📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาโย
จตุกฺกนิปาตปาฬิ
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. ภณฺฑคามวคฺโค
๑. อนุพุทฺธสุตฺตํ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา วชฺชีสุ วิหรติ ภณฺฑคาเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ ¶ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. กตเมสํ จตุนฺนํ? อริยสฺส, ภิกฺขเว, สีลสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. อริยสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ ¶ . อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, อริยํ สีลํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อริโย สมาธิ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ, อริยา ปฺา อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อริยา วิมุตฺติ อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘สีลํ ¶ สมาธิ ปฺา จ, วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา;
อนุพุทฺธา อิเม ธมฺมา, โคตเมน ยสสฺสินา.
‘‘อิติ พุทฺโธ อภิฺาย, ธมฺมมกฺขาสิ ภิกฺขุนํ;
ทุกฺขสฺสนฺตกโร สตฺถา, จกฺขุมา ปรินิพฺพุโต’’ติ. ปมํ;
๒. ปปติตสุตฺตํ
๒. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. กตเมหิ จตูหิ? อริเยน, ภิกฺขเว, สีเลน อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริเยน, ภิกฺขเว, สมาธินา อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ อสมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา ปปติโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ [อปฺปปติโตติ (ก.)] วุจฺจติ. กตเมหิ จตูหิ? อริเยน, ภิกฺขเว, สีเลน สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริเยน, ภิกฺขเว, สมาธินา สมนฺนาคโต ¶ ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ‘อิมสฺมา ธมฺมวินยา อปปติโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘จุตา ปตนฺติ ปติตา, คิทฺธา จ ปุนราคตา;
กตํ กิจฺจํ รตํ รมฺมํ, สุเขนานฺวาคตํ สุข’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. ปมขตสุตฺตํ
๓. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต [อวฺยตฺโต (สี. ปี.)] อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ ¶ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. กตเมหิ จตูหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต [วฺยตฺโต (สี. ปี.), พฺยตฺโต (สฺยา. กํ.)] สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. กตเมหิ จตูหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ ¶ , อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ ¶ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวตี’’ติ.
[สุ. นิ. ๖๖๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐] ‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ,
ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;
วิจินาติ มุเขน โส กลึ,
กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.
[สุ. นิ. ๖๖๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐] ‘‘อปฺปมตฺโต อยํ กลิ,
โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;
สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา,
อยเมว มหนฺตตโร กลิ;
โย สุคเตสุ มนํ ปโทสเย.
‘‘สตํ ¶ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ,
ฉตฺตึสตี ปฺจ จ อพฺพุทานิ;
ยมริยครหี ¶ [ยมริยํ ครหีย (สฺยา. กํ.)] นิรยํ อุเปติ,
วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ. ตติยํ;
๔. ทุติยขตสุตฺตํ
๔. ‘‘จตูสุ, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. กตเมสุ จตูสุ? มาตริ, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. ปิตริ, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคเต ¶ , ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคตสาวเก, ภิกฺขเว, มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ ¶ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, จตูสุ มิจฺฉา ปฏิปชฺชมาโน พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ.
‘‘จตูสุ, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. กตเมสุ จตูสุ? มาตริ, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. ปิตริ, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคเต, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน…เป… ตถาคตสาวเก, ภิกฺขเว, สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวติ. อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, จตูสุ สมฺมา ปฏิปชฺชมาโน ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิฺูนํ, พหฺุจ ปฺุํ ปสวตี’’ติ.
‘‘มาตริ ¶ ปิตริ จาปิ, โย มิจฺฉา ปฏิปชฺชติ;
ตถาคเต วา สมฺพุทฺเธ, อถ วา ตสฺส สาวเก;
พหฺุจ ¶ ¶ โส ปสวติ, อปฺุํ ตาทิโส นโร.
‘‘ตาย นํ อธมฺมจริยาย [ตาย อธมฺมจริยาย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;
อิเธว นํ ครหนฺติ, เปจฺจาปายฺจ คจฺฉติ.
‘‘มาตริ ปิตริ จาปิ, โย สมฺมา ปฏิปชฺชติ;
ตถาคเต วา สมฺพุทฺเธ, อถ วา ตสฺส สาวเก;
พหฺุจ โส ปสวติ, ปฺุํ เอตาทิโส [ปฺุมฺปิ ตาทิโส (สี. สฺยา. กํ.)] นโร.
‘‘ตาย นํ ธมฺมจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;
อิเธว [อิธ เจว (สี.)] นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ [สคฺเค จ โมทตีติ (สี.)]. จตุตฺถํ;
๕. อนุโสตสุตฺตํ
๕. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อนุโสตคามี ปุคฺคโล, ปฏิโสตคามี ปุคฺคโล, ิตตฺโต ปุคฺคโล, ติณฺโณ ปารงฺคโต [ปารคโต (สี. สฺยา. กํ.)] ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ. กตโม จ, ภิกฺขเว, อนุโสตคามี ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล กาเม จ ปฏิเสวติ, ปาปฺจ กมฺมํ กโรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุโสตคามี ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปฏิโสตคามี ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล กาเม จ นปฺปฏิเสวติ, ปาปฺจ กมฺมํ น กโรติ, สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อสฺสุมุโขปิ รุทมาโน ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิโสตคามี ปุคฺคโล.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ิตตฺโต ปุคฺคโล? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ¶ โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ิตตฺโต ปุคฺคโล.
‘‘กตโม ¶ จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘เย เกจิ กาเมสุ อสฺตา ชนา,
อวีตราคา อิธ กามโภคิโน;
ปุนปฺปุนํ ชาติชรูปคามิ เต [ชาติชรูปคาหิโน (สี.), ชาติชรูปคา หิ เต (สฺยา. กํ.)],
ตณฺหาธิปนฺนา อนุโสตคามิโน.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ ธีโร อิธุปฏฺิตสฺสตี,
กาเม จ ปาเป จ อเสวมาโน;
สหาปิ ทุกฺเขน ชเหยฺย กาเม,
ปฏิโสตคามีติ ตมาหุ ปุคฺคลํ.
‘‘โย เว กิเลสานิ ปหาย ปฺจ,
ปริปุณฺณเสโข อปริหานธมฺโม;
เจโตวสิปฺปตฺโต สมาหิตินฺทฺริโย,
ส เว ิตตฺโตติ นโร ปวุจฺจติ.
‘‘ปโรปรา ¶ ยสฺส สเมจฺจ ธมฺมา,
วิธูปิตา อตฺถคตา น สนฺติ;
ส เว มุนิ [ส เวทคู (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วุสิตพฺรหฺมจริโย,
โลกนฺตคู ปารคโตติ วุจฺจตี’’ติ. ปฺจมํ;
๖. อปฺปสฺสุตสุตฺตํ
๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อปฺปสฺสุโต สุเตน อนุปปนฺโน, อปฺปสฺสุโต สุเตน อุปปนฺโน, พหุสฺสุโต สุเตน อนุปปนฺโน, พหุสฺสุโต สุเตน อุปปนฺโน. กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน ¶ ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย [น ธมฺมมฺาย (ปี. ก.)] ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ ¶ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ¶ [น ธมฺมมฺาย (ปี.)] ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘อปฺปสฺสุโตปิ เจ โหติ, สีเลสุ อสมาหิโต;
อุภเยน นํ ครหนฺติ, สีลโต จ สุเตน จ.
‘‘อปฺปสฺสุโตปิ เจ โหติ, สีเลสุ สุสมาหิโต;
สีลโต นํ ปสํสนฺติ, ตสฺส สมฺปชฺชเต สุตํ.
‘‘พหุสฺสุโตปิ ¶ เจ โหติ, สีเลสุ อสมาหิโต;
สีลโต นํ ครหนฺติ, นาสฺส สมฺปชฺชเต สุตํ.
‘‘พหุสฺสุโตปิ ¶ เจ โหติ, สีเลสุ สุสมาหิโต;
อุภเยน นํ ปสํสนฺติ, สีลโต จ สุเตน จ.
‘‘พหุสฺสุตํ ¶ ธมฺมธรํ, สปฺปฺํ พุทฺธสาวกํ;
เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. โสภนสุตฺตํ
๗. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ¶ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภนฺติ. กตเม จตฺตาโร? ภิกฺขุ, ภิกฺขเว, วิยตฺโต วินีโต วิสารโท พหุสฺสุโต ธมฺมธโร ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สงฺฆํ โสเภติ. ภิกฺขุนี, ภิกฺขเว, วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภติ. อุปาสโก, ภิกฺขเว, วิยตฺโต วินีโต วิสารโท พหุสฺสุโต ธมฺมธโร ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สงฺฆํ โสเภติ. อุปาสิกา, ภิกฺขเว, วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สงฺฆํ โสเภนฺตี’’ติ.
‘‘โย โหติ วิยตฺโต [วฺยตฺโต (สี. ปี.), พฺยตฺโต (สฺยา. กํ.)] จ วิสารโท จ,
พหุสฺสุโต ธมฺมธโร จ โหติ;
ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี,
ส ตาทิโส วุจฺจติ สงฺฆโสภโน [สํฆโสภโณ (ก.)].
‘‘ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน, ภิกฺขุนี จ พหุสฺสุตา;
อุปาสโก จ โย สทฺโธ, ยา จ สทฺธา อุปาสิกา;
เอเต โข สงฺฆํ โสเภนฺติ, เอเต หิ สงฺฆโสภนา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. เวสารชฺชสุตฺตํ
๘. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส เวสารชฺชานิ, เยหิ เวสารชฺเชหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ ¶ , ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. กตมานิ ¶ จตฺตาริ? ‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ ¶ . เอตมหํ [เอตมฺปหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘‘ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘‘เย โข ปน เต อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ตถาคตสฺส เวสารชฺชานิ, เยหิ เวสารชฺเชหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ.
‘‘เย ¶ เกจิเม วาทปถา ปุถุสฺสิตา,
ยํ ¶ นิสฺสิตา สมณพฺราหฺมณา จ;
ตถาคตํ ปตฺวา น เต ภวนฺติ,
วิสารทํ วาทปถาติวตฺตํ [วาทปถาภิวตฺตินํ (สี.), วาทปถาติ วุตฺตํ (ปี. ก.)].
‘‘โย ธมฺมจกฺกํ อภิภุยฺย เกวลี [เกวลํ (สฺยา.), เกวโล (ก.)],
ปวตฺตยี สพฺพภูตานุกมฺปี;
ตํ ¶ ตาทิสํ เทวมนุสฺสเสฏฺํ,
สตฺตา นมสฺสนฺติ ภวสฺส ปารคุ’’นฺติ. อฏฺมํ;
๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตํ
๙. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ตณฺหุปฺปาทา ยตฺถ ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ. กตเม จตฺตาโร? จีวรเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; ปิณฺฑปาตเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; เสนาสนเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; อิติภวาภวเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ตณฺหุปฺปาทา ยตฺถ ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘ตณฺหา ทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอวมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ [อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕]. นวมํ;
๑๐. โยคสุตฺตํ
๑๐. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, โยคา. กตเม จตฺตาโร? กามโยโค, ภวโยโค, ทิฏฺิโยโค, อวิชฺชาโยโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, กามโยโค? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ [อตฺถคมฺจ (สี. ปี.)] อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ¶ กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต [นปฺปชานโต (สฺยา. กํ. ก.)] โย กาเมสุ กามราโค กามนนฺที [กามนนฺทิ (สี. สฺยา. กํ.)] กามสฺเนโห กามมุจฺฉา กามปิปาสา กามปริฬาโห กามชฺโฌสานํ กามตณฺหา สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยโค. อิติ กามโยโค.
‘‘ภวโยโค ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต โย ภเวสุ ภวราโค ภวนนฺที ภวสฺเนโห ภวมุจฺฉา ภวปิปาสา ภวปริฬาโห ภวชฺโฌสานํ ภวตณฺหา สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภวโยโค. อิติ กามโยโค ภวโยโค.
‘‘ทิฏฺิโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต โย ¶ ทิฏฺีสุ ทิฏฺิราโค ทิฏฺินนฺที ทิฏฺิสฺเนโห ทิฏฺิมุจฺฉา ทิฏฺิปิปาสา ทิฏฺิปริฬาโห ทิฏฺิชฺโฌสานํ [ทิฏฺิอชฺโฌสานํ (สี. ปี.)] ทิฏฺิตณฺหา สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิโยโค. อิติ กามโยโค ภวโยโค ทิฏฺิโยโค.
‘‘อวิชฺชาโยโค ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต ยา ฉสุ ผสฺสายตเนสุ อวิชฺชา อฺาณํ สานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาโยโค. อิติ กามโยโค ภวโยโค ทิฏฺิโยโค อวิชฺชาโยโค, สํยุตฺโต ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สํกิเลสิเกหิ โปโนภวิเกหิ [โปโน พฺภวิเกหิ (สฺยา. ก.)] สทเรหิ ทุกฺขวิปาเกหิ อายตึ ชาติชรามรณิเกหิ. ตสฺมา อโยคกฺเขมีติ วุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร โยคา.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, วิสํโยคา. กตเม จตฺตาโร? กามโยควิสํโยโค, ภวโยควิสํโยโค, ทิฏฺิโยควิสํโยโค, อวิชฺชาโยควิสํโยโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, กามโยควิสํโยโค? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส กามานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานโต โย กาเมสุ กามราโค กามนนฺที กามสฺเนโห กามมุจฺฉา กามปิปาสา กามปริฬาโห กามชฺโฌสานํ กามตณฺหา สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยควิสํโยโค. อิติ กามโยควิสํโยโค.
‘‘ภวโยควิสํโยโค ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส ภวานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ¶ ยถาภูตํ ปชานโต โย ภเวสุ ภวราโค ภวนนฺที ภวสฺเนโห ภวมุจฺฉา ภวปิปาสา ภวปริฬาโห ภวชฺโฌสานํ ภวตณฺหา สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภวโยควิสํโยโค. อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค.
‘‘ทิฏฺิโยควิสํโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ¶ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส ทิฏฺีนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานโต โย ทิฏฺีสุ ทิฏฺิราโค ทิฏฺินนฺที ทิฏฺิสฺเนโห ทิฏฺิมุจฺฉา ทิฏฺิปิปาสา ทิฏฺิปริฬาโห ทิฏฺิชฺโฌสานํ ทิฏฺิตณฺหา สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิโยควิสํโยโค. อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค ทิฏฺิโยควิสํโยโค.
‘‘อวิชฺชาโยควิสํโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานโต ยา ฉสุ ผสฺสายตเนสุ อวิชฺชา อฺาณํ สา นานุเสติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาโยควิสํโยโค ¶ . อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค ทิฏฺิโยควิสํโยโค อวิชฺชาโยควิสํโยโค, วิสํยุตฺโต ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สํกิเลสิเกหิ โปโนภวิเกหิ สทเรหิ ทุกฺขวิปาเกหิ อายตึ ชาติชรามรณิเกหิ. ตสฺมา โยคกฺเขมีติ วุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วิสํโยคา’’ติ.
‘‘กามโยเคน ¶ สํยุตฺตา, ภวโยเคน จูภยํ;
ทิฏฺิโยเคน สํยุตฺตา, อวิชฺชาย ปุรกฺขตา.
‘‘สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาติมรณคามิโน;
เย จ กาเม ปริฺาย, ภวโยคฺจ สพฺพโส.
‘‘ทิฏฺิโยคํ ¶ สมูหจฺจ, อวิชฺชฺจ วิราชยํ;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, เต เว โยคาติคา มุนี’’ติ. ทสมํ;
ภณฺฑคามวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อนุพุทฺธํ ปปติตํ ทฺเว, ขตา อนุโสตปฺจมํ;
อปฺปสฺสุโต ¶ จ โสภนํ, เวสารชฺชํ ตณฺหาโยเคน เต ทสาติ.
๒. จรวคฺโค
๑. จรสุตฺตํ
๑๑. [อิติวุ. ๑๑๐] ‘‘จรโต ¶ เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ [พฺยนฺติกโรติ (ปี.), พฺยนฺตึ กโรติ (ก.)] น อนภาวํ คเมติ, จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.
‘‘ิตสฺส ¶ เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต ¶ หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.
‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.
‘‘สยานสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสติ, นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต ‘อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโย’ติ วุจฺจติ.
‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘ิตสฺส ¶ เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ ¶ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘สยานสฺส ¶ เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาธิวาเสติ, ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ ¶ อนภาวํ คเมติ, สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘จรํ วา ยทิ วา ติฏฺํ, นิสินฺโน อุท วา สยํ;
โย วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, ปาปกํ เคหนิสฺสิตํ.
‘‘กุมฺมคฺคปฺปฏิปนฺโน โส, โมหเนยฺเยสุ มุจฺฉิโต;
อภพฺโพ ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘โย จ จรํ วา ติฏฺํ วา, นิสินฺโน อุท วา สยํ;
วิตกฺกํ สมยิตฺวาน, วิตกฺกูปสเม รโต;
ภพฺโพ โส ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ. ปมํ;
๒. สีลสุตฺตํ
๑๒. ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถ สมฺปนฺนปาติโมกฺขา, ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ ¶ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน. สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสุ. สมฺปนฺนสีลานํ โว, ภิกฺขเว, วิหรตํ สมฺปนฺนปาติโมกฺขานํ ปาติโมกฺขสํวรสํวุตานํ วิหรตํ อาจารโคจรสมฺปนฺนานํ อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีนํ สมาทาย สิกฺขตํ สิกฺขาปเทสุ กิมสฺส อุตฺตริ กรณียํ?
‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาพฺยาปาโท ¶ วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘ิตสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาพฺยาปาโท วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ ¶ จิตฺตํ เอกคฺคํ, ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาพฺยาปาโท วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ¶ ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘สยานสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อภิชฺฌาพฺยาปาโท วิคโต โหติ, ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต ‘อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] จเร ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] ติฏฺเ, ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] อจฺเฉ ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] สเย;
ยตํ [ยถา (ก.) อิติวุ. ๑๑๑] สมิฺชเย [สมฺมิฺชเย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภิกฺขุ, ยตเมนํ [ยตเมว นํ (สี.), ยตเมตํ (สฺยา. กํ.), ยตเมว (?)] ปสารเย.
‘‘อุทฺธํ ¶ ติริยํ อปาจีนํ, ยาวตา ชคโต คติ;
สมเวกฺขิตา จ ธมฺมานํ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ.
‘‘เจโตสมถสามีจึ, สิกฺขมานํ สทา สตํ;
สตตํ ปหิตตฺโตติ, อาหุ ภิกฺขุํ ตถาวิธ’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. ปธานสุตฺตํ
๑๓. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สมฺมปฺปธานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ¶ ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ¶ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ สมฺมปฺปธานานี’’ติ.
‘‘สมฺมปฺปธานา มารเธยฺยาภิภูตา,
เต อสิตา ชาติมรณภยสฺส ปารคู;
เต ตุสิตา เชตฺวา มารํ สวาหินึ [สวาหนํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] เต อเนชา,
สพฺพํ นมุจิพลํ อุปาติวตฺตา เต สุขิตา’’ติ. ตติยํ;
๔. สํวรสุตฺตํ
๑๔. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ปธานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวรปฺปธานํ, ปหานปฺปธานํ, ภาวนาปฺปธานํ, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ¶ , ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย ¶ น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี, ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ; อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ¶ ภาเวติ… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ.
‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ ภทฺทกํ สมาธินิมิตฺตํ อนุรกฺขติ อฏฺิกสฺํ ปุฬวกสฺํ วินีลกสฺํ วิจฺฉิทฺทกสฺํ อุทฺธุมาตกสฺํ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ปธานานี’’ติ.
‘‘สํวโร จ ปหานฺจ, ภาวนา อนุรกฺขณา;
เอเต ¶ ปธานา จตฺตาโร, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา;
เยหิ ภิกฺขุ อิธาตาปี, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. ปฺตฺติสุตฺตํ
๑๕. ‘‘จตสฺโส ¶ อิมา, ภิกฺขเว, อคฺคปฺตฺติโย. กตมา จตสฺโส? เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวีนํ ยทิทํ – ราหุ อสุรินฺโท. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, กามโภคีนํ ยทิทํ – ราชา มนฺธาตา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อาธิปเตยฺยานํ ยทิทํ – มาโร ปาปิมา. สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส อคฺคปฺตฺติโย’’ติ.
‘‘ราหุคฺคํ อตฺตภาวีนํ, มนฺธาตา กามโภคินํ;
มาโร อาธิปเตยฺยานํ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ.
‘‘อุทฺธํ ติริยํ อปาจีนํ, ยาวตา ชคโต คติ;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจตี’’ติ. ปฺจมํ;
๖. โสขุมฺมสุตฺตํ
๑๖. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, โสขุมฺมานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ รูปโสขุมฺเมน ¶ อฺํ รูปโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ รูปโสขุมฺเมน อฺํ รูปโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. เวทนาโสขุมฺเมน ¶ สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ เวทนาโสขุมฺเมน อฺํ เวทนาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ เวทนาโสขุมฺเมน อฺํ เวทนาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. สฺาโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ สฺาโสขุมฺเมน อฺํ สฺาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ สฺาโสขุมฺเมน อฺํ สฺาโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. สงฺขารโสขุมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ ปรเมน; เตน จ สงฺขารโสขุมฺเมน อฺํ สงฺขารโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ¶ ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสติ; เตน จ สงฺขารโสขุมฺเมน อฺํ สงฺขารโสขุมฺมํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ โสขุมฺมานี’’ติ.
‘‘รูปโสขุมฺมตํ ¶ ตฺวา, เวทนานฺจ สมฺภวํ;
สฺา ยโต สมุเทติ, อตฺถํ คจฺฉติ ยตฺถ จ;
สงฺขาเร ปรโต ตฺวา, ทุกฺขโต โน จ อตฺตโต.
‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, สนฺโต สนฺติปเท รโต;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ. ฉฏฺํ;
๗. ปมอคติสุตฺตํ
๑๗. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคติคมนานี’’ติ.
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;
นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. ทุติยอคติสุตฺตํ
๑๘. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, นาคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ นาคติคมนานี’’ติ.
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;
อาปูรติ ตสฺส ยโส, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. อฏฺมํ;
๙. ตติยอคติสุตฺตํ
๑๙. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ฉนฺทาคตึ ¶ คจฺฉติ ¶ , โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ ¶ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคติคมนานิ.
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, นาคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ นาคติคมนานี’’ติ.
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;
นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา.
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;
อาปูรติ ตสฺส ยโส, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. นวมํ;
๑๐. ภตฺตุทฺเทสกสุตฺตํ
๒๐. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ ¶ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุทฺเทสโก ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ.
‘‘เย เกจิ กาเมสุ อสฺตา ชนา,
อธมฺมิกา โหนฺติ อธมฺมคารวา;
ฉนฺทา โทสา โมหา จ ภยา คามิโน [ฉนฺทา จ โทสา จ ภยา จ คามิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี)],
ปริสากสโฏ ¶ [ปริสกฺกสาโว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ ปเนส วุจฺจติ.
‘‘เอวฺหิ ¶ วุตฺตํ สมเณน ชานตา,
ตสฺมา หิ เต สปฺปุริสา ปสํสิยา;
ธมฺเม ิตา เย น กโรนฺติ ปาปกํ,
น ฉนฺทา น โทสา น โมหา น ภยา จ คามิโน [น ฉนฺทโทสา น ภยา จ คามิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
‘‘ปริสาย มณฺโฑ จ ปเนส วุจฺจติ,
เอวฺหิ วุตฺตํ สมเณน ชานตา’’ติ. ทสมํ;
จรวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
จรํ สีลํ ปธานานิ, สํวรํ ปฺตฺติ ปฺจมํ;
โสขุมฺมํ ตโย อคตี, ภตฺตุทฺเทเสน เต ทสาติ.
๓. อุรุเวลวคฺโค
๑. ปมอุรุเวลสุตฺตํ
๒๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ [สํ. นิ. ๑.๑๗๓ อาคตํ] – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘เอกมิทาหํ ¶ , ภิกฺขเว, สมยํ อุรุเวลายํ วิหรามิ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ ปมาภิสมฺพุทฺโธ. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ทุกฺขํ โข อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส. กึ นุ โข อหํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ ¶ กตฺวา [ครุกตฺวา (สี. ปี.)] อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’’นฺติ?
‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – อปริปูรสฺส โข อหํ สีลกฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ. น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อตฺตนา สีลสมฺปนฺนตรํ, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ.
‘‘อปริปูรสฺส โข อหํ สมาธิกฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ. น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อตฺตนา สมาธิสมฺปนฺนตรํ, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ.
‘‘อปริปูรสฺส โข อหํ ปฺากฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ. น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก ¶ สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อตฺตนา ปฺาสมฺปนฺนตรํ, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ.
‘‘อปริปูรสฺส โข อหํ วิมุตฺติกฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ. น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อฺํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อตฺตนา วิมุตฺติสมฺปนฺนตรํ, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’นฺติ.
‘‘ตสฺส ¶ มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ยฺวายํ [โยปายํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ธมฺโม มยา อภิสมฺพุทฺโธ ตเมว ธมฺมํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’’นฺติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ¶ – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต มม ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณํ ชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา เยนาหํ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ¶ มํ เอตทโวจ – ‘เอวเมตํ ภควา, เอวเมตํ สุคต! เยปิ เต, ภนฺเต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา เตปิ ภควนฺโต ธมฺมํเยว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรึสุ; เยปิ เต, ภนฺเต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา เตปิ ภควนฺโต ธมฺมํเยว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหริสฺสนฺติ; ภควาปิ, ภนฺเต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมํเยว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรตู’’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ. อิทํ วตฺวา อถาปรํ เอตทโวจ –
‘‘เย จ อตีตา [เย จพฺภตีตา (สี. ปี. ก.)] สมฺพุทฺธา, เย จ พุทฺธา อนาคตา;
โย เจตรหิ สมฺพุทฺโธ, พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) สํ. นิ. ๑.๑๗๓] โสกนาสโน.
‘‘สพฺเพ สทฺธมฺมครุโน, วิหํสุ [วิหรึสุ (สฺยา. กํ.)] วิหรนฺติ จ;
อโถปิ วิหริสฺสนฺติ, เอสา พุทฺธาน ธมฺมตา.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ อตฺตกาเมน [อตฺถกาเมน (สี. ก.)], มหตฺตมภิกงฺขตา;
สทฺธมฺโม ครุกาตพฺโพ, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ.
‘‘อิทมโวจ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมุโน จ อชฺเฌสนํ วิทิตฺวา อตฺตโน จ ปติรูปํ ยฺวายํ [โยปายํ (สพฺพตฺถ)] ธมฺโม มยา อภิสมฺพุทฺโธ ตเมว ธมฺมํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหาสึ. ยโต ¶ จ โข, ภิกฺขเว, สงฺโฆปิ มหตฺเตน สมนฺนาคโต, อถ เม ¶ สงฺเฆปิ คารโว’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยอุรุเวลสุตฺตํ
๒๒. ‘‘เอกมิทาหํ ¶ , ภิกฺขเว, สมยํ อุรุเวลายํ วิหรามิ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ ปมาภิสมฺพุทฺโธ. อถ โข, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา พฺราหฺมณา ชิณฺณา วุทฺธา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มยา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข, ภิกฺขเว, เต พฺราหฺมณา มํ เอตทโวจุํ – ‘สุตํ เนตํ [เมตํ (สี. สฺยา. กํ. ก.)], โภ โคตม – น สมโณ โคตโม พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุทฺเธ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตตีติ. ตยิทํ, โภ โคตม, ตเถว. น หิ ภวํ โคตโม พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุทฺเธ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. ตยิทํ, โภ โคตม, น สมฺปนฺนเมวา’’’ติ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘นยิเม [น วต เม (สี. ปี.), น จยิเม (สฺยา. กํ.), น วติเม (?)] อายสฺมนฺโต ชานนฺติ เถรํ วา เถรกรเณ วา ธมฺเม’ติ. วุทฺโธ เจปิ, ภิกฺขเว, โหติ อาสีติโก วา นาวุติโก วา วสฺสสติโก วา ชาติยา. โส จ โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที, อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ. อถ โข โส ‘พาโล เถโร’ตฺเวว [เตว (สี. ปี.)] สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘ทหโร เจปิ, ภิกฺขเว, โหติ ยุวา สุสุกาฬเกโส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปเมน วยสา ¶ . โส จ โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที นิธานวตึ ¶ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. อถ โข โส ‘ปณฺฑิโต เถโร’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, เถรกรณา ธมฺมา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, พหุสฺสุโต โหติ ¶ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ [สาตฺถา สพฺยฺชนา (สี. ปี.)] เกวลปริปุณฺณํ [เกวลปริปุณฺณา (สี.)] ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา [ธตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร เถรกรณา ธมฺมา’’ติ.
‘‘โย อุทฺธเตน จิตฺเตน, สมฺผฺจ พหุ ภาสติ;
อสมาหิตสงฺกปฺโป, อสทฺธมฺมรโต มโค;
อารา โส ถาวเรยฺยมฺหา, ปาปทิฏฺิ อนาทโร.
‘‘โย จ สีเลน สมฺปนฺโน, สุตวา ปฏิภานวา;
สฺโต ธีโร ธมฺเมสุ [สฺโต ธีรธมฺเมสุ (สี.), สํยุตฺโต ถิรธมฺเมสุ (สฺยา. กํ.)], ปฺายตฺถํ วิปสฺสติ.
‘‘ปารคู ¶ สพฺพธมฺมานํ, อขิโล ปฏิภานวา;
ปหีนชาติมรโณ, พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี.
‘‘ตมหํ วทามิ เถโรติ, ยสฺส โน สนฺติ อาสวา;
อาสวานํ ขยา ภิกฺขุ, โส เถโรติ ปวุจฺจตี’’ติ. ทุติยํ;
๓. โลกสุตฺตํ
๒๓. ‘‘โลโก ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ. โลกสฺมา ตถาคโต วิสํยุตฺโต. โลกสมุทโย, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ. โลกสมุทโย ตถาคตสฺส ปหีโน. โลกนิโรโธ, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ. โลกนิโรโธ ตถาคตสฺส ¶ สจฺฉิกโต. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา ตถาคตสฺส ภาวิตา.
‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ ¶ อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘ยฺจ, ภิกฺขเว, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ, โน อฺถา. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘ยถาวาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ.
‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ¶ ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุ ทโส วสวตฺตี. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ’’.
‘‘สพฺพํ โลกํ อภิฺาย, สพฺพํ โลเก ยถาตถํ;
สพฺพํ โลกํ [สพฺพโลก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วิสํยุตฺโต, สพฺพโลเก อนูปโย.
‘‘ส เว สพฺพาภิภู ธีโร, สพฺพคนฺถปฺปโมจโน;
ผุฏฺ’สฺส ปรมา สนฺติ, นิพฺพานํ อกุโตภยํ.
‘‘เอส ¶ ขีณาสโว พุทฺโธ, อนีโฆ ฉินฺนสํสโย;
สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโต, วิมุตฺโต อุปธิสงฺขเย.
‘‘เอส โส ภควา พุทฺโธ, เอส สีโห อนุตฺตโร;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺตยี.
‘‘อิติ เทวา มนุสฺสา จ, เย พุทฺธํ สรณํ คตา;
สงฺคมฺม ตํ นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘‘ทนฺโต ¶ ทมยตํ เสฏฺโ, สนฺโต สมยตํ อิสิ;
มุตฺโต โมจยตํ อคฺโค, ติณฺโณ ตารยตํ วโร.
‘‘อิติ เหตํ นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต [นตฺถิ เต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิปุคฺคโล’’ติ. ตติยํ;
๔. กาฬการามสุตฺตํ
๒๔. เอกํ สมยํ ภควา สาเกเต วิหรติ กาฬการาเม [โกฬิการาเม (ก.)]. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยํ ¶ , ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส ¶ สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ ชานามิ.
‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ อพฺภฺาสึ. ตํ ตถาคตสฺส วิทิตํ, ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสิ.
‘‘ยํ ¶ , ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ น ชานามีติ วเทยฺยํ, ตํ มมสฺส มุสา.
‘‘ยํ, ภิกฺขเว…เป… ตมหํ ชานามิ จ น จ ชานามีติ วเทยฺยํ, ตํปสฺส [ตํ ปิสฺส (สฺยา. กํ.), ตํ มมสฺส (ก.)] ตาทิสเมว.
‘‘ยํ, ภิกฺขเว…เป… ตมหํ เนว ชานามิ น น ชานามีติ วเทยฺยํ, ตํ มมสฺส กลิ.
‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทฏฺา ทฏฺพฺพํ, ทิฏฺํ น มฺติ, อทิฏฺํ น มฺติ, ทฏฺพฺพํ น มฺติ, ทฏฺารํ น มฺติ; สุตฺวา โสตพฺพํ, สุตํ น ¶ มฺติ, อสุตํ น มฺติ, โสตพฺพํ น มฺติ, โสตารํ น มฺติ; มุตฺวา โมตพฺพํ, มุตํ น มฺติ, อมุตํ น มฺติ, โมตพฺพํ น มฺติ, โมตารํ น มฺติ; วิฺตฺวา วิฺาตพฺพํ, วิฺาตํ น มฺติ, อวิฺาตํ น มฺติ, วิฺาตพฺพํ น มฺติ, วิฺาตารํ น มฺติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ ตาทีเยว ตาที [ตาทิโสว ตาที (สฺยา. กํ.), ตาทิเส เยว ตาที (ปี.), ตาทีเยว ตาทีเยเวกา (ก.)]. ตมฺหา จ ปน ตาทิมฺหา [ตาทิตมฺหา (สี. ปี.)] อฺโ ตาที อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถีติ วทามี’’ติ.
‘‘ยํ ¶ กิฺจิ ทิฏฺํว สุตํ มุตํ วา,
อชฺโฌสิตํ สจฺจมุตํ ปเรสํ;
น เตสุ ตาที สยสํวุเตสุ,
สจฺจํ มุสา วาปิ ปรํ ทเหยฺย.
‘‘เอตฺจ สลฺลํ ปฏิกจฺจ [ปฏิคจฺจ (สี. ปี.)] ทิสฺวา,
อชฺโฌสิตา ยตฺถ ปชา วิสตฺตา;
ชานามิ ¶ ปสฺสามิ ตเถว เอตํ,
อชฺโฌสิตํ นตฺถิ ตถาคตาน’’นฺติ. จตุตฺถํ;
๕. พฺรหฺมจริยสุตฺตํ
๒๕. ‘‘นยิทํ ¶ , ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถํ, น ชนลปนตฺถํ, น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ, น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถํ, น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติ. อถ โข อิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ วิราคตฺถํ นิโรธตฺถ’’นฺติ.
‘‘สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ, พฺรหฺมจริยํ อนีติหํ;
อเทสยิ โส ภควา, นิพฺพาโนคธคามินํ;
เอส มคฺโค มหนฺเตหิ [มหตฺเตภิ (ก.) อิติวุ. ๓๕], อนุยาโต มเหสิภิ.
‘‘เย จ ตํ ปฏิปชฺชนฺติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;
ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, สตฺถุสาสนการิโน’’ติ. ปฺจมํ;
๖. กุหสุตฺตํ
๒๖. [อิติวุ. ๑๐๘ อิติวุตฺตเกปิ] ‘‘เย ¶ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี อุนฺนฬา อสมาหิตา, น เม เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกา. อปคตา จ เต, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขู อิมสฺมา ธมฺมวินยา, น จ เต อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ. เย จ โข เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู นิกฺกุหา นิลฺลปา ธีรา อตฺถทฺธา สุสมาหิตา, เต โข เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกา. อนปคตา จ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมา ธมฺมวินยา. เต จ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตี’’ติ.
[อิติวุ. ๑๐๘ อิติวุตฺตเกปิ] ‘‘กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี, อุนฺนฬา อสมาหิตา;
น เต ธมฺเม วิรูหนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต.
‘‘นิกฺกุหา นิลฺลปา ธีรา, อตฺถทฺธา สุสมาหิตา;
เต เว ธมฺเม วิรูหนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. สนฺตุฏฺิสุตฺตํ
๒๗. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, อปฺปานิ จ [เจว (ก.)] สุลภานิ จ, ตานิ จ อนวชฺชานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปํสุกูลํ, ภิกฺขเว, จีวรานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ ¶ , ตฺจ อนวชฺชํ. ปิณฺฑิยาโลโป, ภิกฺขเว, โภชนานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. รุกฺขมูลํ, ภิกฺขเว, เสนาสนานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. ปูติมุตฺตํ, ภิกฺขเว, เภสชฺชานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อปฺปานิ จ สุลภานิ จ, ตานิ จ อนวชฺชานิ. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺเปน จ ตุฏฺโ โหติ สุลเภน จ, อิทมสฺสาหํ อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ [สามฺนฺติ (ก.)] วทามี’’ติ.
‘‘อนวชฺเชน ตุฏฺสฺส, อปฺเปน สุลเภน จ;
น ¶ เสนาสนมารพฺภ, จีวรํ ปานโภชนํ;
วิฆาโต โหติ จิตฺตสฺส, ทิสา นปฺปฏิหฺติ.
