺมราชา. โสปิ น อราชกนฺติ โสปิ อฺํ นิสฺสยราชานํ อลภิตฺวา จกฺกํ นาม วตฺเตตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. อิติ สตฺถา เทสนํ ปฏฺเปตฺวา ยถานุสนฺธึ อปาเปตฺวาว ตุณฺหี อโหสิ. กสฺมา? อนุสนฺธิกุสลา อุฏฺหิตฺวา อนุสนฺธึ ปุจฺฉิสฺสนฺติ, พหู หิ อิมสฺมึ าเน ตถารูปา ภิกฺขู, อถาหํ เตหิ ปุฏฺโ เทสนํ วฑฺเฒสฺสามีติ. อเถโก อนุสนฺธิกุสโล ภิกฺขุ ภควนฺตํ ปุจฺฉนฺโต โก ปน, ภนฺเตติอาทิมาห. ภควาปิสฺส พฺยากโรนฺโต ธมฺโม ภิกฺขูติอาทิมาห.
ตตฺถ ธมฺโมติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม. ธมฺมนฺติ ตเมว วุตฺตปฺปการํ ธมฺมํ. นิสฺสายาติ ตทธิฏฺาเนน เจตสา ตเมว นิสฺสยํ กตฺวา. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติ ยถา กโต โส ธมฺโม สุฏฺุ กโต โหติ, เอวเมตํ กโรนฺโต. ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโตติ ตสฺมึ คารวุปฺปตฺติยา ตํ ครุกโรนฺโต. ธมฺมํ อปจายมาโนติ ตสฺเสว ธมฺมสฺส อฺชลิกรณาทีหิ นีจวุตฺติตํ กโรนฺโต. ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตูติ ตํ ธมฺมํ ธชมิว ปุรกฺขตฺวา เกตุมิว อุกฺขิปิตฺวา ปวตฺติยา ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ จ หุตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺมาธิปเตยฺโยติ ธมฺมาธิปติภูตาคตภาเวน ธมฺมวเสเนว จ สพฺพกิริยานํ กรเณน ธมฺมาธิปเตยฺโย หุตฺวา. ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหตีติ ธมฺโม อสฺสา ¶ อตฺถีติ ธมฺมิกา, รกฺขา จ อาวรณฺจ คุตฺติ จ รกฺขาวรณคุตฺติ. ตตฺถ ‘‘ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขตี’’ติ วจนโต ขนฺติอาทโย รกฺขา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขติ. ขนฺติยา อวิหึสาย เมตฺตจิตฺตตาย อนุทฺทยายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๕). นิวาสนปารุปนเคหาทีนิ อาวรณํ. โจราทิอุปทฺทวนิวารณตฺถํ โคปายนา คุตฺติ. ตํ สพฺพมฺปิ สุฏฺุ วิทหติ ปวตฺเตติ เปตีติ อตฺโถ.
อิทานิ ¶ ยตฺถ สา สํวิทหิตพฺพา, ตํ ทสฺเสนฺโต อนฺโตชนสฺมินฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อนฺโตชนสงฺขาตํ ปุตฺตทารํ สีลสํวเร ปติฏฺาเปนฺโต วตฺถคนฺธมาลาทีนิ จสฺส ททมาโน สพฺโพปทฺทเว จสฺส นิวารยมาโน ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหติ นาม. ขตฺติยาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อภิสิตฺตขตฺติยา ภทฺรอสฺสาชานียาทิรตนสมฺปทาเนนปิ ¶ อุปคณฺหิตพฺพา, อนุยนฺตา ขตฺติยา เตสํ อนุรูปยานวาหนสมฺปทาเนนปิ ปริโตเสตพฺพา, พลกาโย กาลํ อนติกฺกเมตฺวา ภตฺตเวตนสมฺปทาเนนปิ อนุคฺคเหตพฺโพ, พฺราหฺมณา อนฺนปานวตฺถาทินา เทยฺยธมฺเมน, คหปติกา ภตฺตพีชนงฺคลพลิพทฺทาทิสมฺปทาเนน, ตถา นิคมวาสิโน เนคมา ชนปทวาสิโน จ ชานปทา. สมิตปาปพาหิตปาปา ปน สมณพฺราหฺมณา สมณปริกฺขารสมฺปทาเนน สกฺกาตพฺพา, มิคปกฺขิโน อภยทาเนน สมสฺสาเสตพฺพา.
ธมฺเมเนว จกฺกํ วตฺเตตีติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเมเนว จกฺกํ ปวตฺเตติ. ตํ โหติ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ตํ เตน เอวํ ปวตฺติตํ อาณาจกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ โหติ. เกนจิ ¶ มนุสฺสภูเตนาติ เทวตา นาม อตฺตนา อิจฺฉิติจฺฉิตเมว กโรนฺติ, ตสฺมา ตา อคฺคณฺหิตฺวา ‘‘มนุสฺสภูเตนา’’ติ วุตฺตํ. ปจฺจตฺถิเกนาติ ปฏิอตฺถิเกน, ปฏิสตฺตุนาติ อตฺโถ. ธมฺมิโกติ จกฺกวตฺตี ทสกุสลกมฺมปถวเสน ธมฺมิโก, ตถาคโต ปน นวโลกุตฺตรธมฺมวเสน. ธมฺมราชาติ นวหิ โลกุตฺตรธมฺเมหิ มหาชนํ รฺเชตีติ ธมฺมราชา. ธมฺมํเยวาติ นวโลกุตฺตรธมฺมเมว นิสฺสาย ตเมว สกฺกโรนฺโต ตํ ครุกโรนฺโต ตํ อปจายมาโน. โสวสฺส ธมฺโม อพฺภุคฺคตฏฺเน ธโชติ ธมฺมทฺธโช. โสวสฺส เกตูติ ธมฺมเกตุ. ตเมว อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา วิหรตีติ ธมฺมาธิปเตยฺโย. ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตินฺติ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมทายิกรกฺขฺจ อาวรณฺจ คุตฺติฺจ. สํวิทหตีติ เปติ ปฺเปติ. เอวรูปนฺติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ น เสวิตพฺพํ, สุจริตํ เสวิตพฺพนฺติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สํวิทหิตฺวาติ เปตฺวา กเถตฺวา. ธมฺเมเนว อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ นวโลกุตฺตรธมฺเมเนว อสทิสํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. ตํ โหติ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ตํ เอวํ ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ เอเตสุ สมณาทีสุ เอเกนปิ ปฏิวตฺเตตุํ ปฏิพาหิตุํ น สกฺกา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๕. สเจตนสุตฺตวณฺณนา
๑๕. ปฺจเม อิสิปตเนติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสงฺขาตานํ อิสีนํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถาย เจว อุโปสถกรณตฺถาย ¶ จ อาคนฺตฺวา ปตเน, สนฺนิปาตฏฺาเนติ อตฺโถ. ปทเนติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ. มิคทาเยติ ¶ มิคานํ อภยตฺถาย ทินฺเน. ฉหิ มาเสหิ ฉารตฺตูเนหีติ โส กิร รฺา อาณตฺตทิวเสเยว ¶ สพฺพูปกรณานิ สชฺเชตฺวา อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ อรฺํ ปวิสิตฺวา คามทฺวารคามมชฺฌเทวกุลสุสานาทีสุ ิตรุกฺเข เจว ฌามปติตสุกฺขรุกฺเข จ วิวชฺเชตฺวา สมฺปนฺนปเทเส ิเต สพฺพโทสวิวชฺชิเต นาภิอรเนมีนํ อนุรูเป รุกฺเข คเหตฺวา ตํ จกฺกํ อกาสิ. ตสฺส รุกฺเข วิจินิตฺวา คณฺหนฺตสฺส เจว กโรนฺตสฺส จ เอตฺตโก กาโล วีติวตฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘ฉหิ มาเสหิ ฉารตฺตูเนหี’’ติ. นานากรณนฺติ นานตฺตํ. เนสนฺติ น เอสํ. อตฺเถสนฺติ อตฺถิ เอสํ. อภิสงฺขารสฺส คตีติ ปโยคสฺส คมนํ. จิงฺคุลายิตฺวาติ ปริพฺภมิตฺวา. อกฺขาหตํ มฺเติ อกฺเข ปเวเสตฺวา ปิตมิว.
สโทสาติ สคณฺฑา อุณฺณโตณตฏฺานยุตฺตา. สกสาวาติ ปูติสาเรน เจว เผคฺคุนา จ ยุตฺตา. กายวงฺกาติอาทีนิ กายทุจฺจริตาทีนํ นามานิ. เอวํ ปปติตาติ เอวํ คุณปตเนน ปติตา. เอวํ ปติฏฺิตาติ เอวํ คุเณหิ ปติฏฺิตา. ตตฺถ โลกิยมหาชนา ปปติตา นาม, โสตาปนฺนาทโย ปติฏฺิตา นาม. เตสุปิ ปุริมา ตโย กิเลสานํ สมุทาจารกฺขเณ ปปติตา นาม, ขีณาสวา ปน เอกนฺเตเนว ปติฏฺิตา นาม. ตสฺมาติ ยสฺมา อปฺปหีนกายวงฺกาทโย ปปตนฺติ, ปหีนกายวงฺกาทโย ปติฏฺหนฺติ, ตสฺมา. กายวงฺกาทีนํ ปน เอวํ ปหานํ เวทิตพฺพํ – ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ มิจฺฉาจาโร มุสาวาโท ปิสุณาวาจา มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ตาว ฉ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, ผรุสาวาจา พฺยาปาโทติ ทฺเว อนาคามิมคฺเคน, อภิชฺฌา สมฺผปฺปลาโปติ ทฺเว อรหตฺตมคฺเคนาติ.
๖. อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา
๑๖. ฉฏฺเ อปณฺณกปฏิปทนฺติ อวิรทฺธปฏิปทํ เอกํสปฏิปทํ นิยฺยานิกปฏิปทํ การณปฏิปทํ สารปฏิปทํ มณฺฑปฏิปทํ อปจฺจนีกปฏิปทํ อนุโลมปฏิปทํ ¶ ธมฺมานุธมฺมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ, น ตกฺกคฺคาเหน วา นยคฺคาเหน วา. เอวํ คเหตฺวา ปฏิปนฺโน หิ ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อุปาสโก วา อุปาสิกา วา มนุสฺสเทวนิพฺพานสมฺปตฺตีหิ หายติ ปริหายติ, อปณฺณกปฏิปทํ ¶ ปฏิปนฺโน ปน ตาหิ สมฺปตฺตีหิ น ปริหายติ. อตีเต กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺเนสุ ทฺวีสุ สตฺถวาเหสุ ยกฺขสฺส วจนํ คเหตฺวา พาลสตฺถวาโห สทฺธึ สตฺเถน ¶ อนยพฺยสนํ ปตฺโต, ยกฺขสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา ‘‘อุทกทิฏฺฏฺาเน อุทกํ ฉฑฺเฑสฺสามา’’ติ สตฺถเก สฺาเปตฺวา มคฺคํ ปฏิปนฺโน ปณฺฑิตสตฺถวาโห วิย. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘อปณฺณกํ านเมเก, ทุติยํ อาหุ ตกฺกิกา;
เอตทฺาย เมธาวี, ตํ คณฺเห ยทปณฺณก’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๑);
โยนิ จสฺส อารทฺธา โหตีติ เอตฺถ โยนีติ ขนฺธโกฏฺาสสฺสปิ การณสฺสปิ ปสฺสาวมคฺคสฺสปิ นามํ. ‘‘จตสฺโส โข อิมา, สาริปุตฺต, โยนิโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๒) หิ ขนฺธโกฏฺาโส โยนิ นาม. ‘‘โยนิ เหสา ภูมิช ผลสฺส อธิคมายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๒๖) การณํ. ‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภว’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๔๕๗; ธ. ป. ๓๙๖) จ ‘‘ตเมนํ กมฺมชวาตา นิวตฺติตฺวา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ สมฺปริวตฺเตตฺวา มาตุ โยนิมุเข สมฺปฏิปาเทนฺตี’’ติ จ อาทีสุ ปสฺสาวมคฺโค. อิธ ปน การณํ อธิปฺเปตํ. อารทฺธาติ ปคฺคหิตา ปริปุณฺณา.
อาสวานํ ขยายาติ เอตฺถ อาสวนฺตีติ อาสวา, จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปิ สนฺทนฺติ ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุ, โอกาสโต ยาว ภวคฺคา สวนฺตีติ ¶ วา อาสวา, เอเต ธมฺเม เอตฺจ โอกาสํ อนฺโตกริตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อนฺโตกรณตฺโถ หิ อยํ อากาโร. จิรปาริวาสิยฏฺเน มทิราทโย อาสวา, อาสวา วิยาติปิ อาสวา. โลกสฺมิมฺปิ หิ จิรปาริวาสิกา มทิราทโย อาสวาติ วุจฺจนฺติ, ยทิ จ จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวา, เอเตเยว ภวิตุมรหนฺติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺติ ปสวนฺตีติปิ อาสวา. ปุริมานิ เจตฺถ นิพฺพจนานิ ยตฺถ กิเลสา อาสวาติ อาคจฺฉนฺติ, ตตฺถ ยุชฺชนฺติ, ปจฺฉิมํ กมฺเมปิ. น เกวลฺจ กมฺมกิเลสาเยว อาสวา, อปิจ โข นานปฺปการา อุปทฺทวาปิ. สุตฺเตสุ หิ ‘‘นาหํ, จุนฺท, ทิฏฺธมฺมิกานํเยว อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ ¶ เทเสมี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๒) เอตฺถ วิวาทมูลภูตา กิเลสา อาสวาติ อาคตา.
‘‘เยน ¶ เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;
ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;
เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๖) –
เอตฺถ เตภูมกํ จ กมฺมํ อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา. ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ (ปารา. ๓๙; อ. นิ. ๒.๒๐๒-๒๓๐) เอตฺถ ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธาทโย เจว อปายทุกฺขภูตา จ นานปฺปการา อุปทฺทวา.
เต ปเนเต อาสวา ยตฺถ ยถา อาคตา, ตตฺถ ตถา เวทิตพฺพา. เอเต หิ วินเย ตาว ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ (ปารา. ๓๙; อ. นิ. ๒.๒๐๒-๒๓๐) ทฺเวธา อาคตา. สฬายตเน ‘‘ตโย เม, อาวุโส, อาสวา กามาสโว ภวาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๑) ติธา อาคตา. อฺเสุ จ สุตฺตนฺเตสุ (จูฬนิ. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๖๙; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๗) อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๑๐๒-๑๑๐๖; วิภ. ๙๓๗) จ เตเยว ทิฏฺาสเวน สห จตุธา อาคตา. นิพฺเพธิกปริยาเยน ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคามินิยา ¶ , อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เทวโลกคามินิยา’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓) ปฺจธา อาคตา. กมฺมเมว เจตฺถ อาสวาติ วุตฺตํ. ฉกฺกนิปาเต ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวราปหาตพฺพา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน ฉธา อาคตา. สพฺพาสวปริยาเย (ม. นิ. ๑.๑๔ อาทโย) เตเยว ทสฺสเนน ปหาตพฺเพหิ สทฺธึ สตฺตธา อาคตา. อิธ ปน อภิธมฺมนเยน จตฺตาโร อาสวา อธิปฺเปตาติ เวทิตพฺพา.
ขยายาติ เอตฺถ ปน อาสวานํ สรสเภโทปิ ขีณากาโรปิ มคฺคผลนิพฺพานานิปิ ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุจฺจติ. ‘‘โย อาสวานํ ขโย วโย เภโท ปริเภโท อนิจฺจตา อนฺตรธาน’’นฺติ เอตฺถ หิ อาสวานํ สรสเภโท ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุตฺโต. ‘‘ชานโต อหํ, ภิกฺขเว, ปสฺสโต ¶ อาสวานํ ขยํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕; สํ. นิ. ๒.๒๓; อิติวุ. ๑๐๒) เอตฺถ ¶ อาสวปฺปหานํ อาสวานํ อจฺจนฺตกฺขโย อสมุปฺปาโท ขีณากาโร นตฺถิภาโว ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุตฺโต.
‘‘เสขสฺส สิกฺขมานสฺส, อุชุมคฺคานุสาริโน;
ขยสฺมึ ปมํ าณํ, ตโต อฺา อนนฺตรา’’ติ. (อิติวุ. ๖๒) –
เอตฺถ มคฺโค ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุตฺโต. ‘‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๓๘) เอตฺถ ผลํ.
‘‘ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส, นิจฺจํ อุชฺฌานสฺิโน;
อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ, อารา โส อาสวกฺขยา’’ติ. (ธ. ป. ๒๕๓) –
เอตฺถ นิพฺพานํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ผลํ สนฺธาย ‘‘อาสวานํ ขยายา’’ติ อาห, อรหตฺตผลตฺถายาติ อตฺโถ.
อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโรติ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ ปิหิตทฺวาโร. โภชเน มตฺตฺูติ โภชนสฺมึ ปมาณฺู, ปฏิคฺคหณปริโภคปจฺจเวกฺขณมตฺตํ ชานาติ ปชานาตีติ อตฺโถ. ชาคริยํ ¶ อนุยุตฺโตติ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ชาครณภาวํ อนุยุตฺโต, ชาครเณเยว ยุตฺตปฺปยุตฺโตติ อตฺโถ.
เอวํ มาติกํ เปตฺวา อิทานิ ตเมว ปิตปฏิปาฏิยา วิภชนฺโต กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติอาทีนํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕) วิตฺถาริโต, ตถา ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ เนว ทวายาติอาทีนํ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๘). อาวรณีเยหิ ธมฺเมหีติ ปฺจหิ นีวรเณหิ ธมฺเมหิ. นีวรณานิ หิ จิตฺตํ อาวริตฺวา ติฏฺนฺติ, ตสฺมา อาวรณียา ธมฺมาติ วุจฺจนฺติ. สีหเสยฺยํ กปฺเปตีติ สีโห วิย เสยฺยํ กปฺเปติ. ปาเท ปาทํ อจฺจาธายาติ วามปาทํ ทกฺขิณปาเท อติอาธาย. สมํ ปิเต หิ ปาเท ชาณุเกน ชาณุกํ โคปฺผเกน จ โคปฺผกํ ฆฏียติ, ตโต เวทนา อุฏฺหนฺติ. ตสฺมา ¶ ตสฺส โทสสฺส ปริวชฺชนตฺถํ โถกํ อติกฺกมิตฺวา เอส ปาทํ เปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปาเท ปาทํ อจฺจาธายา’’ติ.
สโต ¶ สมฺปชาโนติ สติยา เจว สมฺปชฺเน จ สมนฺนาคโต. กถํ ปเนส นิทฺทายนฺโต สโต สมฺปชาโน นาม โหตีติ? ปุริมปฺปวตฺติวเสน. อยํ หิ จงฺกเม จงฺกมนฺโต นิทฺทาย โอกฺกมนภาวํ ตฺวา ปวตฺตมานํ กมฺมฏฺานํ เปตฺวา มฺเจ วา ผลเก วา นิปนฺโน นิทฺทํ อุปคนฺตฺวา ปุน ปพุชฺฌมาโน กมฺมฏฺานํ ิตฏฺาเน คณฺหนฺโตเยว ปพุชฺฌติ. ตสฺมา นิทฺทายนฺโตปิ สโต สมฺปชาโน นาม โหติ. อยํ ตาว มูลกมฺมฏฺาเน นโยว. ปริคฺคหกมฺมฏฺานวเสนาปิ ปเนส สโต สมฺปชาโน นาม โหติ. กถํ? อยํ หิ จงฺกมนฺโต นิทฺทาย โอกฺกมนภาวํ ตฺวา ปาสาณผลเก วา มฺเจ วา ทกฺขิเณน ปสฺเสน นิปชฺชิตฺวา ปจฺจเวกฺขติ – ‘‘อเจตโน กาโย อเจตเน ¶ มฺเจ ปติฏฺิโต, อเจตโน มฺโจ อเจตนาย ปถวิยา, อเจตนา ปถวี อเจตเน อุทเก, อเจตนํ อุทกํ อเจตเน วาเต, อเจตโน วาโต อเจตเน อากาเส ปติฏฺิโต. ตตฺถ อากาสมฺปิ ‘อหํ วาตํ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ น ชานาติ, วาโตปิ ‘อหํ อากาเส ปติฏฺิโต’ติ น ชานาติ. ตถา วาโต น ชานาติ. ‘อหํ อุทกํ อุกฺขิปิตฺวา ิโต’ติ…เป… มฺโจ น ชานาติ, ‘อหํ กายํ อุกฺขิปิตฺวา ิโต’ติ, กาโย น ชานาติ ‘อหํ มฺเจ ปติฏฺิโต’ติ. น หิ เตสํ อฺมฺํ อาโภโค วา สมนฺนาหาโร วา มนสิกาโร วา เจตนา วา ปตฺถนา วา อตฺถี’’ติ. ตสฺส เอวํ ปจฺจเวกฺขโต ตํ ปจฺจเวกฺขณจิตฺตํ ภวงฺเค โอตรติ. เอวํ นิทฺทายนฺโตปิ สโต สมฺปชาโน นาม โหตีติ.
อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวาติ ‘‘เอตฺตกํ านํ คเต จนฺเท วา ตารกาย วา อุฏฺหิสฺสามี’’ติ อุฏฺานกาลปริจฺเฉทิกํ สฺํ มนสิกริตฺวา, จิตฺเต เปตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ กริตฺวา สยิโต หิ ยถาปริจฺฉินฺเนเยว กาเล อุฏฺหติ.
๗. อตฺตพฺยาพาธสุตฺตวณฺณนา
๑๗. สตฺตเม อตฺตพฺยาพาธายาติ อตฺตทุกฺขาย. ปรพฺยาพาธายาติ ปรทุกฺขาย. กายสุจริตนฺติอาทีนิ ปุพฺพภาเค ทสกุสลกมฺมปถวเสน อาคตานิ, อุปริ ปน ยาว อรหตฺตา อวาริตาเนว.
๘. เทวโลกสุตฺตวณฺณนา
๑๘. อฏฺเม ¶ ¶ อฏฺฏีเยยฺยาถาติ อฏฺฏา ปีฬิตา ภเวยฺยาถ. หราเยยฺยาถาติ ลชฺเชยฺยาถ. ชิคุจฺเฉยฺยาถาติ คูเถ วิย ตสฺมึ วจเน สฺชาตชิคุจฺฉา ภเวยฺยาถ. อิติ กิราติ เอตฺถ อิตีติ ปทสนฺธิพฺยฺชนสิลิฏฺตา, กิราติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต. ทิพฺเพน กิร อายุนา อฏฺฏียถาติ เอวมสฺส สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปเคว โข ปนาติ ปมตรํเยว.
๙. ปมปาปณิกสุตฺตวณฺณนา
๑๙. นวเม ปาปณิโกติ อาปณิโก, อาปณํ อุคฺฆาเฏตฺวา ภณฺฑวิกฺกายกสฺส วาณิชสฺเสตํ อธิวจนํ. อภพฺโพติ อภาชนภูโต. น ¶ สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาตีติ ยถา อธิฏฺิตํ สุอธิฏฺิตํ โหติ, เอวํ สยํ อตฺตปจฺจกฺขํ กโรนฺโต นาธิฏฺาติ. ตตฺถ ปจฺจูสกาเล ปทสทฺเทน อุฏฺาย ทีปํ ชาเลตฺวา ภณฺฑํ ปสาเรตฺวา อนิสีทนฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาติ นาม. อยํ หิ ยํ โจรา รตฺตึ ภณฺฑํ หริตฺวา ‘‘อิทํ อมฺหากํ หตฺถโต วิสฺสชฺเชสฺสามา’’ติ อาปณํ คนฺตฺวา อปฺเปน อคฺเฆน เทนฺติ, ยมฺปิ พหุเวริโน มนุสฺสา รตฺตึ นคเร วสิตฺวา ปาโตว อาปณํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ คณฺหนฺติ, ยํ วา ปน ชนปทํ คนฺตุกามา มนุสฺสา ปาโตว อาปณํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ กิณนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติ.
อฺเสํ โภชนเวลาย ปน ภฺุชิตุํ อาคนฺตฺวา ปาโตว ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา ภฺุชิตฺวา นิทฺทายิตฺวา สายํ ปุน อาปณํ อาคจฺฉนฺโต มชฺฌนฺหิกสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาติ นาม. โส หิ ยํ โจรา ปาโตว วิสฺสชฺเชตุํ น สมฺปาปุณึสุ, ทิวากาเล ปน ปเรสํ อสฺจารกฺขเณ อาปณํ คนฺตฺวา อปฺปคฺเฆน เทนฺติ, ยฺจ โภชนเวลาย ปฺุวนฺโต อิสฺสรา ‘‘อาปณโต อิทฺจิทฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ปหิณิตฺวา อาหราเปนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติ.
ยาว ยามเภรินิกฺขมนา ปน อนฺโตอาปเณ ทีปํ ชาลาเปตฺวา อนิสีทนฺโต สายนฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺาติ นาม. โส หิ ยํ ¶ โจรา ปาโตปิ ทิวาปิ วิสฺสชฺเชตุํ น สมฺปาปุณึสุ ¶ , สายํ ปน อาปณํ คนฺตฺวา อปฺปคฺเฆน เทนฺติ, ตปฺปจฺจยสฺส ลาภสฺส อสฺสามิโก โหติ.
น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาตีติ สกฺกจฺจกิริยาย สมาธึ น สมาปชฺชติ. เอตฺถ จ ปาโตว เจติยงฺคณโพธิยงฺคเณสุ วตฺตํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ยาว ภิกฺขาจารเวลา, ตาว สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อนิสีทนฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาติ นาม. ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต รตฺติฏฺานทิวาฏฺานํ ¶ ปวิสิตฺวา ยาว สายนฺหสมยา สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อนิสีทนฺโต มชฺฌนฺหิกสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาติ นาม. สายํ ปน เจติยํ วนฺทิตฺวา เถรูปฏฺานํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ปมยามํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา อนิสีทนฺโต สายนฺหสมยํ น สกฺกจฺจํ สมาธินิมิตฺตํ อธิฏฺาติ นาม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ‘‘สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา’’ติ วุตฺตฏฺาเน สมาปตฺติยา อสติ วิปสฺสนาปิ วฏฺฏติ, สมาธินิมิตฺตนฺติ จ สมาธิอารมฺมณมฺปิ วฏฺฏติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘สมาธิปิ สมาธินิมิตฺตํ, สมาธารมฺมณมฺปิ สมาธินิมิตฺต’’นฺติ.
๑๐. ทุติยปาปณิกสุตฺตวณฺณนา
๒๐. ทสเม จกฺขุมาติ ปฺาจกฺขุนา จกฺขุมา โหติ. วิธุโรติ วิสิฏฺธุโร อุตฺตมธุโร าณสมฺปยุตฺเตน วีริเยน สมนฺนาคโต. นิสฺสยสมฺปนฺโนติ อวสฺสยสมฺปนฺโน ปติฏฺานสมฺปนฺโน. ปณิยนฺติ วิกฺกายิกภณฺฑํ. เอตฺตกํ มูลํ ภวิสฺสติ เอตฺตโก อุทโยติ ตสฺมึ ‘‘เอวํ กีตํ เอวํ วิกฺกายมาน’’นฺติ วุตฺตปณิเย เยน กเยน ตํ กีตํ, ตํ กยสงฺขาตํ มูลํ เอตฺตกํ ภวิสฺสติ. โย จ ตสฺมึ วิกฺกยมาเน วิกฺกโย, ตสฺมึ วิกฺกเย เอตฺตโก อุทโย ภวิสฺสติ, เอตฺติกา วฑฺฒีติ อตฺโถ.
กุสโล โหติ ปณิยํ เกตฺุจ วิกฺเกตฺุจาติ สุลภฏฺานํ คนฺตฺวา กิณนฺโต ทุลฺลภฏฺานํ คนฺตฺวา วิกฺกิณนฺโต จ เอตฺถ กุสโล นาม โหติ, ทสคุณมฺปิ วีสติคุณมฺปิ ลาภํ ลภติ.
อฑฺฒาติ ¶ อิสฺสรา พหุนา นิกฺขิตฺตธเนน สมนฺนาคตา. มหทฺธนาติ วฬฺชนกวเสน มหทฺธนา ¶ . มหาโภคาติ ¶ อุปโภคปริโภคภณฺเฑน มหาโภคา. ปฏิพโลติ กายพเลน เจว าณพเลน จ สมนฺนาคตตฺตา สมตฺโถ. อมฺหากฺจ กาเลน กาลํ อนุปฺปทาตุนฺติ อมฺหากฺจ คหิตธนมูลิกํ วฑฺฒึ กาเลน กาลํ อนุปฺปทาตุํ. นิปตนฺตีติ นิมนฺเตนฺติ. นิปาเตนฺตีติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ.
กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทายาติ กุสลธมฺมานํ สมฺปาทนตฺถาย ปฏิลาภตฺถาย. ถามวาติ าณถาเมน สมนฺนาคโต. ทฬฺหปรกฺกโมติ ถิเรน าณปรกฺกเมน สมนฺนาคโต. อนิกฺขิตฺตธุโรติ ‘‘อคฺคมคฺคํ อปาปุณิตฺวา อิมํ วีริยธุรํ น เปสฺสามี’’ติ เอวํ อฏฺปิตธุโร.
พหุสฺสุตาติ เอกนิกายาทิวเสน พหุ พุทฺธวจนํ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. อาคตาคมาติ เอโก นิกาโย เอโก อาคโม นาม, ทฺเว นิกายา ทฺเว อาคมา นาม, ปฺจ นิกายา ปฺจ อาคมา นาม, เอเตสุ อาคเมสุ เยสํ เอโกปิ อาคโม อาคโต ปคุโณ ปวตฺติโต, เต อาคตาคมา นาม. ธมฺมธราติ สุตฺตนฺตปิฏกธรา. วินยธราติ วินยปิฏกธรา. มาติกาธราติ ทฺเวมาติกาธรา. ปริปุจฺฉตีติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ ปุจฺฉติ. ปริปฺหตีติ ‘‘อิมํ นาม ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ อฺาติ ตุเลติ ปริคฺคณฺหาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
อิมสฺมึ ¶ ปน สุตฺเต ปมํ ปฺา อาคตา, ปจฺฉา วีริยฺจ กลฺยาณมิตฺตเสวนา จ. ตตฺถ ปมํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปจฺฉา วีริยํ กตฺวา กลฺยาณมิตฺตา เสวิตพฺพาติ น เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, เทสนาย นาม เหฏฺิเมน วา ปริจฺเฉโท โหติ อุปริเมน วา ทฺวีหิปิ วา โกฏีหิ. อิธ ปน อุปริเมน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตสฺมา กเถนฺเตน ปมํ กลฺยาณมิตฺตอุปนิสฺสยํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ วีริยํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา อรหตฺตํ กเถตพฺพนฺติ.
รถการวคฺโค ทุติโย.
๓. ปุคฺคลวคฺโค
๑. สมิทฺธสุตฺตวณฺณนา
๒๑. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขิ. ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. ขมตีติ รุจฺจติ. อภิกฺกนฺตตโรติ อติสุนฺทรตโร. ปณีตตโรติ อติปณีตตโร. สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตีติ สมิทฺธตฺเถรสฺส กิร อรหตฺตมคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ, เสสานิ จตฺตาริ สหชาตินฺทฺริยานิ ตสฺเสว ปริวารานิ อเหสุํ. อิติ เถโร อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคํ กเถนฺโต เอวมาห. มหาโกฏฺิกตฺเถรสฺส ปน อรหตฺตมคฺคกฺขเณ สมาธินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ, เสสานิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ตสฺเสว ปริวารานิ อเหสุํ. ตสฺมา โสปิ สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺตนฺติ กเถนฺโต อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคเมว กเถสิ. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปน อรหตฺตมคฺคกฺขเณ ปฺินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ. เสสานิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ตสฺเสว ปริวารานิ อเหสุํ. ตสฺมา โสปิ ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตนฺติ กเถนฺโต อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคเมว กเถสิ.
น ¶ ขฺเวตฺถาติ น โข เอตฺถ. เอกํเสน พฺยากาตุนฺติ เอกนฺเตน พฺยากริตุํ. อรหตฺตาย ปฏิปนฺโนติ อรหตฺตมคฺคสมงฺคึ ทสฺเสติ. เอวเมตสฺมึ สุตฺเต ตีหิปิ เถเรหิ อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺโคว กถิโต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน ภุมฺมนฺตเรเนว กเถสิ.
๒. คิลานสุตฺตวณฺณนา
๒๒. ทุติเย สปฺปายานีติ หิตานิ วุทฺธิกรานิ. ปติรูปนฺติ อนุจฺฉวิกํ. เนว วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา อเตกิจฺเฉน วาตาปมาราทินา โรเคน สมนฺนาคโต นิฏฺาปตฺตคิลาโน กถิโต. วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา ขิปิตกกจฺฉุติณปุปฺผกชราทิเภโท อปฺปมตฺตอาพาโธ กถิโต. ลภนฺโต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโตติ อิมินา ปน เยสํ ปฏิชคฺคเนน ผาสุกํ โหติ, สพฺเพปิ เต อาพาธา กถิตา. เอตฺถ จ ปติรูโป อุปฏฺาโก นาม ¶ คิลานุปฏฺากองฺเคหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต ทกฺโข อนลโส เวทิตพฺโพ. คิลานุปฏฺาโก อนฺุาโตติ ภิกฺขุสงฺเฆน ทาตพฺโพติ อนฺุาโต. ตสฺมิฺหิ คิลาเน อตฺตโน ธมฺมตาย ยาเปตุํ อสกฺโกนฺเต ภิกฺขุสงฺเฆน ¶ ตสฺส ภิกฺขุโน เอโก ภิกฺขุ จ สามเณโร จ ‘‘อิมํ ปฏิชคฺคถา’’ติ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพา. ยาว ปน เต ตํ ปฏิชคฺคนฺติ, ตาว คิลานสฺส จ เตสฺจ ทฺวินฺนํ เยนตฺโถ, สพฺพํ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว ภาโร.
อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพาติ อิตเรปิ ทฺเว คิลานา อุปฏฺาเปตพฺพา. กึ การณา? โยปิ หิ นิฏฺปตฺตคิลาโน, โส อนุปฏฺิยมาโน ‘‘สเจ มํ ปฏิชคฺเคยฺยุํ, ผาสุกํ เม ภเวยฺย. น โข ปน มํ ปฏิชคฺคนฺตี’’ติ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺย. ปฏิชคฺคิยมานสฺส ปนสฺส เอวํ โหติ ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆน ยํ กาตพฺพํ, ตํ กตํ. มยฺหํ ปน กมฺมวิปาโก อีทิโส’’ติ. โส ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตํ ¶ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติสฺสติ. โย ปน อปฺปมตฺตเกน พฺยาธินา สมนฺนาคโต ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ วุฏฺาติเยว, ตสฺส วินาปิ เภสชฺเชน วูปสมนพฺยาธิ เภสชฺเช กเต ขิปฺปตรํ วูปสมฺมติ. โส ตโต พุทฺธวจนํ วา อุคฺคณฺหิตุํ สกฺขิสฺสติ, สมณธมฺมํ วา กาตุํ สกฺขิสฺสติ. อิมินา การเณน ‘‘อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.
เนว โอกฺกมตีติ เนว ปวิสติ. นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ มคฺคนิยามสงฺขาตํ สมฺมตฺตํ. อิมินา ปทปรโม ปุคฺคโล กถิโต. ทุติยวาเรน อุคฺฆฏิตฺู คหิโต สาสเน นาลกตฺเถรสทิโส พุทฺธนฺตเร เอกวารํ ปจฺเจกพุทฺธานํ สนฺติเก โอวาทํ ลภิตฺวา ปฏิวิทฺธปจฺเจกโพธิาโณ จ. ตติยวาเรน วิปฺจิตฺู ปุคฺคโล กถิโต, เนยฺโย ปน ตนฺนิสฺสิโตว โหติ.
ธมฺมเทสนา อนฺุาตาติ มาสสฺส อฏฺ วาเร ธมฺมกถา อนฺุาตา. อฺเสมฺปิ ธมฺโม เทเสตพฺโพติ อิตเรสมฺปิ ธมฺโม กเถตพฺโพ. กึ การณา? ปทปรมสฺส หิ อิมสฺมึ อตฺตภาเว ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺตสฺสาปิ อนาคเต ปจฺจโย ภวิสฺสติ. โย ปน ตถาคตสฺส รูปทสฺสนํ ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมวินยฺจ สวนาย ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมํ อภิสเมติ, โส อลภนฺโต ตาว อภิสเมติ. ลภนฺโต ปน ขิปฺปเมว อภิสเมสฺสตีติ อิมินา การเณน ¶ เตสํ ธมฺโม เทเสตพฺโพ. ตติยสฺส ปน ปุนปฺปุนํ เทเสตพฺโพว.
๓. สงฺขารสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย ¶ สพฺยาพชฺฌนฺติ สทุกฺขํ. กายสงฺขารนฺติ กายทฺวาเร เจตนาราสึ. อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ ราสึ กโรติ ปิณฺฑํ กโรติ. วจีมโนทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. สพฺยาพชฺฌํ โลกนฺติ สทุกฺขํ โลกํ. สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺตีติ สทุกฺขา วิปากผสฺสา ผุสนฺติ. สพฺยาพชฺฌํ ¶ เวทนํ เวทิยตีติ สทุกฺขํ วิปากเวทนํ เวทิยติ, สาพาธํ นิรสฺสาทนฺติ อตฺโถ. เสยฺยถาปิ สตฺตา เนรยิกาติ ยถา นิรเย นิพฺพตฺตสตฺตา เอกนฺตทุกฺขํ เวทนํ เวทิยนฺติ, เอวํ เวทิยตีติ อตฺโถ. กึ ปน ตตฺถ อุเปกฺขาเวทนา นตฺถีติ? อตฺถิ, ทุกฺขเวทนาย ปน พลวภาเวน สา อพฺโพหาริกฏฺาเน ิตา. อิติ นิรโยว นิรยสฺส อุปมํ กตฺวา อาหโฏ. ตตฺร ปฏิภาคอุปมา นาม กิร เอสา.
เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหาติ อิธาปิ เทวโลโกว เทวโลกสฺส อุปมํ กตฺวา อาหโฏ. ยสฺมา ปน เหฏฺิเมสุ พฺรหฺมโลเกสุ สปฺปีติกชฺฌานวิปาโก วตฺตติ, สุภกิณฺเหสุ นิปฺปีติโก เอกนฺตสุโขว, ตสฺมา เต อคฺคเหตฺวา สุภกิณฺหาว กถิตา. อิติ อยมฺปิ ตตฺร ปฏิภาคอุปมา นามาติ เวทิตพฺพา.
โวกิณฺณสุขทุกฺขนฺติ โวมิสฺสกสุขทุกฺขํ. เสยฺยถาปิ มนุสฺสาติ มนุสฺสานํ หิ กาเลน สุขํ โหติ, กาเลน ทุกฺขํ. เอกจฺเจ จ เทวาติ กามาวจรเทวา. เตสมฺปิ กาเลน สุขํ โหติ, กาเลน ทุกฺขํ. เตสํ หิ หีนตรานํ มเหสกฺขตรา เทวตา ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ โหติ, มคฺคา อุกฺกมิตพฺพํ, ปารุตวตฺถํ อปเนตพฺพํ, อฺชลิกมฺมํ กาตพฺพนฺติ ตํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ นาม โหติ. เอกจฺเจ จ วินิปาติกาติ เวมานิกเปตา. เต หิ กาเลน สมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ กาเลน กมฺมนฺติ โวกิณฺณสุขทุกฺขาว โหนฺติ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ตีณิ สุจริตานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๔. พหุการสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺเถ ¶ ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลาติ ตโย อาจริยปุคฺคลา. ปุคฺคลสฺส ¶ พหุการาติ อนฺเตวาสิกปุคฺคลสฺส พหูปการา. พุทฺธนฺติ สพฺพฺุพุทฺธํ. สรณํ คโต โหตีติ อวสฺสยํ ¶ คโต โหติ. ธมฺมนฺติ สตนฺติกํ นวโลกุตฺตรธมฺมํ. สงฺฆนฺติ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหํ. อิทฺจ ปน สรณคมนํ อคฺคหิตสรณปุพฺพสฺส อกตาภินิเวสสฺส วเสน วุตฺตํ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต สรณทายโก โสตาปตฺติมคฺคสมฺปาปโก อรหตฺตมคฺคสมฺปาปโกติ ตโย อาจริยา พหุการาติ อาคตา, ปพฺพชฺชาทายโก พุทฺธวจนทายโก กมฺมวาจาจริโย สกทาคามิมคฺคสมฺปาปโก อนาคามิมคฺคสมฺปาปโกติ อิเม อาจริยา น อาคตา, กึ เอเต น พหุการาติ? โน, น พหุการา. อยํ ปน เทสนา ทุวิเธน ปริจฺฉินฺนา. ตสฺมา สพฺเพเปเต พหุการา. เตสุ สรณคมนสฺมึเยว อกตาภินิเวโส วฏฺฏติ, จตุปาริสุทฺธิสีลกสิณปริกมฺมวิปสฺสนาาณานิ ปน ปมมคฺคสนฺนิสฺสิตานิ โหนฺติ, อุปริ ทฺเว มคฺคา จ ผลานิ จ อรหตฺตมคฺคสนฺนิสฺสิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
อิมินา ปุคฺคเลนาติ อิมินา อนฺเตวาสิกปุคฺคเลน. น สุปฺปติการํ วทามีติ ปติการํ กาตุํ น สุกรนฺติ วทามิ. อภิวาทนาทีสุ อเนกสตวารํ อเนกสหสฺสวารมฺปิ หิ ปฺจปติฏฺิเตน นิปติตฺวา วนฺทนฺโต อาสนา วุฏฺาย ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต ทิฏฺทิฏฺกฺขเณ อฺชลึ ปคฺคณฺหนฺโต อนุจฺฉวิกํ สามีจิกมฺมํ กโรนฺโต ทิวเส ทิวเส จีวรสตํ จีวรสหสฺสํ ปิณฺฑปาตสตํ ปิณฺฑปาตสหสฺสํ ททมาโน จกฺกวาฬปริยนฺเตน สพฺพรตนมยํ อาวาสํ กโรนฺโต สปฺปินวนีตาทินานปฺปการํ เภสชฺชํ อนุปฺปทชฺชมาโน เนว สกฺโกติ อาจริเยน กตสฺส ปติการํ นาม กาตุนฺติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕. วชิรูปมสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม อรุกูปมจิตฺโตติ ปุราณวณสทิสจิตฺโต. วิชฺชูปมจิตฺโตติ อิตฺตรกาโลภาสเนน วิชฺชุสทิสจิตฺโต. วชิรูปมจิตฺโตติ ¶ กิเลสานํ ¶ มูลฆาตกรณสมตฺถตาย วชิเรน สทิสจิตฺโต. อภิสชฺชตีติ ลคฺคติ. กุปฺปตีติ โกปวเสน กุปฺปติ. พฺยาปชฺชตีติ ปกติภาวํ ปชหติ, ปูติโก โหติ. ปติตฺถียตีติ ถินภาวํ ถทฺธภาวํ อาปชฺชติ. โกปนฺติ ทุพฺพลโกธํ. โทสนฺติ ทุสฺสนวเสน ตโต พลวตรํ. อปฺปจฺจยนฺติ อตุฏฺาการํ โทมนสฺสํ. ทุฏฺารุโกติ ปุราณวโณ. กฏฺเนาติ ทณฺฑกโกฏิยา. กเลนาติ กปาเลน. อาสวํ เทตีติ อปราปรํ สวติ. ปุราณวโณ หิ อตฺตโน ธมฺมตาเยว ปุพฺพํ โลหิตํ ยูสนฺติ อิมานิ ตีณิ สวติ, ฆฏฺฏิโต ปน ตานิ อธิกตรํ สวติ.
เอวเมว ¶ โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ทุฏฺารุโก วิย หิ โกธนปุคฺคโล, ตสฺส อตฺตโน ธมฺมตาย สวนํ วิย โกธนสฺสปิ อตฺตโน ธมฺมตาย อุทฺธุมาตสฺส วิย จณฺฑิกตสฺส จรณํ, กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏนํ วิย อปฺปมตฺตํ วจนํ, ภิยฺโยโสมตฺตาย สวนํ วิย ‘‘มาทิสํ นาม เอส เอวํ วทตี’’ติ ภิยฺโยโสมตฺตาย อุทฺธุมายนภาโว ทฏฺพฺโพ.
รตฺตนฺธการติมิสายนฺติ รตฺตึ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารเณน อนฺธภาวกรเณ พหลตเม. วิชฺชนฺตริกายาติ วิชฺชุปฺปตฺติกฺขเณ. อิธาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – จกฺขุมา ปุริโส วิย หิ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ, อนฺธการํ วิย โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา กิเลสา, วิชฺชุสฺจรณํ วิย โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อุปฺปตฺติกาโล, วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สมนฺตา รูปทสฺสนํ วิย ¶ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ, ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย สกทาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา, ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย สกทาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท, วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สมนฺตา รูปทสฺสนํ วิย สกทาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ, ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อนาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา, ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย อนาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท, วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สมนฺตา รูปทสฺสนํ วิย อนาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ เวทิตพฺพํ.
วชิรูปมจิตฺตตายปิ ¶ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – วชิรํ วิย หิ อรหตฺตมคฺคาณํ ทฏฺพฺพํ, มณิคณฺิปาสาณคณฺิ วิย อรหตฺตมคฺควชฺฌา กิเลสา, วชิรสฺส มณิคณฺิมฺปิ วา ปาสาณคณฺิมฺปิ วา วินิวิชฺฌิตฺวา อคมนภาวสฺส นตฺถิตา วิย อรหตฺตมคฺคาเณน อจฺเฉชฺชานํ กิเลสานํ นตฺถิภาโว, วชิเรน นิพฺพิทฺธเวธสฺส ปุน อปติปูรณํ วิย อรหตฺตมคฺเคน ฉินฺนานํ กิเลสานํ ปุน อนุปฺปาโท ทฏฺพฺโพติ.
๖. เสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ เสวิตพฺโพติ อุปสงฺกมิตพฺโพ. ภชิตพฺโพติ อลฺลียิตพฺโพ. ปยิรุปาสิตพฺโพติ สนฺติเก นิสีทนวเสน ปุนปฺปุนํ อุปาสิตพฺโพ. สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวาติ สกฺการฺเจว ครุการฺจ กตฺวา. หีโน โหติ สีเลนาติอาทีสุ อุปาทายุปาทาย หีนตา เวทิตพฺพา. ตตฺถ โย หิ ปฺจ สีลานิ รกฺขติ, โส ทส สีลานิ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ ¶ . โย ทส สีลานิ รกฺขติ, โส จตุปาริสุทฺธิสีลํ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ. อฺตฺร อนุทฺทยา อฺตฺร อนุกมฺปาติ เปตฺวา อนุทฺทยฺจ อนุกมฺปฺจ. อตฺตโน อตฺถาเยว หิ เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ, อนุทฺทยานุกมฺปาวเสน ปน ตํ อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ.
สีลสามฺคตานํ สตนฺติ สีเลน สมานภาวํ คตานํ สนฺตานํ. สีลกถา ¶ จ โน ภวิสฺสตีติ เอวํ สมานสีลานํ อมฺหากํ สีลเมว อารพฺภ กถา ภวิสฺสติ. สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสตีติ สา จ อมฺหากํ กถา ทิวสมฺปิ กเถนฺตานํ ปวตฺติสฺสติ น ปฏิหฺิสฺสติ. สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสตีติ สา จ ทิวสมฺปิ ปวตฺตมานา สีลกถา อมฺหากํ ผาสุวิหาโร สุขวิหาโร ภวิสฺสติ. สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย.
สีลกฺขนฺธนฺติ สีลราสึ. ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ เอตฺถ สีลสฺส อสปฺปาเย อนุปการธมฺเม วชฺเชตฺวา สปฺปาเย อุปการธมฺเม เสวนฺโต ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สีลกฺขนฺธํ ปฺาย อนุคฺคณฺหาติ นาม. สมาธิปฺากฺขนฺเธสุปิ เอเสว นโย. นิหียตีติ อตฺตโน หีนตรํ ปุคฺคลํ เสวนฺโต ขารปริสฺสาวเน อาสิตฺตอุทกํ วิย สตตํ สมิตํ หายติ ปริหายติ. ตุลฺยเสวีติ อตฺตนา สมานเสวี. เสฏฺมุปนมนฺติ เสฏฺํ ¶ ปุคฺคลํ โอณมนฺโต. อุเทติ ขิปฺปนฺติ ขิปฺปเมว วฑฺฒติ. ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตรึ ภเชถาติ ยสฺมา เสฏฺํ ปุคฺคลํ อุปนมนฺโต อุเทติ ขิปฺปํ, ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตริตรํ วิสิฏฺตรํ ภเชถ.
๗. ชิคุจฺฉิตพฺพสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม ชิคุจฺฉิตพฺโพติ คูถํ วิย ชิคุจฺฉิตพฺโพ. อถ โข นนฺติ อถ โข อสฺส. กิตฺติสทฺโทติ กถาสทฺโท. เอวเมว โขติ เอตฺถ คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺยํ ทฏฺพฺพํ. คูถกูเป ปติตฺวา ิโต ธมฺมนิอหิ วิย ทุสฺสีลปุคฺคโล. คูถกูปโต อุทฺธริยมาเนน เตน อหินา ปุริสสฺส สรีรํ อารุฬฺเหนาปิ อทฏฺภาโว วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺสาปิ ตสฺส กิริยาย อกรณภาโว. สรีรํ คูเถน มกฺเขตฺวา ¶ อหินา คตกาโล วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺส ปาปกิตฺติสทฺทอพฺภุคฺคมนกาโล เวทิตพฺโพ.
ตินฺทุกาลาตนฺติ ตินฺทุกรุกฺขอลาตํ. ภิยฺโยโสมตฺตาย จิจฺจิฏายตีติ ตํ หิ ฌายมานํ ปกติยาปิ ¶ ปปฏิกาโย มฺุจนฺตํ จิจฺจิฏาติ ‘‘จิฏิจิฏา’’ติ สทฺทํ กโรติ, ฆฏฺฏิตํ ปน อธิมตฺตํ กโรตีติ อตฺโถ. เอวเมว โขติ เอวเมวํ โกธโน อตฺตโน ธมฺมตายปิ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ, อปฺปมตฺตกํ ปน วจนํ สุตกาเล ‘‘มาทิสํ นาม เอวํ วทติ เอวํ วทตี’’ติ อติเรกตรํ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ. คูถกูโปติ คูถปุณฺณกูโป, คูถราสิเยว วา. โอปมฺมสํสนฺทนํ ปเนตฺถ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพติ ยสฺมา โกธโน อติเสวิยมาโน อติอุปสงฺกมิยมาโนปิ กุชฺฌติเยว, ‘‘กึ อิมินา’’ติ ปฏิกฺกมนฺเตปิ กุชฺฌติเยว. ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? โย หิ ปลาลคฺคึ อติอุปสงฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สรีรํ ฌายติ. โย อติปฏิกฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สีตํ น วูปสมฺมติ. อนุปสงฺกมิตฺวา อปฏิกฺกมิตฺวา ปน มชฺฌตฺตภาเวน ตปฺปนฺตสฺส สีตํ วูปสมฺมติ, ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย โกธโน ปุคฺคโล มชฺฌตฺตภาเวน ¶ อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ.
กลฺยาณมิตฺโตติ สุจิมิตฺโต. กลฺยาณสหาโยติ สุจิสหาโย. สหายา นาม สหคามิโน สทฺธึจรา. กลฺยาณสมฺปวงฺโกติ กลฺยาเณสุ สุจิปุคฺคเลสุ สมฺปวงฺโก, ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารมานโสติ อตฺโถ.
๘. คูถภาณีสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺเม คูถภาณีติ โย คูถํ วิย ทุคฺคนฺธกถํ กเถติ. ปุปฺผภาณีติ ¶ โย ปุปฺผานิ วิย สุคนฺธกถํ กเถติ. มธุภาณีติ โย มธุ วิย มธุรกถํ กเถติ. สภคฺคโตติ สภาย ิโต. ปริสคฺคโตติ คามปริสาย ิโต. าติมชฺฌคโตติ าตีนํ มชฺเฌ ิโต. ปูคมชฺฌคโตติ เสณีนํ มชฺเฌ ิโต. ราชกุลมชฺฌคโตติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต. อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถายานีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลฺโช อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ อนฺตมโส ติตฺติริยวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิมตฺตกสฺส ลฺชสฺส เหตูติ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กตฺตา โหติ.
เนลาติ ¶ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺส เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ. ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕) เอตฺถ วุตฺตสีลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติ นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน ¶ หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ ¶ , ปิติมตฺตํ ปิตาติ, มาติมตฺตํ มาตาติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุทฺธิกราติ พหุชนมนาปา.
๙. อนฺธสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม จกฺขุ น โหตีติ ปฺาจกฺขุ น โหติ. ผาตึ กเรยฺยาติ ผีตํ วฑฺฒิตํ กเรยฺย. สาวชฺชานวชฺเชติ สโทสนิทฺโทเส. หีนปฺปณีเตติ อธมุตฺตเม. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคติ กณฺหสุกฺกาเยว อฺมฺํ ปฏิพาหนโต ปฏิปกฺขวเสน สปฺปฏิภาคาติ วุจฺจนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – กุสเล ธมฺเม ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ ชาเนยฺย, อกุสเล ธมฺเม ‘‘อกุสลา ธมฺมา’’ติ ชาเนยฺย. สาวชฺชาทีสุปิ เอเสว นโย. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคสุ ปน กณฺหธมฺเม ‘‘สุกฺกสปฺปฏิภาคา’’ติ ชาเนยฺย, สุกฺกธมฺเม ‘‘กณฺหสปฺปฏิภาคา’’ติ เยน ปฺาจกฺขุนา ชาเนยฺย, ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหตีติ. อิมินา นเยน เสสวาเรสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
น เจว โภคา ตถารูปาติ ตถาชาติกา โภคาปิสฺส น โหนฺติ. น จ ปฺุานิ กุพฺพตีติ ปฺุานิ จ น กโรติ. เอตฺตาวตา โภคุปฺปาทนจกฺขุโน จ ปฺุกรณจกฺขุโน จ อภาโว วุตฺโต. อุภยตฺถ กลิคฺคาโหติ อิธโลเก จ ปรโลเก จาติ อุภยสฺมิมฺปิ อปรทฺธคฺคาโห, ปราชยคฺคาโห โหตีติ อตฺโถ. อถ วา อุภยตฺถ กลิคฺคาโหติ อุภเยสมฺปิ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ อตฺถานํ กลิคฺคาโห, ปราชยคฺคาโหติ อตฺโถ. ธมฺมาธมฺเมนาติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเมนปิ ทสอกุสลกมฺมปถอธมฺเมนปิ. สโติ เกราฏิโก. โภคานิ ปริเยสตีติ โภเค คเวสติ. เถยฺเยน ¶ กูฏกมฺเมน, มุสาวาเทน จูภยนฺติ เถยฺยาทีสุ อุภเยน ปริเยสตีติ อตฺโถ. กถํ? เถยฺเยน กูฏกมฺเมน จ ปริเยสติ, เถยฺเยน มุสาวาเทน จ ปริเยสติ ¶ , กูฏกมฺเมน มุสาวาเทน จ ปริเยสติ. สงฺฆาตุนฺติ สงฺฆริตุํ. ธมฺมลทฺเธหีติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ อโกเปตฺวา ลทฺเธหิ. อุฏฺานาธิคตนฺติ วีริเยน ¶ อธิคตํ. อพฺยคฺฆมานโสติ นิพฺพิจิกิจฺฉจิตฺโต. ภทฺทกํ านนฺติ เสฏฺํ เทวฏฺานํ. น โสจตีติ ยสฺมึ าเน อนฺโตโสเกน น โสจติ.
๑๐. อวกุชฺชสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม อวกุชฺชปฺโติ อโธมุขปฺโ. อุจฺฉงฺคปฺโติ อุจฺฉงฺคสทิสปฺโ. ปุถุปฺโติ วิตฺถาริกปฺโ. อาทิกลฺยาณนฺติอาทีสุ อาทีติ ปุพฺพปฏฺปนา. มชฺฌนฺติ กถาเวมชฺฌํ. ปริโยสานนฺติ สนฺนิฏฺานํ. อิติสฺส เต ธมฺมํ กเถนฺตา ปุพฺพปฏฺปเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา กเถนฺติ, เวมชฺเฌปิ ปริโยสาเนปิ. เอตฺถ จ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานานิ, อตฺถิ สาสนสฺส. ตตฺถ เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกคาถาย ปมปทํ อาทิ, ทฺเว ปทานิ มชฺฌํ, อวสานปทํ ปริโยสานํ. เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, อนุสนฺธิ มชฺฌํ, อิทมโวจาติ อปฺปนา ปริโยสานํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส ปโม อนุสนฺธิ อาทิ, ตโต ปรํ เอโก วา อเนเก วา มชฺฌํ, ปจฺฉิโม ปริโยสานํ. อยํ ตาว เทสนาย นโย. สาสนสฺส ปน สีลํ อาทิ, สมาธิ มชฺฌํ, วิปสฺสนา ปริโยสานํ. สมาธิ วา อาทิ, วิปสฺสนา มชฺฌํ, มคฺโค ปริโยสานํ. วิปสฺสนา วา อาทิ, มคฺโค มชฺฌํ, ผลํ ปริโยสานํ. มคฺโค วา อาทิ, ผลํ มชฺฌํ, นิพฺพานํ ปริโยสานํ. ทฺเว ทฺเว วา กยิรมาเน สีลสมาธโย อาทิ, วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ.
สาตฺถนฺติ ¶ สาตฺถกํ กตฺวา เทเสนฺติ. สพฺยฺชนนฺติ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา เทเสนฺติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ สกลปริปุณฺณํ อนูนํ กตฺวา เทเสนฺติ. ปริสุทฺธนฺติ ปริสุทฺธํ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺึ กตฺวา เทเสนฺติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺตีติ เอวํ เทเสนฺตา จ เสฏฺจริยภูตํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ปกาเสนฺติ. เนว อาทึ มนสิ กโรตีติ เนว ปุพฺพปฏฺปนํ มนสิ กโรติ.
กุมฺโภติ ฆโฏ. นิกุชฺโชติ อโธมุโข ปิโต. เอวเมว โขติ เอตฺถ กุมฺโภ นิกุชฺโช วิย อวกุชฺชปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ, อุทกาสิฺจนกาโล ¶ วิย ธมฺมเทสนาย ลทฺธกาโล, อุทกสฺส ¶ วิวฏฺฏนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคเหตุํ อสมตฺถกาโล, อุทกสฺส อสณฺานกาโล วิย วุฏฺหิตฺวา อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ.
อากิณฺณานีติ ปกฺขิตฺตานิ. สติสมฺโมสาย ปกิเรยฺยาติ มุฏฺสฺสติตาย วิกิเรยฺย. เอวเมว โขติ เอตฺถ อุจฺฉงฺโค วิย อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ, นานาขชฺชกานิ วิย นานปฺปการํ พุทฺธวจนํ, อุจฺฉงฺเค นานาขชฺชกานิ ขาทนฺตสฺส นิสินฺนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคณฺหนกาโล, วุฏฺหนฺตสฺส สติสมฺโมสา ปกิรณกาโล วิย ตสฺมา อาสนา วุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ.
อุกฺกุชฺโชติ อุปริมุโข ปิโต. สณฺาตีติ ปติฏฺหติ. เอวเมว โขติ เอตฺถ อุปริมุโข ปิโต กุมฺโภ วิย ปุถุปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ, อุทกสฺส อาสิตฺตกาโล วิย เทสนาย ¶ ลทฺธกาโล, อุทกสฺส สณฺานกาโล วิย ตตฺถ นิสินฺนสฺส อุคฺคณฺหนกาโล, โน วิวฏฺฏนกาโล วิย วุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส สลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ.
ทุมฺเมโธติ นิปฺปฺโ. อวิจกฺขโณติ สํวิทหนปฺาย รหิโต. คนฺตาติ คมนสีโล. เสยฺโย เอเตน วุจฺจตีติ เอตสฺมา ปุคฺคลา อุตฺตริตโรติ วุจฺจติ. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโนติ นวโลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุธมฺมํ สห สีเลน ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปฏิปนฺโน. ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส. อนฺตกโร สิยาติ โกฏิกโร ปริจฺเฉทกโร ปริวฏุมกโร ภเวยฺยาติ.
ปุคฺคลวคฺโค ตติโย.
๔. เทวทูตวคฺโค
๑. สพฺรหฺมกสุตฺตวณฺณนา
๓๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม อชฺฌาคาเรติ สเก ฆเร. ปูชิตา โหนฺตีติ ยํ ฆเร อตฺถิ, เตน ปฏิชคฺคิตา โคปิตา โหนฺติ. อิติ มาตาปิตุปูชกานิ กุลานิ มาตาปิตูหิ สพฺรหฺมกานีติ ปกาเสตฺวา อิทานิ เนสํ ¶ สปุพฺพาจริยกาทิภาวํ ปกาเสนฺโต สปุพฺพาจริยกานีติอาทิมาห. ตตฺถ พฺรหฺมาติอาทีนิ เตสํ พฺรหฺมาทิภาวสาธนตฺถํ วุตฺตานิ. พหุการาติ ปุตฺตานํ พหูปการา. อาปาทกาติ ชีวิตสฺส อาปาทกา. ปุตฺตกานํ หิ มาตาปิตูหิ ชีวิตํ อาปาทิตํ ปาลิตํ ฆฏิตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติตํ. โปสกาติ หตฺถปาเท วฑฺเฒตฺวา หทยโลหิตํ ปาเยตฺวา โปเสตาโร. อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโรติ ปุตฺตานํ หิ อิมสฺมึ โลเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณสฺส ¶ ทสฺสนํ นาม มาตาปิตโร นิสฺสาย ชาตนฺติ อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร นาม.
พฺรหฺมาติ มาตาปิตโรติ เสฏฺาธิวจนํ. ยถา พฺรหฺมุโน จตสฺโส ภาวนา อวิชหิตา โหนฺติ เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขาติ, เอวเมว มาตาปิตูนํ ปุตฺตเกสุ จตสฺโส ภาวนา อวิชหิตา โหนฺติ. ตา ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล เวทิตพฺพา – กุจฺฉิคตสฺมึ หิ ทารเก ‘‘กทา นุ โข ปุตฺตกํ อโรคํ ปริปุณฺณงฺคปจฺจงฺคํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ มาตาปิตูนํ เมตฺตจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปเนส มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก อูกาหิ วา มงฺกุลาทีหิ ปาณเกหิ ทฏฺโ ทุกฺขเสยฺยาย วา ปน ปีฬิโต ปโรทติ วิรวติ, ตทาสฺส สทฺทํ สุตฺวา มาตาปิตูนํ การฺุํ อุปฺปชฺชติ, อาธาวิตฺวา วิธาวิตฺวา กีฬนกาเล ปน โลภนียวยสฺมึ วา ิตกาเล ทารกํ โอโลเกตฺวา มาตาปิตูนํ จิตฺตํ สปฺปิมณฺเฑ ปกฺขิตฺตสตวิหตกปฺปาสปิจุปฏลํ วิย มุทุกํ โหติ อาโมทิตํ ปโมทิตํ, ตทา เตสํ มุทิตา ลพฺภติ. ยทา ปเนส ปุตฺโต ทาราภรณํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ปาฏิเยกฺกํ อคารํ อชฺฌาวสติ, ตทา มาตาปิตูนํ ‘‘สกฺโกติ ทานิ โน ปุตฺตโก อตฺตโน ธมฺมตาย ยาเปตุ’’นฺติ มชฺฌตฺตภาโว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ กาเล อุเปกฺขา ลพฺภตีติ อิมินา การเณน ‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร’’ติ วุตฺตํ.
ปุพฺพาจริยาติ ¶ วุจฺจเรติ มาตาปิตโร หิ ชาตกาลโต ปฏฺาย ‘‘เอวํ นิสีท, เอวํ ติฏฺ, เอวํ คจฺฉ, เอวํ สย, เอวํ ขาท, เอวํ ภฺุช, อยํ เต, ตาตาติ วตฺตพฺโพ, อยํ ภาติกาติ, อยํ ภคินีติ, อิทํ นาม กาตุํ วฏฺฏติ, อิทํ น วฏฺฏติ, อสุกํ นาม อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ, อสุกํ น วฏฺฏตี’’ติ คาหาเปนฺติ สิกฺขาเปนฺติ. อถาปรภาเค ¶ อฺเ อาจริยา หตฺถิสิปฺปอสฺสสิปฺปรถสิปฺปธนุสิปฺปถรุสิปฺปมุทฺทาคณนาทีนิ สิกฺขาเปนฺติ. อฺโ ¶ สรณานิ เทติ, อฺโ สีเลสุ ปติฏฺาเปติ, อฺโ ปพฺพาเชติ, อฺโ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปติ, อฺโ อุปสมฺปาเทติ, อฺโ โสตาปตฺติมคฺคาทีนิ ปาเปติ. อิติ สพฺเพปิ เต ปจฺฉาจริยา นาม โหนฺติ, มาตาปิตโร ปน สพฺพปมา, เตนาห – ‘‘ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร’’ติ. ตตฺถ วุจฺจเรติ วุจฺจนฺติ กถิยนฺติ. อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานนฺติ ปุตฺตานํ อาหุตํ ปาหุตํ อภิสงฺขตํ อนฺนปานาทึ อรหนฺติ, อนุจฺฉวิกา ตํ ปฏิคฺคเหตุํ. ตสฺมา ‘‘อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปชาย อนุกมฺปกาติ ปเรสํ ปาเณ อจฺฉินฺทิตฺวาปิ อตฺตโน ปชํ ปฏิชคฺคนฺติ โคปายนฺติ. ตสฺมา ‘‘ปชาย อนุกมฺปกา’’ติ วุตฺตํ.
นมสฺเสยฺยาติ นโม กเรยฺย. สกฺกเรยฺยาติ สกฺกาเรน ปฏิมาเนยฺย. อิทานิ ตํ สกฺการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนฺเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนฺเนนาติ ยาคุภตฺตขาทนีเยน. ปาเนนาติ อฏฺวิธปาเนน. วตฺเถนาติ นิวาสนปารุปนเกน วตฺเถน. สยเนนาติ มฺจปีานุปฺปทาเนน. อุจฺฉาทเนนาติ ทุคฺคนฺธํ ปฏิวิโนเทตฺวา สุคนฺธกรณุจฺฉาทเนน. นฺหาปเนนาติ สีเต อุณฺโหทเกน, อุณฺเห สีโตทเกน คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา นฺหาปเนน. ปาทานํ โธวเนนาติ อุณฺโหทกสีโตทเกหิ ปาทโธวเนน เจว เตลมกฺขเนน จ. เปจฺจาติ ปรโลกํ คนฺตฺวา. สคฺเค ปโมทตีติ อิธ ตาว มาตาปิตูสุ ปาริจริยํ ทิสฺวา ปาริจริยการณา ตํ ปณฺฑิตมนุสฺสา อิเธว ปสํสนฺติ ¶ , ปรโลกํ ปน คนฺตฺวา สคฺเค ิโต โส มาตาปิตุอุปฏฺาโก ทิพฺพสมฺปตฺตีหิ อาโมทติ ปโมทตีติ.
๒. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ทุติเย ตถารูโปติ ตถาชาติโก. สมาธิปฏิลาโภติ จิตฺเตกคฺคตาลาโภ. อิมสฺมึ จ สวิฺาณเกติ เอตฺถ อตฺตโน จ ปรสฺส จาติ อุภเยสมฺปิ กาโย สวิฺาณกฏฺเน เอกโต กตฺวา อิมสฺมินฺติ วุตฺโต. อหงฺการมมงฺการมานานุสยาติ อหงฺการทิฏฺิ จ มมงฺการตณฺหา จ มานานุสโย ¶ จาติ อตฺตโน จ ปรสฺส ¶ จ กิเลสา. นาสฺสูติ น ภเวยฺยุํ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสูติ รูปนิมิตฺตํ, สทฺทนิมิตฺตํ, คนฺธนิมิตฺตํ, รสนิมิตฺตํ, โผฏฺพฺพนิมิตฺตํ, สสฺสตาทินิมิตฺตํ, ปุคฺคลนิมิตฺตํ ธมฺมนิมิตฺตนฺติ เอวรูเปสุ จ พหิทฺธา สพฺพนิมิตฺเตสุ. เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธิฺเจว ผลาณฺจ. สิยาติ ภเวยฺย.
อิธานนฺท, ภิกฺขุโนติ, อานนฺท, อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุโน. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ นิพฺพานํ ทสฺเสนฺโต อาห. นิพฺพานํ หิ กิเลสานํ สนฺตตาย สนฺตํ นาม, นิพฺพานํ สนฺตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวาว ทิวสมฺปิ นิสินฺนสฺส จิตฺตุปฺปาโท สนฺตนฺเตว ปวตฺตตีติปิ สนฺตํ. ปณีตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺสาปิ จิตฺตุปฺปาโท ปณีตนฺเตว ปวตฺตตีติ นิพฺพานํ ปณีตํ นาม. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส หิ ทิวสภาคมฺปิ จิตฺตุปฺปาโท สพฺพสงฺขารสมโถเตว ปวตฺตติ…เป… ตถา ตีสุ ภเวสุ วานสงฺขาตาย ตณฺหาย อภาเวน นิพฺพานนฺติ ลทฺธนาเม ตสฺมึ สมาปตฺตึ ¶ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส จิตฺตุปฺปาโท นิพฺพานํ นิพฺพานนฺเตว ปวตฺตตีติ สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิ นามานิ ลภติ. อิมสฺมึ ปน อฏฺวิเธ อาโภคสมนฺนาหาเร อิมสฺมึ าเน เอโกปิ ลพฺภติ, ทฺเวปิ สพฺเพปิ ลพฺภนฺเตว.
สงฺขายาติ าเณน ชานิตฺวา. ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอปรานิ จ. ปรอตฺตภาวสกอตฺตภาวานิ หิ ปรานิ จ โอปรานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺสาติ ยสฺส อรหโต. อิฺชิตนฺติ ราคิฺชิตํ โทสโมหมานทิฏฺิกิเลสทุจฺจริติฺชิตนฺติ อิมานิ สตฺต อิฺชิตานิ จลิตานิ ผนฺทิตานิ. นตฺถิ กุหิฺจีติ กตฺถจิ เอการมฺมเณปิ นตฺถิ. สนฺโตติ ปจฺจนีกกิเลสานํ สนฺตตาย สนฺโต. วิธูโมติ กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโต. อนีโฆติ ราคาทิอีฆวิรหิโต. นิราโสติ นิตฺตณฺโห. อตารีติ ติณฺโณ อุตฺติณฺโณ สมติกฺกนฺโต. โสติ โส อรหํ ขีณาสโว. ชาติชรนฺติ เอตฺถ ชาติชราคหเณเนว พฺยาธิมรณมฺปิ คหิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. อิติ สุตฺตนฺเตปิ คาถายปิ อรหตฺตผลสมาปตฺติเยว กถิตาติ.
๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๓. ตติเย ¶ สํขิตฺเตนาติ มาติกาปเนน. วิตฺถาเรนาติ ปิตมาติกาวิภชเนน. สํขิตฺตวิตฺถาเรนาติ ¶ กาเล สํขิตฺเตน กาเล วิตฺถาเรน. อฺาตาโร จ ทุลฺลภาติ ปฏิวิชฺฌนกปุคฺคลา ปน ทุลฺลภา. อิทํ ภควา ‘‘สาริปุตฺตตฺเถรสฺส าณํ ฆฏฺเฏมี’’ติ อธิปฺปาเยน กเถสิ. ตํ สุตฺวา เถโร กิฺจาปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อาชานิสฺสามี’’ติ น วทติ, อธิปฺปาเยน ปน ‘‘วิสฺสตฺถา ตุมฺเห, ภนฺเต, เทเสถ, อหํ ตุมฺเหหิ เทสิตํ ธมฺมํ นยสเตน นยสหสฺเสน ปฏิวิชฺฌิสฺสามิ, มเมส ภาโร โหตู’’ติ สตฺถารํ เทสนาย อุสฺสาเหนฺโต เอตสฺส ภควา กาโลติอาทิมาห.
อถสฺส สตฺถา ตสฺมาติหาติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเกติอาทิ วุตฺตนยเมว. อจฺเฉจฺฉิ ¶ ตณฺหนฺติ มคฺคาณสตฺเถน ตณฺหํ ฉินฺทิ. วิวตฺตยิ สํโยชนนฺติ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ สมูลกํ อุพฺพตฺเตตฺวา ฉฑฺเฑสิ. สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสาติ สมฺมา อุปาเยน สมฺมา ปฏิปตฺติยา นววิธสฺส มานสฺส ปหานาภิสมเยน วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตมกาสิ. อิทฺจ ปน เมตํ, สาริปุตฺต, สนฺธาย ภาสิตนฺติ, สาริปุตฺต, มยา ปารายเน อุทยปฺเห อิทํ ผลสมาปตฺติเมว สนฺธาย เอตํ ภาสิตํ.
อิทานิ ยํ ตํ ภควตา ภาสิตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ปหานํ กามสฺานนฺติอาทิ อารทฺธํ. อุทยปฺเห จ เอตํ ปทํ ‘‘ปหานํ กามจฺฉนฺทาน’’นฺติ (สุ. นิ. ๑๑๑๒; จูฬนิ. อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๗๕) อาคตํ, อิธ ปน องฺคุตฺตรภาณเกหิ ‘‘กามสฺาน’’นฺติ อาโรปิตํ. ตตฺถ พฺยฺชนเมว นานํ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. กามสฺานนฺติ กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺนสฺานํ, อฏฺหิ วา โลภสหคตจิตฺเตหิ สหชาตสฺานํ. โทมนสฺสาน จูภยนฺติ เอตาสฺจ กามสฺานํ เจตสิกโทมนสฺสานฺจาติ อุภินฺนมฺปิ ปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานสงฺขาตํ อรหตฺตผลํ อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมีติ อตฺโถ. นิทฺเทเส ปน ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส จ โทมนสฺสสฺส จ อุภินฺนํ ปหานํ วูปสมํ ปฏินิสฺสคฺคํ ปฏิปฺปสฺสทฺธึ อมตํ นิพฺพาน’’นฺติ (จูฬนิ. อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๗๕) วุตฺตํ, ตํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. ปหานนฺติ หิ ขีณาการสงฺขาโต วูปสโมปิ วุจฺจติ, กิเลเส ปฏินิสฺสชฺชนฺโต มคฺโคปิ, กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิสงฺขาตํ ผลมฺปิ ¶ , ยํ อาคมฺม กิเลสา ปหียนฺติ, ตํ อมตํ นิพฺพานมฺปิ. ตสฺมา ตตฺถ ตานิ ปทานิ อาคตานิ. ‘‘อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมี’’ติ วจนโต ปน อรหตฺตผลเมว อธิปฺเปตํ. ถินสฺส ¶ จ ปนูทนนฺติปิ ถินสฺส จ ปนูทนนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อรหตฺตผลเมว อธิปฺเปตํ ¶ . กุกฺกุจฺจานํ นิวารณนฺติ กุกฺกุจฺจนิวารณสฺส มคฺคสฺส อนนฺตรํ อุปฺปนฺนตฺตา ผลเมว อธิปฺเปตํ.
อุเปกฺขาสติสํสุทฺธนฺติ จตุตฺถชฺฌานิเก ผเล อุปฺปนฺนาย อุเปกฺขาย จ สติยา จ สํสุทฺธํ. ธมฺมตกฺกปุเรชวนฺติ ธมฺมตกฺโก วุจฺจติ สมฺมาสงฺกปฺโป, โส อาทิโต โหติ, ปุรโต โหติ, ปุพฺพงฺคโม โหติ อฺาวิโมกฺขสฺสาติ ธมฺมตกฺกปุเรชโว. ตํ ธมฺมตกฺกปุเรชวํ. อฺาวิโมกฺขนฺติ อฺินฺทฺริยปริโยสาเน อุปฺปนฺนํ วิโมกฺขํ, อฺาย วา วิโมกฺขํ อฺาวิโมกฺขํ, ปฺาวิมุตฺตนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชาย ปเภทนนฺติ อวิชฺชาย ปเภทนนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา, อวิชฺชาย ปเภทนสงฺขาตํ วา นิพฺพานํ อารพฺภ อุปฺปนฺนตฺตา เอวํลทฺธนามํ อรหตฺตผลเมว. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปหานนฺติอาทีหิ ปเทหิ อรหตฺตผลเมว ปกาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔. นิทานสุตฺตวณฺณนา
๓๔. จตุตฺเถ นิทานานีติ การณานิ. กมฺมานนฺติ วฏฺฏคามิกมฺมานํ. โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายาติ ลุพฺภนปลุพฺภนสภาโว โลโภ วฏฺฏคามิกมฺมานํ สมุทยาย ปิณฺฑกรณตฺถาย นิทานํ การณํ ปจฺจโยติ อตฺโถ. โทโสติ ทุสฺสนปทุสฺสนสภาโว โทโส. โมโหติ มุยฺหนปมุยฺหนสภาโว โมโห.
โลภปกตนฺติ โลเภน ปกตํ, โลภาภิภูเตน ลุทฺเธน หุตฺวา กตกมฺมนฺติ อตฺโถ. โลภโต ชาตนฺติ โลภชํ. โลโภ นิทานมสฺสาติ โลภนิทานํ. โลโภ สมุทโย อสฺสาติ โลภสมุทยํ. สมุทโยติ ปจฺจโย, โลภปจฺจยนฺติ อตฺโถ. ยตฺถสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตตีติ ยสฺมึ าเน อสฺส โลภชกมฺมวโต ¶ ปุคฺคลสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตติ, ขนฺธา ปาตุภวนฺติ. ตตฺถ ตํ กมฺมํ วิปจฺจตีติ เตสุ ขนฺเธสุ ตํ กมฺมํ วิปจฺจติ. ทิฏฺเ วา ธมฺเมติอาทิ ยสฺมา ตํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา โหติ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา, ตสฺมา ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย.
อขณฺฑานีติ ¶ อภินฺนานิ. อปูตีนีติ ปูติภาเวน อพีชตฺตํ อปฺปตฺตานิ. อวาตาตปหตานีติ ¶ น วาเตน น จ อาตเปน หตานิ. สาราทานีติ คหิตสารานิ สารวนฺตานิ น นิสฺสารานิ. สุขสยิตานีติ สนฺนิจยภาเวน สุขํ สยิตานิ. สุเขตฺเตติ มณฺฑเขตฺเต. สุปริกมฺมกตาย ภูมิยาติ นงฺคลกสเนน เจว อฏฺทนฺตเกน จ สุฏฺุ ปริกมฺมกตาย เขตฺตภูมิยา. นิกฺขิตฺตานีติ ปิตานิ โรปิตานิ. อนุปฺปเวจฺเฉยฺยาติ อนุปฺปเวเสยฺย. วุทฺธินฺติอาทีสุ อุทฺธคฺคมเนน วุทฺธึ, เหฏฺา มูลปฺปติฏฺาเนน วิรูฬฺหึ, สมนฺตา วิตฺถาริกภาเวน เวปุลฺลํ.
ยํ ปเนตฺถ ทิฏฺเ วา ธมฺเมติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ อสมฺโมหตฺถํ อิมสฺมึ าเน กมฺมวิภตฺติ นาม กเถตพฺพา. สุตฺตนฺติกปริยาเยน หิ เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถิทํ – ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียํ, ยคฺครุกํ ยพฺพหุลํ ยทาสนฺนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ, ชนกํ อุปตฺถมฺภกํ อุปปีฬกํ อุปฆาตกนฺติ. ตตฺถ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ ¶ กากวฬิยปุณฺณเสฏฺีนํ วิย กุสลํ, นนฺทยกฺขนนฺทมาณวกนนฺทโคฆาตกโกกาลิยสุปฺปพุทฺธเทวทตฺตจิฺจมาณวิกานํ วิย จ อกุสลํ. ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ, อวิปากํ สมฺปชฺชติ. ตํ มิคลุทฺทโกปมาย สาเธตพฺพํ. ยถา หิ มิคลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา ธนุํ อากฑฺฒิตฺวา ขิตฺโต สโร สเจ น วิรชฺฌติ, ตํ มิคํ ตตฺเถว ปาเตติ, อถ นํ มิคลุทฺทโก นิจฺจมฺมํ กตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉตฺวา มํสํ อาทาย ปุตฺตทารํ โตเสนฺโต คจฺฉติ. สเจ ปน วิรชฺฌติ, มิโค ปลายิตฺวา ปุน ตํ ทิสํ น โอโลเกติ. เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. สรสฺส อวิรชฺฌิตฺวา มิควิชฺฌนํ วิย หิ ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส กมฺมสฺส วิปากวารปฏิลาโภ, อวิชฺฌนํ วิย อวิปากภาวาย สมฺปชฺชนนฺติ.
อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตํ ปเนตํ กุสลปกฺเข อฏฺสมาปตฺติวเสน, อกุสลปกฺเข ปฺจานนฺตริยกมฺมวเสน เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อฏฺสมาปตฺติลาภี เอกาย สมาปตฺติยา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. ปฺจนฺนมฺปิ อานนฺตริยานํ กตฺตา เอเกน กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตติ, เสสสมาปตฺติโย ¶ จ กมฺมานิ จ อโหสิกมฺมภาวํเยว อาปชฺชนฺติ, อวิปากานิ โหนฺติ. อยมฺปิ อตฺโถ ปุริมอุปมายเยว ทีเปตพฺโพ.
อุภินฺนํ ¶ อนฺตเร ปน ปฺจชวนเจตนา อปรปริยายเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ. ตํ สพฺพํ สุนขลุทฺทเกน ทีเปตพฺพํ. ยถา หิ สุนขลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา สุนโข วิสฺสชฺชิโต มิคํ อนุพนฺธิตฺวา ยสฺมึ าเน ปาปุณาติ, ตสฺมึ เยว ฑํสติ; เอวเมวํ ¶ อิทํ กมฺมํ ยสฺมึ าเน โอกาสํ ลภติ, ตสฺมึเยว วิปากํ เทติ, เตน มุตฺโต สตฺโต นาม นตฺถิ.
กุสลากุสเลสุ ปน ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ โหติ, ตํ ยคฺครุกํ นาม. ตเทตํ กุสลปกฺเข มหคฺคตกมฺมํ, อกุสลปกฺเข ปฺจานนฺตริยกมฺมํ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ สติ เสสานิ กุสลานิ วา อกุสลานิ วา วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตเทว ทุวิธมฺปิ ปฏิสนฺธึ เทติ. ยถา หิ สาสปปฺปมาณาปิ สกฺขรา วา อยคุฬิกา วา อุทกรหเท ปกฺขิตฺตา อุทกปิฏฺเ อุปฺลวิตุํ น สกฺโกติ, เหฏฺาว ปวิสติ; เอวเมว กุสเลปิ อกุสเลปิ ยํ ครุกํ, ตเทว คณฺหิตฺวา คจฺฉติ.
กุสลากุสเลสุ ปน ยํ พหุลํ โหติ, ตํ ยพฺพหุลํ นาม. ตํ ทีฆรตฺตํ ลทฺธาเสวนวเสน เวทิตพฺพํ. ยํ วา พลวกุสลกมฺเมสุ โสมนสฺสกรํ, อกุสลกมฺเมสุ สนฺตาปกรํ, เอตํ ยพฺพหุลํ นาม. ตเทตํ ยถา นาม ทฺวีสุ มลฺเลสุ ยุทฺธภูมึ โอติณฺเณสุ โย พลวา, โส อิตรํ ปาเตตฺวา คจฺฉติ; เอวเมว อิตรํ ทุพฺพลกมฺมํ อวตฺถริตฺวา ยํ อาเสวนวเสน วา พหุลํ, อาสนฺนวเสน วา พลวํ, ตํ วิปากํ เทติ, ทุฏฺคามณิอภยรฺโ กมฺมํ วิย.
โส กิร จูฬงฺคณิยยุทฺเธ ปราชิโต วฬวํ อารุยฺห ปลายิ. ตสฺส จูฬุปฏฺาโก ติสฺสามจฺโจ นาม เอกโกว ปจฺฉโต อโหสิ. โส เอกํ อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน ชิฆจฺฉาย พาธยมานาย – ‘‘ภาติก ติสฺส, อติวิย โน ชิฆจฺฉา พาธติ, กึ กริสฺสามา’’ติ อาห ¶ . อตฺถิ, เทว, มยา สาฏกนฺตเร เปตฺวา เอกํ สุวณฺณสรกภตฺตํ อาภตนฺติ. เตน หิ อาหราติ. โส นีหริตฺวา รฺโ ปุรโต เปสิ. ราชา ทิสฺวา, ‘‘ตาต, จตฺตาโร โกฏฺาเส กโรหี’’ติ อาห. มยํ ตโย ชนา, กสฺมา เทโว จตฺตาโร โกฏฺาเส การยตีติ? ภาติก ¶ ติสฺส, ยโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, น เม อยฺยานํ อทตฺวา อาหาโร ปริภุตฺตปุพฺโพ อตฺถิ, สฺวาหํ อชฺชปิ อทตฺวา น ปริภฺุชิสฺสามีติ. โส จตฺตาโร โกฏฺาเส อกาสิ. ราชา ‘‘กาลํ โฆเสหี’’ติ อาห. ฉฑฺฑิตารฺเ กุโต, อยฺเย, ลภิสฺสาม เทวาติ ¶ . ‘‘นายํ ตว ภาโร. สเจ มม สทฺธา อตฺถิ, อยฺเย, ลภิสฺสาม, วิสฺสตฺโถ กาลํ โฆเสหี’’ติ อาห. โส ‘‘กาโล, ภนฺเต, กาโล, ภนฺเต’’ติ ติกฺขตฺตุํ โฆเสสิ.
อถสฺส โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถโร ตํ สทฺทํ ทิพฺพาย โสตธาตุยา สุตฺวา ‘กตฺถายํ สทฺโท’ติ ตํ อาวชฺเชนฺโต ‘‘อชฺช ทุฏฺคามณิอภยมหาราชา ยุทฺธปราชิโต อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กาเรตฺวา ‘เอกโกว น ปริภฺุชิสฺสามี’ติ กาลํ โฆสาเปสี’’ติ ตฺวา ‘‘อชฺช มยา รฺโ สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ มโนคติยา อาคนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อฏฺาสิ. ราชา ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘ปสฺส, ภาติก, ติสฺสา’’ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ปตฺตํ, ภนฺเต, เทถา’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ นีหริ. ราชา อตฺตโน โกฏฺาเสน สทฺธึ เถรสฺส โกฏฺาสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อาหารปริสฺสโย นาม มา กทาจิ โหตู’’ติ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. ติสฺสามจฺโจปิ ‘‘มม อยฺยปุตฺเต ปสฺสนฺเต ภฺุชิตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ อตฺตโน โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต อากิริ. วฬวาปิ จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหมฺปิ โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา วฬวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยมฺปิ อตฺตโน โกฏฺาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต ปกฺขิปนํ ปจฺจาสีสตี’’ติ ตฺวา ตมฺปิ ตตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. เถโร ตํ ภตฺตํ อาทาย คนฺตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโลปสงฺเขเปน อทาสิ.
ราชาปิ จินฺเตสิ – ‘‘อติวิยมฺหา ชิฆจฺฉิตา, สาธุ วตสฺส สเจ อติเรกภตฺตสิตฺถานิ ¶ ปหิเณยฺยา’’ติ. เถโร รฺโ จิตฺตํ ตฺวา อติเรกภตฺตํ ¶ เอเตสํ ยาปนมตฺตํ กตฺวา ปตฺตํ อากาเส ขิปิ, ปตฺโต อาคนฺตฺวา รฺโ หตฺเถ ปติฏฺาสิ. ภตฺตํ ติณฺณมฺปิ ชนานํ ยาวทตฺถํ อโหสิ. อถ ราชา ปตฺตํ โธวิตฺวา ‘‘ตุจฺฉปตฺตํ น เปสิสฺสามี’’ติ อุตฺตริสาฏกํ โมเจตฺวา อุทกํ ปฺุฉิตฺวา สาฏกํ ปตฺเต เปตฺวา ‘‘ปตฺโต คนฺตฺวา มม อยฺยสฺส หตฺเถ ปติฏฺาตู’’ติ อากาเส ขิปิ. ปตฺโต คนฺตฺวา เถรสฺส หตฺเถ ปติฏฺาสิ.
อปรภาเค รฺโ ตถาคตสฺส สรีรธาตูนํ อฏฺมภาคํ ปติฏฺาเปตฺวา วีสรตนสติกํ มหาเจติยํ กาเรนฺตสฺส อปรินิฏฺิเตเยว เจติเย กาลกิริยาสมโย อนุปฺปตฺโต. อถสฺส มหาเจติยสฺส ทกฺขิณปสฺเส นิปนฺนสฺส ปฺจนิกายวเสน ภิกฺขุสงฺเฆ สชฺฌายํ กโรนฺเต ฉหิ เทวโลเกหิ ฉ รถา อาคนฺตฺวา ปุรโต อากาเส อฏฺํสุ. ราชา ‘‘ปฺุโปตฺถกํ อาหรถา’’ติ อาทิโต ปฏฺาย ปฺุโปตฺถกํ วาจาเปสิ. อถ นํ กิฺจิ กมฺมํ น ปริโตเสสิ. โส ‘‘ปรโต ¶ วาเจถา’’ติ อาห. โปตฺถกวาจโก ‘‘จูฬงฺคณิยยุทฺเธ ปราชิเตน เต เทว อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺเนน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กาเรตฺวา โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถรสฺส ภิกฺขา ทินฺนา’’ติ อาห. ราชา ‘‘เปหี’’ติ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ, ‘‘ภนฺเต, กตโร เทวโลโก รมณีโย’’ติ? สพฺพโพธิสตฺตานํ วสนฏฺานํ ตุสิตภวนํ มหาราชาติ. ราชา กาลํ กตฺวา ตุสิตภวนโต อาคตรเถว ปติฏฺาย ตุสิตภวนํ อคมาสิ. อิทํ พลวกมฺมสฺส วิปากทาเน วตฺถุ.
ยํ ปน กุสลากุสเลสุ อาสนฺนมรเณ อนุสฺสริตุํ สกฺโกติ, ตํ ยทาสนฺนํ นาม. ตเทตํ ยถา นาม โคคณปริปุณฺณสฺส วชสฺส ทฺวาเร วิวเฏ ปรภาเค ทมฺมควพลวคเวสุ ¶ สนฺเตสุปิ โย วชทฺวารสฺส อาสนฺโน โหติ อนฺตมโส ทุพฺพลชรคฺคโวปิ, โส เอว ปมตรํ นิกฺขมติ, เอวเมว อฺเสุ กุสลากุสเลสุ สนฺเตสุปิ มรณกาลสฺส อาสนฺนตฺตา วิปากํ เทติ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – มธุองฺคณคาเม กิร เอโก ทมิฬโทวาริโก ปาโตว พฬิสํ อาทาย คนฺตฺวา มจฺเฉ วธิตฺวา ตโย โกฏฺาเส กตฺวา ¶ เอเกน ตณฺฑุลํ คณฺหาติ, เอเกน ทธึ, เอกํ ปจติ. อิมินา นีหาเรน ปฺาส วสฺสานิ ปาณาติปาตกมฺมํ กตฺวา อปรภาเค มหลฺลโก อนุฏฺานเสยฺยํ อุปคจฺฉติ. ตสฺมึ ขเณ คิริวิหารวาสี จูฬปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถโร ‘‘มา อยํ สตฺโต มยิ ปสฺสนฺเต นสฺสตู’’ติ คนฺตฺวา ตสฺส เคหทฺวาเร อฏฺาสิ. อถสฺส ภริยา, ‘‘สามิ, เถโร อาคโต’’ติ อาโรเจสิ. อหํ ปฺาส วสฺสานิ เถรสฺส สนฺติกํ น คตปุพฺโพ, กตเรน เม คุเณน เถโร อาคมิสฺสติ, คจฺฉาติ นํ วทถาติ. สา ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ‘‘อุปาสกสฺส กา สรีรปฺปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ทุพฺพโล, ภนฺเตติ. เถโร ฆรํ ปวิสิตฺวา สตึ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สีลํ คณฺหิสฺสสี’’ติ อาห. อาม, ภนฺเต, เทถาติ. เถโร ตีณิ สรณานิ ทตฺวา ปฺจ สีลานิ ทาตุํ อารภิ. ตสฺส ปฺจ สีลานีติ วจนกาเลเยว ชิวฺหา ปปติ. เถโร ‘‘วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตก’’นฺติ นิกฺขมิตฺวา คโต. โสปิ กาลํ กตฺวา จาตุมหาราชิกภวเน นิพฺพตฺติ. นิพฺพตฺตกฺขเณเยว จ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา มยา อิทํ ลทฺธ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต เถรํ นิสฺสาย ลทฺธภาวํ ตฺวา เทวโลกโต อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ‘‘โก เอโส’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อหํ, ภนฺเต, ทมิฬโทวาริโก’’ติ อาห. กุหึ นิพฺพตฺโตสีติ? จาตุมหาราชิเกสุ, ภนฺเต, สเจ เม อยฺโย ปฺจ สีลานิ อทสฺส, อุปริ ¶ เทวโลเก นิพฺพตฺโต อสฺสํ. อหํ กึ กริสฺสามิ, ตฺวํ คณฺหิตุํ นาสกฺขิ, ปุตฺตกาติ. โส เถรํ วนฺทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. อิทํ ตาว กุสลกมฺเม วตฺถุ.
อนฺตรคงฺคาย ¶ ปน มหาวาจกาลอุปาสโก นาม อโหสิ. โส ตึส วสฺสานิ โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายิตฺวา ‘‘อหํ เอวํ ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺโต โอภาสมตฺตมฺปิ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึ, พุทฺธสาสนํ อนิยฺยานิกํ ภวิสฺสตี’’ติ ทิฏฺิวิปลฺลาสํ ปตฺวา กาลกิริยํ กตฺวา มหาคงฺคาย นวอุสภิโก สุสุมารเปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เอกํ สมยํ กจฺฉกติตฺเถน สฏฺิ ปาสาณตฺถมฺภสกฏานิ อคมํสุ. โส สพฺเพปิ เต โคเณ จ ปาสาเณ จ ขาทิ. อิทํ อกุสลกมฺเม วตฺถุ.
เอเตหิ ¶ ปน ตีหิ มุตฺตํ อฺาณวเสน กตํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ นาม. ตํ ยถา นาม อุมฺมตฺตเกน ขิตฺตทณฺฑํ ยตฺถ วา ตตฺถ วา คจฺฉติ, เอวเมว เตสํ อภาเว ยตฺถ กตฺถจิ วิปากํ เทติ.
ชนกํ นาม เอกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา ปวตฺตึ น ชเนติ, ปวตฺเต อฺํ กมฺมํ วิปากํ นิพฺพตฺเตติ. ยถา หิ มาตา ชเนติเยว, ธาติเยว ปน ชคฺคติ; เอวเมวํ มาตา วิย ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ ชนกกมฺมํ, ธาติ วิย ปวตฺเต สมฺปตฺตกมฺมํ. อุปตฺถมฺภกํ นาม กุสเลปิ ลพฺภติ อกุสเลปิ. เอกจฺโจ หิ กุสลํ กตฺวา สุคติภเว นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ ิโต ปุนปฺปุนํ กุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อเนกานิ วสฺสสตสหสฺสานิ สุคติภวสฺมึเยว วิจรติ. เอกจฺโจ อกุสลํ กตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ ิโต ปุนปฺปุนํ อกุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ทุคฺคติภวสฺมึเยว วิจรติ.
อปโร นโย – ชนกํ นาม กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ. ตํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากกฺขนฺเธ ชเนติ. อุปตฺถมฺภกํ ปน วิปากํ ชเนตุํ น สกฺโกติ, อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติ. อุปปีฬกํ ¶ นาม อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาเธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทติ. ตตฺรายํ นโย – กุสลกมฺเม วิปจฺจมาเน อกุสลกมฺมํ ¶ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ. อกุสลกมฺเม วิปจฺจมาเน กุสลกมฺมํ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ. ยถา วฑฺฒมานกํ รุกฺขํ วา คจฺฉํ วา ลตํ วา โกจิเทว ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา ภินฺเทยฺย วา ฉินฺเทยฺย วา, อถ โส รุกฺโข วา คจฺโฉ วา ลตา วา วฑฺฒิตุํ น สกฺกุเณยฺย; เอวเมวํ กุสลํ วิปจฺจมานํ อกุสเลน อุปปีฬิตํ, อกุสลํ วา ปน วิปจฺจมานํ กุสเลน อุปปีฬิตํ วิปจฺจิตุํ น สกฺโกติ. ตตฺถ สุนกฺขตฺตสฺส อกุสลกมฺมํ กุสลํ อุปปีเฬสิ, โจรฆาตกสฺส กุสลกมฺมํ อกุสลํ อุปปีเฬสิ.
ราชคเห กิร วาตกาฬโก ปฺาส วสฺสานิ โจรฆาตกมฺมํ อกาสิ. อถ นํ รฺโ อาโรเจสุํ – ‘‘เทว, วาตกาฬโก มหลฺลโก โจเร ฆาเตตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ‘‘อปเนถ นํ ตสฺมา ¶ านนฺตราติ. อมจฺจา นํ อปเนตฺวา อฺํ ตสฺมึ าเน ปยึสุ. วาตกาฬโกปิ ยาว ตํ กมฺมํ อกาสิ, ตาว อหตวตฺถานิ วา อจฺฉาทิตุํ สุรภิปุปฺผานิ วา ปิฬนฺธิตุํ ปายาสํ วา ภฺุชิตุํ อุจฺฉาทนนฺหาปนํ วา ปจฺจนุโภตุํ นาลตฺถ. โส ‘‘ทีฆรตฺตํ เม กิลิฏฺเวเสน จริต’’นฺติ ‘‘ปายาสํ เม ปจาหี’’ติ ภริยํ อาณาเปตฺวา นฺหานียสมฺภารานิ คาหาเปตฺวา นฺหานติตฺถํ คนฺตฺวา สีสํ นฺหตฺวา อหตวตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา คนฺเธ วิลิมฺปิตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา ฆรํ อาคจฺฉนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรํ ทิสฺวา ‘‘สํกิลิฏฺกมฺมโต จมฺหิ อปคโต, อยฺโย จ เม ทิฏฺโ’’ติ ตุฏฺมานโส เถรํ ฆรํ เนตฺวา นวสปฺปิสกฺกรจุณฺณาภิสงฺขเตน ปายาเสน ปริวิสิ. เถโร ตสฺส อนุโมทนมกาสิ. โส อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา ¶ เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺตมาโน อนฺตรามคฺเค ตรุณวจฺฉาย คาวิยา มทฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปิโต คนฺตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ภิกฺขู ตถาคตํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, โจรฆาตโก อชฺเชว กิลิฏฺกมฺมโต อปนีโต, อชฺเชว กาลงฺกโต, กหํ นุ โข นิพฺพตฺโต’’ติ? ตาวตึสภวเน, ภิกฺขเวติ. ภนฺเต, โจรฆาตโก ทีฆรตฺตํ ปุริเส ฆาเตสิ, ตุมฺเห จ เอวํ วเทถ, นตฺถิ นุ โข ปาปกมฺมสฺส ผลนฺติ. มา, ภิกฺขเว, เอวํ อวจุตฺถ, พลวกลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ธมฺมเสนาปติสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา โส ตตฺถ นิพฺพตฺโตติ.
‘‘สุภาสิตํ สุณิตฺวาน, นาคริโย โจรฆาตโก;
อนุโลมขนฺตึ ลทฺธาน, โมทตี ติทิวํ คโต’’ติ.
อุปฆาตกํ ¶ ปน สยํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อฺํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจติ. อุปจฺเฉทกนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ตตฺรายํ นโย – กุสลกมฺมสฺส วิปจฺจนกาเล เอกํ อกุสลกมฺมํ อุฏฺาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อกุสลกมฺมสฺสปิ วิปจฺจนกาเล เอกํ กุสลกมฺมํ อุฏฺาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อิทํ อุปจฺเฉทกํ นาม. ตตฺถ อชาตสตฺตุโน กมฺมํ กุสลจฺเฉทกํ ¶ อโหสิ, องฺคุลิมาลตฺเถรสฺส อกุสลจฺเฉทกนฺติ. เอวํ สุตฺตนฺติกปริยาเยน เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.
อภิธมฺมปริยาเยน ปน โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ กาลสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ ¶ . อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺตึ, กาลวิปตฺตึ, ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺติ, กาลวิปตฺติ, ปโยควิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิสมฺปตฺตึ, กาลสมฺปตฺตึ, ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตี’’ติ (วิภ. ๘๑๐).
ตตฺถ ปาปกานีติ ลามกานิ. กมฺมสมาทานานีติ กมฺมคฺคหณานิ. คหิตสมาทินฺนานํ กมฺมานเมตํ อธิวจนํ. คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติอาทีสุ อนิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยว สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. คติสมฺปตฺติยา ปติพาหิตํ หุตฺวา น วิปจฺจตีติ อตฺโถ. โย ปน ปาปกมฺเมน ทาสิยา วา กมฺมการิยา วา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปนฺโน โหติ, อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ติฏฺติ. อถสฺส สามิกา ตสฺส รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘นายํ กิลิฏฺกมฺมสฺสานุจฺฉวิโก’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อตฺตโน ชาตปุตฺตํ วิย ภณฺฑาคาริกาทิฏฺาเนสุ เปตฺวา สมฺปตฺตึ โยเชตฺวา ปริหรนฺติ. เอวรูปสฺส กมฺมํ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปมกปฺปิกกาลสทิเส สุลภสมฺปนฺนรสโภชเน สุภิกฺขกาเล ¶ นิพฺพตฺตติ, ตสฺส วิชฺชมานมฺปิ ปาปกมฺมํ กาลสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน สมฺมาปโยคํ นิสฺสาย ชีวติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมติ, ปฏิกฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล ปฏิกฺกมติ, ปลายิตพฺพยุตฺตกาเล ปลายติ. ลฺชทานยุตฺตกาเล ลฺชํ เทติ, โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ ¶ กโรติ, เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม.
ทุคฺคติภเว ¶ นิพฺพตฺตสฺส ปน ปาปกมฺมํ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทาสิยา วา กมฺมการิยา วา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโต ทุพฺพณฺโณ โหติ ทุสฺสณฺาโน, ‘‘ยกฺโข นุ โข มนุสฺโส นุ โข’’ติ วิมตึ อุปฺปาเทติ. โส สเจ ปุริโส โหติ, อถ นํ ‘‘นายํ อฺสฺส กมฺมสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ หตฺถึ วา รกฺขาเปนฺติ อสฺสํ วา โคเณ วา, ติณกฏฺาทีนิ วา อาหราเปนฺติ, เขฬสรกํ วา คณฺหาเปนฺติ. สเจ อิตฺถี โหติ, อถ นํ หตฺถิอสฺสาทีนํ ภตฺตมาสาทีนิ วา ปจาเปนฺติ, กจวรํ วา ฉฑฺฑาเปนฺติ, อฺํ วา ปน ชิคุจฺฉนียกมฺมํ กาเรนฺติ. เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ อุปธิวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ กาลวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมิตุํ น ชานาติ…เป… โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ กาตุํ น ชานาติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม.
โย ปน อิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยว คนฺตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กมฺมํ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปฺุานุภาเวน ราชราชมหามตฺตาทีนํ เคเห นิพฺพตฺติตฺวา กาโณ วา โหติ กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, ตสฺส โอปรชฺชเสนาปติภณฺฑาคาริกฏฺานาทีนิ น อนุจฺฉวิกานีติ น เทนฺติ. อิจฺจสฺส ตํ ปฺุํ อุปธิวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กลฺยาณกมฺมํ กาลวิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ ปโยควิปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม.
กลฺยาณกมฺเมน ปน สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม ¶ . ราชราชมหามตฺตาทีนํ ¶ กุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปตฺตึ ปตฺตสฺส ¶ อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ิตสฺส เทวนคเร สมุสฺสิตรตนโตรณสทิสํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส โอปรชฺชเสนาปติภณฺฑาคาริกฏฺานาทีนิ อนุจฺฉวิกานี’’ติ ทหรสฺเสว สโต ตานิ านนฺตรานิ เทนฺติ, เอวรูปสฺส กลฺยาณกมฺมํ อุปธิสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปมกปฺปิเกสุ วา สุลภนฺนปานกาเล วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ กาลสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ ชานาติ, ตสฺส กมฺมํ ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. เอวํ อภิธมฺมปริยาเยน โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.
อปรานิปิ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔).
ตตฺถ ยํ กมฺมํ อตีเต อายูหิตํ อตีเตเยว วิปากวารํ ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนสิ, รูปชนกํ รูปํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ เอตรหิ ลทฺธวิปากวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา รูปชนกํ รูปํ ชเนตฺวา ิตํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ อลทฺธวิปากวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ วา ปฏิสนฺธึ ¶ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ อนาคเต วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ.
ยํ ¶ ¶ ปน เอตรหิ อายูหิตํ เอตรหิเยว วิปากวารํ ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ วิปากวารํ น ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ.
ยํ ปนานาคเต อายูหิสฺสติ, อนาคเตเยว วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ.
อิติ อิมานิ เจว ทฺวาทส อภิธมฺมปริยาเยน วิภตฺตานิ จ โสฬส กมฺมานิ อตฺตโน านา โอสกฺกิตฺวา สุตฺตนฺติกปริยาเยน วุตฺตานิ เอกาทส กมฺมานิเยว ภวนฺติ. ตานิปิ ตโต โอสกฺกิตฺวา ตีณิเยว กมฺมานิ โหนฺติ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ, อุปปชฺชเวทนียํ ¶ , อปรปริยายเวทนียนฺติ. เตสํ สงฺกมนํ นตฺถิ, ยถาาเนเยว ติฏฺนฺติ. ยทิ หิ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม’’ติ สตฺถา น วเทยฺย. สเจปิ อุปปชฺชเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘อุปปชฺช วา’’ติ สตฺถา น วเทยฺย. อถาปิ อปรปริยายเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา อุปปชฺชเวทนียํ วา ภเวยฺย, ‘‘อปเร วา ปริยาเย’’ติ สตฺถา น วเทยฺย.
สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ ปน โลเภ วิคเตติ โลเภ อปคเต นิรุทฺเธ. ตาลวตฺถุกตนฺติ ตาลวตฺถุ วิย กตํ, มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย ปุน อวิรุฬฺหิสภาวํ กตนฺติ อตฺโถ. อนภาวํ กตนฺติ อนุอภาวํ กตํ, ยถา ปุน นุปฺปชฺชติ, เอวํ กตนฺติ อตฺโถ. เอวสฺสูติ เอวํ ภเวยฺยุํ. เอวเมว โขติ เอตฺถ พีชานิ วิย กุสลากุสลํ ¶ กมฺมํ ทฏฺพฺพํ, ตานิ อคฺคินา ฑหนปุริโส วิย โยคาวจโร, อคฺคิ วิย มคฺคาณํ ¶ , อคฺคึ ทตฺวา พีชานํ ฑหนกาโล วิย มคฺคาเณน กิเลสานํ ทฑฺฒกาโล, มสิกตกาโล วิย ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ฉินฺนมูลเก กตฺวา ปิตกาโล, มหาวาเต โอปุนิตฺวา นทิยา วา ปวาเหตฺวา อปฺปวตฺติกตกาโล วิย อุปาทินฺนกสนฺตานสฺส นิโรเธน ฉินฺนมูลกานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกภาเวน นิรุชฺฌิตฺวา ปุน ภวสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคหิตกาโล เวทิตพฺโพ.
โมหชฺจาปวิทฺทสูติ โมหชฺจาปิ อวิทฺทสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ โส อวิทู อนฺธพาโล โลภชฺจ โทสชฺจ โมหชฺจาติ กมฺมํ กโรติ, เอวํ กโรนฺเตน ยํ เตน ปกตํ กมฺมํ อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ. อิเธว ตํ เวทนิยนฺติ ¶ ตํ กมฺมํ เตน พาเลน อิธ สเก อตฺตภาเวเยว เวทนียํ, ตสฺเสว ตํ อตฺตภาเว วิปจฺจตีติ อตฺโถ. วตฺถุํ อฺํ น วิชฺชตีติ ตสฺส กมฺมสฺส วิปจฺจนตฺถาย อฺํ วตฺถุ นตฺถิ. น หิ อฺเน กตํ กมฺมํ อฺสฺส อตฺตภาเว วิปจฺจติ. ตสฺมา โลภฺจ โทสฺจ, โมหชฺจาปิ วิทฺทสูติ ตสฺมา โย วิทู เมธาวี ปณฺฑิโต ตํ โลภชาทิเภทํ กมฺมํ น กโรติ, โส วิชฺชํ อุปฺปาทยํ ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห, อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ วา ปน วิชฺชํ อุปฺปาเทนฺโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหติ. เทสนาสีสเมเวตํ, สุคติโยปิ ปน โส ขีณาสโว ชหติเยว. ยมฺปิ เจตํ ‘‘ตสฺมา โลภฺจ โทสฺจา’’ติ วุตฺตํ, เอตฺถาปิ โลภโทสสีเสน โลภชฺจ โทสชฺจ กมฺมเมว นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ สุตฺตนฺเตสุปิ คาถายปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตนฺติ.
๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ปฺจเม อาฬวิยนฺติ อาฬวิรฏฺเ. โคมคฺเคติ คุนฺนํ คมนมคฺเค. ปณฺณสนฺถเรติ สยํ ปติตปณฺณสนฺถเร. อถาติ เอวํ คุนฺนํ คมนมคฺคํ อุชุํ มหาปถํ นิสฺสาย สึสปาวเน สยํ ปติตปณฺณานิ สงฺกฑฺฒิตฺวา กตสนฺถเร สุคตมหาจีวรํ ปตฺถริตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺเน ตถาคเต. หตฺถโก อาฬวโกติ หตฺถโต หตฺถํ คตตฺตา เอวํลทฺธนาโม อาฬวโก ราชปุตฺโต. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต ¶ , ภควา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. กสฺมา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตํ านํ คนฺตฺวา นิสินฺโน, กสฺมา ราชกุมาโร ตตฺถ คโตติ? สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตาว อฏฺุปฺปตฺติกาย ธมฺมเทสนาย สมุฏฺานํ ทิสฺวา ตตฺถ นิสินฺโน, ราชกุมาโรปิ ปาโตว อุฏฺาย ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต ¶ มหามคฺคา โอกฺกมฺม โคปถํ คเหตฺวา ‘‘พุทฺธานํ ¶ ปูชนตฺถาย มิสฺสกมาลํ โอจินิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต สตฺถารํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอวํ โส ตตฺถ คโตติ. สุขมสยิตฺถาติ สุขํ สยิตฺถ.
อนฺตรฏฺโกติ มาฆผคฺคุณานํ อนฺตเร อฏฺทิวสปริมาโณ กาโล. มาฆสฺส หิ อวสาเน จตฺตาโร ทิวสา, ผคฺคุณสฺส อาทิมฺหิ จตฺตาโรติ อยํ ‘‘อนฺตรฏฺโก’’ติ วุจฺจติ. หิมปาตสมโยติ หิมสฺส ปตนสมโย. ขราติ ผรุสา กกฺขฬา วา. โคกณฺฏกหตาติ นววุฏฺเ เทเว คาวีนํ อกฺกนฺตกฺกนฺตฏฺาเน ขุรนฺตเรหิ กทฺทโม อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺติ, โส วาตาตเปน สุกฺโข กกจทนฺตสทิโส โหติ ทุกฺขสมฺผสฺโส. ตํ สนฺธายาห – ‘‘โคกณฺฏกหตา ภูมี’’ติ. คุนฺนํ ขุรนฺตเรหิ ฉินฺนาติปิ อตฺโถ. เวรมฺโภ วาโต วายตีติ จตูหิ ทิสาหิ วายนฺโต วาโต วายติ. เอกาย ทิสาย วา ทฺวีหิ วา ทิสาหิ ตีหิ วา ทิสาหิ วายนฺโต วาโต เวรมฺโภติ น วุจฺจติ.
เตน หิ ราชกุมาราติ อิทํ สตฺถา ‘‘อยํ ราชกุมาโร โลกสฺมึ เนว สุขวาสิโน, น ทุกฺขวาสิโน ชานาติ, ชานาเปสฺสามิ น’’นฺติ อุปริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต อาห. ตตฺถ ยถา เต ขเมยฺยาติ ยถา ตุยฺหํ รุจฺเจยฺย. อิธสฺสาติ อิมสฺมึ โลเก อสฺส. โคนกตฺถโตติ จตุรงฺคุลาธิกโลเมน กาฬโกชเวน อตฺถโต. ปฏิกตฺถโตติ อุณฺณามเยน เสตตฺถรเณน อตฺถโต. ปฏลิกตฺถโตติ ฆนปุปฺเผน อุณฺณามยอตฺถรเณน อตฺถโต. กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณติ ¶ กทลิมิคจมฺมมเยน อุตฺตมปจฺจตฺถรเณน อตฺถโต. ตํ กิร ปจฺจตฺถรณํ เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิพฺพิตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉโทติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุปริ พทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. อุภโตโลหิตกูปธาโนติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ปลฺลงฺกสฺส อุภโต ปิตโลหิตกูปธาโน. ปชาปติโยติ ภริยาโย. มนาเปน ¶ ปจฺจุปฏฺิตา อสฺสูติ มนาเปน อุปฏฺานวิธาเนน ปจฺจุปฏฺิตา ภเวยฺยุํ.
กายิกาติ ปฺจทฺวารกายํ โขภยมานา. เจตสิกาติ มโนทฺวารํ โขภยมานา. โส ราโค ตถาคตสฺส ปหีโนติ ตถารูโป ราโค ตถาคตสฺส ปหีโนติ อตฺโถ. โย ปน ตสฺส ราโค, น โส ตถาคตสฺส ปหีโน นาม. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย.
พฺราหฺมโณติ พาหิตปาโป ขีณาสวพฺราหฺมโณ. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต ¶ . น ลิมฺปติ กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ จ กิเลสกาเมสุ จ ตณฺหาทิฏฺิเลเปหิ น ลิมฺปติ. สีติภูโตติ อพฺภนฺตเร ตาปนกิเลสานํ อภาเวน สีติภูโต. นิรูปธีติ กิเลสูปธีนํ อภาเวน นิรูปธิ. สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวาติ อาสตฺติโย วุจฺจนฺติ ตณฺหาโย, ตา สพฺพาปิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อาสตฺตวิสตฺตา อาสตฺติโย ฉินฺทิตฺวา. วิเนยฺย หทเย ทรนฺติ หทยนิสฺสิตํ ทรถํ วินยิตฺวา วูปสเมตฺวา. สนฺตึ ปปฺปุยฺย เจตโสติ จิตฺตสฺส กิเลสนิพฺพานํ ปาปุณิตฺวา. กรณวจนํ วา เอตํ ‘‘สพฺพเจตโส สมนฺนาหริตฺวา’’ติอาทีสุ วิย, เจตสา นิพฺพานํ ปาปุณิตฺวาติ อตฺโถ.
๖. เทวทูตสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ฉฏฺเ ¶ เทวทูตานีติ เทวทูตา. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – เทโวติ มจฺจุ, ตสฺส ทูตาติ เทวทูตา. ชิณฺณพฺยาธิมตา หิ สํเวคชนนฏฺเน ‘‘อิทานิ เต มจฺจุสมีปํ คนฺตพฺพ’’นฺติ โจเทนฺติ วิย, ตสฺมา เทวทูตาติ วุจฺจนฺติ. เทวา วิย ทูตาติปิ เทวทูตา. ยถา หิ อลงฺกตปฏิยตฺตาย เทวตาย อากาเส ตฺวา ‘‘ตฺวํ อสุกทิวเส มริสฺสสี’’ติ วุตฺเต ตสฺสา วจนํ สทฺธาตพฺพํ โหติ; เอวเมวํ ชิณฺณพฺยาธิมตาปิ ทิสฺสมานา ‘‘ตฺวมฺปิ เอวํธมฺโม’’ติ โจเทนฺติ วิย, เตสฺจ ตํ วจนํ อนฺถาภาวิตาย เทวตาย พฺยากรณสทิสเมว โหตีติ เทวา วิย ทูตาติ เทวทูตา. วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตา. สพฺพโพธิสตฺตา หิ ชิณฺณพฺยาธิมตปพฺพชิเต ทิสฺวาว สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชึสุ. เอวํ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตา. อิธ ปน ลิงฺควิปลฺลาเสน ‘‘เทวทูตานี’’ติ วุตฺตํ.
