📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาเย

ทุกนิปาต-ฏีกา

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. กมฺมการณวคฺโค

๑. วชฺชสุตฺตวณฺณนา

. ทุกนิปาตสฺส ปเม ปหารสาธนตฺถนฺติ ทณฺฑปฺปหารสฺส สุขสิทฺธิ-อตฺถํ. กฺชิโต นิพฺพตฺตํ กฺชิยํ, อารนาลํ, ยํ พิลงฺคนฺติปิ วุจฺจติ, ตํ ยตฺถ สิฺจติ, สา กฺชิยอุกฺขลิกา พิลงฺคถาลิกา, ตํสทิสํ การณํ พิลงฺคถาลิกํ. สีสกฏาหํ อุปฺปาเฏตฺวาติ อโยคุฬปฺปเวสปฺปมาณํ ฉิทฺทํ กตฺวา. สงฺขมุณฺฑกมฺมการณนฺติ สงฺขํ วิย มุณฺฑกรณํ กมฺมการณํ. ราหุมุขกมฺมการณนฺติ ราหุมุขคตสูริยสทิสกมฺมการณํ.

โชติมาลิกนฺติ โชติมาลวนฺตํ กมฺมการณํ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺถสฺส ปชฺโชตนกมฺมการณํ. เอรกวตฺตกมฺมการณนฺติ เอรกวตฺตสทิเส สรีรโต จมฺมวตฺเต อุปฺปาฏนกมฺมการณํ. จีรกวาสิกกมฺมการณนฺติ สรีรโต อุปฺปาฏิตวตฺตจีรเกหิ นิวาสาปนกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา ยถา คีวโต ปฏฺาย วทฺเธ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ, เอวํ โคปฺผกโต ปฏฺาย กนฺติตฺวาปิ กฏิยเมว เปนฺติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺตี’’ติ วุตฺตํ. เอเณยฺยกกมฺมการณนฺติ เอณิมิคสทิสกมฺมการณํ. อยวลยานิ ทตฺวาติ อยวลยานิ ปฏิมุฺจิตฺวา. อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺตีติ กปฺปรชณฺณุกโกฏีสุ อยสูลานิ ปเวเสนฺติ. นฺติ ตํ ตถากตกมฺมการณํ สตฺตํ.

พฬิสมํสิกนฺติ พลิเสหิ มํสุปฺปาฏนกมฺมการณํ. กหาปณิกนฺติ กหาปณมตฺตโส ฉินฺทนกมฺมการณํ. โกฏฺเฏนฺตีติ ฉินฺทนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ ตจฺเฉตฺวา ขาราปสิฺจนกมฺมการณํ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ ปลิฆสฺส วิย ปริวตฺตนกมฺมการณํ. เอกาพทฺธํ กโรนฺติ อยสูลสฺส โกฏฺฏเนน. ปลาลปีกนฺติ ปลาลปีสฺส วิย สรีรสฺส สํเวลฺลนกมฺมการณํ. การณิกาติ ฆาตนการกา. ปลาลวฏฺฏึ วิย กตฺวาติ ยถา ปลาลปีํ กโรนฺตา ปลาลํ วฏฺฏึ กตฺวา สํเวลฺลนวเสน ปุน เวเนฺติ, เอวํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ฉาตกสุนเขหีติ ขุทฺทเกหิ โกเลยฺยกสุนเขหิ. เต หิ พลวนฺตา ชวโยคา สูรา จ โหนฺติ. สหสฺสภณฺฑิกนฺติ สหสฺสตฺถวิกํ.

ยาหนฺติ ยํ อหํ. นฺติ จ การณวจนํ. เตนาห ‘‘เยน อห’’นฺติ. ฉินฺนมูลเกติ ตณฺหามูลสฺส อุจฺฉินฺนตฺตา สฺฉินฺนมูลเก.

วชฺชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปธานสุตฺตวณฺณนา

. ทุติเย อุภโตพฺยูฬฺหสงฺคามปฺปเวสนสทิสนฺติ ยุทฺธตฺถาย อุภโตราสิกตจตุรงฺคินิเสนามชฺฌปฺปเวสนสทิสํ. ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมานมาหูติ เอตฺถ กถํ ปนีทมุภยํ สมานํ? ชีวิตวินาสภีรุโก หิ ยุชฺฌิตุํ น สกฺโกติ, โภคกฺขยภีรุโก ทานํ ทาตุํ น สกฺโกติ. ‘‘ชีวิตฺจ รกฺขิสฺสามิ, ยุชฺฌิสฺสามี’’ติ หิ วทนฺโต น ยุชฺฌติ, ชีวิเต ปน อาลยํ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘หตฺถปาทาทิจฺเฉโท วา โหตุ มรณํ วา, คณฺหิสฺสาเมตํ อิสฺสริย’’นฺติ อุสฺสหนฺโตว ยุชฺฌติ. ‘‘โภเค จ รกฺขิสฺสามิ, ทานฺจ ทสฺสามี’’ติ วทนฺโตปิ น ททาติ, โภเคสุ ปน อาลยํ ปิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘มหาทานํ ทสฺสามี’’ติ อุสฺสหนฺโตว เทติ. เอวํ ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมํ โหติ. กิฺจ ภิยฺโย – อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺติ, ยถา จ ยุทฺเธ อปฺปกาปิ วีรปุริสา พหุเก ภีรุปุริเส ชินนฺติ, เอวํ สทฺธาทิสมฺปนฺโน อปฺปกมฺปิ ทานํ ททนฺโต พหุวิธํ โลภโทสอิสฺสามจฺฉริยทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทิเภทํ ตปฺปฏิปกฺขํ อภิภวติ, พหุฺจ ทานวิปากํ อธิคจฺฉติ. เอวมฺปิ ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมานํ. เตนาห ‘‘อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ, เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ.

อคารสฺส หิตํ กสิโครกฺขาทิ อคาริยํ, ตํ นตฺถิ เอตฺถาติ อนคาริยํ, ปพฺพชฺชาติ อาห ‘‘อคารสฺส…เป… อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถายาติ เอตฺถ จตฺตาโร อุปธี – กามุปธิ, ขนฺธุปธิ, กิเลสุปธิ, อภิสงฺขารุปธีติ. กามาปิ หิ ‘‘ยํ ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ (อ. นิ. ๙.๓๔) เอวํ วุตฺตสฺส สุขสฺส, ตทสฺสาทนิมิตฺตสฺส วา ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต อุปธียติ เอตฺถ สุขนฺติ อิมินา วจนตฺเถน ‘‘อุปธี’’ติ วุจฺจนฺติ. ขนฺธาปิ ขนฺธมูลกสฺส ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต, กิเลสาปิ อปายทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต, อภิสงฺขาราปิ ภวทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต ‘‘อุปธี’’ติ วุจฺจนฺติ. สพฺเพสํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺโค ปหานํ เอตฺถาติ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคํ, นิพฺพานํ. เตนาห ‘‘สพฺเพสํ ขนฺธูปธิ…เป… นิพฺพานสฺส อตฺถายา’’ติ.

ปธานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตปนียสุตฺตวณฺณนา

. ตติเย ตปนียาติ เอตฺถ กตฺตุอตฺเถ อนีย-สทฺโทติ อาห ‘‘ตปนฺตีติ ตปนียา’’ติ. ตปนฺตีติ วิพาเธนฺติ, วิเหเนฺตีติ อตฺโถ. ตปนํ วา ทุกฺขํ, ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ ตสฺส อุปฺปาทเนน เจว อนุพลปฺปทาเนน จ หิตาติ ตปนียา. อถ วา ตปนฺติ เตนาติ ตปนํ, อนุตาโป, วิปฺปฏิสาโรติ อตฺโถ. ตสฺส เหตุภาวโต หิตาติ ตปนียา. อนุโสจตีติ วิปฺปฏิสารี หุตฺวา กตากตํ อนุคมฺม โสจติ. โสจนฺหิ กตตฺตา จ โหติ อกตตฺตา จ. ตถา เจว ปาฬิยํ วิภตฺตํ. นนฺทยกฺขาทีนํ วตฺถูนิ ปากฏานีติ ตานิ อทสฺเสตฺวา ทฺเวภาติกวตฺถุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต กิรา’’ติ อาทิมาห. ตตฺถ เตติ ทฺเว ภาตโร. ปุน กึ มคฺคสีติ ปุน กึ อิจฺฉสิ.

ตปนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อุปฺาตสุตฺตวณฺณนา

. ปฺจเม อิมฺหิ ธมฺมทฺวยนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อสนฺตุฏฺิตา, ปธานสฺมึ อโนสกฺกนสงฺขาตํ ธมฺมทฺวยํ. อิมินาติ ‘‘อสนฺตุฏฺิตา กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ วจเนน. อิมํ ทีเปตีติ ‘‘ยาว โส อุปฺปชฺชติ, น ตาวาหํ สนฺตุฏฺโ อโหสิ’’นฺติ เอตํ ปริยนฺตํ กตฺวา วกฺขมานตฺถํ ทีเปติ. ปธานสฺมินฺติ วีริยารมฺเภ. อิมมตฺถนฺติ ‘‘ปธานสฺมิฺจา’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ. วีริยปฺปวาเห วตฺตมาเน อนฺตรา เอว ปฏิคมนํ นิวตฺตนํ ปฏิวานํ, ตทสฺส อตฺถีติ ปฏิวานี, น ปฏิวานี อปฺปฏิวานี, ตสฺส ภาโว อปฺปฏิวานิตา, อโนสกฺกนาติ อาห ‘‘อปฺปฏิวานิตาติ อปฺปฏิกฺกมนา อโนสกฺกนา’’ติ. ตตฺถ อโนสกฺกนาติ อปฺปฏินิวตฺติ.

อาคมนียปฏิปทาติ สมถวิปสฺสนาสงฺขาตา ปุพฺพภาคปฏิปตฺติ. สา หิ อาคจฺฉนฺติ วิเสสมธิคจฺฉนฺติ เอตาย, อาคจฺฉติ วา วิเสสาธิคโม เอตายาติ อาคมนียา, สา เอว ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปฏิปทาติ อาคมนียปฏิปทา. อปฺปฏิวานปธานนฺติ โอสกฺกนารหิตปฺปธานํ, อนฺตรา อโนสกฺกิตฺวา กตวีริยนฺติ อตฺโถ.

อุปฺาตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา

. ฉฏฺเ สํโยชนานํ หิตา ปจฺจยภาเวนาติ สํโยชนิยา, เตภูมกา ธมฺมา. เตนาห ‘‘ทสนฺนํ สํโยชนาน’’นฺติอาทิ. สํโยชนิเย ธมฺเม อสฺสาทโต อนุปสฺสติ สีเลนาติ อสฺสาทานุปสฺสี, ตสฺส ภาโว อสฺสาทานุปสฺสิตา. นิพฺพิทานุปสฺสิตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อุกฺกณฺนวเสนาติ สํโยชนิเยสุ เตภูมกธมฺเมสุ นิพฺพินฺทนวเสน. ชนนํ ชาติ, ขนฺธานํ ปาตุภาโวติ อาห ‘‘ชาติยาติ ขนฺธนิพฺพตฺติโต’’ติ, ขนฺธานํ ตตฺถ ตตฺถ ภเว อปราปรํ นิพฺพตฺติโตติ อตฺโถ. ขนฺธปริปาโก เอกภวปริยาปนฺนานํ ขนฺธานํ ปุราณภาโว. เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉทวเสน ขนฺธานํ เภโท อิธ มรณนฺติ อาห ‘‘มรเณนาติ ขนฺธเภทโต’’ติ. อนฺโตนิชฺฌานํ จิตฺตสนฺตาโป. ปริเทโว นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส วาจาวิปฺปลาโป. โส จ โสกสมุฏฺาโนติ อาห ‘‘ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปิตลกฺขเณหิ ปริเทเวหี’’ติ. ลาลปฺปิตํ วาจาวิปฺปลาโป, โส จ อตฺถโต สทฺโทเยว.

ทุกฺขนฺติ อิธ กายิกํ ทุกฺขํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘กายปฏิปีฬนทุกฺเขหี’’ติ. มโนวิฆาตโทมนสฺเสหีติ มนโส วิฆาตกเรหิ โทมนสฺเสหิ. พฺยาปาทสมฺปโยเคน มนโส วิหนนรสฺหิ โทมนสฺสํ. ภุโส อายาโส อุปายาโส ยถา ‘‘ภุสมาทานํ อุปาทาน’’นฺติ, โส จ อตฺถโต าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยว. กายจิตฺตานฺหิ อายาสนวเสน โทสสฺเสว ปวตฺติอากาโร อุปายาโสติ วุจฺจติ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน. ตํ จุทฺทสหิ อกุสลเจตสิเกหิ อฺโ เอโก เจตสิกธมฺโมติ เอเก. ยํ วิสาโทติ จ วทนฺติ.

สํโยชนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กณฺหสุตฺตวณฺณนา

. สตฺตเม ยถา ‘‘กณฺหา คาวี’’ติอาทีสุ กาฬวณฺเณน สมนฺนาคตา ‘‘กณฺหา’’ติ วุจฺจติ, น เอวํ กาฬวณฺณตาย ธมฺมา ‘‘กณฺหา’’ติ วุจฺจนฺติ, อถ โข กณฺหาภิชาตินิพฺพตฺติเหตุโต อปฺปภสฺสรภาวกรณโต วา ‘‘กณฺหา’’ติ วุจฺจนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น กาฬวณฺณตายา’’ติอาทิมาห. กณฺหตายาติ กณฺหาภิชาติตาย. กณฺหาภิชาตีติ จ อปายา วุจฺจนฺติ มนุสฺเสสุ จ โทภคฺคิยํ. สรเสนาติ สภาเวน. น หิรียติ น ลชฺชตีติ อหิริโก, ปุคฺคโล, จิตฺตํ, ตํ สมฺปยุตฺตธมฺมสมุทาโย วา. ตสฺส ภาโว อหิริกฺกนฺติ วตฺตพฺเพ เอกสฺส ก-การสฺส โลปํ กตฺวา อหิริกนฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อหิริกนฺติ อหิริกภาโว’’ติ. น โอตฺตปฺปตีติ อโนตฺตาปี, ปุคฺคโล, ยถาวุตฺตธมฺมสมุทาโย วา, ตสฺส ภาโว อโนตฺตปฺปนฺติ อาห ‘‘อโนตฺตาปิภาโว’’ติ.

กณฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สุกฺกสุตฺตวณฺณนา

. อฏฺเม ‘‘สุกฺกํ วตฺถ’’นฺติอาทีสุ วิย น วณฺณสุกฺกตาย ธมฺมานํ สุกฺกตา, อถ โข สุกฺกาภิชาติเหตุโต ปภสฺสรภาวกรณโต จาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น วณฺณสุกฺกตายา’’ติอาทิมาห. สุกฺกตายาติ สุกฺกาภิชาติตาย. หิรี ปาปธมฺเม คูถํ วิย ปสฺสนฺตี ชิคุจฺฉตีติ อาห ‘‘ปาปโต ชิคุจฺฉนลกฺขณา หิรี’’ติ. โอตฺตปฺปํ เต อุณฺหํ วิย ปสฺสนฺตํ ตโต ภายตีติ วุตฺตํ ‘‘ภายนลกฺขณํ โอตปฺป’’นฺติ. อิทฺจ หิโรตฺตปฺปํ อฺมฺวิปฺปโยคี ปาปโต วิมุขภูตฺจ, ตสฺมา เนสํ อิทํ นานากรณํ – อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปติ หิรี, โลกาธิปติ โอตปฺปํ. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปนฺติ.

ตตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, วยํ, สูรภาวํ, พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กถํ? ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ น ชาติสมฺปนฺนานํ กมฺมํ, หีนชจฺจานํ เกวฏฺฏาทีนํ กมฺมํ, มาทิสสฺส ชาติสมฺปนฺนสฺส อิทํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ ตาว ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ ทหเรหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ, มาทิสสฺส วเย ิตสฺส อิทํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ ทุพฺพลชาติกานํ กมฺมํ, มาทิสสฺส สูรภาวสมฺปนฺนสฺส อิทํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ อนฺธพาลานํ กมฺมํ, น ปณฺฑิตานํ, มาทิสสฺส ปณฺฑิตสฺส พหุสฺสุตสฺส อิทํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ, สมุฏฺาเปนฺโต จ หิรึ นิสฺสาย ปาปกมฺมํ น กโรติ.

กถํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ? ‘‘สเจ ตฺวํ ปาปกมฺมํ กริสฺสสิ, จตูสุ ปริสาสุ ครหปฺปตฺโต ภวิสฺสสิ, ตโต ตํ สีลวนฺโต สพฺรหฺมจารี วิวชฺชิสฺสนฺตี’’ติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นิสฺสาย ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ.

กถํ อตฺตาธิปติ หิรี? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต อตฺตานํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ‘‘มาทิสสฺส สทฺธาปพฺพชิตสฺส พหุสฺสุตสฺส ธุตธรสฺส น ยุตฺตํ ปาปกมฺมํ กาตุ’’นฺติ ปาปํ น กโรติ. เอวํ อตฺตาธิปติ หิรี. เตนาห ภควา ‘‘โส อตฺตานํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๐).

กถํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต โลกํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ‘‘สเจ โข ตฺวํ ปาปกมฺมํ กเรยฺยาสิ, สพฺรหฺมจาริโน ตาว ตํ ชานิสฺสนฺติ, มหิทฺธิกา มหานุภาวา โลเก จ สมณพฺราหฺมณา เทวตา จ, ตสฺมา เต น ยุตฺตํ ปาปํ กาตุ’’นฺติ ปาปกมฺมํ น กโรติ. ยถาห – ‘‘มหา โข ปนายํ โลกสนฺนิวาโส, มหนฺตสฺมึ โข ปน โลกสนฺนิวาเส สนฺติ สมณพฺราหฺมณา อิทฺธิมนฺโต ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุโน. เต ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ, เตปิ มํ เอวํ ชานิสฺสนฺติ ‘ปสฺสถ, โภ, อิมํ กุลปุตฺตํ, สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. สนฺติ เทวตา อิทฺธิมนฺตินิโย ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุนิโย, ตา ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ, ตาปิ มํ ชานิสฺสนฺติ ‘ปสฺสถ, โภ, อิมํ กุลปุตฺตํ, สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ…เป… โส โลกํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ…เป… ปริหรตี’’ติ. เอวํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ.

ลชฺชาสภาวสณฺิตาติ เอตฺถ ลชฺชาติ ลชฺชนากาโร, เตน สภาเวน สณฺิตา หิรี. ภยนฺติ อปายภยํ, เตน สภาเวน สณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. ตทุภยํ ปาปปริวชฺชเน ปากฏํ โหติ. ตตฺถ ยถา ทฺวีสุ อโยคุเฬสุ เอโก สีตโล ภเวยฺย คูถมกฺขิโต, เอโก อุณฺโห อาทิตฺโต. เตสุ ยถา สีตลํ คูถมกฺขิตตฺตา ชิคุจฺฉนฺโต วิฺุชาติโก น คณฺหาติ, อิตรํ ฑาหภเยน. เอวํ ปณฺฑิโต ลชฺชาย ชิคุจฺฉนฺโต ปาปํ น กโรติ, โอตฺตปฺเปน อปายภยภีโต ปาปํ น กโรติ, เอวํ ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ.

กถํ สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ? เอกจฺโจ หิ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ เอวํ จตูหิ การเณหิ ตตฺถ คารเวน สปฺปติสฺสวลกฺขณํ หิรึ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. เอกจฺโจ อตฺตานุวาทภยํ, ปรานุวาทภยํ, ทณฺฑภยํ, ทุคฺคติภยนฺติ เอวํ จตูหิ การเณหิ วชฺชโต ภายนฺโต วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอตฺถ จ อชฺฌตฺตสมุฏฺานาทิตา หิโรตฺตปฺปานํ ตตฺถ ตตฺถ ปากฏภาเวน วุตฺตา, น ปน เนสํ กทาจิ อฺมฺวิปฺปโยโค. น หิ ลชฺชนํ นิพฺภยํ, ปาปภยํ วา อลชฺชนํ อตฺถีติ. เอวเมตฺถ วิตฺถารโต อตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา.

สุกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. จริยสุตฺตวณฺณนา

. นวเม โลกนฺติ สตฺตโลกํ. สนฺธาเรนฺตีติ อาจารสนฺธารณวเสน ธาเรนฺติ. เปนฺตีติ มริยาทายํ เปนฺติ. รกฺขนฺตีติ อาจารสนฺธารเณน มริยาทายํ เปตฺวา รกฺขนฺติ. ครุจิตฺตีการวเสน น ปฺาเยถาติ ครุํ กตฺวา จิตฺเต กรณวเสน น ปฺาเยถ, อยมาจาโร น ลพฺเภยฺย. มาตุจฺฉาติ วาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทฺยตฺโถ. เตน มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วาติ อิเม สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ มาตุ ภคินี มาตุจฺฉา. มาตุลภริยา มาตุลานี. ครูนํ ทารา มหาปิตุจูฬปิตุเชฏฺภาตุอาทีนํ ครุฏฺานิยานํ ภริยา. ยถา อเชฬกาติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยถา อเชฬกาทโย ติรจฺฉานา หิโรตฺตปฺปรหิตา มาตาติ สฺํ อกตฺวา ภินฺนมริยาทา สพฺพตฺถ สมฺเภเทน วตฺตนฺติ, เอวมยํ มนุสฺสโลโก ยทิ โลกปาลธมฺมา น ภเวยฺยุํ, สพฺพตฺถ สมฺเภเทน วตฺเตยฺย. ยสฺมา ปนิเม โลกปาลกธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ, ตสฺมา นตฺถิ สมฺเภโทติ.

จริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. วสฺสูปนายิกสุตฺตวณฺณนา

๑๐. ทสเม อปฺตฺตาติ อนนุฺาตา, อวิหิตา วา. วสฺเสติ วสฺสารตฺตํ สนฺธาย วทติ, อุตุวสฺเสติ เหมนฺตํ สนฺธาย. เอกินฺทฺริยํ ชีวํ วิเหเนฺตาติ รุกฺขลตาทีสุ ชีวสฺิตาย เอวมาหํสุ. เอกินฺทฺริยนฺติ จ กายินฺทฺริยํ อตฺถีติ มฺมานา วทนฺติ. สงฺฆาตํ อาปาเทนฺตาติ วินาสํ อาปาเทนฺตา. สํกสายิสฺสนฺตีติ อปฺโปสฺสุกฺกา นิพทฺธวาสํ วสิสฺสนฺติ. อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพาติ เอตฺถ อปรชฺชุ คตาย อสฺสาติ อปรชฺชุคตา, ตสฺสา อปรชฺชุคตาย อติกฺกนฺตาย, อปรสฺมึ ทิวเสติ อตฺโถ, ตสฺมา อาสาฬฺหิปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส อุปคนฺตพฺพาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มาสคตาย อาสาฬฺหิยา อุปคนฺตพฺพาติ มาโส คตาย อสฺสาติ มาสคตา, ตสฺสา มาสคตาย อติกฺกนฺตาย, มาเส ปริปุณฺเณติ อตฺโถ. ตสฺมา อาสาฬฺหิปุณฺณมโต ปราย ปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส อุปคนฺตพฺพาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

วสฺสูปนายิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

กมฺมการณวคฺควณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา นิฏฺิตา.

๒. อธิกรณวคฺควณฺณนา

๑๑. ทุติยวคฺคสฺส ปเม อปฺปฏิสงฺขาเน น กมฺปตีติ ปฏิสงฺขานพลํ, อุปปริกฺขนปฺาเยตํ นามํ. วีริยสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ พลํ ภาวนาพลํ. วีริยุปตฺถมฺเภน หิ กุสลภาวนา พลวตี ถิรา อุปฺปชฺชติ, ตถา อุปฺปนฺนา พลวตี กุสลภาวนา พลวนฺโต สตฺต โพชฺฌงฺคาติปิ วุจฺจนฺติ. อตฺถโต วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺคา โหนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ ภาวนาพลํ? ยา กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺมํ, อิทํ วุจฺจติ ภาวนาพลํ. สตฺตปิ โพชฺฌงฺคา ภาวนาพล’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๖๑).

อกมฺปิยฏฺเนาติ ปฏิปกฺเขหิ อกมฺปนียฏฺเน. ทุรภิภวนฏฺเนาติ ทุรภิภวนียฏฺเน. อนชฺโฌมทฺทนฏฺเนาติ อธิภวิตฺวา อนวมทฺทนฏฺเน. เอตานีติ เอตานิ ยถาวุตฺตานิ ทฺเวปิ พลานิ. เอตทคฺคํ นาคตนฺติ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ พลานํ ยทิทํ ภาวนาพล’’นฺติ เอวเมตฺถ เอตทคฺคํ นาคตนฺติ อตฺโถ.

๑๒. ทุติเย วิเวกํ นิสฺสิตนฺติ วิเวกนิสฺสิตํ, ยถา วา วิเวกวเสน ปวตฺตํ ฌานํ ‘‘วิเวกช’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ วิเวกวเสน ปวตฺโต สติสมฺโพชฺฌงฺโค ‘‘วิเวกนิสฺสิโต’’ติ ทฏฺพฺโพ. นิสฺสยฏฺโ จ วิปสฺสนามคฺคานํ วเสน มคฺคผลานํ เวทิตพฺโพ, อสติปิ วา ปุพฺพาปรภาเว ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ เอตฺถ ปจฺจเยน สมุปฺปาทนํ วิย อวินาภาวิธมฺมพฺยาปารา นิสฺสยนภาวนา สมฺภวนฺตีติ. ‘‘ตทงฺคสมุจฺเฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิต’’นฺติ วตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตสฺส อวจนํ ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา อิธ ภาเวตพฺพานํ สมฺโพชฺฌงฺคานํ วุตฺตตฺตา. ภาวิตโพชฺฌงฺคสฺส หิ สจฺฉิกาตพฺพา พลโพชฺฌงฺคา, เตสํ กิจฺจํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโก. อชฺฌาสยโตติ ‘‘นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสามี’’ติ ปวตฺตอชฺฌาสยโต. ยทิปิ หิ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณํ จิตฺตํ, สงฺขาเรสุ ปน อาทีนวํ ทิสฺวา ตปฺปฏิปกฺเข นิพฺพาเน นินฺนตาย อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิโต โหติ อุณฺหาภิภูตสฺส ปุคฺคลสฺส สีตนินฺนจิตฺตตา วิย.

‘‘ปฺจวิธวิเวกนิสฺสิตมฺปีติ เอเก’’ติ วตฺวา ตตฺถ ยถาวุตฺตวิเวกตฺตยโต อฺํ วิเวกทฺวยํ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เต หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ฌานกฺขเณ ตาว กิจฺจโต วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ, วิปสฺสนากฺขเณ อชฺฌาสยโต ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตํ ภาเวตีติ วตฺตพฺพํ ‘‘เอวาหํ อนุตฺตรํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ ตตฺถ นินฺนชฺฌาสยตาย. เตนาห ‘‘ตสฺมา เตสํ มเตนา’’ติอาทิ. เหฏฺา กสิณชฺฌานคฺคหเณน อารุปฺปานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ, ตสฺมา ‘‘เอเตสํ ฌานาน’’นฺติ อิมินาปิ เตสํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปหานวินโย วิย วิราคนิโรธาปิ อิธาธิปฺเปตวิเวเกน อตฺถโต นิพฺพิสิฏฺา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เอส นโย วิราคนิสฺสิตนฺติอาทีสู’’ติ. เตนาห ‘‘วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย’’ติ.

โวสฺสคฺค-สทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. โวสฺสชฺชนฺหิ ปหานํ วิสฺสฏฺภาเวน นิโรธนปกฺขนฺทนมฺปิ จ. ตสฺมา วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน ปฏิปกฺขสฺส ปหานํ โวสฺสคฺโค, ตถา วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ อารมฺมณกรเณน วิสฺสฏฺสภาวตา โวสฺสคฺโคติ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค’’ติอาทิ. อยํ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ อยํ มิสฺสกวเสน วุตฺโต สติสมฺโพชฺฌงฺโค. ยถาวุตฺเตน ปกาเรนาติ ตทงฺคปฺปหานสมุจฺเฉทปฺปหานปฺปกาเรน ตนฺนินฺนตทารมฺมณปฺปกาเรน จ. ปุพฺเพ โวสฺสคฺควจนสฺเสว อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา อาห ‘‘สกเลน วจเนนา’’ติ. ปริณมนฺตนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺคตนฺนินฺนปฺปกาเรน ปริณมนฺตํ. ปริณตนฺติ มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทตทารมฺมณปฺปกาเรน ปริณตํ. ปริณาโม นาม อิธ ปริปาโกติ อาห ‘‘ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจา’’ติ. ปริปาโก จ อาเสวนลาเภน ลทฺธสามตฺถิยสฺส กิเลเส ปริจฺจชิตุํ นิพฺพานํ ปกฺขนฺทิตุํ ติกฺขวิสทภาโว. เตนาห ‘‘อยฺหี’’ติอาทิ. เอส นโยติ ยฺวายํ นโย ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทินา สติสมฺโพชฺฌงฺเค วุตฺโต, เสเสสุ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีสุปิ เอเสว นโย, เอวํ ตตฺถ เนตพฺพนฺติ อตฺโถ.

‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทีสุ ลพฺภมานมตฺถํ สามฺโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิธาธิปฺเปตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพสงฺขเตหีติ สพฺเพหิ ปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺเมหิ. สพฺเพสนฺติ สงฺขตธมฺมานํ. วิเวกํ อารมฺมณํ กตฺวาติ นิพฺพานสงฺขาตํ วิเวกํ อารมฺมณํ กตฺวา. ตฺจ โขติ ตเทว สติสมฺโพชฺฌงฺคํ.

๑๓. ตติเย จิตฺเตกคฺคตฺถายาติ จิตฺตสมาธานตฺถาย, ทิฏฺธมฺเม สุขวิหารายาติ อตฺโถ. จิตฺเตกคฺคตาสีเสน หิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาโร วุตฺโต. สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวานํ วเสน เหตํ วุตฺตํ. เต หิ สมาปชฺชิตฺวา ‘‘เอกคฺคจิตฺตา สุขํ ทิวสํ วิหริสฺสามา’’ติ อิจฺเจว กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตนฺติ. วิปสฺสนาปาทกตฺถายาติอาทีสุ ปน เสกฺขปุถุชฺชนา ‘‘สมาปตฺติโต วุฏฺาย สมาหิเตน จิตฺเตน วิปสฺสามา’’ติ นิพฺพตฺเตนฺตา วิปสฺสนาปาทกตฺถาย ภาเวนฺติ.

เย ปน อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย ‘‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๘; ม. นิ. ๑.๑๔๗; สํ. นิ. ๒.๗๐; ๕.๘๓๔, ๘๔๒) วุตฺตนยา อภิฺาโย ปตฺเถนฺตา นิพฺพตฺเตนฺติ, เต อภิฺาปาทกตฺถาย ภาเวนฺติ. เย อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ‘‘สตฺตาหํ อจิตฺตา หุตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม นิโรธํ นิพฺพานํ ปตฺวา สุขํ วิหริสฺสามา’’ติ นิพฺพตฺเตนฺติ, เต นิโรธปาทกตฺถาย ภาเวนฺติ. เย ปน อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อปริหีนชฺฌานา พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชิสฺสามา’’ติ นิพฺพตฺเตนฺติ, เต ภววิเสสตฺถาย ภาเวนฺติ.

ยุตฺตํ ตาว จิตฺเตกคฺคตาย ภววิเสสตฺถตา วิย วิปสฺสนาปาทกตฺถตาปิ จตุกฺกชฺฌานสาธารณาติ เตสํ วเสน ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ วจนํ, อภิฺาปาทกตฺถตา ปน นิโรธปาทกตฺถตา จ จตุตฺถสฺเสว ฌานสฺส อาเวณิกา, สา กถํ จตุกฺกชฺฌานสาธารณา วุตฺตาติ? ปรมฺปราธิฏฺานภาวโต. ปทฏฺานปทฏฺานมฺปิ หิ ปทฏฺานนฺติ วุจฺจติ การณการณนฺติ ยถา ‘‘ติเณหิ ภตฺตํ สิทฺธ’’นฺติ.

๑๔. จตุตฺเถ สสกสฺส อุปฺปตนํ วิย โหตีติ ปถวิชิคุจฺฉนสสกสฺส อุปฺปตนํ วิย โหติ. ตตฺถายํ อตฺถสลฺลาปิกา อุปมา – ปถวี กิร สสกํ อาห – ‘‘เห สสกา’’ติ. สสโก อาห – ‘‘โก เอโส’’ติ. กสฺมา มเมว อุปริ สพฺพอิริยาปเถ กปฺเปนฺโต อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺโต มํ น ชานาสีติ? สุฏฺุ ตยา อหํ ทิฏฺโ, มยา อกฺกนฺตฏฺานฺหิ องฺคุลคฺเคหิ ผุฏฺฏฺานํ วิย โหติ, วิสฺสฏฺอุทกํ อปฺปมตฺตกํ, กรีสํ กฏกผลมตฺตํ, หตฺถิอสฺสาทีหิ ปน อกฺกนฺตฏฺานมฺปิ มหนฺตํ, ปสฺสาโวปิ เนสํ ฆฏมตฺโต, อุจฺจาโรปิ ปจฺฉิมตฺโต โหติ, อลํ มยฺหํ ตยาติ อุปฺปติตฺวา อฺสฺมึ าเน ปติโต. ตโต นํ ปถวี อาห – ‘‘อโห ทูรํ คโตปิ นนุ มยฺหํเยว อุปริ ปติโตสี’’ติ? โส ปุน ตํ ชิคุจฺฉนฺโต อุปฺปติตฺวา อฺตฺถ ปติโต. เอวํ วสฺสสหสฺสมฺปิ อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา ปตมาโน สสโก เนว ปถวิยา อนฺตํ ปาปุณิตุํ สกฺโกติ. น โกฏินฺติ น ปุพฺพโกฏึ. อิตเรสนฺติ วิปฺจิตฺุเนยฺยปทปรมานํ.

๑๕. ปฺจเม สมเถหิ อธิกรียติ วูปสมฺมตีติ อธิกรณํ, อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน วิวาโทเยว วิวาทาธิกรณํ. ‘‘อิธ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อนุวทนฺติ สีลวิปตฺติยา วา’’ติอาทินา (จูฬว. ๒๑๕) จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย อุปฺปนฺโน อนุวาโทเยว อนุวาทาธิกรณํ. ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณํ. ‘‘สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณ’’นฺติ (จูฬว. ๒๑๕) วจนโต อาปตฺติเยว อาปตฺตาธิกรณํ. ‘‘ยา สงฺฆสฺส กิจฺจยตา กรณียตา อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺม’’นฺติ (จูฬว. ๒๑๕) เอวมาคตํ จตุพฺพิธํ สงฺฆกิจฺจํ กิจฺจาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๑๖. ฉฏฺเ อปากฏนาโมติ ‘‘เสโล, กูฏทนฺโต’’ติอาทินา อนภิฺาโต. เยน วา การเณนาติ เหตุมฺหิ อิทํ กรณวจนํ. เหตุอตฺโถ หิ กิริยาการณํ, น กรณํ วิย กิริยตฺโถ, ตสฺมา นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมตฺถา อิธ อุปสงฺกมนกิริยาติ ‘‘อนฺเนน วสติ, อชฺเฌเนน วสตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุอตฺถเมเวตํ กรณวจนํ ยุตฺตํ, น กรณตฺถํ ตสฺส อยุชฺชมานตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘เยน วา การเณนา’’ติ. อวิภาคโต สตตํ ปวตฺติตนิรติสยสาทุวิปุลามตรสสทฺธมฺมผลตาย สาทุผลนิจฺจผลิตมหารุกฺเขน ภควา อุปมิโต. สาทุผลูปโภคาธิปฺปายคฺคหเณเนว หิ รุกฺขสฺส สาทุผลตา คหิตาติ. อุปสงฺกมีติ อุปสงฺกนฺโต. สมฺปตฺตกามตาย หิ กิฺจิ านํ คจฺฉนฺโต ตํตํปเทสาติกฺกมเนน อุปสงฺกมิ, อุปสงฺกนฺโตติ จ วตฺตพฺพตํ ลภติ. เตนาห ‘‘คโตติ วุตฺตํ โหตี’’ติ, อุปคโตติ อตฺโถ. อุปสงฺกมิตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโสติ อาห ‘‘อุปสงฺกมนปริโยสานทีปน’’นฺติ. ตโตติ ยํ านํ ปตฺโต ‘‘อุปสงฺกมี’’ติ วุตฺโต, ตโต อุปคตฏฺานโต.

ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโตติ ยถา ภควา ‘‘กจฺจิ เต, พฺราหฺมณ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติอาทินา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต เตน พฺราหฺมเณน สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ ปุพฺพภาสิตาย, เอวํ โสปิ พฺราหฺมโณ ตทนุกรเณน ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสีติ โยชนา. ตํ ปน สมปฺปวตฺตโมทตํ อุปมาย ทสฺเสตุํ ‘‘สีโตทกํ วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมฺโมทิตนฺติ สํสนฺทิตํ. เอกีภาวนฺติ สมฺโมทนกิริยาย สมานตํ. ขมนียนฺติ ‘‘อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ทุกฺขพหุลตาย สภาวโต ทุสฺสหํ, กจฺจิ ขมิตุํ สกฺกุเณยฺย’’นฺติ ปุจฺฉติ. ยาปนียนฺติ อาหาราทิปฺปฏิพทฺธวุตฺติกํ จิรปฺปพนฺธสงฺขาตาย ยาปนาย กจฺจิ ยาเปตุํ สกฺกุเณยฺยํ. สีสโรคาทิอาพาธาภาเวน กจฺจิ อปฺปาพาธํ. ทุกฺขชีวิกาภาเวน กจฺจิ อปฺปาตงฺกํ. ตํตํกิจฺจกรเณ อุฏฺานสุขตาย กจฺจิ ลหุฏฺานํ. ตทนุรูปพลโยคโต กจฺจิ พลํ. สุขวิหารสมฺภเวน กจฺจิ ผาสุวิหาโร อตฺถีติ สพฺพตฺถ กจฺจิ-สทฺทํ โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

พลปฺปตฺตา ปีติ ปีติเยว. ตรุณปีติ ปาโมชฺชํ. สมฺโมทํ ชเนติ กโรตีติ สมฺโมทนีกํ, ตเทว สมฺโมทนียํ. สมฺโมทิตพฺพโต สมฺโมทนียนฺติ อิมํ ปน อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต’’ติ อาห. สริตพฺพภาวโตติ อนุสฺสริตพฺพภาวโต. ‘‘สรณีย’’นฺติ วตฺตพฺเพ ทีฆํ กตฺวา ‘‘สารณีย’’นฺติ วุตฺตํ. สุยฺยมานสุขโตติ อาปาถคตมธุรตํ อาห, อนุสฺสริยมานสุขโตติ วิมทฺทรมณียตํ. พฺยฺชนปริสุทฺธตายาติ สภาวนิรุตฺติภาเวน ตสฺสา กถาย วจนจาตุริยมาห. อตฺถปริสุทฺธตายาติ อตฺถสฺส นิรุปกฺกิเลสตํ. อเนเกหิ ปริยาเยหีติ อเนเกหิ การเณหิ.

อติทูรอจฺจาสนฺนปฺปฏิกฺเขเปน นาติทูรํ นจฺจาสนฺนํ นาม คหิตํ, ตํ ปน อวกํสโต อุภินฺนํ ปสาริตหตฺถาสงฺฆฏฺฏเนน ทฏฺพฺพํ. คีวํ ปสาเรตฺวาติ คีวํ ปริวฏฺฏนวเสน ปสาเรตฺวา.

เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตู’’ติอาทิปุจฺฉาวจนํ อโวจ. เตเนว ‘‘เอตทโวจา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา ทุวิธา หิ ปุจฺฉาติอาทินา ปุจฺฉาวิภาคํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อคาเร นิยุตฺโต อคาริโก, ตสฺส ปุจฺฉา อคาริกปุจฺฉา. อคาริกโต อฺโ อนคาริโก ปพฺพชฺชูปคโต, ตสฺส ปุจฺฉา อนคาริกปุจฺฉา. กิฺจาปิ อฺตฺถ ‘‘ชนโก เหตุ, ปคฺคาหโก ปจฺจโย. อสาธารโณ เหตุ, สาธารโณ ปจฺจโย. สภาโค เหตุ, อสภาโค ปจฺจโย. ปุพฺพกาลิโก เหตุ, สหปวตฺโต ปจฺจโย’’ติอาทินา เหตุปจฺจยา วิภชฺช วุจฺจนฺติ. อิธ ปน ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขเว, มหาภูตา เหตุ จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๖) วิย เหตุปจฺจยสทฺทา สมานตฺถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุภยมฺเปตํ การณเววจนเมวา’’ติ อาห. วิสมจริยาติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส.

อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติ. ตถา หิ ‘‘นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม’’ติ อุปริ วุตฺตํ. อภิกฺกนฺตตโรติ อติวิย กนฺตตโร มโนรโม, ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติ. โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม? เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริจฺเฉเทน จ. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนีเยน อภิรูเปน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทส ทิสา ปภาเสนฺโต, จนฺโท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ คาถาย อตฺโถ. อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเป.

‘‘โจโร, โจโร; สปฺโป, สปฺโป’’ติอาทีสุ ภเย อาเมฑิตํ. ‘‘วิชฺฌ, วิชฺฌ; ปหร, ปหรา’’ติอาทีสุ โกเธ. ‘‘สาธุ, สาธู’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓๒๗.สํ. นิ. ๒.๑๒๗; ๓.๓๕; ๕.๑๐๘๕) ปสํสายํ. ‘‘คจฺฉ, คจฺฉ; ลุนาหิ, ลุนาหี’’ติอาทีสุ ตุริเต. ‘‘อาคจฺฉ, อาคจฺฉา’’ติอาทีสุ โกตูหเล. ‘‘พุทฺโธ, พุทฺโธติ จินฺเตนฺโต’’ติอาทีสุ (พุ. วํ. ๒.๔๔) อจฺฉเร. ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต’’ติอาทีสุ หาเส. ‘‘กหํ เอกปุตฺตก, กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๕๓; สํ. นิ. ๒.๖๓) โสเก. ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๒๐; ที. นิ. ๓.๓๐๕; จูฬว. ๓๓๒) ปสาเท. -สทฺโท อวุตฺตสมุจฺจยตฺโต. เตน ครหาอสมฺมานาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ‘‘ปาโป, ปาโป’’ติอาทีสุ ครหายํ. ‘‘อภิรูปก, อภิรูปกา’’ติอาทีสุ อสมฺมาเน ทฏฺพฺพํ.

นยิทํ อาเมฑิตวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ, อถ โข อตฺถทฺวยวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ‘‘อภิกฺกนฺต’’นฺติ วจนํ อเปกฺขิตฺวา นปุํสกวเสน วุตฺตํ, ตํ ปน ภควโต วจนํ ธมฺมสฺส เทสนาติ กตฺวา ตถา วุตฺตํ ‘‘โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนา’’ติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. โทสนาสนโตติ ราคาทิกิเลสวิธมนโต. คุณาธิคมนโตติ สีลาทิคุณานํ สมฺปาปนโต. เย คุเณ เทสนา อธิคเมติ, เตสุ ปธานภูเต ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺธาชนนโต ปฺาชนนโต’’ติ วุตฺตํ. สทฺธาปมุขา หิ โลกิยา คุณา, ปฺาปมุขา โลกุตฺตรา.

สีลาทิอตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถโต, สภาวนิรุตฺติสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนโต. สุวิฺเยฺยสทฺทปฺปโยคตาย อุตฺตานปทโต, สณฺหสุขุมภาเวน ทุวิฺเยฺยตฺถตาย คมฺภีรตฺถโต. สินิทฺธมุทุมธุรสทฺทปฺปโยคตาย กณฺณสุขโต, วิปุลวิสุทฺธเปมนียตฺถตาย หทยงฺคมโต. มานาติมานวิธมเนน อนตฺตุกฺกํสนโต, ถมฺภสารมฺภนิมฺมทฺทเนน อปรวมฺภนโต. หิตาธิปฺปายปฺปวตฺติยา ปเรสํ ราคปริฬาหาทิวูปสมเนน กรุณาสีตลโต, กิเลสนฺธการวิธมเนน ปฺาวทาตโต. กรวีกรุตมฺชุตาย อาปาถรมณียโต, ปุพฺพาปราวิรุทฺธสุวิสุทฺธตฺถตาย วิมทฺทกฺขมโต. อาปาถรมณียตาย เอวํ สุยฺยมานสุขโต, วิมทฺทกฺขมตาย หิตชฺฌาสยปฺปวตฺติตตาย จ วีมํสิยมานหิตโต. เอวมาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน สํสารจกฺกนิวตฺตนโต, สทฺธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต, มิจฺฉาวาทวิคมนโต, สมฺมาวาทปติฏฺาปนโต, อกุสลมูลสมุทฺธรณโต, กุสลมูลสํโรปนโต, อปายทฺวารปิธานโต, สคฺคโมกฺขทฺวารวิวรณโต, ปริยุฏฺานวูปสมนโต, อนุสยสมุคฺฆาตนโตติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อโธมุขฏฺปิตนฺติ เกนจิ อโธมุขํ ปิตํ. เหฏฺามุขชาตนฺติ สภาเวเนว เหฏฺามุขชาตํ. อุปริมุขนฺติ อุทฺธํมุขํ. อุคฺฆาเฏยฺยาติ วิวฏํ กเรยฺย. หตฺเถ คเหตฺวาติ ‘‘ปุรตฺถาภิมุโข อุตฺตราภิมุโข วา คจฺฉา’’ติอาทีนิ อวตฺวา หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘นิสฺสนฺเทหํ เอส มคฺโค, เอวํ คจฺเฉยฺยา’’ติ วเทยฺย. กาฬปกฺขจาตุทฺทสีติ กาฬปกฺเข จาตุทฺทสี.

นิกฺกุชฺชิตํ อาเธยฺยสฺส อนาธารภูตํ ภาชนํ อาธารภาวาปาทนวเสน อุกฺกุชฺเชยฺย. เหฏฺามุขชาตตาย สทฺธมฺมวิมุขํ, อโธมุขปิตตาย อสทฺธมฺเม ปติตนฺติ เอวํ ปททฺวยํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ, น ยถาสงฺขฺยํ. กามํ กามจฺฉนฺทาทโยปิ ปฏิจฺฉาทกา นีวรณภาวโต, มิจฺฉาทิฏฺิ ปน สวิเสสํ ปฏิจฺฉาทิกา สตฺเต มิจฺฉาภินิเวสนวเสนาติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ. เตนาห ภควา ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปรมาหํ, ภิกฺขเว, วชฺชํ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐). สพฺโพ อปายคามิมคฺโค กุมฺมคฺโค ‘‘กุจฺฉิโต มคฺโค’’ติ กตฺวา. สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อุชุปฏิปกฺขตาย มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มิจฺฉตฺตธมฺมา มิจฺฉามคฺโค. เตเนว หิ ตทุภยปฺปฏิปกฺขตํ สนฺธาย ‘‘สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาวิกโรนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. สปฺปิอาทิสนฺนิสฺสโย ปทีโป น ตถา อุชฺชโล, ยถา เตลสนฺนิสฺสโยติ เตลปชฺโชตคฺคหณํ. เอเตหิ ปริยาเยหีติ เอเตหิ นิกฺกุชฺชิตุกฺกุชฺชนปฺปฏิจฺฉนฺนวิวรณาทิอุปโมปมิตพฺพากาเรหิ.

ปสนฺนการนฺติ ปสนฺเนหิ กาตพฺพํ สกฺการํ. สรณนฺติ ปฏิสรณํ. เตนาห ‘‘ปรายณ’’นฺติ. ปรายณภาโว จ อนตฺถนิเสธเนน อตฺถสมฺปฏิปาทเนน จ โหตีติ อาห ‘‘อฆสฺส, ตาตา, หิตสฺส จ วิธาตา’’ติ. อฆสฺสาติ ทุกฺขโตติ วทนฺติ, ปาปโตติ ปน อตฺโถ ยุตฺโต. นิสฺสกฺเก เจตํ สามิวจนํ. เอตฺถ จ นายํ คมิ-สทฺโท นี-สทฺทาทโย วิย ทฺวิกมฺมโก, ตสฺมา ยถา ‘‘อชํ คามํ เนตี’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ‘‘ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วตฺตุํ น สกฺกา. ‘‘สรณนฺติ คจฺฉามี’’ติ ปน วตฺตพฺพํ. อิติ-สทฺโท เจตฺถ ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ตสฺส จายมตฺโถ – คมนฺจ ตทธิปฺปาเยน ภชนํ ชานนํ วาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิมินา อธิปฺปาเยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภชามีติอาทีสุ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อตฺถวจนํ. ภชนํ วา สรณาธิปฺปาเยน อุปสงฺกมนํ. เสวนํ สนฺติกาวจรตา. ปยิรุปาสนํ วตฺตปฺปฏิวตฺตกรเณน อุปฏฺานนฺติ เอวํ สพฺพถาปิ อนฺสรณตํเยว ทีเปติ. ‘‘คจฺฉามี’’ติ ปทสฺส พุชฺฌามีติ อยมตฺโถ กถํ ลพฺภตีติ อาห ‘‘เยสํ หี’’ติอาทิ.

อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธติ ปททฺวเยนปิ ผลฏฺา เอว ทสฺสิตา, น มคฺคฏฺาติ เต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จา’’ติ อาห. นนุ จ กลฺยาณปุถุชฺชโนปิ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชตีติ วุจฺจตีติ? กิฺจาปิ วุจฺจติ, นิปฺปริยาเยน ปน มคฺคฏฺา เอว ตถา วตฺตพฺพา, น อิตเร สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนาภาวโต. ตถา หิ เต เอว วุตฺตา ‘‘อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตี’’ติ. สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมเนน หิ อปายวินิมุตฺติสมฺภโว. อกฺขายตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทฺยตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) สุตฺตปทํ สงฺคณฺหาติ, ‘‘วิตฺถาโร’’ติ วา อิมินา. เอตฺถ จ อริยมคฺโค นิยฺยานิกตาย, นิพฺพานํ ตสฺส ตทตฺถสิทฺธิเหตุตายาติ อุภยเมว นิปฺปริยาเยน ธมฺโมติ วุตฺโต. นิพฺพานฺหิ อารมฺมณปจฺจยภูตํ ลภิตฺวา อริยมคฺโค ตทตฺถสิทฺธิยา สํวตฺตติ, ตถาปิ ยสฺมา อริยผลานํ ‘‘ตาย สทฺธาย อวูปสนฺตายา’’ติอาทิวจนโต มคฺเคน สมุจฺฉินฺนานํ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานกิจฺจตาย นิยฺยานานุคุณตาย นิยฺยานปริโยสานตาย จ. ปริยตฺติธมฺมสฺส ปน นิยฺยานิกธมฺมสมธิคมเหตุตายาติ อิมินา ปริยาเยน วุตฺตนเยน ธมฺมภาโว ลพฺภติ เอว. สฺวายมตฺโถ ปาารุฬฺโห เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิมาห.

กามราโค ภวราโคติ เอวมาทิเภโท สพฺโพปิ ราโค วิรชฺชติ ปหียติ เอเตนาติ ราควิราโคติ มคฺโค กถิโต. เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อนฺโตนิชฺฌานลกฺขณสฺส โสกสฺส จ ตทุปฺปตฺติยํ สพฺพโส ปริกฺขีณตฺตา อเนชมโสกนฺติ ผลํ กถิตํ. อปฺปฏิกูลนฺติ อวิโรธทีปนโต เกนจิ อวิรุทฺธํ, อิฏฺํ ปณีตนฺติ วา อตฺโถ. ปคุณรูเปน ปวตฺติตตฺตา, ปกฏฺคุณวิภาวนโต วา ปคุณํ. สพฺพธมฺมกฺขนฺธา กถิตาติ โยชนา.

ทิฏฺิสีลสงฺฆาเตนาติ ‘‘ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๗; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตาย ทิฏฺิยา, ‘‘ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปหิ สีเลหิ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) จ เอวํ วุตฺตานํ สีลานฺจ สํหตภาเวน, ทิฏฺิสีลสามฺเนาติ อตฺโถ. สํหโตติ ฆฏิโต, สเมโตติ อตฺโถ. อริยปุคฺคลา หิ ยตฺถ กตฺถจิ ทูเร ิตาปิ อตฺตโน คุณสามคฺคิยา สํหตา เอว. อฏฺ จ ปุคฺคล ธมฺมทสา เตติ เต ปุริสยุควเสน จตฺตาโรปิ ปุคฺคลวเสน อฏฺเว อริยธมฺมสฺส ปจฺจกฺขทสฺสาวิตาย ธมฺมทสา. ตีณิ วตฺถูนิ สรณนฺติ คมเนน ติกฺขตฺตุํ คมเนน จ ตีณิ สรณคมนานิ. ปฏิเวเทสีติ อตฺตโน หทยคตํ วาจาย ปเวเทสิ.

สรณคมนสฺส วิสยปฺปเภทผลสํกิเลสเภทานํ วิย กตฺตุวิภาวนา ตตฺถ โกสลฺลาย โหตีติ สรณคมเนสุ อตฺถโกสลฺลตฺถํ ‘‘สรณํ, สรณคมนํ, โย จ สรณํ คจฺฉติ, สรณคมนปฺปเภโท, สรณคมนผลํ, สํกิเลโส, เภโทติ อยํ วิธิ เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ เตน วินา สรณคมนสฺเสว อสมฺภวโต. กสฺมา ปเนตฺถ โวทานํ น คหิตํ, นนุ โวทานวิภาวนาปิ ตตฺถ โกสลฺลาย โหตีติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน สํกิเลสคฺคหเณน อตฺถโต ทีปิตํ โหตีติ น คหิตํ. ยานิ หิ เนสํ สํกิเลสการณานิ อฺาณาทีนิ, เตสํ สพฺเพน สพฺพํ อนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทเนน, อุปฺปนฺนานฺจ ปหาเนน โวทานํ โหตีติ.

หึสตฺถสฺส ธาตุสทฺทสฺส วเสเนตํ ปทํ ทฏฺพฺพนฺติ ‘‘หึสตีติ สรณ’’นฺติ วตฺวา ตํ ปน หึสนํ เกสํ, กถํ, กสฺส วาติ โจทนํ โสเธนฺโต ‘‘สรณคตาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภยนฺติ วฏฺฏภยํ. สนฺตาสนฺติ จิตฺตุตฺราสํ. เตเนว เจตสิกทุกฺขสฺส คหิตตฺตา ทุกฺขนฺติ กายิกํ ทุกฺขํ. ทุคฺคติปริกิเลสนฺติ ทุคฺคติปริยาปนฺนํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ. ตยิทํ สพฺพํ ปรโต ผลกถาย อาวิ ภวิสฺสติ. เอตนฺติ สรณนฺติ ปทํ. เอวํ อวิเสสโต สรณสทฺทสฺส ปทตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิเสสโต ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. หิเต ปวตฺตเนนาติ ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๖๔, ๖๙) อตฺเถ นิโยชเนน. อหิตา นิวตฺตเนนาติ ‘‘ปาณาติปาตสฺส โข ปาปโก วิปาโก อภิสมฺปราย’’นฺติอาทินา อาทีนวทสฺสนาทิมุเขน อนตฺถโต นิวตฺตเนน. ภยํ หึสตีติ หิตาหิเตสุ อปฺปวตฺติปฺปวตฺติเหตุกํ พฺยสนํ อปฺปวตฺติกรเณน วินาเสติ พุทฺโธ. ภวกนฺตารา อุตฺตารเณน มคฺคสงฺขาโต ธมฺโม. อิตโร อสฺสาสทาเนน สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ โยชนา. การานนฺติ ทานวเสน ปูชาวเสน จ อุปนีตานํ สกฺการานํ. วิปุลผลปฺปฏิลาภกรเณน สตฺตานํ ภยํ หึสติ สงฺโฆ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวโตติ อธิปฺปาโย. อิมินาปิ ปริยาเยนาติ อิมินาปิ วิภชิตฺวา วุตฺเตน การเณน.

‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ เอวํ ปวตฺโต ตตฺถ รตนตฺตเย ปสาโท ตปฺปสาโท, ตเทว รตฺตนตฺตยํ ครุ เอตสฺสาติ ตคฺครุ, ตพฺภาโว ตคฺครุตา, ตปฺปสาโท จ ตคฺครุตา จ ตปฺปสาทตคฺครุตา. ตาหิ ตปฺปสาทตคฺครุตาหิ. วิธุตทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสมฺโมหอสฺสทฺธิยาทิตาย วิหตกิเลโส. ตเทว รตนตฺตยํ ปรายณํ คติ ตาณํ เลณนฺติ เอวํ ปวตฺติยา ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ สรณนฺติ คจฺฉติ เอเตนาติ. ตํสมงฺคีติ เตน ยถาวุตฺตจิตฺตุปฺปาเทน สมนฺนาคโต. เอวํ อุเปตีติ เอวํ ภชติ เสวติ ปยิรุปาสติ, เอวํ วา ชานาติ พุชฺฌตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ ปสาทคฺคหเณน โลกิยสรณคมนมาห. ตฺหิ ปสาทปฺปธานํ. ครุตาคหเณน โลกุตฺตรํ. อริยา หิ รตนตฺตยคุณาภิฺตาย ปาสาณจฺฉตฺตํ ปิย ครุํ กตฺวา ปสฺสนฺติ, ตสฺมา ตปฺปสาเทน วิกฺขมฺภนวเสน วิหตกิเลโส, ตคฺครุตาย สมุจฺเฉทวเสนาติ โยเชตพฺพํ อคารวกรณเหตูนํ สมุจฺฉินฺทนโต. ตปฺปรายณตา ปเนตฺถ ตคฺคติกตาติ ตาย จตุพฺพิธมฺปิ วกฺขมานํ สรณคมนํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อวิเสเสน วา ปสาทครุตา โชติตาติ ปสาทคฺคหเณน อเวจฺจปฺปสาทสฺส อิตรสฺส จ คหณํ, ตถา ครุตาคหเณนาติ อุภเยนปิ อุภยํ สรณคมนํ โยเชตพฺพํ.

มคฺคกฺขเณ อิชฺฌตีติ โยชนา. นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวาติ เอเตน อตฺถโต จตุสจฺจาธิคโม เอว โลกุตฺตรสรณคมนนฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ นิพฺพานธมฺโม สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน, มคฺคธมฺโม ภาวนาภิสมยวเสน ปฏิวิชฺฌิยมาโนเยว สรณคมนตฺตํ สาเธติ, พุทฺธคุณา ปน สาวกโคจรภูตา ปริฺาภิสมยวเสน, ตถา อริยสงฺฆคุณา. เตนาห ‘‘กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌตี’’ติ. อิชฺฌนฺตฺจ สเหว อิชฺฌติ, น โลกิยํ วิย ปฏิปาฏิยา อสมฺโมหปฺปฏิเวเธน ปฏิวิทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. เย ปน วทนฺติ ‘‘น สรณคมนํ นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา ปวตฺตติ, มคฺคสฺส อธิคตตฺตา ปน อธิคตเมว โหติ เอกจฺจานํ เตวิชฺชาทีนํ โลกิยวิชฺชาทโย วิยา’’ติ, เตสํ โลกิยเมว สรณคมนํ สิยา, น โลกุตฺตรํ, ตฺจ อยุตฺตํ ทุวิธสฺสปิ อิจฺฉิตพฺพตฺตา.

นฺติ โลกิยสรณคมนํ. สทฺธาปฏิลาโภ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติอาทินา. สทฺธามูลิกาติ ยถาวุตฺตสทฺธาปุพฺพงฺคมา. สมฺมาทิฏฺิ พุทฺธสุพุทฺธตํ, ธมฺมสุธมฺมตํ, สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติฺจ โลกิยาวโพธวเสเนว สมฺมา าเยน ทสฺสนโต. สทฺธามูลิกา จ สมฺมาทิฏฺีติ เอเตน สทฺธูปนิสฺสยา ยถาวุตฺตลกฺขณา ปฺา โลกิยสรณคมนนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ทิฏฺิชุกมฺมนฺติ วุจฺจตี’’ติ. ทิฏฺิเยว อตฺตโน ปจฺจเยหิ อุชุ กรียตีติ กตฺวา, ทิฏฺิ วา อุชุ กรียติ เอเตนาติ ทิฏฺิชุกมฺมํ, ตถาปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท’’ติ อิทฺจ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ, สทฺธาปุพฺพงฺคมสมฺมาทิฏฺิคฺคหณํ ปน จิตฺตุปฺปาทสฺส ตปฺปธานตายาติ ทฏฺพฺพํ. สทฺธาปฏิลาโภติ อิมินา มาตาทีหิ อุสฺสาหิตทารกาทีนํ วิย าณวิปฺปยุตฺตํ สรณคมนํ ทสฺเสติ, สมฺมาทิฏฺีติ อิมินา าณสมฺปยุตฺตํ สรณคมนํ.

ตยิทํ โลกิยํ สรณคมนํ. อตฺตา สนฺนิยฺยาตียติ อปฺปียติ ปริจฺจชียติ เอเตนาติ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ, ยถาวุตฺตํ ทิฏฺิชุกมฺมํ. ตํ รตนตฺตยํ ปรายณํ ปฏิสรณํ เอตสฺสาติ ตปฺปรายโณ, ปุคฺคโล จิตฺตุปฺปาโท วา, ตสฺส ภาโว ตปฺปรายณตา, ยถาวุตฺตํ ทิฏฺิชุกมฺมเมว. สรณนฺติ อธิปฺปาเยน สิสฺสภาวํ อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคจฺฉติ เอเตนาติ สิสฺสภาวูปคมนํ. สรณคมนาธิปฺปาเยเนว ปณิปตติ เอเตนาติ ปณิปาโต. สพฺพตฺถ ยถาวุตฺตทิฏฺิชุกมฺมวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺตปริจฺจชนนฺติ สํสารทุกฺขนิสฺสรณตฺถํ อตฺตโน อตฺถภาวสฺส ปริจฺจชนํ. เอส นโย เสเสสุปิ. พุทฺธาทีนํเยวาติ อวธารณํ อตฺตสนฺนิยฺยาตนาทีสุปิ ตตฺถ ตตฺถ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ ตทฺนิวตฺตนํ กตํ โหติ.

เอวํ อตฺตสนฺนิยฺยาตนาทีนิ เอเกน ปกาเรน ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปเรหิปิ ปกาเรหิ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. เตน ปริยายนฺตเรหิปิ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ กตเมว โหติ อตฺถสฺส อภินฺนตฺตาติ ทสฺเสติ. อาฬวกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สาตาคิริเหมวตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นนุ เจเต อาฬวกาทโย มคฺเคเนว อาคตสรณคมนา, กถํ เตสํ ตปฺปรายณตาสรณคมนํ วุตฺตนฺติ? มคฺเคนาคตสรณคมเนหิปิ ‘‘โส อหํ วิจริสฺสามิ…เป… สุธมฺมตํ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๔). เต มยํ วิจริสฺสาม, คามา คามํ นคา นคํ…เป… สุธมฺมต’’นฺติ (สุ. นิ. ๑๘๒) จ เตหิ ตปฺปรายณตาการสฺส ปเวทิตตฺตา ตถา วุตฺตํ.

โส ปเนส าติ…เป… วเสนาติ เอตฺถ าติวเสน, ภยวเสน, อาจริยวเสน, ทกฺขิเณยฺยวเสนาติ ปจฺเจกํ ‘‘วเสนา’’ติ ปทํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ าติวเสนาติ าติภาววเสน. เอวํ เสเสสุปิ. ทกฺขิเณยฺยปณิปาเตนาติ ทกฺขิเณยฺยตาเหตุเกน ปณิปตเนนาติ อตฺโถ. อิตเรหีติ าติภาวาทิวสปฺปวตฺเตหิ ตีหิ ปณิปาเตหิ. อิตเรหีติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วนฺทตีติ ปณิปาตสฺส ลกฺขณวจนํ. เอวรูปนฺติ ทิฏฺธมฺมิกํ สนฺธาย วทติ. สมฺปรายิกฺหิ นิยฺยานิกํ วา อนิยฺยานิกํ วา อนุสาสนึ ปจฺจาสีสนฺโต ทกฺขิเณยฺยปณิปาตเมว กโรตีติ อธิปฺปาโย. สรณคมนปฺปเภโทติ สรณคมนวิภาโค.

อริยมคฺโค เอว โลกุตฺตรํ สรณคมนนฺติ อาห ‘‘จตฺตาริ สามฺผลานิ วิปากผล’’นฺติ. สพฺพทุกฺขกฺขโยติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ. เอตนฺติ ‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสตี’’ติ (ธ. ป. ๑๙๐) เอวํ วุตฺตํ อริยสจฺจานํ ทสฺสนํ.

นิจฺจโต อนุปคมนาทิวเสนาติ นิจฺจนฺติ อคฺคหณาทิวเสน. อฏฺานนฺติ เหตุปฺปฏิกฺเขโป. อนวกาโสติ ปจฺจยปฺปฏิกฺเขโป. อุภเยนปิ การณเมว ปฏิกฺขิปติ. นฺติ เยน การเณน. ทิฏฺิสมฺปนฺโนติ มคฺคทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โสตาปนฺโน. กฺจิ สงฺขารนฺติ จตุภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ เอกสงฺขารมฺปิ. นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยาติ นิจฺโจติ คณฺเหยฺย. สุขโต อุปคจฺเฉยฺยาติ ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติ (ที. นิ. ๑.๗๖, ๗๙) เอวํ อตฺตทิฏฺิวเสน สุขโต คาหํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน ปน อริยสาวโก ปริฬาหวูปสมนตฺถํ มตฺตหตฺถิปริตาสิโต วิย โจกฺขพฺราหฺมโณ อุกฺการภูมึ กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺฉติ. อตฺตวาเร กสิณาทิปฺตฺติสงฺคหตฺถํ ‘‘สงฺขาร’’นฺติ อวตฺวา ‘‘กฺจิ ธมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. อิเมสุปิ าเนสุ จตุภูมกวเสเนว ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ เตภูมกวเสเนว วา. ยํ ยฺหิ ปุถุชฺชโน คาหวเสน คณฺหาติ, ตโต ตโต อริยสาวโก คาหํ วินิเวเติ.

มาตรนฺติอาทีสุ ชนิกา มาตา, ชนโก ปิตา, มนุสฺสภูโต ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโต. กึ ปน อริยสาวโก อฺํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ? เอตมฺปิ อฏฺานํ, ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ อริยภาวสฺส จ ผลทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตํ. ปทุฏฺจิตฺโตติ วธกจิตฺเตน ปทุฏฺจิตฺโต. โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยาติ ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย. สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ สมานสํวาสกํ สมานสีมายํ ิตํ สงฺฆํ ‘‘กมฺเมน อุทฺเทเสน โวหรนฺโต อนุสฺสาวเนน สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘) เอวํ วุตฺเตหิ ปฺจหิ การเณหิ ภินฺเทยฺย. อฺํ สตฺถารนฺติ อฺํ ติตฺถกรํ ‘‘อยํ เม สตฺถา’’ติ เอวํ คณฺเหยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ อตฺโถ.

น เต คมิสฺสนฺติ อปายนฺติ เต พุทฺธํ สรณํ คตา ตนฺนิมิตฺตํ อปายํ น คมิสฺสนฺติ, เทวกายํ ปน ปริปูเรสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทสหิ าเนหีติ ทสหิ การเณหิ. อธิคณฺหนฺตีติ อธิภวนฺติ.

เวลามสุตฺตาทิวเสนาติ เอตฺถ ‘‘กรีสสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณานํ จตุราสีติสหสฺสสงฺขานํ สุวณฺณปาติรูปิยปาติกํสปาตีนํ ยถากฺกมํ รูปิยสุวณฺณหิรฺปูรานํ สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิตานํ จตุราสีติยา หตฺถิสหสฺสานํ, จตุราสีติยา อสฺสสหสฺสานํ, จตุราสีติยา รถสหสฺสานํ, จตุราสีติยา เธนุสหสฺสานํ, จตุราสีติยา กฺาสหสฺสานํ, จตุราสีติยา ปลฺลงฺกสหสฺสานํ, จตุราสีติยา วตฺถโกฏิสหสฺสานํ, อปริมาณสฺส จ ขชฺชโภชฺชาทิเภทสฺส อาหารสฺส ปริจฺจชนวเสน สตฺตมาสาธิกานิ สตฺต สํวจฺฉรานิ นิรนฺตรํ ปวตฺตเวลามมหาทานโต เอกสฺส โสตาปนฺนสฺส ทินฺนทานํ มหปฺผลตรํ. ตโต สตํ โสตาปนฺนานํ ทินฺนทานโต เอกสฺส สกทาคามิโน, ตโต เอกสฺส อนาคามิโน, ตโต เอกสฺส อรหโต, ตโต เอกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส, ตโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, ตโต พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทินฺนทานํ มหปฺผลตรํ, ตโต จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารกรณํ, ตโต สรณคมนํ มหปฺผลตร’’นฺติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺตสฺส เวลามสุตฺตสฺส (อ. นิ. ๙.๒๐) วเสน. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ, คหปติ, เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ, โย เอกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ โภเชยฺย, อิทํ ตโต มหปฺผลตร’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๙.๒๐). เวลามสุตฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน อคฺคปฺปสาทสุตฺตาทีนํ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อฺาณํ วตฺถุตฺตยสฺส คุณานํ อชานนํ ตตฺถ สมฺโมโห, ‘‘พุทฺโธ นุ โข, น นุ โข’’ติอาทินา วิจิกิจฺฉา สํสโย. มิจฺฉาาณํ ตสฺส คุณานํ อคุณภาวปริกปฺปเนน วิปรีตคฺคาโห. อาทิ-สทฺเทน อนาทราคารวาทีนํ สงฺคโห. น มหาชุติกนฺติ น อุชฺชลํ, อปริสุทฺธํ อปริโยทาตนฺติ อตฺโถ. น มหาวิปฺผารนฺติ อนุฬารํ. สาวชฺโชติ ทิฏฺิตณฺหาทิวเสน สโทโส. โลกิยํ สรณคมนํ สิกฺขาสมาทานํ วิย อคฺคหิตกาลปริจฺเฉทํ ชีวิตปริยนฺตเมว โหติ, ตสฺมา ตสฺส ขนฺธเภเทน เภโทติ อาห ‘‘อนวชฺโช กาลกิริยายา’’ติ. โสติ อนวชฺโช สรณคมนเภโท. สติปิ อนวชฺชตฺเต อิฏฺผโลปิ น โหตีติ อาห ‘‘อผโล’’ติ. กสฺมา? อวิปากตฺตา. น หิ ตํ อกุสลนฺติ.

โก อุปาสโกติ สรูปปุจฺฉา, ตสฺมา ‘‘กึลกฺขโณ อุปาสโก’’ติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมาติ เหตุปุจฺฉา. เตน เกน ปวตฺตินิมิตฺเตน อุปาสกสทฺโท ตสฺมึ ปุคฺคเล นิรุฬฺโหติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจตี’’ติ. สทฺทสฺส อภิเธยฺโย ปวตฺตินิมิตฺตํ ตทตฺถสฺส ตพฺภาวการณํ. กิมสฺส สีลนฺติ กีทิสํ อสฺส อุปาสกสฺส สีลํ, กิตฺตเกน สีเลนายํ สีลสมฺปนฺโน นาม โหตีติ อตฺโถ. โก อาชีโวติ โก อสฺส สมฺมาอาชีโว? โส ปน มิจฺฉาชีวสฺส ปริวชฺชเนน โหตีติ โสปิ วิภชียตีติ. กา วิปตฺตีติ กา สีลสฺส, อาชีวสฺส วา วิปตฺติ. อนนฺตรสฺส หิ วิธิ วา ปฏิเสโธ วาติ. กา สมฺปตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

โย โกจีติ ขตฺติยาทีสุ โย โกจิ. เตน สรณคมนเมเวตฺถ การณํ, น ชาติอาทิวิเสโสติ ทสฺเสติ. อุปาสนโตติ เตเนว สรณคมเนน ตตฺถ จ สกฺกจฺจกิริยาย อาทรคารวพหุมานาทิโยเคน ปยิรุปาสนโต. เวรมณิโยติ เวรํ วุจฺจติ ปาณาติปาตาทิทุสฺสีลฺยํ, ตสฺส มณนโต หนนโต วินาสนโต เวรมณิโย, ปฺจ วิรติโย วิรติปฺปธานตฺตา ตสฺส สีลสฺส. เตเนวาห ‘‘ปฏิวิรโต โหตี’’ติ.

มิจฺฉาวณิชฺชาติ น สมฺมาวณิชฺชา อยุตฺตวณิชฺชา อสารุปฺปวณิชฺชา. ปหายาติ อกรเณเนว ปชหิตฺวา. ธมฺเมนาติ ธมฺมโต อนเปเตน. เตน อฺมฺปิ อธมฺมิกํ ชีวิกํ ปฏิกฺขิปติ. สเมนาติ อวิสเมน. เตน กายวิสมาทิทุจฺจริตํ วชฺเชตฺวา กายสมาทินา สุจริเตน อาชีวํ ทสฺเสติ. สตฺถวณิชฺชาติ อายุธภณฺฑํ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา ยถากตํ วา ปฏิลภิตฺวา ตสฺส วิกฺกโย. สตฺตวณิชฺชาติ มนุสฺสวิกฺกโย. มํสวณิชฺชาติ สูนการาทโย วิย มิคสูกราทิเก โปเสตฺวา มํสํ สมฺปาเทตฺวา วิกฺกโย. มชฺชวณิชฺชาติ ยํ กิฺจิ มชฺชํ โยเชตฺวา ตสฺส วิกฺกโย. วิสวณิชฺชาติ วิสํ โยเชตฺวา วิสํ คเหตฺวา วา ตสฺส วิกฺกโย. ตตฺถ สตฺถวณิชฺชา ปโรปโรธนิมิตฺตตาย อกรณียา วุตฺตา. สตฺตวณิชฺชา อภุชิสฺสภาวกรณโต, มํสวิสวณิชฺชา วธเหตุโต, มชฺชวณิชฺชา ปมาทฏฺานโต.

ตสฺเสวาติ ปฺจเวรมณิลกฺขณสฺส สีลสฺส เจว ปฺจมิจฺฉาวณิชฺชาลกฺขณสฺส อาชีวสฺส จ. วิปตฺตีติ เภโท ปโกโป จ. ยายาติ ยาย ปฏิปตฺติยา. จณฺฑาโลติ อุปาสกจณฺฑาโล. มลนฺติ อุปาสกมลํ. ปฏิกุฏฺโติ อุปาสกนิหีโน. พุทฺธาทีสุ กมฺมกมฺมผเลสุ จ สทฺธาวิปริยาโย อสฺสทฺธิยํ มิจฺฉาธิโมกฺโข, ยถาวุตฺเตน อสฺสทฺธิเยน สมนฺนาคโต อสฺสทฺโธ. ยถาวุตฺตสีลวิปตฺติอาชีววิปตฺติวเสน ทุสฺสีโล. ‘‘อิมินา ทิฏฺาทินา อิทํ นาม มงฺคลํ โหตี’’ติ – เอวํ พาลชนปริกปฺปิตโกตูหลสงฺขาเตน ทิฏฺสุตมุตมงฺคเลน สมนฺนาคโต โกตูหลมงฺคลิโก. มงฺคลํ ปจฺเจตีติ ทิฏฺมงฺคลาทิเภทํ มงฺคลเมว ปตฺติยายติ. โน กมฺมนฺติ กมฺมสฺสกตํ โน ปตฺติยายติ. อิโต พหิทฺธาติ อิโต สพฺพฺุพุทฺธสาสนโต พหิทฺธา พาหิรกสมเย. ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสตีติ ทุปฺปฏิปนฺนํ ทกฺขิณารหสฺี คเวสติ. ปุพฺพการํ กโรตีติ ทานมานนาทิกํ กุสลกิริยํ ปมตรํ กโรติ. เอตฺถ จ ทกฺขิเณยฺยปริเยสนปุพฺพกาเร เอกํ กตฺวา ปฺจ ธมฺมา เวทิตพฺพา.

วิปตฺติยํ วุตฺตวิปริยาเยน สมฺปตฺติ เวทิตพฺพา. อยํ ปน วิเสโส – จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ รติชนนฏฺเน อุปาสโกว รตนํ อุปาสกรตนํ. คุณโสภากิตฺติสทฺทสุคนฺธตาหิ อุปาสโกว ปทุมํ อุปาสกปทุมํ. ตถา อุปาสกปุณฺฑรีโก.

อาทิมฺหีติ อาทิอตฺเถ. โกฏิยนฺติ ปริยนฺตโกฏิยํ. วิหารคฺเคนาติ โอวรกโกฏฺาเสน, ‘‘อิมสฺมึ คพฺเภ วสนฺตานํ อิทํ นาม ผลํ ปาปุณาตี’’ติอาทีนา ตํ ตํ วสนฏฺานโกฏฺาเสนาติ อตฺโถ. อชฺชตนฺติ อชฺช อิจฺเจว อตฺโถ.

ปาเณหิ อุเปตนฺติ อิมินา ตสฺส สรณคมนสฺส อาปาณโกฏิกตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ปุน ชีวิเตนปิ ตํ วตฺถุตฺตยํ ปฏิปูเชนฺโต สรณคมนํ รกฺขามีติ อุปฺปนฺนํ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘อหฺหี’’ติอาทิมาห. ปาเณหิ อุเปตนฺติ หิ ยาว เม ปาณา ธรนฺติ, ตาว สรณํ อุเปตํ. อุเปนฺโต จ น วาจามตฺเตน น เอกวารํ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน, อถ โข ปาณานํ ปริจฺจชนวเสนปิ ยาวชีวํ อุเปตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๗-๑๙. สตฺตเม ชาณุสฺโสณีติ เนตํ ตสฺส มาตาปิตูหิ กตํ นามํ, อปิจ โข านนฺตรปฺปฏิลาภลทฺธนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ชาณุสฺโสณีติ านนฺตรํ กิรา’’ติอาทิ. เอกํ านนฺตรนฺติ เอกํ ปุโรหิตฏฺานํ. อุณฺหีสอาทิกกุธภณฺเฑหิ สทฺธึ ลทฺธํ ตถา จสฺส รฺา ทินฺนนฺติ วทนฺติ. เตนาห ‘‘รฺโ สนฺติเก จ ลทฺธชาณุสฺโสณิสกฺการตฺตา’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฏฺมนวเมสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

๒๐-๒๑. ทสเม ทุนฺนิกฺขิตฺตนฺติ ทุฏฺุ นิกฺขิตฺตํ ปทปจฺจาภฏฺํ กตฺวา มนสิ ปิตํ. ปชฺชติ ายติ อตฺโถ เอเตนาติ ปทํ, อตฺถํ พฺยฺชยติ ปกาเสตีติ พฺยฺชนํ, ปทเมว. เตเนวาห ‘‘อุปฺปฏิปาฏิยา…เป… พฺยฺชนนฺติ วุจฺจตี’’ติ. ปทสมุทายพฺยติเรเกน วิสุํ ปาฬิ นาม นตฺถีติ อาห ‘‘อุภยเมตํ ปาฬิยาว นาม’’นฺติ. ปกฏฺานฺหิ วจนปฺปพนฺธานํ อาฬิเยว ปาฬีติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ เอกาทสมฺจ อุตฺตานตฺถเมว.

อธิกรณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. พาลวคฺควณฺณนา

๒๒-๒๔. ตติยสฺส ปมทุติยตติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๒๕. จตุตฺเถ เนตพฺโพติ อฺโต อาหริตฺวา โพเธตพฺโพ, าเปตพฺโพติ อตฺโถ.

๒๗. ฉฏฺเ โน เจปิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กโรนฺตีติ ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺโต สเจปิ อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา กโรนฺติ. ปฏิจฺฉนฺนเมวาติ วิฺูหิ ครหิตพฺพภาวโต ปฏิจฺฉาทนารหตฺตา ปฏิจฺฉนฺนเมวาติ วุจฺจติ. อวีจิอาทโย ปเทสวิเสสา ตตฺถูปปนฺนา สตฺตา จ นิรยคฺคหเณน คหิตาติ อาห ‘‘นิรโยติ สโหกาสกา ขนฺธา’’ติ. ติรจฺฉานโยนิ นาม วิสุํ ปเทสวิเสโส นตฺถีติ อาห ‘‘ติรจฺฉานโยนิยํ ขนฺธาว ลพฺภนฺตี’’ติ.

๓๑. ทสเม อตฺโถ ผลํ ตทธีนวุตฺติตาย วโส เอตสฺสาติ อตฺถวโส, เหตูติ อาห ‘‘อตฺถวเสติ การณานี’’ติ. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺลกฺขณปฺปตฺตานิ วนปตฺถานิ. วนปตฺถ-สทฺโท หิ สณฺฑภูเต รุกฺขสมูเหปิ วตฺตตีติ อรฺคฺคหณํ. วนียติ วิเวกกาเมหิ ภชียติ, วนุเต วา เต อตฺตสมฺปตฺติยา วสนตฺถาย ยาจนฺโต วิย โหตีติ วนํ, ปติฏฺหนฺติ เอตฺถ วิเวกกามา ยถาธิปฺเปตวิเสสาธิคเมนาติ ปตฺถํ, วเนสุ ปตฺถํ คหนฏฺาเน เสนาสนํ วนปตฺถํ. กิฺจาปีติ อนุชานนสมฺภาวนตฺเถ นิปาโต. กึ อนุชานาติ? นิปฺปริยายโต อรฺภาวํ คามโต พหิ อรฺนฺติ. เตนาห ‘‘นิปฺปริยาเยนา’’ติอาทิ. กึ สมฺภาเวติ? อารฺกงฺคนิปฺผาทกตฺตํ. ยฺหิ อารฺกงฺคนิปฺผาทกํ, ตํ วิเสสโต อรฺนฺติ วตฺตพฺพนฺติ. เตนาห ‘‘ยํ ตํ ปฺจธนุสติก’’นฺติอาทิ. นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวา, ตโต พหิ ปฏฺายาติ อตฺโถ. พหิ อินฺทขีลาติ วา ยตฺถ ทฺเว ตีณิ อินฺทขีลานิ, ตตฺถ พหิทฺธา อินฺทขีลโต ปฏฺาย. ยตฺถ ตํ นตฺถิ, ตทรหฏฺานโต ปฏฺายาติ วทนฺติ. คามนฺตนฺติ คามสมีปํ. อนุปจารฏฺานนฺติ นิจฺจกิจฺจวเสน น อุปจริตพฺพฏฺานํ. เตนาห ‘‘ยตฺถ น กสียติ น วปียตี’’ติ.

อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ เอเตน สตฺถา อตฺตโน วิเวกาภิรตึ ปกาเสติ. ตตฺถ ทิฏฺธมฺโม นาม อยํ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว, สุขวิหาโร นาม จตุนฺนํ อิริยาปถวิหารานํ ผาสุตา. เอกกสฺส หิ อรฺเ อนฺตมโส อุจฺจารวสฺสาวกิจฺจํ อุปาทาย สพฺเพ อิริยาปถา ผาสุกา โหนฺติ, ตสฺมา ทิฏฺธมฺเม สุขวิหารํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ปจฺฉิมฺจ ชนตํ อนุกมฺปมาโนติ กถํ อรฺวาเสน ปจฺฉิมา ชนตา อนุกมฺปิตา โหติ? สทฺธาปพฺพชิตา หิ กุลปุตฺตา ภควโต อรฺวาสํ ทิสฺวา ‘‘ภควาปิ นาม อรฺเสนาสนานิ น มุฺจติ, ยสฺส เนวตฺถิ ปริฺาตพฺพํ น ปหาตพฺพํ น ภาเวตพฺพํ น สจฺฉิกาตพฺพํ, กิมงฺคํ ปน มย’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ วสิตพฺพเมว มฺิสฺสนฺติ, เอวํ ขิปฺปเมว ทุกฺขสฺสนฺตกรา ภวิสฺสนฺติ. เอวํ ปจฺฉิมา ชนตา อนุกมฺปิตา โหติ. เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปจฺฉิเม มม สาวเก อนุกมฺปนฺโต’’ติ.

๓๒. เอกาทสเม วิชฺชํ ภชนฺตีติ วิชฺชาภาคิยา, วิชฺชาภาเค วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตีติปิ วิชฺชาภาคิยา. ปทํ ปจฺฉินฺทตีติ มคฺคจิตฺตสฺส ปติฏฺํ อุปจฺฉินฺทติ, มคฺคจิตฺตํ ปติฏฺาเปตุํ น เทตีติ อตฺโถ. อุพฺพฏฺเฏตฺวาติ สมุจฺเฉทวเสน สมูลํ อุทฺธริตฺวา. อฏฺสุ าเนสูติ พุทฺธาทีสุ อฏฺสุ าเนสุ. ราคสฺส ขยวิราเคนาติ ราคสฺส ขยสงฺขาเตน วิราเคน, ราคสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนนาติ วุตฺตํ โหติ.

พาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สมจิตฺตวคฺควณฺณนา

๓๓. จตุตฺถสฺส ปเม ภวนฺติ เอตฺถ ปติฏฺหนฺตีติ ภูมิ, อสปฺปุริสานํ ภูมิ อสปฺปุริสภูมิ. สปฺปุริสภูมิยมฺปิ เอเสว นโย. กตํ น ชานาตีติ อกตฺู, อสมตฺถสมาโสยํ คมกตฺตา ‘‘อสูริยปสฺสา’’ติอาทีสุ วิย. เตนาห ‘‘กตํ น ชานาตี’’ติ. อกตเวทีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปากฏํ กตฺวา น ชานาตีติ ‘‘อิทฺจิทฺจ มยฺหํ อิมินา กต’’นฺติ สงฺฆมชฺฌคณมชฺฌาทีสุ ปากฏํ กตฺวา น ชานาติ, น ปกาเสตีติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺาตนฺติ โถมนาวเสน อุปคนฺตฺวา าตํ. เตนาห ‘‘วณฺณิต’’นฺติอาทิ.

๓๔. ทุติเย วสฺสสตปริมาณมายุ อสฺสาติ วสฺสสตายุโก, วสฺสสตายุกตฺจ วสฺสสตายุกกาเล ชาตสฺเสว โหติ, นาฺสฺสาติ อาห ‘‘วสฺสสตายุกกาเล ชาโต’’ติ. วสฺสสตํ ชีวติ สีเลนาติ วสฺสสตชีวี. วสฺสสตนฺติ จ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. เตนาห ‘‘สกลํ วสฺสสตํ ชีวนฺโต’’ติ. มาตาปิตูนํ มาตาว พหูปการตราติ ตสฺสาเยว ปธานภาเวน ปฏิกาตพฺพตฺตา ทกฺขิณํ อํสกูฏํ วทนฺติ. หทยโลหิตํ ปาเยตฺวาติ ขีรํ สนฺธาย วทติ. โลหิตฺหิ ขีรภาเวน ปริณามํ คจฺฉติ. ตฺยาสฺสาติ เต อสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๓๕. ตติเย เตนุปสงฺกมีติ เอตฺถ เยนาธิปฺปาเยน โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิ, ตํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โส หิ พฺราหฺมโณ’’ติอาทิมาห. วิรชฺฌนปฺหนฺติ ยํ ปฺหํ ปุฏฺโ วิรชฺฌิตฺวา กเถสิ, อวิปรีตํ กตฺวา สมฺปาเทตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ ปฺหนฺติ อตฺโถ. อุภโตโกฏิกํ ปฺหนฺติ อุโภหิ โกฏีหิ ยุตฺตํ ปฺหํ. ‘‘กึวาที ภวํ โคตโม’’ติ หิ ปุฏฺโ ‘‘กิริยวาทิมฺหี’’ติ วา วเทยฺย ‘‘อกิริยวาทิมฺหี’’ติ วา, ตสฺมา อิมสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน ‘‘กิริยวาทิมฺหี’’ติ เอกา โกฏิ, ‘‘อกิริยวาทิมฺหี’’ติ ทุติยาติ โกฏิทฺวยยุตฺโต อยํ ปฺโห. อุคฺคิลิตุนฺติ ทฺเว โกฏิโย โมเจตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺโต พหิ นีหริตุํ อตฺถโต อปเนตุํ น สกฺขิสฺสติ. ทฺเว โกฏิโย โมเจนฺโต หิ ตํ พหิ นีหรติ นาม. นิคฺคิลิตุนฺติ ปุจฺฉาย โทสํ ทตฺวา หาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ปเวเสตุํ น สกฺขิสฺสติ. ตตฺถ โทสํ ทตฺวา หาเรนฺโต หิ คิลิตฺวา วิย อทสฺสนํ คเมนฺโต ปเวเสติ นาม. กึลทฺธิโกติ กึทฺทิฏฺิโก. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, ทิฏฺิ. โก วาโท เอตสฺสาติ กึวาที. กิมกฺขายีติ กิมภิธายี, กีทิสี ธมฺมกถา. เตนาห ‘‘กึ นาม…เป… ปุจฺฉตี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๓๖. จตุตฺเถ ทกฺขิณํ อรหนฺตีติ ทกฺขิเณยฺยา. อาหุนํ วุจฺจติ ทานํ, ตํ อรหนฺตีติ อาหุเนยฺยา.

๓๗. ปฺจเม กถมยํ มิคารมาตา นาม ชาตาติ อาห ‘‘สา หี’’ติอาทิ. สพฺพเชฏฺกสฺส ปุตฺตสฺสาติ อตฺตโน ปุตฺเตสุ สพฺพปมํ ชาตสฺส ปุตฺตสฺส. อยฺยกเสฏฺิโนว สมานนามกตฺตาติ มิคารเสฏฺินา เอว สทิสนามกตฺตา. ตสฺสา กิร สพฺพเชฏฺสฺส ปุตฺตสฺส นามคฺคหณทิวเส อยฺยกสฺส มิคารเสฏฺิสฺเสว นามํ อกํสุ. อนิพทฺธวาโส หุตฺวาติ เอกสฺมึเยว วิหาเร นิพทฺธวาโส อหุตฺวา. ธุวปริโภคานีติ นิยตปริโภคานิ. นนุ ภควา กทาจิ จาริกมฺปิ ปกฺกมติ, กถํ ตานิ เสนาสนานิ ธุวปริโภเคน ปริภุฺชีติ อาห ‘‘อุตุวสฺสํ จาริกํ จริตฺวาปี’’ติอาทิ. ตตฺถ อุตุวสฺสนฺติ เหมนฺตคิมฺเห สนฺธาย วทติ. มคฺคํ เปตฺวาติ เถรสฺส อาคมนมคฺคํ เปตฺวา. อุณฺหวลาหกาติ อุณฺหอุตุโน ปจฺจยภูตเมฆมาลาสมุฏฺาปกา เทวปุตฺตา. เตสํ กิร ตถาจิตฺตุปฺปาทสมกาลเมว ยถิจฺฉิตํ านํ อุณฺหํ ผรมานา, วลาหกมาลา นาติพหลา อิโต จิโต นภํ ฉาเทนฺตี วิธาวติ. เอส นโย สีตวลาหกวสฺสวลาหกาสุ. อพฺภวลาหกา ปน เทวตา สีตุณฺหวสฺเสหิ วินา เกวลํ อพฺภปฏลสฺเสว สมุฏฺาปกา เวทิตพฺพา. เกวลํ วา วาตสฺเสว, เตเนว เทวตา วาตวลาหกา.

เอตฺถ จ ยํ วสฺสาเน จ สิสิเร จ อพฺภํ อุปฺปชฺชติ, ตํ อุตุสมุฏฺานํ ปากติกเมว. ยํ ปน อพฺภมฺหิเยว อติอพฺภํ สตฺตาหมฺปิ จนฺทสูริเย ฉาเทตฺวา เอกนฺธการํ กโรติ, ยฺจ จิตฺตเวสาขมาเสสุ อพฺภํ, ตํ เทวตานุภาเวน อุปฺปนฺนํ อพฺภนฺติ เวทิตพฺพํ. โย จ ตสฺมึ ตสฺมึ อุตุมฺหิ อุตฺตรทกฺขิณาทิปกติวาโต โหติ, อยํ อุตุสมุฏฺาโน. วาเตปิ วนรุกฺขกฺขนฺธาทิปฺปทาลโน อติวาโต นาม อตฺถิ. อยฺเจว, โย จ อฺโปิ อกาลวาโต, อยฺจ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺโต. ยํ คิมฺหาเน อุณฺหํ, ตํ อุตุสมุฏฺานิกํ ปากติเมว. ยํ ปน อุณฺเหปิ อติอุณฺหํ สีตกาเล จ อุปฺปนฺนํ อุณฺหํ, ตํ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ. ยํ วสฺสาเน จ เหมนฺเต จ สีตํ โหติ, ตํ อุตุสมุฏฺานเมว. ยํ ปน สีเตปิ อติสีตํ, คิมฺเห จ อุปฺปนฺนํ สีตํ, ตํ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ. ยํ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส วสฺสํ, ตํ อุตุสมุฏฺานเมว, ยํ ปน วสฺเสเยว อติวสฺสํ, ยฺจ จิตฺตเวสาขมาเสสุ วสฺสํ, ตํ เทวตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร วสฺสวลาหกเทวปุตฺโต ตครกูฏวาสิขีณาสวตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. เถโร – ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. อหํ, ภนฺเต, วสฺสวลาหโก เทวปุตฺโตติ. ตุมฺหากํ กิร จิตฺเตน เทโว วสฺสตีติ? อาม, ภนฺเตติ. ปสฺสิตุกามา มยนฺติ. เตมิสฺสถ, ภนฺเตติ. เมฆสีสํ วา คชฺชิตํ วา น ปฺายติ, กถํ เตมิสฺสามาติ? ภนฺเต, อมฺหากํ จิตฺเตน เทโว วสฺสติ, ตุมฺเห ปณฺณสาลํ ปวิสถาติ. สาธุ เทวปุตฺตาติ ปาเท โธวิตฺวา ปณฺณสาลํ ปาวิสิ. เทวปุตฺโต ตสฺมึ ปวิสนฺเตเยว เอกํ คีตํ คายิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิ, สมนฺตา ติโยชนฏฺานํ เอกเมฆํ อโหสิ. เถโร อฑฺฒตินฺโต ปณฺณสาลํ ปวิฏฺโติ.

กามํ เหฏฺา วุตฺตาปิ เทวตา จาตุมหาราชิกาว, ตา ปน เตน เตน วิเสเสน วตฺวา อิทานิ ตทฺเ ปมภูมิเก กามาวจรเทเว สามฺโต คณฺหนฺโต ‘‘จาตุมหาราชิกา’’ติ อาห. ธตรฏฺวิรูฬฺหกวิรูปกฺขกุเวรสงฺขาตา จตฺตาโร มหาราชาโน เอเตสนฺติ จาตุมหาราชิกา, เต สิเนรุสฺส ปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ ปพฺพตฏฺกาปิ อตฺถิ อากาสฏฺกาปิ. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา จนฺทิมา เทวปุตฺโต สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺา เอว.

ตาวตึสาติ ตาวตึสานํ เทวานํ นามํ, เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ตตฺถ มเฆน มาณเวน สทฺธึ มจลคาเม กาลํ กตฺวา เตตฺตึส สหปุฺการิโน เอตฺถ นิพฺพตฺตาติ ตํ สหจาริตํ านํ เตตฺตึสํ, ตเทว ตาวตึสํ, ตํ นิวาโส เอเตสนฺติ ตาวตึสาติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน เสสจกฺกวาเฬสุปิ ฉกามาวจรเทวโลกา อตฺถิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ สหสฺสํ ตาวตึสาน’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๘๑). ตสฺมา นามปณฺณตฺติเยเวสา ตสฺส เทวโลกสฺสาติ เวทิตพฺพา. ทุกฺขโต ยาตา อปยาตาติ ยามา. อตฺตโน สิริสมฺปตฺติยา ตุสํ อิตา คตาติ ตุสิตา. นิมฺมาเน รติ เอเตสนฺติ นิมฺมานรติโน. วสวตฺตี เทวตาติ ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน เทวา. ปรนิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน.

พฺรูหิโต ปริวุทฺโธ เตหิ เตหิ ฌานาทีหิ วิสิฏฺเหิ คุเณหีติ พฺรหฺมา. วณฺณวนฺตตาย เจว ทีฆายุกตาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีหิ มหนฺโต พฺรหฺมาติ มหาพฺรหฺมา. ตสฺส ปริสายํ ภวา ปริจาริกาติ พฺรหฺมปาริสชฺชา. ตสฺเสว ปุโรหิตฏฺาเน ิตาติ พฺรหฺมปุโรหิตา. อาภสฺสเรหิ ปริตฺตา อาภา เอเตสนฺติ ปริตฺตาภา. อปฺปมาณา อาภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณาภา. ทีปิกาย อจฺจิ วิย เอเตสํ สรีรโต อาภา ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนฺตี วิย สรติ วิสฺสรตีติ อาภสฺสรา, ยถาวุตฺตปฺปภาย อาภาสนสีลา วา อาภสฺสรา. สุภาติ โสภนา ปภา. สุภาติ หิ เอกคฺฆนา นิจฺจลา สรีราภา วุจฺจติ, สา ปริตฺตา สุภา เอเตสนฺติ ปริตฺตสุภา. อปฺปมาณา สุภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณสุภา. สุเภน โอกิณฺณา วิกิณฺณา, สุเภน สรีรปฺปภาวณฺเณน เอกคฺฆนา สุวณฺณมฺชูสาย ปิตสมฺปชฺชลิตกฺจนปิณฺฑสสฺสิริกาติ สุภกิณฺณา. ตตฺถ โสภนาย ปภาย กิณฺณา สุภากิณฺณาติ วตฺตพฺเพ ภา-สทฺทสฺส รสฺสตฺตํ อนฺติม ณ-การสฺส ห-การฺจ กตฺวา ‘‘สุภกิณฺหา’’ติ วุตฺตํ. วิปุลผลา เวหปฺผลา. วิปุลผลาติ จ วิปุลสนฺตสุขวณฺณาทิผลา. อปฺปเกน กาเลน อตฺตโน านํ น วิชหนฺตีติ อวิหา. เกนจิ น ตปนียาติ อตปฺปา. อกิจฺเฉน สุเขน ปสฺสิตพฺพา มนุฺรูปตายาติ สุทสฺสา. สุปริสุทฺธทสฺสนตาย สมฺมา ปสฺสนฺติ สีเลนาติ สุทสฺสี. อุกฺกฏฺสมฺปตฺตีหิ โยคโต นตฺถิ เอเตสํ กนิฏฺา สมฺปตฺตีติ อกนิฏฺา.

กายสกฺขีหีติ นามกาเยน เทสนาย สมฺปฏิจฺฉนวเสน สกฺขิภูเตหิ. หลาหลนฺติ โกลาหลํ. มหคฺคตจิตฺเตนาติ จตุตฺถชฺฌานปาทเกน อภิฺาจิตฺเตน.

นนุ จ ‘‘อชฺฌตฺตนฺติ กามภโว, พหิทฺธาติ รูปารูปภโว’’ติ จ อยุตฺตเมตํ? ยสฺมิฺหิ ภเว สตฺตา พหุตรํ กาลํ วสนฺติ, โส เนสํ อชฺฌตฺตํ. ยสฺมิฺจ อปฺปตรํ กาลํ วสนฺติ, โส เนสํ พหิทฺธาติ วตฺตุํ ยุตฺตํ. รูปารูปภเว จ สตฺตา จิรตรํ วสนฺติ, อปฺปตรํ กามภเว, ตสฺมา ‘‘อชฺฌตฺตนฺติ กามภโว, พหิทฺธาติ รูปารูปภโว’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. จตุตฺถเมว โกฏฺาสนฺติ วิวฏฺฏฏฺายิสงฺขาตํ จตุตฺถํ อสงฺขฺเยยฺยกปฺปํ. อิตเรสูติ สํวฏฺฏสํวฏฺฏฏฺายิวิวฏฺฏสงฺขาเตสุ ตีสุ อสงฺขฺเยยฺยกปฺเปสุ. อาลโยติ สงฺโค. ปตฺถนาติ ‘‘กถํ นาม ตตฺรูปปนฺนา ภวิสฺสามา’’ติ อภิปตฺถนา. อภิลาโสติ ตตฺรูปปชฺชิตุกามตา. ตสฺมาติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคเมติ.

เอตฺถายํ อธิปฺปาโย – กสฺสจิปิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา เกนจิปิ ปกาเรน วิกฺขมฺภนมตฺเตนปิ อวิมุตฺโต กามภโว อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส อตฺตานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตคฺคาหสฺส วิเสสปจฺจโยติ อชฺฌตฺตํ นาม. ตตฺถ พนฺธนํ อชฺฌตฺตสํโยชนํ, เตน สํยุตฺโต อชฺฌตฺตสํโยชโน. ตพฺพิปริยายโต พหิทฺธาสํโยชโนติ.

ฉนฺทราควเสเนว อชฺฌตฺตสํโยชนํ พหิทฺธาสํโยชนฺจ ปุคฺคลํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โอรมฺภาคิยอุทฺธมฺภาคิยสํโยชนวเสนปิ ทสฺเสตุํ ‘‘โอรมฺภาคิยานิ วา’’ติอาทิมาห. โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภาเวน ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. ตตฺถ จ กมฺมุนา วิปากํ สตฺเตน จ ทุกฺขํ สํโยเชนฺตีติ สํโยชนานิ, สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสกามราคปฏิฆา. อุทฺธํ วุจฺจติ รูปารูปธาตุ, วุตฺตนเยเนตํ อุทฺธํ ภชนฺตีติ อุทฺธมฺภาคิยานิ, สํโยชนานิ. รูปราคารูปราคมานุทฺธจฺจาวิชฺชา. อถ วา โอรมฺภาโค วุจฺจติ กามธาตุ รูปารูปภวโต เหฏฺาภูตตฺตา, ตตฺรูปปตฺติยา ปจฺจยภาวโต โอรมฺภาคสฺส หิตานีติ โอรมฺภาคิยานิ ยถา ‘‘วจฺฉาโยโค ทุหโก’’ติ. อุทฺธมฺภาโค นาม มหคฺคตภาโว, ตสฺส หิตานิ อุทฺธมฺภาคิยานิ. ปาเทสุ พทฺธปาสาโณ วิย ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานิ เหฏฺา อากฑฺฒมานาการานิ โหนฺติ. หตฺเถหิ คหิตรุกฺขสาขา วิย ปฺจุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ อุปริ อากฑฺฒมานาการานิ. เยสฺหิ สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ อปฺปหีนานิ, เต ภวคฺเคปิ นิพฺพตฺเต เอตานิ อากฑฺฒิตฺวา กามภเวเยว ปาเตนฺติ, ตสฺมา เอตานิ ปฺจ คจฺฉนฺตํ วาเรนฺติ, คตํ ปุน อาเนนฺติ. รูปราคาทีนิ ปฺจ คจฺฉนฺตํ น วาเรนฺติ, อาคนฺตุํ ปน น เทนฺติ.

อสมุจฺฉินฺเนสุ โอรมฺภาคิยสํโยชเนสุ ลทฺธปจฺจเยสุ อุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อคณนูปคานิ โหนฺตีติ ลพฺภมานานมฺปิ ปุถุชฺชนานํ วเสน อวิภชิตฺวา อริยานํ โยควเสน วิภชิตุกาโม ‘‘อุภยมฺปิ เจต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ วฏฺฏนิสฺสิตมหาชนสฺสาติ ปุถุชฺชเน สนฺธาย วทติ. ทฺเวธา ปริจฺฉินฺโนติ กามสุคติรูปารูปภววเสน ทฺวีหิ ปกาเรหิ ปริจฺฉินฺโน.

วจฺฉกสาโลปมํ อุตฺตานตฺถเมว. โอปมฺมสํสนฺทเน ปน กสฺสจิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา, กถฺจิปิ อวิมุตฺโต กามภโว อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา, อิเมสํ สตฺตานํ อพฺภนฺตรฏฺเน อนฺโต นาม. รูปารูปภโว ตพฺพิปริยายโต พหิ นาม. ตถา หิ ยสฺส โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, โส อชฺฌตฺตสํโยชโน วุตฺโต. ยสฺส ตานิ ปหีนานิ, โส พหิทฺธาสํโยชโน. ตสฺมา อนฺโต อสมุจฺฉินฺนพนฺธนตาย พหิ จ ปวตฺตมานภวงฺคสนฺตานตาย อนฺโตพทฺโธ พหิสยิโต นาม. นิรนฺตรปฺปวตฺตภวงฺคสนฺตานวเสน หิ สยิตโวหาโร. กามํ เนสํ พหิพนฺธนมฺปิ อสมุจฺฉินฺนํ, อนฺโตพนฺธนสฺส ปน มูลตาย เอวํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สํโยชนํ ปน เตสํ กามาวจรูปนิพทฺธเมวา’’ติ. อิมินา นเยน เสสตฺตเยปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอตฺตาวตา จ กิราติ กิร-สทฺโท อรุจิสํสูจนตฺโถ. เตเนตฺถ อาจริยวาทสฺส อตฺตโน อรุจฺจนภาวํ ทีเปติ. ‘‘สีลวา’’ติ อนามฏฺวิเสสสามฺโต สีลสงฺเขเปน คหิตํ, ตฺจ จตุพฺพิธนฺติ อาจริยตฺเถโร ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลํ อุทฺทิสิตฺวา’’ติ อาห. ตตฺถาติ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ. เชฏฺกสีลนฺติ ปธานสีลํ. อุภยตฺถาติ อุทฺเทสนิทฺเทเสสุ, นิทฺเทเส วิย อุทฺเทเสปิ ปาติโมกฺขสํวโรว เถเรน วุตฺโต ‘‘สีลวา’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. สีลคฺคหณฺหิ ปาฬิยํ ปาติโมกฺขสํวรวเสเนว อาคตํ. เตนาห ‘‘ปาติโมกฺขสํวโรเยวา’’ติอาทิ. ตตฺถ อวธารเณน อิตเรสํ ติณฺณํ เอกเทเสน ปาติโมกฺขนฺโตคธภาวํ ทีเปติ. ตถา หิ อโนโลกิโยโลกเน อาชีวเหตุ จ สิกฺขาปทวีติกฺกเม คิลานปจฺจยสฺส อปจฺจเวกฺขิตปริโภเค จ อาปตฺติ วิหิตาติ. ตีณีติ อินฺทฺริยสํวรสีลาทีนิ. สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม อตฺถีติ สีลปริยาเยน เตสํ กตฺถจิ สุตฺเต คหิตฏฺานํ นาม กึ อตฺถิ ยถา ‘‘ปาติโมกฺขสํวโร’’ติ? อาจริยสฺส สมฺมุขตาย อปฺปฏิกฺขิปนฺโต อุปจาเรน ปุจฺฉนฺโต วิย วทติ. เตนาห ‘‘อนนุชานนฺโต’’ติ. ฉทฺวารรกฺขามตฺตกเมวาติ ตสฺส สลฺลหุกภาวมาห จิตฺตาธิฏฺานภาวมตฺเตน ปฏิปากติกภาวาปตฺติโต. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกนฺติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสติ. อุปฺปาทนเหตุกา หิ ปจฺจยานํ อุปฺปตฺติ. อิทมตฺถนฺติ อิทํ ปโยชนํ อิมสฺส ปจฺจยสฺส ปริภุฺชเนติ อธิปฺปาโย. นิปฺปริยาเยนาติ อิมินา อินฺทฺริยสํวราทีนิ ตีณิ ปธานสฺส สีลสฺส ปริปาลนวเสน ปวตฺติยา ปริยายสีลานิ นามาติ ทสฺเสติ. อิทานิ ปาติโมกฺขสํวรสฺเสว ปธานภาวํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โส ปาติโมกฺขสํวโร. เสสานิ อินฺทฺริยสํวราทีนิ.

ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ โย หิ นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหีติ ปาติโมกฺขนฺติ ลทฺธนาเมน สิกฺขาปทสีเลน ปิหิตกายวจีทฺวาโร. โส ปน ยสฺมา เอวํภูโต เตน สมนฺนาคโต นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปาตีโมกฺขสํวเรน สมนฺนาคโต’’ติ.

อปโร นโย – กิเลสานํ พลวภาวโต, ปาปกิริยาย จ สุกรภาวโต, ปุฺกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน. อนิจฺจตาย วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนโต คมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปาตนสีโล วา ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา. ตํ ปาตึ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโต วิมุตฺโตติ วุจฺจติ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ, ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (มหาว. ๒๘) จ.

อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาติ, ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔) หิ วุตฺตํ, ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโข. ‘‘กณฺเกาโฬ’’ติอาทีนํ วิยสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตฺหิ –

‘‘จิตฺเตน นียเต โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ; (สํ. นิ. ๑.๖๒);

ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโข. ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข สํสารทุกฺเข จาติ ปาติ, ตณฺหาทิสํกิเลโส. วุตฺตฺหิ –

‘‘ตณฺหา ชเนหิ ปุริสํ, (สํ. นิ. ๑.๕๖-๕๗) ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; อ. นิ. ๔.๙) จ อาทิ;

ตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข.

อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาติ, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. วุตฺตฺหิ –

‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๐; สุ. นิ. ๑๗๑);

ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข.

อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร. ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข.

อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ‘‘ปตี’’ติ วุจฺจติ, มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข ปติโมกฺโข เตน ปฺตฺตตฺตาติ, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเน ปติ จ โส ยถาวุตฺตฏฺเน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ อาทิเมตํ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๕) วิตฺถาโร.

อถ วา ป-อิติ ปกาเร, อตีติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺโข. อิทฺหิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ ปฺาสหิตฺจ วิกฺขมฺภนวเสน, สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺโข. ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมโทสโต ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถ. ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. โมกฺโข วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปติพิมฺพภูโตติ ปติโมกฺโข. สีลสํวโร หิ สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโต ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขํเยว ปาติโมกฺขํ.

อถ วา โมกฺขํ ปติ วตฺตติ, โมกฺขาภิมุขนฺติ วา ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขเมว ปาติโมกฺขนฺติ เอวเมตฺถ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ กายิกวาจสิกอวีติกฺกมสงฺขาเตน อาจาเรน, นเวสิยาทิโคจรตาทิสงฺขาเตน โคจเรน สมฺปนฺโน, สมฺปนฺนอาจารโคจโรติ อตฺโถ. อปฺปมตฺตเกสูติ ปริตฺตเกสุ อนาปตฺติคมนีเยสุ. ‘‘ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺเตสู’’ติ อปเร. วชฺเชสูติ คารยฺเหสุ. เต ปน เอกนฺตโต อกุสลสภาวา โหนฺตีติ อาห ‘‘อกุสลธมฺเมสู’’ติ. ภยทสฺสีติ ภยโต ทสฺสนสีโล, ปรมาณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ สิเนรุปฺปมาณํ วิย กตฺวา ภายนสีโล. สมฺมา อาทิยิตฺวาติ สมฺมเทว สกฺกจฺจํ สพฺพโสว อาทิยิตฺวา. สิกฺขาปเทสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมนฺติ สมุทายโต อวยวนิทฺธารณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขาปเทสุ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขตี’’ติ อตฺถมาห, สิกฺขาปทเมว หิ สมาทาตพฺพํ สิกฺขิตพฺพฺจาติ อธิปฺปาโย. ยํ กิฺจิ สิกฺขาปเทสูติ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ มูลปฺตฺติอนุปฺตฺติสพฺพตฺถปฺตฺติปเทสปฺตฺติอาทิเภทํ ยํ กิฺจิ สิกฺขิตพฺพํ. ยํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ ปูเรตพฺพํ สีลํ, ตํ ปน ทฺวารวเสน ทุวิธเมวาติ อาห ‘‘กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สิกฺขาปเทสูติ อาธาเร ภุมฺมํ สิกฺขาภาเคสุ กสฺสจิ วิสุํ อคฺคหณโต. เตนาห ‘‘ตํ สพฺพ’’นฺติ.

อฺตรํ เทวฆฏนฺติ อฺตรํ เทวนิกายํ. อาคามี โหตีติ ปฏิสนฺธิวเสน อาคมนสีโล โหติ. อาคนฺตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิมินา องฺเคนาติ อิมินา การเณน.

สุกฺขวิปสฺสโก เยภุยฺเยน จตุธาตุววตฺถานมุเขน กมฺมฏฺานาภินิเวสี โหตีติ อาห ‘‘สุกฺขวิปสฺสกสฺส ธาตุกมฺมฏฺานิกภิกฺขุโน’’ติ. วุตฺตเมวตฺถํ สมฺปิณฺเฑตฺวา นิคเมนฺโต ‘‘ปเมน องฺเคนา’’ติอาทิมาห.

จิตฺตสฺส สุขุมภาโว อิธ สุขมตฺตภาวมาปนฺเนน ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘สพฺพาปิ หิ ตา’’ติอาทิ. ตนฺติวเสนาติ เกวลํ ตนฺติฏฺปนวเสน, น ปน เถรสฺส กสฺสจิ มคฺคสฺส วา ผลสฺส วา อุปฺปาทนตฺถาย, นาปิ สมฺมาปฏิปตฺติยํ โยชนตฺถายาติ อธิปฺปาโย.

๓๘. ฉฏฺเ มหากจฺจาโนติ คิหิกาเล อุชฺเชนิรฺโ ปุโรหิตปุตฺโต อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ จ. วรณา นาม รุกฺโข, ตสฺส อวิทูเร ภวตฺตา นครมฺปิ วรณสทฺเทน วุจฺจตีติ อาห ‘‘วรณา นาม เอกํ นคร’’นฺติ. ทฺวนฺทปทสฺส ปจฺเจกํ อภิสมฺพนฺโธ โหตีติ เหตุสทฺทํ ปจฺเจกํ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘กามราคาภินิเวสเหตู’’ติอาทิมาห. เหตุสทฺเทน สมฺพนฺเธ สติ โย อตฺโถ สมฺภวติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามราเคน อภินิวิฏฺตฺตาติ เอเตน กามราคาภินิเวสเหตูติ อิมสฺส อตฺถํ ทีเปติ, ตถา วินิพทฺธตฺตาติอาทีหิ กามราควินิพทฺธเหตูติอาทีนํ. ตโต มุโขติ ตทภิมุโข. มานนฺติ อาฬฺหกาทิมานภณฺฑํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๓๙. สตฺตเม มธุรายนฺติ อุตฺตรมธุรายํ. คุนฺทาวเนติ กณฺหคุนฺทาวเน, กาฬปิปฺปลิวเนติ อตฺโถ. ชราชิณฺเณติ ชราย ชิณฺเณ, น พฺยาธิอาทีนํ วเสน ชิณฺณสทิเส นาปิ อกาลิเกน ชราย อภิภูเต. วโยวุทฺเธติ ชิณฺณตฺตา เอว จสฺส วโยวุทฺธิปฺปตฺติยา วุทฺเธน สีลาทิวุทฺธิยา. ชาติมหลฺลเกติ ชาติยา มหนฺตตาย จิรรตฺตตาย มหลฺลเก, น โภคปริวาราทีหีติ อตฺโถ. อทฺธคเตติ เอตฺถ อทฺธ-สทฺโท ทีฆกาลวาจีติ อาห ‘‘ทีฆกาลทฺธานํ อติกฺกนฺเต’’ติ. วโยติ ปุริมปทโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ปจฺฉิมวย’’นฺติ, วสฺสสตสฺส ตติยโกฏฺาสสงฺขาตํ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺเตติ อตฺโถ.

ภวติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ภูมิ, การณนฺติ อาห ‘‘เยน การเณนา’’ติอาทิ. ปริปกฺโกติ ปริณโต, วุทฺธิภาวํ ปตฺโตติ อตฺโถ. โมฆชิณฺโณติ อนฺโต ถิรกรณานํ ธมฺมานํ อภาเวน ตุจฺฉชิณฺโณ นาม. พาลทารโกปิ ทหโรติ วุจฺจตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ยุวา’’ติ วุตฺตํ. อติกฺกนฺตปมวยา เอว สตฺตา สภาเวน ปลิตสิรา โหนฺตีติ ปมวเย ิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุสุกาฬเกโส’’ติ วุตฺตํ. ภทฺเรนาติ ลทฺธเกน. เอกจฺโจ หิ ทหโรปิ สมาโน กาโณ วา โหติ กุณิอาทีนํ วา อฺตโร, โส น ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต นาม โหติ. โย ปน อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก สพฺพสมฺปตฺติสมฺปนฺโน ยํ ยเทว อลงฺการปริหารํ อิจฺฉติ, เตน เตน อลงฺกโต เทวปุตฺโต วิย จรติ, อยํ ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต นาม โหติ. เตเนวาห ‘‘เยน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต’’ติอาทิ.

ยมฺหิ สจฺจฺจ ธมฺโม จาติ ยมฺหิ ปุคฺคเล โสฬสหากาเรหิ ปฏิวิทฺธตฺตา จตุพฺพิธํ สจฺจํ, าเณน สจฺฉิกตตฺตา นววิธโลกุตฺตรธมฺโม จ อตฺถิ. อหึสาติ เทสนามตฺตเมตํ, ยมฺหิ ปน จตุพฺพิธาปิ อปฺปมฺาภาวนา อตฺถีติ อตฺโถ. สํยโม ทโมติ สีลฺเจว อินฺทฺริยสํวโร จ. วนฺตมโลติ มคฺคาเณน นีหฏมโล. ธีโรติ ธิติสมฺปนฺโน. เถโรติ โส อิเมหิ ถิรภาวการเณหิ สมนฺนาคตตฺตา เถโรติ ปวุจฺจตีติ อตฺโถ.

๔๐. อฏฺเม ‘‘โจรา พลวนฺโต โหนฺตี’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา เยหิ การเณหิ เต พลวนฺโต โหนฺติ, เตสํ สพฺภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกฺขสมฺปนฺนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิวาสฏฺานสมฺปนฺนตา คิริทุคฺคาทิสพฺภาวโต. อติยาตุนฺติ อนฺโต ยาตุํ, คนฺตุํ ปวิสิตุนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน อนฺโตปวิสนํ เกนจิ การเณน พหิคตสฺส โหตีติ อาห ‘‘พหิทฺธา ชนปทจาริกํ จริตฺวา’’ติอาทิ. นิยฺยาตุนฺติ พหิ นิกฺขมิตุํ. ตฺจ พหินิกฺขมนํ พหิทฺธากรณีเย สติ สมฺภวตีติ อาห ‘‘โจรา ชนปทํ วิลุมฺปนฺตี’’ติอาทิ. อนุสฺาตุนฺติ อนุสฺจริตุํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๔๑. นวเม มิจฺฉาปฏิปตฺตาธิกรณเหตูติ เอตฺถ อธิ-สทฺโท อนตฺถโกติ อาห ‘‘มิจฺฉาปฏิปตฺติยา กรณเหตู’’ติ. น อาราธโกติ น สมฺปาทโก น ปริปูรโก. ายติ ปฏิวิชฺฌนวเสน นิพฺพานํ คจฺฉตีติ าโย, โส เอว ตํสมงฺคินํ วฏฺฏทุกฺขปาตโต ธารณฏฺเน ธมฺโมติ าโย ธมฺโม, อริยมคฺโค. โส ปเนตฺถ สห วิปสฺสนาย อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘สหวิปสฺสนกํ มคฺค’’นฺติ. อาราธนํ นาม สํสิทฺธิ, สา ปน ยสฺมา สมฺปาทเนน ปริปูรเณน อิจฺฉิตา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺปาเทตุํ ปูเรตุ’’นฺติ.

๔๒. ทสเม ทุคฺคหิเตหีติ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ ทุฏฺุ คหิเตหิ, อูนาธิกวิปรีตปทปจฺจาภฏฺาทิวเสน วิโลเมตฺวา คหิเตหีติ อตฺโถ. อุปฺปฏิปาฏิยา คหิเตหีติ อิทํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ ทุคฺคหสฺส อูนาธิกาทิวเสนปิ สมฺภวโต. เตเนวาห ‘‘อตฺตโน ทุคฺคหิตสุตฺตนฺตานํเยว อตฺถฺจ ปาฬิฺจ อุตฺตริตรํ กตฺวา ทสฺเสนฺตี’’ติ.

สมจิตฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปริสวคฺควณฺณนา

๔๓. ปฺจมสฺส ปเม อุทฺธจฺเจน สมนฺนาคตาติ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย, อวชฺเช วชฺชสฺิตาย, วชฺเช อวชฺชสฺิตาย อุทฺธจฺจปฺปกติกา. เย หิ วินเย อปกตฺุโน สํกิเลสโวทานิเยสุ ธมฺเมสุ น กุสลา สกิฺจนการิโน วิปฺปฏิสารพหุลา, เตสํ อนุปฺปนฺนฺจ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ ภิยฺโยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. สาราภาเวน ตุจฺฉตฺตา นโฬ วิยาติ นโฬ, มาโนติ อาห ‘‘อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา’’ติ. เตนาห ‘‘อุฏฺิตตุจฺฉมานา’’ติ. มาโน หิ เสยฺยสฺส เสยฺโยติ สทิโสติ จ ปวตฺติยา วิเสสโต ตุจฺโฉ. จาปลฺเลนาติ จปลภาเวน, ตณฺหาโลลุปฺเปนาติ อตฺโถ. มุขขราติ มุเขน ผรุสา, ผรุสวาทิโนติ อตฺโถ.

วิกิณฺณวาจาติ วิสฺสฏวจนา สมฺผปฺปลาปิตาย อปริยนฺตวจนา. เตนาห ‘‘อสํยตวจนา’’ติอาทิ. วิสฺสฏฺสติโนติ สติวิรหิตา. ปจฺจยเวกลฺเลน วิชฺชมานายปิ สติยา สติกิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เอวํ วุตฺตา. น สมฺปชานนฺตีติ อสมฺปชานา, ตํโยคนิวตฺติยํ จายํ อกาโร ‘‘อเหตุกา ธมฺมา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๒), อภิกฺขุโก อาวาโส’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๗๖) วิยาติ อาห ‘‘นิปฺปฺา’’ติ, ปฺารหิตาติ อตฺโถ. ปาฬิยํ วิพฺภนฺตจิตฺตาติ อุพฺภนฺตจิตฺตา. สมาธิวิรเหน ลทฺโธกาเสน อุทฺธจฺเจน เตสํ สมาธิวิรหานํ จิตฺตํ นานารมฺมเณสุ ปริพฺภมติ วนมกฺกโฏ วิย วนสาขาสุ. ปากตินฺทฺริยาติ สํวราภาเวน คิหิกาเล วิย วิวฏอินฺทฺริยา. เตนาห ‘‘ปกติยา ิเตหี’’ติอาทิ. วิวเฏหีติ อสํวุเตหิ.

๔๔. ทุติเย ภณฺฑนํ วุจฺจติ กลหสฺส ปุพฺพภาโคติ กลหสฺส เหตุภูตา ปริภาสา ตํสทิสี จ อนิฏฺกิริยา ภณฺฑนํ นาม. กลหชาตาติ หตฺถปรามาสาทิวเสน มตฺถกปฺปตฺโต กลโห ชาโต เอเตสนฺติ กลหชาตาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิรุทฺธวาทนฺติ ‘‘อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม’’ติอาทินา วิรุทฺธวาทภูตํ วิวาทํ. มุขสนฺนิสฺสิตตาย วาจา อิธ ‘‘มุข’’นฺติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ทุพฺภาสิตา วาจา มุขสตฺติโยติ วุจฺจนฺตี’’ติ. จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆกมฺมํ สีมาปริจฺฉินฺเนหิ ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตา เอกกมฺมํ นาม. ปฺจวิโธปิ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เอกโต อุทฺทิสิตพฺพตฺตา เอกุทฺเทโส นาม. ปฺตฺตํ ปน สิกฺขาปทํ สพฺเพหิปิ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขตา นาม. ปาฬิยํ ขีโรทกีภูตาติ ยถา ขีรฺจ อุทกฺจ อฺมฺํ สํสนฺทติ, วิสุํ น โหติ, เอกตฺตํ วิย อุเปติ. สติปิ หิ อุภเยสํ กลาปานํ ปรมตฺถโต เภเท ปจุรชเนหิ ปน ทุวิฺเยฺยนานตฺตํ ขีโรทกํ สโมทิตํ อจฺจนฺตเมว สํสฏฺํ วิย หุตฺวา ติฏฺติ, เอวํ สามคฺคิวเสน เอกตฺตูปคตจิตฺตุปฺปาทา วิยาติ ขีโรทกีภูตาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เมตฺตาจกฺขูหีติ เมตฺตาจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา โอโลกนจกฺขูหิ. ตานิ หิ ปิยภาวทีปนโต ‘‘ปิยจกฺขูนี’’ติ วุจฺจนฺติ.

๔๕. ตติเย อคฺควตีติ เอตฺถ อคฺค-สทฺโท อุตฺตมปริยาโย, เตน วิสิฏฺสฺส ปุคฺคลสฺส, วิสิฏฺาย วา ปฏิปตฺติยา คหณํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อคฺควตีติ อุตฺตมปุคฺคลวตี’’ติอาทิ. อวิคตตณฺหตาย ตํ ตํ ปริกฺขารชาตํ พหุํ ลนฺติ อาทิยนฺตีติ พหุลา, พหุลา เอว พาหุลิกา ยถา ‘‘เวนยิโก’’ติ (อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘; ม. นิ. ๑.๒๔๖). เต ปน ยสฺมา ปจฺจยพหุภาวาย ยุตฺตปฺปยุตฺตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘จีวราทิพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา’’ติ. สิกฺขาย อาทรคารวาภาวโต สิถิลํ อทฬฺหํ คณฺหนฺตีติ สาถลิกาติ วุตฺตํ. สิถิลนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, สิถิลสทฺเทน วา สมานตฺถสฺส สาถลสทฺทสฺส วเสน สาถลิกาติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อวคมนฏฺเนาติ อโธคมนฏฺเน, โอรมฺภาคิยภาเวนาติ อตฺโถ. อุปธิวิเวเกติ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตาย อุปธิวิวิตฺเต. โอโรปิตธุราติ อุชฺฌิตุสฺสาหา. ทุวิธมฺปิ วีริยนฺติ กายิกํ เจตสิกฺจ วีริยํ.

๔๖. จตุตฺเถ อิทํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ปจฺจกฺขโต อคฺคหิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอตฺตกเมว ทุกฺขนฺติ ตสฺส ปริจฺฉิชฺช อคฺคหิตภาวทสฺสนตฺถํ. อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ นตฺถีติ อนวเสเสตฺวา อคฺคหิตภาวทสฺสนตฺถํ. ยถาสภาวโต นปฺปชานนฺตีติ สรสลกฺขณปฺปฏิเวเธน อสมฺโมหโต นปฺปฏิวิชฺฌนฺติ. อสมฺโมหปฏิเวโธ จ ยถา ตสฺมึ าเณ ปวตฺเต ปจฺจา ทุกฺขสฺส รูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติ. อจฺจนฺตกฺขโยติ อจฺจนฺตกฺขยนิมิตฺตํ นิพฺพานํ. อสมุปฺปตฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน การณภูตํ อาคมฺม ตทุภยมฺปิ นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อสมุปฺปตฺติ นิพฺพานํ ทุกฺขนิโรโธติ วุจฺจติ.

๔๗. ปฺจเม วิเสสนสฺส ปรนิปาเตน ‘‘ปริสากสโฏ’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กสฏปริสา’’ติอาทิ. ‘‘กสฏปริสา’’ติ หิ วตฺตพฺเพ ‘‘ปริสากสโฏ’’ติ วุตฺตํ. ปริสามณฺโฑติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๔๘. ฉฏฺเ คมฺภีราติ อคาธา ทุกฺโขคาฬฺหา. ปาฬิวเสนาติ อิมินา โย ธมฺมปฏิสมฺภิทาย วิสโย คมฺภีรภาโว, ตมาห. ธมฺมปฺปฏิเวธสฺส หิ ทุกฺกรภาวโต ธมฺมสฺส ปาฬิยา ทุกฺโขคาฬฺหตาย คมฺภีรภาโว. ‘‘ปาฬิวเสน คมฺภีรา’’ติ วตฺวา ‘‘สลฺลสุตฺตสทิสา’’ติ วุตฺตํ ตสฺส ‘‘อนิมิตฺตมนฺาต’’นฺติอาทินา (สุ. นิ. ๕๗๙) ปาฬิวเสน คมฺภีรตาย ลพฺภนโต. ตถา หิ ตตฺถ ตา คาถา ทุวิฺเยฺยรูปา ติฏฺนฺติ. ทุวิฺเยฺยฺหิ าเณน ทุกฺโขคาฬฺหนฺติ กตฺวา ‘‘คมฺภีร’’นฺติ วุจฺจติ. ปุพฺพาปรมฺเปตฺถ กาสฺจิ คาถานํ ทุวิฺเยฺยตาย ทุกฺโขคาฬฺหเมว, ตสฺมา ตํ ‘‘ปาฬิวเสน คมฺภีรา’’ติ วุตฺตํ. อิมินาว นเยน ‘‘อตฺถวเสน คมฺภีรา’’ติ เอตฺถาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มหาเวทลฺลสุตฺตสฺส (ม. นิ. ๑.๔๔๙ อาทโย) อตฺถวเสน คมฺภีรตา สุวิฺเยฺยาว. โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตโร, นววิโธ อปฺปมาณธมฺโม. โส อตฺถภูโต เอเตสํ อตฺถีติ โลกุตฺตรา. เตนาห ‘‘โลกุตฺตรอตฺถทีปกา’’ติ.

สตฺตสุฺํ ธมฺมมตฺตเมวาติ สตฺเตน อตฺตนา สุฺํ เกวลํ ธมฺมมตฺตเมว. อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพนฺติ ลิงฺควจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุคฺคเหตพฺเพ จ ปริยาปุณิตพฺเพ จา’’ติ. กวิโน กมฺมํ กวิตา. ยํ ปนสฺส กมฺมํ, ตํ เตน กตนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘กวิตาติ กวีหิ กตา’’ติ. อิตรนฺติ กาเวยฺยาติ ปทํ, กาพฺยนฺติ วุตฺตํ โหติ. กาพฺยนฺติ จ กวินา วุตฺตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. วิจิตฺรอกฺขราติ วิจิตฺตาการกฺขรา วิฺาปนียา. สาสนโต พหิภูตาติ น สาสนาวจรา. เตสํ สาวเกหีติ พุทฺธานํ สาวกาติ อปฺาตานํ เยสํ เกสฺจิ สาวเกหิ. น เจว อฺมฺํ ปฏิปุจฺฉนฺตีติ เย วาเจนฺติ, เย จ สุณนฺติ, เต อฺมฺํ อตฺถาทึ นปฺปฏิปุจฺฉนฺติ, เกวลํ วาจนสวนมตฺเตเนว ปริตุฏฺา โหนฺติ. จาริกํ น วิจรนฺตีติ อสุกสฺมึ าเน อตฺถาทึ ชานนฺตา อตฺถีติ ปุจฺฉนตฺถาย จาริกํ น คจฺฉนฺติ ตาทิสสฺส ปุคฺคลสฺส อภาวโต ตสฺส จ ปุพฺพาปรวิโรธโต. กถํ โรเปตพฺพนฺติ เกน ปกาเรน นิกฺขิปิตพฺพํ. อตฺโถ นาม สภาวโต อนุสนฺธิโต สมฺพนฺธโต ปุพฺพาปรโต อาทิปริโยสานโต จ าโต สมฺมาาโต โหตีติ อาห ‘‘โก อตฺโถ’’ติอาทิ. อนุตฺตานีกตนฺติ อกฺขรสนฺนิเวสาทินา อนุตฺตานีกตํ. กงฺขายาติ สํสยสฺส.

๔๙. สตฺตเม กิเลเสหี อามสิตพฺพโต อามิสํ, จตฺตาโร ปจฺจยา. ตเทว ครุ ครุกาตพฺพํ เอเตสํ, น ธมฺโมติ อามิสครู. เตนาห ‘‘โลกุตฺตรธมฺมํ ลามกโต คเหตฺวา ิตปริสา’’ติ. อุภโต ภาคโต วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต. ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโต. ปฺาย วิมุตฺโตติ สมถสนฺนิสฺสเยน วินา อคฺคมคฺคปฺาย วิมุตฺโต. เตนาห ‘‘สุกฺขวิปสฺสกขีณาสโว’’ติ. กาเยนาติ นามกาเยน. ฌานผสฺสํ ผุสิตฺวาติ อฏฺสมาปตฺติสฺิตํ ฌานผสฺสํ อธิคมวเสน ผุสิตฺวา. ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ ยถา อาโลจิตํ นามกาเยน สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี. น ตุ วิมุตฺโต เอกจฺจานํ อาสวานํ อปริกฺขีณตฺตา. ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺสฺส อนฺโต อนนฺตโร กาโล ทิฏฺนฺโต, ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อนนฺตรํ ปตฺโตติ อตฺโถ. ปมผลโต ปฏฺาย หิ ยาว อคฺคมคฺคา ทิฏฺิปฺปตฺโต. เตนาห ‘‘อิเม ทฺเวปิ ฉสุ าเนสุ ลพฺภนฺตี’’ติ.

สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ เอเตน สพฺพถา อวิมุตฺตสฺส สทฺธามตฺเตน วิมุตฺตภาวทสฺสเนน สทฺธาวิมุตฺตสฺส เสกฺขภาวเมว วิภาเวติ. สทฺธาวิมุตฺโตติ วา สทฺธาย อวิมุตฺโตติ อตฺโถ. ฉสุ าเนสูติ ปมผลโต ปฏฺาย ฉสุ าเนสุ. ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ปมมคฺคปฺาสงฺขาตํ ธมฺมํ อนุสฺสรติ. สทฺธํ อนุสฺสรตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อุโภปิ เหเต โสตาปตฺติมคฺคฏฺาเยว. อิมํ กสฺมา คณฺหนฺตีติ เอวํ เอกนฺตปาสํเสสุ อริเยสุ คยฺหมาเนสุ อิมํ เอกนฺตนินฺทิตํ ลามกํ ทุสฺสีลํ กสฺมา คณฺหนฺติ. สพฺเพสุ สพฺพตา สทิเสสุ ลพฺภมาโนปิ วิเสโส น ปฺายติ, วิสภาเค ปน สติ เอว ปฺายติ ปฏภาเวน วิย จิตฺตปฏสฺสาติ อาห ‘‘เอกจฺเจสุ ปนา’’ติอาทิ. คนฺถิตาติ อวพทฺธา. มุจฺฉิตาติ มุจฺฉํ สมฺโมหํ อาปนฺนา. ฉนฺทราคอปกฑฺฒนายาติ ฉนฺทราคสฺส อปนยนตฺถํ. นิสฺสรณปฺายาติ ตโต นิสฺสรณาวหาย ปฺาย วิรหิตา.

ปฺาธุเรนาติ วิปสฺสนาภินิเวเสน. อภินิวิฏฺโติ วิปสฺสนามคฺคํ โอติณฺโณ. ตสฺมึ ขเณติ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ. ธมฺมานุสารี นาม ปฺาสงฺขาเตน ธมฺเมน อริยมคฺคโสตสฺส อนุสฺสรณโต. กายสกฺขี นาม นามกาเยน สจฺฉิกาตพฺพสฺส นิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณโต. วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทานํ วเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ. อรูปชฺฌาเนหิ รูปกายโต, อคฺคมคฺเคน เสสกายโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ นิสฺสกฺกวจนฺเจตํ. ทิฏฺนฺตํ ปตฺโต, ทิฏฺตฺตา วา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. ตตฺถ ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อนนฺตรํ ปตฺโตติ อตฺโถ. ทิฏฺตฺตาติ จตุสจฺจทสฺสนสงฺขาตาย ปฺาย นิโรธสฺส ทิฏฺตฺตา. ฌานผสฺสรหิตาย สาติสยาย ปฺาย เอว วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโต. เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

๕๐. อฏฺเม น สมาติ วิสมา. กายกมฺมาทีนํ วิสมตฺตา ตโต เอว ตตฺถ ปกฺขลนํ สุลภนฺติ อาห ‘‘สปกฺขลนฏฺเนา’’ติ. นิปฺปกฺขลนฏฺเนาติ ปกฺขลนาภาเวน. อุทฺธมฺมานีติ ธมฺมโต อเปตานิ. อุพฺพินยานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๕๑. นวเม อธมฺมิกาติ อธมฺเม นิยุตฺตา. เตนาห ‘‘นิทฺธมฺมา’’ติ, ธมฺมรหิตาติ อตฺโถ.

๕๒. ทสเม คณฺหนฺตีติ ปวตฺเตนฺติ. น เจว อฺมฺํ สฺาเปนฺตีติ มูลโต ปฏฺาย ตํ อธิกรณํ ยถา วูปสมฺมติ, เอวํ อฺมฺํ อิตรีตเร น สมฺมา ชานาเปนฺติ. สฺาปนตฺถํ สนฺนิปาเต สติ ตตฺถ ยุตฺตปตฺตกรเณน สฺตฺติยา ภวิตพฺพํ, เต ปน สฺาปนตฺถํ น สนฺนิปตนฺติ. น เปกฺขาเปนฺตีติ ตํ อธิกรณํ มูลโต ปฏฺาย อฺมฺํ น เปกฺขาเปนฺติ. อสฺตฺติเยว อตฺตนา คหิตปกฺขสฺส พลํ เอเตสนฺติ อสฺตฺติพลา. น ตถา มนฺเตนฺตีติ สนฺทิฏฺิปรามาสิอาธานคฺคาหิทุปฺปฏินิสฺสคฺคิภาเวน ตถา น มนฺเตนฺติ. เตนาห ‘‘ถามสา’’ติอาทิ. อุตฺตานตฺโถเยว กณฺหปกฺเข วุตฺตปฺปฏิปกฺเขน คเหตพฺพตฺตา.

ปริสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. ปุคฺคลวคฺควณฺณนา

๕๓. ทุติยปณฺณาสกสฺส ปเม หิตคฺคหเณน เมตฺตา วุตฺตา โหติ, น กรุณา, อนุกมฺปาคหเณน ปน กรุณาติ จกฺกวตฺตินา สทฺธึ คหิตตฺตา ‘‘โลกานุกมฺปายา’’ติ น วุตฺตํ. นิปฺปริยายโต โลกานุกมฺปา นาม สมฺมาสมฺพุทฺธาธีนาติ. ทฺเวติ มนุสฺสเทวสมฺปตฺติวเสน ทฺเว สมฺปตฺติโย. ตา ทฺเว, นิพฺพานสมฺปตฺติ จาติ ติสฺโส.

๕๔. ทุติเย พหุโส โลเก น จิณฺณา น ปวตฺตา มนุสฺสาติ อาจิณฺณมนุสฺสา. กทาจิเทว หิ เนสํ โลเก นิพฺพตฺติ อภูตปุพฺพา ภูตาติ อพฺภุตมนุสฺสา.

๕๕. ตติเย ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อนุตาปํ กโรติ ตสฺส เอกพุทฺธเขตฺตภาวโต.

๕๖. จตุตฺเถ ถูปสฺส ยุตฺตาติ ธาตุโย ปกฺขิปิตฺวา ถูปกรณสฺส ยุตฺตา.

๕๗. ปฺจเม อตฺตโน อานุภาเวนาติ สยมฺภุาเณน. พุทฺธาติ พุทฺธวนฺโต.

๕๘. ฉฏฺเ ปหีนตฺตา น ภายตีติ อตฺตสิเนหาภาวโต น ภายติ. สกฺกายทิฏฺิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ, อตฺตสิเนหสฺส ปฏิฆสฺส ตเทกฏฺสมฺโมหสฺส จ วเสน ภายนํ โหตีติ เตสมฺปิ ปหีนตฺตา น ภายติ, อฺถา โสตาปนฺนาทีนํ อภเยน ภวิตพฺพํ สิยา. สกฺกายทิฏฺิยา พลวตฺตาติ เอตฺถ อหํการสมฺโมหนตาทีนมฺปิ พลวตฺตาติ วตฺตพฺพํ.

๕๙. สตฺตเม อสฺสาชานีโยติ ลิขนฺติ, อุสภาชานีโยติ ปน ปาโติ.

๖๑. นวเม ตตฺถาติ อนฺตราปเณ. เอโกติ ทฺวีสุ กินฺนเรสุ เอโก. อมฺพิลิกาผลฺจ อทฺทสาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. อมฺพิลิกาผลนฺติ ตินฺติณีผลนฺติ วทนฺติ, จตุรมฺพิลนฺติ อปเร. ทฺเว อตฺเถติ ปาฬิยํ วุตฺเต ทฺเว อตฺเถ.

๖๒. ทสเม ยถาอารทฺเธ กิจฺเจ วตฺตมาเน อนฺตรา เอว ปฏิคมนํ ปฏิวานํ, นตฺถิ เอตสฺส ปฏิวานนฺติ อปฺปฏิวาโน. ตตฺถ อสํโกจปฺปตฺโต. เตนาห ‘‘อนุกฺกณฺิโต’’ติอาทิ.

๖๓. เอกาทสเม สนฺนิวาสนฺติ สหวาสํ. ยถา อสปฺปุริสา สห วสนฺตา อฺมฺํ อคารเวน อนาทริยํ กโรนฺติ, ตปฺปฏิกฺเขเปน สปฺปุริสานํ สคารวปฺปฏิปตฺติทสฺสนปรมิทํ สุตฺตํ ทฏฺพฺพํ.

๖๔. ทฺวาทสเม ทฺวีสุปิ ปกฺเขสูติ วิวาทาปนฺนานํ ภิกฺขูนํ ทฺวีสุปิ ปกฺเขสุ. สํสรมานาติ ปวตฺตมานา. ทิฏฺิปฬาโสติ ทิฏฺิสนฺนิสฺสโย ปฬาโส ยุคคฺคาโห. อาฆาเตนฺโตติ อาหนนฺโต พาเธนฺโต. อนภิราธนวเสนาติ ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ตทฺเสฺจ อตฺถสฺส อนภิราธนวเสน. สพฺพมฺเปตนฺติ วจีสํสาโรติ สพฺพมฺเปตํ. อตฺตโน จิตฺเต ปริสาย จ จิตฺเตติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.

ปุคฺคลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๗) ๒. สุขวคฺควณฺณนา

๖๕. ทุติยสฺส ปเม สพฺพกามนิปฺผตฺติมูลกํ สุขนฺติ อนวเสสอุปโภคปริโภควตฺถุนิปฺผตฺติเหตุกํ กามสุขํ. ปพฺพชฺชามูลกํ สุขนฺติ ปพฺพชฺชาเหตุกํ ปวิเวกสุขํ.

๖๖. ทุติเย กาเมติ ปฺจ กามคุเณ, สพฺเพปิ วา เตภูมเก ธมฺเม. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา กมนียฏฺเน กามา’’ติ (มหานิ. ๑). เนกฺขมฺมํ วุจฺจติ ปพฺพชฺชา ฆรพนฺธนโต นิกฺขนฺตตฺตา. นิพฺพานเมว วา –

‘‘ปพฺพชฺชา ปมํ ฌานํ, นิพฺพานฺจ วิปสฺสนา;

สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา, เนกฺขมฺมนฺติ ปวุจฺจเร’’ติ. (อิติวุ. อฏฺ. ๑๐๙) –

หิ วุตฺตํ.

๖๗. ตติเย อุปธี วุจฺจนฺติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, ตนฺนิสฺสิตํ สุขํ อุปธิสุขํ. ตปฺปฏิปกฺขโต นิรุปธิสุขํ โลกุตฺตรสุขํ.

๖๘. จตุตฺเถ วฏฺฏปริยาปนฺนํ สุขํ วฏฺฏสุขํ. นิพฺพานารมฺมณํ สุขํ วิวฏฺฏสุขํ.

๖๙. ปฺจเม สํกิเลสนฺติ สํกิลิฏฺํ. เตนาห ‘‘วฏฺฏคามิสุข’’นฺติ. วิวฏฺฏสุขนฺติ มคฺคผลสหคตํ สุขํ.

๗๐. ฉฏฺเ อริยานเมว สุขํ อริยสุขํ, อริยฺจ ตํ สุขฺจาติปิ อริยสุขํ. อนริยานเมว สุขํ อนริยสุขํ. อนริยฺจ ตํ สุขฺจาติปิ อนริยสุขํ.

๗๑. สตฺตเม นฺติ เจตสิกสุขํ.

๗๒. อฏฺเม สห ปีติยา วตฺตตีติ สปฺปีติกํ, ปีติสหคตํ สุขํ. สภาวโต วิราคโต จ นตฺถิ เอตสฺส ปีตีติ นิปฺปีติกํ สุขํ. อฏฺกถายํ ปเนตฺถ ฌานสุขเมว อุทฺธฏํ, ตถา จ ‘‘โลกิยสปฺปีติกสุขโต โลกิยนิปฺปีติกสุขํ อคฺค’’นฺติ วุตฺตํ. โลกิยนิปฺปีติกมฺปิ หิ อคฺคํ ลพฺภเตวาติ ภูมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา อคฺคภาโว เวทิตพฺโพ.

๗๓. นวเม สาตสภาวเมว สุขํ สาตสุขํ, น อุเปกฺขาสุขํ วิย อสาตสภาวํ. กามฺเจตฺถ กายวิฺาณสหคตมฺปิ สาตสุขเมว, อฏฺกถายํ ปน ‘‘ตีสุ ฌาเนสุ สุข’’นฺเตว วุตฺตํ.

๗๔. ทสเม สมาธิสมฺปยุตฺตํ สุขํ สมาธิสุขํ. น สมาธิสมฺปยุตฺตํ สุขํ อสมาธิสุขํ.

๗๕. เอกาทสเม สุตฺตนฺตกถา เอสาติ ‘‘สปฺปีติกํ ฌานทฺวย’’นฺติ วุตฺตํ.