‘‘เย จสฺส ธมฺมา อกฺขาตา, สามฺสฺสานุโลมิกา;
อธิคฺคหิตา ตุฏฺสฺส, อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต’’ติ. สตฺตมํ;
๘. อริยวํสสุตฺตํ
๒๘. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, อริยวํสา อคฺคฺา รตฺตฺา วํสฺา โปราณา อสํกิณฺณา อสํกิณฺณปุพฺพา, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺา สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน จีวเรน, อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ จีวรเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ, อลทฺธา จ จีวรํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ จีวรํ อคธิโต [อคถิโต (สี. ปี.)] อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, โน [น (ที. นิ. ๓.๓๐๙)] ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปติสฺสโต, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ ปิณฺฑปาตเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ, อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ¶ ปริภฺุชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ ¶ , โน ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปติสฺสโต, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน เสนาสเนน, อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ เสนาสนเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ, อลทฺธา จ เสนาสนํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ เสนาสนํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, โน ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปติสฺสโต, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโต, ปหานาราโม โหติ ปหานรโต; ตาย จ ปน ภาวนารามตาย ภาวนารติยา ¶ ปหานารามตาย ปหานรติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, โน ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปติสฺสโต, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อริยวํสา อคฺคฺา รตฺตฺา วํสฺา โปราณา อสํกิณฺณา อสํกิณฺณปุพฺพา, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺา สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ.
‘‘อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขเว, จตูหิ อริยวํเสหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย วิหรติ สฺเวว อรตึ สหติ, น ตํ อรติ สหติ; ปจฺฉิมาย เจปิ ทิสาย วิหรติ ¶ สฺเวว อรตึ สหติ, น ตํ อรติ สหติ; อุตฺตราย เจปิ ทิสาย วิหรติ สฺเวว อรตึ สหติ, น ตํ อรติ สหติ; ทกฺขิณาย เจปิ ทิสาย วิหรติ สฺเวว อรตึ สหติ, น ตํ อรติ สหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อรติรติสโห หิ, ภิกฺขเว, ธีโร’’ติ.
‘‘นารติ ¶ สหติ ธีรํ [วีรํ (สี.)], นารติ ธีรํ สหติ;
ธีโรว อรตึ สหติ, ธีโร หิ อรติสฺสโห.
‘‘สพฺพกมฺมวิหายีนํ ¶ , ปนุณฺณํ [ปณุนฺนํ (?)] โก นิวารเย;
เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติ. อฏฺมํ;
๙. ธมฺมปทสุตฺตํ
๒๙. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ธมฺมปทานิ อคฺคฺานิ รตฺตฺานิ วํสฺานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺานิ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. กตมานิ จตฺตาริ? อนภิชฺฌา, ภิกฺขเว, ธมฺมปทํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ.
‘‘อพฺยาปาโท, ภิกฺขเว, ธมฺมปทํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ.
‘‘สมฺมาสติ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมปทํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ.
‘‘สมฺมาสมาธิ, ภิกฺขเว, ธมฺมปทํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ธมฺมปทานิ อคฺคฺานิ รตฺตฺานิ วํสฺานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺานิ ¶ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหี’’ติ.
‘‘อนภิชฺฌาลุ ¶ วิหเรยฺย, อพฺยาปนฺเนน เจตสา;
สโต เอกคฺคจิตฺตสฺส [เอกคฺคจิตฺตายํ (ก.)], อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต’’ติ. นวมํ;
๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตํ
๓๐. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ปริพฺพาชกา สิปฺปินิกาตีเร [สปฺปินิยา ตีเร (สี. ปี.), สิปฺปินิยา ตีเร (สฺยา. กํ.), สิปฺปินิยา นทิยา ตีเร (ก.)] ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ อนฺนภาโร วรธโร สกุลุทายี จ ปริพฺพาชโก อฺเ จ อภิฺาตา อภิฺาตา ปริพฺพาชกา. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน สิปฺปินิกาตีรํ ปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาริมานิ, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทานิ อคฺคฺานิ รตฺตฺานิ ¶ วํสฺานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺานิ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. กตมานิ จตฺตาริ? อนภิชฺฌา, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อพฺยาปาโท, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ…เป… สมฺมาสติ, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ…เป… สมฺมาสมาธิ, ปริพฺพาชกา, ธมฺมปทํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ ¶ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกียติ น สํกียิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อิมานิ โข ¶ , ปริพฺพาชกา, จตฺตาริ ธมฺมปทานิ อคฺคฺานิ รตฺตฺานิ วํสฺานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺานิ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ.
‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ อนภิชฺฌํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อภิชฺฌาลุํ กาเมสุ ติพฺพสาราคํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติ. โส วต, ปริพฺพาชกา, อนภิชฺฌํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อภิชฺฌาลุํ กาเมสุ ติพฺพสาราคํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘โย ¶ โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ อพฺยาปาทํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย พฺยาปนฺนจิตฺตํ ปทุฏฺมนสงฺกปฺปํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติ. โส วต, ปริพฺพาชกา, อพฺยาปาทํ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย พฺยาปนฺนจิตฺตํ ปทุฏฺมนสงฺกปฺปํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ สมฺมาสตึ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย มุฏฺสฺสตึ อสมฺปชานํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติ. โส วต, ปริพฺพาชกา, สมฺมาสตึ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย มุฏฺสฺสตึ อสมฺปชานํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘อหเมตํ ¶ สมฺมาสมาธึ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อสมาหิตํ วิพฺภนฺตจิตฺตํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสามี’ติ, ตมหํ ตตฺถ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอตุ วทตุ พฺยาหรตุ ¶ ปสฺสามิสฺสานุภาว’นฺติ. โส วต, ปริพฺพาชกา, สมฺมาสมาธึ ธมฺมปทํ ปจฺจกฺขาย อสมาหิตํ วิพฺภนฺตจิตฺตํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปฺาเปสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘โย โข, ปริพฺพาชกา, อิมานิ จตฺตาริ ธมฺมปทานิ ครหิตพฺพํ ปฏิกฺโกสิตพฺพํ มฺเยฺย, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม จตฺตาโร สหธมฺมิกา วาทานุปาตา คารยฺหา ¶ านา [วาทานุวาทา คารยฺหํ านํ (ม. นิ. ๓.๘)] อาคจฺฉนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อนภิชฺฌํ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฏิกฺโกสติ, เย จ หิ [เย จ (ม. นิ. ๓.๑๔๒-๑๔๓)] อภิชฺฌาลู กาเมสุ ติพฺพสาราคา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสา. อพฺยาปาทํ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฏิกฺโกสติ, เย จ หิ พฺยาปนฺนจิตฺตา ปทุฏฺมนสงฺกปฺปา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสา. สมฺมาสตึ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฏิกฺโกสติ, เย จ หิ มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสา. สมฺมาสมาธึ เจ ภวํ ธมฺมปทํ ครหติ ปฏิกฺโกสติ, เย จ หิ อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา เต โภโต ปาสํสา.
‘‘โย ¶ โข, ปริพฺพาชกา, อิมานิ จตฺตาริ ธมฺมปทานิ ครหิตพฺพํ ปฏิกฺโกสิตพฺพํ มฺเยฺย, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม อิเม จตฺตาโร สหธมฺมิกา วาทานุปาตา คารยฺหา านา อาคจฺฉนฺติ ¶ . เยปิ เต ปริพฺพาชกา อเหสุํ อุกฺกลา วสฺสภฺา [วสฺสภิฺา (ก.) สํ. นิ. ๓.๖๒ ปสฺสิตพฺพํ] อเหตุกวาทา อกิริยวาทา นตฺถิกวาทา, เตปิ อิมานิ จตฺตาริ ธมฺมปทานิ น ครหิตพฺพํ น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ อมฺึสุ. ตํ กิสฺส เหตุ? นินฺทาพฺยาโรสนอุปารมฺภภยา’’ติ [อุปวาทภยาติ (ก.) ม. นิ. ๓.๑๕๐; สํ. นิ. ๓.๖๒ ปสฺสิตพฺพํ].
‘‘อพฺยาปนฺโน สทา สโต, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต;
อภิชฺฌาวินเย สิกฺขํ, อปฺปมตฺโตติ วุจฺจตี’’ติ. ทสมํ;
อุรุเวลวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว อุรุเวลา โลโก กาฬโก [โกฬิโก (ก.)], พฺรหฺมจริเยน ปฺจมํ;
กุหํ สนฺตุฏฺิ วํโส จ, ธมฺมปทํ ปริพฺพาชเกน จาติ.
๔. จกฺกวคฺโค
๑. จกฺกสุตฺตํ
๓๑. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตติ, เยหิ สมนฺนาคตา เทวมนุสฺสา นจิรสฺเสว มหนฺตตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ ปาปุณนฺติ โภเคสุ. กตมานิ จตฺตาริ? ปติรูปเทสวาโส, สปฺปุริสาวสฺสโย [สปฺปุริสูปสฺสโย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อตฺตสมฺมาปณิธิ, ปุพฺเพ จ กตปฺุตา – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตติ, เยหิ สมนฺนาคตา เทวมนุสฺสา นจิรสฺเสว มหนฺตตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ ปาปุณนฺติ โภเคสู’’ติ.
‘‘ปติรูเป ¶ วเส เทเส, อริยมิตฺตกโร สิยา;
สมฺมาปณิธิสมฺปนฺโน, ปุพฺเพ ปฺุกโต นโร;
ธฺํ ธนํ ยโส กิตฺติ, สุขฺเจตํธิวตฺตตี’’ติ. ปมํ;
๒. สงฺคหสุตฺตํ
๓๒. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สงฺคหวตฺถูนิ. กตมานิ จตฺตาริ? ทานํ, เปยฺยวชฺชํ, อตฺถจริยา, สมานตฺตตา – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนี’’ติ.
‘‘ทานฺจ เปยฺยวชฺชฺจ [สงฺคเห (อฏฺกถายํ ปานฺตรํ) ที. นิ. ๓.๒๗๓ ปสฺสิตพฺพํ], อตฺถจริยา จ ยา อิธ;
สมานตฺตตา จ ธมฺเมสุ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
เอเต โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโต.
‘‘เอเต จ สงฺคหา นาสฺสุ, น มาตา ปุตฺตการณา;
ลเภถ มานํ ปูชํ วา, ปิตา วา ปุตฺตการณา.
‘‘ยสฺมา ¶ จ สงฺคหา [สงฺคเห (อฏฺกถายํ ปานฺตรํ) ที. นิ. ๓.๒๗๓ ปสฺสิตพฺพํ] เอเต, สมเวกฺขนฺติ ปณฺฑิตา;
ตสฺมา มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ, ปาสํสา จ ภวนฺติ เต’’ติ. ทุติยํ;
๓. สีหสุตฺตํ
๓๓. ‘‘สีโห ¶ ¶ , ภิกฺขเว, มิคราชา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขมติ. อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺภติ. วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกติ. สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทติ. ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. เย โข ปน เต, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา สีหสฺส มิครฺโ นทโต สทฺทํ สุณนฺติ, เต เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ. พิลํ พิลาสยา ปวิสนฺติ, ทกํ ทกาสยา [อุทกํ อุทกาสยา (ก.) สํ. นิ. ๓.๗๘; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๓๗ ปสฺสิตพฺพํ] ปวิสนฺติ, วนํ วนาสยา ปวิสนฺติ, อากาสํ ปกฺขิโน ภชนฺติ ¶ . เยปิ เต, ภิกฺขเว, รฺโ นาคา คามนิคมราชธานีสุ ทฬฺเหหิ วรตฺเตหิ พนฺธเนหิ พทฺธา, เตปิ ตานิ พนฺธนานิ สฺฉินฺทิตฺวา สมฺปทาเลตฺวา ภีตา มุตฺตกรีสํ จชมานา เยน วา เตน วา ปลายนฺติ. เอวํ มหิทฺธิโก โข, ภิกฺขเว, สีโห มิคราชา ติรจฺฉานคตานํ ปาณานํ, เอวํ มเหสกฺโข เอวํ มหานุภาโว.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยทา ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา, โส ธมฺมํ เทเสติ – ‘อิติ สกฺกาโย, อิติ สกฺกายสมุทโย, อิติ สกฺกายนิโรโธ [สกฺกายสฺส อตฺถงฺคโม (อฏฺ., สํ. นิ. ๓.๗๘) ‘‘สกฺกายนิโรธคามินี’’ติ ปจฺฉิมปทํ ปน ปสฺสิตพฺพํ], อิติ สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ. เยปิ เต, ภิกฺขเว, เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา อุจฺเจสุ วิมาเนสุ จิรฏฺิติกา, เตปิ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ – ‘อนิจฺจา วต กิร, โภ, มยํ สมานา นิจฺจมฺหาติ อมฺิมฺห; อทฺธุวา วต กิร, โภ, มยํ สมานา ธุวมฺหาติ อมฺิมฺห; อสสฺสตา วต กิร, โภ, มยํ สมานา สสฺสตมฺหาติ อมฺิมฺห. มยํ กิร, โภ, อนิจฺจา อทฺธุวา อสสฺสตา สกฺกายปริยาปนฺนา’ติ. เอวํ มหิทฺธิโก โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต สเทวกสฺส โลกสฺส, เอวํ มเหสกฺโข เอวํ มหานุภาโว’’ติ.
‘‘ยทา ¶ ¶ พุทฺโธ อภิฺาย, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตยี;
สเทวกสฺส โลกสฺส, สตฺถา อปฺปฏิปุคฺคโล.
‘‘สกฺกายฺจ ¶ ¶ นิโรธฺจ, สกฺกายสฺส จ สมฺภวํ;
อริยฺจฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘เยปิ ทีฆายุกา เทวา, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;
ภีตา สนฺตาสมาปาทุํ, สีหสฺเสวิ’ตเรมิคา.
‘‘อวีติวตฺตา สกฺกายํ, อนิจฺจา กิร โภ มยํ;
สุตฺวา อรหโต วากฺยํ, วิปฺปมุตฺตสฺส ตาทิโน’’ติ [สํ. นิ. ๓.๗๘]. ตติยํ;
๔. อคฺคปฺปสาทสุตฺตํ
๓๔. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อคฺคปฺปสาทา. กตเม จตฺตาโร? ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา [ทิปทา (สี. ปี.) อ. นิ. ๕.๓๒; อิติวุ. ๙๐] วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺินาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.
‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ. เย, ภิกฺขเว, อริเย อฏฺงฺคิเก มคฺเค ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.
‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย อาลยสมุคฺฆาโต วฏฺฏุปจฺเฉโท ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. เย, ภิกฺขเว, วิราเค ธมฺเม ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.
‘‘ยาวตา ¶ ¶ , ภิกฺขเว, สงฺฆา วา คณา วา, ตถาคตสาวกสงฺโฆ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. เย ¶ , ภิกฺขเว, สงฺเฆ ปสนฺนา ¶ , อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อคฺคปฺปสาทา’’ติ.
‘‘อคฺคโต เว ปสนฺนานํ, อคฺคํ ธมฺมํ วิชานตํ;
อคฺเค พุทฺเธ ปสนฺนานํ, ทกฺขิเณยฺเย อนุตฺตเร.
‘‘อคฺเค ธมฺเม ปสนฺนานํ, วิราคูปสเม สุเข;
อคฺเค สงฺเฆ ปสนฺนานํ, ปฺุกฺเขตฺเต อนุตฺตเร.
‘‘อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ, อคฺคํ ปฺุํ ปวฑฺฒติ;
อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ, ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ.
‘‘อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี, อคฺคธมฺมสมาหิโต;
เทวภูโต มนุสฺโส วา, อคฺคปฺปตฺโต ปโมทตี’’ติ [อิติวุ. ๙๐]. จตุตฺถํ;
๕. วสฺสการสุตฺตํ
๓๕. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘จตูหิ โข มยํ, โภ โคตม, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ มหาปฺํ มหาปุริสํ ปฺาเปม ¶ . กตเมหิ จตูหิ? อิธ, โภ โคตม, พหุสฺสุโต โหติ ตสฺส ตสฺเสว สุตชาตสฺส ตสฺส ตสฺเสว โข ปน ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ – ‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ, อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส ¶ อตฺโถ’ติ. สติมา โข ปน โหติ จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา ยานิ โข ปน ตานิ คหฏฺกานิ กึกรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส, ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. อิเมหิ โข มยํ, โภ โคตม, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ มหาปฺํ มหาปุริสํ ปฺาเปม. สเจ เม [สเจ ปน เม (สี. ก.), สเจ เม ปน (ปี.)], โภ โคตม, อนุโมทิตพฺพํ อนุโมทตุ เม ภวํ โคตโม; สเจ ¶ ปน เม, โภ โคตม, ปฏิกฺโกสิตพฺพํ ปฏิกฺโกสตุ เม ภวํ โคตโม’’ติ.
‘‘เนว โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, อนุโมทามิ น ปฏิกฺโกสามิ ¶ . จตูหิ โข อหํ, พฺราหฺมณ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ มหาปฺํ มหาปุริสํ ปฺาเปมิ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, พฺราหฺมณ, พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนสุขาย; พหุสฺส ชนตา อริเย าเย ปติฏฺาปิตา, ยทิทํ กลฺยาณธมฺมตา กุสลธมฺมตา. โส ยํ วิตกฺกํ อากงฺขติ วิตกฺเกตุํ ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, ยํ วิตกฺกํ นากงฺขติ วิตกฺเกตุํ น ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ; ยํ สงฺกปฺปํ อากงฺขติ สงฺกปฺเปตุํ ตํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปติ, ยํ สงฺกปฺปํ นากงฺขติ สงฺกปฺเปตุํ น ตํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปติ. อิติ เจโตวสิปฺปตฺโต โหติ วิตกฺกปเถ. จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม ¶ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เนว โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, อนุโมทามิ น ปน ปฏิกฺโกสามิ. อิเมหิ โข อหํ, พฺราหฺมณ, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ มหาปฺํ มหาปุริสํ ปฺาเปมี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ จิทํ โภตา โคตเมน. อิเมหิ จ มยํ, โภ โคตม, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ภวนฺตํ โคตมํ ธาเรม; ภวฺหิ โคตโม พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย; พหุ เต [พหุสฺส (สฺยา. กํ. ก.)] ชนตา อริเย าเย ปติฏฺาปิตา, ยทิทํ กลฺยาณธมฺมตา กุสลธมฺมตา. ภวฺหิ โคตโม ยํ วิตกฺกํ อากงฺขติ วิตกฺเกตุํ ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, ยํ วิตกฺกํ นากงฺขติ วิตกฺเกตุํ น ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, ยํ สงฺกปฺปํ อากงฺขติ สงฺกปฺเปตุํ ตํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปติ, ยํ สงฺกปฺปํ นากงฺขติ สงฺกปฺเปตุํ น ตํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปติ. ภวฺหิ โคตโม เจโตวสิปฺปตฺโต วิตกฺกปเถ. ภวฺหิ โคตโม จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี ¶ . ภวฺหิ โคตโม อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
‘‘อทฺธา ¶ ¶ โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, อาสชฺช อุปนีย วาจา ภาสิตา. อปิ จ, ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามิ – ‘อหฺหิ, พฺราหฺมณ, พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย; พหุ เม [พหุสฺส (สฺยา. กํ. ก.)] ชนตา อริเย าเย ปติฏฺาปิตา, ยทิทํ กลฺยาณธมฺมตา กุสลธมฺมตา. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, ยํ วิตกฺกํ อากงฺขามิ วิตกฺเกตุํ ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกมิ, ยํ วิตกฺกํ นากงฺขามิ วิตกฺเกตุํ น ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกมิ ¶ , ยํ สงฺกปฺปํ อากงฺขามิ สงฺกปฺเปตุํ ตํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปมิ, ยํ สงฺกปฺปํ นากงฺขามิ สงฺกปฺเปตุํ น ตํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปมิ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, เจโตวสิปฺปตฺโต วิตกฺกปเถ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรามี’’’ติ.
‘‘โย เวทิ สพฺพสตฺตานํ, มจฺจุปาสปฺปโมจนํ;
หิตํ เทวมนุสฺสานํ, ายํ ธมฺมํ ปกาสยิ;
ยํ เว ทิสฺวา จ สุตฺวา จ, ปสีทนฺติ พหู ชนา [ปสีทติ พหุชฺชโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
‘‘มคฺคามคฺคสฺส กุสโล, กตกิจฺโจ อนาสโว;
พุทฺโธ อนฺติมสารีโร [อนฺติมธาริโต (ก.)], ‘‘(มหาปฺโ) [( ) สฺยา. โปตฺถเก นตฺถิ] มหาปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ. ปฺจมํ;
๖. โทณสุตฺตํ
๓๖. เอกํ สมยํ ภควา อนฺตรา จ อุกฺกฏฺํ อนฺตรา จ เสตพฺยํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ. โทโณปิ สุทํ พฺราหฺมโณ อนฺตรา จ อุกฺกฏฺํ อนฺตรา จ เสตพฺยํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ. อทฺทสา โข โทโณ พฺราหฺมโณ ภควโต ปาเทสุ จกฺกานิ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ; ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! น วติมานิ มนุสฺสภูตสฺส ปทานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ!! อถ ¶ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ ¶ ¶ ปลฺลงฺกํ ¶ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. อถ โข โทโณ พฺราหฺมโณ ภควโต ปทานิ อนุคจฺฉนฺโต อทฺทส ภควนฺตํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ปาสาทิกํ ปสาทนียํ สนฺตินฺทฺริยํ สนฺตมานสํ อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปตฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ สํยตินฺทฺริยํ [ยตินฺทฺริยํ (มหาว. ๒๕๗)] นาคํ. ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘เทโว โน ภวํ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, เทโว ภวิสฺสามี’’ติ. ‘‘คนฺธพฺโพ โน ภวํ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, คนฺธพฺโพ ภวิสฺสามี’’ติ. ‘‘ยกฺโข โน ภวํ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, ยกฺโข ภวิสฺสามี’’ติ. ‘‘มนุสฺโส โน ภวํ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, มนุสฺโส ภวิสฺสามี’’ติ.
‘‘‘เทโว โน ภวํ ภวิสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, เทโว ภวิสฺสามี’ติ วเทสิ. ‘คนฺธพฺโพ โน ภวํ ภวิสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, คนฺธพฺโพ ภวิสฺสามี’ติ วเทสิ. ‘ยกฺโข โน ภวํ ภวิสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, ยกฺโข ภวิสฺสามี’ติ วเทสิ. ‘มนุสฺโส โน ภวํ ภวิสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, มนุสฺโส ภวิสฺสามี’ติ วเทสิ. อถ โก จรหิ ภวํ ภวิสฺสตี’’ติ?
‘‘เยสํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, อาสวานํ อปฺปหีนตฺตา เทโว ภเวยฺยํ, เต เม อาสวา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เยสํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, อาสวานํ ¶ อปฺปหีนตฺตา คนฺธพฺโพ ภเวยฺยํ… ยกฺโข ภเวยฺยํ… มนุสฺโส ภเวยฺยํ, เต เม อาสวา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, อุปฺปลํ วา ปทุมํ วา ปุณฺฑรีกํ วา อุทเก ชาตํ อุทเก สํวฑฺฒํ อุทกา อจฺจุคฺคมฺม ติฏฺติ อนุปลิตฺตํ ¶ อุทเกน; เอวเมวํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, โลเก ชาโต โลเก สํวฑฺโฒ โลกํ อภิภุยฺย วิหรามิ อนุปลิตฺโต โลเกน. พุทฺโธติ มํ, พฺราหฺมณ, ธาเรหี’’ติ.
‘‘เยน ¶ เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;
ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;
เต มยฺหํ, อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา.
‘‘ปุณฺฑรีกํ ¶ ยถา วคฺคุ, โตเยน นุปลิปฺปติ [นุปลิมฺปติ (ก.)];
นุปลิปฺปามิ [นุปลิมฺปามิ (ก.)] โลเกน, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. อปริหานิยสุตฺตํ
๓๗. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ ปริหานาย นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ, โภชเน มตฺตฺู โหติ, ชาคริยํ อนุยุตฺโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ ¶ ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ; จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ¶ อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ; มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โภชเน มตฺตฺู โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย; ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย. อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ, อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โภชเน มตฺตฺู โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคริยํ อนุยุตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ; รตฺติยา ปมํ ยามํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ; รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปติ ¶ , ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย, สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา; รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปจฺจุฏฺาย จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคริยํ อนุยุตฺโต โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเกติ.
‘‘สีเล ปติฏฺิโต ภิกฺขุ, อินฺทฺริเยสุ จ สํวุโต;
โภชนมฺหิ จ มตฺตฺู, ชาคริยํ อนุยฺุชติ.
‘‘เอวํ วิหารี อาตาปี, อโหรตฺตมตนฺทิโต;
ภาวยํ กุสลํ ธมฺมํ, โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยา.
‘‘อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ, ปมาเท ภยทสฺสิ วา [ภยทสฺสาวี (ก.) ธ. ป. ๓๒ ธมฺมปเทปิ];
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. สตฺตมํ;
๘. ปติลีนสุตฺตํ
๓๘. ‘‘ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ ¶ [ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ (?)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘สมวยสฏฺเสโน ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร ปติลีโน’ติ วุจฺจติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ยานิ ตานิ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ¶ ปุถุปจฺเจกสจฺจานิ, เสยฺยถิทํ – สสฺสโต โลโกติ วา, อสสฺสโต โลโกติ วา, อนฺตวา โลโกติ วา, อนนฺตวา โลโกติ วา, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, เนว โหติ น ¶ น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา; สพฺพานิ ตานิ นุณฺณานิ โหนฺติ ปนุณฺณานิ จตฺตานิ วนฺตานิ มุตฺตานิ ปหีนานิ ปฏินิสฺสฏฺานิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กาเมสนา ปหีนา โหติ, ภเวสนา ปหีนา โหติ, พฺรหฺมจริเยสนา ปฏิปฺปสฺสทฺธา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปติลีโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปติลีโน โหติ. ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘สมวยสฏฺเสโน ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร ปติลีโน’ติ วุจฺจตี’’ติ.
[อิติวุ. ๕๕ อิติวุตฺตเกปิ] ‘‘กาเมสนา ¶ ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา สห;
อิติ สจฺจปรามาโส, ทิฏฺิฏฺานา สมุสฺสยา.
[อิติวุ. ๕๕ อิติวุตฺตเกปิ] ‘‘สพฺพราควิรตฺตสฺส, ตณฺหกฺขยวิมุตฺติโน;
เอสนา ปฏินิสฺสฏฺา, ทิฏฺิฏฺานา สมูหตา.
‘‘ส เว สนฺโต สโต ภิกฺขุ, ปสฺสทฺโธ อปราชิโต;
มานาภิสมยา พุทฺโธ, ปติลีโนติ วุจฺจตี’’ติ. อฏฺมํ;
๙. อุชฺชยสุตฺตํ
๓๙. อถ ¶ ¶ โข อุชฺชโย พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุชฺชโย พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม ยฺํ วณฺเณตี’’ติ ¶ ? ‘‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ยฺํ วณฺเณมิ; น ปนาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ยฺํ น วณฺเณมิ. ยถารูเป โข, พฺราหฺมณ, ยฺเ คาโว หฺนฺติ, อเชฬกา หฺนฺติ, กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, วิวิธา ปาณา สงฺฆาตํ อาปชฺชนฺติ; เอวรูปํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, สารมฺภํ ยฺํ น วณฺเณมิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวรูปฺหิ, พฺราหฺมณ, สารมฺภํ ยฺํ น อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา.
‘‘ยถารูเป จ โข, พฺราหฺมณ, ยฺเ เนว คาโว หฺนฺติ, น อเชฬกา หฺนฺติ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, น วิวิธา ปาณา สงฺฆาตํ อาปชฺชนฺติ; เอวรูปํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, นิรารมฺภํ ยฺํ วณฺเณมิ, ยทิทํ นิจฺจทานํ อนุกุลยฺํ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวรูปฺหิ, พฺราหฺมณ, นิรารมฺภํ ยฺํ อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา’’ติ.
‘‘อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬํ ¶ ;
มหายฺา มหารมฺภา [สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ; นิรคฺคฬํ มหารมฺภา (ปี.) สํ. นิ. ๑.๑๒๐], น เต โหนฺติ มหปฺผลา.
‘‘อเชฬกา จ คาโว จ, วิวิธา ยตฺถ หฺเร;
น ตํ สมฺมคฺคตา ยฺํ, อุปยนฺติ มเหสิโน.
‘‘เย ¶ จ ยฺา นิรารมฺภา, ยชนฺติ อนุกุลํ สทา;
อเชฬกา จ คาโว จ, วิวิธา เนตฺถ หฺเร [นาเชฬกา จ คาโว จ, วิวิธา ยตฺถ หฺเร (สฺยา. กํ.)];
ตฺจ สมฺมคฺคตา ยฺํ, อุปยนฺติ มเหสิโน.
‘‘เอตํ ¶ [เอวํ (สฺยา. กํ.)] ยเชถ เมธาวี, เอโส ยฺโ มหปฺผโล;
เอตํ [เอวํ (สฺยา. กํ. ก.)] หิ ยชมานสฺส, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย;
ยฺโ จ วิปุโล โหติ, ปสีทนฺติ จ เทวตา’’ติ. นวมํ;
๑๐. อุทายีสุตฺตํ
๔๐. อถ โข อุทายี [อุทายิ (สพฺพตฺถ)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา ¶ …เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุทายี พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม ยฺํ วณฺเณตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ยฺํ วณฺเณมิ; น ปนาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ยฺํ น วณฺเณมิ. ยถารูเป โข, พฺราหฺมณ, ยฺเ คาโว หฺนฺติ, อเชฬกา หฺนฺติ, กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, วิวิธา ปาณา สงฺฆาตํ อาปชฺชนฺติ; เอวรูปํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, สารมฺภํ ยฺํ น วณฺเณมิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวรูปฺหิ, พฺราหฺมณ, สารมฺภํ ยฺํ น อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา.
‘‘ยถารูเป จ โข, พฺราหฺมณ, ยฺเ เนว คาโว หฺนฺติ, น อเชฬกา หฺนฺติ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, น วิวิธา ปาณา สงฺฆาตํ อาปชฺชนฺติ; เอวรูปํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, นิรารมฺภํ ยฺํ วณฺเณมิ ¶ , ยทิทํ นิจฺจทานํ อนุกุลยฺํ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวรูปฺหิ, พฺราหฺมณ, นิรารมฺภํ ยฺํ อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา’’ติ.
‘‘อภิสงฺขตํ นิรารมฺภํ, ยฺํ กาเลน กปฺปิยํ;
ตาทิสํ ¶ อุปสํยนฺติ, สฺตา พฺรหฺมจารโย.
‘‘วิวฏจฺฉทา [วิวตฺตจฺฉทา (สี. ปี.), วิวฏฺฏจฺฉทา (ก.)] เย โลเก, วีติวตฺตา กุลํ คตึ;
ยฺเมตํ ปสํสนฺติ, พุทฺธา ยฺสฺส [ปฺุสฺส (สฺยา. กํ. ปี.)] โกวิทา.
‘‘ยฺเ วา ยทิ วา สทฺเธ, หพฺยํ [หวฺยํ (สี. ปี.), หฺุํ (สฺยา. กํ.)] กตฺวา ยถารหํ;
ปสนฺนจิตฺโต ยชติ [ปสนฺนจิตฺตา ยชนฺติ (ก.)], สุเขตฺเต พฺรหฺมจาริสุ.
‘‘สุหุตํ ¶ สุยิฏฺํ สุปฺปตฺตํ [สมฺปตฺตํ (สฺยา. กํ. ก.)], ทกฺขิเณยฺเยสุ ยํ กตํ;
ยฺโ จ วิปุโล โหติ, ปสีทนฺติ จ เทวตา.
‘‘เอวํ [เอตํ (ก.) อ. นิ. ๖.๓๗] ยชิตฺวา เมธาวี, สทฺโธ มุตฺเตน เจตสา;
อพฺยาพชฺฌํ สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ. ทสมํ;
จกฺกวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
จกฺโก ¶ สงฺคโห สีโห, ปสาโท วสฺสกาเรน ปฺจมํ;
โทโณ อปริหานิโย ปติลีโน, อุชฺชโย อุทายินา เต ทสาติ.
๕. โรหิตสฺสวคฺโค
๑. สมาธิภาวนาสุตฺตํ
๔๑. ‘‘จตสฺโส ¶ ¶ อิมา, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา. กตมา จตสฺโส? อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา าณทสฺสนปฺปฏิลาภาย สํวตฺตติ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชฺาย สํวตฺตติ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา าณทสฺสนปฺปฏิลาภาย สํวตฺตติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาโลกสฺํ มนสิ กโรติ, ทิวาสฺํ อธิฏฺาติ – ยถา ทิวา ตถา รตฺตึ, ยถา ¶ รตฺตึ ตถา ทิวา. อิติ วิวเฏน เจตสา อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติ. อยํ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา าณทสฺสนปฺปฏิลาภาย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชฺาย สํวตฺตติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ ¶ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สฺา…เป… วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชฺาย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม [อตฺถคโม (สี. ปี.)]; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา, อิติ สฺาย สมุทโย, อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา, อิติ สงฺขารานํ สมุทโย, อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม; อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สมาธิภาวนา. อิทฺจ ปน เมตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ ปารายเน ปุณฺณกปฺเห –
‘‘สงฺขาย โลกสฺมึ ปโรปรานิ,
ยสฺสิฺชิตํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;
สนฺโต ¶ วิธูโม อนีโฆ นิราโส,
อตาริ ¶ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมี’’ติ [สุ. นิ. ๑๐๕๔; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา ๗๓]. ปมํ;
๒. ปฺหพฺยากรณสุตฺตํ
๔๒. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ปฺหพฺยากรณานิ [ปฺหาพฺยากรณานิ (ก.)]. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปฺโห เอกํสพฺยากรณีโย; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปฺโห วิภชฺชพฺยากรณีโย; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปฺโห ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปฺโห ปนีโย. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ปฺหพฺยากรณานี’’ติ.
‘‘เอกํสวจนํ เอกํ, วิภชฺชวจนาปรํ;
ตติยํ ปฏิปุจฺเฉยฺย, จตุตฺถํ ปน าปเย.
‘‘โย ¶ จ เตสํ [เนสํ (สี. สฺยา. กํ.)] ตตฺถ ตตฺถ, ชานาติ อนุธมฺมตํ;
จตุปฺหสฺส กุสโล, อาหุ ภิกฺขุํ ตถาวิธํ.
‘‘ทุราสโท ทุปฺปสโห, คมฺภีโร ทุปฺปธํสิโย;
อโถ อตฺเถ อนตฺเถ จ, อุภยสฺส โหติ โกวิโท [อุภยตฺถสฺส โกวิโท (สฺยา. กํ.)].
‘‘อนตฺถํ ปริวชฺเชติ, อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต;
อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ. ทุติยํ;
๓. ปมโกธครุสุตฺตํ
๔๓. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? โกธครุ น สทฺธมฺมครุ, มกฺขครุ น สทฺธมฺมครุ, ลาภครุ น สทฺธมฺมครุ, สกฺการครุ น สทฺธมฺมครุ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สทฺธมฺมครุ น โกธครุ, สทฺธมฺมครุ น มกฺขครุ, สทฺธมฺมครุ น ลาภครุ ¶ , สทฺธมฺมครุ น สกฺการครุ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘โกธมกฺขครู ภิกฺขู, ลาภสกฺการคารวา;
น เต ธมฺเม วิรูหนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต.
‘‘เย ¶ จ สทฺธมฺมครุโน, วิหํสุ วิหรนฺติ จ;
เต เว ธมฺเม วิรูหนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต’’ติ. ตติยํ;
๔. ทุติยโกธครุสุตฺตํ
๔๔. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, อสทฺธมฺมา. กตเม จตฺตาโร? โกธครุตา น สทฺธมฺมครุตา, มกฺขครุตา น สทฺธมฺมครุตา, ลาภครุตา น สทฺธมฺมครุตา, สกฺการครุตา น สทฺธมฺมครุตา. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อสทฺธมฺมา.
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมา. กตเม จตฺตาโร? สทฺธมฺมครุตา น โกธครุตา, สทฺธมฺมครุตา น มกฺขครุตา, สทฺธมฺมครุตา น ลาภครุตา, สทฺธมฺมครุตา น สกฺการครุตา. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สทฺธมฺมา’’ติ.
‘‘โกธมกฺขครุ ภิกฺขุ, ลาภสกฺการคารโว;
สุเขตฺเต ปูติพีชํว, สทฺธมฺเม น วิรูหติ.
‘‘เย จ สทฺธมฺมครุโน, วิหํสุ วิหรนฺติ จ;
เต เว ธมฺเม วิรูหนฺติ, สฺเนหานฺวยมิโวสธา’’ติ [สฺเนหมนฺวายมิโวสธาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. จตุตฺถํ;
๕. โรหิตสฺสสุตฺตํ
๔๕. เอกํ สมยํ ภควา [สํ. นิ. ๑.๑๐๗] สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา ¶ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ยตฺถ นุ โข, ภนฺเต, น ชายติ น ชียติ น มียติ น ¶ จวติ น อุปปชฺชติ, สกฺกา นุ โข โส, ภนฺเต, คมเนน โลกสฺส อนฺโต าตุํ วา ทฏฺุํ วา ปาปุณิตุํ วา’’ติ? ‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ¶ ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’’’ติ.