กาเยน ¶ ทุจฺจริตนฺติอาทิ กสฺมา อารทฺธํ? เทวทูตานุยฺุชนฏฺานุปกฺกมกมฺมทสฺสนตฺถํ. อิมินา หิ กมฺเมน อยํ สตฺโต นิรเย นิพฺพตฺตติ, อถ นํ ตตฺถ ยโม ราชา เทวทูเต สมนุยฺุชติ. ตตฺถ กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติ กายทฺวาเรน ติวิธํ ทุจฺจริตํ จรติ. วาจายาติ วจีทฺวาเรน จตุพฺพิธํ ทุจฺจริตํ จรติ. มนสาติ มโนทฺวาเรน ติวิธํ ทุจฺจริตํ จรติ.
ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลาติ เอตฺถ เอกจฺเจ เถรา ‘‘นิรยปาลา นาม นตฺถิ, ยนฺตรูปํ วิย กมฺมเมว การณํ กาเรตี’’ติ วทนฺติ. ตํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลาติ, อามนฺตา. อตฺถิ ¶ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖) ปฏิเสธิตเมว. ยถา หิ มนุสฺสโลเก กมฺมการณการกา อตฺถิ, เอวเมว นิรเย นิรยปาลา อตฺถีติ. ยมสฺส ¶ รฺโติ ยมราชา นาม เวมานิกเปตราชา. เอกสฺมึ กาเล ทิพฺพวิมาเน ทิพฺพกปฺปรุกฺขทิพฺพอุยฺยานทิพฺพนาฏกาทิสพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวติ, เอกสฺมึ กาเล กมฺมวิปากํ, ธมฺมิโก ราชา, น เจส เอโกว โหติ, จตูสุ ปน ทฺวาเรสุ จตฺตาโร ชนา โหนฺติ. อมตฺเตยฺโยติ มาตุ หิโต มตฺเตยฺโย, มาตริ สมฺมา ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. น มตฺเตยฺโยติ อมตฺเตยฺโย, มาตริ มิจฺฉา ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อพฺรหฺมฺโติ เอตฺถ จ ขีณาสวา พฺราหฺมณา นาม, เตสุ มิจฺฉา ปฏิปนฺโน อพฺรหฺมฺโ นาม.
สมนุยฺุชตีติ อนุโยควตฺตํ อาโรเปนฺโต ปุจฺฉติ, ลทฺธึ ปติฏฺาเปนฺโต ปน สมนุคฺคาหติ นาม, การณํ ปุจฺฉนฺโต สมนุภาสติ นาม. นาทฺทสนฺติ อตฺตโน สนฺติเก ปหิตสฺส กสฺสจิ เทวทูตสฺส อภาวํ สนฺธาย เอวํ วทติ.
อถ นํ ยโม ‘‘นายํ ภาสิตสฺส อตฺถํ สลฺลกฺเขตี’’ติ ตฺวา อตฺถํ สลฺลกฺขาเปตุกาโม อมฺโภติอาทิมาห. ตตฺถ ชิณฺณนฺติ ชราชิณฺณํ. โคปานสิวงฺกนฺติ โคปานสี วิย วงฺกํ. โภคฺคนฺติ ภคฺคํ. อิมินาปิสฺส วงฺกภาวเมว ทีเปติ. ทณฺฑปรายณนฺติ ทณฺฑปฏิสรณํ ทณฺฑทุติยํ. ปเวธมานนฺติ กมฺปมานํ. อาตุรนฺติ ชราตุรํ. ขณฺฑทนฺตนฺติ ชรานุภาเวน ขณฺฑิตทนฺตํ. ปลิตเกสนฺติ ปณฺฑรเกสํ. วิลูนนฺติ ลฺุจิตฺวา คหิตเกสํ วิย ¶ ขลฺลาฏํ. ขลิตสิรนฺติ มหาขลฺลาฏสีสํ. วลิตนฺติ สฺชาตวลึ. ติลกาหตคตฺตนฺติ ¶ เสตติลกกาฬติลเกหิ วิกิณฺณสรีรํ. ชราธมฺโมติ ชราสภาโว, อปริมุตฺโต ชราย, ชรา นาม มยฺหํ อพฺภนฺตเรเยว ปวตฺตตีติ. ปรโต พฺยาธิธมฺโม มรณธมฺโมติ ปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
ปมํ เทวทูตํ สมนุยฺุชิตฺวาติ เอตฺถ ชราชิณฺณสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย ตรุโณ อโหสึ อูรุพลี พาหุพลี ชวสมฺปนฺโน, ตสฺส เม ตา พลชวสมฺปตฺติโย อนฺตรหิตา, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, ชรายมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชราย อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชรา อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ ¶ . เตเนเวส เทวทูโต นาม ชาโต. อาพาธิกนฺติ พาธิกํ. ทุกฺขิตนฺติ ทุกฺขปฺปตฺตํ. พาฬฺหคิลานนฺติ อธิมตฺตคิลานํ.
ทุติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถปิ คิลานสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย นิโรโค อโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ พฺยาธินา อภิหโต, สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกมิ. วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, พฺยาธิโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ พฺยาธิโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ พฺยาธิ อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเวส เทวทูโต นาม ชาโต.
เอกาหมตนฺติอาทีสุ เอกาหํ มตสฺส อสฺสาติ เอกาหมโต, ตํ เอกาหมตํ. ปรโต ¶ ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ภสฺตา วิย วายุนา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถากฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน อุทฺธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตกํ. วินีโล วุจฺจติ วิปริภินฺนวณฺโณ, วินีโลว วินีลโก, ตํ วินีลกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํ. วิปุพฺพกนฺติ วิสฺสนฺทมานปุพฺพกํ, ปริภินฺนฏฺาเน หิ ปคฺฆริเตน ปุพฺเพน ปลิมกฺขิตนฺติ อตฺโถ.
ตติยํ ¶ เทวทูตนฺติ เอตฺถ มตกสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, มํ อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ อุทฺธุมาตกาทิภาวปฺปตฺตํ, มรณโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ มรณโต อปริมุตฺตา. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ มรณํ อาคมิสฺสติ. อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนวสฺส เทวทูโต นาม ชาโต.
อิมํ ปน เทวทูตานุโยคํ โก ลภติ, โก น ลภติ? เยน ตาว พหุํ ปาปํ กตํ, โส คนฺตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติเยว. เยน ปน ปริตฺตํ ปาปํ กตํ, โส ลภติ. ยถา หิ สภณฺฑํ โจรํ คเหตฺวา กตฺตพฺพเมว กโรนฺติ น วินิจฺฉินนฺติ. อนุวิชฺชิตฺวา คหิตํ ปน วินิจฺฉยฏฺานํ นยนฺติ, โส วินิจฺฉยํ ลภติ. เอวํสมฺปทเมตํ. ปริตฺตปาปกมฺมา หิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สรนฺติ, สารียมานาปิ สรนฺติ.
ตตฺถ ¶ ทีฆชยนฺตทมิโฬ นาม อตฺตโน ธมฺมตาย สริ. โส กิร ทมิโฬ สุมนคิริมหาวิหาเร อากาสเจติยํ รตฺตปเฏน ปูเชสิ, อถ นิรเย อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต อคฺคิชาลสทฺทํ สุตฺวาว อตฺตนา ปูชิตปฏํ อนุสฺสริ, โส คนฺตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. อปโรปิ ปุตฺตสฺส ทหรภิกฺขุโน ขลิสาฏกํ เทนฺโต ปาทมูเล เปสิ, มรณกาลมฺหิ ปฏปฏาติ สทฺเท นิมิตฺตํ คณฺหิ ¶ , โสปิ อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต ชาลสทฺเทน ตํ สาฏกํ อนุสฺสริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. เอวํ ตาว อตฺตโน ธมฺมตาย กุสลํ กมฺมํ สริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ.
อตฺตโน ธมฺมตาย อสรนฺเต ปน ตโย เทวทูเต ปุจฺฉติ. ตตฺถ โกจิ ปเมน เทวทูเตน สรติ, โกจิ ทุติยตติเยหิ, โกจิ ตีหิปิ นสฺสรติ. ตํ ยโม ราชา ทิสฺวา สยํ สาเรติ. เอโก กิร อมจฺโจ สุมนปุปฺผกุมฺเภน มหาเจติยํ ปูเชตฺวา ยมสฺส ปตฺตึ อทาสิ, ตํ อกุสลกมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตํ ยมสฺส สนฺติกํ นยึสุ. ตสฺมึ ตีหิปิ เทวทูเตหิ กุสลํ อสรนฺเต ยโม สยํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา – ‘‘นนุ ตฺวํ มหาเจติยํ สุมนปุปฺผกุมฺเภน ปูเชตฺวา มยฺหํ ปตฺตึ อทาสี’’ติ สาเรสิ, โส ตสฺมึ กาเล สริตฺวา เทวโลกํ คโต ¶ . ยโม ปน สยํ โอโลเกตฺวาปิ อปสฺสนฺโต – ‘‘มหาทุกฺขํ นาม อนุภวิสฺสติ อยํ สตฺโต’’ติ ตุณฺหี อโหสิ.
ตตฺตํ อโยขิลนฺติ ติคาวุตํ อตฺตภาวํ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา ทกฺขิณหตฺเถ ตาลปฺปมาณํ อยสูลํ ปเวเสนฺติ, ตถา วามหตฺถาทีสุ. ยถา จ ตํ อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา, เอวํ อุเรนปิ วามปสฺเสนปิ ทกฺขิณปสฺเสนปิ นิปชฺชาเปตฺวา เต ตํ กมฺมการณํ กโรนฺติเยว. สํเวเสตฺวาติ ชลิตาย โลหปถวิยา ติคาวุตํ อตฺตภาวํ นิปชฺชาเปตฺวา. กุารีหีติ มหตีหิ เคหสฺส เอกปกฺขจฺฉทนมตฺตาหิ กุารีหิ ตจฺฉนฺติ, โลหิตํ นที หุตฺวา สนฺทติ, โลหปถวิโต ชาลา อุฏฺหิตฺวา ตจฺฉิตฏฺานํ คณฺหาติ, มหาทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ตจฺฉนฺตา ปน สุตฺตาหตํ กริตฺวา ทารุํ วิย อฏฺํสมฺปิ ฉฬํสมฺปิ กโรนฺติ. วาสีหีติ มหาสุปฺปปฺปมาณาหิ วาสีหิ. รเถ โยเชตฺวาติ สทฺธึ ยุคโยตฺตปกฺขรถจกฺกกุพฺพรปาชเนหิ สพฺพโต ปชฺชลิเต รเถ โยเชตฺวา. มหนฺตนฺติ ¶ มหากูฏาคารปฺปมาณํ. อาโรเปนฺตีติ สมฺปชฺชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. สกิมฺปิ อุทฺธนฺติ สุปกฺกุถิตาย อุกฺขลิยา ปกฺขิตฺตตณฺฑุลา วิย อุทฺธมโธติริยฺจ คจฺฉติ. มหานิรเยติ อวีจิมหานิรยมฺหิ.
ภาคโส ¶ มิโตติ ภาเค เปตฺวา วิภตฺโต. ปริยนฺโตติ ปริกฺขิตฺโต. อยสาติ อุปริ อยปฏฺเฏน ฉาทิโต. สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอวํ ผริตฺวา ติฏฺติ, ยถา ตํ สมนฺตา โยชนสเต ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส อกฺขีนิ ยมกโคฬกา วิย นิกฺขมนฺติ.
หีนกายูปคาติ หีนํ กายํ อุปคตา หุตฺวา. อุปาทาเนติ ตณฺหาทิฏฺิคฺคหเณ. ชาติมรณสมฺภเวติ ชาติยา จ มรณสฺส จ การณภูเต. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา. ชาติมรณสงฺขเยติ ชาติมรณสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุจฺจนฺติ. ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตาติ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สพฺพกิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา. สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สกลวฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตา.
๗. จตุมหาราชสุตฺตวณฺณนา
๓๗. สตฺตเม ¶ อมจฺจา ปาริสชฺชาติ ปริจาริกเทวตา. อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตีติ อฏฺมีทิวเส กิร สกฺโก เทวราชา จตฺตาโร มหาราชาโน อาณาเปติ – ‘‘ตาตา, อชฺช อฏฺมีทิวเส มนุสฺสโลกํ อนุวิจริตฺวา ปฺุานิ กโรนฺตานํ นามโคตฺตํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน ปริจารเก เปเสนฺติ – ‘‘คจฺฉถ, ตาตา, มนุสฺสโลกํ วิจริตฺวา ปฺุการกานํ นามโคตฺตานิ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขิตฺวา อาเนถา’’ติ. เต ตถา กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตี’’ติ. กจฺจิ ¶ พหูติอาทิ เตสํ อุปปริกฺขาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ อุปปริกฺขนฺตา หิ เต อนุวิจรนฺติ. ตตฺถ อุโปสถํ อุปวสนฺตีติ มาสสฺส อฏฺวาเร อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺหนฺติ. ปฏิชาคโรนฺตีติ ปฏิชาครอุโปสถกมฺมํ นาม กโรนฺติ. ตํ กโรนฺตา เอกสฺมึ อทฺธมาเส จตุนฺนํ อุโปสถทิวสานํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน กโรนฺติ. ปฺจมีอุโปสถํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา จตุตฺถิยํ อุโปสถิกา โหนฺติ, อนุคจฺฉนฺตา ฉฏฺิยํ. อฏฺมีอุโปสถํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา สตฺตมิยํ, อนุคจฺฉนฺตา นวมิยํ. จาตุทฺทสึ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺตา เตรสิยํ, ปนฺนรสีอุโปสถํ อนุคจฺฉนฺตา ปาฏิปเท อุโปสถิกา โหนฺติ. ปฺุานิ กโรนฺตีติ สรณคมนนิจฺจสีลปุปฺผปูชาธมฺมสฺสวนปทีปสหสฺสอาโรปนวิหารกรณาทีนิ นานปฺปการานิ ปฺุานิ กโรนฺติ. เต เอวํ อนุวิจริตฺวา ปฺุกมฺมการกานํ นามโคตฺตานิ โสวณฺณมเย ปฏฺเฏ ลิขิตฺวา อาหริตฺวา จตุนฺนํ มหาราชานํ เทนฺติ. ปุตฺตา อิมํ โลกํ อนุวิจรนฺตีติ จตูหิ มหาราเชหิ ¶ ปุริมนเยเนว ปหิตตฺตา อนุวิจรนฺติ. ตทหูติ ตํทิวสํ. อุโปสเถติ อุโปสถทิวเส.
สเจ, ภิกฺขเว, อปฺปกา โหนฺตีติ จตุนฺนํ มหาราชานํ อมจฺจา ปาริสชฺชา ตา ตา คามนิคมราชธานิโย อุปสงฺกมนฺติ, ตโต ตํ อุปนิสฺสาย อธิวตฺถา เทวตา ‘‘มหาราชานํ อมจฺจา อาคตา’’ติ ปณฺณาการํ คเหตฺวา เตสํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติ. เต ปณฺณาการํ คเหตฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข มาริสา พหู มนุสฺสา มตฺเตยฺยา’’ติ วุตฺตนเยน มนุสฺสานํ ปฺุปฏิปตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, มาริส, อิมสฺมึ คาเม อสุโก จ อสุโก จ ปฺุานิ กโรนฺตี’’ติ วุตฺเต เตสํ นามโคตฺตํ ลิขิตฺวา อฺตฺถ ¶ คจฺฉนฺติ. อถ จาตุทฺทสิยํ จตุนฺนํ มหาราชานํ ปุตฺตาปิ ตเมว สุวณฺณปฏฺฏํ คเหตฺวา เตเนว นเยน อนุวิจรนฺตา นามโคตฺตานิ ลิขนฺติ. ตทหุโปสเถ ¶ ปนฺนรเส จตฺตาโรปิ มหาราชาโน เตเนว นเยน ตสฺมึเยว สุวณฺณปฏฺเฏ นามโคตฺตานิ ลิขนฺติ. เต สุวณฺณปฏฺฏปริมาเณเนว – ‘‘อิมสฺมึ กาเล มนุสฺสา อปฺปกา, อิมสฺมึ กาเล พหุกา’’ติ ชานนฺติ. ตํ สนฺธาย ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อปฺปกา โหนฺติ มนุสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เทวานํ ตาวตึสานนฺติ ปมํ อภินิพฺพตฺเต เตตฺตึส เทวปุตฺเต อุปาทาย เอวํลทฺธนามานํ. เตสํ ปน อุปฺปตฺติกถา ทีฆนิกาเย สกฺกปฺหสุตฺตวณฺณนาย วิตฺถาริตา. เตนาติ เตน อาโรจเนน, เตน วา ปฺุการกานํ อปฺปกภาเวน. ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริหายิสฺสนฺตีติ นวนวานํ เทวปุตฺตานํ อปาตุภาเวน เทวกายา ปริหายิสฺสนฺติ, รมณียํ ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ สฺุํ ภวิสฺสติ. ปริปูริสฺสนฺติ อสุรกายาติ จตฺตาโร อปายา ปริปูริสฺสนฺติ. อิมินา ‘‘มยํ ปริปุณฺเณ เทวนคเร เทวสงฺฆมชฺเฌ นกฺขตฺตํ กีฬิตุํ น ลภิสฺสามา’’ติ อนตฺตมนา โหนฺติ. สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว อุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโทติ อตฺตโน สกฺกเทวราชกาลํ สนฺธาย กเถติ. เอกสฺส วา สกฺกสฺส อชฺฌาสยํ คเหตฺวา กเถตีติ วุตฺตํ. อนุนยมาโนติ อนุโพธยมาโน. ตายํ เวลายนฺติ ตสฺมึ กาเล.
ปาฏิหาริยปกฺขฺจาติ เอตฺถ ปาฏิหาริยปกฺโข นาม อนฺโตวสฺเส เตมาสํ นิพทฺธุโปสโถ, ตํ อสกฺโกนฺตสฺส ทฺวินฺนํ ปวารณานํ อนฺตเร เอกมาสํ นิพทฺธุโปสโถ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตสฺส ปมปวารณโต ปฏฺาย เอโก อทฺธมาโส ปาฏิหาริยปกฺโขเยว นาม. อฏฺงฺคสุสมาคตนฺติ อฏฺหิ ¶ คุณงฺเคหิ สมนฺนาคตํ. โยปิสฺส ¶ มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส ภเวยฺย. สกฺโกปิ กิร วุตฺตปฺปการสฺส อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานิตฺวา ทฺเว เทวโลกสมฺปตฺติโย ปหาย มาสสฺส อฏฺ วาเร อุโปสถํ อุปวสติ. ตสฺมา เอวมาห. อปโร นโย – โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส อสฺส, มยา ปตฺตํ ¶ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. สกฺกา หิ เอวรูเปน อุโปสถกมฺเมน สกฺกสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
วุสิตวาติ วุตฺถวาโส. กตกรณีโยติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา ิโต. โอหิตภาโรติ ขนฺธภารกิเลสภารอภิสงฺขารภาเร โอตาเรตฺวา ิโต. อนุปฺปตฺตสทตฺโถติ สทตฺโถ วุจฺจติ อรหตฺตํ, ตํ อนุปฺปตฺโต. ปริกฺขีณภวสํโยชโนติ เยน สํโยชเนน พทฺโธ ภเวสุ อากฑฺฒียติ, ตสฺส ขีณตฺตา ปริกฺขีณภวสํโยชโน. สมฺมทฺา วิมุตฺโตติ เหตุนา นเยน การเณน ชานิตฺวา วิมุตฺโต. กลฺลํ วจนายาติ ยุตฺตํ วตฺตุํ.
โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ มาทิโส ขีณาสโว อสฺส, โสปิ เอวรูปํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยาติ อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานนฺโต เอวํ วเทยฺย. อปโร นโย โยปิสฺส มาทิโส นโรติ โยปิ สตฺโต มาทิโส อสฺส, มยา ปตฺตํ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. สกฺกา หิ เอวรูเปน อุโปสถกมฺเมน ขีณาสวสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว.
๙. สุขุมาลสุตฺตวณฺณนา
๓๙. นวเม สุขุมาโลติ นิทฺทุกฺโข. ปรมสุขุมาโลติ ปรมนิทฺทุกฺโข. อจฺจนฺตสุขุมาโลติ สตตนิทฺทุกฺโข. อิมํ ¶ ภควา กปิลปุเร นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย นิทฺทุกฺขภาวํ คเหตฺวา อาห, จริยกาเล ปน เตน อนุภูตทุกฺขสฺส อนฺโต นตฺถีติ. เอกตฺถาติ เอกิสฺสา โปกฺขรณิยา. อุปฺปลํ วปฺปตีติ อุปฺปลํ โรเปติ. สา นีลุปฺปลวนสฺฉนฺนา โหติ. ปทุมนฺติ ปณฺฑรปทุมํ. ปุณฺฑรีกนฺติ รตฺตปทุมํ. เอวํ อิตราปิ ทฺเว ปทุมปุณฺฑรีกวเนหิ สฺฉนฺนา โหนฺติ. โพธิสตฺตสฺส กิร สตฺตฏฺวสฺสิกกาเล ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘ตรุณทารกา กตรกีฬิกํ ปิยายนฺตี’’ติ? อุทกกีฬิกํ เทวาติ. ตโต ราชา กุทฺทาลกมฺมการเก สนฺนิปาเตตฺวา โปกฺขรณิฏฺานานิ คณฺหาเปสิ. อถ สกฺโก เทวราชา อาวชฺเชนฺโต ตํ ปวตฺตึ ¶ ตฺวา – ‘‘น ยุตฺโต มหาสตฺตสฺส มานุสกปริโภโค, ทิพฺพปริโภโค ยุตฺโต’’ติ วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘คจฺฉ, ตาต, มหาสตฺตสฺส กีฬาภูมิยํ โปกฺขรณิโย มาเปหี’’ติ อาห. กีทิสา โหนฺตุ ¶ , เทวาติ? อปคตกลลกทฺทมา โหนฺตุ วิปฺปกิณฺณมณิมุตฺตปวาฬิกา สตฺตรตนมยปาการปริกฺขิตฺตา ปวาฬมยอุณฺหีเสหิ มณิมยโสปานพาหุเกหิ สุวณฺณรชตมณิมยผลเกหิ โสปาเนหิ สมนฺนาคตา. สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยา เจตฺถ นาวา โหนฺตุ, สุวณฺณนาวาย รชตปลฺลงฺโก โหตุ, รชตนาวาย สุวณฺณปลฺลงฺโก, มณินาวาย ปวาฬปลฺลงฺโก, ปวาฬนาวาย มณิปลฺลงฺโก, สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยาว อุทกเสจนนาฬิกา โหนฺตุ, ปฺจวณฺเณหิ จ ปทุเมหิ สฺฉนฺนา โหนฺตูติ. ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโต สกฺกสฺส ปฏิสฺสุตฺวา รตฺติภาเค โอตริตฺวา รฺโ คาหาปิตโปกฺขรณิฏฺาเนสุเยว เตเนว นิยาเมน โปกฺขรณิโย มาเปสิ.
นนุ เจตา ¶ อปคตกลลกทฺทมา, กถเมตฺถ ปทุมานิ ปุปฺผึสูติ? โส กิร ตาสุ โปกฺขรณีสุ ตตฺถ ตตฺถ สุวณฺณรชตมณิปวาฬมยา ขุทฺทกนาวาโย มาเปตฺวา ‘‘เอตา กลลกทฺทมปูริตา จ โหนฺตุ, ปฺจวณฺณานิ เจตฺถ ปทุมานิ ปุปฺผนฺตู’’ติ อธิฏฺาสิ. เอวํ ปฺจวณฺณานิ ปทุมานิ ปุปฺผึสุ, เรณุวฏฺฏิโย อุคฺคนฺตฺวา อุทกปิฏฺํ อชฺโฌตฺถริตฺวา วิจรนฺติ. ปฺจวิธา ภมรคณา อุปกูชนฺตา วิจรนฺติ. เอวํ ตา มาเปตฺวา วิสฺสกมฺโม เทวปุรเมว คโต. ตโต วิภาตาย รตฺติยา มหาชโน ทิสฺวา ‘‘มหาปุริสฺสสฺส มาปิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา มหาชนปริวาโร คนฺตฺวา โปกฺขรณิโย ทิสฺวา ‘‘มม ปุตฺตสฺส ปฺุิทฺธิยา เทวตาหิ มาปิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตมโน อโหสิ. ตโต ปฏฺาย มหาปุริโส อุทกกีฬิกํ อคมาสิ.
ยาวเทว มมตฺถายาติ เอตฺถ ยาวเทวาติ ปโยชนาวธินิยามวจนํ, ยาว มเมว อตฺถาย, นตฺเถตฺถ อฺํ การณนฺติ อตฺโถ. น โข ปนสฺสาหนฺติ น โข ปนสฺส อหํ. อกาสิกํ จนฺทนนฺติ อสณฺหํ จนฺทนํ. กาสิกํ, ภิกฺขเว, สุ เม ตํ เวนนฺติ, ภิกฺขเว, เวนมฺปิ เม กาสิกํ โหติ. เอตฺถ หิ สุอิติ จ ตนฺติ จ นิปาตมตฺตํ, เมติ สามิวจนํ. เวนมฺปิ เม สณฺหเมว โหตีติ ทสฺเสติ. กาสิกา กฺจุกาติ ปารุปนกฺจุโกปิ สณฺหกฺจุโกว. เสตจฺฉตฺตํ ธารียตีติ มานุสกเสตจฺฉตฺตมฺปิ ทิพฺพเสตจฺฉตฺตมฺปิ อุปริธาริตเมว โหติ. มา นํ ผุสิ สีตํ วาติ ¶ มา เอตํ โพธิสตฺตํ สีตํ วา อุณฺหาทีสุ วา อฺตรํ ผุสตูติ อตฺโถ.
ตโย ¶ ปาสาทา อเหสุนฺติ โพธิสตฺเต กิร โสฬสวสฺสุทฺเทสิเก ชาเต ¶ สุทฺโธทนมหาราชา ‘‘ปุตฺตสฺส วสนกปาสาเท กาเรสฺสามี’’ติ วฑฺฒกิโน สนฺนิปาตาเปตฺวา ภทฺทเกน นกฺขตฺตมุหุตฺเตน นวภูมิกตปริกมฺมํ กาเรตฺวา ตโย ปาสาเท การาเปสิ. เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เหมนฺติโกติอาทีสุ ยตฺถ สุขํ เหมนฺเต วสิตุํ, อยํ เหมนฺติโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – เหมนฺเต วาโส เหมนฺตํ, เหมนฺตํ อรหตีติ เหมนฺติโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ เหมนฺติโก ปาสาโท นวภูมโก อโหสิ, ภูมิโย ปนสฺส อุณฺหอุตุคฺคาหาปนตฺถาย นีจา อเหสุํ. ตตฺถ ทฺวารวาตปานานิ สุผุสิตกวาฏานิ อเหสุํ นิพฺพิวรานิ. จิตฺตกมฺมมฺปิ กโรนฺตา ตตฺถ ตตฺถ ปชฺชลิเต อคฺคิกฺขนฺเธเยว อกํสุ. ภูมตฺถรณํ ปเนตฺถ กมฺพลมยํ, ตถา สาณิวิตานนิวาสนปารุปนเวนานิ. วาตปานานิ อุณฺหคฺคาหาปนตฺถํ ทิวา วิวฏานิ รตฺตึ ปิหิตานิ โหนฺติ.
คิมฺหิโก ปน ปฺจภูมโก อโหสิ. สีตอุตุคฺคาหาปนตฺถํ ปเนตฺถ ภูมิโย อุจฺจา อสมฺพาธา อเหสุํ. ทฺวารวาตปานานิ นาติผุสิตานิ สวิวรานิ สชาลานิ อเหสุํ. จิตฺตกมฺเม อุปฺปลานิ ปทุมานิ ปุณฺฑรีกานิเยว อกํสุ. ภูมตฺถรณํ ปเนตฺถ ทุกูลมยํ, ตถา สาณิวิตานนิวาสนปารุปนเวนานิ. วาตปานสมีเปสุ เจตฺถ นว จาฏิโย เปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลาทีหิ สฺฉาเทนฺติ. เตสุ เตสุ ปเทเสสุ อุทกยนฺตานิ กโรนฺติ, เยหิ เทเว วสฺสนฺเต วิย อุทกธารา นิกฺขมนฺติ. อนฺโตปาสาเท ตตฺถ ตตฺถ กลลปูรา โทณิโย เปตฺวา ปฺจวณฺณานิ ปทุมานิ โรปยึสุ. ปาสาทมตฺถเก สุกฺขมหึสจมฺมํ พนฺธิตฺวา ยนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา ยาว ฉทนปิฏฺิยา ปาสาเณ อาโรเปตฺวา ตสฺมึ วิสฺสชฺเชนฺติ. เตสํ จมฺเม ปวฏฺฏนฺตานํ สทฺโท เมฆคชฺชิตํ วิย โหติ. ทฺวารวาตปานานิ ¶ ปเนตฺถ ทิวา ปิหิตานิ โหนฺติ รตฺตึ วิวฏานิ.
วสฺสิโก ¶ สตฺตภูมโก อโหสิ. ภูมิโย ปเนตฺถ ทฺวินฺนมฺปิ อุตูนํ คาหาปนตฺถาย นาติอุจฺจา นาตินีจา อกํสุ. เอกจฺจานิ ทฺวารวาตปานานิ สุผุสิตานิ, เอกจฺจานิ สวิวรานิ. ตตฺถ จิตฺตกมฺมมฺปิ เกสุจิ าเนสุ ปชฺชลิตอคฺคิกฺขนฺธวเสน, เกสุจิ ชาตสฺสรวเสน กตํ. ภูมตฺถรณาทีนิ ปเนตฺถ กมฺพลทุกูลวเสน อุภยมิสฺสกานิ. เอกจฺเจ ทฺวารวาตปานา ¶ รตฺตึ วิวฏา ทิวา ปิหิตา, เอกจฺเจ ทิวา วิวฏา รตฺตึ ปิหิตา. ตโยปิ ปาสาทา อุพฺเพเธน สมปฺปมาณา. ภูมิกาสุ ปน นานตฺตํ อโหสิ.
เอวํ นิฏฺิเตสุ ปาสาเทสุ ราชา จินฺเตสิ – ‘‘ปุตฺโต เม วยปฺปตฺโต, ฉตฺตมสฺส อุสฺสาเปตฺวา รชฺชสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ. โส สากิยานํ ปณฺณานิ ปหิณิ – ‘‘ปุตฺโต เม วยปฺปตฺโต, รชฺเช นํ ปติฏฺาเปสฺสามิ, สพฺเพ อตฺตโน อตฺตโน เคเหสุ วยปฺปตฺตา, ทาริกา อิมํ เคหํ เปเสนฺตู’’ติ. เต สาสนํ สุตฺวา – ‘‘กุมาโร เกวลํ ทสฺสนกฺขโม รูปสมฺปนฺโน, น กิฺจิ สิปฺปํ ชานาติ, ทารภรณํ กาตุํ น สกฺขิสฺสติ, น มยํ ธีตโร ทสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ราชา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจสิ. โพธิสตฺโต ‘‘กึ สิปฺปํ ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ, ตาตา’’ติ อาห. สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ วฏฺฏติ, ตาตาติ. เตน หิ อาหราเปถาติ. ราชา อาหราเปตฺวา อทาสิ. ธนุํ ปุริสสหสฺสํ อาโรเปติ, ปุริสสหสฺสํ โอโรเปติ. มหาปุริโส ธนุํ อาหราเปตฺวา ปลฺลงฺเก นิสินฺโนว ชิยํ ปาทงฺคุฏฺเก เวเตฺวา กฑฺฒนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกเนว ธนุํ อาโรเปตฺวา วาเมน หตฺเถน ทณฺเฑ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน กฑฺฒิตฺวา ชิยํ โปเถสิ. สกลนครํ อุปฺปตนาการปฺปตฺตํ อโหสิ. ‘‘กึ สทฺโท เอโส’’ติ จ วุตฺเต ‘‘เทโว คชฺชตี’’ติ อาหํสุ. อถฺเ ‘‘ตุมฺเห น ชานาถ, น เทโว คชฺชติ, องฺคีรสสฺส กุมารสฺส สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตฺวา ชิยํ โปเถนฺตสฺส ชิยปฺปหารสทฺโท เอโส’’ติ ¶ อาหํสุ. สากิยา ตาวตเกเนว อารทฺธจิตฺตา อเหสุํ.
มหาปุริโส ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. อฏฺงฺคุลมตฺตพหลํ อโยปฏฺฏํ กณฺเฑน วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. จตุรงฺคุลพหลํ อสนผลกํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. วิทตฺถิพหลํ อุทุมฺพรผลกํ วินิวิชฺฌิตุํ ¶ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยนฺเต พทฺธํ ผลกสตํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. สฏฺิปฏลํ สุกฺขมหึสจมฺมํ วินิวิชฺฌิตุํ วฏฺฏตีติ. ตมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา ‘‘อฺํ กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ตโต วาลิกสกฏาทีนิ อาจิกฺขึสุ. มหาสตฺโต วาลิกสกฏมฺปิ ปลาลสกฏมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา อุทเก เอกุสภปฺปมาณํ กณฺฑํ เปเสสิ, ถเล อฏฺอุสภปฺปมาณํ. อถ นํ ‘‘อิทานิ วาติงฺคณสฺาย วาลํ วิชฺฌิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ. เตน หิ พนฺธาเปถาติ. สทฺทนฺตเร พชฺฌตุ, ตาตาติ. ปุรโต คจฺฉนฺตุ, คาวุตนฺตเร พนฺธนฺตูติ. ปุรโต คจฺฉนฺตุ, อทฺธโยชเน พนฺธนฺตูติ ¶ . ปุรโต คจฺฉนฺตุ โยชเน พนฺธนฺตูติ. พนฺธาเปถ, ตาตาติ โยชนมตฺถเก วาติงฺคณสฺาย วาลํ พนฺธาเปตฺวา รตฺตนฺธกาเร เมฆปฏลจฺฉนฺนาสุ ทิสาสุ กณฺฑํ ขิปิ, ตํ คนฺตฺวา โยชนมตฺถเก วาลํ ผาเลตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, ตํ ทิวสํ ปน มหาสตฺโต โลเก วตฺตมานสิปฺปํ สพฺพเมว สนฺทสฺเสสิ. สกฺยราชาโน อตฺตโน อตฺตโน ธีตโร อลงฺกริตฺวา เปสยึสุ, จตฺตาลีสสหสฺสนาฏกิตฺถิโย อเหสุํ. มหาปุริโส ตีสุ ปาสาเทสุ เทโว มฺเ ปริจาเรนฺโต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวติ.
นิปฺปุริเสหีติ ปุริสวิรหิเตหิ. น เกวลํ เจตฺถ ตูริยาเนว นิปฺปุริสานิ, สพฺพฏฺานานิปิ นิปฺปุริสาเนว. โทวาริกาปิ อิตฺถิโยว, นฺหาปนาทิปริกมฺมกราปิ อิตฺถิโยว ¶ . ราชา กิร ‘‘ตถารูปํ อิสฺสริยสุขสมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ปุริสํ ทิสฺวา ปริสงฺกา อุปฺปชฺชติ, สา เม ปุตฺตสฺส มา อโหสี’’ติ สพฺพกิจฺเจสุ อิตฺถิโยว เปสิ. ปริจารยมาโนติ โมทมาโน. น เหฏฺาปาสาทํ โอโรหามีติ ปาสาทโต เหฏฺา น โอตรามิ. อิติ มํ จตฺตาโร มาเส อฺโ สิขาพทฺโธ ปุริโส นาม ปสฺสิตุํ นาลตฺถ. ยถาติ เยน นิยาเมน. ทาสกมฺมกรโปริสสฺสาติ ทาสานฺเจว เทวสิกภตฺตเวตนาภตานํ กมฺมกรานฺจ นิสฺสาย ชีวมานปุริสานฺจ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ.
เอวรูปาย อิทฺธิยาติ เอวํชาติกาย ปฺุิทฺธิยา สมนฺนาคตสฺส. เอวรูเปน จ สุขุมาเลนาติ เอวํชาติเกน จ นิทฺทุกฺขภาเวน. โสขุมาเลนาติปิ ¶ ปาโ. เอวํ ตถาคโต เอตฺตเกน าเนน อตฺตโน สิริสมฺปตฺตึ กเถสิ. กเถนฺโต จ น อุปฺปิลาวิตภาวตฺถํ กเถสิ, ‘‘เอวรูปายปิ ปน สมฺปตฺติยา ิโต ปมาทํ อกตฺวา อปฺปมตฺโตว อโหสิ’’นฺติ อปฺปมาทลกฺขณสฺเสว ทีปนตฺถํ กเถสิ. เตเนว อสฺสุตวา โข ปุถุชฺชโนติอาทิมาห. ตตฺถ ปรนฺติ ปรปุคฺคลํ. ชิณฺณนฺติ ชราชิณฺณํ. อฏฺฏียตีติ อฏฺโฏ ปีฬิโต โหติ. หรายตีติ หิรึ กโรติ ลชฺชติ. ชิคุจฺฉตีติ อสุจึ วิย ทิสฺวา ชิคุจฺฉํ อุปฺปาเทติ. อตฺตานํเยว อติสิตฺวาติ ชราธมฺมมฺปิ สมานํ อตฺตานํ อติกฺกมิตฺวา อฏฺฏียติ หรายตีติ อตฺโถ. ชราธมฺโมติ ชราสภาโว. ชรํ อนตีโตติ ชรํ อนติกฺกนฺโต, อนฺโต ชราย วตฺตามิ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขโตติ เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. โยพฺพนมโทติ โยพฺพนํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. สพฺพโส ¶ ปหียีติ สพฺพากาเรน ปหีโน. มคฺเคน ปหีนสทิโส กตฺวา ทสฺสิโต. น ปเนส มคฺเคน ปหีโน, ปฏิสงฺขาเนน ปหีโนว กถิโตติ เวทิตพฺโพ. โพธิสตฺตสฺส หิ เทวตา ¶ ชราปตฺตํ ทสฺเสสุํ. ตโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตา อนฺตรา มหาสตฺตสฺส โยพฺพนมโท นาม น อุปฺปชฺชติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อาโรคฺยมโทติ อหํ นิโรโคติ อาโรคฺยํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. ชีวิตมโทติ อหํ จิรํ ชีวีติ ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโก มานมโท. สิกฺขํ ปจฺจกฺขายาติ สิกฺขํ ปฏิกฺขิปิตฺวา. หีนายาวตฺตตีติ หีนาย ลามกาย คิหิภาวาย อาวตฺตติ.
ยถาธมฺมาติ พฺยาธิอาทีหิ ยถาสภาวา. ตถาสนฺตาติ ยถา สนฺตา เอว อวิปรีตพฺยาธิอาทิสภาวาว หุตฺวาติ อตฺโถ. ชิคุจฺฉนฺตีติ ปรปุคฺคลํ ชิคุจฺฉนฺติ. มม เอวํ วิหาริโนติ มยฺหํ เอวํ ชิคุจฺฉาวิหาเรน วิหรนฺตสฺส เอวํ ชิคุจฺฉนํ นปฺปติรูปํ ภเวยฺย นานุจฺฉวิกํ. โสหํ เอวํ วิหรนฺโตติ โส อหํ เอวํ ปรํ ชิคุจฺฉมาโน วิหรนฺโต, เอวํ วา อิมินา ปฏิสงฺขานวิหาเรน วิหรนฺโต. ตฺวา ธมฺมํ นิรูปธินฺติ สพฺพูปธิวิรหิตํ นิพฺพานธมฺมํ ตฺวา. สพฺเพ มเท อภิโภสฺมีติ สพฺเพ ตโยปิ มเท อภิภวึ สมติกฺกมึ. เนกฺขมฺเม ทฏฺุ เขมตนฺติ นิพฺพาเน เขมภาวํ ทิสฺวา. เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโตติปิ ปาโ, นิพฺพานํ เขมโต ทิสฺวาติ อตฺโถ. ตสฺส ¶ เม อหุ อุสฺสาโหติ ตสฺส มยฺหํ ตํ เนกฺขมฺมสงฺขาตํ นิพฺพานํ อภิปสฺสนฺตสฺส อุสฺสาโห อหุ, วายาโม อโหสีติ อตฺโถ. นาหํ ¶ ภพฺโพ เอตรหิ, กามานิ ปฏิเสวิตุนฺติ อหํ ทานิ ทุวิเธปิ กาเม ปฏิเสวิตุํ อภพฺโพ. อนิวตฺติ ภวิสฺสามีติ ปพฺพชฺชโต จ สพฺพฺุตฺาณโต จ น นิวตฺติสฺสามิ, อนิวตฺตโก ภวิสฺสามิ. พฺรหฺมจริยปรายโณติ มคฺคพฺรหฺมจริยปรายโณ ชาโตสฺมีติ อตฺโถ. อิติ อิมาหิ คาถาหิ มหาโพธิปลฺลงฺเก อตฺตโน อาคมนียวีริยํ กเถสิ.
๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา
๔๐. ทสเม อาธิปเตยฺยานีติ เชฏฺกการณโต นิพฺพตฺตานิ. อตฺตาธิปเตยฺยนฺติอาทีสุ อตฺตานํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ คุณชาตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. โลกํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ โลกาธิปเตยฺยํ. นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ เชฏฺกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ ธมฺมาธิปเตยฺยํ. น อิติ ภวาภวเหตูติ อิติ ภโว, อิติ ภโวติ เอวํ อายตึ, น ตสฺส ตสฺส สมฺปตฺติภวสฺส เหตุ. โอติณฺโณติ อนุปวิฏฺโ. ยสฺส หิ ชาติ อนฺโตปวิฏฺา, โส ชาติยา โอติณฺโณ นาม. ชราทีสุปิ เอเสว นโย. เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขราสิสฺส. อนฺตกิริยา ¶ ปฺาเยถาติ อนฺตกรณํ ปริจฺเฉทปริวฏุมกรณํ ปฺาเยยฺย. โอหายาติ ปหาย. ปาปิฏฺตเรติ ลามกตเร. อารทฺธนฺติ ปคฺคหิตํ ปริปุณฺณํ, อารทฺธตฺตาว อสลฺลีนํ. อุปฏฺิตาติ จตุสติปฏฺานวเสน อุปฏฺิตา. อุปฏฺิตตฺตาว อสมฺมุฏฺา. ปสฺสทฺโธ กาโยติ นามกาโย จ กรชกาโย จ ปสฺสทฺโธ วูปสนฺตทรโถ. ปสฺสทฺธตฺตาว อสารทฺโธ. สมาหิตํ จิตฺตนฺติ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อาหิตํ สุฏฺุ ปิตํ. สมฺมา อาหิตตฺตาว เอกคฺคํ. อธิปตึ กริตฺวาติ เชฏฺกํ กตฺวา. สุทฺธํ ¶ อตฺตานํ ปริหรตีติ สุทฺธํ นิมฺมลํ กตฺวา อตฺตานํ ปริหรติ ปฏิชคฺคติ, โคปายตีติ อตฺโถ. อยฺจ ยาว อรหตฺตมคฺคา ปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ นาม, ผลปฺปตฺโตว ปน นิปฺปริยาเยน สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ.
สฺวากฺขาโตติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๗) วิตฺถาริตานิ. ชานํ ปสฺสํ วิหรนฺตีติ ตํ ธมฺมํ ชานนฺตา ปสฺสนฺตา วิหรนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อาธิปเตยฺยานีติ ¶ เอตฺตาวตา ตีณิ อาธิปเตยฺยานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานิ.
ปกุพฺพโตติ กโรนฺตสฺส. อตฺตา เต ปุริส ชานาติ, สจฺจํ วา ยทิ วา มุสาติ ยํ ตฺวํ กโรสิ, ตํ ยทิ วา ยถาสภาวํ ยทิ วา โน ยถาสภาวนฺติ ตว อตฺตาว ชานาติ. อิมินา จ การเณน เวทิตพฺพํ ‘‘ปาปกมฺมํ กโรนฺตสฺส โลเก ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ. กลฺยาณนฺติ สุนฺทรํ. อติมฺสีติ อติกฺกมิตฺวา มฺสิ. อตฺตานํ ปริคูหสีติ ยถา เม อตฺตาปิ น ชานาติ, เอวํ นํ ปริคูหามีติ วายมสิ. อตฺตาธิปเตยฺยโกติ อตฺตเชฏฺโก. โลกาธิโปติ โลกเชฏฺโก. นิปโกติ ปฺวา. ฌายีติ ฌายนฺโต. ธมฺมาธิโปติ ธมฺมเชฏฺโก. สจฺจปรกฺกโมติ ถิรปรกฺกโม ภูตปรกฺกโม. ปสยฺห มารนฺติ มารํ ปสหิตฺวา. อภิภุยฺย อนฺตกนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. โย จ ผุสี ชาติกฺขยํ ปธานวาติ โย ฌายี ปธานวา มารํ อภิภวิตฺวา ชาติกฺขยํ อรหตฺตํ ผุสิ. โส ¶ ตาทิโสติ โส ตถาวิโธ ตถาสณฺิโต. โลกวิทูติ ตโย โลเก วิทิเต ปากเฏ กตฺวา ิโต. สุเมโธติ สุปฺโ. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อตมฺมโย มุนีติ สพฺเพ เตภูมกธมฺเม ตณฺหาสงฺขาตาย ตมฺมยตาย อภาเวน อตมฺมโย ขีณาสวมุนิ กทาจิ กตฺถจิ น หียติ น ปริหียตีติ วุตฺตํ โหตีติ.
เทวทูตวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. จูฬวคฺโค
๑. สมฺมุขีภาวสุตฺตวณฺณนา
๔๑. ปฺจมสฺส ¶ ปเม สมฺมุขีภาวาติ สมฺมุขีภาเวน, วิชฺชมานตายาติ อตฺโถ. ปสวตีติ ปฏิลภติ. สทฺธาย สมฺมุขีภาวาติ ยทิ หิ สทฺธา น ภเวยฺย, เทยฺยธมฺโม น ภเวยฺย, ทกฺขิเณยฺยสงฺขาตา ปฏิคฺคาหกปุคฺคลา น ภเวยฺยุํ, กถํ ปฺุกมฺมํ กเรยฺย. เตสํ ปน สมฺมุขีภาเวน สกฺกา กาตุนฺติ ตสฺมา ‘‘สทฺธาย สมฺมุขีภาวา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ จ ทฺเว ¶ ธมฺมา สุลภา เทยฺยธมฺมา เจว ทกฺขิเณยฺยา จ, สทฺธา ปน ทุลฺลภา. ปุถุชฺชนสฺส หิ สทฺธา อถาวรา ปทวาเรน นานา โหติ, เตเนว มหาโมคฺคลฺลานสทิโสปิ อคฺคสาวโก ปาฏิโภโค ภวิตุํ อสกฺโกนฺโต อาห – ‘‘ทฺวินฺนํ โข เต อหํ, อาวุโส, ธมฺมานํ ปาฏิโภโค โภคานฺจ ชีวิตสฺส จ, สทฺธาย ปน ตฺวํเยว ปาฏิโภโค’’ติ (อุทา. ๑๘).
๒. ติานสุตฺตวณฺณนา
๔๒. ทุติเย วิคตมลมจฺเฉเรนาติ วิคตมจฺฉริยมเลน. มุตฺตจาโคติ วิสฺสฏฺจาโค. ปยตปาณีติ โธตหตฺโถ. อสฺสทฺโธ หิ สตกฺขตฺตุํ หตฺเถ โธวิตฺวาปิ มลินหตฺโถว โหติ, สทฺโธ ปน ทานาภิรตตฺตา มลินหตฺโถปิ โธตหตฺโถว. โวสฺสคฺครโตติ ¶ โวสฺสคฺคสงฺขาเต ทาเน รโต. ยาจโยโคติ ยาจิตุํ ยุตฺโต, ยาจเกหิ วา โยโค อสฺสาติปิ ยาจโยโค. ทานสํวิภาครโตติ ทานํ ททนฺโต สํวิภาคฺจ กโรนฺโต ทานสํวิภาครโต นาม โหติ.
ทสฺสนกาโม สีลวตนฺติ ทสปิ โยชนานิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ โยชนสตมฺปิ คนฺตฺวา สีลสมฺปนฺเน ทฏฺุกาโม โหติ ปาฏลิปุตฺตกพฺราหฺมโณ วิย สทฺธาติสฺสมหาราชา วิย จ. ปาฏลิปุตฺตสฺส กิร นครทฺวาเร สาลาย นิสินฺนา ทฺเว พฺราหฺมณา กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสิมหานาคตฺเถรสฺส คุณกถํ สุตฺวา ‘‘อมฺเหหิ ตํ ภิกฺขุํ ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ ทฺเวปิ ชนา นิกฺขมึสุ. เอโก อนฺตรามคฺเค กาลมกาสิ. เอโก สมุทฺทตีรํ ปตฺวา นาวาย มหาติตฺถปฏฺฏเน โอรุยฺห อนุราธปุรํ ¶ อาคนฺตฺวา ‘‘กาฬวลฺลิมณฺฑโป กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉิ. โรหณชนปเทติ. โส อนุปุพฺเพน เถรสฺส วสนฏฺานํ ปตฺวา จูฬนครคาเม ธุรฆเร นิวาสํ คเหตฺวา เถรสฺส อาหารํ สมฺปาเทตฺวา ปาโตว วุฏฺาย เถรสฺส วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา ชนปริยนฺเต ิโต เถรํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สกึ ตตฺเถว ิโต วนฺทิตฺวา ปุน อุปสงฺกมิตฺวา โคปฺผเกสุ ทฬฺหํ คเหตฺวา วนฺทนฺโต ‘‘อุจฺจา, ภนฺเต, ตุมฺเห’’ติ อาห. เถโร จ นาติอุจฺโจ นาติรสฺโส ปมาณยุตฺโตว, เตน นํ ปุน อาห – ‘‘นาติอุจฺจา ตุมฺเห, ตุมฺหากํ ¶ ปน คุณา เมจกวณฺณสฺส สมุทฺทสฺส มตฺถเกน คนฺตฺวา สกลชมฺพุทีปตลํ อชฺโฌตฺถริตฺวา คตา, อหมฺปิ ปาฏลิปุตฺตนครทฺวาเร นิสินฺโน ตุมฺหากํ คุณกถํ อสฺโสสิ’’นฺติ. โส เถรสฺส ภิกฺขาหารํ ทตฺวา อตฺตโน ติจีวรํ ปฏิยาเทตฺวา เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตสฺโสวาเท ปติฏฺาย กติปาเหเนว อรหตฺตํ ปาปุณิ.
สทฺธาติสฺสมหาราชาปิ, ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ วนฺทิตพฺพยุตฺตกํ ¶ เอกํ อยฺยํ อาจิกฺขถา’’ติ ปุจฺฉิ. ภิกฺขู ‘‘มงฺคลวาสี กุฏฺฏติสฺสตฺเถโร’’ติ อาหํสุ. ราชา มหาปริวาเรน ปฺจโยชนมคฺคํ อคมาสิ. เถโร ‘‘กึ สทฺโท เอโส, อาวุโส’’ติ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ. ‘‘ราชา, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย อาคโต’’ติ. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘กึ มยฺหํ มหลฺลกกาเล ราชเคเห กมฺม’’นฺติ ทิวาฏฺาเน มฺเจ นิปชฺชิตฺวา ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺโต อจฺฉิ. ราชา ‘‘กหํ เถโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทิวาฏฺาเน’’ติ สุตฺวา ตตฺถ คจฺฉนฺโต เถรํ ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ขีณาสวสฺส นาม หตฺถกุกฺกุจฺจํ นตฺถิ, นายํ ขีณาสโว’’ติ อวนฺทิตฺวาว นิวตฺติ. ภิกฺขุสงฺโฆ เถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, เอวํวิธสฺส สทฺธสฺส ปสนฺนสฺส รฺโ กสฺมา วิปฺปฏิสารํ กริตฺถา’’ติ. ‘‘อาวุโส, รฺโ ปสาทรกฺขนํ น ตุมฺหากํ ภาโร, มหลฺลกตฺเถรสฺส ภาโร’’ติ วตฺวา อปรภาเค อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ อาห – ‘‘มยฺหํ กูฏาคารมฺหิ อฺมฺปิ ปลฺลงฺกํ อตฺถรถา’’ติ. ตสฺมึ อตฺถเต เถโร – ‘‘อิทํ กูฏาคารํ อนฺตเร อปฺปติฏฺหิตฺวา รฺา ทิฏฺกาเลเยว ภูมิยํ ปติฏฺาตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพายิ. กูฏาคารํ ปฺจโยชนมคฺคํ อากาเสน อคมาสิ. ปฺจโยชนมคฺเค ธชํ ธาเรตุํ สมตฺถา รุกฺขา ธชปคฺคหิตาว อเหสุํ. คจฺฉาปิ คุมฺพาปิ สพฺเพ กูฏาคาราภิมุขา หุตฺวา อฏฺํสุ.
รฺโปิ ปณฺณํ ปหิณึสุ ‘‘เถโร ปรินิพฺพุโต, กูฏาคารํ อากาเสน อาคจฺฉตี’’ติ. ราชา น สทฺทหิ. กูฏาคารํ อากาเสน คนฺตฺวา ถูปารามํ ปทกฺขิณํ กตฺวา สิลาเจติยฏฺานํ อคมาสิ. เจติยํ สห วตฺถุนา อุปฺปติตฺวา กูฏาคารมตฺถเก อฏฺาสิ, สาธุการสหสฺสานิ ปวตฺตึสุ ¶ . ตสฺมึ ขเณ มหาพฺยคฺฆตฺเถโร นาม โลหปาสาเท สตฺตมกูฏาคาเร นิสินฺโน ภิกฺขูนํ วินยกมฺมํ กโรนฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ สทฺโท ¶ เอโส’’ติ ปฏิปุจฺฉิ. ภนฺเต, มงฺคลวาสี กุฏฺฏติสฺสตฺเถโร ปรินิพฺพุโต, กูฏาคารํ ปฺจโยชนมคฺคํ อากาเสน อาคตํ, ตตฺถ โส สาธุการสทฺโทติ. อาวุโส, ปฺุวนฺเต นิสฺสาย ¶ สกฺการํ ลภิสฺสามาติ อนฺเตวาสิเก ขมาเปตฺวา อากาเสเนว อาคนฺตฺวา ตํ กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา ทุติยมฺเจ นิสีทิตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. ราชา คนฺธปุปฺผจุณฺณานิ อาทาย คนฺตฺวา อากาเส ิตํ กูฏาคารํ ทิสฺวา กูฏาคารํ ปูเชสิ. ตสฺมึ ขเณ กูฏาคารํ โอตริตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิตํ. ราชา มหาสกฺกาเรน สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ธาตุโย คเหตฺวา เจติยํ อกาสิ. เอวรูปา สีลวนฺตานํ ทสฺสนกามา นาม โหนฺติ.
สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉตีติ ตถาคตปฺปเวทิตํ สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ ปิณฺฑปาติกตฺเถราทโย วิย. คงฺคาวนวาลิองฺคณมฺหิ กิร ตึส ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา อนฺวทฺธมาสํ อุโปสถทิวเส จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามมหาอริยวํสฺจ (อ. นิ. ๔.๒๘) กเถนฺติ. เอโก ปิณฺฑปาติกตฺเถโร ปจฺฉาภาเคน อาคนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิ. อถ นํ เอโก โคนโส ชงฺฆปิณฺฑิมํสํ สณฺฑาเสน คณฺหนฺโต วิย ฑํสิ. เถโร โอโลเกนฺโต โคนสํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช ธมฺมสฺสวนนฺตรายํ น กริสฺสามี’’ติ โคนสํ คเหตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา ถวิกามุขํ พนฺธิตฺวา อวิทูเร าเน เปตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโตว นิสีทิ. อรุณุคฺคมนฺจ วิสํ วิกฺขมฺเภตฺวา เถรสฺส ติณฺณํ ผลานํ ปาปุณนฺจ วิสสฺส ทฏฺฏฺาเนเนว โอตริตฺวา ปถวิปวิสนฺจ ธมฺมกถิกตฺเถรสฺส ธมฺมกถานิฏฺาปนฺจ เอกกฺขเณเยว อโหสิ. ตโต เถโร อาห – ‘‘อาวุโส เอโก เม โจโร คหิโต’’ติ ถวิกํ มฺุจิตฺวา โคนสํ วิสฺสชฺเชสิ. ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กาย เวลาย ทฏฺตฺถ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉึสุ. หิยฺโย สายนฺหสมเย, อาวุโสติ. กสฺมา, ภนฺเต, เอวํ ภาริยํ กมฺมํ กริตฺถาติ. อาวุโส, สจาหํ ทีฆชาติเกน ทฏฺโติ วเทยฺยํ, นยิมํ เอตฺตกํ อานิสํสํ ¶ ลเภยฺยนฺติ. อิทํ ตาว ปิณฺฑปาติกตฺเถรสฺส วตฺถุ.
ทีฆวาปิยมฺปิ ‘‘มหาชาตกภาณกตฺเถโร คาถาสหสฺสํ มหาเวสฺสนฺตรํ กเถสฺสตี’’ติ ติสฺสมหาคาเม ติสฺสมหาวิหารวาสี เอโก ¶ ทหโร สุตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา เอกาเหเนว นวโยชนมคฺคํ อาคโต. ตสฺมึเยว ขเณ เถโร ธมฺมกถํ อารภิ. ทหโร ทูรมคฺคาคมเนน สฺชาตกายทรถตฺตา ปฏฺานคาถาย สทฺธึ อวสานคาถํเยว ววตฺถเปสิ. ตโต เถรสฺส ‘‘อิทมโวจา’’ติ ¶ วตฺวา อุฏฺาย คมนกาเล ‘‘มยฺหํ อาคมนกมฺมํ โมฆํ ชาต’’นฺติ โรทมาโน อฏฺาสิ. เอโก มนุสฺโส ตํ กถํ สุตฺวา คนฺตฺวา เถรสฺส อาโรเจสิ, ‘‘ภนฺเต, ‘ตุมฺหากํ ธมฺมกถํ โสสฺสามี’ติ เอโก ทหรภิกฺขุ ติสฺสมหาวิหารา อาคโต, โส ‘กายทรถภาเวน เม อาคมนํ โมฆํ ชาต’นฺติ โรทมาโน ิโต’’ติ. คจฺฉถ สฺาเปถ นํ ‘‘ปุน สฺเว กเถสฺสามา’’ติ. โส ปุนทิวเส เถรสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ.
อปราปิ อุลฺลโกลิกณฺณิวาสิกา เอกา อิตฺถี ปุตฺตกํ ปายมานา ‘‘ทีฆภาณกมหาอภยตฺเถโร นาม อริยวํสปฏิปทํ กเถตี’’ติ สุตฺวา ปฺจโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ทิวากถิกตฺเถรสฺส นิสินฺนกาเลเยว วิหารํ ปวิสิตฺวา ภูมิยํ ปุตฺตํ นิปชฺชาเปตฺวา ทิวากถิกตฺเถรสฺส ิตกาว ธมฺมํ อสฺโสสิ. สรภาณเก เถเร อุฏฺิเต ทีฆภาณกมหาอภยตฺเถโร จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามมหาอริยวํสํ อารภิ. สา ิตกาว ปคฺคณฺหาติ. เถโร ตโย เอว ปจฺจเย กเถตฺวา อุฏฺานาการํ อกาสิ. สา อุปาสิกา อาห – ‘‘อยฺโย, ‘อริยวํสํ กเถสฺสามี’ติ สินิทฺธโภชนํ ภฺุชิตฺวา มธุรปานกํ ปิวิตฺวา ยฏฺิมธุกเตลาทีหิ เภสชฺชํ กตฺวา กเถตุํ ¶ ยุตฺตฏฺาเนเยว อุฏฺหตี’’ติ. เถโร ‘‘สาธุ, ภคินี’’ติ วตฺวา อุปริ ภาวนารามํ ปฏฺเปสิ. อรุณุคฺคมนฺจ เถรสฺส ‘‘อิทมโวจา’’ติ วจนฺจ อุปาสิกาย โสตาปตฺติผลุปฺปตฺติ จ เอกกฺขเณเยว อโหสิ.
อปราปิ กฬมฺปรวาสิกา อิตฺถี องฺเกน ปุตฺตํ อาทาย ‘‘ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ จิตฺตลปพฺพตํ คนฺตฺวา เอกํ รุกฺขํ นิสฺสาย ทารกํ นิปชฺชาเปตฺวา สยํ ิตกาว ธมฺมํ สุณาติ. รตฺติภาคสมนนฺตเร เอโก ทีฆชาติโก ตสฺสา ¶ ปสฺสนฺติยาเยว สมีเป นิปนฺนทารกํ จตูหิ ทาาหิ ฑํสิตฺวา อคมาสิ. สา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ ‘ปุตฺโต เม สปฺเปน ทฏฺโ’ติ วกฺขามิ, ธมฺมสฺส อนฺตราโย ภวิสฺสติ. อเนกกฺขตฺตุํ โข ปน เม อยํ สํสารวฏฺเฏ วฏฺฏนฺติยา ปุตฺโต อโหสิ, ธมฺมเมว จริสฺสามี’’ติ ติยามรตฺตึ ิตกาว ธมฺมํ ปคฺคณฺหิตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย อรุเณ อุคฺคเต สจฺจกิริยาย ปุตฺตสฺส วิสํ นิมฺมเถตฺวา ปุตฺตํ คเหตฺวา คตา. เอวรูปา ปุคฺคลา ธมฺมํ โสตุกามา นาม โหนฺติ.
๓. อตฺถวสสุตฺตวณฺณนา
๔๓. ตติเย ¶ ตโย, ภิกฺขเว, อตฺถวเส สมฺปสฺสมาเนนาติ ตโย อตฺเถ ตีณิ การณานิ ปสฺสนฺเตน. อลเมวาติ ยุตฺตเมว. โย ธมฺมํ เทเสตีติ โย ปุคฺคโล จตุสจฺจธมฺมํ ปกาเสติ. อตฺถปฺปฏิสํเวทีติ อฏฺกถํ าเณน ปฏิสํเวที. ธมฺมปฺปฏิสํเวทีติ ปาฬิธมฺมํ ปฏิสํเวที.
๔. กถาปวตฺติสุตฺตวณฺณนา
๔๔. จตุตฺเถ าเนหีติ การเณหิ. ปวตฺตินีติ อปฺปฏิหตา นิยฺยานิกา.
๕. ปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา
๔๕. ปฺจเม ปณฺฑิตปฺตฺตานีติ ปณฺฑิเตหิ ปฺตฺตานิ กถิตานิ ปสตฺถานิ. สปฺปุริสปฺตฺตานีติ สปฺปุริเสหิ มหาปุริเสหิ ปฺตฺตานิ กถิตานิ ปสตฺถานิ. อหึสาติ กรุณา เจว กรุณาปุพฺพภาโค จ. สํยโมติ สีลสํยโม. ทโมติ ¶ อินฺทฺริยสํวโร, อุโปสถวเสน วา อตฺตทมนํ, ปุณฺโณวาเท (ม. นิ. ๓.๓๙๕ อาทโย; สํ. นิ. ๔.๘๘ อาทโย) ทโมติ วุตฺตา ขนฺติปิ อาฬวเก (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๓ อาทโย) วุตฺตา ปฺาปิ อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏติเยว. มาตาปิตุ อุปฏฺานนฺติ มาตาปิตูนํ รกฺขนํ โคปนํ ปฏิชคฺคนํ. สนฺตานนฺติ อฺตฺถ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวกา สนฺโต นาม, อิธ ปน มาตาปิตุอุปฏฺากา อธิปฺเปตา. ตสฺมา อุตฺตมฏฺเน สนฺตานํ ¶ , เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจารีนํ. อิทํ มาตาปิตุอุปฏฺานํ สพฺภิ อุปฺาตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สตํ เอตานิ านานีติ สนฺตานํ อุตฺตมปุริสานํ เอตานิ านานิ การณานิ. อริโย ทสฺสนสมฺปนฺโนติ อิธ อิเมสํเยว ติณฺณํ านานํ การเณน อริโย เจว ทสฺสนสมฺปนฺโน จ เวทิตพฺโพ, น พุทฺธาทโย น โสตาปนฺนา. อถ วา สตํ เอตานิ านานีติ มาตุปฏฺานํ ปิตุปฏฺานนฺติ เอตานิ านานิ สนฺตานํ อุตฺตมปุริสานํ การณานีติ เอวํ มาตาปิตุอุปฏฺากวเสน อิมิสฺสา คาถาย อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มาตาปิตุอุปฏฺาโกเยว หิ อิธ ‘‘อริโย ทสฺสนสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺโต. ส โลกํ ภชเต สิวนฺติ โส เขมํ เทวโลกํ คจฺฉตีติ.
๖. สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๖. ฉฏฺเ ¶ ตีหิ าเนหีติ ตีหิ การเณหิ. กาเยนาติอาทีสุ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺตา คจฺฉนฺเต อนุคจฺฉนฺตา อาสนสาลาย สมฺมชฺชนอุปเลปนาทีนิ กโรนฺตา อาสนานิ ปฺาเปนฺตา ปานียํ ปจฺจุปฏฺาเปนฺตา กาเยน ปฺุํ ปสวนฺติ นาม. ภิกฺขุสงฺฆํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ยาคุํ เทถ, ภตฺตํ เทถ, สปฺปินวนีตาทีนิ เทถ, คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูเชถ, อุโปสถํ อุปวสถ, ธมฺมํ สุณาถ, เจติยํ วนฺทถา’’ติอาทีนิ วทนฺตา วาจาย ปฺุํ ปสวนฺติ นาม. ภิกฺขู ปิณฺฑาย จรนฺเต ทิสฺวา ‘‘ลภนฺตู’’ติ จินฺเตนฺตา มนสา ปฺุํ ปสวนฺติ นาม. ปสวนฺตีติ ปฏิลภนฺติ. ปฺุํ ¶ ปเนตฺถ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ กถิตํ.
๗. สงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๔๗. สตฺตเม สงฺขตสฺสาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตสฺส. สงฺขตลกฺขณานีติ สงฺขตํ เอตนฺติ สฺชานนการณานิ นิมิตฺตานิ. อุปฺปาโทติ ชาติ. วโยติ เภโท. ิตสฺส อฺถตฺตํ นาม ชรา. ตตฺถ สงฺขตนฺติ เตภูมกา ธมฺมา. มคฺคผลานิ ปน อสมฺมสนูปคตฺตา อิธ น กถียนฺติ. อุปฺปาทาทโย สงฺขตลกฺขณา นาม. เตสุ อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปาโท, านกฺขเณ ชรา, เภทกฺขเณ วโย. ลกฺขณํ น สงฺขตํ, สงฺขตํ น ลกฺขณํ ¶ , ลกฺขเณน ปน สงฺขตํ ปริจฺฉินฺนํ. ยถา หตฺถิอสฺสโคมหึสาทีนํ สตฺติสูลาทีนิ สฺชานนลกฺขณานิ น หตฺถิอาทโย, นปิ หตฺถิอาทโย ลกฺขณาเนว, ลกฺขเณหิ ปน เต ‘‘อสุกสฺส หตฺถี, อสุกสฺส อสฺโส, อสุกหตฺถี, อสุกอสฺโส’’ติ วา ปฺายนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.
๘. อสงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๔๘. อฏฺเม อสงฺขตสฺสาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา อกตสฺส. อสงฺขตลกฺขณานีติ อสงฺขตํ เอตนฺติ สฺชานนการณานิ นิมิตฺตานิ. น อุปฺปาโท ปฺายตีติอาทีหิ อุปฺปาทชราภงฺคานํ อภาโว วุตฺโต. อุปฺปาทาทีนฺหิ อภาเวน อสงฺขตนฺติ ปฺายติ.
๙. ปพฺพตราชสุตฺตวณฺณนา
๔๙. นวเม ¶ มหาสาลาติ มหารุกฺขา. กุลปตินฺติ กุลเชฏฺกํ. เสโลติ สิลามโย. อรฺสฺมินฺติ อคามกฏฺาเน. พฺรหฺมาติ มหนฺโต. วเนติ อฏวิยํ. วนปฺปตีติ วนเชฏฺกา. อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, มคฺคํ สุคติคามินนฺติ สุคติคามิกมคฺคสงฺขาตํ ธมฺมํ จริตฺวา.
๑๐. อาตปฺปกรณียสุตฺตวณฺณนา
๕๐. ทสเม ¶ อาตปฺปํ กรณียนฺติ วีริยํ กาตุํ ยุตฺตํ. อนุปฺปาทายาติ อนุปฺปาทตฺถาย, อนุปฺปาทํ สาเธสฺสามีติ อิมินา การเณน กตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปรโตปิ เอเสว นโย. สารีริกานนฺติ สรีรสมฺภวานํ. ทุกฺขานนฺติ ทุกฺขมานํ. ติพฺพานนฺติ พหลานํ, ตาปนวเสน วา ติพฺพานํ. ขรานนฺติ ผรุสานํ. กฏุกานนฺติ ติขิณานํ. อสาตานนฺติ อมธุรานํ. อมนาปานนฺติ มนํ วฑฺเฒตุํ อสมตฺถานํ. ปาณหรานนฺติ ชีวิตหรานํ. อธิวาสนายาติ อธิวาสนตฺถาย สหนตฺถาย ขมนตฺถาย.
เอตฺตเก ¶ าเน สตฺถา อาณาเปตฺวา อาณตฺตึ ปวตฺเตตฺวา อิทานิ สมาทเปนฺโต ยโต โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ยโตติ ยทา. อาตาปีติ วีริยวา. นิปโกติ สปฺปฺโ. สโตติ สติยา สมนฺนาคโต. ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริจฺเฉทปริวฏุมกิริยาย. อิเม จ ปน อาตาปาทโย ตโยปิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.
๑๑. มหาโจรสุตฺตวณฺณนา
๕๑. เอกาทสเม มหาโจโรติ มหนฺโต พลวโจโร. สนฺธินฺติ ฆรสนฺธึ. นิลฺโลปนฺติ มหาวิโลปํ. เอกาคาริกนฺติ เอกเมว เคหํ ปริวาเรตฺวา วิลุมฺปนํ. ปริปนฺเถปิ ติฏฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรติ. นทีวิทุคฺคนฺติ นทีนํ ทุคฺคมฏฺานํ อนฺตรทีปกํ, ยตฺถ สกฺกา โหติ ทฺวีหิปิ ตีหิปิ ชงฺฆสหสฺเสหิ สทฺธึ นิลียิตุํ. ปพฺพตวิสมนฺติ ¶ ปพฺพตานํ วิสมฏฺานํ ปพฺพตนฺตรํ, ยตฺถ สกฺกา โหติ สตฺตหิ วา อฏฺหิ วา ชงฺฆสหสฺเสหิ สทฺธึ นิลียิตุํ. ติณคหนนฺติ ติเณน วฑฺฒิตฺวา สฺฉนฺนํ ทฺวตฺติโยชนฏฺานํ. โรธนฺติ ฆนํ อฺมฺํ สํสฏฺสาขํ เอกาพทฺธํ ¶ มหาวนสณฺฑํ. ปริโยธาย อตฺถํ ภณิสฺสนฺตีติ ปริโยทหิตฺวา ตํ ตํ การณํ ปกฺขิปิตฺวา อตฺถํ กถยิสฺสนฺติ. ตฺยาสฺสาติ เต อสฺส. ปริโยธาย อตฺถํ ภณนฺตีติ กิสฺมิฺจิ กิฺจิ วตฺตุํ อารทฺเธเยว ‘‘มา เอวํ อวจุตฺถ, มยํ เอตํ กุลปรมฺปราย ชานาม, น เอส เอวรูปํ กริสฺสตี’’ติ ตํ ตํ การณํ ปกฺขิปิตฺวา มหนฺตมฺปิ โทสํ หรนฺตา อตฺถํ ภณนฺติ. อถ วา ปริโยธายาติ ปฏิจฺฉาเทตฺวาติปิ อตฺโถ. เต หิ ตสฺสปิ โทสํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อตฺถํ ภณนฺติ. ขตํ อุปหตนฺติ คุณขนเนน ขตํ, คุณุปฆาเตน อุปหตํ. วิสเมน กายกมฺเมนาติ สมฺปกฺขลนฏฺเน วิสเมน กายทฺวาริกกมฺเมน. วจีมโนกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. อนฺตคฺคาหิกายาติ ทสวตฺถุกาย อนฺตํ คเหตฺวา ิตทิฏฺิยา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
จูฬวคฺโค ปฺจโม.
ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
(๖) ๑. พฺราหฺมณวคฺโค
๑. ปมทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๕๒. พฺราหฺมณวคฺคสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม ชิณฺณาติ ชราชิณฺณา. วุทฺธาติ วโยวุทฺธา. มหลฺลกาติ ชาติมหลฺลกา. อทฺธคตาติ ตโย อทฺเธ อติกฺกนฺตา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ตติยํ วยํ อนุปฺปตฺตา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ปุตฺตทาเร อตฺตโน วจนํ อกโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นิยฺยานิกมคฺคํ คเวสิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมึสุ. มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณาติ; โภ โคตม, มยํ พฺราหฺมณา น ขตฺติยา นามจฺจา น คหปติกาติ พฺราหฺมณภาวํ ชานาเปตฺวา ชิณฺณาติอาทิมาหํสุ. อกตภีรุตฺตาณาติ อกตภยปริตฺตาณา. อวสฺสยภูตํ ปติฏฺากมฺมํ อมฺเหหิ น กตนฺติ ทสฺเสนฺติ. ตคฺฆาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต, สมฺปฏิจฺฉนตฺเถ วา. เอกนฺเตน ตุมฺเห เอวรูปา, อหมฺปิ โข เอตํ สมฺปฏิจฺฉามีติ จ ทสฺเสติ. อุปนียตีติ อุปสํหรียติ. อยํ หิ ชาติยา ชรํ อุปนียติ, ชราย พฺยาธึ, พฺยาธินา มรณํ, มรเณน ปุน ชาตึ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปนียตี’’ติ.
อิทานิ ยสฺมา เต พฺราหฺมณา มหลฺลกตฺตา ปพฺพชิตฺวาปิ วตฺตํ ปูเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, ตสฺมา เน ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปนฺโต ภควา โยธ กาเยน สํยโมติอาทิมาห. ตตฺถ กาเยน สํยโมติ กายทฺวาเรน สํวโร. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตํ ตสฺส เปตสฺสาติ ตํ ปฺุํ ตสฺส ปรโลกํ คตสฺส ตายนฏฺเน ตาณํ, นิลียนฏฺเน เลณํ, ปติฏฺานฏฺเน ทีโป, อวสฺสยนฏฺเน สรณํ, อุตฺตมคติวเสน ปรายณฺจ โหตีติ ทสฺเสติ. คาถา อุตฺตานตฺถาเยว. เอวํ ¶ เต พฺราหฺมณา ตถาคเตน ปฺจสุ สีเลสุ สมาทปิตา ยาวชีวํ ปฺจ สีลานิ รกฺขิตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตึสุ.
๒. ทุติยทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๕๓. ทุติเย ¶ ¶ ภาชนนฺติ ยํกิฺจิ ภณฺฑกํ. เสสํ ปเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๓. อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๕๔. ตติเย สมฺโมทนียนฺติ สมฺโมทชนนึ. สารณียนฺติ สริตพฺพยุตฺตกํ. วีติสาเรตฺวาติ ปริโยสาเปตฺวา. กิตฺตาวตาติ กิตฺตเกน. สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหตีติ สามํ ปสฺสิตพฺโพ โหติ. อกาลิโกติ น กาลนฺตเร ผลทายโก. เอหิปสฺสิโกติ ‘‘เอหิ ปสฺสา’’ติ เอวํ ทสฺเสตุํ สกฺกาติ อาคมนียปฏิปทํ ปุจฺฉติ. โอปเนยฺยิโกติ อตฺตโน จิตฺตํ อุปเนตพฺโพ. ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพติ สามํเยว ชานิตพฺโพ. วิฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ. ปริยาทินฺนจิตฺโตติ อาทินฺนคหิตปรามฏฺจิตฺโต หุตฺวา. เจเตตีติ จินฺเตติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต พฺราหฺมเณน โลกุตฺตรมคฺโค ปุจฺฉิโต, สตฺถาราปิ โสเยว กถิโต. โส หิ สามํ ปสฺสิตพฺพตฺตา สนฺทิฏฺิโก นามาติ.
๔. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา
๕๕. จตุตฺเถ พฺราหฺมณปริพฺพาชโกติ พฺราหฺมณชาติโก ปริพฺพาชโก, น ขตฺติยาทิชาติโก. อตฺตตฺถมฺปีติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ อตฺตโน อตฺถํ.
๕. นิพฺพุตสุตฺตวณฺณนา
๕๖. ปฺจเม อกาลิกนฺติ น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพํ. โอปเนยฺยิกนฺติ ปฏิปตฺติยา อุปคนฺตพฺพํ.
๖. ปโลกสุตฺตวณฺณนา
๕๗. ฉฏฺเ อาจริยปาจริยานนฺติ อาจริยานฺเจว อาจริยาจริยานฺจ. อวีจิ มฺเ ผุโฏ อโหสีติ ยถา อวีจิ มหานิรโย นิรนฺตรผุโฏ เนรยิกสตฺเตหิ ปริปุณฺโณ, มนุสฺเสหิ ¶ เอวํ ปริปุณฺโณ โหติ. กุกฺกุฏสํปาติกาติ เอกคามสฺส ฉทนปิฏฺิโต อุปฺปติตฺวา อิตรคามสฺส ¶ ¶ ฉทนปิฏฺเ ปตนสงฺขาโต กุกฺกุฏสํปาโต เอตาสุ อตฺถีติ กุกฺกุฏสํปาติกา. กุกฺกุฏสํปาทิกาติปิ ปาโ, คามนฺตรโต คามนฺตรํ กุกฺกุฏานํ ปทสา คมนสงฺขาโต กุกฺกุฏสํปาโท เอตาสุ อตฺถีติ อตฺโถ. อุภยมฺเปตํ ฆนนิวาสตํเยว ทีเปติ. อธมฺมราครตฺตาติ ราโค นาม เอกนฺเตเนว อธมฺโม, อตฺตโน ปริกฺขาเรสุ ปน อุปฺปชฺชมาโน น อธมฺมราโคติ อธิปฺเปโต, ปรปริกฺขาเรสุ อุปฺปชฺชมาโนว อธมฺมราโคติ. วิสมโลภาภิภูตาติ โลภสฺส สมกาโล นาม นตฺถิ, เอกนฺตํ วิสโมว เอส. อตฺตนา ปริคฺคหิตวตฺถุมฺหิ ปน อุปฺปชฺชมาโน สมโลโภ นาม, ปรปริคฺคหิตวตฺถุมฺหิ อุปฺปชฺชมาโนว วิสโมติ อธิปฺเปโต. มิจฺฉาธมฺมปเรตาติ อวตฺถุปฏิเสวนสงฺขาเตน มิจฺฉาธมฺเมน สมนฺนาคตา. เทโว น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉตีติ วสฺสิตพฺพยุตฺเต กาเล วสฺสํ น วสฺสติ. ทุพฺภิกฺขนฺติ ทุลฺลภภิกฺขํ. ทุสฺสสฺสนฺติ วิวิธสสฺสานํ อสมฺปชฺชเนน ทุสฺสสฺสํ. เสตฏฺิกนฺติ สสฺเส สมฺปชฺชมาเน ปาณกา ปตนฺติ, เตหิ ทฏฺตฺตา นิกฺขนฺตนิกฺขนฺตานิ สาลิสีสานิ เสตวณฺณานิ โหนฺติ นิสฺสารานิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เสตฏฺิก’’นฺติ. สลากาวุตฺตนฺติ วปิตํ วปิตํ สสฺสํ สลากามตฺตเมว สมฺปชฺชติ, ผลํ น เทตีติ อตฺโถ. ยกฺขาติ ยกฺขาธิปติโน. วาเฬ อมนุสฺเส โอสฺสชฺชนฺตีติ จณฺฑยกฺเข มนุสฺสปเถ วิสฺสชฺเชนฺติ, เต ลทฺโธกาสา มหาชนํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ.
๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๘. สตฺตเม มหปฺผลนฺติ มหาวิปากํ. ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ เอตฺถ ธมฺโม นาม กถิตกถา, อนุธมฺโม นาม กถิตสฺส ปฏิกถนํ. สหธมฺมิโกติ สการโณ สเหตุโก. วาทานุปาโตติ วาทสฺส อนุปาโต, อนุปตนํ ปวตฺตีติ อตฺโถ. คารยฺหํ ¶ านนฺติ ครหิตพฺพยุตฺตํ การณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โภตา โคตเมน วุตฺตา สการณา วาทปฺปวตฺติ กิฺจิปิ คารยฺหํ การณํ น อาคจฺฉตีติ. อถ วา เตหิ ปเรหิ วุตฺตา สการณา วาทปฺปวตฺติ กิฺจิ คารยฺหํ การณํ น อาคจฺฉตีติ ปุจฺฉติ.
อนฺตรายกโร ¶ โหตีติ อนฺตรายํ วินาสํ กิจฺฉลาภกํ วิโลมกํ กโรติ. ปาริปนฺถิโกติ ปนฺถทูหนโจโร. ขโต จ โหตีติ คุณขนเนน ขโต โหติ. อุปหโตติ คุณุปฆาเตเนว อุปหโต.
จนฺทนิกายาติ ¶ อสุจิกลลกูเป. โอลิคลฺเลติ นิทฺธมนกลเล. โส จาติ โส สีลวาติ วุตฺตขีณาสโว. สีลกฺขนฺเธนาติ สีลราสินา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ วิมุตฺติาณทสฺสนํ วุจฺจติ ปจฺจเวกฺขณาณํ, ตํ อเสกฺขสฺส ปวตฺตตฺตา อเสกฺขนฺติ วุตฺตํ. อิตรานิ สิกฺขาปริโยสานปฺปตฺตตาย สยมฺปิ อเสกฺขาเนว. ตานิ จ ปน โลกุตฺตรานิ, ปจฺจเวกฺขณาณํ โลกิยํ.
โรหิณีสูติ รตฺตวณฺณาสุ. สรูปาสูติ อตฺตโน วจฺฉเกหิ สมานรูปาสุ. ปาเรวตาสูติ กโปตวณฺณาสุ. ทนฺโตติ นิพฺพิเสวโน. ปุงฺคโวติ อุสโภ. โธรยฺโหติ ธุรวาโห. กลฺยาณชวนิกฺกโมติ กลฺยาเณน อุชุนา ชเวน คนฺตา. นาสฺส วณฺณํ ปริกฺขเรติ อสฺส โคณสฺส สรีรวณฺณํ น อุปปริกฺขนฺติ, ธุรวหนกมฺมเมว ปน อุปปริกฺขนฺติ. ยสฺมึ กสฺมิฺจิ ชาติเยติ ยตฺถ กตฺถจิ กุลชาเต. ยาสุ กาสุจิ เอตาสูติ เอตาสุ ขตฺติยาทิปฺปเภทาสุ ยาสุ กาสุจิ ชาตีสุ.
พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ พฺรหฺมจริยสฺส เกวเลน สมนฺนาคโต, ปริปุณฺณภาเวน ยุตฺโตติ อตฺโถ. ขีณาสโว หิ สกลพฺรหฺมจารี นาม โหติ. เตเนตํ วุตฺตํ. ปนฺนภาโรติ ¶ โอโรปิตภาโร, ขนฺธภารํ กิเลสภารํ กามคุณภารฺจ โอโรเปตฺวา ิโตติ อตฺโถ. กตกิจฺโจติ จตูหิ มคฺเคหิ กิจฺจํ กตฺวา ิโต. ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺพธมฺมา วุจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย, เตสํ สพฺพธมฺมานํ อภิฺาปารํ, ปริฺาปารํ, ปหานปารํ, ภาวนาปารํ, สจฺฉิกิริยาปารํ, สมาปตฺติปารฺจาติ ฉพฺพิธํ ปารํ คตตฺตา ปารคู. อนุปาทายาติ อคฺคเหตฺวา. นิพฺพุโตติ กิเลสสนฺตาปรหิโต. วิรเชติ ราคโทสโมหรชรหิเต.
อวิชานนฺตาติ ¶ เขตฺตํ อชานนฺตา. ทุมฺเมธาติ นิปฺปฺา. อสฺสุตาวิโนติ เขตฺตวินิจฺฉยสวเนน รหิตา. พหิทฺธาติ อิมมฺหา สาสนา พหิทฺธา. น หิ สนฺเต อุปาสเรติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสเว อุตฺตมปุริเส น อุปสงฺกมนฺติ. ธีรสมฺมเตติ ปณฺฑิเตหิ สมฺมเต สมฺภาวิเต. มูลชาตา ปติฏฺิตาติ อิมินา โสตาปนฺนสฺส สทฺธํ ทสฺเสติ. กุเล วา อิธ ชายเรติ อิธ วา มนุสฺสโลเก ขตฺติยพฺราหฺมณเวสฺสกุเล ชายนฺติ. อยเมว หิ ติวิธา กุลสมฺปตฺติ นาม. อนุปุพฺเพน นิพฺพานํ, อธิคจฺฉนฺตีติ สีลสมาธิปฺาติ อิเม คุเณ ปูเรตฺวา อนุกฺกเมน นิพฺพานํ อธิคจฺฉนฺตีติ.
๘. ติกณฺณสุตฺตวณฺณนา
๕๙. อฏฺเม ¶ ติกณฺโณติ ตสฺส นามํ. อุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ กิร โคตโม ปณฺฑิโต, คจฺฉิสฺสามิ ตสฺส สนฺติก’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภุตฺตปาตราโส มหาชนปริวุโต อุปสงฺกมิ. ภควโต สมฺมุขาติ ทสพลสฺส ปุรโต นิสีทิตฺวา. วณฺณํ ภาสตีติ กสฺมา ภาสติ? โส กิร อิโต ปุพฺเพ ตถาคตสฺส สนฺติกํ อคตปุพฺโพ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘พุทฺธา นาม ทุราสทา, มยิ ปมตรํ อกเถนฺเต กเถยฺย วา น วา. สเจ น กเถสฺสติ, อถ มํ สมาคมฏฺาเน กเถนฺตํ ¶ เอวํ วกฺขนฺติ ‘ตฺวํ อิธ กสฺมา กเถสิ, เยน เต สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วจนมตฺตมฺปิ น ลทฺธ’นฺติ. ตสฺมา ‘เอวํ เม อยํ ครหา มุจฺจิสฺสตี’’’ติ มฺมาโน ภาสติ. กิฺจาปิ พฺราหฺมณานํ วณฺณํ ภาสติ, ตถาคตสฺส ปน าณํ ฆฏฺเฏสฺสามีติ อธิปฺปาเยเนว ภาสติ. เอวมฺปิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณาติ เตวิชฺชกพฺราหฺมณา เอวํปณฺฑิตา เอวํธีรา เอวํพฺยตฺตา เอวํพหุสฺสุตา เอวํวาทิโน, เอวํสมฺมตาติ อตฺโถ. อิติปีติ อิมินา เตสํ ปณฺฑิตาทิอาการปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. เอตฺตเกน การเณน ปณฺฑิตา…เป… เอตฺตเกน การเณน สมฺมตาติ อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ.
ยถา กถํ ปน พฺราหฺมณาติ เอตฺถ ยถาติ การณวจนํ, กถํ ปนาติ ปุจฺฉาวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณา เตวิชฺชํ ¶ ปฺาเปนฺติ. ยถา เอวํ สกฺกา โหติ ชานิตุํ, ตํ การณํ วเทหีติ. ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ‘‘ชานนฏฺาเนเยว มํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุจฺฉิ, โน อชานนฏฺาเน’’ติ อตฺตมโน หุตฺวา อิธ, โภ โคตมาติอาทิมาห. ตตฺถ อุภโตติ ทฺวีหิปิ ปกฺเขหิ. มาติโต จ ปิติโต จาติ ยสฺส มาตา พฺราหฺมณี, มาตุ มาตา พฺราหฺมณี, ตสฺสาปิ มาตา พฺราหฺมณี. ปิตา พฺราหฺมโณ, ปิตุ ปิตา พฺราหฺมโณ, ตสฺสาปิ ปิตา พฺราหฺมโณ, โส อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ. สํสุทฺธคหณิโกติ ยสฺส สํสุทฺธา มาตุ คหณี, กุจฺฉีติ อตฺโถ. ‘‘สมเวปากินิยา คหณิยา’’ติ ปน เอตฺถ กมฺมชเตโชธาตุ คหณีติ วุจฺจติ.
ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ เอตฺถ ปิตุ ปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ, อตฺถโต ปน ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส, ตาว สํสุทฺธคหณิโก, อถ ¶ วา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนาติ ¶ ทสฺเสติ. อกฺขิตฺโตติ ‘‘อปเนถ เอตํ, กึ อิมินา’’ติ เอวํ อกฺขิตฺโต อนวกฺขิตฺโต. อนุปกฺกุฏฺโติ น อุปกฺกุฏฺโ, น อกฺโกสํ วา นินฺทํ วา ปตฺตปุพฺโพ. เกน การเณนาติ? ชาติวาเทน. ‘‘อิติปิ หีนชาติโก เอโส’’ติ เอวรูเปน วจเนนาติ อตฺโถ.
อชฺฌายโกติ อิทํ ‘‘น ทานิเม ฌายนฺติ, น ทานิเม ฌายนฺตีติ โข, วาเสฏฺ, อชฺฌายกา อชฺฌายกาเตว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๒) เอวํ ปมกปฺปิกกาเล ฌานวิรหิตานํ พฺราหฺมณานํ ครหวจนํ อุปฺปนฺนํ. อิทานิ ปน ตํ อชฺฌายตีติ อชฺฌายโก, มนฺเต ปริวตฺเตตีติ อิมินา อตฺเถน ปสํสาวจนํ กตฺวา โวหรนฺติ. มนฺเต ธาเรตีติ มนฺตธโร.
ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุพฺเพทยชุพฺเพทสามพฺเพทานํ. โอฏฺปหตกรณวเสน ปารํ คโตติ ปารคู. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ. นิฆณฺฑูติ นามนิฆณฺฑุรุกฺขาทีนํ เววจนปกาสกสตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการาย สตฺถํ. สห อกฺขรปฺปเภเทน ¶ สากฺขรปฺปเภทานํ. อกฺขรปฺปเภโทติ สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา อิติห อาส, อิติห อาสาติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต ขตฺตวิชฺชาสงฺขาโต วา อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา. เตสํ อิติหาสปฺจมานํ เวทานํ.
ปทํ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ อธียติ เวเทติ จาติ ปทโก เวยฺยากรโณ. โลกายตํ วุจฺจติ วิตณฺฑวาทสตฺถํ. มหาปุริสลกฺขณนฺติ มหาปุริสานํ พุทฺธาทีนํ ลกฺขณทีปกํ ทฺวาทสสหสฺสคนฺถปมาณํ สตฺถํ, ยตฺถ โสฬสสหสฺสคาถาปทปริมาณา พุทฺธมนฺตา นาม อเหสุํ, เยสํ วเสน ‘‘อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคตา พุทฺธา นาม โหนฺติ ¶ , อิมินา ปจฺเจกพุทฺธา, ทฺเว อคฺคสาวกา, อสีติ มหาสาวกา, พุทฺธมาตา, พุทฺธปิตา, อคฺคุปฏฺากา, อคฺคุปฏฺายิกา, ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ อยํ วิเสโส ายติ. อนวโยติ อิเมสุ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนูโน ปริปูรการี, อวโย น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อวโย นาม โย ตานิ อตฺถโต จ คนฺถโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ. อถ วา อนวโยติ อนุ อวโย, สนฺธิวเสน อุการโลโป. อนุ อวโย ปริปุณฺณสิปฺโปติ อตฺโถ.
เตน ¶ หีติ อิทํ ภควา นํ อายาจนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิทานิสฺส ปฺหํ กเถตุํ กาโล’’ติ ตฺวา อาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา มํ อายาจสิ, ตสฺมา สุณาหีติ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๗๐) วิตฺถาริตเมว. อิธ ปเนตํ ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ ปุพฺพภาคปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ทฺวินฺนํ วิชฺชานํ อนุปทวณฺณนา เจว ภาวนานโย จ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๒ อาทโย) วิตฺถาริโตว.
ปมา วิชฺชาติ ปมํ อุปฺปนฺนาติ ปมา, วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชา. กึ วิทิตํ กโรติ? ปุพฺเพนิวาสํ. อวิชฺชาติ ตสฺเสว ปุพฺเพนิวาสสฺส อวิทิตกรณฏฺเน ตปฺปฏิจฺฉาทโก โมโห วุจฺจติ. ตโมติ สฺเวว โมโห ปฏิจฺฉาทกฏฺเน ตโมติ วุจฺจติ. อาโลโกติ สาเยว วิชฺชา โอภาสกรณฏฺเน อาโลโกติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ วิชฺชา อธิคตาติ อยํ อตฺโถ ¶ . เสสํ ปสํสาวจนํ. โยชนา ปเนตฺถ อยมสฺส วิชฺชา อธิคตา, อถสฺส อธิคตวิชฺชสฺส อวิชฺชา วิหตา วินฏฺาติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนา. อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย เอเสว นโย. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ยถาติ โอปมฺมํ, ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. สติยา อวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺตสฺส. วีริยาตาเปน อาตาปิโน. กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย ปหิตตฺตสฺส. เปสิตตฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิชฺชา วิหฺเยฺย, วิชฺชา อุปฺปชฺเชยฺย. ตโม วิหฺเยฺย, อาโลโก อุปฺปชฺเชยฺย, เอวเมว ตสฺส อวิชฺชา วิหตา ¶ , วิชฺชา อุปฺปนฺนา. ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน. เอตสฺส เตน ปธานานุโยคสฺส อนุรูปเมว ผลํ ลทฺธนฺติ.
จุตูปปาตกถายํ วิชฺชาติ ทิพฺพจกฺขุาณวิชฺชา. อวิชฺชาติ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิปฺปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ตติยวิชฺชาย โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยาณายาติ อรหตฺตมคฺคาณตฺถาย. อรหตฺตมคฺโค หิ อาสววินาสนโต อาสวานํ ขโยติ วุจฺจติ, ตตฺร เจตํ าณํ ตตฺถ ปริยาปนฺนตฺตาติ. จิตฺตํ อภินินฺนาเมตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ อภินีหรติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโยติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฺปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌติ, ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ, ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ ¶ , ตํ เตสํ อปวตฺตึ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฺปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต อิเม อาสวาติอาทิมาห. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโตติ ตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ ชานนฺตสฺส เอวํ ปสฺสนฺตสฺส. สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถสิ. กามาสวาติ กามาสวโต. วิมุจฺจตีติ อิมินา มคฺคกฺขณํ ทสฺเสติ. มคฺคกฺขเณ หิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ผลกฺขเณ ¶ วิมุตฺตํ โหติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณํ ทสฺเสติ. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมึ. เตน หิ าเณน โส ปจฺจเวกฺขนฺโต ขีณา ชาตีติอาทีนิ ปชานาติ. กตมา ปนสฺส ¶ ชาติ ขีณา, กถฺจ นํ ปชานาตีติ? น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา ปุพฺเพว ขีณตฺตา, น อนาคตา, อนาคเต วายามาภาวโต, น ปจฺจุปฺปนฺนา, วิชฺชมานตฺตา. ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตา อุปฺปชฺเชยฺย เอกจตุปฺจโวการภเวสุ เอกจตุปฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติ, สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา. ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายติอปฺปฏิสนฺธิกํ โหตีติ ชานนฺโต ปชานาติ.
วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ, กตํ จริตํ นิฏฺิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ สทฺธึ สตฺต เสกฺขา พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม, ขีณาสโว วุตฺถวาโส. ตสฺมา โส อตฺตโน พฺรหฺมจริยวาสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘วุสิตํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ ปชานาติ. กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย หิ ตํ กิจฺจํ กโรนฺติ, ขีณาสโว กตกรณีโย. ตสฺมา โส อตฺตโน กรณียํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘กตํ กรณีย’’นฺติ ปชานาติ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปุน อิตฺถภาวาย, เอวํ โสฬสวิธกิจฺจภาวาย กิเลสกฺขยาย วา มคฺคภาวนากิจฺจํ เม นตฺถีติ ปชานาติ. อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถภาวโต, อิมสฺมา เอวํ ปการา อิทานิ วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานา อปรํ ขนฺธสนฺตานํ มยฺหํ นตฺถิ, อิเม ปน ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิย. เต จริมกวิฺาณนิโรเธน อนุปาทาโน วิย ชาตเวโท นิพฺพายิสฺสนฺตีติ ปชานาติ. อิธ ¶ วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺคาณวิชฺชา. อวิชฺชาติ จตุสจฺจปฺปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อนุจฺจาวจสีลสฺสาติ ยสฺส สีลํ กาเลน หายติ, กาเลน วฑฺฒติ, โส อุจฺจาวจสีโล นาม โหติ. ขีณาสวสฺส ปน สีลํ ¶ เอกนฺตวฑฺฒิตเมว. ตสฺมา โส อนุจฺจาวจสีโล นาม โหติ. วสีภูตนฺติ ¶ วสิปฺปตฺตํ. สุสมาหิตนฺติ สุฏฺุ สมาหิตํ, อารมฺมณมฺหิ สุฏฺปิตํ. ธีรนฺติ ธิติสมฺปนฺนํ. มจฺจุหายินนฺติ มจฺจุํ ชหิตฺวา ิตํ. สพฺพปฺปหายินนฺติ สพฺเพ ปาปธมฺเม ปชหิตฺวา ิตํ. พุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธํ. อนฺติมเทหินนฺติ สพฺพปจฺฉิมสรีรธารินํ. ตํ นมสฺสนฺติ โคตมนฺติ ตํ โคตมโคตฺตํ พุทฺธสาวกา นมสฺสนฺติ. อถ วา โคตมพุทฺธสฺส สาวโกปิ โคตโม, ตํ โคตมํ เทวมนุสฺสา นมสฺสนฺตีติ อตฺโถ.
ปุพฺเพนิวาสนฺติ ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธปรมฺปรํ. โยเวตีติ โย อเวติ อวคจฺฉติ. โยเวทีติปิ ปาโ. โย อเวทิ, วิทิตํ ปากฏํ กตฺวา ิโตติ อตฺโถ. สคฺคาปายฺจ ปสฺสตีติ ฉ กามาวจเร นว พฺรหฺมโลเก จตฺตาโร จ อปาเย ปสฺสติ. ชาติกฺขยํ ปตฺโตติ อรหตฺตํ ปตฺโต. อภิฺาโวสิโตติ ชานิตฺวา กิจฺจโวสาเนน โวสิโต. มุนีติ โมเนยฺเยน สมนฺนาคโต ขีณาสวมุนิ. เอตาหีติ เหฏฺา นิทฺทิฏฺาหิ ปุพฺเพนิวาสาณาทีหิ. นาฺํ ลปิตลาปนนฺติ โย ปนฺโ เตวิชฺโชติ อฺเหิ ลปิตวจนมตฺตเมว ลปติ, ตมหํ เตวิชฺโชติ น วทามิ, อตฺตปจฺจกฺขโต ตฺวา ปรสฺสปิ ติสฺโส วิชฺชา กเถนฺตเมวาหํ เตวิชฺโชติ วทามีติ อตฺโถ. กลนฺติ โกฏฺาสํ. นาคฺฆตีติ น ปาปุณาติ. อิทานิ พฺราหฺมโณ ภควโต กถาย ปสนฺโน ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อภิกฺกนฺตนฺติอาทิมาห.
๙. ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา
๖๐. นวเม ยสฺสสฺสูติ ยสฺส ภเวยฺยุํ. ยฺโติอาทีสุ ยชิตพฺโพติ ยฺโ, เทยฺยธมฺมสฺเสตํ นามํ. สทฺธนฺติ ¶ มตกภตฺตํ. ถาลิปาโกติ วรปุริสานํ ทาตพฺพยุตฺตํ ภตฺตํ. เทยฺยธมฺมนฺติ วุตฺตาวเสสํ ยํกิฺจิ เทยฺยธมฺมํ นาม. เตวิชฺเชสุ พฺราหฺมเณสุ ทานํ ทเทยฺยาติ สพฺพเมตํ ทานํ เตวิชฺเชสุ ทเทยฺย, เตวิชฺชา พฺราหฺมณาว ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตาติ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.
๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา
๖๑. ทสเม ¶ สงฺคารโวติ เอวํนามโก ราชคหนคเร ชิณฺณปฏิสงฺขรณการโก อายุตฺตกพฺราหฺมโณ. อุปสงฺกมีติ ภุตฺตปาตราโส หุตฺวา มหาชนปริวุโต อุปสงฺกมิ. มยมสฺสูติ เอตฺถ อสฺสูติ ¶ นิปาตมตฺตํ, มยํ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นามาติ อิทเมว อตฺถปทํ. ยฺํ ยชามาติ พาหิรสมเย สพฺพจตุกฺเกน สพฺพฏฺเกน สพฺพโสฬสเกน สพฺพทฺวตฺตึสาย สพฺพจตุสฏฺิยา สพฺพสเตน สพฺพปฺจสเตนาติ จ เอวํ ปาณฆาตปฏิสํยุตฺโต ยฺโ นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยวมาห. อเนกสารีริกนฺติ อเนกสรีรสมฺภวํ. ยทิทนฺติ ยา เอสา. ยฺาธิกรณนฺติ ยชนการณา เจว ยาชนการณา จาติ อตฺโถ. เอกสฺมิฺหิ พหูนํ ททนฺเตปิ ทาเปนฺเตปิ พหูสุปิ พหูนํ เทนฺเตสุปิ ทาเปนฺเตสุปิ ปฺุปฏิปทา อเนกสารีริกา นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตุยฺหฺจ ตุยฺหฺจ ยชามีติ วทนฺตสฺสาปิ ตฺวฺจ ตฺวฺจ ยชาหีติ อาณาเปนฺตสฺสาปิ จ อเนกสารีริกาว โหติ. ตมฺปิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยสฺส วา ตสฺส วาติ ยสฺมา วา ตสฺมา วา. เอกมตฺตานํ ทเมตีติ อตฺตโน อินฺทฺริยทมนวเสน เอกํ อตฺตานเมว ทเมติ. เอกมตฺตานํ สเมตีติ อตฺตโน ราคาทิสมนวเสน เอกํ อตฺตานเมว สเมติ. ปรินิพฺพาเปตีติ ¶ ราคาทิปรินิพฺพาเนเนว ปรินิพฺพาเปติ. เอวมสฺสายนฺติ เอวํ สนฺเตปิ อยํ.
เอวมิทํ พฺราหฺมณสฺส กถํ สุตฺวา สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปสุฆาตกสํยุตฺตํ มหายฺํ อเนกสารีริกํ ปฺุปฏิปทํ วเทติ, ปพฺพชฺชามูลกํ ปน ปฺุุปฺปตฺติปฏิปทํ เอกสารีริกนฺติ วเทติ. เนวายํ เอกสารีริกํ ชานาติ, น อเนกสารีริกํ, หนฺทสฺส เอกสารีริกฺจ อเนกสารีริกฺจ ปฏิปทํ เทเสสฺสามี’’ติ อุปริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต เตน หิ พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา เต ขเมยฺยาติ ยถา ตุยฺหํ รุจฺเจยฺย. อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตีติอาทิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตเมว. เอถายํ มคฺโคติ เอถ ตุมฺเห, อหมนุสาสามิ, อยํ มคฺโค. อยํ ปฏิปทาติ ตสฺเสว เววจนํ. ยถา ปฏิปนฺโนติ เยน มคฺเคน ปฏิปนฺโน. อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริโยคธนฺติ อรหตฺตมคฺคสงฺขาตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส อนุตฺตรํ โอคธํ อุตฺตมปติฏฺาภูตํ นิพฺพานํ. อิจฺจายนฺติ อิติ อยํ.
อปฺปฏฺตราติ ยตฺถ พหูหิ เวยฺยาวจฺจกเรหิ วา อุปกรเณหิ วา อตฺโถ นตฺถิ. อปฺปสมารมฺภตราติ ยตฺถ พหูนํ กมฺมจฺเฉทวเสน ปีฬาสงฺขาโต ¶ สมารมฺโภ นตฺถิ. เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม ¶ , ภวํ จานนฺโท, เอเต เม ปุชฺชาติ ยถา ภวํ โคตโม, ภวฺจานนฺโท, เอวรูปา มม ปูชิตา, ตุมฺเหเยว ทฺเว ชนา มยฺหํ ปุชฺชา จ ปาสํสา จาติ อิมมตฺถํ สนฺธาเยตํ วทติ. ตสฺส กิร เอวํ อโหสิ – ‘‘อานนฺทตฺเถโร มํเยว อิมํ ปฺหํ กถาเปตุกาโม, อตฺตโน โข ปน วณฺเณ วุตฺเต ปทุสฺสนโก นาม นตฺถี’’ติ. ตสฺมา ปฺหํ อกเถตุกาโม วณฺณภณเนน วิกฺเขปํ กโรนฺโต เอวมาห.
น ¶ โข ตฺยาหนฺติ น โข เต อหํ. เถโรปิ กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปฺหํ อกเถตุกาโม ปริวตฺตติ, อิมํ ปฺหํ เอตํเยว กถาเปสฺสามี’’ติ. ตสฺมา นํ เอวมาห.
สหธมฺมิกนฺติ สการณํ. สํสาเทตีติ สํสีทาเปติ. โน วิสฺสชฺเชตีติ น กเถติ. ยํนูนาหํ ปริโมเจยฺยนฺติ ยํนูนาหํ อุโภเปเต วิเหสโต ปริโมเจยฺยํ. พฺราหฺมโณ หิ อานนฺเทน ปุจฺฉิตํ ปฺหํ อกเถนฺโต วิเหเสติ, อานนฺโทปิ พฺราหฺมณํ อกเถนฺตํ กถาเปนฺโต. อิติ อุโภเปเต วิเหสโต โมเจสฺสามีติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. กา นฺวชฺชาติ กา นุ อชฺช. อนฺตรากถา อุทปาทีติ อฺิสฺสา กถาย อนฺตรนฺตเร กตรา กถา อุปฺปชฺชีติ ปุจฺฉติ. ตทา กิร ราชนฺเตปุเร ตีณิ ปาฏิหาริยานิ อารพฺภ กถา อุทปาทิ, ตํ ปุจฺฉามีติ สตฺถา เอวมาห. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘อิทานิ วตฺตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ราชนฺเตปุเร อุปฺปนฺนํ กถํ อาโรเจนฺโต อยํ ขฺวชฺช, โภ โคตมาติอาทิมาห. ตตฺถ อยํ ขฺวชฺชาติ อยํ โข อชฺช. ปุพฺเพ สุทนฺติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมาติ ทสกุสลกมฺมปถสงฺขาตา มนุสฺสธมฺมา อุตฺตรึ. อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสสุนฺติ ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา อากาเสเนว คมึสุ เจว อาคมึสุ จาติ เอวํ ปุพฺเพ ปวตฺตํ อากาสคมนํ สนฺธาเยวมาห. เอตรหิ ปน พหุตรา จ ภิกฺขูติ อิทํ โส พฺราหฺมโณ ‘‘ปุพฺเพ ภิกฺขู ‘จตฺตาโร ปจฺจเย อุปฺปาเทสฺสามา’ติ มฺเ เอวมกํสุ, อิทานิ ปจฺจยานํ อุปฺปนฺนภาวํ ตฺวา โสปฺเปน เจว ปมาเทน จ วีตินาเมนฺตี’’ติ ลทฺธิยา เอวมาห.
ปาฏิหาริยานีติ ¶ ปจฺจนีกปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยานิ. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อิชฺฌนวเสน อิทฺธิ, ปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยํ, อิทฺธิเยว ปาฏิหาริยํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ. อิตเรสุปิ ¶ เอเสว นโย. อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธนฺติอาทีนํ อตฺโถ เจว ภาวนานโย จ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕) วิตฺถาริโตว.
นิมิตฺเตน ¶ อาทิสตีติ อาคตนิมิตฺเตน วา คตนิมิตฺเตน วา ิตนิมิตฺเตน วา ‘‘อิทํ นาม ภวิสฺสตี’’ติ กเถติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ราชา ติสฺโส มุตฺตา คเหตฺวา ปุโรหิตํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ เม, อาจริย, หตฺเถ’’ติ. โส อิโต จิโต จ โอโลเกสิ, เตน จ สมเยน เอกา สรพู ‘‘มกฺขิกํ คเหสฺสามี’’ติ ปกฺขนฺตา, คหณกาเล มกฺขิกา ปลาตา. โส มกฺขิกาย มุตฺตตฺตา ‘‘มุตฺตา มหาราชา’’ติ อาห. มุตฺตา ตาว โหนฺตุ, กติ มุตฺตาติ. โส ปุน นิมิตฺตํ โอโลเกสิ. อถาวิทูเร กุกฺกุโฏ ติกฺขตฺตุํ สทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ติสฺโส มหาราชา’’ติ อาห. เอวํ เอกจฺโจ อาคตนิมิตฺเตน กเถติ. เอเตนุปาเยน คติตนิมิตฺเตหิปิ กถนํ เวทิตพฺพํ. เอวมฺปิ เต มโนติ เอวํ ตว มโน โสมนสฺสิโต วา โทมนสฺสิโต วา กามวิตกฺกาทิสํยุตฺโต วาติ. ทุติยํ ตสฺเสว เววจนํ. อิติปิ เต จิตฺตนฺติ อิติปิ ตว จิตฺตํ, อิมฺจ อิมฺจ อตฺถํ จินฺตยมานํ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. พหุํ เจปิ อาทิสตีติ พหุํ เจปิ กเถติ. ตเถว ตํ โหตีติ ยถา กถิตํ, ตเถว โหติ.
อมนุสฺสานนฺติ ยกฺขปิสาจาทีนํ. เทวตานนฺติ จาตุมหาราชิกาทีนํ. สทฺทํ สุตฺวาติ อฺสฺส จิตฺตํ ตฺวา กเถนฺตานํ สุตฺวา. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทนฺติ วิตกฺกวิปฺผารวเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปฺปมตฺตาทีนํ สทฺทํ. สุตฺวาติ ตํ สุตฺวา. ยํ วิตกฺกยโต ตสฺส โส สทฺโท อุปฺปนฺโน, ตสฺส วเสน ‘‘เอวมฺปิ เต มโน’’ติอาทิสติ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เอโก กิร มนุสฺโส ‘‘อฏฺฏํ กริสฺสามี’’ติ คามา นครํ คจฺฉนฺโต ¶ นิกฺขนฺตฏฺานโต ปฏฺาย ‘‘วินิจฺฉยสภายํ รฺโ จ ราชมหามตฺตานฺจ อิทํ กเถสฺสามิ อิทํ กเถสฺสามี’’ติ วิตกฺเกนฺโต ราชกุลํ คโต วิย รฺโ ปุรโต ิโต วิย อฏฺฏการเกน สทฺธึ ¶ กเถนฺโต วิย จ อโหสิ, ตสฺส ตํ วิตกฺกวิปฺผารวเสน นิจฺฉรนฺตํ สทฺทํ สุตฺวา เอโก ปุริโส ‘‘เกนฏฺเน คจฺฉสี’’ติ อาห. อฏฺฏกมฺเมนาติ. คจฺฉ, ชโย เต ภวิสฺสตีติ. โส คนฺตฺวา อฏฺฏํ กตฺวา ชยเมว ปาปุณิ.
อปโรปิ เถโร โมฬิยคาเม ปิณฺฑาย จริ. อถ นํ นิกฺขมนฺตํ เอกา ทาริกา อฺวิหิตา น อทฺทส. โส คามทฺวาเร ตฺวา นิวตฺติตฺวา โอโลเกตฺวา ตํ ทิสฺวา วิตกฺเกนฺโต อคมาสิ. คจฺฉนฺโตเยว จ ‘‘กึ นุ โข กุรุมานา ทาริกา น อทฺทสา’’ติ วจีเภทํ อกาสิ. ปสฺเส ิโต เอโก ปุริโส สุตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, โมฬิยคาเม จริตฺถา’’ติ อาห.
มโนสงฺขารา ¶ ปณิหิตาติ จิตฺตสงฺขารา สุฏฺปิตา. วิตกฺเกสฺสตีติ วิตกฺกยิสฺสติ ปวตฺตยิสฺสตีติ ปชานาติ. ปชานนฺโต จ อาคมเนน ชานาติ, ปุพฺพภาเคน ชานาติ, อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ อปโลเกตฺวา ชานาติ. อาคมเนน ชานาติ นาม กสิณปริกมฺมกาเลเยว ‘‘เยนากาเรเนส กสิณภาวนํ อารทฺโธ ปมชฺฌานํ วา…เป… จตุตฺถชฺฌานํ วา อฏฺ วา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตสฺสตี’’ติ ชานาติ. ปุพฺพภาเคน ชานาติ นาม ปมวิปสฺสนาย อารทฺธายเยว ชานาติ, ‘‘เยนากาเรน เอส วิปสฺสนํ อารทฺโธ โสตาปตฺติมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ…เป… อรหตฺตมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสตี’’ติ ชานาติ. อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ นาม – ‘‘เยนากาเรน อิมสฺส มโนสงฺขารา สุฏฺปิตา, อิมสฺส นาม จิตฺตสฺส อนนฺตรา อิมํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสติ, อิโต วุฏฺิตสฺส เอตสฺส หานภาคิโย วา สมาธิ ภวิสฺสติ ¶ ิติภาคิโย วา วิเสสภาคิโย วา นิพฺเพธภาคิโย วา, อภิฺาโย วา นิพฺพตฺเตสฺสตี’’ติ ชานาติ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน เจโตปริยาณลาภี ปุถุชฺชนานํเยว จิตฺตํ ชานาติ, น อริยานํ. อริเยสุปิ เหฏฺิโม อุปริมสฺส จิตฺตํ น ชานาติ, อุปริโม ปน เหฏฺิมสฺส ชานาติ. เอเตสุ จ โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ…เป… อรหา อรหตฺตผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. อุปริโม เหฏฺิมํ น สมาปชฺชติ. เตสฺหิ เหฏฺิมา เหฏฺิมา สมาปตฺติ ตตฺรวตฺติเยว โหติ. ตเถว ตํ ¶ โหตีติ เอตํ เอกํเสน ตเถว โหติ. เจโตปริยาณวเสน าตฺหิ อฺถาภาวิ นาม นตฺถิ.
เอวํ วิตกฺเกถาติ เอวํ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา วิตกฺเกถ. มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถาติ เอวํ กามวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา มา วิตกฺกยิตฺถ. เอวํ มนสิ กโรถาติ เอวํ อนิจฺจสฺเมว, ทุกฺขสฺาทีสุ วา อฺตรํ มนสิ กโรถ. มา เอวนฺติ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน มา มนสา กริตฺถ. อิทนฺติ อิทํ ปฺจกามคุณราคํ ปชหถ. อิทฺจ อุปสมฺปชฺชาติ อิทํ จตุมคฺคผลปฺปเภทํ โลกุตฺตรธมฺมเมว อุปสมฺปชฺช ปาปุณิตฺวา นิปฺผาเทตฺวา วิหรถ.
มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายตีติ มายาย สมานการณชาติกํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. มายากาโรปิ หิ อุทกํ คเหตฺวา เตลํ กโรติ, เตลํ คเหตฺวา อุทกนฺติ เอวํ อเนกรูปํ มายํ ทสฺเสติ. อิทมฺปิ ปาฏิหาริยํ ตถารูปเมวาติ. อิทมฺปิ เม, โภ โคตม, ปาฏิหาริยํ มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายตีติ จินฺตามณิกวิชฺชาสริกฺขกตํ สนฺธาย เอวํ อาห. จินฺตามณิกวิชฺชํ ¶ ชานนฺตาปิ หิ อาคจฺฉนฺตเมว ทิสฺวา ‘‘อยํ อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต อาคจฺฉตี’’ติ ชานนฺติ. ตถา ‘‘อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต ิโต, อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต นิสินฺโน, อิทํ นาม วิตกฺเกนฺโต นิปนฺโน’’ติ ชานนฺติ.
อภิกฺกนฺตตรนฺติ ¶ สุนฺทรตรํ. ปณีตตรนฺติ อุตฺตมตรํ. ภวฺหิ โคตโม อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ อิธ พฺราหฺมโณ อวเสสํ อาเทสนาปาฏิหาริยํ พาหิรกนฺติ น คณฺหิ. อิทฺจ ปน สพฺพํ โส พฺราหฺมโณ ตถาคตสฺส วณฺณํ กเถนฺโตเยว อาห. อทฺธา โข ตฺยายนฺติ เอกํเสเนว ตยา อยํ. อาสชฺช อุปนีย วาจา ภาสิตาติ มม คุเณ ฆฏฺเฏตฺวา มเมว คุณานํ สนฺติกํ อุปนีตา วาจา ภาสิตา. อปิจ ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามีติ อปิจ เต อหเมว กเถสฺสามีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
พฺราหฺมณวคฺโค ปโม.
