📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
องฺคุตฺตรนิกาโย
สตฺตกนิปาตปาฬิ
ปมปณฺณาสกํ
๑. ธนวคฺโค
๑. ปมปิยสุตฺตํ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลาภกาโม ¶ จ โหติ, สกฺการกาโม จ โหติ, อนวฺตฺติกาโม จ โหติ, อหิริโก จ โหติ, อโนตฺตปฺปี จ, ปาปิจฺโฉ จ, มิจฺฉาทิฏฺิ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.
‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ, มนาโป จ ¶ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ลาภกาโม จ โหติ, น สกฺการกาโม จ โหติ, น อนวฺตฺติกาโม จ โหติ, หิริมา จ โหติ, โอตฺตปฺปี จ, อปฺปิจฺโฉ ¶ จ, สมฺมาทิฏฺิ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยปิยสุตฺตํ
๒. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลาภกาโม จ โหติ, สกฺการกาโม จ โหติ, อนวฺตฺติกาโม จ โหติ, อหิริโก จ โหติ, อโนตฺตปฺปี จ, อิสฺสุกี จ, มจฺฉรี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.
‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ+? สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ลาภกาโม จ โหติ, น สกฺการกาโม จ โหติ, น อนวฺตฺติกาโม จ โหติ, หิริมา จ โหติ, โอตฺตปฺปี จ, อนิสฺสุกี จ, อมจฺฉรี จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ทุติยํ.
๓. สํขิตฺตพลสุตฺตํ
๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม…เป… สตฺติมานิ ¶ , ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ สตฺต? สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, หิรีพลํ ¶ , โอตฺตปฺปพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต พลานีติ.
‘‘สทฺธาพลํ ¶ วีริยฺจ, หิรี [หิริ (สี. ปี. ก.)] โอตฺตปฺปิยํ พลํ;
สติพลํ สมาธิ จ, ปฺา เว สตฺตมํ พลํ;
เอเตหิ พลวา ภิกฺขุ, สุขํ ชีวติ ปณฺฑิโต;
‘‘โยนิโส ¶ วิจิเน ธมฺมํ, ปฺายตฺถํ วิปสฺสติ;
ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข โหติ เจตโส’’ติ. ตติยํ;
๔. วิตฺถตพลสุตฺตํ
๔. ‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ สตฺต? สทฺธาพล, วีริยพลํ, หิรีพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธาพลํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, หิรีพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก หิริมา โหติ, หิรียติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, หิรียติ ปาปกานํ ¶ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, หิรีพลํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, โอตฺตปฺปพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โอตฺตปฺปี โหติ, โอตฺตปฺปติ ¶ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, โอตฺตปฺปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โอตฺตปฺปพลํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สติพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ¶ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. อิทํ, วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สติพลํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สมาธิพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมาธิพลํ.
‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปฺาพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต พลานีติ.
‘‘สทฺธาพลํ วีริยฺจ, หิรี โอตฺตปฺปิยํ พลํ;
สติพลํ สมาธิ จ, ปฺา เว สตฺตมํ พลํ;
เอเตหิ พลวา ภิกฺขุ, สุขํ ชีวติ ปณฺฑิโต.
‘‘โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ, ปฺายตฺถํ วิปสฺสติ;
ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข โหติ เจตโส’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. สํขิตฺตธนสุตฺตํ
๕. ‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, ธนานิ. กตมานิ สตฺต? สทฺธาธนํ, สีลธนํ, หิรีธนํ, โอตฺตปฺปธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนํ. อิมานิ ¶ โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธนานีติ.
‘‘สทฺธาธนํ ¶ สีลธนํ, หิรี โอตฺตปฺปิยํ ธนํ;
สุตธนฺจ จาโค จ, ปฺา เว สตฺตมํ ธนํ.
‘‘ยสฺส เอเต ธนา อตฺถิ, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา;
อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ.
‘‘ตสฺมา ¶ สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;
อนุยฺุเชถ เมธาวี, สรํ [วรํ (ก.)] พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. ปฺจมํ;
๖. วิตฺถตธนสุตฺตํ
๖. ‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, ธนานิ. กตมานิ สตฺต? สทฺธาธนํ, สีลธนํ, หิรีธนํ, โอตฺตปฺปธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สทฺธาธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธาธนํ.
‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, สีลธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สีลธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, หิรีธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก หิรีมา โหติ, หิรียติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, หิรีธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, โอตฺตปฺปธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โอตฺตปฺปี โหติ, โอตฺตปฺปติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, โอตฺตปฺปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โอตฺตปฺปธนํ.
‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, สุตธนํ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, อริยสาวโก พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ. ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา ¶ สุปฺปฏิวิทฺธา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุตธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, จาคธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, จาคธนํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฺาธนํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปฺวา โหติ…เป… สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฺาธนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตธนานีติ.
‘‘สทฺธาธนํ สีลธนํ, หิรี โอตฺตปฺปิยํ ธนํ;
สุตธนฺจ จาโค จ, ปฺา เว สตฺตมํ ธนํ.
‘‘ยสฺส เอเต ธนา อตฺถิ, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา;
อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ.
‘‘ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;
อนุยฺุเชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. ฉฏฺํ;
๗. อุคฺคสุตฺตํ
๗. อถ ¶ โข อุคฺโค ราชมหามตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุคฺโค ราชมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว อฑฺโฒ จายํ, ภนฺเต, มิคาโร โรหเณยฺโย ยาว มหทฺธโน ยาว มหาโภโค’’ติ. ‘‘กีว อฑฺโฒ ¶ ปนุคฺค, มิคาโร โรหเณยฺโย, กีว มหทฺธโน, กีว มหาโภโค’’ติ? ‘‘สตํ, ภนฺเต, สตสหสฺสานํ [สหสฺสานํ (สี.), สหสฺสานิ (สฺยา.), สตสหสฺสานิ (?)] หิรฺสฺส, โก ปน วาโท รูปิยสฺสา’’ติ! ‘‘อตฺถิ โข เอตํ, อุคฺค, ธนํ เนตํ ‘นตฺถี’ติ วทามีติ ¶ . ตฺจ โข เอตํ, อุคฺค, ธนํ สาธารณํ อคฺคินา อุทเกน ราชูหิ โจเรหิ อปฺปิเยหิ ทายาเทหิ. สตฺต โข อิมานิ, อุคฺค, ธนานิ อสาธารณานิ อคฺคินา อุทเกน ราชูหิ โจเรหิ อปฺปิเยหิ ทายาเทหิ. กตมานิ สตฺต? สทฺธาธนํ, สีลธนํ, หิรีธนํ, โอตฺตปฺปธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนํ. อิมานิ โข, อุคฺค, สตฺต ธนานิ อสาธารณานิ อคฺคินา อุทเกน ราชูหิ โจเรหิ อปฺปิเยหิ ทายาเทหีติ.
‘‘สทฺธาธนํ สีลธนํ, หิรี โอตฺตปฺปิยํ ธนํ;
สุตธนฺจ จาโค จ, ปฺา เว สตฺตมํ ธนํ.
‘‘ยสฺส เอเต ธนา อตฺถิ, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา;
ส เว มหทฺธโน โลเก, อเชยฺโย เทวมานุเส.
‘‘ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;
อนุยฺุเชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. สตฺตมํ;
๘. สํโยชนสุตฺตํ
๘. ‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, สํโยชนานิ. กตมานิ สตฺต? อนุนยสํโยชนํ, ปฏิฆสํโยชนํ, ทิฏฺิสํโยชนํ, วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ, มานสํโยชนํ, ภวราคสํโยชนํ, อวิชฺชาสํโยชนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต สํโยชนานี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปหานสุตฺตํ
๙. ‘‘สตฺตนฺนํ ¶ , ภิกฺขเว, สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. กตเมสํ ¶ สตฺตนฺนํ? อนุนยสํโยชนสฺส ¶ ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ปฏิฆสํโยชนสฺส…เป… ทิฏฺิสํโยชนสฺส… วิจิกิจฺฉาสํโยชนสฺส… มานสํโยชนสฺส… ภวราคสํโยชนสฺส ¶ … อวิชฺชาสํโยชนสฺส ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนุนยสํโยชนํ ปหีนํ โหติ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํ กตํ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมํ. ปฏิฆสํโยชนํ…เป… ทิฏฺิสํโยชนํ… วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ… มานสํโยชนํ… ภวราคสํโยชนํ… อวิชฺชาสํโยชนํ ปหีนํ โหติ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํ กตํ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ, วิวตฺตยิ สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ. นวมํ.
๑๐. มจฺฉริยสุตฺตํ
๑๐. ‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, สํโยชนานิ. กตมานิ สตฺต? อนุนยสํโยชนํ, ปฏิฆสํโยชนํ, ทิฏฺิสํโยชนํ, วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ, มานสํโยชนํ, อิสฺสาสํโยชนํ, มจฺฉริยสํโยชนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต สํโยชนานี’’ติ. ทสมํ.
ธนวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว ¶ ปิยานิ พลํ ธนํ, สํขิตฺตฺเจว วิตฺถตํ;
อุคฺคํ สํโยชนฺเจว, ปหานํ มจฺฉริเยน จาติ.
๒. อนุสยวคฺโค
๑. ปมอนุสยสุตฺตํ
๑๑. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, อนุสยา. กตเม สตฺต? กามราคานุสโย, ปฏิฆานุสโย ¶ , ทิฏฺานุสโย, วิจิกิจฺฉานุสโย, มานานุสโย, ภวราคานุสโย ¶ , อวิชฺชานุสโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อนุสยา’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยอนุสยสุตฺตํ
๑๒. ‘‘สตฺตนฺนํ, ภิกฺขเว, อนุสยานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. กตเมสํ สตฺตนฺนํ? กามราคานุสยสฺส ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ปฏิฆานุสยสฺส…เป… ทิฏฺานุสยสฺส… วิจิกิจฺฉานุสยสฺส… มานานุสยสฺส… ภวราคานุสยสฺส… อวิชฺชานุสยสฺส ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ อนุสยานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ.
‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กามราคานุสโย ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. ปฏิฆานุสโย…เป… ทิฏฺานุสโย… วิจิกิจฺฉานุสโย… มานานุสโย… ภวราคานุสโย… อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ, วิวตฺตยิ สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ. ทุติยํ.
๓. กุลสุตฺตํ
๑๓. ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา นาลํ อุปคนฺตุํ, อุปคนฺตฺวา ¶ วา นาลํ อุปนิสีทิตุํ. กตเมหิ สตฺตหิ? น มนาเปน ปจฺจุฏฺเนฺติ, น มนาเปน อภิวาเทนฺติ, น มนาเปน อาสนํ เทนฺติ, สนฺตมสฺส ปริคุหนฺติ, พหุกมฺปิ โถกํ เทนฺติ, ปณีตมฺปิ ลูขํ เทนฺติ, อสกฺกจฺจํ เทนฺติ โน สกฺกจฺจํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา นาลํ อุปคนฺตุํ, อุปคนฺตฺวา วา ¶ นาลํ อุปนิสีทิตุํ.
‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา อลํ อุปคนฺตุํ, อุปคนฺตฺวา วา อลํ อุปนิสีทิตุํ. กตเมหิ สตฺตหิ? มนาเปน ปจฺจุฏฺเนฺติ, มนาเปน อภิวาเทนฺติ, มนาเปน อาสนํ เทนฺติ, สนฺตมสฺส น ปริคุหนฺติ, พหุกมฺปิ พหุกํ เทนฺติ, ปณีตมฺปิ ปณีตํ เทนฺติ, สกฺกจฺจํ เทนฺติ โน อสกฺกจฺจํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา อลํ อุปคนฺตุํ, อุปคนฺตฺวา วา อลํ อุปนิสีทิตุ’’นฺติ. ตติยํ.
๔. ปุคฺคลสุตฺตํ
๑๔. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม สตฺต? อุภโตภาควิมุตฺโต, ปฺาวิมุตฺโต, กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต [ทิฏฺปฺปตฺโต (ก.)], สทฺธาวิมุตฺโต, ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารี. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, สตฺต ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อุทกูปมาสุตฺตํ
๑๕. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, อุทกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม สตฺต? [ปุ. ป. ๒๐๓; กถา. ๘๕๒] อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ; อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชติ; อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต โหติ; อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกติ; อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรติ; อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปติคาธปฺปตฺโต โหติ; อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ติณฺโณ โหติ ปารงฺคโต [ปารคโต (สี. สฺยา. กํ.)] ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ? อิธ ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สมนฺนาคโต โหติ เอกนฺตกาฬเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ สาธุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี…เป… สาธุ โอตฺตปฺปํ… สาธุ วีริยํ [วิริยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] … สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ. ตสฺส สา สทฺธา เนว ติฏฺติ โน วฑฺฒติ หายติเยว, ตสฺส สา หิรี…เป… ตสฺส ตํ โอตฺตปฺปํ… ตสฺส ตํ วีริยํ… ตสฺส สา ปฺา เนว ติฏฺติ โน วฑฺฒติ หายติเยว. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต โหติ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ สาธุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี…เป… สาธุ โอตฺตปฺปํ… สาธุ วีริยํ… สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ. ตสฺส สา สทฺธา เนว หายติ โน วฑฺฒติ ิตา โหติ. ตสฺส สา หิรี…เป… ตสฺส ตํ โอตฺตปฺปํ… ตสฺส ตํ วีริยํ… ตสฺส สา ปฺา เนว หายติ โน วฑฺฒติ ิตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ สาธุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี…เป… สาธุ โอตฺตปฺปํ… สาธุ วีริยํ… สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน ¶ โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ ¶ สาธุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี…เป… สาธุ โอตฺตปฺปํ… สาธุ วีริยํ… สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว [สกึเทว (ก.)] อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ [ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ (ก.)]. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปติคาธปฺปตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ สาธุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี…เป… สาธุ โอตฺตปฺปํ… สาธุ วีริยํ… สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปติคาธปฺปตฺโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ติณฺโณ โหติ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ. อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ สาธุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี…เป… สาธุ โอตฺตปฺปํ… สาธุ วีริยํ… สาธุ ปฺา ¶ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ. โส อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ติณฺโณ โหติ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ.
‘‘อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อุทกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. อนิจฺจานุปสฺสีสุตฺตํ
๑๖. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, อนิจฺจสฺี, อนิจฺจปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. โส อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, อนิจฺจสฺี, อนิจฺจปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. ตสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, อนิจฺจสฺี, อนิจฺจปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ ¶ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ…เป… อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ…เป… อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ¶ ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ทุกฺขานุปสฺสีสุตฺตํ
๑๗. สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺพสงฺขาเรสุ ทุกฺขานุปสฺสี วิหรติ…เป…. สตฺตมํ.
๘. อนตฺตานุปสฺสีสุตฺตํ
๑๘. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนตฺตานุปสฺสี วิหรติ…เป…. อฏฺมํ.
๙. นิพฺพานสุตฺตํ
๑๙. [กถา. ๕๔๗-๕๔๘] ‘‘นิพฺพาเน ¶ สุขานุปสฺสี วิหรติ สุขสฺี สุขปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. โส อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ภิกฺขเว, ปโม ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย…เป… ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล นิพฺพาเน สุขานุปสฺสี วิหรติ สุขสฺี สุขปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. ตสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล นิพฺพาเน สุขานุปสฺสี วิหรติ สุขสฺี สุขปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ…เป… อุปหจฺจปรินิพฺพายี ¶ โหติ…เป… อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. นวมํ.
๑๐. นิทฺทสวตฺถุสุตฺตํ
๒๐. ‘‘สตฺติมานิ ¶ , ภิกฺขเว, นิทฺทสวตฺถูนิ. กตมานิ สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโม [อธิคตเปโม (สฺยา.) อ. นิ. ๗.๔๒; ที. นิ. ๓.๓๓๑], ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโม, อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโม, ปฏิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ปฏิสลฺลาเน อวิคตเปโม, วีริยารมฺเภ [วีริยารพฺเภ (ก.)] ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ วีริยารมฺเภ อวิคตเปโม, สติเนปกฺเก ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ สติเนปกฺเก อวิคตเปโม, ทิฏฺิปฏิเวเธ ¶ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ทิฏฺิปฏิเวเธ อวิคตเปโม. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนี’’ติ. ทสมํ.
อนุสยวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทุเว อนุสยา กุลํ, ปุคฺคลํ อุทกูปมํ;
อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา จ, นิพฺพานํ นิทฺทสวตฺถุ จาติ.
๓. วชฺชิสตฺตกวคฺโค
๑. สารนฺททสุตฺตํ
๒๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ สารนฺทเท เจติเย. อถ โข สมฺพหุลา ลิจฺฉวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ลิจฺฉวี ¶ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สตฺต โว, ลิจฺฉวี, อปริหานิเย [อปริหานีเย (ก.)] ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ลิจฺฉวี ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตเม ¶ จ, ลิจฺฉวี, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา ภวิสฺสนฺติ สนฺนิปาตพหุลา; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กริสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ลิจฺฉวี, วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ¶ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา ¶ รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’นฺติ; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ลิจฺฉวี, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา วชฺชีสุ สฺสนฺติ [วตฺติสฺสนฺติ (ก.)], อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ วชฺชี สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ [สนฺทิสฺสนฺติ (สี. ปี. ก.)]; วุทฺธิเยว, ลิจฺฉวี, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ปมํ.
๒. วสฺสการสุตฺตํ
๒๒. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม โหติ. โส เอวมาห – ‘‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ [อุจฺเฉชฺชิสฺสามิ (สฺยา.), อุจฺฉิชฺชิสฺสามิ (ก.)], วชฺชี วินาเสสฺสามิ, วชฺชี อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’ติ [อาปาเทสฺสามิ วชฺชีติ (ก.) ที. นิ. ๒.๑๓๑].
อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มาคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ ¶ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ, วชฺชี วินาเสสฺสามิ, วชฺชี อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’ติ ¶ . ยถา ¶ เต ภควา พฺยากโรติ, ตํ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา มม อาโรเจยฺยาสิ. น หิ ตถาคตา วิตถํ ภณนฺตี’’ติ.
‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มาคธมหามตฺโต รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มาคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ราชา, โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต โภโต โคตมสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ. ราชา [เอวฺจ วเทติ ราชา (สี. ก.)], โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ, วชฺชี วินาเสสฺสามิ, วชฺชี อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’’ติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปิฏฺิโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน [วีชมาโน (สี. สฺยา.)]. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา ภวิสฺสนฺติ สนฺนิปาตพหุลา; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’’’ติ ¶ . ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ ¶ , สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กริสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ ¶ , ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท ¶ , วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย ¶ กุลกุมาริโย ตา น โอกสฺส ปสยฺห วาเสสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี ยานิ ¶ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ ตานิ สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘กินฺติ ¶ เต, อานนฺท, สุตํ – ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา – กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ – กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุํ วิหเรยฺยุ’นฺติ; วุทฺธิเยว, อานนฺท ¶ , วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.
อถ โข ภควา วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มาคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอกมิทาหํ, พฺราหฺมณ, สมยํ เวสาลิยํ วิหรามิ สารนฺทเท เจติเย. ตตฺราหํ, พฺราหฺมณ, วชฺชีนํ อิเม สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสึ. ยาวกีวฺจ, พฺราหฺมณ, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา วชฺชีสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ วชฺชี สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, พฺราหฺมณ, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.
‘‘เอกเมเกนปิ ¶ [เอกเมเกนปิ เตน โข (ก.) ที. นิ. ๒.๑๓๕] โภ, โคตม, อปริหานิเยน ธมฺเมน สมนฺนาคตานํ วชฺชีนํ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ; โก ปน วาโท สตฺตหิ อปริหานิเยหิ ธมฺเมหิ! อกรณียา จ, โภ โคตม, วชฺชี รฺา มาคเธน อชาตสตฺตุนา เวเทหิปุตฺเตน ยทิทํ ยุทฺธสฺส, อฺตฺร อุปลาปนาย ¶ [อุปลาปนา (ก. สี. ก.)], อฺตฺร มิถุเภทา. หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉาม, พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มาคธมหามตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. ทุติยํ.
๓. ปมสตฺตกสุตฺตํ
๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ ¶ , สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ¶ อภิณฺหํ สนฺนิปาตา ภวิสฺสนฺติ สนฺนิปาตพหุลา; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา สงฺฆกรณียานิ กริสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู อุปฺปนฺนาย ตณฺหาย โปโนภวิกาย น วสํ คจฺฉิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อารฺเกสุ เสนาสเนสุ สาเปกฺขา ภวิสฺสนฺติ ¶ ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปจฺจตฺตฺเว สตึ อุปฏฺาเปสฺสนฺติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี ผาสุํ วิหเรยฺยุ’นฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ¶ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ตติยํ.
๔. ทุติยสตฺตกสุตฺตํ
๒๔. [ที. นิ. ๒.๑๓๘] ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา?
ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น กมฺมารามา ภวิสฺสนฺติ, น กมฺมรตา, น กมฺมารามตํ อนุยุตฺตา; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ภสฺสารามา ภวิสฺสนฺติ…เป… น นิทฺทารามา ภวิสฺสนฺติ… น สงฺคณิการามา ภวิสฺสนฺติ… น ปาปิจฺฉา ภวิสฺสนฺติ น ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา… น ปาปมิตฺตา ภวิสฺสนฺติ น ปาปสหายา น ปาปสมฺปวงฺกา… น โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตราโวสานํ อาปชฺชิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ตติยสตฺตกสุตฺตํ
๒๕. ‘‘สตฺต ¶ โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สทฺธา ภวิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู หิริมนฺโต [หิรีมา (สี.), หิริมนา (ที. นิ. ๒.๑๓๘)] ภวิสฺสนฺติ…เป… โอตฺตปฺปิโน [โอตฺตาปีโน (สี.)] ภวิสฺสนฺติ… พหุสฺสุตา ภวิสฺสนฺติ… อารทฺธวีริยา ภวิสฺสนฺติ… สติมนฺโต ภวิสฺสนฺติ… ปฺวนฺโต ภวิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ¶ ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. โพชฺฌงฺคสุตฺตํ
๒๖. ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. สฺาสุตฺตํ
๒๗. ‘‘สตฺต ¶ โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป…. กตเม จ, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิยา ¶ ธมฺมา? ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนิจฺจสฺํ ภาเวสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.
‘‘ยาวกีวฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนตฺตสฺํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… อสุภสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… อาทีนวสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… ปหานสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… วิราคสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… นิโรธสฺํ ภาเวสฺสนฺติ ¶ ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ, ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ; วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ [ที. นิ. ๒.๑๓๘]. สตฺตมํ.