‘‘ภูตปุพฺพาหํ, ภนฺเต, โรหิตสฺโส นาม อิสิ อโหสึ โภชปุตฺโต อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูโป ชโว อโหสิ, เสยฺยถาปิ นาม ทฬฺหธมฺมา [ทฬฺหธมฺโม, อ. นิ. ๙.๓๘; ม. นิ. ๑.๑๖๑ (สพฺพตฺถ) ฏีกา จ โมคฺคลฺลานพฺยากรณํ จ โอโลเกตพฺพํ] ธนุคฺคโห สิกฺขิโต กตหตฺโถ กตูปาสโน ลหุเกน อสเนน อปฺปกสิเรน ติริยํ ตาลจฺฉายํ อติปาเตยฺย. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูโป ปทวีติหาโร อโหสิ, เสยฺยถาปิ นาม ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโม สมุทฺโท. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูเปน ชเวน สมนฺนาคตสฺส เอวรูเปน จ ปทวีติหาเรน เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – ‘อหํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ปาปุณิสฺสามี’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, อฺตฺเรว อสิตปีตขายิตสายิตา อฺตฺร อุจฺจารปสฺสาวกมฺมา อฺตฺร นิทฺทากิลมถปฏิวิโนทนา วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี วสฺสสตํ คนฺตฺวา อปฺปตฺวาว โลกสฺส ¶ อนฺตํ อนฺตราเยว กาลงฺกโต.
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’’’ติ.
‘‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺย’นฺติ วทามิ. น จาหํ, อาวุโส, อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ วทามิ. อปิ จาหํ, อาวุโส, อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร [กเฬพเร (สี. ปี.)] สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺาเปมิ โลกสมุทยฺจ โลกนิโรธฺจ โลกนิโรธคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติ.
‘‘คมเนน ¶ ¶ น ปตฺตพฺโพ, โลกสฺสนฺโต กุทาจนํ;
น จ อปฺปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํ.
‘‘ตสฺมา ¶ หเว โลกวิทู สุเมโธ,
โลกนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;
โลกสฺส อนฺตํ สมิตาวิ ตฺวา,
นาสีสตี [นาสึสตี (สี.)] โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. ปฺจมํ;
๖. ทุติยโรหิตสฺสสุตฺตํ
๔๖. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข ¶ , ภิกฺขเว, โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘ยตฺถ นุ โข, ภนฺเต [สํ. นิ. ๑.๑๐๗], น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, สกฺกา นุ โข โส, ภนฺเต, คมเนน โลกสฺส อนฺโต าตุํ วา ทฏฺุํ วา ปาปุณิตุํ วา’ติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภิกฺขเว, โรหิตสฺสํ เทวปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามิ’’’.
‘‘ภูตปุพฺพาหํ, ภนฺเต, โรหิตสฺโส นาม อิสิ อโหสึ โภชปุตฺโต อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูโป ชโว อโหสิ, เสยฺยถาปิ นาม ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคโห สิกฺขิโต กตหตฺโถ กตูปาสโน ลหุเกน อสเนน อปฺปกสิเรน ติริยํ ตาลจฺฉายํ อติปาเตยฺย ¶ . ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูโป ปทวีติหาโร อโหสิ, เสยฺยถาปิ นาม ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโม สมุทฺโท. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูเปน ชเวน สมนฺนาคตสฺส เอวรูเปน จ ปทวีติหาเรน เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – อหํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, อฺตฺเรว อสิตปีตขายิตสายิตา ¶ อฺตฺร อุจฺจารปสฺสาวกมฺมา ¶ อฺตฺร นิทฺทากิลมถปฏิวิโนทนา ¶ วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี วสฺสสตํ คนฺตฺวา อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ อนฺตราเยว กาลงฺกโต.
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’’’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, ภิกฺขเว, โรหิตสฺสํ เทวปุตฺตํ เอตทโวจํ –
‘‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ, ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’ติ. น จาหํ, อาวุโส, อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ. อปิ จาหํ, อาวุโส, อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺาเปมิ โลกสมุทยฺจ โลกนิโรธฺจ โลกนิโรธคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติ.
‘‘คมเนน น ปตฺตพฺโพ, โลกสฺสนฺโต กุทาจนํ;
น จ อปฺปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํ.
‘‘ตสฺมา หเว โลกวิทู สุเมโธ,
โลกนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;
โลกสฺส อนฺตํ สมิตาวิ ตฺวา,
นาสีสตี โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. สุวิทูรสุตฺตํ
๔๗. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สุวิทูรวิทูรานิ. กตมานิ จตฺตาริ? นภฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปถวี จ; อิทํ ปมํ สุวิทูรวิทูเร. โอริมฺจ, ภิกฺขเว, ตีรํ สมุทฺทสฺส ปาริมฺจ; อิทํ ทุติยํ สุวิทูรวิทูเร. ยโต จ, ภิกฺขเว, เวโรจโน อพฺภุเทติ ¶ ยตฺถ จ อตฺถเมติ [อตฺถงฺคเมติ (สฺยา.), เวติ (ก.)]; อิทํ ตติยํ สุวิทูรวิทูเร. สตฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺโม อสตฺจ ธมฺโม; อิทํ จตุตฺถํ สุวิทูรวิทูเร. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ สุวิทูรวิทูรานี’’ติ.
[ชา. ๒.๒๑.๔๑๔, ๔๔๘] ‘‘นภฺจ ¶ ¶ ทูเร ปถวี จ ทูเร,
ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;
ยโต จ เวโรจโน อพฺภุเทติ,
ปภงฺกโร ยตฺถ จ อตฺถเมติ;
ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ,
สตฺจ ธมฺมํ อสตฺจ ธมฺมํ.
‘‘อพฺยายิโก โหติ สตํ สมาคโม,
ยาวาปิ [ยาวมฺปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ติฏฺเยฺย ตเถว โหติ;
ขิปฺปฺหิ เวติ อสตํ สมาคโม,
ตสฺมา สตํ ธมฺโม อสพฺภิ อารกา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. วิสาขสุตฺตํ
๔๘. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา วิสาโข ปฺจาลปุตฺโต [ปฺจาลิปุตฺโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ ¶ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ, โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตาย. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –
‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว, อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายา’’ติ ¶ ? ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, วิสาโข ปฺจาลปุตฺโต อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายา’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ วิสาขํ ปฺจาลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ สาธุ, วิสาข! สาธุ ¶ โข ตฺวํ, วิสาข, ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายาติ.
‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;
ภาสมานฺจ ชานนฺติ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.
‘‘ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคณฺเห อิสินํ ธชํ;
สุภาสิตธชา อิสโย, ธมฺโม หิ อิสินํ ธโช’’ติ. อฏฺมํ;
๙. วิปลฺลาสสุตฺตํ
๔๙. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, สฺาวิปลฺลาสา จิตฺตวิปลฺลาสา ทิฏฺิวิปลฺลาสา ¶ . กตเม จตฺตาโร? อนิจฺเจ, ภิกฺขเว, นิจฺจนฺติ สฺาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺิวิปลฺลาโส; ทุกฺเข, ภิกฺขเว, สุขนฺติ สฺาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺิวิปลฺลาโส; อนตฺตนิ, ภิกฺขเว, อตฺตาติ สฺาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺิวิปลฺลาโส; อสุเภ, ภิกฺขเว, สุภนฺติ สฺาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺิวิปลฺลาโส. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สฺาวิปลฺลาสา จิตฺตวิปลฺลาสา ทิฏฺิวิปลฺลาสา.
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, นสฺาวิปลฺลาสา นจิตฺตวิปลฺลาสา นทิฏฺิวิปลฺลาสา. กตเม จตฺตาโร? อนิจฺเจ, ภิกฺขเว, อนิจฺจนฺติ นสฺาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺิวิปลฺลาโส; ทุกฺเข, ภิกฺขเว, ทุกฺขนฺติ นสฺาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺิวิปลฺลาโส; อนตฺตนิ, ภิกฺขเว, อนตฺตาติ นสฺาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺิวิปลฺลาโส; อสุเภ, ภิกฺขเว, อสุภนฺติ นสฺาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺิวิปลฺลาโส ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร นสฺาวิปลฺลาสา นจิตฺตวิปลฺลาสา นทิฏฺิวิปลฺลาสา’’ติ.
‘‘อนิจฺเจ ¶ นิจฺจสฺิโน, ทุกฺเข จ สุขสฺิโน;
อนตฺตนิ จ อตฺตาติ, อสุเภ สุภสฺิโน;
มิจฺฉาทิฏฺิหตา สตฺตา, ขิตฺตจิตฺตา วิสฺิโน.
‘‘เต โยคยุตฺตา มารสฺส, อโยคกฺเขมิโน ชนา;
สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาติมรณคามิโน.
‘‘ยทา จ พุทฺธา โลกสฺมึ, อุปฺปชฺชนฺติ ปภงฺกรา;
เต ¶ อิมํ ธมฺมํ [เตมํ ธมฺมํ (สี. สฺยา. กํ.)] ปกาเสนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘เตสํ สุตฺวาน สปฺปฺา, สจิตฺตํ ปจฺจลทฺธา เต;
อนิจฺจํ อนิจฺจโต ทกฺขุํ, ทุกฺขมทฺทกฺขุ ทุกฺขโต.
‘‘อนตฺตนิ อนตฺตาติ, อสุภํ อสุภตทฺทสุํ;
สมฺมาทิฏฺิสมาทานา, สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคุ’’นฺติ [ปฏิ. ม. ๑.๒๓๖]. นวมํ;
๑๐. อุปกฺกิเลสสุตฺตํ
๕๐. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว [จูฬว. ๔๔๗], จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อพฺภา, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลสา, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ.
‘‘มหิกา, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลสา, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ.
‘‘ธูโม รโช, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ.
‘‘ราหุ ¶ , ภิกฺขเว, อสุรินฺโท จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ. อิเม โข ¶ , ภิกฺขเว, จตฺตาโร จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโรเม สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺา เอเก สมณพฺราหฺมณา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ. กตเม จตฺตาโร? สนฺติ, ภิกฺขเว ¶ , เอเก สมณพฺราหฺมณา สุรํ ปิวนฺติ เมรยํ, สุราเมรยปานา อปฺปฏิวิรตา. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา เอเก สมณพฺราหฺมณา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺติ, เมถุนสฺมา ธมฺมา อปฺปฏิวิรตา. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา เอเก สมณพฺราหฺมณา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺติ, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา อปฺปฏิวิรตา. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา เอเก สมณพฺราหฺมณา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา มิจฺฉาชีเวน ชีวนฺติ, มิจฺฉาชีวา อปฺปฏิวิรตา. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺา เอเก สมณพฺราหฺมณา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลสา ¶ , เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺา เอเก สมณพฺราหฺมณา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺตี’’ติ.
‘‘ราคโทสปริกฺกิฏฺา, เอเก สมณพฺราหฺมณา;
อวิชฺชานิวุตา โปสา, ปิยรูปาภินนฺทิโน.
‘‘สุรํ ¶ ปิวนฺติ เมรยํ, ปฏิเสวนฺติ เมถุนํ;
รชตํ ¶ ชาตรูปฺจ, สาทิยนฺติ อวิทฺทสู;
มิจฺฉาชีเวน ชีวนฺติ, เอเก สมณพฺราหฺมณา.
‘‘เอเต ¶ อุปกฺกิเลสา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ [อุปกฺกิลิฏฺา (สี. ปี.)], เอเก สมณพฺราหฺมณา;
น ตปนฺติ น ภาสนฺติ, อสุทฺธา สรชา มคา.
‘‘อนฺธกาเรน โอนทฺธา, ตณฺหาทาสา สเนตฺติกา;
วฑฺเฒนฺติ กฏสึ โฆรํ, อาทิยนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ. ทสมํ;
โรหิตสฺสวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
สมาธิปฺหา ทฺเว โกธา, โรหิตสฺสาปเร ทุเว;
สุวิทูรวิสาขวิปลฺลาสา, อุปกฺกิเลเสน เต ทสาติ.
ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
(๖) ๑. ปฺุาภิสนฺทวคฺโค
๑. ปมปฺุาภิสนฺทสุตฺตํ
๕๑. สาวตฺถินิทานํ ¶ ¶ . จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จีวรํ ปริภฺุชมาโน อปฺปมาณํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชมาโน อปฺปมาณํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ยสฺส ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสนาสนํ ปริภฺุชมาโน อปฺปมาณํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ยสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชมาโน อปฺปมาณํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร ¶ โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขเว, จตูหิ ปฺุาภิสนฺเทหิ กุสลาภิสนฺเทหิ สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส น สุกรํ ปฺุสฺส ปมาณํ คเหตุํ [คเณตุํ (ก.)] – ‘เอตฺตโก ¶ ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก ¶ อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตตี’ติ. อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย [อสงฺเขยฺโย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อปฺปเมยฺโย มหาปฺุกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ [สงฺขํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] คจฺฉติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานีติ วา, เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานีติ วา, เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานีติ วา’, อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเมหิ จตูหิ ปฺุาภิสนฺเทหิ กุสลาภิสนฺเทหิ สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส น สุกรํ ปฺุสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตโก ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตตี’ติ. อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาปฺุกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘มโหทธึ อปริมิตํ มหาสรํ,
พหุเภรวํ รตนวรานมาลยํ [รตนคณานมาลยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
นชฺโช ยถา นรคณสงฺฆเสวิตา [มจฺฉคณสํฆเสวิตา (สฺยา. กํ.)],
ปุถู ¶ สวนฺตี อุปยนฺติ สาครํ.
‘‘เอวํ นรํ อนฺนทปานวตฺถทํ [อนฺนปานวตฺถํ (ก.)],
เสยฺยานิสชฺชตฺถรณสฺส ทายกํ;
ปฺุสฺส ธารา อุปยนฺติ ปณฺฑิตํ,
นชฺโช ยถา วาริวหาว สาคร’’นฺติ. ปมํ;
๒. ทุติยปฺุาภิสนฺทสุตฺตํ
๕๒. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ¶ พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก ¶ สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ¶ ภุชิสฺเสหิ วิฺุปฺปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ.
[อ. นิ. ๕.๔๗] ‘‘ยสฺส ¶ สทฺธา ตถาคเต, อจลา สุปฺปติฏฺิตา;
สีลฺจ ยสฺส กลฺยาณํ, อริยกนฺตํ ปสํสิตํ.
‘‘สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถิ, อุชุภูตฺจ ทสฺสนํ;
อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ.
‘‘ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;
อนุยฺุเชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. ปมสํวาสสุตฺตํ
๕๓. เอกํ สมยํ ภควา อนฺตรา จ มธุรํ อนฺตรา จ เวรฺชํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ. สมฺพหุลาปิ โข คหปตี จ คหปตานิโย จ อนฺตรา จ มธุรํ อนฺตรา จ เวรฺชํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ( ) [(ปฺตฺเต อาสเน) (ปี. ก.)] นิสีทิ. อทฺทสํสุ ¶ โข คหปตี จ คหปตานิโย จ ภควนฺตํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ. ทิสฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต คหปตี จ คหปตานิโย จ ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาโรเม, คหปตโย, สํวาสา. กตเม จตฺตาโร? ฉโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ, ฉโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ, เทโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ, เทโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ฉโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ? อิธ ¶ , คหปตโย, สามิโก โหติ ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อกฺโกสกปริภาสโก สมณพฺราหฺมณานํ ¶ ; ภริยาปิสฺส โหติ ปาณาติปาตินี อทินฺนาทายินี กาเมสุมิจฺฉาจารินี มุสาวาทินี สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายินี ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ โข, คหปตโย, ฉโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ ¶ , คหปตโย, ฉโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ? อิธ, คหปตโย, สามิโก โหติ ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อกฺโกสกปริภาสโก สมณพฺราหฺมณานํ; ภริยา ขฺวสฺส โหติ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา สีลวตี กลฺยาณธมฺมา ¶ วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ โข, คหปตโย, ฉโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, เทโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ? อิธ, คหปตโย, สามิโก โหติ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต มุสาวาทา ปฏิวิรโต สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต สีลวา กลฺยาณธมฺโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสกปริภาสโก สมณพฺราหฺมณานํ; ภริยา ขฺวสฺส โหติ ปาณาติปาตินี…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายินี ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ โข, คหปตโย, เทโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, เทโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ? อิธ, คหปตโย, สามิโก โหติ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต…เป… สีลวา กลฺยาณธมฺโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสกปริภาสโก สมณพฺราหฺมณานํ; ภริยาปิสฺส โหติ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา สีลวตี กลฺยาณธมฺมา วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ ¶ โข, คหปตโย, เทโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ. อิเม ¶ โข, คหปตโย, จตฺตาโร สํวาสา’’ติ.
‘‘อุโภ จ โหนฺติ ทุสฺสีลา, กทริยา ปริภาสกา;
เต ¶ โหนฺติ ชานิปตโย, ฉวา สํวาสมาคตา.
‘‘สามิโก ¶ โหติ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก;
ภริยา สีลวตี โหติ, วทฺู วีตมจฺฉรา;
สาปิ เทวี สํวสติ, ฉเวน ปตินา สห.
‘‘สามิโก สีลวา โหติ, วทฺู วีตมจฺฉโร;
ภริยา โหติ ทุสฺสีลา, กทริยา ปริภาสิกา;
สาปิ ฉวา สํวสติ, เทเวน ปตินา สห.
‘‘อุโภ สทฺธา วทฺู จ, สฺตา ธมฺมชีวิโน;
เต โหนฺติ ชานิปตโย, อฺมฺํ ปิยํวทา.
‘‘อตฺถาสํ ปจุรา โหนฺติ, ผาสุกํ [ผาสตฺตํ (สี.), วาสตฺถํ (ปี.)] อุปชายติ;
อมิตฺตา ทุมฺมนา โหนฺติ, อุภินฺนํ สมสีลินํ.
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, สมสีลพฺพตา อุโภ;
นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ, โมทนฺติ กามกามิโน’’ติ. ตติยํ;
๔. ทุติยสํวาสสุตฺตํ
๕๔. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, สํวาสา. กตเม จตฺตาโร? ฉโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ, ฉโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ, เทโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ, เทโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ฉโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ. อิธ, ภิกฺขเว, สามิโก โหติ ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิโก ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อกฺโกสกปริภาสโก ¶ สมณพฺราหฺมณานํ; ภริยาปิสฺส โหติ ปาณาติปาตินี อทินฺนาทายินี กาเมสุมิจฺฉาจารินี มุสาวาทินี ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปินี อภิชฺฌาลุนี พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิกา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ ¶ อกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ฉโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ฉโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ? อิธ, ภิกฺขเว, สามิโก โหติ ปาณาติปาตี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อกฺโกสกปริภาสโก สมณพฺราหฺมณานํ; ภริยา ขฺวสฺส โหติ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลุนี อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺิกา สีลวตี กลฺยาณธมฺมา วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ฉโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เทโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ? อิธ, ภิกฺขเว, สามิโก โหติ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต มุสาวาทา ปฏิวิรโต ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิตฺโต สมฺมาทิฏฺิโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสกปริภาสโก สมณพฺราหฺมณานํ; ภริยา ¶ ขฺวสฺส โหติ ปาณาติปาตินี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิกา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา มจฺเฉรมลปริยุฏฺิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เทโว ฉวาย สทฺธึ สํวสติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เทโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ? อิธ, ภิกฺขเว, สามิโก โหติ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสกปริภาสโก สมณพฺราหฺมณานํ; ภริยาปิสฺส โหติ ปาณาติปาตา ¶ ปฏิวิรตา…เป… สมฺมาทิฏฺิกา สีลวตี กลฺยาณธมฺมา วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ อนกฺโกสิกปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เทโว เทวิยา สทฺธึ สํวสติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สํวาสา’’ติ.
‘‘อุโภ จ โหนฺติ ทุสฺสีลา, กทริยา ปริภาสกา;
เต ¶ โหนฺติ ชานิปตโย, ฉวา สํวาสมาคตา.
‘‘สามิโก ¶ โหติ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก;
ภริยา สีลวตี โหติ, วทฺู วีตมจฺฉรา;
สาปิ เทวี สํวสติ, ฉเวน ปตินา สห.
‘‘สามิโก สีลวา โหติ, วทฺู วีตมจฺฉโร;
ภริยา โหติ ทุสฺสีลา, กทริยา ปริภาสิกา;
สาปิ ฉวา สํวสติ, เทเวน ปตินา สห.
‘‘อุโภ สทฺธา วทฺู จ, สฺตา ธมฺมชีวิโน;
เต โหนฺติ ชานิปตโย, อฺมฺํ ปิยํวทา.
‘‘อตฺถาสํ ปจุรา โหนฺติ, ผาสุกํ อุปชายติ;
อมิตฺตา ¶ ทุมฺมนา โหนฺติ, อุภินฺนํ สมสีลินํ.
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, สมสีลพฺพตา อุโภ;
นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ, โมทนฺติ กามกามิโน’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. ปมสมชีวีสุตฺตํ
๕๕. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร [สุํสุมารคิเร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เภสกฬาวเน [เภสกลาวเน (สี. ปี. ก.)] มิคทาเย. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน นกุลปิตุโน คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข นกุลปิตา จ คหปติ นกุลมาตา จ คหปตานี เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข นกุลปิตา คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ยโต เม, ภนฺเต, นกุลมาตา คหปตานี ทหรสฺเสว ทหรา อานีตา, นาภิชานามิ นกุลมาตรํ คหปตานึ มนสาปิ อติจริตา, กุโต ปน กาเยน! อิจฺเฉยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อฺมฺํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายฺจ อฺมฺํ ปสฺสิตุ’’นฺติ. นกุลมาตาปิ โข คหปตานี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยโตหํ, ภนฺเต, นกุลปิตุโน คหปติสฺส ทหรสฺเสว ทหรา อานีตา, นาภิชานามิ นกุลปิตรํ คหปตึ มนสาปิ อติจริตา, กุโต ปน กาเยน! อิจฺเฉยฺยาม มยํ, ภนฺเต ¶ , ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อฺมฺํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายฺจ อฺมฺํ ปสฺสิตุ’’นฺติ.
‘‘อากงฺเขยฺยุํ ¶ เจ, คหปตโย, อุโภ ชานิปตโย ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อฺมฺํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายฺจ อฺมฺํ ปสฺสิตุํ อุโภว [อุโภ จ (สี. ปี.)] อสฺสุ ¶ สมสทฺธา สมสีลา สมจาคา สมปฺา, เต ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อฺมฺํ ปสฺสนฺติ อภิสมฺปรายฺจ อฺมฺํ ปสฺสนฺตี’’ติ [ปสฺสิสฺสนฺตีติ (ก.)].
‘‘อุโภ สทฺธา วทฺู จ, สฺตา ธมฺมชีวิโน;
เต โหนฺติ ชานิปตโย, อฺมฺํ ปิยํวทา.
‘‘อตฺถาสํ ปจุรา โหนฺติ, ผาสุกํ อุปชายติ;
อมิตฺตา ทุมฺมนา โหนฺติ, อุภินฺนํ สมสีลินํ.
‘‘อิธ ¶ ธมฺมํ จริตฺวาน, สมสีลพฺพตา อุโภ;
นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ, โมทนฺติ กามกามิโน’’ติ. ปฺจมํ;
๖. ทุติยสมชีวีสุตฺตํ
๕๖. ‘‘อากงฺเขยฺยุํ เจ, ภิกฺขเว, อุโภ ชานิปตโย ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อฺมฺํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายฺจ อฺมฺํ ปสฺสิตุํ อุโภว อสฺสุ สมสทฺธา สมสีลา สมจาคา สมปฺา, เต ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อฺมฺํ ปสฺสนฺติ อภิสมฺปรายฺจ อฺมฺํ ปสฺสนฺตี’’ติ.
‘‘อุโภ สทฺธา วทฺู จ, สฺตา ธมฺมชีวิโน;
เต โหนฺติ ชานิปตโย, อฺมฺํ ปิยํวทา.
‘‘อตฺถาสํ ปจุรา โหนฺติ, ผาสุกํ อุปชายติ;
อมิตฺตา ทุมฺมนา โหนฺติ, อุภินฺนํ สมสีลินํ.
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, สมสีลพฺพตา อุโภ;
นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ, โมทนฺติ กามกามิโน’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. สุปฺปวาสาสุตฺตํ
๕๗. เอกํ ¶ สมยํ ภควา โกลิเยสุ วิหรติ ปชฺชนิกํ [สชฺชเนลํ (สี. ปี.), ปชฺชเนลํ (สฺยา. กํ.)] นาม โกลิยานํ นิคโม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ¶ เยน สุปฺปวาสาย โกลิยธีตุยา นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข สุปฺปวาสา โกลิยธีตา ¶ ภควนฺตํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข สุปฺปวาสา โกลิยธีตา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สุปฺปวาสํ โกลิยธีตรํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘โภชนํ ¶ , สุปฺปวาเส, เทนฺตี อริยสาวิกา ปฏิคฺคาหกานํ จตฺตาริ านานิ เทติ. กตมานิ จตฺตาริ? อายุํ เทติ, วณฺณํ เทติ, สุขํ เทติ, พลํ เทติ. อายุํ โข ปน ทตฺวา อายุสฺส ภาคินี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. วณฺณํ ทตฺวา วณฺณสฺส ภาคินี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. สุขํ ทตฺวา สุขสฺส ภาคินี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. พลํ ทตฺวา พลสฺส ภาคินี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. โภชนํ, สุปฺปวาเส, เทนฺตี อริยสาวิกา ปฏิคฺคาหกานํ อิมานิ จตฺตาริ านานิ เทตี’’ติ.
‘‘สุสงฺขตํ โภชนํ ยา ททาติ,
สุจึ ปณีตํ [สุปณีตํ (ก.)] รสสา อุเปตํ;
สา ทกฺขิณา อุชฺชุคเตสุ ทินฺนา,
จรณูปปนฺเนสุ มหคฺคเตสุ;
ปฺุเน ปฺุํ สํสนฺทมานา,
มหปฺผลา ¶ โลกวิทูน วณฺณิตา.
‘‘เอตาทิสํ ยฺมนุสฺสรนฺตา,
เย เวทชาตา วิจรนฺติ โลเก;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ,
อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. สตฺตมํ;
๘. สุทตฺตสุตฺตํ
๕๘. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘โภชนํ ¶ , คหปติ, ททมาโน อริยสาวโก ปฏิคฺคาหกานํ จตฺตาริ านานิ เทติ. กตมานิ จตฺตาริ? อายุํ ¶ เทติ, วณฺณํ เทติ, สุขํ เทติ, พลํ เทติ. อายุํ โข ปน ทตฺวา อายุสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. วณฺณํ ทตฺวา… สุขํ ทตฺวา… พลํ ¶ ทตฺวา พลสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. โภชนํ, คหปติ, ททมาโน อริยสาวโก ปฏิคฺคาหกานํ อิมานิ จตฺตาริ านานิ เทตี’’ติ.
[มหาว. ๒๘๒] ‘‘โย สฺตานํ ปรทตฺตโภชินํ,
กาเลน สกฺกจฺจ ททาติ โภชนํ;
จตฺตาริ านานิ อนุปฺปเวจฺฉติ,
อายฺุจ วณฺณฺจ สุขํ พลฺจ.
‘‘โส อายุทายี วณฺณทายี [โส อายุทายี พลทายี (สี. ปี.), อายุทายี พลทายี (สฺยา. กํ.)], สุขํ พลํ ทโท [สุขํ วณฺณํ ทโท (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สุขพลทโท (ก.)] นโร;
ทีฆายุ ยสวา โหติ, ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชตี’’ติ. อฏฺมํ;
๙. โภชนสุตฺตํ
๕๙. ‘‘โภชนํ ¶ , ภิกฺขเว, ททมาโน ทายโก ปฏิคฺคาหกานํ จตฺตาริ านานิ เทติ. กตมานิ จตฺตาริ? อายุํ เทติ, วณฺณํ เทติ, สุขํ เทติ, พลํ เทติ. อายุํ โข ปน ทตฺวา อายุสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. วณฺณํ ทตฺวา… สุขํ ทตฺวา… พลํ ทตฺวา พลสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา. โภชนํ, ภิกฺขเว, ททมาโน ทายโก ปฏิคฺคาหกานํ อิมานิ จตฺตาริ านานิ เทตี’’ติ.
[มหาว. ๒๘๒] ‘‘โย สฺตานํ ปรทตฺตโภชินํ,
กาเลน สกฺกจฺจ ททาติ โภชนํ;
จตฺตาริ านานิ อนุปฺปเวจฺฉติ,
อายฺุจ วณฺณฺจ สุขํ พลฺจ.
‘‘โส อายุทายี วณฺณทายี, สุขํ พลํ ทโท นโร;
ทีฆายุ ยสวา โหติ, ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชตี’’ติ. นวมํ;
๑๐. คิหิสามีจิสุตฺตํ
๖๐. อถ ¶ ¶ ¶ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตูหิ โข, คหปติ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก คิหิสามีจิปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ ยโสปฏิลาภินึ สคฺคสํวตฺตนิกํ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ จีวเรน, ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ ปิณฺฑปาเตน, ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ เสนาสเนน ¶ , ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. อิเมหิ โข, คหปติ, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก คิหิสามีจิปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ ยโสปฏิลาภินึ สคฺคสํวตฺตนิก’’นฺติ.
‘‘คิหิสามีจิปฏิปทํ, ปฏิปชฺชนฺติ ปณฺฑิตา;
สมฺมคฺคเต สีลวนฺเต, จีวเรน อุปฏฺิตา.
ปิณฺฑปาตสยเนน, คิลานปฺปจฺจเยน จ;
เตสํ ทิวา จ รตฺโต จ, สทา ปฺุํ ปวฑฺฒติ;
สคฺคฺจ กมติฏฺานํ [สคฺคฺจ สปฺปติฏฺานํ (ก.)], กมฺมํ กตฺวาน ภทฺทก’’นฺติ. ทสมํ;
ปฺุาภิสนฺทวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว ปฺุาภิสนฺทา ทฺเว จ, สํวาสา สมชีวิโน;
สุปฺปวาสา สุทตฺโต จ, โภชนํ คิหิสามิจีติ.
(๗) ๒. ปตฺตกมฺมวคฺโค
๑. ปตฺตกมฺมสุตฺตํ
๖๑. อถ ¶ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , คหปติ, ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? โภคา เม อุปฺปชฺชนฺตุ สหธมฺเมนาติ, อยํ ปโม ธมฺโม อิฏฺโ ¶ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ.
‘‘โภเค ลทฺธา สหธมฺเมน ยโส เม อาคจฺฉตุ สห าตีหิ สห อุปชฺฌาเยหีติ, อยํ ทุติโย ธมฺโม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ.
‘‘โภเค ลทฺธา สหธมฺเมน ยสํ ลทฺธา สห าตีหิ สห อุปชฺฌาเยหิ จิรํ ชีวามิ ทีฆมายุํ ปาเลมีติ, อยํ ตติโย ธมฺโม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ.
‘‘โภเค ลทฺธา สหธมฺเมน ยสํ ลทฺธา สห าตีหิ สห อุปชฺฌาเยหิ จิรํ ชีวิตฺวา ทีฆมายุํ ปาเลตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชามีติ, อยํ จตุตฺโถ ธมฺโม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ. อิเม โข, คหปติ, จตฺตาโร ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ.
‘‘อิเมสํ โข, คหปติ, จตุนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ จตฺตาโร ธมฺมา ปฏิลาภาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา.
‘‘กตมา ¶ จ, คหปติ, สทฺธาสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ, สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, สทฺธาสมฺปทา.
‘‘กตมา จ, คหปติ, สีลสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, สีลสมฺปทา.
‘‘กตมา จ, คหปติ, จาคสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก วิคตมลมจฺเฉเรน ¶ เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, จาคสมฺปทา.
‘‘กตมา ¶ จ, คหปติ, ปฺาสมฺปทา? อภิชฺฌาวิสมโลภาภิภูเตน ¶ , คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. พฺยาปาทาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. ถินมิทฺธาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ. วิจิกิจฺฉาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรนฺโต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติ. อกิจฺจํ กโรนฺโต กิจฺจํ อปราเธนฺโต ยสา จ สุขา จ ธํสติ.
‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลภํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาทํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส ¶ อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ. วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ.
‘‘ยโต จ โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส ¶ อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, อริยสาวโก มหาปฺโ ปุถุปฺโ อาปาตทโส [อาปาถทโส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฺาสมฺปนฺโน [หาสปฺโ (ก.)]. อยํ วุจฺจติ, คหปติ ¶ , ปฺาสมฺปทา. อิเมสํ โข, คหปติ, จตุนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ อิเม จตฺตาโร ธมฺมา ปฏิลาภาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ จตฺตาริ ปตฺตกมฺมานิ กตฺตา โหติ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. ปุตฺตทารทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติ. อิทมสฺส ปมํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ยา ตา โหนฺติ อาปทา อคฺคิโต วา อุทกโต วา ราชโต วา โจรโต วา อปฺปิยโต วา ทายาทโต [อ. นิ. ๕.๔๑], ตถารูปาสุ อาปทาสุ ปริโยธาย ¶ สํวตฺตติ. โสตฺถึ ¶ อตฺตานํ กโรติ. อิทมสฺส ทุติยํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.
‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ปฺจพลึ กตฺตา โหติ – าติพลึ, อติถิพลึ, ปุพฺพเปตพลึ, ราชพลึ, เทวตาพลึ. อิทมสฺส ตติยํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.
‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ เย เต สมณพฺราหฺมณา มทปฺปมาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, ตถารูเปสุ สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ ¶ . อิทมสฺส จตุตฺถํ านคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํ.
‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ อิมานิ จตฺตาริ ปตฺตกมฺมานิ กตฺตา โหติ. ยสฺส กสฺสจิ, คหปติ, อฺตฺร อิเมหิ จตูหิ ปตฺตกมฺเมหิ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, คหปติ, โภคา อฏฺานคตา อปตฺตคตา อนายตนโส ปริภุตฺตา. ยสฺส กสฺสจิ, คหปติ, อิเมหิ จตูหิ ปตฺตกมฺเมหิ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, คหปติ, โภคา านคตา ปตฺตคตา อายตนโส ปริภุตฺตา’’ติ.
‘‘ภุตฺตา โภคา ภตา ภจฺจา [คตา ภูตา (ก.) ภฏา ภจฺจา (สฺยา. กํ.)], วิติณฺณา อาปทาสุ เม;
อุทฺธคฺคา ทกฺขิณา ทินฺนา, อโถ ปฺจพลี กตา;
อุปฏฺิตา ¶ สีลวนฺโต, สฺตา พฺรหฺมจารโย.
‘‘ยทตฺถํ โภคํ อิจฺเฉยฺย, ปณฺฑิโต ฆรมาวสํ;
โส ¶ เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, กตํ อนนุตาปิยํ.
‘‘เอตํ ¶ [เอวํ (ก.)] อนุสฺสรํ มจฺโจ, อริยธมฺเม ิโต นโร;
อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ. ปมํ;
๒. อานณฺยสุตฺตํ
๖๒. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาริมานิ, คหปติ, สุขานิ อธิคมนียานิ คิหินา กามโภคินา กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อุปาทาย. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิสุขํ, โภคสุขํ, อานณฺยสุขํ [อณณสุขํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อนวชฺชสุขํ.
‘‘กตมฺจ, คหปติ, อตฺถิสุขํ? อิธ, คหปติ, กุลปุตฺตสฺส โภคา โหนฺติ อุฏฺานวีริยาธิคตา พาหาพลปริจิตา เสทาวกฺขิตฺตา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา ¶ . โส ‘โภคา เม อตฺถิ อุฏฺานวีริยาธิคตา พาหาพลปริจิตา เสทาวกฺขิตฺตา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, อตฺถิสุขํ.
‘‘กตมฺจ, คหปติ, โภคสุขํ? อิธ, คหปติ, กุลปุตฺโต อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ปริภฺุชติ ปฺุานิ จ กโรติ. โส ‘อุฏฺานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิตฺเตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลทฺเธหิ ปริภฺุชามิ ปฺุานิ จ กโรมี’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, โภคสุขํ ¶ .
‘‘กตมฺจ, คหปติ, อานณฺยสุขํ? อิธ, คหปติ, กุลปุตฺโต น กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรติ อปฺปํ วา พหุํ วา. โส ‘น กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรมิ [กิฺจิ วา เทติ (ก.)] อปฺปํ วา พหุํ วา’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, อานณฺยสุขํ.
‘‘กตมฺจ, คหปติ, อนวชฺชสุขํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อนวชฺเชน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน ¶ สมนฺนาคโต โหติ. โส ‘อนวชฺเชนมฺหิ ¶ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต’ติ อธิคจฺฉติ สุขํ, อธิคจฺฉติ โสมนสฺสํ. อิทํ วุจฺจติ, คหปติ, อนวชฺชสุขํ. อิมานิ โข, คหปติ, จตฺตาริ สุขานิ อธิคมนียานิ คิหินา กามโภคินา กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อุปาทายา’’ติ.
‘‘อานณฺยสุขํ ตฺวาน, อโถ อตฺถิสุขํ ปรํ;
ภฺุชํ โภคสุขํ มจฺโจ, ตโต ปฺา วิปสฺสติ.