(๗) ๒. มหาวคฺโค
๑. ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา
๖๒. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม ติตฺถายตนานีติ ติตฺถภูตานิ อายตนานิ, ติตฺถิยานํ วา อายตนานิ. ตตฺถ ติตฺถํ ชานิตพฺพํ, ติตฺถกรา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยสาวกา ชานิตพฺพา. ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. ติตฺถิกรา นาม ตาสํ ทิฏฺีนํ อุปฺปาทกา. ติตฺถิยา นาม เยสํ ตา ทิฏฺิโย รุจฺจนฺติ ขมนฺติ. ติตฺถิยสาวกา นาม เตสํ ปจฺจยทายกา. อายตนนฺติ ‘‘กมฺโพโช อสฺสานํ อายตนํ, คุนฺนํ ทกฺขิณาปโถ อายตน’’นฺติ เอตฺถ สฺชาติฏฺานํ อายตนํ นาม.
‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา;
ฉายํ ฉายตฺถิโน ยนฺติ, ผลตฺถํ ผลโภชิโน’’ติ. (อ. นิ. ๕.๓๘) –
เอตฺถ สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, วิมุตฺตายตนานี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖) เอตฺถ การณํ. ตํ ¶ อิธ สพฺพมฺปิ ลพฺภติ. สพฺเพปิ หิ ทิฏฺิคติกา สฺชายมานา อิเมสุเยว ตีสุ าเนสุ สฺชายนฺติ, สโมสรณมานาปิ เอเตสุเยว ตีสุ าเนสุ สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ, ทิฏฺิคติกภาเว จ เนสํ เอตาเนว ตีณิ การณานีติ ติตฺถภูตานิ สฺชาติอาทินา อตฺเถน อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. เตเนวตฺเถน ติตฺถิยานํ อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. สมนุยฺุชิยมานานีติ กา นาเมตา ทิฏฺิโยติ เอวํ ปุจฺฉิยมานานิ. สมนุคาหิยมานานีติ กึการณา เอตา ทิฏฺิโย อุปฺปนฺนาติ เอวํ สมฺมา อนุคฺคาหิยมานานิ. สมนุภาสิยมานานีติ ปฏินิสฺสชฺเชถ เอตานิ ปาปกานิ ทิฏฺิคตานีติ เอวํ สมฺมา อนุสาสิยมานานิ. อปิจ ตีณิปิ เอตานิ อนุโยคปุจฺฉาเววจนาเนว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ – ‘‘สมนุยฺุชตีติ วา สมนุคฺคาหตีติ วา สมนุภาสตีติ วา เอเสเส เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.
ปรมฺปิ ¶ คนฺตฺวาติ อาจริยปรมฺปรา ลทฺธิปรมฺปรา อตฺตภาวปรมฺปราติ เอเตสุ ยํกิฺจิ ปรมฺปรํ คนฺตฺวาปิ. อกิริยาย สณฺหนฺตีติ อกิริยมตฺเต สํติฏฺนฺติ. ‘‘อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ ปาจริโย ปุพฺเพกตวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย ปุพฺเพกตวาที. อมฺหากํ อาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที ¶ , อมฺหากํ ปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อิสฺสรนิมฺมานวาที. อมฺหากํ อาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที, อมฺหากํ ปาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที, อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อเหตุอปจฺจยวาที’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ หิ เอตานิ อาจริยปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. ‘‘อมฺหากํ อาจริโย ปุพฺเพกตลทฺธิโก, อมฺหากํ ปาจริโย…เป… อมฺหากํ อาจริยปาจริโย อเหตุอปจฺจยลทฺธิโก’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ ลทฺธิปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. ‘‘อมฺหากํ อาจริยสฺส อตฺตภาโว ปุพฺเพกตเหตุ, อมฺหากํ ปาจริยสฺส…เป… ¶ อมฺหากํ อาจริยปาจริยสฺส อตฺตภาโว อเหตุ อปจฺจโย’’ติ เอวํ คจฺฉนฺตานิ อตฺตภาวปรมฺปรํ คจฺฉนฺติ นาม. เอวํ ปน สุวิทูรมฺปิ คจฺฉนฺตานิ อกิริยมตฺเตเยว สณฺหนฺติ, เอโกปิ เอเตสํ ทิฏฺิคติกานํ กตฺตา วา กาเรตา วา น ปฺายติ.
ปุริสปุคฺคโลติ สตฺโต. กามฺจ ปุริโสติปิ วุตฺเต ปุคฺคโลติปิ วุตฺเต สตฺโตเยว วุตฺโต โหติ, อยํ ปน สมฺมุติกถา นาม โย ยถา ชานาติ, ตสฺส ตถา วุจฺจติ. ปฏิสํเวเทตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ชานาติ ปฏิสํวิทิตํ กโรติ, อนุภวติ วา. ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพกตการณา, ปุพฺเพกตกมฺมปจฺจเยเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อิมินา กมฺมเวทนฺจ กิริยเวทนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เย วา อิเม ปิตฺตสมุฏฺานา อาพาธา เสมฺหสมุฏฺานา วาตสมุฏฺานา สนฺนิปาติกา อุตุปริณามชา วิสมปริหารชา โอปกฺกมิกา อาพาธา กมฺมวิปากชา อาพาธาติ อฏฺ โรคา วุตฺตา, เตสุ สตฺต ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียนฺติ ตโย กมฺมราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายกมฺมํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม ทิฏฺธมฺมเวทนีโย วิปาโก อุปปชฺชเวทนีโย อปรปริยายเวทนีโยติ ตโย วิปากราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา เอกํ อปรปริยายวิปากเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เยปิเม กุสลเจตนา อกุสลเจตนา วิปากเจตนา กิริยเจตนาติ จตฺตาโร เจตนาราสโย วุตฺตา, เตสุปิ ตโย ปฏิพาหิตฺวา เอกํ วิปากเจตนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ.
อิสฺสรนิมฺมานเหตูติ ¶ อิสฺสรนิมฺมานการณา, อิสฺสเรน นิมฺมิตตฺตา ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ หิ เตสํ อธิปฺปาโย ¶ – อิมา ติสฺโส เวทนา ¶ ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อเหตุอปจฺจยา วา ปฏิสํเวทิตุํ นาม น สกฺกา, อิสฺสรนิมฺมานการณาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ อฏฺสุ โรเคสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพ ปฏิพาหนฺติ, เหฏฺา วุตฺเตสุ จ ตีสุ กมฺมราสีสุ ตีสุ วิปากราสีสุ จตูสุ เจตนาราสีสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺเพปิ ปฏิพาหนฺติ.
อเหตุอปจฺจยาติ เหตฺุจ ปจฺจยฺจ วินา, อการเณเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย – อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพกเตน วา อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา วา ปฏิสํเวทิตุํ นาม น สกฺกา, อเหตุอปจฺจยาเยว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ โรคาทีสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ.
เอวํ สตฺถา มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ วทามีติ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ ทสฺเสติ. ลทฺธิฺหิ อปฺปติฏฺาเปตฺวา นิคฺคยฺหมานา ลทฺธิโต ลทฺธึ สงฺกมนฺติ, โภ โคตม, น มยํ ปุพฺเพกตวาทํ วทามาติอาทีนิ วทนฺติ. ลทฺธิยา ปน ปติฏฺาปิตาย สงฺกมิตุํ อลภนฺตา สุนิคฺคหิตา โหนฺติ, อิติ เนสํ ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ เอวํ วทามีติ อาห. เตนหายสฺมนฺโตติ เตน หิ อายสฺมนฺโต. กึ วุตฺตํ โหติ – ยทิ เอตํ สจฺจํ, เอวํ สนฺเต เตน ตุมฺหากํ วาเทน. ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ ปุพฺเพกตเหตูติ เย เกจิ โลเก ปาณํ อติปาเตนฺติ, สพฺเพ เต ปุพฺเพกตเหตุ ปาณาติปาติโน ภวิสฺสนฺติ. กึการณา? น หิ ปาณาติปาตกมฺมํ อตฺตนา กตมูลเกน น อาณตฺติมูลเกน น อิสฺสรนิมฺมานเหตุนา ¶ น อเหตุอปจฺจยา สกฺกา ปฏิสํเวเทตุํ, ปุพฺเพกตเหตุเยว ปฏิสํเวเทตีติ อยํ โว ลทฺธิ. ยถา จ ปาณาติปาติโน, เอวํ ปาณาติปาตา วิรมนฺตาปิ ปุพฺเพกตเหตุเยว วิรมิสฺสนฺตีติ. อิติ ภควา เตสํเยว ลทฺธึ คเหตฺวา เตสํ นิคฺคหํ อาโรเปติ. อิมินา นเยน อทินฺนาทายิโนติอาทีสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.
สารโต ¶ ปจฺจาคจฺฉตนฺติ สารภาเวน คณฺหนฺตานํ. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. อิทํ วา กรณียํ ¶ อิทํ วา อกรณียนฺติ เอตฺถ อยํ อธิปฺปาโย – อิทํ วา กรณียนฺติ กตฺตพฺพสฺส กรณตฺถาย, อิทํ วา อกรณียนฺติ อกตฺตพฺพสฺส อกรณตฺถาย กตฺตุกมฺยตา วา ปจฺจตฺตปุริสกาโร วา น โหติ. ฉนฺทวายาเมสุ วา อสนฺเตสุ ‘‘อิทํ กตฺตพฺพ’’นฺติปิ ‘‘อิทํ น กตฺตพฺพ’’นฺติปิ น โหติ. อิติ กรณียากรณีเย โข ปน สจฺจโต เถตโต อนุปลพฺภิยมาเนติ เอวํ กตฺตพฺเพ จ อกตฺตพฺเพ จ ภูตโต ถิรโต อปฺายมาเน อลพฺภมาเน. ยทิ หิ กตฺตพฺพํ กาตุํ อกตฺตพฺพโต จ วิรมิตุํ ลเภยฺย, กรณียากรณียํ สจฺจโต เถตโต อุปลพฺเภยฺย. ยสฺมา ปน อุภยมฺปิ ตํ เอส นุปลพฺภติ, ตสฺมา ตํ สจฺจโต เถตโต น อุปลพฺภติ, เอวํ ตสฺมึ จ อนุปลพฺภิยมาเนติ อตฺโถ. มุฏฺสฺสตีนนฺติ นฏฺสฺสตีนํ วิสฺสฏฺสฺสตีนํ. อนารกฺขานํ วิหรตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ นิรารกฺขานํ วิหรนฺตานํ. น โหติ ปจฺจตฺตํ สหธมฺมิโก สมณวาโทติ เอวํ ภูตานํ ตุมฺหากํ วา อฺเสํ วา มยํ สมณาติ ปจฺจตฺตํ สการโณ สมณวาโท น โหติ น อิชฺฌติ. สมณาปิ หิ ปุพฺเพกตการณาเยว โหนฺติ, อสฺสมณาปิ ปุพฺเพกตการณาเยวาติ. สหธมฺมิโกติ สการโณ. นิคฺคโห ¶ โหตีติ มม นิคฺคโห โหติ, เต ปน นิคฺคหิตา โหนฺตีติ.
เอวํ ปุพฺเพกตวาทิโน นิคฺคเหตฺวา อิทานิ อิสฺสรนิมฺมานวาทิโน นิคฺคเหตุํ ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปุพฺเพกตวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ, ตถา อเหตุกวาเทปิ.
เอวํ อิเมสํ ติตฺถายตนานํ ปรมฺปิ คนฺตฺวา อกิริยาย สณฺหนภาเวน ตุจฺฉภาวํ อนิยฺยานิกภาวํ, อสารภาเวน ถุสโกฏฺฏนสทิสตํ อาปชฺชนภาเวน อคฺคิสฺาย ธมมานขชฺชุปนกสริกฺขตํ ตํทิฏฺิกานํ ปุริมสฺสปิ มชฺฌิมสฺสปิ ปจฺฉิมสฺสปิ อตฺถทสฺสนตาย อภาเวน อนฺธเวณูปมตํ สทฺทมตฺเตเนว ตานิ คเหตฺวา สารทิฏฺิกานํ ปถวิยํ ปติตสฺส เพลุวปกฺกสฺส ททฺทภายิตสทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปถวี สํวฏฺฏมานา อาคจฺฉตี’’ติ สฺาย ปลายนฺเตน สสเกน สริกฺขภาวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตนา เทสิตสฺส ธมฺมสฺส สารภาวฺเจว นิยฺยานิกภาวฺจ ทสฺเสตุํ อยํ ¶ โข ปน, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนิคฺคหิโตติ อฺเหิ อนิคฺคหิโต นิคฺคเหตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อสํกิลิฏฺโติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ, ‘‘สํกิลิฏฺํ นํ กริสฺสามา’’ติ ปวตฺเตหิปิ ตถา กาตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อนุปวชฺโชติ อุปวาทวินิมุตฺโต. อปฺปฏิกุฏฺโติ ‘‘กึ อิมินา หรถ น’’นฺติ เอวํ อปฺปฏิพาหิโต ¶ , อนุปกฺกุฏฺโ วา. วิฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ. อปณฺฑิตานฺหิ อชานิตฺวา กเถนฺตานํ วจนํ อปฺปมาณํ. ตสฺมา วิฺูหีติ อาห.
อิทานิ ตสฺส ธมฺมสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมา ฉ ธาตุโย’’ติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ยถาปฏิปาฏิยา วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ปุน อิมา ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ ธาตุโยติ สภาวา. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวปฺปกาสโก หิ สภาวฏฺโ ธาตฺวฏฺโ นาม. ผสฺสายตนานีติ ¶ วิปากผสฺสานํ อากรฏฺเน อายตนานิ. มโนปวิจาราติ วิตกฺกวิจารปาเทหิ อฏฺารสสุ าเนสุ มนสฺส อุปวิจารา.
ปถวีธาตูติ ปติฏฺาธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ. เอวมิทํ ธาตุกมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ, วิตฺถารโตว วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติตฺถายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ อุภยถาปิ กเถตุํ วฏฺฏติ.
สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน กมฺมฏฺานํ ปริคฺคณฺหนฺโตปิ เอวํ ปริคฺคณฺหาติ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ อิมานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, อากาสธาตุ อุปาทารูปํ. เอกสฺมึ จ อุปาทารูเป ทิฏฺเ เสสานิ เตวีสติ ทิฏฺาเนวาติ สลฺลกฺเขตพฺพานิ. วิฺาณธาตูติ จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นาม. จตฺตาริ ปน มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทารูปํ ¶ รูปกฺขนฺโธ นาม. ตตฺถ จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา นามํ, รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ นามฺจ รูปฺจาติ ทฺเวเยว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ เอวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน สงฺเขปโต ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
วิตฺถารโต ปริคฺคณฺหนฺโต ปน จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหิตฺวา อากาสธาตุปริคฺคหานุสาเรน เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปริคฺคณฺหาติ. อถ เนสํ ปจฺจยํ อุปปริกฺขนฺโต ¶ ปุน จตฺตาเรว มหาภูตานิ ทิสฺวา เตสุ ปถวีธาตุ ¶ วีสติโกฏฺาสา, อาโปธาตุ ทฺวาทส, เตโชธาตุ จตฺตาโร, วาโยธาตุ ฉโกฏฺาสาติ โกฏฺาสวเสน สโมธาเนตฺวา ทฺวาจตฺตาลีส มหาภูตานิ จ ววตฺถเปตฺวา เตสุ เตวีสติ อุปาทารูปานิ ปกฺขิปิตฺวา ปฺจสฏฺิ รูปานิ ววตฺถเปติ. ตานิ จ วตฺถุรูเปน สทฺธึ ฉสฏฺิ โหนฺตีติ ฉสฏฺิ รูปานิ ปสฺสติ. วิฺาณธาตุ ปน โลกิยจิตฺตวเสน เอกาสีติ จิตฺตานิ. ตานิ สพฺพานิปิ วิฺาณกฺขนฺโธ นาม โหติ. เตหิ สหชาตา เวทนาทโยปิ ตตฺตกาเยวาติ เอกาสีติ เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, เอกาสีติ สฺา สฺากฺขนฺโธ, เอกาสีติ เจตนา สงฺขารกฺขนฺโธติ อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา เตภูมกวเสน คยฺหมานา จตุวีสาธิกานิ ตีณิ ธมฺมสตานิ โหนฺตีติ อิติ อิเม จ อรูปธมฺมา ฉสฏฺิ จ รูปธมฺมาติ สพฺเพปิ สโมธาเนตฺวา นามฺจ รูปฺจาติ ทฺเวว ธมฺมา โหนฺติ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ชีโว วา นตฺถีติ นามรูปวเสน ปฺจกฺขนฺเธ ววตฺถเปตฺวา เตสํ ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต อวิชฺชาปจฺจยา ตณฺหาปจฺจยา กมฺมปจฺจยา อาหารปจฺจยาติ เอวํ ปจฺจยํ ทิสฺวา ‘‘อตีเตปิ อิเมหิ ปจฺจเยหิ อิทํ วฏฺฏํ ปวตฺติตฺถ, อนาคเตปิ เอเตหิ ปจฺจเยหิ ปวตฺติสฺสติ, เอตรหิปิ เอเตหิเยว ปวตฺตตี’’ติ ตีสุ กาเลสุ กงฺขํ วิตริตฺวา อนุกฺกเมน ปฏิปชฺชมาโน อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เอวํ วิตฺถารโตปิ ฉธาตุวเสน อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
จกฺขุ ผสฺสายตนนฺติ สุวณฺณาทีนํ สุวณฺณาทิอากโร วิย ทฺเว จกฺขุวิฺาณานิ ทฺเว สมฺปฏิจฺฉนานิ ตีณิ สนฺตีรณานีติ อิเมหิ สตฺตหิ วิฺาเณหิ สหชาตานํ สตฺตนฺนํ ผสฺสานํ สมุฏฺานฏฺเน อากโรติ อายตนํ. โสตํ ผสฺสายตนนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มโน ผสฺสายตนนฺติ ¶ เอตฺถ ปน ทฺวาวีสติ วิปากผสฺสา โยเชตพฺพา. อิติ ¶ หิทํ ฉผสฺสายตนานํ วเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตพฺพํ. สงฺเขปโต ตาว – เอตฺถ หิ ปุริมานิ ปฺจ อายตนานิ อุปาทารูปํ, เตสุ ทิฏฺเสุ อวเสสํ อุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. ฉฏฺํ อายตนํ จิตฺตํ, ตํ วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, เตน สหชาตา เวทนาทโย เสสา ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสสฺส การณภูตํ. อุปวิจรตีติ ตตฺถ มนํ จาเรนฺโต อุปวิจรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย ¶ . เอตฺถ จ อิฏฺํ วา โหตุ อนิฏฺํ วา, ยํ รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โสมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตํ โทมนสฺสฏฺานิยํ นาม. ยํ ทิสฺวา อุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ, ตํ อุเปกฺขาฏฺานิยํ นามาติ เวทิตพฺพํ. สทฺทาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิทํ สงฺเขปโต กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ โข ปเนตํ สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ. อิมสฺมึ ปน ติตฺถายตนสุตฺเต อิทํ สงฺเขปโต อฏฺารสมโนปวิจารวเสน กมฺมฏฺานํ อาคตํ. ตํ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ.
ตตฺถ สงฺเขปโต ตาว – จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย, รูปํ สทฺโท คนฺโธ รโสติ อิมานิ นว อุปาทารูปานิ, เตสุ ทิฏฺเสุ เสสํ อุปาทารูปํ ทิฏฺเมว โหติ. โผฏฺพฺพํ ตีณิ มหาภูตานิ, เตหิ ทิฏฺเหิ จตุตฺถํ ทิฏฺเมว โหติ. มโน วิฺาณกฺขนฺโธ, เตน สหชาตา เวทนาทโย ตโย อรูปกฺขนฺธาติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ อรหตฺตสมฺปาปกํ กมฺมฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
อริยสจฺจานีติ ¶ อริยภาวกรานิ, อริยปฏิวิทฺธานิ วา สจฺจานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตํ ปทํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๙) ปกาสิตํ. ฉนฺนํ, ภิกฺขเว, ธาตูนนฺติ อิทํ กิมตฺถํ อารทฺธํ? สุขาวโพธนตฺถํ. ยสฺส หิ ตถาคโต ทฺวาทสปทํ ปจฺจยาวฏฺฏํ กเถตุกาโม โหติ, ตสฺส คพฺภาวกฺกนฺติ วฏฺฏํ ทสฺเสติ. คพฺภาวกฺกนฺติ วฏฺฏสฺมึ หิ ทสฺสิเต กเถตุมฺปิ สุขํ โหติ ¶ ปรํ อวโพเธ อุตุมฺปีติ สุขาวโพธนตฺถํ อิทมารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ฉนฺนํ ธาตูนนฺติ เหฏฺา วุตฺตานํเยว ปถวีธาตุอาทีนํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. เอเตน ปจฺจยมตฺตํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ฉธาตุปจฺจยา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ. กสฺส ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน, กึ มาตุ, อุทาหุ ปิตูติ? น มาตุ น ปิตุ, ปฏิสนฺธิคฺคณฺหนกสตฺตสฺเสว ปน ฉนฺนํ ธาตูนํ ปจฺจเยน คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ นาม โหติ. คพฺโภ จ นาเมส นิรยคพฺโภ ติรจฺฉานโยนิคพฺโภ เปตฺติวิสยคพฺโภ มนุสฺสคพฺโภ เทวคพฺโภติ นานปฺปกาโร โหติ. อิมสฺมึ ปน าเน มนุสฺสคพฺโภ อธิปฺเปโต. อวกฺกนฺติ โหตีติ โอกฺกนฺติ นิพฺพตฺติ ปาตุภาโว โหติ, กถํ โหตีติ? ติณฺณํ สนฺนิปาเตน. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. กตเมสํ ติณฺณํ ¶ ? อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ น อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ น ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เนว ตาว คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘).
โอกฺกนฺติยา ¶ สติ นามรูปนฺติ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน วตฺถุทสกํ กายทสกํ ภาวทสกํ ตโย อรูปิโน ขนฺธาติ เตตฺตึส ธมฺมา คหิตา, อิมสฺมึ ปน ‘‘โอกฺกนฺติยา สติ นามรูป’’นฺติ วุตฺตฏฺาเน วิฺาณกฺขนฺธมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จตุตฺตึส ธมฺมา คหิตาติ เวทิตพฺพา. นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติอาทีหิ ยเถว โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปปาตุภาโว ทสฺสิโต, เอวํ นามรูเป สติ สฬายตนปาตุภาโว, สฬายตเน สติ ผสฺสปาตุภาโว, ผสฺเส สติ เวทนาปาตุภาโว ทสฺสิโต.
เวทิยมานสฺสาติ ¶ เอตฺถ เวทนํ อนุภวนฺโตปิ เวทิยมาโนติ วุจฺจติ ชานนฺโตปิ. ‘‘เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) เอตฺถ หิ อนุภวนฺโต เวทิยมาโน นาม, ‘‘สุขํ เวทนํ เวทิยมาโน สุขํ เวทนํ เวทิยามีติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๑๓; ที. นิ. ๒.๓๘๐; วิภ. ๓๖๓) เอตฺถ ชานนฺโต. อิธาปิ ชานนฺโตว อธิปฺเปโต. อิทํ ทุกฺขนฺติ ปฺเปมีติ เอวํ ชานนฺตสฺส สตฺตสฺส ‘‘อิทํ ทุกฺขํ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, นตฺถิ อิโต อุทฺธํ ทุกฺข’’นฺติ ปฺเปมิ โพเธมิ ชานาเปมิ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อยํ สนฺนิฏฺานกถา – เปตฺวา หิ ตณฺหํ เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ นาม, ตสฺเสว ปภาวิกา ปุพฺพตณฺหา ทุกฺขสมุทโย นาม, เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ สจฺจานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ นาม, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา นาม. อิติ ภควา โอกฺกนฺติยา สติ นามรูปนฺติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ กเถนฺโตปิ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ กเถนฺโตปิ, ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ กเถนฺโตปิ, เวทิยมานสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อิทํ ทุกฺขนฺติ ปฺเปมีติ ¶ กเถนฺโตปิ ¶ , อยํ ทุกฺขสมุทโยติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ปฺเปมีติ กเถนฺโตปิ เวทิยมานสฺส ชานมานสฺเสว กเถสิ.
อิทานิ ตานิ ปฏิปาฏิยา ปิตานิ สจฺจานิ วิตฺถาเรนฺโต กตมฺจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๓๗) วิตฺถาริตเมว. ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ‘‘ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๓; ที. นิ. ๒.๔๐๐; วิภ. ๒๐๓) อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปจฺจยาการวเสน. ตตฺถ จ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ ‘‘โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๔; ที. นิ. ๒.๔๐๑; วิภ. ๒๐๔) อิมาย ตนฺติยา อาคตํ, อิธ ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติ ปจฺจยาการนิโรธวเสน.
ตตฺถ อเสสวิราคนิโรธาติ อเสสวิราเคน จ อเสสนิโรเธน จ. อุภยมฺเปตํ อฺมฺเววจนเมว. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ ¶ โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิเมหิ ปน ปเทหิ ยํ อาคมฺม อวิชฺชาทโย นิรุชฺฌนฺติ, อตฺถโต ตํ นิพฺพานํ ทีปิตํ โหติ. นิพฺพานฺหิ อวิชฺชานิโรโธติปิ สงฺขารนิโรโธติปิ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ นิโรธนาเมน กถียติ. เกวลสฺสาติ สกลสฺส. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อปฺปวตฺติ โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อวิชฺชาทีนํ นิโรโธ นาม ขีณากาโรปิ วุจฺจติ อรหตฺตมฺปิ นิพฺพานมฺปิ, ตสฺมา อิธ ขีณาการทสฺสนวเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ อรหตฺตํ, ทฺวาทสสุเยว นิพฺพานํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ วุจฺจตีติ เอตฺถ นิพฺพานเมว สนฺธาย อิทนฺติ วุตฺตํ. อฏฺงฺคิโกติ น อฏฺหิ องฺเคหิ วินิมุตฺโต อฺโ มคฺโค นาม อตฺถิ. ยถา ปน ปฺจงฺคิกํ ตูริยนฺติ วุตฺเต ปฺจงฺคมตฺตเมว ¶ ตูริยนฺติ วุตฺตํ โหติ, เอวมิธาปิ อฏฺงฺคิกมตฺตเมว มคฺโค โหตีติ เวทิตพฺโพ. อนิคฺคหิโตติ น นิคฺคหิโต. นิคฺคณฺหนฺโต หิ หาเปตฺวา วา ทสฺเสติ วฑฺเฒตฺวา วา ตํ ปริวตฺเตตฺวา วา. ตตฺถ ยสฺมา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ‘‘น อิมานิ จตฺตาริ, ทฺเว วา ตีณิ วา’’ติ เอวํ หาเปตฺวาปิ ‘‘ปฺจ วา ฉ วา’’ติ เอวํ วฑฺเฒตฺวาปิ ‘‘น อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อฺาเนว จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ติ ทสฺเสตุํ น สกฺกา. ตสฺมา อยํ ธมฺโม อนิคฺคหิโต นาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๒. ภยสุตฺตวณฺณนา
๖๓. ทุติเย ¶ อมาตาปุตฺติกานีติ มาตา จ ปุตฺโต จ มาตาปุตฺตํ, ปริตฺตาตุํ สมตฺถภาเวน นตฺถิ เอตฺถ มาตาปุตฺตนฺติ อมาตาปุตฺติกานิ. ยนฺติ ยสฺมึ สมเย. ตตฺถ มาตาปิ ปุตฺตํ นปฺปฏิลภตีติ ตสฺมึ อคฺคิภเย อุปฺปนฺเน มาตาปิ ปุตฺตํ ปสฺสิตุํ น ลภติ, ปุตฺโตปิ มาตรํ ปสฺสิตุํ น ลภตีติ อตฺโถ. ภยํ โหตีติ จิตฺตุตฺราสภยํ โหติ. อฏวิสงฺโกโปติ อฏวิยา สงฺโกโป. อฏวีติ เจตฺถ อฏวิวาสิโน โจรา เวทิตพฺพา. ยทา หิ เต อฏวิโต ชนปทํ โอตริตฺวา คามนิคมราชธานิโย ปหริตฺวา วิลุมฺปนฺติ, ตทา อฏวิสงฺโกโป นาม โหติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. จกฺกสมารูฬฺหาติ เอตฺถ อิริยาปถจกฺกมฺปิ วฏฺฏติ ยานจกฺกมฺปิ. ภยสฺมึ หิ สมฺปตฺเต เยสํ ยานกานิ อตฺถิ, เต อตฺตโน ปริกฺขารภณฺฑํ เตสุ อาโรเปตฺวา ปลายนฺติ. เยสํ นตฺถิ ¶ , เต กาเชน วา อาทาย สีเสน วา อุกฺขิปิตฺวา ปลายนฺติเยว. เต จกฺกสมารูฬฺหา นาม โหนฺติ. ปริยายนฺตีติ อิโต จิโต จ คจฺฉนฺติ. กทาจีติ กิสฺมิฺจิเทว กาเล. กรหจีติ ตสฺเสว เววจนํ. มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภตีติ อาคจฺฉนฺตํ วา คจฺฉนฺตํ วา เอกสฺมึ าเน นิลีนํ วา ปสฺสิตุํ ลภติ. อุทกวาหโกติ ¶ นทีปูโร. มาตาปิ ปุตฺตํ ปฏิลภตีติ กุลฺเล วา อุฬุมฺเป วา มตฺติกาภาชเน วา ทารุกฺขณฺเฑ วา ลคฺคํ วุยฺหมานํ ปสฺสิตุํ ปฏิลภติ, โสตฺถินา วา ปุน อุตฺตริตฺวา คาเม วา อรฺเ วา ิตํ ปสฺสิตุํ ลภตีติ.
เอวํ ปริยายโต อมาตาปุตฺติกานิ ภยานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺปริยาเยน ทสฺเสนฺโต ตีณิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ ชราภยนฺติ ชรํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ชรํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ภยํ ภยานกํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส เจตโส อุตฺราโส. พฺยาธึ ปฏิจฺจ, มรณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ภยํ ภยานกํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส เจตโส อุตฺราโส’’ติ (วิภ. ๙๒๑). เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๓. เวนาคปุรสุตฺตวณฺณนา
๖๔. ตติเย โกสเลสูติ เอวํนามเก ชนปเท. จาริกํ จรมาโนติ อทฺธานคมนํ คจฺฉนฺโต. จาริกา จ นาเมสา ภควโต ทุวิธา โหติ ตุริตจาริกา จ อตุริตจาริกา จาติ. ตตฺถ ทูเรปิ โพธเนยฺยปุคฺคลํ ทิสฺวา ตสฺส โพธนตฺถาย สหสา คมนํ ตุริตจาริกา นาม ¶ . สา มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทีสุ ทฏฺพฺพา. ยํ ปน คามนิคมปฏิปาฏิยา เทวสิกํ โยชนอทฺธโยชนวเสน ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส คมนํ, อยํ อตุริตจาริกา นาม. อิมํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘จาริกํ จรมาโน’’ติ. วิตฺถาเรน ปน จาริกากถา สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย อมฺพฏฺสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๔) วุตฺตา. พฺราหฺมณคาโมติ พฺราหฺมณานํ สโมสรณคาโมปิ พฺราหฺมณคาโมติ วุจฺจติ, พฺราหฺมณานํ โภคคาโมปิ. อิธ สโมสรณคาโม พฺราหฺมณวสนคาโมติ อธิปฺเปโต. ตทวสรีติ ตตฺถ อวสริ, สมฺปตฺโตติ อตฺโถ. วิหาโร ปเนตฺถ ¶ อนิยามิโต. ตสฺมา ตสฺส อวิทูเร พุทฺธานํ ¶ อนุจฺฉวิโก เอโก วนสณฺโฑ อตฺถิ, สตฺถา ตํ วนสณฺฑํ คโตติ เวทิตพฺโพ.
อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ อุปลภึสุ, โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน ชานึสุ. โขติ อวธารณตฺเถ, ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต. ตตฺถ อวธารณตฺเถน ‘‘อสฺโสสุํ เอว, น เตสํ โกจิ สวนนฺตราโย อโหสี’’ติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว.
อิทานิ ยมตฺถํ อสฺโสสุํ, ตํ ปกาเสตุํ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโมติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา สมโณติ เวทิตพฺโพ. ขลูติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต. โภติ เตสํ อฺมฺํ อาลปนมตฺตํ. โคตโมติ ภควโต โคตฺตวเสน ปริทีปนํ, ตสฺมา ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม’’ติ เอตฺถ สมโณ กิร, โภ, โคตมโคตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สกฺยปุตฺโตติ อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวปริทีปนํ, เกนจิ ปาริชฺุเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตํ โข ปนาติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต, เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยว, ถุติโฆโส วา. อพฺภุคฺคโตติ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโต. กินฺติ? อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควาติ. ตตฺรายํ ปทสมฺพนฺโธ – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ. อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ‘‘อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ ¶ เวทิตพฺโพ’’ติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ¶ สพฺพาเนว เอตานิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕-๑๒๗) พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานีติ ตโต เนสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.
โส ¶ อิมํ โลกนฺติ โส ภวํ โคตโม อิมํ โลกํ, อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. สเทวกนฺติ สห เทเวหิ สเทวกํ. เอวํ สห มาเรน สมารกํ. สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกํ. สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณึ. ปชาตตฺตา ปชา, ตํ ปชํ. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ, สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ, สสฺสมณพฺราหฺมณิวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ, สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ, ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ, สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลเกน สทฺธึ สตฺตโลโก, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโกว คหิโตติ เวทิตพฺโพ.
อปโร นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต, สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก, สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปีพฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน, สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา. โปราณา ปนาหุ – สเทวกนฺติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. สมารกนฺติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลกํ. สพฺรหฺมกนฺติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทาตุํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสนฺติ วุตฺตํ. เอวํ ปฺจหิ ปเทหิ เตน เตนากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ.
สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทตีติ สยนฺติ สามํ, อปรเนยฺโย หุตฺวา. อภิฺาติ อภิฺาย, อธิเกน าเณน ตฺวาติ อตฺโถ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ¶ , เอเตน อนุมานาทิปฏิกฺเขโป กโต. ปเวเทตีติ โพเธติ าเปติ ปกาเสติ.
โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริโยสานกลฺยาณนฺติ โส ภควา สตฺเตสุ การฺุตํ ปฏิจฺจ หิตฺวาปิ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ ธมฺมํ ¶ เทเสติ. ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสติ, อาทิมฺหิปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา ¶ เทเสติ, มชฺเฌปิ, ปริโยสาเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ, อตฺถิ สาสนสฺส. เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกายปิ คาถาย ปมปาโท อาทิ นาม, ตโต ทฺเว มชฺฌํ นาม, อนฺเต เอโก ปริโยสานํ นาม. เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสานํ, อุภินฺนํ อนฺตรา มชฺฌํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส ปมานุสนฺธิ อาทิ, อนฺเต อนุสนฺธิ ปริโยสานํ, มชฺเฌ เอโก วา ทฺเว วา พหู วา มชฺฌเมว.
สาสนสฺส สีลสมาธิวิปสฺสนา อาทิ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ วุตฺโต ปน อริยมคฺโค มชฺฌํ นาม. ผลฺเจว นิพฺพานฺจ ปริโยสานํ นาม. ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยํ เอตํปารํ เอตํปริโยสาน’’นฺติ เอตฺถ ผลํ ปริโยสนนฺติ วุตฺตํ. ‘‘นิพฺพาโนคธฺหิ, อาวุโส วิสาข, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ นิพฺพานปรายณํ นิพฺพานปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๖) เอตฺถ นิพฺพานํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ. อิธ ¶ ปน เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ อธิปฺเปตํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ มคฺคํ ปริโยสาเน นิพฺพานํ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ. ตสฺมา อฺโปิ ธมฺมกถิโก ธมฺมํ กเถนฺโต –
‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย, มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;
ปริโยสานมฺหิ นิพฺพานํ, เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ.
สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ ยสฺส หิ ยาคุภตฺตอิตฺถิปุริสาทิวณฺณนานิสฺสิตา เทสนา โหติ, น โส สาตฺถํ เทเสติ. ภควา ปน ตถารูปํ เทสนํ ปหาย จตุสติปฏฺานาทินิสฺสิตํ เทสนํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สาตฺถํ เทเสตี’’ติ ¶ วุจฺจติ. ยสฺส ปน เทสนา เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วา สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพวิสฺสฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพนิคฺคหิตพฺยฺชนา วา, ตสฺส ทมิฬกิราตยวนาทิมิลกฺขานํ ¶ ภาสา วิย พฺยฺชนปาริปูริยา อภาวโต อพฺยฺชนา นาม เทสนา โหติ. ภควา ปน –
‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ลหุกํ ครุกฺจ นิคฺคหีตํ;
สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. –
เอวํ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สพฺยฺชนํ กตฺวา เทเสตี’’ติ วุจฺจติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ เอตฺถ เกวลนฺติ สกลาธิวจนํ. ปริปุณฺณนฺติ อนูนาธิกวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สกลปริปุณฺณเมว เทเสติ, เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถีติ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. โย หิ ‘‘อิมํ ธมฺมเทสนํ นิสฺสาย ลาภํ วา สกฺการํ วา ลภิสฺสามี’’ติ เทเสติ, ตสฺส อปริสุทฺธา เทสนา นาม โหติ. ภควา ปน โลกามิสนิรเปกฺโข ¶ หิตผรเณเนว เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโย อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตน จิตฺเตน เทเสติ. ตสฺมา ปริสุทฺธํ เทเสตีติ วุจฺจติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอตฺถ พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนํ. ตสฺมา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริสุทฺธํ, เอวํ เทเสนฺโต จ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลสาสนพฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตํ จริยํ, พฺรหฺมภูตานํ วา พุทฺธาทีนํ จริยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน, อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปานํ อรหตนฺติ ยถารูโป โส ภวํ โคตโม, เอวรูปานํ อเนเกหิปิ กปฺปโกฏิสตสหสฺเสหิ ทุลฺลภทสฺสนานํ พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺเตหิ อสีติอนุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิเตหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวเรหิ สมากิณฺณมโนรมสรีรานํ อนปฺปกทสฺสนานํ อติมธุรธมฺมนิคฺโฆสานํ ยถาภูตคุณาธิคเมน โลเก อรหนฺโตติ ลทฺธสทฺทานํ อรหตํ. ทสฺสนํ โหตีติ ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหติ. สเจ ปน อฏฺงฺคสมนฺนาคเตน พฺรหฺมสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส เอกปทมฺปิ โสตุํ ลภิสฺสาม, สาธุตรํเยว ภวิสฺสตีติ ¶ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ สพฺพกิจฺจานิ ปหาย ตุฏฺมานสา อคมํสุ. อฺชลึ ปณาเมตฺวาติ เอเต อุภโตปกฺขิกา, เต เอวํ จินฺเตสุํ – ‘‘สเจ โน มิจฺฉาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ ‘กสฺมา ตุมฺเห สมณํ โคตมํ วนฺทิตฺถา’ติ, เตสํ ‘กึ อฺชลิกรณมตฺเตนาปิ วนฺทิตํ โหตี’ติ วกฺขาม ¶ . สเจ โน สมฺมาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ ‘กสฺมา ภควนฺตํ น วนฺทิตฺถา’ติ, ‘กึ สีเสน ภูมึ ปหรนฺเตเนว วนฺทิตํ โหติ. นนุ อฺชลิกมฺมมฺปิ วนฺทนา เอวา’ติ วกฺขามา’’ติ.
นามโคตฺตนฺติ ¶ , ‘‘โภ โคตม, อหํ อสุกสฺส ปุตฺโต ทตฺโต นาม มิตฺโต นาม อิธาคโต’’ติ วทนฺตา นามํ สาเวนฺติ นาม. ‘‘โภ โคตม, อหํ วาเสฏฺโ นาม กจฺจาโน นาม อิธาคโต’’ติ วทนฺตา โคตฺตํ สาเวนฺติ นาม. เอเต กิร ทลิทฺทา ชิณฺณกุลปุตฺตา ‘‘ปริสมชฺเฌ นามโคตฺตวเสน ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ เอวํ อกํสุ. เย ปน ตุณฺหีภูตา นิสีทึสุ, เต เกราฏิกา เจว อนฺธพาลา จ. ตตฺถ เกราฏิกา ‘‘เอกํ ทฺเว กถาสลฺลาเป กโรนฺเต วิสฺสาสิโก โหติ, อถ วิสฺสาเส สติ เอกํ ทฺเว ภิกฺขา อทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ตโต อตฺตานํ โมเจนฺตา ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ. อนฺธพาลา อฺาณตาเยว อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺฑา วิย ยตฺถ กตฺถจิ ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ.
เวนาคปุริโกติ เวนาคปุรวาสี. เอตทโวจาติ ปาทนฺตโต ปฏฺาย ยาว เกสคฺคา ตถาคตสฺส สรีรํ โอโลเกนฺโต อสีติอนุพฺยฺชนสมุชฺชเลหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปฏิมณฺฑิตํ สรีรา นิกฺขมิตฺวา สมนฺตโต อสีติหตฺถปฺปเทสํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตาหิ ฉพฺพณฺณาหิ ฆนพุทฺธรํสีหิ สมฺปริวาริตํ ตถาคตสฺส สรีรํ ทิสฺวา สฺชาตวิมฺหโย วณฺณํ ภณนฺโต เอตํ ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตมา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
ตตฺถ ยาวฺจิทนฺติ อธิมตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทวจนเมตํ. ตสฺส วิปฺปสนฺนปเทน สทฺธึ สมฺพนฺโธ. ยาวฺจ วิปฺปสนฺนานิ อธิมตฺตวิปฺปสนฺนานีติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานีติ จกฺขาทีนิ ฉ อินฺทฺริยานิ. ตสฺส หิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปติฏฺิโตกาสสฺส วิปฺปสนฺนตํ ทิสฺวา เตสํ วิปฺปสนฺนตา ปากฏา อโหสิ. ยสฺมา ปน สา มเน วิปฺปสนฺเนเยว โหติ, อวิปฺปสนฺนจิตฺตานฺหิ อินฺทฺริยปฺปสาโท นาม นตฺถิ, ตสฺมาสฺส มนินฺทฺริยปฺปสาโทปิ ปากโฏ อโหสิ. ตํ เอส วิปฺปสนฺนตํ ¶ คเหตฺวา ‘‘วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานี’’ติ อาห. ปริสุทฺโธติ นิมฺมโล. ปริโยทาโตติ ปภสฺสโร. สารทํ ¶ พทรปณฺฑุนฺติ สรทกาเล ชาตํ นาติสุปริปกฺกํ พทรํ. ตฺหิ ปริสุทฺธฺเจว โหติ ปริโยทาตฺจ. ตาลปกฺกนฺติ สุปริปกฺกตาลผลํ. สมฺปติ พนฺธนา ปมุตฺตนฺติ ตํขณฺเว พนฺธนา ปมุตฺตํ. ตสฺส หิ พนฺธนมูลํ อปเนตฺวา ปรมุขํ กตฺวา ผลเก ปิตสฺส จตุรงฺคุลมตฺตํ านํ โอโลเกนฺตานํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ หุตฺวา ขายติ. ตํ สนฺธาเยวมาห ¶ . เนกฺขํ ชมฺโพนทนฺติ สุรตฺตวณฺณสฺส ชมฺโพนทสุวณฺณสฺส ฆฏิกา. ทกฺขกมฺมารปุตฺตสุปริกมฺมกตนฺติ ทกฺเขน สุวณฺณการปุตฺเตน สุฏฺุ กตปริกมฺมํ. อุกฺกามุเข สุกุสลสมฺปหฏฺนฺติ สุวณฺณการอุทฺธเน ปจิตฺวา สุกุสเลน สุวณฺณกาเรน ฆฏฺฏนปริมชฺชนหํสเนน สุฏฺุ ปหฏฺํ สุปริมทฺทิตนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตนฺติ อคฺคินา ปจิตฺวา ทีปิทาาย ฆํสิตฺวา เครุกปริกมฺมํ กตฺวา รตฺตกมฺพเล ปิตํ. ภาสเตติ สฺชาตโอภาสตาย ภาสเต. ตปเตติ อนฺธการวิทฺธํสนตาย ตปเต. วิโรจตีติ วิชฺโชตมานํ หุตฺวา วิโรจติ, โสภตีติ อตฺโถ.
อุจฺจาสยนมหาสยนานีติ เอตฺถ อติกฺกนฺตปฺปมาณํ อุจฺจาสยนํ นาม, อายตวิตฺถตํ อกปฺปิยภณฺฑํ มหาสยนํ นาม. อิทานิ ตานิ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถิทํ, อาสนฺทีติอาทิมาห. ตตฺถ อาสนฺทีติ อติกฺกนฺตปฺปมาณํ อาสนํ. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต. โคนโกติ ทีฆโลมโก มหาโกชโว. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ. จิตฺตโกติ วานจิตฺตํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกาติ อุณฺณามโย เสตตฺถรโก. ปฏลิกาติ ¶ ฆนปุปฺโผ อุณฺณามยตฺถรโก, โย อามลกปฏฺโฏติปิ วุจฺจติ. ตูลิกาติ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณา ตูลิกา. วิกติกาติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโก. อุทฺทโลมีติ อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เกจิ เอกโต อุคฺคตปุปฺผนฺติ วทนฺติ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เกจิ อุภโต อุคฺคตปุปฺผนฺติ วทนฺติ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตเมว โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. หตฺถตฺถราทโย หตฺถิปิฏฺาทีสุ อตฺถรณกอตฺถรกา เจว ¶ หตฺถิรูปาทีนิ ทสฺเสตฺวา กตอตฺถรกา จ. อชินปฺปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตปฺปเวณี. เสสํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.
นิกามลาภีติ อติกามลาภี อิจฺฉิติจฺฉิตลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี มหนฺตลาภี, อุฬารุฬาราเนว ลภติ มฺเติ สนฺธาย วทติ. อยํ กิร พฺราหฺมโณ สยนครุโก, โส ภควโต วิปฺปสนฺนินฺทฺริยาทิตํ ทิสฺวา ‘‘อทฺธา เอส เอวรูเปสุ อุจฺจาสยนมหาสยเนสุ นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ. เตนสฺส วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต’’ติ มฺมาโน อิมํ เสนาสนวณฺณํ กเถสิ.
ลทฺธา ¶ จ ปน น กปฺปนฺตีติ เอตฺถ กิฺจิ กิฺจิ กปฺปติ. สุทฺธโกเสยฺยฺหิ มฺเจปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏติ, โคนกาทโย จ ภูมตฺถรณปริโภเคน, อาสนฺทิยา ปาเท ฉินฺทิตฺวา, ปลฺลงฺกสฺส ¶ วาเฬ ภินฺทิตฺวา, ตูลิกํ วิชเฏตฺวา ‘‘พิมฺโพหนฺจ กาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อิมานิปิ เอเกน วิธาเนน กปฺปนฺติ. อกปฺปิยํ ปน อุปาทาย สพฺพาเนว น กปฺปนฺตีติ วุตฺตานิ.
วนนฺตฺเว ปวิสามีติ อรฺํเยว ปวิสามิ. ยเทวาติ ยานิเยว. ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทนฺโต อุชุํ กายํ เปตฺวา. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ เปตฺวา, ปริคฺคหิตนิยฺยานํ วา กตฺวาติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔). อุปสมฺปชฺช วิหรามีติ ปฏิลภิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วิหรามิ. เอวํภูโตติ เอวํ ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรสมงฺคี หุตฺวา. ทิพฺโพ เม เอโส ตสฺมึ สมเย จงฺกโม โหตีติ จตฺตาริ หิ รูปชฺฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา จงฺกมนฺตสฺส จงฺกโม ทิพฺพจงฺกโม นาม โหติ, สมาปตฺติโต วุฏฺาย จงฺกมนฺตสฺสาปิ จงฺกโม ทิพฺพจงฺกโมเยว. านาทีสุปิ เอเสว นโย. ตถา อิตเรสุ ทฺวีสุ วิหาเรสุ.
โส ¶ เอวํ ปชานามิ ‘‘ราโค เม ปหีโน’’ติ มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺเคน ปหีนราคเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘โส เอวํ ปชานามิ ราโค เม ปหีโน’’ติ อาห. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิมินา ปน กึ กถิตํ โหตีติ? ปจฺจเวกฺขณา กถิตา, ปจฺจเวกฺขณาย ผลสมาปตฺติ กถิตา. ผลสมาปตฺติฺหิ สมาปนฺนสฺสปิ สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺสาปิ จงฺกมาทโย อริยจงฺกมาทโย โหนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๔. สรภสุตฺตวณฺณนา
๖๕. จตุตฺเถ ¶ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร. คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ คิชฺฌสทิสานิสฺส กูฏานิ, คิชฺฌา วา ตสฺส กูเฏสุ วสนฺตีติ คิชฺฌกูโฏ, ตสฺมึ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เอเตนสฺส ราชคหํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส วสนฏฺานํ ทสฺสิตํ. คิชฺฌกูฏสฺมิฺหิ ตถาคตํ ¶ อุทฺทิสฺส วิหาโร การิโต, คิชฺฌกูฏวิหาโรตฺเววสฺส นามํ. ตตฺถายํ ตสฺมึ สมเย วิหรตีติ. สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหตีติ สรโภติ เอวํนามโก ปริพฺพาชโก อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว ปกฺกนฺโต โหติ, อธุนา วิพฺภนฺโตติ อตฺโถ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ หิ โลเก อุปฺปนฺเน ติตฺถิยา นฏฺลาภสกฺการา อเหสุํ, ติณฺณํ รตนานํ มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. ยถาห –
‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อฺติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ (อุทา.๑๔; สํ.นิ.๑.๒.๗๐).
เต เอวํ ปริหีนลาภสกฺการา ปฺจสตมตฺตา เอกสฺมึ ปริพฺพาชการาเม สนฺนิปติตฺวา สมฺมนฺตยึสุ – ‘‘โภ, มยํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย หตลาภสกฺการา ชาตา, สมณสฺส โคตมสฺส สาวกานฺจสฺส เอกํ อวณฺณํ อุปธาเรถ, อวณฺณํ ปตฺถริตฺวา เอตสฺส ¶ สาสนํ ครหิตฺวา อมฺหากํ ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทสฺสามา’’ติ. เต วชฺชํ โอโลเกนฺตา – ‘‘ตีสุ ทฺวาเรสุ อาชีเว จาติ จตูสุปิ าเนสุ สมณสฺส โคตมสฺส วชฺชํ ปสฺสิตุํ น สกฺกา, อิมานิ จตฺตาริ านานิ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ โอโลเกถา’’ติ ¶ อาหํสุ. อถ เนสํ อนฺตเร เอโก เอวมาห – ‘‘อหํ อฺํ น ปสฺสามิ, อิเม อนฺวฑฺฒมาสํ สนฺนิปติตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิธาย สามเณรานมฺปิ ปเวสนํ น เทนฺติ. ชีวิตสทิสาปิ อุปฏฺากา ทฏฺุํ น ลภนฺติ, อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา โอสาเรตฺวา ชนํ อาวฏฺเฏตฺวา อาวฏฺเฏตฺวา ขาทนฺติ. สเจ ตํ มยํ อาหริตุํ สกฺขิสฺสาม, เอวํ โน ลาภสกฺการอุฬาโร ภวิสฺสตี’’ติ. อปโรปิ เอวเมว วทนฺโต อุฏฺาสิ. สพฺเพ เอกวาทา อเหสุํ. ตโต อาหํสุ – ‘‘โย ตํ อาหริตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ มยํ อมฺหากํ สมเย เชฏฺกํ กริสฺสามา’’ติ.
ตโต โกฏิโต ปฏฺาย ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสิ, ตฺวํ สกฺขิสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ น สกฺขิสฺสามิ, อหํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ พหูหิ วุตฺเต สรภํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสิ อาจริยา’’ติ. โส อาห – ‘‘อครุ เอตํ อาหริตุํ, สเจ ตุมฺเห อตฺตโน กถาย ตฺวา มํ เชฏฺกํ ¶ กริสฺสถา’’ติ. อครุ เอตมาจริย อาหร, ตฺวํ กโตเยวาสิ อมฺเหหิ เชฏฺโกติ. โส อาห – ‘‘ตํ อาหรนฺเตน เถเนตฺวา วา วิลุมฺปิตฺวา วา อาหริตุํ น สกฺกา, สมณสฺส ปน โคตมสฺส สาวกสทิเสน หุตฺวา ตสฺส สาวเก วนฺทิตฺวา วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา เตสํ ปตฺเต ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา อาหริตุํ สกฺกา. รุจฺจติ โว เอตสฺส เอตฺตกสฺส กิริยา’’ติ. ยํกิฺจิ กตฺวา อาหริตฺวา จ โน เทหีติ. เตน หิ มํ ทิสฺวา อปสฺสนฺตา วิย ภเวยฺยาถาติ ปริพฺพาชกานํ สฺํ ทตฺวา ทุติยทิวเส ปาโตว อุฏฺาย คิชฺฌกูฏมหาวิหารํ คนฺตฺวา ทิฏฺทิฏฺานํ ภิกฺขูนํ ปฺจปติฏฺิเตน ปาเท วนฺทิ. ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อฺเ ปริพฺพาชกา จณฺฑา ผรุสา, อยํ ปน สทฺโธ ภวิสฺสติ ปสนฺโน’’ติ. ภนฺเต, ตุมฺเห ตฺวา ยุตฺตฏฺานสฺมึเยว ปพฺพชิตา, มยํ ปน อนุปธาเรตฺวา อติตฺเถเนว ปกฺขนฺตา อนิยฺยานิกมคฺเค วิจรามาติ. โส เอวํ วตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺเ ภิกฺขู ปุนปฺปุนํ วนฺทติ, นฺหาโนทกาทีนิ ปฏิยาเทติ, ทนฺตกฏฺํ กปฺปิยํ กโรติ, ปาเท โธวติ มกฺเขติ, อติเรกภตฺตํ ลภิตฺวา ภฺุชติ.
ตํ ¶ อิมินา นีหาเรน วสนฺตํ เอโก มหาเถโร ทิสฺวา, ‘‘ปริพฺพาชก, ตฺวํ สทฺโธ ปสนฺโน, กึ ¶ น ปพฺพชสี’’ติ. โก มํ, ภนฺเต, ปพฺพาเชสฺสติ. มยฺหิ จิรกาลํ ภทนฺตานํ ปจฺจตฺถิกา หุตฺวา วิจริมฺหาติ. เถโร ‘‘สเจ ตฺวํ ปพฺพชิตุกาโม, อหํ ตํ ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ วตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ วตฺตปฏิวตฺตมกาสิ. อถ นํ เถโร วตฺเต ปสีทิตฺวา นจิรสฺเสว อุปสมฺปาเทสิ. โส อุโปสถทิวเส ภิกฺขูหิ สทฺธึ อุโปสถคฺคํ ปวิสิตฺวา ภิกฺขู มหนฺเตน อุสฺสาเหน ปาติโมกฺขํ ปคฺคณฺหนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิมินา นีหาเรน โอสาเรตฺวา โอสาเรตฺวา โลกํ ขาทนฺติ, กติปาเหน หริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. โส ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, โก นาโม อยํ ธมฺโม’’ติ ปุจฺฉิ. ปาติโมกฺโข นาม, อาวุโสติ. อุตฺตมธมฺโม เอส, ภนฺเต, ภวิสฺสตีติ. อาม, อาวุโส, สกลสาสนธารณี อยํ สิกฺขาติ. ภนฺเต, สเจ เอส สิกฺขาธมฺโม อุตฺตโม, อิมเมว ปมํ คณฺหามีติ. คณฺหาวุโสติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ. โส คณฺหนฺโต ปริพฺพาชเก ปสฺสิตฺวา ‘‘กีทิสํ อาจริยา’’ติ ปุจฺฉิโต, ‘‘อาวุโส, มา จินฺตยิตฺถ, กติปาเหน อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา นจิรสฺเสว อุคฺคณฺหิตฺวา อุปชฺฌายํ อาห – ‘‘เอตฺตกเมว, ภนฺเต, อุทาหุ อฺมฺปิ อตฺถี’’ติ. เอตฺตกเมว, อาวุโสติ.
โส ปุนทิวเส ยถานิวตฺถปารุโตว คหิตนีหาเรเนว ปตฺตํ คเหตฺวา คิชฺฌกูฏา นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการามํ อคมาสิ. ปริพฺพาชกา ทิสฺวา ‘‘กีทิสํ, อาจริย, นาสกฺขิตฺถ มฺเ อาวฏฺฏนิมายํ ¶ อาหริตุ’’นฺติ ตํ ปริวารยึสุ. มา จินฺตยิตฺถ, อาวุโส, อาหฏา เม อาวฏฺฏนิมายา, อิโต ปฏฺาย อมฺหากํ ลาภสกฺกาโร มหา ภวิสฺสติ. ตุมฺเห อฺมฺํ สมคฺคา โหถ, มา วิวาทํ อกตฺถาติ. สเจ เต, อาจริย, สุคฺคหิตา, อมฺเหปิ นํ วาเจหีติ. โส อาทิโต ปฏฺาย ปาติโมกฺขํ โอสาเรสิ. อถ เต สพฺเพปิ – ‘‘เอถ, โภ, นคเร วิจรนฺตา สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ กเถสฺสามา’’ติ อนุคฺฆาฏิเตสุเยว นครทฺวาเรสุ ทฺวารสมีปํ คนฺตฺวา วิวเฏน ทฺวาเรน ¶ สพฺพปมํ ปวิสึสุ. เอวํ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺตํ ตํ ปริพฺพาชกํ สนฺธาย – ‘‘สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหตี’’ติ วุตฺตํ.
ตํ ¶ ทิวสํ ปน ภควา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต อิทํ อทฺทส – ‘‘อชฺช สรโภ ปริพฺพาชโก นคเร วิจริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กริสฺสติ, ติณฺณํ รตนานํ อวณฺณํ กเถนฺโต วิสํ สิฺจิตฺวา ปริพฺพาชการามํ คมิสฺสติ, อหมฺปิ ตตฺเถว คมิสฺสามิ, จตสฺโสปิ ปริสา ตตฺเถว โอสริสฺสนฺติ. ตสฺมึ สมาคเม จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต ‘‘ตสฺส โอกาโส โหตุ, ยถารุจิยา อวณฺณํ ปตฺถรตู’’ติ จินฺเตตฺวา อานนฺทตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘อานนฺท, อฏฺารสสุ มหาวิหาเรสุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มยา สทฺธึเยว ปิณฺฑาย จริตุํ อาโรเจหี’’ติ. เถโร ตถา อกาสิ. ภิกฺขู ปตฺตจีวรมาทาย สตฺถารเมว ปริวารยึสุ. สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆํ อาทาย ทฺวารคามสมีเปเยว ปิณฺฑาย จริ. สรโภปิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ นครํ ปวิฏฺโ ตตฺถ ตตฺถ ปริสมชฺเฌ ราชทฺวารวีถิจตุกฺกาทีสุ จ คนฺตฺวา ‘‘อฺาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อภาสิ. ตํ สนฺธาย โส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺาโตติ าโต อวพุทฺโธ, ปากฏํ กตฺวา อุคฺคหิโตติ ทีเปติ. อฺายาติ ชานิตฺวา. อปกฺกนฺโตติ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺโต. สเจ หิ สมณสฺส โคตมสฺส สาสเน โกจิ สาโร อภวิสฺส, นาหํ อปกฺกมิสฺสํ. ตสฺส ปน สาสนํ อสารํ นิสฺสารํ, อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา สมณา โลกํ ขาทนฺตีติ เอวมตฺถํ ทีเปนฺโต เอวมาห.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขูติ อถ เอวํ ตสฺมึ ปริพฺพาชเก ภาสมาเน อรฺวาสิโน ปฺจสตา ภิกฺขู ‘‘อสุกฏฺานํ นาม สตฺถา ปิณฺฑาย จริตุํ คโต’’ติ อชานนฺตา ภิกฺขาจารเวลายํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ. เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ‘‘อิมํ การณํ ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามา’’ติ อุปสงฺกมึสุ.
สิปฺปินิกาตีรนฺติ ¶ สิปฺปินิกาติ เอวํนามิกาย นทิยา ตีรํ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเร ขนฺตึ ธาเรตฺวา จิตฺเตเนว อธิวาเสสีติ อตฺโถ. เอวํ อธิวาเสตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข อชฺช มยา สรภสฺส วาทํ มทฺทิตุํ คจฺฉนฺเตน เอกเกน คนฺตพฺพํ ¶ , อุทาหุ ภิกฺขุสงฺฆปริวุเตนา’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – สจาหํ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คมิสฺสามิ, มหาชโน เอวํ จินฺเตสฺสติ – ‘‘สมโณ โคตโม วาทุปฺปตฺติฏฺานํ คจฺฉนฺโต ปกฺขํ อุกฺขิปิตฺวา คนฺตฺวา ปริสพเลน อุปฺปนฺนํ วาทํ มทฺทติ, ปรวาทีนํ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น เทตี’’ติ. น โข ปน มยฺหํ อุปฺปนฺเน วาเท ปรํ คเหตฺวา มทฺทนกิจฺจํ อตฺถิ, อหเมว คนฺตฺวา มทฺทิสฺสามิ. อนจฺฉริยํ เจตํ ยฺวาหํ อิทานิ พุทฺธภูโต อตฺตโน อุปฺปนฺนํ วาทํ มทฺเทยฺยํ, จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา วหิตพฺพํ ธุรํ อฺโ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส สาธนตฺถํ –
‘‘ยโต ยโต ครุ ธุรํ, ยโต คมฺภีรวตฺตนี;
ตทาสฺสุ กณฺหํ ยฺุเชนฺติ, สฺวาสฺสุ ตํ วหเต ธุร’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๒๙) –
อิทํ กณฺหชาตกํ อาหริตพฺพํ. อตีเต กิร เอโก สตฺถวาโห เอกิสฺสา มหลฺลิกาย เคเห นิวาสํ คณฺหิ. อถสฺส เอกิสฺสา เธนุยา รตฺติภาคสมนนฺตเร คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. สา เอกํ วจฺฉกํ วิชายิ. มหลฺลิกาย วจฺฉกํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ปุตฺตสิเนโห อุทปาทิ. ปุนทิวเส สตฺถวาหปุตฺโต – ‘‘ตว เคหเวตนํ คณฺหาหี’’ติ อาห. มหลฺลิกา ‘‘มยฺหํ อฺเน กิจฺจํ น อตฺถิ, อิมเมว วจฺฉกํ เทหี’’ติ อาห. คณฺห, อมฺมาติ. สา ตํ คณฺหิตฺวา ขีรํ ปาเยตฺวา ยาคุภตฺตติณาทีนิ ททมานา ¶ โปเสสิ. โส วุทฺธิมนฺวาย ปริปุณฺณรูโป พลวีริยสมฺปนฺโน อโหสิ สมฺปนฺนาจาโร, กาฬโก นาม นาเมน. อเถกสฺส สตฺถวาหสฺส ปฺจหิ สกฏสเตหิ อาคจฺฉนฺตสฺส อุทกภินฺนฏฺาเน สกฏจกฺกํ ลคฺคิ. โส ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ โยเชตฺวา นีหราเปตุํ อสกฺโกนฺโต กาฬกํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘ตาต, ตว เวตนํ ทสฺสามิ, สกฏํ เม อุกฺขิปิตฺวา เทหี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ตํ อาทาย – ‘‘อฺโ อิมินา สทฺธึ ธุรํ วหิตุํ สมตฺโถ นตฺถี’’ติ ธุรสกเฏ โยตฺตํ พนฺธิตฺวา ตํ เอกกํเยว โยเชสิ. โส ตํ สกฏํ อุกฺขิปิตฺวา ถเล ปติฏฺาเปตฺวา เอเตเนว นิหาเรน ปฺจ สกฏสตานิ นีหริ. โส สพฺพปจฺฉิมสกฏํ นีหริตฺวา โมจิยมาโน ‘‘สุ’’นฺติ กตฺวา สีสํ อุกฺขิปิ.
สตฺถวาโห ¶ ¶ ‘‘อยํ เอตฺตกานิ สกฏานิ อุกฺขิปนฺโต เอวํ น อกาสิ, เวตนตฺถํ มฺเ กโรตี’’ติ สกฏคณนาย กหาปเณ คเหตฺวา ปฺจสตภณฺฑิกํ ตสฺส คีวาย พนฺธาเปสิ. โส อฺเสํ อตฺตโน สนฺติกํ อลฺลียิตุํ อเทนฺโต อุชุกํ เคหเมว อคมาสิ. มหลฺลิกา ทิสฺวา โมเจตฺวา กหาปณภาวํ ตฺวา ‘‘กสฺมา, ปุตฺต, เอวมกาสิ, มา ตฺวํ ‘มยา กมฺมํ กตฺวา อาภเตน อยํ ชีวิสฺสตี’ติ สฺมกาสี’’ติ วตฺวา โคณํ อุณฺโหทเกน นฺหาเปตฺวา เตเลน อพฺภฺชิตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ปุน มา เอวมกาสี’’ติ โอวทิ. เอวํ สตฺถา ‘‘จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา วหิตพฺพธุรํ อฺโ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกโกว อคมาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ ปุถุตฺตารมฺมเณหิ จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา สลฺลานโต, ผลสมาปตฺติโตติ อตฺโถ. เตนุปสงฺกมีติ ปริพฺพาชเกสุ สกลนคเร ปกาสนียกมฺมํ กตฺวา นครา นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการาเม สนฺนิปติตฺวา ‘‘สเจ, อาวุโส สรภ, สมโณ โคตโม อาคมิสฺสติ, กึ ¶ กริสฺสสี’’ติ. สมเณ โคตเม เอกํ กโรนฺเต อหํ ทฺเว กริสฺสามิ, ทฺเว กโรนฺเต จตฺตาริ, จตฺตาริ กโรนฺเต ปฺจ, ปฺจ กโรนฺเต ทส, ทส กโรนฺเต วีสติ, วีสติ กโรนฺเต ตึสํ, ตึสํ กโรนฺเต จตฺตาลีสํ, จตฺตาลีสํ กโรนฺเต ปฺาสํ, ปฺาสํ กโรนฺเต สตํ, สตํ กโรนฺเต สหสฺสํ กริสฺสามีติ เอวํ อฺมฺํ สีหนาทกถํ สมุฏฺาเปตฺวา นิสินฺเนสุ อุปสงฺกมิ.
อุปสงฺกมนฺโต ปน ยสฺมา ปริพฺพาชการามสฺส นครมชฺเฌเนว มคฺโค, ตสฺมา สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา สุคตมหาจีวรํ ปารุปิตฺวา วิสฺสฏฺพโล ราชา วิย เอกโกว นครมชฺเฌน อคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺิกา ทิสฺวา ‘‘ปริพฺพาชกา สมณสฺส โคตมสฺส ปกาสนียกมฺมํ กโรนฺตา อวณฺณํ ปตฺถรึสุ, โส เอเต อนุวตฺติตฺวา สฺาเปตุํ คจฺฉติ มฺเ’’ติ อนุพนฺธึสุ. สมฺมาทิฏฺิกาปิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปตฺตจีวรํ อาทาย เอกโกว นิกฺขนฺโต, อชฺช สรเภน สทฺธึ มหาธมฺมสงฺคาโม ภวิสฺสติ. มยมฺปิ ตสฺมึ สมาคเม กายสกฺขิโน ภวิสฺสามา’’ติ อนุพนฺธึสุ. สตฺถา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส ปริพฺพาชการามํ อุปสงฺกมิ.
ปริพฺพาชกา ¶ รุกฺขานํ ขนฺธวิฏปสาขนฺตเรหิ สมุคฺคจฺฉนฺตา ฉพฺพณฺณฆนพุทฺธรสฺมิโย ทิสฺวา ‘‘อฺทา เอวรูโป โอภาโส นาม นตฺถิ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ อุลฺโลเกตฺวา ‘‘สมโณ ¶ โคตโม อาคจฺฉตี’’ติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวาว สรโภ ชาณุกนฺตเร สีสํ เปตฺวา อโธมุโข นิสีทิ. เอวํ ตสฺมึ สมเย ภควา ตํ อารามํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. ตถาคโต หิ ชมฺพุทีปตเล อคฺคกุเล ชาตตฺตา อคฺคาสนารโหติสฺส สพฺพตฺถ อาสนํ ปฺตฺตเมว โหติ. เอวํ ปฺตฺเต มหารเห พุทฺธาสเน นิสีทิ.
เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺเธ กิร สรเภน สทฺธึ เอตฺตกํ กเถนฺเตเยว ¶ ภิกฺขุสงฺโฆ สตฺถุ ปทานุปทิโก หุตฺวา ปริพฺพาชการามํ สมฺปาปุณิ, จตสฺโสปิ ปริสา ปริพฺพาชการาเมเยว โอสรึสุ. ตโต เต ปริพฺพาชกา ‘‘อจฺฉริยํ สมณสฺส โคตมสฺส กมฺมํ, สกลนครํ วิจริตฺวา อวณฺณํ ปตฺถริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กตฺวา อาคตานํ เวรีนํ ปฏิสตฺตูนํ ปจฺจามิตฺตานํ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา โถกมฺปิ วิคฺคาหิกกถํ น กเถสิ, อาคตกาลโต ปฏฺาย สตปากเตเลน มกฺเขนฺโต วิย อมตปานํ ปาเยนฺโต วิย มธุรกถํ กเถตี’’ติ สพฺเพปิ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อนุวตฺตนฺตา เอตทโวจุํ.
ยาเจยฺยาสีติ อายาเจยฺยาสิ ปตฺเถยฺยาสิ ปิเหยฺยาสิ. ตุณฺหีภูโตติ ตุณฺหีภาวํ อุปคโต. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชตํ อาปนฺโน. ปตฺตกฺขนฺโธติ โอนตคีโว. อโธมุโขติ เหฏฺามุโข. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ ‘‘อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺเพ ธมฺมา มยา อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ ปฏิชานโต ตว. อนภิสมฺพุทฺธาติ อิเม นาม ธมฺมา ตยา อนภิสมฺพุทฺธา. ตตฺถาติ เตสุ อนภิสมฺพุทฺธาติ เอวํ ทสฺสิตธมฺเมสุ. อฺเน วา อฺํ ปฏิจริสฺสตีติ อฺเน วา วจเนน อฺํ วจนํ ปฏิจฺฉาเทสฺสติ, อฺํ ปุจฺฉิโต อฺํ กเถสฺสตีติ อธิปฺปาโย. พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสตีติ พหิทฺธา อฺํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต ปุริมกถํ อปนาเมสฺสติ. อปฺปจฺจยนฺติ อนภิรทฺธึ อตุฏฺาการํ ปาตุกริสฺสตีติ ปากฏํ กริสฺสติ. เอตฺถ จ อปฺปจฺจเยน โทมนสฺสํ วุตฺตํ, ปุริเมหิ ทฺวีหิ มนฺทพลวเภโท โกโธเยว.
เอวํ ¶ ภควา ปมเวสารชฺเชน สีหนาทํ นทิตฺวา ปุน ทุติยาทีหิ นทนฺโต โย โข มํ ปริพฺพาชกาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส มคฺคสฺส ¶ วา ผลสฺส วา อตฺถาย ตยา จตุสจฺจธมฺโม เทสิโต. โส น นิยฺยาตีติ โส ธมฺโม น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉติ, น ตํ อตฺถํ สาเธตีติ วุตฺตํ โหติ. ตกฺกรสฺสาติ โย นํ กโรติ, ตสฺส ปฏิปตฺติปูรกสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ. สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เหตุนา นเยน การเณน สกลสฺส ¶ วฏฺฏทุกฺขสฺส ขยาย. อถ วา ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต. เสยฺยถิทํ – ราคปฏิฆาตตฺถาย อสุภกมฺมฏฺานํ, โทสปฏิฆาตตฺถาย เมตฺตาภาวนา, โมหปฏิฆาตตฺถาย ปฺจ ธมฺมา, วิตกฺกุปจฺเฉทาย อานาปานสฺสติ. โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ โส ธมฺโม โย นํ ยถาเทสิตํ กโรติ, ตสฺส ตกฺกรสฺส สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน วฏฺฏทุกฺขกฺขยาย น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉติ, ตํ อตฺถํ น สาเธตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโกติ ยถา อยํ สรโภ ปริพฺพาชโก ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสินฺโน, เอวํ นิสีทิสฺสตีติ.
เอวํ ตีหิ ปเทหิ สีหนาทํ นทิตฺวา เทสนํ นิวตฺเตนฺตสฺเสว ตถาคตสฺส ตสฺมึ าเน สนฺนิปติตา จตุราสีติปาณสหสฺสปริมาณา ปริสา อมตปานํ ปิวิ, สตฺถา ปริสาย อมตปานสฺส ปีตภาวํ ตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีหนาทนฺติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ อปฺปฏินาทํ. เวหาสํ ปกฺกามีติ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน อากาสํ ปกฺขนฺทิ. เอวํ ปกฺขนฺโท จ ปน ตํขณฺเว คิชฺฌกูฏมหาวิหาเร ปติฏฺาสิ.
วาจาย สนฺนิโตทเกนาติ วจนปโตเทน. สฺชมฺภริมกํสูติ ¶ สมฺภริตํ นิรนฺตรผุฏํ อกํสุ, อุปริ วิชฺฌึสูติ วุตฺตํ โหติ. พฺรหารฺเติ มหารฺเ. สีหนาทํ นทิสฺสามีติ สีหสฺส นทโต อาการํ ทิสฺวา ‘‘อยมฺปิ ติรจฺฉานคโต, อหมฺปิ, อิมสฺส จตฺตาโร ปาทา, มยฺหมฺปิ, อหมฺปิ เอวเมว สีหนาทํ นทิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. โส สีหสฺส สมฺมุขา นทิตุํ อสกฺโกนฺโต ¶ ตสฺมึ โคจราย ปกฺกนฺเต เอกโก นทิตุํ อารภิ. อถสฺส สิงฺคาลสทฺโทเยว นิจฺฉริ. เตน วุตฺตํ – สิงฺคาลกํเยว นทตีติ. เภรณฺฑกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อปิจ ภินฺนสฺสรํ อมนาปสทฺทํ นทตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวเมว โข ตฺวนฺติ อิมินา โอปมฺเมน ปริพฺพาชกา ตถาคตํ สีหสทิสํ กตฺวา สรภํ สิงฺคาลสทิสํ อกํสุ. อมฺพุกสฺจรีติ ขุทฺทกกุกฺกุฏิกา. ปุริสกรวิตํ รวิสฺสามีติ มหากุกฺกุฏํ รวนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺสปิ ทฺเว ปาทา ทฺเว ปกฺขา, มยฺหมฺปิ ตเถว, อหมฺปิ เอวรูปํ รวิตํ รวิสฺสามี’’ติ สา ตสฺส สมฺมุขา รวิตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺมึ ปกฺกนฺเต รวมานา กุกฺกุฏิการวํเยว รวิ. เตน วุตฺตํ – อมฺพุกสฺจริรวิตํเยว รวตีติ. อุสโภติ โคโณ. สฺุายาติ ตุจฺฉาย เชฏฺกวสเภหิ วิรหิตาย ¶ . คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มฺตีติ เชฏฺกวสภสฺส นาทสทิสํ คมฺภีรนาทํ นทิตพฺพํ มฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๕. เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา
๖๖. ปฺจเม กาลามานํ นิคโมติ กาลามา นาม ขตฺติยา, เตสํ นิคโม. เกสมุตฺติยาติ เกสมุตฺตนิคมวาสิโน. อุปสงฺกมึสูติ สปฺปินวนีตาทิเภสชฺชานิ เจว อฏฺวิธปานกานิ จ คาหาเปตฺวา อุปสงฺกมึสุ. สกํเยว วาทํ ทีเปนฺตีติ อตฺตโนเยว ลทฺธึ กเถนฺติ. โชเตนฺตีติ ปกาเสนฺติ. ขุํเสนฺตีติ ฆฏฺเฏนฺติ. วมฺเภนฺตีติ ¶ อวชานนฺติ. ปริภวนฺตีติ ลามกํ กโรนฺติ. โอมกฺขึ กโรนฺตีติ อุกฺขิตฺตกํ กโรนฺติ, อุกฺขิปิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ. อปเรปิ, ภนฺเตติ โส กิร อฏวิมุเข คาโม, ตสฺมา ตตฺถ อฏวึ อติกฺกนฺตา จ อติกฺกมิตุกามา จ วาสํ กปฺเปนฺติ. เตสุปิ ปมํ อาคตา อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ปกฺกมึสุ, ปจฺฉา อาคตา ‘‘กึ เต ชานนฺติ, อมฺหากํ อนฺเตวาสิกา เต, อมฺหากํ สนฺติเก กิฺจิ กิฺจิ สิปฺปํ อุคฺคณฺหึสู’’ติ อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ปกฺกมึสุ. กาลามา เอกลทฺธิยมฺปิ สณฺหิตุํ น สกฺขึสุ. เต เอตมตฺถํ ทีเปตฺวา ภควโต เอวมาโรเจตฺวา เตสํ โน, ภนฺเตติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ โหเตว กงฺขาติ โหติเยว กงฺขา. วิจิกิจฺฉาติ ตสฺเสว เววจนํ. อลนฺติ ยุตฺตํ.
มา ¶ อนุสฺสเวนาติ อนุสฺสวกถายปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ปรมฺปรายาติ ปรมฺปรกถายปิ มา คณฺหิตฺถ. มา อิติกิรายาติ เอวํ กิร เอตนฺติ มา คณฺหิตฺถ. มา ปิฏกสมฺปทาเนนาติ อมฺหากํ ปิฏกตนฺติยา สทฺธึ สเมตีติ มา คณฺหิตฺถ. มา ตกฺกเหตูติ ตกฺกคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา นยเหตูติ นยคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา อาการปริวิตกฺเกนาติ สุนฺทรมิทํ การณนฺติ เอวํ การณปริวิตกฺเกนปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยาติ อมฺหากํ นิชฺฌายิตฺวา ขมิตฺวา คหิตทิฏฺิยา สทฺธึ สเมตีติปิ มา คณฺหิตฺถ. มา ภพฺพรูปตายาติ อยํ ภิกฺขุ ภพฺพรูโป, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถ. มา สมโณ โน ครูติ อยํ สมโณ อมฺหากํ ครุ, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถ. สมตฺตาติ ปริปุณฺณา. สมาทินฺนาติ ¶ คหิตา ปรามฏฺา. ยํส โหตีติ ยํ การณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส โหติ. อโลภาทโย ¶ โลภาทิปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา. วิคตาภิชฺโฌติอาทีหิ เมตฺตาย ปุพฺพภาโค กถิโต.
อิทานิ เมตฺตาทิกํ กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เมตฺตาสหคเตนาติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺมฏฺานกถาย วา ภาวนานเย วา ปาฬิวณฺณนาย วา ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐) วุตฺตเมว. เอวํ อเวรจิตฺโตติ เอวํ อกุสลเวรสฺส จ ปุคฺคลเวริโน จ นตฺถิตาย อเวรจิตฺโต. อพฺยาพชฺฌจิตฺโตติ โกธจิตฺตสฺส อภาเวน นิทฺทุกฺขจิตฺโต. อสํกิลิฏฺจิตฺโตติ กิเลสสฺส นตฺถิตาย อสํกิลิฏฺจิตฺโต. วิสุทฺธจิตฺโตติ กิเลสมลาภาเวน วิสุทฺธจิตฺโต โหตีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ตสฺส เอวรูปสฺส อริยสาวกสฺส. อสฺสาสาติ อวสฺสยา ปติฏฺา. สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโกติ ยทิ อิมมฺหา โลกา ปรโลโก นาม อตฺถิ. อถาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา…เป… อุปปชฺชิสฺสามีติ อตฺเถตํ การณํ, เยนาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามีติ เอวํ สพฺพตฺถ นโย เวทิตพฺโพ. อนีฆนฺติ นิทฺทุกฺขํ. สุขินฺติ สุขิตํ. อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามีติ ยฺจ ปาปํ น กโรมิ, ยฺจ กโรโตปิ น กรียติ, อิมินา อุภเยนาปิ วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา
๖๗. ฉฏฺเ ¶ มิคารนตฺตาติ มิคารเสฏฺิโน นตฺตา. เสขุนิยนตฺตาติ เสขุนิยเสฏฺิโน นตฺตา. อุปสงฺกมึสูติ ภุตฺตปาตราสา ทาสกมฺมกรปริวุตา ¶ อุปสงฺกมึสุ. เตสํ กิร ปุเรภตฺเต ปุพฺพณฺหสมเยเยว เคเห เอโก ปฺโห สมุฏฺิโต, ตํ ปน กเถตุํ โอกาโส นาโหสิ. เต ‘‘ตํ ปฺหํ โสสฺสามา’’ติ เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ตุณฺหี นิสีทึสุ. เถโร ‘‘คาเม ตํ สมุฏฺิตํ ปฺหํ โสตุํ อาคตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ มนํ ตฺวา ตเมว ปฺหํ อารภนฺโต เอถ ตุมฺเห สาฬฺหาติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถิ โลโภติ ลุพฺภนสภาโว โลโภ นาม อตฺถีติ ปุจฺฉติ. อภิชฺฌาติ โข อหํ สาฬฺหา เอตมตฺถํ วทามีติ เอตํ โลภสงฺขาตํ อตฺถํ อหํ ‘‘อภิชฺฌา’’ติ วทามิ, ‘‘ตณฺหา’’ติ วทามีติ สมุฏฺิตปฺหสฺส อตฺถํ ทีเปนฺโต อาห. เอวํ สพฺพวาเรสุ นโย เนตพฺโพ.
โส ¶ เอวํ ปชานาตีติ โส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา ิโต อริยสาวโก สมาปตฺติโต วุฏฺาย วิปสฺสนํ อารภนฺโต เอวํ ปชานาติ. อตฺถิ อิทนฺติ อตฺถิ ทุกฺขสจฺจสงฺขาตํ ขนฺธปฺจกํ นามรูปวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปชานนฺโต เอส ‘‘เอวํ ปชานาติ อตฺถิ อิท’’นฺติ วุตฺโต. หีนนฺติ สมุทยสจฺจํ. ปณีตนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิมสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตริ นิสฺสรณนฺติ อิมสฺส วิปสฺสนาสฺาสงฺขาตสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตริ นิสฺสรณํ นาม นิพฺพานํ, ตมตฺถีติ อิมินา นิโรธสจฺจํ ทสฺเสติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ กถิตํ. อหุ ปุพฺเพ โลโภติ ปุพฺเพ เม โลโภ อโหสิ. ตทหุ อกุสลนฺติ ตํ อกุสลํ นาม อโหสิ, ตทา วา อกุสลํ นาม อโหสิ. อิจฺเจตํ กุสลนฺติ อิติ เอตํ กุสลํ, ตสฺเสว อกุสลสฺส นตฺถิภาวํ กุสลํ เขมนฺติ สนฺธาย วทติ. นิจฺฉาโตติ นิตฺตณฺโห. นิพฺพุโตติ ¶ อพฺภนฺตเร สนฺตาปกรานํ กิเลสานํ อภาเวน นิพฺพุโต. สีติภูโตติ สีตลีภูโต. สุขปฺปฏิสํเวทีติ กายิกเจตสิกสฺส สุขสฺส ปฏิสํเวทิตา. พฺรหฺมภูเตนาติ เสฏฺภูเตน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๖๘. สตฺตเม ¶ กถาวตฺถูนีติ กถาการณานิ, กถาย ภูมิโย ปติฏฺาโยติ อตฺโถ. อตีตํ วา, ภิกฺขเว, อทฺธานนฺติ อตีตมทฺธานํ นาม กาโลปิ วฏฺฏติ ขนฺธาปิ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อตีเต กสฺสโป นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ, ตสฺส กิกี นาม กาสิกราชา อคฺคุปฏฺาโก อโหสิ, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ อายุ อโหสีติ อิมินา นเยน กเถนฺโต อตีตํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม. อนาคเต เมตฺเตยฺโย นาม พุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตสฺส สงฺโข นาม ราชา อคฺคุปฏฺาโก ภวิสฺสติ, อสีติ วสฺสสหสฺสานิ อายุ ภวิสฺสตีติ อิมินา นเยน กเถนฺโต อนาคตํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม. เอตรหิ อสุโก นาม ราชา ธมฺมิโกติ อิมินา นเยน กเถนฺโต ปจฺจุปฺปนฺนํ อารพฺภ กถํ กเถติ นาม.
กถาสมฺปโยเคนาติ กถาสมาคเมน. กจฺโฉติ กเถตุํ ยุตฺโต. อกจฺโฉติ กเถตุํ น ยุตฺโต. เอกํสพฺยากรณียํ ปฺหนฺติอาทีสุ, ‘‘จกฺขุ, อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเน, ‘‘อาม, อนิจฺจ’’นฺติ เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพํ. เอเสว นโย โสตาทีสุ. อยํ เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘อนิจฺจํ นาม จกฺขู’’ติ ปุฏฺเน ปน ‘‘น จกฺขุเมว, โสตมฺปิ อนิจฺจํ, ฆานมฺปิ อนิจฺจ’’นฺติ เอวํ วิภชิตฺวา ¶ พฺยากาตพฺพํ. อยํ วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘ยถา จกฺขุ, ตถา โสตํ. ยถา โสตํ, ตถา จกฺขู’’ติ ปุฏฺเน ‘‘เกนฏฺเน ปุจฺฉสี’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทสฺสนฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต ‘‘น หี’’ติ พฺยากาตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อามา’’ติ พฺยากาตพฺพํ. อยํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห. ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติอาทีนิ ¶ ปุฏฺเน ปน ‘‘อพฺยากตเมตํ ภควตา’’ติ เปตพฺโพ, เอส ปฺโห น พฺยากาตพฺโพ. อยํ ปนีโย ปฺโห.
านาาเน น สณฺาตีติ การณาการเณ น สณฺาติ. ตตฺรายํ นโย – สสฺสตวาที ยุตฺเตน การเณน ปโหติ อุจฺเฉทวาทึ นิคฺคเหตุํ, อุจฺเฉทวาที เตน นิคฺคยฺหมาโน ‘‘กึ ปนาหํ อุจฺเฉทํ วทามี’’ติ สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปติ, อตฺตโน วาเท ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. เอวํ อุจฺเฉทวาทิมฺหิ ปโหนฺเต สสฺสตวาที, ปุคฺคลวาทิมฺหิ ปโหนฺเต สฺุตวาที, สฺุตวาทิมฺหิ ปโหนฺเต ปุคฺคลวาทีติ เอวํ านาาเน น สณฺาติ นาม.
ปริกปฺเป ¶ น สณฺาตีติ อิทํ ปฺหปุจฺฉเนปิ ปฺหกถเนปิ ลพฺภติ. กถํ? เอกจฺโจ หิ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ กณฺํ โสเธติ, โส อิตเรน ‘‘อิทํ นาม ตฺวํ ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ วุตฺโต าตภาวํ ตฺวา ‘‘น เอตํ, อฺํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วทติ. ปฺหํ ปุฏฺโปิ ‘‘ปฺหํ กเถสฺสามี’’ติ หนุํ สํโสเธติ, โส อิตเรน ‘‘อิทํ นาม กเถสฺสสี’’ติ วุตฺโต าตภาวํ ตฺวา ‘‘น เอตํ, อฺํ กเถสฺสามี’’ติ วทติ. เอวํ ปริกปฺเป น สณฺาติ นาม.
อฺาตวาเท น สณฺาตีติ อฺาตวาเท ชานิตวาเท น สณฺาติ. กถํ? เอกจฺโจ ปฺหํ ปุจฺฉติ, ตํ อิตโร ‘‘มนาโป ตยา ปฺโห ปุจฺฉิโต, กหํ เต เอส อุคฺคหิโต’’ติ วทติ. อิตโร ปุจฺฉิตพฺพนิยาเมเนว ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวาปิ ตสฺส กถาย ‘‘อปฺหํ นุ โข ปุจฺฉิต’’นฺติ วิมตึ กโรติ. อปโร ปฺหํ ปุฏฺโ กเถติ, ตมฺโ ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห กถิโต, กตฺถ เต อุคฺคหิโต, ปฺหํ กเถนฺเตน นาม เอวํ กเถตพฺโพ’’ติ วทติ. อิตโร กเถตพฺพนิยาเมเนว ปฺหํ กเถตฺวาปิ ตสฺส กถาย ‘‘อปฺโห นุ โข มยา กถิโต’’ติ วิมตึ กโรติ.
ปฏิปทาย น สณฺาตีติ ปฏิปตฺติยํ น ติฏฺติ, วตฺตํ อชานิตฺวา อปุจฺฉิตพฺพฏฺาเน ปุจฺฉตีติ อตฺโถ. อยํ ปฺโห ¶ นาม เจติยงฺคเณ ปุจฺฉิเตน น กเถตพฺโพ, ตถา ภิกฺขาจารมคฺเค ¶ คามํ ปิณฺฑาย จรณกาเล. อาสนสาลาย นิสินฺนกาเล ยาคุํ วา ภตฺตํ วา คเหตฺวา นิสินฺนกาเล ปริภฺุชิตฺวา นิสินฺนกาเล ทิวาวิหารฏฺานคมนกาเลปิ. ทิวาฏฺาเน นิสินฺนกาเล ปน โอกาสํ กาเรตฺวาว ปุจฺฉนฺตสฺส กเถตพฺโพ, อกาเรตฺวา ปุจฺฉนฺตสฺส น กเถตพฺโพ. อิทํ วตฺตํ อชานิตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฏิปทาย น สณฺาติ นาม. เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกจฺโฉ โหตีติ, ภิกฺขเว, เอตํ อิมสฺมึ จ การเณ สติ อยํ ปุคฺคโล น กเถตุํ ยุตฺโต นาม โหติ.
านาาเน สณฺาตีติ สสฺสตวาที ยุตฺเตน การเณน ปโหติ อุจฺเฉทวาทึ นิคฺคเหตุํ, อุจฺเฉทวาที เตน นิคฺคยฺหมาโนปิ ‘‘อหํ ตยา สตกฺขตฺตุํ นิคฺคยฺหมาโนปิ อุจฺเฉทวาทีเยวา’’ติ วทติ. อิมินา นเยน สสฺสตปุคฺคลสฺุตวาทาทีสุปิ นโย เนตพฺโพ. เอวํ านาาเน สณฺาติ ¶ นาม. ปริกปฺเป สณฺาตีติ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ กณฺํ โสเธนฺโต ‘‘ตฺวํ อิมํ นาม ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, เอตํเยว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วทติ. ปฺหํ กเถสฺสามีติ หนุํ สํโสเธนฺโตปิ ‘‘ตฺวํ อิมํ นาม กเถสฺสสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, เอตํเยว กเถสฺสามี’’ติ วทติ. เอวํ ปริกปฺเป สณฺาติ นาม.
อฺาตวาเท สณฺาตีติ อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห ปุจฺฉิโต, ปุจฺฉนฺเตน นาม เอวํ ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉติ, วิมตึ น อุปฺปาเทติ. ปฺหํ กเถตฺวาปิ ‘‘สุฏฺุ เต ปฺโห กถิโต, กเถนฺเตน นาม เอวํ กเถตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉติ, วิมตึ น อุปฺปาเทติ. ปฏิปทาย สณฺาตีติ เคเห นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา ยาว ภตฺตํ นิฏฺาติ, ตสฺมึ อนฺตเร นิสินฺโน ปฺหํ ปุจฺฉติ ¶ . สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ อฏฺวิธานิ ปานกานิ วตฺถจฺฉาทนมาลาคนฺธาทีนิ วา อาทาย วิหารํ คนฺตฺวา ตานิ ทตฺวา ทิวาฏฺานํ ปวิสิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ. เอวฺหิ วตฺตํ ตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฏิปทาย สณฺาติ นาม. ตสฺส ปฺหํ กเถตุํ วฏฺฏติ.
อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน วจเนน อฺํ ปฏิจฺฉาเทติ, อฺํ วา ปุจฺฉิโต อฺํ กเถติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ อาคนฺตุกกถํ โอตาเรนฺโต ปุริมกถํ พหิทฺธา อปนาเมติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ภิกฺขู กิร สนฺนิปติตฺวา เอกํ ทหรํ, ‘‘อาวุโส, ตฺวํ อิมฺจิมฺจ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ อาหํสุ. โส อาห – ‘‘ภนฺเต, นาคทีปํ คโตมฺหี’’ติ. อาวุโส ¶ , น มยํ ตว นาคทีปคมเนน อตฺถิกา, อาปตฺตึ ปน อาปนฺโนติ ปุจฺฉามาติ. ภนฺเต, นาคทีปํ คนฺตฺวา มจฺเฉ ขาทินฺติ. อาวุโส, ตว มจฺฉขาทเนน กมฺมํ นตฺถิ, อาปตฺตึ กิรสิ อาปนฺโนติ. โส ‘‘นาติสุปกฺโก มจฺโฉ มยฺหํ อผาสุกมกาสิ, ภนฺเต’’ติ. อาวุโส, ตุยฺหํ ผาสุเกน วา อผาสุเกน วา กมฺมํ นตฺถิ, อาปตฺตึ อาปนฺโนสีติ. ภนฺเต, ยาว ตตฺถ วสึ, ตาว เม อผาสุกเมว ชาตนฺติ. เอวํ อาคนฺตุกกถาวเสน พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ เวทิตพฺพํ.
อภิหรตีติ อิโต จิโต จ สุตฺตํ อาหริตฺวา อวตฺถรติ. เตปิฏกติสฺสตฺเถโร วิย. ปุพฺเพ กิร ภิกฺขู มหาเจติยงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา สงฺฆกิจฺจํ กตฺวา ภิกฺขูนํ โอวาทํ ทตฺวา อฺมฺํ ปฺหสากจฺฉํ กโรนฺติ. ตตฺถายํ เถโร ตีหิ ปิฏเกหิ ตโต ตโต สุตฺตํ อาหริตฺวา ทิวสภาเค เอกมฺปิ ปฺหํ นิฏฺาเปตุํ น เทติ. อภิมทฺทตีติ การณํ ¶ อาหริตฺวา มทฺทติ. อนุปชคฺฆตีติ ปเรน ปฺเห ปุจฺฉิเตปิ กถิเตปิ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสติ, เยน ปรสฺส ‘‘อปุจฺฉิตพฺพํ นุ โข ปุจฺฉึ, อกเถตพฺพํ นุ โข กเถสิ’’นฺติ วิมติ อุปฺปชฺชติ. ขลิตํ คณฺหาตีติ อปฺปมตฺตกํ มุขโทสมตฺตํ คณฺหาติ ¶ , อกฺขเร วา ปเท วา พฺยฺชเน วา ทุรุตฺเต ‘‘เอวํ นาเมตํ วตฺตพฺพ’’นฺติ อุชฺฌายมาโน วิจรติ. สอุปนิโสติ สอุปนิสฺสโย สปจฺจโย.
โอหิตโสโตติ ปิตโสโต. อภิชานาติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ กุสลธมฺมํ อภิชานาติ อริยมคฺคํ. ปริชานาติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ ทุกฺขสจฺจธมฺมํ ตีรณปริฺาย ปริชานาติ. ปชหติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ สพฺพากุสลธมฺมํ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ. สจฺฉิกโรติ เอกํ ธมฺมนฺติ เอกํ อรหตฺตผลธมฺมํ นิโรธเมว วา ปจฺจกฺขํ กโรติ. สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสตีติ สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน อรหตฺตผลวิโมกฺขํ าณผสฺเสน ผุสติ.
เอตทตฺถา, ภิกฺขเว, กถาติ, ภิกฺขเว, ยา เอสา กถาสมฺปโยเคนาติ กถา ทสฺสิตา, สา เอตทตฺถา, อยํ ตสฺสา กถาย ภูมิ ปติฏฺา. อิทํ วตฺถุ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ เอวํ สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา. เอตทตฺถา มนฺตนาติ ยา อยํ กจฺฉากจฺเฉสุ ปุคฺคเลสุ กจฺเฉน สทฺธึ มนฺตนา, สาปิ เอตทตฺถาเยว. เอตทตฺถา อุปนิสาติ โอหิตโสโต สอุปนิโสติ เอวํ วุตฺตา อุปนิสาปิ เอตทตฺถาเยว. เอตทตฺถํ โสตาวธานนฺติ ตสฺสา อุปนิสาย โสตาวธานํ ¶ , ตมฺปิ เอตทตฺถเมว. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อคฺคเหตฺวา. จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อรหตฺตผลวิโมกฺโข. อรหตฺตผลตฺถาย หิ สพฺพเมตนฺติ สุตฺตนฺตํ วินิวตฺเตตฺวา อุปริ คาถาหิ กูฏํ คณฺหนฺโต เย วิรุทฺธาติอาทิมาห.
ตตฺถ วิรุทฺธาติ วิโรธสงฺขาเตน โกเปน วิรุทฺธา. สลฺลปนฺตีติ สลฺลาปํ กโรนฺติ. วินิวิฏฺาติ อภินิวิฏฺา หุตฺวา. สมุสฺสิตาติ ¶ มานุสฺสเยน สุฏฺุ อุสฺสิตา. อนริยคุณมาสชฺชาติ อนริยคุณกถํ คุณมาสชฺช กเถนฺติ. คุณํ ฆฏฺเฏตฺวา กถา หิ อนริยกถา นาม, น อริยกถา, ตํ ¶ กเถนฺตีติ อตฺโถ. อฺโฺวิวเรสิโนติ อฺมฺสฺส ฉิทฺทํ อปราธํ คเวสมานา. ทุพฺภาสิตนฺติ ทุกฺกถิตํ. วิกฺขลิตนฺติ อปฺปมตฺตกํ มุขโทสขลิตํ. สมฺปโมหํ ปราชยนฺติ อฺมฺสฺส อปฺปมตฺเตน มุขโทเสน สมฺปโมหฺจ ปราชยฺจ. อภินนฺทนฺตีติ ตุสฺสนฺติ. นาจเรติ น จรติ น กเถติ. ธมฺมฏฺปฏิสํยุตฺตาติ ยา จ ธมฺเม ิเตน กถิตกถา, สา ธมฺมฏฺา เจว โหติ เตน จ ธมฺเมน ปฏิสํยุตฺตาติ ธมฺมฏฺปฏิสํยุตฺตา. อนุนฺนเตน มนสาติ อนุทฺธเตน เจตสา. อปฬาโสติ ยุคคฺคาหปฬาสวเสน อปฬาโส หุตฺวา. อสาหโสติ ราคโทสโมหสาหสานํ วเสน อสาหโส หุตฺวา.
อนุสูยายมาโนติ น อุสูยมาโน. ทุพฺภฏฺเ นาปสาทเยติ ทุกฺกถิตสฺมึ น อปสาเทยฺย. อุปารมฺภํ น สิกฺเขยฺยาติ การณุตฺตริยลกฺขณํ อุปารมฺภํ น สิกฺเขยฺย. ขลิตฺจ น คาหเยติ อปฺปมตฺตกํ มุขขลิตํ ‘‘อยํ เต โทโส’’ติ น คาหเยยฺย. นาภิหเรติ นาวตฺถเรยฺย. นาภิมทฺเทติ เอกํ การณํ อาหริตฺวา น มทฺเทยฺย. น ¶ วาจํ ปยุตํ ภเณติ สจฺจาลิกปฏิสํยุตฺตํ วาจํ น ภเณยฺย. อฺาตตฺถนฺติ ชานนตฺถํ. ปสาทตฺถนฺติ ปสาทชนนตฺถํ. น สมุสฺเสยฺย มนฺตเยติ น มานุสฺสเยน สมุสฺสิโต ภเวยฺย. น หิ มานุสฺสิตา หุตฺวา ปณฺฑิตา กถยนฺติ, มาเนน ปน อนุสฺสิโตว หุตฺวา มนฺตเย กเถยฺย ภาเสยฺยาติ.
๘. อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา
๖๙. อฏฺเม ภควํมูลกาติ ภควา มูลํ เอเตสนฺติ ภควํมูลกา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม, ภนฺเต, อมฺหากํ ธมฺมา ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธน อุปฺปาทิตา, ตสฺมึ ปรินิพฺพุเต เอกํ พุทฺธนฺตรํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ธมฺเม อุปฺปาเทตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ, ภควโต ¶ ปน โน อิเม ธมฺมา อุปฺปาทิตา. ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามาติ เอวํ ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมาติ. ภควํเนตฺติกาติ ภควา ธมฺมานํ เนตา วิเนตา อนุเนตา ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คเหตฺวาว ทสฺเสตาติ ธมฺมา ภควํเนตฺติกา นาม ¶ โหนฺติ. ภควํปฏิสรณาติ จตุภูมกธมฺมา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉมานา ภควติ ปฏิสรนฺติ นามาติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรนฺตีติ โอสรนฺติ สโมสรนฺติ. อปิจ มหาโพธิมณฺเฑ นิสินฺนสฺส ภควโต ปฏิเวธวเสน ผสฺโส อาคจฺฉติ – ‘‘อหํ ภควา กินฺนาโม’’ติ. ตฺวํ ผุสนฏฺเน ผสฺโส นาม. เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ อาคจฺฉติ – ‘‘อหํ ภควา กินฺนาม’’นฺติ. ตฺวํ วิชานนฏฺเน วิฺาณํ นามาติ. เอวํ จตุภูมกธมฺมานํ ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คณฺหนฺโต ภควา ธมฺเม ปฏิสรตีติ ภควํปฏิสรณา. ภควนฺตํเยว ปฏิภาตูติ ภควโตว เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ อุปฏฺาตุ, ตุมฺเหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อตฺโถ.
ราโค ¶ โขติ รชฺชนวเสน ปวตฺตราโค. อปฺปสาวชฺโชติ โลกวชฺชวเสนปิ วิปากวชฺชวเสนปีติ ทฺวีหิปิ วชฺเชหิ อปฺปสาวชฺโช, อปฺปโทโสติ อตฺโถ. กถํ? มาตาปิตโร หิ ภาติภคินิอาทโย จ ปุตฺตภาติกานํ อาวาหวิวาหมงฺคลํ นาม กาเรนฺติ. เอวํ ตาเวโส โลกวชฺชวเสน อปฺปสาวชฺโช. สทารสนฺโตสมูลิกา ปน อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม น โหตีติ เอวํ วิปากวชฺชวเสน อปฺปสาวชฺโช. ทนฺธวิราคีติ วิรชฺชมาโน ปเนส สณิกํ วิรชฺชติ, น สีฆํ มุจฺจติ. เตลมสิราโค วิย จิรํ อนุพนฺธติ, ทฺเว ตีณิ ภวนฺตรานิ คนฺตฺวาปิ นาปคจฺฉตีติ ทนฺธวิราคี.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ปุริโส ภาตุ ชายาย มิจฺฉาจารํ จรติ. ตสฺสาปิ อิตฺถิยา อตฺตโน สามิกโต โสเยว ปิยตโร อโหสิ. สา ตมาห – ‘‘อิมสฺมึ การเณ ปากเฏ ชาเต มหตี ครหา ภวิสฺสติ, ตว ภาติกํ ฆาเตหี’’ติ. โส ‘‘นสฺส, วสลิ, มา เอวํ ปุน อวจา’’ติ อปสาเทสิ. สา ตุณฺหี หุตฺวา กติปาหจฺจเยน ปุน กเถสิ, ตสฺส จิตฺตํ ทฺวชฺฌภาวํ อคมาสิ. ตโต ตติยวารํ กถิโต ‘‘กินฺติ กตฺวา โอกาสํ ลภิสฺสามี’’ติ อาห. อถสฺส สา อุปายํ กเถนฺตี ‘‘ตฺวํ มยา วุตฺตเมว กโรหิ, อสุกฏฺาเน มหากกุธสมีเป ติตฺถํ อตฺถิ, ตตฺถ ติขิณํ ทณฺฑกวาสึ คเหตฺวา ติฏฺาหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. เชฏฺภาตาปิสฺส อรฺเ กมฺมํ กตฺวา ฆรํ อาคโต. สา ตสฺมึ มุทุจิตฺตา วิย หุตฺวา ‘‘เอหิ ¶ สามิ ¶ , สีเส เต โอลิขิสฺสามี’’ติ โอลิขนฺตี ‘‘อุปกฺกิลิฏฺํ เต สีส’’นฺติ อามลกปิณฺฑํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ อสุกฏฺาเน สีสํ โธวิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ เปเสสิ. โส ตาย วุตฺตติตฺถเมว คนฺตฺวา อามลกกกฺเกน สีสํ มกฺเขตฺวา อุทกํ โอรุยฺห โอนมิตฺวา สีสํ ¶ โธวิ. อถ นํ อิตโร รุกฺขนฺตรโต นิกฺขมิตฺวา ขนฺธฏฺิเก ปหริตฺวา ชีวิตา โวโรเปตฺวา เคหํ อคมาสิ.
อิตโร ภริยาย สิเนหํ ปริจฺจชิตุมสกฺโกนฺโต ตสฺมึเยว เคเห มหาธมฺมนิ หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ตสฺสา ิตายปิ นิสินฺนายปิ คนฺตฺวา สรีเร ปตติ. อถ นํ สา ‘‘โสเยว อยํ ภวิสฺสตี’’ติ ฆาตาเปสิ. โส ปุน ตสฺสา สิเนเหน ตสฺมึเยว เคเห กุกฺกุโร หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ปทสา คมนกาลโต ปฏฺาย ตสฺสา ปจฺฉโต ปจฺฉโต จรติ. อรฺํ คจฺฉนฺติยาปิ สทฺธึเยว คจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘นิกฺขนฺโต สุนขลุทฺทโก, กตรฏฺานํ คมิสฺสตี’’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา ปุน ตํ ฆาตาเปสิ.
โสปิ ปุน ตสฺมึเยว เคเห วจฺฉโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตเถว ตสฺสา ปจฺฉโต ปจฺฉโต จรติ. ตทาปิ นํ มนุสฺสา ทิสฺวา ‘‘นิกฺขนฺโต โคปาลโก, กตฺถ คาวิโย จริสฺสนฺตี’’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา ตสฺมิมฺปิ าเน ตํ ฆาตาเปสิ. โส ตทาปิ ตสฺสา อุปริ สิเนหํ ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโต จตุตฺเถ วาเร ตสฺสาเยว กุจฺฉิยํ ชาติสฺสโร หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ปฏิปาฏิยา จตูสุ อตฺตภาเวสุ ตาย ฆาติตภาวํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปาย นาม ปจฺจตฺถิกาย กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโตสฺมี’’ติ ตโต ปฏฺาย ตสฺสา หตฺเถน อตฺตานํ ผุสิตุํ น เทติ. สเจ นํ สา ผุสติ, กนฺทติ โรทติ. อถ นํ อยฺยโกว ปฏิชคฺคติ. ตํ อปรภาเค วุทฺธิปฺปตฺตํ อยฺยโก อาห – ‘‘ตาต, กสฺมา ตฺวํ มาตุ หตฺเถน อตฺตานํ ผุสิตุํ น เทสิ. สเจปิ ตํ ผุสติ, มหาสทฺเทน โรทสิ กนฺทสี’’ติ. อยฺยเกน ปุฏฺโ ‘‘น เอสา มยฺหํ มาตา, ปจฺจามิตฺตา เอสา’’ติ ตํ ปวตฺตึ สพฺพํ อาโรเจสิ. โส ตํ อาลิงฺคิตฺวา โรทิตฺวา ‘‘เอหิ, ตาต, กึ อมฺหากํ ¶ อีทิเส าเน นิวาสกิจฺจ’’นฺติ ตํ อาทาย นิกฺขมิตฺวา เอกํ วิหารํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุโภปิ ตตฺถ วสนฺตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.
มหาสาวชฺโชติ ¶ โลกวชฺชวเสนปิ วิปากวชฺชวเสนปีติ ทฺวีหิปิ การเณหิ มหาสาวชฺโช. กถํ? โทเสน หิ ทุฏฺโ หุตฺวา มาตริปิ อปรชฺฌติ, ปิตริปิ ภาติภคินิอาทีสุปิ ¶ ปพฺพชิเตสุปิ. โส คตคตฏฺาเนสุ ‘‘อยํ ปุคฺคโล มาตาปิตูสุปิ อปรชฺฌติ, ภาติภคินิอาทีสุปิ, ปพฺพชิเตสุปี’’ติ มหตึ ครหํ ลภติ. เอวํ ตาว โลกวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. โทสวเสน ปน กเตน อานนฺตริยกมฺเมน กปฺปํ นิรเย ปจฺจติ. เอวํ วิปากวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. ขิปฺปวิราคีติ ขิปฺปํ วิรชฺชติ. โทเสน หิ ทุฏฺโ มาตาปิตูสุปิ เจติเยปิ โพธิมฺหิปิ ปพฺพชิเตสุปิ อปรชฺฌิตฺวา ‘‘มยฺหํ ขมถา’’ติ. อจฺจยํ เทเสติ. ตสฺส สห ขมาปเนน ตํ กมฺมํ ปากติกเมว โหติ.
โมโหปิ ทฺวีเหว การเณหิ มหาสาวชฺโช. โมเหน หิ มูฬฺโห หุตฺวา มาตาปิตูสุปิ เจติเยปิ โพธิมฺหิปิ ปพฺพชิเตสุปิ อปรชฺฌิตฺวา คตคตฏฺาเน ครหํ ลภติ. เอวํ ตาว โลกวชฺชวเสน มหาสาวชฺโช. โมหวเสน ปน กเตน อานนฺตริยกมฺเมน กปฺปํ นิรเย ปจฺจติ. เอวํ วิปากวชฺชวเสนปิ มหาสาวชฺโช. ทนฺธวิราคีติ สณิกํ วิรชฺชติ. โมเหน มูฬฺเหน หิ กตกมฺมํ สณิกํ มุจฺจติ. ยถา หิ อจฺฉจมฺมํ สตกฺขตฺตุมฺปิ โธวิยมานํ น ปณฺฑรํ โหติ, เอวเมว โมเหน มูฬฺเหน กตกมฺมํ สีฆํ น มุจฺจติ, สณิกเมว มุจฺจตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๙. อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา
๗๐. นวเม อกุสลมูลานีติ อกุสลานํ มูลานิ, อกุสลานิ จ ตานิ มูลานิ จาติ วา อกุสลมูลานิ. ยทปิ, ภิกฺขเว, โลโภติ โยปิ, ภิกฺขเว, โลโภ. ตทปิ ¶ อกุสลมูลนฺติ โสปิ อกุสลมูลํ. อกุสลมูลํ วา สนฺธาย อิธ ตมฺปีติ อตฺโถ วฏฺฏติเยว. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ นโย เนตพฺโพ. อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ สมฺปิณฺเฑติ ราสึ กโรติ. อสตา ทุกฺขํ อุปฺปาทยตีติ อภูเตน อวิชฺชมาเนน ยํกิฺจิ ตสฺส อภูตํ โทสํ วตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ. วเธน วาติอาทิ เยนากาเรน ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานิยาติ ธนชานิยา. ปพฺพาชนายาติ คามโต วา รฏฺโต วา ปพฺพาชนียกมฺเมน ¶ . พลวมฺหีติ อหมสฺมิ พลวา. พลตฺโถ อิติปีติ พเลน เม อตฺโถ อิติปิ, พเล วา ิโตมฺหีติปิ วทติ.
อกาลวาทีติ กาลสฺมึ น วทติ, อกาลสฺมึ วทติ นาม. อภูตวาทีติ ภูตํ น วทติ ¶ , อภูตํ วทติ นาม. อนตฺถวาทีติ อตฺถํ น วทติ, อนตฺถํ วทติ นาม. อธมฺมวาทีติ ธมฺมํ น วทติ, อธมฺมํ วทติ นาม. อวินยวาทีติ วินยํ น วทติ, อวินยํ วทติ นาม.
ตถา หายนฺติ ตถา หิ อยํ. น อาตปฺปํ กโรติ ตสฺส นิพฺเพนายาติ ตสฺส อภูตสฺส นิพฺเพนตฺถาย วีริยํ น กโรติ. อิติเปตํ อตจฺฉนฺติ อิมินาปิ การเณน เอตํ อตจฺฉํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ.
ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขาติ นิรยาทิกา ทุคฺคติ อิจฺฉิตพฺพา, สา อสฺส อวสฺสภาวินี, ตตฺถาเนน นิพฺพตฺติตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุทฺธสฺโตติ อุปริ ธํสิโต. ปริโยนทฺโธติ สมนฺตา โอนทฺโธ. อนยํ อาปชฺชตีติ อวุฑฺฒึ อาปชฺชติ. พฺยสนํ ¶ อาปชฺชตีติ วินาสํ อาปชฺชติ. คิมฺหกาลสฺมิฺหิ มาลุวาสิปาฏิกาย ผลิตาย พีชานิ อุปฺปติตฺวา วฏรุกฺขาทีนํ มูเล ปตนฺติ. ตตฺถ ยสฺส รุกฺขสฺส มูเล ตีสุ ทิสาสุ ตีณิ พีชานิ ปติตานิ โหนฺติ, ตสฺมึ รุกฺเข ปาวุสฺสเกน เมเฆน อภิวฏฺเ ตีหิ พีเชหิ ตโย องฺกุรา อุฏฺหิตฺวา ตํ รุกฺขํ อลฺลียนฺติ. ตโต ปฏฺาย รุกฺขเทวตาโย สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. เตปิ องฺกุรา วฑฺฒมานา ลตาภาวํ อาปชฺชิตฺวา ตํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา สพฺพวิฏปสาขาปสาขา สํสิพฺพิตฺวา ตํ รุกฺขํ อุปริ ปริโยนนฺธนฺติ. โส มาลุวาลตาหิ สํสิพฺพิโต ฆเนหิ มหนฺเตหิ มาลุวาปตฺเตหิ สฺฉนฺโน เทเว วา วสฺสนฺเต วาเต วา วายนฺเต ตตฺถ ตตฺถ ปลุชฺชิตฺวา ขาณุมตฺตเมว อวสิสฺสติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อฺตรรุกฺโข วิย หิ อยํ สตฺโต ทฏฺพฺโพ, ติสฺโส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ยาว รุกฺขสาขา อสมฺปตฺตา, ตาว ตาสํ ลตานํ อุชุกํ รุกฺขาโรหนํ วิย โลภาทีนํ ทฺวารํ อสมฺปตฺตกาโล, สาขานุสาเรน ¶ คมนกาโล วิย ทฺวารวเสน คมนกาโล, ปริโยนทฺธกาโล วิย โลภาทีหิ ปริยุฏฺิตกาโล, ขุทฺทกสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ทฺวารปฺปตฺตานํ กิเลสานํ วเสน ขุทฺทานุขุทฺทกา อาปตฺติโย อาปนฺนกาโล, มหาสาขานํ ปลุชฺชนกาโล วิย ครุกาปตฺตึ อาปนฺนกาโล, ลตานุสาเรน โอติณฺเณน อุทเกน มูเลสุ ตินฺเตสุ รุกฺขสฺส ภูมิยํ ปตนกาโล วิย กเมน จตฺตาริ ปาราชิกานิ อาปชฺชิตฺวา จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตนกาโล ทฏฺพฺโพ.