๗๗. เตรสเม รูปชฺฌานํ รูปํ อุตฺตรปทโลเปน, ตํ อารมฺมณํ เอตสฺสาติ รูปารมฺมณํ. จตุตฺถชฺฌานคฺคหณํ ปน ยทสฺส ปฏิโยคี, เตน สมานโยคกฺขมทสฺสนปรํ. ยํ กิฺจิ รูปนฺติ ยํ กิฺจิ รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ. ตปฺปฏิกฺเขเปน อรูปํ เวทิตพฺพํ.

สุขวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๘) ๓. สนิมิตฺตวคฺควณฺณนา

๗๘-๗๙. ตติยสฺส ปเม นิมียติ เอตฺถ ผลํ อวเสสปจฺจเยหิ ปกฺขิปียติ วิยาติ นิมิตฺตํ, การณนฺติ อาห ‘‘สนิมิตฺตาติ สการณา’’ติ. ทุติยาทีสูติ ทุติยสุตฺตาทีสุ. เอเสว นโยติ อิมินา นิทานาทิปทานมฺปิ การณปริยายเมว ทีเปติ. นิททาติ ผลนฺติ นิทานํ, หิโนติ ผลํ ปติฏฺาติ เอเตนาติ เหตุ, สงฺขโรติ ผลนฺติ สงฺขาโร, ปฏิจฺจ เอตสฺมา ผลํ เอตีติ ปจฺจโย, รุปฺปติ นิรุปฺปติ ผลํ เอตฺถาติ รูปนฺติ เอวํ นิทานาทิปทานมฺปิ เหตุปริยายตา เวทิตพฺพา.

๘๔. สตฺตเม ปจฺจยภูตายาติ สหชาตาทิปจฺจยภูตาย.

๘๗. ทสเม สเมจฺจ สมฺภุยฺย ปจฺจเยหิ กโตติ สงฺขโต, สงฺขโต ธมฺโม อารมฺมณํ เอเตสนฺติ สงฺขตารมฺมณา. มคฺคกฺขเณ น โหนฺติ นาม ปหียนฺตีติ กตฺวา. นาเหสุนฺติ เอตฺถ ‘‘วุจฺจนฺตี’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ. ยาว อรหตฺตา เทสนา เทสิตา ตํตํสุตฺตปริโยสาเน ‘‘น โหนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา.

สนิมิตฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๙) ๔. ธมฺมวคฺควณฺณนา

๘๘. จตุตฺถสฺส ปเม ผลสมาธีติ จตูสุปิ อริยผเลสุ สมาธิ. ตถา ผลปฺา เวทิตพฺพา.

๘๙. ทุติเย สมฺปยุตฺตธมฺเม ปริคฺคณฺหาตีติ ปคฺคาโห. น วิกฺขิปตีติ อวิกฺเขโป.

๙๐. ตติเย นมนฏฺเน นามํ. รุปฺปนฏฺเน รูปํ. สมฺมสนจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา ‘‘จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา’’ตฺเวว วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ธมฺม-โกฏฺาสปริจฺเฉทาณํ นาม กถิต’’นฺติ.

๙๑. จตุตฺเถ วิชานนฏฺเน วิชฺชา. วิมุจฺจนฏฺเน วิมุตฺติ.

๙๒. ปฺจเม ภโว นาม สสฺสตํ สทา ภาวโต, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ ภวทิฏฺิ. วิภโว นาม อุจฺเฉโท วินาสนฏฺเน, วิภววเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ วิภวทิฏฺิ. อุตฺตานตฺถาเนว เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา.

๙๕. อฏฺเม ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปฺปฏิกูลคาหิมฺหิ วิปจฺจนีกสาเต อนาทเร ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ, ตสฺส กมฺมํ โทวจสฺสํ, ตสฺส ทุพฺพจสฺส ปุคฺคลสฺส อนาทริยวเสน ปวตฺตา เจตนา. ตสฺส ภาโว โทวจสฺสตา. ตสฺส ภาโวติ จ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส โทวจสฺสสฺส อตฺถิภาโว, อตฺถโต โทวจสฺสเมว. วิตฺถารโต ปเนสา ‘‘ตตฺถ กตมา โทวจสฺสตา? สหธมฺมิเก วุจฺจมาเน โทวจสฺสาย’’นฺติ อภิธมฺเม อาคตา. สา อตฺถโต สงฺขารกฺขนฺโธ โหติ. จตุนฺนํ วา ขนฺธานํ เอเตนากาเรน ปวตฺตานํ เอตํ อธิวจนนฺติ วทนฺติ.

ปาปโยคโต ปาปา อสฺสทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ ปาปมิตฺโต, ตสฺส ภาโว ปาปมิตฺตตา. วิตฺถารโต ปเนสา ‘‘ตตฺถ กตมา ปาปมิตฺตตา? เย เต ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ทุสฺสีลา อปฺปสฺสุตา มจฺฉริโน ทุปฺปฺา. ยา เตสํ เสวนา นิเสวนา สํเสวนา ภชนา สมฺภชนา ภตฺติ สมฺภตฺติ ตํสมฺปวงฺกตา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๓) เอวํ อาคตา. สาปิ อตฺถโต โทวจสฺสตา วิย ทฏฺพฺพา. ยาย หิ เจตนาย ปุคฺคโล ปาปสมฺปวงฺโก นาม โหติ, สา เจตนา จตฺตาโรปิ วา อรูปิโน ขนฺธา ตทาการปฺปวตฺตา ปาปมิตฺตตา.

๙๖. นวเม สุขํ วโจ เอตสฺมึ ปทกฺขิณคาหิมฺหิ อนุโลมสาเต สาทเร ปุคฺคเลติ สุพฺพโจติอาทินา, กลฺยาณา สทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ กลฺยาณมิตฺโตติอาทินา วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๙๗. ทสเม ปถวีธาตุอาทโย สุขธาตุกามธาตุอาทโย จ เอตาสฺเวว อนฺโตคธาติ เอตาสุ โกสลฺเล ทสฺสิเต ตาสุปิ โกสลฺลํ ทสฺสิตเมว โหตีติ ‘‘อฏฺารส ธาตุโย’’ติ วุตฺตํ. ธาตูติ ชานนนฺติ อิมินา อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ สภาวปริจฺเฉทิกา สวนธารณสมฺมสนปฺปฏิเวธปฺา วุตฺตา. ตตฺถ ธาตูนํ สวนธารณปฺา สุตมยา, อิตรา ภาวนามยา. ตตฺถาปิ สมฺมสนปฺา โลกิยา. วิปสฺสนา หิ สา, อิตรา โลกุตฺตรา. ลกฺขณาทิวเสน อนิจฺจาทิวเสน จ มนสิกรณํ มนสิกาโร, ตตฺถ โกสลฺลํ มนสิการกุสลตา. อฏฺารสนฺนํเยว ธาตูนํ สมฺมสนปฺปฏิเวธปจฺจเวกฺขณปฺา มนสิการกุสลตา, สา อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน ติธา ภินฺนา. ตถา หิ สมฺมสนปฺา ตสฺสา อาทิ, ปฏิเวธปฺา มชฺเฌ, ปจฺจเวกฺขณปฺา ปริโยสานํ.

๙๘. เอกาทสเม อาปตฺติโยว อาปตฺติกฺขนฺธา. ตา ปน อนฺตราปตฺตีนํ อคฺคหเณน ปฺจ, ตาสํ คหเณน สตฺต โหนฺตีติ อาห ‘‘ปฺจนฺนฺจ สตฺตนฺนฺจ อาปตฺติกฺขนฺธาน’’นฺติ. ชานนนฺติ ‘‘อิมา อาปตฺติโย, เอตฺตกา อาปตฺติโย, เอวฺจ ตาสํ อาปชฺชนํ โหตี’’ติ ชานนํ. เอวํ ติปฺปกาเรน ชานนปฺา หิ อาปตฺติกุสลตา นาม. อาปตฺติโต วุฏฺาปนปฺปโยคตาย กมฺมภูตา วาจา กมฺมวาจา, ตถาภูตา อนุสฺสาวนวาจา. ‘‘อิมาย กมฺมวาจาย อิโต อาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ, โหนฺตฺจ ปเม, ตติเย วา อนุสฺสาวเน ยฺย-การํ ปตฺเต, ‘สํวริสฺสามี’ติ วา ปเท ปริโยสิเต โหตี’’ติ เอวํ ตํ ตํ อาปตฺตีหิ วุฏฺานปริจฺเฉทชานนปฺา อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา. วุฏฺานนฺติ จ ยถาปนฺนาย อาปตฺติยา ยถา ตถา อนนฺตรายตาปาทนํ. เอวํ วุฏฺานคฺคหเณเนว เทสนายปิ สงฺคโห สิทฺโธ โหติ.

ธมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๐) ๕. พาลวคฺควณฺณนา

๙๙. ปฺจมสฺส ปเม อนาคตํ ภารํ วหตีติ อตฺตโน อสมฺปตฺตํ ภารํ วหติ. อเถโรว สมาโน เถเรหิ วหิตพฺพํ พีชนคฺคาหธมฺมชฺเฌสนาทิภารํ วหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๙-๑๖๐) ปน ยสฺมา สมฺมชฺชนาทินววิธํ ปุพฺพกิจฺจํ อาณตฺเตเนว กาตพฺพํ, ปาติโมกฺขฺจ อาณตฺเตเนว อุทฺทิสิตพฺพํ, ตสฺมา ตํ สพฺพํ วินา อาณตฺติยา กโรนฺโต อนาคตํ ภารํ วหติ นามาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยฺหิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุโปสถาคารํ สมฺมชฺชิตุ’’นฺติอาทินา นเยน ปาฬิยํ อาคตํ. อฏฺกถาสุ จ –

‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;

อุโปสถสฺส เอตานิ, ‘ปุพฺพกรณ’นฺติ วุจฺจติ.

‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท;

อุโปสถสฺส เอตานิ, ‘ปุพฺพกิจฺจ’นฺติ วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ ๑๖๘) –

เอวํ ทฺวีหิ นาเมหิ นววิธํ ปุพฺพกิจฺจํ ทสฺสิตํ, ตํ อกตฺวา อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตสฺมา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เถเรน ภิกฺขุนา นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุ’’นฺติ วจนโต เถเรน อาณตฺเตน อคิลาเนน ภิกฺขุนา อุโปสถาคารํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตพฺพํ, อาสนํ ปฺาเปตพฺพํ, ปทีโป กาตพฺโพ, อกโรนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

เถเรนปิ ปติรูปํ ตฺวา อาณาเปตพฺพํ, อาณาเปนฺเตนปิ ยํ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทา กาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ วา อฺตโร น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพา. สเจ อาณตฺโต สมฺมชฺชนึ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ, ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. ปทีปกรเณปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ, อาณาเปนฺเตน จ ‘‘อมุกสฺมึ นาม โอกาเส เตลํ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ, ปริเยสิตพฺพานิ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. อปิ จ กปาเล อคฺคิ ชาเลตพฺโพ. อาสนปฺาปนาณตฺติยมฺปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ, อาณตฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโต อาหริตฺวา ปฺาเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ, อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปฺาเปตุํ วฏฺฏติ, ตาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฺาเปตพฺพานิ. กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.

ฉนฺทปาริสุทฺธีติ เอตฺถ อุโปสถกรณตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ พหิ อุโปสถํ กตฺวา อาคเตน สนฺนิปาตฏฺานํ คนฺตฺวา กายสามคฺคึ อเทนฺเตน ฉนฺโท ทาตพฺโพ. โยปิ คิลาโน วา กิจฺจปฺปสุโต วา, เตน ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺโท ทาตพฺโพ. กถํ ทาตพฺโพ? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ อยมตฺโถ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตพฺโพ. เอวํ ทินฺโน โหติ ฉนฺโท. อกตูโปสเถน ปน คิลาเนน วา กิจฺจปฺปสุเตน วา ปาริสุทฺธิ ทาตพฺพา. กถํ ทาตพฺพา? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ปาริสุทฺธึ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธึ เม หร, ปาริสุทฺธึ เม อาโรเจหี’’ติ อยมตฺโถ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตพฺโพ. เอวํ ทินฺนา โหติ ปาริสุทฺธิ. ตํ ปน เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺทมฺปิ ทาตุํ, สนฺติ สงฺฆสฺส กรณีย’’นฺติ. ตตฺถ ปาริสุทฺธิทานํ สงฺฆสฺสปิ อตฺตโนปิ อุโปสถกรณํ สมฺปาเทติ, น อวเสสํ สงฺฆกิจฺจํ. ฉนฺททานํ สงฺฆสฺเสว อุโปสถกรณฺจ เสสกิจฺจฺจ สมฺปาเทติ, อตฺตโน ปน อุโปสโถ อกโตเยว โหติ, ตสฺมา ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ.

อุตุกฺขานนฺติ ‘‘เหมนฺตาทีนํ อุตูนํ เอตฺตกํ อติกฺกนฺตํ, เอตฺตกํ อวสิฏฺ’’นฺติ เอวํ อุตูนํ อาจิกฺขนํ. ภิกฺขุคณนาติ ‘‘เอตฺตกา ภิกฺขู อุโปสถคฺเค สนฺนิปติตา’’ติ ภิกฺขูนํ คณนา. อิทมฺปิ อุภยํ กตฺวาว อุโปสโถ กาตพฺโพ. โอวาโทติ ภิกฺขุโนวาโท. น หิ ภิกฺขูนีหิ ยาจิตํ โอวาทํ อนาโรเจตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิโย หิ ‘‘สฺเว อุโปสโถ’’ติ อาคนฺตฺวา ‘‘อยํ อุโปสโถ จาตุทฺทโส, ปนฺนรโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปุน อุโปสถทิวเส อาคนฺตฺวา ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ, อยฺย, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร, อยฺย, ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ เอวํ โอวาทํ ยาจนฺติ. ตํ เปตฺวา พาลคิลานคมิเย อฺโ สเจปิ อารฺโก โหติ, อปฺปฏิคฺคเหตุํ น ลภติ, ตสฺมา เยน โส ปฏิคฺคหิโต, เตน ภิกฺขุนา อุโปสถคฺเค ปาติโมกฺขุทฺเทสโก ภิกฺขุ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร, ภนฺเต, ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.

ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วตฺตพฺพํ – ‘‘อตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต’’ติ. สเจ โหติ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ตโต เตน โส วตฺตพฺโพ – ‘‘อิตฺถนฺนามโก ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ตํ ภิกฺขุนิสงฺโฆ อุปสงฺกมตู’’ติ. สเจ นตฺถิ, ตโต เตน ปุจฺฉิตพฺพํ – ‘‘โก อายสฺมา อุสฺสหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติ. สเจ โกจิ อุสฺสหติ, โสปิ จ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต, ตํ ตตฺเถว สมฺมนฺนิตฺวา โอวาทปฺปฏิคฺคาหโก วตฺตพฺโพ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ตํ ภิกฺขุนิสงฺโฆ อุปสงฺกมตู’’ติ. สเจ ปน น โกจิ อุสฺสหติ, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วตฺตพฺพํ – ‘‘นตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ปาสาทิเกน ภิกฺขุนิสงฺโฆ สมฺปาเทตู’’ติ. เอตฺตาวตา หิ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนํ อาโรจิตํ โหติ. เตน ภิกฺขุนา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปาฏิปเท ภิกฺขุนีนํ อาโรเจตพฺพํ. ปาติโมกฺขมฺปิ ‘‘น, ภิกฺขเว, อนชฺฌิฏฺเน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, โย อุทฺทิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนโต อนาณตฺเตน น อุทฺทิสิตพฺพํ. ‘‘เถราเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ หิ วจนโต สงฺฆตฺเถโร วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺย, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ วจนโต นวกตโร วา เถเรน อาณตฺโต. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๑๐๙. เอกาทสเม น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายตีติ น กุกฺกุจฺจายิตุํ ยุตฺตกํ กุกฺกุจฺจายติ. สูกรมํสํ ลภิตฺวา ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ กุกฺกุจฺจายติ, ‘‘สูกรมํส’’นฺติ ชานนฺโตปิ ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ กุกฺกุจฺจายติ, น ปริภุฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ มิคมํสํ ‘‘ทีปิมํส’’นฺติ, กาเล สนฺเตเยว ‘‘กาโล นตฺถี’’ติ, อปฺปวาเรตฺวา ‘‘ปวาริโตมฺหี’’ติ, ปตฺเต รชสฺมึ อปติเตเยว ‘‘ปติต’’นฺติ, อตฺตานํ อุทฺทิสฺส มจฺฉมํเส อกเตเยว ‘‘มํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ กุกฺกุจฺจายติ. กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายตีติ กุกฺกุจฺจายิตุํ ยุตฺตํ น กุกฺกุจฺจายติ. อจฺฉมํสํ ลภิตฺวา ‘‘สูกรมํส’’นฺติ น กุกฺกุจฺจายติ, ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ ชานนฺโตปิ ‘‘สูกรมํส’’นฺติ น กุกฺกุจฺจายติ, มทฺทิตฺวา วีติกฺกมตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ทีปิมํสํ มิคมํสนฺติ…เป… อตฺตานํ อุทฺทิสฺส มจฺฉมํเส กเต ‘‘มํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ น กุกฺกุจฺจายตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘น กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ สงฺฆโภคสฺส อปฏฺปนํ อวิจารณํ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ นาม, ตํ กุกฺกุจฺจายติ. กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ ตสฺเสว ปฏฺปนํ วิจารณํ, ตํ น กุกฺกุจฺจายตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺฆโภคสฺสาติ สงฺฆสฺส จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ทินฺนเขตฺตวตฺถุตฬากาทิกสฺส, ตโต อุปฺปนฺนธฺหิรฺาทิกสฺส จ สงฺฆสฺส โภคสฺส. อปฏฺปนนฺติ อสํวิทหนํ. เตนาห ‘‘อวิจารณ’’นฺติ. ตสฺเสวาติ ยถาวุตฺตสฺเสว สงฺฆโภคสฺส.

พาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๓. ตติยปณฺณาสกํ

(๑๑) ๑. อาสาทุปฺปชหวคฺควณฺณนา

๑๑๙. ตติยปณฺณาสกสฺส ปเม ทุกฺเขน ปชหิตพฺพาติ ทุปฺปชหา. ทุจฺจชาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ทฺวินฺนํ อาสานํ ทุจฺจชภาโว กถํ ชานิตพฺโพติ ปมํ ตาว ลาภาสาย ทุจฺจชภาวํ วิภาเวติ ‘‘ลาภาสายา’’ติอาทินา. อุภโตพฺยูฬฺหนฺติ ยุทฺธตฺถาย อุภโต สนฺนิปติตํ. ปกฺขนฺทนฺตีติ อนุปฺปวิสนฺติ. ชีวิตาสาย ทุปฺปชหตฺตาติอาทินา ชีวิตาสาย ทุจฺจชภาวํ วิภาเวติ.

๑๒๐. ทุติเย ทุลฺลภาติ น สุลภา. อิณํ เทมีติ สฺํ กโรตีติ เอวํ สฺํ กโรนฺโต วิย โหตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปุพฺพการีติ ปมํ อุปการสฺส การโก. กตฺู กตเวทีติ เตน กตํ ตฺวา ปจฺฉา การโก. เตสุ ปุพฺพการี ‘อิณํ เทมี’ติ สฺํ กโรติ, ปจฺฉา การโก ‘อิณํ ชีราเปมี’ติ สฺํ กโรตี’’ติ เอตฺตกเมว อิธ วุตฺตํ. ปุคฺคลปณฺณตฺติสํวณฺณนายํ (ปุ. ป. อฏฺ. ๘๓) ปน –

‘‘ปุพฺพการีติ ปมเมว การโก. กตเวทีติ กตํ เวเทติ, วิทิตํ ปากฏํ กโรติ. เต อคาริยานคาริเยหิ ทีเปตพฺพา. อคาริเกสุ หิ มาตาปิตโร ปุพฺพการิโน นาม, ปุตฺตธีตโร ปน มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นาม. อนคาริเยสุ อาจริยุปชฺฌายา ปุพฺพการิโน นาม, อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา อาจริยุปชฺฌาเย ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ จ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นาม. เตสํ อาวิภาวตฺถาย อุปชฺฌายโปสกโสณตฺเถราทีนํ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.

‘‘อปโร นโย – ปเรน อกเตเยว อุปกาเร อตฺตนิ กตํ อุปการํ อนเปกฺขิตฺวา การโก ปุพฺพการี, เสยฺยถาปิ มาตาปิตโร เจว อาจริยุปชฺฌายา จ. โส ทุลฺลโภ สตฺตานํ ตณฺหาภิภูตตฺตา. ปเรน กตสฺส อุปการสฺส อนุรูปปฺปวตฺตึ อตฺตนิ กตํ อุปการํ อุปการโต ชานนฺโต เวทิยนฺโต กตฺุกตเวที เสยฺยถาปิ มาตาปิตุอาจริยุปชฺฌาเยสุ สมฺมาปฏิปนฺโน. โสปิ ทุลฺลโภ สตฺตานํ อวิชฺชาภิภูตตฺตา. อปิจ อการณวจฺฉโล ปุพฺพการี, สการณวจฺฉโล กตฺุกตเวที. ‘กริสฺสติ เม’ติ เอวมาทิการณนิรเปกฺขกิริโย ปุพฺพการี, ‘กริสฺสติ เม’ติ เอวมาทิการณสาเปกฺขกิริโย กตฺุกตเวที. ตโมโชติปรายโณ ปุพฺพการี, โชติโชติปรายโณ กตฺุกตเวที. เทเสตา ปุพฺพการี, ปฏิปชฺชิตา กตฺุกตเวที. สเทวเก โลเก อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุพฺพการี, อริยสาวโก กตฺุกตเวที’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ การเณน วินา ปวตฺตหิตจิตฺโต อการณวจฺฉโล. อนาคตมฺหิ ปโยชนํ อเปกฺขมาโน ‘‘กริสฺสติ เม’’ติอาทินา จิตฺเตน ปมํ คหิตํ ตาทิสํ กตํ อุปาทาย กตฺู เอว นาม โหติ, น ปุพฺพการีติ อธิปฺปาเยน ‘‘กริสฺสติ เมติ เอวมาทิการณสาเปกฺขกิริโย กตฺุกตเวที’’ติ วุตฺตํ. ตโมโชติปรายโณ ปุฺผลานิ อนุปชีวนฺโต เอว ปุฺานิ กโรตีติ ‘‘ปุพฺพการี’’ติ วุตฺโต. ปุฺผลํ อุปชีวนฺโต หิ กตฺุปกฺเข ติฏฺติ.

๑๒๑. ตติเย ติตฺโตติ สุหิโต ปริโยสิโต นิฏฺิตกิจฺจตาย นิรุสฺสุกฺโก. คุณปาริปูริยา หิ ปริปุณฺโณ ยาวทตฺโถ อิธ ติตฺโต วุตฺโต. ตปฺเปตาติ อฺเสมฺปิ ติตฺติกโร. ปจฺเจกพุทฺโธ จ ตถาคตสาวโก จ ขีณาสโว ติตฺโตติ เอตฺถ ปจฺเจกพุทฺโธ นวโลกุตฺตรธมฺเมหิ สยํ ติตฺโต ปริปุณฺโณ, อฺํ ปน ตปฺเปตุํ น สกฺโกติ. ตสฺส หิ ธมฺมกถาย อภิสมโย น โหติ, สาวกานํ ปน ธมฺมกถาย อปริมาณานํ เทวมนุสฺสานํ อภิสมโย โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา เต ธมฺมํ เทเสนฺตา น อตฺตโน วจนํ กตฺวา กเถนฺติ, พุทฺธานํ วจนํ กตฺวา กเถนฺติ, โสตุํ นิสินฺนปริสาปิ – ‘‘อยํ ภิกฺขุ น อตฺตนา ปฏิวิทฺธํ ธมฺมํ กเถตี’’ติ จิตฺตีการํ กโรติ. อิติ โส จิตฺตีกาโร พุทฺธานํเยว โหติ. เอวํ ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺโธว ตปฺเปตา นาม. ยถา หิ ‘‘อสุกสฺส นาม อิทฺจิทฺจ เทถา’’ติ รฺา อาณตฺเต กิฺจาปิ อาเนตฺวา เทนฺติ, อถ โข ราชาว ตตฺถ ทายโก. เยหิปิ ลทฺธํ โหติ, เต ‘‘รฺา อมฺหากํ านนฺตรํ ทินฺนํ, อิสฺสริยวิภโว ทินฺโน’’ตฺเวว คณฺหนฺติ, น ‘‘ราชปุริเสหี’’ติ เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.

๑๒๒. จตุตฺเถ ทุตฺตปฺปยาติ อตปฺปยา, น สกฺกา เกนจิ ตปฺเปตุํ. โย หิ อุปฏฺากกุลํ วา าติกุลํ วา นิสฺสาย วสมาโน จีวเร ชิณฺเณ เตหิ ทินฺนํ จีวรํ นิกฺขิปติ, น ปริภุฺชติ. ปุนปฺปุนํ ทินฺนมฺปิ คเหตฺวา นิกฺขิปเตว. โย จ เตเนว นเยน ลทฺธํ ลทฺธํ วิสฺสชฺเชติ, ปรสฺส เทติ, ปุนปฺปุนํ ลทฺธมฺปิ ตเถว กโรติ. อิเม ทฺเว ปุคฺคลา สกเฏหิปิ ปจฺจเย อุปเนนฺเตน ตปฺเปตุํ น สกฺกาติ ทุตฺตปฺปยา.

๑๒๓. ปฺจเม น วิสฺสชฺเชตีติ อตฺตโน อกตฺวา ปรสฺส น เทติ, อติเรเก ปน สติ น นิกฺขิปติ, ปรสฺส เทติ. เตเนวาห ‘‘สพฺพํเยว ปเรสํ น เทตี’’ติอาทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘โย ภิกฺขุ อุปฏฺากกุลา วา าติกุลา วา ชิณฺณจีวโร สาฏกํ ลภิตฺวา จีวรํ กตฺวา ปริภุฺชติ น นิกฺขิปติ, อคฺคฬํ ทตฺวา ปารุปนฺโตปิ ปุนปิ ทิยฺยมาเน สหสา นปฺปฏิคฺคณฺหาติ. โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ อตฺตนา ปริภุฺชติ, ปเรสํ น เทติ. อิเม ทฺเวปิ สุเขน สกฺกา ตปฺเปตุนฺติ สุตปฺปยา’’ติ.

๑๒๔-๑๒๗. ฉฏฺสตฺตมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

อาสาทุปฺปชหวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๒) ๒. อายาจนวคฺควณฺณนา

๑๓๑. สทฺโธ ภิกฺขูติ สทฺธาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ. โย ภิกฺขุ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนหิ สทิสภาวํ ปตฺเถติ, โส เยหิ คุเณหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เอตทคฺเค ปิตา, เต คุเณ อตฺตโน อภิกงฺเขยฺยาติ อาห ‘‘ยาทิโส สาริปุตฺตตฺเถโร ปฺายา’’ติอาทิ. อิโต อุตฺตริ ปตฺเถนฺโต มิจฺฉา ปตฺเถยฺยาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ เย ปฺาทโย คุณา อุปลพฺภนฺติ, ตโต อุตฺตริ ปตฺเถนฺโต มิจฺฉา ปตฺเถยฺย. อคฺคสาวกคุณปรมา หิ สาวกคุณมริยาทา. เตสํ สาวกคุณานํ ยทิทํ อคฺคสาวกคุณา, น ตโต ปรํ สาวกคุณา นาม อตฺถิ. เตเนวาห ‘‘ยํ นตฺถิ, ตสฺส ปตฺถิตตฺตา’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๑๓๕. ปฺจเม ยสฺส คุณา ขตา อุปหตา จ, โส ขโต อุปหโต นาม โหตีติ อาห ‘‘คุณานํ ขตตฺตา’’ติอาทิ. ขตตฺตาติ ฉินฺนตฺตา. อุปหตตฺตาติ นฏฺตฺตา. เตนาห ‘‘ฉินฺนคุณํ นฏฺคุณนฺติ อตฺโถ’’ติ. อปุฺสฺส ปสโว นาม อตฺถโต ปฏิลาโภติ อาห ‘‘ปสวตีติ ปฏิลภตี’’ติ, อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. อนนุปวิสิตฺวาติ าเณน อโนคาเหตฺวา. เสสเมตฺถ ฉฏฺาทีนิ จ สุวิฺเยฺยาเนว.

อายาจนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๓) ๓. ทานวคฺควณฺณนา

๑๔๒. ตติยสฺส ปเม ทียตีติ ทานํ, เทยฺยธมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ. ทียติ อเนนาติ วา ทานํ, ปริจฺจาคเจตนาเยตํ อธิวจนํ. อยํ ทุวิโธปิ อตฺโถ อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ทิยฺยนกวเสน ทานานี’’ติอาทิ. ตตฺถ ทิยฺยนกวเสนาติ ทาตพฺพวเสน. อมตปตฺติปฏิปทนฺติ อมตปฺปตฺติเหตุภูตํ สมฺมาปฏิปทํ.

๑๔๓-๑๕๑. ทุติยาทีนิ จ สุวิฺเยฺยาเนว.

ทานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๔) ๔. สนฺถารวคฺควณฺณนา

๑๕๒. จตุตฺถสฺส ปเม อามิสสฺส จ ธมฺมสฺส จ อลาเภน อตฺตโน ปรสฺส จ อนฺตเร สมฺภวนฺตสฺส ฉิทฺทสฺส วิวรสฺส เภทสฺส สนฺถรณํ ปิทหนํ สงฺคณฺหนํ สนฺถาโร. อยฺหิ โลกสนฺนิวาโส อลพฺภมาเนน อามิเสน ธมฺเมน จาติ ทฺวีหิ ฉิทฺโท. ตสฺส ตํ ฉิทฺทํ ยถา น ปฺายติ, เอวํ ปีสฺส วิย ปจฺจตฺถรเณน อามิเสน ธมฺเมน จ สนฺถรณํ สงฺคณฺหนํ สนฺถาโรติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ อามิเสน สงฺคโห อามิสสนฺถาโร นาม. ตํ กโรนฺเตน มาตาปิตูนํ ภิกฺขุคติกสฺส เวยฺยาวจฺจกรสฺส รฺโ โจรานฺจ อคฺคํ อคฺคเหตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. อามสิตฺวา ทินฺเนหิ ราชาโน จ โจรา จ อนตฺถมฺปิ กโรนฺติ, ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาเปนฺติ. อนามสิตฺวา ทินฺเนน อตฺตมนา โหนฺติ, โจรนาควตฺถุอาทีนิ เจตฺถ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ. ตานิ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถายํ (ปารา. ๑๘๕) วิตฺถาริตานิ. สกฺกจฺจํ อุทฺเทสทานํ ปาฬิวณฺณนา ธมฺมกถากถนนฺติ เอวํ ธมฺเมน สงฺคโห ธมฺมสนฺถาโร นาม.

๑๕๓-๑๖๓. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สนฺถารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๕) ๕. สมาปตฺติวคฺควณฺณนา

๑๖๔. ปฺจมสฺส ปเม ‘‘อิโต ปุพฺเพ ปริกมฺมํ ปวตฺตํ, อิโต ปรํ ภวงฺคํ มชฺเฌ สมาปตฺตี’’ติ เอวํ สห ปริกมฺเมน อปฺปนาปริจฺเฉทปฺปชานนา ปฺา สมาปตฺติกุสลตา. วุฏฺาเน กุสลภาโว วุฏฺานกุสลตา. ปเคว วุฏฺานปริจฺเฉทกาณนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๑๖๕. ทุติเย อุชุโน ภาโว อชฺชวํ, อชิมฺหตา อกุฏิลตา อวงฺกตาติ อตฺโถ. อภิธมฺเมปิ (ธ. ส. ๑๓๔๖) วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม อชฺชโว? ยา อชฺชวตา อชิมฺหตา อกุฏิลตา อวงฺกตา, อยํ วุจฺจติ อชฺชโว’’ติ. อนชฺชวฺจ อชฺชวปฺปฏิกฺเขเปน เวทิตพฺพํ. โคมุตฺตวงฺกตา, จนฺทเลขาวงฺกตา, นงฺคลโกฏิวงฺกตาติ หิ ตโย อนชฺชวา. เอกจฺโจ หิ ภิกฺขุ ปมวเย มชฺฌิม-ปจฺฉิมวเย จ เอกวีสติยา อเนสนาสุ ฉสุ จ อโคจเรสุ จรติ, อยํ โคมุตฺตวงฺกตา นาม, อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา ปฏิปตฺติยา วงฺกภาวโต. เอโก ปมวเย ปจฺฉิมวเย จ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, มชฺฌิมวเย ปุริมสทิโส, อยํ จนฺทเลขาวงฺกตา นาม, ปฏิปตฺติยา มชฺฌฏฺาเน วงฺกภาวาปตฺติโต. เอโก ปมวเยปิ มชฺฌิมวเยปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, ปจฺฉิมวเย ปุริมสทิโส, อยํ นงฺคลโกฏิวงฺกตา นาม, ปริโยสาเน วงฺกภาวาปตฺติโต. เอโก สพฺพมฺเปตํ วงฺกตํ ปหาย ตีสุ วเยสุ เปสโล ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, ตสฺส โย โส อุชุภาโว, อิทํ อชฺชวํ นาม, สพฺพตฺถ อุชุภาวสิทฺธิโต.

มทฺทวนฺติ เอตฺถ ‘‘ลชฺชว’’นฺติปิ ปนฺติ. เอวํ ปเนตฺถ อตฺโถ – ‘‘ตตฺถ กตโม ลชฺชโว? โย หิรียติ หิรียิตพฺเพน หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา, อยํ วุจฺจติ ลชฺชโว’’ติ เอวํ วุตฺโต ลชฺชิภาโว ลชฺชวํ นาม. อิทํ ปเนตฺถ นิพฺพจนํ – ลชฺชตีติ ลชฺโช, หิริมา, ตสฺส ภาโว ลชฺชวํ, หิรีติ อตฺโถ. ลชฺชา เอตสฺส อตฺถีติ ลชฺชี ยถา ‘‘มาลี มายี’’ติ, ตสฺส ภาโว ลชฺชิภาโว, สา เอว ลชฺชา.

๑๖๖. ตติเย อธิวาสนขนฺตีติ เอตฺถ อธิวาสนํ วุจฺจติ ขมนํ. ตฺหิ ปเรสํ ทุกฺกฏํ ทุรุตฺตฺจ ปฏิวิโรธากรเณน อตฺตโน อุปริ อาโรเปตฺวา วาสนโต ‘‘อธิวาสน’’นฺติ วุจฺจติ. อธิวาสนลกฺขณา ขนฺติ อธิวาสนขนฺติ. สุจิสีลตา โสรจฺจํ. สา หิ โสภนกมฺมรตตา. สุฏฺุ วา ปาปโต โอรตภาโว วิรตตาติ อาห ‘‘สุรตภาโว’’ติ. เตเนว อภิธมฺเมปิ (ธ. ส. ๑๓๔๙) –

‘‘ตตฺถ กตมํ โสรจฺจํ? โย กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม, อิทํ วุจฺจติ โสรจฺจํ, สพฺโพปิ สีลสํวโร โสรจฺจ’’นฺติ – อาคโต.

๑๖๗. จตุตฺเถ สขิโล วุจฺจติ สณฺหวาโจ, ตสฺส ภาโว สาขลฺยํ, สณฺหวาจตา. เตนาห ‘‘สณฺหวาจาวเสน สมฺโมทมานภาโว’’ติ. สณฺหวาจาวเสน หิ สมฺโมทมานสฺส ปุคฺคลสฺส ภาโว นาม สณฺหวาจตา. เตเนว อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๓๕๐) –

‘‘ตตฺถ กตมํ สาขลฺยํ? ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ปหาย ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ, ยา ตตฺถ สณฺหวาจตา สขิลวาจตา อผรุสวาจตา, อิทํ วุจฺจติ สาขลฺย’’นฺติ วุตฺตํ.

ตตฺถ อณฺฑกาติ สโทเส สวเณ รุกฺเข นิยฺยาสปิณฺโฑ, อหิจฺฉตฺตาทีนิ วา อุฏฺิตานิ อณฺฑกานีติ วทนฺติ, เผคฺคุรุกฺขสฺส ปน กุถิตสฺส อณฺฑานิ วิย อุฏฺิตา จุณฺณปิณฺฑิโย วา คณฺิโย วา อณฺฑกา. อิธ ปน พฺยาปชฺชนกกฺกสาทิสภาวโต กณฺฏกปฺปฏิภาเคน วาจา อณฺฑกาติ วุตฺตา. ปทุมนาฬํ วิย โสตํ ฆํสยมานา ปวิสนฺตี กกฺกสา ทฏฺพฺพา. โกเธน นิพฺพตฺตา ตสฺส ปริวารภูตา โกธสามนฺตา. ปุเร สํวทฺธนารี โปรี. สา วิย สุกุมารา มุทุกา วาจา โปรี วิยาติ โปรี. สณฺหวาจตาติอาทินา ตํ วาจํ ปวตฺตมานํ ทสฺเสติ.

๑๖๘. ปฺจเม ‘‘อวิหึสาติ กรุณาปุพฺพภาโค’’ติ เอตฺตกเมว อิธ วุตฺตํ, ทีฆนิกายฏฺกถาย สงฺคีติสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๔) ปน ‘‘อวิหึสาติ กรุณาปิ กรุณาปุพฺพภาโคปี’’ติ วุตฺตํ. อภิธมฺเมปิ (วิภ. ๑๘๒) ‘‘ตตฺถ กตมา อวิหึสา? ยา สตฺเตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ, อยํ วุจฺจติ อวิหึสา’’ติ อาคตํ. เอตฺถาปิ หิ ยา กาจิ กรุณา ‘‘กรุณา’’ติ วุตฺตา, กรุณาเจโตวิมุตฺติ ปน อปฺปนาปฺปตฺตาว.

สุจิสทฺทโต ภาเว ยการํ อิการสฺส จ อุการาเทสํ กตฺวา อยํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘โสจพฺยํ สุจิภาโว’’ติ. เอตฺถ จ โสจพฺยนฺติ สีลวเสน สุจิภาโวติ วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถาย สงฺคีติสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๔) ปน ‘‘โสเจยฺยนฺติ เมตฺตาย จ เมตฺตาปุพฺพภาคสฺส จ วเสน สุจิภาโว’’ติ วุตฺตํ. เตเนว อภิธมฺเมปิ ‘‘ตตฺถ กตมํ โสจพฺยํ? ยา สตฺเตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, อิทํ วุจฺจติ โสจพฺย’’นฺติ นิทฺเทโส กโต. เอตฺถาปิ หิ ‘‘เมตฺตี’’ติอาทินา ยา กาจิ เมตฺตา วุตฺตา, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ ปน อปฺปนาปฺปตฺตาว.

๑๖๙-๑๗๑. ฉฏฺสตฺตมอฏฺมานิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.

๑๗๒. นวเม กามํ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ถิรภาโวปิ พลฏฺโ เอว, ปฏิปกฺเขหิ ปน อกมฺปนียตํ สาติสยํ พลฏฺโติ วุตฺตํ ‘‘มุฏฺสฺสจฺเจ อกมฺปเนนา’’ติอาทิ.

๑๗๓. ทสเม ปจฺจนีกธมฺมสมนโต สมโถ, สมาธีติ อาห ‘‘สมโถติ จิตฺเตกคฺคตา’’ติ. อนิจฺจาทินา วิวิเธนากาเรน ทสฺสนโต ปสฺสนโต วิปสฺสนา, ปฺาติ อาห ‘‘สงฺขารปริคฺคาหกาณ’’นฺติ.

๑๗๔. เอกาทสเม ทุสฺสีลฺยนฺติ สมาทินฺนสฺส สีลสฺส เภทกโร วีติกฺกโม. ทิฏฺิวิปตฺตีติ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยา ทูสิกา มิจฺฉาทิฏฺีติ อาห ‘‘ทิฏฺิวิปตฺตีติ มิจฺฉาทิฏฺี’’ติ.

๑๗๕. ทฺวาทสเม สีลสมฺปทาติ สพฺพภาคโต ตสฺส อนูนตาปตฺติ ปริปุณฺณภาโว สีลสมฺปทา. ปริปูรณตฺโถ เหตฺถ สมฺปทาสทฺโท. เตเนวาห ‘‘ปริปุณฺณสีลตา’’ติ. ทิฏฺิสมฺปทาติ อตฺถิกทิฏฺิอาทิสมฺมาทิฏฺิปาริปูริภาเวน ปวตฺตํ าณํ. ตฺจ กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิอาทิวเสน ปฺจวิธํ โหตีติ อาห ‘‘เตน กมฺมสฺสกตา’’ติ.

๑๗๖. เตรสเม สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถํ สีลํ, จิตฺตวิสุทฺธิอาทิอุปริวิสุทฺธิยา ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ วิสุทฺธสีลนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุวิสุทฺธเมว หิ สีลํ ตสฺสา ปทฏฺานํ โหติ. เตนาห ‘‘สีลวิสุทฺธีหิ วิสุทฺธิสมฺปาปกํ สีล’’นฺติ. เอตฺถาปิ วิสุทฺธิสมฺปาปกนฺติ จิตฺตวิสุทฺธิอาทิอุปริวิสุทฺธิยา สมฺปาปกนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๓๗๒) ปนายํ ‘‘ตตฺถ กตมา สีลวิสุทฺธิ? กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม, อยํ วุจฺจติ สีลวิสุทฺธี’’ติ เอวํ วิภตฺตา.

ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถํ ทสฺสนาณํ ทสฺสนวิสุทฺธิ, ปรมตฺถวิสุทฺธึ นิพฺพานฺจ ปาเปตุํ อุปเนตุํ สมตฺถํ กมฺมสฺสกตาณาทิ สมฺมาทสฺสนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วิสุทฺธิสมฺปาปิกา…เป… ปฺจวิธาปิ วา สมฺมาทิฏฺี’’ติ. เอตฺถาปิ วิสุทฺธิสมฺปาปิกาติ าณทสฺสนวิสุทฺธิยา ทสฺสนนิพฺพานสงฺขาตาย ปรมตฺถวิสุทฺธิยา จ สมฺปาปิกาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๓๗๓) ปนายํ ‘‘ตตฺถ กตมา ทิฏฺิวิสุทฺธิ? กมฺมสฺสกตาณํ, สจฺจานุโลมิกํ าณํ, มคฺคสฺส มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ, ผลสมงฺคิสฺส าณ’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ อิทํ อกุสลกมฺมํ โน สกํ, อิทํ ปน กมฺมํ สกนฺติ เอวํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ กมฺมสฺสกตชานนาณํ กมฺมสฺสกตาณํ. ติวิธทุจฺจริตฺหิ อตฺตนา กตมฺปิ ปเรน กตมฺปิ โน สกกมฺมํ นาม โหติ อตฺถภฺชนโต, สุจริตํ สกกมฺมํ นาม อตฺถชนนโต. วิปสฺสนาาณํ ปน วจีสจฺจฺจ อนุโลเมติ, ปรมตฺถสจฺจฺจ น วิโลเมตีติ สจฺจานุโลมิกาณนฺติ วุตฺตํ. วิปสฺสนาาณฺหิ ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌนตฺถํ อารมฺภกาเล ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ปวตฺตํ วจีสจฺจฺจ อนุโลเมติ, ตเถว ปฏิวิชฺฌนโต ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานฺจ น วิโลเมติ น วิราเธติ เอกนฺเตเนว สมฺปาปนโต.

๑๗๗. จุทฺทสเม ทิฏฺิวิสุทฺธีติ ปมมคฺคสมฺมาทิฏฺิ วุตฺตา. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ ตํสมฺปยุตฺตเมว วีริยํ. เตเนว ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๔) ‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธีติ าณทสฺสนํ กถิตํ. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ ตํสมฺปยุตฺตเมว วีริย’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ หิ าณทสฺสนนฺติ าณภูตํ ทสฺสนํ. เตน ทสฺสนมคฺคํ วทติ. ตํสมฺปยุตฺตเมว วีริยนฺติ ปมมคฺคสมฺปยุตฺตวีริยมาห. อปิจ ทิฏฺิวิสุทฺธีติ สพฺพาปิ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ ตํสมฺปยุตฺตเมว วีริยํ. เตเนว ทีฆนิกายฏฺกถายํ ‘‘อปิจ ปุริมปเทน จตุมคฺคาณํ, ปจฺฉิมปเทน ตํสมฺปยุตฺตํ วีริย’’นฺติ วุตฺตํ.

อถ วา ทิฏฺีวิสุทฺธีติ กมฺมสฺสกตาณาทิสงฺขาตา สพฺพาปิ สมฺมาทิฏฺิ วุตฺตา. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ โย เจตสิโก วีริยารมฺโภ…เป… สมฺมาวายาโมติ. อยเมว ปาฬิยา สเมติ. อภิธมฺเม หิ ‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปนาติ ยา ปฺา ปชานนา…เป… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ โย เจตสิโก วีริยารมฺโภ…เป… สมฺมาวายาโม’’ติ เอวมยํ ทุโก วิภตฺโต. เตเนว อภิธมฺมฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๗๔) ‘‘ยา ปฺา ปชานนาติอาทีหิ เหฏฺา วุตฺตานิ กมฺมสฺสกตาณาทีเนว จตฺตาริ าณานิ วิภตฺตานิ. ‘โย เจตสิโก วีริยารมฺโภ’ติอาทีหิ ปเทหิ นิทฺทิฏฺํ วีริยํ คหิตํ ปฺาย โลกิยฏฺาเน โลกิยํ, โลกุตฺตรฏฺาเน โลกุตฺตร’’นฺติ วุตฺตํ.

อิธาปิ วิสุทฺธิสมฺปาปิกา จตุมคฺคสมฺมาทิฏฺิ, ปฺจวิธาปิ วา สมฺมาทิฏฺิ ทิฏฺิวิสุทฺธีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธิสมฺปาปิกา สมฺมาทิฏฺิเยวา’’ติ วุตฺตํ. เหฏฺิมมคฺคสมฺปยุตฺตํ วีริยนฺติ อิทํ ปน ‘‘ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ ปมมคฺคสมฺปยุตฺตํ วีริยนฺติ วุตฺต’’นฺติ อธิปฺปาเยน วทติ. เอตฺถ จ ตํตํภาณกานํ มตเภเทนายํ วณฺณนาเภโทติ น อฏฺกถาวจนานํ อฺมฺวิโรโธ สงฺกิตพฺโพ. อถ ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ เหฏฺิมมคฺคสมฺปยุตฺตเมว วีริยํ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตฺหิ ตสฺสา ทิฏฺิยา อนุรูปตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตสฺสา ทิฏฺิยาติ เหฏฺิมมคฺคสมฺปยุตฺตาย ทิฏฺิยา. ยถาทิฏฺิสฺสาติ อนุรูปทิฏฺิสฺส กลฺยาณทิฏฺิสฺส นิพฺพตฺติตปฺปการทิฏฺิสฺส วา นิพฺพตฺเตตพฺพปธานานุรูปทิฏฺิสฺส ยถาทิฏฺิปฺปวตฺตกิริยสฺส วาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺถํ สํวณฺณยนฺติ.

๑๗๘. ปนฺนรสเม สมตฺตํ ตุสฺสนํ ติตฺติ สนฺตุฏฺิ, นตฺถิ เอตสฺส สนฺตุฏฺีติ อสนฺตุฏฺิ, อสนฺตุฏฺิสฺส ภาโว อสนฺตุฏฺิตา. ยา กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อสนฺตุฏฺสฺส ภิยฺโยกมฺยตา, ตสฺสา เอตํ อธิวจนํ. ตาย หิ สมงฺคิภูโต ปุคฺคโล สีลํ ปูเรตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทติ, ฌานํ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ อารภติ, อารทฺธวิปสฺสโก อรหตฺตํ อคฺคเหตฺวา อนฺตรา โวสานํ นาปชฺชติ, ‘‘อลเมตฺตาวตา กตเมตฺตาวตา’’ติ สงฺโกจํ น ปาปุณาติ. เตนาห ‘‘อฺตฺร อรหตฺตมคฺคา กุสเลสุ ธมฺเมสุ อสนฺตุฏฺิภาโว’’ติ. ตตฺร อฺตฺร อรหตฺตมคฺคาติ อรหตฺตมคฺคสมฺปตฺตํ วินาติ อตฺโถ. ‘‘อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมิ’’นฺติ อิทํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ น วิภตฺตํ.

๑๗๙. โสฬสเม มุฏฺา นฏฺา สติ เอตสฺสาติ มุฏฺสฺสติ, ตสฺส ภาโว มุฏฺสฺสจฺจนฺติ อาห ‘‘มุฏฺสฺสจฺจนฺติ มุฏฺสฺสติภาโว’’ติ. มุฏฺสฺสติภาโวติ จ สติปฺปฏิปกฺโข ธมฺโม, น สติยา อภาวมตฺตํ. อสมฺปชฺนฺติ ‘‘ตตฺถ กตมํ อสมฺปชฺํ? ยํ อฺาณํ อทสฺสนํ…เป… อวิชฺชาลงฺฆี โมโห อกุสลมูล’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๕๗) เอวํ วุตฺตา อวิชฺชาเยว. ตถา หิ วิชฺชาปฏิปกฺโข อวิชฺชา วิชฺชาย ปหาตพฺพโต, เอวํ สมฺปชฺปฺปฏิปกฺโข อสมฺปชฺํ. ยสฺมา ปน สมฺปชฺปฺปฏิปกฺเข สติ ตสฺส วเสน าณสฺส อภาโว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อฺาณภาโว’’ติ.

๑๘๐. สตฺตรสเม อปิลาปนลกฺขณา สตีติ อุทเก ลาพุ วิย เยน จิตฺตํ อารมฺมเณ ปิลวิตฺวา วิย ติฏฺติ, น โอคาหติ, ตํ ปิลาปนํ. น ปิลาปนํ อปิลาปนํ, ตํ ลกฺขณํ สภาโว เอติสฺสาติ อปิลาปนลกฺขณา.

สมาปตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๑. โกธเปยฺยาลํ

๑๘๑. อิโต ปเรสุ โกธวคฺคาทีสุ อุปนนฺธนลกฺขโณติ กุชฺฌนวเสน ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ ม’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๓, ๔) จิตฺตปริโยนนฺธนลกฺขโณ. ปุพฺพกาลิกํ โกธํ อุปนยฺหติ พนฺธติ, กุชฺฌนาการํ ปพนฺธติ ฆเฏติ. อาฆาตวตฺถุนา จิตฺตํ พนฺธนฺตี วิย โหตีติ อปรกาโล โกโธ อุปนาโห. สุฏฺุ กตํ การณํ อุปกาโร สุกตการณํ, ตสฺส ปุพฺพการิตาลกฺขณสฺส คุณสฺส มกฺขนํ อุทกปุฺฉนิยา วิย สรีรานุคตสฺส อุทกสฺส ปุฺฉนํ วินาสนํ ลกฺขณเมตสฺสาติ สุกตกรณมกฺขนลกฺขโณ. ตถา หิ โส ปเรสํ คุณานํ มกฺขนฏฺเน มกฺโขติ วุจฺจติ. พหุสฺสุเตปิ ปุคฺคเล อชฺโฌตฺถรึสุ, ‘‘อีทิสสฺส จ พหุสฺสุตสฺส อนิยตา คหิตา, ตว จ มม จ โก วิเสโส’’ติอาทินา นเยน อุปฺปชฺชมาโน ยุคคฺคาหี ปลาโสติ อาห ‘‘ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปลาโส’’ติ. ตตฺถ ยุคคฺคาโห นาม สมธุรคฺคาโห, อสมมฺปิ อตฺตนา สมํ กตฺวา คณฺหนํ. ปลาสตีติ ปลาโส, ปเรสํ คุเณ ฑํสิตฺวา ทนฺเตหิ วิย ฉินฺทิตฺวา อตฺตโน คุเณหิ สเม กโรตีติ อตฺโถ.

อุสูยนลกฺขณาติ ปเรสํ สกฺการาทีนิ ขิยฺยนลกฺขณา. มจฺเฉรสฺส ภาโว มจฺฉริยํ. ตฺจ อาวาสมจฺฉริยาทิวเสน ปฺจวิธนฺติ อาห ‘‘ปฺจมจฺเฉรภาโว มจฺฉริย’’นฺติ. มจฺฉรายนลกฺขณนฺติ อตฺตโน สมฺปตฺติยา ปเรหิ สาธารณภาเว อสหนลกฺขณํ. กตปฺปฏิจฺฉาทนลกฺขณาติ กตปาปปฺปฏิจฺฉาทนลกฺขณา. เกราฏิกภาเวน อุปฺปชฺชมานํ สาเยฺยนฺติ อาห ‘‘เกราฏิกลกฺขณํ สาเยฺย’’นฺติ. อฺถา อตฺตโน ปเวทนปุคฺคโล เกราฏิโก เนกติกวาณิโชติ วทนฺติ. เกราฏิโก หิ ปุคฺคโล อานนฺทมจฺโฉ วิย โหติ.

๑๘๗. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยติ ยถา อาภตํ กฺจิ อาหริตฺวา ปิโต, เอวํ อตฺตโน กมฺมุนา นิกฺขิตฺโต นิรเย ปิโตเยวาติ อตฺโถ.

๒. อกุสลเปยฺยาลํ

๑๙๑-๒๐๐. ทุกฺขสฺส วฑฺฒิ เอเตสนฺติ ทุกฺขวฑฺฒิกา. เย หิ ทุกฺขํ วฑฺเฒนฺติ, ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทนฺติ, ทุกฺขสฺส วฑฺฒิ เตสํ อตฺถีติ เอวํ วุตฺตํ. สุขวฑฺฒิกาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๓. วินยเปยฺยาลํ

๒๐๑. อตฺถวเสติ วุทฺธิวิเสเส อานิสํสวิเสเส. เตสํ ปน สิกฺขาปทปฺตฺติการณตฺตา อาห ‘‘ทฺเว การณานิ สนฺธายา’’ติ. อตฺโถเยว วา อตฺถวโส, ทฺเว อตฺเถ ทฺเว การณานีติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อตฺโถ ผลํ ตทธีนวุตฺติตาย วโส เอตสฺสาติ อตฺถวโส, การณนฺติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยถา ‘‘อนภิชฺฌา ธมฺมปท’’นฺติ วุตฺเต อนภิชฺฌา เอโก ธมฺมโกฏฺาโสติ อตฺโถ โหติ. เอวมิธาปิ สิกฺขาปทนฺติ สิกฺขาโกฏฺาโส สิกฺขาย เอโก ปเทโสติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ สิกฺขาโกฏฺาโส ปิโต’’ติ.

สงฺฆสุฏฺุ นาม สงฺฆสฺส สุฏฺุภาโว ‘‘สุฏฺุ เทวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๓๙) อาคตฏฺาเน วิย ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วจนสมฺปฏิจฺฉนภาโว. เตนาห ‘‘สงฺฆสุฏฺุตายาติ สงฺฆสฺส สุฏฺุภาวายา’’ติอาทิ. ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ ทุมฺมงฺกู นาม ทุสฺสีลปุคฺคลา. เย มงฺกุตํ อาปาทิยมานาปิ ทุกฺเขน อาปชฺชนฺติ, วีติกฺกมํ กโรนฺตา วา กตฺวา วา น ลชฺชนฺติ, เตสํ นิคฺคหตฺถาย. เต หิ สิกฺขาปเท อสติ ‘‘กึ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ, กึ สุตํ, กึ อมฺเหหิ กตํ, กตรสฺมึ วตฺถุสฺมึ กตมํ อาปตฺตึ โรเปตฺวา อมฺเห นิคฺคณฺหถา’’ติ สงฺฆํ วิเหเสฺสนฺติ, สิกฺขาปเท ปน สติ เตสํ สงฺโฆ สิกฺขาปทํ ทสฺเสตฺวา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน นิคฺคเหสฺสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติ.

เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารายาติ เปสลานํ ปิยสีลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารตฺถาย. ปิยสีลา หิ ภิกฺขู กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทํ อชานนฺตา สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ฆฏมานา กิลมนฺติ, อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ ปน สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทฺจ ตฺวา สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ฆเฏนฺตา น กิลมนฺติ, น อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ. เตน เตสํ สิกฺขาปทปฺปฺาปนา ผาสุวิหาราย สํวตฺตติ. โย วา ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห, สฺเวว เอเตสํ ผาสุวิหาโร. ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ, ภิกฺขู อเนกคฺคา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานาทีนิ อนุยุฺชิตุํ น สกฺโกนฺติ. ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ, ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺติ. เอวํ ‘‘เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารายา’’ติ เอตฺถ ทฺวิธา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

‘‘น โว อหํ, จุนฺท, ทิฏฺธมฺมิกานํเยว อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ เทเสมี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๒) เอตฺถ วิวาทมูลภูตา กิเลสา อาสวาติ อาคตา.

‘‘เยน เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;

ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;

เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๖) –

เอตฺถ เตภูมกํ กมฺมํ อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา. อิธ ปน ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธนาทโย เจว อปายทุกฺขภูตา จ นานปฺปการา อุปทฺทวา อาสวาติ อาห – ‘‘ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วีติกฺกมปจฺจยา ปฏิลทฺธพฺพาน’’นฺติอาทิ. ยทิ หิ ภควา สิกฺขาปทํ น ปฺาเปยฺย, ตโต อสทฺธมฺมปฺปฏิเสวนอทินฺนาทานปาณาติปาตาทิเหตุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ ปรูปวาทาทโย ทิฏฺธมฺมิกา นานปฺปการา อนตฺถา, เย จ ตนฺนิมิตฺตเมว นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตสฺส ปฺวิธพนฺธนกมฺมการณาทิวเสน มหาทุกฺขานุภวนปฺปการา อนตฺถา, เต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ. ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว, ตตฺถ ภวา ทิฏฺธมฺมิกา. สมฺปเรตพฺพโต เปจฺจ คนฺตพฺพโต สมฺปราโย, ปรโลโก, ตตฺถ ภวา สมฺปรายิกา.

อกุสลเวรานนฺติ ปาณาติปาตาทิปฺจทุจฺจริตานํ. ตานิ เวรการณตฺตา ‘‘เวรานี’’ติ วุจฺจนฺติ, ปุคฺคเลสุ ปน อุปฺปชฺชมานานิ เวรานิ. เต เอว วา ทุกฺขธมฺมาติ เหฏฺา วุตฺตา วธพนฺธนาทโย. เตสํ ปกฺขุปจฺเฉทนตฺถายาติ เตสํ ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปจฺเฉทาย คณโภชนสทิสํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ปณฺฑิตมนุสฺสานนฺติ โลกิยปริกฺขกชนานํ. เต หิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา สติ สิกฺขาปทปฺตฺตึ ตฺวา วา ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู ทิสฺวา วา – ‘‘ยานิ วต โลเก มหาชนสฺส รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนฏฺานานิ, เตหิ อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา อารกา วิหรนฺติ, ทุกฺกรํ วต กโรนฺติ, ภาริยํ วต กโรนฺตี’’ติ ปสาทํ อาปชฺชนฺติ วินยปิฏเก โปตฺถกํ ทิสฺวา มิจฺฉาทิฏฺิกตเวทิพฺราหฺมโณ วิย. อุปรูปริปสาทภาวายาติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปสาทุปฺปาทนตฺถํ. เยปิ หิ สาสเน ปสนฺนา กุลปุตฺตา, เตปิ สิกฺขาปทปฺตฺตึ วา ตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู วา ทิสฺวา ‘‘อโห, อยฺยา, ทุกฺกรการิโน, เย ยาวชีวํ เอกภตฺตํ พฺรหฺมจริยํ วินยสํวรํ อนุปาเลนฺตี’’ติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปสีทนฺติ.

สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตตฺถนฺติ ปริยตฺติสทฺธมฺโม, ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม, อธิคมสทฺธมฺโมติ ติวิธสฺสปิ สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตตฺถํ. ตตฺถ ปิฏกตฺตยสงฺคหิตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ ปริยตฺติสทฺธมฺโม นาม. เตรส ธุตคุณา, จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ, ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานิ, สีลสมาธิวิปสฺสนาติ อยํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม นาม. จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ นิพฺพานฺจาติ อยํ อธิคมสทฺธมฺโม นาม. โส สพฺโพ ยสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา สติ ภิกฺขู สิกฺขาปทฺจ ตสฺส วิภงฺคฺจ ตทตฺถโชตนตฺถํ อฺฺจ พุทฺธวจนํ ปริยาปุณนฺติ, ยถาปฺตฺตฺจ ปฏิปชฺชมานา ปฏิปตฺตึ ปูเรตฺวา ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพํ โลกุตฺตรธมฺมํ อธิคจฺฉนฺติ, ตสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา จิรฏฺิติโก โหติ.

ปฺจวิธสฺสปิ วินยสฺสาติ ตทงฺควินยาทิวเสน ปฺจปฺปการสฺส วินยสฺส. วินยฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๓๙) ปน สิกฺขาปทปฺตฺติยา สติ สํวรวินโย จ ปหานวินโย จ สมถวินโย จ ปฺตฺติวินโย จาติ จตุพฺพิโธปิ วินโย อนุคฺคหิโต โหติ อุปตฺถมฺภิโต สุปตฺถมฺภิโต. เตน วุตฺตํ ‘‘วินยานุคฺคหายา’’ติ. ตตฺถ สํวรวินโยติ สีลสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธปิ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติ. ปหานวินโยติ ตทงฺคปฺปหานํ, วิกฺขมฺภนปฺปหานํ, สมุจฺเฉทปฺปหานํ, ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ, นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิธมฺปิ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ปหานวินโยติ วุจฺจติ. สมถวินโยติ สตฺต อธิกรณสมถา. ปฺตฺติวินโยติ สิกฺขาปทเมว. สิกฺขาปทปฺตฺติยา หิ วิชฺชมานาย เอว สิกฺขาปทสมฺภวโต สิกฺขาปทสงฺขาโต ปฺตฺติวินโยติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อนุคฺคหิโต โหติ.

๒๐๒-๒๓๐. ภิกฺขูนํ ปฺจาติ นิทานปาราชิกสงฺฆาทิเสสานิยตวิตฺถารุทฺเทสวเสน ปฺจ ภิกฺขูนํ อุทฺเทสา. ภิกฺขุนีนํ จตฺตาโรติ ภิกฺขูนํ วุตฺเตสุ อนิยตุทฺเทสํ เปตฺวา อวเสสา จตฺตาโร.

เอหิภิกฺขูปสมฺปทาติ ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ วจนมตฺเตน ปฺตฺตอุปสมฺปทา. ภควา หิ เอหิภิกฺขุภาวาย อุปนิสฺสยสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา รตฺตปํสุกูลนฺตรโต สุวณฺณวณฺณํ ทกฺขิณหตฺถํ นีหริตฺวา พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรนฺโต ‘‘เอหิ ภิกฺขุ, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ วทติ. ตสฺส สเหว ภควโต วจเนน คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายติ, ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ รุหติ, ภณฺฑุ กาสาววสโน โหติ – เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํเส เปตฺวา วามอํสกูเฏ อาสตฺตนีลุปฺปลวณฺณมตฺติกาปตฺโต.

‘‘ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;

ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๔; ๒.๓๔๙; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๘; ปารา. อฏฺ. ๔๕ ปทภาชนียวณฺณนา; อป. อฏฺ. ๑.อวิทูเรนิทานกถา; พุ. วํ. อฏฺ. ๒๗.อวิทูเรนิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.อวิทูเรนิทานกถา; มหานิ. อฏฺ. ๒๐๖) –

เอวํ วุตฺเตหิ อฏฺหิ ปริกฺขาเรหิ สรีเร ปฏิมุกฺเกหิเยว วสฺสสติกตฺเถโร วิย อิริยาปถสมฺปนฺโน พุทฺธาจริยโก พุทฺธุปชฺฌายโก สมฺมาสมฺพุทฺธํ วนฺทมาโนเยว ติฏฺติ.

สรณคมนูปสมฺปทาติ ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน ติกฺขตฺตุํ วาจํ ภินฺทิตฺวา วุตฺเตหิ ตีหิ สรณคมเนหิ อนุฺาตอุปสมฺปทา. โอวาทูปสมฺปทาติ โอวาทปฺปฏิคฺคหณอุปสมฺปทา. สา จ ‘‘ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘ติพฺพํ เม หิโรตฺตปฺปํ, ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ เถเรสุ นเวสุ มชฺฌิเมสู’ติ. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘ยํ กิฺจิ ธมฺมํ สุณิสฺสามิ กุสลูปสํหิตํ, สพฺพํ ตํ อฏฺึ กตฺวา มนสิ กริตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณิสฺสามี’ติ, เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘สาตสหคตา จ เม กายคตาสติ น วิชหิสฺสตี’ติ, เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) อิมินา โอวาทปฺปฏิคฺคหเณน มหากสฺสปตฺเถรสฺส อนุฺาตอุปสมฺปทา.

ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา นาม โสปากสฺส อนุฺาตอุปสมฺปทา. ภควา กิร ปุพฺพาราเม อนุจงฺกมนฺตํ โสปากสามเณรํ ‘‘อุทฺธุมาตกสฺาติ วา, โสปาก, รูปสฺาติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา, อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ ทส อสุภนิสฺสิเต ปฺเห ปุจฺฉิ. โส พฺยากาสิ. ภควา ตสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘กติวสฺโสสิ, ตฺวํ โสปากา’’ติ ปุจฺฉิ. สตฺตวสฺโสหํ ภควาติ. โสปาก, ตฺวํ มม สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา ปฺเห พฺยากาสีติ อารทฺธจิตฺโต อุปสมฺปทํ อนุชานิ. อยํ ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา.

ตฺติจตุตฺถอุปสมฺปทา นาม ภิกฺขูนํ เอตรหิ อุปสมฺปทา. ครุธมฺมูปสมฺปทาติ ครุธมฺมปฺปฏิคฺคหเณน อุปสมฺปทา. สา จ มหาปชาปติยา อฏฺครุธมฺมปฺปฏิคฺคหเณน อนุฺาตา. อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปทา นาม ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุนิสงฺฆโต ตฺติจตุตฺเถน, ภิกฺขุสงฺฆโต ตฺติจตุตฺเถนาติ อิเมหิ ทฺวีหิ กมฺเมหิ อนุฺาตา อฏฺวาจิกูปสมฺปทา. ทูเตน อุปสมฺปทา นาม อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนุฺาตา อุปสมฺปทา.

ตฺติกมฺมํ นว านานิ คจฺฉตีติ กตมานิ นว านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ, นิสฺสารณํ, อุโปสโถ, ปวารณา, สมฺมุติ, ทานํ, ปฏิคฺคหํ, ปจฺจุกฺกฑฺฒนํ, กมฺมลกฺขณฺเว นวมนฺติ เอวํ วุตฺตานิ นว านานิ คจฺฉติ. ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, อนุสิฏฺโ โส มยา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺย, อาคจฺฉาหีติ วตฺตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๒๖) เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส โอสารณา โอสารณา นาม.

‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ เอวํ อุพฺพาหิกวินิจฺฉเย ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสารณา นิสฺสารณา นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ เอวํ อุโปสถกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ อุโปสโถ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ เอวํ ปวารณากมฺมวเสน ปิตา ตฺติ ปวารณา นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา สมฺมนฺนิตุํ ปิตา ตฺติ สมฺมุติ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ, ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ทานํ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ, เตน วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ? อาม ปสฺสามีติ. ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ เอวํ อาปตฺติปฺปฏิคฺคโห ปฏิคฺคโห นาม.

‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเล ปวาเรยฺยามา’’ติ, เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา ตํ กาลํ อนุวเสยฺยุํ, อาวาสิเกน ภิกฺขุนา พฺยตฺเตน ปฏิพเลน อาวาสิกา ภิกฺขู าเปตพฺพา ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามา’’ติ เอวํ กตา ปวารณา ปจฺจุกฺกฑฺฒนา นาม.

สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตพฺพํ, สนฺนิปติตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺเตยฺย. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ อธิกรณํ ติณวตฺถารเกน วูปสเมยฺย เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ, เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺต’’นฺติ เอวํ ติณวตฺถารกสมเถ กตา สพฺพปมา สพฺพสงฺคาหิกตฺติ กมฺมลกฺขณํ นาม.

ตฺติทุติยํ กมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉตีติ กตมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ, นิสฺสารณํ, สมฺมุติ, ทานํ, อุทฺธรณํ, เทสนํ, กมฺมลกฺขณฺเว สตฺตมนฺติ เอวํ วุตฺตานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ. ตตฺถ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิโน ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน ขนฺธเก วุตฺตา นิสฺสารณา, ตสฺเสว ปตอุกฺกุชฺชนวเสน วุตฺตา โอสารณา จ เวทิตพฺพา. สีมาสมฺมุติ ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุติ สนฺถตสมฺมุติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคฺคาหาปกภณฺฑาคาริก- จีวรปฺปฏิคฺคาหก-จีวรภาชก-ยาคุภาชก-ผลภาชก-ขชฺชภาชก-อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชก- สาฏิยคฺคาหาปก-ปตฺตคฺคาหาปก-อารามิกเปสก-สามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอตาสํ สมฺมุตีนํ วเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. กินจีวรทานมตกจีวรทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. กินุทฺธารณวเสน อุทฺธาโร เวทิตพฺโพ. กุฏิวตฺถุวิหารวตฺถุเทสนาวเสน เทสนา เวทิตพฺพา. ยา ปน ติณวตฺถารกสมเถ สพฺพสงฺคาหิกตฺติฺจ เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกํ ตฺติฺจาติ ติสฺโสปิ ตฺติโย เปตฺวา ปุน เอกสฺมึ ปกฺเข เอกา, เอกสฺมึ ปกฺเข เอกาติ ทฺเวปิ ตฺติทุติยกมฺมวาจา วุตฺตา. ตาสํ วเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.

ตฺติจตุตฺถกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉตีติ กตมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ, นิสฺสารณํ, สมฺมุติ, ทานํ, นิคฺคหํ, สมนุภาสนํ, กมฺมลกฺขณฺเว สตฺตมนฺติ เอวํ วุตฺตานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ. ตตฺถ ตชฺชนียกมฺมาทีนํ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ วเสน นิสฺสารณา, เตสํเยว จ กมฺมานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน โอสารณา เวทิตพฺพา. ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติวเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. ปริวาสทานมานตฺตทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. มูลายปฏิกสฺสนกมฺมวเสน นิคฺคโห เวทิตพฺโพ. อุกฺขิตฺตานุวตฺตกา, อฏฺ ยาวตติยกา, อริฏฺโ, จณฺฑกาฬี จ อิเมเต ยาวตติยกาติ อิมาสํ เอกาทสนฺนํ สมนุภาสนานํ วเสน สมนุภาสนา เวทิตพฺพา. อุปสมฺปทกมฺมอพฺภานกมฺมวเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมสมฺมุขตาติอาทีสุ เยน ธมฺเมน, เยน วินเยน, เยน สตฺถุสาสเนน สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, อยํ ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, สตฺถุสาสนสมฺมุขตา. ตตฺถ ธมฺโมติ ภูตวตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนํ นาม ตฺติสมฺปทา เจว อนุสาวนสมฺปทา จ. ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา นปฺปฏิกฺโกสนฺติ, อยํ สงฺฆสมฺมุขตา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. เสสเมตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.

อิติ มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย

ทุกนิปาตวณฺณนาย อนุตฺตานตฺถทีปนา สมตฺตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาเย

ติกนิปาต-ฏีกา

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. พาลวคฺโค

๑. ภยสุตฺตวณฺณนา

. ติกนิปาตสฺส ปเม ภยนฺติ ภีติ เจตโส พฺยโธติ อาห ‘‘จิตฺตุตฺราโส’’ติ. อุปทฺทโวติ อนฺตราโย. ตสฺส ปน วิกฺเขปการณตฺตา วุตฺตํ ‘‘อเนกคฺคตากาโร’’ติ. อุปสคฺโคติ อุปสชฺชนํ, เทวโตปปีฬาทินา อปฺปฏิการวิฆาตาปตฺติ. สา ปน ยสฺมา ปฏิการาภาเวน วิหฺมานสฺส กิฺจิ กาตุํ อสมตฺถสฺส โอสีทนการณํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคนากาโร’’ติ. ยถาวุตฺเต ทิวเส อนาคจฺฉนฺเตสูติ วฺเจตฺวา อาคนฺตุํ นิยมิตทิวเส อนาคจฺฉนฺเตสุ. ทฺวาเร อคฺคึ ทตฺวาติ พหิ อนิกฺขมนตฺถาย ทฺวาเร อคฺคึ ทตฺวา.

นเฬหิ ฉนฺนปฏิจฺฉนฺนาติ นเฬหิ ติณจฺฉทนสงฺเขเปน อุปริ ฉาเทตฺวา เตหิเยว ทารุกุฏิกนิยาเมน ปริโตปิ ฉาทิตา. เอเสว นโยติ อิมินา ติเณหิ ฉนฺนตํ เสสสมฺภารานํ รุกฺขมยตฺจ อติทิสติ.

วิธวปุตฺเตติ อนฺตภาโวปลกฺขณํ. เต หิ นิปฺปิติกา อวินีตา อสํยตา ยํ กิฺจิ การิโน. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

. ทุติเย ลกฺขียติ พาโล อยนฺติ ายติ เอเตนาติ ลกฺขณํ, กมฺมํ ลกฺขณเมตสฺสาติ กมฺมลกฺขโณติ อาห ‘‘กายทฺวาราทิปวตฺตํ กมฺม’’นฺติอาทิ. อปทียนฺติ โทสา เอเตน รกฺขียนฺติ, ลูยนฺติ ฉิชฺชนฺติ วาติ อปทานํ, สตฺตานํ สมฺมา, มิจฺฉา วา ปวตฺตปฺปโยโค. เตน โสภตีติ อปทานโสภนี. เตนาห ‘‘ปฺา นามา’’ติอาทิ. อตฺตโน จริเตเนวาติ อตฺตโน จริยาย เอว. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. จินฺตีสุตฺตาทิวณฺณนา

๓-๔. ตติเย เอเตหีติ ทุจฺจินฺติตจินฺติตาทีหิ. เอเตน ลกฺขณสทฺทสฺส สรณตฺถตมาห. ตาเนวาติ ลกฺขณานิ เอว. อสฺสาติ พาลสฺส. พาโล อยนฺติ นิมียติ สฺชานียติ เอเตหีติ พาลนิมิตฺตานิ. อปทานํ วุจฺจติ, วิขฺยาตํ กมฺมํ, ทุจฺจินฺติตจินฺติตาทีนิ จ พาเล วิขฺยาตานิ อสาธารณภาเวน. ตสฺมา ‘‘พาลสฺส อปทานานี’’ติ. อภิชฺฌาทีหิ ทุฏฺํ ทูสิตํ จินฺติตํ ทุจฺจินฺติตํ, ตํ จินฺเตตีติ ทุจฺจินฺติตจินฺตี. โลภาทีหิ ทุฏฺํ ภาสิตํ มุสาวาทาทึ ภาสตีติ ทุพฺภาสิตภาสี. เตสํเยว วเสน กตฺตพฺพโต ทุกฺกฏกมฺมํ ปาณาติปาตาทึ กโรตีติ ทุกฺกฏกมฺมการี. เตนาห ‘‘จินฺตยนฺโต’’ติอาทิ. วุตฺตานุสาเรนาติ ‘‘พาโล อย’’นฺติอาทินา วุตฺตสฺส อตฺถวจนสฺส ‘‘ปณฺฑิโต อยนฺติ เอเตหิ ลกฺขียตี’’ติอาทินา อนุสฺสรเณน. มโนสุจริตาทีนํ วเสนาติ ‘‘จินฺตยนฺโต อนภิชฺฌาพฺยาปาทสมฺมาทสฺสนวเสน สุจินฺติตเมว จินฺเตตี’’ติอาทินา มโนสุจริตาทีนํ ติณฺณํ สุจริตานํ วเสน โยเชตพฺพานิ. จตุตฺถํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.

จินฺตีสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๑๐. อโยนิโสสุตฺตาทิวณฺณนา

๕-๑๐. ปฺจเม กติ นุ โข อนุสฺสติฏฺานานีติอาทิ ฉกฺเก อาวิ ภวิสฺสตีติ. เอวํ จินฺติตนฺติ อโยนิโส จินฺติตํ. อปฺหเมว ปฺหนฺติ กเถสีติ อปฺหเมว ปฺโห อยนฺติ มฺมาโน วิสฺสชฺเชสิ. ทสวิธํ พฺยฺชนพุทฺธึ อปริหาเปตฺวาติ –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหีตํ;

สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๙๑; ปริ. อฏฺ. ๔๘๕; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๒๕๒) –

เอวํ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนพุทฺธึ อปริหาเปตฺวา.

ตตฺถ านกรณานิ สิถิลานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ อกฺขรํ สิถิลํ, ตานิเยว ธนิตานิ อสิถิลานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ อกฺขรํ ธนิตํ. ทฺวิมตฺตกาลํ ทีฆํ, เอกมตฺตกาลํ รสฺสํ. ครุกนฺติ ทีฆเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺสา’’ติ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ, ลหุกนฺติ รสฺสเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตเถรสฺสา’’ติ เอวํ วิสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. นิคฺคหีตนฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน สานุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. สมฺพนฺธนฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วุจฺจติ. ววตฺถิตนฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วุจฺจติ. วิมุตฺตนฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน สานุนาสิกํ อกตฺวา วุจฺจติ. ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโทติ เอวํ สิถิลาทิวเสน พฺยฺชนพุทฺธิยา อกฺขรุปฺปาทกจิตฺตสฺส ทสปฺปกาเรน ปเภโท. สพฺพานิ หิ อกฺขรานิ จิตฺตสมุฏฺานานิ ยถาธิปฺเปตตฺถพฺยฺชนโต พฺยฺชนานิ จ.

‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, อาวุโส สาริปุตฺตา’’ติอาทิ ปฺจเก อาวิ ภวิสฺสติ. ‘‘กติ นุ โข, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติอาทิ ปน ฉกฺเก อาวิ ภวิสฺสติ. ฉฏฺาทีสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

อโยนิโสสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

พาลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. รถการวคฺโค

๑. าตสุตฺตวณฺณนา

๑๑. ทุติยสฺส ปเม าโตเยว ปฺาโตติ อาห ‘‘าโต ปฺาโต’’ติ. กสฺส อนนุโลมิเกติ อาห ‘‘สาสนสฺสา’’ติ, สาสนสฺส อนนุโลมิเก อปฺปติรูเปติ อตฺโถ. อิทานิ อนนุโลมิกสทฺทสฺส นิพฺพจนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น อนุโลเมตีติ อนนุโลมิก’’นฺติ อาห. สาสนสฺสาติ วา สาสนนฺติ อตฺโถ. สาสนํ น อนุโลเมตีติ อนนุโลมิกนฺติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. สภาควิสภาคนฺติ ลิงฺคโต สภาควิสภาคํ. ‘‘วิยปุคฺคเล’’ติ อาหาติ ลิงฺคสภาเคหิ อวิเสเสตฺวา อาห. อุมฺมาทํ ปาปุณีติ โส กิร สีลํ อธิฏฺาย ปิหิตทฺวารคพฺเภ สยนปิฏฺเ นิสีทิตฺวา ภริยํ อารพฺภ เมตฺตํ ภาเวนฺโต เมตฺตามุเขน อุปฺปนฺเนน ราเคน อนฺธีกโต ภริยาย สนฺติกํ คนฺตุกาโม ทฺวารํ อสลฺลกฺเขตฺวา ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวาปิ นิกฺขมิตุกามตาย ภิตฺตึ ปหรนฺโต สพฺพรตฺตึ ภิตฺติยุทฺธมกาสิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

าตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สารณียสุตฺตวณฺณนา

๑๒. ทุติเย จตุปาริสุทฺธิสีลมฺปิ ปพฺพชฺชานิสฺสิตเมวาติ อิมินา ปพฺพชฺชูปคตสมนนฺตรเมว จตุปาริสุทฺธิสีลมฺปิ สมาทินฺนเมว โหตีติ ทสฺเสติ. มคฺคสนฺนิสฺสิตาเนว โหนฺตีติ มคฺคาธิคมตฺถาย ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา กสิณปริกมฺมาทีนิ มคฺคสนฺนิสฺสิตาเนว โหนฺติ, ตสฺมา มคฺคคฺคหเณเนว เตสมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ, เตหิ วินา มคฺคาธิคมสฺส อสมฺภวโตติ อธิปฺปาโย.

อคฺคมคฺคาธิคเมน อสมฺโมหปฺปฏิเวธสฺส สิขาปตฺตตฺตา มคฺคธมฺเมสุ วิย ผลธมฺเมสุปิ สาติสโย อสมฺโมโหติ ‘‘สยํ อภิฺา’’ติ วุตฺตํ, สามํ ชานิตฺวาติ อตฺโถ. ตถา ชานนา ปนสฺส สจฺฉิกรณํ อตฺตปจฺจกฺขกิริยาติ ‘‘สจฺฉิกตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อตฺตนาว อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา’’ติ. ตถา สจฺฉิกิริยา จสฺส อตฺตนิ ปฏิลาโภติ ‘‘อุปสมฺปชฺชา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปฏิลภิตฺวา’’ติ.

สารณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อาสํสสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ตติเย สนฺโตติ เอตฺถ สนฺต-สทฺโท ‘‘ทีฆํ สนฺตสฺส โยชน’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๐) กิลนฺตภาเว อาคโต. ‘‘อยฺจ วิตกฺโก, อยฺจ วิจาโร สนฺโต โหนฺติ สมิตา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๕๗๖) นิรุทฺธภาเว. ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม, คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) สนฺตาณโคจรตายํ. ‘‘อุปสนฺตสฺส สทา สติมโต’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๗) กิเลสวูปสเม. ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๕๑) สาธูสุ. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, มหาโจรา สนฺโต สํวิชฺชมานา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๙๕) อตฺถิภาเว. อิธาปิ อตฺถิภาเวเยวาติ อาห ‘‘สนฺโตติ อตฺถิ อุปลพฺภนฺตี’’ติ. ตตฺถ อตฺถีติ โลกสงฺเกตวเสน สํวิชฺชนฺติ. อตฺถิภาโว เหตฺถ ปุคฺคลสมฺพนฺเธน วุตฺตตฺตา โลกสมฺาวเสเนว เวทิตพฺโพ, น ปรมตฺถวเสน. อตฺถีติ เจตํ นิปาตปทํ ทฏฺพฺพํ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๑๐) วิย.

สํวิชฺชมานาติ อุปลพฺภมานา. ยฺหิ สํวิชฺชติ, ตํ อุปลพฺภติ. เตนาห ‘‘สํวิชฺชมานาติ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. อนาโสติ ปตฺถนารหิโต. เตนาห ‘‘อปตฺถโน’’ติ. อาสํสติ ปตฺเถตีติ อาสํโส. เวณุเวตฺตาทิวิลีเวหิ สุปฺปาทิภาชนการกา วิลีวการกา. มิคมจฺฉาทีนํ นิสาทนโต เนสาทา, มาควิกมจฺฉพนฺธาทโย. รเถสุ จมฺเมน นหนกรณโต รถการา, ธมฺมการา. ปุอิติ กรีสสฺส นามํ, ตํ กุเสนฺติ อปเนนฺตีติ ปุกฺกุสา, ปุปฺผจฺฉฑฺฑกา.

ทุพฺพณฺโณติ วิรูโป. โอโกฏิมโกติ อาโรหาภาเวน เหฏฺิมโก, รสฺสกาโยติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ลกุณฺฑโก’’ติ. ลกุ วิย ฆฏิกา วิย เฑติ ปวตฺตตีติ หิ ลกุณฺฑโก, รสฺโส. กณติ นิมีลตีติ กาโณ. ตํ ปนสฺส นิมีลนํ เอเกน อกฺขินา ทฺวีหิปิ จาติ อาห ‘‘เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา’’ติ. กุณนํ กุโณ, หตฺถเวกลฺลํ. ตํ เอตสฺส อตฺถีติ กุณี. ขฺโช วุจฺจติ ปาทวิกโล. เหฏฺิมกายสงฺขาโต สรีรสฺส ปกฺโข ปเทโส หโต อสฺสาติ ปกฺขหโต. เตนาห ‘‘ปีสปฺปี’’ติ. ปทีเป ปทีปเน เอตพฺพํ เนตพฺพนฺติ ปทีเปยฺยํ, เตลาทิอุปกรณํ.

อาสํ น กโรตีติ รชฺชาภิเสเก กนิฏฺโ ปตฺถนํ น กโรติ เชฏฺเ สติ กนิฏฺสฺส อนธิการตฺตา. อภิเสกํ อรหตีติ อภิเสการโห, น อภิเสการโห กาณกุณิอาทิโทสสมนฺนาคโต.

สีลสฺส ทุฏฺุ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อภาวตฺโถ อิธ ทุ-สทฺโทติ อาห ‘‘นิสฺสีโล’’ติ. ‘‘ปาปํ ปาเปน สุกร’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๔๘; จูฬว. ๓๔๓) วิย ปาป-สทฺโท นิหีนปริยาโยติ อาห ‘‘ลามกธมฺโม’’ติ. สีลวิปตฺติยา วา ทุสฺสีโล. ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาปธมฺโม. กายวาจาสํวรเภเทน วา ทุสฺสีโล, มโนสํวรเภเทน, สติสํวราทิเภเทน วา ปาปธมฺโม. อสุทฺธปฺปโยคตาย ทุสฺสีโล, อสุทฺธาสยตาย ปาปธมฺโม. กุสลสีลวิรเหน ทุสฺสีโล, อกุสลสีลสมนฺนาคเมน ปาปธมฺโม. อสุจีหีติ อปริสุทฺเธหิ. สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโรติ ‘‘อิมสฺส มฺเ อิทํ กมฺม’’นฺติ เอวํ ปเรหิ สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร. เตนาห ‘‘กิฺจิเทวา’’ติอาทิ. อตฺตนาเยว วา สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโรติ เอเตนปิ กมฺมสาธนตํเยว สงฺกสฺสรสทฺทสฺส ทสฺเสติ. อตฺตโน สงฺกาย ปเรสํ สมาจารกิริยํ สรติ อาสงฺกติ วิธาวตีติปิ สงฺกสฺสรสมาจาโรติ เอวเมตฺถ กตฺตุสาธนตาปิ ทฏฺพฺพา. ตสฺส หิ ทฺเว ตโย ชเน กเถนฺเต ทิสฺวา ‘‘มม โทสํ มฺเ กเถนฺตี’’ติ เตสํ สมาจารํ สงฺกาย สรติ ธาวติ.

เอวํปฏิฺโติ สลากคฺคหณาทีสุ ‘‘กิตฺตกา วิหาเร สมณา’’ติ คณนาย อารทฺธาย ‘‘อหมฺปิ สมโณ, อหมฺปิ สมโณ’’ติ ปฏิฺํ ทตฺวา สลากคฺคหณาทีนิ กโรตีติ สมโณ อหนฺติ เอวํสมณปฺปฏิฺโ. สุมฺภกปตฺตธเรติ มตฺติกาปตฺตธเร. ปูตินา กมฺเมนาติ สํกิลิฏฺกมฺเมน, นิคฺคุณตาย วา คุณสารวิรหิตตฺตา อนฺโตปูติ. กสมฺพุกจวโร ชาโต สฺชาโต อสฺสาติ กสมฺพุชาโตติ อาห ‘‘สฺชาตราคาทิกจวโร’’ติ. อถ วา กสมฺพุ วุจฺจติ ตินฺตกุณปกสฏํ อุทกํ, อิมสฺมิฺจ สาสเน ทุสฺสีโล นาม ชิคุจฺฉนียตฺตา ตินฺตกุณปอุทกสทิโส, ตสฺมา กสมฺพุ วิย ชาโตติ กสมฺพุชาโต. โลกุตฺตรธมฺมอุปนิสฺสยสฺส นตฺถิตายาติ ยตฺถ ปติฏฺิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ลทฺธุํ, ตสฺสา ปติฏฺาย ภินฺนตฺตา วุตฺตํ. มหาสีลสฺมึ ปริปูรการิตายาติ ยตฺถ ปติฏฺิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ, ตสฺมึ ปริปูรการิตาย.

อาสํสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา

๑๔. จตุตฺเถ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหีติ ทานปิยวจนอตฺถจริยาสมานตฺตตาสงฺขาเตหิ จตูหิ สงฺคหการเณหิ. จกฺกํ วตฺเตตีติ อาณาจกฺกํ ปวตฺเตติ. จกฺกนฺติ วา อิธ รตนจกฺกํ เวทิตพฺพํ. อยฺหิ จกฺกสทฺโท สมฺปตฺติยํ, ลกฺขเณ, รถงฺเค, อิริยาปเถ, ทาเน, รตนธมฺมขุรจกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕; ๓.๒๐๔) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภุฺช มา จ ปมาโท, จกฺกํ วตฺตย สพฺพปาณิน’’นฺติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ ขุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ปนายํ รตนจกฺเก ทฏฺพฺโพ.

กิตฺตาวตา ปนายํ จกฺกวตฺตี นาม โหติ? เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ จกฺกรตนํ อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปวตฺตติ. สพฺพจกฺกวตฺตีนฺหิ นิสินฺนาสนโต อุฏฺหิตฺวา จกฺกรตนสมีปํ คนฺตฺวา หตฺถิโสณฺฑสทิสปนาฬึ สุวณฺณภิงฺคารํ อุกฺขิปิตฺวา อุทเกน อพฺภุกฺกิริตฺวา ‘‘อภิวิชินาตุ ภวํ จกฺกรตน’’นฺติ วจนสมนนฺตรเมว เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา จกฺกรตนํ ปวตฺตตีติ. ยสฺส ปวตฺติสมกาลเมว, โส ราชา จกฺกวตฺตี นาม โหติ.

ธมฺโมติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม, ทสวิธํ วา จกฺกวตฺติวตฺตํ. ทสวิเธ วา กุสลธมฺเม อครหิเต วา ราชธมฺเม นิยุตฺโตติ ธมฺมิโก. เตน จ ธมฺเมน สกลโลกํ รฺเชตีติ ธมฺมราชา. ธมฺเมน วา ลทฺธรชฺชตฺตา ธมฺมราชา. จกฺกวตฺตีหิ ธมฺเมน าเยน รชฺชํ อธิคจฺฉติ, น อธมฺเมน. ทสวิเธน จกฺกวตฺติวตฺเตนาติ ทสปฺปเภเทน จกฺกวตฺตีนํ วตฺเตน.

กึ ปน ตํ ทสวิธํ จกฺกวตฺติวตฺตนฺติ? วุจฺจเต –

‘‘กตมํ ปน ตํ, เทว, อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตนฺติ? เตน หิ ตฺวํ, ตาต, ธมฺมํเยว นิสฺสาย ธมฺมํ สกฺกโรนฺโต ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโต ธมฺมํ มาเนนฺโต ธมฺมํ ปูเชนฺโต ธมฺมํ อปจายมาโน ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ ธมฺมาธิปเตยฺโย ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหสฺสุ อนฺโตชนสฺมึ พลกายสฺมึ ขตฺติเยสุ อนุยนฺเตสุ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคมชานปเทสุ สมณพฺราหฺมเณสุ มิคปกฺขีสุ. มา จ เต, ตาต, วิชิเต อธมฺมกาโร ปวตฺติตฺถ. เย จ เต, ตาต, วิชิเต อธนา อสฺสุ, เตสฺจ ธนมนุปฺปเทยฺยาสิ. เย จ เต, ตาต, วิชิเต สมณพฺราหฺมณา มทปฺปมาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ. เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺเฉยฺยาสิ ปริคฺคณฺเหยฺยาสิ – ‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ กึ อกุสลํ, กึ สาวชฺชํ กึ อนวชฺชํ, กึ เสวิตพฺพํ กึ น เสวิตพฺพํ, กึ เม กริยมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย อสฺส, กึ วา ปน เม กริยมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’ติ. เตสํ สุตฺวา ยํ อกุสลํ, ตํ อภินิวชฺเชยฺยาสิ, ยํ กุสลํ, ตํ สมาทาย วตฺเตยฺยาสิ. อิทํ โข, ตาต, ตํ อริยํ จกฺกวตฺติวตฺต’’นฺติ –

เอวํ จกฺกวตฺติสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๘๔) อาคตนเยน อนฺโตชนสฺมึ พลกาเย เอกํ, ขตฺติเยสุ เอกํ, อนุยนฺเตสุ เอกํ, พฺราหฺมณคหปติเกสุ เอกํ, เนคมชานปเทสุ เอกํ, สมณพฺราหฺมเณสุ เอกํ, มิคปกฺขีสุ เอกํ, อธมฺมการปฺปฏิกฺเขโป เอกํ, อธนานํ ธนานุปฺปทานํ เอกํ, สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหปุจฺฉนํ เอกนฺติ เอวเมวํ ตํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ทสวิธํ โหติ. คหปติเก ปน ปกฺขิชาเต จ วิสุํ กตฺวา คณฺหนฺตสฺส ทฺวาทสวิธํ โหติ.

อฺถา วตฺติตุํ อเทนฺโต โส ธมฺโม อธิฏฺานํ เอตสฺสาติ ตทธิฏฺานํ. เตน ตทธิฏฺาเนน เจตสา. สกฺกโรนฺโตติ อาทรกิริยาวเสน กโรนฺโต. เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. ครุํ กโรนฺโตติ ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุกรณวเสน ครุํ กโรนฺโต. เตเนวาห ‘‘ตสฺมึ คารวุปฺปตฺติยา’’ติ. ธมฺมาธิปติภูตาคตภาเวนาติ อิมินา ยถาวุตฺตธมฺมสฺส เชฏฺกภาเวน ปุริมตรํ อตฺตภาเวสุ สกฺกจฺจํ สมุปจิตภาวํ ทสฺเสติ. ธมฺมวเสเนว จ สพฺพกิริยานํ กรเณนาติ เอเตน านนิสชฺชาทีสุ ยถาวุตฺตธมฺมนินฺนโปณปพฺภารภาวํ ทสฺเสติ. อสฺสาติ รกฺขาวรณคุตฺติยา. ปรํ รกฺขนฺโตติ อฺํ ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺถโต รกฺขนฺโต. เตเนว ปรรกฺขสาธเนน ขนฺติอาทิคุเณน อตฺตานํ ตโต เอว รกฺขติ. เมตฺตจิตฺตตาติ เมตฺตจิตฺตตาย. นิวาสนปารุปนเคหาทีนิ สีตุณฺหาทิปฺปฏิพาหเนน อาวรณํ.

อนฺโตชนสฺมินฺติ อพฺภนฺตรภูเต ปุตฺตทาราทิชเน. สีลสํวเร ปติฏฺาเปนฺโตติ อิมินา รกฺขํ ทสฺเสติ. วตฺถคนฺธมาลาทีนิ จสฺส ททมาโนติ อิมินา อาวรณํ, อิตเรน คุตฺตึ. สมฺปทาเนนปีติ ปิ-สทฺเทน สีลสํวเรสุ ปติฏฺาปนาทีนํ สมฺปิณฺเฑติ. เอส นโย ปเรสุปิ ปิ-สทฺทคฺคหเณ. นิคโม นิวาโส เอเตสนฺติ เนคมา. เอวํ ชานปทาติ อาห ‘‘ตถา นิคมวาสิโน’’ติอาทินา.

รกฺขาวรณคุตฺติยา กายกมฺมาทีสุ สํวิทหนํ ปนํ นาม ตทุปเทโสเยวาติ วุตฺตํ ‘‘กเถตฺวา’’ติ. เอเตสูติ ปาฬิยํ วุตฺเตสุ สมณาทีสุ. ปฏิวตฺเตตุํ น สกฺกา ขีณานํ กิเลสานํ ปุน อนุปฺปชฺชนโต. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สเจตนสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ปฺจเม อิสโย ปตนฺติ สนฺนิปตนฺติ เอตฺถาติ อิสิปตนนฺติ อาห ‘‘พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสงฺขาตาน’’นฺติอาทิ. สพฺพูปกรณานิ สชฺเชตฺวาติ สพฺพานิ รุกฺขสฺส เฉทนตจฺฉนาทิสาธนานิ อุปกรณานิ รฺา อาณตฺตทิวเสเยว สชฺเชตฺวา. นานา กรียติ เอเตนาติ นานากรณํ, นานาภาโวติ อาห ‘‘นานตฺต’’นฺติ. เนสนฺติ สรโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘น เอส’’นฺติ. ตถา อตฺเถสนฺติ เอตฺถาปีติ อาห ‘‘อตฺถิ เอส’’นฺติ. ปวตฺตนตฺถํ อภิสงฺขรณํ อภิสงฺขาโร, ตสฺส คติ เวคสา ปวตฺติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘ปโยคสฺส คมน’’นฺติ.

สคณฺฑาติ ขุทฺทานุขุทฺทกคณฺฑา. เตนาห ‘‘อุณฺณโตณตฏฺานยุตฺตา’’ติ. สกสาวาติ สกสฏา. เตนาห ‘‘ปูติสาเรนา’’ติอาทิ. เอวํ คุณปตเนน ปติตาติ ยถา ตํ จกฺกํ นาภิอรเนมีนํ สโทสตาย น ปติฏฺาสิ, เอวเมกจฺเจ ปุคฺคลา กายวงฺกาทิวเสน สโทสตาย คุณปตเนน ปติตา สกฏฺาเน น ติฏฺนฺติ. เอตฺถ จ ผรุสวาจาทโยปิ อปายคมนียา โสตาปตฺติมคฺเคเนว ปหียนฺตีติ ทฏฺพฺพา.

สเจตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา

๑๖. ฉฏฺเ วิรชฺฌนกิริยา นาม ปจฺฉา สมาทาตพฺพตาย อปณฺณกปฺปโยคสมาทานา วิย โหติ, อวิรชฺฌนกิริยา ปน ปจฺฉา อสมาทาตพฺพตาย อนูนาติ ตํสมงฺคิปุคฺคโล อปณฺณโก, ตสฺส ภาโว อปณฺณกตาติ อาห ‘‘อปณฺณกปฏิปทนฺติ อวิรทฺธปฏิปท’’นฺติอาทิ. ยสฺมา สา อธิปฺเปตตฺถสาธเนน เอกํสิกา วฏฺฏโต นิยฺยานาวหา, ตตฺถ จ ยุตฺติยุตฺตา อสาราปคตา อวิรุทฺธตาย อปจฺจนีกา อนุโลมิกา อนุธมฺมภูตา จ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เอกํสปฏิปท’’นฺติอาทิ. น ตกฺกคฺคาเหน วา นยคฺคาเหน วาติ ตกฺกคฺคาเหน วา ปฏิปนฺโน น โหติ นยคฺคาเหน วา อปณฺณกปฏิปทํ ปฏิปนฺโน. ตตฺถ ตกฺกคฺคาเหน วาติ อาจริยํ อลภิตฺวา ‘‘เอวํ เม สุคติ, นิพฺพานํ วา ภวิสฺสตี’’ติ อตฺตโน ตกฺกคฺคหณมตฺเตน. นยคฺคาเหนาติ ปจฺจกฺขโต อทิสฺวา นยโต อนุมานโต คหเณน. เอวํ คเหตฺวา ปฏิปนฺโนติ ตกฺกมตฺเตน, นยคฺคาเหน วา ปฏิปนฺโน. ปณฺฑิตสตฺถวาโห วิย สมฺปตฺตีหิ น ปริหายตีติ โยชนา.

ยํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ปริหานฺจ อปริหานฺจ สนฺธาย ชาตเก (ชา. ๑.๑.๑) วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ คาถาย อตฺถโยชนา – อปณฺณกํ านํ อวิรทฺธการณํ นิยฺยานิกการณํ เอเก โพธิสตฺตปฺปมุขา ปณฺฑิตมนุสฺสา คณฺหึสุ. เย ปน เต พาลสตฺถวาหปุตฺตปฺปมุขา ตกฺกิกา อาหุ, เต ทุติยํ สาปราธํ อเนกํสิกํ านํ อนิยฺยานิกํ การณํ อคฺคเหสุํ, เต กณฺหปฏิปทํ ปฏิปนฺนา. ตตฺถ สุกฺกปฏิปทา อปริหานิปฏิปทา, กณฺหปฏิปทา ปริหานิปฏิปทา, ตสฺมา เย สุกฺกปฏิปทํ ปฏิปนฺนา, เต อปริหีนา โสตฺถิภาวํ ปตฺตา. เย ปน กณฺหปฏิปทํ ปฏิปนฺนา, เต ปริหีนา อนยพฺยสนํ อาปนฺนาติ อิมมตฺถํ ภควา อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติโน วตฺวา อุตฺตริ อิทมาห ‘‘เอตทฺาย เมธาวี, ตํ คณฺเห ยทปณฺณก’’นฺติ.

ตตฺถ เอตทฺาย เมธาวีติ เมธาติ ลทฺธนามาย วิสุทฺธาย อุตฺตมาย ปฺาย สมนฺนาคโต กุลปุตฺโต เอตํ อปณฺณกํ านํ ทุติยฺจาติ ทฺวีสุ อตกฺกคฺคาหตกฺกคฺคาหสงฺขาเตสุ าเนสุ คุณโทสํ วุทฺธิหานึ อตฺถานตฺถํ ตฺวาติ อตฺโถ. ตํ คณฺเห ยทปณฺณกนฺติ ยํ อปณฺณกํ เอกํสิกํ สุกฺกปฏิปทาอปริหานิยปฏิปทาสงฺขาตํ นิยฺยานิกการณํ, ตเทว คณฺเหยฺย. กสฺมา? เอกํสิกาทิภาวโตเยว. อิตรํ ปน น คณฺเหยฺย. กสฺมา? อเนกํสิกาทิภาวโตเยว.

ยวนฺติ ตาย สตฺตา อมิสฺสิตาปิ สมานชาติตาย มิสฺสิตา วิย โหนฺตีติ โยนิ. สา ปน อตฺถโต อณฺฑาทิอุปฺปตฺติฏฺานวิสิฏฺโ ขนฺธานํ ภาคโส ปวตฺติวิเสโสติ อาห ‘‘ขนฺธโกฏฺาโส โยนิ นามา’’ติ. การณํ โยนิ นาม, โยนีติ ตํ ตํ ผลํ อนุปจิตาณสมฺภาเรหิ ทุรวคาธเภทตาย มิสฺสิตํ วิย โหตีติ. ยโต เอกตฺตนเยน โส เอวายนฺติ พาลานํ มิจฺฉาคาโห. ปสฺสาวมคฺโค โยนิ นาม ยวนฺติ ตาย สตฺตา โยนิสมฺพนฺเธน มิสฺสิตา โหนฺตีติ. ปคฺคหิตา อนุฏฺาเนน, ปุนปฺปุนํ อาเสวนาย ปริปุณฺณา.

‘‘จกฺขุโตปี’’ติอาทิมฺหิ ปน จกฺขุวิฺาณาทิวีถีสุ ตทนุคตมโนวิฺาณวีถีสุ จ กิฺจาปิ กุสลาทีนํ ปวตฺติ อตฺถิ, กามาสวาทโย เอว ปน วณโต ยูสํ วิย ปคฺฆรนกอสุจิภาเวน สนฺทนฺติ, ตสฺมา เต เอว ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ หิ ปคฺฆรนกอสุจิมฺหิ อาสวสทฺโท นิรุฬฺโหติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภูติ ตโต ปรํ มคฺคผเลสุ อปฺปวตฺตนโต วุตฺตํ. เอเต หิ อารมฺมณกรณวเสน ธมฺเม คจฺฉนฺตา ตโต ปรํ น คจฺฉนฺติ. นนุ ตโต ปรํ ภวงฺคาทีนิปิ คจฺฉนฺตีติ เจ? น, เตสมฺปิ ปุพฺเพ อาลมฺพิเตสุ โลกิยธมฺเมสุ สาสวภาเวน อนฺโตคธตฺตา ตโต ปรตาภาวโต. เอตฺถ จ โคตฺรภุวจเนน โคตฺรภุโวทานผลสมาปตฺติปุเรจาริกปริกมฺมานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. ปมมคฺคปุเรจาริกเมว วา โคตฺรภุ อวธินิทสฺสนภาเวน คหิตํ, ตโต ปรํ ปน มคฺคผลสมานตาย อฺเสุ มคฺเคสุ มคฺควีถิยํ สมาปตฺติวีถียํ นิโรธานนฺตรฺจ ปวตฺตมาเนสุ ผเลสุ นิพฺพาเน จ อาสวานํ ปวตฺติ นิวาริตาติ เวทิตพฺพํ. สวนฺตีติ คจฺฉนฺติ, อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อวธิอตฺโถ อา-กาโร, อวธิ จ มริยาทาภิวิธิเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ มริยาทํ กิริยํ พหิ กตฺวา ปวตฺตติ ยถา ‘‘อาปาฏลีปุตฺตํ วุฏฺโ เทโว’’ติ. อภิวิธิ ปน กิริยํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตติ ยถา ‘‘อาภวคฺคํ ภควโต ยโส ปวตฺตตี’’ติ. อภิวิธิอตฺโถ จายมา-กาโร อิธ คหิโตติ วุตฺตํ ‘‘อนฺโตกรณตฺโถ’’ติ.

มทิราทโยติ อาทิ-สทฺเทน สินฺธวกาทมฺพริกาโปติกาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. จิรปาริวาสิยฏฺโ จิรปริวุฏฺตา ปุราณภาโว. อวิชฺชา นาโหสีติอาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหายา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒) อิทํ สุตฺตํ สงฺคหิตํ. อวิชฺชาสวภวาสวานํ จิรปริวุฏฺตาย ทสฺสิตาย ตพฺภาวภาวิโน กามาสวสฺส จิรปริวุฏฺตา ทสฺสิตาว โหติ. อฺเสุ จ ยถาวุตฺเต ธมฺเม โอกาสฺจ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมาเนสุ มานาทีสุ วิชฺชมาเนสุ อตฺตตฺตนิยาทิคฺคาหวเสน อภิพฺยาปนํ มทกรณวเสน อาสวสทิสตา จ เอเตสํเยว, น อฺเสนฺติ เอเตสฺเวว อาสวสทฺโท นิรุฬฺโหติ ทฏฺพฺโพ. อายตํ อนาทิกาลิกตฺตา. ปสวนฺตีติ ผลนฺติ. น หิ กิฺจิ สํสารทุกฺขํ อตฺถิ, ยํ อาสเวหิ วินา อุปฺปชฺเชยฺย. ปุริมานิ เจตฺถาติ เอเตสุ จตูสุ อตฺถวิกปฺเปสุ ปุริมานิ ตีณิ. ยตฺถาติ เยสุ สุตฺตาภิธมฺมปฺปเทเสสุ. ตตฺถ ยุชฺชนฺติ กิเลเสสุเยว ยถาวุตฺตสฺส อตฺถตฺตยสฺส สมฺภวโต. ปจฺฉิมํ กมฺเมปีติ ปจฺฉิมํ ‘‘อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺติ ปสวนฺตี’’ติ วุตฺตนิพฺพจนํ กมฺเมปิ ยุชฺชติ ทุกฺขปฺปสวนสฺส กิเลสกมฺมสาธารณตฺตา.

ทิฏฺธมฺมา วุจฺจนฺติ ปจฺจกฺขภูตา ขนฺธา, ทิฏฺธมฺเม ภวา ทิฏฺธมฺมิกา. วิวาทมูลภูตาติ วิวาทสฺส มูลการณภูตา โกธูปนาหมกฺขปลาสอิสฺสามจฺฉริยมายาสาเยฺยถมฺภสารมฺภมานาติมานา. เยน เทวูปปตฺยสฺสาติ เยน กมฺมกิเลสปฺปกาเรน อาสเวน เทเวสุ อุปปตฺติ นิพฺพตฺติ อสฺส มยฺหนฺติ สมฺพนฺโธ. คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม อากาสจารี อสฺสนฺติ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา โยเชตพฺพํ. เอตฺถ จ ยกฺขคนฺธพฺพวินิมุตฺตา สพฺพา เทวตา เทวคฺคหเณน คหิตา. นโฬ วุจฺจติ มูลํ, ตสฺมา วินฬีกตาติ วิคตนฬา วิคตมูลา กตาติ อตฺโถ. อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมาติ อกุสลกมฺมโต อวเสสา อกุสลา ธมฺมา อาสวาติ อาคตาติ สมฺพนฺโธ.

ปฏิฆาตายาติ ปฏิเสธนาย. ปรูปวาท…เป… อุปทฺทวาติ อิทํ ยทิ ภควา สิกฺขาปทํ น ปฺาเปยฺย, ตโต อสทฺธมฺมปฺปฏิเสวนอทินฺนาทานปาณาติปาตาทิเหตุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ ปรูปวาทาทโย ทิฏฺธมฺมิกา นานปฺปการา อนตฺถา, เย จ ตนฺนิมิตฺตเมว นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตสฺส ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณาทิวเสน มหาทุกฺขานุภวาทิปฺปการา อนตฺถา, เต สนฺธาย วุตฺตํ.

เต ปเนเตติ เอเต กามราคาทิกิเลสเตภูมกกมฺมปรูปวาทาทิอุปฺปทฺทวปฺปการา อาสวา. ยตฺถาติ ยสฺมึ วินยาทิปาฬิปฺปเทเส. ยถาติ เยน ทุวิธาทิปฺปกาเรน อวเสเสสุ จ สุตฺตนฺเตสุ ติธา อาคตาติ สมฺพนฺโธ. นิรยํ คเมนฺตีติ นิรยคามินิยา. ฉกฺกนิปาเตติ ฉกฺกนิปาเต อาหุเนยฺยสุตฺเต (อ. นิ. ๖.๕๘). ตตฺถ หิ อาสวา ฉธา อาคตา.

สรสเภโทติ ขณิกนิโรโธ. ขีณากาโรติ อจฺจนฺตาย ขีณตา. อาสวา ขียนฺติ ปหียนฺติ เอเตนาติ อาสวกฺขโย, มคฺโค. อาสวานํ ขยนฺเต อุปฺปชฺชนโต อาสวกฺขโย, ผลํ. อาสวกฺขเยน ปตฺตพฺพโต อาสวา ขียนฺติ เอตฺถาติ อาสวกฺขโย, นิพฺพานํ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๕๗-๕๖๐) วิตฺถาริโต, ตสฺมา ตตฺถ, ตํ สํวณฺณนาย จ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

ตถาติ อิมินา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตตํ อุปสํหรติ. กุสลปฺปวตฺตึ อาวรนฺติ นิวาเรนฺตีติ อาวรณียา. ปุริมปฺปวตฺติวเสนาติ นิทฺโทกฺกมนโต ปุพฺเพ กมฺมฏฺานสฺส ปวตฺติวเสน. เปตฺวาติ หตฺถคตํ กิฺจิ เปนฺโต วิย กมฺมฏฺานํ สติสมฺปชฺวเสน เปตฺวา กมฺมฏฺานเมว มนสิกโรนฺโต นิทฺทํ โอกฺกมติ, ฌานสมาปนฺโน วิย ยถาปริจฺฉินฺเนเนว กาเลน ปพุชฺฌมาโน กมฺมฏฺานํ ปิตฏฺาเน คณฺหนฺโตเยว ปพุชฺฌติ นาม. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺมา…เป… นาม โหตี’’ติ. มูลกมฺมฏฺาเนติ อาทิโต ปฏฺาย ปริหริยมานกมฺมฏฺาเน. ปริคฺคหกมฺมฏฺานวเสนาติ สยนํ อุปคจฺฉนฺเตน ปริคฺคหมานกมฺมฏฺานมนสิการวเสน. โส ปน ธาตุมนสิการวเสน อิจฺฉิตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อตฺตพฺยาพาธสุตฺตวณฺณนา

๑๗. สตฺตเม พฺยาพาธนํ ทุกฺขาปนนฺติ อาห ‘‘อตฺตพฺยาพาธายาติ อตฺตทุกฺขายา’’ติ. มคฺคผลจิตฺตุปฺปาทาปิ กายสุจริตาทิสงฺคโห เอวาติ อาห ‘‘อวาริตาเนวา’’ติ.

อตฺตพฺยาพาธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เทวโลกสุตฺตวณฺณนา

๑๘. อฏฺเม อิตีติ ปทสนฺธิพฺยฺชนสิลิฏฺตาติ ปุริมปทานํ ปจฺฉิมปเทหิ อตฺถโต สหิตตาย พฺยฺชนานํ วากฺยานํ สิลิฏฺตาย ทีปเน นิปาโต.

เทวโลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปมปาปณิกสุตฺตวณฺณนา

๑๙. นวเม อุคฺฆาเฏตฺวาติ อาสนทฺวารฺเจว ภณฺฑปสิพฺพเก จ วิวริตฺวา. นาธิฏฺาตีติ ตํตํกยวิกฺกเย อตฺตนา โวโยคํ นาปชฺชติ. ทิวากาเลติ มชฺฌนฺหิกสมเย. อสฺสามิโก โหติ ตีสุปิ กาเลสุ ลทฺธพฺพลาภสฺส อลภนโต. อปติวาตาพาธํ รตฺติฏฺานํ. ฉายุทกสมฺปนฺนํ ทิวาฏฺานํ. วิปสฺสนาปิ วฏฺฏติ วิปสฺสนากมฺมิโกเยว. เตนปิ หิ นวธา อินฺทฺริยานํ ติกฺขตฺตํ อาปาเทนฺเตน สมาธินิมิตฺตํ คเหตพฺพํ, วิปสฺสนานิมิตฺตํ สมาหิตาการสลฺลกฺขณาย.

ปมปาปณิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทุติยปาปณิกสุตฺตวณฺณนา

๒๐. ทสเม วิสิฏฺธุโรติ วิสิฏฺธุรสมฺปคฺคาโห วีริยสมฺปนฺโน. าณวีริยายตฺตา หิ อตฺถสิทฺธิโย. เตนาห ‘‘อุตฺตมธุโร’’ติอาทิ. วิกฺกายิกภณฺฑนฺติ วิกฺกเยตพฺพภณฺฑํ. นิกฺขิตฺตธเนนาติ นิทหิตฺวา ปิตธนวเสน. วฬฺชนกวเสนาติ ทิวเส ทิวเส ทานูปโภควเสน วฬฺชิตพฺพธนวเสน. อุปโภคปริโภคภณฺเฑนาติ อุปโภคปริโภคูปกรเณน. นิปตนฺตีติ นิปาเตนฺติ, อตฺตโน ธนคฺคเหน นิปาตวุตฺติเก กโรนฺติ. เตนาห ‘‘นิมนฺเตนฺตี’’ติ.

าณถาเมนาติ าณสฺส ถิรภาเวน. าณปรกฺกเมนาติ าณสหิเตน วีริเยน. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถเภทฺหิ เยน สุเตน อิชฺฌติ, ตํ สุตํ นาม. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกนิกาย…เป… พหุสฺสุตา’’ติ อาห. อาคโตติ สุปฺปวตฺติภาเวน สฺวาคโต. เตนาห ‘‘ปคุโณ ปวตฺติโต’’ติ. อภิธมฺเม อาคตา กุสลาทิกฺขนฺธาทิเภทภินฺนา ธมฺมา สุตฺตนฺตปิฏเกปิ โอตรนฺตีติ ‘‘ธมฺมธราติ สุตฺตนฺตปิฏกธรา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. น หิ อาภิธมฺมิกภาเวน วินา นิปฺปริยายโต สุตฺตนฺตปิฏกฺุตา สมฺภวติ. ทฺเวมาติกาธราติ ภิกฺขุภิกฺขุนิมาติกาวเสน ทฺเวมาติกาธราติ วทนฺติ, ‘‘วินยาภิธมฺมมาติกาธรา’’ติ ยุตฺตํ. ปริปุจฺฉตีติ สพฺพภาเคน ปุจฺฉิตพฺพํ ปุจฺฉติ. เตนาห ‘‘อตฺถานตฺถํ การณาการณํ ปุจฺฉตี’’ติ. ปริคฺคณฺหาตีติ วิจาเรติ.

น เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ เอวํ เทสนานุกฺกเมน อตฺโถ น คเหตพฺโพ. อฺโ หิ เทสนากฺกโม เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน ปวตฺตนโต, อฺโ ปฏิปตฺติกฺกโม. เหฏฺิเมน วา ปริจฺเฉโทติ สีลสมาธิปฺาสงฺขาเตสุ ตีสุ ภาเคสุ กตฺถจิ เหฏฺิมนเยน เทสนาย ปริจฺเฉทํ เวทิตพฺพํ สีเลน, กตฺถจิ อุปริเมน ภาเคน ปฺาย, กตฺถจิ ทฺวีหิปิ ภาเคหิ สีลปฺาวเสน. อิธ ปน สุตฺเต อุปริเมน ภาเคน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพติ วตฺวา ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิมาห. ยสฺมา วา ภควา เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน ปมํ กลฺยาณมิตฺตํ ทสฺเสนฺโต อรหตฺตํ ปเวเทตฺวา ‘‘ตยิทํ อรหตฺตํ อิมาย อารทฺธวีริยตาย โหตี’’ติ ทสฺเสนฺโต วีริยารมฺภํ ปเวเทตฺวา ‘‘สฺวายํ วีริยารมฺโภ อิมินา กลฺยาณมิตฺตสนฺนิสฺสเยน ภวตี’’ติ ทสฺเสนฺโต นิสฺสยสมฺปตฺตึ ปเวเทติ เหฏฺา ทสฺสิตนิทสฺสนานุรูปนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ทุติยปาปณิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

รถการวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปุคฺคลวคฺโค

๑. สมิทฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ตติยสฺส ปเม รุจฺจตีติ กายสกฺขิอาทีสุ ปุคฺคเลสุ อติวิย สุนฺทรตรปณีตตรภาเวน เต จิตฺตสฺส อภิรุจิอุปฺปาทโก กตโมติ ปุจฺฉติ. สทฺธินฺทฺริยํ ธุรํ อโหสิ สทฺธาธุรํ มคฺควุฏฺานนฺติ กตฺวา, เสสินฺทฺริยานิ ปน กถนฺติ อาห ‘‘เสสานี’’ติอาทิ. ปฏิวิทฺธมคฺโควาติ ตีหิปิ เถเรหิ อตฺตโน อตฺตโน ปฏิวิทฺธอรหตฺตมคฺโค เอว กถิโต, ตสฺมา น สุกรํ เอกํเสน พฺยากาตุํ ‘‘อยํ…เป… ปณีตตโร จา’’ติ. ภุมฺมนฺตเรเนว กเถสิ ‘‘ตีสุปิ ปุคฺคเลสุ อคฺคมคฺคฏฺโว ปณีตตโร’’ติ.

สมิทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. คิลานสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย หิตานีติ ภพฺยานิ. วุทฺธิกรานีติ อาโรคฺยาทิวุทฺธิกรานิ. อนุจฺฉวิกนฺติ อุปฏฺานกิริยาย อนุรูปํ. วาตาปมารโรเคนาติ วาตโรเคน จ อปมารโรเคน จ, วาตนิทาเนน วา อปมารโรเคน. นิฏฺปฺปตฺตคิลาโนติ ‘‘อิมินา โรเคน น จิรสฺเสว มริสฺสตี’’ติ นิฏฺํ ปตฺโต คิลาโน. ขิปิตกํ นาม วมถุโรโค. กจฺฉูติ ถุลฺลกจฺฉุอาพาโธ. ติณปุปฺผกชโร วิสมวาตสมฺผสฺสชโรโค. เยสนฺติ เยสํ โรคานํ. ปฏิชคฺคเนนาติ ปฏิการมตฺเตน. ผาสุกนฺติ พฺยาธิวูปสมเนน สรีรสฺส ผาสุภาโว. พฺยาธินิทานสมุฏฺานชานเนน ปณฺฑิโต, ปฏิการกิริยาย ยุตฺตการิตาย ทกฺโข, อุฏฺานวีริยสมฺปตฺติยา อนลโส.

ปทปรโม ปุคฺคโล กถิโต สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนสฺส อโยคฺคภาวโต. อลภนฺโตว ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวนาย โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ ปจฺเจกโพธึ. นฺติ, ยโต. โอวาทํ ลภิตฺวาติ อาภิสมาจาริกวตฺตํ โอวาทมตฺตํ. เอตฺตโกปิ หิ ตสฺส หิตาวโหติ. ตนฺนิสฺสิโตวาติ วิปฺจิตฺุนิสฺสิโตว โหติ. ปุนปฺปุนํ เทเสตพฺโพว สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนสฺส โยคฺคภาวโต.

คิลานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สงฺขารสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย วิวิเธหิ อากาเรหิ อาพาธนโต พฺยาพาโธว พฺยาพชฺฌํ, กายิกํ เจตสิกฺจ ทุกฺขํ. สห พฺยาพชฺเฌน วตฺตตีติ สพฺยาพชฺฌํ. เตนาห ‘‘สทุกฺข’’นฺติ. เจตนาราสินฺติ ปุพฺพเจตนาทิราสึ. เจตนํ ปุนปฺปุนํ ปวตฺเตนฺโต ‘‘ราสึ กโรติ ปิณฺฑํ กโรตี’’ติ จ วุตฺโต. สทุกฺขนฺติ นิรนฺตรทุกฺขํ. เตนาห ‘‘สาพาธํ นิรสฺสาท’’นฺติ. อตฺถีติ อุชุกํ ทุกฺขเวทนา นตฺถีติ อวตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ. อนิฏฺสภาวตฺตา อนิฏฺารมฺมณตฺตา จ ทุกฺขปกฺขิกาว สา ทฏฺพฺพา. น หิ อกุสลวิปากา อิฏฺา นาม อตฺถี, กุสลวิปากา ปน อุเปกฺขาเวทนา ตตฺถ อปฺปาวสรา. อฏฺกถายํ ปน นิรยสฺส ทุกฺขพหุลตฺตา ทุกฺขสฺส จ ตตฺถ พลวตาย สา อพฺโพหาริกฏฺาเน ิตาติ วุตฺตํ. อุปมํ กตฺวา อาหโฏ วิเสโส วิย สามฺสฺส ยถา อโยปิณฺฑิโรหิโน วิย รูปานนฺติ. ปฏิภาคอุปมาติ ปฏิพิมฺพอุปมา.

เต อคฺคเหตฺวาติ เหฏฺิมพฺรหฺมโลเก อคฺคเหตฺวา. โวมิสฺสกสุขทุกฺขนฺติ วิมิสฺสกสุขทุกฺขํ ปีติมิสฺสกภาวโต. กมฺมนฺติ ปาปกมฺมํ. กมฺมสีเสน ผลํ วทติ. กามฺเจตฺถ ‘‘อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชตี’’ติ อาคตํ, ‘‘อพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺตี’’ติ ปน วจเนน โลกุตฺตรผสฺสาปิ สงฺคยฺหนฺตีติ ‘‘ตีณิ สุจริตานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานี’’ติ วุตฺตํ.

สงฺขารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. พหุการสุตฺตวณฺณนา

๒๔. จตุตฺเถ อวสฺสยํ คโตติ วฏฺฏทุกฺขปริมุตฺติยา อวสฺสโย มยฺหนฺติ สรณคมนกฺกเมน อุปคโต โหติ. สตนฺติกนฺติ สปริยตฺติธมฺมํ. อคฺคหิตสรณปุพฺพสฺสาติ อคฺคหิตปุพฺพสรณสฺส. อกตาภินิเวสสฺส วเสน วุตฺตนฺติ ตสฺมึ อตฺตภาเว น กโต สรณคมนาภินิเวโส เยนาติ อกตาภินิเวโส, ตสฺส วเสน วุตฺตํ. กามํ ปุพฺเพปิ สรณทายโก อาจริโย วุตฺโต, ปพฺพชฺชาทายโกปิ สรณทายโกว. ปุพฺเพ ปน อุปาสกภาวาปาทกวเสน สรณทายโก อธิปฺเปโต. อิทํ ปน คหิตปพฺพชฺชสฺส สรณคมนํ. ปพฺพชา หิ สวิเสสํ สรณคมนนฺติ ปพฺพชฺชาทายโก ปุน วุตฺโต. เอเตติ ปพฺพชฺชาทายกาทโย. ทุวิเธน ปริจฺฉินฺนาติ โลกิยธมฺมสมฺปาปโก โลกุตฺตรธมฺมสมฺปาปโกติ ทฺวิปฺปกาเรน ปริจฺฉินฺนา, กตาภินิเวสอกตาภินิเวสวเสน วา. อุปรีติ ปมมคฺคโต อุปริ. เนว สกฺโกตีติ อาจริเยน กตสฺส อุปการสฺส มหานุภาวตฺตา ตสฺส ปติการํ นาม กาตุํ น สกฺโกติ.

พหุการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วชิรูปมสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปฺจเม อรุอิติ ปุราณํ ทุฏฺวณํ วุจฺจติ. ก-กาโร ปทสนฺธิกโรติ อรุกูปมํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ อรุกูปมจิตฺโต อปฺปมตฺตกสฺสปิ ทุกฺขสฺส อสหนโต. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อิตฺตรกาโลภาเสนาติ ปริตฺตเมว กาโล าโณภาสวิรเหน. ลคตีติ โกธาสงฺควเสน กุปฺปนฺโต ปุคฺคโล สมฺมุขา, ‘‘กึ วทสี’’ติอาทินา ปรมฺมุขา จ อุปนยฺหนวเสน ลคติ, น ตณฺหาสงฺควเสน. กุปฺปตีติ กุชฺฌติ. พฺยาปชฺชตีติ วิปนฺนจิตฺโต โหติ. ถทฺธภาวํ อาปชฺชติ อีสกมฺปิ มุทุตฺตาภาวโต. ทุฏฺารุโกติ มํสโลหิตานํ ทุฏฺภาเวน ปกติภาวํ ชหิตฺวา ิโต ทุฏฺวโณ. ‘‘ทุฏฺารุตา’’ติปิ ปนฺติ, ตตฺถาปิ ตากาโร ปทสนฺธิกโร.

ตสฺสาติ ทุฏฺารุกสฺส. สวนนฺติ อสุจิวิสนฺทนํ. อุทฺธุมาตสฺส วิยาติ โกเธน อุทฺธํ อุทฺธํ ธุมาตกสฺส วิย โกธูปายาสสฺส อวิสฺสชฺชนโต. จณฺฑิกตสฺสาติ กุปิตสฺส. เอตฺถ จ กิฺจาปิ เหฏฺิมมคฺควชฺฌาปิ กิเลสา เตหิ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิตตฺตา สมุจฺฉินฺนา, ตถาปิ ตสฺมึ สนฺตาเน อคฺคมคฺคสฺส อนุปฺปนฺนตฺตา ตตฺถ อปฺปหีนาปิ กิเลสา อตฺเถวาติ กตฺวา เตสํ าณานํ วิชฺชูปมตา วุตฺตา, น เตหิ มคฺเคหิ ปหีนานํ กิเลสานํ อตฺถิภาวโตติ ทฏฺพฺพํ.

วชิรูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา

๒๖. ฉฏฺเ อุปสงฺกมิตพฺโพติ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตพฺโพ. อลฺลียิตพฺโพติ ฉายาย วิย วินา ภาวนาย นิลฺลียิตพฺโพ. ปุนปฺปุนํ อุปาสิตพฺโพติ อภิณฺหโส อุปนิสีทิตพฺโพ. อนุทฺทยาติ เมตฺตาปุพฺพภาโค. อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘เอตสฺส สีเลน อภิวุทฺธิ ภวิสฺสตี’’ติ อุปการตฺถํ อุปเสวนาทิ วฏฺฏติ.

น ปฏิหฺิสฺสตีติ ‘‘อเปหิ, กึ เอเตนา’’ติ ปฏิกฺเขปาภาวโต ปิยสีลตฺตา น ปฏิหฺิสฺสติ. ผาสุ ภวิสฺสตีติ ทฺวีสุ หิ สีลวนฺเตสุ เอเกน สีลสฺส วณฺเณ กถิเต อิตโร อนุโมทติ. เตน เตสํ กถา ผาสุ เจว โหติ ปวตฺตินี จ. เอกสฺมึ ปน ทุสฺสีเล สติ ทุสฺสีลสฺส สีลกถา ทุกฺกถา, เนว สีลกถา โหติ, น ผาสุ โหติ, น ปวตฺตินี. ทุสฺสีลสฺส หิ สีลกถา อผาสุ ภวิสฺสติ. สีลกถาย วุตฺตมตฺถํ สมาธิปฺากถาสุปิ อติทิสติ ‘‘สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย’’ติ. ทฺเว หิ สมาธิลาภิโน สมาธิกถํ สปฺปฺา จ ปฺากถํ กเถนฺตา รตฺตึ วา ทิวสํ วา อติกฺกมนฺตมฺปิ น ชานนฺติ.

ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ ตสฺมึ ตสฺมึ อนุคฺคเหตพฺเพ ปฺาย โสเธตพฺเพ วฑฺเฒตพฺเพ จ อธิกสีลํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ อตฺโถ. ตฺจ อนุคฺคณฺหนํ สีลสฺส อสปฺปายานุปการธมฺเม วชฺเชตฺวา ตปฺปฏิปกฺขเสวเนน โหตีติ อาห ‘‘สีลสฺส อสปฺปาเย’’ติอาทิ. สีลสฺส อสปฺปายานุปการธมฺมา นาม อนาจาราโคจราทโย, ตปฺปฏิปกฺขโต อุปการธมฺมา เวทิตพฺพา. ตสฺมึ ตสฺมึ าเนติ ตํตํสิกฺขาโกฏฺาสปทฏฺาเน. อนุคฺคณฺหาติ นามาติ อภินฺนํ อสํกิลิฏฺํ กตฺวา อนุคฺคณฺหาติ นาม. ขารปริสฺสาวเนติ รชกานํ อูสขาราทิขารปริสฺสาวนปเฏ. หายตีติ สีลาทินา ปริหายติ. เสฏฺํ ปุคฺคลนฺติ สีลาทิคุเณหิ เสฏฺํ อุตฺตริตรํ อุตฺตมํ ปุคฺคลํ.

เสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ชิคุจฺฉิตพฺพสุตฺตวณฺณนา

๒๗. สตฺตเม อพฺภุคฺคจฺฉตีติ เอตฺถ อภิ-สทฺทาเปกฺขาย ‘‘น’’นฺติ สามิอตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อสฺสา’’ติ ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺต’’นฺติอาทีสุ วิย. ปาปโก กิตฺติสทฺโทติ ลามกภาเวน กเถตพฺพสทฺโท. คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺยนฺติ เอเตน ทุสฺสีลสฺส คูถสทิสตฺตเมว ทสฺเสติ. วจนนฺติ อนิฏฺวจนํ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺย’’นฺติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน. สุจิมิตฺโตติ สีลาจารสุทฺธิยา สุจิมิตฺโต. สห อยนฺติ ปวตฺตนฺตีติ สหายาติ อาห ‘‘สหคามิโน’’ติ.

ชิคุจฺฉิตพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. คูถภาณีสุตฺตวณฺณนา

๒๘. อฏฺเม คูถภาณีติ คูถสทิสวจนตฺตา คูถภาณี. ยถา หิ คูถํ นาม มหาชนสฺส อนิฏฺํ โหติ, เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อนิฏฺํ โหติ. ทุคฺคนฺธกถนฺติ กิเลสาสุจิสํกิลิฏฺตาย คูถํ วิย ทุคฺคนฺธวายนกถํ. ปุปฺผภาณีติ สุปุปฺผสทิสวจนตฺตา ปุปฺผภาณี. ยถา หิ ผุลฺลานิ วสฺสิกานิ วา อธิมุตฺติกานิ วา มหาชนสฺส อิฏฺานิ กนฺตานิ โหนฺติ, เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อิฏฺํ โหติ กนฺตํ. ปุปฺผานิ วิยาติ จมฺปกสุมนาทิสุคนฺธปุปฺผานิ วิย. สุคนฺธกถนฺติ สุจิคนฺธวายนกถํ กิเลสทุคฺคนฺธาภาวโต. มธุภาณีติ เอตฺถ ‘‘มุทุภาณี’’ติปิ ปนฺติ. อุภยตฺถาปิ หิ มธุรวจโนติ อตฺโถ. ยถา หิ จตุมธุรํ นาม มธุรํ ปณีตํ, เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ มธุรํ โหติ. มธุรกถนฺติ กณฺณสุขตาย เปมนียตาย จ สทฺทโต อตฺถโต จ มธุรสภาวกถํ. อตฺตเหตุ วาติ อตฺตโน วา หตฺถปาทาทิจฺเฉทนหรณเหตุ. ปรเหตุ วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เตนาห ‘‘อตฺตโน วา’’ติอาทิ.

‘‘เนลงฺโคติ โข, ภนฺเต, สีลานเมตํ อธิวจน’’นฺติ สุตฺเต (สํ. นิ. ๔.๓๔๗) อาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘เอตฺถ วุตฺตสีลํ วิยา’’ติ. ปูเรติ คุณานํ ปาริปูริยํ. สุกุมาราติ อผรุสตาย มุทุกา โกมลา. ปุรสฺสาติ เอตฺถ ปุร-สทฺโท ตนฺนิวาสิวาจโก ทฏฺพฺโพ ‘‘คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิย. เตนาห ‘‘นครวาสีน’’นฺติ. มนํ อปฺปายติ วฑฺเฒตีติ มนาปา. เตนาห ‘‘จิตฺตวุทฺธิกรา’’ติ.

คูถภาณีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อนฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๙. นวเม อนฺโธติอาทีสุ ปาฬิปเทสุ ปโม ทิฏฺธมฺมิกโภคสํหรณปฺาจกฺขุโน จ สมฺปรายิกตฺถสาธนปฺาจกฺขุโน จ อภาวา ‘‘อนฺโธ’’ติ วุจฺจติ ทุติโยปิ, ตติโย ปน ทฺวินฺนมฺปิ ภาวา ‘‘ทฺวิจกฺขู’’ติ วุจฺจติ. ปฺาจกฺขูติ อายโกสลฺลภูตา ปฺาจกฺขุ. เตนาห ‘‘ผาตึ กเรยฺยา’’ติ. อธมุตฺตเมติ อธเม เจว อุตฺตเม จ. ปฏิปกฺขวเสนาติ ปฏิปกฺขสฺส อตฺถิตาวเสน. สุกฺกสปฺปฏิภาคาติ สุกฺกธมฺเมหิ ปหายเกหิ สปฺปฏิภาคาติ ชาเนยฺย. กณฺหสปฺปฏิภาคาติ กณฺหธมฺเมหิ ปหาตพฺเพหิ สปฺปฏิภาคาติ ชาเนยฺย.

ตถาชาติกาติ ยาทิเสหิ สปุตฺตทารปริชนสาติมิตฺตพนฺธวคฺคํ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, ตาทิสา โภคาปิ น สนฺติ. ปุฺานิ จ น กโรตีติ สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกยาจกานํ สนฺตปฺปนวเสน ปุฺานิ น กโรติ. อุภยตฺถาติ อุภยสฺมึ โลเก, อุภยสฺมึ วา อตฺเถติ วิคฺคโหติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธโลเก’’ติอาทิมาห. อุภเยนาติ วุตฺตมตฺถํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมึ าเนติ ยสฺมึเยว าเน. น โสจตีติ โสกเหตูนํ ตตฺถ อภาวโต น โสจติ.

อนฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อวกุชฺชสุตฺตวณฺณนา

๓๐. ทสเม อวกุชฺชปฺโติ นิกฺกุชฺชปฺโ. เตนาห ‘‘อโธมุขปฺโ’’ติ. ปุพฺพปฏฺปนาติ ปมารมฺโภ. สนฺนิฏฺานนฺติ กถาปริโยสานํ. อปฺปนาติ เทสนาย นิฏฺาปนํ. อเนเก วา อนุสนฺธิโยติ โยเชตพฺพํ. สมาธิ วาติอาทีสุ โลกุตฺตรธมฺมา ปรมตฺถโต สาสนนฺติ ตทตฺโถปาทกสมาธิ ตสฺส อาทีติ วุตฺโต, ตทาสนฺนตฺตา วิปสฺสนา, ตสฺส มูลภาเวน เอกเทสตฺตา มคฺโค.

สาสนสฺส ปาริปูริสุทฺธิโย นาม สตฺถารา เทสิตนิยาเมเนว สิทฺธา, ตา ปเนตฺถ กเถนฺตสฺส วเสน คเหตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนูนํ กตฺวา เทเสนฺตี’’ติ, ‘‘นิคฺคณฺึ กตฺวา เทเสนฺตี’’ติ จ วุตฺตํ. ตตฺถ นิชฺชฏนฺติ นิคฺคุมฺพํ อนากุลํ. นิคฺคณฺินฺติ คณฺิฏฺานรหิตํ สุวิฺเยฺยํ กตฺวา.

อากิณฺณานีติ อากิริตฺวา สํกิริตฺวา ปิตานีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปกฺขิตฺตานี’’ติ. อุจฺฉงฺโค วิย อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพติ อุจฺฉงฺคสทิสปฺตาย อุจฺฉงฺคปฺโ. เอวํ ปฺา วิย ปุคฺคโลปิ อุจฺฉงฺโค วิย โหติ, ตสฺมึ ธมฺมานํ อจิรฏฺานโตติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ยถา จ อุจฺฉงฺคสทิสา ปฺา, เอวํ นิกฺกุชฺชกุมฺภสทิสา ปฺา เอวาติ ทฏฺพฺพา.

สํวิทหนปฺายาติ ‘‘เอวํ กเต อิทํ นาม ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ตํตํอตฺถกิจฺจํ สํวิธาตุํ สมตฺถตาย วิจารณปฺาย รหิโต. เสยฺโยติ เสฏฺโ ปาสํโส. ปุพฺพภาคปฏิปทนฺติ จิตฺตวิสุทฺธิอาทิกํ อริยมคฺคสฺส อธิคมาย ปุพฺพภาคปฏิปตฺตึ.

อวกุชฺชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุคฺคลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. เทวทูตวคฺโค

๑. สพฺรหฺมกสุตฺตวณฺณนา

๓๑. จตุตฺถสฺส ปเม สพฺรหฺมกานีติ สเสฏฺกานิ. เยสนฺติ เยสํ กุลานํ. ปุตฺตานนฺติ ปุตฺเตหิ. ปูชิตสทฺทโยเคน หิ อิทํ กรณตฺเถ สามิวจนํ. เตนาติ อาหาราทินา. ปฏิชคฺคิตา โคปิตาติ ยถากาลํ ตสฺส ตสฺส ทาตพฺพสฺส ทาเนน เวยฺยาวจฺจสฺส จ กรเณน ปฏิชคฺคิตา เจว อุปฺปนฺนานตฺถปฺปหรเณน โคปิตา จ โหนฺติ. เตสนฺติ มาตาปิตูนํ. พฺรหฺมาทิภาวสาธนตฺถนฺติ เตสํ คุณานํ อตฺถิตาย โลเก พฺรหฺมา นาม วุจฺจติ, อาจริโย นาม วุจฺจติ, อาหุเนยฺโย นาม วุจฺจติ, เต มาตาปิตูนํ ปุตฺตกํ ปฏิลภนฺตีติ ทสฺสนวเสน เนสํ พฺรหฺมาทิภาวสาธนตฺถํ ‘‘พหุการา’’ติ, วตฺวา ตํ เตสํ พหุการตํ นานาการโต ทสฺเสตุํ ‘‘อาปาทกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มาตาปิตโร หิ ปุตฺตานํ ชีวิตสฺส อาปาทกา, สรีรสฺส โปสกา, อาจารสมาจารานํ สิกฺขาปกา สกลสฺสปิ อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร. เตนาห ‘‘ปุตฺตานํ หี’’ติอาทิ. อิฏฺารมฺมณํ ตาว เต ทสฺเสนฺตุ, อนิฏฺารมฺมณํ กถนฺติ? ตมฺปิ ทสฺเสตพฺพเมว วชฺชนียภาวชานาปนตฺถํ.

อวิชหิตา โหนฺตีติ ตาสํ ภาวนาย พฺรหฺมานํ พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนตฺตา อวิชหิตา โหนฺติ ภาวนา. โลภนียวยสฺมึ ปมโยพฺพเน อติวิย มุทุภาวปฺปตฺตทสฺสนตฺถํ สตวิหตคฺคหณํ. ปาฏิเยกฺกนฺติ วิสุํ. อิมินา การเณนาติ อิมินา ยถาวุตฺเตน ปุตฺเตสุ ปวตฺติเตหิ อติกฺกเมน เมตฺตาทิสมุปฺปตฺติสงฺขาเตน การเณน.

ถรุสิปฺปนฺติ อสิสตฺติกุนฺตกลาปาทิอายุธสิปฺปํ. มุทฺทาคณนาติ องฺคุลิสํโกจนาทินา หตฺถมุทฺทาย คณนา. อาทิสทฺเทน ปาณาทีนํ สงฺคโห. ปจฺฉาจริยา นาม มาตาปิตูนํ สนฺติเก อุคฺคหิตคหฏฺวตฺตสฺเสว ปุคฺคลสฺส ยถาสกํ หตฺถาจริยาทีนํ สิปฺปคฺคาหาปนนฺติ กตฺวา สพฺพปมํ อาจริยา นามาติ โยเชตพฺพํ. อานีย หุตํ อาหุตํ. ปกาเรหิ หุตํ ปาหุตํ. อภิสงฺขตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.

นโม กเรยฺยาติ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ อุตฺตมปุฺกฺเขตฺต’’นฺติ นมกฺการํ กเรยฺย. ตาย นํ ปาริจริยายาติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถาวุตฺตปริจรเณนาติ อตฺโถ. อถ วา ปาริจริยายาติ ภรณกิจฺจกรณกุลวํสปฺปติฏฺานาปนาทินา ปฺจวิธอุปฏฺาเนน. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ‘ภโต เนสํ ภริสฺสามิ, กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามิ, กุลวํสํ เปสฺสามิ, ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามิ, อถ วา ปน เปตานํ กาลกตานํ ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามี’ติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ, ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ, ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชนฺติ, สมเย ทายชฺชํ นิยฺยาเทนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๖๗).

อปิจ โย มาตาปิตโร ตีสุ วตฺถูสุ อภิปฺปสนฺเน กตฺวา สีเลสุ วา ปติฏฺาเปตฺวา ปพฺพชฺชาย วา นิโยเชตฺวา อุปฏฺหติ, อยํ มาตาปิตูปฏฺากานํ อคฺโคติ เวทิตพฺโพ. สา ปนายํ ปาริจริยา ปุตฺตสฺส อุภยโลกหิตสุขาวหาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ วุตฺตํ. ปสํสนฺตีติ ‘‘อยํ ปุคฺคโล มตฺเตยฺโย เปตฺเตยฺโย สคฺคสํวตฺตนิยํ ปฏิปทํ ปูเรตี’’ติ อิเธว นํ ปสํสนฺติ. อาโมทติ อาทิโต ปฏฺาย โมทปฺปตฺติยา. ปโมทติ นานปฺปการโมทสมฺปวตฺติยา.

สพฺรหฺมกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๓๒. ทุติเย ตถาชาติโกติ ตถาสภาโว. จิตฺเตกคฺคตาลาโภติ จิตฺเตกคฺคตาย อธิคโม. รูปเมว กิเลสุปฺปตฺติยา การณภาวโต รูปนิมิตฺตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. สสฺสตาทินิมิตฺตนฺติ สสฺสตุจฺเฉทภาวนิมิตฺตํ. ปุคฺคลนิมิตฺตนฺติ ปุคฺคลาภินิเวสนนิมิตฺตํ. ธมฺมนิมิตฺตนฺติ ธมฺมารมฺมณสงฺขาตํ นิมิตฺตํ. ‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต’’ติ เถเรน ปุฏฺโ ภควา ‘‘สิยา’’ติ อโวจ โลกุตฺตรสมาธิปฺปฏิลาภํ สนฺธาย. โส หิ นิพฺพานํ สนฺตํ ปณีตนฺติ จ ปสฺสติ. เตนาห ‘‘อิธานนฺทา’’ติอาทิ.

นิพฺพานํ สนฺตนฺติ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวาติ นิพฺพานํ สนฺตนฺติ อาภุชิตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา. ทิวสมฺปีติอาทินา อสงฺขตาย ธาตุยา อจฺจนฺตสนฺตปณีตาทิภาวํ ทสฺเสติ. อฏฺวิเธติ ‘‘สนฺตํ ปณีตํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ เอวํ อฏฺวิเธ อาโภคสฺิเต สมนฺนาหาเร. นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. อิมสฺมึ าเน…เป… ลพฺภนฺเตวาติ ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุโน เอวํ โหตี’’ติ อาคเต อิมสฺมึ สุตฺตปฺปเทเส เอโกปิ อาโภคสมนฺนาหาโร เจปิ สพฺเพ อฏฺปิ อาโภคสมนฺนาหารา ลพฺภนฺเตว สมนฺนาหรตํ อตฺถาวหตฺตา.

าเณน ชานิตฺวาติ วิปสฺสนาาณสหิเตน มคฺคาเณน ชานิตฺวา. ปรานิ จ โอปรานิ จ จกฺขาทีนิ อายตนานิ. สนฺตตายาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิตาย. กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโตติ กายทุจฺจริตาทิ เอว สนฺตาปนฏฺเน ธูโม, เตน วิรหิโต. อนีโฆติ อปาโป. ชาติชราคหเณเนว พฺยาธิมรณมฺปิ คหิตเมวาติ ตพฺภาวภาวโตติ วุตฺตํ.

อานนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

๓๓. ตติเย, ‘‘สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน เทสิตํ ธมฺมํ ตาทิเสนปิ น สุกรํ วิฺาตุ’’นฺติ อิมินา อธิปฺปาเยเนว วทนฺโต เถรสฺส าณํ สพฺพมติกฺกมํ. อฺาตาโร จ ทุลฺลภาติ หิ อิมินา สามฺวจเนน สาริปุตฺตตฺเถรมฺปิ อนฺโตคธํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต เตนปิ อตฺตโน เทสนาย ทุปฺปฏิวิทฺธภาวํ ทสฺเสติ.

