📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

องฺคุตฺตรนิกาโย

ฉกฺกนิปาตปาฬิ

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. อาหุเนยฺยวคฺโค

๑. ปมอาหุเนยฺยสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ [ที. นิ. ๓.๓๒๘; ปฏิ. ม. ๓.๑๗]? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. มนสา ธมฺมํ วิฺา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. ปมํ.

๒. ทุติยอาหุเนยฺยสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ [ที. นิ. ๓.๓๕๖]? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสติ [ปรามสติ (ก.)] ปริมชฺชติ; ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘ทิพฺพาย, โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ.

‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ. สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ…เป… สโทสํ วา จิตฺตํ… วีตโทสํ วา จิตฺตํ… สโมหํ วา จิตฺตํ… วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ.

‘‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป…. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ทุติยํ.

๓. อินฺทฺริยสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? สทฺธินฺทฺริเยน, วีริยินฺทฺริเยน, สตินฺทฺริเยน, สมาธินฺทฺริเยน, ปฺินฺทฺริเยน, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ตติยํ.

๔. พลสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? สทฺธาพเลน, วีริยพเลน, สติพเลน, สมาธิพเลน, ปฺาพเลน, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมอาชานียสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, วณฺณสมฺปนฺโน จ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, ขโม ธมฺมานํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยอาชานียสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, พลสมฺปนฺโน จ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ …เป… ขโม ธมฺมานํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ตติยอาชานียสุตฺตํ

. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ขโม โหติ รูปานํ, ขโม สทฺทานํ, ขโม คนฺธานํ, ขโม รสานํ, ขโม โผฏฺพฺพานํ, ชวสมฺปนฺโน จ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขโม โหติ รูปานํ…เป… ขโม ธมฺมานํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. อนุตฺตริยสุตฺตํ

. [ที. นิ. ๓.๓๒๗] ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิ. กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุตฺตริยานี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อนุสฺสติฏฺานสุตฺตํ

. [ที. นิ. ๓.๓๒๗] ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ. นวมํ.

๑๐. มหานามสุตฺตํ

๑๐. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข มหานาโม สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน, โข มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, อริยสาวโก อาคตผโล วิฺาตสาสโน, โส กตเมน วิหาเรน พหุลํ วิหรตี’’ติ?

‘‘โย โส, มหานาม, อริยสาวโก อาคตผโล วิฺาตสาสโน, โส อิมินา วิหาเรน พหุลํ วิหรติ. [อ. นิ. ๑๑.๑๑] อิธ, มหานาม, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ธมฺมํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิต ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน ธมฺมานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ สงฺฆํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน สงฺฆานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก สีลํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ สีลํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน สีลานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม! โยหํ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตาย ปชาย วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสามิ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก จาคํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ จาคํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน จาคานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘ปุน จปรํ, มหานาม, อริยสาวโก เทวตานุสฺสตึ ภาเวติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สนฺติ เทวา ตาวตึสา, สนฺติ เทวา ยามา, สนฺติ เทวา ตุสิตา, สนฺติ เทวา นิมฺมานรติโน, สนฺติ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา พฺรหฺมกายิกา, สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ [ตตุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), ตทุตฺตริ (ก.) อ. นิ. ๖.๒๕; วิสุทฺธิ. ๑.๑๖๒ ปสฺสิตพฺพํ]. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา [ตตฺถ อุปฺปนฺนา (สี.), ตตฺถูปปนฺนา (สฺยา. กํ.), ตตฺถุปปนฺนา (อ. นิ. ๓.๗๑)], มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สีลํ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สุเตน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สุตํ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน จาเคน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูโป จาโค สํวิชฺชติ. ยถารูปาย ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตา เทวตา อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม – ‘อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย [สพฺยาปชฺฌาย… อพฺยาปชฺโฌ (ก.)] ปชาย อพฺยาปชฺโช [สพฺยาปชฺฌาย… อพฺยาปชฺโฌ (ก.)] วิหรติ, ธมฺมโสตํ สมาปนฺโน เทวตานุสฺสตึ ภาเวติ’’’.

‘‘โย โส, มหานาม, อริยสาวโก อาคตผโล วิฺาตสาสโน, โส อิมินา วิหาเรน พหุลํ วิหรตี’’ติ. ทสมํ.

อาหุเนยฺยวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว อาหุเนยฺยา อินฺทฺริย, พลานิ ตโย อาชานียา;

อนุตฺตริย อนุสฺสตี, มหานาเมน เต ทสาติ.

๒. สารณียวคฺโค

๑. ปมสารณียสุตฺตํ

๑๑. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สารณียา [สาราณียา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. กตเม ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี โหติ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ ตถารูเปหิ สีเลหิ สีลสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺมา สารณียา’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยสารณียสุตฺตํ

๑๒. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สารณียา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ…เป… เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี โหติ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ ตถารูเปหิ สีเลหิ สีลสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺมา สารณียา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. นิสฺสารณียสุตฺตํ

๑๓. ‘‘ฉยิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสารณียา ธาตุโย. กตมา ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘เมตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา; อถ จ ปน เม พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหว’นฺติสฺส วจนีโย – ‘มายสฺมา, เอวํ อวจ; มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย; อถ จ ปนสฺส พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ [สฺสตีติ (สพฺพตฺถ) ที. นิ. ๓.๓๒๖ ปสฺสิตพฺพํ], เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส ยทิทํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’’ติ [เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ (สพฺพตฺถ)].

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘กรุณา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา; อถ จ ปน เม วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหว’นฺติสฺส วจนีโย – ‘มายสฺมา, เอวํ อวจ; มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ กรุณาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย; อถ จ ปนสฺส วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, วิเหสาย ยทิทํ กรุณาเจโตวิมุตฺตี’’’ติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘มุทิตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา; อถ จ ปน เม อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหว’นฺติสฺส วจนีโย – ‘มายสฺมา, เอวํ อวจ; มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ มุทิตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย; อถ จ ปนสฺส อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, อรติยา ยทิทํ มุทิตาเจโตวิมุตฺตี’’’ติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อุเปกฺขา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา; อถ จ ปน เม ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหว’นฺติสฺส วจนีโย – ‘มายสฺมา, เอวํ อวจ; มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ อุเปกฺขาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย; อถ จ ปนสฺส ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, ราคสฺส ยทิทํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺตี’’’ติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อนิมิตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา; อถ จ ปน เม นิมิตฺตานุสาริ วิฺาณํ โหตี’ติ. โส ‘มา เหว’นฺติสฺส วจนีโย – ‘มายสฺมา, เอวํ อวจ; มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย; อถ จ ปนสฺส นิมิตฺตานุสาริ วิฺาณํ ภวิสฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, สพฺพนิมิตฺตานํ ยทิทํ อนิมิตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’’ติ.

‘‘อิธ ปน ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสฺมีติ โข เม วิคตํ [วิคเต (สฺยา.)], อยมหมสฺมีติ จ [อยํ จกาโร ที. นิ. ๓.๓๒๖ นตฺถิ] น สมนุปสฺสามิ; อถ จ ปน เม วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหว’นฺติสฺส วจนีโย – ‘มายสฺมา, เอวํ อวจ; มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ อสฺมีติ วิคเต อยมหมสฺมีติ จ น สมนุปสฺสโต; อถ จ ปนสฺส วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลสฺส ยทิทํ อสฺมีติ มานสมุคฺฆาโต’ติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ฉ นิสฺสารณียา ธาตุโย’’ติ. ตติยํ.

๔. ภทฺทกสุตฺตํ

๑๔. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘ตถา ตถา, อาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลกิริยา [กาลํกิริยา (ก.) อ. นิ. ๓.๑๑๐]. กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลกิริยา?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กมฺมาราโม โหติ กมฺมรโต กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, ภสฺสาราโม โหติ ภสฺสรโต ภสฺสารามตํ อนุยุตฺโต, นิทฺทาราโม โหติ นิทฺทารโต นิทฺทารามตํ อนุยุตฺโต, สงฺคณิการาโม โหติ สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, สํสคฺคาราโม โหติ สํสคฺครโต สํสคฺคารามตํ อนุยุตฺโต, ปปฺจาราโม โหติ ปปฺจรโต ปปฺจารามตํ อนุยุตฺโต. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลกิริยา. อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ สกฺกายาภิรโต นปฺปชหาสิ [น ปหาสิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย’’’.

‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยา. กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยา?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ น กมฺมาราโม โหติ น กมฺมรโต น กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, น ภสฺสาราโม โหติ น ภสฺสรโต น ภสฺสารามตํ อนุยุตฺโต, น นิทฺทาราโม โหติ น นิทฺทารโต นิทฺทารามตํ อนุยุตฺโต, น สงฺคณิการาโม โหติ น สงฺคณิกรโต น สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, น สํสคฺคาราโม โหติ น สํสคฺครโต น สํสคฺคารามตํ อนุยุตฺโต, น ปปฺจาราโม โหติ น ปปฺจรโต น ปปฺจารามตํ อนุยุตฺโต. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยา. อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ นิพฺพานาภิรโต ปชหาสิ สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’’ติ.

‘‘โย ปปฺจมนุยุตฺโต, ปปฺจาภิรโต มโค;

วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.

‘‘โย จ ปปฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปฺจปเท รโต;

อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตร’’นฺติ. จตุตฺถํ;

๕. อนุตปฺปิยสุตฺตํ

๑๕. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติ. กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติ?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กมฺมาราโม โหติ กมฺมรโต กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, ภสฺสาราโม โหติ…เป… นิทฺทาราโม โหติ… สงฺคณิการาโม โหติ… สํสคฺคาราโม โหติ… ปปฺจาราโม โหติ ปปฺจรโต ปปฺจารามตํ อนุยุตฺโต. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติ. อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ สกฺกายาภิรโต นปฺปชหาสิ สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย’’’.

‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนนุตปฺปา โหติ. กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนนุตปฺปา โหติ?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ น กมฺมาราโม โหติ น กมฺมรโต น กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, น ภสฺสาราโม โหติ…เป… น นิทฺทาราโม โหติ… น สงฺคณิการาโม โหติ… น สํสคฺคาราโม โหติ… น ปปฺจาราโม โหติ น ปปฺจรโต น ปปฺจารามตํ อนุยุตฺโต. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนนุตปฺปา โหติ. อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ นิพฺพานาภิรโต ปชหาสิ สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’’ติ.

‘‘โย ปปฺจมนุยุตฺโต, ปปฺจาภิรโต มโค;

วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.

‘‘โย จ ปปฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปฺจปเท รโต;

อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตร’’นฺติ. ปฺจมํ;

๖. นกุลปิตุสุตฺตํ

๑๖. เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร [สุํสุมารคิเร (สี. ปี.), สํสุมารคิเร (กตฺถจิ)] เภสกฬาวเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน นกุลปิตา คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข นกุลมาตา คหปตานี นกุลปิตรํ คหปตึ เอตทโวจ –

‘‘มา โข ตฺวํ, คหปติ, สาเปกฺโข [สาเปโข (ปี. ก.)] กาลมกาสิ. ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา. สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน สกฺขิสฺสติ [น สกฺขิสฺสติ (สี. สฺยา. กํ.), สกฺโกติ (ปี. ก.)] ทารเก โปเสตุํ, ฆราวาสํ สนฺธริตุ’นฺติ [สนฺธริตุนฺติ (ก.), สณฺริตุํ (สฺยา.)]. น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. กุสลาหํ, คหปติ, กปฺปาสํ กนฺติตุํ เวณึ โอลิขิตุํ. สกฺโกมหํ, คหปติ, ตวจฺจเยน ทารเก โปเสตุํ, ฆราวาสํ สนฺธริตุํ. ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปกฺโข กาลมกาสิ. ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา.

‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน อฺํ ฆรํ [ภตฺตารํ (สฺยา. กํ.), วีรํ (สี.)] คมิสฺสตี’ติ. น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตฺวฺเจว โข, คหปติ, ชานาสิ อหฺจ, ยํ โน [ยทา เต (สี.), ยถา (สฺยา.), ยถา โน (ปี.)] โสฬสวสฺสานิ คหฏฺกํ พฺรหฺมจริยํ สมาจิณฺณํ [สมาทินฺนํ (สี.)]. ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปกฺโข กาลมกาสิ. ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา.

‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน น ทสฺสนกามา ภวิสฺสติ ภควโต น ทสฺสนกามา ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’ติ. น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อหฺหิ, คหปติ, ตวจฺจเยน ทสฺสนกามตรา เจว ภวิสฺสามิ ภควโต, ทสฺสนกามตรา จ ภิกฺขุสงฺฆสฺส. ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปกฺโข กาลมกาสิ. ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา.

‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน สีเลสุ [นกุลมาตา… น สีเลสุ (สี. ปี.)] ปริปูรการินี’ติ. น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ยาวตา โข, คหปติ, ตสฺส ภควโต สาวิกา คิหี โอทาตวสนา สีเลสุ ปริปูรการินิโย, อหํ ตาสํ อฺตรา. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – อยํ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย – ตํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉตุ. ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปกฺโข กาลมกาสิ. ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา.

‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี ลาภินี [นกุลมาตา คหปตานี น ลาภินี (ปี.)] อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺสา’ติ. น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ยาวตา โข, คหปติ, ตสฺส ภควโต สาวิกา คิหี โอทาตวสนา ลาภินิโย อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, อหํ ตาสํ อฺตรา. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – อยํ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย – ตํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉตุ. ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปกฺโข กาลมกาสิ. ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา.

‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี อิมสฺมึ ธมฺมวินเย โอคาธปฺปตฺตา ปติคาธปฺปตฺตา อสฺสาสปฺปตฺตา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรตี’ติ. น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ยาวตา โข, คหปติ, ตสฺส ภควโต สาวิกา คิหี โอทาตวสนา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย โอคาธปฺปตฺตา ปติคาธปฺปตฺตา อสฺสาสปฺปตฺตา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรนฺติ, อหํ ตาสํ อฺตรา. ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – อยํ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย – ตํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉตุ. ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปกฺโข กาลมกาสิ. ทุกฺขา คหปติ สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา’’ติ.

อถ โข นกุลปิตุโน คหปติสฺส นกุลมาตรา [นกุลมาตาย (สี. สฺยา.), นกุลมาตุยา (ก.)] คหปตานิยา อิมินา โอวาเทน โอวทิยมานสฺส โส อาพาโธ านโส ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. วุฏฺหิ [วุฏฺาติ (ก.)] จ นกุลปิตา คหปติ ตมฺหา อาพาธา; ตถา ปหีโน จ ปน นกุลปิตุโน คหปติสฺส โส อาพาโธ อโหสิ. อถ โข นกุลปิตา คหปติ คิลานา วุฏฺิโต [‘‘คิลานภาวโต วุฏฺาย ิโต, ภาวปฺปธาโน หิ อยํ นิทฺเทโส’’ติ ฏีกาสํวณฺณนา] อจิรวุฏฺิโต เคลฺา ทณฺฑโมลุพฺภ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นกุลปิตรํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –

‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ! ยสฺส เต นกุลมาตา คหปตานี อนุกมฺปิกา อตฺถกามา โอวาทิกา อนุสาสิกา. ยาวตา โข, คหปติ, มม สาวิกา คิหี โอทาตวสนา สีเลสุ ปริปูรการินิโย, นกุลมาตา คหปตานี ตาสํ อฺตรา. ยาวตา โข, คหปติ, มม สาวิกา คิหี โอทาตวสนา ลาภินิโย อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, นกุลมาตา คหปตานี ตาสํ อฺตรา. ยาวตา โข, คหปติ, มม สาวิกา คิหี โอทาตวสนา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย โอคาธปฺปตฺตา ปติคาธปฺปตฺตา อสฺสาสปฺปตฺตา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรนฺติ, นกุลมาตา คหปตานี ตาสํ อฺตรา. ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ! ยสฺส เต นกุลมาตา คหปตานี อนุกมฺปิกา อตฺถกามา โอวาทิกา อนุสาสิกา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. โสปฺปสุตฺตํ

๑๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข สาริปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข มหาโมคฺคลฺลาโน…เป… อายสฺมาปิ โข มหากสฺสโป… อายสฺมาปิ โข มหากจฺจายโน… อายสฺมาปิ โข มหาโกฏฺิโก [มหาโกฏฺิโต (สี. ปี.)] … อายสฺมาปิ โข มหาจุนฺโท… อายสฺมาปิ โข มหากปฺปิโน… อายสฺมาปิ โข อนุรุทฺโธ… อายสฺมาปิ โข เรวโต… อายสฺมาปิ โข อานนฺโท สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ นิสชฺชาย วีตินาเมตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ. เตปิ โข อายสฺมนฺโต อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อุฏฺายาสนา ยถาวิหารํ อคมํสุ. เย ปน ตตฺถ ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ เต ยาว สูริยุคฺคมนา กากจฺฉมานา สุปึสุ. อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน เต ภิกฺขู ยาว สูริยุคฺคมนา กากจฺฉมาเน สุปนฺเต. ทิสฺวา เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘กหํ นุ โข, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต? กหํ มหาโมคฺคลฺลาโน? กหํ มหากสฺสโป? กหํ มหากจฺจายโน? กหํ มหาโกฏฺิโก? กหํ มหาจุนฺโท? กหํ มหากปฺปิโน? กหํ อนุรุทฺโธ? กหํ เรวโต? กหํ อานนฺโท? กหํ นุ โข เต, ภิกฺขเว, เถรา สาวกา คตา’’ติ? ‘‘เตปิ โข, ภนฺเต, อายสฺมนฺโต อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อุฏฺายาสนา ยถาวิหารํ อคมํสู’’ติ. ‘‘เกน โน [เกน โน (ก.), เก นุ (กตฺถจิ)] ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เถรา ภิกฺขู นาคตาติ [ภิกฺขู นวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.), ภิกฺขู คตาติ (?)] ยาว สูริยุคฺคมนา กากจฺฉมานา สุปถ? ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา – ‘ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต [มุทฺธาภิสิตฺโต (ก.)] ยาวทตฺถํ เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรนฺโต ยาวชีวํ รชฺชํ กาเรนฺโต ชนปทสฺส วา ปิโย มนาโป’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฏฺํ น สุตํ – ‘ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ยาวทตฺถํ เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรนฺโต ยาวชีวํ รชฺชํ กาเรนฺโต ชนปทสฺส วา ปิโย มนาโป’’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา – ‘รฏฺิโก…เป… เปตฺตณิโก… เสนาปติโก… คามคามณิโก [คามคามิโก (สี. ปี.)] … ปูคคามณิโก ยาวทตฺถํ เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรนฺโต ยาวชีวํ ปูคคามณิกตฺตํ กาเรนฺโต ปูคสฺส วา ปิโย มนาโป’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฏฺํ น สุตํ – ‘ปูคคามณิโก ยาวทตฺถํ เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรนฺโต ยาวชีวํ ปูคคามณิกตฺตํ วา กาเรนฺโต ปูคสฺส วา ปิโย มนาโป’’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา – ‘สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ยาวทตฺถํ เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร โภชเน อมตฺตฺู ชาคริยํ อนนุยุตฺโต อวิปสฺสโก กุสลานํ ธมฺมานํ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิยานํ [โพธปกฺขิยานํ (สี.), โพธปกฺขิกานํ (ปี.)] ธมฺมานํ ภาวนานุโยคํ อนนุยุตฺโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฏฺํ น สุตํ – ‘สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ยาวทตฺถํ เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร โภชเน อมตฺตฺู ชาคริยํ อนนุยุตฺโต อวิปสฺสโก กุสลานํ ธมฺมานํ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคํ อนนุยุตฺโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต’’’ติ.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา ภวิสฺสาม, โภชเน มตฺตฺุโน, ชาคริยํ อนุยุตฺตา, วิปสฺสกา กุสลานํ ธมฺมานํ, ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ, ภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหริสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. มจฺฉพนฺธสุตฺตํ

๑๘. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. อทฺทสา โข ภควา อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน อฺตรสฺมึ ปเทเส มจฺฉิกํ มจฺฉพนฺธํ มจฺเฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมานํ. ทิสฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อมุํ มจฺฉิกํ มจฺฉพนฺธํ มจฺเฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา – ‘มจฺฉิโก มจฺฉพนฺโธ มจฺเฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กมฺเมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสนฺโต’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฏฺํ น สุตํ – ‘มจฺฉิโก มจฺฉพนฺโธ มจฺเฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กมฺเมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสนฺโต’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ โส, ภิกฺขเว, มจฺเฉ วชฺเฌ วธายุปนีเต [วธายานีเต (สฺยา. กํ.), วธาย นีเต (ก.)] ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส เนว หตฺถิยายี โหติ น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสติ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา – ‘โคฆาตโก คาโว วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กมฺเมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสนฺโต’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฏฺํ น สุตํ – ‘โคฆาตโก คาโว วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กมฺเมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสนฺโต’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ โส, ภิกฺขเว, คาโว วชฺเฌ วธายุปนีเต ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส เนว หตฺถิยายี โหติ น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสติ’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา – ‘โอรพฺภิโก…เป… สูกริโก [โสกริโก (สฺยา.)] …เป… สากุณิโก…เป… มาควิโก มเค [มิเค (สฺยา. กํ.)] วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กมฺเมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสนฺโต’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฏฺํ น สุตํ – ‘มาควิโก มเค วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กมฺเมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสนฺโต’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ โส, ภิกฺขเว, มเค วชฺเฌ วธายุปนีเต ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส เนว หตฺถิยายี โหติ น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสติ. เต หิ (นาม) [( ) พหูสุ นตฺถิ] โส, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคเต ปาเณ วชฺเฌ วธายุปนีเต ปาปเกน มนสานุเปกฺขมาโน [มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส (สฺยา. ก.)] เนว หตฺถิยายี ภวิสฺสติ [โหติ (สฺยา. ก.)] น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสิสฺสติ [อชฺฌาวสติ (สฺยา. ก.)]. โก ปน วาโท ยํ มนุสฺสภูตํ วชฺฌํ วธายุปนีตํ ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ! ตฺหิ ตสฺส [ตํ หิสฺส (ปี. ก.)], ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมมรณสฺสติสุตฺตํ

๑๙. เอกํ สมยํ ภควา นาติเก [นาทิเก (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. ๘.๗๓] วิหรติ คิฺชกาวสเถ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘มรณสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. ภาเวถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, มรณสฺสติ’’นฺติ?

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ รตฺตินฺทิวํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกปิณฺฑปาตํ ภุฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป สงฺขาทิตฺวา [สงฺขริตฺวา (ก.)] อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกํ อาโลปํ สงฺขาทิตฺวา [สํหริตฺวา (ก.)] อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา วา ปสฺสสามิ ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘โย จายํ [ยฺวายํ (ปี. ก.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ รตฺตินฺทิวํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โย จายํ [โยปายํ (ก.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกปิณฺฑปาตํ ภุฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปมตฺตา วิหรนฺติ ทนฺธํ มรณสฺสตึ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยาย.

‘‘โย จ ขฺวายํ [โยปายํ (ก.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกํ อาโลปํ สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา วา ปสฺสสามิ ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺปมตฺตา วิหรนฺติ ติกฺขํ มรณสฺสตึ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยาย.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อปฺปมตฺตา วิหริสฺสาม, ติกฺขํ มรณสฺสตึ ภาเวสฺสาม อาสวานํ ขยายา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยมรณสฺสติสุตฺตํ

๒๐. เอกํ สมยํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘มรณสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, มรณสฺสติ กถํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา?

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทิวเส นิกฺขนฺเต รตฺติยา ปติหิตาย [ปฏิคตาย (ก.) อ. นิ. ๘.๗๔] อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘พหุกา โข เม ปจฺจยา มรณสฺส – อหิ วา มํ ฑํเสยฺย, วิจฺฉิโก วา มํ ฑํเสยฺย, สตปที วา มํ ฑํเสยฺย; เตน เม อสฺส กาลกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย. อุปกฺขลิตฺวา วา ปปเตยฺยํ, ภตฺตํ วา เม ภุตฺตํ พฺยาปชฺเชยฺย, ปิตฺตํ วา เม กุปฺเปยฺย, เสมฺหํ วา เม กุปฺเปยฺย, สตฺถกา วา เม วาตา กุปฺเปยฺยุํ; เตน เม อสฺส กาลกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย’ติ. เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘อตฺถิ นุ โข เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา, เย เม อสฺสุ รตฺตึ กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’’’ติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา, เย เม อสฺสุ รตฺตึ กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘นตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา, เย เม อสฺสุ รตฺตึ กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รตฺติยา นิกฺขนฺตาย ทิวเส ปติหิเต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘พหุกา โข เม ปจฺจยา มรณสฺส – อหิ วา มํ ฑํเสยฺย, วิจฺฉิโก วา มํ ฑํเสยฺย, สตปที วา มํ ฑํเสยฺย; เตน เม อสฺส กาลกิริยา โส มมสฺส อนฺตราโย. อุปกฺขลิตฺวา วา ปปเตยฺยํ, ภตฺตํ วา เม ภุตฺตํ พฺยาปชฺเชยฺย, ปิตฺตํ วา เม กุปฺเปยฺย, เสมฺหํ วา เม กุปฺเปยฺย, สตฺถกา วา เม วาตา กุปฺเปยฺยุํ; เตน เม อสฺส กาลกิริยา โส มมสฺส อนฺตราโย’ติ. เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘อตฺถิ นุ โข เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา, เย เม อสฺสุ ทิวา กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’’’ติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา, เย เม อสฺสุ ทิวา กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘นตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา, เย เม อสฺสุ ทิวา กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, มรณสฺสติ เอวํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. ทสมํ.

สารณียวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ

ทฺเว สารณี นิสารณียํ, ภทฺทกํ อนุตปฺปิยํ;

นกุลํ โสปฺปมจฺฉา จ, ทฺเว โหนฺติ มรณสฺสตีติ.

๓. อนุตฺตริยวคฺโค

๑. สามกสุตฺตํ

๒๑. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ สามคามเก โปกฺขรณิยายํ. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ โปกฺขรณิยํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ตโยเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา – อิเม โข, ภนฺเต, ตโย ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนุฺโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ โปกฺขรณิยํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘ตโยเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา – อิเม โข, ภนฺเต, ตโย ธมฺมา ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ. เตสํ โว [โข (ก.)], ภิกฺขเว, อลาภา เตสํ ทุลฺลทฺธํ, เย โว เทวตาปิ ชานนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ ปริหายมาเน’’.

‘‘อปเรปิ, ภิกฺขเว, ตโย ปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ตโย ปริหานิยา ธมฺมา? สงฺคณิการามตา, โทวจสฺสตา, ปาปมิตฺตตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปริหานิยา ธมฺมา’’.

‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อตีตมทฺธานํ ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อนาคตมทฺธานํ ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ. ปมํ.

๒. อปริหานิยสุตฺตํ

๒๒. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, ฉ อปริหานิยา ธมฺมา? น กมฺมารามตา, น ภสฺสารามตา, น นิทฺทารามตา, น สงฺคณิการามตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ อปริหานิยา ธมฺมา.

‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อตีตมทฺธานํ น ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ น ปริหายึสุ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อนาคตมทฺธานํ น ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ น ปริหายิสฺสนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. เยปิ หิ เกจิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ น ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพเต อิเมเหว ฉหิ ธมฺเมหิ น ปริหายนฺติ กุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ภยสุตฺตํ

๒๓. ‘‘‘ภย’นฺติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘โรโค’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘คณฺโฑ’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘สงฺโค’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ; ‘ปงฺโก’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ.

‘‘กสฺมา จ, ภิกฺขเว, ‘ภย’นฺติ กามานเมตํ อธิวจนํ? กามราครตฺตายํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราควินิพทฺโธ ทิฏฺธมฺมิกาปิ ภยา น ปริมุจฺจติ, สมฺปรายิกาปิ ภยา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา ‘ภย’นฺติ กามานเมตํ อธิวจนํ. กสฺมา จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนฺติ…เป… โรโคติ… คณฺโฑติ… สงฺโคติ… ปงฺโกติ กามานเมตํ อธิวจนํ? กามราครตฺตายํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราควินิพทฺโธ ทิฏฺธมฺมิกาปิ ปงฺกา น ปริมุจฺจติ, สมฺปรายิกาปิ ปงฺกา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา ‘ปงฺโก’ติ กามานเมตํ อธิวจน’’นฺติ.

‘‘ภยํ ทุกฺขํ โรโค คณฺโฑ, สงฺโค ปงฺโก จ อุภยํ;

เอเต กามา ปวุจฺจนฺติ, ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน.

‘‘อุปาทาเน ภยํ ทิสฺวา, ชาติมรณสมฺภเว;

อนุปาทา วิมุจฺจนฺติ, ชาติมรณสงฺขเย.

‘‘เต เขมปฺปตฺตา สุขิโน, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;

สพฺพเวรภยาตีตา [สพฺเพ เวรภยาตีตา (สฺยา.)], สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุ’’นฺติ. ตติยํ;

๔. หิมวนฺตสุตฺตํ

๒๔. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ ปทาเลยฺย, โก ปน วาโท ฉวาย อวิชฺชาย! กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล โหติ, สมาธิสฺส กลฺลิตกุสโล [กลฺลตากุสโล (สฺยา. กํ. ก.) สํ. นิ. ๓.๖๖๕ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ, สมาธิสฺส โคจรกุสโล โหติ, สมาธิสฺส อภินีหารกุสโล โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ ปทาเลยฺย, โก ปน วาโท ฉวาย อวิชฺชายา’’ติ! จตุตฺถํ.

๕. อนุสฺสติฏฺานสุตฺตํ

๒๕. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก สีลํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ – ‘ลาภา วต เม! สุลทฺธํ วต เม…เป… ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. ยสฺมึ…เป… เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เทวตา อนุสฺสรติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา ตาวตึสา, สนฺติ เทวา ยามา, สนฺติ เทวา ตุสิตา, สนฺติ เทวา นิมฺมานรติโน, สนฺติ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา พฺรหฺมกายิกา, สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’’’ ติ.

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. มหากจฺจานสุตฺตํ

๒๖. ตตฺร โข อายสฺมา มหากจฺจาโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหากจฺจาโน เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส; อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ.

‘‘กตมานิ ฉ? อิธาวุโส, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา …เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน สีลํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม…เป… ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก เทวตา อนุสฺสรติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา…เป… ตตุตฺตริ. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน…เป… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ. ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส; อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ฉ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมสมยสุตฺตํ

๒๗. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ? ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขุ, สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ’’.

‘‘กตเม ฉ? อิธ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ปโม สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ พฺยาปาทปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ พฺยาปาทปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, พฺยาปาทสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ พฺยาปาทสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ทุติโย สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ ถินมิทฺธปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ถินมิทฺธสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ ถินมิทฺธปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ถินมิทฺธสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, ถินมิทฺธสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ ถินมิทฺธสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ตติโย สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, จตุตฺโถ สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, อาวุโส, วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, วิจิกิจฺฉาย ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ วิจิกิจฺฉาย ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ปฺจโม สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ ตํ นิมิตฺตํ นปฺปชานาติ ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, ตํ นิมิตฺตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม, อายสฺมา, อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ฉฏฺโ สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. อิเม โข, ภิกฺขุ, ฉ สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยสมยสุตฺตํ

๒๘. เอกํ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู พาราณสิยํ วิหรนฺติ อิสิปตเน มิคทาเย. อถ โข เตสํ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ?

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, จาริตฺตกิลมโถปิสฺส ตสฺมึ สมเย อปฺปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ, ภตฺตกิลมโถปิสฺส ตสฺมึ สมเย อปฺปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. ตสฺมา โส อสมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต วิหารปจฺฉายายํ นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต วิหารปจฺฉายายํ นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, ยเทวสฺส ทิวา สมาธินิมิตฺตํ มนสิกตํ โหติ ตเทวสฺส ตสฺมึ สมเย สมุทาจรติ. ตสฺมา โส อสมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส, โส สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. ยสฺมึ, อาวุโส, สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โอชฏฺายิสฺส ตสฺมึ สมเย กาโย โหติ ผาสุสฺส โหติ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ. ตสฺมา โส อสมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา มหากจฺจาโน เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ฉยิเม, ภิกฺขุ, สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ’’’.

‘‘กตเม ฉ? อิธ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรามิ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. สาธุ วต เม อายสฺมา กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ กามราคสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ปโม สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ…เป… ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, ตํ นิมิตฺตํ น ชานาติ น ปสฺสติ, ตสฺมึ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ ตํ นิมิตฺตํ น ชานามิ น ปสฺสามิ. สาธุ วต เม อายสฺมา อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสติ. อยํ, ภิกฺขุ, ฉฏฺโ สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ฉ สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. อุทายีสุตฺตํ

๒๙. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ? เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ? ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายึ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ? ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ อุทายึ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อุทายิ, อามนฺเตสี’’ติ. ‘‘สุโณมหํ, อาวุโส อานนฺท, ภควโต. อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ – เสยฺยถิทํ เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป…. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺาน’’นฺติ.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อฺาสึ โข อหํ, อานนฺท – ‘เนวายํ อุทายี โมฆปุริโส อธิจิตฺตํ อนุยุตฺโต วิหรตี’ติ. กติ นุ โข, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ?

‘‘ปฺจ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ปฺจ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อาโลกสฺํ มนสิ กโรติ, ทิวา สฺํ อธิฏฺาติ, ยถา ทิวา ตถา รตฺตึ, ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา; อิติ วิวเฏน เจตสา อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ าณทสฺสนปฺปฏิลาภาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ [นหารุ (สี. ปี.) ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐] อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ กามราคปฺปหานาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ [ฉฑฺฑิตํ (สี. สฺยา. ปี.)] เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา ตีหมตํ วา อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกชาตํ. โส อิมเมว กายํ เอวํ [เอวนฺติ อิทํ สติปฏฺานสุตฺตาทีสุ นตฺถิ] อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’’ติ [เอตํ อนตีโตติ (สี.)].

‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน [เสยฺยถา วา ปน (สฺยา.)] ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ กาเกหิ วา ขชฺชมานํ กุลเลหิ วา ขชฺชมานํ คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ สุนเขหิ วา ขชฺชมานํ สิงฺคาเลหิ [สิคาเลหิ (สี.)] วา ขชฺชมานํ วิวิเธหิ วา ปาณกชาเตหิ ขชฺชมานํ. โส อิมเมว กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ นิมฺมํสโลหิตมกฺขิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ… อฏฺิกสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ. อฏฺิกานิ อปคตสมฺพนฺธานิ ทิสาวิทิสาวิกฺขิตฺตานิ [ทิสาวิทิสาสุ วิกฺขิตฺตานิ (สี.)], อฺเน หตฺถฏฺิกํ อฺเน ปาทฏฺิกํ อฺเน ชงฺฆฏฺิกํ อฺเน อูรุฏฺิกํ อฺเน กฏิฏฺิกํ [กฏฏฺิกํ (สี.)] อฺเน [ปิฏฺิกณฺฑกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สี. ปี.), ปิฏฺิกณฺฑกฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สฺยา. กํ.)] ผาสุกฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺิกณฺฏกฏฺิกํ อฺเน ขนฺธฏฺิกํ อฺเน คีวฏฺิกํ อฺเน หนุกฏฺิกํ อฺเน ทนฺตกฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ [ปิฏฺิกณฺฑกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สี. ปี.), ปิฏฺิกณฺฑกฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สฺยา. กํ.)], อฏฺิกานิ เสตานิ สงฺขวณฺณปฺปฏิภาคานิ [สงฺขวณฺณูปนิภานิ (สี. สฺยา. ปี.)] อฏฺิกานิ ปุฺชกิตานิ [ปุฺชกตานิ (ปี.)] เตโรวสฺสิกานิ อฏฺิกานิ ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อสฺมิมานสมุคฺฆาตาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อเนกธาตุปฏิเวธาย สํวตฺตติ. อิมานิ โข, ภนฺเต, ปฺจ อนุสฺสติฏฺานานี’’ติ.

‘‘สาธุ, สาธุ, อานนฺท! เตน หิ ตฺวํ, อานนฺท, อิทมฺปิ ฉฏฺํ อนุสฺสติฏฺานํ ธาเรหิ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ สโตว อภิกฺกมติ สโตว ปฏิกฺกมติ สโตว ติฏฺติ สโตว นิสีทติ สโตว เสยฺยํ กปฺเปติ สโตว กมฺมํ อธิฏฺาติ. อิทํ, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ สติสมฺปชฺาย สํวตฺตตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. อนุตฺตริยสุตฺตํ

๓๐. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิ. กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยนฺติ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ หตฺถิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อสฺสรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, มณิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ทสฺสนาย คจฺฉติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ ทสฺสนาย คจฺฉติ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ; เนตํ นตฺถีติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ [โสกปริทฺทวานํ (สี.)] สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย [อตฺถคมาย (สี.)] ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ.

‘‘สวนานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ เภริสทฺทมฺปิ [เภริสทฺทสฺสปิ (ก.) เอวํ วีณาสทฺทมฺปิอิจฺจาทีสุปิ] สวนาย คจฺฉติ, วีณาสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, คีตสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สวนาย คจฺฉติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, สวนํ; เนตํ นตฺถีติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, สวนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สวนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สวนานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ.

‘‘ลาภานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุตฺตลาภมฺปิ ลภติ, ทารลาภมฺปิ ลภติ, ธนลาภมฺปิ ลภติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ลาภํ ลภติ, สมเณ วา พฺราหฺมเณ วา มิจฺฉาทิฏฺิเก มิจฺฉาปฏิปนฺเน สทฺธํ ปฏิลภติ. อตฺเถโส, ภิกฺขเว, ลาโภ; เนโส นตฺถีติ วทามิ. โส จ โข เอโส, ภิกฺขเว, ลาโภ หีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฏิลภติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ลาภานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฏิลภติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ลาภานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ.

‘‘สิกฺขานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อสฺสสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, รถสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ธนุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ถรุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สิกฺขติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส [มิจฺฉาปฏิปตฺตึ (ก.)] สิกฺขติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา; เนสา นตฺถีติ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปฺมฺปิ สิกฺขติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สิกฺขานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปฺมฺปิ สิกฺขติ, นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สิกฺขานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ.

‘‘ปาริจริยานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ขตฺติยมฺปิ ปริจรติ, พฺราหฺมณมฺปิ ปริจรติ, คหปติมฺปิ ปริจรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ปริจรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ ปริจรติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา; เนสา นตฺถีติ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย…เป… น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ.

‘‘อนุสฺสตานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุตฺตลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ทารลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ธนลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ลาภํ อนุสฺสรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ อนุสฺสรติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ; เนสา นตฺถีติ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตีนํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตานุตฺตริยํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุตฺตริยานี’’ติ.

‘‘เย ทสฺสนานุตฺตรํ ลทฺธา [เย ทสฺสนวรํ ลทฺธา (สี. ปี.), ทสฺสนานุตฺตริยํ ลทฺธา (สฺยา. กํ.)], สวนฺจ อนุตฺตรํ;

ลาภานุตฺตริยํ ลทฺธา, สิกฺขานุตฺตริเย รตา [อนุตฺตริยํ ตถา (ก.)].

‘‘อุปฏฺิตา ปาริจริยา, ภาวยนฺติ อนุสฺสตึ;

วิเวกปฺปฏิสํยุตฺตํ, เขมํ อมตคามินึ.

‘‘อปฺปมาเท ปมุทิตา, นิปกา สีลสํวุตา;

เต เว กาเลน ปจฺเจนฺติ [ปจฺจนฺติ (สฺยา. ก.)], ยตฺถ ทุกฺขํ นิรุชฺฌตี’’ติ. ทสมํ;

อนุตฺตริยวคฺโค [สามกวคฺโค (ก.)] ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

สามโก อปริหานิโย, ภยํ หิมวานุสฺสติ;

กจฺจาโน ทฺเว จ สมยา, อุทายี อนุตฺตริเยนาติ.

๔. เทวตาวคฺโค

๑. เสขสุตฺตํ

๓๑. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา, สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา, โภชเน อมตฺตฺุตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.

‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? น กมฺมารามตา, น ภสฺสารามตา, น นิทฺทารามตา, น สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ปมํ.

๒. ปมอปริหานสุตฺตํ

๓๒. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ฉยิเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฏิสนฺถารคารวตา [ปฏิสนฺธารคารวตา (ก.)] – อิเม โข, ภนฺเต, ฉ ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนุฺโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘ฉยิเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฏิสนฺถารคารวตา – อิเม โข, ภนฺเต, ฉ ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;

อปฺปมาทครุ ภิกฺขุ, ปฏิสนฺถารคารโว;

อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ทุติยํ;

๓. ทุติยอปริหานสุตฺตํ

๓๓. ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘ฉยิเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, หิริคารวตา, โอตฺตปฺปคารวตา – อิเม โข, ภนฺเต, ฉ ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;

หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺโน, สปฺปติสฺโส สคารโว;

อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ตติยํ;

๔. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตํ

๓๔. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘กตเมสานํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม [โสตาปนฺนามฺหา (สี.), โสตาปนฺนามฺห (สฺยา. กํ. ปี.)] อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ? เตน โข ปน สมเยน ติสฺโส นาม ภิกฺขุ อธุนากาลงฺกโต อฺตรํ พฺรหฺมโลกํ อุปปนฺโน โหติ. ตตฺรปิ นํ เอวํ ชานนฺติ – ‘‘ติสฺโส พฺรหฺมา มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ.

อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อทฺทสา โข ติสฺโส พฺรหฺมา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน; สฺวาคตํ [สาคตํ (สี.)], มาริส โมคฺคลฺลาน; จิรสฺสํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน; อิมํ ปริยายมกาสิ, ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีท, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปฺตฺเต อาสเน. ติสฺโสปิ โข พฺรหฺมา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ติสฺสํ พฺรหฺมานํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ –

‘‘กตเมสานํ โข, ติสฺส, เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ? ‘‘จาตุมหาราชิกานํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ.

‘‘สพฺเพสฺเว นุ โข, ติสฺส, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ? ‘‘น โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, สพฺเพสํ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เย โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, จาตุมหาราชิกา เทวา พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน อสมนฺนาคตา ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน อสมนฺนาคตา สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน อสมนฺนาคตา อริยกนฺเตหิ สีเลหิ อสมนฺนาคตา น เตสํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เย จ โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, จาตุมหาราชิกา เทวา พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคตา, เตสํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ.

‘‘จาตุมหาราชิกานฺเว นุ โข, ติสฺส, เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ อุทาหุ ตาวตึสานมฺปิ เทวานํ…เป… ยามานมฺปิ เทวานํ… ตุสิตานมฺปิ เทวานํ… นิมฺมานรตีนมฺปิ เทวานํ… ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนมฺปิ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ? ‘‘ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ.

‘‘สพฺเพสฺเว นุ โข, ติสฺส, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ? ‘‘น โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, สพฺเพสํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เย โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน อสมนฺนาคตา, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน อสมนฺนาคตา, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน อสมนฺนาคตา, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ อสมนฺนาคตา, น เตสํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เย จ โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคตา เตสํ เอวํ าณํ โหติ – ‘โสตาปนฺนา นาม อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’’ติ.

อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ติสฺสสฺส พฺรหฺมุโน ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา – ‘‘เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – ‘พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสี’’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. วิชฺชาภาคิยสุตฺตํ

๓๕. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา วิชฺชาภาคิยา. กตเม ฉ? อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺมา วิชฺชาภาคิยา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. วิวาทมูลสุตฺตํ

๓๖. [ที. นิ. ๓.๓๒๕; ม. นิ. ๓.๔๔; จูฬว. ๒๑๖] ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, วิวาทมูลานิ. กตมานิ ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขาย น ปริปูรการี โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ, โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ, ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ ปฬาสี…เป… อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี… สโ โหติ มายาวี… ปาปิจฺโฉ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ… สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม…เป… สงฺเฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขาย น ปริปูรการี, โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ, โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ วิวาทมูลานี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ฉฬงฺคทานสุตฺตํ

๓๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน เวฬุกณฺฑกี [เวฬุกณฺฑกิยา (อ. นิ. ๗.๕๓; ๒.๑๓๔; สํ. นิ. ๒.๑๗๓)] นนฺทมาตา อุปาสิกา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุเข ภิกฺขุสงฺเฆ ฉฬงฺคสมนฺนาคตํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ. อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน เวฬุกณฺฑกึ นนฺทมาตรํ อุปาสิกํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุเข ภิกฺขุสงฺเฆ ฉฬงฺคสมนฺนาคตํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปนฺตึ. ทิสฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอสา, ภิกฺขเว, เวฬุกณฺฑกี นนฺทมาตา อุปาสิกา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุเข ภิกฺขุสงฺเฆ ฉฬงฺคสมนฺนาคตํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ’’.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ฉฬงฺคสมนฺนาคตา ทกฺขิณา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ทายกสฺส ตีณงฺคานิ โหนฺติ, ปฏิคฺคาหกานํ ตีณงฺคานิ. กตมานิ ทายกสฺส ตีณงฺคานิ? อิธ, ภิกฺขเว, ทายโก ปุพฺเพว ทานา สุมโน โหติ, ททํ จิตฺตํ ปสาเทติ, ทตฺวา อตฺตมโน โหติ. อิมานิ ทายกสฺส ตีณงฺคานิ.

‘‘กตมานิ ปฏิคฺคาหกานํ ตีณงฺคานิ? อิธ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคาหกา วีตราคา วา โหนฺติ ราควินยาย วา ปฏิปนฺนา, วีตโทสา วา โหนฺติ โทสวินยาย วา ปฏิปนฺนา, วีตโมหา วา โหนฺติ โมหวินยาย วา ปฏิปนฺนา. อิมานิ ปฏิคฺคาหกานํ ตีณงฺคานิ. อิติ ทายกสฺส ตีณงฺคานิ, ปฏิคฺคาหกานํ ตีณงฺคานิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ฉฬงฺคสมนฺนาคตา ทกฺขิณา โหติ.

‘‘เอวํ ฉฬงฺคสมนฺนาคตาย, ภิกฺขเว, ทกฺขิณาย น สุกรํ ปุฺสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตโก ปุฺาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตตี’ติ. อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย [อสงฺเขยฺโย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อปฺปเมยฺโย มหาปุฺกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานี’ติ วา. อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอวํ ฉฬงฺคสมนฺนาคตาย ทกฺขิณาย น สุกรํ ปุฺสฺส ปมาณํ คเหตุํ – ‘เอตฺตโก ปุฺาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตตี’ติ. อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาปุฺกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ.

[เป. ว. ๓๐๕ เปตวตฺถุมฺหิปิ] ‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมโน, ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปุฺสฺส (ก.)] สมฺปทา.

‘‘วีตราคา [วีตราโค (สฺยา. กํ. ก.) เอวํ อนนฺตรปทตฺตเยปิ] วีตโทสา, วีตโมหา อนาสวา;

เขตฺตํ ยฺสฺส สมฺปนฺนํ, สฺตา พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา. กํ.)].

‘‘สยํ อาจมยิตฺวาน, ทตฺวา สเกหิ ปาณิภิ;

อตฺตโน ปรโต เจโส, ยฺโ โหติ มหปฺผโล.

[อ. นิ. ๔.๔๐] ‘‘เอวํ ยชิตฺวา เมธาวี, สทฺโธ มุตฺเตน เจตสา;

อพฺยาปชฺชํ สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ. สตฺตมํ;

๘. อตฺตการีสุตฺตํ

๓๘. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – ‘นตฺถิ อตฺตกาโร, นตฺถิ ปรกาโร’’’ติ. ‘‘มาหํ, พฺราหฺมณ, เอวํวาทึ เอวํทิฏฺึ อทฺทสํ วา อสฺโสสึ วา. กถฺหิ นาม สยํ อภิกฺกมนฺโต, สยํ ปฏิกฺกมนฺโต เอวํ วกฺขติ – ‘นตฺถิ อตฺตกาโร, นตฺถิ ปรกาโร’’’ติ!

‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, อตฺถิ อารพฺภธาตู’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘อารพฺภธาตุยา สติ อารพฺภวนฺโต สตฺตา ปฺายนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อารพฺภธาตุยา สติ อารพฺภวนฺโต สตฺตา ปฺายนฺติ, อยํ สตฺตานํ อตฺตกาโร อยํ ปรกาโร’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, อตฺถิ นิกฺกมธาตุ…เป… อตฺถิ ปรกฺกมธาตุ… อตฺถิ ถามธาตุ… อตฺถิ ิติธาตุ… อตฺถิ อุปกฺกมธาตู’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘อุปกฺกมธาตุยา สติ อุปกฺกมวนฺโต สตฺตา ปฺายนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อุปกฺกมธาตุยา สติ อุปกฺกมวนฺโต สตฺตา ปฺายนฺติ, อยํ สตฺตานํ อตฺตกาโร อยํ ปรกาโร’’.

‘‘มาหํ, พฺราหฺมณ [ตํ กึ มฺสิ พฺราหฺมณ มาหํ (ก.)], เอวํวาทึ เอวํทิฏฺึ อทฺทสํ วา อสฺโสสึ วา. กถฺหิ นาม สยํ อภิกฺกมนฺโต สยํ ปฏิกฺกมนฺโต เอวํ วกฺขติ – ‘นตฺถิ อตฺตกาโร นตฺถิ ปรกาโร’’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ! อฏฺมํ.