สุกฺกปกฺโข ¶ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลาทีสุ อฺตรรุกฺโข วิย อยํ สตฺโต ทฏฺพฺโพ, ติสฺโส มาลุวาลตา วิย ตีณิ อกุสลมูลานิ, ตาสํ อปฺปวตฺตึ กาตุํ อาคตปุริโส วิย โยคาวจโร, กุทฺทาโล วิย ปฺา, กุทฺทาลปิฏกํ วิย สทฺธาปิฏกํ, ปลิขนนขณิตฺติ วิย ¶ วิปสฺสนาปฺา, ขณิตฺติยา มูลจฺเฉทนํ วิย วิปสฺสนาาเณน อวิชฺชามูลสฺส ฉินฺทนกาโล, ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทนกาโล วิย ขนฺธวเสน ทิฏฺกาโล, ผาลนกาโล วิย มคฺคาเณน กิเลสานํ สมุคฺฆาติตกาโล, มสิกรณกาโล วิย ธรมานกปฺจกฺขนฺธกาโล, มหาวาเต โอปุณิตฺวา อปฺปวตฺตนกาโล วิย อุปาทินฺนกกฺขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธน นิรุชฺฌิตฺวา ปุนพฺภเว ปฏิสนฺธิอคฺคหณกาโล ทฏฺพฺโพติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา
๗๑. ทสเม ตทหุโปสเถติ ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ ตํ ทิวสํ อุโปสเถ, ปนฺนรสิกอุโปสถทิวเสติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมีติ อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย คนฺธมาลาทิหตฺถา อุปสงฺกมิ. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา นาม มชฺฌนฺโห, อิมสฺมึ ิเต มชฺฌนฺหิเก กาเลติ อตฺโถ. กุโต นุ ตฺวํ อาคจฺฉสีติ กึ กโรนฺตี วิจรสีติ ปุจฺฉติ. โคปาลกุโปสโถติ โคปาลเกหิ สทฺธึ อุปวสนอุโปสโถ. นิคณฺุโปสโถติ นิคณฺานํ อุปวสนอุโปสโถ. อริยุโปสโถติ อริยานํ อุปวสนอุโปสโถ. เสยฺยถาปิ วิสาเขติ ยถา นาม, วิสาเข. สายนฺหสมเย ¶ สามิกานํ คาโว นิยฺยาเตตฺวาติ โคปาลกา หิ เทวสิกเวตเนน วา ปฺจาหทสาหอทฺธมาสมาสฉมาสสํวจฺฉรปริจฺเฉเทน วา คาโว คเหตฺวา รกฺขนฺติ. อิธ ปน เทวสิกเวตเนน รกฺขนฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – นิยฺยาเตตฺวาติ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘เอตา โว คาโว’’ติ ทตฺวา. อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ภฺุชิตฺวา มฺเจ นิปนฺโน เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. อภิชฺฌาสหคเตนาติ ตณฺหาย สมฺปยุตฺเตน. เอวํ โข, วิสาเข, โคปาลกุโปสโถ โหตีติ อริยุโปสโถว อยํ, อปริสุทฺธวิตกฺกตาย ปน โคปาลกอุโปสถฏฺาเน ิโต. น มหปฺผโลติ วิปากผเลน น มหปฺผโล. น มหานิสํโสติ วิปากานิสํเสน น มหานิสํโส. น มหาชุติโกติ วิปาโกภาเสน น มหาโอภาโส. น มหาวิปฺผาโรติ วิปากวิปฺผารสฺส อมหนฺตตาย น มหาวิปฺผาโร.
สมณชาติกาติ ¶ สมณาเยว. ปรํ โยชนสตนฺติ โยชนสตํ อติกฺกมิตฺวา ตโต ปรํ. เตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิปาหีติ เตสุ โยชนสตโต ปรภาเคสุ ิเตสุ สตฺเตสุ ทณฺฑํ นิกฺขิป, นิกฺขิตฺตทณฺโฑ โหหิ. นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อหํ กตฺถจิ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนตสฺมึ น โหมิ. กิฺจนํ วุจฺจติ ปลิโพโธ, ปลิโพโธ น โหมีติ วุตฺตํ โหติ. น จ มม กฺวจนิ กตฺถจิ กิฺจนตตฺถีติ มมาปิ กฺวจนิ อนฺโต วา พหิทฺธา วา กตฺถจิ เอกปริกฺขาเรปิ กิฺจนตา นตฺถิ, ปลิโพโธ นตฺถิ, ฉินฺนปลิโพโธหมสฺมีติ วุตฺตํ โหติ. โภเคติ มฺจปียาคุภตฺตาทโย. อทินฺนํเยว ปริภฺุชตีติ ปุนทิวเส มฺเจ นิปชฺชนฺโตปิ ปีเ นิสีทนฺโตปิ ยาคุํ ปิวนฺโตปิ ภตฺตํ ภฺุชนฺโตปิ เต โภเค อทินฺเนเยว ปริภฺุชติ. น มหปฺผโลติ นิปฺผโล. พฺยฺชนเมว หิ เอตฺถ สาวเสสํ, อตฺโถ ปน นิรวเสโส. เอวํ อุปวุตฺถสฺส หิ อุโปสถสฺส อปฺปมตฺตกมฺปิ วิปากผลํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา นิปฺผโลตฺเวว เวทิตพฺโพ. เสสปเทสุปิ ¶ เอเสว นโย.
อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺสาติ อิทํ กสฺมา อาห? สํกิลิฏฺเน หิ จิตฺเตน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ น มหปฺผโล โหตีติ ทสฺสิตตฺตา วิสุทฺเธน จิตฺเตน อุปวุตฺถสฺส มหปฺผลตา อนฺุาตา โหติ. ตสฺมา เยน กมฺมฏฺาเนน จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ตํ จิตฺตวิโสธนกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตุํ อิทมาห ¶ . ตตฺถ อุปกฺกเมนาติ ปจฺจตฺตปุริสกาเรน, อุปาเยน วา. ตถาคตํ อนุสฺสรตีติ อฏฺหิ การเณหิ ตถาคตคุเณ อนุสฺสรติ. เอตฺถ หิ อิติปิ โส ภควาติ โส ภควา อิติปิ สีเลน, อิติปิ สมาธินาติ สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรา พุทฺธคุณา สงฺคหิตา. อรหนฺติอาทีหิ ปาฏิเยกฺกคุณาว นิทฺทิฏฺา. ตถาคตํ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทตีติ โลกิยโลกุตฺตเร ตถาคตคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺส จิตฺตุปฺปาโท ปสนฺโน โหติ.
จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสาติ ปฺจ นีวรณา. กกฺกนฺติ อามลกกกฺกํ. ตชฺชํ วายามนฺติ ตชฺชาติกํ ตทนุจฺฉวิกํ กกฺเกน มกฺขนฆํสนโธวนวายามํ. ปริโยทปนา โหตีติ สุทฺธภาวกรณํ โหติ. กิลิฏฺสฺมึ หิ สีเส ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมาโน น โสภติ, ปริสุทฺเธ ปน ตสฺมึ ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมาโน โสภติ, เอวเมว กิลิฏฺจิตฺเตน อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุโปสโถ อุปวุตฺโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺเธน ปน จิตฺเตน อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุปวุตฺโถ อุโปสโถ มหปฺผโล โหตีติ อธิปฺปาเยน เอวมาห. พฺรหฺมุโปสถํ อุปวสตีติ พฺรหฺมา วุจฺจติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตสฺส คุณานุสฺสรณวเสน อยํ อุโปสโถ พฺรหฺมุโปสโถ ¶ นาม, ตํ อุปวสติ. พฺรหฺมุนา สทฺธึ สํวสตีติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน สทฺธึ สํวสติ. พฺรหฺมฺจสฺส ¶ อารพฺภาติ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อารพฺภ.
ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ สหตนฺติกํ โลกุตฺตรธมฺมํ อนุสฺสรติ. โสตฺตินฺติ กุรุวินฺทกโสตฺตึ. กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺเณน หิ สทฺธึ ลาขํ โยเชตฺวา มณิเก กตฺวา วิชฺฌิตฺวา สุตฺเตน อาวุณิตฺวา ตํ มณิ กลาปปนฺตึ อุภโต คเหตฺวา ปิฏฺึ ฆํเสนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘โสตฺติฺจ ปฏิจฺจา’’ติ. จุณฺณนฺติ นฺหานียจุณฺณํ. ตชฺชํ วายามนฺติ อุพฺพฏฺฏนฆํสนโธวนาทิกํ ตทนุรูปวายามํ. ธมฺมุโปสถนฺติ สหตนฺติกํ นวโลกุตฺตรธมฺมํ อารพฺภ อุปวุตฺถตฺตา อยํ อุโปสโถ ‘‘ธมฺมุโปสโถ’’ติ วุตฺโต. อิธาปิ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพา.
สงฺฆํ อนุสฺสรตีติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อนุสฺสรติ. อุสฺมฺจ ปฏิจฺจาติ ทฺเว ตโย วาเร คาหาปิตํ อุสุมํ ปฏิจฺจ. อุสฺจาติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ ¶ . ขารนฺติ ฉาริกํ. โคมยนฺติ โคมุตฺตํ วา อชลณฺฑิกา วา. ปริโยทปนาติ อิธาปิ ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพา. สงฺฆุโปสถนฺติ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อารพฺภ อุปวุตฺถตฺตา อยํ อุโปสโถ ‘‘สงฺฆุโปสโถ’’ติ วุตฺโต.
สีลานีติ คหฏฺโ คหฏฺสีลานิ, ปพฺพชิโต ปพฺพชิตสีลานิ. อขณฺฑานีติอาทีนํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑) วิตฺถาริโตว. วาลณฺฑุปกนฺติ อสฺสวาเลหิ วา มกจิวาลาทีหิ วา กตํ อณฺฑุปกํ. ตชฺชํ ¶ วายามนฺติ เตเลน เตเมตฺวา มลสฺส ตินฺตภาวํ ตฺวา ฉาริกํ ปกฺขิปิตฺวา วาลณฺฑุปเกน ฆํสนวายาโม. อิธ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา เอวํ โยชนา กาตพฺพา กิลิฏฺสฺมิฺหิ อาทาเส มณฺฑิตปสาธิโตปิ อตฺตภาโว โอโลกิยมาโน น โสภติ, ปริสุทฺเธ โสภติ. เอวเมว กิลิฏฺเน จิตฺเตน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺเธน ปน มหปฺผโล โหตีติ. สีลุโปสถนฺติ อตฺตโน สีลานุสฺสรณวเสน อุปวุตฺโถ อุโปสโถ สีลุโปสโถ นาม. สีเลน สทฺธินฺติ อตฺตโน ปฺจสีลทสสีเลน สทฺธึ. สีลฺจสฺส อารพฺภาติ ปฺจสีลํ ทสสีลฺจ อารพฺภ.
เทวตา อนุสฺสรตีติ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุเณ อนุสฺสรติ. อุกฺกนฺติ ¶ อุทฺธนํ. โลณนฺติ โลณมตฺติกา. เครุกนฺติ เครุกจุณฺณํ. นาฬิกสณฺฑาสนฺติ ธมนนาฬิกฺเจว ปริวตฺตนสณฺฑาสฺจ. ตชฺชํ วายามนฺติ อุทฺธเน ปกฺขิปนธมนปริวตฺตนาทิกํ อนุรูปํ วายามํ. อิธ ปริโยทปนาติ ปเท ตฺวา เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา – สํกิลิฏฺสุวณฺณมเยน หิ ปสาธนภณฺเฑน ปสาธิตา นกฺขตฺตํ กีฬมานา น โสภนฺติ, ปริสุทฺธสุวณฺณมเยน โสภนฺติ. เอวเมว สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส อุโปสโถ น มหปฺผโล โหติ, ปริสุทฺธจิตฺตสฺส มหปฺผโล. เทวตุโปสถนฺติ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรนฺเตน อุปวุตฺถอุโปสโถ เทวตุโปสโถ นาม. เสสํ อิเมสุ พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ กมฺมฏฺาเนสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วุตฺตเมว.
ปาณาติปาตนฺติ ¶ ปาณวธํ. ปหายาติ ตํ ปาณาติปาตเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรตาติ ¶ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรตา วิรตาว. นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาติ ปรูปฆาตตฺถาย ทณฺฑํ วา สตฺถํ วา อาทาย อวตฺตนโต นิกฺขิตฺตทณฺฑา เจว นิกฺขิตฺตสตฺถา จาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา ทณฺฑํ สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณํ สตฺตานํ วิหึสนภาวโต สตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขู กตฺตรทณฺฑํ วา ทนฺตกฏฺวาสึ วา ปิปฺผลกํ วา คเหตฺวา วิจรนฺติ, น ตํ ปรูปฆาตตฺถาย. ตสฺมา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ลชฺชีติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคตา. ทยาปนฺนาติ ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺนา. สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปกา, ตาย เอว ทยาปนฺนตาย สพฺเพสํ ปาณภูตานํ หิตจิตฺตกาติ อตฺโถ. อหมฺปชฺชาติ อหมฺปิ อชฺช. อิมินาปิ องฺเคนาติ อิมินาปิ คุณงฺเคน. อรหตํ อนุกโรมีติ ยถา ปุรโต คจฺฉนฺตํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต อนุคจฺฉติ นาม, เอวํ อหมฺปิ อรหนฺเตหิ ปมํ กตํ อิมํ คุณํ ปจฺฉา กโรนฺโต เตสํ อรหนฺตานํ อนุกโรมิ. อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตีติ เอวํ กโรนฺเตน มยา อรหตฺจ อนุกตํ ภวิสฺสติ, อุโปสโถ จ อุปวุตฺโถ ภวิสฺสติ.
อทินฺนาทานนฺติ อทินฺนสฺส ปรปริคฺคหิตสฺส อาทานํ, เถยฺยํ โจริกนฺติ อตฺโถ. ทินฺนเมว อาทิยนฺตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขนฺตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ เถโน, น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน, อเถนํ ¶ สุจิภูตํ อตฺตภาวํ กตฺวา วิหรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อพฺรหฺมจริยนฺติ ¶ อเสฏฺจริยํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารํ จรนฺตีติ พฺรหฺมจารี. อาราจารีติ อพฺรหฺมจริยโต ทูราจารี. เมถุนาติ ราคปริยุฏฺานวเสน สทิสตฺตา เมถุนกาติ ลทฺธโวหาเรหิ ปฏิเสวิตพฺพโต เมถุโนติ สงฺขํ คตา อสทฺธมฺมา. คามธมฺมาติ คามวาสีนํ ธมฺมา.
มุสาวาทาติ อลิกวจนา ตุจฺฉวจนา. สจฺจํ วทนฺตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สํทหนฺติ ฆฏฺเฏนฺตีติ สจฺจสนฺธา, น อนฺตรนฺตรา มุสา วทนฺตีติ อตฺโถ ¶ . โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสาวาทํ วทติ, กทาจิ สจฺจํ. ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏียติ. ตสฺมา น โส สจฺจสนฺโธ. อิเม ปน น ตาทิสา, ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สํทหนฺติเยวาติ สจฺจสนฺธา. เถตาติ ถิรา, ิตกถาติ อตฺโถ. เอโก ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ น ิตกโถ โหติ. เอโก ปาสาณเลขา วิย อินฺทขีโล วิย จ ิตกโถ โหติ, อสินา สีสํ ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ. อยํ วุจฺจติ เถโต. ปจฺจยิกาติ ปตฺติยายิตพฺพกา, สทฺธายิกาติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกน นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมวํ อิท’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทกา ¶ โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทนฺตีติ อตฺโถ.
สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานนฺติ สุราเมรยมชฺชานํ ปานเจตนาสงฺขาตํ ปมาทการณํ. เอกภตฺติกาติ ปาตราสภตฺตํ สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ, อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภฺุชมานาปิ เอกภตฺติกาว โหนฺติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เอกภตฺติกา’’ติ. รตฺติโภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรตาติ รตฺตูปรตา. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรตา วิกาลโภชนา.
สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณิภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ, อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจฺจ คีตฺจ วาทิตฺจ, อนฺตมโส มยูรนจฺจนาทิวเสนาปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตํ ทสฺสนฺจาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนํ. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ¶ ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ปยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ, น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ.
มาลาทีสุ ¶ มาลาติ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺโต ธาเรติ นาม, อูนฏฺานํ ปูเรนฺโต มณฺเฑติ นาม, คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺโต วิภูเสติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ, ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ. อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ, มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรณํ, ตโต ปฏิวิรตาติ อตฺโถ.
กีวมหปฺผโลติ กิตฺตกํ มหปฺผโล. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปหูตรตฺตรตนานนฺติ ปหูเตน รตฺตสงฺขาเตน รตเนน สมนฺนาคตานํ, สกลชมฺพุทีปตลํ เภริตลสทิสํ ¶ กตฺวา กฏิปฺปมาเณหิ สตฺตหิ รตเนหิ ปูริตานนฺติ อตฺโถ. อิสฺสริยาธิปจฺจนฺติ อิสฺสรภาเวน วา อิสฺสริยเมว วา อาธิปจฺจํ, น เอตฺถ สาหสิกกมฺมนฺติปิ อิสฺสริยาธิปจฺจํ. รชฺชํ กาเรยฺยาติ เอวรูปํ จกฺกวตฺติรชฺชํ กาเรยฺย. องฺคานนฺติอาทีนิ เตสํ ชนปทานํ นามานิ. กลํ นาคฺฆติ โสฬสินฺติ เอกํ อโหรตฺตํ อุปวุตฺถอุโปสเถ ปฺุํ โสฬสภาเค กตฺวา ตโต เอกํ ภาคฺจ น อคฺฆติ. เอกรตฺตุโปสถสฺส โสฬสิยา กลาย ยํ วิปากผลํ, ตํเยว ตโต พหุตรํ โหตีติ อตฺโถ. กปณนฺติ ปริตฺตกํ.
อพฺรหฺมจริยาติ อเสฏฺจริยโต. รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนนฺติ อุโปสถํ อุปวสนฺโต รตฺติโภชนฺจ ทิวาวิกาลโภชนฺจ น ภฺุเชยฺย. มฺเจ ฉมายํว สเยถ สนฺถเตติ มุฏฺิหตฺถปาทเก กปฺปิยมฺเจ วา สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยํ วา ติณปณฺณปลาลาทีนิ สนฺถริตฺวา กเต สนฺถเต วา สเยถาติ อตฺโถ. เอตํ หิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถนฺติ เอวํ ปาณาติปาตาทีนิ อสมาจรนฺเตน อุปวุตฺถํ อุโปสถํ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา อฏฺงฺคิกนฺติ วทนฺติ. ตํ ปน อุปวสนฺเตน ‘‘สฺเว อุโปสถิโก ภวิสฺสามี’’ติ อชฺเชว ‘‘อิทฺจ อิทฺจ กเรยฺยาถา’’ติ อาหาราทิวิธานํ วิจาเรตพฺพํ. อุโปสถทิวเส ปาโตว ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ทสสีลลกฺขณฺุโน อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา สนฺติเก วาจํ ภินฺทิตฺวา ¶ อุโปสถงฺคานิ สมาทาตพฺพานิ. ปาฬึ อชานนฺเตน ปน ‘‘พุทฺธปฺตฺตํ อุโปสถํ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. อฺํ อลภนฺเตน อตฺตนาปิ อธิฏฺาตพฺพํ, วจีเภโท ปน กาตพฺโพเยว ¶ . อุโปสถํ อุปวสนฺเตน ปรูปโรธปฏิสํยุตฺตา กมฺมนฺตา น วิจาเรตพฺพา, อายวยคณนํ ¶ กโรนฺเตน น วีตินาเมตพฺพํ, เคเห ปน อาหารํ ลภิตฺวา นิจฺจภตฺติกภิกฺขุนา วิย ปริภฺุชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺโม วา โสตพฺโพ, อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ อฺตรํ วา มนสิกาตพฺพํ.
สุทสฺสนาติ สุนฺทรทสฺสนา. โอภาสยนฺติ โอภาสยมานา. อนุปริยนฺตีติ วิจรนฺติ. ยาวตาติ ยตฺตกํ านํ. อนฺตลิกฺขคาติ อากาสงฺคมา. ปภาสนฺตีติ โชตนฺติ ปภา มฺุจนฺติ. ทิสาวิโรจนาติ สพฺพทิสาสุ วิโรจมานา. อถ วา ปภาสนฺตีติ ทิสาหิ ทิสา โอภาสนฺติ. วิโรจนาติ วิโรจมานา. เวฬุริยนฺติ มณีติ วตฺวาปิ อิมินา ชาติมณิภาวํ ทสฺเสติ. เอกวสฺสิกเวฬุวณฺณฺหิ เวฬุริยํ ชาติมณิ นาม. ตํ สนฺธาเยวมาห. ภทฺทกนฺติ ลทฺธกํ. สิงฺคีสุวณฺณนฺติ โคสิงฺคสทิสํ หุตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา เอวํ นามกํ สุวณฺณํ. กฺจนนฺติ ปพฺพเตยฺยํ ปพฺพเต ชาตสุวณฺณํ. ชาตรูปนฺติ สตฺถุวณฺณสุวณฺณํ. หฏกนฺติ กิปิลฺลิกาหิ นีหฏสุวณฺณํ. นานุภวนฺตีติ น ปาปุณนฺติ. จนฺทปฺปภาติ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตํ, จนฺทปฺปภายาติ อตฺโถ. อุปวสฺสุโปสถนฺติ อุปวสิตฺวา อุโปสถํ. สุขุทฺรยานีติ สุขผลานิ สุขเวทนียานิ. สคฺคมุเปนฺติ านนฺติ สคฺคสงฺขาตํ านํ อุปคจฺฉนฺติ, เกนจิ อนินฺทิตา หุตฺวา เทวโลเก อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.
มหาวคฺโค ทุติโย.
(๘) ๓. อานนฺทวคฺโค
๑. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา
๗๒. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม ฉนฺโนติ เอวํนามโก ฉนฺนปริพฺพาชโก. ตุมฺเหปิ, อาวุโสติ, อาวุโส, ยถา มยํ ราคาทีนํ ปหานํ ปฺาเปม, กึ เอวํ ตุมฺเหปิ ปฺาเปถาติ ปุจฺฉติ. ตโต เถโร ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก อมฺเห ราคาทีนํ ปหานํ ปฺาเปมาติ วทติ, นตฺถิ ปเนตํ ¶ พาหิรสมเย’’ติ ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต มยํ โข, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ โขติ อวธารณตฺเถ นิปาโต, มยเมว ปฺาเปมาติ อตฺโถ. ตโต ปริพฺพาชโก จินฺเตสิ ‘‘อยํ เถโร พาหิรสมยํ ลฺุจิตฺวา หรนฺโต ‘มยเมวา’ติ อาห. กึ นุ โข อาทีนวํ ทิสฺวา เอเต เอเตสํ ปหานํ ปฺาเปนฺตี’’ติ. อถ เถรํ ปุจฺฉนฺโต กึ ปน ตุมฺเหติอาทิมาห. เถโร ตสฺส พฺยากโรนฺโต รตฺโต โขติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตตฺถนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ โลกิยโลกุตฺตรํ อตฺตโน อตฺถํ. ปรตฺถอุภยตฺเถสุปิ เอเสว นโย.
อนฺธกรโณติอาทีสุ ยสฺส ราโค อุปฺปชฺชติ, ตํ ยถาภูตทสฺสนนิวารเณน อนฺธํ กโรตีติ อนฺธกรโณ. ปฺาจกฺขุํ น กโรตีติ อจกฺขุกรโณ. าณํ น กโรตีติ อฺาณกรโณ. กมฺมสฺสกตปฺา ฌานปฺา วิปสฺสนาปฺาติ อิมา ติสฺโส ปฺา อปฺปวตฺติกรเณน นิโรเธตีติ ปฺานิโรธิโก. อนิฏฺผลทายกตฺตา ทุกฺขสงฺขาตสฺส วิฆาตสฺเสว ปกฺเข วตฺตตีติ วิฆาตปกฺขิโก. กิเลสนิพฺพานํ น สํวตฺเตตีติ อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. อลฺจ ปนาวุโส อานนฺท, อปฺปมาทายาติ, อาวุโส อานนฺท, สเจ เอวรูปา ปฏิปทา อตฺถิ, อลํ ตุมฺหากํ อปฺปมาทาย ยุตฺตํ อนุจฺฉวิกํ, อปฺปมาทํ กโรถ, อาวุโสติ เถรสฺส วจนํ อนุโมทิตฺวา ปกฺกามิ. อิมสฺมึ สุตฺเต อริยมคฺโค โลกุตฺตรมิสฺสโก กถิโต. เสสเมตฺถ ¶ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๒. อาชีวกสุตฺตวณฺณนา
๗๓. ทุติเย ¶ เตน หิ คหปตีติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อิธ อาคจฺฉนฺโต น อฺาตุกาโม หุตฺวา อาคมิ, ปริคฺคณฺหนตฺถํ ปน อาคโต. อิมินา ปุจฺฉิตปฺหํ อิมินาว กถาเปสฺสามี’’ติ. อิติ ตํเยว กถํ กถาเปตุกาโม เตน หีติอาทิมาห. ตตฺถ เตน หีติ การณาปเทโส. ยสฺมา ตฺวํ เอวํ ปุจฺฉสิ, ตสฺมา ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉามีติ. เกสํ โนติ กตเมสํ นุ. สธมฺมุกฺกํสนาติ อตฺตโน ลทฺธิยา อุกฺขิปิตฺวา ปนา. ปรธมฺมาปสาทนาติ ปเรสํ ลทฺธิยา ฆฏฺฏนา วมฺภนา อวกฺขิปนา. อายตเนว ธมฺมเทสนาติ การณสฺมึเยว ธมฺมเทสนา. อตฺโถ จ วุตฺโตติ มยา ปุจฺฉิตปฺหาย อตฺโถ จ ปกาสิโต ¶ . อตฺตา จ อนุปนีโตติ อมฺเห เอวรูปาติ เอวํ อตฺตา จ น อุปนีโต. นุปนีโตติปิ ปาโ.
๓. มหานามสกฺกสุตฺตวณฺณนา
๗๔. ตติเย คิลานา วุฏฺิโตติ คิลาโน หุตฺวา วุฏฺิโต. เคลฺาติ คิลานภาวโต. อุปสงฺกมีติ ภุตฺตปาตราโส มาลาคนฺธาทีนิ อาทาย มหาปริวารปริวุโต อุปสงฺกมิ. พาหายํ คเหตฺวาติ น พาหายํ คเหตฺวา อากฑฺฒิ, นิสินฺนาสนโต วุฏฺาย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทกฺขิณพาหายํ องฺคุฏฺเกน สฺํ ทตฺวา เอกมนฺตํ อปเนสีติ เวทิตพฺโพ. อถสฺส ‘‘เสขมฺปิ โข, มหานาม, สีล’’นฺติอาทินา นเยน สตฺตนฺนํ เสขานํ สีลฺจ สมาธิฺจ ปฺฺจ กเถตฺวา อุปริ อรหตฺตผลวเสน อเสขา สีลสมาธิปฺาโย กเถนฺโต – ‘‘เสขสมาธิโต เสขํ วิปสฺสนาาณํ อเสขฺจ ผลาณํ ปจฺฉา, เสขวิปสฺสนาาณโต จ อเสขผลสมาธิ ปจฺฉา อุปฺปชฺชตี’’ติ ทีเปสิ. ยานิ ปน สมฺปยุตฺตานิ สมาธิาณานิ, เตสํ อปจฺฉา อปุเร อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพาติ.
๔. นิคณฺสุตฺตวณฺณนา
๗๕. จตุตฺเถ ¶ กูฏาคารสาลายนฺติ ทฺเว กณฺณิกา คเหตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กตาย คนฺธกุฏิยา. อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาตีติ อปฺปมตฺตกมฺปิ อเสเสตฺวา สพฺพํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ. สตตํ สมิตนฺติ สพฺพกาลํ นิรนฺตรํ. าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ ¶ มยฺหํ อุปฏฺิตเมวาติ ทสฺเสติ. ปุราณานํ กมฺมานนฺติ อายูหิตกมฺมานํ. ตปสา พฺยนฺตีภาวนฺติ ทุกฺกรตเปน วิคตนฺตกรณํ. นวานํ กมฺมานนฺติ อิทานิ อายูหิตพฺพกมฺมานํ. อกรณาติ อนายูหเนน. เสตุฆาตนฺติ ปทฆาตํ ปจฺจยฆาตํ กเถติ. กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโยติ กมฺมวฏฺฏกฺขเยน ทุกฺขกฺขโย. ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโยติ ทุกฺขวฏฺฏกฺขเยน เวทนากฺขโย. ทุกฺขวฏฺฏสฺมิฺหิ ขีเณ เวทนาวฏฺฏมฺปิ ขีณเมว โหติ. เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ เวทนากฺขเยน ปน สกลวฏฺฏทุกฺขํ นิชฺชิณฺณเมว ภวิสฺสติ. สนฺทิฏฺิกายาติ สามํ ปสฺสิตพฺพาย ปจฺจกฺขาย. นิชฺชราย วิสุทฺธิยาติ ¶ กิเลสชีรณกปฏิปทาย กิเลเส วา นิชฺชีรณโต นิชฺชราย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา. สมติกฺกโม โหตีติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อติกฺกโม โหติ. อิธ, ภนฺเต, ภควา กิมาหาติ, ภนฺเต, ภควา อิมาย ปฏิปตฺติยา กิมาห, กึ เอตํเยว กิเลสนิชฺชีรณกปฏิปทํ ปฺเปติ, อุทาหุ อฺนฺติ ปุจฺฉติ.
ชานตาติ อนาวรณาเณน ชานนฺเตน. ปสฺสตาติ ¶ สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสนฺเตน. วิสุทฺธิยาติ วิสุทฺธิสมฺปาปนตฺถาย. สมติกฺกมายาติ สมติกฺกมนตฺถาย. อตฺถงฺคมายาติ อตฺถํ คมนตฺถาย. ายสฺส อธิคมายาติ สห วิปสฺสนาย มคฺคสฺส อธิคมนตฺถาย. นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายาติ อปจฺจยนิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณตฺถาย. นวฺจ กมฺมํ น กโรตีติ นวํ กมฺมํ นายูหติ. ปุราณฺจ กมฺมนฺติ ปุพฺเพ อายูหิตกมฺมํ. ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตี กโรตีติ ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา วิคตนฺตํ กโรติ, วิปากผสฺสํ ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ตํ กมฺมํ เขเปตีติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิกาติ สามํ ปสฺสิตพฺพา. อกาลิกาติ น กาลนฺตเร กิจฺจการิกา. เอหิปสฺสิกาติ ‘‘เอหิ ปสฺสา’’ติ เอวํ ทสฺเสตุํ ยุตฺตา. โอปเนยฺยิกาติ อุปนเย ยุตฺตา อลฺลียิตพฺพยุตฺตา. ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหีติ ปณฺฑิเตหิ อตฺตโน อตฺตโน สนฺตาเนเยว ชานิตพฺพา, พาเลหิ ปน ทุชฺชานา. อิติ สีลวเสน ทฺเว มคฺคา, ทฺเว จ ผลานิ กถิตานิ. โสตาปนฺนสกทาคามิโน หิ สีเลสุ ปริปูรการิโนติ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิกาย ปน สมาธิสมฺปทาย ตโย มคฺคา, ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ. อนาคามี อริยสาวโก หิ สมาธิมฺหิ ปริปูรการีติ วุตฺโต. อาสวานํ ขยาติอาทีหิ อรหตฺตผลํ กถิตํ. เกจิ ปน สีลสมาธโยปิ อรหตฺตผลสมฺปยุตฺตาว อิธ อธิปฺเปตา. เอเกกสฺส ปน วเสน ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วิสุํ วิสุํ ตนฺติ อาโรปิตาติ.
๕. นิเวสกสุตฺตวณฺณนา
๗๖. ปฺจเม ¶ อมจฺจาติ สุหชฺชา. าตีติ สสฺสุสสุรปกฺขิกา. สาโลหิตาติ สมานโลหิตา ภาติภคินิอาทโย. อเวจฺจปฺปสาเทติ คุเณ อเวจฺจ ชานิตฺวา อุปฺปนฺเน อจลปฺปสาเท. อฺถตฺตนฺติ ภาวฺถตฺตํ ¶ . ปถวีธาตุยาติอาทีสุ วีสติยา โกฏฺาเสสุ ถทฺธาการภูตาย ¶ ปถวีธาตุยา, ทฺวาทสสุ โกฏฺาเสสุ ยูสคตาย อาพนฺธนภูตาย อาโปธาตุยา, จตูสุ โกฏฺาเสสุ ปริปาจนภูตาย เตโชธาตุยา, ฉสุ โกฏฺาเสสุ วิตฺถมฺภนภูตาย วาโยธาตุยา สิยา อฺถตฺตํ. น ตฺเววาติ อิเมสํ หิ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อฺมฺภาวูปคมเนน สิยา อฺถตฺตํ, อริยสาวกสฺส ปน น ตฺเวว สิยาติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ อฺถตฺตนฺติ ปสาทฺถตฺตฺจ คติอฺถตฺตฺจ. ตฺหิ ตสฺส น โหติ, ภาวฺถตฺตํ ปน โหติ. อริยสาวโก หิ มนุสฺโส หุตฺวา เทโวปิ โหติ พฺรหฺมาปิ. ปสาโท ปนสฺส ภวนฺตเรปิ น วิคจฺฉติ, น จ อปายคติสงฺขาตํ คติอฺถตฺตํ ปาปุณาติ. สตฺถาปิ ตเทว ทสฺเสนฺโต ตตฺริทํ อฺถตฺตนฺติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๖. ปมภวสุตฺตวณฺณนา
๗๗. ฉฏฺเ กามธาตุเวปกฺกนฺติ กามธาตุยา วิปจฺจนกํ. กามภโวติ กามธาตุยํ อุปปตฺติภโว. กมฺมํ เขตฺตนฺติ กุสลากุสลกมฺมํ วิรุหนฏฺานฏฺเน เขตฺตํ. วิฺาณํ พีชนฺติ สหชาตํ อภิสงฺขารวิฺาณํ วิรุหนฏฺเน พีชํ. ตณฺหา สฺเนโหติ ปคฺคณฺหนานุพฺรูหนวเสน ตณฺหา อุทกํ นาม. อวิชฺชานีวรณานนฺติ อวิชฺชาย อาวริตานํ. ตณฺหาสํโยชนานนฺติ ตณฺหาพนฺธเนน พทฺธานํ. หีนาย ธาตุยาติ กามธาตุยา. วิฺาณํ ปติฏฺิตนฺติ อภิสงฺขารวิฺาณํ ปติฏฺิตํ. มชฺฌิมาย ธาตุยาติ รูปธาตุยา. ปณีตาย ธาตุยาติ อรูปธาตุยา. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๗. ทุติยภวสุตฺตวณฺณนา
๗๘. สตฺตเม เจตนาติ กมฺมเจตนา. ปตฺถนาปิ กมฺมปตฺถนาว. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.
๘. สีลพฺพตสุตฺตวณฺณนา
๗๙. อฏฺเม ¶ ¶ สีลพฺพตนฺติ สีลฺเจว วตฺจ. ชีวิตนฺติ ทุกฺกรการิกานุโยโค. พฺรหฺมจริยนฺติ พฺรหฺมจริยวาโส. อุปฏฺานสารนฺติ อุปฏฺาเนน สารํ ¶ , ‘‘อิทํ วรํ อิทํ นิฏฺา’’ติ เอวํ อุปฏฺิตนฺติ อตฺโถ. สผลนฺติ สอุทฺรยํ สวฑฺฒิกํ โหตีติ ปุจฺฉติ. น ขฺเวตฺถ, ภนฺเต, เอกํเสนาติ, ภนฺเต, น โข เอตฺถ เอกํเสน พฺยากาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุปฏฺานสารํ เสวโตติ อิทํ สารํ วรํ นิฏฺาติ เอวํ อุปฏฺิตํ เสวมานสฺส. อผลนฺติ อิฏฺผเลน อผลํ. เอตฺตาวตา กมฺมวาทิกิริยวาทีนํ ปพฺพชฺชํ เปตฺวา เสโส สพฺโพปิ พาหิรกสมโย คหิโต โหติ. สผลนฺติ อิฏฺผเลน สผลํ สอุทฺรยํ. เอตฺตาวตา อิมํ สาสนํ อาทึ กตฺวา สพฺพาปิ กมฺมวาทิกิริยวาทีนํ ปพฺพชฺชา คหิตา. น จ ปนสฺส สุลภรูโป สมสโม ปฺายาติ เอวํ เสกฺขภูมิยํ ตฺวา ปฺหํ กเถนฺโต อสฺส อานนฺทสฺส ปฺาย สมสโม น สุลโภติ ทสฺเสติ. อิมสฺมึ สุตฺเต เสกฺขภูมิ นาม กถิตาติ.
๙. คนฺธชาตสุตฺตวณฺณนา
๘๐. นวเม เอตทโวจาติ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ทสพลสฺส วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน ทิวาวิหารฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โลเก มูลคนฺโธ นาม อตฺถิ, สารคนฺโธ นาม อตฺถิ, ปุปฺผคนฺโธ นาม อตฺถิ. อิเม ปน ตโยปิ คนฺธา อนุวาตํเยว คจฺฉนฺติ, น ปฏิวาตํ. อตฺถิ นุ โข กิฺจิ, ยสฺส ปฏิวาตมฺปิ คนฺโธ คจฺฉตี’’ติ จินฺเตตฺวา อฏฺนฺนํ วรานํ คหณกาเลเยว กงฺขุปฺปตฺติสมเย อุปสงฺกมนวรสฺส คหิตตฺตา ตกฺขณํเยว ทิวาฏฺานโต วุฏฺาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน อุปฺปนฺนาย กงฺขาย วิโนทนตฺถํ เอตํ ‘‘ตีณิมานิ, ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ คนฺธชาตานีติ คนฺธชาติโย. มูลคนฺโธติ ¶ มูลวตฺถุโก คนฺโธ, คนฺธสมฺปนฺนํ วา มูลเมว มูลคนฺโธ. ตสฺส หิ คนฺโธ อนุวาตํ คจฺฉติ. คนฺธสฺส ปน คนฺโธ นาม นตฺถิ. สารคนฺธปุปฺผคนฺเธสุปิ เอเสว นโย. อตฺถานนฺท, กิฺจิ คนฺธชาตนฺติ เอตฺถ สรณคมนาทโย คุณวณฺณภาสนวเสน ทิสาคามิตาย คนฺธสทิสตฺตา คนฺธา, เตสํ วตฺถุภูโต ปุคฺคโล คนฺธชาตํ นาม. คนฺโธ คจฺฉตีติ วณฺณภาสนวเสน คจฺฉติ. สีลวาติ ปฺจสีเลน วา ทสสีเลน วา สีลวา. กลฺยาณธมฺโมติ เตเนว สีลธมฺเมน กลฺยาณธมฺโม สุนฺทรธมฺโม. วิคตมลมจฺเฉเรนาติอาทีนํ ¶ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๖๐) วิตฺถาริโตว. ทิสาสูติ จตูสุ ทิสาสุ จตูสุ อนุทิสาสุ ¶ . สมณพฺราหฺมณาติ สมิตปาปพาหิตปาปา สมณพฺราหฺมณา.
น ปุปฺผคนฺโธ ปฏิวาตเมตีติ วสฺสิกปุปฺผาทีนํ คนฺโธ ปฏิวาตํ น คจฺฉติ. น จนฺทนํ ตครมลฺลิกา วาติ จนฺทนตครมลฺลิกานมฺปิ คนฺโธ ปฏิวาตํ น คจฺฉตีติ อตฺโถ. เทวโลเกปิ ผุฏสุมนา นาม โหติ, ตสฺสา ปุปฺผิตทิวเส คนฺโธ โยชนสตํ อชฺโฌตฺถรติ. โสปิ ปฏิวาตํ วิทตฺถิมตฺตมฺปิ รตนมตฺตมฺปิ คนฺตุํ น สกฺโกตีติ วทนฺติ. สตฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมตีติ สตฺจ ปณฺฑิตานํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธปุตฺตานํ สีลาทิคุณคนฺโธ ปฏิวาตํ คจฺฉติ. สพฺพา ทิสา สปฺปุริโส ปวายตีติ สปฺปุริโส ปณฺฑิโต สีลาทิคุณคนฺเธน สพฺพา ทิสา ปวายติ, สพฺพา ทิสา คนฺเธน อวตฺถรตีติ อตฺโถ.
๑๐. จูฬนิกาสุตฺตวณฺณนา
๘๑. ทสมสฺส ทุวิโธ นิกฺเขโป อตฺถุปฺปตฺติโกปิ ปุจฺฉาวสิโกปิ. กตรอตฺถุปฺปตฺติยํ กสฺส ปุจฺฉาย กถิตนฺติ เจ? อรุณวติสุตฺตนฺตอตฺถุปฺปตฺติยํ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕ อาทโย) อานนฺทตฺเถรสฺส ปุจฺฉาย กถิตํ. อรุณวติสุตฺตนฺโต เกน กถิโตติ? ทฺวีหิ ¶ พุทฺเธหิ กถิโต สิขินา จ ภควตา อมฺหากฺจ สตฺถารา. อิมสฺมา หิ กปฺปา เอกตึสกปฺปมตฺถเก อรุณวตินคเร อรุณวโต รฺโ ปภาวติยา นาม มเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา ปริปกฺเก าเณ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา สิขี ภควา โพธิมณฺเฑ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อรุณวตึ นิสฺสาย วิหรนฺโต เอกทิวสํ ปาโตว สรีรปฺปฏิชคฺคนํ กตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ‘‘อรุณวตึ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา วิหารทฺวารโกฏฺกสมีเป ิโต อภิภุํ นาม อคฺคสาวกํ อามนฺเตสิ – ‘‘อติปฺปโค โข, ภิกฺขุ, อรุณวตึ ปิณฺฑาย ปวิสิตุํ, เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ยถาห –
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อภิภุํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘อายาม, พฺราหฺมณ, เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก ¶ เตนุปสงฺกมิสฺสาม, น ตาว ภตฺตกาโล ภวิสฺสตี’ติ. ‘เอวํ, ภนฺเต’ติ โข, ภิกฺขเว, อภิภู ภิกฺขุ สิขิสฺส ¶ ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อภิภู จ ภิกฺขุ เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก เตนุปสงฺกมึสู’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕).
ตตฺถ มหาพฺรหฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา อตฺตมโน ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา พฺรหฺมาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ, เถรสฺสาปิ อนุจฺฉวิกํ อาสนํ ปฺาปยึสุ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน, เถโรปิ อตฺตโน ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. มหาพฺรหฺมาปิ ทสพลํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อภิภุํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปฏิภาตุ ตํ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมุโน จ พฺรหฺมปริสาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชานฺจ ธมฺมีกถาติ. ‘เอวํ, ภนฺเต’ติ โข, ภิกฺขเว, อภิภู ภิกฺขุ สิขิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา พฺรหฺมุโน จ พฺรหฺมปริสาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชานฺจ ธมฺมึ กถํ กเถสิ. เถเร ธมฺมํ กเถนฺเต พฺรหฺมคณา อุชฺฌายึสุ ¶ – ‘‘จิรสฺสฺจ มยํ สตฺถุ พฺรหฺมโลกาคมนํ ลภิมฺห, อยฺจ ภิกฺขุ เปตฺวา สตฺถารํ สยํ ธมฺมกถํ อารภี’’ติ.
สตฺถา เตสํ อนตฺตมนภาวํ ตฺวา อภิภุํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อุชฺฌายนฺติ โข เต, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมา จ พฺรหฺมปริสา จ พฺรหฺมปาริสชฺชา จ. เตน หิ ตฺวํ – พฺราหฺมณ, ภิยฺโยโสมตฺตาย สํเวเชหี’’ติ. เถโร สตฺถุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ กตฺวา สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปนฺโต ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) คาถาทฺวยํ อภาสิ. กึ ปน กตฺวา เถโร สหสฺสิโลกธาตุํ วิฺาเปสีติ? นีลกสิณํ ตาว สมาปชฺชิตฺวา สพฺพตฺถ อนฺธการํ ผริ, ตโต ‘‘กิมิทํ อนฺธการ’’นฺติ สตฺตานํ อาโภเค อุปฺปนฺเน อาโลกํ ทสฺเสสิ. ‘‘กึ อาโลโก อย’’นฺติ วิจินนฺตานํ อตฺตานํ ทสฺเสสิ, สหสฺสจกฺกวาเฬ เทวมนุสฺสา อฺชลึ ปคฺคณฺหิตฺวา ปคฺคณฺหิตฺวา เถรํเยว นมสฺสมานา อฏฺํสุ. เถโร ‘‘มหาชโน มยฺหํ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สรํ สุณาตู’’ติ อิมา ¶ คาถา อภาสิ. สพฺเพ โอสฏาย ปริสาย มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส วิย สทฺทํ อสฺโสสุํ. อตฺโถปิ เนสํ ปากโฏ อโหสิ.
อถ โข ภควา สทฺธึ เถเรน อรุณวตึ ปจฺจาคนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ¶ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ – ‘‘อสฺสุตฺถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อภิภุสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมโลเก ิตสฺส คาถาโย ภาสมานสฺสา’’ติ. เต ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ ปฏิชานิตฺวา สุตภาวํ อาวิกโรนฺตา ตเทว คาถาทฺวยํ อุทาหรึสุ. สตฺถา ‘‘สาธุ สาธู’’ติ สาธุการํ ทตฺวา เทสนํ นิฏฺเปสิ. เอวํ ตาว อิทํ สุตฺตํ อิโต เอกตึสกปฺปมตฺถเก สิขินา ภควตา กถิตํ.
อมฺหากํ ปน ภควา สพฺพฺุตํ ปตฺโต ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย เชตวเน วิหรนฺโต เชฏฺมูลมาสปุณฺณมทิวเส ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา อิมํ อรุณวติสุตฺตํ ¶ ปฏฺเปสิ. อานนฺทตฺเถโร พีชนึ คเหตฺวา พีชยมาโน ิตโกว อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา เอกพฺยฺชนมฺปิ อหาเปตฺวา สกลสุตฺตํ อุคฺคณฺหิ. โส ปุนทิวเส ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ทสพลสฺส วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน ทิวาวิหารฏฺานํ คนฺตฺวา สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิเกสุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปกฺกนฺเตสุ หิยฺโย กถิตํ อรุณวติสุตฺตํ อาวชฺเชนฺโต นิสีทิ. อถสฺส สพฺพํ สุตฺตํ วิภูตํ อุปฏฺาสิ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สิขิสฺส ภควโต อคฺคสาวโก พฺรหฺมโลเก ตฺวา จกฺกวาฬสหสฺเส อนฺธการํ วิธเมตฺวา สรีโรภาสํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน สทฺทํ สาเวนฺโต ธมฺมกถํ กเถสีติ หิยฺโย สตฺถารา กถิตํ, สาวกสฺส ตาว วิสโย เอวรูโป, ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ กิตฺตกํ านํ สเรน วิฺาเปยฺยา’’ติ. โส เอวํ อุปฺปนฺนาย วิมติยา วิโนทนตฺถํ ตงฺขเณเยว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข อายสฺมา อานนฺโทติ วุตฺตํ.
ตตฺถ สมฺมุขาติ สมฺมุขีภูเตน มยา เอตํ สุตํ, น อนุสฺสเวน, น ทูตปรมฺปรายาติ อิมินา อธิปฺปาเยน เอวมาห. กีวตกํ ปโหติ สเรน วิฺาเปตุนฺติ กิตฺตกํ านํ สรีโรภาเสน วิหตนฺธการํ กตฺวา สเรน วิฺาเปตุํ สกฺโกติ. สาวโก โส, อานนฺท, อปฺปเมยฺยา ตถาคตาติ ¶ อิทํ ภควา อิมินา อธิปฺปาเยนาห – อานนฺท, ตฺวํ กึ วเทสิ, โส ปเทสาเณ ิโต สาวโก. ตถาคตา ปน ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺตา อปฺปเมยฺยา. โส ตฺวํ นขสิขาย ปํสุํ คเหตฺวา มหาปถวิปํสุนา สทฺธึ อุปเมนฺโต วิย กึ นาเมตํ วเทสิ. อฺโ หิ สาวกานํ วิสโย, อฺโ พุทฺธานํ. อฺโ สาวกานํ โคจโร, อฺโ พุทฺธานํ. อฺํ สาวกานํ พลํ, อฺํ พุทฺธานนฺติ. อิติ ภควา อิมินา อธิปฺปาเยน อปฺปเมยฺยภาวํ วตฺวา ตุณฺหี อโหสิ.
เถโร ¶ ¶ ทุติยมฺปิ ปุจฺฉิ. สตฺถา, ‘‘อานนฺท, ตฺวํ ตาฬจฺฉิทฺทํ คเหตฺวา อนนฺตากาเสน อุปเมนฺโต วิย, จาตกสกุณํ คเหตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสติเกน สุปณฺณราเชน อุปเมนฺโต วิย, หตฺถิโสณฺฑาย อุทกํ คเหตฺวา มหาคงฺคาย อุปเมนฺโต วิย, จตุรตนิเก อาวาเฏ อุทกํ คเหตฺวา สตฺตหิ สเรหิ อุปเมนฺโต วิย, นาฬิโกทนมตฺตลาภึ มนุสฺสํ คเหตฺวา จกฺกวตฺติรฺา อุปเมนฺโต วิย, ปํสุปิสาจกํ คเหตฺวา สกฺเกน เทวรฺา อุปเมนฺโต วิย, ขชฺโชปนกปฺปภํ คเหตฺวา สูริยปฺปภาย อุปเมนฺโต วิย กึ นาเมตํ วเทสีติ ทีเปนฺโต ทุติยมฺปิ อปฺปเมยฺยภาวเมว วตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตโต เถโร จินฺเตสิ – ‘‘สตฺถา มยา ปุจฺฉิโต น ตาว กเถสิ, หนฺท นํ ยาวตติยํ ยาจิตฺวา พุทฺธสีหนาทํ นทาเปสฺสามี’’ติ. โส ตติยมฺปิ ยาจิ. ตํ ทสฺเสตุํ ตติยมฺปิ โขติอาทิ วุตฺตํ. อถสฺส ภควา พฺยากโรนฺโต สุตา เต อานนฺทาติอาทิมาห. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘สตฺถา เม ‘สุตา เต, อานนฺท, สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตู’ติ เอตฺตกเมว วตฺวา ตุณฺหี ชาโต, อิทานิ พุทฺธสีหนาทํ นทิสฺสตี’’ติ โส สตฺถารํ ยาจนฺโต เอตสฺส ภควา กาโลติอาทิมาห.
ภควาปิสฺส วิตฺถารกถํ กเถตุํ เตน หานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ยาวตาติ ยตฺตกํ านํ. จนฺทิมสูริยาติ จนฺทิมา จ สูริโย จ. ปริหรนฺตีติ วิจรนฺติ. ทิสา ภนฺตีติ สพฺพทิสา โอภาสนฺติ. วิโรจนาติ วิโรจมานา. เอตฺตาวตา เอกจกฺกวาฬํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทสฺสิตํ โหติ. อิทานิ ตํ สหสฺสคุณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ตาว สหสฺสธา โลโกติ อาห. ตสฺมึ สหสฺสธา โลเกติ ตสฺมึ สหสฺสจกฺกวาเฬ. สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานนฺติ ¶ สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ เทวโลกานํ. ยสฺมา ปน เอเกกสฺมึ จกฺกวาเฬ จตฺตาโร จตฺตาโร มหาราชาโน ¶ , ตสฺมา จตฺตาริ มหาราชสหสฺสานีติ วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. จูฬนิกาติ ขุทฺทิกา. อยํ สาวกานํ วิสโย. กสฺมา ปเนสา อานีตาติ? มชฺฌิมิกาย โลกธาตุยา ปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ.
ยาวตาติ ยตฺตกา. ตาว สหสฺสธาติ ตาว สหสฺสภาเคน. ทฺวิสหสฺสี มชฺฌิมิกา โลกธาตูติ อยํ สหสฺสจกฺกวาฬานิ สหสฺสภาเคน คเณตฺวา ทสสตสหสฺสจกฺกวาฬปริมาณา ทฺวิสหสฺสี มชฺฌิมิกา นาม โลกธาตุ. อยํ สาวกานํ อวิสโย, พุทฺธานเมว วิสโย. เอตฺตเกปิ หิ าเน ตถาคตา อนฺธการํ วิธเมตฺวา สรีโรภาสํ ทสฺเสตฺวา สเรน วิฺาเปตุํ สกฺโกนฺตีติ ทีเปติ. เอตฺตเกน พุทฺธานํ ชาติกฺเขตฺตํ นาม ทสฺสิตํ. โพธิสตฺตานฺหิ ปจฺฉิมภเว ¶ เทวโลกโต จวิตฺวา มาตุกุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส จ กุจฺฉิโต นิกฺขมนทิวเส จ มหาภินิกฺขมนทิวเส จ สมฺโพธิธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนอายุสงฺขารโวสฺสชฺชนปรินิพฺพานทิวเสสุ จ เอตฺตกํ านํ กมฺปติ.
ติสหสฺสี มหาสหสฺสีติ สหสฺสิโต ปฏฺาย ตติยาติ ติสหสฺสี, สหสฺสํ สหสฺสธา กตฺวา คณิตํ มชฺฌิมิกํ สหสฺสธา กตฺวา คณิตตฺตา มหนฺเตหิ สหสฺเสหิ คณิตาติ มหาสหสฺสี. เอตฺตาวตา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริมาโณ โลโก ทสฺสิโต โหติ. ภควา อากงฺขมาโน เอตฺตเก าเน อนฺธการํ วิธเมตฺวา สรีโรภาสํ ทสฺเสตฺวา สเรน วิฺาเปยฺยาติ. คณกปุตฺตติสฺสตฺเถโร ปน เอวมาห – ‘‘น ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุยา เอวํ ปริมาณํ. อิทฺหิ อาจริยานํ สชฺฌายมุฬฺหกํ วาจาย ปริหีนฏฺานํ, ทสโกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริมาณํ ปน านํ ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุ นามา’’ติ. เอตฺตาวตา หิ ภควตา อาณากฺเขตฺตํ นาม ทสฺสิตํ. เอตสฺมิฺหิ ¶ อนฺตเร อาฏานาฏิยปริตฺตอิสิคิลิปริตฺตธชคฺคปริตฺตโพชฺฌงฺคปริตฺตขนฺธปริตฺต- โมรปริตฺตเมตฺตปริตฺตรตนปริตฺตานํ อาณา ผรติ. ยาวตา ปน อากงฺเขยฺยาติ ยตฺตกํ านํ อิจฺเฉยฺย, อิมินา วิสยกฺเขตฺตํ ¶ ทสฺเสติ. พุทฺธานฺหิ วิสยกฺเขตฺตสฺส ปมาณปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ, นตฺถิกภาเว จสฺส อิมํ โอปมฺมํ อาหรนฺติ – โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬมฺหิ ยาว พฺรหฺมโลกา สาสเปหิ ปูเรตฺวา สเจ โกจิ ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกจกฺกวาเฬ เอกํ สาสปํ ปกฺขิปนฺโต อาคจฺเฉยฺย, สพฺเพปิ เต สาสปา ปริกฺขยํ คจฺเฉยฺยุํ, น ตฺเวว ปุรตฺถิมาย ทิสาย จกฺกวาฬานิ. ทกฺขิณาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ พุทฺธานํ อวิสโย นาม นตฺถิ.
เอวํ วุตฺเต เถโร จินฺเตสิ – ‘‘สตฺถา เอวมาห – ‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปยฺย, ยาวตา ปน อากงฺเขยฺยา’ติ. วิสโม โข ปนายํ โลโก, อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ, เอกสฺมึ าเน สูริโย อุคฺคโต โหติ, เอกสฺมึ าเน มชฺเฌ ิโต, เอกสฺมึ าเน อตฺถงฺคโต. เอกสฺมึ าเน ปมยาโม โหติ, เอกสฺมึ าเน มชฺฌิมยาโม, เอกสฺมึ าเน ปจฺฉิมยาโม. สตฺตาปิ กมฺมปฺปสุตา, ขิฑฺฑาปสุตา, อาหารปฺปสุตาติ เอวํ เตหิ เตหิ การเณหิ วิกฺขิตฺตา จ ปมตฺตา จ โหนฺติ. กถํ นุ โข เต สตฺถา สเรน วิฺาเปยฺยา’’ติ. โส เอวํ จินฺเตตฺวา วิมติจฺเฉทนตฺถํ ตถาคตํ ปุจฺฉนฺโต ยถา กถํ ปนาติอาทิมาห.
อถสฺส ¶ สตฺถา พฺยากโรนฺโต อิธานนฺท, ตถาคโตติอาทิมาห. ตตฺถ โอภาเสน ผเรยฺยาติ สรีโรภาเสน ผเรยฺย. ผรมาโน ปเนส กึ กเรยฺยาติ? ยสฺมึ าเน สูริโย ปฺายติ, ตตฺถ นํ อตฺตโน อานุภาเวน อตฺถํ คเมยฺย. ยตฺถ ปน น ปฺายติ, ตตฺถ นํ อุฏฺาเปตฺวา มชฺเฌ เปยฺย ¶ . ตโต ยตฺถ สูริโย ปฺายติ, ตตฺถ มนุสฺสา ‘‘อธุนาว สูริโย ปฺายิตฺถ, โส อิทาเนว อตฺถงฺคมิโต, นาคาวฏฺโฏ นุ โข อยํ, ภูตาวฏฺฏยกฺขาวฏฺฏเทวตาวฏฺฏานํ อฺตโร’’ติ วิตฺตกฺกํ อุปฺปาเทยฺยุํ. ยตฺถ ปน น ปฺายติ, ตตฺถ มนุสฺสา ‘‘อธุนาว สูริโย อตฺถงฺคมิโต, สฺวายํ อิทาเนว อุฏฺิโต, กึ นุ โข อยํ นาคาวฏฺฏภูตาวฏฺฏยกฺขาวฏฺฏเทวตาวฏฺฏานํ อฺตโร’’ติ วิตกฺกํ อุปฺปาเทยฺยุํ. ตโต เตสุ มนุสฺเสสุ อาโลกฺจ อนฺธการฺจ อาวชฺชิตฺวา ‘‘กึ ปจฺจยา นุ โข อิท’’นฺติ ปริเยสมาเนสุ สตฺถา นีลกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา ¶ พหลนฺธการํ ปตฺถเรยฺย. กสฺมา? เตสํ กมฺมาทิปฺปสุตานํ สตฺตานํ สนฺตาสชนนตฺถํ. อถ เนสํ สนฺตาสํ อาปนฺนภาวํ ตฺวา โอทาตกสิณสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ปณฺฑรํ ฆนพุทฺธรสฺมึ วิสฺสชฺเชนฺโต จนฺทสหสฺสสูริยสหสฺสอุฏฺานกาโล วิย เอกปฺปหาเรเนว สพฺพํ เอกาโลกํ กเรยฺย. ตฺจ โข ติลพีชมตฺเตน กายปฺปเทเสน โอภาสํ มฺุจนฺโต. โย หิ จกฺกวาฬปถวึ ทีปกปลฺลกํ กตฺวา มหาสมุทฺเท อุทกํ เตลํ กตฺวา สิเนรุํ วฏฺฏึ กตฺวา อฺสฺมึ สิเนรุมุทฺธนิ เปตฺวา ชาเลยฺย, โส เอกจกฺกวาเฬเยว อาโลกํ กเรยฺย. ตโต ปรํ วิทตฺถิมฺปิ โอภาเสตุํ น สกฺกุเณยฺย. ตถาคโต ปน ติลผลปฺปมาเณน สรีรปฺปเทเสน โอภาสํ มฺุจิตฺวา ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ เอโกภาสํ กเรยฺย ตโต วา ปน ภิยฺโย. เอวํ มหนฺตา หิ พุทฺธคุณาติ.
ตํ อาโลกํ สฺชาเนยฺยุนฺติ ตํ อาโลกํ ทิสฺวา ‘‘เยน สูริโย อตฺถฺเจว คมิโต อุฏฺาปิโต จ, พหลนฺธการฺจ วิสฺสฏฺํ, เอส โส ปุริโส อิทานิ อาโลกํ กตฺวา ิโต, อโห อจฺฉริยปุริโส’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมานา นิสีเทยฺยุํ. สทฺทมนุสฺสาเวยฺยาติ ¶ ธมฺมกถาสทฺทมนุสฺสาเวยฺย. โย หิ เอกํ จกฺกวาฬปพฺพตํ เภรึ กตฺวา มหาปถวึ เภริจมฺมํ กตฺวา สิเนรุํ ทณฺฑํ กตฺวา อฺสฺมึ สิเนรุมตฺถเก เปตฺวา อาโกเฏยฺย, โส เอกจกฺกวาเฬเยว ตํ สทฺทํ สาเวยฺย, ปรโต วิทตฺถิมฺปิ อติกฺกาเมตุํ น สกฺกุเณยฺย. ตถาคโต ปน ปลฺลงฺเก วา ปีเ วา นิสีทิตฺวา ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปติ, ตโต วา ปน ภิยฺโย, เอวํ มหานุภาวา ตถาคตาติ. อิติ ภควา อิมินา เอตฺตเกน วิสยกฺเขตฺตเมว ทสฺเสติ.
อิมฺจ ¶ ปน พุทฺธสีหนาทํ สุตฺวา เถรสฺส อพฺภนฺตเร พลวปีติ อุปฺปนฺนา, โส ปีติวเสน อุทานํ อุทาเนนฺโต ลาภา วต เมติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺส เม สตฺถา เอวํมหิทฺธิโกติ ยสฺส มยฺหํ สตฺถา เอวํมหิทฺธิโก, ตสฺส มยฺหํ เอวํมหิทฺธิกสฺส สตฺถุ ปฏิลาโภ ลาภา เจว สุลทฺธฺจาติ อตฺโถ. อถ วา ยฺวาหํ เอวรูปสฺส สตฺถุโน ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิจริตุํ, ปาทปริกมฺมํ ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ, มุขโธวนอุทกนฺหาโนทกานิ ทาตุํ, คนฺธกุฏิปริเวณํ สมฺมชฺชิตุํ, อุปฺปนฺนาย กงฺขาย ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ, มธุรธมฺมกถฺจ ¶ โสตุํ ลภามิ, เอเต สพฺเพปิ มยฺหํ ลาภา เจว สุลทฺธฺจาติปิ สนฺธาย เอวมาห. เอตฺถ จ ภควโต อนฺธการาโลกสทฺทสวนสงฺขาตานํ อิทฺธีนํ มหนฺตตาย มหิทฺธิกตา, ตาสํเยว อนุผรเณน มหานุภาวตา เวทิตพฺพา. อุทายีติ ลาฬุทายิตฺเถโร. โส กิร ปุพฺเพ อุปฏฺากตฺเถเร อาฆาตํ พนฺธิตฺวา จรติ. ตสฺมา อิทานิ โอกาสํ ลภิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธสีหนาทปริโยสาเน ชลมานํ ทีปสิขํ นิพฺพาเปนฺโต วิย จรนฺตสฺส โคณสฺส ตุณฺเฑ ปหารํ เทนฺโต วิย ภตฺตภริตํ ¶ ปาตึ อวกุชฺชนฺโต วิย เถรสฺส ปสาทภงฺคํ กโรนฺโต เอวมาห.
เอวํ วุตฺเต ภควาติ เอวํ อุทายิตฺเถเรน วุตฺเต ภควา ยถา นาม ปปาตตเฏ ตฺวา ปเวธมานํ ปุริสํ เอกมนฺเต ิโต หิเตสี ปุริโส ‘‘อิโต เอหิ อิโต เอหี’’ติ ปุนปฺปุนํ วเทยฺย, เอวเมวํ อุทายิตฺเถรํ ตสฺมา วจนา นิวาเรนฺโต มา เหวํ อุทายิ, มา เหวํ อุทายีติ อาห. ตตฺถ หีติ นิปาตมตฺตํ, มา เอวํ อวจาติ อตฺโถ. มหารชฺชนฺติ จกฺกวตฺติรชฺชํ. นนุ จ สตฺถา เอกสฺส สาวกสฺส ธมฺมเทสนาย อุปฺปนฺนปสาทสฺส มหานิสํสํ อปริจฺฉินฺนํ อกาสิ, โส กสฺมา อิมสฺส พุทฺธสีหนาทํ อารพฺภ อุปฺปนฺนสฺส ปสาทสฺส อานิสํสํ ปริจฺฉินฺทตีติ? อริยสาวกสฺส เอตฺตกอตฺตภาวปริมาณตฺตา. ทนฺธปฺโปิ หิ โสตาปนฺโน สตฺตกฺขตฺตุํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ อตฺตภาวํ ปฏิลภติ, เตนสฺส คตึ ปริจฺฉินฺทนฺโต เอวมาห. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ตฺวา. ปรินิพฺพายิสฺสตีติ อปฺปจฺจยปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายิสฺสติ. อิติ นิพฺพาเนน กูฏํ คณฺหนฺโต อิมํ สีหนาทสุตฺตํ นิฏฺาเปสีติ.
อานนฺทวคฺโค ตติโย.
(๙) ๔. สมณวคฺโค
๑. สมณสุตฺตวณฺณนา
๘๒. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม สมณิยานีติ สมณสนฺตกานิ. สมณกรณียานีติ สมเณน กตฺตพฺพกิจฺจานิ. อธิสีลสิกฺขาสมาทานนฺติอาทีสุ สมาทานํ วุจฺจติ คหณํ, อธิสีลสิกฺขาย สมาทานํ คหณํ ปูรณํ ¶ อธิสีลสิกฺขาสมาทานํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สีลํ อธิสีลํ, จิตฺตํ อธิจิตฺตํ, ปฺา อธิปฺาติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปฺจสีลํ สีลํ ¶ นาม, ตํ อุปาทาย ทสสีลํ อธิสีลํ นาม, ตมฺปิ อุปาทาย จตุปาริสุทฺธิสีลํ อธิสีลํ นาม. อปิจ สพฺพมฺปิ โลกิยสีลํ สีลํ นาม, โลกุตฺตรสีลํ อธิสีลํ, ตเทว สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขาติ วุจฺจติ. กามาวจรจิตฺตํ ปน จิตฺตํ นาม, ตํ อุปาทาย รูปาวจรํ อธิจิตฺตํ นาม, ตมฺปิ อุปาทาย อรูปาวจรํ อธิจิตฺตํ นาม. อปิจ สพฺพมฺปิ โลกิยจิตฺตํ จิตฺตเมว, โลกุตฺตรํ อธิจิตฺตํ. ปฺายปิ เอเสว นโย. ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ตีณิ สมณกรณียานิ, ตสฺมา. ติพฺโพติ พหโล. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺโท. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต ติสฺโส สิกฺขา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตาติ.
๒. คทฺรภสุตฺตวณฺณนา
๘๓. ทุติเย ปิฏฺิโต ปิฏฺิโตติ ปจฺฉโต ปจฺฉโต. อหมฺปิ ทมฺโม อหมฺปิ ทมฺโมติ อหมฺปิ ‘‘ทมฺโม ทมฺมมาโน’’ติ วทมาโน คาวีติ. เสยฺยถาปิ คุนฺนนฺติ ยถา คาวีนํ. คาโว หิ กาฬาปิ รตฺตาปิ เสตาทิวณฺณาปิ โหนฺติ, คทฺรภสฺส ปน ตาทิโส วณฺโณ นาม นตฺถิ. ยถา จ วณฺโณ, เอวํ สโรปิ ปทมฺปิ อฺาทิสเมว. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตาติ.
๓. เขตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๔. ตติเย ¶ ปฏิกจฺเจวาติ ปมเมว. สุกฏฺํ กโรตีติ นงฺคเลน สุกฏฺํ กโรติ. สุมติกตนฺติ มติยา สุฏฺุ สมีกตํ. กาเลนาติ วปิตพฺพยุตฺตกาเลน. เสสํ อุตฺตานเมว. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๔. วชฺชิปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๕. จตุตฺเถ ¶ วชฺชิปุตฺตโกติ วชฺชิราชกุลสฺส ปุตฺโต. ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตนฺติ ปณฺณาสาธิกํ สิกฺขาปทสตํ. ตสฺมึ สมเย ปฺตฺตานิ สิกฺขาปทาเนว สนฺธาเยตํ ¶ วุตฺตํ. โส กิร ภิกฺขุ อชฺชวสมฺปนฺโน อุชุชาติโก อวงฺโก อกุฏิโล, ตสฺมา ‘‘อหํ เอตฺตกานิ สิกฺขาปทานิ รกฺขิตุํ สกฺกุเณยฺยํ วา น วา’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถุ อาโรเจสิ. สกฺโกมหนฺติ สกฺโกมิ อหํ. โส กิร ‘‘เอตฺตเกสุ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขนฺตสฺส อครุ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขิตุ’’นฺติ มฺมาโน เอวมาห. อถ ภควา ยถา นาม ปฺาส ติณกลาปิโย อุกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส กลาปิยสตํ พนฺธิตฺวา สีเส เปยฺย, เอวเมว เอกิสฺสาปิ สิกฺขาย สิกฺขิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส อปรา ทฺเวปิ สิกฺขา อุปริ ปกฺขิปนฺโต ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขูติอาทิมาห. สุขุมาโล กิร อุตฺตโร นาม ชานปทมนุสฺโส โลหปาสาทวิหาเร วสติ. อถ นํ ทหรภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อุตฺตร, อคฺคิสาลา โอวสฺสติ, ติณํ กปฺปิยํ กตฺวา เทหี’’ติ. ตํ อาทาย อฏวึ คนฺตฺวา เตน ลายิตํ ติณํเยว กรเฬ พนฺธิตฺวา ‘‘ปฺาส กรเฬ คเหตุํ สกฺขิสฺสสิ อุตฺตรา’’ติ อาหํสุ. โส ‘‘น สกฺขิสฺสามี’’ติ อาห. อสีตึ ปน สกฺขิสฺสสีติ? น สกฺขิสฺสามิ, ภนฺเตติ. เอกํ กรฬสตํ สกฺขิสฺสสีติ? อาม, ภนฺเต, คณฺหิสฺสามีติ. ทหรภิกฺขู กรฬสตํ พนฺธิตฺวา ตสฺส สีเส ปยึสุ. โส อุกฺขิปิตฺวา นิตฺถุนนฺโต คนฺตฺวา อคฺคิสาลาย สมีเป ปาเตสิ. อถ นํ ภิกฺขู ‘‘กิลนฺตรูโปสิ อุตฺตรา’’ติ อาหํสุ. อาม, ภนฺเต, ทหรา ภิกฺขู มํ วฺเจสุํ, อิมํ เอกมฺปิ กรฬสตํ อุกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตํ มํ ‘‘ปณฺณาส กรเฬ อุกฺขิปาหี’’ติ วทึสุ. อาม, อุตฺตร, วฺจยึสุ ตนฺติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๕. เสกฺขสุตฺตวณฺณนา
๘๖. ปฺจเม ¶ อุชุมคฺคานุสาริโนติ อุชุมคฺโค วุจฺจติ อริยมคฺโค, ตํ อนุสฺสรนฺตสฺส ปฏิปนฺนกสฺสาติ อตฺโถ. ขยสฺมึ ปมํ าณนฺติ ปมเมว มคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ. มคฺโค หิ กิเลสานํ เขปนโต ขโย นาม, ตํสมฺปยุตฺตํ ¶ าณํ ขยสฺมึ าณํ นาม. ตโต ¶ อฺา อนนฺตราติ ตโต จตุตฺถมคฺคาณโต อนนฺตรา อฺา อุปฺปชฺชติ, อรหตฺตผลํ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อฺาวิมุตฺตสฺสาติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตสฺส. าณํ เว โหตีติ ปจฺจเวกฺขณาณํ โหติ. อิติ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ สตฺต เสขา กถิตา. อวสาเน ปน ขีณาสโว ทสฺสิโตติ.
๖. ปมสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา
๘๗. ฉฏฺเ อตฺตกามาติ อตฺตโน หิตกามา. ยตฺเถตํ สพฺพํ สโมธานํ คจฺฉตีติ ยาสุ สิกฺขาสุ สพฺพเมตํ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ สงฺคหํ คจฺฉติ. ปริปูรการี โหตีติ สมตฺตการี โหติ. มตฺตโส การีติ ปมาเณน การโก, สพฺเพน สพฺพํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ขุทฺทานุขุทฺทกานีติ จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เสสสิกฺขาปทานิ. ตตฺราปิ สงฺฆาทิเสสํ ขุทฺทกํ, ถุลฺลจฺจยํ อนุขุทฺทกํ นาม. ถุลฺลจฺจยฺจ ขุทฺทกํ, ปาจิตฺติยํ อนุขุทฺทกํ นาม, ปาจิตฺติยฺจ ขุทฺทกํ, ปาฏิเทสนิยทุกฺกฏทุพฺภาสิตานิ อนุขุทฺทกานิ นาม. อิเม ปน องฺคุตฺตรมหานิกายวฬฺชนกอาจริยา ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เสสานิ สพฺพานิปิ ขุทฺทานุขุทฺทกานี’’ติ วทนฺติ. ตานิ อาปชฺชติปิ วุฏฺาติปีติ เอตฺถ ปน ขีณาสโว ตาว โลกวชฺชํ นาปชฺชติ, ปณฺณตฺติวชฺชเมว อาปชฺชติ. อาปชฺชนฺโต จ กาเยนปิ วาจายปิ จิตฺเตนปิ อาปชฺชติ. กาเยน อาปชฺชนฺโต กุฏิการสหเสยฺยาทีนิ อาปชฺชติ, วาจาย อาปชฺชนฺโต สฺจริตฺตปทโสธมฺมาทีนิ, จิตฺเตน อาปชฺชนฺโต รูปิยปฏิคฺคหณํ อาปชฺชติ. เสกฺเขสุปิ เอเสว นโย. น หิ เมตฺถ, ภิกฺขเว, อภพฺพตา วุตฺตาติ, ภิกฺขเว, น หิ มยา เอตฺถ เอวรูปํ อาปตฺตึ อาปชฺชเน จ วุฏฺาเน จ อริยปุคฺคลสฺส อภพฺพตา กถิตา. อาทิพฺรหฺมจริยกานีติ ¶ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานิ จตฺตาริ มหาสีลสิกฺขาปทานิ. พฺรหฺมจริยสารุปฺปานีติ ตานิเยว จตุมคฺคพฺรหฺมจริยสฺส สารุปฺปานิ อนุจฺฉวิกานิ. ตตฺถาติ เตสุ สิกฺขาปเทสุ. ธุวสีโลติ นิพทฺธสีโล. ิตสีโลติ ปติฏฺิตสีโล. โสตาปนฺโนติ โสตสงฺขาเตน ¶ มคฺเคน ผลํ ¶ อาปนฺโน. อวินิปาตธมฺโมติ จตูสุ อปาเยสุ อปตนสภาโว. นิยโตติ โสตาปตฺติมคฺคนิยาเมน นิยโต. สมฺโพธิปรายโณติ อุปริมคฺคตฺตยสมฺโพธิปรายโณ.
ตนุตฺตาติ ตนุภาโว. สกทาคามิโน หิ ราคาทโย อพฺภปฏลํ วิย มจฺฉิกาปตฺตํ วิย จ ตนุกา โหนฺติ, น พหลา. โอรมฺภาคิยานนฺติ เหฏฺาภาคิยานํ. สํโยชนานนฺติ พนฺธนานํ. ปริกฺขยาติ ปริกฺขเยน. โอปปาติโก โหตีติ อุปฺปนฺนโก โหติ. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ เหฏฺา อโนตริตฺวา อุปริเยว ปรินิพฺพานธมฺโม. อนาวตฺติธมฺโมติ โยนิคติวเสน อนาคมนธมฺโม.
ปเทสํ ปเทสการีติอาทีสุ ปเทสการี ปุคฺคโล นาม โสตาปนฺโน จ สกทาคามี จ อนาคามี จ, โส ปเทสเมว สมฺปาเทติ. ปริปูรการี นาม อรหา, โส ปริปูรเมว สมฺปาเทติ. อวฺฌานีติ อตุจฺฉานิ สผลานิ สอุทฺรยานีติ อตฺโถ. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสกาว กถิตา.
๗. ทุติยสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา
๘๘. สตฺตเม โกลํโกโลติ กุลา กุลํ คมนโก. กุลนฺติ เจตฺถ ภโว อธิปฺเปโต, ตสฺมา ‘‘ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานี’’ติ เอตฺถปิ ทฺเว วา ตโย วา ภเวติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ ทฺเว วา ภเว สนฺธาวติ ตโย วา, อุตฺตมโกฏิยา ฉ วา. ตสฺมา ทฺเว วา ตีณิ วา จตฺตาริ วา ปฺจ วา ฉ วาติ เอวเมตฺถ วิกปฺโป ทฏฺพฺโพ. เอกพีชีติ เอกสฺเสว ภวสฺส พีชํ เอตสฺส อตฺถีติ เอกพีชี. อุทฺธํโสโตติอาทีสุ อตฺถิ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี, อตฺถิ ¶ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี, อตฺถิ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี, อตฺถิ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี. ตตฺถ โย อิธ อนาคามิผลํ ปตฺวา อวิหาทีสุ นิพฺพตฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อุปรูปริ นิพฺพตฺติตฺวา อกนิฏฺํ ปาปุณาติ, อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน อวิหาทีสุ นิพฺพตฺโต ตตฺเถว อปรินิพฺพายิตฺวา อกนิฏฺมฺปิ อปฺปตฺวา อุปริมพฺรหฺมโลเก ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม. โย อิโต จวิตฺวา ¶ อกนิฏฺเเยว นิพฺพตฺตติ, อยํ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน อวิหาทีสุ จตูสุ อฺตรสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม.
ยตฺถ ¶ กตฺถจิ อุปฺปนฺโน ปน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน อรหตฺตํ ปตฺโต สสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน ปตฺโต อสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. โย ปน กปฺปสหสฺสายุเกสุ อวิเหสุ นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจมํ กปฺปสตํ อติกฺกมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, อยํ อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม. อตปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. อนฺตราปรินิพฺพายีติ โย อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายติ, โส ติวิโธ โหติ. กปฺปสหสฺสายุเกสุ ตาว อวิเหสุ นิพฺพตฺติตฺวา เอโก นิพฺพตฺตทิวเสเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. โน เจ นิพฺพตฺตทิวเส ปาปุณาติ, ปมสฺส ปน กปฺปสตสฺส มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ปโม อนฺตราปรินิพฺพายี. อปโร เอวํ อสกฺโกนฺโต ทฺวินฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ทุติโย. อปโร เอวมฺปิ อสกฺโกนฺโต จตุนฺนํ กปฺปสตานํ มตฺถเก ปาปุณาติ, อยํ ตติโย อนฺตราปรินิพฺพายี. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา จตุวีสติ โสตาปนฺนา, ทฺวาทส สกทาคามิโน, อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน, ทฺวาทส จ อรหนฺโต กเถตพฺพา. อิมสฺมึ หิ สาสเน สทฺธาธุรํ ปฺาธุรนฺติ ¶ ทฺเว ธุรานิ, ทุกฺขปฏิปทาทนฺธาภิฺาทโย จตสฺโส ปฏิปทา. ตตฺเถโก สทฺธาธุเรน อภินิวิสิตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา เอกเมว ภวํ นิพฺพตฺติตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยเมโก เอกพีชี. โส ปฏิปทาวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ยถา เจส, เอวํ ปฺาธุเรน อภินิวิฏฺโปีติ อฏฺ เอกพีชิโน. ตถา โกลํโกลา สตฺตกฺขตฺตุปรมา จาติ อิเม จตุวีสติ โสตาปนฺนา นาม. ตีสุ ปน วิโมกฺเขสุ สฺุตวิโมกฺเขน สกทาคามิภูมึ ปตฺตา จตุนฺนํ ปฏิปทานํ วเสน จตฺตาโร สกทาคามิโน, ตถา อนิมิตฺตวิโมกฺเขน ปตฺตา จตฺตาโร, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน ปตฺตา จตฺตาโรติ อิเม ทฺวาทส สกทาคามิโน. อวิเหสุ ปน ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจ อนาคามิโน, เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจ, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจาติ ทส โหนฺติ, ตถา อตปฺปาทีสุ. อกนิฏฺเสุ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ ¶ , ตสฺมา ตตฺถ จตฺตาโร สสงฺขารปรินิพฺพายี, จตฺตาโร อสงฺขารปรินิพฺพายีติ อฏฺ, อิเม อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน. ยถา ปน สกทาคามิโน, ตเถว อรหนฺโตปิ ทฺวาทส เวทิตพฺพา. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๘. ตติยสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา
๘๙. อฏฺเม ¶ ตํ วา ปน อนภิสมฺภวํ อปฺปฏิวิชฺฌนฺติ ตํ อรหตฺตํ อปาปุณนฺโต อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต. อิมินา นเยน สพฺพฏฺาเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา. นวมํ อุตฺตานตฺถเมว. อิธาปิ ติสฺโส สิกฺขา มิสฺสิกาว กถิตา.
๑๐. ทุติยสิกฺขตฺตยสุตฺตวณฺณนา
๙๑. ทสเม อาสวานํ ขยาติ เอตฺถ อรหตฺตมคฺโค อธิปฺาสิกฺขา นาม. ผลํ ปน สิกฺขิตสิกฺขสฺส อุปฺปชฺชนโต สิกฺขาติ น วตฺตพฺพํ.
ยถา ¶ ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ยถา ปมํ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขติ, ปจฺฉา ตเถว สิกฺขตีติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ยถา อโธ ตถา อุทฺธนฺติ ยถา เหฏฺิมกายํ อสุภวเสน ปสฺสติ, อุปริมกายมฺปิ ตเถว ผรติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ยถา ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา ทิวา ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขติ, รตฺติมฺปิ ตเถว สิกฺขตีติ อตฺโถ. อภิภุยฺย ทิสา สพฺพาติ สพฺพา ทิสา อารมฺมณวเสน อภิภวิตฺวา. อปฺปมาณสมาธินาติ อรหตฺตมคฺคสมาธินา.
เสกฺขนฺติ สิกฺขมานํ สกรณียํ. ปฏิปทนฺติ ปฏิปนฺนกํ. สํสุทฺธจาริยนฺติ สํสุทฺธจรณํ ปริสุทฺธสีลํ. สมฺพุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธํ. ธีรํ ปฏิปทนฺตคุนฺติ ขนฺธธีรอายตนธีรวเสน ธีรํ ธิติสมฺปนฺนํ ปฏิปตฺติยา อนฺตํ คตํ. วิฺาณสฺสาติ จริมกวิฺาณสฺส. ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโนติ ตณฺหากฺขยวิมุตฺติสงฺขาตาย อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สมนฺนาคตสฺส. ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานนฺติ ปทีปนิพฺพานํ วิย. วิโมกฺโข โหติ เจตโสติ จิตฺตสฺส วิมุตฺติ วิมุจฺจนา อปฺปวตฺติภาโว โหติ. ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโน หิ ขีณาสวสฺส จริมกวิฺาณนิโรเธน ¶ ปรินิพฺพานํ วิย เจตโส วิโมกฺโข โหติ, น คตฏฺานํ ปฺายติ, อปณฺณตฺติกภาวูปคโมเยว โหตีติ อตฺโถ.
๑๑. สงฺกวาสุตฺตวณฺณนา
๙๒. เอกาทสเม ¶ สงฺกวา นาม โกสลานํ นิคโมติ สงฺกวาติ เอวํนามโก โกสลรฏฺเ นิคโม. อาวาสิโกติ ภารหาโร นเว อาวาเส สมุฏฺาเปติ, ปุราเณ ปฏิชคฺคติ. สิกฺขาปทปฏิสํยุตฺตายาติ สิกฺขาสงฺขาเตหิ ปเทหิ ปฏิสํยุตฺตาย, ตีหิ สิกฺขาหิ สมนฺนาคตายาติ อตฺโถ. สนฺทสฺเสตีติ ¶ สมฺมุเข วิย กตฺวา ทสฺเสติ. สมาทเปตีติ คณฺหาเปติ. สมุตฺเตเชตีติ สมุสฺสาเหติ. สมฺปหํเสตีติ ปฏิลทฺธคุเณหิ วณฺณํ กเถนฺโต โวทาเปติ. อธิสลฺลิขเตติ อติวิย สลฺลิขติ, อติวิย สลฺลิขิตํ กตฺวา สณฺหํ สณฺหํ กเถตีติ อตฺโถ.
อจฺจโยติ อปราโธ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อธิภวิตฺวา ปวตฺโต. อหุเทว อกฺขนฺตีติ อโหสิเยว อนธิวาสนา. อหุ อปฺปจฺจโยติ อโหสิ อตุฏฺากาโร. ปฏิคฺคณฺหาตูติ ขมตุ. อายตึ สํวรายาติ อนาคเต สํวรตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส โทสสฺส ขลิตสฺส วา อกรณตฺถายาติ อตฺโถ. ตคฺฆาติ เอกํเสน. ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสีติ ยถา ธมฺโม ิโต, ตถา กโรสิ, ขมาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ ตํ ตว อปราธํ มยํ ขมาม. วุทฺธิเหสา, กสฺสป, อริยสฺส วินเยติ เอสา กสฺสป พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน วุทฺธิ นาม. กตมา? ยายํ อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกริตฺวา อายตึ สํวราปชฺชนา. เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโต ‘‘โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ อาห. น สิกฺขากาโมติ ติสฺโส สิกฺขา น กาเมติ น ปตฺเถติ น ปิเหติ. สิกฺขาสมาทานสฺสาติ สิกฺขาปริปูรณสฺส. น วณฺณวาทีติ คุณํ น กเถติ. กาเลนาติ ยุตฺตปฺปยุตฺตกาเลน. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมณวคฺโค จตุตฺโถ.
(๑๐) ๕. โลณกปลฺลวคฺโค
๑. อจฺจายิกสุตฺตวณฺณนา
๙๓. ปฺจมสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม อจฺจายิกานีติ อติปาติกานิ. กรณียานีติ อวสฺสกิจฺจานิ. ยฺหิ น อวสฺสํ กาตพฺพํ, ตํ กิจฺจนฺติ วุจฺจติ. อวสฺสํ กาตพฺพํ กรณียํ นาม. สีฆํ สีฆนฺติ เวเคน เวเคน. ตสฺส โข ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. นตฺถิ สา อิทฺธิ วา อานุภาโว วาติ สา วา อิทฺธิ โส วา อานุภาโว นตฺถิ. อุตฺตรสฺเวติ ตติยทิวเส. อุตุปริณามินีติ ลทฺธอุตุปริณามานิ หุตฺวา. ชายนฺติปีติ ตติยทิวเส นิกฺขนฺตเสตงฺกุรานิ โหนฺติ, สตฺตาเห ปตฺเต นีลงฺกุรานิ โหนฺติ. คพฺภีนิปิ โหนฺตีติ ทิยฑฺฒมาสํ ปตฺวา คหิตคพฺภานิ โหนฺติ. ปจฺจนฺติปีติ ตโย มาเส ปตฺวา ปจฺจนฺติ. อิทานิ ยสฺมา พุทฺธานํ คหปติเกน วา สสฺเสหิ วา อตฺโถ นตฺถิ, สาสเน ปน ตปฺปฏิรูปกํ ปุคฺคลํ วา อตฺถํ วา ทสฺเสตุํ ตํ ตํ โอปมฺมํ อาหรนฺติ. ตสฺมา ยมตฺถํ ทสฺเสตุกาเมน เอตํ อาภตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต เอวเมว โขติอาทิมาห. ตํ อตฺถโต อุตฺตานเมว. สิกฺขา ปน อิธาปิ มิสฺสิกา เอว กถิตา.
๒. ปวิเวกสุตฺตวณฺณนา
๙๔. ทุติเย จีวรปวิเวกนฺติ จีวรํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกกิเลเสหิ วิวิตฺตภาวํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. สาณานีติ สาณวากเจลานิ. มสาณานีติ มิสฺสกเจลานิ. ฉวทุสฺสานีติ มตสรีรโต ฉฑฺฑิตวตฺถานิ, เอรกติณาทีนิ วา คนฺเถตฺวา กตนิวาสนานิ. ปํสุกูลานีติ ปถวิยํ ฉฑฺฑิตนนฺตกานิ. ติรีฏานีติ รุกฺขตจวตฺถานิ. อชินานีติ ¶ อชินมิคจมฺมานิ. อชินกฺขิปนฺติ ตเทว มชฺเฌ ผาลิตํ, สหขุรกนฺติปิ วทนฺติ. กุสจีรนฺติ กุสติณานิ คนฺเถตฺวา กตจีรํ. วากจีรผลกจีเรสุปิ เอเสว นโย. เกสกมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ กตกมฺพลํ. วาลกมฺพลนฺติ อสฺสวาลาทีหิ กตกมฺพลํ. อุลูกปกฺขิกนฺติ อุลูกปตฺตานิ คนฺเถตฺวา กตนิวาสนํ.
สากภกฺขาติ ¶ ¶ อลฺลสากภกฺขา. สามากภกฺขาติ สามากตณฺฑุลภกฺขา. นีวาราทีสุ นีวารา นาม อรฺเ สยํ ชาตวีหิชาติ. ททฺทุลนฺติ จมฺมกาเรหิ จมฺมํ ลิขิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ. หฏํ วุจฺจติ สิเลโสปิ เสวาโลปิ กณิการาทิรุกฺขนิยฺยาโสปิ. กณนฺติ กุณฺฑกํ. อาจาโมติ ภตฺตอุกฺขลิกาย ลคฺโค ฌามโอทโน. ตํ ฉฑฺฑิตฏฺาเน คเหตฺวา ขาทนฺติ, โอทนกฺชิยนฺติปิ วทนฺติ. ปิฺากาทโย ปากฏาว. ปวตฺตผลโภชีติ ปติตผลโภชี. ภุสาคารนฺติ ขลสาลํ.
สีลวาติ จตุปาริสุทฺธิสีเลน สมนฺนาคโต. ทุสฺสีลฺยฺจสฺส ปหีนํ โหตีติ ปฺจ ทุสฺสีลฺยานิ ปหีนานิ โหนฺติ. สมฺมาทิฏฺิโกติ ยาถาวทิฏฺิโก. มิจฺฉาทิฏฺีติ อยาถาวทิฏฺิ. อาสวาติ จตฺตาโร อาสวา. อคฺคปฺปตฺโตติ สีลคฺคปฺปตฺโต. สารปฺปตฺโตติ สีลสารํ ปตฺโต. สุทฺโธติ ปริสุทฺโธ. สาเร ปติฏฺิโตติ สีลสมาธิปฺาสาเร ปติฏฺิโต.
เสยฺยถาปีติ ยถา นาม. สมฺปนฺนนฺติ ¶ ปริปุณฺณํ ปริปกฺกสาลิภริตํ. สงฺฆราเปยฺยาติ สงฺกฑฺฒาเปยฺย. อุพฺพหาเปยฺยาติ ขลฏฺานํ อาหราเปยฺย. ภุสิกนฺติ ภุสํ. โกฏฺฏาเปยฺยาติ อุทุกฺขเล ปกฺขิปาเปตฺวา มุสเลหิ ปหราเปยฺย. อคฺคปฺปตฺตานีติ ตณฺฑุลคฺคํ ปตฺตานิ. สารปฺปตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ อุตฺตานเมว. ยํ ปเนตฺถ ‘‘ทุสฺสีลฺยฺจสฺส ปหีนํ มิจฺฉาทิฏฺิ จสฺส ปหีนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหีนภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๓. สรทสุตฺตวณฺณนา
๙๕. ตติเย วิทฺเธติ วลาหกวิคเมน ทูรีภูเต. เทเวติ อากาเส. อภิวิหจฺจาติ อภิวิหนิตฺวา. ยโตติ ยสฺมึ กาเล. วิรชนฺติ ราครชาทิรหิตํ. เตสํเยว มลานํ วิคตตฺตา วีตมลํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ จตุสจฺจธมฺมปริคฺคาหกํ โสตาปตฺติมคฺคจกฺขุํ. นตฺถิ ตํ สํโยชนนฺติ ทุวิธเมวสฺส สํโยชนํ นตฺถิ, อิตรมฺปิ ปน ปุน อิมํ โลกํ อาเนตุํ อสมตฺถตาย นตฺถีติ วุตฺตํ. อิมสฺมึ สุตฺเต ฌานานาคามี นาม กถิโตติ.
๔. ปริสาสุตฺตวณฺณนา
๙๖. จตุตฺเถ ¶ น พาหุลิกา โหนฺตีติ ปจฺจยพาหุลฺลิกา น โหนฺติ. น สาถลิกาติ ติสฺโส สิกฺขา สิถิลํ กตฺวา น คณฺหนฺติ. โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุราติ ¶ โอกฺกมนํ วุจฺจติ อวคมนฏฺเน ปฺจ นีวรณานิ, เตสุ นิกฺขิตฺตธุรา. ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมาติ กายจิตฺตอุปธิวิเวกสงฺขาเต ติวิเธปิ วิเวเก ปุพฺพงฺคมา. วีริยํ อารภนฺตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ ปคฺคณฺหนฺติ. อปฺปตฺตสฺสาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลสงฺขาตสฺส อปฺปตฺตวิเสสสฺส. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปจฺฉิมา ¶ ชนตาติ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกาทโย. ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชตีติ อาจริยุปชฺฌาเยหิ กตํ อนุกโรติ. ยํ ตาย ชนตาย อาจริยุปชฺฌาเยสุ ทิฏฺํ, ตสฺส อนุคตึ อาปชฺชติ นาม. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อคฺควตี ปริสาติ, ภิกฺขเว, อยํ ปริสา อคฺคปุคฺคลวตี นาม วุจฺจติ.
ภณฺฑนชาตาติ ชาตภณฺฑนา. กลหชาตาติ ชาตกลหา. ภณฺฑนนฺติ เจตฺถ กลหสฺส ปุพฺพภาโค, หตฺถปรามาสาทิวเสน วีติกฺกโม กลโห นาม. วิวาทาปนฺนาติ วิรุทฺธวาทํ อาปนฺนา. มุขสตฺตีหีติ คุณวิชฺฌนฏฺเน ผรุสา วาจา ‘‘มุขสตฺติโย’’ติ วุจฺจนฺติ, ตาหิ มุขสตฺตีหิ. วิตุทนฺตา วิหรนฺตีติ วิชฺฌนฺตา วิจรนฺติ.
สมคฺคาติ สหิตา. สมฺโมทมานาติ สมปฺปวตฺตโมทา. ขีโรทกีภูตาติ ขีโรทกํ วิย ภูตา. ปิยจกฺขูหีติ อุปสนฺเตหิ เมตฺตจกฺขูหิ. ปีติ ชายตีติ ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชติ. กาโย ปสฺสมฺภตีติ นามกาโยปิ รูปกาโยปิ วิคตทรโถ โหติ. ปสฺสทฺธกาโยติ อสารทฺธกาโย. สุขํ เวทิยตีติ กายิกเจตสิกสุขํ เวทิยติ. สมาธิยตีติ อารมฺมเณ สมฺมา ปียติ.
ถุลฺลผุสิตเกติ มหาผุสิตเก. ปพฺพตกนฺทรปทรสาขาติ เอตฺถ กนฺทโร นาม ‘‘ก’’นฺติ ลทฺธนาเมน อุทเกน ทาริโต อุทกภินฺโน ปพฺพตปฺปเทโส, โย ‘‘นิตมฺโภ’’ติปิ ‘‘นทิกฺุโช’’ติปิ วุจฺจติ. ปทรํ นาม อฏฺ มาเส เทเว อวสฺสนฺเต ผลิโต ภูมิปฺปเทโส. สาขาติ กุโสพฺภคามินิโย ขุทฺทกมาติกาโย. กุโสพฺภาติ ขุทฺทกอาวาฏา. มหาโสพฺภาติ มหาอาวาฏา. กุนฺนทิโยติ ขุทฺทกนทิโย. มหานทิโยติ ¶ คงฺคายมุนาทิกา มหาสริตา.
๕-๗. ปมอาชานียสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๗-๙๙. ปฺจเม ¶ ¶ องฺเคหีติ คุณงฺเคหิ. ราชารโหติ รฺโ อรโห อนุจฺฉวิโก. ราชโภคฺโคติ รฺโ อุปโภคภูโต. รฺโ องฺคนฺติ รฺโ หตฺถปาทาทิองฺคสมตาย องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. วณฺณสมฺปนฺโนติ สรีรวณฺเณน สมฺปนฺโน. พลสมฺปนฺโนติ กายพเลน สมฺปนฺโน. อาหุเนยฺโยติ อาหุติสงฺขาตํ ปิณฺฑปาตํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต. ปาหุเนยฺโยติ ปาหุนกภตฺตสฺส อนุจฺฉวิโก. ทกฺขิเณยฺโยติ ทสวิธทานวตฺถุปริจฺจาควเสน สทฺธาทานสงฺขาตาย ทกฺขิณาย อนุจฺฉวิโก. อฺชลิกรณีโยติ อฺชลิปคฺคหณสฺส อนุจฺฉวิโก. อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ สพฺพโลกสฺส อสทิสํ ปฺุวิรุหนฏฺานํ.
วณฺณสมฺปนฺโนติ คุณวณฺเณน สมฺปนฺโน. พลสมฺปนฺโนติ วีริยพเลน สมฺปนฺโน. ชวสมฺปนฺโนติ าณชเวน สมฺปนฺโน. ถามวาติ าณถาเมน สมนฺนาคโต. ทฬฺหปรกฺกโมติ ถิรปรกฺกโม. อนิกฺขิตฺตธุโรติ อฏฺปิตธุโร ปคฺคหิตธุโร, อคฺคผลํ อรหตฺตํ อปฺปตฺวา วีริยธุรํ น นิกฺขิปิสฺสามีติ เอวํ ปฏิปนฺโน. อิมสฺมึ สุตฺเต จตุสจฺจวเสน โสตาปตฺติมคฺโค, โสตาปตฺติมคฺเคน จ าณชวสมฺปนฺนตา กถิตาติ. ฉฏฺเ ตีณิ จ มคฺคานิ ตีณิ จ ผลานิ, ตีหิ มคฺคผเลหิ จ าณชวสมฺปนฺนตา กถิตา. สตฺตเม อรหตฺตผลํ, อรหตฺตผเลเนว จ มคฺคกิจฺจํ กถิตํ. ผลํ ปน ชวิตชเวน อุปฺปชฺชนโต ชโวติ จ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๘. โปตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐. อฏฺเม ¶ นโวติ กรณํ อุปาทาย วุจฺจติ. โปตฺถโกติ วากมยวตฺถํ. มชฺฌิโมติ ปริโภคมชฺฌิโม. ชิณฺโณติ ปริโภคชิณฺโณ. อุกฺขลิปริมชฺชนนฺติ อุกฺขลิปริปฺุฉนํ ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ทุพฺพณฺณตายาติ คุณวณฺณาภาเวน ทุพฺพณฺณตาย. ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺตีติ เตน กตํ อนุกโรนฺติ. น มหปฺผลํ โหตีติ วิปากผเลน มหปฺผลํ น โหติ. น มหานิสํสนฺติ วิปากานิสํเสเนว น มหานิสํสํ. อปฺปคฺฆตายาติ ¶ วิปากคฺเฆน อปฺปคฺฆตาย. กาสิกํ วตฺถนฺติ ตีหิ กปฺปาสอํสูหิ สุตฺตํ กนฺติตฺวา กตวตฺถํ, ตฺจ โข กาสิรฏฺเเยว อุฏฺิตํ. เสสํ อุตฺตานเมว. สีลํ ปเนตฺถ มิสฺสกํ กถิตนฺติ.
๙. โลณกปลฺลสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑. นวเม ¶ ยถา ยถายนฺติ ยถา ยถา อยํ. ตถา ตถา ตนฺติ ตถา ตถา ตํ กมฺมํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย เอวํ วเทยฺย – ‘‘ยถา ยถา กมฺมํ กโรติ, ตถา ตถาสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิยเตว. น หิ สกฺกา กตสฺส กมฺมสฺส วิปากํ ปฏิเสเธตุํ. ตสฺมา ยตฺตกํ กมฺมํ กโรติ, ตตฺตกสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิยเตวา’’ติ. เอวํ สนฺตนฺติ เอวํ สนฺเต. พฺรหฺมจริยวาโส น โหตีติ ยํ มคฺคภาวนโต ปุพฺเพ อุปปชฺชเวทนียํ กมฺมํ กตํ, ตสฺส อวสฺสํ ปฏิสํเวทนียตฺตา พฺรหฺมจริยํ วุตฺถมฺปิ อวุตฺถเมว โหติ. โอกาโส น ปฺายติ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายาติ ยสฺมา จ เอวํ สนฺเต เตน กมฺมายูหนฺเจว วิปากานุภวนา จ โหติ, ตสฺมา เหตุนา นเยน วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย โอกาโส น ปฺายติ นาม.
ยถา ยถา เวทนียนฺติ เยน เยนากาเรน เวทิตพฺพํ. ตถา ¶ ตถาสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิยตีติ เตน เตนากาเรน อสฺส วิปากํ ปจฺจนุโภติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเทตํ สตฺตสุ ชวเนสุ ปมชวนกมฺมํ สติ ปจฺจเย วิปากวารํ ลภนฺตเมว ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหติ, อสติ อโหสิกมฺมํ นาม. ยฺจ สตฺตมชวนกมฺมํ สติ ปจฺจเย อุปปชฺชเวทนียํ โหติ, อสติ อโหสิกมฺมํ นาม. ยฺจ มชฺเฌ ปฺจชวนกมฺมํ ยาว สํสารปฺปวตฺติ, ตาว อปรปริยายเวทนียํ นาม โหติ. เอเตสุ อากาเรสุ เยน เยนากาเรน เวทิตพฺพํ กมฺมํ อยํ ปุริโส กโรติ, เตน เตเนวสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิยติ นาม. อฏฺกถายฺหิ ลทฺธวิปากวารเมว กมฺมํ ยถาเวทนียํ กมฺมํ นามาติ วุตฺตํ. เอวํ สนฺตํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยวาโส โหตีติ กมฺมกฺขยกรสฺส พฺรหฺมจริยสฺส เขเปตพฺพกมฺมสมฺภวโต วาโส นาม โหติ, วุตฺถํ สุวุตฺถเมว โหตีติ ¶ อตฺโถ. โอกาโส ปฺายติ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายาติ ยสฺมา เอวํ สนฺเต เตน เตน มคฺเคน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน เตสุ เตสุ ภเวสุ อายตึ วฏฺฏทุกฺขํ น อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา โอกาโส ปฺายติ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย.
อิทานิ ตํ ยถาเวทนียกมฺมสภาวํ ทสฺเสนฺโต อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปมตฺตกนฺติ ปริตฺตํ โถกํ มนฺทํ ลามกํ. ตาทิสํเยวาติ ตํสริกฺขกเมว. ทิฏฺธมฺมเวทนียนฺติ ตสฺมึ กมฺเมเยว ทิฏฺธมฺเม วิปจฺจิตพฺพํ วิปากวารํ ลภนฺตํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหติ. นาณุปิ ขายตีติ ทุติเย อตฺตภาเว อณุปิ น ขายติ, อณุมตฺตมฺปิ ทุติเย อตฺตภาเว ¶ วิปากํ น เทตีติ อตฺโถ. พหุเทวาติ ¶ พหุกํ ปน วิปากํ กิเมว ทสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อภาวิตกาโยติอาทีหิ กายภาวนารหิโต วฏฺฏคามี ปุถุชฺชโน ทสฺสิโต. ปริตฺโตติ ปริตฺตคุโณ. อปฺปาตุโมติ อาตุมา วุจฺจติ อตฺตภาโว, ตสฺมึ มหนฺเตปิ คุณปริตฺตตาย อปฺปาตุโมเยว. อปฺปทุกฺขวิหารีติ อปฺปเกนปิ ปาเปน ทุกฺขวิหารี. ภาวิตกาโยติอาทีหิ ขีณาสโว ทสฺสิโต. โส หิ กายานุปสฺสนาสงฺขาตาย กายภาวนาย ภาวิตกาโย นาม. กายสฺส วา วฑฺฒิตตฺตา ภาวิตกาโย. ภาวิตสีโลติ วฑฺฒิตสีโล. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปฺจทฺวารภาวนาย วา ภาวิตกาโย. เอเตน อินฺทฺริยสํวรสีลํ วุตฺตํ, ภาวิตสีโลติ อิมินา เสสานิ ตีณิ สีลานิ. อปริตฺโตติ น ปริตฺตคุโณ. มหตฺโตติ อตฺตภาเว ปริตฺเตปิ คุณมหนฺตตาย มหตฺโต. อปฺปมาณวิหารีติ ขีณาสวสฺเสตํ นามเมว. โส หิ ปมาณกรานํ ราคาทีนํ อภาเวน อปฺปมาณวิหารี นาม.
ปริตฺเตติ ขุทฺทเก. อุทกมลฺลเกติ อุทกสราเว. โอรพฺภิโกติ อุรพฺภสามิโก. อุรพฺภฆาตโกติ สูนกาโร. ชาเปตุํ วาติ ธนชานิยา ชาเปตุํ. ฌาเปตุนฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ยถาปจฺจยํ วา กาตุนฺติ ยถา อิจฺฉติ, ตถา กาตุํ. อุรพฺภธนนฺติ เอฬกอคฺฆนกมูลํ. โส ปนสฺส สเจ อิจฺฉติ, เทติ. โน เจ อิจฺฉติ, คีวายํ คเหตฺวา ¶ นิกฺกฑฺฒาเปติ. เสสํ ¶ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ.
๑๐. ปํสุโธวกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒. ทสเม โธวตีติ วิกฺขาเลติ. สนฺโธวตีติ สุฏฺุ โธวติ, ปุนปฺปุนํ โธวติ. นิทฺโธวตีติ นิคฺคณฺหิตฺวา โธวติ. อนิทฺธนฺตกสาวนฺติ อนีหตโทสํ อนปนีตกสาวํ. ปภงฺคูติ ปภิชฺชนสภาวํ, อธิกรณียํ เปตฺวา มุฏฺิกาย ปหฏมตฺตํ ภิชฺชติ. ปฏฺฏิกายาติ สุวณฺณปฏฺฏกาย. คีเวยฺยเกติ คีวาลงฺกาเร.
อธิจิตฺตนฺติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตํ. อนุยุตฺตสฺสาติ ภาเวนฺตสฺส. สเจตโสติ จิตฺตสมฺปนฺโน. ทพฺพชาติโกติ ปณฺฑิตชาติโก. กามวิตกฺกาทีสุ กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺโน วิตกฺโก กามวิตกฺโก. พฺยาปาทวิหึสสมฺปยุตฺตา วิตกฺกา พฺยาปาทวิหึสวิตกฺกา นาม. าติวิตกฺกาทีสุ ‘‘อมฺหากํ าตกา พหู ปฺุวนฺตา’’ติอาทินา นเยน าตเก อารพฺภ อุปฺปนฺโน ¶ วิตกฺโก าติวิตกฺโก. ‘‘อสุโก ชนปโท เขโม สุภิกฺโข’’ติอาทินา นเยน ชนปทมารพฺภ อุปฺปนฺโน วิตกฺโก ชนปทวิตกฺโก. ‘‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุ’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺโน วิตกฺโก อนวฺตฺติปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก นาม. ธมฺมวิตกฺกาวสิสฺสนฺตีติ ธมฺมวิตกฺกา นาม ทสวิปสฺสนุปกฺกิเลสวิตกฺกา. โส โหติ สมาธิ น เจว สนฺโตติ โส อวสิฏฺธมฺมวิตกฺโก วิปสฺสนาสมาธิ อวูปสนฺตกิเลสตฺตา สนฺโต น โหติ. น ปณีโตติ น อตปฺปโก. นปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธติ ¶ น กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ลทฺโธ. น เอโกทิภาวาธิคโตติ น เอกคฺคภาวปฺปตฺโต. สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโตติ สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส นิคฺคณฺหิตฺวา วาเรตฺวา วาริโต, น กิเลสานํ ฉินฺนนฺเต อุปฺปนฺโน, กิเลเส ปน วาเรตฺวา อุปฺปนฺโน.
โหติ ¶ โส, ภิกฺขเว, สมโยติ เอตฺถ สมโย นาม อุตุสปฺปายํ อาหารสปฺปายํ เสนาสนสปฺปายํ ปุคฺคลสปฺปายํ ธมฺมสฺสวนสปฺปายนฺติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ สปฺปายานํ ปฏิลาภกาโล. ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยสฺมึ สมเย ตํ วิปสฺสนาจิตฺตํ. อชฺฌตฺตํเยว สนฺติฏฺตีติ อตฺตนิเยว ติฏฺติ. นิยกชฺฌตฺตฺหิ อิธ อชฺฌตฺตํ นาม. โคจรชฺฌตฺตมฺปิ วฏฺฏติ. ปุถุตฺตารมฺมณํ ปหาย เอกสฺมึ นิพฺพานโคจเรเยว ติฏฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สนฺนิสีทตีติ สุฏฺุ นิสีทติ. เอโกทิ โหตีติ เอกคฺคํ โหติ. สมาธิยตีติ สมฺมา อาธิยติ. สนฺโตติอาทีสุ ปจฺจนีกกิเลสวูปสเมน สนฺโต. อตปฺปกฏฺเน ปณีโต. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ลทฺธตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธลทฺโธ. เอกคฺคภาวํ คตตฺตา เอโกทิภาวาธิคโต. กิเลสานํ ฉินฺนนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา น สปฺปโยเคน กิเลเส นิคฺคณฺหิตฺวา วาเรตฺวา วาริโตติ น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. เอตฺตาวตา อยํ ภิกฺขุ วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต นาม โหติ.
อิทานิ ขีณาสวสฺส สโต อภิฺาปฏิปทํ ทสฺเสนฺโต ยสฺส ยสฺส จาติอาทิมาห. ตตฺถ อภิฺา สจฺฉิกรณียสฺสาติ อภิชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กาตพฺพสฺส. สติ สติอายตเนติ ปุพฺพเหตุสงฺขาเต เจว อิทานิ จ ปฏิลทฺธพฺเพ อภิฺาปาทกชฺฌานาทิเภเท จ สติ สติการเณ. วิตฺถารโต ¶ ปน อยํ อภิฺากถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อาสวานํ ขยาติอาทิ เจตฺถ ผลสมาปตฺติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๑. นิมิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓. เอกาทสเมปิ ¶ อธิจิตฺตํ สมถวิปสฺสนาจิตฺตเมว. ตีณิ นิมิตฺตานีติ ตีณิ การณานิ. กาเลน กาลนฺติ กาเล กาเล, ยุตฺตกาเลติ อตฺโถ. กาเลน กาลํ สมาธินิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพนฺติอาทีสุ ตํ ตํ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา เอกคฺคตาย ยุตฺตกาเล เอกคฺคตา มนสิกาตพฺพา. เอกคฺคตา หิ อิธ สมาธินิมิตฺตนฺติ วุตฺตา. ตตฺร วจนตฺโถ – สมาธิเยว นิมิตฺตํ สมาธินิมิตฺตํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปคฺคโหติ ปน วีริยสฺส นามํ, อุเปกฺขาติ มชฺฌตฺตภาวสฺส. ตสฺมา ¶ วีริยสฺส ยุตฺตกาเล วีริยํ มนสิกาตพฺพํ, มชฺฌตฺตภาวสฺส ยุตฺตกาเล มชฺฌตฺตภาเว าตพฺพนฺติ. านํ ตํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺยาติ การณํ วิชฺชติ เยน ตํ จิตฺตํ โกสชฺชภาเว ติฏฺเยฺย. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อุเปกฺขานิมิตฺตํเยว มนสิ กเรยฺยาติ เอตฺถ จ าณชวํ อุเปกฺเขยฺยาติ อยมตฺโถ. อาสวานํ ขยายาติ อรหตฺตผลตฺถาย.
อุกฺกํ พนฺเธยฺยาติ องฺคารกปลฺลํ สชฺเชยฺย. อาลิมฺเปยฺยาติ ตตฺถ องฺคาเร ปกฺขิปิตฺวา อคฺคึ ทตฺวา นาฬิกาย ธมนฺโต อคฺคึ คาหาเปยฺย. อุกฺกามุเข ปกฺขิเปยฺยาติ องฺคาเร วิยูหิตฺวา องฺคารมตฺถเก วา เปยฺย, มูสาย วา ปกฺขิเปยฺย. อชฺฌุเปกฺขตีติ ปกฺกาปกฺกภาวํ อุปธาเรติ.
สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยายาติ อรหตฺตผลตฺถาย สมฺมา ปียติ. เอตฺตาวตา ¶ หิ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตปฺปตฺโต ภิกฺขุ ทสฺสิโต. อิทานิ ตสฺส ขีณาสวสฺส อภิฺาย ปฏิปทํ ทสฺเสนฺโต ยสฺส ยสฺส จาติอาทิมาห. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
โลณกปลฺลวคฺโค ปฺจโม.
ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๓. ตติยปณฺณาสกํ
(๑๑) ๑. สมฺโพธวคฺโค
๑. ปุพฺเพวสมฺโพธสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม ปุพฺเพว สมฺโพธาติ สมฺโพธิโต ปุพฺเพว, อริยมคฺคปฺปตฺติโต อปรภาเคเยวาติ วุตฺตํ โหติ. อนภิสมฺพุทฺธสฺสาติ อปฺปฏิวิทฺธจตุสจฺจสฺส. โพธิสตฺตสฺเสว สโตติ พุชฺฌนกสตฺตสฺเสว สโต, สมฺมาสมฺโพธึ อธิคนฺตุํ อารภนฺตสฺเสว สโต, สมฺโพธิยา วา สตฺตสฺเสว ลคฺคสฺเสว สโต. ทีปงฺกรสฺส หิ ภควโต ปาทมูเล อฏฺธมฺมสโมธาเนน อภินีหารสมิทฺธิโต ปภุติ ตถาคโต สมฺมาสมฺโพธึ สตฺโต ลคฺโค ‘‘ปตฺตพฺพา มยา เอสา’’ติ ตทธิคมาย ปรกฺกมํ อมฺุจนฺโตเยว อาคโต, ตสฺมา โพธิสตฺโตติ วุจฺจติ. โก นุ โขติ กตโม นุ โข. โลโกติ สงฺขารโลโก. อสฺสาโทติ มธุรากาโร. อาทีนโวติ อนภินนฺทิตพฺพากาโร. ตสฺส มยฺหนฺติ ตสฺส เอวํ โพธิสตฺตสฺเสว สโต มยฺหํ. ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ นิพฺพานํ อาคมฺม อารพฺภ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค วินยํ คจฺฉติ ปหียติ, ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหาน’’นฺติ วุจฺจติ. อิทํ โลกนิสฺสรณนฺติ อิทํ นิพฺพานํ โลกโต นิสฺสฏตฺตา โลกนิสฺสรณนฺติ วุจฺจติ. ยาวกีวนฺติ ¶ ยตฺตกํ ปมาณํ กาลํ. อพฺภฺาสินฺติ อภิวิสิฏฺเน อริยมคฺคาเณน อฺาสึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนนฺติ ทฺวีหิปิ ปเทหิ ปจฺจเวกฺขณาณํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๒. ปมอสฺสาทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕. ทุติเย อสฺสาทปริเยสนํ อจรินฺติ อสฺสาทปริเยสนตฺถาย อจรึ. กุโต ปฏฺายาติ? สุเมธกาลโต ปฏฺาย. ปฺายาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย. สุทิฏฺโติ สุปฺปฏิวิทฺโธ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตติยํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
๔. สมณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
๑๐๗. จตุตฺเถ ¶ ¶ สามฺตฺถนฺติ จตุพฺพิธํ อริยผลํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. สามฺตฺเถน วา จตฺตาโร มคฺคา, พฺรหฺมฺตฺเถน จตฺตาริ ผลานิ. อิเมสุ ปน จตูสุปิ สุตฺเตสุ ขนฺธโลโกว กถิโต.
๕. รุณฺณสุตฺตวณฺณนา
๑๐๘. ปฺจมํ อตฺถุปฺปตฺติยา นิกฺขิตฺตํ. กตราย อตฺถุปฺปตฺติยา? ฉพฺพคฺคิยานํ อนาจาเร. เต กิร คายนฺตา นจฺจนฺตา หสนฺตา วิจรึสุ. ภิกฺขู ทสพลสฺส อาโรจยึสุ. สตฺถา เต ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ โอวาทตฺถาย อิทํ สุตฺตํ อารภิ. ตตฺถ รุณฺณนฺติ โรทิตํ. อุมฺมตฺตกนฺติ อุมฺมตฺตกกิริยา. โกมารกนฺติ กุมารเกหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ. ทนฺตวิทํสกหสิตนฺติ ทนฺเต ทสฺเสตฺวา ปาณึ ปหรนฺตานํ มหาสทฺเทน หสิตํ. เสตุฆาโต คีเตติ คีเต โว ปจฺจยฆาโต โหตุ, สเหตุกํ คีตํ ปชหถาติ ทีเปติ. นจฺเจปิ เอเสว นโย. อลนฺติ ยุตฺตํ. ธมฺมปฺปโมทิตานํ สตนฺติ เอตฺถ ธมฺโม วุจฺจติ การณํ, เกนจิเทว การเณน ปมุทิตานํ สนฺตานํ. สิตํ สิตมตฺตายาติ ตสฺมึ สิตการเณ สติ ยํ สิตํ กโรถ, ตํ โว สิตมตฺตาย อคฺคทนฺเต ทสฺเสตฺวา ปหฏฺาการมตฺตทสฺสนายเยว ¶ ยุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๖. อติตฺติสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙. ฉฏฺเ โสปฺปสฺสาติ นิทฺทาย. ปฏิเสวนาย นตฺถิ ติตฺตีติ ยถา ยถา ปฏิเสวติ, ตถา ตถา รุจฺจติเยวาติ ติตฺติ นาม นตฺถิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. สเจ หิ มหาสมุทฺเท อุทกํ สุรา ภเวยฺย, สุราโสณฺโฑ จ มจฺโฉ หุตฺวา นิพฺพตฺเตยฺย, ตสฺส ตตฺถ จรนฺตสฺสปิ สยนฺตสฺสปิ ติตฺติ นาม น ภเวยฺย. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ.