๘. ปมปริหานิสุตฺตํ
๒๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา, สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา, โภชเน อมตฺตฺุตา, สนฺติ โข ปน สงฺเฆ สงฺฆกรณียานิ; ตตฺร เสโข ภิกฺขุ [ตตฺร ภิกฺขุ (สี. สฺยา.)] อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สนฺติ โข ปน สงฺเฆ เถรา [โข สํฆตฺเถรา (ก.)] รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา ภารวาหิโน, เต [น เต (ก.)] เตน ปฺายิสฺสนฺตี’ติ อตฺตนา เตสุ โยคํ [อตฺตนา โวโยคํ (สี. สฺยา.)] อาปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? น ¶ กมฺมารามตา, น ภสฺสารามตา, น นิทฺทารามตา, น สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, สนฺติ โข ปน สงฺเฆ สงฺฆกรณียานิ; ตตฺร เสโข ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สนฺติ โข ปน สงฺเฆ เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา ภารวาหิโน, เต เตน ปฺายิสฺสนฺตี’ติ อตฺตนา น เตสุ โยคํ อาปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ทุติยปริหานิสุตฺตํ
๒๙. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา อุปาสกสฺส ปริหานาย สํวตฺตนฺติ ¶ . กตเม สตฺต? ภิกฺขุทสฺสนํ หาเปติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปมชฺชติ, อธิสีเล น สิกฺขติ, อปฺปสาทพหุโล โหติ ¶ , ภิกฺขูสุ เถเรสุ เจว นเวสุ จ มชฺฌิเมสุ จ อุปารมฺภจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ รนฺธคเวสี, อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, ตตฺถ จ ปุพฺพการํ กโรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา อุปาสกสฺส ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อุปาสกสฺส อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? ภิกฺขุทสฺสนํ น หาเปติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ นปฺปมชฺชติ, อธิสีเล สิกฺขติ, ปสาทพหุโล โหติ, ภิกฺขูสุ เถเรสุ เจว นเวสุ จ มชฺฌิเมสุ จ อนุปารมฺภจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ น รนฺธคเวสี, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา อุปาสกสฺส อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ทสฺสนํ ¶ ภาวิตตฺตานํ, โย หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล น สิกฺขติ.
‘‘อปฺปสาโท จ ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อุปารมฺภกจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘อิโต จ พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
ตตฺเถว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต โข ปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา ปริหายติ.
‘‘ทสฺสนํ ภาวิตตฺตานํ, โย น หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล จ สิกฺขติ.
‘‘ปสาโท จสฺส ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อนุปารมฺภจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘น ¶ อิโต พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
อิเธว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต ¶ โข อปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา น ปริหายตี’’ติ. นวมํ;
๑๐. วิปตฺติสุตฺตํ
๓๐. สตฺติมา, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส วิปตฺติโย…เป… สตฺติมา, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส สมฺปทา…เป…. ทสมํ.
๑๑. ปราภวสุตฺตํ
๓๑. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส ปราภวา…เป… สตฺติเม, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส สมฺภวา. กตเม สตฺต? ภิกฺขุทสฺสนํ น หาเปติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ นปฺปมชฺชติ, อธิสีเล สิกฺขติ, ปสาทพหุโล โหติ, ภิกฺขูสุ เถเรสุ เจว นเวสุ จ มชฺฌิเมสุ จ อนุปารมฺภจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ น รนฺธคเวสี, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อุปาสกสฺส สมฺภวาติ.
‘‘ทสฺสนํ ¶ ภาวิตตฺตานํ, โย หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล น สิกฺขติ.
‘‘อปฺปสาโท จ ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อุปารมฺภกจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘อิโต จ พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
ตตฺเถว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต ¶ โข ปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา ปริหายติ.
‘‘ทสฺสนํ ¶ ภาวิตตฺตานํ, โย น หาเปติ อุปาสโก;
สวนฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล จ สิกฺขติ.
‘‘ปสาโท จสฺส ภิกฺขูสุ, ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ;
อนุปารมฺภจิตฺโต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ.
‘‘น ¶ อิโต พหิทฺธา อฺํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
อิเธว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโก.
‘‘เอเต โข อปริหานิเย, สตฺต ธมฺเม สุเทสิเต;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา น ปริหายตี’’ติ. เอกาทสมํ;
วชฺชิสตฺตกวคฺโค [วชฺชิวคฺโค (สฺยา.)] ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
สารนฺท ¶ -วสฺสกาโร จ, ติสตฺตกานิ ภิกฺขุกา;
โพธิสฺา ทฺเว จ หานิ, วิปตฺติ จ ปราภโวติ.
๔. เทวตาวคฺโค
๑. อปฺปมาทคารวสุตฺตํ
๓๒. อถ ¶ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา ¶ เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฏิสนฺถารคารวตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา. สมนฺุโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนฺุโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.
อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฏิสนฺถารคารวตา – อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.
‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;
สมาธิครุ อาตาปี [สมาธิคารวตาปิ จ (ก.)], สิกฺขาย ติพฺพคารโว.
‘‘อปฺปมาทครุ ¶ ¶ ภิกฺขุ, ปฏิสนฺถารคารโว;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ปมํ;
๒. หิรีคารวสุตฺตํ
๓๓. ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ ¶ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, หิริคารวตา, โอตฺตปฺปคารวตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.
‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;
สมาธิครุ อาตาปี, สิกฺขาย ติพฺพคารโว.
‘‘หิริ โอตฺตปฺปสมฺปนฺโน, สปฺปติสฺโส สคารโว;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ทุติยํ;
๓. ปมโสวจสฺสตาสุตฺตํ
๓๔. ‘‘อิมํ ¶ , ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา…เป… มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว ¶ , สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.
‘‘สตฺถุครุ ¶ ธมฺมครุ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารโว;
สมาธิครุ อาตาปี, สิกฺขาย ติพฺพคารโว.
‘‘กลฺยาณมิตฺโต สุวโจ, สปฺปติสฺโส สคารโว;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. ตติยํ;
๔. ทุติยโสวจสฺสตาสุตฺตํ
๓๕. ‘‘อิมํ ¶ , ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา…เป… ‘สตฺติเม, ภนฺเต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา. อิเม โข, ภนฺเต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ, สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ… สมาธิคารโว โหติ… สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ, กลฺยาณมิตฺตตาย จ ¶ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ ¶ . เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนาติ. อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.
‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ. อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สตฺถุคารโว โหติ, สตฺถุคารวตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น สตฺถุคารวา เต จ สตฺถุคารวตาย สมาทเปติ ¶ ¶ . เย จฺเ ภิกฺขู สตฺถุคารวา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. อตฺตนา จ ธมฺมคารโว โหติ…เป… สงฺฆคารโว โหติ… สิกฺขาคารโว โหติ… สมาธิคารโว โหติ… สุวโจ โหติ… กลฺยาณมิตฺโต โหติ, กลฺยาณมิตฺตตาย จ วณฺณวาที. เย จฺเ ภิกฺขู น กลฺยาณมิตฺตา เต จ กลฺยาณมิตฺตตาย สมาทเปติ. เย จฺเ ภิกฺขู กลฺยาณมิตฺตา เตสฺจ วณฺณํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนาติ. อิมสฺส โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปมมิตฺตสุตฺตํ
๓๖. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต มิตฺโต เสวิตพฺโพ. กตเมหิ สตฺตหิ? ทุทฺททํ ททาติ, ทุกฺกรํ กโรติ, ทุกฺขมํ ขมติ, คุยฺหมสฺส [คุยฺหสฺส (ก.)] อาวิ กโรติ, คุยฺหมสฺส [คุยฺหํ อสฺส (สี.), คุยฺหสฺส (ก.)] ปริคุหติ [ปริคูหติ (สี. สฺยา.), ปริคุยฺหติ (ก.)], อาปทาสุ น ชหติ, ขีเณน [ขีเณ (ก.)] นาติมฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต มิตฺโต เสวิตพฺโพ’’ติ ¶ .
‘‘ทุทฺททํ ททาติ มิตฺโต, ทุกฺกรฺจาปิ กุพฺพติ;
อโถปิสฺส ทุรุตฺตานิ, ขมติ ทุกฺขมานิ จ [ทุกฺขมานิปิ (สี. สฺยา.)].
‘‘คุยฺหฺจ ตสฺส [คุยฺหมสฺส จ (สฺยา.)] อกฺขาติ, คุยฺหสฺส ปริคูหติ;
อาปทาสุ น ชหาติ, ขีเณน นาติมฺติ.
‘‘ยมฺหิ เอตานิ านานิ, สํวิชฺชนฺตีธ [สํวิชฺชนฺติ จ (ก.)] ปุคฺคเล;
โส มิตฺโต มิตฺตกาเมน, ภชิตพฺโพ ตถาวิโธ’’ติ. ปฺจมํ;
๖. ทุติยมิตฺตสุตฺตํ
๓๗. ‘‘สตฺตหิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ มิตฺโต เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ อปิ ปนุชฺชมาเนนปิ [ปณุชฺชมาเนนปิ (สี.)]. กตเมหิ สตฺตหิ? ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ วตฺตา จ วจนกฺขโม จ คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา โหติ, โน จ อฏฺาเน นิโยเชติ ¶ . อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ มิตฺโต เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ อปิ ปนุชฺชมาเนนปี’’ติ.
‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;
คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโก [นิโยชเย (สี. สฺยา.)].
‘‘ยมฺหิ เอตานิ านานิ, สํวิชฺชนฺตีธ ปุคฺคเล;
โส มิตฺโต มิตฺตกาเมน, อตฺถกามานุกมฺปโต;
อปิ นาสิยมาเนน, ภชิตพฺโพ ตถาวิโธ’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. ปมปฏิสมฺภิทาสุตฺตํ
๓๘. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว จตสฺโส ¶ ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ เม เจตโส ลีนตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; อชฺฌตฺตํ สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อชฺฌตฺตํ เม สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; พหิทฺธา วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘พหิทฺธา เม วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ตสฺส วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา ¶ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; สปฺปายาสปฺปาเยสุ โข ปนสฺส ธมฺเมสุ หีนปฺปณีเตสุ กณฺหสุกฺกสปฺปติภาเคสุ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ทุติยปฏิสมฺภิทาสุตฺตํ
๓๙. ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต ‘อิทํ ¶ เม เจตโส ลีนตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; อชฺฌตฺตํ สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อชฺฌตฺตํ เม สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; พหิทฺธา วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘พหิทฺธา เม วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ตสฺส วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา ¶ สฺา…เป… วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; สปฺปายาสปฺปาเยสุ โข ปนสฺส ธมฺเมสุ หีนปฺปณีเตสุ กณฺหสุกฺกสปฺปติภาเคสุ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปมวสสุตฺตํ
๔๐. ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จิตฺตํ วเส [วสํ (ก.)] วตฺเตติ, โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมาธิกุสโล โหติ, สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส ิติกุสโล โหติ, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล โหติ, สมาธิสฺส กลฺยาณกุสโล โหติ, สมาธิสฺส โคจรกุสโล โหติ, สมาธิสฺส อภินีหารกุสโล โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ ภิกฺขุ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. ทุติยวสสุตฺตํ
๔๑. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ สาริปุตฺโต จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สมาธิกุสโล โหติ, สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล, สมาธิสฺส ิติกุสโล, สมาธิสฺส วุฏฺานกุสโล, สมาธิสฺส กลฺยาณกุสโล, สมาธิสฺส โคจรกุสโล, สมาธิสฺส ¶ อภินีหารกุสโล โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว ¶ , สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ สาริปุตฺโต จิตฺตสฺส วเสน วตฺตตี’’ติ. ทสมํ.
๑๑. ปมนิทฺทสสุตฺตํ
๔๒. อถ ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ¶ เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ ¶ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ ¶ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ ¶ – ‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, นิทฺทโส ภิกฺขูติ อลํ วจนายา’ติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา ¶ อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ [ปกฺกามึ (สี. สฺยา.)] – ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’ติ. สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุ’’นฺติ?
‘‘น โข, สาริปุตฺต, สกฺกา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุํ. สตฺต โข อิมานิ, สาริปุตฺต, นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ.
[อ. นิ. ๗.๒๐; ที. นิ. ๓.๓๓๑] ‘‘กตมานิ สตฺต? อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโม, ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ธมฺมนิสนฺติยา ¶ อวิคตเปโม, อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโม, ปฏิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ปฏิสลฺลาเน อวิคตเปโม, วีริยารมฺเภ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ วีริยารมฺเภ อวิคตเปโม, สติเนปกฺเก ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ สติเนปกฺเก อวิคตเปโม, ทิฏฺิปฏิเวเธ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติฺจ ทิฏฺิปฏิเวเธ อวิคตเปโม. อิมานิ โข, สาริปุตฺต, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, สตฺตหิ นิทฺทสวตฺถูหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทฺวาทส เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; จตุพฺพีสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ ¶ วจนาย; ฉตฺตึสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย, อฏฺจตฺตารีสํ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ. เอกาทสมํ.
๑๒. ทุติยนิทฺทสสุตฺตํ
๔๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ¶ โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
เตน โข ปน สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทส วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ ¶ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ…เป… เตหิ สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ.
‘‘เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ¶ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, นิทฺทโส ภิกฺขูติ อลํ วจนายา’ติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา, อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ – ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส ¶ อตฺถํ อาชานิสฺสามี’ติ. สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุ’’นฺติ?
‘‘น ¶ โข, อานนฺท, สกฺกา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปฺาเปตุํ. สตฺต โข อิมานิ, อานนฺท, นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ.
‘‘กตมานิ สตฺต? อิธานนฺท, ภิกฺขุ, สทฺโธ โหติ, หิรีมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, สติมา โหติ, ปฺวา โหติ. อิมานิ โข, อานนฺท, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. อิเมหิ ¶ โข, อานนฺท, สตฺตหิ นิทฺทสวตฺถูหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทฺวาทส เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; จตุพฺพีสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; ฉตฺตึสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย, อฏฺจตฺตารีสํ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ¶ ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ. ทฺวาทสมํ.
เทวตาวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
อปฺปมาโท หิรี เจว, ทฺเว สุวจา ทุเว มิตฺตา;
ทฺเว ปฏิสมฺภิทา ทฺเว วสา, ทุเว นิทฺทสวตฺถุนาติ.
๕. มหายฺวคฺโค
๑. สตฺตวิฺาณฏฺิติสุตฺตํ
๔๔. [ที. นิ. ๓.๓๓๒; จูฬนิ. โปสาลมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๓] ‘‘สตฺติมา ¶ , ภิกฺขเว, วิฺาณฏฺิติโย. กตมา สตฺต? สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา, เอกจฺเจ จ เทวา, เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺถา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ปฺจมา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา ¶ . อยํ ฉฏฺา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา ¶ . อยํ สตฺตมา วิฺาณฏฺิติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย’’ติ. ปมํ.
๒. สมาธิปริกฺขารสุตฺตํ
๔๕. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, สมาธิปริกฺขารา. กตเม สตฺต? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ. ยา โข, ภิกฺขเว, อิเมหิ สตฺตหงฺเคหิ จิตฺตสฺเสกคฺคตา ปริกฺขตา [‘สปริกฺขารตา’ติปิ, ‘สปริกฺขตา’ติปิ (สํ. นิ. ๕.๒๘)], อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย สมฺมาสมาธิ [สมาธิ (สฺยา.)] สอุปนิโส อิติปิ สปริกฺขาโร อิติปี’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปมอคฺคิสุตฺตํ
๔๖. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, อคฺคี. กตเม สตฺต? ราคคฺคิ, โทสคฺคิ, โมหคฺคิ, อาหุเนยฺยคฺคิ, คหปตคฺคิ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ, กฏฺคฺคิ – อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อคฺคี’’ติ. ตติยํ.
๔. ทุติยอคฺคิสุตฺตํ
๔๗. เตน โข ปน สมเยน อุคฺคตสรีรสฺส พฺราหฺมณสฺส มหายฺโ อุปกฺขโฏ โหติ. ปฺจ อุสภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย ¶ , ปฺจ วจฺฉตรสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย, ปฺจ วจฺฉตริสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย, ปฺจ อชสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย, ปฺจ อุรพฺภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย. อถ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา ¶ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, อคฺคิสฺส อาทานํ [อาธานํ (สี. สฺยา.)] ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘มยาปิ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, สุตํ อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ ¶ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ…เป… ตติยมฺปิ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘มยาปิ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, สุตํ อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘ตยิทํ, โภ โคตม ¶ , สเมติ โภโต เจว โคตมสฺส อมฺหากฺจ, ยทิทํ สพฺเพน สพฺพํ’’.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท อุคฺคตสรีรํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, พฺราหฺมณ, ตถาคตา เอวํ ปุจฺฉิตพฺพา – ‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, อคฺคิสฺส อาทานํ ยูปสฺส อุสฺสาปนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’นฺติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ตถาคตา ปุจฺฉิตพฺพา – ‘อหฺหิ, ภนฺเต, อคฺคึ [อคฺคิสฺส (ก.)] อาทาตุกาโม, [อาธาตุกาโม (สี. สฺยา.)] ยูปํ อุสฺสาเปตุกาโม. โอวทตุ มํ, ภนฺเต, ภควา. อนุสาสตุ มํ, ภนฺเต, ภควา ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’’ติ.
อถ โข อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, อคฺคึ อาทาตุกาโม ยูปํ อุสฺสาเปตุกาโม. โอวทตุ มํ ภวํ โคตโม. อนุสาสตุ มํ ภวํ โคตโม ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต [อาเธนฺโต (สี. สฺยา.)] ยูปํ ¶ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา ตีณิ สตฺถานิ อุสฺสาเปติ อกุสลานิ ทุกฺขุทฺรยานิ [ทุกฺขุทฺทยานิ (สี.)] ทุกฺขวิปากานิ. กตมานิ ตีณิ ¶ ? กายสตฺถํ, วจีสตฺถํ, มโนสตฺถํ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ – ‘เอตฺตกา อุสภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตรา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อชา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อุรพฺภา หฺนฺตุ ยฺตฺถายา’ติ. โส ‘ปฺุํ กโรมี’ติ อปฺุํ กโรติ, ‘กุสลํ กโรมี’ติ อกุสลํ กโรติ, ‘สุคติยา มคฺคํ ปริเยสามี’ติ ทุคฺคติยา มคฺคํ ปริเยสติ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ¶ ปุพฺเพว ยฺา อิทํ ปมํ มโนสตฺถํ อุสฺสาเปติ อกุสลํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อคฺคึ อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘เอตฺตกา อุสภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา ¶ วจฺฉตรา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อชา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อุรพฺภา หฺนฺตุ ยฺตฺถายา’ติ. โส ‘ปฺุํ กโรมี’ติ อปฺุํ กโรติ, ‘กุสลํ กโรมี’ติ อกุสลํ กโรติ, ‘สุคติยา มคฺคํ ปริเยสามี’ติ ทุคฺคติยา มคฺคํ ปริเยสติ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา อิทํ ทุติยํ วจีสตฺถํ อุสฺสาเปติ อกุสลํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อคฺคึ อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา สยํ ปมํ สมารมฺภติ [สมารพฺภติ (สี. ก.), สมารภติ (สฺยา.)] อุสภา ¶ หนฺตุํ [หฺนฺตุ (สี. สฺยา.)] ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ วจฺฉตรา หนฺตุํ ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ วจฺฉตริโย หนฺตุํ ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ อชา หนฺตุํ ยฺตฺถาย, สยํ ปมํ สมารมฺภติ อุรพฺภา หนฺตุํ ยฺตฺถาย [หฺนฺตุ ยฺตฺถายาติ (สี. สฺยา.)]. โส ‘ปฺุํ กโรมี’ติ อปฺุํ กโรติ, ‘กุสลํ กโรมี’ติ อกุสลํ กโรติ, ‘สุคติยา มคฺคํ ปริเยสามี’ติ ทุคฺคติยา มคฺคํ ปริเยสติ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา อิทํ ตติยํ กายสตฺถํ อุสฺสาเปติ อกุสลํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ. อคฺคึ, พฺราหฺมณ, อาเทนฺโต ยูปํ อุสฺสาเปนฺโต ปุพฺเพว ยฺา อิมานิ ตีณิ สตฺถานิ อุสฺสาเปติ อกุสลานิ ทุกฺขุทฺรยานิ ทุกฺขวิปากานิ.
‘‘ตโยเม ¶ , พฺราหฺมณ, อคฺคี ปหาตพฺพา ปริวชฺเชตพฺพา, น เสวิตพฺพา. กตเม ตโย? ราคคฺคิ ¶ , โทสคฺคิ, โมหคฺคิ.
‘‘กสฺมา จายํ, พฺราหฺมณ, ราคคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ? รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ตสฺมายํ ราคคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ.
‘‘กสฺมา จายํ, พฺราหฺมณ, โทสคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ? ทุฏฺโ โข, พฺราหฺมณ, โทเสน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ ¶ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ¶ ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ตสฺมายํ โทสคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ.
‘‘กสฺมา จายํ, พฺราหฺมณ, โมหคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ? มูฬฺโห โข, พฺราหฺมณ, โมเหน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ตสฺมายํ โมหคฺคิ ปหาตพฺโพ ปริวชฺเชตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ. อิเม โข ตโย, พฺราหฺมณ, อคฺคี ปหาตพฺพา ปริวชฺเชตพฺพา, น เสวิตพฺพา.
‘‘ตโย โข, พฺราหฺมณ, อคฺคี สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺพา. กตเม ตโย? อาหุเนยฺยคฺคิ ¶ , คหปตคฺคิ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ.
‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, อาหุเนยฺยคฺคิ? อิธ, พฺราหฺมณ, ยสฺส เต โหนฺติ มาตาติ วา ปิตาติ วา, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อาหุเนยฺยคฺคิ. ตํ กิสฺส เหตุ ¶ ? อโตหยํ [อิโตปายํ (ก.)], พฺราหฺมณ, อาหุโต สมฺภูโต, ตสฺมายํ อาหุเนยฺยคฺคิ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺโพ.
‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, คหปตคฺคิ? อิธ, พฺราหฺมณ, ยสฺส เต โหนฺติ ปุตฺตาติ วา ทาราติ วา ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ ¶ , คหปตคฺคิ. ตสฺมายํ คหปตคฺคิ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺโพ.
‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ? อิธ, พฺราหฺมณ, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปรปฺปวาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ. ตสฺมายํ ทกฺขิเณยฺยคฺคิ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺโพ. อิเม โข, พฺราหฺมณ, ตโย อคฺคี สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา สมฺมา สุขํ ปริหาตพฺพา.
‘‘อยํ ¶ โข ปน, พฺราหฺมณ, กฏฺคฺคิ กาเลน กาลํ อุชฺชเลตพฺโพ, กาเลน กาลํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, กาเลน กาลํ นิพฺพาเปตพฺโพ, กาเลน กาลํ นิกฺขิปิตพฺโพ’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อุคฺคตสรีโร พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม; อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ ¶ สรณํ คตนฺติ. เอสาหํ, โภ โคตม, ปฺจ อุสภสตานิ มฺุจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ วจฺฉตรสตานิ มฺุจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ วจฺฉตริสตานิ มฺุจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ อชสตานิ มฺุจามิ ชีวิตํ เทมิ, ปฺจ อุรพฺภสตานิ มฺุจามิ ชีวิตํ เทมิ. หริตานิ เจว ติณานิ ขาทนฺตุ, สีตานิ จ ปานียานิ ปิวนฺตุ, สีโต จ เนสํ วาโต อุปวายต’’นฺติ [อุปวายตูติ (ก.)]. จตุตฺถํ.
๕. ปมสฺาสุตฺตํ
๔๘. ‘‘สตฺติมา, ภิกฺขเว, สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา.