๙. นิทานสุตฺตํ

๓๙. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย. กตมานิ ตีณิ? โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, โทโส นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, โมโห นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย. น, ภิกฺขเว, โลภา อโลโภ สมุเทติ; อถ โข, ภิกฺขเว, โลภา โลโภว สมุเทติ. น, ภิกฺขเว, โทสา อโทโส สมุเทติ; อถ โข, ภิกฺขเว, โทสา โทโสว สมุเทติ. น, ภิกฺขเว, โมหา อโมโห สมุเทติ; อถ โข, ภิกฺขเว, โมหา โมโหว สมุเทติ. น, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย. อถ โข, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน นิรโย ปฺายติ ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยาย. กตมานิ ตีณิ? อโลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, อโทโส นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย, อโมโห นิทานํ กมฺมานํ สมุทยาย. น, ภิกฺขเว, อโลภา โลโภ สมุเทติ; อถ โข, ภิกฺขเว, อโลภา อโลโภว สมุเทติ. น, ภิกฺขเว, อโทสา โทโส สมุเทติ; อถ โข, ภิกฺขเว, อโทสา อโทโสว สมุเทติ. น, ภิกฺขเว, อโมหา โมโห สมุเทติ; อถ โข, ภิกฺขเว, อโมหา อโมโหว สมุเทติ. น, ภิกฺขเว, อโลภเชน กมฺเมน อโทสเชน กมฺเมน อโมหเชน กมฺเมน นิรโย ปฺายติ ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย. อถ โข, ภิกฺขเว, อโลภเชน กมฺเมน อโทสเชน กมฺเมน อโมหเชน กมฺเมน เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ นิทานานิ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติ. นวมํ.

๑๐. กิมิลสุตฺตํ

๔๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กิมิลายํ วิหรติ นิจุลวเน. อถ โข อายสฺมา กิมิโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา กิมิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม น จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, กิมิล, ตถาคเต ปรินิพฺพุเต ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, ธมฺเม อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สงฺเฆ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สิกฺขาย อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, อปฺปมาเท อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, ปฏิสนฺถาเร [ปฏิสนฺธาเร (ก.) อ. นิ. ๕.๒๐๑; ๗.๕๙] อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา. อยํ โข, กิมิล, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม น จิรฏฺิติโก โหติ’’.

‘‘โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, กิมิล, ตถาคเต ปรินิพฺพุเต ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, ธมฺเม สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สงฺเฆ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สิกฺขาย สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, อปฺปมาเท สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, ปฏิสนฺถาเร สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา. อยํ โข, กิมิล, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ. ทสมํ.

๑๑. ทารุกฺขนฺธสุตฺตํ

๔๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คิชฺฌกูฏา ปพฺพตา โอโรหนฺโต อทฺทส อฺตรสฺมึ ปเทเส มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ. ทิสฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน, อาวุโส, ตุมฺเห อมุํ มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ.

‘‘อากงฺขมาโน, อาวุโส, ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อมุํ ทารุกฺขนฺธํ ปถวีตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถิ, อาวุโส, อมุมฺหิ ทารุกฺขนฺเธ ปถวีธาตุ, ยํ นิสฺสาย ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อมุํ ทารุกฺขนฺธํ ปถวีตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย. อากงฺขมาโน, อาวุโส, ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อมุํ ทารุกฺขนฺธํ อาโปตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย …เป… เตโชตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย… วาโยตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย… สุภนฺตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย… อสุภนฺตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถิ, อาวุโส, อมุมฺหิ ทารุกฺขนฺเธ อสุภธาตุ, ยํ นิสฺสาย ภิกฺขุ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อมุํ ทารุกฺขนฺธํ อสุภนฺตฺเวว อธิมุจฺเจยฺยา’’ติ. เอกาทสมํ.

๑๒. นาคิตสุตฺตํ

๔๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน อิจฺฉานงฺคลํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. อสฺโสสุํ โข อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต อิจฺฉานงฺคลํ อนุปฺปตฺโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ…เป… อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ. อถ โข อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย เยน อิจฺฉานงฺคลวนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺเก อฏฺํสุ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา.

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคิโต ภควโต อุปฏฺาโก โหติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก ปน เต, นาคิต, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘เอเต, ภนฺเต, อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย พหิทฺวารโกฏฺเก ิตา ภควนฺตํเยว อุทฺทิสฺส ภิกฺขุสงฺฆฺจา’’ติ. ‘‘มาหํ, นาคิต, ยเสน สมาคมํ, มา จ มยา ยโส. โย โข, นาคิต, นยิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อสฺส อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, โส ตํ มีฬฺหสุขํ มิทฺธสุขํ ลาภสกฺการสิโลกสุขํ สาทิเยยฺยา’’ติ.

‘‘อธิวาเสตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา; อธิวาเสตุ, สุคโต; อธิวาสนกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. เยน เยเนว ทานิ, ภนฺเต, ภควา คมิสฺสติ, ตนฺนินฺนาว ภวิสฺสนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ยถานินฺนํ อุทกานิ ปวตฺตนฺติ; เอวเมวํ โข, ภนฺเต, เยน เยเนว ทานิ ภควา คมิสฺสติ, ตนฺนินฺนาว ภวิสฺสนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ, ภนฺเต, ภควโต สีลปฺาณ’’นฺติ.

‘‘มาหํ, นาคิต, ยเสน สมาคมํ, มา จ มยา ยโส. โย โข, นาคิต, นยิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อสฺส อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, โส ตํ มีฬฺหสุขํ มิทฺธสุขํ ลาภสกฺการสิโลกสุขํ สาทิเยยฺย.

‘‘อิธาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ คามนฺตวิหารึ สมาหิตํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิมํ อายสฺมนฺตํ [อารามิโก วา ฆฏฺเฏสฺสติ สมณุทฺเทโส วา, ตํ ตมฺหา (ก. สี. ปี.) อารามิโก วา ฆฏฺเฏสฺสติ สมณุทฺเทโส วา, โส ตํ ตมฺหา (ก. สี.) อ. นิ. ๘.๘๖ ปสฺสิตพฺพํ] อารามิโก วา อุปฏฺหิสฺสติ สมณุทฺเทโส วา ตํ ตมฺหา [อารามิโก วา ฆฏฺเฏสฺสติ สมณุทฺเทโส วา, ตํ ตมฺหา (ก. สี. ปี.) อารามิโก วา ฆฏฺเฏสฺสติ สมณุทฺเทโส วา, โส ตํ ตมฺหา (ก. สี.) อ. นิ. ๘.๘๖ ปสฺสิตพฺพํ] สมาธิมฺหา จาเวสฺสตี’ติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน น อตฺตมโน โหมิ คามนฺตวิหาเรน. อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ อรฺเ ปจลายมานํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิ อยมายสฺมา อิมํ นิทฺทากิลมถํ ปฏิวิโนเทตฺวา อรฺสฺํเยว มนสิ กริสฺสติ เอกตฺต’นฺติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ อรฺเ อสมาหิตํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิ อยมายสฺมา อสมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาทหิสฺสติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ อนุรกฺขิสฺสตี’ติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ อรฺเ สมาหิตํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิ อยมายสฺมา อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิโมเจสฺสติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อนุรกฺขิสฺสตี’ติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ คามนฺตวิหารึ ลาภึ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. โส ตํ ลาภสกฺการสิโลกํ นิกามยมาโน ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ ริฺจติ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานึ โอสริตฺวา วาสํ กปฺเปติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน น อตฺตมโน โหมิ คามนฺตวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ ลาภึ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. โส ตํ ลาภสกฺการสิโลกํ ปฏิปณาเมตฺวา น ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ น ริฺจติ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน. ยสฺมาหํ, นาคิต, สมเย อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน น กฺจิ [น กิฺจิ (สี. ปี. ก.)] ปสฺสามิ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา, ผาสุ เม, นาคิต, ตสฺมึ สมเย โหติ อนฺตมโส อุจฺจารปสฺสาวกมฺมายา’’ติ. ทฺวาทสมํ.

เทวตาวคฺโค [เสกฺขปริหานิยวคฺโค (สฺยา.)] จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

เสขา ทฺเว อปริหานิ, โมคฺคลฺลาน วิชฺชาภาคิยา;

วิวาททานตฺตการี นิทานํ, กิมิลทารุกฺขนฺเธน นาคิโตติ.

๕. ธมฺมิกวคฺโค

๑. นาคสุตฺตํ

๔๓. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปุพฺพาราโม มิคารมาตุปาสาโท เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวาวิหารายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ เยน ปุพฺพาราโม มิคารมาตุปาสาโท เตนุปสงฺกมิ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปุพฺพโกฏฺโก เตนุปสงฺกมิสฺสาม คตฺตานิ ปริสิฺจิตุ’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ เยน ปุพฺพโกฏฺโก เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. ปุพฺพโกฏฺเก คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน.

เตน โข ปน สมเยน รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส เสโต นาม นาโค มหาตูริย [มหาตุริย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ตาฬิตวาทิเตน ปุพฺพโกฏฺกา ปจฺจุตฺตรติ. อปิสฺสุ ตํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘‘อภิรูโป วต, โภ, รฺโ นาโค; ทสฺสนีโย วต, โภ, รฺโ นาโค; ปาสาทิโก วต, โภ, รฺโ นาโค; กายุปปนฺโน วต, โภ, รฺโ นาโค’’ติ! เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘หตฺถิเมว นุ โข, ภนฺเต, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ [มหนฺตํ พฺรุหนฺตํ (สี.), มหตฺตํ พฺรหฺมตฺตํ (ก.)] กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ, อุทาหุ อฺมฺปิ กฺจิ [กิฺจิ (ก.)] มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’’’ติ? ‘‘หตฺถิมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ! อสฺสมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… โคณมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… อุรคมฺปิ [นาคมฺปิ (ก.)] โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… รุกฺขมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป… มนุสฺสมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ! อปิ จ, อุทายิ, โย สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อาคุํ น กโรติ กาเยน วาจาย มนสา, ตมหํ ‘นาโค’ติ พฺรูมี’’ติ.

‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตํ จิทํ, ภนฺเต, ภควตา – อปิ จ, อุทายิ, โย สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อาคุํ น กโรติ กาเยน วาจาย มนสา, ตมหํ ‘นาโค’ติ พฺรูมี’’ติ. อิทฺจ ปนาหํ, ภนฺเต, ภควตา สุภาสิตํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทามิ –

‘‘มนุสฺสภูตํ สมฺพุทฺธํ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;

อิริยมานํ พฺรหฺมปเถ, จิตฺตสฺสูปสเม รตํ.

‘‘ยํ มนุสฺสา นมสฺสนฺติ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ;

เทวาปิ ตํ [นํ (สี. ปี.)] นมสฺสนฺติ, อิติ เม อรหโต สุตํ.

‘‘สพฺพสํโยชนาตีตํ, วนา นิพฺพน [นิพฺพาน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มาคตํ;

กาเมหิ เนกฺขมฺมรตํ [เนกฺขมฺเม รตํ (ก. สี.)], มุตฺตํ เสลาว กฺจนํ.

‘‘สพฺเพ อจฺจรุจี นาโค, หิมวาฺเ สิลุจฺจเย;

สพฺเพสํ นาคนามานํ, สจฺจนาโม อนุตฺตโร.

‘‘นาคํ โว [เต (ก.)] กิตฺตยิสฺสามิ, น หิ อาคุํ กโรติ โส;

โสรจฺจํ อวิหึสา จ, ปาทา นาคสฺส เต ทุเว.

‘‘ตโป จ พฺรหฺมจริยํ, จรณา นาคสฺส ตฺยาปเร;

สทฺธาหตฺโถ มหานาโค, อุเปกฺขาเสตทนฺตวา.

‘‘สติ คีวา สิโร ปฺา, วีมํสา ธมฺมจินฺตนา;

ธมฺมกุจฺฉิสมาตโป, วิเวโก ตสฺส วาลธิ.

‘‘โส ฌายี อสฺสาสรโต, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต [อชฺฌตฺตุปสมาหิโต (สฺยา. ก.)];

คจฺฉํ สมาหิโต นาโค, ิโต นาโค สมาหิโต.

‘‘เสยฺยํ สมาหิโต นาโค, นิสินฺโนปิ สมาหิโต;

สพฺพตฺถ สํวุโต นาโค, เอสา นาคสฺส สมฺปทา.

‘‘ภุฺชติ อนวชฺชานิ, สาวชฺชานิ น ภุฺชติ;

ฆาสมจฺฉาทนํ ลทฺธา, สนฺนิธึ ปริวชฺชยํ.

‘‘สํโยชนํ อณุํ ถูลํ, สพฺพํ เฉตฺวาน พนฺธนํ;

เยน เยเนว คจฺฉติ, อนเปกฺโขว คจฺฉติ.

‘‘ยถาปิ อุทเก ชาตํ, ปุณฺฑรีกํ ปวฑฺฒติ;

นุปลิปฺปติ [น อุปลิปฺปติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), นุปลิมฺปติ (ก.)] โตเยน, สุจิคนฺธํ มโนรมํ.

‘‘ตเถว โลเก สุชาโต, พุทฺโธ โลเก วิหรติ;

นุปลิปฺปติ โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา.

‘‘มหาคินีว ชลิโต [มหาคฺคินิ ปชฺชลิโต (สี. สฺยา. กํ.)], อนาหารูปสมฺมติ;

สงฺขาเรสูปสนฺเตสุ [องฺคาเรสุ จ สนฺเตสุ (ก.)], นิพฺพุโตติ ปวุจฺจติ.

‘‘อตฺถสฺสายํ วิฺาปนี, อุปมา วิฺูหิ เทสิตา;

วิฺสฺสนฺติ [วิฺิสฺสนฺติ (ก.)] มหานาคา, นาคํ นาเคน เทสิตํ.

‘‘วีตราโค วีตโทโส, วีตโมโห อนาสโว;

สรีรํ วิชหํ นาโค, ปรินิพฺพิสฺสติ [ปรินิพฺพาติ (ปี. ก.)] อนาสโว’’ติ. ปมํ;

๒. มิคสาลาสุตฺตํ

๔๔. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข มิคสาลา [มิคสาณา (ก.) อ. นิ. ๑๐.๗๕] อุปาสิกา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข มิคสาลา อุปาสิกา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –

‘‘กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปรายํ? ปิตา เม, ภนฺเต, ปุราโณ พฺรหฺมจารี อโหสิ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. โส กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิสตฺโต [สกทาคามิปตฺโต (ก. สฺยา. ปี.)] ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. เปตฺเตยฺโยปิ [เปตฺตยฺโย ปิโย (สี. ปี. ก.), ปิตุ ปิโย (สฺยา. กํ.)] เม, ภนฺเต, อิสิทตฺโต อพฺรหฺมจารี อโหสิ สทารสนฺตุฏฺโ. โสปิ กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิปตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘เอวํ โข ปเนตํ, ภคินิ, ภควตา พฺยากต’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ. อถ โข, ภนฺเต, มิคสาลา อุปาสิกา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข, ภนฺเต, มิคสาลา อุปาสิกา มํ เอตทโวจ – ‘กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปรายํ. ปิตา เม, ภนฺเต, ปุราโณ พฺรหฺมจารี อโหสิ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. โส กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิปตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. เปตฺเตยฺโยปิ เม, ภนฺเต, อิสิทตฺโต อพฺรหฺมจารี อโหสิ สทารสนฺตุฏฺโ. โสปิ กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามิปตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปราย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, มิคสาลํ อุปาสิกํ เอตทโวจํ – ‘เอวํ โข ปเนตํ, ภคินิ, ภควตา พฺยากต’’’นฺติ.

‘‘กา จานนฺท, มิคสาลา อุปาสิกา พาลา อพฺยตฺตา อมฺมกา อมฺมกสฺา [อมฺพกา อมฺพกปฺา (สี. ปี.), อมฺพกา อมฺพกสฺา (สฺยา. กํ.) อ. นิ. ๑๐.๗๕ ปสฺสิตพฺพํ], เก จ ปุริสปุคฺคลปโรปริยาเณ? ฉยิเม, อานนฺท, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.

‘‘กตเม ฉ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โสรโต โหติ สุขสํวาโส, อภินนฺทนฺติ สพฺรหฺมจารี เอกตฺตวาเสน. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ โน วิเสสาย, หานคามีเยว โหติ โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โสรโต โหติ สุขสํวาโส, อภินนฺทนฺติ สพฺรหฺมจารี เอกตฺตวาเสน. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ โน หานาย, วิเสสคามีเยว โหติ โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ – ‘อิมสฺสปิ เตว ธมฺมา อปรสฺสปิ เตว ธมฺมา, กสฺมา เตสํ เอโก หีโน เอโก ปณีโต’ติ! ตฺหิ เตสํ, อานนฺท, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล โสรโต โหติ สุขสํวาโส, อภินนฺทนฺติ สพฺรหฺมจารี เอกตฺตวาเสน, ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. อยํ, อานนฺท, ปุคฺคโล อมุนา ปุริเมน ปุคฺคเลน อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมํ หานนฺท, ปุคฺคลํ ธมฺมโสโต นิพฺพหติ, ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคเตน! ตสฺมาติหานนฺท, มา ปุคฺคเลสุ ปมาณิกา อหุวตฺถ; มา ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหิตฺถ. ขฺติ หานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหนฺโต. อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ, โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต [อวิคโต (ก.)] โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส โลภธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ โน วิเสสาย, หานคามีเยว โหติ โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส โลภธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ…เป… โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ…เป… โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘อิธ, ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส วจีสงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ…เป… สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ โน วิเสสาย, หานคามีเยว โหติ โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส วจีสงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ โน หานาย, วิเสสคามีเยว โหติ โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ – ‘อิมสฺสปิ เตว ธมฺมา, อปรสฺสปิ เตว ธมฺมา. กสฺมา เตสํ เอโก หีโน, เอโก ปณีโต’ติ? ตฺหิ เตสํ, อานนฺท, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, ยสฺส ปุคฺคลสฺส โกธมาโน อธิคโต โหติ, สมเยน สมยฺจสฺส วจีสงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. อยํ, อานนฺท, ปุคฺคโล อมุนา ปุริเมน ปุคฺคเลน อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมํ หานนฺท, ปุคฺคลํ ธมฺมโสโต นิพฺพหติ. ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคเตน! ตสฺมาติหานนฺท, มา ปุคฺคเลสุ ปมาณิกา อหุวตฺถ; มา ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหิตฺถ. ขฺติ หานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหนฺโต. อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ, โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘กา จานนฺท, มิคสาลา อุปาสิกา พาลา อพฺยตฺตา อมฺมกา อมฺมกสฺา, เก จ ปุริสปุคฺคลปโรปริยาเณ! อิเม โข, อานนฺท, ฉ ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.

‘‘ยถารูเปน, อานนฺท, สีเลน ปุราโณ สมนฺนาคโต อโหสิ, ตถารูเปน สีเลน อิสิทตฺโต สมนฺนาคโต อภวิสฺส. นยิธ ปุราโณ อิสิทตฺตสฺส คติมฺปิ อฺสฺส. ยถารูปาย จ, อานนฺท, ปฺาย อิสิทตฺโต สมนฺนาคโต อโหสิ, ตถารูปาย ปฺาย ปุราโณ สมนฺนาคโต อภวิสฺส. นยิธ อิสิทตฺโต ปุราณสฺส คติมฺปิ อฺสฺส. อิติ โข, อานนฺท, อิเม ปุคฺคลา อุโภ เอกงฺคหีนา’’ติ. ทุติยํ.

๓. อิณสุตฺตํ

๔๕. ‘‘ทาลิทฺทิยํ [ทาฬิทฺทิยํ (สี.)], ภิกฺขเว, ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท [ทฬิทฺโท (สี.)] อสฺสโก อนาฬฺหิโก [อนทฺธิโก (สฺยา. กํ.)] อิณํ อาทิยติ, อิณาทานมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก อิณํ อาทิยิตฺวา วฑฺฒึ ปฏิสฺสุณาติ, วฑฺฒิปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก วฑฺฒึ ปฏิสฺสุณิตฺวา กาลาภตํ [กาลคตํ (ก.)] วฑฺฒึ น เทติ, โจเทนฺติปิ นํ; โจทนาปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก โจทิยมาโน น เทติ, อนุจรนฺติปิ นํ; อนุจริยาปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก อนุจริยมาโน น เทติ, พนฺธนฺติปิ นํ; พนฺธนมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ทาลิทฺทิยมฺปิ ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน, อิณาทานมฺปิ ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน, วฑฺฒิปิ ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน, โจทนาปิ ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน, อนุจริยาปิ ทุกฺขา โลกสฺมึ กามโภคิโน, พนฺธนมฺปิ ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺปํ นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริยํ นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสฺส วินเย ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก.

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก สทฺธาย อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิริยา อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โอตฺตปฺเป อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วีริเย อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปฺาย อสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. อิทมสฺส อิณาทานสฺมึ วทามิ.

‘‘โส ตสฺส กายทุจฺจริตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ [ปทหติ (ก.)]. ‘มา มํ ชฺู’ติ อิจฺฉติ, ‘มา มํ ชฺู’ติ สงฺกปฺปติ, ‘มา มํ ชฺู’ติ วาจํ ภาสติ, ‘มา มํ ชฺู’ติ กาเยน ปรกฺกมติ. โส ตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ…เป… โส ตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ…เป… ‘มา มํ ชฺู’ติ กาเยน ปรกฺกมติ. อิทมสฺส วฑฺฒิยา วทามิ.

‘‘ตเมนํ เปสลา สพฺรหฺมจารี เอวมาหํสุ – ‘อยฺจ โส อายสฺมา เอวํการี เอวํสมาจาโร’ติ. อิทมสฺส โจทนาย วทามิ.

‘‘ตเมนํ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สุฺาคารคตํ วา วิปฺปฏิสารสหคตา ปาปกา อกุสลวิตกฺกา สมุทาจรนฺติ. อิทมสฺส อนุจริยาย วทามิ.

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรยพนฺธเน วา พชฺฌติ ติรจฺฉานโยนิพนฺธเน วา. นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกพนฺธนมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํทารุณํ เอวํกฏุกํ [เอวํทุกฺขํ (สฺยา. กํ. ก.)] เอวํอนฺตรายกรํ อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมาย, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, นิรยพนฺธนํ วา ติรจฺฉานโยนิพนฺธนํ วา’’ติ.

‘‘ทาลิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก, อิณาทานฺจ วุจฺจติ;

ทลิทฺโท อิณมาทาย, ภุฺชมาโน วิหฺติ.

‘‘ตโต อนุจรนฺติ นํ, พนฺธนมฺปิ นิคจฺฉติ;

เอตฺหิ พนฺธนํ ทุกฺขํ, กามลาภาภิชปฺปินํ.

‘‘ตเถว อริยวินเย, สทฺธา ยสฺส น วิชฺชติ;

อหิรีโก อโนตฺตปฺปี, ปาปกมฺมวินิพฺพโย.

‘‘กายทุจฺจริตํ กตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;

มโนทุจฺจริตํ กตฺวา, ‘มา มํ ชฺู’ติ อิจฺฉติ.

‘‘โส สํสปฺปติ [สงฺกปฺปติ (ก.)] กาเยน, วาจาย อุท เจตสา;

ปาปกมฺมํ ปวฑฺเฒนฺโต, ตตฺถ ตตฺถ ปุนปฺปุนํ.

‘‘โส ปาปกมฺโม ทุมฺเมโธ, ชานํ ทุกฺกฏมตฺตโน;

ทลิทฺโท อิณมาทาย, ภุฺชมาโน วิหฺติ.

‘‘ตโต อนุจรนฺติ นํ, สงฺกปฺปา มานสา ทุขา;

คาเม วา ยทิ วารฺเ, ยสฺส วิปฺปฏิสารชา.

‘‘โส ปาปกมฺโม ทุมฺเมโธ, ชานํ ทุกฺกฏมตฺตโน;

โยนิมฺตรํ คนฺตฺวา, นิรเย วาปิ พชฺฌติ.

‘‘เอตฺหิ พนฺธนํ ทุกฺขํ, ยมฺหา ธีโร ปมุจฺจติ;

ธมฺมลทฺเธหิ โภเคหิ, ททํ จิตฺตํ ปสาทยํ.

‘‘อุภยตฺถ กฏคฺคาโห, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;

เอวเมตํ คหฏฺานํ, จาโค ปุฺํ ปวฑฺฒติ.

‘‘ตเถว อริยวินเย, สทฺธา ยสฺส ปติฏฺิตา;

หิรีมโน จ โอตฺตปฺปี, ปฺวา สีลสํวุโต.

‘‘เอโส โข อริยวินเย, ‘สุขชีวี’ติ วุจฺจติ;

นิรามิสํ สุขํ ลทฺธา, อุเปกฺขํ อธิติฏฺติ.

‘‘ปฺจ นีวรเณ หิตฺวา, นิจฺจํ อารทฺธวีริโย;

ฌานานิ อุปสมฺปชฺช, เอโกทิ นิปโก สโต.

‘‘เอวํ ตฺวา ยถาภูตํ, สพฺพสํโยชนกฺขเย;

สพฺพโส อนุปาทาย, สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติ.

‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส, าณํ เจ โหติ ตาทิโน;

‘อกุปฺปา เม วิมุตฺตี’ติ, ภวสํโยชนกฺขเย.