สมฺมาติ เหตุนา การเณน. เตนาห ‘‘อุปาเยนา’’ติอาทิ. มานาภิสมยาติ มานสฺส ทสฺสนาภิสมยา. ปหานาภิสมโยติ จ ทสฺสนาภิสมโยติ จ ปริฺาภิสมโย วุตฺโต. อรหตฺตมคฺโค หิ ปริฺากิจฺจสิทฺธิยา กิจฺจวเสน มานํ ปสฺสติ, อสมฺโมหปฺปฏิเวธวเสนาติ วุตฺตํ โหติ, อยมสฺส ทสฺสนาภิสมโย. เตน ทิฏฺโ ปน ปหานาภิสมโย จ. ทสฺสนาภิสมเยน หิ ปริฺาภิสมยเมว ปหียติ. ทิฏฺวิเสน ทิฏฺสตฺตานํ ชีวิตํ วิย อยมสฺส ปหานาภิสมโย. อฏฺกถายํ ปน ปหานาภิสมยสฺส ทสฺสนาภิสมยนานนฺตริยกตฺตา ‘‘ปหานาภิสมเยน’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ปหานาภิสมเย หิ คหิเต ทสฺสนาภิสมโย คหิโตว โหติ.

อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสาติ อรหตฺตมคฺเคน มานสฺส ปหีนตฺตา เย อิเม ‘‘กายพนฺธนสฺส อนฺโต ชีรติ (จูฬว. ๒๗๘), หริตนฺตํ วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐๔) เอวํ วุตฺตอนฺติมมริยาทนฺโต จ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๘๐; อิติวุ. ๙๑) เอวํ วุตฺตลามกนฺโต จ ‘‘สกฺกาโย เอโก อนฺโต’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวํ วุตฺตโกฏฺาสนฺโต จ ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺส สปจฺจยสงฺขยา’’ติ เอวํ วุตฺตโกฏฺาสนฺโต จาติ จตฺตาโร อนฺตา, เตสุ สพฺพสฺเสว วฏฺฏทุกฺขสฺส อทุํ จตุตฺถโกฏิสงฺขาตํ อนฺตมกาสิ, ปริจฺเฉทํ ปริวฏุมํ อกาสิ, อนฺติมสมุทยมตฺตาวเสสํ ทุกฺขมกาสีติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตมกาสี’’ติ.

นนุ จ ‘‘ปหาน’’นฺติ อิมสฺส นิทฺเทเส นิพฺพานํ อาคตํ? อิธ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานสงฺขาตํ อรหตฺตผลํ วุตฺตํ, ตสฺมา นิทฺเทเสนายํ วณฺณนา วิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘นิทฺเทเส ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตานิ ปทานิ อาคตานีติ ตสฺมึ นิทฺเทเส ‘‘ปหานํ วูปสมํ ปฏินิสฺสคฺค’’นฺติอาทีนิ (จูฬนิ. ๗๕ อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส) ปทานิ อาคตานิ.

ธมฺมตกฺกปุเรชวนฺติ อิมินา ตสฺมึ จตุตฺถชฺฌานวิโมกฺเข ตฺวา ฌานงฺคานิ วิปสฺสิตฺวา อธิคตํ อรหตฺตวิโมกฺขํ วทติ. อรหตฺตวิโมกฺขสฺส หิ มคฺคสมฺปยุตฺตสมฺมาสงฺกปฺปสงฺขาโต ธมฺมตกฺโก ปุเรชโว โหติ.

สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิทานสุตฺตวณฺณนา

๓๔. จตุตฺเถ ปิณฺฑกรณตฺถายาติ อายูหนวเสน ราสิกรณตฺถาย. อภินฺนานีติ เอกเทเสนปิ อขณฺฑิตานิ. ภินฺนกาลโต ปฏฺาย หิ พีชํ พีชกิจฺจาย น อุปกปฺปติ. อปูตีนีติ อุทกเตมเนน ปูติภาวํ น อุปคตานิ. ปูติพีชฺหิ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. เตนาห ‘‘ปูติภาเวน อพีชตฺตํ อปฺปตฺตานี’’ติ. น วาเตน น จ อาตเปน หตานีติ วาเตน จ อาตเปน จ น หตานิ, นิโรชตํ น ปาปิตานิ. นิโรชฺหิ กสฏพีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. สาราทานีติ ตณฺฑุลสารสฺส อาทานโต สาราทานิ. นิสฺสารฺหิ พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. เตนาห ‘‘คหิตสารานี’’ติ, ปติฏฺิตสารานีติ อตฺโถ. สนฺนิจยภาเวน สุขํ สยิตานีติ จตฺตาโร มาเส โกฏฺปกฺขิตฺตนิยาเมเนว สุขสยิตานิ.

กมฺมวิภตฺตีติ กมฺมวิภาโค. ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺขภูโต ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว, ตตฺถ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ. ปจฺจุปนฺนภวโต อนนฺตรํ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ. อปรปริยายเวทนียนฺติ ทิฏฺธมฺมานนฺตรภวโต อฺสฺมึ อตฺตภาวปริยาเย อตฺตภาวปริวตฺเต เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ. ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตาย ปจฺจยวิเสเสน ปฏิลทฺธวิเสสตาย จ พลวภาวปฺปตฺตา ตาทิสสฺส ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส วเสน สาติสยา หุตฺวา ปวตฺตา ปมชวนเจตนา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว ผลทายินี ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. สา หิ วุตฺตากาเรน พลวตี ชวนสนฺตาเน คุณวิเสสยุตฺเตสุ อุปการานุปการวสปฺปวตฺติยา อาเสวนาลาเภน อปฺปวิปากตาย จ ปมชวนเจตนา อิตรทฺวยํ วิย ปวตฺตสนฺตานุปรมาเปกฺขํ โอกาสลาภาเปกฺขฺจ กมฺมํ น โหตีติ อิเธว ปุปฺผมตฺตํ วิย ปวตฺติวิปากมตฺตํ ผลํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตนฺติ กมฺมสฺส วิปากทานํ นาม อุปธิปฺปโยคาทิปจฺจยนฺตรสมวาเยเนว โหตีติ ตทภาวโต ตสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตํ. อโหสิกมฺมนฺติ อโหสิ เอว กมฺมํ, น ตสฺส วิปาโก อโหสิ อตฺถิ ภวิสฺสติ จาติ เอวํ เวทิตพฺพํ กมฺมํ.

อตฺถสาธิกาติ ทานาทิปาณาติปาตาทิอตฺถสฺส นิปฺผาทิกา. กา ปน สาติ อาห ‘‘สตฺตมชวนเจตนา’’ติ. สา หิ สนฺนิฏฺาปกเจตนา วุตฺตนเยน ปฏิลทฺธวิเสสา ปุริมชวนเจตนาหิ ลทฺธาเสวนา จ สมานา อนนฺตรตฺตภาเว วิปากทายินี อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ปุริมอุปมายเยวาติ มิคลุทฺทโกปมายเยว.

สติ สํสารปฺปวตฺติยาติ อิมินา อสติ สํสารปฺปวตฺติยํ อโหสิกมฺมปกฺเข ติฏฺติ วิปจฺจโนกาสสฺส อภาวโตติ ทีเปติ. ยํ ครุกนฺติ ยํ อกุสลํ มหาสาวชฺชํ, กุสลฺจ มหานุภาวํ กมฺมํ. กุสลํ วา หิ โหตุ อกุสลํ วา, ยํ ครุกํ มาตุฆาตาทิกมฺมํ วา มหคฺคตกมฺมํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ. เตนาห ‘‘กุสลากุสเลสุ ปนา’’ติอาทิ. ยํ พหุลนฺติ ยํ พหุลํ อภิณฺหโส กตํ สมาเสวิตํ. เตนาห ‘‘กุสลากุสเลสุ ปน ยํ พหุลํ โหตี’’ติอาทิ. ยทาสนฺนํ นาม มรณกาเล อนุสฺสริตํ กมฺมํ, อาสนฺนกาเล กเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘ยํ ปน กุสลากุสเลสุ อาสนฺนมรเณ’’ติอาทิ. อนุสฺสริตุนฺติ ปริพฺยตฺตภาเวน อนุสฺสริตุํ.

เตสํ อภาเวติ เตสํ ยํครุกาทีนํ ติณฺณํ กมฺมานํ อภาเว. ยตฺถ กตฺถจิ วิปากํ เทตีติ ปฏิสนฺธิชนกวเสน วิปากํ เทติ. ปฏิสนฺธิชนกวเสน หิ ครุกาทิกมฺมจตุกฺกํ วุตฺตํ. ตตฺถ ครุกํ สพฺพปมํ วิปจฺจติ, ครุเก อสติ พหุลีกตํ, ตสฺมึ อสติ ยทาสนฺนํ, ตสฺมึ อสติ ‘‘กฏตฺตา วา ปนา’’ติ วุตฺตํ ปุริมชาตีสุ กตกมฺมํ วิปจฺจติ. พหุลาสนฺนปุพฺพกเตสุ จ พลาพลํ ชานิตพฺพํ. ปาปโต ปาปนฺตรํ กลฺยาณฺจ, กลฺยาณโต กลฺยาณนฺตรํ ปาปฺจ พหุลีกตํ. ตโต มหโตว ปุพฺพกตาทิ อปฺปฺจ พหุลานุสฺสรเณน วิปฺปฏิสาราทิชนนโต, ปฏิปกฺขสฺส อปริปุณฺณตาย อารทฺธวิปากสฺส กมฺมสฺส กมฺมเสสสฺส วา อปรปริยายเวทนียสฺส อปริกฺขีณตาย สนฺตติยา ปริณามวิเสสโตติ เตหิ เตหิ การเณหิ อายูหิตผลํ ปมํ วิปจฺจติ. มหานารทกสฺสปชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓ อาทโย) วิเทหรฺโ เสนาปติ อลาโต, พีชโก ทาโส, ราชกฺา รุจา จ เอตฺถ นิทสฺสนํ. ตถา หิ วุตฺตํ ภควตา –

‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ –

อาทิ. สพฺพํ มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๓๐๓) วิตฺถาเรตพฺพํ. กึ พหุนา. ยํ ตํ ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺคาณํ, ตสฺเสวายํ วิสโย, ยทิทํ ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส เตน เตน การเณน ปุพฺพาปรวิปากตา สมตฺถียติ.

อิทานิ ชนกาทิกมฺมจตุกฺกํ วิภชนฺโต ‘‘ชนกํ นามา’’ติอาทิมาห. ปวตฺตึ น ชเนตีติ ปวตฺติวิปากํ น ชเนติ. ปมนเย ชนกกมฺมสฺส ปฏิสนฺธิวิปากมตฺตสฺเสว วุตฺตตฺตา ตสฺส ปวตฺติวิปากทายกตฺตมฺปิ อนุชานนฺโต ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิสนฺธิทานาทิวเสน วิปากสนฺตานสฺส นิพฺพตฺตกํ ชนกํ. สุขทุกฺขสนฺตานสฺส นามรูปปฺปพนฺธสฺส วา จิรตรํ ปวตฺติเหตุภูตํ อุปตฺถมฺภกํ. เตนาห ‘‘สุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตตี’’ติ. อุปปีฬกํ สุขทุกฺขปฺปพนฺเธ ปวตฺตมาเน สณิกํ สณิกํ หาเปติ. เตนาห ‘‘สุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาเธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทตี’’ติ.

วาตกาฬโก มหลฺลโก โจเร ฆาเตตุํ น สกฺโกตีติ โส กิร มหลฺลกกาเล เอกปฺปหาเรน สีสํ ฉินฺทิตุํ น สกฺโกติ, ทฺเว ตโย วาเร ปหรนฺโต มนุสฺเส กิลเมติ, ตสฺมา เต เอวมาหํสุ. อนุโลมิกํ ขนฺตึ ปฏิลภิตฺวาติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส โอรโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ ลภิตฺวา. ตรุณวจฺฉาย คาวิยา มทฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปิโตติ เอกา กิร ยกฺขินี เธนุเวเสน อาคนฺตฺวา อุเร ปหริตฺวา มาเรสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. นคเร ภโว นาคริโย.

ฆาเตตฺวาติ อุปจฺฉินฺทิตฺวา. กมฺมสฺส อุปจฺฉินฺทนํ นาม ตสฺส วิปากปฺปฏิพาหนเมวาติ อาห ‘‘ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติ. ตฺจ อตฺตโน วิปากุปฺปตฺติยา โอกาสกรณนฺติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรตี’’ติ. วิปจฺจนาย กโตกาสํ กมฺมํ วิปกฺกมฺเมว นาม โหตีติ อาห ‘‘เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจตี’’ติ. อุปปีฬกํ อฺสฺส วิปากํ อุปจฺฉินฺทติ, น สยํ อตฺตโน วิปากํ เทติ. อุปฆาตกํ ปน ทุพฺพลกมฺมํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน วิปากํ อุปฺปาเทตีติ อยเมเตสํ วิเสโส. กิฺจิ พหฺวาพาธตาทิปจฺจยูปสนฺนิปาเตน วิปากสฺส วิพาธกํ อุปปีฬกํ, ตถา วิปากสฺเสว อุปจฺเฉทกํ. อุปฆาตกกมฺมํ ปน อุปฆาเตตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสกรเณน วิปจฺจเน สติ ชนกเมว สิยา. ชนกาทิภาโว นาม วิปากํ ปติ อิจฺฉิตพฺโพ, น กมฺมํ ปตีติ วิปากสฺเสว อุปฆาตกตา ยุตฺตา วิย ทิสฺสติ, วีมํสิตพฺพํ.

อปโร นโย – ยสฺมึ กมฺเม กเต ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ วิปากกฏตฺตารูปานํ อุปฺปตฺติ โหติ, ตํ ชนกํ. ยสฺมึ ปน กเต อฺเน ชนิตสฺส อิฏฺสฺส วา อนิฏฺสฺส วา ผลสฺส วิพาธกวิจฺเฉทกปจฺจยานุปฺปตฺติยา อุปพฺรูหนปจฺจยุปฺปตฺติยา ชนกสามตฺถิยานุรูปํ ปริสุทฺธิจิรตรปฺปพนฺธา โหติ, ตํ อุปตฺถมฺภกํ. ชนเกน นิพฺพตฺติตํ กุสลผลํ วา อกุสลผลํ วา เยน ปจฺจนีกภูเตน โรคธาตุวิสมตาทินิมิตฺตตาย วิพาธยติ, ตํ อุปปีฬกํ. เยน ปน กมฺมุนา ชนกสามตฺถิยวเสน จิรตรปฺปพนฺธารหมฺปิ สมานํ ผลํ วิจฺเฉทกปจฺจยุปฺปตฺติยา อุปหฺติ วิจฺฉิชฺชติ, ตํ อุปฆาตกนฺติ อยเมตฺถ สาโร.

ตตฺถ เกจิ ทุติยสฺส กุสลภาวํ อิตฺถตฺตมาคตสฺส อปฺปาพาธทีฆายุกตาสํวตฺตนวเสน, ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ อกุสลภาวํ พหฺวาพาธอปฺปายุกตาสํวตฺตนวเสน วณฺเณนฺติ. ตถา จ วุตฺตํ มชฺฌิมนิกาเย จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๒๙๐) –

‘‘จตฺตาริ หิ กมฺมานิ – อุปปีฬกํ, อุปจฺเฉทกํ, ชนกํ, อุปตฺถมฺภกนฺติ. พลวกมฺเมน หิ นิพฺพตฺตํ ปวตฺเต อุปปีฬกํ อาคนฺตฺวา อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘สจาหํ ปมตรํ ชาเนยฺยํ, น เต อิธ นิพฺพตฺติตุํ ทเทยฺยํ, จตูสุเยว ตํ อปาเยสุ นิพฺพตฺตาเปยฺยํ. โหตุ, ตฺวํ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺต, อหํ อุปปีฬกกมฺมํ นาม ตํ ปีเฬตฺวา นิโรชํ นิยูสํ กสฏํ กริสฺสามี’ติ. ตโต ปฏฺาย ตํ ตาทิสํ กโรติ. กึ กโรติ? ปริสฺสยํ อุปเนติ, โภเค วินาเสติ.

‘‘ตตฺถ ทารกสฺส มาตุกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย มาตุ อสฺสาโท วา สุขํ วา น โหติ, มาตาปิตูนํ ปีฬาว อุปฺปชฺชติ. เอวํ ปริสฺสยํ อุปเนติ. ทารกสฺส ปน มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย เคเห โภคา อุทกํ ปตฺวา โลณํ วิย ราชาทีนํ วเสน นสฺสนฺติ, กุมฺภโทหนเธนุโย ขีรํ น เทนฺติ, สูรตา โคณา จณฺฑา โหนฺติ, กาณา โหนฺติ, ขฺชา โหนฺติ, โคมณฺฑเล โรโค ปตติ, ทาสาทโย วจนํ น กโรนฺติ, วาปิตํ สสฺสํ น ชายติ, เคหคตํ เคเห, อรฺคตํ อรฺเ นสฺสติ, อนุปุพฺเพน ฆาสจฺฉาทนมตฺตํ ทุลฺลภํ โหติ, คพฺภปริหาโร น โหติ, วิชาตกาเล มาตุ ถฺํ ฉิชฺชติ, ทารโก ปริหารํ อลภนฺโต ปีฬิโต นิโรโช นิยูโส กสโฏ โหติ. อิทํ อุปปีฬกกมฺมํ นาม.

‘‘ทีฆายุกกมฺเมน ปน นิพฺพตฺตสฺส อุปจฺเฉทกกมฺมํ อาคนฺตฺวา อายุํ ฉินฺทติ. ยถา หิ ปุริโส อฏฺุสภคมนํ กตฺวา สรํ ขิเปยฺย, ตมฺโ ธนุโต มุตฺตมตฺตํ มุคฺคเรน ปหริตฺวา ตตฺเถว ปาเตยฺย, เอวํ ทีฆายุกกมฺเมน นิพฺพตฺตสฺส อุปจฺเฉทกกมฺมํ อายุํ ฉินฺทติ. กึ กโรติ? โจรานํ อฏวึ ปเวเสติ, วาฬมจฺโฉทกํ โอตาเรติ, อฺตรํ วา ปน สปริสฺสยานํ อุปเนติ. อิทํ อุปจฺเฉทกกมฺมํ นาม. ‘อุปฆาตก’นฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ ปน กมฺมํ ชนกกมฺมํ นาม. อปฺปโภคกุลาทีสุ นิพฺพตฺตสฺส โภคสมฺปทาทิกรเณน อุปตฺถมฺภกกมฺมํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ นาม.

‘‘ปริตฺตกมฺเมนปิ นิพฺพตฺตํ เอตํ ปวตฺเต ปาณาติปาตาทิวิรติกมฺมํ อาคนฺตฺวา อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘สจาหํ ปมตรํ ชาเนยฺยํ, น เต อิธ นิพฺพตฺติตุํ ทเทยฺยํ, เทวโลเกเยว ตํ นิพฺพตฺตาเปยฺยํ, โหตุ, ตฺวํ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺต, อหํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ นาม อุปตฺถมฺภํ เต กริสฺสามี’ติ อุปตฺถมฺภํ กโรติ. กึ กโรติ? ปริสฺสยํ นาเสติ, โภเค อุปฺปาเทติ.

‘‘ตตฺถ ทารกสฺส มาตุกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย มาตาปิตูนํ สุขเมว สาตเมว โหติ. เยปิ ปกติยา มนุสฺสามนุสฺสปริสฺสยา โหนฺติ, เต สพฺเพ อปคจฺฉนฺติ. เอวํ ปริสฺสยํ นาเสติ. ทารกสฺส ปน มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย เคเห โภคานํ ปมาณํ น โหติ, นิธิกุมฺภิโย ปุรโตปิ ปจฺฉโตปิ เคหํ ปริวฏฺฏมานา ปวิสนฺติ. มาตาปิตโร ปเรหิ ปิตธนสฺสปิ สมฺมุขีภาวํ คจฺฉนฺติ, เธนุโย พหุขีรา โหนฺติ, โคณา สุขสีลา โหนฺติ, วปฺปฏฺาเน สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺติ, วฑฺฒิยา วา สมฺปยุตฺตํ, ตาวกาลิกํ วา ทินฺนํ ธนํ อโจทิตา สยเมว อาหริตฺวา เทนฺติ, ทาสาทโย สุพฺพจา โหนฺติ, กมฺมนฺตา น ปริหายนฺติ, ทารโก คพฺภโต ปฏฺาย ปริหารํ ลภติ, โกมาริกเวชฺชา สนฺนิหิตาว โหนฺติ. คหปติกุเล ชาโต เสฏฺิฏฺานํ, อมจฺจกุลาทีสุ ชาโต เสนาปติฏฺานาทีนิ ลภติ. เอวํ โภเค อุปฺปาเทติ. โส อปริสฺสโย สโภโค จิรํ ชีวติ. อิทํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ นาม. อิเมสุ จตูสุ ปุริมานิ ทฺเว อกุสลาเนว, ชนกํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ, อุปตฺถมฺภกํ กุสลเมวา’’ติ.

เอตฺถ วิพาธูปฆาตา นาม กุสลวิปากมฺหิ น ยุตฺตาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทฺเว อกุสลาเนวา’’ติ วุตฺตํ. เทวทตฺตาทีนํ ปน นาคาทีนํ อิโต อนุปฺปทินฺนยาปนกเปตานฺจ นรกาทีสุ อกุสลวิปากูปตฺถมฺภนูปปีฬนูปฆาตกานิ สนฺตีติ จตุนฺนมฺปิ กุสลากุสลภาโว น วิรุชฺฌติ. เอวฺจ กตฺวา ยา พหูสุ อานนฺตริเยสุ กเตสุ เอเกน คหิตปฺปฏิสนฺธิกสฺส อิตเรสํ ตสฺส อนุพลปฺปทายิตา วุตฺตา, สาปิ สมตฺถิตา โหติ.

สุตฺตนฺตปริยาเยน เอกาทส กมฺมานิ วิภชิตฺวา อิทานิ อภิธมฺมปริยาปนฺนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานี’’ติอาทินา วิภงฺคปาฬึ (วิภ. ๘๑๐) ทสฺเสติ. ตตฺถ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานีติ คติสมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ นิวาริตานิ ปฏิเสธิตานิ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ จ คติสมฺปตฺตีติ สมฺปนฺนคติ เทวโลโก จ มนุสฺสโลโก จ. คติวิปตฺตีติ วิปนฺนคติ จตฺตาโร อปายา. อุปธิสมฺปตฺตีติ อตฺตภาวสมิทฺธิ. อุปธิวิปตฺตีติ หีนอตฺตภาวตา. กาลสมฺปตฺตีติ สุราชสุมนุสฺสกาลสงฺขาโต สมฺปนฺนกาโล. กาลวิปตฺตีติ ทุราชทุมฺมนุสฺสกาลสงฺขาโต วิปนฺนกาโล. ปโยคสมฺปตฺตีติ สมฺมาปโยโค. ปโยควิปตฺตีติ มิจฺฉาปโยโค.

อิทานิ ยถาวุตฺตปาฬิยา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนิฏฺารมฺมณานุภวนารเห กมฺเม วิชฺชมาเนเยวาติ อิมินา อนิฏฺารมฺมณานุภวนนิมฺมิตฺตกสฺส ปาปกมฺมสฺส สพฺภาวํ ทสฺเสติ. ตํ กมฺมนฺติ ตํ ปาปกํ กมฺมํ. เอกจฺจสฺส หิ อนิฏฺารมฺมณานุภวนนิมิตฺตํ พหุปาปกมฺมํ วิชฺชมานมฺปิ คติวิปตฺติยํ ิตสฺเสว วิปจฺจติ. ยทิ ปน โส เอเกน กลฺยาณกมฺเมน คติสมฺปตฺติยํ เทเวสุ วา มนุสฺเสสุ วา นิพฺพตฺเตยฺย, ตาทิเส าเน อกุสลสฺส วาโร นตฺถิ, เอกนฺตํ กุสลสฺเสวาติ ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ. ปติพาหิตํ หุตฺวาติ พาธิตํ หุตฺวา. อตฺตภาวสมิทฺธิยนฺติ สรีรสมฺปตฺติยํ. กิลิฏฺกมฺมสฺสาติ หตฺถิเมณฺฑอสฺสพนฺธกโคปาลกาทิกมฺมสฺส. ปลายิตพฺพยุตฺตกาเลติ หตฺถิอาทิปจฺจตฺถิกสมาคมกาเล. ลฺชํ เทตีติ เอวํ เม พาธตํ ปเรสํ วเส น โหตีติ เทติ. โจริกยุตฺตกาเลติ ปกฺขพลาทีนํ ลพฺภมานกาเล. อนฺตรกปฺเปติ ปริโยสานปฺปตฺเต อนฺตรกปฺเป.

อภิธมฺมนเยน โสฬส กมฺมานิ วิภชิตฺวา ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔-๒๓๕) ทฺวาทส กมฺมานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปรานิปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตภเวสุ กตสฺส กมฺมสฺส อตีตภเวสุเยว วิปกฺกวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ กมฺมํ อตีเต อายูหิต’’นฺติอาทิ. วิปากวารนฺติ วิปจฺจนาวสรํ วิปากวารํ. ‘‘วิปากวารํ ลภตี’’ติ อิมินา วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘ปฏิสนฺธึ ชเนสี’’ติอาทินา วิภาเวติ. ตตฺถ ปฏิสนฺธึ ชเนสีติ อิมินา จ ปฏิสนฺธิทายกสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติวิปากทายิตาปิ วุตฺตา โหติ. ปวตฺติวิปากสฺเสว ปน ทายกํ รูปชนกสีเสน วทติ. ตสฺเสว อตีตสฺส กมฺมสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส จ ปจฺจยเวกลฺเลน อตีตภเวสุเยว อวิปกฺกวิปากฺจ, อตีเตเยว ปรินิพฺพุตสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียอุปปชฺชเวทนียอปรปริยายเวทนียสฺส กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากฺจ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติปิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน วิปากวารํ น ลภี’’ติอาทิ.

อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน อตีเต อายูหิต’’นฺติอาทิมาห. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปรินิพฺพายนฺตสฺส จ อวิปจฺจมานวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อลทฺธวิปากวาร’’นฺติอาทิ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส วิปาการหสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส อนาคตภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปน อตีเต อายูหิต’’นฺติอาทิมาห. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อวิปจฺจิตพฺพวิปากฺจ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ อนาคเต วิปากวารํ น ลภิสฺสตี’’ติอาทิ. เอวํ ตาว อตีตกมฺมํ อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน ฉธา ทสฺสิตํ.

อิทานิ ปจฺจุปฺปนฺนภเว กตสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส อิเธว วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปน เอตรหิ อายูหิต’’นฺติอาทิมาห. ยํ ปน เอตรหิ วิปากวารํ น ลภตีติอาทินา ตสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อิธ อวิปจฺจมานฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตสฺส อิธ อวิปจฺจมานฺจ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส อปรปริยายเวทนียสฺส จ อนาคตภเว วิปจฺจิตพฺพวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสตี’’ติอาทิ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อนาคตภเว อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อปรปริยายเวทนียสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสตี’’ติอาทิ.

เอวฺจ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน จตุธา ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาคตภเว กตสฺส กมฺมสฺส อนาคเต วิปจฺจิตพฺพวิปากํ คเหตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปนานาคเต อายูหิสฺสตี’’ติอาทิมาห. ตสฺเสว อนาคตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสตี’’ติอาทิ. เอวํ อนาคตกมฺมํ อนาคตวิปากาวิปากวเสน ทฺวิธา ทสฺสิตํ. เอวนฺติอาทินา ยถาวุตฺตทฺวาทสกมฺมานิ นิคเมติ.

อิทานิ สพฺเพสุ ยถาวุตฺตปฺปเภเทสุ กมฺเมสุ ยานิ อภิธมฺมนเยน วิภตฺตานิ โสฬส กมฺมานิ, ยานิ จ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน วิภตฺตานิ ทฺวาทส กมฺมานิ, ตานิ สพฺพานิ สุตฺตนฺติกปริยาเยน วิภตฺเตสุ เอกาทสวิเธสุเยว กมฺเมสุ อนฺโตคธานิ, ตานิ จ ทิฏฺธมฺมเวทนียอุปปชฺชเวทนียอปรปริยายเวทนีเยสุ ตีสุเยว อนฺโตคธานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิมานิ เจวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตโน านา โอสกฺกิตฺวาติ อตฺตโน ยถาวุตฺตทฺวาทสโสฬสปฺปเภทสงฺขาตฏฺานโต ปริหาเปตฺวา, ตํ ตํ ปเภทํ หิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอกาทส กมฺมานิเยว ภวนฺตีติ ตํสภาวานํเยว กมฺมานํ ทฺวาทสธา โสฬสธา จ วิภชิตฺวา วุตฺตตฺตา เอวมาห. ยสฺมา เอกาทสธา วุตฺตกมฺมานิ ทิฏฺธมฺมเวทนียานิ วา สิยุํ อุปปชฺชเวทนียานิ วา อปรปริยายเวทนียานิ วา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตีณิเยว กมฺมานิ โหนฺตี’’ติ.

เตสํ สงฺกมนํ นตฺถีติ เตสํ ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีนํ สงฺกมนํ นตฺถิ, สงฺกมนํ อุปปชฺชเวทนียาทิภาวาปตฺติ. เตนาห ‘‘ยถาาเนเยว ติฏฺนฺตี’’ติ, อตฺตโน ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิฏฺาเนเยว ติฏฺนฺตีติ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมเวทนียเมว หิ ปมชวนเจตนา, อุปปชฺชเวทนียเมว สตฺตมชวนเจตนา, มชฺเฌ ปฺจ อปรปริยายเวทนียเมวาติ นตฺถิ เตสํ อฺมฺํ สงฺคโห, ตสฺมา อตฺตโน อตฺตโน ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิสภาเวเยว ติฏฺนฺติ. เตเนว ภควตา – ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม, อุปปชฺช วา, อปเร วา ปริยาเย’’ติ ตโย วิกปฺปา ทสฺสิตา. เตเนวาห ‘‘ทิฏฺธมฺมเวทนียํ กมฺม’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม’’ติ สตฺถา น วเทยฺยาติ อสติ นิยาเม น วเทยฺย. ยสฺมา ปน เตสํ สงฺกมนํ นตฺถิ, นิยตสภาวา หิ ตานิ, ตสฺมา สตฺถา ‘‘ทิฏฺเ วา ธมฺเม’’ติอาทิมโวจ.

สุกฺกปกฺเขติ ‘‘อโลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติอาทินา อาคเต กุสลปกฺเข. นิรุทฺเธติ อริยมคฺคาธิคเมน อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺเธ. ตาลวตฺถุ วิย กตนฺติ ยถา ตาเล ฉินฺเน ิตฏฺาเน กิฺจิ น โหติ, เอวํ กมฺเม ปหีเน กิฺจิ น โหตีติ อตฺโถ. ตาลวตฺถูติ วา มตฺถกจฺฉินฺโน ตาโล วุตฺโต ปตฺตผลมกุลสูจิอาทีนํ อภาวโต. ตโต เอว โส อวิรุฬฺหิธมฺโม. เอวํ ปหีนกมฺโม สตฺตสนฺตาโน. เตนาห ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิยา’’ติ. อนุอภาวํ กตํ ปจฺฉโต ธมฺมปฺปวตฺติยา อภาวโต. เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. อปฺปวตฺติกตกาโล วิยาติ พีชานํ สพฺพโส อปฺปวตฺติยา กตกาโล วิย. ฉินฺนมูลกานนฺติ กิเลสมูลสฺส สพฺพโส ฉินฺนตฺตา ฉินฺนมูลกานํ. กิเลสา หิ ขนฺธานํ มูลานิ.

เวทนียนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺํ วตฺถุ นตฺถีติ อฺํ อธิฏฺานํ นตฺถิ. สุคติสฺิตาปิ เหฏฺิมนฺเตน สงฺขารทุกฺขโต อนปคตตฺตา ทุคฺคติโย เอวาติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย’’ติ, เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โลโภ เอตสฺส การณภูโต อตฺถีติ โลภํ, โลภนิมิตฺตํ กมฺมํ. ตถา โทสนฺติ เอตฺถาปิ. เตนาห ‘‘โลภโทสสีเสน โลภชฺจ โทสชฺจ กมฺมเมว นิทฺทิฏฺ’’นฺติ. วฏฺฏวิวฏฺฏนฺติ วฏฺฏฺจ วิวฏฺฏฺจ.

นิทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา

๓๕. ปฺจเม อาฬวิยนฺติ อาฬวิรฏฺเ, น อาฬวินคเร. เตนาห ‘‘อาฬวิยนฺติ อาฬวิรฏฺเ’’ติ. อถาติ อวิจฺเฉทตฺเถ นิปาโต. ตตฺถ ภควโต นิสชฺชาย อวิจฺฉินฺนาย เอวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. หตฺถโต หตฺถํ คตตฺตาติ อาฬวกสฺส ยกฺขสฺส หตฺถโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส หตฺถํ, ตโต ราชปุริสานํ หตฺถํ คตตฺตา.

มาฆสฺสาติ มาฆมาสสฺส. เอวํ ผคฺคุนสฺสาติ เอตฺถาปิ. ขุรนฺตเรหิ กทฺทโม อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺตีติ กทฺทโม ขุรนฺตเรหิ อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺติ. จตูหิ ทิสาหิ วายนฺโต วาโต เวรมฺโภติ วุจฺจติ เวรมฺภวาตสทิสตฺตา.

ปฺจทฺวารกายนฺติ ปฺจทฺวารานุสาเรน ปวตฺตํ วิฺาณกายํ. โขภยมานาติ กิเลสโขภวเสน โขภยมานา จิตฺตํ สงฺโขภํ กโรนฺตา. เจตสิกาติ มโนทฺวาริกจิตฺตสนฺนิสฺสิตา. เตนาห ‘‘มโนทฺวารํ โขภยมานา’’ติ. โส ราโคติ ตํสทิโส ราโค. ภวติ หิ ตํสทิเส ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติริกา, ตานิ เอว โอสธานี’’ติ. ยาทิโส หิ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปชฺชนกราโค, ตาทิโส เอว ตโต อฺสฺส ราคภาวสามฺโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ตถารูโป ราโค’’ติอาทิ. อิจฺฉิตาลาเภน รชนีเยสุ วา นิรุทฺเธสุ วตฺถูสุ โทมนสฺสุปฺปตฺติยา โทสปริฬาหานํ สมฺภโว เวทิตพฺโพ.

น ลิมฺปติ อนุปลิตฺตจิตฺตตฺตา. สีติภูโต นิพฺพุตสพฺพปริฬาหตฺตา. อาสตฺติโย วุจฺจนฺติ ตณฺหาโย ตตฺถ ตตฺถ อาสฺชนฏฺเน. ทรถนฺติ ปริฬาหชาตํ. เจตโสติ สามิวจนํ.

หตฺถกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เทวทูตสุตฺตวณฺณนา

๓๖. ฉฏฺเ เทวทูตานีติ ลิงฺควิปลฺลาสํ กตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เทวทูตา’’ติ, อุภยลิงฺคํ วา เอตํ ปทํ, ตสฺมา นปุํสกลิงฺควเสน ปาฬิยํ วุตฺตสฺส ปุลฺลิงฺควเสน อตฺถทสฺสนํ กตํ. เทโวติ มจฺจูติ อภิภวนฏฺเน สตฺตานํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนโต มจฺจุราชา ‘‘เทโว’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ เทโว ปกติสตฺเต อภิภวติ, เอวํ มจฺจุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ, ตสฺมา เทโว วิยาติ เทโว. ‘‘ตสฺส ทูตา’’ติ วตฺวา อิทานิสฺส ทูเต เตสํ ทูตภาวฺจ วิภาเวตุํ ‘‘ชิณฺณพฺยาธิมตา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน โจทนตฺเถน เทวสฺส ทูตา วิยาติ เทวทูตาติ ทสฺเสติ. ‘‘อหํ อสุกํ ปมทฺทิตุํ อาคมิสฺสามิ, ตุวํ ตสฺส เกเส คเหตฺวา มา วิสฺสชฺเชหี’’ติ มจฺจุเทวสฺส อาณากรา ทูตา วิยาติ หิ ทูตาติ วุจฺจนฺติ.

อิทานิ สทฺธาตพฺพฏฺเน เทวา วิย ทูตาติ เทวทูตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เทวา วิย ทูตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อลงฺกตปฺปฏิยตฺตายาติ อิทํ อตฺตโน ทิพฺพานุภาวํ อาวิกตฺวา ิตายาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เทวตาย พฺยากรณสทิสเมว โหติ น จิรสฺเสว ชราพฺยาธิมรณสฺส สมฺภวโต. วิสุทฺธิเทวานนฺติ ขีณาสวพฺรหฺมานํ. เต หิ จริมภเว โพธิสตฺตานํ ชิณฺณาทิเภทํ ทสฺเสนฺติ, ตสฺมา อนฺติมภวิกโพธิสตฺตานํ วิสุทฺธิเทเวหิ อุปฏฺาปิตภาวํ อุปาทาย ตทฺเสมฺปิ เตหิ อนุปฏฺาปิตานมฺปิ ตถา โวหริตพฺพตา ปริยายสิทฺธาติ เวทิตพฺพา. ทิสฺวาวาติ วิสุทฺธิเทเวหิ ทสฺสิเต ทิสฺวาว. ตโตเยว หิ เต วิสุทฺธิเทวานํ ทูตา วุตฺตา.

กสฺมา อารทฺธนฺติ เกวลํ เทวทูเต เอว สรูปโต อทสฺเสตฺวาติ อธิปฺปาโย. เทวานํ ทูตานํ ทสฺสนูปายตฺตา ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เทวทูตา…เป… สมนุยุฺชตี’’ติ อาห. ตตฺถ เทวทูตา…เป… ทสฺสนตฺถนฺติ เทวทูตานํ อนุยุฺชนฏฺานูปคสฺส กมฺมสฺส ทสฺสนตฺถํ.

เอกจฺเจ เถราติ อนฺธกาทิเก วิฺาณวาทิโน จ สนฺธาย วทติ. เนรยิเก นิรเย ปาเลนฺติ ตโต นิคฺคนฺตุํ อปฺปทานวเสน รกฺขนฺตีติ นิรยปาลา. อถ วา นิรยปาลตาย เนรยิกานํ นิรยทุกฺเขน ปริโยนทฺธาย อลํ สมตฺถาติ นิรยปาลา. ตนฺติ ‘‘นตฺถิ นิรยปาลา’’ติ วจนํ. ปฏิเสธิตเมวาติ ‘‘อตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลา อตฺถิ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖) ปฏิเสธิตเมว. ยทิ นิรยปาลา นาม น สิยุํ, กมฺมการณาปิ น ภเวยฺย. สติ หิ การณิเก กมฺมการณาย ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ. เอตฺถาห – ‘‘กึ ปเนเต นิรยปาลา เนรยิกา, อุทาหุ อเนรยิกา’’ติ. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว เนรยิกา นิรยสํวตฺตนิเยน กมฺเมน นิพฺพตฺตา, สยมฺปิ นิรยทุกฺขํ ปจฺจนุภเวยฺยุํ, ตถา สติ อฺเสํ เนรยิกานํ ฆาตนาย อสมตฺถา สิยุํ, ‘‘อิเม เนรยิกา อิเม นิรยปาลา’’ติ ววตฺถานฺจ น สิยา. เย จ เย ฆาเตนฺติ, เตหิ สมานรูปพลปฺปมาเณหิ อิตเรสํ ภยสนฺตาสา น สิยุํ. อถ อเนรยิกา, เนสํ ตตฺถ กถํ สมฺภโวติ? วุจฺจเต – อเนรยิกา นิรยปาลา อนิรยคติสํวตฺตนิยกมฺมนิพฺพตฺติโต. นิรยูปปตฺติสํวตฺตนิยกมฺมโต หิ อฺเเนว กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตนฺติ รกฺขสชาติกตฺตา. ตถา หิ วทนฺติ สพฺพตฺถิวาทิโน –

‘‘โกธา กุรูรกมฺมนฺตา, ปาปาภิรุจิโน ตถา;

ทุกฺขิเตสุ จ นนฺทนฺติ, ชายนฺติ ยมรกฺขสา’’ติ.

ตตฺถ ยเทเก วทนฺติ ‘‘ยาตนาทุกฺขํ ปฏิสํเวเทยฺยุํ, อถ วา อฺมฺํ ฆาเตยฺยุ’’นฺติอาทิ, ตยิทํ อสารํ นิรยปาลานํ เนรยิกภาวสฺเสว อภาวโต. ยทิปิ อเนรยิกา นิรยปาลา, อโยมยาย ปน อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย นิรยภูมิยา ปริกฺกมมานา กถํ ทาหทุกฺขํ นานุภวนฺตีติ? กมฺมานุภาวโต. ยถา หิ อิทฺธิมนฺโต เจโตวสิปฺปตฺตา มหาโมคฺคลฺลานาทโย เนรยิเก อนุกมฺปนฺตา อิทฺธิพเลน นิรยภูมึ อุปคตา ทาหทุกฺเขน น พาธียนฺติ, เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? อิทมฺปิ ตํสมานํ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. ตถารูเปน หิ กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตา ยถา นิรยทุกฺเขน อพาธิตา เอว หุตฺวา เนรยิเก ฆาเตนฺติ, น เจตฺตเกน พาหิรวิสยาภาโว ยุชฺชติ อิฏฺานิฏฺตาย ปจฺเจกํ ทฺวารปุริเสสุปิ วิภตฺตสภาวตฺตา. ตถา หิ เอกจฺจสฺส ทฺวารสฺส ปุริสสฺส จ อิฏฺํ เอกจฺจสฺส อนิฏฺํ, เอกจฺจสฺส จ อนิฏฺํ เอกจฺจสฺส อิฏฺํ โหติ. เอวฺจ กตฺวา ยเทเก วทนฺติ ‘‘นตฺถิ กมฺมวเสน เตชสา ปรูปตาปน’’นฺติอาทิ, ตทปาหตํ โหติ. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘อเนรยิกานํ เตสํ กถํ ตตฺถ สมฺภโว’’ติ นิรเย เนรยิกานํ ยาตนาสพฺภาวภาวโต. เนรยิกสตฺตยาตนาโยคฺคฺหิ อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตนฺตํ กมฺมํ ตาทิสนิกนฺติ วินามิตํ นิรยฏฺาเน เอว นิพฺพตฺเตติ. เต หิ เนรยิเกหิ อธิกตรพลาโรหปริณาหา อติวิย ภยานกทสฺสนา กุรูรตรปโยคา จ โหนฺติ. เอเตเนว ตตฺถ เนรยิกานํ วิพาธกกากสุนขาทีนมฺปิ นิพฺพตฺติยา อตฺถิภาโว สํวณฺณิโตติ ทฏฺพฺโพ.

กถมฺคติเกหิ อฺคติกพาธนนฺติ จ น วตฺตพฺพํ อฺตฺถาปิ ตถา ทสฺสนโต. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘อสตฺตสภาวา เอว นิรเย นิรยปาลา นิรเย สุนขาทโย จา’’ติ, ตมฺเปเตสํ มติมตฺตํ อฺตฺถ ตถา อทสฺสนโต. น หิ กาจิ อตฺถิ ตาทิสี ธมฺมปฺปวตฺติ, ยา อสตฺตสภาวา, สมฺปติสตฺเตหิ อปฺปโยชิตา จ อตฺถกิจฺจํ สาเธนฺตี ทิฏฺปุพฺพา. เปตานํ ปานียนิวารกานํ ทณฺฑาทิหตฺถานฺจ ปุริสานํ สพฺภาเว อสตฺตภาเว จ วิเสสการณํ นตฺถีติ ตาทิสานํ สพฺภาเว กึ ปาปกานํ วตฺตพฺพํ. สุปิโนปฆาโตปิ อตฺถกิจฺจสมตฺถตาย อปฺปมาณํ ทสฺสนาทิมตฺเตนปิ ตทตฺถสิทฺธิโต. ตถา หิ สุปิเน อาหารูปโภคาทินา น อตฺถสิทฺธิ, อิทฺธินิมฺมานรูปํ ปเนตฺถ ลทฺธปริหารํ อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. อิธาปิ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? ตํ น, อสิทฺธตฺตา. เนรยิกานํ กมฺมวิปาโก นิรยปาลาติ สิทฺธเมตฺตํ, วุตฺตนเยน ปาฬิโต จ เตสํ สตฺตภาโว เอว สิทฺโธ. สกฺกา หิ วตฺตุํ สตฺตสงฺขาตา นิรยปาลสฺิตา ธมฺมปฺปวตฺติ สาภิสนฺธิกปรูปฆาติ อตฺถกิจฺจสพฺภาวโต โอชาหาราทิ รกฺขสสนฺตติ วิย. อภิสนฺธิปุพฺพกตา เจตฺถ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ ตถา ตถา อภิสนฺธิยา ฆาตนโต. ตโต เอว น สงฺฆาตปพฺพเตหิ อเนกนฺติกตา. เย ปน วทนฺติ ‘‘ภูตวิเสสา เอว เต วณฺณสณฺานาทิวิเสสวนฺโต เภรวาการา นรกปาลาติ สมฺํ ลภนฺตี’’ติ, ตทสิทฺธํ อุชุกเมว ปาฬิยํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลา’’ติ วาทสฺส ปติฏฺาปิตตฺตา.

อปิจ ยถา อริยวินเย นรกปาลานํ ภูตมตฺตตา อสิทฺธา, ตถา ปฺตฺติมตฺตวาทิโนปิ ภูตมตฺตตา อสิทฺธา สพฺพโส รูปธมฺมานํ อตฺถิภาวสฺเสว อปฺปฏิชานนโต. น หิ ตสฺส ภูตานิ นาม ปรมตฺถโต สนฺติ. ยทิ ปรมตฺถํ คเหตฺวา โวหรติ, อถ กสฺมา จกฺขุรูปาทีนิ ปฏิกฺขิปตีติ? ติฏฺเตสา อนวฏฺิตตกฺกานํ อปฺปหีนวิปลฺลาสานํ วาทวีมํสา. เอวํ อตฺเถว นิรเย นิรยปาลาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. สติ จ เนสํ สพฺภาเว อสติปิ พาหิเร วิสเย นรเก วิย เทสาทินิยโม โหตีติ วาโท น สิชฺฌติ, สติ เอว ปน พาหิเร วิสเย เทสาทินิยโมติ ทฏฺพฺพํ.

เทวทูตสราปนวเสน สตฺเต ยถูปจิเต ปุฺกมฺเม ยเมติ นิยเมตีติ ยโม. ตสฺส ยมสฺส เวมานิกเปตานํ ราชภาวโต รฺโ. เตนาห ‘‘ยมราชา นาม เวมานิกเปตราชา’’ติ. กมฺมวิปากนฺติ อกุสลกมฺมวิปากํ. เวมานิกเปตา หิ กณฺหสุกฺกวเสน มิสฺสกํ กมฺมํ กตฺวา วินิปาติกเทวตา วิย สุกฺเกน กมฺมุนา ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. ตถา หิ มคฺคผลภาคิโนปิ โหนฺติ, ปวตฺติยํ ปน กมฺมานุรูปํ กทาจิ ปุฺผลํ, กทาจิ อปุฺผลํ ปจฺจนุภวนฺติ. เยสํ ปน อริยมคฺโค อุปฺปชฺชติ, เตสํ มคฺคาธิคมโต ปฏฺาย ปุฺผลเมว อุปฺปชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ. อปุฺผลํ ปุพฺเพ วิย กฏุกํ น โหติ, มนุสฺสตฺตภาเว ิตานํ วิย มุทุกเมว โหตีติ อปเร. ธมฺมิโก ราชาติ เอตฺถ ตสฺส ธมฺมิกภาโว ธมฺมเทวปุตฺตสฺส วิย อุปฺปตฺตินิยโต ธมฺมตาวเสน เวทิตพฺโพ. ทฺวาเรสูติ อวีจิมหานรกสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ. ขีณาสวา พฺราหฺมณา นาม อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน.

อนุโยควตฺตนฺติ อนุโยเค กเต วตฺติตพฺพวตฺตํ. อาโรเปนฺโตติ การาเปนฺโต, อตฺตโน ปุจฺฉํ อุทฺทิสฺส ปฏิวจนํ ทาเปนฺโต ปุจฺฉติ. ปรสฺส หิ อธิปฺปายํ าตุํ อิจฺฉนฺโต ตทุปคํ ปโยคํ กโรนฺโต ปุจฺฉติ นาม. ลทฺธินฺติ คาหํ. ปติฏฺาเปนฺโตติ ตตฺถ นิจฺจกาลํ การาเปนฺโต. การณํ ปุจฺฉนฺโตติ ยุตฺตึ ปุจฺฉนฺโต. สมนุภาสตีติ ยถานุยุตฺตมตฺถํ วิภูตํ กตฺวา กเถติ.

ชิณฺณนฺติ ชราปตฺติยา ชิณฺณํ. เอกจฺโจ ทหรกาลโต ปฏฺาย ปณฺฑุโรคาทินา อภิภูตกายตาย ชิณฺณสทิโส โหติ, อยํ น ตถา ชราปตฺติยา ชิณฺโณติ ทสฺเสติ. โคปานสี วิย วงฺกนฺติ วงฺกโคปานสี วิย วงฺกํ. น หิ วงฺกภาวสฺส นิทสฺสนตฺถํ อวงฺกโคปานสี คยฺหติ. ภคฺคนฺติ ภคฺคสรีรํ กฏิยํ ภคฺคกายตฺตา. เตนาห ‘‘อิมินาปิสฺส วงฺกภาวเมว ทีเปตี’’ติ. ทณฺฑปฏิสรณนฺติ านคมเนสุ ทณฺโฑ ปฏิสรณํ เอตสฺสาติ ทณฺฑปฏิสรณํ เตน วินา วตฺติตุํ อสมตฺถตฺตา. เตนาห ‘‘ทณฺฑทุติย’’นฺติ. ชราตุรนฺติ ชราย ปตฺถตสํกิลนฺตกายํ. สพฺพโส กิมิหตํ วิย มหาขลฺลาฏํ สีสมสฺสาติ มหาขลฺลาฏสีสํ. สฺชาตวลินฺติ สมนฺตโต ชาตวลิกํ. ชราธมฺโมติ ชราปกติโก. เตนาห ‘‘ชราสภาโว’’ติ. สภาโว จ นาม เตโชธาตุยา อุณฺหตา วิย น กทาจิ วิคจฺฉตีติ อาห ‘‘อปริมุตฺโต ชรายา’’ติอาทิ.

อตฺถโต เอวํ วทติ นาม, วาจาย อวทนฺโตปิ อตฺถาปตฺติโต เอวํ วทนฺโต วิย โหติ วิฺูนนฺติ อตฺโถ. ตรุโณ อโหสึ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. อูรูนํ พลํ เอตสฺส อตฺถีติ อูรุพลี. เตน ทูเรปิ คมนาคมนลงฺฆนาทิสมตฺถตํ ทสฺเสติ, พาหุพลีติ ปน อิมินา หตฺเถหิ กาตพฺพกิจฺจสมตฺถตํ, ชวคฺคหเณน เวคสา ปวตฺติสมตฺถตํ. อนฺตรหิตาติ นฏฺา. เอตฺถ จ น โข ปนาหนฺติอาทิ ชราย เทวทูตภาวทสฺสนํ. เตนาห ‘‘เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต’’ติ. อาพาธสฺส อตฺถิตาย อาพาธิกํ. วิวิธํ ทุกฺขํ อาทหตีติ พฺยาธิ, วิเสเสน วา อาธิยติ เอเตนาติ พฺยาธิ, พฺยาธิ สํชาโต เอตสฺสาติ พฺยาธิตํ. เอส นโย ทุกฺขิตนฺติ เอตฺถาปิ.

ทุติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. พฺยาธินา อภิหโตติ พฺยาธินา พาธิโต, อุปทฺทุโตติ อตฺโถ.

วิปริภินฺนวณฺโณติ วิปริภินฺนนีลวณฺโณ. ตฺหิ ยตฺถ ยตฺถ คหิตปุพฺพกํ, ตตฺถ ตตฺถ ปณฺฑุวณฺณํ, มํสุสฺสทฏฺาเน รตฺตวณฺณํ, เยภุยฺเยน จ นีลสาฏกปารุตํ วิย โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิปริภินฺนนีลวณฺโณ’’ติ.

‘‘โก ลภติ, โก น ลภตี’’ติ นิรยุปคสฺเสว วเสนายํ วิจารณาติ ‘‘เยน ตาว พหุ ปาปํ กต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. พหุ ปาปํ กตนฺติ พหุโส ปาปํ กตํ. เตน ปาปสฺส พหุลีกรณมาห. พหูติ วา มหนฺตํ. มหตฺโถปิ หิ พหุสทฺโท ทิสฺสติ ‘‘พหุ วต กตํ อสฺสา’’ติอาทีสุ, ครุกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โส ครุกํ พหุลํ วา ปาปํ กตฺวา ิโต นิรเย นิพฺพตฺตติเยว, น ยมปุริเสหิ ยมสฺส สนฺติกํ นียตีติ. ปริตฺตนฺติ ปมาณปริตฺตตาย กาลปริตฺตตาย จ ปริตฺตํ. ปุริมสฺมึ อตฺเถ อครูติ อตฺโถ, ทุติยสฺมึ อพหุลนฺติ. ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กตฺตพฺพเมว กโรนฺตีติ ทณฺฑเมว กโรนฺติ. อนุวิชฺชิตฺวาติ วีมํสิตฺวา. วินิจฺฉยฏฺานนฺติ อฏฺฏกรณฏฺานํ. ปริตฺตปาปกมฺมาติ ทุพฺพลปาปกมฺมา. อตฺตโน ธมฺมตายาติ ปเรหิ อสาริยมาเนปิ อตฺตโน ธมฺมตาย สรนฺติ. เต หิ ปาปกมฺมสฺส ทุพฺพลภาวโต กตูปจิตสฺส จ โอกาสารหกุสลกมฺมสฺส พลวภาวโต อตฺตโน ธมฺมตายปิ สรนฺติ. สาริยมานาปีติ ‘‘อิทํ นาม ตยา กตํ ปุฺกมฺม’’นฺติ ปเรหิ สาริยมานาปิ.

อากาสเจติยนฺติ คิริสิขเร อพฺโภกาเส วิวฏงฺคเณ กตเจติยํ. รตฺตปเฏนาติ รตฺตวณฺเณน ปเฏน ปูเชสิ ปฏากํ กตฺวา. อคฺคิชาลสทฺทนฺติ ปฏปฏายนฺตํ นรเก อคฺคิชาลสทฺทํ สุตฺวาว. อตฺตนา ปูชิตปฏํ อนุสฺสรีติ ตทา ปฏากาย วาตปฺปหารสทฺเท นิมิตฺตสฺส คหิตตฺตา ‘‘มยา ตทา อากาสเจติเย ปูชิตรตฺตปฏสทฺโท วิยา’’ติ อตฺตนา ปูชิตปฏํ อนุสฺสริ.

สุมนปุปฺผกุมฺเภนาติ กุมฺภปริมาเณน สุมนปุปฺผราสินา. ‘‘ทสาธิกํ นาฬิสหสฺสกุมฺภ’’นฺติ เกจิ, ‘‘ปฺจอมฺพณ’’นฺติ อปเร. ตีหิปิ น สรติ พลวโต ปาปกมฺเมน พฺยาโมหิโต. ตุณฺหี อโหสีติ ‘‘กมฺมารโห อย’’นฺติ ตตฺถ ปฏิการํ อปสฺสนฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

เอกปกฺขจฺฉทนมตฺตาหีติ มชฺฌิมปฺปมาณสฺส เคหสฺส เอกจฺฉทนปฺปมาเณหิ. สุตฺตาหตํ กริตฺวาติ กาฬสุตฺตํ ปาเตตฺวา. ยถา รโถ สพฺพโส ปชฺชลิโต โหติ อโยมโย, เอวํ ยุคาทโยปิสฺส ปชฺชลิตา สโชติภูตา เอว โหนฺตีติ อาห ‘‘สทฺธึ…เป… รเถ โยเชตฺวา’’ติ. มหากูฏาคารปฺปมาณนฺติ สตฺตภูมกมหากูฏาคารปฺปมาณํ.

วิภตฺโตติ สตฺตานํ สาธารเณน ปาปกมฺมุนา วิภตฺโต. หีนํ กายนฺติ หีนํ สตฺตนิกายํ, หีนํ วา อตฺตภาวํ. อุปาทาเนติ จตุพฺพิเธ อุปาทาเน. อตฺถโต ปน ตณฺหาทิฏฺิคฺคาโหติ อาห ‘‘ตณฺหาทิฏฺิคฺคหเณ’’ติ. สมฺภวติ ชรามรณํ เอเตนาติ สมฺภโว, อุปาทานนฺติ อาห ‘‘ชาติยา จ มรณสฺส ฉ การณภูเต’’ติ. อนุปาทาติ อนุปาทาย. เตนาห ‘‘อนุปาทิยิตฺวา’’ติ. สกลวฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตาติ จริมจิตฺตนิโรเธน วฏฺฏทุกฺขสฺส กิเลสานมฺปิ อสมฺภวโต สพฺพํ วฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตา.

เทวทูตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จตุมหาราชสุตฺตวณฺณนา

๓๗. สตฺตเม อมา สห วตฺตนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ กิจฺเจติ อมจฺจา, สหิตา. ปริสติ ภวาติ ปาริสชฺชา, ปริวารฏฺานิยา ปริสาปริยาปนฺนา. เตนาห ‘‘ปริจาริกเทวตา’’ติ. ตาตาติ อาลปนํ. เอวนฺติ ‘‘กจฺจิ พหู มนุสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรน. อฏฺ วาเรติ เอกสฺมึ อฑฺฒมาเส จตุกฺขตฺตุํ ตถา อิตรสฺมินฺติ เอวํ อฏฺ วาเร. อธิฏฺหนฺตีติ อธิติฏฺนฺติ. ปฏิชาคโรนฺตีติ ปฏิ ปฏิ ชาคโรนฺติ. ปุฺํ กโรนฺตา หิ สตฺตา ชาคโรนฺติ นาม กาตพฺพกิจฺจปฺปสุตตฺตา, อิตเร ปน สุปนฺติ นาม สหิตปรหิตวิมุตฺตตฺตา. จาตุทฺทสิอุโปสถสฺส อนุคมนํ วิย ปนฺนรสิอุโปสถสฺส ปจฺจุคฺคมนํ น ลพฺภติ ทิวสาภาวโต.

ตโตติ ตโต ตโต. ตํ อุปนิสฺสายาติ ตา ตา คามนิคมราชธานิโย อุปนิสฺสาย. อธิวตฺถาติ อารามวนรุกฺขาทีสุ อธิวตฺถา เทวตา. เตติ เต เทวา. สนฺธาย กเถตีติ ภควา กเถติ. วุตฺตนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

นิจฺจํ นิพทฺธํ อุโปสโถ สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร ปฏิ ปฏิ หริตพฺพโต ปวตฺเตตพฺพโต ปาฏิหาริยปกฺโข นาม. คุณงฺเคหีติ อุโปสถงฺเคหิ.

วุตฺถวาโสติ วุสิตพฺรหฺมจริยวาโส. กตฺตพฺพกิจฺจนฺติ ทุกฺขาทีสุ ปริฺาตาทิกิจฺจํ. โอตาเรตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. ปริกฺขีณภวสํโยชโนติ สพฺพโส ขีณภวพนฺธโน. การเณน ชานิตฺวาติ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ชานิตฺวา.

ชานนฺโตติ ‘‘อรหนฺตานํ อนุกรณปฺปฏิปตฺติ เอสา, ยทิทํ สมฺมเทว อุโปสถานุฏฺาน’’นฺติ เอวํ อุโปสถกมฺมสฺส คุณํ ชานนฺโต. เอวรูเปนาติ ยาทิโส ภควโต อุโปสถภาโว วิหิโต, เอวรูเปน อรหนฺตานุกรเณน อุโปสถกมฺเมน. สกฺกา ปหิตตฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ขีณาสวสมฺปตฺตึ ปาปุณิตุํ. อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว สตฺตเม วุตฺตนยตฺตา.

จตุมหาราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สุขุมาลสุตฺตวณฺณนา

๓๙. นวเม นิทฺทุกฺโขติ กายิกเจตสิกทุกฺขวิรหิโต. สทุกฺเข หิ สวิฆาเต สุขุมาลตฺตา อนวสรา, ตสฺมา สุขิโต นิทฺทุกฺขตาย สุขุมาโล นาม. ยาวสฺส สุขุมาลตฺตา ปรมุกฺกํสคตาติ อาห ‘‘ปรมสุขุมาโล’’ติ. อติวิย สุขุมาโลติ อตฺโถ. อนฺตมตีตํ อจฺจนฺตํ. สพฺพทา สุขุมาโลติ อาห ‘‘สตตนิทฺทุกฺโข’’ติ. จริยกาเลติ โพธิจริยาย จรณกาเล. เตนาติ โพธิสตฺเตน. อฺตฺถ ปน ปทุมนฺติ รตฺตํ กมลํ. ปุณฺฑรีกนฺติ เสตํ วุจฺจติ. อิตราติ อิตรโปกฺขรณิโย. ‘‘โพธิสตฺตสฺส กิรา’’ติอาทิกํ โปกฺขรณีนํ อุปฺปตฺติทสฺสนํ. กุทฺทาลกมฺมกาเรติ ขณเก. โปกฺขรณิฏฺานานีติ โปกฺขรณิขณนโยคฺคฏฺานานิ. คณฺหาเปสีติ ขณาเปสิ. โปกฺขรณิสทฺโท เจตฺถ ตาทิเส ชลาสเย นิรุฬฺโห ทฏฺพฺโพ ปงฺกชาทิสทฺทา วิย. โสปานพาหุกานํ มตฺถกฏฺานํ อุณฺหีสนฺติ อธิปฺเปตํ. อุทกเสจนนาฬิกาติ อุทกจฺฉฏาวิสฺสชฺชนนาฬิยนฺตานิ. ปฺจวิธาติ วณฺณวเสน ชาติวเสน จ.

โข ปนสฺสาติ นิปาตมตฺตํ. กาสิก-สทฺโท อติวิย สณฺเห สุขุเม มหคฺฆวตฺเถ นิรุฬฺโห, อฺสฺมิมฺปิ ตถาชาติเก รุฬฺหิวเสน ปวตฺตตีติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘อกาสิกํ จนฺทน’’นฺติ. เหมนฺเต วาโส เหมนฺตํ, เหมนฺตํ อรหตีติ เหมนฺติโก, ปาสาโท. ‘‘อิตเรสุปิ เอเสว นโย’’ติ วตฺวา ตเทว เนสํ อรหตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ เหมนฺติโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. สชาลานีติ สชาลวาตปานานิ, อุทกยนฺตานีติ อุทกธาราวิสฺสนฺทนกยนฺตานิ. ปาสาทมตฺถเกติ ปาสาทสฺส อุปริอากาสตเล. พนฺธิตฺวาติ ปโยชิตยนฺเต สุกฺขมหึสจมฺมํ พนฺธิตฺวา. ยนฺตํ ปริวตฺเตตฺวาติ ยถาปโยชิตํ ยนฺตํ ปาสาณาโรปนตฺถฺเจว ปุน เตสํ วิสฺสชฺชนตฺถฺจ ปริวตฺเตตฺวา. ตสฺมึ วิสฺสชฺเชนฺตีติ ฉทนปิฏฺเ พทฺธสุกฺขมหึสจมฺเม วิสฺสชฺเชนฺติ.

สหสฺสถามนฺติ ปุริสสหสฺสพลํ, ปุริสสหสฺเสน วหิตพฺพภารวหํ. ปลฺลงฺเก นิสินฺโนวาติ รตนมยปลฺลงฺเก ยถานิสินฺโน เอว. อุปฺปตนาการปตฺตนฺติ อุปฺปติตฺวา ิตํ วิย. ชิยํ โปเถนฺตสฺสาติ ชิยาฆาตํ กโรนฺตสฺส. ชิยปฺปหารสทฺโทติ ชิยาฆาตสทฺโท. ยนฺเต พทฺธนฺติ ยนฺตพทฺธํ กตฺวา ปิตํ. สทฺทนฺตเรติ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สทฺทสวนฏฺาเน. คาวุตสฺส จตุตฺโถ ภาโค โกโสติปิ วุจฺจติ ทฺวิสหสฺสทณฺฑปฺปมาณฏฺานํ.

สพฺพฏฺานานีติ มหาปุริสสฺส ตานิ ตานิ สพฺพานิ วสนฏฺานานิ. สิขาพทฺโธติ ปุริสสภาวสฺเสว วิเสสโต ทสฺสนเมตํ. น อุปฺปิลาวิตภาวตฺถนฺติ อุปฺปิลาวิตภาวสงฺขาตํ อตฺถํ น กเถสีติ อตฺโถ. ตสฺส หิ โพธิมูเลเยว เสตุฆาโต. เตเนวาติ อปฺปมาทลกฺขณสฺส ทีปนโต เอว. อตฺตานํ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺตโน ชราปตฺตึ อจินฺเตตฺวา อฏฺฏียติ. น ปเนส มคฺเคน ปหีโน ตทา มคฺคสฺส อนธิคตตฺตา. สิกฺขํ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ ยถาสมาทินฺนสิกฺขํ ปหาย.

อวิปรีตพฺยาธิอาทิสภาวาวาติ เอกนฺเตน พฺยาธิอาทิสภาวา เอว. เอวํ ชิคุจฺฉาวิหาเรนาติ เอวํ สกลสฺเสว วฏฺฏทุกฺขสฺส ชิคุจฺฉนวิหาเรน วิหรนฺตสฺส. เอวํ ชิคุจฺฉนนฺติ เอวํ ปรสฺส ชิคุจฺฉนํ. ปรํ อชิคุจฺฉมาโนติ กรุณายเนน เอวํ ปรํ อชิคุจฺฉนฺโต. อภิโภสฺมีติ อภิภวิตา อสฺมิ. อุสฺสาโห อหูติ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยเมว จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยฺจ อโหสิ, เยน มคฺคพฺรหฺมจริยปรายโณ ชาโต.

สุขุมาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา

๔๐. ทสเม อภิภวิตฺวา ปวตฺตนฏฺเน อธิปติ ยํ กิฺจิ เชฏฺกํ น การกํ อตฺตานํ อธิปตีติ กตฺวา อตฺตา เอว อธิปติ, ตโต อาคตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. เตนาห ‘‘อตฺตาน’’นฺติอาทิ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ. โส จ โข อิทฺธิวิธาทิคุณวิเสสยุตฺโต อธิปฺเปโต อธิปติภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมนฺติ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน วุตฺตํ. อิติ ภโวติ เอวํ สมฺปตฺติภโว, ตตฺถ เอวํ อภิวุทฺธีติ. สมฺปตฺติภวสฺส เหตูติ ตํตํสมฺปตฺติภวสฺส ตตฺถ จ อภิวุทฺธิยา เหตุ. ชาตินิมิตฺตสฺส กมฺมภวสฺส กตูปจิตตฺตา ชาติ อนฺโตปวิฏฺา. ชราทีสุปิ เอเสว นโย เหตุสิทฺธิยา ผลสิทฺธิโต.

อสลฺลีนนฺติ น สงฺโกจปฺปตฺตํ. อุปฏฺิตาติ กายาทิสภาวสลฺลกฺขณวเสน อุปฏฺิตา. อสมฺมุฏฺา สมฺโมสาภาวโต. อสารทฺโธติ สารมฺภสฺส สารมฺภเหตูนฺจ วิกฺขมฺภเนน อสารทฺโธ. เอกคฺคํ อเนกคฺคภาวสฺส ทูรสมุสฺสาปิตตฺตา. นิมฺมลํ กตฺวาติ ราคาทิมลานํ อปนยเนน มลรหิตํ กตฺวา. โคปายตีติ สํกิเลสานตฺถโต รกฺขติ. อยนฺติ เอวํปฏิปนฺโน ภิกฺขุ. สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ อสุทฺธภาวสฺส กิเลสสฺสปิ อภาวโต.

อติกฺกมิตฺวา มฺสีติ อสกฺขึ กตฺวา มฺสิ. ตาย ตณฺหาย นิพฺพตฺโตติ ตมฺมโย, ตณฺหาวสิโก. ตสฺส ภาโว ตมฺมยตา, ตสฺสา ตมฺมยตาย อภาเวน. น หายติ ปฺาทิคุณเวปุลฺลปฺปตฺติยา.

อาธิปเตยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

เทวทูตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จูฬวคฺโค

๑. สมฺมุขีภาวสุตฺตวณฺณนา

๔๑. ปฺจมสฺส ปเม สมฺมุโข ภวติ เยน โส สมฺมุขีภาโว, ปุรโต วิชฺชมานตา, ตสฺมา สมฺมุขีภาวา. ปุฺกมฺมนฺติ ทานสงฺขาตํ ปุฺกมฺมํ. ทฺเว ธมฺมา สุลภา พาหิรตฺตา ยถาสกํ ปจฺจยสมวาเยน ลพฺภนโต. สทฺธา ปน ทุลฺลภา ปจุรชนสฺส อนวฏฺิตกิจฺจตฺตา. เตเนวาห ‘‘ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิ.

สมฺมุขีภาวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ติานสุตฺตวณฺณนา

๔๒. ทุติเย มจฺฉริยเมว มลํ มจฺฉริยมลํ, จิตฺตสฺส มลีนสภาวาปาทนโต วิคตํ มจฺฉริยมลํ เอตฺถาติ วิคตมจฺฉริยมลํ. เคธาภาเวน โกจิ กิฺจิ เทนฺโตปิ ตตฺถ อาสตฺตึ น วิสฺสชฺเชติ, อยํ ปน น ตาทิโสติ อาห ‘‘วิสฺสฏฺจาโค’’ติ. มลีนหตฺโถว จิตฺตวิสุทฺธิยา อภาวโต. โธตหตฺโถว โธตหตฺเถน กาตพฺพกิจฺจสาธนโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘จิตฺเต สุทฺเธ วิสุชฺฌนฺติ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา’’ติ. ยาจิตุํ ยุตฺโต ยาจกานํ มโนรถปูรณโต. ยาจโยโค ปโยคาสเหหิ ยาจเกหิ สุฏฺุ ยุตฺตภาวโต. ตํสมงฺคี เอว ตตฺถ รโต นาม, น จิตฺตมตฺเตเนวาติ อาห ‘‘ทานํ…เป… รโต นาม โหตี’’ติ.

‘‘อุจฺจา, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อยํ มํ อุจฺจโต วทตีติ จินฺเตยฺยาติ ปุน ‘‘นาติอุจฺจา ตุมฺเห’’ติ อาห, สรีเรนาติ อธิปฺปาโย. เมจกวณฺณสฺสาติ นีโลภาสสฺส. ปุจฺฉีติ ภิกฺขู ปุจฺฉิ. ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺโต อจฺฉีติ ปมํ มฺเจ นิปชฺชิตฺวา อุฏฺาย ภูมิยํ เลขํ ลิขนฺโต อจฺฉิ ‘‘อขีณาสโวติ มฺนา โหตู’’ติ. ตถา หิ ราชา ขีณาสวสฺส นาม…เป… นิวตฺติ. ธชปคฺคหิตาวาติ ปคฺคหิตธชาว. สิลาเจติยฏฺานนฺติ ถูปารามสฺส จ มหาเจติยสฺส จ อนฺตเร สิลาย กตเจติยฏฺานํ. เจติยํ…เป… อฏฺาสิ สาวกสฺส ตํ กูฏาคารนฺติ กตฺวา.

ปจฺฉาภาเคนาติ ธมฺมกถิกสฺส เถรสฺส ปิฏฺิปสฺเสน. โคนโสติ มณฺฑลสปฺโป. ธมฺมสฺสวนนฺตราย พหูนํ สคฺคมคฺคปฺปฏิลาภนฺตราโย ภเวยฺยาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ธมฺมสฺสวนนฺตรายํ น กริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. วิสํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ วิปสฺสนาเตเชน วิสเวคํ วิกฺขมฺเภตฺวา. คาถาสหสฺสนฺติ คาถาสหสฺสวนฺตํ. ปฏฺานคาถายาติ ปฏฺาปนคาถาย, อาทิคาถายาติ อตฺโถ. ปฏฺาน…เป… อวสานคาถํ เอว ววตฺถเปสิ, น ทฺวินฺนํ อนฺตเร วุตฺตํ กิลนฺตกายตฺตา. สรภาณํ สายนฺหธมฺมกถา. ปคฺคณฺหาตีติ ปจฺจกฺขํ กโรนฺตี คณฺหาติ, สกฺกจฺจํ สุณาตีติ อตฺโถ. ธมฺมกถนทิวเส ธมฺมกถิกานํ อกิลมนตฺถํ สทฺธา อุปาสกา สินิทฺธโภชนํ มธุปานกฺจ เทนฺติ สรสฺส มธุรภาวาย สปฺปิมธุกเตลาทิฺจ เภสชฺชํ. เตนาห ‘‘อริยวํสํ กเถสฺสามี’’ติอาทิ. จตูหิ ทาาหิ ฑํสิตฺวาติ ทฬฺหทฏฺภาวทสฺสนํ. จริสฺสามีติ สมฺมาเนสฺสามิ, สกฺกจฺจํ สุณิสฺสามีติ อตฺโถ. นิมฺมเถตฺวาติ นิมฺมทฺทิตฺวา, อปเนตฺวาติ อตฺโถ.

ติานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อตฺถวสสุตฺตวณฺณนา

๔๓. ตติเย อตฺโถ นาม ผลํ, ตํ เอตสฺส วโสติ อตฺถวโส. เหตุ, อตฺโถ เอตสฺส อตฺถีติ อตฺโถ, โส เอวาติ อาห ‘‘ตโย อตฺเถ ตีณิ การณานี’’ติ. ธมฺมเทสนา นาม อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปกาสนาติ อาห ‘‘จตุสจฺจธมฺมํ ปกาเสตี’’ติ. อฏฺกถํ าเณน ปฏิสํเวทีติ ปาฬิปทานํ อตฺถํ วิวรณาเณน ปฏิ ปฏิ สํเวทนสีโล ‘‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’’ติ. เอเตน อตฺถปฏิสมฺภิทาพฺยาปารมาห. ปาฬิธมฺมํ ปฏิสํเวทีติ ปาฬิคตึ ปาฬึ ปทวิวรณํ ปฏิ ปฏิ สํเวทนสีโล. เอเตน ธมฺมปฏิสมฺภิทาพฺยาปารมาห.

อตฺถวสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. กถาปวตฺติสุตฺตวณฺณนา

๔๔. จตุตฺเถ ปวตฺตินีติ ยาว อธิปฺเปตตฺถนิคมนา อวิจฺเฉเทน ปวตฺตินี. ปฏิฆาตาภาเวน อปฺปฏิหตา. นิยฺยานิกา สปฺปาฏิหีรกา.

กถาปวตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา

๔๕. ปฺจเม ปณฺฑิตปฺตฺตานีติ ปณฺฑิเตหิ ปมํ ปฺตฺตานิ. กถิตานีติ เสยฺยโส กถิตานิ. มหาปุริเสหีติ พุทฺธโพธิสตฺเตหิ. กรุณาติ กรุณาเจโตวิมุตฺติ วุตฺตา. ปุพฺพภาโคติ ตสฺส อุปจาโร. ทโมติ อินฺทฺริยสํวโร ‘‘มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ ทมน’’นฺติ กตฺวา. อตฺตทมนนฺติ จิตฺตทมนํ. ปุณฺโณวาเท (ม. นิ. ๓.๓๙๖) ‘‘สกฺขิสฺสสิ โข, ตฺวํ ปุณฺณ, อิมินา ทมูปสเมนา’’ติ อาคตตฺตา ทโมติ วุตฺตา ขนฺติปิ. อาฬวเก อาฬวกสุตฺเต (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๐) ‘‘สจฺจา ทมา จาคา’’ติ เอวํ วุตฺตา ปฺาปิ อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘ทโม’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. รกฺขนํ โคปนํ ปฏิชคฺคนนฺติ มาตาปิตูนํ มนุสฺสามนุสฺสกตูปทฺทวโต รกฺขนํ, พฺยาธิอาทิอนตฺถโต โคปนํ, ฆาสจฺฉาทนาทีหิ เวยฺยาวจฺจกรเณน ปฏิชคฺคนํ. สนฺโต นาม สพฺพกิเลสทรถปริฬาหูปสเมน อุปสนฺตกายวจีสมาจารตาย จ. อุตฺตมฏฺเน สนฺตานนฺติ มตฺเตยฺยตาทีหิ เสฏฺฏฺเน สนฺตานํ.

อิธ อิเมสํเยว ติณฺณํ านานํ กรเณนาติ อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตานํ ติณฺณํ านานํ กรเณน นิพฺพตฺตเนน. เอตานิ…เป… การณานีติ มาตุปฏฺานํ ปิตุปฏฺานนฺติ เอตานิ ทฺเว อุตฺตมปุริสานํ การณานิ. อุตฺตมกิจฺจกรเณน หิ มาตาปิตุอุปฏฺากา ‘‘อุตฺตมปุริสา’’ติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘มาตาปิตุ…เป… วุตฺโต’’ติ. อนุปทฺทวภาเวน เขมํ.

ปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๖. ฉฏฺเ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกนฺติ เอตฺถ ‘‘มนุสฺสา ปุฺํ ปสวนฺตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ภาวนามยสฺสปิ ปุฺสฺส สงฺคณฺหนโต โลกุตฺตรสฺสปิ สมฺภโว ทฏฺพฺโพ.

สีลวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

๔๗. สตฺตเม สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตํ สงฺขตํ. นิมิตฺตานีติ สฺชานนสฺส นิมิตฺตานิ. เหตุปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนํ อุปฺปาโท, อตฺตลาโภ. วโยติ ภงฺโค. ิตสฺสาติ อุปฺปาทกฺขณโต อุทฺธํ ิติกฺขณปตฺตสฺส. สา ปนสฺส อวตฺถา อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนาติ กตฺวา อฺถตฺตํ ชราติ จ วุตฺตา. ยสฺมา ธมฺโม อุปฺปชฺชมาโน เอว ภิชฺชติ, ตถา สติ อุปฺปาทภงฺคา สมานกฺขณา สิยุํ, น จ ตํ ยุชฺชติ, ตสฺมา อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาภิมุขาวตฺถา ชราติ เวทิตพฺพา. เย ปน ‘‘สงฺขารานํ ิติ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตํ มิจฺฉา. ยถา หิ ตสฺเสว ธมฺมสฺส อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาวตฺถา อิจฺฉิตา, อฺถา ‘‘อฺํ อุปฺปชฺชติ, อฺํ นิรุชฺฌตี’’ติ อาปชฺชติ, เอวํ อุปฺปชฺชมานสฺส ภงฺคาภิมุขา ธมฺมา อิจฺฉิตพฺพา. สา จ ิติกฺขโณ. น หิ อุปฺปชฺชมาโน ภิชฺชตีติ สกฺกา วิฺาตุนฺติ.

สงฺขตนฺติ เตภูมกา ธมฺมา ปจฺจยสมุปฺปนฺนตฺตา. ยทิ เอวํ มคฺคผลธมฺมา กถนฺติ อาห ‘‘มคฺคผลานิ ปนา’’ติอาทิ. ลกฺขณกถา หิ ยาวเทว สมฺมสนตฺถา. อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปาโท, น านภงฺคกฺขเณสุ. กสฺมา? อุปฺปาทอุปฺปาทกฺขณานํ อฺมฺํ ปริจฺฉินฺนตฺตา. ยถา หิ อุปฺปาทสงฺขาเตน วิกาเรน อุปฺปาทกฺขโณ ปริจฺฉินฺโน, เอวํ อุปฺปาทกฺขเณนปิ อุปฺปาโท ปริจฺฉินฺโน. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตายปิ กาลสฺส โลกสมฺาวเสเนว วุตฺตํ. ลกฺขณํ น สงฺขตํ, สงฺขตํ น ลกฺขณนฺติ เนสํ เภททสฺสนํ. อวตฺถาวโต หิ อวตฺถา ภินฺนาวาติ. ปริจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ อุปฺปาทวเยหิ ตาว สงฺขตํ ปริจฺฉินฺนํ โหตุ, ชราย ปน ตํ กถํ ปริจฺฉินฺนนฺติ วุจฺจติ? น วุจฺจติ ปริจฺเฉโท ปุพฺพนฺตาปรนฺตมตฺเตน, อถ โข สภาวเภเทนาติ นายํ โทโส. สงฺขตํ ธมฺมชาตํ ปริจฺฉินฺนํ ตพฺพนฺตํ ธมฺมชาตํ สงฺขตนฺติ ปฺายติ เอวํ เตสํ อภาเวน นิพฺพานเมตนฺติ ลกฺขิตพฺพโต สฺชานิตพฺพโต. อิทานิ ‘‘ยถา หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺตํ อุปมาหิ วิภาเวติ.

สงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อสงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

๔๘. อฏฺเม อสงฺขตสฺสาติ วุตฺตนเยน น สงฺขตสฺส. เตนาห ‘‘ปจฺจเยหี’’ติอาทิ. ยถา อุปฺปาทาทีนํ ภาเวน สงฺขตธมฺมชาตํ สงฺขตนฺติ ปฺายติ, เอวํ เตสํ อภาเวน นิพฺพานํ อสงฺขตนฺติ ปฺายติ.

อสงฺขตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปพฺพตราชสุตฺตวณฺณนา

๔๙. นวเม อิธ สาล-สทฺโท รุกฺขสามฺปริยาโย, น รุกฺขวิเสสปริยาโยติ อาห ‘‘มหาสาลาติ มหารุกฺขา’’ติ. กุลเชฏฺกนฺติ ตสฺมึ กุเล เชฏฺภูตํ สามิภูตํ. สิลามโย น ปํสุมโย มิสฺสโก จ. คามํ คามูปจารฺจ เปตฺวา สพฺพํ อรฺนฺติ อาห ‘‘อรฺสฺมินฺติ อคามกฏฺาเน’’ติ. มหนฺโต ปพฺพโต เสโลติ โยชนา.

ปพฺพตราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อาตปฺปกรณียสุตฺตวณฺณนา

๕๐. ทสเม สรีรสมฺภวานนฺติ สรีเร สมฺภูตานํ. ทุกฺขานนฺติ อนิฏฺานํ. พหลานนฺติ นิรนฺตรปฺปวตฺติยา อวิรฬานํ. ตาปนวเสนาติ ทุกฺขาปนวเสน. ติพฺพานนฺติ กุรูรานํ. ตาสํ ยถาวุตฺตานํ อธิวาสนาย ปหาตพฺพทุกฺขเวทนานํ ปชหนํ นาม ขมนเมวาติ อาห ‘‘ขมนตฺถายา’’ติ. อาณาเปตฺวาติ ‘‘อาตปฺปํ กรณีย’’นฺติ พุทฺธาณํ วิธาย. โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา สสมฺภารานํ มคฺคธมฺมานํ กถิตตฺตา.

อาตปฺปกรณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. มหาโจรสุตฺตวณฺณนา

๕๑. เอกาทสเม มหาพลวโจโร มหาโจโรติ อาห ‘‘มหนฺโต พลวโจโร’’ติ. พลวโจโรติ จ มหาถามตาย มหาปริวารตาย มหาโจริยกมฺมสมตฺถตาย จ เวทิตพฺโพ. มหตํ คามนิคมานํ วิลุปฺปนํ มหาวิโลโป. ตํ ตํ การณํ ปกฺขิปิตฺวาติ ตํ ตํ อกรณเมว การณํ กตฺวา ตปฺปฏิพทฺธาย กถาย ปกฺขิปิตฺวา. อตฺถํ กถยิสฺสนฺตีติ ตสฺส ตสฺส อตฺถฺจ กถยิสฺสนฺติ. หรนฺตาติ อปเนนฺตา ปริหรนฺตา. ทสวตฺถุกายาติ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖๙) อาทิทสวตฺถุสนฺนิสฺสิตาย. อนฺตํ คเหตฺวา ิตทิฏฺิยาติ ตเมว สสฺสตาทิอนฺตํ คเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา ิตทิฏฺิยา.

มหาโจรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

จูฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. พฺราหฺมณวคฺโค

๑. ปมทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๒. พฺราหฺมณวคฺคสฺส ปเม ชราชิณฺณาติ ชราวเสน ชิณฺณา, น พฺยาธิอาทีนํ วเสน ชิณฺณสทิสตฺตา ชิณฺณา. วโยวุทฺธาติ วยโส วุทฺธิปฺปตฺติยา วุทฺธา, น สีลาทิวุทฺธิยา. ชาติมหลฺลกาติ ชาติยา มหนฺตตาย จิรรตฺตฺุตาย ชาติมหลฺลกา. ตโย อทฺเธ อติกฺกนฺตาติ ปโม, มชฺฌิโม, ปจฺฉิโมติ ตโย อทฺเธ อตีตา. ตติยํ วยํ อนุปฺปตฺตาติ ตโต เอว ปจฺฉิมํ วยํ อนุปฺปตฺตา. อกตภยปริตฺตาณาติ เอตฺถ ภยปริตฺตาณนฺติ ทุคฺคติภยโต ปริตฺตายกํ ปุฺํ, ตํ อกตํ เอเตหีติ อกตภยปริตฺตาณา. ปติฏฺากมฺมนฺติ สุคติสงฺขาตปฺปติฏฺาวหํ กมฺมํ. อุปสํหรียตีติ สมฺปาปียติ. ‘‘อุปนียตี’’ติ วุตฺตํ, กึ เกน อุปนียตีติ อาห ‘‘อยฺหิ ชาติยา ชรํ อุปนียตี’’ติอาทิ. อยนฺติ โลโก. ชาโต น ชาตภาเวเนว ติฏฺติ, อถ โข ตโต ปรํ ชรํ ปาปียติ, ชราย พฺยาธึ ปาปียติ. เอวํ ปรโต ปรํ ทุกฺขเมว อุปนียติ.

ตายนฏฺเนาติ รกฺขนฏฺเน. นิลียนฏฺเนาติ นิลีนฏฺานภาเวน. ปติฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานภาเวน. อวสฺสยนฏฺเนาติ อวสฺสยิตพฺพภาเวน. อุตฺตมคติวเสนาติ ปรมคติภาเวน.

ปมทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๕๓. ทุติเย ภชิตพฺพฏฺเน ปเรสํ ภาชิตพฺพฏฺเน ภาชนํ, ภณฺฑกํ.

ทุติยทฺเวพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๔-๕๕. ตติเย เยสํ ราคาทีนํ อปฺปหาเนน ปุริสสฺส อตฺตพฺยาพาธาทีนํ สมฺภโว, ปหาเนน อสมฺภโวติ เอวํ ราคาทีนํ ปหายโก อริยธมฺโม มหานุภาวตาย มหานิสํสตาย จ สามํ ปสฺสิตพฺโพติ สนฺทิฏฺิโก. อิมินา นเยน เสเสสุ ปเทสุปิ ยถารหํ นีหริตฺวา วตฺตพฺโพ. สทฺทตฺโถ ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๗) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. จตุตฺถํ อุตฺตานตฺถเมว.

อฺตรพฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิพฺพุตสุตฺตวณฺณนา

๕๖. ปฺจเม น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพนฺติ ยทา สจฺจปฺปฏิเวโธ, ตทา เอว ลทฺธพฺพตฺตา น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพํ. มคฺคาเณน อุปเนตพฺพตฺตา อุปเนยฺยํ. อุปเนยฺยเมว โอปเนยฺยิกนฺติ อาห ‘‘ปฏิปตฺติยา อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ.

นิพฺพุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปโลกสุตฺตวณฺณนา

๕๗. ฉฏฺเ อาจริยปาจริยานนฺติ อาจริยานมฺปิ อาจริยานํ. นิรนฺตรผุโฏ เนรยิกสตฺเตหิ นิรยคามิกมฺมสฺส การกานํ พหุภาวา. อุภยมฺเปตนฺติ ยถาวุตฺตํ อตฺถทฺวยํ. ฆนนิวาสตนฺติ คามานํ ฆนสนฺนิวาสตํ. เอกนฺเตเนว อธมฺโมติ อโยนิโสมนสิการเหตุกตฺตา อนตฺถเหตุตาย จ นิยเมเนว อธมฺโม. น อธมฺมราโคติ อธิปฺเปโตติ ปรปริกฺขาเรสุ ราโค วิย น มหาสาวชฺโชติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา หิ สกสกปริกฺขารวิสโย ราโค วิสมโลโภ วิย น เอกนฺตโต อปายุปฺปตฺติชนโก. ปรปริกฺขาเรสุ อุปฺปชฺชมานสฺส มหาสาวชฺชตาย อธมฺมราคตา. โลภสฺส สมกาโล นาม นตฺถิ กายทุจฺจริตาทีนํ วิย อโยนิโสมนสิการสมุฏฺานตฺตา. เอสาติ เอโส ปาปธมฺโม. สมโลโภ วิสมลกฺขณาภาวโต. ตถา หิ ตํสมุฏฺาโน ปโยโค มิจฺฉาจาโรติ น วุจฺจติ. อวตฺถุปฏิเสวนสงฺขาเตนาติ ยํ โลกิยสาธุสมนุฺาตํ ราคสฺส วตฺถุฏฺานํ, ตโต อฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฏิเสวนสงฺขาเตน.

วิวิธสสฺสานนฺติ สาลิวีหิอาทินานปฺปการสสฺสานํ. ทุสฺสสฺสนฺติ ปจฺจยทูเสน ทูสิตํ สสฺสํ. สมฺปชฺชมาเนติ นิปฺผชฺชนโต ปเคว คพฺภปริวุทฺธิกาเล. ปาณกาติ สลภาทิปาณกา. ปตนฺตีติ สสฺสานํ มตฺถเก ปตนฺติ. สลากามตฺตเมว สมฺปชฺชตีติ วฑฺฒิตฺวา คพฺภํ คเหตุํ อสมตฺถํ สมฺปชฺชติ. เตติ วาฬอมนุสฺสา. ลทฺโธกาสาติ ยกฺขาธิปตีหิ อนุฺาตตฺตา ลทฺโธกาสา.

ปโลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา

๕๘. สตฺตเม มหาวิปากนฺติ อุฬารผลํ พหุวิปากํ. ธมฺโม นาม กถิตกถา ‘‘อตฺถํ ทหติ วิทหตี’’ติ กตฺวา. อนุธมฺโม นาม ปฏิกถนํ ‘‘ตํ อนุคโต ธมฺโม’’ติ กตฺวา. สห ธมฺเมนาติ สหธมฺโม, โส เอว สหธมฺมิโก. ธมฺมสทฺโท เจตฺถ การณปริยาโยติ อาห ‘‘สการโณ’’ติ. วาทสฺสาติ วจนสฺส. อนุปาโต อนุปจฺฉา ปวตฺติ.

ปริปนฺเถ ติฏฺตีติ ปาริปนฺถิโก. ปนฺเถ ตฺวา ปเรสํ สาปเตยฺยํ ฉินฺทนโต ปนฺถทูหนโจโร. ยทิ ปจฺจเวกฺขณาณํ, กถํ ตํ อเสกฺขนฺติ อาห ‘‘อเสกฺขสฺส ปวตฺตตฺตา’’ติ. อิตรานีติ สีลกฺขนฺธาทีนิ. สยมฺปีติ ปิ-สทฺโท ‘‘อเสกฺขสฺส ปวตฺตา จา’’ติ อิมมตฺถํ สมฺปิณฺเฑติ.

นิพฺพิเสวโนติ วิเสวนรหิโต วิคตวิโลมภาโว. น อุปปริกฺขนฺตีติ น วิจาเรนฺติ. ชาตึ นิพฺพตฺตึ ยาติ อุปคจฺฉตีติ ชาติโย, ชาโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ กุลชาเต’’ติ.

เกวลีติ เกวลวา, ปาริปูริมาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริปุณฺณภาเวน ยุตฺโต’’ติ. เอตํ เกวลีติ ปทํ. อภิฺาปารนฺติ อภิชานสฺส ปารํ. ปริยนฺตํ คตตฺตา ปารคู. เอส นโย เสสปเทสุปิ. เขตฺตวินิจฺฉยสวเนนาติ ‘‘อิเมหิ สีลาทิคุณสมฺปนฺนา สเทวเก โลเก ปุฺสฺส เขตฺตํ, ตทฺโ น เขตฺต’’นฺติ เอวํ เขตฺตวินิจฺฉยสวเนน รหิตา.

วจฺฉโคตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ติกณฺณสุตฺตวณฺณนา

๕๙. อฏฺเม ทุราสทาติ ทุรุปสงฺกมนา. ครหา มุจฺจิสฺสตีติ มยิ เอวํ กเถนฺเต สมโณ โคตโม กิฺจิ กเถสฺสติ, เอวํ เม วจนมตฺตมฺปิ น ลทฺธนฺติ อยํ ครหา มุจฺจิสฺสตีติ. ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. ธีราติ ธิติสมฺปนฺนา. พฺยตฺตาติ ปรวาทมทฺทนสมตฺเถน เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคตา. พหุสฺสุตาติ พาหุสจฺจวนฺโต. วาทิโนติ วาทิมคฺคกุสลา. สมฺมตาติ พหุโน ชนสฺส สาธุสมฺมตา. ปณฺฑิตาทิอาการปริจฺเฉทนฺติ เตสํ เตวิชฺชานํ ปณฺฑิตาการาทิอาการปริจฺเฉทํ. อาการสทฺโท การณปริยาโย, ปริจฺเฉทสทฺโท ปริมาณตฺโถติ อาห ‘‘เอตฺตเกน การเณนา’’ติ.

ยถาติ เยนากาเรน, เยน การเณนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยถาติ การณวจน’’นฺติ. ‘‘ทฺวีหิปิ ปกฺเขหี’’ติ วตฺวา เต ปกฺเข สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘มาติโต จ ปิติโต จา’’ติ อาห. เตสํ ปกฺขานํ วเสนสฺส สุชาตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส มาตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชนกชนิกาภาเวน วินาปิ โลเก มาตาปิตุสมฺา ทิสฺสติ, อิธ ปน สา โอรสปุตฺตวเสเนว อิจฺฉิตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสุทฺธคหณิโก’’ติ วุตฺตํ. คพฺภํ คณฺหาติ ธาเรตีติ คหณี, คพฺภาสยสฺิโต มาตุกุจฺฉิปฺปเทโส. ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปาจนวเสน คณฺหนโต อฉฑฺฑนโต คหณี, กมฺมชเตโชธาตุ.

ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตโร ปิตามหา, เตสํ ยุโค ปิตามหยุโค, ตสฺมา ‘‘ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปิตามหทฺวนฺทา’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฏฺกถายํ ปน ทฺวนฺทํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ยุค-สทฺทสฺส จ อตฺถกถา ทสฺสิตา ‘‘ปิตามโหเยว ปิตามหยุค’’นฺติ. ปุพฺพปุริสาติ ปุริสคฺคหณฺเจตฺถ อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวฺหิ ‘‘มาติโต’’ติ ปาฬิวจนํ สมตฺถิตํ โหติ. อกฺขิตฺโตติ อกฺเขโป. อนวกฺขิตฺโตติ สทฺธถาลิปากาทีสุ อนวกฺขิตฺโต น ฉฑฺฑิโต. ชาติวาเทนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เกน การเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อุภโต…เป… ปิตามหยุคา’’ติ เอเตน พฺราหฺมณสฺส โยนิโทสาภาโว ทสฺสิโต สํสุทฺธคหณิกตากิตฺตนโต. ‘‘อกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา กิริยาปราธาภาโว. สํสุทฺธชาติกาปิ หิ สตฺตา กิริยาปราเธน เขปํ ปาปุณนฺติ. ‘‘อนุปกฺกุฏฺโ’’ติ อิมินา อยุตฺตสํสคฺคาภาโว. อยุตฺตสํสคฺคฺหิ ปฏิจฺจ สตฺตา สุทฺธชาติกา กิริยาปราธรหิตาปิ อกฺโกสํ ลภนฺติ.

นฺติ ครหาวจนํ. มนฺเต ปริวตฺเตตีติ เวเท สชฺฌายติ, ปริยาปุณาตีติ อตฺโถ. มนฺเต ธาเรตีติ ยถาอธีเต มนฺเต อสมฺมุฏฺเ กตฺวา หทเย เปติ.

โอฏฺปหตกรณวเสนาติ อตฺถาวธารณวเสน. สนิฆณฺฑุเกฏุภานนฺติ เอตฺถ วจนียวาจกภาเวน อตฺถํ สทฺทฺจ ขณฺฑติ ภินฺทติ วิภชฺช ทสฺเสตีติ นิขณฺฑุ, โส เอว อิธ ข-การสฺส ฆ-การํ กตฺวา ‘‘นิฆณฺฑู’’ติ วุตฺโต. กิฏติ คเมติ กิริยาทิวิภาคํ, ตํ วา อนวเสสปริยาทานโต คเมนฺโต ปูเรตีติ เกฏุภํ. เววจนปฺปกาสกนฺติ ปริยายสทฺททีปกํ, เอเกกสฺส อตฺถสฺส อเนกปริยายวจนวิภาวกนฺติ อตฺโถ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ อเนเกสมฺปิ อตฺถานํ เอกสทฺทวจนียตาวิภาวนวเสนปิ ตสฺส คนฺถสฺส ปวตฺตตฺตา. วจีเภทาทิลกฺขณา กิริยา กปฺปียติ วิกปฺปียติ เอเตนาติ กิริยากปฺโป, โส ปน วณฺณปทสมฺพนฺธปทตฺถาทิวิภาคโต พหุกปฺโปติ อาห ‘‘กิริยากปฺปวิกปฺโป’’ติ. อิทฺจ มูลกิริยากปฺปคนฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ มหาวิสโย สตสหสฺสปริมาโณ นมาจริยาทิปฺปกรณํ. านกรณาทิวิภาคโต นิพฺพจนวิภาคโต จ อกฺขรา ปเภทียนฺติ เอเตหีติ อกฺขรปฺปเภทา, สิกฺขานิรุตฺติโย. เอเตสนฺติ จตุนฺนํ เวทานํ.

ปทนฺติ จตุพฺพิธํ, ปฺจวิธํ วา ปทํ, ตํ ปทํ กายตีติ ปทโก, เตเยว วา เวเท ปทโส กายตีติ ปทโก. ตทวเสสนฺติ วุตฺตาวเสสํ วากฺยํ. เอตฺตาวตา สทฺทพฺยากรณํ วตฺวา ปุน ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ อตฺถพฺยากรณมาห. ตํ ตํ สทฺทํ ตทตฺถฺจ พฺยากโรติ พฺยาจิกฺขติ เอเตนาติ พฺยากรณํ, สทฺทสตฺถํ. อายตึ หิตํ เตน โลโก น ยตติ น อีหตีติ โลกายตํ. ตฺหิ คนฺถํ นิสฺสาย สตฺตา ปุฺกิริยาย จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทนฺติ.

อสีติ มหาสาวกาติ อฺาสิโกณฺฑฺโ, วปฺโป, ภทฺทิโย, มหานาโม, อสฺสชิ, นาฬโก, ยโส, วิมโล, สุพาหุ, ปุณฺณชิ, ควมฺปติ, อุรุเวลกสฺสโป, นทีกสฺสโป, คยากสฺสโป, สาริปุตฺโต, มหาโมคฺคลฺลาโน, มหากสฺสโป, มหากจฺจาโน, มหาโกฏฺิโก, มหากปฺปิโน, มหาจุนฺโท, อนุรุทฺโธ, กงฺขาเรวโต, อานนฺโท, นนฺทโก, ภคุ, นนฺทิโย, กิมิโล, ภทฺทิโย, ราหุโล, สีวลิ, อุปาลิ, ทพฺโพ, อุปเสโน, ขทิรวนิยเรวโต, ปุณฺโณ มนฺตานิปุตฺโต, ปุณฺโณ สุนาปรนฺตโก, โสโณ กุฏิกณฺโณ, โสโณ โกฬิวิโส, ราโธ, สุภูติ, องฺคุลิมาโล, วกฺกลิ, กาฬุทายี, มหาอุทายี, ปิลินฺทวจฺโฉ, โสภิโต, กุมารกสฺสโป, รฏฺปาโล, วงฺคีโส, สภิโย, เสโล, อุปวาโณ, เมฆิโย, สาคโต, นาคิโต, ลกุณฺฑกภทฺทิโย, ปิณฺโฑโล ภารทฺวาโช, มหาปนฺถโก, จูฬปนฺถโก, พากุโล, กุณฺฑธาโน, ทารุจีริโย, ยโสโช, อชิโต, ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก, เมตฺตคุ, โธตโก, อุปสีโว, นนฺโท, เหมโก, โตเทยฺโย, กปฺโป, ชตุกณฺณี, ภทฺราวุโธ, อุทโย, โปสโล, โมฆราชา, ปิงฺคิโยติ เอเต อสีติ มหาสาวกา นาม.

กสฺมา ปเนเต เอว เถรา ‘‘มหาสาวกา’’ติ วุจฺจนฺตีติ? อภินีหารสฺส มหนฺตภาวโต. ตถา หิ ทฺเว อคฺคสาวกาปิ มหาสาวเกสุ อนฺโตคธา. เต หิ สาวกปารมิาณสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา สาวเกสุ อคฺคธมฺมาธิคเมน อคฺคฏฺาเน ิตาปิ อภินีหารมหนฺตตาสามฺเน ‘‘มหาสาวกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, อิตเร ปน ปกติสาวเกหิ สาติสยํ มหาภินีหารา. ตถา หิ เต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กตปณิธานา, ตโต เอว สาติสยํ อภิฺาสมาปตฺตีสุ วสิโน ปภินฺนปฺปฏิสมฺภิทา จ. กามํ สพฺเพปิ อรหนฺโต สีลวิสุทฺธิอาทิเก สมฺปาเทตฺวา จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา มคฺคปฺปฏิปาฏิยา อนวเสสโต กิเลเส เขเปตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺหนฺติ, ตถาปิ ยถา สทฺธาวิมุตฺตโต ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส, ปฺาวิมุตฺตโต จ อุภโตภาควิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคภาวนาวิเสสสิทฺโธ มคฺคภาวนาวิเสโส, เอวํ อภินีหารมหนฺตตฺตปุพฺพโยคมหนฺตตฺตา หิ สสนฺตาเน สาติสยสฺส คุณวิเสสสฺส นิปฺผาทิตตฺตา สีลาทีหิ คุเณหิ มหนฺตา สาวกาติ มหาสาวกา. เตสุเยว ปน เย โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ ปาโมกฺขภาเวน ธุรภูตานํ สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปาทีนํ สาติสยํ กิจฺจานุภาวนิปฺผตฺติยา การณภูตาย ตชฺชาภินีหาราภินีหฏาย สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ จิรกาลสมฺภาวิตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา ยถากฺกมํ ปฺาย สมาธิสฺมิฺจ อุกฺกฏฺปารมิปฺปตฺติยา สวิเสสํ สพฺพคุเณหิ อคฺคภาเว ิตา, เต สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา. อิตเร อฏฺสตฺตติ เถรา สาวกปารมิยา มตฺถเก สพฺพสาวกานํ อคฺคภาเวน อฏฺิตตฺตา ‘‘มหาสาวกา’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ. ปกติสาวกา ปน อภินีหารมหนฺตตฺตาภาวโต ปุพฺพโยคมหนฺตตฺตาภาวโต จ ‘‘สตฺถุสาวกา’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ. เต ปน อคฺคสาวกา วิย มหาสาวกา วิย จ น ปริมิตา, อถ โข อเนกสตา อเนกสหสฺสา.

วยตีติ วโย, อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ กตฺถจิ อปริกิลมนฺโต อวิตฺถายนฺโต เต คนฺเถ สนฺตาเนติ ปเณตีติ อตฺโถ. ทฺเว ปฏิเสธา ปกตึ คเมนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวโย น โหตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ อวยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวโย นาม…เป… น สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ.

อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. เอตนฺติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทิวจนํ. ตติยวิชฺชาธิคมาย ปฏิปตฺติกฺกโม วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๗๐) สาติสยํ วิตฺถาริโต, ตถา อิธ อวตฺตุกามตาย ภยเภรวสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๔ อาทโย) วิย สงฺเขปโต จ วตฺตุกามตาย ‘‘ทฺวินฺนํ วิชฺชาน’’มิจฺเจว วุตฺตํ.

วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสปฺปฏิจฺฉาทกสฺส โมหกฺขนฺธสฺส วิชฺชนฏฺเนปิ วิชฺชา. โมโห ปฏิจฺฉาทกฏฺเน ตโมติ วุจฺจติ ตโม วิยาติ กตฺวา. กาตพฺพโต กรณํ, โอภาโสว กรณํ โอภาสกรณํ, อตฺตโน ปจฺจเยหิ โอภาสภาเวน นิพฺพตฺเตตพฺพฏฺเนาติ อตฺโถ. อยํ อตฺโถติ อยเมว อธิปฺเปตตฺโถ. ปสํสาวจนนฺติ ตสฺเสว อตฺถสฺส โถมนาวจนํ ปฏิปกฺขวิธมนปวตฺติวิเสสานํ โพธนโต. โยชนาติ ปสํสาวเสน วุตฺตปทานํ อตฺถทสฺสนวเสน วุตฺตปทสฺส จ โยชนา. อวิชฺชา วิหตาติ เอเตน วิชฺชนฏฺเน วิชฺชาติ อยมฺปิ อตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนาติ เอเตน วิชฺชาปฏิปกฺขา อวิชฺชา, ปฏิปกฺขตา จสฺสา ปหาตพฺพภาเวน วิชฺชาย จ ปหายกภาเวนาติ ทสฺเสติ. อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเยติ ‘‘ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน’’ติ ปททฺวเยปิ. เอเสว นโยติ ยถาวุตฺตโยชนํ อติทิสติ. ตตฺถายํ โยชนา – เอวํ อธิคตวิชฺชสฺส ตโม วิหโต วิทฺธสฺโต. กสฺมา? ยสฺมา อาโลโก อุปฺปนฺโน าณาโลโก ปาตุภูโตติ. เปสิตตฺตสฺสาติ ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธิปฺปตฺตึ วิสฺสฏฺจิตฺตสฺส, ปมวิชฺชาธิคมาย เปสิตจิตฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

วิปสฺสนาปาทกนฺติ อิมินา ตสฺส ฌานจิตฺตสฺส นิพฺเพธภาคิยตมาห. วิปสฺสนา ติวิธา วิปสฺสกปุคฺคลเภเทน. มหาโพธิสตฺตานฺหิ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ วิปสฺสนา จินฺตามยาณสํวฑฺฒิตตฺตา สยมฺภุาณภูตา, อิตเรสํ สุตมยาณสํวฑฺฒิตตฺตา ปโรปเทสสมฺภูตา. สา ‘‘เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ อวเสสรูปารูปชฺฌานานํ อฺตรโต วุฏฺายา’’ติอาทินา อเนกธา อรูปมุขวเสน จตุธาตุววตฺถาเน วุตฺตานํ เตสํ เตสํ ธาตุปริคฺคหมุขานํ อฺตรมุขวเสน จ อเนกธาว วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๖) นานานยโต วิภาวิตา. มหาโพธิสตฺตานํ ปน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสมุเขน ปเภทคมนโต นานานยํ สพฺพฺุตฺาณสนฺนิสฺสยสฺส อริยมคฺคาณสฺส อธิฏฺานภูตํ ปุพฺพภาคาณคพฺภํ คณฺหาเปนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ปรมคมฺภีรํ สณฺหสุขุมตรํ อนฺสาธารณํ วิปสฺสนาาณํ โหติ, ยํ อฏฺกถาสุ ‘‘มหาวชิราณ’’นฺติ วุจฺจติ. ยสฺส จ ปวตฺติวิภาเคน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสปฺปเภทสฺส ปาทกภาเวน สมาปชฺชิยมานา จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา เทวสิกํ สตฺถุ วฬฺชนกสมาปตฺติโย วุจฺจนฺติ, สฺวายํ พุทฺธานํ วิปสฺสนาจาโร ปรมตฺถมฺชูสายํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๔) ทสฺสิโต, อตฺถิเกหิ ตโต คเหตพฺโพติ. อิธ ปน สาวกานํ วิปสฺสนาจารํ สนฺธาย ‘‘วิปสฺสนาปาทก’’นฺติ วุตฺตํ.

กามํ เหฏฺิมมคฺคาณานิปิ อาสวานํ เขปนาณานิ เอว, อนวเสสโต ปน เตสํ เขปนํ อคฺคมคฺคาเณเนวาติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคาณตฺถายา’’ติ. อาสววินาสนโตติ อาสวานํ นิสฺเสสํ สมุจฺฉินฺทนโต. อาสวานํ ขเย าณํ อาสวกฺขยาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺร เจตํ าณ’’นฺติ วตฺวา ‘‘ขเย’’ติ อาธาเร ภุมฺมํ, น วิสเยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ปริยาปนฺนตฺตา’’ติ อาห. อภินีหรตีติ อภิมุขํ นีหรติ, ยถา มคฺคาภิสมโย โหติ, สวนํ ตทภิมุขํ ปวตฺเตติ. อิทํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ตทา ภิกฺขุนา ปจฺจกฺขโต คหิตภาวทสฺสนํ. เอตฺตกํ ทุกฺขนฺติ ตสฺส ปริจฺฉิชฺช คหิตภาวทสฺสนํ. น อิโต ภิยฺโยติ ตสฺส อนวเสสโต คหิตภาวทสฺสนํ. เตนาห ‘‘สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทิ. สรสลกฺขณปฏิเวเธนาติ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. อสมฺโมหปฏิเวโธติ จ ยถา ตสฺมึ าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา ทุกฺขสจฺจสฺส สรูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติ. เตเนวาห ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ. ทุกฺขํ สมุเทติ เอตสฺมาติ ทุกฺขสมุทโย. ยํ านํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน การณภูตํ อาคมฺม. ปตฺวาติ จ ตทุภยวโต ปุคฺคลสฺส ปวตฺติยาติ กตฺวา วุตฺตํ. ปตฺวาติ วา ปาปุณนเหตุ. อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ. เต วา น ปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ อปฺปวตฺติ, นิพฺพานํ. ตสฺสาติ ทุกฺขนิโรธสฺส. สมฺปาปกนฺติ สจฺฉิกิริยาวเสน สมฺมเทว ปาปกํ.

กิเลสวเสนาติ อาสวสงฺขาตกิเลสวเสน. ยสฺมา อาสวานํ ทุกฺขสจฺจปริยาโย ตปฺปริยาปนฺนตฺตา เสสสจฺจานฺจ ตํสมุทยาทิปริยาโย อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปริยายโต’’ติ. ทสฺเสนฺโต สจฺจานีติ โยชนา. อาสวานฺเจตฺถ คหณํ ‘‘อาสวานํ ขยาณายา’’ติ อารทฺธตฺตา. ตถา หิ ‘‘กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจตี’’ติอาทินา อาสววิมุตฺติสีเสเนว สพฺพกิเลสวิมุตฺติ วุตฺตา. ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทินา มิสฺสกมคฺโค อิธ กถิโตติ ‘‘สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถสี’’ติ วุตฺตํ. ชานโต ปสฺสโตติ อิมินา ปริฺาสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยา วุตฺตา. วิมุจฺจตีติ อิมินา ปหานาภิสมโย วุตฺโตติ อาห ‘‘อิมินา มคฺคกฺขณํ ทสฺเสตี’’ติ. ชานโต ปสฺสโตติ วา เหตุนิทฺเทโส. ยํ ชานนเหตุ กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ โยชนา. ธมฺมานฺหิ สมานกาลิกานมฺปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตา สหชาตโกฏิยา ลพฺภติ. ภวาสวคฺคหเณเนว เอตฺถ ภวราคสฺส วิย ภวทิฏฺิยาปิ สมวโรโธติ ทิฏฺาสวสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ขีณา ชาตีติอาทีหิ ปเทหิ. ตสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณาณสฺส. ภูมินฺติ ปวตฺติฏฺานํ. เยนาธิปฺปาเยน ‘‘กตมา ปนสฺสา’’ติอาทินา โจทนา กตา, ตํ วิวรนฺโต ‘‘น ตาวสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา มคฺคภาวนายาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ การณมาห ‘‘ปุพฺเพว ขีณตฺตา’’ติ. น อนาคตา อสฺส ชาติ ขีณาติ โยชนา. น อนาคตาติ จ อนาคตภาวสามฺํ คเหตฺวา เลเสน โจเทติ. เตนาห ‘‘อนาคเต วายามาภาวโต’’ติ. อนาคตวิเสโส ปเนตฺถ อธิปฺเปโต, ตสฺส เขปเน วายาโม ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘ยา ปน มคฺคสฺสา’’ติอาทิ. เอกจตุปฺจโวการภเวสูติ ภวตฺตยคฺคหณํ วุตฺตนเยน อนวเสสโต ชาติยา ขีณภาวทสฺสนตฺถํ. นฺติ ยถาวุตฺตํ ชาตึ. โสติ ขีณาสโว ภิกฺขุ.

พฺรหฺมจริยวาโส นาม อิธ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส นิพฺพตฺตนเมวาติ อาห ‘‘ปริวุตฺถ’’นฺติ. สมฺมาทิฏฺิยา จตูสุ สจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตมานาย สมฺมาสงฺกปฺปาทีนมฺปิ ทุกฺขสจฺเจ ปริฺาภิสมยานุคุณา ปวตฺติ, อิตเรสุ จ สจฺเจสุ เนสํ ปหานาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติ ปากฏา เอว. เตน วุตฺตํ ‘‘จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสนา’’ติ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สตฺตเสขํ สงฺคณฺหาติ.

อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. เต ปน ปการา อริยมคฺคพฺยาปารภูตา ปริฺาทโย อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอวํโสฬสวิธกิจฺจภาวายา’’ติ. เต หิ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขโต มคฺคานุภาเวน ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ปริฺาทีสุ จ ปหานเมว ปธานํ ตทตฺถตฺตา อิตเรสนฺติ อาห ‘‘กิเลสกฺขยาย วา’’ติ. ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. ทุติยวิกปฺเป อิตฺถตฺตายาติ นิสฺสกฺเก สมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘อิตฺถภาวโต’’ติ. อปรนฺติ อนาคตํ. อิเม ปน จริมกตฺตภาวสงฺขาตา ปฺจกฺขนฺธา. ปริฺาตา ติฏฺนฺตีติ เอเตน เตสํ อปฺปติฏฺตํ ทสฺเสติ. อปริฺามูลกา หิ ปติฏฺา. ยถาห ‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค, อตฺถิ นนฺที, อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรุฬฺห’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๖๔; กถา. ๒๙๖; มหานิ. ๗). เตเนวาห – ‘‘ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิยา’’ติอาทิ.

ยสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส. ตสฺส หิ สีลํ กทาจิ วฑฺฒติ, กทาจิ หายติ. เสกฺขาปิ ปน สีเลสุ ปริปูรการิโนว, อเสกฺเขสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เตนาห ‘‘ขีณาสวสฺสา’’ติอาทิ. วสิปฺปตฺตนฺติ วสีภาวปฺปตฺตํ. สุฏฺุ สมาหิตนฺติ อคฺคผลสมาธินา สมฺมเทว สมาหิตํ. ธิติสมฺปนฺนนฺติ อคฺคผลธิติยา สมนฺนาคตํ. มจฺจุํ ชหิตฺวา ิตนฺติ อายตึ ปุนพฺภวาภาวโต วุตฺตํ. กถํ ปุนพฺภวาภาโวติ อาห ‘‘สพฺเพ ปาปธมฺเม ปชหิตฺวา ิต’’นฺติ. สพฺพสฺสปิ เยฺยธมฺมสฺส จตุสจฺจนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ ‘‘พุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธ’’นฺติ. พุทฺธสาวกาติ สาวกพุทฺธา นมสฺสนฺติ, ปเคว อิตรา ปชา. อิตรา หิ ปชา สาวเกปิ นมสฺสนฺติ. อิติ เอตฺตเกน าเนน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วเสน คาถานํ อตฺถํ วตฺวา อิทานิ สาวกสฺสปิ วเสน อตฺถํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาวโกปิ โคตโม มุขนิพฺพตฺเตน สมฺปตฺเตน สมฺพนฺเธน, ยโต สพฺเพปิ อริยสาวกา ภควโต โอรสปุตฺตาติ วุจฺจนฺตีติ.

นิวุสฺสตีติ นิวาโส, นิวุตฺโถ ขนฺธสนฺตาโนติ อาห ‘‘นิวุตฺถกฺขนฺธปรมฺปร’’นฺติ. อเวติ, อเวทีติ ปาทฺวเยนปิ ปุพฺเพนิวาสาณสฺส กิจฺจสิทฺธึเยว ทสฺเสติ. เอกตฺตกายเอกตฺตสฺิภาวสามฺโต เวหปฺผลาปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ ‘‘ฉ กามาวจเร, นว พฺรหฺมโลเก’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อิตเร ปน อปจุรภาวโต น วุตฺตา. เอกจฺจานํ อวิสยภาวโต จ อวจนํ ทฏฺพฺพํ. ชาติ ขียติ เอเตนาติ ชาติกฺขโย, อรหตฺตนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตํ ปตฺโต’’ติ. ‘‘อภิฺายา’’ติ วตฺตพฺเพ ยการโลเปน ‘‘อภิฺา’’ติ นิทฺเทโส กโตติ อาห ‘‘ชานิตฺวา’’ติ. กิจฺจโวสาเนนาติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพสฺส โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส ปริโยสาเนน. โวสิโตติ ปริโยสิโต, นิฏฺิโตติ อตฺโถ. โมเนยฺเยน สมนฺนาคโตติ กายโมเนยฺยาทีหิ สมนฺนาคโต. ลปิตํ ลปตีติ ลปิตลาปโน. อตฺตปจฺจกฺขโต ตฺวาติ อิมินา เตสํ วิชฺชานํ ปฏิลทฺธภาวํ ทีเปติ.

ติกณฺณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา

๖๐. นวเม เทยฺยธมฺมสฺเสตํ นามนฺติ ยาคํ กโรนฺเตน ทาตพฺพเทยฺยธมฺมํ สนฺธาย วทติ ตทฺสฺส ปาฬิยํ เทยฺยธมฺมคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. มตกภตฺตนฺติ มตเก อุทฺทิสฺส ทาตพฺพภตฺตํ, ปิตุปิณฺฑนฺติ วุตฺตํ โหติ. วรปุริสานนฺติ วิสิฏฺปุริสานํ, อุตฺตมปุริสานนฺติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ ทานนฺติ ยถาวุตฺตเภทํ ยฺสทฺธาทิทานํ.

ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๖๑. ทสเม ชิณฺณานํ หตฺถิสาลาทีนํ ปฏิสงฺขรณํ ปุน ปากติกกรณํ ชิณฺณปฏิสงฺขรณํ, ตสฺส การโก ชิณฺณปฏิสงฺขรณการโก. พาหิรสมเยติ สตฺถุสาสนโต พาหิเร อฺติตฺถิยสมเย. สพฺพจตุกฺเกนาติอาทีสุ สพฺเพสุ ทฺวิปทจตุปฺปทาทิเภเทสุ ปาเณสุ เอเกกสฺมึ จตฺตาโร จตฺตาโร ปาเณ วธิตฺวา ยชิตพฺพํ ยฺํ สพฺพจตุกฺกํ นาม. เสเสสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺส วา ตสฺส วาติ นิสฺสกฺเก สามิวจนนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา วา ตสฺมา วา’’ติ. เอวมสฺสายนฺติ เอตฺถ อสฺสูติ นิปาตมตฺตนฺติ อาห ‘‘เอวํ สนฺเตปิ อย’’นฺติ.

วฑฺเฒนฺโตติ ปฏฺเปนฺโต. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอคธํ มูลํ ปติฏฺาภูตํ พฺรหฺมจริโยคธํ. เตนาห ‘‘อรหตฺตมคฺคสงฺขาตสฺสา’’ติอาทิ. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน เจตฺถ อรหตฺตมคฺคสฺเสว คหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุตฺตมํ ปติฏฺาภูตํ อารมฺมณูปนิสฺสยภาเวน.

อปฺเปหิ เวยฺยาวจฺจกราทีหิ อตฺโถ เอติสฺสาติ อปฺปฏฺา ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา. เตนาห ‘‘ยตฺถ พหู’’ติอาทิ. ยตฺถาติ ยสฺสํ ปฏิปทายํ. อปฺโป สมารมฺโภ เอตสฺสาติ อปฺปสมารมฺโภ. ปาสํสาติ ปสํสารหา. เอตํ เยว กถาเปสฺสามีติ เอเตเนว พฺราหฺมเณน กถาเปสฺสามิ.

โสปฺเปนาติ นิทฺทาย. ปมาเทนาติ ชาคริยาทีสุ อนนุยุฺชนโต สติวิปฺปวาสลกฺขเณน ปมาเทน. ปจฺจนีกปฏิหรณวเสนาติ ปฏิปกฺขาปนยนวเสน. ตถา หิ ภควโต จ สาสนสฺส จ ปฏิปกฺขา ติตฺถิยา, เตสํ หรณโต ปฏิหาริยํ. เต หิ ทิฏฺิหรณวเสน ทิฏฺิปฺปกาสเน อสมตฺถภาเวน จ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนีหิ หริตา อปนีตา โหนฺตีติ. ‘‘ปฏี’’ติ วา อยํ สทฺโท ‘‘ปจฺฉา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ โพเธติ ‘‘ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺสฺมึ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๙๘๕; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๔) วิย, ตสฺมา สมาหิเต จิตฺเต วิคตูปกฺกิเลเส กตกิจฺเจน ปจฺฉา หริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปฏิหาริยํ, อตฺตโน วา อุปกฺกิเลเสสุ จตุตฺถชฺฌานมคฺเคหิ หริเตสุ ปจฺฉาหรณํ ปฏิหาริยํ, อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิโย จ วิคตูปกฺกิเลเสน กตกิจฺเจน จ สตฺตหิตตฺถํ ปุน ปวตฺเตตพฺพา, หริเตสุ จ อตฺตโน อุปกฺกิเลเสสุ ปรสตฺตานํ อุปกฺกิเลสหรณานิ โหนฺตีติ ปฏิหาริยานิ ภวนฺติ, ปฏิหาริยเมว ปาฏิหาริยํ. ปฏิหาริเย วา อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิสมุทาเย ภวํ เอเกกํ ปาฏิหาริยนฺติ วุจฺจติ. ปฏิหาริยํ วา จตุตฺถชฺฌานํ มคฺโค จ ปฏิปกฺขหรณโต, ตตฺถ ชาตํ นิมิตฺตภูเต, ตโต วา อาคตนฺติ ปาฏิหาริยํ.

อาคตนิมิตฺเตนาติ อาคตาการสลฺลกฺขณวเสน. เอส นโย เสเสสุปิ. เอโก ราชาติ ทกฺขิณมธุราธิปติ เอโก ปณฺฑุราชา. เอวมฺปิ เต มโนติ อิมินา อากาเรน ตว มโน ปวตฺโตติ อตฺโถ. เตน ปกาเรน ปวตฺโตติ อาห ‘‘โสมนสฺสิโต วา’’ติอาทิ. สามฺโชตนา วิเสเส อวติฏฺตีติ อธิปฺปาเยเนวํ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ ตว มโน’’ติ อิทฺจ มนโส โสมนสฺสิตตาทิมตฺตทสฺสนํ, น ปน เยน โส โสมนสฺสิโต วา โทมนสฺสิโต วา, ตํทสฺสนํ. โสมนสฺสคฺคหเณน เจตฺถ ตเทกฏฺา ราคาทโย สทฺธาทโย จ ทสฺสิตา โหนฺติ, โทมนสฺสคฺคหเณน โทสาทโย. ทุติยนฺติ ‘‘อิตฺถมฺปิ เต มโน’’ติ ปทํ. อิติปีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท นิทสฺสนตฺโถ ‘‘อตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐) วิย. เตนาห ‘‘อิมฺจ อิมฺจ อตฺถํ จินฺตยมาน’’นฺติ. ปิ-สทฺโท วุตฺตตฺถสมฺปิณฺฑนตฺโถ.

กเถนฺตานํ สุตฺวาติ กเถนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา. ตสฺส วเสนาติ ตสฺส วิตกฺกิตสฺส วเสน. อฏฺฏการเกนาติ วินิจฺฉยการเกน.

น อริยานนฺติ อริยานํ มคฺคผลจิตฺตํ น ชานาตีติ อตฺโถ. ตฺหิ เตน อนธิคตตฺตา เจโตปริยาเณนปิ น สกฺกา วิฺาตุํ, อฺํ ปน จิตฺตํ ชานาติเยว. เหฏฺิโม อุปริมสฺส จิตฺตํ น ชานาตีติอาทีนิปิ มคฺคผลจิตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. โสตาปนฺนาทโยปิ หิ อตฺตนา อธิคตเมว มคฺคผลํ ปเรหิ อุปฺปาทิตํ สมฺมา เจโตปริยาเณน ชานิตุํ สกฺโกนฺติ, น อตฺตนา อนธิคตํ. สพฺเพปิ อริยา อตฺตโน ผลํ สมาปชฺชนฺติ อธิคตตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเตสุ จา’’ติอาทิมาห. ยทิ อริยา อตฺตนา อธิคตผลํ สมาปชฺชนฺติ, อุปริมาปิ เหฏฺิมํ ผลํ สมาปชฺชนฺติ อธิคตตฺตา โลกิยสมาปตฺติโย วิยาติ กสฺสจิ อาสงฺกา สิยา, ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘อุปริโม เหฏฺิมํ น สมาปชฺชตี’’ติ.

อุปริโมติ สกทาคามิอาทิอริยปุคฺคโล. เหฏฺิมนฺติ โสตาปตฺติผลาทึ. น สมาปชฺชตีติ สติปิ อธิคตตฺเต น สมาปชฺชติ. กสฺมาติ เจ? การณมาห ‘‘เตสฺหี’’ติอาทิ, เตสํ สกทาคามิอาทีนํ เหฏฺิมา เหฏฺิมา ผลสมาปตฺติ เตสุ เตสุเยว เหฏฺิเมสุ อริยปุคฺคเลสุ ปวตฺตติ, น อุปริเมสูติ อตฺโถ. อิมินา เหฏฺิมํ ผลจิตฺตํ อุปริมสฺส น อุปฺปชฺชตีติ ทสฺเสติ. กสฺมาติ เจ? ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมเนน ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา. เอเตน อุปริโม อริโย เหฏฺิมํ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ อตฺตนา อธิคตตฺตา ยถา ตํ โลกิยสมาปตฺตินฺติ เอวํ ปวตฺโต เหตุ พฺยภิจาริโตติ ทฏฺพฺพํ. น หิ โลกิยชฺฌาเนสุ ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมนํ นาม อตฺถิ วิเสสาภาวโต, อิธ ปน อสมุคฺฆาฏิตกมฺมกิเลสนิโรธเนน ปุถุชฺชเนหิ วิย โสตาปนฺนสฺส โสตาปนฺนาทีหิ สกทาคามิอาทีนํ ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมนํ อตฺถิ. ยโต เหฏฺิมา เหฏฺิมา ผลธมฺมา อุปรูปริมคฺคธมฺเมหิ นิวตฺติตา ปฏิปกฺเขหิ วิย อภิภูตา อปฺปวตฺติธมฺมตํเยว อาปนฺนา. เตเนว วุตฺตํ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา’’ติ.

อปิจ กุสลกิริยปฺปวตฺติ นาม อฺา, วิปากปฺปวตฺติ จ อฺาติ อนนฺตรผลตฺตา จ โลกุตฺตรกุสลานํ เหฏฺิมโต อุปริโม ภวนฺตรคโต วิย โหติ. ตํตํผลวเสเนว หิ อริยานํ โสตาปนฺนาทินามลาโภ. เต สเจ อฺผลสมงฺคิโนปิ โหนฺติ, โสตาปนฺนาทินามมฺปิ เตสํ อววตฺถิตํ สิยา. ตสฺส ตสฺส วา อริยสฺส ตํ ตํ ผลํ สทิสนฺติ กตฺวา น อุปริมสฺส เหฏฺิมผลสมงฺคิตาย เลโสปิ สมฺภวติ, กุโต ตสฺสา สมาปชฺชนนฺติ ทฏฺพฺพํ. เหฏฺิมา จ โสตาปนฺนาทโย อุปริมํ สกทาคามิผลาทึ น สมาปชฺชนฺติ อนธิคตตฺตา. น หิ อนธิคตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพปิ อริยา อตฺตโนเยว ผลํ สมาปชฺชนฺตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

ปวตฺเตนฺตาติ ปวตฺตกา หุตฺวา, ปวตฺตนวเสนาติ อตฺโถ. เอวนฺติ ยถานุสิฏฺาย อนุสาสนิยา วิธิวเสน ปฏิเสธวเสน จ ปวตฺติตาการปรามสนํ. สา จ สมฺมาวิตกฺกา นาม มิจฺฉาวิตกฺกานฺจ ปวตฺติอาการทสฺสนวเสน ปวตฺตติ. ตตฺถ อานิสํสสฺส อาทีนวสฺส จ วิภาวนตฺถํ อนิจฺจสฺเมว, น นิจฺจสฺนฺติ อตฺโถ. ปฏิโยคินิวตฺตนตฺถฺหิ เอว-การคฺคหณํ. อิธาปิ เอวสทฺทคฺคหณสฺส อตฺโถ ปโยชนฺจ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ-คหเณปิ เอเสว นโย. ปฺจกามคุณราคนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ตทฺราคสฺส โทสาทีนฺจ ปหานสฺส อิจฺฉิตตฺตา ตปฺปหานสฺส จ ตทฺราคาทิเขปสฺส อุปายภาวโต. ตถา วุตฺตํ ทุฏฺโลหิตวิโมจนสฺส ปุพฺพทุฏฺมํสเขปนูปายตา วิย. โลกุตฺตรธมฺมเมวาติ อวธารณํ ปฏิกฺเขปภาวโต สาวชฺชธมฺมนิวตฺตนปรํ ทฏฺพฺพํ, ตสฺส อธิคมูปายานิสํสภูตานํ ตทฺเสํ อนวชฺชธมฺมานํ นานนฺตริยภาวโต.

จินฺตามณิกวิชฺชาสริกฺขกตนฺติ อิมินา ‘‘จินฺตามณี’’ติ เอวํ ลทฺธนามา โลเก เอกา วิชฺชา อตฺถิ, ยาย ปเรสํ จิตฺตํ วิชานนฺตีติ ทีเปติ. ‘‘ตสฺสา กิร วิชฺชาย สาธโก ปุคฺคโล ตาทิเส เทสกาเล มนฺตํ ปริชปฺปิตฺวา ยสฺส จิตฺตํ ชานิตุกาโม, ตสฺส ทิฏฺหตฺถาทิวิเสสสฺชานนมุเขน จิตฺตาจารํ อนุมินนฺโต กเถตี’’ติ เกจิ. อปเร ‘‘วาจํ นิจฺฉราเปตฺวา ตตฺถ อกฺขรสลฺลกฺขณวเสนา’’ติ วทนฺติ.

อิทฺจ ปน สพฺพนฺติ ‘‘ภวํ โคตโม อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ สพฺพมฺปิ.

สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺราหฺมณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๗) ๒. มหาวคฺโค

๑. ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา

๖๒. ทุติยสฺส ปเม ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ตพฺพินิมุตฺตสฺส กสฺสจิ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตสฺส อภาวโต. เอตฺถ หิ สตฺตา ตรนฺติ อุปฺปิลวนฺติ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, ตสฺมา ‘‘ติตฺถ’’นฺติ วุจฺจติ. ปารคมนสงฺขาตฺหิ ตรณํ ทิฏฺิคติกานํ นตฺถิ, ตตฺเถว อปราปรํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชนวเสน ปิลวนเมว เตสํ ตรณํ นาม. อุปฺปาทกาติ ปูรณกสฺสปาทโย. ติตฺเถ ชาตา ติตฺถิยา, ยถาวุตฺตํ วา ทิฏฺิคตสงฺขาตํ ติตฺถํ เอเตสํ อตฺถีติ ติตฺถิกา, ติตฺถิกา เอว ติตฺถิยา. มโนรเมติ สาทุผลภริตตาย อภยทิสตาย จ มโนรเม. อิเมสุเยว ตีสุ าเนสูติ ยถาวุตฺเตสุ ติตฺถายตเนสุ.

โย ยถา ชานาติ, ตสฺส ตถา วุจฺจตีติ อิมินา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปุคฺคล-สทฺโท จ ติสฺสนฺนมฺปิ ปกตีนํ สาธารโณ, ตสฺมา ปุริสคฺคหเณน ตโต วิเสสนํ ยถา ‘‘อฏฺ ปุริสปุคฺคลา’’ติ. ปฏิสํวิทิตํ กโรตีติ เกวลํ ชานนวเสน วิทิตํ กโรติ. อนุภวติ วาติ วิปากลกฺขณปฺปตฺตํ อนุภวติ. ปุพฺเพกตเหตูติ อนฺโตคธาวธารณํ ปทนฺติ อาห ‘‘ปุพฺเพกตกมฺมปจฺจเยเนวา’’ติ. อิมินาติ ‘‘สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตู’’ติ อิมินา วจเนน. กมฺมเวทนนฺติ กุสลากุสลกมฺมสหชํ เวทนํ. กิริยเวทนนฺติ ‘‘เนว กุสลากุสลา น จ กมฺมวิปากา’’ติ เอวํ วุตฺตํ กิริยจิตฺตสหชํ เวทนํ. น เกวลฺจ เต กมฺมกิริยเวทนา เอว ปฏิกฺขิปนฺติ, อถ โข สาสเน โลเก จ ปากเฏ วาตาพาธาทิโรเค จ ปฏิกฺขิปนฺติ เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย วา อิเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปิตฺตสมุฏฺานาติ ปิตฺตวิการาธิกสมฺภูตา. อนนฺตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. สนฺนิปาติกาติ ปิตฺตาทีนํ ติณฺณมฺปิ วิการานํ สนฺนิปาตโต ชาตา. อุตุปริณามชาติ สีตาทิอุตุโน วิปริณามโต วิสมปริวุตฺติโต ชาตา. วิสมปริหารชาติ อสปฺปายาหารโยคปฏิเสวนวเสน กายสฺส วิสมํ ปริหรณโต ชาตา. โอปกฺกมิกาติ อุปกฺกมโต นิพฺพตฺตา. กมฺมวิปากชาติ กมฺมสฺส วิปากภูตกฺขนฺธโต ชาตา. วิโรธิปจฺจยสมุฏฺานา ธาตูนํ วิการาวตฺถา, ตปฺปจฺจยา วา ทุกฺขา เวทนา อาพาธนฏฺเน อาพาโธ, โส เอว รุชฺชนฏฺเน โรโค. ตตฺถ ‘‘โย ยาปฺยลกฺขโณ, โส โรโค, อิตโร อาพาโธ’’ติ วทนฺติ. สพฺเพสฺจ เนสํ ตํตํธาตูนํ วิสมํ อาสนฺนการณํ, น ตถา อิตรานิ. ตตฺถาปิ จ ปโกปาวตฺถา ธาตุโย อาสนฺนการณํ, น ตถา ปรปจฺจยาวตฺถาติ ทฏฺพฺพํ. อฏฺมํเยว กมฺมวิปากชํ อาพาธํ สมฺปฏิจฺฉนฺติ ‘‘สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตู’’ติ วิปลฺลาสคฺคาเหน. ‘‘ปุพฺเพ’’ติ ปุราตนสฺเสว กมฺมสฺส คหิตตฺตา อุปปชฺชเวทนียมฺปิ เต ปฏิกฺขิปนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ทฺเว ปฏิพาหิตฺวา’’ติ. สมฺปฏิจฺฉนฺตีติ อนุชานนฺติ.

อตฺตนา กตมูลเกนาติ สาหตฺถิกกมฺมเหตุ. อาณตฺติมูลเกนาติ ปรสฺส อาณาปนวเสน กตกมฺมเหตุ. อิมาติ ติสฺโส เวทนา. สพฺเพ ปฏิพาหนฺตีติ สพฺเพ โรเค ปฏิเสเธนฺติ สพฺเพสมฺปิ เตสํ เอเกน อิสฺสเรเนว นิมฺมิตตฺตา ตพฺภาวีภาวาสมฺภวโต. เอส นโย เสเสสุปิ. สพฺพํ ปฏิพาหนฺตีติ เหตุปจฺจยปฏิเสธนโต สพฺพํ นิเสเธนฺติ.

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวาติ ติณฺณมฺปิ เวทานํ อสารภาวทสฺสนตฺถํ อุทฺเทสํ กตฺวา. นฺติ ตํ มาติกํ. วิภชิตฺวา ทสฺเสตุนฺติ โทสทสฺสนวเสเนว วิภาคโต ทสฺเสตุํ. ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถนฺติ อตฺตโน ลทฺธิยา ปฏิชานาปนตฺถํ. ลทฺธิโต ลทฺธึ สงฺกมนฺตีติ มูลลทฺธิโต อฺลทฺธึ อุปคจฺฉนฺติ ปฏิชานนฺติ. ปุพฺเพกตเหตุเยว ปฏิสํเวเทตีติ กมฺมเวทนมฺปิ วิปากเวทนํ กตฺวา วทนฺติ. ทิฏฺิคติกา หิ พฺยามูฬฺหจิตฺตา กมฺมนฺตรวิปากนฺตราทีนิ อาโลเฬนฺติ, อสงฺกรโต สฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา จ อกุสลกมฺเม, เอวํ กุสลกมฺเมปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ ปาณาติปาตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวนฺติ ยถา ปุพฺเพกตเหตุ เอว ปาณาติปาติโน นาม โหนฺติ, น อิทานิ สยํกตการณา, เอวํ ปาณาติปาตา วิรมณมฺปิ ปุพฺเพกตเหตุ เอวาติ วิจาริยมาโน ปุพฺเพกตวาโท อกิริยวาโท เอว สมฺปชฺชติ.

กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท น ตณฺหาฉนฺโท. กตฺตุกมฺยตาติ กาตุมิจฺฉา. ปจฺจตฺตปุริสกาโรติ เตน เตน ปุริเสน กตฺตพฺพกิจฺจํ น โหติ ปุพฺเพกตเหตุ เอว สิชฺฌนโต. อุภยมฺปิ ตํ เอส น ลพฺภตีติ กตฺตพฺพกรณํ สุจริตปูรณํ, อกตฺตพฺพอกรณํ ทุจฺจริตวิรตีติ อิทํ อุภยมฺปิ เอส น ลภติ. สมณาปิ หิ ปุพฺเพกตการณาเยว โหนฺตีติ ปุพฺเพกตการณาเยว สมณาปิ โหนฺติ, น อิทานิ สํวรสมาทานาทินา. อสฺสมณาปิ ปุพฺเพกตการณาเยวาติ ปุพฺเพกตการณาเยว อสฺสมณาปิ โหนฺติ, น สํวรเภเทน.

ยถา ปุพฺเพกตวาเท ฉนฺทวายามานํ อสมฺภวโต ปจฺจตฺตปุริสการานํ อภาโว, เอวํ อิสฺสรนิมฺมานวาเทปิ อิสฺสเรเนว สพฺพสฺส นิมฺมิตภาวานุชานนโตติ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพกตวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ. เอส นโย อเหตุกวาเทปีติ อาห ‘‘ตถา อเหตุกวาเทปี’’ติ.

อิเมสนฺติอาทินา อิเมสํ ติตฺถายตนานํ ตุจฺฉาสารตาย ถุสโกฏฺฏเนน กุณฺฑกมตฺตสฺสปิ อลาโภ วิย ปรมตฺถเลสสฺสปิ อภาโว, ตถา ขชฺโชปนโกภาสโต เตชโส ผุลิงฺคมตฺตสฺสปิ อภาโว วิย อนฺธเวณิกสฺสปิ มคฺคสฺส อปฺปฏิลาโภ วิย สทฺทมตฺตํ นิสฺสาย มิจฺฉาภาเคน วิปลฺลตฺถตาย ททฺทรชาตเก (ชา. ๑.๒.๔๓-๔๓) สสกสทิสตา จ วิภาวิตา โหติ. สารภาวนฺติ สีลสาราทิสมฺปตฺติยา สารสพฺภาวํ. นิยฺยานิกภาวนฺติ เอกนฺเตเนว วฏฺฏโต นิยฺยานาวหภาวํ. อนิคฺคหิโตติ น นิคฺคเหตพฺโพ. เตนาห ‘‘นิคฺคเหตุํ อสกฺกุเณยฺโย’’ติ. อสํกิลิฏฺโติ สํกิเลสวิรหิโต. เตนาห ‘‘นิกฺกิเลโส’’ติอาทิ. อนุปวชฺโชติ ธมฺมโต น อุปวทิตพฺโพ. อปฺปฏิกุฏฺโ นาม อปฺปฏิเสธนํ วา สิยา อนกฺโกสนํ วาติ ตทุภยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปฏิพาหิโต อนุปกฺกุฏฺโ’’ติ อาห.

ตสฺส ธมฺมสฺสาติ ‘‘อยํ โข ปน, ภิกฺขเว’’ติอาทินา อุทฺธฏสฺส ธมฺมสฺส. ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวาติ กเถตุกมฺยตาวเสน ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา. ยถาปฏิปาฏิยาติ มาติกาย ยถานิกฺขิตฺตปฺปฏิปาฏิยา. ธาตุโยติ สภาวธารณฏฺเน ธาตุโย. ตา ปน ยสฺมา ตณฺหาทิฏฺิกปฺปนาปริกปฺปิตอตฺตสุภสุขสสฺสตาทิปกติอาทิธุวาทิชีวาทิกายาทิกา วิย น อิจฺฉาสภาวา ทิฏฺิอาทิรหิเตหิ วิมุจฺจมานอุทุมฺพรปุปฺผาทิโลกโวหารวตฺถูนิ วิย จ วาจาวตฺถุมตฺตา, อถ โข สจฺจปรมตฺถภูตาติ อาห ‘‘สภาวา’’ติ, สจฺจสภาวาติ อตฺโถ. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ หิ ธาตุโย. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวปฺปกาสโกติ พาหิรปริกปฺปิตชีวาภาวปฺปกาสโก โลกิยมหาชนสํกปฺปิตสตฺตาภาวปฺปกาสโก จ. อากรฏฺเนาติ อุปฺปชฺชนฏฺานภาเวน. อุปฺปตฺติฏฺานมฺปิ หิ อากโร อายตนนฺติ วุจฺจติ ยถา ‘‘กมฺโพโช อสฺสานํ อายตน’’นฺติ. มโนปวิจาราติ ตํ ตํ อารมฺมณํ อุเปจฺจ มนโส วิวิธจรณากาโร. เกหิ กตฺถาติ อาห ‘‘วิตกฺกวิจารปาเทหี’’ติอาทิ. อฏฺารสสุ าเนสูติ ฉ โสมนสฺสฏฺานิยานิ, ฉ โทมนสฺสฏฺานิยานิ, ฉ อุเปกฺขาฏฺานิยานีติ เอวํ อฏฺารสสุ าเนสุ.

ปติฏฺาธาตูติ เสสภูตตฺตยสฺส เจว สพฺพูปาทารูปานฺจ ปติฏฺาสภาวา ธาตุ. อิมินา นเยน อาพนฺธนธาตูติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปิจ กกฺขฬภาวสิทฺโธ สหชาตธมฺมานํ อาธารภาโว ปติฏฺาภาโว. ทฺรวภาวสิทฺธํ สมฺปิณฺฑนํ อาพนฺธนํ. อุณฺหภาวสิทฺธํ มุทุตาปกฺกตาวหํ ปริปาจนํ. ถทฺธภาวาวหํ อุทฺธุมาตนํ วิตฺถมฺภนํ. รูปวิวิตฺโต รูปปริยนฺโต อากาโสติ เยสํ โส ปริจฺเฉโท, เตหิ โส อสมฺผุฏฺโวาติ วุตฺตํ ‘‘อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตู’’ติ. สฺชานนวิธุรา อารมฺมณูปลทฺธิ วิชานนธาตุ. วิตฺถารโตปิ กเถตุํ วฏฺฏติ สงฺเขปนฺโตคธตฺตา วิตฺถารสฺส. สงฺเขปโต กเถตุํ น วฏฺฏติ กเถตพฺพสฺส อตฺถสฺส อนวเสสปริยาทานาภาวโต. เตนาห ‘‘วิตฺถารโตว วฏฺฏตี’’ติ. อุภยถาติ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ.

อนิปฺผนฺนาปิ อากาสธาตุ ภูตานิ อุปาทาย คเหตพฺพตามตฺเตน ‘‘อุปาทารูป’’นฺเตว วุจฺจติ. ทิฏฺาเนวาติ สลฺลกฺเขตพฺพานิ อุปาทารูปภาวสามฺโต. เตน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเวปิ ทิสฺสนโต ยถา ‘‘วตฺเถกเทเส ทฑฺเฒ วตฺถํ ทฑฺฒ’’นฺติ. ‘‘ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ มหาภูมกตฺตา เตสํ ตปฺปธานตฺตา จ สงฺขารกฺขนฺธสฺส. อรูปกฺขนฺธา นามํ อารมฺมณาภิมุขํ นมนโต นามาธีนคฺคหณโต จ. รูปกฺขนฺโธ รูปํ ปริพฺยตฺตํ รุปฺปนฏฺเน. ปจฺจยนฺติ นิสฺสยภูตํ ปจฺจยํ. วิภาเคน ทฺวาจตฺตาลีส. เอกาสีติ จิตฺตานิ ‘‘สมฺมสนจาโรย’’นฺติ กตฺวา. อนุกฺกเมน ปฏิปชฺชมาโนติ เอวํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิยํ ิโต อุปริเมน ติสฺสนฺนํ วิสุทฺธีนํ สมฺปาทนวเสน วิสุทฺธิภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต.

ผสฺสายตนนฺติ ผสฺสสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ. สุวณฺณาทีนนฺติ สุวณฺณมณิวชิราทีนํ. อากิณฺณํ วิย หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ เอตฺถาติ อากโร. ยถา จกฺขุ วิปากผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโย, น ตถา อิตเรสนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว จกฺขุวิฺาณานี’’ติอาทิ. เอส นโย เสสวาเรสุปิ. ทฺวตฺตึสาย วิปากผสฺเสสุ ทฺวิปฺจวิฺาณสหคตผสฺเส เปตฺวา เสสา ทฺวาวีสติ วิปากผสฺสา เวทิตพฺพา. ทิฏฺเมว โหติ เตน สมานโยคกฺขมตฺตา. ‘‘สงฺเขปโต ตาวา’’ติ สงฺเขปกถํ อารภิตฺวาปิ วิตฺถารกถาเปตฺถ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยาวาติ วุตฺตํ ‘‘เหฏฺา…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ.

โสมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภูตํ โสมนสฺสฏฺานิยํ. เตนาห ‘‘โสมนสฺสสฺส การณภูต’’นฺติ. อุปวิจรตีติ อุเปจฺจ ปวตฺตติ. สภาวโต สงฺกปฺปโต จ โสมนสฺสาทิอุปฺปตฺติเหตุกา โสมนสฺสฏฺานิยาทิตาติ อาห ‘‘อิฏฺํ วา โหตู’’ติอาทิ. จตุตฺถํ ทิฏฺเมว โหติ ตทวินาภาวโต.

อริยสจฺจานีติ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อริยภาวกรานี’’ติอาทิ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๓๑) ปกาสิตํ, ตสฺมา น อิธ ปกาเสตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. สุขาวโพธนตฺถนฺติ เทสิยมานาย วฏฺฏกถาย สุเขน อวโพธนตฺถํ. เตนาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. ทฺวาทสปทนฺติ อวิชฺชาทีหิ ปเทหิ ทฺวาทสปทํ. ปจฺจยวฏฺฏนฺติ ปจฺจยปฺปพนฺธํ. กเถตุกาโม โหติ ปจฺจยาการมุเขน สจฺจานิ ทสฺเสตุกามตาย. คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏนฺติ คพฺโภกฺกนฺติมุเขน วิปากวฏฺฏํ ทสฺเสติ ‘‘คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติอาทินา. ตสฺมา ปเนตฺถ คพฺภาวกฺกนฺติวเสเนว วฏฺฏํ ทสฺสิตนฺติ อาห ‘‘คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏสฺมึ หี’’ติอาทิ. คพฺภาวกฺกนฺติวฏฺฏสฺมินฺติ มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตนวเสน ปวตฺตธมฺมปฺปพนฺเธ. ทสฺสิเตติ เทสนาวเสน ทสฺสิเต. ปุริมา ทฺเว โยนิโย อิตราหิ โอฬาริกตาย ปริพฺยตฺตตราติ วุตฺตํ ‘‘คพฺภาวกฺกนฺติ…เป… อวโพเธตุมฺปี’’ติ.

ปจฺจยมตฺตนฺติ ฉนฺนํ ธาตูนํ สาธารณํ ปจฺจยภาวมตฺตํ, น เตหิ ภาคโส นิปฺผาทิยมานํ ปจฺจยวิเสสํ ‘‘กุโต ปเนตํ ฉนฺนํ ธาตูน’’นฺติ อวิภาเคน วุตฺตตฺตา. เตนาห ‘‘อิทํ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิ. น มาตุ น ปิตุ ตาสํ ธาตูนํ อิมสฺส สตฺตสฺส พาหิรภาวโต. คพฺภสฺสาติ เอตฺถ คพฺภติ อตฺตภาวภาเวน วตฺตตีติ คพฺโภ, กลลาทิอวตฺโถ ธมฺมปฺปพนฺโธ. ตนฺนิสฺสิตตฺตา ปน สตฺตสนฺตาโน คพฺโภติ วุตฺโต ยถา มฺจนิสฺสิตา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. ตนฺนิสฺสยภาวโต มาตุกุจฺฉิ คพฺโภติ วุจฺจติ ‘‘คพฺเภ วสติ มาณโว’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓). คพฺโภ วิยาติ วา คพฺโภ. ยถา หิ นิวาสฏฺานตาย สตฺตานํ โอวรโก ‘‘คพฺโภ’’ติ วุจฺจติ, เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ สตฺตานํ ยาว อภิชาติ นิวาสฏฺานตาย มาตุกุจฺฉิ ‘‘คพฺโภ’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน ปมํ วุตฺตอตฺเถเนว คพฺโภติ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘คพฺโภ จ นามา’’ติอาทิ.

นิรติอตฺเถน นิรโย จ โส ยถาวุตฺเตน อตฺเถน คพฺโภ จาติ นิรยคพฺโภ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. อยํ ปน วิเสโส – เทวมนุชาทโย วิย อุทฺธํ ทีฆา อหุตฺวา ติริยํ อฺจิตา ทีฆาติ ติรจฺฉานา. เต เอว ขนฺธโกฏฺาสภาเวน โยนิ จ โส วุตฺตนเยน คพฺโภ จาติ ติรจฺฉานโยนิคพฺโภ. ปกฏฺโต สุขโต อเปตํ อปคโม เปตภาโว, ตํ ปตฺตานํ วิสโยติ เปตฺติวิสโย, เปตโยนิ. มนสฺส อุสฺสนฺนตาย สูรภาวาทิคุเณหิ อุปจิตมานสตาย อุกฺกฏฺคุณจิตฺตตาย มนุสฺสา. ทิพฺพนฺติ กามคุณาทีหิ กีฬนฺติ ลฬนฺติ โชตนฺตีติ เทวา. คพฺภสทฺโท วุตฺตนโย เอว. นานปฺปกาโรติ ยถาวุตฺเตน ตทนนฺตรเภเทน จ นานปฺปการโก. มนุสฺสคพฺโภ อธิปฺเปโต สุปากฏตาย ปจฺจกฺขภาวโต. โอกฺกนฺติ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมิตฺวา วิย อุปฺปติตฺวาติ กตฺวา. นิพฺพตฺตนํ นิพฺพตฺติ. ปาตุภาโว อุปฺปตฺติปฺปกาสโก จ.

สนฺนิปาโต นาม อเวกลฺลชาติหีนเวกลฺเลติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิธ มาตาปิตโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. สนฺนิปติตาติ สโมธานภาวโต สนฺนิปติตา สมาคตา สํสิลิฏฺา. อุตุนีติ อุตุมตี สฺชาตปุปฺผา. อิทฺจ อุตุสมยํ สนฺธาย วุตฺตํ, น โลกสมฺากรชสฺส ลคฺคนทิวสมตฺตํ. มาตุคามสฺส หิ ยสฺมึ คพฺภาสหสฺิเต โอกาเส ทารโก นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ มหตี โลหิตปีฬกา สณฺหิตฺวา อคฺคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชิตฺวา ปคฺฆรติ, วตฺถุ สุทฺธํ โหติ ปคฺฆริตโลหิตตฺตา อนามยตฺตา จ. วิสุทฺเธ วตฺถุมฺหิ มาตาปิตูสุ เอกวารํ สนฺนิปติเตสุ ยาว สตฺต ทิวสานิ เขตฺตเมว โหติ. สุทฺธํ วตฺถุ นหานโต ปรมฺปิ กติปยานิ ทิวสานิ คพฺภสณฺหนตาย เขตฺตเมว โหติ ปริตฺตสฺส โลหิตเลสสฺส วิชฺชมานตฺตา. ตสฺมึ สมเย หตฺถคฺคาหเวณิคฺคาหาทินา องฺคปรามสเนนปิ ทารโก นิพฺพตฺตติเยว. อิตฺถิสนฺตาเนปิ หิ สตฺตปิ ธาตู ลพฺภนฺเตว. ตถา หิ ปาริกาย นาภิปรามสเนน สามสฺส โพธิสตฺตสฺส, ทิฏฺมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน (ชา. อฏฺ. ๔.๑๕.มาตงฺคชาตกวณฺณนา; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๖๕) มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ อโหสิ. คนฺธนโต อุปฺปนฺนคติยา นิมิตฺตูปฏฺาเนน สูจนโต ทีปนโต คนฺโธติ ลทฺธนาเมน ภวคามิกมฺมุนา อพฺพติ ปวตฺตตีติ คนฺธพฺโพ, ตตฺถ อุปฺปชฺชมานกสตฺโต. ปจฺจุปฏฺิโต โหตีติ น มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตํ โอโลกยมาโน สมีเป ิโต ปจฺจุปฏฺิโต นาม โหติ, กมฺมยนฺตยนฺติโต ปน เอโก สตฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิพฺพตฺตนโก โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ตทา หิ ตตฺรูปคสตฺโต ตตฺรูปปตฺติอาวหนฺตกมฺมสงฺขาเตน เปลฺลกยนฺเตน ตถตฺถาย เปลฺลิโต อุปนีโต วิย โหติ.

วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เอตฺถ วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเวน คหิตตฺตา ‘‘ตโย อรูปิโน ขนฺธา’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปน วิฺาณํ ปจฺจยภาเวน อคฺคเหตฺวา คพฺโภกฺกนฺติยา เอว ปจฺจยภาเวน คหิตตฺตา ‘‘วิฺาณกฺขนฺธมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปน มนุสฺสคพฺภสฺส โอกฺกนฺติยา อธิปฺเปตตฺตา ‘‘คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ’’ติ วุตฺตํ.

ตณฺหาย สมุทยสจฺจภาเวน คหิตตฺตา ‘‘เปตฺวา ตณฺห’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺเสว ปภาวิกาติ ตสฺเสว ยถาวุตฺตสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส อุปฺปาทิกา. ทุกฺขนิโรโธติ เอตฺถ ทุกฺขคฺคหเณน ตณฺหาปิ คหิตาติ อาห ‘‘เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ…เป… ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. อวิเสเสน หิ เตภูมกวฏฺฏํ อิธ ทุกฺขนฺติ อธิปฺเปตํ. อถ วา ทุกฺขสฺส อนุปฺปตฺตินิโรโธ ตพฺภาวิกาย ตณฺหาย อนุปฺปตฺตินิโรเธน วินา น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ…เป… ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. อนุปฺปตฺตินิโรโธติ จ อนุปฺปตฺตินิโรธนิมิตฺตํ นิพฺพานํ ทสฺเสติ.

‘‘ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อุภยตฺถ ปาฬิยา ปวตฺติอาการเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติ อาห. ตตฺถาติ วิสทฺธิมคฺเค. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต. อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย ตุ เอว. อเสสวิราคนิโรธาติ เอตฺถ อจฺจนฺตเมว สงฺขาเร วิรชฺชติ เอเตนาติ วิราโค, มคฺโค, ตสฺมา วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรธา อเสเสตฺวา นิโรธา สมุจฺฉินฺทนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

สกลสฺสาติ อนวเสสสฺส. เกวลสฺสาติ วา สุทฺธสฺส, ปรปริกปฺปิตสตฺตชีวาทิวิรหิตสฺสาติ อตฺโถ. ขีณากาโรปิ วุจฺจติ ‘‘นิรุชฺฌนํ นิโรโธ’’ติ อิมินา อตฺเถน. อรหตฺตมฺปิ นิโรโธติ วุจฺจติ นิโรธนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา. นิพฺพานมฺปิ นิโรโธติ วุจฺจติ อวิชฺชาทีนํ นิโรธสฺส นิมิตฺตภาวโต อวิชฺชาทโย นิรุชฺฌนฺติ เอตฺถาติ นิโรโธติ กตฺวา. ขีณาการทสฺสนวเสนาติ อวิชฺชาทีนํ อนุปฺปตฺตินิโรเธน นิรุชฺฌนาการทสฺสนวเสน. นิพฺพานเมว สนฺธาย, น ปน อรหตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สภาวธมฺมานํ นิคฺคโห นาม ยถาวุตฺตธมฺมปริจฺเฉทโต อูนาธิกภาวปฺปกาสเนน อตฺตสภาววิภาวเนเนว โหตีติ อาห ‘‘นิคฺคณฺหนฺโต หี’’ติอาทิ.

ติตฺถายตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ภยสุตฺตวณฺณนา

๖๓. ทุติเย ปริตฺตาตุํ สมตฺถภาเวนาติ อุปฺปนฺนภยโต รกฺขิตุํ สมตฺถภาเวน. นตฺถิ เอตฺถ มาตาปุตฺตํ อฺมฺํ ตายิตุํ สมตฺถนฺติ อมาตาปุตฺตานิ, ตานิเยว อมาตาปุตฺติกานิ. เตนาห ‘‘นตฺถิ เอตฺถา’’ติอาทิ. นฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ. มาตาปิ ปุตฺตํ ปสฺสิตุํ น ลภติ, ปริตฺตาตุํ น สมตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. ปุตฺโตปิ มาตรนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. จิตฺตุตฺราโสเยว ภยํ จิตฺตุตฺราสภยํ. อิมินา โอตฺตปฺปภยาทึ นิวตฺเตติ. อฏวิคฺคหเณน อฏวิวาสิโน วุตฺตา ‘‘สพฺโพ คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘อฏวีติ เจตฺถ อฏวิวาสิโน โจรา เวทิตพฺพา’’ติ. เอเตติ อฏวิวาสิโน โจรา. เอตํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฏวิสงฺโกโป’’ติ อิทํ วุตฺตํ. านคมนาทิอิริยาปถจกฺกสมงฺคิโน อิริยาปถจกฺกสมารุฬฺหา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘อิริยาปถจกฺกมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. อิริยาปโถเยว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ อิริยาปถจกฺกํ.

ปริยายนฺตีติ ปริโต เตน เตน ทิสาภาเคน คจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘อิโต จิโต จ คจฺฉนฺตี’’ติ. มาตุเปเมน คนฺตุํ อวิสหิตฺวา อตฺตโน สนฺติกํ อาคจฺฉนฺตํ. อตฺตสิเนหสฺส พลวภาวโต มาตรมฺปิ อนเปกฺขิตฺวา ‘‘อตฺตานํเยว รกฺขิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตํ. เอกสฺมึ าเน นิลีนนฺติ วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา เอกสฺมึ เขเม ปเทเส นิสินฺนํ. กุลฺเล วาติอาทีสุ กูลํ ปรตีรํ วหติ ปาเปตีหิ กุลฺโล, ตรณตฺถาย เวฬุนฬาทีหิ กลาปํ กตฺวา พทฺโธ. ปตฺถริตฺวา พทฺโธ ปน อุฬุมฺโป, จาฏิอาทิ มตฺติกาภาชนํ. วุยฺหมานนฺติ อุทโกเฆน อโธโสตํ นียมานํ.

ยถาวุตฺตานิ ตีณิ ภยานิ สมาตาปุตฺติกานิเยว อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส วเสน อมาตาปุตฺติกานิ ทสฺสิตานีติ อาห ‘‘เอวํ ปริยายโต อมาตาปุตฺติกานิ ภยานิ ทสฺเสตฺวา’’ติ.

ภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เวนาคปุรสุตฺตวณฺณนา

๖๔. ตติเย เอวํนามเก ชนปเทติ ยตฺถ นามคฺคหเณน โกสลสทฺทสฺส รุฬฺหีสทฺทตํ ทสฺเสติ. ตถา หิ โกสลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘โกสลา’’ติ วุจฺจติ. อกฺขรจินฺตกา หิ อีทิเสสุ าเนสุ ยุตฺเต วิย สลิงฺควจนานิ (ปาณินิ ๑.๒.๕๑) อิจฺฉนฺติ. อยเมตฺถ รุฬฺหี ยถา อฺตฺถาปิ ‘‘กุรูสุ วิหรติ, องฺเคสุ วิหรตี’’ติ จ. ตพฺพิเสสเน ปน ชนปทสทฺเท ชาติสทฺเท เอกวจนเมว ยถา ‘‘โกสเลสุ ชนปเท’’ติ. จาริกนฺติ จรณํ. จรณํ วา จาโร, โส เอว จาริกา. ตยิทํ มคฺคคมนํ อิธาธิปฺเปตํ, น จุณฺณิกคมนมตฺตนฺติ อาห ‘‘อทฺธานคมนํ คจฺฉนฺโต’’ติ. ตํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘จาริกา จ นาเมสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทูเรปีติ ทูเรปิ นาติทูเรปิ. สหสา คมนนฺติ สีฆคมนํ. มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน อาฬวกาทีนํ อตฺถาย คมนํ สงฺคณฺหาติ. ภควา หิ มหากสฺสปตฺเถรํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต มุหุตฺเตน ติคาวุตมคฺคมคมาสิ. อาฬวกสฺสตฺถาย ตึสโยชนํ, ตถา องฺคุลิมาลสฺส, ปุกฺกุสาติสฺส ปน ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ, มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ, ธนิยสฺสตฺถาย สตฺต โยชนสตานิ, ธมฺมเสนาปติโน สทฺธิวิหาริกสฺส วนวาสิสฺส ติสฺสสามเณรสฺส ติคาวุตาธิกํ วีสโยชนสตํ อคมาสิ. อิมํ สนฺธายาติ อิมํ อตุริตจาริกํ สนฺธาย.

อุปลภึสูติ เอตฺถ สวนวเสน อุปลภึสูติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสตทฺวาร…เป… ชานึสู’’ติ อาห. สพฺพมฺปิ วากฺยํ อวธารณผลตฺตา อนฺโตคธาวธารณนฺติ อาห ‘‘ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต’’ติ. อวธารณตฺเถนาติ ปน อิมินา อิฏฺตฺถโตวธารณตฺถํ โข-สทฺทคฺคหณนฺติ ทสฺเสติ. อสฺโสสีติ ปทํ โข-สทฺเท คหิเต เตน ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ วิย โหนฺตํ ปูริตํ นาม โหติ, เตน จ ปุริมปจฺฉิมปทานิ สํสิลิฏฺานิ นาม โหนฺติ, น ตสฺมึ อคฺคหิเตติ อาห ‘‘ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมวา’’ติ. มตฺตสทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถ. เตนสฺส อนตฺถนฺตรทีปนตา ทสฺสิตา โหติ, เอวสทฺเทน ปน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย เอกนฺติกตา.

สมิตปาปตฺตาติ อจฺจนฺตํ อนวเสสโต สวาสนํ สมิตปาปตฺตา. เอวฺหิ พาหิรกวีตราคเสกฺขาเสกฺขปาปสมนโต ภควโต ปาปสมนํ วิเสสิตํ โหติ. เตนสฺส ยถาภูตคุณาธิคตเมตํ นามํ ยทิทํ สมโณติ ทีเปติ. อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ อิธ อนุสฺสวตฺโถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ขลูติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต’’ติ. อาลปนมตฺตนฺติ ปิยาลาปวจนมตฺตํ. ปิยสมุทาหารา เหเต ‘‘โภ’’ติ วา ‘‘อาวุโส’’ติ วา ‘‘เทวานํ ปิยา’’ติ วา. โคตฺตวเสนาติ เอตฺถ คํ ตายตีติ โคตฺตํ. โคตโมติ หิ ปวตฺตมานํ วจนํ พุทฺธิฺจ ตายติ เอกํสิกวิสยตาย รกฺขตีติ โคตฺตํ. ยถา หิ พุทฺธิ อารมฺมณภูเตน อตฺเถน วินา น วตฺตติ, ตถา อภิธานํ อภิเธยฺยภูเตน, ตสฺมา โส โคตฺตสงฺขาโต อตฺโถ ตานิ ตายติ รกฺขตีติ วุจฺจติ. โก ปน โสติ? อฺกุลปรมฺปราสาธารณํ ตสฺส กุลสฺส อาทิปุริสสมุทาคตํ ตํกุลปริยาปนฺนสาธารณํ สามฺรูปนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ สมโณติ อิมินา ปริกฺขกชเนหิ ภควโต พหุมตภาโว ทสฺสิโต สมิตปาปตากิตฺตนโต. โคตโมติ อิมินา โลกิยชเนหิ อุจฺจากุลสมฺภูตตา ทีปิตา เตน อุทิโตทิตวิปุลขตฺติยกุลวิภาวนโต. สพฺพขตฺติยานฺหิ อาทิภูตมหาสมฺมตมหาราชโต ปฏฺาย อสมฺภินฺนํ อุฬารตมํ สกฺยราชกุลํ.

เกนจิ ปาริชุฺเนาติ าติปาริชุฺโภคปาริชุฺาทินา เกนจิปิ ปาริชุฺเน ปริหานิยา อนภิภูโต อนชฺโฌตฺถโฏ. ตถา หิ ตสฺส กุลสฺส น กิฺจิ ปาริชุฺํ โลกนาถสฺส อภิชาติยํ, อถ โข วฑฺฒิเยว. อภินิกฺขมเน จ ตโตปิ สมิทฺธตมภาโว โลเก ปากโฏ ปฺาโตติ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ อิทํ วจนํ ภควโต สทฺธาปพฺพชิตภาวทีปนํ วุตฺตํ มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย ปพฺพชิตภาวสิทฺธิโต.

อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถติ อิตฺถํ เอวํปกาโร ภูโต ชาโตติ เอวํ กถนตฺเถ. อุปโยควจนนฺติ ‘‘อพฺภุคฺคโต’’ติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตโก, เตน โยคโต ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺต’’นฺติ อิทํ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ. เตนาห ‘‘ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ’’ติ. กลฺยาณคุณสมนฺนาคโตติ กลฺยาเณหิ คุเณหิ ยุตฺโต, ตนฺนิสฺสิโต ตพฺพิสยตายาติ อธิปฺปาโย. เสฏฺโติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กิตฺเตตพฺพโต กิตฺติ, สา เอว สทฺทนียโต สทฺโทติ อาห ‘‘กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยวา’’ติ. อภิตฺถวนวเสน ปวตฺโต สทฺโท ถุติโฆโส. สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโตติ อนฺสาธารเณ คุเณ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อภิภวิตฺวา อุคฺคโต.

โส ภควาติ โย โส สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา โลกนาโถ ภาคฺยวนฺตตาทีหิ การเณหิ สเทวเก โลเก ‘‘ภควา’’ติ ปตฺถฏกิตฺติสทฺโท, โส ภควา. ‘‘ภควา’’ติ จ อิทํ สตฺถุ นามกิตฺตนํ. เตนาห อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กต’’นฺติอาทิ (มหานิ. ๘๔). ปรโต ปน ภควาติ คุณกิตฺตนํ. ยถา กมฺมฏฺานิเกน ‘‘อรห’’นฺติอาทีสุ นวสุ าเนสุ ปจฺเจกํ อิติ-สทฺทํ โยเชตฺวา พุทฺธคุณา อนุสฺสริยนฺติ, เอวํ พุทฺธคุณสํกิตฺตเนนปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติปิ อรหํ อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควา’’ติ อาห. ‘‘อิติเปตํ ภูตํ อิติเปตํ ตจฺฉ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๖) วิย อิธ อิติสทฺโท อาสนฺนปจฺจกฺขกรณตฺโถ, ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน จ เตสํ คุณานํ พหุภาโว ทีปิโต, ตานิ จ สํกิตฺเตนฺเตน วิฺุนา จิตฺตสฺส สมฺมุขีภูตาเนว กตฺวา สํกิตฺเตตพฺพานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. เอวํ นิรูเปตฺวา กิตฺเตนฺโต โย กิตฺเตติ, ตสฺส ภควติ อติวิย อภิปฺปสาโท โหติ.

อารกตฺตาติ สุวิทูรตฺตา. อรีนนฺติ กิเลสารีนํ. อรานนฺติ สํสารจกฺกสฺส อรานํ. หตตฺตาติ วิทฺธํสิตตฺตา. ปจฺจยาทีนนฺติ จีวราทิปจฺจยานฺเจว ปูชาวิเสสานฺจ. ตโตติ วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕-๑๒๗). ยถา จ วิสุทฺธิมคฺคโต, เอวํ ตํสํวณฺณนาโตปิ เนสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.

อิมํ โลกนฺติ นยิทํ มหาชนสฺส สมฺมุขมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข อนวเสสํ ปริยาทายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสตี’’ติ. ปชาตตฺตาติ ยถาสกํ กมฺมกิเลเสหิ นิพฺพตฺตตฺตา. ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ ปาริเสสนเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรน คหิตตฺตา. สเทวกนฺติ จ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสตฺโถ. ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ ปจฺจาสตฺตินเยน. ตตฺถ หิ โส ชาโต ตนฺนิวาสี จ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปจฺจตฺถิกสมณพฺราหฺมณคฺคหณนฺติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ อปจฺจตฺถิกานํ สมิตพาหิตปาปานฺจ สมณพฺราหฺมณานํ สมณพฺราหฺมณวจเนน คหิตตฺตา. กามํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิวิเสสนานํ วเสน สตฺตวิสโย โลกสทฺโทติ วิฺายติ ตุลฺยโยควิสยตฺตา เตสํ, ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ ปน อตุลฺยโยเคปิ อยํ สมาโส ลพฺภตีติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปชาคหณนฺติ อาห ‘‘ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณ’’นฺติ.

อรูปิโน สตฺตา อตฺตโน อาเนฺชวิหาเรน วิหรนฺตา ทิพฺพนฺตีติ เทวาติ อิมํ นิพฺพจนํ ลภนฺตีติ อาห ‘‘สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต’’ติ. เตนาห ‘‘อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยต’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๑๑๗). สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก คหิโต ตสฺส สวิเสสํ มารสฺส วเส วตฺตนโต. สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปีพฺรหฺมโลโก คหิโต อรูปีพฺรหฺมโลกสฺส คหิตตฺตา. จตุปริสวเสนาติ ขตฺติยาทิจตุปริสวเสน. อิตรา ปน จตสฺโส ปริสา สมารกาทิคฺคหเณน คหิตา เอวาติ. อวเสสสตฺตโลโก นาคครุฬาทิเภโท. ตีหากาเรหีติ เทวมารพฺรหฺมสหิตตาสงฺขาเตหิ ตีหิ ปกาเรหิ. ตีสุ ปเทสูติ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทีสุ ตีสุ ปเทสุ. เตน เตนากาเรนาติ สเทวกตฺตาทินา เตน เตน ปกาเรน. เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ โปราณา อาหูติ โยชนา.

อภิฺาติ ยการโลเปนายํ นิทฺเทโส, อภิชานิตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อภิฺาย อธิเกน าเณน ตฺวา’’ติ. อนุมานาทิปฏิกฺเขโปติ อนุมานอตฺถาปตฺติอาทิปฺปฏิกฺเขโป เอกปฺปมาณตฺตา. สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณจารตาย หิ สพฺพปจฺจกฺขา พุทฺธา ภควนฺโต.

อนุตฺตรํ วิเวกสุขนฺติ ผลสมาปตฺติสุขํ. เตน วิมิสฺสาปิ กทาจิ ภควโต ธมฺมเทสนา โหตีติ ‘‘หิตฺวาปี’’ติ ปิ-สทฺทคฺคหณํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต ยสฺมึ ขเณ ปริสา สาธุการํ วา เทติ, ยถาสุตํ วา ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ขณํ ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทฺจ สมาปตฺติโต วุฏฺาย ิตฏฺานโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสติ. อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโตติ อุคฺฆฏิตฺุสฺส วเสน อปฺปํ วา, วิปฺจิตฺุสฺส เนยฺยสฺส วา วเสน พหุํ วา เทเสนฺโต. ธมฺมสฺส กลฺยาณตา จ นิยฺยานิกตา จ สพฺพโส อนวชฺชภาเวเนวาติ อาห ‘‘อนวชฺชเมว กตฺวา’’ติ.

เทสกายตฺเตน อาณาทิวิธินา อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนาติ สา ปริยตฺติธมฺมวเสน เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘เทสนาย ตาว จาตุปฺปทิกคาถายปี’’ติอาทิ. นิทานนิคมานิปิ สตฺถุ เทสนาย อนุวิธานโต ตทนฺโตคธานิ เอวาติ อาห ‘‘นิทานํ อาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสาน’’นฺติ.

สาสิตพฺพปุคฺคลคเตน ยถาปราธาทิสาสิตพฺพภาเวน อนุสาสนํ ตทงฺควินยาทิวเสน วินยนํ สาสนนฺติ ตํ ปฏิปตฺติธมฺมวเสน เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สีลสมาธิวิปสฺสนา’’ติอาทิ. กุสลานนฺติ อนวชฺชธมฺมานํ สีลสมถวิปสฺสนานํ สีลทิฏฺีนฺจ อาทิภาโว ตํมูลิกตฺตา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ. อริยมคฺคสฺส อนฺตทฺวยวิคเมน มชฺฌิมาปฏิปทาภาโว วิย สมฺมาปฏิปตฺติยา อารพฺภ นิพฺพตฺตีนํ เวมชฺฌตาปิ มชฺฌภาโวติ วุตฺตํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว…เป… มชฺฌิมํ นามา’’ติ. ผลํ ปริโยสานํ นาม สอุปาทิเสสตาวเสน. นิพฺพานํ ปริโยสานํ นาม อนุปาทิเสสตาวเสน. อิทานิ เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ สาสนสฺส ปริโยสานตํ อาคเมน ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมาติห ตฺว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติอาทิวจนโต ธมฺมเทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อิธ…เป… อธิปฺเปต’’นฺติ. ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ กถาวธิสทฺทปฺปพนฺโธ คาถาวเสน สุตฺตวเสน จ ววตฺถิโต ปริยตฺติธมฺโม, โส อิธ เทสนาติ วุตฺโต, ตสฺส ปน อตฺโถ วิเสสโต สีลาทิ เอวาติ อาห ‘‘ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ตตฺถ สีลํ ทสฺเสตฺวาติ สีลคฺคหเณน สสมฺภารํ สีลํ คหิตํ, ตถา มคฺคคฺคหเณน สสมฺภาโร มคฺโคติ ตทุภยวเสน อนวเสสโต ปริยตฺติอตฺถํ ปริยาทาย ติฏฺติ. เตนาติ สีลาทิทสฺสเนน. อตฺถวเสน หิ อิธ เทสนาย อาทิกลฺยาณาทิภาโว อธิปฺเปโต. กถิกสณฺิตีติ กถิกสฺส สณฺานํ กถนวเสน สมวฏฺานํ.

น โส สาตฺถํ เทเสติ นิยฺยานตฺถวิรหโต ตสฺสา เทสนาย. เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วาติ สิถิลาทิเภเทสุ พฺยฺชเนสุ เอกปฺปกาเรเนว ทฺวิปฺปกาเรเนว วา พฺยฺชเนน ยุตฺตา ทมิฬภาสา วิย. วิวฏกรณตาย โอฏฺเ อผุสาเปตฺวา อุจฺจาเรตพฺพโต สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา กิราตภาสา วิย. สพฺพสฺเสว วิสฺสชฺชนียยุตฺตตาย สพฺพวิสฺสฏฺพฺยฺชนา วา ยวนภาสา วิย. สพฺพสฺเสว สานุสารตาย สพฺพนิคฺคหิตพฺยฺชนา วา ปารสิกาทิมิลกฺขภาสา วิย. สพฺพาเปสา พฺยฺชเนกเทสวเสเนว ปวตฺติยา อปริปุณฺณพฺยฺชนาติ กตฺวา ‘‘อพฺยฺชนา’’ติ วุตฺตา.

านกรณานิ สิถิลานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ อกฺขรํ ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยนฺติ เอวมาทิ สิถิลํ. ตานิ อสิถิลานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ อกฺขรํ วคฺเคสุ ทุติยจตุตฺถนฺติ เอวมาทิ ธนิตํ. ทฺวิมตฺตกาลํ ทีฆํ. เอกมตฺตกาลํ รสฺสํ. ตเทว ลหุกํ ลหุกเมว. สํโยคปรํ ทีฆฺจ ครุกํ. านกรณานิ นิคฺคเหตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ นิคฺคหิตํ. ปเรน สมฺพนฺธํ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ สมฺพนฺธํ. ตถา น สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ. านกรณานิ วิสฺสฏฺานิ กตฺวา อุจฺจาเรตพฺพํ วิมุตฺตํ. ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโทติ เอวํ สิถิลาทิวเสน พฺยฺชนพุทฺธิยา อกฺขรุปฺปาทกจิตฺตสฺส ทสปฺปกาเรน ปเภโท. สพฺพานิ หิ อกฺขรานิ จิตฺตสมุฏฺานานิ ยถาธิปฺเปตตฺถพฺยฺชนโต พฺยฺชนานิ จ.

อมกฺเขตฺวาติ อมิเลจฺเฉตฺวา, อวินาเสตฺวา, อหาเปตฺวาติ อตฺโถ. ภควา ยมตฺถํ าเปตุํ เอกคาถํ เอกวากฺยมฺปิ เทเสติ, ตมตฺถํ ตาย เทสนาย ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนาย เอว เทเสตีติ อาห ‘‘ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสตี’’ติ. อิธ เกวลสทฺโท อนวเสสวาจโก, น อโวมิสฺสตาทิวาจโกติ อาห ‘‘สกลาธิวจน’’นฺติ. ปริปุณฺณนฺติ สพฺพโส ปุณฺณํ. ตํ ปน กิฺจิ อูนํ วา อธิกํ วา น โหตีติ ‘‘อนูนาธิกวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทตฺถํ เทสิตํ, ตสฺส สาธกตฺตา อนูนตา เวทิตพฺพา, ตพฺพิธุรสฺส ปน อสาธกตฺตา อนธิกตา. สกลนฺติ สพฺพภาควนฺตํ. ปริปุณฺณเมวาติ สพฺพโส ปริปุณฺณเมว. เตนาห ‘‘เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถี’’ติ. อปริสุทฺธา เทสนา นาม โหติ ตณฺหาสํกิเลสตฺตา. โลกามิสํ จีวราทโย ปจฺจยา, ตตฺถ อคธิตจิตฺตตาย โลกามิสนิรเปกฺโข. หิตผรเณนาติ หิตูปสํหรเณน. เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโยติ เมตฺตาภาวนาย กรุณาย วา มุทุหทโย. อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตนาติ สกลสํกิเลสโต วฏฺฏทุกฺขโต จ อุทฺธรณาการาวฏฺิเตน จิตฺเตน, กรุณาธิปฺปาเยนาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลํ สาสนํ อิธ พฺรหฺมจริยนฺติ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา. พฺรหฺมจริยนฺติ อิมินา สมานาธิกรณานิ สพฺพปทานิ โยเชตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ อาห.

สุนฺทรนฺติ ภทฺทกํ. ภทฺทกตา จ ปสฺสนฺตสฺส หิตสุขาวหภาเวน เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘อตฺถาวหํ สุขาวห’’นฺติ. ตตฺถ อตฺถาวหนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถสํหิตหิตาวหํ. สุขาวหนฺติ ยถาวุตฺตติวิธสุขาวหํ. ตถานุรูปานนฺติ ตาทิสานํ. ยาทิเสหิ ปน คุเณหิ ภควา สมนฺนาคโต, เตหิ จตุปฺปมาณิกสฺส โลกสฺส สพฺพถาปิ อจฺจนฺตปฺปสาทนีโย เตสํ ยถาภูตสภาวตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถารูโป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาภูต…เป… อรหตนฺติ อิมินา ธมฺมปฺปมาณลูขปฺปมาณานํ สตฺตานํ ภควโต ปสาทาวหตา ทสฺสิตา, อิตเรน อิตเรสํ. ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอตฺถ โกสิยวตฺถุ กเถตพฺพํ. อุภโตปกฺขิกาติ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺมาทิฏฺิวเสน อุภยปกฺขิกา. เกราฏิกาติ สา.

อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ ยาวฺจิทนฺติ นิปาตสมุทาโย อธิมตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทํ ทีเปตีติ อาห ‘‘อธิมตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทวจนเมต’’นฺติ. อธิมตฺตวิปฺปสนฺนานีติ อธิกปฺปมาเณน วิปฺปสนฺนานิ. วิปฺปสนฺนานีติ จ ปกติอาการํ อติกฺกมิตฺวา วิปฺปสนฺนานีติ อตฺโถ. นนุ จ จกฺขาทีนํ อินฺทฺริยานํ มโนวิฺเยฺยตฺตา กถํ เตน เตสํ วิปฺปสนฺนตา วิฺายตีติ อาห ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ. ตสฺสาติ พฺราหฺมณสฺส. เตสนฺติ จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ. เอวมฺปิ มนินฺทฺริเยน ปติฏฺิโตกาสสฺส อทิฏฺตฺตา กถํ มนินฺทฺริยสฺส วิปฺปสนฺนตา เตน วิฺายตีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. นยคฺคาหปฺา เหสา ตสฺส พฺราหฺมณสฺส. มเน วิปฺปสนฺเนเยว โหติ ปสนฺนจิตฺตสมุฏฺิตรูปสมฺปทาหิ เอว จกฺขาทีนํ ปติฏฺิโตกาสสฺส ปสนฺนตาสมฺภวโต.

ชมฺโพนทสุวณฺณํ รตฺตวณฺณเมว โหตีติ อาห ‘‘สุรตฺตวณฺณสฺสา’’ติ. ชมฺโพนทสุวณฺณสฺส ฆฏิกาติ ชมฺโพนทสุวณฺณปิณฺฑํ. อิมินา เนกฺขนฺติ เนกฺขปฺปมาณชมฺโพนทสุวณฺเณน กตํ อกตภณฺฑํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. เนกฺขนฺติ วา อติเรกปฺจสุวณฺเณน กตปิลนฺธนํ กตภณฺฑํ วุตฺตํ. ตฺหิ ฆฏฺฏนมชฺชนกฺขมํ โหตีติ. สุวณฺณนฺติ จ ปฺจธรณสฺส สมฺา, ตสฺมา ปฺจวีสติธรณหิรฺวิจิตํ อาภรณํ อิธ เนกฺขนฺติ อธิปฺเปตํ. ชมฺโพนทนฺติ มหาชมฺพุสาขาย ปวตฺตนทิยํ นิพฺพตฺตํ. ตํ กิร รตนํ รตฺตํ. สุวณฺณากาเร มหาชมฺพุผลรเส วา ปถวิยํ ปวิฏฺเ สุวณฺณงฺกุรา อุฏฺหนฺติ, เตน สุวณฺเณน กตปิลนฺธนนฺติปิ อตฺโถ. สุปริกมฺมกตนฺติ สุฏฺุ กตปริกมฺมํ. สมฺปหฏฺนฺติ สมฺมา ปหฏฺํ ฆฏฺฏนาทิวเสน สุกตปริกมฺมํ. เตนาห ‘‘สุวณฺณการ…เป… สุปริมชฺชิตนฺติ อตฺโถ’’ติ.

วาฬรูปานีติ อาหริมานิ วาฬรูปานิ. ‘‘อกปฺปิยรูปากุโล อกปฺปิยมฺโจ ปลฺลงฺโกติ สารสมาเส. รตนจิตฺรนฺติ ภิตฺติจฺเฉทาทิวเสน รตนจิตฺรํ. รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกิตูลานํ วเสน ติณฺณํ ตูลานํ. อุทฺทโลมิยํ เกจีติ สารสมาสาจริยา อุตฺตรวิหาริโน จ. ตถา เอกนฺตโลมิยํ. โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกเสยฺยกสฏมยํ. อชินจมฺเมหีติ อชินมิคจมฺเมหิ. ตานิ กิร จมฺมานิ สุขุมตรานิ. ตสฺมา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติอาทิ.

นิกามลาภีติ ยถิจฺฉิตลาภี. เตนาห ‘‘อิจฺฉิติจฺฉิตลาภี’’ติ. วิปุลลาภีติ อุฬารลาภี. กสิรนฺติ หิ ปริตฺตํ วุจฺจติ, ตปฺปฏิกฺเขเปน อกสิรํ อุฬารํ. เตนาห ‘‘มหนฺตลาภี’’ติอาทิ.

ลทฺธา จ น กปฺปนฺตีติ สามฺเน ปฏิสิทฺธตฺตา สพฺพถา น กปฺปตีติ กสฺสจิ อาสงฺกา สิยา, ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘กิฺจิ กิฺจิ กปฺปตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุทฺธโกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพนรหิตํ. เอตฺถ จ ‘‘สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏตี’’ติ วินเย (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) วุตฺตตฺตา อิธาปิ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) ปน ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิก’’นฺติ เอเตน รตนสิพฺพนรหิตาปี ตูลิกา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. วจนโตติ เอเตน วินเย (จูฬว. ๒๙๗) วุตฺตภาวํ ทสฺเสติ. เอเกน วิธาเนนาติ ยถาวุตฺตเมว วิธานํ สนฺธาย วทติ. ยทิ เอวํ กสฺมา ภควตา ‘‘ลทฺธา จ น กปฺปนฺตี’’ติ สามฺเน ปฏิเสโธ กโตติ อาห ‘‘อกปฺปิยํ ปน อุปาทายา’’ติอาทิ.

ปลฺลงฺกนฺติ เอตฺถ ปริ-สทฺโท สมนฺตโตติ เอตสฺมึ อตฺเถ วตฺตติ, ตสฺมา วามูรุํ ทกฺขิณูรุฺจ สมํ เปตฺวา อุโภ ปาเท อฺมฺสมฺพนฺเธ กตฺวา นิสชฺชา ปลฺลงฺกนฺติ อาห ‘‘สมนฺตโต อูรุพทฺธาสน’’นฺติ. อูรูนํ พนฺธนวเสน นิสชฺชา. ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ จ ยถา ปลฺลงฺกวเสน นิสชฺชา โหติ, เอวํ อุโภ ปาเท อาภุเช สมิฺชิเต กตฺวาติ อตฺโถ. ตํ ปน อุภินฺนํ ปาทานํ ตถา สมฺพนฺธตากรณนฺติ อาห ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติ. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ คจฺฉติ. เตนาห ‘‘อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก’’ติอาทิ. อุชุํ กายํ เปตฺวาติ อุปริมํ กายํ อุชุกํ เปตฺวา, อยเมว วา ปาโ. เหฏฺิมกายสฺส หิ อนุชุกฏฺปนํ นิสชฺชาวจเนเนว โพธิตนฺติ. อุชุํ กายนฺติ เอตฺถ กาย-สทฺโท อุปริมกายวิสโย.

ปริมุขนฺติ เอตฺถ ปริ-สทฺโท อภิสทฺเทน สมานตฺโถติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานาภิมุข’’นฺติ, พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณโต นิวาเรตฺวา กมฺมฏฺานํเยว ปุรกฺขตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ ยถา ‘‘วนนฺตฺเว ปวิสามี’’ติอาทินา ภาวนานุรูปํ เสนาสนํ ทสฺสิตํ, เอวํ ‘‘นิสีทามี’’ติ อิมินา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิโย สนฺโต อิริยาปโถ ทสฺสิโต, ‘‘ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา’’ติ อิมินา นิสชฺชาย ทฬฺหภาโว, ‘‘ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ อิมินา อารมฺมณปริคฺคหูปาโย. ปริคฺคหิตนิยฺยานนฺติ สพฺพถา คหิตาสมฺโมสํ ปริจฺจตฺตสมฺโมสํ สตึ กตฺวา, ปรมสติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ ‘‘ปริณายิกา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖.๒๐) วิย. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ ‘‘สุฺตวิโมกฺข’’นฺติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙-๒๑๐) วิย. ปฏิปกฺขโต นิคฺคมนฏฺโ หิ นิยฺยานฏฺโ.

จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ ทิพฺพภาวาวหตฺตา ทิพฺพวิหารา นาม โหนฺตีติ ตทาสนฺนปฺปวตฺตจงฺกโมปิ ตทุปจารโต ทิพฺโพ นาม โหตีติ อาห ‘‘จตฺตาริ หิ รูปชฺฌานานี’’ติอาทิ. สมาปชฺชิตฺวา จงฺกมนฺตสฺสาติ อิทฺจ จงฺกมนฺตสฺส อนฺตรนฺตรา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา อุฏฺายุฏฺาย จงฺกมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา อวุฏฺิเตน สกฺกา จงฺกมิตุํ. สมาปตฺติโต วุฏฺาย จงฺกมนฺตสฺสปิ จงฺกโมติ อิทํ ปน สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา อนฺตรนฺตรา สมาปชฺชิตฺวา จงฺกมนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. ทฺวีสุ วิหาเรสูติ พฺรหฺมวิหาเร, อริยวิหาเร จ. เมตฺตาฌานาทโย หิตูปสํหาราทิวเสน ปวตฺติยา พฺรหฺมภูตา เสฏฺภูตา วิหาราติ พฺรหฺมวิหารา. อนฺสาธารณตฺตา ปน อริยานํ วิหาราติ อริยวิหารา, จตสฺโสปิ ผลสมาปตฺติโย. อิธ ปน อรหตฺตผลสมาปตฺติเยว อาคตา.

ปจฺจเวกฺขณาย ผลสมาปตฺติ กถิตา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺิตสฺส ปจฺจเวกฺขณาสมฺภวโต. จงฺกมาทโยติ ผลสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺสปิ สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺสปิ จงฺกมฏฺานนิสชฺชาทโย. อริยจงฺกมาทโย โหนฺติ น ปน ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย.

เวนาคปุรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สรภสุตฺตวณฺณนา

๖๕. จตุตฺเถ คิชฺฌา เอตฺถ สนฺตีติ คิชฺฌํ, กูฏํ. ตํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ. คิชฺโฌ วิยาติ วา คิชฺฌํ, กูฏํ. ตํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ, ปพฺพโต. ตสฺมึ คิชฺฌกูเฏ. เตนาห ‘‘คิชฺฌา วา’’ติอาทิ. อจิรปกฺกนฺโตติ เอตฺถ น เทสนฺตรปกฺกมนํ อธิปฺเปตํ, อถ โข สาสนปกฺกมนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา’’ติอาทิมาห, เตเนว หิ ‘‘อิมสฺสา ธมฺมวินยา’’ติ วุตฺตํ. ลพฺภตีติ ลาโภ, จตุนฺนํ ปจฺจยานเมตํ อธิวจนํ. สกฺกจฺจํ กาตพฺโพ ทาตพฺโพติ สกฺกาโร. ปจฺจยา เอว หิ ปณีตปณีตา สุนฺทรสุนฺทรา อภิสงฺขริตฺวา กตา สกฺการาติ วุจฺจนฺติ. สกฺกาโรติ วา สุนฺทรกาโร, ปเรหิ อตฺตโน คารวกิริยา ปุปฺผาทีหิ วา ปูชา. ลาโภ จ สกฺกาโร จ ลาภสกฺการา, เต นฏฺา ปหีนา เอเตสนฺติ นฏฺลาภสกฺการา.

มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชีติ ตทา กิร ภควโต มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ ยถา ตํ จตฺตาโร อสงฺเขยฺเย ปูริตทานปารมิสฺจยสฺส. สพฺพทิสาสุ หิ ยมกมหาเมโฆ วุฏฺหิตฺวา มโหโฆ วิย สพฺพปารมิโย ‘‘เอกสฺมึ อตฺตภาเว วิปากํ ทสฺสามา’’ติ สมฺปิณฺฑิตา วิย ลาภสกฺการมโหฆํ นิพฺพตฺตยึสุ. ตโต ตโต อนฺนปานยานวตฺถมาลาคนฺธวิเลปนาทิหตฺถา ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย อาคนฺตฺวา ‘‘กหํ พุทฺโธ, กหํ ภควา, กหํ เทวเทโว นราสโภ ปุริสสีโห’’ติ ภควนฺตํ ปริเยสนฺติ, สกฏสเตหิปิ ปจฺจเย อาหริตฺวา โอกาสํ อลภมานา สมนฺตา คาวุตปฺปมาณมฺปิ สกฏธุเรน สกฏธุรํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ เจว อนุพนฺธนฺติ จ อนฺธกวินฺทพฺราหฺมโณ วิย. ยถา จ ภควโต, เอวํ ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสงฺโฆปิ สกฺกโต โหติ…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ (อุทา. ๓๘).

ตถา –

‘‘ยาวตา โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สงฺโฆ วา คโณ วา โลเก อุปฺปนฺโน, นาหํ, จุนฺท, อฺํ เอกํ สงฺฆมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ ยถริวายํ, จุนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๗๖).

สฺวายํ ภควโต จ สงฺฆสฺส จ อุปฺปนฺโน ลาภสกฺกาโร เอกโต หุตฺวา ทฺวินฺนํ มหานทีนํ อุทกํ วิย อปฺปเมยฺโย อโหสิ, ภควโต ปน ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อุปฺปนฺโน ลาภสกฺกาโร ธมฺมสฺสปิ อุปฺปนฺโนเยว. ธมฺมธรานฺหิ กโต สกฺกาโร ธมฺมสฺส กโต นาม โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ติณฺณํ รตนานํ มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชี’’ติ.

วุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา นิทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาหา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สกฺกโตติ สกฺการปฺปตฺโต. ยสฺส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกตฺวา สุอภิสงฺขเต ปณีตปณีเต อุปเนติ, โส สกฺกโต. ครุกโตติ ครุภาวเหตูนํ อุตฺตมคุณานํ มตฺถกปฺปตฺติยา อนฺสาธารเณน ครุกาเรน สพฺพเทวมนุสฺเสหิ ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุกโต. ยสฺมิฺหิ ครุภาวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ปจฺจเย เทนฺติ, โส ครุกโต. มานิโตติ สมฺมาปฏิปตฺติยา มานิโต มเนน ปิยายิโต. ตาย หิ วิฺูนํ มนาปตา. ปูชิโตติ มานนาทิปูชาย เจว จตุปจฺจยปูชาย จ ปูชิโต. ยสฺส หิ สพฺพเมตํ ปูชนฺจ กโรนฺติ, โส ปูชิโต. อปจิโตติ นีจวุตฺติกรเณน อปจิโต. สตฺถารฺหิ ทิสฺวา มนุสฺสา หตฺถิกฺขนฺธาทีหิ โอตรนฺติ, มคฺคํ เทนฺติ, อํสกูฏโต สาฏกํ อปเนนฺติ. อาสนโต วุฏฺหนฺติ, วนฺทนฺตีติ เอวํ โส เตหิ อปจิโต นาม โหติ.

อวณฺณํ ปตฺถริตฺวาติ อวณฺณํ ตตฺถ ตตฺถ สํกิตฺตนวเสน ปตฺถริตฺวา. อาวฏฺฏนิมายนฺติ อาวฏฺเฏตฺวา คหณมายํ. อาวฏฺเฏติ ปุริมาการโต นิวตฺเตติ อตฺตโน วเส วตฺเตติ เอตายาติ อาวฏฺฏนี, มายา, ตํ อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา ปริชปฺเปตฺวาติ อตฺโถ. โกฏิโต ปฏฺายาติ อนฺติมโกฏิโต ปฏฺาย. ถทฺธกาเยน ผรุสวาจาย ติณฺณํ รตนานํ อวณฺณกถนํ อนตฺถาวหตฺตา วิสสิฺจนสทิสา โหตีติ อาห ‘‘วิสํ สิฺจิตฺวา’’ติ. อฺาโตติ อาาโต. เตนาห ‘‘าโต’’ติอาทิ.

กายงฺคนฺติ กายเมว องฺคํ, กายสฺส วา องฺคํ, สีสาทิ. วาจงฺคนฺติ ‘‘โหตุ, สาธู’’ติ เอวมาทิวาจาย อวยวํ. เอกเกนาติ อสหาเยน. อิมสฺส ปนตฺถสฺสาติ ‘‘จริยํ จรณกาเล’’ติอาทินา วุตฺตสฺส. ยโต ยโต ครุ ธุรนฺติ ยสฺมึ ยสฺมึ าเน ธุรํ ครุ ภาริกํ โหติ, อฺเ พลิพทฺทา อุกฺขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ. ยโต คมฺภีรวตฺตนีติ วตฺตนฺติ เอตฺถาติ วตฺตนี, ทุมฺมคฺคสฺเสตํ นามํ, ยสฺมึ าเน อุทกจิกฺขลฺลมหนฺตตาย วา วิสมจฺฉินฺนตฏภาเวน วา มคฺโค คมฺภีโร โหตีติ อตฺโถ. ตทาสฺสุ กณฺหํ ยุฺเชนฺตีติ อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ, ตทา กณฺหํ ยุฺเชนฺตีติ อตฺโถ. ยทา ธุรฺจ ครุ โหติ มคฺโค จ คมฺภีโร, ตทา อฺเ พลิพทฺเท อปเนตฺวา กณฺหเมว ยุฺเชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สฺวาสฺสุ ตํ วหเต ธุรนฺติ เอตฺถปิ อสฺสูติ นิปาตมตฺตเมว, โส ตํ ธุรํ วหตีติ อตฺโถ.

เคหเวตนนฺติ เคเห นิวุฏฺภาวเหตุ ทาตพฺพํ. กาฬโก นาม นาเมนาติ อฺชนวณฺโณ กิเรส, เตนสฺส ‘‘กาฬโก’’ติ นามํ อกํสุ. กาฬกํ อุปสงฺกมิตฺวา อาหาติ กาฬโก กิร เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ มาตา ทุคฺคตา มํ ปุตฺตฏฺาเน เปตฺวา ทุกฺเขน โปเสติ, ยํนูนาหํ ภตึ กตฺวา อิมํ ทุคฺคตภาวโต โมเจยฺย’’นฺติ. โส ตโต ปฏฺาย ภตึ อุปธาเรนฺโต วิจรติ. อถ ตสฺมึ ทิวเส คามโครูเปหิ สทฺธึ ตตฺถ สมีเป จรติ. สตฺถวาหปุตฺโตปิ โคสุตฺตวิตฺตโก, โส ‘‘อตฺถิ นุ โข เอเตสํ คุนฺนํ อนฺตเร สกฏานิ อุตฺตาเรตุํ สมตฺโถ อุสภาชานีโย’’ติ อุปธารยมาโน โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อาชานีโย สกฺขิสฺสติ มยฺหํ สกฏานิ อุตฺตาเรตุ’’นฺติ อฺาสิ. เตน ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห. โส อฺเสํ…เป… เคหเมว อคมาสีติ ตทา กิร คามทารกา ‘‘กึ นาเมตํ กาฬกสฺส คเล’’ติ ตสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺติ. โส เต อนุพนฺธิตฺวา ทูรโตว ปลาเปนฺโต มาตุ สนฺติกํ คโต. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

สายนฺหสมยนฺติ สายนฺหกาเล. ภุมฺมตฺเถ เอตํ อุปโยควจนํ. น เหตฺถ อจฺจนฺตสํโยโค สมฺภวติ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เอตฺถ เตหิ เตหิ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกอุปาสกอุปาสิกาทิสตฺเตหิ เจว รูปารมฺมณาทิสงฺขาเรหิ จ ปฏินิวตฺเตตฺวา อปสกฺกิตฺวา นิลียนํ วิเวจนํ กายจิตฺเตหิ ตโต วิวิตฺตตาย ปฏิสลฺลานํ กายวิเวโก, จิตฺตวิเวโก จ. โย ตโต ทุวิธวิเวกโต วุฏฺิโต ภวงฺคปฺปตฺติยา สพฺรหฺมจารีหิ สมาคเมน จ อเปโต. โส ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต นาม โหติ. อยํ ปน ยสฺมา ปฏิสลฺลานานํ อุตฺตมโต ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาสิ, ตสฺมา ‘‘ผลสมาปตฺติโต’’ติ วุตฺตํ. กายสกฺขิโน ภวิสฺสามาติ นามกาเยน เทสนาสมฺปฏิจฺฉนวเสน สกฺขิภูตา ภวิสฺสาม. นนุ จ ‘‘ปฺตฺเต อาสเน นิสีที’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. ติตฺถิยา หิ ภควโต ปฏิปกฺขา, เต กสฺมา ตสฺส อาสนํ ปฺาเปนฺตีติ อาห ‘‘ตถาคโต หี’’ติอาทิ.

วิคฺคาหิกกถนฺติ วิคฺคาหสํวตฺตนิกํ สารมฺภกถํ. อายาเจยฺยาสีติ วจีเภทํ กตฺวา ยาเจยฺยาสิ. ปตฺเถยฺยาสีติ มนสา อาสีเสยฺยาสิ. ปิเหยฺยาสีติ ตสฺเสว เววจนํ. นิตฺเตชตํ อาปนฺโนติ เตชหานิยา นิตฺเตชภาวํ อาปนฺโน, นิตฺเตชภูโตติ อตฺโถ. ตโต เอว ภิกฺขุอาทโยปิ สมฺมุขา โอโลเกตุํ อสมตฺถตาย ปตฺตกฺขนฺโธ, ปติตกฺขนฺโธติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘โอนตคีโว’’ติ. ทสฺสิตธมฺเมสูติ วุตฺตธมฺเมสุ. วจนมตฺตเมว หิ เตสํ, น ปน ทสฺสนํ ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อภาวโต. ภควโต เอว วา ‘‘อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’’ติ ปรสฺส วจนวเสน ทสฺสิตธมฺเมสุ. ปฏิจริสฺสตีติ ปฏิจฺฉาทนวเส จริสฺสติ ปวตฺติสฺสติ, ปฏิจฺฉาทนตฺโถ เอว วา จรติ-สทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘ปฏิจฺฉาเทสฺสตี’’ติ. อฺเน วา อฺนฺติ ปน ปฏิจฺฉาทนาการทสฺสนนฺติ อาห ‘‘อฺเน วา วจเนนา’’ติอาทิ.

ตตฺถ อฺํ วจนนฺติ ยํ สมนุยุฺชนฺเตน ภควตา ปรสฺส โทสวิภาวนํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ ตโต อฺเเนว วจเนน ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ โจทเกน วุตฺตวจนํ วิย ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติอาทิวจเนน อฺํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต ‘‘ตฺวํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺตึ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ตโต ราชคหํ คโตมฺหิ. ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณเคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสีติ. ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต วิย สมนุยุฺชเกน วุตฺตวจนโต อฺํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต อปนาเมสฺสติ, วิกฺเขปํ คมยิสฺสติ. อปฺปตีตา โหนฺติ เตน อตุฏฺา อโสมนสฺสิกาติ อปจฺจโย, โทมนสฺเสตํ อธิวจนํ. เนว อตฺตโน, น ปเรสํ หิตํ อภิราธยตีติ อนภิรทฺธิ, โทมนสฺสเมว. เตเนวาห ‘‘อปจฺจเยน โทมนสฺสํ วุตฺต’’นฺติ.

ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺเทน จตุสจฺจธมฺโม วุตฺโตติ อาห ‘‘ยสฺส มคฺคสฺส วา ผลสฺส วา อตฺถายา’’ติ. จตุสจฺจธมฺโม หิ มคฺคผลาธิคมตฺถาย เทสียติ. น นิคฺคจฺฉตีติ น ปวตฺเตติ. นฺติ นํ ธมฺมํ. อิทานิ ‘‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต’’ติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺเทน ปฏิปตฺติธมฺโม ทสฺสิโต, น ปน จตุสจฺจธมฺโมติ อธิปฺปาเยน อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ปฺจ ธมฺมาติ คมฺภีราณจริยภูตานํ ขนฺธาทีนํ อุคฺคหสวนธารณปริจยโยนิโสมนสิกาเร สนฺธายาห. ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เอตฺถ สมฺมาสทฺโท อุภยตฺถาปิ โยเชตพฺโพ ‘‘สมฺมา ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. โย หิ สมฺมา ธมฺมํ ปฏิปชฺชติ, ตสฺเสว สมฺมา ทุกฺขกฺขโย โหตีติ. โย ปน วุตฺตนเยน ตกฺกโร, ตสฺส นิยฺยานํ อตฺถโต ธมฺมสฺเสว นิยฺยานนฺติ ตปฺปฏิกฺเขเปน ‘‘โส ธมฺโม…เป… น นิยฺยาติ น นิคฺคจฺฉตี’’ติ อาห.

ยทิ ติรจฺฉานสีหสฺส นาโท สพฺพติรจฺฉานเอกจฺจมนุสฺสามนุสฺสนาทโต เสฏฺตฺตา เสฏฺนาโท, กิมงฺคํ ปน ตถาคตสีหสฺส นาโทติ อาห ‘‘สีหนาทนฺติ เสฏฺนาท’’นฺติ. ยทิ วา ติรจฺฉานสีหนาทสฺส เสฏฺนาทตา นิพฺภยตาย อปฺปฏิสตฺตุตาย อิจฺฉิตา, ตถาคตสีหนาทสฺเสว อยมตฺโถ สาติสโยติ อาห ‘‘อภีตนาทํ อปฺปฏินาท’’นฺติ. ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๑๒๙; อ. นิ. ๑.๒๖๘-๒๗๑) หิ โย อตฺโถ วุตฺโต, ตสฺส ภูตตาย อยํ นาโท เสฏฺนาโท นาม โหติ อุตฺตมนาโท. ภูตตฺโถ หิ อุตฺตมตฺโถติ. อิมมตฺถํ ปน วทนฺตสฺส ภควโต อฺโต ภยํ วา อาสงฺกา วา นตฺถีติ อภีตนาโท นาม โหติ. อภูตฺหิ วทโต กุโตจิ ภยํ วา อาสงฺกา วา สิยา, เอวํ ปน วทนฺตํ ภควนฺตํ โกจิ อุฏฺหิตฺวา ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถีติ อยํ นาโท อปฺปฏินาโท นาม โหติ.

สมนฺตโต นิคฺคณฺหนวเสน โตทนํ วิชฺฌนํ สนฺนิโตทกํ, สมฺมา วา นิตุทนฺติ ปีเฬนฺติ เอเตนาติ สนฺนิโตทกํ. วาจายาติ จ ปจฺจตฺเต กรณวจนํ. เตนาห ‘‘วจนปโตเทนา’’ติ. สฺชมฺภริมกํสูติ สมนฺตโต สมฺภริตํ อกํสุ, สพฺเพ ปริพฺพาชกา วาจาโตทเนหิ ตุทึสูติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สมฺภริตํ…เป… วิชฺฌึสู’’ติ. สิงฺคาลกํเยวาติ สิงฺคาลเมว, ‘‘เสคาลกํเยวา’’ติปิ ปาโ. ตสฺเสวาติ สิงฺคาลรวสฺเสว. อถ วา เภรณฺฑกํเยวาติ เภทณฺฑสกุณิสทิสํเยวาติ อตฺโถ. เภทณฺฑํ นาม เอโก ปกฺขี ทฺวิมุโข, ตสฺส กิร สทฺโท อติวิย วิรูโป อมนาโป. เตนาห ‘‘อปิจ ภินฺนสฺสรํ อมนาปสทฺทํ นทตี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

สรภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา

๖๖. ปฺจเม เกสมุตฺตํ นิวาโส เอเตสนฺติ เกสมุตฺติยาติ อาห ‘‘เกสมุตฺตนิคมวาสิโน’’ติ. อฏฺวิธปานกานีติ อมฺพปานาทิอฏฺวิธานิ ปานานิ.

‘‘มา อนุสฺสเวนา’’ติอาทีสุ ปน เอโก ทหรกาลโต ปฏฺาย เอวํ อนุสฺสโว อตฺถิ, เอวํ จิรกาลกตาย อนุสฺสุติยา ลพฺภมานํ กถมิทํ อฺถา สิยา, ตสฺมา ภูตเมตนฺติ อนุสฺสเวน คณฺหาติ, ตถา คหณํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘มา อนุสฺสเวนา’’ติ อาห. อนุ อนุ สวนํ อนุสฺสโว. อปโร ‘‘อมฺหากํ ปิตุปิตามหาทิวุทฺธานํ อุปเทสปรมฺปราย อิทมาภตํ, เอวํ ปรมฺปราภตกถํ นาม น อฺถา สิยา, ตสฺมา ภูตเมต’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘มา ปรมฺปรายา’’ติ อาห. เอโก เกนจิ กิสฺมิฺจิ วุตฺตมตฺเต ‘‘เอวํ กิร เอต’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ นิเสเธนฺโต ‘‘มา อิติกิรายา’’ติ อาห. ปิฏกํ คนฺโถ สมฺปทียติ เอตสฺสาติ ปิฏกสมฺปทานํ, คนฺถสฺส อุคฺคณฺหนโก. เตน ปิฏกอุคฺคณฺหนกภาเวน เอกจฺโจ ตาทิสํ คนฺถํ ปคุณํ กตฺวา เตน ตํ สเมนฺตํ สเมติ, ตสฺมา ‘‘ภูตเมต’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ สนฺธาเยส ปฏิกฺเขโป ‘‘มา ปิฏกสมฺปทาเนนา’’ติ, อตฺตโน อุคฺคหคนฺถสมฺปตฺติยา มา คณฺหิตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. สเมตนฺติ สํคตํ.

โกจิ กฺจิ วิตกฺเกนฺโต ‘‘เอวเมว เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ เกวลํ อตฺตโน สงฺกปฺปวเสน ‘‘ภูตมิท’’นฺติ คณฺหาติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘มา ตกฺกเหตู’’ติ. อฺโ ‘‘อิมาย ยุตฺติยา ภูตมิท’’นฺติ เกวลํ อนุมานโต นยคฺคาเหน คณฺหาติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘มา นยเหตู’’ติ อาห. กสฺสจิ ‘‘เอวเมตํ สิยา’’ติ ปริกปฺเปนฺตสฺส เอกํ การณํ อุปฏฺาติ, โส ‘‘อตฺเถต’’นฺติ อตฺตโน ปริกปฺปิตากาเรน คณฺหาติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘มา อาการปริวิตกฺเกนา’’ติ อาห. อปรสฺส จินฺตยโต ยถาปริกปฺปิตํ กฺจิ อตฺถํ ‘‘เอวเมตํ น อฺถา’’ติ อภินิวิสนฺตสฺส เอกา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ยา ยสฺส ตํ การณํ นิชฺฌายนฺตสฺส ปจฺจกฺขํ วิย นิรูเปตฺวา จินฺเตนฺตสฺส ขมติ. โส ‘‘อตฺเถต’’นฺติ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา คณฺหาติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘มา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา’’ติ.

อกุสลเวรสฺสาติ ปาณาติปาตาทิปฺจวิธํ เวรํ สนฺธาย วทติ. โกโธ นาม เจตโส ทุกฺขนฺติ อาห ‘‘โกธจิตฺตสฺส อภาเวนา’’ติ. กิเลสสฺสาติ จิตฺตํ วิพาเธนฺตสฺส อุปตาเปนฺตสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาทิกิเลสสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา

๖๗. ฉฏฺเ ปาโต อสิตพฺพโภชนํ ปาตราสํ, ภุตฺตํ ปาตราสํ เอเตสนฺติ ภุตฺตปาตราสา. ทาสา นาม อนฺโตชาตา วา ธนกฺกีตา วา กรมรานีตา วา สยํ วา ทาสพฺยํ อุปคตา. ภตฺตเวตนภตา กมฺมการา นาม.

นิจฺฉาโตติ เอตฺถ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา ชิฆจฺฉาเหตุตาย, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. เตนาห ‘‘นิตฺตณฺโห’’ติ. อพฺภนฺตเร สนฺตาปกรานํ กิเลสานนฺติ อตฺตโน สนฺตาเน ทรถปริฬาหชนเนน สนฺตาปนกิเลสานํ. อนฺโตตาปนกิเลสานํ อภาวา สีโต สีตโล ภูโต ชาโตติ สีติภูโต. เตนาห ‘‘สีตลีภูโต’’ติ. มคฺคผลนิพฺพานสุขานิ วา ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฺปฏิสํเวที. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๖๘. สตฺตเม กถาวตฺถูนีติ กถาย ปวตฺติฏฺานานิ. ยสฺมา เตหิ วินา กถา น ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘กถาการณานี’’ติ วุตฺตํ. อตติ สตติ สตตํ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อทฺธา, กาโลติ อาห ‘‘อตีตมทฺธานํ นาม กาโลปิ วตฺตตี’’ติ. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย หิ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ กาโล ตสฺเสว ธมฺมสฺส ปวตฺติอวตฺถาวิเสสํ อุปาทาย เตเนว โวหาเรน อตีโตติอาทินา โวหรียติ, อตีตาทิเภโท จ นามายํ นิปฺปริยายโต ธมฺมานํเยว โหติ, น กาลสฺสาติ อาห ‘‘ขนฺธาปิ วตฺตนฺตี’’ติ. ยถาวุตฺตมตฺถํ อิตเรสุ ทฺวีสุ อติทิสติ ‘‘อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ เอเสว นโย’’ติ. อตีตมทฺธานนฺติอาทีสุ จ ทฺเว ปริยายา สุตฺตนฺตปริยาโย, อภิธมฺมปริยาโย จ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีโต อทฺธา นาม, จุติโต ปจฺฉา อนาคโต อทฺธา นาม, สห จุติปฏิสนฺธีติ ตทนฺตรํ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. อภิธมฺมปริยาเยน ตีสุ ขเณสุ อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อตีโต อทฺธา นาม, อุปฺปาทโต อุทฺธํ อนาคโต อทฺธา นาม, ขณตฺตยํ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. ตตฺถายํ สุตฺตนฺตเทสนาติ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว อตีตาทิวิสยํ กถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตีเต กสฺสโป นามา’’ติอาทิมาห.

เอกํเสเนว พฺยากาตพฺโพ วิสฺสชฺเชตพฺโพติ เอกํสพฺยากรณีโย. ‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ ปฺเห อุตฺตรปทาวธารณํ สนฺธาย ‘‘เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ นิจฺจตาย เลสสฺสปิ ตตฺถ อภาวโต, ปุริมปทาวธารเณ ปน วิภชฺชพฺยากรณียตาย. เตนาห ‘‘อนิจฺจํ นาม จกฺขูติ ปุฏฺเน ปนา’’ติอาทิ. จกฺขุโสเต วิเสสตฺถสามฺตฺถานํ อสาธารณภาวโต ทฺวินฺนํ เตสํ สทิสโจทนา ปฏิจฺฉนฺนมุเขเนว พฺยากรณียา ปฏิกฺเขปวเสน อนุฺาตวเสน จ วิสฺสชฺชิตพฺพโตติ อาห ‘‘ยถา จกฺขุ, ตถา โสตํ…เป… อยํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห’’ติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีวสรีรานํ อนฺตาปฺเห ยสฺส เยน อนฺตา โจทิตา, โส เอว ปรมตฺถโต นุปลพฺภตีติ จ ฌานตฺตยสฺส เมตฺเตยฺยตากิตฺตนสทิโสติ อพฺยากาตพฺพตาย ปนีโย วุตฺโต. เอวรูโป หิ ปฺโห ติธา อวิสฺสชฺชนียตฺตา พฺยากรณํ อกตฺวา เปตพฺโพ.

ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, การณนฺติ อาห ‘‘การณาการเณ’’ติ. ยุตฺเตน การเณนาติ อนุรูเปน การเณน. ปโหตีติ นิคฺคณฺหิตุํ สมตฺโถ โหติ. สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปตีติ อตฺตนา คหิเต อุจฺเฉทวาเท โทสํ ทิสฺวา อตฺตโนปิ สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปติ. ปุคฺคลวาทิมฺหีติ อิมินา วจฺฉกุตฺติยวาทึ ทสฺเสติ. ปฺหํ ปุจฺฉนฺเตหิ ปฏิปชฺชิตพฺพา ปฏิปทา ปฺหปุจฺฉนกานํ วตฺตํ.

ปฏิจรตีติ ปฏิจฺฉาทนวเสน จรติ ปวตฺตติ. ปฏิจฺฉาทนตฺโถ เอว วา จรติสทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘ปฏิจฺฉาเทตี’’ติ. อฺเนฺนฺติ ปน ปฏิจฺฉาทนาการทสฺสนนฺติ อาห ‘‘อฺเน วจเนนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อฺเน วจเนนาติ ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ ตโต อฺเน วจเนน ปฏิจฺฉาเทติ. โย หิ ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติ วทติ. ‘‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ วา อุปเนติ, อยํ อฺเนฺํ ปฏิจรติ นาม. ‘‘โก อาปนฺโน’’ติอาทินา หิ โจทนํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว วิกฺเขปาปชฺชนํ อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, พหิทฺธา กถาปนามนํ วิสฺสชฺเชตฺวาติ อยเมเตสํ วิเสโส. เตเนวาห ‘‘อาคนฺตุกกถํ โอตาเรนฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ อปนาเมตีติ วิกฺเขเปติ. ตตฺราติ ตสฺมึ พหิทฺธากถาย อปนามเน.

อุปนิสีทติ ผลํ เอตฺถาติ การณํ อุปนิสา, อุเปจฺจ นิสฺสยตีติ วา อุปนิสา, สห อุปนิสายาติ สอุปนิโสติ อาห ‘‘สอุปนิสฺสโย สปจฺจโย’’ติ.

โอหิตโสโตติ อนฺวิหิตตฺตา ธมฺมสฺสวนาย อปนามิตโสโต. ตโต เอว ตทตฺถํ ปิตโสโต. กุสลธมฺมนฺติ อริยมคฺโค อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อริยมคฺค’’นฺติ.

กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา

๖๙. อฏฺเม ภควา มูลํ การณํ เอเตสํ ยาถาวโต อธิคมายาติ ภควํมูลกา. เตนาห ‘‘ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามา’’ติ. อมฺหากํ ธมฺมาติ เตหิ อตฺตนา อธิคนฺตพฺพตาย วุตฺตํ. เสวิตพฺพาเสวิตพฺพานฺหิ ยาถาวโต อธิคมฺาณานิ อธิคจฺฉนกสมฺพนฺธีนิ, ตานิ จ สมฺมาสมฺพุทฺธมูลกานิ อนฺวิสยตฺตา. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธนา’’ติอาทิ. อิเม ธมฺมาติ อิเม าณธมฺมา. อาชานามาติ อภิมุขํ ปจฺจกฺขโต ชานาม. ปฏิวิชฺฌามาติ ตสฺเสว เววจนํ, อธิคจฺฉามาติ อตฺโถ. ภควา เนตา เอเตสนฺติ ภควํเนตฺติกา. เนตาติ เสวิตพฺพธมฺเม เวเนยฺยสนฺตานํ ปาเปตา. วิเนตาติ อเสวิตพฺพธมฺเม เวเนยฺยสนฺตานโต อปเนตา. ตทงฺควินยาทิวเสน วา วิเนตา. อถ วา ยถา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส โหติ, เอวํ วิเสสโต เนตา. อนุเนตาติ ‘‘อิเม ธมฺมา เสวิตพฺพา, อิเม น เสวิตพฺพา’’ติ อุภยสมฺปาปนาปนยนตฺถํ ปฺาเปตา. เตนาห ‘‘ยถาสภาวโต’’ติอาทิ.

ปฏิสรนฺติ เอตฺถาติ ปฏิสรณํ, ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. อาปาถํ อุปคจฺฉนฺตา หิ ภควา ปฏิสรณํ สโมสรณฏฺานํ. เตนาห ‘‘จตุภูมกธมฺมา’’ติอาทิ. ปฏิสรติ สภาวสมฺปฏิเวธวเสน ปจฺเจกํ อุปคจฺฉตีติ วา ปฏิสรณํ, ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรติ ปฏิวิชฺฌตีติ วา ปฏิสรณํ, ตสฺมา ปฏิวิชฺฌนวเสน ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. เตนาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. ปฏิเวธวเสนาติ ปฏิวิชฺฌิตพฺพตาวเสน. อสติปิ มุเข อตฺถโต เอวํ วทนฺโต วิย โหตีติ อาห ‘‘ผสฺโส อาคจฺฉติ อหํ ภควา กินฺนาโม’’ติ. ผสฺโส าณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺโตเยว หิ อตฺตโน ‘‘อหํ กินฺนาโม’’ติ นามํ ปุจฺฉนฺโต วิย, ภควา จสฺส นามํ กโรนฺโต วิย โหติ.

ปฏิภาตูติ เอตฺถ ปฏิสทฺทาเปกฺขาย ‘‘ภควนฺต’’นฺติ อุปโยควจนํ, อตฺโถ ปน สามิวจนวเสเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควโต’’ติ. ปฏิภาตูติ จ ภาโค โหตุ. ภควโต หิ เอส ภาโค, ยทิทํ ธมฺมสฺส เทสนา, อมฺหากํ ปน ภาโค สวนนฺติ อธิปฺปาโย. เอวฺหิ สทฺทลกฺขเณน สเมติ. เกจิ ปน ปฏิภาตูติ ปทสฺส ทิสฺสตูติ อตฺถํ วทนฺติ, าเณน ทิสฺสตุ, เทสียตูติ วา อตฺโถ. อุปฏฺาตูติ าณสฺส ปจฺจุปติฏฺตุ. ปาฬิยํ โก อธิปฺปยาโสติ เอตฺถ โก อธิกปฺปโยโคติ อตฺโถ.

โลกวชฺชวเสนาติ โลกิยชเนหิ ปกติยา ครหิตพฺพวชฺชวเสน. วิปากวชฺชวเสนาติ วิปากสฺส อปายสํวตฺตนิกวชฺชวเสน. กถนฺติอาทินา อุภยวชฺชวเสนปิ อปฺปสาวชฺชตาย วิสยํ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

อฺติตฺถิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา

๗๐. นวเม ลุพฺภตีติ โลโภ. ทุสฺสตีติ โทโส. มุยฺหตีติ โมโห. โลภาทีนิ ปเนตานิ อสหชาตานํ ปาณาติปาตาทีนํ เกสฺจิ อกุสลานํ อุปนิสฺสยปจฺจยฏฺเน, สหชาตานํ อทินฺนาทานาทีนํ เกสฺจิ สมฺปยุตฺตา หุตฺวา อุปฺปาทกฏฺเน, สยฺจ อกุสลานีติ สาวชฺชทุกฺขวิปากฏฺเนาติ อาห ‘‘อกุสลานํ มูลานิ, อกุสลานิ จ ตานิ มูลานี’’ติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘รตฺโต โข, อาวุโส, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต ปาณมฺปิ หนตี’’ติอาทิ. ยทปีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โยปิ, ภิกฺขเว, โลโภ’’ติ. ตทปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยติ อาห ‘‘โสปิ อกุสลมูล’’นฺติ. วินาปิ ลิงฺควิปลฺลาเสน อตฺถโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อกุสลมูลํ วา’’ติอาทิมาห. สพฺพตฺถาติ ‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, โทโส, ตทปิ อกุสลมูล’’นฺติอาทีสุ. อภิสงฺขโรตีติ เอตฺถ อายูหตีติ อตฺถํ วตฺวา ตฺจ อายูหนํ ปจฺจยสมวายสิทฺธิโต สมฺปิณฺฑนํ ราสิกรณํ วิย โหตีติ อาห ‘‘สมฺปิณฺเฑติ ราสึ กโรตี’’ติ.

ปาฬิยํ ‘‘วเธนา’’ติอาทีสุ วเธนาติ มารเณน วา โปถเนน วา. วธสทฺโท หิ หึสนตฺโถ วิเหนตฺโถ จ โหติ. พนฺธเนนาติ อทฺทุพนฺธนาทินา. ชานิยาติ ธนชานิยา, ‘‘สตํ คณฺหถ, สหสฺสํ คณฺหถา’’ติ เอวํ ปวตฺติตทณฺเฑนาติ อตฺโถ. ครหายาติ ปฺจสิขมุณฺฑกกรณํ, โคมยสิฺจนํ, คีวาย กุรณฺฑกพนฺธนนฺติ เอวมาทีนิ กตฺวา ครหปาปเนน. ตตฺถ ปฺจสิขมุณฺฑกกรณํ นาม กากปกฺขกรณํ. โคมยสิฺจนํ สีเสน กโณทกาวเสจนํ. กุรณฺฑกพนฺธนํ คทฺทุลพนฺธนํ.

กาลสฺมึ น วทตีติ ยุตฺตกาเล น วทติ, วตฺตพฺพกาลสฺส ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา อยุตฺตกาเล วตฺตา โหติ. อภูตวาทีติ ยํ นตฺถิ, ตสฺส วตฺตา. เตนาห ‘‘ภูตํ น วทตี’’ติ. อตฺถํ น วทตีติ การณํ น วทติ, อการณนิสฺสิตํ นิปฺผลํ วตฺตา โหติ. ธมฺมํ น วทตีติ สภาวํ น วทติ, อสภาวํ วตฺตา อยถาวาทีติ อตฺโถ. วินยํ น วทตีติ สํวรวินยํ น วทติ, น สํวรวินยปฺปฏิสํยุตฺตสฺส วตฺตา โหติ, อตฺตโน สุณนฺตสฺส จ น สํวรวินยาวหสฺส วตฺตาติ อตฺโถ.

อตจฺฉนฺติ อภูตตฺถํ. เตนาห ‘‘อิตรํ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. อถ วา อภูตนฺติ อสนฺตํ อวิชฺชมานํ. อตจฺฉนฺติ อตถาการํ.

ปุฺกมฺมโต เอติ อุปฺปชฺชตีติ อโย, วฑฺฒิ. ตปฺปฏิกฺเขเปน อนโย, อวฑฺฒีติ อาห ‘‘อนยํ อาปชฺชตีติ อวฑฺฒึ อาปชฺชตี’’ติ. มาลุวาสิปาฏิกา นาม ทีฆสณฺานํ มาลุวาปกฺกํ, มาลุวาผลโปฏฺลิกาติ อตฺโถ. ผลิตายาติ อาตเปน สุสฺสิตฺวา ภินฺนาย. วฏรุกฺขาทีนํ มูเลติ วฏรุกฺขาทีนํ สมีเป. สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกนฺตีติ กสฺมา น สกฺโกนฺติ? ภวนวินาสภยา. รุกฺขมูเล ปติตมาลุวาพีชโต หิ ลตา อุปฺปชฺชิตฺวา รุกฺขํ อภิรุหติ. สา มหาปตฺตา เจว พหุปตฺตา จ มหาโกลิรปตฺตสณฺาเนหิ ตโต จ มหนฺตตเรหิ สาขาวิฏปนฺตเรหิ ปตฺเตหิ สมนฺนาคตา. อถ นํ รุกฺขํ มูลโต ปฏฺาย วินนฺธมานา สพฺพวิฏปานิ สฺฉาเทตฺวา มหนฺตํ ภารํ ชเนตฺวา ติฏฺติ, สา วาเต วายนฺเต เทเว วา วสฺสนฺเต โอฆนเหฏฺาคตา โอลมฺพนเหตุภูตํ ฆนภาวํ ชเนตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส สพฺพสาขํ ภิชฺชติ, ภูมิยํ นิปาเตติ. ตโต ตสฺมึ รุกฺเข ปติฏฺิตวิมานํ ภิชฺชติ วินสฺสติ. อิติ ตา เทวตาโย ภวนวินาสภยา สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. เอตฺถ จ ยํ สาขฏฺกวิมานํ โหติ, ตํ สาขาสุ ภิชฺชมานาสุ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชิตฺวา สพฺพสาขาสุ ภินฺนาสุ สพฺพํ ภิชฺชติ, รุกฺขฏฺกวิมานํ ปน ยาว รุกฺขสฺส มูลมตฺตมฺปิ ติฏฺติ, ตาว น นสฺสตีติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ตตฺถ ปลุชฺชิตฺวาติ ตตฺถ ตตฺถ ภิชฺชิตฺวา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

อกุสลมูลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา

๗๑. ทสเม ตทหูติ เอตฺถ ตสฺมึ อหนีติ อตฺโถติ อาห ‘‘ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ’’ติ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, อุโปสถทิวโส. อุปวสนฺตีติ จ สีเลน วา อนสเนน วา ขีรสายนาทิวิธินา วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. อุโปสถทิวเส หิ สาสนิกา สีเลน, พาหิรกา สพฺพโส อาหารสฺส อภุฺชเนน ขีรสายนมธุสายนาทิวิธินา วา อุเปตา หุตฺวา วิหรนฺติ. โส ปเนส อุโปสถทิวโส อฏฺมิจาตุทฺทสิปนฺนรสิเภเทน ติวิโธ, ตสฺมา เสสทฺวยนิวารณตฺถํ ‘‘ปนฺนรสิกอุโปสถทิวเส’’ติ วุตฺตํ. ววสฺสคฺคตฺเถติ วจสายตฺเถ. ทิวสทฺโท ทิวาสทฺโท วิย ทิวสปริยาโย, ตสฺส วิเสสนภาเวน วุจฺจมาโน ทิวาสทฺโท สวิเสเสน ทีเปตีติ อาห ‘‘ทิวสสฺส ทิวา, มชฺฌนฺหิเก กาเลติ อตฺโถ’’ติ. ปฏิจฺฉาเปตฺวาติ สมฺปฏิจฺฉนํ กาเรตฺวา. วิปากผเลนาติ สทิสผเลน. น มหปฺผโล โหติ มโนทุจฺจริตทุสฺสีลฺเยน อุปกฺกิลิฏฺภาวโต. วิปากานิสํเสนาติ อุทฺรยผเลน. วิปาโกภาเสนาติ ปฏิปกฺขวิคมชนิเตน สภาวสงฺขาเตน วิปาโกภาเสน. น มหาโอภาโส อปริสุทฺธภาวโต. วิปากวิปฺผารสฺสาติ วิปากเวปุลฺลสฺส.

นาหํ กฺวจนีติอาทิวจนสฺส มิจฺฉาภินิเวสวเสน ปวตฺตตฺตา ‘‘อิทํ ตสฺส มุสาวาทสฺมึ วทามี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ, จตุโกฏิกสุฺตาทสฺสนวเสน ปวตฺตํ ปน อริยทสฺสนเมวาติ น ตตฺถ มุสาวาโท. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘นาหํ กฺวจนิ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ, น จ มม กฺวจนิ, กิสฺมิฺจิ กิฺจนตตฺถี’’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๗๐).

เอตฺถ หิ จตุโกฏิกสุฺตา กถิตา. กถํ? อริโย (วิสุทฺธิ. ๒.๗๖๐; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๗๐) หิ นาหํ กฺวจนีติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ, ภาติฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน ปริกฺขารํ มฺิตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มม-สทฺทํ ตาว เปตฺวา กฺวจนิ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ น ปสฺสตีติ อยมตฺโถ. อิทานิ มม-สทฺทํ อาหริตฺวา ‘‘มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนตตฺถี’’ติ โส ปรสฺส อตฺตานํ ‘‘มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนภาเวน อตฺถี’’ติ น ปสฺสติ, อตฺตโน ภาติกฏฺาเน ภาตรํ, สหายฏฺาเน สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิฺจิ าเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ. น กตฺถจิ ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, ตสฺมา อยํ สุฺตา จตุโกฏิกาติ เวทิตพฺพา.

ยสฺมา ปน มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ยาถาวทสฺสนสฺส อสมฺภวโต ยถาวุตฺตจตุโกฏิกสุฺตาทสฺสนํ น สมฺภวติ, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา’’ติอาทิวจนํ (ที. นิ. ๑.๑๗๑) วิย มิจฺฉาคาหวเสน ‘‘นาหํ กฺวจนี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ยุตฺโต เจตฺถ มุสาวาทสมฺภโว. กตฺถจีติ าเน, กาเล วา. อถ ‘‘นิปฺผโล’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. ‘‘น มหปฺผโล’’ติ สทฺเทน หิ มหปฺผลาภาโวว โชติโต, น ปน สพฺพถา ผลาภาโวติ อาห ‘‘พฺยฺชนเมว หิ เอตฺถ สาวเสส’’นฺติอาทิ. เสสปเทสุปีติ ‘‘น มหานิสํโส’’ติอาทีสุปิ.

อฏฺหิ การเณหีติ –

‘‘อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ – ‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ, เอวํ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนํ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสามิ, น ปเนตรหิ อฺตฺร เตน ภควตา’’ติ –

อาทินา มหาโควินฺทสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วิตฺถาริเตหิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนาทีหิ พุทฺธานุภาวทีปเกหิ อฏฺหิ การเณหิ. อถ ‘‘นวหิ การเณหี’’ติ อวตฺวา ‘‘อฏฺหิ การเณหี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอตฺถ หิ…เป… สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรา พุทฺธคุณา สงฺคหิตา’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติ อิมินา วจเนน อวิเสสโต สพฺเพปิ โลกิยโลกุตฺตรา พุทฺธคุณา ทีปิตา, ตสฺมา เตน ทีปิตคุเณ สนฺธาย ‘‘อฏฺหิ การเณหี’’ติ วุตฺตนฺติ. อรหนฺติอาทีหิ ปาฏิเยกฺกคุณาว นิทฺทิฏฺาติ อรหนฺติอาทีหิ เอเกเกหิ ปเทหิ เอเกเก คุณาว นิทฺทิฏฺาติ อตฺโถ.

สหตนฺติกนฺติ ปาฬิธมฺมสหิตํ. ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพาติ ‘‘กิลิฏฺสฺมิฺหิ กาเย ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมานา น โสภนฺตี’’ติอาทินา นเยน โยชนา กาตพฺพาติ อตฺโถ.

สงฺฆสฺส อนุสฺสรณํ นาม ตสฺส คุณานุสฺสรณเมวาติ อาห ‘‘อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ คุเณ อนุสฺสรตี’’ติ. ทฺเว ตโย วาเร คาหาปิตํ อุสุมนฺติ ทฺเว ตโย วาเร อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา เสทนวเสน คาหาปิตํ อุสุมํ. ปุริมนเยเนว โยชนา กาตพฺพาติ ‘‘กิลิฏฺสฺมิฺหิ วตฺเถ ปสาธนํ ปสาเธตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬมานา น โสภนฺตี’’ติอาทินา นเยน โยชนา กาตพฺพา.

ปหีนกาลโต ปฏฺาย…เป… วิรตาวาติ เอเตน ปหานเหตุกา อิธาธิปฺเปตา วิรตีติ ทสฺเสติ. กมฺมกฺขยกราเณน หิ ปาณาติปาตทุสฺสีลฺยสฺส ปหีนตฺตา อรหนฺโต อจฺจนฺตเมว ตโต ปฏิวิรตาติ วุจฺจติ สมุจฺเฉทวเสน ปหานวิรตีนํ อธิปฺเปตตฺตา. กิฺจาปิ ปหานวิรมณานํ ปุริมปจฺฉิมกาลตา นตฺถิ, มคฺคธมฺมานํ ปน สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ สมฺมาวาจาทีนฺจ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเว อเปกฺขิเต สหชาตานมฺปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน คหณํ ปุริมปจฺฉิมภาเวเนว โหตีติ, คหณปฺปวตฺติอาการวเสน ปจฺจยภูเตสุ สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ ปหายกธมฺเมสุ ปหานกิริยาย ปุริมกาลโวหาโร, ปจฺจยุปฺปนฺนาสุ จ วิรตีสุ วิรมณกิริยาย อปรกาลโวหาโร จ โหตีติ ปหานํ วา สมุจฺเฉทวเสน, วิรติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน โยเชตพฺพา.

อถ วา ปาโณ อติปาตียติ เอเตนาติ ปาณาติปาโต, ปาณฆาตเหตุภูโต ธมฺมสมูโห. โก ปน โส? อหิริกาโนตฺตปฺปโทสโมหวิหึสาทโย กิเลสา. เต หิ อรหนฺโต อริยมคฺเคน ปหาย สมุคฺฆาเตตฺวา ปาณาติปาตทุสฺสีลฺยโต อจฺจนฺตเมว ปฏิวิรตาติ วุจฺจนฺติ, กิเลเสสุ ปหีเนสุ กิเลสนิมิตฺตสฺส กมฺมสฺส อนุปฺปชฺชนโต. อทินฺนาทานํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. วิรตาวาติ อวธารเณน ตสฺสา วิรติยา กาลาทิวเสน อปริยนฺตตํ ทสฺเสติ. ยถา หิ อฺเ สมาทินฺนวิรติกาปิ อนวฏฺิตจิตฺตตาย ลาภชีวิตาทิเหตุ สมาทานํ ภินฺทนฺติ, น เอวํ อรหนฺโต, อรหนฺโต ปน สพฺพโส ปหีนปาณาติปาตตฺตา อจฺจนฺตวิรตา เอวาติ.

ทณฺฑนสงฺขาตสฺส ปรวิเหนสฺส จ ปริวชฺชนภาวทีปนตฺถํ ทณฺฑสตฺถานํ นิกฺเขปวจนนฺติ อาห ‘‘ปรูปฆาตตฺถายา’’ติอาทิ. ลชฺชีติ เอตฺถ วุตฺตลชฺชาย โอตฺตปฺปมฺปิ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. น หิ ปาปชิคุจฺฉนปาปุตฺตาสรหิตํ, ปาปภยํ วา อลชฺชนํ อตฺถีติ. ธมฺมครุตาย วา อรหนฺตานํ ธมฺมสฺส จ อตฺตา ธีนตฺตา อตฺตาธิปติภูตา ลชฺชาว วุตฺตา, น ปน โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ. ‘‘ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺนา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ทยา-สทฺโท ‘‘อทยาปนฺโน’’ติอาทีสุ กรุณาย ปวตฺตตีติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน ทยา-สทฺโท อนุรกฺขณตฺถํ อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตมาโน เมตฺตาย กรุณาย จ ปวตฺตตีติ อิธ เมตฺตาย ปวตฺตมาโน วุตฺโต. มิชฺชติ สินิยฺหตีติ เมตฺตา, เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, เมตฺตํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ เมตฺตจิตฺโต, ตสฺส ภาโว เมตฺตจิตฺตตา, เมตฺตาอิจฺเจว อตฺโถ.

สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ เอเตน ตสฺสา วิรติยา ปวตฺตวเสน อปริยนฺตตํ ทสฺเสติ. ปาณภูเตติ ปาณชาเต. อนุกมฺปกาติ กรุณายนกา, ยสฺมา ปน เมตฺตา กรุณาย วิเสสปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตาย เอว ทยาปนฺนตายา’’ติ. เอวํ เยหิ ธมฺเมหิ ปาณาติปาตา วิรติ สมฺปชฺชติ, เตหิ ลชฺชาเมตฺตากรุณาธมฺเมหิ สมงฺคิภาโว ทสฺสิโต.

ปรปริคฺคหิตสฺส อาทานนฺติ ปรสนฺตกสฺส อาทานํ. เถโน วุจฺจติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ, กามฺเจตฺถ ‘‘ลชฺชี ทยาปนฺโน’’ติ น วุตฺตํ, อธิการวเสน ปน อตฺถโต วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ ลชฺชาทโย ปาณาติปาตปฺปหานสฺส วิเสสปจฺจยา, เอวํ อทินฺนาทานปฺปหานสฺสปีติ, ตสฺมา สาปิ ปาฬิ อาเนตฺวา วตฺตพฺพา. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. อถ วา สุจิภูเตนาติ เอเตน หิโรตฺตปฺปาทีหิ สมนฺนาคโม, อหิริกาทีนฺจ ปหานํ วุตฺตเมวาติ ‘‘ลชฺชี’’ติอาทิ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อเสฏฺจริยนฺติ อเสฏฺานํ หีนานํ, อเสฏฺํ วา ลามกํ จริยํ, นิหีนวุตฺตึ เมถุนนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารนฺติ เมถุนวิรติมาห. อาราจารี เมถุนาติ เอเตน – ‘‘อิเธกจฺโจ น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธึ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, อปิจ โข มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ, โส ตํ อสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๕๐) วุตฺตา สตฺตวิธเมถุนสํโยคาปิ ปฏิวิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.

‘‘สจฺจโต เถตโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๙) วิย เถต-สทฺโท ถิรปริยาโย, ถิรภาโว จ สจฺจวาทิตาย ิตกถตฺตา กถาวเสน เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘ิตกถาติ อตฺโถ’’ติ. น ิตกโถติ ยถา หลิทฺทิราคาทโย อนวฏฺิตสภาวตาย น ิตา, เอวํ น ิตา กถา ยสฺส โส น ิตกโถติ หลิทฺทิราคาทโย ยถา กถาย อุปมา โหนฺติ, เอวํ โยเชตพฺพํ. เอส นโย ‘‘ปาสาณเลขา วิยา’’ติอาทีสุปิ. สทฺธา อยติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ สทฺธายา, สทฺธายา เอว สทฺธายิกา ยถา เวนยิกา. สทฺธาย วา อยิตพฺพา สทฺธายิกา, สทฺเธยฺยาติ อตฺโถ. วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ วิสํวาทนโตติ อธิปฺปาโย.

เอกํ ภตฺตํ เอกภตฺตํ, ตํ เอเตสมตฺถีติ เอกภตฺติกา, เอกสฺมึ ทิวเส เอกวารเมว ภุฺชนกา. ตยิทํ รตฺติโภชเนนปิ สิยาติ อาห ‘‘รตฺตูปรตา’’ติ. เอวมฺปิ สายนฺหโภชเนนปิ สิยุํ เอกภตฺติกาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ‘‘วิรตา วิกาลโภชนา’’ติ วุตฺตํ. อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิกา อยํ พุทฺธานํ อริยานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ โภชนสฺส กาโล นาม, ตทฺโ วิกาโล. อฏฺกถายํ ปน ทุติยปเทน รตฺติโภชนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา อปรณฺโห ‘‘วิกาโล’’ติ วุตฺโต.

สงฺเขปโต ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓) ภควโต สาสนํ สจฺฉนฺทราคปฺปวตฺติโต นจฺจาทีนํ ทสฺสนํ น อนุโลเมตีติ อาห ‘‘สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา’’ติ. อตฺตนา ปโยชิยมานํ ปเรหิ ปโยชาปียมานฺจ นจฺจํ นจฺจภาวสามฺโต ปาฬิยํ เอเกเนว นจฺจสทฺเทน คหิตํ, ตถา คีตวาทิตสทฺทา จาติ อาห ‘‘นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสนา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน คายนคายาปนวาทนวาทาปนานิ สงฺคณฺหาติ. ทสฺสเนน เจตฺถ สวนมฺปิ สงฺคหิตํ วิรูเปกเสสนเยน. อาโลจนสภาวตาย วา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสงฺเขปสพฺภาวโต ทสฺสนาอิจฺเจว วุตฺตํ. อวิสูกภูตสฺส คีตสฺส สวนํ กทาจิ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘วิสูกภูตํ ทสฺสน’’นฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกปาฏฺกถาย ‘‘ธมฺมูปสํหิตํ คีตํ วฏฺฏติ, คีตูปสํหิโต ธมฺโม น วฏฺฏตี’’ติ.

ยํ กิฺจีติ คนฺถิตํ วา อคนฺถิตํ วา ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธชาตนฺติ คนฺธชาติยํ. ตสฺสาปิ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ วจนโต ธูปิตสฺสปิ อธูปิตสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ วิเลปนาทิ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อุจฺจาติ อุจฺจสทฺเทน สมานตฺถํ เอกํ สทฺทนฺตรํ. เสติ เอตฺถาติ สยนํ. อุจฺจาสยนํ มหาสยนฺจ สมณสารุปฺปรหิตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ปมาณาติกฺกนฺตํ อกปฺปิยตฺถรณ’’นฺติ, อาสนฺทาทิอาสนฺเจตฺถ สยเนน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา ปน อาธาเร ปฏิกฺขิตฺเต ตทาธารกิริยา ปฏิกฺขิตฺตาว โหติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาสยนมหาสยนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ตทุปโภคภูตนิสชฺชานิปชฺชเนหิ วิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา. อถ วา ‘‘อุจฺจาสยนาสนมหาสยนาสนา’’ติ, เอตสฺมึ อตฺเถ เอกเสสนเยน อยํ นิทฺเทโส กโต ยถา ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ. (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑) อาสนกิริยาปุพฺพกตฺตา วา สยนกิริยาย สยนคฺคหเณเนว อาสนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘‘กีวา’’ติ อยํ นิปาโต. ‘‘กิตฺตก’’นฺติ อิมสฺส อตฺถํ โพเธตีติ อาห ‘‘กีวมหปฺผโลติ กิตฺตกํ มหปฺผโล’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘กีวมหานิสํโส’’ติอาทีสุ. รตฺต-สทฺโท รตนปริยาโยติ อาห ‘‘ปหูตรตฺตรตนานนฺติ ปหูเตน รตฺตสงฺขาเตน รตเนน สมนฺนาคตาน’’นฺติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘ปหูตสตฺตรตนาน’’นฺติปิ ปาโ ทิสฺสติ. เภริตลสทิสํ กตฺวาติ เภริตลํ วิย สมํ กตฺวา. ตโต เอกํ ภาคํ น อคฺฆตีติ ยถาวุตฺตํ จกฺกวตฺติรชฺชํ ตโต โสฬสภาคโต เอกํ ภาคํ น อคฺฆติ. ตโต พหุตรํ โหตีติ จกฺกวตฺติรชฺชสิริโต พหุตรํ โหติ.

จาตุมหาราชีกานนฺติอาทีสุ จาตุมหาราชิกา นาม สิเนรุปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ โหนฺติ, เตสุ พหู ปพฺพตฏฺาปิ อากาสฏฺาปิ, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ขิฑฺฑาปโทสิกา, มโนปโทสิกา, สีตวลาหกา, อุณฺหวลาหกา, จนฺทิมา, เทวปุตฺโต, สูริโย, เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺกา เอว. เตตฺตึส ชนา ตตฺถ อุปฺปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิจ ตาวตึสาติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ตตฺถ ทิพฺพสุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรติ. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี.

ตตฺถ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ มนุสฺสคณนาย นวุติวสฺสสตสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ. ตาวตึสานํ เทวานํ ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. ยามานํ เทวานํ จุทฺทส จ วสฺสโกฏิโย จตฺตาริ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. ตุสิตานํ เทวานํ สตฺตปฺาส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. นิมฺมานรตีนํ เทวานํ ทฺเว จ วสฺสโกฏิสตานิ ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย จตฺตาริ จ วสฺสสตสหสฺสานิ. ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ นว จ วสฺสโกฏิสตานิ เอกวีส โกฏิโย จ สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ.

มุฏฺิหตฺถปาทเกติ ปาทตลโต ยาว อฏนิยา เหฏฺิมนฺโต, ตาว มุฏฺิรตนปฺปมาณปาทเก. ตฺจ โข มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺเถน, ยสฺสิทานิ วฑฺฒกีหตฺโถติ สมฺา. สีลสมาทานโต ปฏฺาย อฺํ กิฺจิ อกตฺวา ธมฺมสฺสวเนน วา กมฺมฏฺานมนสิกาเรน วา วีตินาเมตพฺพนฺติ อาห ‘‘ตํ ปน อุปวสนฺเตน…เป… วิจาเรตพฺพ’’นฺติ.

วาจํ ภินฺทิตฺวา อุโปสถงฺคานิ สมาทาตพฺพานีติ ‘‘อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวส’’นฺติ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ‘‘อุโปสถงฺควเสน อฏฺ สิกฺขาปทานิ สมาทิยามี’’ติ เอกโต กตฺวา ปุน ปจฺเจกํ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ…เป… อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณิสิกฺขาปทํ สมาทิยามี’’ติ เอวํ วจีเภทํ กตฺวา ยถาปาฬิ สมาทาตพฺพานิ. ปาฬึ อชานนฺเตน ปน อตฺตโน ภาสาย ปจฺเจกํ วา ‘‘พุทฺธปฺตฺตํ อุโปสถํ อธิฏฺามี’’ติ เอกโต อธิฏฺานวเสน วา สมาทาตพฺพานิ, อฺํ อลภนฺเตน อธิฏฺาตพฺพานิ. อุปาสกสีลฺหิ อตฺตนา สมาทิยนฺเตนปิ สมาทินฺนํ ปรสนฺติเก สมาทิยนฺเตนปิ, เอกชฺฌํ สมาทินฺนมฺปิ สมาทินฺนเมว โหติ ปจฺเจกํ สมาทินฺนมฺปิ. ตํ ปน เอกชฺฌํ สมาทิยโต เอกาเยว วิรติ เอกา เจตนา โหติ. สา ปน สพฺพวิรติเจตนานํ กิจฺจการีติ เตนปิ สพฺพสิกฺขาปทานิ สมาทินฺนาเนว. ปจฺเจกํ สมาทิยโต ปน นานาวิรติเจตนาโย ยถาสกํ กิจฺจวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพสมาทาเน ปน วจีเภโท กาตพฺโพเยว. ปรูปโรธปฏิสํยุตฺตา ปรวิหึสาสํยุตฺตา.

นนุ จ ‘‘มณิ’’นฺติ วุตฺเต เวฬุริยมฺปิ สงฺคหิตเมว, กิมตฺถํ ปน เวฬุริยนฺติ อาห ‘‘เวฬุริยนฺติ…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ‘‘มณิ’’นฺติ วตฺวาว ‘‘เวฬุริย’’นฺติ อิมินา ชาติมณิภาวํ ทสฺเสตีติ โยเชตพฺพํ. เอกวสฺสิกเวฬุวณฺณนฺติ ชาติโต เอกวสฺสาติกฺกนฺตเวฬุวณฺณํ. ลทฺธกนฺติ สุนฺทรํ. จนฺทปฺปภา ตารคณาว สพฺเพติ ยถา จนฺทปฺปภาย กลํ สพฺเพ ตาราคณา นานุภวนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘จนฺทปฺปภาติ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺต’’นฺติ.

อุโปสถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๘) ๓. อานนฺทวคฺโค

๑. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา

๗๒. ตติยสฺส ปเม ฉนฺนปริพฺพาชโกติ น นคฺคปริพฺพาชโก. พาหิรกสมยํ ลุฺจิตฺวา หรนฺโตติ พาหิรกานํ สมยํ นิเสเธตฺวา อาปนฺโน.

ปฺาจกฺขุสฺส วิพนฺธนโต อนฺธํ กโรตีติ อนฺธกรโณติ อาห ‘‘ยสฺส ราโค อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ. อจกฺขุกรโณติ อสมตฺถสมาโสยํ ‘‘อสูริยปสฺสานิ มุขานี’’ติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘ปฺาจกฺขุํ น กโรตีติ อจกฺขุกรโณ’’ติ. ปฺานิโรธิโกติ อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทติ, โลกิยปฺํ ปน อฏฺสมาปตฺติปฺจาภิฺาวเสน อุปฺปนฺนมฺปิ สมุจฺฉินฺทิตฺวา ขิปตีติ ปฺานิโรธิโกติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อนุปฺปนฺนานุปฺปาทอุปฺปนฺนปริหานินิมิตฺตตาย หิ ปฺํ นิโรเธตีติ ปฺานิโรธิโก. วิหนติ วิพาธตีติ วิฆาโต, ทุกฺขนฺติ อาห ‘‘ทุกฺขสงฺขาตสฺส วิฆาตสฺสา’’ติ. กิเลสนิพฺพานนฺติ อิมินา อสงฺขตนิพฺพานเมว วทติ. อสงฺขตฺหิ นิพฺพานํ นาม, ตํ ปจฺจกฺขํ กาตุํ น เทตีติ อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. โลกุตฺตรมิสฺสโก กถิโต ปุพฺพภาคิยสฺสปิ อริยมคฺคสฺส กถิตตฺตา.

ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อาชีวกสุตฺตวณฺณนา

๗๓. ทุติเย น อฺาตุกาโมติ น อาชานิตุกาโมเยวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริคฺคณฺหนตฺถํ ปน อาคโต’’ติ, ปฺาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา อุปปริกฺขิตฺวา คณฺหนตฺถนฺติ อตฺโถ. การณาปเทโสติ การณนิทฺเทโส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

อาชีวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหานามสกฺกสุตฺตวณฺณนา

๗๔. ตติเย คิลานสฺส ภาโว เคลฺนฺติ อาห ‘‘คิลานภาวโต’’ติ. ทีเปตีติ เทสนากฺกเมเนว ปฺาเปติ. ปมฺหิ เสขสีลสมาธิปฺาโย วตฺวา ปจฺฉา อเสขสีลาทีนิ วทนฺโต อิมมตฺถํ ทีเปติ.

มหานามสกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิคณฺสุตฺตวณฺณนา

๗๕. จตุตฺเถ หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนนาติ หํสวฏฺฏกปริจฺฉนฺเนน, หํสมณฺฑลากาเรนาติ อตฺโถ. นตฺถิ เอตสฺส ปริเสสนฺติ อปริเสสํ. เตนาห ‘‘อปฺปมตฺตกมฺปิ อเสเสตฺวา’’ติ. อปริเสสธมฺมชานนโต วา อปริเสสสงฺขาตํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สตตนฺติ นิจฺจํ. สมิตนฺติ ตสฺเสว เววจนนฺติ อาห ‘‘สตตํ สมิตนฺติ สพฺพกาลํ นิรนฺตร’’นฺติ. อถ วา นิจฺจฏฺเน สตต-สทฺเทน อภิณฺหปฺปวตฺติ โชติตา สิยาติ ‘‘สมิต’’นฺติ วุตฺตํ. เตน นิรนฺตรปฺปวตฺตึ ทสฺเสตีติ อาห ‘‘สพฺพกาลํ นิรนฺตร’’นฺติ.

วิสุทฺธิสมฺปาปนตฺถายาติ ราคาทีหิ มเลหิ อภิชฺฌาวิสมโลภาทีหิ จ อุปกฺกิลิฏฺจิตฺตานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิปาปนตฺถาย. สมติกฺกมนตฺถายาติ โสกสฺส จ ปริเทวสฺส จ ปหานตฺถาย. อตฺถํ คมนตฺถายาติ กายิกทุกฺขสฺส จ เจตสิกโทมนสฺสสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ อตฺถงฺคมนาย, นิโรธายาติ อตฺโถ. ายติ นิจฺฉเยน กมติ นิพฺพานํ. ตํ วา ายติ ปฏิวิชฺฌติ เอเตนาติ าโย, อริยมคฺโคติ อาห ‘‘มคฺคสฺส อธิคมนตฺถายา’’ติ. อปจฺจยนิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณตฺถายาติ ปจฺจยรหิตตฺตา อปจฺจยสฺส อสงฺขตสฺส ตณฺหาวานวิรหิตตฺตา นิพฺพานนฺติ ลทฺธนามสฺส อมตสฺส สจฺฉิกิริยาย, อตฺตปจฺจกฺขตายาติ วุตฺตํ โหติ. ผุสิตฺวา ผุสิตฺวาติ ปตฺวา ปตฺวา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

นิคณฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิเวสกสุตฺตวณฺณนา

๗๖. ปฺจเม กิจฺจกรณีเยสุ สหภาวฏฺเน อมา โหนฺตีติ อมจฺจา. ‘‘อยํ อชฺฌตฺติโก’’ติ เอวํ ชานนฺติ, ายนฺติ วาติ าตี. สสฺสุสสุรปกฺขิกาติ สสฺสุสสุรา จ ตปฺปกฺขิโก จ สสฺสุสสุรปกฺขิกา. โลหิเตน สมฺพทฺธาติ สาโลหิตา. ปิตุปกฺขิกา วา าตี, มาตุปกฺขิกา สาโลหิตา. มาตุปิตุปกฺขิกา วา าตี, สสฺสุสสุรปกฺขิกา สาโลหิตา. อเวจฺจ รตนสฺส คุเณ ยาถาวโต ตฺวา ปสาโท อเวจฺจปฺปสาโท. โส ปน ยสฺมา มคฺเคนาคตตฺตา เกนจิ อกมฺปนีโย จ อปฺปธํสิโย จ โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ ‘‘อจลปฺปสาโท’’ติ. ภาวฺถตฺตนฺติ สภาวสฺส อฺถตฺตํ.

วีสติยา โกฏฺาเสสูติ เกสาทิมตฺถลุงฺคปริยนฺเตสุ. ทฺวาทสสุ โกฏฺาเสสูติ ปิตฺตาทิมุตฺตปริยนฺเตสุ. จตูสุ โกฏฺาเสสูติ ‘‘เยน จ สนฺตปฺปติ, เยน จ ชีรียติ, เยน จ ปริทยฺหติ, เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐๔) เอวํ วุตฺเตสุ จตูสุ โกฏฺาเสสุ. ฉสุ โกฏฺาเสสูติ ‘‘อุทฺธงฺคมา วาตา, อโธคมา วาตา, กุจฺฉิสยา วาตา, โกฏฺาสยา วาตา, องฺคมงฺคานุสาริโน วาตา, อสฺสาโส ปสฺสาโส’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) เอวํ วุตฺเตสุ ฉสุ โกฏฺาเสสุ. วิตฺถมฺภนํ เสสภูตตฺตยสนฺถมฺภิตตาปาทนํ, ‘‘อุปกีฬน’’นฺติ เอเก. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

นิเวสกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖-๗. ปมภวสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๗-๗๘. ฉฏฺเ อภิสงฺขารวิฺาณนฺติ กมฺมสหชาตํ วิฺาณํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว. สตฺตเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

ปมภวสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สีลพฺพตสุตฺตวณฺณนา

๗๙. อฏฺเม ทุกฺกรการิกานุโยโคติ ทุกฺกรกิริยาย อนุโยโค. อุปฏฺาเนน สารนฺติ อุปฏฺานากาเรน สารํ. ‘‘อิทํ วร’’นฺติอาทินา อุปฏฺานาการํ วิภาเวติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สตฺถารา ปุจฺฉิเต ปฺเห.

สีลพฺพตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. คนฺธชาตสุตฺตวณฺณนา

๘๐. นวเม มูเล, มูลสฺส วา คนฺโธ มูลคนฺโธติ อาห ‘‘มูลวตฺถุโก คนฺโธ’’ติ. มูลํ วตฺถุ เอตสฺสาติ มูลวตฺถุโก. อิทานิ มูลํ คนฺธโยคโต คนฺโธติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘คนฺธสมฺปนฺนํ วา มูลเมว มูลคนฺโธ’’ติ อาห. ปจฺฉิโมเยเวตฺถ อตฺถวิกปฺโป ยุตฺตตโรติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส หิ คนฺโธ’’ติอาทิมาห. วสฺสิกปุปฺผาทีนนฺติ สุมนปุปฺผาทีนํ.

คนฺธชาตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. จูฬนิกาสุตฺตวณฺณนา

๘๑. ทสเม อรุณวติสุตฺตนฺตอฏฺุปฺปตฺติยนฺติ ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, ราชา อโหสิ อรุณวา นาม. รฺโ โข ปน, ภิกฺขเว, อรุณวโต อรุณวตี นาม ราชธานี อโหสิ. อรุณวตึ โข ปน, ภิกฺขเว, ราชธานึ สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปนิสฺสาย วิหาสิ. สิขิสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อภิภูสมฺภวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อภิภุํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสี’’ติอาทินา พฺรหฺมสํยุตฺเต (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) อาคตสฺส อรุณวติสุตฺตนฺตสฺส อฏฺุปฺปตฺติยํ. อติปฺปโคติ อติวิย ปโค, อติวิย ปาโตติ อตฺโถ, น ตาว กุเลสุ ภตฺตํ นิฏฺาตีติ วุตฺตํ โหติ.

อุชฺฌายนฺตีติ อวฌายนฺติ, เหฏฺา กตฺวา จินฺเตนฺติ, ลามกโต จินฺเตนฺติ. อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ กตฺวาติ ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา นาควณฺณํ วา ทสฺเสติ, สุปณฺณวณฺณํ วา ทสฺเสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) นเยน อาคตํ อเนกปฺปการํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ กตฺวา. สหสฺสิโลกธาตุนฺติ จกฺกวาฬสหสฺสํ. คาถาทฺวยํ อภาสีติ เถโร กิร ‘‘กถํ เทสิตา โข ธมฺมเทสนา สพฺเพสํ ปิยา มนาปา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สพฺเพปิ ปาสณฺฑา สพฺเพ เทวมนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน สมเย ปุริสการํ วณฺณยนฺติ, วีริยสฺส อวณฺณวาที นาม นตฺถิ, วีริยปฺปฏิสํยุตฺตํ กตฺวา เทเสสฺสามิ. เอวมสฺส ธมฺมเทสนา สพฺเพสํ ปิยา ภวิสฺสติ มนาปา’’ติ ตฺวา ตีสุ ปิฏเกสุ วิจินิตฺวา ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๖) อิทํ คาถาทฺวยํ อภาสิ.

กึ อาโลโก อยนฺติ กสฺส นุ โข อยํ อาโลโกติ. วิจินนฺตานนฺติ จินฺเตนฺตานํ. สพฺเพติ โลกธาตุยํ สพฺเพ เทวา จ มนุสฺสา จ. โอสฏาย ปริสายาติ ธมฺมสฺสวนตฺถํ สโมสฏาย ปริมิตปริจฺฉินฺนาย ปริสาย. อตฺโถปิ เนสํ ปากโฏ อโหสีติ น เกวลํ เต สทฺทเมว อสฺโสสุํ, อถ โข อตฺโถปิ เตสํ ปกติสวนูปจาเร วิย ปากโฏ อโหสิ. เตน สหสฺสํ โลกธาตุํ วิฺาเปตีติ อธิปฺปาโย.

ปริหรนฺตีติ สิเนรุํ ทกฺขิณโต กตฺวา ปริวตฺเตนฺติ. วิโรจมานาติ อตฺตโน ชุติยา ทิพฺพมานา, โสภมานา วา. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ยตฺตโก จนฺทิมสูริเยหิ โอภาสิยมาโน โลกธาตุสงฺขาโต เอเกโก โลโก, ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสธา โลโก, อิมินา จกฺกวาเฬน สทฺธึ จกฺกวาฬสหสฺสนฺติ อตฺโถ. กสฺมา ปเนสา อานีตาติ เอสา จูฬนิกา โลกธาตุ กสฺมา ภควตา อานีตา, เทสิตาติ อตฺโถ. มชฺฌิมิกาย โลกธาตุยา ปริจฺเฉททสฺสนตฺถนฺติ ทฺวิสหสฺสิโลกธาตุยา ปริมาณทสฺสนตฺถํ.

สหสฺสิโลกธาตุยา สหสฺสี ทฺวิสหสฺสิโลกธาตุ, สา จกฺกวาฬคณนาย ทสสตสหสฺสจกฺกวาฬปริมาณา. เตนาห ‘‘สหสฺสจกฺกวาฬานิ สหสฺสภาเคน คเณตฺวา’’ติอาทิ. กมฺปนเทวตูปสงฺกมนาทินา ชาตจกฺกวาเฬน สห โยคกฺเขมํ านํ ชาติกฺเขตฺตํ. ตตฺตกาย เอว ชาติกฺเขตฺตภาโว ธมฺมตาวเสเนว เวทิตพฺโพ, ‘‘ปริคฺคหวเสนา’’ติ เกจิ. สพฺเพสมฺปิ พุทฺธานํ เอวํ ชาติกฺเขตฺตํ ตนฺนิวาสีนํเยว จ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโยติ วทนฺติ. ปฏิสนฺธิคฺคหณาทีนํ สตฺตนฺนํเยว คหณํ นิทสฺสนมตฺตํ มหาภินีหาราทิกาเลปิ ตสฺส ปกมฺปนสฺส ลพฺภนโต.

สหสฺสํ สหสฺสธา กตฺวา คณิตํ มชฺฌิมิกนฺติอาทินา มชฺฌิมิกาย โลกธาตุยา สหสฺสํ ติสหสฺสิโลกธาตุ, สาเยว จ มหาสหสฺสิโลกธาตูติ ทสฺเสติ. สรเสเนว อาณาปวตฺตนํ อาณากฺเขตฺตํ, ยํ เอกชฺฌํ สํวฏฺฏติ วิวฏฺฏติ จ. อาณา ผรตีติ ตนฺนิวาสิเทวตานํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉเนน วตฺตติ, ตฺจ โข เกวลํ พุทฺธานุภาเวเนว, อธิปฺปายวเสน จ ปน ‘‘ยาวตา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) วจนโต พุทฺธานํ อวิสโย นาม นตฺถิ, วิสยกฺเขตฺตสฺส ปมาณปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ. วิสโมติ สูริยุคฺคมนาทีนํ วิสมภาวโต วิสโม. เตเนวาห ‘‘เอกสฺมึ าเน สูริโย อุคฺคโต โหตี’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

จูฬนิกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อานนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๙) ๔. สมณวคฺโค

๑-๕. สมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๒-๘๖. จตุตฺถสฺส ปเม สมฺมา อาทานํ คหณํ สมาทานนฺติ อาห ‘‘สมาทานํ วุจฺจติ คหณ’’นฺติ. อธิกํ วิสิฏฺํ สีลนฺติ อธิสีลํ. โลกิยสีลสฺส อธิสีลภาโว ปริยาเยนาติ นิปฺปริยายเมว ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจ สพฺพมฺปิ โลกิยสีล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สิกฺขิตพฺพโตติ อาเสวิตพฺพโต. ปฺจปิ ทสปิ วา สีลานิ สีลํ นาม, ปาติโมกฺขสํวโร อธิสีลํ นาม อนวเสสกายิกเจตสิกสํวรภาวโต มคฺคสีลสฺส ปทฏฺานภาวโต จ. อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตํ, วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ อธิจิตฺตํ มคฺคสมาธิสฺส อธิฏฺานภาวโต. กมฺมสฺสกตาณํ ปฺา, วิปสฺสนา อธิปฺา มคฺคปฺาย อธิฏฺานภาวโต. อปิจ นิพฺพานํ ปตฺถยนฺเตน สมาทินฺนํ ปฺจสีลํ ทสสีลมฺปิ อธิสีลเมว นิพฺพานาธิคมสฺส ปจฺจยภาวโต. นิพฺพานํ ปตฺถยนฺเตน สมาปนฺนา อฏฺ สมาปตฺติโยปิ อธิจิตฺตเมว.

‘‘กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกํ;

อนุโภติ ทฺวยเมตํ, อนุพนฺธฺหิ การณ’’นฺติ. –

เอวํ อตีเต อนาคเต จ วฏฺฏมูลกทุกฺขสลฺลกฺขณวเสน สํเวควตฺถุตาย วิมุตฺติอากงฺขาย ปจฺจยภูตา กมฺมสฺสกตปฺาปิ อธิปฺาติ วทนฺติ. ทุติยตติยจตุตฺถปฺจมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สมณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปมสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา

๘๗. ฉฏฺเ สมตฺตการีติ อนูเนน ปริปูเรน อากาเรน สมนฺนาคโต. สิกฺขาปทานํ ขุทฺทานุขุทฺทกตฺตํ อเปกฺขาสิทฺธนฺติ อาห ‘‘ตตฺราปิ สงฺฆาทิเสสํ ขุทฺทก’’นฺติอาทิ. องฺคุตฺตรมหานิกายวฬฺชนกอาจริยาติ องฺคุตฺตรนิกายํ ปริหรนฺตา อาจริยา, องฺคุตฺตรภาณกาติ วุตฺตํ โหติ. โลกวชฺชํ นาปชฺชติ โลกวชฺชสิกฺขาปทานํ วีติกฺกมสาธกสฺส กิเลสคหนสฺส สพฺพโส ปหีนตฺตา. ปณฺณตฺติวชฺชเมว อาปชฺชติ ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ วา อชานโตปิ อาปตฺติสมฺภวโต. จิตฺเตน อาปชฺชนฺโต รูปิยปฺปฏิคฺคหณํ อาปชฺชตีติ อุปนิกฺขิตฺตสาทิเยน อาปชฺชติ.

พฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานิ อาทิพฺรหฺมจริยานิ, ตานิ เอว อาทิพฺรหฺมจริยกานิ ยถา ‘‘วินโย เอว เวนยิโก’’ติ อาห ‘‘มคฺคพฺรหฺมจริยสฺสา’’ติอาทิ. จตฺตาริ มหาสีลสิกฺขาปทานีติ จตฺตาริ ปาราชิกานิ สนฺธาย วทติ. ปฏิปกฺขธมฺมานํ อนวเสสโต สวนโต ปคฺฆรณโต โสโต, อริยมคฺโคติ อาห ‘‘โสตสงฺขาเตน มคฺเคนา’’ติ. วินิปาเตติ วิรูปํ สทุกฺขํ สอุปายาสํ นิปาเตตีติ วินิปาโต, อปายทุกฺเข ขิปนโก. ธมฺโมติ สภาโว. นาสฺส วินิปาโต ธมฺโมติ อวินิปาตธมฺโม, น อตฺตานํ อปาเยสุ วินิปาตนสภาโวติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมา? เย ธมฺมา อปายคมนียา, เตสํ ปหีนตฺตา. เตนาห ‘‘อวินิปาตธมฺโมติ จตูสุ อปาเยสุ อปตนสภาโว’’ติ. ตตฺถ อปตนสภาโวติ อนุปฺปชฺชนสภาโว. โสตาปตฺติมคฺคนิยาเมน นิยโตติ อุปริมคฺคาธิคมสฺส อวสฺสํภาวีภาวโต นิยโต. เตเนวาห ‘‘สมฺโพธิปรายโณ’’ติ. เหฏฺิมนฺตโต สตฺตมภวโต อุปริ อนุปฺปชฺชนธมฺมตาย วา นิยโต. สมฺพุชฺฌตีติ สมฺโพธิ, อริยมคฺโค. โส ปน ปมมคฺคสฺส อธิคตตฺตา อวสิฏฺโ จ อธิคนฺตพฺพภาเวน อิจฺฉิตพฺโพติ อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาตา สมฺโพธิ ปรํ อยนํ ปรา คติ อสฺสาติ สมฺโพธิปรายโณ. เตนาห ‘‘อุปริมคฺคตฺตยสมฺโพธิปรายโณ’’ติ.

ตนุภาวาติ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จ กทาจิ กรหจิ อุปฺปตฺติยา จ ตนุภาเวน. ตนุตฺตฺหิ ทฺวีหิ การเณหิ เวทิตพฺพํ อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จ. สกทาคามิสฺส หิ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺส วิย กิเลสา อภิณฺหํ น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ วิรฬาการา หุตฺวา วิรฬวาปิเต เขตฺเต องฺกุรา วิย. อุปฺปชฺชมานาปิ จ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺเสว มทฺทนฺตา ผรนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา น อุปฺปชฺชนฺติ, มนฺทมนฺทา อุปฺปชฺชนฺติ ตนุกาการา หุตฺวา อพฺภปฏลมิว มกฺขิกาปตฺตมิว จ. ตตฺถ เกจิ เถรา ภณนฺติ ‘‘สกทาคามิสฺส กิเลสา กิฺจาปิ จิเรน อุปฺปชฺชนฺติ, พหลาว อุปฺปชฺชนฺติ. ตถา หิสฺส ปุตฺตา จ ธีตโร จ ทิสฺสนฺตี’’ติ. เอตํ ปน อปฺปมาณํ. ปุตฺตธีตโร หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมตฺเตนปิ โหนฺตีติ. ทฺวีหิเยว การเณหิสฺส กิเลสานํ ตนุตฺตํ เวทิตพฺพํ อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จาติ.

เหฏฺาภาคิยานนฺติ เอตฺถ เหฏฺาติ มหคฺคตภูมิโต เหฏฺา, กามภูมิยนฺติ อตฺโถ. เตสํ ปจฺจยภาเวน เหฏฺาภาคสฺส หิตาติ เหฏฺาภาคิยา, เตสํ เหฏฺาภาคิยานํ, เหฏฺาภาคสฺส กามภวสฺส ปจฺจยภาเวน คหิตานนฺติ อตฺโถ. สํโยเชนฺติ พนฺธนฺติ ขนฺธคติภวาทีหิ ขนฺธคติภวาทโย, กมฺมํ วา ผเลนาติ สํโยชนานีติ อาห ‘‘สํโยชนานนฺติ พนฺธนาน’’นฺติ. อสมุจฺฉินฺนราคาทิกสฺส หิ เอตรหิ ขนฺธาทีนํ อายตึ ขนฺธาทีหิ สมฺพนฺโธ, สมุจฺฉินฺนราคาทิกสฺส ปน ตํ นตฺถิ, กตานมฺปิ กมฺมานํ อสมตฺถภาวาปตฺติโต ราคาทีนํ อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ สํโยชนฏฺโ สิทฺโธ. ปริกฺขเยนาติ สมุจฺเฉเทน.

โอปปาติโกติ อุปปาติกโยนิโก อุปปตเน สาธุการี. เสสโยนิปฏิกฺเขปวจนเมตํ. เตน คพฺภวาสทุกฺขาภาวมาห. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ อิมินา เสสทุกฺขาภาวํ. ตตฺถ ปรินิพฺพายิตา จสฺส กามโลเก ขนฺธพีชสฺส อปุนาคมนวเสเนวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนาวตฺติธมฺโม’’ติ วุตฺตํ. อุปริเยวาติ พฺรหฺมโลเกเยว. อนาวตฺติธมฺโมติ ตโต พฺรหฺมโลกา ปุนปฺปุนํ ปฏิสนฺธิวเสน น อาวตฺตนธมฺโม. เตนาห ‘‘โยนิคติวเสน อนาคมนธมฺโม’’ติ.

ปเทสํ ปเทสการี อาราเธตีติ สีลกฺขนฺธาทีนํ ปาริปูริยา เอกเทสภูตํ เหฏฺิมมคฺคตฺตยํ ปเทโส, ตํ กโรนฺโต ปเทสํ เอกเทสภูตํ เหฏฺิมํ ผลตฺตยเมว อาราเธติ, นิปฺผาเทตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปเทสการี ปุคฺคโล นาม โสตาปนฺโน’’ติอาทิ. ปริปูรํ ปริปูรการีติ สีลกฺขนฺธาทีหิ สทฺธินฺทฺริยาทีหิ จ ปริโต ปูรเณน ปริปูรสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคํ กโรนฺโต นิพฺพตฺเตนฺโต ปริปูรํ อรหตฺตผลํ อาราเธติ, นิปฺผาเทตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริปูรการี นาม อรหา’’ติอาทิ.

ปมสิกฺขาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๑๐. ทุติยสิกฺขาสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๘-๙๑. สตฺตเม กุลา กุลํ คมนโกติ กุลโต กุลํ คจฺฉนฺโต. ทฺเว วา ตโย วา ภเวติ เทวมนุสฺสวเสน ทฺเว วา ตโย วา ภเว. มิสฺสกภววเสน เหตํ วุตฺตํ. เทสนามตฺตเมว เจตํ ‘‘ทฺเว วา ตีณิ วา’’ติ. ยาว ฉฏฺภวา สํสรนฺโตปิ โกลํโกโลว โหติ. เตเนวาห ‘‘อยฺหิ ทฺเว วา ภเว…เป… เอวเมตฺถ วิกปฺโป ทฏฺพฺโพ’’ติ. อุฬารกุลวจโน วา เอตฺถ กุลสทฺโท, กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยโต ปฏฺาย หิ นีจกุเล อุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ, มหาโภคกุเลสุ เอว นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. เกวโล หิ กุลสทฺโท มหากุลเมว วทติ ‘‘กุลปุตฺโต’’ติอาทีสุ วิย. เอกพีชีติ เอตฺถ ขนฺธพีชํ นาม กถิตํ, ขนฺธพีชนฺติ จ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ วุจฺจติ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํ ขนฺธพีชํ อตฺถิ, เอกํ ภวคฺคหณํ, โส เอกพีชี นาม. เตนาห ‘‘เอกสฺเสว ภวสฺส พีชํ เอตสฺส อตฺถีติ เอกพีชี’’ติ. ‘‘มานุสกํ ภว’’นฺติ อิทํ ปเนตฺถ เทสนามตฺตเมว, ‘‘เทวภวํ นิพฺพตฺเตตี’’ติปิ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติเยว.

อุทฺธํวาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วาติ อุทฺธํโสโต, อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโสโต. ปฏิสนฺธิวเสน อกนิฏฺภวํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี. ยตฺถ กตฺถจีติ อวิหาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ. สปฺปโยเคนาติ วิปสฺสนาาณาภิสงฺขารสงฺขาเตน ปโยเคน สห, มหตา วิปสฺสนาปโยเคนาติ อตฺโถ. อุปหจฺจาติ เอตสฺส อุปคนฺตฺวาติ อตฺโถ. เตน เวมชฺฌาติกฺกโม กาลกิริยาปคมนฺจ สงฺคหิตํ โหติ, ตสฺมา อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายนฺโต อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม โหตีติ อาห ‘‘โย ปน กปฺปสหสฺสายุเกสุ อวิเหสู’’ติอาทิ. โส ติวิโธ โหตีติ าณสฺส ติกฺขมชฺฌมุทุภาเวน ติวิโธ โหติ. เตนาห ‘‘กปฺปสหสฺสายุเกสู’’ติอาทิ.

สทฺธาธุเรน อภินิวิสิตฺวาติ ‘‘สเจ สทฺธาย สกฺกา นิพฺพตฺเตตุํ, นิพฺพตฺเตสฺสามิ โลกุตฺตรมคฺค’’นฺติ เอวํ สทฺธาธุรวเสน อภินิวิสิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา. ปฺาธุเรน อภินิวิฏฺโติ ‘‘สเจ ปฺาย สกฺกา, นิพฺพตฺเตสฺสามิ โลกุตฺตรมคฺค’’นฺติ เอวํ ปฺาธุรํ กตฺวา อภินิวิฏฺโ. ยถาวุตฺตเมว อฏฺวิธตฺตํ โกลํโกลสตฺตกฺขตฺตุปรเมสุ อติทิสนฺโต ‘‘ตถา โกลํโกลา สตฺตกฺขตฺตุปรมา จา’’ติ อาห. วุตฺตนเยเนว อฏฺ โกลํโกลา, อฏฺ สตฺตกฺขตฺตุปรมาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ สตฺตกฺขตฺตุํ ปรมา ภวูปปตฺติ อตฺตภาวคฺคหณํ อสฺส, ตโต ปรํ อฏฺมํ ภวํ นาทิยตีติ สตฺตกฺขตฺตุปรโม. ภควตา คหิตนามวเสเนว เจตานิ อริยาย ชาติยา ชาตานํ เตสํ นามานิ ชาตานิ กุมารานํ มาตาปิตูหิ คหิตนามานิ วิย. เอตฺตกฺหิ านํ คโต เอกพีชี นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ. นิยมโต ปน อยํ เอกพีชี, อยํ โกลํโกโล, อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ นตฺถิ. โก ปน เนสํ เอตํ ปเภทํ นิยเมตีติ? เกจิ ตาว เถรา ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’’ติ วทนฺติ, เกจิ ปมมคฺโค, เกจิ อุปริ ตโย มคฺคา, เกจิ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาติ.

ตตฺถ ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’’ติ วาเท ปมมคฺคสฺส อุปนิสฺสโย กโต นาม โหติ, ‘‘อุปริ ตโย มคฺคา นิรุปนิสฺสยา อุปฺปนฺนา’’ติ วจนํ อาปชฺชติ. ‘‘ปมมคฺโค นิยเมหี’’ติ วาเท อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติ. ‘‘อุปริ ตโย มคฺคา นิยเมนฺตี’’ติ วาเท ปมมคฺเค อนุปฺปนฺเนเยว อุปริ ตโย มคฺคา อุปฺปนฺนาติ อาปชฺชตีติ. ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา นิยเมตี’’ติ วาโท ปน ยุชฺชติ. สเจ หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา พลวตี โหติ, เอกพีชี นาม โหติ, ตโต มนฺทตราย โกลํโกโล, ตโต มนฺทตราย สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ.

เอกจฺโจ หิ โสตาปนฺโน วฏฺฏชฺฌาสโย โหติ วฏฺฏาภิรโต, ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว จรติ สนฺทิสฺสติ. อนาถปิณฺฑิโก เสฏฺิ, วิสาขา อุปาสิกา, จูฬรถมหารถา เทวปุตฺตา, อเนกวณฺโณ เทวปุตฺโต, สกฺโก เทวราชา, นาคทตฺโต เทวปุตฺโตติ อิเม หิ เอตฺตกา ชนา วฏฺฏชฺฌาสยา วฏฺฏาภิรตา อาทิโต ปฏฺาย ฉ เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺเ ตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, อิเม อิธ น คหิตา. น เกวลฺจิเมว, โยปิ มนุสฺเสสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โยปิ เทวโลเก นิพฺพตฺโต เทเวสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ อปราปรํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อิเมปิ อิธ น คหิตา, กาเลน เทเว, กาเลน มนุสฺเส สํสริตฺวา ปน อรหตฺตํ ปาปุณนฺโตว อิธ คหิโต, ตสฺมา ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ อิทํ อิธฏฺกโวกิณฺณภวูปปตฺติกสุกฺขวิปสฺสกสฺส นามํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘‘สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ (ปุ. ป. ๓๔) วจนโต ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ หิ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ. อิเม จตฺตาโรปิ อิธ น คหิตา. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อยํ เอโกว อิธ คหิโตติ เวทิตพฺโพ.

อิทานิ ตสฺส ปเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตีสุ ปน วิโมกฺเขสู’’ติอาทิมาห. อิมสฺส ปน สกทาคามิโน เอกพีชินา สทฺธึ กึ นานากรณนฺติ? เอกพีชิสฺส เอกาว ปฏิสนฺธิ, สกทาคามิสฺส ทฺเว ปฏิสนฺธิโย, อิทํ เตสํ นานากรณํ. สุฺตวิโมกฺเขน วิมุตฺตขีณาสโว ปฏิปทาวเสน จตุพฺพิโธ โหติ, ตถา อนิมิตฺตอปฺปณิหิตวิโมกฺเขหีติ เอวํ ทฺวาทส อรหนฺตา โหนฺตีติ อาห ‘‘ยถา ปน สกทาคามิโน, ตเถว อรหนฺโต ทฺวาทส เวทิตพฺพา’’ติ. อฏฺมนวมทสมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ทุติยสิกฺขาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. สงฺกวาสุตฺตวณฺณนา

๙๒. เอกาทสเม วิหารปฏิพทฺธนวกมฺมาทิภารํ หรติ ปวตฺเตตีติ ภารหาโร. เตเนวาห ‘‘นเว อาวาเส สมุฏฺาเปติ, ปุราเณ ปฏิชคฺคตี’’ติ. สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา, ปชฺชิตพฺพโต, ปชฺชนฺติ เอเตหีติ วา ปทานิ, สิกฺขาเยว ปทานิ สิกฺขาปทานีติ อาห ‘‘สิกฺขาสงฺขาเตหิ ปเทหี’’ติ. ทสฺเสตีติ ปจฺจกฺขโต ทสฺเสติ, หตฺถามลกํ วิย ปากเฏ วิภูเต กตฺวา วิภาเวติ. คณฺหาเปตีติ เต ธมฺเม มนสา อนุปกฺขิเต ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺเธ กาเรนฺโต อุคฺคณฺหาเปติ. สมุสฺสาเหตีติ สมาธิมฺหิ อุสฺสาหํ ชเนติ. ปฏิลทฺธคุเณหีติ ตาย เทสนาย ตนฺนิสฺสยปจฺจตฺตปุริสกาเรน จ เตสํ ปฏิวิทฺธคุเณหิ. โวทาเปตีติ เตสํ จิตฺตสนฺตานํ อสฺสทฺธิยาทิกิเลสมลาปคมเนน ปภสฺสรํ กโรติ. สณฺหํ สณฺหํ กเถตีติ อติวิย สุขุมํ กตฺวา กเถติ.

อจฺจยนํ สาธุมริยาทํ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมนํ อจฺจโยติ อาห ‘‘อปราโธ’’ติ. อจฺเจติ อติกฺกมติ เอเตนาติ วา อจฺจโย, วีติกฺกมสฺส ปวตฺตนโก อกุสลธมฺโม. โส เอว อปรชฺฌติ เอเตนาติ อปราโธ. โส หิ อปรชฺฌนฺตํ ปุริสํ อธิภวิตฺวา ปวตฺตติ. เตนาห ‘‘อติกฺกมฺม อธิภวิตฺวา ปวตฺโต’’ติ. ปฏิคฺคณฺหาตูติ อธิวาสนวเสน สมฺปฏิจฺฉตูติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขมตู’’ติ. สเทวเกน โลเกน นิสฺสรณนฺติ อรณียโต อริโย, ตถาคโตติ อาห ‘‘อริยสฺส วินเยติ พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน’’ติ. ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโตติ กามํ ‘‘วุทฺธิ เหสา’’ติ ธมฺมาธิฏฺานวเสน วากฺยํ อารทฺธํ, ตถาปิ เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโต ‘‘สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ อาหาติ โยชนา.

สงฺกวาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๐) ๕. โลณกปลฺลวคฺโค

๑. อจฺจายิกสุตฺตวณฺณนา

๙๓. ปฺจมสฺส ปเม อติปาติกานีติ สีฆํ ปวตฺเตตพฺพานิ. กรณียานีติ เอตฺถ อวสฺสเก อนียสทฺโท ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘อวสฺสกิจฺจานี’’ติ. นิกฺขนฺตเสตงฺกุรานีติ พีชโต นิกฺขนฺตเสตงฺกุรานิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

อจฺจายิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปวิเวกสุตฺตวณฺณนา

๙๔. ทุติเย สาเณหิ วาเกหิ นิพฺพตฺติตานิ สาณานิ. มิสฺสสาณานิ มสาณานิ น ภงฺคานิ. เอรกติณาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อกฺกมกจิกทลิวากาทีนํ สงฺคโห. เอรกาทีหิ กตานิ หิ ฉวานิ ลามกานิ ทุสฺสานีติ ‘‘ฉวทุสฺสานี’’ติ วตฺตพฺพตํ ลภนฺติ. กุณฺฑกนฺติ ตนุตรํ ตณฺฑุลปฺปกรณํ. ปฺจ ทุสฺสีลฺยานีติ ปาณาติปาตาทีนิ ปฺจ. จตฺตาโร อาสวาติ กามาสวาทโย จตฺตาโร อาสวา. สีลคฺคปฺปตฺโตติ สีเลน, สีลสฺส วา อคฺคปฺปตฺโต.

ปวิเวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สรทสุตฺตวณฺณนา

๙๕. ตติเย วิทฺเธติ ทูรีภูเต. ทูรภาโว จ อากาสสฺส วลาหกวิคเมน โหตีติ อาห ‘‘วลาหกวิคเมน ทูรีภูเต’’ติ. เตเนว หิ ‘‘วิทฺเธ วิคตวลาหเก’’ติ วุตฺตํ. นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโนติ อากาสํ อภิลงฺฆนฺโต. อิมินา ตรุณสูริยภาโว ทสฺสิโต. นาติทูโรทิเต หิ อาทิจฺเจ ตรุณสูริยสมฺา. ทุวิธเมวสฺส สํโยชนํ นตฺถีติ โอรมฺภาคิยอุทฺธมฺภาคิยวเสน ทุวิธมฺปิ สํโยชนํ อสฺส ปมชฺฌานลาภิโน อริยสาวกสฺส นตฺถิ. กสฺมา ปนสฺส อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนมฺปิ นตฺถีติ วุตฺตํ. โอรมฺภาคิยสํโยชนานเมว เหตฺถ ปหานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิตรมฺปี’’ติอาทิ, อิตรํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนํ ปุน อิมํ โลกํ ปฏิสนฺธิวเสน อาเนตุํ อสมตฺถตาย นตฺถีติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ฌานลาภิโน หิ สพฺเพปิ อริยา พฺรหฺมโลกูปปนฺนา เหฏฺา น อุปฺปชฺชนฺติ, อุทฺธํ อุทฺธํ อุปฺปชฺชนฺตาปิ เวหปฺผลํ อกนิฏฺํ ภวคฺคฺจ ปตฺวา น ปุนฺตฺถ ชายนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนฺติ. เตเนวาห ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต ฌานานาคามี นาม กถิโต’’ติ. ฌานวเสน หิ เหฏฺา น อาคจฺฉตีติ ฌานานาคามี.

สรทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปริสาสุตฺตวณฺณนา

๙๖. จตุตฺเถ ปจฺจยพาหุลฺลิกาติ จีวราทิพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา. อวีตตณฺหตาย หิ ตํ ตํ ปริกฺขารชาตํ พหุํ ลนฺติ อาทิยนฺตีติ พหุลา, เต เอว พาหุลิกา ยถา ‘‘เวนยิโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖; อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘). เต ปจฺจยพาหุลฺลาย ยุตฺตปฺปยุตฺตา โหนฺตีติ จีวราทิพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา นาม โหนฺติ. สิกฺขาย อคารวภาวโต สิถิลํ อคาฬฺหํ คณฺหนฺตีติ สาถลิกา. สิถิลนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สิถิลสทฺเทน สมานตฺถสฺส สถลสทฺทสฺส วเสน สาถลิกาติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อวคมนฏฺเนาติ อโธคมนฏฺเน, โอรมฺภาคิยภาเวนาติ อตฺโถ. นิกฺขิตฺตธุราติ โอโรปิตธุรา อุชฺชิตุสฺสาหา. อุปธิวิเวโก นิพฺพานํ. ทุวิธมฺปิ วีริยนฺติ กายิกํ เจตสิกฺจ วีริยํ.

ภณฺฑนํ ชาตํ เอเตสนฺติ ภณฺฑนชาตา. วิเสสนสฺส ปรนิปาตวเสน เจตํ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน วิเสสนสฺส ปุพฺพนิปาตวเสเนว อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชาตภณฺฑนา’’ติ อาห. กลโห ชาโต เอเตสนฺติ กลหชาตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กลหสฺส ปุพฺพภาโคติ กลหสฺส เหตุภูตา ปฏิภาคา ตํสทิสี จ อนิฏฺกิริยา. หตฺถปรามาสาทิวเสนาติ กุชฺฌิตฺวา อฺมฺสฺส หตฺเถ คเหตฺวา ปลปนอจฺฉินฺทนาทิวเสน. ‘‘อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม’’ติอาทินา วิรุทฺธวาทภูตํ วิวาทํ อาปนฺนาติ วิวาทปนฺนา. เตนาห ‘‘วิรุทฺธวาทํ อาปนฺนา’’ติ. มุขสนฺนิสฺสิตตาย วาจา อิธ ‘‘มุข’’นฺติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ผรุสา วาจา มุขสตฺติโย’’ติ.

สติปิ อุภเยสํ กลาปานํ ปรมตฺถโต เภเท ปจุรชเนหิ ปน ทุวิฺเยฺยนานตฺตํ ขีโรทกสมฺโมทิตํ อจฺจนฺตเมตํ สํสฏฺํ วิย หุตฺวา ติฏฺตีติ อาห ‘‘ขีโรทกํ วิย ภูตา’’ติ. ยถา ขีรฺจ อุทกฺจ อฺมฺํ สํสนฺทติ, วิสุํ น โหติ, เอกตฺตํ วิย อุเปติ, เอวํ สามคฺคิวเสน เอกตฺตูปคตจิตฺตุปฺปาทาติ อตฺโถ. เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา โอโลกนํ จกฺขูนิ วิย จกฺขูนิ นามาติ อาห ‘‘อุปสนฺเตหิ เมตฺตจกฺขูหี’’ติ. ปิยภาวทีปกานิ หิ จกฺขูนิ ปิยจกฺขูนิ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตีติ ปโมทปจฺจยพลวปีติมาห. ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชตีติ ขุทฺทิกาทิเภเทน ปฺจปฺปการา ปีติ อุปฺปชฺชติ. ปีติมนสฺสาติ ตาย ปีติยา ปีณิตมนสฺส, ปสฺสทฺธิอาวเหหิ อุฬาเรหิ ปีติเวเคหิ ตินฺตจิตฺตสฺสาติ อตฺโถ. วิคตทรโถติ กิเลสปริฬาหานํ ทูรีภาเวน วูปสนฺตทรโถ.

