📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาโย

ทุกนิปาตปาฬิ

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. กมฺมกรณวคฺโค

๑. วชฺชสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานิ. กตมานิ ทฺเว? ทิฏฺธมฺมิกฺจ วชฺชํ สมฺปรายิกฺจ วชฺชํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทิฏฺธมฺมิกํ วชฺชํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปสฺสติ โจรํ อาคุจารึ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา [วิวิธานิ กมฺมกรณานิ (ก.)] กาเรนฺเต; กสาหิปิ ตาเฬนฺเต, เวตฺเตหิปิ ตาเฬนฺเต, อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬนฺเต, หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺเต, ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต, หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต, กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺเต, นาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต, กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต, พิลงฺคถาลิกมฺปิ กโรนฺเต, สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กโรนฺเต, ราหุมุขมฺปิ กโรนฺเต, โชติมาลิกมฺปิ กโรนฺเต, หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กโรนฺเต, เอรกวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต, จีรกวาสิกมฺปิ กโรนฺเต, เอเณยฺยกมฺปิ กโรนฺเต, พฬิสมํสิกมฺปิ กโรนฺเต, กหาปณิกมฺปิ กโรนฺเต, ขาราปตจฺฉิกมฺปิ [ขาราปฏิจฺฉกมฺปิ (สฺยา. กํ. ก.)] กโรนฺเต, ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต, ปลาลปีกมฺปิ [ปลาลปิฏฺิกมฺปิ (สี.)] กโรนฺเต, ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิฺจนฺเต, สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺเต, ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสนฺเต, อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺเต.

‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยถารูปานํ โข ปาปกานํ กมฺมานํ เหตุ โจรํ อาคุจารึ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺติ; กสาหิปิ ตาเฬนฺติ, เวตฺเตหิปิ ตาเฬนฺติ, อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬนฺติ, หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺติ, ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺติ, หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺติ, กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺติ, นาสมฺปิ ฉินฺทนฺติ, กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺติ, พิลงฺคถาลิกมฺปิ กโรนฺติ, สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กโรนฺติ, ราหุมุขมฺปิ กโรนฺติ, โชติมาลิกมฺปิ กโรนฺติ, หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กโรนฺติ, เอรกวตฺติกมฺปิ กโรนฺติ, จีรกวาสิกมฺปิ กโรนฺติ, เอเณยฺยกมฺปิ กโรนฺติ, พฬิสมํสิกมฺปิ กโรนฺติ, กหาปณิกมฺปิ กโรนฺติ, ขาราปตจฺฉิกมฺปิ กโรนฺติ, ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กโรนฺติ, ปลาลปีกมฺปิ กโรนฺติ, ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิฺจนฺติ, สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺติ, ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสนฺติ, อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺติ. อหฺเจว [อหฺเจ (?)] โข ปน เอวรูปํ ปาปกมฺมํ กเรยฺยํ, มมฺปิ ราชาโน คเหตฺวา เอวรูปา วิวิธา กมฺมการณา กาเรยฺยุํ; กสาหิปิ ตาเฬยฺยุํ…เป… อสินาปิ สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’นฺติ. โส ทิฏฺธมฺมิกสฺส วชฺชสฺส ภีโต น ปเรสํ ปาภตํ วิลุมฺปนฺโต จรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฏฺธมฺมิกํ วชฺชํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สมฺปรายิกํ วชฺชํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปน ปาปโก ทุกฺโข วิปาโก อภิสมฺปรายํ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก ทุกฺโข วิปาโก อภิสมฺปรายํ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก ทุกฺโข วิปาโก อภิสมฺปรายํ. อหฺเจว โข ปน กาเยน ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, วาจาย ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, มนสา ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ. กิฺจ ตํ ยาหํ น กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส สมฺปรายิกสฺส วชฺชสฺส ภีโต กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺปรายิกํ วชฺชํ. ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว วชฺชานิ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ทิฏฺธมฺมิกสฺส วชฺชสฺส ภายิสฺสาม, สมฺปรายิกสฺส วชฺชสฺส ภายิสฺสาม, วชฺชภีรุโน ภวิสฺสาม วชฺชภยทสฺสาวิโน’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ. วชฺชภีรุโน, ภิกฺขเว, วชฺชภยทสฺสาวิโน เอตํ ปาฏิกงฺขํ ยํ ปริมุจฺจิสฺสติ สพฺพวชฺเชหี’’ติ. ปมํ.

๒. ปธานสุตฺตํ

. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ โลกสฺมึ. กตมานิ ทฺเว? ยฺจ คิหีนํ อคารํ อชฺฌาวสตํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทานตฺถํ ปธานํ, ยฺจ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถํ ปธานํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ โลกสฺมึ.

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปธานานํ ยทิทํ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถํ ปธานํ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถํ ปธานํ ปทหิสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. ตปนียสุตฺตํ

. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ตปนียา. กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส กายทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายสุจริตํ; วจีทุจฺจริตํ กตํ โหติ; อกตํ โหติ วจีสุจริตํ; มโนทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนสุจริตํ. โส ‘กายทุจฺจริตํ เม กต’นฺติ ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายสุจริต’นฺติ ตปฺปติ; ‘วจีทุจฺจริตํ เม กต’นฺติ ตปฺปติ, ‘อกตํ เม วจีสุจริต’นฺติ ตปฺปติ; ‘มโนทุจฺจริตํ เม กต’นฺติ ตปฺปติ, ‘อกตํ เม มโนสุจริต’นฺติ ตปฺปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา ตปนียา’’ติ. ตติยํ.

๔. อตปนียสุตฺตํ

. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อตปนียา. กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส กายสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายทุจฺจริตํ; วจีสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ วจีทุจฺจริตํ; มโนสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนทุจฺจริตํ. โส ‘กายสุจริตํ เม กต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติ; ‘วจีสุจริตํ เม กต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม วจีทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติ; ‘มโนสุจริตํ เม กต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม มโนทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา อตปนียา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. อุปฺาตสุตฺตํ

. ‘‘ทฺวินฺนาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อุปฺาสึ – ยา จ อสนฺตุฏฺิตา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ยา จ อปฺปฏิวานิตา ปธานสฺมึ. อปฺปฏิวานี สุทาหํ, ภิกฺขเว, ปทหามิ – ‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ, ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตี’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, อปฺปมาทาธิคตา สมฺโพธิ, อปฺปมาทาธิคโต อนุตฺตโร โยคกฺเขโม. ตุมฺเห เจปิ, ภิกฺขเว, อปฺปฏิวานํ ปทเหยฺยาถ – ‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ, ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตี’ติ, ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อปฺปฏิวานํ ปทหิสฺสาม. กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ, ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. สํโยชนสุตฺตํ

. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? ยา จ สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิตา, ยา จ สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ นิพฺพิทานุปสฺสิตา. สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสี วิหรนฺโต ราคํ น ปชหติ, โทสํ น ปชหติ, โมหํ น ปชหติ. ราคํ อปฺปหาย, โทสํ อปฺปหาย, โมหํ อปฺปหาย น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ. น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.

‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ นิพฺพิทานุปสฺสี วิหรนฺโต ราคํ ปชหติ, โทสํ ปชหติ, โมหํ ปชหติ. ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย, ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ. ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. กณฺหสุตฺตํ

. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา กณฺหา. กตเม ทฺเว? อหิริกฺจ อโนตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา กณฺหา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. สุกฺกสุตฺตํ

. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สุกฺกา. กตเม ทฺเว? หิรี [หิริ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ โอตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา สุกฺกา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. จริยสุตฺตํ

. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สุกฺกา โลกํ ปาเลนฺติ. กตเม ทฺเว? หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา. สมฺเภทํ โลโก อคมิสฺส, ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา [โสณสิคาลา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ ตสฺมา ปฺายติ [ปฺายนฺติ (สี.)] มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา’’ติ. นวมํ.

๑๐. วสฺสูปนายิกสุตฺตํ

๑๐. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, วสฺสูปนายิกา. กตมา ทฺเว? ปุริมิกา จ ปจฺฉิมิกา จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว วสฺสูปนายิกา’’ติ. ทสมํ.

กมฺมกรณวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

วชฺชา ปธานา ทฺเว ตปนียา, อุปฺาเตน ปฺจมํ;

สํโยชนฺจ กณฺหฺจ, สุกฺกํ จริยา วสฺสูปนายิเกน วคฺโค.

๒. อธิกรณวคฺโค

๑๑. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สี.)] ภาวนาพลํ เสขานเมตํ [เสขเมตํ (สี. สฺยา. กํ.)] พลํ. เสขฺหิ โส, ภิกฺขเว, พลํ อาคมฺม ราคํ ปชหติ, โทสํ ปชหติ, โมหํ ปชหติ. ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย ยํ อกุสลํ น ตํ กโรติ, ยํ ปาปํ น ตํ เสวติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติ.

๑๒. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสคฺคปริณามึ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสคฺคปริณามึ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติ.

๑๓. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ, วจีทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ, มโนทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิสงฺขานพลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พลานี’’ติ.

๑๔. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา. กตมา ทฺเว? สํขิตฺเตน จ วิตฺถาเรน จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา’’ติ.