๗. อรกฺขิตสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐. สตฺตเม อวสฺสุตํ โหตีติ ตินฺตํ โหติ. น ภทฺทกํ มรณํ โหตีติ อปาเย ปฏิสนฺธิปจฺจยตาย น ลทฺธกํ โหติ. กาลกิริยาติ ตสฺเสว เววจนํ. สุกฺกปกฺเข สคฺเค ปฏิสนฺธิปจฺจยตาย ¶ ภทฺทกํ โหติ ¶ ลทฺธกํ. ตํ ปน เอกนฺเตน โสตาปนฺนาทีนํ ติณฺณํ อริยสาวกานํเยว วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๘. พฺยาปนฺนสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑. อฏฺเม พฺยาปนฺนนฺติ ปกติภาวํ ชหิตฺวา ิตํ. เสสํ ปุริมสุตฺเต วุตฺตนยเมว.
๙. ปมนิทานสุตฺตวณฺณนา
๑๑๒. นวเม นิทานานีติ การณานิ. กมฺมานํ สมุทยายาติ วฏฺฏคามิกมฺมานํ ปิณฺฑกรณตฺถาย. โลภปกตนฺติ โลเภน ปกตํ. สาวชฺชนฺติ สโทสํ. ตํ กมฺมํ กมฺมสมุทยาย สํวตฺตตีติ ตํ กมฺมํ อฺเสมฺปิ วฏฺฏคามิกมฺมานํ สมุทยาย ปิณฺฑกรณตฺถาย สํวตฺตติ. น ตํ กมฺมํ กมฺมนิโรธายาติ ตํ ปน กมฺมํ วฏฺฏคามิกมฺมานํ นิโรธตฺถาย น สํวตฺตติ. สุกฺกปกฺเข ¶ กมฺมานํ สมุทยายาติ วิวฏฺฏคามิกมฺมานํ สมุทยตฺถาย. อิมินา นเยน สพฺพํ อตฺถโต เวทิตพฺพํ.
๑๐. ทุติยนิทานสุตฺตวณฺณนา
๑๑๓. ทสเม กมฺมานนฺติ วฏฺฏคามิกมฺมานเมว. ฉนฺทราคฏฺานิเยติ ฉนฺทราคสฺส การณภูเต. อารพฺภาติ อาคมฺม สนฺธาย ปฏิจฺจ. ฉนฺโทติ ตณฺหาฉนฺโท. โย เจตโส สาราโคติ โย จิตฺตสฺส ราโค รชฺชนา รชฺชิตตฺตํ, เอตมหํ สํโยชนํ วทามิ, พนฺธนํ วทามีติ อตฺโถ. สุกฺกปกฺเข กมฺมานนฺติ วิวฏฺฏคามิกมฺมานํ. ตทภินิวตฺเตตีติ ตํ อภินิวตฺเตติ. ยทา วา เตน วิปาโก าโต โหติ วิทิโต, ตทา เต เจว ธมฺเม ตฺจ วิปากํ อภินิวตฺเตติ. อิมินา จ ปเทน วิปสฺสนา กถิตา, ตทภินิวตฺเตตฺวาติ อิมินา มคฺโค. เจตสา อภินิวิชฺฌิตฺวาติ อิมินา จ มคฺโคว. ปฺาย อติวิชฺฌ ปสฺสตีติ สห วิปสฺสนาย มคฺคปฺาย นิพฺพิชฺฌิตฺวา ปสฺสติ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ.
สมฺโพธวคฺโค ปโม.
(๑๒) ๒. อาปายิกวคฺโค
๑. อาปายิกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม อปายํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ อาปายิกา. นิรยํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ เนรยิกา. อิทมปฺปหายาติ อิทํ พฺรหฺมจาริปฏิฺตาทึ ปาปธมฺมตฺตยํ อวิชหิตฺวา. พฺรหฺมจาริปฏิฺโติ ¶ พฺรหฺมจาริปฏิรูปโก, เตสํ วา อากปฺปํ อวิชหเนน ‘‘อหมฺปิ พฺรหฺมจารี’’ติ เอวํปฏิฺโ. อนุทฺธํเสตีติ อกฺโกสติ ปริภาสติ โจเทติ. นตฺถิ กาเมสุ โทโสติ กิเลสกาเมน วตฺถุกาเม เสวนฺตสฺส นตฺถิ โทโส. ปาตพฺยตนฺติ ปิวิตพฺพตํ ปริภฺุชิตพฺพตํ นิราสงฺเกน จิตฺเตน ปิปาสิตสฺส ปานียปิวนสทิสํ ปริภฺุชิตพฺพตํ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ.
๒. ทุลฺลภสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕. ทุติเย กตฺู กตเวทีติ ‘‘อิมินา มยฺหํ กต’’นฺติ เตน กตกมฺมํ ตฺวา วิทิตํ ปากฏํ กตฺวา ปฏิกรณกปุคฺคโล.
๓. อปฺปเมยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. ตติเย สุเขน เมตพฺโพติ สุปฺปเมยฺโย. ทุกฺเขน เมตพฺโพติ ทุปฺปเมยฺโย. ปเมตุํ น สกฺโกตีติ อปฺปเมยฺโย. อุนฺนโฬติ อุคฺคตนโฬ, ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. จปโลติ ปตฺตมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน สมนฺนาคโต. มุขโรติ มุขขโร. วิกิณฺณวาโจติ อสฺตวจโน. อสมาหิโตติ จิตฺเตกคฺคตารหิโต. วิพฺภนฺตจิตฺโตติ ภนฺตจิตฺโต ภนฺตคาวิภนฺตมิคสปฺปฏิภาโค. ปากตินฺทฺริโยติ วิวฏินฺทฺริโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๔. อาเนฺชสุตฺตวณฺณนา
๑๑๗. จตุตฺเถ ¶ ตทสฺสาเทตีติ ตํ ฌานํ อสฺสาเทติ. ตํ นิกาเมตีติ ตเทว ปตฺเถติ. เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชตีติ เตน ฌาเนน ตุฏฺึ อาปชฺชติ. ตตฺร ิโตติ ตสฺมึ ฌาเน ิโต. ตทธิมุตฺโตติ ตตฺเถว อธิมุตฺโต. ตพฺพหุลวิหารีติ เตน พหุลํ วิหรนฺโต. สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติ สหภาวํ อุปปชฺชติ, ตสฺมึ เทวโลเก นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ ¶ . นิรยมฺปิ คจฺฉตีติอาทิ นิรยาทีหิ อวิปฺปมุตฺตตฺตา อปรปริยายวเสน ตตฺถ คมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. น ¶ หิ ตสฺส อุปจารชฺฌานโต พลวตรํ อกุสลํ อตฺถิ, เยน อนนฺตรํ อปาเย นิพฺพตฺเตยฺย. ภควโต ปน สาวโกติ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํ อฺตโร. ตสฺมึเยว ภเวติ ตตฺเถว อรูปภเว. ปรินิพฺพายตีติ อปฺปจฺจยปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ. อธิปฺปยาโสติ อธิกปฺปโยโค. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ปุถุชฺชนสฺส อุปปตฺติชฺฌานํ กถิตํ, อริยสาวกสฺส ตเทว อุปปตฺติชฺฌานฺจ วิปสฺสนาปาทกชฺฌานฺจ กถิตํ.
๕. วิปตฺติสมฺปทาสุตฺตวณฺณนา
๑๑๘. ปฺจเม สีลวิปตฺตีติ สีลสฺส วิปนฺนากาโร. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. นตฺถิ ทินฺนนฺติ ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธาย วทติ. ยิฏฺํ วุจฺจติ มหาโยโค. หุตนฺติ ปเหณกสกฺกาโร อธิปฺเปโต. ตมฺปิ อุภยํ ผลาภาวเมว สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สุกตทุกฺกฏานนฺติ สุกตทุกฺกตานํ, กุสลากุสลานนฺติ อตฺโถ. ผลํ วิปาโกติ ยํ ผลนฺติ วา วิปาโกติ วา วุจฺจติ, ตํ นตฺถีติ วทติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถิ, นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธ โลเก ิตสฺสาปิ ปรโลโก นตฺถิ, สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตีติ ทสฺเสติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ เตสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลาภาววเสน วทติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวิตฺวา อุปฺปชฺชนกสตฺตา นาม นตฺถีติ วทติ. สมฺปทาติ ปาริปูริโย. สีลสมฺปทาติ สีลสฺส ปริปุณฺณอเวกลฺลภาโว. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน คเหตพฺพํ.
๖. อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๙. ฉฏฺเ ¶ ¶ อปณฺณโก มณีติ ฉหิ ตเลหิ สมนฺนาคโต ปาสโก. สุคตึ สคฺคนฺติ จาตุมหาราชิกาทีสุ อฺตรํ สคฺคํ โลกํ. อิมสฺมึ สุตฺเต สีลฺจ สมฺมาทิฏฺิ จาติ อุภยมฺปิ มิสฺสกํ กถิตํ. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.
๘. ปมโสเจยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๑. อฏฺเม ¶ โสเจยฺยานีติ สุจิภาวา. กายโสเจยฺยนฺติ กายทฺวาเร สุจิภาโว. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิเมสุ ปน ปฏิปาฏิยา จตูสุ สุตฺเตสุ อคาริกปฏิปทา กถิตา. โสตาปนฺนสกทาคามีนมฺปิ วฏฺฏติ.
๙. ทุติยโสเจยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๒. นวเม อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ. กามจฺฉนฺทนฺติ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. พฺยาปาทาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. คาถาย ปน กายสุจินฺติ กายทฺวาเร สุจึ, กาเยน วา สุจึ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. นินฺหาตปาปกนฺติ สพฺเพ ปาเป นินฺหาเปตฺวา โธวิตฺวา ิตํ. อิมินา สุตฺเตนปิ คาถายปิ ขีณาสโวว กถิโตติ.
๑๐. โมเนยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๓. ทสเม โมเนยฺยานีติ มุนิภาวา. กายโมเนยฺยนฺติ กายทฺวาเร มุนิภาโว สาธุภาโว ปณฺฑิตภาโว. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กายโมเนยฺยนฺติ อิทํ ติวิธกายทุจฺจริตปฺปหานํ กายโมเนยฺยํ นาม. อปิจ ติวิธํ กายสุจริตมฺปิ กายโมเนยฺยํ, ตถา กายารมฺมณํ ¶ าณํ กายโมเนยฺยํ, กายปริฺา กายโมเนยฺยํ, ปริฺาสหคโต มคฺโค กายโมเนยฺยํ, กาเย ฉนฺทราคสฺส ปหานํ กายโมเนยฺยํ, กายสงฺขารนิโรโธ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ กายโมเนยฺยํ. วจีโมเนยฺเยปิ เอเสว นโย.
อยํ ¶ ปเนตฺถ วิเสโส – ยถา อิธ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ, เอวํ ตตฺถ วจีสงฺขารนิโรโธ ทุติยชฺฌานสมาปตฺติ วจีโมเนยฺยนฺติ เวทิตพฺพา. มโนโมเนยฺยมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺถํ ตฺวา จิตฺตสงฺขารนิโรโธ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ มโนโมเนยฺยนฺติ เวทิตพฺพา. กายมุนินฺติ กายทฺวาเร มุนึ อุตฺตมํ ปริสุทฺธํ, กาเยน วา มุนึ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. สพฺพปฺปหายินนฺติ ขีณาสวํ. ขีณาสโว หิ สพฺพปฺปหายี นามาติ.
อาปายิกวคฺโค ทุติโย.
(๑๓) ๓. กุสินารวคฺโค
๑. กุสินารสุตฺตวณฺณนา
๑๒๔. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม กุสินารายนฺติ เอวํนามเก นคเร. พลิหรเณ วนสณฺเฑติ เอวํนามเก วนสณฺเฑ. ตตฺถ กิร ภูตพลิกรณตฺถํ พลึ หรนฺติ, ตสฺมา พลิหรณนฺติ วุจฺจติ. อากงฺขมาโนติ อิจฺฉมาโน. สหตฺถาติ สหตฺเถน. สมฺปวาเรตีติ อลํ อลนฺติ วาจาย เจว หตฺถวิกาเรน จ ปฏิกฺขิปาเปติ. สาธุ วต มายนฺติ สาธุ วต มํ อยํ. คถิโตติ ตณฺหาเคเธน คถิโต. มุจฺฉิโตติ ¶ ตณฺหามุจฺฉนายเยว มุจฺฉิโต. อชฺโฌปนฺโนติ ตณฺหาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ปวตฺโต. อนิสฺสรณปฺโติ ฉนฺทราคํ ปหาย สํกฑฺฒิตฺวา ปริภฺุชนฺโต นิสฺสรณปฺโ นาม โหติ, อยํ น ตาทิโส, สจฺฉนฺทราโค ปริภฺุชตีติ อนิสฺสรณปฺโ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ. เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ปเนตฺถ มิสฺสกา กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๒. ภณฺฑนสุตฺตวณฺณนา
๑๒๕. ทุติเย ปชหึสูติ ปชหนฺติ. พหุลมกํสูติ ปุนปฺปุนํ กโรนฺติ. อิธาปิ ตโย วิตกฺกา มิสฺสกาว กถิตา.
๓. โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๖. ตติเย โคตมเก เจติเยติ โคตมกยกฺขสฺส ภวเน. ตถาคโต หิ ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ กทาจิ จาปาเล เจติเย, กทาจิ สารนฺทเท, กทาจิ พหุปุตฺเต, กทาจิ โคตมเกติ เอวํ เยภุยฺเยน เทวกุเลสุเยว วิหาสิ. อิมสฺมึ ปน กาเล เวสาลึ อุปนิสฺสาย โคตมกสฺส ยกฺขสฺส ภวนฏฺาเน วิหาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โคตมเก เจติเย’’ติ. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อภิฺายาห’’นฺติอาทิกํ สุตฺตํ อโวจ.
อิทฺจ ¶ ภควตา สุตฺตํ อตฺถุปฺปตฺติยํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กตรอตฺถุปฺปตฺติยนฺติ? มูลปริยายอตฺถุปฺปตฺติยํ (ม. นิ. ๑.๑ อาทโย). สมฺพหุลา กิร พฺราหฺมณปพฺพชิตา อตฺตนา ¶ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ นิสฺสาย ชานนมทํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมสฺสวนคฺคํ น คจฺฉนฺติ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ กเถนฺโต อมฺเหหิ าตเมว กเถสฺสติ, โน อฺาต’’นฺติ. ภิกฺขู ตถาคตสฺส อาโรเจสุํ. สตฺถา เต ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา มุขปฏิฺํ คเหตฺวา มูลปริยายํ เทเสสิ. เต ภิกฺขู เทสนาย เนว อาคตฏฺานํ, น คตฏฺานํ อทฺทสํสุ. อปสฺสนฺตา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ‘มยฺหํ กถา นิยฺยาตี’ติ มุขสมฺปตฺตเมว กเถตี’’ติ จินฺตยึสุ. สตฺถา เตสํ มนํ ชานิตฺวา อิมํ สุตฺตนฺตํ อารภิ.
ตตฺถ อภิฺายาติ ‘‘อิเม ปฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ¶ ธาตุโย, พาวีสตินฺทฺริยานิ, จตฺตาริ สจฺจานิ, นว เหตู, สตฺต ผสฺสา, สตฺต เวทนา, สตฺต เจตนา, สตฺต สฺา, สตฺต จิตฺตานี’’ติ ชานิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา, ตถา – ‘‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา นเยน เต เต ธมฺเม ชานิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขเมว กตฺวาติ อตฺโถ. สนิทานนฺติ สปฺปจฺจยเมว กตฺวา กเถมิ, โน อปฺปจฺจยํ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ปจฺจนีกปฏิหรเณน สปฺปาฏิหาริยเมว กตฺวา กเถมิ, โน อปฺปาฏิหาริยํ. อลฺจ ปน โวติ ยุตฺตฺจ ปน ตุมฺหากํ. ตุฏฺิยาติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ ตีณิ รตนานิ คุณโต อนุสฺสรนฺตานํ ตุมฺหากํ ยุตฺตเมว ตุฏฺึ กาตุนฺติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
อกมฺปิตฺถาติ ฉหิ อากาเรหิ อกมฺปิตฺถ. เอวรูโป หิ ปถวิกมฺโป โพธิมณฺเฑปิ อโหสิ. โพธิสตฺเต กิร ทกฺขิณทิสาภาเคน โพธิมณฺฑํ อภิรุฬฺเห ทกฺขิณทิสาภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย อโหสิ, อุตฺตรภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. ปจฺฉิมทิสํ คเต ปจฺฉิมภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย อโหสิ, ปาจีนภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. อุตฺตรทิสํ คเต อุตฺตรทิสาภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย, ทกฺขิณทิสาภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. ปาจีนทิสํ คเต ปาจีนทิสาภาโค เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย, ปจฺฉิมภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. โพธิรุกฺโขปิ สกึ เหฏฺา อวีจึ ปาปุณนฺโต วิย, สกึ อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนนฺโต วิย. ตสฺมิมฺปิ ทิวเส เอวํ ฉหิ อากาเรหิ จกฺกวาฬสหสฺสี มหาปถวี อกมฺปิตฺถ.
๔. ภรณฺฑุกาลามสุตฺตวณฺณนา
๑๒๗. จตุตฺเถ ¶ ¶ เกวลกปฺปนฺติ สกลกปฺปํ. อนฺวาหิณฺฑนฺโตติ วิจรนฺโต. นาทฺทสาติ กึ การณา น อทฺทส? อยํ กิร ภรณฺฑุ กาลาโม สกฺยานํ อคฺคปิณฺฑํ ขาทนฺโต วิจรติ. ตสฺส วสนฏฺานํ สมฺปตฺตกาเล เอกา ธมฺมเทสนา สมุฏฺหิสฺสตีติ ¶ ตฺวา ภควา เอวํ อธิฏฺาสิ, ยถา อฺโ อาวสโถ น ปฺายิตฺถ. ตสฺมา น อทฺทส. ปุราณสพฺรหฺมจารีติ โปราณโก สพฺรหฺมจารี. โส กิร อาฬารกาลามกาเล ตสฺมึเยว อสฺสเม อโหสิ, ตํ สนฺธาเยวมาห. สนฺถรํ ปฺาเปหีติ สนฺถริตพฺพํ สนฺถราหีติ อตฺโถ. สนฺถรํ ปฺาเปตฺวาติ กปฺปิยมฺจเก ปจฺจตฺถรณํ ปฺาเปตฺวา. กามานํ ปริฺํ ปฺาเปตีติ เอตฺถ ปริฺา นาม สมติกฺกโม, ตสฺมา กามานํ สมติกฺกมํ ปมชฺฌานํ ปฺาเปติ. น รูปานํ ปริฺนฺติ รูปานํ สมติกฺกมภูตํ อรูปาวจรสมาปตฺตึ น ปฺาเปติ. น เวทนานํ ปริฺนฺติ เวทนานํ สมติกฺกมํ นิพฺพานํ น ปฺาเปติ. นิฏฺาติ คติ นิปฺผตฺติ. อุทาหุ ปุถูติ อุทาหุ นานา.
๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๑๒๘. ปฺจเม อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ เอตฺถ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ, อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ เอวมาทีสุ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) สุนฺทเร.
‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๗) –
เอวมาทีสุ อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๑๕) อพฺภนุโมทเน. อิธ ปน สุนฺทเร. เตน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย รตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท อภิรูเป, วณฺณสทฺโท ¶ ปน ฉวิถุติกุลวคฺคการณสณฺานปมาณรูปายตนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา’’ติ ¶ ¶ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๓) ฉวิยํ. ‘‘กทา สฺูฬฺหา ปน เต คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๗) ถุติยํ. ‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๓.๑๑๕) กุลวคฺเค. ‘‘อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธตฺเถโนติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓๔) การเณ. ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) สณฺาเน. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๖๐๒) ปมาเณ. ‘‘วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา’’ติ เอวมาทีสุ รูปายตเน. โส อิธ ฉวิยา ทฏฺพฺโพ. เตน อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อภิรูปจฺฉวิ, อิฏฺวณฺณา มนาปวณฺณาติ วุตฺตํ โหติ.
เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวลสทฺโท อนวเสสเยภุยฺยาพฺยามิสฺสานติเรกทฬฺหตฺถวิสํโยคาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๑) อนวเสสตา อตฺโถ. ‘‘เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อุปสงฺกมิสฺสนฺตี’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๔๓) เยภุยฺยตา. ‘‘เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ เอวมาทีสุ (วิภ. ๒๒๕) อพฺยามิสฺสตา. ‘‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๒๔๔) อนติเรกตา. ‘‘อายสฺมโต, ภนฺเต, อนุรุทฺธสฺส พาหิโย นาม สทฺธิวิหาริโก เกวลกปฺปํ สงฺฆเภทาย ิโต’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๔๓) ทฬฺหตฺถตา. ‘‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๕๗) วิสํโยโค. อิธ ¶ ปน อนวเสสตา อตฺโถติ อธิปฺเปตา.
กปฺปสทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหนโวหารกาลปฺตฺติเฉทนวิกปฺปเลสสมนฺตภาวาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘โอกปฺปนิยเมตํ โภโต โคตมสฺส, ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อภิสทฺทหนมตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๒๕๐) โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (สุ. นิ. ๑๐๙๘; จูฬนิ. กปฺปมาณวปุจฺฉา ๑๑๗, กปฺปมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๖๑) ปฺตฺติ ¶ . ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๓๖๘; วิ. ว. ๑๐๙๔) เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๔๔๖) วิกปฺโป. ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๘.๘๐) เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ ¶ โอภาเสตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๔) สมนฺตภาโว. อิธ ปนสฺส สมนฺตภาโว อตฺโถ อธิปฺเปโต. ตสฺมา เกวลกปฺปํ เชตวนนฺติ เอตฺถ อนวเสสํ สมนฺตโต เชตวนนฺติ อตฺโถ.
โอภาเสตฺวาติ อาภาย ผริตฺวา. วาลุกายาติ สณฺหาย วาลุกาย. น สณฺาตีติ น ปติฏฺาติ. โอฬาริกนฺติ พฺรหฺมเทวตาย หิ ปถวิยํ ปติฏฺานกาเล อตฺตภาโว โอฬาริโก มาเปตุํ วฏฺฏติ ปถวี วา, ตสฺมา เอวมาห. ธมฺมาติ อิมินา ปุพฺเพ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ ทสฺเสติ. นปฺปวตฺติโน อเหสุนฺติ สชฺฌายมูฬฺหกา วาจา ปริหีนาเยว อเหสุํ. อปฺปฏิวาโนติ ¶ อนิวตฺโต อนุกฺกณฺิโต.
ทสฺสนสฺสาติ จกฺขุวิฺาเณน ทสฺสนสฺส. อุปฏฺานสฺสาติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺานสฺส. อธิสีลนฺติ ทสวิธํ สีลํ. ตฺหิ ปฺจสีลํ อุปาทาย อธิสีลนฺติ วุจฺจติ. อวิหํ คโตติ อวิหพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโตสฺมีติ ทสฺเสติ.
๖. กฏุวิยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๙. ฉฏฺเ โคโยคปิลกฺขสฺมินฺติ คาวีนํ วิกฺกยฏฺาเน อุฏฺิตปิลกฺขสฺส สนฺติเก. ริตฺตสฺสาทนฺติ ฌานสุขาภาเวน ริตฺตสฺสาทํ. พาหิรสฺสาทนฺติ กามคุณสุขวเสน พาหิรสฺสาทํ. กฏุวิยนฺติ อุจฺฉิฏฺํ. อามคนฺเธนาติ โกธสงฺขาเตน วิสฺสคนฺเธน. อวสฺสุตนฺติ ตินฺตํ. มกฺขิกาติ กิเลสมกฺขิกา. นานุปติสฺสนฺตีติ อุฏฺาย น อนุพนฺธิสฺสนฺติ. นานฺวาสฺสวิสฺสนฺตีติ อนุพนฺธิตฺวา น ขาทิสฺสนฺติ. สํเวคมาปาทีติ โสตาปนฺโน ชาโต.
กฏุวิยกโตติ อุจฺฉิฏฺกโต. อารกา โหตีติ ทูเร โหติ. วิฆาตสฺเสว ภาควาติ ทุกฺขสฺเสว ภาคี. จเรตีติ จรติ คจฺฉติ. ทุมฺเมโธติ ทุปฺปฺโ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ, คาถาสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ. สตฺตเม วฏฺฏเมว ภาสิตํ.
๘. ทุติยอนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๓๑. อฏฺเม ¶ ¶ อิทํ เต มานสฺมินฺติ อยํ เต นววิเธน วฑฺฒิตมาโนติ อตฺโถ. อิทํ เต อุทฺธจฺจสฺมินฺติ อิทํ ตว อุทฺธจฺจํ จิตฺตสฺส อุทฺธตภาโว. อิทํ ¶ เต กุกฺกุจฺจสฺมินฺติ อิทํ ตว กุกฺกุจฺจํ.
๙. ปฏิจฺฉนฺนสุตฺตวณฺณนา
๑๓๒. นวเม อาวหนฺตีติ นิยฺยนฺติ. ปฏิจฺฉนฺโน อาวหตีติ ปฏิจฺฉนฺโนว หุตฺวา นิยฺยาติ. วิวโฏ วิโรจตีติ เอตฺถ เอกโต อุภโต อตฺตโต สพฺพตฺถกโตติ จตุพฺพิธา วิวฏตา เวทิตพฺพา. ตตฺถ เอกโต วิวฏํ นาม อสาธารณสิกฺขาปทํ. อุภโต วิวฏํ นาม สาธารณสิกฺขาปทํ. อตฺตโต วิวฏํ นาม ปฏิลทฺธธมฺมคุโณ. สพฺพตฺถกวิวฏํ นาม เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ.
๑๐. เลขสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. ทสเม อภิณฺหนฺติ อภิกฺขณํ นิรนฺตรํ. อาคาฬฺเหนาติ คาฬฺเหน กกฺขเฬน. ผรุเสนาติ ผรุสวจเนน. คาฬฺหํ กตฺวา ผรุสํ กตฺวา วุจฺจมาโนปีติ อตฺโถ. อมนาเปนาติ มนํ อนลฺลียนฺเตน อวฑฺฒนฺเตน. สนฺธิยติเมวาติ ฆฏิยติเยว. สํสนฺทติเมวาติ นิรนฺตโรว โหติ. สมฺโมทติเมวาติ เอกีภาวเมว คจฺฉติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
กุสินารวคฺโค ตติโย.
(๑๔) ๔. โยธาชีววคฺโค
๑. โยธาชีวสุตฺตวณฺณนา
๑๓๔. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม ยุทฺธํ อุปชีวตีติ โยธาชีโว. ราชารโหติ รฺโ อนุจฺฉวิโก. ราชโภคฺโคติ รฺโ อุปโภคปริโภโค. องฺคนฺเตว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ หตฺโถ วิย ปาโท วิย จ อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺพตฺตา องฺคนฺติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ทูเร ปาตี โหตีติ อุทเก อุสภมตฺตํ ¶ , ถเล อฏฺุสภมตฺตํ, ตโต วา อุตฺตรินฺติ ทูเร กณฺฑํ ปาเตติ. ทุฏฺคามณิอภยสฺส หิ โยธาชีโว นวอุสภมตฺตํ กณฺฑํ ปาเตสิ, ปจฺฉิมภเว โพธิสตฺโต โยชนปฺปมาณํ. อกฺขณเวธีติ ¶ อวิราธิตเวธี, อกฺขณํ วา วิชฺชุ วิชฺชนฺตริกาย วิชฺฌิตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ. มหโต กายสฺส ปทาเลตาติ เอกโตพทฺธํ ผลกสตมฺปิ มหึสจมฺมสตมฺปิ องฺคุฏฺปมาณพหลํ โลหปฏฺฏมฺปิ จตุรงฺคุลพหลํ อสนปทรมฺปิ วิทตฺถิพหลํ อุทุมฺพรปทรมฺปิ ทีฆนฺเตน วาลิกสกฏมฺปิ วินิวิชฺฌิตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ. ยํกิฺจิ รูปนฺติอาทิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตเมว. เนตํ มมาติอาทิ ตณฺหามานทิฏฺิปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ. สมฺมปฺปฺาย ปสฺสตีติ สมฺมา เหตุนา การเณน สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ปสฺสติ. ปทาเลตีติ อรหตฺตมคฺเคน ปทาเลติ.
๒. ปริสาสุตฺตวณฺณนา
๑๓๕. ทุติเย อุกฺกาจิตวินีตาติ อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา วินีตา ทุพฺพินีตปริสา. ปฏิปุจฺฉาวินีตาติ ปุจฺฉิตฺวา วินีตา สุวินีตปริสา. ยาวตาวินีตาติ ปมาณวเสน วินีตา, ปมาณํ ตฺวา วินีตปริสาติ อตฺโถ. ‘‘ยาวตชฺฌา’’ติ ปาฬิยา ปน ยาว อชฺฌาสยาติ อตฺโถ, อชฺฌาสยํ ตฺวา วินีตปริสาติ วุตฺตํ โหติ. ตติยํ อุตฺตานเมว.
๔. อุปฺปาทาสุตฺตวณฺณนา
๑๓๗. จตุตฺเถ ¶ ธมฺมฏฺิตตาติ สภาวฏฺิตตา. ธมฺมนิยามตาติ สภาวนิยามตา. สพฺเพ สงฺขาราติ จตุภูมกสงฺขารา. อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา. ทุกฺขาติ สมฺปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขา. อนตฺตาติ อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตา. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ตีณิ ลกฺขณานิ มิสฺสกานิ กถิตานิ.
๕. เกสกมฺพลสุตฺตวณฺณนา
๑๓๘. ปฺจเม ตนฺตาวุตานํ วตฺถานนฺติ ปจฺจตฺเต สามิวจนํ, ตนฺเตหิ วายิตวตฺถานีติ อตฺโถ. เกสกมฺพโลติ ¶ มนุสฺสเกเสหิ วายิตกมฺพโล ¶ . ปุถุสมณพฺราหฺมณวาทานนฺติ อิทมฺปิ ปจฺจตฺเต สามิวจนํ. ปฏิกิฏฺโติ ปจฺฉิมโก ลามโก. โมฆปุริโสติ ตุจฺฉปุริโส. ปฏิพาหตีติ ปฏิเสเธติ. ขิปฺปํ อุฑฺเฑยฺยาติ กุมินํ โอฑฺเฑยฺย. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๘. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๔๑. อฏฺเม อสฺสขฬุงฺโกติ อสฺสโปโต. อิทมสฺส ชวสฺมึ วทามีติ อยมสฺส าณชโวติ วทามิ. อิทมสฺส วณฺณสฺมึ วทามีติ อยมสฺส คุณวณฺโณติ วทามิ. อิทมสฺส อาโรหปริณาหสฺมินฺติ อยมสฺส อุจฺจภาโว ปริมณฺฑลภาโวติ วทามีติ.
๙. อสฺสปรสฺสสุตฺตวณฺณนา
๑๔๒. นวเม อสฺสปรสฺเสติ อสฺเสสุ ปรสฺเส. ปุริสปรสฺเสติ ปุริเสสุ ปรสฺเส, ปุริสปุริเสติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต ตีณิ มคฺคผลานิ กถิตานิ. ตตฺถ อยํ ตีหิ มคฺเคหิ าณชวสมฺปนฺโนติ เวทิตพฺโพ.
๑๐. อสฺสาชานียสุตฺตวณฺณนา
๑๔๓. ทสเม ¶ ภทฺเรติ ภทฺทเก. อสฺสาชานีเยติ การณาการณํ ชานนเก อสฺเส. ปุริสาชานีเยสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ สุตฺเต อรหตฺตผลํ กถิตํ. ตตฺรายํ อรหตฺตมคฺเคน าณชวสมฺปนฺโนติ เวทิตพฺโพ.
๑๑. ปมโมรนิวาปสุตฺตวณฺณนา
๑๔๔. เอกาทสเม อจฺจนฺตนิฏฺโติ อนฺตํ อติกฺกนฺตนิฏฺโ, อกุปฺปนิฏฺโ ธุวนิฏฺโติ อตฺโถ. เสสํ สทิสเมว.
๑๒. ทุติยโมรนิวาปสุตฺตวณฺณนา
๑๔๕. ทฺวาทสเม อิทฺธิปาฏิหาริเยนาติ อิชฺฌนกปาฏิหาริเยน. อาเทสนาปาฏิหาริเยนาติ ¶ อาทิสิตฺวา อปทิสิตฺวา กถนอนุกถนกถาปาฏิหาริเยน.
๑๓. ตติยโมรนิวาปสุตฺตวณฺณนา
๑๔๖. เตรสเม ¶ สมฺมาทิฏฺิยาติ ผลสมาปตฺตตฺถาย สมฺมาทิฏฺิยา. สมฺมาาเณนาติ ผลาเณน. สมฺมาวิมุตฺติยาติ เสเสหิ ผลสมาปตฺติธมฺเมหิ. อิเมสุ ตีสุปิ สุตฺเตสุ ขีณาสโวว กถิโตติ.
โยธาชีววคฺโค จตุตฺโถ.
(๑๕) ๕. มงฺคลวคฺโค
๑-๙. อกุสลสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๔๗-๑๕๕. ปฺจมสฺส ¶ ปเม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโตติ ยถา อาเนตฺวา ปิโต. ทุติเย สาวชฺเชนาติ สโทเสน. ตติเย วิสเมนาติ สปกฺขลเนน. สเมนาติ อปกฺขลเนน. จตุตฺเถ อสุจินาติ คูถสทิเสน อปริสุทฺเธน อเมชฺเฌน. สุจินาติ ปริสุทฺเธน เมชฺเฌน. ปฺจมาทีนิ อุตฺตานาเนว.
๑๐. ปุพฺพณฺหสุตฺตวณฺณนา
๑๕๖. ทสเม สุนกฺขตฺตนฺติอาทีสุ ยสฺมึ ทิวเส ตโย สุจริตธมฺมา ปูริตา โหนฺติ, โส ทิวโส ลทฺธนกฺขตฺตโยโค นาม, เตนสฺส สทา สุนกฺขตฺตํ นาม โหตีติ วุจฺจติ. สฺเวว ทิวโส กตมงฺคโล นาม โหติ, เตนสฺส สทา สุมงฺคลนฺติ วุจฺจติ. ปภาตมฺปิสฺส สทา สุปฺปภาตเมว, สยนโต อุฏฺานมฺปิ สุหุฏฺิตเมว, ขโณปิ สุกฺขโณว, มุหุตฺโตปิ สุมุหุตฺโตว. เอตฺถ จ ทสจฺฉรปมาโณ ¶ กาโล ขโณ นาม, เตน ขเณน ทสกฺขโณ กาโล ลโย นาม, เตน ลเยน จ ทสลโย กาโล ขณลโย นาม, เตน ทสคุโณ มุหุตฺโต นาม, เตน ทสคุโณ ขณมุหุตฺโต นามาติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. สุยิฏฺํ พฺรหฺมจาริสูติ ยสฺมึ ทิวเส ตีณิ สุจริตานิ ปูริตานิ, ตทาสฺส เสฏฺจารีสุ ทินฺนทานํ สุยิฏฺํ นาม โหติ ¶ . ปทกฺขิณํ กายกมฺมนฺติ ตํ ทิวสํ เตน กตํ กายกมฺมํ วฑฺฒิกายกมฺมํ นาม โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปทกฺขิณานิ กตฺวานาติ วฑฺฒิยุตฺตานิ กายกมฺมาทีนิ กตฺวา. ลภนฺตตฺเถ ปทกฺขิเณติ ปทกฺขิเณ วฑฺฒิอตฺเถเยว ลภติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
มงฺคลวคฺโค ปฺจโม.
ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
(๑๖) ๖. อเจลกวคฺควณฺณนา
๑๕๗-๑๖๓. อิโต ¶ ปเรสุ อาคาฬฺหา ปฏิปทาติ คาฬฺหา กกฺขฬา โลภวเสน ถิรคฺคหณา. นิชฺฌามาติ อตฺตกิลมถานุโยควเสน สุฏฺุ ฌามา สนฺตตฺตา ปริตตฺตา. มชฺฌิมาติ เนว กกฺขฬา น ฌามา มชฺเฌ ภวา. อเจลโกติ นิจฺเจโล นคฺโค. มุตฺตาจาโรติ วิสฺสฏฺาจาโร, อุจฺจารกมฺมาทีสุ โลกิยกุลปุตฺตาจาเรน วิรหิโต ิตโกว อุจฺจารํ กโรติ, ปสฺสาวํ กโรติ, ขาทติ ภฺุชติ. หตฺถาปเลขโนติ หตฺเถ ปิณฺฑมฺหิ นิฏฺิเต ชิวฺหาย หตฺถํ ¶ อปเลขติ, อุจฺจารมฺปิ กตฺวา หตฺถสฺมึเยว ทณฺฑกสฺี หุตฺวา หตฺเถน อปเลขติ. ภิกฺขาย คหณตฺถํ ‘‘เอหิ, ภทนฺเต’’ติ วุตฺโต น เอตีติ น เอหิภทนฺติโก. ‘‘เตน หิ ติฏฺ, ภนฺเต’’ติ วุตฺโตปิ น ติฏฺตีติ น ติฏฺภทนฺติโก. ตทุภยมฺปิ กิร โส ‘‘เอตสฺส วจนํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ น กโรติ. อภิหฏนฺติ ปุเรตรํ คเหตฺวา อาหฏภิกฺขํ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ อิทํ ตุมฺเห อุทฺทิสฺส กตนฺติ เอวมาโรจิตภิกฺขํ. นิมนฺตนนฺติ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ วา วีถึ วา คามํ วา ปวิเสยฺยาถา’’ติ เอวํ นิมนฺติตภิกฺขมฺปิ น สาทิยติ น คณฺหาติ. น กุมฺภิมุขาติ กุมฺภิโต อุทฺธริตฺวา ทียมานํ ภิกฺขมฺปิ น คณฺหาติ. น กโฬปิมุขาติ กโฬปีติ อุกฺขลิ วา ปจฺฉิ วา, ตโตปิ น คณฺหาติ. กสฺมา? ‘‘กุมฺภิกโฬปิโย มํ นิสฺสาย กฏจฺฉุนา ปหารํ ลภนฺตี’’ติ. น เอฬกมนฺตรนฺติ อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา ทียมานํ น คณฺหาติ. กสฺมา? ‘‘อยํ มํ นิสฺสาย อนฺตรกรณํ ลภตี’’ติ. ทณฺฑมุสเลสุปิ เอเสว นโย. ทฺวินฺนนฺติ ¶ ทฺวีสุ ภฺุชมาเนสุ เอกสฺมึ อุฏฺาย เทนฺเต น คณฺหาติ. กสฺมา? กพฬนฺตราโย โหตีติ.
น คพฺภินิยาติอาทีสุ ปน คพฺภินิยา กุจฺฉิยํ ทารโก กิลมติ, ปายนฺติยา ทารกสฺส ขีรนฺตราโย โหติ, ปุริสนฺตรคตาย รติอนฺตราโย โหตีติ น คณฺหาติ. น สงฺกิตฺตีสูติ สงฺกิตฺเตตฺวา กตภตฺเตสุ. ทุพฺภิกฺขสมเย กิร อเจลกสาวกา อเจลกานํ อตฺถาย ตโต ตโต ตณฺฑุลาทีนิ ¶ สมาทเปตฺวา ภตฺตํ ปจนฺติ, อุกฺกฏฺาเจลโก ตโต น ปฏิคฺคณฺหาติ. น ยตฺถ สาติ ยตฺถ สุนโข ‘‘ปิณฺฑํ ลภิสฺสามี’’ติ อุปฏฺิโต โหติ, ตตฺถ ตสฺส อทตฺวา อาหฏํ น คณฺหาติ. กสฺมา? เอตสฺส ปิณฺฑนฺตราโย โหตีติ. สณฺฑสณฺฑจารินีติ สมูหสมูหจารินี ¶ . สเจ หิ อเจลกํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามา’’ติ มนุสฺสา ภตฺตเคหํ ปวิสนฺติ, เตสุ จ ปวิสนฺเตสุ กโฬปิมุขาทีสุ นิลีนา มกฺขิกา อุปฺปติตฺวา สณฺฑสณฺฑา จรนฺติ, ตโต อาหฏํ ภิกฺขํ น คณฺหาติ. กสฺมา? ‘‘มํ นิสฺสาย มกฺขิกานํ โคจรนฺตราโย ชาโต’’ติ.
ถุโสทกนฺติ สพฺพสสฺสสมฺภาเรหิ กตโสวีรกํ. เอตฺถ จ สุราปานเมว สาวชฺชํ, อยํ ปน สพฺเพสุ สาวชฺชสฺี. เอกาคาริโกติ โย เอกสฺมึเยว เคเห ภิกฺขํ ลภิตฺวา นิวตฺตติ. เอกาโลปิโกติ เอเกเนว อาโลเปน ยาเปติ. ทฺวาคาริกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกิสฺสาปิ ทตฺติยาติ เอกาย ทตฺติยา. ทตฺติ นาม เอกา ขุทฺทกปาติ โหติ, ยตฺถ อคฺคภิกฺขํ ปกฺขิปิตฺวา เปนฺติ. เอกาหิกนฺติ เอกทิวสนฺตริกํ. อทฺธมาสิกนฺติ อทฺธมาสนฺตริกํ. ปริยายภตฺตโภชนนฺติ วารภตฺตโภชนํ, เอกาหวาเรน ทฺวีหวาเรน สตฺตาหวาเรน อทฺธมาสวาเรนาติ เอวํ ทิวสวาเรน อาภตภตฺตโภชนํ. สากภกฺโขติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.
อุพฺภฏฺโกติ อุทฺธํ ิตโก. อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโตติ อุกฺกุฏิกวีริยมนุยุตฺโต, คจฺฉนฺโตปิ อุกฺกุฏิโกว หุตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. กณฺฏกาปสฺสยิโกติ อยกณฺฏเก วา ปกติกณฺฏเก วา ภูมิยํ ¶ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ จมฺมํ อตฺถริตฺวา านจงฺกมาทีนิ กโรติ. เสยฺยนฺติ ¶ สยนฺโตปิ ตตฺเถว เสยฺยํ กปฺเปติ. สายํ ตติยมสฺสาติ สายตติยกํ. ปาโต มชฺฌนฺหิเก สายนฺติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ‘‘ปาปํ ปวาเหสฺสามี’’ติ อุทโกโรหนานุโยคํ อนุยุตฺโต วิหรติ.
กาเย กายานุปสฺสีติอาทีนิ เหฏฺา เอกกนิปาตวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทาติ, ภิกฺขเว, อยํ กามสุขลฺลิกานุโยคฺจ อตฺตกิลมถานุโยคฺจาติ ทฺเว อนฺเต อนุปคตา, สสฺสตุจฺเฉทนฺเตหิ วา วิมุตฺตา มชฺฌิมา ปฏิปทาติ เวทิตพฺพา.
อเจลกวคฺโค ฉฏฺโ.
๑๗-๑๘. เปยฺยาลวคฺคาทิวณฺณนา
๑๖๔-๑๘๔. สมนฺุโติ ¶ สมานชฺฌาสโย. ราคสฺสาติ ปฺจกามคุณิกราคสฺส. อภิฺายาติ อภิชานนตฺถํ. สฺุโต สมาธีติอาทีหิ ตีหิปิ สมาธีหิ วิปสฺสนาว กถิตา. วิปสฺสนา หิ นิจฺจาภินิเวส-นิจฺจนิมิตฺต-นิจฺจปณิธิอาทีนํ อภาวา อิมานิ นามานิ ลภติ. ปริฺายาติ ปริชานนตฺถํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโยติ.
เปยฺยาลวคฺคาทิ นิฏฺิตา.
มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
ติกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาเย
จตุกฺกนิปาต-อฏฺกถา
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. ภณฺฑคามวคฺโค
๑. อนุพุทฺธสุตฺตวณฺณนา
๑. จตุกฺกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม อนนุโพธาติ อพุชฺฌเนน อชานเนน. อปฺปฏิเวธาติ อปฺปฏิวิชฺฌเนน อปจฺจกฺขกิริยาย. ทีฆมทฺธานนฺติ จิรกาลํ. สนฺธาวิตนฺติ ภวโต ภวํ คมนวเสน สนฺธาวิตํ. สํสริตนฺติ ปุนปฺปุนํ คมนาคมนวเสน สํสริตํ. มมฺเจว ตุมฺหากฺจาติ มยา จ ตุมฺเหหิ จ. อถ วา สนฺธาวิตํ สํสริตนฺติ สนฺธาวนํ สํสรณํ มมฺเจว ¶ ตุมฺหากฺจ อโหสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อริยสฺสาติ นิทฺโทสสฺส. สีลํ สมาธิ ปฺาติ อิเม ปน ตโย ธมฺมา มคฺคผลสมฺปยุตฺตาว เวทิตพฺพา, วิมุตฺตินาเมน ผลเมว นิทฺทิฏฺํ. ภวตณฺหาติ ภเวสุ ตณฺหา. ภวเนตฺตีติ ¶ ภวรชฺชุ. ตณฺหาย เอว เอตํ นามํ. ตาย หิ สตฺตา โคณา วิย คีวาย พนฺธิตฺวา ตํ ตํ ภวํ นียนฺติ, ตสฺมา ภวเนตฺตีติ วุจฺจติ.
อนุตฺตราติ โลกุตฺตรา. ทุกฺขสฺสนฺตกโรติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกโร. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. อิทมสฺส โพธิมณฺเฑ ปมปรินิพฺพานํ, ปจฺฉา ปน ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโตติ ยถานุสนฺธินา เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
๒. ปปติตสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย ปปติโตติ ปติโต จุโต. อปฺปปติโตติ อปติโต ปติฏฺิโต. ตตฺถ โลกิยมหาชโน ปติโตเยว นาม, โสตาปนฺนาทโย กิเลสุปฺปตฺติกฺขเณ ปติตา นาม, ขีณาสโว เอกนฺตปติฏฺิโต นาม.
จุตา ¶ ปตนฺตีติ เย จุตา, เต ปตนฺติ นาม. ปติตาติ เย ปติตา, เต จุตา นาม. จุตตฺตา ปติตา, ปติตตฺตา จุตาติ อตฺโถ. คิทฺธาติ ราครตฺตา. ปุนราคตาติ ปุน ชาตึ ปุน ชรํ ปุน พฺยาธึ ปุน มรณํ อาคตา นาม โหนฺติ. กตํ กิจฺจนฺติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตํ. รตํ รมฺมนฺติ รมิตพฺพยุตฺตเก คุณชาเต รมิตํ. สุเขนานฺวาคตํ สุขนฺติ สุเขน สุขํ อนุอาคตํ สมฺปตฺตํ. มานุสกสุเขน ทิพฺพสุขํ, ฌานสุเขน วิปสฺสนาสุขํ, วิปสฺสนาสุเขน มคฺคสุขํ, มคฺคสุเขน ¶ ผลสุขํ, ผลสุเขน นิพฺพานสุขํ สมฺปตฺตํ อธิคตนฺติ อตฺโถ.
๓. ปมขตสุตฺตวณฺณนา
๓. ตติยํ ทุกนิปาตวณฺณนายํ วุตฺตเมว. คาถาสุ ปน นินฺทิยนฺติ นินฺทิตพฺพยุตฺตกํ. นินฺทตีติ ครหติ. ปสํสิโยติ ปสํสิตพฺพยุตฺโต. วิจินาติ มุเขน โส กลินฺติ โย เอวํ ปวตฺโต ¶ , เตน มุเขน กลึ วิจินาติ นาม. กลินา เตน สุขํ น วินฺทตีติ เตน จ กลินา สุขํ น ปฏิลภติ. สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนาติ สพฺเพนปิ สเกน ธเนน เจว อตฺตนา จ สทฺธึ โย ปราชโย, โส อปฺปมตฺตโกว กลีติ อตฺโถ. โย สุคเตสูติ โย ปน สมฺมคฺคเตสุ ปุคฺคเลสุ จิตฺตํ ปทุสฺเสยฺย, อยํ จิตฺตปโทโสว ตโต กลิโต มหนฺตตโร กลิ. อิทานิ ตสฺส มหนฺตตรภาวํ ทสฺเสนฺโต สตํ สหสฺสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สตํ สหสฺสานนฺติ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสํ. ฉตฺตึสตีติ อปรานิ จ ฉตฺตึสติ นิรพฺพุทานิ. ปฺจ จาติ อพฺพุทคณนาย จ ปฺจ อพฺพุทานิ. ยมริยครหีติ ยํ อริเย ครหนฺโต นิรยํ อุปปชฺชติ, ตตฺถ เอตฺตกํ อายุปฺปมาณนฺติ.
๔. ทุติยขตสุตฺตวณฺณนา
๔. จตุตฺเถ ¶ มาตริ ปิตริ จาติอาทีสุ มิตฺตวินฺทโก มาตริ มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม, อชาตสตฺตุ ปิตริ มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม, เทวทตฺโต ตถาคเต มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม, โกกาลิโก ตถาคตสาวเก มิจฺฉาปฏิปนฺโน นาม. พหฺุจาติ พหุกเมว. ปสวตีติ ปฏิลภติ. ตายาติ ตาย มิจฺฉาปฏิปตฺติสงฺขาตาย อธมฺมจริยาย. เปจฺจาติ อิโต คนฺตฺวา. อปายํ คจฺฉตีติ นิรยาทีสุ อฺตรสฺมึ นิพฺพตฺตติ. สุกฺกปกฺเขปิ เอเสว นโย.
๕. อนุโสตสุตฺตวณฺณนา
๕. ปฺจเม ¶ อนุโสตํ คจฺฉตีติ อนุโสตคามี. กิเลสโสตสฺส ปจฺจนีกปฏิปตฺติยา ปฏิโสตํ คจฺฉตีติ ปฏิโสตคามี. ิตตฺโตติ ิตสภาโว. ติณฺโณติ โอฆํ ตริตฺวา ิโต. ปารงฺคโตติ ปรตีรํ คโต. ถเล ติฏฺตีติ นิพฺพานถเล ติฏฺติ. พฺราหฺมโณติ เสฏฺโ นิทฺโทโส. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. กาเม จ ปฏิเสวตีติ กิเลสกาเมหิ วตฺถุกาเม ปฏิเสวติ. ปาปฺจ กมฺมํ กโรตีติ ปาปฺจ ปาณาติปาตาทิกมฺมํ กโรติ. ปาปฺจ กมฺมํ น กโรตีติ ปฺจเวรกมฺมํ น กโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ิตตฺโตติ อยํ อนาคามี ปุคฺคโล ตสฺมา โลกา ปุน ปฏิสนฺธิวเสน อนาคมนโต ิตตฺโต นาม.
ตณฺหาธิปนฺนาติ ¶ ตณฺหาย อธิปนฺนา อชฺโฌตฺถฏา, ตณฺหํ วา อธิปนฺนา อชฺโฌคาฬฺหา. ปริปุณฺณเสโขติ ¶ สิกฺขาปาริปูริยา ิโต. อปริหานธมฺโมติ อปริหีนสภาโว. เจโตวสิปฺปตฺโตติ จิตฺตวสีภาวํ ปตฺโต. เอวรูโป ขีณาสโว โหติ, อิธ ปน อนาคามี กถิโต. สมาหิตินฺทฺริโยติ สมาหิตฉฬินฺทฺริโย. ปโรปราติ ปโรวรา อุตฺตมลามกา, กุสลากุสลาติ อตฺโถ. สเมจฺจาติ าเณน สมาคนฺตฺวา. วิธูปิตาติ วิทฺธํสิตา ฌาปิตา วา. วุสิตพฺรหฺมจริโยติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ วสิตฺวา ิโต. โลกนฺตคูติ ติวิธสฺสาปิ โลกสฺส อนฺตํ คโต. ปารคโตติ ฉหากาเรหิ ปารคโต. อิธ ขีณาสโวว กถิโต. อิติ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.
๖. อปฺปสฺสุตสุตฺตวณฺณนา
๖. ฉฏฺเ อนุปปนฺโนติ อนุปาคโต. สุตฺตนฺติอาทีสุ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารสุตฺตนิปาตมงฺคลสุตฺตรตนสุตฺต- นาฬกสุตฺตตุวฏกสุตฺตานิ, อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ, วิเสเสน สํยุตฺตเก สกโลปิ สคาถาวคฺโค. สกลมฺปิ อภิธมฺมปิฏกํ, นิคฺคาถกสุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ ¶ พุทฺธวจนํ, ตํ เวยฺยากรณนฺติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมปท-เถรคาถา-เถริคาถา สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา ¶ จ คาถาติ เวทิตพฺพา. โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตา ทฺเวอสีติ สุตฺตนฺตา อุทานนฺติ เวทิตพฺพา. ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา อิติวุตฺตกนฺติ เวทิตพฺพา. อปณฺณกชาตกาทีนิ ปฺาสาธิกานิ ปฺจ ชาตกสตานิ ชาตกนฺติ เวทิตพฺพานิ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติอาทินยปฺปวตฺตา สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา อพฺภุตธมฺมนฺติ เวทิตพฺพา. จูฬเวทลฺลมหาเวทลฺลสมฺมาทิฏฺิสกฺกปฺหสงฺขารภาชนิยมหาปุณฺณมสุตฺตาทโย สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตา สุตฺตนฺตา เวทลฺลนฺติ เวทิตพฺพา. น อตฺถมฺาย น ธมฺมมฺายาติ อฏฺกถฺจ ปาฬิฺจ อชานิตฺวา. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโนติ นวโลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมํ สหสีลํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ น ปฏิปนฺโน โหติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปมวาเร ปเนตฺถ อปฺปสฺสุตทุสฺสีโล กถิโต, ทุติเย อปฺปสฺสุตขีณาสโว, ตติเย พหุสฺสุตทุสฺสีโล, จตุตฺเถ พหุสฺสุตขีณาสโว.
สีเลสุ ¶ อสมาหิโตติ สีเลสุ อปริปูรการี. สีลโต จ สุเตน จาติ สีลภาเคน จ ¶ สุตภาเคน จ ‘‘อยํ ทุสฺสีโล อปฺปสฺสุโต’’ติ เอวํ ตํ ครหนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺส สมฺปชฺชเต สุตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ยสฺมา เตน สุเตน สุตกิจฺจํ กตํ, ตสฺมา ตสฺส สุตํ สมฺปชฺชติ นาม. นาสฺส สมฺปชฺชเตติ สุตกิจฺจสฺส อกตตฺตา น สมฺปชฺชติ. ธมฺมธรนฺติ สุตธมฺมานํ อาธารภูตํ. สปฺปฺนฺติ สุปฺํ. เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสวาติ ชมฺพุนทํ วุจฺจติ ชาติสุวณฺณํ, ตสฺส ชมฺพุนทสฺส เนกฺขํ วิย, ปฺจสุวณฺณปริมาณํ สุวณฺณฆฏิกํ วิยาติ อตฺโถ.
๗. โสภนสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม วิยตฺตาติ ปฺาเวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคตา. วินีตาติ วินยํ อุเปตา สุวินีตา. วิสารทาติ เวสารชฺเชน โสมนสฺสสหคเตน าเณน สมนฺนาคตา. ธมฺมธราติ สุตธมฺมานํ อาธารภูตา. ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโนติ คาถาย กิฺจาปิ เอเกกสฺเสว เอเกโก คุโณ กถิโต, สพฺเพสํ ปน สพฺเพปิ วฏฺฏนฺตีติ.
๘. เวสารชฺชสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม ¶ เวสารชฺชานีติ เอตฺถ สารชฺชปฏิปกฺโข เวสารชฺชํ, จตูสุ าเนสุ สารชฺชาภาวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนโสมนสฺสมยาณสฺเสตํ นามํ. อาสภํ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ. อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ ¶ , สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อสมฺปกมฺปิโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา ววตฺถานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ. ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ. เอวํ ติฏฺมาโนว ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ, อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ.
ปริสาสูติ ¶ อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน ทสฺเสตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต จ หนนโต จ สีโหติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโต โลกธมฺมานํ สหนโต ปรปฺปวาทานฺจ หนนโต สีโหติ วุจฺจติ. เอวํ วุตฺตสฺส สีหสฺส นาทํ สีหนาทํ. ตตฺถ ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ รูป’’นฺติอาทินา นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ ¶ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.
พฺรหฺมจกฺกํ ¶ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสุทฺธํ. จกฺกสทฺโท ปนายํ –
‘‘สมฺปตฺติยํ ลกฺขเณ จ, รถงฺเค อิริยาปเถ;
ทาเน รตนธมฺมูร-จกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ;
ธมฺมจกฺเก อิธ มโต, ตฺจ ทฺเวธา วิภาวเย’’.
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ อยํ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภฺุช มา จ ปมาโท, จกฺกํ วตฺตย สพฺพปาณิน’’นฺติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓; ม. นิ. ๓.๒๕๖) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ¶ ปนายํ ธมฺมจกฺเก มโต.
ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ¶ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรโต ปฏฺาย วา ยาว โพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติมคฺคา ปวตฺตมานํ, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. เตสุ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ.
สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ ‘‘อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺเพ ธมฺมา มยา อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ ปฏิชานโต ตว. อนภิสมฺพุทฺธาติ อิเม นาม ¶ ธมฺมา ตยา อนภิสมฺพุทฺธา. ตตฺร วตาติ เตสุ ‘‘อนภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ ทสฺสิตธมฺเมสุ. สหธมฺเมนาติ สเหตุนา สการเณน วจเนน. นิมิตฺตเมตนฺติ เอตฺถ ปุคฺคโลปิ ธมฺโมปิ นิมิตฺตนฺติ อธิปฺเปโต ¶ . ตํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามิ, โย มํ ปฏิโจเทสฺสติ. ตํ ธมฺมํ น ปสฺสามิ, ยํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อยํ นาม ธมฺโม ตยา อนภิสมฺพุทฺโธ’’ติ มํ ปฏิโจเทสฺสตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เขมปฺปตฺโตติ เขมํ ปตฺโต. เสสปททฺวยํ อิมสฺเสว เววจนํ. สพฺพมฺเปตํ เวสารชฺชาณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ทสพลสฺส หิ ‘‘อยํ นาม ธมฺโม ตยา อนภิสมฺพุทฺโธ’’ติ โจทกํ ปุคฺคลํ วา โจทนาการณํ อนภิสมฺพุทฺธธมฺมํ วา อปสฺสโต ‘‘สภาวพุทฺโธเยว วต สมาโน อหํ พุทฺโธสฺมีติ วทามี’’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พลวตรํ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เตน สมฺปยุตฺตํ าณํ เวสารชฺชํ นาม. ตํ สนฺธาย ‘‘เขมปฺปตฺโต’’ติอาทิมาห. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อนฺตรายิกา ธมฺมาติ เอตฺถ ปน อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. เต อตฺถโต สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา. สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตํ หิ อนฺตมโส ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมฺปิ มคฺคผลานํ อนฺตรายํ กโรติ. อิธ ปน เมถุนธมฺโม อธิปฺเปโต. เมถุนํ เสวโต หิ ยสฺส กสฺสจิ นิสฺสํสยเมว มคฺคผลานํ อนฺตราโย โหติ.
ยสฺส โข ปน เต อตฺถายาติ ราคกฺขยาทีสุ ยสฺส อตฺถาย. ธมฺโม เทสิโตติ อสุภภาวนาทิธมฺโม กถิโต. ตตฺร วต มนฺติ ตสฺมึ อนิยฺยานิกธมฺเม มํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
วาทปถาติ ¶ วาทาเยว. ปุถูติ พหู. สิตาติ ¶ อุปนิพทฺธา อภิสงฺขตา. อถ วา ปุถุสฺสิตาติ ปุถุภาวํ สิตา อุปคตา, ปุถูหิ วา สิตาติปิ ปุถุสฺสิตา. ยํ นิสฺสิตาติ เอตรหิปิ ยํ วาทปถํ นิสฺสิตา. น เต ภวนฺตีติ เต วาทปถา น ภวนฺติ ภิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ. ธมฺมจกฺกนฺติ เทสนาาณสฺสปิ ปฏิเวธาณสฺสปิ เอตํ นามํ. เตสุ เทสนาาณํ โลกิยํ, ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ. เกวลีติ สกลคุณสมนฺนาคโต. ตาทิสนฺติ ตถาวิธํ.
๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม ¶ อุปฺปชฺชติ เอเตสูติ อุปฺปาทา. กา อุปฺปชฺชติ? ตณฺหา. ตณฺหาย อุปฺปาทา ตณฺหุปฺปาทา, ตณฺหาวตฺถูนิ ตณฺหาการณานีติ อตฺโถ. จีวรเหตูติ ‘‘กตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติ. อิติภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. ยถา จีวราทิเหตุ, เอวํ ภวาภวเหตุปีติ อตฺโถ. ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตตรานิ สปฺปินวนีตาทีนิ อธิปฺเปตานิ. สมฺปตฺติภเวสุ ปณีตตรปณีตตมภโวติปิ วทนฺติเยว.
ตณฺหาทุติโยติ อยฺหิ สตฺโต อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ สํสรนฺโต น เอกโกว สํสรติ, ตณฺหํ ปน ทุติยิกํ ลภนฺโตว สํสรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาทุติโย’’ติ. อิตฺถภาวฺถาภาวนฺติ ¶ เอตฺถ อิตฺถภาโว นาม อยํ อตฺตภาโว, อฺถาภาโว นาม อนาคตตฺตภาโว. เอวรูโป วา อฺโปิ อตฺตภาโว อิตฺถภาโว นาม, น เอวรูโป อฺถาภาโว นาม. ตํ อิตฺถภาวฺถาภาวํ. สํสารนฺติ ขนฺธธาตุอายตนานํ ปฏิปาฏึ. นาติวตฺตตีติ นาติกฺกมติ. เอวมาทีนวํ ตฺวาติ เอวํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ขนฺเธสุ อาทีนวํ ชานิตฺวา. ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ ตณฺหํ จ ‘‘อยํ วฏฺฏทุกฺขสมฺภูโต สภาโว การณ’’นฺติ เอวํ ชานิตฺวา. เอตฺตาวตา อิมสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตภาโว ทสฺสิโต. อิทานิ ตํ ขีณาสวํ โถเมนฺโต วีตตณฺโหติอาทิมาห. ตตฺถ อนาทาโนติ นิคฺคหโณ. สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเชติ สติสมฺปชฺเ เวปุลฺลปฺปตฺโต ขีณาสโว ภิกฺขุ สโต สมฺปชาโน จเรยฺย วิหเรยฺยาติ อตฺโถ. อิติ สุตฺตนฺเต วฏฺฏํ กเถตฺวา คาถาสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ.
๑๐. โยคสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสเม ¶ วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา. กามโยโคติอาทีสุ ปฺจกามคุณิโก ราโค กามโยโค. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ภวโยโค, ตถา ฌานนิกนฺติ. สสฺสตทิฏฺิสหคโต จ ราโค ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย จ ทิฏฺิโยโค. จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ อวิชฺชาโยโค. กาเมสุ วา โยเชตีติ กามโยโค. ภเวสุ โยเชตีติ ¶ ภวโยโค. ทิฏฺีสุ โยเชตีติ ทิฏฺิโยโค. อวิชฺชาย โยเชตีติ อวิชฺชาโยโคติ เหฏฺา วุตฺตธมฺมานํเยเวตํ อธิวจนํ.
อิทานิ ¶ เต วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต กตโม จ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สมุทยนฺติ อุปฺปตฺตึ. อตฺถงฺคมนฺติ เภทํ. อสฺสาทนฺติ มธุรภาวํ. อาทีนวนฺติ อมธุรภาวํ โทสํ. นิสฺสรณนฺติ นิสฺสฏภาวํ. กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ. กามราโคติ กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺนราโค. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อนุเสตีติ นิพฺพตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยโคติ, ภิกฺขเว, อิทํ กาเมสุ โยชนการณํ พนฺธนการณํ วุจฺจตีติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ผสฺสายตนานนฺติ จกฺขาทีนํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิการณานํ. อวิชฺชา อฺาณนฺติ าณปฏิปกฺขภาเวน อฺาณสงฺขาตา อวิชฺชา. อิติ กามโยโคติ เอตฺถ อิติ สทฺโท จตูหิปิ โยเคหิ สทฺธึ โยเชตพฺโพ ‘‘เอวํ กามโยโค, เอวํ ภวโยโค’’ติ. สํยุตฺโตติ ปริวาริโต. ปาปเกหีติ ลามเกหิ. อกุสเลหีติ อโกสลฺลสมฺภูเตหิ. สํกิเลสิเกหีติ สํกิเลสนเกหิ, ปสนฺนสฺส จิตฺตสฺส ปสนฺนภาวทูสเกหีติ อตฺโถ. โปโนพฺภวิเกหีติ ปุนพฺภวนิพฺพตฺตเกหิ. สทเรหีติ สทรเถหิ. ทุกฺขวิปาเกหีติ วิปากกาเล ทุกฺขุปฺปาทเกหิ. อายตึ ชาติชรามรณิเกหีติ อนาคเต ปุนปฺปุนํ ชาติชรามรณนิพฺพตฺตเกหิ. ตสฺมา ¶ อโยคกฺเขมีติ วุจฺจตีติ ยสฺมา อปฺปหีนโยโค ปุคฺคโล เอเตหิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺโต โหติ, ตสฺมา จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺพานํ อนธิคตตฺตา น โยคกฺเขมีติ วุจฺจติ.
วิสํโยโคติ วิสํโยชนการณานิ. กามโยควิสํโยโคติ กามโยคโต วิสํโยชนการณํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อสุภชฺฌานํ กามโยควิสํโยโค, ตํ ปาทกํ กตฺวา อธิคโต อนาคามิมคฺโค เอกนฺเตเนว กามโยควิสํโยโค นาม. อรหตฺตมคฺโค ภวโยควิสํโยโค นาม, โสตาปตฺติมคฺโค ทิฏฺิโยควิสํโยโค ¶ นาม, อรหตฺตมคฺโค อวิชฺชาโยควิสํโยโค ¶ นาม. อิทานิ เต วิตฺถารวเสน ทสฺเสนฺโต กตโม จ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ภวโยเคน จูภยนฺติ ภวโยเคน จ สํยุตฺตา, กิฺจิ ภิยฺโย อุภเยนาปิ สมฺปยุตฺตา, เยน เกนจิ โยเคน สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ปุรกฺขตาติ ปุรโต กตา, ปริวาริตา วา. กาเม ปริฺายาติ ทุวิเธปิ กาเม ปริชานิตฺวา. ภวโยคฺจ สพฺพโสติ ภวโยคฺจ สพฺพเมว ปริชานิตฺวา. สมูหจฺจาติ สมูหนิตฺวา. วิราชยนฺติ วิราเชนฺโต, วิราเชตฺวา วา. ‘‘วิราเชนฺโต’’ติ หิ วุตฺเต มคฺโค กถิโต โหติ, ‘‘วิราเชตฺวา’’ติ วุตฺเต ผลํ. มุนีติ ขีณาสวมุนิ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตนฺติ.
ภณฺฑคามวคฺโค ปโม.
๒. จรวคฺโค
๑. จรสุตฺตวณฺณนา
๑๑. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม อธิวาเสตีติ จิตฺตํ อธิโรเปตฺวา วาเสติ. นปฺปชหตีติ น ปริจฺจชติ. น วิโนเทตีติ น นีหรติ. น พฺยนฺตีกโรตีติ น วิคตนฺตํ ปริจฺฉินฺนปริวฏุมํ กโรติ. น อนภาวํ คเมตีติ น อนุอภาวํ อวฑฺฒึ วินาสํ คเมติ. จรมฺปีติ จรนฺโตปิ. อนาตาปีติ นิพฺพีริโย. อโนตฺตาปีติ อุปวาทภยรหิโต. สตตนฺติ นิจฺจํ. สมิตนฺติ นิรนฺตรํ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺถํ ตฺวา สุกฺกปกฺเข วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
คาถาสุ เคหนิสฺสิตนฺติ กิเลสนิสฺสิตํ. โมหเนยฺเยสูติ โมหชนเกสุ อารมฺมเณสุ. อภพฺโพติ อภาชนภูโต. ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมนฺติ อรหตฺตมคฺคสงฺขาตํ อุตฺตมาณํ ผุสิตุํ.
๒. สีลสุตฺตวณฺณนา
๑๒. ทุติเย ¶ สมฺปนฺนสีลาติ ปริปุณฺณสีลา. สมฺปนฺนปาติโมกฺขาติ ปริปุณฺณปาติโมกฺขา. ปาติโมกฺขสํวรสํวุตาติ ¶ ปาติโมกฺขสํวรสีเลน สํวุตา ปิหิตา อุเปตา หุตฺวา วิหรถ. อาจารโคจรสมฺปนฺนาติ อาจาเรน จ โคจเรน จ สมฺปนฺนา สมุปาคตา ภวถ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสูติ อณุปฺปมาเณสุ โทเสสุ. ภยทสฺสาวิโนติ ตานิ อณุมตฺตานิ วชฺชานิ ภยโต ทสฺสนสีลา. สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสูติ สพฺพสิกฺขาโกฏฺาเสสุ สมาทาตพฺพํ สมาทาย คเหตฺวา สิกฺขถ. ‘‘สมฺปนฺนสีลานํ…เป… สิกฺขาปเทสู’’ติ เอตฺตเกน ธมฺมกฺขาเนน สิกฺขตฺตเย สมาทาเปตฺวา เจว ปฏิลทฺธคุเณสุ จ วณฺณํ กเถตฺวา อิทานิ อุตฺตริ กาตพฺพํ ทสฺเสนฺโต กิมสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ กิมสฺสาติ กึ ภเวยฺย.
ยตํ จเรติ ยถา จรนฺโต ยโต โหติ สํยโต, เอวํ จเรยฺย. เอส นโย สพฺพตฺถ. อจฺเฉติ ¶ นิสีเทยฺย. ยตเมนํ ปสารเยติ ยํ องฺคปจฺจงฺคํ ปสาเรยฺย, ตํ ยตํ สํยตเมว กตฺวา ปสาเรยฺย. อุทฺธนฺติ อุปริ. ติริยนฺติ มชฺฌํ. อปาจีนนฺติ อโธ. เอตฺตาวตา อตีตา ปจฺจุปฺปนฺนา อนาคตา จ ปฺจกฺขนฺธา กถิตา. ยาวตาติ ปริจฺเฉทวจนํ. ชคโต ¶ คตีติ โลกสฺส นิปฺผตฺติ. สมเวกฺขิตา จ ธมฺมานํ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยนฺติ เอเตสํ สพฺพโลเก อตีตาทิเภทานํ ปฺจกฺขนฺธธมฺมานํ อุทยฺจ วยฺจ สมเวกฺขิตา. ‘‘ปฺจกฺขนฺธานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต ปฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสติ, วยํ ปสฺสนฺโต ปฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสตี’’ติ วุตฺเตหิ สมปฺาสาย ลกฺขเณหิ สมฺมา อเวกฺขิตา โหติ. เจโตสมถสามีจินฺติ จิตฺตสมถสฺส อนุจฺฉวิกํ ปฏิปทํ. สิกฺขมานนฺติ ปฏิปชฺชมานํ, ปูรยมานนฺติ อตฺโถ. ปหิตตฺโตติ เปสิตตฺโต. อาหูติ กถยนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต สีลํ มิสฺสกํ กเถตฺวา คาถาสุ ขีณาสโว กถิโต.
๓. ปธานสุตฺตวณฺณนา
๑๓. ตติเย ¶ สมฺมปฺปธานานีติ สุนฺทรปธานานิ อุตฺตมวีริยานิ. สมฺมปฺปธานาติ ปริปุณฺณวีริยา. มารเธยฺยาภิภูตาติ เตภูมกวฏฺฏสงฺขาตํ มารเธยฺยํ อภิภวิตฺวา สมติกฺกมิตฺวา ิตา. เต อสิตาติ เต ขีณาสวา อนิสฺสิตา นาม. ชาติมรณภยสฺสาติ ชาติฺจ มรณฺจ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยสฺส, ชาติมรณสงฺขาตสฺเสว วา ภยสฺส. ปารคูติ ปารงฺคตา. เต ตุสิตาติ เต ขีณาสวา ตุฏฺา นาม. เชตฺวา มารํ สวาหินินฺติ สเสนกํ มารํ ชินิตฺวา ิตา. เต ¶ อเนชาติ เต ขีณาสวา ตณฺหาสงฺขาตาย เอชาย อเนชา นิจฺจลา นาม. นมุจิพลนฺติ มารพลํ. อุปาติวตฺตาติ อติกฺกนฺตา. เต สุขิตาติ เต ขีณาสวา โลกุตฺตรสุเขน สุขิตา นาม. เตเนวาห –
‘‘สุขิตา วต อรหนฺโต, ตณฺหา เนสํ น วิชฺชติ;
อสฺมิมาโน สมุจฺฉินฺโน, โมหชาลํ ปทาลิต’’นฺติ. (สํ. นิ. ๓.๗๖);
๔. สํวรสุตฺตวณฺณนา
๑๔. จตุตฺเถ ปธานานีติ วีริยานิ. สํวรปฺปธานนฺติ จกฺขาทีนิ สํวรนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ ¶ . ปหานปฺปธานนฺติ กามวิตกฺกาทโย ปชหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. ภาวนาปฺปธานนฺติ สมฺโพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. อนุรกฺขณาปฺปธานนฺติ สมาธินิมิตฺตํ อนุรกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ.
วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีสุ วิเวโก, วิราโค, นิโรโธติ ตีณิปิ นิพฺพานสฺส นามานิ. นิพฺพานํ หิ อุปธิวิเวกตฺตา วิเวโก, ตํ อาคมฺม ราคาทโย วิรชฺชนฺตีติ วิราโค, นิรุชฺฌนฺตีติ นิโรโธ. ตสฺมา วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีสุ อารมฺมณวเสน วา อธิคนฺตพฺพวเสน วา นิพฺพานนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ.
โวสฺสคฺคปริณามินฺติ เอตฺถ ทฺเว โวสฺสคฺคา – ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จ. ตตฺถ วิปสฺสนา ตทงฺควเสน กิเลเส จ ขนฺเธ จ ราคํ ปริจฺจชตีติ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค. มคฺโค อารมฺมณวเสน นิพฺพานํ ปกฺขนฺทตีติ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค. ตสฺมา โวสฺสคฺคปริณามินฺติ ยถา ภาวิยมาโน ¶ สติสมฺโพชฺฌงฺโค โวสฺสคฺคตฺถาย ปริณมติ, วิปสฺสนาภาวฺจ มคฺคภาวฺจ ปาปุณาติ, เอวํ ตํ ภาเวตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ภทฺทกนฺติ ¶ ลทฺธกํ. สมาธินิมิตฺตํ วุจฺจติ อฏฺิกสฺาทิวเสน อธิคโต สมาธิเยว. อนุรกฺขตีติ สมาธิปาริปนฺถิกธมฺเม ราคโทสโมเห โสเธนฺโต รกฺขติ. เอตฺถ จ อฏฺิกสฺาทิกา ปฺเจว สฺา วุตฺตา, อิมสฺมึ ปน าเน ทสปิ อสุภานิ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. เตสํ วิตฺถาโร วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๒ อาทโย) วุตฺโตเยว. คาถาย สํวราทินิปฺผาทกํ วีริยเมว วุตฺตํ. ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณติ ทุกฺขกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปาปุเณยฺยาติ.
๕. ปฺตฺติสุตฺตวณฺณนา
๑๕. ปฺจเม อคฺคปฺตฺติโยติ อุตฺตมปฺตฺติโย. อตฺตภาวีนนฺติ อตฺตภาววนฺตานํ. ยทิทํ ราหุ อสุรินฺโทติ โย เอส ราหุ อสุรินฺโท อยํ อคฺโคติ. เอตฺถ ราหุ กิร อสุรินฺโท จตฺตาริ โยชนสหสฺสานิ อฏฺ จ โยชนสตานิ อุจฺโจ, พาหนฺตรมสฺส ทฺวาทสโยชนสตานิ, หตฺถตลปาทตลานํ ปุถุลตา ตีณิ โยชนสตานิ. องฺคุลิปพฺพานิ ปณฺณาส โยชนานิ, ภมุกนฺตรํ ปณฺณาสโยชนํ, นลาฏํ ติโยชนสตํ, สีสํ นวโยชนสตํ. กามโภคีนํ ยทิทํ ราชา มนฺธาตาติ โย เอส ราชา มนฺธาตา นาม, อยํ ทิพฺเพปิ มานุสเกปิ กาเม ปริภฺุชนกานํ ¶ สตฺตานํ อคฺโค นาม. เอส หิ อสงฺเขยฺยายุเกสุ มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ หิรฺวสฺสํ วสฺสาเปนฺโต มานุสเก กาเม ทีฆรตฺตํ ปริภฺุชิ. เทวโลเก ¶ ปน ยาว ฉตฺตึสาย อินฺทานํ อายุปฺปมาณํ, ตาว ปณีเต กาเม ปริภฺุชีติ กามโภคีนํ อคฺโค นาม ชาโต. อาธิปเตยฺยานนฺติ อธิปติฏฺานํ เชฏฺกฏฺานํ กโรนฺตานํ. ตถาคโต อคฺคมกฺขายตีติ โลกิยโลกุตฺตเรหิ คุเณหิ ตถาคโต อคฺโค เสฏฺโ อุตฺตโม อกฺขายติ.
อิทฺธิยา ยสสา ชลนฺติ ทิพฺพสมฺปตฺติสมิทฺธิยา จ ปริวารสงฺขาเตน ยสสา จ ชลนฺตานํ. อุทฺธํ ติริยํ อปาจีนนฺติ อุปริ จ มชฺเฌ จ เหฏฺา จ. ยาวตา ชคโต คตีติ ยตฺตกา โลกนิปฺผตฺติ.
๖. โสขุมฺมสุตฺตวณฺณนา
๑๖. ฉฏฺเ ¶ โสขุมฺมานีติ สุขุมลกฺขณปฏิวิชฺฌนกานิ าณานิ. รูปโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหตีติ รูเป สณฺหสุขุมลกฺขณปริคฺคาหเกน าเณน สมนฺนาคโต โหติ. ปรเมนาติ อุตฺตเมน. เตน จ รูปโสขุมฺเมนาติ เตน ยาว อนุโลมภาวํ ปตฺเตน สุขุมลกฺขณปริคฺคาหกาเณน. น สมนุปสฺสตีติ นตฺถิภาเวเนว น ปสฺสติ. น ปตฺเถตีติ นตฺถิภาเวเนว น ปตฺเถติ. เวทนาโสขุมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย.
รูปโสขุมฺมตํ ตฺวาติ รูปกฺขนฺธสฺส สณฺหสุขุมลกฺขณปริคฺคาหเกน าเณน สุขุมตํ ชานิตฺวา. เวทนานฺจ สมฺภวนฺติ เวทนากฺขนฺธสฺส จ ปภวํ ชานิตฺวา. สฺา ยโต สมุเทตีติ ยสฺมา การณา สฺากฺขนฺโธ สมุเทติ นิพฺพตฺตติ, ตฺจ ชานิตฺวา. อตฺถํ ¶ คจฺฉติ ยตฺถ จาติ ยสฺมึ าเน นิรุชฺฌติ, ตฺจ ชานิตฺวา. สงฺขาเร ปรโต ตฺวาติ สงฺขารกฺขนฺธํ อนิจฺจตาย ลุชฺชนภาเวน ปรโต ชานิตฺวา. อิมินา หิ ปเทน อนิจฺจานุปสฺสนา กถิตา. ทุกฺขโต โน จ อตฺตโตติ อิมินา ทุกฺขานตฺตานุปสฺสนา. สนฺโตติ กิเลสสนฺตตาย สนฺโต. สนฺติปเท รโตติ นิพฺพาเน รโต. อิติ สุตฺตนฺเต จตูสุ าเนสุ วิปสฺสนาว กถิตา, คาถาสุ โลกุตฺตรธมฺโมปีติ.
๗. ปมอคติสุตฺตวณฺณนา
๑๗-๑๙. สตฺตเม ¶ อคติคมนานีติ นคติคมนานิ. ฉนฺทาคตึ คจฺฉตีติ ฉนฺเทน อคตึ คจฺฉติ, อกตฺตพฺพํ กโรติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ฉนฺทา โทสา ภยา โมหาติ ฉนฺเทน, โทเสน, ภเยน, โมเหน. อติวตฺตตีติ อติกฺกมติ. อฏฺมํ อุตฺตานเมว. นวเม ตถาพุชฺฌนกานํ วเสน ทฺวีหิปิ นเยหิ กถิตํ.
๑๐. ภตฺตุทฺเทสกสุตฺตวณฺณนา
๒๐. ทสเม ภตฺตุทฺเทสโกติ สลากภตฺตาทีนํ อุทฺเทสโก. กาเมสุ อสํยตาติ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมหิ อสํยตา. ปริสากสโฏ ¶ จ ปเนส วุจฺจตีติ อยฺจ ปน โส เอวรูปา ปริสากจวโร นาม วุจฺจตีติ อตฺโถ. สมเณนาติ พุทฺธสมเณน. ปริสาย มณฺโฑ จ ปเนส วุจฺจตีติ อยํ เอวรูปา ปริสา วิปฺปสนฺเนน ปริสามณฺโฑติ วุจฺจตีติ.
จรวคฺโค ทุติโย.
๓. อุรุเวลวคฺโค
๑. ปมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา
๒๑. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม อุรุเวลายนฺติ เอตฺถ อุรุเวลาติ มหาเวลา, มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ. อถ วา อุรูติ วาลุกา วุจฺจติ, เวลาติ มริยาทา. เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ทสสหสฺสา กุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตสฺมึ ปเทเส วิหรนฺตา เอกทิวสํ สนฺนิปติตฺวา กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘กายกมฺมวจีกมฺมานิ นาม ปเรสมฺปิ ปากฏานิ โหนฺติ, มโนกมฺมํ ปน อปากฏํ. ตสฺมา โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส อฺโ โจทโก นาม นตฺถิ. โส อตฺตนาว อตฺตานํ โจเทตฺวา ปตฺตปุเฏน วาลุกํ อาหริตฺวา อิมสฺมึ าเน อากิรตุ, อิทมสฺส ทณฺฑกมฺม’’นฺติ. ตโต ปฏฺาย โย ตาทิสํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, โส ตตฺถ ปตฺตปุเฏน วาลุกํ อากิรติ, เอวํ ตตฺถ อนุกฺกเมน มหาวาลุกราสิ ชาโต. ตโต นํ ปจฺฉิมา ชนตา ปริกฺขิปิตฺวา เจติยฏฺานมกาสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุรุเวลาติ มหาเวลา, มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ’’ติ. ตเมว สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ วา อุรูติ วาลุกา วุจฺจติ, เวลาติ มริยาทา, เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ.
นชฺชา เนรฺชราย ตีเรติ อุรุเวลคามํ นิสฺสาย เนรฺชรานทีตีเร วิหรามีติ ทสฺเสติ. อชปาลนิคฺโรเธติ ¶ อชปาลกา ตสฺส นิคฺโรธสฺส ¶ ฉายาย นิสีทนฺติปิ ติฏฺนฺติปิ, ตสฺมา โส อชปาลนิคฺโรโธตฺเวว สงฺขํ คโต, ตสฺส เหฏฺาติ อตฺโถ. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ สมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมเมว. อุทปาทีติ อยํ วิตกฺโก ปฺจเม สตฺตาเห อุทปาทิ. กสฺมา อุทปาทีติ? สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณตฺตา เจว ปุพฺพาเสวนตาย จ. ตตฺถ ปุพฺพาเสวนาย ปกาสนตฺถํ ติตฺติรชาตกํ อาหริตพฺพํ. หตฺถิวานรติตฺติรา กิร เอกสฺมึ ปเทเส วิหรนฺตา ‘‘โย อมฺหากํ มหลฺลโก, ตสฺมึ สคารวา วิหริสฺสามา’’ติ นิคฺโรธํ ทสฺเสตฺวา ‘‘โก นุ โข อมฺหากํ มหลฺลโก’’ติ วีมํสนฺตา ติตฺติรสฺส มหลฺลกภาวํ ตฺวา ตสฺส เชฏฺาปจายนกมฺมํ กตฺวา อฺมฺํ ¶ สมคฺคา สมฺโมทมานา วิหริตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ. ตํ การณํ ตฺวา รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา อิมํ คาถมาห –
‘‘เย วุฑฺฒมปจายนฺติ, นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;
ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํสา, สมฺปราเย จ สุคฺคตี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๓๗);
เอวํ อเหตุกติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ ตถาคโต สคารววาสํ โรเจสิ, อิทานิ กสฺมา น โรเจสฺสตีติ. อคารโวติ อฺสฺมึ คารวรหิโต, กฺจิ ครุฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. อปฺปติสฺโสติ ปติสฺสยรหิโต, กฺจิ เชฏฺกฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. สมณํ ¶ วา พฺราหฺมณํ วาติ เอตฺถ สมิตปาปพาหิตปาปาเยว สมณพฺราหฺมณา อธิปฺเปตา. สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวาติ สกฺการฺเจว กตฺวา ครุการฺจ อุปฏฺเปตฺวา.
สเทวเก โลเกติอาทีสุ สทฺธึ เทเวหิ สเทวเก. เทวคฺคหเณน เจตฺถ มารพฺรหฺเมสุ คหิเตสุปิ มาโร นาม วสวตฺตี สพฺเพสํ อุปริ วสํ วตฺเตติ, พฺรหฺมา นาม มหานุภาโว, เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ, ทฺวีหิ ทฺวีสุ, ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ. โส อิมินา สีลสมฺปนฺนตโรติ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ สมารเก สพฺรหฺมเกติ วิสุํ วุตฺตํ. ตถา สมณา นาม เอกนิกายาทิวเสน พหุสฺสุตา สีลวนฺโต ปณฺฑิตา, พฺราหฺมณาปิ วตฺถุวิชฺชาทิวเสน พหุสฺสุตา ปณฺฑิตา. เต อิมินา สมฺปนฺนตราติ วตฺตุํ ¶ มา ลภนฺตูติ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายาติ วุตฺตํ. สเทวมนุสฺสายาติ อิทํ ปน นิปฺปเทสโต ทสฺสนตฺถํ คหิตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ. อปิเจตฺถ ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ โลกวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว ปชาวเสน. สีลสมฺปนฺนตรนฺติ สีเลน สมฺปนฺนตรํ, อธิกตรนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ สีลาทโย จตฺตาโร ธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตา, วิมุตฺติาณทสฺสนํ โลกิยเมว. ปจฺจเวกฺขณาณเมว เหตํ. ปาตุรโหสีติ ‘‘อยํ สตฺถา อวีจิโต ยาว ภวคฺคา สีลาทีหิ อตฺตนา อธิกตรํ อปสฺสนฺโต ‘มยา ปฏิวิทฺธนวโลกุตฺตรธมฺมเมว สกฺกตฺวา อุปนิสฺสาย วิหริสฺสามี’ติ จินฺเตติ, การณํ ภควา จินฺเตติ, อตฺถํ วุฑฺฒึ วิเสสํ ¶ จินฺเตติ, คจฺฉามิสฺส อุสฺสาหํ ชเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุรโต ปากโฏ อโหสิ, อภิมุเข อฏฺาสีติ อตฺโถ.
วิหํสุ ¶ วิหรนฺติ จาติ เอตฺถ โย วเทยฺย – ‘‘วิหรนฺตีติ วจนโต ปจฺจุปฺปนฺเนปิ พหู พุทฺธา’’ติ, โส ‘‘ภควาปิ ภนฺเต เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ อิมินา วจเนน ปฏิพาหิตพฺโพ.
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๒.๓๔๑) –
อาทีหิ จสฺส สุตฺเตหิ อฺเสํ พุทฺธานํ อภาโว ทีเปตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา สพฺเพปิ พุทฺธา สทฺธมฺมครุโน, ตสฺมา. มหตฺตมภิกงฺขตาติ มหนฺตภาวํ ปตฺถยมาเนน. สรํ พุทฺธาน สาสนนฺติ พุทฺธานํ สาสนํ สรนฺเตน.
ยโตติ ยสฺมึ กาเล. มหตฺเตน สมนฺนาคโตติ รตฺตฺุมหตฺตํ เวปุลฺลมหตฺตํ พฺรหฺมจริยมหตฺตํ ลาภคฺคมหตฺตนฺติ อิมินา จตุพฺพิเธน มหตฺเตน สมนฺนาคโต. อถ เม สงฺเฆปิ คารโวติ อถ มยฺหํ สงฺเฆปิ คารโว ชาโต. กิสฺมึ ปน กาเล ภควตา สงฺเฆ คารโว กโตติ? มหาปชาปติยา ทุสฺสยุคทานกาเล. ตทา หิ ภควา อตฺตโน อุปนีตํ ทุสฺสยุคํ ‘‘สงฺเฆ, โคตมิ, เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’’ติ วทนฺโต สงฺเฆ คารวํ อกาสิ นาม.
๒. ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา
๒๒. ทุติเย ¶ สมฺพหุลาติ พหุกา. พฺราหฺมณาติ หุหุกฺกชาติเกน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อาคตา พฺราหฺมณา. ชิณฺณาติ ¶ ชราชิณฺณา. วุฑฺฒาติ วโยวุทฺธา. มหลฺลกาติ ชาติมหลฺลกา. อทฺธคตาติ ตโย วเย อทฺเธ อติกฺกนฺตา. สุตเมตนฺติ อมฺเหหิ สุตํ เอตํ. ตยิทํ โภ, โคตม, ตเถวาติ โภ, โคตม, เอตํ อมฺเหหิ สุตการณํ ตถา เอว. ตยิทํ โภ, โคตม, น สมฺปนฺนเมวาติ ตํ เอตํ อภิวาทนาทิอกรณํ อนนุจฺฉวิกเมว.
อกาลวาทีติอาทีสุ อกาเล วทตีติ อกาลวาที. อสภาวํ วทตีติ อภูตวาที. อนตฺถํ วทติ, โน อตฺถนฺติ อนตฺถวาที. อธมฺมํ วทติ, โน ธมฺมนฺติ อธมฺมวาที. อวินยํ วทติ ¶ , โน วินยนฺติ อวินยวาที. อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตาติ น หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตา. อกาเลนาติ กเถตุํ อยุตฺตกาเลน. อนปเทสนฺติ อปเทสรหิตํ, สาปเทสํ สการณํ กตฺวา น กเถติ. อปริยนฺตวตินฺติ ปริยนฺตรหิตํ, น ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา กเถติ. อนตฺถสํหิตนฺติ น โลกิยโลกุตฺตรอตฺถนิสฺสิตํ กตฺวา กเถติ. พาโล เถโรตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตีติ อนฺธพาโล เถโรติ สงฺขํ คจฺฉติ.
กาลวาทีติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. ปณฺฑิโต เถโรตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตีติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตตฺตา ¶ ปณฺฑิโต, ถิรภาวปฺปตฺติยา เถโรติ สงฺขํ คจฺฉติ.
พหุสฺสุโต โหตีติ พหุํ อสฺส สุตํ โหติ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ ปาฬิอนุสนฺธิปุพฺพาปรวเสน อุคฺคหิตํ โหตีติ อตฺโถ. สุตธโรติ สุตสฺส อาธารภูโต. ยสฺส หิ อิโต คหิตํ อิโต ปลายติ, ฉิทฺทฆเฏ อุทกํ วิย น ติฏฺติ, ปริสมชฺเฌ เอกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถตุํ วา วาเจตุํ วา น สกฺโกติ, อยํ น สุตธโร นาม. ยสฺส ปน อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ อุคฺคหิตกาลสทิสเมว โหติ, ทสปิ วีสติปิ วสฺสานิ สชฺฌายํ อกโรนฺตสฺส เนว นสฺสติ, อยํ สุตธโร นาม. สุตสนฺนิจโยติ สุตสฺส สนฺนิจยภูโต. ยสฺส หิ สุตํ หทยมฺชูสาย สนฺนิจิตํ สิลาย เลขา วิย สุวณฺณปตฺเต ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย ¶ จ ติฏฺติ, อยํ สุตสนฺนิจโย นาม. ธาตาติ ธาตา ปคุณา. เอกจฺจสฺส หิ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ ธาตํ ปคุณํ นิจฺจลิกํ น โหติ, ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สชฺฌายิตฺวา สํสนฺทิตฺวา สมนุคฺคาหิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ วทติ. เอกจฺจสฺส ธาตํ ปคุณํ ภวงฺคโสตสทิสํ โหติ, ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต อุทฺธริตฺวา ตเมว กเถติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ธาตา’’ติ. วจสา ¶ ปริจิตาติ สุตฺตทสก-วคฺคทสกปณฺณาสทสกวเสน วาจาย สชฺฌายิตา. มนสานุเปกฺขิตาติ จิตฺเตน อนุเปกฺขิตา. ยสฺส วาจาย สชฺฌายิตํ พุทฺธวจนํ มนสา จินฺเตนฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ ปากฏํ โหติ, มหาทีปํ ชาเลตฺวา ิตสฺส รูปคตํ วิย ปฺายติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปฺาย สุปฺปฏิวิทฺธา.
อาภิเจตสิกานนฺติ อภิเจโตติ อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธํ จิตฺตํ วุจฺจติ, อธิจิตฺตํ วา, อภิเจตสิ ชาตานิ อาภิเจตสิกานิ, อภิเจโตสนฺนิสฺสิตานีติ วา อาภิเจตสิกานิ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ ¶ ทิฏฺธมฺเม สุขวิหารานํ. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว วุจฺจติ, ตตฺถ สุขวิหารภูตานนฺติ อตฺโถ. รูปาวจรชฺฌานานเมตํ อธิวจนํ. ตานิ หิ อปฺเปตฺวา นิสินฺนา ฌายิโน อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อสํกิลิฏฺเนกฺขมฺมสุขํ วินฺทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานี’’ติ วุจฺจติ. นิกามลาภีติ นิกาเมน ลาภี, อตฺตโน อิจฺฉาวเสน ลาภี, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อกิจฺฉลาภีติ สุเขเนว ปจฺจนีกธมฺเม วิกฺขมฺเภตฺวา สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อกสิรลาภีติ อกสิรานํ ลาภี วิปุลานํ, ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ลาภีเยว โหติ, น ปน อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สกฺโกติ สมาปชฺชิตุํ. เอกจฺโจ สกฺโกติ ตถาสมาปชฺชิตุํ, ปาริปนฺถิเก ¶ จ ปน กิจฺเฉน วิกฺขมฺเภติ. เอกจฺโจ ตถา จ สมาปชฺชติ, ปาริปนฺถิเก จ อกิจฺเฉเนว วิกฺขมฺเภติ, น สกฺโกติ นาฬิกยนฺตํ วิย ยถาปริจฺเฉเทเยว วุฏฺาตุํ. ยสฺส ปน อยํ ติวิธาปิ สมฺปทา อตฺถิ, โส ‘‘อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ วุจฺจติ. อาสวานํ ขยาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เอวมิธ สีลมฺปิ พาหุสจฺจมฺปิ ขีณาสวสฺเสว สีลํ พาหุสจฺจฺจ, ฌานานิปิ ขีณาสวสฺเสว วฬฺชนกชฺฌานานิ กถิตานิ. ‘‘อาสวานํ ขยา’’ติอาทีหิ ¶ ปน อรหตฺตํ กถิตํ. ผเลน เจตฺถ มคฺคกิจฺจํ ปกาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อุทฺธเตนาติ อุทฺธจฺจสหคเตน. สมฺผนฺติ ปลาปกถํ. อสมาหิตสงฺกปฺโปติ อฏฺปิตสงฺกปฺโป. มโคติ มคสทิโส. อาราติ ทูเร. ถาวเรยฺยมฺหาติ ถาวรภาวโต. ปาปทิฏฺีติ ลามกทิฏฺิ. อนาทโรติ อาทรรหิโต. สุตวาติ สุเตน อุปคโต. ปฏิภานวาติ ทุวิเธน ปฏิภาเนน สมนฺนาคโต. ปฺายตฺถํ วิปสฺสตีติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย จตุนฺนํ สจฺจานํ อตฺถํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปสฺสติ. ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ ขนฺธาทิธมฺมานํ ¶ ปารํ คโต, อภิฺาปารคู, ปริฺาปารคู, ปหานปารคู, ภาวนาปารคู, สจฺฉิกิริยาปารคู, สมาปตฺติปารคูติ เอวํ ฉพฺพิเธน ปารคมเนน สพฺพธมฺมานํ ปารํ ปริโยสานํ คโต. อขิโลติ ราคขิลาทิวิรหิโต. ปฏิภานวาติ ทุวิเธเนว ปฏิภาเนน สมนฺนาคโต. พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ สกลพฺรหฺมจริโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๓. โลกสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย โลโกติ ทุกฺขสจฺจํ. อภิสมฺพุทฺโธติ าโต ปจฺจกฺโข กโต. โลกสฺมาติ ¶ ทุกฺขสจฺจโต. ปหีโนติ มหาโพธิมณฺเฑ อรหตฺตมคฺคาเณน ปหีโน. ตถาคตสฺส ภาวิตาติ ตถาคเตน ภาวิตา.
เอวํ เอตฺตเกน าเนน จตูหิ สจฺเจหิ อตฺตโน พุทฺธภาวํ กเถตฺวา อิทานิ ตถาคตภาวํ กเถตุํ ยํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ. วิฺาตนฺติ สุขทุกฺขาทิ ธมฺมารมฺมณํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ.
ตถาคเตน ¶ อภิสมฺพุทฺธนฺติ อิมินา เอตํ ทสฺเสติ – ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส นีลํ ปีตกนฺติอาทิ รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม รูปารมฺมณํ ¶ ทิสฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส เภริสทฺโท มุทิงฺคสทฺโทติอาทิ สทฺทารมฺมณํ โสตทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, มูลคนฺโธ ตจคนฺโธติอาทิ คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, มูลรโส ขนฺธรโสติอาทิ รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, กกฺขฬํ มุทุกนฺติอาทิ ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุเภทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม โผฏฺพฺพารมฺมณํ ผุสิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส สุขทุกฺขาทิเภทํ ธมฺมารมฺมณํ มโนทฺวารสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ยฺหิ, ภิกฺขเว, อิเมสํ สพฺพสตฺตานํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ, ตตฺถ ตถาคเตน อทิฏฺํ วา อสุตํ วา อมุตํ วา อวิฺาตํ วา นตฺถิ, อิมสฺส ปน มหาชนสฺส ปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, สพฺพมฺปิ ตถาคตสฺส อปฺปตฺตํ นาม นตฺถิ าเณน อสจฺฉิกตํ.
ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ ยํ ยถา โลเกน คตํ, ตสฺส ตเถว ¶ คตตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ ¶ . ปาฬิยํ ปน ‘‘อภิสมฺพุทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ คตสทฺเทน เอกตฺถํ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ ตถาคโตติ นิคมสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตสฺส ยุตฺติ เอกปุคฺคลวณฺณนายํ ตถาคตสทฺทวิตฺถาเร วุตฺตาเยว. อปิเจตฺถ อฺทตฺถูติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ทกฺขตีติ ทโส. วสํ วตฺเตตีติ วสวตฺตี.
สพฺพํ โลกํ อภิฺาติ เตธาตุกํ โลกสนฺนิวาสํ ชานิตฺวา. สพฺพํ โลเก ยถาตถนฺติ ตสฺมึ เตธาตุกโลกสนฺนิวาเส ยํกิฺจิ เนยฺยํ, สพฺพํ ตํ ยถาตถํ อวิปรีตํ ชานิตฺวา. วิสํยุตฺโตติ จตุนฺนํ ¶ โยคานํ ปหาเนน วิสํยุตฺโต. อนูปโยติ ตณฺหาทิฏฺิอุปเยหิ วิรหิโต. สพฺพาภิภูติ รูปาทีนิ สพฺพารมฺมณานิ อภิภวิตฺวา ิโต. ธีโรติ ธิติสมฺปนฺโน. สพฺพคนฺถปฺปโมจโนติ สพฺเพ จตฺตาโรปิ คนฺเถ โมเจตฺวา ิโต. ผุฏฺสฺสาติ ผุฏฺา อสฺส. อิทฺจ กรณตฺเถ สามิวจนํ. ปรมา สนฺตีติ นิพฺพานํ. ตฺหิ เตน าณผุสเนน ผุฏฺํ. เตเนวาห – นิพฺพานํ อกุโตภยนฺติ. อถ ¶ วา ปรมาสนฺตีติ อุตฺตมา สนฺติ. กตรา สาติ? นิพฺพานํ. ยสฺมา ปน นิพฺพาเน กุโตจิ ภยํ นตฺถิ, ตสฺมา ตํ อกุโตภยนฺติ วุจฺจติ. วิมุตฺโต อุปธิสงฺขเยติ อุปธิสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน ตทารมฺมณาย ผลวิมุตฺติยา วิมุตฺโต. สีโห อนุตฺตโรติ ปริสฺสยานํ สหนฏฺเน กิเลสานฺจ หึสนฏฺเน ตถาคโต อนุตฺตโร สีโห นาม. พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ. อิตีติ เอวํ ตถาคตสฺส คุเณ ชานิตฺวา. สงฺคมฺมาติ สมาคนฺตฺวา. ตํ นมสฺสนฺตีติ ตํ ตถาคตํ เต สรณํ คตา นมสฺสนฺติ. อิทานิ ยํ วทนฺตา เต นมสฺสนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ทนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. ตํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๔. กาฬการามสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺถํ อตฺถุปฺปตฺติยํ นิกฺขิตฺตํ. กตราย อตฺถุปฺปตฺติยนฺติ? ทสพลคุณกถาย. อนาถปิณฺฑิกสฺส กิร ธีตา จูฬสุภทฺทา ‘‘สาเกตนคเร กาฬกเสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อหํ มิจฺฉาทิฏฺิกกุลํ คจฺฉามิ. สเจ ตตฺถ สกฺการํ ลภิสฺสามิ, เอกสฺมึ ปุริเส เปสิยมาเน ปปฺโจ ภวิสฺสติ, มํ อาวชฺเชยฺยาถ ภควา’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา อคมาสิ. เสฏฺิ ‘‘สุณิสา เม อาคตา’’ติ มงฺคลํ กโรนฺโตว พหุํ ขาทนียโภชนียํ ปฏิยาเทตฺวา ปฺจ อเจลกสตานิ นิมนฺเตสิ. โส เตสุ นิสินฺเนสุ ‘‘ธีตา ¶ เม อาคนฺตฺวา อรหนฺเต วนฺทตู’’ติ จูฬสุภทฺทาย เปเสสิ. อาคตผลา อริยสาวิกา อรหนฺเตติ ¶ วุตฺตมตฺเตเยว ‘‘ลาภา วต เม’’ติ อุฏฺหิตฺวา คตา เต นิสฺสิริกทสฺสเน อเจลเก ทิสฺวาว ‘‘สมณา นาม น เอวรูปา โหนฺติ, ตาต, เยสํ เนว อชฺฌตฺตํ หิรี, น พหิทฺธา โอตฺตปฺปํ อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น อิเม สมณา, ธีธี’’ติ เขฬํ ปาเตตฺวา นิวตฺติตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว คตา.
ตโต ¶ อเจลกา ‘‘มหาเสฏฺิ กุโต เต เอวรูปา กาลกณฺณี ลทฺธา, กึ สกลชมฺพุทีเป อฺา ทาริกา นตฺถี’’ติ เสฏฺึ ปริภาสึสุ. โส ‘‘อาจริยา ชานิตฺวา วา กตํ โหตุ อชานิตฺวา วา, อหเมตฺถ ชานิสฺสามี’’ติ อเจลเก อุยฺโยเชตฺวา สุภทฺทาย สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺม, กสฺมา เอวรูปํ อกาสิ, กสฺมา อรหนฺเต ลชฺชาเปสี’’ติ อาห. ตาต, อรหนฺตา นาม เอวรูปา น โหนฺตีติ. อถ นํ โส อาห –
‘‘กีทิสา สมณา ตุยฺหํ, พาฬฺหํ โข เน ปสํสสิ;
กึสีลา กึสมาจารา, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา’’ติ.
สา อาห –
‘‘สนฺตินฺทฺริยา สนฺตมนา, สนฺตเตชา คุณมคฺคสณฺิตา;
โอกฺขิตฺตจกฺขู มิตภาณี, ตาทิสา สมณา มม.
‘‘วสนฺติ วนโมคยฺห, นาโค เฉตฺวาว พนฺธนํ;
เอกกิยา อทุติยา, ตาทิสา สมณา มมา’’ติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา เสฏฺิสฺส ปุเร ตฺวา ติณฺณํ รตนานํ คุณํ กเถสิ. เสฏฺิ ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ยทิ เอวํ, ตว สมเณ อาเนตฺวา มงฺคลํ กโรมา’’ติ. สา ปุจฺฉิ ‘‘กทา กริสฺสถ, ตาตา’’ติ. เสฏฺิ จินฺเตสิ – ‘‘กติปาหจฺจเยนาติ วุตฺเต เปเสตฺวา ปกฺโกสาเปยฺยา’’ติ. อถ นํ ‘‘สฺเว อมฺมา’’ติ อาห. สา สายนฺหสมเย อุปริปาสาทํ อารุยฺห มหนฺตํ ปุปฺผสมุคฺคํ คเหตฺวา สตฺถุ คุเณ อนุสฺสริตฺวา อฏฺ ปุปฺผมุฏฺิโย ทสพลสฺส วิสฺสชฺเชตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมานา อฏฺาสิ. เอวฺจ อวจ – ‘‘ภควา สฺเว ปฺจหิ ¶ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. ตานิ ปุปฺผานิ คนฺตฺวา ทสพลสฺส มตฺถเก วิตานํ หุตฺวา อฏฺํสุ. สตฺถา อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ อทฺทส. ธมฺมเทสนาปริโยสาเน อนาถปิณฺฑิกมหาเสฏฺิ ทสพลํ วนฺทิตฺวา ‘‘สฺเว, ภนฺเต, ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ มม เคเห ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาห. จูฬสุภทฺทาย นิมนฺติตมฺห เสฏฺีติ. น, ภนฺเต, กฺจิ อาคตํ ปสฺสามาติ. อาม, เสฏฺิ, สทฺธา ปน อุปาสิกา ทูเร โยชนสตมตฺถเกปิ โยชนสหสฺสมตฺถเกปิ ิตา หิมวนฺโต วิย ปฺายตีติ วตฺวา –
‘‘ทูเร ¶ สนฺโต ปกาเสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา’’ติ. (ธ. ป. ๓๐๔) –
อิมํ คาถมาห. อนาถปิณฺฑิโก ‘‘ภนฺเต, มม, ธีตุ สงฺคหํ กโรถา’’ติ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.
สตฺถา อานนฺทตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘อหํ, อานนฺท, สาเกตํ คมิสฺสามิ, ปฺจนฺนํ ¶ ภิกฺขุสตานํ สลากํ เทหิ. ททนฺโต จ ฉฬภิฺานํเยว ทเทยฺยาสี’’ติ. เถโร ตถา อกาสิ. จูฬสุภทฺทา รตฺติภาคสมนนฺตเร จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธา นาม พหุกิจฺจา พหุกรณียา, มํ สลฺลกฺเขยฺย วา น วา, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ. ตสฺมึ ขเณ เวสฺสวโณ มหาราชา จูฬสุภทฺทาย กเถสิ – ‘‘ภทฺเท, มา โข ตฺวํ วิมนา อโหสิ, มา ทุมฺมนา. อธิวุตฺถํ เต ภควตา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. สา ตุฏฺปหฏฺา ทานเมว สํวิทหิ. สกฺโกปิ โข เทวราชา วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตาต, ทสพโล จูฬสุภทฺทาย สนฺติกํ สาเกตนครํ คจฺฉิสฺสติ, ปฺจ กูฏาคารสตานิ มาเปหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. สตฺถา ปฺจหิ ฉฬภิฺสเตหิ ปริวุโต กูฏาคารยาเนน มณิวณฺณํ อากาสํ วิลิขนฺโต วิย สาเกตนครํ อคมาสิ.
สุภทฺทา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ สสุรปกฺโข มิจฺฉาทิฏฺิโก, สาธุ เตสํ อนุจฺฉวิกธมฺมํ กเถถา’’ติ. สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. กาฬกเสฏฺิ โสตาปนฺโน หุตฺวา อตฺตโน อุยฺยานํ ทสพลสฺส อทาสิ. อเจลกา ‘‘อมฺหากํ ปมํ ทินฺน’’นฺติ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉนฺติ. ‘‘คจฺฉถ นีหริตพฺพนิยาเมน เต นีหรถา’’ติ สพฺเพ นีหราเปตฺวา ตตฺเถว สตฺถุ วิหารํ กาเรตฺวา พฺรหฺมเทยฺยํ กตฺวา ¶ อุทกํ ปาเตสิ ¶ . โส กาฬเกน การิตตาย กาฬการาโม นาม ชาโต. ภควา ตสฺมึ สมเย ตตฺถ วิหรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สาเกเต วิหรติ กาฬการาเม’’ติ.
ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ปฺจสเต ภิกฺขู อามนฺเตสิ. เต กิร สาเกตนครวาสิโน กุลปุตฺตา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อุปฏฺานสาลาย นิสินฺนา ‘‘อโห พุทฺธคุณา นาม มหนฺตา, เอวรูปํ นาม มิจฺฉาทิฏฺิกํ กาฬกเสฏฺึ ทิฏฺิโต โมเจตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปาเปตฺวา ¶ สกลนครํ สตฺถารา เทวโลกสทิสํ กต’’นฺติ ทสพลสฺส คุณํ กเถนฺติ. สตฺถา เตสํ คุณํ กเถนฺตานํ จิตฺตํ อุปปริกฺขิตฺวา – ‘‘มยิ คเต มหตี เทสนา สมุฏฺิสฺสติ, เทสนาปริโยสาเน จ อิเม ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหิสฺสนฺติ, มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา กมฺปิสฺสตี’’ติ ธมฺมสภํ คนฺตฺวา ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน เต ภิกฺขู อาทึ กตฺวา ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺสาติ อิมํ เทสนํ อารภิ. เอวมิทํ สุตฺตํ คุณกถาย นิกฺขิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ ‘‘ตมหํ ชานามี’’ติ ปทปริโยสาเน มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อกมฺปิตฺถ. อพฺภฺาสินฺติ อภิอฺาสึ, ชานินฺติ อตฺโถ. วิทิตนฺติ ปากฏํ กตฺวา าตํ. อิมินา เอตํ ทสฺเสติ – อฺเ ชานนฺติเยว, มยา ปน ปากฏํ กตฺวา วิทิตนฺติ. อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ สพฺพฺุตภูมิ นาม กถิตา. ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสีติ ตํ ฉทฺวาริกํ อารมฺมณํ ตถาคโต ตณฺหาย วา ทิฏฺิยา วา น อุปฏฺาสิ น อุปคฺฉิ. อยฺหิ ปสฺสติ ภควา จกฺขุนา รูปํ, ฉนฺทราโค ¶ ภควโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิตฺโต โส ภควา. สุณาติ ภควา โสเตน สทฺทํ. ฆายติ ภควา ฆาเนน คนฺธํ. สายติ ภควา ชิวฺหาย รสํ. ผุสติ ภควา กาเยน โผฏฺพฺพํ. วิชานาติ ภควา มนสา ธมฺมํ, ฉนฺทราโค ภควโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิตฺโต โส ภควา. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสี’’ติ. อิมินา ปเทน ขีณาสวภูมิ กถิตาติ เวทิตพฺพา.
ตํ มมสฺส มุสาติ ตํ เม วจนํ มุสาวาโท นาม ภเวยฺย. ตํ ปสฺส ตาทิสเมวาติ ตมฺปิ มุสาวาโท ภเวยฺย. ตํ มมสฺส กลีติ ตํ วจนํ มยฺหํ โทโส ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา สจฺจภูมิ นาม กถิตาติ เวทิตพฺพา.
ทฏฺา ¶ ทฏฺพฺพนฺติ ทิสฺวา ทฏฺพฺพํ. ทิฏฺํ น มฺตีติ ตํ ทิฏฺํ รูปายตนํ ‘‘อหํ มหาชเนน ทิฏฺเมว ปสฺสามี’’ติ ตณฺหามานทิฏฺีหิ น มฺติ. อทิฏฺํ น มฺตีติ ‘‘อหํ มหาชเนน อทิฏฺเมว เอตํ ปสฺสามี’’ติ เอวมฺปิ ตณฺหาทีหิ มฺนาหิ น มฺติ. ทฏฺพฺพํ น มฺตีติ ‘‘มหาชเนน ทิฏฺํ ปสฺสามี’’ติ เอวมฺปิ ตาหิ มฺนาหิ น มฺติ. ทฏฺพฺพฺหิ อทิฏฺมฺปิ โหติเยว. เอวรูปานิ หิ วจนานิ ตีสุปิ กาเลสุ ลพฺภนฺติ, เตนสฺส อตฺโถ วุตฺโต. ทฏฺารํ ¶ น มฺตีติ ปสฺสิตารํ ¶ เอกสตฺตํ นาม ตาหิ มฺนาหิ น มฺตีติ อตฺโถ. เสสฏฺาเนสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา เอตฺตเกน าเนน สฺุตาภูมิ นาม กถิตา.
อิติ โข, ภิกฺขเวติ เอวํ โข, ภิกฺขเว. ตาทีเยว ตาทีติ ตาทิตา นาม เอกสทิสตา. ตถาคโต จ ยาทิโส ลาภาทีสุ, ตาทิโสว อลาภาทีสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลาเภปิ ตาที, อลาเภปิ ตาที. ยเสปิ ตาที, อยเสปิ ตาที. นินฺทายปิ ตาที, ปสํสายปิ ตาที. สุเขปิ ตาที, ทุกฺเขปิ ตาที’’ติ (มหานิ. ๓๘, ๑๙๒). อิมาย ตาทิตาย ตาที. ตมฺหา จ ปน ตาทิมฺหาติ ตโต ตถาคตตาทิโต อฺโ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา ตาที นตฺถีติ เอตฺตาวตา ตาทิภูมิ นาม กถิตา. อิมาหิ ปฺจภูมีหิ เทสนํ นิฏฺาเปนฺตสฺส ปฺจสุปิ าเนสุ มหาปถวี สกฺขิภาเวน อกมฺปิตฺถ. เทสนาปริโยสาเน เต ปฺจสเต อธุนาปพฺพชิเต กุลปุตฺเต อาทึ กตฺวา ตํ านํ ปตฺตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวึสุ.
ภควาปิ สุตฺตํ นิฏฺาเปตฺวา คาถาหิ กูฏํ คณฺหนฺโต ยํกิฺจีติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ อชฺโฌสิตํ สจฺจมุตํ ปเรสนฺติ ปเรสํ สทฺธาย ปรปตฺติยายนาย สจฺจมุตนฺติ มฺิตฺวา อชฺโฌสิตํ คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา คหิตํ. สยสํวุเตสูติ สยเมว สํวริตฺวา ปิยายิตฺวา คหิตคหเณสุ, ทิฏฺิคติเกสูติ อตฺโถ. ทิฏฺิคติกา หิ สยํ สํวุตาติ วุจฺจนฺติ. สจฺจํ มุสา วาปิ ปรํ ทเหยฺยาติ เตสุ สยํ สํวุตสงฺขาเตสุ ทิฏฺิคติเกสุ ตถาคโต ตาที เตสํ เอกมฺปิ วจนํ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ เอวํ สจฺจํ มุสา วาปิ ปรํ อุตฺตมํ กตฺวา น โอทเหยฺย, น สทฺทเหยฺย, น ปตฺติยาเยยฺย. เอตฺจ สลฺลนฺติ เอตํ ทิฏฺิสลฺลํ. ปฏิกจฺจ ทิสฺวาติ ปุเรตรํ โพธิมูเลเยว ทิสฺวา. วิสตฺตาติ ลคฺคา ลคิตา ปลิพุทฺธา. ชานามิ ปสฺสามิ ตเถว เอตนฺติ ยถายํ ปชา อชฺโฌสิตา คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา วิสตฺตา ลคฺคา ลคิตา, เอวํ อหมฺปิ ¶ ชานามิ ปสฺสามิ. ตถา เอวํ ยถา เอตาย ปชาย คหิตนฺติ เอวํ อชฺโฌสิตํ นตฺถิ ตถาคตานนฺติ อตฺโถ.
๕. พฺรหฺมจริยสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม ¶ ชนกุหนตฺถนฺติ ตีหิ กุหนวตฺถูหิ ชนสฺส กุหนตฺถาย. น ชนลปนตฺถนฺติ น ชนสฺส อุปลาปนตฺถํ. น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถนฺติ น จีวราทิถุติวจนตฺถํ. น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถนฺติ น เตน เตน การเณน ¶ กตวาทานิสํสตฺถํ, น วาทสฺส ปโมกฺขานิสํสตฺถํ. น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ น ‘‘เอวํ กิร เอส ภิกฺขุ, เอวํ กิร เอส ภิกฺขู’’ติ ชนสฺส ชานนตฺถาย. สํวรตฺถนฺติ ปฺจหิ สํวเรหิ สํวรณตฺถาย. ปหานตฺถนฺติ ตีหิ ปหาเนหิ ปชหนตฺถาย. วิราคตฺถนฺติ ราคาทีนํ วิรชฺชนตฺถาย. นิโรธตฺถนฺติ เตสํเยว นิรุชฺฌนตฺถาย. อนีติหนฺติ อิติหปริวชฺชิตํ, อปรปตฺติยนฺติ อตฺโถ. นิพฺพาโนคธคามินนฺติ นิพฺพานสฺส อนฺโตคามินํ. มคฺคพฺรหฺมจริยฺหิ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กริตฺวา นิพฺพานสฺส อนฺโตเยว วตฺตติ ปวตฺตติ. ปฏิปชฺชนฺตีติ ทุวิธมฺปิ ปฏิปชฺชนฺติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กเถตฺวา คาถาสุ วิวฏฺฏเมว กถิตํ.