เกน อุทเกน ทาริโต ปพฺพตปฺปเทโสติ กตฺวา อาห ‘‘กนฺทโร นามา’’ติอาทิ. อุทกสฺส ยถานินฺนํ ปวตฺติยา นทินิพฺพตฺตนภาเวน ‘‘นทิกุฺโช’’ติปิ วุจฺจติ. สาวฏฺฏา นทิโย ปทรา. อฏฺ มาเสติ เหมนฺตคิมฺหอุตุวเสน อฏฺ มาเส. ขุทฺทกา อุทกวาหินิโย สาขา วิยาติ สาขา. ขุทฺทกโสพฺภา กุสุพฺภา โอการสฺส อุการํ กตฺวา. ยตฺถ อุปริ อุนฺนตปฺปเทสโต อุทกํ อาคนฺตฺวา ติฏฺติ เจว สนฺทติ จ, เต กุสุพฺภา ขุทฺทกอาวาฏา. ขุทฺทกนทิโยติ ปพฺพตปาทาทิโต นิกฺขนฺตา ขุทฺทกา นทิโย.

ปริสาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๗. ปมอาชานียสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๗-๙๙. ปฺจเม อนุจฺฉวิโกติ รฺโ ปริภุฺชนโยคฺโค. หตฺถปาทาทิองฺคสมตายาติ หตฺถปาทาทิอวยวสมตาย, รฺโ วา เสนาย องฺคภูตตฺตา รฺโ องฺคนฺติ วุจฺจติ. อาเนตฺวา หุนิตพฺพนฺติ อาหุนํ, อาหุตีติ อตฺถโต เอกนฺติ อาห ‘‘อาหุติสงฺขาตํ ปิณฺฑปาต’’นฺติ. ทูรโตปิ อาเนตฺวา สีลวนฺเตสุ ทาตพฺพสฺเสตํ อธิวจนํ. ปิณฺฑปาตนฺติ จ นิทสฺสนมตฺตํ. อาเนตฺวา หุนิตพฺพานฺหิ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานเมตํ อธิวจนํ อาหุนนฺติ. ตํ อรหตีติ อาหุเนยฺโย. ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโตติ ตสฺส มหปฺผลภาวกรณโต ปฏิคฺคณฺหิตุํ อนุจฺฉวิโก.

ปาหุนกภตฺตสฺสาติ ทิสวิทิสโต อาคตานํ ปิยมนาปานํ าติมิตฺตานํ อตฺถาย สกฺกาเร ปฏิยตฺตสฺส อาคนฺตุกภตฺตสฺส. ตฺหิ เปตฺวา เต ตถารูเป ปาหุนเก สงฺฆสฺเสว ทาตุํ ยุตฺตํ, สงฺโฆว ตํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต. สงฺฆสทิโส หิ ปาหุนโก นตฺถิ. ตถา เหส เอกสฺมึ พุทฺธนฺตเร วีติวตฺเต ทิสฺสติ, กทาจิ อสงฺขฺเยยฺเยปิ กปฺเป วีติวตฺเต. อพฺโพกิณฺณฺจ ปิยมนาปตาทิกเรหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต. เอวํ ปาหุนมสฺส ทาตุํ ยุตฺตํ, ปาหุนฺจ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโตติ ปาหุเนยฺโย. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย ‘‘าติมิตฺตา วิปฺปวุฏฺา น จิรสฺเสว สมาคจฺฉนฺติ, อนวฏฺิตา จ เตสุ ปิยมนาปตา, น เอวมริยสงฺโฆ, ตสฺมา สงฺโฆว ปาหุเนยฺโย’’ติ.

ทกฺขนฺติ เอตาย สตฺตา ยถาธิปฺเปตาหิ สมฺปตฺตีหิ วฑฺฒนฺตีติ ทกฺขิณา, ปรโลกํ สทฺทหิตฺวา ทานํ. ตํ ทกฺขิณํ อรหติ, ทกฺขิณาย วา หิโต ยสฺมา มหปฺผลกรณตาย วิโสเธตีติ ทกฺขิเณยฺโย.

ปุฺตฺถิเกหิ อฺชลิ กรณีโย เอตฺถาติ อฺชลิกรณีโย. อุโภ เหตฺถ สิรสิ ปติฏฺาเปตฺวา สพฺพโลเกน กยิรมานํ อฺชลิกมฺมํ อรหตีติ วา อฺชลิกรณีโย. เตนาห ‘‘อฺชลิปคฺคหณสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ.

ยทิปิ ปาฬิยํ ‘‘อนุตฺตร’’นฺติ วุตฺตํ, นตฺถิ อิโต อุตฺตรํ วิสิฏฺนฺติ หิ อนุตฺตรํ, สมมฺปิสฺส ปน นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสทิส’’นฺติ อาห. ขิตฺตํ วุตฺตํ พีชํ มหปฺผลภาวกรเณน ตายติ รกฺขติ, ขิปนฺติ วปนฺติ เอตฺถ พีชานีติ วา เขตฺตํ, เกทาราทิ, เขตฺตํ วิย เขตฺตํ, ปุฺานํ เขตฺตํ ปุฺกฺเขตฺตํ. ยถา หิ รฺโ วา อมจฺจสฺส วา สาลีนํ วา ยวานํ วา วิรุหนฏฺานํ ‘‘รฺโ สาลิกฺเขตํ ยวกฺเขต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ สงฺโฆ สพฺพโลกสฺส ปุฺานํ วิรุหนฏฺานํ. สงฺฆํ นิสฺสาย หิ โลกสฺส นานปฺปการหิตสุขสํวตฺตนิกานิ ปุฺานิ วิรุหนฺติ, ตสฺมา สงฺโฆ อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปมอาชานียสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. โปตฺถกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๐. อฏฺเม นโวติ นววายิโม. เตนาห ‘‘กรณํ อุปาทาย วุจฺจตี’’ติ. วากมยวตฺถนฺติ สาณาทิวากสาฏกํ. ทุพฺพณฺโณติ วิวณฺโณ. ทุกฺขสมฺผสฺโสติ ขรสมฺผสฺโส. อปฺปํ อคฺฆตีติ อปฺปคฺโฆ. อติพหุํ อคฺฆนฺโต กหาปณคฺฆนโก โหติ. ปริโภคมชฺฌิโมติ ปริโภคกาลวเสน มชฺฌิโม. โส หิ นวภาวํ อติกฺกมิตฺวา ชิณฺณภาวํ อปฺปตฺโต มชฺเฌ ปริโภคกาเลปิ ทุพฺพณฺโณ จ ทุกฺขสมฺผสฺโส จ อปฺปคฺโฆเยว โหติ. อติพหุํ อคฺฆนฺโต อฑฺฒํ อคฺฆติ, ชิณฺณกาเล ปน อฑฺฒมาสกํ วา กากณิกํ วา อคฺฆติ. อุกฺขลิปริปุฺฉนนฺติ กาฬุกฺขลิปริปุฺฉนํ. นโวติปิ อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺสกาลโต เหฏฺา ชาติยา สฏฺิวสฺโสปิ นโวเยว. ทุพฺพณฺณตายาติ สรีรวณฺเณนปิ คุณวณฺเณนปิ ทุพฺพณฺณตาย. ทุสฺสีลสฺส หิ ปริสมชฺเฌ นิตฺเตชตาย สรีรวณฺโณปิ น สมฺปชฺชติ, คุณวณฺเณน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อฏฺกถายํ ปน สรีรวณฺเณน ทุพฺพณฺณตาปิ คุณวณฺณสฺส อภาเวน ทุพฺพณฺณตายาติ วุตฺตํ.

เย โข ปนสฺสาติ เย โข ปน ตสฺส อุปฏฺากา วา าติมิตฺตาทโย วา เอตํ ปุคฺคลํ เสวนฺติ. เตสนฺติ เตสํ ปุคฺคลานํ ฉ สตฺถาเร เสวนฺตานํ มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วิย. เทวทตฺเต เสวนฺตานํ โกกาลิกาทีนํ วิย จ ตํ เสวนํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ. มชฺฌิโมติ ปฺจวสฺสกาลโต ปฏฺาย ยาว นววสฺสกาลา มชฺฌิโม นาม. เถโรติ ทสวสฺสโต ปฏฺาย เถโร นาม. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. กึ นุ โข ตุยฺหนฺติ ตุยฺหํ พาลสฺส ภณิเตน โก อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปนฺติ ตถาชาติกํ ตถาสภาวํ อุกฺเขปนียกมฺมสฺส การณภูตํ.

ตีหิ กปฺปาสอํสูหิ สุตฺตํ กนฺติตฺวา กตวตฺถนฺติ ตโย กปฺปาสอํสู คเหตฺวา กนฺติตสุตฺเตน วายิตํ สุขุมวตฺถํ, ตํ นววายิมํ อนคฺฆํ โหติ, ปริโภคมชฺฌิมํ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ สหสฺสานิ อคฺฆติ, ชิณฺณกาเล, อฏฺปิ ทสปิ สหสฺสานิ อคฺฆติ.

เตสํ ตํ โหตีติ เตสํ สมฺมาสมฺพุทฺธาทโย เสวนฺตา วิย ตํ เสวนํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺธฺหิ เอกํ นิสฺสาย ยาวชฺชกาลา มุจฺจนกสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ, ตถา สาริปุตฺตตฺเถรมหาโมคฺคลฺลานตฺเถเร อวเสเส จ อสีติ มหาสาวเก นิสฺสาย สคฺคคตสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ, ยาวชฺชกาลา เตสํ ทิฏฺานุคตึ ปฏิปนฺนสตฺตานมฺปิ ปมาณํ นตฺถิเยว. อาเธยฺยํ คจฺฉตีติ ตสฺส มหาเถรสฺส ตํ อตฺถนิสฺสิตํ วจนํ ยถา คนฺธกรณฺฑเก กาสิกวตฺถํ อาธาตพฺพตํ เปตพฺพตํ คจฺฉติ, เอวํ อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ หทเย จ อาธาตพฺพตํ เปตพฺพตํ คจฺฉติ.

โปตฺถกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. โลณกปลฺลสุตฺตวณฺณนา

๑๐๑. นวเม ยถา ยถา กมฺมํ กโรตีติ เยน เยน ปกาเรน ปาณฆาตาทิปาปกมฺมํ กโรติ. วิปากํ ปฏิสํเวทิยเตวาติ อวธารเณน กมฺมสิทฺธิยํ ตพฺพิปากสฺส อปฺปวตฺติ นาม นตฺถีติ ทีเปติ. เตเนวาห ‘‘น หิ สกฺกา’’ติอาทิ. เอวํ สนฺตนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติ. อภิสงฺขารวิฺาณนิโรเธนาติ กมฺมวิฺาณสฺส อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปชฺชเนน.

‘‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’ติอาทินา กายสฺส อสุภานิจฺจาทิอาการอนุปสฺสนา กายภาวนาติ อาห ‘‘กายานุปสฺสนาสงฺขาตาย ตาย ภาวนายา’’ติ. ราคาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โทสโมหานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ‘‘ราโค โข, อาวุโส, ปมาณกรโณ, โทโส ปมาณกรโณ, โมโห ปมาณกรโณ, เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๙) หิ วุตฺตํ.

ยถา หิ ปพฺพตปาเท ปูติปณฺณสฺส อุทกํ นาม โหติ, กาฬวณฺณํ โอโลเกนฺตานํ พฺยามสตํ คมฺภีรํ วิย ขายติ, ยฏฺึ วา รชฺชุํ วา คเหตฺวา มินนฺตสฺส ปิฏฺิปาโททฺธรณมตฺตมฺปิ น โหติ, เอวเมว เอกจฺจสฺส ยาว ราคาทโย นุปฺปชฺชนฺติ, ตาว ตํ ปุคฺคลํ สฺชานิตุํ น สกฺกา โหติ, โสตาปนฺโน วิย สกทาคามี วิย อนาคามี วิย จ ขายติ. ยทา ปนสฺส ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตทา รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโหติ ปฺายติ. อิติ เต ราคาทโย ‘‘เอตฺตโก อย’’นฺติ ปุคฺคลสฺส ปมาณํ ทสฺเสนฺตาว อุปฺปชฺชนฺตีติ ปมาณกรณา นาม วุตฺตา.

ชาเปตุนฺติ ชินธนํ กาตุํ. โสติ ราชา, มหามตฺโต วา. อสฺสาติ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ยาจนฺตสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

โลณกปลฺลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปํสุโธวกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๒. ทสเม อนีหตโทสนฺติ อนปนีตถูลกาฬกํ. อนปนีตกสาวนฺติ อนปคตสุขุมกาฬกํ. ปหฏมตฺตนฺติ อาหฏมตฺตํ.

ทสกุสลกมฺมปถวเสน อุปฺปนฺนํ จิตฺตํ จิตฺตเมว, วิปสฺสนาปาทกอฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ วิปสฺสนาจิตฺตฺจ ตโต จิตฺตโต อธิกํ จิตฺตนฺติ อธิจิตฺตนฺติ อาห ‘‘อธิจิตฺตนฺติ สมถวิปสฺสนาจิตฺต’’นฺติ. อนุยุตฺตสฺสาติ อนุปฺปนฺนสฺส อุปฺปาทนวเสน อุปฺปนฺนสฺส ปฏิพฺรูหนวเสน อนุ อนุ ยุตฺตสฺส, ตตฺถ ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุเรภตฺตํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นิสีทนํ อาทาย ‘‘อสุกสฺมึ รุกฺขมูเล วา วนสณฺเฑ วา ปพฺภาเร วา สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขมนฺโตปิ ตตฺถ คนฺตฺวา หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา นิสชฺชฏฺานโต ติณปณฺณานิ อปเนนฺโตปิ อธิจิตฺตํ อนุยุตฺโตเยว. นิสีทิตฺวา ปน หตฺถปาเท โธวิตฺวา มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนํ อนุยุฺชนฺโต ภาวนาย อปฺปนํ อปฺปตฺตายปิ อธิจิตฺตมนุยุตฺโตเยว ตทตฺเถนปิ ตํสทฺทโวหารโต. จิตฺตสมฺปนฺโนติ ธมฺมจิตฺตสฺส สมนฺนาคตตฺตา สมฺปนฺนจิตฺโต. ปณฺฑิตชาติโกติ ปณฺฑิตสภาโว.

กาเม อารพฺภาติ วตฺถุกาเม อารพฺภ. กามราคสงฺขาเตน วา กาเมน ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก. พฺยาปชฺชติ จิตฺตํ เอเตนาติ พฺยาปาโท, โทโส. วิหึสนฺติ เอตาย สตฺเต, วิหึสนํ วา เตสํ เอตนฺติ วิหึสา, ปเรสํ วิเหนากาเรน ปวตฺตสฺส กรุณาปฏิปกฺขสฺส ปาปธมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ. าตเก อารพฺภ อุปฺปนฺโน วิตกฺโกติ าตเก อารพฺภ เคหสฺสิตเปมวเสน อุปฺปนฺโน วิตกฺโก. ชนปทมารพฺภ อุปฺปนฺโน วิตกฺโกติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อโห วต มํ…เป… อุปฺปนฺโน วิตกฺโกติ ‘‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุํ, น เหฏฺา กตฺวา มฺเยฺยุํ, ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุํ กเรยฺยุ’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนวิตกฺโก. ทสวิปสฺสนุปกฺกิเลสวิตกฺกาติ โอภาสาทิทสวิปสฺสนุปกฺกิเลเส อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺกา.

อวสิฏฺา ธมฺมวิตกฺกา เอตสฺสาติ อวสิฏฺธมฺมวิตกฺโก, วิปสฺสนาสมาธิ. น เอกคฺคภาวปฺปตฺโต น เอกคฺคตํ ปตฺโต. เอกํ อุเทตีติ หิ เอโกทิ, ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตฺตา อคฺคํ เสฏฺํ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ, เอกสฺมึ อารมฺมเณ สมาธานวเสน ปวตฺตจิตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. เอโกทิสฺส ภาโว เอโกทิภาโว, เอกคฺคตาเยตํ อธิวจนํ.

นิยกชฺฌตฺตนฺติ อตฺตสนฺตานสฺเสตํ อธิวจนํ. โคจรชฺฌตฺตนฺติ อิธ นิพฺพานํ อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘เอกสฺมึ นิพฺพานโคจเรเยว ติฏฺตี’’ติ. สุฏฺุ นิสีทตีติ สมาธิปฏิปกฺเข กิเลเส สนฺนิสีเทนฺโต สุฏฺุ นิสีทติ. เอกคฺคํ โหตีติ อพฺยคฺคภาวปฺปตฺติยา เอกคฺคํ โหติ. สมฺมา อาธิยตีติ ยถา อารมฺมเณ สุฏฺุ อปฺปิตํ โหติ, เอวํ สมฺมา สมฺมเทว อาธิยติ.

อภิฺา สจฺฉิกรณียสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อภิฺาย สจฺฉิกรณียสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อภิฺา’’ติ ย-การโลเปน ปน ปุน กาลกิริยานิทฺเทโส กโตติ อาห ‘‘อภิชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กาตพฺพสฺสา’’ติ. อภิฺาย อิทฺธิวิธาทิาเณน สจฺฉิกิริยํ อิทฺธิวิธปจฺจนุภวนาทิกํ อภิฺาสจฺฉิกรณียนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาตีติ เอตฺถ ปน ยสฺส ปจฺจกฺขํ อตฺถิ, โส สกฺขี, สกฺขิโน ภพฺพตา สกฺขิภพฺพตา, สกฺขิภวนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สกฺขี จ โส ภพฺโพ จาติ สกฺขิภพฺโพ. อยฺหิ อิทฺธิวิธาทีนํ ภพฺโพ ตตฺถ จ สกฺขีติ สกฺขิภพฺโพ, ตสฺส ภาโว สกฺขิภพฺพตา, ตํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ.

อภิฺาปาทกชฺฌานาทิเภเทติ เอตฺถ อภิฺาปาทา จ อภิฺาปาทกชฺฌานฺจ อภิฺาปาทกชฺฌานานิ. อาทิ-สทฺเทน อรหตฺตฺจ อรหตฺตสฺส วิปสฺสนา จ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว มชฺฌิมนิกายฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๑๙๘) –

‘‘สติ สติอายตเนติ สติ สติการเณ. กิฺเจตฺถ การณํ? อภิฺา วา อภิฺาปาทกชฺฌานํ วา, อวสาเน ปน อรหตฺตํ วา การณํ อรหตฺตสฺส วิปสฺสนา วาติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

ยฺหิ ตํ ตตฺร ตตฺร สกฺขิภพฺพตาสงฺขาตํ อิทฺธิวิธปจฺจนุภวนาทิ, ตสฺส อภิฺา การณํ. อถ อิทฺธิวิธปจฺจนุภวนาทิ อภิฺา, เอวํ สติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ การณํ. อวสาเน ฉฏฺาภิฺาย ปน อรหตฺตํ, อรหตฺตสฺส วิปสฺสนา วา การณํ. อรหตฺตฺหิ ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ, ยทริยา เอตรหิ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕; ๓.๓๐๗) อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺเปตฺวา อภิฺา นิพฺพตฺเตนฺตสฺส การณํ. อิทฺจ สาธารณํ น โหติ, สาธารณวเสน ปน อรหตฺตสฺส วิปสฺสนา การณํ. อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต อรหตฺตผลวเสน ฉฏฺาภิฺา วุตฺตา. เตเนวาห ‘‘อาสวานํ ขยาติอาทิ เจตฺถ ผลสมาปตฺติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ.

ปํสุโธวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. นิมิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓. เอกาทสเม เยหิ ผลํ นิมียติ, อุปฺปชฺชนฏฺาเน ปกฺขิปมานํ วิย โหติ, ตานิ นิมิตฺตานิ. เตนาห ‘‘ตีณิ การณานี’’ติ. กาเลน กาลนฺติ เอตฺถ กาเลนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. กาลนฺติ จ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘กาเล กาเล’’ติ. มนสิ กาตพฺพาติ จิตฺเต กาตพฺพา, อุปฺปาเทตพฺพาติ อตฺโถ. อุปลกฺขิตสมาธานากาโร สมาธิเยว อิธ สมาธินิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘เอกคฺคตา หิ อิธ สมาธินิมิตฺตนฺติ วุตฺตา’’ติ. านํ ตํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺยาติ เอตฺถ านํ อตฺถีติ วจนเสโส. ตํ ภาวนาจิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย, ตสฺส สํวตฺตนสฺส การณํ อตฺถีติ อตฺโถ. ตํ วา มนสิกรณํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย, เอตสฺส านํ การณํ อตฺถีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘การณํ วิชฺชตี’’ติอาทิ. าณชวนฺติ สงฺขาเรสุ อนิจฺจาทิวเสน ปวตฺตมานํ ปฺาชวํ.

ยํ กิฺจิ สุวณฺณตาปนโยคฺคองฺคารภาชนํ อิธ ‘‘อุกฺกา’’ติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘องฺคารกปลฺล’’นฺติ. สชฺเชยฺยาติ ยถา ตตฺถ ปกฺขิตฺตํ สุวณฺณํ ตปฺปติ, เอวํ ปฏิยาทิเยยฺย. อาลิมฺเปยฺยาติ อาทิเยยฺย, ชเลยฺยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตตฺถ องฺคาเร…เป… คาหาเปยฺยา’’ติ. มูสาย วา ปกฺขิเปยฺยาติ ตตฺตเก วา ปกฺขิเปยฺย. อุปธาเรตีติ สลฺลกฺเขติ.

นิมิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

โลณกปลฺลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๓. ตติยปณฺณาสกํ

(๑๑) ๑. สมฺโพธวคฺโค

๑-๓. ปุพฺเพวสมฺโพธสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๔-๑๐๖. ตติยสฺส ปเม สมฺโพธิโต ปุพฺเพวาติ สมฺโพโธ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ าณํ ‘‘สามํ สมฺมา พุชฺฌิ เอเตนา’’ติ กตฺวา, ตโต ปุพฺเพเยวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อริยมคฺคปฺปตฺติโต อปรภาเคเยวา’’ติ. โพธิสตฺตสฺเสว สโตติ เอตฺถ ยถา อุทกโต อุคฺคนฺตฺวา ิตํ ปริปากคตํ ปทุมํ สูริยรสฺมิสมฺผสฺเสน อวสฺสํ พุชฺฌิสฺสตีติ พุชฺฌนกปทุมนฺติ วุจฺจติ. เอวํ พุทฺธานํ สนฺติเก พฺยากรณสฺส ลทฺธตฺตา อวสฺสํ อนนฺตราเยน ปารมิโย ปูเรตฺวา พุชฺฌิสฺสตีติ พุชฺฌนกสตฺโตติ โพธิสตฺโต. เตนาห ‘‘พุชฺฌนกสตฺตสฺเสว…เป… อารภนฺตสฺเสว สโต’’ติ. ยา วา เอสา จตุมคฺคาณสงฺขาตา โพธิ, ‘‘ตํ โพธึ กุทาสฺสุ นามาหํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ ปตฺถยมาโน ปฏิปชฺชตีติ โพธิยํ สตฺโต อาสตฺโตติปิ โพธิสตฺโต. เตนาห ‘‘สมฺโพธิยา วา สตฺตสฺเสว ลคฺคสฺเสว สโต’’ติ.

อถ วา โพธีติ าณํ ‘‘พุชฺฌติ เอเตนา’’ติ กตฺวา, โพธิมา สตฺโต โพธิสตฺโต, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ยถา ‘‘าณสตฺโต’’ติ, าณวา ปฺวา ปณฺฑิโต สตฺโตติ อตฺโถ. พุทฺธานฺหิ ปาทมูเล อภินีหารโต ปฏฺาย ปณฺฑิโตว โส สตฺโต, น อนฺธพาโลติ โพธิสตฺโต. เอวํ คุณวโต อุปฺปนฺนนามวเสน โพธิสตฺตสฺเสว สโต. อสฺสาทียตีติ อสฺสาโท, สุขํ. ตฺจ สาตาการลกฺขณนฺติ อาห ‘‘อสฺสาโทติ มธุรากาโร’’ติ. ฉนฺทราโค วินียติ เจว ปหียติ จ เอตฺถาติ นิพฺพานํ ‘‘ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานฺจา’’ติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘นิพฺพาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อาคมฺมาติ อิทํ โย ชโน ราคํ วิเนติ ปชหติ จ, ตสฺส อารมฺมณกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุติยตติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปุพฺเพวสมฺโพธสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๙. สมณพฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๗-๑๑๒. จตุตฺเถ สามฺนฺติ อริยมคฺโค, เตน อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต สามฺตฺถํ, อริยผลนฺติ อาห ‘‘สามฺตฺถนฺติ จตุพฺพิธํ อริยผล’’นฺติ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เตนาห ‘‘อิตรํ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. อริยมคฺคสงฺขาตํ สามฺเมว วา อรณียโต สามฺตฺถนฺติ อาห ‘‘สามฺตฺเถน วา จตฺตาโร มคฺคา’’ติ. ปฺจมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สมณพฺราหฺมณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทุติยนิทานสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓. ทสเม วิวฏฺฏคามิกมฺมานนฺติ วิวฏฺฏูปนิสฺสยกมฺมานํ. ตทภินิวตฺเตตีติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน ปจฺจามสนสฺส วิปากสฺส ปรามาโสติ อาห ‘‘ตํ อภินิวตฺเตตี’’ติ, ตํ วิปากํ อภิภวิตฺวา นิวตฺเตตีติ อตฺโถ. อิทานิ น เกวลํ วิปากสฺเสว ปรามาโส ตํ-สทฺเทน, อถ โข ฉนฺทราคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ ตพฺพิปากสฺส จ ปรามาโส ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘ยทา วา เตนา’’ติอาทิ. เต เจว ธมฺเมติ เต ฉนฺทราคฏฺานิเย ธมฺเม. นิพฺพิชฺฌิตฺวา ปสฺสตีติ กิเลเส นิพฺพิชฺฌิตฺวา วิภูตํ ปากฏํ กตฺวา ปสฺสตีติ.

ทุติยนิทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมฺโพธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๒) ๒. อาปายิกวคฺโค

๑. อาปายิกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔. ทุติยสฺส ปเม อปาเยสุ นิพฺพตฺตนสีลตาย อปายูปคา อาปายิกาติ อาห ‘‘อปายํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ อาปายิกา’’ติ. อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถาปฏิปชฺชนโต ‘‘อหํ พฺรหฺมจารี’’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหตีติ อาห ‘‘พฺรหฺมจาริปฏิฺโติ พฺรหฺมจาริปฏิรูปโก’’ติ. ‘‘อหมฺปิ ภิกฺขู’’ติ วตฺวา อุโปสถงฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต. เตนาห ‘‘เตสํ วา…เป… เอวํปฏิฺโ’’ติ. อกฺโกสตีติ ‘‘อสฺสมโณสิ, สมณปฏิฺโสี’’ติอาทินา อกฺโกสติ. ปริภาสตีติ ‘‘โส ตฺวํ ‘โหตุ, มุณฺฑกสมโณ อห’นฺติ มฺสิ, อิทานิ เต อสฺสมณภาวํ อาโรเปสฺสามี’’ติอาทินา วทนฺโต ปริภาสติ.

กิเลสกาโมปิ อสฺสาทิยมาโน วตฺถุกามนฺโตคโธเยว, กิเลสกามวเสน จ เตสํ อสฺสาทนํ สิยาติ อาห ‘‘กิเลสกาเมน วตฺถุกาเม เสวนฺตสฺสา’’ติ. กิเลสกาเมนาติ กรณตฺเถ กรณวจนํ. นตฺถิ โทโสติ อสฺสาเทตฺวา วิสยปริโภเค นตฺถิ อาทีนโว, ตปฺปจฺจยา น โกจิ อนฺตราโยติ อธิปฺปาโย. ปาตพฺพตํ อาปชฺชตีติ ปริภุฺชนกตํ อุปคจฺฉติ. ปริโภคตฺโถ หิ อยํ ปา-สทฺโท, กตฺตุสาธโน จ ตพฺพ-สทฺโท, ยถารุจิ ปริภุฺชตีติ อตฺโถ. ปิวิตพฺพตํ ปริภุฺชิตพฺพตนฺติ เอตฺถาปิ กตฺตุวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อาปายิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุลฺลภสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕. ทุติเย ปเรน กตสฺส อุปการสฺส อนุรูปปฺปวตฺติ อตฺตนิ กตํ อุปการํ อุปการโต ชานนฺโต เวทิยนฺโต กตฺู กตเวทีติ อาห ‘‘อิมินา มยฺหํ กต’’นฺติอาทิ.

ทุลฺลภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อปฺปเมยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖. ตติเย สุเขน เมตพฺโพติ ยถา ปริตฺตสฺส อุทกสฺส สุเขน ปมาณํ คยฺหติ, เอวเมว ‘‘อุทฺธโต’’ติอาทินา ยถาวุตฺเตหิ อคุณงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สุเขน ปมาณํ คยฺหตีติ, สุเขน เมตพฺโพ. ทุกฺเขน เมตพฺโพติ ยถา มหาสมุทฺทสฺส ทุกฺเขน ปมาณํ คยฺหติ, เอวเมว ‘‘อนุทฺธโต’’ติอาทินา ทสฺสิเตหิ คุณงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ทุกฺเขน ปมาณํ คยฺหติ, ‘‘อนาคามี นุ โข ขีณาสโว นุ โข’’ติ วตฺตพฺพตํ คจฺฉติ, เตเนส ทุกฺเขน เมตพฺโพ. ปเมตุํ น สกฺโกตีติ ยถา อากาสสฺส น สกฺกา ปมาณํ คเหตุํ, เอวํ ขีณาสวสฺส, เตเนส ปเมตุํ น สกฺกาติ อปฺปเมยฺโย.

สาราภาเวน ตุจฺฉตฺตา นโฬ วิย นโฬ, มาโนติ อาห ‘‘อุนฺนโฬติ อุคฺคตนโฬ’’ติ, อุฏฺิตตุจฺฉมาโนติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิโตติ อตฺโถ’’ติ. มโน หิ เสยฺยสฺส เสยฺโยติ สทิโสติ จ ปวตฺติยา วิเสสโต ตุจฺโฉ. จาปลฺเลนาติ จปลภาเวน, ตณฺหาโลลุปฺเปนาติ อตฺโถ. มุขโรติ มุเขน ผรุโส, ผรุสวาโจติ อตฺโถ. วิกิณฺณวาโจติ วิสฏวจโน สมฺผปฺปลาปิตาย อปริยนฺตวจโน. เตนาห ‘‘อสฺตวจโน’’ติ, ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนํ ปลาปีติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺเตกคฺคตารหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธิรหิโต จณฺฑโสเต พทฺธนาวา วิย อนวฏฺิตกิริโย. ภนฺตจิตฺโตติ อนวฏฺิตจิตฺโต ปณฺณารุฬฺหวาลมิคสทิโส. วิวฏินฺทฺริโยติ สํวราภาเวน คิหิกาเล วิย อสํวุตจกฺขาทิอินฺทฺริโย.

อปฺปเมยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อาเนฺชสุตฺตวณฺณนา

๑๑๗. จตุตฺเถ สห พฺยยติ คจฺฉตีติ สหพฺโย, สหปวตฺตนโก. ตสฺส ภาโว สหพฺยตา, สหปวตฺตีติ อาห ‘‘สหภาวํ อุปปชฺชตี’’ติ. ‘‘ยาวตกํ เตสํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ, ตํ สพฺพํ เขเปตฺวา นิรยมฺปิ คจฺฉตี’’ติอาทิวจนโต อรูปภวโต จุตสฺส อปายูปปตฺติ วุตฺตา วิย ทิสฺสตีติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ภควโต อธิปฺปายํ วิวรนฺโต ‘‘สนฺธายภาสิตมิทํ วจน’’นฺติ ทีเปติ ‘‘นิรยาทีหิ อวิปฺปมุตฺตตฺตา’’ติอาทินา. น หิ ตสฺส อุปจารชฺฌานโต พลวตรํ อกุสลํ อตฺถีติ. อิมินา ตโต จวนฺตานํ อุปจารชฺฌานเมว ปฏิสนฺธิชนกํ กมฺมนฺติ ทีเปติ. อธิกํ ปยสติ ปยุชฺชติ เอเตนาติ อธิปฺปยาโส, สวิเสสํ อิติกตฺตพฺพกิริยา. เตนาห ‘‘อธิกปฺปโยโค’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

อาเนฺชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วิปตฺติสมฺปทาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๘. ปฺจเม ทินฺนนฺติ เทยฺยธมฺมสีเสน ทานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธาย วทตี’’ติ. ทินฺนํ ปน อนฺนาทิวตฺถุํ กถํ ปฏิกฺขิปติ. เอส นโย ‘‘ยิฏฺํ หุต’’นฺติ เอตฺถาปิ. มหายาโคติ สพฺพสาธารณํ มหาทานํ. ปเหณกสกฺกาโรติ ปาหุนกานํ กาตพฺพสกฺกาโร. ผลนฺติ อานิสํสผลํ นิสฺสนฺทผลฺจ. วิปาโกติ สทิสผลํ. ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถีติ ปรโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ อยํ โลโก น โหติ. อิธโลเก ิตสฺสปิ ปรโลโก นตฺถีติ อิธโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ ปรโลโก น โหติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ. อิเม สตฺตา ยตฺถ ยตฺถ ภวโยนิคติอาทีสุ ิตา, ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺติ, ทฺวยวินาเสน วินสฺสนฺติ.

ผลาภาววเสนาติ มาตาปิตูสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลสฺส อภาววเสน ‘‘นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา’’ติ วทติ, น มาตาปิตูนํ, นาปิ เตสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ อภาววเสน เตสํ โลกปจฺจกฺขตฺตา. ปุพฺพุฬกสฺส วิย อิเมสํ สตฺตานํ อุปฺปาโท นาม เกวโล, น จ ขนปุพฺพโกติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘จวิตฺวา อุปฺปชฺชนกา สตฺตา นาม นตฺถีติ วทตี’’ติ. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ อภิวิสิฏฺาย ปฺาย สยํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวเทนฺติ, เต นตฺถีติ สพฺพฺุพุทฺธานํ อภาวํ ทีเปติ.

วิปตฺติสมฺปทาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖-๗. อปณฺณกสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๙-๑๒๐. ฉฏฺเ ฉหิ ตเลหิ สมนฺนาคโต ปาสโกติ จตูสุ ปสฺเสสุ จตฺตาริ ตลานิ, ทฺวีสุ โกฏีสุ ทฺเว ตลานีติ เอวํ ฉหิ ตเลหิ สมนฺนาคโต ปาสกกีฬาปสุตานํ มณิสทิโส ปาสกวิเสโส. สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

อปณฺณกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมโสเจยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๑. อฏฺเม สุจิภาโวติ กิเลสาสุจิวิคเมน สุทฺธภาโว อสํกิลิฏฺภาโว, อตฺถโต กายสุจริตาทีนิ.

ปมโสเจยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยโสเจยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๒. นวเม สมุจฺเฉทวเสน ปหีนสพฺพกายทุจฺจริตตาย กาเย, กาเยน วา สุจิ กายสุจิ. เตนาห ‘‘กายทฺวาเร’’ติอาทิ. โสเจยฺยสมฺปนฺนนฺติ ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสตฺตา ปริสุทฺธาย โสเจยฺยสมฺปตฺติยา อุเปตํ. นินฺหาตา อคฺคมคฺคสลิเลน วิกฺขาลิตา ปาปา เอเตนาติ นินฺหาตปาปโก, ขีณาสโว. เตนาห ‘‘ขีณาสโวว กถิโต’’ติ.

ทุติยโสเจยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. โมเนยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๓. ทสเม มุนิโน ภาวา โมเนยฺยานิ, เยหิ ธมฺเมหิ อุภยหิตมุนนโต มุนิ นาม โหติ, เต มุนิภาวกรา โมเนยฺยา ปฏิปทา ธมฺมา เอว วุตฺตา. มุนิโน วา เอตานิ โมเนยฺยานิ, ยถาวุตฺตธมฺมา เอว. ตตฺถ ยสฺมา กาเยน อกตฺตพฺพสฺส อกรณํ, กตฺตพฺพสฺส จ กรณํ, ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐; สํ. นิ. ๔.๑๒๗; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตฺตึสาการ) กายสงฺขาตสฺส อารมฺมณสฺส ชานนํ, กายสฺส จ สมุทยโต อตฺถงฺคมโต อสฺสาทโต อาทีนวโต นิสฺสรณโต จ ยาถาวโต ปริชานนตา, ตถา ปริชานนวเสน ปน ปวตฺโต วิปสฺสนามคฺโค, เตน จ กาเย ฉนฺทราคสฺส ปชหนํ, กายสงฺขารํ นิโรเธตฺวา ปตฺตพฺพสมาปตฺติ วา, สพฺเพ เอเต กายมุเขน ปวตฺตา โมเนยฺยปฺปฏิปทา ธมฺมา กายโมเนยฺยํ นาม. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตมํ กายโมเนยฺยํ? ติวิธกายทุจฺจริตสฺส ปหานํ กายโมเนยฺยํ, ติวิธกายสุจริตมฺปิ กายโมเนยฺย’’นฺติอาทินา (มหานิ. ๑๔) ปาฬิ อาคตา. อิธาปิ เตเนว ปาฬินเยน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ติวิธกายทุจฺจริตปฺปหานํ กายโมเนยฺยํ นามา’’ติอาทิมาห.

อิทานิ ‘‘กตมํ วจีโมเนยฺยํ? จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตสฺส ปหานํ วจีโมเนยฺยํ, จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ, วาจารมฺมเณ าณํ, วาจาปริฺา, ปริฺาสหคโต มคฺโค, วาจาย ฉนฺทราคสฺส ปหานํ, วจีสงฺขารนิโรโธ ทุติยชฺฌานสมาปตฺติ วจีโมเนยฺย’’นฺติ อิมาย ปาฬิยา วุตฺตมตฺถํ อติทีเปนฺโต ‘‘วจีโมเนยฺเยปิ เอเสว นโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โจปนวาจฺเจว สทฺทวาจฺจ อารพฺภ ปวตฺตา ปฺา วาจารมฺมเณ าณํ. ตสฺสา วาจาย สมุทยาทิโต ปริชานนํ วาจาปริฺา.

‘‘กตมํ มโนโมเนยฺยํ? ติวิธมโนทุจฺจริตสฺส ปหานํ มโนโมเนยฺยํ, ติวิธํ มโนสุจฺจริตํ, มนารมฺมเณ าณํ, มนปริฺา, ปริฺาสหคโต มคฺโค, มนสฺมึ ฉนฺทราคสฺส ปหานํ, จิตฺตสงฺขารนิโรโธ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ มโนโมเนยฺย’’นฺติ อิมาย ปาฬิยา อาคตนเยน อตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘มโนโมเนยฺเยปิ อิมินาว นเยน อตฺถํ ตฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จ เอกาสีติวิธํ โลกิยจิตฺตํ อารพฺภ ปวตฺตาณํ มนารมฺมเณ าณํ. ตสฺส สมุทยาทิโต ปริชานนํ มนปริฺาติ อยํ วิเสโส.

โมเนยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาปายิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๓) ๓. กุสินารวคฺโค

๑-๒. กุสินารสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๔-๑๒๕. ตติยสฺส ปเม ตณฺหาเคเธน คถิโตติ ตณฺหาพนฺธเนน พทฺโธ. ตณฺหามุจฺฉนายาติ ตณฺหาย วเสน มุจฺฉาปตฺติยา. มุจฺฉิโตติ มุจฺฉํ โมหํ ปมาทํ อาปนฺโน. อชฺโฌปนฺโนติ อธิโอปนฺโน. ตณฺหาย อธิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถโฏ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา วิย ิโต. เตนาห ‘‘อชฺโฌปนฺโนติ ตณฺหาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ปวตฺโต’’ติ. อนาทีนวทสฺสาวีติ คถิตาทิภาเวน ปริโภเค อาทีนวมตฺตมฺปิ น ปสฺสติ. นิสฺสรณปฺโติ อยมตฺโถ อาหารปริโภเคติ ตตฺถ ปโยชนปริจฺเฉทิกา ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; ๒.๒๔; ๓.๗๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙) ปวตฺตา อาหารปฏิพทฺธฉนฺทราคนิสฺสรณภูตา ปฺา อสฺส อตฺถีติ นิสฺสรณปฺโ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ทุติเย นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

กุสินารสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๖. ตติเย สมฺพหุลาติ ปฺจสตมตฺตา. ปฺจสตา กิร พฺราหฺมณา ติณฺณํ เวทานํ ปารคู อปรภาเค ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ปสฺสมานา ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา น จิรสฺเสว สพฺพํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา ปริยตฺตึ นิสฺสาย มานํ อุปฺปาเทสุํ – ‘‘ยํ ยํ ภควา กเถติ, ตํ ตํ มยํ ขิปฺปเมว ชานาม. ภควา หิ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ตีณิ ลิงฺคานิ, นามาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, ปมาทโย สตฺต วิภตฺติโย มุฺจิตฺวา น กิฺจิ กเถติ, เอวํ กถิเต จ อมฺหากํ คณฺิปทํ นาม นตฺถี’’ติ, เต ภควติ อคารวา หุตฺวา ตโต ปฏฺาย ภควโต อุปฏฺานมฺปิ ธมฺมสฺสวนมฺปิ อภิณฺหํ น คจฺฉนฺติ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมฺพหุลา กิร พฺราหฺมณปพฺพชิตา…เป… ธมฺมสฺสวนํ น คจฺฉนฺตี’’ติ. มุขปฏิฺํ คเหตฺวาติ ‘‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห, ภิกฺขเว’’ติอาทินา ตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ เตหิ ภิกฺขูหิ วุตฺตํ ปฏิวจนํ คเหตฺวา. ตฺหิ อตฺตโน มุเขเนว ปฏิฺาตตฺตา ‘‘มุขปฏิฺา’’ติ วุจฺจติ.

เนว อาคตฏฺานํ น คตฏฺานํ อทฺทสํสุ. กสฺมา? อฺาณโต. เต กิร ตสฺส สุตฺตสฺส อตฺถํ น ชานึสุ. เตสฺหิ ตสฺมึ สมเย วิจิตฺรนยํ เทสนาวิลาสยุตฺตมฺปิ ตํ สุตฺตํ ฆนปุถุเลน ทุสฺสปฏฺเฏน มุขํ พทฺธํ กตฺวา ปุรโต ปิตมนุฺโภชนํ วิย อโหสิ. นนุ จ ภควา อตฺตนา เทสิตํ ธมฺมํ ปเร าเปตุํ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, โส กสฺมา ยถา เต น ชานนฺติ, ตถา เทเสตีติ? เตสํ มานภฺชนตฺถํ. ภควา หิ ‘‘อภพฺพา อิเม อิมํ มานขิลํ อนุปหจฺจ มคฺคํ วา ผลํ วา สจฺฉิกาตุ’’นฺติ เตสํ สุตปริยตฺตึ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา เทสนากุสโล มานภฺชนตฺถํ ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติอาทินา มูลปริยายสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑) อภาสิ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธ ‘‘มยฺหํ กถา นิยฺยาตี’’ติ มุขสมฺปตฺตเมว กเถตีติ จินฺตยึสูติ อิทํ องฺคุตฺตรภาณกานํ วฬฺชนกตนฺตินีหาเรน วุตฺตํ. มชฺฌิมภาณกา ปน เอวํ วทนฺติ – เอวํ มานภฺชนตฺถํ เทสิตฺจ ปน ตํ สุตฺตํ สุตฺวา เต ภิกฺขู ‘‘ตํเยว กิร ปถวึ ทิฏฺิคติโก สฺชานาติ, เสโขปิ อรหาปิ ตถาคโตปิ อภิชานาติ, กิ นามิทํ กถํ นามิท’’นฺติ จินฺเตนฺตา ‘‘ปุพฺเพ มยํ ภควตา กถิตํ ยํกิฺจิ ขิปฺปเมว ชานาม, อิทานิ ปนิมสฺส มูลปริยายสฺส อนฺตํ วา โกฏึ วา น ชานาม น ปสฺสาม, อโห พุทฺธา นาม อปฺปเมยฺยา อตุลา’’ติ อุทฺธตทาา วิย สปฺปา นิมฺมทา หุตฺวา พุทฺธูปฏฺานฺจ ธมฺมสฺสวนฺจ สกฺกจฺจํ อคมํสุ. เตน สมเยน ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ภิกฺขู ‘‘อโห พุทฺธานํ อานุภาโว, เต นามพฺราหฺมณปพฺพชิตา ตถา มานมทมตฺตา ภควตา มูลปริยายเทสนาย นิหตมานา กตา’’ติ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. ตํ สุตฺวา ภควา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อหํ เอวํ อิเม มานปคฺคหิตสีเส จรนฺเต นิหตมาเน อกาสิ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหรนฺโต ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อฺตโร ทิสาปาโมกฺโข พฺราหฺมโณ พาราณสิยํ ปฏิวสติ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฏุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย, โส ปฺจมตฺตานิ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติ. ปณฺฑิตมาณวกา พหุฺจ คณฺหนฺติ ลหุฺจ, สุฏฺุ จ อุปธาเรนฺตี’’ติอาทินา ชาตกํ กเถสิ.

ตํ สุตฺวา เต ภิกฺขู ‘‘ปุพฺเพปิ มยํ มาเนเนว อุปหตา’’ติ ภิยฺโยโสมตฺตาย นิหตมานา หุตฺวา อตฺตโน อุปการกมฺมฏฺานปรายณา อเหสุํ. ตโต ภควา เอกํ สมยํ ชนปทจาริกํ จรนฺโต เวสาลึ ปตฺวา โคตมเก เจติเย วิหรนฺโต อิเมสํ ปฺจสตานํ ภิกฺขูนํ าณปริปากํ วิทิตฺวา อิทํ โคตมกสุตฺตํ กเถสิ. อิทฺจ สุตฺตํ สุตฺวา เต ปฺจสตา ภิกฺขู ตสฺมึเยว อาสเน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ.

อภิฺายาติ กุสลาทิเภทํ ขนฺธาทิเภทฺจ เทเสตพฺพํ ธมฺมํ, เวเนยฺยานฺจ อาสยานุสยจริยาธิมุตฺติอาทิเภทํ, ตสฺส จ เนสํ เทเสตพฺพปฺปการํ ยาถาวโต อภิชานิตฺวาติ อตฺโถ. อิเม ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานีติอาทิ ปเนตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สปฺปจฺจยนฺติ สการณํ, เวเนยฺยานํ อชฺฌาสเยน วา ปุจฺฉาย วา อฏฺุปฺปตฺติยา วา สนิมิตฺตํ เหตูทาหรณสหิตฺจาติ อตฺโถ. ราคาทีนํ ปฏิหรณํ ปฏิหาริยํ, ตเทว ปาฏิหาริยํ, สห ปาฏิหาริเยนาติ สปฺปาฏิหาริยํ. ราคาทิปฺปฏิเสธนวเสเนว หิ สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ. เตนาห ‘‘ปจฺจนีกปฏิหรเณน สปฺปาฏิหาริยเมว กตฺวา’’ติ. อปเร ปน ‘‘ยถารหํ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิปาฏิหาริยสหิต’’นฺติ วทนฺติ อนุสาสนิปาฏิหาริยรหิตา เทสนา นตฺถีติ กตฺวา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ภรณฺฑุกาลามสุตฺตวณฺณนา

๑๒๗. จตุตฺเถ อาฬารกาลามกาเลติ อาฬารกาลามานํ ธรมานกาเล. ปริฺนฺติ ปหานปริฺํ. สา หิ สมติกฺกโม, น อิตรา. เตนาห ‘‘ปริฺา นาม สมติกฺกโม’’ติ. เอตฺถ จ ปโม สตฺถา รูปาวจรสมาปตฺติลาภี ทฏฺพฺโพ, ทุติโย อรูปาวจรสมาปตฺติลาภี, ตติโย สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ปุคฺคลปฺตฺติยํ (ปุ. ป. ๑๓๐) –

‘‘ยฺวายํ สตฺถา กามานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, น รูปานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, รูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ยฺวายํ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, อรูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ยฺวายํ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, เวทนานฺจ ปริฺํ ปฺาเปติ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ’’ติ.

ตตฺถ ติตฺถิยา สมยํ ชานนฺตา กามานํ ปริฺํ ปฺาเปยฺยุํ ปมชฺฌานํ วทมานา. รูปานํ ปริฺํ ปฺาเปยฺยุํ อรูปราคํ วทมานา. เวทนาปริฺํ ปฺาเปยฺยุํ อสฺาราคํ วทมานา. เต ปน ‘‘อิทํ นาม ปมชฺฌานํ, อยํ รูปภโว, อยํ อสฺาภโว’’ติปิ น ชานนฺติ. เต ปฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตาปิ เกวลํ ‘‘ปฺาเปมา’’ติ วทนฺติ. ตถาคโต ปน กามานํ ปริฺํ อนาคามิมคฺเคน ปฺาเปติ, รูปเวทนานํ อรหตฺตมคฺเคน. เอวเมตฺถ ทฺเว ชนา พาหิรกา, เอโก สมฺมาสมฺพุทฺโธติ อิมสฺมึ โลเก ตโย สตฺถาโร นาม.

ภรณฺฑุกาลามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา

๑๒๘. ปฺจเม อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตํ. อภิกฺกนฺตตโรติ อติวิย กนฺตตโร. ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติ. โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม? เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริจฺเฉเทน. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนีเยน อภิรูเปน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทส ทิสา ปภาเสนฺโต, จนฺโท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ คาถาย อตฺโถ. อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเป. อพฺภนุโมทเนติ สมฺปหํสเน. อิธ ปนาติ ‘‘อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา’’ติ เอตสฺมึ ปเท. เตนาติ สุนฺทรปริยายตฺตา. ขเย วา อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท ทฏฺพฺโพ, เตน ‘‘อภิกฺกนฺตาย ปริกฺขีณาย รตฺติยา’’ติ วุตฺตํ โหติ.

รูปายตนาทีสูติ อาทิสทฺเทน อกฺขราทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณจฺฉวีติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘ฉวิย’’นฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กฺจนสนฺนิภตฺตโจ’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๖). สฺูฬฺหาติ สมฺพนฺธิตา, คนฺถิตาติ อตฺโถ. วณฺณาติ คุณวณฺณาติ อาห ‘‘ถุติย’’นฺติ, โถมนายนฺติ อตฺโถ. กุลวคฺเคติ ขตฺติยาทิกุลโกฏฺาเส. ตตฺถ ‘‘อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน’’ติอาทินา วณฺณิตพฺพฏฺเน วณฺโณ, ฉวิ. วณฺณนฏฺเน อภิตฺถวฏฺเน วณฺโณ, ถุติ. อฺมฺํ อสงฺกรโต วณฺเณตพฺพโต เปตพฺพโต วณฺโณ, ขตฺติยาทิกุลวคฺโค. วณฺณียติ าปียติ เอเตนาติ วณฺโณ, าปกการณํ. วณฺณนโต ถูลรสฺสาทิภาเวน อุปฏฺานโต วณฺโณ, สณฺานํ. มหนฺตํ ขุทฺทกํ มชฺฌิมนฺติ วณฺเณตพฺพโต ปมิตพฺพโต วณฺโณ, ปมาณํ. วณฺณียติ จกฺขุนา ปสฺสียตีติ วณฺโณ, รูปายตนนฺติ เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ วณฺณสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา. โสติ วณฺณสทฺโท. ฉวิยา ทฏฺพฺโพ รูปายตเน คยฺหมานสฺสปิ ฉวิมุเขเนว คเหตพฺพโต. ฉวิคตา ปน วณฺณธาตุ เอว ‘‘สุวณฺณวณฺโณ’’ติ เอตฺถ วณฺณคฺคหเณน คหิตาติ อปเร.

เกวลปริปุณฺณนฺติ เอกเทสมฺปิ อเสเสตฺวา นิรวเสสโตว ปริปุณฺณนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อนวเสสตา อตฺโถ’’ติ. เกวลกปฺปาติ กปฺป-สทฺโท นิปาโต ปทปูรณมตฺตํ, ‘‘เกวลํ’’อิจฺเจว อตฺโถ. เกวลสทฺโท จ พหุลวาจีติ อาห ‘‘เยภุยฺยตา อตฺโถ’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อีสกํ อสมตฺตํ เกวลํ เกวลกปฺป’’นฺติ วทนฺติ. อนวเสสตฺโถ เอตฺถ เกวลสทฺโท สิยา, อนตฺถนฺตเรน ปน กปฺปสทฺเทน ปทวฑฺฒนํ กตํ ‘‘เกวลา เอว เกวลกปฺปา’’ติ. ตถา วา กปฺปนียตฺตา ปฺเปตพฺพตฺตา เกวลกปฺปา. อพฺยามิสฺสตา วิชาติเยน อสงฺกโร สุทฺธตา. อนติเรกตา ตํปรมตา วิเสสาภาโว. เกวลกปฺปนฺติ เกวลํ ทฬฺหํ กตฺวาติ อตฺโถ. เกวลํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตฺตา, ตํ เอตสฺส อธิคตํ อตฺถีติ เกวลี, สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว.

กปฺป-สทฺโท ปนายํ สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จาติ อธิปฺปาเยน โอกปฺปนิยปเท ลพฺภมานํ โอกปฺปสทฺทมตฺตํ นิทสฺเสติ, อฺถา กปฺปสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร โอกปฺปนิยปทํ อนิทสฺสนเมว สิยา. สมณกปฺเปหีติ วินยสิทฺเธหิ สมณโวหาเรหิ. นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํ. ปฺตฺตีติ นามํ. นามฺเหตํ ตสฺส อายสฺมโต, ยทิทํ กปฺโปติ. กปฺปิตเกสมสฺสูติ กตฺตริยา เฉทิตเกสมสฺสุ. ทฺวงฺคุลกปฺโปติ มชฺฌนฺหิกเวลาย วีติกฺกนฺตาย ทฺวงฺคุลตาวิกปฺโป. เลโสติ อปเทโส. อนวเสสํ ผริตุํ สมตฺถสฺส โอภาสสฺส เกนจิ การเณน เอกเทสผรณมฺปิ สิยา, อยํ ปน สพฺพสฺเสว ผรตีติ ทสฺเสตุํ สมนฺตตฺโถ กปฺปสทฺโท คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสํ สมนฺตโต’’ติ.

อาภาย ผริตฺวาติ วตฺถมาลาลงฺการสรีรสมุฏฺิตาย อาภาย ผริตฺวา. เทวตานฺหิ สรีโรภาสํ ทฺวาทสโยชนมตฺตํ านํ. ตโต ภิยฺโยปิ ผริตฺวา ติฏฺติ, ตถา วตฺถาภรณาทิสมุฏฺิตา ปภา.

หตฺถกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กฏุวิยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๙. ฉฏฺเ คาวีนํ กยวิกฺกยวเสน โยโค เอตฺถาติ โคโยโค, กยวิกฺกยํ กโรนฺโต คาวีหิ ยุชฺชนฺติ เอตฺถาติ วา โคโยโค, คาวีนํ วิกฺกยฏฺานํ. ตตฺถ ชาโต ปิลกฺขรุกฺโข โคโยคปิลกฺโข, ตสฺมึ. สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. เตนาห ‘‘คาวีนํ วิกฺกยฏฺาเน อุฏฺิตปิลกฺขสฺส สนฺติเก’’ติ. ริตฺโต อสฺสาโท เอตสฺสาติ ริตฺตสฺสาโท. เตนาห ‘‘ฌานสุขาภาเวน ริตฺตสฺสาท’’นฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

กฏุวิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทุติยอนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๓๑. อฏฺเม อิทํ เต มานสฺมินฺติ เอตฺถ มานสฺมินฺติ ปจฺจตฺเต ภุมฺมวจนํ. อิทนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาเสน นปุํสกนิทฺเทโส กโตติ อาห ‘‘อยํ เต นววิเธน วฑฺฒิตมาโน’’ติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

ทุติยอนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปฏิจฺฉนฺนสุตฺตวณฺณนา

๑๓๒. นวเม อสาธารณสิกฺขาปทนฺติ ภิกฺขุนีนํ อสาธารณํ ภิกฺขูนํเยว ปฺตฺตสิกฺขาปทํ สาธารณสิกฺขาปทนฺติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ สาธารณํ อุภโตปฺตฺติสิกฺขาปทํ.

ปฏิจฺฉนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เลขสุตฺตวณฺณนา

๑๓๓. ทสเม ถิรฏฺานโตติ ถิรฏฺานโตว. ปาสาเณ เลขสทิสา ปราปราธนิพฺพตฺตา โกธเลขา ยสฺส โส ปาสาณเลขูปมสมนฺนาคโต ปาสาณเลขูปโมติ วุตฺโต. เอวํ อิตเรปิ. อนุเสตีติ อปฺปหีนตาย อนุเสติ. น ขิปฺปํ ลุชฺชตีติ น อนฺตรา นสฺสติ กมฺมฏฺาเนเนว นสฺสนโต. เอวเมวนฺติ เอวํ ตสฺสปิ ปุคฺคลสฺส โกโธ น อนฺตรา ปุนทิวเส วา อปรทิวเส วา นิฏฺาติ, อทฺธนิโย ปน โหติ, มรเณเนว นิฏฺาตีติ อตฺโถ. กกฺขเฬนาติ อติกกฺขเฬน ธมฺมจฺเฉทเกน ถทฺธวจเนน. สํสนฺทตีติ เอกีภวติ. สมฺโมทตีติ นิรนฺตโร โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อถ วา สนฺธิยตีติ านคมนาทีสุ กายกิริยาสุ กาเยน สโมธานํ คจฺฉติ, ติลตณฺฑุลา วิย มิสฺสีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สํสนฺทตีติ จิตฺตกิริยาสุ จิตฺเตน สโมธานํ คจฺฉติ, ขีโรทกํ วิย เอกีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สมฺโมทตีติ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ วจีกิริยาสุ วาจาย สโมธานํ คจฺฉติ, วิปฺปวาสาคโตปิ ปิยสหายโก วิย ปิยตรภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. อปิจ กิจฺจกรณีเยสุ เตหิ สทฺธึ อาทีโตว เอกกิริยาภาวํ อุปคจฺฉนฺโต สนฺธิยติ, ยาว มชฺฌา ปวตฺตนฺโต สํสนฺทติ, ยาว ปริโยสานา อนิวตฺตนฺโต สมฺโมทตีติ เวทิตพฺโพ.

เลขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสินารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๔) ๔. โยธาชีววคฺโค

๑. โยธาชีวสุตฺตวณฺณนา

๑๓๔. จตุตฺถสฺส ปเม ยุชฺฌนํ โยโธ, โส อาชีโว เอตสฺสาติ โยธาชีโว. ยุทฺธมุปชีวตีติ วา เอตสฺมึ อตฺเถ โยธาชีโวติ นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เตนาห ‘‘ยุทฺธํ อุปชีวตีติ โยธาชีโว’’ติ. สห…เป… ปสฺสตีติ ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาปฺาย สมฺมสนวเสน, มคฺคกฺขเณ อภิสมยวเสน อตฺตปจฺจกฺเขน าเณน ปสฺสติ.

โยธาชีวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปริสาสุตฺตวณฺณนา

๑๓๕. ทุติเย อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา วินีตาติ ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติอาทินา อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา เกวลํ ธมฺมเทสนาวเสเนว วินีตปริสา. ทุพฺพินีตปริสาติ ทุกฺเขน วินีตปริสา. ปุจฺฉิตฺวา วินีตาติ ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว’’ติอาทินา ปุจฺฉิตฺวา อนุมติคฺคหณวเสน วินีตา. สุวินีตปริสาติ สุเขน วินีตปริสา. อนุมติคฺคหณวเสน วินยนฺหิ น ทุกฺกรํ โหติ.

ปริสาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อุปฺปาทาสุตฺตวณฺณนา

๑๓๗. จตุตฺเถ อุปฺปาทา วา ตถาคตานนฺติ ตถาคตานํ อุปฺปาเทปิ เวเนยฺยปุคฺคลานํ มคฺคผลุปฺปตฺติ วิย สงฺขารานํ อนิจฺจาทิสภาโว น ตถาคตุปฺปาทายตฺโต, อถ โข ตถาคตานํ อุปฺปาเทปิ อนุปฺปาเทปิ โหติเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ิตาว สา ธาตูติ ิโต เอว โส อนิจฺจสภาโว พฺยภิจาราภาวโต น กทาจิ สงฺขารา อนิจฺจา น โหติ. กามํ อสงฺขตา วิย ธาตุ น นิจฺโจ โส สภาโว, ตถาปิ สพฺพกาลิโกเยวาติ อธิปฺปาโย.

อปโร นโย – ิตาว สา ธาตูติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ เอสา ธาตุ เอส สภาโว ตถาคตานํ อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อุทฺธฺจ อปฺปฏิวิชฺฌิยมาโน น ตถาคเตหิ อุปฺปาทิโต, อถ โข สพฺพกาลํ สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, ิตาว สา ธาตุ, เกวลํ ปน สยมฺภุาเณน อภิสมฺพุชฺฌนโต ‘‘อยํ ธมฺโม ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ ปเวทนโต จ ตถาคโต ธมฺมสฺสามีติ วุจฺจติ อปุพฺพสฺส ตสฺส อุปฺปาทนโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ิตาว สา ธาตู’’ติ.

อภิสมฺพุชฺฌตีติ าเณน อภิสมฺพุชฺฌติ. อภิสเมตีติ าเณน อภิสมาคจฺฉติ. อาจิกฺขตีติ กเถติ. เทเสตีติ ทสฺเสติ. ปฺาเปตีติ ชานาเปติ. ปฏฺเปตีติ าณมุเข เปติ. วิวรตีติ วิวริตฺวา ทสฺเสติ. วิภชตีติ วิภาคโต ทสฺเสติ. อุตฺตานีกโรตีติ ปากฏํ กโรติ.

อถ วา อภิสมฺพุชฺฌตีติ ปจฺจกฺขกรเณน อภิมุขํ พุชฺฌติ, ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌติ. ตโต เอว อภิสเมติ อภิมุขํ สมาคจฺฉติ. อาทิโต กเถนฺโต อาจิกฺขติ, อุทฺทิสตีติ อตฺโถ. ตเมว อุทฺเทสํ ปริโยสาเปนฺโต เทเสติ. ยถาอุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทสฺสนวเสน ปกาเรหิ าเปนฺโต ปฺาเปติ. ปกาเรหิ เอตมตฺถํ ปติฏฺเปนฺโต ปฏฺเปติ. ยถาอุทฺทิฏฺํ ปฏินิทสฺสนวเสน วิวรติ วิภชติ. วิวฏํ วิภตฺตฺจ อตฺถํ เหตูทาหรณทสฺสเนหิ ปากฏํ กโรนฺโต อุตฺตานีกโรติ.

อุปฺปาทาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๑๐. เกสกมฺพลสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓๘-๑๔๓. ปฺจเม ตนฺตาวุตานํ วตฺถานนฺติ อิทํ ‘‘ยานิ กานิจี’’ติ อิมินา สมานาธิกรณนฺติ อาห ‘‘ปจฺจตฺเต สามิวจน’’นฺติ. วายิตานนฺติ วีตานํ. ลามโกติ นิหีโน, มกฺขลิ โมฆปุริโสติ เอตฺถ มกฺขลีติ ตสฺส นามํ. ตํ กิร สกทฺทมาย ภูมิยา เตลฆฏํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตํ, ‘‘ตาต, มา ขลี’’ติ สามิโก อาห. โส ปมาเทน ขลิตฺวา ปติตฺวา สามิกสฺส ภเยน ปลายิตุํ อารทฺโธ. สามิโก อุปธาวิตฺวา นํ ทุสฺสกณฺเณ อคฺคเหสิ, สาฏกํ ฉฑฺเฑตฺวา อเจลโก หุตฺวา ปลายิ. โส ปณฺเณน วา ติเณน วา ปฏิจฺฉาเทตุมฺปิ อชานนฺโต ชาตรูเปเนว เอกํ คามํ ปาวิสิ. มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สมโณ อรหา อปฺปิจฺโฉ, นตฺถิ อิมินา สทิโส’’ติ ปูวภตฺตาทีนิ คเหตฺวา อุปสงฺกมนฺติ. โส ‘‘มยฺหํ สาฏกํ อนิวตฺถภาเวน อิทํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตโต ปฏฺาย สาฏกํ ลภิตฺวาปิ น นิวาเสสิ, ตเทว จ ปพฺพชฺชํ อคฺคเหสิ. ตสฺส สนฺติเก อฺเปิ อฺเปีติ ปฺจสตา มนุสฺสา ปพฺพชึสุ. ตํ สนฺธายาห ‘‘มกฺขลิ โมฆปุริโส’’ติ. ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ เอว.

เกสกมฺพลสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑-๑๓. ปมโมรนิวาปสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๔๔-๑๔๖. เอกาทสเม อกุปฺปธมฺมตาย ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตาติ อจฺจนฺตา, เอวํ อปริหายนสภาวตฺตา อจฺจนฺตา นิฏฺา อสฺสาติ อจฺจนฺตนิฏฺโ. เตนาห ‘‘อนฺตํ อติกฺกนฺตนิฏฺโ’’ติอาทิ. น หิ ปฏิวิทฺธสฺส โลกุตฺตรธมฺมสฺส ทสฺสนํ กุปฺปนํ นาม อตฺถิ. ธุวนิฏฺโติ สตตนิฏฺโ. อจฺจนฺตเมว จตูหิ โยเคหิ เขโม เอตสฺส อตฺถีติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี, นิจฺจโยคกฺเขมีติ อตฺโถ. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส วุสิตตฺตา ตสฺส อวิหายนสภาวตฺตา อจฺจนฺตํ พฺรหฺมจารีติ อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี, นิจฺจพฺรหฺมจารีติ อตฺโถ. ปริโยสานนฺติ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ วฏฺฏทุกฺขปริโยสานฺจ. อจฺจนฺตํ ปริโยสานมสฺสาติ อจฺจนฺตปริโยสาโน. ทฺวาทสมเตรสมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปมโมรนิวาปสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

โยธาชีววคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔๗-๑๕๖. มงฺคลวคฺโค อุตฺตานตฺโถเยว.

ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

(๑๖) ๖. อเจลกวคฺควณฺณนา

๑๕๗-๑๖๓. อิโต ปเรสุ ปน สุตฺตปเทสุ ‘‘คาฬฺหา’’ติ วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘กกฺขฬา’’ติ อาห. กกฺขฬจาโร จสฺสา น ลูขสภาโว. อถ โข ตณฺหาวเสน ถิรคฺคหณนฺติ อาห ‘‘โลภวเสน ถิรคฺคหณา’’ติ. อคาฬฺหา ปฏิปทาติ วา กามานํ โอคาหนํ ปฏิปตฺติ, กามสุขานุโยโคติ อตฺโถ. นิชฺฌามา ปฏิปทาติ กายสฺส นิชฺฌาปนวเสน เขปนวเสน ปวตฺตา ปฏิปตฺติ, อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺโถ. นิจฺเจโลติ นิสฺสฏฺเจโล สพฺเพน สพฺพํ ปฏิกฺขิตฺตเจโล. นคฺคิยวตสมาทาเนน นคฺโค. ิตโกว อุจฺจารํ กโรตีติอาทิ นิทสฺสนมตฺตํ วมิตฺวา มุขวิกฺขาลนาทิอาจารสฺสปิ เตน วิสฺสฏฺตฺตา. ชิวฺหาย หตฺถํ อปเลขติ อวเลขติ อุทเกน อโธวนโต. ทุติยวิกปฺเปปิ เอเสว นโย. ‘‘เอหิ, ภทนฺเต’’ติ วุตฺเต อุปคมนสงฺขาโต วิธิ เอหิภทนฺโต, ตํ จรตีติ เอหิภทนฺติโก, ตปฺปฏิกฺเขเปน น เอหิภทนฺติโก. น กโรติ ‘‘สมเณน นาม ปรสฺส วจนกเรน น ภวิตพฺพ’’นฺติ อธิปฺปาเยน.

ปุเรตรนฺติ ตํ านํ อตฺตโน อุปคมนโต ปุเรตรํ. ตํ กิร โส ‘‘ภิกฺขุนา นาม ยทิจฺฉกา เอว ภิกฺขา คเหตพฺพา’’ติ อธิปฺปาเยน น คณฺหาติ. อุทฺทิสฺส กตํ มม นิมิตฺตภาเวน พหู ขุทฺทกา ปาณา สงฺฆาตํ อาปาทิตาติ น คณฺหาติ. นิมนฺตนํ น สาทิยติ เอวํ เตสํ วจนํ กตํ ภวิสฺสตีติ. กุมฺภิ อาทีสุปิ โส สตฺตสฺีติ อาห ‘‘กุมฺภิ-กโฬปิโย’’ติอาทิ. กพฬนฺตราโย โหตีติ อุฏฺิตสฺส ทฺวินฺนมฺปิ กพฬนฺตราโย โหติ. คามสภาคาทิวเสน สงฺคมฺม กิตฺเตนฺติ เอติสฺสาติ สงฺกิตฺติ, ยถาสํหตตณฺฑุลาทิสฺจโย. มานุสกานีติ เวยฺยาวจฺจกรา มนุสฺสา.

สุราปานเมวาติ มชฺชลกฺขณปฺปตฺตาย สุราย ปานเมว. สุราคหเณเนเวตฺถ เมรยมฺปิ สงฺคหิตํ. เอกาคารเมว อุฺฉตีติ เอกาคาริโก. เอกาโลเปเนว วตฺตตีติ เอกาโลปิโก. ทียติ เอตายาติ ทตฺติ, ทฺวตฺติอาโลปมตฺตคฺคาหิ ขุทฺทกํ ภิกฺขาทานภาชนํ. เตนาห ‘‘ขุทฺทกปาตี’’ติ. อภุฺชนวเสน เอโก อโห เอตสฺส อตฺถีติ เอกาหิโก, อาหาโร, ตํ เอกาหิกํ. โส ปน อตฺถโต เอกทิวสํ ลงฺฆโก โหตีติ อาห ‘‘เอกาทิวสนฺตริก’’นฺติ. ทฺวาหิกนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกาหํ อภุฺชิตฺวา เอกาหํ ภุฺชนํ เอกาหวาโร, ตํ เอกาหิกเมว อตฺถโต. ทฺวีหํ อภุฺชิตฺวา ทฺวีหํ ภุฺชนํ ทฺวีหวาโร. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อุกฺกฏฺโ ปน ปริยายภตฺตโภชนิโก ทฺวีหํ อภุฺชิตฺวา เอกาหเมว ภุฺชติ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย.

มิจฺฉาวายามวเสเนว อุกฺกุฏิกวตานุโยโคติ อาห ‘‘อุกฺกุฏิกวีริยมนุยุตฺโต’’ติ. อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ อตฺตโน กิลมถานุโยคํ, สรีรทุกฺขการณนฺติ อตฺโถ. สรีรปริยาโย หิ อิธ อตฺตสทฺโท ‘‘อตฺตนฺตโป’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๑๓) วิย. ทฺเว อนฺเตติ อุโภ โกฏิโย, อุโภ ลามกปฏิปตฺติโยติ อตฺโถ. ลามกมฺปิ หิ อนฺโตติ วุจฺจติ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ (สํ. นิ. ๓.๘๐; อิติวุ. ๖๑), โกฏฺโก อนฺโต’’ติ เอวมาทีสุ. มชฺฌิมปฏิปทาย อุปฺปถภาเวน อมนียา คนฺตพฺพา าตพฺพาติ อนฺตา. ตโต เอว ลามกา.

อเจลกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

เปยฺยาลวคฺควณฺณนา

๑๖๔-๑๘๔. สมนุฺโติ สมฺมเทว กตานุฺโ. เตนาห ‘‘สมานชฺฌาสโย’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

อิติ มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย

ติกนิปาตวณฺณนาย อนุตฺตานตฺถทีปนา สมตฺตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาเย

จตุกฺกนิปาต-ฏีกา

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. ภณฺฑคามวคฺโค

๑-๒. อนุพุทฺธสุตฺตาทิวณฺณนา

๑-๒. จตุกฺกนิปาตสฺส ปเม อนุโพโธ ปุพฺพภาคิยํ าณํ, ปฏิเวโธ อนุโพเธน อภิสมโย. ตตฺถ ยสฺมา อนุโพธปุพฺพโก ปฏิเวโธ อนุโพเธน วินา น โหติ. อนุโพโธ หิ เอกจฺโจ ปฏิเวธสมฺพทฺโธ, ตทุภยาภาวเหตุกฺจ วฏฺเฏ สํสรณํ, ตสฺมา วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘อนนุโพธา…เป… ตุมฺหากฺจา’’ติ. ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ภวโต ภวนฺตรูปคมนํ สนฺธาวนํ, อปราปรํ จวนูปปชฺชนวเสน สฺจรณํ สํสรณนฺติ อาห ‘‘ภวโต’’ติอาทิ. สนฺธาวิตสํสริตปทานํ กมฺมสาธนตํ สนฺธายาห ‘‘มยา จ ตุมฺเหหิ จา’’ติ ปมวิกปฺเป. ทุติยวิกปฺเป ปน ภาวสาธนตํ หทเย กตฺวา ‘‘มมฺเจว ตุมฺหากฺจา’’ติ ยถารุตวเสเนว วุตฺตํ. ทีฆรชฺชุนา พทฺธสกุณํ วิย รชฺชุหตฺโถ ปุริโส เทสนฺตรํ ตณฺหารชฺชุนา พทฺธํ สตฺตสนฺตานํ อภิสงฺขาโร ภวนฺตรํ เนติ เอตายาติ ภวเนตฺติ. เตนาห ‘‘ภวรชฺชู’’ติอาที.

วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกโรติ สกลวฏฺฏทุกฺขสฺส สกสนฺตาเน ปรสนฺตาเน จ วินาสกโร อภาวกโร. พุทฺธจกฺขุธมฺมจกฺขุทิพฺพจกฺขุมํสจกฺขุสมนฺตจกฺขุสงฺขาเตหิ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. สวาสนานํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา สาติสยํ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. ทุติยํ อุตฺตานเมว.

อนุพุทฺธสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. ปมขตสุตฺตาทิวณฺณนา

๓-๔. ตติเย กลินฺติ อปราธํ. วิจินาตีติ อาจิโนติ ปสวติ. เตน จ กลินา สุขํ น ปฏิลภตีติ เตน อปราเธน สุขํ น วินฺทติ. นินฺทิยปฺปสํสาย หิ ปสํสิยนินฺทาย จ สมโกว วิปาโก. ปสํสิยนินฺทาติ จ สมฺปนฺนคุณปริธํสนวเสน ปวตฺติยา มหาสาวชฺชตาย กฏุกตรวิปากา. นินฺทิยปฺปสํสา ปน กถํ ตาย สมวิปากาติ เจ? ตสฺมึ อวิชฺชมานคุณสมาโรปเนน อตฺตโน ปเรสฺจ มิจฺฉาปฏิปตฺติเหตุภาวโต ปสํสิเยน ตสฺส สพฺภาวกรณโต จ. โลเกปิ หิ อสูรํ สูเรน สมํ กโรนฺโต คารยฺโห โหติ, ปเคว ทุปฺปฏิปนฺนํ สุปฺปฏิปนฺเนน สมํ กโรนฺโตติ. สเกน ธเนนาติ อตฺตโน สาปเตยฺเยน. อปฺปมตฺตโกว กลีติ ทิฏฺธมฺมิกตฺตา สปฺปฏิการตฺตา จ อปฺปมตฺตโก อปราโธ. อยํ…เป… มหนฺตตโร กลิ กตูปจิตตฺตา สมฺปรายิกตฺตา อปฺปฏิการตฺตา จ.

นิรพฺพุโทติ คณนาวิเสโส เอโสติ อาห ‘‘นิรพฺพุทคณนายา’’ติ, สตสหสฺสํ นิรพฺพุทาติ อตฺโถ. นิรพฺพุทปริมาณํ ปน วสฺสคณนาย เอวํ เวทิตพฺพํ. ยเถว หิ สตํ สตสหสฺสานํ โกฏิ โหติ, เอวํ สตํ สตสหสฺสานํ โกฏิโย ปโกฏิ นาม โหติ, สตํ สตสหสฺสานํ ปโกฏิโย โกฏิปโกฏิ, สตํ สตสหสฺสโกฏิปโกฏิโย นหุตํ, สตํ สตสหสฺสนหุตานิ นินฺนหุตํ, สตํ สตสหสฺสนินฺนหุตานิ เอกํ อพฺพุทํ, ตโต วีสติคุณิตํ นิรพฺพุทํ. ยํ อริเย ครหนฺโต นิรยํ อุปปชฺชตีติ อริเย ครหนฺโต ยํ นิรพฺพุทสงฺขาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, นิรพฺพุโทติ จ ปาฏิเยกฺโก นิรโย นตฺถิ, อวีจิมฺหิเยว ปน นิรพฺพุทคณนาย ปจฺจิตพฺพฏฺานสฺเสตํ นามํ. จตุตฺถํ อุตฺตานเมว.

ปมขตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อนุโสตสุตฺตวณฺณนา

. ปฺจเม อนุโสตํ คจฺฉตีติ สํสารโสตสฺส อนุกูลภาเวน คจฺฉติ. ปจฺจนีกปฏิปตฺติยาติ สํสารโสตสฺส ปฏิกูลวเสน ปวตฺตนิพฺพิทานุปสฺสนาทิปฏิปตฺติยา. ิตสภาโวติ อจลปฺปสาทาทิสมนฺนาคเมน ิตสภาโว. อนาคามี หิ อสฺสทฺธิเยหิ กามราคพฺยาปาเทหิ อกมฺปนิยจิตฺตตาย ตมฺหา โลกา อนาวตฺติธมฺมตาย จ ิตสภาโว นาม. โอฆํ ตริตฺวาติ กาโมฆาทิจตุพฺพิธํ โอฆํ อติกฺกมิตฺวา. ปรตีรํ คโตติ นิพฺพานปารํ คโต. พฺราหฺมโณติ พาหิตปาปตาย พฺราหฺมโณติ สงฺขํ คโต ขีณาสโว. เตนาห ‘‘เสฏฺโ นิทฺโทโส’’ติ. ปฺจเวรกมฺมนฺติ ปาณาติปาตาทิปฺจทุจฺจริตํ. สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสนาติ กิเลสปริยุฏฺาเน สติ อุปฺปนฺเนน ทุกฺขโทมนสฺเสน สทฺธิมฺปิ. ปริปุณฺณนฺติ ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ เอกายปิ อนูนํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. อิมินา วาเรน โสตาปนฺนสกทาคามิโน กถิตา. กึ ปน เต รุทนฺตา พฺรหฺมจริยํ จรนฺตีติ? อาม, กิเลสโรทเนน โรทนฺตา จรนฺติ นาม, สีลสมฺปนฺโน ปุถุชฺชนภิกฺขุ เอตฺเถว สงฺคหิโต.

เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลาณํ. ฉหากาเรหิ ปารคโตติ อภิฺาปารคู, ปริฺาปารคู, ภาวนาปารคู, ปหานปารคู, สจฺฉิกิริยาปารคู, สมาปตฺติปารคูติ เอวํ ฉหิ อากาเรหิ สพฺพธมฺมานํ ปารํ ปริโยสานํ คโต. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

อนุโสตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อปฺปสฺสุตสุตฺตวณฺณนา

. ฉฏฺเ อปฺปกํ สุตํ โหตีติ นวงฺคสตฺถุสาสเน กิฺจิเทว สุตํ โหติ. ตเทว นวงฺคสตฺถุสาสนํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุตฺตาทีนิ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสกฺขนฺธกปริวารา’’ติอาทิมาห. กถํ ปนายํ วิภาโค ยุชฺเชยฺย. สคาถกฺหิ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณํ. ตทุภยวินิมุตฺตฺจ สุตฺตํ อุทานาทิวิเสสสฺารหิตํ นตฺถิ, ยํ สุตฺตงฺคํ สิยา. มงฺคลสุตฺตาทีนฺจ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๖๑ อาทโย) สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา คาถาภาวโต ธมฺมปทาทีนํ วิย. เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา สคาถกตฺตา สคาถาวคฺคสฺส วิย. ตถา อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานนฺติ? วุจฺจเต –

‘‘สุตฺตนฺติ สามฺวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร;

สนิมิตฺตา นิรุฬฺหตฺตา, สหตาฺเน นาฺโต’’. (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา; ที. นิ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา)

สพฺพสฺสปิ หิ พุทฺธวจนสฺส สุตฺตนฺติ อยํ สามฺวิธิ. เตเนวาห อายสฺมา มหากจฺจาโน เนตฺติยํ (เนตฺติ. สงฺคหวาโร) ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺี’’ติ. เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺนํ (ปาจิ. ๖๕๕, ๑๒๔๒) สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานีติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; กถา. อฏฺ. นิทานกถา) เอวมาทิ จ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ. วิเสสวิธโย ปเร สนิมิตฺตา ตเทกเทเสสุ เคยฺยาทโย วิเสสวิธโย เตน เตน นิมิตฺเตน ปติฏฺิตา. ตถา หิ เคยฺยสฺส สคาถกตฺตํ ตพฺภาวนิมิตฺตํ. โลเกปิ หิ สสิโลกํ สคาถกํ วา จุณฺณิยคนฺถํ ‘‘เคยฺย’’นฺติ วทนฺติ. คาถาวิรเห ปน สติ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตํ. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนฺหิ ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ วุจฺจติ. พฺยากรณเมว เวยฺยากรณํ. เอวํ สนฺเต สคาถกาทีนมฺปิ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตานํ เวยฺยากรณภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ เคยฺยาทิสฺานํ อโนกาสภาวโต, ‘‘คาถาวิรเห สตี’’ติ วิเสสิตตฺตา จ. ตถา หิ ธมฺมปทาทีสุ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ สคาถกตฺเตปิ โสมนสฺสาณมยิกคาถายุตฺเตสุ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทีวจนสมฺพนฺเธสุ อพฺภุตธมฺมปฺปฏิสํยุตฺเตสุ จ สุตฺตวิเสเสสุ ยถากฺกมํ คาถาอุทานอิติวุตฺตกอพฺภุตธมฺมสฺา ปติฏฺิตา, ตถา สติปิ คาถาพนฺธภาเว ภควโต อตีตาสุ ชาตีสุ จริยานุภาวปฺปกาสเกสุ ชาตกสฺา, สติปิ ปฺหวิสฺสชฺชนภาเว สคาถกตฺเต จ เกสุจิ สุตฺตนฺเตสุ เวทสฺส ลภาปนโต เวทลฺลสฺา ปติฏฺิตาติ เอวํ เตน เตน สคาถกตฺตาทินา นิมิตฺเตน เตสุ เตสุ สุตฺตวิเสเสสุ เคยฺยาทิสฺา ปติฏฺิตาติ วิเสสวิธโย สุตฺตงฺคโต ปเร เคยฺยาทโย. ยํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทินิมิตฺตรหิตํ, ตํ สุตฺตงฺคํ วิเสสสฺาปริหาเรน สามฺสฺาย ปวตฺตนโต. นนุ จ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณนฺติ สุตฺตงฺคํ น สมฺภวตีติ โจทนา ตทวตฺถาวาติ? น ตทวตฺถา โสธิตตฺตา. โสธิตฺหิ ปุพฺเพ ‘‘คาถาวิรเห สติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺต’’นฺติ.

ยฺจ วุตฺตํ – ‘‘คาถาภาวโต มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา’’ติ, ตํ น, นิรุฬฺหตฺตา. นิรุฬฺโห หิ มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตภาโว. น หิ ตานิ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทโย วิย คาถาภาเวน ปฺาตานิ, อถ โข สุตฺตภาเวเนว, เตเนว หิ อฏฺกถายํ ‘‘สุตฺตนามก’’นฺติ นามคฺคหณํ กตํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สคาถกตฺตา เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ นตฺถิ, ยสฺมา สหตาฺเน. สห คาถาหีติ หิ สคาถกํ. สหภาโว นาม อตฺถโต อฺเน โหติ, น จ มงฺคลสุตฺตาทีสุ คาถาวินิมุตฺโต โกจิ สุตฺตปฺปเทโส อตฺถิ, โย ‘‘สห คาถาหี’’ติ วุจฺเจยฺย, น จ สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. ยทปิ วุตฺตํ – ‘‘อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานํ เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ น, อฺโต. อฺา เอว หิ ตา คาถา ชาตกาทิปริยาปนฺนตฺตา. อโต น ตาหิ อุภโตวิภงฺคาทีนํ เคยฺยงฺคภาโวติ. เอวํ สุตฺตาทีนํ องฺคานํ อฺมฺํ สงฺกราภาโว เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา) อมฺเหหิ ปกาสิโต, อิจฺฉนฺเตหิ ตโตเยว คเหตพฺโพ.

น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหตีติ อฏฺกถาฺจ ปาฬิฺจ ชานิตฺวา โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน น โหตีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺายาติ อฏฺกถฺจ ปาฬิฺจ ชานิตฺวา…เป… น ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ.

อปฺปสฺสุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. โสภนสุตฺตวณฺณนา

. สตฺตเม ปฺาเวยฺยตฺติเยนาติ สจฺจสมฺปฏิเวธาทิปฺาเวยฺยตฺติเยน. วินยํ อุเปตาติ ตทงฺคาทิวเสน กิเลสานํ วินยํ อุเปตา. เวสารชฺเชนาติ สารชฺชกรานํ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทิปาปธมฺมานํ วิคมนโต เวสารชฺเชน, สารชฺชรหิเตนาติ อตฺโถ. เตปิฏกวเสน พหุ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. ตเมว ปริยตฺติธมฺมํ ธาเรนฺติ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสํ วิย วินสฺสนฺตํ อกตฺวา สุปฺปคุณสุปฺปวตฺติภาเวน หทเย เปนฺตีติ ธมฺมธรา. เอทิสา จ อตฺตนา สุตสฺส ธมฺมสฺส อาธารภูตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘สุตธมฺมานํ อาธารภูตา’’ติ.

โสภนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เวสารชฺชสุตฺตวณฺณนา

. อฏฺเม พฺยาโมหวเสน สรณปริเยสนํ สารชฺชนํ สารโท, พฺยาโมหภยํ. วิคโต สารโท เอตสฺสาติ วิสารโท, ตสฺส ภาโว เวสารชฺชํ. ตํ ปน าณสมฺปทํ, ปหานสมฺปทํ, เทสนาวิเสสสมฺปทํ เขมฺจ นิสฺสาย ปวตฺตํ จตุพฺพิธปจฺจเวกฺขณาณํ. เตนาห ‘‘จตูสุ าเนสู’’ติอาทิ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ, เสฏฺฏฺานํ. สพฺพฺุตปฏิชานนวเสน อภิมุขํ คจฺฉนฺติ, อฏฺ วา ปริสา อุปสงฺกมนฺตีติ อาสภา, ปุพฺพพุทฺธา. อิทํ ปนาติ พุทฺธานํ านํ สพฺพฺุตเมว วทติ. ติฏฺมาโนวาติ อวทนฺโตปิ ติฏฺมาโนว ปฏิชานาติ นามาติ อตฺโถ. อุปคจฺฉตีติ อนุชานาติ.

อฏฺสุ ปริสาสูติ ‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ อุปสงฺกมิตา…เป… พฺราหฺมณปริสํ คหปติปริสํ, สมณปริสํ, จาตุมหาราชิกปริสํ, ตาวตึสปริสํ, มารปริสํ, พฺรหฺมปริสํ อุปสงฺกมิตา, ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพฺเจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพา. ตตฺร วต มํ ‘ภยํ วา สารชฺชํ วา โอกฺกมิสฺสตี’ติ นิมิตฺตเมตํ, สาริปุตฺต, น สมนุปสฺสามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๑) เอวํ วุตฺตปริสาสุ. อภีตนาทํ นทตีติ ปรโต ทสฺสิตาณโยเคน วิสารโท อหนฺติ อภีตนาทํ นทติ. สีหนาทสุตฺเตนาติ ขนฺธวคฺเค อาคเตน สีหนาทสุตฺเตน.

‘‘เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) สุตฺตเสเสน สปฺปุริสูปนิสฺสยาทิผลสมฺปตฺติปวตฺติ วุตฺตา, ปุริมสปฺปุริสูปนิสฺสยาทิอุปนิสฺสยา ปจฺฉิมสปฺปุริสูปนิสฺสยาทิสมฺปตฺติปวตฺติ วา วุตฺตา. อาทิ-สทฺเทน ตตฺถ จ จกฺกสทฺทสฺส คหณํ เวทิตพฺพํ. วิจกฺกสณฺานา อสนิ เอว อสนิวิจกฺกํ. อุรจกฺกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน อาณาสมูหาทีสุปิ จกฺกสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา. ‘‘สงฺฆเภทํ กริสฺสาม จกฺกเภท’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๔๐๙; จูฬว. ๓๔๓) หิ อาณา ‘‘จกฺก’’นฺติ วุตฺตา. ‘‘เทวจกฺกํ อสุรจกฺก’’นฺติอาทีสุ สมูโหติ.

ปฏิเวธนิฏฺตฺตา อรหตฺตมคฺคาณํ ปฏิเวโธติ ‘‘ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นามา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปฏิลทฺธสฺสปิ เทสนาาณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติ ปรสฺส พุชฺฌนมตฺเตน โหตีติ ‘‘อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติ…เป… ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปรํ ปน ยาว ปรินิพฺพานา เทสนาาณปฺปวตฺติ ตสฺเสว ปวตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส านนฺติ เวทิตพฺพํ.

ทสฺสิตธมฺเมสูติ วุตฺตธมฺเมสุ. วจนมตฺตเมว หิ เตสํ, น ปน ทสฺสนํ ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อภาวโต. ภควโต เอว วา ‘‘อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺโธ’’ติ ปรสฺส วจนวเสน ทสฺสิตธมฺเมสุ. ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๑๘-๗๒๑) วิย ธมฺม-สทฺโท เหตุปริยาโยติ อาห ‘‘สหธมฺเมนาติ สเหตุนา’’ติ. เหตูติ จ อุปปตฺติสาธนเหตุ เวทิตพฺโพ, น การโก, สมฺปาปโก วา. นิมิตฺตนฺติ โจทนาย การณํ. ตตฺถ โจทโก โจทนํ กโรตีติ การณํ, ธมฺโม โจทนํ กโรติ เอเตนาติ การณํ. เตนาห ‘‘ปุคฺคโลปี’’ติอาทิ. เขมนฺติ เกนจิ อปฺปฏิพาหิยภาเวน อนุปทฺทุตํ.

อนฺตราโย เอเตสํ อตฺถิ, อนฺตราเย วา นิยุตฺตาติ อนฺตรายิกา. เอวํภูตา ปน เต ยสฺมา อนฺตรายกรา นาม โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา’’ติ. อสฺจิจฺจ วีติกฺกเม นาติสาวชฺชาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา’’ติ. สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธาติอาทิ นิทสฺสนมตฺตํ อิตเรสมฺปิ จตุนฺนํ ‘‘อนฺตรายิกา’’ติ วุตฺตธมฺมานํ ตพฺภาเว พฺยภิจาราภาวโต. อิธ ปน เมถุนธมฺโม อธิปฺเปโตติ อิทํ อฏฺุปฺปตฺติวเสน วุตฺตํ อริฏฺสิกฺขาปทํ (ปาจิ. ๔๑๗) วิย. ยสฺมา ตํขณมฺปิ กามานํ อาทีนวํ ทิสฺวา วิรโต โหติ เจ, วิเสสํ อธิคจฺฉติ, น กาเมสุ อาสตฺโต, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เมถุน…เป…อนฺตราโย โหตี’’ติ. ตตฺถ ยสฺส กสฺสจีติ น เกวลํ ปพฺพชิตสฺเสว, อถ โข ยสฺส กสฺสจิ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เมถุนมนุยุตฺตสฺส, มุสฺสเตวาปิ สาสน’’นฺติ (สุ. นิ. ๘๒๐).

ตสฺมึ อนิยฺยานิกธมฺเมติ ตสฺมึ ปเรหิ ปริกปฺปิตอนิยฺยานิกธมฺมนิมิตฺตํ. นิมิตฺตตฺเถ หิ อิทํ กมฺมสํโยเค ภุมฺมํ.

อุปนิพทฺธาติ วิรจิตา. เตนาห ‘‘อภิสงฺขตา’’ติ. ปุถุภาวนฺติ พหุภาวํ. ปุถูหิ วา สิตาติ พหูหิ สมณพฺราหฺมเณหิ สิตา อุปนิพทฺธา.

เวสารชฺชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา

. นวเม ภวติ เอเตน อาโรคฺยนฺติ ภโว, คิลานปจฺจโย. ปริวุทฺโธ ภโว อภโว. วุทฺธิอตฺโถ หิ อยมกาโร ยถา ‘‘สํวราสํวโร, ผลาผล’’นฺติ จ. สปฺปินวนีตาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน เตลมธุผาณิตาทีนํ คหณํ. สปฺปินวนีตาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ, สพฺพสฺสปิ คิลานปจฺจยสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ภวาภโวติ วา ขุทฺทโก เจว มหนฺโต จ อุปปตฺติภโว เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘สมฺปตฺติภเวสู’’ติอาทิ. ภโวติ วา สมฺปตฺติ, อภโวติ วิปตฺติ. ภโวติ วุทฺธิ, อภโวติ หานิ. ตํนิมิตฺตฺจ ตณฺหา อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ ‘‘ภวาภวเหตุ วา’’ติ.

ตณฺหาทุติโยติ ตณฺหาสหาโย. ตณฺหา หิ นิรุทกกนฺตาเร มรีจิกาย อุทกสฺา วิย ปิปาสาภิภูตํ ตสิตํ สตฺตํ อสฺสาสทสฺสนวเสน สหายกิจฺจํ กโรนฺตี ภวาทีสุ อนิพฺพินฺนํ กตฺวา ปริพฺภมาเปติ. ตถา หิ ตํ ปปาตกํ อจินฺเตตฺวา มธุคฺคณฺหนกลุทฺทกา วิย อเนกาทีนวากุเลสุ ภเวสุ อานิสํสเมว ทสฺเสนฺตี อนตฺถชาเล สา ปริพฺภมาเปติ, ตสฺมา ตณฺหา ‘‘ปุริสสฺส ทุติยา’’ติ วุตฺตา. นนุ จ อฺเปิ กิเลสาทโย ภวนิพฺพตฺติปจฺจยาติ? สจฺจเมตํ, น ปน ตถา วิเสสปจฺจโย, ยถา ตณฺหา. ตถา หิ สา กุสเลหิ วินา อกุสเลหิ, กามาวจราทิกุสเลหิ จ วินา รูปาวจราทิกุสเลหิ ภวนิพฺพตฺติยา วิเสสปจฺจโย. ยโต สมุทยสจฺจนฺติ วุจฺจตีติ. อิตฺถภาวฺถาภาวนฺติ อิตฺถภาโว จ อฺถาภาโว จ อิตฺถภาวฺถาภาโว, โส เอตสฺส อตฺถีติ อิตฺถภาวฺถาภาโว, สํสาโร, ตํ อิตฺถภาวฺถาภาวํ. ตตฺถ อิตฺถภาโว มนุสฺสตฺตํ, อฺถาภาโว ตโต อวสิฏฺสตฺตาวาสา. อิตฺถภาโว วา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว, อฺถาภาโว อนาคตตฺตภาโว. เอวรูโป วา อฺโปิ อตฺตภาโว อิตฺถภาโว, น เอวรูโป อฺถาภาโว. เตเนวาห ‘‘อิตฺถภาวฺถาภาวนฺติ เอตฺถ อิตฺถภาโว นาม อยํ อตฺตภาโว’’ติอาทิ. สํสรณํ สํสาโร.

‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจติ’’. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๙; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๐; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทโส; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๕๒๓; อุทา. อฏฺ. ๓๙; อิติวุ. อฏฺ. ๑๔);

เตนาห ‘‘ขนฺธธาตุอายตนานํ ปฏิปาฏิ’’นฺติ, ขนฺธธาตุอายตนานํ เหตุผลภาเวน อปราปรปฺปวตฺตินฺติ อตฺโถ.

เอวมาทีนวํ ตฺวาติ เอตฺถ เอตมาทีนวํ ตฺวาติปิ ปนฺติ, เอตํ สกลวฏฺฏทุกฺขสฺส สมฺภวํ สมุทยํ ตณฺหํ อาทีนวํ ตฺวาติ อตฺโถ. อถ วา เอวมาทีนวํ ตฺวาติ เอตํ ยถาวุตฺตํ สํสารานติวตฺตนอาทีนวํ โทสํ ตฺวา. นิคฺคหโณติ จตุรูปาทานสงฺขาตสฺส สพฺพสฺส คหณสฺส ปฏินิสฺสชฺชเนน นิคฺคหโณ, ขนฺธปรินิพฺพาเนน สงฺขารปฺปวตฺติโต อปคจฺเฉยฺยาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ตณฺหุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. โยคสุตฺตวณฺณนา

๑๐. ทสเม โยเชนฺตีติ กมฺมํ วิปาเกน ภวาทึ, ภวนฺตราทีหิ ทุกฺเขน สตฺตํ โยเชนฺติ ฆเฏนฺตีติ โยคา. กามนฏฺเน กาโม จ โส ยถาวุตฺเตนตฺเถน โยโค จาติ กามโยโค. ภวโยโค นาม ภวราโคติ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปารูปภเวสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปโม อุปปตฺติภเวสุ ราโค, ทุติโย กมฺมภเวสุ, ตติโย ภวทิฏฺิสหคโต ยถา รชฺชนฏฺเน ราโค, เอวํ ยุชฺชนฏฺเน โยโคติ วุตฺโต. จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณนฺติ อิทํ สุตฺตนฺตนยํ นิสฺสาย วุตฺตํ. สุตฺตนฺตสํวณฺณนา เหสาติ, ตทนฺโตคธตฺตา วา ปุพฺพนฺตาทีนํ.

สมุทยนฺติ ทฺเว สมุทยา ขณิกสมุทโย ปจฺจยสมุทโย จ. อุปฺปาทกฺขโณ ขณิกสมุทโย, ปจฺจโยว ปจฺจยสมุทโย. สมุทยเต สมุทยนํ สมุทโย, สมุเทติ เอตสฺมาติ สมุทโยติ เอวํ อุภินฺนํ สมุทยานํ สทฺทตฺถโตปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ปจฺจยสมุทยํ ปชานนฺโตปิ ภิกฺขุ ขณิกสมุทยํ ปชานาติ, ขณิกสมุทยํ ปชานนฺโตปิ ปจฺจยสมุทยํ ปชานาติ. ปจฺจยโต หิ สงฺขารานํ อุทยํ ปสฺสโต ขณโต จ เนสํ อุทยทสฺสนํ สุขํ โหติ, ขณโต จ เนสํ อุทยํ ปสฺสโต ปเคว ปจฺจยานํ สุคฺคหิตตฺตา ปจฺจยโต ทสฺสนํ สุเขน อิชฺฌติ. อิธ ปน ขณิกสมุทยํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมุทยนฺติ อุปฺปตฺติ’’นฺติ.

อตฺถงฺคโมปิ ทุวิโธ อจฺจนฺตตฺถงฺคโม, เภทตฺถงฺคโมติ. อจฺจนฺตตฺถงฺคโม อปฺปวตฺตินิโรโธ, นิพฺพานนฺติ เกจิ. เภทตฺถงฺคโม ขณิกนิโรโธ. ตทุภยํ ปุพฺพภาเค อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน ปสฺสโต อฺตรทสฺสเนน อิตรทสฺสนมฺปิ สิทฺธเมว โหติ. ปุพฺพภาเคเยว อารมฺมณวเสน ขยโต วยโต สมฺมสนาทิกาเล เภทตฺถงฺคมํ ปสฺสนฺโต พฺยติเรกวเสน อนุสฺสวาทิโต อจฺจนฺตตฺถงฺคมํ ปสฺสติ, มคฺคกฺขเณ ปน อารมฺมณโต อจฺจนฺตตฺถงฺคมํ ปสฺสนฺโต อสมฺโมหโต อิตรมฺปิ ปสฺสติ. อิธ ปน เภทตฺถงฺคมํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตฺถงฺคมนฺติ เภท’’นฺติ. กามานํ อุปฺปตฺติเภทคฺคหเณเนว เจตฺถ ยถา กามานํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตา วิภาวิตา, เอวํ กามวตฺถุโนปีติ อุภเยสมฺปิ อนิจฺจตา ทุกฺขตา อนตฺตตา จ วิภาวิตาติ ทฏฺพฺพํ. มธุรภาวนฺติ อิมินา กามสนฺนิสฺสิตํ สุขํ โสมนสฺสํ ทสฺเสติ. ‘‘ยํ โข, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖) หิ วุตฺตํ. อมธุรภาวนฺติ อิมินา ปน กามเหตุกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ทสฺเสติ.

ผสฺสายตนานนฺติ ฉทฺวาริกสฺส ผสฺสสฺส การณภูตานํ จกฺขาทิอายตนานํ. เตนาห ‘‘จกฺขาทีนํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิการณาน’’นฺติ. ปุนพฺภวกรณํ ปุโนภโว อุตฺตรปทโลเปน, มโน-สทฺทสฺส วิย จ ปุริมปทสฺส โอการนฺตตา ทฏฺพฺพา. ปุโนภโว สีลเมเตสนฺติ โปโนภวิกา. อถ วา สีลตฺเถน อิกสทฺเทน คมิตตฺถตฺตา กิริยาวาจกสทฺทสฺส อทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ ยถา อปูปภกฺขนสีโล อาปูปิโก. อถ วา ปุนพฺภวํ เทนฺติ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตนฺติ, ปุนปฺปุนพฺภเว นิพฺพตฺเตนฺตีติ โปโนภวิกา. ‘‘ตทฺธิตา’’ติ หิ พหุวจนนิทฺเทสา วิจิตฺตตฺตา วา ตทฺธิตานํ อภิธานลกฺขณตฺตา วา ‘‘ปุนพฺภวํ เทนฺตี’’ติอาทีสุปิ อตฺเถสุ โปโนภวิกสทฺทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา.

วิสํโยเชนฺติ ปฏิปนฺนํ ปุคฺคลํ กามโยคาทิโต วิโยเชนฺตีติ วิสํโยคา, อสุภชฺฌานาทีนิ วิสํโยชนการณานิ. เตนาห ‘‘วิสํโยคาติ วิสํโยชนการณานี’’ติอาทิ.

โยคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภณฺฑคามวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. จรวคฺโค

๑. จรสุตฺตวณฺณนา

๑๑. ทุติยสฺส ปเม จรโตติ คจฺฉนฺตสฺส, จงฺกมนฺตสฺส วา. อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วาติ วตฺถุกาเมสุ อวีตราคตาย ตาทิเส ปจฺจเย กามปฏิสํยุตฺโต วา วิตกฺโก อุปฺปชฺชติ เจ, ยทิ อุปฺปชฺชติ. พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วาติ อาฆาตวินเย วิเสเสน จิตฺตสฺส อทมิตตฺตา อาฆาตนิมิตฺเต พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วา วิตกฺโก, เลฑฺฑุทณฺฑาทีติ ปรหึสนวเสน วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วา วิตกฺโก อุปฺปชฺชติ เจติ สมฺพนฺโธ. ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสตีติ ตํ ยถาวุตฺตํ กามวิตกฺกาทึ ยถาปจฺจยํ อตฺตโน จิตฺเต อุปฺปนฺนํ ‘‘อิติปายํ วิตกฺโก ปาปโก, อิติปิ อกุสโล, อิติปิ สาวชฺโช, โส จ โข อตฺตพฺยาพาธาย สํวตฺตตี’’ติอาทินา นเยน ปจฺจเวกฺขณาย อภาวโต อธิวาเสติ อตฺตโน จิตฺตํ อาโรเปตฺวา วาเสติ. อธิวาเสนฺโตเยว จ นปฺปชหติ ตทงฺคาทิปฺปหานวเสน น ปฏินิสฺสชฺชติ. ตโต เอว จ น วิโนเทติ อตฺตโน จิตฺตสนฺตานโต น นุทติ น นีหรติ. ตถา อวิโนทนโต น พฺยนฺตีกโรติ น วิคตนฺตํ กโรติ. อาตาปี ปหิตตฺโต ยถา เตสํ อนฺโตปิ นาวสิสฺสติ อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ, เอวํ กโรติ, อยํ ปน ตถา น กโรตีติ อตฺโถ. ตถาภูโต ปน น อนภาวํ คเมติ อนุ อนุ อภาวํ น คเมติ. น ปชหติ เจ, น วิโนเทติ เจติ อิติอาทินา เจ-สทฺทํ โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํภูโตติ เอวํ กามวิตกฺกาทีหิ ปาปวิตกฺเกหิ สมงฺคิภูโต. อนาตาปีติ กิเลสานํ อาตาปยิกสฺส วีริยสฺส อภาเวน อนาตาปี. ปาปุตฺราสลกฺขณสฺส โอตฺตปฺปสฺส อภาเวน อโนตฺตาปี. สตตํ สมิตํ สพฺพกาลํ นิรนฺตรํ. กุสีโต หีนวีริโยติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ ปริหาปยิตฺวา อกุสลปกฺเข กุจฺฉิตํ สีทนโต โกสชฺชสมนฺนาคเมน จ กุสีโต, สมฺมปฺปธานวีริยาภาเวน หีนวีริโย วีริยวิรหิโตติ วุจฺจติ กถียติ. ิตสฺสาติ คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ติฏฺโต. สยนอิริยาปถสฺส วิเสสโต โกสชฺชปกฺขิกตฺตา ยถา ตํสมงฺคิโน ภาวิตตฺตา สมฺภวนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชาครสฺสา’’ติ วุตฺตํ.

สุกฺกปกฺเข ตฺเจ ภิกฺขุ นาธิวาเสตีติ อารทฺธวีริยสฺสปิ วิหรโต อนาทิมติ สํสาเร จิรกาลภาวิตตฺตา ตถารูปปจฺจยสมาโยเค สติสมฺโมเสน วา กามวิตกฺกาทิ อุปฺปชฺชติ เจ, ตํ ภิกฺขุ อตฺตโน จิตฺตํ อาโรเปตฺวา น วาเสติ, อพฺภนฺตเร น วาเสตีติ อตฺโถ. อนธิวาเสนฺโต กึ กโรติ? ปชหติ ฉฑฺเฑติ. กึ กจวรํ วิย ปิฏเกนาติ? น, อปิจ โข ตํ วิโนเทติ นุทติ นีหรติ. กึ พลิพทฺทํ วิย ปโตเทนาติ? น, อถ โข พฺยนฺตีกโรติ วิคตนฺตํ กโรติ, ยถา เตสํ อนฺโตปิ นาวสิสฺสติ อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ, ตถา เต กโรติ. กถํ ปน เต ตถา กโรติ? อนภาวํ คเมติ อนุ อนุ อภาวํ คเมติ, วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ยถา สุวิกฺขมฺภิตา โหนฺติ, ตถา เน กโรตีติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํภูโตติอาทีสุ เอวํ กามวิตกฺกาทีนํ อนธิวาเสน สุวิสุทฺธาสโย สมาโน ตาย จ อาสยสมฺปตฺติยา ตนฺนิมิตฺตาย จ ปโยคสมฺปตฺติยา ปริสุทฺธสีโล อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตฺู สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต ชาคริยํ อนุยุตฺโต ตทงฺคาทิวเสน กิเลสานํ อาตาปนลกฺขเณน วีริเยน สมนฺนาคตตฺตา อาตาปี. สพฺพโส ปาปุตฺราเสน สมนฺนาคตตฺตา โอตฺตาปี สตตํ รตฺตินฺทิวํ. สมิตํ นิรนฺตรํ สมถวิปสฺสนานุโยควเสน จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานสิทฺธิยา อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต. นิพฺพานํ ปติ เปสิตจิตฺโตติ วุจฺจติ กถียตีติ อตฺโถ.

คาถาสุ เคหนิสฺสิตนฺติ เอตฺถ เคหวาสีหิ อปริจฺจตฺตตฺตา เคหวาสิสภาวตฺตา เคหธมฺมตฺตา วา เคหํ วุจฺจติ วตฺถุกาโม. อถ วา เคหปฺปฏิพทฺธภาวโต, กิเลสกามานํ นิวาสฏฺานภาวโต วา เคหาติ วุจฺจนฺติ, ตํวตฺถุกตฺตา กามวิตกฺกาทิ เคหนิสฺสิตํ นาม. กุมฺมคฺคปฏิปนฺโนติ ยสฺมา อริยมคฺคสฺส อุปฺปถภาวโต อภิชฺฌาทโย ตเทกฏฺธมฺมา จ กุมฺมคฺโค, ตสฺมา กามวิตกฺกาทิพหุโล กุมฺมคฺคปฏิปนฺโน. โมหเนยฺเยสุ มุจฺฉิโตติ โมหสํวตฺตนิเยสุ รูปาทีสุ มุจฺฉิโต สมฺมตฺโต อชฺโฌปนฺโน. สมฺโพธินฺติ อริยมคฺคาณํ. ผุฏฺนฺติ ผุสิตุํ ปตฺตุํ ปาโป โส ตาทิโส มิจฺฉาสงฺกปฺปโคจโร ปุคฺคโล อภพฺโพ, น กทาจิ ตํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ.

วิตกฺกํ สมยิตฺวานาติ ยถาวุตฺตํ มิจฺฉาวิตกฺกํ ปฏิสงฺขานภาวนาพเลน วูปสเมตฺวา. วิตกฺกูปสเม รโตติ นวนฺนมฺปิ มหาวิตกฺกานํ อจฺจนฺตูปสมภูเต อรหตฺเต, นิพฺพาเน เอว วา อชฺฌาสเยน รโต อภิรโต. ภพฺโพ โสติ โส ยถาวุตฺโต สมฺมาปฏิปชฺชมาโน ปุคฺคโล ปุพฺพภาเค สมถวิปสฺสนาพเลน สพฺพวิตกฺเก ยถารหํ ตทงฺคาทิวเสน วูปสเมตฺวา ิโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตมคฺคาณสงฺขาตํ นิพฺพานสงฺขาตฺจ อนุตฺตรํ สมฺโพธึ ผุฏฺุํ อธิคนฺตุํ ภพฺโพ อรหา. เอวเมตฺถ ปาฬิวณฺณนา เวทิตพฺพา.

จรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สีลสุตฺตวณฺณนา

๑๒. ทุติเย สมฺปนฺนสีลาติ เอตฺถ ติวิธํ สมฺปนฺนํ ปริปุณฺณสมงฺคิมธุรวเสน. ตตฺถ –

‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทารํ, สุวา ภุฺชนฺติ โกสิย;

ปฏิเวเทมิ เต พฺรหฺเม, น เน วาเรตุมุสฺสเห’’ติ. (ชา. ๑.๑๔.๑) –

อิทํ ปริปุณฺณสมฺปนฺนํ นาม. ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปาคโต สมุปาคโต อุปปนฺโน สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อิทํ สมงฺคิสมฺปนฺนํ นาม. ‘‘อิมิสฺสา, ภนฺเต, มหาปถวิยา เหฏฺิมตลํ สมฺปนฺนํ, เสยฺยถาปิ ขุทฺทมธุํ อนีลกํ, เอวมสฺสาท’’นฺติ (ปารา. ๑๗) อิทํ มธุรสมฺปนฺนํ นาม. อิธ ปริปุณฺณสมฺปนฺนวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปนฺนสีลาติ ปริปุณฺณสีลา’’ติ อาห. สมงฺคิสมฺปนฺนวเสนปิ อตฺโถ ยุชฺชติเยว, ตสฺมา สมฺปนฺนสีลาติ ปริปุณฺณสีลา หุตฺวาติปิ สีลสมงฺคิโน หุตฺวาติปิ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ สีลสฺส อนวเสสสมาทาเนน อขณฺฑาทิภาวปฺปตฺติยา ปริปุณฺณสีลา, สมาทานโต ปฏฺาย อวิจฺฉินฺทนโต สีลสมงฺคิโน. สมาทานวโต หิ อจฺจนฺตวิโรธิธมฺมานุปฺปตฺติยา สีลสมงฺคิตา เวทิตพฺพา, เจตนาทีนํ ปน สีลนลกฺขณานํ ธมฺมานํ ปวตฺติลกฺขเณน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

ตตฺถ ‘‘ปริปุณฺณสีลา’’ติ อิมินา อตฺเถน เขตฺตโทสวิคเมน เขตฺตปาริปูรี วิย สีลโทสวิคเมน สีลปาริปูรี วุตฺตา โหติ. ยถา หิ เขตฺตํ พีชขณฺฑํ, วปฺปขณฺฑํ, อุทกขณฺฑํ, อูสขณฺฑนฺติ จตุโทสสมนฺนาคตํ อปริปูรํ โหติ. ตตฺถ พีชขณฺฑํ นาม ยตฺถ อนฺตรนฺตรา พีชานิ ขณฺฑานิ วา ปูตีนิ วา โหนฺติ, ตานิ ยตฺถ ปตนฺติ, ตตฺถ สสฺสํ น อุฏฺเติ, เขตฺตํ ขณฺฑํ โหติ, อปริปูรํ โหตีติ อตฺโถ. วปฺปขณฺฑํ นาม ยตฺถ อกุสโล พีชานิ วปนฺโต อนฺตรนฺตรา นิปาเตติ. เอวฺหิ สพฺพตฺถ สสฺสํ น อุฏฺเติ, เขตฺตํ ขณฺฑํ โหติ. อุทกขณฺฑํ นาม ยตฺถ กตฺถจิ อุทกํ อติพหุํ วา โหติ, น วา โหติ. ตตฺราปิ หิ สสฺสานิ น อุฏฺเนฺติ, เขตฺตํ ขณฺฑํ โหติ. อูสขณฺฑํ นาม ยตฺถ กสฺสโก กิสฺมิฺจิ ปเทเส นงฺคเลน ภูมึ จตฺตาโร ปฺจ วาเร กสนฺโต อติคมฺภีรํ กโรติ, ตโต อูสํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺราปิ หิ สสฺสํ น อุฏฺเติ, เขตฺตํ ขณฺฑํ โหติ, ตาทิสฺจ เขตฺตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ. ตตฺราปิ พหุมฺปิ วปิตฺวา อปฺปํ ลภติ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ โทสานํ วิคมา เขตฺตํ ปริปุณฺณํ โหติ, ตาทิสฺจ เขตฺตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ. เอวเมว ขณฺฑํ, ฉิทฺทํ, สพลํ, กมฺมาสนฺติ จตุโทสสมนฺนาคตํ สีลํ อปริปูรํ โหติ, ตาทิสฺจ สีลํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ โทสานํ วิคมา สีลํ ปริปุณฺณํ โหติ, ตาทิสฺจ สีลํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ.

‘‘สีลสมงฺคิโน’’ติ อิมินา ปนตฺเถน สีเลน สมงฺคิภูตา สโมธานคตา สมนฺนาคตา หุตฺวา วิหรถาติ อิทเมว วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ สมฺปนฺนสีลตา โหติ สีลวิปตฺติยา อาทีนวทสฺสเนน, สีลสมฺปตฺติยา จ อานิสํสทสฺสเนน. ตทุภยมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔) วิตฺถาริตํ. ตตฺถ ‘‘สมฺปนฺนสีลาติ เอตฺตาวตา จ กิร ภควา จตุปาริสุทฺธิสีลํ อุทฺทิสิตฺวา ‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา’ติ อิมินา ตตฺถ เชฏฺกสีลํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตี’’ติ ทิวาวิหารวาสี สุมตฺเถโร อาห. อนฺเตวาสิโก ปนสฺส เตปิฏกจูฬนาคตฺเถโร อาห – ‘‘อุภยตฺถาปิ ปาติโมกฺขสํวโร ภควตา วุตฺโต, ปาติโมกฺขสํวโรเยว หิ สีลํ, อิตรานิ ปน ตีณิ สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม อตฺถี’’ติ วตฺวา ตํ อนนุชานนฺโต อาห – ‘‘อินฺทฺริยสํวโร นาม ฉทฺวารรกฺขามตฺตกเมว, อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมน สเมน ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกํ, ปจฺจยนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปจฺจเย อิทมตฺถนฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนมตฺตกํ. นิปฺปริยาเยน ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํ. ยสฺส โส ภินฺโน, อยํ ฉินฺนสีโส วิย ปุริโส หตฺถปาเท, เสสานิ รกฺขิสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. ยสฺส ปน โส อโรโค, อยํ อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส ชีวิตํ, เสสานิ ปุน ปากติกานิ กตฺวา รกฺขิตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา ‘สมฺปนฺนสีลา’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรํ อุทฺทิสิตฺวา ‘สมฺปนฺนปาติโมกฺขา’ติ ตสฺเสว เววจนํ วตฺวา ตํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา’ติอาทิมาหา’’ติ.

ปาติโมกฺขสํวรสีเลน สํวุตาติ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหีติ ปาติโมกฺขนฺติ ลทฺธนาเมน สิกฺขาปทสีเลน ปิหิตกายวจีทฺวารา. เอวํภูตา จ เตน อุเปตา สมนฺนาคตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘อุเปตา หุตฺวา’’ติ. อาจาเรน จ โคจเรน จ สมฺปนฺนาติ กายิกวาจสิกอวีติกฺกมสงฺขาเตน อาจาเรน, น-เวสิยโคจรตาทิสงฺขาเตน โคจเรน จ สมฺปนฺนา, สมฺปนฺนอาจารโคจราติ อตฺโถ. อณุปฺปมาเณสูติ อติปริตฺตเกสุ อนาปตฺติคมนีเยสุ. ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺเตสูติ อปเร. โทเสสูติ คารยฺเหสุ อกุสลธมฺเมสุ. ภยโต ทสฺสนสีลาติ ปรมาณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ สิเนรุปฺปมาณํ วิย กตฺวา ภายนสีลา. สพฺพสิกฺขาโกฏฺาเสสูติ มูลปฺตฺติอนุปฺตฺติสพฺพตฺถปฺตฺติปเทสปฺตฺติอาทิเภเทสุ. ตํ ตํ สมาทาตพฺพํ สมาทายาติ ยํ กิฺจิ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ มูลปฺตฺติอาทิเภเทสุ สิกฺขิตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ ปูริตพฺพํ กายิกํ วาจสิกํ วา สีลํ, ตํ สพฺพํ สมฺมา อาทาย, สมฺมเทว สกฺกจฺจํ สพฺพโส จ อาทิยิตฺวาติ อตฺโถ.

อุทยํ ปสฺสนฺโต ปฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ตณฺหาสมุทยา…เป… กมฺมสมุทยา…เป… อาหารสมุทยา รูปสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต อิมานิ ปฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสติ. ตถา อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ตณฺหาสมุทยา…เป… กมฺมสมุทยา…เป… ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต อิมานิ ปฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสตี’’ติอาทินา นเยน เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจ ปฺจ กตฺวา วุตฺตานิ ปฺจวีสติ อุทยลกฺขณานิ ปสฺสติ.

วยํ ปสฺสนฺโต ปฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติ ‘‘อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธติ ปจฺจยนิโรธฏฺเน รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. ตณฺหานิโรธา…เป… กมฺมนิโรธา…เป… อาหารนิโรธา รูปนิโรโธติ ปจฺจยนิโรธฏฺเน รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสนฺโต อิมานิ ปฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสติ. อวิชฺชานิโรธา…เป… ตณฺหานิโรธา…เป… ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธติ ปจฺจยนิโรธฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสตี. เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสนฺโต อิมานิ ปฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสติ’’ติอาทินา นเยน เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจ ปฺจ กตฺวา วุตฺตานิ ปฺจวีสติ วยลกฺขณานิ ปสฺสติ. เปสิตตฺโตติ นิพฺพานํ ปติ เปสิตจิตฺโต. กถยนฺตีติ ตถาวิธํ ภิกฺขุํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ.

ยตํ จเรติ วายมมาโน จเรยฺย, จงฺกมนาทิวเสน คมนํ กปฺเปนฺโตปิ ‘‘อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมตี’’ติอาทินา (วิภ. ๔๓๒) นเยน วุตฺตปฺปธานวีริยํ กโรนฺโต ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ยถา อกุสลธมฺมา ปหียนฺติ, กุสลธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, เอวํ คมนํ กปฺเปยฺยาติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุปิ. ยตเมนํ ปสารเยติ เอตํ ปสาเรตพฺพํ หตฺถปาทาทึ ยตํ ยตมาโน ยถาวุตฺตวีริยสมงฺคี หุตฺวา ปสาเรยฺย, สพฺพตฺถ ปธานํ น ชเหยฺยาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ยถา ปฏิปชฺชนฺโต ยตํ ยตนฺโต นาม โหติ, ตํ ปฏิปทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทฺธ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุทฺธนฺติ อุปริ. ติริยนฺติ ปริโต, ปุรตฺถิมทิสาทิวเสน สมนฺตโต ทิสาภาเคสูติ อตฺโถ. อปาจีนนฺติ เหฏฺา. ยาวตา ชคโต คตีติ ยตฺตกา สตฺตสงฺขารเภทสฺส โลกสฺส ปวตฺติ, ตตฺถ สพฺพตฺถาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา อนวเสสตา สมฺมสนาณสฺส วิสยํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสติ. สมเวกฺขิตาติ สมา เหตุนา าเยน อเวกฺขิตา, อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสิตาติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมานนฺติ สตฺตสุฺานํ. ขนฺธานนฺติ รูปาทีนํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ. อุทยพฺพยนฺติ อุทยฺจ วยฺจ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อุปริ ติริยํ อโธติ ติธา สงฺคหิเต สพฺพสฺมึ โลเก อตีตาทิเภทภินฺนานํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตานํ สพฺเพสํ รูปารูปธมฺมานํ อนิจฺจาทิสมฺมสนาธิคเตน อุทยพฺพยาเณน ปฺจวีสติยา อากาเรหิ อุทยํ, ปฺจวีสติยา อากาเรหิ วยํ สมเวกฺขิตา สมนุปสฺสิตา ภเวยฺยาติ.

เจโตสมถสามีจินฺติ จิตฺตสํกิเลสานํ อจฺจนฺตวูปสมนโต เจโตสมถสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส อนุจฺฉวิกํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธึ. สิกฺขมานนฺติ ปฏิปชฺชมานํ ภาเวนฺตํ าณปรมฺปรา นิพฺพตฺเตนฺตํ. สทาติ สพฺพกาลํ รตฺติฺเจว ทิวา จ. สตนฺติ จตุสมฺปชฺสมนฺนาคตาย สติยา สโตการี. เอวมฺเปตฺถ คาถาวณฺณนา ทฏฺพฺพา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

สีลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปธานสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ตติเย อุตฺตมวีริยานีติ เสฏฺวีริยานิ วิสิฏฺสฺส อตฺถสฺส สาธนโต. มาโร ธิยฺยติ เอตฺถาติ มารเธยฺยํ, กิเลสมารสฺส ปวตฺติฏฺานภูตํ, ตํ เตภูมกวฏฺฏนฺติ อาห ‘‘เตภูมกวฏฺฏสงฺขาตํ มารเธยฺย’’นฺติ. ชาติมรณโต ชาตํ ภยํ ชาติมรณภยํ, ชาติมรณเมว วา ภยเหตุโต ภยนฺติ ชาติมรณภยํ. เตนาห ‘‘ชาติฺจ มรณฺจ…เป… ภยสฺสา’’ติ เสสํ อุตฺตานเมว.

ปธานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สํวรสุตฺตวณฺณนา

๑๔. จตุตฺเถ สํวราทีนํ สาธนวเสน ปทหติ เอเตหีติ ปธานานิ. สํวรนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยนฺติ ยถา อภิชฺฌาทโย น อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ สติยา อุปฏฺาเน จกฺขาทีนํ ปิทหเน อนลสสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. ปชหนฺตสฺสาติ วิโนเทนฺตสฺส. อุปฺปนฺนวีริยนฺติ ตสฺเสว ปหานสฺส สาธนวเสน ปวตฺตวีริยํ. ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สมาธินิมิตฺตนฺติ สมาธิ เอว. ปุริมุปฺปนฺนสมาธิ หิ ปรโต อุปฺปชฺชนกสมาธิสฺส การณํ โหตีติ ‘‘สมาธินิมิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

อุปธิวิเวกตฺตาติ ขนฺธูปธิอาทิอุปธีหิ วิวิตฺตตฺตา วินิสฺสฏตฺตา. ตํ อาคมฺมาติ ตํ นิพฺพานํ มคฺเคน อธิคมเหตุ. ราคาทโย วิรชฺชนฺติ เอตฺถ, เอเตนาติ วิราโค. เอวํ นิโรโธปิ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา อิธ โพชฺฌงฺคมิสฺสกวเสน อิจฺฉิตา, ตสฺมา ‘‘อารมฺมณวเสน วา อธิคนฺตพฺพวเสน วา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อธิคนฺตพฺพวเสนาติ ตนฺนินฺนตาวเสน. โวสฺสคฺคปริณามินฺติ โวสฺสคฺควเสน ปริณามิตํ ปริจฺจชนวเสน เจว ปกฺขนฺทนวเสน จ ปริณามนสีลํ. เตนาห ‘‘ทฺเว โวสฺสคฺคา’’ติอาทิ. ขนฺธานํ ปริจฺจชนํ นาม ตปฺปฏิพทฺธกิเลสปฺปหานวเสนาติ เยนากาเรน วิปสฺสนา กิเลเส ปชหติ, เตเนวากาเรน ตนฺนิมิตฺตกฺขนฺเธ จ ปชหตีติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ อาห ‘‘วิปสฺสนา…เป… ปริจฺจชตี’’ติ. ยสฺมา วิปสฺสนา วุฏฺานคามินิภาวํ ปาปุณนฺตี นินฺนโปณปพฺภารภาเวน เอกํสโต นิพฺพานํ ปกฺขนฺทตีติ วตฺตพฺพตํ ลภติ, มคฺโค จ สมุจฺเฉทวเสน กิเลเส ขนฺเธ จ ราคํ ปริจฺจชติ, ตสฺมา ยถากฺกมํ วิปสฺสนามคฺคานํ วเสน ปกฺขนฺทนปริจฺจาคโวสฺสคฺคา เวทิตพฺพา. โวสคฺคตฺถายาติ ปริจฺจาคโวสฺสคฺคตฺถาย เจว ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคตฺถาย จ. ปริณมตีติ ปริจฺจชติ. ตํ ปน ปริณามนํ วุฏฺานคามินิภาวปฺปตฺติยา เจว อริยมคฺคภาวปฺปตฺติยา จ อิจฺฉิตนฺติ อาห ‘‘วิปสฺสนาภาวฺจ มคฺคภาวฺจ ปาปุณาตี’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทีสุ เสสสมฺโพชฺฌงฺคโกฏฺาเสสุ.

ภทฺทกนฺติ อภทฺทกานํ นีวรณาทิปาปธมฺมานํ วิกฺขมฺภเนน ราควิคมเนน เอกนฺตหิตตฺตา ทุลฺลภตฺตา จ ภทฺทกํ สุนฺทรํ. น หิ อฺํ สมาธินิมิตฺตํ เอวํ ทุลฺลภํ ราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภูตํ อตฺถิ. อนุรกฺขตีติ เอตฺถ อนุรกฺขนา นาม อธิคตสมาธิโต ยถา ปริหานิ น โหติ, เอวํ ปฏิปตฺติสาสน-ตปฺปฏิปกฺขวิคมเนนาติ อาห ‘‘สมาธี’’ติอาทิ. อฏฺิกสฺาทิกาติ อฏฺิกชฺฌานาทิกา. สฺาสีเสน หิ ฌานํ วทติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

สํวรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺตฺติสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ปฺจเม อตฺตภาโว เอเตสํ อตฺถีติ อตฺตภาวิโน, เตสํ อตฺตภาวีนํ. เตนาห ‘‘อตฺตภาววนฺตาน’’นฺติ. ยาว ฉตฺตึสาย อินฺทานํ อายุปฺปมาณํ, ตาว ปณีเต กาเม ปริภุฺชีติ มนฺธาตุราชา กิร เอกทิวสํ อตฺตโน ปริณายกรตนํ ปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข มนุสฺสโลกโต รมณียตรํ าน’’นฺติ. กสฺมา เทว เอวํ ภณสิ, กึ น ปสฺสสิ จนฺทิมสูริยานํ อานุภาวํ, นนุ เอเตสํ านํ อิโต รมณียตรนฺติ? ราชา จกฺกรตนํ ปุรกฺขตฺวา ตตฺถ อคมาสิ.

จตฺตาโร มหาราชาโน ‘‘มนฺธาตุมหาราชา อาคโต’’ติ สุตฺวา ‘‘ตาวมหิทฺธิโก มหาราชา น สกฺกา ยุทฺเธน ปฏิพาหิตุ’’นฺติ สกรชฺชํ นิยฺยาเตสุํ. โส ตํ คเหตฺวา ปุน ปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิโต รมณียตรํ าน’’นฺติ. อถสฺส ตาวตึสภวนํ กถยึสุ. ‘‘ตาวตึสภวนํ, เทว, รมณียํ, ตตฺถ สกฺกสฺส เทวรฺโ อิเม จตฺตาโร มหาราชาโน ปาริจาริกา โทวาริกภูมิยํ ติฏฺนฺติ. สกฺโก เทวราชา มหิทฺธิโก มหานุภาโว. ตสฺสิมานิ อุปโภคฏฺานานิ – โยชนสหสฺสุพฺเพโธ เวชยนฺตปาสาโท, ปฺจโยชนสตุพฺเพธา สุธมฺมเทวสภา, ทิยฑฺฒโยชนสติโก เวชยนฺตรโถ, ตถา เอราวโณ หตฺถี, ทิพฺพรุกฺขสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิตํ นนฺทนวนํ, จิตฺตลตาวนํ, ผารุสกวนํ, โยชนสตุพฺเพโธ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร, ตสฺส เหฏฺา สฏฺิโยชนายามา ปฺาสโยชนวิตฺถารา ปฺจทสโยชนุพฺเพธา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา ปณฺฑุกมฺพลสิลา, ยสฺสา มุทุตาย สกฺกสฺส นิสีทโต อุปฑฺฒกาโย อนุปฺปวิสตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตตฺถ คนฺตุกาโม จกฺกรตนํ อพฺภุกฺกิริ. ตํ อากาเส อุฏฺหิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. อถ ทฺวินฺนํ เทวโลกานํ เวมชฺฌโต จกฺกรตนํ โอตริตฺวา ปถวิยา อาสนฺเน าเน อฏฺาสิ สทฺธึ ปริณายกรตนปฺปมุขาย จตุรงฺคินิยา เสนาย. ราชา เอกโกว อตฺตโน อานุภาเวน ตาวตึสภวนํ อคมาสิ. สกฺโก ‘‘มนฺธาตา อาคโต’’ติ สุตฺวา ตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ‘‘สฺวาคตํ, มหาราช, สกํ, เต มหาราช, อนุสาส มหาราชา’’ติ วตฺวา สทฺธึ นาฏเกหิ รชฺชํ ทฺเว ภาเค กตฺวา เอกํ ภาคมทาสิ. รฺโ ตาวตึสภวเน ปติฏฺิตมตฺตสฺเสว มนุสฺสคนฺธสรีรนิสฺสนฺทาทิมนุสฺสภาโว วิคจฺฉิ, เทวโลเก ปวตฺติวิปากทายิโน อปรปริยายเวทนียสฺส กมฺมสฺส กโตกาสตฺตา สพฺพทา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกตามาลามิลายนาทิเทวภาโว ปาตุรโหสิ. ตสฺส สกฺเกน สทฺธึ ปณฺฑุกมฺพลสิลาย นิสินฺนสฺส อกฺขินิมิสนมตฺเตน นานตฺตํ ปฺายติ. ตํ อสลฺลกฺเขนฺตา เทวา สกฺกสฺส จ ตสฺส จ นานตฺเต มุยฺหนฺติ. โส ตตฺถ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน ตทา มนุสฺสานํ อสงฺขฺเยยฺยายุกตาย ยาว ฉตฺตึส สกฺกา อุปปชฺชิตฺวา จุตา, ตาว สกฺกรชฺชํ กาเรตฺวา ‘‘กึ เม อิมินา อุปฑฺฒรชฺเชนา’’ติ อติตฺโต กาเมหิ ตโต จวิตฺวา อตฺตโน อุยฺยาเน ปติโต มนุสฺสโลเก อุตุกกฺขฬตาย วาตาตเปน ผุสิตคตฺโต กาลมกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เทวโลเก ปน ยาว ฉตฺตึสาย อินฺทานํ อายุปฺปมาณํ, ตาว ปณีเต กาเม ปริภุฺชี’’ติ.

ปฺตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โสขุมฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๖. ฉฏฺเ สุขุมลกฺขณปฺปฏิวิชฺฌนกานีติ อนิจฺจาทิสุขุมลกฺขณานํ ปฏิวิชฺฌนกานิ. สุขุมลกฺขณปริคฺคาหกาเณนาติ สุขุมลกฺขณปริคฺคาหเกน าเณน. ปรโต ชานิตฺวาติ อวสวตฺตเนน อฺโต ชานิตฺวา. สงฺขารา หิ ‘‘มา ภิชฺชึสู’’ติ อิจฺฉิตาปิ ภิชฺชนฺเตว, ตสฺมา เต อวสวตฺติตาย ปเร นาม. สา จ เนสํ ปรตา อนิจฺจทสฺสเน ปากฏา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อิมินา หิ ปเทน อนิจฺจานุปสฺสนา กถิตา’’ติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

โสขุมฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๑๐. ปมอคติสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗-๒๐. สตฺตเม ฉนฺทาคตินฺติ เอตฺถ สนฺธิวเสน สรโลโปติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฉนฺเทน อคติ’’นฺติ. ฉนฺทาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘ฉนฺเทนา’’ติ, เปเมนาติ อตฺโถ. ฉนฺทสทฺโท เหตฺถ ตณฺหาปริยาโย, อกุสลจฺฉนฺทปริยาโย วา. เสเสสูติ ‘‘โทสาคตึ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ.

เอตฺถ จ โย ‘‘อยํ เม มิตฺโตติ วา, สนฺทิฏฺโติ วา, าตโกติ วา, ลฺจํ วา ปน เม เทตี’’ติ ฉนฺทวเสน อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ ฉนฺเทน อกตฺตพฺพํ กโรติ นาม. โย ‘‘อยํ เม เวรี’’ติ จิรกาลานุพทฺธเวรวเสน วา, ตงฺขณุปฺปนฺนโกธวเสน วา สามิกํ อสฺสามิกํ กโรติ, อยํ โทเสน อกตฺตพฺพํ กโรติ นาม. โย ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ยํ วา ตํ วา อยุตฺตํ อการณํ วตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ โมเหน อกตฺตพฺพํ กโรติ นาม. โย ปน ‘‘อยํ ราชวลฺลโภติ วา วิสเม โจราทิเก วิสมานิ วา กายทุจฺจริตาทีนิ สมาทาย วตฺตเนน วิสมนิสฺสิโต วา, อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’’ติ ภีโต อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ ภเยน อกตฺตพฺพํ กโรติ นาม.

โย ปน กิฺจิ ภาเชนฺโต ‘‘อยํ เม สนฺทิฏฺโ วา สมฺภตฺโต วา’’ติ เปมวเสน อติเรกํ เทติ, ‘‘อยํ เม เวรี’’ติ โทสวเสน อูนกํ เทติ, โย มุยฺหนฺโต ทินฺนาทินฺนํ อชานมาโน กสฺสจิ อูนํ, กสฺสจิ อธิกํ เทติ, ‘‘อยํ อิมสฺมึ อทียมาเน มยฺหํ อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ สีโต กสฺสจิ อติเรกํ เทติ, โส จตุพฺพิโธปิ ยถานุกฺกเมน ฉนฺทาคติอาทีนิ คจฺฉนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรติ นาม.

นิหียติ ตสฺส ยโสติ ตสฺส อคติคามิโน กิตฺติยโสปิ ปริวารยโสปิ นิหียติ ปริหายติ. ยสฺสติ เตน กิตฺตียตีติ หิ ยโส, กิตฺติ ถุติโฆโส. ยสฺสติ เตน ปุเรจรานุจรภาเวน ปริวารยตีติ ยโส, ปริวาโร. อฏฺมนวมทสมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

จรวคฺโค ทุติโย.

๓. อุรุเวลวคฺโค

๑. ปมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ตติยสฺส ปเม มหาเวลา วิย มหาเวลา, วิปุลวาลิกปุฺชตาย มหนฺโต เวลาตโฏ วิยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ’’ติ. อุรุ, มรุ, สิกตา, วาลุกา, วณฺณุ, วาลิกาติ อิเม สทฺทา สมานตฺถา, พฺยฺชนเมว นานํ. เตนาห ‘‘อุรูติ วาลิกา วุจฺจตี’’ติ.

นชฺชาติ นทติ สทฺทายตีติ นที, ตสฺสา นชฺชา, นทิยา นินฺนคายาติ อตฺโถ. เนรฺชรายาติ ‘‘เนลฺชลายา’’ติ วตฺตพฺเพ ล-การสฺส ร-การํ กตฺวา ‘‘เนรฺชรายา’’ติ วุตฺตํ, กทฺทมเสวาลปณกาทิโทสรหิตสลิลายาติ อตฺโถ. เกจิ ‘‘นีลํ-ชลายาติ วตฺตพฺเพ เนรฺชรายา’’ติ วทนฺติ. นามเมว วา เอตํ ตสฺสา นทิยาติ เวทิตพฺพํ. ตสฺสา นทิยา ตีเร ยตฺถ ภควา วิหาสิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อชปาลนิคฺโรเธ’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา ปนายํ อชปาลนิคฺโรโธ นาม ชาโตติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา ตตฺถ เวเท สชฺฌายิตุํ อสมตฺถา มหลฺลกพฺราหฺมณา ปาการปริกฺเขปยุตฺตานิ นิเวสนานิ กตฺวา สพฺเพ วสึสุ, ตสฺมาสฺส อชปาลนิคฺโรโธติ นามํ ชาต’’นฺติ วทนฺติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – น ชปนฺตีติ อชปา, มนฺตานํ อนชฺฌายกาติ อตฺโถ. อชปาลนฺติ อาทิยนฺติ นิวาสํ เอตฺถาติ อชปาโลติ. อปเร ปน วทนฺติ ‘‘ยสฺมา มชฺฌนฺหิกสมเย อนฺโตปวิฏฺเ อเช อตฺตโน ฉายาย ปาเลติ รกฺขติ, ตสฺมา ‘อชปาโล’ติสฺส นามํ รุฬฺห’’นฺติ. สพฺพตฺถาปิ นามเมตํ ตสฺส รุกฺขสฺส.

ปมาภิสมฺพุทฺโธติ ปมํ อภิสมฺพุทฺโธ, อนุนาสิกโลเปนายํ นิทฺเทโส. เตเนวาห ‘‘สมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมเมวา’’ติ. ปมนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, ตสฺมา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมํ อชปาลนิคฺโรเธ วิหรามีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อยํ วิตกฺโกติ อยํ ‘‘กินฺนุ ขฺวาหํ…เป… วิหเรยฺย’’นฺติ เอวํ ปวตฺตวิตกฺโก. หตฺถี จ วานโร จ ติตฺติโร จ หตฺถิวานรติตฺติรา.

เย วุทฺธมปจายนฺตีติ ชาติวุทฺโธ, วโยวุทฺโธ, คุณวุทฺโธติ ตโย วุทฺธา. เตสุ ชาติสมฺปนฺโน ชาติวุทฺโธ นาม, วเย ิโต วโยวุทฺโธ นาม, คุณสมฺปนฺโน คุณวุทฺโธ นาม. เตสุ คุณสมฺปนฺโน วโยวุทฺโธ อิมสฺมึ าเน วุทฺโธติ อธิปฺเปโต. อปจายนฺตีติ เชฏฺาปจายิกากมฺเมน ปูเชนฺติ. ธมฺมสฺส โกวิทาติ เชฏฺาปจายนธมฺมสฺส โกวิทา กุสลา. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. ปาสํสาติ ปสํสารหา. สมฺปราเย จ สุคฺคตีติ สมฺปเรตพฺเพ อิมํ โลกํ หิตฺวา คนฺตพฺเพ ปรโลเกปิ เตสํ สุคติเยว. อยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑตฺโถ – ขตฺติยา วา โหนฺตุ พฺราหฺมณา วา เวสฺสา วา สุทฺทา วา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา ติรจฺฉานคตา วา, เย เกจิ สตฺตา เชฏฺาปจิติกมฺเมน สีลาทิคุณสมฺปนฺนานํ วโยวุทฺธานํ อปจิตึ กโรนฺติ, เต อิมสฺมิฺจ อตฺตภาเว เชฏฺาปจิติการกาติ ปสํสํ วณฺณนํ โถมนํ ลภนฺติ, กายสฺส จ เภทา สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ.

อฺสฺมินฺติ ปรสฺมึ. อตฺตา น โหตีติ อฺโ, ปโร. โส ปเนตฺถ น โย โกจิ อธิปฺเปโต, อถ โข ครุฏฺานิโย. เตนาห ‘‘กฺจิ ครุฏฺาเน อฏฺเปตฺวา’’ติ. ปติสฺสติ ครุโน อาณํ สมฺปฏิจฺฉตีติ ปติสฺโส, น ปติสฺโส อปฺปติสฺโส, ปติสฺสยรหิโต, ครุปสฺสยรหิโตติ อตฺโถ.

สเทวเกติ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสตฺโถ. สเทวกคฺคหเณน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ ปาริเสสาเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ สงฺคหิตตฺตา. สมารกคฺคหเณน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติาเยน. ตตฺถ หิ มาโร ชาโต ตนฺนิวาสี จ โหติ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติาเยเนว. สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายาติ สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ อปจฺจตฺถิกานํ อสมิตาพาหิตปาปานฺจ สมณพฺราหฺมณานํ เตเนว วจเนน คหิตตฺตา. กามํ ‘‘สเทวเก’’ติอาทิวิเสสนานํ วเสน สตฺตวิสโย โลกสทฺโทติ วิฺายติ ตุลฺยโยควิสยตฺตา เตสํ, ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ ปน อตุลฺยโยเค อยํ สมาโส ลพฺภตีติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปชาคหณนฺติ ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ.

เทวภาวสามฺเน มารพฺรหฺเมสุ คหิเตสุปิ อิตเรหิ เตสํ ลพฺภมานวิเสสทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาโร นามา’’ติอาทิมาห. มาโร พฺรหฺมานมฺปิ วิจกฺขุกมฺมาย ปโหตีติ อาห ‘‘สพฺเพส’’นฺติ. อุปรีติ อุปริภาเค. พฺรหฺมาติ ทสสหสฺสิพฺรหฺมานํ สนฺธายาห. ตถา จาห ‘‘ทสหิ องฺคุลีหี’’ติอาทิ. อิธ ทีฆนิกายาทโย วิย พาหิรกานมฺปิ คนฺถนิกาโย ลพฺภตีติ อาห ‘‘เอกนิกายาทิวเสนา’’ติ. วตฺถุวิชฺชาทีติ อาทิ-สทฺเทน วิชฺชาฏฺานานิ สงฺคยฺหนฺติ. ยถาสกํ กมฺมกิเลเสหิ ปชาตตฺตา นิพฺพตฺตตฺตา ปชา, สตฺตนิกาโย, ตสฺสา ปชาย. สเทวมนุสฺสายาติ วา อิมินา สมฺมุติเทวคฺคหณํ ตทวสิฏฺมนุสฺสโลกคฺคหณฺจ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โลกวเสน วุตฺตานิ ‘‘โลกียนฺติ เอตฺถ กมฺมํ กมฺมผลานี’’ติ กตฺวา. ปชาวเสน ‘‘เหตุปจฺจเยหิ ปชาตา’’ติ กตฺวา. สีลสมฺปนฺนตรนฺติ เอตฺถ ปริปุณฺณสมฺปนฺนตา อธิปฺเปตา ‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทาร’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๔.๑) วิย. เตนาห ‘‘อธิกตรนฺติ อตฺโถ’’ติ. ปริปุณฺณฺหิ อธิกตรนฺติ วตฺตุํ อรหติ. การณนฺติ ยุตฺตึ. อตฺถนฺติ อวิปรีตตฺถํ. วฑฺฒินฺติ อติวฑฺฒินิมิตฺตํ.

อิมินา วจเนนาติ อิมสฺมึ สุตฺเต อนนฺตรํ วุตฺตวจเนน. น เกวลํ อิมินาว, สุตฺตนฺตรมฺปิ อาเนตฺวา ปฏิพาหิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เม อาจริโย อตฺถี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น เม อาจริโย อตฺถีติ โลกุตฺตรธมฺเม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถิ. กิฺจาปิ โลกิยธมฺมานมฺปิ ยาทิโส โลกนาถสฺส อธิคโม, น ตาทิโส อธิคโม ปรูปเทโส อตฺถิ. โลกุตฺตรธมฺเม ปนสฺส เลโสปิ นตฺถิ. นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโลติ มยฺหํ สีลาทีหิ คุเณหิ ปฏินิธิภูโต ปุคฺคโล นาม นตฺถิ. สรนฺติ กรเณ เอตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘สรนฺเตนา’’ติ, สรนฺติ วา สรณเหตุ จาติ อตฺโถ.