‘‘เอตํ โข ปรมํ าณํ, เอตํ สุขมนุตฺตรํ;

อโสกํ วิรชํ เขมํ, เอตํ อานณฺยมุตฺตม’’นฺติ. ตติยํ;

๔. มหาจุนฺทสุตฺตํ

๔๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา มหาจุนฺโท เจตีสุ วิหรติ สยํชาติยํ [สหชาติยํ (สี. ปี.), สฺชาติยํ (สฺยา. กํ.)]. ตตฺร โข อายสฺมา มหาจุนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาจุนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหาจุนฺโท เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส, ธมฺมโยคา ภิกฺขู ฌายี ภิกฺขู อปสาเทนฺติ – ‘อิเม ปน ฌายิโนมฺหา, ฌายิโนมฺหาติ ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อวชฺฌายนฺติ [อปชฺฌายนฺติ (ม. นิ. ๑.๕๐๘)]. กิมิเม [กึ หิเม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ฌายนฺติ, กินฺติเม ฌายนฺติ, กถํ อิเม ฌายนฺตี’ติ? ตตฺถ ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ฌายี ภิกฺขู ธมฺมโยเค ภิกฺขู อปสาเทนฺติ – ‘อิเม ปน ธมฺมโยคมฺหา, ธมฺมโยคมฺหาติ อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ปากตินฺทฺริยา. กิมิเม ธมฺมโยคา, กินฺติเม ธมฺมโยคา, กถํ อิเม ธมฺมโยคา’ติ? ตตฺถ ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ธมฺมโยคา ภิกฺขู ธมฺมโยคานฺเว ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ, โน ฌายีนํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ. ตตฺถ ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ฌายี ภิกฺขู ฌายีนฺเว ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ, โน ธมฺมโยคานํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสนฺติ. ตตฺถ ฌายี จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, ธมฺมโยคา จ ภิกฺขู นปฺปสีทนฺติ, น จ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนา โหนฺติ พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘ตสฺมาติหาวุโส, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ธมฺมโยคา สมานา ฌายีนํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสิสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, อาวุโส, สิกฺขิตพฺพํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อจฺฉริยา เหเต, อาวุโส, ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ, เย อมตํ ธาตุํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรนฺติ. ตสฺมาติหาวุโส, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ฌายี สมานา ธมฺมโยคานํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ ภาสิสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, อาวุโส, สิกฺขิตพฺพํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อจฺฉริยา เหเต, อาวุโส, ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ เย คมฺภีรํ อตฺถปทํ ปฺาย อติวิชฺฌ ปสฺสนฺตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมสนฺทิฏฺิกสุตฺตํ

๔๗. อถ โข โมฬิยสีวโก [โมลิยสีวโก (สี. ปี.), โมฬิสีวโก (ก.)] ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โมฬิยสีวโก ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ?

‘‘เตน หิ, สีวก, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โลโภ’ติ ปชานาสิ – เอวมฺปิ โข, สีวก, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ…เป….

‘‘ตํ กึ มฺสิ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โลภธมฺมํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โทสธมฺมํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, สีวก, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหธมฺมํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ โมหธมฺโม’ติ ปชานาสิ – เอวํ โข, สีวก, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยสนฺทิฏฺิกสุตฺตํ

๔๘. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม’ติ, โภ โคตม, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ?

‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ราคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ราโค’ติ ปชานาสิ – เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ…เป….

‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ โมหํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กายสนฺโทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วจีสนฺโทสํ…เป… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ปชานาสี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘ยํ โข ตฺวํ, พฺราหฺมณ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ปชานาสิ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทสํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ มโนสนฺโทโส’ติ ปชานาสิ – เอวํ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหติ อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ฉฏฺํ.

๗. เขมสุตฺตํ

๔๙. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ เขโม อายสฺมา จ สุมโน สาวตฺถิยํ วิหรนฺติ อนฺธวนสฺมึ. อถ โข อายสฺมา จ เขโม อายสฺมา จ สุมโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา เขโม ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อตฺถิ เม เสยฺโยติ วา อตฺถิ เม สทิโสติ วา อตฺถิ เม หีโนติ วา’’’ติ. อิทมโวจายสฺมา เขโม. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข อายสฺมา เขโม ‘‘สมนุฺโ เม สตฺถา’’ติ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข อายสฺมา สุมโน อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต เขเม ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘นตฺถิ เม เสยฺโยติ วา นตฺถิ เม สทิโสติ วา นตฺถิ เม หีโนติ วา’’’ติ. อิทมโวจายสฺมา สุมโน. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข อายสฺมา สุมโน ‘‘สมนุฺโ เม สตฺถา’’ติ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ อายสฺมนฺเต จ เขเม อายสฺมนฺเต จ สุมเน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอวํ โข, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตา อฺํ พฺยากโรนฺติ. อตฺโถ จ วุตฺโต อตฺตา จ อนุปนีโต. อถ จ ปน อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา หสมานกา [หสมานกํ (ก.) มหาว. ๒๔๕] มฺเ อฺํ พฺยากโรนฺติ. เต ปจฺฉา วิฆาตํ อาปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘น อุสฺเสสุ น โอเมสุ, สมตฺเต โนปนียเร [โนปนิยฺยเร (สฺยา. ปี. ก.)];

ขีณา ชาติ วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, จรนฺติ สํโยชนวิปฺปมุตฺตา’’ติ. สตฺตมํ;

๘. อินฺทฺริยสํวรสุตฺตํ

๕๐. [อ. นิ. ๕.๒๔, ๑๖๘; ๒.๗.๖๕] ‘‘อินฺทฺริยสํวเร, ภิกฺขเว, อสติ อินฺทฺริยสํวรวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สีลํ; สีเล อสติ สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, เผคฺคุปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยสํวเร อสติ อินฺทฺริยสํวรวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สีลํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘อินฺทฺริยสํวเร, ภิกฺขเว, สติ อินฺทฺริยสํวรสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สีลํ; สีเล สติ สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, เผคฺคุปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยสํวเร สติ อินฺทฺริยสํวรสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สีลํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. อานนฺทสุตฺตํ

๕๑. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อสฺสุตฺเจว ธมฺมํ สุณาติ, สุตา จสฺส ธมฺมา น สมฺโมสํ คจฺฉนฺติ, เย จสฺส ธมฺมา ปุพฺเพ เจตสา สมฺผุฏฺปุพฺพา เต จ สมุทาจรนฺติ, อวิฺาตฺจ วิชานาตี’’ติ? ‘‘อายสฺมา โข อานนฺโท พหุสฺสุโต. ปฏิภาตุ อายสฺมนฺตํเยว อานนฺท’’นฺติ. ‘‘เตนหาวุโส สาริปุตฺต, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ วาเจติ, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. ยสฺมึ อาวาเส เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํ อุเปติ. เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส กฺวตฺโถ’ติ? เต ตสฺส อายสฺมโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อสฺสุตฺเจว ธมฺมํ สุณาติ, สุตา จสฺส ธมฺมา น สมฺโมสํ คจฺฉนฺติ, เย จสฺส ธมฺมา ปุพฺเพ เจตสา สมฺผุฏฺปุพฺพา เต จ สมุทาจรนฺติ, อวิฺาตฺจ วิชานาตี’’ติ.

‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยาว สุภาสิตํ จิทํ อายสฺมตา อานนฺเทน. อิเมหิ จ มยํ ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ธาเรม. อายสฺมา หิ อานนฺโท ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ วาเจติ, อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, อายสฺมา อานนฺโท ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. อายสฺมา อานนฺโท ยสฺมึ อาวาเส เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํ อุเปติ. เต อายสฺมา อานนฺโท กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส กฺวตฺโถ’ติ? เต อายสฺมโต อานนฺทสฺส อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. ขตฺติยสุตฺตํ

๕๒. อถ โข ชาณุสฺโสณิ [ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ขตฺติยา, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘ขตฺติยา โข, พฺราหฺมณ, โภคาธิปฺปายา ปฺูปวิจารา พลาธิฏฺานา ปถวีภินิเวสา อิสฺสริยปริโยสานา’’ติ.

‘‘พฺราหฺมณา ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา โข, พฺราหฺมณ, โภคาธิปฺปายา ปฺูปวิจารา มนฺตาธิฏฺานา ยฺาภินิเวสา พฺรหฺมโลกปริโยสานา’’ติ.

‘‘คหปติกา ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘คหปติกา โข, พฺราหฺมณ, โภคาธิปฺปายา ปฺูปวิจารา สิปฺปาธิฏฺานา กมฺมนฺตาภินิเวสา นิฏฺิตกมฺมนฺตปริโยสานา’’ติ.

‘‘อิตฺถี ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘อิตฺถี โข, พฺราหฺมณ, ปุริสาธิปฺปายา อลงฺการูปวิจารา ปุตฺตาธิฏฺานา อสปตีภินิเวสา อิสฺสริยปริโยสานา’’ติ.

‘‘โจรา ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘โจรา โข, พฺราหฺมณ, อาทานาธิปฺปายา คหนูปวิจารา สตฺถาธิฏฺานา อนฺธการาภินิเวสา อทสฺสนปริโยสานา’’ติ.

‘‘สมณา ปน, โภ โคตม, กึอธิปฺปายา, กึอุปวิจารา, กึอธิฏฺานา, กึอภินิเวสา, กึปริโยสานา’’ติ? ‘‘สมณา โข, พฺราหฺมณ, ขนฺติโสรจฺจาธิปฺปายา ปฺูปวิจารา สีลาธิฏฺานา อากิฺจฺาภินิเวสา [อกิฺจนาภินิเวสา (สฺยา. ก.)] นิพฺพานปริโยสานา’’ติ.

‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ขตฺติยานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ อธิปฺปายฺจ อุปวิจารฺจ อธิฏฺานฺจ อภินิเวสฺจ ปริโยสานฺจ. พฺราหฺมณานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ…เป… คหปตีนมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ… อิตฺถีนมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ… โจรานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ … สมณานมฺปิ ภวํ โคตโม ชานาติ อธิปฺปายฺจ อุปวิจารฺจ อธิฏฺานฺจ อภินิเวสฺจ ปริโยสานฺจ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.

๑๑. อปฺปมาทสุตฺตํ

๕๓. อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ โคตม, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ.

‘‘กตโม ปน, โภ โคตม, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ? ‘‘อปฺปมาโท โข, พฺราหฺมณ, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’.

‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ยานิ กานิจิ ชงฺคลานํ [ชงฺคมานํ (สี. ปี.) อ. นิ. ๑๐.๑๕; ม. นิ. ๑.๓๐๐] ปาณานํ ปทชาตานิ, สพฺพานิ ตานิ หตฺถิปเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ; หตฺถิปทํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ มหนฺตตฺเตน. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อปฺปมาโท เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก.

‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, กูฏาคารสฺส ยา กาจิ โคปานสิโย สพฺพา ตา กูฏงฺคมา กูฏนินฺนา กูฏสโมสรณา, กูฏํ ตาสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ …เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ปพฺพชลายโก ปพฺพชํ [พพฺพชลายโก พพฺพชํ (สี. ปี.)] ลายิตฺวา อคฺเค คเหตฺวา โอธุนาติ นิธุนาติ นิจฺฉาเทติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, อมฺพปิณฺฑิยา วณฺฏจฺฉินฺนาย ยานิ กานิจิ อมฺพานิ วณฺฏูปนิพนฺธนานิ สพฺพานิ ตานิ ตทนฺวยานิ ภวนฺติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, เย เกจิ ขุทฺทราชาโน [กุฑฺฑราชาโน (สี. สฺยา. อฏฺ.), กุทฺทราชาโน (ปี.) อ. นิ. ๑๐.๑๕] สพฺเพเต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา [อนุยุตฺตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภวนฺติ, ราชา เตสํ จกฺกวตฺตี อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ยา กาจิ ตารกรูปานํ ปภา สพฺพา ตา จนฺทสฺส ปภาย กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, จนฺทปฺปภา ตาสํ อคฺคมกฺขายติ. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อปฺปมาโท เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก.

‘‘อยํ โข, พฺราหฺมณ, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. เอกาทสมํ.

๑๒. ธมฺมิกสุตฺตํ

๕๔. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ธมฺมิโก ชาติภูมิยํ อาวาสิโก โหติ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตสุ อาวาเสสุ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ [น สณฺหนฺติ (สี.)], ริฺจนฺติ อาวาสํ.

อถ โข ชาติภูมกานํ [ชาติภูมิกานํ (สฺยา. ปี. ก.)] อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยามา’’ติ.

อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยน อายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก อิมมฺหา อาวาสา; อลํ เต อิธ วาเสนา’’ติ. อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ตมฺหา อาวาสา อฺํ อาวาสํ อคมาสิ. ตตฺรปิ สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ.

อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยามา’’ติ.

อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยนายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก อิมมฺหาปิ อาวาสา; อลํ เต อิธ วาเสนา’’ติ. อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ตมฺหาปิ อาวาสา อฺํ อาวาสํ อคมาสิ. ตตฺรปิ สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหึสติ วิตุทติ โรเสติ วาจาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ.

อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาสํ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺนฺติ, ริฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ…เป…. ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยาม สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ. อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยนายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ. อถ โข อายสฺมโต ธมฺมิกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปพฺพาชิโต โขมฺหิ ชาติภูมเกหิ อุปาสเกหิ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหิ. กหํ นุ โข ทานิ คจฺฉามี’’ติ? อถ โข อายสฺมโต ธมฺมิกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ปตฺตจีวรมาทาย เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน เยน ราชคหํ คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อาคจฺฉสี’’ติ? ‘‘ปพฺพาชิโต อหํ, ภนฺเต, ชาติภูมเกหิ อุปาสเกหิ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ. ‘‘อลํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, กึ เต อิมินา, ยํ ตํ ตโต ตโต ปพฺพาเชนฺติ, โส ตฺวํ ตโต ตโต ปพฺพาชิโต มเมว สนฺติเก อาคจฺฉสิ’’.

‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สามุทฺทิกา วาณิชา ตีรทสฺสึ สกุณํ คเหตฺวา นาวาย สมุทฺทํ อชฺโฌคาหนฺติ. เต อตีรทกฺขิณิยา [อตีรทสฺสนิยา (สฺยา.), อตีรทสฺสิยา (ก.)] นาวาย ตีรทสฺสึ สกุณํ มุฺจนฺติ. โส คจฺฉเตว ปุรตฺถิมํ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิสํ, คจฺฉติ อุตฺตรํ ทิสํ, คจฺฉติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คจฺฉติ อุทฺธํ, คจฺฉติ อนุทิสํ. สเจ โส สมนฺตา ตีรํ ปสฺสติ, ตถาคตโกว [ตถาคโต (ก.) ที. นิ. ๑.๔๙๗ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ. สเจ ปน โส สมนฺตา ตีรํ น ปสฺสติ ตเมว นาวํ ปจฺจาคจฺฉติ. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, ยํ ตํ ตโต ตโต ปพฺพาเชนฺติ โส ตฺวํ ตโต ตโต ปพฺพาชิโต มเมว สนฺติเก อาคจฺฉสิ.

‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, รฺโ โกรพฺยสฺส สุปฺปติฏฺโ นาม นิคฺโรธราชา อโหสิ ปฺจสาโข สีตจฺฉาโย มโนรโม. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส ทฺวาทสโยชนานิ อภินิเวโส อโหสิ, ปฺจ โยชนานิ มูลสนฺตานกานํ. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส ตาว มหนฺตานิ ผลานิ อเหสุํ; เสยฺยถาปิ นาม อาฬฺหกถาลิกา. เอวมสฺส สาทูนิ ผลานิ อเหสุํ; เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทํ มธุํ อเนลกํ. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส เอกํ ขนฺธํ ราชา ปริภุฺชติ สทฺธึ อิตฺถาคาเรน, เอกํ ขนฺธํ พลกาโย ปริภุฺชติ, เอกํ ขนฺธํ เนคมชานปทา ปริภุฺชนฺติ, เอกํ ขนฺธํ สมณพฺราหฺมณา ปริภุฺชนฺติ, เอกํ ขนฺธํ มิคา [มิคปกฺขิโน (สี. สฺยา. ปี.)] ปริภุฺชนฺติ. สุปฺปติฏฺสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส น โกจิ ผลานิ รกฺขติ, น จ สุทํ [น จ ปุน (ก.)] อฺมฺสฺส ผลานิ หึสนฺติ.

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อฺตโร ปุริโส สุปฺปติฏฺสฺส นิคฺโรธราชสฺส ยาวทตฺถํ ผลานิ ภกฺขิตฺวา สาขํ ภฺชิตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถาย เทวตาย เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยาว ปาโป มนุสฺโส [ยาว ปาปมนุสฺโส (สฺยา.), ยาวตา ปาปมนุสฺโส (ก.)], ยตฺร หิ นาม สุปฺปติฏฺสฺส นิคฺโรธราชสฺส ยาวทตฺถํ ผลานิ ภกฺขิตฺวา สาขํ ภฺชิตฺวา ปกฺกมิสฺสติ, ยํนูน สุปฺปติฏฺโ นิคฺโรธราชา อายตึ ผลํ น ทเทยฺยา’ติ. อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺโ นิคฺโรธราชา อายตึ ผลํ น อทาสิ.

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, ราชา โกรพฺโย เยน สกฺโก เทวานมินฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, มาริส, ชาเนยฺยาสิ สุปฺปติฏฺโ นิคฺโรธราชา ผลํ น เทตี’ติ? อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาเรสิ (สฺยา. ก.)], ยถา ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา สุปฺปติฏฺํ นิคฺโรธราชํ ปวตฺเตสิ [ปาเตสิ (สี. ปี.)] อุมฺมูลมกาสิ. อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถา เทวตา ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท เยน สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถา เทวตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สุปฺปติฏฺเ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถํ เทวตํ เอตทโวจ – ‘กึ นุ ตฺวํ, เทวเต, ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา เอกมนฺตํ ิตา’ติ? ‘ตถา หิ ปน เม, มาริส, ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติ. ‘อปิ นุ ตฺวํ, เทวเต, รุกฺขธมฺเม ิตาย ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติ? ‘กถํ ปน, มาริส, รุกฺโข รุกฺขธมฺเม ิโต โหตี’ติ? ‘อิธ, เทวเต, รุกฺขสฺส มูลํ มูลตฺถิกา หรนฺติ, ตจํ ตจตฺถิกา หรนฺติ, ปตฺตํ ปตฺตตฺถิกา หรนฺติ, ปุปฺผํ ปุปฺผตฺถิกา หรนฺติ, ผลํ ผลตฺถิกา หรนฺติ. น จ เตน เทวตาย อนตฺตมนตา วา อนภินนฺทิ [อนภิรทฺธิ (สี.)] วา กรณียา. เอวํ โข, เทวเต, รุกฺโข รุกฺขธมฺเม ิโต โหตี’ติ. ‘อฏฺิตาเยว โข เม, มาริส, รุกฺขธมฺเม ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติ. ‘สเจ โข ตฺวํ, เทวเต, รุกฺขธมฺเม ติฏฺเยฺยาสิ, สิยา [สิยาปิ (สี. ปี.)] เต ภวนํ ยถาปุเร’ติ? ‘สฺสามหํ, [ติฏฺเยฺยามหํ (สฺยา.)] มาริส, รุกฺขธมฺเม, โหตุ เม ภวนํ ยถาปุเร’’’ติ.

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาริ (สฺยา. ก.)], ยถา ภุสา วาตวุฏฺิ อาคนฺตฺวา สุปฺปติฏฺํ นิคฺโรธราชํ อุสฺสาเปสิ, สจฺฉวีนิ มูลานิ อเหสุํ. เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อปิ นุ ตํ สมณธมฺเม ิตํ ชาติภูมกา อุปาสกา ปพฺพาเชสุํ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ? ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สมโณ สมณธมฺเม ิโต โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สมโณ อกฺโกสนฺตํ น ปจฺจกฺโกสติ, โรสนฺตํ น ปฏิโรสติ, ภณฺฑนฺตํ น ปฏิภณฺฑติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สมโณ สมณธมฺเม ิโต โหตี’’ติ. ‘‘อฏฺิตํเยว มํ, ภนฺเต, สมณธมฺเม ชาติภูมกา อุปาสกา ปพฺพาเชสุํ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ.

[อ. นิ. ๗.๖๖; ๗.๗๓] ‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺโต นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค. สุเนตฺตสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. สุเนตฺโต สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ น ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชึสุ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชึสุ.

‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, มูคปกฺโข นาม สตฺถา อโหสิ…เป… อรเนมิ นาม สตฺถา อโหสิ… กุทฺทาลโก นาม สตฺถา อโหสิ… หตฺถิปาโล นาม สตฺถา อโหสิ… โชติปาโล นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค. โชติปาลสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. โชติปาโล สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โชติปาลสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ น ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชึสุ. เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โชติปาลสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชึสุ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โย อิเม ฉ สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค, อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปุฺํ ปสเวยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘โย โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อิเม ฉ สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปุฺํ ปสเวยฺย. โย เอกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกสติ ปริภาสติ, อยํ ตโต พหุตรํ อปุฺํ ปสวติ. ตํ กิสฺส เหตุ? นาหํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อิโต พหิทฺธา เอวรูปึ ขนฺตึ [เอวรูปํ ขนฺตํ (สฺยา.)] วทามิ, ยถามํ สพฺรหฺมจารีสุ. ตสฺมาติห, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โน สมสพฺรหฺมจารีสุ [น โน อามสพฺรหฺมจารีสุ (สฺยา.), น โน สพฺรหฺมจารีสุ (สี. ปี.)] จิตฺตานิ ปทุฏฺานิ ภวิสฺสนฺตี’’’ติ. เอวฺหิ เต, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สิกฺขิตพฺพนฺติ.

‘‘สุเนตฺโต มูคปกฺโข จ, อรเนมิ จ พฺราหฺมโณ;

กุทฺทาลโก อหุ สตฺถา, หตฺถิปาโล จ มาณโว.

‘‘โชติปาโล จ โควินฺโท, อหุ สตฺตปุโรหิโต;

อหึสกา [อภิเสกา (สฺยา.)] อตีตํเส, ฉ สตฺถาโร ยสสฺสิโน.

‘‘นิรามคนฺธา กรุเณธิมุตฺตา [วิมุตฺตา (สี. สฺยา. ปี.)], กามสํโยชนาติคา [กามสํโยชนาติตา (สฺยา.)];

กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหุํ [อหุ (พหูสุ), อหู (ก. สี.)].

‘‘อเหสุํ สาวกา เตสํ, อเนกานิ สตานิปิ;

นิรามคนฺธา กรุเณธิมุตฺตา, กามสํโยชนาติคา;

กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหุํ [อหุ (พหูสุ), อหู (ก. สี.)].

‘‘เยเต อิสี พาหิรเก, วีตราเค สมาหิเต;

ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป, โย นโร ปริภาสติ;

พหุฺจ โส ปสวติ, อปุฺํ ตาทิโส นโร.

‘‘โย เจกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ, ภิกฺขุํ พุทฺธสฺส สาวกํ;

ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป, โย นโร ปริภาสติ;

อยํ ตโต พหุตรํ, อปุฺํ ปสเว นโร.

‘‘น สาธุรูปํ อาสีเท, ทิฏฺิฏฺานปฺปหายินํ;

สตฺตโม ปุคฺคโล เอโส, อริยสงฺฆสฺส วุจฺจติ.

‘‘อวีตราโค กาเมสุ, ยสฺส ปฺจินฺทฺริยา มุทู;

สทฺธา สติ จ วีริยํ, สมโถ จ วิปสฺสนา.

‘‘ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, ปุพฺเพว อุปหฺติ;

อตฺตานํ อุปหนฺตฺวาน, ปจฺฉา อฺํ วิหึสติ.

‘‘โย จ รกฺขติ อตฺตานํ, รกฺขิโต ตสฺส พาหิโร;

ตสฺมา รกฺเขยฺย อตฺตานํ, อกฺขโต ปณฺฑิโต สทา’’ติ. ทฺวาทสมํ;

ธมฺมิกวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

นาคมิคสาลา อิณํ, จุนฺทํ ทฺเว สนฺทิฏฺิกา ทุเว;

เขมอินฺทฺริย อานนฺท, ขตฺติยา อปฺปมาเทน ธมฺมิโกติ.

ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

๖. มหาวคฺโค

๑. โสณสุตฺตํ

๕๕. [มหาว. ๒๔๓ อาคตํ] เอวํ, เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา โสโณ ราชคเห วิหรติ สีตวนสฺมึ. อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ, อหํ เตสํ อฺตโร. อถ จ ปน เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล โภคา, สกฺกา โภคา จ ภุฺชิตุํ ปุฺานิ จ กาตุํ. ยํนูนาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุฺเชยฺยํ ปุฺานิ จ กเรยฺย’’นฺติ.

อถ โข ภควา อายสฺมโต โสณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมฺมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมฺมิฺเชยฺย, เอวเมวํ โข – คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต อนฺตรหิโต สีตวเน อายสฺมโต โสณสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. อายสฺมาปิ โข โสโณ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ โสณํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘นนุ เต, โสณ, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ, อหํ เตสํ อฺตโร. อถ จ ปน เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล โภคา, สกฺกา โภคา [โภเค (มหาว. ๒๔๓)] จ ภุฺชิตุํ ปุฺานิ จ กาตุํ. ยํนูนาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุฺเชยฺยํ ปุฺานิ จ กเรยฺย’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โสณ, กุสโล ตฺวํ ปุพฺเพ อคาริยภูโต [อาคาริกภูโต (สฺยา.), อคาริกภูโต (มหาว. ๒๔๓)] วีณาย ตนฺติสฺสเร’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อจฺจายตา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อติสิถิลา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘ยทา ปน เต, โสณ, วีณาย ตนฺติโย น อจฺจายตา โหนฺติ นาติสิถิลา สเม คุเณ ปติฏฺิตา, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘เอวเมวํ โข, โสณ, อจฺจารทฺธวีริยํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตติ, อติสิถิลวีริยํ โกสชฺชาย สํวตฺตติ. ตสฺมาติห ตฺวํ, โสณ, วีริยสมถํ อธิฏฺหํ, อินฺทฺริยานฺจ สมตํ ปฏิวิชฺฌ, ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ โสณํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ โข – สีตวเน อนฺตรหิโต คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต ปาตุรโหสิ.

อถ โข อายสฺมา โสโณ อปเรน สมเยน วีริยสมถํ อธิฏฺาสิ, อินฺทฺริยานฺจ สมตํ ปฏิวิชฺฌิ, ตตฺถ จ นิมิตฺตํ อคฺคเหสิ. อถ โข อายสฺมา โสโณ เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนาคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร จ ปนายสฺมา โสโณ อรหตํ อโหสิ.

อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส อรหตฺตปฺปตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺยํ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต สนฺติเก อฺํ พฺยากเรยฺย’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา โสโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา โสโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, โส ฉ านานิ อธิมุตฺโต โหติ – เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ, ปวิเวกาธิมุตฺโต โหติ, อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโต [อพฺยาปชฺฌาธิมุตฺโต (ก.) มหาว. ๒๔๔ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ, ตณฺหากฺขยาธิมุตฺโต โหติ, อุปาทานกฺขยาธิมุตฺโต โหติ, อสมฺโมหาธิมุตฺโต โหติ.

‘‘สิยา โข ปน, ภนฺเต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘เกวลํสทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา นิสฺสาย เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต’ติ. น โข ปเนตํ, ภนฺเต, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ขีณาสโว, ภนฺเต, ภิกฺขุ วุสิตวา กตกรณีโย กรณียํ อตฺตโน อสมนุปสฺสนฺโต กตสฺส วา ปฏิจยํ ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ.

‘‘สิยา โข ปน, ภนฺเต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘ลาภสกฺการสิโลกํ นูน อยมายสฺมา นิกามยมาโน ปวิเวกาธิมุตฺโต’ติ. น โข ปเนตํ, ภนฺเต, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ขีณาสโว, ภนฺเต, ภิกฺขุ วุสิตวา กตกรณีโย กรณียํ อตฺตโน อสมนุปสฺสนฺโต กตสฺส วา ปฏิจยํ ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา ปวิเวกาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา ปวิเวกาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา ปวิเวกาธิมุตฺโต โหติ.

‘‘สิยา โข ปน, ภนฺเต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘สีลพฺพตปรามาสํ นูน อยมายสฺมา สารโต ปจฺจาคจฺฉนฺโต อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโต’ติ. น โข ปเนตํ, ภนฺเต, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ขีณาสโว, ภนฺเต, ภิกฺขุ วุสิตวา กตกรณีโย กรณียํ อตฺตโน อสมนุปสฺสนฺโต กตสฺส วา ปฏิจยํ ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโต โหติ.

‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา ตณฺหากฺขยาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา ตณฺหากฺขยาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา ตณฺหากฺขยาธิมุตฺโต โหติ.

‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุตฺโต โหติ.

‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อสมฺโมหาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อสมฺโมหาธิมุตฺโต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อสมฺโมหาธิมุตฺโต โหติ.

‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ [อาปาตํ (ก.)] อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ. อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ วยฺจสฺสานุปสฺสติ. ภุสา เจปิ โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา… มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา มนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ. อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ วยฺจสฺสานุปสฺสติ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, เสโล ปพฺพโต อจฺฉิทฺโท อสุสิโร เอกคฺฆโน. อถ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ เนว นํ สงฺกมฺเปยฺย น สมฺปกมฺเปยฺย น สมฺปเวเธยฺย, อถ ปจฺฉิมาย เจปิ ทิสาย อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ…เป… อถ อุตฺตราย เจปิ ทิสาย อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ… อถ ทกฺขิณาย เจปิ ทิสาย อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ เนว นํ สงฺกมฺเปยฺย น สมฺปกมฺเปยฺย น สมฺปเวเธยฺย; เอวเมวํ โข, ภนฺเต, เอวํ สมฺมาวิมุตฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ. อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ วยฺจสฺสานุปสฺสติ. ภุสา เจปิ โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา… มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา มนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ. อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ วยฺจสฺสานุปสฺสตี’’ติ.

‘‘เนกฺขมฺมํ อธิมุตฺตสฺส, ปวิเวกฺจ เจตโส;

อพฺยาปชฺชาธิมุตฺตสฺส, อุปาทานกฺขยสฺส จ.

‘‘ตณฺหากฺขยาธิมุตฺตสฺส, อสมฺโมหฺจ เจตโส;

ทิสฺวา อายตนุปฺปาทํ, สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติ.

‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

กตสฺส ปฏิจโย นตฺถิ, กรณียํ น วิชฺชติ.

‘‘เสโล ยถา เอกคฺฆโน, วาเตน น สมีรติ;

เอวํ รูปา รสา สทฺทา, คนฺธา ผสฺสา จ เกวลา.

‘‘อิฏฺา ธมฺมา อนิฏฺา จ, นปฺปเวเธนฺติ ตาทิโน;

ิตํ จิตฺตํ วิปฺปมุตฺตํ [วิมุตฺจ (ก.) มหาว. ๒๔๔; กถา. ๒๖๖], วยฺจสฺสานุปสฺสตี’’ติ. ปมํ;

๒. ผคฺคุนสุตฺตํ

๕๖. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ผคฺคุโน [เผคฺคุโน (ก.), ผคฺคุโณ (สี. สฺยา.)] อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ผคฺคุโน อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยนายสฺมา ผคฺคุโน เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนายสฺมา ผคฺคุโน เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข อายสฺมา ผคฺคุโน ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน มฺจเก สมโธสิ [สมฺโจปิ (สี. สฺยา. ปี.), สํ + ธู + อี = สมโธสิ]. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ผคฺคุนํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, ผคฺคุน, มา ตฺวํ มฺจเก สมโธสิ. สนฺติมานิ อาสนานิ ปเรหิ ปฺตฺตานิ, ตตฺถาหํ นิสีทิสฺสามี’’ติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ ผคฺคุนํ เอตทโวจ –

‘‘กจฺจิ เต, ผคฺคุน, ขมนียํ กจฺจิ ยาปนียํ? กจฺจิ เต ทุกฺขา เวทนา ปฏิกฺกมนฺติ, โน อภิกฺกมนฺติ; ปฏิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน อภิกฺกโม’’ติ? ‘‘น เม, ภนฺเต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พลวา ปุริโส ติณฺเหน สิขเรน มุทฺธนิ [มุทฺธานํ (สี. ปี.)] อภิมตฺเถยฺย [อภิมฏฺเยฺย (สฺยา.)]; เอวเมวํ โข เม, ภนฺเต, อธิมตฺตา วาตา มุทฺธนิ [หนนฺติ (สี. ปี.), โอหนนฺติ (สฺยา.)] อูหนนฺติ. น เม, ภนฺเต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พลวา ปุริโส ทฬฺเหน วรตฺตกฺขณฺเฑน สีสเวนํ ทเทยฺย; เอวเมวํ โข เม, ภนฺเต, อธิมตฺตา สีเส สีสเวทนา. น เม, ภนฺเต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา ติณฺเหน โควิกนฺตเนน กุจฺฉึ ปริกนฺเตยฺย; เอวเมวํ โข เม, ภนฺเต, อธิมตฺตา วาตา กุจฺฉึ ปริกนฺตนฺติ. น เม, ภนฺเต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา ทุพฺพลตรํ ปุริสํ นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุยา สนฺตาเปยฺยุํ สมฺปริตาเปยฺยุํ; เอวเมวํ โข เม, ภนฺเต, อธิมตฺโต กายสฺมึ ฑาโห. น เม, ภนฺเต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม’’ติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ผคฺคุนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

อถ โข อายสฺมา ผคฺคุโน อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต กาลมกาสิ. ตมฺหิ จสฺส สมเย มรณกาเล อินฺทฺริยานิ วิปฺปสีทึสุ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ผคฺคุโน อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต กาลมกาสิ. ตมฺหิ จสฺส สมเย มรณกาเล อินฺทฺริยานิ วิปฺปสีทึสู’’ติ.

‘‘กึ หานนฺท, ผคฺคุนสฺส [เผคฺคุนสฺส อานนฺท (ก.)] ภิกฺขุโน อินฺทฺริยานิ น วิปฺปสีทิสฺสนฺติ! ผคฺคุนสฺส, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ อวิมุตฺตํ อโหสิ. ตสฺส ตํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ.

‘‘ฉยิเม, อานนฺท, อานิสํสา กาเลน ธมฺมสฺสวเน [ธมฺมสวเณ (สี.)] กาเลน อตฺถุปปริกฺขาย. กตเม ฉ? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ อวิมุตฺตํ โหติ. โส ตมฺหิ สมเย มรณกาเล ลภติ ตถาคตํ ทสฺสนาย. ตสฺส ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตสฺส ตํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. อยํ, อานนฺท, ปโม อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ อวิมุตฺตํ โหติ. โส ตมฺหิ สมเย มรณกาเล น เหว โข [โน จ โข (ก.)] ลภติ ตถาคตํ ทสฺสนาย, อปิ จ โข ตถาคตสาวกํ ลภติ ทสฺสนาย. ตสฺส ตถาคตสาวโก ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตสฺส ตํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. อยํ, อานนฺท, ทุติโย อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ อวิมุตฺตํ โหติ. โส ตมฺหิ สมเย มรณกาเล น เหว โข ลภติ ตถาคตํ ทสฺสนาย, นปิ ตถาคตสาวกํ ลภติ ทสฺสนาย; อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. ตสฺส ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺกยโต อนุวิจารยโต มนสานุเปกฺขโต ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. อยํ, อานนฺท, ตติโย อานิสํโส กาเลน อตฺถุปปริกฺขาย.

‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุโน ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, อนุตฺตเร จ โข อุปธิสงฺขเย จิตฺตํ อวิมุตฺตํ โหติ. โส ตมฺหิ สมเย มรณกาเล ลภติ ตถาคตํ ทสฺสนาย. ตสฺส ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตสฺส ตํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย จิตฺตํ วิมุจฺจติ. อยํ, อานนฺท, จตุตฺโถ อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, อนุตฺตเร จ โข อุปธิสงฺขเย จิตฺตํ อวิมุตฺตํ โหติ. โส ตมฺหิ สมเย มรณกาเล น เหว โข ลภติ ตถาคตํ ทสฺสนาย, อปิ จ โข ตถาคตสาวกํ ลภติ ทสฺสนาย. ตสฺส ตถาคตสาวโก ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตสฺส ตํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย จิตฺตํ วิมุจฺจติ. อยํ, อานนฺท, ปฺจโม อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปฺจหิ โอรมฺภาคิเยหิ สํโยชเนหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, อนุตฺตเร จ โข อุปธิสงฺขเย จิตฺตํ อวิมุตฺตํ โหติ. โส ตมฺหิ สมเย มรณกาเล น เหว โข ลภติ ตถาคตํ ทสฺสนาย, นปิ ตถาคตสาวกํ ลภติ ทสฺสนาย; อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. ตสฺส ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺกยโต อนุวิจารยโต มนสานุเปกฺขโต อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย จิตฺตํ วิมุจฺจติ. อยํ, อานนฺท, ฉฏฺโ อานิสํโส กาเลน อตฺถุปปริกฺขาย. อิเม โข, อานนฺท, ฉ อานิสํสา กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน อตฺถุปปริกฺขายา’’ติ. ทุติยํ.

๓. ฉฬภิชาติสุตฺตํ

๕๗. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปูรเณน, ภนฺเต, กสฺสเปน ฉฬภิชาติโย ปฺตฺตา – กณฺหาภิชาติ ปฺตฺตา, นีลาภิชาติ ปฺตฺตา, โลหิตาภิชาติ ปฺตฺตา, หลิทฺทาภิชาติ ปฺตฺตา, สุกฺกาภิชาติ ปฺตฺตา, ปรมสุกฺกาภิชาติ ปฺตฺตา.

‘‘ตตฺริทํ, ภนฺเต, ปูรเณน กสฺสเปน กณฺหาภิชาติ ปฺตฺตา, โอรพฺภิกา สูกริกา สากุณิกา มาควิกา ลุทฺทา มจฺฉฆาตกา โจรา โจรฆาตกา พนฺธนาคาริกา เย วา ปนฺเปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา.

‘‘ตตฺริทํ, ภนฺเต, ปูรเณน กสฺสเปน นีลาภิชาติ ปฺตฺตา, ภิกฺขู กณฺฏกวุตฺติกา เย วา ปนฺเปิ เกจิ กมฺมวาทา กฺริยวาทา.

‘‘ตตฺริทํ, ภนฺเต, ปูรเณน กสฺสเปน โลหิตาภิชาติ ปฺตฺตา, นิคณฺา เอกสาฏกา.

‘‘ตตฺริทํ, ภนฺเต, ปูรเณน กสฺสเปน หลิทฺทาภิชาติ ปฺตฺตา, คิหี โอทาตวสนา อเจลกสาวกา.

‘‘ตตฺริทํ, ภนฺเต, ปูรเณน กสฺสเปน สุกฺกาภิชาติ ปฺตฺตา, อาชีวกา อาชีวกินิโย.

‘‘ตตฺริทํ, ภนฺเต, ปูรเณน กสฺสเปน ปรมสุกฺกาภิชาติ ปฺตฺตา, นนฺโท วจฺโฉ กิโส สํกิจฺโจ มกฺขลิ โคสาโล. ปูรเณน, ภนฺเต, กสฺสเปน อิมา ฉฬภิชาติโย ปฺตฺตา’’ติ.

‘‘กึ ปนานนฺท, ปูรณสฺส กสฺสปสฺส สพฺโพ โลโก เอตทพฺภนุชานาติ อิมา ฉฬภิชาติโย ปฺาเปตุ’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปุริโส ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโก, ตสฺส อกามกสฺส พิลํ โอลคฺเคยฺยุํ – ‘อิทํ เต, อมฺโภ ปุริส, มํสฺจ ขาทิตพฺพํ, มูลฺจ อนุปฺปทาตพฺพ’นฺติ. เอวเมวํ โข, อานนฺท, ปูรเณน กสฺสเปน อปฺปฏิฺาย เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อิมา ฉฬภิชาติโย ปฺตฺตา, ยถา ตํ พาเลน อพฺยตฺเตน อเขตฺตฺุนา อกุสเลน.

‘‘อหํ โข ปนานนฺท, ฉฬภิชาติโย ปฺาเปมิ. ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘กตมา จานนฺท, ฉฬภิชาติโย? อิธานนฺท, เอกจฺโจ กณฺหาภิชาติโย สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ กณฺหาภิชาติโย สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ กณฺหาภิชาติโย สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ. อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ สุกฺกาภิชาติโย สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ สุกฺกาภิชาติโย สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ สุกฺกาภิชาติโย สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ.

‘‘กถฺจานนฺท, กณฺหาภิชาติโย สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เนสาทกุเล วา เวนกุเล [เวณกุเล (สพฺพตฺถ)] วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา, ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ. โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พวฺหาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, อานนฺท, กณฺหาภิชาติโย สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ.

‘‘กถฺจานนฺท, กณฺหาภิชาติโย สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา…เป… เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, อานนฺท, กณฺหาภิชาติโย สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ.

‘‘กถฺจานนฺท, กณฺหาภิชาติโย สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา…เป… โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก. โส เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺโต, สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ. เอวํ โข, อานนฺท, กณฺหาภิชาติโย สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ.

‘‘กถฺจานนฺท, สุกฺกาภิชาติโย สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา, อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ. โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, อานนฺท, สุกฺกาภิชาติโย สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ.

‘‘กถฺจานนฺท, สุกฺกาภิชาติโย สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา…เป… เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ โข, อานนฺท, สุกฺกาภิชาติโย สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ.

‘‘กถฺจานนฺท, สุกฺกาภิชาติโย สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา, อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ. โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺโต, สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ. เอวํ โข, อานนฺท, สุกฺกาภิชาติโย สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ. อิมา โข, อานนฺท, ฉฬภิชาติโย’’ติ. ตติยํ.

๔. อาสวสุตฺตํ

๕๘. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส.

กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เย อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา เต สํวเรน ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา เต ปฏิเสวนาย ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา เต อธิวาสนาย ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา เต ปริวชฺชนาย ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา เต วิโนทนาย ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา เต ภาวนาย ปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา เย สํวเรน ปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส จกฺขุนฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, จกฺขุนฺทฺริยสํวรํ อสํวุตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, จกฺขุนฺทฺริยสํวรํ สํวุตสฺส วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. ปฏิสงฺขา โยนิโส โสตินฺทฺริย…เป… ฆานินฺทฺริย… ชิวฺหินฺทฺริย… กายินฺทฺริย… มนินฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, มนินฺทฺริยสํวรํ อสํวุตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, มนินฺทฺริยสํวรํ สํวุตสฺส วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา เย สํวเรน ปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา เย ปฏิเสวนาย ปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวติ – ‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ [ฑํส… สิรึสปสมฺผสฺสานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี) ม. นิ. ๑.๒๓] ปฏิฆาตาย, ยาวเทว หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถํ’. ปฏิสงฺขา โยนิโส ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ – ‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย, วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จ’ [ผาสุวิหาโร จาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ปฏิสงฺขา โยนิโส เสนาสนํ ปฏิเสวติ – ‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ปฏิฆาตาย, ยาวเทว อุตุปริสฺสยวิโนทนปฏิสลฺลานารามตฺถํ’. ปฏิสงฺขา โยนิโส คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปฏิเสวติ – ‘ยาวเทว อุปฺปนฺนานํ เวยฺยาพาธิกานํ เวทนานํ ปฏิฆาตาย, อพฺยาพชฺฌปรมตายา’ติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อปฺปฏิเสวโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, ปฏิเสวโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา เย ปฏิเสวนาย ปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา เย อธิวาสนาย ปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส, ชิฆจฺฉาย, ปิปาสาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ, ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อนธิวาสโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อธิวาสโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา เย อธิวาสนาย ปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา เย ปริวชฺชนาย ปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส จณฺฑํ หตฺถึ ปริวชฺเชติ, จณฺฑํ อสฺสํ ปริวชฺเชติ, จณฺฑํ โคณํ ปริวชฺเชติ, จณฺฑํ กุกฺกุรํ ปริวชฺเชติ, อหึ ขาณุํ กณฺฏกฏฺานํ โสพฺภํ ปปาตํ จนฺทนิกํ โอฬิคลฺลํ, ยถารูเป อนาสเน นิสินฺนํ, ยถารูเป อโคจเร จรนฺตํ, ยถารูเป ปาปเก มิตฺเต ภชนฺตํ วิฺู สพฺรหฺมจารี ปาปเกสุ าเนสุ โอกปฺเปยฺยุํ, โส ตฺจ อนาสนํ ตฺจ อโคจรํ เต จ ปาปเก มิตฺเต ปฏิสงฺขา โยนิโส ปริวชฺเชติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อปริวชฺชยโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, ปริวชฺชยโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา เย ปริวชฺชนาย ปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา เย วิโนทนาย ปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, ปฏิสงฺขา โยนิโส อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อวิโนทยโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, วิโนทยโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา เย วิโนทนาย ปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา เย ภาวนาย ปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ, ปฏิสงฺขา โยนิโส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อภาวยโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, ภาวยโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา เย ภาวนาย ปหีนา โหนฺติ.

‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ทารุกมฺมิกสุตฺตํ

๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ. อถ โข ทารุกมฺมิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ทารุกมฺมิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อปิ นุ เต, คหปติ, กุเล ทานํ ทียตี’’ติ? ‘‘ทียติ เม, ภนฺเต, กุเล ทานํ. ตฺจ โข เย เต ภิกฺขู อารฺิกา ปิณฺฑปาติกา ปํสุกูลิกา อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา, ตถารูเปสุ เม, ภนฺเต, ภิกฺขูสุ ทานํ ทียตี’’ติ.

‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, คหปติ, ตยา คิหินา กามโภคินา ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺเตน, กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺเตน, มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยนฺเตน, ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺเตน อิเม วา อรหนฺโต อิเม วา อรหตฺตมคฺคํ สมาปนฺนาติ.

‘‘อารฺิโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อุทฺธโต อุนฺนโฬ จปโล มุขโร วิกิณฺณวาโจ มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย. เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. อารฺิโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อนุทฺธโต อนุนฺนโฬ อจปโล อมุขโร อวิกิณฺณวาโจ อุปฏฺิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย. เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.

‘‘คามนฺตวิหารี เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. คามนฺตวิหารี เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อนุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.

‘‘ปิณฺฑปาติโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ปิณฺฑปาติโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อนุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.

‘‘เนมนฺตนิโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. เนมนฺตนิโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อนุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.

‘‘ปํสุกูลิโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ปํสุกูลิโก เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อนุทฺธโต…เป… เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.

‘‘คหปติจีวรธโร เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อุทฺธโต อุนฺนโฬ จปโล มุขโร วิกิณฺณวาโจ มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย. เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. คหปติจีวรธโร เจปิ, คหปติ, ภิกฺขุ โหติ อนุทฺธโต อนุนฺนโฬ อจปโล อมุขโร อวิกิณฺณวาโจ อุปฏฺิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย. เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.

‘‘อิงฺฆ ตฺวํ, คหปติ, สงฺเฆ ทานํ [ทานานิ (ก.)] เทหิ. สงฺเฆ เต ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทิสฺสติ. โส ตฺวํ ปสนฺนจิตฺโต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสสี’’ติ. ‘‘เอสาหํ, ภนฺเต, อชฺชตคฺเค สงฺเฆ ทานํ ทสฺสามี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. หตฺถิสาริปุตฺตสุตฺตํ

๖๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อภิธมฺมกถํ กเถนฺติ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต เถรานํ ภิกฺขูนํ อภิธมฺมกถํ กเถนฺตานํ อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตติ. อถ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมนฺตํ จิตฺตํ หตฺถิสาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต เถรานํ ภิกฺขูนํ อภิธมฺมกถํ กเถนฺตานํ อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตสิ, ยาว กถาปริโยสานํ อายสฺมา จิตฺโต อาคเมตู’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมโต จิตฺตสฺส หตฺถิสาริปุตฺตสฺส สหายกา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหาโกฏฺิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘มายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมนฺตํ จิตฺตํ หตฺถิสาริปุตฺตํ อปสาเทสิ, ปณฺฑิโต อายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต. ปโหติ จายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต เถรานํ ภิกฺขูนํ อภิธมฺมกถํ กเถตุ’’นฺติ.

‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, อาวุโส, ปรสฺส เจโตปริยายํ อชานนฺเตหิ. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ตาวเทว โสรตโสรโต โหติ, นิวาตนิวาโต โหติ, อุปสนฺตุปสนฺโต โหติ, ยาว สตฺถารํ อุปนิสฺสาย วิหรติ อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ. ยโต จ โข โส วปกสฺสเตว สตฺถารา, วปกสฺสติ ครุฏฺานิเยหิ สพฺรหฺมจารีหิ, โส สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. ตสฺส สํสฏฺสฺส วิสฺสตฺถสฺส ปากตสฺส ภสฺสมนุยุตฺตสฺส วิหรโต ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, โคโณ กิฏฺาโท ทาเมน วา พทฺโธ [อาราเม วา พนฺโธ (ก.)] วเช วา โอรุทฺโธ. โย นุ โข, อาวุโส, เอวํ วเทยฺย – ‘น ทานายํ โคโณ กิฏฺาโท ปุนเทว กิฏฺํ โอตริสฺสตี’ติ, สมฺมา นุ โข โส, อาวุโส, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’. ‘‘านฺเหตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ โส โคโณ กิฏฺาโท ทามํ วา เฉตฺวา วชํ วา ภินฺทิตฺวา, อถ ปุนเทว กิฏฺํ โอตเรยฺยาติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ตาวเทว โสรตโสรโต โหติ, นิวาตนิวาโต โหติ, อุปสนฺตุปสนฺโต โหติ ยาว สตฺถารํ อุปนิสฺสาย วิหรติ อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ. ยโต จ โข โส วปกสฺสเตว สตฺถารา, วปกสฺสติ ครุฏฺานิเยหิ สพฺรหฺมจารีหิ, โส สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. ตสฺส สํสฏฺสฺส วิสฺสตฺถสฺส ปากตสฺส ภสฺสมนุยุตฺตสฺส วิหรโต ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ ปมสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, จาตุมหาปเถ ถุลฺลผุสิตโก เทโว วสฺสนฺโต [ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต (ก.)] รชํ อนฺตรธาเปยฺย, จิกฺขลฺลํ ปาตุกเรยฺย. โย นุ โข, อาวุโส, เอวํ วเทยฺย – ‘น ทานิ อมุสฺมึ [อมุกสฺมึ (ก.)] จาตุมหาปเถ ปุนเทว รโช ปาตุภวิสฺสตี’ติ, สมฺมา นุ โข โส, อาวุโส, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’. ‘‘านฺเหตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อมุสฺมึ จาตุมหาปเถ มนุสฺสา วา อติกฺกเมยฺยุํ, โคปสู วา อติกฺกเมยฺยุํ, วาตาตโป วา สฺเนหคตํ ปริยาทิเยยฺย, อถ ปุนเทว รโช ปาตุภเวยฺยาติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ ปมสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ ทุติยสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร มหนฺตํ ตฬากํ. ตตฺถ ถุลฺลผุสิตโก เทโว วุฏฺโ สิปฺปิสมฺพุกมฺปิ สกฺขรกลมฺปิ อนฺตรธาเปยฺย. โย นุ โข, อาวุโส, เอวํ วเทยฺย – ‘น ทานิ อมุสฺมึ ตฬาเก ปุนเทว สิปฺปิสมฺพุกา วา สกฺขรกลา วา ปาตุภวิสฺสนฺตี’ติ, สมฺมา นุ โข โส, อาวุโส, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’. ‘‘านฺเหตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อมุสฺมึ ตฬาเก มนุสฺสา วา ปิเวยฺยุํ, โคปสู วา ปิเวยฺยุํ, วาตาตโป วา สฺเนหคตํ ปริยาทิเยยฺย, อถ ปุนเทว สิปฺปิสมฺพุกาปิ สกฺขรกลาปิ ปาตุภเวยฺยุนฺติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ ทุติยสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ ตติยสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริสํ ปณีตโภชนํ ภุตฺตาวึ อาภิโทสิกํ โภชนํ นจฺฉาเทยฺย. โย นุ โข, อาวุโส, เอวํ วเทยฺย – ‘น ทานิ อมุํ ปุริสํ ปุนเทว โภชนํ ฉาเทสฺสตี’ติ, สมฺมา นุ โข โส, อาวุโส, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’. ‘‘านฺเหตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, อมุํ ปุริสํ ปณีตโภชนํ ภุตฺตาวึ ยาวสฺส สา โอชา กาเย สฺสติ ตาว น อฺํ โภชนํ ฉาเทสฺสติ. ยโต จ ขฺวสฺส สา โอชา อนฺตรธายิสฺสติ, อถ ปุนเทว ตํ โภชนํ ฉาเทยฺยาติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ ตติยสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘อิธ, ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ จตุตฺถสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปพฺพตสงฺเขเป อุทกรหโท นิวาโต วิคตอูมิโก. โย นุ โข, อาวุโส, เอวํ วเทยฺย – ‘น ทานิ อมุสฺมึ อุทกรหเท ปุนเทว อูมิ ปาตุภวิสฺสตี’ติ, สมฺมา นุ โข โส, อาวุโส, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’. ‘‘านฺเหตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยา ปุรตฺถิมาย ทิสาย อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ. สา ตสฺมึ อุทกรหเท อูมึ ชเนยฺย. ยา ปจฺฉิมาย ทิสาย อาคจฺเฉยฺย…เป… ยา อุตฺตราย ทิสาย อาคจฺเฉยฺย… ยา ทกฺขิณาย ทิสาย อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ. สา ตสฺมึ อุทกรหเท อูมึ ชเนยฺยาติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ จตุตฺถสฺส ฌานสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ…เป… สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ.

‘‘อิธ, ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ อนิมิตฺตสฺส เจโตสมาธิสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. ตสฺส สํสฏฺสฺส วิสฺสตฺถสฺส ปากตสฺส ภสฺสมนุยุตฺตสฺส วิหรโต ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ราชา วา ราชมหามตฺโต วา จตุรงฺคินิยา เสนาย อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน อฺตรสฺมึ วนสณฺเฑ เอกรตฺตึ วาสํ อุปคจฺเฉยฺย. ตตฺร [ตตฺถ (สี. ปี.)] หตฺถิสทฺเทน อสฺสสทฺเทน รถสทฺเทน ปตฺติสทฺเทน เภริปณวสงฺขติณวนินฺนาทสทฺเทน จีริกสทฺโท [จิริฬิกาสทฺโท (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อนฺตรธาเยยฺย [อนฺตรธาเปยฺย (สฺยา. ปี. ก.)]. โย นุ โข, อาวุโส, เอวํ วเทยฺย – ‘น ทานิ อมุสฺมึ วนสณฺเฑ ปุนเทว จีริกสทฺโท ปาตุภวิสฺสตี’ติ, สมฺมา นุ โข โส, อาวุโส, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’. ‘‘านฺเหตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ โส ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ตมฺหา วนสณฺฑา ปกฺกเมยฺย, อถ ปุนเทว จีริกสทฺโท ปาตุภเวยฺยาติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ‘ลาภิมฺหิ อนิมิตฺตสฺส เจโตสมาธิสฺสา’ติ สํสฏฺโ วิหรติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. ตสฺส สํสฏฺสฺส วิสฺสตฺถสฺส ปากตสฺส ภสฺสมนุยุตฺตสฺส วิหรโต ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตตี’’ติ.

อถ โข อายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต อปเรน สมเยน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อถ โข จิตฺตสฺส หตฺถิสาริปุตฺตสฺส สหายกา ภิกฺขู เยนายสฺมา มหาโกฏฺิโก เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโกฏฺิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘กึ นุ โข อายสฺมตา มหาโกฏฺิเกน จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘อิมาสฺจ อิมาสฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต ลาภี, อถ จ ปน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสตี’ติ; อุทาหุ เทวตา เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘จิตฺโต, ภนฺเต, หตฺถิสาริปุตฺโต อิมาสฺจ อิมาสฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ ลาภี, อถ จ ปน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสตี’’’ติ? ‘‘เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต เม, อาวุโส – ‘จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต อิมาสฺจ อิมาสฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ ลาภี, อถ จ ปน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสตี’ติ. เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘จิตฺโต, ภนฺเต, หตฺถิสาริปุตฺโต อิมาสฺจ อิมาสฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ ลาภี, อถ จ ปน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสตี’’ติ.

อถ โข จิตฺตสฺส หตฺถิสาริปุตฺตสฺส สหายกา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘จิตฺโต, ภนฺเต, หตฺถิสาริปุตฺโต อิมาสฺจ อิมาสฺจ วิหารสมาปตฺตีนํ ลาภี, อถ จ ปน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตตี’’ติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, จิตฺโต จิรํ สริสฺสติ [ปทิสฺสติ (ก.)] เนกฺขมฺมสฺสา’’ติ.

อถ โข จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต นจิรสฺเสว เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. อถ โข อายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร จ ปนายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต อรหตํ อโหสีติ. ฉฏฺํ.

๗. มชฺเฌสุตฺตํ

๖๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘วุตฺตมิทํ, อาวุโส, ภควตา ปารายเน เมตฺเตยฺยปฺเห –

[จูฬนิ. ติสฺสมิตฺเตยฺยมาณวปุจฺฉา ๖๗] ‘‘โย อุโภนฺเต วิทิตฺวาน, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ [น ลิมฺปติ (ก.)];

ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ, โสธ สิพฺพินิ [สิพฺพนิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มจฺจคา’’ติ.

‘‘กตโม นุ โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต, กตโม ทุติโย อนฺโต, กึ มชฺเฌ, กา สิพฺพินี’’ติ? เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ผสฺโส โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต, ผสฺสสมุทโย ทุติโย อนฺโต, ผสฺสนิโรโธ มชฺเฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิฺเยฺยํ อภิชานาติ, ปริฺเยฺยํ ปริชานาติ, อภิฺเยฺยํ อภิชานนฺโต [อภิชานิตฺวา (ก.)] ปริฺเยฺยํ ปริชานนฺโต [ปริชานิตฺวา (ก.)] ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อตีตํ โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต, อนาคตํ ทุติโย อนฺโต, ปจฺจุปฺปนฺนํ มชฺเฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิฺเยฺยํ อภิชานาติ, ปริฺเยฺยํ ปริชานาติ, อภิฺเยฺยํ อภิชานนฺโต, ปริฺเยฺยํ ปริชานนฺโต ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สุขา, อาวุโส, เวทนา เอโก อนฺโต, ทุกฺขา เวทนา ทุติโย อนฺโต, อทุกฺขมสุขา เวทนา มชฺเฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิฺเยฺยํ อภิชานาติ, ปริฺเยฺยํ ปริชานาติ, อภิฺเยฺยํ อภิชานนฺโต, ปริฺเยฺยํ ปริชานนฺโต ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘นามํ โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต, รูปํ ทุติโย อนฺโต, วิฺาณํ มชฺเฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิฺเยฺยํ อภิชานาติ, ปริฺเยฺยํ ปริชานาติ, อภิฺเยฺยํ อภิชานนฺโต ปริฺเยฺยํ ปริชานนฺโต ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ฉ โข, อาวุโส, อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เอโก อนฺโต, ฉ พาหิรานิ อายตนานิ ทุติโย อนฺโต, วิฺาณํ มชฺเฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. เอตฺตาวตา โข อาวุโส, ภิกฺขุ อภิฺเยฺยํ อภิชานาติ, ปริฺเยฺยํ ปริชานาติ, อภิฺเยฺยํ อภิชานนฺโต ปริฺเยฺยํ ปริชานนฺโต ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สกฺกาโย โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต, สกฺกายสมุทโย ทุติโย อนฺโต, สกฺกายนิโรโธ มชฺเฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิฺเยฺยํ อภิชานาติ, ปริฺเยฺยํ ปริชานาติ, อภิฺเยฺยํ อภิชานนฺโต ปริฺเยฺยํ ปริชานนฺโต [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส, อมฺเหหิ สพฺเพเหว ยถาสกํ ปฏิภานํ. อายามาวุโส, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสาม. ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เถรา ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข เถรา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เถรา ภิกฺขู ยาวตโก อโหสิ สพฺเพเหว สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสุํ. ‘‘กสฺส นุ โข, ภนฺเต, สุภาสิต’’นฺติ? ‘‘สพฺเพสํ โว, ภิกฺขเว, สุภาสิตํ ปริยาเยน, อปิ จ ยํ มยา สนฺธาย ภาสิตํ ปารายเน เมตฺเตยฺยปฺเห –

‘‘โย อุโภนฺเต วิทิตฺวาน, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ;

ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ, โสธ สิพฺพินิมจฺจคา’’ติ.

‘‘ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เถรา ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘ผสฺโส โข, ภิกฺขเว, เอโก อนฺโต, ผสฺสสมุทโย ทุติโย อนฺโต, ผสฺสนิโรโธ มชฺเฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิฺเยฺยํ อภิชานาติ, ปริฺเยฺยํ ปริชานาติ, อภิฺเยฺยํ อภิชานนฺโต ปริฺเยฺยํ ปริชานนฺโต ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ปุริสินฺทฺริยาณสุตฺตํ

๖๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ทณฺฑกปฺปกํ นาม โกสลานํ นิคโม ตทวสริ. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. เต จ ภิกฺขู ทณฺฑกปฺปกํ ปวิสึสุ อาวสถํ ปริเยสิตุํ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เยน อจิรวตี นที เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. อจิรวติยา นทิยา คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส อานนฺท, สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา นุ โข เทวทตฺโต ภควตา พฺยากโต – ‘อาปายิโก เทวทตฺโต เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’ติ [จูฬว. ๓๔๘; อ. นิ. ๘.๗ ปสฺสิตพฺพํ], อุทาหุ เกนจิเทว ปริยาเยนา’ติ? ‘‘เอวํ โข ปเนตํ, อาวุโส, ภควตา พฺยากต’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เยน อจิรวตี นที เตนุปสงฺกมึ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. อจิรวติยา นทิยา คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสึ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน. อถ โข, ภนฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘กึ นุ โข, อาวุโส, อานนฺท สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา นุ โข เทวทตฺโต ภควตา พฺยากโต – อาปายิโก เทวทตฺโต เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉติ, อุทาหุ เกนจิเทว ปริยาเยนา’ติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจํ – ‘เอวํ โข ปเนตํ, อาวุโส, ภควตา พฺยากต’’’นฺติ.

‘‘โส วา [โส จ (สฺยา.)] โข, อานนฺท, ภิกฺขุ นโว ภวิสฺสติ อจิรปพฺพชิโต, เถโร วา ปน พาโล อพฺยตฺโต. กถฺหิ นาม ยํ มยา เอกํเสน พฺยากตํ ตตฺถ ทฺเวชฺฌํ อาปชฺชิสฺสติ! นาหํ, อานนฺท, อฺํ เอกปุคฺคลมฺปิ สมนุปสฺสามิ, โย เอวํ มยา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา พฺยากโต, ยถยิทํ เทวทตฺโต. ยาวกีวฺจาหํ, อานนฺท, เทวทตฺตสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺตมฺปิ สุกฺกธมฺมํ อทฺทสํ; เนว ตาวาหํ เทวทตฺตํ พฺยากาสึ – ‘อาปายิโก เทวทตฺโต เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’ติ. ยโต จ โข อหํ, อานนฺท, เทวทตฺตสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺตมฺปิ สุกฺกธมฺมํ น อทฺทสํ; อถาหํ เทวทตฺตํ พฺยากาสึ – ‘อาปายิโก เทวทตฺโต เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, คูถกูโป สาธิกโปริโส ปูโร คูถสฺส สมติตฺติโก. ตตฺร ปุริโส สสีสโก นิมุคฺโค อสฺส. ตสฺส โกจิเทว ปุริโส อุปฺปชฺเชยฺย อตฺถกาโม หิตกาโม โยคกฺเขมกาโม ตมฺหา คูถกูปา อุทฺธริตุกาโม. โส ตํ คูถกูปํ สมนฺตานุปริคจฺฉนฺโต เนว ปสฺเสยฺย ตสฺส ปุริสสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺตมฺปิ คูเถน อมกฺขิตํ, ยตฺถ ตํ คเหตฺวา อุทฺธเรยฺย. เอวเมวํ โข อหํ, อานนฺท, ยโต เทวทตฺตสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺตมฺปิ สุกฺกธมฺมํ น อทฺทสํ; อถาหํ เทวทตฺตํ พฺยากาสึ – ‘อาปายิโก เทวทตฺโต เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’ติ. สเจ ตุมฺเห, อานนฺท, สุเณยฺยาถ ตถาคตสฺส ปุริสินฺทฺริยาณานิ วิภชิสฺสามี’’ติ [วิภชนฺตสฺสาติ (สี. สฺยา. ปี.)]?

‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา ปุริสินฺทฺริยาณานิ วิภเชยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตนหานนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, อานนฺท, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส กุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, อกุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส กุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺหา ตสฺส กุสลา กุสลํ ปาตุภวิสฺสติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ อปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พีชานิ อขณฺฑานิ อปูตีนิ อวาตาตปหตานิ สารทานิ สุขสยิตานิ สุเขตฺเต สุปริกมฺมกตาย ภูมิยา นิกฺขิตฺตานิ. ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, อิมานิ พีชานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมวํ โข อหํ, อานนฺท, อิเธกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส กุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, อกุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส กุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺหา ตสฺส กุสลา กุสลํ ปาตุภวิสฺสติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ อปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสปุคฺคโล เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสินฺทฺริยาณํ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตํ โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส อายตึ ธมฺมสมุปฺปาโท เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ.

‘‘อิธ ปนาหํ, อานนฺท, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส อกุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, กุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส อกุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺหา ตสฺส อกุสลา อกุสลํ ปาตุภวิสฺสติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ ปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พีชานิ อขณฺฑานิ อปูตีนิ อวาตาตปหตานิ สารทานิ สุขสยิตานิ ปุถุสิลาย นิกฺขิตฺตานิ. ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, นยิมานิ พีชานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมวํ โข อหํ, อานนฺท, อิเธกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส อกุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, กุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส อกุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺหา ตสฺส อกุสลา อกุสลํ ปาตุภวิสฺสติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ ปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสปุคฺคโล เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสินฺทฺริยาณํ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตํ โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส อายตึ ธมฺมสมุปฺปาโท เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ.

‘‘อิธ ปนาหํ, อานนฺท, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘นตฺถิ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺโตปิ สุกฺโก ธมฺโม, สมนฺนาคโตยํ ปุคฺคโล เอกนฺตกาฬเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พีชานิ ขณฺฑานิ ปูตีนิ วาตาตปหตานิ สุเขตฺเต สุปริกมฺมกตาย ภูมิยา นิกฺขิตฺตานิ. ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, นยิมานิ พีชานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมวํ โข อหํ, อานนฺท, อิเธกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘นตฺถิ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺโตปิ สุกฺโก ธมฺโม, สมนฺนาคโตยํ ปุคฺคโล เอกนฺตกาฬเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสตี’ติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสปุคฺคโล เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสินฺทฺริยาณํ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตํ โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส อายตึ ธมฺมสมุปฺปาโท เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อปเรปิ ตโย ปุคฺคลา สปฺปฏิภาคา ปฺาเปตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา, อานนฺทา’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘อิธาหํ, อานนฺท, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส กุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, อกุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส กุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ ปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, องฺคารานิ อาทิตฺตานิ สมฺปชฺชลิตานิ สโชติภูตานิ ปุถุสิลาย นิกฺขิตฺตานิ. ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, นยิมานิ องฺคารานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน, อานนฺท, สายนฺหสมยํ [สายนฺหสมเย (สฺยา. ก.)] สูริเย โอคจฺฉนฺเต, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, อาโลโก อนฺตรธายิสฺสติ อนฺธกาโร ปาตุภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เสยฺยถาปิ วา, ปนานนฺท, อภิโท อทฺธรตฺตํ ภตฺตกาลสมเย, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, อาโลโก อนฺตรหิโต อนฺธกาโร ปาตุภูโต’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมวํ โข อหํ, อานนฺท, อิเธกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส กุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, อกุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส กุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ ปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสปุคฺคโล เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสินฺทฺริยาณํ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตํ โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส อายตึ ธมฺมสมุปฺปาโท เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ.

‘‘อิธ ปนาหํ, อานนฺท, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส อกุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, กุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส อกุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ อปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, องฺคารานิ อาทิตฺตานิ สมฺปชฺชลิตานิ สโชติภูตานิ สุกฺเข ติณปุฺเช วา กฏฺปุฺเช วา นิกฺขิตฺตานิ. ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, อิมานิ องฺคารานิ วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เสยฺยถาปิ วา ปนานนฺท, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ [รตฺติปจฺจูสสมเย (ก.)] สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, อนฺธกาโร อนฺตรธายิสฺสติ, อาโลโก ปาตุภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เสยฺยถาปิ วา ปนานนฺท, อภิโท มชฺฌนฺหิเก ภตฺตกาลสมเย, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, อนฺธกาโร อนฺตรหิโต อาโลโก ปาตุภูโต’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมวํ โข อหํ, อานนฺท, อิเธกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส อกุสลา ธมฺมา อนฺตรหิตา, กุสลา ธมฺมา สมฺมุขีภูตา. อตฺถิ จ ขฺวสฺส อกุสลมูลํ อสมุจฺฉินฺนํ, ตมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติ. เอวมยํ ปุคฺคโล อายตึ อปริหานธมฺโม ภวิสฺสตี’ติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสปุคฺคโล เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสินฺทฺริยาณํ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตํ โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส อายตึ ธมฺมสมุปฺปาโท เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ.

‘‘อิธ ปนาหํ, อานนฺท, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘นตฺถิ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺโตปิ อกุสโล ธมฺโม, สมนฺนาคโตยํ ปุคฺคโล เอกนฺตสุกฺเกหิ อนวชฺเชหิ ธมฺเมหิ, ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, องฺคารานิ สีตานิ นิพฺพุตานิ สุกฺเข ติณปุฺเช วา กฏฺปุฺเช วา นิกฺขิตฺตานิ. ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, นยิมานิ องฺคารานิ วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมวํ โข อหํ, อานนฺท, อิเธกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมสฺส โข ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานา กุสลาปิ ธมฺมา อกุสลาปิ ธมฺมา’ติ. ตเมนํ อปเรน สมเยน เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘นตฺถิ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วาลคฺคโกฏินิตฺตุทนมตฺโตปิ อกุสโล ธมฺโม, สมนฺนาคโตยํ ปุคฺคโล เอกนฺตสุกฺเกหิ อนวชฺเชหิ ธมฺเมหิ, ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสปุคฺคโล เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส ปุริสินฺทฺริยาณํ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตํ โหติ. เอวมฺปิ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส อายตึ ธมฺมสมุปฺปาโท เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต โหติ.

‘‘ตตฺรานนฺท, เย เต ปุริมา ตโย ปุคฺคลา เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ เอโก อปริหานธมฺโม, เอโก ปริหานธมฺโม, เอโก อาปายิโก เนรยิโก. ตตฺรานนฺท, เยเม ปจฺฉิมา ตโย ปุคฺคลา อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ เอโก ปริหานธมฺโม, เอโก อปริหานธมฺโม, เอโก ปรินิพฺพานธมฺโม’’ติ. อฏฺมํ.

๙. นิพฺเพธิกสุตฺตํ

๖๓. ‘‘นิพฺเพธิกปริยายํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตโม จ โส, ภิกฺขเว, นิพฺเพธิกปริยาโย ธมฺมปริยาโย? กามา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา, กามานํ นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, กามานํ เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, กามานํ วิปาโก เวทิตพฺโพ, กามนิโรโธ [กามานํ นิโรโธ (ก.) เอวํ เวทนานิโรโธ-อิจฺจาทีสุปิ] เวทิตพฺโพ, กามนิโรธคามินี [กามานํ นิโรธคามินี (ก.) เอวํ เวทนานิโรธคามินี-อิจฺจาทีสุปิ] ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

‘‘เวทนา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา, เวทนานํ นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, เวทนานํ เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, เวทนานํ วิปาโก เวทิตพฺโพ, เวทนานิโรโธ เวทิตพฺโพ, เวทนานิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

‘‘สฺา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา, สฺานํ นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, สฺานํ เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, สฺานํ วิปาโก เวทิตพฺโพ, สฺานิโรโธ เวทิตพฺโพ, สฺานิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

‘‘อาสวา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา, อาสวานํ นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, อาสวานํ เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, อาสวานํ วิปาโก เวทิตพฺโพ, อาสวนิโรโธ เวทิตพฺโพ, อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

‘‘กมฺมํ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพํ, กมฺมานํ นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, กมฺมานํ เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, กมฺมานํ วิปาโก เวทิตพฺโพ, กมฺมนิโรโธ เวทิตพฺโพ, กมฺมนิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

‘‘ทุกฺขํ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพํ, ทุกฺขสฺส นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, ทุกฺขสฺส เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, ทุกฺขสฺส วิปาโก เวทิตพฺโพ, ทุกฺขนิโรโธ เวทิตพฺโพ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

‘‘‘กามา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา, กามานํ นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, กามานํ เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, กามานํ วิปาโก เวทิตพฺโพ, กามนิโรโธ เวทิตพฺโพ, กามนิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ [ม. นิ. ๑.๑๖๖; สํ. นิ. ๔.๒๖๘]? ปฺจิเม, ภิกฺขเว, กามคุณา – จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. อปิ จ โข, ภิกฺขเว, เนเต กามา กามคุณา นาเมเต [เต กามคุณา นาม เนเต กามา (ก.)] อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ –

[กถา. ๕๑๔] ‘‘สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม,

เนเต [น เต (สฺยา.)] กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก;

สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม,

ติฏฺนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก;

อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺท’’นฺติ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, กามานํ นิทานสมฺภโว? ผสฺโส, ภิกฺขเว, กามานํ นิทานสมฺภโว.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, กามานํ เวมตฺตตา? อฺโ, ภิกฺขเว, กาโม รูเปสุ, อฺโ กาโม สทฺเทสุ, อฺโ กาโม คนฺเธสุ, อฺโ กาโม รเสสุ, อฺโ กาโม โผฏฺพฺเพสุ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามานํ เวมตฺตตา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, กามานํ วิปาโก? ยํ โข, ภิกฺขเว, กามยมาโน ตชฺชํ ตชฺชํ อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ ปุฺภาคิยํ วา อปุฺภาคิยํ วา, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามานํ วิปาโก.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, กามนิโรโธ? ผสฺสนิโรโธ [ผสฺสนิโรธา (สฺยา.)], ภิกฺขเว, กามนิโรโธ. อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค กามนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ.

‘‘ยโต โข [ยโต จ โข (พหูสุ)], ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ กาเม ปชานาติ, เอวํ กามานํ นิทานสมฺภวํ ปชานาติ, เอวํ กามานํ เวมตฺตตํ ปชานาติ, เอวํ กามานํ วิปากํ ปชานาติ, เอวํ กามนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ กามนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส อิมํ นิพฺเพธิกํ พฺรหฺมจริยํ ปชานาติ กามนิโรธํ. กามา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา…เป… กามนิโรธคามินี [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘เวทนา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา…เป… เวทนานิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, เวทนานํ นิทานสมฺภโว? ผสฺโส, ภิกฺขเว, เวทนานํ นิทานสมฺภโว.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, เวทนานํ เวมตฺตตา? อตฺถิ, ภิกฺขเว, สามิสา สุขา เวทนา, อตฺถิ นิรามิสา สุขา เวทนา, อตฺถิ สามิสา ทุกฺขา เวทนา, อตฺถิ นิรามิสา ทุกฺขา เวทนา, อตฺถิ สามิสา อทุกฺขมสุขา เวทนา, อตฺถิ นิรามิสา อทุกฺขมสุขา เวทนา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, เวทนานํ เวมตฺตตา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, เวทนานํ วิปาโก? ยํ โข, ภิกฺขเว, เวทิยมาโน [เวทยมาโน (สฺยา. กํ.) อ. นิ. ๔.๒๓๓] ตชฺชํ ตชฺชํ อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ ปุฺภาคิยํ วา อปุฺภาคิยํ วา, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, เวทนานํ วิปาโก.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, เวทนานิโรโธ? ผสฺสนิโรโธ [ผสฺสนิโรธา (สฺยา. กํ. ก.)], ภิกฺขเว, เวทนานิโรโธ. อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เวทนานิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ เวทนํ ปชานาติ, เอวํ เวทนานํ นิทานสมฺภวํ ปชานาติ, เอวํ เวทนานํ เวมตฺตตํ ปชานาติ, เอวํ เวทนานํ วิปากํ ปชานาติ, เอวํ เวทนานิโรธํ ปชานาติ, เอวํ เวทนานิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ. โส อิมํ นิพฺเพธิกํ พฺรหฺมจริยํ ปชานาติ เวทนานิโรธํ. เวทนา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา…เป… เวทนานิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘สฺา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา…เป… สฺานิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ฉยิมา, ภิกฺขเว, สฺา – รูปสฺา, สทฺทสฺา, คนฺธสฺา, รสสฺา, โผฏฺพฺพสฺา, ธมฺมสฺา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สฺานํ นิทานสมฺภโว? ผสฺโส, ภิกฺขเว, สฺานํ นิทานสมฺภโว.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สฺานํ เวมตฺตตา? อฺา, ภิกฺขเว, สฺา รูเปสุ, อฺา สฺา สทฺเทสุ [อฺา ภิกฺขเว รูเปสุ สฺา อฺา สทฺเทสุ สฺา (ก.) เอวํ เสเสสุปิ], อฺา สฺา คนฺเธสุ, อฺา สฺา รเสสุ, อฺา สฺา โผฏฺพฺเพสุ, อฺา สฺา ธมฺเมสุ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สฺานํ เวมตฺตตา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สฺานํ วิปาโก? โวหารเวปกฺกํ [โวหารเวปกฺกาหํ (สฺยา. ปี.), โวหารปกฺกาหํ (สี.)], ภิกฺขเว, สฺํ [สฺา (สฺยา. ปี.)] วทามิ. ยถา ยถา นํ สฺชานาติ ตถา ตถา โวหรติ, เอวํ สฺี อโหสินฺติ [อโหสีติ (ก.)]. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สฺานํ วิปาโก.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สฺานิโรโธ? ผสฺสนิโรโธ, [ผสฺสนิโรธา (สฺยา. ก.)] ภิกฺขเว, สฺานิโรโธ. อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สฺานิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ สฺํ ปชานาติ, เอวํ สฺานํ นิทานสมฺภวํ ปชานาติ, เอวํ สฺานํ เวมตฺตตํ ปชานาติ, เอวํ สฺานํ วิปากํ ปชานาติ, เอวํ สฺานิโรธํ ปชานาติ, เอวํ สฺานิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส อิมํ นิพฺเพธิกํ พฺรหฺมจริยํ ปชานาติ สฺานิโรธํ. สฺา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา…เป… สฺานิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘อาสวา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา…เป… อาสวนิโรธคามินี [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตโยเม, ภิกฺขเว, อาสวา – กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโว.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อาสวานํ นิทานสมฺภโว? อวิชฺชา, ภิกฺขเว, อาสวานํ นิทานสมฺภโว.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อาสวานํ เวมตฺตตา? อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคมนียา [นิรยคามินิยา (สี. ก.)], อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคมนียา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคมนียา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคมนียา, อตฺถิ อาสวา เทวโลกคมนียา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาสวานํ เวมตฺตตา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อาสวานํ วิปาโก? ยํ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ตชฺชํ ตชฺชํ อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ ปุฺภาคิยํ วา อปุฺภาคิยํ วา, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาสวานํ วิปาโก.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อาสวนิโรโธ? อวิชฺชานิโรโธ, ภิกฺขเว, อาสวนิโรโธ. อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อาสวนิโรธคามินี [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ อาสเว ปชานาติ, เอวํ อาสวานํ นิทานสมฺภวํ ปชานาติ, เอวํ อาสวานํ เวมตฺตตํ ปชานาติ, เอวํ อาสวานํ วิปากํ ปชานาติ, เอวํ อาสวานํ นิโรธํ ปชานาติ, เอวํ อาสวานํ นิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส อิมํ นิพฺเพธิกํ พฺรหฺมจริยํ ปชานาติ อาสวนิโรธํ. อาสวา, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพา…เป… อาสวนิโรธคามินี [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘กมฺมํ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพํ…เป… กมฺมนิโรธคามินี [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? [กถา. ๕๓๙] เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ. เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรติ – กาเยน วาจาย มนสา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, กมฺมานํ นิทานสมฺภโว? ผสฺโส, ภิกฺขเว, กมฺมานํ นิทานสมฺภโว.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, กมฺมานํ เวมตฺตตา? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ นิรยเวทนียํ, อตฺถิ กมฺมํ ติรจฺฉานโยนิเวทนียํ, อตฺถิ กมฺมํ เปตฺติวิสยเวทนียํ, อตฺถิ กมฺมํ มนุสฺสโลกเวทนียํ, อตฺถิ กมฺมํ เทวโลกเวทนียํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมานํ เวมตฺตตา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, กมฺมานํ วิปาโก? ติวิธาหํ [อิมาหํ (ก.)], ภิกฺขเว, กมฺมานํ วิปากํ วทามิ – ทิฏฺเว [ทิฏฺเ วา (สี.)] ธมฺเม, อุปปชฺเช วา [อุปปชฺชํ วา (ก. สี., อ. นิ. ๑๐.๒๑๗), อุปปชฺช วา (?), ม. นิ. ๓.๓๐๓ ปาฬิยา ตทตฺถวณฺณนาย จ สํสทฺเทตพฺพํ], อปเร วา ปริยาเย. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมานํ วิปาโก.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, กมฺมนิโรโธ? ผสฺสนิโรโธ, [ผสฺสนิโรธา (ก. สี. สฺยา. ก.)] ภิกฺขเว, กมฺมนิโรโธ. อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค กมฺมนิโรธคามินี [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ กมฺมํ ปชานาติ, เอวํ กมฺมานํ นิทานสมฺภวํ ปชานาติ, เอวํ กมฺมานํ เวมตฺตตํ ปชานาติ, เอวํ กมฺมานํ วิปากํ ปชานาติ, เอวํ กมฺมนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ กมฺมนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส อิมํ นิพฺเพธิกํ พฺรหฺมจริยํ ปชานาติ กมฺมนิโรธํ. กมฺมํ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพํ…เป… กมฺมนิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘ทุกฺขํ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพํ, ทุกฺขสฺส นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, ทุกฺขสฺส เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, ทุกฺขสฺส วิปาโก เวทิตพฺโพ, ทุกฺขนิโรโธ เวทิตพฺโพ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, พฺยาธิปิ ทุกฺโข [พฺยาธิปิ ทุกฺขา (สฺยา. ปี. ก.)], มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา [ปฺจุปาทานกฺขนฺธาปิ (ก.)] ทุกฺขา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสฺส นิทานสมฺภโว? ตณฺหา, ภิกฺขเว, ทุกฺขสฺส นิทานสมฺภโว.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสฺส เวมตฺตตา? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อธิมตฺตํ, อตฺถิ ปริตฺตํ, อตฺถิ ทนฺธวิราคิ, อตฺถิ ขิปฺปวิราคิ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสฺส เวมตฺตตา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสฺส วิปาโก? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ เยน ทุกฺเขน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต [ปริยาทิณฺณจิตฺโต (ก.)] โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ, เยน วา ปน ทุกฺเขน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต พหิทฺธา ปริเยฏฺึ อาปชฺชติ – ‘โก [โส น (ก.)] เอกปทํ ทฺวิปทํ ชานาติ [ปชานาติ (ก.)] อิมสฺส ทุกฺขสฺส นิโรธายา’ติ? สมฺโมหเวปกฺกํ วาหํ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ วทามิ ปริเยฏฺิเวปกฺกํ วา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสฺส วิปาโก.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรโธ? ตณฺหานิโรโธ, [ตณฺหานิโรธา (ก. สี. สฺยา. ก.)] ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรโธ. อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขสฺส นิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ ทุกฺขํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขสฺส นิทานสมฺภวํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขสฺส เวมตฺตตํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขสฺส วิปากํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส อิมํ นิพฺเพธิกํ พฺรหฺมจริยํ ปชานาติ ทุกฺขนิโรธํ. ทุกฺขํ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺพํ, ทุกฺขสฺส นิทานสมฺภโว เวทิตพฺโพ, ทุกฺขสฺส เวมตฺตตา เวทิตพฺพา, ทุกฺขสฺส วิปาโก เวทิตพฺโพ, ทุกฺขนิโรโธ เวทิตพฺโพ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา เวทิตพฺพาติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘อยํ โข โส, ภิกฺขเว, นิพฺเพธิกปริยาโย ธมฺมปริยาโย’’ติ. นวมํ.

๑๐. สีหนาทสุตฺตํ

๖๔. [ม. นิ. ๑.๑๔๘; วิภ. ๗๖๐; อ. นิ. ๑๐.๒๑; ปฏิ. ม. ๒.๔๔] ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. กตมานิ ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต…เป… อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ตตฺร เจ, ภิกฺขเว, ปเร ตถาคตํ านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ าเณน อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ าณํ วิทิตํ ตถา ตถา เตสํ ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ าเณน ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ.

‘‘ตตฺร เจ, ภิกฺขเว, ปเร ตถาคตํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ าเณน อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ าณํ วิทิตํ ตถา ตถา เตสํ ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ าเณน ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ.

‘‘ตตฺร เจ, ภิกฺขเว, ปเร ตถาคตํ ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ าเณน อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ าณํ วิทิตํ, ตถา ตถา เตสํ ตถาคโต ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ าเณน ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ.

‘‘ตตฺร เจ, ภิกฺขเว, ปเร ตถาคตํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ยถาภูตํ าเณน อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ยถาภูตํ าณํ วิทิตํ, ตถา ตถา เตสํ ตถาคโต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ยถาภูตํ าเณน ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ.

‘‘ตตฺร เจ, ภิกฺขเว, ปเร ตถาคตํ สตฺตานํ จุตูปปาตํ ยถาภูตํ าเณน อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส สตฺตานํ จุตูปปาตํ ยถาภูตํ าณํ วิทิตํ, ตถา ตถา เตสํ ตถาคโต สตฺตานํ จุตูปปาตํ ยถาภูตํ าเณน ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ.

‘‘ตตฺร เจ, ภิกฺขเว, ปเร ตถาคตํ อาสวานํ ขยา…เป… ยถาภูตํ าเณน อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อาสวานํ ขยา…เป… ยถาภูตํ าณํ วิทิตํ, ตถา ตถา เตสํ ตถาคโต อาสวานํ ขยา…เป… ยถาภูตํ าเณน ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมฺปิทํ [ยมิทํ (สี. ปี.), ยทิทํ (ก.)] านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ าณํ ตมฺปิ สมาหิตสฺส วทามิ โน อสมาหิตสฺส. ยมฺปิทํ [ยทิทํ (ก.)] อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ าณํ ตมฺปิ สมาหิตสฺส วทามิ โน อสมาหิตสฺส. ยมฺปิทํ [ยทิทํ (ก.)] ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ าณํ ตมฺปิ สมาหิตสฺส วทามิ โน อสมาหิตสฺส. ยมฺปิทํ [ยทิทํ (ก.)] ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ยถาภูตํ าณํ ตมฺปิ สมาหิตสฺส วทามิ โน อสมาหิตสฺส. ยมฺปิทํ [ยทิทํ (ก.)] สตฺตานํ จุตูปปาตํ ยถาภูตํ าณํ ตมฺปิ สมาหิตสฺส วทามิ โน อสมาหิตสฺส. ยมฺปิทํ [ยทิทํ (ก.)] อาสวานํ ขยา…เป… ยถาภูตํ าณํ ตมฺปิ สมาหิตสฺส วทามิ โน อสมาหิตสฺส. อิติ โข, ภิกฺขเว, สมาธิ มคฺโค, อสมาธิ กุมฺมคฺโค’’ติ. ทสมํ.

มหาวคฺโค ฉฏฺโ. [ปโม (สฺยา. ก.)]

ตสฺสุทฺทานํ

โสโณ ผคฺคุโน ภิชาติ, อาสวา ทารุหตฺถิ จ;

มชฺเฌ าณํ นิพฺเพธิกํ, สีหนาโทติ เต ทสาติ.

๗. เทวตาวคฺโค

๑. อนาคามิผลสุตฺตํ

๖๕. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? อสฺสทฺธิยํ, อหิริกํ, อโนตฺตปฺปํ, โกสชฺชํ, มุฏฺสฺสจฺจํ, ทุปฺปฺตํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? อสฺสทฺธิยํ, อหิริกํ, อโนตฺตปฺปํ, โกสชฺชํ, มุฏฺสฺสจฺจํ, ทุปฺปฺตํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อนาคามิผลํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ปมํ.

๒. อรหตฺตสุตฺตํ

๖๖. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? ถินํ [ถีนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], มิทฺธํ, อุทฺธจฺจํ, กุกฺกุจฺจํ, อสฺสทฺธิยํ, ปมาทํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? ถินํ, มิทฺธํ, อุทฺธจฺจํ, กุกฺกุจฺจํ, อสฺสทฺธิยํ, ปมาทํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. มิตฺตสุตฺตํ

๖๗. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาปมิตฺโต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก, ปาปมิตฺเต [ปาปเก มิตฺเต (ก.)] เสวมาโน ภชมาโน ปยิรุปาสมาโน, เตสฺจ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมาโน อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘เสขํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สีลานิ อปริปูเรตฺวา กามราคํ วา รูปราคํ วา อรูปราคํ วา ปชหิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก, กลฺยาณมิตฺเต เสวมาโน ภชมาโน ปยิรุปาสมาโน, เตสฺจ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมาโน อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สีลานิ ปริปูเรตฺวา กามราคํ วา รูปราคํ วา อรูปราคํ วา ปชหิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ตติยํ.

๔. สงฺคณิการามสุตฺตํ

๖๘. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สงฺคณิการาโม สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, คณาราโม คณรโต คณารามตํ อนุยุตฺโต, เอโก ปวิเวเก อภิรมิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘เอโก ปวิเวเก อนภิรมนฺโต จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ คเหสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ อคณฺหนฺโต สมฺมาทิฏฺึ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาทิฏฺึ อปริปูเรตฺวา สมฺมาสมาธึ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาสมาธึ อปริปูเรตฺวา สํโยชนานิ ปชหิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สํโยชนานิ อปฺปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สงฺคณิการาโม น สงฺคณิกรโต น สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, น คณาราโม น คณรโต น คณารามตํ อนุยุตฺโต, เอโก ปวิเวเก อภิรมิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘เอโก ปวิเวเก อภิรมนฺโต จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ คเหสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต สมฺมาทิฏฺึ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาทิฏฺึ ปริปูเรตฺวา สมฺมาสมาธึ ปริปูเรสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สมฺมาสมาธึ ปริปูเรตฺวา สํโยชนานิ ปชหิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สํโยชนานิ ปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. เทวตาสุตฺตํ

๖๙. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ฉยิเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา – อิเม โข, ภนฺเต, ฉ ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนุฺโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘ฉยิเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา – อิเม โข, ภนฺเต, ฉ ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ … สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณมิตฺตตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ. อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ… สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณมิตฺตตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อิมสฺส โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สมาธิสุตฺตํ

๗๐. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สนฺเตน สมาธินา น ปณีเตน น ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺเธน [น ปฏิปฺปสฺสทฺธลทฺเธน (สี.)] น เอโกทิภาวาธิคเตน อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภวิสฺสติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา ภวิสฺสติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก ภวิสฺสติ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณิสฺสติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานิสฺสติ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสติ …เป… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสิสฺสติ…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺเตน สมาธินา ปณีเตน ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺเธน เอโกทิภาวาธิคเตน อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภวิสฺสติ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณิสฺสติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานิสฺสติ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสติ…เป… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสิสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สกฺขิภพฺพสุตฺตํ

๗๑. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิเม หานภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิเม ิติภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิเม วิเสสภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิเม นิพฺเพธภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อสกฺกจฺจการี จ โหติ, อสปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิเม หานภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิเม ิติภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิเม วิเสสภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิเม นิพฺเพธภาคิยา ธมฺมา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, สกฺกจฺจการี จ โหติ, สปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิตุํ สติ สติ อายตเน’’ติ. สตฺตมํ.

๘. พลสุตฺตํ

๗๒. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ สมาธิสฺมึ [สมาธิมฺหิ (ก.)] พลตํ ปาปุณิตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, น สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, น สมาธิสฺส [น สมาธิมฺหา (ก.) อุปริสตฺตกนิปาเต เทวตาวคฺเค ปน สพฺพตฺถปิ ‘‘สมาธิสฺส’’อิตฺเวว ทิสฺสติ] วุฏฺานกุสโล โหติ, อสกฺกจฺจการี จ โหติ, อสาตจฺจการี จ, อสปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ สมาธิสฺมึ พลตํ ปาปุณิตุํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ สมาธิสฺมึ พลตํ ปาปุณิตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล โหติ, สกฺกจฺจการี จ โหติ, สาตจฺจการี จ, สปฺปายการี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ สมาธิสฺมึ พลตํ ปาปุณิตุ’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. ปมตชฺฌานสุตฺตํ

๗๓. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามจฺฉนฺทํ, พฺยาปาทํ, ถินมิทฺธํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉํ. กาเมสุ โข ปนสฺส อาทีนโว น ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺโ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามจฺฉนฺทํ, พฺยาปาทํ, ถินมิทฺธํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉํ, กาเมสุ โข ปนสฺส อาทีนโว น ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺโ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุ’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยตชฺฌานสุตฺตํ

๗๔. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามวิตกฺกํ, พฺยาปาทวิตกฺกํ, วิหึสาวิตกฺกํ, กามสฺํ, พฺยาปาทสฺํ, วิหึสาสฺํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. กตเม ฉ? กามวิตกฺกํ, พฺยาปาทวิตกฺกํ, วิหึสาวิตกฺกํ, กามสฺํ, พฺยาปาทสฺํ, วิหึสาสฺํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุ’’นฺติ. ทสมํ.

เทวตาวคฺโค สตฺตโม. [ทุติโย (สฺยา. ก.)]

ตสฺสุทฺทานํ –

อนาคามิ อรหํ มิตฺตา, สงฺคณิการามเทวตา;

สมาธิ สกฺขิภพฺพํ พลํ, ตชฺฌานา อปเร ทุเวติ.

๘. อรหตฺตวคฺโค

๑. ทุกฺขสุตฺตํ

๗๕. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. กตเมหิ ฉหิ? กามวิตกฺเกน, พฺยาปาทวิตกฺเกน, วิหึสาวิตกฺเกน, กามสฺาย, พฺยาปาทสฺาย, วิหึสาสฺาย – อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา. กตเมหิ ฉหิ? เนกฺขมฺมวิตกฺเกน, อพฺยาปาทวิตกฺเกน, อวิหึสาวิตกฺเกน, เนกฺขมฺมสฺาย, อพฺยาปาทสฺาย, อวิหึสาสฺาย – อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. ปมํ.

๒. อรหตฺตสุตฺตํ

๗๖. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? มานํ, โอมานํ, อติมานํ, อธิมานํ, ถมฺภํ, อตินิปาตํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? มานํ, โอมานํ, อติมานํ, อธิมานํ, ถมฺภํ, อตินิปาตํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสุตฺตํ

๗๗. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? มุฏฺสฺสจฺจํ, อสมฺปชฺํ, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ, โภชเน อมตฺตฺุตํ, กุหนํ, ลปนํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? มุฏฺสฺสจฺจํ, อสมฺปชฺํ, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ, โภชเน อมตฺตฺุตํ, กุหนํ, ลปนํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ตติยํ.

๔. สุขโสมนสฺสสุตฺตํ

๗๘. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขโสมนสฺสพหุโล วิหรติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยาย. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมาราโม โหติ, ภาวนาราโม โหติ, ปหานาราโม โหติ, ปวิเวการาโม โหติ, อพฺยาปชฺฌาราโม โหติ, นิปฺปปฺจาราโม โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขโสมนสฺสพหุโล วิหรติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยายา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. อธิคมสุตฺตํ

๗๙. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อนธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตุํ, อธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ ผาตึ กาตุํ [ผาติกตฺตุํ (สี.), ผาติกาตุํ (สฺยา. กํ. ปี.)]. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อายกุสโล จ โหติ, น อปายกุสโล จ โหติ, น อุปายกุสโล จ โหติ, อนธิคตานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อธิคมาย น ฉนฺทํ ชเนติ, อธิคเต กุสเล ธมฺเม น อารกฺขติ [สารกฺขติ (สี. สฺยา. กํ. ปี)], สาตจฺจกิริยาย น สมฺปาเทติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อนธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตุํ, อธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ ผาตึ กาตุํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตุํ, อธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ ผาตึ กาตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อายกุสโล จ โหติ, อปายกุสโล จ โหติ, อุปายกุสโล จ โหติ, อนธิคตานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อธิคมาย ฉนฺทํ ชเนติ, อธิคเต กุสเล ธมฺเม อารกฺขติ, สาตจฺจกิริยาย สมฺปาเทติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตุํ, อธิคตํ วา กุสลํ ธมฺมํ ผาตึ กาตุ’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. มหนฺตตฺตสุตฺตํ

๘๐. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว มหนฺตตฺตํ [มหตฺตํ (สฺยา. กํ.)] เวปุลฺลตฺตํ ปาปุณาติ ธมฺเมสุ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาโลกพหุโล จ โหติ โยคพหุโล จ เวทพหุโล จ อสนฺตุฏฺิพหุโล จ อนิกฺขิตฺตธุโร จ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อุตฺตริ จ ปตาเรติ [ปกโรติ (ก.)]. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว มหนฺตตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ ปาปุณาติ ธมฺเมสู’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมนิรยสุตฺตํ

๘๑. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ฉหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปาปิจฺโฉ จ, มิจฺฉาทิฏฺิ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ฉหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, อปฺปิจฺโฉ จ, สมฺมาทิฏฺิ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยนิรยสุตฺตํ

๘๒. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ฉหิ [มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาจา โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, (สี. สฺยา. ปี.) เอวํ สุกฺกปกฺเขปิ]? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ [มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาจา โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, (สี. สฺยา. ปี.) เอวํ สุกฺกปกฺเขปิ], ลุทฺโธ จ, ปคพฺโภ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ฉหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, อลุทฺโธ จ, อปฺปคพฺโภ จ. อิเมหิ โข ภิกฺขเว ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อคฺคธมฺมสุตฺตํ

๘๓. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อคฺคํ ธมฺมํ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ, กาเย จ ชีวิเต จ สาเปกฺโข โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อคฺคํ ธมฺมํ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อคฺคํ ธมฺมํ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, ปฺวา โหติ, กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺโข โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อคฺคํ ธมฺมํ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. รตฺติทิวสสุตฺตํ

๘๔. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน วุทฺธิ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิจฺโฉ โหติ, วิฆาตวา, อสนฺตุฏฺโ, อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, อสฺสทฺโธ โหติ, ทุสฺสีโล โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน วุทฺธิ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น มหิจฺโฉ โหติ, อวิฆาตวา, สนฺตุฏฺโ, อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, สทฺโธ โหติ, สีลวา โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, สติมา โหติ, ปฺวา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานี’’ติ. ทสมํ.

อรหตฺตวคฺโค อฏฺโม. [ตติโย (สฺยา. ก.)]

ตสฺสุทฺทานํ –

ทุกฺขํ อรหตฺตํ อุตฺตริ จ, สุขํ อธิคเมน จ;

มหนฺตตฺตํ ทฺวยํ นิรเย [มหตฺตทฺวยนิรเย (สฺยา.)], อคฺคธมฺมฺจ รตฺติโยติ.

๙. สีติวคฺโค

๑. สีติภาวสุตฺตํ

๘๕. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุํ. กตเมหิ ฉหิ [วิสุทฺธิ. ๑.๖๔ อาทโย วิตฺถาโร]? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ น นิคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ น ปคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ น สมฺปหํเสติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ น อชฺฌุเปกฺขติ, หีนาธิมุตฺติโก จ โหติ, สกฺกายาภิรโต จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ปณีตาธิมุตฺติโก จ โหติ, นิพฺพานาภิรโต จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ปมํ.

๒. อาวรณสุตฺตํ

๘๖. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโตปิ สทฺธมฺมํ อภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ฉหิ? กมฺมาวรณตาย สมนฺนาคโต โหติ, กิเลสาวรณตาย สมนฺนาคโต โหติ, วิปากาวรณตาย สมนฺนาคโต โหติ, อสฺสทฺโธ จ โหติ, อจฺฉนฺทิโก จ, ทุปฺปฺโ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโตปิ สทฺธมฺมํ อภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ฉหิ? น กมฺมาวรณตาย สมนฺนาคโต โหติ, น กิเลสาวรณตาย สมนฺนาคโต โหติ, น วิปากาวรณตาย สมนฺนาคโต โหติ, สทฺโธ จ โหติ, ฉนฺทิโก จ, ปฺวา จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺต’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. โวโรปิตสุตฺตํ

๘๗. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโตปิ สทฺธมฺมํ อภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ฉหิ? มาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหติ, ปิตา ชีวิตา โวโรปิโต โหติ, อรหํ [อรหา (สฺยา. กํ.), อรหนฺโต (ก.)] ชีวิตา โวโรปิโต โหติ, ตถาคตสฺส ทุฏฺเน จิตฺเตน โลหิตํ อุปฺปาทิตํ โหติ, สงฺโฆ ภินฺโน โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ ชโฬ เอฬมูโค. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโตปิ สทฺธมฺมํ อภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ฉหิ? น มาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหติ, น ปิตา ชีวิตา โวโรปิโต โหติ, น อรหํ ชีวิตา โวโรปิโต โหติ, น ตถาคตสฺส ทุฏฺเน จิตฺเตน โลหิตํ อุปฺปาทิตํ โหติ, น สงฺโฆ ภินฺโน โหติ, ปฺวา โหติ อชโฬ อเนฬมูโค. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺต’’นฺติ. ตติยํ.

๔. สุสฺสูสติสุตฺตํ

๘๘. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโตปิ สทฺธมฺมํ อภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ฉหิ? ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ [อุปฏฺเปติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อนตฺถํ คณฺหาติ, อตฺถํ ริฺจติ, อนนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโตปิ สทฺธมฺมํ อภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ฉหิ? ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน สุสฺสูสติ, โสตํ โอทหติ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, อตฺถํ คณฺหาติ, อนตฺถํ ริฺจติ, อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺต’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. อปฺปหายสุตฺตํ

๘๙. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปทํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? สกฺกายทิฏฺึ, วิจิกิจฺฉํ, สีลพฺพตปรามาสํ, อปายคมนียํ ราคํ, อปายคมนียํ โทสํ, อปายคมนียํ โมหํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปทํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปทํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ฉ? สกฺกายทิฏฺึ, วิจิกิจฺฉํ, สีลพฺพตปรามาสํ, อปายคมนียํ ราคํ, อปายคมนียํ โทสํ, อปายคมนียํ โมหํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปทํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. ปหีนสุตฺตํ

๙๐. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส ปหีนา. กตเม ฉ? สกฺกายทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส, อปายคมนีโย ราโค, อปายคมนีโย โทโส, อปายคมนีโย โมโห. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺมา ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส ปหีนา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. อภพฺพสุตฺตํ

๙๑. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อุปฺปาเทตุํ. กตเม ฉ? สกฺกายทิฏฺึ, วิจิกิจฺฉํ, สีลพฺพตปรามาสํ, อปายคมนียํ ราคํ, อปายคมนียํ โทสํ, อปายคมนียํ โมหํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อุปฺปาเทตุ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ปมอภพฺพฏฺานสุตฺตํ

๙๒. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อภพฺพฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สตฺถริ อคารโว วิหริตุํ อปฺปติสฺโส, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ธมฺเม อคารโว วิหริตุํ อปฺปติสฺโส, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺเฆ อคารโว วิหริตุํ อปฺปติสฺโส, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สิกฺขาย อคารโว วิหริตุํ อปฺปติสฺโส, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อนาคมนียํ วตฺถุํ ปจฺจาคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อฏฺมํ ภวํ นิพฺพตฺเตตุํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อภพฺพฏฺานานี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ทุติยอภพฺพฏฺานสุตฺตํ

๙๓. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อภพฺพฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ [กิฺจิ (ก.) วิภ. ๘๐๙; ม. นิ. ๓.๑๒๗] สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อานนฺตริยํ กมฺมํ [อานนฺตริยกมฺมํ (สี.), อนนฺตริยกมฺมํ (สฺยา. ปี.) อ. นิ. ๔.๑๖๒ ปสฺสิตพฺพํ] กาตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล โกตูหลมงฺคเลน สุทฺธึ ปจฺจาคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสิตุํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อภพฺพฏฺานานี’’ติ. นวมํ.

๑๐. ตติยอภพฺพฏฺานสุตฺตํ

๙๔. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อภพฺพฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล มาตรํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ปิตรํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อรหนฺตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ตถาคตสฺส ทุฏฺเน จิตฺเตน โลหิตํ อุปฺปาเทตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺทิตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิสิตุํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อภพฺพฏฺานานี’’ติ. ทสมํ.

๑๑. จตุตฺถอภพฺพฏฺานสุตฺตํ

๙๕. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อภพฺพฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สยํกตํ สุขทุกฺขํ ปจฺจาคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ปรํกตํ [ปรกตํ (สี. สฺยา.)] สุขทุกฺขํ ปจฺจาคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สยํกตฺจ ปรํกตฺจ สุขทุกฺขํ ปจฺจาคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อสยํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ ปจฺจาคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ ปจฺจาคนฺตุํ, อภพฺโพ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อสยํการฺจ อปรํการฺจ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ ปจฺจาคนฺตุํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิสฺส, ภิกฺขเว, ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส เหตุ จ สุทิฏฺโ เหตุสมุปฺปนฺนา จ ธมฺมา. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อภพฺพฏฺานานี’’ติ. เอกาทสมํ.

สีติวคฺโค นวโม. [จตุตฺโถ (สฺยา. ก.)]

ตสฺสุทฺทานํ –

สีติภาวํ อาวรณํ, โวโรปิตา สุสฺสูสติ;

อปฺปหาย ปหีนาภพฺโพ, ตฏฺานา จตุโรปิ จาติ.

๑๐. อานิสํสวคฺโค

๑. ปาตุภาวสุตฺตํ

๙๖. ‘‘ฉนฺนํ, ภิกฺขเว, ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมึ. กตเมสํ ฉนฺนํ? ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมึ, ตถาคตปฺปเวทิตสฺส ธมฺมวินยสฺส เทเสตา ปุคฺคโล ทุลฺลโภ โลกสฺมึ, อริยายตเน ปจฺจาชาติ ทุลฺลภา [ปจฺจาชาโต ทุลฺลโภ (สฺยา.)] โลกสฺมึ, อินฺทฺริยานํ อเวกลฺลตา ทุลฺลภา โลกสฺมึ, อชฬตา อเนฬมูคตา ทุลฺลภา โลกสฺมึ, กุสเล ธมฺเม ฉนฺโท [กุสลธมฺมจฺฉนฺโท (สี. สฺยา. ปี.)] ทุลฺลโภ โลกสฺมึ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺนํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิ’’นฺติ. ปมํ.

๒. อานิสํสสุตฺตํ

๙๗. ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย. กตเม ฉ? สทฺธมฺมนิยโต โหติ, อปริหานธมฺโม โหติ, ปริยนฺตกตสฺส ทุกฺขํ โหติ [ทุกฺขํ น โหติ (สฺยา. ปี. ก.)], อสาธารเณน าเณน สมนฺนาคโต โหติ, เหตุ จสฺส สุทิฏฺโ, เหตุสมุปฺปนฺนา จ ธมฺมา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ อานิสํสา โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายา’’ติ. ทุติยํ.

๓. อนิจฺจสุตฺตํ

๙๘. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต สมนุปสฺสนฺโต อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต ภวิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘อนุโลมิกาย ขนฺติยา อสมนฺนาคโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สมฺมตฺตนิยามํ อโนกฺกมมาโน โสตาปตฺติผลํ วา สกทาคามิผลํ วา อนาคามิผลํ วา อรหตฺตํ [อรหตฺตผลํ (ก.) ปฏิ. ม. ๓.๓๖] วา สจฺฉิกริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพสงฺขาเร [สพฺพสงฺขารํ (สี. ปี.)] อนิจฺจโต สมนุปสฺสนฺโต อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต ภวิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมมาโน โสตาปตฺติผลํ วา สกทาคามิผลํ วา อนาคามิผลํ วา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ตติยํ.

๔. ทุกฺขสุตฺตํ

๙๙. ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กฺจิ สงฺขารํ สุขโต สมนุปสฺสนฺโต…เป… สพฺพสงฺขาเร ทุกฺขโต สมนุปสฺสนฺโต…เป… านเมตํ วิชฺชติ’’. จตุตฺถํ.

๕. อนตฺตสุตฺตํ

๑๐๐. ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต สมนุปสฺสนฺโต…เป… สพฺพธมฺเม [สพฺพธมฺมํ (สี. ปี.), กิฺจิธมฺมํ (ก.) ปฏิ. ม. ๓.๓๖] อนตฺตโต สมนุปสฺสนฺโต…เป… านเมตํ วิชฺชติ’’. ปฺจมํ.

๖. นิพฺพานสุตฺตํ

๑๐๑. ‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิพฺพานํ ทุกฺขโต สมนุปสฺสนฺโต อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต ภวิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘อนุโลมิกาย ขนฺติยา อสมนฺนาคโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘สมฺมตฺตนิยามํ อโนกฺกมมาโน โสตาปตฺติผลํ วา สกทาคามิผลํ วา อนาคามิผลํ วา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกริสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิพฺพานํ สุขโต สมนุปสฺสนฺโต อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต ภวิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ. ‘สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมมาโน โสตาปตฺติผลํ วา สกทาคามิผลํ วา อนาคามิผลํ วา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกริสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. อนวตฺถิตสุตฺตํ

๑๐๒. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, อานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา สพฺพสงฺขาเรสุ อโนธึ กริตฺวา อนิจฺจสฺํ อุปฏฺาเปตุํ. กตเม ฉ? ‘สพฺพสงฺขารา จ เม อนวตฺถิตา [อนวฏฺิตโต (สี. สฺยา. ปี.)] ขายิสฺสนฺติ, สพฺพโลเก จ เม มโน นาภิรมิสฺสติ [น รมิสฺสติ (ก.)], สพฺพโลกา จ เม มโน วุฏฺหิสฺสติ, นิพฺพานโปณฺจ เม มานสํ ภวิสฺสติ, สํโยชนา จ เม ปหานํ คจฺฉิสฺสนฺติ [คจฺฉนฺติ (สฺยา. ปี. ก.)], ปรเมน จ สามฺเน สมนฺนาคโต ภวิสฺสามี’ติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ อานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา สพฺพสงฺขาเรสุ อโนธึ กริตฺวา อนิจฺจสฺํ อุปฏฺาเปตุ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. อุกฺขิตฺตาสิกสุตฺตํ

๑๐๓. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, อานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา สพฺพสงฺขาเรสุ อโนธึ กริตฺวา ทุกฺขสฺํ อุปฏฺาเปตุํ. กตเม ฉ? ‘สพฺพสงฺขาเรสุ จ เม นิพฺพิทสฺา ปจฺจุปฏฺิตา ภวิสฺสติ, เสยฺยถาปิ อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. สพฺพโลกา จ เม มโน วุฏฺหิสฺสติ, นิพฺพาเน จ สนฺตทสฺสาวี ภวิสฺสามิ, อนุสยา จ เม สมุคฺฆาตํ คจฺฉิสฺสนฺติ [คจฺฉนฺติ (ปี. ก.)], กิจฺจการี จ ภวิสฺสามิ, สตฺถา จ เม ปริจิณฺโณ ภวิสฺสติ เมตฺตาวตายา’ติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ อานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา สพฺพสงฺขาเรสุ อโนธึ กริตฺวา ทุกฺขสฺํ อุปฏฺาเปตุ’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. อตมฺมยสุตฺตํ

๑๐๔. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, อานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา สพฺพธมฺเมสุ อโนธึ กริตฺวา อนตฺตสฺํ อุปฏฺาเปตุํ. กตเม ฉ? สพฺพโลเก จ อตมฺมโย ภวิสฺสามิ, อหงฺการา จ เม อุปรุชฺฌิสฺสนฺติ, มมงฺการา จ เม อุปรุชฺฌิสฺสนฺติ, อสาธารเณน จ าเณน สมนฺนาคโต ภวิสฺสามิ, เหตุ จ เม สุทิฏฺโ ภวิสฺสติ, เหตุสมุปฺปนฺนา จ ธมฺมา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ อานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน อลเมว ภิกฺขุนา สพฺพธมฺเมสุ อโนธึ กริตฺวา อนตฺตสฺํ อุปฏฺาเปตุ’’นฺติ. นวมํ.

๑๐. ภวสุตฺตํ

๑๐๕. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ภวา ปหาตพฺพา, ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขิตพฺพํ. กตเม ตโย ภวา ปหาตพฺพา? กามภโว, รูปภโว, อรูปภโว – อิเม ตโย ภวา ปหาตพฺพา. กตมาสุ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขิตพฺพํ? อธิสีลสิกฺขาย, อธิจิตฺตสิกฺขาย, อธิปฺาสิกฺขาย – อิมาสุ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขิตพฺพํ. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อิเม ตโย ภวา ปหีนา โหนฺติ, อิมาสุ จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขิตสิกฺโข โหติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ, วิวตฺตยิ สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ. ทสมํ.

๑๑. ตณฺหาสุตฺตํ

๑๐๖. ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ตณฺหา ปหาตพฺพา, ตโย จ มานา. กตมา ติสฺโส ตณฺหา ปหาตพฺพา? กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา – อิมา ติสฺโส ตณฺหา ปหาตพฺพา. กตเม ตโย มานา ปหาตพฺพา? มาโน, โอมาโน, อติมาโน – อิเม ตโย มานา ปหาตพฺพา. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อิมา ติสฺโส ตณฺหา ปหีนา โหนฺติ, อิเม จ ตโย มานา; อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ, วิวตฺตยิ สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ. เอกาทสมํ.

อานิสํสวคฺโค ทสโม. [ปฺจโม (สฺยา. ก.)]

ตสฺสุทฺทานํ –

ปาตุภาโว อานิสํโส, อนิจฺจทุกฺขอนตฺตโต;

นิพฺพานํ อนวตฺถิ, อุกฺขิตฺตาสิ อตมฺมโย;

ภวา ตณฺหาเยกา ทสาติ.

ทุติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๑๑. ติกวคฺโค

๑. ราคสุตฺตํ

๑๐๗. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? ราโค, โทโส, โมโห. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? ราคสฺส ปหานาย อสุภา ภาเวตพฺพา, โทสสฺส ปหานาย เมตฺตา ภาเวตพฺพา, โมหสฺส ปหานาย ปฺา ภาเวตพฺพา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. ปมํ.

๒. ทุจฺจริตสุตฺตํ

๑๐๘. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? กายทุจฺจริตสฺส ปหานาย กายสุจริตํ ภาเวตพฺพํ, วจีทุจฺจริตสฺส ปหานาย วจีสุจริตํ ภาเวตพฺพํ, มโนทุจฺจริตสฺส ปหานาย มโนสุจริตํ ภาเวตพฺพํ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. ทุติยํ.

๓. วิตกฺกสุตฺตํ

๑๐๙. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? กามวิตกฺโก, พฺยาปาทวิตกฺโก, วิหึสาวิตกฺโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? กามวิตกฺกสฺส ปหานาย เนกฺขมฺมวิตกฺโก ภาเวตพฺโพ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺส ปหานาย อพฺยาปาทวิตกฺโก ภาเวตพฺโพ, วิหึสาวิตกฺกสฺส ปหานาย อวิหึสาวิตกฺโก ภาเวตพฺโพ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. ตติยํ.

๔. สฺาสุตฺตํ

๑๑๐. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? กามสฺา, พฺยาปาทสฺา, วิหึสาสฺา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? กามสฺาย ปหานาย เนกฺขมฺมสฺา ภาเวตพฺพา, พฺยาปาทสฺาย ปหานาย อพฺยาปาทสฺา ภาเวตพฺพา, วิหึสาสฺาย ปหานาย อวิหึสาสฺา ภาเวตพฺพา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ธาตุสุตฺตํ

๑๑๑. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? กามธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, วิหึสาธาตุ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? กามธาตุยา ปหานาย เนกฺขมฺมธาตุ ภาเวตพฺพา, พฺยาปาทธาตุยา ปหานาย อพฺยาปาทธาตุ ภาเวตพฺพา, วิหึสาธาตุยา ปหานาย อวิหึสาธาตุ ภาเวตพฺพา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อสฺสาทสุตฺตํ

๑๑๒. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? อสฺสาททิฏฺิ, อตฺตานุทิฏฺิ, มิจฺฉาทิฏฺิ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? อสฺสาททิฏฺิยา ปหานาย อนิจฺจสฺา ภาเวตพฺพา, อตฺตานุทิฏฺิยา ปหานาย อนตฺตสฺา ภาเวตพฺพา, มิจฺฉาทิฏฺิยา ปหานาย สมฺมาทิฏฺิ ภาเวตพฺพา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. อรติสุตฺตํ

๑๑๓. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? อรติ, วิหึสา [วิเหสา (ก.)], อธมฺมจริยา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? อรติยา ปหานาย มุทิตา ภาเวตพฺพา, วิหึสาย ปหานาย อวิหึสา ภาเวตพฺพา, อธมฺมจริยาย ปหานาย ธมฺมจริยา ภาเวตพฺพา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. สนฺตุฏฺิตาสุตฺตํ

๑๑๔. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? อสนฺตุฏฺิตา, อสมฺปชฺํ, มหิจฺฉตา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? อสนฺตุฏฺิตาย ปหานาย สนฺตุฏฺิตา ภาเวตพฺพา, อสมฺปชฺสฺส ปหานาย สมฺปชฺํ ภาเวตพฺพํ, มหิจฺฉตาย ปหานาย อปฺปิจฺฉตา ภาเวตพฺพา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. โทวจสฺสตาสุตฺตํ

๑๑๕. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? โทวจสฺสตา, ปาปมิตฺตตา, เจตโส วิกฺเขโป. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? โทวจสฺสตาย ปหานาย โสวจสฺสตา ภาเวตพฺพา, ปาปมิตฺตตาย ปหานาย กลฺยาณมิตฺตตา ภาเวตพฺพา, เจตโส วิกฺเขปสฺส ปหานาย อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. นวมํ.

๑๐. อุทฺธจฺจสุตฺตํ

๑๑๖. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา. กตเม ตโย? อุทฺธจฺจํ, อสํวโร, ปมาโท. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ตโย? อุทฺธจฺจสฺส ปหานาย สมโถ ภาเวตพฺโพ, อสํวรสฺส ปหานาย สํวโร ภาเวตพฺโพ, ปมาทสฺส ปหานาย อปฺปมาโท ภาเวตพฺโพ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ธมฺมานํ ปหานาย อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. ทสมํ.

ติกวคฺโค เอกาทสโม. [ปโม (สฺยา.)]

ตสฺสุทฺทานํ –

ราคทุจฺจริตวิตกฺก, สฺา ธาตูติ วุจฺจติ;

อสฺสาทอรติตุฏฺิ, ทุเว จ อุทฺธจฺเจน วคฺโคติ.

๑๒. สามฺวคฺโค

๑. กายานุปสฺสีสุตฺตํ

๑๑๗. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ กาเย กายานุปสฺสี วิหริตุํ. กตเม ฉ? กมฺมารามตํ, ภสฺสารามตํ, นิทฺทารามตํ, สงฺคณิการามตํ, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ, โภชเน อมตฺตฺุตํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ กาเย กายานุปสฺสี วิหริตุํ.

‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ กาเย กายานุปสฺสี วิหริตุํ. กตเม ฉ? กมฺมารามตํ, ภสฺสารามตํ, นิทฺทารามตํ, สงฺคณิการามตํ, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ, โภชเน อมตฺตฺุตํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ กาเย กายานุปสฺสี วิหริตุ’’นฺติ. ปมํ.

๒. ธมฺมานุปสฺสีสุตฺตํ

๑๑๘. ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อชฺฌตฺตํ กาเย…เป… พหิทฺธา กาเย…เป… อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเย…เป… อชฺฌตฺตํ เวทนาสุ…เป… พหิทฺธา เวทนาสุ…เป… อชฺฌตฺตพหิทฺธา เวทนาสุ…เป… อชฺฌตฺตํ จิตฺเต…เป… พหิทฺธา จิตฺเต…เป… อชฺฌตฺตพหิทฺธา จิตฺเต…เป… อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ…เป… พหิทฺธา ธมฺเมสุ…เป… อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหริตุํ. กตเม ฉ? กมฺมารามตํ, ภสฺสารามตํ, นิทฺทารามตํ, สงฺคณิการามตํ, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ, โภชเน อมตฺตฺุตํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหริตุ’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. ตปุสฺสสุตฺตํ

๑๑๙. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ตปุสฺโส [ตปสฺโส (ปี.) อ. นิ. ๑.๒๔๘] คหปติ ตถาคเต นิฏฺงฺคโต อมตทฺทโส อมตํ สจฺฉิกตฺวา อิริยติ. กตเมหิ ฉหิ? พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน, อริเยน สีเลน, อริเยน าเณน, อริยาย วิมุตฺติยา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ตปุสฺโส คหปติ ตถาคเต นิฏฺงฺคโต อมตทฺทโส อมตํ สจฺฉิกตฺวา อิริยตี’’ติ. ตติยํ.

๔-๒๓. ภลฺลิกาทิสุตฺตานิ

๑๒๐-๑๓๙. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภลฺลิโก คหปติ…เป… สุทตฺโต คหปติ อนาถปิณฺฑิโก… จิตฺโต คหปติ มจฺฉิกาสณฺฑิโก… หตฺถโก อาฬวโก… มหานาโม สกฺโก… อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก… อุคฺคโต คหปติ… สูรมฺพฏฺโ [สูโร อมฺพฏฺโ (ก.)] … ชีวโก โกมารภจฺโจ… นกุลปิตา คหปติ… ตวกณฺณิโก คหปติ… ปูรโณ คหปติ… อิสิทตฺโต คหปติ… สนฺธาโน [สนฺตาโน (ก.)] คหปติ… วิจโย [วิชโย (สี. สฺยา. ปี.)] คหปติ… วิชยมาหิโก [วชฺชิยมหิโต (สี. สฺยา. ปี.)] คหปติ… เมณฺฑโก คหปติ … วาเสฏฺโ อุปาสโก… อริฏฺโ อุปาสโก… สารคฺโค [สาทตฺโต (สฺยา.)] อุปาสโก ตถาคเต นิฏฺงฺคโต อมตทฺทโส อมตํ สจฺฉิกตฺวา อิริยติ. กตเมหิ ฉหิ? พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน, อริเยน สีเลน, อริเยน าเณน, อริยาย วิมุตฺติยา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สารคฺโค อุปาสโก ตถาคเต นิฏฺงฺคโต อมตทฺทโส อมตํ สจฺฉิกตฺวา อิริยตี’’ติ. เตวีสติมํ.

สามฺวคฺโค ทฺวาทสโม.

๑๓. ราคเปยฺยาลํ

๑๔๐. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยํ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๑๔๑. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ฉ? พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ. ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๑๔๒. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ฉ? อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา. ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๑๔๓-๑๖๙. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย…เป… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’.

๑๗๐-๖๔๙. ‘‘โทสสฺส…เป… โมหสฺส… โกธสฺส… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส อภิฺาย…เป… ปริฺาย… ปริกฺขยาย… ปหนาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย อิเม ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

ฉกฺกนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.