๖. กุหสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ กุหาติ กุหกา. ถทฺธาติ โกเธน จ มาเนน จ ถทฺธา. ลปาติ อุปลาปกา. สิงฺคีติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สิงฺคํ, ยํ สิงฺคํ สิงฺคารตา จาตุรตา จาตุริยํ ปริกฺขตฺตตา ปาริกฺขตฺติย’’นฺติ (วิภ. ๘๕๒) เอวํ วุตฺเตหิ สิงฺคสทิเสหิ ปากฏกิเลเสหิ สมนฺนาคตา. อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิตา. อสมาหิตาติ จิตฺเตกคฺคมตฺตสฺสาปิ อลาภิโน. น ¶ เม เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกาติ เต มยฺหํ ภิกฺขู มม สนฺตกา น โหนฺติ. ‘‘เต มยฺห’’นฺติ อิทํ ปน สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตตฺตา วุตฺตํ. เต โข เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกาติ อิธาปิ เมติ อตฺตานํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตตฺตา วทติ, สมฺมาปฏิปนฺนตฺตา ปน ‘‘มามกา’’ติ อาห. วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตีติ สีลาทีหิ คุเณหิ วฑฺฒนโต วุทฺธึ, นิจฺจลภาเวน วิรูฬฺหึ, สพฺพตฺถ ปตฺถฏตาย เวปุลฺลํ ปาปุณนฺติ. เต ปเนเต ยาว ¶ อรหตฺตมคฺคา วิรุหนฺติ, อรหตฺตผลํ ปตฺเต วิรูฬฺหา นาม โหนฺติ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.
๗. สนฺตุฏฺิสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม ¶ อปฺปานีติ ปริตฺตานิ. สุลภานีติ สุเขน ลทฺธพฺพานิ, ยตฺถ กตฺถจิ สกฺกา โหนฺติ ลภิตุํ. อนวชฺชานีติ นิทฺโทสานิ. ปิณฺฑิยาโลปโภชนนฺติ ชงฺฆาปิณฺฑิยพเลน จริตฺวา อาโลปมตฺตํ ลทฺธํ โภชนํ. ปูติมุตฺตนฺติ ยํกิฺจิ มุตฺตํ. ยถา หิ สุวณฺณวณฺโณปิ กาโย ปูติกาโยติ วุจฺจติ, เอวํ อภินวมฺปิ มุตฺตํ ปูติมุตฺตเมว.
วิฆาโตติ วิคตฆาโต, จิตฺตสฺส ทุกฺขํ น โหตีติ อตฺโถ. ทิสา ¶ นปฺปฏิหฺตีติ ยสฺส หิ ‘‘อสุกฏฺานํ นาม คโต จีวราทีนิ ลภิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ทิสา ปฏิหฺติ นาม. ยสฺส เอวํ น อุปฺปชฺชติ, ตสฺส นปฺปฏิหฺติ นาม. ธมฺมาติ ปฏิปตฺติธมฺมา. สามฺสฺสานุโลมิกาติ สมณธมฺมสฺส อนุโลมา. อธิคฺคหิตาติ สพฺเพเต ตุฏฺจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน อธิคฺคหิตา โหนฺติ อนฺโตคตา น ปริพาหิราติ.
๘. อริยวํสสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺมสฺส อชฺฌาสยิโก นิกฺเขโป. อิมํ กิร มหาอริยวํสสุตฺตนฺตํ ภควา เชตวนมหาวิหาเร ธมฺมสภายํ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน อตฺตโนปิ ปรปุคฺคลานมฺปิ อชฺฌาสยวเสน ปริวาเรตฺวา นิสินฺนานิ จตฺตาลีส ภิกฺขุสหสฺสานิ, ‘‘ภิกฺขเว’’ติ อามนฺเตตฺวา จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อริยวํสาติ อารภิ. ตตฺถ อริยวํสาติ อริยานํ วํสา. ยถา หิ ขตฺติยวํโส พฺราหฺมณวํโส เวสฺสวํโส สุทฺทวํโส สมณวํโส กุลวํโส ราชวํโส, เอวํ อยมฺปิ อฏฺโม อริยวํโส อริยตนฺติ อริยปเวณี นาม โหติ. โส โข ปนายํ อริยวํโส อิเมสํ วํสานํ มูลคนฺธาทีนํ กาฬานุสาริคนฺธาทโย วิย อคฺคมกฺขายติ.
เก ปน เต อริยา, เยสํ เอเต วํสาติ? อริยา วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เอเตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อิโต ปุพฺเพ หิ สตสหสฺสกปฺปาธิกานํ ¶ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก ตณฺหงฺกโร, เมธงฺกโร ¶ , สรณงฺกโร, ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร ¶ พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เต อริยา, เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. เตสํ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ อุปฺปนฺโน…เป… อิมสฺมึ กปฺเป กกุสนฺโธ, โกณาคมโน, กสฺสโป, อมฺหากํ ภควา โคตโมติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อปิจ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพพุทฺธ-ปจฺเจกพุทฺธ-พุทฺธสาวกานํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา.
เต โข ปเนเต อคฺคฺา อคฺคาติ ชานิตพฺพา, รตฺตฺา ทีฆรตฺตํ ปวตฺตาติ ชานิตพฺพา, วํสฺา วํสาติ ชานิตพฺพา. โปราณา น อธุนุปฺปตฺติกา. อสํกิณฺณา อวิกิณฺณา อนปนีตา. อสํกิณฺณปุพฺพา อตีตพุทฺเธหิปิ น สํกิณฺณปุพฺพา, ‘‘กิ อิเมหี’’ติ น อปนีตปุพฺพา. น สํกียนฺตีติ อิทานิปิ น อปนียนฺติ. น สํกียิสฺสนฺตีติ อนาคตพุทฺเธหิปิ น อปนียิสฺสนฺติ. เย โลเก วิฺู สมณพฺราหฺมณา, เตหิ อปฺปฏิกุฏฺา, สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ อนินฺทิตา อครหิตา.
สนฺตุฏฺโ โหตีติ ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. อิตรีตเรนาติ น ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน เกนจิ, อถ โข ยถาลทฺธาทีนํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโ โหตีติ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย สนฺโตสา ¶ ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ วิตฺถารกถา ‘‘สนฺตุฏฺสฺส, ภิกฺขเว, อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อิติ อิเม ตโย สนฺโตเส สนฺธาย ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน จีวเรน, ยถาลทฺธาทีสุ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺโ โหตี’’ติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ จีวรํ ชานิตพฺพํ, จีวรกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปํสุกูลํ ชานิตพฺพํ, จีวรสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, จีวรปฺปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ โขมาทีนิ ฉ จีวรานิ ทุกูลาทีนิ ฉ อนุโลมจีวรานิ ชานิตพฺพานิ. อิมานิ ทฺวาทส กปฺปิยจีวรานิ. กุสจีรํ, วากจีรํ, ผลกจีรํ, เกสกมฺพลํ, วาฬกมฺพลํ, โปตฺถโก, จมฺมํ, อุลูกปกฺขํ, รุกฺขทุสฺสํ, ลตาทุสฺสํ, เอรกทุสฺสํ, กทลิทุสฺสํ, เวฬุทุสฺสนฺติ เอวมาทีนิ ปน อกปฺปิยจีวรานิ.
จีวรกฺเขตฺตนฺติ ¶ ¶ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน, ปํสุกูลํ วา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชนโต ฉ เขตฺตานิ, อฏฺนฺนฺจ มาติกานํ วเสน อฏฺ เขตฺตานิ ชานิตพฺพานิ.
ปํสุกูลนฺติ โสสานิกํ, ปาปณิกํ, รถิยํ, สงฺการกูฏกํ, โสตฺถิยํ, สินานํ, ติตฺถํ, คตปจฺจาคตํ, อคฺคิทฑฺฒํ, โคขายิตํ, อุปจิกขายิตํ, อุนฺทูรขายิตํ ¶ , อนฺตจฺฉินฺนํ, ทสจฺฉินฺนํ, ธชาหฏํ, ถูปํ, สมณจีวรํ, สามุทฺทิยํ, อาภิเสกิยํ, ปนฺถิกํ, วาตาหฏํ, อิทฺธิมยํ, เทวทตฺติยนฺติ เตวีสติ ปํสุกูลานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ โสตฺถิยนฺติ คพฺภมลหรณํ. คตปจฺจาคตนฺติ มตกสรีรํ ปารุปิตฺวา สุสานํ เนตฺวา อานีตจีวรํ. ธชาหฏนฺติ ธชํ อุสฺสาเปตฺวา ตโต อานีตํ. ถูปนฺติ วมฺมิเก ปูชิตจีวรํ. สามุทฺทิยนฺติ สมุทฺทวีจีหิ ถลํ ปาปิตํ. ปนฺถิกนฺติ ปนฺถํ คจฺฉนฺเตหิ โจรภเยน ปาสาเณหิ โกฏฺเฏตฺวา ปารุตจีวรํ. อิทฺธิมยนฺติ เอหิภิกฺขุจีวรํ. เสสํ ปากฏเมวาติ.
จีวรสนฺโตโสติ วีสติ จีวรสนฺโตสา – จีวเร วิตกฺกสนฺโตโส, คมนสนฺโตโส, ปริเยสนสนฺโตโส, ปฏิลาภสนฺโตโส, มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส, โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส, ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโส, อุทกสนฺโตโส, โธวนสนฺโตโส, กรณสนฺโตโส, ปริมาณสนฺโตโส, สุตฺตสนฺโตโส, สิพฺพนสนฺโตโส, รชนสนฺโตโส, กปฺปสนฺโตโส, ปริโภคสนฺโตโส, สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส, วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ.
ตตฺถ สาทกภิกฺขุนา เตมาสํ นิพทฺธวาสํ วสิตฺวา เอกมาสมตฺตํ วิตกฺเกตุํ วฏฺฏติ. โส หิ ปวาเรตฺวา จีวรมาเส จีวรํ กโรติ, ปํสุกูลิโก อฑฺฒมาเสเนว กโรติ. อิทํ มาสฑฺฒมาสมตฺตํ วิตกฺกนํ วิตกฺกสนฺโตโส นาม. วิตกฺกสนฺโตเสน ปน สนฺตุฏฺเน ภิกฺขุนา ปาจีนขณฺฑราชิวาสิกปํสุกูลิกตฺเถรสทิเสน ¶ ภวิตพฺพํ.
เถโร กิร ‘‘เจติยปพฺพตวิหาเร เจติยํ วนฺทิสฺสามี’’ติ อาคโต เจติยํ วนฺทิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ จีวรํ ชิณฺณํ, พหูนํ วสนฏฺาเน ลภิสฺสามี’’ติ. โส มหาวิหารํ คนฺตฺวา สงฺฆตฺเถรํ ทิสฺวา วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา ตตฺถ วุตฺโถ ปุนทิวเส จีวรํ อาทาย อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิ. เถโร ‘‘กึ ¶ , อาวุโส’’ติ อาห. คามทฺวารํ, ภนฺเต, คมิสฺสามีติ. อหมฺปาวุโส, คมิสฺสามีติ ¶ . สาธุ, ภนฺเตติ คจฺฉนฺโต มหาโพธิทฺวารโกฏฺเก ตฺวา ‘‘ปฺุวนฺตานํ วสนฏฺาเน มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อปริสุทฺโธ เม วิตกฺโก’’ติ ตโตว ปฏินิวตฺติ. ปุนทิวเส อมฺพงฺคณสมีปโต, ปุนทิวเส มหาเจติยสฺส อุตฺตรทฺวารโต ตตฺเถว ปฏินิวตฺติตฺวา จตุตฺถทิวเส เถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เถโร ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺโก น ปริสุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ จีวรํ คเหตฺวา เตน สทฺธึเยว ปฺหํ ปุจฺฉมาโน คามํ ปาวิสิ. ตฺจ รตฺตึ เอโก มนุสฺโส อุจฺจารปลิพุทฺโธ สาฏเกเยว วจฺจํ กตฺวา ตํ สงฺการฏฺาเน ฉฑฺเฑสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโร ตํ นีลมกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ทิสฺวา อฺชลึ ปคฺคเหสิ. มหาเถโร ‘‘กึ, อาวุโส, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหาสี’’ติ. นาหํ, ภนฺเต, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหามิ, มยฺหํ ปิตุ ทสพลสฺส ปคฺคณฺหามิ, ปุณฺณทาสิยา สรีรํ ปารุปิตฺวา ฉฑฺฑิตํ ปํสุกูลํ ตุมฺพมตฺเต ปาณเก วิธุนิตฺวา สุสานโต คณฺหนฺเตน ทุกฺกรตรํ กตํ ¶ , ภนฺเตติ. มหาเถโร ‘‘ปริสุทฺโธ วิตกฺโก ปํสุกูลิกสฺสา’’ติ จินฺเตสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโรปิ ตสฺมึเยว าเน ิโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ตีณิ ผลานิ ปตฺโต ตํ สาฏกํ คเหตฺวา จีวรํ กตฺวา ปารุปิตฺวา ปาจีนขณฺฑราชึ คนฺตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิ.
จีวรตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปน ‘‘กตฺถ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คมนํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺตสฺส ปน เยน วา เตน วา สทฺธึ อปริเยสิตฺวา ลชฺชึ เปสลํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา ปริเยสนํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. เอวํ ปริเยสนฺตสฺส อาหริยมานํ จีวรํ ทูรโต ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ ภวิสฺสติ, เอตํ อมนาป’’นฺติ เอวํ อวิตกฺเกตฺวา ถูลสุขุมาทีสุ ยถาลทฺเธเนว สนฺตุสฺสนํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ‘‘เอตฺตกํ ทุปฏฺฏสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ เอกปฏฺฏสฺสา’’ติ อตฺตโน ปโหนกมตฺเตเนว สนฺตุสฺสนํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. จีวรํ ปริเยสนฺตสฺส ปน ‘‘อสุกสฺส ฆรทฺวาเร มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม.
ลูขปณีเตสุ เยน เกนจิ ยาเปตุํ สกฺโกนฺตสฺส ยถาลทฺเธเนว ยาปนํ ยถาลาภสนฺโตโส นาม. อตฺตโน ถามํ ชานิตฺวา เยน ยาเปตุํ สกฺโกติ, เตน ยาปนํ ยถาพลสนฺโตโส นาม. มนาปํ อฺสฺส ¶ ทตฺวา อตฺตนา เยน เกนจิ ยาปนํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโส นาม.
‘‘กตฺถ อุทกํ มนาปํ, กตฺถ อมนาป’’นฺติ อวิจาเรตฺวา เยน เกนจิ โธวนูปเคน อุทเกน ¶ โธวนํ อุทกสนฺโตโส นาม. ปณฺฑุมตฺติกเครุกปูติปณฺณรสกิลิฏฺานิ ปน อุทกานิ วชฺเชตุํ วฏฺฏติ. โธวนฺตสฺส ปน มุคฺคราทีหิ อปหริตฺวา ¶ หตฺเถหิ มทฺทิตฺวา โธวนํ โธวนสนฺโตโส นาม. ตถา อสุชฺฌนฺตํ ปณฺณานิ ปกฺขิปิตฺวา ตาปิตอุทเกนาปิ โธวิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ โธวิตฺวา กโรนฺตสฺส ‘‘อิทํ ถูลํ, อิทํ สุขุม’’นฺติ อโกเปตฺวา ปโหนกนีหาเรเนว กรณํ กรณสนฺโตโส นาม. ติมณฺฑลปติจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ ปริมาณสนฺโตโส นาม. จีวรกรณตฺถาย ปน มนาปํ สุตฺตํ ปริเยสิสฺสามีติ อวิจาเรตฺวา รถิกาทีสุ วา เทวฏฺาเน วา อาหริตฺวา ปาทมูเล วา ปิตํ ยํกิฺจิเทว สุตฺตํ คเหตฺวา กรณํ สุตฺตสนฺโตโส นาม.
กุสิพนฺธนกาเล ปน องฺคุลมตฺเต สตฺต วาเร น วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส หิ โย ภิกฺขุ สหาโย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโทปิ นตฺถิ. ติวงฺคุลมตฺเต ปน สตฺต วาเร วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส มคฺคปฺปฏิปนฺเนนาปิ สหาเยน ภวิตพฺพํ. โย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโท. อยํ สิพฺพนสนฺโตโส นาม. รชนฺเตน ปน กาฬกจฺฉกาทีนิ ปริเยสนฺเตน น จริตพฺพํ, โสมวกฺกลาทีสุ ยํ ลภติ, เตน รชิตพฺพํ. อลภนฺเตน ปน มนุสฺเสหิ อรฺเ วากํ คเหตฺวา ฉฑฺฑิตรชนํ วา ภิกฺขูหิ ปจิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ วา คเหตฺวา รชิตพฺพํ. อยํ รชนสนฺโตโส นาม. นีลกทฺทมกาฬสาเมสุ ยํกิฺจิ คเหตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสินฺนสฺส ปฺายมานกปฺปกรณํ กปฺปสนฺโตโส นาม.
หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสน ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. ทุสฺสํ ปน ลภิตฺวา สุตฺตํ วา สูจึ วา การกํ วา อลภนฺเตน เปตุํ วฏฺฏติ, ลภนฺเตน น วฏฺฏติ. กตมฺปิ สเจ อนฺเตวาสิกาทีนํ ¶ ทาตุกาโม โหติ, เต จ อสนฺนิหิตา, ยาว อาคมนา เปตุํ วฏฺฏติ. อาคตมตฺเตสุ ทาตพฺพํ. ทาตุํ อสกฺโกนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. อฺสฺมึ จีวเร สติ ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. อนธิฏฺิตเมว หิ สนฺนิธิ ¶ โหติ, อธิฏฺิตํ น โหตีติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. วิสฺสชฺเชนฺเตน ปน น มุขํ โอโลเกตฺวา ทาตพฺพํ, สารณียธมฺเม ตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
จีวรปฺปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ นาม ปํสุกูลิกงฺคฺเจว เตจีวริกงฺคฺจ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔-๒๕) เวทิตพฺพา. อิติ จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ¶ ภิกฺขุ อิมานิ ทฺเว ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหตีติ.
วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ. เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก สนฺตุฏฺโ เจว โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’’ติ วุตฺตํ.
อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหินคมนานุโยคปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อปฺปติรูปนฺติ อยุตฺตํ. อลทฺธา ¶ จาติ อลภิตฺวา. ยถา เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ปฺุวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสติ ปริตสฺสติ, สนฺตุฏฺโ ภิกฺขุ เอวํ อลทฺธา จีวรํ น ปริตสฺสติ. ลทฺธา จาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อคธิโตติ วิคตโลภคิทฺโธ. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อนาปนฺโน. อนชฺโฌปนฺโนติ ตณฺหาย อโนตฺถโต อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ เคธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ วุตฺตํ นิสฺสรณเมว ปชานนฺโต.
อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยาติ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺิยา. เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘อหํ ปํสุกูลิโก, มยา อุปสมฺปทมาเฬเยว ปํสุกูลิกงฺคํ คหิตํ, โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. โน ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกา’’ติ วา, ‘‘ปํสุกูลิกงฺคมตฺตมฺปิ เอเตสํ นตฺถี’’ติ วา เอวํ ปรํ น วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโขติ โย ตสฺมึ จีวรสนฺโตเส วณฺณวาทาทีสุ วา ทกฺโข เฉโก ¶ พฺยตฺโต. อนลโสติ สาตจฺจกิริยาย อาลสิยวิรหิโต. สมฺปชาโน ปฏิสฺสโตติ สมฺปชานปฺาย เจว สติยา จ ยุตฺโต. อริยวํเส ิโตติ อริยวํเส ปติฏฺิโต.
อิตรีตเรน ¶ ปิณฺฑปาเตนาติ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน. เอตฺถาปิ ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตปฺปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ ¶ . ตตฺถ ปิณฺฑปาโตติ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสํ ขีรํ ทธิ สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ ยาคุ ขาทนียํ สายนียํ เลหนียนฺติ โสฬส ปิณฺฑปาตา.
ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตนฺติ สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิกภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตํ ธุรภตฺตํ กุฏิภตฺตํ วารภตฺตํ วิหารภตฺตนฺติ ปนฺนรส ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตานิ.
ปิณฺฑปาตสนฺโตโสติ ปิณฺฑปาเต วิตกฺกสนฺโตโส คมนสนฺโตโส ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส ปฏิคฺคหณสนฺโตโส มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโส อุปการสนฺโตโส ปริมาณสนฺโตโส ปริโภคสนฺโตโส สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ ปนฺนรส สนฺโตสา.
ตตฺถ สาทโก ภิกฺขุ มุขํ โธวิตฺวา วิตกฺเกติ. ปิณฺฑปาติเกน ปน คเณน สทฺธึ จรตา สายํ เถรูปฏฺานกาเล ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามาติ? อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย น วิตกฺเกตพฺพํ. เอกจาริเกน วิตกฺกมาฬเก ตฺวา วิตกฺเกตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร. อยํ ¶ วิตกฺกสนฺโตโส นาม.
ปิณฺฑาย ปวิสนฺเตน ‘‘กุหึ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพํ. อยํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺเตน ยํ วา ตํ วา อคฺคเหตฺวา ลชฺชึ เปสลเมว คเหตฺวา ปริเยสิตพฺพํ. อยํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. ทูรโตว อาหริยมานํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ ¶ , เอตํ อมนาป’’นฺติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. อยํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. ‘‘อิมํ มนาปํ คณฺหิสฺสามิ, อิมํ อมนาปํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ยํกิฺจิ ยาปนมตฺตํ คเหตพฺพเมว. อยํ ปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
เอตฺถ ปน เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโมปิ พหุ, ทายโกปิ พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณเนว คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโกปิ อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโก ปน พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณน คเหตพฺพํ ¶ . ปฏิคฺคหณสฺมิฺหิ มตฺตํ อชานนฺโต มนุสฺสานํ ปสาทํ มกฺเขติ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, สาสนํ น กโรติ, วิชาตมาตุยาปิ จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. อิติ มตฺตํ ชานิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อยํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. อฑฺฒกุลานิเยว อคนฺตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. อยํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม. ยถาลาภสนฺโตสาทโย จีวเร วุตฺตนยา เอว.
ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ‘‘สมณธมฺมํ อนุปาเลสฺสามี’’ติ เอวํ อุปการํ ตฺวา ปริภฺุชนํ อุปการสนฺโตโส นาม. ปตฺตํ ปูเรตฺวา อานีตํ น ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺเน สติ เตน คาหาเปตพฺพํ, อสติ หราเปตฺวา ปฏิคฺคหณมตฺตํ คเหตพฺพํ. อยํ ปริมาณสนฺโตโส ¶ นาม. ‘‘ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนํ อิทเมตฺถ นิสฺสรณ’’นฺติ เอวํ ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. นิทหิตฺวา น ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. มุขํ อโนโลเกตฺวา สารณียธมฺเม ิเตน วิสฺสชฺเชตพฺพํ. อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
ปิณฺฑปาตปฺปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ ปิณฺฑปาติกงฺคํ สปทานจาริกงฺคํ เอกาสนิกงฺคํ ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖-๓๐) วุตฺตา. อิติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. วณฺณวาทีติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
เสนาสเนนาติ อิธ เสนาสนํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, เสนาสนปฺปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ¶ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ เสนาสนนฺติ มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนํ วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา เลณํ อฏฺโฏ มาโฬ เวฬุคุมฺโพ รุกฺขมูลํ ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ อิมานิ ปนฺนรส เสนาสนานิ.
เสนาสนกฺเขตฺตนฺติ สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วาติ ฉ เขตฺตานิ.
เสนาสนสนฺโตโสติ เสนาสเน วิตกฺกสนฺโตสาทโย ปนฺนรส สนฺโตสา. เต ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว ¶ เวทิตพฺพา. เสนาสนปฺปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ อารฺิกงฺคํ รุกฺขมูลิกงฺคํ อพฺโภกาสิกงฺคํ โสสานิกงฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑-๓๕) วุตฺตา. อิติ ¶ เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.
คิลานปจฺจโย ปน ปิณฺฑปาเตเยว ปวิฏฺโ. ตตฺถ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตเสเนว สนฺตุสฺสิตพฺพํ. เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปฺจ เสนาสเน วุตฺตา, ปฺจ อาหารนิสฺสิตา;
เอโก วีริยสํยุตฺโต, ทฺเว จ จีวรนิสฺสิตา’’ติ.
อิติ ภควา ปถวึ ปตฺถรมาโน วิย สาครกุจฺฉึ ปูรยมาโน วิย อากาสํ วิตฺถารยมาโน วิย จ ปมํ จีวรสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย สูริยํ อุลฺลงฺเฆนฺโต วิย จ ทุติยํ ปิณฺฑปาตสนฺโตสํ กเถตฺวา สิเนรุํ อุกฺขิปนฺโต วิย ตติยํ เสนาสนสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา อิทานิ สหสฺสนยปฏิมณฺฑิตํ จตุตฺถํ ภาวนารามํ อริยวํสํ กเถตุํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ อารมณํ อาราโม, อภิรตีติ อตฺโถ. ภาวนาย อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโม. ภาวนาย รโตติ ภาวนารโต. ปฺจวิเธ ปหาเน อาราโม อสฺสาติ ปหานาราโม. อปิจ ภาเวนฺโต ¶ รมตีติ ภาวนาราโม. ปชหนฺโต รมตีติ ปหานาราโมติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อยฺหิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวนฺโต รมติ, รตึ วินฺทตีติ อตฺโถ. ตถา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน. จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, สตฺต อนุปสฺสนา, อฏฺารส มหาวิปสฺสนา, สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม, อฏฺตึส ¶ อารมฺมณวิภตฺติโย ภาเวนฺโต รมติ, รตึ วินฺทติ. กามจฺฉนฺทาทโย ปน กิเลเส ปชหนฺโต รมติ, รตึ วินฺทติ.
อิเมสุ ปน จตูสุ อริยวํเสสุ ปุริเมหิ ตีหิ เตรสนฺนํ ธุตงฺคานํ จตุปจฺจยสนฺโตสสฺส จ วเสน สกลํ วินยปิฏกํ กถิตํ โหติ, ภาวนาราเมน อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ. อิมํ ปน ภาวนารามํ ¶ อริยวํสํ กเถนฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ, ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ, มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ, อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.
ตตฺถ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยาติ –
‘‘เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, กามจฺฉนฺทํ ปชหนฺโต รมติ. อพฺยาปาทํ, พฺยาปาทํ… อาโลกสฺํ… ถินมิทฺธํ… อวิกฺเขปํ, อุทฺธจฺจํ… ธมฺมววตฺถานํ… วิจิกิจฺฉํ… าณํ… อวิชฺชํ… ปาโมชฺชํ… อรตึ… ปมชฺฌานํ, ปฺจ นีวรเณ… ทุติยชฺฌานํ… วิตกฺกวิจาเร… ตติยชฺฌานํ… ปีตึ… จตุตฺถชฺฌานํ… สุขทุกฺเข… อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, รูปสฺํ ปฏิฆสฺํ นานตฺตสฺํ ปชหนฺโต รมติ. วิฺาณฺจายตนสมาปตฺตึ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, อากิฺจฺายตนสฺํ ปชหนฺโต รมติ.
‘‘อนิจฺจานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต รมติ, นิจฺจสฺํ ปชหนฺโต รมติ. ทุกฺขานุปสฺสนํ… สุขสฺํ… อนตฺตานุปสฺสนํ… อตฺตสฺํ… นิพฺพิทานุปสฺสนํ… นนฺทึ… วิราคานุปสฺสนํ… ราคํ… นิโรธานุปสฺสนํ… สมุทยํ… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนํ… อาทานํ… ขยานุปสฺสนํ ¶ … ฆนสฺํ… วยานุปสฺสนํ… อายูหนํ… วิปริณามานุปสฺสนํ… ธุวสฺํ… อนิมิตฺตานุปสฺสนํ ¶ … นิมิตฺตํ… อปฺปณิหิตานุปสฺสนํ… ปณิธึ… สฺุตานุปสฺสนํ… อภินิเวสํ… อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนํ… สาราทานาภินิเวสํ… ยถาภูตาณทสฺสนํ… สมฺโมหาภินิเวสํ… อาทีนวานุปสฺสนํ… อาลยาภินิเวสํ… ปฏิสงฺขานุปสฺสนํ… อปฺปฏิสงฺขํ… วิวฏฺฏานุปสฺสนํ… สํโยคาภินิเวสํ… โสตาปตฺติมคฺคํ… ทิฏฺเกฏฺเ กิเลเส… สกทาคามิมคฺคํ… โอฬาริเก กิเลเส… อนาคามิมคฺคํ… อนุสหคเต กิเลเส… อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต รมติ, สพฺพกิเลเส ปชหนฺโต รมตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๑,๙๕).
เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ.
ทีฆนิกาเย ¶ ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ –
‘‘เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ…เป… ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ, ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ? กายคตาสตึ สาตสหคตํ, อิมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ? อสฺมิมานํ, อิมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ. กตเม ทฺเว ธมฺเม…เป… กตเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ? ทส กสิณายตนานิ, อิเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ. กตเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ? ทส มิจฺฉตฺเต, อิเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๑-๓๖๐).
เอวํ ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.
มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ –
‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค…เป… ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย. อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ ¶ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโต. ปหานาราโม โหติ ปหานรโต. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต วา คจฺฉามีติ ปชานาติ…เป… ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ…เป… ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว กายํ ¶ อุปสํหรติ ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๖ อาทโย).
เอวํ มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.
อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยนาติ สพฺเพปิ สงฺขเต ‘‘อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต ¶ …เป… สํกิเลสิกธมฺมโต ปสฺสนฺโต รมติ, เอวํ โข ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตี’’ติ (มหานิ. ๑๓; จูฬนิ. อุปสีวมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๓๙, นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๕๑). เอวํ นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.
เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘อชฺช เม สฏฺิ วา สตฺตติ วา วสฺสานิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตสฺส โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอวํ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. โน ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขนฺติ วิปสฺสนามตฺตกมฺปิ นตฺถิ, กึ อิเม วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา จรนฺตี’’ติ เอวํ ปรวมฺภนํ น กโรติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อริยวํสาติ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร อริยวํสา อริยตนฺติโย อริยปเวณิโย อริยฺชสา อริยวฏุมานีติ สุตฺตนฺตํ วินิวฏฺเฏตฺวา อิทานิ มหาอริยวํสปริปูรกสฺส ¶ ภิกฺขุโน วสนทิสา ทสฺเสนฺโต อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สฺเวว อรตึ สหตีติ โสเยว อรตึ อนภิรตึ อุกฺกณฺิตํ สหติ อภิภวติ. น ตํ อรติ สหตีติ ตํ ปน ภิกฺขุํ ยา เอสา ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ อธิกุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อรติ นาม โหติ, สา สหิตุํ อธิภวิตุํ น สกฺโกติ. อรติรติสโหติ อรติฺจ ปฺจกามคุณรติฺจ สหติ, อธิภวิตุํ สกฺโกติ.
อิทานิ คาถาหิ กูฏํ คณฺหนฺโต นารตีติอาทิมาห. ตตฺถ ธีรนฺติ วีริยวนฺตํ. นารติ ธีรํ สหตีติ อิทํ ปุริมสฺเสว การณวจนํ. ยสฺมา สา ธีรํ น สหติ นปฺปโหติ ธีรํ สหิตุํ อธิภวิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา นารติ ¶ สหติ ธีรํ. ธีโร หิ อรติสฺสโหติ อรติสหตฺตา หิ โส ธีโร นาม, ตสฺมา อรตึ สหตีติ อตฺโถ. สพฺพกมฺมวิหายีนนฺติ สพฺพํ เตภูมกกมฺมํ จชิตฺวา ปริจฺฉินฺนํ ปริวฏุมํ กตฺวา ิตํ. ปนุณฺณํ โก นิวารเยติ กิเลเส ปนุทิตฺวา ิตํ โก นาม ราโค วา โทโส วา นิวาเรยฺย. เนกฺขํ ¶ ชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นินฺทิตุมรหตีติ ชมฺโพนทสงฺขาตสฺส ชาติรตฺตสุวณฺณสฺส นิกฺขสทิสํ ครหิตพฺพโทสวิมุตฺตํ โก ตํ ปุคฺคลํ นินฺทิตุํ อรหติ. พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโตติ มหาพฺรหฺมุนาปิ เอส ปุคฺคโล ปสํสิโตเยวาติ. เทสนาปริโยสาเน จตฺตาลีส ภิกฺขุสหสฺสานิ อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ.
๙. ธมฺมปทสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม ¶ ธมฺมปทานีติ ธมฺมโกฏฺาสา. อนภิชฺฌาติอาทีสุ อภิชฺฌาปฏิกฺเขเปน อนภิชฺฌา, พฺยาปาทปฏิกฺเขเปน อพฺยาปาโท, มิจฺฉาสติปฏิกฺเขเปน สมฺมาสติ, มิจฺฉาสมาธิปฏิกฺเขเปน สมฺมาสมาธิ เวทิตพฺโพ.
อนภิชฺฌาลูติ นิตฺตณฺโห หุตฺวา. อพฺยาปนฺเนน เจตสาติ สพฺพกาลํ ปกติภาวํ อวิชหนฺเตน จิตฺเตน. สโต เอกคฺคจิตฺตสฺสาติ สติยา สมนฺนาคโต อารมฺมเณ เอกคฺคจิตฺโต อสฺส. อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโตติ นิยกชฺฌตฺเต สุฏฺุ ปิตจิตฺโต อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถายปิ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม อภิฺาตาติ าตา ปากฏา. อนฺนภาโรติอาทีนิ เตสํ นามานิ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต. สา หิ อิธ ปฏิสลฺลานนฺติ อธิปฺเปตา. ปจฺจกฺขายาติ ปฏิกฺขิปิตฺวา. อภิชฺฌาลุนฺติ สตณฺหํ. กาเมสุ ¶ ติพฺพสาราคนฺติ วตฺถุกาเมสุ พหลราคํ. ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยนฺติ ตํ อหํ ตสฺมึ การเณ เอวํ วเทยฺยํ. ปฏิกฺโกสิตพฺพํ มฺเยฺยาติ ปฏิกฺโกสิตพฺพานิ ปฏิพาหิตพฺพนิ วา มฺเยฺย. สหธมฺมิกาติ สการณา. วาทานุปาตาติ ธมฺมิกวาเท ฆฏฺฏยมานา อธมฺมิกวาทานุปาตา, วาทปฺปวตฺติโยติ อตฺโถ. คารยฺหา านาติ ครหิตพฺพยุตฺตกา ปจฺจยา. อาคจฺฉนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ.
อุกฺกลาติ ¶ อุกฺกลชนปทวาสิโน. วสฺสภฺาติ วสฺโส จ ภฺโ จาติ ทฺเว ชนา. อเหตุกวาทาติ ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ติเอวมาทิวาทิโน. อกิริยวาทาติ ‘‘กโรโต น กรียติ ปาป’’นฺติ เอวํ กิริยปฏิกฺเขปวาทิโน. นตฺถิกวาทาติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิวาทิโน. เต อิเมสุ ตีสุปิ ทสฺสเนสุ โอกฺกนฺตนิยามา อเหสุํ. กถํ ปน เตสุ นิยาโม โหตีติ? โย หิ เอวรูปํ ลทฺธึ คเหตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ นิสินฺโน สชฺฌายติ วีมํสติ, ตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย กโรโต น กรียติ ปาปํ…เป… นตฺถิ ทินฺนํ…เป… กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ ¶ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ. ปมชวเน สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ, สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺโฉ อนิวตฺติ อริฏฺกณฺฏกสทิโส โหติ ¶ . ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ ทฺเว, โกจิ ตีณิปิ. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหติ, ปตฺโต สคฺคมคฺคาวรณฺเจว โมกฺขมคฺคาวรณฺจ, อภพฺโพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ. วฏฺฏขาณุโก นาเมส สตฺโต ปถวิโคปโก, เยภุยฺเยน เอวรูปสฺส ภวโต วุฏฺานํ นตฺถิ. วสฺสภฺาปิ เอทิสา อเหสุํ. นินฺทาพฺยาโรสนอุปารมฺภภยาติ อตฺตโน นินฺทภเยน ฆฏฺฏนภเยน อุปวาทภเยน จาติ อตฺโถ. อภิชฺฌาวินเย สิกฺขนฺติ อภิชฺฌาวินโย วุจฺจติ อรหตฺตํ, อรหตฺเต สิกฺขมาโน อปฺปมตฺโต นาม วุจฺจตีติ สุตฺตนฺเต วฏฺฏวิฏฺฏํ กเถตฺวา คาถาย ผลสมาปตฺติ กถิตาติ.
อุรุเวลวคฺโค ตติโย.
๔. จกฺกวคฺโค
๑. จกฺกสุตฺตวณฺณนา
๓๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม จกฺกานีติ สมฺปตฺติโย. จตุจกฺกํ วตฺตตีติ จตฺตาริ สมฺปตฺติจกฺกานิ วตฺตนฺติ ฆฏิยนฺติเยวาติ อตฺโถ. ปติรูปเทสวาโสติ ยตฺถ จตสฺโส ปริสา สนฺทิสฺสนฺติ, เอวรูเป อนุจฺฉวิเก เทเส วาโส. สปฺปุริสาวสฺสโยติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ อวสฺสยนํ เสวนํ ¶ ภชนํ, น ราชานํ. อตฺตสมฺมาปณิธีติ อตฺตโน สมฺมา ปนํ, สเจ ปุพฺเพ อสฺสทฺธาทีหิ ¶ สมนฺนาคโต โหติ, ตานิ ปหาย สทฺธาทีสุ ปติฏฺาปนํ. ปุพฺเพ จ กตปฺุตาติ ปุพฺเพ อุปจิตกุสลตา. อิทเมว เจตฺถ ปมาณํ. เยน หิ าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน กุสลกมฺมํ กตํ โหติ, ตเทว กุสลํ ตํ ปุริสํ ปติรูปเทเส อุปเนติ, สปฺปุริเส ภชาเปติ, โส เอว จ ปุคฺคโล อตฺตานํ สมฺมา เปติ. ปฺุกโตติ กตปฺุโ. สุขฺเจตํธิวตฺตตีติ สุขฺจ เอตํ ปุคฺคลํ อธิวตฺตติ, อวตฺถรตีติ อตฺโถ.
๒. สงฺคหสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ทุติเย สงฺคหวตฺถูนีติ สงฺคณฺหนการณานิ. ทานฺจาติอาทีสุ เอกจฺโจ หิ ทาเนเนว สงฺคณฺหิตพฺโพ โหติ, ตสฺส ทานเมว ทาตพฺพํ. เปยฺยวชฺชนฺติ ปิยวจนํ. เอกจฺโจ หิ ‘‘อยํ ทาตพฺพํ นาม เทติ, เอเกเกน ปน วจเนน สพฺพํ มกฺเขตฺวา นาเสติ, กึ ตสฺส ทาน’’นฺติ วตฺตา โหติ. เอกจฺโจ ‘‘อยํ กิฺจาปิ ทานํ น เทติ, กเถนฺโต ปน เตเลน วิย มกฺเขติ. เอส เทตุ วา มา วา, วจนเมวสฺส สหสฺสํ อคฺฆตี’’ติ วตฺตา โหติ. เอวรูโป ปุคฺคโล ทานํ น ปจฺจาสีสติ, ปิยวจนเมว ปจฺจาสีสติ. ตสฺส ปิยวจนเมว วตฺตพฺพํ. อตฺถจริยาติ อตฺถวฑฺฒนกถา. เอกจฺโจ หิ เนว ทานํ, น ปิยวจนํ ปจฺจาสีสติ, อตฺตโน หิตกถํ วฑฺฒิกถเมว ปจฺจาสีสติ. เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส ‘‘อิทํ เต กาตพฺพํ, อิทํ น กาตพฺพํ, เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ, เอวรูโป น เสวิตพฺโพ’’ติ เอวํ อตฺถจริยกถาว กเถตพฺพา. สมานตฺตตาติ ¶ สมานสุขทุกฺขภาโว. เอกจฺโจ หิ ทานาทีสุ เอกมฺปิ น ปจฺจาสีสติ ¶ , เอกาสเน นิสชฺชํ, เอกปลฺลงฺเก สยนํ, เอกโต โภชนนฺติ เอวํ สมานสุขทุกฺขตํ ปจฺจาสีสติ. โส สเจ คหฏฺสฺส ชาติยา ปพฺพชิตสฺส สีเลน สทิโส โหติ, ตสฺสายํ สมานตฺตตา กาตพฺพา. ตตฺถ ตตฺถ ยถารหนฺติ เตสุ เตสุ ธมฺเมสุ ยถานุจฺฉวิกํ สมานตฺตตาติ อตฺโถ. รถสฺสาณีว ยายโตติ ยถา รถสฺส คจฺฉโต อาณิ สงฺคโห นาม โหติ, สา รถํ สงฺคณฺหาติ, เอวมิเม สงฺคหา โลกํ สงฺคณฺหนฺติ. น มาตา ปุตฺตการณาติ ยทิ มาตา เอเต สงฺคเห ปุตฺตสฺส น กเรยฺย, ปุตฺตการณา มานํ วา ปูชํ วา น ลเภยฺย. สงฺคหา ¶ เอเตติ อุปโยควจเน ปจฺจตฺตํ. สงฺคเห เอเตติ วา ปาโ. สมเวกฺขนฺตีติ สมฺมา เปกฺขนฺติ. ปาสํสา จ ภวนฺตีติ ปสํสนียา จ ภวนฺติ.
๓. สีหสุตฺตวณฺณนา
๓๓. ตติเย สีโหติ จตฺตาโร สีหา – ติณสีโห, กาฬสีโห, ปณฺฑุสีโห, เกสรสีโหติ. เตสุ ติณสีโห กโปตวณฺณคาวิสทิโส ติณภกฺโข จ โหติ. กาฬสีโห กาฬคาวิสทิโส ติณภกฺโขเยว. ปณฺฑุสีโห ปณฺฑุปลาสวณฺณคาวิสทิโส มํสภกฺโข. เกสรสีโห ลาขาปริกมฺมกเตเนว มุเขน อคฺคนงฺคุฏฺเน จตูหิ จ ปาทปริยนฺเตหิ สมนฺนาคโต, มตฺถกโตปิสฺส ปฏฺาย ลาขาตูลิกาย กตา วิย ติสฺโส ราชิโย ปิฏฺิมชฺเฌน คนฺตฺวา อนฺตรสตฺถิมฺหิ ทกฺขิณาวตฺตา หุตฺวา ิตา. ขนฺเธ ปนสฺส สตสหสฺสคฺฆนิกกมฺพลปริกฺเขโป วิย เกสรภาโร โหติ, อวเสสฏฺานํ ปริสุทฺธสาลิปิณฺฑสงฺขจุณฺณปิณฺฑวณฺณํ โหติ. อิเมสุ จตูสุ สีเหสุ อยํ เกสรสีโห อิธ อธิปฺเปโต.
มิคราชาติ ¶ สพฺพมิคคณสฺส ราชา. อาสยาติ วสนฏฺานโต, สุวณฺณคุหโต วา รชตมณิผลิกมโนสิลาคุหโต วา นิกฺขมตีติ วุตฺตํ โหติ. นิกฺขมมาโน ปเนส จตูหิ การเณหิ นิกฺขมติ อนฺธการปีฬิโต วา อาโลกตฺถาย, อุจฺจารปสฺสาวปีฬิโต วา เตสํ วิสฺสชฺชนตฺถาย, ชิฆจฺฉาปีฬิโต วา โคจรตฺถาย, สมฺภวปีฬิโต วา อสฺสทฺธมฺมปฏิเสวนตฺถาย. อิธ ปน โคจรตฺถาย นิกฺขมนฺโต อธิปฺเปโต.
วิชมฺภตีติ สุวณฺณตเล วา รชตมณิผลิกมโนสิลาตลานํ วา อฺตรสฺมึ ทฺเว ปจฺฉิมปาเท สมํ ปติฏฺาเปตฺวา ปุริมปาเท ปุรโต ปสาเรตฺวา สรีรสฺส ปจฺฉาภาคํ อากฑฺฒิตฺวา ปุริมภาคํ ¶ อภิหริตฺวา ปิฏฺึ นาเมตฺวา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา อสนิสทฺทํ กโรนฺโต วิย นาสปุฏานิ โปเถตฺวา สรีรลคฺคํ รชํ วิธุนนฺโต วิชมฺภติ. วิชมฺภนภูมิยฺจ ปน ตรุณวจฺฉโก วิย อปราปรํ ชวติ, ชวโต ปนสฺส สรีรํ อนฺธกาเร ปริพฺภมนฺตํ อลาตํ วิย ขายติ.
อนุวิโลเกตีติ ¶ กสฺมา อนุวิโลเกติ? ปรานุทฺทยตาย. ตสฺมึ กิร สีหนาทํ นทนฺเต ปปาตาวาฏาทีสุ วิสมฏฺาเนสุ จรนฺตา หตฺถิโคกณฺณมหึสาทโย ปาณา ปปาเตปิ อาวาเฏปิ ปตนฺติ, เตสํ อนุทฺทยาย อนุวิโลเกติ. กึ ปนสฺส ลุทฺทสฺส ปรมํสขาทิโน อนุทฺทยา นาม อตฺถีติ? อาม อตฺถิ. ตถา หิ ‘‘กึ เม พหูหิ ฆาติเตหี’’ติ อตฺตโน ¶ โคจรตฺถายาปิ ขุทฺทเก ปาเณ น คณฺหาติ. เอวํ อนุทฺทยํ กโรติ, วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘มาหํ ขุทฺทเก ปาเณ วิสมคเต สงฺฆาตํ อาปาเทสิ’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๒๑).
สีหนาทํ นทตีติ ติกฺขตฺตุํ ตาว อภีตนาทํ นทติ. เอวฺจ ปนสฺส วิชมฺภนภูมิยํ ตฺวา นทนฺตสฺส สทฺโท สมนฺตา ติโยชนปเทสํ เอกนินฺนาทํ กโรติ, ตมสฺส นินฺนาทํ สุตฺวา ติโยชนพฺภนฺตรคตา ทฺวิปทจตุปฺปทคณา ยถาาเน าตุํ น สกฺโกนฺติ. โคจราย ปกฺกมตีติ อาหารตฺถาย คจฺฉติ. กถํ? โส หิ วิชมฺภนภูมิยํ ตฺวา ทกฺขิณโต วา วามโต วา อุปฺปตนฺโต อุสภมตฺตํ านํ คณฺหาติ, อุทฺธํ อุปฺปตนฺโต จตฺตาริปิ อฏฺปิ อุสภฏฺานานิ อุปฺปตติ, สเม าเน อุชุกํ ปกฺขนฺทนฺโต โสฬสอุสภมตฺตมฺปิ วีสติอุสภมตฺตมฺปิ านํ ปกฺขนฺทติ, ถลา วา ปพฺพตา วา ปกฺขนฺทนฺโต สฏฺิอุสภมตฺตมฺปิ อสีติอุสภมตฺตมฺปิ านํ ปกฺขนฺทติ, อนฺตรามคฺเค รุกฺขํ วา ปพฺพตํ วา ทิสฺวา ตํ ปริหรนฺโต วามโต วา ทกฺขิณโต วา อุทฺธํ วา อุสภมตฺตํ อปกฺกมติ. ตติยํ ปน สีหนาทํ นทิตฺวา เตเนว สทฺธึ ติโยชเน าเน ปฺายติ, ติโยชนํ คนฺตฺวา นิวตฺติตฺวา ิโต อตฺตโนว นาทสฺส อนุนาทํ สุณาติ. เอวํ สีเฆน ชเวน ปกฺกมติ.
เยภุยฺเยนาติ ปาเยน. ภยํ สนฺตาสํ สํเวคนฺติ สพฺพํ จิตฺตุตฺราสสฺเสว นามํ. สีหสฺส หิ สทฺทํ สุตฺวา พหู ภายนฺติ, อปฺปกา น ¶ ภายนฺติ. เก ปน เตติ? สมสีโห หตฺถาชานีโย อสฺสาชานีโย อุสภาชานีโย ปุริสาชานีโย ขีณาสโวติ. กสฺมา ปเนเต น ภายนฺตีติ? สมสีโห ตาว ‘‘ชาติโคตฺตกุลสูรภาเวหิ สมาโนสฺมี’’ติ น ภายติ, หตฺถาชานียาทโย อตฺตโน ¶ สกฺกายทิฏฺิพลวตาย น ภายนฺติ, ขีณาสโว สกฺกายทิฏฺิยา ปหีนตฺตา น ภายติ.
พิลาสยาติ ¶ พิเล สยนฺตา พิลวาสิโน อหินกุลโคธาทโย. อุทกาสยาติ อุทกวาสิโน มจฺฉกจฺฉปาทโย. วนาสยาติ วนวาสิโน หตฺถิอสฺสโคกณฺณมิคาทโย. ปวิสนฺตีติ ‘‘อิทานิ อาคนฺตฺวา คณฺหิสฺสตี’’ติ มคฺคํ โอโลเกตฺวา ปวิสนฺติ. ทฬฺเหหีติ ถิเรหิ. วรตฺเตหีติ จมฺมรชฺชูหิ. มหิทฺธิโกติอาทีสุ วิชมฺภนภูมิยํ ตฺวา ทกฺขิณปสฺสาทีหิ อุสภมตฺตํ, อุชุํ วีสติอุสภมตฺตาทิลงฺฆนวเสน มหิทฺธิกตา, เสสมิคานํ อธิปติภาเวน มเหสกฺขตา, สมนฺตา ติโยชนฏฺาเน สทฺทํ สุตฺวา ปลายนฺตานํ วเสน มหานุภาวตา เวทิตพฺพา.
เอวเมว โขติ ภควา เตสุ เตสุ สุตฺตนฺเตสุ ตถา ตถา อตฺตานํ กเถสิ. ‘‘สีโหติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๕.๙๙; ๑๐.๒๑) อิมสฺมึ ตาว สุตฺเต สีหสทิสํ อตฺตานํ กเถสิ. ‘‘ภิสกฺโก สลฺลกตฺโตติ โข, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๖๕) อิมสฺมึ ¶ เวชฺชสทิสํ, ‘‘พฺราหฺมโณติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๘๕) อิมสฺมึ พฺราหฺมณสทิสํ, ‘‘ปุริโส มคฺคกุสโลติ โข, ติสฺส, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๘๔) อิมสฺมึ มคฺคเทสกปุริสสทิสํ, ‘‘ราชาหมสฺมิ, เสลา’’ติ (สุ. นิ. ๕๕๙; ม. นิ. ๒.๓๙๙) อิมสฺมึ ราชสทิสํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต สีหสทิสเมว กตฺวา อตฺตานํ กเถนฺโต เอวมาห.
ตตฺรายํ สทิสตา – สีหสฺส กฺจนคุหาทีสุ วสนกาโล วิย หิ ตถาคตสฺส ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหารสฺส อปริมิตกาลํ ปารมิโย ปูเรตฺวา ปจฺฉิมภเว ปฏิสนฺธิคฺคหเณน เจว มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเนน จ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ กมฺเปตฺวา วุทฺธิมนฺวาย ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสํ สมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ตีสุ ปาสาเทสุ นิวาสกาโล ทฏฺพฺโพ. สีหสฺส กฺจนคุหาทิโต นิกฺขนฺตกาโล วิย ตถาคตสฺส เอกูนตึสสํวจฺฉเร วิวเฏน ทฺวาเรน กณฺฑกํ อารุยฺห ฉนฺนสหายสฺส นิกฺขมิตฺวา ตีณิ รชฺชานิ อติกฺกมิตฺวา อโนมานทีตีเร พฺรหฺมุนา ทินฺนานิ กาสายานิ ปริทหิตฺวา ปพฺพชิตสฺส สตฺตเม ทิวเส ราชคหํ คนฺตฺวา ¶ ตตฺถ ¶ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปณฺฑวคิริปพฺภาเร กตภตฺตกิจฺจสฺส สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺวา ปมเมว มคธรฏฺํ อาคมนตฺถาย ยาว รฺโ ปฏิฺาทานกาโล.
สีหสฺส วิชมฺภนกาโล วิย ตถาคตสฺส ทินฺนปฏิฺสฺส อาฬารกาลามอุปสงฺกมนํ อาทึ กตฺวา ยาว สุชาตาย ¶ ทินฺนปายาสสฺส เอกูนปณฺณาสาย ปิณฺเฑหิ ปริภุตฺตกาโล เวทิตพฺโพ. สีหสฺส สรีรวิธุนนํ วิย สายนฺหสมเย โสตฺติเยน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตาหิ โถมิยมานสฺส คนฺธาทีหิ ปูชิยมานสฺส ติกฺขตฺตุํ โพธึ ปทกฺขิณํ กตฺวา โพธิมณฺฑํ อารุยฺห จุทฺทสหตฺถุพฺเพเธ าเน ติณสนฺถรํ อตฺถริตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย นิสินฺนสฺส ตํขณฺเว มารพลํ วิธเมตฺวา ตีสุ ยาเมสุ ติสฺโส วิชฺชา วิโสเธตฺวา อนุโลมปฺปฏิโลมํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทมหาสมุทฺทํ ยมกาณมนฺถเนน มนฺเถนฺตสฺส สพฺพฺุตฺาเณ ปฏิวิทฺเธ ตทนุภาเวน ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺปนํ เวทิตพฺพํ.
สีหสฺส จตุทิสาวิโลกนํ วิย ปฏิวิทฺธสพฺพฺุตฺาณสฺส สตฺตสตฺตาหํ โพธิมณฺเฑ วิหริตฺวา ปริภุตฺตมธุปิณฺฑิกาหารสฺส อชปาลนิคฺโรธมูเล มหาพฺรหฺมุโน ธมฺมเทสนายาจนํ ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺถ วิหรนฺตสฺส เอกาทสเม ทิวเส ‘‘สฺเว อาสาฬฺหิปุณฺณมา ภวิสฺสตี’’ติ ปจฺจูสสมเย ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ อาฬารุทกานํ กาลกตภาวํ ตฺวา ธมฺมเทสนตฺถาย ปฺจวคฺคิยานํ โอโลกนํ ทฏฺพฺพํ. สีหสฺส โคจรตฺถาย ติโยชนํ คมนกาโล วิย อตฺตโน ปตฺตจีวรํ อาทาย ‘‘ปฺจวคฺคิยานํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสฺสามี’’ติ ¶ ปจฺฉาภตฺเต อชปาลนิคฺโรธโต วุฏฺิตสฺส อฏฺารสโยชนมคฺคํ คมนกาโล.
สีหสฺส สีหนาทกาโล วิย ตถาคตสฺส อฏฺารสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิเย สฺาเปตฺวา อจลปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส ทสหิ จกฺกวาฬสหสฺเสหิ สนฺนิปติเตน เทวคเณน ปริวุตสฺส ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติอาทินา นเยน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนกาโล เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ จ ปน ปเท เทสิยมาเน ตถาคตสีหสฺส ธมฺมโฆโส เหฏฺา อวีจึ อุปริ ภวคฺคํ คเหตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปฏิจฺฉาเทสิ. สีหสฺส สทฺเทน ขุทฺทกปาณานํ สนฺตาสาปชฺชนกาโล ¶ วิย ตถาคตสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ ทีเปตฺวา จตฺตาริ สจฺจานิ โสฬสหากาเรหิ สฏฺิยา จ นยสหสฺเสหิ วิภชิตฺวา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส ทีฆายุกานํ เทวานํ าณสนฺตาสสฺส อุปฺปตฺติกาโล เวทิตพฺโพ.
อปโร ¶ นโย – สีโห วิย สพฺพฺุตํ ปตฺโต ตถาคโต, อาสยภูตาย กนกคุหาย นิกฺขมนํ วิย คนฺธกุฏิโต นิกฺขมนกาโล, วิชมฺภนํ วิย ธมฺมสภํ อุปสงฺกมนกาโล, ทิสาวิโลกนํ วิย ปริสาวิโลกนํ, สีหนาทนทนํ วิย ธมฺมเทสนากาโล, โคจราย ปกฺกมนํ วิย ปรวาทนิมฺมทฺทนตฺถาย คมนํ.
อปโร นโย – สีโห วิย ตถาคโต, หิมวนฺตนิสฺสิตาย กฺจนคุหาย นิกฺขมนํ วิย อารมฺมณวเสน นิพฺพานนิสฺสิตาย ¶ ผลสมาปตฺติยา วุฏฺานํ, วิชมฺภนํ วิย ปจฺจเวกฺขณาณํ, ทิสาวิโลกนํ วิย เวเนยฺยสตฺตวิโลกนํ, สีหนาโท วิย สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมเทสนา, โคจราย ปกฺกมนํ วิย อสมฺปตฺตานํ เวเนยฺยสตฺตานํ สนฺติกูปสงฺกมนํ เวทิตพฺพํ.
ยทาติ ยสฺมึ กาเล. ตถาคโตติ เหฏฺา วุตฺเตหิ อฏฺหิ การเณหิ ตถาคโต. โลเกติ สตฺตโลเก. อุปฺปชฺชตีติ อภินีหารโต ปฏฺาย ยาว โพธิปลฺลงฺกา วา อรหตฺตมคฺคาณา วา อุปฺปชฺชติ นาม, อรหตฺตผเล ปน ปตฺเต อุปฺปนฺโน นาม. อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๔ อาทโย) พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานิ.
อิติ สกฺกาโยติ อยํ สกฺกาโย, เอตฺตโก สกฺกาโย, น อิโต ภิยฺโย สกฺกาโย อตฺถีติ. เอตฺตาวตา สภาวโต สรสโต ปริยนฺตโต ปริจฺเฉทโต ปริวฏุมโต สพฺเพปิ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺติ. อิติ สกฺกายสมุทโยติ อยํ สกฺกายสฺส สมุทโย นาม. เอตฺตาวตา ‘‘อาหารสมุทยา รูปสมุทโย’’ติอาทิ สพฺพํ ทสฺสิตํ โหติ. อิติ สกฺกายสฺส อตฺถงฺคโมติ อยํ สกฺกายสฺส อตฺถงฺคโม. อิมินาปิ ‘‘อาหารนิโรธา รูปนิโรโธ’’ติอาทิ สพฺพํ ทสฺสิตํ โหติ.
วณฺณวนฺโตติ ¶ สรีรวณฺเณน วณฺณวนฺโต. ธมฺมเทสนํ สุตฺวาติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปณฺณาสลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา. เยภุยฺเยนาติ ¶ อิธ เก เปติ? อริยสาวเก เทเว. เตสํ หิ ขีณาสวตฺตา จิตฺตุตฺราสภยมฺปิ น อุปฺปชฺชติ, สํวิคฺคสฺส โยนิโส ปธาเนน ปตฺตพฺพํ ปตฺตตาย าณสํเวโคปิ. อิตราสํ ปน เทวตานํ ‘‘ตาโส เหโส, ภิกฺขเว, อนิจฺจ’’นฺติ มนสิกโรนฺตานํ จิตฺตุตฺราสภยมฺปิ, พลววิปสฺสนากาเล าณภยมฺปิ อุปฺปชฺชติ. โภติ ธมฺมาลปนมตฺตเมตํ. สกฺกายปริยาปนฺนาติ ปฺจกฺขนฺธปริยาปนฺนา. อิติ เตสํ สมฺมาสมฺพุทฺเธ ¶ วฏฺฏโทสํ ทสฺเสตฺวา ติลกฺขณาหตํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺเต าณภยํ นาม โอกฺกมติ.
อภิฺายาติ ชานิตฺวา. ธมฺมจกฺกนฺติ ปฏิเวธาณมฺปิ เทสนาาณมฺปิ. ปฏิเวธาณํ นาม เยน าเณน โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตฺตาริ สจฺจานิ โสฬสหากาเรหิ สฏฺิยา จ นยสหสฺเสหิ ปฏิวิชฺฌิ. เทสนาาณํ นาม เยน าเณน ติปริวฏฺฏํ ทฺวาทสาการํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. อุภยมฺเปตํ ทสพลสฺส อุเร ชาตาณเมว. เตสุ ธมฺมเทสนาาณํ คเหตพฺพํ. ตํ ปเนส ยาว อฏฺารสพฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ อฺาโกณฺฑฺตฺเถรสฺส โสตาปตฺติผลํ น อุปฺปชฺชติ, ตาว ปวตฺเตติ นาม. ตสฺมึ อุปฺปนฺเน ปวตฺติตํ นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ. อปฺปฏิปุคฺคโลติ สทิสปุคฺคลรหิโต. ยสสฺสิโนติ ปริวารสมฺปนฺนา. ตาทิโนติ ¶ ลาภาลาภาทีหิ เอกสทิสสฺส.
๔. ปสาทสุตฺตวณฺณนา
๓๔. จตุตฺเถ อคฺเคสุ ปสาทา, อคฺคา วา ปสาทาติ อคฺคปฺปสาทา. ยาวตาติ ยตฺตกา. อปทาติ นิปฺปทา อหิมจฺฉาทโย. ทฺวิปทาติ มนุสฺสปกฺขิอาทโย. จตุปฺปทาติ หตฺถิอสฺสาทโย. พหุปฺปทาติ สตปทิอาทโย. เนวสฺินาสฺิโนติ ภวคฺเค นิพฺพตฺตสตฺตา. อคฺคมกฺขายตีติ คุเณหิ อคฺโค อุตฺตโม เสฏฺโติ อกฺขายติ. อสงฺขตาติ นิพฺพานเมว คเหตฺวา วุตฺตํ. วิราโคติอาทีนิ นิพฺพานสฺเสว นามานิ. ตฺหิ อาคมฺม สพฺพกิเลสา วิรชฺชนฺติ, สพฺเพ ราคมทาทโย มทา นิมฺมทา โหนฺติ, อภาวํ คจฺฉนฺติ, สพฺพา ปิปาสา วินยํ อุเปนฺติ, สพฺเพ อาลยา ¶ สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, วฏฺฏานิ อุปจฺฉิชฺชนฺติ, ตณฺหา ขียนฺติ, วฏฺฏทุกฺขา นิรุชฺฌนฺติ, สพฺเพ ปริฬาหา นิพฺพายนฺติ. ตสฺมา เอตานิ นามานิ ลภติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๕. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ปฺจเม อนุสฺสริตาติ อนุคนฺตฺวา สริตา, อปราปรํ สริตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ. ทกฺโขติ เฉโก. ตตฺรุปายายาติ ‘‘อิมสฺมึ กาเล อิมํ นาม กตฺตพฺพ’’นฺติ เอวํ ตตฺถ ตตฺถ อุปายภูตาย ¶ ปฺาย สมนฺนาคโต. อนุโมทิตพฺพนฺติ อภินนฺทิตพฺพํ. ปฏิกฺโกสิตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. เนว โข ตฺยาหนฺติ เนว โข เต อหํ. กสฺมา ปเนตํ ภควา นาภินนฺทติ, นปฺปฏิกฺขิปตีติ? โลกิยตฺตา นาภินนฺทติ ¶ , โลกิยํ อตฺถํ คเหตฺวา ิตตฺตา นปฺปฏิกฺโกสติ. พหุสฺส ชนตาติ พหุ อสฺส ชนตา. อิทฺจ กรณตฺเถ สามิวจนํ เวทิตพฺพํ. อริเย าเยติ สหวิปสฺสนเก มคฺเค. กลฺยาณธมฺมตา กุสลธมฺมตาติปิ ตสฺเสว นามานิ. ยํ วิตกฺกนฺติ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทีสุ อฺตรํ. น ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกตีติ กามวิตกฺกาทีสุ เอกมฺปิ น วิตกฺเกติ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. วิตกฺกปเถติ เอตฺถ วิตกฺโกเยว วิตกฺกปโถ. อหฺหิ พฺราหฺมณาติอาทีสุ ปมนเยน ขีณาสวสฺส สีลฺเจว พาหุสจฺจฺจ กถิตํ, ทุติยตติเยหิ ขีณาสวสฺส กิริยวิตกฺกานิ เจว กิริยชฺฌานานิ จ, จตุตฺเถน ขีณาสวภาโว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
มจฺจุปาสปฺปโมจนนฺติ มจฺจุปาสา ปโมจนกํ มคฺคํ. ายํ ธมฺมนฺติ สหวิปสฺสนกํ มคฺคํ. ทิสฺวา จ สุตฺวา จาติ าเณเนว ปสฺสิตฺวา จ สุณิตฺวา จ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
๖. โทณสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ฉฏฺเ อนฺตรา จ อุกฺกฏฺํ อนฺตรา จ เสตพฺยนฺติ เอตฺถ อุกฺกฏฺาติ อุกฺกาหิ ธารียมานาหิ มาปิตตฺตา เอวํลทฺธโวหารํ นครํ. เสตพฺยนฺติ อตีเต กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ชาตนครํ. อนฺตราสทฺโท ปน การณขณจิตฺตเวมชฺฌวิวราทีสุ วตฺตติ. ‘‘ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคตา’’ติ ¶ (อ. นิ. ๖.๔๔; ๑๐.๗๕) จ, ‘‘ชนา ¶ สงฺคมฺม มนฺเตนฺติ, มฺจ ตฺจ กิมนฺตร’’นฺติ จ อาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๒๘) การเณ. ‘‘อทฺทสา มํ, ภนฺเต, อฺตรา อิตฺถี วิชฺชนฺตริกาย ภาชนํ โธวนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) ขเณ. ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๐) จิตฺเต. ‘‘อนฺตราโวสานมาปาที’’ติอาทีสุ เวมชฺเฌ. ‘‘อปิจายํ ตโปทา ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๓๑) วิวเร. สฺวายมิธ วิวเร วตฺตติ. ตสฺมา อุกฺกฏฺาย จ เสตพฺยสฺส จ วิวเรติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อนฺตราสทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กตํ. อีทิเสสุ จ าเนสุ อกฺขรจินฺตกา ‘‘อนฺตรา คามฺจ นทิฺจ ยาตี’’ติ ¶ เอวํ เอกเมว อนฺตราสทฺทํ ปยฺุชนฺติ, โส ทุติยปเทนปิ โยเชตพฺโพ โหติ, อโยชิยมาเน อุปโยควจนํ น ปาปุณาติ. อิธ ปน โยเชตฺวา เอว วุตฺโต.
อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหตีติ อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน โหติ, ทีฆมคฺคนฺติ อตฺโถ. กสฺมา ปฏิปนฺโนติ? ตํ ทิวสํ กิร ภควา อิทํ อทฺทส ‘‘มยิ ตํ มคฺคํ ปฏิปนฺเน โทโณ พฺราหฺมโณ มม ปทเจติยานิ ปสฺสิตฺวา ปทานุปทิโก หุตฺวา มม นิสินฺนฏฺานํ อาคนฺตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ. อถสฺสาหํ เอกํ สจฺจธมฺมํ เทเสสฺสามิ ¶ . พฺราหฺมโณ ตีณิ สามฺผลานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ทฺวาทสปทสหสฺสปริมาณํ โทณคชฺชิตํ นาม วณฺณํ วตฺวา มยิ ปรินิพฺพุเต สกลชมฺพุทีเป อุปฺปนฺนํ มหากลหํ วูปสเมตฺวา ธาตุโย ภาเชสฺสตี’’ติ. อิมินา การเณน ปฏิปนฺโน. โทโณปิ สุทํ พฺราหฺมโณติ โทโณ พฺราหฺมโณปิ ตโย เวเท ปคุเณ กตฺวา ปฺจสเต มาณวเก สิปฺปํ วาเจนฺโต ตํทิวสํ ปาโตว อุฏฺาย สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา สตคฺฆนกํ นิวาเสตฺวา ปฺจสตคฺฆนกํ เอกํสวรคตํ กตฺวา อามุตฺตยฺสุตฺโต รตฺตวฏฺฏิกา อุปาหนา อาโรหิตฺวา ปฺจสตมาณวกปริวาโร ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ปาเทสูติ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺาเนสุ. จกฺกานีติ ลกฺขณจกฺกานิ. กึ ปน ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อกฺกนฺตฏฺาเน ปทํ ปฺายตีติ? น ปฺายติ ¶ . กสฺมา? สุขุมตฺตา มหาพลตฺตา มหาชนานุคฺคเหน จ. พุทฺธานฺหิ สุขุมจฺฉวิตาย อกฺกนฺตฏฺานํ ตูลปิจุโน ปติฏฺิตฏฺานํ วิย โหติ, ปทวฬฺโช น ปฺายติ. ยถา จ พลวโต วาตชวสินฺธวสฺส ปทุมินิปตฺเตปิ อกฺกนฺตมตฺตเมว โหติ, เอวํ มหาพลตาย ตถาคเตน อกฺกนฺตฏฺานํ อกฺกนฺตมตฺตเมว โหติ, น ตตฺถ ปทวฬฺโช ปฺายติ. พุทฺธานฺจ อนุปทํ มหาชนกาโย ¶ คจฺฉติ, ตสฺส สตฺถุ ปทวฬฺชํ ทิสฺวา มทฺทิตุํ อวิสหนฺตสฺส คมนวิจฺเฉโท ภเวยฺย. ตสฺมา อกฺกนฺตอกฺกนฺตฏฺาเน โยปิ ปทวฬฺโช ภเวยฺย, โส อนฺตรธายเตว. โทโณ ปน พฺราหฺมโณ ตถาคตสฺส อธิฏฺานวเสน ปสฺสิ. ภควา หิ ยสฺส ปทเจติยํ ทสฺเสตุกาโม โหติ, ตํ อารพฺภ ‘‘อสุโก นาม ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺาติ. ตสฺมา มาคณฺฑิยพฺราหฺมโณ วิย อยมฺปิ พฺราหฺมโณ ตถาคตสฺส อธิฏฺานวเสน อทฺทส.
ปาสาทิกนฺติ ปสาทชนกํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปตฺตนฺติ เอตฺถ อุตฺตมทมโถ นาม อรหตฺตมคฺโค, อุตฺตมสมโถ นาม อรหตฺตมคฺคสมาธิ, ตทุภยํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ ¶ . ทนฺตนฺติ นิพฺพิเสวนํ. คุตฺตนฺติ โคปิตํ. สํยตินฺทฺริยนฺติ รกฺขิตินฺทฺริยํ. นาคนฺติ ฉนฺทาทีหิ อคจฺฉนโต, ปหีนกิเลเส ปุน อนาคจฺฉนโต, อาคุํ อกรณโต, พลวนฺตฏฺเนาติ จตูหิ การเณหิ นาคํ.
เทโว โน ภวํ ภวิสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘เทโว โน ภว’’นฺติ เอตฺตาวตาปิ ปุจฺฉา นิฏฺิตา ภเวยฺย, อยํ ปน พฺราหฺมโณ ‘‘อนาคเต มเหสกฺโข เอโก เทวราชา ภวิสฺสตี’’ติ อนาคตวเสน ปุจฺฉาสภาเคเนว กเถนฺโต เอวมาห. ภควาปิสฺส ปุจฺฉาสภาเคเนว กเถนฺโต น โข อหํ, พฺราหฺมณ, เทโว ภวิสฺสามีติ อาห. เอส นโย สพฺพตฺถ. อาสวานนฺติ ¶ กามาสวาทีนํ จตุนฺนํ. ปหีนาติ โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณาธิคเมเนว ปหีนา. อนุปลิตฺโต โลเกนาติ ตณฺหาทิฏฺิเลปานํ ปหีนตฺตา สงฺขารโลเกน อนุปลิตฺโต. พุทฺโธติ จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุทฺโธ อิติ มํ ธาเรหิ.
เยนาติ เยน อาสเวน. เทวูปปตฺยสฺสาติ เทวูปปตฺติ อสฺส มยฺหํ ภเวยฺย. วิหงฺคโมติ อากาสจโร คนฺธพฺพกายิกเทโว. วิทฺธสฺตาติ ¶ วิธมิตา. วินฬีกตาติ วิคตนฬา วิคตพนฺธนา กตา. วคฺคูติ สุนฺทรํ. โตเยน นุปลิปฺปตีติ อุทกโต รตนมตฺตํ อจฺจุคฺคมฺม ิตํ สรํ โสภยมานํ ภมรคณํ หาสยมานํ โตเยน น ลิปฺปติ. ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณาติ เทสนาปริโยสาเน ตีณิ มคฺคผลานิ ปาปุณิตฺวา ทฺวาทสหิ ปทสหสฺเสหิ โทณคชฺชิตํ นาม วณฺณํ กเถสิ, ตถาคเต จ ปรินิพฺพุเต ชมฺพุทีปตเล อุปฺปนฺนํ มหากลหํ วูปสเมตฺวา ธาตุโย ภาเชสีติ.
๗. อปริหานิยสุตฺตวณฺณนา
๓๗. สตฺตเม นิพฺพานสฺเสว สนฺติเกติ นิพฺพานสนฺติเกเยว จรติ. สีเล ปติฏฺิโตติ ปาติโมกฺขสีเล ปติฏฺิโต. เอวํ ¶ วิหารีติ เอวํ วิหรนฺโต. อาตาปีติ อาตาเปน วีริเยน สมนฺนาคโต. โยคกฺเขมสฺสาติ จตูหิ โยเคหิ เขมสฺส นิพฺพานสฺส. ปมาเท ภยทสฺสิวาติ ปมาทํ ภยโต ปสฺสนฺโต.
๘. ปติลีนสุตฺตวณฺณนา
๓๘. อฏฺเม ¶ ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจติ ‘‘อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ, อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ ปาฏิเอกฺกํ คหิตตฺตา ปจฺเจกสงฺขาตานิ ทิฏฺิสจฺจานิ ปนุณฺณานิ นีหฏานิ ปหีนานิ อสฺสาติ ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ. สมวยสฏฺเสโนติ เอตฺถ อวยาติ อนูนา, สฏฺาติ วิสฺสฏฺา, สมฺมา อวยา สฏฺา เอสนา อสฺสาติ สมวยสฏฺเสโน, สมฺมา วิสฺสฏฺสพฺพเอสโนติ อตฺโถ. ปติลีโนติ นิลีโน เอกีภาวํ อุปคโต. ปุถุสมณพฺราหฺมณานนฺติ พหูนํ สมณพฺราหฺมณานํ. เอตฺถ จ สมณาติ ปพฺพชฺชูปคตา, พฺราหฺมณาติ โภวาทิโน. ปุถุปจฺเจกสจฺจานีติ พหูนิ ปาเฏกฺกสจฺจานิ. นุณฺณานีติ นีหฏานิ. ปนุณฺณานีติ สุฏฺุ นีหฏานิ. จตฺตานีติ วิสฺสฏฺานิ. วนฺตานีติ วมิตานิ. มุตฺตานีติ ฉินฺนพนฺธนานิ กตานิ. ปหีนานีติ ปชหิตานิ. ปฏินิสฺสฏฺานีติ ยถา น ปุน จิตฺตํ อาโรหนฺติ, เอวํ ปฏินิสฺสชฺชิตานิ. สพฺพาเนเวตานิ ¶ คหิตคหณสฺส วิสฺสฏฺภาวเววจนานิ.
กาเมสนา ปหีนา โหตีติ อนาคามิมคฺเคน ปหีนา. ภเวสนา ปน อรหตฺตมคฺเคน ปหียติ. ‘‘พฺรหฺมจริยํ เอสิสฺสามิ คเวสิสฺสามี’’ติ เอวํ ¶ ปวตฺตชฺฌาสยสงฺขาตา พฺรหฺมจริเยสนาปิ อรหตฺตมคฺเคเนว ปฏิปฺปสฺสทฺธึ วูปสมํ คจฺฉติ. ทิฏฺิพฺรหฺมจริเยสนา ปน โสตาปตฺติมคฺเคเนว ปฏิปฺปสมฺภตีติ เวทิตพฺพา. เอวํ โข, ภิกฺขเวติ เอวํ จตุตฺถชฺฌาเนน ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร วูปสนฺตอสฺสาสปสฺสาโส นาม โหติ. อสฺมิมาโนติ อสฺมีติ อุปฺปชฺชนโก นววิธมาโน.
คาถาสุ กาเมสนา ภเวสนาติ เอตา ทฺเว เอสนา, พฺรหฺมจริเยสนา สหาติ ตาหิเยว สห พฺรหฺมจริเยสนาติ ติสฺโสปิ เอตา. อิธ ตฺวา เอสนา ปฏินิสฺสฏฺาติ อิมินา ปเทน สทฺธึ โยชนา กาตพฺพา. อิติ สจฺจปรามาโส, ทิฏฺิฏฺานา สมุสฺสยาติ ‘‘อิติ สจฺจํ อิติ สจฺจ’’นฺติ คหณปรามาโส จ ทิฏฺิสงฺขาตาเยว ทิฏฺิฏฺานา จ เย สมุสฺสิตตฺตา อุคฺคนฺตฺวา ิตตฺตา สมุสฺสยาติ วุจฺจนฺติ, เต สพฺเพปิ. อิธ ตฺวา ทิฏฺิฏฺานา สมูหตาติ อิมินา ปเทน สทฺธึ โยชนา กาตพฺพา. กสฺส ปน เอตา เอสนา ปฏินิสฺสฏฺา, เอเต จ ทิฏฺิฏฺานา สมูหตาติ? สพฺพราควิรตฺตสฺส ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโน. โย หิ สพฺพราเคหิปิ วิรตฺโต, ตณฺหากฺขเย จ นิพฺพาเน ปวตฺตาย ¶ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สมนฺนาคโต, เอตสฺส เอสนา ปฏินิสฺสฏฺา, ทิฏฺิฏฺานา จ สมูหตา ¶ . ส เว สนฺโตติ โส เอวรูโป กิเลสสนฺตตาย สนฺโต. ปสฺสทฺโธติ ทฺวีหิ กายจิตฺตปสฺสทฺธีหิ ปสฺสทฺโธ. อปราชิโตติ สพฺพกิเลเส ชินิตฺวา ิตตฺตา เกนจิ อปราชิโต. มานาภิสมยาติ มานสฺส ปหานาภิสมเยน. พุทฺโธติ จตฺตาริ สจฺจานิ พุชฺฌิตฺวา ิโต. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ ขีณาสโวว กถิโตติ.
๙. อุชฺชยสุตฺตวณฺณนา
๓๙. นวเม สงฺฆาตํ อาปชฺชนฺตีติ วธํ มรณํ อาปชฺชนฺติ. นิจฺจทานนฺติ สลากภตฺตํ. อนุกุลยฺนฺติ อมฺหากํ ปิตูหิ ปิตามเหหิ ทินฺนตฺตา เอวํ กุลานุกุลวเสน ยชิตพฺพํ, ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อสฺสเมธนฺติอาทีสุ อสฺสเมตฺถ เมธนฺตีติ อสฺสเมโธ, ทฺวีหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส เอกวีสติยูปสฺส เปตฺวา ภูมิฺจ ปุริเส จ อวเสสสพฺพวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. ปุริสเมตฺถ เมธนฺตีติ ปุริสเมโธ, จตูหิ ¶ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส สทฺธึ ภูมิยา อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. สมฺมเมตฺถ ปาสนฺตีติ สมฺมาปาโส, ทิวเส ทิวเส สมฺมํ ขิปิตฺวา ตสฺส ปติโตกาเส เวทึ กตฺวา สํหาริเมหิ ยูปาทีหิ สรสฺสตินทิยา นิมุคฺโคกาสโต ปภุติ ปฏิโลมํ คจฺฉนฺเตน ยชิตพฺพสฺส สพฺพยาคสฺเสตํ อธิวจนํ. วาชเมตฺถ ปิวนฺตีติ วาชเปยฺยํ, เอเกน ปริยฺเน สตฺตรสหิ ปสูหิ ยชิตพฺพสฺส เพลุวยูปสฺส สตฺตรสกทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. นตฺถิ ¶ เอตฺถ อคฺคฬาติ นิรคฺคโฬ. นวหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส สทฺธึ ภูมิยา ปุริเสหิ จ อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส สพฺพเมธปริยายนามสฺส อสฺสเมธวิกปฺปสฺเสตํ อธิวจนํ. มหารมฺภาติ มหากิจฺจา มหากรณียา. อปิจ ปาณาติปาตสมารมฺภสฺส มหนฺตตายปิ มหารมฺภาเยว. น เต โหนฺติ มหปฺผลาติ เอตฺถ นิรวเสสตฺเถ สาวเสสรูปนํ กตํ. ตสฺมา อิฏฺผเลน นิปฺผลาว โหนฺตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ปาณาติปาตสมารมฺภเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน ตตฺถ อนฺตรนฺตรา ทานํ ทิยฺยติ, ตํ อิมินา สมารมฺเภน อุปหตตฺตา มหปฺผลํ น โหติ, มนฺทผลํ โหตีติ อตฺโถ. หฺเรติ หฺนฺติ. ยชนฺติ อนุกุลํ สทาติ เย อฺเ อนุกุลํ ยชนฺติ, ปุพฺพปุริเสหิ ยิฏฺตฺตา ปจฺฉิมปุริสาปิ ยชนฺตีติ อตฺโถ. เสยฺโย โหตีติ วิเสโสว โหติ. น ปาปิโยติ ปาปํ กิฺจิ น โหติ.
๑๐. อุทายิสุตฺตวณฺณนา
๔๐. ทสเม ¶ อภิสงฺขตนฺติ ราสิกตํ. นิรารมฺภนฺติ ปาณสมารมฺภรหิตํ. ยฺนฺติ เทยฺยธมฺมํ. ตฺหิ ยชิตพฺพตฺตา ยฺนฺติ วุจฺจติ. กาเลนาติ ยุตฺตปฺปตฺตกาเลน. อุปสํยนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ. กุลํ คตินฺติ วฏฺฏกุลฺเจว วฏฺฏคติฺจ อติกฺกนฺตา. ยฺสฺส ¶ โกวิทาติ จตุภูมกยฺเ กุสลา. ยฺเติ ปกติทาเน. สทฺเธติ มตกทาเน. หพฺยํ กตฺวาติ หุนิตพฺพํ เทยฺยธมฺมํ อุปกปฺเปตฺวา. สุเขตฺเต พฺรหฺมจาริสูติ พฺรหฺมจาริสงฺขาเต สุเขตฺตมฺหีติ อตฺโถ. สุปฺปตฺตนฺติ สุฏฺุ ปตฺตํ. ทกฺขิเณยฺเยสุ ยํ กตนฺติ ยํ ทกฺขิณาย ¶ อนุจฺฉวิเกสุ อุปกปฺปิตํ, ตํ สุหุตํ สุยิฏฺํ สุปฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. สทฺโธติ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานํ สทฺทหนตาย สทฺโธ. มุตฺเตน เจตสาติ วิสฺสฏฺเน จิตฺเตน. อิมินาสฺส มุตฺตจาคํ ทีเปตีติ.
จกฺกวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. โรหิตสฺสวคฺโค
๑. สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา
๔๑. ปฺจมสฺส ¶ ปเม าณทสฺสนปฺปฏิลาภายาติ ทิพฺพจกฺขุาณทสฺสนสฺส ปฏิลาภาย. ทิวาสฺํ อธิฏฺาตีติ ทิวาติ เอวํ สฺํ อธิฏฺาติ. ยถา ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา ทิวา อาโลกสฺา มนสิ กตา, ตเถว ตํ รตฺติมฺปิ มนสิ กโรติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. สปฺปภาสนฺติ ทิพฺพจกฺขุาโณภาเสน สโหภาสํ. กิฺจาปิ ¶ อาโลกสทิสํ กตํ, อตฺโถ ปเนตฺถ น เอวํ สลฺลกฺเขตพฺโพ. ทิพฺพจกฺขุาณาโลโก หิ อิธาธิปฺเปโต.
วิทิตาติ ปากฏา หุตฺวา. กถํ ปน เวทนา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตีติ? อิธ ภิกฺขุ วตฺถุํ ปริคฺคณฺหาติ, อารมฺมณํ ปริคฺคณฺหาติ. ตสฺส ปริคฺคหิตวตฺถารมฺมณตาย ตา เวทนา ‘‘เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา เอวํ ตฺวา เอวํ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา ติฏฺนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ นาม. สฺาวิตกฺเกสุปิ เอเสว นโย.
อุทยพฺพยานุปสฺสีติ อุทยฺจ วยฺจ ปสฺสนฺโต. อิติ รูปนฺติ เอวํ รูปํ เอตฺตกํ รูปํ น อิโต ปรํ รูปํ อตฺถีติ. อิติ รูปสฺส สมุทโยติ เอวํ รูปสฺส อุปฺปาโท. อตฺถงฺคโมติ ปน เภโท อธิปฺเปโต. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทฺจ ปน เมตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตนฺติ, ภิกฺขเว, ยํ มยา เอตํ ปุณฺณกปฺเห ‘‘สงฺขาย โลกสฺมิ’’นฺติอาทิ ภาสิตํ, ตํ อิทํ ผลสมาปตฺตึ สนฺธาย ภาสิตนฺติ อตฺโถ.
ตตฺถ สงฺขายาติ าเณน ชานิตฺวา. โลกสฺมินฺติ สตฺตโลเก. ปโรปรานีติ อุจฺจาวจานิ อุตฺตมาธมานิ. อิฺชิตนฺติ จลิตํ. นตฺถิ กุหิฺจิ โลเกติ ¶ โลกสฺมึ กตฺถจิ เอกกฺขนฺเธปิ เอกายตเนปิ เอกธาตุยาปิ เอการมฺมเณปิ นตฺถิ. สนฺโตติ ปจฺจนีกกิเลสวูปสเมน สนฺโต. วิธูโมติ ¶ ¶ โกธธูเมน วิคตธูโม. เอวเมตฺถ สุตฺตนฺเต มคฺเคกคฺคตมฺปิ กเถตฺวา คาถาย ผลสมาปตฺติเยว กถิตาติ.
๒. ปฺหพฺยากรณสุตฺตวณฺณนา
๔๒. ทุติเย โย จ เตสํ ตตฺถ ตตฺถ, ชานาติ อนุธมฺมตนฺติ โย เอเตสํ ปฺหานํ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน พฺยากรณํ ชานาติ. จตุปฺหสฺส กุสโล, อาหุ ภิกฺขุํ ตถาวิธนฺติ ตถาวิธํ ภิกฺขุํ เตสุ จตูสุ ปฺเหสุ กุสโลติ เอวํ วทนฺติ. ทุราสโท ทุปฺปสโหติ ปเรหิ ฆฏฺเฏตุํ วา อภิภวิตุํ วา น สกฺกา. คมฺภีโรติ สตฺตสีทนฺตรมหาสมุทฺโท วิย คมฺภีโร. ทุปฺปธํสิโยติ ทุมฺโมจาปโย, คหิตคฺคหณํ วิสฺสชฺชาเปตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ. อตฺเถ อนตฺเถ จาติ วฑฺฒิยฺจ อวฑฺฒิยฺจ. อตฺถาภิสมยาติ อตฺถสมาคเมน. ธีโร ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตีติ ธิติสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ‘‘ปณฺฑิโต อย’’นฺติ เอวํ ปวุจฺจติ.
๓-๔. โกธครุสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๔๓-๔๔. ตติเย โกธครุ น สทฺธมฺมครูติ โกธํ คารเวน ครุํ กตฺวา คณฺหาติ, น สทฺธมฺมํ, สทฺธมฺมํ ปน อคารเวน ลามกํ กตฺวา คณฺหาติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
วิรูหนฺตีติ วฑฺฒนฺติ, สฺชาตมูลาย วา สทฺธาย ปติฏฺหนฺติ อจลา ภวนฺติ. จตุตฺเถ โกธครุตาติ โกธมฺหิ สคารวตา. เอส ¶ นโย สพฺพตฺถ.
๕. โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา
๔๕. ปฺจเม ยตฺถาติ จกฺกวาฬโลกสฺส เอโกกาเส ภุมฺมํ. น จวติ น อุปปชฺชตีติ อิทํ อปราปรํ จุติปฏิสนฺธิวเสน คหิตํ. คมเนนาติ ปทคมเนน. โลกสฺส อนฺตนฺติ สตฺถา สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ สนฺธาย วทติ. าเตยฺยนฺติอาทีสุ าตพฺพํ ทฏฺพฺพํ ปตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิติ เทวปุตฺเตน จกฺกวาฬโลกสฺส อนฺโต ปุจฺฉิโต, สตฺถารา สงฺขารโลกสฺส กถิโต ¶ . โส ปน ‘‘อตฺตโน ¶ ปฺเหน สทฺธึ สตฺถุ พฺยากรณํ สเมตี’’ติ สฺาย สมฺปหํสนฺโต อจฺฉริยนฺติอาทิมาห.
ทฬฺหธมฺมาติ ทฬฺหธนุ อุตฺตมปฺปมาเณน ธนุนา สมนฺนาคโต. ธนุคฺคโหติ ธนุอาจริโย. สิกฺขิโตติ ทฺวาทส วสฺสานิ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิโต. กตหตฺโถติ อุสภปฺปมาเณปิ วาลคฺคํ วิชฺฌิตุํ สมตฺถภาเวน กตหตฺโถ. กตูปาสโนติ กตสรกฺเขโป ทสฺสิตสิปฺโป. อสเนนาติ กณฺเฑน. อติปาเตยฺยาติ อติกฺกเมยฺย. ยาวตา โส ตาลจฺฉาทึ อติกฺกเมยฺย, ตาวตา กาเลน เอกํ จกฺกวาฬํ อติกฺกมามีติ อตฺตโน ชวสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ.
ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโมติ ยถา ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ¶ ปจฺฉิมสมุทฺโท ทูเร, เอวํ เม ทูเร ปทวีติหาโร อโหสีติ วทติ. โส กิร ปาจีนจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิโต ปาทํ ปสาเรตฺวา ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ อติกฺกมติ, ปุน ทุติยปาทํ ปสาเรตฺวา ปรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ อติกฺกมติ. อิจฺฉาคตนฺติ อิจฺฉา เอว. อฺตฺเรวาติ นิปฺปปฺจตํ ทสฺเสติ. ภิกฺขาจารกาเล กิเรส นาคลตาทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา อโนตตฺเต มุขํ โธวิตฺวา กาเล สมฺปตฺเต อุตฺตรกุรุมฺหิ ปิณฺฑาย จริตฺวา จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ นิสินฺโน ภตฺตกิจฺจํ กโรติ, ตตฺถ มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา ปุน ชวติ. วสฺสสตายุโกติ ตทา ทีฆายุกกาโล โหติ, อยํ ปน วสฺสสตาวสิฏฺเ อายุมฺหิ คมนํ อารภิ. วสฺสสตชีวีติ ตํ วสฺสสตํ อนนฺตราเยน ชีวนฺโต. อนฺตราเยว กาลงฺกโตติ จกฺกวาฬโลกสฺส อนฺตํ อปฺปตฺวา อนฺตราว มโต. โส ปน ตตฺถ กาลํ กตฺวาปิ อาคนฺตฺวา อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ นิพฺพตฺติ.
อปฺปตฺวาติ สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ อปฺปตฺวา. ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส. อนฺตกิริยนฺติ ปริยนฺตกรณํ. กเฬวเรติ อตฺตภาเว. สสฺิมฺหิ สมนเกติ สสฺเ สจิตฺตเก. โลกนฺติ ทุกฺขสจฺจํ. โลกสมุทยนฺติ ¶ สมุทยสจฺจํ. โลกนิโรธนฺติ นิโรธสจฺจํ. ปฏิปทนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิติ ‘‘นาหํ, อาวุโส, อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ ติณกฏฺาทีสุ ปฺเปมิ, อิมสฺมึ ปน จตุมหาภูติเก กายสฺมึเยว ปฺเปมี’’ติ ทสฺเสติ. สมิตาวีติ สมิตปาโป. นาสีสตีติ น ปตฺเถติ. ฉฏฺํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๗. สุวิทูรสุตฺตวณฺณนา
๔๗. สตฺตเม ¶ ¶ สุวิทูรวิทูรานีติ เกนจิ ปริยาเยน อนาสนฺนานิ หุตฺวา สุวิทูราเนว วิทูรานิ. นภฺจ, ภิกฺขเว, ปถวี จาติ อากาสฺจ มหาปถวี จ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปถวิโต อากาสํ นาม น ทูเร, ทฺวงฺคุลมตฺเตปิ โหติ. อฺมฺํ อลคฺคนฏฺเน ปน ‘‘สุวิทูรวิทูเร’’ติ วุตฺตํ. เวโรจโนติ สูริโย. สตฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺโมติ จตุสติปฏฺานาทิเภโท สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺโม. อสตฺจ ธมฺโมติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตเภโท อสฺสทฺธมฺโม.
ปภงฺกโรติ อาโลกกโร. อพฺยายิโก โหตีติ อวิคจฺฉนสภาโว โหติ. สตํ สมาคโมติ ปณฺฑิตานํ มิตฺตสนฺถววเสน สมาคโม. ยาวาปิ ¶ ติฏฺเยฺยาติ ยตฺตกํ อทฺธานํ ติฏฺเยฺย. ตเถว โหตีติ ตาทิโสว โหติ, ปกตึ น ชหติ. ขิปฺปํ หิ เวตีติ สีฆํ วิคจฺฉติ.
๘. วิสาขสุตฺตวณฺณนา
๔๘. อฏฺเม ปฺจาลปุตฺโตติ ปฺจาลพฺราหฺมณิยา ปุตฺโต. โปริยา วาจายาติ ปริปุณฺณวาจาย. วิสฺสฏฺายาติ อปลิพุทฺธาย. อเนลคลายาติ นิทฺโทสาย เจว อคฬิตาย จ อปติตปทพฺยฺชนาย. ปริยาปนฺนายาติ วิวฏฺฏปริยาปนฺนาย. อนิสฺสิตายาติ วฏฺฏํ อนิสฺสิตาย. วิวฏฺฏนิสฺสิตเมว กตฺวา กเถติ, วฏฺฏนิสฺสิตํ กตฺวา น กเถตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
นาภาสมานนฺติ น อกเถนฺตํ. อมตํ ปทนฺติ นิพฺพานปทํ. ภาสเยติ โอภาเสยฺย. โชตเยติ ตสฺเสว เววจนํ. ปคฺคณฺเห อิสินํ ธชนฺติ อพฺภุคฺคตฏฺเน นวโลกุตฺตรธมฺโม อิสีนํ ธโช นาม วุจฺจติ, ตเมว ปคฺคณฺเหยฺย อุกฺขิเปยฺย, อุจฺจํ กตฺวา กเถยฺยาติ อตฺโถ. นวโลกุตฺตรธมฺมทีปกํ สุภาสิตํ ธโช เอเตสนฺติ สุภาสิตธชา. อิสโยติ พุทฺธาทโย อริยา. ธมฺโม หิ อิสินํ ธโชติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว โลกุตฺตรธมฺโม อิสีนํ ธโช นามาติ.
๙. วิปลฺลาสสุตฺตวณฺณนา
๔๙. นวเม ¶ ¶ สฺาวิปลฺลาสาติ สฺาย วิปลฺลตฺถภาวา, จตสฺโส วิปรีตสฺาโยติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ ¶ เอเสว นโย. อนิจฺเจ, ภิกฺขเว, นิจฺจนฺติ สฺาวิปลฺลาโสติ อนิจฺเจ วตฺถุสฺมึ ‘‘นิจฺจํ อิท’’นฺติ เอวํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺา, สฺาวิปลฺลาโสติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อนตฺตนิ จ อตฺตาติ อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ เอวํสฺิโนติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺิหตาติ น เกวลํ สฺิโนว, สฺาย วิย อุปฺปชฺชมานาย มิจฺฉาทิฏฺิยาปิ หตา. ขิตฺตจิตฺตาติ เต สฺาทิฏฺิโย วิย อุปฺปชฺชมาเนน ขิตฺเตน จิตฺเตน สมนฺนาคตา. วิสฺิโนติ เทสนามตฺตเมตํ, วิปรีตสฺาจิตฺตทิฏฺิโนติ อตฺโถ. เต โยคยุตฺตา มารสฺสาติ เต มารสฺส โยเค ยุตฺตา นาม โหนฺติ. อโยคกฺเขมิโนติ จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺพานํ อปฺปตฺตา. สตฺตาติ ปุคฺคลา. พุทฺธาติ จตุสจฺจพุทฺธา. อิมํ ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ. สจิตฺตํ ปจฺจลทฺธาติ สกํ จิตฺตํ ปฏิลภิตฺวา. อนิจฺจโต ทกฺขุนฺติ อนิจฺจภาเวน อทฺทสํสุ. อสุภตทฺทสุนฺติ อสุภํ อสุภโตเยว อทฺทสํสุ. สมฺมาทิฏฺิสมาทานาติ คหิตสมฺมาทสฺสนา. สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกนฺตา.
๑๐. อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา
๕๐. ทสเม ¶ อุปกฺกิเลสาติ วิโรจิตุํ อทตฺวา อุปกฺกิลิฏฺภาวกรเณน อุปกฺกิเลสา. มหิกาติ หิมํ. ธูโม รโชติ ธูโม จ รโช จ. ราหูติ ปุริมา ตโย อสมฺปตฺตอุปกฺกิเลสา, ราหุ ปน สมฺปตฺตอุปกฺกิเลสวเสน กถิโตติ เวทิตพฺโพ. สมณพฺราหฺมณา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺตีติ คุณปฺปตาเปน น ตปนฺติ, คุโณภาเสน น ภาสนฺติ, คุณวิโรจเนน น วิโรจนฺติ. สุราเมรยปานา อปฺปฏิวิรตาติ ปฺจวิธาย สุราย จตุพฺพิธสฺส เมรยสฺส จ ปานโต อวิรตา.
อวิชฺชานิวุตาติ ¶ ¶ อวิชฺชาย นิวาริตา ปิหิตา. ปิยรูปาภินนฺทิโนติ ปิยรูปํ สาตรูปํ อภินนฺทมานา ตุสฺสมานา. สาทิยนฺตีติ คณฺหนฺติ. อวิทฺทสูติ อนฺธพาลา. สเนตฺติกาติ ตณฺหาโยตฺเตเนว สโยตฺตา. กฏสินฺติ อตฺตภาวํ. โฆรนฺติ กกฺขฬํ. อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏเมว กถิตนฺติ.
โรหิตสฺสวคฺโค ปฺจโม.
ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
(๖) ๑. ปฺุาภิสนฺทวคฺโค
๑. ปมปฺุาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๕๑. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม ปฺุาภิสนฺทาติ ปฺุสฺส อภิสนฺทา, ปฺุปฺปตฺติโยติ อตฺโถ. กุสลาภิสนฺทาติ ตสฺเสว เววจนํ. เต ¶ ปเนเต สุขํ อาหรนฺตีติ สุขสฺสาหารา. สุฏฺุ อคฺคานํ รูปาทีนํ ทายกาติ โสวคฺคิกา. สุโข เนสํ วิปาโกติ สุขวิปากา. สคฺเค อุปปตฺติ สคฺโค, สคฺคาย สํวตฺตนฺตีติ สคฺคสํวตฺตนิกา. จีวรํ ปริภฺุชมาโนติ จีวรตฺถาย วตฺถํ ลภิตฺวา สูจิสุตฺตาทีนํ อภาเวน ตํ นิกฺขิปนฺโตปิ กโรนฺโตปิ ปารุปนฺโตปิ ชิณฺณกาเล ปจฺจตฺถรณํ กโรนฺโตปิ ปจฺจตฺถริตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ ภูมตฺถรณํ กโรนฺโตปิ ภูมตฺถรณสฺส อนนุจฺฉวิกํ ผาเลตฺวา ปาทปฺุฉนํ กโรนฺโตปิ ‘‘ปริภฺุชมาโน’’ตฺเวว วุจฺจติ. ยทา ปน ‘‘ปาทปฺุฉนมฺปิ น สกฺกา อิท’’นฺติ สมฺมชฺชิตฺวา ฉฑฺฑิตํ โหติ, ตทา ปริภฺุชมาโน นาม น โหติ. อปฺปมาณํ เจโตสมาธินฺติ อรหตฺตผลสมาธึ. อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโทติ อิมินา ทายกสฺส ปฺุเจตนาย อปฺปมาณตํ กเถติ. ตสฺส หิ ‘‘ขีณาสโว เม จีวรํ ปริภฺุชตี’’ติ ปุนปฺปุนํ อนุสฺสรณวเสน ปวตฺตา ปฺุเจตนา อปฺปมาณา โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปิณฺฑปาตาทีสุ ปน โย ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา สตฺตาหมฺปิ เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ปริภฺุชติ, โส สตฺตาหมฺปิ ตํเยว ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชมาโน นาม โหติ. เอกสฺมึ ปน เสนาสเน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทีสุ จงฺกมนฺโตปิ ยาว ตํ เสนาสนํ ปหาย อฺํ น คณฺหาติ, ตาว ปริภฺุชมาโน นาม โหติ. เอเกน ปน เภสชฺเชน พฺยาธิมฺหิ วูปสนฺเต ยาว อฺํ เภสชฺชํ น ปริภฺุชติ, ตาวเทว ปริภฺุชมาโน นาม โหติ.
พหุเภรวนฺติ ¶ พหูหิ เภรวารมฺมเณหิ สมนฺนาคตํ. รตนวรานนฺติ สตฺตนฺนมฺปิ วรรตนานํ. อาลยนฺติ นิวาสฏฺานํ. ปุถู สวนฺตีติ พหุกา หุตฺวา สนฺทมานา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
๒. ทุติยปฺุาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๕๒. ทุติเย ¶ ¶ อริยกนฺเตหีติ มคฺคผลสมฺปยุตฺเตหิ. ตานิ หิ อริยานํ กนฺตานิ โหนฺติ ปิยานิ มนาปานิ. เสสํ สุตฺตนฺเต ตาว ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๔ อาทโย) วุตฺตเมว.
คาถาสุ ปน สทฺธาติ โสตาปนฺนสฺส สทฺธา อธิปฺเปตา. สีลมฺปิ โสตาปนฺนสฺส สีลเมว. อุชุภูตฺจ ทสฺสนนฺติ กายวงฺกาทีนํ อภาเวน ขีณาสวสฺส ทสฺสนํ อุชุภูตทสฺสนํ นาม. อาหูติ กถยนฺติ. ปสาทนฺติ พุทฺธธมฺมสงฺเฆสุ ปสาทํ. ธมฺมทสฺสนนฺติ จตุสจฺจธมฺมทสฺสนํ.
๓. ปมสํวาสสุตฺตวณฺณนา
๕๓. ตติเย สมฺพหุลาปิ โข คหปตี จ คหปตานิโย จาติ พหุกา คหปตโย จ คหปตานิโย จ อาวาหวิวาหกรณตฺถาย คจฺฉนฺตา ตเมว มคฺคํ ปฏิปนฺนา โหนฺติ. สํวาสาติ สหวาสา เอกโตวาสา. ฉโว ฉวายาติ คุณมรเณน มตตฺตา ฉโว คุณมรเณเนว มตาย ฉวาย สทฺธึ. เทวิยา สทฺธินฺติ คุเณหิ เทวิภูตาย สทฺธึ. ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม. อกฺโกสกปริภาสโกติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสโก, ภยํ ทสฺเสตฺวา สนฺตชฺชเนน ปริภาสโก. เอวํ ¶ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
กทริยาติ ถทฺธมจฺฉริโน. ชานิปตโยติ ชยมฺปติกา. วทฺูติ ยาจกานํ วจนสฺส อตฺถํ ชานนฺติ. สฺตาติ สีลสํยเมน สมนฺนาคตา. ธมฺมชีวิโนติ ธมฺเม ตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺตีติ ธมฺมชีวิโน. อตฺถาสํ ปจุรา โหนฺตีติ วฑฺฒิสงฺขาตา อตฺถา เอเตสํ พหู โหนฺติ. ผาสุกํ อุปชายตีติ อฺมฺํ ผาสุวิหาโร ชายติ. กามกามิโนติ กาเม กามยมานา.
๔. ทุติยสํวาสสุตฺตวณฺณนา
๕๔. จตุตฺเถ กมฺมปถวเสน เทสนา ปวตฺติตา. เสสํ ตาทิสเมว. อิเมสุ ปน ทฺวีสุปิ สุตฺเตสุ อคาริกปฏิปทา กถิตา. โสตาปนฺนสกทาคามีนมฺปิ วฏฺฏติ.
๕-๖. สมชีวีสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๕๕-๕๖. ปฺจเม ¶ ¶ เตนุปสงฺกมีติ กิมตฺถํ อุปสงฺกมิ? อนุคฺคณฺหนตฺถํ. ตถาคโต หิ ตํ รฏฺํ ปาปุณนฺโต อิเมสํเยว ทฺวินฺนํ สงฺคณฺหนตฺถาย ปาปุณาติ. นกุลปิตา กิร ปฺจ ชาติสตานิ ตถาคตสฺส ปิตา อโหสิ, ปฺจ ชาติสตานิ มหาปิตา, ปฺจ ชาติสตานิ จูฬปิตา. นกุลมาตาปิ ปฺจ ชาติสตานิ ตถาคตสฺส มาตา อโหสิ, ปฺจ ชาติสตานิ มหามาตา, ปฺจ ชาติสตานิ จูฬมาตา. เต สตฺถุ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘หนฺตาต, หนฺตาตา’’ติ วจฺฉกํ ทิสฺวา วจฺฉคิทฺธินี คาวี วิย วิรวมานา อุปสงฺกมิตฺวา ปมทสฺสเนเนว โสตาปนฺนา ชาตา. นิเวสเน ¶ ปฺจสตานํ ภิกฺขูนํ อาสนานิ สทา ปฺตฺตาเนว โหนฺติ. อิติ ภควา เตสํ อนุคฺคณฺหนตฺถาย อุปสงฺกมิ. อติจริตาติ อติกฺกมิตา. อภิสมฺปรายฺจาติ ปรโลเก จ. สมสทฺธาติ สทฺธาย สมา เอกสทิสา. สีลาทีสุปิ เอเสว นโย. ฉฏฺํ เกวลํ ภิกฺขูนํ เทสิตํ. เสสเมตฺถ ตาทิสเมว.
๗. สุปฺปวาสาสุตฺตวณฺณนา
๕๗. สตฺตเม ปชฺชนิกนฺติ ตสฺส นิคมสฺส นามํ. โกลิยานนฺติ โกลราชกุลานํ. อายุํ โข ปน ทตฺวาติ อายุทานํ ทตฺวา. อายุสฺส ภาคินี โหตีติ อายุภาคปฏิลาภินี โหติ, อายุํ วา ภชนิกา โหติ, อายุปฺปฏิลาภินีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
รสสา อุเปตนฺติ รเสน อุเปตํ รสสมฺปนฺนํ. อุชฺชุคเตสูติ กายวงฺกาทิรหิตตฺตา อุชุกเมว คเตสุ ขีณาสเวสุ. จรณูปปนฺเนสูติ ปฺจทสหิ จรณธมฺเมหิ สมนฺนาคเตสุ. มหคฺคเตสูติ มหตฺตํ คเตสุ. ขีณาสวานฺเเวตํ นามํ. ปฺุเน ปฺุํ สํสนฺทมานาติ ปฺุเน สทฺธึ ปฺุํ ฆฏยมานา. มหปฺผลา โลกวิทูน วณฺณิตาติ เอวรูปา ทานสงฺขาตา ทกฺขิณา ติวิธโลกํ วิทิตํ กตฺวา ิตตฺตา โลกวิทูนํ พุทฺธานํ วณฺณิตา, พุทฺเธหิ ปสตฺถาติ อตฺโถ. ยฺมนุสฺสรนฺตาติ ¶ ยฺํ ทานํ อนุสฺสรนฺตา. เวทชาตาติ ตุฏฺิชาตา.
๘. สุทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๘. อฏฺเม ¶ ¶ สฺตานนฺติ กายวาจาหิ สํยตานํ. ปรทตฺตโภชินนฺติ ปเรหิ ทินฺนเมว ภฺุชิตฺวา ยาเปนฺตานํ. กาเลนาติ ยุตฺตปฺปตฺตกาเลน. สกฺกจฺจ ททาตีติ สหตฺถา สกฺการํ กตฺวา ททาติ. จตฺตาริ านานิ อนุปฺปเวจฺฉตีติ จตฺตาริ การณานิ อนุปฺปเวเสติ ททาติ. ยสวา โหตีติ มหาปริวาโร โหติ. นวมํ เกวลํ ภิกฺขูนํ กถิตํ. เสสเมตฺถ ตาทิสเมว.
๑๐. คิหิสามีจิสุตฺตวณฺณนา
๖๐. ทสเม คิหิสามีจิปฏิปทนฺติ คิหีนํ อนุจฺฉวิกํ ปฏิปตฺตึ. ปจฺจุปฏฺิโต โหตีติ อติหริตฺวา ทาตุกามตาย ปติอุปฏฺิโต โหติ อุปคโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จีวรํ เทตีติ อตฺโถ.
อุปฏฺิตาติ อุปฏฺายโก. เตสํ ทิวา จ รตฺโต จาติ เย เอวํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหนฺติ, เตสํ ทิวา จ รตฺติฺจ ปริจฺจาควเสน จ อนุสฺสรณวเสน จ สทา ปฺุํ ปวฑฺฒติ. สคฺคฺจ กมติฏฺานนฺติ ตาทิโส จ ภทฺทกํ กมฺมํ กตฺวา สคฺคฏฺานํ อุปคจฺฉติ. อิเมสุ จตูสุปิ สุตฺเตสุ อาคาริยปฏิปทา กถิตา. โสตาปนฺนสกทาคามีนมฺปิ วฏฺฏติ.
ปฺุาภิสนฺทวคฺโค ปโม.
(๗) ๒. ปตฺตกมฺมวคฺโค
๑. ปตฺตกมฺมสุตฺตวณฺณนา
๖๑. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม อนิฏฺปฏิกฺเขเปน อิฏฺา. มเน กมนฺติ ปวิสนฺตีติ กนฺตา. มนํ อปฺปายนฺติ ปวฑฺเฒนฺตีติ มนาปา. ทุลฺลภาติ ปรมทุลฺลภา. โภคาติ ภฺุชิตพฺพา รูปาทโย วิสยา. สหธมฺเมนาติ ธมฺเมเนว สทฺธึ อุปฺปชฺชนฺตุ, มา ธมฺมูปฆาตํ กตฺวา อธมฺเมนาติ. อถวา สหธมฺเมนาติ สการเณน, เตน เตน เสนาปติเสฏฺิฏฺานาทิการเณน สทฺธึเยว อุปฺปชฺชนฺตูติ อตฺโถ. ยโสติ ปริวารสมฺปตฺติ. สห ¶ าตีภีติ าตเกหิ สทฺธึ. สห อุปชฺฌาเยหีติ สุขทุกฺเขสุ อุปนิชฺฌายิตพฺพตฺตา อุปชฺฌายสงฺขาเตหิ สนฺทิฏฺสมฺภตฺเตหิ สทฺธึ.
อกิจฺจํ กโรตีติ อกาตพฺพํ กโรติ. กิจฺจํ อปราเธตีติ กตฺตพฺพยุตฺตกํ กิจฺจํ อกโรนฺโต ตํ อปราเธติ นาม. ธํสตีติ ปตติ ปริหายติ. อภิชฺฌาวิสมโลภนฺติ อภิชฺฌาสงฺขาตํ วิสมโลภํ. ปชหตีติ นุทติ นีหรติ. มหาปฺโติ มหนฺตปฺโ. ปุถุปฺโติ ปุถุลปฺโ. อาปาตทโสติ ตํ ตํ อตฺถํ อาปาเตติ ตเมว ปสฺสติ, สุขุมมฺปิสฺส อตฺถชาตํ อาปาตํ อาคจฺฉติเยวาติ อตฺโถ.
อุฏฺานวีริยาธิคเตหีติ ¶ อุฏฺานสงฺขาเตน วีริเยน อธิคเตหิ. พาหาพลปริจิเตหีติ พาหาพเลน ปริจิเตหิ วฑฺฒิเตหิ. เสทาวกฺขิตฺเตหีติ อวกฺขิตฺตเสเทหิ, เสทํ มฺุจิตฺวา วายาเมน ปโยเคน สมธิคเตหีติ อตฺโถ. ธมฺมิเกหีติ ธมฺมยุตฺเตหิ. ธมฺมลทฺเธหีติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเม อโกเปตฺวา ลทฺเธหิ. ปตฺตกมฺมานีติ ยุตฺตกมฺมานิ อนุจฺฉวิกกมฺมานิ. สุเขตีติ สุขิตํ กโรติ. ปีเณตีติ ปีณิตํ พลสมฺปนฺนํ กโรติ. านคตํ โหตีติ การณคตํ โหติ. กึ ปน ตนฺติ? จตูสุ ปตฺตกมฺเมสุ เอกํ โภเคหิ กตฺตพฺพกมฺมํ โภคชาตเมว านคตํ. ปตฺตคตนฺติ ยุตฺตปฺปตฺตฏฺานคตํ. อายตนโส ปริภุตฺตนฺติ การเณเนว ปริภุตฺตํ โภคชาตํ โหติ.
ปริโยธาย ¶ สํวตฺตตีติ ปิทหิตฺวา วตฺตติ. ยถา อคฺคิอาทีหิ อุปฺปนฺนาสุ อาปทาสุ, เอวํ อาทิตฺตเคหนิพฺพาปนาทีนํ อตฺถาย ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ตาสํ อาปทานํ มคฺคํ ปิทหติ นิวาเรติ. โสตฺถึ อตฺตานํ กโรตีติ นิรุปทฺทวํ เขมํ อตฺตานํ กโรติ. าติพลินฺติ าตกานํ พลึ. อติถิพลินฺติ อาคนฺตุกานํ พลึ. ปุพฺพเปตพลินฺติ ¶ ปรโลกคตานํ าตกานํ พลึ. ราชพลินฺติ รฺโ กตฺตพฺพยุตฺตกํ ราชพลึ. เทวตาพลินฺติ เทวตานํ กตฺตพฺพพลึ. สพฺพเมตํ เตสํ เตสํ ยถานุจฺฉวิกวเสน ทาตพฺพทานสฺส อธิวจนํ.
ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺาติ อธิวาสนกฺขนฺติยฺจ สุสีลตาย จ นิวิฏฺา. เอกมตฺตานํ ทเมนฺตีติ เอกํ อตฺตโนว อตฺตภาวํ อินฺทฺริยทเมน ทเมนฺติ. สเมนฺตีติ อตฺตโน จิตฺตํ กิเลสวูปสมเนน สเมนฺติ. ปรินิพฺพาเปนฺตีติ กิเลสปรินิพฺพาเนเนว ¶ ปรินิพฺพาเปนฺติ. อุทฺธคฺคิกนฺติอาทีสุ อุปรูปริภูมีสุ ผลทานวเสน อุทฺธมคฺคมสฺสาติ อุทฺธคฺคิกา. สคฺคสฺส หิตาติ ตตฺรุปปตฺติชนนโต โสวคฺคิกา. นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน สุโขว วิปาโก อสฺสาติ สุขวิปากา. สุฏฺุ อคฺคานํ ทิพฺพวณฺณาทีนํ ทสนฺนํ วิเสสานํ นิพฺพตฺตนโต สคฺคสํวตฺตนิกา, เอวรูปํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปตีติ อตฺโถ.
อริยธมฺเม ิโตติ ปฺจสีลธมฺเม ปติฏฺิโต. เปจฺจ สคฺเค ปโมทตีติ ปรโลกํ คนฺตฺวา ยตฺถ สคฺเค ปฏิสนฺธึ คณฺหาติ, ตตฺถ โมทติ. โสตาปนฺนสกทาคามิโน วา โหนฺตุ อนาคามี วา, สพฺเพสํ อยํ ปฏิปทา ลพฺภเตวาติ.
๒. อานณฺยสุตฺตวณฺณนา
๖๒. ทุติเย ¶ อธิคมนียานีติ ปตฺตพฺพานิ. กามโภคินาติ วตฺถุกาเม จ กิเลสกาเม จ ปริภฺุชนฺเตน. อตฺถิสุขาทีสุ อตฺถีติ อุปฺปชฺชนกสุขํ อตฺถิสุขํ นาม. โภเค ปริภฺุชนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกสุขํ โภคสุขํ นาม. อนโณสฺมีติ อุปฺปชฺชนกสุขํ อานณฺยสุขํ นาม. นิทฺโทโส อนวชฺโชสฺมีติ อุปฺปชฺชนกสุขํ อนวชฺชสุขํ นาม.