ยโตติ ภุมฺมตฺเถ โตสทฺโทติ อาห ‘‘ยสฺมึ กาเล’’ติ. รตฺติโย ชานนฺตีติ รตฺตฺู, อตฺตโน ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย พหู รตฺติโย ชานนฺติ, จิรปพฺพชิตาติ วุตฺตํ โหติ. รตฺตฺูนํ มหนฺตภาโว รตฺตฺุมหนฺตํ. ภาวปฺปธาโน เอส นิทฺเทโส. ‘‘รตฺตฺุมหตฺต’’นฺติ วา ปาโ. เอส นโย เสเสสุปิ. เถรนวมชฺฌิมานํ วเสน วิปุลภาโว เวปุลฺลมหนฺตํ. สิกฺขตฺตยสงฺคหิตสฺส สาสนพฺรหฺมจริยสฺส ฌานาภิฺาทิวเสน วิปุลภาโว พฺรหฺมจริยมหนฺตํ. วิสิฏฺสฺส ปจฺจยลาภสฺส วิปุลภาโว ลาภคฺคมหนฺตํ. จตุพฺพิเธน มหนฺเตนาติ จตุพฺพิเธน มหนฺตภาเวน. มหาปชาปติยา ทุสฺสยุคทานกาเลติ ภควโต สงฺเฆ คารวสฺส ปากฏกาลทสฺสนมตฺตํ. น หิ ภควา ตโต ปุพฺเพ สงฺเฆ คารวรหิโต วิหาสิ.

ปมอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒.ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย หุหุงฺกชาติเกนาติ โส กิร ทิฏฺมงฺคลิโก มานวเสน โกธวเสน จ ‘‘หุหุ’’นฺติ กโรนฺโต วิจรติ, ตสฺมา หุหุงฺกชาติโกติ วุจฺจติ. ‘‘หุหุกฺกชาติโก’’ติปิ ปนฺติ, เตน สทฺธึ อาคตาติ อตฺโถ. ชราชิณฺณาติ ชราย ขณฺฑทนฺตปลิตเกสาทิภาวํ อาปาทิตา. วโยวุทฺธาติ องฺคปจฺจงฺคานํ วุทฺธิมริยาทปฺปตฺตา. ชาติมหลฺลกาติ อุปปตฺติยา มหลฺลกภาเวน สมนฺนาคตา. มหตฺตํ ลนฺติ คณฺหนฺตีติ มหลฺลกา, ชาติยา มหลฺลกา, น วิภวาทินาติ ชาติมหลฺลกา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ปจฺฉิมวยํ สมฺปตฺตา, ปจฺฉิมวโย นาม วสฺสสตสฺส ปจฺฉิโม ตติโย ภาโค. ชิณฺณาติ วา โปราณา, จิรกาลปฺปวตฺตกุลนฺวยาติ วุตฺตํ โหติ. วุทฺธาติ สีลาจาราทิคุณวุทฺธิยุตฺตา. มหลฺลกาติ วิภวมหนฺตตาย สมนฺนาคตา. มหทฺธนาติ มหาโภคา. อทฺธคตาติ มคฺคปฺปฏิปนฺนา พฺราหฺมณานํ วตจริยาทิมริยาทํ อวีติกฺกมฺม จรมานา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ชาติวุทฺธภาวํ อนฺติมวยํ อนุปฺปตฺตา. สุตํ เนตนฺติ เอตฺถ สุตํ โน เอตนฺติ ปทจฺเฉโท. โนติ จ กรณตฺเถ สามิวจนํ. เตนาห ‘‘อมฺเหหิ สุต’’นฺติ.

อกาเลติ อยุตฺตกาเล. อสภาวํ วทตีติ ยํ นตฺถิ, ตํ วทติ. อนตฺถํ วทตีติ อการณนิสฺสิตํ วทติ. อการณนิสฺสิตนฺติ จ นิปฺผลนฺติ อตฺโถ. ผลฺหิ การณนิสฺสิตํ. อการณนิสฺสิตตา จ ตทวินาภาวโต อการเณ นิสฺสิตํ, นิปฺผลํ สมฺผนฺติ วุตฺตํ โหติ. อวินยํ วทตีติ น สํวรวินยปฺปฏิสํยุตฺตํ วทติ, อตฺตโน สุณนฺตสฺส จ น สํวรวินยาวหํ วทตีติ วุตฺตํ โหติ. น หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกนฺติ อหิตสํหิตตฺตา จิตฺตํ อนุปฺปเวเสตฺวา นิเธตุํ อยุตฺตํ. กเถตุํ อยุตฺตกาเลนาติ ธมฺมํ กเถนฺเตน โย อตฺโถ ยสฺมึ กาเล วตฺตพฺโพ, ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ ตสฺส อกาโล, ตสฺมึ อยุตฺตกาเล วตฺตา. อปเทสรหิตนฺติ สุตฺตาปเทสรหิตํ. สาปเทสํ สการณํ กตฺวา น กเถตีติ ‘‘ภควตา อสุเก สุตฺเต เอวํ วุตฺต’’นฺติ เอวํ สาปเทสํ การณสหิตํ กตฺวา น กเถติ.

ปริยนฺตรหิตนฺติ ปริจฺเฉทรหิตํ, สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส อนุโยคํ อุปมํ วา วตฺถุํ วา อาหริตฺวา ยํ สุตฺตํ ชาตกํ วา นิกฺขิปิตํ, ตสฺส สรีรภูตํ กถํ อนามสิตฺวา พาหิรกถํเยว กเถติ, นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตมตฺตเมว โหติ, ‘‘สุตฺตํ นุ โข กเถติ ชาตกํ นุ โข, นาสฺส อนฺตํ วา โกฏึ วา ปสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. ยถา วฏรุกฺขสาขานํ คตคตฏฺาเน ปาโรหา โอตรนฺติ, โอติณฺโณ-ติณฺณฏฺาเน วิรุฬฺหึ อาปชฺชิตฺวา ปุน วฑฺฒนฺติเยว, เอวํ อฑฺฒโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ คจฺฉติเยว. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ปน มูลรุกฺโข วินสฺสติ, อนุชาตปาโรหมูลานิเยว ติฏฺนฺติ, เอวํ อยมฺปิ นิคฺโรธธมฺมกถิโก นาม โหติ. นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตเมว กตฺวา ปสฺเสเนว ปริหรนฺโต คจฺฉติ. โย ปน พหุมฺปิ ภณนฺโต ‘‘เอตทตฺถมิทํ วุตฺต’’นฺติ นิกฺขิตฺตสุตฺตโต อฺมฺปิ อนุโยคูปมาวตฺถุวเสน ตทุปโยคีนํ อาหริตฺวา อาหริตฺวา ชานาเปตุํ สกฺโกติ, ตถารูปสฺส ธมฺมกถิกสฺส พหุมฺปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. น โลกิยโลกุตฺตรอตฺถนิสฺสิตนฺติ อตฺตโน ปเรสฺจ น โลกิยโลกุตฺตรหิตาวหํ.

ปกฏฺานํ อุกฺกฏฺานํ สีลาทิอตฺถานํ โพธนโต สภาวนิรุตฺติวเสน จ พุทฺธาทีหิ ภาสิตตฺตา ปกฏฺานํ วจนปฺปพนฺธานํ อาฬีติ ปาฬิ, ปริยตฺติธมฺโม. ปุริมสฺส อตฺถสฺส ปจฺฉิเมน อตฺเถน อนุสนฺธานํ อนุสนฺธิ, อตฺถมุเขน ปน ปาฬิปฺปเทสานมฺปิ อนุสนฺธิ โหติเยว. สฺวายํ อนุสนฺธิ ปุจฺฉานุสนฺธิอชฺฌาสยานุสนฺธิยถานุสนฺธิอาทิวเสน จตุพฺพิโธ, ตํตํเทสนานํ ปน ปุพฺพาปรปาฬิวเสน อนุสนฺธิวเสน ปุพฺพาปรวเสนาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อุคฺคหิตนฺติ พฺยฺชนโส อตฺถโส จ อุทฺธํ อุทฺธํ คหิตํ, ปริยาปุณนวเสน เจว ปริปุจฺฉาวเสน จ หทเยน คหิตนฺติ อตฺโถ. วฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ โสตพฺพโต สุตํ, ปริยตฺติธมฺโม. ตํ ธาเรตีติ สุตธโร. โย หิ สุตธโร, สุตํ ตสฺมึ ปติฏฺิตํ โหติ สุปฺปติฏฺิตํ อโรคิกํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สุตสฺส อาธารภูโต’’ติ. เตนาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. เอกํ ปทํ เอกกฺขรมฺปิ อวินฏฺํ หุตฺวา สนฺนิจียตีติ สนฺนิจโย, สุตํ สนฺนิจโย เอตสฺมินฺติ สุตสนฺนิจโย. อชฺโฌสายาติ อนุปฺปวิสิตฺวา. ติฏฺตีติ น สมฺมุสฺสติ.

ปคุณาติ วาจุคฺคตา. นิจฺจลิกนฺติ อวิปริวตฺตํ. สํสนฺทิตฺวาติ อฺเหิ สํสนฺทิตฺวา. สมนุคฺคาหิตฺวาติ ปริปุจฺฉาวเสน อตฺถํ โอคาหิตฺวา. ปพนฺธสฺส วิจฺเฉทาภาวโต คงฺคาโสตสทิสํ. ‘‘ภวงฺคโสตสทิส’’นฺติ วา ปาโ, อกิตฺติมํ สุขปฺปวตฺตีติ อตฺโถ. สุตฺเตกเทสสฺส สุตฺตมตฺตสฺส จ วจสา ปริจโย อิธ นาธิปฺเปโต, วคฺคาทิวเสน ปน อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘สุตฺตทสก…เป… สชฺฌายิตา’’ติ, ‘‘ทสสุตฺตานิ คตานิ, ทสวคฺคานิ คตานี’’ติอาทินา สลฺลกฺเขตฺวา วาจาย สชฺฌายิตาติ อตฺโถ. มนสา อนุ อนุ เปกฺขิตา ภาคโส นิชฺฌายิตา จินฺติตา มนสานุเปกฺขิตา. รูปคตํ วิย ปฺายตีติ รูปคตํ วิย จกฺขุสฺส วิภูตํ หุตฺวา ปฺายติ. สุปฺปฏิวิทฺธาติ นิชฺชฏํ นิคฺคุมฺพํ กตฺวา สุฏฺุ ยาถาวโต ปฏิวิทฺธา.

อธิกํ เจโตติ อภิเจโต, อุปจารชฺฌานจิตฺตํ. ตสฺส ปน อธิกตา ปากติกกามาวจรจิตฺเตหิ สุนฺทรตาย, สา ปฏิปกฺขโต สุทฺธิยาติ อาห ‘‘อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธํ จิตฺต’’นฺติ. อธิจิตฺตนฺติ สมาธิมาห. โสปิ อุปจารสมาธิ ทฏฺพฺโพ. วิเวกชํ ปีติสุขํ, สมาธิชํ ปีติสุขํ, อปีติชํ กายสุขํ, สติปาริสุทฺธิชํ าณสุขนฺติ จตุพฺพิธมฺปิ ฌานสุขํ ปฏิปกฺขโต นิกฺขนฺตตํ อุปาทาย เนกฺขมฺมสุขนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘เนกฺขมฺมสุขํ วินฺทตี’’ติ. อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ อิมินา เตสุ ฌาเนสุ สมาปชฺชนวสีภาวมาห. นิกามลาภีติ ปน วจนโต อาวชฺชนาธิฏฺานปจฺจเวกฺขณวสิโยปิ วุตฺตา เอวาติ เวทิตพฺพา. สุเขเนว ปจฺจนีกธมฺเม วิกฺขมฺเภตฺวาติ เอเตน เตสํ ฌานานํ สุขปฺปฏิปทตํ ขิปฺปาภิฺตฺจ ทสฺเสติ.

วิปุลานนฺติ เวปุลฺลํ ปาปิตานํ ฌานานํ. วิปุลตา นาม สุภาวิตภาเวน จิรตรปฺปวตฺติยา, สา จ ปริจฺเฉทานุรูปาว อิจฺฉิตพฺพาติ ‘‘วิปุลาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. ปริจฺเฉทกาลฺหิ อปฺปตฺวาว วุฏฺหนฺโต อกสิรลาภี น โหติ ยาวทิจฺฉิตํ ปวตฺเตตุํ อสมตฺถตฺตา. อิทานิ ยถาวุตฺเต สมาปชฺชนาทิวสีภาเว พฺยติเรกวเสน วิภาเวตุํ ‘‘เอกจฺโจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ลาภีเยว โหตีติ อิทํ ปฏิลทฺธมตฺตสฺส ฌานสฺส วเสน วุตฺตํ. ตถาติ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ. ปาริปนฺถิเกติ วสีภาวสฺส ปจฺจนีกธมฺเม. ฌานาธิคมสฺส ปน ปจฺจนีกธมฺมา ปเคว วิกฺขมฺภิตา, อฺถา ฌานาธิคโม เอว น สิยา. กิจฺเฉน วิกฺขมฺเภตีติ กิจฺเฉน วิโสเธติ. กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหิ กามจฺฉนฺทาทีนํ วิย อฺเสมฺปิ สมาธิปาริปนฺถิกานํ ทูรสมุสฺสารณํ อิธ วิกฺขมฺภนํ วิโสธนฺจาติ เวทิตพฺพํ. นาฬิกยนฺตนฺติ กาลมานนาฬิกยนฺตมาห.

อฏฺปิตสงฺกปฺโปติ น สมฺมาปณิหิตสงฺกปฺโป. อภิฺาปารคูติ สพฺเพสํ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมานํ อภิฺาย ปารํ คโต, สพฺพธมฺเม อภิวิสิฏฺาย อคฺคมคฺคปฺาย ชานิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ปริฺาปารคูติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ปริฺาย ปารํ คโต, ปฺจกฺขนฺเธ ปริชานิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ภาวนาปารคูติ จตุนฺนํ มคฺคานํ ภาวนาย ปารํ คโต, จตฺตาโร มคฺเค ภาเวตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ปหานปารคูติ สพฺพกิเลสานํ ปหาเนน ปารํ คโต, สพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. สจฺฉิกิริยาปารคูติ นิโรธสจฺฉิกิริยาย ปารํ คโต, นิโรธํ สจฺฉิกตฺวา ิโตติ อตฺโถ. สมาปตฺติปารคูติ สพฺพสมาปตฺตีนํ สมาปชฺชเนน ปารํ คโต, สพฺพา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ ยํ พฺรหฺมจริยสฺส เกวลํ สกลภาโว, เตน สมนฺนาคโต, สกลจตุมคฺคพฺรหฺมจริยวาโสติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สกลพฺรหฺมจริโย’’ติ, ปริปุณฺณมคฺคพฺรหฺมจริโยติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โลกสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย โลโกติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก. อตฺถโต ปุริมสฺมึ อริยสจฺจทฺวยํ, อิธ ปน ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘โลโกติ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ. วิสํยุตฺโตติ วิสํสฏฺโ น ปฏิพทฺโธ, สพฺเพสํ สํโยชนานํ สมฺมเทว สมุจฺฉินฺนตฺตา ตโต วิปฺปมุตฺโตติ อตฺโถ. โลกสมุทโยติ สุตฺตนฺตนเยน ตณฺหา, อภิธมฺมนเยน ปน อภิสงฺขาเรหิ สทฺธึ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ. โลกนิโรโธติ นิพฺพานํ. สจฺฉิกโตติ อตฺตปจฺจกฺโข กโต. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทาติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสงฺคโห อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. โส หิ โลกนิโรธํ นิพฺพานํ คจฺฉติ อธิคจฺฉติ, ตทตฺถํ อริเยหิ ปฏิปชฺชียติ จาติ โลกนิโรธคามินี ปฏิปทาติ วุจฺจติ.

เอตฺตาวตา ตถานิ อภิสมฺพุทฺโธ ยาถาวโต คโตติ ตถาคโตติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. จตฺตาริ หิ อริยสจฺจานิ ตถานิ นาม. ยถาห –

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐; ปฏิ. ม. ๒.๘) วิตฺถาโร.

อปิจ ตถาย คโตติ ตถาคโต, คโตติ จ อวคโต อตีโต ปตฺโต ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา ภควา สกลโลกํ ตีรณปริฺาย ตถาย อวิปรีตาย คโต อวคโต, ตสฺมา โลโก ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต. โลกสมุทยํ ปหานปริฺาย ตถาย คโต อตีโตติ ตถาคโต. โลกนิโรธํ สจฺฉิกิริยาย ตถาย คโต ปตฺโตติ ตถาคโต. โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ตถํ อวิปรีตํ คโต ปฏิปนฺโนติ ตถาคโตติ. เอวํ อิมิสฺสา ปาฬิยา ตถาคตภาวทีปนวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อิติ ภควา จตุสจฺจาภิสมฺโพธวเสน อตฺตโน ตถาคตภาวํ ปกาเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ทิฏฺาทิอภิสมฺโพธวเสนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. อฏฺกถายํ ปน ‘‘จตูหิ สจฺเจหิ อตฺตโน พุทฺธภาวํ กเถตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ตถาคตสทฺทพุทฺธสทฺทานํ อตฺถโต นินฺนานากรณตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตถา เจว หิ ปาฬิ ปวตฺตาติ. ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ ทฏฺพฺพโต. เตน ยํ ทิฏฺํ ยํ ทิสฺสติ, ยํ ทกฺขติ, ยํ สมวาเย ปสฺเสยฺย, ตํ สพฺพํ ทิฏฺนฺเตว คหิตํ กาลวิเสสสฺส อนามฏฺภาวโต ยถา ‘‘ทุทฺธ’’นฺติ ทสฺเสติ. สุตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สุตนฺติ สทฺทายตนํ โสตพฺพโต. มุตนฺติ สนิสฺสเย อินฺทฺริเย นิสฺสยํ มุฺจิตฺวา ปาปุณิตฺวา คเหตพฺพํ. เตนาห ‘‘ปตฺวา คเหตพฺพโต’’ติ. วิฺาตนฺติ วิชานิตพฺพํ. ตํ ปน ทิฏฺาทิวินิมุตฺตํ วิฺเยฺยนฺติ อาห ‘‘สุขทุกฺขาทิ ธมฺมารมฺมณ’’นฺติ. ปตฺตนฺติ ยถา ตถา ปตฺวา หตฺถคตํ, อธิคตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา’’ติ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺติยา อตฺถํ ปริยิฏฺํ. ตํ ปน ปตฺตํ วา สิยา อปฺปตฺตํ วา, อุภยถาปิ ปริเยสิตเมวาติ อาห ‘‘ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา’’ติ. ทฺวเยนปิ ทฺวิปฺปการมฺปิ ปตฺตํ ทฺวิปฺปการมฺปิ ปริเยสิตํ เตน เตน ปกาเรน ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธนฺติ ทสฺเสติ. จิตฺเตน อนุสฺจริตนฺติ เต ปน อปาเปตฺวา จิตฺเตเนว อนุ อนุ สฺจริตํ, วิปริตกฺกิตนฺติ อตฺโถ.

ปีตกนฺติอาทีติ อาทิสทฺเทน โลหิตโอทาตาทิสพฺพํ รูปารมฺมณภาคํ สงฺคณฺหาติ. สุมโนติ ราควเสน โลภวเสน สทฺธาทิวเสน วา สุมโน. ทุมฺมโนติ พฺยาปาทวิตกฺกวเสน วา วิหึสาวิตกฺกวเสน วา ทุมฺมโน. มชฺฌตฺโตติ อฺาณวเสน, าณวเสน วา มชฺฌตฺโต. เอส นโย สพฺพตฺถ. ตตฺถ อาทิสทฺเทน สงฺขสทฺโท, ปณวสทฺโท, ปตฺตคนฺโธ, ปุปฺผคนฺโธ, ปุปฺผรโส, ผลรโส, อุปาทินฺนํ, อนุปาทินฺนํ, มชฺฌตฺตเวทนา กุสลกมฺมํ อกุสลกมฺมนฺติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อปฺปตฺตนฺติ าเณน อสมฺปตฺตํ, อวิทิตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘าเณน อสจฺฉิกต’’นฺติ. โลเกน คตนฺติ โลเกน าตํ. ตเถว คตตฺตาติ ตเถว าตตฺตา อภิสมฺพุทฺธตฺตา, คตสทฺเทน เอกตฺตํ พุทฺธิอตฺถนฺติ อตฺโถ. คติอตฺโถ หิ ธาตโว พุทฺธิอตฺถา ภวนฺตีติ อกฺขรจินฺตกา.

ยฺจ, ภิกฺขเว, รตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌตีติ ยสฺสฺจ วิสาขปุณฺณมาย รตฺติยํ ตถาอาคตตฺตาทิอตฺเถน ตถาคโต ภควา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน ติณฺณํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อุตฺตริตราภาวโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อาสวกฺขยาเณน สทฺธึ สพฺพฺุตฺาณํ อธิคจฺฉติ. ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายตีติ ยสฺสฺจ วิสาขปุณฺณมาย รตฺติยํเยว กุสินารายํ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. ยํ เอตสฺมึ อนฺตเรติ อิมาสํ ทฺวินฺนํ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสนิพฺพานธาตูนํ มชฺเฌ ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาณกาเล ปมโพธิยมฺปิ มชฺฌิมโพธิยมฺปิ ปจฺฉิมโพธิยมฺปิ ยํ สุตฺตเคยฺยาทิปฺปเภทํ ธมฺมํ ภาสติ นิทสฺสนวเสน, ลปติ อุทฺทิสนวเสน, นิทฺทิสติ ปรินิทฺทิสนวเสน. สพฺพํ ตํ ตเถว โหตีติ ตํ เอตฺถนฺตเร เทสิตํ สพฺพํ สุตฺตเคยฺยาทินวงฺคํ พุทฺธวจนํ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ อนูนํ อนธิกํ สพฺพาการปริปุณฺณํ ราคมทนิมฺมทนํ โทสมทนิมฺมทนํ โมหมทนิมฺมทนํ, นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ, เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย เอกาย นาฬิยา มิตํ วิย เอกตุลาย ตุลิตํ วิย จ ตํ ตเถว โหติ ยสฺสตฺถาย ภาสิตํ, เอกนฺเตเนว ตสฺส สาธนโต, โน อฺถา, ตสฺมา ตถํ อวิตถํ อนฺถํ. เอเตน ตถาวาทิตาย ตถาคโตติ ทสฺเสติ. คทอตฺโถ อยํ คตสทฺโท ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา, ตสฺมา ตถํ คทตีติ ตถาคโตติ อตฺโถ. อถ วา อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโต อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ตถาคโตติ เอวเมตฺถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

ยถาวาทีติ เย ธมฺเม ภควา ‘‘อิเม ธมฺมา อกุสลา สาวชฺชา วิฺุครหิตา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสนฺโต วทติ, เต ธมฺเม เอกนฺเตเนว สยํ ปหาสิ. เย ปน ธมฺเม ภควา – ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา อนวชฺชา วิฺุปฺปสตฺถา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ วทติ, เต ธมฺเม เอกนฺเตเนว สยํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตสฺมา ยถาวาที ภควา ตถาการีติ เวทิตพฺโพ. ตถา สมฺมเทว สีลาทิปริปูรณวเสน สมฺมาปฏิปทายํ ยถาการี ภควา, ตเถว ธมฺมเทสนาย ปเรสํ ตตฺถ ปติฏฺาปนวเสน ตถาวาที. ภควโต หิ วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสปิ วาจา, ตสฺมา ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที จ โหติ. เอวํภูตสฺส จ ยถา วาจา, กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโต. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา คตา ปวตฺตาติ อตฺโถ.

อภิภู อนภิภูโตติ อุปริ ภวคฺคํ, เหฏฺา อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ ภควา สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลนปิ สมาธินาปิ ปฺายปิ วิมุตฺติยาปิ, น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ. อสโม อสมสโม อปฺปฏิโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโล อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ธมฺมราชา เทวเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา, ตโต เอว อยํ น เกนจิ อภิภูโต. ทกฺขตีติ สพฺพํ ปสฺสติ. วิเสสวจนิจฺฉายปิ อภาวโต อนวเสสวิสโย ทสสทฺโท. เตน ยํ กิฺจิ เนยฺยํ นาม, สพฺพํ ตํ หตฺถตเล อามลกํ วิย ปสฺสตีติ ทีเปติ. อวิปรีตํ อาสยาทิอวโพเธน หิตูปสํหาราทินา จ สตฺเต, ภาวฺตฺถตฺตูปนยวเสน สงฺขาเร, สพฺพากาเรน สุจิณฺณวสิตาย สมาปตฺติโย, จิตฺตฺจ วเส วตฺเตตีติ วสวตฺตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ วิสํยุตฺโต. เตนาห ‘‘จตุนฺนํ โยคานํ ปหาเนน วิสํยุตฺโต’’ติ. ตณฺหาทิฏฺิอุปเยหิ วิรหิโตติ สพฺพสฺมิมฺปิ โลเก ตณฺหาทิฏฺิสงฺขาเตหิ อุปเยหิ วิรหิโต.

อภิภวิตฺวา ิโตติ ตพฺพิสยกิเลสปฺปหาเนน อภิภุยฺย อติกฺกมิตฺวา ิโต. จตฺตาโรปิ คนฺเถ โมเจตฺวา ิโตติ สพฺเพ อภิชฺฌากายคนฺถาทิเก สกสนฺตานโต โมเจตฺวา ิโต. เวเนยฺยสนฺตาเน วา อตฺตโน เทสนาวิลาเสน เตสํ ปโมจโนติ สพฺพคนฺถปฺปโมจโน. ผุฏฺสฺส ปรมา สนฺตีติ อสฺส อเนน ขีณาสเวน พุทฺเธน ปรมา สนฺติ าณผุสเนน ผุฏฺาติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ผุฏฺสฺสา’’ติอาทิ. นิพฺพาเน กุโตจิ ภยํ นตฺถีติ กุโตจิ ภยการณโต นิพฺพาเน ภยํ นตฺถิ อสงฺขตภาเวน สพฺพโส เขมตฺตา. เตนาห ภควา – ‘‘เขมฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ เขมคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๓๗๙-๔๐๘). นิพฺพานปฺปตฺตสฺส วา กุโตจิ ภยํ นตฺถีติ นิพฺพานํ อกุโตภยนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, น กุโตจิ ภยํ เอตฺถ เอตสฺมึ อธิคเตติ อกุโตภยํ, นิพฺพานนฺติ เอวเมตฺถ นิพฺพจนฺจ ทฏฺพฺพํ.

อนีโฆ นิทฺทุกฺโข. สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโตติ สพฺเพสํ กมฺมานํ ขยํ ปริโยสานํ อจฺจนฺตภาวํ ปตฺโต. อุปธี สมฺมเทว ขียนฺติ เอตฺถาติ อุปธิสงฺขโย, นิพฺพานนฺติ อาห ‘‘อุปธิสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน’’ติ. จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ปวตฺตยีติ เตปริวฏฺฏํ ทฺวาทสาการํ ปวตฺเตสิ. มหนฺเตหิ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา มหนฺตํ. วีตสารทนฺติ จตุเวสารชฺชโยเคน วีตสารทํ. เสสํ อุตฺตานเมว.

โลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. กาฬการามสุตฺตวณฺณนา

๒๔. จตุตฺเถ พาฬฺหํ โข เน ปสํสสีติ เน สมเณ พาฬฺหํ กตฺวา ปสํสสิ วณฺณยสิ. กีทิสํ สีลํ เอเตสนฺติ กึสีลา. โก สมาจาโร เอเตสนฺติ กึสมาจารา. คุณมคฺคสณฺิตาติ คุณคฺคสณฺิตา. -กาโร ปทสนฺธิกโร, อคฺคคุเณ ปติฏฺิตาติ วุตฺตํ โหติ. สนฺตินฺทฺริยา สนฺตมานสา, ‘‘สนฺตํ เตสํ คตํ ิต’’นฺติปิ ปนฺติ. เอกกิยาติ เอกกา, จตูสุ อิริยาปเถสุ เอกกา หุตฺวา วิหรนฺตีติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘อทุติยา’’ติ. ตาทิสา สมณา มมาตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน –

‘‘กายกมฺมํ สุจิ เนสํ, วาจากมฺมํ อนาวิลํ;

มโนกมฺมํ สุวิสุทฺธํ, ตาทิสา สมณา มม.

‘‘วิมลา สงฺขมุตฺตาภา, สุทฺธา อนฺตรพาหิรา;

ปุณฺณา สุทฺเธหิ ธมฺเมหิ, ตาทิสา สมณา มม.

‘‘ลาเภน อุนฺนโต โลโก, อลาเภน จ โอนโต;

ลาภาลาเภน เอกฏฺา, ตาทิสา สมณา มม.

‘‘ยเสน อุนฺนโต โลโก, อยเสน จ โอนโต;

ยสายเสน เอกฏฺา, ตาทิสา สมณา มม.

‘‘ปสํสายุนฺนโต โลโก, นินฺทายปิ จ โอนโต;

สมา นินฺทาปสํสาสุ, ตาทิสา สมณา มม.

‘‘สุเขน อุนฺนโต โลโก, ทุกฺเขนปิ จ โอนโต;

อกมฺปา สุขทุกฺเขสุ, ตาทิสา สมณา มมา’’ติ. (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๓๐๓ จูฬสุภทฺทาวตฺถุ) –

เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ.

‘‘ทูเร สนฺโต’’ติอาทิคาถาย อยมตฺโถ. สนฺโตติ ราคาทีนํ สนฺตตาย พุทฺธาทโย สนฺโต นาม, อิธ ปน ปุพฺพพุทฺเธสุ กตาธิการา อุสฺสนฺนกุสลมูลา ภาวิตภาวนา สตฺตา สนฺโตติ อธิปฺเปตา. ปกาสนฺตีติ ทูเร ิตาปิ พุทฺธานํ าณปถํ อาคจฺฉนฺตา ปากฏา โหนฺติ. หิมวนฺโตวาติ ยถา ติโยชนสหสฺสวิตฺถโต ปฺจโยชนสตุพฺเพโธ จตุราสีติยา กูฏสหสฺเสหิ ปฏิมณฺฑิโต หิมวนฺตปพฺพโต ทูเร ิตานมฺปิ อภิมุเข ิโต วิย ปกาสติ, เอวํ ปกาสนฺตีติ อตฺโถ. อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺตีติ ลาภครุกา, วิตฺถิณฺณปรโลกา, อามิสจกฺขุกา, ชีวิกตฺถาย ปพฺพชิตา, พาลปุคฺคลา อสนฺโต นาม. เต เอตฺถ พุทฺธานํ ทกฺขิณสฺส ชาณุมณฺฑลสฺส สนฺติเก นิสินฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ น ปฺายนฺติ. รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สราติ รตฺตึ จตุรงฺคสมนฺนาคเต อนฺธกาเร ขิตฺตา สรา วิย ตถารูปสฺส อุปนิสฺสยภูตสฺส ปุพฺพเหตุโน อภาเวน น ปฺายนฺตีติ อตฺโถ.

พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ, ยถา ทินฺนํ น ปุน คเหตพฺพํ โหติ นิสฺสฏฺํ ปริจฺจตฺตํ, เอวํ ทินฺนนฺติ อตฺโถ.

ทิฏฺํ น มฺตีติ เอตฺถ ทิฏฺนฺติ มํสจกฺขุนาปิ ทิฏฺํ, ทิพฺพจกฺขุนาปิ ทิฏฺํ, รูปายตนสฺเสตํ อธิวจนํ. ยฺหิ จกฺขุทฺวเยน กตทสฺสนกิริยาสมาปนํ, ยํ จกฺขุทฺวยํ ปสฺสติ อปสฺสิ ปสฺสิสฺสติ, สมวาเย ปสฺเสยฺย, ตํ สพฺพํ กาลวิเสสวจนิจฺฉาย อภาวโต ‘‘ทิฏฺ’’นฺเตว วุตฺตํ ยถา ‘‘ทุทฺธ’’นฺติ. เตเนวาห ‘‘ทิฏฺํ รูปายตน’’นฺติ. เอวรูปานิ หิ วจนานีติ ‘‘ทฏฺพฺพํ โสตพฺพ’’นฺติอาทีนิ.

ลาเภปิ ตาที, อลาเภปิ ตาทีติ ยถา อลาภกาเล ลาภสฺส ลทฺธกาเลปิ ตเถวาติ ตาทิโส. ยเสปีติ ยเส สติปิ มหาปริวารกาเลปิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

กาฬการามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. พฺรหฺมจริยสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปฺจเม นยิทนฺติ เอตฺถ -อิติ ปฏิเสเธ นิปาโต, ตสฺส ‘‘วุสฺสตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ ‘‘น วุสฺสตี’’ติ, -กาโร ปทสนฺธิกโร. อิทํ-สทฺโท ‘‘เอกมิทาหํ, ภิกฺขเว, สมยํ อุกฺกฏฺายํ วิหรามิ สุภควเน สาลราชมูเล’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๙๑; ม. นิ. ๑.๕๐๑) นิปาตมตฺตํ, ‘‘อิทํ โข ตํ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกํ สีลมตฺตก’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๗) ยถาวุตฺเต อาสนฺนปจฺจกฺเข อาคโต.

‘‘อิทฺหิ ตํ เชตวนํ, อิสิสงฺฆนิเสวิตํ;

อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน, ปีติสฺชนนํ มมา’’ติ. (ม. นิ. ๓.๓๘๗-๓๘๘; สํ. นิ. ๑.๔๘, ๑๐๑) –

อาทีสุ วกฺขมาเน อาสนฺนปจฺจกฺเข. อิธาปิ วกฺขมาเนเยว อาสนฺนปจฺจกฺเข ทฏฺพฺโพ.

พฺรหฺมจริย-สทฺโท –

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ,

กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,

อิทฺจ เต นาค มหาวิมานํ.

‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก,

สทฺธา อุโภ ทานปตี อหุมฺหา;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ,

สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ,

ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,

อิทฺจ เม วีร มหาวิมาน’’นฺติ. –

อิมสฺมึ ปุณฺณกชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๕๙๕) ทาเน อาคโต.

‘‘เกน ปาณิ กามทโท, เกน ปาณิ มธุสฺสโว;

เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ. –

อิมสฺมึ องฺกุรเปตวตฺถุสฺมึ (เป. ว. ๒๗๕, ๒๗๗) เวยฺยาวจฺเจ.

‘‘เอวํ โข ตํ, ภิกฺขเว, ติตฺติริยํ นาม พฺรหฺมจริยํ อโหสี’’ติ อิมสฺมึ ติตฺติรชาตเก (จูฬว. ๓๑๑) ปฺจสิกฺขาปทสีเล.

‘‘ตํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เนว นิพฺพิทาย น วิราคาย…เป… ยาวเทว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา’’ติ อิมสฺมึ มหาโควินฺทสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๒๙) พฺรหฺมวิหาเร.

‘‘ปเร อพฺรหฺมจารี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ พฺรหฺมจารี ภวิสฺสามา’’ติ อิมสฺมึ สลฺเลขสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๘๓) เมถุนวิรติยํ.

‘‘มยฺจ ภริยา นาติกฺกมาม,

อมฺเห จ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;

อฺตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม,

ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ. –

อิมสฺมึ มหาธมฺมปาลชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๙๗) สทารสนฺโตเส.

‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, จตุรงฺคสมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ จริตา, ตปสฺสี สุทํ โหมี’’ติ โลมหํสสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๕๕) วีริเย.

‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;

มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌตี’’ติ. –

นิมิชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๔๒๙) อตฺตทมนวเสน กเต อฏฺงฺคิเก อุโปสเถ.

‘‘อิทํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย…เป… อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ มหาโควินฺทสุตฺเตเยว (ที. นิ. ๒.๓๒๙) อริยมคฺเค.

‘‘ตยิทํ พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติ ปาสาทิกสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๗๔) สิกฺขตฺตยสงฺคหิเต สกลสฺมึ สาสเน. อิธาปิ อริยมคฺเค สาสเน จ วตฺตติ.

วุสฺสตีติ วุสียติ, จรียตีติ อตฺโถ. ชนกุหนตฺถนฺติ ‘‘อโห อยฺโย สีลวา วตฺตสมฺปนฺโน อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติอาทินา ชนสฺส สตฺตโลกสฺส วิมฺหาปนตฺถํ. เกจิ ปน ‘‘กุหนตฺถนฺติ ปาปิจฺฉสฺส อิจฺฉาปกตสฺส สโต สามนฺตชปฺปนอิริยาปถนิสฺสิตปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตน ติวิเธน กุหนวตฺถุนา กุหกภาเวน ชนสฺส วิมฺหาปนตฺถ’’นฺติ วทนฺติ. อิธาปิ อยเมวตฺโถ ทสฺสิโต. เตเนวาห ‘‘ตีหิ กุหนวตฺถูหิ ชนสฺส กุหนตฺถายา’’ติ, ชนสฺส วิมฺหาปนตฺถายาติ อตฺโถ. ชนลาปนตฺถนฺติ ‘‘เอวรูปสฺส นาม อยฺยสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’’ติ ปสนฺนจิตฺเตหิ ‘‘เกนตฺโถ, กึ อาหรียตู’’ติ วทาปนตฺถํ. ‘‘ชนลปนตฺถ’’นฺติปิ ปนฺติ, ตสฺส ปาปิจฺฉสฺส สโต ปจฺจยตฺถํ ปริกโถภาสาทิวเสน ลปนภาเวน อุปลาปกภาเวน ชนสฺส ลปนตฺถนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘น ชนลปนตฺถนฺติ น ชนสฺส อุปลาปนตฺถ’’นฺติ.

น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถ’’นฺติปิ ปนฺติ. ตตฺถ ยฺวายํ ‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ลาภี อสฺสํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๕) สีลานิสํสภาเวน วุตฺโต จตุปจฺจยลาโภ จ. จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สกฺกจฺจทานสงฺขาโต อาทรพหุมานครุกรณสงฺขาโต จ สกฺกาโร, โย จ ‘‘สีลสมฺปนฺโน พหุสฺสุโต สุตธโร อารทฺธวีริโย’’ติอาทินา นเยน อุคฺคจฺฉนกถุติโฆสสงฺขาโต สิโลโก พฺรหฺมจริยํ วสนฺตานํ ทิฏฺธมฺมิโก อานิสํโส, ตทตฺถนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถนฺติ ปาปิจฺฉสฺเสว สโต ลาภาทิครุตาย ลาภสกฺการสิโลกสงฺขาตสฺส อานิสํสสฺส อุทยสฺส นิปฺผาทนตฺถ’’นฺติ เอวมตฺถํ วทนฺติ.

อิติ มํ ชโน ชานาตูติ เอวํ พฺรหฺมจริยวาเส สติ ‘‘สีลวา กลฺยาณธมฺโม’’ติอาทินา มํ โลโก ชานาตุ สมฺภาเวตูติ อตฺตโน สนฺตคุณวเสน สมฺภาวนตฺถมฺปิ น อิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. เกจิ ปน ‘‘ปาปิจฺฉสฺส สโต อสนฺตคุณสมฺภาวนาธิปฺปาเยน ‘อิติ เอวํคุโณติ มํ โลโก ชานาตู’ติ น อิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ เอวเมตฺถ อตฺถํ วทนฺติ. สพฺพตฺถาปิ ปเนตฺถ ปุริโม ปุริโมเยว อตฺถวิกปฺโป สุนฺทรตโร.

อถ โขติ เอตฺถ อถาติ อฺตฺเถ นิปาโต, โขติ อวธารเณ. เตน กุหนาทิโต อฺทตฺถํเยว อิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตีติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตํ ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สํวรตฺถํ ปหานตฺถ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ปฺจวิโธ สํวโร – ปาติโมกฺขสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ. ‘‘อิติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๑) นเยน อาคโต อยํ ปาติโมกฺขสํวโร, สีลสํวโรติปิ วุจฺจติ. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อาคโต อยํ สติสํวโร.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๔; เนตฺติ. ๔.๑๑, ๔๕) –

อาคโต อยํ าณสํวโร. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) นเยน อาคโต อยํ ขนฺติสํวโร.

‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) นเยน อาคโต อยํ วีริยสํวโร.

อตฺถโต ปน ปาณาติปาตาทีนํ ปชหนวเสน วตฺตปฺปฏิวตฺตานํ ปูรณวเสน จ ปวตฺตา เจตนา เจว วิรติ จ. สงฺเขปโต สพฺโพ กายวจีสํยโม, วิตฺถารโต สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อวีติกฺกโม สีลสํวโร. สติ เอว สติสํวโร, สติปฺปธานา วา กุสลา ขนฺธา. าณเมว าณสํวโร. อธิวาสนวเสน อโทโส, อโทสปฺปธานา วา ตถาปวตฺตา กุสลา ขนฺธา ขนฺติสํวโร, ปฺาติ เอเก. กามวิตกฺกาทีนํ อภิภวนวเสน ปวตฺตํ วีริยเมว วีริยสํวโร. เตสุ ปโม กายทุจฺจริตาทีสุ ทุสฺสีลสฺส สํวรณโต สํวโร, ทุติโย มุฏฺสฺสจฺจสฺส, ตติโย อฺาณสฺส, จตุตฺโถ อกฺขนฺติยา, ปฺจโม โกสชฺชสฺส สํวรณโต ปิทหนโต สํวโรติ เวทิตพฺโพ. เอวเมตสฺส สํวรสฺส อตฺถาย สํวรตฺถํ สํวรนิปฺผาทนตฺถนฺติ อตฺโถ.

ตีหิ ปหาเนหีติ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทสงฺขาเตหิ ตีหิ ปหาเนหิ. ปฺจวิธปฺปหานมฺปิ อิธ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ปฺจวิธฺหิ ปหานํ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวเสน. ตตฺถ ยํ ทีปาโลเกเนว ตมสฺส ปฏิปกฺขภาวโต อโลภาทีหิ โลภาทิกสฺส นามรูปปริจฺเฉทาทิวิปสฺสนาาเณหิ ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ, เสยฺยถิทํ – ปริจฺจาเคน โลภาทิมลสฺส, สีเลน ปาณาติปาตาทิทุสฺสีลฺยสฺส, สทฺธาทีหิ อสฺสทฺธิยาทิกสฺส, นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, ตสฺเสว อปรภาเคน กงฺขาวิตรเณน กถํกถีภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน อหํมมาติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสเนน อภิรติสฺาย, มุจฺจิตุกมฺยตาาเณน อมุจฺจิตุกมฺยตาย, อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลเมน ธมฺมฏฺิติยํ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส ปหานํ, เอตํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม.

ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต ฆฏปฺปหาเรเนว อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส, เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, เอตํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗; วิภ. ๖๒๘) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคหณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน สมุจฺฉินฺทนํ, เอตํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺถํ กิเลสานํ, เอตํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, เอตํ นิสฺสรณปฺปหานํ นาม. ตสฺส ปฺจวิธสฺสปิ ตถา ตถา ราคาทิกิเลสานํ ปฏินิสฺสชฺชนฏฺเน สมติกฺกมนฏฺเน วา ปหานสฺส อตฺถาย, ปหานสาธนตฺถนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ตตฺถ สํวเรน กิเลสานํ จิตฺตสนฺตาเน ปเวสนิวารณํ ปหาเนน จ ปเวสนิวารณเมว สมุคฺฆาโต จาติ วทนฺติ. อุภเยนปิ ปน ยถารหํ อุภยํ สมฺปชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ. สีลาทิธมฺมา เอว หิ สํวรณโต สํวรํ, ปชหนโต ปหานนฺติ.

อนีติหนฺติ อีติโย วุจฺจนฺติ อุปทฺทวา ทิฏฺธมฺมิกา สมฺปรายิกา จ. อีติโย หนฺตีติ อีติหํ, อนุ อีติหนฺติ อนีติหํ, สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ. อถ วา อีตีหิ อนตฺเถหิ สทฺธึ หนนฺติ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อีติหา, ตณฺหาทิอุปกฺกิเลสา. นตฺถิ เอตฺถ อีติหาติ อนีติหํ. อีติหา วา ยถาวุตฺเตนตฺเถน ติตฺถิยสมยา, ตปฺปฏิปกฺขโต อิทํ อนีติหํ. ‘‘อนิติห’’นฺติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘อิติหาย’’นฺติ ธมฺเมสุ อเนกํสคฺคาหภาวโต วิจิกิจฺฉา อิติหํ นาม, สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตตฺตา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนฺตานํ นิกฺกงฺขภาวสาธนโต จ นตฺถิ เอตฺถ อิติหนฺติ อนิติหํ, อปรปตฺติยนฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ, ‘‘อตกฺกาวจโร’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) จ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปน ‘‘อนีติห’’นฺติ ทีฆํ กตฺวา ปนฺติ. ปจฺฉิมํ ปเนตฺถ อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิติหปริวชฺชิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

นิพฺพานสงฺขาตํ โอคธํ ปติฏฺํ ปารํ คจฺฉตีติ นิพฺพาโนคธคามี, วิมุตฺติรสตฺตา เอกนฺเตเนว นิพฺพานสมฺปาปโกติ อตฺโถ, ตํ นิพฺพาโนคธคามินํ พฺรหฺมจริยํ. นิพฺพาโนคโธติ วา อริยมคฺโค วุจฺจติ เตน วินา นิพฺพานาวคาหณสฺส อสมฺภวโต ตสฺส จ นิพฺพานํ อนาลมฺพิตฺวา อปฺปวตฺตนโต, ตฺเจตํ เอกนฺตสมฺปาทเนน คจฺฉตีติ นิพฺพาโนคธคามี. อถ วา นิพฺพาโนคธคามินนฺติ นิพฺพานสฺส อนฺโตคามินํ. มคฺคพฺรหฺมจริยฺหิ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กริตฺวา ตสฺส อนฺโต เอว ปวตฺตตีติ. อิมเมว จ อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิพฺพานสฺส อนฺโตคามิน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. โสติ โย โส สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, โส ภควา อเทสยิ เทเสสิ. มหนฺเตหีติ มหาอาตุเมหิ อุฬารชฺฌาสเยหิ. มหนฺตํ นิพฺพานํ, มหนฺเต วา สีลกฺขนฺธาทิเก เอสนฺติ คเวสนฺตีติ มเหสิโน, พุทฺธาทโย อริยา. เตหิ อนุยาโต ปฏิปนฺโน.

ยถา พุทฺเธน เทสิตนฺติ ยถา อภิฺเยฺยาทิภาเวน สมฺมาสมฺพุทฺเธน มยา เทสิตํ, เอวํ เย เอตํ มคฺคพฺรหฺมจริยํ ตทตฺถํ สาสนพฺรหฺมจริยฺจ ปฏิปชฺชนฺติ. เต ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสนฺตสฺส สตฺถุ มยฺหํ สาสนการิโน โอวาทปฺปฏิกรา สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ ปริยนฺตํ อปฺปวตฺตึ กริสฺสนฺติ, ทุกฺขสฺส วา อนฺตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสนฺตีติ.

พฺรหฺมจริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กุหสุตฺตวณฺณนา

๒๖. ฉฏฺเ กุหกาติ สามนฺตชปฺปนาทินา กุหนวตฺถุนา กุหกา, อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย โกหฺํ กตฺวา ปเรสํ วิทฺธํสกาติ อตฺโถ. ถทฺธาติ ‘‘โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๒๕, ๒๗) เอวํ วุตฺเตน โกเธน จ, ‘‘ทุพฺพโจ โหติ โทวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อกฺขโม อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๘๑; ปารา. ๔๒๖). เอวํ วุตฺเตน โทวจสฺเสน จ, ‘‘ชาติมโท, โคตฺตมโท, ลาภมโท, อาโรคฺยมโท, โยพฺพนมโท, ชีวิตมโท’’ติ (วิภ. ๘๓๒) เอวํ วุตฺตชาติมทาทิเภเทน มาเนน จ ครุกาตพฺเพสุ ครูสุปิ นิปจฺจการํ อกตฺวา อโยสลากํ คิลิตฺวา ิตา วิย อโนนตา หุตฺวา วิจรณกา. เตนาห ‘‘โกเธน จา’’ติอาทิ.

อุปลาปกาติ มิจฺฉาชีววเสน กุลสงฺคณฺหกา. ลปาติ ปจฺจยตฺถํ ปยุตฺตวาจาวเสน นิปฺเปสิกตาวเสน ลปกาติ อตฺโถ. สิงฺคนฺติ สิงฺคารํ. ตฺหิ กุสลสฺส วิชฺฌนโต สุฏฺุ อาเสวิตตาย สีเส ปริกฺขิตฺตํ สุนิพฺพตฺตํ วิสาณํ วิย ถิรตฺตา จ สิงฺคํ วิยาติ สิงฺคํ, นาคริกภาวสงฺขาตสฺส กิเลสสิงฺคสฺเสตํ นามํ. สิงฺคารภาโว สิงฺคารตา, สิงฺคารกรณกอากาโร วา. จาตุรภาโว จาตุรตา. ตถา จาตุริยํ. ปริกฺขตภาโว ปริกฺขตตา, ปริขณิตฺวา ปิตสฺเสว ทฬฺหสิงฺคารสฺเสตํ นามํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. เอวํ สพฺเพหิ วาเรหิ กิเลสสิงฺคารตาว กถิตา.

อุคฺคตนฬาติ นฬสทิสํ ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา วิจรณกา. เตนาห ‘‘ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิตา’’ติ. ยสฺมา เต กุหนาทิโยคโต น สมฺมาปฏิปนฺนา, ตสฺมา ‘‘มม สนฺตกา น โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อปคตาติ ยทิปิ เต มม สาสเน ปพฺพชิตา, ยถานุสิฏฺํ ปน อปฺปฏิปชฺชนโต อปคตา เอว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, อิโต เต สุวิทูเร ิตาติ ทสฺเสติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘นภฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร,

ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ,

สตฺจ ธมฺโม อสตฺจ ราชา’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๔๑๔);

สพฺพตฺถ ปตฺถฏตาย เวปุลฺลํ ปาปุณนฺตีติ สพฺพตฺถ ปตฺถฏภาเวน สีลาทิธมฺมกฺขนฺธปาริปูริยา เวปุลฺลํ ปาปุณนฺติ.

กุหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สนฺตุฏฺิสุตฺตวณฺณนา

๒๗. สตฺตเม นิทฺโทสานีติ อวชฺชรหิตานิ อาคมนสุทฺธิโต กายมณฺฑนาทิกิเลสวตฺถุภาวาภาวโต จ. ตตฺถ สุลภตาย ปริเยสนทุกฺขสฺส อภาโว ทสฺสิโต, อปฺปตาย ปริหรณทุกฺขสฺสปิ อภาโว ทสฺสิโต, อนวชฺชตาย อครหิตพฺพตาย ภิกฺขุสารุปฺปภาโว ทสฺสิโต โหติ. อปฺปตาย วา ปริตฺตาสสฺส อวตฺถุตา, สุลภตาย เคธาทีนํ อวตฺถุตา, อนวชฺชตาย อาทีนวทสฺสนนิสฺสรณปฺานํ อตฺถิตา ทสฺสิตา โหติ. อปฺปตาย วา ลาเภน น โสมนสฺสํ ชนยนฺติ, อลาเภน น โทมนสฺสํ ชนยนฺติ, อนวชฺชตาย วิปฺปฏิสารนิมิตฺตํ อฺาณุเปกฺขํ น ชนยนฺติ อวิปฺปฏิสารวตฺถุภาวโต.

ปํสุกูลนฺติ สงฺการกูฏาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน ปํสุกูลํ วิยาติ ปํสุกูลํ, ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลนฺติ เอวํ ลทฺธนามํ รถิกาทีสุ ปติตนนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา กตจีวรํ. รุกฺขมูลนฺติ วิเวกานุรูปํ ยํ กิฺจิ รุกฺขสมีปํ. ยํ กิฺจิ มุตฺตนฺติ ยํ กิฺจิ โคมุตฺตํ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘โคมุตฺตปริภาวิตหรีตกขณฺฑํ ปูติมุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘ปูติภาเวน อาปณาทิโต วิสฺสฏฺํ ฉฑฺฑิตํ อปริคฺคหิตํ ยํ กิฺจิ เภสชฺชํ ปูติมุตฺตนฺติ อธิปฺเปต’’นฺติ อปเร.

ยโต โขติ ปจฺจตฺเต นิสฺสกฺกวจนํ, ยํ โขติ วุตฺตํ โหติ. เตน ตุฏฺโ โหตีติ วุตฺตกิริยํ ปรามสติ. ตุฏฺโติ สนฺตุฏฺโ. อิทมสฺสาหนฺติ ยฺวายํ จตุพฺพิเธน ยถาวุตฺเตน ปจฺจเยน อปฺเปน สุลเภน สนฺโตโส, อิทํ อิมสฺส ภิกฺขุโน สีลสํวราทีสุ อฺตรํ เอกํ สามฺงฺคํ สมณภาวการณนฺติ อหํ วทามิ. สนฺตุฏฺสฺส หิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปริปุณฺณํ โหติ, สมถวิปสฺสนา จ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อถ วา สามฺํ นาม อริยมคฺโค, ตสฺส สงฺเขปโต ทฺเว องฺคา พาหิรํ อชฺฌตฺติกนฺติ. ตตฺถ พาหิรํ สปฺปุริสูปนิสฺสโย สทฺธมฺมสฺสวนฺจ. อชฺฌตฺติกํ ปน โยนิโสมนสิกาโร ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ จ. เตสุ ยสฺมา ยถารหํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติภูตา ตสฺส มูลภูตา เจเต ธมฺมา, ยทิทํ อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา ปวิวิตฺตตา อสํสฏฺตา อารทฺธวีริยตาติ เอวมาทโย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อิทมสฺสาหํ อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ วทามี’’ติ.

เสนาสนมารพฺภาติ วิหาราทึ มฺจปีาทิฺจ เสนาสนํ นิสฺสาย. จีวรํ ปานโภชนนฺติ นิวาสนาทิจีวรํ อมฺพปานกาทิปานํ ขาทนียโภชนียาทิภุฺชิตพฺพวตฺถุฺจ อารพฺภาติ สมฺพนฺโธ. วิฆาโตติ วิฆาตภาโว, จิตฺตสฺส ทุกฺขํ น โหตีติ โยชนา. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ‘‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส ปจฺจยา สุลภา’’ติ ลภิตพฺพฏฺานคมเนน วา ‘‘มยฺหํ ปาปุณาติ, น ตุยฺห’’นฺติ วิวาทาปชฺชเนน วา นวกมฺมกรณาทิวเสน วา เสนาสนาทีนิ ปริเยสนฺตานํ อสนฺตุฏฺานํ อิจฺฉิตาลาภาทินา โย วิฆาโต จิตฺตสฺส โหติ, โส ตตฺถ สนฺตุฏฺสฺส น โหติ. ทิสา นปฺปฏิหฺตีติ สนฺตุฏฺิยา จาตุทฺทิสภาเวน ทิสา น ปฏิหนติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ, สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรนา’’ติ (สุ. นิ. ๔๒).

สมณธมฺมสฺส อนุโลมาติ สมณธมฺมสฺส สมถวิปสฺสนาภาวนาย, อริยมคฺคสฺเสว วา อนุจฺฉวิกา อปฺปิจฺฉตาทโย. ตุฏฺจิตฺตสฺส ภิกฺขุโนติ ตุฏฺจิตฺเตน ภิกฺขุนา. อธิคฺคหิตา โหนฺตีติ ปฏิปกฺขธมฺเม อภิภวิตฺวา คหิตา โหนฺติ. อนฺโตคตาติ อพฺภนฺตรคตา. น ปริพาหิราติ น พาหิรา กตา.

สนฺตุฏฺิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อริยวํสสุตฺตวณฺณนา

๒๘. อฏฺเม วํส-สทฺโท ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา นิสีทตี’’ติอาทีสุ ทฺวินฺนํ โคปานสีนํ สนฺธานฏฺาเน เปตพฺพทณฺฑเก อาคโต.

‘‘วํโส วิสาโล จ ยถา วิสตฺโต,

ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา;

วํสกฺกฬีโรว อสชฺชมาโน,

เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. –

อาทีสุ กฏฺเก. ‘‘เภริสทฺโท มุทิงฺคสทฺโท วํสตาลสทฺโท’’ติอาทีสุ ตูริยวิเสเส, เวณูติปิ วุจฺจติ. ‘‘ภินฺเนน ปิฏฺิวํเสน มโต หตฺถี’’ติอาทีสุ หตฺถิอาทีนํ ปิฏฺิเวมชฺเฌ ปเทเส. ‘‘กุลวํสํ เปสฺสามี’’ติอาทีสุ กุลนฺวเย. ‘‘วํสานุรกฺขโก ปเวณีปาลโก’’ติอาทีสุ คุณานุปุพฺพิยํ คุณานํ ปพนฺธปฺปวตฺติยํ. อิธ ปน จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาสงฺขาตคุณานํ ปพนฺเธ ทฏฺพฺโพ. ตสฺส ปน วํสสฺส กุลนฺวยํ คุณนฺวยฺจ นิทสฺสนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขตฺติยวํโสติ ขตฺติยกุลวํโส. เอส นโย เสสปเทสุปิ. สมณวํโส ปน สมณตนฺติ สมณปเวณี. มูลคนฺธาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ยถา สารคนฺธาทีนํ สงฺคโห, เอวเมตฺถ โครสาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, ทุติเยน ปน อาทิ-สเทน กาสิกวตฺถสปฺปิมณฺฑาทีนํ.

อริย-สทฺโท อมิลกฺเขสุปิ มนุสฺเสสุ ปวตฺตติ, เยสํ นิวสนฏฺานํ อริยํ อายตนนฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตน’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๑๕๒; อุทา. ๗๖). โลกิยสาธุชเนสุปิ ‘‘เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธกายสมาจารา, เตสํ อหํ อฺตโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕). อิธ ปน เย ‘‘อารกา กิเลเสหี’’ติอาทินา ลทฺธนิพฺพจนา ปฏิวิทฺธอริยสจฺจา, เต เอว อธิปฺเปตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เก ปน เต อริยา’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อริยา วุจฺจนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เย มหาปณิธานกปฺปโต ปฏฺาย ยาวายํ กปฺโป, เอตฺถนฺตเร อุปฺปนฺนา สมฺมาสมฺพุทฺธา. เต ตาว สรูปโต ทสฺเสตฺวา ตทฺเปิ สมฺมาสมฺพุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺเธ พุทฺธสาวเก จ สงฺคเหตฺวา อนวเสสโต อริเย ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยาว สาสนํ อนฺตรธายติ, ตาว สตฺถา ธรติ เอว นามาติ อิมเมว ภควนฺตํ. เย เจตรหิ พุทฺธสาวกา, เต จ สนฺธาย ปจฺจุปฺปนฺนคฺคหณํ. ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล เต เต ปจฺจุปฺปนฺนาติ เจ, อตีตานาคตคฺคหณํ น กตฺตพฺพํ สิยา.

อิทานิ ยถา ภควา ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสามิ, ยทิทํ ฉ ฉกฺกานี’’ติ ฉฉกฺกเทสนาย (ม. นิ. ๓.๔๒๐) อฏฺหิ ปเทหิ วณฺณํ อภาสิ. เอวํ มหาอริยวํสเทสนาย อริยานํ วํสํ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อริยวํสา อคฺคฺา รตฺตฺา วํสฺา โปราณา, อสํกิณฺณา อสํกิณฺณปุพฺพา น สํกียนฺติ น สํกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺา สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหี’’ติ เยหิ นวหิ ปเทหิ วณฺณํ อภาสิ, ตานิ ตาว อาเนตฺวา โถมนาวเสเนว วณฺเณนฺโต ‘‘เต โข ปเนเต’’ติอาทิมาห. อคฺคาติ ชานิตพฺพา สพฺพวํเสหิ เสฏฺภาวโต เสฏฺภาวสาธนโต จ.

รตฺตฺา จิรรตฺตาติ ชานิตพฺพา รตฺตฺูหิ พุทฺธาทีหิ เตหิ จ ตถา อนุฏฺิตตฺตา. วํสาติ ชานิตพฺพาติ พุทฺธาทีนํ อริยานํ วํสาติ ชานิตพฺพา. โปราณาติ ปุราตนา. น อธุนปฺปตฺติกาติ น อธุนาตนา. อวิกิณฺณาติ น ขิตฺตา น ฉฑฺฑิตา. เตนาห ‘‘อนปนีตา’’ติ. น อปนีตปุพฺพาติ น ฉฑฺฑิตปุพฺพา, ติสฺสนฺนมฺปิ สิกฺขานํ ปริปูรณูปายภาวโต น ปริจฺจตฺตปุพฺพา. ตโต เอว อิทานิปิ น อปนียนฺติ, อนาคเตปิ น อปนียิสฺสนฺติเยว. ธมฺมสภาวสฺส วิชานเนน วิฺู. สมิตปาปา สมณา เจว พาหิตปาปา พฺราหฺมณา จ. เตหิ อปฺปฏิกุฏฺา อปฺปฏิกฺขิตฺตา. เย หิ น ปฏิกฺโกสิตพฺพา, เต อนินฺทิตพฺพา. อครหิตพฺพา อปริจฺจชิตพฺพตาย อปฺปฏิกฺขิปิตพฺพา โหนฺตีติ.

สนฺตุฏฺโติ เอตฺถ ยถาธิปฺเปตสนฺโตสเมว ทสฺเสนฺเตน ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโติ วุตฺตํ, ฌานวิปสฺสนาทิวเสนปิ อิธ ภิกฺขุโน สนฺตุฏฺตา โหตีติ. อิตรีตเรนาติ อิตเรน อิตเรน. อิตรสทฺโท อนิยมวจโน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโน ยํ-กิฺจิสทฺเทหิ สมานตฺโถ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เยน เกนจี’’ติ. สฺวายํ อนิยมวาจิตาย เอว ยถา ถูลาทีนํ อฺตรวจโน, เอวํ ยถาลทฺธาทีนมฺปิ อฺตรวจโนติ. ตตฺถ ทุติยปกฺขสฺเสว อิธ อิจฺฉิตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ โข’’ติอาทิมาห. นนุ จ ยถาลทฺธาทโยปิ ถูลาทโย เอว? สจฺจเมตํ, ตถาปิ อตฺถิ วิเสโส. โย หิ ยถาลทฺเธสุ ถูลาทีสุ สนฺโตโส, โส ยถาลาภสนฺโตโสว, น อิตโร. น หิ โส ปจฺจยมตฺตสนฺนิสฺสโย อิจฺฉิโต, อถ โข อตฺตโน กายพลสารุปฺปภาวสนฺนิสฺสโยปิ. ถูลทุกาทโย ตโยปิ จีวเร ลพฺภนฺติ, มชฺฌิโม จตุปจฺจยสาธารโณ, ปจฺฉิโม ปน จีวเร เสนาสเน จ ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. อิเม ตโย สนฺโตเสติ อิทํ สพฺพสงฺคาหิกนเยน วุตฺตํ. เย หิ ปรโต คิลานปจฺจยํ ปิณฺฑปาเต เอว ปกฺขิปิตฺวา จีวเร วีสติ, ปิณฺฑปาเต ปนฺนรส, เสนาสเน ปนฺนรสาติ สมปฺาส สนฺโตสา วุจฺจนฺติ, เต สพฺเพปิ ยถารหํ อิเมสุ เอว ตีสุ สนฺโตเสสุ สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺตีติ.

จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ ‘‘อิทํ นาม จีวรํ กปฺปิย’’นฺติ ชาติโต จีวรํ ชานิตพฺพํ. จีวรเขตฺตนฺติ จีวรสฺส อุปฺปตฺติกฺเขตฺตํ. ปํสุกูลนฺติ ปํสุกูลจีวรํ, ปํสุกูลลกฺขณปฺปตฺตํ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ. จีวรสนฺโตโสติ จีวเร ลพฺภมาโน สพฺโพ สนฺโตโส ชานิตพฺโพ. จีวรปฺปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ, ยานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตเสน สมฺมเทว สนฺตุฏฺโ โหตีติ. โขมกปฺปาสิกโกเสยฺยกมฺพลสาณภงฺคานิ โขมาทีนิ. ตตฺถ โขมํ นาม โขมสุตฺเตหิ วายิตํ โขมปฏฺฏจีวรํ. ตถา เสสานิปิ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺเตหิ กตจีวรํ. ภงฺคนฺติ ปน โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ, เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา กตจีวรํ. ภงฺคมฺปิ วากมยเมวาติ เกจิ. ฉาติ คณนปริจฺเฉโท. ยทิ เอวํ อิโต อฺา วตฺถชาติ นตฺถีติ? โน นตฺถิ. สา ปน เอเตสํ อนุโลมาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกูลาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน ปตฺตุณฺณํ, โสมารปฏฺฏํ, จีนปฏฺฏํ, อิทฺธิชํ, เทวทินฺนนฺติ เตสํ สงฺคโห. ตตฺถ ทุกูลํ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ปตฺตุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ ปตฺตุณฺณํ. ‘‘โกเสยฺยวิเสโส’’ติ หิ อภิธานโกเส วุตฺตํ. โสมารเทเส จีนเทเส จ ชาตวตฺถานิ โสมารจีนปฏฺฏานิ. ปตฺตุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชํ เอหิภิกฺขูนํ ปุฺิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ, ตํ โขมาทีนํ อฺตรํ โหตีติ เตสํ เอว อนุโลมํ. เทวตาหิ ทินฺนจีวรํ เทวทินฺนํ, ตํ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ, ตมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสุ อฺตรภาวโต.

อิมานีติ อนฺโตคธาวธารณวจนํ, อิมานิ เอวาติ อตฺโถ. พุทฺธาทีนํ ปริโภคโยคฺคตาย กปฺปิยจีวรานิ. อิทานิ อวธารเณน นิวตฺติตานิ เอกเทเสน ทสฺเสตุํ ‘‘กุสจีร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กุสติเณหิ อฺเหิ วา ตาทิเสหิ ติเณหิ กตจีวรํ กุสจีรํ. อกฺกวากาทีหิ วาเกหิ กตจีวรํ วากจีรํ. จตุกฺโกเณหิ ติโกเณหิ วา ผลเกหิ กตจีวรํ ผลกจีรํ. มนุสฺสานํ เกเสหิ กตกมฺพลํ เกสกมฺพลํ. จามริวาลอสฺสวาลาทีหิ กตํ วาลกมฺพลํ. มกจิตนฺตูหิ วายิโต โปตฺถโก. จมฺมนฺติ มิคจมฺมาทิ ยํ กิฺจิ จมฺมํ. อุลูกปกฺเขหิ คนฺถิตฺวา กตจีวรํ อุลูกปกฺขํ. ภุชปตฺตตจาทิมยํ รุกฺขทุสฺสํ. ติรีฏกนฺติ อตฺโถ. สุขุมตราหิ ลตาหิ ลตาวาเกหิ วา วายิตํ ลตาทุสฺสํ. เอรกวาเกหิ กตํ เอรกทุสฺสํ. ตถา กทลิทุสฺสํ. สุขุเมหิ เวฬุวิลีเวหิ กตํ เวฬุทุสฺสํ. อาทิ-สทฺเทน วกฺกลาทีนํ สงฺคโห. อกปฺปิยจีวรานิ ติตฺถิยทฺธชภาวโต.

อฏฺนฺนํ มาติกานํ วเสนาติ ‘‘สีมาย เทติ, กติกาย เทตี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๗๙) อาคตานํ อฏฺนฺนํ จีวรุปฺปตฺติมาติกานํ วเสน. จีวรานํ ปฏิลาภกฺเขตฺตทสฺสนตฺถฺหิ ภควตา ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา’’ติอาทินา มาติกา ปิตา. มาติกาติ หิ มาตโร จีวรุปฺปตฺติชนิกาติ.

โสสานิกนฺติ สุสาเน ปติตํ. ปาปณิกนฺติ อาปณทฺวาเร ปติตํ. รถิยนฺติ ปุฺตฺถิเกหิ วาตปานนฺตเรน รถิกาย ฉฑฺฑิตโจฬกํ. สงฺการกูฏกนฺติ สงฺการฏฺาเน ฉฑฺฑิตโจฬกํ. สินานนฺติ นหานโจฬกํ, ยํ ภูตเวชฺเชหิ สสีสํ นหายิตฺวา กาลกณฺณิโจฬนฺติ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ. ติตฺถนฺติ ติตฺถโจฬํ, สินานติตฺเถ ฉฑฺฑิตปิโลติกา. อคฺคิทฑฺฒนฺติ อคฺคินา ทฑฺฒปฺปเทสํ. ตฺหิ มนุสฺสา ฉฑฺเฑนฺติ. โคขายิตาทีนิ ปากฏาเนว. ตานิปิ หิ มนุสฺสา ฉฑฺเฑนฺติ. ธชํ อุสฺสาเปตฺวาติ นาวํ อาโรหนฺเตหิ วา ยุทฺธํ ปวิสนฺเตหิ วา ธชยฏฺึ อุสฺสาเปตฺวา, ตตฺถ พทฺธํ วาเตน อานีตํ เตหิ ฉฑฺฑิตนฺติ อธิปฺปาโย.

สาทกภิกฺขุนาติ คหปติจีวรสฺส สาทิยนภิกฺขุนา. เอกมาสมตฺตนฺติ จีวรมาสสฺิตํ เอกมาสมตฺตํ วิตกฺเกตุํ วฏฺฏติ, น ตโต ปรนฺติ อธิปฺปาโย. สพฺพสฺสปิ หิ ตณฺหานิคฺคหตฺถา สาสเน ปฏิปตฺตีติ. ปํสุกูลิโก อทฺธมาเสเนว กโรติ อปรปฺปฏิพทฺธตฺตา ปฏิลาภสฺส, อิตรสฺส ปน ปรปฺปฏิพทฺธตฺตา มาสมตฺตํ อนุฺาตํ. อิทํ มาสฑฺฒมาสมตฺตํ…เป… วิตกฺกสนฺโตโส วิตกฺเกนฺตสฺส ปริมิตกาลิกตฺตา. มหาเถรํ ตตฺถ อตฺตโน สหายํ อิจฺฉนฺโตปิ ครุคารเวน ‘‘คามทฺวารํ, ภนฺเต, คมิสฺสามิ’’อิจฺเจวาห. เถโรปิ ตสฺส อชฺฌาสยํ ตฺวา ‘‘อหมฺปาวุโส, คมิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺกสฺส อวสโร มา โหตู’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉมาโน คามํ ปาวิสิ. อุจฺจารปลิพุทฺโธติ อุจฺจาเรน ปีฬิโต. ตทา ภควโต ทุกฺกรกิริยานุสฺสรณมุเขน ตถาคเต อุปฺปนฺนสฺส ปีติโสมนสฺสเวคสฺส พลวภาเวน กิเลสานํ วิกฺขมฺภิตตฺตา ตสฺมึเยว…เป… ตีณิ ผลานิ ปตฺโต.

กตฺถ ลภิสฺสามีติ จินฺตนาปิ ลาภาสาปุพฺพิกาติ ตถา ‘‘อจินฺเตตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สุนฺทรํ ลภิสฺสามิ, มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติเอวมาทิจินฺตนาย กา นาม กถา, กถํ ปน คนฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานสีเสเนว คมน’’นฺติ. เตน จีวรํ ปฏิจฺจ กิฺจิปิ น จินฺเตตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ. อเปสโล อปฺปติรูปายปิ ปริเยสนาย ปจฺจโย ภเวยฺยาติ ‘‘เปสลํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อาหริยมานนฺติ สุสานาทีสุ ปติตํ วตฺถํ ‘‘อิเม ภิกฺขู ปํสุกูลปริเยสนํ จรนฺตี’’ติ ตฺวา เกนจิ ปุริเสน ตโต อานียมานํ. เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสปีติ เอวํ ปฏิลาภสนฺโตสํ อโกเปตฺวา ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสปิ. อตฺตโน ปโหนกมตฺเตเนวาติ ยถาลทฺธานํ ปํสุกูลานํ เอกปฏฺฏทุปฏฺฏานํ อตฺถาย อตฺตโน ปโหนกปฺปมาเณเนว. อวธารเณน อุปริ ปจฺจาสํ นิวตฺเตติ. คาเม ภิกฺขาย อาหิณฺฑนฺเตน สปทานจารินา วิย ทฺวารปฺปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนํ นาม โลลุปฺปสฺส ทูรสมุสฺสาริตตฺตา.

ยาเปตุนฺติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตตุํ. โธวนุปเคนาติ โธวนโยคฺเคน. ปณฺณานีติ อมฺพชมฺพาทิปณฺณานิ. อโกเปตฺวาติ สนฺโตสํ อโกเปตฺวา. ปโหนกนีหาเรเนวาติ อนฺตรวาสกาทีสุ ยํ กาตุกาโม, ตสฺส ปโหนกนิยาเมเนว ยถาลทฺธํ ถูลสุขุมาทึ คเหตฺวา กรณํ. ติมณฺฑลปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสวาติ นิวาสนํ เจ นาภิมณฺฑลํ, ชาณุมณฺฑลํ, อิตรฺเจ คลวาฏมณฺฑลํ, ชาณุมณฺฑลนฺติ ติมณฺฑลปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ. ตํ ปน อตฺถโต ติณฺณํ จีวรานํ เหฏฺิมนฺเตน วุตฺตปริมาณํเยว โหติ. อวิจาเรตฺวา น วิจาเรตฺวา.

กุสิพนฺธนกาเลติ มณฺฑลานิ โยเชตฺวา สิพฺพนกาเล. สตฺต วาเรติ สตฺต สิพฺพนวาเร. กปฺปพินฺทุอปเทเสน กสฺสจิ วิการสฺส อกรณํ กปฺปสนฺโตโส.

สีตปฺปฏิฆาตนาทิ อตฺถาปตฺติโต สิชฺฌตีติ มุขฺยเมว จีวรปริโภเค ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสนา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ภควา ‘‘ยาวเทว หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนตฺถ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; มหานิ. ๒๐๖). วฏฺฏติ, น ตาวตา สนฺโตโส กุปฺปติ สมฺภารานํ ทกฺขิเณยฺยานํ อลาภโต. สารณียธมฺเม ตฺวาติ สีลวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สาธารณโภคิภาเว ตฺวา. อิตีติอาทินา ปมสฺเสว อริยวํสสฺส ปํสุกูลิกงฺคเตจีวริกงฺคานํ เตสฺจสฺส ปจฺจยตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิเม ธมฺมา อฺมฺสฺส สมุฏฺาปกา อุปตฺถมฺภกา จา’’ติ ทีเปติ. เอส นโย อิโต ปเรสุ.

สนฺตุฏฺโ โหติ วณฺณวาทีติ เอตฺถ จตุกฺโกฏิกํ สมฺภวติ. ตตฺถ จตุตฺโถเยว ปกฺโข วณฺณิตโถมิโตติ ตถา เทสนา กตา. เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ เสยฺยถาปิ เถโร นาฬโก. เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ เสยฺยถาปิ อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต. เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ เสยฺยถาปิ เถโร ลาฬุทายิ. เอโก สนฺตุฏฺโ เจว โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ เสยฺยถาปิ เถโร มหากสฺสโป.

อเนสนนฺติ อยุตฺตํ เอสนํ. เตนาห ‘‘อปฺปติรูป’’นฺติ, สาสเน ิตานํ อปฺปติรูปํ อโยคฺคํ. โกหฺํ กโรนฺโตติ จีวรุปฺปาทนนิมิตฺตํ ปเรสํ กุหนํ วิมฺหาปนํ กโรนฺโต. อุตฺตสตีติ ตณฺหาสนฺตาเสน อุปรูปริ ตสติ. ปริตสฺสตีติ ปริโต ตสฺสติ. ยถา สพฺเพ กายวจิปฺปโยคา ตทตฺถา เอว ชายนฺติ, เอวํ สพฺพภาเคหิ ตสติ. คธิตํ วุจฺจติ คิทฺโธ, โส เจตฺถ อภิชฺฌาลกฺขโณ อธิปฺเปโต. คธิตํ เอตสฺส นตฺถีติ อคธิโตติ อาห ‘‘วิคตโลภคิทฺโธ’’ติ. มุจฺฉนฺติ ตณฺหาวเสน มุยฺหนํ. ตสฺส สมุสฺสยสฺส อธิคตํ อนาปนฺโน อนุปคโต. อโนตฺถโต อนชฺโฌตฺถโต. อปริโยนทฺโธติ ตณฺหจฺฉทเนน อจฺฉาทิโต. อาทีนวํ ปสฺสมาโนติ ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ โทสํ ปสฺสนฺโต. คธิตปริโภคโต นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, อิทมฏฺิกตา. ตํ ปชานาตีติ นิสฺสรณปฺโ. เตนาห ‘‘ยาวเทว…เป… ชานนฺโต’’ติ.

เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ อตฺตานํ เนว อุกฺกํเสติ น อุกฺขิปติ น อุกฺกฏฺโต ทหติ. อหนฺติอาทิ อุกฺกํสนาการทสฺสนํ. น วมฺเภติ น หีเฬติ น นิหีนโต ทหติ. ตสฺมึ จีวรสนฺโตเสติ ตสฺมึ ยถาวุตฺเต วีสติวิเธ จีวรสนฺโตเส. กามฺเจตฺถ วุตฺตปฺปการสนฺโตสคฺคหเณเนว จีวรเหตุ อเนสนาปชฺชนาทิปิ คหิตเมว ตสฺมึ สติ ตสฺส ภาวโต, อสติ จ อภาวโต. วณฺณวาทิตาอตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนานิ ปน คหิตานิ น โหนฺตีติ ‘‘วณฺณวาทาทีสุ วา’’ติ วิกปฺโป วุตฺโต. เอตฺถ จ ทกฺโขติอาทิ เยสํ ธมฺมานํ วเสนสฺส ยถาวุตฺตสนฺโตสาที อิชฺฌนฺติ, ตํทสฺสนํ. ตตฺถ ทกฺโขติ อิมินา เตสํ สมุฏฺาปนปฺํ ทสฺเสติ. อนลโสติ อิมินา ปคฺคณฺหนวีริยํ, สมฺปชาโนติ อิมินา ปาริหาริยปฺํ, ปฏิสฺสโตติ อิมินา ตตฺถ อสมฺโมสวุตฺตึ ทสฺเสติ.

ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพติ ปเภทโต ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ. ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตนฺติ ปิณฺฑปาตสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ. ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสปฺปเภโท ชานิตพฺโพ. อิธ เภสชฺชมฺปิ ปิณฺฑปาตคติกเมว. อาหริตพฺพโต หิ สปฺปิอาทีนมฺปิ คหณํ กตํ.

ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตํ ปิณฺฑปาตสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ เขตฺตํ วิย เขตฺตํ. อุปฺปชฺชติ เอตฺถ, เอเตนาติ จ อุปฺปตฺติฏฺานํ. สงฺฆโต วา หิ ภิกฺขุโน ปิณฺฑปาโต อุปฺปชฺชติ อุทฺทิสฺสวเสน วา. ตตฺถ สกลสฺส สงฺฆสฺส ทาตพฺพภตฺตํ สงฺฆภตฺตํ. กติปเย ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา อุทฺเทเสน ทาตพฺพภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ. นิมนฺเตตฺวา ทาตพฺพภตฺตํ นิมนฺตนํ. สลากาย ทาตพฺพภตฺตํ สลากภตฺตํ. เอกสฺมึ ปกฺเข เอกทิวสํ ทาตพฺพภตฺตํ ปกฺขิกํ. อุโปสเถ อุโปสเถ ทาตพฺพภตฺตํ อุโปสถิกํ. ปาฏิปททิวเส ทาตพฺพภตฺตํ ปาฏิปทิกํ. อาคนฺตุกานํ ทาตพฺพภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ. ธุรเคเห เอว เปตฺวา ทาตพฺพภตฺตํ ธุรภตฺตํ. กุฏึ อุทฺทิสฺส ทาตพฺพภตฺตํ กุฏิภตฺตํ. คามวาสิอาทีหิ วาเรน ทาตพฺพภตฺตํ วารภตฺตํ. วิหารํ อุทฺทิสฺส ทาตพฺพภตฺตํ วิหารภตฺตํ. เสสานิ ปากฏาเนว.

วิตกฺเกติ ‘‘กตฺถ นุ โข อหํ อชฺช ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ. ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ เถเรน วุตฺเต ‘‘อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ กามเมตํ ปฏิวจนทานํ, เยน ปน จิตฺเตน จินฺเตตฺวา ตํ วุตฺตํ, ตํ สนฺธายาห ‘‘เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา’’ติ. ตโต ปฏฺายาติ วิตกฺกมาฬเก ตฺวา วิตกฺกิตกาลโต ปฏฺาย. ตโต ปรํ วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหตีติ อิทํ ติณฺณมฺปิ อริยวํสิกานํ วเสน คเหตพฺพํ, น เอกจาริกสฺเสว. สพฺโพปิ หิ อริยวํสิโก เอกวารเมว วิตกฺเกตุํ ลภติ, น ตโต ปรํ. ปริพาหิโรติ อริยวํสิกภาวโต พหิภูโต. สฺวายํ วิตกฺกสนฺโตโส กมฺมฏฺานมนสิกาเรน น กุปฺปติ วิสุชฺฌติ จ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. เตเนวาห ‘‘กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพ’’นฺติ. คเหตพฺพเมวาติ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท. ยาปนมตฺตเมว คเหตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํ.

เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปิณฺฑปาตปฺปฏิคฺคหเณ. อปฺปนฺติ อตฺตโน ยาปนปฺปมาณโตปิ อปฺปํ คเหตพฺพํ ทายกสฺส จิตฺตาราธนตฺถํ. ปมาเณเนวาติ อตฺตโน ปมาเณเนว อปฺปํ คเหตพฺพํ. ปมาเณน คเหตพฺพนฺติ เอตฺถ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิคฺคหณสฺมิฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. มกฺเขตีติ วิทฺธํเสติ อปเนติ. วินิปาเตติ วินาเสติ อฏฺานวินิโยเคน. สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ อนุสิฏฺึ น กโรติ น ปฏิปชฺชติ. สปทานจารินา วิย ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโสติ อาห ‘‘ทฺวารปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพ’’นฺติ.

หราเปตฺวาติ อธิกํ อปเนตฺวา. อาหารเคธโต นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ. ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนตฺถํ กตา, กายสฺส ิติอาทิปโยชนํ ปน อตฺถาปตฺติโต อาคตเมวาติ อาห ‘‘ชิฆจฺฉาย…เป… สนฺโตโส นามา’’ติ. นิทหิตฺวา น ปริภุฺชิตพฺพํ ตทหุปีติ อธิปฺปาโย. อิตรตฺถ ปน สิกฺขาปเทเนว วาริตํ. สารณียธมฺเม ิเตนาติ สีลวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สาธารณโภคิภาเว ิเตน.

เสนาสเนนาติ สยเนน อาสเนน จ. ยตฺถ ยตฺถ หิ มฺจาทิเก วิหาราทิเก จ เสติ, ตํ เสนํ. ยตฺถ ยตฺถ ปีาทิเก อาสติ, ตํ อาสนํ. ตทุภยํ เอกโต กตฺวา ‘‘เสนาสน’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มฺโจ’’ติอาทิ. ตตฺถ มฺโจ มสารกาทิ. ตถา ปีํ. มฺจภิสิ, ปีภิสีติ ทุวิโธ ภิสิ. วิหาโร ปาการปริจฺฉินฺโน สกโล อาวาโส, ‘‘ทีฆมุขปาสาโท’’ติ เกจิ. อฑฺฒโยโค ทีฆปาสาโท, ‘‘เอกปสฺสจฺฉาทนกเสนาสน’’นฺติ เกจิ. ปาสาโทติ จตุรสฺสปาสาโท, ‘‘อายตจตุรสฺสปาสาโท’’ติ เกจิ. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. คุหาติ เกวลา ปพฺพตคุหา. เลณํ ทฺวารพนฺธํ. อฏฺโฏ พหลภิตฺติกเคหํ, ยสฺส โคปานสิโย อคฺคเหตฺวา อิฏฺกาหิ เอว ฉทนํ โหติ, ‘‘อฏฺฏลากาเรน กรียตี’’ติปิ วทนฺติ. มาโฬ เอกกูฏสงฺคหิโต อเนกโกโณ ปฏิสฺสยวิเสโส, ‘‘วฏฺฏากาเรน กตเสนาสน’’นฺติ เกจิ.

ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สาทโก ภิกฺขุ ‘อหํ กตฺถ วสิสฺสามี’ติ วิตกฺเกตี’’ติอาทินา ยถารหํ ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ‘‘ตโต ปรํ วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร, เสนาสนํ กุหึ ลภิสฺสามีติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คนฺตพฺพ’’นฺติ จ เอวมาทิ สพฺพํ ปุริมนเยเนว.

กสฺมา ปเนตฺถ ปจฺจยสนฺโตสํ ทสฺเสนฺเตน ภควตา คิลานปจฺจยสนฺโตโส น คหิโตติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘คิลานปจฺจโย ปน ปิณฺฑปาเต เอว ปวิฏฺโ’’ติ อาห, อาหริตพฺพตาสามฺเนาติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ตตฺถาปิ ปิณฺฑปาเต วิย วิตกฺกสนฺโตสาทโยปิ ปนฺนรส สนฺโตสา อิจฺฉิตพฺพาติ? โนติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. นนุ เจตฺถ ทฺวาทเสว ธุตงฺคานิ วินิโยคํ คตานิ, เอกํ ปน เนสชฺชิกงฺคํ น กตฺถจิ วินิยุตฺตนฺติ อาห ‘‘เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชตี’’ติ. อยฺจ อตฺโถ อฏฺกถารุฬฺโห เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิมาห.

ปถวึ ปตฺถรมาโน วิยาติอาทิ อริยวํสเทสนาย สุทุกฺกรภาวทสฺสนํ มหาวิสยตฺตา ตสฺสา เทสนาย. ยสฺมา นยสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ โหติ, อริยมคฺคาธิคมาย วิตฺถารโต ปวตฺติยมานา เทสนา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ อยฺจ ภาวนารามอริยวํสกถา อริยมคฺคาธิคมาย วิตฺถารโต ปวตฺติยมานา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สหสฺสนยปฏิมณฺฑิตํ…เป… เทสนํ อารภี’’ติ.

ปฏิปกฺขวิธมนโต อภิมุขภาเวน รมณํ อารมณํ อาราโมติ อาห ‘‘อภิรตีติ อตฺโถ’’ติ. พฺยธิกรณานมฺปิ ปทานํ วเสน ภวติ พาหิรตฺถสมาโส ยถา ‘‘อุรสิโลโม กณฺเกาโฬ’’ติ อาห ‘‘ภาวนาย อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโม’’ติ. อภิรมิตพฺพฏฺเน วา อาราโม, ภาวนา อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโมติ เอวมฺเปตฺถ สมาสโยชนา เวทิตพฺพา. ภาเวนฺโต รมตีติ เอเตน ภาวนารามสทฺทานํ กตฺตุสาธนตํ กมฺมธารยสมาสตฺจ ทสฺเสติ. ‘‘ปชหนฺโต รมตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปหานาราโมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

กามํ ‘‘เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชตี’’ติ วุตฺตํ ภาวนานุโยคสฺส อนุจฺฉวิกตฺตา, เนสชฺชิกงฺควเสน ปน เนสชฺชิกสฺส ภิกฺขุโน เอกจฺจาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติภาโวติ ตมฺปิ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘เตรสนฺนํ ธุตงฺคาน’’นฺติ วตฺวา วินยํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพนฺติ อิจฺฉิตตฺตา สลฺเลขสฺส อปริจฺจชนวเสน ปฏิปตฺติ นาม วินเย ิตสฺเสวาติ อาห ‘‘เตรสนฺนํ…เป… กถิตํ โหตี’’ติ. กามํ สุตฺตาภิธมฺมปิฏเกสุปิ ตตฺถ ตตฺถ สีลกถา อาหฏาเยว, เยหิ ปน คุเณหิ สีลสฺส โวทานํ โหติ, เตสุ กถิเตสุ ยถา สีลกถาพาหุลฺลํ วินยปิฏกํ กถิตํ โหติ, เอวํ ภาวนากถาพาหุลฺลํ สุตฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกฺจ จตุตฺเถน อริยวํเสน กถิเตน กถิตเมว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ภาวนาราเมน อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ กถิต’’นฺติ. ‘‘โส เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต รมตี’’ติ เนกฺขมฺมปทํ อาทึ กตฺวา ตตฺถ เทสนาย ปวตฺตตฺตา สพฺเพสมฺปิ วา สมถวิปสฺสนามคฺคธมฺมานํ ยถาสกํ ปฏิปกฺขโต นิกฺขมเนน เนกฺขมฺมสฺิตานํ ตตฺถ อาคตตฺตา โส ปาโ เนกฺขมฺมปาฬีติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘เนกฺขมปาฬิยา กเถตพฺโพ’’ติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพปิ กุสลา ธมา, เนกฺขมฺมนฺติ ปวุจฺจเร’’ติ. ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ ทสุตฺตรสุตฺตนฺตธมฺเมน (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) ทสุตฺตรสุตฺตนฺเต อาคตนเยนาติ วา อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

โสติ ชาคริยํ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ. เนกฺขมฺมนฺติ กาเมหิ นิกฺขนฺตภาวโต เนกฺขมฺมสฺิตํ ปมชฺฌานูปจารํ, โส ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหายา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๐๘) อาคโต. ปมชฺฌานสฺส ปุพฺพภาคภาวนา หิ อิธาธิปฺเปตา, ตสฺมา ‘‘อพฺยาปาท’’นฺติอาทีสุปิ เอวเมว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สอุปายานฺหิ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ อฏฺารสนฺนํ มหาวิปสฺสนานํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานฺจ วเสเนตฺถ เทสนา ปวตฺตาติ. ตตฺถ อพฺยาปาทนฺติ เมตฺตา. อาโลกสฺนฺติ วิภูตํ กตฺวา มนสิกรเณน อุปฏฺิตอาโลกสฺชานนํ. อวิกฺเขปนฺติ สมาธึ. ธมฺมววตฺถานนฺติ กุสลาทิธมฺมานํ ยาถาวนิจฺฉยํ, ‘‘สปจฺจยนามววตฺถาน’’นฺติปิ วทนฺติ. เอวํ กามจฺฉนฺทาทินีวรณปฺปหาเนน ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหายา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาย ภาวนารามตํ ปหานารามตฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สห อุปาเยน อฏฺสมาปตฺตีหิ อฏฺารสหิ จ มหาวิปสฺสนาหิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘าณ’’นฺติอาทิมาห. นามรูปปริคฺคหณกงฺขาวิตรณานฺหิ วิพนฺธภูตสฺส โมหสฺส ทูรีกรเณน าตปริฺาย ิตสฺส อนิจฺจสฺาทโย สิชฺฌนฺติ. ตถา ฌานสมาปตฺตีสุ อนภิรตินิมิตฺเตน ปาโมชฺเชน ตตฺถ อนภิรติยา วิโนทิตาย ฌานาทีนํ สมธิคโมติ สมาปตฺติวิปสฺสนํ อรติวิโนทนอวิชฺชาปทาลนอุปาโย. อุปฺปฏิปาฏินิทฺเทโส ปน นีวรณสภาวาย อวิชฺชาย เหฏฺานีวรเณสุ สงฺคหทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. กิฺจาปิ ปมชฺฌานูปจาเรเยว ทุกฺขํ, จตุตฺถชฺฌานูปจาเรเยว สุขํ ปหียติ, อติสยปฺปหานํ ปน สนฺธายาห ‘‘จตุตฺถชฺฌานํ สุขทุกฺเข’’ติ.

อนิจฺจสฺส, อนิจฺจนฺติ จ อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา, เตภูมกธมฺมานํ อนิจฺจตํ คเหตฺวา ปวตฺตาย อนุปสฺสนาเยตํ นามํ. นิจฺจสฺนฺติ สงฺขตธมฺเมสุ นิจฺจา สสฺสตาติ ปวตฺตํ มิจฺฉาสฺํ. สฺาสีเสน ทิฏฺิจิตฺตานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. นิพฺพิทานุปสฺสนนฺติ สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนากาเรน ปวตฺตํ อนุปสฺสนํ. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. วิราคานุปสฺสนนฺติ วิรชฺชนากาเรน ปวตฺตํ อนุปสฺสนํ. นิโรธานุปสฺสนนฺติ สงฺขารานํ นิโรธสฺส อนุปสฺสนํ. ‘‘เต สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติเยว, อายตึ สมุทยวเสน น อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ เอวํ วา อนุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา. เตเนวาห ‘‘นิโรธานุปสฺสนาย นิโรเธติ โน สมุเทตี’’ติ. มุจฺจิตุกามตา หิ อยํ พลปฺปตฺตาติ. ปฏินิสฺสชฺชนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา หิ อยํ. อาทานนฺติ นิจฺจาทิวเสน คหณํ. สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณานํ วเสน เอกตฺตคฺคหณํ ฆนสฺา. อายูหนํ อภิสงฺขรณํ. อวตฺถาวิเสสาปตฺติ วิปริณาโม. ธุวสฺนฺติ ถิรภาวคฺคหณํ.

นิมิตฺตนฺติ สมูหฆนวเสน, สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สงฺขารานํ สวิคฺคหตํ. ปณิธินฺติ ราคาทิปณิธึ. สา ปนตฺถโต ตณฺหาวเสน สงฺขาเรสุ นินฺนตา. อภินิเวสนฺติ อตฺตานุทิฏฺิ. อนิจฺจทุกฺขาทิวเสน สพฺพธมฺมตีรณํ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา. สาราทานาภินิเวสนฺติ อสาเร สารนฺติ คหณวิปลฺลาสํ. ‘‘อิสฺสรกุตฺตาทิวเสน โลโก สมุปฺปนฺโน’’ติ อภินิเวโส สมฺโมหาภินิเวโส. เกจิ ปน ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานนฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) ปวตฺตสํสยาปตฺติ สมฺโมหาภินิเวโส’’ติ วทนฺติ. สงฺขาเรสุ ตาณเลณภาวคฺคหณํ อาลยาภินิเวโส. ‘‘อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๔, ๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗, ๘) จ วจนโต อาลโย ตณฺหา, สาเยว จกฺขาทีสุ รูปาทีสุ จ อภินิเวสวเสน ปวตฺติยา อาลยาภินิเวโสติ เกจิ. เอวํ ิตา เต สงฺขารา ปฏินิสฺสชฺชียนฺตีติ ปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา. วฏฺฏโต วิคตตฺตา วิวฏฺฏํ นิพฺพานํ, ตตฺถ อารมฺมณสงฺขาเตน อนุปสฺสเนน ปวตฺติยา วิวฏฺฏานุปสฺสนา โคตฺรภุ. สํโยคาภินิเวสนฺติ สํยุชฺชนวเสน สงฺขาเรสุ นิเวสนํ. ทิฏฺเกฏฺเติ ทิฏฺิยา สหชาเตกฏฺเ ปหาเนกฏฺเ จ. โอฬาริเกติ อุปริมคฺควชฺเฌ กิเลเส อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, อฺถา ทสฺสนปฺปหาตพฺพาปิ ทุติยมคฺควชฺเฌหิปิ โอฬาริกาติ. อณุสหคเตติ อณุภูเต. อิทํ เหฏฺิมมคฺควชฺเฌ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. สพฺพกิเลเสติ อวสิฏฺสพฺพกิเลเส. น หิ ปมาทิมคฺเคหิปิ ปหีนา กิเลสา ปุน ปหียนฺตีติ.

เอวนฺติ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔๑, ๙๕) เนกฺขมฺมปาฬิยา โยชนํ นิคเมตฺวา ทีฆนิกาเยติอาทินา ทสุตฺตรปริยาเยน (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) โยชนํ ทสฺเสติ. เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมตีติ จ นยิทํ ทสุตฺตรสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) อาคตนิยาเมน วุตฺตํ, ตตฺถ ปน ‘‘เอโก ธมฺโม ภาเวตพฺโพ, เอโก ธมฺโม ปหาตพฺโพ’’ติ เทสนา อาคตา. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อตฺถโต เภโท นตฺถิ, ตสฺมา ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔๑, ๙๕) เนกฺขมฺมปาฬิยํ อาคตนีหาเรเนว ‘‘เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมตี’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย เสสวาเรสุปิ.

เอวนฺติอาทินา ทสุตฺตรปริยาเยน (ที. นิ. ๓.๓๕๐ อาทโย) โยชนํ นิคเมตฺวา อิทานิ สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘มชฺฌิมนิกาเย’’ติอาทิ อารทฺธํ. กามฺเจตฺถ กายานุปสฺสนาวเสเนว สํขิปิตฺวา โยชนา กตา, เอกวีสติยา ปน านานํ วเสนปิ โยชนา กาตพฺพา. อิทานิ อภิธมฺมนิทฺเทสปริยาเยน ทสฺเสตุํ ‘‘อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อนิจฺจโตติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๙๘; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๖๙๘) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.

อุกฺกณฺิตนฺติ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ ปนฺตเสนาสเนสุ จ อุกฺกณฺาทิฺจ, อนนุโยโคติ อตฺโถ. อริยวํสปูรโก ธีโร สีลวา ภิกฺขุ อริยวํสปริปูรณสฺส เภทํ อนิจฺฉนฺโต สมาหิโต วิปสฺสโก จ ปจฺจยฆาเตน อรติยา รติยา จ สหิตา อภิภวิตา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อรติรติสโห, ภิกฺขเว, ธีโร’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อริยวํสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ธมฺมปทสุตฺตวณฺณนา

๒๙. นวเม ฌานาทิเภโท ธมฺโม ปชฺชติ เอเตนาติ ธมฺมปทํ, อนภิชฺฌาว ธมฺมปทํ อนภิชฺฌาธมฺมปทํ, อนภิชฺฌาปธาโน วา ธมฺมโกฏฺาโส อนภิชฺฌาธมฺมปทํ. เอวํ เสเสสุปิ. อตฺถโต ปน อนภิชฺฌาธมฺมปทํ นาม อโลโภ วา อโลภสีเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ นาม เมตฺตา วา เมตฺตาสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสติธมฺมปทํ นาม สูปฏฺิตสฺสติ วา สติสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสมาธิธมฺมปทํ นาม อฏฺสมาปตฺติ วา อฏฺสมาปตฺติสีเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. ทสอสุภวเสน วา อธิคตชฺฌานาทีนิ อนภิชฺชา ธมฺมปทํ. จตุพฺรหฺมวิหารวเสน อธิคตานิ อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ. ทสานุสฺสติ อาหาเรปฏิกูลสฺาวเสน อธิคตานิ สมฺมาสติธมฺมปทํ. ทสกสิณอานาปานวเสน อธิคตานิ สมฺมาสมาธิธมฺมปทํ. อนภิชฺฌาลูติ อนภิชฺฌายนสีโล. อภิปุพฺโพ เฌสทฺโท อภิชฺฌายนฏฺโ. เตเนวาห ‘‘นิตฺตณฺโห หุตฺวา’’ติ. ปกติภาวํ อวิชหนฺเตนาติ ปริสุทฺธภาวํ สภาวสงฺขาตอนวชฺชสงฺขาตํ ปกติภาวํ อวิชหนฺเตน. สาวชฺชธมฺมสมุปฺปตฺติยา หิ จิตฺตสฺส อนวชฺชภาโว ชหิโต โหตีติ.

ธมฺมปทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา

๓๐. ทสเม อภิฺาตาติ เอทิโส จ เอทิโส จาติ อภิลกฺขณวเสน าตา. เตนาห ‘‘าตา ปากฏา’’ติ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เอตฺถ ปฏิสลฺลานนฺติ เตหิ เตหิ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกอุปาสกาทิสตฺเตหิ เจว รูปารมฺมณาทิสงฺขาเรหิ จ ปฏินิวตฺติตฺวา อปสกฺกิตฺวา สลฺลีนํ นิลียนํ, เอกีภาโว ปวิเวโกติ วุตฺตํ โหติ. โย ตโต วุฏฺิโต, โส ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต นาม โหติ. ภควา ปน ยสฺมา ปฏิสลฺลานา อุตฺตมโต ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาสิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต’’ติ. วตฺถุกาเมสูติ รูปาทีสุ กิเลสกามสฺส วตฺถุภูเตสุ กาเมสุ. พหลราคนฺติ ถิรมูลทุมฺโมจนียตาหิ อชฺโฌสาเนน พหลภูตํ กิเลสกามํ. สการณาติ เยหิ การเณหิ ปเรสํ วาเท โทสํ ทสฺเสนฺติ, เตหิ การเณหิ สการณา. น หิ ลกฺขณยุตฺเตน เหตุนา วินา ปรวาเทสุ โทสํ ทสฺเสตุํ สกฺกา.

เอวมาทีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ, ตสฺมา เอวมาทิวาทิโน เอวํ เหตุปฺปฏิกฺเขปวาทิโนติ อตฺโถ. เอตฺถ จ นตฺถิกทิฏฺิ วิปากํ ปฏิพาหติ, อกิริยทิฏฺิ กมฺมํ ปฏิพาหติ, อเหตุกทิฏฺิ อุภยํ ปฏิพาหติ. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิพาหนฺเตน วิปาโก ปฏิพาหิโต โหติ, วิปากํ ปฏิพาหนฺเตนปิ กมฺมํ ปฏิพาหิตํ. อิติ สพฺเพเปเต อตฺถโต อุภยปฏิพาหกา อเหตุวาทา เจว อกิริยวาทา จ นตฺถิกวาทา จ โหนฺติ.

โอกฺกนฺตนิยมาติ โอคาฬฺหมิจฺฉตฺตนิยมา. สชฺฌายตีติ ตํ ทิฏฺิทีปกํ คนฺถํ อุคฺคเหตฺวา ปติ. วีมํสตีติ ตสฺส อตฺถํ วิจาเรติ. ตสฺสาติอาทิ วีมํสนาการทสฺสนํ. ตสฺมึ อารมฺมเณติ ยถาปริกปฺปิตเหตุปจฺจยาภาวาทิเก นตฺถิ เหตูติอาทินยปฺปวตฺตาย ลทฺธิยา อารมฺมเณ. มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺตีติ ‘‘นตฺถิ เหตู’’ติอาทิวเสน อนุสฺสวูปลทฺเธ อตฺเถ ตทาการปริวิตกฺกเนหิ สวิคฺคเห วิย สรูปโต จิตฺตสฺส ปจฺจุปฏฺิเต จิรกาลปริจเยน เอวเมตนฺติ นิชฺฌานกฺขมภาวูปคมเนน นิชฺฌานกฺขนฺติยา ตถาคหิเต ปุนปฺปุนํ ตเถว อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส มิจฺฉาวิตกฺเกน สมานียมานา มิจฺฉาวายาโมปตฺถมฺภิตา อตํสภาวํ ตํสภาวนฺติ คณฺหนฺตี มิจฺฉาสตีติ ลทฺธนามา ตํลทฺธิสหคตา ตณฺหา สนฺติฏฺติ. จิตฺตํ เอกคฺคํ โหตีติ ยถาวุตฺตวิตกฺกาทิปจฺจยลาเภน ตสฺมึ อารมฺมเณ อวฏฺิตตาย อเนกคฺคตํ ปหาย จิตฺตํ เอกคฺคํ อปฺปิตํ วิย โหติ มิจฺฉาสมาธินา. โสปิ หิ ปจฺจยวิเสเสน ลทฺธภาวนาพโล กทาจิ สมาธานปฏิรูปกิจฺจกโร โหติเยว ปหรณวิชฺฌนาทีสุ วิยาติ ทฏฺพฺพํ.

ชวนานิ ชวนฺตีติ อเนกกฺขตฺตุํ เตนากาเรน ปุพฺพภาคิเยสุ ชวนวาเรสุ ปวตฺเตสุ สพฺพปจฺฉิเม ชวนวาเร สตฺต ชวนานิ ชวนฺติ. ปมชวเน สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสูติ ธมฺมสภาวทสฺสนเมตํ, น ปน ตสฺมึ ขเณ เตสํ สเตกิจฺฉภาวาปาทนํ เกนจิ สกฺกา กาตุํ. ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ มิจฺฉาทสฺสเนสุ. โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมตีติ ยสฺส เอกสฺมึเยว อภินิเวโส อาเสวนา ปวตฺตา, โส เอกํเยว ทสฺสนํ โอกฺกมติ. ยสฺส ทฺวีสุ ตีสุปิ วา อภินิเวโส อาเสวนา ปวตฺตา, โส ทฺเว ตีณิ โอกฺกมติ. เอเตน ยา ปุพฺเพ อุภยปฏิพาหิกตามุเขน ปวตฺตา อตฺถสิทฺธา สพฺพทิฏฺิกา, สา ปุพฺพภาคิยา, มิจฺฉานิยาโมกฺกนฺติยา ปน ยถาสกํ ปจฺจยสมุทาคมทิฏฺิโต ภินฺนารมฺมณานํ วิย วิเสสาธิคมานํ เอกชฺฌํ อนุปฺปตฺติยา อภิกิณฺณา เอวาติ ทสฺเสติ. เอกสฺมึ โอกฺกนฺเตปิ ทฺวีสุ ตีสุ โอกฺกนฺเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหตีติ อิมินา ติสฺสนฺนมฺปิ ทิฏฺีนํ สมานผลตํ สมานพลฺจ ทสฺเสติ. ตสฺมา ติสฺโสปิ เจตนา เอกสฺส อุปฺปนฺนา อฺมฺํ อนุพลปฺปทายิกา โหนฺติ.

กึ ปเนส เอตสฺมิฺเว อตฺตภาเว นิยโต, อุทาหุ อฺสฺมิมฺปีติ? เอตสฺมิฺเว นิยโต. อกุสลฺหิ นาเมตํ อพลํ, น กุสลํ วิย มหาพลํ. อฺถา สมฺมตฺตนิยาโม วิย อจฺจนฺติโก สิยา, อาเสวนวเสน ปน ภวนฺตเรปิ ตํ ตํ ทิฏฺึ โรเจติเยว. เตเนวาห ‘‘วฏฺฏขาณุโก นาเมส สตฺโต’’ติ. ตสฺมา ‘‘สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโค เอว พาโล’’ติ วิย วฏฺฏขาณุโชตนา, ยาทิเสหิ ปน ปจฺจเยหิ อยํ ตํ ทสฺสนํ โอกฺกนฺโต ปุน กทาจิ มิจฺฉตฺตนิยาโม ตปฺปฏิกฺเขปปจฺจเย ปฏิจฺจ ตโต สีสุกฺเขปนมสฺส น โหตีติ น วตฺตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ. เอทิสาติ ‘‘พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺฉา’’ติอาทินา วุตฺตสทิสา.

อตฺตโน นินฺทาภเยนาติ ‘‘สมฺมา ทิฏฺิฺจ นาม เต ครหนฺตี’’ติอาทินา อตฺตโน อุปริ ปเรหิ วตฺตพฺพนินฺทาภเยน. ฆฏฺฏนภเยนาติ ตถา ปเรสํ อปสาทนภเยน. สหธมฺเมน ปเรน อตฺตโน อุปริ กาตพฺพนิคฺคโห อุปารมฺโภ, ตโต ปริตฺตาโส อุปารมฺภภยํ. ตํ ปน อตฺถโต อุปวาทภยํ โหตีติ อาห ‘‘อุปวาทภเยนา’’ติ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน อภิชฺฌา วินยติ เอเตนาติ อภิชฺฌาวินโย, อรหตฺตผลํ. เตนาห ‘‘อภิชฺฌาวินโย วุจฺจติ อรหตฺต’’นฺติ.

ปริพฺพาชกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุรุเวลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จกฺกวคฺโค

๑. จกฺกสุตฺตวณฺณนา

๓๑. จตุตฺถสฺส ปเม จตฺตาริ จกฺกานีติ เอตฺถ จกฺกํ นาม ทารุจกฺกํ, รตนจกฺกํ, ธมฺมจกฺกํ, อิริยาปถจกฺกํ, สมฺปตฺติจกฺกนฺติ ปฺจวิธํ. ตตฺถ ‘‘ยํ ปนิทํ, สมฺม, รถการจกฺกํ ฉหิ มาเสหิ นิฏฺิตํ ฉารตฺตูเนหี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๕) อิทํ ทารุจกฺกํ. ‘‘ปิตรา ปวตฺติตํ จกฺกํ อนุวตฺเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕) อิทํ รตนจกฺกํ. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒; พุ. วํ. ๒๗.๑๗; ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๐, ๑๐๓) อิทํ ธมฺมจกฺกํ. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙, ๑๐๙) อิทํ อิริยาปถจกฺกํ. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ ปวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) อิทํ สมฺปตฺติจกฺกํ. อิธาปิ เอตเทว อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘จตฺตาริ สมฺปตฺติจกฺกานิ วตฺตนฺตี’’ติ. อนุจฺฉวิเก เทเสติ ปุฺกิริยาย สมฺมาปฏิปตฺติยา อนุรูปเทเส. เสวนํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนํ. ภชนํ ภตฺติวเสน ปยิรุปาสนํ. อตฺตโน สมฺมา ปนนฺติ อตฺตโน จิตฺตสนฺตานสฺส โยนิโส ปนํ. สทฺธาทีสุ นิเวสนนฺติ อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. อิทเมว เจตฺถ ปมาณนฺติ อิทเมว ปุพฺเพกตปุฺตาสงฺขาตํ สมฺปตฺติจกฺกํ เอว เอเตสุ สมฺปตฺติจกฺเกสุ ปมาณภูตํ อิตเรสํ การณภาวโต. เตนาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิ. โส เอว จ กตปุฺโ ปุคฺคโล อตฺตานํ สมฺมา เปติ อกตปุฺสฺส ตทภาวโต.

จกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สงฺคหสุตฺตวณฺณนา

๓๒. ทุติเย ตสฺส ทานเมว ทาตพฺพนฺติ ปพฺพชิตสฺส ปพฺพชิตปริกฺขารํ ปตฺตจีวราทิ, คิหิโน คิหิปริกฺขารํ วตฺถาวุธยานสยนาทิ ทาตพฺพํ. สพฺพนฺติ สพฺพํ อุปการํ. มกฺเขตฺวา นาเสติ มกฺขิภาเว ตฺวา. เตเลน วิย มกฺเขตีติ สตโธตเตเลน มกฺเขติ วิย. อตฺถวฑฺฒนกถาติ หิตาวหกถา. กถาคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ, ปเรสํ หิตาวโห กายปฺปโยโคปิ อตฺถจริยา. อฏฺกถายํ ปน วจิปฺปโยควเสเนว อตฺถจริยา วุตฺตา. สมานตฺตตาติ สทิสภาโว, สมานฏฺาเน ปนํ, ตํ ปนสฺส สมานฏฺปนํ อตฺตสทิสตากรณมุเขน เอกสมฺโภคตา. อตฺตโน สุขุปฺปตฺติยํ ตสฺส จ ทุกฺขุปฺปตฺติยํ เตน ทุกฺเขน อตฺตนา เอกสมฺโภคตาติ อาห ‘‘สมานสุขทุกฺขภาโว’’ติ. สา จ สมานสุขทุกฺขตา เอกโต นิสชฺชาทินา ปากฏา โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกาสเน’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ชาติยา หีโน โภเคน อธิโก ทุสฺสงฺคโห โหติ. น หิ สกฺกา เตน สทฺธึ เอกปริโภโค กาตุํ ชาติยา หีนตฺตา. ตสฺส ตถา อกริยมาเน จ โส กุชฺฌติ โภเคน อธิกตฺตา, ตสฺมา โส ทุสฺสงฺคโห. โภเคน หีโน ชาติยา อธิโกปิ ทุสฺสงฺคโห โหติ. โส หิ ‘‘อหํ ชาติมา’’ติ โภคสมฺปนฺเนน สทฺธิ เอกปริโภคํ อิจฺฉติ, ตสฺมึ อกริยมาเน กุชฺฌติ. อุโภหิปิ หีโน สุสงฺคโห โหติ. น หิ โส อิตเรน สทฺธึ เอกปริโภคํ อิจฺฉติ ชาติยา หีนภาวโต, น อกริยมาโน กุชฺฌติ โภเคน หีนภาวโต. อุโภหิ สทิโสปิ สุสงฺคโหเยว. สทิสภาเวเนว อิตเรน สห เอกปริโภคสฺส ปจฺจาสีสาย, อกรเณ จ ตสฺส กุชฺฌนสฺส อภาวโต. ภิกฺขุ ทุสฺสีโล ทุสฺสงฺคโห โหติ. น หิ สกฺกา เตน สทฺธึ เอกปริโภคํ กาตุํ, อกริยมาเน จ กุชฺฌติ. สีลวา ปน สุสงฺคโห โหติ. สีลวา หิ อทียมาเนปิ กิสฺมิฺจิ อามิเส อกริยมาเนปิ สงฺคเห น กุชฺฌติ, อฺํ อตฺตนา สทฺธึ ปริโภคํ อกโรนฺตมฺปิ น ปาปเกน จิตฺเตน ปสฺสติ เปสลภาวโต. ตโต เอว ปริโภโคปิ อเนน สทฺธึ สุกโร โหติ, ตสฺมา คิหิ เจ, อุโภหิ สทิโส. ปพฺพชิโต เจ, สีลวา ปุคฺคโล. เอวํ สมานตฺตตาย สงฺคเหตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘โส สเจ คหฏฺสฺส ชาติยา ปพฺพชิตสฺส สีเลน สทิโส โหติ, ตสฺสายํ สมานตฺตตา กาตพฺพา’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

สงฺคหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สีหสุตฺตวณฺณนา

๓๓. ตติเย สีโหติ ปริสฺสยสหนโต ปฏิปกฺขหนนโต จ ‘‘สีโห’’ติ ลทฺธนาโม มิคาธิปติ. จตฺตาโรติ สมาเนปิ สีหชาติภาเว วณฺณวิเสสาทิสิทฺเธน วิเสเสน จตฺตาโร สีหา. เต อิทานิ นามโต วณฺณโต อาหารโต ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตสีหํ นานปฺปการโต วิภาเวตุํ ‘‘ติณสีโห’’ติอาทิ อารทฺธํ. ติณภกฺโข สีโห ติณสีโห ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘สากปตฺถิโว’’ติ (ปาณินิ ๒.๑.๖๐). กาฬวณฺณตาย กาฬสีโห. ตถา ปณฺฑุสีโห. เตนาห ‘‘กาฬคาวิสทิโส, ปณฺฑุปลาสวณฺณคาวิสทิโส’’ติ จ. รตฺตกมฺพลสฺส วิย เกสโร เกสรกโลโม เอตสฺส อตฺถีติ เกสรี. ลาขาปริกมฺมกเตหิ วิย ปาทปริยนฺเตหีติ จ โยชนา.

กมฺมานุภาวสิทฺธอธิปจฺจมเหสกฺขตาหิ สพฺพมิคคณสฺส ราชา. สุวณฺณคุหโต วาติอาทิ ‘‘สีหสฺส วิหาโร กิริยา เอวํ โหตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ.

สมํ ปติฏฺาเปตฺวาติ สพฺพภาเคหิ สมเมว ภูมิยํ ปติฏฺาเปตฺวา. อากฑฺฒิตฺวาติ ปุรโต อากฑฺฒิตฺวา. อภิหริตฺวาติ อภิมุขํ หริตฺวา. สงฺฆาตนฺติ วินาสํ. วีสติยฏฺิกํ านํ อุสภํ.

สมสีโหติ สมชาติโก สมปฺปภาโว จ สีโห. สมาโนสฺมีติ เทสนามตฺตํ, สมปฺปภาวตาย เอว น ภายติ. สกฺกายทิฏฺิพลวตายาติ ‘‘เก อฺเ อมฺเหหิ อุตฺตริตรา, อถ โข มยเมว มหาพลา’’ติ เอวํ พลาติมานนิมิตฺตาย อหํการเหตุภูตาย สกฺกายทิฏฺิยา พลวภาเวน. สกฺกายทิฏฺิยา ปหีนตฺตาติ นิรหํการตฺตา อตฺตสิเนหสฺส สุฏฺุ สมุคฺฆาตตฺตา น ภายติ.

ตถา ตถาติ สีหสทิสตาทินา เตน เตน ปกาเรน อตฺตานํ กเถสีติ วตฺวา ตมตฺถํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สีโหติ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ.

กตมหาภินีหารสฺส โลกนาถสฺส โพธิยา นิยตภาวปฺปตฺติยา เอกนฺตภาวี พุทฺธภาโวติ กตฺวา ‘‘ตีสุ ปาสาเทสุ นิวาสกาโล, มคธรฺโ ปฏิฺาทานกาโล, ปายาสสฺส ปริภุตฺตกาโล’’ติอาทินา อภิสมฺโพธิโต ปุริมาวตฺถาปิ สีหสทิสา กตฺวา ทสฺสิตา. ภาวินิ ภูตูปจาโรปิ หิ โลกโวหาโร. วิชฺชาภาวสามฺโต ทฺวิวิชฺชํ อิตรวิชฺชมฺปิ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสมฺมสนโต ตํ ปุเรตรสิทฺธํ วิย กตฺวา อาห ‘‘ติสฺโส วิชฺชา โสเธตฺวา’’ติ. อนุโลมปฏิโลมโต ปวตฺตาณสฺส วเสน ‘‘ยมกาณมนฺถเนนา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ วิหรนฺตสฺสาติ อชปาลนิคฺโรธมูเล วิหรนฺตสฺส. เอกาทสเม ทิวเสติ สตฺตสตฺตาหโต ปรํ เอกาทสเม ทิวเส. อจลปลฺลงฺเกติ อิสิปตเน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสินฺนปลฺลงฺเก. ตมฺปิ หิ เกนจิ อปฺปฏิวตฺติยํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสชฺชาติ กตฺวา วชิราสนํ วิย อจลปลฺลงฺกํ วุจฺจติ. อิมสฺมิฺจ ปน ปเทติ ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทินยปฺปวตฺเต จ อิมสฺมึ สทฺธมฺมโกฏฺาเส. ธมฺมโฆโส…เป… ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปฏิจฺฉาเทสิ ‘‘สพฺพตฺถ ิตา สุณนฺตู’’ติ อธิฏฺาเนน. โสฬสหากาเรหีติ ทุกฺขปริฺา, สมุทยปฺปหานํ, นิโรธสจฺฉิกิริยา, มคฺคภาวนาติ เอเกกสฺมึ มคฺเค จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา โสฬสหิ อากาเรหิ.

ปเมน นเยน อภิสมฺโพธิโต ปุริมตราวตฺถาปิ อวสฺสํภาวิตาย คเหตฺวา สีหสทิสตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อภิสมฺพุทฺธาวตฺถาสุ เอว สีหสทิสตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ อารทฺธํ. อฏฺหิ การเณหีติ ‘‘ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโต’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๒; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๗๘; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๗๐; อุทา. อฏฺ. ๑๘; อิติวุ. อฏฺ. ๓๘; เถรคา. อฏฺ. ๑.๓; พุ. วํ. อฏฺ. ๑.๒ นิทานกถา; มหานิ. อฏฺ. ๑๔; ปฏิ. ม. ๑.๓๗) เอวํ วุตฺเตหิ อฏฺหิ ตถาคตสาธเกหิ การเณหิ. ยทิปิ ภควา โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนมตฺเตว อภิสมฺพุทฺโธ น ชาโต, ตถาปิ ตาย นิสชฺชาย นิสินฺโนว ปนุชฺช สพฺพํ ปริสฺสยํ อภิสมฺพุทฺโธ ชาโต. ตถา หิ ตํ ‘‘อปราชิตปลฺลงฺก’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘ยาว โพธิปลฺลงฺกา วา’’ติ วตฺวา เตน อปริตุสฺสนฺโต ‘‘ยาว อรหตฺตมคฺคาณา วา’’ติ อาห.

อิติ สกฺกาโยติ เอตฺถ อิติสทฺโท นิทสฺสนตฺโถ. เตน สกฺกาโย สรูปโต ปริมาณโต ปริจฺเฉทโต จ ทสฺสิโตติ อาห ‘‘อยํ สกฺกาโย’’ติอาทิ. ‘‘อยํ สกฺกาโย’’ติ อิมินา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา สรูปโต ทสฺสิตา. ‘‘เอตฺตโก สกฺกาโย’’ติ อิมินา เต ปริมาณโต ทสฺสิตา. ตสฺส จ ปริมาณสฺส เอกนฺติกภาวํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘น อิโต ภิยฺโย สกฺกาโย อตฺถี’’ติ วุตฺตํ. สภาวโตติ สลกฺขณโต. สรสโตติ สกิจฺจโต. ปริยนฺตโตติ ปริมาณปริยนฺตโต. ปริจฺเฉทโตติ ยตฺตเก าเน ตสฺส ปวตฺติตสฺส ปริจฺฉินฺทนโต. ปริวฏุมโตติ ปริโยสานปฺปวตฺติโต. สพฺเพปิ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺติ ยถาวุตฺเตน วิภาเคน. อยํ สกฺกายสฺส สมุทโย นามาติ อยํ อาหาราทิสกฺกายสฺส สมุทโย นาม. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ. อตฺถงฺคโมติ นิโรโธ. ‘‘อาหารสมุทยา อาหารนิโรธา’’ติ จ อสาธารณเมว ตํ คเหตฺวา เสเสสุ อาทิ-สทฺเทน สงฺคณฺหาติ.

ปณฺณาสลกฺขณปฏิมณฺฑิตนฺติ ปณฺณาสอุทยวยลกฺขณวิภูสิตํ สมุทยตฺถงฺคมคฺคหณโต. ขีณาสวตฺตาติ อนวเสสํ สาวเสสฺจ อาสวานํ ปริกฺขีณตฺตา. อนาคามีนมฺปิ หิ ภยํ จิตฺตุตฺราสฺจ น โหตีติ. าณสํเวโค ภยตุปฏฺานปฺา. อิตราสํ ปน เทวตานนฺติ อขีณาสวเทเว สนฺธาย วทติ. โภติ ธมฺมาลปนมตฺตนฺติ สภาวกถนมตฺตํ.

จกฺกนฺติ สตฺถุ อาณาจกฺกํ. ตํ ปน ธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ตตฺถ อริยสาวกานํ ปฏิเวธธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. อิตเรสํ เทสนาธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ทุวิเธปิ าณํ ปธานนฺติ าณสีเสน วุตฺตํ ‘‘ปฏิเวธาณมฺปิ เทสนาาณมฺปี’’ติ. อิทานิ ตํ าณํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิเวธาณํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา ตสฺส าณสฺส ปฏิวิทฺธตฺตา ภควา ตานิ สฏฺิ นยสหสฺสานิ เวเนยฺยานํ ทสฺเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ, ตสฺมา ตานิ สฏฺิ นยสหสฺสานิ เตน าเณน สทฺธึเยว สิทฺธานีติ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สฏฺิยา จ นยสหสฺเสหิ ปฏิวิชฺฌี’’ติ อาห. ติปริวฏฺฏนฺติ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ จ ‘‘ปริฺเยฺย’’นฺติ จ ‘‘ปริฺาต’’นฺติ จ เอวํ ติปริวฏฺฏํ, ตํเยว ทฺวาทสาการํ. นฺติ เทสนาาณํ. เอส ภควา. อปฺปฏิปุคฺคโลติ ปฏินิธิภูตปุคฺคลรหิโต. เอกสทิสสฺสาติ นิพฺพิการสฺส.

สีหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อคฺคปสาทสุตฺตวณฺณนา

๓๔. จตุตฺเถ อคฺเคสุ ปสาทาติ เสฏฺเสุ ปสาทา. อคฺคา วา ปสาทาติ เสฏฺภูตา ปสาทา. เสฏฺวจโน เหตฺถ อคฺคสทฺโท. ปุริมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป อคฺคสทฺเทน พุทฺธาทิรตนตฺตยํ วุจฺจติ. เตสุ ภควา ตาว อสทิสฏฺเน, คุณวิสิฏฺฏฺเน, อสมสมฏฺเน จ อคฺโค. โส หิ มหาภินีหารํ ทสนฺนํ ปารมีนํ ปวิจยฺจ อาทึ กตฺวา โพธิสมฺภารคุเณหิ เจว พุทฺธคุเณหิ จ ปโยชเนหิ จ เสสชเนหิ อสทิโสติ อสทิสฏฺเนปิ อคฺโค. เย จสฺส เต คุณา มหากรุณาทโย, เตหิ เสสสตฺตานํ คุเณหิ วิสิฏฺฏฺเนปิ สพฺพสตฺตุตฺตมตาย อคฺโค. เย ปน ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา สพฺพสตฺเตหิ อสมา, เตหิ สทฺธึ อยเมว รูปกายคุเณหิ เจว ธมฺมกายคุเณหิ จ สโมติ อสมสมฏฺเนปิ อคฺโค. ตถา ทุลฺลภปาตุภาวโต อจฺฉริยมนุสฺสภาวโต พหุชนหิตสุขาวหโต อทุติยอสหายาทิภาวโต จ ภควา โลเก อคฺโคติ วุจฺจติ. ยถาห –

‘‘เอกปุคฺคลสฺส, ภิกฺขเว, ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมึ. กตมสฺส เอกปุคฺคลสฺส? ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺมุทฺธสฺส. เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโส. เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชน…เป… สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อทุติโย อสหาโย อปฺปฏิโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโล อสโม อสมสโม ทฺวิปทานํ อคฺโค. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๑-๑๗๓).

ธมฺมสงฺฆา อฺธมฺมสงฺเฆหิ อสทิสฏฺเน วิสิฏฺคุณตาย ทุลฺลภปาตุภาวาทินา จ อคฺคา. ตถา หิ เตสํ สฺวากฺขาตตาทิสุปฺปฏิปนฺนตาทิคุณวิเสเสหิ อฺเ ธมฺมสงฺฆสทิสา อปฺปตรํ นิหีนา วา นตฺถิ, กุโต เสฏฺา. สยเมว เตหิ วิสิฏฺคุณตาย เสฏฺา. ตถา ทุลฺลภุปฺปาทอจฺฉริยภาวพหุชนหิตสุขาวหอทุติยาสหายาทิสภาวา จ เต. ยทคฺเคน หิ ภควา ทุลฺลภปาตุภาโว, ตทคฺเคน ธมฺมสงฺฆาปีติ. อจฺฉริยาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ อคฺเคสุ เสฏฺเสุ อุตฺตเมสุ ปวเรสุ คุณวิสิฏฺเสุ ปสาทาติ อคฺคปฺปสทา.

ทุติยสฺมึ ปนตฺเถ ยถาวุตฺเตสุ อคฺเคสุ พุทฺธาทีสุ อุปฺปตฺติยา อคฺคภูตา ปสาทา อคฺคปฺปสาทา. เย ปน อริยมคฺเคน อาคตา อเวจฺจปฺปสาทา, เต เอกนฺเตเนว อคฺคภูตา ปสาทาติ อคฺคปฺปสาทา. ยถาห – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๗-๑๐๓๘). อคฺควิปากตฺตาปิ เจเต อคฺคปฺปสาทา. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐).

อปทา วาติอาทีสุ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, น วิกปฺปตฺโถ. ยถา ‘‘อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา กามาสโว ปวฑฺฒตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๗) เอตฺถ อนุปฺปนฺโน จ อุปฺปนฺโน จาติ อตฺโถ. ยถา จ ‘‘ภูตานํ วา สตฺตานํ ิติยา สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหายา’’ติ เอตฺถ ภูตานฺจ สมฺภเวสีนฺจาติ อตฺโถ. ยถา จ ‘‘อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทโต วา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๕๒) เอตฺถ อคฺคิโต จ อุทกโต จ มิถุเภทโต จาติ อตฺโถ, เอวํ ‘‘อปทา วา…เป… อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) เอตฺถาปิ อปทา จ ทฺวิปทา จาติ สมฺปิณฺฑนวเสน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, น วิกปฺปตฺโถ’’ติ.

รูปิโนติ รูปวนฺโต. น รูปิโนติ อรูปิโน. สฺิโนติ สฺวนฺโต. น สฺิโนติ อสฺิโน. ‘‘อปทา วา’’ติอาทิสพฺพปเทหิ กามภโว, รูปภโว, อรูปภโว, เอกโวการภโว, จตุโวการภโว, ปฺจโวการภโว, สฺิภโว, อสฺิภโว, เนวสฺินาสฺิภโวติ นววิเธปิ ภเว สตฺเตปิ อนวเสสโต ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสติ. เอตฺถ หิ รูปิคฺคหเณน กามภโว, รูปภโว, ปฺจโวการภโว, เอกโวการภโว จ ทสฺสิโต, อรูปิคฺคหเณน อรูปภโว, จตุโวการภโว จ ทสฺสิโต, สฺิภวาทโย ปน สรูเปเนว ทสฺสิตา. อปทาทิคฺคหเณน กามภวปฺจโวการภวสฺิภวานํ เอกเทโสว ทสฺสิโต.

กสฺมา ปเนตฺถ ยถา อทุติยสุตฺเต ‘‘ทฺวิปทานํ อคฺโค’’ติ ทฺวิปทา เอว คหิตา, เอวํ ทฺวิปทคฺคหณเมว อกตฺวา อปทาทิคฺคหณํ กตนฺติ? วุจฺจเต – อทุติยสุตฺเต ตาว เสฏฺตรวเสน ทฺวิปทคฺคหณเมว กตํ. อิมสฺมิฺหิ โลเก เสฏฺโ นาม อุปฺปชฺชมาโน อปทจตุปฺปทพหุปเทสุ น อุปฺปชฺชติ, ทฺวิปเทสุเยว อุปฺปชฺชติ. กตเรสุ ทฺวิปเทสุ? มนุสฺเสสุ เจว เทเวสุ จ. มนุสฺเสสุ อุปฺปชฺชมาโน สกลโลกํ วเส วตฺเตตุํ สมตฺโถ พุทฺโธ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, เทเวสุ อุปฺปชฺชมาโน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ วเส วตฺตนโก มหาพฺรหฺมา หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, โส ตสฺส กปฺปิยการโก วา อารามิโก วา สมฺปชฺชติ. อิติ ตโตปิ เสฏฺตรวเสเนส ทฺวิปทานํ อคฺโคติ ตตฺถ วุตฺตํ. อิธ ปน อนวเสสปริยาทานวเสน เอวํ วุตฺตํ ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา…เป… เนวสฺินาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ. นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. -กาโร ปทสนฺธิกโร, อคฺโค อกฺขายตีติ ปทวิภาโค. เตเนวาห ‘‘คุเณหิ อคฺโค’’ติอาทิ.

อคฺโค วิปาโก โหตีติ อคฺเค สมฺมาสมฺพุทฺเธ ปสนฺนานํ โย ปสาโท อคฺโค เสฏฺโ อุตฺตมโกฏิภูโต วา, ตสฺมา ตสฺส วิปาโกปิ อคฺโค เสฏฺโ อุตฺตมโกฏิภูโต อุฬารตโม ปณีตตโม โหติ. โส ปน ปสาโท ทุวิโธ โลกิยโลกุตฺตรเภทโต. เตสุ โลกิยสฺส ตาว –

‘‘เย เกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส,

น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;

ปหาย มานุสํ เทหํ,

เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺติ. (ที. นิ. ๒.๓๓๒; อิติวุ. อฏฺ. ๙๐; สํ. นิ. ๑.๓๗);

‘‘พุทฺโธติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;

วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนปิ ชมฺพุทีปสฺส. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖; อิติวุ. อฏฺ. ๙๐);

‘‘สตํ หตฺถี สตํ อสฺสา, สตํ อสฺสตรีรถา;

สตํ กฺาสหสฺสานิ, อามุกฺกมณิกุณฺฑลา;

เอกสฺส ปทวีติหารสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ’’. (จูฬว. ๓๐๕);

‘‘สาธุ โข, เทวานมินฺท, พุทฺธํ สรณคมนํ โหติ, พุทฺธํ สรณคมนเหตุ โข, เทวานมินฺท, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. เต อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคฺคณฺหนฺติ ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน, ทิพฺเพน ยเสน, ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน, ทิพฺเพหิ รูเปหิ, ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ, ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ, ทิพฺเพหิ รเสหิ, ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๑) –

เอวมาทีนํ สุตฺตปทานํ วเสน ปสาทผลวิเสสโยโค เวทิตพฺโพ, ตสฺมา โส อปายทุกฺขวินิวตฺตเนน สทฺธึ สมฺปตฺติภเวสุ สุขวิเสสทายโกว ทฏฺพฺโพ.

โลกุตฺตโร ปน สามฺผลวิปากทายโก วฏฺฏทุกฺขวินิวตฺตโก. สพฺโพปิ จายํ ปสาโท ปรมฺปราย วฏฺฏทุกฺขํ วินิวตฺเตติเยว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อตฺตโน สทฺธํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, อุชุคตจิตฺตสฺส ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตี’’ติ.

ธมฺมาติ สภาวธมฺมา. สงฺขตาติ สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตาติ สงฺขตา, สปจฺจยา ธมฺมา. เหตูหิ ปจฺจเยหิ จ น เกหิจิ กตา สงฺขตาติ อสงฺขตา, อปจฺจโย นิพฺพานํ. สงฺขตานํ ปริโยสิตภาเวน ‘‘อสงฺขตา’’ติ ปุถุวจนํ. วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตีติ เตสํ สงฺขตาสงฺขตธมฺมานํ โย วิราคสงฺขาโต อสงฺขตธมฺโม, โส สภาเวเนว สณฺหสุขุมภาวโต สนฺตตรปณีตตรภาวโต คมฺภีราทิภาวโต มทนิมฺมทนาทิภาวโต อคฺคํ เสฏฺํ อุตฺตมํ ปวรนฺติ วุจฺจติ. ยทิทนฺติ นิปาโต, โย อยนฺติ อตฺโถ. มทนิมฺมทโนติอาทีนิ สพฺพานิ นิพฺพานเววจนานิ. เตเนวาห ‘‘วิราโคติอาทีนิ นิพฺพานสฺเสว นามานี’’ติ. ราคมทาทโยติ อาทิ-สทฺเทน มานมทปุริสมทาทิเก สงฺคณฺหาติ. สพฺพา ปิปาสาติ กามปิปาสาทิกา สพฺพา ปิปาสา. สพฺเพ อาลยา สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺตีติ กามาลยาทิกา สพฺเพปิ อาลยา สมุคฺฆาตํ ยนฺติ. วฏฺฏานีติ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏานิ. ตณฺหาติ อฏฺสตปฺปเภทา สพฺพาปิ ตณฺหา.

อคฺโค วิปาโก โหตีติ เอตฺถาปิ –

‘‘เย เกจิ ธมฺมํ สรณํ คตาเส…เป…’’. (ที. นิ. ๒.๓๓๒; สํ นิ. ๑.๓๗);

‘‘ธมฺโมติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ…เป…’’. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖; อิติวุ. อฏฺ. ๙๐);

‘‘สาธุ โข, เทวานมินฺท, ธมฺมํ สรณคมนํ โหติ, ธมฺมํ สรณคมนเหตุ โข, เทวานมินฺท, เอวมิเธกจฺเจ…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๑) –

เอวมาทีนํ สุตฺตปทานํ วเสน ธมฺเม ปสาทสฺส ผลวิเสสโยโค เวทิตพฺโพ.

สงฺฆา วา คณา วาติ ชนสมูหสงฺขาตา ยาวตา โลเก สงฺฆา วา คณา วา. ตถาคตสาวกสงฺโฆติ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหสงฺขาโต ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหโต ตถาคตสฺส สาวกสงฺโฆ. อคฺคมกฺขายตีติ อตฺตโน สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติอาทิคุณวิเสเสน เตสํ สงฺฆานํ อคฺโค เสฏฺโ อุตฺตโม ปวโรติ วุจฺจติ. ยทิทนฺติ ยานิ อิมานิ. จตฺตาริ ปุริสยุคานิ ยุคฬวเสน, ปมมคฺคฏฺโ ปมผลฏฺโติ อิทเมกํ ยุคฬํ, ยาว จตุตฺถมคฺคฏฺโ จตุตฺถผลฏฺโติ อิทเมกํ ยุคฬนฺติ เอวํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ. อฏฺ ปุริสปุคฺคลาติ ปุริสปุคฺคลวเสน เอโก ปมมคฺคฏฺโ, เอโก ปมผลฏฺโติ อิมินา นเยน อฏฺ ปุริสปุคฺคลา. เอตฺถ จ ปุริโสติ วา ปุคฺคโลติ วา เอกตฺถานิ เอตานิ ปทานิ, เวเนยฺยวเสน ปเนวํ วุตฺตํ. เอส ภควโต สาวกสงฺโฆติ ยานิมานิ ยุคฬวเสน จตฺตาริ ยุคานิ ปาฏิเยกฺกโต อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ. อาหุเนยฺโยติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อิธาปิ –

‘‘เย เกจิ สงฺฆํ สรณํ คตาเส…เป…’’. (ที. นิ. ๒.๓๓๒; สํ. นิ. ๑.๓๗);

‘‘สงฺโฆติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ…เป…’’. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖; อิติวุ. อฏฺ. ๙๐);

‘‘สาธุ โข, เทวานมินฺท, สงฺฆํ สรณคมนํ โหติ, สงฺฆํ สรณคมนเหตุ โข, เทวานมินฺท…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๑) –

อาทีนํ สุตฺตปทานํ วเสน สงฺเฆ ปสาทสฺส ผลวิเสสโยโค ตสฺส อคฺควิปากตา จ เวทิตพฺพา. ตถา อนุตฺตริยปฏิลาโภ สตฺตมภวาทิโต ปฏฺาย วฏฺฏทุกฺขสมุจฺเฉโท อนุตฺตรสุขาธิคโมติ เอวมาทิอุฬารผลนิปฺผาทนวเสน อคฺควิปากตา เวทิตพฺพา.

คาถาสุ อคฺคโตติ อคฺเค รตนตฺตเย, อคฺคภาวโต วา ปสนฺนานํ. อคฺคํ ธมฺมนฺติ อคฺคสภาวํ พุทฺธสุโพธึ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺตึ, รตนตฺตยสฺส อนฺสาธารณํ อุตฺตมสภาวํ, ทสพลาทิสฺวากฺขาตตาทิสุปฺปฏิปนฺนตาทิคุณสภาวํ วา. วิชานตนฺติ วิชานนฺตานํ. เอวํ สาธารณโต อคฺคปฺปสาทวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อสาธารณโต ตํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘อคฺเค พุทฺเธ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปสนฺนานนฺติ อเวจฺจปฺปสาเทน จ อิตรปฺปสาเทน จ ปสนฺนานํ อธิมุตฺตานํ. วิราคูปสเมติ วิราเค อุปสเม จ, สพฺพสฺส ราคสฺส สพฺเพสํ กิเลสานํ อจฺจนฺตวิราคเหตุภูเต อจฺจนฺตอุปสมเหตุภูเต จาติ อตฺโถ. สุเขติ วฏฺฏทุกฺขกฺขยภาเวน สงฺขารูปสมสุขภาเวน สุเข.

อคฺคสฺมึ ทานํ ททตนฺติ อคฺเค รตนตฺตเย ทานํ ททนฺตานํ เทยฺยธมฺมํ ปริจฺจชนฺตานํ. ตตฺถ ธรมานํ ภควนฺตํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหนฺตา ปูเชนฺตา สกฺกโรนฺตา, ปรินิพฺพุตํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ธาตุเจติยาทิเก อุปฏฺหนฺตา ปูเชนฺตา สกฺกโรนฺตา พุทฺเธ ทานํ ททนฺติ นาม. ‘‘ธมฺมํ ปูเชสฺสามา’’ติ ธมฺมธเร ปุคฺคเล จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหนฺตา ปูเชนฺตา สกฺกโรนฺตา ธมฺมฺจ จิรฏฺิติกํ กโรนฺตา ธมฺเม ทานํ ททนฺติ นาม. ตถา อริยสงฺฆํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหนฺตา ปูเชนฺตา สกฺกโรนฺตา ตํ อุทฺทิสฺส อิตรสฺมิมฺปิ ตถา ปฏิปชฺชนฺตา สงฺเฆ ทานํ ททนฺติ นาม. อคฺคํ ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ เอวํ รตนตฺตเย ปสนฺเนน เจตสา อุฬารํ ปริจฺจาคํ อุฬารฺจ ปูชาสกฺการํ ปวตฺเตนฺตานํ ทิวเส ทิวเส อคฺคํ อุฬารํ กุสลํ อุปจียติ. อิทานิ ตสฺส ปุฺสฺส อคฺควิปากตาย อคฺคภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อคฺคํ อายู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อายูติ ทิพฺพํ วา มานุสํ วา อคฺคํ อุฬารํ ปรมํ อายุ ปวฑฺฒติ อุปรูปริ พฺรูหติ. วณฺโณติ รูปสมฺปทา. ยโสติ ปริวารสมฺปทา. กิตฺตีติ ถุติโฆโส. สุขนฺติ กายิกํ เจตสิกฺจ สุขํ. พลนฺติ กายพลฺเจว าณพลฺจ.

อคฺคสฺส รตนตฺตยสฺส ทานํ ทาตา. อถ วา อคฺคสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทานํ อุฬารํ กตฺวา ตตฺถ ปุฺํ ปวตฺเตตา. อคฺคธมฺมสมาหิโตติ อคฺเคน ปสาทธมฺเมน ทานาทิธมฺเมน จ สํหิโต สมนฺนาคโต อจลปฺปสาทยุตฺโต, ตสฺส วา วิปากภูเตหิ พหุชนสฺส ปิยมนาปตาทิธมฺเมหิ ยุตฺโต. อคฺคปฺปตฺโต ปโมทตีติ ยตฺถ ยตฺถ สตฺตนิกาเย อุปฺปนฺโน, ตตฺถ ตตฺถ อคฺคภาวํ เสฏฺภาวํ อธิคโต, อคฺคภาวํ วา โลกุตฺตรมคฺคผลํ อธิคโต ปโมทติ อภิรมติ ปริตุสฺสตีติ.

อคฺคปสาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา

๓๕. ปฺจเม อริเย าเยติ สํกิเลสโต อารกตฺตา อริเย นิทฺโทเส ปริสุทฺเธ นิยฺยานิกธมฺมภาวโต าเย การเณติ อตฺโถ. ายติ นิจฺฉเยน กมติ นิพฺพานํ, ตํ วา ายติ ปฏิวิชฺฌียติ เอเตนาตี าโย, อริยมคฺโค. โส เอว จ สมฺปาปกเหตุภาวโต การณนฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน สห วิปสฺสนาย อริยมคฺโค อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘สหวิปสฺสนเก มคฺเค’’ติ. คาถาสุ ‘‘ายํ ธมฺม’’นฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

วสฺสการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โทณสุตฺตวณฺณนา

๓๖. ฉฏฺเ อุกฺกาหิ ธาริยมานาหีติ ทีปิกาหิ ธาริยมานาหิ, ทณฺฑทีปิกาสุ ชาเลตฺวา ธาริยมานาสุ มาปิตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ตฺหิ นครํ ‘‘มงฺคลทิวเส สุขเณ สุนกฺขตฺตํ มา อติกฺกมี’’ติ รตฺติมฺปิ อุกฺกาสุ ธาริยมานาสุ มาปิตํ. อุกฺกาสุ าติ อุกฺกฏฺา, อุกฺกาสุ วิชฺโชตยนฺตีสุ ิตา ปติฏฺิตาติ มูลวิภูชาทิปกฺเขเปน (ปาณินิ ๓.๒.๕) สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. นิรุตฺตินเยน วา อุกฺกาสุ ิตาสุ ิตา อาสีติ อุกฺกฏฺา. อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘ภูมิภาคสมฺปตฺติยา มนุสฺสสมฺปตฺติยา อุปกรณสมฺปตฺติยา จ สา นครี อุกฺกฏฺคุณโยคโต อุกฺกฏฺาติ นามํ ลภตี’’ติ. เสตพฺยนฺติ ตสฺส นครสฺส นามํ. ตํ ปน กสฺสปทสพลสฺส ชาตนครนฺติ อาห ‘‘อตีเต กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ชาตนคร’’นฺติ.

วิชฺชนฺตริกายาติ วิชฺชุนิจฺฉรณกฺขเณ. อนฺตรโตติ หทเย. อนฺตราติ อารมฺภนิพฺพตฺตีนํ เวมชฺเฌ. อนฺตริกายาติ อนฺตราเฬ. เอตฺถ จ ‘‘ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย (อ. นิ. ๖.๔๔; ๑๐.๗๕), เอเตสํ อนฺตรา กปฺปา คณนโต อสงฺขฺเยยฺยา (พุ. วํ. ๒๘.๓), อนฺตรนฺตรา กถํ โอปปาเตตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๒๖) จ อาทีสุ วิย การณเวมชฺเฌสุ วตฺตมานา อนฺตราสทฺทา เอว อุทาหริตพฺพา สิยุํ, น ปน จิตฺตกฺขณวิวเรสุ วตฺตมานา อนฺตรอนฺตริกสทฺทา. อนฺตราสทฺทสฺส หิ อยมตฺถุทฺธาโรติ.

อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย สิยา – เยสุ อนฺตราสทฺโท วตฺตติ, เตสุ อนฺตรสทฺโทปิ วตฺตตีติ สมานตฺถตฺตา อนฺตราสทฺทตฺเถ วตฺตมาโน อนฺตรสทฺโท อุทาหโฏ. อนฺตราสทฺโท เอว วา ‘‘ยสฺสนฺตรโต’’ติ เอตฺถ คาถาสุขตฺถํ รสฺสํ กตฺวา วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อนฺตราสทฺโท เอว ปน อิกสทฺเทน ปทํ วฑฺเฒตฺวา ‘‘อนฺตริกา’’ติ วุตฺโตติ เอวเมตฺถ อุทาหรโณทาหริตพฺพานํ วิโรธาภาโว ทฏฺพฺโพ. อโยชิยมาเน อุปโยควจนํ น ปาปุณาติ สามิวจนสฺส ปสงฺเค อนฺตราสทฺทโยเคน อุปโยควจนสฺส อิจฺฉิตตฺตา. เตเนวาห ‘‘อนฺตราสทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กต’’นฺติ.

สกลชมฺพุทีเป อุปฺปนฺนํ มหากลหํ วูปสเมตฺวาติ ปรินิพฺพุเต ภควติ ธาตูนํ อตฺถาย กุสินารนครํ ปริวาเรตฺวา ิเตหิ เสสราชูหิ ‘‘อมฺหากํ ธาตุโย วา เทนฺตุ ยุทฺธํ วา’’ติอาทินา โกสินารเกหิ มลฺเลหิ สทฺธึ กตํ วิวาทํ วูปสเมตฺวา. โส กิร พฺราหฺมโณ เตสํ วิวาทํ สุตฺวา ‘‘เอเต ราชาโน ภควโต ปรินิพฺพุตฏฺาเน วิวาทํ กโรนฺติ, น โข ปเนตํ ปติรูปํ, อลํ อิมินา กลเหน, วูปสเมสฺสามิ น’’นฺติ คนฺตฺวา อุนฺนเต ปเทเส ตฺวา ทฺเวภาณวารปริมาณํ โทณคชฺชิตํ นาม อโวจ. ตตฺถ ปมภาณวาเร ตาว เอกปทมฺปิ เต น ชานึสุ. ทุติยภาณวารปริโยสาเน จ ‘‘อาจริยสฺส วิย โภ สทฺโท, อาจริยสฺส วิย โภ สทฺโท’’ติ สพฺเพ นิรวา อเหสุํ. ชมฺพุทีปตเล กิร กุลฆเร ชาโต เยภุยฺเยน ตสฺส น-อนฺเตวาสิโก นาม นตฺถิ, อถ โข โส อตฺตโน วจนํ สุตฺวา นิรเว ตุณฺหีภูเต วิทิตฺวา ปุน –

‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวาจํ,

อมฺหาก พุทฺโธ อหุ ขนฺติวาโท;

น หิ สาธุยํ อุตฺตมปุคฺคลสฺส,

สรีรภาเค สิยา สมฺปหาโร.

‘‘สพฺเพว โภนฺโต สหิตา สมคฺคา,

สมฺโมทมานา กโรมฏฺภาเค;

วิตฺถาริกา โหนฺตุ ทิสาสุ ถูปา,

พหู ชนา จกฺขุมโต ปสนฺนา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๒๓๗) –

อิมํ คาถาทฺวยํ วตฺวา ตํ กลหํ วูปสเมตฺวา ธาตุโย อฏฺธา ภาเชตฺวา อทาสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘สกลชมฺพุทีเป อุปฺปนฺนํ มหากลหํ วูปสเมตฺวา ธาตุโย ภาเชสฺสตี’’ติ. ลกฺขณจกฺกานีติ ทฺวีสุ ปาทตเลสุ ทฺเว ลกฺขณจกฺกานิ.

อาสเวนาติ กมฺมกิเลสการเณน อาสเวน. เอตฺถ หิ เตภูมกฺจ กมฺมํ, อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา ‘‘อาสวา’’ติ วุตฺตา. เทวูปปตฺตีติ เทเวสุ อุปฺปตฺติ นิพฺพตฺติ. เอตฺถ จ ยกฺขคนฺธพฺพตาย วินิมุตฺตา สพฺเพ เทวา เทวคฺคหเณน คหิตา. คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม อากาสจารี. อหนฺติ วิภตฺติวิปริณาเมน โยเชตพฺพํ.

โทณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อปริหานิยสุตฺตวณฺณนา

๓๗. สตฺตเม นิพฺพานสนฺติเกเยว จรตีติ กิเลสนิพฺพานสฺส อนุปาทาปรินิพฺพานสฺส จ สนฺติเกเยว จรติ ‘‘น จิรสฺเสว อธิคมิสฺสตี’’ติ กตฺวา. คาถาย อปฺปมาทรโตติ สมถวิปสฺสนาย อปฺปมชฺชเน รโต อภิรโต, อปฺปมาเทเนว รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมนฺโตติ อตฺโถ. ปมาทํ ภยโต ปสฺสนฺโตติ นิรยูปปตฺติอาทิภยเหตุโต ปมาทํ ภยโต ปสฺสนฺโต. อภพฺโพ ปริหานายาติ โส เอวรูโป สมถวิปสฺสนาธมฺเมหิ มคฺคผเลหิ วา ปริหานาย อภพฺโพ. สมถวิปสฺสนาโต หิ สมฺปตฺตโต น ปริหายติ, อิตรานิ จ อปฺปตฺตานิ ปาปุณาตีติ.

อปริหานิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปติลีนสุตฺตวณฺณนา

๓๘. อฏฺเม อนฺตวา โลโกติ เอกปสฺเสน วฑฺฒิตํ กสิณนิมิตฺตํ ‘‘โลโก’’ติ คาเหน วา ตกฺเกน วา อุปฺปนฺนทิฏฺิ. ลาภี หิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา คณฺหาติ, อิตโร ตกฺกมตฺเตน. อนนฺตวาติ สมนฺตโต วฑฺฒิตํ อปฺปมาณํ กสิณนิมิตฺตํ ‘‘โลโก’’ติ คาเหน วา ตกฺเกน วา อุปฺปนฺนทิฏฺิ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีโว สรีรฺจ เอกเมว วตฺถูติ อุปฺปนฺนทิฏฺิ. วิสฺสฏฺานีติ สกปริจฺจชนวเสน นิสฺสฏฺานิ. วนฺตานีติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ. จตฺตมฺปิ หิ เกจิ คณฺหนฺติ, นยิทเมวนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วนฺตานี’’ติ วุตฺตํ. น หิ ยํ เยน วนฺตํ, น โส ตํ ปุน อาทียติ. วนฺตมฺปิ กิฺจิ สสนฺตติลคฺคํ สิยา, นยิทเมวนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘มุตฺตานี’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ฉินฺนพนฺธนานิ กตานี’’ติ, สนฺตติโต วินิโมจนวเสน ฉินฺนพนฺธนานิ กตานีติ อตฺโถ. มุตฺตมฺปิ กิฺจิ มุตฺตพนฺธนํ วิย ผลํ กุหิฺจิ ติฏฺติ, น เอวมิทนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปหีนานี’’ติ วุตฺตํ. ยถา กิฺจิ ทุนฺนิสฺสฏฺํ ปุน อาทาย สมฺมเทว นิสฺสฏฺํ ‘‘ปฏินิสฺสฏฺ’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ วิปสฺสนาย นิสฺสฏฺานิ อาทินฺนสทิสานิ มคฺเคน ปหีนานิ ปฏินิสฺสฏฺานิ นาม โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏินิสฺสฏฺานี’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ยถา น ปุน จิตฺตํ อาโรหนฺติ, เอวํ ปฏินิสฺสชฺชิตานี’’ติ.

กาเมสนาติ กามานํ เอสนา, กามสงฺขาตา วา เอสนา กาเมสนา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ตตฺถ กตมา กาเมสนา? โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามราโค กามนนฺที กามปิปาสา กามมุจฺฉา กามชฺโฌสานํ, อยํ วุจฺจติ กาเมสนา’’ติ, ตสฺมา กามราโค ‘‘กาเมสนา’’ติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘กาเมสนา…เป… อนาคามิมคฺเคน ปหีนา’’ติ. ภวานํ เอสนา ภเวสนา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ตตฺถ กตมา ภเวสนา? โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโท…เป… ภวชฺโฌสานํ, อยํ วุจฺจติ ภเวสนา’’ติ, ตสฺมา ภเวสนราโค รูปารูปภวปตฺถนาติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘ภเวสนา ปน อรหตฺตมคฺเคน ปหียตี’’ติ.

พฺรหฺมจริยสฺส เอสนา พฺรหฺมจริเยสนา. สา จ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส, ทิฏฺิคติกสมฺมตพฺรหฺมจริยสฺส จ คเวสนวเสน ทฺวิปฺปการาติ อาห ‘‘พฺรหฺมจริยํ เอสิสฺสามี’’ติอาทิ. ทิฏฺิคติกสมฺมตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส เอสนาปิ หิ พฺรหฺมจริเยสนาติ วุจฺจติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ตตฺถ กตมา พฺรหฺมจริเยสนา? สสฺสโต โลโกติ วา, อสสฺสโต โลโกติ วา, อนฺตวา โลโกติ วา, อนนฺตวา โลโกติ วา, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคตํ ทิฏฺิคหนํ ทิฏฺิกนฺตารํ ทิฏฺิวิสูกายิกํ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺิสํโยชนํ คาโห ปติฏฺาโห อภินิเวโส ปรามาโส กุมฺมคฺโค มิจฺฉาปโถ มิจฺฉตฺตํ ติตฺถายตนํ วิปริเยสคฺคาโห, อยํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริเยสนา’’ติ (วิภ. ๙๑๙).

ตสฺมา ทิฏฺิคติกสมฺมตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส เอสนา ทิฏฺพฺรหฺมจริเยสนาติ เวทิตพฺพา. เตเนวาห ‘‘ทิฏฺิพฺรหฺมจริเยสนา ปน โสตาปตฺติมคฺเคเนว ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ. เอตฺตาวตา จ ราคทิฏฺิโย เอสนาติ ทสฺสิตํ โหติ. น เกวลฺจ ราคทิฏฺิโย เอว เอสนา, ตเทกฏฺํ กมฺมมฺปิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ตตฺถ กตมา กาเมสนา? กามราโค ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ กาเมสนา. ตตฺถ กตมา ภเวสนา? ภวราโค ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ ภเวสนา. ตตฺถ กตมา พฺรหฺมจริเยสนา? อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริเยสนา’’ติ (วิภ. ๙๑๙).

นววิธมาโนติ ‘‘เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๔.๑๐๘; ธ. ส. ๑๑๒๑; วิภ. ๘๖๖; มหานิ. ๒๑) อาคโต นววิธมาโน.

‘‘กาเมสนา’’ติอาทิคาถาย ปน พฺรหฺมจริเยสนา สหาติ พฺรหฺมจริเยสนาย สทฺธึ. วิภตฺติโลเปน หิ อยํ นิทฺเทโส. กรณตฺเถ วา เอตํ ปจฺจตฺตวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘พฺรหฺมจริเยสนาย สทฺธึ กาเมสนา ภเวสนาติ ติสฺโส เอสนา’’ติ. ตาสุ พฺรหฺมจริเยสนํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘อิติสจฺจปรามาโส, ทิฏฺิฏฺานา สมุสฺสยา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – อิติ เอวํ สจฺจนฺติ ปรามาโส อิติสจฺจปรามาโส. อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ ทิฏฺิยา ปวตฺติอาการํ ทสฺเสติ. ทิฏฺิโย เอว สพฺพานตฺถเหตุภาวโต ทิฏฺิฏฺานา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปรมาหํ, ภิกฺขเว, วชฺชํ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐). ตา เอว จ อุปรูปริ วุทฺธิยา มานโลภาทิกิเลสสมุสฺสยเนน วฏฺฏทุกฺขสมุสฺสยเนน จ สมุสฺสยา, ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ มิจฺฉาภินิวิสมานา สพฺพานตฺถเหตุกา กิเลสทุกฺขูปจยโต เหตุภูตา จ ทิฏฺิโย พฺรหฺมจริเยสนาติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปวตฺติอาการโต นิพฺพตฺติโต จ พฺรหฺมจริเยสนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

สพฺพราควิรตฺตสฺสาติ สพฺเพหิ กามภวราเคหิ วิรตฺตสฺส. ตโต เอว ตณฺหากฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุตฺตตฺตา ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโน อรหโต. เอสนา ปฏินิสฺสฏฺาติ กาเมสนา, ภเวสนา สพฺพโส นิสฺสฏฺา ปหีนา. ทิฏฺิฏฺานา สมูหตาติ พฺรหฺมจริเยสนาสงฺขาตา ทิฏฺิฏฺานา จ ปมมคฺเคเนว สมุคฺฆาติตา. เอวมฺปิ อิมิสฺสา คาถาย อตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปติลีนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อุชฺชยสุตฺตวณฺณนา

๓๙. นวเม อนุกุลยฺนฺติ อนุกุลํ กุลานุกฺกมํ อุปาทาย ทาตพฺพทานํ. เตนาห ‘‘อมฺหากํ…เป… กุลานุกุลวเสน ยชิตพฺพ’’นฺติ. วํสปรมฺปราย ปจฺฉา ทุคฺคตปุริเสหิ ปทาตพฺพทานํ. เอวรูปํ กุลํ สีลวนฺเต อุทฺทิสฺส นิพทฺธทานํ, ตสฺมึ กุเล ทลิทฺทานิปิ น อุปจฺฉินฺทนฺติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – อนาถปิณฺฑิกสฺส ฆเร ปฺจ สลากภตฺตสตานิ ทียึสุ. ทนฺตมยสลากานํ ปฺจสตานิ อเหสุํ. อถ ตํ กุลํ อนุกฺกเมน ทาลิทฺทิเยน อภิภูตํ. เอกา ตสฺมึ กุเล ทาริกา เอกสลากโต อุทฺธํ ทาตุํ นาสกฺขิ. สาปิ ปจฺฉา สาตวาหนํ รฏฺํ คนฺตฺวา ขลํ โสเธตฺวา ลทฺธธฺเน ตํ สลากํ อทาสิ. เอโก เถโร รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตํ อาเนตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา ตโต ปฏฺาย ปุน ปฺจปิ สลากสตานิ ปวตฺเตสิ.

อสฺสเมธนฺติอาทีสุ โปราณกราชกาเล กิร สสฺสเมธํ, ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ, วาจาเปยฺยนฺติ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อเหสุํ, เยหิ ราชาโน โลกํ สงฺคณฺหึสุ. ตตฺถ นิปฺผนฺนสสฺสโต ทสมภาคคฺคหณํ สสฺสเมธํ นาม, สสฺสสมฺปาทเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. มหาโยธานํ ฉมาสิกภตฺตเวตนานุปฺปทานํ ปุริสเมธํ นาม, ปุริสสงฺคณฺหเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. ทลิทฺทมนุสฺสานํ หตฺเถ เลขํ คเหตฺวา ตีณิ วสฺสานิ วินา วฑฺฒิยา สหสฺสทฺวิสหสฺสมตฺตธนานุปฺปทานํ สมฺมาปาสํ นาม. ตฺหิ สมฺมา มนุสฺเส ปาเสติ หทเย พนฺธิตฺวา วิย เปติ, ตสฺมา สมฺมาปาสนฺติ วุจฺจติ. ‘‘ตาต, มาตุลา’’ติอาทินา ปน สณฺหวาจาภณนํ วาจาเปยฺยํ นาม, เปยฺยวชฺชํ ปิยวจนตาติ อตฺโถ. เอวํ จตูหิ วตฺถูหิ สงฺคหิตํ รฏฺํ อิทฺธฺเจว โหติ ผีตฺจ ปหูตอนฺนปานํ เขมํ นิรพฺพุทํ, มนุสฺสา มุทา โมทนา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา อปารุตฆรทฺวารา วิหรนฺติ. อิทํ ฆรทฺวาเรสุ อคฺคฬานํ อภาวโต นิรคฺคฬนฺติ วุจฺจติ. อยํ โปราณิกา ปเวณี. อปรภาเค ปน โอกฺกากราชกาเล พฺราหฺมณา อิมานิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อิมฺจ รฏฺสมฺปตฺตึ ปริวตฺเตนฺตา อุมฺมูลํ กตฺวา อสฺสเมธํ ปุริสเมธนฺติอาทิเก ปฺจ ยฺเ นาม อกํสุ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา พฺราหฺมณธมฺมิยสุตฺเต

‘‘เตสํ อาสิ วิปลฺลาโส, ทิสฺวาน อณุโต อณุํ…เป…;

เต ตตฺถ มนฺเต คนฺเถตฺวา, โอกฺกากํ ตทุปาคมุ’’นฺติ. (สุ. นิ. ๓๐๑-๓๐๔);

อิทานิ เตหิ ปริวตฺเตตฺวา ปิตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสฺสเมธ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ เมธนฺตีติ วเธนฺติ. ทฺวีหิ ปริยฺเหีติ มหายฺสฺส ปุพฺพภาเค ปจฺฉา จ ปวตฺเตตพฺเพหิ ทฺวีหิ ปริวารยฺเหิ. สตฺตนวุติปฺจปสุสตฆาตภึสนสฺสาติ สตฺตนวุตาธิกานํ ปฺจนฺนํ ปสุสตานํ มารเณน เภรวสฺส ปาปภีรุกานํ ภยาวหสฺส. ตถา หิ วทนฺติ –

‘‘ฉสตานิ นิยุชฺชนฺติ, ปสูนํ มชฺฌิเม หนิ;

อสฺสเมธสฺส ยฺสฺส, อูนานิ ปสูหิ ตีหี’’ติ. (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๒๐);

สมฺมนฺติ ยุคจฺฉิทฺเท ปกฺขิปิตพฺพทณฺฑกํ. ปาสนฺตีติ ขิปนฺติ. สํหาริเมหีติ สกเฏหิ วหิตพฺเพหิ. ปุพฺเพ กิร เอโก ราชา สมฺมาปาสํ ยชนฺโต สรสฺสตินทิตีเร ปถวิยา วิวเร ทินฺเน นิมุคฺโคเยว อโหสิ, อนฺธพาลพฺราหฺมณา คตานุคติคตา ‘‘อยํ ตสฺส สคฺคคมนมคฺโค’’ติ สฺาย ตตฺถ สมฺมาปาสยฺํ ปฏฺเปนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิมุคฺโคกาสโต ปภุตี’’ติ. อยูโป อปฺปกทิวโส ยาโค, สยูโป พหุทิวสํ เนยฺโย สตฺรยาโคติ. มนฺตปทาภิสงฺขตานํ สปฺปิมธูนํ วาชมิติ สมฺา. หิรฺสุวณฺณโคมหึสาทิ สตฺตรสกทกฺขิณสฺส. สารคพฺภโกฏฺาคาราทีสุ นตฺถิ เอตฺถ อคฺคฬนฺติ นิรคฺคโฬ. ตตฺถ กิร ยฺเ อตฺตโน สาปเตยฺยํ อนวเสสโต อนิคูหิตฺวา นิยฺยาตียติ.

มหารมฺภาติ พหุปสุฆาตกมฺมา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘วิวิธา ยตฺถ หฺเร’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘มหากิจฺจา มหากรณียา’’ติ ปโม อตฺถวิกปฺโป วุตฺโต. ทุติโย ปน อตฺถวิกปฺโป ‘‘มหารมฺภาติ ปปฺจวเสน อเชฬกา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อปิจา’’ติอาทินา อารทฺโธ. นิรารมฺภาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นนุ จ ปาณาติปาตาทิอกุสลกมฺมสฺส อปฺปมตฺตกมฺปิ ผลํ นุปลพฺภติ, ตสฺมา ตสฺส นิปฺผลภาวํ อวตฺวา ‘‘น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘นิรวเสสตฺเถ’’ติอาทิ. อนุคตํ กุลนฺติ อนุกุลํ, กุลานุคตนฺติ อตฺโถ. เย นิจฺจภตฺตาทึ ปุพฺพปุริเสหิ ปฏฺปิตํ อปราปรํ อนุปจฺฉินฺทนฺตา มนุสฺสา ททนฺติ, เต อนุกุลํ ยชนฺติ นาม. เตเนวาห ‘‘เย อฺเ อนุกุลํ ยชนฺตี’’ติอาทิ.

อุชฺชยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุทายิสุตฺตวณฺณนา

๔๐. ทสเม ปาณสมารมฺภรหิตนฺติ ปาณฆาตรหิตํ. อพฺยาพชฺฌํ สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตีติ กามจฺฉนฺทาทิพฺยาปาทวิรหิตตฺตา อพฺยาพชฺฌํ นิทฺทุกฺขํ. ปรปีฬาภาเว ปน วตฺตพฺพํ นตฺถิ. ฌานสมาปตฺติวเสน สุขพหุลตฺตา สุขํ เอกนฺตสุขํ พฺรหฺมโลกํ ฌานปุฺเน, อิตรปุฺเน ปน ตทฺสมฺปตฺติภวสงฺขาตํ สุขํ โลกํ ปณฺฑิโต สปฺปฺโ อุเปติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

อุทายิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

จกฺกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. โรหิตสฺสวคฺโค

๑. สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา

๔๑. ปฺจมสฺส ปเม ทิฏฺธมฺมสุขวิหารายาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สุขวิหารตฺถาย, นิกฺกิเลสตาย นิรามิเสน สุเขน วิหรณตฺถายาติ อตฺโถ. อิมินา จตฺตาริ ผลสมาปตฺติชฺฌานานิ ขีณาสวสฺส อาสวกฺขยาธิคมโต อปรภาเค อธิคตรูปารูปชฺฌานานิ จ กถิตานิ. ทิพฺพจกฺขุาณทสฺสนปฺปฏิลาภายาติ ทิพฺพจกฺขุาณปฺปฏิลาภตฺถาย. ทิพฺพจกฺขุาณฺหิ รูปคตสฺส ทิพฺพสฺส อิตรสฺส จ ทสฺสนฏฺเน อิธ ‘‘าณทสฺสน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. อาโลกสฺํ มนสิ กโรตีติ ทิวา วา รตฺตึ วา สูริยทีปจนฺทมณิอุกฺกาวิชฺชุลตาทีนํ อาโลโก ทิวา รตฺติฺจ อุปลทฺโธ, ยถาลทฺธวเสเนว อาโลกํ มนสิ กโรติ จิตฺเต เปติ, ตถา จ นํ มนสิ กโรติ, ยถาสฺส สุภาวิตาโลกกสิณสฺส วิย กสิณาโลโก ยถิจฺฉกํ ยาวทิจฺฉกฺจ โส อาโลโก รตฺติยํ อุปติฏฺติ, เยน ตตฺถ ทิวาสฺํ เปติ, ทิวา วิย วิคตถินมิทฺโธ โหติ. เตนาห ‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺติ’’นฺติ.

ยถา ทิวา อาโลกสฺา มนสิ กตา, ตเถว นํ รตฺติมฺปิ มนสิ กโรตีติ ยถา ทิวา ทิฏฺโ อาโลโก, ตเถว ตํ รตฺตึ มนสิ กโรติ. ทุติยปเทติ ‘‘ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา’’ติ อิมสฺมึ วากฺเย. เอส นโยติ อิมินา ยถา รตฺติยํ จนฺทาโลกาทิ อาโลโก ทิฏฺโ, เอวเมว รตฺตึ ทิฏฺากาเรเนว ทิวา ตํ อาโลกํ มนสิ กโรติ จิตฺเต เปตีติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. อิติ วิวเฏน เจตสาติ เอวํ อปิหิเตน จิตฺเตน, ถินมิทฺธาปิธาเนน อปิหิตจิตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. อปริโยนทฺเธนาติ สมนฺตโต อนทฺเธน อสฺฉาทิเตน. กิฺจาปีติอาทินา อตฺตนา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. อาโลกสทิสํ กตํ ‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺติ’’นฺติอาทินา.

สตฺตฏฺานิกสฺสาติ ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๔; ๒.๓๗๖; ม. นิ. ๑.๑๐๙) วุตฺตสฺส สตฺตฏฺานิกสฺส สติสมฺปชฺสฺส อตฺถาย. ปริคฺคหิตวตฺถารมฺมณตายาติ วตฺถุโน อารมฺมณสฺส จ ยาถาวโต วิทิตภาเวน. ยถา หิ สปฺปํ ปริเยสนฺเตน ตสฺส อาสเย วิทิเต โสปิ วิทิโต คหิโต เอว จ โหติ มนฺตาคทพเลน ตสฺส คหณสฺส สุกรตฺตา, เอวํ เวทนาย อาสยภูเต วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณ จ วิทิเต อาทิกมฺมิกสฺสปิ เวทนา วิทิตา คหิตา เอว โหติ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ ตสฺสา คหณสฺส สุกรตฺตา. ปเคว ปริฺาตวตฺถุกสฺส ขีณาสวสฺส. ตสฺส หิ อุปฺปาทกฺขเณปิ ิติกฺขเณปิ ภงฺคกฺขเณปิ เวทนา วิทิตา ปากฏา โหนฺติ ‘‘ตา เวทนา เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา’’ติอาทินา. น เกวลฺจ เวทนา เอว, อิธ วุตฺตา สฺาทโยปิ อวุตฺตา เจตนาทโยปิ วิทิตาว อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ นิรุชฺฌนฺติ จ. นิทสฺสนมตฺตฺเหตํ, ยทิทํ ปาฬิยํ เวทนาสฺาวิตกฺกคฺคหณํ. เตน อนวเสสโต สพฺพธมฺมานมฺปิ อุปฺปาทาทิโต วิทิตภาวํ ทสฺเสติ.

อปิจ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ, อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ. กถํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ? อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโยติ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส สมุทยํ ปสฺสติ. เอวํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ. กถํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, อนตฺตโต มนสิกโรโต สุฺตุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. เอวํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. อิติ ขยโต ภยโต สุฺโต ชานาติ. กถํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ…เป… เอวํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ. อิมินาปิ นเยเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อิติ รูปนฺติ เอตฺถ อิติสทฺโท อนวเสสโต รูปสฺส สรูปนิทสฺสนตฺโถติ ตสฺส อิทํ รูปนฺติ เอเตน สาธารณโต สรูปนิทสฺสนมาห, เอตฺตกํ รูปนฺติ เอเตน อนวเสสโต, น อิโต ปรํ รูปํ อตฺถีติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อฺสฺส อภาวํ. อิติ เวทนาติอาทีสุปิ อยํ เวทนา, เอตฺตกา เวทนา, อิโต ปรํ เวทนา นตฺถิ. อยํ สฺา…เป… อิเม สงฺขารา…เป… อิทํ วิฺาณํ, เอตฺตกํ วิฺาณํ, อิโต ปรํ วิฺาณํ นตฺถีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ.

าเณน ชานิตฺวา ปโรปรานิ. ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอปรานิ จ. อุตฺตมาธมานีติ ปรตฺตภาวสกตฺตภาวาทีนิ อุตฺตมาธมานิ. จลิตนฺติ ตณฺหาทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. อนีโฆติ ราคาทิอีฆรหิโต. อตาริ โสติ โส เอวรูโป อรหา ชาติชรํ อตริ.

สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒-๔. ปฺหพฺยากรณสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๒-๔๔. ทุติเย เอเตสํ ปฺหานนฺติ เอกํสพฺยากรณาทีนํ จตุนฺนํ ปฺหานํ. ตสฺมึ ตสฺมึ าเน พฺยากรณํ ชานาตีติ ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจา นาม จกฺขุ’’นฺติ ปุฏฺเ ปน ‘‘น เกวลํ จกฺขุเมว, โสตมฺปิ อนิจฺจ’’นฺติ เอวํ วิภชิตฺวา พฺยากาตพฺพํ. ‘‘ยถา จกฺขุํ ตถา โสตํ, ยถา โสตํ ตถา จกฺขุ’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘เกนฏฺเน ปุจฺฉสี’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทสฺสนฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต ‘‘น หี’’ติ พฺยากาตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจฏฺเน ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺเต ‘‘อามา’’ติ พฺยากาตพฺพํ. ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติอาทีนิ ปุฏฺเน ปน ‘‘อพฺยากตเมตํ ภควตา’’ติ เปตพฺโพ, เอส ปฺโห น พฺยากาตพฺโพติ เอวํ ชานาตีติ อตฺโถ. อตฺถสมาคเมนาติ อตฺถสฺส ปฏิลาเภน ลทฺธพฺเพน. สมิติ สงฺคติ สโมธานนฺติ สมโย, ปฏิลาโภ. สมโย เอว อภิสมโย, อภิมุขภาเวน วา สมโย อภิสมโยติ เอวเมตฺถ ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. ตติยจตุตฺถานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปฺหพฺยากรณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. โรหิตสฺสสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๕-๔๖. ปฺจเม (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๐๗) เอโกกาเสติ จกฺกวาฬสฺส ปริยนฺตสฺิเต เอกสฺมึ โอกาเส. ภุมฺมนฺติ ‘‘ยตฺถา’’ติ อิทํ ภุมฺมวจนํ. สามฺโต วุตฺตมฺปิ ‘‘โส โลกสฺส อนฺโต’’ติ วจนโต วิสิฏฺวิสยเมว โหติ. ‘‘น ชายติ, น มียตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น จวติ, น อุปปชฺชตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ อปราปรํ…เป… คหิต’’นฺติ. ปทคมเนนาติ ปทสา คมเนน. สตฺถา สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ สนฺธาย วทติ อุปริ สพฺพานิ ปกาเสตุกาโม. สงฺขารโลกสฺส หิ อนฺโต นิพฺพานํ.

ทฬฺหํ ถิรํ ธนุ เอตสฺสาติ ทฬฺหธนฺวา, โส เอว ‘‘ทฬฺหธมฺมา’’ติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ทฬฺหธนู’’ติ. อุตฺตมปฺปมาณํ นาม สหสฺสถามธนุ. ธนุคฺคณฺหนสิปฺปจิตฺตกตาย ธนุคฺคโห, น ธนุคฺคหณมตฺเตนาติ อาห ‘‘ธนุคฺคโหติ ธนุอาจริโย’’ติ. ‘‘ธนุคฺคโห’’ติ วตฺวา ‘‘สิกฺขิโต’’ติ วุตฺเต ธนุสิกฺขาย สิกฺขิโตติ วิฺายติ. สิกฺขา จ เอตฺตเกน กาเลน สิกฺขนฺตสฺส อุกฺกํสคตา โหตีติ อาห ‘‘ทฺวาทส วสฺสานิ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิโต’’ติ. อุสภปฺปมาเณติ วีสติ ยฏฺิโย อุสภํ, ตสฺมึ อุสภปฺปมาเณ ปเทเส. วาลคฺคนฺติ วาลโกฏึ. กตหตฺโถติ ปริจิตหตฺโถ. กตสรกฺเขโปติ ถิรลกฺเข จ จลลกฺเข จ ปเรสํ ทสฺสนวเสน สรกฺเขปสฺส กตาปี. เตนาห ‘‘ทสฺสิตสิปฺโป’’ติ, ‘‘กตโยคฺโค’’ติ เกจิ. อสนฺติ เอเตนาติ อสนํ, กณฺโฑ. ตาลจฺฉาทินฺติ ตาลจฺฉายํ. สา ปน รตนมตฺตา วิทตฺถิจตุรงฺคุลา.

ปุรตฺถิมา สมุทฺทาติ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ ปุรตฺถิมา สมุทฺทา. สมุทฺทสีเสน ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ วทติ. ปจฺฉิมสมุทฺโทติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นิปฺปปฺจตนฺติ อทนฺตการิตํ. สมฺปตฺเตติ ตาทิเสน ชเวน คจฺฉนฺเตน สมฺปตฺเต. อโนตตฺเตติ เอตฺถาปิ ‘‘สมฺปตฺเต’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ, ตถา ‘‘นาคลตาทนฺตกฏฺ’’นฺติ เอตฺถาปิ. ตทาติ ยทา โส โลกนฺตคเวสโก อโหสิ, ตทา. ทีฆายุกกาโลติ อเนกวสฺสสหสฺสายุกกาโล. จกฺกวาฬโลกสฺสาติ สามฺวเสน เอกวจนํ, จกฺกวาฬโลกานนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ นิพฺพตฺติปุพฺพปริจยสิทฺธาย นิกนฺติยา.

สสฺิมฺหิ สมนเกติ น รูปธมฺมมตฺตเก, อถ โข ปฺจกฺขนฺธสมุทาเยติ ทสฺเสติ. สมิตปาโปติ สมุจฺฉินฺนสํกิเลสธมฺโม. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.

โรหิตสฺสสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สุวิทูรสุตฺตวณฺณนา

๔๗. สตฺตเม สุวิทูรวิทูร-สทฺทานํ สมานตฺถานํเยว เอกตฺถ คหณํ อิธ นิทฺเทโส ทูราสนฺนภาวสฺส อเปกฺขาสิทฺธตฺตา อิธาธิปฺเปตสฺส ทูรภาวสฺส เกนจิ ปริยาเยน อนาสนฺนภาวทสฺสนตฺถํ กตนฺติ อาห ‘‘เกนจิ ปริยาเยน อนาสนฺนานิ หุตฺวา’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

สุวิทูรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิสาขสุตฺตวณฺณนา

๔๘. อฏฺเม วากฺกรณจาตุริยโต วจนคุณเหตูนํ ปูริยา โปรี, โปริยํ ภวาติ โปรี, ตาย โปริยา. เตนาห ‘‘ปริปุณฺณวาจายา’’ติ, อกฺขรปทปริปุณฺณาย วาจายาติ อตฺโถ. อปลิพุทฺธายาติ ปิตฺตาทีหิ น วิพทฺธาย อนนุพุนฺธิตาย. อเนลคลายาติ อเนลาย อคลาย นิทฺโทสาย อคฬิตปทพฺยฺชนาย จ. เถรสฺส หิ กถยโต ปทํ วา พฺยฺชนํ วา น ปริหายติ. เตนาห ‘‘อเนลคลายาติ นิทฺโทสาย เจว อคฬิตาย จา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิทฺโทสายาติ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ วิคตโทสาย. อปติตปทพฺยฺชนายาติ อวิรหิตปทพฺยฺชนาย. อถ วา อเนลคลายาติ น เอลํ โทสํ คลตีติ อเนลคลา. อวิจฺฉินฺนวาจาย อเนลคลาย ยถา ทนฺธมนุสฺสา มุเขน เขฬํ คฬนฺเตน วาจํ ภาสนฺติ, น เอวรูปาย. อถ โข นิทฺโทสาย วิสทวาจายาติ อตฺโถ. วิวฏฺฏปฺปกาสินี วาจา น กทาจิ วิวฏฺฏมุตฺตาติ กตฺวา อาห ‘‘วิวฏฺฏปริยาปนฺนายา’’ติ, วิวฏฺฏํ อมุฺจิตฺวา ปวตฺตายาติ อตฺโถ. วิวฏฺฏปฺปกาสินี หิ วาจา วิวฏฺฏํ ปริจฺฉิชฺช อาปาเทนฺตี ปวตฺตติ. นวโลกุตฺตรธมฺโม สพฺพธมฺเมหิ สมุสฺสิตฏฺเน อพฺภุคฺคตฏฺเน จ ธโช นามาติ อาห ‘‘อพฺภุคฺคตฏฺเนา’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

วิสาขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วิปลฺลาสสุตฺตวณฺณนา

๔๙. นวเม อนิจฺจาทีนิ วตฺถูนิ นิจฺจนฺติอาทินา วิปรีตโต อสนฺตีติ วิปลฺลาสา, สฺาย วิปลฺลาโส สฺาวิปลฺลาโส. อิตเรสุปิ ตีสุ เอเสว นโย. เอวเมเต จตุนฺนํ วตฺถูนํ วเสน จตฺตาโร, เตสุ วตฺถูสุ สฺาทีนํ วเสน ทฺวาทส โหนฺติ. เตสุ อฏฺ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. อสุเภ สุภนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา สกทาคามิมคฺเคน ตนุกา โหนฺติ, อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ. ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา อรหตฺตมคฺเคน ปหียนฺตีติ เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

วิปลฺลาสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา

๕๐. ทสเม อุปกฺกิลิฏฺภาวกรเณนาติ มลีนภาวกรเณน. ปฺจวิธาย สุราย จตุพฺพิธสฺส จ เมรยสฺสาติ เอตฺถ ปูวสุรา, ปิฏฺสุรา, โอทนสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. ปุปฺผาสโว, ผลาสโว, มธฺวาสโว, คุฬาสโวติ จตฺตาโร อาสวา, จตุพฺพิธํ เมรยํ นาม. ตตฺถ ปูเว ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ปูวสุรา. เอวํ เสสสุราปิ. กิณฺณาติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ. เย สุรา ‘‘โมทกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. ธาตกิอาสวาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา.มธุกตาลนาฬิเกราทิปุปฺผรโส จิรปริวาสิโต ปุปฺผาสโว. ปนสาทิผลรโส ผลาสโว. มุทฺทิการโส มธฺวาสโว. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว.

อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

โรหิตสฺสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. ปุฺาภิสนฺทวคฺโค

๑. ปมปุฺาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๕๑. ทุติยสฺส ปเม ปุฺาภิสนฺทาติ วา ปุฺนทิโย. อวิจฺเฉเทน นิจฺจํ ปวตฺติยมานานิ หิ ปุฺานิ อภิสนฺทนฏฺเน ‘‘ปุฺาภิสนฺทา’’ติ วุตฺตา. อปริมิตนฺติ อาฬฺหกคณนาย อปริมิตํ, โยชนวเสน ปนสฺส ปริมาณํ อตฺถิ. ตถา หิ เหฏฺา มหาปถวิยา อุปริ อากาเสน ปรโต จกฺกวาฬปพฺพเตน มชฺเฌ ตตฺถ ตตฺถ ิเตหิ ทีปปพฺพตปริยนฺเตหิ ปริจฺฉินฺนตฺตา โยชนโต สกฺกา ปมาณํ กาตุํ. เภรวารมฺมเณหีติ สวิฺาณกาวิฺาณเกหิ เภรวารมฺมเณหิ. ตถา หิ ตํ มหาสรีรมจฺฉกุมฺภีลยกฺขรกฺขสมหานาคทานวาทีนํ สวิฺาณกานํ วฬวามุขปาตาลาทีนํ อวิฺาณกานฺจ เภรวารมฺมณานํ วเสน ‘‘พหุเภรว’’นฺติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ปมปุฺาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปุฺาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา

๕๒. ทุติเย โสตาปนฺนสฺส สทฺธา อธิปฺเปตาติ โสตาปนฺนสฺส มคฺเคนาคตา สทฺธา อธิปฺเปตา.

ทุติยปุฺาภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. ปมสํวาสสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๓-๕๔. ตติเย ยถากมฺมํ ตา ตา คติโย อรนฺติ อุปคจฺฉนฺตีติ อริยา, สตฺตา. อิเม ปน กุจฺฉิตา อริยาติ กทริยา. ถทฺธมจฺฉริโน, ถทฺเธน มจฺฉเรน สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ถทฺธมจฺฉริยสทิสฺหิ กุจฺฉิตํ สพฺพทา นิหีนํ นตฺถิ สพฺพคุณานํ อาทิภูตสฺส โภคสมฺปตฺติอาทิสพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลภูตสฺส ทานสฺส นิเสธนโต. เตนาห ‘‘กทริยาติ ถทฺธมจฺฉริโน’’ติ. เอกจฺโจ หิ อตฺตโน วสนฏฺาเน ภิกฺขู หตฺถํ ปสาเรตฺวาปิ น วนฺทติ. อฺตฺถ คโต วิหารํ ปวิสิตฺวา สกฺกจฺจํ วนฺทิตฺวา มธุรปฺปฏิสนฺถารํ กโรติ ‘‘กึ, ภนฺเต, อมฺหากํ วสนฏฺานํ นาคจฺฉถ, สมฺปนฺโน ปเทโส, ปฏิพลาหํ อยฺยานํ ยาคุภตฺตาทีหิ อุปฏฺานํ กาตุ’’นฺติ. ภิกฺขุ ‘‘สทฺโธ อยํ อุปาสโก’’ติ ยาคุภตฺตาทีหิ สงฺคณฺหาติ.

อเถโก เถโร ตสฺส คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จรติ. โส ตํ ทิสฺวา อฺเน วา คจฺฉติ, ฆรํ วา ปวิสติ. สเจปิ สมฺมุขีภาวํ อาคจฺฉติ, หตฺเถน วนฺทิตฺวา ‘‘อยฺยสฺส ภิกฺขํ เทถ, อหํ เอเกน กมฺเมน คจฺฉามี’’ติ ปกฺกมติ. เถโร สกลคามํ จริตฺวา ตุจฺฉปตฺโตว นิกฺขมติ. อิทํ ตาว มุทุมจฺฉริยํ นาม. เยน อทายโกปิ ทายโก วิย ปฺายติ. อิธ ปน ถทฺธมจฺฉริยํ อธิปฺเปตํ. เยน สมนฺนาคโต ภิกฺขูสุ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเสุ ‘‘เถรา ิตา’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ มยฺหํ ปาทา รุชฺชนฺตี’’ติอาทีนิ วตฺวา สิลาถมฺโภ วิย ขาณุโก วิย จ ถทฺโธ หุตฺวา ติฏฺติ, สามีจิมฺปิ น กโรติ, กุโต ทานํ. อยมิธ อธิปฺเปโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ถทฺธมจฺฉริโนติ ถทฺเธน มจฺฉเรน สมนฺนาคตาติ อตฺโถ’’ติ. มจฺฉรํ มจฺเฉรํ มจฺฉริยนฺติ อตฺถโต เอกํ.

ปริภาสกาติ ภิกฺขู ฆรทฺวาเร ิเต ทิสฺวา ‘‘กึ ตุมฺเห กสิตฺวา อาคตา วปิตฺวา ลายิตฺวา, มยํ อตฺตโนปิ น ลภาม, กุโต ตุมฺหากํ, สีฆํ นิกฺขมถา’’ติอาทีหิ สนฺตชฺชกา. ยาจกานํ วจนสฺส อตฺถํ ชานนฺตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ภิกฺขู ฆรทฺวาเร ิตา ตุณฺหี โหนฺติ, อตฺถโต ปน ‘‘ภิกฺขํ เทถา’’ติ วทนฺติ นาม อริยาย ยาจนาย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยาน ยาจนา’’ติ (มิ. ป. ๔.๕.๙). ตตฺร เย ‘‘มยํ ปจาม, อิเม น ปจนฺติ, ปจมาเน ปตฺวา อลภนฺตา กุหึ ลภิสฺสตี’’ติ เทยฺยธมฺมํ สํวิภชนฺติ, เต วทฺู ยาจกานํ วจนสฺส อตฺถํ ชานนฺติ นาม ตฺวา กตฺตพฺพกรณโต. จตุตฺถํ อุตฺตานเมว.

ปมสํวาสสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. สมชีวีสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๕-๕๖. ปฺจเม อนุคฺคณฺหนตฺถนฺติ นกุลมาตา นกุลปิตาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ สงฺคหตฺถาย. นกุลสฺส ทารกสฺส ปิตา นกุลปิตา. นกุลมาตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉฏฺเ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

สมชีวีสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๑๐. สุปฺปวาสาสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๗-๖๐. สตฺตเม อายุภาคปฏิลาภินี โหตีติ อายุโกฏฺาสสฺส ปฏิลาภินี โหติ. ติวิธโลกนฺติ สตฺตสงฺขารภาชนสงฺขาตํ ติวิธํ โลกํ. วิทิตํ กตฺวาติ วิภูตํ กตฺวา. โลกวิทูนนฺติ กรณตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘พุทฺเธหิ ปสตฺถา’’ติ. อฏฺมนวมทสมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สุปฺปวาสาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุฺาภิสนฺทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๗) ๒. ปตฺตกมฺมวคฺโค

๑-๔. ปตฺตกมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา

๖๑-๖๔. ทุติยสฺส ปเม เย อนิฏฺา น โหนฺติ, เต อิฏฺาติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อนิฏฺปฏิกฺเขเปน อิฏฺา’’ติ. อิฏฺาติ จ ปริยิฏฺา วา โหตุ มา วา, อิฏฺารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. คเวสิตมฺปิ หิ อิฏฺนฺติ วุจฺจติ, ตํ อิธ นาธิปฺเปตํ. มเนติ มนสฺมึ. กนฺตาติ วา กมนียา, กาเมตพฺพาติ อตฺโถ. มนํ อปฺปายนฺตีติ อิฏฺภาเวน มนํ วฑฺเฒนฺติ. กมฺมสาธโน อิธ โภค-สทฺโทติ อาห ‘‘โภคาติ ภุฺชิตพฺพา’’ติอาทิ. ธมฺมูปฆาตํ กตฺวา กุสลธมฺมํ วิโนเทตฺวา. อุปนิชฺฌายียนฺตีติ อุปชฺฌายาติ อาห ‘‘สุขทุกฺเขสุ อุปนิชฺฌายิตพฺพตฺตา’’ติ, สุขทุกฺเขสุ อุปฺปนฺเนสุ อนุสฺสริตพฺพตฺตาติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺสมฺภตฺเตหีติ เอตฺถ ตตฺถ ตตฺถ สงฺคมฺม ทิฏฺมตฺตา นาติทฬฺหมิตฺตา สนฺทิฏฺา, สุฏฺุ ภตฺตา สิเนหวนฺโต ทฬฺหมิตฺตา สมฺภตฺตา.

วิสมโลภนฺติ พลวโลภํ. สุขิตนฺติ สฺชาตสุขํ. ปีณิตนฺติ ธาตํ สุหิตํ. ตถาภูโต ปน ยสฺมา พลสมฺปนฺโน โหติ, ตสฺมา ‘‘พลสมฺปนฺนํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ.

โสภเน กายิกวาจสิกกมฺเม รโตติ สูรโต อุการสฺส ทีฆํ กตฺวา, ตสฺส ภาโว โสรจฺจํ, กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. โส ปน อตฺถโต สุสีลภาโวติ อาห ‘‘ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺาติ อธิวาสนกฺขนฺติยฺจ สุสีลตาย จ นิวิฏฺา’’ติ. เอกมตฺตานนฺติ เอกํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. ราคาทีนฺหิ ปุพฺพภาคิยํ ทมนาทิ ปจฺเจกํ อิจฺฉิตพฺพํ, น มคฺคกฺขเณ วิย เอกชฺฌํ ปฏิสงฺขานมุเขน ปชหนโต. เอกมตฺตานนฺติ วา วิเวกวเสน เอกํ เอกากินํ อตฺตานํ. เตเนวาห ‘‘เอกํ อตฺตโนว อตฺตภาว’’นฺติอาทิ. อุปรูปริภูมีสูติ ฉกามสคฺคสงฺขาตาสุ อุปรูปริกามภูมีสุ. กมฺมสฺส ผลํ อคฺคํ นาม. ตํ ปเนตฺถ อุจฺจคามีติ อาห ‘‘อุทฺธมคฺคมสฺสา’’ติ. สุวคฺเค นิยุตฺตา, สุวคฺคปฺปโยชนาติ วา โสวคฺคิกา. ทสนฺนํ วิเสสานนฺติ ทิพฺพอายุวณฺณยสสุขอาธิปเตยฺยานฺเจว อิฏฺรูปาทีนฺจ ผลวิเสสานํ. วณฺณคฺคหเณน เจตฺถ สโก อตฺตภาววณฺโณ คหิโต, รูปคฺคหเณน พหิทฺธา รูปารมฺมณํ. ทุติยตติยจตุตฺถานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปตฺตกมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. รูปสุตฺตวณฺณนา

๖๕. ปฺจเม ปมิโนติ อุฬารตาทิวิเสสํ เอเตนาติ ปมาณํ, รุปกาโย ปมาณํ เอตสฺสาติ รูปปฺปมาโณ. ตโต เอว รูเป ปสนฺโนติ รูปปฺปสนฺโน. โฆโสติ เจตฺถ ถุติโฆโส. ลูขนฺติ ปจฺจยลูขตา. ธมฺมาติ สีลาทโย คุณธมฺมา อธิปฺเปตา. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ นานากรณํ ปาฬิยํเยว อาคตํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาโรหํ วา ปสฺสิตฺวา ปริณาหํ วา ปสฺสิตฺวา สณฺานํ วา ปสฺสิตฺวา ปาริปูรึ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน.

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปรวณฺณนาย ปรโถมนาย ปรปสํสนาย ปรวณฺณหาริกาย ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน.

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จีวรลูขํ วา ปสฺสิตฺวา ปตฺตลูขํ วา ปสฺสิตฺวา เสนาสนลูขํ วา ปสฺสิตฺวา วิวิธํ วา ทุกฺกรการิกํ ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน.

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลํ วา ปสฺสิตฺวา สมาธึ วา ปสฺสิตฺวา ปฺํ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน’’ติ (ปุ. ป. ๑๗๑-๑๗๒).

ตตฺถ อาโรหนฺติ อุจฺจตํ. สา จ โข ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ปมาณยุตฺตา ทฏฺพฺพา. ปริณาหนฺติ นาติกิสถูลตาวเสน ปีณตํ. สณฺานนฺติ เตสํ เตสํ องฺคปจฺจงฺคานํ สุสณฺิตตํ ทีฆรสฺสวฏฺฏาทิยุตฺตฏฺาเนสุ ตถาภาวํ. ปาริปูรินฺติ สพฺเพสํ สรีราวยวานํ ปริปุณฺณตํ อวิกลตํ. ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวาติ ตสฺมึ รูเป รูปสมฺปตฺติยํ ปมาณภาวํ อุปาทาย. ปสาทํ ชเนตีติ อธิโมกฺขํ ชเนติ อุปฺปาเทติ.

ปรวณฺณนายาติ ‘‘อสุโก เอทิโส จ เอทิโส จา’’ติ ปรสฺส คุณวจเนน. ปรโถมนายาติ ปรมฺมุขา ปรสฺส สิลาฆุปฺปาทเกน อภิตฺถวเนน ปเรน ถุติวเสน, คาถาทิอุปนิพนฺธเนน วุตฺตาย โถมนายาติ วุตฺตํ โหติ. ปรปสํสนายาติ ปรมฺมุขา ปรสฺส คุณสํกิตฺตเนน. ปรวณฺณหาริกายาติ ปรมฺปรวณฺณหาริกาย ปรมฺปราย ปรสฺส กิตฺตนสทฺทสฺส อุปสํหาเรน. ตตฺถาติ ตสฺมึ ถุติโฆเส.

จีวรลูขนฺติ ถูลชิณฺณพหุตุนฺนกตาทิจีวรสฺส ลูขภาวํ. ปตฺตลูขนฺติ อเนกคนฺถิกาหฏตาทิปตฺตสฺส ลูขภาวํ. วิวิธํ วา ทุกฺกรการิกนฺติ ธุตงฺคาทิวเสน ปวตฺตนานาวิธํ ทุกฺกรจริยํ. สีลํ วา ปสฺสิตฺวาติ สีลปาริปูริวเสน วิสุทฺธํ กายวจีสุจริตํ าณจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา, ฌานาทิอธิคมสุทฺธิสมาธึ วา วิปสฺสนาภิฺาสงฺขาตํ ปฺํ วา ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ.

เอวเมตสฺมึ จตุปฺปมาเณ โลกสนฺนิวาเส พุทฺเธสุ อปฺปสนฺนา มนฺทา, ปสนฺนา พหุกา. รูปปฺปมาณสฺส หิ พุทฺธรูปโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ รูปํ นาม นตฺถิ. โฆสปฺปมาณสฺส พุทฺธานํ กิตฺติโฆสโต อุตฺตริ ปสาทาวโห โฆโส นาม นตฺถิ. ลูขปฺปมาณสฺส กาสิกานิ วตฺถานิ มหารหานิ กฺจนภาชนานิ ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเก สพฺพสมฺปตฺติยุตฺเต ปาสาทวเร ปหาย ปํสุกูลจีวรเสลมยปตฺตรุกฺขมูลาทิเสนาสนเสวิโน พุทฺธสฺส ภควโต ลูขโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ อฺํ ลูขํ นาม นตฺถิ. ธมฺมปฺปมาณสฺส สเทวเก โลเก อสาธารณสีลาทิคุณสฺส ตถาคตสฺส สีลาทิคุณโต อุตฺตริ ปสาทาวโห อฺโ สีลาทิคุโณ นาม นตฺถิ. อิติ ภควา อิมํ จตุปฺปมาณิกํ โลกสนฺนิวาสํ มุฏฺินา คเหตฺวา วิย ิโตติ.

ปมาณึสูติ ปมาณํ อคฺคเหสุํ. นิยกชฺฌตฺเต ตสฺส คุณํ น ชานาตีติ ตสฺส อพฺภนฺตเร ปวตฺตมานํ สีลาทิคุณํ น ชานาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

รูปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อหิราชสุตฺตวณฺณนา

๖๗. สตฺตเม ทฏฺวิสาเนวาติ อวธารเณน ทิฏฺวิสาทโย นิวตฺเตติ. กฏฺมุขาทโย หิ จตฺตาโร อาสีวิสา ทฏฺวิโส, ทิฏฺวิโส, ผุฏฺวิโส, วาตวิโสติ ปจฺเจกํ จตุพฺพิธา โหนฺตีติ วิสเวควิการวเสน โสฬส วุตฺตา. เตสุ ทฏฺวิสานํเยว อิธ คหณํ, น อิตเรสนฺติ ทสฺเสติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อหิราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เทวทตฺตสุตฺตวณฺณนา

๖๘. อฏฺเม กาเล สมฺปตฺเตติ คพฺภสฺส ปริปากคตตฺตา วิชายนกาเล สมฺปตฺเต. โปตกนฺติ อสฺสตริยา ปุตฺตํ. ‘‘ผลํ เว กทลึ หนฺตี’’ติอาทิคาถาย กุกฺกุชเกเนว ปตฺตวฏฺฏิปสวสฺส อุจฺฉินฺนตฺตา ผลุปฺปตฺติ กทลิยา ปราภวาย โหตีติ อาห ‘‘ผลํ เว กทลึ หนฺตี’’ติ. กุกฺกุชกํ นาม กทลิยา ปุปฺผนาฬํ. ตถา ผลปากปริโยสานตฺตา โอสธีนํ ‘‘ผลํ เวฬุํ นฬ’’นฺติ วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑตฺโถ – ยถา อตฺตโน ผลํ กทลิเวฬุนเฬ วินาเสติ, คพฺโภ จ อสฺสตรึ, เอวํ อตฺตโน กมฺมภูโต สกฺกาโร อสปฺปุริสํ วินาเสตีติ.

เทวทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปธานสุตฺตวณฺณนา

๖๙. นวเม ปทหติ เอเตหีติ ปธานานิ. อุตฺตมวีริยานิ เสฏฺวีริยานิ วิสิฏฺสฺส อตฺถสฺส สาธนโต. กิเลสานํ สํวรตฺถายาติ ยถา อภิชฺฌาทโย น อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ สติยา อุปฏฺาเนน กิเลสานํ สํวรณตฺถาย. ปชหนตฺถายาติ กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนตฺถาย. ปธานนฺติ ตสฺเสว ปชหนสฺส สาธนวเสน ปวตฺตวีริยํ. กุสลานํ ธมฺมานํ พฺรูหนตฺถายาติ โพชฺฌงฺคสงฺขาตานํ กุสลธมฺมานํ วฑฺฒนตฺถาย. ปธานนฺติ ตสฺเสว วฑฺฒนสฺส สาธนวเสน ปวตฺตวีริยํ.

ปธานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา

๗๐. ทสเม วิสมนฺติ ภาวนปุํสกเมตํ. เตนาห ‘‘วิสมา หุตฺวา’’ติ. อสมเยนาติ อกาเล. ภุมฺมตฺเถ เหตํ กรณวจนํ. ปกฏฺํ ปธานํ อฺชสํ เอเตสนฺติ ปฺชสา, อฺชสํ ปคตา ปฏิปนฺนาติ วา ปฺชสา, ปกติมคฺคคามิโน. น ปฺชสา อปฺชสา, อมคฺคปฺปฏิปนฺนา. เต ปน ยสฺมา มคฺคโต อปคตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มคฺคโต อปคตา’’ติอาทิ.

คาถาสุ ปน เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. คุนฺนํ เจ ตรมานานนฺติ คาวีสุ มโหฆํ ตรนฺตีสุ. ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโวติ ยทิ ยูถปติ อุสโภ กุฏิลํ คจฺฉติ. สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺตีติ สพฺพา ตา คาวิโย กุฏิลเมว คจฺฉนฺติ. กสฺมา? เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ ตสฺส กุฏิลคตตฺตา. โส หิ ตาสํ ปจฺจยิโก อุปทฺทวหโร จ. เอวเมวนฺติ ยถา เจตํ, เอวเมว โย มนุสฺเสสุ ปธานสมฺมโต, ยทิ โส อธมฺมจารี สิยา, เย ตสฺส อนุชีวิโน, สพฺเพปิ อธมฺมิกา โหนฺติ. สามิสมฺปทา หิ ปกติสมฺปทํ สมฺปาเทติ. ยสฺมา เอตเทวํ, ตสฺมา สพฺพํ รฏฺํ ทุกฺขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.

อธมฺมิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปตฺตกมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๘) ๓. อปณฺณกวคฺโค

๑-๒. ปธานสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๑-๗๒. ตติยวคฺคสฺส ปเม ยวติ เตน ผลํ มิสฺสิตํ วิย โหตีติ โยนิ, เอกนฺติกํ การณํ. อสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส ภิกฺขุโน. ปริปุณฺณนฺติ อวิกลํ อนวเสสํ. อาสเว เขเปตีติ อาสวกฺขโย, อคฺคมคฺโค. อิธ ปน อรหตฺตผลํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตตฺถายา’’ติ. ทุติยํ อุตฺตานเมว.

ปธานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๕. สปฺปุริสสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๓-๗๕. ตติเย ปฺหตฺถาย อภินีโตติ ปฺหกรณตฺถาย อภิมุขํ นีโต. อลมฺพิตํ กตฺวาติ อลมฺพํ กตฺวา, อยเมว วา ปาโ, วิปลมฺพํ อกตฺวาติ อตฺโถ. อวชานาตีติ อวฺํ กโรติ, นินฺทตีติ อตฺโถ. จตุตฺถปฺจเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

สปฺปุริสสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กุสินารสุตฺตวณฺณนา

๗๖. ฉฏฺเ นครํ ปวิสิตุกามา อุยฺยานโต อุเปจฺจ วตฺตนฺติ คจฺฉนฺติ เอเตนาติ อุปวตฺตนํ. ยเถว หิ กลมฺพนทิตีรโต ราชมาตุวิหารทฺวาเรน ถูปารามํ คนฺตพฺพํ โหติ, เอวํ หิรฺวติกาย ปาริมตีรโต สาลวนํ อุยฺยานํ, ยถา อนุราธปุรสฺส ถูปาราโม ทกฺขิณปจฺฉิมทิสาย, เอวํ ตํ อุยฺยานํ กุสินาราย ทกฺขิณปจฺฉิมทิสาย โหติ. ยถา ถูปารามโต ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสนมคฺโค ปาจีนมุโข คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตติ, เอวํ อุยฺยานโต สาลปนฺติ ปาจีนมุขา คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตา, ตสฺมา ตํ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ. อนฺตเรติ ทฺวินฺนํ สาลรุกฺขานํ เวมชฺเฌ. ตตฺถ หิ ปฺาปิยมานสฺส มฺจสฺส เอกา สาลปนฺติ สีสภาเค โหติ, เอกา ปาทภาเค. ตตฺรปิ เอโก ตรุณสาโล สีสภาคสฺส อาสนฺโน โหติ, เอโก ปาทภาคสฺส. อปิจ ยมกสาลา นาม มูลขนฺธวิฏปปตฺเตหิ อฺมฺํ สํสิพฺพิตฺวา ิตสาลาติปิ วทนฺติ.

ทฺเวฬฺหกนฺติ ทฺวิธาคาโห, อเนกํสคฺคาโหติ อตฺโถ. วิมตีติ สํสยาปตฺตีติ อาห ‘‘วินิจฺฉิตุํ อสมตฺถตา’’ติ. ตํ โว วทามีติ ตํ สํสยวนฺตํ ภิกฺขุํ สนฺธาย โว ตุมฺเห วทามีติ. นิกฺกงฺขภาวปจฺจกฺขกรณนฺติ พุทฺธาทีสุ เตสํ ภิกฺขูนํ นิกฺกงฺขภาวสฺส ปจฺจกฺขการิยา ยาถาวโต ตมตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตํ สพฺพฺุตฺาณเมว. เอตฺถาติ เอตสฺมึ อตฺเถ.

กุสินารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อจินฺเตยฺยสุตฺตวณฺณนา

๗๗. สตฺตเม โลกจินฺตาติ โลกสนฺนิเวสปฺปฏิสํยุตฺตา วีมํสา. เตนาห ‘‘เกน นุ โข จนฺทิมสูริยา’’ติอาทิ. นาฬิเกราทโยติ อาทิ-สทฺเทน อวุตฺตานํ โอสธิติณวนปฺปติอาทีนํ สงฺคโห. เอวรูปา โลกจินฺตาติ เอทิสา วุตฺตสทิสา อฺาปิ สา โลกจินฺตา.

อจินฺเตยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทกฺขิณสุตฺตวณฺณนา

๗๘. อฏฺเม ทานสงฺขาตาย ทกฺขิณายาติ เทยฺยธมฺมสงฺขาตาย ทกฺขิณาย. วิสุทฺธิ นาม มหาชุติกตา. สา ปน มหปฺผลตาย เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘มหปฺผลภาเวนา’’ติ. วิสุชฺฌตีติ น กิลิสฺสติ, อมลินา มหาชุติกา มหาวิปฺผารา โหตีติ อตฺโถ. สุจิธมฺโมติ ราคาทิอสุจิวิธมเนน สุจิสภาโว. ลามกธมฺโมติ หีนสภาโว ปาปกิริยาย. อกุสลธมฺมา หิ เอกนฺตนิหีนา. ชูชโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม น โหติ, ตสฺส มหาโพธิสตฺตสฺส อตฺตโน ปุตฺตทานํ ทานปารมิยา มตฺถกํ คณฺหนฺตํ มหาปถวิกมฺปนสมตฺถํ ชาตํ. สฺวายํ ทายกคุโณติ อาห ‘‘เวสฺสนฺตรมหาราชา กเถตพฺโพ’’ติอาทิ. อุทฺธรตีติ พหุลํ ปาปกมฺมวเสน ลทฺธพฺพวินิปาตโต อุทฺธรติ, ตสฺมา นตฺถิ มยฺหํ กิฺจิ จิตฺตสฺส อฺตฺถตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

เปตทกฺขิณนฺติ เปเต อุทฺทิสฺส ทาตพฺพทกฺขิณํ. ปาปิตกาเลเยวาติ ‘‘อิทํ ทานํ อสุกสฺส เปตสฺส โหตู’’ติ ตํอุทฺทิสนวเสน ปตฺติยา ปาปิตกาเลเยว. อสฺสาติ เปตสฺส. ปาปุณีติ ผลสมฺปตฺติลภาปนวเสน ปาปุณิ. อยฺหิ เปเต อุทฺทิสฺส ทาเน ธมฺมตา. ตทา โกสลรฺโ ปริจฺจาควเสน อติวิย ทานชฺฌาสยตํ พุทฺธปฺปมุขสฺส จ สงฺฆสฺส อุกฺกํสคตคุณวิสิฏฺตํ สนฺธายาห ‘‘อสทิสทานํ กเถตพฺพ’’นฺติ.

ทกฺขิณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. วณิชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา

๗๙-๘๐. นวเม ตํสทิสาติ ยาทิสา วณิชฺชา ปยุตฺตา อยถาธิปฺปายา อฺา วา สมฺปชฺชติ, ตาทิสาวาติ อตฺโถ. เฉทํ คจฺฉตีติ วินาสํ ปาปุณาติ. อธิปฺปายโต ปรา วิสิฏฺาติ ปราธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘อชฺฌาสยโต อธิกตรผลา โหตี’’ติ. จีวราทินา ปจฺจเยน วเทยฺยาสีติ จีวราทิปจฺจยเหตุ มํ วเทยฺยาสิ ปตฺเถยฺยาสิ. อถ วา ยทา จีวราทินา ปจฺจเยน อตฺโถ โหติ, ตทา มํ ยาเจยฺยาสีติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. ทสมํ อุตฺตานเมว.

วณิชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อปณฺณกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๙) ๔. มจลวคฺโค

๑-๖. ปาณาติปาตสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๑-๘๖. จตุตฺถสฺส ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ปฺจเม (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๓๒) ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน อปฺปกาสภาเวน ตมตีติ ตโม, เตน ตเมน ยุตฺโตติ ตโม ปุคฺคโล วุจฺจติ. ตถา หิ ตํโยคโต ปุคฺคลสฺส ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘มจฺเฉรโยคโต มจฺฉโร’’ติ, ตสฺมา ตโมติ อปฺปกาสภาเวน ตโม ตมภูโต อนฺธการํ วิย ชาโต, อนฺธการตฺตํ วา ปตฺโตติ อตฺโถ. วุตฺตลกฺขณํ ตมเมว ปรมฺปรโต อยนํ คติ นิฏฺา เอตสฺสาติ ตมปรายโณ. อุภเยนปิ ตมคฺคหเณน ขนฺธตโม กถิโต, น อนฺธการตโม. ขนฺธตโมติ จ สมฺปตฺติรหิตา ขนฺธปวตฺติเยว ทฏฺพฺพา. ‘‘อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน ปกาสภาเวน โชเตตีติ โชติ, เตน โชตินายุตฺโตติอาทิ สพฺพํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อิตเร ทฺเวติ โชติตมปรายโณ, โชติโชติปรายโณติ อิตเร ทฺเว ปุคฺคเล.

เวณุเวตฺตาทิวิลีเวหิ เปฬภาชนาทิการกา วิลีวการกา. มิคมจฺฉาทีนํ นิสาทนโต เนสาทา, มาควิกมจฺฉพนฺธาทโย. รเถสุ จมฺเมน นหณกรณโต รถการา, จมฺมการา. ปุอิติ กรีสสฺส นามํ, ตํ กุเสนฺติ อปเนนฺตีติ ปุกฺกุสา, ปุปฺผฉฑฺฑกา. ทุพฺพณฺโณติ วิรูโป. โอโกฏิมโกติ อาโรหาภาเวน เหฏฺิมโก, รสฺสกาโยติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ลกุณฺฑโก’’ติ. ลกุ วิย ฆฏิกา วิย เฑติ ปวตฺตตีติ ลกุณฺฑโก, รสฺโส. กณติ นิมีลตีติ กาโณ. ตํ ปนสฺส นิมีลนํ เอเกน อกฺขินา ทฺวีหิปิ วาติ อาห ‘‘เอกจฺฉิกาโณ วา อุภยจฺฉิกาโณ วา’’ติ. กุณนํ กุโณ, หตฺถเวกลฺลํ, โส เอตสฺส อตฺถีติ กุณี. ขฺโช วุจฺจติ ปาทวิกโล. เหฏฺิมกายสงฺขาโต สรีรสฺส ปกฺโข ปเทโส หโต อสฺสาติ ปกฺขหโต. เตนาห ‘‘ปีสปฺปี’’ติ. ปทีเป ปทีปเน เอตพฺพํ เนตพฺพนฺติ ปทีเปยฺยํ, เตลกปาลาทิอุปกรณํ. วุตฺตนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

อาคมนวิปตฺตีติ อาคมนฏฺานวเสน วิปตฺติ ‘‘อาคโม เอตฺถา’’ติ กตฺวา. ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺตีติ ปมุปฺปนฺนปจฺจยวเสน วิปราวตฺติ. จณฺฑาลาทิสภาวา หิสฺส มาตาปิตโร ปมุปฺปนฺนปจฺจโย. ปวตฺตปจฺจยวิปตฺตีติ ปวตฺเต สุขปจฺจยวิปตฺติ. ตาทิเส นิหีนกุเล อุปฺปนฺโนปิ โกจิ วิภวสมฺปนฺโน สิยา, อยํ ปน ทุคฺคโต ทุรูโป. อาชีวุปายวิปตฺตีติ อาชีวนุปายวเสน วิปตฺติ. สุเขน หิ ชีวิกํ ปวตฺเตตุํ อุปายภูตา หตฺถิสิปฺปาทโย อิมสฺส นตฺถิ, ปุปฺผฉฑฺฑนสิลาโกฏฺฏนาทิกมฺมํ ปน กตฺวา ชีวิกํ ปวตฺเตติ. เตนาห ‘‘กสิรวุตฺติเก’’ติ. อตฺตภาววิปตฺตีติ อุปธิวิปตฺติ. ทุกฺขการณสมาโยโคติ กายิกเจตสิกทุกฺขุปฺปตฺติยา ปจฺจยสโมธานํ. สุขการณวิปตฺตีติ สุขปจฺจยปริหานิ. อุปโภควิปตฺตีติ อุปโภคสุขสฺส วินาโส อนุปลทฺธิ. โชติ เจว โชติปรายณภาโว จ สุกฺกปกฺโข. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.

ปาณาติปาตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

๘๗. สตฺตเม ม-กาโร ปทสนฺธิกโร ‘‘อฺมฺ’’นฺติอาทีสุ วิย. นิจฺจลสมโณติ ถิรสมโณ. อภิสิฺจิตพฺโพติ อภิเสโกติ กมฺมสาธโน อภิเสกสทฺโท. เตนาห ‘‘อภิเสกํ กาตุํ ยุตฺโต’’ติ.

พากุลตฺเถโร วิยาติ เถโร หิ มหายสสฺสี, ตสฺส ปุตฺตธีตโร นตฺตุปนตฺตกา สุขุมสาฏเกหิ จีวรานิ กาเรตฺวา รชาเปตฺวา สมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา ปหิณนฺติ. เถรสฺส นหานกาเล นหานโกฏฺเก เปนฺติ. เถโร ตานิ นิวาเสติ เจว ปารุปติ จ. เตเนเวตํ วุตฺตํ.

ขทิรวนมคฺเค สีวลิตฺเถโร วิยาติ สตฺถริ กิร ตํ มคฺคํ ปฏิปนฺเน เทวตา ‘‘อมฺหากํ อยฺยสฺส สีวลิตฺเถรสฺส สกฺการํ กริสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา เอเกกโยชเน วิหารํ กาเรตฺวา เอกโยชนโต อุทฺธํ คนฺตุํ อทตฺวา ปาโตว อุฏฺาย ทิพฺพานิ ยาคุอาทีนิ คเหตฺวา ‘‘อมฺหากํ อยฺโย สีวลิตฺเถโร กหํ นิสินฺโน’’ติ วิจรนฺติ. เถโร อตฺตโน อภิหฏํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาเปสิ. เอวํ สตฺถา สปริวาโร ตึสโยชนิกํ กนฺตารํ สีวลิตฺเถรสฺส ปุฺผลํ อนุภวมาโนว อคมาสิ. เตเนเวตํ วุตฺตํ.

อฏฺกนาครสุตฺเต อานนฺทตฺเถโร วิยาติ อฏฺกนาครโก กิร คหปติ เถรสฺส ธมฺมเทสนาย ปสีทิตฺวา ปฺจสตคฺฆนกํ วิหารํ กาเรตฺวา อทาสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ปิลินฺทวจฺฉตฺเถโร วิยาติ เถรสฺส กิร อิทฺธานุภาเวน ปสนฺนา มนุสฺสา สปฺปิอาทีนิ พหูนิ เภสชฺชานิ อภิหรึสุ. ปกติยาปิ จ อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ลาภี โหติ ปฺจนฺนํ เภสชฺชานํ, ลทฺธํ ลทฺธํ ปริสาย วิสฺสชฺเชติ. เตเนตํ วุตฺตํ ‘‘คิลานปจฺจยํ ปิลินฺทวจฺฉตฺเถโร วิยา’’ติ.

ติณฺณมฺปิ สนฺนิปาเตน นิพฺพตฺตานีติ ปิตฺตาทีนํ ติณฺณมฺปิ วิสมานํ สนฺนิปาเตน ชาตานิ. อติสีตาทิภาเวน อุตูนํ ปริณาโมติ อาห ‘‘อติสีตอติอุณฺหอุตุโต ชาตานี’’ติ. ปุริมอุตุโต วิสทิโส อุตุ อุตุปริณาโม, ตโต ชาตานิ อุตุปริณามชานิ, วิสภาคอุตุโต ชาตานีติ อตฺโถ. ชงฺคลเทสวาสีนฺหิ อนูปเทเส วสนฺตานํ วิสภาโคว อุตุ อุปฺปชฺชติ, อนูปเทสวาสีนฺจ ชงฺคลเทเสติ. เอวํ มลยสมุทฺทตีราทิวเสนปิ อุตุวิสภาคตา อุปฺปชฺชติเยว. ตโต ชาตานิ อุตุปริณามชานิ นาม.

อตฺตโน ปกติจริยานํ วิสมํ กายสฺส ปริหรณวเสน วิสมปริหารชานิ. ตานิ ปน อจฺจาสนอติฏฺานาทินา เวทิตพฺพานีติ อาห ‘‘อจฺจาสนอติฏฺานาทิกา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน มหาภารวหณสุธาโกฏฺฏนอเทสกาลจรณาทีนิ สงฺคณฺหาติ. ปรสฺส อุปกฺกมโต นิพฺพตฺตานิ โอปกฺกมิกานิ, อยํ โจโรติ วา ปารทาริโกติ วา คเหตฺวา ชณฺณุกกปฺปรมุคฺคราทีหิ นิปฺโปถนอุปกฺกมํ ปจฺจยํ กตฺวา อุปฺปนฺนานีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วธพนฺธนาทิอุปกฺกเมน นิพฺพตฺตานี’’ติ. เกวลนฺติ พาหิรํ ปจฺจยํ อนเปกฺขิตฺวา เกวลํ, เตน วินาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพกตกมฺมวิปากวเสเนว ชาตานี’’ติ.

ปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘-๑๐. สํโยชนสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๘-๙๐. อฏฺเม โสตาปนฺโน จตูหิ วาเตหิ อินฺทขีโล วิย ปรปฺปวาเทหิ อกมฺปิโย อจลสทฺธาย สมนฺนาคตตฺตา สาสเน ลทฺธปฺปติฏฺโ สมณมจโล นามาติ อาห ‘‘สาสเน ลทฺธปฺปติฏฺตฺตา’’ติอาทิ. ถทฺธภาวกรานํ กิเลสานํ สพฺพโส สมุจฺฉินฺนตฺตาติ จิตฺตสฺส ถทฺธภาวกรานํ อุทฺธมฺภาคิยกิเลสานํ สพฺพโส อภาวา สมณสุขุมาโล นาม สุขุมาลภาวปฺปตฺติโต. นวมทสมานิ สุวิฺเยฺยาเนว.

สํโยชนสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

มจลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๐) ๕. อสุรวคฺโค

๑-๒. อสุรสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๑-๙๒. ปฺจมสฺส ปมทุติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

อสุรสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทุติยสมาธิสุตฺตวณฺณนา

๙๓. ตติเย อปฺปฏิวานีติ ภาวปฺปธาโน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อนิวตฺตนตา’’ติ. ‘‘อปฺปฏิวานิตา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อปฺปฏิวานี’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ วีริยปฺปวาเห วตฺตมาเน อนฺตรา เอว ปฏิคมนํ นิวตฺตนํ ปฏิวานํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ ปฏิวานี, น ปฏิวานี อปฺปฏิวานี, ตสฺส ภาโว อปฺปฏิวานิตา, อนิวตฺตนาติ อตฺโถ. อปฺปฏิวานีติ วา อิตฺถิลิงฺควเสเนวายํ นิทฺเทโส. อนฺตราเยว ปฏิคมนํ นิวตฺตนํ ปฏิวานี, น ปฏิวานี อปฺปฏิวานี, อนิวตฺตนาติ อตฺโถ.

ทุติยสมาธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ตติยสมาธิสุตฺตวณฺณนา

๙๔. จตุตฺเถ สณฺเปตพฺพนฺติ สมฺมเทว เปตพฺพํ. ยถา ปน ปิตํ สณฺปิตํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺนิสาเทตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สนฺนิสาเทตพฺพนฺติ สมาธิปฺปฏิปกฺเข กิเลเส สนฺนิสีทาเปนฺเตน จิตฺตํ โคจรชฺฌตฺเต สนฺนิสีทาเปตพฺพนฺติ. เอโกทิ กาตพฺพนฺติ อพฺยคฺคภาวาปาทเนน เอกคฺคํ กาตพฺพํ. สมาทหิตพฺพนฺติ ยถา อารมฺมเณ สุฏฺุ อปฺปิตํ โหติ, เอวํ สมฺมา สมฺมเทว อาทหิตพฺพํ, สุฏฺุ อาโรเปตพฺพํ สมาหิตํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ.

ตติยสมาธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. ฉวาลาตสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๕-๙๖. ปฺจเม ฉวาลาตนฺติ ฉวานํ ทฑฺฒฏฺาเน อลาตํ. เตเนวาห ‘‘สุสาเน อลาต’’นฺติ. มชฺฌฏฺาเน คูถมกฺขิตนฺติ ปมาเณน อฏฺงฺคุลมตฺตํ ทฺวีสุ าเนสุ อาทิตฺตํ มชฺเฌ คูถมกฺขิตํ. กฏฺตฺถนฺติ กฏฺเน กาตพฺพกิจฺจํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.

ฉวาลาตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๑๐. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๗-๑๐๐. สตฺตเม ขิปฺปนิสนฺตีติ ขิปฺปปฺโ. เตนาห ‘‘ขิปฺปนิสามโน’’ติอาทิ. อนุรูปธมฺมนฺติ โลกุตฺตราธิคมสฺส อนุจฺฉวิกสภาวํ. กลฺยาณา สุนฺทรา ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา วาจา อสฺสาติ กลฺยาณวาโจ. เตนาห ‘‘สุนฺทรวจโน’’ติ. กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณํ อุทาหารโฆโส อสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณ. คุณปริปุณฺณภาเวน ปูเร ปุณฺณภาเว ภวาติ โปรี, ตาย โปริยา. เตนาห ‘‘คุณปริปุณฺณายา’’ติ. ปุเร ภวตฺตา โปริยา นาคริกิตฺถิยา สุขุมาลตฺตเนน สทิสาติ โปรี, ตาย โปริยา. ‘‘สุขุมาลตฺตเนนา’’ติ อิมินา ตสฺสา วาจาย มุทุสณฺหภาโว วุตฺโต. อปลิพุทฺธายาติ ปิตฺตเสมฺหาทีหิ น ปลิเวิตาย. อโทสายาติ สนฺทิทฺธวิลมฺพิตาทิโทสรหิตาย อคฬิตปทพฺยฺชนายาติ อปติตปทพฺยฺชนาย อวิรหิตปทพฺยฺชนาย. อุภยเมตํ อเนลคลายาติ อิมสฺเสว อตฺถวจนํ. อเนลคลายาติ หิ อเนลาย เจว อคลาย จาติ อตฺโถ. อตฺถํ วิฺาเปตุํ สมตฺถายาติ อาทิมชฺฌปริโยสานํ ปากฏํ กตฺวา ภาสิตตฺถสฺส วิฺาปนสตฺถาย. อฏฺมนวมทสมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อสุรวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๓. ตติยปณฺณาสกํ

(๑๑) ๑. วลาหกวคฺโค

๑-๒. วลาหกสุตฺตทฺวยวณฺณนา

๑๐๑-๒. ตติยปณฺณาสกสฺส ปเม คชฺชิตาติ ถนิตา. ตตฺถ คชฺชิตฺวา โนวสฺสนภาโว นาม ปาปโก. มนุสฺสา หิ ยทา เทโว คชฺชติ, ตทา ‘‘สุวุฏฺิตา ภวิสฺสตี’’ติ พีชานิ นีหริตฺวา วปนฺติ. อถ เทเว อวสฺสนฺเต เขตฺเต พีชานิ เขตฺเตเยว นสฺสนฺติ, เคเห พีชานิ เคเหเยว นสฺสนฺตีติ ทุพฺภิกฺขํ โหติ. โนคชฺชิตฺวา วสฺสนภาโวปิ ปาปโก. มนุสฺสา หิ อิมสฺมึ กาเล ‘‘ทุพฺพุฏฺิกา ภวิสฺสตี’’ติ นินฺนฏฺาเนสุเยว วปฺปํ กโรนฺติ. อถ เทโว วสฺสิตฺวา สพฺพพีชานิ มหาสมุทฺทํ ปาเปติ, ทุพฺภิกฺขเมว โหติ. คชฺชิตฺวา วสฺสนภาโว ปน ภทฺทโก. ตทา หิ สุภิกฺขํ โหติ. โนคชฺชิตฺวา โนวสฺสนภาโว เอกนฺตปาปโกว. ภาสิตา โหติ โน กตฺตาติ ‘‘อิทานิ คนฺถธุรํ ปูเรสฺสามิ, วาสธุรํ ปูเรสฺสามี’’ติ กเถติเยว, น อุทฺเทสํ คณฺหาติ, น กมฺมฏฺานํ ภาเวติ.

กตฺตา โหติ โน ภาสิตาติ ‘‘คนฺถธุรํ ปูเรสฺสามิ, วาสธุรํ วา’’ติ น ภาสติ, สมฺปตฺเต ปน กาเล สมตฺตํ สมฺปาเทติ. อิมินา นเยน อิตเรปิ เวทิตพฺพา. อถ วา สพฺพํ ปเนตํ ปจฺจยทายเกเหว กถิตํ. เอโก หิ ‘‘อสุกทิวเส นาม ทานํ ทสฺสามี’’ติ สงฺฆํ นิมนฺเตติ, สมฺปตฺเต กาเล โน กโรติ. อยํ ปุคฺคโล ปุฺเน ปริหายติ, ภิกฺขุสงฺโฆ ปน ลาเภน ปริหายติ. อปโร สงฺฆํ อนิมนฺเตตฺวา สกฺการํ กตฺวา ‘‘ภิกฺขู อาเนสฺสามี’’ติ น ลภิ, สพฺเพ อฺตฺถ นิมนฺติตา โหนฺติ. อยมฺปิ ปุฺเน ปริหายติ, สงฺโฆปิ ลาเภน ปริหายติ. อปโร ปมํ สงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา ปจฺฉา สกฺการํ กตฺวา ทานํ เทติ, อยํ กิจฺจการี โหติ. อปโร เนว สงฺฆํ นิมนฺเตติ, น ทานํ เทติ, อยํ ปาปปุคฺคโลติ เวทิตพฺโพ. ทุติยํ อุตฺตานเมว.

วลาหกสุตฺตทฺวยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. กุมฺภสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓. ตติเย ริตฺตโกติ อนฺโต ริตฺโต. ปิหิตมุโขติ ปิทหิตฺวา ปิโต. อปารุตมุโขติ วิวริตฺวา ปิโต, อุปมิตปุคฺคเลสุ ปเนตฺถ อนฺโตคุณสารวิรหิโต จ ตุจฺโฉ, พาหิรโสภนตาย ปิหิโต ปุคฺคโลติ เวทิตพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

กุมฺภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อุทกรหทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔. จตุตฺเถ อุทกรหโท ชณฺณุกมตฺเตปิ อุทเก สติ ปณฺณรสสมฺภินฺนวณฺณตฺตา วา พหลตฺตา วา อุทกสฺส อปฺายมานตโล อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส นาม โหตีติ อาห ‘‘ปุราณปณฺณรส…เป… คมฺภีโรภาโส นามา’’ติ. ติโปริสจตุโปริเส ปน อุทเก สติ อจฺฉตฺตา อุทกสฺส ปฺายมานตโล คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส นาม โหตีติ อาห ‘‘อจฺฉวิปฺปสนฺนมณิวณฺณอุทโก อุตฺตาโนภาโส นามา’’ติ. อุภยการณสมฺภวโต ปน อิตเร ทฺเว เวทิตพฺพา. ปุคฺคเลปิ กิเลสุสฺสทภาวโต คุณคมฺภีรตาย จ อภาวโต คุณคมฺภีรานํ สทิเสหิ อภิกฺกมนาทีหิ ยุตฺโต อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส นาม. อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา.

อุทกรหทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. อมฺพสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๕-๖. ปฺจเม อามกํ หุตฺวาติ อนฺโต อามํ หุตฺวา. ปกฺกํ อามวณฺณีติ อนฺโต ปกฺกํ พหิ อามสทิสํ. ตตฺถ ยถา อมฺเพ อปกฺกภาโว อามตา โหติ, เอวํ ปุคฺคเลปิ ปุถุชฺชนตา. ยถา จ ตตฺถ ปกฺกสทิสตา ปกฺกวณฺณิตา, เอวํ ปุคฺคเลปิ อริยานํ อภิกฺกมนาทิสทิสตา ปกฺกวณฺณิตาติ อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.

อมฺพสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มูสิกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗. สตฺตเม อาวาฏํ ขนตีติ อตฺตโน อาสยํ พิลกูปํ ขนติ. น จ ตตฺถ วสตีติ ตตฺถ อวสิตฺวา กิสฺมิฺจิเทว าเน วสติ, เอวํ พิฬาราทิอมิตฺตวสํ คจฺฉติ. วสิตา โน คาธํ กตฺตาติ สยํ น ขนติ, ปเรน กเต พิเล วสติ, เอวํ ชีวิตํ รกฺขติ. ตติยา ทฺเวปิ กโรนฺตี ชีวิตํ รกฺขติ. จตุตฺถี ทฺเวปิ อกโรนฺตี อมิตฺตวสํ คจฺฉติ. อิมาย ปน อุปมาย อุปมิเตสุ ปุคฺคเลสุ ปโม ยถา สา มูสิกา คาธํ ขนติ, เอวํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ อุคฺคณฺหาติ. ยถา ปน สา ตตฺถ น วสติ, กิสฺมิฺจิเทว าเน วสนฺตี อมิตฺตวสํ คจฺฉติ, ตถา อยมฺปิ ปริยตฺติวเสน าณํ เปเสตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ น ปฏิวิชฺฌติ, โลกามิสฏฺาเนสุ วิจรนฺโต มจฺจุมารกิเลสมารเทวปุตฺตมารสงฺขาตานํ วสํ คจฺฉติ. ทุติโย ยถา มูสิกา คาธํ น ขนติ, เอวํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ น อุคฺคณฺหาติ. ยถา ปน ปเรน ขนิเต พิเล วสนฺตี ชีวิตํ รกฺขติ, เอวํ ปรสฺส กถํ สุตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติณฺณํ มารานํ วสํ อติกฺกมติ. อิมินา นเยน ตติยจตุตฺเถสุปิ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.

มูสิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. พลีพทฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘. อฏฺเม พลีพทฺโท ตาว โย อตฺตโน โคคณํ ฆฏฺเฏติ อุพฺเพเชติ, ปรโคเณ ปน สูรโต สุขสีโล โหติ, อยํ สควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ นาม. ปุคฺคโลปิ อตฺตโน ปริสํ ฆฏฺเฏนฺโต วิชฺฌนฺโต ผรุเส สมุทาจรนฺโต, ปรปริสาย ปน โสรจฺจํ นิวาตวุตฺติตํ อาปชฺชนฺโต สควจณฺโฑ นามาติ อิมินา นเยน เสสาปิ เวทิตพฺพา.

พลีพทฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. รุกฺขสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙. นวเม รุกฺโข ตาว เผคฺคุ สารปริวาโรติ วนเชฏฺกรุกฺโข สยํ เผคฺคุ โหติ, ปริวารรุกฺขา ปนสฺส สารา โหนฺติ. อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา. ปุคฺคเลสุ ปน สีลสารวิรหิตโต เผคฺคุตา, สีลาจารสมนฺนาคเมน จ สารตา เวทิตพฺพา.

รุกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อาสีวิสสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐. ทสเม ยสฺส วิสํ ปชฺชลิตติณุกฺกาย อคฺคิ วิย สีฆํ อภิรุหิตฺวา อกฺขีนิ คเหตฺวา ขนฺธํ คเหตฺวา สีสํ คเหตฺวา ิตนฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ มณิสปฺปาทีนํ วิสํ วิย, มนฺตํ ปน ปริวตฺเตตฺวา กณฺณวาตํ ทตฺวา ทณฺฑเกน ปหฏมตฺเต โอตริตฺวา ทฏฺฏฺาเนเยว ติฏฺติ, อยํ อาคตวิโส น โฆรวิโส นาม. ยสฺส ปน วิสํ สณิกํ อภิรุหติ, อารุฬฺหารุฬฺหฏฺาเน ปน อาสิตฺตอุทกํ วิย โหติ อุทกสปฺปาทีนํ วิย, ทฺวาทสวสฺสจฺจเยนปิ กณฺณวิทฺธขนฺธปิฏฺิกาทีสุ ปฺายติ, มนฺตปริวตฺตนาทีสุ จ กริยมาเนสุ สีฆํ น โอตรติ, อยํ โฆรวิโส น อาคตวิโส นาม. ยสฺส ปน วิสํ สีฆํ อภิรุหติ, น สีฆํ โอตรติ อเนฬกสปฺปาทีนํ วิสํ วิย, อยํ อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ. อเนฬกสปฺโป นาม มหาอาสีวิโส. ยสฺส วิสํ มนฺทํ โหติ, โอหาริยมานมฺปิ สุเขเนว โอตรติ นีลสปฺปธมนิสปฺปาทีนํ วิสํ วิย, อยํ เนว อาคตวิโส น โฆรวิโส. นีลสปฺโป นาม สาขวณฺโณ รุกฺขคฺคาทีสุ วิจรณสปฺโป.

อาสีวิสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

วลาหกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๒) ๒. เกสิวคฺโค

๑-๗. เกสิสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๑-๑๑๗. ทุติยสฺส ปเม อสฺสทมฺเมติ ทมฺมนโยคฺเค อสฺเส. สาเรตีติ สิกฺขาเปติ ปวตฺเตติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

เกสิสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘-๑๐. สํเวชนียสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๑๘-๑๒๐. อฏฺเม สทฺธสฺสาติ พุทฺธาทีสุ ปสนฺนจิตฺตสฺส วตฺตสมฺปนฺนสฺส, ยสฺส ปาโต วุฏฺาย เจติยงฺคณวตฺตาทีนิ สพฺพวตฺตานิ กตาเนว ปฺายนฺติ. ทสฺสนียานีติ ทสฺสนารหานิ. สํเวโค นาม สโหตฺตปฺปํ าณํ. อภิชาติฏฺานาทีนิปิ ตสฺส อุปฺปตฺติเหตูนิ ภวนฺตีติ สิกฺขาเปนฺโต อาห ‘‘สํเวคชนกานี’’ติ. านานีติ การณานิ, ปเทสฏฺานานิ วา. นวมทสมานิ สุวิฺเยฺยานิ.

สํเวชนียสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

เกสิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๓) ๓. ภยวคฺโค

๑. อตฺตานุวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๒๑. ตติยสฺส ปเม อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภยนฺติ อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส ปาปกมฺมิโน อุปฺปชฺชนกภยํ. ทฺวตฺตึสกมฺมการเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยนฺติ อคาริกานํ วเสน วุตฺตํ, อนคาริกานํ ปน วินยทณฺฑํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยมฺปิ ทณฺฑภยนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อตฺตานุวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อูมิภยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๒. ทุติเย โกธูปายาสสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เอตฺถ กุชฺฌนฏฺเน โกโธ, สฺเวว จิตฺตสฺส กายสฺส จ อติปฺปมทฺทนมถนุปฺปาทเนหิ ทฬฺหอายาสฏฺเน อุปายาโส. อเนกวารํ ปวตฺติตฺวา อตฺตนา สมเวตํ สตฺตํ อชฺโฌตฺถริตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตุํ อทตฺวา อูมิสทิสตา ทฏฺพฺพา. ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อูมีสุ โอสีทิตฺวา มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน โกธูปายาเส โอสีทิตฺวา วิพฺภมติ, ตสฺมา โกธูปายาโส ‘‘อูมิภย’’นฺติ วุตฺโต. โอทริกตฺตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ กุมฺภีเลน ขาทิโต มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน โอทริกตฺเตน โอทริกภาเวน อามิสเคเธน มิจฺฉาชีเวน ชีวิกกปฺปเนน นาสิตสีลาทิคุณตาย ขาทิตธมฺมสรีโร วิพฺภมติ, ตสฺมา โอทริกตฺตํ ‘‘กุมฺภีลภย’’นฺติ วุตฺตํ.

อนุปฏฺิตาย สติยาติ กายคตํ สตึ อนุฏฺาเปตฺวา. อสํวุเตหีติ อปิหิเตหิ. ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต ปฺจกามคุณาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา วิพฺภมติ. กามราคาภิภูโต หิ สตฺโต อิโต จ เอตฺโต, เอตฺโต จ อิโตติ เอวํ มนาปิยรูปาทิวิสยสงฺขาเต อาวฏฺเฏ อตฺตานํ สํสาเรตฺวา ยถา ตโต พหิภูเต เนกฺขมฺเม จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทติ, เอวํ อาวฏฺเฏตฺวา พฺยสนาปาทเนน กามคุณานํ อาวฏฺฏสทิสตา ทฏฺพฺพา.

อนุทฺธํเสตีติ กิลเมติ วิโลลติ. ราคานุทฺธํสิเตนาติ ราเคน อนุทฺธํสิเตน. มาตุคามสฺเสตํ อธิวจนนฺติ. ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ จณฺฑมจฺฉํ อาคมฺม ลทฺธปฺปหาโร มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน มาตุคามํ อารพฺภ อุปฺปนฺนกามราโค วิพฺภมติ, ตสฺมา มาตุคาโม ‘‘สุสุกาภย’’นฺติ วุตฺโต. มาตุคาโม หิ โยนิโสมนสิการรหิตํ อธีรปุริสํ อิตฺถิกุตฺตภูเตหิ อตฺตโน หาสภาววิลาเสหิ อภิภุยฺย คเหตฺวา ธีรชาติกมฺปิ อตฺตโน รูปาทีหิ สมฺปโลภนวเสน อนวเสสํ อตฺตโน อุปการธมฺเม สีลาทิเก สมฺปาเทตุํ อสมตฺถํ กโรนฺโต อนยพฺยสนํ ปาเปติ.

อิมานิ ปน จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา ยถา อุทกํ อโนโรหนฺตสฺส อุทกํ นิสฺสาย อุทกปิปาสาวินยนํ สรีรสุทฺธิปริฬาหูปสโม กายอุตุคฺคาหาปนนฺติ, เอวมาทิ อานิสํโส นตฺถิ, เอวเมวํ อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺตสฺสปิ อิมํ สาสนํ นิสฺสาย สงฺเขปโต วฏฺฏทุกฺขูปสโม, วิตฺถารโต ปน สีลานิสํสาทิวเสน อเนกวิโธ อานิสํโส นตฺถิ. ยถา ปน อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ อภายิตฺวา อุทกํ โอโรหนฺตสฺส วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ, เอวํ อิมานิ อภายิตฺวา สาสเน ปพฺพชนฺตสฺสปิ วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ. มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร ปนาห ‘‘จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา อุทกํ อโนตรนฺโต โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปรตีรํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา โอตรนฺโต สกฺโกติ, เอวเมวํ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺโตปิ ตณฺหาโสตํ ฉินฺทิตฺวา นิพฺพานปารํ ทฏฺุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา ปพฺพชนฺโต สกฺโกตี’’ติ.

อูมิภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปมนานากรณสุตฺตวณฺณนา

๑๒๓. ตติเย พฺรหฺมกายิกานํ เทวานนฺติ เอตฺถ พฺรหฺมานํ กาโย สมูโหติ พฺรหฺมกาโย, ตปฺปริยาปนฺนตาย ตตฺถ คตาติ พฺรหฺมกายิกา. เอตาย จ สพฺพสฺสปิ พฺรหฺมกายสฺส สมฺาย ภวิตพฺพํ. อาภสฺสรานํ เทวานนฺติอาทินา ปน ทุติยชฺฌานภูมิกาทีนํ อุปริ คหิตตฺตา โคพลีพทฺทฺาเยน ตทวสิฏฺานํ อยํ สมฺา, ตสฺมา ‘‘พฺรหฺมกายิกานํ เทวาน’’นฺติ ปมชฺฌานภูมิกานํเยว คหณํ เวทิตพฺพํ. สห พฺยยติ คจฺฉตีติ สหพฺโย, สหวตฺตนโก. ตสฺส ภาโว สหพฺยตา, สหปวตฺตีติ อาห ‘‘สหภาวํ อุปคจฺฉตี’’ติ. กปฺโป อายุปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ยทิปิ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ อายุโน อนฺตรํ อตฺถิ, อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ปเนตํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปมชฺฌานํ อตฺถิ หีน’’นฺติอาทิมาห.

ทฺเว กปฺปา อายุปฺปมาณนฺติ เอตฺถ ปน หีนชฺฌาเนน นิพฺพตฺตานํ วเสน อยํ ปริจฺเฉโท กโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุติยชฺฌานํ วุตฺตนเยเนว ติวิธํ โหตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. จตฺตาโร กปฺปาติ เอตฺถ ปน อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน จตุสฏฺิ กปฺปา วตฺตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ เหฏฺา วุตฺตํ ‘กปฺโป ทฺเว กปฺปา’ติ, กมฺปิ อาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. กถํ ปเนตฺถ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘กปฺโปติ จ คุณสฺสปิ นาม’’นฺติ. ตตฺถ ปมํ วุตฺโต กปฺโป, ตโต เอเกน คุเณน, เอกสฺมึ วาเร คณนายาติ อตฺโถ. ทฺเว กปฺปา โหนฺตีติ เอกวารคณนาย กปฺปสฺส ทฺวิคุณิตตฺตา ทฺเว มหากปฺปา โหนฺตีติ อตฺโถ. ทุติเยนาติ ทุติยวารคณนาย. จตฺตาโรติ ทุติยวารคณนาย ทฺวีสุ กปฺเปสุ ทฺวิคุณิเตสุ จตฺตาโร มหากปฺปา โหนฺตีติ อตฺโถ. ปุน เต จตฺตาโร กปฺปาติ วุตฺตนเยน ทฺเว วาเร คุเณตฺวา เย จตฺตาโร กปฺปา ทสฺสิตา, ปุน เต จตฺตาโร กปฺปา จตุคฺคุณา โหนฺตีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ทฺเว วาเร คุเณตฺวา เย จตฺตาโร กปฺปา ทสฺสิตา, เตสุ จตุกฺขตฺตุํ คุณิเตสุ จตุสฏฺิ กปฺปา สมฺปชฺชนฺตีติ. ตถา หิ จตฺตาโร เอกสฺมึ วาเร คุณิตา อฏฺ โหนฺติ, ปุน เต อฏฺ ทุติยวาเร คุณิตา โสฬส โหนฺติ, ปุน เต โสฬส ตติยวาเร คุณิตา ทฺวตฺตึส โหนฺติ, ปุน เต ทฺวตฺตึส จตุตฺถวาเร คุณิตา จตุสฏฺิ โหนฺติ. เตเนวาห ‘‘อิเมหิ จตูหิ คุเณหิ คุณิตา เอเกน คุเณน อฏฺ โหนฺตี’’ติอาทิ. เอตฺถ จ เหฏฺา อุโปสถสุตฺเต (อ. นิ. ๓.๗๑) –

‘‘ยานิ มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว’’ติ –

อาทินา กามาวจรเทวานเมว อายุปฺปมาณํ ทสฺสิตํ. เหฏฺาเยว –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา…เป… อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อากาสานฺจายตนูปคานํ, ภิกฺขเว, เทวานํ วีสติ กปฺปสหสฺสานิ อายุปฺปมาณ’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๑๑๗) –

อาทินา อรูปาวจรานํเยว อายุปฺปมาณํ วุตฺตํ. อิธ ปน รูปาวจรานเมว อายุปฺปมาณํ ทสฺสิตํ. วิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๑๐๒๒) ปน ‘‘มนุสฺสานํ กิตฺตกํ อายุปฺปมาณํ, วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติอาทินา เทวมนุสฺสานฺเจว รูปารูปาวจรสตฺตานฺจ อายุปฺปมาณํ ทสฺสิตํ.

ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มนุสฺสานํ เทวานฺจ อายุํ ปริจฺฉินฺทมาเนน จตูสุ อปาเยสุ ภุมฺมเทเวสุ จ อายุ น ปริจฺฉินฺนํ. ตํ กสฺมาติ? นิรเย ตาว กมฺมเมว ปมาณํ. ยาว กมฺมํ น ขียติ, ตาว ปจฺจนฺติ. ตถา เสสอปาเยสุ. ภุมฺมเทวานมฺปิ กมฺมเมว ปมาณํ. ตตฺถ นิพฺพตฺตา หิ เกจิ สตฺตาหมตฺตํ ติฏฺนฺติ, เกจิ อฑฺฒมาสํ, กปฺปํ ติฏฺมานาปิ อตฺถิเยว. ตตฺถ มนุสฺเสสุ คิหิภาเว ิตาเยว โสตาปนฺนาปิ โหนฺติ, สกทาคามิผลํ อนาคามิผลํ อรหตฺตมฺปิ ปาปุณนฺติ, เตสุ โสตาปนฺนาทโย ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, ขีณาสวา ปน ปรินิพฺพายนฺติ วา ปพฺพชนฺติ วา. กสฺมา? อรหตฺตํ นาม เสฏฺคุณํ, คิหิลิงฺคํ หีนํ, ตํ หีนตาย อุตฺตมํ คุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เต ปรินิพฺพาตุกามา วา โหนฺติ ปพฺพชิตุกามา วา. ภุมฺมเทวา ปน อรหตฺตํ ปตฺตาปิ ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, ฉสุ กามาวจเรสุ เทเวสุ โสตาปนฺนสกทาคามิโน ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, อนาคามินา รูปภวํ คนฺตุํ วฏฺฏติ ขีณาสเวน ปรินิพฺพาตุํ. กสฺมา? นิลียโนกาสสฺส อภาวา. รูปาวจรารูปาวจเรสุ สพฺเพปิ ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, ตตฺถ รูปาวจเร นิพฺพตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิโน น ปุน อิธาคจฺฉนฺติ, ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺติ. เอเต หิ ฌานอนาคามิโน นาม.

อฏฺสมาปตฺติลาภีนํ ปน กึ นิยเมติ? ปคุณชฺฌานํ. ยเทวสฺส ปคุณํ โหติ, เตน อุปปชฺชติ. สพฺเพสุ ปคุเณสุ กึ นิยเมติ? เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ. เอกํเสเนว หิ โส เนวสฺานาสฺายตเน อุปปชฺชติ. นวสุ พฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตอริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติปิ อุปรูปปตฺติปิ, น เหฏฺูปปตฺติ. ปุถุชฺชนานํ ปน ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ, อุปรูปปตฺติปิ, เหฏฺูปปตฺติปิ. ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ จตูสุ จ อรูเปสุ อริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ อุปรูปปตฺติปิ. ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺโต อนาคามี นว พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา มตฺถเก ิโต ปรินิพฺพาติ. เวหปฺผลํ, อกนิฏฺํ, เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิเม ตโย เทวโลกา เสฏฺภวา นาม. อิเมสุ ตีสุ าเนสุ นิพฺพตฺตอนาคามิโน เนว อุทฺธํ คจฺฉนฺติ, น อโธ, ตตฺถ ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺตีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.

ปมนานากรณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๖. ทุติยนานากรณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๔-๖. จตุตฺเถ เต ธมฺเมติ เต ‘‘รูปคต’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺเต รูปาทโย ธมฺเม. อนิจฺจโตติ อิมินา นิจฺจปฺปฏิกฺเขปโต เตสํ อนิจฺจตมาห, ตโต เอว จ อุทยวยวนฺตโต วิปริณามโต ตาวกาลิกโต จ เต อนิจฺจาติ โชติตํ โหติ. ยฺหิ นิพฺพตฺตํ โหติ, ตํ อุทยวยปริจฺฉินฺนํ. ชราย มรเณน จ ตเทว วิปรีตํ, อิตฺตรกฺขณเมว จ โหตีติ. ทุกฺขโตติ อิมินา สุขปฺปฏิกฺเขปโต เตสํ ทุกฺขตมาห. ตโต เอว จ อภิณฺหปฺปฏิปีฬนโต ทุกฺขวตฺถุโต จ เต ทุกฺขาติ โชติตํ โหติ. อุทยวยวนฺตตาย หิ เต อภิณฺหปฺปฏิปีฬนโต นิรนฺตรทุกฺขตาย ทุกฺขสฺเสว จ อธิฏฺานภูตา. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคโต กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนโต จ คณฺฑโต. ปีฬาชนนโต, อนฺโตตุทนโต, ทุนฺนีหรณโต จ สลฺลโต. อวฑฺฒิอาวหนโต อฆวตฺถุโต จ อฆโต. อเสริภาวชนนโต อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสวตฺตนโต อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ปลุชฺชนียตาย ปโลกโต. สามินิวาสิการกเวทกอธิฏฺายกวิรหโต สุฺโต. อตฺตปฺปฏิกฺเขปฏฺเน อนตฺตโต. รูปาทิธมฺมา หิ น เอตฺถ อตฺตา อตฺถีติ อนตฺตา. เอวํ สยมฺปิ อตฺตา น โหนฺตีติ อนตฺตา. เตน อพฺยาปารโต นิรีหโต ตุจฺฉโต อนตฺตาติ ทีปิตํ โหติ. ลกฺขณตฺตยเมว สุขาวโพธนตฺถํ เอกาทสหิ ปเทหิ วิภชิตฺวา คหิตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺจมฉฏฺานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ทุติยนานากรณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๗. สตฺตเม วตฺตมานสมีเป วตฺตมาเน วิย โวหริตพฺพนฺติ ‘‘โอกฺกมตี’’ติ อาห ‘‘โอกฺกนฺโต โหตีติ อตฺโถ’’ติ. ทสสหสฺสจกฺกวาฬปตฺถรโณ สมุชฺชลภาเวน อุฬาโร. เทวานุภาวนฺติ เทวานํ ปภานุภาวํ. เทวานฺหิ ปภํ โส โอภาโส อธิภวติ, น เทเว. เตนาห ‘‘เทวาน’’นฺติอาทิ. รุกฺขคจฺฉาทินา เกนจิ น หฺตีติ อฆา, อสมฺพาธา. เตนาห ‘‘นิจฺจวิวรา’’ติ. อสํวุตาติ เหฏฺา อุปริ เกนจิ อปิหิตา. เตนาห ‘‘เหฏฺาปิ อปฺปติฏฺา’’ติ. ตตฺถ ปิ-สทฺเทน ยถา เหฏฺา อุทกสฺส ปิธายิกา สนฺธาริกา ปถวี นตฺถิ อสํวุตา โลกนฺตริกา, เอวํ อุปริปิ จกฺกวาเฬสุ เทววิมานานํ อภาวโต อสํวุตา อปฺปติฏฺาติ ทสฺเสติ. อนฺธกาโร เอตฺถ อตฺถีติ อนฺธการา. จกฺขุวิฺาณํ น ชายติ อาโลกสฺส อภาวโต, น จกฺขุโน. ตถา หิ ‘‘เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ชมฺพุทีเป ิตมชฺฌนฺหิกเวลาย ปุพฺพวิเทหวาสีนํ อตฺถงฺคมวเสน อุปฑฺฒํ สูริยมณฺฑลํ ปฺายติ, อปรโคยานวาสีนํ อุคฺคมนวเสน. เอวํ เสสทีเปสุปีติ อาห ‘‘เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ ปฺายนฺตี’’ติ. อิโต อฺถา ทฺวีสุ เอว ทีเปสุ ปฺายนฺติ. เอเกกาย ทิสาย นวนวโยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการวิธมนมฺปิ อิมินาว นเยน ทฏฺพฺพํ. ปภาย นปฺปโหนฺตีติ อตฺตโน ปภาย โอภาสิตุํ นาภิสมฺภุณนฺติ. ยุคนฺธรปพฺพตมตฺถกสมปฺปมาเณ อากาเส วิจรณโต ‘‘จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺเฌน จรนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

พฺยาวฏาติ ขาทนตฺถํ คณฺหิตุํ อุปกฺกมนฺตา. วิปริวตฺติตฺวาติ วิวฏฺฏิตฺวา. ฉิชฺชิตฺวาติ มุจฺฉาปวตฺติยา ิตฏฺานโต มุจฺจิตฺวา, องฺคปจฺจงฺคเฉทนวเสน วา ฉิชฺชิตฺวา. อจฺจนฺตขาเรติ อาตปสนฺตปาภาเวน อติสีตภาวํ สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา สิยา. น หิ ตํ กปฺปสณฺานอุทกํ สมฺปตฺติกรมหาเมฆวุฏฺํ ปถวิสนฺธารกํ กปฺปวินาสกอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุมรหติ, ตถา สติ ปถวีปิ วิลีเยยฺย, เตสํ วา ปาปกมฺมผเลน เปตานํ ปกติอุทกสฺส ปุพฺพเขฬภาวาปตฺติ วิย ตสฺส อุทกสฺส ขารภาวาปตฺติ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อจฺจนฺตขาเร อุทเก’’ติ.

ปมตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทุติยตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๘. อฏฺเม อาลียนฺติ อารมิตพฺพฏฺเน เสวียนฺตีติ อาลยา, ปฺจ กามคุณา. อารมนฺตีติ รตึ วินฺทนฺติ กีฬนฺติ ลฬนฺติ. อาลียนฺติ วา อลฺลียนฺตา อภิรมณวเสน เสวนฺตีติ อาลยา, ตณฺหาวิจริตานิ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยารามา. ยเถว หิ สุสชฺชิตํ ปุปฺผผลภริตรุกฺขาทิสมฺปนฺนอุยฺยานํ ปวิฏฺโ ราชา ตาย สมฺปตฺติยา รมติ, สมฺมุทิโต อาโมทิตปฺปโมทิโต โหติ, น อุกฺกณฺเติ, สายมฺปิ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉติ, เอวมิเมหิ กามาลยตณฺหาลเยหิ สตฺตา รมนฺติ, สํสารวฏฺเฏ ปมุทิตา อนุกฺกณฺิตา วสนฺติ. เตน เตสํ ภควา ทุวิธมฺปิ อาลยํ อุยฺยานภูมึ วิย ทสฺเสนฺโต ‘‘อาลยารามา’’ติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ทุติยตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. อานนฺทอจฺฉริยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๒๙-๑๓๐. นวเม ปฏิสนฺถารธมฺมนฺติ ปกติจาริตฺตวเสน วุตฺตํ, อุปคตานํ ปน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวเสน เจว จิตฺตรุจิวเสน จ ยถากาลํ ธมฺมํ เทเสติเยว, อุปาสกอุปาสิกานํ ปน อุปนิสินฺนกกถาวเสน. ทสมํ อุตฺตานเมว.

อานนฺทอจฺฉริยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๔) ๔. ปุคฺคลวคฺโค

๑. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา

๑๓๑. จตุตฺถสฺส ปเม อุปปตฺติปฺปฏิลาภํ สํวตฺตนิกานีติ อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ. ภวปฏิลาภิยานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เยหีติ เยหิ สํโยชเนหิ เหตุภูเตหิ, กรณภูเตหิ วา. นนุ จ โสตาปนฺนสฺสปิ โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ, กสฺมา ปน สกทาคามีเยว อิธ คหิโตติ อาห ‘‘สกทาคามิสฺสาติ อิทํ อปฺปหีนสํโยชเนสุ อริเยสุ อุตฺตมโกฏิยา คหิต’’นฺติ. ตตฺถ อปฺปหีนสํโยชเนสูติ อปฺปหีนโอรมฺภาคิยสํโยชเนสุ. อุตฺตมโกฏิยา คหิตนฺติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน คหิตํ. สกทาคามิโต ปรฺหิ อปฺปหีนโอรมฺภาคิยสํโยชโน อริโย นาม นตฺถิ. นนุ จ สกทาคามิสฺส ปหีนานิปิ โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อตฺถิ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสสํโยชนานํ ปหีนตฺตา, ตสฺมา ‘‘โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โอรมฺภาคิเยสุ จ อปฺปหีนํ อุปาทายา’’ติอาทิ. ยสฺมา กามราคพฺยาปาทสํโยชนานิ สกทาคามิสฺส อปฺปหีนานิ, ตสฺมา ตานิ อปฺปหีนานิ อุปาทาย ‘‘โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานี’’ติ วุตฺตํ, น สพฺเพสํ อปฺปหีนตฺตาติ อธิปฺปาโย.

สํโยชนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปฏิภานสุตฺตวณฺณนา

๑๓๒. ทุติเย ปฏิภานํ วุจฺจติ าณมฺปิ าณสฺส อุปฏฺิตวจนมฺปิ, ตํ อิธ อธิปฺเปตํ, อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตฺจ ปฏิภานมสฺสาติ ยุตฺตปฺปฏิภาโน. ปุจฺฉานนฺตรเมว สีฆํ พฺยากาตุํ อสมตฺถตาย โนมุตฺตปฺปฏิภานมสฺสาติ โนมุตฺตปฺปฏิภาโน. อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปน ปโม กฺจิ กาลํ วีมํสิตฺวา ยุตฺตเมว เปกฺขติ ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร วิย. โส ปน ปฺหํ ปุฏฺโ ปริคฺคเหตฺวา ยุตฺตปฺปตฺตการณเมว กเถติ. ทุติโย ปุจฺฉานนฺตรเมว เยน วา เตน วา วจเนน ปฏิพาหติ, วีมํสิตฺวาปิ จ ยุตฺตํ น ปกฺเขติ จตุนิกายิกปิณฺฑติสฺสตฺเถโร วิย. โส ปน ปฺหํ ปุฏฺโ ปฺหปริโยสานมฺปิ นาคเมติ, ยํ วา ตํ วา กเถติเยว, วจนตฺถํ ปนสฺส วีมํสิยมานํ กตฺถจิ น ลคติ. ตติโย ปุจฺฉาสมกาลเมว ยุตฺตํ เปกฺขติ, ตํขณํเยว จ นํ พฺยากโรติ ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร วิย. โส ปน ปฺหํ ปุฏฺโ สีฆเมว กเถติ, ยุตฺตปฺปตฺตการโณ จ โหติ. จตุตฺโถ ปุฏฺโ สมาโน เนว ยุตฺตํ เปกฺขติ, น เยน วา เตน วา ปฏิพาหิตุํ สกฺโกติ, ติพฺพนฺธการนิมุคฺโค วิย โหติ ลาฬุทายิตฺเถโร วิย.

ปฏิภานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. อุคฺฆฏิตฺูสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓๓-๔. ตติเย อุคฺฆฏิตฺูติ เอตฺถ อุคฺฆฏนํ นาม าณุคฺฆฏนํ, าเณน อุคฺฆฏิตมตฺเตเยว ชานาตีติ อตฺโถ. สห อุทาหฏเวลายาติ อุทาหาเร อุทาหฏมตฺเตเยว. ธมฺมาภิสมโย โหตีติ จตุสจฺจธมฺมสฺส าเณน สทฺธึ อภิสมโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา (วิภ. ๓๕๕) นเยน สํขิตฺเตน มาติกาย ปิยมานาย เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล ‘‘อุคฺฆฏิตฺู’’ติ วุจฺจติ. วิปฺจิตํ วิตฺถาริตเมว อตฺถํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สํขิตฺเตน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรน อตฺเถ ภาชิยมาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล ‘‘วิปฺจิตฺู’’ติ วุจฺจติ. อุทฺเทสาทีหิ เนตพฺโพติ เนยฺโย. อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโยติ อนุกฺกเมน อรหตฺตปฺปตฺติ. พฺยฺชนปทเมว ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโม. น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหตีติ เตน อตฺตภาเวน ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. จตุตฺถํ อุตฺตานเมว.

อุคฺฆฏิตฺูสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๘. สาวชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓๕-๘. ปฺจเม สาวชฺโชติ สโทโส. สาวชฺเชน กายกมฺเมนาติ สโทเสน ปาณาติปาตาทินา กายกมฺเมน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปุคฺคโล ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺมสฺส สโทสตฺตา คูถกุณปาทิภริโต ปเทโส วิย ‘‘สาวชฺโช’’ติ วุจฺจติ. สาวชฺเชน พหุลนฺติ ยสฺส สาวชฺชเมว กายกมฺมํ พหุลํ โหติ, อปฺปํ อนวชฺชํ. โส ‘‘สาวชฺเชน พหุลํ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต อปฺปํ อนวชฺเชนา’’ติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. โก ปน เอวรูโป โหตีติ? โย คามธมฺมตาย วา นิคมธมฺมตาย วา กทาจิ กรหจิ อุโปสถํ สมาทิยติ, สีลานิ ปูเรติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปุคฺคโล ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺเมสุ สาวชฺชสฺเสว พหุลตาย อนวชฺชสฺส อปฺปตาย ‘‘วชฺชพหุโล’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ เอกสฺมึ ปเทเส ทุพฺพณฺณานิ ทุคฺคนฺธานิ ปุปฺผานิ ราสิกตานสฺสุ, เตสํ อุปริ ตหํ ตหํ อธิมุตฺตกวสฺสิกปาฏลานิ ปติตานิ ภเวยฺยุํ, เอวรูโป อยํ ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. ยถา ปน เอกสฺมึ ปเทเส อธิมุตฺตกวสฺสิกปาฏลานิ ราสิกตานสฺสุ, เตสํ อุปริ ตหํ ตหํ ทุคฺคนฺธานิ พทรปุปฺผาทีนิ ปติตานิ ภเวยฺยุํ. เอวรูโป ตติโย ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. จตุตฺโถ ปน ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺมสฺส นิทฺโทสตฺตา จ จตุมธุรภริตสุวณฺณวาติ วิย ทฏฺพฺโพ. ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สาวชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. ธมฺมกถิกสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๓๙-๑๔๐. นวเม อปฺปฺจ ภาสตีติ สมฺปตฺตปริสาย โถกเมว กเถติ. อสหิตฺจาติ กเถนฺโต จ ปน น อตฺถยุตฺตํ กาลยุตฺตํ กเถติ. ปริสา จสฺส น กุสลา โหตีติ โสตุํ นิสินฺนปริสา จสฺส ยุตฺตายุตฺตํ การณาการณํ สิลิฏฺาสิลิฏฺํ น ชานาตีติ อตฺโถ. เอวรูโปติ อยํ เอวํชาติโก พาลธมฺมกถิโก เอวํชาติกาย พาลปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว นามํ ลภติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ทฺเวเยว ชนา สภาวธมฺมกถิกา, น อิตเร. อิตเร ปน ธมฺมกถิกานํ อนฺโต ปวิฏฺตฺตา เอวํ วุตฺตา. ทสมํ อุตฺตานเมว.

ธมฺมกถิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุคฺคลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๕) ๕. อาภาวคฺโค

๑-๖. อาภาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๔๑-๑๔๖. ปฺจมสฺส ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

อาภาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๑๐. ทุติยกาลสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๔๗-๑๕๐. สตฺตเม ปรมตฺถโต อวิชฺชมานสภาวสฺส กาลสฺส ภาวนาทิโยโค น สมฺภวตีติ อาห ‘‘กาลาติ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ธมฺมสฺสวนาทิวเสน ปวตฺตานํ กุสลธมฺมานํ เอตํ อธิวจน’’นฺติ. กาลสหจริตา หิ กุสลา ธมฺมา อิธ กาล-สทฺเทน คหิตา อปรสฺส อสมฺภวโต. อฏฺมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ทุติยกาลสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาภาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๔. จตุตฺถปณฺณาสกํ

(๑๖) ๑. อินฺทฺริยวคฺโค

๑-๕. อินฺทฺริยสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๑-๑๕๕. จตุตฺถสฺส ปมาทีนิ อุตฺตานาเนว.

อินฺทฺริยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖-๘. กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๕๖-๑๕๘. ฉฏฺเ สํวฏฺฏนํ วินสฺสนํ สํวฏฺโฏ, สํวฏฺฏโต อุทฺธํ ตถา ายี สํวฏฺฏฏฺายี. วิวฏฺฏนํ นิพฺพตฺตนํ, วฑฺฒนํ วา วิวฏฺโฏ. ‘‘เตโชสํวฏฺโฏ, อาโปสํวฏฺโฏ, วาโยสํวฏฺโฏติ เอวํ สํวฏฺฏสีมานุกฺกเมน สํวฏฺเฏสุ วตฺตพฺเพสุ ตถา อวตฺวา อาโปสํวฏฺโฏ, เตโชสํวฏฺโฏ, วาโยสํวฏฺโฏติ วจนํ สํวฏฺฏมหาภูตเทสนานุปุพฺพิยา’’ติ เกจิ. ‘‘ภาวีสํวฏฺฏานุปุพฺพิยา’’ติ อปเร. อาเปน สํวฏฺโฏ อาโปสํวฏฺโฏ. สํวฏฺฏสีมาติ สํวฏฺฏนมริยาทา. สํวฏฺฏตีติ วินสฺสติ. สทาติ สพฺพกาลํ, ตีสุปิ สํวฏฺฏกาเลสูติ อตฺโถ. เอกํ พุทฺธกฺเขตฺตํ วินสฺสตีติ เอตฺถ พุทฺธกฺเขตฺตํ นาม ติวิธํ โหติ ชาติกฺเขตฺตํ, อาณากฺเขตฺตํ, วิสยกฺเขตฺตฺจ.

ตตฺถ ชาติกฺเขตฺตํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ โหติ, ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณาทีสุ กมฺปติ. อาณากฺเขตฺตํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ, ยตฺถ รตนสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๒๔ อาทโย) ขนฺธปริตฺตํ (อ. นิ. ๔.๖๗; จูฬว. ๒๕๑) ธชคฺคปริตฺตํ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) อาฏานาฏิยปริตฺตํ (ที. นิ. ๓.๒๗๗-๒๗๘) โมรปริตฺตนฺติ (ชา. ๑.๒.๑๗-๑๘) อิเมสํ ปริตฺตานํ อานุภาโว วตฺตติ. วิสยกฺเขตฺตํ อนนฺตาปริมาณํ, ยํ ‘‘ยาวตา วา ปนากงฺเขยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ ยํ ตถาคโต อากงฺขติ, ตํ ตํ ชานาติ. เอวเมเตสุ ตีสุ พุทฺธกฺเขตฺเตสุ เอกํ อาณากฺเขตฺตํ วินสฺสติ, ตสฺมึ ปน วินสฺสนฺเต ชาติกฺเขตฺตํ วินฏฺเมว โหติ, วินสฺสนฺตฺจ เอกโตว วินสฺสติ, สณฺหนฺตฺจ เอกโตว สณฺหติ. เสสเมตฺถ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๔๐๔) วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. สตฺตมฏฺมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ภิกฺขุนีสุตฺตวณฺณนา

๑๕๙. นวเม เอวํ ปวตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนตณฺหํ นิสฺสายาติ ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อาสวานํ ขยา’’ติอาทินา นเยน อนุตฺตเร วิโมกฺเข ปิหํ อุปฺปาเทนฺตสฺส อุปฺปนฺนตณฺหํ นิสฺสาย. กถํ ปน โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ อาสา อุปฺปชฺชตีติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, น อารมฺมณกรณวเสน ตตฺถ ปิหา ปวตฺตติ อวิสยตฺตา ปุคฺคลสฺส จ อนธิคตภาวโต. อนุสฺสวูปลทฺเธ ปน อนุตฺตรวิโมกฺเข อุทฺทิสฺส ปิหํ อุปฺปาเทนฺโต ตตฺถ ปิหํ อุปฺปาเทติ นาม. นากฑฺฒตีติ กมฺมปถภาวํ อปฺปตฺตตาย ปฏิสนฺธึ น เทติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ภิกฺขุนีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สุคตวินยสุตฺตวณฺณนา

๑๖๐. ทสเม วฬฺเชนฺตีติ สชฺฌายนฺติ เจว วาจุคฺคตํ กโรนฺตา ธาเรนฺติ จ. อวิคตตณฺหตาย ตํ ตํ ปริกฺขารชาตํ พหุมฺปิ อาทิยนฺตีติ พหุลา, เต เอว พาหุลิกา ยถา ‘‘เวนยิโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖; อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘). เต ปน ยสฺมา ปจฺจยพหุลภาวา ยุตฺตปฺปยุตฺตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘ปจฺจยพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา’’ติ. สิถิลํ คณฺหนฺตีติ สาถลิกา, สิกฺขาย อาทรคารวาภาเวน สิถิลํ อทฬฺหํ คณฺหนฺตีติ อตฺโถ. สิถิลนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, สิถิล-สทฺเทน วา สมานตฺถสฺส สาถลสทฺทสฺส วเสน สาถลิกาติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อวคมนโตติ อโธคมนโต, โอรมฺภาคิยภาวโตติ อตฺโถ. นิพฺพีริยาติ อุชฺฌิตุสฺสาหา ตทธิคมาย อารมฺภมฺปิ อกุรุมานา.

สุคตวินยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อินฺทฺริยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๗) ๒. ปฏิปทาวคฺโค

๑. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๖๑. ทุติยสฺส ปเม ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺาติอาทีสุ ปาฬิยา อาคตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ –

‘‘ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? กิจฺเฉน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? กิจฺเฉน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา’’ติ (วิภ. ๘๐๑) – อยเมตฺถ ปาฬิ.

ตตฺถ กิจฺเฉน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺสาติ ปุพฺพภาเค อาคมนกาเล กิจฺเฉน กสิเรน ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส วิกฺขมฺเภตฺวา โลกุตฺตรสมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส. ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺสาติ วิกฺขมฺภิเตสุ กิเลเสสุ วิปสฺสนาปริวาเส จิรํ วสิตฺวา ตํ โลกุตฺตรสมาธิสงฺขาตํ านํ ทนฺธํ สณิกํ อภิชานนฺตสฺส ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส, ปาปุณนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ ยา เอสา เอวํ อุปฺปชฺชติ, อยํ กิเลสวิกฺขมฺภนปฺปฏิปทาย ทุกฺขตฺตา, วิปสฺสนาปริวาสปฺาย จ ทนฺธตฺตา มคฺคกาเล เอกจิตฺตกฺขเณ อุปฺปนฺนาปิ ปฺา อาคมนวเสน ‘‘ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นามา’’ติ วุจฺจติ. อุปริ ตีสุ ปเทสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา

๑๖๒. ทุติเย อกตาภินิเวโสติ อกตาธิกาโร. รูปานํ ลกฺขณาทีหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ รูปปริคฺคโห. ตีสุ อทฺธาสุ กิลมตีติ ปุพฺพนฺเต อปรนฺเต ปุพฺพนฺตาปรนฺเตติ เอวํ ตีสุ ปเทเสสุ กิลมติ. ปฺจสุ าเณสูติ รูปปริคฺคหาทีสุ ปฺจสุ าเณสุ. นวสุ วิปสฺสนาาเณสูติ อุทยพฺพยาทินววิปสฺสนาาเณสุ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อสุภสุตฺตวณฺณนา

๑๖๓. ตติเย ‘‘ยถา เอตํ, ตถา อิท’’นฺติ อิมินา นเยนาติ เอเตน –

‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;

อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, กาเย ฉนฺทํ วิราชเย’’ติ. (สุ. นิ. ๒๐๕); –

อิมํ เทสนานยํ สงฺคณฺหาติ. ตสฺสตฺโถ – ยถา อิทํ สวิฺาณกาสุภํ อายุอุสฺมาวิฺาณานํ อนปคมา จรติ ติฏฺติ นิสีทติ สยติ, ตถา เอตํ เอตรหิ สุสาเน สยิตํ อวิฺาณกมฺปิ ปุพฺเพ เตสํ ธมฺมานํ อนปคมา อโหสิ. ยถา จ เอตํ เอตรหิ มตสรีรํ เตสํ ธมฺมานํ อปคมา น จรติ น ติฏฺติ น นิสีทติ น เสยฺยํ กปฺเปติ, ตถา อิทํ สวิฺาณกมฺปิ เตสํ ธมฺมานํ อปคมา ภวิสฺสติ. ยถา จ อิทํ สวิฺาณกํ เนตรหิ สุสาเน มตํ เสติ น อุทฺธุมาตกาทิภาวมุปคตํ, ตถา เอตํ เอตรหิ มตสรีรมฺปิ ปุพฺเพ อโหสิ. ยถา ปเนตํ เอตรหิ อวิฺาณกาสุภํ มตกสุสาเน เสติ อุทฺธุมาตกาทิภาวฺจ อุปคตํ, ตถา อิทํ สวิฺาณกมฺปิ ภวิสฺสตีติ. ตตฺถ ยถา อิทํ ตถา เอตนฺติ อตฺตนา มตสรีรสฺส สมานภาวํ กโรนฺโต พาหิเร โทสํ ปชหติ. ยถา เอตํ ตถา อิทนฺติ มตสรีเรน อตฺตโน สมานภาวํ กโรนฺโต อชฺฌตฺติเก ราคํ ปชหติ. เยนากาเรน อุภยํ สมํ กโรติ, ตํ สมฺปชานนฺโต อุภยตฺถ โมหํ ปชหติ.

พหิทฺธา ทิฏฺานนฺติ พหิทฺธา สุสานาทีสุ ทิฏฺานํ อุทฺธุมาตกาทิทสนฺนํ อสุภานํ. ‘‘นวนฺนํ ปาฏิกุลฺยานํ วเสนา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อนฺติมชีวิกาภาวโต ปิณฺฑปาตสฺส อลาภลาเภสุ ปริตสฺสนเคธาทิสมุปฺปตฺติโต ภตฺตสฺส สมฺมทชนนโต กิมิกุลสํวทฺธนโตติ เอวมาทีหิปิ อากาเรหิ อาหาเรปฏิกูลตา ปจฺจเวกฺขิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺยํ อติปาโปยํ โลกสฺมึ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺโย วิจรติ ปตฺตปาณีติ (สํ. นิ. ๓.๘๐; อิติวุ. ๙๑). อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ คธิโต มุจฺฉิโต อชฺโฌปนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชตีติ (อ. นิ. ๓.๑๒๔). ภุตฺโต จ อาหาโร กสฺสจิ กทาจิ มรณํ วา มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ อาวหตี’’ติ.

กฏุกีฏกาทโย ทฺวตฺตึสกุลปฺปเภทา กิมิโย นํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺตีติ? วุจฺจเต – อนฺติมชีวิกาภาโว ตาว จิตฺตสํกิเลสวิโสธนตฺถํ กมฺมฏฺานาภินิเวสนโต ปเคว มนสิ กาตพฺโพ ‘‘มาหํ ฉวาลาตสทิโส ภเวยฺย’’นฺติ. ตถา ปิณฺฑปาตสฺส อลาภลาเภสุ ปริตสฺสนเคธาทิสมุปฺปตฺตินิวารณํ ปเคว อนุฏฺาตพฺพํ สุปริสุทฺธสีลสฺส ปฏิสงฺขานวโต ตทภาวโต. ภตฺตสมฺมโท อเนกนฺติโก ปริโภเค อนฺโตคโธวาติ เวทิตพฺโพ. กิมิกุลสํวทฺธนํ ปน สงฺคเหตพฺพํ, สงฺคหิตเมว วา ‘‘นวนฺนํ ปาฏิกุลฺยานํ วเสนา’’ติ เอตฺถ นิยมสฺส อกตตฺตา. อิมินา วา นเยน อิตเรสมฺเปตฺถ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ ยถาสมฺภวเมตฺถ ปฏิกูลตาปจฺจเวกฺขณสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

เอวฺจ กตฺวา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๔-๒๙๕) ทสหิ อากาเรหิ ปฏิกูลตา เวทิตพฺพา. เสยฺยถิทํ – คมนโต, ปริเยสนโต, ปริโภคโต, อาสยโต, นิธานโต, อปริปกฺกโต, ปริปกฺกโต, ผลโต, นิสฺสนฺทโต, สมฺมกฺขนโตติ. เอวํ ทสนฺนํ วเสน ปาฏิกุลฺยวจเนนปิ อิธ ‘‘นวนฺน’’นฺติ วจนํ น วิรุชฺฌติ, สมฺมกฺขนสฺส ปริโภคาทีสุ ลพฺภมานภาวา วิสุํ ตํ อคฺคเหตฺวา น วทนฺติ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๔) ปน สมฺมกฺขนํ ปริโภคาทีสุ ลพฺภมานมฺปิ นิสฺสนฺทวเสน วิเสสโต ปฏิกูลนฺติ ทสฺเสตุํ สพฺพปจฺฉา ปิตา.

อุกฺกณฺิตสฺาย สมนฺนาคโตติ ตีสุ ภเวสุ อรุจฺจนวเสน ปวตฺตาย วิปสฺสนาปฺาย สมนฺนาคโต. นิพฺพิทานุปสฺสนา เหสา สฺาสีเสน วุตฺตา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

อสุภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๖. ปมขมสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๖๔-๑๖๖. จตุตฺเถ ปธานกรณกาเล สีตาทีนิ นกฺขมติ น สหตีติ อกฺขมา. ขมติ สหติ อภิภวตีติ ขมา. อินฺทฺริยทมนํ ทมา. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๔; ๖.๕๘) นเยน วิตกฺกสมนํ สมาติ อาห ‘‘อกุสลวิตกฺกานํ วูปสมนปฏิปทา’’ติ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, สพฺเพสมฺปิ กิเลสานํ สมนวเสน ปวตฺตา ปฏิปทา สมา. ปฺจมฉฏฺานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

ปมขมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๘. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๖๗-๑๖๘. สตฺตมฏฺเมสุ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺสาติอาทินา โมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส เหฏฺา ติณฺณํ มคฺคานํ สุขปฏิปททนฺธาภิฺภาโว, อรหตฺตมคฺคสฺส ทุกฺขปฏิปทขิปฺปาภิฺภาโว วุตฺโต, สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปน เหฏฺิมานํ ติณฺณํ มคฺคานํ สุขปฏิปททนฺธาภิฺภาโว, อรหตฺตมคฺคสฺส จ สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺภาโว ทสฺสิโต. ยํ ปน วุตฺตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๘๐๑) ‘‘พุทฺธานํ ปน จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺาว อเหสุํ, ตถา ธมฺมเสนาปติสฺส. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปน ปมมคฺโค สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺโ อโหสิ, อุปริ ตโย ทุกฺขปฏิปททนฺธาภิฺา’’ติ. ยฺจ วุตฺตํ อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๗๖) ‘‘ตถาคตสฺส หิ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส จ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺาว อเหสุํ, มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปน ปมมคฺโค สุขปฏิปทขิปฺปาภิฺโ อุปริ ตโย ทุกฺขปฏิปทขิปฺปาภิฺา’’ติ, ตํ สพฺพํ อฺมฺํ นานุโลเมติ. อิมาย ปาฬิยา อิมาย จ อฏฺกถาย น สเมติ, ตสฺมา วีมํสิตพฺพเมตํ. ตํตํภาณกานํ วา มเตน ตตฺถ ตตฺถ ตถา ตถา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สสงฺขารสุตฺตวณฺณนา

๑๖๙. นวเม สสงฺขาเรน ทุกฺเขน กสิเรน อธิมตฺตปโยคํ กตฺวาว กิเลสปรินิพฺพานธมฺโมติ สสงฺขารปรินิพฺพายี. อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อธิมตฺตปโยคํ อกตฺวาว กิเลสปรินิพฺพานธมฺโมติ อสงฺขารปรินิพฺพายี. ธมฺมานุสารี ปุคฺคโล หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อปฺปทุกฺเขน อกสิเรน อกิลมนฺโตว วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ. สทฺธานุสารี ปุคฺคโล ปน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต หุตฺวา วิกฺขมฺเภตุํ, ตสฺมา ธมฺมานุสาริสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกํ าณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ยถา นาม ติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อติสีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ธมฺมานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ. สทฺธานุสาริโน ปน ปุพฺพภาคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกํ าณํ ทนฺธํ อติขิณํ อสูรํ หุตฺวา วหติ. ยถา นาม กุณฺเน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อติสีฆํ น วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ, เอวรูปา สทฺธานุสาริโน ปุพฺพภาคภาวนา โหติ. เอวํ สนฺเตปิ เนสํ กิเลสกฺขเย นานตฺตํ นตฺถิ, อนวเสสาว กิเลสา ขียนฺติ.

สสงฺขารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ยุคนทฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๗๐. ทสเม สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตีติ อิทํ สมถยานิกสฺส วเสน วุตฺตํ. โส หิ ปมํ อุปจารสมาธึ วา อปฺปนาสมาธึ วา อุปฺปาเทติ, อยํ สมโถ. โส ตฺจ ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม อนิจฺจาทีหิ วิปสฺสติ, อยํ วิปสฺสนา, อิติ ปมํ สมโถ, ปจฺฉา วิปสฺสนา. เตน วุจฺจติ ‘‘สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตี’’ติ. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวตีติ อิทํ ปน วิปสฺสนายานิกสฺส วเสน วุตฺตํ. โส ตํ วุตฺตปฺปการํ สมถํ อสมฺปาเทตฺวา ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อนิจฺจาทีหิ วิปสฺสติ. ปโม โลกุตฺตรมคฺโค นิพฺพตฺตตีติ โสตาปตฺติมคฺคํ สนฺธาย วทติ, โลกิยมคฺควเสเนว วา อิมิสฺสา ปาฬิยา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กถํ? มคฺโค สฺชายติ, ปุพฺพภาคิโย โลกิยมคฺโค อุปฺปชฺชติ. อาเสวติ นิพฺพิทานุปสฺสนาวเสน. ภาเวติ มุจฺจิตุกมฺยตาวเสน. พหุลีกโรติ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาวเสน. อาเสวติ วา ภยตุปฏฺานาทิาณวเสน. ภาเวติ มุจฺจิตุกมฺยตาทิาณวเสน. พหุลีกโรติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสน. สํโยชนานิ ปหียนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺตีติ มคฺคปฺปฏิปาฏิยา ปหียนฺติ พฺยนฺตี โหนฺติ.

ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสนฺติ โอภาสาทีสุ อริยธมฺโมติ ปวตฺตํ อุทฺธจฺจํ วิกฺเขโป ธมฺมุทฺธจฺจํ, เตน ธมฺมุทฺธจฺเจน วิปสฺสนาวีถิโต อุคฺคมเนน วิรูปํ คหิตํ ปวตฺติยมานํ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสํ โหติ, อนิจฺจโต มนสิ กโรติ, โอภาโส อุปฺปชฺชติ, โอภาโส ธมฺโมติ โอภาสํ อาวชฺชติ, ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจํ, เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโส อนิจฺจโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ทุกฺขโต…เป… อนตฺตโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตถา อนิจฺจโต มนสิกโรโต าณํ อุปฺปชฺชติ…เป… ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, นิกนฺติ ธมฺโมติ นิกนฺตึ อาวชฺชติ, ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจํ, เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโส อนิจฺจโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ทุกฺขโต…เป… อนตฺตโต อุปฏฺานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๖). เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ยุคนทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิปทาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๘) ๓. สฺเจตนิยวคฺโค

๑. เจตนาสุตฺตวณฺณนา

๑๗๑. ตติยสฺส ปเม กายสฺเจตนาเหตูติ กายกมฺมนิมิตฺตํ, กายิกสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตาติ อตฺโถ. เอส นโย เสสสฺเจตนาทฺวเยปิ. อุทฺธจฺจสหคตเจตนา ปวตฺติวิปากํ เทติเยวาติ ‘‘วีสติวิธา’’ติ วุตฺตํ. ตถา วจีสฺเจตนา มโนสฺเจตนาติ เอตฺถ กามาวจรกุสลากุสลวเสน วีสติ เจตนา ลพฺภนฺติ. อิทํ ตถา-สทฺเทน อุปสํหรติ. อปิเจตฺถ นว มหคฺคตเจตนาปิ ลพฺภนฺตีติ อิมินา นวหิ รูปารูปกุสลเจตนาหิ สทฺธึ มโนทฺวาเร เอกูนตึสาติ ตีสุ ทฺวาเรสุ เอกูนสตฺตติ เจตนา โหนฺตีติ ทสฺเสติ. อวิชฺชาปจฺจยาวาติ อิทํ ตาปิ เจตนา อวิชฺชาปจฺจยาว โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยถาวุตฺตา หิ เอกูนสตฺตติ เจตนา กุสลาปิ อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺติ, ปเคว อิตรา อปฺปหีนาวิชฺชสฺเสว อุปฺปชฺชนโต ปหีนาวิชฺชสฺส อนุปฺปชฺชนโต.

ยสฺมา ยํ ตํ ยถาวุตฺตํ เจตนาเภทํ กายสงฺขารฺเจว วจีสงฺขารฺจ มโนสงฺขารฺจ ปเรหิ อนุสฺสาหิโต สามมฺปิ อสงฺขาริกจิตฺเตน กโรติ, ปเรหิ การิยมาโน สสงฺขาริกจิตฺเตนปิ กโรติ, ‘‘อิทํ นาม กมฺมํ กโรนฺโตปิ ตสฺส เอวรูโป นาม วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ กมฺมํ วิปากฺจ ชานนฺโตปิ กโรติ, มาตาปิตูสุ เจติยวนฺทนาทีนิ กโรนฺเตสุ อนุกโรนฺโต ทารโก วิย เกวลํ กมฺมฺเว วิชฺชานนฺโต ‘‘อิมสฺส ปน กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ วิปากํ อชานนฺโตปิ กโรติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สามํ วา ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปเรหิ อนาณตฺโตติ สรเสเนว วตฺตมาโน. ชานนฺโตติ อนุสฺสวาทิวเสน ชานนฺโต.

นนุ จ ขีณาสโว เจติยํ วนฺทติ, ธมฺมํ ภณติ, กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ, กถมสฺส กายกมฺมาทโย น โหนฺตีติ? อวิปากตฺตา. ขีณาสเวน หิ กตกมฺมํ เนว กุสลํ โหติ นากุสลํ, อวิปากํ หุตฺวา กิริยามตฺเต ติฏฺติ. เตนสฺส เต กายาทโย น โหนฺติ. เตเนวาห ‘‘ขีณาสวสฺส กาเยน กรณกมฺมํ ปฺายตี’’ติอาทิ. นฺติ กุสลากุสลํ.

ขิฑฺฑาย ปทุสฺสนฺตีติ ขิฑฺฑาปโทสิโน, ขิฑฺฑาปโทสิโน เอว ขิฑฺฑาปโทสิกา. ขิฑฺฑาปโทโส วา เอเตสํ อตฺถีติ ขิฑฺฑาปโทสิกา. เต กิร ปุฺวิเสสาธิคเตน มหนฺเตน อตฺตโน สิริวิภเวน นกฺขตฺตํ กีฬนฺตา ตาย สมฺปตฺติยา มหนฺตตาย ‘‘อาหารํ ปริภุฺชิมฺหา น ปริภุฺชิมฺหา’’ติปิ น ชานนฺติ. อถ เอกาหาราติกฺกมโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ ขาทนฺตาปิ ปิวนฺตาปิ จวนฺติเยว น ติฏฺนฺติ. กสฺมา? กมฺมชเตชสฺส พลวตาย กรชกายสฺส มนฺทตาย. มนุสฺสานฺหิ กมฺมชเตโช มนฺโท, กรชกาโย พลวา. เตสํ เตชสฺส มนฺทตาย กายสฺส พลวตาย สตฺตาหมฺปิ อติกฺกมิตฺวา อุณฺโหทกอจฺฉยาคุอาทีหิ สกฺกา กรชกายํ อุปตฺถมฺเภตุํ. เทวานํ ปน เตโช พลวา โหติ อุฬารปุฺนิพฺพตฺตตฺตา อุฬารครุสินิทฺธสุธาหารชีรณโต จ. กรชํ มนฺทํ มุทุสุขุมาลภาวโต. เต เอกํ อาหารเวลํ อกฺกมิตฺวาว สณฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา นาม คิมฺหานํ มชฺฌนฺหิเก ตตฺตปาสาเณ ปิตํ ปทุมํ วา อุปฺปลํ วา สายนฺหสมเย ฆฏสเตนปิ สิฺจิยมานํ ปากติกํ น โหติ วินสฺสติเยว, เอวเมว ปจฺฉา นิรนฺตรํ ขาทนฺตาปิ ปิวนฺตาปิ จวนฺติเยว น ติฏฺนฺติ. กตเม ปน เต เทวาติ? ‘‘อิเม นามา’’ติ อฏฺกถาย วิจารณา นตฺถิ, ‘‘อาหารูปจฺเฉเทน อาตเป ขิตฺตมาลา วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา เย เกจิ กพฬีการาหารูปชีวิโน เทวา เอวํ กโรนฺติ, เต เอวํ จวนฺตีติ เวทิตพฺพา. อภยคิริวาสิโน ปนาหุ ‘‘นิมฺมานรติปรนิมฺมิตวสวตฺติโน เต เทวา, ขิฑฺฑาย ปทุสฺสนมตฺเตเนว เหเต ขิฑฺฑาปโทสิกาติ วุตฺตา’’ติ. โก ปเนตฺถ เทวานํ อาหาโร, กา อาหารเวลาติ? ‘‘สพฺเพสมฺปิ กามาวจรเทวานํ สุธา อาหาโร, สา เหฏฺิเมหิ เหฏฺิเมหิ อุปริมานํ อุปริมานํ ปณีตตมา โหติ. ตํ ยถาสกํ ทิวสวเสเนว ทิวเส ทิวเส ภุฺชนฺติ. เกจิ ปน พทรปฺปมาณํ สุธาหารํ ปริภุฺชนฺติ. โส ชิวฺหายํ ปิตมตฺโตเยว ยาว เกสคฺคนขคฺคา กายํ ผรติ, เตสํเยว ทิวสวเสน สตฺตทิวสํ ยาปนสมตฺโถว โหตี’’ติ วทนฺติ.

อิสฺสาปกตตฺตา ปทุฏฺเน มนสา ปทุสฺสนฺตีติ มโนปโทสิกา. อุสูยวเสน วา มนโส ปโทโส มโนปโทโส, โส เอเตสํ อตฺถิ วินาสเหตุภูโตติ มโนปโทสิกา. อกฺกุทฺโธ รกฺขตีติ กุทฺธสฺส โส โกโธ อิตรสฺมึ อกฺกุชฺฌนฺเต อนุปาทาโน เอกวารเมว อุปฺปตฺติยา อนาเสวโน จาเวตุํ น สกฺโกติ, อุทกนฺตํ ปตฺวา อคฺคิ วิย นิพฺพายติ, ตสฺมา อกฺกุทฺโธ ตํ จวนโต รกฺขติ. อุโภสุ ปน กุทฺเธสุ ภิยฺโย ภิยฺโย อฺมฺมฺหิ ปริวฑฺฒนวเสน ติขิณสมุทาจาโร นิสฺสยทหนรโส โกโธ อุปฺปชฺชมาโน หทยวตฺถุํ นิทหนฺโต อจฺจนฺตสุขุมาลํ กรชกายํ วินาเสติ, ตโต สกโลปิ อตฺตภาโว อนฺตรธายติ. เตนาห ‘‘อุโภสุ ปนา’’ติอาทิ. ตถา จาห ภควา ‘‘อฺมฺมฺหิ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกาย…เป… จวนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๗).

กตเม เตน เทวา ทฏฺพฺพาติ เอตฺถ เตนาติ ปจฺจตฺเต กรณวจนนฺติ อาห ‘‘กตเม นาม เต เทวา ทฏฺพฺพา’’ติ. กรณตฺเถเยว วา เอตํ กรณวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เตน วา อตฺตภาเวนา’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

เจตนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิภตฺติสุตฺตวณฺณนา

๑๗๒. ทุติเย อตฺถปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ อตฺเถ ปเภทคตํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา. อตฺโถติ เจตฺถ สงฺเขปโต เหตุผลํ. ตฺหิ เหตุวเสน อรณียํ คนฺตพฺพํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘อตฺโถ’’ติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน ยํ กิฺจิ ปจฺจยสมุปฺปนฺนํ, นิพฺพานํ, ภาสิตตฺโถ, วิปาโก, กิริยาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ‘‘อตฺโถ’’ติ เวทิตพฺพา, ตํ อตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ อตฺเถ ปเภทคตํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา. เตนาห ‘‘ปฺจสุ อตฺเถสุ ปเภทคตํ าณ’’นฺติ. อาจิกฺขามีติอาทีสุ อาทิโต กเถนฺโต อาจิกฺขติ นาม, อุทฺทิสตีติ อตฺโถ. ตเมว อุทฺเทสํ ปริโยสาเปนฺโต เทเสติ. ยถาอุทฺทิฏฺมตฺถํ อุทฺทิสนวเสน ปกาเรหิ าเปนฺโต าเปติ. ปกาเรหิ เอว ตมตฺถํ ปติฏฺาเปนฺโต ปฏฺเปติ. ยถาอุทฺทิฏฺํ ปฏินิทฺทิสนวเสน วิวรติ. วิวฏํ วิภชติ. วิภตฺตอตฺถํ เหตูทาหรณทสฺสเนหิ ปากฏํ กโรนฺโต อุตฺตานึ กโรติ.

ติสฺโส ปฏิสมฺภิทาติ ธมฺมนิรุตฺติปฏิภานปฏิสมฺภิทา. ตตฺถ ธมฺมปฏิสมฺภิทา นาม ธมฺมปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ าณํ. ธมฺโมติ จ สงฺเขปโต ปจฺจโย. โส หิ ยสฺมา ตํ ตํ วิทหติ ปวตฺเตติ เจว ปาเปติ จ, ตสฺมา ‘‘ธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ, กุสลํ, อกุสลนฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ‘‘ธมฺโม’’ติ เวทิตพฺพา, ตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ ธมฺเม ปเภทคตํ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา. นิรุตฺติปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ นิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตฺเถ จ ธมฺเม จ ยา สภาวนิรุตฺติ, ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ สภาวนิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ.

เอวมยํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สทฺทารมฺมณา นาม ชาตา, น ปฺตฺติอารมฺมณา. กสฺมา? ยสฺมา สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานนฺติ. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต หิ ‘‘ผสฺโส’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ‘‘ผสฺสา’’ติ วา ‘‘ผสฺส’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ‘‘อยํ อสภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อฺํ ปเนส นามาขฺยาตอุปสคฺคพฺยฺชนสทฺทํ ชานาติ น ชานาตีติ? ยทคฺเคน สทฺทํ ชานิตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ อสภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ตทคฺเคน ตมฺปิ ชานิสฺสตีติ. ตํ ปน ‘‘นยิทํ ปฏิสมฺภิทากิจฺจ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทํ วตฺถุ กถิตํ –

ติสฺสทตฺตตฺเถโร กิร โพธิมณฺเฑ สุวณฺณสลากํ คเหตฺวา ‘‘อฏฺารสสุ ภาสาสุ กตรภาสาย กเถมี’’ติ ปวาเรสิ. ตํ ปน เตน อตฺตโน อุคฺคเห ตฺวา ปวาริตํ, น ปฏิสมฺภิทาย ิเตน. โส หิ มหาปฺตาย ตํ ตํ ภาสํ กถาเปตฺวา อุคฺคเหตฺวา เอวํ ปวาเรสิ. ‘‘ภาสํ นาม สตฺตา อุคฺคณฺหนฺตี’’ติ วตฺวา ปเนตฺถ อิทํ กถิตํ. มาตาปิตโร หิ ทหรกาเล กุมารเก มฺเจ วา ปีเ วา นิปชฺชาเปตฺวา ตํ ตํ กถยมานา ตานิ ตานิ กิจฺจานิ กโรนฺติ. ทารกา เตสํ ตํ ตํ ภาสํ ววตฺถาเปนฺติ ‘‘อิมินา อิทํ วุตฺต’’นฺติ. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล สพฺพมฺปิ ภาสํ ชานนฺติ. มาตา ทมิฬี, ปิตา อนฺธโก. เตสํ ชาโต ทารโก สเจ มาตุกถํ ปมํ สุณาติ, ทมิฬภาสํ ภาสิสฺสติ. สเจ ปิตุกถํ ปมํ สุณาติ, อนฺธกภาสํ ภาสิสฺสติ. อุภินฺนมฺปิ ปน กถํ อสฺสุณนฺโต มาคธภาสํ ภาสิสฺสติ. โยปิ อคามเก มหาอรฺเ นิพฺพตฺโต, ตตฺถ อฺโ กเถนฺโต นาม นตฺถิ. โสปิ อตฺตโน ธมฺมตาย วจนํ สมุฏฺาเปนฺโต, มาคธภาสเมว ภาสิสฺสติ. นิรเย, ติรจฺฉานโยนิยํ, เปตฺติวิสเย, มนุสฺสโลเก, เทวโลเกติ สพฺพตฺถ มาคธภาสาว อุสฺสนฺนา, เสสา โอฏฺฏกิราตอนฺธกโยนกทมิฬภาสาทิกา อฏฺารส ภาสา ปริวตฺตนฺติ, กาลนฺตเรน อฺถา โหนฺติ จ นสฺสนฺติ จ.

อยเมเวกา ยถาภุจฺจพฺรหฺมโวหารอริยโวหารสงฺขาตา มาคธภาสา น ปริวตฺตติ. สา หิ กตฺถจิ กทาจิ ปริวตฺตนฺตีปิ น สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺพถาว ปริวตฺตติ, กปฺปวินาเสปิ ติฏฺติเยว. สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ หิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ตนฺตึ อาโรเปนฺโต มาคธภาสาย เอว อาโรเปสิ. กสฺมา? เอวฺหิ อาหริตุํ สุขํ โหติ. มาคธภาสาย หิ ตนฺตึ อารุฬฺหสฺส พุทฺธวจนสฺส ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตานํ โสตปถาคมนเมว ปปฺโจ. เตน สงฺฆฏิตมตฺเตเนว นยสเตน นยสหสฺเสน อตฺโถ อุปฏฺาติ. อฺาย ภาสาย ตนฺตึ อารุฬฺหกํ โสเธตฺวา อุคฺคเหตพฺพํ โหติ, พหุมฺปิ อุคฺคเหตฺวา ปน ปุถุชฺชนสฺส ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺติ นาม นตฺถิ, อริยสาวโก โนปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต นาม นตฺถิ.

ปฏิภานปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ ปฏิภาเน ปเภทคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา. อตฺถธมฺมาทิวิสเยสุ หิ ตีสุ าเณสุ ‘‘อิมานิ าณานิ อิทมตฺถโชตกานี’’ติ (วิภ. ๗๒๕-๗๓๑) เอวํ ปวตฺตาณสฺเสตํ อธิวจนํ. อิมา ปน จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ทฺวีสุ าเนสุ ปเภทํ คจฺฉนฺติ, ปฺจหิ การเณหิ วิสทา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. กตเมสุ ทฺวีสุ? เสกฺขภูมิยฺจ อเสกฺขภูมิยฺจ, ตตฺถ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส มหากสฺสปตฺเถรสฺส มหากจฺจายนตฺเถรสฺส มหาโกฏฺิกตฺเถรสฺสาติ อสีติยาปิ มหาเถรานํ ปฏิสมฺภิทา อเสกฺขภูมิยํ ปเภทคตา. อานนฺทตฺเถรสฺส, จิตฺตสฺส คหปติโน, ธมฺมิกสฺส อุปาสกสฺส, อุปาลิสฺส คหปติโน, ขุชฺชุตฺตราย อุปาสิกายาติ เอวมาทีนํ ปฏิสมฺภิทา เสกฺขภูมิยํ ปเภทคตาติ อิมาสุ ทฺวีสุ ภูมีสุ ปเภทํ คจฺฉนฺติ. ปเภโท นาม มคฺเคหิ อธิคตานํ ปฏิสมฺภิทานํ ปเภทคมนํ.

กตเมหิ ปฺจหิ การเณหิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺตีติ? อธิคเมน, ปริยตฺติยา, สวเนน, ปริปุจฺฉาย, ปุพฺพโยเคน. ตตฺถ อธิคโม นาม อรหตฺตํ. ตฺหิ ปตฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. สวนํ นาม ธมฺมสฺสวนํ. สกฺกจฺจํ สุณนฺตสฺส หิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ปริปุจฺฉา นาม อฏฺกถา. อุคฺคหิตปาฬิยา อตฺถํ กเถนฺตสฺส หิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ปุพฺพโยโค นาม ปุพฺพโยคาวจรตา หรณปจฺจาหรณนเยน ปริหฏกมฺมฏฺานตา. ปุพฺพโยคาวจรสฺส หิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ.

เอเตสุ ปน ปริยตฺติ, สวนํ, ปริปุจฺฉาติ อิมานิ ตีณิ ปเภทสฺเสว พลวการณานิ, ปุพฺพโยโค อธิคมสฺส พลวปจฺจโย. ปเภทสฺส โหติ น โหตีติ? โหติ, น ปน ยถา อธิคมสฺส พลวปจฺจโย โหติ, ตถา ปเภทสฺส. ปริยตฺติสวนปริปุจฺฉา หิ ปุพฺเพ โหนฺตุ วา มา วา, ปุพฺพโยเคน ปน ปุพฺเพ เจว เอตรหิ จ สงฺขารสมฺมสนํ วินา ปฏิสมฺภิทาธิคโม นาม นตฺถิ. อิเม ปน ทฺเวปิ เอกโต หุตฺวา ปฏิสมฺภิทา อุปตฺถมฺเภตฺวา วิสทา โหนฺตีติ.

วิภตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๔. มหาโกฏฺิกสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๓-๔. ตติเย ผสฺสายตนานนฺติ เอตฺถ อากรฏฺโ อายตนสทฺโทติ อาห ‘‘ผสฺสากราน’’นฺติอาทิ. ‘‘สุวณฺณายตนํ, รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโรปิ ‘‘อายตน’’นฺติ วุตฺโต, สฺชาติสโมสรณาทิวเสนปิ อายตนฏฺโ ลพฺภติเยว. มา-อิติ ปฏิเสเธ นิปาโต. สฺวายํ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ อเสสํ วิราคนิโรธา อตฺถฺํ วจนํ กิฺจีติ สนฺธายาหาติ อาห ‘‘มา ภณีติ อตฺโถ’’ติ. ปฺจผสฺสายตนานิ นิรุทฺธานีติ จกฺขาทีนฺจ ตตฺถ อภาวํ สนฺธาย วทติ. ฉฏฺสฺสาติ มนายตนสฺส. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

มหาโกฏฺิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. อุปวาณสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๗๕-๖. ปฺจเม วิชฺชายาติ ทิพฺพจกฺขุปุพฺเพนิวาสานุสฺสติอาสวกฺขยาณสงฺขาตาย ติวิธาย วิชฺชาย, อฏฺวิธาย วา. อฏฺวิธาปิ หิ วิชฺชา วิปสฺสนาาเณน มโนมยิทฺธิยา จ สห อภิฺา ปริคฺคเหตฺวา วุตฺตา. ปนฺนรสธมฺมเภเทน จรเณน สมนฺนาคโตติ สีลสํวโร, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, ชาคริยานุโยโค, สทฺธา, หิรี, โอตฺตปฺปํ, พาหุสจฺจํ, วีริยํ, สติ, ปฺา, จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ เอวํ ปนฺนรสเภเทน จรณธมฺเมน สมนฺนาคโต. อิเมเยว หิ ปนฺนรส ธมฺมา ยสฺมา เอเตหิ จรติ อริยสาวโก คจฺฉติ อมตํ ทิสํ, ตสฺมา ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตา. ฉฏฺเ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

อุปวาณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ราหุลสุตฺตวณฺณนา

๑๗๗. สตฺตเม ปถวีธาตุเรเวสาติ ทุวิธาเปสา ถทฺธฏฺเน, กกฺขฬฏฺเน, ผรุสฏฺเน เอกลกฺขณา ปถวีธาตุ เอวาติ อชฺฌตฺติกํ พาหิราย สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสติ. กสฺมา? พาหิราย ปถวีธาตุยา อเจตนาภาโว ปากโฏ, น อชฺฌตฺติกาย, ตสฺมา พาหิราย สทฺธึ เอกสทิสา อเจตนาเยวาติ คณฺหนฺตสฺส สุขปริคฺคาหา โหติ, ยถา กึ? ทนฺเตน โคเณน สทฺธึ โยชิโต อทนฺโต กติปาหเมว วิสุกายติ วิปฺผนฺทติ, อถ น จิรสฺเสว ทมถํ อุเปติ, เอวํ อชฺฌตฺติกํ พาหิราย สทฺธึ เอกสทิสาติ คณฺหนฺตสฺส กติปาหเมว อเจตนภาเวน อุปฏฺาติ, อถ น จิเรเนวสฺสา อเจตนภาโว ปากโฏ โหติ ธาตุมตฺตตาย ทสฺสนโต. เนตํ มม…เป… ทฏฺพฺพนฺติ ตํ อุภยมฺปิ ‘‘น เอตํ มม, น เอโสหมสฺมิ, น เอโส เม อตฺตา’’ติ เอวํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวํ. ตฺหิ อนิจฺจาทิสภาวํ, ตสฺมา อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ เอวํ ทฏฺพฺพนฺติ อตฺโถ. ยสฺมา ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ ปสฺสนฺโต เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จตุโกฏิกสุฺตา นาม กถิตา’’ติ.

ราหุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ชมฺพาลีสุตฺตวณฺณนา

๑๗๘. อฏฺเม สนฺตนฺติ องฺคสนฺตตาย เจว อารมฺมณสนฺตตาย จ กมนียํ มโนหรํ. เจโตวิมุตฺตินฺติ รูปารูปาวจรํ จิตฺตวิมุตฺตึ. เตเนวาห ‘‘อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ อฺตรํ สมาปตฺติ’’นฺติ. เลปมกฺขิเตนาติ ลาขามกฺขิเตน. ปาริปนฺถิเก อโสเธตฺวาติ กามจฺฉนฺทาทิปาริปนฺถิเก อโสเธตฺวา. โย หิ กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหิ กามจฺฉนฺทํ น สุฏฺุ วิกฺขมฺเภตฺวา กายปฺปสฺสทฺธิวเสน ทุฏฺุลฺลํ สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธํ อกตฺวา อารมฺภธาตุมนสิการาทิวเสน ถินมิทฺธํ น สุฏฺุ ปฏิวิโนเทตฺวา สมถนิมิตฺตมนสิการาทิวเสน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ น สมูหตํ กตฺวา อฺเปิ สมาธิปริปนฺเถ ธมฺเม น สุฏฺุ โสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชติ. โส อโสธิตํ อาสยํ ปวิฏฺภมโร วิย อสุทฺธํ อุยฺยานํ ปวิฏฺราชา วิย จ ขิปฺปเมว นิกฺขมติ. โย ปน สมาธิปริปนฺเถ ธมฺเม สุฏฺุ วิโสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชติ, โส สุวิโสธิตํ อาสยํ ปวิฏฺภมโร วิย สุปริสุทฺธํ อุยฺยานํ ปวิฏฺราชา วิย จ สกลมฺปิ ทิวสภาคํ อนฺโตสมาปตฺติยํเยว โหติ.

อายมุขานีติ นทิตฬากกนฺทรปทราทิโต อาคมนมคฺคา. เต จ กนฺทราเยวาติ อาห ‘‘จตสฺโส ปวิสนกนฺทรา’’ติ. อปายมุขานีติ อปคมนมคฺคา. อเปนฺติ อปคจฺฉนฺติ เอเตหีติ หิ อปายา, เต เอว มุขานีติ อปายมุขานิ. ตานิ จ อุทกนิกฺขมนจฺฉิทฺทานีติ อาห ‘‘อปวาหนจฺฉิทฺทานี’’ติ, อปายสงฺขาตานิ อุทกนิกฺขมนจฺฉิทฺทานีติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ชมฺพาลีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นิพฺพานสุตฺตวณฺณนา

๑๗๙. นวเม อภิธมฺเม วุตฺตนเยนาติ –

‘‘กตมา หานภาคินี ปฺา? ปมสฺส ฌานสฺส ลาภึ กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ หานภาคินี ปฺา, ตทนุธมฺมตา สติ สนฺติฏฺติ ิติภาคินี ปฺา. อวิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ วิเสสภาคินี ปฺา. นิพฺพิทาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ วิราคูปสฺหิตา นิพฺเพธภาคินี ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๙๙) –

อาทินา วิภงฺเค วุตฺตนเยน เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภินฺติ ยฺวายํ อปฺปคุณสฺส ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี, ตํ. กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺตีติ ตโต วุฏฺิตํ อารมฺมณวเสน กามสหคตา หุตฺวา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ ตุทนฺติ โจเทนฺติ. ตสฺส กามานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน สา ปมชฺฌานปฺา หายติ ปริหายติ, ตสฺมา ‘‘หานภาคินี ปฺา’’ติ วุตฺตา. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุรูปสภาวา. สติ สนฺติฏฺตีติ อิทํ มิจฺฉาสตึ สนฺธาย วุตฺตํ, น สมฺมาสตึ. ยสฺส หิ ปมชฺฌานานุรูปสภาวา ปมชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต ทิสฺวา อสฺสาทยมานา อภินนฺทมานา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส นิกนฺติวเสน ปมชฺฌานปฺา เนว หายติ น วฑฺฒติ, ิติโกฏฺาสิกา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ิติภาคินี ปฺา’’ติ. อวิตกฺกสหคตาติ อวิตกฺกํ ทุติยชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต มนสิกโรโต อารมฺมณวเสน อวิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา. สมุทาจรนฺตีติ ปคุณโต ปมชฺฌานโต วุฏฺิตํ ทุติยชฺฌานาธิคมตฺถาย ตุทนฺติ โจเทนฺติ, ตสฺส อุปริ ทุติยชฺฌานานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน สา ปมชฺฌานปฺา วิเสสภูตสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อุปฺปตฺติปทฏฺานตาย ‘‘วิเสสภาคินี’’ติ วุตฺตา.

นิพฺพิทาสหคตาติ ตํเยว ปมชฺฌานลาภึ ฌานโต วุฏฺิตํ นิพฺพิทาสงฺขาเตน วิปสฺสนาาเณน สหคตา. วิปสฺสนาาณฺหิ ฌานงฺคเภเท วตฺตนฺเต นิพฺพินฺทติ อุกฺกณฺติ, ตสฺมา ‘‘นิพฺพิทา’’ติ วุจฺจติ. สมุทาจรนฺตีติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยตฺถาย ตุทนฺติ โจเทนฺติ. วิราคูปสฺหิตาติ วิราคสงฺขาเตน นิพฺพาเนน อุปสํหิตา. วิปสฺสนาาณฺหิ สกฺกา อิมินา มคฺเคน วิราคํ นิพฺพานํ สจฺฉิกาตุนฺติ ปวตฺติโต ‘‘วิราคูปสํหิต’’นฺติ วุจฺจติ. ตํสมฺปยุตฺตสฺามนสิการาปิ วิราคูปสํหิตา เอว นาม. ตสฺส เตสํ สฺามนสิการานํ วเสน สา ปมชฺฌานปฺา อริยมคฺคปฺปฏิเวธสฺส ปทฏฺานตาย ‘‘นิพฺเพธภาคินี’’ติ วุตฺตาติ.

นิพฺพานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. มหาปเทสสุตฺตวณฺณนา

๑๘๐. ทสเม มหาโอกาเสติ มหนฺเต โอกาเส มหนฺตานิ ธมฺมสฺส ปติฏฺาปนฏฺานานิ. เยสุ ปติฏฺาปิโต ธมฺโม นิจฺฉียติ อสนฺเทหโต. กานิ ปน ตานิ? อาคมนวิสิฏฺานิ สุตฺโตตรณาทีนิ. ทุติยวิกปฺเป อปทิสียนฺตีติ อปเทสา, มหนฺตา อปเทสา เอเตสนฺติ มหาปเทสา. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุต’’นฺติอาทินา เกนจิ อาภตสฺส ธมฺโมติ วินิจฺฉยเน การณํ. กึ ปน ตนฺติ? ตสฺส ยถาภตสฺส สุตฺโตตรณาทิ เอว. ยทิ เอวํ กถํ จตฺตาโรติ? ยสฺมา ธมฺมสฺส ทฺเว สมฺปทาโย สตฺถา สาวโก จ. เตสุ สาวกา สงฺฆคณปุคฺคลวเสน ติวิธา. เอวมิมมฺหา มยายํ ธมฺโม ปฏิคฺคหิโตติ อปทิสิตพฺพานํ เภเทน จตฺตาโร. เตนาห ‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุต’’นฺติอาทิ. ตถา จ วุตฺตํ เนตฺติยํ (เนตฺติ. ๔.๑๘) ‘‘จตฺตาโร มหาปเทสา พุทฺธาปเทโส, สงฺฆาปเทโส, คณาปเทโส, ปุคฺคลาปเทโส. อิเม จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติ. พุทฺโธ อปเทโส เอตสฺสาติ พุทฺธาปเทโส. เอส นโย เสเสสุปิ. เตนาห ‘‘พุทฺธาทโย…เป… มหาการณานี’’ติ.

เนว อภินนฺทิตพฺพนฺติ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, คนฺถสฺส สมฺปฏิจฺฉนํ นาม สวนนฺติ อาห ‘‘น โสตพฺพ’’นฺติ. ปทพฺยฺชนานีติ ปทานิ จ พฺยฺชนานิ จ, อตฺถปทานิ พฺยฺชนปทานิ จาติ อตฺโถ. ปชฺชติ อตฺโถ เอเตหีติ ปทานิ, อกฺขราทีนิ พฺยฺชนปทานิ. ปชฺชิตพฺพโต ปทานิ, สงฺกาสนาทีนิ อตฺถปทานิ. ‘‘อฏฺกถายํ ปทสงฺขาตานิ พฺยฺชนานีติ พฺยฺชนปทาเนว วุตฺตานี’’ติ เกจิ. อตฺถํ พฺยฺเชนฺตีติ พฺยฺชนานิ, พฺยฺชนปทานิ. เตหิ พฺยฺชิตพฺพโต พฺยฺชนานิ, อตฺถปทานีติ อุภยสงฺคหโต. อิมสฺมึ าเนติ เตนาภตสุตฺตสฺส อิมสฺมึ ปเทเส. ปาฬิ วุตฺตาติ เกวโล ปาฬิธมฺโม วุตฺโต. อตฺโถ วุตฺโตติ ปาฬิยา อตฺโถ วุตฺโต นิทฺทิฏฺโ. อนุสนฺธิ กถิโตติ ยถารทฺธเทสนาย อุปริเทสนาย จ อนุสนฺธานํ กถิตํ, สมฺพนฺโธ กถิโต. ปุพฺพาปรํ กถิตนฺติ ปุพฺเพน ปรํ อวิรุชฺฌนฺเจว วิเสสฏฺานฺจ กถิตํ ปกาสิตํ. เอวํ ปาฬิธมฺมาทีนิ สมฺมเทว สลฺลกฺเขตฺวา คหณํ สาธุกํ อุคฺคหณนฺติ อาห ‘‘สุฏฺุ คเหตฺวา’’ติ. สุตฺเต โอตาเรตพฺพานีติ าเณน สุตฺเต โอคาเหตฺวา ตาเรตพฺพานิ. ตํ ปน โอคาเหตฺวา ตรณํ ตตฺถ โอตรณํ อนุปฺปเวสนํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘โอตริตพฺพานี’’ติ. สํสนฺเทตฺวา ทสฺสนํ สนฺทสฺสนนฺติ อาห ‘‘วินเย สํสนฺเทตพฺพานี’’ติ.

‘‘กึ ปน ตํ สุตฺตํ, โก วา วินโย’’ติ วิจารณายํ อาจริยานํ มติเภทมุเขน ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วินโยติ วิภงฺคปามาห. โส หิ มาติกาสฺิตสฺส สุตฺตสฺส อตฺเถ สูจนโต ‘‘สุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. วิวิธนยตฺตา วิสิฏฺนยตฺตา จ วินโย, ขนฺธกปาโ. เอวนฺติ เอวํ สุตฺตวินเยสุ ปริคฺคยฺหมาเนสุ วินยปิฏกมฺปิ น ปริยาทิยติ ปริวารปาฬิยา อสงฺคหิตตฺตา. สุตฺตนฺตาภิธมฺมปิฏกานิ วา สุตฺตํ อตฺถสูจนาทิอตฺถสมฺภวโต. เอวมฺปีติ สุตฺตนฺตาภิธมฺมปิฏกานิ สุตฺตํ, วินยปิฏกํ วินโยติ เอวํ สุตฺตวินยวิภาเค วุจฺจมาเนปิ. น ตาว ปริยาทิยนฺตีติ น ตาว อนวเสสโต ปริคฺคยฺหนฺติ. กสฺมาติ เจติ อาห ‘‘อสุตฺตนามกฺหี’’ติอาทิ. ยสฺมา สุตฺตนฺติ อิมํ นามํ อนาโรเปตฺวา สงฺคีตํ ชาตกาทิพุทฺธวจนํ อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตนเยน ตีณิ ปิฏกานิ น ปริยาทิยนฺตีติ. สุตฺตนิปาตอุทานอิติวุตฺตกานิ ทีฆนิกายาทโย วิย สุตฺตนฺติ นามํ อาโรเปตฺวา อสงฺคีตานีติ อธิปฺปาเยเนตฺถ ชาตกาทีหิ สทฺธึ ตานิปิ คหิตานิ. พุทฺธวํสจริยาปิฏกานํ ปเนตฺถ อคฺคหเณ การณํ มคฺคิตพฺพํ, กึ วา เอเตน มคฺคเนน. สพฺโพปายํ วณฺณนานโย เถรวาททสฺสนมุเขน ปฏิกฺขิตฺโต เอวาติ.

กึ อตฺถีติ อสุตฺตนามกํ พุทฺธวจนํ นตฺถิเยวาติ ทสฺเสติ. ตํ สพฺพํ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ ‘‘สุตฺตนฺติ วินโย’’ติอาทินา วุตฺตสํวณฺณนายํ ‘‘นายมตฺโถ อิธาธิปฺเปโต’’ติ ปฏิเสเธตฺวา. วิเนติ เอเตน กิเลเสติ วินโย, กิเลสวินยนูปาโย, โส เอว การณนฺติ อาห ‘‘วินโย ปน การณ’’นฺติ.

ธมฺเมติ ปริยตฺติธมฺเม. สราคายาติ สราคภาวาย กามราคภวราคปริพฺรูหนาย. สํโยคายาติ ภวสํโยชนาย. สอุปาทานายาติ จตุรูปาทานูปสํหิตตาย. มหิจฺฉตายาติ มหิจฺฉภาวาย. อสนฺตุฏฺิยาติ อสนฺตุฏฺภาวาย. โกสชฺชายาติ กุสีตภาวาย. สงฺคณิกายาติ กิเลสสงฺคณิกวิหาราย. อาจยายาติ ติวิธวฏฺฏาจยาย. วิราคายาติ สกลวฏฺฏโต วิรชฺชนตฺถาย. วิสํโยคายาติ กามราคาทีหิ วิสํยุชฺชนตฺถาย. อนุปาทานายาติ สพฺพสฺสปิ กมฺมภวสฺส อคฺคหณาย. อปฺปิจฺฉตายาติ ปจฺจยปฺปิจฺฉตาทิวเสน สพฺพโส อิจฺฉาย อปคมาย. สนฺตุฏฺิยาติ ทฺวาทสวิธสนฺตุฏฺภาวาย. วีริยารมฺภายาติ กายิกสฺส เจว เจตสิกสฺส จ วีริยสฺส ปคฺคณฺหนตฺถาย. วิเวกายาติ ปวิวิตฺตภาวาย กามวิเวกาทิตทงฺควิเวกาทิวิเวกสิทฺธิยา. อปจยายาติ สพฺพสฺสปิ วฏฺฏสฺส อปจยนาย, นิพฺพานายาติ อตฺโถ. เอวํ โย ปริยตฺติธมฺโม อุคฺคหณธารณปริปุจฺฉามนสิการวเสน โยนิโส ปฏิปชฺชนฺตสฺส สราคาทิภาวปริวชฺชนสฺส การณํ หุตฺวา วิราคาทิภาวาย สํวตฺตติ, เอกํสโต เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย สมฺมเทว อปายาทีสุ อปตนวเสน ธารณโต กิเลสานํ วินยนโต จ. สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอวาทานุรูปปฺปวตฺติภาวโต เอตํ สตฺถุสาสนนฺติ จ ชาเนยฺยาสีติ อตฺโถ.

จตุสจฺจตฺถสูจนํ สุตฺตนฺติ อาห ‘‘สุตฺเตติ เตปิฏเก พุทฺธวจเน’’ติ. เตปิฏกฺหิ พุทฺธวจนํ สจฺจวินิมุตฺตํ นตฺถิ. ราคาทิวินยการณํ ยถา เตน สุตฺตปเทน ปกาสิตนฺติ อาห ‘‘วินเยติ เอตสฺมึ ราคาทิวินยการเณ’’ติ. สุตฺเต โอตรณฺเจตฺถ เตปิฏกพุทฺธวจนปริยาปนฺนตาวเสเนว เวทิตพฺพํ, น อฺถาติ อาห ‘‘สุตฺตปฺปฏิปาฏิยา กตฺถจิ อนาคนฺตฺวา’’ติ. ฉลฺลึ อุฏฺเปตฺวาติ อโรคสฺส มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต อุปกฺกเมน ฉลฺลิกาย สกลิกาย ปปฏิกาย วา อุฏฺาปนํ วิย อโรคสฺส สาสนธมฺมสฺส ติฏฺโต พฺยฺชนมตฺเตน ตปฺปริยาปนฺนํ วิย หุตฺวา ฉลฺลิสทิสํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธตาทิโทสํ อุฏฺเปตฺวา ปริทีเปตฺวา. ตาทิสานิ ปน เอกํสโต คุฬฺหเวสฺสนฺตราทิปริยาปนฺนานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘คุฬฺหเวสฺสนฺตร…เป… ปฺายนฺตีติ อตฺโถ’’ติ. ราคาทิวินเยติ ราคาทิวินยนตฺเถน อตทาการตาย อปฺายมานานิ ฉฑฺเฑตพฺพานิ จชิตพฺพานิ น คเหตพฺพานิ. สพฺพตฺถาติ สพฺพวาเรสุ.

มหาปเทสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สฺเจตนิยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๙) ๔. พฺราหฺมณวคฺโค

๑-๓. โยธาชีวสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๘๑-๑๘๓. จตุตฺถสฺส ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๔. อภยสุตฺตวณฺณนา

๑๘๔. จตุตฺเถ โสจตีติ จิตฺเต อุปฺปนฺนพลวโสเกน โสจติ, จิตฺตสนฺตาเปน อนฺโต นิชฺฌายตีติ อตฺโถ. กิลมตีติ ตสฺเสว โสกสฺส วเสน กาเย จ อุปฺปนฺนทุกฺเขน กิลมติ. ปริเทวตีติ โสกุทฺเทหกวเสน ตํ ตํ วิปฺปลปนฺโต วาจาย ปริเทวติ. อุรตฺตาฬินฺติ อุรตฺตาฬํ, อุรํ ตาเฬตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อุรํ ตาเฬตฺวา’’ติ. กงฺขาวิจิกิจฺฉาติ เอตฺถ ‘‘เอกเมวิทํ ปฺจมํ นีวรณํ. กึ นุ โข อิท’’นฺติ อารมฺมณํ กงฺขนโต กงฺขา, ‘‘อิทเมว วร’’นฺติ นิจฺเฉตุํ อสมตฺถภาวโต ‘‘วิจิกิจฺฉา’’ติ วุจฺจติ – ‘‘ธมฺมสภาวํ วิจินนฺโต กิจฺฉติ, วิคตา จิกิจฺฉา’’ติ วา กตฺวา.

อภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. ปฺจเม เอตฺถาติ เอตสฺมึ สุฺตานุปสฺสนาธิกาเร. กฺวจีติ กตฺถจิ าเน, กาเล, ธมฺเม วา. อถ วา กฺวจีติ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา วา. อตฺตโน อตฺตานนฺติ สกตฺตานํ ‘‘อยํ โข, โภ พฺรหฺมา, มหาพฺรหฺมา…เป… วสี ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๑.๔๒) ปเรหิ ปริกปฺปิตํ อตฺตานฺจ กสฺสจิ กิฺจนภูตํ น ปสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กสฺสจี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปรสฺสาติ ปรชาติ ปโร ปุริโสติ วา เอวํ คหิตสฺส. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มม-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโตติ อาห ‘‘มม-สทฺทํ ตาว เปตฺวา’’ติ. ปรสฺส จาติ อตฺตโน อฺสฺส. ปโร ปุริโส นาม อตฺถิ มมตฺถาย ิโต. ตสฺส วเสน มยฺหํ สพฺพํ อิชฺฌตีติ เอกจฺจทิฏฺิคติกปริกปฺปิตวเสน ปรํ อตฺตานํ ตฺจ อตฺตโน กิฺจนภูตํ น ปสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จ กฺวจนี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ จ นาหํ กฺวจนีติ สกอตฺตโน สพฺภาวํ น ปสฺสติ. น กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ สกอตฺตโน เอว กสฺสจิ อตฺตนิยตํ น ปสฺสติ. น จ มมาติ เอตํ ทฺวยํ ยถารหํ สมฺพนฺธิตพฺพํ, อตฺถิ-ปทํ ปจฺเจกํ. น จ กฺวจนิ ปรสฺส อตฺตา อตฺถีติ ปรสฺส อตฺตโน อภาวํ ปสฺสติ. ตสฺส ปรสฺส อตฺตโน มม กิฺจนตา นตฺถีติ ปรสฺส อตฺตโน อนตฺตนิยตํ ปสฺสติ. เอวํ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา ขนฺธานํ อตฺตตฺตนิยสุฺตา-สุทฺธสงฺขารปุฺชตา-จตุโกฏิกสุฺตาปริคฺคณฺหเนน นิฏฺา โหติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อุมฺมคฺคสุตฺตวณฺณนา

๑๘๖. ฉฏฺเ อากฑฺฒียตีติ จิตฺตวสิโก โลโก ตตฺถ ตตฺถ อุปกฑฺฒียติ. เตสํเยเวตฺถ คหณํ เวทิตพฺพนฺติ เย อปริฺาตวตฺถุกา จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉนฺติ, เตสํเยว คหณํ. น หิ ปริฺาตกฺขนฺธา ปหีนกิเลสา จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉนฺติ, จิตฺตํ ปน อตฺตโน วเส วตฺเตนฺติ. สห สีเลนาติ จาริตฺตวาริตฺตสีเลน สทฺธึ. ปุพฺพภาคปฏิปทนฺติ ธุตงฺคมาทึ กตฺวา ยาว โคตฺรภุาณํ, ตาว ปวตฺเตตพฺพํ สมถวิปสฺสนาสงฺขาตํ สมฺมาปฏิปทํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อุมฺมคฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา

๑๘๗. สตฺตเม วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโตติ เอตฺถ วสฺสกาโรติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นามํ. มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคโต มหามตฺโต. อิสฺสริยมตฺตายาติ จ อิสฺสริยปฺปมาเณนาติ อตฺโถ, อิสฺสริเยน เจว วิตฺตูปกรเณน จาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อุปโภคูปกรณานิปิ หิ โลเก ‘‘มตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. มคธรฺโ, มคธรฏฺเ วา มหามตฺโตติ มคธมหามตฺโต. ตุทิสฺิโต คาโม นิวาโส เอตสฺสาติ โตเทยฺโย. เตเนวาห ‘‘ตุทิคามวาสิกสฺสา’’ติ. ตุทิคามวาสิตา จสฺส ตตฺถ อธิปติภาเวนาติ ทฏฺพฺพา. โส หิ ตํ คามํ โสณทณฺโฑ วิย, จมฺปํ กูฏทนฺโต วิย, ขาณุมตํ อธิปติภาเวน อชฺฌาวสติ. มหทฺธโน โหติ ปฺจจตฺตาลีสโกฏิวิภโว. ปริสตีติ ปริสายํ, ชนสมูเหติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สนฺนิปติตาย ปริสายา’’ติ. อภิปฺปสนฺโนติ เอตฺถ อภิกฺกมนตฺโถ อภิ-สทฺโทติ อาห ‘‘อติกฺกมฺม ปสนฺโน’’ติ, ปสาทนียํ านํ อติกฺกมิตฺวา อปฺปสาทนียฏฺาเน ปสนฺโนติ อธิปฺปาโย. ตํ ตํ กิจฺจํ อตฺถํ ปสฺสตีติ อตฺถทสา, อลํ สมตฺถา ปฏิพลา อตฺถทสา อลมตฺถทสา, อลมตฺถทเส อติสยนฺตีติ อลมตฺถทสตรา. เตนาห ‘‘อตฺเถ ปสฺสิตุํ สมตฺถา’’ติอาทิ. เนว สปฺปุริสํ น อสปฺปุริสํ ชานาติ สปฺปุริสธมฺมานํ อสปฺปุริสธมฺมานฺจ ยาถาวโต อชานนโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

วสฺสการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุปกสุตฺตวณฺณนา

๑๘๘. อฏฺเม นิพฺพตฺติวเสน นิรยํ อรหติ, นิรยสํวตฺตนิเยน วา กมฺมุนา นิรเย นิยุตฺโตติ เนรยิโก. อวีจิมฺหิ อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ อายุกปฺปสฺิตํ อนฺตรกปฺปํ ติฏฺตีติ กปฺปฏฺโ. นิรยูปปตฺตึ ปริหรณวเสน ติกิจฺฉิตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อเตกิจฺโฉ. อปริยาทินฺนาวาติ อปริกฺขีณาเยว. สเจ หิ เอโก ภิกฺขุ กายานุปสฺสนํ ปุจฺฉติ, อฺโ เวทนานุปสฺสนํ…เป… จิตฺตานุปสฺสนํ. ‘‘อิมินา ปุฏฺเ อหํ ปุจฺฉามี’’ติ เอโก เอกํ น โอโลเกติ, เอวํ สนฺเตปิ เตสํ วาโร ปฺายติ เอว, พุทฺธานํ ปน วาโร น ปฺายติ. วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ ฉายํ อติกฺกมนโต ปุเรตรํเยว ภควา จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ, นววิเธน เวทนานุปสฺสนํ, โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนํ, ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนํ กเถติ. ติฏฺนฺตุ วา เอวํ จตฺตาโร. สเจ หิ อฺเ จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเนสุ, อฺเ อิทฺธิปาเทสุ, อฺเ ปฺจินฺทฺริเยสุ, อฺเ ปฺจพเลสุ, อฺเ สตฺตโพชฺฌงฺเคสุ, อฺเ อฏฺมคฺคงฺเคสุ ปฺเห ปุจฺเฉยฺยุํ, ตมฺปิ ภควา กเถยฺย. ติฏฺนฺตุ วา เอเต อฏฺ. สเจ อฺเ สตฺตตึส ชนา โพธิปกฺขิเยสุ ปฺเห ปุจฺเฉยฺยุํ, ตมฺปิ ภควา ตาวเทว กเถยฺย. กสฺมา? ยาวตา หิ โลกิยมหาชเน เอกํ ปทํ กเถนฺเต ตาว อานนฺทตฺเถโร อฏฺ ปทานิ กเถติ. อานนฺทตฺเถเร ปน เอกํ ปทํ กเถนฺเตเยว ภควา โสฬส ปทานิ กเถติ. กสฺมา? ภควโต หิ ชิวฺหา มุทุ, ทนฺตาวรณํ สุผุสิตํ, วจนํ อคฬิตํ, ภวงฺคปริวาโส ลหุโก. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปริยาทินฺนาวสฺส ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา, อปริยาทินฺนํ ธมฺมปทพฺยฺชน’’นฺติ.

ตตฺถ ธมฺมเทสนาติ ตนฺติฏฺปนา. ธมฺมปทพฺยฺชนนฺติ เอตฺถ ธมฺโมติ ปาฬิ. ปชฺชติ อตฺโถ เอเตนาติ ปทํ. วากฺยฺจ ปเทเนว สงฺคหิตํ. อตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนํ, อกฺขรํ. ตฺหิ ปทวากฺยํ ปริจฺฉิชฺชมานํ ตํ ตํ อตฺถํ พฺยฺเชติ ปกาเสติ. เอเตน อปราปเรหิ ปทพฺยฺชเนหิ สุจิรมฺปิ กาลํ กเถนฺตสฺส ตถาคตสฺส น กทาจิ เตสํ ปริยาทานํ อตฺถีติ ทสฺเสติ. คุณธํสีติ คุณธํสนสีโล. ปคพฺโพติ วาจาปาคพฺพิเยน สมนฺนาคโต.

อุปกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สจฺฉิกรณียสุตฺตวณฺณนา

๑๘๙. นวเม นามกาเยนาติ สหชาตนามกาเยน. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

สจฺฉิกรณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา

๑๙๐. ทสเม ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ อาเมฑิตวจนํ พฺยาปนิจฺฉาวเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยโต ยโต อนุวิโลเกตี’’ติ. อนุวิโลเกตฺวาติ เอตฺถ อนุ-สทฺโทปิ พฺยาปนิจฺฉาวจนเมวาติ อนุ อนุ วิโลเกตฺวาติ อตฺโถ, ปฺจปสาทปฺปฏิมณฺฑิตานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ตโต ตโต วิโลเกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อลนฺติ ยุตฺตํ, โอปายิกนฺติ อตฺโถ ‘‘อลเมว นิพฺพินฺทิตุ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๗๒; สํ. นิ. ๒.๑๒๔-๑๒๖) วิย. ปุฏพนฺธเนน ปริหริตฺวา อสิตพฺพํ ปุโฏสํ สมฺพลํ อ-การสฺส โอ-การํ กตฺวา. เตนาห ‘‘ปาเถยฺย’’นฺติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

อุโปสถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺราหฺมณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๒๐) ๕. มหาวคฺโค

๑. โสตานุคตสุตฺตวณฺณนา

๑๙๑. ปฺจมสฺส ปเม โสตานุคตานนฺติ ปสาทโสตํ อนุคนฺตฺวา คตานํ, ปคุณานํ วาจุคฺคตานนฺติ อตฺโถ. เอวํภูตา จ ปสาทโสตํ โอทหิตฺวา าณโสเตน สุฏฺุ ววตฺถปิตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘ปสาทโสต’’นฺติอาทิ. เอกจฺจสฺส หิ อุคฺคหิตปุพฺพวจนํ ตํ ตํ ปคุณํ นิจฺฉริตํ สุฏฺุ ววตฺถปิตํ น โหติ. ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สชฺฌายิตฺวา สํสนฺทิตฺวา สมนุคฺคาหิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ วทนฺติ. เอกจฺจสฺส ตํ ตํ ปคุณํ ภวงฺคโสตสทิสํ โหติ ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต อุทฺธริตฺวา ตเมว กเถติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘าณโสเตน ววตฺถปิตาน’’นฺติ. อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ตีณิ ลิงฺคานิ. นามาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ. ปมาทโย สตฺต วิภตฺติโย.

วฬฺเชตีติ ปาฬึ อนุสนฺธึ ปุพฺพาปรวเสน วาจุคฺคตํ กโรนฺโต ธาเรติ. วจสา ปริจิตาติ สุตฺตทสกวคฺคทสกปณฺณาสทสกวเสน วาจาย สชฺฌายิตา, ‘‘ทสสุตฺตานิ คตานิ, ทสวคฺคานิ คตานี’’ติอาทินา สลฺลกฺเขตฺวา วาจาย สชฺฌายิตาติ อตฺโถ. วคฺคาทิวเสน หิ อิธ วจสา ปริจโย อธิปฺเปโต, น ปน สุตฺเตกเทสสฺส สุตฺตมตฺตสฺส วจสา ปริจโย. มนสา อนุ อนุ เปกฺขิตา ภาคโส นิชฺฌายิตา วิทิตา มนุสานุเปกฺขิตา. ยสฺส วาจาย สชฺฌายิตํ พุทฺธวจนํ มนสา จินฺเตนฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ ปากฏํ โหติ, มหาทีปํ ชาเลตฺวา ิตสฺส รูปคตํ วิย วิภูตํ หุตฺวา ปฺายติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สุปฺปฏิวิทฺธาติ นิชฺชฏํ นิคฺคุมฺพํ กตฺวา สุฏฺุ ยาถาวโต ปฏิวิทฺธา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

โสตานุคตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. านสุตฺตวณฺณนา

๑๙๒. ทุติเย สํวาเสนาติ สหวาเสน. สีลํ เวทิตพฺพนฺติ ‘‘อยํ สุสีโล วา ทุสฺสีโล วา’’ติ สห วสนฺเตน อุปสงฺกมนฺเตน ชานิตพฺโพ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรนฺติ ตฺจ สีลํ ทีเฆน กาเลน เวทิตพฺพํ, น อิตฺตเรน. ทฺวีหตีหฺหิ สํยตากาโร จ สํวุตินฺทฺริยากาโร จ น สกฺกา ทสฺเสตุํ. มนสิ กโรตาติ ตมฺปิ ‘‘สีลมสฺส ปริคฺคเหสฺสามี’’ติ มนสิกโรนฺเตน ปจฺจเวกฺขนฺเตเนว สกฺกา ชานิตุํ, น อิตเรน. ปฺวตาติ ตมฺปิ สปฺปฺเเนว ปณฺฑิเตน. พาโล หิ มนสิกโรนฺโตปิ ชานิตุํ น สกฺโกติ.

สํโวหาเรนาติ อปราปรํ กถเนน.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ’’ติ. (ม. นิ. ๒.๔๕๗; สุ. นิ. ๖๑๙) –

เอตฺถ หิ พฺยวหาโร นาม. ‘‘จตฺตาโร อริยโวหารา, จตฺตาโร อนริยโวหารา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๓) เอตฺถ เจตนา. ‘‘สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕; มหานิ. ๗๓) เอตฺถ ปฺตฺติ. ‘‘โวหารมตฺเตน โส โวหเรยฺยา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๕) เอตฺถ กถาโวหาโร. อิธาปิ เอโสว อธิปฺเปโต. เอกจฺจสฺส หิ สมฺมุขากถา ปรมฺมุขากถาย น สเมติ ปรมฺมุขากถา สมฺมุขากถาย. ตถา ปุริมกถา ปจฺฉิมกถาย, ปจฺฉิมกถา จ ปุริมกถาย. โส กถเนเนว สกฺกา ชานิตุํ ‘‘อสุจิ เอโส ปุคฺคโล’’ติ. สุจิสีลสฺส ปน ปุริมํ ปจฺฉิเมน, ปจฺฉิมฺจ ปุริเมน สเมติ. สมฺมุขากถิตํ ปรมฺมุขากถิเตน สเมติ, ปรมฺมุขากถิตฺจ สมฺมุขากถิเตน, ตสฺมา กถเนน สกฺกา สุจิภาโว ชานิตุนฺติ ปกาเสนฺโต เอวมาห.

ถาโมติ าณถาโม. ยสฺส หิ าณถาโม นตฺถิ, โส อุปฺปนฺเนสุ อุปทฺทเวสุ คเหตพฺพํ คหณํ กตฺตพฺพํ กิจฺจํ อปสฺสนฺโต อทฺวารกฆรํ ปวิฏฺโ วิย จรติ. เตนาห ‘‘อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตพฺโพ’’ติ.

สากจฺฉายาติ สํกถาย. ทุปฺปฺสฺส หิ กถา อุทเก เคณฺฑุ วิย อุปฺปิลวติ. ปฺวโต กเถนฺตสฺส ปฏิภานํ อนนฺตํ โหติ. อุทกวิปฺผนฺทิเตเนว หิ มจฺโฉ ขุทฺทโก วา มหนฺโต วาติ ายติ.

าติวินาโสติ โจรโรคภยาทีหิ าตีนํ วินาโส. โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภควินาโสติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ทุติยปเทปิ เอเสว นโย’’ติ. ปฺหุมฺมคฺโคติ ปฺหคเวสนํ, าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส วีมํสนนฺติ อตฺโถ. อตปฺปกนฺติ อติตฺติกรฏฺเน อตปฺปกํ สาทุรสโภชนํ วิย. สณฺหนฺติ สุขุมสภาวํ.

านสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา

๑๙๓. ตติเย กรณสฺส อุตฺตรํ กิริยํ กรณุตฺตริยํ, ตํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ กรณุตฺตริยลกฺขโณ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สามุคิยสุตฺตวณฺณนา

๑๙๔. จตุตฺเถ ปุคฺคลสฺส ปาริสุทฺธิยา ปธานภูตานิ วา องฺคานิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

สามุคิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วปฺปสุตฺตวณฺณนา

๑๙๕. ปฺจเม ปิหิตตฺตาติ อกุสลสฺส ปเวสนทฺวารํ ปิทหิตฺวา ิตตฺตา. กาเยน สํวริตพฺพฺหิ อปิหิเตน ทฺวาเรน ปวตฺตนกํ ปาปธมฺมํ สํวริตฺวา ิโต กาเยน สํวุโต นาม. ขยวิราเคนาติ อจฺจนฺตขยสงฺขาเตน วิรชฺชเนน, อนุปฺปาทนิโรเธนาติ อตฺโถ. กึ วิชฺชา ปุพฺเพ อุปฺปนฺนาติ? อุภยเมตํ น วตฺตพฺพํ. ปหานาภิสมยภาวนาภิสมยานํ อภินฺนกาลตฺตา ปทีปุชฺชลเนน อนฺธการํ วิย วิชฺชุปฺปาเทน อวิชฺชา นิรุทฺธาว โหติ, วตฺตพฺพํ วา เหตุผลตฺตมุปจารวเสน. ยถา หิ ปทีปุชฺชลนเหตุโก อนฺธการวิคโม, เอวํ วิชฺชุปฺปาทเหตุโก อวิชฺชานิโรโธ. เหตุผลธมฺมา จ สมานกาลาปิ ปุพฺพาปรกาลา วิย โวหรียนฺติ ยถา ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕, ๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๔; ๒.๔.๖๐; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗) ปจฺจยาทานุปฺปชฺชนกิริยา. จิตฺตสฺส กายสฺส จ วิหนนโต วิฆาโต, ทุกฺขํ. ปริทหนโต ปริฬาโห.

นิจฺจวิหาราติ สพฺพทา ปวตฺตนกวิหารา. เปตฺวา หิ สมาปตฺติเวลํ ภวงฺคเวลฺจ ขีณาสวา อิมินา ฉฬงฺคุเปกฺขาวิหาเรน สพฺพกาลํ วิหรนฺติ. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ หิ นิสฺสยโวหาเรน วุตฺตํ. สสมฺภารกถา เหสา ยถา ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติ, ตสฺมา นิสฺสยสีเสน นิสฺสิตสฺส คหณํ ทฏฺพฺพํ. ราควเสน น โสมนสฺสชาโต โหตีติ เคหสิตเปมวเสนปิ ชวนกฺขเณ โสมนสฺสชาโต น โหติ มคฺเคน สมุจฺฉินฺนตฺตา, น โทมนสฺสชาโต ปสาทฺถตฺตวเสนปิ. อุเปกฺขโก มชฺฌตฺโต หุตฺวา วิหรตีติ อสมเปกฺขเนน โมหํ อนุปฺปาเทนฺโต าณุเปกฺขาวเสเนว อุเปกฺขโก วิหรติ มชฺฌตฺโต. ขีณาสโว หิ อิฏฺเปิ อนิฏฺเปิ มชฺฌตฺเตปิ อารมฺมเณ โย อสมเปกฺขเนน สมสมา อโยนิโสคหเณ อขีณาสวานํ โมโห อุปฺปชฺชติ, ตํ อนุปฺปาเทนฺโต มคฺเคเนว ตสฺส สมุคฺฆาติตตฺตา าณุเปกฺขาวเสเนว อุเปกฺขโก วิหรติ, อยฺจสฺส ปฏิปตฺติ สติเวปุลฺลปตฺติยา ปฺาเวปุลฺลปตฺติยา จาติ วุตฺตํ ‘‘สติสมฺปชฺปริคฺคหิตายา’’ติ.

เอตฺถ จ ‘‘ฉสุ ทฺวาเรสุ อุเปกฺขโก วิหรตี’’ติ อิมินา ฉฬงฺคุเปกฺขา กถิตา. ‘‘สมฺปชาโน’’ติ วจนโต ปน จตฺตาริ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ เตหิ วินา สมฺปชานตาย อสมฺภวโต. ‘‘สตตวิหารา’’ติ วจนโต อฏฺปิ มหากิริยจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ าณุปฺปตฺติปจฺจยรหิตกาเลปิ ปวตฺติโชตนโต. ‘‘อรชฺชนฺโต อทุสฺสนฺโต’’ติ วจนโต หสิตุปฺปาทโวฏฺพฺพเนหิ สทฺธึ ทส จิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. อรชฺชนาทุสฺสนวเสน ปวตฺติ หิ เตสมฺปิ สาธารณาติ. นนุ เจตฺถ ‘‘อุเปกฺขโก วิหรตี’’ติ ฉฬงฺคุเปกฺขาวเสน อิเมสํ สตตวิหารานํ อาคตตฺตา โสมนสฺสํ กถํ ลพฺภตีติ? อาเสวนโตติ. กิฺจาปิ หิ ขีณาสโว อิฏฺานิฏฺเปิ อารมฺมเณ มชฺฌตฺเต วิย พหุลํ อุเปกฺขโก วิหรติ อตฺตโน ปริสุทฺธปฺปกติภาวาวิชหนโต, กทาจิ ปน ตถา เจโตภิสงฺขารภาเว ยํ ตํ สภาวโต อิฏฺํ อารมฺมณํ, ตสฺส ยาถาวโต สภาวคฺคหณวเสนปิ อรหโต จิตฺตํ โสมนสฺสสหคตํ หุตฺวา ปวตฺตเตว, ตฺจ โข ปุพฺพาเสวนวเสน.

กาโยติ (สํ. นิ. ฏี. ๒.๒.๕๑) ปฺจทฺวารกาโย, โส อนฺโต อวสานํ เอติสฺสาติ กายนฺติกา, ตํ กายนฺติกํ. เตนาห – ‘‘ยาว ปฺจทฺวารกาโย ปวตฺตติ, ตาว ปวตฺต’’นฺติ. ชีวิตนฺติกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวาติ เอตสฺมึ อตฺตภาเว มโนทฺวาริกเวทนาโต ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ตโต ปมํ นิรุชฺฌติ, ตโต เอว อตฺถสิทฺธมตฺถํ สรูเปเนว ทสฺเสตุํ ‘‘มโนทฺวาริกเวทนา ปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ตเมว สงฺเขเปน วุตฺตํ วิวริตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิมาห. ยาว เตตฺตึสวสฺสานิ ปมวโย. ปฺาสวสฺสกาเลติ ปมวยโต ยาว ปฺาสวสฺสกาลา, ตาว. ิตา โหตีติ วฑฺฒิหานิโย อนุปคนฺตฺวา สมรูเปเนว ิตา โหติ. มนฺทาติ มุทุกา อติขิณา. ตทาติ อสีตินวุติวสฺสกาเล วทนฺเตปิ ตถาจิรปริจิเตปีติ อธิปฺปาโย. ภคฺคาติ เตโชภคฺเคน ภคฺคา ทุพฺพณฺณา. หทยโกฏึเยวาติ จกฺขาทิวตฺถูสุ อปฺปวตฺติตฺวา เตสํ อาทิอนฺตโกฏิภูตํ หทยวตฺถุํเยว. ตาวาติ ยาว เวทนา วตฺตติ, ตาว.

วาปิยาติ มหาตฬาเกน. ปฺจอุทกมคฺคสมฺปนฺนนฺติ ปฺจหิ อุทกสฺส ปวิสนนิกฺขมนมคฺเคหิ ยุตฺตํ. ตโต ตโต วิสฺสนฺทมานํ สพฺพโส ปุณฺณตฺตา. ปมํ เทเว วสฺสนฺเตติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. อิมํ เวทนํ สนฺธายาติ อิมํ ยถาวุตฺตํ ปริโยสานปฺปตฺตํ มโนทฺวาริกเวทนํ สนฺธาย.

กายสฺส เภทาติ อตฺตภาวสฺส วินาสนโต. ปรโต อคนฺตฺวาติ ปรโลกวเสน อคนฺตฺวา. เวทนานํ สีติภาโว นาม สงฺขารทรถปริฬาหาภาโว. โส ปนายํ สพฺพโส อปฺปวตฺติวเสเนวาติ อาห ‘‘อปฺปวตฺตนธมฺมานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

อตฺตภาวํ นาเสตุกามสฺส ทฬฺหํ อุปฺปนฺนํ สํเวคาณํ สนฺธายาห ‘‘กุทาโล วิย ปฺา’’ติ. ตโต นิพฺพตฺติตชฺฌานสมาธึ สนฺธาย ‘‘ปิฏกํ วิย สมาธี’’ติ. ตนฺนิสฺสาย ปวตฺเตตพฺพวิปสฺสนารมฺภาณํ สนฺธาย ‘‘ขนิตฺติ วิย วิปสฺสนา’’ติ จ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

วปฺปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา

๑๙๖. ฉฏฺเ กายทฬฺหิพหุลตํ ตปตีติ ตโป, อตฺตกิลมถานุโยควเสน ปวตฺตํ วีริยํ. เตน กายทฬฺหิพหุลตานิมิตฺตสฺส ปาปสฺส ชิคุจฺฉนํ วิรชฺชนํ ตโปชิคุจฺฉาติ อาห ‘‘ทุกฺกรการิกสงฺขาเตนา’’ติอาทิ. ตโปชิคุจฺฉวาทาติอาทีสุ ตโปชิคุจฺฉํ วทนฺติ, มนสาปิ ตเมว สารโต คเหตฺวา วิจรนฺติ, กาเยนปิ ตเมว อลฺลีนา นานปฺปการํ อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ อตฺโถ. อปริสุทฺธกายสมาจาราติ อปริสุทฺเธน ปาณาติปาตาทินา กายสมาจาเรน สมนฺนาคตา. อปริสุทฺธวจีสมาจาราติ อปริสุทฺเธน มุสาวาทาทินา วจีสมาจาเรน สมนฺนาคตา. อปริสุทฺธมโนสมาจาราติ อปริสุทฺเธน อภิชฺฌาทินา มโนสมาจาเรน สมนฺนาคตา. กามํ อกุสลกายสมาจารวจีสมาจารปฺปวตฺติกาเลปิ อภิชฺฌาทโย ปวตฺตนฺติเยว, ตทา ปน เต เจตนาปกฺขิกา วา อพฺโพหาริกา วาติ, มโนสมาจารวาเร เอว อภิชฺฌาทิวเสน โยชนา กตา. อถ วา ทฺวารนฺตเร ปวตฺตานํ ปาณาติปาตาทีนํ วจีสมาจาราทิภาวาภาโว วิย ทฺวารนฺตเร ปวตฺตานมฺปิ อภิชฺฌาทีนํ กายสมาจาราทิภาโว อสิทฺโธ, มโนสมาจารภาโว เอว ปน สิทฺโธติ กตฺวา มโนสมาจารวาเร เอว อภิชฺฌาทโย อุทฺธฏา. ตถา หิ วุตฺตํ –

‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานิ, น ทฺวารา ทฺวารจาริโน;

ตสฺมา ทฺวาเรหิ กมฺมานิ, อฺมฺํ ววตฺถิตา’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสลทฺวารกถา);

อปริสุทฺธาชีวาติ อปริสุทฺเธน เวชฺชกมฺมทูตกมฺมวฑฺฒิโยคาทินา เอกวีสติอเนสนาเภเทน อาชีเวน สมนฺนาคตา. อิทฺจ สาสเน ปพฺพชิตานํเยว วเสน วุตฺตํ, ‘‘เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา’’ติ ปน วจนโต พาหิรกวเสน คหฏฺวเสน จ โยชนา เวทิตพฺพา. คหฏฺานมฺปิ หิ ชาติธมฺมกุลธมฺมเทสธมฺมวิโลมนวเสน อฺถาปิ มิจฺฉาชีโว ลพฺภเตว.

าณทสฺสนายาติ เอตฺถ าณทสฺสนนฺติ มคฺคาณมฺปิ วุจฺจติ ผลาณมฺปิ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ ปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ วิปสฺสนาาณมฺปิ. ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, าณทสฺสนวิสุทฺธตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๗) หิ เอตฺถ มคฺคาณํ ‘‘าณทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อยมฺโ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๒๘) เอตฺถ ผลาณํ. ‘‘ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทิ สตฺตาหกาลกโต อาฬาโร กาลาโม’’ติ (มหาว. ๑๐) เอตฺถ สพฺพฺุตฺาณํ. ‘‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม วิมุตฺติ, อยมนฺติมา ชาตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๖; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เอตฺถ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ‘‘าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๔-๒๓๕) เอตฺถ วิปสฺสนาาณํ. อิธ ปน าณทสฺสนายาติ มคฺคาณํ ‘‘าณทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มคฺคาณสงฺขาตาย ทสฺสนายา’’ติ. อวิราธิตํ วิชฺฌตีติ อวิราธิตํ กตฺวา วิชฺฌติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

สาฬฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มลฺลิกาเทวีสุตฺตวณฺณนา

๑๙๗. สตฺตเม อปฺเปสกฺขาติ อปฺปานุภาวา. สา ปน อปฺเปสกฺขตา อาธิปเตยฺยสมฺปตฺติยา ปริวารสมฺปตฺติยา จ อภาเวน ปากฏา โหติ. ตตฺถ ปริวารสมฺปตฺติยา อภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปปริวารา’’ติ อาห. อิสฺสราติ อาธิปเตยฺยสํวตฺตนกมฺมพเลน อีสนสีลา. สา ปนสฺสา อิสฺสรตา วิภวสมฺปตฺติปจฺจยา ปากฏา ชาตาติ อฑฺฒตาปริยายภาเวน วทนฺโต ‘‘อฑฺฒาติ อิสฺสรา’’ติ อาห. มหนฺตํ ธนเมติสฺสา ภูมิคตฺเจว วฬฺชนกฺจาติ มหทฺธนา. อิธ ปน วฬฺชนเกเนว ธเนน มหทฺธนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วฬฺชนกธเนน มหทฺธนา’’ติ อาห. อีสตีติ อีสา, อภิภูติ อตฺโถ. มหตี อีสา มเหสา, สุปฺปติฏฺิตมเหสตาย ปน ปเรหิ มเหโสติ อกฺขาตพฺพตาย มเหสกฺขา. ยสฺมา ปน โส มเหสกฺขาภาโว อาธิปเตยฺยปริวารสมฺปตฺติยา วิฺายติ, ตสฺมา ‘‘มหาปริวารา’’ติ วุตฺตํ.

สณฺานปาริปูริยา อธิกํ รูปมสฺสาติ อภิรูปา. สณฺานปาริปูริยาติ จ หตฺถปาทาทิสรีราวยวานํ สุสณฺิตตายาติ อตฺโถ. อวยวปาริปูริยา หิ สมุทายปาริปูริสิทฺธิ. รูปนฺติ จ สรีรํ ‘‘รูปวนฺเตว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ วิย. ทสฺสนยุตฺตาติ สุรูปภาเวน ปสฺสิตพฺพยุตฺตา, ทิสฺสมานา จกฺขูนิ ปิยายตีติ อฺกิจฺจวิกฺเขปํ หิตฺวาปิ ทฏฺพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. ทิสฺสมานาว โสมนสฺสวเสน จิตฺตํ ปสาเทตีติ ปาสาทิกา. เตนาห ‘‘ทสฺสเนน ปาสาทิกา’’ติ. โปกฺขรตาติ วุจฺจติ สุนฺทรภาโว, วณฺณสฺส โปกฺขรตา วณฺณโปกฺขรตา, ตาย วณฺณสมฺปตฺติยาติ อตฺโถ. โปราณา ปน โปกฺขรนฺติ สรีรํ วทนฺติ, วณฺณํ วณฺณเมว. เตสํ มเตน วณฺณฺจ โปกฺขรฺจ วณฺณโปกฺขรานิ, เตสํ ภาโว วณฺณโปกฺขรตา. อิติ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตายาติ อุตฺตมปริสุทฺเธน วณฺเณน เจว สรีรสณฺานสมฺปตฺติยา จาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตเนวาห ‘‘วณฺเณน เจว สรีรสณฺาเนน จา’’ติ. ตตฺถ วณฺเณนาติ วณฺณธาตุยา. สรีรํ นาม สนฺนิเวสวิสิฏฺโ กรจรณคีวาสีสาทิอวยวสมุทาโย, โส จ สณฺานมุเขน คยฺหตีติ อาห ‘‘สรีรสณฺาเนนา’’ติ.

อภิสชฺชตีติ กุชฺฌนวเสเนว กุฏิลกณฺฏโก วิย ตสฺมึ ตสฺมึ สมุฏฺาเน มกรทนฺโต วิย ลคติ. ยฺหิ โกธสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภูเต อารมฺมเณ อุปนาหสฺส ปจฺจยภูตํ กุชฺฌนวเสน อภิสชฺชนํ, ตํ อิธาธิปฺเปตํ, น ลุพฺภนวเสน. กุปฺปตีติอาทีสุ ปุพฺพุปฺปตฺติ โกโป, ตโต พลวตโร พฺยาปาโท ลทฺธาเสวนตาย จิตฺตสฺส พฺยาปชฺชนโต. สาติสยํ ลทฺธาเสวนตาย ตโต พฺยาปาทโตปิ พลวตรา ปจฺจตฺถิกภาเวน ถามปฺปตฺติ ปติตฺถิยนา. อนฺนํ ปานนฺติอาทีสุ อทียโต อนฺนํ, ขาทนียํ โภชนียฺจ. ปาตพฺยโต ปานํ, ยํกิฺจิ ปานํ. วสิตพฺพโต อจฺฉาเทตพฺพโต วตฺถํ, นิวาสนปาวุรณํ. ยนฺติ เตนาติ ยานํ, ฉตฺตุปาหนวยฺหสิวิกาทิ ยํกิฺจิ คมนปจฺจยํ. ฉตฺตมฺปิ หิ วสฺสาตปทุกฺขนิวารเณน มคฺคคมนสาธนนฺติ กตฺวา ‘‘ยาน’’นฺติ วุจฺจติ. มาลนฺติ ยํกิฺจิ สุมนมาลาทิปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ จนฺทนาทิวิเลปนํ.

มลฺลิกาเทวีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อตฺตนฺตปสุตฺตวณฺณนา

๑๙๘. อฏฺเม อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. อิธ ปน โย ปโร น โหติ, โส อตฺตา, ตํ อตฺตานํ. ปรนฺติ อตฺตโต อฺํ. ทิฏฺเติ ปจฺจกฺขภูเต. ธมฺเมติ อุปาทานกฺขนฺธธมฺเม. ตตฺถ หิ อตฺตา ภวติ, อตฺตสฺาทิฏฺิ ภวตีติ อตฺตภาวสมฺา. เตนาห ‘‘ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว’’ติ. ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา ชิฆจฺฉาเหตุตาย. อนฺโต ตาปนกิเลสานนฺติ อตฺตโน สนฺตาเน ทรถปริฬาหชนเนน สนฺตาปนกิเลสานํ.

ปเรสํ หนนฆาตนาทินา โรทาปนโต ลุทฺโท. ตถา วิฆาตกภาเวน กายจิตฺตานํ วิทาลนโต ทารุโณ. ถทฺธหทโย กกฺขโฬ. พนฺธนาคาเร นิยุตฺโต พนฺธนาคาริโก.

ขตฺติยาภิเสเกนาติ ขตฺติยานํ กาตพฺพอภิเสเกน. สนฺถาคารนฺติ สนฺถารวเสน กตํ อคารํ ยฺาคารํ. สปฺปิเตเลนาติ สปฺปิมิสฺเสน เตเลน. ยมกสฺเนเหน หิ เอสา ตทา กายํ อพฺภฺชติ. วจฺฉภาวํ ตริตฺวา ิโต วจฺฉตโร. ปริกฺเขปกรณตฺถายาติ นวมาลาหิ สทฺธึ ทพฺเภหิ เวทิยา ปริกฺขิปนตฺถาย. ยฺภูมิยนฺติ อวเสสยฺฏฺาเน.

ทูรสมุสฺสาริตมานสฺเสว สาสเน สมฺมาปฏิปตฺติ สมฺภวติ, น มานชาติกสฺสาติ อาห ‘‘นิหตมานตฺตา’’ติ. อุสฺสนฺนตฺตาติ พหุภาวโต. โภคาโรคฺยาทิวตฺถุกา มทา สุปฺปหิยา โหนฺติ นิมิตฺตสฺส อวฏฺานโต, น ตถา กุลวิชฺชามทาติ ขตฺติยพฺราหฺมณกุลานํ ปพฺพชิตานมฺปิ ชาติวิชฺชา นิสฺสาย มานชปฺปนํ ทุปฺปชหนฺติ อาห ‘‘เยภุยฺเยน หิ…เป… มานํ กโรนฺตี’’ติ. วิชาติตายาติ นิหีนชาติตาย. ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺตีติ สุวิสุทฺธํ กตฺวา สีลํ รกฺขิตุํ น สกฺโกนฺติ. สีลวเสน หิ สาสเน ปติฏฺหนฺติ. ปติฏฺาตุนฺติ วา สจฺจปฺปฏิเวเธน โลกุตฺตราย ปติฏฺาย ปติฏฺาตุํ. เยภุยฺเยน หิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา สุชาตาเยว โหนฺติ, น ทุชฺชาตา.

ปริสุทฺธนฺติ ราคาทีนํ อจฺจนฺตเมว ปหานทีปนโต นิรุปกฺกิเลสตาย สพฺพโส วิสุทฺธํ. สทฺธํ ปฏิลภตีติ โปถุชฺชนิกสทฺธาวเสน สทฺทหติ. วิฺุชาติกานฺหิ ธมฺมสมฺปตฺติคฺคหณปุพฺพิกา สทฺธาสิทฺธิ ธมฺมปฺปมาณธมฺมปฺปสนฺนภาวโต. ชายมฺปติกาติ ฆรณิปติกา. กามํ ‘‘ชายมฺปติกา’’ติ วุตฺเต ฆรสามิกฆรสามินิวเสน ทฺวินฺนํเยว คหณํ วิฺายติ, ยสฺส ปน ปุริสสฺส อเนกา ปชาปติโย โหนฺติ, ตตฺถ กึ วตฺตพฺพนฺติ เอกายปิ สํวาโส สมฺพาโธติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ทฺเว’’ติ วุตฺตํ. ราคาทินา สกิฺจนฏฺเน, เขตฺตวตฺถุอาทินา สปลิโพธฏฺเน ราครชาทีนํ อาคมนปถตาปิ อุปฺปชฺชนฏฺานตา เอวาติ ทฺเวปิ วณฺณนา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นานํ. อลคฺคนฏฺเนาติ อสชฺชนฏฺเน อปฺปฏิพทฺธภาเวน. เอวํ อกุสลกุสลปฺปวตฺตีนํ านภาเวน ฆราวาสปพฺพชฺชานํ สมฺพาธพฺโภกาสตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กุสลปฺปวตฺติยาเยว อฏฺานฏฺานภาเวน เตสํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สงฺเขปกถาติ วิสุํ วิสุํ ปทุทฺธารํ อกตฺวา สงฺเขปโต อตฺถวณฺณนา. เอกมฺปิ ทิวสนฺติ เอกทิวสมตฺตมฺปิ. อขณฺฑํ กตฺวาติ ทุกฺกฏมตฺตสฺสปิ อนาปชฺชเนน อขณฺฑิตํ กตฺวา. กิเลสมเลน อมลินนฺติ ตณฺหาสํกิเลสาทิวเสน อสํกิลิฏฺํ กตฺวา. ปริทหิตฺวาติ นิวาเสตฺวา เจว ปารุปิตฺวา จ. อคารวาโส อคารํ อุตฺตรปทโลเปน, ตสฺส วฑฺฒิอาวหํ อคารสฺส หิตํ.

โภคกฺขนฺโธติ โภคราสิ โภคสมุทาโย. อาพนฺธนฏฺเนาติ ปุตฺโต นตฺตาติอาทินา เปมวเสน สปริจฺเฉทวเสน พนฺธนฏฺเน. อมฺหากเมเตติ ายนฺตีติ าตี, ปิตามหปิตุปุตฺตาทิวเสน ปริวตฺตนฏฺเน ปริวฏฺโฏ. สามฺวาจีปิ สิกฺขา-สทฺโท อาชีวสทฺทสนฺนิธานโต อุปริวุจฺจมานวิเสสาเปกฺขาย จ วิเสสนิวิฏฺโว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา’’ติ. สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา, สห อาชีวนฺติ เอตฺถาติ สาชีโว. สิกฺขนภาเวนาติ สิกฺขาย สาชีเว จ สิกฺขนภาเวน. สิกฺขํ ปริปูเรนฺโตติ สีลสํวรํ ปริปูเรนฺโต. สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโตติ ‘‘นามกาโย, ปทกาโย, นิรุตฺติกาโย, พฺยฺชนกาโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๓๙) วุตฺตํ สิกฺขาปทํ ภควโต จ วจนํ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. อิทเมว จ ‘‘สิกฺขน’’นฺติ วุตฺตํ, ตตฺถ สาชีวานํ อวีติกฺกโม สิกฺขาปาริปูริยา ปจฺจโย. ตโต หิ ยาว มคฺคา สิกฺขาปาริปูรี โหตีติ.

อนุปฺปทาตาติ อนุพลปฺปทาตา, อนุวตฺตนวเสน วา ปทาตา. กสฺส ปน อนุวตฺตนํ ปทานฺจาติ? ‘‘สหิตาน’’นฺติ วุตฺตตฺตา สนฺธานสฺสาติ วิฺายติ. เตนาห ‘‘สนฺธานานุปฺปทาตา’’ติ. ยสฺมา ปน อนุวตฺตนวเสน สนฺธานสฺส ปทานํ อาธานํ อารกฺขนํ วา ทฬฺหกรณํ โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา’’ติอาทิ. อารมนฺติ เอตฺถาติ อาราโม, รมิตพฺพฏฺานํ. ยสฺมา ปน อา-กาเรน วินาปิ อยมตฺโถ ลพฺภติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมคฺคราโมติปิ ปาฬิ, อยเมวตฺโถ’’ติ.

เอตฺถาติ

‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, เอกาโร วตฺตตี รโถ;

อนีฆํ ปสฺส อายนฺตํ, ฉินฺนโสตํ อพนฺธน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๔.๓๔๗; อุทา. ๖๕; เปฏโก. ๒๕) –

อิมิสฺสา คาถาย. สีลฺเหตฺถ เนลงฺคนฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘จิตฺโต คหปติ, เนลงฺคนฺติ โข, ภนฺเต, สีลานเมตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๗). สุกุมาราติ อปฺผรุสตาย มุทุกา. ปุรสฺส เอสาติ เอตฺถ ปุร-สทฺโท ตนฺนิวาสิวาจโก ทฏฺพฺโพ – ‘‘คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิย. เตเนวาห ‘‘นครวาสีน’’นฺติ. มนํ อปฺปายติ วฑฺเฒตีติ มนาโป. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตวุฑฺฒิกรา’’ติ.

กาลวาทีติอาทิ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตสฺส ปฏิปตฺติทสฺสนํ. อตฺถสํหิตาปิ หิ วาจา อยุตฺตกาลปฺปโยเคน อตฺถาวหา น สิยาติ อนตฺถวิฺาปนวาจํ อนุโลเมติ, ตสฺมา สมฺผปฺปลาปํ ปชหนฺเตน อกาลวาทิตา ปริหริตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘กาลวาที’’ติ. กาเลน วทนฺเตนปิ อุภยานตฺถสาธนโต อภูตํ ปริวชฺเชตพฺพนฺติ อาห ‘‘ภูตวาที’’ติ. ภูตฺจ วทนฺเตน ยํ อิธโลกปรโลกหิตสมฺปาทกํ, ตเทว วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺถวาที’’ติ วุตฺตํ. อตฺถํ วทนฺเตนปิ โลกิยธมฺมสนฺนิสฺสิตเมว อวตฺวา โลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วตฺตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ธมฺมวาที’’ติ วุตฺตํ. ยถา จ อตฺโถ โลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิโต โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วินยวาที’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนฺหิ สํวรวินยานํ ปฺจนฺนฺจ ปหานวินยานํ วเสน วุจฺจมาโน อตฺโถ นิพฺพานาธิคมนเหตุภาวโต โลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิโต โหตีติ. เอวํ คุณวิเสสยุตฺโตว อตฺโถ วุจฺจมาโน เทสนาโกสลฺเล สติ โสภติ, กิจฺจกโร จ โหติ, น อฺถาติ ทสฺเสตุํ ‘‘นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ตํ เทสนาโกสลฺลํ วิภาเวตุํ ‘‘กาเลนา’’ติอาทิมาห. ปุจฺฉาทิวเสน หิ โอติณฺณวาจาวตฺถุสฺมึ เอกํสาทิพฺยากรณวิภาคํ สลฺลกฺเขตฺวา ปนาเหตูทาหรณสนฺทสฺสนาทึ ตํตํกาลานุรูปํ วิภาเวนฺติยา ปริมิตปริจฺฉินฺนรูปาย วิปุลตรคมฺภีโรทารปรมตฺถวิตฺถารสงฺคาหิกาย กถาย าณพลานุรูปํ ปเร ยาถาวโต ธมฺเม ปติฏฺาเปนฺโต ‘‘เทสนากุสโล’’ติ วุจฺจตีติ เอวเมตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา.

เอวํ ปฏิปาฏิยา สตฺต มูลสิกฺขาปทานิ วิภชิตฺวา อภิชฺฌาทิปฺปหานํ อินฺทฺริยสํวรชาคริยานุโยเคหิ วิภาเวตุํ ตมฺปิ นีหริตฺวา อาจารสีลสฺเสว วิภชนวเสน ปาฬิ ปวตฺตาติ ตทตฺถํ วิวริตุํ ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ พีชานํ คาโม สมูโห พีชคาโม. ภูตานํ ชาตานํ นิพฺพตฺตานํ รุกฺขคจฺฉลตาทีนํ สมูโห ภูตคาโม. นนุ จ รุกฺขาทโย จิตฺตรหิตตาย น ชีวา, จิตฺตรหิตตา จ ปริปฺผนฺทาภาวโต ฉินฺเน วิรุหนโต วิสทิสชาติภาวโต จตุโยนิอปริยาปนฺนโต จ เวทิตพฺพา, วุทฺธิ ปน ปวาฬสิลาลวณานมฺปิ วิชฺชตีติ น เตสํ ชีวภาเว การณํ, วิสยคฺคหณฺจ เนสํ ปริกปฺปนามตฺตํ สุปนํ วิย จิฺจาทีนํ, ตถา โทหฬาทโย, อถ กสฺมา พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรติ อิจฺฉิตาติ? สมณสารุปฺปโต ตนฺนิวาสิสตฺตานุรกฺขณโต จ. เตเนวาห – ‘‘ชีวสฺิโน หิ โมฆปุริส มนุสฺสา รุกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๘๙).

มูลเมว พีชํ มูลพีชํ, มูลํ พีชํ เอตสฺสาติปิ มูลพีชํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ผฬุพีชนฺติ ปพฺพพีชํ. ปจฺจยนฺตรสมวาเย สทิสผลุปฺปตฺติยา วิเสสการณภาวโต วิรุหนสมตฺเถ สารผเล นิรุฬฺโห พีช-สทฺโท ตทตฺถสํสิทฺธิยา มูลาทีสุปิ เกสุจิ ปวตฺตตีติ มูลาทิโต นิวตฺตนตฺถํ เอเกน พีช-สทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘พีชพีช’’นฺติ ‘‘รูปรูปํ, ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๗) จ ยถา. กสฺมา ปเนตฺถ พีชคามภูตคามํ อุทฺธริตฺวา พีชคาโม เอว นิทฺทิฏฺโติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, นนุ อโวจุมฺหา ‘‘มูลเมว พีชํ มูลพีชํ, มูลํ พีชํ เอตสฺสาติปิ มูลพีช’’นฺติ. ตตฺถ ปุริเมน พีชคาโม นิทฺทิฏฺโ, ทุติเยน ภูตคาโม. ทุวิโธเปส มูลพีชฺจ มูลพีชฺจ มูลพีชนฺติ สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสสนเยน วา อุทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘ปฺจวิธสฺสา’’ติอาทิ. นีลติณรุกฺขาทิกสฺสาติ อลฺลติณสฺส เจว อลฺลรุกฺขาทิกสฺส จ. อาทิ-สทฺเทน โอสธิคจฺฉลตาทีนํ สงฺคโห.

เอกํ ภตฺตํ เอกภตฺตํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เอกภตฺติโก. โส ปน รตฺติโภชเนนปิ สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ อาห ‘‘รตฺตูปรโต’’ติ. เอวมฺปิ อปรณฺหโภชีปิ สิยา เอกภตฺติโกติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘วิรโต วิกาลโภชนา’’ติ วุตฺตํ. อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิกา อยํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ โภชนสฺส กาโล นาม, ตทฺโ วิกาโล. อฏฺกถายํ ปน ทุติยปเทน รตฺติโภชนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ‘‘อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นามา’’ติ วุตฺตํ.

ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺตีติ อิติ-สทฺเทน เอวํปกาเร ทสฺเสติ. อฺเหิ คาหาปเน อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน จ ปฏิคฺคหณตฺโถ ลพฺภตีติ ‘‘เนว ตํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ติวิธํ ปฏิคฺคหณํ กาเยน, วาจาย, มนสาติ. ตตฺถ กาเยน ปฏิคฺคหณํ อุคฺคณฺหนํ, วาจาย ปฏิคฺคหณํ อุคฺคหาปนํ, มนสา ปฏิคฺคหณํ สาทิยนนฺติ ติวิธมฺปิ ปฏิคฺคหณํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ปฏิคฺคหณาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เนว ตํ อุคฺคณฺหาตี’’ติอาทิ. เอส นโย อามกธฺปฏิคฺคหณาติอาทีสุปิ. นีวาราทิอุปธฺสฺส สาลิอาทิมูลธฺนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ ‘‘สตฺตวิธสฺสา’’ติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ, มจฺฉวสํ, สุสุกาวสํ, สูกรวสํ, คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) วุตฺตตฺตา อิทํ โอทิสฺส อนุฺาตํ นาม. ตสฺส ปน ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหณํ วฏฺฏติ สติ ปจฺจเยติ อาห ‘‘อฺตฺร โอทิสฺส อนุฺาตา’’ติ.

สารุปฺเปน วฺจนํ รูปกูฏํ, ปติรูเปน วฺจนาติ อตฺโถ. องฺเคน อตฺตโน สรีราวยเวน วฺจนํ องฺคกูฏํ. คณฺหนวเสน วฺจนํ คหณกูฏํ. ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา วฺจนํ ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ. อกฺกมตีติ นิปฺปีเฬติ, ปุพฺพภาเค อกฺกมตีติ สมฺพนฺโธ. หทยนฺติ นาฬิอาทิมานภาชนานํ อพฺภนฺตรํ. เตลาทีนํ นาฬิอาทีหิ มินนกาเล อุสฺสาปิตา สิขาเยว สิขาเภโท, ตสฺสา หาปนํ. เกจีติ สารสมาสาจริยา อุตฺตรวิหารวาสิโน จ.

วโธติ มุฏฺิปฺปหารกสาตาฬนาทีหิ หึสนํ, วิเหนนฺติ อตฺโถ. วิเหนตฺโถปิ หิ วธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรทตี’’ติอาทีสุ. ยถา หิ อปฏิคฺคหภาวสามฺเ สติปิ ปพฺพชิเตหิ อปฺปฏิคฺคหิตพฺพวตฺถุวิเสสภาวสนฺทสฺสนตฺถํ อิตฺถิกุมาริทาสิทาสาทโย วิภาเคน วุตฺตา, เอวํ ปรสฺสหรณภาวโต อทินฺนาทานภาวสามฺเ สติปิ ตุลากูฏาทโย อทินฺนาทานวิเสสภาวทสฺสนตฺถํ วิภาเคน วุตฺตา. น เอวํ ปาณาติปาตปริยายสฺส วธสฺส ปุน คหเณ ปโยชนํ อตฺถิ, ตตฺถ สยํกาโร, อิธ ปรํกาโรติ จ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘กายวจิปฺปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ฉปฺปโยคา’’ติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๑๐) วจนโต, ตสฺมา ยถาวุตฺโต เอวเมตฺถ อตฺโถ ยุตฺโต. อฏฺกถายํ ปน ‘‘วโธติ มารณ’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ โปถนเมว สนฺธายาติ จ สกฺกา วิฺาตุํ มารณสทฺทสฺส วิหึสเนปิ ทิสฺสนโต.

จีวรปิณฺฑปาตานํ ยถากฺกมํ กายกุจฺฉิปริหรณมตฺตโชตนายํ อวิเสสโต อฏฺนฺนํ ปริกฺขารานํ ตปฺปโยชนตา สมฺภวตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต สพฺเพปี’’ติอาทิมาห. เอเตปีติ นวปริกฺขาริกาทโยปิ อปฺปิจฺฉา จ สนฺตุฏฺา จ. น หิ ตตฺตเกน มหิจฺฉตา อสนฺตุฏฺิตา โหตีติ.

จตูสุ ทิสาสุ สุขํ วิหรติ, ตโต เอว สุขวิหารฏฺานภูตา จตสฺโส ทิสา อสฺส สนฺตีติ จาตุทฺทิโส. ตตฺถ จายํ สตฺเต วา สงฺขาเร วา ภเยน นปฺปฏิหฺตีติ อปฺปฏิโฆ. ทฺวาทสวิธสฺส สนฺโตสสฺส วเสน สนฺตุสฺสนโต สนฺตุสฺสมาโน. อิตรีตเรนาติ อุจฺจาวเจน ปริสฺสยานํ พาหิรานํ สีหพฺยคฺฆาทีนํ, อพฺภนฺตรานฺจ กามจฺฉนฺทาทีนํ กายจิตฺตูปทฺทวานํ อภิภวนโต ปริสฺสยานํ สหิตา. พนฺธนภาวกรภยาภาเวน อจฺฉมฺภิ. เอโก อสหาโย. ตโต เอว ขคฺคมิคสิงฺคสทิสตาย ขคฺควิสาณกปฺโป จเรยฺยาติ อตฺโถ.

ฉินฺนปกฺโข, อสฺชาตปกฺโข วา สกุโณ คนฺตุํ น สกฺโกตีติ ปกฺขิ-สทฺเทน วิเสเสตฺวา สกุโณ ปาฬิยํ วุตฺโตติ อาห ‘‘ปกฺขยุตฺโต สกุโณ’’ติ. ยสฺส สนฺนิธิการปริโภโค กิฺจิ เปตพฺพํ สาเปกฺขาปนฺจ นตฺถิ, ตาทิโส อยํ ภิกฺขูติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ’’ติอาทิมาห. อริยนฺติ อเปนฺติ ตโต โทสา, เตหิ วา อารกาติ อริโยติ อาห ‘‘อริเยนาติ นิทฺโทเสนา’’ติ. อชฺฌตฺตนฺติ อตฺตนิ. นิทฺโทสสุขนฺติ นิรามิสสุขํ กิเลสวชฺชรหิตตฺตา.

ยถาวุตฺเต สีลสํวเร ปติฏฺิตสฺเสว อินฺทฺริยสํวโร อิจฺฉิตพฺโพ ตทธิฏฺานโต ตสฺส จ ปริปาลกภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ภิกฺขู’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทิปเทสุ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – น นิมิตฺตคฺคาหีติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ, ทิฏฺมตฺเตเยว สณฺาติ. นานุพฺยฺชนคฺคาหีติ กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนโต ปากฏภาวกรณโต อนุพฺยฺชนนฺติลทฺธโวหารํ หตฺถปาทสิตหสิตกถิตวิโลกิตาทิเภทํ อาการํ น คณฺหาติ. ยํ ตตฺถ ภูตํ, ตเทว คณฺหาติ. ยตฺวาธิกรณเมนนฺติอาทิมฺหิ ยํการณา ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ เอตํ ปุคฺคลํ สติกวาเฏน จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ อปิหิตจกฺขุทฺวารํ หุตฺวา วิหรนฺตํ เอเต อภิชฺฌาทโย ธมฺมา อนฺวสฺสเวยฺยุํ อนุปฺปพนฺเธยฺยุํ. ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถาย ปฏิปชฺชติ. เอวํ ปฏิปชฺชนฺโตเยว จ ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ วุจฺจติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวมิทํ สงฺเขปโต รูปาทีสุ กิเลสานุพนฺธนิมิตฺตาทิคฺคาหปริวชฺชนลกฺขณํ อินฺทฺริยสํวรํ สีลํ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. กิเลเสหิ อนวสิตฺตสุขนฺติอาทีสุ รูปาทีสุ นิมิตฺตาทิคฺคาหปริวชฺชนลกฺขณตฺตา อินฺทฺริยสํวรสฺส กิเลเสหิ อนวสิตฺตสุขตา อวิกิณฺณสุขตา จสฺส วุตฺตา.

อภิกฺกมนํ อภิกฺกนฺโต, ปุรโต คมนํ. ปฏิกฺกมนํ ปฏิกฺกนฺโต, ปจฺจาคมนํ. ตทุภยมฺปิ จตูสุ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. คมเน ตาว ปุรโต กายํ อภิหรนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปฏินิวตฺเตนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. าเนปิ ิตโกว กายํ ปุรโต โอณมนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉโต อปนาเมนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิสชฺชายปิ นิสินฺนโกว อาสนสฺส ปุริมองฺคาภิมุโข สํสรนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉิมํ องฺคปฺปเทสํ ปจฺจาสํสรนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิปชฺชายปิ เอเสว นโย.

สาตฺถกสมฺปชฺนฺติอาทีสุ สมนฺตโต ปกาเรหิ, ปกฏฺํ วา สวิเสสํ ชานาตีติ สมฺปชาโน, สมฺปชานสฺส ภาโว สมฺปชฺํ, ตถาปวตฺตํ าณํ. ธมฺมโต วฑฺฒิสงฺขาเตน สห อตฺเถน วตฺตตีติ สาตฺถกํ, อภิกฺกนฺตาทิสาตฺถกสฺส สมฺปชฺํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. สปฺปายสฺส อตฺตโน อุปการาวหสฺส สมฺปชฺํ สปฺปายสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ ภิกฺขาจารโคจเร, อฺตฺถาปิ ปวตฺเตสุ อวิชหิตกมฺมฏฺานสงฺขาเต โคจเร สมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนเมว สมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ตตฺถ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๙) อภิกฺกมนจิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว อคนฺตฺวา ‘‘กินฺนุ เม เอตฺถ คเตน อตฺโถ อตฺถิ นตฺถี’’ติ อตฺถานตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา อตฺถปริคฺคหณํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. ตตฺถ จ อตฺโถติ เจติยทสฺสนโพธิทสฺสนสงฺฆทสฺสนเถรทสฺสนอสุภทสฺสนาทิวเสน ธมฺมโต วฑฺฒิ. เจติยํ วา โพธึ วา ทิสฺวาปิ หิ พุทฺธารมฺมณํ, สงฺฆทสฺสเนน สงฺฆารมฺมณํ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยวยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เถเร ทิสฺวา เตสํ โอวาเท ปติฏฺาย อสุภํ ทิสฺวา ตตฺถ ปมชฺฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยวยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตสฺมา เอเตสํ ทสฺสนํ ‘‘สาตฺถก’’นฺติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อามิสโตปิ วฑฺฒิ อตฺโถเยว ตํ นิสฺสาย พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย ปฏิปนฺนตฺตา’’ติ วทนฺติ.

ตสฺมึ ปน คมเน สปฺปายาสปฺปายํ ปริคฺคเหตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. เสยฺยถิทํ – เจติยทสฺสนํ ตาว สาตฺถํ. สเจ ปน เจติยสฺส มหาปูชาย ทสทฺวาทสโยชนนฺตเร ปริสา สนฺนิปตนฺติ, อตฺตโน วิภวานุรูปํ อิตฺถิโยปิ ปุริสาปิ อลงฺกตปฏิยตฺตา จิตฺตกมฺมรูปกานิ วิย สฺจรนฺติ. ตตฺร จสฺส อิฏฺเ อารมฺมเณ โลโภ, อนิฏฺเ ปฏิโฆ, อสมเปกฺขเน โมโห อุปฺปชฺชติ, กายสํสคฺคาปตฺตึ วา อาปชฺชติ, ชีวิตพฺรหฺมจริยานํ วา อนฺตราโย โหติ. เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ โหติ, วุตฺตปฺปการอนฺตรายาภาเว สปฺปายํ. โพธิทสฺสเนปิ เอเสว นโย. สงฺฆทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ. สเจ ปน อนฺโตคาเม มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ กโรนฺเตสุ มนุสฺเสสุ วุตฺตปฺปกาเรเนว ชนสนฺนิปาโต เจว อนฺตราโย จ โหติ. เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ, อนฺตรายาภาเว สปฺปายํ. มหาปริสาปริวารานํ เถรานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย. อสุภทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ มคฺคผลาธิคมเหตุภาวโต. ทนฺตกฏฺตฺถาย สามเณรํ คเหตฺวา คตทหรภิกฺขุโน วตฺถุเปตฺถ กเถตพฺพํ. เอวํ สาตฺถมฺปิ ปเนตํ ปุริสสฺส มาตุคามาสุภํ อสปฺปายํ, มาตุคามสฺส จ ปุริสาสุภํ. สภาคเมว สปฺปายนฺติ เอวํ สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ นาม.

เอวํ ปริคฺคหิตสาตฺถกสปฺปายสฺส ปน อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ อตฺตโน จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานสงฺขาตํ โคจรํ อุคฺคเหตฺวา ภิกฺขาจารโคจเร ตํ คเหตฺวาว คมนํ โคจรสมฺปชฺํ นาม.

อภิกฺกมาทีสุ ปน อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อิธ ภิกฺขุ อภิกฺกมนฺโต วา ปฏิกฺกมนฺโต วา ยถา อนฺธปุถุชฺชนา อภิกฺกมาทีสุ ‘‘อตฺตา อภิกฺกมติ, อตฺตนา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’’ติ วา, ‘‘อหํ อภิกฺกมามิ, มยา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’’ติ วา สมฺมุยฺหนฺติ, ตถา อสมฺมุยฺหนฺโต ‘‘อภิกฺกมามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน เตเนว จิตฺเตน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ วิฺตฺตึ ชนยมานา อุปฺปชฺชติ, อิติ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสน อยํ กายสมฺมโต อฏฺิสงฺฆาโฏ อภิกฺกมติ, ตสฺเสวํ อภิกฺกมโต เอเกกปทุทฺธรเณ ปถวีธาตุ, อาโปธาตูติ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา โหนฺติ พลวติโย. ตถา อติหรณวีติหรเณสุ. โวสฺสชฺชเน เตโชธาตุ, วาโยธาตูติ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา พลวติโย. ตถา สนฺนิกฺเขปนสนฺนิรุมฺภเนสุ. ตตฺถ อุทฺธรเณ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา อติหรณํ น ปาปุณนฺติ, ตถา อติหรเณ ปวตฺตา วีติหรณํ, วีติหรเณ ปวตฺตา โวสฺสชฺชนํ, โวสฺสชฺชเน ปวตฺตา สนฺนิกฺเขปนํ, สนฺนิกฺเขปเน ปวตฺตา สนฺนิรุมฺภนํ น ปาปุณนฺติ. ตตฺถ ตตฺเถว ปพฺพปพฺพํ สนฺนิสนฺธิ โอธิโอธิ หุตฺวา ตตฺตกปาเล ปกฺขิตฺตติลํ วิย ปฏปฏายนฺตา ภิชฺชนฺติ. ตตฺถ โก เอโก อภิกฺกมติ, กสฺส วา เอกสฺส อภิกฺกมนํ? ปรมตฺถโต หิ ธาตูนํเยว คมนํ, ธาตูนํ านํ, ธาตูนํ นิสชฺชนํ, ธาตูนํ สยนํ. ตสฺมึ ตสฺมิฺหิ โกฏฺาเส สทฺธึ รูเปน –

‘‘อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ, อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌติ;

อวีจิมนุสมฺพนฺโธ, นทีโสโตว วตฺตตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๙; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๓๖๘);

เอวํ อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ นามาติ. ปจฺจยสมฺปตฺตินฺติ ปจฺจยปาริปูรึ. อิเม จตฺตาโรติ สีลสํวโร, สนฺโตโส, อินฺทฺริยสํวโร, สติสมฺปชฺนฺติ อิเม จตฺตาโร อรฺวาสสฺส สมฺภารา. วตฺตพฺพตํ อาปชฺชตีติ ‘‘อสุกสฺส ภิกฺขุโน อรฺเ ติรจฺฉานคตานํ วิย วนจรกานํ วิย จ นิวาสมตฺตเมว, น อรฺวาสานุจฺฉวิกา กาจิ สมฺมาปฏิปตฺตี’’ติ อปวาทวเสน วตฺตพฺพตํ, อารฺเกหิ วา ติรจฺฉานคเตหิ วนจรกวิสภาคชเนหิ วิปฺปฏิปตฺติวเสน วตฺถพฺพตํ อาปชฺชติ. เภรวสทฺทํ สาเวนฺติ, ตาวตา อปลายนฺตานํ หตฺเถหิ สีสํ…เป… กโรนฺติ. กาฬกสทิสตฺตา กาฬกํ, วีติกฺกมสงฺขาตํ ถุลฺลวชฺชํ. ติลกสทิสตฺตา ติลกํ, มิจฺฉาวิตกฺกสงฺขาตํ อณุมตฺตวชฺชํ. นฺติ ปีตึ. วิภูตภาเวน อุปฏฺานโต ขยโต สมฺมสนฺโต.

วิวิตฺตนฺติ ชนวิวิตฺตํ. เตนาห ‘‘สุฺ’’นฺติ. ตํ ปน ชนสทฺทนิคฺโฆสาภาเวน เวทิตพฺพํ สทฺทกณฺฏกตฺตา ฌานสฺสาติ อาห ‘‘อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ’’ติ. เอตเทวาติ นิสฺสทฺทตํเยว. วิหาโร ปาการปริจฺฉินฺโน สกโล อาวาโส. อฑฺฒโยโค ทีฆปาสาโท, ‘‘ครุฬสณฺานปาสาโท’’ติปิ วทนฺติ. ปาสาโท จตุรสฺสปาสาโท. หมฺมิยํ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. อฏฺโฏ ปฏิราชูนํ ปฏิพาหนโยคฺโค จตุปฺปฺจภูมโก ปติสฺสยวิเสโส. มาโฬ เอกกูฏสงฺคหิโต อเนกโกณวนฺโต ปติสฺสยวิเสโส. อปโร นโย – วิหาโร นาม ทีฆมุขปาสาโท. อฑฺฒโยโค เอกปสฺสจฺฉทนกเสนาสนํ. ตสฺส กิร เอกปสฺเส ภิตฺติ อุจฺจตรา โหติ, อิตรปสฺเส นีจา. เอเตน ตํ เอกปสฺสจฺฉทนกํ โหติ. ปาสาโท นาม อายตจตุรสฺสปาสาโท. หมฺมิยํ มุณฺฑจฺฉทนํ จนฺทิกงฺคณยุตฺตํ. คุหา นาม เกวลา ปพฺพตคุหา. เลณํ ทฺวารพทฺธํ ปพฺภารํ. มณฺฑโปติ สาขามณฺฑโป. อาวสถภูตํ เสนาสนํ วิหริตพฺพฏฺเน วิหารเสนาสนํ. มสารกาทิ มฺจปีํ ตตฺถ อตฺถริตพฺพภิสิ อุปธานฺจ มฺจปีสมฺพนฺธโต มฺจปีเสนาสนํ. จิมิลิกาทิ ภูมิยํ สนฺถริตพฺพตาย สนฺถตเสนาสนํ. อภิสงฺขตาภาวโต เกวลํ สยนสฺส นิสชฺชาย จ โอกาสภูตํ รุกฺขมูลาทิ ปฏิกฺกมิตพฺพฏฺานํ โอกาสเสนาสนํ. เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมวาติ ‘‘วิวิตฺตํ เสนาสน’’นฺติ อิมินา เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมว สามฺโชตนาภาวโต.

ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘อรฺ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิมสฺส ปนา’’ติอาทิ. ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตนฺติ อิทํ วินเย ตถา อาคตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อภิธมฺเมปิ (วิภ. ๕๒๙) ปน ‘‘อรฺนฺติ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขิลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ อาคตเมว. ตตฺถ หิ ยํ น คามปฺปเทสนฺโตคธํ, ตํ อรฺนฺติ นิปฺปริยายวเสน ตถา วุตฺตํ. ธุตงฺคนิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) ยํ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยน คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. รุกฺขมูลนฺติ รุกฺขสมีปํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยาวตา มชฺฌนฺหิเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรติ, นิวาเต ปณฺณานิ ปตนฺติ, เอตฺตาวตา รุกฺขมูล’’นฺติ. เสล-สทฺโท อวิเสสโต ปพฺพตปริยาโยติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปพฺพตนฺติ เสล’’นฺติ, น สิลามยเมว. ปํสุมยาทิโก หิ ติวิโธปิ ปพฺพโต เอวาติ. วิวรนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ มิโถ อาสนฺนตเร ิตานํ โอวรกาทิสทิสํ วิวรํ. เอกสฺมึเยว วา ปพฺพเต. อุมงฺคสทิสนฺติ สุทุงฺคาสทิสํ. มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานนฺติ ปกติสฺจารวเสน มนุสฺเสหิ น สฺจริตพฺพฏฺานํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘วนปตฺถนฺติ วนสณฺฑานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจนํ. วนปตฺถนฺติ ภึสนกานเมตํ. วนปตฺถนฺติ สโลมหํสานเมตํ. วนปตฺถนฺติ ปริยนฺตานเมตํ. วนปตฺถนฺติ น มนุสฺสูปจารานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติ (วิภ. ๕๓๑) อิมํ ปาฬิปฺปเทสํ สงฺคณฺหาติ. อจฺฉนฺนนฺติ เกนจิ ฉทเนน อนฺตมโส รุกฺขสาขายปิ น ฉาทิตํ. นิกฺกฑฺฒิตฺวาติ นีหริตฺวา. ปพฺภารเลณสทิเสติ ปพฺภารสทิเส, เลณสทิเส วา.

ปิณฺฑปาตปริเยสนํ ปิณฺฑปาโต อุตฺตรปทโลเปนาติ อาห ‘‘ปิณฺฑปาตปริเยสนโต ปฏิกฺกนฺโต’’ติ. ปลฺลงฺกนฺติ เอตฺถ ปริ-สทฺโท สมนฺตโตติ เอตสฺมึ อตฺเถ, ตสฺมา วาโมรุํ ทกฺขิโณรุฺจ สมํ เปตฺวา อุโภ ปาเท อฺมฺํ สมฺพนฺเธ กตฺวา นิสชฺชา ปลฺลงฺกนฺติ อาห ‘‘สมนฺตโต อูรุพทฺธาสน’’นฺติ. อูรูนํ พนฺธนวเสน นิสชฺชา ปลฺลงฺกํ. อาภุชิตฺวาติ จ ยถา ปลฺลงฺกวเสน นิสชฺชา โหติ, เอวํ อุโภ ปาเท อาภุชิเต สมิฺชิเต กตฺวา. ตํ ปน อุภินฺนํ ปาทานํ ตถาสมฺพนฺธตากรณนฺติ อาห ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติ. เหฏฺิมกายสฺส อนุชุกํ ปนํ นิสชฺชาวจเนเนว โพธิตนฺติ อุชุํ กายนฺติ เอตฺถ กาย-สทฺโท อุปริมกายวิสโยติ อาห ‘‘อุปริมสรีรํ อุชุกํ เปตฺวา’’ติ. ตํ ปน อุชุกํ ปนํ สรูปโต ปโยชนโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺารสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ปณมนฺตีติ น โอณมนฺติ. น ปริปตตีติ น วิคจฺฉติ วีถึ น ลงฺเฆติ, ตโต เอว ปุพฺเพนาปรํ วิเสสสมฺปตฺติยา กมฺมฏฺานํ วุทฺธึ ผาตึ คจฺฉติ. ปริมุขนฺติ เอตฺถ ปริ-สทฺโท อภิ-สทฺเทน สมานตฺโถติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานาภิมุข’’นฺติ, พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณโต นิวาเรตฺวา กมฺมฏฺานํเยว ปุรกฺขตฺวาติ อตฺโถ. สมีปตฺโถ วา ปริ-สทฺโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มุขสมีเป วา กตฺวา’’ติ อาห. เอตฺถ จ ยถา ‘‘วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชตี’’ติอาทินา ภาวนานุรูปํ เสนาสนํ ทสฺสิตํ, เอวํ นิสีทตีติ อิมินา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิโย สนฺโต อิริยาปโถ ทสฺสิโต. ‘‘ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา’’ติ อิมินา นิสชฺชาย ทฬฺหภาโว. ‘‘ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ อิมินา อารมฺมณปริคฺคหูปาโย.

ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ ‘‘ปริณายิกา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖, ๒๐) วิย. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ ‘‘สุฺตวิโมกฺขมุข’’นฺติอาทีสุ วิย. ปฏิปกฺขโต นิคฺคมนฏฺโ หิ นิยฺยานฏฺโ, ตสฺมา ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตินฺติ สพฺพถา คหิตาสมฺโมสํ ปริจฺจตฺตสมฺโมสํ สตึ กตฺวา, ปรมสติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.

อภิชฺฌายติ คิชฺฌติ อภิกงฺขติ เอตายาติ อภิชฺฌา, โลโภ. ลุชฺชนฏฺเนาติ ภิชฺชนฏฺเน, ขเณ ขเณ ภิชฺชนฏฺเนาติ อตฺโถ. วิกฺขมฺภนวเสนาติ เอตฺถ วิกฺขมฺภนํ อนุปฺปาทนํ อปฺปวตฺตนํ ปฏิปกฺเขน สุปฺปหีนตฺตา. ปหีนตฺตาติ จ ปหีนสทิสตํ สนฺธาย วุตฺตํ ฌานสฺส อนธิคตตฺตา. ตถาปิ นยิทํ จกฺขุวิฺาณํ วิย สภาวโต วิคตาภิชฺฌํ, อถ โข ภาวนาวเสน. เตนาห ‘‘น จกฺขุวิฺาณสทิเสนา’’ติ. เอเสว นโยติ ยถา จกฺขุวิฺาณํ สภาเวน วิคตาภิชฺฌํ อพฺยาปนฺนฺจ น ภาวนาย วิกฺขมฺภิตตฺตา, น เอวมิทํ. อิทํ ปน จิตฺตํ ภาวนาย ปริโสธิตตฺตา อพฺยาปนฺนํ วิคตถินมิทฺธํ อนุทฺธตํ นิพฺพิจิกิจฺฉฺจาติ อตฺโถ. ปุริมปกตินฺติ ปริสุทฺธปณฺฑรสภาวํ. ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย จิตฺตสฺส อกลฺยตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๑๖๒; วิภ. ๕๔๖) ถินสฺส, ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย กายสฺส อกลฺยตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๑๖๓; วิภ. ๕๔๖) จ มิทฺธสฺส อภิธมฺเม นิทฺทิฏฺตฺตา วุตฺตํ ‘‘ถินํ จิตฺตเคลฺํ, มิทฺธํ เจตสิกเคลฺ’’นฺติ. สติปิ หิ อฺมฺํ อวิปฺปโยเค จิตฺตกายลหุตาทีนํ วิย จิตฺตเจตสิกานํ ยถากฺกมํ ตํตํวิเสสสฺส ยา เตสํ อกลฺยตาทีนํ วิเสสปจฺจยตา, อยเมเตสํ สภาโวติ ทฏฺพฺพํ. อาโลกสฺีติ เอตฺถ อติสยตฺตวิสิฏฺอตฺถิอตฺถาวโพธโกยมีกาโรติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘รตฺติมฺปิ…เป… สมนฺนาคโต’’ติ. อิทํ อุภยนฺติ สติสมฺปชฺมาห.

อติกฺกมิตฺวาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปชหิตฺวา. กถมิทํ กถมิทนฺติ ปวตฺติยา กถํกถา, วิจิกิจฺฉา, สา เอตสฺส อตฺถีติ กถํกถี, น กถํกถีติ อกถํกถี, นิพฺพิจิกิจฺโฉ. ลกฺขณาทิเภทโตติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปจฺจยปริหานปฺปหายกาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตปิ หิ ปเภทโต ทฏฺพฺพาติ. อุจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺตีติ เอตฺถ อุจฺฉินฺทนํ ปาตนฺจ ตาสํ ปฺานํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานเมว. อิติ มหคฺคตานุตฺตรปฺานํ เอกจฺจาย จ ปริตฺตปฺาย อนุปฺปตฺติเหตุภูตา นีวรณธมฺมา อิตราย จ สมตฺถตํ วิหนนฺติเยวาติ ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุตฺตา. อปฺเปนฺโตติ นิคเมนฺโต.

อตฺตนฺตปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. ตณฺหาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๙๙-๒๐๐. นวเม ตโย ภเว อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตํ ‘‘อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานี’’ติอาทินา วุตฺตํ ตํ ตํ อตฺตโน โกฏฺาสภูตํ ชาลเมติสฺสา อตฺถีติ ชาลินี. เตนาห ‘‘ตโย วา ภเว’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ ภเว, อารมฺมเณ วา. อปิจาติอาทินา นิทฺเทสนเยน วิสตฺติกาปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต นิทฺเทสปาฬิยา เอกเทสํ ทสฺเสติ ‘‘วิสมูลา’’ติอาทินา. อยฺเหตฺถ นิทฺเทสปาฬิ (มหานิ. ๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๒๒, ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทโส ๑๒๔) –

‘‘วิสตฺติกาติ เกนฏฺเน วิสตฺติกา? วิสตาติ วิสตฺติกา, วิสฏาติ วิสตฺติกา, วิสาลาติ วิสตฺติกา, วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา, วิสํหรตีติ วิสตฺติกา, วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา, วิสมูลาติ วิสตฺติกา, วิสผลาติ วิสตฺติกา. วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา. วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ กุเล คเณ อาวาเส ลาเภ ยเส ปสํสาย สุเข จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเร กามธาตุยา รูปธาตุยา อรูปธาตุยา กามภเว รูปภเว อรูปภเว สฺิภเว อสฺิภเว เนวสฺินาสฺิภเว เอกโวการภเว จตุโวการภเว ปฺจโวการภเว อตีเต อนาคเต ปจฺจุปฺปนฺเน ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ วิสฏา วิตฺถตาติ วิสตฺติกา’’ติ.

ตตฺถ (มหานิ. อฏฺ. ๓; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑ โอฆตรณสุตฺตวณฺณนา) วิสตาติ วิตฺถตา รูปาทีสุ เตภูมกธมฺมพฺยาปนวเสน. วิสฏาติ ปุริมวจนเมว ต-การสฺส ฏ-การํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสกฺกตีติ ปริสหติ. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปเรน ตาฬิยมาโนปิ สหติ, วิปฺผนฺทนํ วา ‘‘วิสกฺกน’’นฺติ วทนฺติ. วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ทสฺเสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สํขิปติ. วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ อุปเนตีติ อตฺโถ. อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา, วิสํ วา ทุกฺขทุกฺขาทิภูตา เวทนา มูลํ เอติสฺสาติ วิสมูลา. ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลา. ตณฺหาย รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺส ปริโภโค โหติ, น อมตสฺสาติ สา วิสปริโภคา วุตฺตา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. โย ปเนตฺถ ปธาโน อตฺโถ, ตํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘วิสฏา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตนฺตํ วุจฺจติ (ที. นิ. ฏี. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๒.๒.๖๐) วตฺถวินนตฺถํ ตนฺตวาเยหิ ทณฺฑเก อาสฺจิตฺวา ปสาริตสุตฺตวฏฺฏิ ‘‘ตนียตี’’ติ กตฺวา, ตํ ปน สุตฺตํ สนฺตานากุลตาย นิทสฺสนภาเวน อากุลเมว คหิตนฺติ อาห ‘‘ตนฺตํ วิย อากุลชาโต’’ติ. สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมาเนตุนฺติ ปุพฺเพนาปรํ สมํ กตฺวา อาเนตุํ, อวิสมํ อุชุํ กาตุนฺติ อตฺโถ. ตนฺตเมว วา อากุลํ ตนฺตากุลํ, ตนฺตากุลํ วิย ชาโต ภูโตติ ตนฺตากุลกชาโต. วินนโต คุลาติ อิตฺถิลิงฺควเสน ลทฺธนามสฺส ตนฺตวายสฺส คุณฺิกํ นาม อากุลภาเวน อคฺคโต วา มูลโต วา ทุวิฺเยฺยเมว ขลิพทฺธตนฺตสุตฺตนฺติ อาห ‘‘คุลาคุณฺิกํ วุจฺจติ เปสการกฺชิยสุตฺต’’นฺติ.

สกุณิกาติ ปฏปทสกุณิกา. สา หิ รุกฺขสาขาสุ โอลมฺพนกุฏวา โหติ. ตฺหิ สา กุฏวํ ตโต ตโต ติณหีราทิเก อาเนตฺวา ตถา วินติ, ยถา เต เปสการกฺชิยสุตฺตํ วิย อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ วิเวเจตุํ วา น สกฺกา. เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. ตทุภยมฺปิ ‘‘คุลาคุณฺิก’’นฺติ วุตฺตํ กฺชิยสุตฺตํ กุลาวกฺจ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘เอวเมว สตฺตา’’ติอาทินา วุตฺตนเยเนว. กามํ มุฺชปพฺพชติณานิ ยถาชาตานิปิ ทีฆภาเวน ปติตฺวา อรฺฏฺาเน อฺมฺํ วินนฺธิตฺวา อากุลพฺยากุลานิ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, ตานิ ปน น ตถา ทุพฺพิเวจิยานิ ยถา รชฺชุภูตานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

อปายาติ อวฑฺฒิกา, สุเขน, สุขเหตุนา วา วิรหิตาติ อตฺโถ. ทุกฺขสฺส คติภาวโตติ อาปายิกสฺส ทุกฺขสฺส ปวตฺติฏฺานภาวโต. สุขสมุสฺสยโตติ อพฺภุทยโต. วินิปติตตฺตาติ วิรูปํ นิปาตตฺตา, ยถา เตนตฺตภาเวน สุขสมุสฺสโย น โหติ, เอวํ นิปติตตฺตา. อิตโรติ สํสาโร. นนุ ‘‘อปาย’’นฺติอาทินา วุตฺโตปิ สํสาโร เอวาติ? สจฺจเมตํ, นิรยาทีนํ ปน อธิมตฺตทุกฺขภาวทสฺสนตฺถํ อปายาทิคฺคหณํ. โคพลีพทฺทาเยนายมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏีติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เหตุผลภาเวน อปราปรปฺปวตฺติ. อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานาติ อวิจฺเฉเทน วตฺตมานา. ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ ‘‘อปาย’’นฺติอาทินา วุตฺตํ สพฺพํ อปายทุกฺขฺจ วฏฺฏทุกฺขฺจ. มหาสมุทฺเท วาตกฺขิตฺตา นาวา วิยาติ อิทํ ปริพฺภมนฏฺานสฺส มหนฺตทสฺสนตฺถฺเจว ปริพฺภมนสฺส อนวฏฺิตตาทสฺสนตฺถฺจ อุปมา. ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิยาติ อิทํ ปน อวสีภาวทสฺสนตฺถฺเจว ทุปฺปโมกฺขภาวทสฺสนตฺถฺจาติ เวทิตพฺพํ.

‘‘สมูหคฺคาโหติ ตณฺหามานทิฏฺีนํ สาธารณคฺคาโห’’ติ วทนฺติ, ‘‘อิตฺถํ เอวํ อฺถา’’ติ ปน วิเสสํ อกตฺวา คหณํ สมูหคฺคาโหติ ทฏฺพฺโพ. วิเสสํ อกตฺวาติ จ อนุปนิธานํ สมโต อสมโต จ อุปนิธานนฺติ อิมํ วิภาคํ อกตฺวาติ อตฺโถ. อิตฺถนฺติ หิ อนุปนิธานํ กถิตํ. เอวํ อฺถาติ ปน สมโต อสมโต จ อุปนิธานํ. อฺํ อาการนฺติ ปรสนฺตานคตํ อาการํ.

อตฺถีติ สทา สํวิชฺชตีติ อตฺโถ. สีทตีติ นสฺสติ. สํสยปริวิตกฺกวเสนาติ ‘‘กึ นุ โข อหํ สิยํ, น สิย’’นฺติ เอวํ ปริวิตกฺกวเสน. ปตฺถนากปฺปนวเสนาติ ‘‘อปิ นาม สาธุ ปนาหํ สิย’’นฺติ เอวํ ปตฺถนาย กปฺปนวเสน. สุทฺธสีสาติ ตณฺหามานทิฏฺีนํ สาธารณา สีสา. ‘‘อิตฺถํ เอวํ อฺถา’’ติ วุตฺตสฺส วิเสสสฺส อนิสฺสิตตฺตา ‘‘สุทฺธสีสา’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ ทิฏฺิสีเสหิ ทิฏฺิยา คหิตาย ตทวินาภาวินี ตณฺหา ทสฺสิตา, จตูหิ สีเสหิ ทฺวาทสหิ จ สีสมูลเกหิ มานทิฏฺีหิ อยเมว ตณฺหา ทสฺสิตาติ อาห ‘‘เอวเมเต…เป… ตณฺหาวิจริตธมฺมา เวทิตพฺพา’’ติ. นนุ จ มานทิฏฺิคฺคาโหปิ อิธาธิปฺเปโต, ยโต ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมูหคฺคาโห’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตสฺมา กถํ ตณฺหาวิจริตานีติ อิทํ วจนํ? วุจฺจเต – ทิฏฺิมาเนสุปิ ตณฺหาวิจริตานีติ วจนํ อฺมฺํ วิปฺปโยคีนํ ทิฏฺิมานานํ ตณฺหาย อวิปฺปโยคานํ ตํมูลกตฺตา ตปฺปธานตาย กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทสมํ อุตฺตานเมว.

ตณฺหาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๕. ปฺจมปณฺณาสกํ

(๒๑) ๑. สปฺปุริสวคฺโค

๑-๑๐. สิกฺขาปทสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๐๑-๒๑๐. ปฺจมสฺส ปเม อสปฺปุริโสติ ลามกปุริโส. ปาณํ อติปาเตตีติ ปาณาติปาตี. อทินฺนํ อาทิยตีติ อทินฺนาทายี. กาเมสุ มิจฺฉา จรตีติ กาเมสุมิจฺฉาจารี. มุสา วทตีติ มุสาวาที. สุราเมรยมชฺชปมาเท ติฏฺตีติ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี. ปาณาติปาเต สมาทเปตีติ ยถา ปาณํ อติปาเตติ, ตถา นํ ตตฺถ คหณํ คณฺหาเปติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ยสฺมา สยํกเตน จ ทุสฺสีลฺเยน สมนฺนาคโต, ยฺจ สมาทปิเตน กตํ, ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาโท, ตสฺมา ‘‘อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโร’’ติ วุจฺจติ. สปฺปุริโสติ อุตฺตมปุริโส. สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโรติ อตฺตนา จ กเตน สุสีลฺเยน สมนฺนาคตตฺตา ยฺจ สมาทปิโต กโรติ, ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาทตฺตา อุตฺตมปุริเสน อุตฺตมปุริสตโร. เอตฺถ จ ปเรน กตํ ทุสฺสีลฺยํ สุสีลฺยํ วา อาณตฺติยา อตฺตนา จ วจิปฺปโยเคน กตนฺติ อาณาปนวเสน ปสุตปาปสฺส ปุฺสฺส วา ทายาโท ‘‘ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาโท’’ติ วุตฺโต. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สิกฺขาปทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

สปฺปุริสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๑๑-๒๒๐. ทุติโย ปริสาวคฺโค อุตฺตานตฺโถเยว.

(๒๓) ๓. ทุจฺจริตวคฺควณฺณนา

๒๒๑-๒๓๑. ตติยสฺส ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว. จินฺตากวีติอาทีสุ วตฺถุอนุสนฺธิอุภยเมว จิเรน จินฺเตตฺวา กรณวเสน จินฺตากวิ เวทิตพฺโพ. กิฺจิ สุตฺวา สุเตน อสฺสุตํ อนุสนฺเธตฺวา กรณวเสน สุตกวิ, กิฺจิ อตฺถํ อุปธาเรตฺวา ตสฺส สงฺขิปนวิตฺถารณาทิวเสน อตฺถกวิ ยํกิฺจิ ปเรน กตํ กพฺพํ นาฏกํ วา ทิสฺวา ตํสทิสเมว อฺํ อตฺตโน านุปฺปตฺติกปฺปฏิภาเนน กรณวเสน ปฏิภานกวิ เวทิตพฺโพ.

ทุจฺจริตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๒๔) ๔. กมฺมวคฺโค

๑. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๓๒. จตุตฺถสฺส ปเม กาฬกนฺติ มลีนํ, จิตฺตสฺส อปฺปภสฺสรภาวกรนฺติ อตฺโถ. ตํ ปเนตฺถ กมฺมปถปฺปตฺตเมว อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ทสอกุสลกมฺมปถ’’นฺติ. กณฺหาภิชาติเหตุโต วา กณฺหํ. เตนาห ‘‘กณฺหวิปาก’’นฺติ. อปายูปปตฺติ มนุสฺเสสุ จ โทภคฺคิยํ กณฺหวิปาโก, ยํ ตสฺส ตมภาโว วุตฺโต. นิพฺพตฺตนโตติ นิพฺพตฺตาปนโต. ปณฺฑรกนฺติ โอทาตํ, จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรนฺติ อตฺโถ. สุกฺกาภิชาติเหตุโต วา สุกฺกํ. เตนาห ‘‘สุกฺกวิปาก’’นฺติ. สคฺคูปปตฺติ มนุสฺสโสภคฺคิยฺจ สุกฺกวิปาโก, ยํ ตสฺส โชติภาโว วุตฺโต. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ปน ‘‘สคฺเค นิพฺพตฺตนโต’’ติ วุตฺตํ, นิพฺพตฺตาปนโตติ อตฺโถ. มิสฺสกกมฺมนฺติ กาเลน กณฺหํ กาเลน สุกฺกนฺติ เอวํ มิสฺสกวเสน กตกมฺมํ. สุขทุกฺขวิปากนฺติ วตฺวา ตตฺถ สุขทุกฺขานํ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘มิสฺสกกมฺมํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กมฺมสฺส กณฺหสุกฺกสมฺา กณฺหสุกฺกาภิชาติเหตุตายาติ อปจยคามิตาย ตทุภยวิทฺธํสกสฺส กมฺมกฺขยกรกมฺมสฺส อิธ สุกฺกปริยาโยปิ อิจฺฉิโตติ อาห ‘‘อุภย…เป… อยเมตฺถ อตฺโถ’’ติ. ตตฺถ อุภยวิปากสฺสาติ ยถาธิคตสฺส อุภยวิปากสฺส. สมฺปตฺติภวปริยาปนฺโน หิ วิปาโก อิธ สุกฺกํ สุกฺกวิปาโกติ อธิปฺเปโต, น อจฺจนฺตปริสุทฺโธ อริยผลวิปาโก.

สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา

๒๓๓. ทุติเย สพฺยาพชฺฌนฺติ วา สทุกฺขํ, อตฺตนา อุปฺปาเทตพฺเพน ทุกฺเขน สทุกฺขนฺติ อตฺโถ, ทุกฺขสํวตฺตนิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. กายสงฺขาราทีสุ กายทฺวาเร คหณาทิวเสน โจปนปฺปตฺตา ทฺวาทส อกุสลเจตนา อพฺยาพชฺฌกายสงฺขาโร นาม. วจีทฺวาเร หนุสํโจปนวเสน วจีเภทปฺปวตฺติกา ตาเยว ทฺวาทส วจีสงฺขาโร นาม. อุภยโจปนํ อปฺปตฺวา รโห จินฺเตนฺตสฺส มโนทฺวาเร ปวตฺตา มโนสงฺขาโร นาม. อิติ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ กายทุจฺจริตาทิเภทา อกุสลา เจตนาว สงฺขาราติ เวทิตพฺพา. อภิสงฺขโรตีติ อายูหติ, ตํ ปน อายูหนํ ปจฺจยสมวายสิทฺธิโต สงฺกฑฺฒิตฺวา ปิณฺฑนํ วิย โหติ. สทุกฺขํ โลกนฺติ อปายโลกมาห. วิปากผสฺสาติ ผสฺสสีเสน ตตฺถ วิปากปฺปวตฺตมาห. เวมานิกเปตาติ อิทํ พาหุลฺลโต วุตฺตํ, อิตเรสมฺปิ วินิปาติกานํ กาเลน สุขํ, กาเลน ทุกฺขํ โหติ. ตสฺส ปหานายาติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส กมฺมสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนาย. ยา เจตนาติ ยา อปจยคามินิเจตนา. เตเนวาห ‘‘วิวฏฺฏคามินี มคฺคเจตนา เวทิตพฺพา’’ติ.

วิตฺถารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๙. โสณกายนสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๓๔-๒๔๐. ตติเย ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานีติ เอตฺถ หิยฺโย ทิวสํ ปุริมํ นาม, ตโต ปรํ ปุริมตรนฺติ อาห ‘‘อตีตานนฺตรทิวสโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ ปวตฺติโต ยถากฺกมํ ปุริมปุริมตรภาโว ทสฺสิโต. เอวํ สนฺเตปิ ยเทตฺถ ‘‘ปุริมตร’’นฺติ วุตฺตํ, ตโต ปภุติ ยํ ยํ โอรํ, ตํ ตํ ปุริมํ. ยํ ยํ ปรํ, ตํ ตํ ปุริมตรํ โอรปารภาวสฺส วิย ปุริมตรภาวสฺส จ อเปกฺขาสิทฺธตฺตา. เสสํ วุตฺตนยเมว. จตุตฺถาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

โสณกายนสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐-๑๑. สมณสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๔๑-๒. ทสเม เสสปเทสุปีติ ‘‘อิธ ทุติโย สมโณ’’ติอาทีสุ เสสปเทสุปิ. ยถา หิ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗, ๒๙๗; สํ. นิ. ๒.๑๕๒; อ. นิ. ๔.๑๒๓) เอตฺถ กโต นิยโม ‘‘วิวิจฺจ อกุสเลหี’’ติ เอตฺถาปิ กโตเยว โหติ สาวธารณอตฺถสฺส อิจฺฉิตพฺพตฺตา, เอวมิธาปีติ. เตนาห ‘‘ทุติยาทโยปิ หี’’ติอาทิ. สามฺผลาธิคมวเสน นิปฺปริยายโต สมณภาโวติ เตสํ วเสเนตฺถ จตฺตาโร สมณา เทสิตา. อิมสฺมิฺหิ าเน จตฺตาโร ผลฏฺกสมณาว อธิปฺเปตา สมิตปาปสมณคฺคหณโต. กสฺมา ปเนตฺถ มหาปรินิพฺพาเน วิย มคฺคฏฺา ตทตฺถาย ปฏิปนฺนาปิ น คหิตาติ? เวเนยฺยชฺฌาสยโต. ตตฺถ หิ มคฺคาธิคมตฺถาย วิปสฺสนาปิ อิโต พหิทฺธา นตฺถิ, กุโต มคฺคผลานีติ ทสฺเสนฺเตน ภควตา ‘‘ายสฺส ธมฺมสฺส ปเทสวตฺตี, อิโต พหิทฺธา สมโณปิ นตฺถี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔) วุตฺตํ. อิธ ปน นิฏฺานปฺปตฺตเมว ตํตํสมณภาวํ คณฺหนฺเตน ผลฏฺกสมณาว คหิตา, มคฺคฏฺโต ผลฏฺโ สวิเสสํ ทกฺขิเณยฺโยติ. สฺวายมตฺโถ ทฺวีสุ สุตฺเตสุ เทสนาเภเทเนว วิฺายตีติ. ริตฺตาติ วิวิตฺตา. ตุจฺฉาติ นิสฺสารา ปฏิปนฺนกสาราภาวโต.

ปวทนฺติ เอเตหีติ ปวาทา. ทิฏฺิคติกานํ นานาทิฏฺิทีปกสมยาติ อาห ‘‘จตฺตาโร สสฺสตวาทา’’ติอาทิ. ตตฺถ จตฺตาโร สสฺสตวาทาติ ลาภิวเสน ตโย, ตกฺกิวเสน เอโกติ เอวํ จตฺตาโร สสฺสตวาทา. ปุพฺเพนิวาสาณลาภี ติตฺถิโย มนฺทปฺโ อเนกชาติสตสหสฺสมตฺตํ อนุสฺสรติ, มชฺฌปฺโ ทส สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺปานิ, ติกฺขปฺโ จตฺตาลีส สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺปานิ, น ตโต ปรํ. โส เอวํ อนุสฺสรนฺโต ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ อภิวทติ, ตกฺกี ปน ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ อภิวทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ลาภิวเสน ตโย, ตกฺกิวเสน เอโกติ เอวํ จตฺตาโร สสฺสตวาทา’’ติ.

สตฺเตสุ สงฺขาเรสุ จ เอกจฺจํ สสฺสตนฺติ ปวตฺโต วาโท เอกจฺจสสฺสตวาโท. โส ปน พฺรหฺมกายิกขิฑฺฑาปโทสิกมโนปโทสิกตฺตภาวโต จวิตฺวา อิธาคตานํ ตกฺกิโน จ อุปฺปชฺชนวเสน จตุพฺพิโธติ อาห ‘‘จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา’’ติ.

จตฺตาโร อนฺตานนฺติกาติ เอตฺถ อมติ คจฺฉติ เอตฺถ โวสานนฺติ อนฺโต, มริยาทา. ตปฺปฏิเสเธน อนนฺโต. อนฺโต จ อนนฺโต จ อนฺตานนฺโต สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสเสน วา ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; อุทา. ๑) วิย. อนฺตานนฺตสหจริโต วาโท อนฺตานนฺโต ยถา ‘‘กุนฺตา จรนฺตี’’ติ. อนฺตานนฺตสนฺนิสฺสโย วา ยถา ‘‘มฺจา โฆสนฺตี’’ติ. โส เอเตสํ อตฺถีติ อนฺตานนฺติกา. ‘‘อนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อนนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา จ โลโก จ, เนวนฺตวา นานนฺตวา’’ติ เอวํ ปวตฺตวาทา จตฺตาโร. อวฑฺฒิตกสิณสฺส ตํ กสิณํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คณฺหนฺตสฺส วเสน ปโม วุตฺโต, ทุติโย วฑฺฒิตกสิณสฺส วเสน วุตฺโต, ตติโย ติริยํ วฑฺเฒตฺวา อุทฺธมโธ อวฑฺฒิตกสิณสฺส, จตุตฺโถ ตกฺกิวเสน วุตฺโต. เอตฺถ จ ยุตฺตํ ตาว ปุริมานํ ติณฺณํ วาทานํ อนฺตฺจ อนนฺตฺจ อนฺตานนฺตฺจ อารพฺภ ปวตฺตวาทตฺตา อนฺตานนฺติกตฺตํ, ปจฺฉิมสฺส ปน ตทุภยนิเสธนวเสน ปวตฺตวาทตฺตา กถมนฺตานนฺติกตฺตนฺติ? ตทุภยปฺปฏิเสธนวเสน ปวตฺตวาทตฺตา เอว. อนฺตานนฺติกปฺปฏิเสธวาโทปิ หิ อนฺตานนฺตวิสโย เอว ตํ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา.

น มรตีติ อมรา. กา สา? ‘‘เอวนฺติปิ เม โน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๖๒) นเยน ปริยนฺตรหิตา ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิ เจว วาจา จ. วิวิโธ เขโปติ วิกฺเขโป, อมราย ทิฏฺิยา, วาจาย วา วิกฺเขโปติ อมราวิกฺเขโป, โส เอตสฺส อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิโก. อถ วา อมรา นาม มจฺฉชาติ, สา อุมฺมุชฺชนาทิวเสน อุทเก สนฺธาวมานา คาหํ น คจฺฉติ, เอวเมวํ อยมฺปิ วาโท อิโต จิโต จ สนฺธาวติ, คาหํ น อุปคจฺฉตีติ อมราวิกฺเขโปติ วุจฺจติ, โส เอเตสํ อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา. สฺวายํ วาโท มุสาวาทานุโยคฉนฺทราคภยโมหภาวเหตุกตาย จตุธา ปวตฺโตติ อาห ‘‘จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา’’ติ.

อธิจฺจ ยถิจฺฉกํ ยํ กิฺจิ การณํ กสฺสจิ พุทฺธิปุพฺพํ วา วินา สมุปฺปนฺโนติ อตฺตโลกสฺิตานํ ขนฺธานํ อธิจฺจ ปวตฺติอาการารมฺมณํ ทสฺสนํ ตทาการสนฺนิสฺสเยน ปวตฺติโต ตทาการสหจริตตาย จ ‘‘อธิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ วุจฺจติ ยถา ‘‘มฺจา โฆสนฺติ’’, ‘‘กุนฺตา จรนฺตี’’ติ จ. ตํ เอเตสํ อตฺถีติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา. ลาภิวเสน ตกฺกิวเสน จ ‘‘ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา’’ติ วุตฺตํ.

สฺีติ ปวตฺโต วาโท สฺิวาโท, โส เอเตสํ อตฺถีติ สฺิวาทา. รูปิจตุกฺกํ เอกนฺตสุขจตุกฺกนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน โสฬส สฺิวาทา. อิเมสุเยว ปุริมานํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกานํ วเสน อฏฺ สฺิวาทา, อฏฺ เนวสฺินาสฺิวาทา เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘สฺี อตฺตา’’ติ คณฺหนฺตานํ ตา ทิฏฺิโย, อิธ อสฺีติ จ เนวสฺีนาสฺีติ จ.

สตฺต อุจฺเฉทวาทาติ มนุสฺสตฺตภาเว กามาวจรเทวตฺตภาเว รูปาวจรตฺตภาเว จตุพฺพิธารูปตฺตภาเว จ ตฺวา สตฺตสฺส อุจฺเฉทปฺาปนวเสน สตฺต อุจฺเฉทวาทา.

ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ ปฺจกามคุณอุปโภควเสน จตุพฺพิธรูปชฺฌานสุขปริโภควเสน จ ทิฏฺธมฺเม นิพฺพูติปฺาปนวาทา. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม วุจฺจติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสมนฺติ อตฺโถ. ตํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา.

ายติ กมติ ปฏิวิชฺฌตีติ าโย, โส เอว นิพฺพานสมฺปาปกเหตุตาย ธมฺโมติ อาห ‘‘ายสฺส ธมฺมสฺสา’’ติ. อิโต พหิทฺธา สมโณปิ นตฺถีติอาทีสุ กสฺมา ปเนเต อฺตฺถ นตฺถีติ? อกฺเขตฺตตาย. ยถา หิ น อารคฺเค สาสโป ติฏฺติ, น อุทกปิฏฺเ อคฺคิ ชลติ, น ปิฏฺิปาสาเณ พีชานิ วิรุหนฺติ, เอวเมวํ พาหิเรสุ ติตฺถายตเนสุ น อิเม สมณา อุปฺปชฺชนฺติ, อิมสฺมึเยว สาสเน อุปฺปชฺชนฺติ. กสฺมา? สุกฺเขตฺตตาย. สา ปน เนสํ อกฺเขตฺตตา สุกฺเขตฺตตา จ อริยมคฺคสฺส อภาวโต ภาวโต จ เวทิตพฺพา. เตนาห ภควา –

‘‘ยสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค น อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ น อุปลพฺภติ, ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ, ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ, จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ยสฺมิฺจ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ อุปลพฺภติ, ทุติโยปิ ตตฺถ… ตติโยปิ ตตฺถ… จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ. อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ. อิเธว, สุภทฺท, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ, สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔).

อริยมคฺคสฺส จ อภาโว ภาโว จ สุปริสุทฺธสฺส สีลสฺส สุปริสุทฺธาย สมถวิปสฺสนาภาวนาย อภาวโต ภาวโต จ เวทิตพฺโพ. ตทุภยฺจ ทุรกฺขาตสฺวากฺขาตภาวเหตุกํ. โส จ อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตตฺตา. ยสฺมา ติตฺถายตนํ อกฺเขตฺตํ, สาสนํ เขตฺตํ, ตสฺมา ยถา สุรตฺตหตฺถปาโท ภาสุรเกสรภาโร สีโห มิคราชา น สุสาเน วา สงฺการกูเฏ วา ปฏิวสติ, ติโยชนสหสฺสวิตฺถตํ ปน หิมวนฺตํ อชฺโฌคาเหตฺวา มณิคุหายเมว วสติ, ยถา จ ฉทฺทนฺโต นาคราชา น โคจริยหตฺถิกุลาทีสุ นวสุ กุเลสุ อุปฺปชฺชติ, ยถา จ วลาหโก อสฺสราชา น คทฺรภกุเล วา โฆฏกกุเล วา อุปฺปชฺชติ, สินฺธุตีเร ปน สินฺธวกุเลเยว อุปฺปชฺชติ, ยถา จ สพฺพกามททํ มโนหรํ มณิรตนํ น สงฺการกูเฏ วา ปํสุปพฺพตาทีสุ วา อุปฺปชฺชติ, วิปุลปพฺพตพฺภนฺตเรเยว อุปฺปชฺชติ, ยถา จ ติมิรปิงฺคโล มจฺฉราชา น ขุทฺทกโปกฺขรณีสุ อุปฺปชฺชติ, จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีเร มหาสมุทฺเทเยว อุปฺปชฺชติ, ยถา จ ทิยฑฺฒโยชนสติโก สุปณฺณราชา น คามทฺวาเร เอรณฺฑวนาทีสุ ปฏิวสติ, มหาสมุทฺทํ ปน อชฺโฌคาเหตฺวา สิมฺพลิทหวเนเยว ปฏิวสติ, ยถา จ ธตรฏฺโ สุวณฺณหํโส น คามทฺวาเร อาวาฏกาทีสุ ปฏิวสติ, นวุติหํสสหสฺสปริวาโร ปน หุตฺวา จิตฺตกูเฏเยว ปฏิวสติ, ยถา จ จตุทฺทีปิสฺสโร จกฺกวตฺติราชา น นีจกุเล อุปฺปชฺชติ, อสมฺภินฺนชาติยขตฺติยกุเลเยว ปน อุปฺปชฺชติ, เอวเมวํ อิเมสุ สมเณสุ เอกสมโณปิ น อฺตฺถ ติตฺถายตเน อุปฺปชฺชติ, อริยมคฺคปริกฺขเต ปน พุทฺธสาสเนเยว อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙-๑๔๐; อ. นิ. ๔.๒๔๑). เอกาทสเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

สมณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

กมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

(๒๕) ๕. อาปตฺติภยวคฺโค

๑. สงฺฆเภทกสุตฺตวณฺณนา

๒๔๓. ปฺจมสฺส ปเม วิวาทาธิกรณาทีสูติ วิวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณํ กิจฺจาธิกรณนฺติ อิเมสุ จตูสุ. ตตฺถ ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา อฏฺารสหิ วตฺถูหิ วิวทนฺตานํ ภิกฺขูนํ โย วิวาโท, อิทํ วิวาทาธิกรณํ นาม. สีลวิปตฺติยา วา อาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติยา วา อนุวทนฺตานํ โย อนุวาโท อุปวทนา เจว โจทนา จ, อิทํ อนุวาทาธิกรณํ นาม. มาติกาย อาคตา ปฺจ, วิภงฺเค ทฺเวติ สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา, อิทํ อาปตฺตาธิกรณํ นาม. สงฺฆสฺส อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ กรณํ, อิทํ กิจฺจาธิกรณํ นาม. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

สงฺฆเภทกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒-๓. อาปตฺติภยสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๔๔-๕. ทุติเย ภสฺสติ นิรตฺถกภาเวน ขิปียตีติ ภสฺมํ, ฉาริกา. ตสฺส ปุฏํ ภณฺฑิกา ภสฺมปุฏํ. เตนาห ‘‘ภสฺมปุฏนฺติ ฉาริกาภณฺฑิก’’นฺติ. ตติยํ อุตฺตานตฺถเมว.

อาปตฺติภยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๗. เสยฺยาสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๔๖-๙. จตุตฺเถ เปตาติ เปจฺจภาวํ คตา. เต ปน ยสฺมา อิธ กตกาลกิริยา กาเลน กตชีวิตุจฺเฉทา โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กาลกตา วุจฺจนฺตี’’ติ, มตาติ อตฺโถ. อถ วา เปจฺจภวํ คตา, เปตูปปตฺติวเสน นิพฺพตฺตึ อุปคตาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อถ วา เปตวิสเย นิพฺพตฺตา เปตา นามา’’ติ. เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ ทุกฺขุปฺปตฺติโต.

เตชุสฺสทตฺตาติ อิมินา สีหสฺส อภีรุกภาวํ ทสฺเสติ. ภีรุกา เสสมิคา อตฺตโน อาสยํ ปวิสิตฺวา สนฺตาสปุพฺพกํ ยถา ตถา สยนฺติ, สีโห ปน อภีรุโก สภาวโต สโตการี ภิกฺขุ วิย สตึ อุปฏฺเปตฺวาว สยติ. เตนาห ‘‘ทฺเว ปุริมปาเท’’ติอาทิ. ทกฺขิเณ ปุริมปาเท วามสฺส ปุริมปาทสฺส ปนวเสน ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ าเน เปตฺวา. ปจฺฉิมปาเท วุตฺตนเยเนว อิธาปิ เอกสฺมึ าเน ปนํ เวทิตพฺพํ, ิโตกาสสลฺลกฺขณํ อภีรุกวเสเนว. สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวาติอาทินา วุตฺตสีหกิริยา อนุตฺรสฺตปฺปพุชฺฌนา วิย อภีรุภาวสิทฺธธมฺมตาวเสเนวาติ เวทิตพฺพา. สีหวิชมฺภนํ อติเวลํ เอกากาเร ปิตานํ สรีราวยวานํ คมนาทิกิริยาสุ โยคฺยภาวาปาทนตฺถํ. ติกฺขตฺตุํ สีหนาทนทนํ อปฺเปสกฺขมิคราเชหิ ปริตฺตาสปริหรณตฺถํ.

อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตถาคตเสยฺยาติ อิมินา จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา ตถาคตเสยฺยา นามาติ ทสฺเสติ. เสติ อพฺยาวฏภาเวน ปวตฺตติ เอตฺถาติ เสยฺยา, จตุตฺถชฺฌานเมว เสยฺยา จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา. กึ ปน ตํ จตุตฺถชฺฌานนฺติ? อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ. ตตฺถ หิ ตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ภควา อนุกฺกเมน อคฺคมคฺคํ อธิคนฺตฺวา ตถาคโต ชาโตติ. ตยิทํ ปทฏฺานํ นาม น เสยฺยา, ตถาปิ ยสฺมา ‘‘จตุตฺถชฺฌานสมนนฺตรา ภควา ปรินิพฺพายี’’ติ มหาปรินิพฺพาเน (ที. นิ. ๒.๒๑๙) อาคตํ, ตสฺมา โลกิยจตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ เอว ตถาคตเสยฺยาติ เกจิ. เอวํ สติ ปรินิพฺพานกาลิกาว ตถาคตเสยฺยา อาปชฺชติ, น จ ภควา โลกิยจตุตฺถชฺฌานสมาปชฺชนพหุโล วิหาสิ. อคฺคผลวเสน ปวตฺตํ ปเนตฺถ จตุตฺถชฺฌานํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ยถา สตฺตานํ นิทฺทูปคมลกฺขณา เสยฺยา ภวงฺคจิตฺตวเสน โหติ, สา ปน เนสํ ปมชาติสมนฺวยา เยภุยฺยวุตฺติกา, เอวํ ภควโต อริยชาติสมนฺวยํ เยภุยฺยวุตฺติกํ อคฺคผลภูตํ จตุตฺถชฺฌานํ ตถาคตเสยฺยาติ เวทิตพฺพํ. ปฺจมาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ.

เสยฺยาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมโวหารสุตฺตวณฺณนา

๒๕๐-๒๕๓. อฏฺเม อนริยานนฺติ อสาธูนํ นิหีนานํ. โวหาราติ สํโวหารา อภิลาปา วา, ‘‘ทิฏฺํ มยา’’ติ เอวํวาทิตา. เอตฺถ จ ตํตํสมุฏฺาปกเจตนาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นวมาทีสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

ปมโวหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาปตฺติภยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

(๒๖) ๖. อภิฺาวคฺโค

๑-๓. อภิฺาสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๕๔-๒๕๖. ฉฏฺสฺส ปเม ปจฺจนีกสมนโต สมโถ, สมาธีติ อาห ‘‘จิตฺเตกคฺคตา’’ติ. อนิจฺจาทินา วิวิเธนากาเรน ทสฺสนโต วิปสฺสนา, สงฺขารปริคฺคาหกาณํ. เตนาห ‘‘สงฺขารปริคฺคหวิปสฺสนาาณ’’นฺติ.

ทุติเย อนริเยหิ ปริเยสิตพฺพตฺตา อนริยานํ ปริเยสนาติ อนริยปริเยสนา. สยํ ลามกตาย อนริยานํ ปริเยสนาติ วา อนริยปริเยสนา. ชราสภาวนฺติ ชีรณปกติกํ. ตติยํ อุตฺตานเมว.

อภิฺาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๑๐. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๕๗-๒๖๓. จตุตฺเถ อปสาเทตีติ นิคฺคณฺหาติ. อุสฺสาเทตีติ ปคฺคณฺหาติ. อปสาทนาการํ อุสฺสาทนาการฺจ วิภาเวตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ปฺจมาทีนิ อุตฺตานาเนว. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อภิฺาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย

จตุกฺกนิปาตวณฺณนาย อนุตฺตานตฺถทีปนา สมตฺตา.

ทุติโย ภาโค นิฏฺิโต.