‘‘วิปสฺสมาโน ชานาติ, อุโภ โภเค สุเมธโส;
อนวชฺชสุขสฺเสตํ, กลํ นาคฺฆติ โสฬสิ’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. พฺรหฺมสุตฺตํ
๖๓. ‘‘สพฺรหฺมกานิ, ภิกฺขเว [อิติวุ. ๑๐๖], ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สปุพฺพาจริยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ ¶ , เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สปุพฺพเทวตานิ [สปุพฺพเทวานิ (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สาหุเนยฺยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร ¶ อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ.
‘‘พฺรหฺมาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ [มาตาปิตุนฺนํ (สี. ปี.)] เอตํ อธิวจนํ. ปุพฺพาจริยาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ปุพฺพเทวตาติ [ปุพฺพเทวาติ (สี. สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. อาหุเนยฺยาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ตํ กิสฺส เหตุ? พหุการา, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร, ปุตฺตานํ อาปาทกา โปสกา อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร’’ติ.
‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร, ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร;
อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ, ปชาย อนุกมฺปกา.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ เน นมสฺเสยฺย, สกฺกเรยฺย จ ปณฺฑิโต;
อนฺเนน อถ ปาเนน, วตฺเถน สยเนน จ;
อุจฺฉาทเนน นฺหาปเนน, ปาทานํ โธวเนน จ.
‘‘ตาย นํ ปาริจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;
อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ. ตติยํ;
๔. นิรยสุตฺตํ
๖๔. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติ.
‘‘ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ, มุสาวาโท จ วุจฺจติ;
ปรทารคมนฺจาปิ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. รูปสุตฺตํ
๖๕. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ¶ จตฺตาโร? รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน ¶ , ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘เย จ รูเป ปมาณึสุ [เย จ รูเปน ปามึสุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เย จ โฆเสน อนฺวคู;
ฉนฺทราควสูเปตา, นาภิชานนฺติ เต ชนา [น เต ชานนฺติ ตํ ชนา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
‘‘อชฺฌตฺตฺจ ¶ น ชานาติ, พหิทฺธา จ น ปสฺสติ;
สมนฺตาวรโณ พาโล, ส เว โฆเสน วุยฺหติ.
‘‘อชฺฌตฺตฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;
พหิทฺธา ผลทสฺสาวี, โสปิ โฆเสน วุยฺหติ.
‘‘อชฺฌตฺตฺจ ปชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;
วินีวรณทสฺสาวี, น โส โฆเสน วุยฺหตี’’ติ. ปฺจมํ;
๖. สราคสุตฺตํ
๖๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สราโค, สโทโส, สโมโห, สมาโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ.
‘‘สารตฺตา ¶ รชนีเยสุ, ปิยรูปาภินนฺทิโน;
โมเหน อาวุตา [อธมา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สตฺตา, พทฺธา [พนฺธา (ก.)] วฑฺเฒนฺติ พนฺธนํ.
‘‘ราคชํ โทสชฺจาปิ, โมหชํ จาปวิทฺทสู;
กโรนฺตากุสลํ กมฺมํ [ธมฺมํ (ก.)], สวิฆาตํ ทุขุทฺรยํ.
‘‘อวิชฺชานิวุตา โปสา, อนฺธภูตา อจกฺขุกา;
ยถา ธมฺมา ตถา สนฺตา, น ตสฺเสวนฺติ [นสฺเสวนฺติ (สี.)] มฺเร’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. อหิราชสุตฺตํ
๖๗. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อฺตโร ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกโต โหติ. อถ โข ¶ สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ ¶ , ภนฺเต, สาวตฺถิยํ อฺตโร ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกโต’’ติ.
‘‘น หิ นูน [น ห นูน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริ. สเจ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผเรยฺย, น หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกเรยฺย.
‘‘กตมานิ จตฺตาริ? วิรูปกฺขํ อหิราชกุลํ, เอราปถํ อหิราชกุลํ, ฉพฺยาปุตฺตํ อหิราชกุลํ, กณฺหาโคตมกํ อหิราชกุลํ. น หิ นูน โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริ. สเจ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผเรยฺย, น หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ กาลงฺกเรยฺย.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริตุํ อตฺตคุตฺติยา อตฺตรกฺขาย อตฺตปริตฺตายา’’ติ.
[จูฬว. ๒๕๑; ชา. ๑.๒.๑๐๕ ปสฺสิตพฺพํ] ‘‘วิรูปกฺเขหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ เอราปเถหิ เม;
ฉพฺยาปุตฺเตหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ กณฺหาโคตมเกหิ จ.
‘‘อปาทเกหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ ทฺวิปาทเกหิ [ทิปาทเกหิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เม;
จตุปฺปเทหิ ¶ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ พหุปฺปเทหิ เม.
‘‘มา ¶ มํ อปาทโก หึสิ, มา มํ หึสิ ทฺวิปาทโก [ทิปาทโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
มา มํ จตุปฺปโท หึสิ, มา มํ หึสิ พหุปฺปโท.
‘‘สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา, สพฺเพ ภูตา จ เกวลา;
สพฺเพ ภทฺรานิ ปสฺสนฺตุ, มา กฺจิ [กิฺจิ (สฺยา. กํ. ก.)] ปาปมาคมา.
‘‘อปฺปมาโณ ¶ พุทฺโธ, อปฺปมาโณ ธมฺโม;
อปฺปมาโณ สงฺโฆ, ปมาณวนฺตานิ สรีสปานิ [สิรึสปานิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
‘‘อหิวิจฺฉิกา สตปที, อุณฺณนาภี สรพู มูสิกา;
กตา เม รกฺขา กตา เม ปริตฺตา [กตํ เม ปริตฺตํ (?)], ปฏิกฺกมนฺตุ ภูตานิ;
โสหํ นโม ภควโต, นโม สตฺตนฺนํ สมฺมาสมฺพุทฺธาน’’นฺติ. สตฺตมํ;
๘. เทวทตฺตสุตฺตํ
๖๘. เอกํ ¶ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต อจิรปกฺกนฺเต เทวทตฺเต. ตตฺร โข ภควา เทวทตฺตํ อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อตฺตวธาย, ภิกฺขเว [จูฬว. ๒๕๒; สํ. นิ. ๒.๑๘๔], เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ. ปราภวาย, ภิกฺขเว, เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กทลี อตฺตวธาย ผลํ เทติ, ปราภวาย ผลํ เทติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เวฬุ อตฺตวธาย ผลํ เทติ, ปราภวาย ผลํ เทติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, นโฬ อตฺตวธาย ผลํ เทติ, ปราภวาย ผลํ เทติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ¶ ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อสฺสตรี อตฺตวธาย คพฺภํ คณฺหาติ, ปราภวาย คพฺภํ คณฺหาติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺตวธาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาทิ, ปราภวาย เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลโก อุทปาที’’ติ.
‘‘ผลํ ¶ เว กทลึ หนฺติ, ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬํ;
สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ, คพฺโภ อสฺสตรึ ยถา’’ติ [จูฬว. ๓๓๕; สํ. นิ. ๑.๑๘๓; ๒.๑๘๔; เนตฺติ. ๙๐]. อฏฺมํ;
๙. ปธานสุตฺตํ
๖๙. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ปธานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวรปฺปธานํ, ปหานปฺปธานํ, ภาวนาปฺปธานํ, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ¶ ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สํวรปฺปธานํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปหานปฺปธานํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาวนาปฺปธานํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ ¶ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุรกฺขณาปฺปธานํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ปธานานี’’ติ.
‘‘สํวโร จ ปหานฺจ, ภาวนา อนุรกฺขณา;
เอเต ปธานา จตฺตาโร, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา;
โย หิ [เยหิ (?)] ภิกฺขุ อิธาตาปี, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ. นวมํ;
๑๐. อธมฺมิกสุตฺตํ
๗๐. ‘‘ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย ราชาโน อธมฺมิกา โหนฺติ, ราชายุตฺตาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺติ. ราชายุตฺเตสุ อธมฺมิเกสุ พฺราหฺมณคหปติกาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺติ. พฺราหฺมณคหปติเกสุ อธมฺมิเกสุ เนคมชานปทาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺติ. เนคมชานปเทสุ อธมฺมิเกสุ วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ ¶ . วิสมํ จนฺทิมสูริเยสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ นกฺขตฺเตสุ ตารกรูเปสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ รตฺตินฺทิวา [รตฺติทิวา (ก.)] ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ รตฺตินฺทิเวสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ มาสทฺธมาสา ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ มาสทฺธมาเสสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ อุตุสํวจฺฉรา ปริวตฺตนฺติ. วิสมํ อุตุสํวจฺฉเรสุ ปริวตฺตนฺเตสุ วิสมํ วาตา วายนฺติ วิสมา อปฺชสา ¶ . วิสมํ วาเตสุ วายนฺเตสุ วิสเมสุ อปฺชเสสุ เทวตา ปริกุปิตา ภวนฺติ. เทวตาสุ ปริกุปิตาสุ เทโว น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉติ. เทเว น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉนฺเต วิสมปากานิ [วิสมปากีนิ (สี. สฺยา. กํ.), วิสมํ ปากานิ (ก.)] สสฺสานิ ภวนฺติ. วิสมปากานิ, ภิกฺขเว, สสฺสานิ มนุสฺสา ปริภฺุชนฺตา ¶ อปฺปายุกา โหนฺติ ทุพฺพณฺณา จ พวฺหาพาธา [พหฺวาพาธา (ก.)] จ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ราชาโน ธมฺมิกา โหนฺติ, ราชายุตฺตาปิ ตสฺมึ สมเย ธมฺมิกา โหนฺติ. ราชายุตฺเตสุ ธมฺมิเกสุ พฺราหฺมณคหปติกาปิ ตสฺมึ สมเย ธมฺมิกา โหนฺติ. พฺราหฺมณคหปติเกสุ ธมฺมิเกสุ เนคมชานปทาปิ ตสฺมึ สมเย ธมฺมิกา โหนฺติ. เนคมชานปเทสุ ธมฺมิเกสุ สมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ. สมํ จนฺทิมสูริเยสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปริวตฺตนฺติ. สมํ นกฺขตฺเตสุ ตารกรูเปสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ รตฺตินฺทิวา ปริวตฺตนฺติ. สมํ รตฺตินฺทิเวสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ มาสทฺธมาสา ปริวตฺตนฺติ. สมํ มาสทฺธมาเสสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ อุตุสํวจฺฉรา ปริวตฺตนฺติ. สมํ อุตุสํวจฺฉเรสุ ปริวตฺตนฺเตสุ สมํ วาตา วายนฺติ สมา ปฺชสา. สมํ วาเตสุ วายนฺเตสุ สเมสุ ปฺชเสสุ เทวตา อปริกุปิตา ภวนฺติ. เทวตาสุ อปริกุปิตาสุ เทโว สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉติ. เทเว สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺฉนฺเต สมปากานิ สสฺสานิ ภวนฺติ. สมปากานิ, ภิกฺขเว, สสฺสานิ มนุสฺสา ปริภฺุชนฺตา ทีฆายุกา จ โหนฺติ วณฺณวนฺโต จ พลวนฺโต จ อปฺปาพาธา จา’’ติ.
‘‘คุนฺนํ ¶ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.
‘‘เอวเมวํ มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;
โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ ¶ รฏฺํ ทุกฺขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.
‘‘คุนฺนํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา ตา อุชุํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.
‘‘เอวเมวํ ¶ มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;
โส สเจ [โส เจว (สี. ปี.), โส เจ (สฺยา.)] ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ ¶ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก’’ติ. ทสมํ;
ปตฺตกมฺมวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปตฺตกมฺมํ อานณฺยโก [อนณโก (สี. ปี.), อนณฺยโก (ก.)], สพฺรหฺมนิรยา รูเปน ปฺจมํ;
สราคอหิราชา เทวทตฺโต, ปธานํ อธมฺมิเกน จาติ.
(๘) ๓. อปณฺณกวคฺโค
๑. ปธานสุตฺตํ
๗๑. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อปณฺณกปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยาย. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, ปฺวา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อปณฺณกปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยายา’’ติ. ปมํ.
๒. สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ
๗๒. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อปณฺณกปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยาย. กตเมหิ ¶ จตูหิ? เนกฺขมฺมวิตกฺเกน, อพฺยาปาทวิตกฺเกน, อวิหึสาวิตกฺเกน, สมฺมาทิฏฺิยา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ¶ อปณฺณกปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยายา’’ติ. ทุติยํ.
๓. สปฺปุริสสุตฺตํ
๗๓. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อสปฺปุริโส เวทิตพฺโพ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส โย โหติ ปรสฺส อวณฺโณ ตํ อปุฏฺโปิ ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท ปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต อหาเปตฺวา อลมฺพิตฺวา ปริปูรํ วิตฺถาเรน ปรสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส โย โหติ ปรสฺส วณฺโณ ตํ ปุฏฺโปิ น ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท อปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต หาเปตฺวา ลมฺพิตฺวา อปริปูรํ อวิตฺถาเรน ปรสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส โย โหติ อตฺตโน อวณฺโณ ตํ ปุฏฺโปิ น ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท อปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต หาเปตฺวา ลมฺพิตฺวา อปริปูรํ อวิตฺถาเรน อตฺตโน อวณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส โย โหติ อตฺตโน วณฺโณ ตํ อปุฏฺโปิ ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท ปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต อหาเปตฺวา อลมฺพิตฺวา ปริปูรํ วิตฺถาเรน อตฺตโน ¶ วณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อสปฺปุริโส เวทิตพฺโพ.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สปฺปุริโส เวทิตพฺโพ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส โย โหติ ปรสฺส อวณฺโณ ตํ ปุฏฺโปิ น ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท อปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต หาเปตฺวา ลมฺพิตฺวา อปริปูรํ ¶ อวิตฺถาเรน ปรสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส โย โหติ ปรสฺส วณฺโณ ตํ อปุฏฺโปิ ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท ปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต อหาเปตฺวา อลมฺพิตฺวา ปริปูรํ วิตฺถาเรน ปรสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส โย โหติ อตฺตโน อวณฺโณ ตํ อปุฏฺโปิ ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท ปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต อหาเปตฺวา อลมฺพิตฺวา ปริปูรํ วิตฺถาเรน อตฺตโน อวณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส โย โหติ อตฺตโน วณฺโณ ตํ ปุฏฺโปิ น ปาตุ กโรติ, โก ปน วาโท อปุฏฺสฺส! ปุฏฺโ โข ปน ปฺหาภินีโต หาเปตฺวา ลมฺพิตฺวา อปริปูรํ อวิตฺถาเรน อตฺตโน วณฺณํ ภาสิตา โหติ. เวทิตพฺพเมตํ ¶ , ภิกฺขเว, สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สปฺปุริโส เวทิตพฺโพ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วธุกา ยฺเทว รตฺตึ วา ทิวํ วา อานีตา โหติ, ตาวเทวสฺสา ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สสฺสุยาปิ สสุเรปิ สามิเกปิ อนฺตมโส ทาสกมฺมกรโปริเสสุ. สา อปเรน สมเยน สํวาสมนฺวาย วิสฺสาสมนฺวาย สสฺสุมฺปิ สสุรมฺปิ สามิกมฺปิ เอวมาห – ‘อเปถ, กึ ปน ตุมฺเห ชานาถา’ติ! เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ยฺเทว รตฺตึ วา ทิวํ วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, ตาวเทวสฺส ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ ภิกฺขูสุ ภิกฺขุนีสุ อุปาสเกสุ อุปาสิกาสุ อนฺตมโส อารามิกสมณุทฺเทเสสุ. โส อปเรน สมเยน สํวาสมนฺวาย วิสฺสาสมนฺวาย อาจริยมฺปิ อุปชฺฌายมฺปิ เอวมาห – ‘อเปถ, กึ ปน ตุมฺเห ชานาถา’ติ! ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อธุนาคตวธุกาสเมน เจตสา วิหริสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ตติยํ.
๔. ปมอคฺคสุตฺตํ
๗๔. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคฺคานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สีลคฺคํ, สมาธิคฺคํ [สมาธคฺคํ (สี. สฺยา. กํ)], ปฺาคฺคํ, วิมุตฺตคฺคํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคฺคานี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ทุติยอคฺคสุตฺตํ
๗๕. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อคฺคานิ. กตมานิ จตฺตาริ? รูปคฺคํ, เวทนาคฺคํ, สฺาคฺคํ, ภวคฺคํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคฺคานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. กุสินารสุตฺตํ
๗๖. เอกํ ¶ สมยํ ภควา กุสินารายํ วิหรติ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน อนฺตเรน ยมกสาลานํ ปรินิพฺพานสมเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู ¶ อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว [ที. นิ. ๒.๒๑๗], เอกภิกฺขุสฺสปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา, ปุจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา อโหสิ, นาสกฺขิมฺห ภควนฺตํ สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉิตุ’’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, เอกภิกฺขุสฺสปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา, ปุจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา อโหสิ, นาสกฺขิมฺห ภควนฺตํ สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉิตุ’’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. ตติยมฺปิ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, เอกภิกฺขุสฺสปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา, ปุจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา อโหสิ, นาสกฺขิมฺห ภควนฺตํ สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉิตุ’’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ.
อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุคารเวนปิ น ปุจฺเฉยฺยาถ, สหายโกปิ, ภิกฺขเว, สหายกสฺส อาโรเจตู’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! เอวํ ปสนฺโน อหํ, ภนฺเต! นตฺถิ อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เอกภิกฺขุสฺสปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา’’ติ.
‘‘ปสาทา ¶ โข ตฺวํ, อานนฺท, วเทสิ. าณเมว เหตฺถ, อานนฺท, ตถาคตสฺส – ‘นตฺถิ อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เอกภิกฺขุสฺสปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค ¶ ¶ วา ปฏิปทาย วา’. อิเมสฺหิ, อานนฺท, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ โย ปจฺฉิมโก ภิกฺขุ โส โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. อจินฺเตยฺยสุตฺตํ
๗๗. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺยานิ, น จินฺเตตพฺพานิ; ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. กตมานิ จตฺตาริ? พุทฺธานํ, ภิกฺขเว, พุทฺธวิสโย อจินฺเตยฺโย, น จินฺเตตพฺโพ; ยํ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. ฌายิสฺส, ภิกฺขเว, ฌานวิสโย อจินฺเตยฺโย, น จินฺเตตพฺโพ; ยํ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. กมฺมวิปาโก, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺโย, น จินฺเตตพฺโพ; ยํ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. โลกจินฺตา, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺยา, น จินฺเตตพฺพา; ยํ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อจินฺเตยฺยานิ, น จินฺเตตพฺพานิ; ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ทกฺขิณสุตฺตํ
๗๘. ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา วิสุทฺธิโย. กตมา จตสฺโส? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ, โน ทายกโต; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต? อิธ, ภิกฺขเว, ทายโก โหติ สีลวา กลฺยาณธมฺโม; ปฏิคฺคาหกา โหนฺติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา ¶ [ปฏิคฺคาหโก โหติ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม (สฺยา. กํ. ก.) ม. นิ. ๓.๓๘๑ โอโลเกตพฺพํ]. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ, โน ทายกโต? อิธ, ภิกฺขเว ¶ , ทายโก โหติ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม; ปฏิคฺคาหกา โหนฺติ สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ, โน ทายกโต.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต? อิธ, ภิกฺขเว, ทายโก โหติ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม; ปฏิคฺคาหกาปิ โหนฺติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จ? อิธ, ภิกฺขเว, ทายโก โหติ สีลวา กลฺยาณธมฺโม; ปฏิคฺคาหกาปิ โหนฺติ สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จ. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ทกฺขิณา วิสุทฺธิโย’’ติ. อฏฺมํ.
๙. วณิชฺชสุตฺตํ
๗๙. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ปยุตฺตา เฉทคามินี โหติ? โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ปยุตฺตา น ยถาธิปฺปายา [ยถาธิปฺปายํ (สี.)] โหติ? โก นุ โข, ภนฺเต เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ปยุตฺตา ยถาธิปฺปายา [ยถาธิปฺปายํ (สี.)] โหติ? โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ¶ มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ปยุตฺตา ปราธิปฺปายา โหตี’’ติ?
‘‘อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปวาเรติ – ‘วทตุ, ภนฺเต, ปจฺจเยนา’ติ. โส เยน ¶ ปวาเรติ ตํ น เทติ. โส เจ ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, โส ยฺเทว วณิชฺชํ ปโยเชติ, สาสฺส โหติ เฉทคามินี.
‘‘อิธ ¶ ปน, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปวาเรติ – ‘วทตุ ¶ , ภนฺเต, ปจฺจเยนา’ติ. โส เยน ปวาเรติ ตํ น ยถาธิปฺปายํ เทติ. โส เจ ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, โส ยฺเทว วณิชฺชํ ปโยเชติ, สาสฺส น โหติ ยถาธิปฺปายา [ยถาธิปฺปายํ (สี. ก.)].
‘‘อิธ ปน, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปวาเรติ – ‘วทตุ, ภนฺเต, ปจฺจเยนา’ติ. โส เยน ปวาเรติ ตํ ยถาธิปฺปายํ เทติ. โส เจ ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, โส ยฺเทว วณิชฺชํ ปโยเชติ, สาสฺส โหติ ยถาธิปฺปายา [ยถาธิปฺปายํ (สี. ก.)].
‘‘อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปวาเรติ – ‘วทตุ, ภนฺเต, ปจฺจเยนา’ติ. โส เยน ปวาเรติ ตํ ปราธิปฺปายํ เทติ. โส เจ ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, โส ยฺเทว วณิชฺชํ ปโยเชติ, สาสฺส โหติ ปราธิปฺปายา [ปราธิปฺปายํ (ก.)].
‘‘อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ปยุตฺตา เฉทคามินี โหติ. อยํ ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ปยุตฺตา น ยถาธิปฺปายา โหติ. อยํ โข ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ปยุตฺตา ยถาธิปฺปายา โหติ. อยํ ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสาว วณิชฺชา ¶ ปยุตฺตา ปราธิปฺปายา โหตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. กมฺโพชสุตฺตํ
๘๐. เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มาตุคาโม เนว สภายํ นิสีทติ, น กมฺมนฺตํ ปโยเชติ, น กมฺโพชํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘โกธโน, อานนฺท, มาตุคาโม; อิสฺสุกี, อานนฺท, มาตุคาโม; มจฺฉรี ¶ , อานนฺท, มาตุคาโม; ทุปฺปฺโ, อานนฺท, มาตุคาโม – อยํ โข ¶ , อานนฺท, เหตุ ¶ อยํ ปจฺจโย, เยน มาตุคาโม เนว สภายํ นิสีทติ, น กมฺมนฺตํ ปโยเชติ, น กมฺโพชํ คจฺฉตี’’ติ. ทสมํ.
อปณฺณกวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปธานํ ทิฏฺิสปฺปุริส, วธุกา ทฺเว จ โหนฺติ อคฺคานิ;
กุสินารอจินฺเตยฺยา, ทกฺขิณา จ วณิชฺชา กมฺโพชนฺติ.
(๙) ๔. มจลวคฺโค
๑. ปาณาติปาตสุตฺตํ
๘๑. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ ¶ , กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ปมํ.
๒. มุสาวาทสุตฺตํ
๘๒. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ¶ ปฏิวิรโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ทุติยํ.
๓. อวณฺณารหสุตฺตํ
๘๓. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ ¶ อุปทํเสติ, อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสติ, อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํเสติ อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํเสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ตติยํ.
๔. โกธครุสุตฺตํ
๘๔. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตูหิ? โกธครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ, มกฺขครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ, ลาภครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ, สกฺการครุ โหติ น สทฺธมฺมครุ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.
‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตูหิ? สทฺธมฺมครุ โหติ น โกธครุ, สทฺธมฺมครุ โหติ น มกฺขครุ, สทฺธมฺมครุ โหติ น ลาภครุ, สทฺธมฺมครุ โหติ น สกฺการครุ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ตโมตมสุตฺตํ
๘๕. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? ตโม ตมปรายโณ [… ปรายโน (สฺยา. กํ. ปี.) ปุ. ป. ๑๖๘; สํ. นิ. ๑.๑๓๒], ตโม โชติปรายโณ, โชติ ตมปรายโณ ¶ , โชติ โชติปรายโณ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโณ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ. โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พวฺหาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโณ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโณ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ; โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พวฺหาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย ¶ สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโณ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโณ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล ¶ วา อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ; โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโณ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโณ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ; โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ ¶ , วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโณ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. โอณโตณตสุตฺตํ
๘๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? โอณโตณโต, โอณตุณฺณโต, อุณฺณโตณโต, อุณฺณตุณฺณโต. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ [ปุ. ป. ๑๖๙]. ฉฏฺํ.
๗. ปุตฺตสุตฺตํ
๘๗. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสโข โหติ ปาฏิปโท [ปฏิปโท (สฺยา. กํ. ปี.) ม. นิ. ๒ เสขสุตฺตวณฺณนา โอโลเกตพฺพา]; อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว ¶ , รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชฏฺโ ปุตฺโต อาภิเสโก อนภิสิตฺโต มจลปฺปตฺโต; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสโข โหติ ปาฏิปโท, อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ ¶ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โน จ โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ [ผสฺสิตฺวา (สี. ปี.)]. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อฏฺ จ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ เสนาสนํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต. เยหิ โข ปน สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิหรติ, ตฺยสฺส [ตฺยาสฺส (สี.) อ. นิ. ๕.๑๐๔] มนาเปเนว พหุลํ กายกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ ¶ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ วจีกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ มโนกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาปํเยว พหุลํ อุปหารํ อุปหรนฺติ, อปฺปํ อมนาปํ. ยานิ โข ปน ตานิ เวทยิตานิ ปิตฺตสมุฏฺานานิ วา เสมฺหสมุฏฺานานิ วา วาตสมุฏฺานานิ วา สนฺนิปาติกานิ วา อุตุปริณามชานิ วา วิสมปริหารชานิ วา โอปกฺกมิกานิ วา กมฺมวิปากชานิ วา, ตานิ ปนสฺส น พหุเทว อุปฺปชฺชนฺติ. อปฺปาพาโธ โหติ. จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ¶ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ¶ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม ¶ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ.
‘‘ยฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ. อหฺหิ, ภิกฺขเว, ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ เสนาสนํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชามิ, อปฺปํ อยาจิโต. เยหิ โข ปน ภิกฺขูหิ สทฺธึ วิหรามิ เต เม มนาเปเนว พหุลํ กายกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ วจีกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ มโนกมฺเมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาปํเยว พหุลํ อุปหารํ อุปหรนฺติ, อปฺปํ อมนาปํ. ยานิ โข ปน ตานิ เวทยิตานิ ปิตฺตสมุฏฺานานิ วา เสมฺหสมุฏฺานานิ วา วาตสมุฏฺานานิ วา สนฺนิปาติกานิ วา อุตุปริณามชานิ วา วิสมปริหารชานิ วา โอปกฺกมิกานิ วา กมฺมวิปากชานิ วา, ตานิ เม น พหุเทว อุปฺปชฺชนฺติ. อปฺปาพาโธหมสฺมิ. จตุนฺนํ โข ปนสฺมิ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ.
‘‘ยฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ ¶ สมณสุขุมาโลติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. สํโยชนสุตฺตํ
๘๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล [ปุ. ป. ๑๙๐ (โถกํ วิสทิสํ)] สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ¶ ปริกฺขยา ¶ โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา, ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ
๘๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ, สมฺมาวาโจ โหติ, สมฺมากมฺมนฺโต ¶ โหติ, สมฺมาอาชีโว โหติ, สมฺมาวายาโม โหติ, สมฺมาสติ [สมฺมาสตี (สี. ก.)] โหติ, สมฺมาสมาธิ [สมฺมาสมาธี (สี. ก.)] โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ, สมฺมาวาโจ โหติ, สมฺมากมฺมนฺโต โหติ, สมฺมาอาชีโว ¶ โหติ, สมฺมาวายาโม โหติ, สมฺมาสติ โหติ, สมฺมาสมาธิ โหติ, สมฺมาาณี โหติ, สมฺมาวิมุตฺติ [สมฺมาวิมุตฺตี (สี. ก.)] โหติ, โน จ โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ¶ . เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ โหติ, อฏฺ จ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต…เป… ยฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว ¶ , สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. ขนฺธสุตฺตํ
๙๐. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สมณมจโล, สมณปุณฺฑรีโก, สมณปทุโม, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสโข โหติ อปฺปตฺตมานโส, อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณมจโล โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา…เป… อิติ สฺา…เป… อิติ สงฺขารา…เป… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ ¶ ; โน จ โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา…เป… อิติ สฺา…เป… อิติ สงฺขารา…เป… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ ¶ ; อฏฺ จ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ¶ . เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมณปทุโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภฺุชติ, อปฺปํ อยาจิโต…เป… มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย สมเณสุ สมณสุขุมาโลติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทสมํ.
มจลวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปาณาติปาโต จ มุสา, อวณฺณโกธตโมณตา;
ปุตฺโต สํโยชนฺเจว, ทิฏฺิ ขนฺเธน เต ทสาติ.
(๑๐) ๕. อสุรวคฺโค
๑. อสุรสุตฺตํ
๙๑. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อสุโร อสุรปริวาโร, อสุโร เทวปริวาโร, เทโว อสุรปริวาโร, เทโว เทวปริวาโร.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ อสุรปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม, ปริสาปิสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ อสุรปริวาโร.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ ¶ เทวปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อสุโร โหติ เทวปริวาโร.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ อสุรปริวาโร? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ อสุรปริวาโร.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ เทวปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, ปริสาปิสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เทโว โหติ, เทวปริวาโร. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปมํ.
๒. ปมสมาธิสุตฺตํ
๙๒. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เจว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทุติยํ.
๓. ทุติยสมาธิสุตฺตํ
๙๓. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เจว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ¶ น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน อชฺฌตฺตํ เจโตสมเถ ปติฏฺาย อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย โยโค กรณีโย. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ปติฏฺาย อชฺฌตฺตํ เจโตสมเถ โยโค ¶ กรณีโย. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล น เจว ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน เตสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา ตสฺเสว [ตสฺส ตสฺเสว (สี. สฺยา. กํ.)] เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ปุคฺคเลน เตสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ ¶ สติ ¶ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน เตสุเยว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ตติยํ.
๔. ตติยสมาธิสุตฺตํ
๙๔. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เจว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี ¶ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘กถํ นุ โข, อาวุโส, สงฺขารา ทฏฺพฺพา? กถํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา? กถํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ [ปสฺสิตพฺพา (ก.)] ติ? ตสฺส โส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ พฺยากโรติ – ‘เอวํ โข, อาวุโส, สงฺขารา ทฏฺพฺพา, เอวํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา, เอวํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ติ. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘กถํ นุ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ ¶ ? กถํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพ’นฺติ? ตสฺส โส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ พฺยากโรติ – ‘เอวํ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ [เอโกทิ กตฺตพฺพํ (ปี.)], เอวํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพ’นฺติ. โส อปเรน สมเย ลาภี เจว โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล น เจว ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส น จ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี เจว อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี ¶ จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘กถํ นุ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ? กถํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพํ? กถํ สงฺขารา ทฏฺพฺพา? กถํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา? กถํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ติ? ตสฺส โส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ พฺยากโรติ – ‘เอวํ โข, อาวุโส, จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ สนฺนิสาเทตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ เอโกทิ กาตพฺพํ, เอวํ จิตฺตํ สมาทหาตพฺพํ, เอวํ สงฺขารา ทฏฺพฺพา, เอวํ สงฺขารา สมฺมสิตพฺพา, เอวํ สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา’ติ. โส อปเรน สมเยน ¶ ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ¶ , เตน, ภิกฺขเว, ปุคฺคเลน เตสุ เจว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ฉวาลาตสุตฺตํ
๙๕. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว [อตฺตหิตาย จ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, ฉวาลาตํ อุภโต ปทิตฺตํ [อาทิตฺตํ (ก.)], มชฺเฌ คูถคตํ, เนว คาเม กฏฺตฺถํ ผรติ น อรฺเ ( ) [(กฏฺตฺถํ ผรติ) กตฺถจิ]; ตถูปมาหํ ¶ , ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ ยฺวายํ ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อยํ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ, อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข [โมกฺโข (ปี.) สํ. นิ. ๓.๖๖๒-๖๖๓; อ. นิ. ๕.๑๘๑] จ อุตฺตโม จ ปวโร จ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ, สปฺปิมณฺโฑ [สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ (ก.)] ตตฺถ [ตตฺร (สํ. นิ. ๓.๖๖๒-๖๖๒)] อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ, อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. ราควินยสุตฺตํ
๙๖. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ¶ อตฺตนา ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา ¶ โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โมหวินยาย สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา น ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรํ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรํ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรํ โมหวินยาย สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา น ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา น โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ โมหวินยาย สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ราควินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ ราควินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ โทสวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ โทสวินยาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ¶ โมหวินยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ โมหวินยาย ¶ สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว ¶ , ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ฉฏฺํ.
๗. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตํ
๙๗. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ขิปฺปนิสนฺตี จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารกชาติโก [ธารณชาติโก (ก.)] โหติ, ธาตานฺจ [ธตานฺจ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก [สมาทาปโก (?)] สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข ขิปฺปนิสนฺตี โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารกชาติโก โหติ, โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ, โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน ¶ โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข ขิปฺปนิสนฺตี โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารกชาติโก โหติ, โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ, โน จ อตฺถมฺาย ¶ ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ขิปฺปนิสนฺตี จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารกชาติโก โหติ, ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขี โหติ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ¶ ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. อตฺตหิตสุตฺตํ
๙๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. สิกฺขาปทสุตฺตํ
๙๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ¶ ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว ¶ , เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ ¶ ; อตฺตนา มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว ¶ , ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา อทินฺนาทานา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา กาเมสุมิจฺฉาจารา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา มุสาวาทา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรโต โหติ, ปรํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ…เป… อตฺตนา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรโต โหติ, โน ปรํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ…เป… อตฺตนา จ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ¶ เวรมณิยา สมาทเปติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. โปตลิยสุตฺตํ
๑๐๐. อถ ¶ ¶ ¶ โข โปตลิโย ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โปตลิยํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาโรเม, โปตลิย, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล [ปุ. ป. ๑๖๕] อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โปตลิย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิเม โข, โปตลิย, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ โข, โปตลิย, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ กตโม เต ปุคฺคโล ขมติ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ?
‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, ปุคฺคลา ¶ สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ปน, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิธ ¶ ปน, โภ โคตม, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิเม โข, โภ โคตม, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต ¶ สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, โภ โคตม, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน ¶ จ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อภิกฺกนฺตา [อภิกฺกนฺตตรา (ก.)] เหสา, โภ โคตม, ยทิทํ อุเปกฺขา’’ติ.
‘‘จตฺตาโรเม, โปตลิย, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร…เป… อิเม โข, โปตลิย, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ โข, โปตลิย, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ¶ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อภิกฺกนฺตา เหสา, โปตลิย, ยทิทํ ตตฺถ ตตฺถ กาลฺุตา’’ติ.
‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร…เป… อิเม โข, โภ โคตม, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ, โภ โคตม, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ ยฺวายํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อภิกฺกนฺตา เหสา, โภ โคตม, ยทิทํ ตตฺถ ตตฺถ ¶ กาลฺุตา.
‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ, เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต ¶ . เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.
อสุรวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อสุโร ตโย สมาธี, ฉวาลาเตน ปฺจมํ;
ราโค นิสนฺติ อตฺตหิตํ, สิกฺขา โปตลิเยน จาติ.
ทุติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๓. ตติยปณฺณาสกํ
(๑๑) ๑. วลาหกวคฺโค
๑. ปมวลาหกสุตฺตํ
๑๐๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, วลาหกา. กตเม จตฺตาโร? คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา, คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วลาหกา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วลาหกูปมา [ปุ. ป. ๑๕๗] ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา, คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ โน วสฺสิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ภาสิตา โหติ, โน กตฺตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก คชฺชิตา, โน วสฺสิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ, โน คชฺชิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล กตฺตา โหติ, โน ภาสิตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ, โน คชฺชิตา. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก วสฺสิตา, โน คชฺชิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว ¶ , อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว ภาสิตา โหติ, โน กตฺตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา. เสยฺยถาปิ ¶ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก เนว คชฺชิตา [เนว คชฺชิตา โหติ (ก.)], โน วสฺสิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ภาสิตา จ โหติ กตฺตา จ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก คชฺชิตา จ [คชฺชิตา จ โหติ (ก.)] วสฺสิตา จ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปมํ.
๒. ทุติยวลาหกสุตฺตํ
๑๐๒. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, วลาหกา. กตเม จตฺตาโร? คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วลาหกา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา, คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ¶ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก คชฺชิตา, โน วสฺสิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ, โน คชฺชิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ¶ ธมฺมํ น ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ¶ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ, โน คชฺชิตา. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก วสฺสิตา, โน คชฺชิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก เนว คชฺชิตา, โน วสฺสิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จ ¶ ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วลาหโก คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทุติยํ.