‘‘กตมา ¶ สตฺต? อสุภสฺา ¶ , มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยสฺาสุตฺตํ
๔๙. ‘‘สตฺติมา, ภิกฺขเว, สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. กตมา สตฺต? อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานาติ.
‘‘‘อสุภสฺา ¶ , ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อสุภสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ¶ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสุภสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสุภสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ อนุสนฺทหติ [อนุสณฺาติ (สี.)] อปฺปฏิกุลฺยตา ¶ สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อสุภสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสุภสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อสุภสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘อสุภสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘มรณสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา ¶ โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? มรณสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน มรณสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
‘‘สเจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน มรณสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา ¶ จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม มรณสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน มรณสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม มรณสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘มรณสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ ¶ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘อาหาเร ปฏิกูลสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ ¶ …เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ ¶ .
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อาหาเร ปฏิกูลสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อาหาเร ปฏิกูลสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน ¶ โหติ. ‘อาหาเร ปฏิกูลสฺา ¶ , ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ ปติลียติ…เป… เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว…เป… ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ ¶ จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ¶ ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ¶ สพฺพโลเก อนภิรตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘อนิจฺจสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อนิจฺจสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ¶ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺจสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ¶ ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺจสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ อนุสนฺทหติ อปฺปฏิกุลฺยตา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อนิจฺจสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺจสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ¶ ปติวตฺตติ, น สมฺปสาริยติ อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ; เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อนิจฺจสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘อนิจฺจสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘อนิจฺเจ ¶ ทุกฺขสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อนิจฺเจ ทุกฺขสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต อาลสฺเย โกสชฺเช วิสฺสฏฺิเย ปมาเท อนนุโยเค อปจฺจเวกฺขณาย ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุกฺขิตฺตาสิเก ¶ วธเก.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺเจ ทุกฺขสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อาลสฺเย โกสชฺเช วิสฺสฏฺิเย ปมาเท อนนุโยเค อปจฺจเวกฺขณาย ติพฺพา ภยสฺา, น ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อนิจฺเจ ทุกฺขสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อาลสฺเย โกสชฺเช วิสฺสฏฺิเย ปมาเท อนนุโยเค อปจฺจเวกฺขณาย ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ ¶ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ ¶ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ทุกฺเข อนตฺตสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหงฺการมมงฺการมานาปคตํ มานสํ โหติ วิธาสมติกฺกนฺตํ สนฺตํ สุวิมุตฺตํ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทุกฺเข อนตฺตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อิมสฺมิฺจ ¶ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ น อหงฺการมมงฺการมานาปคตํ มานสํ โหติ วิธาสมติกฺกนฺตํ สนฺตํ สุวิมุตฺตํ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม ทุกฺเข อนตฺตสฺา ¶ , นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.
‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทุกฺเข อนตฺตสฺาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหงฺการมมงฺการมานาปคตํ มานสํ โหติ วิธาสมติกฺกนฺตํ สนฺตํ สุวิมุตฺตํ. เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม ทุกฺเข อนตฺตสฺา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ‘ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. เมถุนสุตฺตํ
๕๐. อถ ¶ ¶ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม พฺรหฺมจารี ปฏิชานาตี’’ติ? ‘‘ยฺหิ ตํ, พฺราหฺมณ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อขณฺฑํ อจฺฉิทฺทํ อสพลํ อกมฺมาสํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรตี’ติ, มเมว ¶ ตํ, พฺราหฺมณ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อขณฺฑํ อจฺฉิทฺทํ อสพลํ อกมฺมาสํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรามี’’’ติ. ‘‘กึ ปน, โภ โคตม, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปี’’ติ?
‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สมฺมา พฺรหฺมจารี ปฏิชานมาโน น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธึ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ. โส ตํ อสฺสาเทติ [โส ตทสฺสาเทติ (สี.)], ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปิ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, สํยุตฺโต เมถุเนน สํโยเคน น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน [ชรามรเณน (สี. สฺยา.)] โสเกหิ ¶ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สมฺมา พฺรหฺมจารี ปฏิชานมาโน น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธึ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, นปิ มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ; อปิ จ โข มาตุคาเมน สทฺธึ สฺชคฺฆติ สํกีฬติ สํเกลายติ…เป… นปิ มาตุคาเมน สทฺธึ สฺชคฺฆติ สํกีฬติ สํเกลายติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิชฺฌายติ เปกฺขติ…เป… นปิ มาตุคามสฺส จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิชฺฌายติ เปกฺขติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส สทฺทํ สุณาติ ¶ ติโรกุฏฺฏํ วา ติโรปาการํ วา หสนฺติยา วา ภณนฺติยา วา คายนฺติยา วา โรทนฺติยา วา…เป… นปิ มาตุคามสฺส สทฺทํ สุณาติ ติโรกุฏฺฏํ วา ติโรปาการํ วา หสนฺติยา วา ภณนฺติยา วา คายนฺติยา วา โรทนฺติยา วา; อปิ จ โข ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ ¶ มาตุคาเมน สทฺธึ หสิตลปิตกีฬิตานิ ตานิ อนุสฺสรติ…เป… นปิ ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ มาตุคาเมน สทฺธึ หสิตลปิตกีฬิตานิ ตานิ อนุสฺสรติ; อปิ จ โข ปสฺสติ คหปตึ วา คหปติปุตฺตํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ…เป… นปิ ปสฺสติ คหปตึ วา คหปติปุตฺตํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ; อปิ จ โข อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วาติ. โส ตํ อสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปิ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อปริสุทฺธํ ¶ พฺรหฺมจริยํ จรติ สํยุตฺโต เมถุเนน สํโยเคน, น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.
‘‘ยาวกีวฺจาหํ, พฺราหฺมณ, อิเมสํ สตฺตนฺนํ เมถุนสํโยคานํ อฺตรฺตรเมถุนสํโยคํ [อฺตรํ เมถุนสํโยคํ (สี. สฺยา.)] อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสึ, เนว ตาวาหํ, พฺราหฺมณ, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ ¶ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสึ [อภิสมฺพุทฺโธ ปจฺจฺาสึ (สี. สฺยา.)].
‘‘ยโต ¶ จ โขหํ, พฺราหฺมณ, อิเมสํ สตฺตนฺนํ เมถุนสํโยคานํ อฺตรฺตรเมถุนสํโยคํ อตฺตนิ อปฺปหีนํ น สมนุปสฺสึ, อถาหํ, พฺราหฺมณ, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสึ. ‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม วิมุตฺติ [เจโตวิมุตฺติ (สี. ก.)], อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ.
เอวํ วุตฺเต ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม; อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. สํโยคสุตฺตํ
๕๑. ‘‘สํโยควิสํโยคํ ¶ ¶ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ โส, ภิกฺขเว, สํโยโค วิสํโยโค ธมฺมปริยาโย?
‘‘อิตฺถี, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ อิตฺถินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. สา ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. สา ตตฺถ รตฺตา ตตฺราภิรตา พหิทฺธา ปุริสินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. สา ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. สา ตตฺถ รตฺตา ตตฺราภิรตา พหิทฺธา สํโยคํ อากงฺขติ. ยฺจสฺสา สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ¶ ตฺจ อากงฺขติ. อิตฺถตฺเต, ภิกฺขเว, อภิรตา สตฺตา ปุริเสสุ สํโยคํ คตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อิตฺถี อิตฺถตฺตํ นาติวตฺตติ.
‘‘ปุริโส, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ปุริสินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. โส ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. โส ตตฺถ รตฺโต ตตฺราภิรโต พหิทฺธา อิตฺถินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. โส ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติ. โส ตตฺถ รตฺโต ตตฺราภิรโต พหิทฺธา สํโยคํ อากงฺขติ. ยฺจสฺส สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตฺจ อากงฺขติ. ปุริสตฺเต, ภิกฺขเว, อภิรตา สตฺตา ¶ อิตฺถีสุ สํโยคํ คตา. เอวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, ปุริโส ปุริสตฺตํ นาติวตฺตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สํโยโค โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, วิสํโยโค โหติ? อิตฺถี, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ อิตฺถินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. สา ตตฺถ น รชฺชติ, สา ตตฺร นาภิรมติ. สา ตตฺถ อรตฺตา ตตฺร อนภิรตา พหิทฺธา ปุริสินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. สา ตตฺถ น รชฺชติ, ตตฺร นาภิรมติ. สา ตตฺถ อรตฺตา ตตฺร อนภิรตา พหิทฺธา สํโยคํ นากงฺขติ. ยฺจสฺสา สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตฺจ นากงฺขติ. อิตฺถตฺเต, ภิกฺขเว ¶ , อนภิรตา สตฺตา ปุริเสสุ วิสํโยคํ คตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อิตฺถี อิตฺถตฺตํ ¶ อติวตฺตติ.
‘‘ปุริโส, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ปุริสินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํ. โส ตตฺถ น รชฺชติ, โส ตตฺร นาภิรมติ. โส ตตฺถ อรตฺโต ตตฺร อนภิรโต พหิทฺธา อิตฺถินฺทฺริยํ น มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํ. โส ตตฺถ น รชฺชติ, ตตฺร นาภิรมติ. โส ตตฺถ อรตฺโต ตตฺร อนภิรโต พหิทฺธา สํโยคํ นากงฺขติ. ยฺจสฺส สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตฺจ นากงฺขติ. ปุริสตฺเต, ภิกฺขเว, อนภิรตา สตฺตา อิตฺถีสุ วิสํโยคํ คตา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุริโส ปุริสตฺตํ อติวตฺตติ. เอวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิสํโยโค โหติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, สํโยโค วิสํโยโค ธมฺมปริยาโย’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ทานมหปฺผลสุตฺตํ
๕๒. เอกํ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. อถ โข สมฺพหุลา จมฺเปยฺยกา อุปาสกา เยน อายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข จมฺเปยฺยกา อุปาสกา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘จิรสฺสุตา โน, ภนฺเต [ภนฺเต สาริปุตฺต (สี.)], ภควโต ¶ สมฺมุขา ธมฺมีกถา. สาธุ มยํ, ภนฺเต, ลเภยฺยาม ภควโต สมฺมุขา ธมฺมึ กถํ [ภควโต สนฺติกา ธมฺมึ กถํ (สี.), ภควโต ธมฺมึ กถํ (สฺยา.)] สวนายา’’ติ. ‘‘เตนหาวุโส, ตทหุโปสเถ อาคจฺเฉยฺยาถ, อปฺเปว นาม ลเภยฺยาถ ภควโต สมฺมุขา [ภควโต สนฺติเก (สฺยา.)] ธมฺมึ กถํ สวนายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จมฺเปยฺยกา อุปาสกา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ¶ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.
อถ โข จมฺเปยฺยกา อุปาสกา ตทหุโปสเถ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เตหิ จมฺเปยฺยเกหิ อุปาสเกหิ สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สิยา ¶ ¶ นุ โข, ภนฺเต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ; สิยา ปน, ภนฺเต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ? ‘‘สิยา, สาริปุตฺต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ; สิยา ปน, สาริปุตฺต, อิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ; โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ?
‘‘อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ สาเปโข [สาเปกฺโข (สฺยา.)] ทานํ เทติ, ปติพทฺธจิตฺโต [ปติพนฺธจิตฺโต (ก.)] ทานํ เทติ, สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ, ‘อิมํ เปจฺจ ปริภฺุชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ. โส ตํ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. ตํ กึ มฺสิ, สาริปุตฺต, ทเทยฺย อิเธกจฺโจ เอวรูปํ ทาน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตตฺร, สาริปุตฺต, ยฺวายํ สาเปโข ทานํ เทติ ¶ , ปติพทฺธจิตฺโต ทานํ เทติ, สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ, ‘อิมํ เปจฺจ ปริภฺุชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ. โส ¶ ตํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตํ กมฺมํ ¶ เขเปตฺวา ตํ อิทฺธึ ตํ ยสํ ตํ อาธิปจฺจํ อาคามี โหติ อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.
‘‘อิธ ปน, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ น เหว โข สาเปโข ทานํ เทติ, น ปติพทฺธจิตฺโต ทานํ เทติ, น สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ, น ‘อิมํ เปจฺจ ปริภฺุชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ น อรหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ น อรหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘ยถา เตสํ ปุพฺพกานํ อิสีนํ ตานิ มหายฺานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – อฏฺกสฺส วามกสฺส วามเทวสฺส เวสฺสามิตฺตสฺส ยมทคฺคิโน องฺคีรสสฺส ภารทฺวาชสฺส วาเสฏฺสฺส กสฺสปสฺส ภคุโน, เอวํ เม อยํ ¶ ทานสํวิภาโค ภวิสฺสตี’ติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘ยถา เตสํ ปุพฺพกานํ อิสีนํ ตานิ มหายฺานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – อฏฺกสฺส วามกสฺส วามเทวสฺส เวสฺสามิตฺตสฺส ยมทคฺคิโน องฺคีรสสฺส ภารทฺวาชสฺส วาเสฏฺสฺส ¶ กสฺสปสฺส ภคุโน, เอวํ เม อยํ ทานสํวิภาโค ¶ ภวิสฺสตี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ…เป… นปิ ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารํ ทานํ เทติ. โส ตํ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. ตํ กึ มฺสิ, สาริปุตฺต, ทเทยฺย อิเธกจฺโจ เอวรูปํ ทาน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตตฺร, สาริปุตฺต, ยฺวายํ น เหว [นเหว โข (สี. สฺยา.)] สาเปโข ทานํ เทติ; น ปติพทฺธจิตฺโต ทานํ เทติ; น สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ; น ‘อิมํ เปจฺจ ปริภฺุชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ; นปิ ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ ¶ น อรหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘ยถา เตสํ ปุพฺพกานํ อิสีนํ ตานิ มหายฺานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – อฏฺกสฺส วามกสฺส วามเทวสฺส เวสฺสามิตฺตสฺส ยมทคฺคิโน องฺคีรสสฺส ภารทฺวาชสฺส วาเสฏฺสฺส กสฺสปสฺส ภคุโน, เอวํ เม อยํ ทานสํวิภาโค ภวิสฺสตี’ติ ทานํ เทติ; นปิ ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารํ ทานํ เทติ. โส ตํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ ¶ อุปปชฺชติ. โส ตํ กมฺมํ ¶ เขเปตฺวา ตํ อิทฺธึ ตํ ยสํ ตํ อาธิปจฺจํ อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ. อยํ ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. นนฺทมาตาสุตฺตํ
๕๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน ¶ ทกฺขิณาคิริสฺมึ จาริกํ จรนฺติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. เตน โข ปน สมเยน เวฬุกณฺฑกี [เวฬุกณฺฑกี (สฺยา.) อ. นิ. ๖.๓๗; ๒.๑๓๔; สํ. นิ. ๒.๑๗๓ ปสฺสิตพฺพํ] นนฺทมาตา อุปาสิกา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย ปารายนํ [จูฬนิ. ปารายนวคฺค, วตฺถุคาถา] สเรน ภาสติ.
เตน โข ปน สมเยน เวสฺสวโณ มหาราชา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณํ ทิสํ คจฺฉติ เกนจิเทว กรณีเยน. อสฺโสสิ โข เวสฺสวโณ มหาราชา นนฺทมาตาย อุปาสิกาย ปารายนํ สเรน ภาสนฺติยา, สุตฺวา กถาปริโยสานํ อาคมยมาโน อฏฺาสิ.
อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา ปารายนํ สเรน ภาสิตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถ โข เวสฺสวโณ มหาราชา นนฺทมาตาย อุปาสิกาย กถาปริโยสานํ วิทิตฺวา อพฺภานุโมทิ – ‘‘สาธุ ภคินิ, สาธุ ภคินี’’ติ! ‘‘โก ปเนโส, ภทฺรมุขา’’ติ? ‘‘อหํ เต, ภคินิ, ภาตา เวสฺสวโณ, มหาราชา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภทฺรมุข, เตน หิ โย เม อยํ ธมฺมปริยาโย ภณิโต ¶ อิทํ เต โหตุ อาติเถยฺย’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภคินิ, เอตฺเจว เม โหตุ ¶ อาติเถยฺยํ. สฺเวว [สฺเว จ (สี.)] สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ¶ ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เวฬุกณฺฑกํ อาคมิสฺสติ, ตฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา มม ทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิ. เอตฺเจว [เอวฺจ (สี. สฺยา.), เอตฺจ (?)] เม ภวิสฺสติ อาติเถยฺย’’นฺติ.
อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปสิ. อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เยน เวฬุกณฺฑโก ตทวสริ. อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กาลํ อาโรเจหิ – ‘กาโล, ภนฺเต, อยฺยาย นนฺทมาตุยา นิเวสเน นิฏฺิตํ ภตฺต’’’นฺติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข โส ปุริโส นนฺทมาตาย อุปาสิกาย ปฏิสฺสุตฺวา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, อยฺยาย นนฺทมาตุยา นิเวสเน นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน นนฺทมาตาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ.
อถ ¶ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นนฺทมาตรํ อุปาสิกํ อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘โก ปน เต, นนฺทมาเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อพฺภาคมนํ อาโรเจสี’’ติ?
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต ¶ , รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย ปารายนํ สเรน ภาสิตฺวา ตุณฺหี อโหสึ. อถ โข, ภนฺเต, เวสฺสวโณ มหาราชา ¶ มม กถาปริโยสานํ วิทิตฺวา อพฺภานุโมทิ – ‘สาธุ, ภคินิ, สาธุ, ภคินี’ติ! ‘โก ปเนโส, ภทฺรมุขา’ติ? ‘อหํ เต, ภคินิ, ภาตา เวสฺสวโณ, มหาราชา’ติ. ‘สาธุ, ภทฺรมุข, เตน หิ โย เม อยํ ธมฺมปริยาโย ¶ ภณิโต อิทํ เต โหตุ อาติเถยฺย’นฺติ. ‘สาธุ, ภคินิ, เอตฺเจว เม โหตุ อาติเถยฺยํ. สฺเวว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เวฬุกณฺฑกํ อาคมิสฺสติ, ตฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา มม ทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิ. เอตฺเจว [เอตฺจ (สี.), เอวฺจ (สฺยา.)] เม ภวิสฺสติ อาติเถยฺย’นฺติ. ยทิทํ [ยมิทํ (ม. นิ. ๑.๓๖๓)], ภนฺเต, ทาเน [ปฺุํ หิ ตํ (สี.), ปฺุํ ปฺุมหิตํ (สฺยา.), ปฺุํ วา ปฺุมหํ วา (ปี.), ปฺุํ วา ปฺุมหี วา (ก.)] ปฺฺุจ ปฺุมหี จ ตํ [ปฺุํ หิ ตํ (สี.), ปฺุํ ปฺุมหิตํ (สฺยา.), ปฺุํ วา ปฺุมหํ วา (ปี.), ปฺุํ วา ปฺุมหี วา (ก.)] เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส สุขาย โหตู’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม เวสฺสวเณน มหาราเชน เอวํมหิทฺธิเกน เอวํมเหสกฺเขน เทวปุตฺเตน สมฺมุขา สลฺลปิสฺสสี’’ติ.
‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อิธ เม, ภนฺเต, นนฺโท นาม เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป. ตํ ราชาโน กิสฺมิฺจิเทว ปกรเณ โอกสฺส ปสยฺห ชีวิตา โวโรเปสุํ. ตสฺมึ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ทารเก คหิเต วา คยฺหมาเน วา วเธ วา วชฺฌมาเน วา หเต วา หฺมาเน วา นาภิชานามิ จิตฺตสฺส อฺถตฺต’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ [จิตฺตุปฺปาทมตฺตมฺปิ (สฺยา.)] ปริโสเธสฺสสี’’ติ.
‘‘น โข เม, ภนฺเต ¶ , เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ¶ ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อิธ เม, ภนฺเต, สามิโก กาลงฺกโต อฺตรํ ยกฺขโยนึ อุปปนฺโน. โส เม เตเนว ปุริเมน อตฺตภาเวน อุทฺทสฺเสสิ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ ¶ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อฺถตฺต’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสี’’ติ.
‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. ยโตหํ, ภนฺเต, สามิกสฺส ทหรสฺเสว ทหรา อานีตา นาภิชานามิ สามิกํ มนสาปิ อติจริตา [อติจริตุํ (สฺยา.), อติจาริตฺตํ (ก.)], กุโต ปน กาเยนา’’ติ! ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสี’’ติ.
‘‘น ¶ โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. ยทาหํ, ภนฺเต, อุปาสิกา ปฏิเทสิตา นาภิชานามิ กิฺจิ สิกฺขาปทํ สฺจิจฺจ วีติกฺกมิตา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!
‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อิธาหํ, ภนฺเต, ยาวเทว [ยาวเทว (สี. สฺยา.) สํ. นิ. ๒.๑๕๒ ปาฬิ จ อฏฺกถาฏีกา จ ปสฺสิตพฺพา] อากงฺขามิ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขิกา จ วิหรามิ สตา จ สมฺปชานา สุขฺจ ¶ กาเย ¶ ปฏิสํเวเทมิ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!
‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. อตฺถิ เม อฺโปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ นาหํ เตสํ กิฺจิ อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสามี’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!
อถ ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต นนฺทมาตรํ อุปาสิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. ทสมํ.
มหายฺวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ิติ จ ปริกฺขารํ ทฺเว, อคฺคี สฺา จ ทฺเว ปรา;
เมถุนา สํโยโค ทานํ, นนฺทมาเตน เต ทสาติ.
ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๖. อพฺยากตวคฺโค
๑. อพฺยากตสุตฺตํ
๕๔. อถ ¶ ¶ ¶ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน สุตวโต อริยสาวกสฺส วิจิกิจฺฉา นุปฺปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสู’’ติ?
‘‘ทิฏฺินิโรธา โข, ภิกฺขุ, สุตวโต อริยสาวกสฺส วิจิกิจฺฉา นุปฺปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสุ. ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺิคตเมตํ; ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺิคตเมตํ; ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺิคตเมตํ; ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺิคตเมตํ. อสฺสุตวา, ภิกฺขุ, ปุถุชฺชโน ทิฏฺึ นปฺปชานาติ, ทิฏฺิสมุทยํ นปฺปชานาติ, ทิฏฺินิโรธํ นปฺปชานาติ, ทิฏฺินิโรธคามินึ ปฏิปทํ นปฺปชานาติ. ตสฺส สา ทิฏฺิ ปวฑฺฒติ, โส น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.
‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขุ, อริยสาวโก ทิฏฺึ ปชานาติ, ทิฏฺิสมุทยํ ปชานาติ, ทิฏฺินิโรธํ ปชานาติ, ทิฏฺินิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ. ตสฺส สา ทิฏฺิ นิรุชฺฌติ, โส ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ ¶ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ. เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ; ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ; ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ; ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ. เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ เอวํ อพฺยากรณธมฺโม โหติ อพฺยากตวตฺถูสุ ¶ . เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ น ฉมฺภติ, น กมฺปติ, น เวธติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสุ.
‘‘‘โหติ ¶ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ตณฺหาคตเมตํ…เป… สฺาคตเมตํ ¶ …เป… มฺิตเมตํ…เป… ปปฺจิตเมตํ…เป… อุปาทานคตเมตํ…เป… ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, วิปฺปฏิสาโร เอโส; ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, วิปฺปฏิสาโร เอโส; ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, วิปฺปฏิสาโร เอโส; ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, วิปฺปฏิสาโร เอโส. อสฺสุตวา, ภิกฺขุ, ปุถุชฺชโน วิปฺปฏิสารํ นปฺปชานาติ, วิปฺปฏิสารสมุทยํ นปฺปชานาติ, วิปฺปฏิสารนิโรธํ นปฺปชานาติ, วิปฺปฏิสารนิโรธคามินึ ปฏิปทํ นปฺปชานาติ. ตสฺส โส วิปฺปฏิสาโร ปวฑฺฒติ, โส น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.
‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขุ, อริยสาวโก วิปฺปฏิสารํ ปชานาติ, วิปฺปฏิสารสมุทยํ ปชานาติ, วิปฺปฏิสารนิโรธํ ปชานาติ ¶ , วิปฺปฏิสารนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ. ตสฺส โส วิปฺปฏิสาโร นิรุชฺฌติ, โส ปริมุจฺจติ ชาติยา…เป… ทุกฺขสฺมาติ วทามิ. เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ. เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ เอวํ อพฺยากรณธมฺโม โหติ อพฺยากตวตฺถูสุ. เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ น ฉมฺภติ, น กมฺปติ, น เวธติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสุ. อยํ ¶ โข, ภิกฺขุ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน สุตวโต อริยสาวกสฺส วิจิกิจฺฉา นุปฺปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสู’’ติ. ปมํ.
๒. ปุริสคติสุตฺตํ
๕๕. ‘‘สตฺต จ [สตฺต (สี.), สตฺต จ โข (ก.)], ภิกฺขเว, ปุริสคติโย เทเสสฺสามิ อนุปาทา จ ปรินิพฺพานํ [ปรินิพฺพาณํ (สี.)]. ตํ สุณาถ ¶ , สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สตฺต ปุริสคติโย?
‘‘อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ น เม ภวิสฺสติ, ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ตํ ปชหามี’ติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ภเว น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชติ, อตฺถุตฺตริ ปทํ สนฺตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ น สพฺเพน สพฺพํ สจฺฉิกตํ โหติ, ตสฺส น สพฺเพน สพฺพํ มานานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ ภวราคานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํสนฺตตฺเต [ทิวสสนฺตตฺเต (สี. สฺยา.) ม. นิ. ๒.๑๕๔] อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา นิพฺพาเยยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ น เม ภวิสฺสติ, ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ตํ ปชหามี’ติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ภเว ¶ น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชติ, อตฺถุตฺตริ ปทํ สนฺตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ น สพฺเพน ¶ สพฺพํ สจฺฉิกตํ โหติ, ตสฺส น สพฺเพน สพฺพํ มานานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ ภวราคานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ น เม ภวิสฺสติ, ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ตํ ปชหามี’ติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ภเว น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชติ, อตฺถุตฺตริ ปทํ สนฺตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ น สพฺเพน สพฺพํ สจฺฉิกตํ โหติ, ตสฺส น สพฺเพน สพฺพํ มานานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ ภวราคานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา ¶ นิพฺพาเยยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ¶ ¶ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา อนุปหจฺจ ตลํ นิพฺพาเยยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… ¶ โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปหจฺจ ตลํ นิพฺพาเยยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา ปริตฺเต ติณปฺุเช วา กฏฺปฺุเช วา นิปเตยฺย. สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย, ธูมมฺปิ ชเนยฺย, อคฺคิมฺปิ ชเนตฺวา ธูมมฺปิ ชเนตฺวา ตเมว ปริตฺตํ ติณปฺุชํ วา กฏฺปฺุชํ วา ปริยาทิยิตฺวา อนาหารา นิพฺพาเยยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา ¶ วิปุเล ติณปฺุเช วา กฏฺปฺุเช วา นิปเตยฺย. สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย, ธูมมฺปิ ชเนยฺย, อคฺคิมฺปิ ชเนตฺวา ธูมมฺปิ ชเนตฺวา ตเมว วิปุลํ ติณปฺุชํ วา กฏฺปฺุชํ วา ¶ ปริยาทิยิตฺวา อนาหารา นิพฺพาเยยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ¶ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ น เม ภวิสฺสติ, ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ตํ ปชหามี’ติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ภเว น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชติ, อตฺถุตฺตริ ปทํ สนฺตํ สมฺมปฺาย ปสฺสติ. ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ น สพฺเพน สพฺพํ สจฺฉิกตํ โหติ, ตสฺส น สพฺเพน สพฺพํ มานานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ ภวราคานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา มหนฺเต ติณปฺุเช วา กฏฺปฺุเช วา นิปเตยฺย. สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย, ธูมมฺปิ ชเนยฺย, อคฺคิมฺปิ ชเนตฺวา ธูมมฺปิ ชเนตฺวา ตเมว มหนฺตํ ติณปฺุชํ ¶ วา กฏฺปฺุชํ วา ปริยาทิยิตฺวา คจฺฉมฺปิ ทเหยฺย [ฑเหยฺย (อฺตฺถ)], ทายมฺปิ ทเหยฺย, คจฺฉมฺปิ ทหิตฺวา ทายมฺปิ ทหิตฺวา หริตนฺตํ วา ปถนฺตํ วา [ปนฺถนฺตํ วา (สี.) สฺยามโปตฺถเก อิทํ น ทิสฺสติ] เสลนฺตํ วา อุทกนฺตํ วา รมณียํ วา ภูมิภาคํ อาคมฺม อนาหารา นิพฺพาเยยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส โน จ เม สิยา…เป… โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต ปุริสคติโย.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อนุปาทาปรินิพฺพานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ น เม ภวิสฺสติ, ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ตํ ปชหามี’ติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ภเว น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชติ, อตฺถุตฺตริ ¶ ปทํ สนฺตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ สพฺเพน สพฺพํ สจฺฉิกตํ โหติ, ตสฺส สพฺเพน สพฺพํ มานานุสโย ปหีโน โหติ, สพฺเพน สพฺพํ ภวราคานุสโย ปหีโน โหติ, สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ. โส อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุปาทาปรินิพฺพานํ. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต ปุริสคติโย อนุปาทา จ ปรินิพฺพาน’’นฺติ. ทุติยํ.
๓. ติสฺสพฺรหฺมาสุตฺตํ
๕๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข ทฺเว เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ ¶ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข เอกา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย วิมุตฺตา’’ติ. อปรา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย อนุปาทิเสสา สุวิมุตฺตา’’ติ. อิทมโวจุํ ตา เทวตา. สมนฺุโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข ตา เทวตา ‘‘สมนฺุโ สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ.
อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ ทฺเว เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, เอกา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย วิมุตฺตา’ติ. อปรา เทวตา มํ เอตทโวจ ¶ – ‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย อนุปาทิเสสา สุวิมุตฺตา’ติ. อิทมโวจุํ, ภิกฺขเว, ตา เทวตา. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสู’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ. อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กตเมสานํ โข เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ? เตน โข ปน สมเยน ติสฺโส นาม ภิกฺขุ อธุนากาลงฺกโต อฺตรํ พฺรหฺมโลกํ อุปปนฺโน โหติ. ตตฺราปิ นํ เอวํ ชานนฺติ – ‘‘ติสฺโส พฺรหฺมา มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อทฺทสา โข ติสฺโส พฺรหฺมา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ทูรโตว ¶ อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวา อายสฺมนฺตํ ¶ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน; สฺวาคตํ, มาริส โมคฺคลฺลาน! จิรสฺสํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิมํ ปริยายมกาสิ ¶ , ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีท, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปฺตฺเต อาสเน. ติสฺโสปิ โข พฺรหฺมา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ติสฺสํ พฺรหฺมานํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ – ‘‘กตเมสานํ โข, ติสฺส ¶ , เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ? ‘‘พฺรหฺมกายิกานํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ.
‘‘สพฺเพสฺเว โข, ติสฺส, พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ? ‘‘น โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, สพฺเพสํ พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ เอวํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ.
‘‘เย โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, พฺรหฺมกายิกา เทวา พฺรหฺเมน อายุนา สนฺตุฏฺา พฺรหฺเมน วณฺเณน พฺรหฺเมน สุเขน พฺรหฺเมน ยเสน พฺรหฺเมน อาธิปเตยฺเยน สนฺตุฏฺา, เต อุตฺตริ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ. เตสํ น เอวํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’ติ. เย จ โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, พฺรหฺมกายิกา เทวา พฺรหฺเมน อายุนา อสนฺตุฏฺา, พฺรหฺเมน วณฺเณน พฺรหฺเมน สุเขน พฺรหฺเมน ยเสน พฺรหฺเมน อาธิปเตยฺเยน อสนฺตุฏฺา, เต จ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ¶ ปชานนฺติ. เตสํ เอวํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ.
‘‘อิธ, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ. ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา อุภโตภาควิมุตฺโต. ยาวสฺส กาโย สฺสติ ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา. กายสฺส เภทา น นํ ทกฺขนฺติ ¶ เทวมนุสฺสา’ติ. เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน ¶ , เตสํ เทวานํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ.
‘‘อิธ ปน, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ ปฺาวิมุตฺโต โหติ. ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ ¶ – ‘อยํ โข อายสฺมา ปฺาวิมุตฺโต. ยาวสฺส กาโย สฺสติ ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา. กายสฺส เภทา น นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา’ติ. เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ.
‘‘อิธ ปน, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ กายสกฺขี โหติ. ตเมนํ เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา กายสกฺขี. อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติ. เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ.
‘‘อิธ ปน, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ ทิฏฺิปฺปตฺโต โหติ…เป… สทฺธาวิมุตฺโต โหติ…เป… ธมฺมานุสารี โหติ. ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมานุสารี ¶ . อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ¶ ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติ. เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ติสฺสสฺส พฺรหฺมุโน ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต ปาตุรโหสิ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ยาวตโก อโหสิ ติสฺเสน พฺรหฺมุนา สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.
‘‘น ¶ หิ ปน เต, โมคฺคลฺลาน, ติสฺโส พฺรหฺมา สตฺตมํ อนิมิตฺตวิหารึ ปุคฺคลํ เทเสติ’’. ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล! ยํ ภควา สตฺตมํ อนิมิตฺตวิหารึ ปุคฺคลํ เทเสยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, โมคฺคลฺลาน, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อิธ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน ¶ อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ¶ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติ. เอวํ โข, โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ าณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ. ตติยํ.
๔. สีหเสนาปติสุตฺตํ
๕๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, สนฺทิฏฺิกํ ทานผลํ ปฺาเปตุ’’นฺติ?
‘‘เตน หิ, สีห, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, สีห, อิธ ทฺเว ปุริสา – เอโก ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, เอโก ปุริโส สทฺโธ ทานปติ ¶ อนุปฺปทานรโต. ตํ กึ มฺสิ, สีห, กํ นุ โข [กึ นุ โข (ก.)] อรหนฺโต ปมํ อนุกมฺปนฺตา อนุกมฺเปยฺยุํ – ‘โย วา โส ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, โย วา โส ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต’’’ติ?
‘‘โย ¶ โส, ภนฺเต, ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, กินฺตํ [กินฺติ (ก.)] อรหนฺโต ปมํ อนุกมฺปนฺตา อนุกมฺปิสฺสนฺติ! โย จ โข โส, ภนฺเต, ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต ตํเยว อรหนฺโต ปมํ อนุกมฺปนฺตา อนุกมฺเปยฺยุํ’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, สีห, กํ นุ โข ¶ อรหนฺโต ปมํ อุปสงฺกมนฺตา อุปสงฺกเมยฺยุํ – ‘โย วา โส ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, โย วา โส ปุริโส ¶ สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต’’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, กินฺตํ อรหนฺโต ปมํ อุปสงฺกมนฺตา อุปสงฺกมิสฺสนฺติ! โย จ โข โส, ภนฺเต, ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต ตํเยว อรหนฺโต ปมํ อุปสงฺกมนฺตา อุปสงฺกเมยฺยุํ’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, สีห, กสฺส นุ โข อรหนฺโต ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตา ปฏิคฺคณฺเหยฺยุํ – ‘โย วา โส ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, โย วา โส ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต’’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, กินฺตํ ตสฺส อรหนฺโต ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตา ปฏิคฺคณฺหิสฺสนฺติ! โย จ โข โส, ภนฺเต, ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต ตสฺเสว อรหนฺโต ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตา ปฏิคฺคณฺเหยฺยุํ’’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, สีห, กสฺส นุ โข อรหนฺโต ปมํ ธมฺมํ เทเสนฺตา เทเสยฺยุํ – ‘โย วา โส ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, โย วา โส ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต’’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, กินฺตํ ตสฺส อรหนฺโต ปมํ ธมฺมํ เทเสนฺตา เทเสสฺสนฺติ! โย จ โข โส, ภนฺเต, ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต ตสฺเสว อรหนฺโต ปมํ ธมฺมํ เทเสนฺตา เทเสยฺยุํ’’ ¶ .
‘‘ตํ ¶ กึ มฺสิ, สีห, กสฺส นุ โข กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺเฉยฺย – ‘โย วา โส ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, โย วา โส ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต’’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, กินฺตํ ตสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิสฺสติ! โย จ โข โส, ภนฺเต, ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต ตสฺเสว กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺเฉยฺย’’.
‘‘ตํ ¶ กึ มฺสิ, สีห, โก นุ โข ยํยเทว ปริสํ อุปสงฺกเมยฺย, ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ วิสารโท ¶ อุปสงฺกเมยฺย อมงฺกุภูโต – ‘โย วา โส ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, โย วา โส ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต’’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, กึ โส ยํยเทว ปริสํ อุปสงฺกมิสฺสติ, ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ วิสารโท อุปสงฺกมิสฺสติ อมงฺกุภูโต! โย จ โข โส, ภนฺเต, ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต โส ยํยเทว ปริสํ อุปสงฺกเมยฺย, ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ วิสารโท อุปสงฺกเมยฺย อมงฺกุภูโต’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, สีห, โก นุ โข กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย – ‘โย วา โส ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, โย วา โส ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต’’’ติ ¶ ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุริโส อสฺสทฺโธ มจฺฉรี กทริโย ปริภาสโก, กึ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสติ! โย จ โข โส, ภนฺเต, ปุริโส สทฺโธ ทานปติ อนุปฺปทานรโต โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย’’.
‘‘ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา สนฺทิฏฺิกานิ ทานผลานิ อกฺขาตานิ, นาหํ เอตฺถ ภควโต สทฺธาย คจฺฉามิ. อหมฺปิ เอตานิ ชานามิ. อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ, มํ อรหนฺโต ปมํ อนุกมฺปนฺตา อนุกมฺปนฺติ. อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ, มํ อรหนฺโต ปมํ อุปสงฺกมนฺตา อุปสงฺกมนฺติ. อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ, มยฺหํ อรหนฺโต ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตา ปฏิคฺคณฺหนฺติ ¶ . อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ, มยฺหํ อรหนฺโต ปมํ ธมฺมํ เทเสนฺตา เทเสนฺติ. อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ, มยฺหํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สีโห เสนาปติ ทายโก การโก สงฺฆุปฏฺาโก’ติ ¶ . อหํ, ภนฺเต, ทายโก ทานปติ ยํยเทว ปริสํ อุปสงฺกมามิ, ยทิ ขตฺติยปริสํ…เป… ยทิ สมณปริสํ วิสารโท อุปสงฺกมามิ อมงฺกุภูโต. ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา สนฺทิฏฺิกานิ ทานผลานิ อกฺขาตานิ, นาหํ เอตฺถ ภควโต สทฺธาย คจฺฉามิ. อหมฺปิ เอตานิ ชานามิ. ยฺจ โข มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห – ‘ทายโก, สีห, ทานปติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตี’ติ ¶ . เอตาหํ น ชานามิ, เอตฺถ จ ปนาหํ, ภควโต สทฺธาย คจฺฉามี’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, สีห ¶ ; เอวเมตํ, สีห! ทายโก, สีห, ทานปติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อรกฺเขยฺยสุตฺตํ
๕๘. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อรกฺเขยฺยานิ, ตีหิ จ อนุปวชฺโช. กตมานิ จตฺตาริ ตถาคตสฺส อรกฺเขยฺยานิ? ปริสุทฺธกายสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปริสุทฺธวจีสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปริสุทฺธมโนสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส มโนทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปริสุทฺธาชีโว, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส มิจฺฉาอาชีโว ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. อิมานิ จตฺตาริ ตถาคตสฺส อรกฺเขยฺยานิ.
‘‘กตเมหิ ตีหิ อนุปวชฺโช? สฺวากฺขาตธมฺโม ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต. ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสติ – ‘อิติปิ ตฺวํ น สฺวากฺขาตธมฺโม’ติ. นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ [เอตํปหํ (สี. สฺยา.)], ภิกฺขเว ¶ , นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘สุปฺตฺตา โข ปน เม, ภิกฺขเว, สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา. ยถาปฏิปนฺนา มม สาวกา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม ¶ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ. ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสติ – ‘อิติปิ เต น สุปฺตฺตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา. ยถาปฏิปนฺนา ตว สาวกา อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ. นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ ¶ . เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘อเนกสตา โข ปน เม, ภิกฺขเว, สาวกปริสา อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ. ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสติ – ‘อิติปิ เต น อเนกสตา สาวกปริสา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ. นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ. เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ ¶ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ. อิเมหิ ตีหิ อนุปวชฺโช.
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ตถาคตสฺส อรกฺเขยฺยานิ, อิเมหิ จ ตีหิ อนุปวชฺโช’’ติ. ปฺจมํ.
๖. กิมิลสุตฺตํ
๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กิมิลายํ วิหรติ นิจุลวเน [เวฬุวเน (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. ๕.๒๐๒; ๗.๔๐]. อถ โข อายสฺมา กิมิโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา กิมิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม น จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ?
‘‘อิธ ¶ , กิมิล, ตถาคเต ปรินิพฺพุเต ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, ธมฺเม อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สงฺเฆ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สิกฺขาย อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สมาธิสฺมึ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, อปฺปมาเท อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, ปฏิสนฺถาเร อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา. อยํ โข, กิมิล, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม น จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ.
‘‘โก ¶ ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, กิมิล, ตถาคเต ปรินิพฺพุเต ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, ธมฺเม สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สงฺเฆ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สิกฺขาย สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สมาธิสฺมึ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, อปฺปมาเท สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, ปฏิสนฺถาเร สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา. อยํ โข, กิมิล, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต สทฺธมฺโม จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. สตฺตธมฺมสุตฺตํ
๖๐. ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. กตเมหิ สตฺตหิ ¶ ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, สีลวา โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, ปฏิสลฺลีโน โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, สติมา โหติ, ปฺวา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรสฺเสว อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ปจลายมานสุตฺตํ
๖๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มคเธสุ กลฺลวาฬปุตฺตคาเม [กลฺลวาลมุตฺตคาเม (สฺยา.)] ปจลายมาโน นิสินฺโน ¶ โหติ. อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ มคเธสุ กลฺลวาฬปุตฺตคาเม ปจลายมานํ นิสินฺนํ. ทิสฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – ภคฺเคสุ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย อนฺตรหิโต มคเธสุ กลฺลวาฬปุตฺตคาเม อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ –
‘‘ปจลายสิ โน ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ปจลายสิ โน ตฺวํ, โมคฺคลฺลานา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ ¶ . ‘‘ตสฺมาติห, โมคฺคลฺลาน, ยถาสฺิสฺส เต วิหรโต ตํ มิทฺธํ โอกฺกมติ, ตํ สฺํ มา มนสากาสิ [มา มนสิกาสิ (สี.), มนสิ กเรยฺยาสิ (สฺยา.), มนสากาสิ (ก.)], ตํ ¶ สฺํ มา พหุลมกาสิ [ตํ สฺํ พหุลํ กเรยฺยาสิ (สฺยา.), ตํ สฺํ พหุลมกาสิ (ก.)]. านํ โข ปเนตํ, โมคฺคลฺลาน, วิชฺชติ ยํ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ’’.
‘‘โน เจ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ, ตโต ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกยฺยาสิ อนุวิจาเรยฺยาสิ, มนสา ¶ อนุเปกฺเขยฺยาสิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ.
‘‘โน เจ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ, ตโต ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กเรยฺยาสิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ.
‘‘โน เจ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ, ตโต ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, อุโภ กณฺณโสตานิ อาวิฺเฉยฺยาสิ [อาวิฺเชยฺยาสิ (สี. สฺยา.)], ปาณินา คตฺตานิ อนุมชฺเชยฺยาสิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ.
‘‘โน เจ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ, ตโต ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, อุฏฺายาสนา อุทเกน อกฺขีนิ อนุมชฺชิตฺวา [ปนิฺชิตฺวา (ก.)] ทิสา อนุวิโลเกยฺยาสิ ¶ , นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ อุลฺโลเกยฺยาสิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ.
‘‘โน เจ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ, ตโต ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, อาโลกสฺํ มนสิ กเรยฺยาสิ, ทิวาสฺํ อธิฏฺเหยฺยาสิ – ยถา ทิวา ตถา รตฺตึ ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา. อิติ วิวเฏน [วิวฏฺเฏน (สฺยา.), มิทฺธวิคเตน (ก.)] เจตสา อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวยฺยาสิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ.
‘‘โน ¶ เจ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ, ตโต ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ปจฺฉาปุเรสฺี [ปจฺฉาปุเร ตถาสฺี (กตฺถจิ)] จงฺกมํ อธิฏฺเหยฺยาสิ อนฺโตคเตหิ อินฺทฺริเยหิ อพหิคเตน มานเสน. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ.
‘‘โน ¶ เจ เต เอวํ วิหรโต ตํ มิทฺธํ ปหีเยถ, ตโต ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ทกฺขิเณน ¶ ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปยฺยาสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. ปฏิพุทฺเธน จ [ปฏิพุทฺเธเนว (สฺยา.)] เต, โมคฺคลฺลาน, ขิปฺปฺเว ปจฺจุฏฺาตพฺพํ – ‘น เสยฺยสุขํ น ปสฺสสุขํ น มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหริสฺสามี’ติ. เอวฺหิ เต, โมคฺคลฺลาน, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห, โมคฺคลฺลาน, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น อุจฺจาโสณฺฑํ ปคฺคเหตฺวา กุลานิ อุปสงฺกมิสฺสามี’ติ. เอวฺหิ เต, โมคฺคลฺลาน, สิกฺขิตพฺพํ. สเจ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ อุจฺจาโสณฺฑํ ปคฺคเหตฺวา กุลานิ อุปสงฺกมติ, สนฺติ หิ, โมคฺคลฺลาน, กุเลสุ กิจฺจกรณียานิ. เยหิ มนุสฺสา อาคตํ ภิกฺขุํ น มนสิ กโรนฺติ, ตตฺร ภิกฺขุสฺส เอวํ โหติ – ‘โกสุ นาม อิทานิ มํ อิมสฺมึ กุเล ปริภินฺทิ, วิรตฺตรูปา ทานิเม มยิ มนุสฺสา’ติ. อิติสฺส อลาเภน มงฺกุภาโว, มงฺกุภูตสฺส อุทฺธจฺจํ, อุทฺธตสฺส อสํวโร, อสํวุตสฺส อารา จิตฺตํ สมาธิมฺหา.
‘‘ตสฺมาติห, โมคฺคลฺลาน, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น วิคฺคาหิกกถํ กเถสฺสามี’ติ. เอวฺหิ เต, โมคฺคลฺลาน, สิกฺขิตพฺพํ. วิคฺคาหิกาย, โมคฺคลฺลาน, กถาย สติ ¶ กถาพาหุลฺลํ ปาฏิกงฺขํ, กถาพาหุลฺเล สติ อุทฺธจฺจํ, อุทฺธตสฺส อสํวโร, อสํวุตสฺส อารา จิตฺตํ สมาธิมฺหา [นาหํ โมคฺคลาน สพฺเพเหว สมคฺคํ วณฺณยามิ คหฏฺเหิ. ปพฺพชิเตหิ โข อหํ โมคฺคลฺลาน สมคฺคํ วณฺณยามิ (ก.)]. นาหํ, โมคฺคลฺลาน, สพฺเพเหว สํสคฺคํ วณฺณยามิ. น ปนาหํ ¶ , โมคฺคลฺลาน, สพฺเพเหว สํสคฺคํ น วณฺณยามิ. สคหฏฺปพฺพชิเตหิ โข อหํ, โมคฺคลฺลาน, สํสคฺคํ น วณฺณยามิ [นาหํ โมคฺคลฺลาน สพฺเพเหว สมคฺคํ วณฺณยามิ คหฏฺเหิ, ปพฺพชิเตหิ โข อหํ โมคฺคลฺลาน สมคฺคํ วณฺณยามิ (ก.)]. ยานิ จ โข ตานิ เสนาสนานิ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ [มนุสฺสราหเสยฺยกานิ (สี. สฺยา.)] ปฏิสลฺลานสารุปฺปานิ ตถารูเปหิ ¶ เสนาสเนหิ สํสคฺคํ [สมคฺคํ (ก.)] วณฺณยามี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุ สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต โหติ อจฺจนฺตนิฏฺโ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสาน’’นฺติ?
‘‘อิธ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุโน สุตํ โหติ – ‘สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสายา’ติ; เอวฺเจตํ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุโน สุตํ โหติ – ‘สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสายา’ติ. โส สพฺพํ ธมฺมํ อภิชานาติ, สพฺพํ ธมฺมํ อภิฺาย สพฺพํ ธมฺมํ ปริชานาติ. สพฺพํ ธมฺมํ ปริฺาย ¶ ยํกิฺจิ เวทนํ เวทิยติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา. โส ตาสุ เวทนาสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, วิราคานุปสฺสี วิหรติ, นิโรธานุปสฺสี วิหรติ, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรติ. โส ตาสุ เวทนาสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรนฺโต วิราคานุปสฺสี วิหรนฺโต นิโรธานุปสฺสี วิหรนฺโต ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรนฺโต น กิฺจิ [น จ กิฺจิ (สี. สฺยา. ก.) ม. นิ. ๑.๓๙๐ ปสฺสิตพฺพํ] โลเก อุปาทิยติ, อนุปาทิยํ น ปริตสฺสติ, อปริตสฺสํ ปจฺจตฺตํเยว ปรินิพฺพายติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. เอตฺตาวตา โข, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต โหติ อจฺจนฺตนิฏฺโ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. เมตฺตสุตฺตํ
๖๒. [อิติวุ. ๒๒ อิติวุตฺตเกปิ] ‘‘มา ¶ , ภิกฺขเว, ปฺุานํ ภายิตฺถ. สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว ¶ , อธิวจนํ ยทิทํ ปฺุานิ [ยทิทํ ปฺุนฺติ (สี.), ยทิทํ ปฺุานิ (ก.)]. อภิชานามิ โข ปนาหํ [ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ อิฏฺํ (สฺยา.), ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ ปฺุานํ อิฏฺํ (?)], ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปฺุานํ ทีฆรตฺตํ อิฏฺํ [ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ อิฏฺํ (สฺยา.), ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ ปฺุานํ อิฏฺํ (?)] กนฺตํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํ. สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวสึ ¶ . สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป นยิมํ โลกํ ปุนาคมาสึ. สํวฏฺฏมาเน สุทาหํ [สํวฏฺฏมานสฺสุทาหํ (ก.)], ภิกฺขเว, โลเก อาภสฺสรูปโค โหมิ, วิวฏฺฏมาเน โลเก สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิ.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี. ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สกฺโก อโหสึ เทวานมินฺโท; อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสึ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, อิมานิ สตฺต รตนานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปน เม, ภิกฺขเว, ปุตฺตา อเหสุํ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสิ’’นฺติ [อชฺฌาวสนฺติ (สฺยา.) อชฺฌาวสติ (สี. ก.)].
‘‘ปสฺส ปฺุานํ วิปากํ, กุสลานํ สุเขสิโน [สุเขสินํ (สี.)];
เมตฺตํ จิตฺตํ วิภาเวตฺวา, สตฺต วสฺสานิ ภิกฺขโว [ภิกฺขเว (ก.)];
สตฺตสํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป ¶ , นยิมํ โลกํ ปุนาคมึ [ปุนาคมํ (สฺยา.)].
‘‘สํวฏฺฏมาเน ¶ โลกมฺหิ, โหมิ อาภสฺสรูปโค;
วิวฏฺฏมาเน โลกสฺมึ, สฺุพฺรหฺมูปโค อหุํ.
‘‘สตฺตกฺขตฺตุํ มหาพฺรหฺมา, วสวตฺตี ตทา อหุํ;
ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชมการยึ.
‘‘จกฺกวตฺตี ¶ อหุํ ราชา, ชมฺพุมณฺฑสฺส [ชมฺพุทีปสฺส (สี.), ชมฺพุสณฺฑสฺส (สฺยา.)] อิสฺสโร;
มุทฺธาวสิตฺโต ¶ [มุทฺธาภิสิตฺโต (ก.)] ขตฺติโย, มนุสฺสาธิปตี อหุํ.
‘‘อทณฺเฑน อสตฺเถน, วิเชยฺย ปถวึ อิมํ;
อสาหเสน กมฺเมน [ธมฺเมน (สี. สฺยา.)], สเมน อนุสาสิ ตํ.
‘‘ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;
มหทฺธเน มหาโภเค, อฑฺเฒ อชายิหํ กุเล.
‘‘สพฺพกาเมหิ สมฺปนฺเน [สมฺปุณฺเณ (ก.)], รตเนหิ จ สตฺตหิ;
พุทฺธา สงฺคาหกา โลเก, เตหิ เอตํ สุเทสิตํ.
‘‘เอโส เหตุ มหนฺตสฺส, ปถพฺโย เม น วิปชฺชติ [เอส เหตุ มหนฺตสฺส, ปุถพฺโย เยน วุจฺจติ (สี. สฺยา.)];
ปหูตวิตฺตูปกรโณ, ราชา โหติ [โหมิ (สี. สฺยา.)] ปตาปวา.
‘‘อิทฺธิมา ยสวา โหติ [โหมิ (สี. สฺยา.)], ชมฺพุมณฺฑสฺส [ชมฺพุสณฺฑสฺส (สี. สฺยา.)] อิสฺสโร;
โก สุตฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโย.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ อตฺตกาเมน [อตฺถกาเมน (สฺยา. ก.)], มหตฺตมภิกงฺขตา;
สทฺธมฺโม ครุกาตพฺโพ, สรํ พุทฺธานสาสน’’นฺติ. นวมํ;
๑๐. ภริยาสุตฺตํ
๖๓. อถ ¶ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสเน มนุสฺสา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา โหนฺติ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ ¶ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘กึ ¶ นุ เต, คหปติ, นิเวสเน มนุสฺสา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘อยํ, ภนฺเต, สุชาตา ฆรสุณฺหา อฑฺฒกุลา อานีตา. สา เนว สสฺสุํ อาทิยติ, น สสุรํ อาทิยติ, น สามิกํ อาทิยติ, ภควนฺตมฺปิ น สกฺกโรติ น ครุํ กโรติ น มาเนติ น ปูเชตี’’ติ.
อถ โข ภควา สุชาตํ ฆรสุณฺหํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ, สุชาเต’’ติ! ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สุชาตา ฆรสุณฺหา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สุชาตํ ฆรสุณฺหํ ภควา เอตทโวจ ¶ –
‘‘สตฺต โข อิมา, สุชาเต, ปุริสสฺส ภริยาโย. กตมา สตฺต? วธกสมา, โจรีสมา, อยฺยสมา, มาตาสมา, ภคินีสมา, สขีสมา, ทาสีสมา. อิมา โข, สุชาเต, สตฺต ปุริสสฺส ภริยาโย. ตาสํ ตฺวํ กตมา’’ติ? ‘‘น โข อหํ [นาหํ (สฺยา.)], ภนฺเต, อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถาหํ อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ ชาเนยฺย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, สุชาเต, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สุชาตา ฆรสุณฺหา ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ปทุฏฺจิตฺตา ¶ อหิตานุกมฺปินี,
อฺเสุ รตฺตา อติมฺเต ปตึ;
ธเนน กีตสฺส วธาย อุสฺสุกา,
ยา เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา;
‘วธา จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ.
‘‘ยํ อิตฺถิยา วินฺทติ สามิโก ธนํ,
สิปฺปํ วณิชฺชฺจ กสึ อธิฏฺหํ;
อปฺปมฺปิ ตสฺส อปหาตุมิจฺฉติ,
ยา ¶ เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา;
‘โจรี จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ.
‘‘อกมฺมกามา ¶ อลสา มหคฺฆสา,
ผรุสา จ จณฺฑี ทุรุตฺตวาทินี;
อุฏฺายกานํ อภิภุยฺย วตฺตติ,
ยา เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา;
‘อยฺยา จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ.
‘‘ยา ¶ สพฺพทา โหติ หิตานุกมฺปินี,
มาตาว ปุตฺตํ อนุรกฺขเต ปตึ;
ตโต ธนํ สมฺภตมสฺส รกฺขติ,
ยา เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา;
‘มาตา จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ.
‘‘ยถาปิ เชฏฺา ภคินี กนิฏฺกา [กณิฏฺา (สี.), กนิฏฺา (สฺยา.)],
สคารวา โหติ สกมฺหิ สามิเก;
หิรีมนา ¶ ภตฺตุวสานุวตฺตินี,
ยา เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา;‘ภคินี จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ.
‘‘ยาจีธ ทิสฺวาน ปตึ ปโมทติ,
สขี สขารํว จิรสฺสมาคตํ;
โกเลยฺยกา สีลวตี ปติพฺพตา,
ยา เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา;
‘สขี จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ.
‘‘อกฺกุทฺธสนฺตา วธทณฺฑตชฺชิตา,
อทุฏฺจิตฺตา ปติโน ติติกฺขติ;
อกฺโกธนา ภตฺตุวสานุวตฺตินี,
ยา เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา;
‘ทาสี จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ.
‘‘ยาจีธ ภริยา วธกาติ วุจฺจติ,
‘โจรี จ อยฺยา’ติ จ ยา ปวุจฺจติ;
ทุสฺสีลรูปา ผรุสา อนาทรา,
กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺติ ตา.
‘‘ยาจีธ ¶ มาตา ภคินี สขีติ จ,
‘ทาสี จ ภริยา’ติ จ สา ปวุจฺจติ;
สีเล ิตตฺตา จิรรตฺตสํวุตา,
กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺติ ตา’’ติ.
‘‘อิมา ¶ โข, สุชาเต, สตฺต ปุริสสฺส ภริยาโย. ตาสํ ตฺวํ กตมา’’ติ? ‘‘อชฺชตคฺเค ¶ มํ, ภนฺเต, ภควา ทาสีสมํ สามิกสฺส ภริยํ ธาเรตู’’ติ. ทสมํ.
๑๑. โกธนสุตฺตํ
๖๔. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา สปตฺตกนฺตา สปตฺตกรณา โกธนํ อาคจฺฉนฺติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา. กตเม สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ – ‘อโห วตายํ ทุพฺพณฺโณ อสฺสา’ติ! ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส วณฺณวตาย นนฺทติ. โกธโนยํ [โกธนายํ (ก.)], ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล โกธาภิภูโต โกธปเรโต, กิฺจาปิ โส โหติ สุนฺหาโต สุวิลิตฺโต กปฺปิตเกสมสฺสุ โอทาตวตฺถวสโน [โอทาตวสโน (ก.)]; อถ โข โส ทุพฺพณฺโณว โหติ โกธาภิภูโต. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ธมฺโม สปตฺตกนฺโต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ – ‘อโห วตายํ ทุกฺขํ สเยยฺยา’ติ! ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส สุขเสยฺยาย นนฺทติ. โกธโนยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล โกธาภิภูโต โกธปเรโต, กิฺจาปิ โส ปลฺลงฺเก เสติ โคนกตฺถเต ปฏลิกตฺถเต กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรเณ สอุตฺตรจฺฉเท อุภโตโลหิตกูปธาเน; อถ โข โส ทุกฺขฺเว เสติ โกธาภิภูโต. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ธมฺโม สปตฺตกนฺโต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ – ‘อโห วตายํ น ปจุรตฺโถ อสฺสา’ติ! ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส ปจุรตฺถตาย นนฺทติ ¶ . โกธโนยํ ¶ , ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล โกธาภิภูโต โกธปเรโต, อนตฺถมฺปิ คเหตฺวา ‘อตฺโถ เม คหิโต’ติ มฺติ ¶ , อตฺถมฺปิ คเหตฺวา ‘อนตฺโถ เม คหิโต’ติ มฺติ. ตสฺสิเม ธมฺมา อฺมฺํ วิปจฺจนีกา คหิตา ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ โกธาภิภูตสฺส. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ธมฺโม สปตฺตกนฺโต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ – ‘อโห วตายํ น โภควา อสฺสา’ติ! ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส โภควตาย นนฺทติ. โกธนสฺส, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลสฺส โกธาภิภูตสฺส โกธปเรตสฺส, เยปิสฺส เต โหนฺติ โภคา อุฏฺานวีริยาธิคตา ¶ พาหาพลปริจิตา เสทาวกฺขิตฺตา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา, เตปิ ราชาโน ราชโกสํ ปเวเสนฺติ โกธาภิภูตสฺส. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ธมฺโม สปตฺตกนฺโต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ – ‘อโห วตายํ น ยสวา อสฺสา’ติ! ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส ยสวตาย นนฺทติ. โกธโนยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล โกธาภิภูโต โกธปเรโต, โยปิสฺส โส โหติ ยโส อปฺปมาทาธิคโต, ตมฺหาปิ ธํสติ โกธาภิภูโต. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม ธมฺโม สปตฺตกนฺโต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ – ‘อโห วตายํ น ¶ มิตฺตวา อสฺสา’ติ! ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส มิตฺตวตาย นนฺทติ. โกธนํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลํ โกธาภิภูตํ โกธปเรตํ, เยปิสฺส เต โหนฺติ มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, เตปิ อารกา ปริวชฺชนฺติ โกธาภิภูตํ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ ธมฺโม สปตฺตกนฺโต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส เอวํ อิจฺฉติ – ‘อโห วตายํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยา’ติ! ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, สปตฺโต สปตฺตสฺส สุคติคมเน นนฺทติ. โกธโนยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล โกธาภิภูโต โกธปเรโต กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย…เป… กายสฺส ¶ เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ โกธาภิภูโต. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม ธมฺโม สปตฺตกนฺโต สปตฺตกรโณ โกธนํ อาคจฺฉติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ธมฺมา สปตฺตกนฺตา สปตฺตกรณา โกธนํ อาคจฺฉนฺติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา’’ติ.
‘‘โกธโน ทุพฺพณฺโณ โหติ, อโถ ทุกฺขมฺปิ เสติ โส;
อโถ อตฺถํ คเหตฺวาน, อนตฺถํ อธิปชฺชติ [อธิคจฺฉติ (สี.), ปฏิปชฺชติ (สฺยา.)].
‘‘ตโต ¶ กาเยน วาจาย, วธํ กตฺวาน โกธโน;
โกธาภิภูโต ปุริโส, ธนชานึ นิคจฺฉติ.
‘‘โกธสมฺมทสมฺมตฺโต ¶ , อายสกฺยํ [อายสกฺขํ (สฺยา.)] นิคจฺฉติ;
าติมิตฺตา สุหชฺชา จ, ปริวชฺชนฺติ โกธนํ.
[อิติวุ. ๘๘ อิติวุตฺตเกปิ] ‘‘อนตฺถชนโน โกโธ, โกโธ จิตฺตปฺปโกปโน;
ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.
‘‘กุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ, กุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;
อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โกโธ สหเต นรํ.
‘‘ยํ ¶ กุทฺโธ อุปโรเธติ, สุกรํ วิย ทุกฺกรํ;
ปจฺฉา โส วิคเต โกเธ, อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ.
‘‘ทุมฺมงฺกุยํ ปทสฺเสติ [สทสฺเสติ (สี.), ปมํ ทสฺเสติ (สฺยา.)], ธูมํ ธูมีว ปาวโก;
ยโต ปตายติ โกโธ, เยน กุชฺฌนฺติ มานวา.
‘‘นาสฺส หิรี น โอตฺตปฺปํ [น อสฺส หิรี โอตฺตปฺปฺจ (ก.)], น วาโจ โหติ คารโว;
โกเธน อภิภูตสฺส, น ทีปํ โหติ กิฺจนํ.
‘‘ตปนียานิ กมฺมานิ, ยานิ ธมฺเมหิ อารกา;
ตานิ อาโรจยิสฺสามิ, ตํ สุณาถ ยถา ตถํ.
‘‘กุทฺโธ หิ ปิตรํ หนฺติ, หนฺติ กุทฺโธ สมาตรํ;
กุทฺโธ หิ พฺราหฺมณํ หนฺติ, หนฺติ กุทฺโธ ปุถุชฺชนํ.
‘‘ยาย ¶ ¶ มาตุ ภโต โปโส, อิมํ โลกํ อเวกฺขติ;
ตมฺปิ ปาณททึ สนฺตึ, หนฺติ กุทฺโธ ปุถุชฺชโน.
‘‘อตฺตูปมา หิ เต สตฺตา, อตฺตา หิ ปรโม [ปรมํ (สี. สฺยา.)] ปิโย;
หนฺติ ¶ กุทฺโธ ปุถุตฺตานํ, นานารูเปสุ มุจฺฉิโต.
‘‘อสินา หนฺติ อตฺตานํ, วิสํ ขาทนฺติ มุจฺฉิตา;
รชฺชุยา พชฺฌ มียนฺติ, ปพฺพตามปิ กนฺทเร.
‘‘ภูนหจฺจานิ ¶ [ภูตหจฺจานิ (สี. สฺยา.)] กมฺมานิ, อตฺตมารณิยานิ จ;
กโรนฺตา นาวพุชฺฌนฺติ [กโรนฺโต นาวพุชฺฌติ (ก.)], โกธชาโต ปราภโว.
‘‘อิตายํ โกธรูเปน, มจฺจุปาโส คุหาสโย;
ตํ ทเมน สมุจฺฉินฺเท, ปฺาวีริเยน ทิฏฺิยา.
‘‘ยถา เมตํ [เอกเมตํ (สฺยา.), เอกเมตํ (สี.)] อกุสลํ, สมุจฺฉินฺเทถ ปณฺฑิโต;
ตเถว ธมฺเม สิกฺเขถ, มา โน ทุมฺมงฺกุยํ อหุ.
‘‘วีตโกธา อนายาสา, วีตโลภา อนุสฺสุกา [อนิสฺสุกา (สี. สฺยา.) ตทฏฺกถาสุ ปน ‘‘อนุสฺสุกา’’ ตฺเวว ทิสฺสติ];
ทนฺตา โกธํ ปหนฺตฺวาน, ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา’’ติ [ปรินิพฺพิสฺสถนาสวาติ (สฺยา.), ปรินิพฺพึสุ อนาสวาติ (ก.)]. เอกาทสมํ;
อพฺยากตวคฺโค ฉฏฺโ.
ตสฺสุทฺทานํ –
อพฺยากโต ปุริสคติ, ติสฺส สีห อรกฺขิยํ;
กิมิลํ สตฺต ปจลา, เมตฺตา ภริยา โกเธกาทสาติ.
๗. มหาวคฺโค
๑. หิรีโอตฺตปฺปสุตฺตํ
๖๕. [อ. นิ. ๕.๒๔, ๑๖๘; ๒.๖.๕๐] ‘‘หิโรตฺตปฺเป ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อสติ หิโรตฺตปฺปวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อินฺทฺริยสํวโร; อินฺทฺริยสํวเร อสติ อินฺทฺริยสํวรวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ ¶ ¶ โหติ สีลํ; สีเล อสติ สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ เผคฺคุปิ สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, หิโรตฺตปฺเป อสติ หิโรตฺตปฺปวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อินฺทฺริยสํวโร; อินฺทฺริยสํวเร อสติ อินฺทฺริยสํวรวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สีลํ; สีเล อสติ สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘หิโรตฺตปฺเป, ภิกฺขเว, สติ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อินฺทฺริยสํวโร; อินฺทฺริยสํวเร สติ อินฺทฺริยสํวรสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สีลํ; สีเล สติ สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ เผคฺคุปิ สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ ¶ . เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, หิโรตฺตปฺเป สติ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ปมํ.
๒. สตฺตสูริยสุตฺตํ
๖๖. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ ¶ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ อมฺพปาลิวเน. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อนิจฺจา ¶ , ภิกฺขเว, สงฺขารา; อธุวา, ภิกฺขเว, สงฺขารา; อนสฺสาสิกา, ภิกฺขเว, สงฺขารา. ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, อลเมว สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทิตุํ อลํ วิรชฺชิตุํ อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘สิเนรุ, ภิกฺขเว, ปพฺพตราชา จตุราสีติโยชนสหสฺสานิ อายาเมน, จตุราสีติโยชนสหสฺสานิ วิตฺถาเรน, จตุราสีติโยชนสหสฺสานิ มหาสมุทฺเท อชฺโฌคาฬฺโห, จตุราสีติโยชนสหสฺสานิ มหาสมุทฺทา อจฺจุคฺคโต. โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน พหูนิ วสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ เทโว น วสฺสติ. เทเว โข ปน, ภิกฺขเว, อวสฺสนฺเต เย เกจิเม พีชคามภูตคามา โอสธิติณวนปฺปตโย เต อุสฺสุสฺสนฺติ วิสุสฺสนฺติ, น ภวนฺติ. เอวํ อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา; เอวํ อธุวา, ภิกฺขเว, สงฺขารา…เป… อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ทุติโย สูริโย ปาตุภวติ. ทุติยสฺส, ภิกฺขเว, สูริยสฺส ปาตุภาวา ยา กาจิ กุนฺนทิโย กุโสพฺภา [กุสฺสุพฺโภ (สี.), กุสฺโสพฺภา (สฺยา.)] ตา อุสฺสุสฺสนฺติ วิสุสฺสนฺติ, น ภวนฺติ ¶ . เอวํ อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา…เป… อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ตติโย ¶ สูริโย ¶ ปาตุภวติ. ตติยสฺส, ภิกฺขเว, สูริยสฺส ปาตุภาวา ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหี, ตา อุสฺสุสฺสนฺติ วิสุสฺสนฺติ, น ภวนฺติ. เอวํ อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา…เป… อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน จตุตฺโถ สูริโย ปาตุภวติ. จตุตฺถสฺส, ภิกฺขเว, สูริยสฺส ปาตุภาวา เย เต มหาสรา ยโต อิมา มหานทิโย ปวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – อโนตตฺตา, สีหปปาตา, รถการา, กณฺณมุณฺฑา, กุณาลา, ฉทฺทนฺตา, มนฺทากินิยา, ตา อุสฺสุสฺสนฺติ วิสุสฺสนฺติ, น ภวนฺติ. เอวํ อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา…เป… อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ปฺจโม สูริโย ปาตุภวติ. ปฺจมสฺส, ภิกฺขเว, สูริยสฺส ¶ ปาตุภาวา โยชนสติกานิปิ มหาสมุทฺเท อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, ทฺวิโยชนสติกานิปิ มหาสมุทฺเท อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, ติโยชนสติกานิปิ, จตุโยชนสติกานิปิ, ปฺจโยชนสติกานิปิ, ฉโยชนสติกานิปิ, สตฺตโยชนสติกานิปิ มหาสมุทฺเท อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ; สตฺตตาลมฺปิ มหาสมุทฺเท อุทกํ สณฺาติ, ฉตาลมฺปิ, ปฺจตาลมฺปิ, จตุตาลมฺปิ, ติตาลมฺปิ, ทฺวิตาลมฺปิ ¶ , ตาลมตฺตมฺปิ มหาสมุทฺเท อุทกํ สณฺาติ; สตฺตโปริสมฺปิ มหาสมุทฺเท อุทกํ สณฺาติ, ฉโปริสมฺปิ, ปฺจโปริสมฺปิ, จตุโปริสมฺปิ, ติโปริสมฺปิ, ทฺวิโปริสมฺปิ, โปริสมฺปิ [โปริสมตฺตมฺปิ (สฺยา.)], อฑฺฒโปริสมฺปิ, กฏิมตฺตมฺปิ, ชณฺณุกามตฺตมฺปิ, โคปฺผกมตฺตมฺปิ มหาสมุทฺเท อุทกํ สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สรทสมเย ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตตฺถ ตตฺถ โคปเทสุ [โคปฺผกปเทเสสุ (ก.)] อุทกานิ ิตานิ ¶ โหนฺติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ตตฺถ ตตฺถ โคปฺผกมตฺตานิ [โคปทมตฺตานิ (สี. สฺยา.)] มหาสมุทฺเท อุทกานิ ิตานิ โหนฺติ. ปฺจมสฺส, ภิกฺขเว, สูริยสฺส ปาตุภาวา องฺคุลิปพฺพมตฺตมฺปิ มหาสมุทฺเท อุทกํ น โหติ. เอวํ อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา…เป… อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ฉฏฺโ สูริโย ปาตุภวติ. ฉฏฺสฺส, ภิกฺขเว, สูริยสฺส ปาตุภาวา อยฺจ มหาปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา ธูมายนฺติ สํธูมายนฺติ สมฺปธูมายนฺติ [ธูปายนฺติ สนฺธูปายนฺติ สมฺปธูปายนฺติ (สี. สฺยา.)]. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุมฺภการปาโก อาเลปิโต [อาลิมฺปิโต (สี. สฺยา.)] ปมํ ธูเมติ สํธูเมติ สมฺปธูเมติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ฉฏฺสฺส สูริยสฺส ปาตุภาวา ¶ อยฺจ มหาปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา ธูมายนฺติ สํธูมายนฺติ สมฺปธูมายนฺติ. เอวํ อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา…เป… อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สตฺตโม สูริโย ปาตุภวติ. สตฺตมสฺส ¶ , ภิกฺขเว, สูริยสฺส ปาตุภาวา อยฺจ มหาปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา อาทิปฺปนฺติ ปชฺชลนฺติ เอกชาลา ภวนฺติ. อิมิสฺสา จ, ภิกฺขเว, มหาปถวิยา สิเนรุสฺส ¶ จ ปพฺพตราชสฺส ¶ ฌายมานานํ ทยฺหมานานํ อจฺจิ วาเตน ขิตฺตา ยาว พฺรหฺมโลกาปิ คจฺฉติ. สิเนรุสฺส, ภิกฺขเว, ปพฺพตราชสฺส ฌายมานสฺส ทยฺหมานสฺส วินสฺสมานสฺส มหตา เตโชขนฺเธน อภิภูตสฺส โยชนสติกานิปิ กูฏานิ ปลุชฺชนฺติ ทฺวิโยชนสติกานิปิ, ติโยชนสติกานิปิ, จตุโยชนสติกานิปิ, ปฺจโยชนสติกานิปิ กูฏานิ ปลุชฺชนฺติ. อิมิสฺสา จ, ภิกฺขเว, มหาปถวิยา สิเนรุสฺส จ ปพฺพตราชสฺส ฌายมานานํ ทยฺหมานานํ เนว ฉาริกา ปฺายติ น มสิ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ฌายมานสฺส ทยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายติ น มสิ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิมิสฺสา จ มหาปถวิยา สิเนรุสฺส จ ปพฺพตราชสฺส ฌายมานานํ ทยฺหมานานํ เนว ฉาริกา ปฺายติ น มสิ. เอวํ อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา; เอวํ อธุวา, ภิกฺขเว, สงฺขารา; เอวํ อนสฺสาสิกา, ภิกฺขเว, สงฺขารา. ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, อลเมว สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทิตุํ อลํ วิรชฺชิตุํ อลํ วิมุจฺจิตุํ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, โก มนฺตา โก สทฺธาตา – ‘อยฺจ ปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา ทยฺหิสฺสนฺติ วินสฺสิสฺสนฺติ, น ภวิสฺสนฺตี’ติ อฺตฺร ทิฏฺปเทหิ?
[อ. นิ. ๖.๕๔; ๗.๗๓] ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สุเนตฺโต นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค. สุเนตฺตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว ¶ , สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. สุเนตฺโต, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานึสุ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชึสุ. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานึสุ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปฺเปกจฺเจ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ, อปฺเปกจฺเจ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ, อปฺเปกจฺเจ ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ, อปฺเปกจฺเจ ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ ¶ , อปฺเปกจฺเจ ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ ¶ , อปฺเปกจฺเจ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ, อปฺเปกจฺเจ ขตฺติยมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ, อปฺเปกจฺเจ พฺราหฺมณมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ, อปฺเปกจฺเจ คหปติมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ.
‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน เอตทโหสิ – ‘น โข เมตํ ปติรูปํ โยหํ สาวกานํ สมสมคติโย อสฺสํ อภิสมฺปรายํ, ยํนูนาหํ อุตฺตริ เมตฺตํ [อุตฺตริ มคฺคํ (ก.)] ภาเวยฺย’’’นฺติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สุเนตฺโต สตฺถา สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวสิ. สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป นยิมํ โลกํ ปุนราคมาสิ. สํวฏฺฏมาเน สุทํ, ภิกฺขเว ¶ , โลเก อาภสฺสรูปโค โหติ. วิวฏฺฏมาเน โลเก สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชติ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหติ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี. ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺโก อโหสิ เทวานมินฺโท. อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสิ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา อเหสุํ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสิ. โส หิ นาม, ภิกฺขเว, สุเนตฺโต สตฺถา เอวํ ทีฆายุโก สมาโน เอวํ จิรฏฺิติโก อปริมุตฺโต อโหสิ – ‘ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, อปริมุตฺโต ¶ ทุกฺขสฺมา’ติ วทามิ’’.
‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? จตุนฺนํ ธมฺมานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา. กตเมสํ จตุนฺนํ? อริยสฺส, ภิกฺขเว, สีลสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา, อริยสฺส สมาธิสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา, อริยาย ปฺาย อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา, อริยาย วิมุตฺติยา อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา. ตยิทํ, ภิกฺขเว, อริยํ สีลํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อริโย สมาธิ อนุโพโธ ปฏิวิทฺโธ, อริยา ปฺา อนุโพธา ปฏิวิทฺธา, อริยา วิมุตฺติ อนุโพธา ปฏิวิทฺธา, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. อิทมโวจ ¶ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘สีลํ ¶ สมาธิ ปฺา จ, วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา;
อนุพุทฺธา อิเม ธมฺมา, โคตเมน ยสสฺสินา.
‘‘อิติ พุทฺโธ อภิฺาย, ธมฺมมกฺขาสิ ภิกฺขุนํ;
ทุกฺขสฺสนฺตกโร สตฺถา, จกฺขุมา ปรินิพฺพุโต’’ติ. ทุติยํ;
๓. นคโรปมสุตฺตํ
๖๗. ‘‘ยโต ¶ โข, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ [สุปริกฺขิตฺตํ (ก.)] โหติ, จตุนฺนฺจ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อกรณียํ พาหิเรหิ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ.
‘‘กตเมหิ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร เอสิกา โหติ คมฺภีรเนมา [คมฺภีรเนมิ (ก.)] สุนิขาตา อจลา อสมฺปเวธี [อสมฺปเวธิ (สี. สฺยา.)]. อิมินา ปเมน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ ¶ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร ปริขา โหติ คมฺภีรา เจว วิตฺถตา จ. อิมินา ทุติเยน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร อนุปริยายปโถ โหติ อุจฺโจ เจว วิตฺถโต จ. อิมินา ตติเยน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ อาวุธํ สนฺนิจิตํ โหติ สลากฺเจว ¶ เชวนิกฺจ [เชวนิยฺจ (สี. อฏฺ.)]. อิมินา จตุตฺเถน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุพลกาโย ปฏิวสติ, เสยฺยถิทํ – หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ธนุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา จมฺมโยธิโน ทาสกปุตฺตา. อิมินา ปฺจเมน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร โทวาริโก โหติ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี อฺาตานํ นิวาเรตา าตานํ ปเวเสตา. อิมินา ¶ ฉฏฺเน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร ปากาโร โหติ อุจฺโจ เจว วิตฺถโต ¶ จ วาสนเลปนสมฺปนฺโน จ. อิมินา สตฺตเมน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. อิเมหิ ¶ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหติ.
‘‘กตเมสํ จตุนฺนํ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติณกฏฺโทกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ สาลิยวกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติลมุคฺคมาสาปรณฺณํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฏิฆาตาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ เภสชฺชํ สนฺนิจิตํ โหติ, เสยฺยถิทํ ¶ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ โลณํ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.
‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อิเมหิ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหติ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อกรณียํ พาหิเรหิ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยโต อริยสาวโก สตฺตหิ สทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โหติ, จตุนฺนฺจ ฌานานํ ¶ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ ¶ ¶ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกรณีโย มารสฺส อกรณีโย ปาปิมโต. กตเมหิ สตฺตหิ สทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โหติ?
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร เอสิกา โหติ คมฺภีรเนมา สุนิขาตา อจลา อสมฺปเวธี อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ ‘อิติปิ โส…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ. สทฺเธสิโก, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิมินา ปเมน สทฺธมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร ปริกฺขา โหติ คมฺภีรา เจว วิตฺถตา จ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก หิรีมา โหติ, หิรียติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. หิรีปริกฺโข โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิมินา ทุติเยน สทฺธมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร อนุปริยายปโถ โหติ อุจฺโจ เจว วิตฺถโต จ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ¶ โอตฺตปฺปี โหติ, โอตฺตปฺปติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, โอตฺตปฺปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. โอตฺตปฺปปริยายปโถ ¶ , ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ ¶ ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิมินา ตติเยน สทฺธมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ อาวุธํ สนฺนิจิตํ โหติ สลากฺเจว เชวนิกฺจ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. สุตาวุโธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ¶ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิมินา จตุตฺเถน สทฺธมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุพลกาโย ปฏิวสติ, เสยฺยถิทํ – หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ธนุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา จมฺมโยธิโน ทาสกปุตฺตา อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. วีริยพลกาโย, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิมินา ปฺจเมน สทฺธมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร โทวาริโก โหติ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี อฺาตานํ นิวาเรตา าตานํ ปเวเสตา อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย ¶ ¶ . เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. สติโทวาริโก, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิมินา ฉฏฺเน สทฺธมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร ปากาโร โหติ อุจฺโจ เจว วิตฺถโต จ ¶ วาสนเลปนสมฺปนฺโน จ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. ปฺาวาสนเลปนสมฺปนฺโน, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ. อิมินา สตฺตเมน สทฺธมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ สตฺตหิ สทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘กตเมสํ ¶ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติณกฏฺโทกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ¶ สาลิยวกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย ¶ พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติลมุคฺคมาสาปรณฺณํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รฺโ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ เภสชฺชํ สนฺนิจิตํ โหติ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ โลณํ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฏิฆาตาย. เอวเมวํ โข ภิกฺขเว, อริยสาวโก สุขสฺส จ ปหานา ¶ ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส. อิเมสํ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.
‘‘ยโต ¶ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิเมหิ สตฺตหิ สทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โหติ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อยํ ¶ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกรณีโย มารสฺส อกรณีโย ปาปิมโต’’ติ. ตติยํ.
๔. ธมฺมฺูสุตฺตํ
๖๘. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ¶ …เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมฺู จ โหติ อตฺถฺู จ อตฺตฺู จ มตฺตฺู จ กาลฺู จ ปริสฺู จ ปุคฺคลปโรปรฺู จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมฺู โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ชานาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ชาเนยฺย – สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ, นยิธ ‘ธมฺมฺู’ติ วุจฺเจยฺย. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมํ ชานาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ, ตสฺมา ‘ธมฺมฺู’ติ วุจฺจติ. อิติ ธมฺมฺู.
‘‘อตฺถฺู จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตสฺส ตสฺเสว ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ – ‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ, อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’ติ. โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตสฺส ตสฺเสว ภาสิตสฺส อตฺถํ ชาเนยฺย – ‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ, อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’ติ, นยิธ ‘อตฺถฺู’ติ วุจฺเจยฺย. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตสฺส ตสฺเสว ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ – ‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ, อยํ ¶ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’ติ, ตสฺมา ‘อตฺถฺู’ติ วุจฺจติ. อิติ ธมฺมฺู, อตฺถฺู.
‘‘อตฺตฺู ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตานํ ชานาติ – ‘เอตฺตโกมฺหิ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย ปฏิภาเนนา’ติ. โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตานํ ชาเนยฺย – ‘เอตฺตโกมฺหิ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย ปฏิภาเนนา’ติ, นยิธ ‘อตฺตฺู’ติ วุจฺเจยฺย. ยสฺมา จ, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ อตฺตานํ ชานาติ – ‘เอตฺตโกมฺหิ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย ปฏิภาเนนา’ติ, ตสฺมา ‘อตฺตฺู’ติ วุจฺจติ. อิติ ธมฺมฺู, อตฺถฺู, อตฺตฺู.
‘‘มตฺตฺู ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มตฺตํ ชานาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ ปฏิคฺคหณาย. โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มตฺตํ ชาเนยฺย จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ ปฏิคฺคหณาย, นยิธ ‘มตฺตฺู’ติ วุจฺเจยฺย. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มตฺตํ ชานาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ ปฏิคฺคหณาย, ตสฺมา ‘มตฺตฺู’ติ วุจฺจติ. อิติ ธมฺมฺู, อตฺถฺู, อตฺตฺู, มตฺตฺู.
‘‘กาลฺู จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ, กาลํ ชานาติ – ‘อยํ กาโล อุทฺเทสสฺส, อยํ กาโล ปริปุจฺฉาย, อยํ กาโล โยคสฺส, อยํ กาโล ปฏิสลฺลานสฺสา’ติ. โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาลํ ชาเนยฺย – ‘อยํ กาโล อุทฺเทสสฺส, อยํ กาโล ปริปุจฺฉาย, อยํ กาโล โยคสฺส, อยํ กาโล ปฏิสลฺลานสฺสา’ติ, นยิธ ‘กาลฺู’ติ วุจฺเจยฺย. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาลํ ชานาติ – ‘อยํ กาโล อุทฺเทสสฺส, อยํ กาโล ปริปุจฺฉาย, อยํ กาโล โยคสฺส, อยํ กาโล ปฏิสลฺลานสฺสา’ติ, ตสฺมา ‘กาลฺู’ติ วุจฺจติ. อิติ ธมฺมฺู, อตฺถฺู, อตฺตฺู, มตฺตฺู, กาลฺู.
‘‘ปริสฺู จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปริสํ ชานาติ – ‘อยํ ขตฺติยปริสา, อยํ พฺราหฺมณปริสา, อยํ คหปติปริสา, อยํ สมณปริสา. ตตฺถ เอวํ อุปสงฺกมิตพฺพํ, เอวํ ¶ าตพฺพํ ¶ , เอวํ กตฺตพฺพํ, เอวํ นิสีทิตพฺพํ, เอวํ ภาสิตพฺพํ, เอวํ ตุณฺหี ภวิตพฺพ’นฺติ. โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปริสํ ชาเนยฺย – ‘อยํ ขตฺติยปริสา…เป… เอวํ ตุณฺหี ภวิตพฺพ’นฺติ, นยิธ ‘ปริสฺู’ติ วุจฺเจยฺย. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปริสํ ชานาติ – ‘อยํ ขตฺติยปริสา, อยํ พฺราหฺมณปริสา, อยํ คหปติปริสา, อยํ สมณปริสา ¶ . ตตฺถ เอวํ อุปสงฺกมิตพฺพํ, เอวํ าตพฺพํ, เอวํ กตฺตพฺพํ, เอวํ นิสีทิตพฺพํ, เอวํ ภาสิตพฺพํ, เอวํ ตุณฺหี ภวิตพฺพ’นฺติ, ตสฺมา ‘ปริสฺู’ติ วุจฺจติ. อิติ ธมฺมฺู, อตฺถฺู, อตฺตฺู, มตฺตฺู, กาลฺู, ปริสฺู.
‘‘ปุคฺคลปโรปรฺู จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน [สพฺพตฺถปิ อิธ อารมฺเภ ‘‘ภิกฺขุโน’’ ตฺเวว ทิสฺสติ] ทฺวเยน ปุคฺคลา วิทิตา โหนฺติ. ทฺเว ปุคฺคลา – เอโก อริยานํ ทสฺสนกาโม, เอโก อริยานํ น ทสฺสนกาโม. ยฺวายํ ปุคฺคโล อริยานํ น ทสฺสนกาโม ¶ , เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ยฺวายํ ปุคฺคโล อริยานํ ทสฺสนกาโม, เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.
‘‘ทฺเว ปุคฺคลา อริยานํ ทสฺสนกามา – เอโก สทฺธมฺมํ โสตุกาโม, เอโก สทฺธมฺมํ น โสตุกาโม. ยฺวายํ ปุคฺคโล สทฺธมฺมํ น โสตุกาโม, เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ยฺวายํ ปุคฺคโล สทฺธมฺมํ โสตุกาโม, เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.
‘‘ทฺเว ปุคฺคลา สทฺธมฺมํ โสตุกามา – เอโก โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ, เอโก อโนหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ. ยฺวายํ ปุคฺคโล อโนหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ, เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ยฺวายํ ปุคฺคโล โอหิตโสโต ¶ ธมฺมํ สุณาติ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.
‘‘ทฺเว ปุคฺคลา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ [สุณนฺตา (ก.)] – เอโก สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรติ, เอโก สุตฺวา ธมฺมํ น ธาเรติ. ยฺวายํ ปุคฺคโล สุตฺวา น ธมฺมํ ¶ ธาเรติ, เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ยฺวายํ ปุคฺคโล สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรติ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.
‘‘ทฺเว ปุคฺคลา สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรนฺติ [ธาเรนฺตา (ก.)] – เอโก ธาตานํ [ธตานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ, เอโก ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ น อุปปริกฺขติ. ยฺวายํ ปุคฺคโล ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ น อุปปริกฺขติ, เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ยฺวายํ ปุคฺคโล ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.
‘‘ทฺเว ปุคฺคลา ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขนฺติ [อุปปริกฺขนฺตา (ก.)] – เอโก อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน, เอโก อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน. ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺถมฺาย ¶ ธมฺมมฺาย น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน, เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน, เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส.
‘‘ทฺเว ปุคฺคลา อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา – เอโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, เอโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน ¶ ปรหิตาย จ. ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, เอวํ โส เตนงฺเคน คารยฺโห. ยฺวายํ ปุคฺคโล อตฺถหิตาย จ ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปาสํโส. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน [ภิกฺขุนา (สี. สฺยา.)] ทฺวเยน ปุคฺคลา วิทิตา โหนฺติ. เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปุคฺคลปโรปรฺู โหติ. ‘‘อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ¶ ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปาริจฺฉตฺตกสุตฺตํ
๖๙. ‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร ปณฺฑุปลาโส โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘ปณฺฑุปลาโส ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร นจิรสฺเสว ทานิ ปนฺนปลาโส ภวิสฺสตี’’’ติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร ปนฺนปลาโส โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘ปนฺนปลาโส ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร นจิรสฺเสว ทานิ ชาลกชาโต ภวิสฺสตี’’’ติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร ชาลกชาโต โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘ชาลกชาโต ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร นจิรสฺเสว ทานิ ขารกชาโต ภวิสฺสตี’’’ติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร ขารกชาโต โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘ขารกชาโต ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร นจิรสฺเสว ทานิ กุฏุมลกชาโต [กุฑุมลกชาโต (สี. สฺยา. ปี.)] ภวิสฺสตี’’’ติ.
‘‘ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร กุฏุมลกชาโต โหติ ¶ , อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ¶ ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘กุฏุมลกชาโต ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร นจิรสฺเสว ทานิ โกรกชาโต ¶ [โกกาสกชาโต (สี. สฺยา.), โกสกชาโต (ก.)] ภวิสฺสตี’’’ติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร โกรกชาโต โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘โกรกชาโต ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร นจิรสฺเสว ทานิ สพฺพผาลิผุลฺโล [สพฺพปาลิผุลฺโล (สี. ปี.)] ภวิสฺสตี’’’ติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร สพฺพผาลิผุลฺโล โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ปาริจฺฉตฺตกสฺส โกวิฬารสฺส มูเล ทิพฺเพ จตฺตาโร มาเส ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรนฺติ.
‘‘สพฺพผาลิผุลฺลสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, ปาริจฺฉตฺตกสฺส โกวิฬารสฺส สมนฺตา ปฺาสโยชนานิ อาภาย ผุฏํ โหติ, อนุวาตํ โยชนสตํ คนฺโธ คจฺฉติ, อยมานุภาโว ปาริจฺฉตฺตกสฺส โกวิฬารสฺส.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย อริยสาวโก อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย เจเตติ, ปณฺฑุปลาโส, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตสฺมึ สมเย โหติ เทวานํว ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, ปนฺนปลาโส, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตสฺมึ สมเย โหติ เทวานํว ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ชาลกชาโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตสฺมึ สมเย โหติ เทวานํว ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร.
‘‘ยสฺมึ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ขารกชาโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตสฺมึ สมเย โหติ ¶ เทวานํว ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ¶ อริยสาวโก ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, กุฏุมลกชาโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตสฺมึ สมเย โหติ เทวานํว ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โกรกชาโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตสฺมึ สมเย โหติ เทวานํว ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพผาลิผุลฺโล, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตสฺมึ สมเย โหติ เทวานํว ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร.
‘‘ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภุมฺมา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวนฺติ – ‘เอโส อิตฺถนฺนาโม อายสฺมา อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต สทฺธิวิหาริโก อมุกมฺหา คามา วา นิคมา วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกา เทวา…เป… ตาวตึสา เทวา… ยามา เทวา… ตุสิตา เทวา… นิมฺมานรตี เทวา… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา… พฺรหฺมกายิกา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวนฺติ – ‘เอโส อิตฺถนฺนาโม อายสฺมา อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต สทฺธิวิหาริโก อมุกมฺหา คามา วา นิคมา วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. อิติห เตน ¶ ขเณน เตน มุหุตฺเตน ยาว พฺรหฺมโลกา สทฺโท [สาธุการสทฺโท (สี. อฏฺ., ก. อฏฺ.)] อพฺภุคฺคจฺฉติ ¶ , อยมานุภาโว ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. ปฺจมํ.
๖. สกฺกจฺจสุตฺตํ
๗๐. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘กึ นุ โข, ภิกฺขุ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺยา’’ติ? อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สตฺถารํ โข, ภิกฺขุ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺย. ธมฺมํ โข, ภิกฺขุ…เป… สงฺฆํ โข, ภิกฺขุ…เป… สิกฺขํ โข, ภิกฺขุ…เป… สมาธึ โข, ภิกฺขุ…เป… อปฺปมาทํ โข, ภิกฺขุ…เป… ปฏิสนฺถารํ โข, ภิกฺขุ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺยา’’ติ.
อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข เม ธมฺมา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, ยํนูนาหํ อิเม ธมฺเม คนฺตฺวา [คเหตฺวา (ก.)] ภควโต อาโรเจยฺยํ. เอวํ เม อิเม ธมฺมา ปริสุทฺธา เจว ภวิสฺสนฺติ ปริสุทฺธสงฺขาตตรา จ. เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส สุวณฺณนิกฺขํ อธิคจฺเฉยฺย ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ โข เม สุวณฺณนิกฺโข ปริสุทฺโธ ปริโยทาโต, ยํนูนาหํ อิมํ สุวณฺณนิกฺขํ คนฺตฺวา [คเหตฺวา (ก.)] กมฺมารานํ ทสฺเสยฺยํ. เอวํ เม อยํ สุวณฺณนิกฺโข สกมฺมารคโต ปริสุทฺโธ เจว ภวิสฺสติ ปริสุทฺธสงฺขาตตโร จ. เอวเมวํ [โข (ก.)] เม อิเม ธมฺมา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, ยํนูนาหํ อิเม ธมฺเม คนฺตฺวา [คเหตฺวา (ก.)] ภควโต อาโรเจยฺยํ. เอวํ เม อิเม ธมฺมา ปริสุทฺธา เจว ภวิสฺสนฺติ ปริสุทฺธสงฺขาตตรา จา’’’ติ.
อถ โข อายสฺมา ¶ สาริปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘กึ นุ โข, ภิกฺขุ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺยา’ติ? อถ โข ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘สตฺถารํ โข, ภิกฺขุ, สกฺกตฺวา ครุํ ¶ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺย. ธมฺมํ โข, ภิกฺขุ ¶ …เป… ปฏิสนฺถารํ โข, ภิกฺขุ สกฺกตฺวา…เป… กุสลํ ภาเวยฺยา’ติ. อถ โข ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อิเม โข เม ธมฺมา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, ยํนูนาหํ อิเม ธมฺเม คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจยฺยํ. เอวํ เม อิเม ธมฺมา ปริสุทฺธา เจว ภวิสฺสนฺติ ปริสุทฺธสงฺขาตตรา จ. เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส สุวณฺณนิกฺขํ อธิคจฺเฉยฺย ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ. ตสฺส เอวมสฺส – อยํ โข เม สุวณฺณนิกฺโข ปริสุทฺโธ ปริโยทาโต, ยํนูนาหํ อิมํ สุวณฺณนิกฺขํ คนฺตฺวา กมฺมารานํ ทสฺเสยฺยํ. เอวํ เม อยํ สุวณฺณนิกฺโข สกมฺมารคโต ปริสุทฺโธ เจว ภวิสฺสติ ปริสุทฺธสงฺขาตตโร จ. เอวเมวํ เม อิเม ธมฺมา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, ยํนูนาหํ อิเม ธมฺเม คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจยฺยํ. เอวํ เม อิเม ธมฺมา ปริสุทฺธา เจว ภวิสฺสนฺติ ปริสุทฺธสงฺขาตตรา ¶ จา’’’ติ.
‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต ¶ ! สตฺถารํ โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺย. ธมฺมํ โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺย. สงฺฆํ โข…เป… สิกฺขํ โข… สมาธึ โข… อปฺปมาทํ โข… ปฏิสนฺถารํ โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อกุสลํ ปชเหยฺย, กุสลํ ภาเวยฺยา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม สคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเมปิ โส อคารโว’’.
‘‘โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ สคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆปิ โส อคารโว.
‘‘โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย สคารโว ¶ ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขายปิ โส อคารโว.
‘‘โส ¶ วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว ¶ สิกฺขาย อคารโว สมาธิสฺมึ สคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย อคารโว สมาธิสฺมิมฺปิ โส อคารโว.
‘‘โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย อคารโว สมาธิสฺมึ อคารโว อปฺปมาเท สคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย อคารโว สมาธิสฺมึ ¶ อคารโว อปฺปมาเทปิ โส อคารโว.
‘‘โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย อคารโว สมาธิสฺมึ อคารโว อปฺปมาเท อคารโว ปฏิสนฺถาเร สคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว…เป… อปฺปมาเท อคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ โส อคารโว.
‘‘โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเม อคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเมปิ โส สคารโว…เป….
‘‘โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว…เป. ¶ … อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเร อคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว…เป… ¶ อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ โส สคารโว.
‘‘โส วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเมปิ สคารโว ภวิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเมปิ โส สคารโว…เป….
‘‘โส ¶ วต, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว…เป… อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ สคารโว ภวิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. โย โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเม สคารโว สงฺเฆ สคารโว สิกฺขาย สคารโว สมาธิสฺมึ สคารโว อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ โส สคารโว’’ติ.
‘‘อิมสฺส ¶ โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.
‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ. โส วต, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม สคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ…เป… โย โส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย อคารโว สมาธิสฺมึ อคารโว อปฺปมาเทปิ โส อคารโว.
‘‘โส วต, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย อคารโว สมาธิสฺมึ อคารโว อปฺปมาเท อคารโว ปฏิสนฺถาเร สคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว ธมฺเม อคารโว สงฺเฆ อคารโว สิกฺขาย ¶ อคารโว สมาธิสฺมึ อคารโว อปฺปมาเท อคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ โส อคารโว.
‘‘โส วต, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเม อคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ…เป… โย โส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเมปิ โส สคารโว ¶ …เป….
‘‘โส วต, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเม สคารโว…เป… อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเร อคารโว ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โย โส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว…เป… อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ โส สคารโว.
‘‘โส ¶ วต, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเมปิ สคารโว ภวิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. โย โส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว ธมฺเมปิ โส สคารโว…เป….
‘‘โส วต, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว…เป… อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ โส สคารโว ภวิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. โย โส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว…เป… อปฺปมาเท สคารโว ปฏิสนฺถาเรปิ โส สคารโว’’ติ.
‘‘อิมสฺส ¶ โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ภาวนาสุตฺตํ
๗๑. ‘‘ภาวนํ อนนุยุตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วิหรโต กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺเจยฺยา’ติ, อถ ขฺวสฺส เนว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อภาวิตตฺตา’ติสฺส วจนียํ. กิสฺส อภาวิตตฺตา? จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ, จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ, จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ, ปฺจนฺนํ พลานํ, สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ, อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วา. ตานสฺสุ กุกฺกุฏิยา น สมฺมา อธิสยิตานิ, น สมฺมา ปริเสทิตานิ, น สมฺมา ปริภาวิตานิ ¶ . กิฺจาปิ ตสฺสา กุกฺกุฏิยา ¶ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต เม กุกฺกุฏโปตกา ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข อภพฺพาว เต กุกฺกุฏโปตกา ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ น สมฺมา อธิสยิตานิ, น สมฺมา ปริเสทิตานิ, น สมฺมา ปริภาวิตานิ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภาวนํ อนนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน วิหรโต กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺเจยฺยา’ติ, อถ ขฺวสฺส เนว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อภาวิตตฺตา’ติสฺส วจนียํ. กิสฺส ¶ อภาวิตตฺตา? จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ, จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ, จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ, ปฺจนฺนํ พลานํ, สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ, อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส.
‘‘ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วิหรโต กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺเจยฺยา’ติ, อถ ขฺวสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ภาวิตตฺตา’ติสฺส วจนียํ. กิสฺส ภาวิตตฺตา? จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ, จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ, จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ, ปฺจนฺนํ พลานํ, สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ, อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วา. ตานสฺสุ กุกฺกุฏิยา สมฺมา อธิสยิตานิ, สมฺมา ปริเสทิตานิ, สมฺมา ปริภาวิตานิ ¶ . กิฺจาปิ ตสฺสา กุกฺกุฏิยา น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต เม กุกฺกุฏโปตกา ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข ภพฺพาว เต กุกฺกุฏโปตกา ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ สมฺมา อธิสยิตานิ, สมฺมา ปริเสทิตานิ, สมฺมา ปริภาวิตานิ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน วิหรโต กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต ¶ เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺเจยฺยา’ติ, อถ ขฺวสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ภาวิตตฺตา’ติสฺส วจนียํ. กิสฺส ภาวิตตฺตา? จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ…เป… อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ผลคณฺฑสฺส [ปลคณฺฑสฺส (?)] วา ผลคณฺฑนฺเตวาสิกสฺส วา ทิสฺสนฺเตว [ขียนฺเต (ก.)] วาสิชเฏ [ทิสฺสนฺติ องฺคุลิปทานิ (สี.), องฺคุลปทานิ ทิสฺสนฺติ องฺคุลปทํ (ก.)] องฺคุลิปทานิ ทิสฺสติ [ทิสฺสนฺติ (สฺยา.)] องฺคุฏฺปทํ [ทิสฺสนฺติ องฺคุลิปทานิ (สี.), องฺคุลปทานิ ทิสฺสนฺติ องฺคุลปทํ (ก.)]. โน จ ขฺวสฺส เอวํ าณํ โหติ – ‘เอตฺตกํ เม อชฺช วาสิชฏสฺส ขีณํ, เอตฺตกํ หิยฺโย, เอตฺตกํ ปเร’ติ, อถ ขฺวสฺส ขีเณ ‘ขีณ’นฺเตว าณํ โหติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน วิหรโต กิฺจาปิ น เอวํ าณํ โหติ – ‘เอตฺตกํ เม อชฺช อาสวานํ ขีณํ, เอตฺตกํ หิยฺโย, เอตฺตกํ ปเร’ติ, อถ ขฺวสฺส ขีเณ ‘ขีณ’นฺเตว าณํ โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, สามุทฺทิกาย นาวาย เวตฺตพนฺธนพทฺธาย [เวตฺตพนฺธาย (ก.)] ฉ มาสานิ อุทเก ปริยาทาย เหมนฺติเกน ถเล อุกฺขิตฺตาย วาตาตปปเรตานิ ¶ พนฺธนานิ, ตานิ ปาวุสฺสเกน เมเฆน อภิปฺปวุฏฺานิ อปฺปกสิเรเนว ปริหายนฺติ [ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ (สี. สฺยา.)], ปูติกานิ ภวนฺติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน วิหรโต อปฺปกสิเรเนว สํโยชนานิ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, ปูติกานิ ภวนฺตี’’ติ. สตฺตมํ.
๘. อคฺคิกฺขนฺโธปมสุตฺตํ
๗๒. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. อทฺทสา โข ภควา อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน อฺตรสฺมึ ปเทเส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ [สฺโชติภูตํ (สฺยา.)]. ทิสฺวาน มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อมุํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข วรํ – ยํ อมุํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ อาลิงฺเคตฺวา อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา, ยํ วา ขตฺติยกฺํ วา พฺราหฺมณกฺํ วา คหปติกฺํ วา มุทุตลุนหตฺถปาทํ อาลิงฺเคตฺวา อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, วรํ – ยํ ขตฺติยกฺํ วา พฺราหฺมณกฺํ วา คหปติกฺํ วา มุทุตลุนหตฺถปาทํ อาลิงฺเคตฺวา อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา, ทุกฺขฺเหตํ, ภนฺเต, ยํ อมุํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ อาลิงฺเคตฺวา อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา’’ติ.
‘‘อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ ¶ โว, ภิกฺขเว, ยถา เอตเทว ตสฺส วรํ ทุสฺสีลสฺส ปาปธมฺมสฺส อสุจิสงฺกสฺสรสมาจารสฺส ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺส อสฺสมณสฺส สมณปฏิฺสฺส อพฺรหฺมจาริสฺส พฺรหฺมจาริปฏิฺสฺส อนฺโตปูติกสฺส อวสฺสุตสฺส กสมฺพุชาตสฺส ยํ อมุํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ อาลิงฺเคตฺวา อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา. ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานฺหิ โส, ภิกฺขเว, มรณํ ¶ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ ¶ วา ทุกฺขํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย.
‘‘ยฺจ โข โส, ภิกฺขเว, ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร…เป… กสมฺพุชาโต ขตฺติยกฺํ วา พฺราหฺมณกฺํ วา คหปติกฺํ วา มุทุตลุนหตฺถปาทํ อาลิงฺเคตฺวา อุปนิสีทติ วา อุปนิปชฺชติ วา, ตฺหิ ตสฺส [ตํ หิสฺส (ก.)], ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ตํ ¶ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข วรํ – ยํ พลวา ปุริโส ทฬฺหาย วาลรชฺชุยา อุโภ ชงฺฆา เวเตฺวา ฆํเสยฺย – สา ฉวึ ฉินฺเทยฺย ฉวึ เฉตฺวา จมฺมํ ฉินฺเทยฺย จมฺมํ เฉตฺวา มํสํ ฉินฺเทยฺย มํสํ เฉตฺวา นฺหารุํ ฉินฺเทยฺย นฺหารุํ เฉตฺวา อฏฺึ ฉินฺเทยฺย อฏฺึ เฉตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ติฏฺเยฺย, ยํ วา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา อภิวาทนํ สาทิเยยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว ¶ , ภนฺเต, วรํ – ยํ ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา อภิวาทนํ สาทิเยยฺย, ทุกฺขฺเหตํ, ภนฺเต, ยํ พลวา ปุริโส ทฬฺหาย วาลรชฺชุยา…เป… อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ติฏฺเยฺยา’’ติ.
‘‘อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว, ยถา เอตเทว ตสฺส วรํ ทุสฺสีลสฺส…เป… กสมฺพุชาตสฺส ยํ พลวา ปุริโส ทฬฺหาย วาลรชฺชุยา อุโภ ชงฺฆา เวเตฺวา…เป… อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ติฏฺเยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานฺหิ โส, ภิกฺขเว, มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยฺจ ¶ โข โส, ภิกฺขเว, ทุสฺสีโล…เป… กสมฺพุชาโต ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา อภิวาทนํ สาทิยติ, ตฺหิ ตสฺส, ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข วรํ – ยํ พลวา ปุริโส ติณฺหาย สตฺติยา เตลโธตาย ปจฺโจรสฺมึ ปหเรยฺย, ยํ วา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา อฺชลิกมฺมํ สาทิเยยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, วรํ – ยํ ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา ¶ คหปติมหาสาลานํ วา อฺชลิกมฺมํ สาทิเยยฺย, ทุกฺขฺเหตํ, ภนฺเต, ยํ พลวา ปุริโส ติณฺหาย สตฺติยา ¶ เตลโธตาย ปจฺโจรสฺมึ ปหเรยฺยา’’ติ.
‘‘อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว, ยถา เอตเทว ตสฺส วรํ ทุสฺสีลสฺส…เป… กสมฺพุชาตสฺส ยํ พลวา ปุริโส ติณฺหาย สตฺติยา เตลโธตาย ปจฺโจรสฺมึ ปหเรยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานฺหิ โส, ภิกฺขเว, มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ ¶ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยฺจ โข โส, ภิกฺขเว, ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม…เป… กสมฺพุชาโต ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา อฺชลิกมฺมํ สาทิยติ, ตฺหิ ตสฺส, ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข วรํ – ยํ พลวา ปุริโส ตตฺเตน อโยปฏฺเฏน อาทิตฺเตน สมฺปชฺชลิเตน ¶ สโชติภูเตน กายํ สมฺปลิเวเยฺย, ยํ วา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ จีวรํ ปริภฺุเชยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, วรํ – ยํ ขตฺติยมหาสาลานํ วา…เป… สทฺธาเทยฺยํ จีวรํ ปริภฺุเชยฺย, ทุกฺขฺเหตํ, ภนฺเต, ยํ พลวา ปุริโส ตตฺเตน อโยปฏฺเฏน อาทิตฺเตน สมฺปชฺชลิเตน สโชติภูเตน กายํ สมฺปลิเวเยฺยา’’ติ.
‘‘อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว, ยถา เอตเทว ตสฺส วรํ ทุสฺสีลสฺส…เป… กสมฺพุชาตสฺส ยํ พลวา ปุริโส ตตฺเตน อโยปฏฺเฏน อาทิตฺเตน ¶ สมฺปชฺชลิเตน สโชติภูเตน กายํ สมฺปลิเวเยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานฺหิ โส, ภิกฺขเว, มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยฺจ โข โส, ภิกฺขเว, ทุสฺสีโล…เป… กสมฺพุชาโต ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ จีวรํ ปริภฺุชติ, ตฺหิ ตสฺส, ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ ¶ อหิตาย ทุกฺขาย กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข วรํ – ยํ พลวา ปุริโส ตตฺเตน อโยสงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา ตตฺตํ โลหคุฬํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ มุเข ปกฺขิเปยฺย – ตํ ตสฺส โอฏฺมฺปิ ทเหยฺย [ฑเหยฺย (กตฺถจิ)] มุขมฺปิ ทเหยฺย ชิวฺหมฺปิ ทเหยฺย กณฺมฺปิ ทเหยฺย อุรมฺปิ [ม. นิ. ๓.๒๗๐ เทวทูตสุตฺเต ปน ‘‘อุทรมฺปิ’’ อิติ วิเทสปาโ ทิสฺสติ] ¶ ทเหยฺย อนฺตมฺปิ อนฺตคุณมฺปิ อาทาย อโธภาคา [อโธภาคํ (ก.)] นิกฺขเมยฺย, ยํ วา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ ปิณฺฑปาตํ ¶ ปริภฺุเชยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, วรํ – ยํ ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุเชยฺย, ทุกฺขฺเหตํ, ภนฺเต, ยํ พลวา ปุริโส ตตฺเตน อโยสงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา ตตฺตํ โลหคุฬํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ มุเข ปกฺขิเปยฺย – ตํ ตสฺส โอฏฺมฺปิ ทเหยฺย มุขมฺปิ ทเหยฺย ชิวฺหมฺปิ ¶ ทเหยฺย กณฺมฺปิ ทเหยฺย อุรมฺปิ ทเหยฺย อนฺตมฺปิ อนฺตคุณมฺปิ อาทาย อโธภาคํ นิกฺขเมยฺยา’’ติ.
‘‘อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว, ยถา เอตเทว ตสฺส วรํ ทุสฺสีลสฺส…เป… กสมฺพุชาตสฺส ยํ พลวา ปุริโส ตตฺเตน อโยสงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา ตตฺตํ โลหคุฬํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ มุเข ปกฺขิเปยฺย – ตํ ตสฺส โอฏฺมฺปิ ทเหยฺย มุขมฺปิ ทเหยฺย ชิวฺหมฺปิ ทเหยฺย กณฺมฺปิ ทเหยฺย อุรมฺปิ ทเหยฺย อนฺตมฺปิ อนฺตคุณมฺปิ อาทาย อโธภาคํ นิกฺขเมยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานฺหิ โส, ภิกฺขเว, มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยฺจ โข โส, ภิกฺขเว, ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม…เป… กสมฺพุชาโต ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชติ, ตฺหิ ตสฺส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข วรํ – ยํ พลวา ปุริโส สีเส วา คเหตฺวา ขนฺเธ วา คเหตฺวา ¶ ตตฺตํ อโยมฺจํ วา อโยปีํ วา อภินิสีทาเปยฺย วา อภินิปชฺชาเปยฺย วา, ยํ วา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ ¶ วา สทฺธาเทยฺยํ มฺจปีํ [มฺจํ วา ปีํ วา (ก.)] ปริภุชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, วรํ – ยํ ขตฺติยมหาสาลานํ ¶ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ มฺจปีํ ปริภฺุเชยฺย, ทุกฺขฺเหตํ, ภนฺเต, ยํ พลวา ปุริโส สีเส วา คเหตฺวา ขนฺเธ วา คเหตฺวา ตตฺตํ อโยมฺจํ วา อโยปีํ วา อภินิสีทาเปยฺย วา อภินิปชฺชาเปยฺย วา’’ติ.
‘‘อาโรจยามิ ¶ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว, ยถา เอตเทว ตสฺส วรํ ทุสฺสีลสฺส…เป… กสมฺพุชาตสฺส ยํ พลวา ปุริโส สีเส วา คเหตฺวา ขนฺเธ วา คเหตฺวา ตตฺตํ อโยมฺจํ วา อโยปีํ วา อภินิสีทาเปยฺย วา อภินิปชฺชาเปยฺย วา. ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานฺหิ โส, ภิกฺขเว, มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยฺจ โข โส, ภิกฺขเว, ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม…เป… กสมฺพุชาโต ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ มฺจปีํ ปริภฺุชติ. ตฺหิ ตสฺส, ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข วรํ – ยํ พลวา ปุริโส อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา ตตฺตาย โลหกุมฺภิยา ปกฺขิเปยฺย อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย – โส ตตฺถ เผณุทฺเทหกํ ปจฺจมาโน สกิมฺปิ อุทฺธํ คจฺเฉยฺย สกิมฺปิ อโธ คจฺเฉยฺย สกิมฺปิ ติริยํ คจฺเฉยฺย, ยํ วา ขตฺติยมหาสาลานํ วา ¶ พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ วิหารํ ปริภฺุเชยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, วรํ – ยํ ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา ¶ สทฺธาเทยฺยํ วิหารํ ปริภฺุเชยฺย, ทุกฺขฺเหตํ, ภนฺเต, ยํ พลวา ปุริโส อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา ตตฺตาย โลหกุมฺภิยา ปกฺขิเปยฺย อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย – โส ตตฺถ เผณุทฺเทหกํ ปจฺจมาโน สกิมฺปิ อุทฺธํ คจฺเฉยฺย สกิมฺปิ อโธ คจฺเฉยฺย สกิมฺปิ ติริยํ คจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว, ยถา เอตเทว ตสฺส วรํ ทุสฺสีลสฺส ปาปธมฺมสฺส…เป… กสมฺพุชาตสฺส ยํ พลวา ปุริโส อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา…เป… สกิมฺปิ ติริยํ คจฺเฉยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตโตนิทานฺหิ โส, ภิกฺขเว, มรณํ ¶ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยฺจ โข โส, ภิกฺขเว, ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม…เป… กสมฺพุชาโต ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สทฺธาเทยฺยํ วิหารํ ปริภฺุชติ ¶ . ตฺหิ ตสฺส, ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เยสฺจ [เยสํ (?)] มยํ ปริภฺุชาม จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ [… ปริกฺขารานํ (สี. สฺยา. ก.)] เตสํ เต การา มหปฺผลา ¶ ภวิสฺสนฺติ มหานิสํสา, อมฺหากฺเจวายํ ปพฺพชฺชา อวฺฌา ภวิสฺสติ สผลา สอุทฺรยา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ – ‘อตฺตตฺถํ วา, ภิกฺขเว, สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อปฺปมาเทน สมฺปาเทตุํ; ปรตฺถํ วา, ภิกฺขเว, สมฺปสฺสมาเนน ¶ อลเมว อปฺปมาเทน สมฺปาเทตุํ; อุภยตฺถํ วา, ภิกฺขเว, สมฺปสฺสมาเนน อลเมว อปฺปมาเทน สมฺปาเทตุ’’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา [อิทมโวจ ภควา…เป… (ก.)]. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคฺฉิ [อุคฺคจฺฉิ (ก.)]. สฏฺิมตฺตา ภิกฺขู สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตึสุ – ‘‘สุทุกฺกรํ ภควา, สุทุกฺกรํ ภควา’’ติ. สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ. อฏฺมํ.
๙. สุเนตฺตสุตฺตํ
๗๓. [อ. นิ. ๖.๕๔; ๗.๖๖] ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สุเนตฺโต นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค. สุเนตฺตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. สุเนตฺโต สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิ. เย โข ปน, ภิกฺขเว [เย โข ภิกฺขเว (สี. สฺยา.)], สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ นปฺปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชึสุ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชึสุ.
‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , ภิกฺขเว, มูคปกฺโข นาม สตฺถา อโหสิ…เป… อรเนมิ นาม สตฺถา อโหสิ…เป… กุทฺทาลโก [กุทฺทาโล (สี. สฺยา.)] นาม สตฺถา ¶ อโหสิ…เป… หตฺถิปาโล นาม สตฺถา อโหสิ…เป… โชติปาโล นาม สตฺถา อโหสิ…เป… อรโก นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค ¶ . อรกสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. อรโก นาม สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, อรกสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ¶ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ นปฺปสาเทสุํ, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชึสุ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, อรกสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชึสุ.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, โย อิเม สตฺต สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปฺุํ ปสเวยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘โย, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปฺุํ ปสเวยฺย. โย เอกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺโต อกฺโกสติ ปริภาสติ, อยํ ตโต พหุตรํ อปฺุํ ปสวติ. ตํ กิสฺส เหตุ? นาหํ, ภิกฺขเว, อิโต พหิทฺธา เอวรูปึ ขนฺตึ วทามิ ยถามํ สพฺรหฺมจารีสุ’’.
‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โน สพฺรหฺมจารีสุ [น ตฺเวว อมฺหํ สพฺรหฺมจารีสุ (สฺยา.) องฺคุตฺตรนิกาเย อฺถา ทิสฺสติ] จิตฺตานิ ปทุฏฺานิ ภวิสฺสนฺตี’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. อรกสุตฺตํ
๗๔. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อรโก นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ ¶ วีตราโค. อรกสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํ. อรโก สตฺถา สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – อปฺปกํ, พฺราหฺมณ, ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ [ลหุสํ (ฏีกา)] พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ [มนฺตาย (สพฺพตฺถ) ฏีกา ปสฺสิตพฺพา] โพทฺธพฺพํ ¶ , กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ ¶ , พฺราหฺมณ, ติณคฺเค อุสฺสาวพินฺทุ สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต ขิปฺปํเยว ปฏิวิคจฺฉติ, น จิรฏฺิติกํ โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อุสฺสาวพินฺทูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต อุทกพุพฺพุฬํ [อุทกปุปฺผุฬํ (ก.)] ขิปฺปํเยว ปฏิวิคจฺฉติ, น จิรฏฺิติกํ โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อุทกพุพฺพุฬูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, อุทเก ทณฺฑราชิ ขิปฺปํเยว ปฏิวิคจฺฉติ, น จิรฏฺิติกา โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อุทเก ทณฺฑราชูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ…เป… นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, นที ปพฺพเตยฺยา ทูรงฺคมา สีฆโสตา หารหารินี, นตฺถิ โส ขโณ วา ลโย วา มุหุตฺโต วา ยํ สา [ยาย (ก.)] อาวตฺตติ [ถรติ (สี.), ธรติ (สฺยา.), อวติฏฺเยฺย (?)], อถ โข สา คจฺฉเตว วตฺตเตว สนฺทเตว; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, นทีปพฺพเตยฺยูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ…เป… นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, พลวา ปุริโส ¶ ชิวฺหคฺเค เขฬปิณฺฑํ สํยูหิตฺวา อกสิเรเนว วเมยฺย [ปตาเปยฺย (ก.)]; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, เขฬปิณฺฑูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ…เป… นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกฏาเห ¶ มํสเปสิ [มํสเปสี (สี. สฺยา.)] ปกฺขิตฺตา ขิปฺปํเยว ปฏิวิคจฺฉติ, น จิรฏฺิติกา โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, มํสเปสูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ…เป… นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, คาวี วชฺฌา อาฆาตนํ นียมานา ยํ ยเทว ปาทํ อุทฺธรติ, สนฺติเกว ¶ โหติ วธสฺส สนฺติเกว มรณสฺส; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, โควชฺฌูปมํ [คาวีวชฺฌูปมํ (สี. สฺยา.)] ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ ¶ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณ’’นฺติ.
‘‘เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน มนุสฺสานํ สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ, ปฺจวสฺสสติกา กุมาริกา อลํปเตยฺยา อโหสิ. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน มนุสฺสานํ ฉเฬว อาพาธา อเหสุํ – สีตํ, อุณฺหํ, ชิฆจฺฉา, ปิปาสา, อุจฺจาโร, ปสฺสาโว. โส หิ นาม, ภิกฺขเว, อรโก สตฺถา เอวํ ทีฆายุเกสุ มนุสฺเสสุ เอวํ จิรฏฺิติเกสุ เอวํ อปฺปาพาเธสุ สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสสฺสติ – ‘อปฺปกํ, พฺราหฺมณ, ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณ’’’นฺติ.
‘‘เอตรหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปฺปกํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณ’นฺติ. เอตรหิ, ภิกฺขเว ¶ , โย จิรํ ชีวติ โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย. วสฺสสตํ โข ปน, ภิกฺขเว, ชีวนฺโต ตีณิเยว อุตุสตานิ ชีวติ – อุตุสตํ เหมนฺตานํ, อุตุสตํ คิมฺหานํ, อุตุสตํ วสฺสานํ. ตีณิ โข ปน, ภิกฺขเว, อุตุสตานิ ชีวนฺโต ทฺวาทส [ทฺวาทสํ (สี. ก.)] เยว มาสสตานิ ชีวติ – จตฺตาริ มาสสตานิ เหมนฺตานํ ¶ , จตฺตาริ มาสสตานิ คิมฺหานํ, จตฺตาริ มาสสตานิ วสฺสานํ. ทฺวาทส โข ปน, ภิกฺขเว, มาสสตานิ ชีวนฺโต จตุวีสติเยว อทฺธมาสสตานิ ชีวติ – อฏฺทฺธมาสสตานิ เหมนฺตานํ, อฏฺทฺธมาสสตานิ คิมฺหานํ, อฏฺทฺธมาสสตานิ วสฺสานํ. จตุวีสติ โข ปน, ภิกฺขเว, อทฺธมาสสตานิ ชีวนฺโต ฉตฺตึสํเยว รตฺติสหสฺสานิ ชีวติ – ทฺวาทส รตฺติสหสฺสานิ เหมนฺตานํ, ทฺวาทส รตฺติสหสฺสานิ คิมฺหานํ, ทฺวาทส รตฺติสหสฺสานิ วสฺสานํ. ฉตฺตึสํ โข ปน, ภิกฺขเว, รตฺติสหสฺสานิ ชีวนฺโต ทฺเวสตฺตติเยว [ทฺเวสตฺตติฺเว (สฺยา.), ทฺเวสตฺตติฺเจว (ก.)] ภตฺตสหสฺสานิ ภฺุชติ – จตุวีสติ ภตฺตสหสฺสานิ เหมนฺตานํ, จตุวีสติ ภตฺตสหสฺสานิ คิมฺหานํ, จตุวีสติ ภตฺตสหสฺสานิ วสฺสานํ สทฺธึ มาตุถฺาย สทฺธึ ภตฺตนฺตราเยน.
‘‘ตตฺริเม ภตฺตนฺตรายา กปิมิทฺโธปิ ภตฺตํ น ภฺุชติ, ทุกฺขิโตปิ ภตฺตํ น ภฺุชติ, พฺยาธิโตปิ ¶ ภตฺตํ น ภฺุชติ, อุโปสถิโกปิ ภตฺตํ น ภฺุชติ ¶ , อลาภเกนปิ ภตฺตํ น ภฺุชติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, มยา วสฺสสตายุกสฺส มนุสฺสสฺส อายุปิ สงฺขาโต [สงฺขาตํ (?)], อายุปฺปมาณมฺปิ สงฺขาตํ, อุตูปิ สงฺขาตา, สํวจฺฉราปิ สงฺขาตา, มาสาปิ สงฺขาตา, อทฺธมาสาปิ สงฺขาตา, รตฺติปิ สงฺขาตา, ทิวาปิ สงฺขาตา, ภตฺตาปิ สงฺขาตา, ภตฺตนฺตรายาปิ ¶ สงฺขาตา. ยํ, ภิกฺขเว, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย; กตํ โว ตํ มยา เอตานิ, ภิกฺขเว, รุกฺขมูลานิ เอตานิ สฺุาคารานิ. ฌายถ, ภิกฺขเว, มา ปมาทตฺถ; มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ. ทสมํ.
มหาวคฺโค ¶ สตฺตโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
หิรีสูริยํ อุปมา, ธมฺมฺู ปาริฉตฺตกํ;
สกฺกจฺจํ ภาวนา อคฺคิ, สุเนตฺตอรเกน จาติ.
๘. วินยวคฺโค
๑. ปมวินยธรสุตฺตํ
๗๕. [ปริ. ๓๒๗] ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, สีลวา โหติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหตี’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยวินยธรสุตฺตํ
๗๖. [ปริ. ๓๒๗] ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหติ. กตเมหิ ¶ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ¶ โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหตี’’ติ. ทุติยํ.
๓. ตติยวินยธรสุตฺตํ
๗๗. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ ¶ , อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโร, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหตี’’ติ. ตติยํ.
๔. จตุตฺถวินยธรสุตฺตํ
๗๘. [ปริ. ๓๒๗] ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ ¶ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ ¶ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยธโร โหตี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปมวินยธรโสภนสุตฺตํ
๗๙. ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต [สมนฺนาคโต ภิกฺขุ (สี. สฺยา. ก.) อนนฺตรสุตฺตทฺเวเย ปน อิทํ ปานานตฺตํ นตฺถิ. ปริ. ๓๒๗] วินยธโร โสภติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วินยธโร โสภตี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยวินยธรโสภนสุตฺตํ
๘๐. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วินยธโร โสภติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อุภยานิ ¶ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, จตุนฺนํ ฌานานํ…เป… อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วินยธโร โสภตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ตติยวินยธรโสภนสุตฺตํ
๘๑. ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วินยธโร โสภติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ ¶ , ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโร, จตุนฺนํ ฌานานํ…เป… อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วินยธโร โสภตี’’ติ. สตฺตมํ.
๘. จตุตฺถวินยธรโสภนสุตฺตํ
๘๒. ‘‘สตฺตหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต [สมนฺนาคโต ภิกฺขุ (ก.)] วินยธโร โสภติ. กตเมหิ สตฺตหิ? อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วินยธโร โสภตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. สตฺถุสาสนสุตฺตํ
๘๓. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สาธุ ¶ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตุ, ยมหํ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหเรยฺย’’นฺติ. ‘‘เย โข ตฺวํ, อุปาลิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ – ‘อิเม ธมฺมา น เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺตี’ติ ¶ ; เอกํเสน, อุปาลิ, ธาเรยฺยาสิ – ‘เนโส ธมฺโม เนโส วินโย เนตํ สตฺถุสาสน’นฺติ. เย จ โข ตฺวํ, อุปาลิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ – ‘อิเม ธมฺมา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺตี’ติ; เอกํเสน, อุปาลิ, ธาเรยฺยาสิ – ‘เอโส ธมฺโม เอโส วินโย เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. อธิกรณสมถสุตฺตํ
๘๔. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, อธิกรณสมถา ธมฺมา อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย. กตเม สตฺต? สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ ¶ , สติวินโย ทาตพฺโพ, อมูฬฺหวินโย ทาตพฺโพ [ปฏิฺาตกรณํ, เยภุยฺยสฺสิกา, ตสฺสปาปิยฺยสฺสิกา, ติณวตฺถารโก (สฺยา.) ที. นิ. ๓.๓๓๒ สงฺคีติสุตฺเตน จ ปาจิ. ๖๕๕ วินเยน จ สํสนฺเทตพฺพํ], ปฏิฺาตกรณํ ทาตพฺพํ, เยภุยฺยสิกา ทาตพฺพา, ตสฺสปาปิยสิกา ทาตพฺพา, ติณวตฺถารโก ทาตพฺโพ [ปฏิฺาตกรณํ, เยภุยฺยสฺสิกา, ตสฺสปาปิยฺยสฺสิกา, ติณวตฺถารโก (สฺยา.) ที. นิ. ๓.๓๓๒ สงฺคีติสุตฺเตน จ ปาจิ. ๖๕๕ วินเยน จ สํสนฺเทตพฺพํ]. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อธิกรณสมถา ธมฺมา อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมายา’’ติ. ทสมํ.
วินยวคฺโค อฏฺโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
จตุโร วินยธรา, จตุโร เจว โสภนา;
สาสนํ อธิกรณ-สมเถนฏฺเม ทสาติ.
๙. สมณวคฺโค
๑. ภิกฺขุสุตฺตํ
๘๕. [มหานิ. ๑๘; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘] ‘‘สตฺตนฺนํ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมานํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขุ โหติ. กตเมสํ สตฺตนฺนํ? สกฺกายทิฏฺิ ภินฺนา โหติ, วิจิกิจฺฉา ภินฺนา โหติ, สีลพฺพตปรามาโส ภินฺโน โหติ, ราโค ภินฺโน โหติ, โทโส ภินฺโน โหติ, โมโห ภินฺโน โหติ, มาโน ภินฺโน โหติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขุ โหตี’’ติ. ปมํ.
๒. สมณสุตฺตํ
๘๖. สตฺตนฺนํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมิตตฺตา สมโณ โหติ…เป…. ทุติยํ.
๓. พฺราหฺมณสุตฺตํ
๘๗. พาหิตตฺตา พฺราหฺมโณ โหติ…เป…. ตติยํ.
๔. โสตฺติยสุตฺตํ
๘๘. นิสฺสุตตฺตา [นิสฺสุตฺตตฺตา (สฺยา.) ม. นิ. ๑.๔๓๔ ปสฺสิตพฺพํ] โสตฺติโย [โสตฺถิโก (สี.), โสตฺติโก (สฺยา.)] โหติ…เป…. จตุตฺถํ.
๕. นฺหาตกสุตฺตํ
๘๙. นฺหาตตฺตา ¶ ¶ นฺหาตโก [นหาตตฺโต นหาตโก (สี. สฺยา.)] โหติ…เป…. ปฺจมํ.
๖. เวทคูสุตฺตํ
๙๐. วิทิตตฺตา ¶ เวทคู โหติ…เป…. ฉฏฺํ.
๗. อริยสุตฺตํ
๙๑. อารกตฺตา ¶ [อรหตฺตา (สี.), อรี หตตฺตา (ก.) ม. นิ. ๑.๔๓๔ ปาฬิ อฏฺกถาฏีกา ปสฺสิตพฺพา. สฺยามโปตฺถเก ปน สกลมฺปิ อิทํ สตฺตมสุตฺตํ นตฺถิ] อริโย โหติ…เป…. สตฺตมํ.
๘. อรหาสุตฺตํ
๙๒. ‘‘อารกตฺตา อรหา โหติ. กตเมสํ สตฺตนฺนํ? สกฺกายทิฏฺิ อารกา โหติ, วิจิกิจฺฉา อารกา โหติ, สีลพฺพตปรามาโส อารโก โหติ, ราโค อารโก โหติ, โทโส อารโก โหติ, โมโห อารโก โหติ, มาโน อารโก โหติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ อารกตฺตา อรหา โหตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. อสทฺธมฺมสุตฺตํ
๙๓. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺมา. กตเม สตฺต? อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อสทฺธมฺมา’’ติ. นวมํ.
๑๐. สทฺธมฺมสุตฺตํ
๙๔. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมา. กตเม สตฺต? สทฺโธ โหติ, หิรีมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, สติมา โหติ, ปฺวา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต สทฺธมฺมา’’ติ. ทสมํ.
สมณวคฺโค นวโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ภิกฺขุํ ¶ สมโณ พฺราหฺมโณ, โสตฺติโย เจว นฺหาตโก;
เวทคู อริโย อรหา, อสทฺธมฺมา จ สทฺธมฺมาติ.
๑๐. อาหุเนยฺยวคฺโค
๙๕. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล จกฺขุสฺมึ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ อนิจฺจสฺี อนิจฺจปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. โส อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ โข, ภิกฺขเว, ปโม ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จกฺขุสฺมึ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ อนิจฺจสฺี ¶ อนิจฺจปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. ตสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จกฺขุสฺมึ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ อนิจฺจสฺี อนิจฺจปฏิสํเวที สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ เจตสา อธิมุจฺจมาโน ปฺาย ปริโยคาหมาโน. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ…เป… อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ…เป… อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม ปุคฺคโล อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ.
๙๖-๖๒๒. สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล จกฺขุสฺมึ ทุกฺขานุปสฺสี วิหรติ…เป… จกฺขุสฺมึ อนตฺตานุปสฺสี วิหรติ…เป… จกฺขุสฺมึ ขยานุปสฺสี ¶ วิหรติ…เป… จกฺขุสฺมึ วยานุปสฺสี วิหรติ…เป… จกฺขุสฺมึ วิราคานุปสฺสี วิหรติ…เป… จกฺขุสฺมึ นิโรธานุปสฺสี วิหรติ…เป… จกฺขุสฺมึ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรติ…เป….
โสตสฺมึ…เป… ฆานสฺมึ… ชิวฺหาย… กายสฺมึ… มนสฺมึ…เป….
รูเปสุ…เป… สทฺเทสุ… คนฺเธสุ… รเสสุ… โผฏฺพฺเพสุ ¶ … ธมฺเมสุ ¶ …เป….
จกฺขุวิฺาเณ…เป… โสตวิฺาเณ… ฆานวิฺาเณ… ชิวฺหาวิฺาเณ… กายวิฺาเณ… มโนวิฺาเณ…เป….
จกฺขุสมฺผสฺเส…เป… โสตสมฺผสฺเส… ฆานสมฺผสฺเส… ชิวฺหาสมฺผสฺเส… กายสมฺผสฺเส… มโนสมฺผสฺเส…เป….
จกฺขุสมฺผสฺสชาย เวทนาย…เป… โสตสมฺผสฺสชาย เวทนาย… ฆานสมฺผสฺสชาย เวทนาย… ชิวฺหาสมฺผสฺสชาย เวทนาย… กายสมฺผสฺสชาย เวทนาย… มโนสมฺผสฺสชาย เวทนาย…เป….
รูปสฺาย…เป… สทฺทสฺาย… คนฺธสฺาย… รสสฺาย… โผฏฺพฺพสฺาย… ธมฺมสฺาย…เป….
รูปสฺเจตนาย…เป… สทฺทสฺเจตนาย… คนฺธสฺเจตนาย… รสสฺเจตนาย… โผฏฺพฺพสฺเจตนาย… ธมฺมสฺเจตนาย…เป….
รูปตณฺหาย…เป… สทฺทตณฺหาย… คนฺธตณฺหาย… รสตณฺหาย… โผฏฺพฺพตณฺหาย… ธมฺมตณฺหาย…เป….
รูปวิตกฺเก ¶ …เป… สทฺทวิตกฺเก… คนฺธวิตกฺเก… รสวิตกฺเก… โผฏฺพฺพวิตกฺเก… ธมฺมวิตกฺเก…เป….
รูปวิจาเร…เป… สทฺทวิจาเร… คนฺธวิจาเร… รสวิจาเร… โผฏฺพฺพวิจาเร… ธมฺมวิจาเร…เป….
‘‘ปฺจกฺขนฺเธ ¶ [( ) สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] …เป… รูปกฺขนฺเธ… เวทนากฺขนฺเธ… สฺากฺขนฺเธ… สงฺขารกฺขนฺเธ… วิฺาณกฺขนฺเธ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ…เป… ทุกฺขานุปสฺสี วิหรติ… อนตฺตานุปสฺสี วิหรติ… ขยานุปสฺสี วิหรติ… วยานุปสฺสี วิหรติ… วิราคานุปสฺสี วิหรติ… นิโรธานุปสฺสี วิหรติ… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรติ…เป… โลกสฺสา’’ติ.
‘‘ฉทฺวารารมฺมเณสฺเวตฺถ, วิฺาเณสุ จ ผสฺเสสุ;
เวทนาสุ จ ทฺวารสฺส, สุตฺตา โหนฺติ วิสุํ อฏฺ.
‘‘สฺา สฺเจตนา ตณฺหา, วิตกฺเกสุ วิจาเร จ;
โคจรสฺส วิสุํ อฏฺ, ปฺจกฺขนฺเธ จ ปจฺเจเก.
‘‘โสฬสสฺเวตฺถ มูเลสุ, อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา;
ขยา วยา วิราคา จ, นิโรธา ปฏินิสฺสคฺคา.
‘‘กมํ อฏฺานุปสฺสนา, โยเชตฺวาน วิสุํ วิสุํ;
สมฺปิณฺฑิเตสุ สพฺเพสุ, โหนฺติ ปฺจ สตานิ จ;
อฏฺวีสติ สุตฺตานิ, อาหุเนยฺเย จ วคฺคิเก’’ [อิมา อุทฺทานคาถาโย สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ].
อาหุเนยฺยวคฺโค ทสโม.
๑๑. ราคเปยฺยาลํ
๖๒๓. ‘‘ราคสฺส ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อภิฺาย สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม สตฺต? สติสมฺโพชฺฌงฺโค…เป… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
๖๒๔. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ¶ สตฺต? อนิจฺจสฺา, อนตฺตสฺา, อสุภสฺา, อาทีนวสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
๖๒๕. ‘‘ราคสฺส ¶ , ภิกฺขเว, อภิฺาย สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม สตฺต? อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
๖๒๖-๖๕๒. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย…เป… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย…เป… ปฏินิสฺสคฺคาย อิเม สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
๖๕๓-๑๑๓๒. ‘‘โทสสฺส…เป… โมหสฺส… โกธสฺส… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส อภิฺาย…เป… ปริฺาย… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย อิเม สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ¶ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.
สตฺตกนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.