๑๕. ‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน [อาปตฺตาปนฺโน (ก.)] จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ น สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ น ผาสุํ [น ผาสุ (ก.)] วิหริสฺสนฺตีติ [วิหริสฺสนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ก.)]. ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ น ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ ผาสุํ วิหริสฺสนฺตีติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อาปนฺโน ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ? อิธ, ภิกฺขเว, อาปนฺโน ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โข อกุสลํ อาปนฺโน กฺจิเทว [กิฺจิเทว (ก.)] เทสํ กาเยน. มํ โส [ตสฺมา มํ โส (สี. สฺยา.)] ภิกฺขุ อทฺทส อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน. โน เจ อหํ อกุสลํ อาปชฺเชยฺยํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน, น มํ โส ภิกฺขุ ปสฺเสยฺย อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน. ยสฺมา จ โข, อหํ อกุสลํ อาปนฺโน กิฺจิเทว เทสํ กาเยน, ตสฺมา มํ โส ภิกฺขุ อทฺทส อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน. ทิสฺวา จ ปน มํ โส ภิกฺขุ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน อนตฺตมโน อโหสิ. อนตฺตมโน สมาโน อนตฺตมนวจนํ [อนตฺตมนวาจํ (ก.)] มํ โส ภิกฺขุ อวจ. อนตฺตมนวจนาหํ [อนตฺตมนวาจํ นาหํ (ก.)] เตน ภิกฺขุนา วุตฺโต สมาโน อนตฺตมโน [อตฺตมโน (ก.)] อโหสึ. อนตฺตมโน สมาโน ปเรสํ อาโรเจสึ. อิติ มเมว ตตฺถ อจฺจโย อจฺจคมา สุงฺกทายกํว ภณฺฑสฺมินฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อาปนฺโน ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, โจทโก ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ? อิธ, ภิกฺขเว, โจทโก ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภิกฺขุ อกุสลํ อาปนฺโน กิฺจิเทว เทสํ กาเยน. อหํ อิมํ ภิกฺขุํ อทฺทสํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน. โน เจ อยํ ภิกฺขุ อกุสลํ อาปชฺเชยฺย กิฺจิเทว เทสํ กาเยน, นาหํ อิมํ ภิกฺขุํ ปสฺเสยฺยํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน. ยสฺมา จ โข, อยํ ภิกฺขุ อกุสลํ อาปนฺโน กิฺจิเทว เทสํ กาเยน, ตสฺมา อหํ อิมํ ภิกฺขุํ อทฺทสํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน. ทิสฺวา จ ปนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อกุสลํ อาปชฺชมานํ กิฺจิเทว เทสํ กาเยน อนตฺตมโน อโหสึ. อนตฺตมโน สมาโน อนตฺตมนวจนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อวจํ. อนตฺตมนวจนายํ ภิกฺขุ มยา วุตฺโต สมาโน อนตฺตมโน อโหสิ. อนตฺตมโน สมาโน ปเรสํ อาโรเจสิ. อิติ มเมว ตตฺถ อจฺจโย อจฺจคมา สุงฺกทายกํว ภณฺฑสฺมินฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, โจทโก ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ.

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ น สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ น ผาสุํ วิหริสฺสนฺตีติ. ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อาปนฺโน จ ภิกฺขุ โจทโก จ ภิกฺขุ สาธุกํ อตฺตนาว อตฺตานํ ปจฺจเวกฺขติ ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ น ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ ผาสุ วิหริสฺสนฺตี’’ติ.

๑๖. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ [นิกุชฺชิตํ (ก.)] วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๑๗. อถ โข ชาณุสฺโสณิ [ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จ. เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. ‘‘โก ปน, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘กตตฺตา จ, พฺราหฺมณ, อกตตฺตา จ. เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. ‘‘น โข อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺจสฺส กายทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายสุจริตํ; วจีทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ วจีสุจริตํ; มโนทุจฺจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนสุจริตํ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, กตตฺตา จ อกตตฺตา จ เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺจสฺส กายสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ กายทุจฺจริตํ; วจีสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ วจีทุจฺจริตํ; มโนสุจริตํ กตํ โหติ, อกตํ โหติ มโนทุจฺจริตํ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, กตตฺตา จ อกตตฺตา จ เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๑๘. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘เอกํเสนาหํ, อานนฺท, อกรณียํ วทามิ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริต’’นฺติ. ‘‘ยมิทํ, ภนฺเต, ภควตา เอกํเสน อกรณียํ อกฺขาตํ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ ตสฺมึ อกรณีเย กยิรมาเน โก อาทีนโว ปาฏิกงฺโข’’ติ? ‘‘ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน อกรณียํ อกฺขาตํ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ ตสฺมึ อกรณีเย กยิรมาเน อยํ อาทีนโว ปาฏิกงฺโข – อตฺตาปิ อตฺตานํ อุปวทติ, อนุวิจฺจ วิฺู ครหนฺติ, ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน อกรณียํ อกฺขาตํ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ ตสฺมึ อกรณีเย กยิรมาเน อยํ อาทีนโว ปาฏิกงฺโข’’ติ.

‘‘เอกํเสนาหํ, อานนฺท, กรณียํ วทามิ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริต’’นฺติ. ‘‘ยมิทํ, ภนฺเต, ภควตา เอกํเสน กรณียํ อกฺขาตํ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ ตสฺมึ กรณีเย กยิรมาเน โก อานิสํโส ปาฏิกงฺโข’’ติ? ‘‘ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน กรณียํ อกฺขาตํ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ ตสฺมึ กรณีเย กยิรมาเน อยํ อานิสํโส ปาฏิกงฺโข – อตฺตาปิ อตฺตานํ น อุปวทติ, อนุวิจฺจ วิฺู ปสํสนฺติ, กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. ยมิทํ, อานนฺท, มยา เอกํเสน กรณียํ อกฺขาตํ กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ ตสฺมึ กรณีเย กยิรมาเน อยํ อานิสํโส ปาฏิกงฺโข’’ติ.

๑๙. ‘‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถ. สกฺกา, ภิกฺขเว, อกุสลํ ปชหิตุํ. โน เจทํ [โน เจตํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.) สํ. นิ. ๓.๒๘ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, สกฺกา อภวิสฺส อกุสลํ ปชหิตุํ, นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถา’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สกฺกา อกุสลํ ปชหิตุํ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถา’ติ. อกุสลฺจ หิทํ, ภิกฺขเว [อกุสลํ ภิกฺขเว (ก.)], ปหีนํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺเตยฺย นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถา’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อกุสลํ ปหีนํ หิตาย สุขาย สํวตฺตติ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘อกุสลํ, ภิกฺขเว, ปชหถา’’’ติ.

‘‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถ. สกฺกา, ภิกฺขเว, กุสลํ ภาเวตุํ. โน เจทํ, ภิกฺขเว, สกฺกา อภวิสฺส กุสลํ ภาเวตุํ, นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สกฺกา กุสลํ ภาเวตุํ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’ติ. กุสลฺจ หิทํ, ภิกฺขเว, ภาวิตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺเตยฺย, นาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, กุสลํ ภาวิตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตติ ตสฺมาหํ เอวํ วทามิ – ‘กุสลํ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’’’ติ.

๒๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทฺเว? ทุนฺนิกฺขิตฺตฺจ ปทพฺยฺชนํ อตฺโถ จ ทุนฺนีโต. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ ทุนฺนโย โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ.

๒๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทฺเว? สุนิกฺขิตฺตฺจ ปทพฺยฺชนํ อตฺโถ จ สุนีโต. สุนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ สุนโย โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ.

อธิกรณวคฺโค ทุติโย.

๓. พาลวคฺโค

๒๒. ‘‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พาลา. กตเม ทฺเว? โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหาติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา’ติ. ‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตา. กตเม ทฺเว? โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหาติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา’’’ติ.

๒๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติ. กตเม ทฺเว? ทุฏฺโ วา โทสนฺตโร, สทฺโธ วา ทุคฺคหิเตน [ทุคฺคหีเตน (สี.)]. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติ.

๒๔. ‘‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติ. กตเม ทฺเว? โย จ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, โย จ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’ติ. ‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺติ. กตเม ทฺเว? โย จ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, โย จ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺตี’’’ติ.

๒๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติ. กตเม ทฺเว? โย จ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ, โย จ นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติ.

๒๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺติ. กตเม ทฺเว? โย จ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ, โย จ นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตตฺโถ สุตฺตนฺโตติ ทีเปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติ.

๒๗. ‘‘ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรา คติ ปาฏิกงฺขา – นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วาติ. อปฺปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรา คติ ปาฏิกงฺขา – เทวา วา มนุสฺสา วา’’ติ.

๒๘. ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรา คติ ปาฏิกงฺขา – นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วา’’ติ.

๒๙. ‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรา คติ ปาฏิกงฺขา – เทวา วา มนุสฺสา วา’’ติ.

๓๐. ‘‘ทุสฺสีลสฺส, ภิกฺขเว, ทฺเว ปฏิคฺคาหา – นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วา. สีลวโต, ภิกฺขเว, ทฺเว ปฏิคฺคาหา – เทวา วา มนุสฺสา วา’’ติ [เทโว วา มนุสฺโส วาติ (ก.)].