๓. กุมฺภสุตฺตํ
๑๐๓. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, กุมฺภา. กตเม จตฺตาโร? ตุจฺโฉ ปิหิโต, ปูโร วิวโฏ, ตุจฺโฉ วิวโฏ, ปูโร ปิหิโต – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร กุมฺภา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว ¶ , จตฺตาโร กุมฺภูปมา [ปุ. ป. ๑๖๐] ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? ตุจฺโฉ ปิหิโต, ปูโร วิวโฏ, ตุจฺโฉ วิวโฏ, ปูโร ปิหิโต.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ ปิหิโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ ปิหิโต ¶ . เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, กุมฺโภ ตุจฺโฉ ปิหิโต; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปูโร โหติ วิวโฏ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปูโร โหติ วิวโฏ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, กุมฺโภ ปูโร วิวโฏ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ วิวโฏ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ วิวโฏ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, กุมฺโภ ตุจฺโฉ วิวโฏ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปูโร โหติ ปิหิโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ¶ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ¶ ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปูโร โหติ ปิหิโต. เสยฺยถาปิ ¶ โส, ภิกฺขเว, กุมฺโภ ปูโร ปิหิโต; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร กุมฺภูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ตติยํ.
๔. อุทกรหทสุตฺตํ
๑๐๔. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อุทกรหทา. กตเม จตฺตาโร? อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส, คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, คมฺภีโร คมฺภีโรภาโส – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อุทกรหทา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อุทกรหทูปมา [ปุ. ป. ๑๖๑] ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส ¶ , คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, คมฺภีโร คมฺภีโรภาโส.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ คมฺภีโรภาโส? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ คมฺภีโรภาโส. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อุทกรหโท อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ อุตฺตาโนภาโส? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ¶ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ อุตฺตาโนภาโส. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อุทกรหโท คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ อุตฺตาโนภาโส? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ อุตฺตาโนภาโส. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อุทกรหโท อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ คมฺภีโรภาโส? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ คมฺภีโรภาโส. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อุทกรหโท คมฺภีโร คมฺภีโรภาโส; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ ¶ วทามิ. อิเม โข ¶ , ภิกฺขเว, จตฺตาโร อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. อมฺพสุตฺตํ
๑๐๕. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อมฺพานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อามํ ปกฺกวณฺณิ [ปกฺกวณฺณี (ปุ. ป. ๑๕๙)], ปกฺกํ อามวณฺณิ [อามวณฺณี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อามํ อามวณฺณิ, ปกฺกํ ปกฺกวณฺณิ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อมฺพานิ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อมฺพูปมา [ปกฺกวณฺณี (ปุ. ป. ๑๕๙)] ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อาโม ปกฺกวณฺณี, ปกฺโก อามวณฺณี, อาโม อามวณฺณี, ปกฺโก ปกฺกวณฺณี.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาโม โหติ ปกฺกวณฺณี? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาโม โหติ ¶ ปกฺกวณฺณี. เสยฺยถาปิ ตํ, ภิกฺขเว, อมฺพํ อามํ ปกฺกวณฺณิ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ อามวณฺณี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ¶ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ อามวณฺณี. เสยฺยถาปิ ตํ, ภิกฺขเว, อมฺพํ ปกฺกํ อามวณฺณิ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาโม โหติ อามวณฺณี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาโม โหติ อามวณฺณี ¶ . เสยฺยถาปิ ตํ, ภิกฺขเว, อมฺพํ อามํ อามวณฺณิ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ ปกฺกวณฺณี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ ปกฺกวณฺณี. เสยฺยถาปิ ตํ, ภิกฺขเว, อมฺพํ ปกฺกํ ปกฺกวณฺณิ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อมฺพูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ¶ โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยอมฺพสุตฺตํ
(ฉฏฺํ อุตฺตานตฺถเมวาติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตํ, ปาฬิโปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิปิ น ทิสฺสติ.) [( ) ‘‘ฉฏฺํ อุกฺกานตฺถเมวา’’ติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตํ, ปาฬิโปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิปิ น ทิสฺสติ. ‘‘… อามํ ปกฺโกภาสํ, ปกฺกํ อาโมภาส’’นฺติอาทินา ปาโ ภเวยฺย]
๗. มูสิกสุตฺตํ
๑๐๗. ‘‘จตสฺโส ¶ อิมา, ภิกฺขเว, มูสิกา. กตมา จตสฺโส? คาธํ กตฺตา โน วสิตา, วสิตา โน คาธํ กตฺตา, เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตา, คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส มูสิกา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มูสิกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? คาธํ กตฺตา โน วสิตา, วสิตา โน คาธํ กตฺตา, เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตา, คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา โหติ, โน วสิตา. เสยฺยถาปิ สา ¶ , ภิกฺขเว, มูสิกา คาธํ กตฺตา, โน วสิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วสิตา โหติ, โน คาธํ กตฺตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ น ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ ¶ , อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วสิตา โหติ, โน คาธํ กตฺตา. เสยฺยถาปิ สา, ภิกฺขเว, มูสิกา วสิตา โหติ, โน คาธํ กตฺตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ, ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนว คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ น ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว ¶ , ปุคฺคโล เนว คาธํ กตฺตา โหติ, โน วสิตา. เสยฺยถาปิ สา, ภิกฺขเว, มูสิกา เนว คาธํ กตฺตา โหติ, โน วสิตา; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา จ โหติ วสิตา จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ¶ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา จ โหติ วสิตา จ. เสยฺยถาปิ สา, ภิกฺขเว, มูสิกา คาธํ กตฺตา จ โหติ วสิตา จ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มูสิกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. พลีพทฺทสุตฺตํ
๑๐๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, พลีพทฺทา [พลิวทฺทา (สี. สฺยา. กํ. ปี.), พลิพทฺธา (ก.) ปุ. ป. ๑๖๒]. กตเม จตฺตาโร? สควจณฺโฑ ¶ โน ปรควจณฺโฑ, ปรควจณฺโฑ โน สควจณฺโฑ, สควจณฺโฑ จ ปรควจณฺโฑ จ, เนว สควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร พลีพทฺทา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ, ปรควจณฺโฑ โน สควจณฺโฑ, สควจณฺโฑ จ ปรควจณฺโฑ จ, เนว สควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สควจณฺโฑ โหติ, โน ปรควจณฺโฑ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สกปริสํ อุพฺเพเชตา โหติ, โน ปรปริสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สควจณฺโฑ โหติ, โน ปรควจณฺโฑ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, พลีพทฺโท สควจณฺโฑ, โน ปรควจณฺโฑ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรควจณฺโฑ โหติ, โน สควจณฺโฑ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปรปริสํ อุพฺเพเชตา โหติ, โน สกปริสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปรควจณฺโฑ ¶ โหติ, โน สควจณฺโฑ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, พลีพทฺโท ปรควจณฺโฑ, โน สควจณฺโฑ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สควจณฺโฑ จ โหติ ปรควจณฺโฑ จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สกปริสํ อุพฺเพเชตา โหติ ปรปริสฺจ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สควจณฺโฑ จ โหติ ปรควจณฺโฑ จ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, พลีพทฺโท สควจณฺโฑ จ ปรควจณฺโฑ จ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนว สควจณฺโฑ โหติ โน ปรควจณฺโฑ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว สกปริสํ อุพฺเพเชตา โหติ, โน ปรปริสฺจ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนว สควจณฺโฑ โหติ, โน ปรควจณฺโฑ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, พลีพทฺโท เนว สควจณฺโฑ, โน ปรควจณฺโฑ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. รุกฺขสุตฺตํ
๑๐๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, รุกฺขา. กตเม จตฺตาโร? เผคฺคุ ¶ เผคฺคุปริวาโร, เผคฺคุ สารปริวาโร, สาโร เผคฺคุปริวาโร, สาโร สารปริวาโร – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร รุกฺขา. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร รุกฺขูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ¶ จตฺตาโร? เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโร, เผคฺคุ สารปริวาโร, สาโร เผคฺคุปริวาโร, สาโร สารปริวาโร.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ เผคฺคุปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม; ปริสาปิสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ เผคฺคุปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, รุกฺโข เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโร; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ สารปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม; ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ สารปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, รุกฺโข เผคฺคุ สารปริวาโร; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สาโร โหติ เผคฺคุปริวาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม; ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สาโร โหติ เผคฺคุปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาโร เผคฺคุปริวาโร; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สาโร โหติ สารปริวาโร? อิธ ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม; ปริสาปิสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สาโร โหติ สารปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาโร สารปริวาโร; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร รุกฺขูปมา ปุคฺคลา สนฺโต ¶ สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ [ปุ. ป. ๑๗๐]. นวมํ.
๑๐. อาสีวิสสุตฺตํ
๑๑๐. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาสีวิสา [อาสิวิสา (ก.) ปุ. ป. ๑๖๓]. กตเม จตฺตาโร? อาคตวิโส น โฆรวิโส, โฆรวิโส น อาคตวิโส, อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, เนวาคตวิโส น โฆรวิโส – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาสีวิสา. เอวเมวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อาคตวิโส น โฆรวิโส, โฆรวิโส น อาคตวิโส ¶ , อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, เนวาคตวิโส น โฆรวิโส.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาคตวิโส โหติ, น โฆรวิโส? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ [โกโป (ก.) ปุ. ป. ๑๖๓] น ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ โข ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาคตวิโส โหติ, น โฆรวิโส. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อาสีวิโส อาคตวิโส, น โฆรวิโส; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โฆรวิโส โหติ, น อาคตวิโส? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล โฆรวิโส โหติ, น อาคตวิโส. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อาสีวิโส โฆรวิโส, น อาคตวิโส; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาคตวิโส จ โหติ โฆรวิโส จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อาคตวิโส จ โหติ โฆรวิโส ¶ จ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อาสีวิโส อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวาคตวิโส โหติ น โฆรวิโส? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ น ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เนวาคตวิโส โหติ, น โฆรวิโส. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อาสีวิโส เนวาคตวิโส น โฆรวิโส; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทสมํ.
วลาหกวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว วลาหา กุมฺภ-อุทก, รหทา ทฺเว โหนฺติ อมฺพานิ;
มูสิกา พลีพทฺทา รุกฺขา, อาสีวิเสน เต ทสาติ.
(๑๒) ๒. เกสิวคฺโค
๑. เกสิสุตฺตํ
๑๑๑. อถ ¶ ¶ ¶ โข เกสิ อสฺสทมฺมสารถิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกสึ อสฺสทมฺมสารถึ ภควา เอตทโวจ – ‘‘ตฺวํ โขสิ, เกสิ, ปฺาโต อสฺสทมฺมสารถีติ [สฺาโต อสฺสทมฺมสารถิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. กถํ ปน ตฺวํ, เกสิ, อสฺสทมฺมํ วิเนสี’’ติ? ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, อสฺสทมฺมํ สณฺเหนปิ วิเนมิ, ผรุเสนปิ วิเนมิ ¶ , สณฺหผรุเสนปิ วิเนมี’’ติ. ‘‘สเจ เต, เกสิ, อสฺสทมฺโม สณฺเหน วินยํ น อุเปติ, ผรุเสน วินยํ น อุเปติ, สณฺหผรุเสน วินยํ น อุเปติ, กินฺติ นํ กโรสี’’ติ? ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, อสฺสทมฺโม สณฺเหน วินยํ น อุเปติ, ผรุเสน วินยํ น อุเปติ, สณฺหผรุเสน วินยํ น อุเปติ; หนามิ นํ, ภนฺเต. ตํ กิสฺส เหตุ? มา เม อาจริยกุลสฺส อวณฺโณ อโหสี’’ติ.
‘‘ภควา ปน, ภนฺเต, อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ. กถํ ปน, ภนฺเต, ภควา ปุริสทมฺมํ วิเนตี’’ติ? ‘‘อหํ โข, เกสิ, ปุริสทมฺมํ สณฺเหนปิ วิเนมิ, ผรุเสนปิ วิเนมิ, สณฺหผรุเสนปิ วิเนมิ. ตตฺริทํ, เกสิ, สณฺหสฺมึ – อิติ กายสุจริตํ อิติ กายสุจริตสฺส วิปาโก, อิติ วจีสุจริตํ อิติ วจีสุจริตสฺส วิปาโก, อิติ มโนสุจริตํ อิติ มโนสุจริตสฺส วิปาโก, อิติ เทวา, อิติ มนุสฺสาติ. ตตฺริทํ, เกสิ, ผรุสสฺมึ – อิติ กายทุจฺจริตํ อิติ กายทุจฺจริตสฺส วิปาโก, อิติ วจีทุจฺจริตํ อิติ วจีทุจฺจริตสฺส วิปาโก, อิติ มโนทุจฺจริตํ อิติ มโนทุจฺจริตสฺส วิปาโก, อิติ นิรโย, อิติ ติรจฺฉานโยนิ, อิติ เปตฺติวิสโย’’ติ.
‘‘ตตฺริทํ, เกสิ, สณฺหผรุสสฺมึ – อิติ กายสุจริตํ อิติ กายสุจริตสฺส วิปาโก, อิติ กายทุจฺจริตํ อิติ กายทุจฺจริตสฺส วิปาโก, อิติ วจีสุจริตํ อิติ วจีสุจริตสฺส วิปาโก, อิติ วจีทุจฺจริตํ อิติ วจีทุจฺจริตสฺส วิปาโก, อิติ มโนสุจริตํ อิติ มโนสุจริตสฺส ¶ วิปาโก, อิติ มโนทุจฺจริตํ อิติ มโนทุจฺจริตสฺส วิปาโก, อิติ เทวา, อิติ มนุสฺสา, อิติ นิรโย, อิติ ติรจฺฉานโยนิ, อิติ เปตฺติวิสโย’’ติ.
‘‘สเจ ¶ ¶ เต, ภนฺเต, ปุริสทมฺโม สณฺเหน วินยํ น อุเปติ, ผรุเสน ¶ วินยํ น อุเปติ, สณฺหผรุเสน วินยํ น อุเปติ, กินฺติ นํ ภควา กโรตี’’ติ? ‘‘สเจ เม, เกสิ, ปุริสทมฺโม สณฺเหน วินยํ น อุเปติ, ผรุเสน วินยํ น อุเปติ, สณฺหผรุเสน วินยํ น อุเปติ, หนามิ นํ, เกสี’’ติ. ‘‘น โข, ภนฺเต, ภควโต ปาณาติปาโต กปฺปติ. อถ จ ปน ภควา เอวมาห – ‘หนามิ, นํ เกสี’’’ติ! ‘‘สจฺจํ, เกสิ! น ตถาคตสฺส ปาณาติปาโต กปฺปติ. อปิ จ โย ปุริสทมฺโม สณฺเหน วินยํ น อุเปติ, ผรุเสน วินยํ น อุเปติ, สณฺหผรุเสน วินยํ น อุเปติ, น ตํ ตถาคโต วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺติ, นาปิ วิฺู สพฺรหฺมจารี วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. วโธ เหโส, เกสิ, อริยสฺส วินเย – ยํ น ตถาคโต วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺติ, นาปิ วิฺู สพฺรหฺมจารี วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺตี’’ติ.
‘‘โส หิ นูน, ภนฺเต, สุหโต โหติ – ยํ น ตถาคโต วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺติ, นาปิ วิฺู สพฺรหฺมจารี วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺตีติ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปมํ.
๒. ชวสุตฺตํ
๑๑๒. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ จตูหิ? อชฺชเวน, ชเวน, ขนฺติยา, โสรจฺเจน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ, ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ จตูหิ? อชฺชเวน, ชเวน, ขนฺติยา, โสรจฺเจน – อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ¶ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปโตทสุตฺตํ
๑๑๓. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ภทฺรา อสฺสาชานียา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ปโตทจฺฉายํ ทิสฺวา สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ – ‘กึ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ [กถมสฺสาหํ (ก.)] ปฏิกโรมี’ติ! เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร อสฺสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ภทฺโร อสฺสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร อสฺสาชานีโย น เหว โข ปโตทจฺฉายํ ทิสฺวา สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ, อปิ จ โข โลมเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ – ‘กึ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ ปฏิกโรมี’ติ! เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ¶ อสฺสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ภทฺโร อสฺสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร อสฺสาชานีโย น เหว โข ปโตทจฺฉายํ ทิสฺวา สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ นาปิ โลมเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ, อปิ จ โข จมฺมเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ – ‘กึ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ ปฏิกโรมี’ติ! เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร อสฺสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ภทฺโร อสฺสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร อสฺสาชานีโย น เหว โข ปโตทจฺฉายํ ทิสฺวา สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ นาปิ โลมเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ นาปิ จมฺมเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ, อปิ จ โข อฏฺิเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ – ‘กึ ¶ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ ปฏิกโรมี’ติ ¶ ! เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร อสฺสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ภทฺโร อสฺสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน ¶ โลกสฺมึ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ภทฺรา อสฺสาชานียา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโรเม ภทฺรา ปุริสาชานียา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย สุณาติ – ‘อมุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา ปุริโส วา ทุกฺขิโต วา กาลงฺกโต [กาลกโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา’ติ. โส เตน สํวิชฺชติ, สํเวคํ อาปชฺชติ. สํวิคฺโค โยนิโส ปทหติ. ปหิตตฺโต กาเยน ¶ เจว ปรมสจฺจํ [ปรมตฺถสจฺจํ (ก.) ม. นิ. ๒.๑๘๓ ปสฺสิตพฺพํ] สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ อติวิชฺฌ ปสฺสติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, ภทฺโร อสฺสาชานีโย ปโตทจฺฉายํ ทิสฺวา สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ภทฺรํ ปุริสาชานียํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ภทฺโร ปุริสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย น เหว โข สุณาติ – ‘อมุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา ปุริโส วา ทุกฺขิโต วา กาลงฺกโต วา’ติ, อปิ จ โข สามํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา ทุกฺขิตํ วา กาลงฺกตํ วา. โส เตน สํวิชฺชติ, สํเวคํ อาปชฺชติ. สํวิคฺโค โยนิโส ปทหติ. ปหิตตฺโต กาเยน เจว ปรมสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ อติวิชฺฌ ปสฺสติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, ภทฺโร อสฺสาชานีโย โลมเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ภทฺรํ ปุริสาชานียํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ภทฺโร ปุริสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย น เหว โข สุณาติ – ‘อมุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา ปุริโส วา ทุกฺขิโต วา กาลงฺกโต วา’ติ, นาปิ สามํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา ทุกฺขิตํ วา กาลงฺกตํ วา, อปิ จ ขฺวสฺส าติ วา สาโลหิโต วา ทุกฺขิโต วา โหติ กาลงฺกโต วา. โส เตน สํวิชฺชติ, สํเวคํ อาปชฺชติ. สํวิคฺโค ¶ โยนิโส ปทหติ. ปหิตตฺโต กาเยน ¶ เจว ปรมสจฺจํ ¶ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ อติวิชฺฌ ปสฺสติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, ภทฺโร อสฺสาชานีโย จมฺมเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ ¶ สํเวคํ อาปชฺชติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ภทฺรํ ปุริสาชานียํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ภทฺโร ปุริสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย น เหว โข สุณาติ – ‘อมุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา ปุริโส วา ทุกฺขิโต วา กาลงฺกโต วา’ติ, นาปิ สามํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา ทุกฺขิตํ วา กาลงฺกตํ วา, นาปิสฺส าติ วา สาโลหิโต วา ทุกฺขิโต วา โหติ กาลงฺกโต วา, อปิ จ โข สามฺเว ผุฏฺโ โหติ สารีริกาหิ เวทนาหิ ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ [ติปฺปาหิ (สี. ปี.)] ขราหิ กฏุกาหิ อสาตาหิ อมนาปาหิ ปาณหราหิ. โส เตน สํวิชฺชติ, สํเวคํ อาปชฺชติ. สํวิคฺโค โยนิโส ปทหติ. ปหิตตฺโต กาเยน เจว ปรมสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ อติวิชฺฌ ปสฺสติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, ภทฺโร อสฺสาชานีโย อฏฺิเวธวิทฺโธ สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ภทฺรํ ปุริสาชานียํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภทฺโร ปุริสาชานีโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ภทฺโร ปุริสาชานีโย สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ภทฺรา ปุริสาชานียา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ตติยํ.
๔. นาคสุตฺตํ
๑๑๔. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ นาโค ราชารโห ¶ โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค โสตา จ โหติ, หนฺตา จ, ขนฺตา จ, คนฺตา จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค โสตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค ยเมนํ หตฺถิทมฺมสารถิ การณํ กาเรติ – ยทิ วา กตปุพฺพํ ยทิ วา อกตปุพฺพํ – ตํ อฏฺึ กตฺวา [อฏฺิกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. ๕.๑๔๐] มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา [สพฺพํ เจตโส (สพฺพตฺถ)] สมนฺนาหริตฺวา ¶ โอหิตโสโต สุณาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค โสตา โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค หนฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค สงฺคามคโต ¶ หตฺถิมฺปิ หนติ, หตฺถารุหมฺปิ หนติ, อสฺสมฺปิ หนติ, อสฺสารุหมฺปิ หนติ ¶ , รถมฺปิ หนติ, รถิกมฺปิ หนติ, ปตฺติกมฺปิ หนติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค หนฺตา โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค ขนฺตา โหติ? อิธ ภิกฺขเว, รฺโ นาโค สงฺคามคโต ขโม โหติ สตฺติปฺปหารานํ อสิปฺปหารานํ อุสุปฺปหารานํ ผรสุปฺปหารานํ [‘‘ผรสุปฺปหาราน’’นฺติ อิทํ ปทํ สฺยามโปตฺถเก นตฺถิ. ม. นิ. ๓.๒๑๗ ปสฺสิตพฺพํ] เภริปณวสงฺขติณวนินฺนาทสทฺทานํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค ขนฺตา โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค คนฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค ยเมนํ หตฺถิทมฺมสารถิ ทิสํ เปเสติ – ยทิ วา คตปุพฺพํ ยทิ วา อคตปุพฺพํ – ตํ ขิปฺปเมว คนฺตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, รฺโ นาโค คนฺตา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ นาโค ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ¶ …เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา จ โหติ, หนฺตา จ, ขนฺตา จ, คนฺตา จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ หนฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ (หนติ) [( ) นตฺถิ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ. อ. นิ. ๔.๑๖๔ ปฏิปทาวคฺเค จตุตฺถสุตฺเต ปน ‘‘สเมตี’’ติ ปทํ สพฺพตฺถปิ ทิสฺสติ] พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ หนติ ¶ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ หนฺตา โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขนฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ สีตสฺส ¶ อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อุปฺปนฺนานํ ¶ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขนฺตา โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คนฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยายํ ทิสา อคตปุพฺพา อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ, ตํ ขิปฺปฺเว คนฺตา ¶ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คนฺตา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. านสุตฺตํ
๑๑๕. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, านานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, านํ อมนาปํ กาตุํ; ตฺจ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, านํ อมนาปํ กาตุํ; ตฺจ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, านํ มนาปํ กาตุํ; ตฺจ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, านํ มนาปํ กาตุํ; ตฺจ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สฺยา. กํ. ก.)] านํ อมนาปํ กาตุํ; ตฺจ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ – อิทํ, ภิกฺขเว, านํ อุภเยเนว น กตฺตพฺพํ มฺติ [ปฺายติ (?)]. ยมฺปิทํ [ยทิทํ (ก.)] านํ อมนาปํ กาตุํ; อิมินาปิ นํ [ตํ (สี. ปี.) สฺยามโปตฺถเก นตฺถิ] น กตฺตพฺพํ มฺติ. ยมฺปิทํ านํ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ; อิมินาปิ นํ [ตํ (ปี.) สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] น กตฺตพฺพํ มฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, านํ อุภเยเนว น กตฺตพฺพํ มฺติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ านํ อมนาปํ กาตุํ; ตฺจ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ – อิมสฺมึ, ภิกฺขเว, าเน พาโล จ ปณฺฑิโต จ เวทิตพฺโพ ปุริสถาเม ¶ ปุริสวีริเย ปุริสปรกฺกเม. น, ภิกฺขเว, พาโล อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กิฺจาปิ โข อิทํ านํ อมนาปํ กาตุํ; อถ จรหิทํ ¶ านํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตตี’ติ. โส ตํ านํ น กโรติ. ตสฺส ตํ านํ อกยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ. ปณฺฑิโต จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กิฺจาปิ โข อิทํ านํ อมนาปํ กาตุํ; อถ ¶ จรหิทํ านํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตตี’ติ. โส ตํ านํ กโรติ. ตสฺส ตํ านํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สฺยา. กํ.)] านํ มนาปํ กาตุํ; ตฺจ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ – อิมสฺมิมฺปิ, ภิกฺขเว, าเน พาโล จ ปณฺฑิโต จ เวทิตพฺโพ ปุริสถาเม ปุริสวีริเย ปุริสปรกฺกเม. น, ภิกฺขเว, พาโล อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กิฺจาปิ โข อิทํ านํ มนาปํ กาตุํ; อถ จรหิทํ านํ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตตี’ติ. โส ตํ านํ กโรติ. ตสฺส ตํ านํ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ. ปณฺฑิโต จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กิฺจาปิ โข อิทํ านํ มนาปํ กาตุํ; อถ จรหิทํ านํ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตตี’ติ. โส ตํ านํ น กโรติ. ตสฺส ตํ านํ อกยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ านํ มนาปํ กาตุํ, ตฺจ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ – อิทํ, ภิกฺขเว, านํ อุภเยเนว กตฺตพฺพํ มฺติ. ยมฺปิทํ านํ มนาปํ กาตุํ, อิมินาปิ นํ กตฺตพฺพํ มฺติ; ยมฺปิทํ านํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ, อิมินาปิ นํ กตฺตพฺพํ มฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, านํ อุภเยเนว กตฺตพฺพํ มฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ านานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อปฺปมาทสุตฺตํ
๑๑๖. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ อปฺปมาโท กรณีโย. กตเมหิ จตูหิ? กายทุจฺจริตํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, กายสุจริตํ ภาเวถ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถ. วจีทุจฺจริตํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, วจีสุจริตํ ภาเวถ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถ. มโนทุจฺจริตํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, มโนสุจริตํ ภาเวถ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถ. มิจฺฉาทิฏฺึ, ภิกฺขเว, ปชหถ, สมฺมาทิฏฺึ ภาเวถ ¶ ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถ.
‘‘ยโต ¶ ¶ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กายทุจฺจริตํ ปหีนํ โหติ กายสุจริตํ ภาวิตํ, วจีทุจฺจริตํ ¶ ปหีนํ โหติ วจีสุจริตํ ภาวิตํ, มโนทุจฺจริตํ ปหีนํ โหติ มโนสุจริตํ ภาวิตํ, มิจฺฉาทิฏฺิ ปหีนา โหติ สมฺมาทิฏฺิ ภาวิตา, โส น ภายติ สมฺปรายิกสฺส มรณสฺสา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. อารกฺขสุตฺตํ
๑๑๗. ‘‘จตูสุ, ภิกฺขเว, าเนสุ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย. กตเมสุ จตูสุ? ‘มา เม รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ รชฺชี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย; ‘มา เม โทสนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ ทุสฺสี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย; ‘มา เม โมหนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ มุยฺหี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย; ‘มา เม มทนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ มชฺชี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย.
‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น รชฺชติ วีตราคตฺตา, โทสนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น ทุสฺสติ วีตโทสตฺตา, โมหนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น มุยฺหติ วีตโมหตฺตา, มทนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น มชฺชติ วีตมทตฺตา, โส น ฉมฺภติ น กมฺปติ น เวธติ น สนฺตาสํ อาปชฺชติ, น จ ปน สมณวจนเหตุปิ คจฺฉตี’’ติ. สตฺตมํ.
๘. สํเวชนียสุตฺตํ
๑๑๘. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียานิ สํเวชนียานิ านานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิธ ตถาคโต ชาโต’ติ, ภิกฺขเว, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคโต อนุตฺตรํ ¶ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ, ภิกฺขเว, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคโต อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสี’ติ, ภิกฺขเว, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต’ติ ¶ , ภิกฺขเว, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. อิมานิ ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียานิ สํเวชนียานิ านานี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปมภยสุตฺตํ
๑๑๙. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ภยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ชาติภยํ, ชราภยํ, พฺยาธิภยํ, มรณภยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานี’’ติ. นวมํ.
๑๐. ทุติยภยสุตฺตํ
๑๒๐. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ภยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อคฺคิภยํ, อุทกภยํ, ราชภยํ, โจรภยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานี’’ติ. ทสมํ.
เกสิวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
เกสิ ชโว ปโตโท จ, นาโค าเนน ปฺจมํ;
อปฺปมาโท จ อารกฺโข, สํเวชนียฺจ ทฺเว ภยาติ.
(๑๓) ๓. ภยวคฺโค
๑. อตฺตานุวาทสุตฺตํ
๑๒๑. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ภยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺตานุวาทภยํ, ปรานุวาทภยํ, ทณฺฑภยํ, ทุคฺคติภยํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อตฺตานุวาทภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหฺเจว [อหฺเจ (?)] โข ¶ ปน กาเยน ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, วาจาย ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, มนสา ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, กิฺจ ตํ ยํ มํ [กิฺจ ตํ มํ (สี.), กิฺจ มํ (สฺยา. กํ.), กิฺจ ตํ กมฺมํ (ปี. ก.)] อตฺตา สีลโต น อุปวเทยฺยา’ติ! โส อตฺตานุวาทภยสฺส ภีโต กายทุจฺจริตํ ปหาย ¶ กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตฺตานุวาทภยํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปรานุวาทภยํ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหฺเจว โข ปน กาเยน ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, วาจาย ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, มนสา ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, กิฺจ ตํ ยํ มํ ปเร สีลโต น อุปวเทยฺยุ’นฺติ! โส ปรานุวาทภยสฺส ภีโต กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปรานุวาทภยํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทณฺฑภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปสฺสติ โจรํ อาคุจารึ, ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเต, กสาหิปิ ตาเฬนฺเต, เวตฺเตหิปิ ตาเฬนฺเต, อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬนฺเต, หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺเต, ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต, หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต, กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺเต, นาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต, กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต, พิลงฺคถาลิกมฺปิ กโรนฺเต, สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กโรนฺเต, ราหุมุขมฺปิ กโรนฺเต, โชติมาลิกมฺปิ กโรนฺเต, หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กโรนฺเต, เอรกวตฺติกมฺปิ ¶ กโรนฺเต, จีรกวาสิกมฺปิ กโรนฺเต, เอเณยฺยกมฺปิ กโรนฺเต, พลิสมํสิกมฺปิ กโรนฺเต, กหาปณกมฺปิ กโรนฺเต, ขาราปตจฺฉิกมฺปิ ¶ กโรนฺเต, ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต, ปลาลปีกมฺปิ กโรนฺเต, ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิฺจนฺเต, สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺเต, ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสนฺเต, อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺเต.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยถารูปานํ โข ปาปกานํ กมฺมานํ เหตุ โจรํ อาคุจารึ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺติ, กสาหิปิ ตาเฬนฺติ…เป… อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺติ, อหฺเจว โข ปน เอวรูปํ ปาปกมฺมํ กเรยฺยํ, มมฺปิ ราชาโน คเหตฺวา เอวรูปา วิวิธา กมฺมการณา กาเรยฺยุํ, กสาหิปิ ตาเฬยฺยุํ, เวตฺเตหิปิ ตาเฬยฺยุํ, อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬยฺยุํ, หตฺถมฺปิ ฉินฺเทยฺยุํ, ปาทมฺปิ ฉินฺเทยฺยุํ, หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺเทยฺยุํ, กณฺณมฺปิ ฉินฺเทยฺยุํ, นาสมฺปิ ฉินฺเทยฺยุํ, กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺเทยฺยุํ, พิลงฺคถาลิกมฺปิ กเรยฺยุํ, สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กเรยฺยุํ; ราหุมุขมฺปิ กเรยฺยุํ, โชติมาลิกมฺปิ กเรยฺยุํ, หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กเรยฺยุํ, เอรกวตฺติกมฺปิ กเรยฺยุํ, จีรกวาสิกมฺปิ กเรยฺยุํ, เอเณยฺยกมฺปิ กเรยฺยุํ, พลิสมํสิกมฺปิ กเรยฺยุํ, กหาปณกมฺปิ ¶ กเรยฺยุํ, ขาราปตจฺฉิกมฺปิ กเรยฺยุํ, ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กเรยฺยุํ, ปลาลปีกมฺปิ กเรยฺยุํ, ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิฺเจยฺยุํ, สุนเขหิปิ ขาทาเปยฺยุํ, ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสยฺยุํ, อสินาปิ สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’นฺติ. โส ทณฺฑภยสฺส ภีโต น ปเรสํ ปาภตํ วิลุมฺปนฺโต จรติ. กายทุจฺจริตํ ปหาย…เป… สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทณฺฑภยํ.
‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ทุคฺคติภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กายทุจฺจริตสฺส โข ปาปโก วิปาโก อภิสมฺปรายํ, วจีทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก อภิสมฺปรายํ, มโนทุจฺจริตสฺส ปาปโก วิปาโก อภิสมฺปรายํ. อหฺเจว โข ปน กาเยน ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, วาจาย ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, มนสา ทุจฺจริตํ จเรยฺยํ, กิฺจ ตํ ยาหํ น กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ! โส ทุคฺคติภยสฺส ภีโต กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุคฺคติภยํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานี’’ติ. ปมํ.
๒. อูมิภยสุตฺตํ
๑๒๒. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ภยานิ อุทโกโรหนฺตสฺส [อุทโกโรหนฺเต (ม. นิ. ๒.๑๖๑)] ปาฏิกงฺขิตพฺพานิ ¶ . กตมานิ จตฺตาริ? อูมิภยํ, กุมฺภีลภยํ, อาวฏฺฏภยํ, สุสุกาภยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานิ อุทโกโรหนฺตสฺส ปาฏิกงฺขิตพฺพานิ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานิ อิเธกจฺจสฺส กุลปุตฺตสฺส อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อคารสฺมา [สทฺธา อคารสฺมา (สี. สฺยา. กํ.)] อนคาริยํ ปพฺพชิตสฺส [ปพฺพชโต (สี.)] ปาฏิกงฺขิตพฺพานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อูมิภยํ, กุมฺภีลภยํ, อาวฏฺฏภยํ, สุสุกาภยํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อูมิภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ทุกฺโขติณฺโณ ¶ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ! ตเมนํ ตถา ปพฺพชิตํ สมานํ สพฺรหฺมจาริโน โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ – ‘เอวํ เต อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต ปฏิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต อาโลเกตพฺพํ ¶ , เอวํ เต วิโลเกตพฺพํ, เอวํ เต สมิฺชิตพฺพํ, เอวํ เต ปสาริตพฺพํ, เอวํ เต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ อคาริยภูตา สมานา อฺเ โอวทามปิ อนุสาสามปิ. อิเม ปนมฺหากํ ปุตฺตมตฺตา มฺเ นตฺตมตฺตา มฺเ โอวทิตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺตี’ติ. โส กุปิโต อนตฺตมโน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อูมิภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. อูมิภยนฺติ โข, ภิกฺขเว, โกธูปายาสสฺเสตํ อธิวจนํ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อูมิภยํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กุมฺภีลภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ¶ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ! ตเมนํ ตถา ปพฺพชิตํ สมานํ สพฺรหฺมจาริโน โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ – ‘อิทํ เต ขาทิตพฺพํ, อิทํ เต น ขาทิตพฺพํ, อิทํ เต ภฺุชิตพฺพํ, อิทํ เต น ภฺุชิตพฺพํ, อิทํ เต สายิตพฺพํ, อิทํ เต น สายิตพฺพํ, อิทํ เต ปาตพฺพํ ¶ , อิทํ เต น ปาตพฺพํ, กปฺปิยํ เต ขาทิตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น ขาทิตพฺพํ, กปฺปิยํ เต ภฺุชิตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น ภฺุชิตพฺพํ, กปฺปิยํ เต สายิตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น สายิตพฺพํ, กปฺปิยํ เต ปาตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น ปาตพฺพํ, กาเล เต ขาทิตพฺพํ, วิกาเล เต น ขาทิตพฺพํ, กาเล เต ภฺุชิตพฺพํ, วิกาเล เต น ภฺุชิตพฺพํ, กาเล เต สายิตพฺพํ, วิกาเล เต น สายิตพฺพํ, กาเล เต ปาตพฺพํ, วิกาเล เต น ปาตพฺพ’นฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ อคาริยภูตา สมานา ยํ อิจฺฉาม ตํ ขาทาม, ยํ น อิจฺฉาม น ตํ ขาทาม; ยํ อิจฺฉาม ตํ ภฺุชาม, ยํ น อิจฺฉาม น ตํ ภฺุชาม; ยํ อิจฺฉาม ตํ สายาม, ยํ น อิจฺฉาม น ตํ สายาม; ยํ อิจฺฉาม ตํ ปิวาม, ยํ น อิจฺฉาม น ตํ ปิวาม; กปฺปิยมฺปิ ขาทาม อกปฺปิยมฺปิ ขาทาม กปฺปิยมฺปิ ภฺุชาม อกปฺปิยมฺปิ ภฺุชาม กปฺปิยมฺปิ สายาม อกปฺปิยมฺปิ สายาม กปฺปิยมฺปิ ปิวาม อกปฺปิยมฺปิ ปิวาม, กาเลปิ ขาทาม วิกาเลปิ ขาทาม กาเลปิ ภฺุชาม วิกาเลปิ ภฺุชาม กาเลปิ ¶ สายาม ¶ วิกาเลปิ สายาม กาเลปิ ปิวาม ¶ วิกาเลปิ ปิวาม; ยมฺปิ โน สทฺธา คหปติกา ทิวา วิกาเล ปณีตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา เทนฺติ, ตตฺรปิเม [ตตฺถปิเม (ม. นิ. ๒.๑๖๓)] มุขาวรณํ มฺเ กโรนฺตี’ติ. โส กุปิโต อนตฺตมโน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กุมฺภีลภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. กุมฺภีลภยนฺติ โข, ภิกฺขเว, โอทริกตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กุมฺภีลภยํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อาวฏฺฏภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ, ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ! โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย วาจาย อรกฺขิเตน จิตฺเตน อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ. โส ตตฺถ ปสฺสติ คหปตึ วา คหปติปุตฺตํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ อคาริยภูตา สมานา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาริมฺหา; สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล โภคา. สกฺกา โภเค จ ภฺุชิตุํ ปฺุานิ จ กาตุํ. ยํนูนาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภฺุเชยฺยํ ปฺุานิ จ กเรยฺย’นฺติ ¶ ! โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ ¶ . อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาวฏฺฏภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. อาวฏฺฏภยนฺติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาวฏฺฏภยํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สุสุกาภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ! โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ วา นิคมํ ¶ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ ¶ อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย วาจาย อรกฺขิเตน จิตฺเตน อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ. โส ตตฺถ ปสฺสติ มาตุคามํ ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา. ตสฺส มาตุคามํ ทิสฺวา ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุสุกาภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. สุสุกาภยนฺติ โข, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺเสตํ อธิวจนํ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุสุกาภยํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานิ อิเธกจฺจสฺส กุลปุตฺตสฺส อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตสฺส ปาฏิกงฺขิตพฺพานี’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปมนานากรณสุตฺตํ
๑๒๓. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ¶ จตฺตาโร? [กถา. ๖๗๑ อาทโย] อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. พฺรหฺมกายิกานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ กปฺโป อายุปฺปมาณํ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติ. ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ ¶ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมึเยว ภเว ปรินิพฺพายติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติ [ยทิทํ จุติยา อุปปตฺติยา จาติ (ก.) อ. นิ. ๓.๑๑๗ ปสฺสิตพฺพํ].