ภฺุชนฺติ ภฺุชมาโน. ปฺา วิปสฺสตีติ ปฺาย วิปสฺสติ. อุโภ ภาเคติ ทฺเว โกฏฺาเส, เหฏฺิมานิ ตีณิ เอกํ โกฏฺาสํ, อนวชฺชสุขํ เอกํ โกฏฺาสนฺติ เอวํ ปฺาย ปสฺสมาโน ¶ ทฺเว โกฏฺาเส ชานาตีติ อตฺโถ. อนวชฺชสุขสฺเสตนฺติ เอตํ ติวิธมฺปิ สุขํ อนวชฺชสุขสฺส โสฬสึ กลํ นาคฺฆตีติ.
๓. พฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา
๖๓. ตติยํ ติกนิปาเต วณฺณิตเมว. สปุพฺพเทวตานีติ ปทมตฺตเมว เอตฺถ วิเสโสติ. จตุตฺเถ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.
๕. รูปสุตฺตวณฺณนา
๖๕. ปฺจเม รูเป ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน รูปปฺปมาโณ นาม. รูปปฺปสนฺโนติ ตสฺเสว อตฺถวจนํ. โฆเส ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน โฆสปฺปมาโณ ¶ นาม. จีวรลูขปตฺตลูเขสุ ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน ลูขปฺปมาโณ นาม. ธมฺเม ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน ธมฺมปฺปมาโณ นาม. อิตรานิ เตสํเยว อตฺถวจนานิ. สพฺพสตฺเต ¶ จ ตโย โกฏฺาเส กตฺวา ทฺเว โกฏฺาสา รูปปฺปมาณา, เอโก น รูปปฺปมาโณ. ปฺจ โกฏฺาเส กตฺวา จตฺตาโร โกฏฺาสา โฆสปฺปมาณา, เอโก น โฆสปฺปมาโณ. ทส โกฏฺาเส กตฺวา นว โกฏฺาสา ลูขปฺปมาณา, เอโก น ลูขปฺปมาโณ. สตสหสฺสํ โกฏฺาเส กตฺวา ปน เอโก โกฏฺาโสว ธมฺมปฺปมาโณ, เสสา น ธมฺมปฺปมาณาติ เวทิตพฺพา.
รูเป ปมาณึสูติ เย รูปํ ทิสฺวา ปสนฺนา, เต รูเป ปมาณึสุ นาม, ปสีทึสูติ อตฺโถ. โฆเสน อนฺวคูติ โฆเสน อนุคตา, โฆสปฺปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺนาติ อตฺโถ. ฉนฺทราควสูเปตาติ ฉนฺทสฺส จ ราคสฺส จ วสํ อุเปตา. อชฺฌตฺตฺจ น ชานาตีติ นิยกชฺฌตฺเต ตสฺส คุณํ น ชานาติ. พหิทฺธา จ น ปสฺสตีติ พหิทฺธาปิสฺส ปฏิปตฺตึ น ปสฺสติ. สมนฺตาวรโณติ สมนฺตโต อาวาริโต, สมนฺตา วา อาวรณมสฺสาติ สมนฺตาวรโณ. โฆเสน วุยฺหตีติ โฆเสน นิยติ, น คุเณน. อชฺฌตฺตฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสตีติ นิยกชฺฌตฺเต คุณํ น ชานาติ, พหิทฺธา ปนสฺส ปฏิปตฺตึ ปสฺสติ. พหิทฺธา ผลทสฺสาวีติ ตสฺส ปเรหิ กตํ พหิทฺธา สกฺการผลํ ปสฺสนฺโต. วินีวรณทสฺสาวีติ วิวฏทสฺสาวี. น โส โฆเสน วุยฺหตีติ โส โฆเสน น นียติ.
๖. สราคสุตฺตวณฺณนา
๖๖. ฉฏฺเ ¶ โมหชํ จาปวิทฺทสูติ โมหชํ จาปิ อวิทฺทสู อปณฺฑิตา. สวิฆาตนฺติ ¶ สทุกฺขํ. ทุขุทฺรยนฺติ อายติฺจ ทุกฺขวฑฺฒิทายกํ. อจกฺขุกาติ ปฺาจกฺขุรหิตา. ยถา ธมฺมา ตถา สนฺตาติ ยถา ราคาทโย ธมฺมา ิตา, ตถา สภาวาว หุตฺวา. น ตสฺเสวนฺติ มฺเรติ มยํ เอวํสนฺตา เอวํสภาวาติ ตสฺส น มฺเร, น มฺนฺตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเตปิ คาถาสุปิ วฏฺฏเมว กถิตํ.
๗. อหิราชสุตฺตวณฺณนา
๖๗. สตฺตเม ¶ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานีติ อิทํ ทฏฺวิสาเนว สนฺธาย วุตฺตํ. เย หิ เกจิ ทฏฺวิสา, สพฺเพเต อิเมสํ จตุนฺนํ อหิราชกุลานํ อพฺภนฺตรคตาว โหนฺติ. อตฺตคุตฺติยาติ อตฺตโน คุตฺตตฺถาย. อตฺตรกฺขายาติ อตฺตโน รกฺขณตฺถาย. อตฺตปริตฺตายาติ อตฺตโน ปริตฺตาณตฺถาย. ปริตฺตํ นาม อนุชานามีติ อตฺโถ.
อิทานิ ยถา ตํ ปริตฺตํ กาตพฺพํ, ตํ ทสฺเสนฺโต วิรูปกฺเขหิ เมติอาทิมาห. ตตฺถ วิรูปกฺเขหีติ วิรูปกฺขนาคกุเลหิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อปาทเกหีติ อปาทกสตฺเตหิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สพฺเพ สตฺตาติ อิโต ปุพฺเพ เอตฺตเกน าเนน โอทิสฺสกเมตฺตํ กเถตฺวา อิทานิ อโนทิสฺสกเมตฺตํ กเถตุํ อิทมารทฺธํ. ตตฺถ สตฺตา ปาณา ภูตาติ สพฺพาเนตานิ ปุคฺคลเววจนาเนว. ภทฺรานิ ปสฺสนฺตูติ ภทฺรานิ อารมฺมณานิ ปสฺสนฺตุ. มา กฺจิ ปาปมาคมาติ กฺจิ สตฺตํ ปาปกํ ลามกํ มา อาคจฺฉตุ. อปฺปมาโณ พุทฺโธติ เอตฺถ พุทฺโธติ พุทฺธคุณา เวทิตพฺพา. เต หิ อปฺปมาณา นาม. เสสปททฺวเยปิ ¶ เอเสว นโย. ปมาณวนฺตานีติ คุณปฺปมาเณน ยุตฺตานิ. อุณฺณนาภีติ โลมสนาภิโก มกฺกฏโก. สรพูติ ฆรโคลิกา. กตา เม รกฺขา, กตา เม ปริตฺตาติ มยา เอตฺตกสฺส ชนสฺส รกฺขา จ ปริตฺตาณฺจ กตํ. ปฏิกฺกมนฺตุ ภูตานีติ สพฺเพปิ เม กตปริตฺตาณา สตฺตา อปคจฺฉนฺตุ, มา มํ วิเหยึสูติ อตฺโถ.
๘. เทวทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๖๘. อฏฺเม ¶ อจิรปกฺกนฺเต เทวทตฺเตติ สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา นจิรปกฺกนฺเต. ปราภวายาติ อวฑฺฒิยา วินาสาย. อสฺสตรีติ วฬวาย กุจฺฉิสฺมึ คทฺรภสฺส ชาตา. อตฺตวธาย คพฺภํ คณฺหาตีติ ตํ อสฺเสน สทฺธึ สมฺปโยเชนฺติ, สา คพฺภํ คณฺหิตฺวา กาเล สมฺปตฺเต วิชายิตุํ นสกฺโกนฺตี ปาเทหิ ภูมึ ปหรนฺตี ติฏฺติ. อถสฺสา จตฺตาโร ปาเท จตูสุ ขาณูสุ พนฺธิตฺวา กุจฺฉึ ผาเลตฺวา โปตกํ นีหรนฺติ. สา ตตฺเถว มรติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๙. ปธานสุตฺตวณฺณนา
๖๙. นวเม ¶ กิเลสานํ สํวรตฺถาย ปเวสนทฺวารํ ปิทหนตฺถาย ปธานํ สํวรปฺปธานํ, ปชหนตฺถาย ปธานํ ปหานปฺปธานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ พฺรูหนตฺถาย วฑฺฒนตฺถาย ปธานํ ภาวนาปฺปธานํ, เตสํเยว อนุรกฺขณตฺถาย ปธานํ อนุรกฺขณาปฺปธานํ.
๑๐. อธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา
๗๐. ทสเม ¶ อธมฺมิกา โหนฺตีติ โปราณกราชูหิ ปิตํ ทสภาคพลิฺเจว อปราธานุรูปฺจ ทณฺฑํ อคฺคเหตฺวา อติเรกพลิโน เจว อติเรกทณฺฑสฺส จ คหเณน อธมฺมิกา. ราชายุตฺตาติ รฺโ ชนปเทสุ กิจฺจสํวิธายกา อายุตฺตกปุริสา. พฺราหฺมณคหปติกาติ อนฺโตนครวาสิโน พฺราหฺมณคหปตโย. เนคมชานปทาติ นิคมวาสิโน เจว ชนปทวาสิโน จ. วิสมนฺติ วิสมา หุตฺวา, อสมเยน วายนฺตีติ อตฺโถ. วิสมาติ น สมา, อติถทฺธา วา อติมุทุกา วาติ อตฺโถ. อปฺชสาติ มคฺคโต อปคตา, อุมฺมคฺคคามิโน หุตฺวา วายนฺตีติ อตฺโถ. เทวตา ปริกุปิตา ภวนฺตีติ วาเตสุ หิ วิสเมสุ อปฺชเสสุ วายนฺเตสุ รุกฺขา ภิชฺชนฺติ, วิมานานิ ภิชฺชนฺติ. ตสฺมา เทวตา ปริกุปิตา ภวนฺติ, ตา เทวสฺส สมฺมา วสฺสิตุํ น เทนฺติ. เตน วุตฺตํ เทโว น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉตีติ. วิสมปากานิ สสฺสานิ ภวนฺตีติ เอกสฺมึ าเน คพฺภีนิ โหนฺติ, เอกสฺมึ สฺชาตขีรานิ, เอกํ านํ ปจฺจตีติ เอวํ วิสมํ ปากานิ สสฺสานิ ภวนฺติ.
สมํ ¶ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปริวตฺตนฺตีติ ยถา กตฺติกปุณฺณมา กตฺติกนกฺขตฺตเมว ลภติ, มิคสิรปุณฺณมา มิคสิรนกฺขตฺตเมวาติ เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ ¶ มาเส สา สา ปุณฺณมา ตํ ตํ นกฺขตฺตเมว ลภติ, ตถา สมฺมา ปริวตฺตนฺติ. สมํ วาตา วายนฺตีติ อวิสมา หุตฺวา สมยสฺมึเยว วายนฺติ, ฉ มาเส อุตฺตรา วาตา, ฉ มาเสทกฺขิณาติ เอวํ เตสํ เตสํ ชนปทานํ อนุรูเป สมเย วายนฺติ. สมาติ สมปฺปวตฺติโน นาติถทฺธา นาติมุทู. ปฺชสาติ มคฺคปฺปฏิปนฺนา, มคฺเคเนว วายนฺติ, โน อมคฺเคนาติ อตฺโถ.
ชิมฺหํ ¶ คจฺฉตีติ กุฏิลํ คจฺฉติ, อติตฺถํ คณฺหาติ. เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สตีติ นยตีติ เนตฺตา. ตสฺมึ เนตฺเต ชิมฺหํ คเต กุฏิลํ คนฺตฺวา อติตฺถํ คณฺหนฺเต อิตราปิ อติตฺถเมว คณฺหนฺตีติ อตฺโถ. เนเตติปิ ปาโ. ทุกฺขํ เสตีติ ทุกฺขํ สยติ, ทุกฺขิตํ โหตีติ อตฺโถ.
ปตฺตกมฺมวคฺโค ทุติโย.
(๘) ๓. อปณฺณกวคฺโค
๑. ปธานสุตฺตวณฺณนา
๗๑. ตติยวคฺคสฺส ¶ ปเม อปณฺณกปฺปฏิปทนฺติ อวิรทฺธปฺปฏิปทํ. โยนิ จสฺส อารทฺธา โหตีติ การณฺจสฺส ปริปุณฺณํ โหติ. อาสวานํ ขยายาติ อรหตฺตตฺถาย. ทุติยํ อุตฺตานเมว.
๓. สปฺปุริสสุตฺตวณฺณนา
๗๓. ตติเย อวณฺโณติ อคุโณ. ปาตุ ¶ กโรตีติ กเถติ, ปากฏํ กโรติ. ปฺหาภินีโตติ ปฺหตฺถาย อภินีโต. อหาเปตฺวา อลมฺพิตฺวาติ อปริหีนํ อลมฺพิตํ กตฺวา. เอตฺถ จ อสปฺปุริโส ปาปิจฺฉตาย อตฺตโน อวณฺณํ ฉาเทติ, สปฺปุริโส ลชฺชิตาย อตฺตโน วณฺณํ. อิทานิ ยสฺมา อสปฺปุริโส หิโรตฺตปฺปรหิโต สํวาเสน อวชานาติ, สปฺปุริโส ปน หิโรตฺตปฺปสมนฺนาคโต สํวาเสนาปิ นาวชานาติ. ตสฺมา อสปฺปุริสภาวสาธกํ อธุนาคตวธุโกปมฺมํ ทสฺเสตุํ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วธุกาติอาทิมาห. ตตฺถ วธุกาติ สุณิสา. ติพฺพนฺติ พหลํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๔-๕. อคฺคสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๗๔-๗๕. จตุตฺเถ สีลคฺคนฺติ อคฺคปฺปตฺตํ อุตฺตมสีลํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. ปฺจเม รูปคฺคนฺติ ยํ รูปํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อิทํ รูปคฺคํ นาม. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ภวคฺคนฺติ เอตฺถ ปน ยสฺมึ อตฺตภาเว ิโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, เอตํ ภวคฺคํ นามาติ.
๖. กุสินารสุตฺตวณฺณนา
๗๖. ฉฏฺเ ¶ ¶ อุปวตฺตเนติ ปาจีนคตาย สาลปนฺติยา อุตฺตเรน นิวตฺติตฺวา ิตาย เวมชฺฌฏฺาเน. อนฺตเรน ยมกสาลานนฺติ ทฺวินฺนํ สาลรุกฺขานํ อนฺตเร. กงฺขาติ ทฺเวฬฺหกํ. วิมตีติ วินิจฺฉิตุํ อสมตฺถตา. ‘‘พุทฺโธ นุ โข น พุทฺโธ นุ โข, ธมฺโม นุ โข น ธมฺโม นุ โข, สงฺโฆ นุ โข น สงฺโฆ นุ โข, มคฺโค นุ โข น มคฺโค นุ โข, ปฏิปทา นุ โข น ปฏิปทา นุ โข’’ติ ¶ ยสฺส สํสโย อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ โว วทามิ ปุจฺฉถ, ภิกฺขเวติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. สตฺถุคารเวนปิ น ปุจฺเฉยฺยาถาติ ‘‘มยํ สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิมฺห, จตฺตาโร ปจฺจยาปิ โน สตฺถุ สนฺตกาว. เต มยํ เอตฺตกํ กาลํ กงฺขํ อกตฺวา น อรหาม อชฺช ปจฺฉิเม กาเล กงฺขํ กาตุ’’นฺติ สเจ เอวํ สตฺถริ คารเวน น ปุจฺฉถ. สหายโกปิ, ภิกฺขเว, สหายกสฺส อาโรเจตูติ ตุมฺหากํ โย ยสฺส ภิกฺขุสฺส สนฺทิฏฺโ สมฺภตฺโต, โส ตสฺส อาโรเจตุ, อหํ เอกสฺส ภิกฺขุสฺส กเถสฺสามิ, ตสฺส กถํ สุตฺวา สพฺเพ นิกฺกงฺขา ภวถาติ ทสฺเสติ. เอวํ ปสนฺโนติ เอวํ สทฺทหามิ อหนฺติ อตฺโถ. าณเมวาติ นิกฺกงฺขภาวปจฺจกฺขกรณาณํเยว เอตฺถ ตถาคตสฺส, น สทฺธามตฺตนฺติ อตฺโถ. อิเมสฺหิ, อานนฺทาติ อิเมสํ อนฺโตสาณิยํ นิสินฺนานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ. โย ปจฺฉิมโกติ โย คุณวเสน ปจฺฉิมโก, อานนฺทตฺเถรํเยว สนฺธายาห.
๗. อจินฺเตยฺยสุตฺตวณฺณนา
๗๗. สตฺตเม อจินฺเตยฺยานีติ จินฺเตตุํ อยุตฺตานิ. น จินฺเตตพฺพานีติ อจินฺเตยฺยตฺตาเยว น จินฺเตตพฺพานิ. ยานิ จินฺเตนฺโตติ ยานิ การณานิ จินฺเตนฺโต. อุมฺมาทสฺสาติ อุมฺมตฺตกภาวสฺส. วิฆาตสฺสาติ ทุกฺขสฺส. พุทฺธวิสโยติ พุทฺธานํ วิสโย, สพฺพฺุตฺาณาทีนํ พุทฺธคุณานํ ปวตฺติ จ อานุภาโว จ. ฌานวิสโยติ อภิฺาฌานวิสโย. กมฺมวิปาโกติ ¶ ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีนํ กมฺมานํ วิปาโก. โลกจินฺตาติ ‘‘เกน นุ โข จนฺทิมสูริยา กตา, เกน มหาปถวี, เกน มหาสมุทฺโท, เกน สตฺตา อุปฺปาทิตา, เกน ปพฺพตา, เกน อมฺพตาลนาฬิเกราทโย’’ติ เอวรูปา โลกจินฺตา.
๘. ทกฺขิณสุตฺตวณฺณนา
๗๘. อฏฺเม ¶ ¶ ทกฺขิณาวิสุทฺธิโยติ ทานสงฺขาตาย ทกฺขิณาย วิสุชฺฌนการณานิ. ทายกโต วิสุชฺฌตีติ มหปฺผลภาเวน วิสุชฺฌติ, มหปฺผลา โหตีติ อตฺโถ. กลฺยาณธมฺโมติ สุจิธมฺโม. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม. ทายกโต วิสุชฺฌตีติ เอตฺถ เวสฺสนฺตรมหาราชา กเถตพฺโพ. โส หิ ชูชกพฺราหฺมณสฺส ทารเก ทตฺวา มหาปถวึ กมฺเปสิ. ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌตีติ เอตฺถ กลฺยาณีนทีมุขทฺวารวาสี เกวฏฺโฏ กเถตพฺโพ. โส กิร ทีฆสุมตฺเถรสฺส ติกฺขตฺตุํ ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา มรณมฺเจ นิปนฺโน ‘‘อยฺยสฺส มํ ทีฆสุมตฺเถรสฺส ทินฺนปิณฺฑปาโต อุทฺธรตี’’ติ อาห. เนว ทายกโตติ เอตฺถ วฑฺฒมานวาสี ลุทฺทโก กเถตพฺโพ. โส กิร เปตทกฺขิณํ เทนฺโต เอกสฺส ทุสฺสีลสฺเสว ตโย วาเร อทาสิ. ตติยวาเร ‘‘อมนุสฺโส ทุสฺสีโล มํ วิลุมฺปตี’’ติ วิรวิ. เอกสฺส สีลวโต ภิกฺขุโน ทตฺวา ปาปิตกาเลเยวสฺส ปาปุณิ. ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จาติ เอตฺถ อสทิสทานํ กเถตพฺพนฺติ.
๙. วณิชฺชสุตฺตวณฺณนา
๗๙. นวเม ¶ ตาทิสา วาติ ตํสทิสาว ตํสริกฺขกาว. เฉทคามินี โหตีติ เฉทํ คจฺฉติ. ยํ ปตฺถิตํ, ตํ สพฺพํ นสฺสตีติ อตฺโถ. น ยถาธิปฺปายา โหตีติ ยถาชฺฌาสยา น โหติ. ปราธิปฺปายา โหตีติ ปรชฺฌาสยา อชฺฌาสยโต อธิกตรผลา โหติ. สมณํ วา พฺราหฺมณํ วาติ เอตฺถ สมิตปาปพาหิตปาปตาหิ สมณพฺราหฺมณตา เวทิตพฺพา. วทตุ, ภนฺเต, ปจฺจเยนาติ, ภนฺเต, จตุพฺพิเธน จีวราทินา ปจฺจเยน วเทยฺยาสีติ เอวํ ปวาเรติ นิมนฺเตติ. เยน ปวาเรตีติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยตฺตเกน ปวาเรติ. ตํ น เทตีติ ตํ สพฺพโสว น เทติ. น ยถาธิปฺปายํ เทตีติ ยถา ตสฺส อชฺฌาสโย, เอวํ ทาตุํ น สกฺโกติ, หาเปตฺวา อปฺปกํ เทติ. ยถาธิปฺปายํ เทตีติ ยตฺตกํ โส อิจฺฉติ, ตตฺตกเมว เทติ. ปราธิปฺปายํ เทตีติ อปฺปกํ ปวาเรตฺวา อวตฺถริตฺวา พหุํ เทติ.
๑๐. กมฺโพชสุตฺตวณฺณนา
๘๐. ทสเม ¶ เนว สภายํ นิสีทตีติ วินิจฺฉยกรณตฺถํ วินิจฺฉยสภายํ เนว นิสีทติ ¶ . น กมฺมนฺตํ ปโยเชตีติ กสิวณิชฺชาทิมหากมฺมนฺตํ นปฺปโยเชติ. น กมฺโพชํ คจฺฉตีติ โภเค สมฺภรณตฺถาย กมฺโพชรฏฺํ น คจฺฉติ. เทสนามตฺตเมว เจตํ, ยํ กิฺจิ ติโรรฏฺํ น คจฺฉตีติ อตฺโถ. โกธโนติอาทีสุ โกธนตาย โกธปริยุฏฺิโต อตฺถานตฺถํ น ชานาติ, อิสฺสุกิตาย ปรสมฺปตฺตึ น สหติ, มจฺฉริตาย ¶ ธนํ ทตฺวา กิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ, นิปฺปฺตาย กิจฺจํ สํวิธาตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา เอตานิ สภานิสีทนาทีนิ น กโรตีติ.
อปณฺณกวคฺโค ตติโย.
(๙) ๔. มจลวคฺโค
๑-๕. ปาณาติปาตาทิสุตฺตปฺจกวณฺณนา
๘๑-๘๕. จตุตฺถสฺส ¶ ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ปฺจเม ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน ตเมน ยุตฺโตติ ตโม. กายทุจฺจริตาทีหิ ปุน นิรยตมูปคมนโต ตมปรายโณ. อิติ อุภเยนปิ ขนฺธตโมว กถิโต โหติ. ‘‘อฑฺเฒ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน โชตินา ยุตฺตโต โชติ, อาโลกภูโตติ วุตฺตํ โหติ. กายสุจริตาทีหิ ปุน สคฺคุปฺปตฺติโชติภาวูปคมนโต โชติปรายโณ. อิมินา นเยน อิตเรปิ ทฺเว เวทิตพฺพา.
เวนกุเลติ วิลีวการกุเล. เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกาทีนํ กุเล. รถการกุเลติ จมฺมการกุเล. ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผฉฑฺฑกกุเล. กสิรวุตฺติเกติ ทุกฺขวุตฺติเก. ทุพฺพณฺโณติ ¶ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกจฺฉิกาโณ วา อุภยจฺฉิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี ¶ . ปทีเปยฺยสฺสาติ เตลกปลฺลาทิโน ทีปอุปกรณสฺส. เอวํ โข, ภิกฺขเวติ เอตฺถ เอโก ปุคฺคโล พหิทฺธา อาโลกํ อทิสฺวา มาตุ กุจฺฉิมฺหิเยว กาลํ กตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺโต สกลมฺปิ กปฺปํ สํสรติ. โสปิ ตโมตมปรายโณว. โส ปน กุหกปุคฺคโล ภเวยฺย. กุหกสฺส หิ เอวรูปา นิปฺผตฺติ โหตีติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ ‘‘นีเจ กุเล’’ติอาทีหิ อาคมนวิปตฺติ เจว ปจฺจุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ จ ทสฺสิตา. ‘‘ทลิทฺเท’’ติอาทีหิ ปวตฺตปจฺจยวิปตฺติ, ‘‘กสิรวุตฺติเก’’ติอาทีหิ อาชีวุปายวิปตฺติ, ‘‘ทุพฺพณฺโณ’’ติอาทีหิ อตฺตภาววิปตฺติ, ‘‘พหฺวาพาโธ’’ติอาทีหิ ทุกฺขการณสมาโยโค, ‘‘น ลาภี’’ติอาทีหิ สุขการณวิปตฺติ เจว อุปโภควิปตฺติ จ, ‘‘กาเยน ทุจฺจริต’’นฺติอาทีหิ ตมปรายณภาวสฺส การณสมาโยโค, ‘‘กายสฺส เภทา’’ติอาทีหิ สมฺปรายิกตมูปคโม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.
๖. โอณโตณตสุตฺตวณฺณนา
๘๖. ฉฏฺเ ¶ โอณโตณโตติ อิทานิ นีจโก อายติมฺปิ นีจโก ภวิสฺสติ. โอณตุณฺณโตติ อิทานิ นีโจ อายตึ อุจฺโจ ภวิสฺสติ. อุณฺณโตณโตติ อิทานิ อุจฺโจ อายตึ นีโจ ภวิสฺสติ. อุณฺณตุณฺณโตติ ¶ อิทานิ อุจฺโจ อายติมฺปิ อุจฺโจ ภวิสฺสติ. วิตฺถาโร ปน เนสํ ปุริมสุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๗. ปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๘๗. สตฺตเม สมณมจโลติ สมณอจโล, มกาโร ปทสนฺธิกโร, นิจฺจลสมโณติ อตฺโถ. อิมินา สตฺตวิธมฺปิ เสขํ ทสฺเสติ. โส หิ สาสเน มูลชาตาย สทฺธาย ปติฏฺิตตฺตา อจโล นาม. สมณปุณฺฑรีโกติ ปุณฺฑรีกสทิโส สมโณ. ปุณฺฑรีกํ นาม อูนสตปตฺตํ สโรรุหํ. อิมินา สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวํ ทสฺเสติ. โส หิ ฌานาภิฺานํ อภาเวน อปริปุณฺณคุณตฺตา สมณปุณฺฑรีโก นาม โหติ. สมณปทุโมติ ปทุมสทิโส สมโณ. ปทุมํ นาม ปริปุณฺณสตปตฺตํ สโรรุหํ. อิมินา อุภโตภาควิมุตฺตํ ขีณาสวํ ทสฺเสติ. โส หิ ฌานาภิฺานํ ภาเวน ปริปุณฺณคุณตฺตา สมณปทุโม นาม โหติ ¶ . สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ สพฺเพสุปิ เอเตสุ สมเณสุ สุขุมาลสมโณ มุทุจิตฺตสรีโร กายิกเจตสิกทุกฺขรหิโต เอกนฺตสุขี. เอเตน อตฺตานฺเจว อตฺตสทิเส จ ทสฺเสติ.
เอวํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ปฏิปาฏิยา วิภชนฺโต กถฺจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เสโขติ สตฺตวิโธปิ เสโข. ปาฏิปโทติ ปฏิปนฺนโก. อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรตีติ อรหตฺตํ ปตฺถยนฺโต วิหรติ. มุทฺธาวสิตฺตสฺสาติ มุทฺธนิ อวสิตฺตสฺส, กตาภิเสกสฺสาติ อตฺโถ. อาภิเสโกติ อภิเสกํ กาตุํ ยุตฺโต. อนภิสิตฺโตติ ¶ น ตาว อภิสิตฺโต. มจลปฺปตฺโตติ รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส ปุตฺตภาเวน เจว ปุตฺเตสุ เชฏฺกภาเวน จ น ตาว อภิสิตฺตภาเวน จ อภิเสกปฺปตฺติอตฺถาย อจลปฺปตฺโต นิจฺจลปตฺโต. มกาโร นิปาตมตฺตํ. กาเยน ผุสิตฺวาติ นามกาเยน ผุสิตฺวา.
ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชตีติ ‘‘อิทํ, ภนฺเต, ปริภฺุชถา’’ติ เอวํ ทายเกหิ ยาจมาเนเหว ¶ อุปนีตํ จีวรํ พหุํ ปริภฺุชติ, กิฺจิเทว อยาจิตํ, พากุลตฺเถโร วิย. ปิณฺฑปาตํ ขทิรวนมคฺเค สีวลิตฺเถโร วิย. เสนาสนํ อฏฺกนาครสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๗ อาทโย; อ. นิ. ๑๑.๑๖ อาทโย) อานนฺทตฺเถโร วิย. คิลานปจฺจยํ ปิลินฺทวจฺฉเถโร วิย. ตฺยสฺสาติ เต อสฺส. มนาเปเนวาติ มนํ อลฺลียนเกน. สมุทาจรนฺตีติ กตฺตพฺพกิจฺจานิ กโรนฺติ ปวตฺตนฺติ วา. อุปหารํ อุปหรนฺตีติ กายิกเจตสิกอุปหารํ อุปหรนฺติ อุปนียนฺติ. สนฺนิปาติกานีติ ติณฺณมฺปิ สนฺนิปาเตน นิพฺพตฺตานิ. อุตุปริณามชานีติ อุตุปริณามโต อติสีตอติอุณฺหอุตุโต ชาตานิ. วิสมปริหารชานีติ อจฺจาสนอติฏฺานาทิกา วิสมปริหารโต ชาตานิ. โอปกฺกมิกานีติ วธพนฺธนาทิอุปกฺกเมน นิพฺพตฺตานิ. กมฺมวิปากชานีติ ¶ วินาปิ อิเมหิ การเณหิ เกวลํ ปุพฺเพ กตกมฺมวิปากวเสเนว ชาตานิ. จตุนฺนํ ฌานานนฺติ เอตฺถ ขีณาสวานมฺปิ พุทฺธานมฺปิ กิริยชฺฌานาเนว อธิปฺเปตานิ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๘. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา
๘๘. อฏฺเม สาสเน ลทฺธปฺปติฏฺตฺตา โสตาปนฺโนว สมณมจโลติ วุตฺโต, นาติพหุคุณตฺตา น พหุปตฺตํ วิย สโรรุหํ สกทาคามี ¶ สมณปุณฺฑรีโกติ, ตโต พหุตรคุณตฺตา สตปตฺตํ วิย สโรรุหํ อนาคามี สมณปทุโมติ, ถทฺธภาวกรานํ กิเลสานํ สพฺพโส สมุจฺฉินฺนตฺตา มุทุภาวปฺปตฺโต ขีณาสโว สมณสุขุมาโลติ.
๙. สมฺมาทิฏฺิสุตฺตวณฺณนา
๘๙. นวเม สมฺมาทิฏฺิโกติอาทีหิ อฏฺงฺคิกมคฺควเสน ปมสุตฺเต วิย สตฺต เสขา คหิตา. ทุติยวาเร ทสงฺคิกมคฺควเสน วา อรหตฺตผลาณอรหตฺตผลวิมุตฺตีหิ สทฺธึ, อฏฺงฺคิกมคฺควเสน วา สุกฺขวิปสฺสกขีณาสโว กถิโต, ตติยวาเร อุภโตภาควิมุตฺโต, จตุตฺถวาเร ตถาคโต จ ตถาคตสทิสขีณาสโว จาติ. อิติ อิทํ สุตฺตํ ปมสุตฺเต กถิตปุคฺคลานํ วเสเนว กถิตํ, เทสนามตฺตเมว ปเนตฺถ นานนฺติ.
๑๐. ขนฺธสุตฺตวณฺณนา
๙๐. ทสเม ¶ ปมวาเร อรหตฺตตฺถาย ปโยคํ อนารภิตฺวา ิโต ปมาทวิหารี เสขปุคฺคโล กถิโต. ทุติยวาเร อนุปฺปาทิตชฺฌาโน อารทฺธวิปสฺสโก อปฺปมาทวิหารี เสขปุคฺคโล กถิโต. ตติยวาเร อารทฺธวิปสฺสโก อปฺปมาทวิหารี อฏฺวิโมกฺขลาภี เสขปุคฺคโล กถิโต, จตุตฺถวาเร ปรมสุขุมาลขีณาสโวติ.
มจลวคฺโค จตุตฺโถ.
(๑๐) ๕. อสุรวคฺโค
๑. อสุรสุตฺตวณฺณนา
๙๑. ปฺจมสฺส ¶ ¶ ปเม อสุโรติ อสุรสทิโส พีภจฺโฉ. เทโวติ เทวสทิโส คุณวเสน อภิรูโป ปาสาทิโก.
๒. ปมสมาธิสุตฺตวณฺณนา
๙๒. ทุติเย ¶ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺสาติ นิยกชฺฌตฺเต อปฺปนาจิตฺตสมาธิสฺส. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายาติ สงฺขารปริคฺคาหกวิปสฺสนาาณสฺส. ตฺหิ อธิปฺาสงฺขาตฺจ, ปฺจกฺขนฺธสงฺขาเตสุ จ ธมฺเมสุ วิปสฺสนาภูตํ, ตสฺมา ‘‘อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา’’ติ วุจฺจตีติ.
๓. ทุติยสมาธิสุตฺตวณฺณนา
๙๓. ตติเย โยโค กรณีโยติ ยุตฺตปฺปยุตฺตตา กตฺตพฺพา. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. วายาโมติ ปโยโค. อุสฺสาโหติ ตโต อธิมตฺตตรํ วีริยํ. อุสฺโสฬฺหีติ ปงฺกลคฺคสกฏอุทฺธรณสทิสํ มหาวีริยํ. อปฺปฏิวานีติ อนิวตฺตนตา.
๔. ตติยสมาธิสุตฺตวณฺณนา
๙๔. จตุตฺเถ เอวํ โข, อาวุโส, สงฺขารา ทฏฺพฺพาติอาทีสุ, อาวุโส, สงฺขารา นาม อนิจฺจโต ทฏฺพฺพา, อนิจฺจโต สมฺมสิตพฺพา, อนิจฺจโต ปสฺสิตพฺพา. ตถา ทุกฺขโต, อนตฺตโตติ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวํ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพนฺติอาทีสุปิ ปมชฺฌานวเสน, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ ปมชฺฌานวเสน สนฺนิสาเทตพฺพํ, ปมชฺฌานวเสน ¶ เอโกทิ กาตพฺพํ, ปมชฺฌานวเสน สมาทหิตพฺพํ. ตถา ทุติยชฺฌานาทิวเสนาติ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิเมสุ ตีสุปิ สุตฺเตสุ สมถวิปสฺสนา โลกิยโลกุตฺตราว กถิตา.
๕. ฉวาลาตสุตฺตวณฺณนา
๙๕. ปฺจเม ฉวาลาตนฺติ สุสาเน อลาตํ. มชฺเฌ ¶ คูถคตนฺติ มชฺฌฏฺาเน คูถมกฺขิตํ. เนว คาเม กฏฺตฺถํ ผรตีติ กูฏโคปานสิถมฺภโสปานาทีนํ อตฺถาย อนุปเนยฺยตาย คาเม น กฏฺตฺถํ สาเธติ, เขตฺตกุฏิปาทํ วา มฺจปาทํ วา กาตุํ อนุปเนยฺยตาย น อรฺเ กฏฺตฺถํ สาเธติ. ทฺวีสุ โกฏีสุ คยฺหมานํ หตฺถํ ฑหติ, มชฺเฌ คยฺหมานํ คูเถน มกฺเขติ. ตถูปมนฺติ ตํสริกฺขกํ. อภิกฺกนฺตตโรติ สุนฺทรตโร. ปณีตตโรติ อุตฺตมตโร. ควา ขีรนฺติ คาวิโต ขีรํ. ขีรมฺหา ทธีติอาทีสุ ปรํ ปรํ ปุริมโต ปุริมโต อคฺคํ, สปฺปิมณฺโฑ ปน เตสุ สพฺเพสุปิ อคฺคเมว ¶ . อคฺโคติอาทีสุ คุเณหิ อคฺโค เจว เสฏฺโ จ ปมุโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จาติ เวทิตพฺโพ. ฉวาลาตูปมาย น ทุสฺสีโล ปุคฺคโล กถิโต, อปฺปสฺสุโต ปน วิสฺสฏฺกมฺมนฺโต โคณสทิโส ปุคฺคโล กถิโตติ เวทิตพฺโพ. ฉฏฺเ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.
๗. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตวณฺณนา
๙๗. สตฺตเม ขิปฺปนิสนฺตีติ ขิปฺปนิสามโน สีฆํ ชานิตุํ สมตฺโถ. สุตานฺจ ธมฺมานนฺติ สุตปฺปคุณานํ ตนฺติธมฺมานํ. อตฺถูปปริกฺขีติ อตฺถํ อุปปริกฺขโก. อตฺถมฺาย ธมฺมมฺายาติ อฏฺกถฺจ ปาฬิฺจ ชานิตฺวา. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหตีติ นวโลกุตฺตรธมฺมานํ ¶ อนุรูปธมฺมภูตํ สสีลกํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ. โน จ กลฺยาณวาโจติ น สุนฺทรวจโน. น กลฺยาณวากฺกรโณติ น สุนฺทรวจนโฆโส โหติ. โปริยาติอาทีหิ สทฺธึ โน-กาโร โยเชตพฺโพเยว. คุณปริปุณฺณาย อปลิพุทฺธาย อโทสาย อคฬิตปทพฺยฺชนาย อตฺถํ วิฺาเปตุํ สมตฺถาย วาจาย สมนฺนาคโต น โหตีติ อตฺโถ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๘. อตฺตหิตสุตฺตวณฺณนา
๙๘-๙๙. อฏฺมํ ¶ ปุคฺคลชฺฌาสยวเสนาปิ ทสพลสฺส เทสนาาณวิลาเสนาปิ กถิตํ, นวมํ ปฺจเวรวเสน.
๑๐. โปตลิยสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐. ทสเม กาเลนาติ ยุตฺตปฺปตฺตกาเลน. ขมตีติ รุจฺจติ. ยทิทํ ตตฺถ ตตฺถ กาลฺุตาติ ยา เอสา ตตฺถ ตตฺถ กาลํ ชานนา. ตํ ตํ กาลํ ตฺวา หิ อวณฺณารหสฺส อวณฺณกถนํ วณฺณารหสฺส จ วณฺณกถนํ ปณฺฑิตานํ ปกตีติ ทสฺเสติ.
อสุรวคฺโค ปฺจโม.
ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๓. ตติยปณฺณาสกํ
(๑๑) ๑. วลาหกวคฺโค
๑-๒. วลาหกสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๑๐๑-๒. ตติยปณฺณาสกสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม วลาหกาติ เมฆา. ภาสิตา โหติ โน กตฺตาติ ‘‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามี’’ติ เกวลํ ภาสติเยว, น กโรติ. กตฺตา โหติ โน ภาสิตาติ อกเถตฺวาว ‘‘อิทฺจิทฺจ มยา กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ กตฺตา โหติ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทุติยํ อุตฺตานตฺถเมว.
๓. กุมฺภสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓. ตติเย กุมฺภาติ ฆฏา. ตุจฺโฉ ปิหิโตติ ริตฺตโก ปิหิตมุโข. ปูโร วิวโฏติ อุทกปุณฺโณ อปารุตมุโข. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย.
๔. อุทกรหทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔. จตุตฺเถ อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโสติอาทีสุ ปุราณปณฺณรสสมฺภินฺนวณฺโณ กาฬอุทโก คมฺภีโรภาโส นาม, อจฺฉวิปฺปสนฺนมณิวณฺณอุทโก อุตฺตาโนภาโส นาม.
๕-๖. อมฺพสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕-๖. ปฺจเม อามํ ปกฺกวณฺณีติ อามกํ หุตฺวา โอโลเกนฺตานํ ปกฺกสทิสํ ขายติ. เอวํ สพฺพปทานิ ทฏฺพฺพานิ. ฉฏฺํ อุตฺตานตฺถเมว.
๗. มูสิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๗. สตฺตเม ¶ โย อาวาฏํ ขณติ, น จ ตตฺถ วสติ, โส คาธํ กตฺตา โน วสิตาติ วุจฺจติ. ขนฺตาติปิ ปาโ. อิมินา นเยน สพฺพปทานิ เวทิตพฺพานิ.
๘. พลีพทฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๐๘. อฏฺเม ¶ โย อตฺตโน โคคณํ มทฺทติ, น ปรโคคณํ, อยํ สควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑติ เอวํ สพฺพปทานิ เวทิตพฺพานิ. อุพฺเพเชตา โหตีติ ฆฏฺเฏตฺวา วิชฺฌิตฺวา อุพฺเพคปตฺตํ กโรติ.
๙. รุกฺขสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙. นวเม เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโรติ นิสฺสาโร เผคฺคุรุกฺโข เผคฺคุรุกฺเขเหว ปริวุโต. สารปริวาโรติ ¶ ขทิราทีหิ สารรุกฺเขเหว ปริวุโต. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๑๐. อาสีวิสสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐. ทสเม อาคตวิโส น โฆรวิโสติ ยสฺส วิสํ อาคจฺฉติ, โฆรํ ปน น โหติ, จิรกาลํ น ปีเฬติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโยติ.
วลาหกวคฺโค ปโม.
(๑๒) ๒. เกสิวคฺโค
๑. เกสิสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑. ทุติยสฺส ¶ ปเม เกสีติ ตสฺส นามํ. อสฺสทมฺเม สาเรตีติ อสฺสทมฺมสารถิ. สณฺเหนปิ วิเนตีติอาทีสุ ตสฺส อนุจฺฉวิกํ สกฺการํ กตฺวา สุโภชนํ โภเชตฺวา มธุรปานํ ปาเยตฺวา มุทุวจเนน สมุทาจริตฺวา ทเมนฺโต สณฺเหน ทเมติ นาม, ชาณุพนฺธนมุขพนฺธนาทีหิ เจว ปโตทวิชฺฌนกสาภิฆาตผรุสวจเนหิ จ ทเมนฺโต ผรุเสน ทเมติ นาม, กาเลน กาลํ ตทุภยํ กโรนฺโต สณฺหผรุเสน ทเมติ นาม.
๒. ชวสุตฺตวณฺณนา
๑๑๒. ทุติเย ¶ อชฺชเวนาติ อุชุกภาเวน. ชเวนาติ ปทเวเคน. ขนฺติยาติ อธิวาสนกฺขนฺติยา. โสรจฺเจนาติ สุจิภาวสีเลน. ปุคฺคลคุณงฺเคสุ ชเวนาติ าณชเวน. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
๓. ปโตทสุตฺตวณฺณนา
๑๑๓. ตติเย ¶ ปโตทจฺฉายนฺติ วิชฺฌนตฺถํ อุกฺขิตฺตสฺส ปโตทสฺส ฉายํ. สํวิชฺชตีติ ‘‘ชโว เม คเหตพฺโพ’’ติ สลฺลกฺขณวเสน สํวิชฺชติ. สํเวคํ อาปชฺชตีติ สํเวคํ ปฏิปชฺชติ โลมเวธวิทฺโธติ โลมกูเป ปโตทเวเธน วิทฺธมตฺโต. จมฺมเวธวิทฺโธติ ฉวิจมฺมํ ฉินฺทนฺเตน ปโตทเวเธน วิทฺโธ. อฏฺิเวธวิทฺโธติ อฏฺึ ภินฺทนฺเตน เวเธน วิทฺโธ. กาเยนาติ นามกาเยน. ปรมสจฺจนฺติ นิพฺพานํ. สจฺฉิกโรตีติ ปสฺสติ. ปฺายาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย.
๔. นาคสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔. จตุตฺเถ ¶ อฏฺึ กตฺวาติ อฏฺิโก หุตฺวา. ติณวนินฺนาทสทฺทานนฺติ เอตฺถ ติณโวติ ฑิณฺฑิโม, นินฺนาทสทฺโทติ สพฺเพสมฺปิ เอกโตมิสฺสิโต มหาสทฺโท. ฑํสาทีสุ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา, มกสา มกสาว. ขิปฺปฺเว คนฺตา โหตีติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนานิ ปูเรตฺวา สีฆเมว คนฺตา โหติ.
๕. านสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕. ปฺจเม านานีติ การณานิ. อนตฺถาย สํวตฺตตีติ อหิตาย อวฑฺฒิยา สํวตฺตติ. เอตฺถ จ ปมํ โอปาตกฺขณนมจฺฉพนฺธนสนฺธิจฺเฉทนาทิเภทํ สทุกฺขํ สวิฆาตํ ปาปกมฺมํ เวทิตพฺพํ, ทุติยํ สมชีวิกานํ คิหีนํ ปุปฺผจฺฉฑฺฑกาทิกมฺมํ สุธาโกฏฺฏน-เคหจฺฉาทนอสุจิฏฺานสมฺมชฺชนาทิกมฺมฺจ ¶ เวทิตพฺพํ, ตติยํ สุราปานคนฺธวิเลปนมาลาปิฬนฺธนาทิกมฺมฺเจว อสฺสาทวเสน ปวตฺตํ ปาณาติปาตาทิกมฺมฺจ เวทิตพฺพํ, จตุตฺถํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย คมนกาเล สุทฺธวตฺถจฺฉาทน-มาลาคนฺธาทีนํ อาทาย คมนํ ¶ เจติยวนฺทนํ โพธิวนฺทนํ มธุรธมฺมกถาสวนํ ปฺจสีลสมาทานนฺติ เอวมาทีสุ โสมนสฺสสมฺปยุตฺตํ กุสลกมฺมํ เวทิตพฺพํ. ปุริสถาเมติ ปุริสสฺส าณถามสฺมึ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย.
๖. อปฺปมาทสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. ฉฏฺเ ยโต โขติ ยทา โข. สมฺปรายิกสฺสาติ เทสนามตฺตเมตํ, ขีณาสโว ปน เนว สมฺปรายิกสฺส, น ทิฏฺธมฺมิกสฺส มรณสฺส ภายติ. โสว อิธ อธิปฺเปโต. เกจิ ปน ‘‘สมฺมาทิฏฺิ ภาวิตาติ วจนโต โสตาปนฺนํ อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ อริยา อธิปฺเปตา’’ติ วทนฺติ.
๗. อารกฺขสุตฺตวณฺณนา
๑๑๗. สตฺตเม อตฺตรูเปนาติ อตฺตโน อนุรูเปน อนุจฺฉวิเกน, หิตกาเมนาติ อตฺโถ. รชนีเยสูติ ¶ ราคสฺส ปจฺจยภูเตสุ. ธมฺเมสูติ สภาเวสุ, อิฏฺารมฺมเณสูติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ นโย เวทิตพฺโพ. น รชฺชตีติ ทิฏฺิวเสน น รชฺชติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. น จ ปน สมณวจนเหตุปิ คจฺฉตีติ สมณานํ ปรวาทีนํ วจนเหตุปิ อตฺตโน ทิฏฺึ ปหาย เตสํ ทิฏฺิวเสน น คจฺฉตีติ อตฺโถ. อิธาปิ ขีณาสโวว อธิปฺเปโต.
๘-๑๐. สํเวชนียาทิสุตฺตตฺตยวณฺณนา
๑๑๘-๑๒๐. อฏฺเม ทสฺสนียานีติ ปสฺสิตพฺพยุตฺตกานิ. สํเวชนียานีติ สํเวคชนกานิ. นวเม ชาติภยนฺติ ชาตึ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกภยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ทสเม ¶ อคฺคิภยนฺติ อคฺคึ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
เกสิวคฺโค ทุติโย.
(๑๓) ๓. ภยวคฺโค
๑. อตฺตานุวาทสุตฺตวณฺณนา
๑๒๑. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม อตฺตานุวาทภยนฺติ อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภยํ. ปรานุวาทภยนฺติ ปรสฺส อนุวาทโต อุปฺปชฺชนกภยํ. ทณฺฑภยนฺติ ทฺวตฺตึส กมฺมการณา ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. ทุคฺคติภยนฺติ จตฺตาโร อปาเย ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตฺตานุวาทภยนฺติอาทีสุ อตฺตานุวาทภยํ ตาว ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อชฺฌตฺตํ หิรี สมุฏฺาติ, สาสฺส ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ ชเนติ, ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวโร จตุปาริสุทฺธิสีลํ โหติ. โส ตสฺมึ สีเล ปติฏฺาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺาติ. ปรานุวาทภยํ ปน ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พหิทฺธา โอตฺตปฺปํ สมุฏฺาติ, ตทสฺส ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ ชเนติ, ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวโร จตุปาริสุทฺธิสีลํ โหติ. โส ตสฺมึ สีเล ปติฏฺาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺาติ. ทุคฺคติภยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อชฺฌตฺตํ หิรี สมุฏฺาติ, สาสฺส ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ ชเนติ, ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวโร จตุปาริสุทฺธิสีลํ โหติ. โส ตสฺมึ สีเล ปติฏฺาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺาติ.
๒. อูมิภยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๒. ทุติเย อุทโกโรหนฺตสฺสาติ อุทกํ โอตรนฺตสฺส. ปาฏิกงฺขิตพฺพานีติ อิจฺฉิตพฺพานิ. สุสุกาภยนฺติ จณฺฑมจฺฉภยํ. มุขาวรณํ มฺเ กโรนฺตีติ มุขปิทหนํ วิย กโรนฺติ. โอทริกตฺตสฺสาติ ¶ มโหทรตาย มหคฺฆสภาวสฺส. อรกฺขิเตเนว กาเยนาติอาทีสุ กายทฺวาเร ติวิธสฺส สํวรสฺส อภาวโต อรกฺขิเตน กาเยน. วจีทฺวาเร จตุพฺพิธสฺส สํวรสฺส อภาวโต อรกฺขิตาย วาจาย.
๓. ปมนานากรณสุตฺตวณฺณนา
๑๒๓. ตติเย ตทสฺสาเทตีติ ตํ ฌานํ สุขสฺสาเทน อสฺสาเทติ. นิกาเมตีติ ปตฺเถติ. วิตฺตึ ¶ อาปชฺชตีติ ตุฏฺึ อาปชฺชติ. ตทธิมุตฺโตติ ¶ ตสฺมึ อธิมุตฺโต, ตํ วา อธิมุตฺโต. ตพฺพหุลวิหารีติ เตน ฌาเนน พหุลํ วิหรนฺโต. สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติ สหภาวํ คจฺฉติ, ตตฺถ นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. กปฺโป อายุปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ปมชฺฌานํ อตฺถิ หีนํ, อตฺถิ มชฺฌิมํ, อตฺถิ ปณีตํ. ตตฺถ หีเนน อุปฺปนฺนานํ กปฺปสฺส ตติโย โกฏฺาโส อายุปฺปมาณํ, มชฺฌิเมน อุปฑฺฒกปฺโป, ปณีเตน กปฺโป. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. นิรยมฺปิ คจฺฉตีติ นิรยคมนียสฺส กมฺมสฺส อปฺปหีนตฺตา อปราปรํ คจฺฉติ, น อนนฺตรเมว. ตสฺมึเยว ภเว ปรินิพฺพายตีติ ตสฺมึเยว รูปภเว ตฺวา ปรินิพฺพายติ, น เหฏฺา โอตรติ. ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สตีติ ยํ อิทํ คติยา จ อุปปตฺติยา จ สติ เสขสฺส อริยสาวกสฺส ปฏิสนฺธิวเสน เหฏฺา อโนตริตฺวา ตสฺมึเยว รูปภเว อุปริ ทุติยตติยาทีสุ อฺตรสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปรินิพฺพานํ, ปุถุชฺชนสฺส ปน นิรยาทิคมนํ, อิทํ นานากรณนฺติ อตฺโถ.
ทฺเว กปฺปาติ เอตฺถาปิ ทุติยชฺฌานํ วุตฺตนเยเนว ติวิธํ โหติ. ตตฺถ ปณีตภาวเนน นิพฺพตฺตานํ อฏฺกปฺปา อายุปฺปมาณํ, มชฺฌิเมน จตฺตาโร, หีเนน ทฺเว. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. จตฺตาโร ¶ กปฺปาติ เอตฺถ ยํ เหฏฺา วุตฺตํ ‘‘กปฺโป, ทฺเว กปฺปา’’ติ, ตมฺปิ อาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กปฺโปติ จ คุณสฺสปิ นามํ, ตสฺมา กปฺโป ทฺเว กปฺปา จตฺตาโร กปฺปาติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปมํ วุตฺโต กปฺโป, โส ทฺเว วาเร คเณตฺวา เอเกน คุเณน ทฺเว กปฺปา โหนฺติ, ทุติเยน จตฺตาโร, ปุน เต จตฺตาโร กปฺปาติ อิเมหิ จตูหิ คุเณหิ คุณิตา เอเกน คุเณน อฏฺ โหนฺติ, ทุติเยน โสฬส, ตติเยน ทฺวตฺตึส, จตุตฺเถน จตุสฏฺีติ. เอวมิธ ปณีตชฺฌานวเสน จตุสฏฺิ กปฺปา คหิตาติ เวทิตพฺพา. ปฺจ กปฺปสตานีติ อิทํ ปณีตสฺเสว อุปปตฺติชฺฌานสฺส วเสน วุตฺตํ. เวหปฺผเลสุ วา ปมชฺฌานภูมิอาทีสุ วิย ติณฺณํ พฺรหฺมโลกานํ อภาวโต เอตฺตกเมว อายุปฺปมาณํ. ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.
๔. ทุติยนานากรณสุตฺตวณฺณนา
๑๒๔. จตุตฺเถ ¶ รูปเมว รูปคตํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อนิจฺจโตติอาทีสุ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจโต, อาพาธฏฺเน โรคโต, อนฺโต ปทุสฺสนฏฺเน คณฺฑโต, อนุปวิฏฺฏฺเน สลฺลโต, สทุกฺขฏฺเน อฆโต, สมฺปีฬนฏฺเน อาพาธโต, อวิเธยฺยฏฺเน ปรโต, ปลุชฺชนฏฺเน ปโลกโต, นิสฺสตฺตฏฺเน สฺุโต, อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตโต. เอตฺถ จ ‘‘อนิจฺจโต ปโลกโต’’ติ ¶ ทฺวีหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณํ กถิตํ, ‘‘สฺุโต อนตฺตโต’’ติ ทฺวีหิ อนตฺตลกฺขณํ, เสเสหิ ทุกฺขลกฺขณํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สมนุปสฺสตีติ าเณน ปสฺสติ. เอวํ ปฺจกฺขนฺเธ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ปสฺสนฺโต ตโย มคฺเค ตีณิ ผลานิ สจฺฉิกโรติ. สุทฺธาวาสานํ ¶ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติ ตตฺถ ิโต จตุตฺถชฺฌานํ ภาเวตฺวา อุปปชฺชติ.
๕-๖. เมตฺตาสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๑๒๕-๑๒๖. ปฺจเม ปมชฺฌานวเสน เมตฺตา, ทุติยาทิวเสน กรุณาทโย ทสฺสิตา. ฉฏฺํ จตุตฺเถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๗. ปมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๗. สตฺตเม ปาตุภาวาติ ปาตุภาเวน. กุจฺฉึ โอกฺกมตีติ เอตฺถ กุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหตีติ อตฺโถ. โอกฺกนฺเต หิ ตสฺมึ เอวํ โหติ, น โอกฺกมมาเน. อปฺปมาโณติ วุฑฺฒิปฺปมาโณ, วิปุโลติ อตฺโถ. อุฬาโรติ ตสฺเสว เววจนํ. เทวานํ เทวานุภาวนฺติ เอตฺถ เทวานํ อยมานุภาโว – นิวตฺถวตฺถสฺส ปภา ทฺวาทส โยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส, ตถา วิมานสฺส, ตํ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. โลกนฺตริกาติ ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตรา เอเกโก โลกนฺตริโก โหติ, ติณฺณํ สกฏจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อฺมฺํ อาหจฺจ ปิตานํ มชฺเฌ โอกาโส วิย. โส ปน โลกนฺตริกนิรโย ปริมาณโต อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ โหติ. อฆาติ ¶ นิจฺจวิวฏา. อสํวุตาติ เหฏฺาปิ อปฺปติฏฺา. อนฺธการาติ ตมภูตา. อนฺธการติมิสาติ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารณโต อนฺธภาวกรณติมิสาย สมนฺนาคตา. ตตฺถ กิร จกฺขุวิฺาณํ น ชายติ. เอวํมหิทฺธิกานนฺติ จนฺทิมสูริยา กิร เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ ปฺายนฺติ, เอวํมหิทฺธิกา. เอเกกาย ทิสาย ¶ นว นว โยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสนฺติ, เอวํมหานุภาวา. อาภา นานุโภนฺตีติ ปภา นปฺปโหนฺติ. เต กิร จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺเฌน จรนฺติ จกฺกวาฬปพฺพตฺจ อติกฺกมิตฺวา โลกนฺตรนิรยา. ตสฺมา เตสํ ตตฺถ อาภา นปฺปโหนฺติ.
เยปิ ตตฺถ สตฺตาติ เยปิ ตสฺมึ โลกนฺตรมหานิรเย สตฺตา อุปปนฺนา. กึ ปน กมฺมํ กตฺวา ¶ ตตฺถ อุปฺปชฺชนฺตีติ? ภาริยํ ทารุณํ มาตาปิตูนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺจ อุปริ อปราธํ, อฺฺจ ทิวเส ทิวเส ปาณวธาทิสาหสิกกมฺมํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ ตมฺพปณฺณิทีเป อภยโจรนาคโจราทโย วิย. เตสํ อตฺตภาโว ติคาวุติโก โหติ, วคฺคุลีนํ วิย ทีฆนขา โหนฺติ. เต รุกฺเข วคฺคุลิโย วิย นเขหิ จกฺกวาฬปพฺพตปาเท ลคฺคนฺติ. ยทา สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสคตา โหนฺติ, อถ ‘‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’’ติ มฺมานา ตตฺถ พฺยาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารกอุทเก ปตนฺติ, วาเต ปหรนฺเตปิ มธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ, ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเร อุทเก ปิฏฺปิณฺฑิ วิย วิลียนฺติ. อฺเปิ กิร โภ สนฺติ สตฺตาติ โภ ยถา มยํ มหาทุกฺขํ อนุภวาม, เอวํ อฺเปิ กิร สตฺตา อิทํ ทุกฺขํ อนุภวนตฺถาย อิธูปปนฺนาติ ตํทิวสํ ปสฺสนฺติ. อยํ ปน โอภาโส เอกยาคุปานมตฺตมฺปิ น ติฏฺติ. ยาวตา นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ อารมฺมณํ วิภาเวติ ¶ , ตตฺตกํ กาลํ โหติ. ทีฆภาณกา ปน ‘‘อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตเมว วิชฺชุโอภาโส วิย นิจฺฉริตฺวา กึ อิทนฺติ ภณนฺตานํเยว อนฺตรธายตี’’ติ วทนฺติ.
๘. ทุติยตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๘. อฏฺเม ตณฺหาทิฏฺีหิ อลฺลียิตพฺพฏฺเน อาลโยติ ปฺจ กามคุณา, สกลเมว วา วฏฺฏํ. อารมนฺติ เอตฺถาติ อาราโม, อาลโย อาราโม เอติสฺสาติ อาลยารามา. อาลเย รตาติ อาลยรตา ¶ . อาลเย สมฺมุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตา. อนาลเย ธมฺเมติ อาลยปฏิปกฺเข วิวฏฺฏูปนิสฺสิเต อริยธมฺเม. สุสฺสูสตีติ โสตุกาโม โหติ. โสตํ โอทหตีติ โสตํ เปติ. อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปตีติ อาชานนตฺถาย จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปติ. มาโนติ มฺนา, มฺิตพฺพฏฺเน วา สกลํ วฏฺฏเมว. มานวินเย ธมฺเมติ มานวินยธมฺเม. อุปสมปฏิปกฺโข อนุปสโม, อนุปสนฺตฏฺเน วา วฏฺฏเมว อนุปสโม นาม. โอปสมิเกติ อุปสมกเร วิวฏฺฏูปนิสฺสิเต. อวิชฺชาย คตา สมนฺนาคตาติ อวิชฺชาคตา. อวิชฺชณฺฑโกเสน ปริโยนทฺธตฺตา อณฺฑํ วิย ภูตาติ อณฺฑภูตา. สมนฺตโต โอนทฺธาติ ปริโยนทฺธา. อวิชฺชาวินเยติ อวิชฺชาวินโย วุจฺจติ อรหตฺตํ, ตํนิสฺสิเต ธมฺเม เทสิยมาเนติ อตฺโถ. อิติ ¶ อิมสฺมึ สุตฺเต จตูสุ าเนสุ วฏฺฏํ, จตูสุ วิวฏฺฏํ กถิตํ.
๙. อานนฺทอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา
๑๒๙. นวเม ¶ ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนายาติ เย ภควนฺตํ ปสฺสิตุกามา เถรํ อุปสงฺกมนฺติ, เย วา ‘‘อายสฺมา กิรานนฺโท สมนฺตปาสาทิโก อภิรูโป ทสฺสนีโย พหุสฺสุโต สงฺฆโสภโน’’ติ เถรสฺส คุเณ สุตฺวา อาคจฺฉนฺติ, เต สนฺธาย ‘‘ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมตี’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อตฺตมนาติ ‘‘สวเนน โน ทสฺสนํ สเมตี’’ติ สกมนา ตุฏฺจิตฺตา. ธมฺมนฺติ ‘‘กจฺจิ, อาวุโส, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โยนิโสมนสิการกมฺมํ กโรถ, อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ปูเรถา’’ติ เอวรูปํ ปฏิสนฺถารธมฺมํ. ตตฺถ ภิกฺขุนีสุ ‘‘กจฺจิ, ภคินิโย, อฏฺ ครุธมฺเม สมาทาย วตฺตถา’’ติ อิทมฺปิ นานากรณํ โหติ. อุปาสเกสุ ‘‘สฺวาคตํ, อุปาสก, น เต กิฺจิ สีสํ วา องฺคํ วา รุชฺชติ, อโรคา เต ปุตฺตภาตโร’’ติ น เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรติ, เอวํ ปน กโรติ – ‘‘กถํ, อุปาสกา, ตีณิ สรณานิ ปฺจ สีลานิ รกฺขถ, มาสสฺส อฏฺ อุโปสเถ กโรถ, มาตาปิตูนํ อุปฏฺานวตฺตํ ปูเรถ, ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ ปฏิชคฺคถา’’ติ. อุปาสิกาสุปิ เอเสว นโย.
๑๐. จกฺกวตฺติอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา
๑๓๐. ทสเม ขตฺติยปริสาติ อภิสิตฺตา อนภิสิตฺตา จ ขตฺติยา ¶ . เต หิ กิร ‘‘ราชา จกฺกวตฺตี นาม อภิรูโป ปาสาทิโก โหติ, อากาเสน ¶ วิจรนฺโต รชฺชํ อนุสาสติ, ธมฺมิโก ธมฺมราชา’’ติ ตสฺส คุณกถํ สุตฺวา สวเนน ทสฺสนมฺหิ สเมนฺเต อตฺตมนา โหนฺติ. ภาสตีติ ‘‘กถํ, ตาตา, ราชธมฺมํ ปูเรถ, ปเวณึ รกฺขถา’’ติ ปฏิสนฺถารํ กโรติ. พฺราหฺมเณสุ ปน ‘‘กถฺจ, อาจริยา, มนฺเต วาเจถ, อนฺเตวาสิกา มนฺเต คณฺหนฺติ, ทกฺขิณํ วา วตฺถานิ วา สีลํ วา ลภถา’’ติ เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรติ. คหปตีสุ ‘‘กถํ, ตาตา, น โว ราชกุลโต ทณฺเฑน วา พนฺธเนน วา ปีฬา อตฺถิ, สมฺมา เทโว ธารํ อนุปฺปเวจฺฉติ, สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺตี’’ติ เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรติ. สมเณสุ ‘‘กถํ, ภนฺเต, กจฺจิ ปพฺพชิตปริกฺขารา สุลภา, สมณธมฺเม นปฺปมชฺชถา’’ติ เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรตีติ.
ภยวคฺโค ตติโย.
(๑๔) ๔. ปุคฺคลวคฺโค
๑. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา
๑๓๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม อุปปตฺติปฏิลาภิยานีติ เยหิ อนนฺตรา อุปปตฺตึ ปฏิลภติ. ภวปฏิลาภิยานีติ อุปปตฺติภวสฺส ปฏิลาภาย ปจฺจยานิ. สกทาคามิสฺสาติ อิทํ อปฺปหีนสํโยชเนสุ อริเยสุ อุตฺตมโกฏิยา คหิตํ. ยสฺมา ปน อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส อนฺตรา อุปปตฺติ นตฺถิ, ยํ ปน โส ตตฺถ ฌานํ สมาปชฺชติ, ตํ ¶ กุสลตฺตา ‘‘อุปปตฺติภวสฺส ปจฺจโย’’ เตว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺมาสฺส ‘‘อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานี’’ติ วุตฺตํ. โอรมฺภาคิเยสุ จ อปฺปหีนํ อุปาทาย สกทาคามิสฺส อวิเสเสน ‘‘โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานี’’ติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
๒. ปฏิภานสุตฺตวณฺณนา
๑๓๒. ทุติเย ยุตฺตปฺปฏิภาโน โน มุตฺตปฺปฏิภาโนติ ปฺหํ กเถนฺโต ยุตฺตเมว กเถติ, สีฆํ ปน น กเถติ, สณิกเมว กเถตีติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สพฺพปทานิ เวทิตพฺพานิ.
๓. อุคฺฆฏิตฺูสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. ตติเย ¶ จตุนฺนมฺปิ ปุคฺคลานํ อิมินา สุตฺเตน วิเสโส เวทิตพฺโพ –
‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู, ยสฺส ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู. กตโม จ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู, ยสฺส ปุคฺคลสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู. กตโม จ ปุคฺคโล เนยฺโย, ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ¶ ปริปุจฺฉโต โยนิโสมนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เนยฺโย. กตโม จ ปุคฺคโล ปทปรโม, ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปทปรโม’’ติ (ปุ. ป. ๑๔๘-๑๕๑).
๔. อุฏฺานผลสุตฺตวณฺณนา
๑๓๔. จตุตฺเถ อุฏฺานวีริเยเนว ทิวสํ วีตินาเมตฺวา ตสฺส นิสฺสนฺทผลมตฺตํ กิฺจิเทว ลภิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปติ, ตํ ปน อุฏฺานํ อาคมฺม กิฺจิ ปฺุผลํ นปฺปฏิลภติ ¶ , อยํ อุฏฺานผลูปชีวี น กมฺมผลูปชีวี นาม. จาตุมหาราชิเก ปน เทเว อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ เทวา อุฏฺานวีริเยน วินา ปฺุผลสฺเสว อุปชีวนโต กมฺมผลูปชีวิโน น อุฏฺานผลูปชีวิโน นาม. ราชราชมหามตฺตาทโย อุฏฺานผลูปชีวิโน จ กมฺมผลูปชีวิโน จ. เนรยิกสตฺตา เนว อุฏฺานผลูปชีวิโน น กมฺมผลูปชีวิโน. อิมสฺมึ สุตฺเต ปฺุผลเมว กมฺมผลนฺติ อธิปฺเปตํ, ตฺจ เตสํ นตฺถิ.
๕. สาวชฺชสุตฺตวณฺณนา
๑๓๕. ปฺจเม ปโม อนฺธพาลปุถุชฺชโน, ทุติโย อนฺตรนฺตรา กุสลการโก โลกิยปุถุชฺชโน, ตติโย โสตาปนฺโน, สกทาคามิอนาคามิโนปิ ¶ เอเตเนว สงฺคหิตา. จตุตฺโถ ขีณาสโว. โส หิ เอกนฺเตเนว อนวชฺโช.
๖-๗. สีลสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓๖-๑๓๗. ฉฏฺเ ปโม โลกิยมหาชโน, ทุติโย สุกฺขวิปสฺสโก โสตาปนฺโน จ สกทาคามี จ, ตติโย อนาคามี. โส หิ ยสฺมา ตงฺขณิกมฺปิ อุปปตฺตินิมิตฺตกํ ฌานํ ปฏิลภติเยว, ตสฺมา สุกฺขวิปสฺสโกปิ สมาธิสฺมึ ปริปูรการีเยว. จตุตฺโถ ขีณาสโวเยว ¶ . โส หิ สพฺเพสํ สีลาทิปจฺจนีกานํ ปหีนตฺตา สพฺพตฺถ ปริปูรการี นาม. สตฺตเมปิ ฉฏฺเ วุตฺตนเยเนว ปุคฺคลปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
๘. นิกฏฺสุตฺตวณฺณนา
๑๓๘. อฏฺเม นิกฏฺกาโยติ นิคฺคตกาโย. อนิกฏฺจิตฺโตติ อนุปวิฏฺจิตฺโต. กาเยเนว คามโต นิกฺขนฺโต, จิตฺเตน อรฺเ วสนฺโตปิ คามเมว ปวิฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๙. ธมฺมกถิกสุตฺตวณฺณนา
๑๓๙. นวเม อสหิตนฺติ อตฺเถน อสํยุตฺตํ. น กุสลา โหตีติ น เฉกา โหติ. สหิตาสหิตสฺสาติ ¶ อตฺถนิสฺสิตสฺส วา อนิสฺสิตสฺส วา. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๐. วาทีสุตฺตวณฺณนา
๑๔๐. ทสเม อตฺถโต ปริยาทานํ คจฺฉตีติ อฏฺกถํ ปุจฺฉิโต ปริยาทานํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, กเถตุํ น สกฺโกติ. โน พฺยฺชนโตติ พฺยฺชนํ ปนสฺส ปวตฺตติ น ปริยาทิยติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ.
ปุคฺคลวคฺโค จตุตฺโถ.
(๑๕) ๕. อาภาวคฺโค
๑. อาภาสุตฺตวณฺณนา
๑๔๑. ปฺจมสฺส ¶ ¶ ปเม อาภาสนวเสน จนฺโทว จนฺทาภา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
๒-๕. ปภาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๔๒-๑๔๕. ทุติยาทีสุปิ ปภาสนวเสน จนฺโทว จนฺทปฺปภา. อาโลกนวเสน จนฺโทว จนฺทาโลโก. โอภาสนวเสน จนฺโทว จนฺโทภาโส. ปชฺโชตนวเสน จนฺโทว จนฺทปชฺโชโตติ. เอวํ สพฺพปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๖. ปมกาลสุตฺตวณฺณนา
๑๔๖. ฉฏฺเ กาลาติ ยุตฺตปฺปยุตฺตกาลา. กาเลน ธมฺมสฺสวนนฺติ ยุตฺตปฺปยุตฺตกาเล ธมฺมสฺสวนํ. ธมฺมสากจฺฉาติ ปฺหปุจฺฉนวิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตา สํสนฺทนกถา.
๗. ทุติยกาลสุตฺตวณฺณนา
๑๔๗. สตฺตเม กาลาติ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ธมฺมสฺสวนาทิวเสน ปวตฺตานํ กุสลธมฺมานํ เอตํ อธิวจนํ. เต ภาวิยนฺติ เจว อนุปริวตฺติยนฺติ จ. อาสวานํ ¶ ขยนฺติ อรหตฺตํ. อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว.
๙-๑๐. สุจริตสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๔๙-๑๕๐. นวเม ¶ สณฺหา วาจาติ มุทุกวาจา. มนฺตภาสาติ มนฺตสงฺขาตาย ปฺาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา กถิตกถา. ทสเม สีลสาโรติ สารสมฺปาปกํ สีลํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
อาภาวคฺโค ปฺจโม.
ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๔. จตุตฺถปณฺณาสกํ
(๑๖) ๑. อินฺทฺริยวคฺโค
๑. อินฺทฺริยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕๑. จตุตฺถสฺส ¶ ¶ ปเม สทฺธาธุเรน อินฺทฏฺํ กโรตีติ สทฺธินฺทฺริยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ทุติเย อสฺสทฺธิเย อกมฺปนฏฺเน สทฺธาพลํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตติเย อนวชฺชพลนฺติ นิทฺโทสพลํ. สงฺคหพลนฺติ สงฺคณฺหิตพฺพยุตฺตกานํ สงฺคณฺหนพลํ. จตุตฺถปฺจมานิ อุตฺตานาเนว.
๖. กปฺปสุตฺตวณฺณนา
๑๕๖. ฉฏฺเ สํวฏฺฏตีติ เอตฺถ ตโย สํวฏฺฏา อาโปสํวฏฺโฏ, เตโชสํวฏฺโฏ, วาโยสํวฏฺโฏติ. ติสฺโส สํวฏฺฏสีมา อาภสฺสรา, สุภกิณฺหา, เวหปฺผลาติ. ยทา กปฺโป เตเชน สํวฏฺฏติ, อาภสฺสรโต เหฏฺา อคฺคินา ฑยฺหติ. ยทา อาเปน สํวฏฺฏติ, สุภกิณฺหโต เหฏฺา อุทเกน วิลียติ. ยทา วาเตน ¶ สํวฏฺฏติ, เวหปฺผลโต เหฏฺา วาเตน วิทฺธํสติ. วิตฺถารโต ปน สทาปิ เอกํ พุทฺธกฺเขตฺตํ วินสฺสติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารกถา ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๓-๔๐๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
๗. โรคสุตฺตวณฺณนา
๑๕๗. สตฺตเม วิฆาตวาติ มหิจฺฉาปจฺจเยน วิฆาเตน ทุกฺเขน สมนฺนาคโต. อสนฺตุฏฺโติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ตีหิ สนฺโตเสหิ อสนฺตุฏฺโ. อนวฺปฺปฏิลาภายาติ ปเรหิ อนวชานนสฺส ปฏิลาภตฺถาย. ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภายาติ สุสงฺขตจตุปจฺจยสงฺขาตสฺส ลาภสกฺการสฺส ¶ เจว วณฺณภณนสงฺขาตสฺส สิโลกสฺส จ ปฏิลาภตฺถาย. สงฺขาย กุลานิ อุปสงฺกมตีติ ‘‘อิติ มํ เอเต ชานิสฺสนฺตี’’ติ ชานนตฺถาย กุลานิ อุปสงฺกมติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
๘. ปริหานิสุตฺตวณฺณนา
๑๕๘. อฏฺเม ¶ คมฺภีเรสูติ อตฺถคมฺภีเรสุ. านาาเนสูติ การณาการเณสุ. น กมตีติ นาวคาหติ นปฺปวตฺตติ. ปฺาจกฺขูติ เอตฺถ อุคฺคหปริปุจฺฉาปฺาปิ วฏฺฏติ, สมฺมสนปฺปฏิเวธปฺาปิ วฏฺฏติเยว.
๙. ภิกฺขุนีสุตฺตวณฺณนา
๑๕๙. นวเม เอหิ ตฺวนฺติ เถเร ปฏิพทฺธจิตฺตา ตํ ปหิณิตุํ เอวมาห. สสีสํ ปารุปิตฺวาติ สห สีเสน กายํ ปารุปิตฺวา. มฺจเก นิปชฺชีติ เวเคน มฺจกํ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ นิปชฺชิ. เอตทโวจาติ ¶ ตสฺสาการํ สลฺลกฺเขตฺวา โลภปฺปหานตฺถาย สณฺเหเนว อสุภกถํ กเถตุํ เอตํ อโวจ. อาหารสมฺภูโตติ อาหาเรน สมฺภูโต อาหารํ นิสฺสาย วฑฺฒิโต. อาหารํ นิสฺสาย อาหารํ ปชหตีติ ปจฺจุปฺปนฺนํ กพฬีการาหารํ นิสฺสาย ตํ เอวํ โยนิโส เสวมาโน ปุพฺพกมฺมสงฺขาตํ อาหารํ ปชหติ. ปจฺจุปฺปนฺเนปิ ปน กพฬีการาหาเร นิกนฺติตณฺหา ปชหิตพฺพา.
ตณฺหํ ปชหตีติ อิทานิ เอวํ ปวตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนตณฺหํ นิสฺสาย วฏฺฏมูลิกํ ปุพฺพตณฺหํ ปชหติ. อยํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนตณฺหา กุสลา อกุสลาติ? อกุสลา. เสวิตพฺพา น เสวิตพฺพาติ? เสวิตพฺพา. ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ นากฑฺฒตีติ? นากฑฺฒติ. เอติสฺสาปิ ปน ปจฺจุปฺปนฺนาย เสวิตพฺพตณฺหาย นิกนฺติ ปชหิตพฺพาเยว. โส หิ นาม อายสฺมา อาสวานํ ขยา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ, กิมงฺคํ ปนาหนฺติ เอตฺถ กิมงฺคํ ปนาติ การณปริวิตกฺกนเมตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โส อายสฺมา อรหตฺตผลํ สจฺฉิกตฺวา วิหริสฺสติ, อหํ เกน การเณน น สจฺฉิกตฺวา วิหริสฺสามิ. โสปิ หิ อายสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺเสว ปุตฺโต, อหมฺปิ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺเสว ปุตฺโต, มยฺหมฺเปตํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ. มานํ นิสฺสายาติ อิทํ เอวํ อุปฺปนฺนเสวิตพฺพมานํ ¶ นิสฺสาย. มานํ ¶ ปชหตีติ วฏฺฏมูลกํ ปุพฺพมานํ ปชหติ. ยํ นิสฺสาย ปเนส ตํ ปชหติ, โสปิ ตณฺหา วิย อกุสโล เจว เสวิตพฺโพ จ, โน จ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ. นิกนฺติ ปน ตสฺมิมฺปิ ปชหิตพฺพาว.
เสตุฆาโต ¶ วุตฺโต ภควตาติ ปทฆาโต ปจฺจยฆาโต พุทฺเธน ภควตา กถิโต. อิติ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ เถเร เทสนํ วินิวฏฺเฏนฺเต ตสฺสา ภิกฺขุนิยา เถรํ อารพฺภ อุปฺปนฺโน ฉนฺทราโค อปคฺฉิ. สาปิ เถรํ ขมาเปตุํ อจฺจยํ เทเสสิ, เถโรปิสฺสา ปฏิคฺคณฺหิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข สา ภิกฺขุนีติอาทิ วุตฺตํ.
๑๐. สุคตวินยสุตฺตวณฺณนา
๑๖๐. ทสเม ทุคฺคหิตนฺติ อุปฺปฏิปาฏิยา คหิตํ. ปริยาปุณนฺตีติ วฬฺเชนฺติ กเถนฺติ. ปทพฺยฺชเนหีติ เอตฺถ ปทเมว อตฺถสฺส พฺยฺชนโต พฺยฺชนนฺติ วุตฺตํ. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺสาติ ทุฏฺุ นิกฺขิตฺตสฺส อุปฺปฏิปาฏิยา ปิตสฺส. อตฺโถปิ ทุนฺนโย โหตีติ อฏฺกถา นีหริตฺวา กเถตุํ น สกฺกา โหติ. ฉินฺนมูลโกติ มูลภูตานํ ภิกฺขูนํ อุปจฺฉินฺนตฺตา ฉินฺนมูลโก. อปฺปฏิสรโณติ อปฺปติฏฺโ. พาหุลิกาติ ปจฺจยพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา. สาถลิกาติ ติสฺโส สิกฺขา สิถิลคฺคหเณน คณฺหนกา. โอกฺกมเน ¶ ปุพฺพงฺคมาติ ปฺจ นีวรณานิ อวคมนโต โอกฺกมนนฺติ วุจฺจนฺติ, ตตฺถ ปุพฺพงฺคมาติ อตฺโถ. ปวิเวเกติ ติวิเธ วิเวเก. นิกฺขิตฺตธุราติ นิพฺพีริยา. อิมินา นเยน ปน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อินฺทฺริยวคฺโค ปโม.
(๑๗) ๒. ปฏิปทาวคฺโค
๑. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๖๑. ทุติยสฺส ¶ ปเม สุขปฏิกฺเขเปน ทุกฺขา ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปฏิปทา เอติสฺสาติ ทุกฺขาปฏิปทา. อสีฆปฺปวตฺติตาย ครุภาเวน ทนฺธา อภิฺา เอติสฺสาติ ทนฺธาภิฺา. อิมินาว นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๒. วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา
๑๖๒. ทุติเย ¶ อภิกฺขณนฺติ อภิณฺหํ. อานนฺตริยนฺติ อนนฺตรวิปากทายกํ มคฺคสมาธึ. อาสวานํ ขยายาติ อรหตฺตผลตฺถาย. ปฺจินฺทฺริยานีติ วิปสฺสนาปฺจมกานิ ปฺจินฺทฺริยานิ. ปฺินฺทฺริยนฺติ หิ เอตฺถ วิปสฺสนาปฺาว ปฺินฺทฺริยนฺติ อธิปฺเปตํ. เสสเมตฺถ ปาฬิวเสน อุตฺตานเมว.
อิมาสํ ปน ปฏิปทานํ อยํ อาวิภาวกถา – อิธ ภิกฺขุ ปุพฺเพ อกตาภินิเวโส ปุพฺพภาเค รูปปริคฺคเห กิลมติ, อรูปปริคฺคเห กิลมติ, ปจฺจยปริคฺคเห กิลมติ, ตีสุ อทฺธาสุ กิลมติ, มคฺคามคฺเค กิลมติ. เอวํ ปฺจสุ ¶ าเนสุ กิลมนฺโต วิปสฺสนํ ปาปุณาติ. วิปสฺสนํ ปตฺวาปิ อุทยพฺพยานุปสฺสเน, ภงฺคานุปสฺสเน, ภยตุปฏฺาเน, อาทีนวานุปสฺสเน, นิพฺพิทานุปสฺสเน, มุจฺจิตุกมฺยตาาเณ, สงฺขารุเปกฺขาาเณ, อนุโลมาเณ, โคตฺรภุาเณติ อิเมสุ นวสุ วิปสฺสนาาเณสุปิ กิลมิตฺวาว โลกุตฺตรมคฺคํ ปาปุณาติ. ตสฺส โส โลกุตฺตรมคฺโค เอวํ ทุกฺเขน ครุภาเวน สจฺฉิกตตฺตา ทุกฺขปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ นาม ชาโต. โย ปน ปุพฺพภาเค ปฺจสุ าเณสุ กิลมนฺโต อปรภาเค นวสุ วิปสฺสนาาเณสุ อกิลมิตฺวาว มคฺคํ สจฺฉิกโรติ, ตสฺส โส มคฺโค เอวํ ทุกฺเขน อครุภาเวน สจฺฉิกตตฺตา ทุกฺขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ นาม ชาโต. อิมินา อุปาเยน อิตราปิ ทฺเว เวทิตพฺพา.
โคณปริเยสกอุปมาหิ ¶ เจตา วิภาเวตพฺพา – เอกสฺส หิ ปุริสสฺส จตฺตาโร โคณา ปลายิตฺวา อฏวึ ปวิฏฺา. โส สกณฺฏเก สคหเน วเน เต ปริเยสนฺโต คหนมคฺเคเนว กิจฺเฉน กสิเรน คนฺตฺวา คหนฏฺาเนเยว นิลีเน โคเณปิ กิจฺเฉน กสิเรน อทฺทส. เอโก กิจฺเฉน คนฺตฺวา อพฺโภกาเส ิเต ขิปฺปเมว อทฺทส. อปโร อพฺโภกาสมคฺเคน สุเขน คนฺตฺวา คหนฏฺาเน นิลีเน กิจฺเฉน กสิเรน อทฺทส. อปโร อพฺโภกาสมคฺเคเนว สุเขน คนฺตฺวา อพฺโภกาเส ิเตเยว ขิปฺปํ อทฺทส. ตตฺถ จตฺตาโร โคณา วิย จตฺตาโร อริยมคฺคา ทฏฺพฺพา, โคณปริเยสโก ปุริโส วิย โยคาวจโร, คหนมคฺเคน กิจฺเฉน กสิเรน ¶ คมนํ วิย ปุพฺพภาเค ปฺจสุ าเณสุ กิลมโต ทุกฺขาปฏิปทา. คหนฏฺาเน นิลีนานํ กิจฺเฉเนว ทสฺสนํ วิย อปรภาเค นวสุ าเณสุ กิลมนฺตสฺส ¶ อริยมคฺคานํ ทสฺสนํ. อิมินา อุปาเยน เสสอุปมาปิ โยเชตพฺพา.
๓. อสุภสุตฺตวณฺณนา
๑๖๓. ตติเย อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรตีติ อตฺตโน กรชกาเย ‘‘ยถา เอตํ, ตถา อิท’’นฺติ อิมินา นเยน พหิทฺธา ทิฏฺานํ ทสนฺนํ อสุภานํ อุปสํหรณวเสน อสุภานุปสฺสี วิหรติ, อตฺตโน กายํ อสุภโต ปฏิกูลโต าเณน ปสฺสตีติ อตฺโถ. อาหาเร ปฏิกูลสฺีติ นวนฺนํ ปาฏิกุลฺยานํ วเสน กพฬีการาหาเร ปฏิกูลสฺี. สพฺพโลเก อนภิรติสฺีติ สพฺพสฺมิมฺปิ เตธาตุเก โลกสนฺนิวาเส อนภิรตาย อุกฺกณฺิตสฺาย สมนฺนาคโต. สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสีติ สพฺเพปิ เตภูมกสงฺขาเร อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต. มรณสฺาติ มรณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนสฺา. อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตา โหตีติ นิยกชฺฌตฺเต สุฏฺุ อุปฏฺิตา โหติ. เอตฺตาวตา พลววิปสฺสนา กถิตา. เสขพลานีติ สิกฺขนกานํ พลานิ. เสสเมตฺถ ปาฬิวเสน อุตฺตานเมว. ‘‘อสุภานุปสฺสี’’ติอาทีนิ ปน ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, ปมชฺฌานาทีนิ สุขาย. อสุภาทีนิ หิ ปฏิกูลารมฺมณานิ, เตสุ ปน ปกติยาว สมฺปิยายมานํ จิตฺตํ อลฺลียติ. ตสฺมา ตานิ ภาเวนฺโต ทุกฺขปฏิปทํ ปฏิปนฺโน นาม โหติ. ปมชฺฌานาทีนิ ปณีตสุขานิ ¶ , ตสฺมา ตานิ ปฏิปนฺโน สุขปฏิปทํ ปฏิปนฺโน นาม โหติ.
อยํ ปเนตฺถ สพฺพสาธารณา อุปมา – สงฺคามาวจรปุริโส หิ ผลกโกฏฺกํ กตฺวา ปฺจาวุธานิ ¶ สนฺนยฺหิตฺวา สงฺคามํ ปวิสติ, โส อนฺตรา วิสฺสมิตุกาโม ผลกโกฏฺกํ ปวิสิตฺวา วิสฺสมติ เจว ปานโภชนาทีนิ จ ปฏิเสวติ. ตโต ปุน สงฺคามํ ปวิสิตฺวา กมฺมํ กโรติ. ตตฺถ สงฺคาโม วิย กิเลสสงฺคาโม ทฏฺพฺโพ, ผลกโกฏฺโก วิย ปฺจนิสฺสยพลานิ, สงฺคามปวิสนปุริโส วิย โยคาวจโร, ปฺจาวุธสนฺนาโห วิย วิปสฺสนาปฺจมานิ อินฺทฺริยานิ, สงฺคามํ ปวิสนกาโล วิย วิปสฺสนาย กมฺมกรณกาโล, วิสฺสมิตุกามสฺส ผลกโกฏฺกํ ปวิสิตฺวา วิสฺสมนปานโภชนานิ ปฏิเสวนกาโล วิย ¶ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส นิรสฺสาทกฺขเณ ปฺจ พลานิ นิสฺสาย จิตฺตํ สมฺปหํสนกาโล, วิสฺสมิตฺวา ขาทิตฺวา ปิวิตฺวา จ ปุน สงฺคามสฺส ปวิสนกาโล วิย ปฺจหิ พเลหิ จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา ปุน วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตสฺส วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตคฺคหณกาโล เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต พลานิ เจว อินฺทฺริยานิ จ มิสฺสกาเนว กถิตานีติ.
๔. ปมขมสุตฺตวณฺณนา
๑๖๔. จตุตฺเถ อกฺขมาติ อนธิวาสิกปฏิปทา. ขมาติ อธิวาสิกปฏิปทา. ทมาติ อินฺทฺริยทมนปฏิปทา. สมาติ อกุสลวิตกฺกานํ วูปสมนปฏิปทา. โรสนฺตํ ปฏิโรสตีติ ฆฏฺเฏนฺตํ ปฏิฆฏฺเฏติ. ภณฺฑนฺตํ ¶ ปฏิภณฺฑตีติ ปหรนฺตํ ปฏิปหรติ. ปฺจมฉฏฺานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๗. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๑๖๗. สตฺตเม มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส เหฏฺิมา ตโย มคฺคา สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา อเหสุํ, อรหตฺตมคฺโค ทุกฺขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ขิปฺปาภิฺา, อิมํ เม ปฏิปทํ อาคมฺม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ.
๘. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๖๘. อฏฺเม ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส เหฏฺิมา ตโย มคฺคา สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, อรหตฺตมคฺโค ¶ สุขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ. ตสฺมา ‘‘ยายํ ปฏิปทา สุขา ขิปฺปาภิฺา’’ติ อาห. อิเมสุ ปน ทฺวีสุปิ สุตฺเตสุ มิสฺสิกาว ปฏิปทา กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๙. สสงฺขารสุตฺตวณฺณนา
๑๖๙. นวเม ปมทุติยปุคฺคลา สุกฺขวิปสฺสกา สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน สงฺขารนิมิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ. เตสุ เอโก วิปสฺสนินฺทฺริยานํ พลวตฺตา อิเธว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ, เอโก อินฺทฺริยานํ ทุพฺพลตาย ¶ อิธ อสกฺโกนฺโต อนนฺตเร อตฺตภาเว ตเทว มูลกมฺมฏฺานํ ปฏิลภิตฺวา สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน สงฺขารนิมิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ, ตติยจตุตฺถา สมถยานิกา. เตสํ เอโก อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อินฺทฺริยานํ พลวตฺตา อิเธว กิเลเส เขเปติ, เอโก อินฺทฺริยานํ ทุพฺพลตฺตา อิธ อสกฺโกนฺโต อนนฺตเร อตฺตภาเว ตเทว มูลกมฺมฏฺานํ ปฏิลภิตฺวา อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน กิเลเส เขเปตีติ เวทิตพฺโพ.
๑๐. ยุคนทฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๗๐. ทสเม สมถปุพฺพงฺคมนฺติ สมถํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา. มคฺโค สฺชายตีติ ปโม โลกุตฺตรมคฺโค นิพฺพตฺตติ. โส ¶ ตํ มคฺคนฺติ เอกจิตฺตกฺขณิกมคฺคสฺส อาเสวนาทีนิ นาม นตฺถิ, ทุติยมคฺคาทโย ปน อุปฺปาเทนฺโต ตเมว อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตีติ วุจฺจติ. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมนฺติ วิปสฺสนํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา สมถํ ภาเวติ, ปกติยา วิปสฺสนาลาภี วิปสฺสนาย ตฺวา สมาธึ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ.
ยุคนทฺธํ ภาเวตีติ ยุคนทฺธํ กตฺวา ภาเวติ. ตตฺถ เตเนว จิตฺเตน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา เตเนว สงฺขาเร สมฺมสิตุํ น สกฺกา. อยํ ปน ยาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ, ตาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ. ยาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ, ตาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ. กถํ? ปมชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ, สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ทุติยชฺฌานํ สมาปชฺชติ. ตโต วุฏฺาย ปุน สงฺขาเร สมฺมสติ. สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ¶ ตติยชฺฌานํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. เอวมยํ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวติ นาม.
ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตนฺติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ ทสวิปสฺสนุปกฺกิเลสสงฺขาเตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตํ, สุคฺคหิตนฺติ อตฺโถ. โส, อาวุโส, สมโยติ อิมินา สตฺตนฺนํ สปฺปายานํ ปฏิลาภกาโล กถิโต. ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยสฺมึ สมเย ตํ วิปสฺสนาวีถึ โอกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ จิตฺตํ. อชฺฌตฺตเมว ¶ สนฺติฏฺตีติ วิปสฺสนาวีถึ ปจฺโจตฺถริตฺวา ¶ ตสฺมึเยว โคจรชฺฌตฺตสงฺขาเต อารมฺมเณ สนฺติฏฺติ. สนฺนิสีทตีติ อารมฺมณวเสน สมฺมา นิสีทติ. เอโกทิ โหตีติ เอกคฺคํ โหติ. สมาธิยตีติ สมฺมา อาธิยติ สุฏฺปิตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
ปฏิปทาวคฺโค ทุติโย.
(๑๘) ๓. สฺเจตนิยวคฺโค
๑. เจตนาสุตฺตวณฺณนา
๑๗๑. ตติยสฺส ¶ ปเม กาเยติ กายทฺวาเร, กายวิฺตฺติยา สตีติ อตฺโถ. กายสฺเจตนาเหตูติอาทีสุ กายสฺเจตนา นาม กายทฺวาเร เจตนา ปกปฺปนา. สา อฏฺ กามาวจรกุสลวเสน อฏฺวิธา, อกุสลวเสน ทฺวาทสวิธาติ วีสติวิธา. ตถา วจีสฺเจตนา, ตถา มโนสฺเจตนา. อปิเจตฺถ นว มหคฺคตเจตนาปิ ลพฺภนฺติ. กายสฺเจตนาเหตูติ กายสฺเจตนาปจฺจยา. อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขนฺติ อฏฺกุสลกมฺมปจฺจยา นิยกชฺฌตฺเต สุขํ อุปฺปชฺชติ, ทฺวาทสอกุสลกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. อวิชฺชาปจฺจยาวาติ อวิชฺชาการเณเนว. สเจ หิ อวิชฺชา ฉาทยมานา ปจฺจโย โหติ, เอวํ สนฺเต ตีสุ ทฺวาเรสุ สุขทุกฺขานํ ปจฺจยภูตา เจตนา อุปฺปชฺชติ. อิติ มูลภูตาย อวิชฺชาย วเสเนตํ วุตฺตํ.
สามํ วาติอาทีสุ ปเรหิ อนาณตฺโต สยเมว อภิสงฺขโรนฺโต ¶ สามํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ นาม. ยํ ปน ปเร สมาทเปตฺวา อาณาเปตฺวา กาเรนฺติ, ตสฺส ตํ กายสงฺขารํ ปเร อภิสงฺขโรนฺติ นาม. โย ปน กุสลํ กุสลนฺติ อกุสลํ อกุสลนฺติ กุสลวิปากํ กุสลวิปาโกติ อกุสลวิปากํ อกุสลวิปาโกติ ชานนฺโต กายทฺวาเร วีสติวิธํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อยํ สมฺปชาโน อภิสงฺขโรติ นาม. โย เอวํ อชานนฺโต อภิสงฺขโรติ, อยํ อสมฺปชาโน อภิสงฺขโรติ นาม. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ¶ อสมฺปชานกมฺมํ เอวํ เวทิตพฺพํ – ทหรทารกา ‘‘มาตาปิตูหิ กตํ กโรมา’’ติ เจติยํ วนฺทนฺติ, ปุปฺผปูชํ กโรนฺติ, ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทนฺติ, เตสํ กุสลนฺติ อชานนฺตานมฺปิ ตํ กุสลเมว โหติ. ตถา มิคปกฺขิอาทโย ติรจฺฉานา ธมฺมํ สุณนฺติ, สงฺฆํ วนฺทนฺติ, เจติยํ วนฺทนฺติ, เตสํ ชานนฺตานมฺปิ อชานนฺตานมฺปิ ตํ กุสลเมว โหติ. ทหรทารกา ปน มาตาปิตโร หตฺถปาเทหิ ปหรนฺติ, ภิกฺขูนํ ตลสตฺติกํ อุคฺคิรนฺติ, ทณฺฑํ ขิปนฺติ, อกฺโกสนฺติ ¶ . คาวิโย ภิกฺขุสงฺฆํ อนุพนฺธนฺติ, สุนขา อนุพนฺธนฺติ, ฑํสนฺติ, สีหพฺยคฺฆาทโย อนุพนฺธนฺติ, ชีวิตา โวโรเปนฺติ. เตสํ ชานนฺตานมฺปิ อชานนฺตานมฺปิ อกุสลกมฺมํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ อายูหนเจตนา สโมธาเนตพฺพา. เสยฺยถิทํ – กายทฺวาเร สยํกตมูลิกา วีสติ เจตนา, อาณตฺติมูลิกา วีสติ, สมฺปชานมูลิกา วีสติ, อสมฺปชานมูลิกา วีสตีติ อสีติ เจตนา โหนฺติ, ตถา วจีทฺวาเร. มโนทฺวาเร ¶ ปน เอเกกสฺมิมฺปิ วิกปฺเป เอกูนตึส กตฺวา สตฺจ โสฬส จ โหนฺติ. อิติ สพฺพาปิ ตีสุ ทฺวาเรสุ ทฺเว สตานิ ฉสตฺตติ จ เจตนา. ตา สพฺพาปิ สงฺขารกฺขนฺโธเตว สงฺขํ คจฺฉนฺติ, ตํสมฺปยุตฺโต เวทยิตากาโร เวทนากฺขนฺโธ, สฺชานนากาโร สฺากฺขนฺโธ, จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ, กาโย อุปาทารูปํ, ตสฺส ปจฺจยา จตสฺโส ธาตุโย จตฺตาริ ภูตานีติ อิเม ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ นาม.
อิเมสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อวิชฺชา อนุปติตาติ อิเมสุ วุตฺตปฺปเภเทสุ เจตนาธมฺเมสุ อวิชฺชา สหชาตวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จ อนุปติตา. เอวํ วฏฺฏฺเจว วฏฺฏมูลิกา จ อวิชฺชา ทสฺสิตา โหติ.
เอตฺตาวตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส อิทานิ ถุตึ กโรนฺโต อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธาติอาทิมาห. ตตฺถ อเสสวิราคนิโรธาติ อเสสวิราเคน เจว อเสสนิโรเธน จ. โส กาโย น โหตีติ ขีณาสวสฺส กาเยน กรณกมฺมํ ปฺายติ, เจติยงฺคณสมฺมชฺชนํ โพธิยงฺคณสมฺมชฺชนํ อภิกฺกมนํ ปฏิกฺกมนํ วตฺตานุวตฺตกรณนฺติ เอวมาทิ. กายทฺวาเร ปนสฺส วีสติ เจตนา อวิปากธมฺมตํ ¶ อาปชฺชนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส กาโย น โหติ, ยํ ปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺข’’นฺติ. กายทฺวารปฺปวตฺตา หิ เจตนา อิธ กาโยติ อธิปฺเปตา. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. เขตฺตนฺติอาทีนิปิ ¶ กุสลากุสลกมฺมสฺเสว นามานิ. ตฺหิ วิปากสฺส วิรุหนฏฺานฏฺเน เขตฺตํ, ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ, การณฏฺเน อายตนํ, อธิกรณฏฺเน อธิกรณนฺติ วุจฺจติ.
อิติ สตฺถา เอตฺตเกน าเนน ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหิตกมฺมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส กมฺมสฺส ¶ วิปจฺจนฏฺานํ ทสฺเสตุํ จตฺตาโรเม ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตภาวปฺปฏิลาภาติ ปฏิลทฺธอตฺตภาวา. อตฺตสฺเจตนา กมตีติ อตฺตนา ปกปฺปิตเจตนา วหติ ปวตฺตติ.
อตฺตสฺเจตนาเหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหตีติอาทีสุ ขิฑฺฑาปโทสิกา เทวา อตฺตสฺเจตนาเหตุ จวนฺติ. เตสฺหิ นนฺทนวนจิตฺตลตาวนผารุสกวนาทีสุ ทิพฺพรติสมปฺปิตานํ กีฬนฺตานํ ปานโภชเน สติ สมฺมุสฺสติ, เต อาหารุปจฺเฉเทน อาตเป ขิตฺตมาลา วิย มิลายนฺติ. มโนปโทสิกา เทวา ปรสฺเจตนาเหตุ จวนฺติ, เอเต จาตุมหาราชิกา เทวา. เตสุ กิร เอโก เทวปุตฺโต ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามี’’ติ สปริวาโร รเถน วีถึ ปฏิปชฺชติ. อถฺโ นิกฺขมนฺโต ตํ ปุรโต คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กึ, โภ, อยํ กปโณ อทิฏฺปุพฺพํ วิย เอตํ ทิสฺวา ปีติยา อุทฺธุมาโต วิย คชฺชมาโน วิย จ คจฺฉตี’’ติ กุชฺฌติ. ปุรโต คจฺฉนฺโตปิ นิวตฺติตฺวา ตํ กุทฺธํ ทิสฺวา กุทฺธา นาม สุวิชานา โหนฺตีติ กุทฺธภาวมสฺส ตฺวา ‘‘ตฺวํ กุทฺโธ ¶ มยฺหํ กึ กริสฺสสิ, อยํ สมฺปตฺติ มยา ทานสีลาทีนํ วเสน ลทฺธา, น ตุยฺหํ วเสนา’’ติ ปฏิกุชฺฌติ. เอกสฺมิฺหิ กุทฺเธ อิตโร อกุทฺโธ รกฺขติ, อุโภสุ ปน กุทฺเธสุ เอกสฺส โกโธ อิตรสฺส ปจฺจโย โหติ, ตสฺสปิ โกโธ อิตรสฺส ปจฺจโย โหตีติ อุโภ กนฺทนฺตานํเยว โอโรธานํ จวนฺติ. มนุสฺสา อตฺตสฺเจตนา จ ปรสฺเจตนา จ เหตุ จวนฺติ, อตฺตสฺเจตนาย จ ปรสฺเจตนาย จ เหตุภูตาย จวนฺตีติ อตฺโถ. มนุสฺสา หิ กุชฺฌิตฺวา อตฺตนาว อตฺตานํ หตฺเถหิปิ ทณฺเฑหิปิ ปหรนฺติ, รชฺชุพนฺธนาทีหิปิ พนฺธนฺติ, อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺติ, วิสมฺปิ ขาทนฺติ, ปปาเตปิ ปตนฺติ, อุทกมฺปิ ปวิสนฺติ, อคฺคิมฺปิ ปวิสนฺติ, ปเรปิ ทณฺเฑน วา สตฺถเน วา ปหริตฺวา มาเรนฺติ. เอวํ เตสุ อตฺตสฺเจตนาปิ ปรสฺเจตนาปิ กมติ.
กตเม ¶ เตน เทวา ทฏฺพฺพาติ กตเม นาม เต เทวา ทฏฺพฺพาติ อตฺโถ. เตน วา อตฺตภาเวน กตเม เทวา ทฏฺพฺพาติปิ อตฺโถ. กสฺมา ปน เถโร อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, กึ อตฺตนา กเถตุํ นปฺปโหตีติ? ปโหติ, อิทํ ปน ปทํ อตฺตโน สภาเวน พุทฺธวิสยํ ปฺหนฺติ เถโร น กเถสิ. เตน ทฏฺพฺพาติ เตน อตฺตภาเวน ทฏฺพฺพา. อยํ ปน ปฺโห เหฏฺา กามาวจเรปิ รูปาวจเรปิ ลพฺภติ, ภวคฺเคน ปน ปริจฺฉินฺทิตฺวา กถิโต นิปฺปเทเสน กถิโต โหตีติ ภควตา เอวํ กถิโต.
อาคนฺตาโร ¶ อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถภาวํ กามาวจรปฺจกฺขนฺธภาวเมว ¶ อาคนฺตาโร, เนว ตตฺรูปปตฺติกา น อุปรูปปตฺติกา โหนฺติ. อนาคนฺตาโร อิตฺถตฺตนฺติ อิมํ ขนฺธปฺจกํ อนาคนฺตาโร, เหฏฺูปปตฺติกา น โหนฺติ, ตตฺรูปปตฺติกา วา อุปรูปปตฺติกา วา ตตฺเถว วา ปรินิพฺพายิโน โหนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เหฏฺิมภเว นิพฺพตฺตานํ วเสน อุปรูปปตฺติกา เวทิตพฺพา. ภวคฺเค ปเนตํ นตฺถิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๒. วิภตฺติสุตฺตวณฺณนา
๑๗๒. ทุติเย อตฺถปฏิสมฺภิทาติ ปฺจสุ อตฺเถสุ ปเภทคตํ าณํ. โอธิโสติ การณโส. พฺยฺชนโสติ อกฺขรโส. อเนกปริยาเยนาติ อเนเกหิ การเณหิ. อาจิกฺขามีติ กเถมิ. เทเสมีติ ปากฏํ กตฺวา กเถมิ. ปฺาเปมีติ ชานาเปมิ. ปฏฺเปมีติ ปฏฺเปตฺวา ปวตฺเตตฺวา กเถมิ. วิวรามีติ วิวฏํ กตฺวา กเถมิ. วิภชามีติ วิภชิตฺวา กเถมิ. อุตฺตานีกโรมีติ คมฺภีรํ อุตฺตานกํ กตฺวา กเถมิ. โส มํ ปฺเหนาติ โส มํ ปฺเหน อุปคจฺฉตุ. อหํ เวยฺยากรเณนาติ อหมสฺส ปฺหกถเนน จิตฺตํ อาราเธสฺสามิ. โย โน ธมฺมานํ สุกุสโลติ โย อมฺหากํ อธิคตธมฺมานํ ¶ สุกุสโล สตฺถา, โส เอส สมฺมุขีภูโต. ยทิ มยา อตฺถปฏิสมฺภิทา น สจฺฉิกตา, ‘‘สจฺฉิกโรหิ ตาว สาริปุตฺตา’’ติ วตฺวา มํ ปฏิพาหิสฺสตีติ สตฺถุ ปุรโต นิสินฺนโกว สีหนาทํ นทติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมาสุ จ ปน ปฏิสมฺภิทาสุ ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา โลกิยา, อตฺถปฏิสมฺภิทา โลกิยโลกุตฺตราติ.
๓. มหาโกฏฺิกสุตฺตวณฺณนา
๑๗๓. ตติเย ¶ ผสฺสายตนานนฺติ ผสฺสากรานํ, ผสฺสสฺส อุปฺปตฺติฏฺานานนฺติ อตฺโถ. อตฺถฺํ กิฺจีติ เอเตสุ อเสสโต นิรุทฺเธสุ ตโต ปรํ โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส อตฺถีติ ปุจฺฉติ. นตฺถฺํ กิฺจีติ อิธาปิ ‘‘อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส นตฺถี’’ติ ปุจฺฉติ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิเม ปน จตฺตาโรปิ ปฺเห สสฺสตุจฺเฉทเอกจฺจสสฺสตอมราวิกฺเขปวเสน ปุจฺฉติ. เตนสฺส เถโร ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ ปฏิพาหนฺโต มา เหวนฺติ อาห. เอตฺถ หิอิติ นิปาตมตฺตํ, เอวํ มา ภณีติ อตฺโถ. อตฺตูปลทฺธิวเสเนว ‘‘อตฺถฺํ กิฺจิ อฺโ ¶ โกจิ อตฺตา นาม อตฺถี’’ติ สสฺสตาทิอากาเรน ปุจฺฉติ. กึ ปเนส อตฺตูปลทฺธิโกติ? น อตฺตูปลทฺธิโก. เอวํลทฺธิโก ปน ตตฺเถโก ภิกฺขุ นิสินฺโน, โส ปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. ตสฺส ลทฺธึ วิสฺสชฺชาปนตฺถํ เอวํ ปุจฺฉติ. เยปิ จ อนาคเต เอวํลทฺธิกา ภวิสฺสนฺติ, เตสํ ‘‘พุทฺธกาเลเปโส ปฺโห มหาสาวเกหิ วิสฺสชฺชิโต’’ติ วจโนกาสุปจฺเฉทนตฺถํ ปุจฺฉติเยว.
อปฺปปฺจํ ¶ ปปฺเจตีติ น ปปฺเจตพฺพฏฺาเน ปปฺจํ กโรติ, อนาจริตพฺพํ มคฺคํ จรติ. ตาวตา ปปฺจสฺส คตีติ ยตฺตกา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ, ตตฺตกาว ตณฺหาทิฏฺิมานปฺปเภทสฺส ปปฺจสฺส คติ. ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปฺจนิโรโธ ปปฺจวูปสโมติ เอเตสุ ฉสุ อายตเนสุ สพฺพโส นิรุทฺเธสุ ปปฺจาปิ นิรุทฺธาว โหนฺติ, วูปสนฺตาว โหนฺตีติ อตฺโถ. อารุปฺเป ปน ปุถุชฺชนเทวตานํ กิฺจาปิ ปฺจ ผสฺสายตนานิ นิรุทฺธานิ, ฉฏฺสฺส ปน อนิรุทฺธตฺตา ตโยปิ ปปฺจา อปฺปหีนาว. อปิจ ปฺจโวการภววเสเนว ปฺโห กถิโตติ. จตุตฺเถ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕. อุปวาณสุตฺตวณฺณนา
๑๗๕-๑๗๖. ปฺจเม วิชฺชายนฺตกโร โหตีติ วิชฺชาย วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกโร โหติ, สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ ปริจฺฉินฺนํ ปริวฏุมํ กตฺวา ติฏฺตีติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สอุปาทาโนติ สคหโณว หุตฺวา. อนฺตกโร อภวิสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ กตฺวา ิโต อภวิสฺส. จรณสมฺปนฺโนติ ปนฺนรสธมฺมเภเทน จรเณน สมนฺนาคโต. ยถาภูตํ ชานํ ¶ ปสฺสํ อนฺตกโร โหตีติ ยถาสภาวํ มคฺคปฺาย ชานิตฺวา ปสฺสิตฺวา วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ กตฺวา ิโต นาม โหตีติ อรหตฺตนิกูเฏน ปฺหํ นิฏฺเปสิ. ฉฏฺํ เหฏฺา เอกกนิปาตวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๗. ราหุลสุตฺตวณฺณนา
๑๗๗. สตฺตเม ¶ อชฺฌตฺติกาติ เกสาทีสุ วีสติยา โกฏฺาเสสุ ถทฺธาการลกฺขณา ปถวีธาตุ. พาหิราติ พหิทฺธา อนินฺทฺริยพทฺเธสุ ปาสาณปพฺพตาทีสุ ถทฺธาการลกฺขณา ปถวีธาตุ ¶ . อิมินาว นเยน เสสาปิ ธาตุโย เวทิตพฺพา. เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ อิทํ ตยํ ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ. สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพนฺติ เหตุนา การเณน มคฺคปฺาย ปสฺสิตพฺพํ. ทิสฺวาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ปสฺสิตฺวา. อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหนฺติ มคฺควชฺฌตณฺหํ สมูลกํ ฉินฺทิ. วิวตฺตยิ สํโยชนนฺติ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ วิวตฺตยิ อุพฺพตฺเตตฺวา ปชหิ. สมฺมา มานาภิสมยาติ เหตุนา การเณน นววิธสฺส มานสฺส ปหานาภิสมยา. อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขํ ปริจฺฉินฺนํ ปริวฏุมํ อกาสิ, กตฺวา ิโตติ อตฺโถ. อิติ สตฺถารา สํยุตฺตมหานิกาเย ราหุโลวาเท (สํ. นิ. ๓.๙๑ อาทโย) วิปสฺสนา กถิตา, จูฬราหุโลวาเทปิ (ม. นิ. ๓.๔๑๖ อาทโย) วิปสฺสนา กถิตา, อมฺพลฏฺิกราหุโลวาเท (ม. นิ. ๒.๑๐๗ อาทโย) ทหรสฺเสว สโต มุสาวาทา เวรมณี กถิตา, มหาราหุโลวาเท (ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) วิปสฺสนา กถิตา. อิมสฺมึ องฺคุตฺตรมหานิกาเย อยํ จตุโกฏิกสฺุตา นาม กถิตาติ.
๘. ชมฺพาลีสุตฺตวณฺณนา
๑๗๘. อฏฺเม ¶ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตินฺติ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ อฺตรํ สมาปตฺตึ. สกฺกายนิโรธนฺติ เตภูมกวฏฺฏสงฺขาตสฺส สกฺกายสฺส นิโรธํ, นิพฺพานนฺติ อตฺโถ. น ปกฺขนฺทตีติ อารมฺมณวเสน น ปกฺขนฺทติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. น ปาฏิกงฺโขติ น ปาฏิกงฺขิตพฺโพ. เลปคเตนาติ เลปมกฺขิเตน.
อิมสฺมิฺจ ¶ ปนตฺเถ นทีปารํ คนฺตุกามปุริโสปมฺมํ อาหริตพฺพํ – เอโก กิร ปุริโส จณฺฑโสตาย วาฬมจฺฉากุลาย นทิยา ปารํ คนฺตุกาโม ‘‘โอริมํ ตีรํ สาสงฺกํ สปฺปฏิภยํ, ปาริมํ ตีรํ เขมํ อปฺปฏิภยํ, กึ นุ โข กตฺวา ปารํ คมิสฺสามี’’ติ ปฏิปาฏิยา ิเต อฏฺ กกุธรุกฺเข ทิสฺวา ‘‘สกฺกา อิมาย รุกฺขปฏิปาฏิยา คนฺตุ’’นฺติ มนสิกตฺวา ‘‘กกุธรุกฺขา นาม มฏฺสาขา โหนฺติ, สาขาย หตฺถา น สณฺเหยฺยุ’’นฺติ นิคฺโรธปิลกฺขรุกฺขาทีนํ อฺตรสฺส ลาขาย หตฺถปาเท มกฺเขตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน เอกํ สาขํ คณฺหิ. หตฺโถ ตตฺเถว ลคิ. ปุน วามหตฺเถน ทกฺขิณปาเทน วามปาเทนาติ จตฺตาโรปิ หตฺถปาทา ตตฺเถว ลคึสุ. โส อโธสิโร ลมฺพมาโน อุปรินทิยํ เทเว วุฏฺเ ปุณฺณาย นทิยา โสเต นิมุคฺโค กุมฺภีลาทีนํ ภกฺโข อโหสิ.
ตตฺถ ¶ นทีโสตํ วิย สํสารโสตํ ทฏฺพฺพํ, โสตสฺส ปารํ คนฺตุกามปุริโส วิย โยคาวจโร, โอริมตีรํ วิย สกฺกาโย, ปาริมตีรํ วิย นิพฺพานํ, ปฏิปาฏิยา ิตา อฏฺ กกุธรุกฺขา วิย อฏฺ สมาปตฺติโย, เลปมกฺขิเตน ¶ หตฺเถน สาขาคหณํ วิย ฌานวิปสฺสนานํ ปาริปนฺถิเก อโสเธตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชนํ, จตูหิ หตฺถปาเทหิ สาขาย พทฺธสฺส โอลมฺพนํ วิย ปมชฺฌาเน นิกนฺติยา ลคฺคกาโล, อุปริโสเต วุฏฺิ วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ กิเลสานํ อุปฺปนฺนกาโล, นทิยา ปุณฺณาย โสเต นิมุคฺคสฺส กุมฺภีลาทีนํ ภกฺขภูตกาโล วิย สํสารโสเต นิมุคฺคสฺส จตูสุ อปาเยสุ ทุกฺขานุภวนกาโล เวทิตพฺโพ.
สุทฺเธน หตฺเถนาติ สุโธเตน ปริสุทฺธหตฺเถน. อิมสฺมิมฺปิ อตฺเถ ตาทิสเมว โอปมฺมํ กาตพฺพํ – ตเถว หิ ปารํ คนฺตุกาโม ปุริโส ‘‘กกุธรุกฺขา นาม มฏฺสาขา, กิลิฏฺหตฺเถน คณฺหนฺตสฺส หตฺโถ ปริคเลยฺยา’’ติ หตฺถปาเท สุโธเต กตฺวา เอกํ สาขํ คณฺหิตฺวา ปมํ รุกฺขํ อารุฬฺโห. ตโต โอตริตฺวา ทุติยํ…เป… ตโต โอตริตฺวา อฏฺมํ, อฏฺมรุกฺขโต โอตริตฺวา ปาริมตีเร เขมนฺตภูมึ คโต.
ตตฺถ ‘‘อิเมหิ รุกฺเขหิ ปาริมตีรํ คมิสฺสามี’’ติ ตสฺส ปุริสสฺส จินฺติตกาโล วิย โยคิโน ‘‘อฏฺ สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต ¶ วุฏฺาย อรหตฺตํ คมิสฺสามี’’ติ จินฺติตกาโล, สุทฺเธน หตฺเถน สาขาคหณํ วิย ฌานวิปสฺสนานํ ปาริปนฺถิกธมฺเม โสเธตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชนํ. ตตฺถ ปมรุกฺขาโรหณกาโล วิย ปมชฺฌานสมาปตฺติกาโล, ปมรุกฺขโต โอรุยฺห ทุติยํ ¶ อารุฬฺหกาโล วิย ปมชฺฌาเน นิกนฺติยา อพทฺธสฺส ตโต วุฏฺาย ทุติยชฺฌานสมาปนฺนกาโล…เป… สตฺตมรุกฺขโต โอรุยฺห อฏฺมํ อารุฬฺหกาโล วิย อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยํ นิกนฺติยา อพทฺธสฺส ตโต วุฏฺาย เนวสฺานาสฺายตนสมาปนฺนกาโล. อฏฺมรุกฺขโต โอรุยฺห ปาริมตีรํ เขมนฺตภูมึ คตกาโล วิย เนวสฺานาสฺายตเน นิกนฺติยา อพทฺธสฺส สมาปตฺติโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตกาโล เวทิตพฺโพ.
อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรตีติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณภูตาย คณพหลมหาอวิชฺชาย ปเภทสงฺขาตํ อรหตฺตํ มนสิ กโรติ. น ปกฺขนฺทตีติ อารมฺมณวเสเนว น ปกฺขนฺทติ. ชมฺพาลีติ คามโต นิกฺขนฺตสฺส มหาอุทกสฺส ปติฏฺานภูโต มหาอาวาโฏ. อเนกวสฺสคณิกาติ ¶ คามสฺส วา นครสฺส วา อุปฺปนฺนกาเลเยว อุปฺปนฺนตฺตา อเนกานิ วสฺสคณานิ อุปฺปนฺนาย เอติสฺสาติ อเนกวสฺสคณิกา. อายมุขานีติ จตสฺโส ปวิสนกนฺทรา. อปายมุขานีติ อปวาหนจฺฉิทฺทานิ. น อาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺโขติ น ปาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺขิตพฺโพ. น หิ ตโต อุทกํ อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ ปาปุณาติ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ อุยฺยานคเวสกโอปมฺมํ อาหริตพฺพํ. เอโก ¶ กิร นครวาสิโก กุลปุตฺโต อุยฺยานํ คเวสนฺโต นครโต นาติทูเร นจฺจาสนฺเน มหนฺตํ ชมฺพาลึ อทฺทส. โส ‘‘อิมสฺมึ าเน รมณียํ อุยฺยานํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา กุทฺทาลํ อาทาย จตฺตาริปิ กนฺทรานิ ปิธาย อปวาหนจฺฉิทฺทานิ วิวริตฺวา อฏฺาสิ. เทโว น สมฺมา วสฺสิ, อวเสสอุทกํ อปวาหนจฺฉิทฺเทน ปริสฺสวิตฺวา คตํ. จมฺมขณฺฑปิโลติกาทีนิ ตตฺเถว ปูติกานิ ชาตานิ, ปาณกา สณฺิตา, สมนฺตา อนุปคมนียา ชาตา. อุปคตานมฺปิ นาสาปุเฏ ปิธาย ปกฺกมิตพฺพํ โหติ ¶ . โส กติปาเหน อาคนฺตฺวา ปฏิกฺกมฺม ิโต โอโลเกตฺวา ‘‘น สกฺกา อุปคนฺตุ’’นฺติ ปกฺกามิ.
ตตฺถ นครวาสี กุลปุตฺโต วิย โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ, อุยฺยานํ คเวสนฺเตน คามทฺวาเร ชมฺพาลิยา ทิฏฺกาโล วิย จาตุมหาภูติกกาโย, อายมุขานํ ปิหิตกาโล วิย ธมฺมสฺสวโนทกสฺส อลทฺธกาโล, อปายมุขานํ วิวฏกาโล วิย ฉทฺวาริกสํวรสฺส วิสฺสฏฺกาโล, เทวสฺส สมฺมา อวุฏฺกาโล วิย สปฺปายกมฺมฏฺานสฺส อลทฺธกาโล, อวเสสอุทกสฺส อปายมุเขหิ ปริสฺสวิตฺวา คตกาโล วิย อพฺภนฺตเร คุณานํ ปริหีนกาโล, อุทกสฺส อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปาปุณิตุํ อสมตฺถกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาปาฬึ ภินฺทิตฺวา กิเลสราสึ วิธมิตฺวา นิพฺพานํ สจฺฉิกาตุํ อสมตฺถกาโล, จมฺมขณฺฑปิโลติกาทีนํ ตตฺเถว ปูติภาโว วิย อพฺภนฺตเร ราคาทิกิเลเสหิ ปริปูริตกาโล, ตสฺส อาคนฺตฺวา ทิสฺวา ¶ วิปฺปฏิสาริโน คตกาโล วิย วฏฺฏสมงฺคิปุคฺคลสฺส วฏฺเฏ อภิรตกาโล เวทิตพฺโพ.
อาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺโขติ ปาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺขิตพฺโพ. ตโต หิ อุทกํ อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปาปุณิตุํ สกฺขิสฺสตีติ อตฺโถ.
อิธาปิ ¶ ตเทว โอปมฺมํ อาหริตพฺพํ. ตตฺถ อายมุขานํ วิวฏกาโล วิย สปฺปายธมฺมสฺสวนสฺส ลทฺธกาโล, อปายมุขานํ ปิหิตกาโล วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรสฺส ปจฺจุปฏฺิตกาโล, เทวสฺส สมฺมา วุฏฺกาโล วิย สปฺปายกมฺมฏฺานสฺส ลทฺธกาโล, อุทกสฺส อุฏฺาย ปาฬึ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปตฺตกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชํ ภินฺทิตฺวา อกุสลราสึ วิธมิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกตกาโล, อายมุเขหิ ปวิฏฺเน อุทเกน สรสฺส ปริปุณฺณกาโล วิย อพฺภนฺตเร โลกุตฺตรธมฺเมหิ ปริปุณฺณกาโล, สมนฺตโต วตึ กตฺวา รุกฺเข โรเปตฺวา อุยฺยานมชฺเฌ ปาสาทํ มาเปตฺวา นาฏกานิ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สุโภชนํ ภฺุชนฺตสฺส นิสินฺนกาโล วิย ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห ¶ นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺนกาโล เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. เทสนา ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสิกา กถิตาติ.
๙. นิพฺพานสุตฺตวณฺณนา
๑๗๙. นวเม หานภาคิยา สฺาติอาทีสุ ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภึ กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, หานภาคินี ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๙๙) อภิธมฺเม วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยถาภูตํ ¶ นปฺปชานนฺตีติ ยถาสภาวโต มคฺคาเณน น ชานนฺติ.
๑๐. มหาปเทสสุตฺตวณฺณนา
๑๘๐. ทสเม โภคนคเร วิหรตีติ ปรินิพฺพานสมเย จาริกํ จรนฺโต ตํ นครํ ปตฺวา ตตฺถ วิหรติ. อานนฺทเจติเยติ อานนฺทยกฺขสฺส ภวนฏฺาเน ปติฏฺิตวิหาเร. มหาปเทเสติ มหาโอกาเส มหาอปเทเส วา, พุทฺธาทโย มหนฺเต มหนฺเต อปทิสิตฺวา วุตฺตานิ มหาการณานีติ อตฺโถ. เนว อภินนฺทิตพฺพนฺติ หฏฺตุฏฺเหิ สาธุการํ ทตฺวา ปุพฺเพว น โสตพฺพํ. เอวํ กเต หิ ปจฺฉา ‘‘อิทํ น สเมตี’’ติ วุจฺจมาโนปิ ‘‘กึ ปุพฺเพว อยํ ธมฺโม, อิทานิ น ธมฺโม’’ติ วตฺวา ลทฺธึ น วิสฺสชฺเชติ. นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพนฺติ ‘‘กึ เอส พาโล วทตี’’ติ เอวํ ปุพฺเพว น วตฺตพฺพํ. เอวํ วุตฺเต หิ วตฺตุํ ยุตฺตมฺปิ น วกฺขติ. เตนาห – อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวาติ. ปทพฺยฺชนานีติ ปทสงฺขาตานิ พฺยฺชนานิ. สาธุกํ อุคฺคเหตฺวาติ ‘‘อิมสฺมึ าเน ปาฬิ วุตฺตา, อิมสฺมึ าเน อตฺโถ วุตฺโต, อิมสฺมึ าเน อนุสนฺธิ กถิตา ¶ , อิมสฺมึ าเน ปุพฺพาปรํ กถิต’’นฺติ สุฏฺุ คเหตฺวา. สุตฺเต โอตาเรตพฺพานีติ สุตฺเต โอตริตพฺพานิ. วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานีติ วินเย สํสนฺเทตพฺพานิ.
เอตฺถ จ สุตฺตนฺติ วินโย วุตฺโต. ยถาห – ‘‘กตฺถ ปฏิกฺขิตฺตํ, สาวตฺถิยํ สุตฺตวิภงฺเค’’ติ (จูฬว. ๔๕๗) วินโยติ ขนฺธโก. ยถาห – ‘‘วินยาติสาเร’’ติ. เอวํ วินยปิฏกมฺปิ น ปริยาทิยติ. อุภโตวิภงฺคา ปน ¶ สุตฺตํ, ขนฺธกปริวารา ¶ วินโยติ เอวํ วินยปิฏกํ ปริยาทิยติ. อถ วา สุตฺตนฺตปิฏกํ สุตฺตํ, วินยปิฏกํ วินโยติ เอวํ ทฺเวเยว ปิฏกานิ ปริยาทิยนฺติ. สุตฺตนฺตาภิธมฺมปิฏกานิ วา สุตฺตํ, วินยปิฏกํ วินโยติ เอวมฺปิ ตีณิ ปิฏกานิ น ตาว ปริยาทิยนฺติ. อสุตฺตนามกฺหิ พุทฺธวจนํ นาม อตฺถิ. เสยฺยถิทํ – ชาตกํ ปฏิสมฺภิทา นิทฺเทโส สุตฺตนิปาโต ธมฺมปทํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ วิมานวตฺถุ เปตวตฺถุ เถรคาถา เถรีคาถา อปทานนฺติ.
สุทินฺนตฺเถโร ปน ‘‘อสุตฺตนามกํ พุทฺธวจนํ นตฺถี’’ติ ตํ สพฺพํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ตีณิ ปิฏกานิ สุตฺตํ, วินโย ปน การณ’’นฺติ อาห. ตโต ตํ การณํ ทสฺเสนฺโต อิทํ สุตฺตมาหริ –
‘‘เย โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ, อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ โน วิราคาย, สํโยคาย สํวตฺตนฺติ โน วิสํโยคาย, สอุปาทานาย สํวตฺตนฺติ โน อนุปาทานาย, มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ โน อปฺปิจฺฉตาย, อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ โน สนฺตุฏฺิยา, โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ โน วีริยารมฺภาย, สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ โน ปวิเวกาย, อาจยาย สํวตฺตนฺติ โน อปจยาย. เอกํเสน, โคตมิ, ชาเนยฺยาสิ ‘เนโส ธมฺโม เนโส วินโย เนตํ สตฺถุ สาสน’นฺติ.
‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ, อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ โน สราคาย, วิสํโยคาย สํวตฺตนฺติ โน สํโยคาย. อนุปาทานาย สํวตฺตนฺติ โน สอุปาทานาย, อปฺปิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ โน มหิจฺฉตาย, สนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ โน อสนฺตุฏฺิยา, วีริยารมฺภาย สํวตฺตนฺติ โน โกสชฺชาย, ปวิเวกาย สํวตฺตนฺติ โน สงฺคณิกาย, อปจยาย สํวตฺตนฺติ โน อาจยาย. เอกํเสน, โคตมิ ¶ , ชาเนยฺยาสิ ‘เอโส ¶ ธมฺโม เอโส วินโย เอตํ สตฺถุ สาสน’’’นฺติ (จูฬว. ๔๐๖; อ. นิ. ๘.๕๓).
ตสฺมา สุตฺเตติ เตปิฏกพุทฺธวจเน โอตาเรตพฺพานิ. วินเยติ เอตสฺมึ ราคาทิวินยการเณ สํสนฺเทตพฺพานีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. น เจว สุตฺเต โอตรนฺตีติ สุตฺตปฏิปาฏิยา กตฺถจิ อนาคนฺตฺวา ฉลฺลึ อุฏฺเปตฺวา ¶ คุฬฺหเวสฺสนฺตร-คุฬฺหอุมฺมคฺค-คุฬฺหวินยเวทลฺลปิฏกานํ อฺตรโต อาคตานิ ปฺายนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ อาคตานิ หิ ราคาทิวินเย จ อปฺายมานานิ ฉฑฺเฑตพฺพานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิติ หิทํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถา’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถาติ อิมํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ ธมฺมสฺส ปติฏฺาโนกาสํ ธาเรยฺยาถาติ.
สฺเจตนิยวคฺโค ตติโย.
(๑๙) ๔. พฺราหฺมณวคฺโค
๑. โยธาชีวสุตฺตวณฺณนา
๑๘๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม านกุสโลติ เยน าเนน ิโต อวิราเธตฺวา วิชฺฌิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมึ าเน กุสโล. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒. ปาฏิโภคสุตฺตวณฺณนา
๑๘๒. ทุติเย นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโคติ อหํ เต ปาฏิโภโคติ เอวํ ปาฏิโภโค ภวิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ชราธมฺมนฺติ ชราสภาวํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๓. สุตสุตฺตวณฺณนา
๑๘๓. ตติเย ¶ นตฺถิ ตโต โทโสติ ตสฺมึ โทโส นาม นตฺถีติ อตฺโถ.
๔. อภยสุตฺตวณฺณนา
๑๘๔. จตุตฺเถ กิจฺฉาชีวิตการณฏฺเน โรโคว โรคาตงฺโก นาม. ผุฏฺสฺสาติ เตน โรคาตงฺเกน สมนฺนาคตสฺส. อุรตฺตาฬึ กนฺทตีติ อุรํ ตาเฬตฺวา โรทติ. อกตกลฺยาโณติอาทีสุ กลฺยาณํ วุจฺจติ ปฺุกมฺมํ ¶ , ตํ อกตํ เอเตนาติ อกตกลฺยาโณ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปฺุกมฺมเมว หิ โกสลฺลสมฺภูตตฺตา กุสลํ, ภีตสฺส ปริตฺตายกตฺตา ภีรุตฺตาณนฺติ วุจฺจติ. กตปาโปติอาทีสุ ปาปํ วุจฺจติ ลามกํ อกุสลกมฺมํ. ลุทฺทนฺติ กกฺขฬกมฺมํ. กิพฺพิสนฺติ สมลํ อปริสุทฺธกมฺมํ. กงฺขี โหตีติ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณสุ เจว สิกฺขาย จ ปุพฺพนฺเต จ อปรนฺเต จ ปุพฺพนฺตาปรนฺเต จ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท จาติ อฏฺสุ าเนสุ กงฺขาย สมนฺนาคโต ¶ โหติ. วิจิกิจฺฉีติ วิจิกิจฺฉาย สมนฺนาคโต สาสนสทฺธมฺเม น นิฏฺํ คโต, อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน นิฏฺํ คนฺตุํ น สกฺโกติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕. พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตวณฺณนา
๑๘๕. ปฺจเม พฺราหฺมณสจฺจานีติ พฺราหฺมณานํ สจฺจานิ ตถานิ. โส เตน น สมโณติ มฺตีติ โส ขีณาสโว เตน สจฺเจน ‘‘อหํ สมโณ’’ติ ตณฺหามานทิฏฺีหิ น มฺติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยเทว ตตฺถ สจฺจํ, ตทภิฺายาติ ยํ ตตฺถ ‘‘สพฺเพ ปาณา ¶ อวชฺฌา’’ติ ปฏิปตฺติยา สจฺจํ ตถํ อวิปรีตํ. อิมินา วจีสจฺจํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานํ ทสฺเสติ. ตทภิฺายาติ ตํ อุภยมฺปิ อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ชานิตฺวา. อนุทฺทยาย อนุกมฺปาย ปฏิปนฺโน โหตีติ อนุทฺทยตฺถาย จ อนุกมฺปตฺถาย จ ยา ปฏิปทา, ตํ ปฏิปนฺโน โหติ, ปูเรตฺวา ิโตติ อตฺโถ. เสสปฏิปทาสุปิ เอเสว นโย.
สพฺเพ กามาติ สพฺเพ วตฺถุกามกิเลสกามา. อิติ วทํ พฺราหฺมโณ สจฺจมาหาติ เอวมฺปิ วทนฺโต ขีณาสวพฺราหฺมโณ สจฺจเมว อาห. สพฺเพ ภวาติ กามภวาทโย ตโยปิ. นาหํ กฺวจนีติ เอตฺถ ปน จตุกฺโกฏิกสฺุตา กถิตา. อยฺหิ ‘‘นาหํ กฺวจนี’’ติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ, ภาติฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารํ มฺิตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มมสทฺทํ ตาว เปตฺวา ‘‘น จ กฺวจนิ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ น ปสฺสตี’’ติ อยมตฺโถ. อิทานิ ‘‘มมสทฺทํ อาหริตฺวา ¶ มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนํ นตฺถี’’ติ โส ปรสฺส อตฺตา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนภาเว อตฺถีติ น ปสฺสติ, อตฺตโน ภาติฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน ¶ สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิฺจิ าเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสตีติ. อิติ วทํ พฺราหฺมโณติ เอวํ จตุกฺโกฏิกํ สฺุตํ วทนฺโตปิ ขีณาสวพฺราหฺมโณ ตสฺสา ปฏิปทาย สมฺมา ปฏิวิทฺธตฺตา สจฺจเมว อาห, น มุสาติ สพฺเพสุปิ วาเรสุ มฺนานํ ปหีนตฺตาเยว น มฺตีติ จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อากิฺจฺํเยว ¶ ปฏิปทนฺติ กิฺจนภาววิรหิตํ นิปฺปลิโพธํ นิคฺคหณเมว ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ ปูเรตฺวา ิโต.
อิมานิ โข ปริพฺพาชกา จตฺตาริ พฺราหฺมณสจฺจานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานีติ ยานิ ตุมฺเห โภวาทิพฺราหฺมณานํ สจฺจานิ วเทถ, เตหิ อฺานิ มยา อิมานิ พาหิตปาปพฺราหฺมณสฺส จตฺตาริ สจฺจานิ จตูหิ มคฺเคหิ โสฬสวิเธน กิจฺเจน ชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวทิตานิ เทสิตานิ โชติตานีติ อตฺโถ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต จตูสุปิ าเนสุ ขีณาสวสฺส วจีสจฺจเมว กถิตนฺติ.
๖. อุมฺมคฺคสุตฺตวณฺณนา
๑๘๖. ฉฏฺเ ปริกสฺสตีติ อากฑฺฒิยติ. อุมฺมคฺโคติ อุมฺมุชฺชนํ, ปฺาคมนนฺติ อตฺโถ. ปฺา เอว วา อุมฺมุชฺชนฏฺเน อุมฺมคฺโคติ วุจฺจติ. สาว ปฏิภานฏฺเน ปฏิภานํ. จิตฺตสฺส ¶ อุปฺปนฺนสฺส วสํ คจฺฉตีติ เย จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉนฺติ, เตสํเยเวตฺถ คหณํ เวทิตพฺพํ. อตฺถมฺาย ธมฺมมฺายาติ อตฺถฺจ ปาฬิฺจ ชานิตฺวา. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหตีติ โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุจฺฉวิกธมฺมํ สห สีเลน ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ. นิพฺเพธิกปฺโติ นิพฺพิชฺฌนกปฺโ. อิทํ ทุกฺขนฺติ เปตฺวา ตณฺหํ เสสํ เตภูมกกฺขนฺธปฺจกํ ทุกฺขนฺติ สุตํ โหติ. ปฺายาติ มคฺคปฺาย. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ วฏฺฏมูลกตณฺหา ตสฺส ทุกฺขสฺส สมุทโยติ สุตํ ¶ โหติ. อิมินา อุปาเยน เสสทฺวเยปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. จตุตฺถปฺหวิสฺสชฺชเนน อรหตฺตผลํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๗. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา
๑๘๗. สตฺตเม โตเทยฺยสฺสาติ ตุทิคามวาสิกสฺส. ปริสตีติ สนฺนิปติตาย ปริสาย. ปรูปารมฺภํ วตฺเตนฺตีติ ปรครหํ ปวตฺเตนฺติ กเถนฺติ. พาโล อยํ ราชาติอาทิ ยํ เต อุปารมฺภํ วตฺเตนฺติ, ตสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สมเณ รามปุตฺเตติ อุทเก รามปุตฺเต. อภิปฺปสนฺโนติ อติกฺกมฺม ปสนฺโน. ปรมนิปจฺจการนฺติ อุตฺตมนิปาตกิริยํ นีจวุตฺตึ. ปริหารกาติ ปริจารกา. ยมโกติอาทีนิ ¶ เตสํ นามานิ. เตสุ หิ เอโก ยมโก นาม, เอโก โมคฺคลฺโล นาม, เอโก อุคฺโค ¶ นาม, เอโก นาวินฺทกี นาม, เอโก คนฺธพฺโพ นาม, เอโก อคฺคิเวสฺโส นาม. ตฺยาสฺสุทนฺติ เอตฺถ อสฺสุทนฺติ นิปาตมตฺตํ, เต อตฺตโน ปริสติ นิสินฺเนติ อตฺโถ. อิมินา นเยน เนตีติ อิมินา การเณน อนุเนติ ชานาเปติ. กรณียาธิกรณีเยสูติ ปณฺฑิเตหิ กตฺตพฺพกิจฺเจสุ จ อติเรกกตฺตพฺพกิจฺเจสุ จ. วจนียาธิวจนีเยสูติ วตฺตพฺเพสุ จ อติเรกวตฺตพฺเพสุ จ. อลมตฺถทสตเรหีติ เอตฺถ อตฺเถ ปสฺสิตุํ สมตฺถา อลมตฺถทสา, เต อติสิตฺวา ิตา อลมตฺถทสตรา, เตหิ อลมตฺถทสตเรหิ. อลมตฺถทสตโรติ อลมตฺถทสตาย อุตฺตริตโร, เฉเกหิ เฉกตโร ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตตโรติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. อถสฺส เต ปฏิปุจฺฉนฺตา เอวํ โภติอาทิมาหํสุ. อิติ พฺราหฺมโณ อตฺตโน สปฺปุริสตาย ตํ เอเฬยฺยราชานมฺปิ ตสฺส ปริวาริเกปิ อุทกมฺปิ รามปุตฺตํ ปสํสิ. อนฺโธ วิย หิ อสปฺปุริโส, จกฺขุมา วิย สปฺปุริโส. ยถา อนฺโธ เนว อนนฺธํ น อนฺธํ ปสฺสติ, เอวํ อสปฺปุริโส เนว สปฺปุริสํ น อสปฺปุริสํ ชานาติ. ยถา จกฺขุมา อนฺธมฺปิ อนนฺธมฺปิ ปสฺสติ, เอวํ สปฺปุริโส สปฺปุริสมฺปิ อสปฺปุริสมฺปิ ชานาติ. โตเทยฺโยปิ สปฺปุริสตาย ¶ อสปฺปุริเส อฺาสีติ อิมมตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตุฏฺมานโส พฺราหฺมโณ อจฺฉริยํ โภ, โคตมาติอาทีนิ วตฺวา ตถาคตสฺส ภาสิตํ อนุโมทิตฺวา ปกฺกามิ.
๘. อุปกสุตฺตวณฺณนา
๑๘๘. อฏฺเม ¶ อุปโกติ ตสฺส นามํ. มณฺฑิกาปุตฺโตติ มณฺฑิกาย ปุตฺโต. อุปสงฺกมีติ โส กิร เทวทตฺตสฺส อุปฏฺาโก, ‘‘กึ นุ โข สตฺถา มยิ อตฺตโน สนฺติกํ อุปคเต วณฺณํ กเถสฺสติ, อุทาหุ อวณฺณ’’นฺติ ปริคฺคณฺหนตฺถํ อุปสงฺกมิ. ‘‘เนรยิโก เทวทตฺโต กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’’ติ (จูฬว. ๓๔๘) วจนํ สุตฺวา สตฺถารํ ฆฏฺเฏตุกาโม อุปสงฺกมีติปิ วทนฺติ. ปรูปารมฺภํ วตฺเตตีติ ปรครหํ กเถติ. สพฺโพ โส น อุปปาเทตีติ สพฺโพปิ โส กุสลธมฺมํ น อุปฺปาเทติ, อตฺตโน วา วจนํ อุปปาเทตุํ อนุจฺฉวิกํ กาตุํ น สกฺโกติ. อนุปปาเทนฺโต คารยฺโห โหตีติ กุสลํ ธมฺมํ อุปฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตโน จ วจนํ อุปปนฺนํ อนุจฺฉวิกํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต คารยฺโห โหติ. อุปวชฺโชติ อุปวทิตพฺโพ จ โหติ, วชฺเชน วา อุเปโต โหติ, สโทโส โหตีติ อตฺโถ.
อถ ภควา ตสฺส วาทํ คเหตฺวา ตสฺเสว คีวาย ปฏิมฺุจนฺโต ปรูปารมฺภนฺติอาทิมาห. อุมฺมุชฺชมานกํเยวาติ ¶ อุทกโต สีสํ อุกฺขิปนฺตํเยว. ตตฺถ อปริมาณา ปทาติอาทีสุ ตสฺมึ อกุสลนฺติ ปฺาปเน ปทานิปิ อกฺขรานิปิ ธมฺมเทสนาปิ อปริมาณาเยว. อิติปิทํ ¶ อกุสลนฺติ อิทมฺปิ อกุสลํ อิทมฺปิ อกุสลํ อิมินาปิ การเณน อิมินาปิ การเณน อกุสลนฺติ เอวํ อกุสลปฺตฺติยํ อาคตานิปิ อปริมาณานิ. อถาปิ อฺเนากาเรน ตถาคโต ตํ ธมฺมํ เทเสยฺย, เอวมฺปิสฺส เทสนา อปริมาณา ภเวยฺย. ยถาห – ‘‘อปริยาทินฺนาวสฺส ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา, อปริยาทินฺนํ ธมฺมปทพฺยฺชน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๖๑). อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยาว ธํสี วตายนฺติ ยาว คุณธํสี วต อยํ. โลณการทารโกติ โลณการคามทารโก. ยตฺร หิ นามาติ โย หิ นาม. อาสาเทตพฺพํ มฺิสฺสตีติ ฆฏฺเฏตพฺพํ มฺิสฺสติ. อเปหีติ อปคจฺฉ, มา เม ปุรโต อฏฺาสิ. เอวฺจ ปน วตฺวา คีวาย คณฺหาเปตฺวา นิกฺกฑฺฒาเปสิเยวาติ.
๙. สจฺฉิกรณียสุตฺตวณฺณนา
๑๘๙. นวเม ¶ กาเยนาติ นามกาเยน. สจฺฉิกรณียาติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพา. สติยาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา. จกฺขุนาติ ทิพฺพจกฺขุนา. ปฺายาติ ฌานปฺาย วิปสฺสนาปฺา สจฺฉิกาตพฺพา, วิปสฺสนาปฺาย มคฺคปฺา, มคฺคปฺาย ผลปฺา, ผลปฺาย ปจฺจเวกฺขณปฺา สจฺฉิกาตพฺพา, ปตฺตพฺพาติ อตฺโถ. อาสวานํ ขยสงฺขาตํ ปน อรหตฺตํ ¶ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปจฺจเวกฺขณปฺาย สจฺฉิกรณียํ นามาติ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา
๑๙๐. ทสเม ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยโต ยโต อนุวิโลเกติ, ตโต ตโต ตุณฺหีภูตเมว. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ปฏิปตฺติสมฺปนฺเน ภิกฺขู ปสนฺเนหิ จกฺขูหิ อนุวิโลเกตฺวา อุปฺปนฺนธมฺมปาโมชฺโช โถเมตุกามตาย อามนฺเตสิ. อปลาปาติ ปลาปรหิตา. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. สุทฺธาติ นิมฺมลา. สาเร ปติฏฺิตาติ สีลาทิสาเร ปติฏฺิตา. อลนฺติ ยุตฺตํ. โยชนคณนานีติ เอกํ โยชนํ โยชนเมว, ทสปิ โยชนานิ โยชนาเนว. ตโต อุทฺธํ ‘‘โยชนคณนานี’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ อธิปฺเปตํ. ปุโฏเสนาปีติ ปุโฏสํ วุจฺจติ ปาเถยฺยํ, ปาเถยฺยํ คเหตฺวาปิ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตเมวาติ อตฺโถ. ปุฏํเสนาติปิ ¶ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ปุโฏ อํเส อสฺสาติ ปุฏํโส, เตน ปุฏํเสน, อํเสน ปาเถยฺยปุฏํ วหนฺเตนาปีติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ เอวรูเปหิ เอวรูเปหิ จ คุเณหิ สมนฺนาคตา เอตฺถ ภิกฺขู อตฺถีติ ทสฺเสตุํ สนฺติ ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เทวปฺปตฺตาติ อุปปตฺติเทวนิพฺพตฺตกํ ทิพฺพวิหารํ ทิพฺพวิหาเรน จ อรหตฺตํ ปตฺตา. พฺรหฺมปฺปตฺตาติ ¶ นิทฺโทสฏฺเน พฺรหฺมภาวสาธกํ พฺรหฺมวิหารํ พฺรหฺมวิหาเรน จ อรหตฺตํ ปตฺตา. อาเนฺชปฺปตฺตาติ อนิฺชนภาวสาธกํ อาเนฺชํ อาเนฺเชน จ อรหตฺตํ ปตฺตา. อริยปฺปตฺตาติ ปุถุชฺชนภาวํ อติกฺกมฺม อริยภาวํ ปตฺตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เทวปฺปตฺโต โหตีติอาทีสุ เอวํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน ตฺวา จิตฺตํ วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต เทวปฺปตฺโต นาม โหติ ¶ , จตูสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ ตฺวา จิตฺตํ วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต พฺรหฺมปฺปตฺโต นาม, จตูสุ อรูปชฺฌาเนสุ ตฺวา จิตฺตํ วิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต อาเนฺชปฺปตฺโต นาม. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทีหิ จตูหิ สจฺเจหิ จตฺตาโร มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ. ตสฺมา อิมํ อริยธมฺมํ ปตฺโต ภิกฺขุ อริยปฺปตฺโต นาม โหตีติ.
พฺราหฺมณวคฺโค จตุตฺโถ.
(๒๐) ๕. มหาวคฺโค
๑. โสตานุคตสุตฺตวณฺณนา
๑๙๑. ปฺจมสฺส ¶ ปเม โสตานุคตานนฺติ ปสาทโสตํ โอทหิตฺวา าณโสเตน ววตฺถปิตานํ. จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขาติ จตฺตาโร คุณานิสํสา ปาฏิกงฺขิตพฺพา. อิทํ ปน ภควตา อตฺถุปฺปตฺติวเสน อารทฺธํ. กตรอตฺถุปฺปตฺติวเสนาติ? ภิกฺขูนํ ธมฺมสฺสวนาย อนุปสงฺกมนอตฺถุปฺปตฺติวเสน. ปฺจสตา กิร พฺราหฺมณปพฺพชิตา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ลิงฺควจนวิภตฺติปทพฺยฺชนาทีหิ กเถนฺโต อมฺเหหิ าตเมว กเถสฺสติ, อฺาตํ กึ กเถสฺสตี’’ติ ธมฺมสฺสวนตฺถํ น คจฺฉนฺติ. สตฺถา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เต ปกฺโกสาเปตฺวา ¶ ‘‘กสฺมา เอวํ กโรถ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณาถ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณนฺตานฺจ สชฺฌายนฺตานฺจ อิเม เอตฺตกา อานิสํสา’’ติ ทสฺเสนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ ธมฺมํ ปริยาปุณาตีติ สุตฺตํ เคยฺยนฺติอาทิกํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนภูตํ ตนฺติธมฺมํ วฬฺเชติ. โสตานุคตา โหนฺตีติ โสตํ อนุปฺปตฺตา อนุปวิฏฺา โหนฺติ. มนสานุเปกฺขิตาติ จิตฺเตน โอโลกิตา. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปฺาย สุฏฺุ ปฏิวิทฺธา ปจฺจกฺขํ กตา. มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโนติ นยิทํ พุทฺธวจนํ อนุสฺสรณสติยา อภาเวน วุตฺตํ, ปุถุชฺชนกาลกิริยํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ. ปุถุชฺชโน หิ มุฏฺสฺสติ กาลํ กโรติ นาม. อุปปชฺชตีติ สุทฺธสีเล ปติฏฺิโต เทวโลเก นิพฺพตฺตติ. ธมฺมปทา ปฺลวนฺตีติ อนฺตราภเว นิพฺพตฺตมุฏฺสฺสติโน, เยปิ ปุพฺเพ สชฺฌายมูลิกา วาจาปริจิตพุทฺธวจนธมฺมา, เต สพฺเพ ปสนฺเน ¶ อาทาเส ฉายา วิย ปฺลวนฺติ, ปากฏา หุตฺวา ปฺายนฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโทติ พุทฺธวจนานุสฺสรณสติยา อุปฺปาโท ทนฺโธ ครุ. อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ, นิพฺพานคามี โหตีติ อตฺโถ.
อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโตติ อิทฺธิสมฺปนฺโน จิตฺตสฺส วสิภาวปตฺโต ขีณาสโว. อยํ ¶ วา โส ธมฺมวินโยติ เอตฺถ วิภาวนตฺโถ วา-สทฺโท. ยตฺถาติ ยสฺมึ ธมฺมวินเย. พฺรหฺมจริยํ อจรินฺติ ¶ พฺรหฺมจริยวาสํ วสึ. อิทมฺปิ พุทฺธวจนํ มยา ปุพฺเพ วฬฺชิตนฺติ พุทฺธวจนานุสฺสรณวเสเนตํ วุตฺตํ. เทวปุตฺโตติ ปฺจาลจณฺโฑ วิย หตฺถกมหาพฺรหฺมา วิย สนงฺกุมารพฺรหฺมา วิย จ เอโก ธมฺมกถิกเทวปุตฺโต. โอปปาติโก โอปปาติกํ สาเรตีติ ปมํ อุปฺปนฺโน เทวปุตฺโต ปจฺฉา อุปฺปนฺนํ สาเรติ. สหปํสุกีฬิกาติ เอเตน เนสํ ทีฆรตฺตํ กตปริจยภาวํ ทสฺเสติ. สมาคจฺเฉยฺยุนฺติ สาลาย วา รุกฺขมูเล วา สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยุํ. เอวํ วเทยฺยาติ สาลาย วา รุกฺขมูเล วา ปมตรํ นิสินฺโน ปจฺฉา อาคตํ เอวํ วเทยฺย. เสสเมตฺถ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒. านสุตฺตวณฺณนา
๑๙๒. ทุติเย านานีติ การณานิ. าเนหีติ การเณหิ. โสเจยฺยนฺติ สุจิภาโว. สํวสมาโนติ เอกโต วสมาโน. น สนฺตตการีติ น สตตการี. น สนฺตตวุตฺติ สีเลสูติ สตตํ สพฺพกาลํ สีลชีวิตํ น ชีวตีติ อตฺโถ. สํโวหารมาโนติ ¶ กเถนฺโต. เอเกน เอโก โวหรตีติ เอเกน สทฺธึ เอโก หุตฺวา กเถติ. โวกฺกมตีติ โอกฺกมติ. ปุริมโวหารา ปจฺฉิมโวหารนฺติ ปุริมกถาย ปจฺฉิมกถํ, ปุริมกถาย จ ปจฺฉิมกถา, ปจฺฉิมกถาย จ ปุริมกถา น สเมตีติ อตฺโถ.
าติพฺยสเนนาติอาทีสุ าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, าติวินาโสติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. โรคพฺยสเน ปน โรโคเยว อาโรคฺยวินาสนโต พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. อนุปริวตฺตนฺตีติ อนุพนฺธนฺติ. ลาโภ จาติอาทีสุ เอกํ อตฺตภาวํ ลาโภ อนุปริวตฺตติ, เอกํ อลาโภติ เอวํ นโย เนตพฺโพ. สากจฺฉายมาโนติ ปฺหปุจฺฉนวิสฺสชฺชนวเสน สากจฺฉํ กโรนฺโต. ยถาติ เยนากาเรน ¶ . อุมฺมคฺโคติ ปฺหุมฺมคฺโค. อภินีหาโรติ ปฺหาภิสงฺขรณวเสน จิตฺตสฺส อภินีหาโร. สมุทาหาโรติ ปฺหปุจฺฉนํ. สนฺตนฺติ ปจฺจนีกสนฺตตาย สนฺตํ กตฺวา น กเถตีติ อตฺโถ. ปณีตนฺติ อตปฺปกํ. อตกฺกาวจรนฺติ ¶ ยถา ตกฺเกน นยคฺคาเหน คเหตุํ สกฺกา โหติ, เอวํ น กเถตีติ อตฺโถ. นิปุณนฺติ สณฺหํ. ปณฺฑิตเวทนียนฺติ ปณฺฑิเตหิ ชานิตพฺพกํ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.
๓. ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา
๑๙๓. ตติเย ¶ อุปสงฺกมีติ ภุตฺตปาตราโส หุตฺวา มาลาคนฺธวิเลปนํ คเหตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิสฺสามีติ อุปสงฺกมิ. มา อนุสฺสเวนาติอาทีสุ อนุสฺสววจเนน มม กถํ มา คณฺหถาติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สารมฺโภติ กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อโลภาทโย โลภาทิปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา. กุสลธมฺมูปสมฺปทายาติ กุสลธมฺมานํ สมฺปาทนตฺถาย, ปฏิลาภตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. อิเม เจปิ, ภทฺทิย, มหาสาลาติ ปุรโต ิเต สาลรุกฺเข ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ สุวิฺเยฺยเมว. สตฺถริ ปน เทสนํ วินิวฏฺเฏนฺเต ภทฺทิโย โสตาปนฺโน ชาโตติ.
๔. สามุคิยาสุตฺตวณฺณนา
๑๙๔. จตุตฺเถ สามุคิยาติ สามุคนิคมวาสิโน. พฺยคฺฆปชฺชาติ เต อาลปนฺโต เอวมาห. โกลนครสฺส หิ โกลรุกฺเข หาเรตฺวา กตตฺตา โกลนครนฺติ จ พฺยคฺฆปเถ มาปิตตฺตา พฺยคฺฆปชฺชนฺติ จ ทฺเว นามานิ. เอเตสฺจ ปุพฺพปุริสา ตตฺถ วสึสูติ พฺยคฺฆปชฺชวาสิตาย พฺยคฺฆปชฺชวาสิโน พฺยคฺฆปชฺชาติ วุจฺจนฺติ. เต อาลปนฺโต เอวมาห. ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานีติ ¶ ปาริสุทฺธิอตฺถาย ปธานิยงฺคานิ ปทหิตพฺพวีริยสฺส องฺคานิ, โกฏฺาสาติ อตฺโถ. สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ สีลปริโสธนวีริยสฺเสตํ นามํ. ตฺหิ สีลปาริสุทฺธิปริปูรณตฺถาย ปธานิยงฺคนฺติ สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน วิปสฺสนาปฺาย อนุคฺคเหสฺสามิ ¶ . โย ตตฺถ ฉนฺโทติอาทีสุ โย ตสฺมึ อนุคฺคณฺหเน กตฺตุกามตาฉนฺโทติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สติสมฺปชฺํ ปเนตฺถ สตึ อุปฏฺเปตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วีริยปคฺคหนตฺถํ วุตฺตํ. รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิราเชตีติ ราคปจฺจเยสุ อิฏฺารมฺมเณสุ ยถา จิตฺตํ วิรชฺชติ, เอวํ กโรติ. วิโมจนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิโมเจตีติ เยหิ อารมฺมเณหิ จิตฺตํ วิโมเจตพฺพํ, เตสุ ยถา วิมุจฺจติ, เอวํ กโรติ. วิราเชตฺวาติ เอตฺถ มคฺคกฺขเณ วิราเชติ นาม, ผลกฺขเณ วิรตฺตํ นาม โหติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสตีติ เหตุนา นเยน อรหตฺตผลวิมุตฺตึ าณผสฺเสน ผุสตีติ.
๕. วปฺปสุตฺตวณฺณนา
๑๙๕. ปฺจเม ¶ วปฺโปติ ทสพลสฺส จูฬปิตา สกฺยราชา. นิคณฺสาวโกติ เวสาลิยํ สีหเสนาปติ วิย นาฬนฺทายํ อุปาลิคหปติ วิย จ นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส อุปฏฺาโก. กาเยน สํวุโตติ กายทฺวารสฺส สํวุตตฺตา ปิหิตตฺตา กาเยน สํวุโต นาม. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อวิชฺชาวิราคาติ ¶ อวิชฺชาย ขยวิราเคน. วิชฺชุปฺปาทาติ มคฺควิชฺชาย อุปฺปาเทน. ตํ านนฺติ ตํ การณํ. อวิปกฺกวิปากนฺติ อลทฺธวิปากวารํ. ตโตนิทานนฺติ ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา. ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุนฺติ ทุกฺขเวทนาย ปจฺจยภูตา กิเลสา อสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส ปุริสสฺส อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ อตฺโถ. อภิสมฺปรายนฺติ ทุติเย อตฺตภาเว. กายสมารมฺภปจฺจยาติ กายกมฺมปจฺจเยน. อาสวาติ กิเลสา. วิฆาตปริฬาหาติ เอตฺถ วิฆาโตติ ทุกฺขํ. ปริฬาโหติ กายิกเจตสิโก ปริฬาโห. ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรตีติ าณวชฺฌํ กมฺมํ าณผสฺเสน ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ขยํ คเมติ, วิปากวชฺฌํ กมฺมํ วิปากผสฺเสน ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ขยํ คเมติ. นิชฺชราติ กิเลสชีรณกปฏิปทา. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย. อิธ ตฺวา อยํ ภิกฺขุ ขีณาสโว กาตพฺโพ, จตฺตาริ มหาภูตานิ นีหริตฺวา จตุสจฺจววตฺถานํ ทสฺเสตฺวา ยาว อรหตฺตผลํ กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ.
อิทานิ ปน ตสฺส ขีณาสวสฺส สตตวิหาเร ทสฺเสตุํ เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺสาติ เหตุนา การเณน ¶ สมฺมา วิมุตฺตสฺส. สตตวิหาราติ ¶ นิจฺจวิหารา นิพทฺธวิหารา. เนว สุมโน โหตีติ อิฏฺารมฺมเณ ราควเสน น โสมนสฺสชาโต โหติ. น ทุมฺมโนติ อนิฏฺารมฺมเณ ปฏิฆวเสน น โทมนสฺสชาโต โหติ. อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนติ สติสมฺปชฺปริคฺคหิตาย มชฺฌตฺตาการลกฺขณาย อุเปกฺขาย เตสุ อารมฺมเณสุ อุเปกฺขโก มชฺฌตฺโต หุตฺวา วิหรติ.
กายปริยนฺติกนฺติ กายนฺติกํ กายปริจฺฉินฺนํ, ยาว ปฺจทฺวารกาโย ปวตฺตติ, ตาว ปวตฺตํ ปฺจทฺวาริกเวทนนฺติ อตฺโถ. ชีวิตปริยนฺติกนฺติ ชีวิตนฺติกํ ชีวิตปริจฺฉินฺนํ, ยาว ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว ปวตฺตํ มโนทฺวาริกเวทนนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ปฺจทฺวาริกเวทนา ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ปมํ นิรุชฺฌติ, มโนทฺวาริกเวทนา ปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา นิรุชฺฌติ. สา หิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุรูปสฺมึเยว ปติฏฺาติ. ปฺจทฺวาริกา ปวตฺเต ปฺจทฺวารวเสน ปวตฺตมานา ปมวเย ¶ วีสติวสฺสกาเล รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อธิมตฺตา พลวตี โหติ, ปณฺณาสวสฺสกาเล ิตา โหติ, สฏฺิวสฺสกาลโต ปฏฺาย ปริหายมานา, อสีตินวุติวสฺสกาเล มนฺทา โหติ. ตทา หิ สตฺตา ‘‘จิรรตฺตํ เอกโต นิสีทิมฺหา นิปชฺชิมฺหา’’ติ วทนฺเตปิ น ¶ ชานามาติ วทนฺติ. อธิมตฺตานิปิ รูปาทิอารมฺมณานิ น ปสฺสาม, สุคนฺธทุคฺคนฺธํ วา สาทุอสาทุํ วา ถทฺธมุทุกํ วาติ น ชานามาติปิ วทนฺติ. อิติ เนสํ ปฺจทฺวาริกเวทนา ภคฺคา โหติ, มโนทฺวาริกา ปวตฺตติ. สาปิ อนุปุพฺเพน ปริหายมานา มรณสมเย หทยโกฏึเยว นิสฺสาย ปวตฺตติ. ยาว ปเนสา ปวตฺตติ, ตาว สตฺโต ชีวตีติ วุจฺจติ. ยทา นปฺปวตฺตติ, ตทา ‘‘มโต นิรุทฺโธ’’ติ วุจฺจติ.
สฺวายมตฺโถ วาปิยา ทีเปตพฺโพ – ยถา หิ ปุริโส ปฺจอุทกมคฺคสมฺปนฺนํ วาปึ กเรยฺย. ปมํ เทเว วุฏฺเ ปฺจหิ อุทกมคฺเคหิ อุทกํ ปวิสิตฺวา อนฺโตวาปิยํ อาวาเฏ ปูเรยฺย. ปุนปฺปุนํ เทเว วสฺสนฺเต อุทกมคฺเค ปูเรตฺวา คาวุตฑฺฒโยชนมตฺตํ โอตฺถริตฺวา อุทกํ ติฏฺเยฺย ตโต ตโต วิสฺสนฺทมานํ. อถ นิทฺธมนตุมฺเพ วิวริตฺวา เขตฺเตสุ กมฺเม กยิรมาเน อุทกํ นิกฺขมนฺตํ, สสฺสปากกาเล อุทกํ นิกฺขนฺตํ อุทกํ ปริหีนํ, ‘‘มจฺเฉ คณฺหามา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺเชยฺย. ตโต กติปาเหน อาวาเฏสุเยว ¶ อุทกํ สณฺเหย. ยาว ปน ตํ อาวาเฏสุ โหติ, ตาว มหาวาปิยํ อุทกํ อตฺถีติ สงฺขํ คจฺฉติ. ยทา ปน ตตฺถ ฉิชฺชติ, ตทา ‘‘วาปิยํ อุทกํ นตฺถี’’ติ วุจฺจติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.
ปมํ ¶ เทเว วสฺสนฺเต ปฺจหิ มคฺเคหิ อุทเก ปวิสนฺเต อาวาฏานํ ปูรณกาโล วิย หิ ปมเมว ปฏิสนฺธิกฺขเณ มโนทฺวาริกเวทนาย วตฺถุรูเป ปติฏฺิตกาโล, ปุนปฺปุนํ เทเว วสฺสนฺเต ปฺจมคฺคานํ ปูรณกาโล วิย ปวตฺเต ปฺจทฺวาริกเวทนาย ปวตฺติ, คาวุตฑฺฒโยชนมตฺตํ อชฺโฌตฺถรณํ วิย ปมวเย วีสติวสฺสกาเล รชฺชนาทิวเสน ตสฺส อธิมตฺตพลวภาโว, ยาว วาปิโต อุทกํ น นิคฺคจฺฉติ, ตาว ปูราย วาปิยา ิตกาโล วิย ปฺาสวสฺสกาเล ตสฺส ิตกาโล, นิทฺธมนตุมฺเพสุ วิวเฏสุ กมฺเม กยิรมาเน อุทกสฺส นิกฺขมนกาโล วิย สฏฺิวสฺสกาลโต ปฏฺาย ตสฺส ปริหานิ, อุทเก ภฏฺเ อุทกมคฺเคสุ ปริตฺตอุทกสฺส ิตกาโล วิย อสีตินวุติกาเล ปฺจทฺวาริกเวทนาย มนฺทกาโล, อาวาเฏสุเยว อุทกสฺส ปติฏฺิตกาโล วิย หทยวตฺถุโกฏึ นิสฺสาย มโนทฺวาเร เวทนาย ปวตฺติกาโล, อาวาเฏสุ ปริตฺเตปิ อุทเก สติ ‘‘วาปิยํ อุทกํ อตฺถี’’ติ วตฺตพฺพกาโล วิย ยาว ¶ สา ปวตฺตติ, ตาว ‘‘สตฺโต ชีวตี’’ติ วุจฺจติ. ยถา ปน อาวาเฏสุ อุทเก ฉินฺเน ‘‘นตฺถิ วาปิยํ อุทก’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ มโนทฺวาริกเวทนาย อปฺปวตฺตมานาย สตฺโต มโตติ วุจฺจติ. อิมํ เวทนํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน’’ติ.
กายสฺส เภทาติ กายสฺส เภเทน. อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตกฺขยโต อุทฺธํ. อิเธวาติ ปฏิสนฺธิวเสน ปรโต อคนฺตฺวา อิเธว. สีตี ¶ ภวิสฺสนฺตีติ ปวตฺติวิปฺผนฺทนทรถรหิตานิ สีตานิ อปฺปวตฺตนธมฺมานิ ภวิสฺสนฺติ.
ถูณํ ปฏิจฺจาติ รุกฺขํ ปฏิจฺจ. กุทฺทาลปิฏกํ อาทายาติ กุทฺทาลฺจ ขณิตฺติฺจ ปจฺฉิฺจ คเหตฺวาติ อตฺโถ. เทสนา ปน กุทฺทาลวเสเนว กตา. มูเล ฉินฺเทยฺยาติ มูลมฺหิ กุทฺทาเลน ฉินฺเทยฺย. ปลิขเณยฺยาติ ขณิตฺติยา สมนฺตา ขเณยฺย.
เอวเมว ¶ โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – รุกฺโข วิย หิ อตฺตภาโว ทฏฺพฺโพ, รุกฺขํ ปฏิจฺจ ฉายา วิย กุสลากุสลํ กมฺมํ, ฉายํ อปฺปวตฺตํ กาตุกาโม ปุริโส วิย โยคาวจโร, กุทฺทาโล วิย ปฺา, ปิฏกํ วิย สมาธิ, ขณิตฺติ วิย วิปสฺสนา, ขณิตฺติยา มูลานํ ปลิขณนกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาย เฉทนกาโล, ขณฺฑาขณฺฑํ กรณกาโล วิย ขนฺธวเสน ทิฏฺกาโล, ผาลนกาโล วิย อายตนวเสน ทิฏฺกาโล, สกลีกรณกาโล วิย ธาตุวเสน ทิฏฺกาโล, วาตาตเปน วิโสสนกาโล วิย กายิกเจตสิกสฺส วีริยสฺส กรณกาโล, อคฺคินา ฑหนกาโล วิย าเณน กิเลสานํ ฑหนกาโล, มสิกรณกาโล วิย วตฺตมานก-ปฺจกฺขนฺธกาโล, มหาวาเต โอผุนนกาโล วิย นทีโสเต ปวาหนกาโล วิย จ ฉินฺนมูลกานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกนิโรโธ, โอผุนนปฺปวาหเนหิ ¶ อปฺตฺติกภาวูปคโม วิย ปุนพฺภเว วิปากกฺขนฺธานํ อนุปฺปาเทน อปณฺณตฺติกภาโว เวทิตพฺโพ.
ภควนฺตํ เอตทโวจาติ สตฺถริ เทสนํ วินิวฏฺเฏนฺเต โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา เอตํ ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อุทยตฺถิโกติ วฑฺฒิอตฺถิโก. อสฺสปณิยํ โปเสยฺยาติ ปฺจ อสฺสโปตสตานิ กิณิตฺวา ปจฺฉา วิกฺกิณิสฺสามีติ โปเสยฺย. สหสฺสคฺฆนกสฺส อสฺสสฺส ปฺจสตมตฺตํ อุปกรณํ คนฺธมาลาทิวเสน โปสาวนิกํเยว อคมาสิ. อถสฺส เต อสฺสา เอกทิวเสเนว ¶ โรคํ ผุสิตฺวา สพฺเพ ชีวิตกฺขยํ ปาปุเณยฺยุนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน เอวมาห. อุทยฺเจว นาธิคจฺเฉยฺยาติ วฑฺฒิฺจ เคหโต นีหริตฺวา ทินฺนมูลฺจ กิฺจิ น ลเภยฺย. ปยิรุปาสินฺติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหึ. สฺวาหํ อุทยฺเจว นาธิคจฺฉินฺติ โส อหํ เนว อุทยํ น เคหโต ทินฺนธนํ อธิคจฺฉึ, ปณิยอสฺสชคฺคนโก นาม ชาโตสฺมีติ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา
๑๙๖. ฉฏฺเ ทฺวเยนาติ ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ. โอฆสฺส ¶ นิตฺถรณนฺติ จตุโรฆนิตฺถรณํ. ตโปชิคุจฺฉาเหตูติ ทุกฺกรการิกสงฺขาเตน ตเปน ปาปชิคุจฺฉนเหตุ ¶ . อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ เอกํ สมณธมฺมโกฏฺาสํ. อปริสุทฺธกายสมาจาราติอาทีสุ ปุริเมหิ ตีหิ ปเทหิ กายิกวาจสิกเจตสิกสีลานํ อปริสุทฺธตํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉิเมน ปเทน อปริสุทฺธาชีวตํ ทสฺเสติ. าณทสฺสนายาติ มคฺคาณสงฺขาตาย ทสฺสนาย. อนุตฺตราย สมฺโพธายาติ อรหตฺตาย, อรหตฺตาณผสฺเสน ผุสิตุํ อภพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. สาลลฏฺินฺติ สาลรุกฺขํ. นวนฺติ ตรุณํ. อกุกฺกุจฺจกชาตนฺติ ‘‘ภเวยฺย นุ โข, น ภเวยฺยา’’ติ อชเนตพฺพกุกฺกุจฺจํ. เลขณิยา ลิเขยฺยาติ อวเลขนมตฺตเกน อวลิเขยฺย. โธเวยฺยาติ ฆํเสยฺย. อนฺโต อวิสุทฺธาติ อพฺภนฺตเร อสุทฺธา อปนีตสารา.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลลฏฺิ วิย หิ อตฺตภาโว ทฏฺพฺโพ, นทีโสตํ วิย สํสารโสตํ, ปารํ คนฺตุกามปุริโส วิย ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย คเหตฺวา ิตปุริโส, สาลลฏฺิยา พหิทฺธา สุปริกมฺมกตกาโล วิย พหิทฺธา ตปจรณํ คาฬฺหํ กตฺวา คหิตกาโล, อนฺโต อสุทฺธกาโล ¶ วิย อพฺภนฺตเร สีลานํ อปริสุทฺธกาโล, สาลลฏฺิยา สํสีทิตฺวา อโธคมนํ วิย ทิฏฺิคติกสฺส สํสารโสเต สํสีทนํ เวทิตพฺพํ.
ผิยาริตฺตํ พนฺเธยฺยาติ ผิยฺจ อริตฺตฺจ โยเชยฺย. เอวเมวาติ เอตฺถาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สาลลฏฺิ วิย อตฺตภาโว, นทีโสตํ วิย สํสารโสตํ, ปารํ คนฺตุกามปุริโส วิย โยคาวจโร, พหิทฺธา สุปริกมฺมกตกาโล วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรสฺส ปจฺจุปฏฺิตกาโล, อนฺโต สุวิโสธิตภาโว วิย อพฺภนฺตเร ปริสุทฺธสีลภาโว, ผิยาริตฺตพนฺธนํ วิย ¶ กายิกเจตสิกวีริยกรณํ, โสตฺถินา ปาริมตีรคมนํ วิย อนุปุพฺเพน สีลํ ปูเรตฺวา สมาธึ ปูเรตฺวา ปฺํ ปูเรตฺวา นิพฺพานคมนํ ทฏฺพฺพํ.
กณฺฑจิตฺรกานีติ สรลฏฺิสรรชฺชุสรปาสาทสรสาณิสรโปกฺขรณิสรปทุมานีติ อเนกานิ กณฺเฑหิ กตฺตพฺพจิตฺรานิ. อถ โข โส ตีหิ าเนหีติ โส เอวํ พหูนิ กณฺฑจิตฺรกานิ ชานนฺโตปิ น ราชารโห โหติ, ตีหิเยว ปน าเนหิ โหตีติ อตฺโถ. สมฺมาสมาธิ ¶ โหตีติ มคฺคสมาธินา จ ผลสมาธินา จ สมาหิโต โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สมฺมาทิฏฺีติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา สมนฺนาคโต. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทีหิ จตูหิ สจฺเจหิ จตฺตาโร มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ กถิตานิ. อยํ ปน มคฺเคเนว อวิราธิตํ วิชฺฌติ นามาติ เวทิตพฺโพ. สมฺมาวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สมนฺนาคโต. อวิชฺชากฺขนฺธํ ปทาเลตีติ อรหตฺตมคฺเคน ปทาเลติ นามาติ วุจฺจติ. อิมินา หิ เหฏฺา อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชากฺขนฺโธ ปทาลิโต ¶ , อิธ ปน ปทาลิตํ อุปาทาย ปทาเลตีติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ.
๗. มลฺลิกาเทวีสุตฺตวณฺณนา
๑๙๗. สตฺตเม มลฺลิกา เทวีติ ปเสนทิรฺโ เทวี. เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโมติ เยน อิเธกจฺจา อิตฺถี. ทุพฺพณฺณาติ พีภจฺฉวณฺณา. ทุรูปาติ ทุสฺสณฺิตา. สุปาปิกาติ สุฏฺุ ปาปิกา สุฏฺุ ลามิกา. ทสฺสนายาติ ปสฺสิตุํ. ทลิทฺทาติ ธนทลิทฺทา. อปฺปสฺสกาติ สเกน ธเนน รหิตา. อปฺปโภคาติ อุปโภคปริโภคภณฺฑกรหิตา. อปฺเปสกฺขาติ อปฺปปริวารา. อฑฺฒาติ อิสฺสรา. มหทฺธนาติ วฬฺชนกธเนน มหทฺธนา. มหาโภคาติ อุปโภคปริโภคภณฺฑโภเคน มหาโภคา. มเหสกฺขาติ มหาปริวารา. อภิรูปาติ อุตฺตมรูปา. ทสฺสนียาติ ทสฺสนยุตฺตา. ปาสาทิกาติ ทสฺสเนน ปาสาทิกา. วณฺณโปกฺขรตายาติ วณฺเณน เจว สรีรสณฺาเนน จ.
อภิสชฺชตีติ ลคฺคติ. พฺยาปชฺชตีติ ปกตึ ปชหติ. ปติตฺถียตีติ โกธวเสน ถินภาวํ ถทฺธภาวํ อาปชฺชติ. น ¶ ทาตา โหตีติ น ทายิกา โหติ. เสยฺยาวสถปทีเปยฺยนฺติ เอตฺถ เสยฺยาติ มฺจปลฺลงฺกาทิสยนํ. อาวสโถติ อาวสถาคารํ. ปทีเปยฺยํ วุจฺจติ วฏฺฏิเตลาทิปทีปูปกรณํ. อิสฺสามนิกาติ อิสฺสาย สมฺปยุตฺตจิตฺตา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ ¶ . โกธนา อโหสินฺติ โกธมนา อโหสึ. อนิสฺสามนิกา อโหสินฺติ อิสฺสาวิรหิตจิตฺตา อโหสึ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
๘. อตฺตนฺตปสุตฺตวณฺณนา
๑๙๘. อฏฺเม ¶ อตฺตนฺตปาทีสุ อตฺตานํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ อตฺตนฺตโป. อตฺตโน ปริตาปนานุโยคํ อตฺตปริตาปนานุโยคํ. ปรํ ตปตีติ ปรนฺตโป. ปเรสํ ปริตาปนานุโยคํ ปรปริตาปนานุโยคํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. นิจฺฉาโตติ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. สพฺพกิเลสานํ นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต. อนฺโต ตาปนกิเลสานํ อภาวา สีตโล ชาโตติ สีตีภูโต. ฌานมคฺคผลนิพฺพานสุขานิ ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฺปฏิสํเวที. พฺรหฺมภูเตน อตฺตนาติ เสฏฺภูเตน อตฺตนา.
อเจลโกติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. โอรพฺภิกาทีสุ อุรพฺภา วุจฺจนฺติ เอฬกา, อุรพฺเภ หนตีติ โอรพฺภิโก. สูกริกาทีสุปิ เอเสว นโย. ลุทฺโทติ ทารุโณ กกฺขโฬ. มจฺฉฆาตโกติ มจฺฉพนฺโธ เกวฏฺโฏ. พนฺธนาคาริโกติ พนฺธนาคารโคปโก. กุรูรกมฺมนฺตาติ ทารุณกมฺมนฺตา.
มุทฺธาวสิตฺโตติ ¶ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺโต. ปุรตฺถิเมน นครสฺสาติ นครโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย. สนฺถาคารนฺติ ยฺสาลํ. ขราชินํ นิวาเสตฺวาติ สขุรํ อชินจมฺมํ นิวาเสตฺวา. สปฺปิเตเลนาติ สปฺปินา เจว เตเลน จ. เปตฺวา หิ สปฺปึ อวเสโส โย โกจิ สฺเนโห เตลนฺติ วุจฺจติ. กณฺฑุวมาโนติ นขานํ ฉินฺนตฺตา กณฺฑุวิตพฺพกาเล เตน กณฺฑุวมาโน. อนนฺตรหิตายาติ อสนฺถตาย. สรูปวจฺฉายาติ สทิสวจฺฉาย. สเจ คาวี เสตา โหติ, วจฺโฉปิ เสตโกว. สเจ กปิลา วา รตฺตา วา, วจฺฉโกปิ ตาทิโสวาติ เอวํ สรูปวจฺฉาย. โส เอวมาหาติ โส ราชา เอวํ วเทติ. วจฺฉตราติ ตรุณวจฺฉกภาวํ อติกฺกนฺตา พลววจฺฉา. วจฺฉตรีสุปิ เอเสว นโย. พริหิสตฺถายาติ ปริกฺเขปกรณตฺถาย เจว ยฺภูมิยํ อตฺถรณตฺถาย จ.
จตุตฺถปุคฺคลํ พุทฺธุปฺปาทโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโตติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคโตติอาทีนิ ¶ วุตฺตตฺถาเนว. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการสมฺปทํ ธมฺมํ. สุณาติ, คหปติ, วาติ กสฺมา ปมํ คหปตึ ¶ นิทฺทิสติ? นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ. เยภุยฺเยน หิ ขตฺติยกุลโต ปพฺพชิตา ชาตึ นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. พฺราหฺมณกุลา ¶ ปพฺพชิตา มนฺเต นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ, หีนชจฺจกุลา ปพฺพชิตา อตฺตโน วิชาติตาย ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. คหปติทารกา ปน กจฺเฉหิ เสทํ มฺุจนฺเตหิ ปิฏฺิยา โลณํ ปุปฺผมานาย ภูมึ กสิตฺวา ตาทิสสฺส มานสฺส อภาวโต นิหตมานทปฺปา โหนฺติ. เต ปพฺพชิตฺวา มานํ วา ทปฺปํ วา อกตฺวา ยถาพลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตา สกฺโกนฺติ อรหตฺเต ปติฏฺาตุํ. อิตเรหิ จ กุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา น พหุกา, คหปติกาว พหุกา. อิติ นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ ปมํ คหปตึ นิทฺทิสตีติ.
อฺตรสฺมึ วาติ อิตเรสํ วา กุลานํ อฺตรสฺมึ. ปจฺจาชาโตติ ปติชาโต. ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภตีติ ปริสุทฺธํ ธมฺมํ สุตฺวา ธมฺมสามิมฺหิ ตถาคเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต ภควา’’ติ สทฺธํ ปฏิลภติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. สมฺพาโธ ฆราวาโสติ สเจปิ สฏฺิหตฺเถ ฆเร โยชนสตนฺตเรปิ วา ทฺเว ชายมฺปติกา วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธว. รชาปโถติ ราครชาทีนํ อุฏฺานฏฺานนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. อาคมนปโถติปิ วฏฺฏติ. อลคฺคนฏฺเน ¶ อพฺโภกาโส วิยาติ อพฺโภกาโส. ปพฺพชิโต หิ กูฏาคารรตนปาสาทเทววิมานาทีสุ ปิหิตทฺวารวาตปาเนสุ ปฏิจฺฉนฺเนสุ วสนฺโตปิ เนว ลคฺคติ น สชฺชติ น พชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา’’ติ. อปิจ สมฺพาโธ ฆราวาโส กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสาภาวโต, รชาปโถ อสํวุตสงฺการฏฺานํ วิย รชานํ, กิเลสรชานํ สนฺนิปาตฏฺานโต. อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสสพฺภาวโต.
นยิทํ สุกรํ…เป… ปพฺพเชยฺยนฺติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปกถา – ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ, เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลินํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ¶ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ, สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ. อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ. ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสฺุจ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา ¶ อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวณิชฺชาทิกมฺมํ อคาริยนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ, ตสฺมา ปพฺพชฺชา อนคาริยาติ าตพฺพา, ตํ อนคาริยํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ¶ ปฏิปชฺเชยฺยํ.
อปฺปํ วาติ สหสฺสโต เหฏฺา โภคกฺขนฺโธ อปฺโป นาม โหติ, สหสฺสโต ปฏฺาย มหา. อาพนฺธนฏฺเน าติเยว าติปริวฏฺโฏ. โส วีสติยา เหฏฺา อปฺโป นาม โหติ, วีสติยา ปฏฺาย มหา. ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา, ตฺจ, ยตฺถ เจเต สห ชีวนฺติ, เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, ตํ ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ สาชีวฺจ ตตฺถ สิกฺขนภาเวน สมาปนฺโนติ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน. สมาปนฺโนติ สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ อุปคโตติ อตฺโถ.
ปาณาติปาตํ ปหายาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อิเมสํ เภทายาติ เยสํ อิโตติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ, เตสํ เภทาย. ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนํ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา. อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา, ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ อนุจฺฉวิกเมต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ. สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม. ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺคราโมติปิ ปาฬิ, อยเมว อตฺโถ. สมคฺครโตติ ¶ สมคฺเคสุ รโต, เต ปหาย อฺตฺถ คนฺตุํ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที. สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา ¶ วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ, ตํ สามคฺคิคุณปริทีปิกเมว วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.
เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕) เอตฺถ วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา ¶ . คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ, ปิติมตฺตํ ปิตาติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุชนสฺส มนาปา จิตฺตวุฑฺฒิกราติ พหุชนมนาปา.
กาเล ¶ วทตีติ กาลวาที, วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกอตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที. นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที. สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที. นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส, นิธานมสฺสา อตฺถีติ นิธานวตี. หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ ‘‘อหํ นิธานวตึ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ, ยุตฺตกาลํ ปน อเวกฺขิตฺวาว ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา, ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิปิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ ภาสติ. ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สํหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ, น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ.
พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ ¶ มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส ¶ เจว ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา, เฉทนเภทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรโตติ อตฺโถ.
เอกภตฺติโกติ ปาตราสภตฺตํ สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ, อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภฺุชมาโนปิ เอกภตฺติโกว โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอกภตฺติโก’’ติ. รตฺติยา โภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรโตติ รตฺตูปรโต. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรโต วิกาลโภชนา.
ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ โลหมาสโก ชตุมาสโก ทารุมาสโกติ เย โวหารํ ¶ คจฺฉนฺติ. ตสฺส อุภยสฺสาปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต, เนว ตํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคณฺหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตีติ อตฺโถ.
อามกธฺปฏิคฺคหณาติ สาลิวีหิยวโคธูมกงฺคุวรกกุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร โอทิสฺส อนฺุาตา อามกมํสมจฺฉานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนนฺติ.
อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา, อิตรา กุมาริกา นาม, ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว. ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ ¶ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ, ‘‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ, อารามิกํ ทมฺมี’’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. อเชฬกาทีสุปิ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ. ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิ-ตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว.
ทูเตยฺยํ ¶ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหิณคมนํ วุจฺจติ ฆรา ฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ. ตสฺมา ทุเตยฺยปหิณคมนานํ อนุโยโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ตุลากูฏาทีสุ กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ ตาว รูปกูฏํ, องฺคกูฏํ, คหณกูฏํ, ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สมรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ ¶ , ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.
กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ, ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรติ. ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว อฑฺฒกุลํ ¶ ปวิสิตฺวา ‘‘สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’’ติ วตฺวา อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ. ตโต เตหิ ‘‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต ‘‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพปาติโย ทตฺวา คจฺฉติ.
มานกูฏํ นาม หทยเภท-สิขาเภท-รชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺาฉิทฺเทน มาเนน ‘‘สณิกํ อาสิฺจา’’ติ วตฺวา อตฺตโน ภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต เวเคน ปูเรตฺวา สิขํ ฉินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตมฺปิ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.
อุกฺโกฏนาทีสุ อุกฺโกฏนนฺติ สามิเก อสฺสามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํ วตฺถุ ¶ – เอโก ¶ กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต ‘‘กึ โภ มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต เอกํ กหาปณํ ทตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต ‘‘น เม โภ มิคโปตเกนตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ทฺเว กหาปเณ เทหีติ. โส อาห – ‘‘นนุ เต โภ มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโน’’ติ? อาม ทินฺโนติ. อิมมฺปิ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ อยฺจ กหาปณคฺฆนโก มิคโปตโก’’ติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตีติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ. นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ, อมณึ มณินฺติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปติรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค. เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ. ตสฺมา อุกฺโกฏนสาจิโยโค วฺจนสาจิโยโค นิกติสาจิโยโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ สาจิโยโคติ วทนฺติ, ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ.
เฉทนาทีสุ เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มารณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส, คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยํ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนา ¶ มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส. อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ ¶ สาหสิกกิริยา, เคหํ ปวิสิตฺวา มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา อิจฺฉิตภณฺฑคฺคหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทน…เป… สหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.
โส สนฺตุฏฺโ โหตีติ สฺวายํ ภิกฺขุ เหฏฺา วุตฺเตน จตูสุ ปจฺจเยสุ ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคโต โหติ. อิมินา ปน ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อฏฺ ปริกฺขารา วฏฺฏนฺติ – ตีณิ จีวรานิ, ปตฺโต, ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิ, เอกา สูจิ, กายพนฺธนํ ปริสฺสาวนนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ติจีวรฺจ ¶ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;
ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.
เต สพฺเพ กายปริหาริกาปิ โหนฺติ, กุจฺฉิปริหาริกาปิ. กถํ? ติจีวรํ ตาว นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา จ วิจรณกาเล กายํ ปริหรติ โปเสตีติ กายปริหาริกํ โหติ. จีวรกณฺเณน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ปิวนกาเล, ขาทิตพฺพผลาผลํ คหณกาเล จ กุจฺฉึ ปริหรติ โปเสตีติ กุจฺฉิปริหาริกํ โหติ. ปตฺโตปิ เตน อุทกํ อุทฺธริตฺวา นฺหานกาเล กุฏิปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริโก โหติ, อาหารํ คเหตฺวา ภฺุชนกาเล กุจฺฉิปริหาริโก. วาสิปิ ตาย ทนฺตกฏฺจฺเฉทนกาเล มฺจปีานํ องฺคปาทจีวรกุฏิทณฺฑกสชฺชนกาเล จ กายปริหาริกา โหติ, อุจฺฉุจฺเฉทนนาฬิเกราทิตจฺฉนกาเล ¶ กุจฺฉิปริหาริกา. สูจิปิ จีวรสิพฺพนกาเล กายปริหาริกา โหติ, ปูวํ วา ผลํ วา วิชฺฌิตฺวา ขาทนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา. กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา วิจรณกาเล กายปริหาริกํ, อุจฺฉุอาทีนิ พนฺธิตฺวา คหณกาเล กุจฺฉิปริหาริกํ. ปริสฺสาวนํ เตน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา นฺหานกาเล เสนาสนปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริกํ, ปานียปานกปริสฺสาวนกาเล เตเนว ติลตณฺฑุลปุถุกาทีนิ คเหตฺวา ขาทนกาเล จ กุจฺฉิปริหาริกํ. อยํ ตาว อฏฺปริกฺขาริกสฺส ปริกฺขารมตฺตา.
นวปริกฺขาริกสฺส ปน เสยฺยํ ปวิสนฺตสฺส ตตฺรฏฺกปจฺจตฺถรณํ วา กฺุจิกา วา วฏฺฏติ. ทสปริกฺขาริกสฺส นิสีทนํ วา จมฺมขณฺฑํ วา วฏฺฏติ. เอกาทสปริกฺขาริกสฺส กตฺตรยฏฺิ ¶ วา เตลนาฬิกา วา วฏฺฏติ. ทฺวาทสปริกฺขาริกสฺส ฉตฺตํ วา อุปาหนํ วา วฏฺฏติ. เอเตสุ จ อฏฺปริกฺขาริโกว สนฺตุฏฺโ, อิตเร อสนฺตุฏฺา มหิจฺฉา มหาภาราติ น วตฺตพฺพา. เอเตปิ อปฺปิจฺฉาว สนฺตุฏฺาว สุภราว สลฺลหุกวุตฺติโนว. ภควา ปน น อิมํ สุตฺตํ เตสํ วเสน กเถสิ, อฏฺปริกฺขาริกสฺส วเสน กเถสิ. โส หิ ขุทฺทกวาสิฺจ สูจิฺจ ปริสฺสาวเน ปกฺขิปิตฺวา ปตฺตสฺส อนฺโต เปตฺวา ปตฺตํ อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา ติจีวรํ กายปฺปฏิพทฺธํ กตฺวา เยนิจฺฉกํ สุขํ ปกฺกมติ, ปฏินิวตฺติตฺวา คเหตพฺพํ นามสฺส ¶ น โหติ. อิติ อิมสฺส ภิกฺขุโน ¶ สลฺลหุกวุตฺติตํ ทสฺเสนฺโต ภควา สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรนาติอาทิมาห.
ตตฺถ กายปริหาริเกนาติ กายปริหรณมตฺตเกน. กุจฺฉิปริหาริเกนาติ กุจฺฉิปริหรณมตฺตเกน. สมาทาเยว ปกฺกมตีติ ตํ อฏฺปริกฺขารมตฺตกํ สพฺพํ คเหตฺวาว กายปฺปฏิพทฺธํ กตฺวาว คจฺฉติ, ‘‘มม วิหาโร ปริเวณํ อุปฏฺาโก’’ติสฺส สงฺโค วา พนฺโธ วา น โหติ. โส ชิยา มุตฺโต สโร วิย, ยูถา อปกฺกนฺโต มตฺตหตฺถี วิย อิจฺฉิติจฺฉิตํ เสนาสนํ, วนสณฺฑํ, รุกฺขมูลํ, นวํ ปพฺภารํ ปริภฺุชนฺโต เอโก ติฏฺติ, เอโก นิสีทติ, สพฺพิริยาปเถสุ เอโก อทุติโย.
‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ,
สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;
ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภี,
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทโส ๑๒๘) –
เอวํ วณฺณิตํ ขคฺควิสาณกปฺปตํ อาปชฺชติ.
อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ ปกฺขี สกุโณติ ปกฺขยุตฺโต สกุโณ. เฑตีติ อุปฺปตติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – สกุณา นาม ‘‘อสุกสฺมึ ปเทเส รุกฺโข ปริปกฺกผโล’’ติ ตฺวา นานาทิสาหิ อาคนฺตฺวา นขปกฺขตุณฺฑาทีหิ ¶ ตสฺส ผลานิ วิชฺฌนฺตา วิธุนนฺตา ขาทนฺติ, ‘‘อิทํ อชฺชตนาย, อิทํ สฺวาตนาย ภวิสฺสตี’’ติ เนสํ ¶ น โหติ. ผเล ปน ขีเณ เนว รุกฺขสฺส อารกฺขํ เปนฺติ, น ตตฺถ ปกฺขํ วา ปตฺตํ วา นขํ วา ตุณฺฑํ วา เปนฺติ, อถ โข ตสฺมึ รุกฺเข อนเปกฺขา หุตฺวา โย ยํ ทิสาภาคํ อิจฺฉติ, โส เตน สปตฺตภาโรว อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. เอวเมว อยํ ภิกฺขุ นิสฺสงฺโค นิรเปกฺโขเยว ปกฺกมติ, สมาทาเยว ปกฺกมติ. อริเยนาติ นิทฺโทเสน. อชฺฌตฺตนฺติ สเก อตฺตภาเว. อนวชฺชสุขนฺติ นิทฺโทสสุขํ.
โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ ¶ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕) วุตฺตํ. อพฺยาเสกสุขนฺติ กิเลเสหิ อนาสิตฺตสุขํ, อวิกิณฺณสุขนฺติปิ วุตฺตํ. อินฺทฺริยสํวรสุขํ หิ ทิฏฺาทีสุ ทิฏฺมตฺตาทิวเสน ปวตฺตตาย อวิกิณฺณํ โหติ.
โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ โส มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวเรน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิเมสุ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺวเสน สมฺปชานการี โหติ. ตตฺถ อภิกฺกนฺตนฺติ ปุรโต คมนํ. ปฏิกฺกนฺตนฺติ ปจฺฉาคมนํ.
สมฺปชานการี ¶ โหตีติ สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ, อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ สติสมฺปยุตฺตานํ สมฺปชฺานํ วเสน สตึ อุปฏฺเปตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวาเยว ตานิ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตานิ กโรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อิจฺฉนฺเตน ทีฆนิกาเย สามฺผลวณฺณนาโต วา มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานวณฺณนาโต วา คเหตพฺโพ.
โส อิมินา จาติอาทินา กึ ทสฺเสติ? อรฺวาสสฺส ปจฺจยสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺส หิ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา นตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส น อิชฺฌติ, ติรจฺฉานคเตหิ วา วนจรเกหิ วา สทฺธึ วตฺถพฺพตํ อาปชฺชติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา ‘‘กึ เอวรูปสฺส ปาปภิกฺขุโน อรฺวาเสนา’’ติ เภรวสทฺทํ สาเวนฺติ, หตฺเถหิ สีสํ ปหริตฺวา ปลายนาการํ กโรนฺติ. ‘‘อสุโก ภิกฺขุ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิทฺจิทฺจ ปาปกมฺมมกาสี’’ติ อยโส ปตฺถรติ. ยสฺส ปเนเต จตฺตาโร ปจฺจยา อตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส อิชฺฌติ. โส หิ อตฺตโน สีลํ ¶ ปจฺจเวกฺขนฺโต กิฺจิ กาฬกํ วา ติลกํ วา อปสฺสนฺโต ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ขยโต วยโต สมฺมสนฺโต อริยภูมึ โอกฺกมติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา อตฺตมนา วณฺณํ ภาสนฺติ. อิติสฺส อุทเก ปกฺขิตฺตเตลพินฺทุ วิย ยโส วิตฺถาริโก โหติ.
ตตฺถ วิวิตฺตนฺติ สฺุํ, อปฺปสทฺทํ, อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ. เอตเทว หิ สนฺธาย วิภงฺเค ‘‘วิวิตฺตนฺติ สนฺติเก เจปิ ¶ เสนาสนํ โหติ, ตฺจ อนากิณฺณํ คหฏฺเหิ ปพฺพชิเตหิ, เตน ตํ วิวิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๒๖) วุตฺตํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ. มฺจปีานเมตํ อธิวจนํ. เตนาห – ‘‘เสนาสนนฺติ ¶ มฺโจปิ เสนาสนํ, ปีมฺปิ, ภิสิปิ, พิมฺโพหนมฺปิ, วิหาโรปิ, อฑฺฒโยโคปิ, ปาสาโทปิ, หมฺมิยมฺปิ, คุหาปิ, อฏฺโฏปิ, มาโฬปิ, เลณมฺปิ, เวฬุคุมฺโพปิ, รุกฺขมูลมฺปิ, มณฺฑโปปิ เสนาสนํ, ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, สพฺพเมตํ เสนาสน’’นฺติ (วิภ. ๕๒๗). อปิจ วิหาโร, อฑฺฒโยโค, ปาสาโท, หมฺมิยํ, คุหาติ อิทํ วิหารเสนาสนํ นาม. มฺโจ, ปีํ, ภิสิ, พิมฺโพหนนฺติ อิทํ มฺจปีเสนาสนํ นาม. จิมิลิกา, จมฺมขณฺโฑ, ติณสนฺถาโร, ปณฺณสนฺถาโรติ อิทํ สนฺถตเสนาสนํ นาม. ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ เอตํ โอกาสเสนาสนํ นามาติ เอวํ จตุพฺพิธํ เสนาสนํ โหติ. ตํ สพฺพมฺปิ เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมว.
อิมสฺส ปน สกุณสทิสสฺส จาตุทฺทิสสฺส ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกํ ทสฺเสนฺโต อรฺํ รุกฺขมูลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) ‘‘อิทํ ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตํ อรฺํ. ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อิทํ ปน อิมสฺส ภิกฺขุโน อนุรูปํ. ตสฺส ลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส วุตฺตํ. รุกฺขมูลนฺติ ¶ ยํกิฺจิ สีตจฺฉายํ วิวิตฺตํ รุกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริตํ อุทกภินฺนํ ปพฺพตปเทสํ, ยํ นิตมฺพนฺติปิ นทีนิกฺุชนฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลิกา โหติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหนํ, มณิกฺขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตานิ กตฺวา วาลิกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺาเปตฺวา นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ, เอกสฺมึเยว ¶ วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๔) วุตฺตํ. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวาห – ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ. อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ กตฺวา วสติ. ปลาลปฺุชนฺติ ¶ ปลาลราสึ ¶ . มหาปลาลปฺุชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ปจฺฉาภตฺตนฺติ ภตฺตสฺส ปจฺฉโต. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตปริเยสนโต ปฏิกฺกนฺโต. ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมสรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ น อุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา, มุขสมีเป วา กตฺวาติ อตฺโถ. เตเนว วิภงฺเค วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สูปฏฺิตา นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา. เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (วิภ. ๕๓๗). อถ วา ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ – ‘ปริมุขํ สติ’’’นฺติ เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) วุตฺตนเยน ปเนตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ.
อภิชฺฌํ โลเกติ เอตฺถ ลุชฺชน-ปลุชฺชนฏฺเน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ¶ โลโก. ตสฺมา ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ราคํ ปหาย กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. วิคตาภิชฺเฌนาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนตฺตา วิคตาภิชฺเฌน, น จกฺขุวิฺาณสทิเสนาติ อตฺโถ. อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธตีติ อภิชฺฌาโต จิตฺตํ ปริโมเจติ, ยถา นํ สา มฺุจติ เจว มฺุจิตฺวา จ น ปุน คณฺหาติ, เอวํ กโรตีติ อตฺโถ. พฺยาปาทปโทสํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. พฺยาปชฺชติ อิมินา จิตฺตํ ปูติกุมฺมาสาทโย วิย ปุริมปกตึ ปชหตีติ พฺยาปาโท. วิการปฺปตฺติยา ปทุสฺสติ, ปรํ วา ปทูเสติ วินาเสตีติ ปโทโส. อุภยมฺเปตํ โกธสฺเสว อธิวจนํ ¶ . ถินํ จิตฺตเคลฺํ, มิทฺธํ เจตสิกเคลฺํ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. อาโลกสฺีติ รตฺติมฺปิ ทิวาปิ ทิฏฺอาโลกสฺชานนสมตฺถาย วิคตนีวรณาย ปริสุทฺธาย สฺาย สมนฺนาคโต ¶ . สโต สมฺปชาโนติ สติยา จ าเณน จ สมนฺนาคโต. อิทํ อุภยํ อาโลกสฺาย อุปการกตฺตา วุตฺตํ. อุทฺธจฺจฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ. ติณฺณวิจิกิจฺโฉติ วิจิกิจฺฉํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ิโต. ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ เอวํ นปฺปวตฺตตีติ อกถํกถี. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺเชสุ ธมฺเมสุ. ‘‘อิเม นุ โข กุสลา, กถมิเม กุสลา’’ติ เอวํ น วิจิกิจฺฉติ น กงฺขตีติ อตฺโถ. อยเมตฺถ ¶ สงฺเขโป. อิเมสุ ปน นีวรเณสุ วจนตฺถลกฺขณาทิเภทโต ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๗๑-๗๒) วุตฺตํ. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ ยสฺมา อิเม ปฺจ นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนาปิ อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ วา อภิฺา อุจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺติ. ตสฺมา ปฺาย ทุพฺพลีกรณาติ วุจฺจนฺติ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตานิ.
อิเม อาสวาติอาทิ อปเรนาปิ ปริยาเยน จตุสจฺจปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตํ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตีติ เอตฺตาวตา เหฏฺา ตีหิ องฺเคหิ พาหิรสมยสฺส นิปฺผลภาวํ ทสฺเสตฺวา จตุตฺเถน องฺเคน อตฺตโน สาสนสฺส คมฺภีรภาวํ ปกาเสตฺวา เทสนาย อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหิ. อิทานิ เทสนํ อปฺเปนฺโต เอวํ โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห.
๙. ตณฺหาสุตฺตวณฺณนา
๑๙๙. นวเม ชาลินินฺติ ชาลสทิสํ. ยถา หิ ชาลํ สมนฺตโต สํสิพฺพิตํ อากุลพฺยากุลํ, เอวํ ตณฺหาปีติ ชาลสทิสตฺตา ชาลินีติ วุตฺตา. ตโย วา ภเว อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตาย เอติสฺสา ตตฺถ ตตฺถ อตฺตโน โกฏฺาสภูตํ ชาลํ อตฺถีติปิ ชาลินี. สริตนฺติ ตตฺถ ตตฺถ สริตฺวา สํสริตฺวา ิตํ. วิสฏนฺติ ปตฺถฏํ วิกฺขิตฺตํ. วิสตฺติกนฺติ ตตฺถ ตตฺถ วิสตฺตํ ลคฺคํ ลคิตํ. อปิจ ¶ ‘‘วิสมูลาติ วิสตฺติกา. วิสผลาติ วิสตฺติกา’’ติอาทินาปิ (มหานิ. ๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๒๒) นเยเนตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุทฺธสฺโตติ อุปริ ธํสิโต. ปริโยนทฺโธติ สมนฺตา เวิโต. ตนฺตากุลกชาโตติ ตนฺตํ วิย อากุลชาโต. ยถา นาม ทุนฺนิกฺขิตฺตํ มูสิกจฺฉินฺนํ เปสการานํ ตนฺตํ ตหึ ตหึ อากุลํ ¶ โหติ, ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ โหติ, เอวํ สตฺตา อิมาย ตณฺหาย ¶ ปริโยนทฺธา อากุลพฺยากุลา น สกฺโกนฺติ อตฺตโน นิสฺสรณมคฺคํ อุชุํ กาตุํ. คุลาคุณฺิกชาโตติ คุลาคุณฺิกํ วุจฺจติ เปสการกฺชิยสุตฺตํ. คุลา นาม สกุณิกา, ตสฺสา กุลาวโกติปิ เอเก. ยถา ตทุภยมฺปิ อากุลํ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรนฺติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. มฺุชปพฺพชภูโตติ มฺุชติณํ วิย ปพฺพชติณํ วิย จ ภูโต, ตาทิโส ชาโต. ยถา ตานิ ติณานิ โกฏฺเฏตฺวา กตรชฺชุํ ชิณฺณกาเล กตฺถจิ ปติตํ คเหตฺวา เตสํ ติณานํ ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ. ตมฺปิ จ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ตฺวา สกฺกา ภเวยฺย อุชุํ กาตุํ, เปตฺวา ปน โพธิสตฺเต อฺโ สตฺโต อตฺตโน ธมฺมตาย ตณฺหาชาลํ ปทาเลตฺวา อตฺตโน นิสฺสรณมคฺคํ อุชุํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เอวมยํ โลโก ตณฺหาชาเลน ปริโยนทฺโธ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติ. ตตฺถ ¶ อปาโยติ นิรย-ติรจฺฉานโยนิ-เปตฺติวิสย-อสุรกายา. สพฺเพปิ หิ เต วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อายสฺส อภาวโต อปายาติ วุจฺจนฺติ. ตถา ทุกฺขสฺส คติภาวโต ทุคฺคติ. สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาโต. อิตโร ปน –
‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจติ.
ตํ สพฺพํ นาติวตฺตติ นาติกฺกมติ, อถ โข จุติโต ปฏิสนฺธึ ปฏิสนฺธิโต จุตินฺติ เอวํ ปุนปฺปุนํ จุติปฏิสนฺธิโย คณฺหมาโน ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ นวสุ สตฺตาวาเสสุ มหาสมุทฺเท วาตกฺขิตฺตนาวา วิย ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิย จ ปริพฺภมติเยว.
อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทฺหิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. พาหิรสฺส อุปาทายาติ พาหิรํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย, อิทมฺปิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อสฺมีติ, ภิกฺขเว, สตีติ, ภิกฺขเว, ยเทตํ อชฺฌตฺตํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมูหคฺคาหโต อสฺมีติ โหติ, ตสฺมึ สตีติ อตฺโถ. อิตฺถสฺมีติ โหตีติอาทีสุ ปน เอวํ สมูหโต อหนฺติ คหเณ สติ ตโต อนุปนิธาย ¶ จ อุปนิธาย จาติ ¶ ทฺวิธา คหณํ โหติ. ตตฺถ อนุปนิธายาติ อฺํ อาการํ อนุปคมฺม ¶ สกภาวเมว อารมฺมณํ กตฺวา อิตฺถสฺมีติ โหติ, ขตฺติยาทีสุ อิทํปกาโร อหนฺติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน โหตีติ อตฺโถ. อิทํ ตาว อนุปนิธาย คหณํ. อุปนิธาย คหณํ ปน ทุวิธํ โหติ สมโต จ อสมโต จ. ตํ ทสฺเสตุํ เอวํสฺมีติ อฺถาสฺมีติ จ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวํสฺมีติ อิทํ สมโต อุปนิธาย คหณํ, ยถายํ ขตฺติโย ยถายํ พฺราหฺมโณ, เอวมหมฺปีติ อตฺโถ. อฺถาสฺมีติ อิทํ ปน อสมโต คหณํ, ยถายํ ขตฺติโย ยถายํ พฺราหฺมโณ, ตโต อฺถา อหํ, หีโน วา อธิโก วาติ อตฺโถ. อิมานิ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิ.
อสสฺมีติ สตสฺมีติ อิมานิ ปน ทฺเว ยสฺมา อตฺถีติ อสํ, นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. สีทตีติ สตํ, อนิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมา สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อิโต ปรานิ สนฺติ เอวมาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิ. สนฺติ โหตีติ เอวมาทีสุ อหํ สิยนฺติ โหตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อธิปฺปาโย ปเนตฺถ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว คเหตพฺโพ. อปิหํ สนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อปิ นาม อหํ ภเวยฺยนฺติ เอวํ ปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานิ. ตานิปิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ¶ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิ. เตสมฺปิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวเมเต –
‘‘ทฺเว ทิฏฺิสีสา สีสฺเ, จตฺตาโร สีสมูลกา;
ตโย ตโยติ เอตานิ, อฏฺารส วิภาวเย.
เอเตสุ หิ อสสฺมิ, สตสฺมีติ เอเต ทฺเว ทิฏฺิสีสา นาม. อสฺมิ, สนฺติ, อปิหํ สนฺติ, ภวิสฺสนฺติ เอเต จตฺตาโร สุทฺธสีสา เอว. อิตฺถสฺมีติอาทโย ตโย ตโยติ ทฺวาทส สีสมูลกา นามาติ เอวเมเต ทฺเว ทิฏฺิสีสา จตฺตาโร สุทฺธสีสา ทฺวาทส สีสมูลกาติ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตธมฺมา เวทิตพฺพา. อิมานิ ตาว อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ. พาหิรสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริเตสุปิ เอเสว ¶ นโย. อิมินาติ อิมินา รูเปน วา…เป… วิฺาเณน วาติ เอส วิเสโส เวทิตพฺโพ. เสสํ ตาทิสเมว.
อิติ เอวรูปานิ อตีตานิ ฉตฺตึสาติ เอกเมกสฺส ปุคฺคลสฺส อตีเต อทฺธนิ ฉตฺตึส. อนาคตานิ ¶ ฉตฺตึสาติ เอกเมกสฺเสว ปุคฺคลสฺส จ อนาคเต อทฺธนิ ฉตฺตึส. ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ เอกสฺส วา ปุคฺคลสฺส ยถาสมฺภวโต พหูนํ วา ปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธนิ ฉตฺตึสาว. สพฺพสตฺตานํ ปน นิยเมเนว อตีเต อทฺธนิ ฉตฺตึส, อนาคเต ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึส. อนนฺตา หิ อสทิสตณฺหามานทิฏฺิเภทา สตฺตา. อฏฺสตํ ¶ ตณฺหาวิจริตํ โหนฺตีติ เอตฺถ ปน อฏฺสตสงฺขาตํ ตณฺหาวิจริตํ โหตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๑๐. เปมสุตฺตวณฺณนา
๒๐๐. ทสเม น อุสฺเสเนตีติ ทิฏฺิวเสน น อุกฺขิปติ. น ปฏิเสเนตีติ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา กลหภณฺฑนวเสน น อุกฺขิปติ. น ธูปายตีติ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตวเสน น ธูปายติ. น ปชฺชลตีติ พาหิรสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตวเสน น ปชฺชลติ. น สมฺปชฺฌายตีติ อสฺมิมานวเสน น สมฺปชฺฌายติ. เสสํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ.
มหาวคฺโค ปฺจโม.
จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๕. ปฺจมปณฺณาสกํ
(๒๑) ๑. สปฺปุริสวคฺโค
๑-๖. สิกฺขาปทสุตฺตวณฺณนา
๒๐๑. ปฺจมสฺส ¶ ¶ ปเม อสปฺปุริสนฺติ ลามกปุริสํ ตุจฺฉปุริสํ มูฬฺหปุริสํ อวิชฺชาย อนฺธีกตํ พาลํ. อสปฺปุริสตรนฺติ อติเรเกน อสปฺปุริสํ. อิตเร ทฺเว วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ยถา เจตฺถ, เอวํ อิโต ปเรสุ ปฺจสุ. เอเตสุ หิ ปมํ ปฺจเวรวเสน เทสิตํ, ทุติยํ อสฺสทฺธมฺมวเสน, ตติยํ กายวจีทฺวารวเสน, จตุตฺถํ มโนทฺวารวเสน, ปฺจมํ อฏฺมิจฺฉตฺตวเสน, ฉฏฺํ ทสมิจฺฉตฺตวเสน.
๗-๑๐. ปาปธมฺมสุตฺตจตุกฺกวณฺณนา
๒๐๗-๒๑๐. สตฺตเม ¶ ปาปนฺติ ลามกํ สํกิลิฏฺปุคฺคลํ. กลฺยาณนฺติ ภทฺทกํ อนวชฺชปุคฺคลํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. อฏฺเมปิ เอเสว นโย. นวเม ปาปธมฺมนฺติ ลามกธมฺมํ. กลฺยาณธมฺมนฺติ อนวชฺชธมฺมํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ทสเมปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ วคฺเค ทสสุปิ สุตฺเตสุ อคาริยปฺปฏิปทา กถิตา. สเจปิ โสตาปนฺนสกทาคามิโน โหนฺติ, วฏฺฏติเยวาติ.
สปฺปุริสวคฺโค ปโม.
(๒๒) ๒. ปริสาวคฺโค
๑. ปริสาสุตฺตวณฺณนา
๒๑๑. ทุติยสฺส ¶ ปเม ปริสํ ทูเสนฺตีติ ปริสทูสนา. ปริสํ โสเภนฺตีติ ปริสโสภนา.
๒. ทิฏฺิสุตฺตวณฺณนา
๒๑๒. ทุติเย มโนทุจฺจริเต ปริยาปนฺนาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ มหาสาวชฺชตาย วิสุํ วุตฺตา, ตสฺสา จ ปฏิปกฺขวเสน สมฺมาทิฏฺิ.
๓. อกตฺุตาสุตฺตวณฺณนา
๒๑๓. ตติเย ¶ อกตฺุตา อกตเวทิตาติ อกตฺุตาย อกตเวทิตาย. อุภยมฺเปตํ อตฺถโต เอกเมว. สุกฺกปกฺเขปิ เอเสว นโย.
๔-๗. ปาณาติปาตีสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑๔-๒๑๗. จตุตฺถํ จตุนฺนํ กมฺมกิเลสานํ ตปฺปฏิปกฺขสฺส จ วเสน วุตฺตํ, ปฺจมํ สุกฺกปกฺขานํ อาทิโต จตุนฺนํ มิจฺฉตฺตานํ วเสน, ฉฏฺํ อวเสสานํ จตุนฺนํ, สตฺตมํ อนริยโวหารอริยโวหารานํ. ตถา ¶ อฏฺมนวมทสมานิ สปฺปฏิปกฺขานํ อสฺสทฺธมฺมานํ วเสน วุตฺตานิ. สพฺพสุตฺเตสุ ปน สุกฺกปกฺขธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว กถิตา. นวสุ สุตฺเตสุ กิฺจาปิ ‘‘สคฺเค’’ติ วุตฺตํ, ตโย ปน มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ ลพฺภนฺติเยวาติ.
ปริสาวคฺโค ทุติโย.
(๒๓) ๓. ทุจฺจริตวคฺควณฺณนา
๒๒๑-๒๓๑. ตติยสฺส ¶ ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ทสเม โย จินฺเตตฺวา กพฺยํ กโรติ, อยํ จินฺตากวิ นาม. โย สุตฺวา กโรติ, อยํ สุตกวิ นาม. โย เอกํ อตฺถํ นิสฺสาย กโรติ, อยํ อตฺถกวิ นาม. โย ตงฺขณฺเว วงฺคีสตฺเถโร วิย อตฺตโน ปฏิภาเนน กโรติ, อยํ ปฏิภานกวิ นามาติ.
ทุจฺจริตวคฺโค ตติโย.
(๒๔) ๔. กมฺมวคฺโค
๑. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๓๒. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม กณฺหนฺติ กาฬกํ ทสอกุสลกมฺมปถกมฺมํ. กณฺหวิปากนฺติ อปาเย นิพฺพตฺตนโต กาฬกวิปากํ. สุกฺกนฺติ ปณฺฑรกํ กุสลกมฺมปถกมฺมํ ¶ . สุกฺกวิปากนฺติ สคฺเค นิพฺพตฺตนโต ปณฺฑรกวิปากํ. กณฺหสุกฺกนฺติ มิสฺสกกมฺมํ. กณฺหสุกฺกวิปากนฺติ ¶ สุขทุกฺขวิปากํ. มิสฺสกกมฺมฺหิ กตฺวา อกุสเลน ติรจฺฉานโยนิยํ มงฺคลหตฺถิฏฺานาทีสุ อุปฺปนฺโน กุสเลน ปวตฺเต สุขํ เวทิยติ. กุสเลน ราชกุเลปิ นิพฺพตฺโต อกุสเลน ปวตฺเต ทุกฺขํ เวทิยติ. อกณฺหํ อสุกฺกนฺติ กมฺมกฺขยกรํ จตุมคฺคาณํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ ยทิ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย. ยทิ สุกฺกํ ภเวยฺย, สุกฺกวิปากํ ทเทยฺย. อุภยวิปากสฺส ปน อปฺปทานโต อกณฺหํ อสุกฺกนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
๒. วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา
๒๓๓. ทุติเย สพฺยาพชฺฌนฺติ สโทสํ. กายสงฺขารนฺติ กายทฺวารเจตนํ. อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ สมฺปิณฺเฑติ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. สพฺยาพชฺฌํ โลกนฺติ สทุกฺขํ โลกํ. สพฺยาพชฺฌา ผสฺสาติ สทุกฺขา วิปากผสฺสา. สพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยตีติ สาพาธํ วิปากเวทนํ เวทิยติ. เอกนฺตทุกฺขนฺติ เอกนฺเตเนว ทุกฺขํ, น สุขสมฺมิสฺสํ. เสยฺยถาปิ สตฺตา เนรยิกาติ เอตฺถ เสยฺยถาปีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. เตน เกวลํ เนรยิกสตฺเต ทสฺเสติ, อฺเ ปน ตํสริกฺขกา นาม นตฺถิ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสยฺยถาปิ มนุสฺสาติอาทีสุ ปน มนุสฺสานํ ตาว กาเลน สุขา เวทนา อุปฺปชฺชติ, กาเลน ทุกฺขา เวทนา. เอกจฺเจ ¶ จ เทวาติ เอตฺถ ปน กามาวจรเทวา ทฏฺพฺพา. เตสฺหิ มเหสกฺขตรา เทวตา ทิสฺวา นิสินฺนาสนโต วุฏฺานํ, ปารุตอุตฺตราสงฺคสฺส โอตารณํ, อฺชลิปคฺคณฺหนนฺติอาทีนํ วเสน กาเลน ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺตานํ กาเลน สุขํ. เอกจฺเจ จ วินิปาติกาติ เอตฺถ เวมานิกเปตา ทฏฺพฺพา. เต นิรนฺตรเมว เอกสฺมึ กาเล สุขํ, เอกสฺมึ กาเล ¶ ทุกฺขํ เวทิยนฺติ. นาคสุปณฺณหตฺถิอสฺสาทโย ปน มนุสฺสา วิย โวกิณฺณสุขทุกฺขาว โหนฺติ. ปหานาย ยา เจตนาติ เอตฺถ วิวฏฺฏคามินี มคฺคเจตนา เวทิตพฺพา. สา หิ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตีติ.
๓. โสณกายนสุตฺตวณฺณนา
๒๓๔. ตติเย ¶ สิขาโมคฺคลฺลาโนติ สีสมชฺเฌ ิตาย มหติยา สิขาย สมนฺนาคโต โมคฺคลฺลานโคตฺโต พฺราหฺมโณ. ปุริมานีติ อตีตานนฺตรทิวสโต ปฏฺาย ปุริมานิ, ทุติยาทิโต ปฏฺาย ปุริมตรานิ เวทิตพฺพานิ. โสณกายโนติ ตสฺเสว อนฺเตวาสิโก. กมฺมสจฺจายํ โภ โลโกติ โภ อยํ โลโก กมฺมสภาโว. กมฺมสมารมฺภฏฺายีติ กมฺมสมารมฺเภน ติฏฺติ. กมฺมํ อายูหนฺโตว ติฏฺติ, อนายูหนฺโต อุจฺฉิชฺชตีติ ทีเปติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
๔-๙. สิกฺขาปทสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๓๕. จตุตฺถาทีนิปิ อุตฺตานตฺถาเนว. มคฺคงฺเคสุ ปน ยสฺมา สติยา อุปฏฺเปตฺวา ปฺาย ปริจฺฉินฺทติ, ตสฺมา อุภยเมว กมฺมํ. เสสา องฺคาเนว โหนฺติ, โน กมฺมนฺติ ¶ วุตฺตํ. โพชฺฌงฺเคสุปิ เอเสว นโย. อภิธมฺเม ปน สพฺพมฺเปตํ อวิเสเสน เจตนาสมฺปยุตฺตกมฺมนฺเตว วณฺณิตํ.
๑๐. สมณสุตฺตวณฺณนา
๒๔๑. ทสเม อิเธวาติ อิมสฺมึเยว สาสเน. อยํ ปน นิยโม เสสปเทสุปิ เวทิตพฺโพ. ทุติยาทโยปิ หิ สมณา อิเธว, น อฺตฺถ. สฺุาติ ริตฺตา ตุจฺฉา. ปรปฺปวาทาติ จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสติกา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺิวาทา, อฏฺ อสฺิวาทา, อฏฺ เนวสฺินาสฺิวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ อิเม สพฺเพปิ พฺรหฺมชาเล อาคตทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย อิโต พาหิรานํ ปเรสํ ปวาทา ปรปฺปวาทา นาม. เต สพฺเพปิ อิเมหิ จตูหิ ผลฏฺกสมเณหิ สฺุา. น หิ เต เอตฺถ สนฺติ. น เกวลฺจ เอเตเหว สฺุา ¶ , จตูหิ ปน มคฺคฏฺกสมเณหิปิ, จตุนฺนํ มคฺคานํ อตฺถาย อารทฺธวิปสฺสเกหิปีติ ทฺวาทสหิปิ สมเณหิ สฺุา เอว. อิทเมว อตฺถํ สนฺธาย ภควตา มหาปรินิพฺพาเน (ที. นิ. ๒.๒๑๔) วุตฺตํ –
‘‘เอกูนตึโส ¶ วยสา สุภทฺท,
ยํ ปพฺพชึ กึกุสลานุเอสี;
วสฺสานิ ปฺาส สมาธิกานิ,
ยโต อหํ ปพฺพชิโต สุภทฺท;
ายสฺส ธมฺมสฺส ปเทสวตฺตี,
อิโต พหิทฺธา สมโณปิ นตฺถิ’’.
‘‘ทุติโยปิ สมโณ นตฺถิ, ตติโยปิ สมโณ นตฺถิ, จตุตฺโถปิ สมโณ นตฺถิ, สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณหิ อฺเหี’’ติ ¶ . เอตฺถ หิ ปเทสวตฺตีติ อารทฺธวิปสฺสโก อธิปฺเปโต. ตสฺมา โสตาปตฺติมคฺคสฺส อารทฺธวิปสฺสกํ มคฺคฏฺํ ผลฏฺนฺติ ตโยปิ เอกโต กตฺวา ‘‘สมโณปิ นตฺถี’’ติ อาห, สกทาคามิมคฺคสฺส อารทฺธวิปสฺสกํ มคฺคฏฺํ ผลฏฺนฺติ ตโยปิ เอกโต กตฺวา ‘‘ทุติโยปิ สมโณ นตฺถี’’ติ อาห. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย. เอกาทสมํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
กมฺมวคฺโค จตุตฺโถ.
(๒๕) ๕. อาปตฺติภยวคฺโค
๑. สงฺฆเภทกสุตฺตวณฺณนา
๒๔๓. ปฺจมสฺส ¶ ปเม อปิ นุ ตํ, อานนฺท, อธิกรณนฺติ วิวาทาธิกรณาทีสุ อฺตรํ อธิกรณํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปฺปชฺชิ, สตฺถา ตสฺส วูปสนฺตภาวํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. กุโต ตํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, กุโต กินฺติ เกน การเณน ตํ อธิกรณํ วูปสมิสฺสตีติ วทติ. เกวลกปฺปนฺติ สกลํ สมนฺตโต. สงฺฆเภทาย ิโตติ สงฺเฆน สทฺธึ วาทตฺถาย กถิตํ ปฏิกเถนฺโตว ิโต. ตตฺรายสฺมาติ ตสฺมึ เอวํ ิเต อายสฺมา อนุรุทฺโธ. น เอกวาจิกมฺปิ ภณิตพฺพํ มฺตีติ ‘‘มา, อาวุโส, สงฺเฆน สทฺธึ เอวํ อวจา’’ติ เอกวจนมฺปิ วตฺตพฺพํ น มฺติ. โวยฺุชตีติ อนุยฺุชติ อนุโยคํ อาปชฺชติ. อตฺถวเสติ การณวเส. นาเสสฺสนฺตีติ ¶ อุโปสถปฺปวารณํ อุปคนฺตุํ อทตฺวา นิกฺกฑฺฒิสฺสนฺติ. เสสํ ปาฬิวเสเนว เวทิตพฺพํ.
๒. อาปตฺติภยสุตฺตวณฺณนา
๒๔๔. ทุติเย ¶ ขุรมุณฺฑํ กริตฺวาติ ปฺจ สิขณฺฑเก เปตฺวา ขุเรน มุณฺฑํ กริตฺวา. ขรสฺสเรนาติ กกฺขฬสทฺเทน. ปณเวนาติ วชฺฌเภริยา. ถลฏฺสฺสาติ เอกมนฺเต ิตสฺส. สีสจฺเฉชฺชนฺติ สีสจฺเฉทารหํ. ยตฺร หิ นามาติ ยํ นาม. โส วตสฺสาหนฺติ โส วต อหํ อสฺสํ, ยํ เอวรูปํ ปาปํ น กเรยฺยนฺติ อตฺโถ. ยถาธมฺมํ ปฏิกริสฺสตีติ ธมฺมานุรูปํ ปฏิกริสฺสติ, สามเณรภูมิยํ สฺสตีติ อตฺโถ. กาฬวตฺถํ ปริธายาติ กาฬปิโลติกํ นิวาเสตฺวา. โมสลฺลนฺติ มุสลาภิปาตารหํ. ยถาธมฺมนฺติ อิธ อาปตฺติโต วุฏฺาย สุทฺธนฺเต ปติฏฺหนฺโต ยถาธมฺมํ กโรติ นาม. ภสฺมปุฏนฺติ ฉาริกาภณฺฑิกํ. คารยฺหํ ภสฺมปุฏนฺติ ครหิตพฺพฉาริกาปุเฏน มตฺถเก อภิฆาตารหํ. ยถาธมฺมนฺติ อิธ อาปตฺตึ เทเสนฺโต ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ นาม. อุปวชฺชนฺติ อุปวาทารหํ. ปาฏิเทสนีเยสูติ ปฏิเทเสตพฺเพสุ. อิมินา ¶ สพฺพาปิ ¶ เสสาปตฺติโย สงฺคหิตา. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อาปตฺติภยานีติ, ภิกฺขเว, อิมานิ จตฺตาริ อาปตฺตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกภยานิ นามาติ.
๓. สิกฺขานิสํสสุตฺตวณฺณนา
๒๔๕. ตติเย สิกฺขา อานิสํสา เอตฺถาติ สิกฺขานิสํสํ. ปฺา อุตฺตรา เอตฺถาติ ปฺุตฺตรํ. วิมุตฺติ สาโร เอตฺถาติ วิมุตฺติสารํ. สติ อาธิปเตยฺยา เอตฺถาติ สตาธิปเตยฺยํ. เอเตสํ หิ สิกฺขาทิสงฺขาตานํ อานิสํสาทีนํ อตฺถาย วุสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. อาภิสมาจาริกาติ อุตฺตมสมาจาริกา. วตฺตวเสน ปฺตฺตสีลสฺเสตํ อธิวจนํ. ตถา ตถา โส ตสฺสา สิกฺขายาติ ตถา ตถา โส สิกฺขากาโม ภิกฺขุ ตสฺมึ สิกฺขาปเท.
อาทิพฺรหฺมจริยิกาติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานํ จตุนฺนํ มหาสีลานเมตํ อธิวจนํ. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน. ธมฺมาติ จตุสจฺจธมฺมา. ปฺาย สมเวกฺขิตา โหนฺตีติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. วิมุตฺติยา ผุสิตา โหนฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา าณผสฺเสน ผุฏฺา โหนฺติ. อชฺฌตฺตํเยว สติ สูปฏฺิตา โหตีติ นิยกชฺฌตฺเตเยว สติ สุฏฺุ อุปฏฺิตา โหติ. ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ วิปสฺสนาปฺาย ¶ อนุคฺคเหสฺสามิ. ปฺาย ¶ สมเวกฺขิสฺสามีติ อิธาปิ วิปสฺสนาปฺา อธิปฺเปตา. ผุสิตํ วา ธมฺมํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ เอตฺถ ปน มคฺคปฺาว อธิปฺเปตา.
๔. เสยฺยาสุตฺตวณฺณนา
๒๔๖. จตุตฺเถ เปตาติ กาลกตา วุจฺจนฺติ. อุตฺตานา เสนฺตีติ เต เยภุยฺเยน อุตฺตานกาว สยนฺติ. อถ วา เปตฺติวิสเย นิพฺพตฺตา เปตา นาม, เต อปฺปมํสโลหิตตฺตา อฏฺิสงฺฆาตชฏิตา เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ, อุตฺตานาว เสนฺติ. อนตฺตมโน โหตีติ เตชุสฺสทตฺตา สีโห มิคราชา ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ, ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมึ าเน เปตฺวา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทปจฺฉิมปาทนงฺคุฏฺานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา ทฺวินฺนํ ปุริมปาทานํ มตฺถเก สีสํ เปตฺวา สยติ. ทิวสมฺปิ สยิตฺวา ปพุชฺฌมาโน น อุตฺตสนฺโต ปพุชฺฌติ, สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทาทีนํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ กิฺจิ านํ ¶ วิชหิตฺวา ิตํ โหติ, ‘‘นยิทํ ตุยฺหํ ชาติยา, น สูรภาวสฺส อนุรูป’’นฺติ อนตฺตมโน หุตฺวา ตตฺเถว สยติ, น โคจราย ปกฺกมติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อนตฺตมโน โหตี’’ติ. อวิชหิตฺวา ิเต ปน ‘‘ตุยฺหํ ชาติยา จ สูรภาวสฺส จ อนุรูปมิท’’นฺติ หฏฺตุฏฺโ อุฏฺาย สีหวิชมฺภนํ วิชมฺภิตฺวา เกสรภารํ วิธุนิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ ¶ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตมโน โหตี’’ติ.
๕. ถูปารหสุตฺตวณฺณนา
๒๔๗. ปฺจเม ราชา จกฺกวตฺตีติ เอตฺถ กสฺมา ภควา อคารมชฺเฌ วสิตฺวา กาลกตสฺส รฺโ ถูปกรณํ อนุชานาติ, น สีลวโต ปุถุชฺชนภิกฺขุสฺสาติ? อนจฺฉริยตฺตา. ปุถุชฺชนภิกฺขูนฺหิ ถูเป อนฺุายมาเน ตมฺพปณฺณิทีเป ตาว ถูปานํ โอกาโส น ภเวยฺย, ตถา อฺเสุ าเนสุ. ตสฺมา ‘‘อนจฺฉริยา เต ภวิสฺสนฺตี’’ติ นานุชานาติ. จกฺกวตฺตี ราชา เอโกว นิพฺพตฺตติ, เตนสฺส ถูโป อจฺฉริโย โหติ. ปุถุชฺชนสีลวโต ปน ปรินิพฺพุตภิกฺขุโน วิย มหนฺตมฺปิ สกฺการํ กาตุํ วฏฺฏติเยว. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๘. ปมโวหารสุตฺตวณฺณนา
๒๕๐. อฏฺเม ¶ อนริยโวหาราติ อนริยานํ กถา. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
อาปตฺติภยวคฺโค ปฺจโม.
ปฺจมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
(๒๖) ๖. อภิฺาวคฺโค
๑-๓. อภิฺาสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๕๔-๒๕๖. ฉฏฺสฺส ¶ ปเม อภิฺายาติ ชานิตฺวา. สมโถ จ วิปสฺสนา จาติ จิตฺเตกคฺคตา จ สงฺขารปริคฺคหวิปสฺสนาาณฺจ. วิชฺชา จ วิมุตฺติ จาติ มคฺคาณวิชฺชา จ เสสา สมฺปยุตฺตกธมฺมา จ. ทุติเย ¶ อนริยปริเยสนาติ อนริยานํ เอสนา คเวสนา. ชราธมฺมนฺติ ชราสภาวํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตติยํ อุตฺตานเมว.
๔. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๕๗. จตุตฺเถ มาลุกฺยปุตฺโตติ มาลุกฺยพฺราหฺมณิยา ปุตฺโต. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ตว โอวาทยาจเน. อิมินา เถรํ อปสาเทติปิ อุสฺสาเทติปิ. กถํ? อยํ กิร ทหรกาเล ปจฺจเยสุ ลคฺโค หุตฺวา ปจฺฉา มหลฺลกกาเล อรฺวาสํ ปตฺเถนฺโต กมฺมฏฺานํ ยาจติ. อถ ภควา ‘‘เอตฺถ ทหเร กึ วกฺขาม, มาลุกฺยปุตฺโต วิย ตุมฺเหปิ ตรุณกาเล ปจฺจเยสุ ลคฺคิตฺวา มหลฺลกกาเล อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กเรยฺยาถา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภณนฺโต เถรํ อปสาเทติ นาม. ยสฺมา ปน เถโร มหลฺลกกาเลว อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กาตุกาโม, ตสฺมา ภควา ‘‘เอตฺถ ทหเร กึ วกฺขาม, อยํ อมฺหากํ มาลุกฺยปุตฺโต มหลฺลกกาเลปิ อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กาตุกาโม ¶ กมฺมฏฺานํ ยาจติ. ตุมฺเห ตาว ตรุณกาเลปิ วีริยํ น กโรถา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภณนฺโต เถรํ อุสฺสาเทติ นามาติ โยชนา.
๕-๑๐. กุลสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๕๘-๒๖๓. ปฺจเม ¶ ¶ อาธิปจฺเจ เปนฺตีติ ภณฺฑาคาริกฏฺาเน เปนฺติ. ฉฏฺเ วณฺณสมฺปนฺโนติ สรีรวณฺเณน สมนฺนาคโต. พลสมฺปนฺโนติ กายพเลน สมนฺนาคโต. ภิกฺขุวาเร วณฺณสมฺปนฺโนติ คุณวณฺเณน สมนฺนาคโต. พลสมฺปนฺโนติ วีริยพเลน สมนฺนาคโต. ชวสมฺปนฺโนติ าณชเวน สมนฺนาคโต. สตฺตเมปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อภิฺาวคฺโค ฉฏฺโ.
(๒๗) ๗. กมฺมปถวคฺควณฺณนา
๒๖๔-๒๗๓. กมฺมปถวคฺเคปิ ¶ ทสปิ กมฺมปถา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว กถิตา.
(๒๘) ๘. ราคเปยฺยาลวณฺณนา
๒๗๔-๗๘๓. ราคเปยฺยาลํ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา กถิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
จตุกฺกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.