๓๑. ‘‘ทฺวาหํ, ภิกฺขเว, อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน อรฺวนปตฺถานิ [อรฺเ ปวนปตฺถานิ (สี. ปี.)] ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ. กตเม ทฺเว? อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ สมฺปสฺสมาโน, ปจฺฉิมฺจ ชนตํ อนุกมฺปมาโน. อิเม โข อหํ, ภิกฺขเว, ทฺเว อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามี’’ติ.

๓๒. ‘‘ทฺเว เม, ภิกฺขเว, ธมฺมา วิชฺชาภาคิยา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. สมโถ, ภิกฺขเว, ภาวิโต กมตฺถ [กิมตฺถ (สฺยา. กํ.), กตมตฺถ (ก.)] มนุโภติ? จิตฺตํ ภาวียติ. จิตฺตํ ภาวิตํ กมตฺถมนุโภติ? โย ราโค โส ปหียติ. วิปสฺสนา, ภิกฺขเว, ภาวิตา กมตฺถมนุโภติ? ปฺา ภาวียติ. ปฺา ภาวิตา กมตฺถมนุโภติ? ยา อวิชฺชา สา ปหียติ. ราคุปกฺกิลิฏฺํ วา, ภิกฺขเว, จิตฺตํ น วิมุจฺจติ, อวิชฺชุปกฺกิลิฏฺา วา ปฺา น ภาวียติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตี’’ติ.

พาลวคฺโค ตติโย.

๔. สมจิตฺตวคฺโค

๓๓. ‘‘อสปฺปุริสภูมิฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ สปฺปุริสภูมิฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ. ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสภูมิ? อสปฺปุริโส, ภิกฺขเว, อกตฺู โหติ อกตเวที. อสพฺภิ เหตํ, ภิกฺขเว, อุปฺาตํ ยทิทํ อกตฺุตา อกตเวทิตา. เกวลา เอสา, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสภูมิ ยทิทํ อกตฺุตา อกตเวทิตา. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, กตฺู โหติ กตเวที. สพฺภิ เหตํ, ภิกฺขเว, อุปฺาตํ ยทิทํ กตฺุตา กตเวทิตา. เกวลา เอสา, ภิกฺขเว, สปฺปุริสภูมิ ยทิทํ กตฺุตา กตเวทิตา’’ติ.

๓๔. ‘‘ทฺวินฺนาหํ, ภิกฺขเว, น สุปฺปติการํ วทามิ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? มาตุ จ ปิตุ จ. เอเกน, ภิกฺขเว, อํเสน มาตรํ ปริหเรยฺย, เอเกน อํเสน ปิตรํ ปริหเรยฺย วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี โส จ เนสํ อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหเนน. เต จ ตตฺเถว มุตฺตกรีสํ จเชยฺยุํ. น ตฺเวว, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ กตํ วา โหติ ปฏิกตํ วา. อิมิสฺสา จ, ภิกฺขเว, มหาปถวิยา ปหูตรตฺตรตนาย [ปหูตสตฺตรตนาย (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ติกนิปาเต มหาวคฺเค ทสมสุตฺตฏีกายํ ทสฺสิตปาฬิยา สเมติ] มาตาปิตโร อิสฺสราธิปจฺเจ รชฺเช ปติฏฺาเปยฺย, น ตฺเวว, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ กตํ วา โหติ ปฏิกตํ วา. ตํ กิสฺส เหตุ? พหุการา [พหูปการา (ก.)], ภิกฺขเว, มาตาปิตโร ปุตฺตานํ อาปาทกา โปสกา อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร. โย จ โข, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร อสฺสทฺเธ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, ทุสฺสีเล สีลสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, มจฺฉรี จาคสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, ทุปฺปฺเ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ กตฺจ โหติ ปฏิกตฺจา’’ติ [ปฏิกตฺจ อติกตฺจาติ (สี. ปี.)].

๓๕. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึวาที ภวํ โคตโม กิมกฺขายี’’ติ? ‘‘กิริยวาที จาหํ, พฺราหฺมณ, อกิริยวาที จา’’ติ. ‘‘ยถากถํ ปน ภวํ โคตโม กิริยวาที จ อกิริยวาที จา’’ติ?

‘‘อกิริยํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, วทามิ กายทุจฺจริตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส, อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อกิริยํ วทามิ. กิริยฺจ โข อหํ, พฺราหฺมณ, วทามิ กายสุจริตสฺส วจีสุจริตสฺส มโนสุจริตสฺส, อเนกวิหิตานํ กุสลานํ ธมฺมานํ กิริยํ วทามิ. เอวํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, กิริยวาที จ อกิริยวาที จา’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๓๖. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, โลเก ทกฺขิเณยฺยา, กตฺถ จ ทานํ ทาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ทฺเว โข, คหปติ, โลเก ทกฺขิเณยฺยา – เสโข จ อเสโข จ. อิเม โข, คหปติ, ทฺเว โลเก ทกฺขิเณยฺยา, เอตฺถ จ ทานํ ทาตพฺพ’’นฺติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน [วตฺวา (สี. ปี.) เอวมีทิเสสุ าเนสุ] สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘เสโข อเสโข จ อิมสฺมึ โลเก,

อาหุเนยฺยา ยชมานานํ โหนฺติ;

เต อุชฺชุภูตา [อุชุภูตา (สฺยา. กํ. ก.)] กาเยน, วาจาย อุท เจตสา;

เขตฺตํ ตํ ยชมานานํ, เอตฺถ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.

๓๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ, อาวุโส, ปุคฺคลํ เทเสสฺสามิ พหิทฺธาสํโยชนฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘กตโม จาวุโส, อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อาคามี โหติ, อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ วุจฺจติ, อาวุโส, อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล อาคามี โหติ, อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.

‘‘กตโม จาวุโส, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ วุจฺจตาวุโส, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส กามานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส ภวานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส ตณฺหากฺขยาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส โลภกฺขยาย ปฏิปนฺโน โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ วุจฺจตาวุโส, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล อนาคามี โหติ, อนาคนฺตา อิตฺถตฺต’’นฺติ.

อถ โข สมฺพหุลา สมจิตฺตา เทวตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘เอโส, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท ภิกฺขูนํ อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ ปุคฺคลํ เทเสติ พหิทฺธาสํโยชนฺจ. หฏฺา, ภนฺเต, ปริสา. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ภควา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – เชตวเน อนฺตรหิโต ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. อายสฺมาปิ โข สาริปุตฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, สาริปุตฺต, สมฺพหุลา สมจิตฺตา เทวตา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, สาริปุตฺต, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘เอโส, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท ภิกฺขูนํ อชฺฌตฺตสํโยชนฺจ ปุคฺคลํ เทเสติ พหิทฺธาสํโยชนฺจ. หฏฺา, ภนฺเต, ปริสา. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยน อายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’ติ. ตา โข ปน, สาริปุตฺต, เทวตา ทสปิ หุตฺวา วีสมฺปิ หุตฺวา ตึสมฺปิ หุตฺวา จตฺตาลีสมฺปิ หุตฺวา ปฺาสมฺปิ หุตฺวา สฏฺิปิ หุตฺวา อารคฺคโกฏินิตุทนมตฺเตปิ ติฏฺนฺติ, น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ [พฺยาพาเธนฺตีติ (สพฺพตฺถ)]. สิยา โข ปน [ปน เต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สาริปุตฺต, เอวมสฺส – ‘ตตฺถ นูน ตาสํ เทวตานํ ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ เยน ตา เทวตา ทสปิ หุตฺวา วีสมฺปิ หุตฺวา ตึสมฺปิ หุตฺวา จตฺตาลีสมฺปิ หุตฺวา ปฺาสมฺปิ หุตฺวา สฏฺิปิ หุตฺวา อารคฺคโกฏินิตุทนมตฺเตปิ ติฏฺนฺติ น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตี’ติ. น โข ปเนตํ, สาริปุตฺต, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อิเธว โข, สาริปุตฺต, ตาสํ เทวตานํ ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ, เยน ตา เทวตา ทสปิ หุตฺวา…เป… น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ. ตสฺมาติห, สาริปุตฺต, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สนฺตินฺทฺริยา ภวิสฺสาม สนฺตมานสา’ติ. เอวฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพํ. ‘สนฺตินฺทฺริยานฺหิ โว, สาริปุตฺต, สนฺตมานสานํ สนฺตํเยว กายกมฺมํ ภวิสฺสติ สนฺตํ วจีกมฺมํ สนฺตํ มโนกมฺมํ. สนฺตํเยว อุปหารํ อุปหริสฺสาม สพฺรหฺมจารีสู’ติ. ‘เอวฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพํ. อนสฺสุํ โข, สาริปุตฺต, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เย อิมํ ธมฺมปริยายํ นาสฺโสสุ’’’นฺติ.

๓๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากจฺจาโน วรณายํ วิหรติ ภทฺทสาริตีเร [กทฺทมทหตีเร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. อถ โข อารามทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อารามทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ กจฺจาน, เหตุ โก ปจฺจโย เยน ขตฺติยาปิ ขตฺติเยหิ วิวทนฺติ, พฺราหฺมณาปิ พฺราหฺมเณหิ วิวทนฺติ, คหปติกาปิ คหปติเกหิ วิวทนฺตี’’ติ? ‘‘กามราคาภินิเวสวินิพนฺธ [กามราควินิเวสวินิพทฺธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานเหตุ โข, พฺราหฺมณ, ขตฺติยาปิ ขตฺติเยหิ วิวทนฺติ, พฺราหฺมณาปิ พฺราหฺมเณหิ วิวทนฺติ, คหปติกาปิ คหปติเกหิ วิวทนฺตี’’ติ.