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี ¶ อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน อาภสฺสรานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อาภสฺสรานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ ทฺเว กปฺปา อายุปฺปมาณํ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติ. ภควโต ปน ¶ สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมึเยว ภเว ปรินิพฺพายติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน, กาลํ กุรุมาโน สุภกิณฺหานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. สุภกิณฺหานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ จตฺตาโร กปฺปา อายุปฺปมาณํ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติ. ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมึเยว ภเว ปรินิพฺพายติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว ¶ โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ ¶ อาปชฺชติ. ตตฺถ ิโต ¶ ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน เวหปฺผลานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. เวหปฺผลานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ ปฺจ กปฺปสตานิ อายุปฺปมาณํ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ ¶ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติ. ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมึเยว ภเว ปรินิพฺพายติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ตติยํ.
๔. ทุติยนานากรณสุตฺตํ
๑๒๔. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุทฺธาวาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ, ภิกฺขเว, อุปปตฺติ อสาธารณา ปุถุชฺชเนหิ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุทฺธาวาสานํ ¶ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ, ภิกฺขเว, อุปปตฺติ อสาธารณา ปุถุชฺชเนหิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ปมเมตฺตาสุตฺตํ
๑๒๕. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ¶ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ ¶ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. พฺรหฺมกายิกานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ กปฺโป อายุปฺปมาณํ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติ. ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมึเยว ภเว ปรินิพฺพายติ. อยํ โข ¶ , ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… ¶ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน อาภสฺสรานํ [สฺยามโปตฺถเก ปน กรุณาทโย ตโย วิหารา อาภสฺสราทีหิ ตีหิ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา ปริปุณฺณเมว ทสฺสิตํ] เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อาภสฺสรานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ ทฺเว กปฺปา อายุปฺปมาณํ…เป… สุภกิณฺหานํ [สฺยามโปตฺถเก ปน กรุณาทโย ตโย วิหารา อาภสฺสราทีหิ ตีหิ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา ปริปุณฺณเมว ทสฺสิตํ] เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. สุภกิณฺหานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ จตฺตาโร กปฺปา อายุปฺปมาณํ…เป… เวหปฺผลานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. เวหปฺผลานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ ¶ ปฺจ กปฺปสตานิ อายุปฺปมาณํ. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ยาวตายุกํ ตฺวา ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉติ ติรจฺฉานโยนิมฺปิ คจฺฉติ เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉติ. ภควโต ปน สาวโก ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ¶ ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา ตสฺมึเยว ภเว ปรินิพฺพายติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส ¶ อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนน, ยทิทํ คติยา อุปปตฺติยา สติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยเมตฺตาสุตฺตํ
๑๒๖. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุทฺธาวาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ, ภิกฺขเว, อุปปตฺติ อสาธารณา ปุถุชฺชเนหิ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กรุณา…เป… มุทิตา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ ¶ . โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุทฺธาวาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ, ภิกฺขเว, อุปปตฺติ อสาธารณา ปุถุชฺชเนหิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ฉฏฺํ.
๗. ปมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตํ
๑๒๗. ‘‘ตถาคตสฺส ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา [อพฺภุตธมฺมา (สฺยา. กํ. ก.)] ปาตุภวนฺติ. กตเม จตฺตาโร? ยทา, ภิกฺขเว, โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา ยตฺถปิเมสํ [ยตฺถิเมสํ (สี. สฺยา. กํ.)] จนฺทิมสูริยานํ เอวํมหิทฺธิกานํ เอวํมหานุภาวานํ อาภา นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. ตถาคตสฺส ¶ , ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อยํ ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม [อพฺภุตธมฺโม (สฺยา. กํ. ก.)] ปาตุภวติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา ยตฺถปิเมสํ จนฺทิมสูริยานํ เอวํมหิทฺธิกานํ เอวํมหานุภาวานํ อาภา นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ¶ ปาตุภาวา อยํ ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปาตุภวติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ¶ ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา ยตฺถปิเมสํ จนฺทิมสูริยานํ เอวํมหิทฺธิกานํ เอวํมหานุภาวานํ อาภา นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ ¶ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อยํ ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปาตุภวติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา ยตฺถปิเมสํ จนฺทิมสูริยานํ เอวํมหิทฺธิกานํ เอวํมหานุภาวานํ อาภา นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อยํ จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปาตุภวติ. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อิเม จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา ปาตุภวนฺตี’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ทุติยตถาคตอจฺฉริยสุตฺตํ
๑๒๘. ‘‘ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา ปาตุภวนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อาลยารามา [อาลยรามา (อฺสุตฺเตสุ)], ภิกฺขเว, ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา; สา ตถาคเตน อนาลเย ธมฺเม เทสิยมาเน สุสฺสูสติ โสตํ โอทหติ อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปติ ¶ . ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อยํ ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปาตุภวติ.
‘‘มานารามา ¶ , ภิกฺขเว, ปชา มานรตา มานสมฺมุทิตา. สา ¶ ตถาคเตน มานวินเย ธมฺเม เทสิยมาเน สุสฺสูสติ โสตํ โอทหติ อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปติ. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อยํ ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปาตุภวติ.
‘‘อนุปสมารามา, ภิกฺขเว, ปชา อนุปสมรตา อนุปสมสมฺมุทิตา. สา ตถาคเตน โอปสมิเก ธมฺเม เทสิยมาเน สุสฺสูสติ โสตํ โอทหติ อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปติ. ตถาคตสฺส ¶ , ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อยํ ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปาตุภวติ.
‘‘อวิชฺชาคตา, ภิกฺขเว, ปชา อณฺฑภูตา ปริโยนทฺธา. สา ตถาคเตน อวิชฺชาวินเย ธมฺเม เทสิยมาเน สุสฺสูสติ โสตํ โอทหติ อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปติ. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อยํ จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปาตุภวติ. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาวา อิเม จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา ปาตุภวนฺตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. อานนฺทอจฺฉริยสุตฺตํ
๑๒๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท. กตเม จตฺตาโร? สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิปริสา อานนฺทํ ¶ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺถ เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อุปาสกปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ ¶ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสกปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติ. นวมํ.
๑๐. จกฺกวตฺติอจฺฉริยสุตฺตํ
๑๓๐. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา รฺเ จกฺกวตฺติมฺหิ. กตเม จตฺตาโร? สเจ, ภิกฺขเว, ขตฺติยปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ขตฺติยปริสา โหติ, อถ ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี ภวติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณปริสา โหติ, อถ ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี ภวติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, คหปติปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา ¶ โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, คหปติปริสา โหติ, อถ ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี ภวติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สมณปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, สมณปริสา โหติ, อถ ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี ภวติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา รฺเ จกฺกวตฺติมฺหิ.
‘‘เอวเมวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร [จตฺตาโรเม (ก.)] อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท. กตเม จตฺตาโร? สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิปริสา…เป… สเจ, ภิกฺขเว, อุปาสกปริสา…เป… สเจ ¶ , ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติ. ทสมํ.
ภยวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
อตฺตานุวาทอูมิ จ, ทฺเว จ นานา ทฺเว จ โหนฺติ;
เมตฺตา ทฺเว จ อจฺฉริยา, อปรา จ ตถา ทุเวติ.
(๑๔) ๔. ปุคฺคลวคฺโค
๑. สํโยชนสุตฺตํ
๑๓๑. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ.
‘‘อิธ ¶ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ.
‘‘กตมสฺส, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ? สกทาคามิสฺส. อิมสฺส โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ.
‘‘กตมสฺส ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ¶ อปฺปหีนานิ? อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน. อิมสฺส โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ.
‘‘กตมสฺส, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส. อิมสฺส โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ.
‘‘กตมสฺส, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ? อรหโต. อิมสฺส โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปมํ.
๒. ปฏิภานสุตฺตํ
๑๓๒. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? ยุตฺตปฺปฏิภาโน, โน มุตฺตปฺปฏิภาโน; มุตฺตปฺปฏิภาโน, โน ยุตฺตปฺปฏิภาโน; ยุตฺตปฺปฏิภาโน จ มุตฺตปฺปฏิภาโน จ; เนว ยุตฺตปฺปฏิภาโน น มุตฺตปฺปฏิภาโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ [ปุ. ป. ๑๕๒ อาทโย]. ทุติยํ.
๓. อุคฺฆฏิตฺูสุตฺตํ
๑๓๓. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร ¶ ? อุคฺฆฏิตฺู, วิปฺจิตฺู, เนยฺโย, ปทปรโม – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ [ปุ. ป. ๑๕๒ อาทโย]. ตติยํ.
๔. อุฏฺานผลสุตฺตํ
๑๓๔. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อุฏฺานผลูปชีวี น กมฺมผลูปชีวี, กมฺมผลูปชีวี น อุฏฺานผลูปชีวี, อุฏฺานผลูปชีวี เจว กมฺมผลูปชีวี จ, เนว อุฏฺานผลูปชีวี น กมฺมผลูปชีวี – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ [ปุ. ป. ๑๖๗]. จตุตฺถํ.
๕. สาวชฺชสุตฺตํ
๑๓๕. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา [ปุ. ป. ๑๔๔ อาทโย] สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สาวชฺโช, วชฺชพหุโล, อปฺปวชฺโช, อนวชฺโช.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สาวชฺโช โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สาวชฺเชน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, สาวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, สาวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สาวชฺโช โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วชฺชพหุโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สาวชฺเชน พหุลํ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อปฺปํ อนวชฺเชน; สาวชฺเชน พหุลํ วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อปฺปํ อนวชฺเชน; สาวชฺเชน พหุลํ มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อปฺปํ อนวชฺเชน. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล วชฺชพหุโล โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปวชฺโช โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อนวชฺเชน พหุลํ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต ¶ โหติ, อปฺปํ สาวชฺเชน; อนวชฺเชน พหุลํ วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อปฺปํ สาวชฺเชน; อนวชฺเชน พหุลํ มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อปฺปํ สาวชฺเชน. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อปฺปวชฺโช โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนวชฺโช โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อนวชฺเชน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนวชฺโช โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. ปมสีลสุตฺตํ
๑๓๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ น ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ น ปริปูรการี, ปฺาย น ปริปูรการี.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ น ปริปูรการี, ปฺาย น ปริปูรการี.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย น ปริปูรการี.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย ปริปูรการี. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ฉฏฺํ.
๗. ทุติยสีลสุตฺตํ
๑๓๗. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล น สีลครุ โหติ น สีลาธิปเตยฺโย, น สมาธิครุ โหติ น สมาธาธิปเตยฺโย, น ¶ ปฺาครุ โหติ น ปฺาธิปเตยฺโย.
‘‘อิธ ¶ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลครุ โหติ สีลาธิปเตยฺโย, น สมาธิครุ โหติ น สมาธาธิปเตยฺโย, น ปฺาครุ โหติ น ปฺาธิปเตยฺโย.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลครุ โหติ สีลาธิปเตยฺโย, สมาธิครุ โหติ สมาธาธิปเตยฺโย, น ปฺาครุ โหติ น ปฺาธิปเตยฺโย.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลครุ โหติ สีลาธิปเตยฺโย, สมาธิครุ โหติ สมาธาธิปเตยฺโย, ปฺาครุ โหติ ปฺาธิปเตยฺโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. นิกฏฺสุตฺตํ
๑๓๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? นิกฏฺกาโย อนิกฏฺจิตฺโต, อนิกฏฺกาโย นิกฏฺจิตฺโต, อนิกฏฺกาโย จ อนิกฏฺจิตฺโต จ, นิกฏฺกาโย จ นิกฏฺจิตฺโต จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล นิกฏฺกาโย โหติ อนิกฏฺจิตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อรฺวนปตฺถานิ [อรฺเ วนปตฺถานิ (สี. ปี.)] ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวติ. โส ตตฺถ กามวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ พฺยาปาทวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ วิหึสาวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล นิกฏฺกาโย โหติ อนิกฏฺจิตฺโต.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนิกฏฺกาโย โหติ นิกฏฺจิตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นเหว โข อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวติ. โส ตตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ อพฺยาปาทวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ อวิหึสาวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนิกฏฺกาโย โหติ ¶ นิกฏฺจิตฺโต.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนิกฏฺกาโย จ โหติ อนิกฏฺจิตฺโต จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นเหว โข อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ¶ ปฏิเสวติ ¶ . โส ¶ ตตฺถ กามวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ พฺยาปาทวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ วิหึสาวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อนิกฏฺกาโย จ โหติ อนิกฏฺจิตฺโต จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล นิกฏฺกาโย จ โหติ นิกฏฺจิตฺโต จ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวติ. โส ตตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ อพฺยาปาทวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ อวิหึสาวิตกฺกมฺปิ วิตกฺเกติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล นิกฏฺกาโย จ โหติ นิกฏฺจิตฺโต จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. ธมฺมกถิกสุตฺตํ
๑๓๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ธมฺมกถิกา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ธมฺมกถิโก อปฺปฺจ ภาสติ อสหิตฺจ; ปริสา จสฺส [ปริสา จ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ปุ. ป. ๑๕๖] น กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ธมฺมกถิโก อปฺปฺจ ภาสติ สหิตฺจ; ปริสา จสฺส กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ธมฺมกถิโก พหฺุจ ภาสติ อสหิตฺจ; ปริสา จสฺส น กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ธมฺมกถิโก พหฺุจ ¶ ภาสติ สหิตฺจ; ปริสา จสฺส กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป, ภิกฺขเว, ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ธมฺมกถิกา’’ติ. นวมํ.
๑๐. วาทีสุตฺตํ
๑๔๐. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, วาที. กตเม จตฺตาโร? อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, วาที อตฺถโต ปริยาทานํ คจฺฉติ, โน พฺยฺชนโต; อตฺถิ, ภิกฺขเว, วาที พฺยฺชนโต ¶ ปริยาทานํ คจฺฉติ, โน อตฺถโต; อตฺถิ, ภิกฺขเว, วาที อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ ปริยาทานํ คจฺฉติ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, วาที เนวตฺถโต โน พฺยฺชนโต ปริยาทานํ คจฺฉติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วาที. อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ จตูหิ ปฏิสมฺภิทาหิ สมนฺนาคโต [สมนฺนาคโต ภิกฺขุ (สี. สฺยา. กํ.)] อตฺถโต วา พฺยฺชนโต วา ปริยาทานํ คจฺเฉยฺยา’’ติ. ทสมํ.
ปุคฺคลวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
สํโยชนํ ปฏิภาโน, อุคฺฆฏิตฺุ อุฏฺานํ;
สาวชฺโช ทฺเว จ สีลานิ, นิกฏฺ ธมฺม วาที จาติ.
(๑๕) ๕. อาภาวคฺโค
๑. อาภาสุตฺตํ
๑๔๑. ‘‘จตสฺโส ¶ อิมา, ภิกฺขเว, อาภา. กตมา จตสฺโส? จนฺทาภา, สูริยาภา, อคฺคาภา, ปฺาภา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส อาภา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ จตุนฺนํ [จตสฺสนฺนํ (สฺยา. กํ.) สทฺทนีติปทมาลา ปสฺสิตพฺพา] อาภานํ ยทิทํ ปฺาภา’’ติ. ปมํ.
๒. ปภาสุตฺตํ
๑๔๒. ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ปภา. กตมา จตสฺโส? จนฺทปฺปภา ¶ , สูริยปฺปภา, อคฺคิปฺปภา, ปฺาปภา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปภา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ จตุนฺนํ ปภานํ ยทิทํ ปฺาปภา’’ติ. ทุติยํ.
๓. อาโลกสุตฺตํ
๑๔๓. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาโลกา. กตเม จตฺตาโร? จนฺทาโลโก, สูริยาโลโก, อคฺคาโลโก, ปฺาโลโก – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาโลกา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ จตุนฺนํ อาโลกานํ ยทิทํ ปฺาโลโก’’ติ. ตติยํ.
๔. โอภาสสุตฺตํ
๑๔๔. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, โอภาสา. กตเม จตฺตาโร? จนฺโทภาโส, สูริโยภาโส, อคฺโคภาโส, ปฺโภาโส – อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร โอภาสา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ จตุนฺนํ โอภาสานํ ยทิทํ ปฺโภาโส’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปชฺโชตสุตฺตํ
๑๔๕. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปชฺโชตา. กตเม จตฺตาโร? จนฺทปชฺโชโต, สูริยปชฺโชโต, อคฺคิปชฺโชโต, ปฺาปชฺโชโต – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปชฺโชตา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ จตุนฺนํ ปชฺโชตานํ ยทิทํ ปฺาปชฺโชโต’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ปมกาลสุตฺตํ
๑๔๖. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, กาลา. กตเม จตฺตาโร? กาเลน ธมฺมสฺสวนํ, กาเลน ธมฺมสากจฺฉา, กาเลน สมฺมสนา [กาเลน สมโถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], กาเลน วิปสฺสนา – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร กาลา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ทุติยกาลสุตฺตํ
๑๔๗. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, กาลา สมฺมา ภาวิยมานา สมฺมา อนุปริวตฺติยมานา อนุปุพฺเพน อาสวานํ ขยํ ปาเปนฺติ. กตเม จตฺตาโร? กาเลน ธมฺมสฺสวนํ, กาเลน ธมฺมสากจฺฉา, กาเลน สมฺมสนา, กาเลน วิปสฺสนา ¶ – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร กาลา สมฺมา ภาวิยมานา สมฺมา อนุปริวตฺติยมานา อนุปุพฺเพน อาสวานํ ขยํ ปาเปนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรติ; ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูรา กุโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ; กุโสพฺภา ปริปูรา มหาโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ; มหาโสพฺภา ปริปูรา กุนฺนทิโย ปริปูเรนฺติ; กุนฺนทิโย ¶ ปริปูรา มหานทิโย ปริปูเรนฺติ; มหานทิโย ปริปูรา สมุทฺทํ [สมุทฺทํ สาครํ (สี. ปี. ก.), สมุทฺทสาครํ (สฺยา. กํ.)] ปริปูเรนฺติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร กาลา สมฺมา ภาวิยมานา สมฺมา อนุปริวตฺติยมานา อนุปุพฺเพน อาสวานํ ขยํ ปาเปนฺตี’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ทุจฺจริตสุตฺตํ
๑๔๘. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, วจีทุจฺจริตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ วจีทุจฺจริตานี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. สุจริตสุตฺตํ
๑๔๙. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, วจีสุจริตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สจฺจวาจา, อปิสุณา วาจา, สณฺหา วาจา, มนฺตภาสา – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ วจีสุจริตานี’’ติ. นวมํ.
๑๐. สารสุตฺตํ
๑๕๐. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, สารา. กตเม จตฺตาโร? สีลสาโร, สมาธิสาโร, ปฺาสาโร, วิมุตฺติสาโร – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สารา’’ติ. ทสมํ.
อาภาวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อาภา ปภา จ อาโลกา, โอภาสา เจว ปชฺโชตา;
ทฺเว กาลา จริตา ทฺเว จ, โหนฺติ สาเรน เต ทสาติ.
ตติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๔. จตุตฺถปณฺณาสกํ
(๑๖) ๑. อินฺทฺริยวคฺโค
๑. อินฺทฺริยสุตฺตํ
๑๕๑. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อินฺทฺริยานี’’ติ. ปมํ.
๒. สทฺธาพลสุตฺตํ
๑๕๒. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปฺาพลสุตฺตํ
๑๕๓. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปฺาพลํ, วีริยพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคหพลํ [สงฺคาหพลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. ตติยํ.
๔. สติพลสุตฺตํ
๑๕๔. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สติพลํ, สมาธิพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคหพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปฏิสงฺขานพลสุตฺตํ
๑๕๕. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปฏิสงฺขานพลํ, ภาวนาพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคหพลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. กปฺปสุตฺตํ
๑๕๖. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป สํวฏฺฏติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ ¶ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา.
‘‘ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป สํวฏฺโฏ ติฏฺติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา.
‘‘ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป วิวฏฺฏติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา.
‘‘ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป วิวฏฺโฏ ติฏฺติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ – เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา, เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. โรคสุตฺตํ
๑๕๗. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, โรคา. กตเม ทฺเว? กายิโก ¶ จ โรโค เจตสิโก จ โรโค. ทิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา กายิเกน โรเคน เอกมฺปิ วสฺสํ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ทฺเวปิ ¶ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ตีณิปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, จตฺตาริปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ปฺจปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ทสปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, วีสติปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ตึสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, จตฺตารีสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, ปฺาสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา, วสฺสสตมฺปิ, ภิยฺโยปิ อาโรคฺยํ ปฏิชานมานา ¶ . เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุทุลฺลภา [ทุลฺลภา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โลกสฺมึ เย เจตสิเกน โรเคน มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฏิชานนฺติ, อฺตฺร ขีณาสเวหิ.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส โรคา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิจฺโฉ โหติ วิฆาตวา อสนฺตุฏฺโ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. โส มหิจฺโฉ สมาโน วิฆาตวา อสนฺตุฏฺโ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย. โส อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย. โส สงฺขาย กุลานิ อุปสงฺกมติ, สงฺขาย นิสีทติ, สงฺขาย ธมฺมํ ภาสติ, สงฺขาย อุจฺจารปสฺสาวํ สนฺธาเรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปพฺพชิตสฺส โรคา.
‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น มหิจฺฉา ภวิสฺสาม วิฆาตวนฺโต อสนฺตุฏฺา อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, น ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหิสฺสาม อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย, น อุฏฺหิสฺสาม น ฆเฏสฺสาม น วายมิสฺสาม อนวฺปฺปฏิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิลาภาย, ขมา ภวิสฺสาม สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติกา ภวิสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว ¶ , สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. ปริหานิสุตฺตํ
๑๕๘. ตตฺร ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ ¶ . ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. ปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา. กตเม จตฺตาโร? ราคเวปุลฺลตฺตํ [ราคเวปุลฺลตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], โทสเวปุลฺลตฺตํ, โมหเวปุลฺลตฺตํ, คมฺภีเรสุ โข ปนสฺส านาาเนสุ ปฺาจกฺขุ ¶ น กมติ. โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อิเม จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. ปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา.
‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘น ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. อปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา. กตเม จตฺตาโร? ราคตนุตฺตํ [ราคตนุตฺตนํ (ก.)], โทสตนุตฺตํ, โมหตนุตฺตํ, คมฺภีเรสุ โข ปนสฺส านาาเนสุ ปฺาจกฺขุ กมติ. โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อิเม จตฺตาโร ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘น ปริหายามิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ’. อปริหานเมตํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ภิกฺขุนีสุตฺตํ
๑๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม ¶ . อถ โข อฺตรา ภิกฺขุนี อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยนยฺโย อานนฺโท เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน อยฺยสฺส อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺท – ‘อิตฺถนฺนามา, ภนฺเต, ภิกฺขุนี อาพาธิกินี ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. สา อยฺยสฺส อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร, ภนฺเต, อยฺโย อานนฺโท เยน ภิกฺขุนุปสฺสโย เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข โส ปุริโส ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ¶ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –
‘‘อิตฺถนฺนามา, ภนฺเต, ภิกฺขุนี อาพาธิกินี ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. สา อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, เอวฺจ วเทติ – ‘สาธุ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท เยน ภิกฺขุนุปสฺสโย เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ. อธิวาเสสิ โข อายสฺมา อานนฺโท ตุณฺหีภาเวน.
อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ภิกฺขุนุปสฺสโย เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข สา ภิกฺขุนี อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน สา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท ตํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจ –
‘‘อาหารสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย อาหารํ นิสฺสาย. อาหาโร ปหาตพฺโพ. ตณฺหาสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย ตณฺหํ นิสฺสาย. ตณฺหา ปหาตพฺพา. มานสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย มานํ นิสฺสาย. มาโน ปหาตพฺโพ. เมถุนสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย. เมถุเน จ เสตุฆาโต วุตฺโต ภควตา.
‘‘‘อาหารสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย อาหารํ นิสฺสาย. อาหาโร ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภคินิ, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย. อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ. ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติ. โส อปเรน สมเยน อาหารํ นิสฺสาย อาหารํ ปชหติ. ‘อาหารสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย อาหารํ นิสฺสาย. อาหาโร ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ตณฺหาสมฺภูโต ¶ อยํ, ภคินิ, กาโย ตณฺหํ นิสฺสาย. ตณฺหา ปหาตพฺพา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ ¶ วุตฺตํ? อิธ, ภคินิ, ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กุทาสฺสุ นาม อหมฺปิ ¶ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’ติ! โส อปเรน สมเยน ตณฺหํ นิสฺสาย ตณฺหํ ปชหติ. ‘ตณฺหาสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย ตณฺหํ นิสฺสาย. ตณฺหา ปหาตพฺพา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘มานสมฺภูโต ¶ อยํ, ภคินิ, กาโย มานํ นิสฺสาย. มาโน ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภคินิ, ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘โส หิ นาม อายสฺมา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ; กิมงฺคํ [กิมงฺค (สี. ปี.) อ. นิ. ๕.๑๘๐; จูฬว. ๓๓๑; สํ. นิ. ๕.๑๐๒๐] ปนาห’นฺติ! โส อปเรน สมเยน มานํ นิสฺสาย มานํ ปชหติ. ‘มานสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย มานํ นิสฺสาย. มาโน ปหาตพฺโพ’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘เมถุนสมฺภูโต อยํ, ภคินิ, กาโย. เมถุเน จ เสตุฆาโต วุตฺโต ภควตา’’ติ.
อถ โข สา ภิกฺขุนี มฺจกา วุฏฺหิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา, ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยาหํ เอวมกาสึ. ตสฺสา เม, ภนฺเต, อยฺโย อานนฺโท อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ, อายตึ ¶ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตํ [ตคฺฆ ตฺวํ (สี. ปี. ก.)], ภคินิ, อจฺจโย อจฺจคมา, ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยา ตฺวํ เอวมกาสิ. ยโต จ โข ตฺวํ, ภคินิ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุทฺธิ เหสา, ภคินิ, อริยสฺส วินเย โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. สุคตวินยสุตฺตํ
๑๖๐. ‘‘สุคโต ¶ ¶ วา, ภิกฺขเว, โลเก ติฏฺมาโน สุคตวินโย วา ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สุคโต? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ¶ ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. อยํ, ภิกฺขเว, สุคโต.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สุคตวินโย? โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, สุคตวินโย. เอวํ สุคโต วา, ภิกฺขเว, โลเก ติฏฺมาโน สุคตวินโย วา ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานนฺติ.
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทุคฺคหิตํ สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณนฺติ ทุนฺนิกฺขิตฺเตหิ ปทพฺยฺชเนหิ. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส ¶ อตฺโถปิ ทุนฺนโย โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทุพฺพจา โหนฺติ โทวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อกฺขมา อปฺปทกฺขิณคฺคาหิโน อนุสาสนึ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต น สกฺกจฺจํ สุตฺตนฺตํ ปรํ วาเจนฺติ. เตสํ อจฺจเยน ฉินฺนมูลโก สุตฺตนฺโต โหติ อปฺปฏิสรโณ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, เถรา ภิกฺขู พาหุลิกา โหนฺติ ¶ สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. สาปิ โหติ พาหุลิกา สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สมฺโมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สุคฺคหิตํ สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณนฺติ สุนิกฺขิตฺเตหิ ปทพฺยฺชเนหิ. สุนิกฺขิตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ สุนโย ¶ โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สุวจา โหนฺติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ขมา ปทกฺขิณคฺคาหิโน อนุสาสนึ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต สกฺกจฺจํ สุตฺตนฺตํ ปรํ วาเจนฺติ. เตสํ อจฺจเยน นจฺฉินฺนมูลโก [อจฺฉินฺนมูลโก (สฺยา. กํ.) อ. นิ. ๕.๑๕๖] สุตฺตนฺโต โหติ สปฺปฏิสรโณ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, เถรา ภิกฺขู น พาหุลิกา โหนฺติ น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เตสํ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. สาปิ โหติ น พาหุลิกา น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย ¶ . อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ธมฺโม สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตติ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทสมํ.
อินฺทฺริยวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อินฺทฺริยานิ สทฺธา ปฺา, สติ สงฺขานปฺจมํ;
กปฺโป โรโค ปริหานิ, ภิกฺขุนี สุคเตน จาติ.
(๑๗) ๒. ปฏิปทาวคฺโค
๑. สํขิตฺตสุตฺตํ
๑๖๑. ‘‘จตสฺโส ¶ ¶ ¶ อิมา, ภิกฺขเว, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ. ปมํ.
๒. วิตฺถารสุตฺตํ
๑๖๒. ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปกติยาปิ ติพฺพราคชาติโก โหติ, อภิกฺขณํ ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ ติพฺพโทสชาติโก โหติ, อภิกฺขณํ โทสชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ ติพฺพโมหชาติโก โหติ, อภิกฺขณํ โมหชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ มุทูนิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ มุทุตฺตา ทนฺธํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปกติยาปิ ติพฺพราคชาติโก โหติ, อภิกฺขณํ ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ ติพฺพโทสชาติโก โหติ, อภิกฺขณํ โทสชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ ติพฺพโมหชาติโก โหติ ¶ , อภิกฺขณํ โมหชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ตสฺสิมานิ ¶ ปฺจินฺทฺริยานิ อธิมตฺตานิ ¶ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตฺตา ขิปฺปํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปกติยาปิ น ติพฺพราคชาติโก โหติ, นาภิกฺขณํ ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ¶ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ น ติพฺพโทสชาติโก โหติ, นาภิกฺขณํ โทสชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ น ติพฺพโมหชาติโก โหติ, นาภิกฺขณํ โมหชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ มุทูนิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ มุทุตฺตา ทนฺธํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปกติยาปิ น ติพฺพราคชาติโก โหติ, นาภิกฺขณํ ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ น ติพฺพโทสชาติโก โหติ, นาภิกฺขณํ โทสชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปกติยาปิ น ติพฺพโมหชาติโก โหติ, นาภิกฺขณํ โมหชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อธิมตฺตานิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ ¶ . โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตฺตา ขิปฺปํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ. ทุติยํ.
๓. อสุภสุตฺตํ
๑๖๓. ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสุภานุปสฺสี ¶ กาเย วิหรติ, อาหาเร ปฏิกูลสฺี [ปฏิกฺกูลสฺี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สพฺพโลเก อนภิรติสฺี [อนภิรตสฺี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี; มรณสฺา โข ปนสฺส อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตา โหติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ [เสกฺขพลานิ (สฺยา. กํ.)] อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ ¶ , ปฺาพลํ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ มุทูนิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ มุทุตฺตา ทนฺธํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา.
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรติ, อาหาเร ปฏิกูลสฺี, สพฺพโลเก อนภิรติสฺี, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี; มรณสฺา โข ปนสฺส อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตา โหติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ…เป… ปฺาพลํ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อธิมตฺตานิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ¶ ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตฺตา ขิปฺปํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา? อิธ ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ…เป… ปฺาพลํ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ มุทูนิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ มุทุตฺตา ทนฺธํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา.
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา? [กถา. ๘๑๕ อาทโย] อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ¶ ตติยํ ฌานํ…เป… ¶ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อธิมตฺตานิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตฺตา ขิปฺปํ อานนฺตริยํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยาย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ. ตติยํ.
๔. ปมขมสุตฺตํ
๑๖๔. ‘‘จตสฺโส ¶ อิมา, ภิกฺขเว, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? อกฺขมา ปฏิปทา, ขมา ปฏิปทา, ทมา ปฏิปทา, สมา ปฏิปทา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อกฺขมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ [เอกจฺโจ ปุคฺคโล (สี. สฺยา. กํ.)] อกฺโกสนฺตํ ปจฺจกฺโกสติ, โรสนฺตํ ปฏิโรสติ, ภณฺฑนฺตํ ปฏิภณฺฑติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อกฺขมา ปฏิปทา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ขมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อกฺโกสนฺตํ น ปจฺจกฺโกสติ, โรสนฺตํ น ปฏิโรสติ, ภณฺฑนฺตํ น ปฏิภณฺฑติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ขมา ปฏิปทา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ทมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ¶ ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ; จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน ¶ คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ ¶ ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ; มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทมา ปฏิปทา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ สเมติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ; อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ สเมติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมา ปฏิปทา. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ทุติยขมสุตฺตํ
๑๖๕. ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? อกฺขมา ปฏิปทา, ขมา ปฏิปทา, ทมา ปฏิปทา, สมา ปฏิปทา.
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, อกฺขมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อกฺขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อนธิวาสกชาติโก โหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อกฺขมา ปฏิปทา ¶ .
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ขมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ขมา ปฏิปทา.
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, ทมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ…เป… โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ; มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทมา ปฏิปทา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมา ปฏิปทา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ สเมติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ สเมติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. อยํ ¶ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมา ปฏิปทา. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อุภยสุตฺตํ
๑๖๖. ‘‘จตสฺโส ¶ อิมา, ภิกฺขเว, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา.
‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ทนฺธาภิฺา, อยํ, ภิกฺขเว, ปฏิปทา อุภเยเนว หีนา อกฺขายติ. ยมฺปายํ ปฏิปทา ทุกฺขา, อิมินาปายํ หีนา อกฺขายติ; ยมฺปายํ ปฏิปทา ทนฺธา, อิมินาปายํ หีนา อกฺขายติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฏิปทา อุภเยเนว หีนา อกฺขายติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ขิปฺปาภิฺา, อยํ, ภิกฺขเว, ปฏิปทา ทุกฺขตฺตา หีนา อกฺขายติ.
‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ยายํ ปฏิปทา สุขา ทนฺธาภิฺา, อยํ, ภิกฺขเว, ปฏิปทา ทนฺธตฺตา หีนา อกฺขายติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยายํ ปฏิปทา สุขา ขิปฺปาภิฺา, อยํ, ภิกฺขเว, ปฏิปทา อุภเยเนว ปณีตา อกฺขายติ. ยมฺปายํ ปฏิปทา สุขา, อิมินาปายํ ปณีตา อกฺขายติ; ยมฺปายํ ปฏิปทา ขิปฺปา, อิมินาปายํ ปณีตา อกฺขายติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฏิปทา อุภเยเนว ปณีตา อกฺขายติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตํ
๑๖๗. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหาโมคฺคลฺลาเนน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ –
‘‘จตสฺโส อิมา, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. อิมา โข, อาวุโส, จตสฺโส ปฏิปทา ¶ . อิมาสํ, อาวุโส, จตุนฺนํ ปฏิปทานํ [จตสฺสนฺนํ ปฏิปทานํ (สี. สฺยา. กํ.)] กตมํ เต ปฏิปทํ อาคมฺม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ?