‘‘โก ปน, โภ กจฺจาน, เหตุ โก ปจฺจโย เยน สมณาปิ สมเณหิ วิวทนฺตี’’ติ? ‘‘ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานเหตุ โข, พฺราหฺมณ, สมณาปิ สมเณหิ วิวทนฺตี’’ติ.

‘‘อตฺถิ ปน, โภ กจฺจาน, โกจิ โลกสฺมึ โย อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ? ‘‘อตฺถิ, พฺราหฺมณ, โลกสฺมึ โย อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ.

‘‘โก ปน โส, โภ กจฺจาน, โลกสฺมึ โย อิมฺเจว กาคราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ? ‘‘อตฺถิ, พฺราหฺมณ, ปุรตฺถิเมสุ ชนปเทสุ สาวตฺถี นาม นครํ. ตตฺถ โส ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อารามทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณํ ชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. โย หิ โส ภควา อิมฺเจว กามราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต, อิมฺจ ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธปลิเคธปริยุฏฺานชฺโฌสานํ สมติกฺกนฺโต’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน, อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน! เสยฺยถาปิ, โภ กจฺจาน, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ โภตา กจฺจาเนน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, โภ กจฺจาน, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ กจฺจาโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๓๙. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากจฺจาโน มธุรายํ วิหรติ คุนฺทาวเน. อถ โข กนฺทรายโน [กณฺฑรายโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พฺราหฺมโณ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข กนฺทรายโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ กจฺจาน, ‘น สมโณ กจฺจาโน พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุทฺเธ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตตี’ติ. ตยิทํ, โภ กจฺจาน, ตเถว? น หิ ภวํ กจฺจาโน พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุทฺเธ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. ตยิทํ, โภ กจฺจาน, น สมฺปนฺนเมวา’’ติ.

‘‘อตฺถิ, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุทฺธภูมิ จ อกฺขาตา ทหรภูมิ จ. วุทฺโธ เจปิ, พฺราหฺมณ, โหติ อาสีติโก วา นาวุติโก วา วสฺสสติโก วา ชาติยา, โส จ กาเม ปริภุฺชติ กามมชฺฌาวสติ กามปริฬาเหน ปริฑยฺหติ กามวิตกฺเกหิ ขชฺชติ กามปริเยสนาย อุสฺสุโก. อถ โข โส พาโล น เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ทหโร เจปิ, พฺราหฺมณ, โหติ ยุวา สุสุกาฬเกโส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปเมน วยสา. โส จ น กาเม ปริภุฺชติ น กามมชฺฌาวสติ, น กามปริฬาเหน ปริฑยฺหติ, น กามวิตกฺเกหิ ขชฺชติ, น กามปริเยสนาย อุสฺสุโก. อถ โข โส ปณฺฑิโต เถโรตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต กนฺทรายโน พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทหรานํ สตํ [สุทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภิกฺขูนํ ปาเท สิรสา วนฺทติ – ‘‘วุทฺธา ภวนฺโต, วุทฺธภูมิยํ ิตา. ทหรา มยํ, ทหรภูมิยํ ิตา’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ กจฺจาโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๔๐. ‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย โจรา พลวนฺโต โหนฺติ, ราชาโน ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย รฺโ น ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อนุสฺาตุํ. พฺราหฺมณคหปติกานมฺปิ ตสฺมึ สมเย น ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา พาหิรานิ วา กมฺมนฺตานิ ปฏิเวกฺขิตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ปาปภิกฺขู พลวนฺโต โหนฺติ, เปสลา ภิกฺขู ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เปสลา ภิกฺขู ตุณฺหีภูตา ตุณฺหีภูตาว สงฺฆมชฺเฌ สงฺกสายนฺติ [สงฺกมฺม ฌายนฺติ (ก.), สฺจายนฺติ (สี. อฏฺ.)] ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อจฺฉนฺติ [ภชนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ตยิทํ, ภิกฺขเว, โหติ พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ราชาโน พลวนฺโต โหนฺติ, โจรา ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย รฺโ ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา ปจฺจนฺติเม วา ชนปเท อนุสฺาตุํ. พฺราหฺมณคหปติกานมฺปิ ตสฺมึ สมเย ผาสุ โหติ อติยาตุํ วา นิยฺยาตุํ วา พาหิรานิ วา กมฺมนฺตานิ ปฏิเวกฺขิตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย เปสลา ภิกฺขู พลวนฺโต โหนฺติ, ปาปภิกฺขู ตสฺมึ สมเย ทุพฺพลา โหนฺติ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ปาปภิกฺขู ตุณฺหีภูตา ตุณฺหีภูตาว สงฺฆมชฺเฌ สงฺกสายนฺติ, เยน วา ปน เตน ปกฺกมนฺติ [ปปตนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ตยิทํ, ภิกฺขเว, โหติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

๔๑. ‘‘ทฺวินฺนาหํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปตฺตึ น วณฺเณมิ, คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา. คิหี วา, ภิกฺขเว, ปพฺพชิโต วา มิจฺฉาปฏิปนฺโน มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ น อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘ทฺวินฺนาหํ, ภิกฺขเว, สมฺมาปฏิปตฺตึ วณฺเณมิ, คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา. คิหี วา, ภิกฺขเว, ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฏิปนฺโน สมฺมาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ.

๔๒. ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทุคฺคหิเตหิ สุตฺตนฺเตหิ พฺยฺชนปฺปติรูปเกหิ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปฏิวาหนฺติ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู พหุชนาหิตาย ปฏิปนฺนา พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. พหุฺจ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปุฺํ ปสวนฺติ, เต จิมํ สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปนฺติ.

‘‘เย เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สุคฺคหิเตหิ สุตฺตนฺเตหิ พฺยฺชนปฺปติรูปเกหิ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุโลเมนฺติ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. พหุฺจ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปุฺํ ปสวนฺติ, เต จิมํ สทฺธมฺมํ เปนฺตี’’ติ.

สมจิตฺตวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. ปริสวคฺโค

๔๓. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? อุตฺตานา จ ปริสา คมฺภีรา จ ปริสา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อุตฺตานา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อุทฺธตา โหนฺติ อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ปากตินฺทฺริยา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุตฺตานา ปริสา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, คมฺภีรา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อนุทฺธตา โหนฺติ อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อุปฏฺิตสฺสตี สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา สํวุตินฺทฺริยา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, คมฺภีรา ปริสา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ คมฺภีรา ปริสา’’ติ.

๔๔. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? วคฺคา จ ปริสา สมคฺคา จ ปริสา. กตมา จ, ภิกฺขเว, วคฺคา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วคฺคา ปริสา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมคฺคา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อฺมฺํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมคฺคา ปริสา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ สมคฺคา ปริสา’’ติ.

๔๕. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? อนคฺควตี จ ปริสา อคฺควตี จ ปริสา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อนคฺควตี ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ เถรา ภิกฺขู พาหุลิกา [พาหุลฺลิกา (สฺยา. กํ. ก.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] โหนฺติ สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. สาปิ โหติ พาหุลิกา สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนคฺควตี ปริสา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อคฺควตี ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ เถรา ภิกฺขู น พาหุลิกา โหนฺติ น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. สาปิ โหติ น พาหุลิกา น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อคฺควตี ปริสา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ อคฺควตี ปริสา’’ติ.

๔๖. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? อนริยา จ ปริสา อริยา จ ปริสา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อนริยา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนริยา ปริสา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยา ปริสา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ อริยา ปริสา’’ติ.

๔๗. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? ปริสากสโฏ จ ปริสามณฺโฑ จ. กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริสากสโฏ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺติ, โทสาคตึ คจฺฉนฺติ, โมหาคตึ คจฺฉนฺติ, ภยาคตึ คจฺฉนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปริสากสโฏ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริสามณฺโฑ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู น ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺติ, น โทสาคตึ คจฺฉนฺติ, น โมหาคตึ คจฺฉนฺติ, น ภยาคตึ คจฺฉนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปริสามณฺโฑ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ปริสามณฺโฑ’’ติ.

๔๘. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? โอกฺกาจิตวินีตา ปริสา โนปฏิปุจฺฉาวินีตา, ปฏิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตา. กตมา จ, ภิกฺขเว, โอกฺกาจิตวินีตา ปริสา โนปฏิปุจฺฉาวินีตา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู เย เต สุตฺตนฺตา ตถาคตภาสิตา คมฺภีรา คมฺภีรตฺถา โลกุตฺตรา สุฺตาปฏิสํยุตฺตา เตสุ ภฺมาเนสุ น สุสฺสูสนฺติ น โสตํ โอทหนฺติ น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ น จ เต ธมฺเม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺนฺติ. เย ปน เต สุตฺตนฺตา กวิตา [กวิกตา (สพฺพตฺถ) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] กาเวยฺยา จิตฺตกฺขรา จิตฺตพฺยฺชนา พาหิรกา สาวกภาสิตา เตสุ ภฺมาเนสุ สุสฺสูสนฺติ โสตํ โอทหนฺติ อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, เต ธมฺเม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺนฺติ, เต จ ตํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา น เจว อฺมฺํ ปฏิปุจฺฉนฺติ น จ ปฏิวิจรนฺติ – ‘อิทํ กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? เต อวิวฏฺเจว น วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ น อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ น ปฏิวิโนเทนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โอกฺกาจิตวินีตา ปริสา โน ปฏิปุจฺฉาวินีตา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ปฏิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู เย เต สุตฺตนฺตา กวิตา กาเวยฺยา จิตฺตกฺขรา จิตฺตพฺยฺชนา พาหิรกา สาวกภาสิตา เตสุ ภฺมาเนสุ น สุสฺสูสนฺติ น โสตํ โอทหนฺติ น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, น จ เต ธมฺเม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺนฺติ. เย ปน เต สุตฺตนฺตา ตถาคตภาสิตา คมฺภีรา คมฺภีรตฺถา โลกุตฺตรา สุฺตาปฏิสํยุตฺตา เตสุ ภฺมาเนสุ สุสฺสูสนฺติ โสตํ โอทหนฺติ อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, เต จ ธมฺเม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺนฺติ. เต ตํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา อฺมฺํ ปฏิปุจฺฉนฺติ ปฏิวิจรนฺติ – ‘อิทํ กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? เต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ปฏิปุจฺฉาวินีตา ปริสา โนโอกฺกาจิตวินีตา’’ติ.

๔๙. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? อามิสครุ ปริสา โน สทฺธมฺมครุ, สทฺธมฺมครุ ปริสา โน อามิสครุ. กตมา จ, ภิกฺขเว, อามิสครุ ปริสา โน สทฺธมฺมครุ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู คิหีนํ โอทาตวสนานํ สมฺมุขา อฺมฺสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ – ‘อสุโก ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต, อสุโก ปฺาวิมุตฺโต, อสุโก กายสกฺขี, อสุโก ทิฏฺิปฺปตฺโต, อสุโก สทฺธาวิมุตฺโต, อสุโก ธมฺมานุสารี, อสุโก สทฺธานุสารี, อสุโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม, อสุโก ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’ติ. เต เตน ลาภํ ลภนฺติ. เต ตํ ลาภํ ลภิตฺวา คถิตา [คธิตา (ก.)] มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา [อชฺโฌสานา (ก.), อนชฺโฌปนฺนา (สี. สฺยา. ก.) ติกนิปาเต กุสินารวคฺเค ปมสุตฺตฏีกา โอโลเกตพฺพา] อนาทีนวทสฺสาวิโน อนิสฺสรณปฺา ปริภุฺชนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อามิสครุ ปริสา โน สทฺธมฺมครุ.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมครุ ปริสา โนอามิสครุ? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู คิหีนํ โอทาตวสนานํ สมฺมุขา อฺมฺสฺส วณฺณํ น ภาสนฺติ – ‘อสุโก ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต, อสุโก ปฺาวิมุตฺโต, อสุโก กายสกฺขี, อสุโก ทิฏฺิปฺปตฺโต, อสุโก สทฺธาวิมุตฺโต, อสุโก ธมฺมานุสฺสารี, อสุโก สทฺธานุสารี, อสุโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม, อสุโก ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’ติ. เต เตน ลาภํ ลภนฺติ. เต ตํ ลาภํ ลภิตฺวา อคถิตา อมุจฺฉิตา อนชฺโฌสนฺนา อาทีนวทสฺสาวิโน นิสฺสรณปฺา ปริภุฺชนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมครุ ปริสา โนอามิสครุ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ สทฺธมฺมครุ ปริสา โนอามิสครู’’ติ.

๕๐. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? วิสมา จ ปริสา สมา จ ปริสา. กตมา จ, ภิกฺขเว, วิสมา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ อธมฺมกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ ธมฺมกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, อวินยกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ วินยกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, อธมฺมกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ ธมฺมกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ, อวินยกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ วินยกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วิสมา ปริสา. ( ) [(วิสมตฺตา ภิกฺขเว ปริสาย อธมฺมกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ… วินยกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ.) (สี. ปี.)]

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมา ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ธมฺมกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ อธมฺมกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, วินยกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ อวินยกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, ธมฺมกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ อธมฺมกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ, วินยกมฺมานิ ทิปฺปนฺติ อวินยกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมา ปริสา. ( ) [(สมตฺตา ภิกฺขเว ปริสาย ธมฺมกมฺมานิ ปวตฺตนฺติ… อวินยกมฺมานิ น ทิปฺปนฺติ.) (สี. ปี.)] อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ สมา ปริสา’’ติ.

๕๑. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? อธมฺมิกา จ ปริสา ธมฺมิกา จ ปริสา…เป… อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ธมฺมิกา ปริสา’’ติ.

๕๒. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา ทฺเว? อธมฺมวาทินี จ ปริสา ธมฺมวาทินี จ ปริสา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อธมฺมวาทินี ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อธิกรณํ อาทิยนฺติ ธมฺมิกํ วา อธมฺมิกํ วา. เต ตํ อธิกรณํ อาทิยิตฺวา น เจว อฺมฺํ สฺาเปนฺติ น จ สฺตฺตึ อุปคจฺฉนฺติ, น จ นิชฺฌาเปนฺติ น จ นิชฺฌตฺตึ อุปคจฺฉนฺติ. เต อสฺตฺติพลา อนิชฺฌตฺติพลา อปฺปฏินิสฺสคฺคมนฺติโน ตเมว อธิกรณํ ถามสา ปรามาสา [ปรามสฺส (สี. ปี.)] อภินิวิสฺส โวหรนฺติ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺมวาทินี ปริสา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ธมฺมวาทินี ปริสา? อิธ, ภิกฺขเว, ยสฺสํ ปริสายํ ภิกฺขู อธิกรณํ อาทิยนฺติ ธมฺมิกํ วา อธมฺมิกํ วา. เต ตํ อธิกรณํ อาทิยิตฺวา อฺมฺํ สฺาเปนฺติ เจว สฺตฺติฺจ อุปคจฺฉนฺติ, นิชฺฌาเปนฺติ เจว นิชฺฌตฺติฺจ อุปคจฺฉนฺติ. เต สฺตฺติพลา นิชฺฌตฺติพลา ปฏินิสฺสคฺคมนฺติโน, น ตเมว อธิกรณํ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรนฺติ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมวาทินี ปริสา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ยทิทํ ธมฺมวาทินี ปริสา’’ติ.

ปริสวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

อุตฺตานา วคฺคา อคฺควตี, อริยา กสโฏ จ ปฺจโม;

โอกฺกาจิตอามิสฺเจว, วิสมา อธมฺมาธมฺมิเยน จาติ.

ปโม ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. ปุคฺคลวคฺโค

๕๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ทฺเว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ราชา จ จกฺกวตฺตี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

๕๔. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อจฺฉริยมนุสฺสา. กตเม ทฺเว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ราชา จ จกฺกวตฺตี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อจฺฉริยมนุสฺสา’’ติ.

๕๕. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลานํ กาลกิริยา พหุโน ชนสฺส อนุตปฺปา โหติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? ตถาคตสฺส จ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, รฺโ จ จกฺกวตฺติสฺส. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ กาลกิริยา พหุโน ชนสฺส อนุตปฺปา โหตี’’ติ.

๕๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ถูปารหา. กตเม ทฺเว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ราชา จ จกฺกวตฺตี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ถูปารหา’’ติ.

๕๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พุทฺธา. กตเม ทฺเว? ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ปจฺเจกพุทฺโธ จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พุทฺธา’’ติ.

๕๘. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺติ. กตเม ทฺเว? ภิกฺขุ จ ขีณาสโว, หตฺถาชานีโย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺตี’’ติ.

๕๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺติ. กตเม ทฺเว? ภิกฺขุ จ ขีณาสโว, อสฺสาชานีโย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺตี’’ติ.

๖๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺติ. กตเม ทฺเว? ภิกฺขุ จ ขีณาสโว, สีโห จ มิคราชา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อสนิยา ผลนฺติยา น สนฺตสนฺตี’’ติ.

๖๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา กึปุริสา มานุสึ วาจํ น ภาสนฺติ. กตเม ทฺเว? มา จ มุสา ภณิมฺหา, มา จ ปรํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขิมฺหาติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา กึปุริสา มานุสึ วาจํ น ภาสนฺตี’’ติ.

๖๒. ‘‘ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ, ภิกฺขเว, อติตฺโต อปฺปฏิวาโน มาตุคาโม กาลํ กโรติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? เมถุนสมาปตฺติยา จ วิชายนสฺส จ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อติตฺโต อปฺปฏิวาโน มาตุคาโม กาลํ กโรตี’’ติ.

๖๓. ‘‘อสนฺตสนฺนิวาสฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ สนฺตสนฺนิวาสฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสนฺตสนฺนิวาโส โหติ, กถฺจ อสนฺโต สนฺนิวสนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เถรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ น วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ น วเทยฺย, นโวปิ มํ น วเทยฺย; เถรมฺปาหํ น วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ น วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ น วเทยฺยํ. เถโร เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี, โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเยฺยํ [วิเหเสยฺยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฏิกเรยฺยํ. มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป… นโว เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี, โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฏิกเรยฺยํ’. มชฺฌิมสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ…เป… นวสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ น วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ น วเทยฺย, นโวปิ มํ น วเทยฺย; เถรมฺปาหํ น วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ น วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ น วเทยฺยํ. เถโร เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฏิกเรยฺยํ. มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป… นโว เจปิ มํ วเทยฺย อหิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน หิตานุกมฺปี, โนติ นํ วเทยฺยํ วิเหเยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส นปฺปฏิกเรยฺยํ’. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสนฺตสนฺนิวาโส โหติ, เอวฺจ อสนฺโต สนฺนิวสนฺติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สนฺตสนฺนิวาโส โหติ, กถฺจ สนฺโต สนฺนิวสนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เถรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ วเทยฺย, นโวปิ มํ วเทยฺย; เถรมฺปาหํ วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ วเทยฺยํ. เถโร เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น วิเหเยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฏิกเรยฺยํ. มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป… นโว เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น นํ วิเหเยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฏิกเรยฺยํ’. มชฺฌิมสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ…เป… นวสฺสปิ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘เถโรปิ มํ วเทยฺย, มชฺฌิโมปิ มํ วเทยฺย, นโวปิ มํ วเทยฺย; เถรมฺปาหํ วเทยฺยํ, มชฺฌิมมฺปาหํ วเทยฺยํ, นวมฺปาหํ วเทยฺยํ. เถโร เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น นํ วิเหเยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฏิกเรยฺยํ. มชฺฌิโม เจปิ มํ วเทยฺย…เป… นโว เจปิ มํ วเทยฺย หิตานุกมฺปี มํ วเทยฺย โน อหิตานุกมฺปี, สาธูติ นํ วเทยฺยํ น นํ วิเหเยฺยํ ปสฺสมฺปิสฺส ปฏิกเรยฺยํ’. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สนฺตสนฺนิวาโส โหติ, เอวฺจ สนฺโต สนฺนิวสนฺตี’’ติ.

๖๔. ‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อุภโต วจีสํสาโร ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตํ โหติ, ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ – ‘ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ น ผาสุํ [ผาสุ (ก.)] วิหริสฺสนฺติ’. ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, อธิกรเณ อุภโต วจีสํสาโร ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ อชฺฌตฺตํ สุวูปสนฺตํ โหติ, ตสฺเมตํ, ภิกฺขเว, อธิกรเณ ปาฏิกงฺขํ – ‘น ทีฆตฺตาย ขรตฺตาย วาฬตฺตาย สํวตฺติสฺสติ, ภิกฺขู จ ผาสุํ วิหริสฺสนฺตี’’’ติ.

ปุคฺคลวคฺโค ปโม.

(๗) ๒. สุขวคฺโค

๖๕. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? คิหิสุขฺจ ปพฺพชิตสุขฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ ปพฺพชิตสุข’’นฺติ.

๖๖. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? กามสุขฺจ เนกฺขมฺมสุขฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ เนกฺขมฺมสุข’’นฺติ.

๖๗. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? อุปธิสุขฺจ นิรุปธิสุขฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ นิรุปธิสุข’’นฺติ.

๖๘. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? สาสวสุขฺจ อนาสวสุขฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อนาสวสุข’’นฺติ.

๖๙. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? สามิสฺจ สุขํ นิรามิสฺจ สุขํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ นิรามิสํ สุข’’นฺติ.

๗๐. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? อริยสุขฺจ อนริยสุขฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อริยสุข’’นฺติ.

๗๑. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? กายิกฺจ สุขํ เจตสิกฺจ สุขํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ เจตสิกํ สุข’’นฺติ.

๗๒. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? สปฺปีติกฺจ สุขํ นิปฺปีติกฺจ สุขํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ นิปฺปีติกํ สุข’’นฺติ.

๗๓. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? สาตสุขฺจ อุเปกฺขาสุขฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อุเปกฺขาสุข’’นฺติ.

๗๔. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? สมาธิสุขฺจ อสมาธิสุขฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ สมาธิสุข’’นฺติ.

๗๕. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? สปฺปีติการมฺมณฺจ สุขํ นิปฺปีติการมฺมณฺจ สุขํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ นิปฺปีติการมฺมณํ สุข’’นฺติ.

๗๖. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? สาตารมฺมณฺจ สุขํ อุเปกฺขารมฺมณฺจ สุขํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อุเปกฺขารมฺมณํ สุข’’นฺติ.

๗๗. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ. กตมานิ ทฺเว? รูปารมฺมณฺจ สุขํ อรูปารมฺมณฺจ สุขํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุขานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อรูปารมฺมณํ สุข’’นฺติ.

สุขวคฺโค ทุติโย.

(๘) ๓. สนิมิตฺตวคฺโค

๗๘. ‘‘สนิมิตฺตา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อนิมิตฺตา. ตสฺเสว นิมิตฺตสฺส ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๗๙. ‘‘สนิทานา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อนิทานา. ตสฺเสว นิทานสฺส ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๐. ‘‘สเหตุกา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อเหตุกา. ตสฺเสว เหตุสฺส ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๑. ‘‘สสงฺขารา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อสงฺขารา. เตสํเยว สงฺขารานํ ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๒. ‘‘สปฺปจฺจยา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อปฺปจฺจยา. ตสฺเสว ปจฺจยสฺส ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๓. ‘‘สรูปา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อรูปา. ตสฺเสว รูปสฺส ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๔. ‘‘สเวทนา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อเวทนา. ตสฺสาเยว เวทนาย ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๕. ‘‘สสฺา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อสฺา. ตสฺสาเยว สฺาย ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๖. ‘‘สวิฺาณา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อวิฺาณา. ตสฺเสว วิฺาณสฺส ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

๘๗. ‘‘สงฺขตารมฺมณา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, โน อสงฺขตารมฺมณา. ตสฺเสว สงฺขตสฺส ปหานา เอวํ เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา น โหนฺตี’’ติ.

สนิมิตฺตวคฺโค ตติโย.

(๙) ๔. ธมฺมวคฺโค

๘๘. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? เจโตวิมุตฺติ จ ปฺาวิมุตฺติ จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๘๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? ปคฺคาโห จ อวิกฺเขโป จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? นามฺจ รูปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๒. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อหิริกฺจ อโนตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๔. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? โทวจสฺสตา จ ปาปมิตฺตตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? โสวจสฺสตา จ กลฺยาณมิตฺตตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? ธาตุกุสลตา จ มนสิการกุสลตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๙๘. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อาปตฺติกุสลตา จ อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

ธมฺมวคฺโค จตุตฺโถ.

(๑๐) ๕. พาลวคฺโค

๙๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พาลา. กตเม ทฺเว? โย จ อนาคตํ ภารํ วหติ, โย จ อาคตํ ภารํ น วหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา’’ติ.

๑๐๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตา. กตเม ทฺเว? โย จ อนาคตํ ภารํ น วหติ, โย จ อาคตํ ภารํ วหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา’’ติ.

๑๐๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พาลา. กตเม ทฺเว? โย จ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺี, โย จ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา’’ติ.

๑๐๒. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตา. กตเม ทฺเว? โย จ อกปฺปิเย อกปฺปิยสฺี, โย จ กปฺปิเย กปฺปิยสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา’’ติ.

๑๐๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พาลา. กตเม ทฺเว? โย จ อนาปตฺติยา อาปตฺติสฺี, โย จ อาปตฺติยา อนาปตฺติสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา’’ติ.

๑๐๔. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตา. กตเม ทฺเว? โย จ อนาปตฺติยา อนาปตฺติสฺี, โย จ อาปตฺติยา อาปตฺติสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา’’ติ.

๑๐๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พาลา. กตเม ทฺเว? โย จ อธมฺเม ธมฺมสฺี, โย จ ธมฺเม อธมฺมสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา’’ติ.

๑๐๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตา. กตเม ทฺเว? โย จ ธมฺเม ธมฺมสฺี, โย จ อธมฺเม อธมฺมสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา’’ติ.

๑๐๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พาลา. กตเม ทฺเว? โย จ อวินเย วินยสฺี, โย จ วินเย อวินยสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา’’ติ.

๑๐๘. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตา. กตเม ทฺเว? โย จ อวินเย อวินยสฺี, โย จ วินเย วินยสฺี. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา’’ติ.

๑๐๙. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายติ, โย จ กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๐. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา น วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายติ, โย จ กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา น วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๑. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺี, โย จ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๒. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา น วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ อกปฺปิเย อกปฺปิยสฺี, โย จ กปฺปิเย กปฺปิยสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา น วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๓. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ อาปตฺติยา อนาปตฺติสฺี, โย จ อนาปตฺติยา อาปตฺติสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๔. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา น วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ อาปตฺติยา อาปตฺติสฺี, โย จ อนาปตฺติยา อนาปตฺติสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา น วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๕. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ อธมฺเม ธมฺมสฺี, โย จ ธมฺเม อธมฺมสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๖. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา น วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ ธมฺเม ธมฺมสฺี, โย จ อธมฺเม อธมฺมสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา น วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๗. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ อวินเย วินยสฺี, โย จ วินเย อวินยสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา วฑฺฒนฺตี’’ติ.

๑๑๘. ‘‘ทฺวินฺนํ, ภิกฺขเว, อาสวา น วฑฺฒนฺติ. กตเมสํ ทฺวินฺนํ? โย จ อวินเย อวินยสฺี, โย จ วินเย วินยสฺี. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อาสวา น วฑฺฒนฺตี’’ติ.

พาลวคฺโค ปฺจโม.

ทุติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๓. ตติยปณฺณาสกํ

(๑๑) ๑. อาสาทุปฺปชหวคฺโค

๑๑๙. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, อาสา ทุปฺปชหา. กตมา ทฺเว? ลาภาสา จ ชีวิตาสา จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อาสา ทุปฺปชหา’’ติ.

๑๒๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. กตเม ทฺเว? โย จ ปุพฺพการี, โย จ กตฺู กตเวที. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมิ’’นฺติ.

๑๒๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. กตเม ทฺเว? ติตฺโต จ ตปฺเปตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมิ’’นฺติ.

๑๒๒. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา ทุตฺตปฺปยา. กตเม ทฺเว? โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ นิกฺขิปติ, โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ วิสฺสชฺเชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปุคฺคลา ทุตฺตปฺปยา’’ติ.

๑๒๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สุตปฺปยา. กตเม ทฺเว? โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ น นิกฺขิปติ, โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ น วิสฺสชฺเชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปุคฺคลา สุตปฺปยา’’ติ.

๑๒๔. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา ราคสฺส อุปฺปาทาย. กตเม ทฺเว? สุภนิมิตฺตฺจ อโยนิโส จ มนสิกาโร. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปจฺจยา ราคสฺส อุปฺปาทายา’’ติ.

๑๒๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา โทสสฺส อุปฺปาทาย. กตเม ทฺเว? ปฏิฆนิมิตฺตฺจ อโยนิโส จ มนสิกาโร. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปจฺจยา โทสสฺส อุปฺปาทายา’’ติ.

๑๒๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา มิจฺฉาทิฏฺิยา อุปฺปาทาย. กตเม ทฺเว? ปรโต จ โฆโส อโยนิโส จ มนสิกาโร. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปจฺจยา มิจฺฉาทิฏฺิยา อุปฺปาทายา’’ติ.

๑๒๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทาย. กตเม ทฺเว? ปรโต จ โฆโส, โยนิโส จ มนสิกาโร. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทายา’’ติ.

๑๒๘. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, อาปตฺติโย. กตมา ทฺเว? ลหุกา จ อาปตฺติ, ครุกา จ อาปตฺติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อาปตฺติโย’’ติ.

๑๒๙. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, อาปตฺติโย. กตมา ทฺเว? ทุฏฺุลฺลา จ อาปตฺติ, อทุฏฺุลฺลา จ อาปตฺติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อาปตฺติโย’’ติ.

๑๓๐. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, อาปตฺติโย. กตมา ทฺเว? สาวเสสา จ อาปตฺติ, อนวเสสา จ อาปตฺติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อาปตฺติโย’’ติ.

อาสาทุปฺปชหวคฺโค ปโม.

(๑๒) ๒. อายาจนวคฺโค

๑๓๑. ‘‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิสา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ยทิทํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

๑๓๒. ‘‘สทฺธา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสี โหมิ ยาทิสี เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ ภิกฺขุนีนํ ยทิทํ เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จา’’ติ.

๑๓๓. ‘‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, อุปาสโก เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิโส จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ อุปาสกานํ ยทิทํ จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก’’ติ.

๑๓๔. ‘‘สทฺธา, ภิกฺขเว, อุปาสิกา เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสี โหมิ ยาทิสี ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา [เวฬุกณฺฑกี (อ. นิ. ๖.๓๗; อ. นิ. ๔.๑๗๖ อาคตํ] จ นนฺทมาตา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ อุปาสิกานํ ยทิทํ ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’’ติ.

๑๓๕. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๖. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๗. ‘‘ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? มาตริ จ ปิตริ จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีสุ มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? มาตริ จ ปิตริ จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีสุ สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๘. ‘‘ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? ตถาคเต จ ตถาคตสาวเก จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ.

‘‘ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? ตถาคเต จ ตถาคตสาวเก จ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีสุ สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหุฺจ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

๑๓๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สจิตฺตโวทานฺจ น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๑๔๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? โกโธ จ อุปนาโห จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๑๔๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? โกธวินโย จ อุปนาหวินโย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

อายาจนวคฺโค ทุติโย.

(๑๓) ๓. ทานวคฺโค

๑๔๒. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, ทานานิ. กตมานิ ทฺเว? อามิสทานฺจ ธมฺมทานฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ทานานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทานานํ ยทิทํ ธมฺมทาน’’นฺติ.

๑๔๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ยาคา. กตเม ทฺเว? อามิสยาโค จ ธมฺมยาโค จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ยาคา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ยาคานํ ยทิทํ ธมฺมยาโค’’ติ.

๑๔๔. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, จาคา. กตเม ทฺเว? อามิสจาโค จ ธมฺมจาโค จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว จาคา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ จาคานํ ยทิทํ ธมฺมจาโค’’ติ.

๑๔๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปริจฺจาคา. กตเม ทฺเว? อามิสปริจฺจาโค จ ธมฺมปริจฺจาโค จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริจฺจาคา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปริจฺจาคานํ ยทิทํ ธมฺมปริจฺจาโค’’ติ.

๑๔๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, โภคา. กตเม ทฺเว? อามิสโภโค จ ธมฺมโภโค จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว โภคา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ โภคานํ ยทิทํ ธมฺมโภโค’’ติ.

๑๔๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สมฺโภคา. กตเม ทฺเว? อามิสสมฺโภโค จ ธมฺมสมฺโภโค จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สมฺโภคา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สมฺโภคานํ ยทิทํ ธมฺมสมฺโภโค’’ติ.

๑๔๘. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สํวิภาคา. กตเม ทฺเว? อามิสสํวิภาโค จ ธมฺมสํวิภาโค จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สํวิภาคา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สํวิภาคานํ ยทิทํ ธมฺมสํวิภาโค’’ติ.

๑๔๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สงฺคหา. กตเม ทฺเว? อามิสสงฺคโห จ ธมฺมสงฺคโห จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สงฺคหา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สงฺคหานํ ยทิทํ ธมฺมสงฺคโห’’ติ.

๑๕๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนุคฺคหา. กตเม ทฺเว? อามิสานุคฺคโห จ ธมฺมานุคฺคโห จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อนุคฺคหา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ อนุคฺคหานํ ยทิทํ ธมฺมานุคฺคโห’’ติ.

๑๕๑. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, อนุกมฺปา. กตมา ทฺเว? อามิสานุกมฺปา จ ธมฺมานุกมฺปา จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อนุกมฺปา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ อนุกมฺปานํ ยทิทํ ธมฺมานุกมฺปา’’ติ.

ทานวคฺโค ตติโย.

(๑๔) ๔. สนฺถารวคฺโค

๑๕๒. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สนฺถารา [สนฺธารา (ก.)]. กตเม ทฺเว? อามิสสนฺถาโร จ ธมฺมสนฺถาโร จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สนฺถารา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สนฺถารานํ ยทิทํ ธมฺมสนฺถาโร’’ติ.

๑๕๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปฏิสนฺถารา [ปฏิสนฺธารา (ก.)]. กตเม ทฺเว? อามิสปฏิสนฺถาโร จ ธมฺมปฏิสนฺถาโร จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปฏิสนฺถารา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปฏิสนฺถารานํ ยทิทํ ธมฺมปฏิสนฺถาโร’’ติ.

๑๕๔. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, เอสนา. กตมา ทฺเว? อามิเสสนา จ ธมฺเมสนา จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว เอสนา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ เอสนานํ ยทิทํ ธมฺเมสนา’’ติ.

๑๕๕. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริเยสนา. กตมา ทฺเว? อามิสปริเยสนา จ ธมฺมปริเยสนา จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริเยสนา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริเยสนานํ ยทิทํ ธมฺมปริเยสนา’’ติ.

๑๕๖. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริเยฏฺิโย. กตมา ทฺเว? อามิสปริเยฏฺิ จ ธมฺมปริเยฏฺิ จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปริเยฏฺิโย. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปริเยฏฺีนํ ยทิทํ ธมฺมปริเยฏฺี’’ติ.

๑๕๗. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปูชา. กตมา ทฺเว? อามิสปูชา จ ธมฺมปูชา จ. อิมา โข ภิกฺขเว, ทฺเว ปูชา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ ปูชานํ ยทิทํ ธมฺมปูชา’’ติ.

๑๕๘. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, อาติเถยฺยานิ. กตมานิ ทฺเว? อามิสาติเถยฺยฺจ ธมฺมาติเถยฺยฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อาติเถยฺยานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ อาติเถยฺยานํ ยทิทํ ธมฺมาติเถยฺย’’นฺติ.

๑๕๙. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, อิทฺธิโย. กตมา ทฺเว? อามิสิทฺธิ จ ธมฺมิทฺธิ จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อิทฺธิโย. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ อิทฺธีนํ ยทิทํ ธมฺมิทฺธี’’ติ.

๑๖๐. ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, วุทฺธิโย. กตมา ทฺเว? อามิสวุทฺธิ จ ธมฺมวุทฺธิ จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว วุทฺธิโย. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ ทฺวินฺนํ วุทฺธีนํ ยทิทํ ธมฺมวุทฺธี’’ติ.

๑๖๑. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, รตนานิ. กตมานิ ทฺเว? อามิสรตนฺจ ธมฺมรตนฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว รตนานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ รตนานํ ยทิทํ ธมฺมรตน’’นฺติ.

๑๖๒. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สนฺนิจยา. กตเม ทฺเว? อามิสสนฺนิจโย จ ธมฺมสนฺนิจโย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สนฺนิจยา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สนฺนิจยานํ ยทิทํ ธมฺมสนฺนิจโย’’ติ.

๑๖๓. ‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, เวปุลฺลานิ. กตมานิ ทฺเว? อามิสเวปุลฺลฺจ ธมฺมเวปุลฺลฺจ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว เวปุลฺลานิ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ เวปุลฺลานํ ยทิทํ ธมฺมเวปุลฺล’’นฺติ.

สนฺถารวคฺโค จตุตฺโถ.

(๑๕) ๕. สมาปตฺติวคฺโค

๑๖๔. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สมาปตฺติกุสลตา จ สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

๑๖๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อชฺชวฺจ มทฺทวฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๖๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? ขนฺติ จ โสรจฺจฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๖๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สาขลฺยฺจ ปฏิสนฺถาโร จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๖๘. ‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อวิหึสา จ โสเจยฺยฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๖๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา จ โภชเน อมตฺตฺุตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา จ โภชเน มตฺตฺุตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๒. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สติพลฺจ สมาธิพลฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๓. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๔. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สีลวิปตฺติ จ ทิฏฺิวิปตฺติ จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สีลสมฺปทา จ ทิฏฺิสมฺปทา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สีลวิสุทฺธิ จ ทิฏฺิวิสุทฺธิ จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? ทิฏฺิวิสุทฺธิ จ ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๘. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมึ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๗๙. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? มุฏฺสฺสจฺจฺจ อสมฺปชฺฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๘๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? สติ จ สมฺปชฺฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’ติ.

สมาปตฺติวคฺโค ปฺจโม.

ตติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑. โกธเปยฺยาลํ

๑๘๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? โกโธ จ อุปนาโห จ…เป… มกฺโข จ ปฬาโส [ปลาโส (ก.)] จ… อิสฺสา จ มจฺฉริยฺจ… มายา จ สาเยฺยฺจ… อหิริกฺจ อโนตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๘๒. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ทฺเว? อกฺโกโธ จ อนุปนาโห จ… อมกฺโข จ อปฬาโส จ… อนิสฺสา จ อมจฺฉริยฺจ… อมายา จ อสาเยฺยฺจ… หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา’’.

๑๘๓. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ทุกฺขํ วิหรติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? โกเธน จ อุปนาเหน จ… มกฺเขน จ ปฬาเสน จ… อิสฺสาย จ มจฺฉริเยน จ… มายาย จ สาเยฺเยน จ… อหิริเกน จ อโนตฺตปฺเปน จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ทุกฺขํ วิหรติ’’.

๑๘๔. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุขํ วิหรติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อกฺโกเธน จ อนุปนาเหน จ… อมกฺเขน จ อปฬาเสน จ… อนิสฺสาย จ อมจฺฉริเยน จ… อมายาย จ อสาเยฺเยน จ … หิริยา จ โอตฺตปฺเปน จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุขํ วิหรติ’’.

๑๘๕. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทฺเว? โกโธ จ อุปนาโห จ… มกฺโข จ ปฬาโส จ… อิสฺสา จ มจฺฉริยฺจ… มายา จ สาเยฺยฺจ… อหิริกฺจ อโนตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ’’.

๑๘๖. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทฺเว? อกฺโกโธ จ อนุปนาโห จ… อมกฺโข จ อปฬาโส จ… อนิสฺสา จ อมจฺฉริยฺจ… อมายา จ อสาเยฺยฺจ… หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ’’.

๑๘๗. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทฺวีหิ? โกเธน จ อุปนาเหน จ… มกฺเขน จ ปฬาเสน จ… อิสฺสาย จ มจฺฉริเยน จ… มายาย จ สาเยฺเยน จ… อหิริเกน จ อโนตฺตปฺเปน จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’.

๑๘๘. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทฺวีหิ? อกฺโกเธน จ อนุปนาเหน จ… อมกฺเขน จ อปฬาเสน จ… อนิสฺสาย จ อมจฺฉริเยน จ… อมายาย จ อสาเยฺเยน จ… หิริยา จ โอตฺตปฺเปน จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’.

๑๘๙. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? โกเธน จ อุปนาเหน จ… มกฺเขน จ ปฬาเสน จ… อิสฺสาย จ มจฺฉริเยน จ… มายาย จ สาเยฺเยน จ… อหิริเกน จ อโนตฺตปฺเปน จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ’’.

๑๙๐. ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อกฺโกเธน จ อนุปนาเหน จ… อมกฺเขน จ อปฬาเสน จ… อนิสฺสาย จ อมจฺฉริเยน จ… อมายาย จ อสาเยฺเยน จ… หิริยา จ โอตฺตปฺเปน จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ’’.

โกธเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

๒. อกุสลเปยฺยาลํ

๑๙๑-๒๐๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อกุสลา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา กุสลา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สาวชฺชา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อนวชฺชา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ทุกฺขุทฺรยา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สุขุทฺรยา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ทุกฺขวิปากา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สุขวิปากา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สพฺยาพชฺฌา… ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อพฺยาพชฺฌา. กตเม ทฺเว? อกฺโกโธ จ อนุปนาโห จ… อมกฺโข จ อปฬาโส จ… อนิสฺสา จ อมจฺฉริยฺจ… อมายา จ อสาเยฺยฺจ… หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา อพฺยาพชฺฌา’’ติ.

อกุสลเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

๓. วินยเปยฺยาลํ

๒๐๑. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. กตเม ทฺเว? สงฺฆสุฏฺุตาย สงฺฆผาสุตาย… ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย… ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ เวรานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ เวรานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ วชฺชานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ วชฺชานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ ภยานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ ภยานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิฆาตาย… คิหีนํ อนุกมฺปาย, ปาปิจฺฉานํ ภิกฺขูนํ ปกฺขุปจฺเฉทาย… อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย… สทฺธมฺมฏฺิติยา วินยานุคฺคหาย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺต’’นฺติ.

๒๐๒-๒๓๐. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ ปาติโมกฺขํ ปฺตฺตํ…เป… ปาติโมกฺขุทฺเทโส ปฺตฺโต… ปาติโมกฺขฏฺปนํ ปฺตฺตํ… ปวารณา ปฺตฺตา… ปวารณฏฺปนํ ปฺตฺตํ… ตชฺชนียกมฺมํ ปฺตฺตํ… นิยสฺสกมฺมํ ปฺตฺตํ… ปพฺพาชนียกมฺมํ ปฺตฺตํ… ปฏิสารณียกมฺมํ ปฺตฺตํ… อุกฺเขปนียกมฺมํ ปฺตฺตํ… ปริวาสทานํ ปฺตฺตํ… มูลาย ปฏิกสฺสนํ ปฺตฺตํ… มานตฺตทานํ ปฺตฺตํ… อพฺภานํ ปฺตฺตํ… โอสารณียํ ปฺตฺตํ… นิสฺสารณียํ ปฺตฺตํ… อุปสมฺปทา ปฺตฺตา… ตฺติกมฺมํ ปฺตฺตํ… ตฺติทุติยกมฺมํ ปฺตฺตํ… ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ปฺตฺตํ… อปฺตฺเต ปฺตฺตํ… ปฺตฺเต อนุปฺตฺตํ… สมฺมุขาวินโย ปฺตฺโต… สติวินโย ปฺตฺโต… อมูฬฺหวินโย ปฺตฺโต… ปฏิฺาตกรณํ ปฺตฺตํ… เยภุยฺยสิกา ปฺตฺตา… ตสฺสปาปิยสิกา ปฺตฺตา… ติณวตฺถารโก ปฺตฺโต. กตเม ทฺเว? สงฺฆสุฏฺุตาย, สงฺฆผาสุตาย… ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย… ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ เวรานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ เวรานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ วชฺชานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ วชฺชานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ ภยานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ ภยานํ ปฏิฆาตาย… ทิฏฺธมฺมิกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิฆาตาย… คิหีนํ อนุกมฺปาย, ปาปิจฺฉานํ ภิกฺขูนํ ปกฺขุปจฺเฉทาย… อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย… สทฺธมฺมฏฺิติยา, วินยานุคฺคหาย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ ติณวตฺถารโก ปฺตฺโต’’ติ.

วินยเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

๔. ราคเปยฺยาลํ

๒๓๑. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริกฺขยาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริกฺขยา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปหานาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปหานา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ขยาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ขยา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, วยาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, วยา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, วิราคาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, วิราคา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, นิโรธาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, นิโรธา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, จาคาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, จาคา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปฏินิสฺสคฺคาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปฏินิสฺสคฺคาย อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๒๓๒-๒๔๖. ‘‘โทสสฺส…เป… โมหสฺส… โกธสฺส… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปริกฺขยาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปริกฺขยาย อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปหานาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปหานา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ขยาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ขยา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, วยาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, วยา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, วิราคาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, วิราคา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, นิโรธาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, นิโรธา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, จาคาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, จาคา อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปฏินิสฺสคฺคาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทฺเว? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ปมาทสฺส, ภิกฺขเว, ปฏินิสฺสคฺคาย อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

(อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.) [( ) เอตฺถนฺตเร ปาโ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ]

ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

ทุกนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.