‘‘จตสฺโส ¶ อิมา, อาวุโส สาริปุตฺต, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. อิมา โข, อาวุโส, จตสฺโส ปฏิปทา ¶ . อิมาสํ, อาวุโส, จตุนฺนํ ปฏิปทานํ ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ขิปฺปาภิฺา, อิมํ เม ปฏิปทํ อาคมฺม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. สาริปุตฺตสุตฺตํ
๑๖๘. อถ ¶ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘จตสฺโส อิมา, อาวุโส สาริปุตฺต, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. อิมา โข, อาวุโส, จตสฺโส ปฏิปทา. อิมาสํ, อาวุโส, จตุนฺนํ ปฏิปทานํ ¶ กตมํ เต ปฏิปทํ อาคมฺม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ?
‘‘จตสฺโส อิมา, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. อิมา โข, อาวุโส, จตสฺโส ปฏิปทา. อิมาสํ, อาวุโส, จตุนฺนํ ปฏิปทานํ ยายํ ปฏิปทา สุขา ขิปฺปาภิฺา, อิมํ เม ปฏิปทํ อาคมฺม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. สสงฺขารสุตฺตํ
๑๖๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทิฏฺเว ธมฺเม สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล กายสฺส เภทา สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทิฏฺเว ธมฺเม อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล กายสฺส เภทา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทิฏฺเว ธมฺเม สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรติ, อาหาเร ปฏิกูลสฺี, สพฺพโลเก อนภิรติสฺี, สพฺพสงฺขาเรสุ ¶ อนิจฺจานุปสฺสี. มรณสฺา ¶ โข ปนสฺส อชฺฌตฺตํ ¶ สูปฏฺิตา โหติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ ¶ . ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อธิมตฺตานิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทิฏฺเว ธมฺเม สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กายสฺส เภทา สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรติ, อาหาเร ปฏิกูลสฺี, สพฺพโลเก อนภิรติสฺี, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี. มรณสฺา โข ปนสฺส อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตา โหติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ มุทูนิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ มุทุตฺตา กายสฺส เภทา สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กายสฺส เภทา สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทิฏฺเว ธมฺเม อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ…เป… ¶ ปฺาพลํ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อธิมตฺตานิ ปาตุภวนฺติ – สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทิฏฺเว ธมฺเม อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กายสฺส เภทา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมานิ ปฺจ เสขพลานิ อุปนิสฺสาย วิหรติ – สทฺธาพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, วีริยพลํ, ปฺาพลํ. ตสฺสิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ…เป… ปฺินฺทฺริยํ. โส อิเมสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ มุทุตฺตา กายสฺส เภทา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กายสฺส เภทา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. ยุคนทฺธสุตฺตํ
๑๗๐. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. ตตฺร โข อายสฺมา อานนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา ¶ อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘โย ¶ หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา มม สนฺติเก อรหตฺตปฺปตฺตึ [อรหตฺตปฺปตฺตํ (ก.) ปฏิ. ม. ๒.๑ ปฏิสมฺภิทามคฺเคปิ] พฺยากโรติ, สพฺโพ โส จตูหิ มคฺเคหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน.
‘‘กตเมหิ จตูหิ? อิธ, อาวุโส, ภิกฺขุ สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวติ. ตสฺส สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาวยโต มคฺโค สฺชายติ. โส ตํ มคฺคํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ. ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต ภาวยโต พหุลีกโรโต สํโยชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวติ. ตสฺส วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาวยโต มคฺโค สฺชายติ. โส ตํ มคฺคํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ ¶ . ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต ภาวยโต พหุลีกโรโต สํโยชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวติ. ตสฺส สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาวยโต มคฺโค สฺชายติ. โส ตํ มคฺคํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ. ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต ภาวยโต พหุลีกโรโต สํโยชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหติ. โหติ โส, อาวุโส, สมโย ยํ ตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตเมว สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ. ตสฺส มคฺโค สฺชายติ. โส ตํ มคฺคํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ. ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต ภาวยโต ¶ พหุลีกโรโต สํโยชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ.
‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา มม สนฺติเก อรหตฺตปฺปตฺตึ ¶ พฺยากโรติ, สพฺโพ โส อิเมหิ จตูหิ มคฺเคหิ, เอเตสํ วา อฺตเรนา’’ติ. ทสมํ.
ปฏิปทาวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
สํขิตฺตํ วิตฺถาราสุภํ, ทฺเว ขมา อุภเยน จ;
โมคฺคลฺลาโน สาริปุตฺโต, สสงฺขารํ ยุคนทฺเธน จาติ.
(๑๘) ๓. สฺเจตนิยวคฺโค
๑. เจตนาสุตฺตํ
๑๗๑. [กถา. ๕๓๙] ‘‘กาเย ¶ วา, ภิกฺขเว, สติ กายสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ ¶ สุขทุกฺขํ. วาจาย วา, ภิกฺขเว, สติ วจีสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. มเน วา, ภิกฺขเว, สติ มโนสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ อวิชฺชาปจฺจยาว.
‘‘สามํ วา ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. ปเร วาสฺส [ปเร วา ตสฺส (ก.)] ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรนฺติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. สมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ. อสมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ.
‘‘สามํ วา ตํ, ภิกฺขเว, วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; ปเร วาสฺส ตํ, ภิกฺขเว ¶ , วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรนฺติ; ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; สมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, วจีสงฺขารํ ¶ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; อสมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ.
‘‘สามํ วา ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; ปเร วาสฺส ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรนฺติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; สมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; อสมฺปชาโน วา ตํ, ภิกฺขเว, มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ.
‘‘อิเมสุ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อวิชฺชา อนุปติตา, อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา โส กาโย น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, สา วาจา น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, โส มโน น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, เขตฺตํ ตํ [วตฺถุํ ตํ (สพฺพตฺถ)] น โหติ…เป… วตฺถุํ ตํ ¶ น โหติ…เป… อายตนํ ตํ น โหติ…เป… อธิกรณํ ตํ น โหติ ยํปจฺจยาสฺส ตํ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺข’’นฺติ.
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาภา. กตเม จตฺตาโร? อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา กมติ, โน ปรสฺเจตนา. อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ ปรสฺเจตนา กมติ, โน อตฺตสฺเจตนา. อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา จ กมติ ปรสฺเจตนา จ. อตฺถิ, ภิกฺขเว, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ เนวตฺตสฺเจตนา กมติ, โน ปรสฺเจตนา. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อตฺตภาวปฏิลาภา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ – ‘ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา กมติ โน ปรสฺเจตนา, อตฺตสฺเจตนาเหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ¶ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ ปรสฺเจตนา กมติ โน อตฺตสฺเจตนา, ปรสฺเจตนาเหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา จ กมติ ปรสฺเจตนา จ, อตฺตสฺเจตนา จ ปรสฺเจตนา จ เหตุ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา กายา จุติ โหติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ เนว อตฺตสฺเจตนา กมติ โน ปรสฺเจตนา, กตเม เตน เทวา ทฏฺพฺพา’’’ติ? ‘‘เนวสฺานาสฺายตนูปคา, สาริปุตฺต, เทวา เตน ทฏฺพฺพา’’ติ.
‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อาคามิโน ¶ โหนฺติ อาคนฺตาโร อิตฺถตฺตํ? โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ ¶ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อนาคามิโน โหนฺติ อนาคนฺตาโร อิตฺถตฺต’’นฺติ? ‘‘อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ, โส ทิฏฺเว ธมฺเม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อาคามี โหติ อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.
‘‘อิธ ปน, สาริปุตฺต, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ, โส ทิฏฺเว ธมฺเม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; ตตฺถ ิโต ตทธิมุตฺโต ¶ ตพฺพหุลวิหารี อปริหีโน กาลํ กุรุมาโน เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตโต จุโต อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.
‘‘อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อาคามิโน โหนฺติ อาคนฺตาโร อิตฺถตฺตํ. อยํ ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ตมฺหา กายา จุตา อนาคามิโน โหนฺติ อนาคนฺตาโร อิตฺถตฺต’’นฺติ. ปมํ.
๒. วิภตฺติสุตฺตํ
๑๗๒. ตตฺร ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน เม, อาวุโส, อตฺถปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส ¶ มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล.
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน ¶ เม, อาวุโส, ธมฺมปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล.
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน เม, อาวุโส, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล.
‘‘อทฺธมาสูปสมฺปนฺเนน เม, อาวุโส, ปฏิภานปฏิสมฺภิทา สจฺฉิกตา โอธิโส พฺยฺชนโส. ตมหํ อเนกปริยาเยน อาจิกฺขามิ เทเสมิ ปฺาเปมิ ปฏฺเปมิ วิวรามิ วิภชามิ อุตฺตานีกโรมิ. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, โส มํ ปฺเหน. อหํ เวยฺยากรเณน สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา โย โน ธมฺมานํ สุกุสโล’’ติ. ทุติยํ.
๓. มหาโกฏฺิกสุตฺตํ
๑๗๓. อถ ¶ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน ¶ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ ¶ , อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ¶ เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ยถา กถํ ปน, อาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ยาวตา, อาวุโส, ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ ตาวตา ปปฺจสฺส คติ; ยาวตา ปปฺจสฺส คติ ¶ ตาวตา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ. ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปฺจนิโรโธ ปปฺจวูปสโม’’ติ. ตติยํ.
๔. อานนฺทสุตฺตํ
๑๗๔. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา มหาโกฏฺิโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหาโกฏฺิเกน สทฺธึ ¶ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ มหาโกฏฺิกํ เอตทโวจ –
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’’ติ?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’.
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิ ¶ . ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถฺํ กิฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปฺจํ ปปฺเจติ. ยาวตา, อาวุโส, ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ ตาวตา ปปฺจสฺส คติ ¶ . ยาวตา ปปฺจสฺส คติ ตาวตา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ ¶ คติ. ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปฺจนิโรโธ ปปฺจวูปสโม’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อุปวาณสุตฺตํ
๑๗๕. อถ ¶ โข อายสฺมา อุปวาโณ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปวาโณ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชายนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, จรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส ¶ สาริปุตฺต, วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อฺตฺร วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชายนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, จรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อฺตฺร วิชฺชาจรเณนนฺตกโร โหตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. ยถา กถํ ปนาวุโส, อนฺตกโร โหตี’’ติ?
‘‘วิชฺชาย ¶ เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺส. จรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺส. วิชฺชาจรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, สอุปาทาโนว สมาโน อนฺตกโร อภวิสฺส. อฺตฺร วิชฺชาจรเณน เจ, อาวุโส, อนฺตกโร อภวิสฺส, ปุถุชฺชโน อนฺตกโร อภวิสฺส. ปุถุชฺชโน หิ, อาวุโส, อฺตฺร วิชฺชาจรเณน. จรณวิปนฺโน โข, อาวุโส, ยถาภูตํ น ชานาติ น ปสฺสติ. จรณสมฺปนฺโน ยถาภูตํ ¶ ชานาติ ปสฺสติ. ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ อนฺตกโร โหตี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อายาจนสุตฺตํ
๑๗๖. ‘‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิสา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’ติ [อ. นิ. ๒.๑๓๑ อิทํ สุตฺตํ อาคตํ]. เอสา, ภิกฺขเว ¶ ¶ , ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ, ยทิทํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา.
‘‘สทฺธา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสา โหมิ ยาทิสา เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ ภิกฺขุนีนํ, ยทิทํ เขมา จ ภิกฺขุนี อุปฺปลวณฺณา จ.
‘‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, อุปาสโก เอวํ สมฺมา อายาจมาโน อายาเจยฺย – ‘ตาทิโส โหมิ ยาทิโส จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ อุปาสกานํ, ยทิทํ จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก.
‘‘สทฺธา, ภิกฺขเว, อุปาสิกา เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย – ‘ตาทิสา โหมิ ยาทิสา ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’ติ. เอสา, ภิกฺขเว, ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ อุปาสิกานํ, ยทิทํ ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ราหุลสุตฺตํ
๑๗๗. อถ ¶ โข อายสฺมา ราหุโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ราหุลํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยา จ, ราหุล ¶ , อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ ยา จ พาหิรา ปถวีธาตุ, ปถวีธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ปถวีธาตุยา นิพฺพินฺทติ, ปถวีธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ ยา จ พาหิรา อาโปธาตุ ¶ , อาโปธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อาโปธาตุยา นิพฺพินฺทติ, อาโปธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยา ¶ จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ ยา จ พาหิรา เตโชธาตุ, เตโชธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา เตโชธาตุยา นิพฺพินฺทติ, เตโชธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ ยา จ พาหิรา วาโยธาตุ, วาโยธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา วาโยธาตุยา นิพฺพินฺทติ, วาโยธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
‘‘ยโต โข, ราหุล, ภิกฺขุ อิมาสุ จตูสุ ธาตูสุ เนวตฺตานํ น อตฺตนิยํ สมนุปสฺสติ, อยํ วุจฺจติ, ราหุล, ภิกฺขุ อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ, วิวตฺตยิ สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ชมฺพาลีสุตฺตํ
๑๗๘. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ. ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ [ตสฺส โก เอตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), เอวํ โข ตสฺส (?) ‘‘เอวํ หิ ตสฺสา ภิกฺขเว ชมฺพาลิยา’’ติ ปาโ วิย], ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น สกฺกายนิโรโธ ¶ ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส เลปคเตน [ลสคเตน (สี. ปี.)] หตฺเถน สาขํ คณฺเหยฺย, ตสฺส โส หตฺโถ สชฺเชยฺยปิ คณฺเหยฺยปิ [คยฺเหยฺยปิ (?)] พชฺเฌยฺยปิ [ขชฺเชยฺยปิ (สี.)]; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ. ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น สกฺกายนิโรโธ ปาฏิกงฺโข.
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ ¶ . ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สกฺกายนิโรโธ ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส สุทฺเธน หตฺเถน สาขํ คณฺเหยฺย, ตสฺส โส หตฺโถ เนว สชฺเชยฺย น คณฺเหยฺย น พชฺเฌยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรติ. ตสฺส สกฺกายนิโรธํ มนสิ กโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สกฺกายนิโรโธ ปาฏิกงฺโข.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชมฺพาลี ¶ อเนกวสฺสคณิกา. ตสฺสา ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย, เทโว จ น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺสา, ภิกฺขเว, ชมฺพาลิยา น อาฬิปฺปเภโท ¶ ปาฏิกงฺโข. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชมฺพาลี อเนกวสฺสคณิกา. ตสฺสา ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย, เทโว จ สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺสา, ภิกฺขเว, ชมฺพาลิยา อาฬิปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ ¶ สนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อวิชฺชาปฺปเภทํ ¶ มนสิ กโรโต อวิชฺชาปฺปเภเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. ตสฺส โข เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชาปฺปเภโท ปาฏิกงฺโข ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. นิพฺพานสุตฺตํ
๑๗๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม น ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ?
‘‘อิธาวุโส อานนฺท, สตฺตา อิมา หานภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, อิมา ิติภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, อิมา วิเสสภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ¶ อิมา นิพฺเพธภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ. อยํ โข, อาวุโส อานนฺท, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม น ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ.
‘‘โก ปนาวุโส สาริปุตฺต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ? ‘‘อิธาวุโส อานนฺท, สตฺตา อิมา หานภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, อิมา ิติภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, อิมา วิเสสภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, อิมา นิพฺเพธภาคิยา สฺาติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ. อยํ โข, อาวุโส อานนฺท, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. มหาปเทสสุตฺตํ
๑๘๐. เอกํ ¶ สมยํ ภควา โภคนคเร วิหรติ อานนฺทเจติเย [อานนฺเท เจติเย (ที. นิ. ๒.๑๘๖) มหาว. ๓๐๓ ปน อฺถา อาคตํ]. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ¶ ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, มหาปเทเส เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ ¶ , สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตเม, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาปเทสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ [โอสาเรตพฺพานิ], วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ [โอสาริยมานานิ] วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ [โอสรนฺติ (ที. นิ. ๒.๑๘๘)] น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ [อิติ หิทํ (สี. สฺยา. กํ. ก.)], ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
[เอตฺตโก ปาโ ทีฆนิกาเย น ทิสฺสติ, เปยฺยาลมุเขน ทสฺสิโต ภเวยฺย] ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ¶ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ [เอตฺตโก ปาโ ทีฆนิกาเย น ทิสฺสติ, เปยฺยาลมุเขน ทสฺสิโต ภเวยฺย]. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย ¶ สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สงฺโฆ วิหรติ สเถโร สปาโมกฺโข. ตสฺส เม สงฺฆสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา ¶ อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ¶ ; ตสฺส จ สงฺฆสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สงฺโฆ วิหรติ สเถโร สปาโมกฺโข. ตสฺส เม สงฺฆสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ, วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย จ ¶ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; ตสฺส จ สงฺฆสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา. เตสํ เม เถรานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; เตสฺจ เถรานํ ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา. เตสํ เม เถรานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย ¶ สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; เตสฺจ เถรานํ สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส เอโก เถโร ภิกฺขุ วิหรติ พหุสฺสุโต ¶ อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร. ตสฺส เม เถรสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอตรนฺติ น วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; ตสฺส จ เถรสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติ เหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสุกสฺมึ นาม อาวาเส เอโก เถโร ภิกฺขุ ¶ วิหรติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร. ตสฺส เม เถรสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอตาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอตาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอตรนฺติ วินเย ¶ จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส; ตสฺส จ เถรสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติ. ทสมํ.
สฺเจตนิยวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
เจตนา ¶ วิภตฺติ โกฏฺิโก, อานนฺโท อุปวาณปฺจมํ;
อายาจน-ราหุล-ชมฺพาลี, นิพฺพานํ มหาปเทเสนาติ.
(๑๙) ๔. พฺราหฺมณวคฺโค
๑. โยธาชีวสุตฺตํ
๑๘๑. ‘‘จตูหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต โยธาชีโว ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, โยธาชีโว านกุสโล จ โหติ, ทูเรปาตี จ, อกฺขณเวธี จ, มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต โยธาชีโว ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. เอวเมวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ านกุสโล จ โหติ, ทูเรปาตี จ, อกฺขณเวธี จ, มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ านกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ านกุสโล โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทูเรปาตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา ¶ , สพฺพํ วิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทูเรปาตี โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขณเวธี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺขณเวธี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหโต กายสฺส ปทาเลตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหนฺตํ อวิชฺชากฺขนฺธํ ปทาเลตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหโต กายสฺส ปทาเลตา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ปมํ.
๒. ปาฏิโภคสุตฺตํ
๑๘๒. [กถา. ๖๒๔] ‘‘จตุนฺนํ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมานํ นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโค – สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ.
‘‘กตเมสํ จตุนฺนํ? ‘ชราธมฺมํ มา ชีรี’ติ นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโค – สมโณ วา ¶ พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ; ‘พฺยาธิธมฺมํ มา พฺยาธิยี’ติ นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโค – สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ; ‘มรณธมฺมํ มา มียี’ติ นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโค – สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ; ‘ยานิ โข ปน ตานิ ปุพฺเพ อตฺตนา กตานิ ปาปกานิ กมฺมานิ สํกิเลสิกานิ โปโนภวิกานิ สทรานิ ทุกฺขวิปากานิ อายตึ ชาติชรามรณิกานิ, เตสํ วิปาโก มา นิพฺพตฺตี’ติ นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโค – สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ.
‘‘อิเมสํ ¶ โข, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ ธมฺมานํ นตฺถิ โกจิ ปาฏิโภโค – สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติ. ทุติยํ.
๓. สุตสุตฺตํ
๑๘๓. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต เยน ภควา ¶ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, เอวํวาที เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺี (สพฺพตฺถ)] – ‘โย โกจิ ทิฏฺํ ภาสติ – เอวํ เม ทิฏฺนฺติ, นตฺถิ ตโต โทโส; โย โกจิ สุตํ ภาสติ – เอวํ เม สุตนฺติ, นตฺถิ ตโต โทโส; โย โกจิ มุตํ ภาสติ – เอวํ เม มุตนฺติ, นตฺถิ ตโต ¶ โทโส; โย โกจิ วิฺาตํ ภาสติ – เอวํ เม วิฺาตนฺติ, นตฺถิ ตโต โทโส’’’ติ.
‘‘นาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ทิฏฺํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ทิฏฺํ น ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ สุตํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ สุตํ น ภาสิตพฺพนฺติ ¶ วทามิ; นาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ มุตํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ มุตํ น ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ วิฺาตํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ วิฺาตํ น ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ, พฺราหฺมณ, ทิฏฺํ ภาสโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ ทิฏฺํ น ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, พฺราหฺมณ, ทิฏฺํ อภาสโต กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ ทิฏฺํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ, พฺราหฺมณ, สุตํ ภาสโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ ¶ , เอวรูปํ สุตํ น ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, พฺราหฺมณ, สุตํ อภาสโต กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ สุตํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ, พฺราหฺมณ, มุตํ ภาสโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ มุตํ น ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, พฺราหฺมณ, มุตํ อภาสโต กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ มุตํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ ¶ .
‘‘ยฺหิ ¶ , พฺราหฺมณ, วิฺาตํ ภาสโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ วิฺาตํ น ภาสิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, พฺราหฺมณ, วิฺาตํ อภาสโต กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ วิฺาตํ ภาสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ.
อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. ตติยํ.
๔. อภยสุตฺตํ
๑๘๔. อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – ‘นตฺถิ โย มรณธมฺโม สมาโน น ภายติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺสา’’’ติ. ‘‘อตฺถิ, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน ภายติ, สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส; อตฺถิ ปน, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน น ภายติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส.
‘‘กตโม ¶ จ, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน ภายติ, สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท ¶ อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห. ตเมนํ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส ¶ เอวํ โหติ – ‘ปิยา วต มํ กามา ชหิสฺสนฺติ, ปิเย จาหํ กาเม ชหิสฺสามี’ติ. โส โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน ภายติ, สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ กาเย อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห. ตเมนํ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส เอวํ โหติ – ‘ปิโย วต ¶ มํ กาโย ชหิสฺสติ, ปิยฺจาหํ กายํ ชหิสฺสามี’ติ. โส โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน ภายติ, สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ อกตกลฺยาโณ โหติ อกตกุสโล อกตภีรุตฺตาโณ กตปาโป กตลุทฺโท กตกิพฺพิโส. ตเมนํ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส เอวํ โหติ – ‘อกตํ วต เม กลฺยาณํ, อกตํ กุสลํ, อกตํ ภีรุตฺตาณํ; กตํ ปาปํ, กตํ ลุทฺทํ, กตํ กิพฺพิสํ. ยาวตา, โภ, อกตกลฺยาณานํ อกตกุสลานํ อกตภีรุตฺตาณานํ กตปาปานํ กตลุทฺทานํ กตกิพฺพิสานํ คติ ตํ คตึ เปจฺจ คจฺฉามี’ติ. โส โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน ภายติ, สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ กงฺขี โหติ วิจิกิจฺฉี อนิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม. ตเมนํ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ¶ ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส เอวํ โหติ – ‘กงฺขี วตมฺหิ วิจิกิจฺฉี อนิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม’ติ. โส โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน ¶ ภายติ, สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส. อิเม โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาโร มรณธมฺมา สมานา ภายนฺติ, สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ มรณสฺส.
‘‘กตโม ¶ จ, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน น ภายติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ กาเมสุ วีตราโค โหติ วิคตจฺฉนฺโท วิคตเปโม วิคตปิปาโส วิคตปริฬาโห วิคตตณฺโห. ตเมนํ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส น เอวํ โหติ – ‘ปิยา วต มํ กามา ชหิสฺสนฺติ, ปิเย จาหํ กาเม ชหิสฺสามี’ติ. โส น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน น ภายติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ กาเย วีตราโค โหติ วิคตจฺฉนฺโท วิคตเปโม วิคตปิปาโส วิคตปริฬาโห วิคตตณฺโห. ตเมนํ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส น เอวํ โหติ – ‘ปิโย วต มํ กาโย ชหิสฺสติ, ปิยฺจาหํ กายํ ชหิสฺสามี’ติ. โส น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน น ภายติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ อกตปาโป โหติ อกตลุทฺโท อกตกิพฺพิโส กตกลฺยาโณ กตกุสโล กตภีรุตฺตาโณ. ตเมนํ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส เอวํ โหติ – ‘อกตํ วต เม ปาปํ, อกตํ ลุทฺทํ, อกตํ กิพฺพิสํ; กตํ กลฺยาณํ, กตํ กุสลํ, กตํ ภีรุตฺตาณํ. ยาวตา, โภ, อกตปาปานํ อกตลุทฺทานํ อกตกิพฺพิสานํ กตกลฺยาณานํ กตกุสลานํ กตภีรุตฺตาณานํ คติ ตํ คตึ เปจฺจ คจฺฉามี’ติ. โส น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน น ภายติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ อกงฺขี โหติ อวิจิกิจฺฉี นิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม. ตเมนํ ¶ อฺตโร คาฬฺโห โรคาตงฺโก ผุสติ. ตสฺส อฺตเรน คาฬฺเหน โรคาตงฺเกน ผุฏฺสฺส เอวํ โหติ – ‘อกงฺขี วตมฺหิ อวิจิกิจฺฉี นิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม’ติ. โส น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยมฺปิ ¶ โข, พฺราหฺมณ, มรณธมฺโม สมาโน น ภายติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ มรณสฺส. อิเม โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาโร มรณธมฺมา สมานา น ภายนฺติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ มรณสฺสา’’ติ.
‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตํ
๑๘๕. เอกํ ¶ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ปริพฺพาชกา สิปฺปินิกาตีเร ¶ ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ อนฺนภาโร วรธโร สกุลุทายี จ ปริพฺพาชโก อฺเ จ อภิฺาตา อภิฺาตา ปริพฺพาชกา. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน สิปฺปินิกาตีเร ปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกมิ.
เตน โข ปน สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรา กถา อุทปาทิ – ‘‘อิติปิ พฺราหฺมณสจฺจานิ, อิติปิ พฺราหฺมณสจฺจานี’’ติ. อถ โข ภควา เยน เต ปริพฺพาชกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ –
‘‘กาย นุตฺถ, ปริพฺพาชกา, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, อมฺหากํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘อิติปิ พฺราหฺมณสจฺจานิ, อิติปิ พฺราหฺมณสจฺจานี’’’ติ.
‘‘จตฺตาริมานิ, ปริพฺพาชกา, พฺราหฺมณสจฺจานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ, ปริพฺพาชกา, พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘สพฺเพ ปาณา อวชฺฌา’ติ ¶ . อิติ วทํ พฺราหฺมโณ สจฺจํ อาห, โน มุสา. โส เตน น สมโณติ มฺติ, น พฺราหฺมโณติ มฺติ, น เสยฺโยหมสฺมีติ มฺติ, น สทิโสหมสฺมีติ มฺติ, น หีโนหมสฺมีติ มฺติ. อปิ จ ยเทว ตตฺถ สจฺจํ ตทภิฺาย ปาณานํเยว อนุทฺทยาย [ตทภิฺาย อนุทยาย (ก.)] อนุกมฺปาย ปฏิปนฺโน โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, ปริพฺพาชกา, พฺราหฺมโณ เอวมาห ¶ – ‘สพฺเพ ¶ กามา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ. อิติ วทํ พฺราหฺมโณ สจฺจมาห, โน มุสา. โส เตน น สมโณติ มฺติ, น พฺราหฺมโณติ มฺติ, น เสยฺโยหมสฺมีติ มฺติ, น สทิโสหมสฺมีติ มฺติ, น หีโนหมสฺมีติ มฺติ. อปิ จ ยเทว ตตฺถ สจฺจํ ตทภิฺาย กามานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ปริพฺพาชกา, พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘สพฺเพ ภวา อนิจฺจา…เป… ภวานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, ปริพฺพาชกา, พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘นาหํ กฺวจนิ [กฺวจน (สี. สฺยา.)] กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ น จ มม กฺวจนิ กตฺถจิ กิฺจนตตฺถี’ติ. อิติ วทํ พฺราหฺมโณ สจฺจํ อาห, โน มุสา. โส เตน น สมโณติ มฺติ, น พฺราหฺมโณติ มฺติ, น เสยฺโยหมสฺมีติ มฺติ, น สทิโสหมสฺมีติ มฺติ, น หีโนหมสฺมีติ มฺติ. อปิ จ ยเทว ตตฺถ สจฺจํ ตทภิฺาย อากิฺจฺํเยว ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ. อิมานิ โข, ปริพฺพาชกา, จตฺตาริ พฺราหฺมณสจฺจานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อุมฺมคฺคสุตฺตํ
๑๘๖. อถ ¶ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เกน ¶ นุ โข, ภนฺเต, โลโก นียติ, เกน โลโก ปริกสฺสติ, กสฺส จ อุปฺปนฺนสฺส วสํ คจฺฉตี’’ติ?
‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! ภทฺทโก โข เต, ภิกฺขุ, อุมฺมคฺโค [อุมฺมงฺโค (สฺยา. ก.)], ภทฺทกํ ปฏิภานํ, กลฺยาณี [กลฺยาณา (ก.)] ปริปุจฺฉา. เอวฺหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปุจฺฉสิ – ‘เกน นุ โข, ภนฺเต, โลโก นียติ, เกน โลโก ปริกสฺสติ, กสฺส จ อุปฺปนฺนสฺส วสํ คจฺฉตี’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘จิตฺเตน โข, ภิกฺขุ, โลโก นียติ, จิตฺเตน ปริกสฺสติ, จิตฺตสฺส อุปฺปนฺนสฺส วสํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘สาธุ ¶ , ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตริ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, พหุสฺสุโต ธมฺมธโร’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, พหุสฺสุโต ธมฺมธโร โหตี’’ติ?
‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! ภทฺทโก โข เต, ภิกฺขุ อุมฺมคฺโค, ภทฺทกํ ปฏิภานํ, กลฺยาณี ปริปุจฺฉา. เอวฺหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปุจฺฉสิ – ‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, พหุสฺสุโต ธมฺมธโรติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, พหุสฺสุโต ¶ ธมฺมธโร โหตี’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘พหู โข, ภิกฺขุ, มยา ธมฺมา เทสิตา [พหุ โข ภิกฺขุ มยา ธมฺโม เทสิโต (ก.)] – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถา, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. จตุปฺปทาย เจปิ, ภิกฺขุ, คาถาย อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ¶ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ พหุสฺสุโต ธมฺมธโรติ อลํ วจนายา’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตริ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘‘สุตวา นิพฺเพธิกปฺโ, สุตวา นิพฺเพธิกปฺโ’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สุตวา นิพฺเพธิกปฺโ โหตี’’ติ?
‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! ภทฺทโก โข เต, ภิกฺขุ, อุมฺมคฺโค, ภทฺทกํ ปฏิภานํ, กลฺยาณี ปริปุจฺฉา. เอวฺหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปุจฺฉสิ – ‘สุตวา นิพฺเพธิกปฺโ, สุตวา นิพฺเพธิกปฺโติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สุตวา นิพฺเพธิกปฺโ โหตี’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุโน ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ สุตํ โหติ, ปฺาย จสฺส อตฺถํ อติวิชฺฌ ปสฺสติ; ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ สุตํ โหติ, ปฺาย จสฺส อตฺถํ ¶ อติวิชฺฌ ปสฺสติ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ สุตํ โหติ, ปฺาย จสฺส อตฺถํ อติวิชฺฌ ปสฺสติ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ สุตํ โหติ, ปฺาย จสฺส อตฺถํ อติวิชฺฌ ปสฺสติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา นิพฺเพธิกปฺโ โหตี’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตริ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘‘ปณฺฑิโต มหาปฺโ, ปณฺฑิโต มหาปฺโ’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ปณฺฑิโต มหาปฺโ โหตี’’ติ?
‘‘สาธุ ¶ สาธุ ภิกฺขุ! ภทฺทโก โข เต, ภิกฺขุ, อุมฺมคฺโค, ภทฺทกํ ปฏิภานํ, กลฺยาณี ปริปุจฺฉา. เอวฺหิ ตฺวํ ภิกฺขุ ปุจฺฉสิ – ‘ปณฺฑิโต มหาปฺโ, ปณฺฑิโต มหาปฺโติ ¶ , ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ปณฺฑิโต มหาปฺโ โหตี’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ปณฺฑิโต มหาปฺโ เนวตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ น ¶ อุภยพฺยาพาธาย เจเตติ อตฺตหิตปรหิตอุภยหิตสพฺพโลกหิตเมว จินฺตยมาโน จินฺเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, ปณฺฑิโต มหาปฺโ โหตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. วสฺสการสุตฺตํ
๑๘๗. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ชาเนยฺย นุ โข, โภ โคตม, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ. ‘‘ชาเนยฺย ปน, โภ โคตม, อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ. ‘‘ชาเนยฺย นุ โข, โภ โคตม, สปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘านํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, วิชฺชติ ¶ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ. ‘‘ชาเนยฺย ปน, โภ โคตม, สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ ¶ โข, พฺราหฺมณ, านํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ ¶ จิทํ, โภตา โคตเมน – ‘อฏฺานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. านํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, านํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ.
‘‘เอกมิทํ, โภ โคตม, สมยํ โตเทยฺยสฺส พฺราหฺมณสฺส ปริสติ ปรูปารมฺภํ วตฺเตนฺติ – ‘พาโล อยํ ราชา เอเฬยฺโย สมเณ รามปุตฺเต อภิปฺปสนฺโน, สมเณ จ ปน รามปุตฺเต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรติ, ยทิทํ ¶ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺม’นฺติ. อิเมปิ รฺโ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา พาลา – ยมโก โมคฺคลฺโล [ปุคฺคโล (ก.)] อุคฺโค นาวินฺทกี คนฺธพฺโพ อคฺคิเวสฺโส, เย สมเณ รามปุตฺเต อภิปฺปสนฺนา, สมเณ จ ปน รามปุตฺเต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, ยทิทํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมนฺติ. ตฺยาสฺสุทํ โตเทยฺโย พฺราหฺมโณ อิมินา นเยน เนติ. ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต, ปณฺฑิโต ราชา เอเฬยฺโย กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ ¶ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตโร’ติ? ‘เอวํ, โภ, ปณฺฑิโต ราชา เอเฬยฺโย กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตโร’’’ติ.
‘‘ยสฺมา จ โข, โภ, สมโณ รามปุตฺโต รฺา เอเฬยฺเยน ปณฺฑิเตน ปณฺฑิตตโร กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรน อลมตฺถทสตโร, ตสฺมา ราชา เอเฬยฺโย สมเณ รามปุตฺเต อภิปฺปสนฺโน, สมเณ จ ปน รามปุตฺเต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรติ, ยทิทํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ’’.
‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต, ปณฺฑิตา รฺโ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา – ยมโก โมคฺคลฺโล ¶ อุคฺโค ¶ นาวินฺทกี คนฺธพฺโพ อคฺคิเวสฺโส, กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตราติ? ‘เอวํ, โภ, ปณฺฑิตา รฺโ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา – ยมโก โมคฺคลฺโล อุคฺโค นาวินฺทกี คนฺธพฺโพ อคฺคิเวสฺโส, กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตรา’’’ติ.
‘‘ยสฺมา จ โข, โภ, สมโณ รามปุตฺโต รฺโ เอเฬยฺยสฺส ปริหารเกหิ ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตตโร กรณียาธิกรณีเยสุ วจนียาธิวจนีเยสุ อลมตฺถทสตเรหิ อลมตฺถทสตโร, ตสฺมา รฺโ เอเฬยฺยสฺส ปริหารกา สมเณ รามปุตฺเต อภิปฺปสนฺนา; สมเณ จ ปน รามปุตฺเต เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, ยทิทํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺม’’นฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โภ, โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ จิทํ โภตา โคตเมน ¶ – ‘อฏฺานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส ¶ อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. านํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – สปฺปุริโส อยํ ภวนฺติ. เอตมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, านํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – อสปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉาม. พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. สตฺตมํ.
๘. อุปกสุตฺตํ
๑๘๘. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข อุปโก มณฺฑิกาปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุปโก มณฺฑิกาปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อหฺหิ, ภนฺเต, เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – ‘โย โกจิ ปรูปารมฺภํ วตฺเตติ, ปรูปารมฺภํ วตฺเตนฺโต ¶ สพฺโพ โส [สพฺพโส (สี. ปี.)] น อุปปาเทติ. อนุปปาเทนฺโต คารยฺโห โหติ อุปวชฺโช’’’ติ. ‘‘ปรูปารมฺภํ เจ, อุปก, วตฺเตติ ปรูปารมฺภํ วตฺเตนฺโต น อุปปาเทติ, อนุปปาเทนฺโต ¶ คารยฺโห โหติ อุปวชฺโช. ตฺวํ โข, อุปก, ปรูปารมฺภํ วตฺเตสิ, ปรูปารมฺภํ วตฺเตนฺโต น อุปปาเทสิ, อนุปปาเทนฺโต คารยฺโห โหสิ อุปวชฺโช’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต ¶ , อุมฺมุชฺชมานกํเยว มหตา ปาเสน พนฺเธยฺย; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อุมฺมุชฺชมานโกเยว ภควตา มหตา วาทปาเสน [มหตา ปาเสน (ก.)] พทฺโธ’’ติ.
‘‘อิทํ อกุสลนฺติ โข, อุปก, มยา ปฺตฺตํ. ตตฺถ อปริมาณา ปทา อปริมาณา พฺยฺชนา อปริมาณา ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา – อิติปิทํ อกุสลนฺติ. ตํ โข ปนิทํ อกุสลํ ปหาตพฺพนฺติ โข, อุปก, มยา ปฺตฺตํ. ตตฺถ อปริมาณา ปทา อปริมาณา พฺยฺชนา อปริมาณา ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา – อิติปิทํ อกุสลํ ปหาตพฺพนฺติ.
‘‘อิทํ ¶ กุสลนฺติ โข, อุปก, มยา ปฺตฺตํ. ตตฺถ อปริมาณา ปทา อปริมาณา พฺยฺชนา อปริมาณา ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา – อิติปิทํ กุสลนฺติ. ตํ โข ปนิทํ กุสลํ ภาเวตพฺพนฺติ โข, อุปก, มยา ปฺตฺตํ. ตตฺถ อปริมาณา ปทา อปริมาณา พฺยฺชนา อปริมาณา ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา – อิติปิทํ กุสลํ ภาเวตพฺพ’’นฺติ.
อถ โข อุปโก มณฺฑิกาปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ยาวตโก อโหสิ ภควตา สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส อาโรเจสิ.
เอวํ วุตฺเต ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต กุปิโต อนตฺตมโน อุปกํ มณฺฑิกาปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยาว ธํสี วตายํ โลณการทารโก ยาว มุขโร ยาว ปคพฺโพ ¶ ยตฺร หิ นาม ตํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อาสาเทตพฺพํ มฺิสฺสติ; อเปหิ ตฺวํ, อุปก, วินสฺส, มา ตํ อทฺทส’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. สจฺฉิกรณียสุตฺตํ
๑๘๙. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, สจฺฉิกรณียา ธมฺมา. กตเม จตฺตาโร? อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา กาเยน สจฺฉิกรณียา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา สติยา สจฺฉิกรณียา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา จกฺขุนา สจฺฉิกรณียา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปฺาย สจฺฉิกรณียา. กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา กาเยน สจฺฉิกรณียา? อฏฺ วิโมกฺขา, ภิกฺขเว, กาเยน สจฺฉิกรณียา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา สติยา สจฺฉิกรณียา? ปุพฺเพนิวาโส, ภิกฺขเว, สติยา สจฺฉิกรณีโย.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา จกฺขุนา สจฺฉิกรณียา? สตฺตานํ จุตูปปาโต, ภิกฺขเว, จกฺขุนา สจฺฉิกรณีโย.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปฺาย สจฺฉิกรณียา? อาสวานํ ขโย, ภิกฺขเว, ปฺาย สจฺฉิกรณีโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สจฺฉิกรณียา ธมฺมา’’ติ. นวมํ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตํ
๑๙๐. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –
‘‘อปลาปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา นิปฺปลาปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา สุทฺธา สาเร ปติฏฺิตา. ตถารูโป อยํ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ, ตถารูปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา. ยถารูปา ปริสา ทุลฺลภา ทสฺสนายปิ โลกสฺมึ, ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ, ตถารูปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา. ยถารูปา ปริสา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส, ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ, ตถารูปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา ¶ . ยถารูปาย ปริสาย อปฺปํ ทินฺนํ พหุ โหติ พหุ ทินฺนํ พหุตรํ, ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ, ตถารูปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา. ยถารูปํ ปริสํ อลํ โยชนคณนานิปิ ทสฺสนาย คนฺตุํ อปิ ปุโฏเสนาปิ, ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ, (ตถารูปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา) [( ) สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ].
‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เทวปฺปตฺตา วิหรนฺติ; สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ พฺรหฺมปฺปตฺตา วิหรนฺติ; สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ อาเนฺชปฺปตฺตา วิหรนฺติ; สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ อริยปฺปตฺตา วิหรนฺติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เทวปฺปตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เทวปฺปตฺโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พฺรหฺมปฺปตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ¶ ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณา… มุทิตา… อุเปกฺขาสหคเตน ¶ เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พฺรหฺมปฺปตฺโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาเนฺชปฺปตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ ¶ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาเนฺชปฺปตฺโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริยปฺปตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริยปฺปตฺโต โหตี’’ติ. ทสมํ.
พฺราหฺมณวคฺโค [โยธาชีววคฺโค (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
โยธา ปาฏิโภคสุตํ, อภยํ พฺราหฺมณสจฺเจน ปฺจมํ;
อุมฺมคฺควสฺสกาโร, อุปโก สจฺฉิกิริยา จ อุโปสโถติ.
(๒๐) ๕. มหาวคฺโค
๑. โสตานุคตสุตฺตํ
๑๙๑. ‘‘โสตานุคตานํ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา. กตเม ¶ จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ [มุฏฺสฺสตี (สี.)] กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ [ปิลปนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ ปโม อานิสํโส ปาฏิกงฺโข.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ; อปิ ¶ จ โข ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปเมว วิเสสคามี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส กุสโล เภริสทฺทสฺส. โส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน เภริสทฺทํ สุเณยฺย. ตสฺส น เหว โข อสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – ‘เภริสทฺโท นุ โข, น นุ โข เภริสทฺโท’ติ! อถ โข เภริสทฺโทตฺเวว นิฏฺํ คจฺเฉยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ ¶ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ; อปิ จ ¶ โข ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ ¶ , วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ ทุติโย อานิสํโส ปาฏิกงฺโข.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส กุสโล สงฺขสทฺทสฺส. โส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน สงฺขสทฺทํ สุเณยฺย. ตสฺส น เหว โข อสฺส กงฺขา วา วิมติ ¶ วา – ‘สงฺขสทฺโท นุ โข, น นุ โข สงฺขสทฺโท’ติ! อถ โข สงฺขสทฺโทตฺเวว นิฏฺํ คจฺเฉยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ วา โส ธมฺมวินโย, ยตฺถาหํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริ’นฺติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ ตติโย อานิสํโส ปาฏิกงฺโข.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ, นปิ เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ¶ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข โอปปาติโก โอปปาติกํ สาเรติ – ‘สรสิ ตฺวํ, มาริส, สรสิ ตฺวํ ¶ , มาริส, ยตฺถ มยํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริมฺหา’ติ. โส เอวมาห – ‘สรามิ, มาริส, สรามิ, มาริสา’ติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทฺเว สหายกา สหปํสุกีฬิกา [สหปํสุกีฬกา (สฺยา. กํ.)]. เต กทาจิ กรหจิ อฺมฺํ สมาคจฺเฉยฺยุํ. อฺโ ปน [สมาคจฺเฉยฺยุํ, ตเมนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สหายโก สหายกํ เอวํ วเทยฺย – ‘อิทมฺปิ, สมฺม, สรสิ, อิทมฺปิ, สมฺม, สรสี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘สรามิ ¶ , สมฺม, สรามิ, สมฺมา’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถํ, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลํ. ตสฺส เต ธมฺมา โสตานุคตา โหนฺติ, วจสา ปริจิตา, มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. โส มุฏฺสฺสติ กาลํ กุรุมาโน อฺตรํ เทวนิกายํ อุปปชฺชติ. ตสฺส ตตฺถ น เหว โข สุขิโน ธมฺมปทา ปฺลวนฺติ, นปิ ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ, นปิ เทวปุตฺโต เทวปริสายํ ธมฺมํ เทเสติ; อปิ จ โข โอปปาติโก โอปปาติกํ สาเรติ – ‘สรสิ ตฺวํ, มาริส, สรสิ ตฺวํ, มาริส, ยตฺถ มยํ ปุพฺเพ พฺรหฺมจริยํ อจริมฺหา’ติ. โส เอวมาห – ‘สรามิ, มาริส, สรามิ, มาริสา’ติ. ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท; อถ โข โส สตฺโต ขิปฺปํเยว ¶ วิเสสคามี โหติ. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส ปาฏิกงฺโข. โสตานุคตานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ, วจสา ปริจิตานํ, มนสานุเปกฺขิตานํ ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธานํ อิเม จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ. ปมํ.
๒. านสุตฺตํ
๑๙๒. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, านานิ จตูหิ าเนหิ เวทิตพฺพานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวาเสน, ภิกฺขเว, สีลํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สํโวหาเรน, ภิกฺขเว, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตพฺโพ, โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา ¶ , น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สากจฺฉาย, ภิกฺขเว, ปฺา เวทิตพฺพา, สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนาติ.
[สํ. นิ. ๑.๑๒๒] ‘‘‘สํวาเสน ¶ , ภิกฺขเว, สีลํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํวสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา ขณฺฑการี ฉิทฺทการี สพลการี กมฺมาสการี, น สนฺตตการี น สนฺตตวุตฺติ [สตตวุตฺติ (สฺยา. กํ.)]; สีเลสุ ทุสฺสีโล อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ¶ สีลวา’’’ติ.
‘‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํวสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา อขณฺฑการี อจฺฉิทฺทการี อสพลการี อกมฺมาสการี สนฺตตการี ¶ สนฺตตวุตฺติ; สีเลสุ สีลวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุสฺสีโล’ติ. ‘สํวาเสน, ภิกฺขเว, สีลํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘สํโวหาเรน, ภิกฺขเว, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํโวหรมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อฺถา โข อยมายสฺมา เอเกน เอโก โวหรติ, อฺถา ทฺวีหิ, อฺถา ตีหิ, อฺถา สมฺพหุเลหิ; โวกฺกมติ อยมายสฺมา ปุริมโวหารา ปจฺฉิมโวหารํ; อปริสุทฺธโวหาโร อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปริสุทฺธโวหาโร’’’ติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สํโวหรมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยเถว โข อยมายสฺมา เอเกน เอโก โวหรติ, ตถา ทฺวีหิ, ตถา ตีหิ, ตถา สมฺพหุเลหิ. นายมายสฺมา โวกฺกมติ ปุริมโวหารา ปจฺฉิมโวหารํ; ปริสุทฺธโวหาโร อยมายสฺมา, นายมายสฺมา อปริสุทฺธโวหาโร’ติ ¶ . ‘สํโวหาเรน, ภิกฺขเว, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ, ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ¶ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตพฺโพ, โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ¶ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน, โภคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน, โรคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ตถาภูโต โข อยํ โลกสนฺนิวาโส ตถาภูโต อยํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยถาภูเต โลกสนฺนิวาเส ยถาภูเต อตฺตภาวปฏิลาเภ อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ – ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจา’ติ. โส าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โภคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โรคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โภคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โรคพฺยสเนน ¶ วา ผุฏฺโ สมาโน อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ตถาภูโต โข อยํ โลกสนฺนิวาโส ตถาภูโต อยํ อตฺตภาวปฏิลาโภ ยถาภูเต โลกสนฺนิวาเส ยถาภูเต อตฺตภาวปฏิลาเภ อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ – ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจา’ติ. โส าติพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน โภคพฺยสเนน วา ¶ ผุฏฺโ สมาโน โรคพฺยสเนน วา ผุฏฺโ สมาโน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. ‘อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตพฺโพ, โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘สากจฺฉาย, ภิกฺขเว, ปฺา เวทิตพฺพา, สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ ¶ , อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา น เจว คมฺภีรํ อตฺถปทํ อุทาหรติ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ ตสฺส จ นปฺปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน ¶ วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา’’’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, จกฺขุมา ปุริโส อุทกรหทสฺส ตีเร ิโต ปสฺเสยฺย ปริตฺตํ มจฺฉํ อุมฺมุชฺชมานํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘ยถา โข อิมสฺส มจฺฉสฺส อุมฺมคฺโค ยถา จ อูมิฆาโต ยถา จ เวคายิตตฺตํ, ปริตฺโต อยํ ¶ มจฺโฉ, นายํ มจฺโฉ มหนฺโต’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา น เจว คมฺภีรํ อตฺถปทํ อุทาหรติ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺส จ น ปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ทุปฺปฺโ อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ปฺวา’’’ติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา คมฺภีรฺเจว อตฺถปทํ อุทาหรติ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺส จ ปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ’’’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, จกฺขุมา ปุริโส อุทกรหทสฺส ตีเร ิโต ปสฺเสยฺย มหนฺตํ มจฺฉํ อุมฺมุชฺชมานํ. ตสฺส เอวมสฺส ¶ – ‘ยถา โข อิมสฺส มจฺฉสฺส อุมฺมคฺโค ยถา จ อูมิฆาโต ยถา จ เวคายิตตฺตํ, มหนฺโต อยํ มจฺโฉ, นายํ มจฺโฉ ปริตฺโต’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สทฺธึ สากจฺฉายมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยถา โข อิมสฺส อายสฺมโต อุมฺมคฺโค ยถา จ อภินีหาโร ยถา จ ปฺหาสมุทาหาโร, ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา คมฺภีรฺเจว อตฺถปทํ อุทาหรติ ¶ สนฺตํ ปณีตํ อตกฺกาวจรํ นิปุณํ ปณฺฑิตเวทนียํ. ยฺจ อยมายสฺมา ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺส จ ปฏิพโล สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา อตฺถํ อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํ. ปฺวา อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ทุปฺปฺโ’ติ.
‘‘‘สากจฺฉาย, ภิกฺขเว, ปฺา เวทิตพฺพา, สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’ติ ¶ , อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ านานิ อิเมหิ จตูหิ าเนหิ เวทิตพฺพานี’’ติ. ทุติยํ.
๓. ภทฺทิยสุตฺตํ
๑๙๓. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฏฺฏนึ มายํ [อาวฏฺฏนีมายํ (สี.), อาวฏฺฏนิมายํ (สฺยา. กํ. ก.) ม. นิ. ๒.๖๐ ปสฺสิตพฺพํ] ชานาติ ยาย อฺติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี’ติ. เย เต, ภนฺเต, เอวมาหํสุ – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฏฺฏนึ มายํ ชานาติ ยาย อฺติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี’ติ, กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภควโต วุตฺตวาทิโน, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุปาโต คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ, อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ, ภนฺเต, ภควนฺต’’นฺติ?
‘‘เอถ ¶ ¶ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, ปชเหยฺยาถ.
‘‘ตํ ¶ กึ มฺถ, ภทฺทิย, โลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ ¶ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘ลุทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย [ตทตฺถาย (ก.) อ. นิ. ๓.๖๖] สมาทเปติ ยํส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, โทโส ปุริสสฺส…เป… โมโห ปุริสสฺส…เป… สารมฺโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘อหิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘สารทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล สารมฺเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ ยํส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ? ‘‘อกุสลา, ภนฺเต’’. ‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ? ‘‘สาวชฺชา, ภนฺเต’’. ‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ? ‘‘วิฺุครหิตา, ภนฺเต’’. ‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘อิติ โข, ภทฺทิย, ยํ ตํ เต อโวจุมฺหา – เอถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ¶ ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ ¶ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ¶ ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, ปชเหยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘เอถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ¶ ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อโลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘หิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘อลุทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย น สมาทเปติ ยํ’ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อโทโส ปุริสสฺส…เป… อโมโห ปุริสสฺส…เป… อสารมฺโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘หิตาย, ภนฺเต’’. ‘‘อสารทฺโธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล สารมฺเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิตฺโต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ ¶ , ปรมฺปิ ตถตฺตาย น สมาทเปติ ยํ’ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภทฺทิย, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ? ‘‘กุสลา, ภนฺเต’’. ‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ? ‘‘อนวชฺชา, ภนฺเต’’. ‘‘วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วา’’ติ? ‘‘วิฺุปฺปสตฺถา, ภนฺเต’’. ‘‘สมตฺตา ¶ สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ.
‘‘อิติ ¶ โข, ภทฺทิย, ยํ ตํ เต อโวจุมฺหา – เอถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฏกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตกฺเกน, มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติ. ยทา ตุมฺเห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิฺุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ ¶ , อถ ตุมฺเห, ภทฺทิย, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘เย โข เต, ภทฺทิย, โลเก สนฺโต สปฺปุริสา เต สาวกํ เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, โลภํ วิเนยฺย [วิเนยฺย วิเนยฺย (สี. สฺยา. กํ.)] วิหราหิ. โลภํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น โลภชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา. โทสํ วิเนยฺย วิหราหิ. โทสํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น โทสชํ กมฺมํ ¶ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา. โมหํ วิเนยฺย วิหราหิ. โมหํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น โมหชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา. สารมฺภํ วิเนยฺย วิหราหิ. สารมฺภํ วิเนยฺย วิหรนฺโต น สารมฺภชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา’’’ติ.
เอวํ วุตฺเต ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
‘‘อปิ นุ ตาหํ, ภทฺทิย, เอวํ อวจํ – ‘เอหิ เม ตฺวํ, ภทฺทิย, สาวโก โหหิ; อหํ สตฺถา ภวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวํวาทึ โข มํ, ภทฺทิย, เอวมกฺขายึ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฏฺฏนึ มายํ ชานาติ ยาย อฺติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี’’’ติ. ‘‘ภทฺทิกา ¶ , ภนฺเต, อาวฏฺฏนี มายา. กลฺยาณี, ภนฺเต, อาวฏฺฏนี มายา. ปิยา เม, ภนฺเต, าติสาโลหิตา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ, ปิยานมฺปิ เม อสฺส าติสาโลหิตานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, ขตฺติยา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, พฺราหฺมณา… เวสฺสา ¶ … สุทฺทา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, ภทฺทิย, เอวเมตํ, ภทฺทิย! สพฺเพ เจปิ, ภทฺทิย, ขตฺติยา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ ¶ เจปิ, ภทฺทิย, พฺราหฺมณา… เวสฺสา… สุทฺทา อาวฏฺเฏยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สเทวโก เจปิ, ภทฺทิย, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อิมาย ¶ อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ [อาวฏฺเฏยฺย (?)] อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สเทวกสฺสปิสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. อิเม เจปิ, ภทฺทิย, มหาสาลา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, อิเมสมฺปิสฺส มหาสาลานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ( ) [(สเจ เจเตยฺยุํ) (สี. สฺยา. กํ. ปี.), (อาวฏฺเฏยฺยุํ) (ก.) อ. นิ. ๘.๔๔]. โก ปน วาโท มนุสฺสภูตสฺสา’’ติ! ตติยํ.
๔. สามุคิยสุตฺตํ
๑๙๔. เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกลิเยสุ วิหรติ สามุคํ นาม [สาปูคํ นาม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โกลิยานํ นิคโม. อถ โข สมฺพหุลา สามุคิยา โกลิยปุตฺตา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต สามุคิเย โกลิยปุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาริมานิ, พฺยคฺฆปชฺชา, ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ¶ สมฺมทกฺขาตานิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ [โสกปริทฺทวานํ (สี.)] สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย. กตมานิ จตฺตาริ? สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ ¶ , ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, วิมุตฺติปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.
‘‘กตมฺจ ¶ , พฺยคฺฆปชฺชา, สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? อิธ, พฺยคฺฆปชฺชา, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, สีลปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ สีลปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา ปริปูเรสฺสามิ ปริปูรํ วา ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.
‘‘กตมฺจ, พฺยคฺฆปชฺชา, จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? อิธ, พฺยคฺฆปชฺชา, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ¶ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, จิตฺตปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ จิตฺตปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา ปริปูเรสฺสามิ ปริปูรํ วา ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.
‘‘กตมฺจ, พฺยคฺฆปชฺชา, ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? อิธ, พฺยคฺฆปชฺชา, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, ทิฏฺิปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ ทิฏฺิปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา…เป… ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ ¶ .
‘‘กตมฺจ, พฺยคฺฆปชฺชา, วิมุตฺติปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ? ส โข โส, พฺยคฺฆปชฺชา, อริยสาวโก อิมินา จ สีลปาริสุทฺธิปธานิยงฺเคน สมนฺนาคโต อิมินา จ จิตฺตปาริสุทฺธิปธานิยงฺเคน ¶ ¶ สมนฺนาคโต อิมินา จ ทิฏฺิปาริสุทฺธิปธานิยงฺเคน สมนฺนาคโต รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิราเชติ, วิโมจนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิโมเจติ. โส รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิราเชตฺวา, วิโมจนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ วิโมเจตฺวา สมฺมาวิมุตฺตึ ผุสติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, วิมุตฺติปาริสุทฺธิ. อิติ เอวรูปึ วิมุตฺติปาริสุทฺธึ อปริปูรํ วา ปริปูเรสฺสามิ ปริปูรํ วา ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ, โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ, อิทํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺชา, วิมุตฺติปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ.
‘‘อิมานิ ¶ โข, พฺยคฺฆปชฺชา, จตฺตาริ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตานิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ¶ ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. วปฺปสุตฺตํ
๑๙๕. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข วปฺโป สกฺโก นิคณฺสาวโก เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วปฺปํ สกฺกํ นิคณฺสาวกํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ –
‘‘อิธสฺส ¶ , วปฺป, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต มนสา สํวุโต อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ [อนฺวาสฺสเวยฺยุํ (ก.)] อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘ปสฺสามหํ, ภนฺเต, ตํ านํ. อิธสฺส, ภนฺเต, ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ กตํ อวิปกฺกวิปากํ. ตโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ. อยฺเจว โข ปน อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส วปฺเปน สกฺเกน นิคณฺสาวเกน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ.
อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ¶ เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ –
‘‘กาย นุตฺถ, โมคฺคลฺลาน, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา; กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, วปฺปํ สกฺกํ นิคณฺสาวกํ เอตทโวจํ – ‘อิธสฺส, วปฺป, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต มนสา สํวุโต อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, วปฺโป สกฺโก นิคณฺสาวโก มํ เอตทโวจ – ‘ปสฺสามหํ, ภนฺเต, ตํ านํ. อิธสฺส, ภนฺเต, ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ กตํ อวิปกฺกวิปากํ. ตโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’นฺติ ¶ . อยํ โข โน, ภนฺเต ¶ , วปฺเปน สกฺเกน นิคณฺสาวเกน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา; อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
อถ โข ภควา วปฺปํ สกฺกํ นิคณฺสาวกํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘สเจ เม ตฺวํ, วปฺป, อนฺุเยฺยฺเจว อนุชาเนยฺยาสิ, ปฏิกฺโกสิตพฺพฺจ ปฏิกฺโกเสยฺยาสิ, ยสฺส จ เม ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชาเนยฺยาสิ มเมเวตฺถ อุตฺตริ ปฏิปุจฺเฉยฺยาสิ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ, สิยา โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’’ติ. ‘‘อนฺุเยฺยฺเจวาหํ, ภนฺเต, ภควโต อนุชานิสฺสามิ, ปฏิกฺโกสิตพฺพฺจ ปฏิกฺโกสิสฺสามิ, ยสฺส จาหํ ภควโต ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชานิสฺสามิ ภควนฺตํเยเวตฺถ อุตฺตริ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ – ‘อิทํ ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย กายสมารมฺภปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, กายสมารมฺภา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส ¶ พฺยนฺตีกโรติ, สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ [วิฺูหีติ (สี. ปี. ก.) สํ. นิ. ๔.๓๖๔ ปสฺสิตพฺพํ]. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย วจีสมารมฺภปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, วจีสมารมฺภา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ ¶ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย มโนสมารมฺภปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, มโนสมารมฺภา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา ¶ เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ¶ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, วปฺป, เย อวิชฺชาปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. โส นวฺจ กมฺมํ น กโรติ, ปุราณฺจ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกโรติ. สนฺทิฏฺิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิฺูหิ. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, วปฺป, ตํ านํ ยโตนิทานํ ปุริสํ ทุกฺขเวทนิยา อาสวา อสฺสเวยฺยุํ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส โข, วปฺป, ภิกฺขุโน ฉ สตตวิหารา อธิคตา โหนฺติ. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป... ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โส กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ ¶ เวทนํ เวทิยามี’ติ ปชานาติ; ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยามี’ติ ปชานาติ; ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตี ภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาติ’’.
‘‘เสยฺยถาปิ, วปฺป, ถูณํ ปฏิจฺจ ฉายา ปฺายติ. อถ ปุริโส ¶ อาคจฺเฉยฺย กุทฺทาลปิฏกํ อาทาย. โส ตํ ถูณํ มูเล ฉินฺเทยฺย; มูเล ฉินฺทิตฺวา ปลิขเณยฺย; ปลิขณิตฺวา มูลานิ อุทฺธเรยฺย, อนฺตมโส อุสีรนาฬิมตฺตานิปิ [อุสีรนาฬมตฺตานิปิ (สี.)]. โส ตํ ถูณํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺเทยฺย. ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉตฺวา ผาเลยฺย. ผาเลตฺวา สกลิกํ สกลิกํ กเรยฺย. สกลิกํ สกลิกํ กตฺวา วาตาตเป วิโสเสยฺย. วาตาตเป วิโสเสตฺวา อคฺคินา ฑเหยฺย. อคฺคินา ฑเหตฺวา มสึ กเรยฺย ¶ . มสึ กริตฺวา มหาวาเต วา โอผุเณยฺย นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหยฺย. เอวํ ¶ หิสฺส, วปฺป, ยา ถูณํ ปฏิจฺจ ฉายา สา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา.
‘‘เอวเมวํ โข, วปฺป, เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ฉ สตตวิหารา อธิคตา โหนฺติ. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน; อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โส กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยามี’ติ ปชานาติ; ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทิยามี’ติ ¶ ปชานาติ; ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตี ภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาติ’’.
เอวํ วุตฺเต วปฺโป สกฺโก นิคณฺสาวโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ปุริโส อุทยตฺถิโก อสฺสปณิยํ โปเสยฺย. โส อุทยฺเจว นาธิคจฺเฉยฺย, อุตฺตริฺจ กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อุทยตฺถิโก พาเล นิคณฺเ ปยิรุปาสึ. สฺวาหํ อุทยฺเจว นาธิคจฺฉึ, อุตฺตริฺจ กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อโหสึ. เอสาหํ, ภนฺเต, อชฺชตคฺเค โย เม พาเลสุ นิคณฺเสุ ปสาโท ตํ มหาวาเต วา โอผุณามิ นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหมิ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต ¶ , ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. สาฬฺหสุตฺตํ
๑๙๖. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข สาฬฺโห จ ลิจฺฉวิ อภโย จ ลิจฺฉวิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สาฬฺโห ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สนฺติ, ภนฺเต, เอเก สมณพฺราหฺมณา ทฺวเยน โอฆสฺส นิตฺถรณํ ปฺเปนฺติ ¶ – สีลวิสุทฺธิเหตุ จ ตโปชิคุจฺฉาเหตุ จ. อิธ, ภนฺเต, ภควา กิมาหา’’ติ?
‘‘สีลวิสุทฺธึ ¶ โข อหํ, สาฬฺห, อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ วทามิ. เย เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา ตโปชิคุจฺฉาวาทา ตโปชิคุจฺฉาสารา ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, อภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา อปริสุทฺธกายสมาจารา อปริสุทฺธวจีสมาจารา อปริสุทฺธมโนสมาจารา อปริสุทฺธาชีวา, อภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย.
‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, ปุริโส นทึ ตริตุกาโม ติณฺหํ กุารึ [กุธารึ (ก.)] อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ ปสฺเสยฺย มหตึ สาลลฏฺึ อุชุํ นวํ อกุกฺกุจฺจกชาตํ. ตเมนํ มูเล ฉินฺเทยฺย; มูเล เฉตฺวา อคฺเค ฉินฺเทยฺย; อคฺเค เฉตฺวา สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธยฺย; สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธตฺวา กุารีหิ ตจฺเฉยฺย; กุารีหิ ตจฺเฉตฺวา วาสีหิ ตจฺเฉยฺย; วาสีหิ ตจฺเฉตฺวา เลขณิยา ลิเขยฺย; เลขณิยา ลิขิตฺวา ปาสาณคุเฬน โธเวยฺย [โธเปยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; ปาสาณคุเฬน โธเวตฺวา นทึ ปตาเรยฺย.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, สาฬฺห, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส นทึ ตริตุ’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุ หิ, ภนฺเต, สาลลฏฺิ พหิทฺธา สุปริกมฺมกตา ¶ อนฺโต อวิสุทฺธา. ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – สาลลฏฺิ สํสีทิสฺสติ, ปุริโส อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสตี’’ติ.
‘‘เอวเมวํ โข, สาฬฺห, เย เต สมณพฺราหฺมณา ตโปชิคุจฺฉาวาทา ตโปชิคุจฺฉาสารา ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, อภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา อปริสุทฺธกายสมาจารา อปริสุทฺธวจีสมาจารา อปริสุทฺธมโนสมาจารา ¶ อปริสุทฺธาชีวา, อภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย.
‘‘เย ¶ จ โข เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา น ตโปชิคุจฺฉาวาทา น ตโปชิคุจฺฉาสารา น ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, ภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา ปริสุทฺธกายสมาจารา ปริสุทฺธวจีสมาจารา ปริสุทฺธมโนสมาจารา ปริสุทฺธาชีวา, ภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , สาฬฺห, ปุริโส นทึ ตริตุกาโม ติณฺหํ กุารึ อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ ปสฺเสยฺย มหตึ สาลลฏฺึ อุชุํ นวํ อกุกฺกุจฺจกชาตํ. ตเมนํ มูเล ฉินฺเทยฺย; มูเล ฉินฺทิตฺวา อคฺเค ฉินฺเทยฺย; อคฺเค ฉินฺทิตฺวา สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธยฺย; สาขาปลาสํ สุวิโสธิตํ วิโสเธตฺวา กุารีหิ ตจฺเฉยฺย; กุารีหิ ตจฺเฉตฺวา วาสีหิ ตจฺเฉยฺย; วาสีหิ ตจฺเฉตฺวา นิขาทนํ อาทาย อนฺโต สุวิโสธิตํ วิโสเธยฺย; อนฺโต สุวิโสธิตํ วิโสเธตฺวา เลขณิยา ลิเขยฺย; เลขณิยา ลิขิตฺวา ปาสาณคุเฬน โธเวยฺย; ปาสาณคุเฬน โธเวตฺวา นาวํ กเรยฺย; นาวํ กตฺวา ผิยาริตฺตํ [ปิยาริตฺตํ (สี. ปี.)] พนฺเธยฺย; ผิยาริตฺตํ พนฺธิตฺวา นทึ ปตาเรยฺย.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, สาฬฺห, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส นทึ ตริตุ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุ หิ, ภนฺเต, สาลลฏฺิ พหิทฺธา สุปริกมฺมกตา, อนฺโต สุวิสุทฺธา นาวากตา [สุวิสุทฺธกตา (ก.)] ผิยาริตฺตพทฺธา. ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘นาวา น สํสีทิสฺสติ, ปุริโส โสตฺถินา ปารํ คมิสฺสตี’’’ติ.
‘‘เอวเมวํ โข ¶ , สาฬฺห, เย เต สมณพฺราหฺมณา น ตโปชิคุจฺฉาวาทา น ตโปชิคุจฺฉาสารา น ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหรนฺติ, ภพฺพา เต โอฆสฺส นิตฺถรณาย. เยปิ เต, สาฬฺห, สมณพฺราหฺมณา ปริสุทฺธกายสมาจารา ¶ ปริสุทฺธวจีสมาจารา ปริสุทฺธมโนสมาจารา ปริสุทฺธาชีวา, ภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธาย. เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว พหูนิ เจปิ กณฺฑจิตฺรกานิ ชานาติ; อถ โข โส ตีหิ าเนหิ ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ ตีหิ? ทูเรปาตี จ, อกฺขณเวธี จ, มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา.
‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว ทูเรปาตี; เอวเมวํ โข, สาฬฺห, อริยสาวโก สมฺมาสมาธิ โหติ. สมฺมาสมาธิ, สาฬฺห, อริยสาวโก ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา สพฺพํ รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา… เย ¶ เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว อกฺขณเวธี; เอวเมวํ โข, สาฬฺห, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ. สมฺมาทิฏฺิ ¶ , สาฬฺห, อริยสาวโก ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, สาฬฺห, โยธาชีโว มหโต กายสฺส ปทาเลตา; เอวเมวํ โข, สาฬฺห, อริยสาวโก สมฺมาวิมุตฺติ โหติ. สมฺมาวิมุตฺติ, สาฬฺห, อริยสาวโก มหนฺตํ อวิชฺชากฺขนฺธํ ปทาเลตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. มลฺลิกาเทวีสุตฺตํ
๑๙๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข มลฺลิกา เทวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข มลฺลิกา เทวี ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘โก ¶ นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา [สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ ‘‘ทุพฺพโณ จ โหติ ทุรูโป สุปาปโก’’ติ เอวมาทินา ปุลฺลิงฺคิกวเสน ทิสฺสติ] ทสฺสนาย; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ?
‘‘โก ¶ ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จ?
‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ?
‘‘โก ¶ ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา, อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จา’’ติ?
‘‘อิธ ¶ , มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม โกธนา โหติ อุปายาสพหุลา. อปฺปมฺปิ วุตฺตา สมานา อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา [โส (สฺยา.)] น ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อิสฺสามนิกา [อิสฺสามนโก (สฺยา.)] โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสติ อุปทุสฺสติ อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา [โส (สฺยา.)] ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ.
‘‘อิธ ปน, มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม โกธนา โหติ อุปายาสพหุลา. อปฺปมฺปิ วุตฺตา สมานา อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อนิสฺสามนิกา โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสติ น อุปทุสฺสติ น อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา ยตฺถ ยตฺถ ¶ ปจฺจาชายติ ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จ.
‘‘อิธ ปน, มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม อกฺโกธนา โหติ อนุปายาสพหุลา. พหุมฺปิ วุตฺตา ¶ สมานา นาภิสชฺชติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติตฺถียติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา น ทาตา โหติ สมณสฺส ¶ วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อิสฺสามนิกา โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสติ อุปทุสฺสติ อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา ยตฺถ ¶ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ.
‘‘อิธ ปน, มลฺลิเก, เอกจฺโจ มาตุคาโม อกฺโกธนา โหติ อนุปายาสพหุลา. พหุมฺปิ วุตฺตา สมานา นาภิสชฺชติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติตฺถียติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. สา ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อนิสฺสามนิกา โข ปน โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสติ น อุปทุสฺสติ น อิสฺสํ พนฺธติ. สา เจ ตโต จุตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, สา ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จ.
‘‘อยํ โข, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ. อยํ ปน, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา ¶ มเหสกฺขา จ. อยํ โข, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ. อยํ ปน, มลฺลิเก, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม อภิรูปา จ โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา; อฑฺฒา จ โหติ มหทฺธนา มหาโภคา มเหสกฺขา จา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต มลฺลิกา เทวี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยา นูนาหํ [สา นูนาหํ (สฺยา.), ยํ นูนาหํ (ก.)] ภนฺเต, อฺํ ชาตึ [อฺาย ชาติยา (สฺยา.)] โกธนา ¶ อโหสึ อุปายาสพหุลา, อปฺปมฺปิ วุตฺตา สมานา ¶ อภิสชฺชึ กุปฺปึ พฺยาปชฺชึ ¶ ปติตฺถียึ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสึ, สาหํ, ภนฺเต, เอตรหิ ทุพฺพณฺณา ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย.
‘‘ยา นูนาหํ, ภนฺเต, อฺํ ชาตึ ทาตา อโหสึ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, สาหํ, ภนฺเต, เอตรหิ อฑฺฒา [อฑฺฒา จ (สี. ปี. ก.)] มหทฺธนา มหาโภคา.
‘‘ยา นูนาหํ, ภนฺเต, อฺํ ชาตึ อนิสฺสามนิกา อโหสึ, ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสึ น อุปทุสฺสึ น อิสฺสํ พนฺธึ, สาหํ, ภนฺเต, เอตรหิ มเหสกฺขา. สนฺติ โข ปน, ภนฺเต, อิมสฺมึ ราชกุเล ขตฺติยกฺาปิ พฺราหฺมณกฺาปิ คหปติกฺาปิ, ตาสาหํ อิสฺสราธิปจฺจํ กาเรมิ. เอสาหํ, ภนฺเต, อชฺชตคฺเค อกฺโกธนา ภวิสฺสามิ อนุปายาสพหุลา, พหุมฺปิ วุตฺตา ¶ สมานา นาภิสชฺชิสฺสามิ น กุปฺปิสฺสามิ น พฺยาปชฺชิสฺสามิ น ปติตฺถียิสฺสามิ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ น ปาตุกริสฺสามิ; ทสฺสามิ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. อนิสฺสามนิกา ภวิสฺสามิ, ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสิสฺสามิ น อุปทุสฺสิสฺสามิ น อิสฺสํ พนฺธิสฺสามิ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสิกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. อตฺตนฺตปสุตฺตํ
๑๙๘. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ [ปุ. ป. ๑๗๔; ม. นิ. ๒.๗; ที. นิ. ๓.๓๑๔; อ. นิ. ๓.๑๕๗-๑๖๓] ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป โหติ นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต