📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาเย
อฏฺกนิปาต-อฏฺกถา
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. เมตฺตาวคฺโค
๑. เมตฺตาสุตฺตวณฺณนา
๑. อฏฺกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม อาเสวิตายาติ อาทเรน เสวิตาย. ภาวิตายาติ วฑฺฒิตาย. พหุลีกตายาติ ปุนปฺปุนํ กตาย. ยานิกตายาติ ยุตฺตยานสทิสกตาย. วตฺถุกตายาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตาย. อนุฏฺิตายาติ ปจฺจุปฏฺิตาย. ปริจิตายาติ สมนฺตโต จิตาย อุปจิตาย. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมารทฺธาย สุกตาย. อานิสํสาติ คุณา. สุขํ สุปตีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เอกาทสกนิปาเต วกฺขาม.
อปฺปมาณนฺติ ¶ ผรณวเสน อปฺปมาณํ. ตนู สํโยชนา โหนฺติ, ปสฺสโต อุปธิกฺขยนฺติ เมตฺตาปทฏฺานาย วิปสฺสนาย อนุกฺกเมน อุปธิกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ทส สํโยชนา ปหียนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ตนู สํโยชนา โหนฺตีติ ปฏิฆฺเจว ปฏิฆสมฺปยุตฺตสํโยชนา จ ตนุกา โหนฺติ. ปสฺสโต อุปธิกฺขยนฺติ เตสํเยว กิเลสูปธีนํ ขยสงฺขาตํ เมตฺตํ อธิคมวเสน ปสฺสนฺตสฺส. กุสลี เตน โหตีติ เตน เมตฺตายเนน กุสโล โหติ. สตฺตสณฺฑนฺติ ¶ สตฺตสงฺขาเตน สณฺเฑน สมนฺนาคตํ, สตฺตภริตนฺติ อตฺโถ. วิเชตฺวาติ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมเนว วิชินิตฺวา. ราชิสโยติ อิสิสทิสา ธมฺมิกราชาโน. ยชมานาติ ทานานิ ททมานา. อนุปริยคาติ วิจรึสุ.
อสฺสเมธนฺติอาทีสุ โปราณกราชกาเล กิร สสฺสเมธํ, ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ, วาจาเปยฺยนฺติ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อเหสุํ, เยหิ ราชาโน ¶ โลกํ สงฺคณฺหึสุ. ตตฺถ นิปฺผนฺนสสฺสโต ทสมภาคคฺคหณํ สสฺสเมธํ นาม, สสฺสสมฺปาทเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. มหาโยธานํ ฉมาสิกํ ภตฺตเวตนานุปฺปทานํ ปุริสเมธํ นาม, ปุริสสงฺคณฺหเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. ทลิทฺทมนุสฺสานํ หตฺถโต เลขํ คเหตฺวา ตีณิ วสฺสานิ วินา วฑฺฒิยา สหสฺสทฺวิสหสฺสมตฺตธนานุปฺปทานํ สมฺมาปาสํ นาม. ตฺหิ สมฺมา มนุสฺเส ปาเสติ หทเย พนฺธิตฺวา วิย เปติ, ตสฺมา สมฺมาปาสนฺติ วุจฺจติ. ‘‘ตาต, มาตุลา’’ติอาทินา นเยน ปน สณฺหวาจาภณนํ วาจาเปยฺยํ นาม, ปิยวาจาติ อตฺโถ. เอวํ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหิตํ รฏฺํ อิทฺธฺเจว โหติ, ผีตฺจ, พหุอนฺนปานํ, เขมํ, นิรพฺพุทํ. มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา อปารุตฆรา วิหรนฺติ. อิทํ ฆรทฺวาเรสุ อคฺคฬานํ อภาวโต นิรคฺคฬนฺติ วุจฺจติ. อยํ โปราณิกา ปเวณิ.
อปรภาเค ปน โอกฺกากราชกาเล พฺราหฺมณา อิมานิ จตฺตาริ ¶ สงฺคหวตฺถูนิ อิมฺจ รฏฺสมฺปตฺตึ ปริวตฺเตตฺวา อุทฺธํมูลกํ กตฺวา อสฺสเมธํ ปุริสเมธนฺติอาทิเก ปฺจ ยฺเ นาม อกํสุ. เตสุ อสฺสเมตฺถ เมธนฺติ วเธนฺตีติ อสฺสเมโธ. ทฺวีหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส เอกวีสติยูปสฺส เอกสฺมึ ปจฺฉิมทิวเสเยว สตฺตนวุติปฺจปสุสตฆาตภึสนสฺส เปตฺวา ภูมิฺจ ปุริเส จ อวเสสสพฺพวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. ปุริสเมตฺถ เมธนฺตีติ ปุริสเมโธ. จตูหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส สทฺธึ ภูมิยา อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. สมฺมเมตฺถ ปาสนฺตีติ สมฺมาปาโส. ทิวเส ทิวเส ยุคจฺฉิคฺคเฬ ¶ ปเวสนทณฺฑกสงฺขาตํ สมฺมํ ขิปิตฺวา ตสฺส ปติโตกาเส เวทึ กตฺวา สํหาริเมหิ ยูปาทีหิ สรสฺสตีนทิยา นิมุคฺโคกาสโต ปภุติ ปฏิโลมํ คจฺฉนฺเตน ยชิตพฺพสฺส สตฺรยาคสฺเสตํ อธิวจนํ. วาชเมตฺถ ปิวนฺตีติ วาชเปยฺโย. เอเกน ปริยฺเน สตฺตรสหิ ปสูหิ ยชิตพฺพสฺส เพลุวยูปสฺส สตฺตรสกทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. นตฺถิ เอตฺถ อคฺคฬาติ นิรคฺคโฬ. นวหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส ¶ สทฺธึ ภูมิยา จ ปุริเสหิ จ อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส สพฺพเมธปริยายนามสฺส อสฺสเมธวิกปฺปสฺเสตํ อธิวจนํ.
กลมฺปิ ¶ เต นานุภวนฺติ โสฬสินฺติ เต สพฺเพปิ มหายาคา เอกสฺส เมตฺตาจิตฺตสฺส วิปากมหนฺตตาย โสฬสึ กลํ น อคฺฆนฺติ, โสฬสมํ ภาคํ น ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ. น ชินาตีติ น อตฺตนา ปรสฺส ชานึ กโรติ. น ชาปเยติ น ปเรน ปรสฺส ชานึ กาเรติ. เมตฺตํโสติ เมตฺตายมานจิตฺตโกฏฺาโส หุตฺวา. สพฺพภูตานนฺติ สพฺพสตฺเตสุ. เวรํ ตสฺส น เกนจีติ ตสฺส เกนจิ สทฺธึ อกุสลเวรํ วา ปุคฺคลเวรํ วา นตฺถิ.
๒. ปฺาสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย อาทิพฺรหฺมจริยิกายาติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตาย. ปฺายาติ วิปสฺสนาย. ครุฏฺานิยนฺติ คารวุปฺปตฺติปจฺจยภูตํ ครุภาวนียํ. ติพฺพนฺติ พหลํ. ปริปุจฺฉตีติ อตฺถปาฬิอนุสนฺธิปุพฺพาปรํ ปุจฺฉติ. ปริปฺหตีติ ปฺหํ กโรติ, อิทฺจิทฺจ ปฏิปุจฺฉิสฺสามีติ วิตกฺเกติ. ทฺวเยนาติ ทุวิเธน. อนานากถิโกติ อนานตฺตกถิโก โหติ. อติรจฺฉานกถิโกติ นานาวิธํ ติรจฺฉานกถํ น กเถติ. อริยํ วา ตุณฺหีภาวนฺติ อริยตุณฺหีภาโว นาม จตุตฺถชฺฌานํ, เสสกมฺมฏฺานมนสิกาโรปิ วฏฺฏติ. ชานํ ชานาตีติ ชานิตพฺพกํ ชานาติ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ปสฺสิตพฺพกํ ปสฺสติ. ปิยตฺตายาติ ¶ ปิยภาวตฺถาย. ครุตฺตายาติ ครุภาวตฺถาย. ภาวนายาติ ภาวนตฺถาย คุณสมฺภาวนาย วา. สามฺายาติ สมณธมฺมตฺถาย. เอกีภาวายาติ นิรนฺตรภาวตฺถาย.
๓-๔. อปฺปิยสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๓-๔. ตติเย อปฺปิยปสํสีติ อปฺปิยชนสฺส ปสํสโก วณฺณภาณี. ปิยครหีติ ปิยชนสฺส ¶ นินฺทโก ครหโก. จตุตฺเถ อนวฺตฺติกาโมติ ‘‘อโห วต มํ อฺเน อวชาเนยฺยุ’’นฺติ อนวชานนกาโม. อกาลฺูติ กถากาลํ น ชานาติ, อกาเล กเถติ. อสุจีติ อสุจีหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต.
๕. ปมโลกธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๕. ปฺจเม โลกสฺส ธมฺมาติ โลกธมฺมา. เอเตหิ มุตฺตา นาม นตฺถิ, พุทฺธานมฺปิ โหนฺติ. เตเนวาห – โลกํ อนุปริวตฺตนฺตีติ อนุพนฺธนฺติ นปฺปชหนฺติ ¶ , โลกโต น นิวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตตีติ อยฺจ โลโก เอเต อนุพนฺธติ น ปชหติ, เตหิ ธมฺเมหิ น นิวตฺตตีติ อตฺโถ.
ลาโภ อลาโภติ ลาเภ อาคเต อลาโภ อาคโตเยวาติ เวทิตพฺโพ. อยสาทีสุปิ เอเสว นโย. อเวกฺขติ วิปริณามธมฺเมติ ‘‘วิปริณามธมฺมา อิเม’’ติ เอวํ อเวกฺขติ. วิธูปิตาติ ¶ วิธมิตา วิทฺธํสิตา. ปทฺจ ตฺวาติ นิพฺพานปทํ ชานิตฺวา. สมฺมปฺปชานาติ ภวสฺส ปารคูติ ภวสฺส ปารํ คโต นิปฺผตฺตึ มตฺถกํ ปตฺโต, นิพฺพานปทํ ตฺวาว ตํ ปารํ คตภาวํ สมฺมปฺปชานาตีติ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๖. ทุติยโลกธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๖. ฉฏฺเ โก วิเสโสติ กึ วิเสสการณํ. โก อธิปฺปยาโสติ โก อธิกปฺปโยโค. ปริยาทายาติ คเหตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา. อิธาปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตํ.
๗. เทวทตฺตวิปตฺติสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม อจิรปกฺกนฺเตติ สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา น จิรปกฺกนฺเต. อารพฺภาติ อาคมฺม ปฏิจฺจ สนฺธาย. อตฺตวิปตฺตินฺติ อตฺตโน วิปตฺตึ วิปนฺนาการํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อภิภุยฺยาติ อภิภวิตฺวา มทฺทิตฺวา.
๘. อุตฺตรวิปตฺติสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม ¶ วฏชาลิกายนฺติ เอวํนามเก วิหาเร. โส กิร วฏวเน นิวิฏฺตฺตา วฏชาลิกาติ สงฺขํ คโต. ปาตุรโหสีติ อิมมตฺถํ เทวรฺโ อาโรเจสฺสามีติ คนฺตฺวา ปากโฏ อโหสิ. อาทิพฺรหฺมจริยโกติ สิกฺขตฺตยสงฺคหสฺส สกลสาสนพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูโต.
๙. นนฺทสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม กุลปุตฺโตติ ชาติกุลปุตฺโต. พลวาติ ถามสมฺปนฺโน. ปาสาทิโกติ ¶ รูปสมฺปตฺติยา ปสาทชนโก. ติพฺพราโคติ พหลราโค. กิมฺตฺราติอาทีสุ อยมตฺโถ – กึ อฺเน การเณน ¶ กถิเตน, อยํ นนฺโท อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตฺู ชาคริยมนุยุตฺโต สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต, เยหิ นนฺโท สกฺโกติ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. สเจ อิเมหิ การเณหิ สมนฺนาคโต นาภวิสฺส, น สกฺกุเณยฺยาติ. อิติห ตตฺถาติ เอวํ ตตฺถ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ.
๑๐. การณฺฑวสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสเม อฺเนาฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน วจเนน วา อฺํ การณํ วจนํ วา ปฏิจฺฉาเทติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ พาหิรโต อฺํ อาคนฺตุกกถํ โอตาเรติ. อปเนยฺเยโสติ อปเนยฺโย นีหริตพฺโพ เอส. สมณทูสีติ สมณทูสโก. สมณปลาโปติ วีหีสุ วีหิปลาโป วิย นิสฺสารตาย สมเณสุ สมณปลาโป. สมณการณฺฑโวติ สมณกจวโร. พหิทฺธา นาเสนฺตีติ พหิ นีหรนฺติ. ยวกรเณติ ยวเขตฺเต. ผุณมานสฺสาติ อุจฺเจ าเน ตฺวา มหาวาเต โอปุนิยมานสฺส. อปสมฺมชฺชนฺตีติ ¶ สารธฺานํ เอกโต ทุพฺพลธฺานํ เอกโต กรณตฺถํ ปุนปฺปุนํ อปสมฺมชฺชนฺติ, อปสมฺมชฺชนิสงฺขาเตน วาตคฺคาหินา สุปฺเปน วา วตฺเถน วา นีหรนฺติ. ททฺทรนฺติ ททฺทรสทฺทํ.
สํวาสายนฺติ สํวาเสน อยํ. วิชานาถาติ ชาเนยฺยาถ. สนฺตวาโจติ สณฺหวาโจ. ชนวตีติ ชนมชฺเฌ. รโห กโรติ กรณนฺติ กรณํ วุจฺจติ ปาปกมฺมํ, ตํ รโห ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา ¶ กโรติ. สํสปฺปี จ มุสาวาทีติ สํสปฺปิตฺวา มุสาวาที, มุสา ภณนฺโต สํสปฺปติ ผนฺทตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กเถตฺวา คาถาสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ.
เมตฺตาวคฺโค ปโม.
๒. มหาวคฺโค
๑. เวรฺชสุตฺตวณฺณนา
๑๑. ทุติยสฺส ปเม อภิวาเทตีติ เอวมาทีนิ น สมโณ โคตโมติ เอตฺถ วุตฺตนกาเรน โยเชตฺวา เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ ¶ ‘‘น วนฺทติ นาสนา วุฏฺาติ, นาปิ ‘อิธ โภนฺโต นิสีทนฺตู’ติ เอวํ อาสเนน วา นิมนฺเตตี’’ติ. เอตฺถ หิ วา-สทฺโท วิภาวเน นาม อตฺเถ ¶ ‘‘รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติอาทีสุ วิย. เอวํ วตฺวา อถ อตฺตโน อภิวาทนาทีนิ อกโรนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา อาห – ตยิทํ, โภ โคตม, ตเถวาติ. ยํ ตํ มยา สุตํ, ตํ ตเถว, ตํ สวนฺจ เม ทสฺสนฺจ สํสนฺทติ สเมติ, อตฺถโต เอกีภาวํ คจฺฉติ. น หิ ภวํ โคตโม…เป… อาสเนน วา นิมนฺเตตีติ. เอวํ อตฺตนา สุตํ ทิฏฺเน นิคเมตฺวา นินฺทนฺโต อาห – ตยิทํ, โภ โคตม, น สมฺปนฺนเมวาติ ตํ อภิวาทนาทีนํ อกรณํ อยุตฺตเมวาติ.
อถสฺส ภควา อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนโทสํ อนุปคมฺม กรุณาสีตเลน หทเยน ตํ อฺาณํ วิธมิตฺวา ยุตฺตภาวํ ทสฺเสตุกาโม นาหํ ตํ พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อหํ, พฺราหฺมณ, อปฺปฏิหเตน สพฺพฺุตฺาณจกฺขุนา โอโลเกนฺโตปิ ตํ ปุคฺคลํ เอตสฺมึ สเทวกาทิเภเท โลเก น ปสฺสามิ, ยมหํ อภิวาเทยฺยํ วา ปจฺจุฏฺเยฺยํ วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยํ. อนจฺฉริยํ วา เอตํ, สฺวาหํ อชฺช สพฺพฺุตํ ปตฺโต เอวรูปํ นิปจฺจาการารหํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามิ. อปิจ โข ยทาปาหํ สมฺปติชาโตว อุตฺตเรน มุโข สตฺตปทวีติหาเรน คนฺตฺวา ¶ สกลํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกสึ, ตทาปิ เอตสฺมึ สเทวกาทิเภเท โลเก ตํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามิ, ยมหํ เอวรูปํ นิปจฺจการํ กเรยฺยํ. อถ โข มํ โสฬสกปฺปสหสฺสายุโก ขีณาสวมหาพฺรหฺมาปิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ตฺวํ โลเก มหาปุริโส, ตฺวํ ¶ สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺโค จ เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ, นตฺถิ ตยา อุตฺตริตโร’’ติ สฺชาตโสมนสฺโส ปติมาเนสิ. ตทาปิ จาหํ อตฺตนา อุตฺตริตรํ อปสฺสนฺโต อาสภึ วาจํ นิจฺฉาเรสึ – ‘‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺสา’’ติ. เอวํ สมฺปติชาตสฺสาปิ มยฺหํ อภิวาทนาทิรโห ปุคฺคโล นตฺถิ, สฺวาหํ อิทานิ สพฺพฺุตํ ปตฺโต กํ อภิวาเทยฺยํ. ตสฺมา ตฺวํ, พฺราหฺมณ, มา ตถาคตา เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ ปตฺถยิ. ยฺหิ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต อภิวาเทยฺย วา…เป… อาสเนน วา นิมนฺเตยฺย, มุทฺธาปิ ตสฺส ปุคฺคลสฺส รตฺติปริโยสาเน ปริปากสิถิลพนฺธนํ วณฺฏา มุตฺตตาลผลํ วิย คีวโต ฉิชฺชิตฺวา สหสาว ภูมิยํ นิปเตยฺย.
เอวํ ¶ วุตฺเตปิ พฺราหฺมโณ ทุปฺปฺตาย ตถาคตสฺส โลกเชฏฺภาวํ อสลฺลกฺเขนฺโต เกวลํ ตํ วจนํ อสหมาโน อาห – อรสรูโป ภวํ โคตโมติ. อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย – ยํ โลเก อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมํ ‘‘สามคฺคิรโส’’ติ วุจฺจติ, ตํ โภโต โคตมสฺส นตฺถิ. ตสฺมา อรสรูโป ภวํ โคตโม, อรสชาติโก อรสสภาโวติ. อถสฺส ภควา จิตฺตมุทุภาวชนนตฺถํ อุชุวิปจฺจนีกภาวํ ปริหรนฺโต อฺถา ตสฺส วจนสฺส อตฺถํ ¶ อตฺตนิ สนฺทสฺเสนฺโต อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโยติอาทิมาห.
ตตฺถ อตฺถิ ขฺเวสาติ อตฺถิ โข เอส. ปริยาโยติ การณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอตํ การณํ, เยน การเณน มํ ‘‘อรสรูโป ภวํ โคตโม’’ติ วทมาโน ปุคฺคโล สมฺมา วเทยฺย, อวิตถวาทีติ สงฺขํ คจฺเฉยฺย. กตโม ปน โสติ? เย เต, พฺราหฺมณ, รูปรสา…เป… โผฏฺพฺพรสา, เต ตถาคตสฺส ปหีนาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? เย เต ชาติวเสน วา อุปปตฺติวเสน วา เสฏฺสมฺมตานมฺปิ ปุถุชฺชนานํ รูปารมฺมณาทีนิ อสฺสาเทนฺตานํ อภินนฺทนฺตานํ รชฺชนฺตานํ อุปฺปชฺชนฺติ กามสุขสฺสาทสงฺขาตา รูปรสา, สทฺทรสา, คนฺธรสา, รสรสา, โผฏฺพฺพรสา, เย อิมํ โลกํ คีวาย พนฺธิตฺวา วิย อาวิฺฉนฺติ, วตฺถารมฺมณาทิสามคฺคิยฺจ อุปฺปนฺนตฺตา สามคฺคิรสาติ วุจฺจนฺติ. เต สพฺเพปิ ตถาคตสฺส ปหีนา. ‘‘มยฺหํ ปหีนา’’ติ ¶ วตฺตพฺเพปิ มมากาเรน อตฺตานํ อนุกฺขิปนฺโต ธมฺมํ เทเสติ, เทสนาวิลาโส วา เอส ตถาคตสฺส.
ตตฺถ ปหีนาติ จิตฺตสนฺตานโต วิคตา, ปชหิตา วา. เอตสฺมึ ปนตฺเถ กรเณ สามิวจนํ ทฏฺพฺพํ. อริยมคฺคสตฺเถน อุจฺฉินฺนํ ตณฺหาวิชฺชามยํ มูลํ เอเตสนฺติ อุจฺฉินฺนมูลา. ตาลวตฺถุ วิย เนสํ วตฺถุ กตนฺติ ตาลาวตฺถุกตา. ยถา หิ ตาลรุกฺขํ สมูลํ อุทฺธริตฺวา ตสฺส วตฺถุมตฺเต ตสฺมึ ปเทเส กเต น ปุน ตสฺส ตาลสฺส อุปฺปตฺติ ปฺายติ, เอวํ อริยมคฺคสตฺเถน ¶ สมูเล รูปาทิรเส อุทฺธริตฺวา เตสํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพภาเวน วตฺถุมตฺเต จิตฺตสนฺตาเน กเต สพฺเพปิ เต ตาลาวตฺถุกตาติ วุจฺจนฺติ. อวิรุฬฺหิธมฺมตฺตา วา มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย กตาติ ตาลาวตฺถุกตา. ยสฺมา ปน เอวํ ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา โหนฺติ ¶ , ยถา เนสํ ปจฺฉาภาโว น โหติ, ตถา กตา โหนฺติ. ตสฺมา อาห – อนภาวํกตาติ. อายตึ อนุปฺปาทธมฺมาติ อนาคเต อนุปฺปชฺชนกสภาวา.
โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสีติ ยฺจ โข ตฺวํ สนฺธาย วเทสิ, โส ปริยาโย น โหติ. นนุ จ เอวํ วุตฺเต โย พฺราหฺมเณน วุตฺโต สามคฺคิรโส, ตสฺส อตฺตนิ วิชฺชมานตา อนฺุาตา โหตีติ? น โหติ. โย หิ นํ สามคฺคิรสํ กาตุํ ภพฺโพ หุตฺวา น กโรติ, โส ตทภาเวน อรสรูโปติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. ภควา ปน อภพฺโพว เอตํ กาตุํ, เตนสฺส การเณ อภพฺพตํ ปกาเสนฺโต อาห – ‘‘โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ. ยํ ปริยายํ สนฺธาย ตฺวํ มํ ‘‘อรสรูโป’’ติ วเทสิ, โส อมฺเหสุ เนว วตฺตพฺโพติ.
เอวํ พฺราหฺมโณ อตฺตนา อธิปฺเปตํ อรสรูปตํ อาโรเปตุํ อสกฺโกนฺโต อถาปรํ นิพฺโภโค ภวนฺติอาทิมาห. สพฺพปริยาเยสุ เจตฺถ วุตฺตนเยเนว โยชนากฺกมํ วิทิตฺวา สนฺธายภาสิตมตฺถํ เอวํ เวทิตพฺพํ – พฺราหฺมโณ ตเทว วโยวุทฺธานํ อภิวาทนาทิกมฺมํ โลเก ¶ ‘‘สามคฺคิปริโภโค’’ติ มฺมาโน ตทภาเวน จ ภควนฺตํ ‘‘นิพฺโภโค’’ติอาทิมาห. ภควา จ ยฺวายํ รูปาทีสุ สตฺตานํ ฉนฺทราคปริโภโค, ตทภาวํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรํ ปริยายมนุชานิ.
ปุน พฺราหฺมโณ ยํ โลเก วโยวุทฺธานํ อภิวาทนาทิกุลสมุทาจารกมฺมํ โลกิยา กโรนฺติ, ตสฺส อกิริยํ สมฺปสฺสมาโน ภควนฺตํ อกิริยวาโทติ อาห. ภควา ปน ยสฺมา กายทุจฺจริตาทีนํ ¶ อกิริยํ วทติ, ตสฺมา ตํ อกิริยวาทิตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรํ ปริยายมนุชานิ. ตตฺถ เปตฺวา กายทุจฺจริตาทีนิ อวเสสา อกุสลา ธมฺมา อเนกวิหิตา ปาปกา อกุสลา ธมฺมาติ เวทิตพฺพา.
ปุน พฺราหฺมโณ ตเทว อภิวาทนาทิกมฺมํ ภควติ อปสฺสนฺโต ‘‘อิมํ อาคมฺม อยํ โลกตนฺติ โลกปเวณี อุจฺฉิชฺชตี’’ติ มฺมาโน ภควนฺตํ อุจฺเฉทวาโทติ อาห. ภควา ปน ยสฺมา ปฺจกามคุณิกราคสฺส เจว อกุสลจิตฺตทฺวยสมฺปยุตฺตสฺส จ โทสสฺส อนาคามิมคฺเคน อุจฺเฉทํ วทติ, สพฺพากุสลสมฺภวสฺส ปน โมหสฺส อรหตฺตมคฺเคน อุจฺเฉทํ ¶ วทติ, เปตฺวา เต ตโย อวเสสานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ยถานุรูปํ จตูหิ มคฺเคหิ อุจฺเฉทํ วทติ, ตสฺมา ตํ อุจฺเฉทวาทํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรํ ปริยายมนุชานิ.
ปุน พฺราหฺมโณ ‘‘ชิคุจฺฉติ มฺเ สมโณ โคตโม อิทํ วโยวุทฺธานํ อภิวาทนาทิกุลสมุทาจารกมฺมํ, เตน ตํ น กโรตี’’ติ มฺมาโน ภควนฺตํ เชคุจฺฉีติ อาห. ภควา ปน ยสฺมา ชิคุจฺฉติ กายทุจฺจริตาทีหิ, ยานิ กายวจีมโนทุจฺจริตานิ เจว ยาว จ อกุสลานํ ¶ ลามกธมฺมานํ สมาปตฺติ สมาปชฺชนา สมงฺคิภาโว, ตํ สพฺพมฺปิ คูถํ วิย มณฺฑนกชาติโก ปุริโส ชิคุจฺฉติ หิรียติ, ตสฺมา ตํ เชคุจฺฉิตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรํ ปริยายมนุชานิ. ตตฺถ กายทุจฺจริเตนาติอาทิ กรณวจนํ อุปโยคตฺเถ ทฏฺพฺพํ.
ปุน พฺราหฺมโณ ตเทว อภิวาทนาทิกมฺมํ ภควติ อปสฺสนฺโต ‘‘อยํ อิทํ โลกเชฏฺกกมฺมํ วิเนติ วินาเสติ, อถ วา ยสฺมา เอตํ สามีจิกมฺมํ น กโรติ, ตสฺมา อยํ วิเนตพฺโพ นิคฺคณฺหิตพฺโพ’’ติ มฺมาโน ภควนฺตํ เวนยิโกติ อาห. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – วินยตีติ วินโย, วินาเสตีติ วุตฺตํ โหติ. วินโย เอว เวนยิโก. วินยํ วา อรหตีติ เวนยิโก, นิคฺคหํ อรหตีติ วุตฺตํ โหติ. ภควา ปน ยสฺมา ราคาทีนํ วินยาย วูปสมาย ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมา เวนยิโก โหติ. อยเมว เจตฺถ ปทตฺโถ – วินยาย ธมฺมํ เทเสตีติ เวนยิโก. วิจิตฺรา หิ ตทฺธิตวุตฺติ. สฺวายํ ตํ เวนยิกภาวํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรํ ปริยายมนุชานิ.
ปุน พฺราหฺมโณ ยสฺมา อภิวาทนาทีนิ สามีจิกมฺมานิ กโรนฺตา วโยวุทฺเธ โตเสนฺติ หาเสนฺติ ¶ , อกโรนฺตา ปน ตาเปนฺติ วิเหเสนฺติ โทมนสฺสํ เนสํ อุปฺปาเทนฺติ, ภควา จ ตานิ น กโรติ, ตสฺมา ‘‘อยํ วโยวุทฺเธ ตปตี’’ติ มฺมาโน สปฺปุริสาจารวิรหิตตฺตา วา ‘‘กปณปุริโส อย’’นฺติ มฺมาโน ภควนฺตํ ตปสฺสีติ อาห. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – ตปตีติ ตโป, โรเสติ วิเหเสตีติ อตฺโถ. สามีจิกมฺมากรณสฺเสตํ อธิวจนํ. ตโป อสฺส อตฺถีติ ตปสฺสี. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป พฺยฺชนานิ อวิจาเรตฺวา โลเก กปณปุริโส ¶ ตปสฺสีติ ¶ วุจฺจติ. ภควา ปน เย อกุสลา ธมฺมา โลกํ ตปนโต ตปนียานิ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปหีนตฺตา ยสฺมา ตปสฺสีติ สงฺขํ คโต. ตสฺมา ตํ ตปสฺสิตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรํ ปริยายมนุชานิ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ตปนฺตีติ ตปา, อกุสลธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. เต ตเป อสฺสิ นิรสฺสิ ปหาสิ วิทฺธํสีติ ตปสฺสี.
ปุน พฺราหฺมโณ ตํ อภิวาทนาทิกมฺมํ เทวโลกคพฺภสมฺปตฺติยา เทวโลกปฏิสนฺธิปฏิลาภาย สํวตฺตตีติ มฺมาโน ภควติ จสฺส อภาวํ ทิสฺวา ภควนฺตํ อปคพฺโภติ อาห. โกธวเสน วา ภควโต มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ โทสํ ทสฺเสนฺโตปิ เอวมาห. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – คพฺภโต อปคโตติ อปคพฺโภ, อภพฺโพ เทวโลกูปปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อธิปฺปาโย. หีโน วา คพฺโภ อสฺสาติ อปคพฺโภ. เทวโลกคพฺภปริพาหิรตฺตา อายตึ หีนคพฺภปฏิลาภภาคีติ. หีโน วาสฺส มาตุกุจฺฉิสฺมึ คพฺภวาโส อโหสีติ อธิปฺปาโย. ภควโต ปน ยสฺมา อายตึ คพฺภเสยฺยา อปคตา, ตสฺมา โส ตํ อปคพฺภตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรํ ปริยายมนุชานิ. ตตฺร จ ยสฺส โข, พฺราหฺมณ, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนาติ เอเตสํ ปทานํ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ‘‘พฺราหฺมณ, ยสฺส ปุคฺคลสฺส อนาคเต คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภเว จ อภินิพฺพตฺติ อนุตฺตเรน มคฺเคน วิหตการณตฺตา ปหีนา. คพฺภเสยฺยาคหเณน เจตฺถ ชลาพุชโยนิ คหิตา, ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติคฺคหเณน อิตรา ติสฺโส’’ปิ.
อปิจ คพฺภสฺส เสยฺยา คพฺภเสยฺยา. ปุนพฺภโว ¶ เอว อภินิพฺพตฺติ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยถา จ วิฺาณฏฺิตีติ วุตฺเตปิ น วิฺาณโต อฺา ิติ อตฺถิ, เอวมิธาปิ น คพฺภโต อฺา เสยฺยา เวทิตพฺพา. อภินิพฺพตฺติ จ นาม ยสฺมา ปุนพฺภวภูตาปิ อปุนพฺภวภูตาปิ อตฺถิ, อิธ จ ปุนพฺภวภูตา อธิปฺเปตา, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ปุนพฺภโว เอว อภินิพฺพตฺติ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตี’’ติ.
เอวํ ¶ อาคตกาลโต ปฏฺาย อรสรูปตาทีหิ อฏฺหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺตมฺปิ พฺราหฺมณํ ภควา ธมฺมิสฺสโร ธมฺมราชา ธมฺมสามี ตถาคโต อนุกมฺปาย สีตเลเนว จกฺขุนา พฺราหฺมณํ โอเลเกนฺโต ยํ ธมฺมธาตุํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา เทสนาวิลาสปฺปตฺตา นาม โหติ, ตสฺสา ¶ ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา วิคตวลาหเก นเภ ปุณฺณจนฺโท วิย จ สรทกาเล สูริโย วิย จ พฺราหฺมณสฺส หทยนฺธการํ วิธเมนฺโต ตานิเยว อกฺโกสวตฺถูนิ เตน เตน ปริยาเยน อฺถา ทสฺเสตฺวา ปุนปิ อตฺตโน กรุณาวิปฺผารํ อฏฺหิ โลกธมฺเมหิ อกมฺปิยภาเวน ปฏิลทฺธตาทิคุณลกฺขณํ ปถวิสมจิตฺตตํ อกุปฺปธมฺมตฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เกวลํ ปลิตสิรขณฺฑทนฺตวลิตฺตจตาทีหิ อตฺตโน วุทฺธภาวํ สลฺลกฺเขติ, โน จ โข ชานาติ อตฺตานํ ชาติยา อนุคตํ ชราย อนุสฏํ พฺยาธิโน อธิภูตํ มรเณน อพฺภาหตํ อชฺช มริตฺวา ปุน สฺเวว อุตฺตานเสยฺยทารกภาวคมนียํ ¶ . มหนฺเตน โข ปน อุสฺสาเหน มม สนฺติกํ อาคโต, ตทสฺส อาคมนํ สาตฺถกํ โหตู’’ติ จินฺเตตฺวา อิมสฺมึ โลเก อตฺตโน อปฺปฏิสมํ ปุเรชาตภาวํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณาติอาทินา นเยน พฺราหฺมณสฺส ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒสิ.
ตตฺถ เสยฺยถาปีติอาทีนํ เหฏฺา วุตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – เหฏฺา วุตฺตนเยเนว หิ เต กุกฺกุฏโปตกา ปกฺเข วิธุนนฺตา ตํขณานุรูปํ วิรวนฺตา นิกฺขมนฺติ. เอวํ นิกฺขมนฺตานฺจ เตสํ โย ปมตรํ นิกฺขมติ, โส เชฏฺโติ วุจฺจติ. ตสฺมา ภควา ตาย อุปมาย อตฺตโน เชฏฺภาวํ สาเธตุกาโม พฺราหฺมณํ ปุจฺฉติ – โย นุ โข เตสํ กุกฺกุฏจฺฉาโปตกานํ…เป… กินฺติ สฺวาสฺส วจนีโยติ. ตตฺถ กุกฺกุฏจฺฉาปกานนฺติ กุกฺกุฏโปตกานํ. กินฺติ สฺวาสฺส วจนีโยติ โส กินฺติ วจนีโย อสฺส, กึ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย เชฏฺโ วา กนิฏฺโ วาติ.
‘‘เชฏฺโ’’ติสฺส, โภ โคตม, วจนีโยติ, โภ โคตม, โส เชฏฺโ อิติ อสฺส วจนีโย. กสฺมาติ เจ? โส หิ เนสํ เชฏฺโติ, ยสฺมา โส เนสํ วุทฺธตโรติ อตฺโถ. อถสฺส ภควา โอปมฺมํ สมฺปฏิปาเทนฺโต เอวเมว โขติ อาห, ยถา โส กุกฺกุฏโปตโก, เอวํ อหมฺปิ. อวิชฺชาคตาย ¶ ปชายาติ อวิชฺชา วุจฺจติ อฺาณํ, ตตฺถ คตาย. ปชายาติ สตฺตธิวจนเมตํ, อวิชฺชาโกสสฺส อนฺโต ปวิฏฺเสุ สตฺเตสูปิ วุตฺตํ โหติ. อณฺฑภูตายาติ อณฺเฑ ภูตาย ปชาตาย สฺชาตาย. ยถา หิ อณฺเฑ นิพฺพตฺตา เอกจฺเจ สตฺตา อณฺฑภูตาติ วุจฺจนฺติ, เอวมยํ ¶ สพฺพาปิ ปชา อวิชฺชณฺฑโกเส นิพฺพตฺตตฺตา อณฺฑภูตาติ วุจฺจติ. ปริโยนทฺธายาติ ¶ เตน อวิชฺชณฺฑโกเสน สมนฺตโต โอนทฺธาย พทฺธาย เวิตาย. อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวาติ ตํ อวิชฺชามยํ อณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา. เอโกว โลเกติ สกเลปิ โลกสนฺนิวาเส อหเมว เอโก อทุติโย. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ อุตฺตรรหิตํ สพฺพเสฏฺํ สมฺมา สามฺจ โพธึ, อถ วา ปสตฺถํ สุนฺทรฺจ โพธึ. อรหตฺตมคฺคาณสฺเสตํ นามํ, สพฺพฺุตฺาณสฺสาปิ นามเมว. อุภยมฺปิ วฏฺฏติ. อฺเสํ อรหตฺตมคฺโค อนุตฺตรา โพธิ โหติ, น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? อสพฺพคุณทายกตฺตา. เตสฺหิ กสฺสจิ อรหตฺตมคฺโค อรหตฺตผลเมว เทติ, กสฺสจิ ติสฺโส วิชฺชา, กสฺสจิ ฉ อภิฺา, กสฺสจิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, กสฺสจิ สาวกปารมิาณํ. ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ปจฺเจกโพธิาณเมว เทติ, พุทฺธานํ ปน สพฺพคุณสมฺปตฺตึ ¶ เทติ อภิเสโก วิย รฺโ สพฺพโลกิสฺสรภาวํ. ตสฺมา อฺสฺส กสฺสจิปิ อนุตฺตรา โพธิ น โหตีติ. อภิสมฺพุทฺโธติ อพฺภฺาสึ ปฏิวิชฺฌึ, ปตฺโตมฺหิ อธิคโตมฺหีติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ ยเทตํ ภควตา ‘‘เอวเมว โข’’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ, ตํ เอวํ อตฺเถน สํสนฺทิตฺวา เวทิตพฺพํ – ยถา หิ ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อตฺตโน อณฺเฑสุ อธิสยนาทิติวิธกิริยากรณํ, เอวํ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต อตฺตโน สนฺตาเน อนิจฺจํ, ทุกฺขํ, อนตฺตาติ ติวิธานุปสฺสนากรณํ. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยาสมฺปาทเนน อณฺฑานํ อปูติภาโว วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส อปริหานิ. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน อณฺฑานํ อลฺลสิเนหปริยาทานํ วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน ภวตฺตยานุคตนิกนฺติสิเนหปริยาทานํ. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน อณฺฑกปาลานํ ตนุภาโว วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโว, กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน กุกฺกุฏโปตกสฺส ปาทนขตุณฺฑกานํ ถทฺธขรภาโว วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโว. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน กุกฺกุฏโปตกสฺส ปริณามกาโล วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ¶ ¶ ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส ปริณามกาโล วฑฺฒิกาโล คพฺภคฺคหณกาโล. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน กุกฺกุฏโปตกสฺส ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิทากาโล วิย ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา อนุปุพฺพาธิคเตน ¶ อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภิฺาปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา สกลพุทฺธคุณสจฺฉิกตกาโล เวทิตพฺโพ.
อหฺหิ, พฺราหฺมณ, เชฏฺโ เสฏฺโ โลกสฺสาติ, พฺราหฺมณ, ยถา เตสํ กุกฺกุฏโปตกานํ ปมตรํ อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภินิพฺพตฺโต กุกฺกุฏโปตโก เชฏฺโ โหติ, เอวํ อวิชฺชาคตาย ปชาย ตํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปมตรํ อริยาย ชาติยา ชาตตฺตา อหฺหิ เชฏฺโ วุทฺธตโมติ สงฺขํ คโต, สพฺพคุเณหิ ปน อปฺปฏิสมตฺตา เสฏฺโติ.
เอวํ ภควา อตฺตโน อนุตฺตรํ เชฏฺเสฏฺภาวํ พฺราหฺมณสฺส ปกาเสตฺวา อิทานิ ยาย ปฏิปทาย ตํ อธิคโต, ตํ ปฏิปทํ ปุพฺพภาคโต ปภุติ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ โข ปน เม, พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ อารทฺธํ โข ปน เม, พฺราหฺมณ, วีริยํ อโหสีติ, พฺราหฺมณ, น มยา อยํ อนุตฺตโร เชฏฺเสฏฺภาโว กุสีเตน มุฏฺสฺสตินา สารทฺธกาเยน วิกฺขิตฺตจิเตน อธิคโต, อปิจ โข ตทธิคมาย อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ อโหสิ. โพธิมณฺเฑ นิสินฺเนน มยา จตุสมฺมปฺปธานเภทํ วีริยํ อารทฺธํ อโหสิ, ปคฺคหิตํ อสิถิลปฺปวตฺติตํ. อารทฺธตฺตาเยว จ เม ตํ อสลฺลีนํ อโหสิ ¶ . น เกวลฺจ วีริยเมว, สติปิ เม อารมฺมณาภิมุขภาเวน อุปฏฺิตา อโหสิ, อุปฏฺิตตฺตาเยว จ อสมฺมุฏฺา. ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธติ กายจิตฺตปฺปสฺสทฺธิวเสน กาโยปิ เม ปสฺสทฺโธ อโหสิ. ตตฺถ ยสฺมา นามกาเย ปสฺสทฺเธ รูปกาโยปิ ปสฺสทฺโธเยว โหติ, ตสฺมา ‘‘นามกาโย รูปกาโย’’ติ อวิเสเสตฺวาว ‘‘ปสฺสทฺโธ กาโย’’ติ วุตฺตํ. อสารทฺโธติ โส จ โข ปสฺสทฺธตฺตาเยว อสารทฺโธ, วิคตทรโถติ วุตฺตํ โหติ ¶ . สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคนฺติ จิตฺตมฺปิ เม สมฺมา อาหิตํ สุฏฺุ ปิตํ อปฺปิตํ วิย อโหสิ, สมาหิตตฺตา เอว จ เอกคฺคํ อจลํ นิปฺผนฺทนนฺติ. เอตฺตาวตา ฌานสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา กถิตา โหติ.
อิทานิ อิมาย ปฏิปทาย อธิคตํ ปมชฺฌานํ อาทึ กตฺวา วิชฺชาตฺตยปริโยสานํ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต โส โข อหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ ยาว วินิจฺฉยนเยน วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๙) วุตฺตเมว.
อยํ โข เม, พฺราหฺมณาติอาทีสุ ปน วิชฺชาติ วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชา. กึ วิทิตํ กโรติ ¶ ? ปุพฺเพนิวาสํ. อวิชฺชาติ ตสฺเสว ปุพฺเพนิวาสสฺส อวิทิตกรณฏฺเน ตปฺปฏิจฺฉาทกโมโห. ตโมติ สฺเวว โมโห ตปฺปฏิจฺฉาทกฏฺเน ตโม นาม. อาโลโกติ ¶ สา เอว วิชฺชา โอภาสกรณฏฺเน อาโลโกติ. เอตฺถ จ วิชฺชา อธิคตาติ อตฺโถ, เสสํ ปสํสาวจนํ. โยชนา ปเนตฺถ – อยํ โข เม วิชฺชา อธิคตา, ตสฺส เม อธิคตวิชฺชสฺส อวิชฺชา วิหตา, วินฏฺาติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนา. เอส นโย อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. สติยา อวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺตสฺส วีริยาตาเปน อาตาปิโน กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขาตาย ปหิตตฺตสฺส เปสิตตฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิชฺชา วิหฺเยฺย, วิชฺชา อุปฺปชฺเชยฺย ตโม วิหฺเยฺย, อาโลโก อุปฺปชฺเชยฺย, เอวเมว มม อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน. เอตสฺส เม ปธานานุโยคสฺส อนุรูปเมว ผลํ ลทฺธนฺติ.
อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ปมา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว อณฺฑโกสมฺหาติ อยํ โข มม, พฺราหฺมณ, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณมุขตุณฺฑเกน ปุพฺเพ นิวุตฺถขนฺธปฺปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปมา อภินิพฺภิทา ปมา นิกฺขนฺติ ปมา อริยาชาติ อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว มุขตุณฺฑเกน วา ปาทนขสิขาย วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตมฺหา อณฺฑโกสมฺหา อภินิพฺภิทา นิกฺขนฺติ กุกฺกุฏนิกาเย ปจฺจาชาตีติ. อยํ ตาว ปุพฺเพนิวาสกถายํ นโย.
จุตุปปาตกถาย ¶ ปน วิชฺชาติ ทิพฺพจกฺขุาณวิชฺชา. อวิชฺชาติ จุตุปปาตปฺปฏิจฺฉาทิกา ¶ อวิชฺชา. ยถา ปน ปุพฺเพนิวาสกถายํ ‘‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณมุขตุณฺฑเกน ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธปฺปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘‘จุตุปปาตาณมุขตุณฺฑเกน จุตุปปาตปฺปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ยํ ปเนตํ ปจฺจเวกฺขณาณปริคฺคหิตํ อาสวานํ ขยาณาธิคมํ พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสนฺโต อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ตติยา วิชฺชาติอาทิมาห, ตตฺถ วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺควิชฺชา. อวิชฺชาติ จตุสจฺจปฺปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ตติยา อภินิพฺภิทา อโหสีติ ¶ เอตฺถ อยํ โข มม, พฺราหฺมณ, อาสวานํ ขยาณมุขตุณฺฑเกน จตุสจฺจปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตติยา อภินิพฺภิทา ตติยา นิกฺขนฺติ ตติยา อริยชาติ อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว มุขตุณฺฑเกน วา ปาทนขสิขาย วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตมฺหา อณฺฑโกสมฺหา อภินิพฺภิทา นิกฺขนฺติ กุกฺกุฏนิกาเย ปจฺจาชาตีติ.
เอตฺตาวตา กึ ทสฺเสสีติ? โส หิ, พฺราหฺมณ, กุกฺกุฏจฺฉาปโก อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตโต นิกฺขมนฺโต สกิเมว ชายติ, อหํ ปน ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธปฺปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา ปมํ ตาว ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณวิชฺชาย ชาโต. ตโต สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิปฺปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ทุติยํ ทิพฺพจกฺขุาณวิชฺชาย ชาโต, ปุน จตุสจฺจปฺปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตติยํ อาสวานํ ขยาณวิชฺชาย ชาโต. เอวํ ตีหิ วิชฺชาหิ ติกฺขตฺตุํ ชาโตมฺหิ. สา จ เม ชาติ อริยา สุปริสุทฺธาติ อิทํ ทสฺเสติ. เอวํทสฺเสนฺโต จ ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตํสาณํ, ทิพฺพจกฺขุนา ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสาณํ, อาสวกฺขเยน สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณนฺติ ¶ เอวํ ตีหิ วิชฺชาหิ สพฺเพปิ สพฺพฺุคุเณ ปกาเสตฺวา อตฺตโน อริยาย ชาติยา เชฏฺเสฏฺภาวํ พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสสิ.
เอวํ วุตฺเต เวรฺโช พฺราหฺมโณติ เอวํ ภควตา โลกานุกมฺปเกน พฺราหฺมณํ อนุกมฺปมาเนน นิคุหิตพฺเพปิ อตฺตโน อริยาย ชาติยา เชฏฺเสฏฺภาเว วิชฺชาตฺตยปกาสิกาย ธมฺมเทสนาย วุตฺเต ปีติวิปฺผารปริปุณฺณคตฺตจิตฺโต เวรฺโช พฺราหฺมโณ ตํ ภควโต อริยาย ชาติยา เชฏฺเสฏฺภาวํ วิทิตฺวา ‘‘อีทิสํ นามาหํ สพฺพโลกเชฏฺํ ¶ สพฺพคุณสมนฺนาคตํ สพฺพฺุํ ‘อฺเสํ อภิวาทนาทิกมฺมํ น กโรตี’ติ อวจํ, ธิรตฺถุ วต, โภ, อฺาณ’’นฺติ อตฺตานํ ครหิตฺวา ‘‘อยํ ทานิ โลเก อริยาย ชาติยา ปุเรชาตฏฺเน เชฏฺโ, สพฺพคุเณหิ อปฺปฏิสมฏฺเน เสฏฺโ’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – เชฏฺโ ภวํ โคตโม เสฏฺโ ภวํ โคตโมติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุน ตํ ภควโต ธมฺมเทสนํ อพฺภนุโมทมาโน อภิกฺกนฺตํ โภ โคตมาติอาทิมาห. ตํ วุตฺตตฺถเมวาติ.
๒. สีหสุตฺตวณฺณนา
๑๒. ทุติเย อภิฺาตาติ าตา ปฺาตา ปากฏา. สนฺถาคาเรติ มหาชนสฺส วิสฺสมนตฺถาย ¶ กเต อคาเร. สา กิร สนฺถาคารสาลา นครมชฺเฌ อโหสิ, จตูสุ าเนสุ ิตานํ ปฺายติ, จตูหิ ทิสาหิ อาคตมนุสฺสา ปมํ ตตฺถ วิสฺสมิตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน อตฺตโน ผาสุกฏฺานํ คจฺฉนฺติ. ราชกุลานํ รชฺชกิจฺจสนฺถรณตฺถาย ¶ กตํ อคารนฺติปิ วทนฺติเยว. ตตฺถ หิ นิสีทิตฺวา ลิจฺฉวิราชาโน รชฺชกิจฺจํ สนฺถรนฺติ กโรนฺติ วิจาเรนฺติ. สนฺนิสินฺนาติ เตสํ นิสีทนตฺถฺเว ปฺตฺเตสุ มหารหวรปจฺจตฺถรเณสุ สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเตสุ อาสเนสุ สนฺนิสินฺนา. อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺตีติ ราชกุเล กิจฺจฺเจว โลกตฺถจริยฺจ วิจาเรตฺวา อเนเกหิ การเณหิ พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ กเถนฺติ ทีเปนฺติ. ปณฺฑิตา หิ เต ราชาโน สทฺธา ปสนฺนา โสตาปนฺนาปิ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ อริยสาวกา, เต สพฺเพปิ โลกิยชฏํ ฉินฺทิตฺวา พุทฺธาทีนํ ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ ภาสนฺติ. ตตฺถ ติวิโธ พุทฺธวณฺโณ นาม จริยวณฺโณ, สรีรวณฺโณ, คุณวณฺโณติ. ตตฺริเม ราชาโน จริยาย วณฺณํ อารภึสุ – ‘‘ทุกฺกรํ วต กตํ สมฺมาสมฺพุทฺเธน กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ทส ปารมิโย, ทส อุปปารมิโย, ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตฺตึส ปารมิโย ปูเรนฺเตน, าตตฺถจริยํ, โลกตฺถจริยํ, พุทฺธจริยํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชนฺเตนา’’ติ อฑฺฒจฺฉกฺเกหิ ชาตกสเตหิ พุทฺธวณฺณํ กเถนฺตา ตุสิตภวนํ ปาเปตฺวา ปยึสุ.
ธมฺมสฺส ¶ วณฺณํ ภาสนฺตา ปน ‘‘เตน ภควตา ธมฺโม เทสิโต, นิกายโต ปฺจ นิกายา, ปิฏกโต ตีณิ ปิฏกานิ, องฺคโต นว องฺคานิ, ขนฺธโต จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานี’’ติ โกฏฺาสวเสน ธมฺมคุณํ กถยึสุ.
สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ‘‘ปฏิลทฺธสทฺธา กุลปุตฺตา โภคกฺขนฺธฺเจว าติปริวฏฺฏฺจ ¶ ปหาย เสตจฺฉตฺตํ โอปรชฺชํ เสนาปติเสฏฺิภณฺฑาคาริกฏฺานนฺตราทีนิ อคเณตฺวา นิกฺขมฺม สตฺถุ วรสาสเน ปพฺพชนฺติ. เสตจฺฉตฺตํ ปหาย ปพฺพชิตานํ ภทฺทิยราชมหากปฺปินปุกฺกุสาติอาทีนํ ราชปพฺพชิตานํเยว พุทฺธกาเล อสีติสหสฺสานิ อเหสุํ. อเนกโกฏิสตํ ธนํ ปหาย ปพฺพชิตานํ ปน ยสกุลปุตฺตโสณเสฏฺิปุตฺตรฏฺปาลกุลปุตฺตาทีนํ ปริจฺเฉโท นตฺถิ. เอวรูปา จ เอวรูปา จ กุลปุตฺตา สตฺถุ สาสเน ปพฺพชนฺตี’’ติ ปพฺพชฺชาสงฺเขปวเสน สงฺฆคุเณ กถยึสุ.
สีโห ¶ เสนาปตีติ เอวํนามโก เสนาย อธิปติ. เวสาลิยฺหิ สตฺต สหสฺสานิ สตฺต สตานิ สตฺต จ ราชาโน. เต สพฺเพปิ สนฺนิปติตฺวา สพฺเพสํ มนํ คเหตฺวา ‘‘รฏฺํ วิจาเรตุํ สมตฺถํ เอกํ วิจินถา’’ติ วิจินนฺตา สีหํ ราชกุมารํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สกฺขิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ตสฺส รตฺตมณิวณฺณํ กมฺพลปริโยนทฺธํ เสนาปติจฺฉตฺตํ อทํสุ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สีโห เสนาปตี’’ติ. นิคณฺสาวโกติ นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส ปจฺจยทายโก อุปฏฺาโก. ชมฺพุทีปตลสฺมิฺหิ ตโย ชนา นิคณฺานํ อคฺคุปฏฺากา – นาฬนฺทายํ, อุปาลิ คหปติ, กปิลปุเร วปฺโป สกฺโก, เวสาลิยํ อยํ สีโห เสนาปตีติ. นิสินฺโน ¶ โหตีติ เสสราชูนํ ปริสาย อนฺตรนฺตเร อาสนานิ ปฺาปยึสุ, สีหสฺส ปน มชฺเฌ าเนติ ตสฺมึ ปฺตฺเต มหารเห ราชาสเน นิสินฺโน โหติ. นิสฺสํสยนฺติ นิพฺพิจิกิจฺฉํ อทฺธา เอกํเสน, น เหเต ยสฺส วา ตสฺส วา อปฺเปสกฺขสฺส เอวํ อเนกสเตหิ การเณหิ วณฺณํ ภาสนฺติ.
เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมีติ นิคณฺโ กิร นาฏปุตฺโต ‘‘สจายํ สีโห กสฺสจิเทว สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณํ กเถนฺตสฺส สุตฺวา สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสติ, มยฺหํ ปริหานิ ภวิสฺสตี’’ติ ¶ จินฺเตตฺวา ปมตรํเยว สีหํ เสนาปตึ เอตทโวจ – ‘‘เสนาปติ อิมสฺมึ โลเก ‘อหํ พุทฺโธ อหํ พุทฺโธ’ติ พหู วิจรนฺติ. สเจ ตฺวํ กสฺสจิ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม อโหสิ, มํ ปุจฺเฉยฺยาสิ. อหํ เต ยุตฺตฏฺานํ เปเสสฺสามิ, อยุตฺตฏฺานโต นิวาเรสฺสามี’’ติ. โส ตํ กถํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘สเจ มํ เปเสสฺสติ, คมิสฺสามิ. โน เจ, น คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, เตนุปสงฺกมิ.
อถสฺส วจนํ สุตฺวา นิคณฺโ มหาปพฺพเตน วิย พลวโสเกน โอตฺถโฏ ‘‘ยตฺถ ทานิสฺสาหํ คมนํ น อิจฺฉามิ, ตตฺเถว คนฺตุกาโม ชาโต, หโตหมสฺมี’’ติ อนตฺตมโน หุตฺวา ‘‘ปฏิพาหนุปายมสฺส กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา กึ ปน ตฺวนฺติอาทิมาห. เอวํ วทนฺโต วิจรนฺตํ โคณํ ทณฺเฑน ปหรนฺโต วิย ชลมานํ ปทีปํ นิพฺพาเปนฺโต วิย ภตฺตภริตํ ปตฺตํ นิกฺกุชฺชนฺโต วิย จ สีหสฺส อุปฺปนฺนปีตึ วินาเสสิ. คมิยาภิสงฺขาโรติ หตฺถิยานาทีนํ โยชาปนคนฺธมาลาทิคฺคหณวเสน ปวตฺโต ปโยโค. โส ปฏิปฺปสฺสมฺภีติ ¶ โส วูปสนฺโต.
ทุติยมฺปิ โขติ ทุติยวารมฺปิ. อิมสฺมิฺจ วาเร พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ตุสิตภวนโต ปฏฺาย ยาว มหาโพธิปลฺลงฺกา ทสพลสฺส เหฏฺา ปาทตเลหิ อุปริ เกสคฺเคหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ¶ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณอสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภานํ วเสน สรีรวณฺณํ กถยึสุ. ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ‘‘เอกปเทปิ เอกพฺยฺชเนปิ อวขลิตํ นาม นตฺถี’’ติ สุกถิตวเสเนว ธมฺมคุณํ กถยึสุ. สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ‘‘เอวรูปํ ยสสิริวิภวํ ปหาย สตฺถุ สาสเน ปพฺพชิตา น โกสชฺชปกติกา โหนฺติ, เตรสสุ ปน ธุตงฺคคุเณสุ ปริปูรการิโน หุตฺวา สตฺตสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมํ กโรนฺติ, อฏฺตึสารมฺมณวิภตฺติโย วฬฺเชนฺตี’’ติ ปฏิปทาวเสน สงฺฆคุเณ กถยึสุ.
ตติยวาเร ปน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสมานา ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว พุทฺธคุเณ กถยึสุ, ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทินา สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ธมฺมคุเณ, ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต ¶ สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา สุตฺตนฺตปริยาเยเนว สงฺฆคุเณ จ กถยึสุ. ตโต สีโห จินฺเตสิ – ‘‘อิเมสฺจ ลิจฺฉวิราชกุมารานํ ตติยทิวสโต ปฏฺาย พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ กเถนฺตานํ มุขํ นปฺปโหติ, อทฺธา อโนมคุเณน สมนฺนาคตา ¶ โส ภควา, อิมํ ทานิ อุปฺปนฺนํ ปีตึ อวิชหิตฺวาว อหํ อชฺช สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ. อถสฺส ‘‘กึ หิ เม กริสฺสนฺติ นิคณฺา’’ติ วิตกฺโก อุทปาทิ. ตตฺถ กึ หิ เม กริสฺสนฺตีติ กึ นาม มยฺหํ นิคณฺา กริสฺสนฺติ. อปโลกิตา วา อนปโลกิตา วาติ อาปุจฺฉิตา วา อนาปุจฺฉิตา วา. น หิ เม เต อาปุจฺฉิตา ยานวาหนสมฺปตฺตึ, น จ อิสฺสริยวิเสสํ ทสฺสนฺติ, นาปิ อนาปุจฺฉิตา หริสฺสนฺติ, อผลํ เอเตสํ อาปุจฺฉนนฺติ อธิปฺปาโย.
เวสาลิยา นิยฺยาสีติ ยถา หิ คิมฺหกาเล เทเว วุฏฺเ อุทกํ สนฺทมานํ นทึ โอตริตฺวา โถกเมว คนฺตฺวา ติฏฺติ นปฺปวตฺตติ, เอวํ สีหสฺส ปมทิวเส ‘‘ทสพลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนาย ปีติยา นิคณฺเน ปฏิพาหิตกาโล. ยถาปิ ทุติยทิวเส เทเว วุฏฺเ อุทกํ สนฺทมานํ นทึ โอตริตฺวา โถกํ คนฺตฺวา วาลิกาปฺุชํ ปหริตฺวา อปฺปวตฺตํ โหติ, เอวํ สีหสฺส ทุติยทิวเส ‘‘ทสพลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนาย ปีติยา นิคณฺเน ปฏิพาหิตกาโล. ยถา ตติยทิวเส เทเว วุฏฺเ อุทกํ สนฺทมานํ นทึ โอตริตฺวา ปุราณปณฺณสุกฺขทณฺฑกฏฺกจวราทีนิ ปริกฑฺฒนฺตํ วาลิกาปฺุชํ ภินฺทิตฺวา สมุทฺทนินฺนเมว โหติ, เอวํ สีโห ตติยทิวเส ติณฺณํ วตฺถูนํ คุณกถํ สุตฺวา อุปฺปนฺเน ปีติปาโมชฺเช ‘‘อผลา นิคณฺา นิปฺผลา นิคณฺา, กึ เม อิเม กริสฺสนฺติ, คมิสฺสามหํ สตฺถุสนฺติก’’นฺติ มนํ อภินีหริตฺวา เวสาลิยา นิยฺยาสิ. นิยฺยนฺโต จ ‘‘จิรสฺสาหํ ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม ¶ ชาโต, น โข ปน เม ยุตฺตํ อฺาตกเวเสน ¶ คนฺตุ’’นฺติ ‘‘เยเกจิ ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตุกามา, สพฺเพ นิกฺขมนฺตู’’ติ โฆสนํ กาเรตฺวา ปฺจรถสตานิ โยชาเปตฺวา อุตฺตมรเถ ิโต เตหิ เจว ปฺจหิ รถสเตหิ มหติยา จ ปริสาย ปริวุโต คนฺธปุปฺผจุณฺณวาสาทีนิ คาหาเปตฺวา นิยฺยาสิ. ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส จ ทิวา, มชฺฌนฺหิเก อติกฺกนฺตมตฺเต.
เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ อารามํ ปวิสนฺโต ทูรโตว อสีติ-อนุพฺยฺชน-พฺยามปฺปภา-ทฺวตฺตึส-มหาปุริสลกฺขณานิ ฉพฺพณฺณฆนพุทฺธรสฺมิโย จ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปํ นาม ปุริสํ เอวํ อาสนฺเน วสนฺตํ เอตฺตกํ กาลํ นาทฺทสํ, วฺจิโต ¶ วตมฺหิ, อลาภา วต เม’’ติ จินฺเตตฺวา มหานิธึ ทิสฺวา ทลิทฺทปุริโส วิย สฺชาตปีติปาโมชฺโช เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ โภตา โคตเมน วุตฺตการณสฺส อนุการณํ กเถนฺติ. การณวจโน เหตฺถ ธมฺมสทฺโท ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๐) วิย. การณนฺติ เจตฺถ ตถาปวตฺตสฺส สทฺทสฺส อตฺโถ อธิปฺเปโต ตสฺส ปวตฺติเหตุภาวโต. อตฺถปฺปยุตฺโต หิ สทฺทปฺปโยโค. อนุการณนฺติ เอโส เอว ปเรหิ ตถา วุจฺจมาโน. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ. ปเรหิ วุตฺตการเณหิ สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วา ตโต ปรํ ตสฺส อนุวาโท วา โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ วิฺูหิ ครหิตพฺพํ านํ การณํ น อาคจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กึ สพฺพากาเรนปิ ตว วาเท คารยฺหํ การณํ นตฺถีติ. อนพฺภกฺขาตุกามาติ น อภูเตน วตฺตุกามา. อตฺถิ สีหปริยาโยติอาทีนํ อตฺโถ เวรฺชกณฺเฑ อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ปรเมน ¶ อสฺสาเสนาติ จตุมคฺคจตุผลสงฺขาเตน อุตฺตเมน. อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสมีติ อสฺสาสนตฺถาย สนฺถมฺภนตฺถาย ธมฺมํ เทเสมิ. อิติ ภควา อฏฺหงฺเคหิ สีหสฺส เสนาปติสฺส ธมฺมํ เทเสสิ.
อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิทิตฺวา จินฺเตตฺวา ตุลยิตฺวา กตฺตพฺพํ กโรหีติ วุตฺตํ โหติ. สาธุ โหตีติ สุนฺทโร โหติ. ตุมฺหาทิสสฺมิฺหิ มํ ทิสฺวา มํ สรณํ คจฺฉนฺเต นิคณฺํ ทิสฺวา นิคณฺํ สรณํ คจฺฉนฺเต ‘‘กึ อยํ สีโห ทิฏฺทิฏฺเมว สรณํ คจฺฉตี’’ติ ครหา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ สาธูติ ทสฺเสติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ เต กิร เอวรูปํ สาวกํ ลภิตฺวา ‘‘อสุโก นาม ราชา วา ราชมหามตฺโต วา เสฏฺิ วา อมฺหากํ สรณํ คโต สาวโก ชาโต’’ติ ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นคเร โฆเสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ. กสฺมา? เอวํ โน มหนฺตภาโว ¶ อาวิภวิสฺสตีติ จ. สเจ ปนสฺส ‘‘กิมหํ เอเตสํ สรณํ คโต’’ติ วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺเชยฺย, ตมฺปิ โส ‘‘เอเตสํ เม สรณคตภาวํ พหู ชานนฺติ, ทุกฺขํ อิทานิ ปฏินิวตฺติตุ’’นฺติ วิโนเทตฺวา น ปฏิกฺกมิสฺสตีติ จ. เตนาห – ‘‘ปฏากํ ปริหเรยฺยุ’’นฺติ. โอปานภูตนฺติ ปฏิยตฺตอุทปาโน วิย ิตํ. กุลนฺติ ตว นิเวสนํ. ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสีติ ปุพฺเพ ทสปิ วีสติปิ สฏฺิปิ ชเน อาคเต ทิสฺวา ¶ นตฺถีติ อวตฺวา เทสิ, อิทานิ มํ ¶ สรณํ คตการณมตฺเตเนว มา อิเมสํ เทยฺยธมฺมํ อุปจฺฉินฺทิ. สมฺปตฺตานฺหิ ทาตพฺพเมวาติ โอวทิ. สุตํ เมตํ, ภนฺเตติ กุโต สุตนฺติ? นิคณฺานํ สนฺติกา. เต กิร กุลฆเรสุ เอวํ ปกาเสนฺติ ‘‘มยํ ยสฺส กสฺสจิ สมฺปตฺตสฺส ทาตพฺพนฺติ วทาม, สมโณ ปน โคตโม ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ นาฺเสํ, มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, นาฺเสํ สาวกานํ, มยฺหเมว ทินฺนํ ทานํ มหปฺผลํ, นาฺเสํ, มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาฺเส’นฺติ เอวํ วทตี’’ติ. ตํ สนฺธาย อยํ ‘‘สุตํ เมต’’นฺติ อาห.
อนุปุพฺพึ กถนฺติ ทานานนฺตรํ สีลํ, สีลานนฺตรํ สคฺคํ, สคฺคานนฺตรํ มคฺคนฺติ เอวํ อนุปฏิปาฏิกถํ. ตตฺถ ทานกถนฺติ อิทํ ทานํ นาม สุขานํ นิทานํ, สมฺปตฺตีนํ มูลํ, โภคานํ ปติฏฺา, วิสมคตสฺส ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ, อิธโลกปรโลเกสุ ทานสทิโส อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ. อิทฺหิ อวสฺสยฏฺเน รตนมยสีหาสนสทิสํ, ปติฏฺานฏฺเน มหาปถวีสทิสํ, อารมฺมณฏฺเน อาลมฺพนรชฺชุสทิสํ. อิทฺหิ ทุกฺขนิตฺถรณฏฺเน นาวา, สมสฺสาสนฏฺเน สงฺคามสูโร, ภยปริตฺตาณฏฺเน ¶ สุสงฺขตนครํ, มจฺเฉรมลาทีหิ อนุปลิตฺตฏฺเน ปทุมํ, เตสํ นิทหนฏฺเน อคฺคิ, ทุราสทฏฺเน อาสิวิโส, อสนฺตาสนฏฺเน สีโห, พลวนฺตฏฺเน หตฺถี, อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน เสตวสโภ, เขมนฺตภูมิสมฺปาปนฏฺเน วลาหโก อสฺสราชา. ทานํ นาเมตํ มยา คตมคฺโค, มยฺเหโส วํโส, มยา ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตน เวลามมหายฺโ, มหาโควินฺทมหายฺโ, มหาสุทสฺสนมหายฺโ, เวสฺสนฺตรมหายฺโติ, อเนกมหายฺา ปวตฺติตา, สสภูเตน ชลิตอคฺคิกฺขนฺเธ อตฺตานํ นิยฺยาเทนฺเตน สมฺปตฺตยาจกานํ จิตฺตํ คหิตํ. ทานฺหิ โลเก สกฺกสมฺปตฺตึ เทติ มารสมฺปตฺตึ พฺรหฺมสมฺปตฺตึ, จกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ, สาวกปารมีาณํ, ปจฺเจกโพธิาณํ, อภิสมฺโพธิาณํ เทตีติ เอวมาทิทานคุณปฺปฏิสํยุตฺตํ กถํ.
ยสฺมา ปน ทานํ เทนฺโต สีลํ สมาทาตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ตทนนฺตรํ สีลกถํ กเถสิ. สีลกถนฺติ ¶ สีลํ นาเมตํ อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ. สีลํ นาเมตํ มม วํโส ¶ , อหํ สงฺขปาลนาคราชกาเล ภูริทตฺตนาคราชกาเล จมฺเปยฺยนาคราชกาเล สีลวราชกาเล มาตุโปสกหตฺถิราชกาเล ฉทฺทนฺตหตฺถิราชกาเลติ อนนฺเตสุ อตฺตภาเวสุ สีลํ ปริปูเรสึ. อิธโลกปรโลกสมฺปตฺตีนฺหิ สีลสทิโส อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ, สีลาลงฺการสทิโส อลงฺกาโร นตฺถิ, สีลปุปฺผสทิสํ ปุปฺผํ นตฺถิ, สีลคนฺธสทิโส คนฺโธ นตฺถิ. สีลาลงฺกาเรน หิ อลงฺกตํ สีลคนฺธานุลิตฺตํ สเทวโกปิ โลโก ¶ โอโลเกนฺโต ติตฺตึ น คจฺฉตีติ เอวมาทิสีลคุณปฺปฏิสํยุตฺตํ กถํ.
‘‘อิทํ ปน สีลํ นิสฺสาย อยํ สคฺโค ลพฺภตี’’ติ ทสฺเสตุํ สีลานนฺตรํ สคฺคกถํ กเถสิ. สคฺคกถนฺติ ‘‘อยํ สคฺโค นาม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป, นิจฺจเมตฺถ กีฬา, นิจฺจํ สมฺปตฺติโย ลพฺภนฺติ, จาตุมหาราชิกา เทวา นวุติวสฺสสตสหสฺสานิ ทิพฺพสุขํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ, ตาวตึสา ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานี’’ติ เอวมาทิสคฺคคุณปฺปฏิสํยุตฺตํ กถํ. สคฺคสมฺปตฺตึ กถยนฺตานฺหิ พุทฺธานํ มุขํ นปฺปโหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อเนกปริยาเยน ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สคฺคกถํ กเถยฺย’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๓.๒๕๕).
เอวํ สคฺคกถาย ปโลเภตฺวา ปน หตฺถึ อลงฺกริตฺวา ตสฺส โสณฺฑํ ฉินฺทนฺโต วิย ‘‘อยมฺปิ สคฺโค อนิจฺโจ อทฺธุโว, น เอตฺถ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพ’’ติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓๕-๒๓๖; ๒.๔๒) นเยน กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ กเถสิ. ตตฺถ อาทีนโวติ โทโส. โอกาโรติ อวกาโร ลามกภาโว. สํกิเลโสติ เตหิ สตฺตานํ สํสาเร สํกิลิสฺสนํ. ยถาห – ‘‘สํกิลิสฺสนฺติ วต, โภ, สตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑).
เอวํ กามาทีนเวน ตชฺเชตฺวา เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. กลฺลจิตฺตนฺติ อโรคจิตฺตํ. สามุกฺกํสิกาติ สามํ อุกฺกํสิกา อตฺตนาเยว อุทฺธริตฺวา คหิตา, สยมฺภุาเณน ¶ ทิฏฺา อสาธารณา อฺเสนฺติ อตฺโถ. กา ปน สาติ? อริยสจฺจเทสนา. เตเนวาห – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคนฺติ. วิรชํ วีตมลนฺติ ราครชาทีนํ อภาวา วิรชํ, ราคมลาทีนํ ¶ วิคตตฺตา วีตมลํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ อิธ โสตาปตฺติมคฺโค อธิปฺเปโต. ตสฺส อุปฺปตฺติอาการทสฺสนตฺถํ ¶ ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ อาห. ตฺหิ นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจวเสน เอวํ สพฺพสงฺขตํ ปฏิวิชฺฌนฺตํ อุปฺปชฺชติ. ทิฏฺโ อริยสจฺจธมฺโม เอเตนาติ ทิฏฺธมฺโม. เอส นโย เสเสสุปิ. ติณฺณา วิจิกิจฺฉา อเนนาติ ติณฺณวิจิกิจฺโฉ. วิคตา กถํกถา อสฺสาติ วิคตกถํกโถ. วิสารชฺชํ ปตฺโตติ เวสารชฺชปฺปตฺโต. กตฺถ? สตฺถุสาสเน. นาสฺส ปโร ปจฺจโย, น ปรํ สทฺธาย เอตฺถ วตฺตตีติ อปรปฺปจฺจโย.
ปวตฺตมํสนฺติ ปกติยา ปวตฺตํ กปฺปิยมํสํ มูลํ คเหตฺวา อนฺตราปเณ ปริเยสาหีติ อธิปฺปาโย. สมฺพหุลา นิคณฺาติ ปฺจสตมตฺตา นิคณฺา. ถูลํ ปสุนฺติ ถูลํ มหาสรีรํ โคกณฺณมหึสสูกรสงฺขาตํ ปสุํ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ อตฺตานํ อุทฺทิสิตฺวา กตํ, มาริตนฺติ อตฺโถ. ปฏิจฺจกมฺมนฺติ สฺวายํ ตํ มํสํ ปฏิจฺจ ตํ ปาณวธกมฺมํ ผุสติ. ตฺหิ อกุสลํ อุปฑฺฒํ ทายกสฺส, อุปฑฺฒํ ปฏิคฺคาหกสฺส โหตีติ เนสํ ลทฺธิ. อปโร ¶ นโย – ปฏิจฺจกมฺมนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจกตํ. อถ วา ปฏิจฺจกมฺมนฺติ นิมิตฺตกมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ ปฏิจฺจกมฺมํ เอตฺถ อตฺถีติ มํสมฺปิ ปฏิจฺจกมฺมนฺติ วุตฺตํ. อุปกณฺณเกติ กณฺณมูเล. อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ, กึ อิมินาติ อตฺโถ. น จ ปเนเตติ เอเต อายสฺมนฺโต ทีฆรตฺตํ อวณฺณกามา หุตฺวา อวณฺณํ ภาสนฺตาปิ อพฺภาจิกฺขนฺตา น ชิริทนฺติ, อพฺภกฺขานสฺส อนฺตํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ลชฺชนตฺเถ อิทํ ชิริทนฺตีติ ปทํ ทฏฺพฺพํ, น ลชฺชนฺตีติ อตฺโถ.
๓. อสฺสาชานียสุตฺตวณฺณนา
๑๓. ตติเย องฺเคหีติ คุณงฺเคหิ. ตสฺสํ ทิสายํ ชาโต โหตีติ ตสฺสํ สินฺธุนทีตีรทิสายํ ชาโต โหติ. อฺเปิ ภทฺรา อสฺสาชานียา ตตฺเถว ชายนฺติ. อลฺลํ วา สุกฺขํ วาติ อลฺลติณํ วา สุกฺขติณํ วา. นาฺเ อสฺเส อุพฺเพเชตาติ อฺเ อสฺเส น อุพฺเพเชติ น ปหรติ น ฑํสติ น กลหํ กโรติ. สาเยฺยานีติ สภาโว. กูเฏยฺยานีติ กูฏภาโว. ชิมฺเหยฺยานีติ ชิมฺหภาโว. วงฺเกยฺยานีติ วงฺกภาวา. อิจฺจสฺส จตูหิปิ ปเทหิ อสิกฺขิตภาโวว กถิโต ¶ . วาหีติ วหนสภาโว ทินฺโนวาทปฏิกโร. ยาว ¶ ชีวิตมรณปริยาทานาติ ยาว ชีวิตสฺส มรเณน ปริโยสานา. สกฺกจฺจํ ปริภฺุชตีติ อมตํ ¶ วิย ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชติ. ปุริสถาเมนาติอาทีสุ าณถามาทโย กถิตา. สณฺานนฺติ โอสกฺกนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ.
๔. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตวณฺณนา
๑๔. จตุตฺเถ ‘‘เปหี’’ติ วุตฺโตติ ‘‘คจฺฉา’’ติ วุตฺโต. ปิฏฺิโต รถํ ปวตฺเตตีติ ขนฺธฏฺิเกน ยุคํ อุปฺปีฬิตฺวา ปจฺฉิมภาเคน รถํ ปวฏฺเฏนฺโต โอสกฺกติ. ปจฺฉา ลงฺฆติ, กุพฺพรํ หนตีติ ทฺเว ปจฺฉิมปาเท อุกฺขิปิตฺวา เตหิ ปหริตฺวา รถกุพฺพรํ ภินฺทติ. ติทณฺฑํ ภฺชตีติ รถสฺส ปุรโต ตโย ทณฺฑกา โหนฺติ, เต ภฺชติ. รถีสาย สตฺถึ อุสฺสชฺชิตฺวาติ สีสํ นาเมตฺวา ยุคํ ภูมิยํ ปาเตตฺวา สตฺถินา รถีสํ ปหริตฺวา. อชฺโฌมทฺทตีติ ทฺวีหิ ปุริมปาเทหิ อีสํ มทฺทนฺโต ติฏฺติ. อุพฺพฏุมํ รถํ กโรตีติ ถลํ วา กณฺฑกฏฺานํ วา รถํ อาโรเปติ. อนาทิยิตฺวาติ อมนสิกตฺวา อคณิตฺวา. มุขาธานนฺติ มุขปนตฺถาย ทินฺนํ อยสงฺขลิกํ. ขีลฏฺายีติ จตฺตาโร ปาเท ถมฺเภ วิย นิจฺจลํ เปตฺวา ขีลฏฺานสทิเสน าเนน ติฏฺติ. อิมสฺมึ ¶ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ.
๕. มลสุตฺตวณฺณนา
๑๕. ปฺจเม อสชฺฌายมลาติ อุคฺคหิตมนฺตานํ อสชฺฌายกรณํ มลํ นาม โหติ. อนุฏฺานมลา ฆราติ อุฏฺานวีริยาภาโว ฆรานํ มลํ นาม. วณฺณสฺสาติ สรีรวณฺณสฺส. รกฺขโตติ ยํกิฺจิ อตฺตโน สนฺตกํ รกฺขนฺตสฺส. อวิชฺชา ปรมํ มลนฺติ ตโต เสสากุสลธมฺมมลโต อฏฺสุ าเนสุ อฺาณภูตา วฏฺฏมูลสงฺขาตา พหลนฺธการอวิชฺชา ปรมํ มลํ. ตโต หิ มลตรํ นาม นตฺถิ. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ.
๖. ทูเตยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๖. ฉฏฺเ ทูเตยฺยนฺติ ทูตกมฺมํ. คนฺตุมรหตีติ ตํ ทูเตยฺยสงฺขาตํ สาสนํ ธาเรตฺวา หริตุํ อรหติ. โสตาติ โย ตํ อสฺส สาสนํ เทติ ¶ , ตสฺส โสตา. สาเวตาติ ตํ อุคฺคณฺหิตฺวา ‘‘อิทํ นาม ตุมฺเหหิ วุตฺต’’นฺติ ปฏิสาเวตา. อุคฺคเหตาติ สุคฺคหิตํ กตฺวา อุคฺคเหตา. ธาเรตาติ สุธาริตํ ¶ กตฺวา ธาเรตา. วิฺาติ อตฺถานตฺถสฺส อตฺถํ ชานิตา. วิฺาเปตาติ ปรํ วิชานาเปตา. สหิตา สหิตสฺสาติ อิทํ สหิตํ, อิทํ อสหิตนฺติ เอวํ สหิตาสหิตสฺส กุสโล, อุปคตานุปคเตสุ เฉโก สาสนํ อาโรเจนฺโต สหิตํ สลฺลกฺเขตฺวา อาโรเจติ. น พฺยถตีติ เวธติ น ฉมฺภติ. อสนฺทิทฺธนฺติ ¶ นิสฺสนฺเทหํ วิคตสํสยํ. ปุจฺฉิโตติ ปฺหตฺถาย ปุจฺฉิโต.
๗-๘. พนฺธนสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๑๗-๑๘. สตฺตเม รุณฺเณนาติ รุทิเตน. อากปฺเปนาติ นิวาสนปารุปนาทินา วิธาเนน. วนภงฺเคนาติ วนโต ภฺชิตฺวา อาหเฏน ปุปฺผผลาทิปณฺณากาเรน. อฏฺเมปิ เอเสว นโย.
๙. ปหาราทสุตฺตวณฺณนา
๑๙. นวเม ปหาราโทติ เอวํนามโก. อสุรินฺโทติ อสุรเชฏฺโก. อสุเรสุ หิ เวปจิตฺติ ราหุ ปหาราโทติ อิเม ตโย เชฏฺกา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ทสพลสฺส อภิสมฺพุทฺธทิวสโต ปฏฺาย ‘‘อชฺช คมิสฺสามิ สฺเว คมิสฺสามี’’ติ เอกาทส วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา ทฺวาทสเม วสฺเส สตฺถุ เวรฺชายํ วสนกาเล ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มม ‘อชฺช สฺเว’ติ ทฺวาทส วสฺสานิ ชาตานิ, หนฺทาหํ อิทาเนว คจฺฉามี’’ติ ตงฺขณํเยว อสุรคณปริวุโต อสุรภวนา นิกฺขมิตฺวา ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, เอกมนฺตํ อฏฺาสีติ โส กิร ‘‘ตถาคตํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา เอว ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ อาคโต, ตถาคตสฺส ปน ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย พุทฺธคารเวน ปุจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺโต อปิ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ตโต สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ปหาราโท มยิ อกเถนฺเต ปมตรํ กเถตุํ น สกฺขิสฺสติ, จิณฺณวสิฏฺาเนเยว นํ กถาสมุฏฺาปนตฺถํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ¶ .
อถ ¶ นํ ปุจฺฉนฺโต อปิ ปน ปหาราทาติอาทิมาห. ตตฺถ อภิรมนฺตีติ รตึ วินฺทนฺติ, อนุกฺกณฺมานา วสนฺตีติ อตฺโถ. โส ‘‘ปริจิณฺณฏฺาเนเยว มํ ภควา ปุจฺฉตี’’ติ อตฺตมโน หุตฺวา อภิรมนฺติ, ภนฺเตติ อาห. อนุปุพฺพนินฺโนติอาทีนิ สพฺพานิ อนุปฏิปาฏิยา นินฺนภาวสฺส เววจนานิ. น อายตเกเนว ปปาโตติ น ฉินฺนตฏมหาโสพฺโภ วิย อาทิโตว ปปาโต ¶ . โส หิ ตีรโต ปฏฺาย เอกงฺคุลทฺวงฺคุลวิทตฺถิรตนยฏฺิอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตอฑฺฒโยชนาทิวเสน คมฺภีโร หุตฺวา คจฺฉนฺโต สิเนรุปาทมูเล จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีโร หุตฺวา ิโตติ ทสฺเสติ.
ิตธมฺโมติ ิตสภาโว. กุณเปนาติ เยน เกนจิ หตฺถิอสฺสาทีนํ กเฬวเรน. ถลํ อุสฺสาเรตีติ หตฺเถน คเหตฺวา วิย วีจิปหาเรเนว ถลํ ขิปติ.
คงฺคายมุนาติ อิธ ตฺวา อิมาสํ นทีนํ อุปฺปตฺติกถํ กเถตุํ วฏฺฏติ. อยํ ตาว ชมฺพุทีโป ทสสหสฺสโยชนปริมาโณ, ตตฺถ จตุสหสฺสโยชนปริมาโณ ปเทโส อุทเกน อชฺโฌตฺถโฏ มหาสมุทฺโทติ สงฺขํ คโต, ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ มนุสฺสา วสนฺติ, ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ หิมวา ปติฏฺิโต อุพฺเพเธน ปฺจโยชนสติโก จตุราสีติกูฏสหสฺสปฏิมณฺฑิโต สมนฺตโต สนฺทมานปฺจสตนทีวิจิตฺโต, ยตฺถ อายามวิตฺถาเรน จ คมฺภีรโต จ ปณฺณาสปณฺณาสโยชนา ทิยฑฺฒโยชนสตปริมณฺฑลา อโนตตฺตทโห กณฺณมุณฺฑทโห ¶ รถการทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโห มนฺทากินิทโห สีหปฺปปาตทโหติ สตฺต มหาสรา ปติฏฺหนฺติ.
เตสุ อโนตตฺโต สุทสฺสนกูฏํ จิตฺตกูฏํ กาฬกูฏํ คนฺธมาทนกูฏํ เกลาสกูฏนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ ปพฺพเตหิ ปริกฺขิตฺโต. ตตฺถ สุทสฺสนกูฏํ โสวณฺณมยํ ทฺวิโยชนสตุพฺเพธํ อนฺโตวงฺกํ กากมุขสณฺานํ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ติฏฺติ, จิตฺตกูฏํ สพฺพรตนมยํ, กาฬกูฏํ อฺชนมยํ, คนฺธมาทนกูฏํ สานุมยํ อพฺภนฺตเร มุคฺควณฺณํ, มูลคนฺโธ สารคนฺโธ เผคฺคุคนฺโธ ตจคนฺโธ ปปฏิกาคนฺโธ รสคนฺโธ ปตฺตคนฺโธ ปุปฺผคนฺโธ ผลคนฺโธ ¶ คนฺธคนฺโธติ อิเมหิ ทสหิ คนฺเธหิ อุสฺสนฺนํ, นานปฺปการโอสธสฺฉนฺนํ กาฬปกฺขอุโปสถทิวเส อาทิตฺตมิว องฺคารํ ชลนฺตํ ติฏฺติ, เกลาสกูฏํ รชตมยํ. สพฺพานิ สุทสฺสเนน สมานุพฺเพธสณฺานานิ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตานิ. ตานิ สพฺพานิ เทวานุภาเวน นาคานุภาเวน จ วสฺสนฺติ, นทิโย เจเตสุ สนฺทนฺติ. ตํ สพฺพมฺปิ อุทกํ อโนตตฺตเมว ปวิสติ. จนฺทิมสูริยา ทกฺขิเณน วา อุตฺตเรน วา คจฺฉนฺตา ปพฺพตนฺตเรน ตตฺถ โอภาสํ กโรนฺติ, อุชุํ คจฺฉนฺตา น กโรนฺติ. เตเนวสฺส อโนตตฺโต ติสงฺขา อุทปาทิ.
ตตฺถ มโนหรสิลาตลานิ นิมฺมจฺฉกจฺฉปานิ ผลิกสทิสนิมฺมโลทกานิ นฺหานติตฺถานิ สุปฏิยตฺตานิ ¶ โหนฺติ ¶ , เยสุ พุทฺธา ขีณาสวา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ อิทฺธิมนฺตา จ อิสโย นฺหายนฺติ, เทวยกฺขาทโย อุทกกีฬํ กีฬนฺติ.
ตสฺส จตูสุ ปสฺเสสุ สีหมุขํ, หตฺถิมุขํ, อสฺสมุขํ, อุสภมุขนฺติ จตฺตาริ มุขานิ โหนฺติ, เยหิ จตสฺโส นทิโย สนฺทนฺติ. สีหมุเขน นิกฺขนฺตนทีตีเร สีหา พหุตรา โหนฺติ, หตฺถิมุขาทีหิ หตฺถิอสฺสอุสภา. ปุรตฺถิมทิสโต นิกฺขนฺตนที อโนตตฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อิตรา ติสฺโส นทิโย อนุปคมฺม ปาจีนหิมวนฺเตเนว อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสติ. ปจฺฉิมทิสโต จ อุตฺตรทิสโต จ นิกฺขนฺตนทิโยปิ ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา ปจฺฉิมหิมวนฺเตเนว อุตฺตรหิมวนฺเตเนว จ อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ทกฺขิณมุขโต นิกฺขนฺตนที ปน ตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อุตฺตเรน อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเเนว สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา ปพฺพตํ ปหริตฺวา อุฏฺาย ปริกฺเขเปน ติคาวุตปฺปมาณา อุทกธารา หุตฺวา อากาเสน สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา ติยคฺคเฬ นาม ปาสาเณ ปติตา, ปาสาโณ อุทกธาราเวเคน ภินฺโน. ตตฺถ ปฺาสโยชนปฺปมาณา ติยคฺคฬา นาม มหาโปกฺขรณี ชาตา, โปกฺขรณิยา กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิ โยชนานิ คตา. ตโต ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อุมฺมงฺเคน สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา คิฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา หตฺถตเล ปฺจงฺคุลิสทิสา ปฺจ ธารา หุตฺวา ปวตฺตติ. สา ¶ ติกฺขตฺตุํ อโนตตฺตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตฏฺาเน อาวตฺตคงฺคาติ วุจฺจติ ¶ . อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน กณฺหคงฺคา, อากาเสน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน อากาสคงฺคา, ติยคฺคฬปาสาเณ ปฺาสโยชโนกาเส ิตา ติยคฺคฬโปกฺขรณี, กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน พหลคงฺคาติ, อุมงฺเคน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน อุมงฺคคงฺคาติ วุจฺจติ. วิฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา ปฺจ ธารา หุตฺวา ปวตฺตนฏฺาเน ปน คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหีติ ปฺจ สงฺขํ คตา. เอวเมตา ปฺจ มหานทิโย หิมวนฺตโต ปวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา.
สวนฺติโยติ ยา กาจิ สวมานา คจฺฉนฺตี มหานทิโย วา กุนฺนทิโย วา. อปฺเปนฺตีติ อลฺลียนฺติ โอสรนฺติ. ธาราติ วุฏฺิธารา. ปูรตฺตนฺติ ปุณฺณภาโว. มหาสมุทฺทสฺส หิ อยํ ธมฺมตา – ‘‘อิมสฺมึ กาเล เทโว มนฺโท ชาโต, ชาลกฺขิปาทีนิ อาทาย มจฺฉกจฺฉเป คณฺหิสฺสามา’’ติ วา ‘‘อิมสฺมึ กาเล มหนฺตา วุฏฺิ, ลภิสฺสาม นุ โข ปิฏฺิปสารณฏฺาน’’นฺติ วา ¶ วตฺตุํ น สกฺกา. ปมกปฺปิกกาลโต ปฏฺาย หิ ยํ สิเนรุเมขลํ อาหจฺจ อุทกํ ิตํ, ตโต เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ อุทกํ เนว เหฏฺา โอสีทติ, น อุทฺธํ อุตฺตรติ. เอกรโสติ อสมฺภินฺนรโส.
มุตฺตาติ ขุทฺทกมหนฺตวฏฺฏทีฆาทิเภทา อเนกวิธา ¶ . มณีติ รตฺตนีลาทิเภโท อเนกวิโธ. เวฬุริโยติ วํสวณฺณสิรีสปุปฺผวณฺณาทิเภโท อเนกวิโธ. สงฺโขติ ทกฺขิณาวฏฺฏตมฺพกุจฺฉิกธมนสงฺขาทิเภโท อเนกวิโธ. สิลาติ เสตกาฬมุคฺควณฺณาทิเภโท อเนกวิธา. ปวาฬนฺติ ขุทฺทกมหนฺตรตฺตฆนรตฺตาทิเภทํ อเนกวิธํ. มสารคลฺลนฺติ กพรมณิ. นาคาติ อูมิปิฏฺวาสิโนปิ วิมานฏฺกา นาคาปิ.
อฏฺ ปหาราทาติ สตฺถา อฏฺปิ ธมฺเม วตฺตุํ สกฺโกติ, โสฬสปิ พาตฺตึสปิ จตุสฏฺิปิ สหสฺสมฺปิ, ปหาราเทน ปน อฏฺ กถิตา, อหมฺปิ เตเหว สริกฺขเก กตฺวา กเถสฺสามีติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. อนุปุพฺพสิกฺขาติอาทีสุ อนุปุพฺพสิกฺขาย ติสฺโส สิกฺขา คหิตา, อนุปุพฺพกิริยาย เตรส ธุตงฺคานิ, อนุปุพฺพปฏิปทาย สตฺต อนุปสฺสนา อฏฺารส มหาวิปสฺสนา อฏฺตึส อารมฺมณวิภตฺติโย สตฺตตึส โพธปกฺขิยธมฺมา ¶ . น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธติ มณฺฑูกสฺส อุปฺปติตฺวา คมนํ วิย อาทิโตว สีลปูรณาทึ อกตฺวา อรหตฺตปฺปฏิเวโธ นาม นตฺถิ, ปฏิปาฏิยา ปน สีลสมาธิปฺาโย ปูเรตฺวาว สกฺกา อรหตฺตํ ปตฺตุนฺติ อตฺโถ.
อารกาวาติ ทูเรเยว. น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วาติ อสงฺขฺเยยฺเยปิ กปฺเป พุทฺเธสุ อนุปฺปนฺเนสุ เอกสตฺโตปิ ปรินิพฺพาตุํ น สกฺโกติ, ตทาปิ ‘‘ตุจฺฉา นิพฺพานธาตู’’ติ น ¶ สกฺกา วตฺตุํ. พุทฺธกาเล จ ปน เอเกกสฺมึ สมาคเม อสงฺขฺเยยฺยาปิ สตฺตา อมตํ อาราเธนฺติ, ตทาปิ น สกฺกา วตฺตุํ – ‘‘ปูรา นิพฺพานธาตู’’ติ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตวณฺณนา
๒๐. ทสเม นิสินฺโน โหตีติ อุโปสถกรณตฺถาย อุปาสิกาย รตนปาสาเท นิสินฺโน. นิสชฺช ปน ภิกฺขูนํ จิตฺตานิ โอโลเกนฺโต เอกํ ทุสฺสีลปุคฺคลํ ทิสฺวา ‘‘สจาหํ อิมสฺมึ ปุคฺคเล ¶ นิสินฺเนเยว ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามิ, สตฺตธา ตสฺส มุทฺธา ผลิสฺสตี’’ติ ตสฺส อนุกมฺปาย ตุณฺหีเยว อโหสิ. อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา ปริกฺขีณา. อุทฺธสฺเต อรุเณติ อุคฺคเต อรุณสีเส. นนฺทิมุขิยาติ ตุฏฺมุขิยา. อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสาติ ‘‘อสุกปุคฺคโล อปริสุทฺโธ’’ติ อวตฺวา ‘‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’ติ อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
มหาวคฺโค ทุติโย.
๓. คหปติวคฺโค
๑. ปมอุคฺคสุตฺตวณฺณนา
๒๑. ตติยสฺส ปเม ปฺตฺเต อาสเน นิสีทีติ ตสฺส กิร ฆเร ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ปฺจ อาสนสตานิ นิจฺจํ ปฺตฺตาเนว โหนฺติ, เตสุ อฺตรสฺมึ อาสเน นิสีทิ. ตํ สุณาหีติ เต สุณาหิ, ตํ วา อฏฺวิธํ อจฺฉริยธมฺมํ สุณาหิ. จิตฺตํ ปสีทีติ ‘‘พุทฺโธ นุ โข น พุทฺโธ นุ โข’’ติ วิตกฺกมตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชิ, อยเมว พุทฺโธติ จิตฺตุปฺปาโท ปสนฺโน อนาวิโล อโหสิ. สกานิ วา าติกุลานีติ อตฺตโน ยาปนมตฺตํ ธนํ ¶ คเหตฺวา าติฆรานิ คจฺฉตุ. กสฺส โว ทมฺมีติ กตรปุริสสฺส ตุมฺเห ททามิ, อาโรเจถ เม อตฺตโน อธิปฺปายํ. อปฺปฏิวิภตฺตาติ ¶ ‘‘เอตฺตกํ ทสฺสามิ เอตฺตกํ น ทสฺสามิ, อิทํ ทสฺสามิ อิทํ น ทสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺเตน หิ ปฏิวิภตฺตา นาม โหติ, มยฺหํ ปน น เอวํ. อถ โข สงฺฆิกา วิย คณสนฺตกา วิย จ สีลวนฺเตหิ สทฺธึ สาธารณาเยว. สกฺกจฺจํเยว ปยิรุปาสามีติ สหตฺถา อุปฏฺหามิ, จิตฺตีกาเรน อุปสงฺกมามิ.
อนจฺฉริยํ โข ปน มํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, ยํ มํ เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ อาโรเจนฺติ, อิทํ น อจฺฉริยํ. ยํ ปนาหํ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อุณฺณตึ นาภิชานามิ, ตํ เอว อจฺฉริยนฺติ ¶ วทติ. สาธุ สาธุ, ภิกฺขูติ เอตฺถ กิฺจาปิ ภิกฺขุํ อามนฺเตติ, อุปาสกสฺเสว ปน เวยฺยากรณสมฺปหํสเน เอส สาธุกาโรติ เวทิตพฺโพ.
๒. ทุติยอุคฺคสุตฺตวณฺณนา
๒๒. ทุติเย นาควเนติ ตสฺส กิร เสฏฺิโน นาควนํ นาม อุยฺยานํ, โส ตตฺถ ปุเรภตฺตํ คนฺธมาลาทีนิ คาหาเปตฺวา อุยฺยานกีฬิกํ กีฬิตุกาโม คนฺตฺวา ปริจาริยมาโน ภควนฺตํ อทฺทส. สห ทสฺสเนเนวสฺส ปุริมนเยเนว จิตฺตํ ปสีทิ, สุราปาเนน จ อุปฺปนฺนมนฺโท ตงฺขณํเยว ปหียิ. ตํ สนฺธาเยวมาห. โอโณเชสินฺติ อุทกํ หตฺเถ ปาเตตฺวา อทาสึ. อสุโกติ อมุโก. สมจิตฺโตว เทมีติ ‘‘อิมสฺส โถกํ, อิมสฺส พหุก’’นฺติ เอวํ จิตฺตนานตฺตํ น กโรมิ, เทยฺยธมฺมํ ปน เอกสทิสํ กโรมีติ ทสฺเสติ. อาโรเจนฺตีติ ¶ อากาเส ตฺวา อาโรเจนฺติ. นตฺถิ ตํ สํโยชนนฺติ อิมินา อุปาสโก อตฺตโน อนาคามิผลํ พฺยากโรติ.
๓. ปมหตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย หตฺถโก อาฬวโกติ ภควตา อาฬวกยกฺขสฺส หตฺถโต หตฺเถหิ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา หตฺถโกติ ลทฺธนาโม ราชกุมาโร. สีลวาติ ปฺจสีลทสสีเลน สีลวา. จาควาติ จาคสมฺปนฺโน. กจฺจิตฺถ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, กจฺจิ เอตฺถ ภควโต พฺยากรณฏฺาเน. อปฺปิจฺโฉติ อธิคมปฺปิจฺฉตาย อปฺปิจฺโฉ.
๔. ทุติยหตฺถกสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺเถ ¶ ปฺจมตฺเตหิ อุปาสกสเตหีติ โสตาปนฺนสกทาคามีนํเยว อริยสาวกอุปาสกานํ ปฺจหิ สเตหิ ปริวุโต ภุตฺตปาตราโส คนฺธมาลวิเลเปนจุณฺณานิ คเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. สงฺคหวตฺถูนีติ สงฺคณฺหนการณานิ. เตหาหนฺติ เตหิ อหํ. ตํ ทาเนน สงฺคณฺหามีติ นงฺคลพลิพทฺทภตฺตพีชาทีนิ เจว คนฺธมาลมูลาทีนิ จ ทตฺวา สงฺคณฺหามิ. เปยฺยวชฺเชนาติ อมฺม, ตาต, ภาตร, ภคินีติอาทิเกน กณฺณสุเขน มุทุเกน ปิยวจเนน สงฺคณฺหามิ. อตฺถจริยายาติ ‘‘อิมสฺส ทาเนน วา ปิยวจเนน วา กิจฺจํ นตฺถิ, อตฺถจริยาย สงฺคณฺหิตพฺพยุตฺตโก ¶ อย’’นฺติ ตฺวา อุปฺปนฺนกิจฺจนิตฺถรณสงฺขาตาย อตฺถจริยาย สงฺคณฺหามิ. สมานตฺตตายาติ ‘‘อิมสฺส ทานาทีหิ กิจฺจํ นตฺถิ, สมานตฺตตาย ¶ สงฺคณฺหิตพฺโพ อย’’นฺติ เอกโต ขาทนปิวนนิสชฺชาทีหิ อตฺตนา สมานํ กตฺวา สงฺคณฺหามิ. ทลิทฺทสฺส โข โน ตถา โสตพฺพํ มฺนฺตีติ ทลิทฺทสฺส กิฺจิ ทาตุํ วา กาตุํ วา อสกฺโกนฺตสฺส, ยถา ทลิทฺทสฺส โน ตถา โสตพฺพํ มฺนฺติ, มม ปน โสตพฺพํ มฺนฺติ, ทินฺโนวาเท ติฏฺนฺติ, น เม อนุสาสนึ อติกฺกมิตพฺพํ มฺนฺติ. โยนิ โข ตฺยายนฺติ อุปาโย โข เต อยํ. อิเมสุ ปน ทฺวีสุปิ สุตฺเตสุ สตฺถารา สีลจาคปฺา มิสฺสกา กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๕-๖. มหานามสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๕-๒๖. ปฺจเม อตฺถูปปริกฺขิตา โหตีติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ อุปปริกฺขิตา โหติ. ฉฏฺเ สทฺธาสีลจาคา มิสฺสกา กถิตา.
๗. ปมพลสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม อุชฺฌตฺติพลาติ อุชฺฌานพลา. พาลานฺหิ ‘‘ยํ อสุโก อิทฺจิทฺจ อาห, มํ โส อาห, น อฺ’’นฺติ เอวํ อุชฺฌานเมว พลํ. นิชฺฌตฺติพลาติ ‘‘น อิทํ เอวํ, เอวํ นาเมต’’นฺติ อตฺถานตฺถนิชฺฌาปนํเยว พลํ. ปฏิสงฺขานพลาติ ปจฺจเวกฺขณพลา. ขนฺติพลาติ อธิวาสนพลา.
๘. ทุติยพลสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺเม ¶ พลานีติ าณพลานิ. อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาตีติ อรหตฺตํ ปฏิชานาติ. อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวากาเรน. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวโต. สมฺมปฺปฺายาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย. องฺคารกาสูปมาติ ¶ สนฺตาปนฏฺเน องฺคารกาสุยา อุปมิตา อิเม กามาติ. วิเวกนินฺนนฺติ ผลสมาปตฺติวเสน นิพฺพานนินฺนํ. วิเวกฏฺนฺติ กิเลเสหิ วชฺชิตํ ทูรีภูตํ วา. เนกฺขมฺมาภิรตนฺติ ปพฺพชฺชาภิรตํ. พฺยนฺติภูตนฺติ วิคตนฺตภูตํ เอกเทเสนาปิ อนลฺลีนํ วิสํยุตฺตํ วิสํสฏฺํ. อาสวฏฺานิเยหีติ สมฺปโยควเสน อาสวานํ การณภูเตหิ, กิเลสธมฺเมหีติ ¶ อตฺโถ. อถ วา พฺยนฺติภูตนฺติ วิคตวายนฺติ อตฺโถ. กุโต? สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ, สพฺเพหิ เตภูมกธมฺเมหีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต อริยมคฺโค โลกิยโลกุตฺตโร กถิโต.
๙. อกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม ขเณ กิจฺจานิ กโรตีติ ขณกิจฺโจ, โอกาสํ ลภิตฺวาว กิจฺจานิ กโรตีติ อตฺโถ. ธมฺโมติ จตุสจฺจธมฺโม. โอปสมิโกติ กิเลสูปสมาวโห. ปรินิพฺพายิโกติ กิเลสปรินิพฺพานกโร. จตุมคฺคาณสงฺขาตํ สมฺโพธึ คจฺฉติ สมฺปาปุณาตีติ สมฺโพธคามี. ทีฆายุกํ เทวนิกายนฺติ อิทํ อสฺํ เทวนิกายํ สนฺธาย วุตฺตํ. อวิฺาตาเรสูติ อติวิย อวิฺูสุ.
สุปฺปเวทิเตติ สุกถิเต. อนฺตรายิกาติ อนฺตรายกรา. ขโณ เว มา อุปจฺจคาติ อยํ ลทฺโธ ขโณ มา อติกฺกมิ. อิธ ¶ เจว นํ วิราเธตีติ สเจ โกจิ ปมตฺตจารี อิธ อิมํ ขณํ ลภิตฺวาปิ สทฺธมฺมสฺส นิยามตํ อริยมคฺคํ วิราเธติ น สมฺปาเทติ. อตีตตฺโถติ หาปิตตฺโถ. จิรตฺตํ อนุตปิสฺสตีติ จิรรตฺตํ โสจิสฺสติ. ยถา หิ ‘‘อสุกฏฺาเน ภณฺฑํ สมุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา เอโก วาณิโช น คจฺเฉยฺย, อฺเ คนฺตฺวา คณฺเหยฺยุํ, เตสํ ตํ อฏฺคุณมฺปิ ทสคุณมฺปิ ภเวยฺย. อถ อิตโร ‘‘มม อตฺโถ อติกฺกนฺโต’’ติ อนุตเปยฺย, เอวํ โย อิธ ขณํ ลภิตฺวา อปฺปฏิปชฺชนฺโต สทฺธมฺมสฺส นิยามตํ วิราเธติ, โส อยํ วาณิโชว อตีตตฺโถ ¶ จิรํ อนุตปิสฺสติ โสจิสฺสติ. กิฺจ ภิยฺโย อวิชฺชานิวุโตติ ตถา. ปจฺจวิทุนฺติ ปฏิวิชฺฌึสุ. สํวราติ สีลสํวรา. มารเธยฺยปรานุเคติ มารเธยฺยสงฺขาตํ สํสารํ อนุคเต. ปารงฺคตาติ นิพฺพานํ คตา. เย ปตฺตา อาสวกฺขยนฺติ เย อรหตฺตํ ปตฺตา. เอวมิธ คาถาสุ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๑๐. อนุรุทฺธมหาวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม เจตีสูติ เจตินามกานํ ราชูนํ นิวาสฏฺานตฺตา เอวํลทฺธโวหาเร รฏฺเ. ปาจีนวํสทาเยติ ทสพลสฺส วสนฏฺานโต ปาจีนทิสาย ¶ ิเต วํสทาเย นีโลภาเสหิ เวฬูหิ สฺฉนฺเน ¶ อรฺเ. เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ เถโร กิร ปพฺพชิตฺวา ปมอนฺโตวสฺสมฺหิเยว สมาปตฺติลาภี หุตฺวา สหสฺสโลกธาตุทสฺสนสมตฺถํ ทิพฺพจกฺขุาณํ อุปฺปาเทสิ. โส สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวมาห – ‘‘อิธาหํ, อาวุโส สาริปุตฺต, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สหสฺสโลกํ โอโลเกมิ. อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ. อถ จ ปน เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ น วิมุจฺจตี’’ติ. อถ นํ เถโร อาห – ‘‘ยํ โข เต, อาวุโส อนุรุทฺธ, เอวํ โหติ ‘อหํ ทิพฺเพน จกฺขุนา…เป… โอโลเกมี’ติ, อิทํ เต มานสฺมึ. ยมฺปิ เต, อาวุโส, อนุรุทฺธ เอวํ โหติ ‘อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ…เป… เอกคฺค’นฺติ, อิทํ เต อุทฺธจฺจสฺมึ. ยมฺปิ เต, อาวุโส อนุรุทฺธ, เอวํ โหติ ‘อถ จ ปน เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ น วิมุจฺจตี’ติ, อิทํ เต กุกฺกุจฺจสฺมึ. สาธุ วตายสฺมา อนุรุทฺโธ อิเม ตโย ธมฺเม ปหาย อิเม ตโย ธมฺเม อมนสิกริตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรตู’’ติ เอวมสฺส เถโร กมฺมฏฺานํ กเถสิ. โส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สตฺถารํ อาปุจฺฉิตฺวา เจติรฏฺํ คนฺตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโต อฏฺมาสํ จงฺกเมน วีตินาเมสิ. โส ปธานเวคนิมฺมถิตตฺตา กิลนฺตกาโย เอกสฺส เวฬุคุมฺพสฺส เหฏฺา นิสีทิ. อถสฺสายํ เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, เอส มหาปุริสวิตกฺโก อุปฺปชฺชีติ อตฺโถ.
อปฺปิจฺฉสฺสาติ ¶ เอตฺถ ปจฺจยปฺปิจฺโฉ, อธิคมปฺปิจฺโฉ, ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉ, ธุตงฺคปฺปิจฺโฉติ จตฺตาโร อปฺปิจฺฉา. ตตฺถ ¶ ปจฺจยปฺปิจฺโฉ พหุํ เทนฺเต อปฺปํ คณฺหาติ, อปฺปํ เทนฺเต อปฺปตรํ คณฺหาติ, น อนวเสสคฺคาหี โหติ. อธิคมปฺปิจฺโฉ มชฺฌนฺติกตฺเถโร วิย อตฺตโน อธิคมํ อฺเสํ ชานิตุํ น เทติ. ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉ เตปิฏโกปิ สมาโน น พหุสฺสุตภาวํ ชานาเปตุกาโม โหติ สาเกตติสฺสตฺเถโร วิย. ธุตงฺคปฺปิจฺโฉ ธุตงฺคปริหรณภาวํ อฺเสํ ชานิตุํ น เทติ ทฺเวภาติกตฺเถเรสุ เชฏฺตฺเถโร วิย. วตฺถุ วิสุทฺธิมคฺเค กถิตํ. อยํ ธมฺโมติ เอวํ สนฺตคุณนิคุหเนน จ ปฏิคฺคหเณ มตฺตฺุตาย จ อปฺปิจฺฉสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ นวโลกุตฺตรธมฺโม สมฺปชฺชติ, โน มหิจฺฉสฺส. เอวํ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ.
สนฺตุฏฺสฺสาติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ตีหิ สนฺโตเสหิ สนฺตุฏฺสฺส. ปวิวิตฺตสฺสาติ กายจิตฺตอุปธิวิเวเกหิ วิวิตฺตสฺส. ตตฺถ กายวิเวโก นาม คณสงฺคณิกํ วิโนเทตฺวา อารมฺภวตฺถุวเสน เอกีภาโว. เอกีภาวมตฺเตเนว กมฺมํ น นิปฺผชฺชตีติ กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ¶ นิพฺพตฺเตติ, อยํ จิตฺตวิเวโก นาม. สมาปตฺติมตฺเตเนว กมฺมํ น นิปฺผชฺชตีติ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ สพฺพาการโต อุปธิวิเวโก นาม. เตนาห ภควา – ‘‘กายวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ, จิตฺตวิเวโก จ ปริสุทฺธจิตฺตานํ ปรมโวทานปฺปตฺตานํ, อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตาน’’นฺติ (มหานิ. ๗, ๔๙).
สงฺคณิการามสฺสาติ ¶ คณสงฺคณิกาย เจว กิเลสสงฺคณิกาย จ รตสฺส. อารทฺธวีริยสฺสาติ กายิกเจตสิกวีริยวเสน อารทฺธวีริยสฺส. อุปฏฺิตสฺสติสฺสาติ จตุสติปฏฺานวเสน อุปฏฺิตสฺสติสฺส. สมาหิตสฺสาติ เอกคฺคจิตฺตสฺส. ปฺวโตติ กมฺมสฺสกตปฺาย ปฺวโต.
สาธุ สาธูติ เถรสฺส วิตกฺกํ สมฺปหํเสนฺโต เอวมาห. อิมํ อฏฺมนฺติ สตฺต นิธี ลทฺธปุริสสฺส อฏฺมํ เทนฺโต วิย, สตฺต มณิรตนานิ, สตฺต หตฺถิรตนานิ, สตฺต อสฺสรตนานิ ลทฺธปุริสสฺส อฏฺมํ เทนฺโต วิย สตฺต มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกตฺวา ิตสฺส อฏฺมํ อาจิกฺขนฺโต เอวมาห. นิปฺปปฺจารามสฺสาติ ¶ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจรหิตตฺตา นิปฺปปฺจสงฺขาเต นิพฺพานปเท อภิรตสฺส. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. ปปฺจารามสฺสาติ ยถาวุตฺเตสุ ปปฺเจสุ อภิรตสฺส. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ.
ยโตติ ยทา. ตโตติ ตทา. นานารตฺตานนฺติ นิลปีตโลหิโตทาตวณฺเณหิ นานารชเนหิ รตฺตานํ. ปํสุกูลนฺติ เตวีสติยา เขตฺเตสุ ิตปํสุกูลจีวรํ. ขายิสฺสตีติ ยถา ตสฺส ปุพฺพณฺหสมยาทีสุ ยสฺมึ สมเย ยํ อิจฺฉติ, ตสฺมึ สมเย ตํ ปารุปนฺตสฺส โส ทุสฺสกรณฺฑโก มนาโป หุตฺวา ขายติ, เอวํ ตุยฺหมฺปิ จีวรสนฺโตสมหาอริยวํเสน ตุฏฺสฺส วิหรโต ปํสุกูลจีวรํ ขายิสฺสติ อุปฏฺหิสฺสติ. รติยาติ รติอตฺถาย. อปริตสฺสายาติ ตณฺหาทิฏฺิปริตสฺสนาหิ อปริตสฺสนตฺถาย. ผาสุวิหารายาติ ¶ สุขวิหารตฺถาย. โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺสาติ อมตํ นิพฺพานํ โอตรณตฺถาย.
ปิณฺฑิยาโลปโภชนนฺติ คามนิคมราชธานีสุ ชงฺฆาพลํ นิสฺสาย ฆรปฏิปาฏิยา จรนฺเตน ลทฺธปิณฺฑิยาโลปโภชนํ. ขายิสฺสตีติ ตสฺส คหปติโน นานคฺครสโภชนํ วิย อุปฏฺหิสฺสติ ¶ . สนฺตุฏฺสฺส วิหรโตติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต. รุกฺขมูลเสนาสนํ ขายิสฺสตีติ ตสฺส คหปติโน เตภูมกปาสาเท คนฺธกุสุมวาสสุคนฺธํ กูฏาคารํ วิย รุกฺขมูลํ อุปฏฺหิสฺสติ. สนฺตุฏฺสฺสาติ เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺสฺส. ติณสนฺถารโกติ ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ภูมิยํ วา ผลกปาสาณตลานิ วา อฺตรสฺมึ สนฺถตสนฺถโต. ปูติมุตฺตนฺติ ยํกิฺจิ มุตฺตํ. ตงฺขเณ คหิตมฺปิ ปูติมุตฺตเมว วุจฺจติ ทุคฺคนฺธตฺตา. สนฺตุฏฺสฺส วิหรโตติ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารสนฺโตเสน สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต.
อิติ ภควา จตูสุ าเนสุ อรหตฺตํ ปกฺขิปนฺโต กมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ‘‘กตรเสนาสเน นุ โข วสนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ สปฺปายํ ภวิสฺสตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘ตสฺมิฺเว วสนฺตสฺสา’’ติ ตฺวา เตน หิ ตฺวํ, อนุรุทฺธาติอาทิมาห. ปวิวิตฺตสฺส วิหรโตติ ตีหิ วิเวเกหิ วิวิตฺตสฺส วิหรนฺตสฺส. อุยฺโยชนิกปฏิสํยุตฺตนฺติ ¶ อุยฺโยชนิเกเหว วจเนหิ ปฏิสํยุตฺตํ, เตสํ อุปฏฺานคมนกํเยวาติ อตฺโถ. ปปฺจนิโรเธติ นิพฺพานปเท ¶ . ปกฺขนฺทตีติ อารมฺมณกรณวเสน ปกฺขนฺทติ. ปสีทตีติอาทีสุปิ อารมฺมณวเสเนว ปสีทนสนฺติฏฺนมุจฺจนา เวทิตพฺพา. อิติ ภควา เจติรฏฺเ ปาจีนวํสทาเย อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส กถิเต อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก ปุน เภสกฬาวนมหาวิหาเร นิสีทิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิตฺถาเรน กเถสิ.
มโนมเยนาติ มเนน นิพฺพตฺติตกาโยปิ มโนมโยติ วุจฺจติ มเนน คตกาโยปิ, อิธ มเนน คตกายํ สนฺธาเยวมาห. ยถา เม อหุ สงฺกปฺโปติ ยถา มยฺหํ วิตกฺโก อโหสิ, ตโต อุตฺตริ อฏฺมํ มหาปุริสวิตกฺกํ ทสฺเสนฺโต ตโต อุตฺตรึ เทสยิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
คหปติวคฺโค ตติโย.
๔. ทานวคฺโค
๑. ปมทานสุตฺตวณฺณนา
๓๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม อาสชฺช ทานํ เทตีติ ปตฺวา ทานํ เทติ. อาคตํ ทิสฺวา ตํ มุหุตฺตํเยว นิสีทาเปตฺวา สกฺการํ กตฺวา ทานํ เทติ, ทสฺสามีติ น กิลเมติ. ภยาติ ‘‘อยํ อทายโก อการโก’’ติ ครหภยา, อปายภยา วา. อทาสิ ¶ เมติ มยฺหํ ปุพฺเพ เอส อิทํ นาม อทาสีติ เทติ. ทสฺสติ เมติ อนาคเต อิทํ นาม ทสฺสตีติ เทติ. สาหุ ทานนฺติ ทานํ นาม สาธุ สุนฺทรํ พุทฺธาทีหิ ปณฺฑิเตหิ ปสตฺถนฺติ เทติ. จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทตีติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตสฺส อลงฺการตฺถฺเจว ปริกฺขารตฺถฺจ เทติ. ทานฺหิ จิตฺตํ มุทุํ กโรติ. เยน ลทฺโธ, โส ‘‘ลทฺธํ เม’’ติ มุทุจิตฺโต โหติ. เยน ทินฺนํ, โสปิ ‘‘ทินฺนํ มยา’’ติ มุทุจิตฺโต โหติ. อิติ อุภินฺนํ จิตฺตํ มุทุํ กโรติ. เตเนว ‘‘อทนฺตทมน’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘อทนฺตทมนํ ¶ ทานํ, อทานํ ทนฺตทูสกํ;
ทาเนน ปิยวาจาย, อุนฺนมนฺติ นมนฺติ จา’’ติ.
อิเมสุ ปน อฏฺสุ ทาเนสุ จิตฺตาลงฺการทานเมว อุตฺตมนฺติ.
๒. ทุติยทานสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ทุติเย สทฺธาติ ยาย สทฺธาย ทานํ เทติ, สา สทฺธา. หิริยนฺติ ยาย หิริยา ทานํ เทติ, สาว อธิปฺเปตา. กุสลฺจ ทานนฺติ อนวชฺชฺจ ทานํ. ทิวิยนฺติ ทิวงฺคมํ.
๓. ทานวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๓๓. ตติเย ทานวตฺถูนีติ ทานการณานิ. ฉนฺทา ทานํ เทตีติ เปเมน ทานํ เทติ. โทสาติ ¶ โทเสน กุทฺโธ หุตฺวา ยํ อตฺถิ, ตํ เวเคน คณฺหิตฺวา เทติ. โมหาติ โมเหน มูฬฺโห เทติ. ภยาติ ครหภเยน วา อปายภเยน วา, ตสฺส ตสฺเสว วา ปน ภเยน เทติ. กุลวํสนฺติ กุลปเวณึ.
๔. เขตฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๔. จตุตฺเถ ¶ น มหปฺผลํ โหตีติ ธฺผเลน มหปฺผลํ น โหติ. น มหสฺสาทนฺติ ยมฺปิสฺส ผลํ โหติ, ตสฺส อสฺสาโท น มหา โหติ มนฺทสฺสาทํ น มธุรํ. น ผาติเสยฺยนฺติ เสยฺยาปิสฺส น โหติ วุฑฺฒิ, ตสฺส มหนฺตํ วีหิถมฺภสนฺนิเวสํ น โหตีติ อตฺโถ. อุนฺนามนินฺนามีติ ถลนินฺนวเสน วิสมตลํ. ตตฺถ ถเล อุทกํ น สณฺาติ, นินฺเน อติพหุ ติฏฺติ. ปาสาณสกฺขริกนฺติ ปตฺถริตฺวา ิตปิฏฺิปาสาเณหิ จ ขุทฺทกปาสาเณหิ จ สกฺขราหิ จ สมนฺนาคตํ. อูสรนฺติ อุพฺภินฺนโลณํ. น จ คมฺภีรสิตนฺติ ถทฺธภูมิตาย คมฺภีรานุคตํ, นงฺคลมคฺคํ กตฺวา กสิตุํ น สกฺกา โหติ, อุตฺตานนงฺคลมคฺคเมว โหติ. น อายสมฺปนฺนนฺติ น อุทกาคมนสมฺปนฺนํ. น อปายสมฺปนฺนนฺติ ปจฺฉาภาเค อุทกนิคฺคมนมคฺคสมฺปนฺนํ น โหติ. น มาติกาสมฺปนฺนนฺติ น ขุทฺทกมหนฺตีหิ อุทกมาติกาหิ สมฺปนฺนํ โหติ ¶ . น มริยาทสมฺปนฺนนฺติ น เกทารมริยาทาหิ สมฺปนฺนํ. น มหปฺผลนฺติอาทีนิ สพฺพานิ วิปากผลวเสเนว เวทิตพฺพานิ.
สมฺปนฺเนติ ปริปุณฺเณ สมฺปตฺติยุตฺเต. ปวุตฺตา พีชสมฺปทาติ สมฺปนฺนํ พีชํ โรปิตํ. เทเว ¶ สมฺปาทยนฺตมฺหีติ เทเว สมฺมา วสฺสนฺเต. อนีติสมฺปทา โหตีติ กีฏกิมิอาทิปาณกอีติยา อภาโว เอกา สมฺปทา โหติ. วิรูฬฺหีติ วฑฺฒิ ทุติยา สมฺปทา โหติ. เวปุลฺลนฺติ วิปุลภาโว ตติยา สมฺปทา โหติ. ผลนฺติ ปริปุณฺณผลํ จตุตฺถี สมฺปทา โหติ. สมฺปนฺนสีเลสูติ ปริปุณฺณสีเลสุ. โภชนสมฺปทาติ สมฺปนฺนํ วิวิธโภชนํ. สมฺปทานนฺติ ติวิธํ กุสลสมฺปทํ. อุปเนตีติ สา โภชนสมฺปทา อุปนยติ. กสฺมา? สมฺปนฺนฺหิสฺส ตํ กตํ, ยสฺมาสฺส ตํ กตกมฺมํ สมฺปนฺนํ ปริปุณฺณนฺติ อตฺโถ. สมฺปนฺนตฺถูธาติ สมฺปนฺโน อตฺถุ อิธ. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ ตีหิ วิชฺชาหิ จ ปฺจทสหิ จรณธมฺเมหิ จ สมนฺนาคโต. ลทฺธาติ เอวรูโป ปุคฺคโล จิตฺตสฺส สมฺปทํ อเวกลฺลปริปุณฺณภาวํ ลภิตฺวา. กโรติ กมฺมสมฺปทนฺติ ปริปุณฺณกมฺมํ กโรติ. ลภติ จตฺถสมฺปทนฺติ อตฺถฺจ ปริปุณฺณํ ลภติ. ทิฏฺิสมฺปทนฺติ วิปสฺสนาทิฏฺึ. มคฺคสมฺปทนฺติ โสตาปตฺติมคฺคํ. ยาติ สมฺปนฺนมานโสติ ปริปุณฺณจิตฺโต หุตฺวา อรหตฺตํ ¶ ยาติ. สา โหติ สพฺพสมฺปทาติ สา สพฺพทุกฺเขหิ วิมุตฺติ สพฺพสมฺปทา นาม โหตีติ.
๕. ทานูปปตฺติสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ปฺจเม ¶ ทานูปปตฺติโยติ ทานปจฺจยา อุปปตฺติโย. ทหตีติ เปติ. อธิฏฺาตีติ ตสฺเสว เววจนํ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. หีเน วิมุตฺตนฺติ หีเนสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ วิมุตฺตํ. อุตฺตริ อภาวิตนฺติ ตโต อุตฺตริมคฺคผลตฺถาย อภาวิตํ. ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตตีติ ยํ านํ ปตฺเถตฺวา กุสลํ กตํ, ตตฺถ นิพฺพตฺตนตฺถาย สํวตฺตติ. วีตราคสฺสาติ มคฺเคน วา สมุจฺฉินฺนราคสฺส สมาปตฺติยา วา วิกฺขมฺภิตราคสฺส. ทานมตฺเตเนว หิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตุํ น สกฺกา, ทานํ ปน สมาธิวิปสฺสนาจิตฺตสฺส อลงฺการปริวารํ โหติ. ตโต ทาเนน มุทุจิตฺโต พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วีตราคสฺส โน สราคสฺสา’’ติ.
๖. ปฺุกิริยวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ฉฏฺเ ¶ ปฺุกิริยานิ จ ตานิ เตสํ เตสํ อานิสํสานํ วตฺถูนิ จาติ ปฺุกิริยวตฺถูนิ. ทานาทีนฺหิ ลกฺขเณ จิตฺตํ เปตฺวา ‘‘เอวรูปํ นาม อมฺเหหิ ทานํ ทาตพฺพํ, สีลํ รกฺขิตพฺพํ, ภาวนา ภาเวตพฺพา’’ติ สตฺตา ปฺุานิ กโรนฺติ. ทานเมว ทานมยํ, ทานเจตนาสุ วา ปุริมเจตนาโต นิปฺผนฺนา สนฺนิฏฺาปกเจตนา ทานมยํ สีลาทีหิ สีลมยาทีนิ วิย. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. ปริตฺตํ กตํ โหตีติ โถกํ มนฺทํ กตํ โหติ. นาภิสมฺโภตีติ น นิปฺผชฺชติ. อกตํ โหตีติ ภาวนายโยโคเยว อนารทฺโธ โหตีติ อตฺโถ. มนุสฺสโทภคฺยนฺติ ¶ มนุสฺเสสุ สมฺปตฺติรหิตํ ปฺจวิธํ นีจกุลํ. อุปปชฺชตีติ ปฏิสนฺธิวเสน อุปคจฺฉติ, ตตฺถ นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. มตฺตโส กตนฺติ ปมาเณน กตํ, โถกํ น พหุ. มนุสฺสโสภคฺยนฺติ มนุสฺเสสุ สุภคภาวํ ติวิธกุลสมฺปตฺตึ. อธิมตฺตนฺติ อธิกปฺปมาณํ พลวํ วา. อธิคณฺหนฺตีติ อภิภวิตฺวา คณฺหนฺติ, วิสิฏฺตรา เชฏฺกา โหนฺตีติ อตฺโถ.
๗. สปฺปุริสทานสุตฺตวณฺณนา
๓๗. สตฺตเม ¶ สุจินฺติ ปริสุทฺธํ วณฺณสมฺปนฺนํ เทติ. ปณีตนฺติ รสูปปนฺนํ. กาเลนาติ ยุตฺตปตฺตกาเลน. กปฺปิยนฺติ ยํ กปฺปิยํ, ตํ เทติ. วิเจยฺย เทตีติ ‘‘อิมสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ ภวิสฺสติ, อิมสฺส น มหปฺผล’’นฺติ เอวํ ปฏิคฺคาหกปริเยสนวเสน ทานํ วา ปณิธายวเสน ทานํ วา วิจินิตฺวา เทติ.
๘. สปฺปุริสสุตฺตวณฺณนา
๓๘. อฏฺเม อตฺถายาติ อตฺถตฺถาย. หิตาย สุขายาติ หิตตฺถาย สุขตฺถาย. ปุพฺพเปตานนฺติ ปรโลกคตานํ าตีนํ. อิมสฺมึ สุตฺเต อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ จกฺกวตฺติราชาโน โพธิสตฺตา ปจฺเจกพุทฺธา ลพฺภนฺติ, พุทฺธกาเล พุทฺธา เจว พุทฺธสาวกา จ. ยถาวุตฺตานฺหิ เอเตสํ อตฺถาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. พหุนฺนํ ¶ วต อตฺถาย, สปฺปฺโ ฆรมาวสนฺติ สปฺปฺโ ฆเร วสนฺโต พหูนํ วต อตฺถาย โหติ. ปุพฺเพติ ปเมว. ปุพฺเพกตมนุสฺสรนฺติ ¶ มาตาปิตูนํ ปุพฺพการคุเณ อนุสฺสรนฺโต. สหธมฺเมนาติ สการเณน ปจฺจยปูชเนน ปูเชติ. อปเจ พฺรหฺมจารโยติ พฺรหฺมจาริโน อปจยติ, นีจวุตฺติตํ เนสํ อาปชฺชติ. เปสโลติ ปิยสีโล.
๙. อภิสนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๙. นวเม ทานานีติ เจตนาทานานิ. อคฺคฺานีติอาทีนํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตเยว.
๑๐. ทุจฺจริตวิปากสุตฺตวณฺณนา
๔๐. ทสเม ปาณาติปาโตติ ปาณาติปาตเจตนา. สพฺพลหุโสติ สพฺพลหุโก. อปฺปายุกสํวตฺตนิโกติ เตน ปริตฺตเกน กมฺมวิปาเกน อปฺปายุโก โหติ, ทินฺนมตฺตาย วา ปฏิสนฺธิยา วิลียติ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตมตฺเต วา. เอวรูโป หิ น อฺสฺส กสฺสจิ นิสฺสนฺโท, ปาณาติปาตสฺเสว คตมคฺโค เอโสติ. โภคพฺยสนสํวตฺตนิโกติ ยถา กากณิกามตฺตมฺปิ ¶ หตฺเถ น ติฏฺติ, เอวํ โภคพฺยสนํ สํวตฺเตติ. สปตฺตเวรสํวตฺตนิโก โหตีติ สห สปตฺเตหิ เวรํ สํวตฺเตติ. ตสฺส หิ สปตฺตา จ พหุกา โหนฺติ. โย จ นํ ปสฺสติ, ตสฺมึ เวรเมว อุปฺปาเทติ น นิพฺพายติ. เอวรูโป หิ ปรสฺส รกฺขิตโคปิตภณฺเฑ อปราธสฺส นิสฺสนฺโท.
อภูตพฺภกฺขานสํวตฺตนิโก โหตีติ อภูเตน อพฺภกฺขานํ สํวตฺเตติ, เยน เกนจิ กตํ ตสฺเสว อุปริ ปตติ. มิตฺเตหิ ¶ เภทนสํวตฺตนิโกติ มิตฺเตหิ เภทํ สํวตฺเตติ. ยํ ยํ มิตฺตํ กโรติ, โส โส ภิชฺชติเยว. อมนาปสทฺทสํวตฺตนิโกติ อมนาปสทฺทํ สํวตฺเตติ. ยา สา วาจา กณฺฏกา กกฺกสา กฏุกา อภิสชฺชนี มมฺมจฺเฉทิกา, คตคตฏฺาเน ตเมว สุณาติ, มนาปสทฺทสวนํ นาม น ลภติ. เอวรูโป ผรุสวาจาย คตมคฺโค นาม. อนาเทยฺยวาจาสํวตฺตนิโกติ อคฺคเหตพฺพวจนตํ สํวตฺเตติ, ‘‘ตฺวํ กสฺมา กเถสิ, โก หิ ตว วจนํ คเหสฺสตี’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อยํ สมฺผปฺปลาปสฺส คตมคฺโค. อุมฺมตฺตกสํวตฺตนิโก โหตีติ อุมฺมตฺตกภาวํ ¶ สํวตฺเตติ. เตน หิ มนุสฺโส อุมฺมตฺโต วา ขิตฺตจิตฺโต วา เอฬมูโค วา โหติ. อยํ สุราปานสฺส นิสฺสนฺโท. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตนฺติ.
ทานวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อุโปสถวคฺโค
๔. วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา
๔๔. ปฺจมสฺส จตุตฺเถ อิเม เจปิ, วาเสฏฺ, มหาสาลาติ ปุรโต ิเต ทฺเว สาลรุกฺเข ทสฺเสนฺโต ปริกปฺโปปมํ อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม ตาว มหาสาลา อเจตนา. สเจ เอเตปิ สเจตนา หุตฺวา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, เอเตสมฺปิ โส อุโปสถวาโส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺส. ภูเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ.
๖. อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา
๔๖. ฉฏฺเ ¶ เยนายสฺมา อนุรุทฺโธติ ตา กิร เทวตา อตฺตโน สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ นุ โข นิสฺสาย อยํ สมฺปตฺติ อมฺเหหิ ลทฺธา’’ติ อาวชฺชมานา เถรํ ทิสฺวา ‘‘มยํ ¶ อมฺหากํ อยฺยสฺส ปุพฺเพ จกฺกวตฺติรชฺชํ กโรนฺตสฺส ปาทปริจาริกา หุตฺวา เตน ทินฺโนวาเท ตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ลภิมฺห, คจฺฉาม เถรํ อาเนตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามา’’ติ ทิวา เยนายสฺมา อนุรุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ. ตีสุ าเนสูติ ตีสุ การเณสุ. านโส ปฏิลภามาติ ขเณเนว ลภาม. สรนฺติ วจนสทฺทํ วา คีตสทฺทํ วา อาภรณสทฺทํ วา. ปีตา อสฺสูติอาทีนิ นีลา ตาว ชาตา, ปีตา ภวิตุํ น สกฺขิสฺสนฺตีติอาทินา นเยน จินฺเตตฺวา วิตกฺเกติ. ตาปิ ‘‘อิทานิ อยฺโย อมฺหากํ ปีตภาวํ อิจฺฉติ, อิทานิ โลหิตภาว’’นฺติ ตาทิสาว อเหสุํ.
อจฺฉรํ วาเทสีติ ปาณิตลํ วาเทสิ. ปฺจงฺคิกสฺสาติ อาตตํ, วิตตํ, อาตตวิตตํ, ฆนํ, สุสิรนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส. ตตฺถ อาตตํ นาม จมฺมปริโยนทฺเธสุ เภริอาทีสุ เอกตลตูริยํ, วิตตํ นาม อุภยตลํ, อาตตวิตตํ นาม สพฺพโส ¶ ปริโยนทฺธํ, สุสิรํ วํสาทิ, ฆนํ สมฺมาทิ. สุวินีตสฺสาติ อากฑฺฒนสิถิลกรณาทีหิ สมุจฺฉิตสฺส. สุปฺปฏิปตาฬิตสฺสาติ ปมาเณ ิตภาวชานนตฺถํ สุฏฺุ ปฏิปตาฬิตสฺส. กุสเลหิ สุสมนฺนาหตสฺสาติ เย วาเทตุํ กุสลา เฉกา, เตหิ วาทิตสฺส. วคฺคูติ เฉโก สุนฺทโร. รชนีโยติ รฺเชตุํ สมตฺโถ. กมนีโยติ กาเมตพฺพยุตฺโต. ขมนีโยติ ¶ วา ปาโ, ทิวสมฺปิ สุยฺยมาโน ขมเตว, น นิพฺพินฺทตีติ อตฺโถ. มทนีโยติ มานมทปุริสมทชนโน. อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปีติ ‘‘อสารุปฺปํ อิมา เทวตา กโรนฺตี’’ติ อินฺทฺริยานิ เหฏฺา ขิปิ, น อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกสิ. น ขฺวยฺโย อนุรุทฺโธ สาทิยตีติ ‘‘มยํ นจฺจาม คายาม, อยฺโย ปน อนุรุทฺโธ น โข สาทิยติ, อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา น โอโลเกติ, กึ มยํ นจฺจิตฺวา วา คายิตฺวา วา กริสฺสามา’’ติ ตตฺเถว อนฺตรธายึสุ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ตาสํ เทวตานํ อานุภาวํ ทิสฺวา ‘‘กติหิ นุ โข ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม มนาปกายิเก เทวโลเก นิพฺพตฺตตี’’ติ อิมมตฺถํ ปุจฺฉิตุํ อุปสงฺกมิ.
๙-๑๐. อิธโลกิกสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๔๙-๕๐. นวเม ¶ อยํ’ส โลโก อารทฺโธ โหตีติ อยมสฺส โลโก อิธโลเก กรณมตฺตาย อารทฺธตฺตา ปริปุณฺณตฺตา อารทฺโธ โหติ ปริปุณฺโณ. โสฬสาการสมฺปนฺนาติ สุตฺเต วุตฺเตหิ อฏฺหิ, คาถาสุ อฏฺหีติ โสฬสหิ อากาเรหิ สมนฺนาคตา, ยานิ วา อฏฺงฺคานิ ปรมฺปิ เตสุ สมาทเปตีติ เอวมฺปิ โสฬสาการสมฺปนฺนาติ เอเก. สทฺธาสีลปฺา ปเนตฺถ มิสฺสิกา กถิตา. ทสมํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส กถิตํ. สพฺพสุตฺเตสุ ปน ยํ น วุตฺตํ, ตํ เหฏฺา อาคตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อุโปสถวคฺโค ปฺจโม.
ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
(๖) ๑. โคตมีวคฺโค
๑. โคตมีสุตฺตวณฺณนา
๕๑. ฉฏฺสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม สกฺเกสุ วิหรตีติ ปมคมเนน คนฺตฺวา วิหรติ. มหาปชาปตีติ ปุตฺตปชาย เจว ธีตุปชาย จ มหนฺตตฺตา เอวํลทฺธนามา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ภควา กปิลปุรํ คนฺตฺวา ปมเมว นนฺทํ ปพฺพาเชสิ, สตฺตเม ทิวเส ราหุลกุมารํ. จุมฺพฏกกลเห (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓๑; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๓๗) ปน อุภยนครวาสิเกสุ ยุทฺธตฺถาย นิกฺขนฺเตสุ สตฺถา คนฺตฺวา เต ราชาโน สฺาเปตฺวา อตฺตทณฺฑสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๔๑ อาทโย; มหานิ. ๑๗๐ อาทโย) กเถสิ. ราชาโน ปสีทิตฺวา อฑฺฒติยสเต อฑฺฒติยสเต กุมาเร อทํสุ, ตานิ ปฺจ กุมารสตานิ สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชึสุ, อถ เนสํ ปชาปติโย สาสนํ เปเสตฺวา อนภิรตึ อุปฺปาทยึสุ. สตฺถา เตสํ อนภิรติยา อุปฺปนฺนภาวํ ตฺวา เต ปฺจสเต ทหรภิกฺขู กุณาลทหํ เนตฺวา อตฺตโน กุณาลกาเล นิสินฺนปุพฺเพ ปาสาณตเล นิสีทิตฺวา กุณาลชาตกกถาย (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) เตสํ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา สพฺเพปิ เต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปสิ, ปุน มหาวนํ อาเนตฺวา อรหตฺตผเลติ. เตสํ จิตฺตชานนตฺถํ ปุนปิ ปชาปติโย สาสนํ ปหิณึสุ. เต ‘‘อภพฺพา มยํ ฆราวาสสฺสา’’ติ ปฏิสาสนํ ปหิณึสุ. ตา ‘‘น ทานิ อมฺหากํ ฆรํ คนฺตุํ ยุตฺตํ, มหาปชาปติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิสฺสามา’’ติ ปฺจสตาปิ มหาปชาปตึ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อยฺเย, อมฺหากํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปถา’’ติ อาหํสุ. มหาปชาปตี ตา อิตฺถิโย คเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา รฺโ ปรินิพฺพุตกาเล อุปสงฺกมีติปิ วทนฺติเยว.
อลํ โคตมิ, มา เต รุจฺจีติ กสฺมา ปฏิกฺขิปิ, นนุ สพฺเพสมฺปิ พุทฺธานํ จตสฺโส ปริสา ¶ โหนฺตีติ? กามํ โหนฺติ, กิลเมตฺวา ปน อเนกวารํ ยาจิเต อนฺุาตํ ปพฺพชฺชํ ¶ ‘‘ทุกฺเขน ลทฺธา’’ติ สมฺมา ปริปาเลสฺสนฺตีติ ครุํ กตฺวา อนฺุาตุกาโม ปฏิกฺขิปิ. ปกฺกามีติ ปุน กปิลปุรเมว ปาวิสิ. ยถาภิรนฺตํ ¶ วิหริตฺวาติ โพธเนยฺยสตฺตานํ อุปนิสฺสยํ โอโลเกนฺโต ยถาชฺฌาสยเน วิหริตฺวา. จาริกํ ปกฺกามีติ มหาชนสงฺคหํ กโรนฺโต อุตฺตมาย พุทฺธสิริยา อโนปเมน พุทฺธวิลาเสน อตุริตจาริกํ ปกฺกามิ.
สมฺพหุลาหิ สากิยานีหิ สทฺธินฺติ อนฺโตนิเวสนมฺหิเยว ทสพลํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชฺชาเวสํ คเหตฺวา ปฺจสตา สากิยานิโย ปพฺพชฺชาเวสํเยว คาหาเปตฺวา สพฺพาหิปิ ตาหิ สมฺพหุลาหิ สากิยานีหิ สทฺธึ. จาริกํ ปกฺกามีติ คมนํ อภินีหริ. คมนาภินีหรณกาเล ปน ตา สุขุมาลา ราชิตฺถิโย ปทสา คนฺตุํ น สกฺขิสฺสนฺตีติ สากิยโกลิยราชาโน โสวณฺณสิวิกาโย อุปฏฺาปยึสุ. ตา ปน ‘‘ยาเน อารุยฺห คจฺฉนฺตีติ สตฺถริ อคารโว กโต โหตี’’ติ เอกปณฺณาสโยชนิกํ ปทสาว ปฏิปชฺชึสุ. ราชาโนปิ ปุรโต จ ปจฺฉโต จ อารกฺขํ สํวิทหาเปตฺวา ตณฺฑุลสปฺปิเตลาทีนํ สกฏานิ ปูราเปตฺวา ‘‘คตฏฺาเน คตฏฺาเน อาหารํ ปฏิยาเทถา’’ติ ปุริเส เปสยึสุ. สูเนหิ ปาเทหีติ ตาสฺหิ สุขุมาลตฺตา ปาเทสุ เอโก โผโฏ อุฏฺเติ, เอโก ภิชฺชติ. อุโภ ปาทา กตกฏฺิสมฺปริกิณฺณา วิย หุตฺวา อุทฺธุมาตา ชาตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘สูเนหิ ปาเทหี’’ติ. พหิทฺวารโกฏฺเกติ ทฺวารโกฏฺกโต พหิ. กสฺมา ปเนวํ ¶ ิตาติ? เอวํ กิรสฺสา อโหสิ – ‘‘อหํ ตถาคเตน อนนฺุาตา สยเมว ปพฺพชฺชาเวสํ อคฺคเหสึ, เอวํ คหิตภาโว จ ปน เม สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ ชาโต. สเจ สตฺถา ปพฺพชฺชํ อนุชานาติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. สเจ ปน นานุชานิสฺสติ, มหตี ครหา ภวิสฺสตี’’ติ วิหารํ ปวิสิตุํ อสกฺโกนฺตี โรทมานาว อฏฺาสิ.
กึ นุ ตฺวํ โคตมีติ กึ นุ ราชกุลานํ วิปตฺติ อุปฺปนฺนา, เกน ตฺวํ การเณน เอวํ วิวณฺณภาวํ ปตฺตา, สูเนหิ ปาเทหิ…เป… ิตาติ. อฺเนปิ ปริยาเยนาติ อฺเนปิ การเณน. พหุการา, ภนฺเตติอาทินา ตสฺสา คุณํ กเถตฺวา ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโต เอวมาห. สตฺถาปิ ‘‘อิตฺถิโย นาม ปริตฺตปฺา, เอกยาจิตมตฺเตน ปพฺพชฺชาย อนฺุาตาย น มม สาสนํ ครุํ กตฺวา คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ครุํ กตฺวา คาหาเปตุกามตาย สเจ, อานนฺท, มหาปชาปตี โคตมี ¶ อฏฺ ครุธมฺเม ปฏิคฺคณฺหาติ, สาว’สฺสา โหตุ ¶ อุปสมฺปทาติอาทิมาห. ตตฺถ สาวสฺสาติ สา เอว อสฺสา ปพฺพชฺชาปิ อุปสมฺปทาปิ โหตุ.
ตทหูปสมฺปนฺนสฺสาติ ตํทิวสํ อุปสมฺปนฺนสฺส. อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กตฺตพฺพนฺติ โอมานาติมาเน อกตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน อภิวาทนํ, อาสนา ปจฺจุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนวเสน ปจฺจุฏฺานํ, ทสนเข สโมธาเนตฺวา อฺชลิกมฺมํ, อาสนปฺาปนพีชนาทิกํ อนุจฺฉวิกกมฺมสงฺขาตํ ¶ สามีจิกมฺมฺจ กตพฺพํ. อภิกฺขุเก อาวาเสติ ยตฺถ วสนฺติยา อนนฺตราเยน โอวาทตฺถาย อุปสงฺกมนฏฺาเน โอวาททายโก อาจริโย นตฺถิ, อยํ อภิกฺขุโก อาวาโส นาม. เอวรูเป อาวาเส วสฺสํ น อุปคนฺตพฺพํ. อนฺวฑฺฒมาสนฺติ อนุโปสถิกํ. โอวาทูปสงฺกมนนฺติ โอวาทตฺถาย อุปสงฺกมนํ. ทิฏฺเนาติ จกฺขุนา ทิฏฺเน. สุเตนาติ โสเตน สุเตน. ปริสงฺกายาติ ทิฏฺสุตวเสน ปริสงฺกิเตน. ครุธมฺมนฺติ ครุกํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ. ปกฺขมานตฺตนฺติ อนูนานิ ปนฺนรส ทิวสานิ มานตฺตํ. ฉสุ ธมฺเมสูติ วิกาลโภชนจฺฉฏฺเสุ สิกฺขาปเทสุ. สิกฺขิตสิกฺขายาติ เอกสิกฺขมฺปิ อขณฺฑํ กตฺวา ปูริตสิกฺขาย. อกฺโกสิตพฺโพ ปริภาสิตพฺโพติ ทสนฺนํ อกฺโกสวตฺถูนํ อฺตเรน อกฺโกสวตฺถุนา น อกฺโกสิตพฺโพ, ภยูปทํสนาย ยาย กายจิ ปริภาสาย น ปริภาสิตพฺโพ.
โอวโฏ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ วจนปโถติ โอวาทานุสาสนธมฺมกถาสงฺขาโต วจนปโถ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ โอวริโต ปิหิโต, น ภิกฺขุนิยา โกจิ ภิกฺขุ โอวทิตพฺโพ อนุสาสิตพฺโพ วา ‘‘ภนฺเต, โปราณกตฺเถรา อิทํ จีวรวตฺตํ ปูรยึสู’’ติ เอวํ ปน ปเวณิวเสน กเถตุํ วฏฺฏติ. อโนวโฏ ¶ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีสุ วจนปโถติ ภิกฺขูนํ ปน ภิกฺขุนีสุ วจนปโถ อนิวาริโต, ยถารุจิ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ ธมฺมกถํ กเถตุนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนสา ครุธมฺมกถา สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๘) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
อิเม ปน อฏฺ ครุธมฺเม สตฺถุ สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา เถเรน อตฺตโน อาโรจิยมาเน สุตฺวาว มหาปชาปติยา ตาว มหนฺตํ โทมนสฺสํ ขเณน ¶ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ, อโนตตฺตทหโต อาภเตน สีตุทกสฺส ฆฏสเตน มตฺถเก ปริสิตฺตา วิย วิคตปริฬาหา อตฺตมนา หุตฺวา ครุธมฺมปฏิคฺคหเณน ¶ อุปฺปนฺนปีติปาโมชฺชํ อาวิกโรนฺตี เสยฺยถาปิ, ภนฺเตติอาทิกํ อุทานํ อุทาเนสิ.
กุมฺภตฺเถนเกหีติ กุมฺเภ ทีปํ ชาเลตฺวา เตน อาโลเกน ปรฆเร ภณฺฑํ วิจินิตฺวา เถนกโจเรหิ. เสตฏฺิกา นาม โรคชาตีติ เอโก ปาณโก นาฬมชฺฌคตํ กณฺฑํ วิชฺฌติ, เยน วิทฺธา กณฺฑา นิกฺขนฺตมฺปิ สาลิสีสํ ขีรํ คเหตุํ น สกฺโกติ. มฺชิฏฺิกา นาม โรคชาตีติ อุจฺฉูนํ อนฺโตรตฺตภาโว.
มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว อาฬินฺติ อิมินา ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ยถา มหโต ตฬากสฺส ปาฬิยา อพทฺธายปิ กิฺจิ อุทกํ ติฏฺเตว, ปมเมว พทฺธาย ปน ยํ อพทฺธปจฺจยา น ติฏฺเยฺย, ตมฺปิ ติฏฺเยฺย, เอวเมว เย อิเม อนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ปฏิกจฺเจว อนติกฺกมนตฺถาย ครุธมฺมา ปฺตฺตา, เตสุ อปฺตฺเตสุ มาตุคามสฺส ปพฺพชิตตฺตา ปฺจ วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม ¶ ติฏฺเยฺย. ปฏิกจฺเจว ปฺตฺตตฺตา ปน อปรานิปิ ปฺจ วสฺสสตานิ สฺสตีติ เอวํ ปมํ วุตฺตวสฺสสหสฺสเมว สฺสติ. วสฺสสหสฺสนฺติ เจตํ ปฏิสมฺภิทาปเภทปฺปตฺตขีณาสวานํ วเสเนว วุตฺตํ, ตโต ปน อุตฺตริปิ สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน วสฺสสหสฺสํ, อนาคามิวเสน วสฺสสหสฺสํ, สกทาคามิวเสน วสฺสสหสฺสํ, โสตาปนฺนวเสน วสฺสสหสฺสนฺติ เอวํ ปฺจวสฺสสหสฺสานิ ปฏิเวธสทฺธมฺโม สฺสติ. ปริยตฺติธมฺโมปิ ตานิเยว. น หิ ปริยตฺติยา อสติ ปฏิเวโธ อตฺถิ, นาปิ ปริยตฺติยา สติ ปฏิเวโธ น โหติ. ลิงฺคํ ปน ปริยตฺติยา อนฺตรหิตายปิ จิรํ ปวตฺติสฺสตีติ.
๒. โอวาทสุตฺตวณฺณนา
๕๒. ทุติเย พหุสฺสุโตติ อิธ สกลสฺสปิ พุทฺธวจนสฺส วเสน พหุสฺสุตภาโว เวทิตพฺโพ. ครุธมฺมนฺติ กายสํสคฺคํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. ภิกฺขุโนวาทกวินิจฺฉโย ปน สมนฺตปาสาทิกาย (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๓. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๓. ตติเย ¶ ¶ สราคายาติ สราคตฺถาย. วิราคายาติ วิรชฺชนตฺถาย. สํโยคายาติ วฏฺเฏ สํโยคตฺถาย. วิสํโยคายาติ วฏฺเฏ วิสํโยคภาวตฺถาย. อาจยายาติ วฏฺฏสฺส วฑฺฒนตฺถาย. โน อปจยายาติ น วฏฺฏวิทฺธํสนตฺถาย. ทุพฺภรตายาติ ทุปฺโปสนตฺถาย. โน สุภรตายาติ น สุขโปสนตฺถาย. อิมสฺมึ สุตฺเต ปมวาเรน วฏฺฏํ กถิตํ, ทุติยวาเรน วิวฏฺฏํ กถิตํ. อิมินา จ ปน โอวาเทน โคตมี อรหตฺตํ ปตฺตาติ.
๔. ทีฆชาณุสุตฺตวณฺณนา
๕๔. จตุตฺเถ พฺยคฺฆปชฺชาติ อิทมสฺส ปเวณิ นาม วเสน ¶ อาลปนํ. ตสฺส หิ ปุพฺพปุริสา พฺยคฺฆปเถ ชาตาติ ตสฺมึ กุเล มนุสฺสา พฺยคฺฆปชฺชาติ วุจฺจนฺติ. อิสฺสตฺเถนาติ อิสฺสาสกมฺเมน. ตตฺรุปายายาติ ‘‘อิมสฺมึ กาเล อิทํ นาม กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ชานเน อุปายภูตาย. วุทฺธสีลิโนติ วฑฺฒิตสีลา วุทฺธสมาจารา. อายนฺติ อาคมนํ. นาจฺโจคาฬฺหนฺติ นาติมหนฺตํ. นาติหีนนฺติ นาติกสิรํ. ปริยาทายาติ คเหตฺวา เขเปตฺวา. ตตฺถ ยสฺส วยโต ทิคุโณ อาโย, ตสฺส วโย อายํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ.
‘‘จตุธา วิภเช โภเค, ปณฺฑิโต ฆรมาวสํ;
เอเกน โภเค ภฺุเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;
จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. (ที. นิ. ๓.๒๖๕) –
เอวํ ปฏิปชฺชโต ปน วโย อายํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติเยว.
อุทุมฺพรขาทีวาติ ยถา อุทุมฺพรานิ ขาทิตุกาเมน ปกฺเก อุทุมฺพรรุกฺเข จาลิเต เอกปฺปหาเรเนว พหูนิ ผลานิ ปตนฺติ, โส ขาทิตพฺพยุตฺตกานิ ขาทิตฺวา อิตรานิ พหุตรานิ ปหาย คจฺฉติ, เอวเมวํ โย อายโต วยํ พหุตรํ กตฺวา วิปฺปกิรนฺโต โภเค ปริภฺุชติ, โส ‘‘อุทุมฺพรขาทิกํวายํ กุลปุตฺโต โภเค ขาทตี’’ติ วุจฺจติ. อเชฏฺมรณนฺติ ¶ อนายกมรณํ ¶ . สมํ ชีวิกํ กปฺเปตีติ สมฺมา ชีวิกํ กปฺเปติ. สมชีวิตาติ สมชีวิตาย ชีวิตา. อปายมุขานีติ ¶ วินาสสฺส านานิ.
อุฏฺาตา กมฺมเธยฺเยสูติ กมฺมกรณฏฺาเนสุ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺโน. วิธานวาติ วิทหนสมฺปนฺโน. โสตฺถานํ สมฺปรายิกนฺติ โสตฺถิภูตํ สมฺปรายิกํ. สจฺจนาเมนาติ พุทฺธตฺตาเยว พุทฺโธติ เอวํ อวิตถนาเมน. จาโค ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ จาโค จ เสสปฺฺุจ ปวฑฺฒติ. อิมสฺมึ สุตฺเต สทฺธาทโย มิสฺสกา กถิตา. ปฺจมํ อุตฺตานเมว.
๖. ภยสุตฺตวณฺณนา
๕๖. ฉฏฺเ คพฺโภติ คพฺภวาโส. ทิฏฺธมฺมิกาปีติ สนฺทิฏฺิกา คพฺภวาสสทิสา ปุนปิ มนุสฺสคพฺภา. สมฺปรายิกาปีติ เปตฺวา มนุสฺสคพฺเภ เสสคพฺภา. อุภยํ เอเต กามา ปวุจฺจนฺตีติ ภยฺจ ทุกฺขฺจ, ภยฺจ โรโค จ, ภยฺจ คณฺโฑ จ, ภยฺจ สลฺลฺจ, ภยฺจ สงฺโค จ, ภยฺจ ปงฺโก จ, ภยฺจ คพฺโภ จาติ เอวํ อุภยํ เอเต กามา ปวุจฺจนฺติ. สาตรูเปนาติ กามสุเขน. ปลิปถนฺติ วฏฺฏปลิปถํ. อติกฺกมฺมาติ อิมสฺมึ าเน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อสฺส ภิกฺขุโน อรหตฺตปฺปตฺตภาโว คหิโต. เอวรูปํ ปชํ ชาติชรูเปตํ ตีสุ ภเวสุ ผนฺทมานํ อเวกฺขตีติ สุตฺเต วฏฺฏํ กเถตฺวา คาถาสุ วิวฏฺฏํ กถิตนฺติ. สตฺตมฏฺมานิ ¶ อุตฺตานตฺถาเนว.
๙-๑๐. ปุคฺคลสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๕๙-๖๐. นวเม อุชุภูโตติ กายวงฺกาทีนํ อภาเวน อุชุโก. ปฺาสีลสมาหิโตติ ปฺาย จ สีเลน จ สมนฺนาคโต. ยชมานานนฺติ ทานํ ททนฺตานํ. ปฺุเปกฺขานนฺติ ปฺุํ โอโลเกนฺตานํ คเวสนฺตานํ ¶ . โอปธิกนฺติ อุปธิวิปากํ, โอปธิภูตํ านํ อปฺปมาณํ. ทสเม สมุกฺกฏฺโติ อุกฺกฏฺโ อุตฺตโม. สตฺตานนฺติ สพฺพสตฺตานํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
โคตมีวคฺโค ฉฏฺโ.
(๗) ๒. ภูมิจาลวคฺโค
๑. อิจฺฉาสุตฺตวณฺณนา
๖๑. สตฺตมสฺส ¶ ปเม ปวิวิตฺตสฺสาติ กายวิเวเกน วิวิตฺตสฺส. นิรายตฺตวุตฺติโนติ กตฺถจิ อนายตฺตวุตฺติโน วิปสฺสนากมฺมิกสฺส. ลาภายาติ จตุปจฺจยลาภาย. โสจี จ ปริเทวี จาติ โสกี จ ปริเทวี จ. โสจิจฺจ ปริเทวิจฺจาติปิ ปาโ. จุโต จ สทฺธมฺมาติ ตํขณํเยว วิปสฺสนาสทฺธมฺมา จุโต. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๒. อลํสุตฺตวณฺณนา
๖๒. ทุติเย อลํ อตฺตโน อลํ ปเรสนฺติ อตฺตโน จ ปเรสฺจ หิตปฏิปตฺติยํ สมตฺโถ ปริยตฺโต อนุจฺฉวิโก. ขิปฺปนิสนฺตีติ ¶ ขิปฺปํ อุปธาเรติ, ขนฺธธาตุอายตนาทีสุ กถิยมาเนสุ เต ธมฺเม ขิปฺปํ ชานาตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต สมถวิปสฺสนา กถิตา. ปุคฺคลชฺฌาสเยน ปน เทสนาวิลาเสน เจตํ มตฺถกโต ปฏฺาย เหฏฺา โอตรนฺตํ กถิตนฺติ.
๓. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๖๓. ตติเย เอวเมวาติ นิกฺการเณเนว. ยถา วา อยํ ยาจติ, เอวเมว. โมฆปุริสาติ มูฬฺหปุริสา ตุจฺฉปุริสา. อชฺเฌสนฺตีติ ยาจนฺติ. อนุพนฺธิตพฺพนฺติ อิริยาปถานุคมเนน อนุพนฺธิตพฺพํ มํ น วิชหิตพฺพํ มฺนฺติ. อาชานนตฺถํ อปสาเทนฺโต เอวมาห. เอส กิร ภิกฺขุ โอวาเท ทินฺเนปิ ปมาทเมว อนุยฺุชติ, ธมฺมํ สุตฺวา ตตฺเถว วสติ, สมณธมฺมํ กาตุํ น อิจฺฉติ. ตสฺมา ภควา เอวํ อปสาเทตฺวา ปุน ยสฺมา โส อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน ¶ , ตสฺมา ตํ โอวทนฺโต ตสฺมาติห เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ เม จิตฺตํ ิตํ ภวิสฺสติ สุสณฺิตํ, น จ อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสนฺตีติ อิมินา ตาวสฺส โอวาเทน นิยกชฺฌตฺตวเสน จิตฺเตกคฺคตามตฺโต มูลสมาธิ วุตฺโต.
ตโต ¶ ‘‘เอตฺตเกเนว สนฺตุฏฺึ อนาปชฺชิตฺวา เอวํ โส สมาธิ วฑฺเฒตพฺโพ’’ติ ทสฺเสตุํ ยโต โข เต ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ ิตํ โหติ สุสณฺิตํ, น จ อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, ตโต เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ¶ ‘‘เมตฺตา เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา ภวิสฺสติ…เป… สุสมารทฺธา’’ติ เอวมสฺส เมตฺตาวเสน ภาวนํ วฑฺเฒตฺวา ปุน ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ พหุลีกโต, ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ อิมํ สมาธึ สวิตกฺกสวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสีติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ยทา เต ภิกฺขุ อยํ มูลสมาธิ เอวํ เมตฺตาวเสน ภาวิโต โหติ, ตทา ตฺวํ ตาวตเกนปิ ตุฏฺึ อนาปชฺชิตฺวาว อิมํ มูลสมาธึ อฺเสุปิ อารมฺมเณสุ จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ ปาปยมาโน ‘‘สวิตกฺกสวิจารมฺปี’’ติอาทินา นเยน ภาเวยฺยาสีติ.
เอวํ วตฺวา จ ปน อวเสสพฺรหฺมวิหารปุพฺพงฺคมมฺปิสฺส อฺเสุ อารมฺมเณสุ จตุกฺกปฺจกชฺฌานภาวนํ กเรยฺยาสีติ ทสฺเสนฺโต ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘‘กรุณา เม เจโตวิมุตฺตี’’ติอาทิมาห. เอวํ เมตฺตาปุพฺพงฺคมํ จตุกฺกปฺจกชฺฌานภาวนํ ทสฺเสตฺวา ปุน กายานุปสฺสนาทิปุพฺพงฺคมํ ทสฺเสตุํ ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติอาทึ วตฺวา ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ เยน เยเนว คคฺฆสีติอาทิมาห. ตตฺถ คคฺฆสีติ คมิสฺสสิ. ผาสุํเยวาติ อิมินา อรหตฺตํ ทสฺเสติ. อรหตฺตปฺปตฺโต หิ สพฺพิริยาปเถสุ ผาสุ วิหรติ นาม.
๔. คยาสีสสุตฺตวณฺณนา
๖๔. จตุตฺเถ ¶ เอตทโวจาติ อตฺตโน ปธานภูมิยํ อุปฺปนฺนํ วิตกฺกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรเจตุํ – ‘‘ปุพฺพาหํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนํ อโวจ. โอภาสนฺติ ¶ ทิพฺพจกฺขุาโณภาสํ. าณทสฺสนนฺติ ทิพฺพจกฺขุภูตํ าณสงฺขาตํ ทสฺสนํ. สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติ เอกโต วสิตปุพฺพํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ทิพฺพจกฺขุาณํ, อิทฺธิวิธาณํ, เจโตปริยาณํ, ยถากมฺมุปคาณํ, อนาคตํสาณํ, ปจฺจุปฺปนฺนํสาณํ, อตีตํสาณํ, ปุพฺเพนิวาสาณนฺติ อิมานิ ตาว อฏฺ าณานิ ปาฬิยํเยว อาคตานิ, เตหิ ปน สทฺธึ วิปสฺสนาาณานิ จตฺตาริ มคฺคาณานิ, จตฺตาริ ¶ ผลาณานิ, จตฺตาริ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตฺตาริ ปฏิสมฺภิทาาณานิ ฉ อสาธารณาณานีติ เอตานิ าณานิ สโมธาเนตฺวา กเถนฺเตน เอวํ อิทํ สุตฺตํ กถิตํ นาม โหติ.
๕. อภิภายตนสุตฺตวณฺณนา
๖๕. ปฺจเม อภิภายตนานีติ อภิภวนการณานิ. กึ อภิภวนฺติ? ปจฺจนีกธมฺเมปิ อารมฺมณานิปิ. ตานิ หิ ปฏิปกฺขภาเวน ปจฺจนีกธมฺเม อภิภวนฺติ, ปุคฺคลสฺส าณุตฺตริยตาย อารมฺมณานิ. อชฺฌตฺตํ รูปสฺีติอาทีสุ ปน อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมวเสน อชฺฌตฺตํ รูปสฺี นาม โหติ. อชฺฌตฺตฺหิ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกาย วา กโรติ. ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ. โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ. โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. ตํ ปน สุนีลกํ สุปีตกํ สุโลหิตกํ สุโอทาตํ น โหติ, อวิสุทฺธเมว โหติ.
เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺเสวํ ปริกมฺมํ อชฺฌตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, นิมิตฺตํ ปน พหิทฺธา, โส เอวํ อชฺฌตฺตํ ¶ ปริกมฺมสฺส พหิทฺธา จ อปฺปนาย วเสน ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. ปริตฺตานีติ อวฑฺฒิตานิ. สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตวเสเนว อิทํ อภิภายตนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตานิ อภิภุยฺยาติ ยถา นาม สมฺปนฺนคฺคหณิโก กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘‘กึ เอตฺถ ภฺุชิตพฺพํ ¶ อตฺถี’’ติ สํกฑฺฒิตฺวา เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมว าณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘‘กิเมตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’’ติ ตานิ รูปานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ. ชานามิ ปสฺสามีติ อิมินา ปนสฺส อาโภโค กถิโต. โส จ โข สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส, น อนฺโตสมาปตฺติยํ. เอวํสฺี โหตีติ อาโภคสฺายปิ ฌานสฺายปิ เอวํสฺี โหติ. อภิภวนสฺา หิสฺส อนฺโตสมาปตฺติยมฺปิ อตฺถิ, อาโภคสฺา ปน สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺเสว.
อปฺปมาณานีติ ¶ วฑฺฒิตปฺปมาณานิ, มหนฺตานีติ อตฺโถ. อภิภุยฺยาติ เอตฺถ จ ปน ยถา มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘‘อฺาปิ โหตุ, อฺาปิ โหตุ, กึ เอสา มยฺหํ กริสฺสตี’’ติ น ตํ มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว าณุตฺตโร ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘‘กึ เอตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, นยิทํ อปฺปมาณํ, น มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ¶ ภาโร อตฺถี’’ติ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ.
อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมสฺาวิรหิโต.
เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺส ปริกมฺมมฺปิ นิมิตฺตมฺปิ พหิทฺธา อุปฺปนฺนํ, โส เอวํ พหิทฺธา ปริกมฺมสฺส เจว อปฺปนาย จ วเสน ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ จตุตฺถาภิภายตเน จ วุตฺตนยเมว. อิเมสุ ปน จตูสุ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตวเสน อาคตํ, อปฺปมาณํ โมหจริตวเสน, สุวณฺณํ โทสจริตวเสน, ทุพฺพณฺณํ ราคจริตวเสน. เอเตสฺหิ เอตานิ สปฺปายานิ. สา จ เนสํ สปฺปายตา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๓) จริยนิทฺเทเส วุตฺตา.
ปฺจมอภิภายตนาทีสุ นีลานีติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตํ. นีลวณฺณานีติ วณฺณวเสน. นีลนิทสฺสนานีติ นิทสฺสนวเสน. อปฺายมานวิวรานิ อสมฺภินฺนวณฺณานิ เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นีลนิภาสานีติ ¶ อิทํ ปน โอภาสวเสน วุตฺตํ, นีโลภาสานิ นีลปฺปภายุตฺตานีติ อตฺโถ. เอเตน เนสํ สุวิสุทฺธตํ ทสฺเสติ. วิสุทฺธวณฺณวเสเนว หิ อิมานิ อภิภายตนานิ วุตฺตานิ. ‘‘นีลกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต นีลสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วา’’ติอาทิกํ ปเนตฺถ กสิณกรณฺจ ¶ ปริกมฺมฺจ อปฺปนาวิธานฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕) วิตฺถารโต วุตฺตเมวาติ.
๖. วิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา
๖๖. วิโมกฺขาติ เกนฏฺเน วิโมกฺขา? อธิมุจฺจนฏฺเน. โก ปนายํ อธิมุจฺจนฏฺโ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, ปิตุองฺเก ¶ วิสฺสฏฺงฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ปนตฺโถ ปจฺฉิเม วิโมกฺเข นตฺถิ, ปุริเมสุ วิโมกฺเขสุ อตฺถิ.
รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ เอตฺถ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ นีลกสิณาทิวเสน อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺสตฺถีติ รูปี. พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทีนิ รูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธวตฺถุเกสุ กสิเณสุ อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส ปุคฺคลสฺส จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ.
สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนาย ‘‘สุภ’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน สุวิสุทฺธํ สุภํ กสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา ‘‘สุภนฺติ อธิมุตฺโต โหตี’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน –
‘‘กถํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข? อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ¶ …เป… วิหรติ. เมตฺตาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. กรุณาสหคเตน…เป… มุทิตาสหคเตน ¶ …เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ…เป… วิหรติ. อุเปกฺขาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. เอวํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒) วุตฺตํ.
สพฺพโส รูปสฺานนฺติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๗๖-๒๗๗) วุตฺตเมว. อยํ อฏฺโม วิโมกฺโขติ อยํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ สพฺพโส วิสฺสฏฺตฺตา วิมุตฺตตฺตา อฏฺโม อุตฺตโม วิโมกฺโข นาม.
๗-๘. อนริยโวหารสุตฺตวณฺณนา
๖๗-๖๘. สตฺตเม ¶ อนริยโวหาราติ น อริยกถา สโทสกถา. ยาหิ เจตนาหิ เต โวหาเร โวหรนฺติ, ตาสํ เอตํ นามํ. อฏฺเม วุตฺตปฏิปกฺขนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๙. ปริสาสุตฺตวณฺณนา
๖๙. นวเม ขตฺติยปริสาติ ขตฺติยานํ ปริสานํ สนฺนิปาโต สมาคโม. เอส นโย สพฺพตฺถ. อเนกสตํ ขตฺติยปริสนฺติ พิมฺพิสารสมาคม-าติสมาคม-ลิจฺฉวิสมาคมาทิสทิสํ, อฺเสุ จกฺกวาเฬสุปิ ลพฺภเตว. สลฺลปิตปุพฺพนฺติ อาลาปสลฺลาโป กตปุพฺโพ. สากจฺฉาติ ธมฺมสากจฺฉาปิ สมาปชฺชิตปุพฺพา. ยาทิสโก เตสํ วณฺโณติ เต โอทาตาปิ โหนฺติ กาฬาปิ มงฺคุรจฺฉวีปิ, สตฺถา สุวณฺณวณฺโณ. อิทํ ปน สณฺานํ ปฏิจฺจ ¶ กถิตํ. สณฺานมฺปิ จ เกวลํ เตสํ ปฺายติเยว. น ปน ภควา มิลกฺขสทิโส โหติ, นาปิ อามุตฺตมณิกุณฺฑโล, พุทฺธเวเสเนว นิสีทติ. เตปิ อตฺตโน สมานสณฺานเมว ปสฺสนฺติ. ยาทิสโก เตสํ สโรติ เต ฉินฺนสฺสราปิ โหนฺติ คคฺคสฺสราปิ กากสฺสราปิ, สตฺถา พฺรหฺมสฺสโรว. อิทํ ปน ภาสนฺตรํ สนฺธาย กถิตํ. สเจปิ หิ สตฺถา ราชาสเน นิสินฺโน กเถติ, ‘‘อชฺช ราชา มธุเรน กเถตี’’ติ เนสํ โหติ. กเถตฺวา ปกฺกนฺเต ปน ภควติ ปุน ราชานํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘โก นุ โข อย’’นฺติ วีมํสา อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ โก นุ โข อยนฺติ ‘‘อิมสฺมึ าเน อิทาเนว มาคธภาสาย สีหฬภาสาย มธุเรน อากาเรน กเถนฺโต โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต, กึ เทโว อุทาหุ ¶ มนุสฺโส’’ติ เอวํ วีมํสนฺตาปิ น ชานนฺตีติ อตฺโถ. กิมตฺถํ ปเนวํ อชานนฺตานํ ธมฺมํ เทเสตีติ? วาสนตฺถาย. เอวํ สุโตปิ หิ ธมฺโม อนาคเต ปจฺจโย โหตีติ อนาคตํ ปฏิจฺจ เทเสติ. อเนกสตํ พฺราหฺมณปริสนฺติอาทินํ โสณทณฺฑสมาคมาทิวเสน เจว อฺจกฺกวาฬวเสน จ สมฺภโว เวทิตพฺโพ.
๑๐. ภูมิจาลสุตฺตวณฺณนา
๗๐. ทสเม นิสีทนนฺติ อิธ จมฺมขณฺฑํ อธิปฺเปตํ. อุเทนํ เจติยนฺติ อุเทนยกฺขสฺส วสนฏฺาเน กตวิหาโร วุจฺจติ. โคตมกาทีสุปิ เอเสว นโย. ภาวิตาติ วฑฺฒิตา. พหุลีกตาติ ¶ ปุนปฺปุนํ กตา. ยานีกตาติ ¶ ยุตฺตยานํ วิย กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตา. อนุฏฺิตาติ อธิฏฺิตา. ปริจิตาติ สมนฺตโต จิตา สุวฑฺฒิตา. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา.
อิติ อนิยเมน กเถตฺวา ปุน นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต ตถาคตสฺส โขติอาทิมาห. เอตฺถ กปฺปนฺติ อายุกปฺปํ. ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ยํ มนุสฺสานํ อายุปฺปมาณํ, ตํ ปริปุณฺณํ กโรนฺโต ติฏฺเยฺย. กปฺปาวเสสํ วาติ ‘‘อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ วุตฺตวสฺสสตโต อติเรกํ วา. มหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘‘พุทฺธานํ อฏฺาเน คชฺชิตํ นาม นตฺถิ, ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชิตฺวา มรณนฺติกเวทนํ วิกฺขมฺเภนฺโต ภทฺทกปฺปเมว ติฏฺเยฺย. กสฺมา ปน น ิโตติ? อุปาทินฺนกสรีรํ นาม ขณฺฑิจฺจาทีหิ อภิภุยฺยติ, พุทฺธา จ ขณฺฑิจฺจาทิภาวํ อปฺปตฺวา ปฺจเม อายุโกฏฺาเส พหุชนสฺส ปิยมนาปกาเลเยว ปรินิพฺพายนฺติ. พุทฺธานุพุทฺเธสุ จ มหาสาวเกสุ ปรินิพฺพุเตสุ เอกเกเนว ขาณุเกน วิย าตพฺพํ โหติ ทหรสามเณรปริวาเรน วา, ตโต ‘อโห พุทฺธานํ ปริสา’ติ หีเฬตพฺพตํ อาปชฺเชยฺย. ตสฺมา น ิโต’’ติ. เอวํ วุตฺเตปิ โย ปน วุจฺจติ ‘‘อายุกปฺโป’’ติ, อิทเมว อฏฺกถาย นิยามิตํ.
ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต อชฺโฌตฺถฏจิตฺโต อฺโปิ โกจิ ปุถุชฺชโน ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺกุเณยฺย, เอวเมว ¶ นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุนฺติ อตฺโถ. มาโร หิ ¶ ยสฺส สพฺเพน สพฺพํ ทฺวาทส วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, ตสฺส จิตฺตํ ปริยุฏฺาติ. เถรสฺส จ จตฺตาโร วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, เตนสฺส มาโร จิตฺตํ ปริยุฏฺาสิ. โส ปน จิตฺตปริยุฏฺานํ กโรนฺโต กึ กโรตีติ? เภรวํ รูปารมฺมณํ วา ทสฺเสติ, สทฺทารมฺมณํ วา สาเวติ. ตโต สตฺตา ตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา วิวฏมุขา โหนฺติ, เตสํ มุเขน หตฺถํ ปเวเสตฺวา หทยํ มทฺทติ, ตโต วิสฺาว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. เถรสฺส ปเนส มุเข หตฺถํ ปเวเสตุํ กึ สกฺขิสฺสติ, เภรวารมฺมณํ ปน ทสฺเสสิ. ตํ ทิสฺวา เถโร นิมิตฺโตภาสํ นปฺปฏิวิชฺฌิ. ภควา ชานนฺโตเยว กิมตฺถํ ยาว ตติยํ อามนฺเตสีติ? ปรโต ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต ภควา’’ติ ยาจิเต ‘‘ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธ’’นฺติ โทสาโรปเนน โส กตนุกรณตฺถํ.
มาโร ปาปิมาติ เอตฺถ สตฺเต อนตฺเถ นิโยเชนฺโต มาเรตีติ มาโร. ปาปิมาติ ตสฺเสว เววจนํ ¶ . โส หิ ปาปธมฺมสมนฺนาคตตฺตา ‘‘ปาปิมา’’ติ วุจฺจติ. กณฺโห, อนฺตโก, นมุจิ, ปมตฺตพนฺธูติปิ ตสฺเสว นามานิ. ภาสิตา โข ปเนสาติ อยฺหิ ภควโต สมฺโพธิปตฺติยา อฏฺเม สตฺตาเห โพธิมณฺเฑเยว อาคนฺตฺวา ‘‘ภควา ยทตฺถํ ตุมฺเหหิ ปารมิโย ปูริตา, โส โว อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, ปฏิวิทฺธํ สพฺพฺุตฺาณํ, กึ เต โลกวิจารเณนา’’ติ วตฺวา ยถา อชฺช, เอวเมว ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต ภควา’’ติ ยาจิ. ภควา จสฺส ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ปฏิกฺขิปิ. ตํ สนฺธาย – ‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ วิยตฺตาติ มคฺควเสน พฺยตฺตา, ตเถว วินีตา, ตถา วิสารทา. พหุสฺสุตาติ เตปิฏกวเสน พหุ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. ตเมว ธมฺมํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมธรา. อถ วา ปริยตฺติพหุสฺสุตา เจว ปฏิเวธพหุสฺสุตา จ. ปริยตฺติปฏิเวธธมฺมานํเยว ธารณโต ธมฺมธราติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนาติ อริยธมฺมสฺส อนุธมฺมภูตํ วิปสฺสนาธมฺมํ ปฏิปนฺนา. สามีจิปฺปฏิปนฺนาติ อนุจฺฉวิกปฏิปทํ ปฏิปนฺนา. อนุธมฺมจาริโนติ อนุธมฺมํ จรณสีลา. สกํ อาจริยกนฺติ อตฺตโน อาจริยวาทํ. อาจิกฺขิสฺสนฺตีติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ. สหธมฺเมนาติ สเหตุเกน สการเณน วจเนน. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ยาว นิยฺยานิกํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.
พฺรหฺมจริยนฺติ ¶ สิกฺขาตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. อิทฺธนฺติ สมิทฺธํ ฌานสฺสาทวเสน. ผีตนฺติ วุทฺธิปตฺตํ สพฺพปาลิผุลฺลํ วิย อภิฺาสมฺปตฺติวเสน. วิตฺถาริกนฺติ วิตฺถตํ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ปติฏฺิตวเสน. พาหุชฺนฺติ ¶ พหูหิ าตํ ปฏิวิทฺธํ มหาชนาภิสมยวเสน. ปุถุภูตนฺติ สพฺพากาเรน ปุถุลภาวปฺปตฺตํ. กถํ? ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตนฺติ, ยตฺตกา วิฺุชาติกา เทวา เจว มนุสฺสา จ อตฺถิ, สพฺเพหิ สุฏฺุ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ. อปฺโปสฺสุกฺโกติ นิราลโย. ตฺวฺหิ ปาปิม อฏฺมสตฺตาหโต ปฏฺาย ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต’’ติ วิรวนฺโต อาหิณฺฑิตฺถ. อชฺช ทานิ ปฏฺาย วิคตุสฺสาโห โหหิ, มา มยฺหํ ปรินิพฺพานตฺถํ วายามํ กโรหีติ วทติ.
สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชีติ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อายุสงฺขารํ วิสฺสชฺชิ ปชหิ. ตตฺถ น ภควา หตฺเถน เลฑฺฑุํ วิย อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ, เตมาสมตฺตเมว ¶ ปน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต ปรํ น สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอสฺสชี’’ติ. อุสฺสชีติปิ ปาโ. มหาภูมิจาโลติ มหนฺโต ปถวีกมฺโป. ตทา กิร ทสสหสฺสี โลกธาตุ กมฺปิตฺถ. ภึสนโกติ ภยชนโก. เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสูติ เทวเภริโย ผลึสุ, เทโว สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชิ, อกาลวิชฺชุลตา นิจฺฉรึสุ, ขณิกวสฺสํ วสฺสีติ วุตฺตํ โหติ.
อุทานํ อุทาเนสีติ กสฺมา อุทาเนสิ? โกจิ นาม วเทยฺย ‘‘ภควา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อนุพนฺธิตฺวา ‘ปรินิพฺพาตุ, ภนฺเต’ติ อุปทฺทุโต ภเยน อายุสงฺขารํ วิสฺสชฺเชสี’’ติ, ตสฺโสกาโส ¶ มา โหตุ, ภีตสฺส หิ อุทานํ นาม นตฺถีติ ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ สพฺเพสํ โสณสิงฺคาลาทีนมฺปิ ปจฺจกฺขภาวโต ตุลิตํ ปริจฺฉินฺนนฺติ ตุลํ. กึ ตํ? กามาวจรกมฺมํ. น ตุลํ, น วา ตุลํ สทิสมสฺส อฺํ โลกิยํ กมฺมํ อตฺถีติ อตุลํ. กึ ตํ? มหคฺคตกมฺมํ. อถ วา กามาวจรํ รูปาวจรํ ตุลํ, อรูปาวจรํ อตุลํ. อปฺปวิปากํ วา ตุลํ, พหุวิปากํ อตุลํ. สมฺภวนฺติ สมฺภวเหตุภูตํ, ราสิการกํ ปิณฺฑการกนฺติ ¶ อตฺโถ. ภวสงฺขารนฺติ ปุนพฺภวสงฺขารณกํ. อวสฺสชีติ วิสฺสชฺเชสิ. มุนีติ พุทฺธมุนิ. อชฺฌตฺตรโตติ นิยกชฺฌตฺตรโต. สมาหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิโต. อภินฺทิ กวจมิวาติ กวจํ วิย อภินฺทิ. อตฺตสมฺภวนฺติ อตฺตนิ สฺชาตํ กิเลสํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สวิปากฏฺเน สมฺภวํ, ภวาภิสงฺขรณฏฺเน ภวสงฺขารนฺติ จ ลทฺธนามํ ตุลาตุลสงฺขาตํ โลกิยกมฺมฺจ โอสฺสชิ, สงฺคามสีเส ¶ มหาโยโธ กวจํ วิย อตฺตสมฺภวํ กิเลสฺจ อชฺฌตฺตรโต หุตฺวา สมาหิโต หุตฺวา อภินฺทีติ.
อถ วา ตุลนฺติ ตุเลนฺโต ตีเรนฺโต. อตุลฺจ สมฺภวนฺติ นิพฺพานฺเจว สมฺภวฺจ. ภวสงฺขารนฺติ ภวคามิกมฺมํ. อวสฺสชิ มุนีติ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา, ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ นิพฺพานํ นิจฺจ’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๗-๓๘) นเยน ตุลยนฺโต พุทฺธมุนิ ภเว อาทีนวํ, นิพฺพาเน จ อานิสํสํ ทิสฺวา ตํ ขนฺธานํ มูลภูตํ ภวสงฺขารํ กมฺมํ ‘‘กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๑; อ. นิ. ๔.๒๓๒-๒๓๓) เอวํ วุตฺเตน กมฺมกฺขยกเรน อริยมคฺเคน อวสฺสชิ. กถํ? อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต, อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภวํ. โส หิ วิปสฺสนาวเสน อชฺฌตฺตรโต, สมถวเสน สมาหิโตติ เอวํ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย ¶ สมถวิปสฺสนาพเลน กวจมิว อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ, อตฺตนิ สมฺภวตฺตา ‘‘อตฺตสมฺภว’’นฺติ ลทฺธนามํ สพฺพกิเลสชาลํ อภินฺทิ. กิเลสาภาเวน จ กตํ กมฺมํ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อวสฺสฏฺํ นาม โหตีติ เอวํ กิเลสปฺปหาเนน กมฺมํ ปชหิ. ปหีนกิเลสสฺส จ ภยํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อภีโตว อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชิ, อภีตภาวาปนตฺถฺจ อุทานํ อุทาเนสีติ เวทิตพฺโพ.
ยํ มหาวาตาติ เยน สมเยน ยสฺมึ วา สมเย มหาวาตา. วายนฺตีติ อุปกฺเขปกวาตา นาม ¶ อุฏฺหนฺติ, เต วายนฺตา สฏฺิสหสฺสาธิกนวโยชนสตสหสฺสพหลํ อุทกสนฺธารกวาตํ อุปจฺฉินฺทนฺติ, ตโต อากาเส อุทกํ ภสฺสติ, ตสฺมึ ภสฺสนฺเต ปถวี ภสฺสติ, ปุน วาโต อตฺตโน พเลน อนฺโตธมฺมกรเณ วิย อุทกํ อาพนฺธิตฺวา คณฺหาติ, ตโต อุทกํ อุคฺคจฺฉติ, ตสฺมึ อุคฺคจฺฉนฺเต ปถวี อุคฺคจฺฉติ. เอวํ อุทกํ กมฺปิตํ ¶ ปถวึ กมฺเปติ. เอตฺจ กมฺปนํ ยาวชฺชกาลาปิ โหติเยว, พหุภาเวน ปน โอคจฺฉนุคฺคจฺฉนํ น ปฺายติ.
มหิทฺธิกา มหานุภาวาติ อิชฺฌนสฺส มหนฺตตาย มหิทฺธิกา, อนุภวิตพฺพสฺส มหนฺตตาย มหานุภาวา. ปริตฺตาติ ทุพฺพลา. อปฺปมาณาติ พลวา. โส อิมํ ปถวึ กมฺเปตีติ โส อิทฺธึ นิพฺพตฺเตตฺวา สํเวเชนฺโต มหาโมคฺคลฺลาโน วิย, วีมํสนฺโต วา มหานาคตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺโย สงฺฆรกฺขิตสามเณโร วิย ปถวึ กมฺเปติ. สงฺกมฺเปตีติ สมนฺตโต กมฺเปติ. สมฺปกมฺเปตีติ ตสฺเสว เววจนํ. อิติ อิเมสุ อฏฺสุ ปถวิกมฺเปสุ ปโม ธาตุโกเปน, ทุติโย อิทฺธานุภาเวน, ตติยจตุตฺถา ปฺุเตเชน, ปฺจโม าณเตเชน, ฉฏฺโ สาธุการทานวเสน, สตฺตโม การฺุสภาเวน, อฏฺโม อาโรทเนน. มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเต จ ตโต นิกฺขมนฺเต จ มหาสตฺเต ตสฺส ปฺุเตเชน ปถวี อกมฺปิตฺถ, อภิสมฺโพธิยํ าณเตชาภิหตา หุตฺวา อกมฺปิตฺถ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน สาธุการภาวสณฺิตา สาธุการํ ททมานา อกมฺปิตฺถ, อายุสงฺขารโอสฺสชฺชเน ¶ การฺุสภาวสณฺิตา จิตฺตสงฺโขภํ อสหมานา อกมฺปิตฺถ, ปรินิพฺพาเน อาโรทนเวคตุนฺนา หุตฺวา อกมฺปิตฺถ. อยํ ปนตฺโถ ปถวิเทวตาย วเสน เวทิตพฺโพ. มหาภูตปถวิยา ปเนตํ นตฺถิ อเจตนตฺตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ภูมิจาลวคฺโค สตฺตโม.
(๘) ๓. ยมกวคฺโค
๑-๒. สทฺธาสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๗๑-๗๒. อฏฺมสฺส ¶ ปเม โน จ สีลวาติ น สีเลสุ ปริปูรการี. สมนฺตปาสาทิโกติ สมนฺตโต ปสาทชนโก. สพฺพาการปริปูโรติ สพฺเพหิ สมณากาเรหิ สมณธมฺมโกฏฺาเสหิ ปริปูโร. ทุติเย สนฺตาติ ปจฺจนีกสนฺตตาย สนฺตา. วิโมกฺขาติ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา จ วิโมกฺขา.
๓-๙. มรณสฺสติสุตฺตทฺวยาทิวณฺณนา
๗๓-๗๙. ตติเย ¶ ภาเวถ โนติ ภาเวถ นุ. สาสนนฺติ อนุสิฏฺิ. อาสวานํ ขยายาติ อรหตฺตผลตฺถาย. จตุตฺเถ ปติหิตายาติ ปฏิปนฺนาย. โส มมสฺส อนฺตราโยติ โส มม ชีวิตนฺตราโยปิ, ปุถุชฺชนกาลกิริยํ กโรนฺตสฺส สคฺคนฺตราโยปิ มคฺคนฺตราโยปิ อสฺส. สตฺถกา วา เม วาตาติ สตฺถํ วิย องฺคมงฺคานิ กนฺตนฺตีติ สตฺถกา. ปฺจมาทีนิ วุตฺตนยาเนว. นวเม สํสคฺคารามตาติ ปฺจวิเธ สํสคฺเค อารามตา.
๑๐. กุสีตารมฺภวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๘๐. ทสเม ¶ กุสีตวตฺถูนีติ กุสีตสฺส อลสสฺส วตฺถูนิ ปติฏฺา, โกสชฺชการณานีติ อตฺโถ. กมฺมํ กตฺตพฺพํ โหตีติ จีวรวิจารณาทิกมฺมํ กตฺตพฺพํ โหติ. น วีริยํ อารภตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ นารภติ. อปฺปตฺตสฺสาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลธมฺมสฺส อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา. อนธิคตสฺสาติ ตสฺเสว อนธิคตสฺส อธิคมตฺถาย. อสจฺฉิกตสฺสาติ ตเทว อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกรณตฺถาย. อิทํ ปมนฺติ อิทํ ‘‘หนฺทาหํ นิปชฺชามี’’ติ เอวํ โอสีทนํ ปมํ กุสีตวตฺถุ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มาสาจิตกํ มฺเติ เอตฺถ ปน มาสาจิตํ นาม ตินฺตมาโส. ยถา ตินฺตมาโส ครุโก โหติ, เอวํ ครุโกติ อธิปฺปาโย ¶ . คิลานา วุฏฺิโต โหตีติ คิลาโน หุตฺวา ปจฺฉา วุฏฺิโต โหติ. อารมฺภวตฺถูนีติ วีริยการณานิ. เตสมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ยมกวคฺโค อฏฺโม.
(๙) ๔. สติวคฺโค
๑-๒. สติสมฺปชฺสุตฺตวณฺณนา
๘๑-๘๒. นวมสฺส ปมํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ทุติเย สทฺโธติ ทุวิธาย สทฺธาย สมนฺนาคโต. โน จุปสงฺกมิตาติ น อุปฏฺหติ. โน ¶ จ ปริปุจฺฉิตาติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ ปริปุจฺฉิตา น โหติ. สมนฺนาคโตติ ¶ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตํ, สมนฺนาคตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เอกนฺตปฏิภานา ตถาคตํ ธมฺมเทสนา โหตีติ ตถาคตสฺส เอกนฺตปฏิภานา ธมฺมเทสนา โหติ, เอกนฺเตเนว ปฏิภาติ อุปฏฺาตีติ อตฺโถ.
๓. มูลกสุตฺตวณฺณนา
๘๓. ตติเย สพฺเพ ธมฺมาติ ปฺจกฺขนฺธา. ฉนฺทมูลกาติ อชฺฌาสยจฺฉนฺโท กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท ตํ มูลํ เอเตสนฺติ ฉนฺทมูลกา. มนสิการโต สมฺภวนฺตีติ มนสิการสมฺภวา. ผสฺสโต สมุเทนฺติ ราสี ภวนฺตีติ ผสฺสสมุทยา. เวทนาย สโมสรนฺตีติ เวทนาสโมสรณา. สมาธิ เอเตสํ ปมุโขติ สมาธิปฺปมุขา. เชฏฺกฏฺเน สติ อธิปติ เอเตสนฺติ สตาธิปเตยฺยา, สติเชฏฺกาติ อตฺโถ. ปฺา อุตฺตรา เอเตสนฺติ ปฺุตฺตรา. วิมุตฺติ เอว สาโร เอเตสนฺติ วิมุตฺติสารา. เอตฺถ จ ฉนฺทมูลกาทโย จตฺตาโรปิ โลกิยา กถิตา, เสสา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาติ.
๔. โจรสุตฺตวณฺณนา
๘๔. จตุตฺเถ ¶ มหาโจโรติ รชฺชนฺตเร ทุพฺภิตุํ สมตฺโถ มหาโจโร. ปริยาปชฺชตีติ ปริยาทานํ คจฺฉติ. น จิรฏฺิติโก โหตีติ อทฺธานํ ปาเลนฺโต าตุํ น สกฺโกติ. อปฺปหรนฺตสฺส ปหรตีติ อตฺตโน อเวริเน อปฺปหรนฺเต คุณสมฺปนฺเน จ มหลฺลเก จ ตรุณทารเก จ อปฺปหริตพฺพยุตฺตเก ปหรติ. อนวเสสํ อาทิยตีติ นิสฺเสสํ คณฺหาติ. พฺยตฺตโจรานฺหิ อิทํ วตฺตํ – ปรสฺส ทฺวีสุ สาฏเกสุ เอโก คเหตพฺโพ, เอกสฺมึ สนฺเต ทุพฺพลํ ทตฺวา ถิโร คเหตพฺโพ. ปุฏภตฺตตณฺฑุลาทีสุ เอกํ โกฏฺาสํ ทตฺวา เอโก คเหตพฺโพติ. อจฺจาสนฺเน กมฺมํ กโรตีติ คามนิคมราชธานีนํ อาสนฺนฏฺาเน โจริกกมฺมํ กโรติ. น จ นิธานกุสโล โหตีติ ยํ ลทฺธํ, ตํ ทกฺขิเณยฺเย นิทหิตุํ เฉโก น โหติ, ปรโลกมคฺคํ น โสเธติ.
๕. สมณสุตฺตวณฺณนา
๘๕. ปฺจเม ¶ ¶ ยํ สมเณนาติ ยํ คุณชาตํ สมเณน ปตฺตพฺพํ. วุสีมตาติ พฺรหฺมจริยวาสํวุเตน. มุตฺโต โมเจมิ พนฺธนาติ อหํ สพฺพพนฺธเนหิ มุตฺโต หุตฺวา มหาชนมฺปิ ราคาทิพนฺธนโต โมเจมิ. ปรมทนฺโตติ อฺเน เกนจิ อสิกฺขาปิโต อโจทิโต สยมฺภุาเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปรมทมเถน ทนฺตตฺตา ปรมทนฺโต นาม. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต.
๖. ยสสุตฺตวณฺณนา
๘๖. ฉฏฺเ มา จ มยา ยโสติ ยโส จ มยา สทฺธึ มา คฺฉิ. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี. สีลปฺาณนฺติ สีลฺเจว าณฺจ. สงฺคมฺมาติ สนฺนิปติตฺวา. สมาคมฺมาติ สมาคนฺตฺวา. สงฺคณิกวิหารนฺติ คณสงฺคณิกวิหารํ. น หิ นูนเมติ น หิ นูน อิเม. ตถา หิ ปนเมติ ตถา หิ ปน อิเม. องฺคุลิปโตทเกหีติ องฺคุลิปโตทยฏฺึ กตฺวา วิชฺฌเนน. สฺชคฺฆนฺเตติ มหาหสิตํ หสนฺเต. สํกีฬนฺเตติ เกฬึ กโรนฺเต.
๗. ปตฺตนิกุชฺชนสุตฺตวณฺณนา
๘๗. สตฺตเม ¶ นิกฺกุชฺเชยฺยาติ เตน ทินฺนสฺส เทยฺยธมฺมสฺส อปฺปฏิคฺคหณตฺถํ ปตฺตนิกฺกุชฺชนกมฺมวาจาย นิกุชฺเชยฺย, น อโธมุขปเนน. อลาภายาติ ¶ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อลาภตฺถาย. อนตฺถายาติ อุปทฺทวาย อวฑฺฒิยา. อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อุกฺกุชฺชนกมฺมวาจาย อุกฺกุชฺเชยฺย.
๘. อปฺปสาทปเวทนียสุตฺตวณฺณนา
๘๘. อฏฺเม อปฺปสาทํ ปเวเทยฺยุนฺติ อปฺปสนฺนภาวํ ชานาเปยฺยุํ. อปฺปสาทํ ปเวเทนฺเตน ปน กึ กาตพฺพนฺติ? นิสินฺนาสนโต น อุฏฺาตพฺพํ น วนฺทิตพฺพํ น ปจฺจุคฺคมนํ กาตพฺพํ, น เทยฺยธมฺโม ทาตพฺโพ. อโคจเรติ ปฺจวิเธ อโคจเร.
๙. ปฏิสารณียสุตฺตวณฺณนา
๘๙. นวเม ¶ ธมฺมิกฺจ คิหิปฏิสฺสวนฺติ ‘‘อิมํ เตมาสํ อิเธว วสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺโต ‘‘เอวํ โหตู’’ติอาทินา นเยน ปฏิสฺสวํ. น สจฺจาเปตีติ วุตฺตํ น สจฺจํ กโรติ วิสํวาเทติ.
๑๐. สมฺมาวตฺตนสุตฺตวณฺณนา
๙๐. ทสเม ปจฺเจกฏฺาเนติ อธิปติฏฺาเน เชฏฺกฏฺาเน. ตฺหิ เชฏฺกํ กตฺวา กิฺจิ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ น ลภติ. น จ เตน มูเลน วุฏฺาเปตพฺโพติ ตํ มูลํ กตฺวา อพฺภานกมฺมํ กาตุํ น ลภติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สติวคฺโค นวโม.
(๑๐) ๕. สามฺวคฺโค
๙๑. อิโต ¶ ปรํ อถ โข โพชฺฌา อุปาสิกาติอาทีสุ โพชฺฌา อุปาสิกา, สิริมา อุปาสิกา, ปทุมา อุปาสิกา, สุตนา อุปาสิกา, มนุชา อุปาสิกา, อุตฺตรา อุปาสิกา, มุตฺตา อุปาสิกา, เขมา อุปาสิกา, รุจี อุปาสิกา, จุนฺที ราชกุมารี, พิมฺพี อุปาสิกา, สุมนา ราชกุมารี, มลฺลิกา เทวี ¶ , ติสฺสา อุปาสิกา, ติสฺสามาตา อุปาสิกา, โสณา อุปาสิกา, โสณาย มาตา อุปาสิกา, กาณา อุปาสิกา, กาณมาตา อุปาสิกา, อุตฺตรา นนฺทมาตา, วิสาขา มิคารมาตา, ขุชฺชุตฺตรา อุปาสิกา, สามาวตี อุปาสิกา, สุปฺปวาสา โกลิยธีตา, สุปฺปิยา อุปาสิกา, นกุลมาตา คหปตานีติ อิมาสํ เอตฺตกานํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถกมฺมเมว กถิตํ. อิจฺฉนฺเตน วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
อฏฺกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาเย
นวกนิปาต-อฏฺกถา
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. สมฺโพธิวคฺโค
๑. สมฺโพธิสุตฺตวณฺณนา
๑. นวกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม สมฺโพธิปกฺขิกานนฺติ จตุมคฺคสงฺขาตสฺส สมฺโพธิสฺส ปกฺเข ภวานํ, อุปการกานนฺติ อตฺโถ. ปาฬิยํ อาคเต นว ธมฺเม สนฺธาเยวํ ปุจฺฉติ. กา อุปนิสาติ โก อุปนิสฺสยปจฺจโย. อภิสลฺเลขนฺตีติ อภิสลฺเลขิกา. สมถวิปสฺสนาจิตฺตสฺส วิวรเณ สปฺปายา อุปการกาติ เจโตวิวรณสปฺปายา. อปฺปิจฺฉตํ อารพฺภ ปวตฺตา กถา อปฺปิจฺฉกถา. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
อสุภา ¶ ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานายาติ อยมตฺโถ สาลิลายโกปมาย วิภาเวตพฺโพ – เอโก หิ ปุริโส อสิตํ คเหตฺวา โกฏิโต ปฏฺาย สาลิกฺเขตฺเต สาลิโย ลายติ. อถสฺส วตึ ภินฺทิตฺวา คาโว ปวิสึสุ. โส อสิตํ เปตฺวา ยฏฺึ อาทาย เตเนว มคฺเคน คาโว นีหริตฺวา วตึ ปากติกํ กตฺวา ปุนปิ อสิตํ อาทาย สาลิโย ลายิ. เอตฺถ สาลิกฺเขตฺตํ วิย พุทฺธสาสนํ ทฏฺพฺพํ, สาลิลายโก วิย โยคาวจโร, อสิตํ วิย ปฺา, ลายนกาโล วิย วิปสฺสนาย กมฺมกรณกาโล, ยฏฺิ วิย อสุภกมฺมฏฺานํ, วติ วิย สํวโร, วตึ ภินฺทิตฺวา คาวีนํ ¶ ปวิสนํ วิย สหสา อปฺปฏิสงฺขาย ปมาทํ อารพฺภ ราคสฺส อุปฺปชฺชนํ, อสิตํ เปตฺวา ยฏฺึ อาทาย ปวิฏฺมคฺเคเนว คาโว นีหริตฺวา วตึ ปฏิปากติกํ กตฺวา ปุน โกฏิโต ปฏฺาย สาลิลายนํ วิย อสุภกมฺมฏฺาเนน ราคํ วิกฺขมฺเภตฺวา ปุน วิปสฺสนาย กมฺมํ อารภนกาโล. อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานายา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ราคสฺสาติ ปฺจกามคุณิกราคสฺส. เมตฺตาติ เมตฺตากมฺมฏฺานํ. พฺยาปาทสฺส ปหานายาติ วุตฺตนเยเนว อุปฺปนฺนสฺส โกปสฺส ปชหนตฺถาย. อานาปานสฺสตีติ โสฬสวตฺถุกา อานาปานสฺสติ. วิตกฺกุปจฺเฉทายาติ วุตฺตนเยเนว อุปฺปนฺนานํ วิตกฺกานํ อุปจฺเฉทนตฺถาย. อสฺมิมานสมุคฺฆาตายาติ อสฺมีติ อุปฺปชฺชนกสฺส มานสฺส สมุคฺฆาตตฺถาย. อนตฺตสฺา สณฺาตีติ อนิจฺจลกฺขเณ ทิฏฺเ อนตฺตลกฺขณํ ทิฏฺเมว โหติ. เอเตสุ หิ ตีสุ ลกฺขเณสุ เอกสฺมึ ทิฏฺเ อิตรทฺวยํ ทิฏฺเมว โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนิจฺจสฺิโน, ภิกฺขเว, อนตฺตสฺา สณฺาตี’’ติ. ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพานนฺติ ทิฏฺเเยว ธมฺเม อปจฺจยปรินิพฺพานฺจ ปาปุณาตีติ อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๒. นิสฺสยสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย นิสฺสยสมฺปนฺโนติ ปติฏฺาสมฺปนฺโน. สทฺธนฺติ โอกปฺปนสทฺธํ. วีริยนฺติ กายิกเจตสิกวีริยํ. ยํสาติ ยํ อสฺส. อริยาย ¶ ปฺายาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย. สงฺขายาติ ชานิตฺวา. เอกํ ปฏิเสวตีติ เสวิตพฺพยุตฺตกํ เสวติ. อธิวาเสตีติ อธิวาเสตพฺพยุตฺตกํ อธิวาเสติ. ปริวชฺเชตีติ ปริวชฺเชตพฺพยุตฺตกํ ปริวชฺเชติ. วิโนเทตีติ นีหริตพฺพยุตฺตกํ นีหรติ. เอวํ โข ภิกฺขูติ เอวํ โข ภิกฺขุ อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน เจว ธมฺมววตฺถานวเสน ¶ จ ปฏิเสวิตพฺพาทีนิ สุปฺปฏิวิทฺธานิ สุปจฺจกฺขานิ กตฺวา ปฏิเสวนฺโต อธิวาเสนฺโต ปริวชฺเชนฺโต วิโนเทนฺโต จ ภิกฺขุ นิสฺสยสมฺปนฺโน นาม โหตีติ.
๓. เมฆิยสุตฺตวณฺณนา
๓. ตติเย จาลิกายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตํ กิร จลมคฺคํ นิสฺสาย กตตฺตา โอโลเกนฺตานํ จลมานํ วิย อุปฏฺาติ, ตสฺมา จาลิกาติ สงฺขํ คตํ. จาลิยปพฺพเตติ โสปิ ปพฺพโต สพฺพเสตตฺตา กาฬปกฺขุโปสเถ โอโลเกนฺตานํ จลมาโน วิย อุปฏฺาติ, ตสฺมา จาลิยปพฺพโตติ วุตฺโต. ตตฺถ มหนฺตํ วิหารํ การยึสุ. อิติ ภควา ตํ นครํ นิสฺสาย จาลิกาปพฺพตมหาวิหาเร วิหรติ. ชนฺตุคามนฺติ เอวํนามกํ อปรมฺปิ ตสฺเสว วิหารสฺส โคจรคามํ. ชตฺตุคามนฺติปิ ¶ ปนฺติ. ปธานตฺถิกสฺสาติ ปธานกมฺมิกสฺส. ปธานายาติ สมณธมฺมกรณตฺถาย. อาคเมหิ ตาวาติ สตฺถา เถรสฺส วจนํ สุตฺวา อุปธาเรนฺโต ‘‘น ตาวสฺส าณํ ปริปกฺก’’นฺติ ตฺวา ปฏิพาหนฺโต เอวมาห. เอกกมฺหิ ตาวาติ อิทํ ปนสฺส ‘‘เอวมยํ คนฺตฺวาปิ ¶ กมฺเม อนิปฺผชฺชมาเน นิราสงฺโก หุตฺวา เปมวเสน ปุน อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ จิตฺตมทฺทวชนนตฺถํ อาห. นตฺถิ กิฺจิ อุตฺตริ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตุนฺนํ กิจฺจานํ กตตฺตา อฺํ อุตฺตริ กรณียํ นาม นตฺถิ. กตสฺส วา ปฏิจโยติ อธิคตสฺส วา ปุน ปฏิจโยปิ นตฺถิ. น หิ ภาวิตมคฺโค ปุน ภาวียติ, น ปหีนกิเลสานํ ปุน ปหานํ อตฺถิ. ปธานนฺติ โข, เมฆิย, วทมานํ กินฺติ วเทยฺยามาติ ‘‘สมณธมฺมํ กโรมี’’ติ ตํ วทมานํ มยํ อฺํ กึ นาม วเทยฺยาม.
ทิวาวิหารํ นิสีทีติ ทิวาวิหารตฺถาย นิสีทิ. นิสีทนฺโต จ ยสฺมึ มงฺคลสิลาปฏฺเฏ ปุพฺเพ อนุปฏิปาฏิยา ปฺจ ชาติสตานิ ราชา หุตฺวา อุยฺยานกีฬิกํ กีฬนฺโต ติวิธนาฏกปริวาโร นิสีทิ, ตสฺมึเยว นิสีทิ. อถสฺส นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย สมณภาโว ชหิโต วิย อโหสิ, ราชเวสํ คเหตฺวา นาฏกวรปริวุโต เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา มหารเห ปลฺลงฺเก นิสินฺโน วิย ชาโต. อถสฺส ตํ สมฺปตฺตึ อสฺสาทยโต กามวิตกฺโก อุทปาทิ. โส ตสฺมึเยว ขเณ มหาโยเธหิ คหิเต ทฺเว โจเร อาเนตฺวา ปุรโต ปิเต วิย อทฺทส. เตสุ เอกสฺส วธํ อาณาปนวเสนสฺส พฺยาปาทวิตกฺโก อุปฺปชฺชิ, เอกสฺส พนฺธนํ อาณาปนวเสน วิหึสาวิตกฺโก. เอวํ โส ลตาชาเลน รุกฺโข วิย มธุมกฺขิกาหิ มธุฆาตโก วิย อกุสลวิตกฺเกหิ ¶ ¶ ปริกฺขิตฺโต อโหสิ. ตํ สนฺธาย – อถ โข อายสฺมโต เมฆิยสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. อนฺวาสตฺตาติ อนุพทฺธา สมฺปริวาริตา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ เอวํ ปาปวิตกฺเกหิ สมฺปริกิณฺโณ กมฺมฏฺานํ สปฺปายํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อิทํ วต ทิสฺวา ทีฆทสฺสี ภควา ปฏิเสเธสี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อิทํ การณํ ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ นิสินฺนาสนโต วุฏฺาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.
๔. นนฺทกสุตฺตวณฺณนา
๔. จตุตฺเถ ¶ อุปฏฺานสาลายนฺติ โภชนสาลายํ. เยนุปฏฺานสาลาติ สตฺถา นนฺทกตฺเถเรน มธุรสฺสเรน อารทฺธาย ธมฺมเทสนาย สทฺทํ สุตฺวา, ‘‘อานนฺท, โก เอโส อุปฏฺานสาลาย มธุรสฺสเรน ธมฺมํ เทเสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธมฺมกถิกนนฺทกตฺเถรสฺส อชฺช, ภนฺเต, วาโร’’ติ สุตฺวา ‘‘อติมธุรํ กตฺวา, อานนฺท, เอโส ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถติ, มยมฺปิ คนฺตฺวา สุณิสฺสามา’’ติ วตฺวา เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ. พหิทฺวารโกฏฺเก อฏฺาสีติ ฉพฺพณฺณรสฺมิโย จีวรคพฺเภ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อฺาตกเวเสน อฏฺาสิ. กถาปริโยสานํ อาคมยมาโนติ ‘‘อิทมโวจา’’ติ อิทํ กถาวสานํ อุทิกฺขมาโน ธมฺมกถํ สุณนฺโต อฏฺาสิเยว. อถายสฺมา อานนฺโท นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม สตฺถุ สฺํ ¶ อทาสิ – ‘‘ปมยาโม อติกฺกนฺโต, ภนฺเต, โถกํ วิสฺสมถา’’ติ. สตฺถา ตตฺเถว อฏฺาสิ. อถายสฺมา อานนฺโท มชฺฌิมยาเมปิ นิกฺขนฺเต, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ปกติยา ขตฺติยสุขุมาลา, ปุน พุทฺธสุขุมาลาติ ปรมสุขุมาลา, มชฺฌิมยาโมปิ อติกฺกนฺโต, มุหุตฺตํ วิสฺสมถา’’ติ อาห. สตฺถา ตตฺเถว อฏฺาสิ. ตตฺถ ิตกสฺเสวสฺส อรุณคฺคํ ปฺายิตฺถ. อรุณุคฺคมนฺจ เถรสฺส ‘‘อิทมโวจา’’ติ ปาเปตฺวา กถาปริโยสานฺจ ทสพลสฺส ฉพฺพณฺณสรีรสฺมิวิสฺสชฺชนฺจ เอกปฺปหาเรเนว อโหสิ. อคฺคฬํ อาโกเฏสีติ อคฺคนเขน ทฺวารกวาฏํ อาโกเฏสิ.
สารชฺชมานรูโปติ หรายมาโน โอตฺตปฺปมาโน. โทมนสฺสสารชฺชํ ปนสฺส นตฺถิ. เอตฺตกมฺปิ โน นปฺปฏิภาเสยฺยาติ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตสฺส อปฺปฏิภานํ นาม นตฺถิ. เอตฺตกมฺปิ น กเถยฺยนฺติ ทสฺเสติ. สาธุ สาธูติ เถรสฺส ธมฺมเทสนํ สมฺปหํสนฺโต อาห. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ‘‘สุคหิตา จ เต ธมฺมเทสนา สุกถิตา จา’’ติ. กุลปุตฺตานนฺติ อาจารกุลปุตฺตานฺเจว ชาติกุลปุตฺตานฺจ. อริโย จ ตุณฺหิภาโวติ ทุติยชฺฌานสมาปตฺตึ สนฺธาเยวมาห. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายาติ สงฺขารปริคฺคหวิปสฺสนาาณสฺส ¶ . จตุปฺปาทโกติ ¶ อสฺสโคณคทฺรภาทิโก. อิทํ วตฺวาติ อิมํ จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ธมฺมํ กถยิตฺวา. วิหารํ ปาวิสีติ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺโ.
กาเลน ธมฺมสฺสวเนติ กาเล กาเล ธมฺมสฺสวนสฺมึ. ธมฺมสากจฺฉายาติ ปฺหกถาย. คมฺภีรํ อตฺถปทนฺติ คมฺภีรํ คุฬฺหํ รหสฺสํ อตฺถํ. ปฺายาติ ¶ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย. สมฺมสนปฏิเวธปฺาปิ อุคฺคหปริปุจฺฉาปฺาปิ วฏฺฏติเยว. ปตฺโต วา ปชฺชติ วาติ อรหตฺตํ ปตฺโต วา ปาปุณิสฺสติ วาติ เอวํ คุณสมฺภาวนาย สมฺภาเวติ. อปฺปตฺตมานสาติ อปฺปตฺตอรหตฺตา, อรหตฺตํ วา อปฺปตฺตํ มานสํ เอเตสนฺติปิ อปฺปตฺตมานสา. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ เอตฺถ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาโร โลกิโยปิ วฏฺฏติ โลกุตฺตโรปิ.
๕. พลสุตฺตวณฺณนา
๕. ปฺจเม อวิชฺชาโกสชฺชสาวชฺชอสฺสทฺธิเยสุ อกมฺปนโต ปฺาพลาทีนิ ทฏฺพฺพานิ. อกุสลสงฺขาตาติ อกุสลาติ าตา. เอส นโย สพฺพตฺถ. นาลมริยาติ อริยภาวํ กาตุํ อสมตฺถา, อริยานํ วา อนนุจฺฉวิกา. โวทิฏฺาติ สุฏฺุ ทิฏฺา. โวจริตาติ มโนทฺวาเร สมุทาจารปฺปตฺตา. อตฺถิกสฺสาติ ธมฺมเทสนาย อตฺถิกสฺส. อาชีวิกาภยนฺติ ชีวิตวุตฺติภยํ. อสิโลกภยนฺติ ครหาภยํ. ปริสาสารชฺชภยนฺติ ปริสํ ปตฺวา สารชฺชํ โอกฺกมนภยํ. อิมสฺมึ ¶ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๖. เสวนาสุตฺตวณฺณนา
๖. ฉฏฺเ ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสมฺภารา. สมุทาเนตพฺพาติ สมาหริตพฺพา. กสิเรน สมุทาคจฺฉนฺตีติ ทุกฺเขน อุปฺปชฺชนฺติ. รตฺติภาคํ วา ทิวสภาคํ วาติ เอตฺถ รตฺติภาเค ตฺวา รตฺติภาเคเยว ปกฺกมิตพฺพํ, รตฺตึ จณฺฑวาฬาทิปริปนฺเถ สติ อรุณุคฺคมนํ อาคเมตพฺพํ. ทิวสภาเค ตฺวา ทิวา ปกฺกมิตพฺพํ, ทิวา ปริปนฺเถ สติ สูริยตฺถงฺคมนํ อาคเมตพฺพํ. สงฺขาปีติ สามฺตฺถสฺส ภาวนาปาริปูริอาคมนํ ชานิตฺวา. โส ปุคฺคโลติ ปทสฺส ปน ‘‘นานุพนฺธิตพฺโพ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อนาปุจฺฉาติ อิธ ปน ตํ ปุคฺคลํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อปิ ปนุชฺชมาเนนาติ อปิ นิกฺกฑฺฒิยมาเนน. เอวรูโป หิ ปุคฺคโล สเจปิ ¶ ทารุกลาปสตํ วา อุทกฆฏสตํ วา วาลิกาฆฏสตํ วา ทณฺฑํ อาโรเปติ, มา อิธ วสีติ นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, ตํ ขมาเปตฺวาปิ ยาวชีวํ โส อนุพนฺธิตพฺโพว, น วิชหิตพฺโพ.
๗. สุตวาสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม ¶ ปฺจ านานิ อชฺฌาจริตุนฺติ ปฺจ การณานิ อติกฺกมิตุํ. ปาณนฺติ อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกํ. อทินฺนนฺติ อนฺตมโส ติณสลากมฺปิ ปรสนฺตกํ. เถยฺยสงฺขาตนฺติ เถยฺยจิตฺเตน. สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุนฺติ สนฺนิธึ กตฺวา เปตฺวา ¶ วตฺถุกามกิเลสกาเม ปริภฺุชิตุํ อภพฺโพ. อกปฺปิยํ กามคุณํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. พุทฺธํ ปจฺจกฺขาตุนฺติ ‘‘น พุทฺโธ อย’’นฺติ เอวํ ปฏิกฺขิปิตุํ. ธมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ตาว อฏฺกถาย อาคตํ. ปาฬิยํ ปน อิมสฺมึ สุตฺเต อคติคมนานิ กถิตานิ.
๘-๑๐. สชฺฌสุตฺตาทิวณฺณนา
๘-๑๐. อฏฺเม พุทฺธาทีนํ ปจฺจกฺขานํ กถิตํ. นวเม ปุถุชฺชเนน สทฺธึ คหิตตฺตา ‘‘อาหุเนยฺยา’’ติ วุตฺตํ. ทสเม โคตฺรภูติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน สิขาปตฺตพลววิปสฺสนาจิตฺเตน สมนฺนาคโต. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมฺโพธวคฺโค ปโม.
๒. สีหนาทวคฺโค
๑. สีหนาทสุตฺตวณฺณนา
๑๑. ทุติยสฺส ปเม เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ‘‘สเจ สตฺถา จาริกํ ปกฺกมิตุกาโม อสฺส ¶ , อิมสฺมึ กาเล ปกฺกเมยฺย. หนฺทาหํ จาริกํ คมนตฺถาย สตฺถารํ อาปุจฺฉามี’’ติ จินฺเตตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อุปสงฺกมิ. อายสฺมา มํ, ภนฺเตติ โส กิร ภิกฺขุ เถรํ มหตา ภิกฺขุปริวาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิเม ภิกฺขู ตถาคตํ ปหาย สาริปุตฺตํ ปริวาเรตฺวา นิกฺขนฺตา, คมนวิจฺเฉทมสฺส กริสฺสามี’’ติ อฏฺาเน โกปํ พนฺธิตฺวา เอวมาห. ตตฺถ ¶ อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา. อปฺปฏินิสฺสชฺชาติ อกฺขมาเปตฺวา อจฺจยํ อเทเสตฺวา. กิสฺมึ ปน โส การเณ อาฆาตํ พนฺธีติ? เถรสฺส กิร ทสพลํ วนฺทิตฺวา อุฏฺาย คจฺฉโต จีวรกณฺโณ ตสฺส สรีรํ ผุสิ, วาโต ปหรีติปิ วทนฺติ. เอตฺตเกน อาฆาตํ พนฺธิตฺวา เถรํ มหตา ปริวาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อุสูยมาโน ‘‘คมนวิจฺเฉทมสฺส กริสฺสามี’’ติ เอวมาห. เอหิ ตฺวํ ภิกฺขูติ สตฺถา ¶ ตสฺส ภิกฺขุโน วจนํ สุตฺวา ‘‘น ตํ ภิกฺขุ สาริปุตฺโต ปหรีติ วุตฺเต, ‘ภนฺเต, ตุมฺเห อตฺตโน อคฺคสาวกสฺเสว ปกฺขํ วหถ, น มยฺห’นฺติ มยิ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ ตฺวา ‘‘สาริปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา อิมมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ เอกํ ภิกฺขุํ อามนฺเตตฺวา เอวมาห. อวาปุรณํ อาทายาติ กฺุจิกํ คเหตฺวา. สีหนาทนฺติ เสฏฺนาทํ ปมุขนาทํ อปฺปฏิวตฺติยนาทํ. เอวํ ทฺวีหิ มหาเถเรหิ อาโรจิโต ภิกฺขุสงฺโฆ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ ปหาย สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. ขียนธมฺมนฺติ กถาธมฺมํ.
คูถคตนฺติ คูถเมว. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปถวีสเมนาติ อกุชฺฌนฏฺเน ปถวิยา สมาเนน. น หิ ปถวี ‘‘มยิ สุจึ นิกฺขิปนฺตี’’ติ โสมนสฺสํ กโรติ, น ‘‘อสุจึ นิกฺขิปนฺตี’’ติ โทมนสฺสํ. มยฺหมฺปิ เอวรูปํ จิตฺตนฺติ ทสฺเสติ. วิปุเลนาติ อปริตฺเตน. มหคฺคเตนาติ มหนฺตภาวํ คเตน. อปฺปมาเณนาติ วฑฺฒิตปฺปมาเณน. อเวเรนาติ ¶ อกุสลเวรปุคฺคลเวรรหิเตน. อพฺยาปชฺเฌนาติ นิทฺทุกฺเขน วิคตโทมนสฺเสน. โส อิธาติ โส อนุปฏฺิตกายานุปสฺสนาสติปฏฺาโน ภิกฺขุ เอวํ กเรยฺย, มาทิโส กถํ เอวรูปํ กริสฺสติ, ภนฺเตติ ปมํ สีหนาทํ นทิ. เอวํ สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
รโชหรณนฺติ รชสมฺมชฺชนโจฬกํ, ปาทปฺุฉนฺติ, ตสฺเสว นามํ. กโฬปิหตฺโถติ ปจฺฉิหตฺโถ อุกฺขลิหตฺโถ วา. นนฺตกวาสีติ อนฺตจฺฉินฺนปิโลติกวสโน. สูรโตติ สุจิสีโล โสรจฺเจน สมนฺนาคโต. สุทนฺโตติ สุฏฺุ ทมถํ อุปคโต. สุวินีโตติ สุฏฺุ สิกฺขิโต. น กฺจิ หึสตีติ วิสาณาทีสุ คณฺหนฺตมฺปิ ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺตมฺปิ น กฺจิ วิเหเติ. อุสภฉินฺนวิสาณสเมนาติ อุสภสฺส ฉินฺนวิสาณสฺส จิตฺตสทิเสน.
อฏฺฏีเยยฺยาติ อฏฺโฏ ¶ ปีฬิโต ภเวยฺย. หราเยยฺยาติ ลชฺเชยฺย. ชิคุจฺเฉยฺยาติ ชิคุจฺฉํ อาปชฺเชยฺย.
เมทกถาลิกนฺติ เมทกถาลิกา วุจฺจติ สูนการเกหิ ยูสนิกฺขมนตฺถาย ตตฺถ ตตฺถ กตฉิทฺทา ถาลิกา. ปริหเรยฺยาติ มํสสฺส ปูเรตฺวา ¶ อุกฺขิปิตฺวา คจฺเฉยฺย. ฉิทฺทาวฉิทฺทนฺติ ¶ ปริตฺตมหนฺเตหิ ฉิทฺเทหิ สมนฺนาคตํ. อุคฺฆรนฺตนฺติ อุปริมุเขหิ ฉิทฺเทหิ นิกฺขมมานยูสํ. ปคฺฆรนฺตนฺติ อโธมุเขหิ นิกฺขมมานยูสํ. เอวมสฺส สกลสรีรํ ยูสมกฺขิตํ ภเวยฺย. ฉิทฺทาวฉิทฺทนฺติ นวหิ วณมุเขหิ ปริตฺตมหนฺต ฉิทฺทํ. เอวเมตฺถ อฏฺมนวเมหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ เถโร อตฺตโน สรีเร นิจฺฉนฺทราคตํ กเถสิ.
อถ โข โส ภิกฺขูติ เอวํ เถเรน นวหิ การเณหิ สีหนาเท นทิเต อถ โส ภิกฺขุ. อจฺจโยติ อปราโธ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวตฺโต. ปติคฺคณฺหตูติ ขมตุ. อายตึ สํวรายาติ อนาคเต สํวรณตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส อกรณตฺถาย. ตคฺฆาติ เอกํเสน. ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสีติ ยถา ธมฺโม ิโต, ตเถว กโรสิ, ขมาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ ตํ ตว อปราธํ มยํ ขมาม. วุทฺธิเหสา ภิกฺขุ อริยสฺส วินเยติ เอสา ภิกฺขุ อริยสฺส วินเย พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน วุฑฺฒิ นาม. กตมา? อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกริตฺวา อายตึ สํวราปชฺชนา. เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโต โย อจฺจยํ อจฺจยโต ¶ ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตีติ อาห. ผลตีติ สเจ หิ เถโร น ขเมยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ตตฺเถว สตฺตธา มุทฺธา ผเลยฺย. ตสฺมา ภควา เอวมาห. สเจ มํ โสติ สเจ มํ อยํ ภิกฺขุ ขมาหีติ เอวํ วทติ. ขมตุ จ เม โสติ อยมฺปิ จายสฺมา มยฺหํ ขมตูติ เอวํ เถโร ตสฺส อจฺจยํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา สยมฺปิ ตํ สตฺถุ สมฺมุเข ขมาเปสีติ.
๒. สอุปาทิเสสสุตฺตวณฺณนา
๑๒. ทุติเย สอุปาทิเสสนฺติ สอุปาทานเสสํ. อนุปาทิเสสนฺติ อุปาทานเสสรหิตํ นิคฺคหณํ. มตฺตโส การีติ ปมาณการี น ปริปูรการี. น ตาวายํ, สาริปุตฺต, ธมฺมปริยาโย ปฏิภาสีติ อปฺปฏิภานํ นาม ภควโต นตฺถิ, น ตาวาหํ อิมํ ธมฺมปริยายํ กเถสินฺติ อยํ ปเนตฺถ ¶ อตฺโถ. มายิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ปมาทํ อาหรึสูติ ‘‘มยํ กิร จตูหิ อปาเยหิ มุตฺตา’’ติ อุปริ อรหตฺตตฺถาย วีริยํ อกโรนฺตา มา ปมาทํ อาปชฺชึสุ. ปฺหาธิปฺปาเยน ภาสิโตติ ตยา ปุจฺฉิตปฺหสฺส สภาเวน ¶ กถิโตติ ทสฺเสติ. อิเมสํ ปน นวนฺนํ ปุคฺคลานํ ภเวสุ ฉนฺทราควิโนทนตฺถํ เอตเมว อตฺถุปฺปตฺตึ กตฺวา – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตโกปิ คูโถ ทุคฺคนฺโธ โหติ, เอวเมว โข ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกมฺปิ ภวํ น ¶ วณฺเณมิ อนฺตมโส อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปี’’ติ อิมํ สุตฺตํ (อ. นิ. ๑.๓๒๑) อภาสิ. น เกวลฺจ เอเตสํเยว นวนฺนํ ปุคฺคลานํ คติ นิพทฺธา, เยสํ ปน กุลานํ ตีณิ สรณานิ ปฺจ สีลานิ เอกํ สลากภตฺตํ เอกํ ปกฺขิยภตฺตํ เอกํ วสฺสาวาสิกํ เอกา โปกฺขรณี เอโก อาวาโส, เอวรูปานิ นิพทฺธปฺุานิ อตฺถิ. เตสมฺปิ คติ นิพทฺธา, โสตาปนฺนสทิสาเนว ตานิ กุลานิ.
๓. โกฏฺิกสุตฺตวณฺณนา
๑๓. ตติเย ทิฏฺธมฺมเวทนียนฺติ อิมสฺมึ เยวตฺตภาเว วิปจฺจนกกมฺมํ. สมฺปรายเวทนียนฺติ ทุติเย อตฺตภาเว วิปจฺจนกกมฺมํ. สุขเวทนียนฺติ สุขเวทนาชนกกมฺมํ. ทุกฺขเวทนียนฺติ ทุกฺขเวทนาชนกกมฺมํ. ปริปกฺกเวทนียนฺติ ลทฺธวิปากวารํ. อปริปกฺกเวทนียนฺติ อลทฺธวิปากวารํ. พหุเวทนียนฺติ พหุวิปากทายกํ. อปฺปเวทนียนฺติ น พหุวิปากทายกํ. อเวทนียนฺติ วิปากเวทนาย อทายกํ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.
๔. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา
๑๔. จตุตฺเถ สมิทฺธีติ อตฺตภาวสมิทฺธตาย เอวํลทฺธนาโม เถรสฺส สทฺธิวิหาริกตฺเถโร. กิมารมฺมณาติ กึปจฺจยา. สงฺกปฺปวิตกฺกาติ สงฺกปฺปภูตา วิตกฺกา. นามรูปารมฺมณาติ นามรูปปจฺจยา. อิมินา ¶ จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา ภูตุปาทายรูปฺจ วิตกฺกานํ ปจฺจโยติ ทสฺเสติ. กฺว นานตฺตํ คจฺฉนฺตีติ กสฺมึ าเน นานาสภาวตํ เวมตฺตํ คจฺฉนฺติ. ธาตุสูติ รูปธาตุอาทีสุ. อฺโเยว หิ รูปวิตกฺโก, อฺเ สทฺทวิตกฺกาทโยติ. ผสฺสสมุทยาติ สมฺปยุตฺตผสฺสปจฺจยา. เวทนาสโมสรณาติ ติสฺโส เวทนา สโมสรณา. เอตฺตเกน กุสลากุสลมิสฺสกา กถิตา. สมาธิปฺปมุขาติอาทโย ปน อปจยปกฺขิกาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ¶ ปุพฺพงฺคมฏฺเน เชฏฺกฏฺเน วา สมาธิ ปมุขํ เอเตสนฺติ สมาธิปฺปมุขา. เชฏฺกการณฏฺเน สติ อธิปเตยฺยา เอเตสนฺติ สตาธิปเตยฺยา. มคฺคปฺา อุตฺตรา เอเตสนฺติ ปฺุตฺตรา. ผลวิมุตฺตึ ปตฺวา สารปฺปตฺตา โหนฺตีติ วิมุตฺติสารา. อารมฺมณวเสน อมตํ นิพฺพานํ โอคาหิตฺวา ¶ ตตฺถ ปติฏฺิตาติ อมโตคธา. เตน จ มา มฺีติ เตน วิสฺสชฺชเนน ‘‘อหํ อคฺคสาวเกน ปุจฺฉิเต ปฺเห วิสฺสชฺเชสิ’’นฺติ มา มานํ วา ทปฺปํ วา อกาสิ.
๕-๖. คณฺฑสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕-๑๖. ปฺจเม ตีณิ จตฺตาริ วสฺสานิ วสฺสคณา, อเนเก วสฺสคณา อุปฺปนฺนา อสฺสาติ อเนกวสฺสคณิโก. ตสฺสสฺสูติ ตสฺส ภเวยฺยุํ. อเภทนมุขานีติ ¶ น เกนจิ ภินฺทิตฺวา กตานิ, เกวลํ กมฺมสมุฏฺิตาเนว วณมุขานิ. เชคุจฺฉิยํเยวาติ ชิคุจฺฉิตพฺพเมว ปฏิกูลเมว. จาตุมหาภูติกสฺสาติ จตุมหาภูตมยสฺส. โอทนกุมฺมาสูปจยสฺสาติ โอทเนน เจว กุมฺมาเสน จ อุปจิตสฺส วฑฺฒิตสฺส. อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺสาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจธมฺมสฺส, ทุคฺคนฺธวิฆาตตฺถาย ตนุวิเลปเนน อุจฺฉาทนธมฺมสฺส, องฺคปจฺจงฺคาพาธวิโนทนตฺถาย ขุทฺทกสมฺพาหเนน ปริมทฺทนธมฺมสฺส, ทหรกาเล วา อูรูสุ สยาเปตฺวา คพฺภวาเสน ทุสฺสณฺิตานํ เตสํ เตสํ องฺคปจฺจงฺคานํ สณฺานสมฺปาทนตฺถํ อฺฉนปีฬนาทิวเสน ปริมทฺทนธมฺมสฺส, เอวํ ปริหริตสฺสาปิ จ เภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺส, ภิชฺชนวิกิรณสภาวสฺเสวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อนิจฺจปเทน เจว เภทนวิทฺธํสนปเทหิ จสฺส อตฺถงฺคโม กถิโต, เสเสหิ สมุทโย. นิพฺพินฺทถาติ อุกฺกณฺถ ปชหถ อิมํ กายนฺติ ทสฺเสติ. เอวมิมสฺมึ สุตฺเต พลววิปสฺสนา กถิตา. ฉฏฺํ วุตฺตนยเมว. สฺาสีเสน ปเนตฺถ าณเมว กถิตํ.
๗-๘. กุลสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗-๑๘. สตฺตเม น มนาเปน ปจฺจุฏฺเนฺตีติ มนวฑฺฒเนน ¶ มนํ อลฺลียนากาเรน อาสนา วุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนํ น กโรนฺติ. น มนาเปน อภิวาเทนฺตีติ น ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทนฺติ. อสกฺกจฺจํ เทนฺตีติ อจิตฺตีกาเรน เทนฺติ. โน สกฺกจฺจนฺติ สหตฺถา น เทนฺติ. น อุปนิสีทนฺติ ธมฺมสวนายาติ ‘‘ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ น สมีเป นิสีทนฺติ. น สุสฺสูสนฺตีติ ฆฏปิฏฺเ ¶ อาสิตฺตอุทกํ วิย วิวฏฺเฏตฺวา คจฺฉติ. อฏฺเม เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน เมตฺตาภาวนํ ปกฺขิปิตฺวา นวงฺคสมนฺนาคโตติ วุตฺตํ.
๙. เทวตาสุตฺตวณฺณนา
๑๙. นวเม ¶ วิปฺปฏิสารินิโยติ วิปฺปฏิสาริตํ มงฺกุภาวํ อาปชฺชิมฺห. หีนํ กายนฺติ อุปริเทวโลกํ อุปาทาย เหฏฺิโม หีโนติ วุจฺจติ. โน จ โข ยถาสตฺติ ยถาพลํ สํวิภชิมฺหาติ อตฺตโน สตฺติยา จ พลสฺส จ อนุรูเปน สีลวนฺตานํ สํวิภาคํ กตฺวา น ภฺุชิมฺหา.
๑๐. เวลามสุตฺตวณฺณนา
๒๐. ทสเม อปิ นุ เต, คหปติ, กุเล ทานํ ทียตีติ นยิทํ ภควา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ สนฺธาย ปุจฺฉติ. เสฏฺิสฺส หิ ฆเร ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิจฺจํ ปณีตทานํ ทียติ, น ตํ สตฺถา น ชานาติ. โลกิยมหาชนสฺส ปน ทิยฺยมานทานํ อตฺถิ, ตํ ลูขํ โหติ, เสฏฺิสฺส จิตฺตํ น ปีเณติ. ตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. กณาชกนฺติ ¶ สกุณฺฑกภตฺตํ, สกุณฺฑเกหิปิ กณิกตณฺฑุเลเหว ปกฺกํ. พิฬงฺคทุติยนฺติ กฺชิยทุติยํ. อสกฺกจฺจํ เทตีติ อสกฺกริตฺวา เทติ. อจิตฺตีกตฺวาติ อจิตฺตีกาเรน ทกฺขิเณยฺย อคารเวน เทติ. อสหตฺถา เทตีติ สหตฺเถน อทตฺวา ปรหตฺเถน เทติ, อาณตฺติมตฺตเมว กโรตีติ อตฺโถ. อปวิทฺธํ เทตีติ น นิรนฺตรํ เทติ, สํวจฺฉริกํ โสณฺฑพลิ วิย โหติ. อนาคมนทิฏฺิโก เทตีติ น กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา เทติ.
ยตฺถ ยตฺถาติ ตีสุ กุลสมฺปทาสุ ยสฺมึ ยสฺมึ กุเล. น อุฬาราย ภตฺตโภคายาติอาทีสุ นานคฺครสสุคนฺธสาลิโภชเน อุปนีเต จิตฺตํ น นมติ, ‘‘หรเถตํ โรควฑฺฒน’’นฺติ วตฺวา เยน วา เตน วา ฑาเกน สทฺธึ สกุณฺฑกภตฺตํ อมตํ วิย สมฺปิยายมาโน ภฺุชติ. กาสิกาทีสุ วรวตฺเถสุ อุปนีเตสุ ‘‘หรเถตานิ นิวาเสนฺตสฺส ปฏิจฺฉาเทตุมฺปิ น สกฺโกนฺติ, คตฺเตสุปิ น สณฺหนฺตี’’ติ วตฺวา นาฬิเกรสาฏกมูลตจสทิสานิ ปน ถูลวตฺถานิ ‘‘อิมานิ นิวาเสนฺโต นิวตฺถภาวมฺปิ ชานาติ, ปฏิจฺฉาเทตพฺพมฺปิ ¶ ปฏิจฺฉาเทนฺตี’’ติ สมฺปิยายมาโน นิวาเสติ. หตฺถิยานอสฺสยานรถยานสุวณฺณสิวิกาทีสุ ¶ อุปนีเตสุ ‘‘หรเถตานิ จลาจลานิ, น สกฺกา เอตฺถ นิสีทิตุ’’นฺติ วตฺวา ชชฺชรรถเก อุปนีเต ‘‘อยํ นิจฺจโล, เอตฺถ สุขํ นิสีทิตุ’’นฺติ ตํ สาทิยติ. น อุฬาเรสุ ปฺจสุ กามคุเณสูติ อลงฺกตปฏิยตฺตา รูปวติโย อิตฺถิโย ¶ ทิสฺวา ‘‘ยกฺขินิโย มฺเ, เอตา ขาทิตุกามา, กึ เอตาหี’’ติ ยถาผาสุเกเนว วีตินาเมติ. น สุสฺสูสนฺตีติ โสตุํ น อิจฺฉนฺติ, น สทฺทหนฺตีติ อตฺโถ. น โสตํ โอทหนฺตีติ กถิตสฺส สวนตฺถํ น โสตปสาทํ โอทหนฺติ. สกฺกจฺจนฺติอาทีนิ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพานิ.
เวลาโมติ ชาติโคตฺตรูปโภคสทฺธาปฺาทีหิ มริยาทเวลํ อติกฺกนฺเตหิ อุฬาเรหิ คุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา เอวํลทฺธนาโม. โส เอวรูปํ ทานํ อทาสิ มหาทานนฺติ เอตฺถ อยํ อนุปุพฺพีกถา – โส กิร อตีเต พาราณสิยํ ปุโรหิตเคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, เวลามกุมาโรติสฺส นามํ อกํสุ. โส โสฬสวสฺสกาเล พาราณสิราชกุมาเรน สทฺธึ สิปฺปุคฺคหณตฺถํ ตกฺกสิลํ อคมาสิ. เต อุโภปิ ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ ปฏฺปยึสุ. ยถา จ เต, เอวํ อฺเปิ ชมฺพุทีเป จตุราสีติสหสฺสราชกุมารา. โพธิสตฺโต อตฺตนา คหิตฏฺาเน ปิฏฺิอาจริโย หุตฺวา จตุราสีติ ราชกุมารสหสฺสานิ สิกฺขาเปติ, สยมฺปิ โสฬสวสฺเสหิ คเหตพฺพสิปฺปํ ตีหิ วสฺเสหิ อุคฺคณฺหิ. อาจริโย ‘‘เวลามกุมารสฺส สิปฺปํ ปคุณ’’นฺติ ตฺวา, ‘‘ตาตา, เวลาโม ¶ มยา าตํ สพฺพํ ชานาติ, ตุมฺเห สพฺเพปิ สมคฺคา คนฺตฺวา เอตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหถา’’ติ จตุราสีติ กุมารสหสฺสานิ โพธิสตฺตสฺส นิยฺยาเทสิ.
โพธิสตฺโต อาจริยํ วนฺทิตฺวา จตุราสีติ กุมารสหสฺสปริวาโร นิกฺขมิตฺวา เอกํ อาสนฺนนครํ ปตฺวา นครสามิกํ ราชกุมารํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา ตสฺส สิปฺเป ปคุเณ ชาเต ตํ ตตฺเถว นิวตฺเตสิ. เอเตนุปาเยน จตุราสีติ นครสหสฺสานิ คนฺตฺวา จตุราสีติยา ราชกุมารานํ สิปฺปํ ปคุณํ กาเรตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ นคเร ตํ ตํ นิวตฺเตตฺวา พาราณสิราชกุมารํ อาทาย พาราณสึ ปจฺจาคฺฉิ. มนุสฺสา กุมารํ ปริโยสิตสิปฺปํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ, เวลามสฺส ปุโรหิตฏฺานํ อทํสุ. เตปิ จตุราสีติสหสฺสราชกุมารา สเกสุ สเกสุ รชฺเชสุ อภิเสกํ ปตฺวา อนุสํวจฺฉรํ พาราณสิรฺโ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. เต ราชานํ ทิสฺวา เวลามสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อาจริย, อมฺเห รชฺเชสุ ปติฏฺิตา, วเทยฺยาถ เยนตฺโถ’’ติ วตฺวา คจฺฉนฺติ. เตสํ คมนาคมนกาเล ¶ สกฏสนฺทมานิกคาวิโคณกุกฺกุฏสูกราทโย คณฺหนฺตานํ ชนปโท อติวิย ¶ อุปทฺทุโต โหติ, มหาชโน สนฺนิปติตฺวา ราชงฺคเณ กนฺทติ.
ราชา เวลามํ ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘อาจริย, อุปทฺทุโต ชนปโท, ราชาโน คมนาคมนกาเล มหาวิโลปํ กโรนฺติ, มนุสฺสา สนฺธาเรตุํ น สกฺโกนฺติ, ชนปทปีฬาย อุปสมํ เอกํ อุปายํ กโรถา’’ติ ¶ . สาธุ มหาราช, อุปายํ กริสฺสามิ, ตุมฺหากํ ยตฺตเกน ชนปเทน อตฺโถ, ตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหถาติ. ราชา ตถา อกาสิ. เวลาโม จตุราสีติยา ราชสหสฺสานํ ชนปเท วิจาเรตฺวา จกฺกนาภิยํ อเร วิย รฺโ ชนปทสฺมึ โอโรเปสิ. ตโต ปฏฺาย เต ราชาโน อาคจฺฉนฺตาปิ คจฺฉนฺตาปิ อตฺตโน อตฺตโน ชนปเทเนว สฺจรนฺติ, อมฺหากํ ชนปโทติ วิโลปํ น กโรนฺติ. ราชคารเวน รฺโ ชนปทมฺปิ น ปีเฬนฺติ. ชนปทา สนฺนิสินฺนา นิสฺสทฺทา นิรวา อเหสุํ. สพฺเพ ราชาโน หฏฺตุฏฺา ‘‘เยน โว, อาจริย, อตฺโถ, ตํ อมฺหากํ วเทถา’’ติ ปวารยึสุ.
เวลาโม สีสํนฺหาโต อตฺตโน อนฺโตนิเวสเน สตฺตรตนปริปูรานํ คพฺภานํ ทฺวารานิ วิวราเปตฺวา ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ปิตํ ธนํ โอโลเกตฺวา อายวยํ อุปธาเรตฺวา ‘‘มยา สกลชมฺพุทีปํ โขเภนฺเตน ทานํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ รฺโ อาโรเจตฺวา คงฺคาตีเร ทฺวาทสโยชนิกา อุทฺธนปนฺติโย กาเรตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สปฺปิมธุผาณิตเตลติลตณฺฑุลาทีนํ ปนตฺถาย มหาโกฏฺาคารานิ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘เอเกกสฺมึ าเน เอตฺตกา เอตฺตกา ชนา สํวิทหถ, ยํกิฺจิ มนุสฺสานํ ลทฺธพฺพํ นาม อตฺถิ, ตโต เอกสฺมิมฺปิ อสติ มยฺหํ อาโรเจยฺยาถา’’ติ มนุสฺเส สํวิธาย ‘‘อสุกทิวสโต ปฏฺาย เวลามพฺราหฺมณสฺส ทานํ ภฺุชนฺตู’’ติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา ‘‘ทานคฺคํ ปรินิฏฺิต’’นฺติ ทานยุตฺเตหิ อาโรจิเต สหสฺสคฺฆนกํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา ¶ ปฺจสตคฺฆนกํ เอกํสํ กตฺวา สพฺพาลงฺการภูสิโต ทานวีมํสนตฺถาย ผลิกวณฺณสฺส อุทกสฺส สุวณฺณภิงฺคารํ ปูเรตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โลเก สเจ อิมํ ทานํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตรูปา ทกฺขิเณยฺยปุคฺคลา อตฺถิ, อิทํ อุทกํ นิกฺขมิตฺวา ปถวึ คณฺหาตุ. สเจ นตฺถิ, เอวเมว ติฏฺตู’’ติ สจฺจกิริยํ กตฺวา ภิงฺคารํ อโธมุขํ อกาสิ. อุทกํ ธมกรเณน คหิตํ วิย อโหสิ. โพธิสตฺโต ‘‘สฺุโ วต, โภ, ชมฺพุทีโป, เอกปุคฺคโลปิ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตรูโป นตฺถี’’ติ วิปฺปฏิสารํ อกตฺวา ‘‘สเจ ทายกสฺส ¶ วเสนายํ ทกฺขิณา วิสุชฺฌิสฺสติ, อุทกํ นิกฺขมิตฺวา ปถวึ คณฺหาตู’’ติ จินฺเตสิ. ผลิกวณฺณสทิสํ อุทกํ นิกฺขมิตฺวา ปถวึ คณฺหิ ¶ . ‘‘อิทานิ ทานํ ทสฺสามี’’ติ ทานคฺคํ ปตฺวา ทานํ โอโลเกตฺวา ยาคุเวลาย ยาคุํ, ขชฺชกเวลาย ขชฺชกํ, โภชนเวลาย โภชนํ ทาเปสิ. เอเตเนว นีหาเรน ทิวเส ทิวเส ทานํ ทียติ.
ตสฺมึ โข ปน ทานคฺเค ‘‘อิทํ นาม อตฺถิ, อิทํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อิทานิ ตํ ทานํ เอตฺตกมตฺเตเนว น นิฏฺํ คมิสฺสตีติ รตฺตสุวณฺณํ นีหราเปตฺวา สุวณฺณปาติโย กาเรตฺวา จตุราสีติสุวณฺณปาติสหสฺสาทีนํ อตฺถาย จตุราสีติราชสหสฺสานํ สาสนํ ปหิณิ. ราชาโน ‘‘จิรสฺสํ วต มยํ อาจริเยน อนุคฺคหิตา’’ติ สพฺพํ สมฺปาเทตฺวา เปเสสุํ. ทาเน ทิยฺยมาเนเยว สตฺต วสฺสานิ สตฺต มาสา อติกฺกนฺตา. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘หิรฺํ ภาเชตฺวา ทานํ ทสฺสามี’’ติ มหนฺเต โอกาเส ทานํ สชฺชาเปสิ. สชฺชาเปตฺวา จตุราสีติ สุวณฺณปาติสหสฺสานิ อาทึ กตฺวา โกฏิโต ปฏฺาย อทาสิ.
ตตฺถ ¶ รูปิยปูรานีติ รชตตฏฺฏิรชตผาลรชตมาสเกหิ ปูรานิ. ปาติโย ปน ขุทฺทิกาติ น สลฺลกฺเขตพฺพา, เอกกรีสปฺปมาเณ ภูมิภาเค จตสฺโสว ปาติโย ปยึสุ. ปาติมกุฬํ นวรตนํ โหติ, มุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย อฏฺรตนํ, ปาติมุขวฏฺฏิยา ฉยุตฺโต อาชฺรโถ อนุปริยายติ, ททมาโน ปาติยา พาหิรนฺเตน วคฺควคฺเค ปฏิคฺคาหเก เปตฺวา ปมํ ปาติยา ปกฺขิตฺตํ ทตฺวา ปจฺฉา สนฺธิสนฺธิโต วิโยเชตฺวา ปาตินฺติ เอวํ จตุราสีติ ปาติสหสฺสานิ อทาสิ. รูปิยปาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถปิ จ สุวณฺณปูรานีติ สุวณฺณตฏฺฏิสุวณฺณผาลสุวณฺณมาสเกหิ ปูรานิ. หิรฺปูรานีติ สตฺตวิธรตนปูรานิ. โสวณฺณาลงฺการานีติ สุวณฺณาลงฺการานิ. กํสูปธารณานีติ รชตมยขีรปฏิจฺฉกานิ. ตาสํ ปน เธนูนํ สิงฺคานิ สุวณฺณโกสกปริโยนทฺธานิ อเหสุํ, คีวาย สุมนทามํ ปิฬนฺธึสุ, จตูสุ ปาเทสุ นุปูรานิ, ปิฏฺิยํ วรทุกูลํ ปารุตํ, กณฺเ สุวณฺณฆณฺฏํ พนฺธึสุ. วตฺถโกฏิสหสฺสานีติ โลกโวหารโต วีสติวตฺถยุคานิ เอกา โกฏิ ¶ , อิธ ปน ทส สาฏกาติ วุตฺตํ. โขมสุขุมานนฺติอาทิมฺหิ ¶ โขมาทีสุ ยํ ยํ สุขุมํ, ตํ ตเทว อทาสิ. ยานิ ปเนตานิ อิตฺถิทานํ อุสภทานํ มชฺชทานํ สมชฺชาทานนฺติ อทานสมฺมตานิ, ตานิปิ เอส ‘‘เวลามสฺส ทานมุเข อิทํ นาม นตฺถี’’ติ วจนปถํ ปจฺฉินฺทิตุํ ปริวารตฺถาย อทาสิ. นชฺโช มฺเ วิสฺสนฺทนฺตีติ นทิโย วิย วิสฺสนฺทนฺติ.
อิมินา ¶ สตฺถา เวลามสฺส ทานํ กเถตฺวา, ‘‘คหปติ, เอตํ มหาทานํ นาฺโ อทาสิ, อหํ อทาสึ. เอวรูปํ ปน ทานํ ททนฺโตปิ อหํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตรูปํ ปุคฺคลํ นาลตฺถํ, ตฺวํ มาทิเส พุทฺเธ โลกสฺมึ ทิฏฺมาเน ทานํ ททมาโน กสฺมา จินฺเตสี’’ติ เสฏฺิสฺส เทสนํ วฑฺเฒนฺโต สิยา โข ปน เตติอาทิมาห. นนุ จ ยานิ ตทา อเหสุํ รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณานิ, ตานิ นิรุทฺธานิ? กสฺมา ‘‘อหํ เตน สมเยน เวลาโม พฺราหฺมโณ’’ติ อาหาติ? ปเวณิยา อวิจฺฉินฺนตฺตา. ตานิ หิ รูปาทีนิ นิรุชฺฌมานานิ อิเมสํ ปจฺจเย ทตฺวา นิรุทฺธานิ อปราปรํ อวิจฺฉินฺนํ ปเวณึ คเหตฺวา เอวมาห. น ตํ โกจิ ทกฺขิณํ โสเธตีติ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา อุฏฺาย ตํ ทกฺขิณํ โสเธตีติ วตฺตพฺโพ นาโหสิ. ตฺหิ ทกฺขิณํ โสเธนฺโต อุตฺตมโกฏิยา พุทฺโธ, เหฏฺิมโกฏิยา ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสทิโส สาวโก โสเธยฺย.
ทิฏฺิสมฺปนฺนนฺติ ทสฺสนสมฺปนฺนํ โสตาปนฺนํ. อิทํ ตโต มหปฺผลตรนฺติ อิทํ โสตาปนฺนสฺส ทินฺนทานํ โลกิยมหาชนสฺส สตฺตมาสาธิกานิ สตฺต สํวจฺฉรานิ ¶ เอตฺตกํ หิรฺสุวณฺณํ ปริจฺจชนฺเตน ทินฺนทานโต มหปฺผลํ.
โย จ สตํ ทิฏฺิสมฺปนฺนานนฺติ เอตฺถ เอกสฺส สกทาคามิสฺส วเสน เอกุตฺตรสตํ โสตาปนฺเน กตฺวา โสตาปนฺนคณนา เวทิตพฺพา. อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ เหฏฺา เหฏฺา อาคเต อนนฺตเรน สตคุณํ กตฺวา ปุคฺคลคณนา เวทิตพฺพา.
พุทฺธปฺปมุขนฺติ เอตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺธํ สงฺฆตฺเถรํ กตฺวา นิสินฺโน สงฺโฆ พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆติ เวทิตพฺโพ. จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺสาติ เอตฺถ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กตวิหาโร นาม ยตฺถ เจติยํ ปติฏฺิตํ โหติ, ธมฺมสฺสวนํ กรียติ, จตูหิ ทิสาหิ อนุทิสาหิ จ ภิกฺขู อาคนฺตฺวา อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวาเยว ปาเท โธวิตฺวา กฺุจิกาย ทฺวารํ วิวริตฺวา เสนาสนํ ปฏิชคฺคิตฺวา ¶ วสิตฺวา ยถาผาสุกํ คจฺฉนฺติ. โส อนฺตมโส จตุรตนิยา ปณฺณสาลาปิ โหตุ, จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กตวิหาโรตฺเวว วุจฺจติ.
สรณํ คจฺเฉยฺยาติ เอตฺถ มคฺเคนาคตํ อนิวตฺตนสรณํ อธิปฺเปตํ. อปเร ปนาหุ – อตฺตานํ นิยฺยาเทตฺวา ทินฺนตฺตา สรณาคมนํ ตโต มหปฺผลตรนฺติ วุตฺตํ. สิกฺขาปทานิ สมาทิเยยฺยาติ ปฺจ ¶ สีลานิ คณฺเหยฺย. สีลมฺปิ มคฺเคน อาคตํ อนิวตฺตนสีลเมว กถิตํ. อปเร ปนาหุ – สพฺพสตฺตานํ อภยทานสฺส ทินฺนตฺตา สีลํ ตโต มหปฺผลตรนฺติ วุตฺตํ. คนฺโธหนมตฺตนฺติ ¶ คนฺธอูหนมตฺตํ, ทฺวีหงฺคุลีหิ คณฺฑปิณฺฑํ คเหตฺวา อุปสิงฺฆนมตฺตํ. อปเร ปน ‘‘คทฺโทหนมตฺต’’นฺติ ปาฬึ วตฺวา คาวิยา เอกวารํ ถนอฺฉนมตฺตนฺติ อตฺถํ วทนฺติ. เมตฺตจิตฺตนฺติ สพฺพสตฺตานํ หิตานุผรณจิตฺตํ. ตํ ปน อปฺปนาวเสเนว คหิตํ. อนิจฺจสฺนฺติ มคฺคสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเวน สิขาปตฺตพลววิปสฺสนํ.
อุปมาโต ปน อิมานิ ทานาทีนิ ปฺุานิ เอวํ เวทิตพฺพานิ – สเจปิ หิ ชมฺพุทีปํ เภริตลสทิสํ สมตลํ กตฺวา โกฏิโต ปฏฺาย ปลฺลงฺเก อตฺถริตฺวา อริยปุคฺคเล นิสีทาเปยฺย, ตตฺถ โสตาปนฺนานํ ทส ปนฺติโย อสฺสุ, สกทาคามีนํ ปฺจ, อนาคามีนํ อฑฺฒเตยฺยา, ขิณาสวานํ ทิยฑฺฒา, ปจฺเจกพุทฺธานํ เอกา ปนฺติ ภเวยฺย, สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอกโกว. เอตฺตกสฺส ชนสฺส ทินฺนทานโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทินฺนเมว มหปฺผลํ. อิตรํ ปน –
‘‘วิหารทานํ ปณิปาโต, สิกฺขา เมตฺตาย ภาวนา;
ขยโต สมฺมสนฺตสฺส, กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ’’.
เตเนว ภควา ปรินิพฺพานสมเย ‘‘ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ อนุตฺตรา ปูชา’’ติ อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สีหนาทวคฺโค ทุติโย.
๓. สตฺตาวาสวคฺโค
๑. ติานสุตฺตวณฺณนา
๒๑. ตติยสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม อุตฺตรกุรุกาติ อุตฺตรกุรุวาสิโน. อธิคฺคณฺหนฺตีติ อธิภวนฺติ, อธิกา วิสิฏฺา เชฏฺกา โหนฺติ. อมมาติ นิตฺตณฺหา. อฏฺกถายํ ปน นิทฺทุกฺขาติ วุตฺตํ. อปริคฺคหาติ ‘‘อิทํ มยฺห’’นฺติ ปริคฺคหรหิตา. นิยตายุกาติ เตสฺหิ นิพทฺธํ อายุ วสฺสสหสฺสเมว, คติปิ นิพทฺธา, ตโต จวิตฺวา สคฺเคเยว นิพฺพตฺตนฺติ. สติมนฺโตติ เทวตานฺหิ เอกนฺตสุขิตาย สติ ถิรา น โหติ, เนรยิกานํ เอกนฺตทุกฺขิตาย. อิเมสํ ปน โวกิณฺณสุขทุกฺขตฺตา สติ ถิรา โหติ. อิธ พฺรหฺมจริยวาโสติ ชมฺพุทีเป พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานํ อุปฺปชฺชนโต อฏฺงฺคิกมคฺคพฺรหฺมจริยวาโสปิ อิเธว โหติ.
๒. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตวณฺณนา
๒๒. ทุติเย ชวสมฺปนฺโนติ ปทชเวน สมฺปนฺโน. น วณฺณสมฺปนฺโนติ น สรีรวณฺเณน สมฺปนฺโน. ปุริสขฬุงฺเกสุ ชวสมฺปนฺโนติ าณชเวน สมฺปนฺโน. น วณฺณสมฺปนฺโนติ น คุณวณฺเณน สมฺปนฺโน. เสสํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ ติกนิปาตวณฺณนายํ วุตฺตเมว.
๓. ตณฺหามูลกสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย ตณฺหํ ปฏิจฺจาติ ทฺเว ตณฺหา เอสนตณฺหา เอสิตตณฺหา จ. ยาย ตณฺหาย อชปถสงฺกุปถาทีนิ ปฏิปชฺชิตฺวา ¶ โภเค เอสติ คเวสติ, อยํ เอสนตณฺหา นาม. ยา เตสุ เอสิเตสุ คเวสิเตสุ ปฏิลทฺเธสุ ตณฺหา, อยํ เอสิตตณฺหา นาม. อิธ ปน เอสนตณฺหา ทฏฺพฺพา. ปริเยสนาติ รูปาทิอารมฺมณปริเยสนา. สา หิ เอสนตณฺหาย สติ โหติ. ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฏิลาโภ. โส หิ ปริเยสนาย สติ โหติ.
วินิจฺฉโย ¶ ปน าณตณฺหาทิฏฺิวิตกฺกวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา, สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๒๓) อยํ าณวินิจฺฉโย ¶ . ‘‘วินิจฺฉยาติ ทฺเว วินิจฺฉยา ตณฺหาวินิจฺฉโย จ ทิฏฺิวินิจฺฉโย จา’’ติ (มหานิ. ๑๐๒) เอวํ อาคตานิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ ตณฺหาวินิจฺฉโย. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิวินิจฺฉโย. ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕๘) อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อิธ วินิจฺฉโยติ วุตฺโต วิตกฺโกเยว อาคโต. ลาภํ ลภิตฺวา หิ อิฏฺานิฏฺํ สุนฺทราสุนฺทรํ วิตกฺเกเนว วินิจฺฉินนฺติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺธารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภฺุชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ. เตน วุตฺตํ – ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโยติ.
ฉนฺทราโคติ ¶ เอวํ อกุสลวิตกฺเกน วิตกฺกิเต วตฺถุสฺมึ ทุพฺพลราโค จ พลวราโค จ อุปฺปชฺชติ. อิทฺหิ อิธ ฉนฺโทติ ทุพฺพลราคสฺสาธิวจนํ. อชฺโฌสานนฺติ อหํ มมนฺติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณํ. มจฺฉริยนฺติ ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนตา. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ – ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺส อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ. อารกฺโขติ ทฺวารปิทหนมฺชูสาโคปนาทิวเสน สุฏฺุ รกฺขนํ. อธิกโรตีติ อธิกรณํ, การณสฺเสตํ นามํ. อารกฺขาธิกรณนฺติ ภาวนปุํสกํ, อารกฺขาเหตูติ อตฺโถ. ทณฺฑาทานาทีสุ ปรนิเสธนตฺถํ ทณฺฑสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. เอกโต ธาราทิโน สตฺถสฺส อาทานํ สตฺถาทานํ. กลโหติ กายกลโหปิ วาจากลโหปิ. ปุริโม วิคฺคโห, ปจฺฉิโม วิวาโท (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๓). ตุวํตุวนฺติ อคารววเสน ตุวํตุวํวจนํ.
๔. สตฺตาวาสสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺเถ สตฺตาวาสาติ สตฺตานํ อาวาสา, วสนฏฺานานีติ อตฺโถ. ตตฺถ สุทฺธาวาสาปิ สตฺตาวาโสว, อสพฺพกาลิกตฺตา ปน น คหิตา. สุทฺธาวาสา หิ พุทฺธานํ ขนฺธาวารฏฺานสทิสา, อสงฺเขยฺยกปฺเป พุทฺเธสุ อนิพฺพตฺเตสุ ตํ านํ สฺุํ โหติ. อิติ อสพฺพกาลิกตฺตา น คหิตา. เสสเมตฺถ ¶ วิฺาณฏฺิตีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๕. ปฺาสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม ¶ ¶ ยโตติ ยสฺมึ กาเล. สุปริจิตํ โหตีติ สุฏฺุ อุปจิตํ สุวฑฺฒิตํ โหติ. กลฺลํ วจนายาติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. วีตราคนฺติ วิคตราคํ. อสราคธมฺมนฺติ น สรชฺชนสภาวํ. อนาวตฺติธมฺมนฺติ อนาวตฺตนสภาวํ อนิพฺพตฺตารหํ, อปฺปฏิสนฺธิกภาเวเนว นิรุชฺฌนสภาวนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต ขีณาสโวว กถิโต.
๖. สิลายูปสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ จนฺทิกาปุตฺโตติ มาตุ นามวเสน ปฺาโต จนฺทิกาปุตฺตตฺเถโร. เจตสา จิตฺตํ โหตีติ จิตฺตวารปริยาเยน จิตฺตวารปริยาโย จิโต วฑฺฒิโต โหติ. เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตนฺติ จิตฺตวารปริยาเยน จิตฺตวารปริยาโย อุปรูปริ สุจิโต สุวฑฺฒิโต โหติ. เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺตีติ ตานิ อารมฺมณานิ ตสฺส ขีณาสวสฺส จิตฺตุปฺปาทํ คเหตฺวา เขเปตฺวา าตุํ น สกฺโกนฺติ. อมิสฺสีกตนฺติ ตานิ อารมฺมณานิ อนลฺลีนตฺตา เตหิ อมิสฺสีกตํ. อาเนฺชปฺปตฺตนฺติ ¶ อนิฺชนภาวํ นิปฺผนฺทนภาวํ ปตฺตํ.
สิลายูโปติ สิลาถมฺโภ. โสฬสกุกฺกุโกติ ทีฆโต โสฬสหตฺโถ. เหฏฺาเนมงฺคมาติ อาวาฏสฺส เหฏฺาคตา. อุปริ เนมสฺสาติ อุปริ อาวาฏสฺส. สุนิขาตตฺตาติ อยมุสเลหิ โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา สุฏฺุ นิขาตตฺตา. เอวเมว โขติ เอตฺถ สิลายูโป วิย ขีณาสโว ทฏฺพฺโพ, มหาวาตา วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชนกา กิเลสา, จตูหิ ทิสาหิ อาคนฺตฺวา วาตานํ สิลายูปํ จาเลตุํ อสมตฺถภาโว วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชนกกิเลสานํ ขีณาสวสฺส จิตฺตํ จาเลตุํ อสมตฺถภาโว เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต ขีณาสโวว กถิโต.
๗-๘. เวรสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๒๗-๒๘. สตฺตเม ภยํ เวรํ ปสวตีติ จิตฺตุตฺราสภยฺจ ปุคฺคลเวรฺจ ปฏิลภติ. เจตสิกนฺติ จิตฺตนิสฺสิตํ. ทุกฺขนฺติ กายวตฺถุกํ. โทมนสฺสนฺติ ¶ ปฏิฆสมฺปยุตฺตทุกฺขํ. อิมสฺมึ ¶ สุตฺเต โสตาปตฺติมคฺโค กถิโต. อฏฺมํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส กถิตํ, อิมสฺมึ ปน โสตาปนฺโนว กถิโตติ วุตฺตํ.
๙. อาฆาตวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม อาฆาตวตฺถูนีติ อาฆาตการณานิ. อาฆาตํ พนฺธตีติ โกปํ พนฺธติ อุปฺปาเทติ.
๑๐-๑๑. อาฆาตปฏิวินยสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๐-๓๑. ทสเม อาฆาตปฏิวินยาติ อาฆาตสฺส ปฏิวินยการณานิ. ตํ ¶ กุเตตฺถ ลพฺภาติ ‘‘ตํ อนตฺถจรณํ มา อโหสี’’ติ เอตสฺมึ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา, เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุํ, ‘‘ปโร นาม ปรสฺส อตฺตโน จิตฺตรุจิยา อนตฺถํ กโรตี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา อาฆาตํ ปฏิวิเนติ. อถ วา สจาหํ โกปํ กเรยฺยํ, ตํ โกปกรณํ เอตฺถ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา, เกน การเณน ลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. กุโต ลาภาติปิ ปาโ. สจาหํ เอตฺถ โกปํ กเรยฺยํ, ตสฺมึ เม โกปกรเณ กุโต ลาภา ลาภา, นาม เก สิยุนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ ตนฺติ นิปาตมตฺตเมว โหติ. เอกาทสเม อนุปุพฺพนิโรธาติ อนุปฏิปาฏินิโรธา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สตฺตาวาสวคฺโค ตติโย.
๔. มหาวคฺโค
๑-๒. อนุปุพฺพวิหารสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๒-๓๓. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม อนุปุพฺพวิหาราติ อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพวิหารา. ทุติเย ยตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺตีติ ยสฺมึ าเน กามา วูปสมฺมนฺติ. นิโรเธตฺวาติ อปฺปฏิวตฺเต กตฺวา. นิจฺฉาตาติ ตณฺหาทิฏฺิจฺฉาตานํ อภาเวน นิจฺฉาตา. นิพฺพุตาติ อตฺตปริตาปนกิเลสานํ อภาเวน นิพฺพุตา. ติณฺณาติ กามโต ติณฺณา. ปารํคตาติ กาเม ปารํ คตา. ตทงฺเคนาติ เตน ฌานงฺเคน. เอตฺถ ¶ กามา นิรุชฺฌนฺตีติ เอตฺถ ปมชฺฌาเน ¶ กามา นิรุชฺฌนฺติ. เต จาติ เย ปมชฺฌานํ สมาปชฺชนฺติ, เต กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ นาม. ปฺชลิโกติ ปคฺคหิตอฺชลิโก หุตฺวา. ปยิรุปาเสยฺยาติ อุปฏฺาเปยฺย. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓. นิพฺพานสุขสุตฺตวณฺณนา
๓๔. ตติเย อุทายีติ ลาฬุทายิตฺเถโร. เอตเทว ขฺเวตฺถาติ เอตเทว โข เอตฺถ. กามสหคตาติ กามนิสฺสิตา. สมุทาจรนฺตีติ มโนทฺวาเร สฺจรนฺติ. อาพาธายาติ อาพาธนาย ปีฬนาย. ปริยาเยนาติ การเณน. เอวํ สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ สุตฺเต อเวทยิตสุขํ นาม กถิตํ.
๔. คาวีอุปมาสุตฺตวณฺณนา
๓๕. จตุตฺเถ ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพตจารินี. น สุปฺปติฏฺิตํ ปติฏฺาเปตฺวาติ ยถา สุปฺปติฏฺิตา โหติ, เอวํ น ปติฏฺาเปตฺวา. ตํ นิมิตฺตนฺติ ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ นิมิตฺตํ. น สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาตีติ ยถา สุฏฺุ อธิฏฺิตํ โหติ, น เอวํ อธิฏฺาติ. อนภิหึสมาโนติ อโปเถนฺโต อวิเหเนฺโต. มุทุ จิตฺตํ โหติ กมฺมฺนฺติ ยถา วิปสฺสนาจิตฺตํ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ มุทุ กมฺมกฺขมํ กมฺมโยคฺคํ ¶ โหติ, เอวมสฺส อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ มุทุ โหติ กมฺมฺํ ¶ . อปฺปมาโณ สมาธีติ จตุพฺรหฺมวิหารสมาธิปิ มคฺคผลสมาธิปิ อปฺปมาโณ สมาธิ นาม, อิธ ปน ‘‘อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติ อิมินา ปริยาเยน สุปฺปคุณสมาธิ อปฺปมาณสมาธีติ ทฏฺพฺโพ. โส อปฺปมาเณน สมาธินา สุภาวิเตนาติ อิมสฺมึ าเน อยํ ภิกฺขุ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. อิทานิ ขีณาสวสฺส อภิฺาปฏิปาฏึ ทสฺเสนฺโต ยสฺส ยสฺส จาติอาทิมาห.
๕. ฌานสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ปฺจเม อาสวานํ ขยนฺติ อรหตฺตํ. ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตนฺติ ตสฺมึ ปมชฺฌานกฺขเณ วตฺถุวเสน วา จิตฺตสมุฏฺานิกาทิวเสน วา ยํ รูปํ นาม ปวตฺตติ. เวทนาคตาทีนิ สมฺปยุตฺตเวทนาทีนํ วเสน เวทิตพฺพานิ ¶ . เต ธมฺเมติ เต รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธธมฺเม. อนิจฺจโตติอาทีสุ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจโต, ปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขโต, รุชฺชนากาเรน โรคโต, อนฺโตทุสฺสนฏฺเน คณฺฑโต, อนุปวิฏฺฏฺเน อนุกนฺตนฏฺเน จ สลฺลโต, ทุกฺขฏฺเน อฆโต, อาพาธนฏฺเน อาพาธโต, อสกฏฺเน ปรโต, ปลุชฺชนฏฺเน ปโลกโต, อสฺสามิกฏฺเน สฺุโต, อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตโต. สมนุปสฺสตีติ พลววิปสฺสนาปฺาย ปสฺสติ.
เตหิ ธมฺเมหีติ เตหิ ปฺจกฺขนฺธธมฺเมหิ. ปฏิวาเปตีติ นิพฺพานวเสน นิวตฺเตติ. อมตาย ¶ ธาตุยาติ นิพฺพานธาตุยา. จิตฺตํ อุปสํหรตีติ าเณน อานิสํสํ ทิสฺวา โอตาเรติ. สนฺตนฺติ ปจฺจนีกสนฺตตาย สนฺตํ. ปณีตนฺติ อตปฺปกํ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ โส ตสฺมึ ปมชฺฌาเน ิโต ตํ พลววิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อปโร นโย – โส เตหิ ธมฺเมหีติ ยสฺมา อนิจฺจโตติอาทีสุ อนิจฺจโต ปโลกโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณํ กถิตํ, ทุกฺขโตติอาทีหิ ฉหิ ทุกฺขลกฺขณํ, ปรโต, สฺุโต, อนตฺตโตติ ตีหิ อนตฺตลกฺขณํ. ตสฺมา โส เตหิ เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ทิฏฺเหิ อนฺโตสมาปตฺติยํ ปฺจกฺขนฺธธมฺเมหิ. จิตฺตํ ปฏิวาเปตีติ จิตฺตํ ปฏิสํหรติ โมเจติ อปเนติ. อุปสํหรตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ ตาว สวนวเสน ถุติวเสน ปริยตฺติวเสน ปฺตฺติวเสน จ สนฺตํ นิพฺพานนฺติ เอวํ อสงฺขตาย อมตาย ธาตุยา อุปสํหรติ. มคฺคจิตฺตํ นิพฺพานํ ¶ อารมฺมณกรณวเสเนว ‘‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีต’’นฺติ น เอวํ วทติ. อิมินา ปนากาเรน ตํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ตตฺถ จิตฺตํ อุปสํหรตีติ อตฺโถ.
โส ตตฺถ ิโตติ ตสฺสา ติลกฺขณารมฺมณาย วิปสฺสนาย ิโต. อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ อนุกฺกเมน จตฺตาโร มคฺเค ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เตเนว ธมฺมราเคนาติ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ฉนฺทราเคน. ธมฺมนนฺทิยาติ ¶ ตสฺเสว เววจนํ. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺพโส ฉนฺทราคํ ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ.
ติณปุริสรูปเก ¶ วาติ ติณโปตฺถกรูเป วา. ทูเร กณฺเฑ ปาเตตีติ ทูเรปาตี. อวิราธิตํ วิชฺฌตีติ อกฺขณเวธี. ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตนฺติ อิธ รูปํ น คหิตํ. กสฺมา? สมติกฺกนฺตตฺตา. อยฺหิ เหฏฺา รูปาวจรชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา รูปํ อติกฺกมิตฺวา อรูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปนฺโนติ สมถวเสนาปิ อเนน รูปํ สมติกฺกนฺตํ, เหฏฺา รูปํ สมฺมสิตฺวา ตํ อติกฺกมฺม อิทานิ อรูปํ สมฺมสตีติ วิปสฺสนาวเสนาปิ อเนน รูปํ อติกฺกนฺตํ. อารุปฺเป ปน สพฺพโสปิ รูปํ นตฺถีติ ตํ สนฺธายปิ รูปํ น คหิตํ. อถ เนวสฺานาสฺายตนํ กสฺมา น คหิตนฺติ? สุขุมตฺตา. ตสฺมิฺหิ จตฺตาโรปิ อรูปกฺขนฺธา สุขุมา น สมฺมสนูปคา. เตเนวาห – ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ยาวตา สฺาสมาปตฺติ ตาวตา อฺาปฏิเวโธ’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวตา สจิตฺตกสมาปตฺติ นาม อตฺถิ, ตาวตา โอฬาริเก ธมฺเม สมฺมสโต อฺาปฏิเวโธ โหติ, อรหตฺตํ ¶ สมฺปชฺชติ. เนวสฺานาสฺายตนํ ปน สุขุมตฺตา สฺาสมาปตฺตีติ น วุจฺจติ. ฌายีเหเตติ ฌายีหิ ฌานาภิรเตหิ เอตานิ. วุฏฺหิตฺวาติ ตโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย. สมกฺขาตพฺพานีติ สมฺมา อกฺขาตพฺพานิ, ‘‘สนฺตานิ ปณีตานี’’ติ เอวํ เกวลํ อาจิกฺขิตพฺพานิ โถเมตพฺพานิ วณฺเณตพฺพานีติ.
๖. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๗. ฉฏฺเ สมฺพาเธติ ปฺจกามคุณสมฺพาเธ. โอกาสาธิคโมติ โอกาสสฺส อธิคโม. สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ สตฺตานํ วิสุทฺธึ ปาปนตฺถาย. สมติกฺกมายาติ สมติกฺกมนตฺถาย. อตฺถงฺคมายาติ อตฺถํ คมนตฺถาย. ายสฺส อธิคมายาติ สหวิปสฺสนกสฺส มคฺคสฺส อธิคมนตฺถาย ¶ . นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายาติ อปจฺจยนิพฺพานสฺส ปจฺจกฺขกรณตฺถาย. ตเทว นาม จกฺขุํ ภวิสฺสตีติ ตฺเว ปสาทจกฺขุ อสมฺภินฺนํ ภวิสฺสติ. เต รูปาติ ตเทว รูปารมฺมณํ อาปาถํ อาคมิสฺสติ. ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสตีติ ตฺจ รูปายตนํ น ชานิสฺสติ. เสเสสุปิ ¶ เอเสว นโย.
อุทายีติ กาฬุทายิตฺเถโร. สฺีเมว นุ โขติ สจิตฺตโกเยว นุ โข. มกาโร ปทสนฺธิมตฺตํ. กึสฺีติ กตรสฺาย สฺี หุตฺวา. สพฺพโส ¶ รูปสฺานนฺติ อิทํ กสฺมา คณฺหิ, กึ ปมชฺฌานาทิสมงฺคิโน รูปาทิปฏิสํเวทนา โหตีติ? น โหติ, ยาว ปน กสิณรูปํ อารมฺมณํ โหติ, ตาว รูปํ สมติกฺกนฺตํ นาม น โหติ. อสมติกฺกนฺตตฺตา ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺขิสฺสติ. สมติกฺกนฺตตฺตา ปน ตํ นตฺถิ นาม โหติ, นตฺถิตาย ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ อิทเมว คณฺหิ.
ชฏิลวาสิกาติ ชฏิลนครวาสินี. น จาภินโตติอาทีสุ ราควเสน น อภินโต, โทสวเสน น อปนโต. สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส นิคฺคณฺหิตฺวา วาเรตฺวา ิโต, กิเลสานํ ปน ฉินฺนนฺเต อุปฺปนฺโนติ น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. วิมุตฺตตฺตา ิโตติ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตาเยว ิโต. ิตตฺตา สนฺตุสิโตติ ิตตฺตาเยว สนฺตุฏฺโ นาม ชาโต. สนฺตุสิตตฺตา ¶ โน ปริตสฺสตีติ สนฺตุฏฺตฺตาเยว ปริตาสํ นาปชฺชติ. อยํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ กึ ผโลติ อิมินา อยํ เถรี ตาลผลฺเว คเหตฺวา ‘‘อิทํ ผลํ กึ ผลํ นามา’’ติ ปุจฺฉมานา วิย อรหตฺตผลสมาธึ คเหตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ กึ ผโล วุตฺโต ภควตา’’ติ ปุจฺฉติ. อฺาผโล วุตฺโตติ อฺา วุจฺจติ อรหตฺตํ, อรหตฺตผลสมาธิ นาเมโส วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. เอวํสฺีปีติ อิมาย อรหตฺตผลสฺาย สฺีปิ ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตีติ เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต อรหตฺตผลสมาธิ กถิโตติ.
๗. โลกายติกสุตฺตวณฺณนา
๓๘. สตฺตเม โลกายติกาติ โลกายตวาทกา. สตตนฺติ สทา. สมิตนฺติ นิรนฺตรํ. ติฏฺเตตนฺติ ติฏฺตุ เอตํ, มา เอตํ ปฏฺเปถ, โก โว เอเตน อตฺโถ. ธมฺมํ โว พฺราหฺมณา เทเสสฺสามีติ อหํ โว จตุสจฺจธมฺมํ เทเสสฺสามิ.
ทฬฺหธมฺโมติ ¶ ทฬฺหธนุํ คเหตฺวา ิโต. ธนุคฺคโหติ อิสฺสาโส. ทฬฺหธนุ นาม ทฺวิสหสฺสถามํ วุจฺจติ. ทฺวิสหสฺสถามํ นาม ยสฺส อาโรปิตสฺส ¶ ชิยาพทฺโธ ¶ โลหสีสาทีนํ ภาโร ทณฺเฑ คเหตฺวา ยาว กณฺฑปฺปมาณา อุกฺขิตฺตสฺส ปถวิโต มุจฺจติ. สิกฺขิโตติ ทส ทฺวาทส วสฺสานิ อาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺโป. กตหตฺโถติ เอโก สิปฺปเมว อุคฺคณฺหาติ, กตหตฺโถ น โหติ อยํ ปน กตหตฺโถ จิณฺณวสิภาโว. กตูปาสโนติ ราชกุลาทีสุ ทสฺสิตสิปฺโป. ลหุเกน อสเนนาติ อนฺโต สุสิรํ กตฺวา ตูลาทีหิ ปูเรตฺวา กตลกฺขปริกมฺเมน สลฺลหุกกณฺเฑน. เอวํ กตฺหิ เอกอุสภคามี ทฺเว อุสภานิปิ คจฺฉติ…เป… อฏฺุสภคามี โสฬส อุสภานิปิ คจฺฉติ. อปฺปกสิเรนาติ นิทฺทุกฺเขน. อติปาเตยฺยาติ อติกฺกเมยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา โส ธนุคฺคโห ตํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ ฉายํ สีฆเมว อติกฺกาเมติ, เอวํ สกลจกฺกวาฬํ สีฆํ สีฆํ อติกฺกมนสมตฺเถน ชเวน สมนฺนาคโต. สนฺธาวนิกายาติ ปทสา ธาวเนน. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ.
๘. เทวาสุรสงฺคามสุตฺตวณฺณนา
๓๙. อฏฺเม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสีติ ปจฺจุปฏฺิโต อโหสิ. สงฺคาเมยฺยามาติ สงฺคามํ กเรยฺยาม ยุชฺเฌยฺยาม. อปยึสุเยวาติ ปลายึสุเยว. อุตฺตเรนาภิมุขาติ อุตฺตรามุขา หุตฺวา. อภิยนฺเต วาติ ¶ อนุพนฺธนฺติเยว. ภีรุตฺตานคเตนาติ ภีรุตฺตานํ ภยนิวารณํ ปติฏฺานํ คเตน. อกรณียาติ ยุทฺเธน กิฺจิ อกตฺตพฺพา. กสฺมา ปน เนสํ สงฺคาโม โหตีติ? อสุรา หิ ปุพฺเพ ตาวตึสวาสิโน, เต จิตฺตปาฏลิยา ปุปฺผนกาเล ทิพฺพปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ อนุสฺสรนฺติ. ตโต อุปฺปนฺนโกธา ‘‘คณฺหถ เทเว’’ติ สมฺมุขสมฺมุขฏฺาเนเนว สิเนรุํ อภิรุหนฺติ, เทวาปิ นิกฺขมนฺติ. เตสํ โคปาลกทารกานํ อฺมฺํ ทณฺฑเกหิ ปหรณสทิสํ ยุทฺธํ โหติ. สกฺโก เทวราชา เหฏฺา ปฺจสุ าเนสุ อารกฺขํ เปตฺวา อุปริ เทวปุรํ ปริวาเรตฺวา อตฺตสทิสา วชิรหตฺถา ปฏิมา ปาเปสิ. อสุรา เหฏฺา ปฺจ านานิ ปฏิพาหิตฺวา อภิรุฬฺหา อินฺทปฏิมาโย ทิสฺวา นิวตฺติตฺวา อสุรปุรเมว คจฺฉนฺติ.
ทกฺขิเณนาภิมุขาติ ทกฺขิณามุขา หุตฺวา. อปทํ วธิตฺวาติ นิปฺปทํ นิรวเสสํ วธิตฺวา. อทสฺสนํ คโตติ มาโรปิ วฏฺฏปาทกํ กตฺวา รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ ¶ สมาปนฺนสฺส จิตฺตํ ชานาติ, ตเทว วิปสฺสนาปาทกํ กตฺวา สมาปนฺนสฺส จิตฺตํ ชานาติ. อรูปาวจรสมาปตฺติ ปน ¶ วฏฺฏปาทา วา โหตุ วิปสฺสนาปาทา ¶ วา, ตํ สมาปนฺนสฺส มาโร จิตฺตํ น ชานาติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทสฺสนํ คโต ปาปิมโต’’ติ.
๙. นาคสุตฺตวณฺณนา
๔๐. นวเม อารฺกสฺสาติ อรฺวาสิโน. โคจรปสุตสฺสาติ โคจรคฺคหณตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส. หตฺถิกลภาติ มหนฺตา มหนฺตา นาคา. หตฺถิจฺฉาปาติ ตรุณโปตกา. โอภคฺโคภคฺคนฺติ นาเมตฺวา นาเมตฺวา ปิตํ. โอคาหํ โอติณฺณสฺสาติ โอคาหิตพฺพตฺตา โอคาหนฺติ ลทฺธนามํ อุทกติตฺถํ โอติณฺณสฺส. โอคาหา อุตฺติณฺณสฺสาติ อุทกติตฺถโต อุตฺติณฺณสฺส. วูปกฏฺโติ วูปกฏฺโ หุตฺวา. อิทานิ ยสฺมา ทสพลสฺส หตฺถินาเคน กิจฺจํ นตฺถิ, สาสเน ปน ตํสริกฺขกํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ อิทมาหฏํ, ตสฺมา ตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสนฺโต เอวเมว โขติอาทิมาห.
๑๐. ตปุสฺสสุตฺตวณฺณนา
๔๑. ทสเม มลฺเลสูติ มลฺลรฏฺเ. อิเธว ตาว ตฺวํ, อานนฺท, โหตีติ อิธ ภควา ‘‘ตปุสฺสคหปติโน อิธ ิเตน อานนฺเทน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ภวิสฺสติ, ตโตนิทานํ อหํ มหนฺตํ ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามี’’ติ ตฺวา อาห. อุปสงฺกมีติ โส กิร ภุตฺตปาตราโส ‘‘ทสพลสฺส อุปฏฺานํ ¶ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขมนฺโต ทูรโตว เถรํ ทิสฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ. ปปาโต วิย ขายติ, ยทิทํ เนกฺขมฺมนฺติ ยมิทํ ปพฺพชฺชาสงฺขาตํ เนกฺขมฺมํ, ตํ อมฺหากํ มหาปปาโต วิย โอคาหิตฺวา อุปฏฺาติ. เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ อารมฺมณวเสน ปกฺขนฺทติ, ตเทว อารมฺมณํ กตฺวา ปสีทติ, ตเทว ปติฏฺาติ, ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ วิมุจฺจติ. ‘เอตํ สนฺต’นฺติ ปสฺสโตติ เอตํ เนกฺขมฺมํ สนฺตํ วิคตทรถปริฬาหนฺติ เอวํ ปสฺสนฺตานํ ภิกฺขูนํ. พหุนา ชเนน วิสภาโคติ ตยิทํ พหุนา มหาชเนน สทฺธึ ภิกฺขูนํ วิสภาคํ, อสทิสนฺติ อตฺโถ.
กถาปาภตนฺติ กถามูลํ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทตีติ ตสฺส เอวํ วิตกฺเกนฺตสฺสาปิ มยฺหํ ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ น โอตรติ. ‘‘เอตํ ¶ สนฺต’’นฺติ ปสฺสโตติ ‘‘สาธุ ¶ เนกฺขมฺม’’นฺติ ปริวิตกฺกนวเสน ‘‘เอตํ เนกฺขมฺมํ สนฺต’’นฺติ ปสฺสนฺตสฺสปิ. อนาเสวิโตติ น อาเสวิโต น ผสฺสิโต น สจฺฉิกโต. อธิคมฺมาติ อธิคนฺตฺวา ปตฺวา สจฺฉิกตฺวา. ตมาเสเวยฺยนฺติ ตํ อานิสํสํ เสเวยฺยํ ภเชยฺยํ. ยํ ¶ เมติ เยน การเณน มยฺหํ. อธิคมฺมาติ อธิคนฺตฺวา. สฺวาสฺส เม โหติ อาพาโธติ โส มยฺหํ อาพาธนฏฺเน อาพาโธ โหติ. อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทตีติ อวิตกฺกวิจาเร ทุติยชฺฌาเน อารมฺมณวเสน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ. วิตกฺเกสูติ วิตกฺกวิจาเรสุ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มหาวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. สามฺวคฺโค
๑. สมฺพาธสุตฺตวณฺณนา
๔๒. ปฺจมสฺส ปเม อุทายีติ กาฬุทายิตฺเถโร. อวิทฺวาติ อฺาสิ. ภูริเมธโสติ มหาปฺโ. โย ฌานมพุชฺฌีติ โย ฌานํ อพุชฺฌิ. ปฏิลีนนิสโภติ เอกีภาววเสน ปฏิลีโน เจว อุตฺตมฏฺเน จ นิสโภ. มุนีติ พุทฺธมุนิ. ปริยาเยนาติ เอเกน การเณน. กามสมฺพาธสฺส หิ อภาวมตฺเตเนว ปมชฺฌานํ โอกาสาธิคโม นาม, น สพฺพถา สพฺพํ. ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธติ ตสฺมิมฺปิ ปมชฺฌาเน สมฺพาโธ ¶ ปฏิปีฬนํ อตฺถิเยว. ตตฺราปิตฺถีติปิ ปาโ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธติ ตสฺมึ ปน ฌาเน กึ สมฺพาโธ นาม. อยเมตฺถ สมฺพาโธติ อยํ วิตกฺกวิจารานํ อนิรุทฺธภาโว สมฺพาโธ สํปีฬา นาม. อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิปฺปริยาเยนาติ น เอเกน การเณน, อถ โข อาสวกฺขโย นาม สพฺพสมฺพาธานํ ปหีนตฺตา สพฺเพน สพฺพํ โอกาสาธิคโม นามาติ.
๒. กายสกฺขิสุตฺตวณฺณนา
๔๓. ทุติเย ¶ ¶ ยถา ยถา จ ตทายตนนฺติ เยน เยน การเณน เยน เยนากาเรน ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ อายตนํ โหติ. ตถา ตถา นํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ เตน เตน การเณน เตน เตนากาเรน ตํ สมาปตฺตึ สหชาตนามกาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, สมาปชฺชตีติ อตฺโถ. กายสกฺขิ วุตฺโต ภควตา ปริยาเยนาติ ยสฺมา เตน นามากาเยน ปมชฺฌานํ สจฺฉิกตํ, ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน กายสกฺขิ วุตฺโต. นิปฺปริยาเยนาติ ยตฺตกํ กาเยน สจฺฉิกาตพฺพํ, สพฺพสฺส กตตฺตา อยํ นิปฺปริยาเยน กายสกฺขิ นาม.
๓. ปฺาวิมุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๔. ตติเย ปฺาย จ นํ ปชานาตีติ ตํ ปมชฺฌานวิปสฺสนาปฺาย ชานาติ. อิธาปิ ปริยายนิปฺปริยายา ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพา. ยถา จ อิธ, เอวํ อิโต ปเรสุปิ.
๔. อุภโตภาควิมุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๕. จตุตฺถํ ¶ อุภเยน เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ อุภโตภาควิมุตฺโตติ อุภโตภาเคหิ สมถวิปสฺสนานํ ปจฺจนีกกิเลเสหิ วิมุตฺโต. ปริโยสาเน ปน สมาปตฺติยา รูปกายโต, อริยมคฺเคน นามกายโต วิมุตฺโตเยว อุภโตภาควิมุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๕-๑๐. สนฺทิฏฺิกธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๖-๕๑. ปฺจมาทีสุ สนฺทิฏฺิโกติ สยํ ปสฺสิตพฺพโก. นิพฺพานนฺติ กิเลสนิพฺพานํ. ปรินิพฺพานนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ตทงฺคนิพฺพานนฺติ ปมชฺฌานาทินา เตน เตน องฺเคน นิพฺพานํ. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานนฺติ อิสฺมึเยว อตฺตภาเว นิพฺพานํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สามฺวคฺโค ปฺจโม.
ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกวณฺณนา
๕๒. อิโต ¶ ¶ ปเรสุ เขมนฺติ นิรุปทฺทวํ. เขมปฺปตฺโตติ เขมภาวํ ปตฺโต. สิกฺขาทุพฺพลฺยานีติ สิกฺขาย ทุพฺพลภาวกรณานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
นวกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาเย
ทสกนิปาต-อฏฺกถา
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. อานิสํสวคฺโค
๑. กิมตฺถิยสุตฺตวณฺณนา
๑. ทสกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม กุสลานิ สีลานีติ อนวชฺชสีลานิ. อมงฺกุภาวสฺส อวิปฺปฏิสารสฺส อตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ อวิปฺปฏิสารตฺถานิ. โส เนสํ อานิสํโสติ อวิปฺปฏิสารานิสํสานิ. ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถติอาทีสุ ยถาภูตาณทสฺสนํ นาม ตรุณวิปสฺสนา, นิพฺพิทา นาม พลววิปสฺสนา, วิราโค นาม มคฺโค, วิมุตฺติ นาม อรหตฺตผลํ, าณทสฺสนํ นาม ปจฺจเวกฺขณาณํ. อคฺคาย ปเรนฺตีติ อรหตฺตตฺถาย คจฺฉนฺติ.
๒. เจตนากรณียสุตฺตวณฺณนา
๒. ทุติเย ¶ น เจตนาย กรณียนฺติ น เจเตตฺวา กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา กาตพฺพํ. ธมฺมตา เอสาติ ธมฺมสภาโว เอโส การณนิยโม อยํ. อภิสนฺเทนฺตีติ ปวตฺเตนฺติ. ปริปูเรนฺตีติ ¶ ปริปุณฺณํ กโรนฺติ. อปารา ปารํ คมนายาติ โอริมตีรภูตา เตภูมกวฏฺฏา นิพฺพานปารํ คมนตฺถาย.
๓-๕. อุปนิสสุตฺตตฺตยวณฺณนา
๓-๕. ตติเย หตูปนิโสติ หตการโณ. จตุตฺถปฺจเมสุ ทฺวีหิ เถเรหิ กถิตภาโวว วิเสโส.
๖. สมาธิสุตฺตวณฺณนา
๖. ฉฏฺเ เนว ปถวิยํ ปถวีสฺี อสฺสาติ ปถวึ อารมฺมณํ กตฺวา ปถวีติ เอวํ อุปฺปนฺนาย สฺาย สฺี น ภเวยฺย. อาปาทีสุปิ เอเสว ¶ นโย. น อิธโลเกติ อิธโลเก อุปฺปชฺชนกจตุกฺกปฺจกชฺฌานสฺาย น สฺี ภเวยฺย. น ปรโลเกติ ปรโลเก อุปฺปชฺชนกจตุกฺกปฺจกชฺฌานสฺาย น สฺี ภเวยฺย. สฺี จ ปน อสฺสาติ อถ จ ปนสฺส สมาปตฺติ สวิตกฺกสมาปตฺติเยว อสฺสาติ วุจฺจติ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ สนฺตํ สนฺตนฺติ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ทิวสมฺปิ จิตฺตุปฺปาโท ‘‘สนฺตํ สนฺต’’นฺเตว ปวตฺตติ, ปณีตํ ปณีตนฺติ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ทิวสมฺปิ จิตฺตุปฺปาโท ‘‘ปณีตํ ปณีต’’นฺเตว ปวตฺตติ. ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถติ นิพฺพานํ นิพฺพานนฺติ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ทิวสมฺปิ จิตฺตุปฺปาโท ‘‘นิพฺพานํ นิพฺพาน’’นฺเตว ปวตฺตตีติ สพฺพมฺเปตํ ผลสมาปตฺติสมาธึ สนฺธาย วุตฺตํ.
๗. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๗. สตฺตเม สฺี จ ปนาหํ, อาวุโส, ตสฺมึ สมเย อโหสินฺติ, อาวุโส, ตสฺมึ สมเย ¶ อหํ ‘‘ภวนิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ อิมาย ¶ ผลสมาปตฺติสฺาย สฺี อโหสึ. สจิตฺตกา เม สา สมาปตฺติ อโหสีติ ปจฺจเวกฺขณา กถิตา.
๘. ฌานสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม สมนฺตปาสาทิโกติ ปสาทาวหานํเยว กายกมฺมาทีนํ สพฺภาวโต สมนฺโต ปาสาทิโก. สพฺพาการปริปูโรติ สพฺเพหิ การเณหิ ปริปุณฺโณ.
๙. สนฺตวิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม สนฺตาติ อารมฺมณสนฺตตายปิ องฺคสนฺตตายปิ สนฺตา. วิโมกฺขาติ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา อารมฺมเณ จ นิราสงฺกภาเวน สุฏฺุ มุตฺตตฺตา เอวํลทฺธนามา. อติกฺกมฺม รูเปติ รูปชฺฌานานิ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อานิสํสวคฺโค ปโม.
๒. นาถวคฺโค
๑. เสนาสนสุตฺตวณฺณนา
๑๑. ทุติยสฺส ¶ ปเม ปฺจงฺคสมนฺนาคโตติ ปฺจหิ คุณงฺเคหิ สมนฺนาคโต. นาติทูรํ โหติ นาจฺจาสนฺนนฺติ ยฺหิ อติทูเร โหติ, ปิณฺฑาย จริตฺวา ตตฺถ คจฺฉนฺตสฺส กายจิตฺตทรถา โหติ, ตโต อนุปฺปนฺนํ วา สมาธึ อุปฺปาเทตุํ อุปฺปนฺนํ วา ถิรํ กาตุํ น สกฺโกติ. อจฺจาสนฺนํ พหุชนากิณฺณํ โหติ. จตฺตาลีสอุสภมตฺเต ปน ปเทเส วสตํ ทูราสนฺนโทสวิมุตฺตฺจ คมนาคมนสมฺปนฺนํ นาม โหติ. ทิวาอปฺปากิณฺณนฺติ ทิวสภาเค มหาชเนน อนากิณฺณํ.
๒. ปฺจงฺคสุตฺตวณฺณนา
๑๒. ทุติเย ¶ เกวลีติ เกวเลหิ สกเลหิ คุเณหิ สมนฺนาคโต. วุสิตวาติ วุตฺถพฺรหฺมจริยวาโส. อเสเขนาติ ¶ อเสขธมฺมปริยาปนฺเนน โลกุตฺตเรน. สีลกฺขนฺเธนาติ สีลราสินา. วิมุตฺติกฺขนฺเธนาติ เอตฺถ เปตฺวา สีลาทโย ตโย เสสา ผลธมฺมา วิมุตฺติ นาม, วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณาณํ, ตํ โลกิยเมว.
๓-๔. สํโยชนสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓-๑๔. ตติเย โอรมฺภาคิยานีติ เหฏฺาภาคิยานิ. อุทฺธมฺภาคิยานีติ อุปริภาคิยานิ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ. จตุตฺเถ ขิลวินิพนฺธา ปฺจกนิปาเต วิตฺถาริตาเยว. อาโรหปริณาเหนาติ ทีฆปุถุลนฺเตน.
๕. อปฺปมาทสุตฺตวณฺณนา
๑๕. ปฺจเม เอวเมว โขติ ยถา สพฺพสตฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อคฺโค, เอวํ สพฺเพสํ กุสลธมฺมานํ การาปกอปฺปมาโท อคฺโคติ ทฏฺพฺโพ. นนุ เจส โลกิโยว, กุสลธมฺมา ปน โลกุตฺตราปิ. อยฺจ กามาวจโรว, กุสลธมฺมา ปน จตุภูมกา. กถเมส เตสํ อคฺโคติ? ปฏิลาภกตฺเตน. อปฺปมาเทน หิ เต ปฏิลภนฺติ, ตสฺมา โส เตสํ อคฺโค. เตเนว วุตฺตํ – สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกาติ.
ชงฺคลานนฺติ ¶ ปถวิตลจารีนํ. ปาณานนฺติ สปาทกปาณานํ. ปทชาตานีติ ปทานิ. สโมธานํ คจฺฉนฺตีติ โอธานํ ปกฺเขปํ คจฺฉนฺติ. อคฺคมกฺขายตีติ เสฏฺมกฺขายติ. ยทิทํ ¶ มหนฺตตฺเตนาติ มหนฺตภาเวน อคฺคมกฺขายติ, น คุณคฺเคนาติ อตฺโถ. วสฺสิกนฺติ สุมนปุปฺผํ. อิทํ กิร สุตฺตํ สุตฺวา ภาติยมหาราชา วีมํสิตุกามตาย เอกสฺมึ คพฺเภ จตุชาติคนฺเธหิ ปริภณฺฑํ กตฺวา สุคนฺธปุปฺผานิ อาหราเปตฺวา เอกสฺส สมุคฺคสฺส มชฺเฌ สุมนปุปฺผมุฏฺึ เปตฺวา เสสานิ ตสฺส สมนฺตโต มุฏฺึ กตฺวา เปตฺวา ทฺวารํ ปิธาย พหิ นิกฺขนฺโต. อถสฺส มุหุตฺตํ พหิ วีตินาเมตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา ปวิสนฺตสฺส สพฺพปมํ สุมนปุปฺผคนฺโธ ฆานํ ปหริ. โส มหาตลสฺมึเยว ¶ มหาเจติยาภิมุโข นิปชฺชิตฺวา ‘‘วสฺสิกํ เตสํ อคฺคนฺติ กเถนฺเตน สุกถิตํ สมฺมาสมฺพุทฺเธนา’’ติ เจติยํ วนฺทิ. ขุทฺทราชาโนติ ขุทฺทกราชาโน. กูฏราชาโนติปิ ปาโ.
๖. อาหุเนยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑๖. ฉฏฺเ โคตฺรภูติ สิขาปตฺตวิปสฺสนาภูเตน นิพฺพานารมฺมเณน โคตฺรภุาเณน สมนฺนาคโต.
๗. ปมนาถสุตฺตวณฺณนา
๑๗. สตฺตเม สนาถาติ สาตกา พหุาติวคฺคา หุตฺวา วิหรถ. นาถํ กโรนฺตีติ นาถกรณา, อตฺตโน สนาถภาวกรา ปติฏฺากราติ อตฺโถ. กลฺยาณมิตฺโตติอาทีสุ สีลาทิคุณสมฺปนฺนา กลฺยาณา มิตฺตา อสฺสาติ กลฺยาณมิตฺโต. เตวสฺส านนิสชฺชาทีสุ สห อยนโต สหายาติ กลฺยาณสหาโย. จิตฺเตน เจว กาเยน จ กลฺยาณมิตฺเตสุเยว สมฺปวงฺโก โอณโตติ กลฺยาณสมฺปวงฺโก. สุวโจ ¶ โหตีติ สุเขน วตฺตพฺโพ โหติ, สุเขน อนุสาสิตพฺโพ. ขโมติ คาฬฺเหน ผรุเสน กกฺขเฬน วุตฺโต ขมติ น กุปฺปติ. ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนินฺติ ยถา เอกจฺโจ โอวทิยมาโน วามโต คณฺหาติ, ปฏิปฺผรติ วา, อสฺสุณนฺโต วา คจฺฉติ, เอวํ อกตฺวา ‘‘โอวทถ ¶ , ภนฺเต, อนุสาสถ, ตุมฺเหสุ อโนวทนฺเตสุ โก อฺโ โอวทิสฺสตี’’ติ ปทกฺขิณํ คณฺหาติ.
อุจฺจาวจานีติ อุจฺจนีจานิ. กึกรณียานีติ ‘‘กึ กโรมี’’ติ เอวํ วตฺวา กตฺตพฺพกมฺมานิ. ตตฺถ อุจฺจกมฺมํ นาม จีวรสฺส กรณํ รชนํ, เจติเย สุธากมฺมํ, อุโปสถาคารเจติยฆรโพธิฆเรสุ กตฺตพฺพกมฺมนฺติ เอวมาทิ. อวจกมฺมํ นาม ปาทโธวนมกฺขนาทิขุทฺทกกมฺมํ. ตตฺรูปายายาติ ตตฺรุปคมนิยาย. อลํ กาตุนฺติ กาตุํ สมตฺโถ โหติ. อลํ สํวิธาตุนฺติ วิจาเรตุํ สมตฺโถ โหติ.
ธมฺเม อสฺส กาโม สิเนโหติ ธมฺมกาโม, เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปิยายตีติ อตฺโถ. ปิยสมุทาหาโรติ ปรสฺมึ กเถนฺเต สกฺกจฺจํ สุณาติ, สยฺจ ปเรสํ เทเสตุกาโม โหตีติ อตฺโถ ¶ . อภิธมฺเม อภิวินเยติ เอตฺถ ธมฺโม อภิธมฺโม, วินโย อภิวินโยติ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ¶ ธมฺโมติ สุตฺตนฺตปิฏกํ. อภิธมฺโมติ สตฺต ปกรณานิ. วินโยติ อุภโตวิภงฺโค. อภิวินโยติ ขนฺธกปริวารา. อถ วา สุตฺตนฺตปิฏกมฺปิ อภิธมฺมปิฏกมฺปิ ธมฺโม เอว, มคฺคผลานิ อภิธมฺโม. สกลวินยปิฏกํ วินโย, กิเลสวูปสมกรณํ อภิวินโย. อิติ สพฺพสฺมิมฺปิ เอตฺถ ธมฺเม จ อภิธมฺเม จ วินเย จ อภิวินเย จ อุฬารปาโมชฺโช โหตีติ อตฺโถ. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ การณตฺเถ ภุมฺมํ, จาตุภูมกกุสลธมฺมการณา เตสํ อธิคมตฺถาย อนิกฺขิตฺตธุโร โหตีติ อตฺโถ.
๘. ทุติยนาถสุตฺตวณฺณนา
๑๘. อฏฺเม เถรานุกมฺปิตสฺสาติ เถเรหิ โอวาทานุสาสนิทานสมุสฺสาหิตาย หิตผรณาย อนุกมฺปิตสฺส.
๙. ปมอริยาวาสสุตฺตวณฺณนา
๑๙. นวเม อริยวาสาติ อริยานํ อาวาโส, เต อาวสึสุ อาวสนฺติ อาวสิสฺสนฺตีติ อริยาวาสา. ยทริยาติ เย วาเส อริยา.
๑๐. ทุติยอริยาวาสสุตฺตวณฺณนา
๒๐. ทสมํ ¶ ยสฺมา กุรุรฏฺวาสิโน ภิกฺขู คมฺภีรปฺาการกา ยุตฺตปฺปยุตฺตา, ตสฺมา ยถา เตสํ ทีฆนิกายาทีสุ มหานิทานาทีนิ กถิตานิ, เอวมิทมฺปิ คมฺภีรํ สุขุมํ ติลกฺขณาหตํ สุตฺตํ ตตฺเถว อโวจ. ตตฺถ ¶ ปฺจงฺควิปฺปหีโนติ ปฺจหิ องฺเคหิ วิปฺปยุตฺโต หุตฺวา ขีณาสโว อวสิ วสติ วสิสฺสติ. ตสฺมา อยํ ปฺจงฺควิปฺปหีนตา อริยาวาโสติ วุตฺโต. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหตีติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย สมนฺนาคโต โหติ. ฉฬงฺคุเปกฺขา ธมฺมา นาม เกติ? าณาทโย. ‘‘าณ’’นฺติ วุตฺเต กิริยโต จตฺตาริ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ, ‘‘สตตวิหาโร’’ติ วุตฺเต อฏฺ มหาจิตฺตานิ, ‘‘รชฺชนทุสฺสนํ นตฺถี’’ติ วุตฺเต ทส จิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. โสมนสฺสํ อาเสวนวเสน ¶ ลพฺภติ. สตารกฺเขน เจตสาติ ขีณาสวสฺส หิ ตีสุ ทฺวาเรสุ สพฺพกาเล สติ อารกฺขกิจฺจํ สาเธติ. เตเนวสฺส จรโต จ ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหตีติ วุจฺจติ.
ปุถุสมณพฺราหฺมณานนฺติ พหูนํ สมณพฺราหฺมณานํ. เอตฺถ สมณาติ ปพฺพชฺชูปคตา, พฺราหฺมณาติ โภวาทิโน. ปุถุปจฺเจกสจฺจานีติ พหูนิ ปาเฏกฺกสจฺจานิ. ‘‘อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ, อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ ปาฏิเยกฺกํ คหิตานิ พหูนิ สจฺจานีติ อตฺโถ. นุณฺณานีติ นีหฏานิ. ปนุณฺณานีติ สุฏฺุ นีหฏานิ. จตฺตานีติ วิสฺสฏฺานิ. วนฺตานีติ วมิตานิ. มุตฺตานีติ ฉินฺนพนฺธนานิ กตานิ. ปหีนานีติ ¶ ปชหิตานิ. ปฏินิสฺสฏฺานีติ ยถา น ปุน จิตฺตํ อาโรหนฺติ, เอวํ ปฏินิสฺสชฺชิตานิ. สพฺพาเนว ตานิ คหิตคฺคหณสฺส วิสฺสฏฺภาวเววจนานิ.
สมวยสฏฺเสโนติ เอตฺถ อวยาติ อนูนา, สฏฺาติ วิสฺสฏฺา. สมฺมา อวยา สฏฺา เอสนา อสฺสาติ สมวยสฏฺเสโน, สุฏฺุวิสฺสฏฺสพฺพเอสโนติ อตฺโถ. ราคา จิตฺตํ วิมุตฺตนฺติอาทีหิ มคฺคสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติ กถิตา. ราโค เม ปหีโนติอาทีหิ ปจฺจเวกฺขณผลํ กถิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นาถวคฺโค ทุติโย.
๓. มหาวคฺโค
๑. สีหนาทสุตฺตวณฺณนา
๒๑. ตติยสฺส ¶ ปเม วิสมคเตติ วิสมฏฺาเนสุ โคจเรสุ คเต. สงฺฆาตํ อาปาเทสินฺติ ฆาตํ วธํ ปาเปสึ. ตสฺส หิ อุสฺสนฺนเตชตาย ขุทฺทเกสุ ปาเณสุ อนุกมฺปา โหติ. ตสฺมา เย ปฏิสตฺตุภาเวน ¶ สณฺาตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, เย ทุพฺพลา ปลายิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต ปลายิสฺสนฺตีติ สีหนาทํ นทิตฺวาว โคจราย ปกฺกมติ. ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยทิ หิ สหนตาย หนนตาย จ สีโห, ตถาคโต ¶ หิ สพฺพานิ จ อิฏฺานิฏฺานิ สหติ, สพฺพปรปฺปวาทิโน จ วาทานํ นิมฺมถเนน หนติ. อิทมสฺส โหติ สีหนาทสฺมินฺติ อยมสฺส สีหนาโท.
ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ. ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปฺุสมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตพลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตสฺส พลํ กายพลํ าณพลํ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘กาลาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ.
อิมานิ ทส หตฺถิกุลานิ. ตตฺถ กาลาวกนฺติ ปกติหตฺถิกุลํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาลาวกสฺส หตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ กาลาวกานํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺส. ยํ ทสนฺนํ คงฺเคยฺยานํ, ตํ เอกสฺส ปณฺฑรสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปณฺฑรานํ, ตํ เอกสฺส ตมฺพสฺส. ยํ ทสนฺนํ ตมฺพานํ, ตํ เอกสฺส ปิงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปิงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส คนฺธหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส มงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ มงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส เหมสฺส. ยํ ทสนฺนํ เหมานํ, ตํ เอกสฺส อุโปสถสฺส. ยํ ทสนฺนํ อุโปสถานํ, ตํ เอกสฺส ฉทฺทนฺตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ, ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส. นารายนสงฺฆาตพลนฺติปิ อิทเมว ¶ วุจฺจติ ¶ . ตเทตํ ปกติหตฺถิคณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสานํ, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ.
าณพลํ ปน ปาฬิยํ ตาว อาคตเมว. ทสพลาณํ, มชฺฌิเม อาคตํ จตุเวสารชฺชาณํ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ, จตุโยนิปริจฺเฉทาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทาณํ, สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๓) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ สตฺตสตฺตติ าณานีติ, เอวํ อฺานิปิ อเนกานิ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ. าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภนฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.
อาสภํ ¶ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ. อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อสมฺปกมฺปิโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ. ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ ทสหิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ. เอวํ ติฏฺมาโน จ ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ.
ปริสาสูติ ¶ อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ นทติ, อภีตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. ตตฺรายํ อุปมา – ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ ¶ สกฺกาโย’’ติอาทินา นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.
พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสิฏฺํ. จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ตํ ปเนตํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺเจว เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรโต วา ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติมคฺคา ปวตฺตมานํ, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. เตสุ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ.
อิทานิ ¶ เยหิ ทสหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ตานิ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ กตมานิ ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต านฺจ านโตติอาทิมาห. ตตฺถ านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ¶ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ, ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ตํ ภควา ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านํ. เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺาน’’นฺติ ปชานนฺโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. อภิธมฺเม ปเนตํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ าณ’’นฺติอาทินา (วิภ. ๘๐๙) นเยน วิตฺถาริตเมว. ยมฺปีติ เยน าเณน. อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺสาติ อิทมฺปิ านาฏฺานาณํ ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา.
กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ, กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว ¶ เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ, กมฺมํ เหตุ. อิมสฺส ปน าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๑๐) นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
สพฺพตฺถคามินินฺติ สพฺพคติคามินิฺจ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ ¶ ฆาเตนฺเตสุ ‘‘อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินี’’ติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวํ ชานาติ. อิมสฺสปิ จ าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส สพฺพตฺถคามินึ ปฏิปทํ ยถาภูตํ าณํ? อิธ ตถาคโต อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา นิรยคามินีติ ปชานาตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๑๑) นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
อเนกธาตุนฺติ จกฺขุธาตุอาทีหิ กามธาตุอาทีหิ วา ธาตูหิ พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสํเยว ธาตูนํ วิลกฺขณตาย นานปฺปการธาตุํ. โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ธาตูนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปฏิวิชฺฌติ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ¶ อเนกธาตุนานาธาตุโลกํ ยถาภูตํ าณํ? อิธ ตถาคโต ขนฺธนานตฺตํ ปชานาตี’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว.
นานาธิมุตฺติกตนฺติ หีนาทีหิ อธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ าณํ? อิธ ตถาคโต ปชานาติ สนฺติ สตฺตา หีนาธิมุตฺติกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว.
ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต อฺเสํ หีนสตฺตานํ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ, เวเนยฺยวเสน ทฺวิธา วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ ¶ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวฺจ อปรภาวฺจ, วุทฺธิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ. อิมสฺสาปิ าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ าณํ ¶ ? อิธ ตถาคโต สตฺตานํ อาสยํ ปชานาตี’’ติ (วิภ. ๘๑๔) อาทินา นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘) เอวํ วุตฺตํ ปคุณชฺฌานฺเจว ภวงฺคผลสมาปตฺติโย จ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ภวงฺเคน ปน สพฺพชฺฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ, ผลสมาปตฺติยา นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาย จ ‘‘ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ าณํ? ฌายีติ จตฺตาโร ฌายี, อตฺเถกจฺโจ ฌายี สมฺปตฺตึเยว สมานํ วิปตฺตีติ ปจฺเจตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๒๘) นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว. สพฺพาณานํ ¶ วิตฺถารกถาย วินิจฺฉโย สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย วุตฺโต, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติทิพฺพจกฺขุาณกถา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตา, อาสวกฺขยกถา เหฏฺา วุตฺตาเยวาติ.
ตตฺถ ¶ ปรวาทีกถา โหติ ‘‘ทสพลาณํ นาม ปาฏิเยกฺกํ าณํ นตฺถิ, สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโท’’ติ. ตํ น ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ, สพฺพฺุตฺาณํ ตมฺปิ ตโต อวเสสมฺปิ ชานาติ. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ, ทุติยํ กมฺมวิปากนฺตรเมว, ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, จตุตฺถํ ธาตุนานตฺตการณเมว, ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ ตโต อุตฺตริฺจ ปชานาติ, เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ ¶ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ.
อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ทสพลาณํ นาเมตํ สวิตกฺกสวิจารํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกอวิจารํ, กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ, โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติ. ชานนฺโต ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ สวิตกฺกสวิจารานี’’ติ วกฺขติ, ‘‘ตโต ปรานิ ทฺเว อวิตกฺกอวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกอวิจาร’’นฺติ วกฺขติ ¶ . ตถา ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ทฺเว รูปาวจรานิ, อวสาเน เอกํ โลกุตฺตร’’นฺติ วกฺขติ. ‘‘สพฺพฺุตฺาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว โลกิยเมวา’’ติ วกฺขติ.
เอวเมตฺถ อนุปทวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตถาคโต ปมํเยว านาฏฺานาเณน เวเนยฺยสตฺตานํ อาสวกฺขยาธิคมสฺส เจว อนธิคมสฺส จ านาฏฺานภูตํ กิเลสาวรณาภาวํ ปสฺสติ โลกิยสมฺมาทิฏฺิฏฺานาทิทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิฏฺานาภาวทสฺสนโต จ. อถ เนสํ กมฺมวิปากาเณน วิปากาวรณาภาวํ ปสฺสติ ติเหตุกปฺปฏิสนฺธิทสฺสนโต, สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาเณน กมฺมาวรณาภาวํ ปสฺสติ อานนฺตริยกมฺมาภาวทสฺสนโต. เอวมนาวรณานํ อเนกธาตุนานาธาตุาเณน อนุกูลธมฺมเทสนตฺถํ จริยาวิเสสํ ปสฺสติ ธาตุเวมตฺตทสฺสนโต. อถ เนสํ นานาธิมุตฺติกตาเณน อธิมุตฺตึ ปสฺสติ ปโยคํ อนาทิยิตฺวาปิ อธิมุตฺติวเสน ธมฺมเทสนตฺถํ. อเถวํ ทิฏฺาธิมุตฺตีนํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธมฺมํ เทเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ปสฺสติ สทฺธาทีนํ ติกฺขมุทุภาวทสฺสนโต. เอวํ ปริฺาตินฺทฺริยปโรปริยตฺตา ¶ ปน เต สเจ ทูเร โหนฺติ, อถ ฌานาทิาเณน ฌานาทีสุ วสีภูตตฺตา อิทฺธิวิเสเสน เต ขิปฺปํ อุปคจฺฉติ. อุปคนฺตฺวา จ เนสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปุพฺพชาติภวํ, ทิพฺพจกฺขานุภาวโต ปตฺตพฺเพน เจโตปริยาเณน สมฺปติ จิตฺตวิเสสํ ¶ ปสฺสนฺโต อาสวกฺขยาณานุภาเวน อาสวกฺขยคามินิยา ปฏิปทาย วิคตสมฺโมหตฺตา อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา อิมินานุกฺกเมน อิมานิ พลานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๒. อธิวุตฺติปทสุตฺตวณฺณนา
๒๒. ทุติเย ¶ เย เต ธมฺมาติ เย เต ทสพลาณํ สพฺพฺุตฺาณธมฺมา. อธิวุตฺติปทานนฺติ อธิวจนปทานํ, ขนฺธายตนธาตุธมฺมานนฺติ อตฺโถ. อธิวุตฺติโยติ หิ อธิวจนานิ วุจฺจนฺติ, เตสํ เย ปทภูตา เทสนาย ปทฏฺานตฺตา. อตีตา พุทฺธาปิ หิ เอเต ธมฺเม กถยึสุ, อนาคตาปิ เอเตว กถยิสฺสนฺติ. ตสฺมา ขนฺธาทโย อธิวุตฺติปทานิ นาม. เตสํ อธิวุตฺติปทานํ. อถ วา ภูตมตฺถํ อภิภวิตฺวา ยถาสภาวโต อคฺคเหตฺวา วตฺตนโต อธิวุตฺติโยติ ทิฏฺิโย วุจฺจนฺติ, อธิวุตฺตีนํ ปทานิ อธิวุตฺติปทานิ, ทิฏฺิทีปกานิ วจนานีติ อตฺโถ. เตสํ อธิวุตฺติปทานํ ทิฏฺิโวหารานํ. อภิฺา สจฺฉิกิริยายาติ ชานิตฺวา ปจฺจกฺขกรณตฺถาย. วิสารโทติ าณโสมนสฺสปฺปตฺโต. ตตฺถาติ เตสุ ธมฺเมสุ เตสํ เตสํ ตถา ตถา ธมฺมํ เทเสตุนฺติ เตสํ เตสํ ทิฏฺิคติกานํ วา อิตเรสํ วา อาสยํ ตฺวา ตถา ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ. หีนํ วา หีนนฺติ สฺสตีติ หีนํ วา ธมฺมํ ‘‘หีโน ธมฺโม’’ติ ชานิสฺสติ. าเตยฺยนฺติ าตพฺพํ. ทฏฺเยฺยนฺติ ทฏฺพฺพํ. สจฺฉิกเรยฺยนฺติ สจฺฉิกาตพฺพํ. ตตฺถ ¶ ตตฺถ ยถาภูตาณนฺติ เตสุ เตสุ ธมฺเมสุ ยถาสภาวาณํ. อิมินา สพฺพฺุตฺาณํ ทสฺเสติ. เอวํ สพฺพฺุตฺาณํ ทสฺเสตฺวา ปุน ทสพลาณํ ทสฺเสนฺโต ทสยิมานีติอาทิมาห. ทสพลาณมฺปิ หิ ตตฺถ ตตฺถ ยถาภูตาณเมวาติ.
๓. กายสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย อาปนฺโน โหติ กฺจิเทว เทสนฺติ กฺจิ อาปตฺติโกฏฺาสํ อาปนฺโน โหติ. อนุวิจฺจาติ อนุปวิสิตฺวา ปริโยคาเหตฺวา. กายทุจฺจริตนฺติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ. วจีทุจฺจริตนฺติ ¶ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ. ปาปิกา อิสฺสาติ ลามิกา อุสูยา. ปฺาย ทิสฺวาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา ปหาตพฺพา. อิชฺฌตีติ สมิชฺฌติ. อุปวาสสฺสาติ นิสฺสาย อุปสงฺกมิตฺวา วสนฺตสฺส. อภิภุยฺยาติ อชฺโฌตฺถริตฺวา ¶ มทฺทิตฺวา. อิรียตีติ วตฺตติ. อิมสฺมึ สุตฺเต สหวิปสฺสนาย มคฺโค กถิโต.
๔. มหาจุนฺทสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺเถ ชานามิมํ ธมฺมนฺติ อิมินา าณวาทสฺส วทนากาโร วุตฺโต. ภาวิตกาโยมฺหีติอาทีหิ ภาวนาวาทสฺส. ตติยวาเร ทฺเวปิ วาทา เอกโต วุตฺตา, ตโยปิ เจเต อรหตฺตเมว ปฏิชานนฺติ. อฑฺฒวาทํ วเทยฺยาติ อฑฺโฒหมสฺมีติ วาทํ วเทยฺย. อุปนีหาตุนฺติ นีหริตฺวา ทาตุํ.
๕. กสิณสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม สกลฏฺเน กสิณานิ, ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ เขตฺตฏฺเน อธิฏฺานฏฺเน วา อายตนานีติ กสิณายตนานิ. อุทฺธนฺติ ¶ อุปริ คคณตลาภิมุขํ. อโธติ เหฏฺา ภูมิตลาภิมุขํ. ติริยนฺติ เขตฺตมณฺฑลํ วิย สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒติ, เอกจฺโจ อโธ, เอกจฺโจ สมนฺตโต. เตน เตน วา การเณน เอวํ ปสาเรติ อาโลกมิว รูปทสฺสนกาโม. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริย’’นฺติ. อทฺวยนฺติ อิทํ ปน เอกสฺส อฺภาวานุปคมนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ อุทกํ ปวิฏฺสฺส สพฺพทิสาสุ อุทกเมว โหติ น อฺํ, เอวเมว ปถวีกสิณํ ปถวีกสิณเมว โหติ. นตฺถิ ตสฺส อฺกสิณสมฺเภโทติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. อปฺปมาณนฺติ อิทํ ตสฺส ตสฺส ผรณอปฺปมาณวเสน วุตฺตํ. ตฺหิ เจตสา ผรนฺโต สกลเมว ผรติ, ‘‘อยมสฺส อาทิ, อิทํ มชฺฌ’’นฺติ ปมาณํ น คณฺหาติ. วิฺาณกสิณนฺติ เจตฺถ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตวิฺาณํ. ตตฺถ กสิณวเสน กสิณุคฺฆาฏิมากาเส, กสิณุคฺฆาฏิมากาสวเสน ตตฺถ ปวตฺตวิฺาเณ อุทฺธํอโธติริยตา เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, กมฺมฏฺานภาวนานเยน ปเนตานิ ปถวีกสิณาทีนิ วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๕๑ อาทโย) วุตฺตาเนว.
๖. กาฬีสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ ¶ ¶ กุมาริปฺเหสูติ กุมารีนํ มารธีตานํ ปุจฺฉาสุ. อตฺถสฺส ¶ ปตฺตึ หทยสฺส สนฺตินฺติ ทฺวีหิปิ ปเทหิ อรหตฺตเมว กถิตํ. เสนนฺติ ราคาทิกิเลสเสนํ. ปิยสาตรูปนฺติ ปิยชาติเกสุ จ สาตชาติเกสุ จ วตฺถูสุ อุปฺปชฺชนโต เอวํลทฺธนามํ. เอโกหํ ฌายํ สุขมนุโพธินฺติ เอวํ กิเลสเสนํ ชินิตฺวา อหํ เอกโกว ฌายนฺโต สุขํ อนุพุชฺฌึ สจฺฉิอกาสึ. สกฺขินฺติ สกฺขิภาวปฺปตฺตํ ธมฺมสกฺขึ. น สมฺปชฺชติ เกนจิ เมติ มยฺหํ เกนจิ สทฺธึ มิตฺตธมฺโม นาม นตฺถิ. ปถวีกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ, เอเก สมณพฺราหฺมณา อตฺโถติ อภินิพฺพตฺเตสุนฺติ ปถวีกสิณสมาปตฺติปรโม อุตฺตโม อตฺโถติ คเหตฺวา อภินิพฺพตฺเตสุํ. ยาวตา โข, ภคินิ, ปถวีกสิณสมาปตฺติปรมตาติ ยตฺตกา ปถวีกสิณสมาปตฺติยา อุตฺตมโกฏิ. ตทภิฺาสิ ภควาติ ตํ ภควา อภิฺาปฺาย อภิฺาสิ. อสฺสาทมทฺทสาติ สมุทยสจฺจํ อทฺทส. อาทีนวมทฺทสาติ ทุกฺขสจฺจํ อทฺทส. นิสฺสรณมทฺทสาติ นิโรธสจฺจํ อทฺทส. มคฺคามคฺคาณทสฺสนมทฺทสาติ มคฺคสจฺจํ อทฺทส. อตฺถสฺส ปตฺตีติ เอเตสํ จตุนฺนํ สจฺจานํ ทิฏฺตฺตา อรหตฺตสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ปตฺติ, สพฺพทรถปริฬาหวูปสนฺตตาย หทยสฺส สนฺตีติ.
๗. ปมมหาปฺหสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม อภิชานาถาติ อภิชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วิหรถ. อภิฺายาติ ¶ อภิชานิตฺวา. อิธาติ อิมาย. ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนนฺติ ยทิทํ สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺมเทสนาย สทฺธึ อมฺหากํ ธมฺมเทสนํ, อมฺหากํ วา ธมฺมเทสนาย สทฺธึ สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อารพฺภ นานากรณํ วุจฺเจถ, ตํ กึ นามาติ วทนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อิติ เต มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย สาสเนน สทฺธึ อตฺตโน ลทฺธึ วจนมตฺเตน สมธุรํ ปยึสุ. เนว อภินนฺทึสูติ ‘‘เอวเมต’’นฺติ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. นปฺปฏิกฺโกสึสูติ ‘‘น อิทํ เอว’’นฺติ นปฺปฏิเสเธสุํ. กสฺมา? เต กิร ‘‘ติตฺถิยา นาม อนฺธสทิสา ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา กเถยฺยุ’’นฺติ นาภินนฺทึสุ.
น ¶ สมฺปายิสฺสนฺตีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. อุตฺตริ จ วิฆาตนฺติ อสมฺปาทนโต ¶ อุตฺตริมฺปิ ทุกฺขํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺตานฺหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมินฺติ เอตฺถ จ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. ยถาติ การณวจนํ, ยสฺมา อวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิตา โหนฺตีติ อตฺโถ. อิโต วา ปน สุตฺวาติ อิโต วา ปน มม สาสนโต สุตฺวา. อิโตติ ตถาคตโตปิ ตถาคตสาวกโตปิ. อาราเธยฺยาติ ปริโตเสยฺย, อฺถา อาราธนํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ.
เอกธมฺเมติ ¶ เอกสฺมึ ธมฺเม. อิมินา อุทฺเทโส ทสฺสิโต. ปรโต กตมสฺมึ เอกธมฺเมติ อิมินา ปฺโห ทสฺสิโต. สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกาติ อิทํ ปเนตฺถ เวยฺยากรณํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สมฺมา นิพฺพินฺทมาโนติอาทีสุ ปน สมฺมา เหตุนา นเยน นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺโต อุกฺกณฺนฺโต, วิราคานุปสฺสนาย วิรชฺชนฺโต, ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย มุจฺจนสฺส อุปายํ กตฺวา วิมุจฺจมาโน, อธิโมกฺขวเสน วา วิมุจฺจมาโน สนฺนิฏฺานํ กุรุมาโนติ อตฺโถ. อุทยพฺพเยหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปุพฺพนฺตาปรนฺตทสฺสเนน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี. สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจาติ สมฺมา สภาคตฺถํ าเณน อภิสมาคนฺตฺวา. ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตีติ สกลวฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตํ ปริวฏุมํ กโร โหติ.
สพฺเพ สตฺตาติ กามภวาทีสุ เอกโวการภวาทีสุ จ สพฺพภเวสุ สพฺเพ สตฺตา. อาหารฏฺิติกาติ อาหารโต ิติ เอเตสนฺติ อาหารฏฺิติกา. อิติ สพฺพสตฺตานมฺปิ ิติเหตุ อาหาโร นาม เอโก ธมฺโม, ตสฺมึ เอกธมฺเม. นนุ จ เอวํ สนฺเต ยํ วุตฺตํ – ‘‘อสฺสตฺตา เทวา อเหตุกา อนาหารา อผสฺสกา’’ติอาทิ (วิภ. ๑๐๑๗), ตํ วิรุชฺฌตีติ. น วิรุชฺฌติ. เตสฺหิ ฌานํ อาหาโร โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหารา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) อิทํ วิรุชฺฌตีติ. อิทมฺปิ น วิรุชฺฌติ. เอตสฺมิฺหิ สุตฺเต นิปฺปริยาเยน อาหารลกฺขณา ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตา, อิธ ปน ปริยาเยน ปจฺจโย ¶ อาหาโรติ วุตฺโต. สพฺพธมฺมานฺหิ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฏฺฏติ. โส จ ยํ ยํ ผลํ ชเนติ, ตํ ตํ อาหรติ นาม. ตสฺมา อาหาโรติ วุจฺจติ. เตเนวาห – ‘‘อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก ¶ จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย อาหาโร? ปฺจ นีวรณาติสฺส วจนีย’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อยํ อิธ อธิปฺเปโต. เอตสฺมิฺหิ ปจฺจยาหาเร คหิเต ปริยายาหาโรปิ นิปฺปริยายาหาโรปิ สพฺโพ คหิโตว โหติ.
ตตฺถ ¶ อสฺีภเว ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺเธ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตโต วุฏฺาย ‘‘ธิ จิตฺตํ, ธิ วเตตํ จิตฺตํ, จิตฺตสฺส นาม อภาโวเยว สาธุ. จิตฺตฺหิ นิสฺสาย วธพนฺธาทิปจฺจยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. จิตฺเต อสติ นตฺเถต’’นฺติ ขนฺตึ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา อสฺีภเว นิพฺพตฺตนฺติ. โย ยสฺส อิริยาปโถ มนุสฺสโลเก ปณิหิโต อโหสิ, โส เตน อิริยาปเถน นิพฺพตฺติตฺวา จิตฺตรูปสทิโส หุตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ติฏฺติ. เอตฺตกํ อทฺธานํ สยิโต วิย โหติ. เอวรูปานมฺปิ สตฺตานํ ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. เต หิ ยํ ฌานํ ภาเวตฺวา นิพฺพตฺตา, ตเทว เนสํ ปจฺจโย โหติ. ยถา ชิยาเวเคน ขิตฺตสโร ยาว ชิยาเวโค อตฺถิ, ตาว คจฺฉติ. เอวํ ยาว ฌานปจฺจโย อตฺถิ, ตาว ติฏฺนฺติ. ตสฺมึ นิฏฺิเต ขีณเวโค วิย สโร ปตนฺติ. จวนกาเล จ เตสํ โส รูปกาโย อนฺตรธายติ, กามาวจรสฺา อุปฺปชฺชติ, เตน สฺุปฺปาเทน เต เทวา ตมฺหา กายา จุตาติ ปฺายนฺติ.
เย ปน เต เนรยิกา เนว วุฏฺานผลูปชีวี, น ปฺุผลูปชีวีติ วุตฺตา, เตสํ โก อาหาโรติ? เตสํ กมฺมเมว อาหาโร ¶ . กึ ปฺจ อาหารา อตฺถีติ? ปฺจ, น ปฺจาติ อิทํ น วตฺตพฺพํ, นนุ ‘‘ปจฺจโย อาหาโร’’ติ วุตฺตเมตํ. ตสฺมา เยน กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตนฺติ, ตเทว เตสํ ิติปจฺจยตฺตา อาหาโร โหติ. ยํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘น จ ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐, ๒๖๘; อ. นิ. ๓.๓๖).
กพฬีการาหารํ อารพฺภาปิ เจตฺถ วิวาโท น กาตพฺโพ. มุเข อุปฺปชฺชนเขโฬปิ หิ เตสํ อาหารกิจฺจํ สาเธติ. เขโฬ หิ นิรเย ทุกฺขเวทนีโย หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, สคฺเค สุขเวทนิโย. อิติ กามภเว นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร อาหารา, รูปารูปภเวสุ เปตฺวา อสฺเ ¶ เสสานํ ตโย, อสฺานฺเจว อวเสสานฺจ ปจฺจยาหาโรติ อิมินา อากาเรน สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ จตฺตาโร อาหาโร โย วา ปน โกจิ ปจฺจยาหาโร ทุกฺขสจฺจํ, อาหารสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปฺปชานนา ปฺา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ จตุสจฺจวเสน สพฺพวาเรสุ โยชนา กาตพฺพา.
๘. ทุติยมหาปฺหสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺเม ¶ กชงฺคลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. กชงฺคลาติ กชงฺคลาวาสิโน. มหาปฺเหสูติ มหนฺตอตฺถปริคฺคาหเกสุ ปฺเหสุ. ยถา เมตฺถ ขายตีติ ยถา เม เอตฺถ อุปฏฺาติ. สมฺมา สุภาวิตจิตฺโตติ เหตุนา นเยน สุฏฺุ ภาวิตจิตฺโต. เอโส เจว ตสฺส อตฺโถติ กิฺจาปิ ภควตา ‘‘จตฺตาโร ธมฺมา’’ติอาทโย ปฺหา ‘‘จตฺตาโร อาหารา’’ติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชิตา, ยสฺมา ปน จตูสุ อาหาเรสุ ปริฺาเตสุ จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ, เตสุ จ ภาวิเตสุ จตฺตาโร อาหารา ปริฺาตาว โหนฺติ. ตสฺมา เทสนาวิลาเสน พฺยฺชนเมเวตฺถ นานํ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. อินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอโส ¶ เจว ตสฺส อตฺโถ’’ติ. อตฺถโต หิ อุภยมฺเปตํ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณมิว โหติ.
๙. ปมโกสลสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม ยาวตาติ ยตฺตกา. กาสิโกสลาติ กาสิโกสลชนปทา. อตฺเถว อฺถตฺตนฺติ ิตสฺส อฺถตฺตํ อตฺถิเยว. อตฺถิ วิปริณาโมติ มรณมฺปิ อตฺถิเยว. ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทตีติ ตสฺมิมฺปิ สมฺปตฺติชาเต อุกฺกณฺติ. อคฺเค วิรชฺชตีติ สมฺปตฺติยา อคฺเค โกสลราชภาเว วิรชฺชติ. ปเคว หีนสฺมินฺติ ปมตรํเยว หีเน อิตฺตรมนุสฺสานํ ปฺจ กามคุณชาเต.
มโนมยาติ ฌานมเนน นิพฺพตฺตา. พาราณเสยฺยกนฺติ พาราณสิยํ อุปฺปนฺนํ. ตตฺถ กิร กปฺปาโสปิ มุทุ, สุตฺตกนฺติกาโยปิ ตนฺตวายาปิ เฉกา, อุทกมฺปิ สุจิ สินิทฺธํ. อุภโตภาควิมฏฺนฺติ ทฺวีสุปิ ปสฺเสสุ มฏฺํ มุทุ ¶ สินิทฺธํ ขายติ. จตสฺโส ปฏิปทา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสิกา กถิตา. สฺาสุ ปมา กามาวจรสฺา, ทุติยา รูปาวจรสฺา, ตติยา โลกุตฺตรสฺา, จตุตฺถา อากิฺจฺายตนสฺา. ยสฺมา ปน สา สฺา อคฺคาติ อาคตา, ตโต ปรํ สฺาปฺตฺติ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อคฺคนฺติ วุตฺตา.
พาหิรกานนฺติ สาสนโต พหิทฺธา ปวตฺตานํ. โน ¶ จสฺสํ โน จ เม สิยาติ สเจ อหํ อตีเต น ภวิสฺสํ, เอตรหิปิ เม อยํ อตฺตภาโว น สิยา. น ภวิสฺสามิ น เม ภวิสฺสตีติ ¶ สเจปิ อนาคเต น ภวิสฺสามิ, น จ เม กิฺจิ ปลิโพธชาตํ ภวิสฺสติ. อคฺเค วิรชฺชตีติ อุจฺเฉททิฏฺิยํ วิรชฺชติ. อุจฺเฉททิฏฺิ หิ อิธ นิพฺพานสฺส สนฺตตาย อคฺคนฺติ ชาตา.
ปรมตฺถวิสุทฺธินฺติ อุตฺตมตฺถวิสุทฺธึ. เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา เอตํ อธิวจนํ. อากิฺจฺายตนฺหิ วิปสฺสนาปทฏฺานตฺตา อคฺคํ นาม ชาตํ, เนวสฺานาสฺายตนํ ทีฆายุกตฺตา. ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานนฺติ อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว ปรมนิพฺพานํ. อนุปาทา วิโมกฺโขติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อคฺคเหตฺวา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. อรหตฺตสฺเสตํ นามํ. ปริฺนฺติ สมติกฺกมํ. ตตฺถ ภควา ปมชฺฌาเนน กามานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, อรูปาวจเรหิ รูปานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, อนุปาทานิพฺพาเนน เวทนานํ ปริฺํ ปฺาเปติ. นิพฺพานฺหิ สพฺพเวทยิตปฺปหานตฺตา เวทนานํ ปริฺา นาม. อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ อปจฺจยปรินิพฺพานํ. อิทํ ปน สุตฺตํ กเถนฺโต ภควา อนภิรติปีฬิตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ทิสฺวา เตสํ อนภิรติวิโนทนตฺถํ กเถสิ. เตปิ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา โสตาปนฺนา หุตฺวา อปรภาเค วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ.
๑๐. ทุติยโกสลสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม อุยฺโยธิกา นิวตฺโต โหตีติ ยุทฺธโต นิวตฺโต โหติ. ลทฺธาธิปฺปาโยติ ¶ มหาโกสลรฺา กิร พิมฺพิสารสฺส ธีตรํ เทนฺเตน ทฺวินฺนํ รชฺชานํ อนฺตเร สตสหสฺสุฏฺาโน กาสิคาโม นาม ธีตุ ทินฺโน ¶ . อชาตสตฺตุนา ปิตริ มาริเต มาตาปิสฺส รฺโ วิโยคโสเกน นจิรสฺเสว มตา. ตโต ราชา ปเสนทิโกสโล ‘‘อชาตสตฺตุนา มาตาปิตโร มาริตา, มม ปิตุ สนฺตโก คาโม’’ติ ตสฺสตฺถาย อฏฺฏํ กโรติ, อชาตสตฺตุปิ ‘‘มม มาตุ สนฺตโก’’ติ ตสฺส คามสฺสตฺถาย. ทฺเวปิ มาตุลภาคิเนยฺยา จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ยุชฺฌึสุ. ตตฺถ ปเสนทิโกสโล ทฺเว วาเร อชาตสตฺตุนา ปราชิโต นครเมว ปาวิสิ. ตติยวาเร ‘‘กถํ นุ โข เม ชโย ภเวยฺยา’’ติ อุปสฺสุติวเสน ยุชฺฌิตพฺพาการํ ตฺวา พฺยูหํ รจยิตฺวา อุโภหิ ปสฺเสหิ ปริกฺขิปิตฺวา อชาตสตฺตุํ คณฺหิ. ตาวเทว ชยาธิปฺปายสฺส ลทฺธตฺตา ลทฺธาธิปฺปาโย นาม อโหสิ.
เยน ¶ อาราโม เตน ปายาสีติ พหินคเร ชยขนฺธาวารํ นิเวเสตฺวา ‘‘ยาว นครํ อลงฺกโรนฺติ, ตาว ทสพลํ วนฺทิสฺสามิ. นครํ ปวิฏฺกาลโต ปฏฺาย หิ ปปฺโจ โหตี’’ติ อมจฺจคณปริวุโต เยนาราโม เตน ปายาสิ, อารามํ ปาวิสิ. กสฺมึ กาเล ปาวิสีติ? ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺตานํ ภิกฺขูนํ โอวาทํ ทตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ภิกฺขุสงฺเฆ จ โอวาทํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ คเต. จงฺกมนฺตีติ กสฺมึ สมเย จงฺกมนฺติ? ปณีตโภชนปจฺจยสฺส ถินมิทฺธสฺส วิโนทนตฺถํ, ทิวา ปธานิกา วา เต. ตาทิสานฺหิ ปจฺฉาภตฺตํ จงฺกมิตฺวา นฺหตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปตฺวา ¶ นิสชฺช สมณธมฺมํ กโรนฺตานํ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. เย เต ภิกฺขูติ โส กิร ‘‘กหํ สตฺถา กหํ สุคโตติ ปริเวเณน ปริเวณํ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปวิสิสฺสามี’’ติ วิโลเกนฺโต อรฺหตฺถี วิย มหาจงฺกเม จงฺกมมาเน ปํสุกูลิเก ภิกฺขู ทิสฺวา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทสฺสนกามาติ ปสฺสิตุกามา. วิหาโรติ คนฺธกุฏึ สนฺธาย อาหํสุ. อตรมาโนติ อตุริโต, สณิกํ ปทปมาณฏฺาเน ปทํ นิกฺขิปนฺโต วตฺตํ กตฺวา สุสมฺมฏฺํ มุตฺตชาลสินฺทุวารสทิสํ วาลุกํ อวินาเสนฺโตติ อตฺโถ. อาลินฺทนฺติ ปมุขํ. อคฺคฬนฺติ กวาฏํ. อุกฺกาสิตฺวาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา. อาโกเฏหีติ อคฺคนเขน อีสกํ กฺุจิกาฉิทฺทสมีเป โกเฏหีติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวารํ กิร อติอุปริ อมนุสฺสา, อติเหฏฺา ทีฆชาติกา โกเฏนฺติ. ตถา อโกเฏตฺวา มชฺเฌ ฉิทฺทสมีเป โกเฏตพฺพนฺติ อิทํ ทฺวารโกฏนวตฺตนฺติ ¶ วทนฺติ. วิวริ ภควา ทฺวารนฺติ น ภควา อุฏฺาย ทฺวารํ วิวรติ, วิวรตูติ ปน หตฺถํ ปสาเรติ. ตโต ‘‘ภควา ตุมฺเหหิ อเนกกปฺปโกฏีสุ ทานํ ททมาเนหิ น สหตฺถา ทฺวารวิวรณกมฺมํ กต’’นฺติ สยเมว ทฺวารํ วิวฏํ. ตํ ปน ยสฺมา ภควโต มเนน วิวฏํ, ตสฺมา ‘‘วิวริ ภควา ทฺวาร’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
เมตฺตูปหารนฺติ ¶ เมตฺตาสมฺปยุตฺตํ กายิกวาจสิกอุปหารํ. กตฺุตนฺติ อยฺหิ ราชา ปุพฺเพ ถูลสรีโร อโหสิ, โทณปากํ ภฺุชติ. อถสฺส ภควา ทิวเส ทิวเส โถกํ โถกํ หาปนตฺถาย –
‘‘มนุชสฺส สทา สตีมโต,
มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน;
ตนุกสฺส ¶ ภวนฺติ เวทนา,
สณิกํ ชีรติ อายุปาลย’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๔) –
อิมํ โอวาทํ อทาสิ. โส อิมสฺมึ โอวาเท ตฺวา ทิวเส ทิวเส โถกํ โถกํ หาเปตฺวา อนุกฺกเมน นาฬิโกทนปรมตาย สณฺาสิ, คตฺตานิปิสฺส ตนูนิ ถิรานิ ชาตานิ. ตํ ภควตา กตํ อุปการํ สนฺธาย ‘‘กตฺุตํ โข อหํ, ภนฺเต, กตเวทิตํ สมฺปสฺสมาโน’’ติ อาห. อริเย าเยติ สหวิปสฺสนเก มคฺเค. วุทฺธสีโลติ วฑฺฒิตสีโล. อริยสีโลติ อโปถุชฺชนิเกหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต. กุสลสีโลติ อนวชฺเชหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต. อารฺโกติ ชายมาโนปิ อรฺเ ชาโต, อภิสมฺพุชฺฌมาโนปิ อรฺเ อภิสมฺพุทฺโธ, เทววิมานกปฺปาย คนฺธกุฏิยา วสนฺโตปิ อรฺเเยว วสีติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มหาวคฺโค ตติโย.
๔. อุปาลิวคฺโค
๑. อุปาลิสุตฺตวณฺณนา
๓๑. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม สงฺฆสุฏฺุตายาติอาทีสุ สงฺฆสุฏฺุตา นาม สงฺฆสฺส สุฏฺุภาโว, ‘‘สุฏฺุ เทวา’’ติ อาคตฏฺาเน วิย ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ ¶ วจนสมฺปฏิจฺฉนภาโว. โย จ ตถาคตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉติ, ตสฺส ตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตติ. ตสฺมา สงฺฆสฺส ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วจนสมฺปฏิจฺฉนตฺถํ ปฺตฺตํ, อสมฺปฏิจฺฉเน อาทีนวํ, สมฺปฏิจฺฉเน อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา, น พลกฺกาเรน อภิภวิตฺวาติ เอตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต อาห – สงฺฆสุฏฺุตายาติ. สงฺฆผาสุตายาติ สงฺฆสฺส ผาสุภาวาย, สหชีวิตาย สุขวิหารตฺถายาติ อตฺโถ.
ทุมฺมงฺกูนํ ¶ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ ทุมฺมงฺกูนาม ทุสฺสีลปุคฺคลา, เย มงฺกุตํ อาปาทิยมานาปิ ทุกฺเขน อาปชฺชนฺติ, วีติกฺกมํ กโรนฺตา วา กตฺวา วา น ลชฺชนฺติ, เตสํ นิคฺคหตฺถาย. เต หิ สิกฺขาปเท อสติ ‘‘กึ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ, กึ สุตํ, กึ อมฺเหหิ กตํ, กตมสฺมึ วตฺถุสฺมึ กตมํ อาปตฺตึ โรเปตฺวา อมฺเห นิคฺคณฺหถา’’ติ สงฺฆํ วิเหเยฺยุํ. สิกฺขาปเท ปน สติ เต สงฺโฆ สิกฺขาปทํ ทสฺเสตฺวา สห ธมฺเมน นิคฺคเหสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติ.
เปสลานนฺติ ปิยสีลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารตฺถาย. ปิยสีลา หิ ภิกฺขู กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทฺจ อชานนฺตา สิกฺขาตฺตยปาริปูริยา ฆฏมานา กิลมนฺติ, เต ปน สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทฺจ ¶ ตฺวา สิกฺขาปาริปูริยา ฆฏมานา น กิลมนฺติ. เตน เตสํ สิกฺขาปทปฺาปนํ ผาสุวิหาราย สํวตฺตติเยว. โย วา ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห, สฺเวว เตสํ ผาสุวิหาโร. ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสถปฺปวารณา น ติฏฺนฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ, ภิกฺขู อเนกคฺคา อุทฺเทสาทีสุ อนุยฺุชิตุํ น สกฺโกนฺติ. ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ, ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺติ. เอวํ ‘‘เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารายา’’ติ เอตฺถ ทฺวิธา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวรายาติ ทิฏฺธมฺมิกา อาสวา นาม อสํวเร ิเตน ตสฺมึเยว อตฺตภาเว ปตฺตพฺพา ปาณิปฺปหารทณฺฑปฺปหารสตฺถปฺปหารหตฺถจฺเฉทปาทจฺเฉทอกิตฺติอยสวิปฺปฏิสาราทโย ทุกฺขวิเสโส, เตสํ สํวราย ปิทหนาย อาคมนมคฺคถกนายาติ อตฺโถ. สมฺปรายิกานนฺติ สมฺปรายิกา อาสวา นาม อสํวเร ิเตน กตปาปกมฺมมูลกา ¶ สมฺปราเย นรกาทีสุ ปตฺตพฺพา ทุกฺขวิเสสา, เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย วูปสมตฺถาย.
อปฺปสนฺนานนฺติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา หิ สติ สิกฺขาปทปฺตฺตึ ตฺวา วา, ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู ทิสฺวา วา, เยปิ อปฺปสนฺนา ปณฺฑิตมนุสฺสา, เต ‘‘ยานิ วต โลเก ¶ มหาชนสฺส รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนฏฺานานิ, เตหิ อิเม สมณา อารกา วิรตา วิหรนฺติ, ทุกฺกรํ วต กโรนฺตี’’ติ ปสาทํ อาปชฺชนฺติ วินยปิฏกโปตฺถกํ ทิสฺวา มิจฺฉาทิฏฺิกตเวทิพฺราหฺมณา วิย. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปฺปสนฺนานํ ปสาทายา’’ติ.
ปสนฺนานนฺติ ¶ เยปิ สาสเน ปสนฺนา กุลปุตฺตา, เตปิ สิกฺขาปทปฺตฺตึ วา ตฺวา, ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู วา ทิสฺวา ‘‘อโห อยฺยา ทุกฺกรํ กโรนฺติ, เย ยาวชีวํ เอกภตฺตา วินยสํวรํ ปาเลนฺตี’’ติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปสีทนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวายา’’ติ.
สทฺธมฺมฏฺิติยาติ ติวิโธ สทฺธมฺโม ปริยตฺติสทฺธมฺโม ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม อธิคมสทฺธมฺโมติ. ตตฺถ สกลมฺปิ พุทฺธวจนํ ปริยตฺติสทฺธมฺโม นาม. เตรส ธุตคุณา จาริตฺตวาริตฺตสีลสมาธิวิปสฺสนาติ อยํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม นาม. นวโลกุตฺตรธมฺโม อธิคมสทฺธมฺโม นาม. โส สพฺโพปิ ยสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา สติ ภิกฺขู สิกฺขาปทฺจ ตสฺส วิภงฺคฺจ ตทตฺถโชตนตฺถํ อฺฺจ พุทฺธวจนํ ปริยาปุณนฺติ, ยถาปฺตฺตฺจ ปฏิปชฺชมานา ปฏิปตฺตึ ปูเรตฺวา ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพํ โลกุตฺตรธมฺมํ อธิคจฺฉนฺติ, ตสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา สทฺธมฺโม จิรฏฺิติโก โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สทฺธมฺมฏฺิติยา’’ติ.
วินยานุคฺคหายาติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา สติ สํวรวินโย, ปหานวินโย, สมถวินโย, ปฺตฺติวินโยติ จตุพฺพิโธ วินโย อนุคฺคหิโต โหติ สูปตฺถมฺภิโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘วินยานุคฺคหายา’’ติ.
๒. ปาติโมกฺขฏฺปนาสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ทุติเย ปาราชิโกติ ปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน. ปาราชิกกถา ¶ วิปฺปกตา โหตีติ ‘‘อสุกปุคฺคโล ปาราชิกํ อาปนฺโน นุ โข โน’’ติ ¶ เอวํ กถา อารภิตฺวา อนิฏฺาปิตา โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๓. อุพฺพาหิกาสุตฺตวณฺณนา
๓๓. ตติเย อุพฺพาหิกายาติ สมฺปตฺตอธิกรณํ วูปสเมตุํ สงฺฆโต อุพฺพาหิตฺวา อุทฺธริตฺวา คหณตฺถาย. วินเย โข ปน ิโต โหตีติ วินยลกฺขเณ ปติฏฺิโต โหติ. อสํหีโรติ น อฺสฺส ¶ วจนมตฺเตเนว อตฺตโน ลทฺธึ วิสฺสชฺเชติ. ปฏิพโลติ กายพเลนปิ าณพเลนปิ สมนฺนาคโต. สฺาเปตุนฺติ ชานาเปตุํ. ปฺาเปตุนฺติ สมฺปชานาเปตุํ. นิชฺฌาเปตุนฺติ โอโลกาเปตุํ. เปกฺขตุนฺติ ปสฺสาเปตุํ. ปสาเทตุนฺติ สฺชาตปสาทํ กาตุํ. อธิกรณนฺติ วิวาทาธิกรณาทิจตุพฺพิธํ. อธิกรณสมุทยนฺติ วิวาทมูลาทิกํ อธิกรณการกํ. อธิกรณนิโรธนฺติ อธิกรณานํ วูปสมํ. อธิกรณนิโรธคามินึ ปฏิปทนฺติ สตฺตวิธอธิกรณสมถํ.
๔. อุปสมฺปทาสุตฺตวณฺณนา
๓๔. จตุตฺเถ อนภิรตินฺติ อุกฺกณฺิตภาวํ. วูปกาเสตุนฺติ วิเนตุํ. อธิสีเลติ อุตฺตมสีเล. จิตฺตปฺาสุปิ เอเสว นโย.
๗. สงฺฆเภทสุตฺตวณฺณนา
๓๗. สตฺตเม วตฺถูหีติ การเณหิ. อวกสฺสนฺตีติ ¶ ปริสํ อากฑฺฒนฺติ วิชเฏนฺติ เอกมนฺตํ อุสฺสาเรนฺติ. อปกสฺสนฺตีติ อติวิย อากฑฺฒนฺติ, ยถา วิสํสฏฺา โหนฺติ, เอวํ กโรนฺติ. อาเวนิ กมฺมานิ กโรนฺตีติ วิสุํ สงฺฆกมฺมานิ กโรนฺติ.
๙-๑๐. อานนฺทสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๓๙-๔๐. นวเม กปฺปฏฺิกนฺติ อายุกปฺปํ นิรยมฺหิ ิติการณํ. กิพฺพิสํ ปสวตีติ ปาปํ ปฏิลภติ. อาปายิโกติ อปายคมนีโย. เนรยิโกติ นิรเย นิพฺพตฺตนโก. วคฺครโตติ เภทรโต. โยคกฺเขมา ¶ ปธํสตีติ โยเคหิ เขมโต อรหตฺตโต ธํสติ วิคจฺฉติ. ทสเม อนุคฺคโหติ อฺมฺสฺส สงฺคหานุคฺคโห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อุปาลิวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อกฺโกสวคฺโค
๔. กุสินารสุตฺตวณฺณนา
๔๔. ปฺจมสฺส ¶ จตุตฺเถ กุสินารายนฺติ เอวํนามเก นคเร. เทวตานํ อตฺถาย พลึ หรนฺติ เอตฺถาติ พลิหรโณ, ตสฺมึ พลิหรเณ. อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสนาติอาทีสุ เยน เกนจิเทว ปหโฏ วา โหติ, เวชฺชกมฺมาทีนิ วา กตานิ, ตสฺส กายสมาจาโร อุปจิกาทีหิ ขายิตตาลปณฺณํ วิย ฉิทฺโท จ, ปฏิมสิตุํ ยตฺถ กตฺถจิ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย ปฏิมํโส จ โหติ, วิปรีโต อจฺฉิทฺโท อปฺปฏิมํโส นาม. วจีสมาจาโร ปน มุสาวาทโอมสวาทเปสฺุอมูลกานุทฺธํสนาทีหิ ¶ ฉิทฺโท สปฺปฏิมํโส จ โหติ, วิปรีโต อจฺฉิทฺโท อปฺปฏิมํโส. เมตฺตํ นุ โข เม จิตฺตนฺติ ปลิโพธํ ฉินฺทิตฺวา กมฺมฏฺานภาวนานุโยเคน อธิคตํ เม เมตฺตจิตฺตํ. อนาฆาตนฺติ อาฆาตวิรหิตํ, วิกฺขมฺภเนน วิหตาฆาตนฺติ อตฺโถ. กตฺถ วุตฺตนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ กิสฺมึ นคเร วุตฺตํ.
กาเลน วกฺขามีติอาทีสุ เอโก เอกํ โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทนฺโต กาเลน วทติ นาม. สงฺฆมชฺเฌ วา คณมชฺเฌ วา สลากคฺคยาคคฺควิตกฺกมาฬกภิกฺขาจารมคฺคอาสนสาลาทีสุ วา อุปฏฺาเกหิ ปริวาริตกฺขเณ วา โจเทนฺโต อกาเลน วทติ นาม. ตจฺเฉน วทนฺโต ภูเตน วทติ นาม. ‘‘ทหรมหลฺลกปริสาวจรกปํสุกูลิกธมฺมกถิกปติรูปํ ตว อิท’’นฺติ วทนฺโต ผรุเสน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ ปน กตฺวา, ‘‘ภนฺเต มหลฺลกตฺถ, ปริสาวจรกตฺถ, ปํสุกูลิกตฺถ, ธมฺมกถิกตฺถปติรูปํ ตุมฺหากมิท’’นฺติ วทนฺโต ¶ สณฺเหน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ กตฺวา วทนฺโต อตฺถสํหิเตน วทติ นาม. เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ โน โทสนฺตโรติ เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา วกฺขามิ, น ทุฏฺจิตฺโต หุตฺวา.
๕. ราชนฺเตปุรปฺปเวสนสุตฺตวณฺณนา
๔๕. ปฺจเม กตํ วา กริสฺสนฺติ วาติ เมถุนวีติกฺกมํ กรึสุ วา กริสฺสนฺติ วา. รตนนฺติ มณิรตนาทีสุ ยํกิฺจิ. ปตฺเถตีติ มาเรตุํ อิจฺฉติ. หตฺถิสมฺพาธนฺติ ¶ หตฺถีหิ สมฺพาธํ ¶ . หตฺถิสมฺมทฺทนฺติ วา ปาโ, ตสฺสตฺโถ – หตฺถีหิ สมฺมทฺโท เอตฺถาติ หตฺถิสมฺมทฺทํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. รชนียานิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานีติ เอตานิ ราคชนกานิ รูปาทีนิ ตตฺถ ปริปูรานิ โหนฺติ.
๖. สกฺกสุตฺตวณฺณนา
๔๖. ฉฏฺเ โสกสภเยติ โสเกน สภเย. โสกภเยติ วา ปาโ, อยเมวตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ กมฺมฏฺาเนนาติ กสิวณิชฺชาทิกมฺเมสุ เยน เกนจิ กมฺเมน. อนาปชฺช อกุสลนฺติ กิฺจิ อกุสลํ อนาปชฺชิตฺวา. นิพฺพิเสยฺยาติ อุปฺปาเทยฺย อาจิเนยฺย. ทกฺโขติ เฉโก. อุฏฺานสมฺปนฺโนติ อุฏฺานวีริเยน สมนฺนาคโต. อลํ วจนายาติ ยุตฺโต วจนาย. เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺยาติ เอกนฺตเมว กายิกเจตสิกสุขํ าเณน ปฏิสํเวเทนฺโต วิหเรยฺย. อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาวโต. ตุจฺฉาติ สารรหิตา. มุสาติ นิจฺจสุภสุขา วิย ขายมานาปิ ตถา น โหนฺตีติ มุสา. โมสธมฺมาติ นสฺสนสภาวา. ตสฺมา เต ปฏิจฺจ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตีติ สนฺทสฺเสติ. อิธ ¶ ปน โวติ เอตฺถ โว ติ นิปาตมตฺตํ. อปณฺณกํ วา โสตาปนฺโนติ อวิราธิตํ เอกํเสน โสตาปนฺโน วา โหติ. โสปิ ฌานํ นิพฺพตฺเตติ, พฺรหฺมโลกํ วา คนฺตฺวา ฉสุ วา กามสคฺเคสุ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที หุตฺวา วิหเรยฺย. อิมสฺมึ สุตฺเต สตฺถา อฏฺงฺคุโปสถสฺส คุณํ กเถสิ.
๗. มหาลิสุตฺตวณฺณนา
๔๗. สตฺตเม ¶ มิจฺฉาปณิหิตนฺติ มิจฺฉา ปิตํ. อธมฺมจริยาวิสมจริยาติ อกุสลกมฺมปถวเสน อธมฺมจริยสงฺขาตา วิสมจริยา. กุสลกมฺมปถวเสน อิตรา เวทิตพฺพา. เอวมิธ วฏฺฏเมว กถิตํ.
๘. ปพฺพชิตอภิณฺหสุตฺตวณฺณนา
๔๘. อฏฺเม ปพฺพชิเตนาติ ฆราวาสํ ปหาย สาสเน ปพฺพชฺชํ อุปคเตน. อภิณฺหนฺติ อภิกฺขณํ ปุนปฺปุนํ, ปจฺจเวกฺขิตพฺพา โอโลเกตพฺพา สลฺลกฺเขตพฺพา. เววณฺณิยนฺติ วิวณฺณภาวํ. ตํ ปเนตํ เววณฺณิยํ ทุวิธํ โหติ สรีรเววณฺณิยํ ปริกฺขารเววณฺณิยฺจ. ตตฺถ เกสมสฺสุโอโรปเนน ¶ สรีรเววณฺณิยํ เวทิตพฺพํ. ปุพฺเพ ปน นานาวิราคานิ สุขุมวตฺถานิ นิวาเสตฺวาปิ นานคฺครสโภชนํ สุวณฺณรชตภาชเนสุ ภฺุชิตฺวาปิ สิริคพฺเภ วรสยนาสเนสุ นิปชฺชิตฺวาปิ นิสีทิตฺวาปิ สปฺปินวนีตาทีหิ เภสชฺชํ กตฺวาปิ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย ฉินฺนสงฺฆฏิตกสาวรสปีตานิ วตฺถานิ นิวาเสตพฺพานิ, อยปตฺเต วา มตฺติกปตฺเต วา มิสฺสโกทโน ภฺุชิตพฺโพ, รุกฺขมูลาทิเสนาสเน มฺุชติณสนฺถรณาทีสุ นิปชฺชิตพฺพํ ¶ , จมฺมขณฺฑตฏฺฏิกาทีสุ นิสีทิตพฺพํ, ปูติมุตฺตาทีหิ เภสชฺชํ กตฺตพฺพํ โหติ. เอวเมตฺถ ปริกฺขารเววณฺณิยํ เวทิตพฺพํ. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต โกโป จ มาโน จ ปหียติ.
ปรปฏิพทฺธา เม ชีวิกาติ มยฺหํ ปเรสุ ปฏิพทฺธา ปรายตฺตา จตุปจฺจยชีวิกาติ. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต หิ อาชีโว ปริสุชฺฌติ, ปิณฺฑปาโต จ อปจิโต โหติ, จตูสุ ปจฺจเยสุ อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค นาม น โหติ. อฺโ เม อากปฺโป กรณีโยติ โย คิหีนํ อุรํ อภินีหริตฺวา คีวํ ปคฺคเหตฺวา ลลิเตนากาเรน อนิยตปทวีติหาเรน คมนากปฺโป โหติ, ตโต อฺโว อากปฺโป มยา กรณีโย, สนฺตินฺทฺริเยน สนฺตมานเสน ยุคมตฺตทสฺสินา วิสมฏฺาเน อุทกสกเฏเนว มนฺทมิตปทวีติหาเรน หุตฺวา คนฺตพฺพนฺติ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต หิ อิริยาปโถ สารุปฺโป โหติ, ติสฺโส สิกฺขา ปริปูเรนฺติ. กจฺจินุโขติ สลกฺขเณ นิปาตสมุทาโย. อตฺตาติ จิตฺตํ. สีลโต น อุปวทตีติ ¶ อปริสุทฺธํ เต สีลนฺติ สีลปจฺจโย น อุปวทติ. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต หิ อชฺฌตฺตํ หิรี สมุฏฺาติ, สา ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ สาเธติ, ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวโร จตุปาริสุทฺธิสีลํ โหติ, จตุปาริสุทฺธิสีเล ิโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาติ. อนุวิจฺจ วิฺู สพฺรหฺมจารีติ ปณฺฑิตา สพฺรหฺมจาริโน อนุวิจาเรตฺวา. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต ¶ หิ พหิทฺธา โอตฺตปฺปํ สณฺาติ, ตํ ตีสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ สาเธตีติ อนนฺตรนเยเนว เวทิตพฺพํ.
นานาภาโว วินาภาโวติ ชาติยา นานาภาโว, มรเณน วินาภาโว. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต หิ ตีสุ ทฺวาเรสุ อสํวุตากาโร นาม น โหติ, มรณสฺสติ สูปฏฺิตา โหติ. กมฺมสฺสโกมฺหีติอาทีสุ กมฺมํ มยฺหํ สกํ อตฺตโน สนฺตกนฺติ กมฺมสฺสกา. กมฺเมน ทาตพฺพํ ผลํ ทายํ, กมฺมสฺส ทายํ กมฺมทายํ, ตํ อาทียามีติ กมฺมทายาโท. กมฺมํ มยฺหํ โยนิ การณนฺติ กมฺมโยนิ. กมฺมํ มยฺหํ พนฺธุ าตโกติ กมฺมพนฺธุ. กมฺมํ มยฺหํ ปฏิสรณํ ปติฏฺาติ กมฺมปฏิสรโณ. ตสฺส ทายาโท ภวิสฺสามีติ ตสฺส กมฺมสฺส ทายาโท เตน ทินฺนผลํ ปฏิคฺคาหโก ¶ ภวิสฺสามิ. เอวํ กมฺมสฺสกตํ ปน ปจฺจเวกฺขโต ปาปกรณํ นาม น โหติ. กถํภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติวตฺตนฺตีติ กินฺนุ โข เม วตฺตปฺปฏิปตฺตึ กโรนฺตสฺส, อุทาหุ อกโรนฺตสฺส, พุทฺธวจนํ สชฺฌายนฺตสฺส, อุทาหุ อสชฺฌายนฺตสฺส, โยนิโสมนสิกาเร กมฺมํ กโรนฺตสฺส, อุทาหุ อกโรนฺตสฺสาติ กถํภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติวตฺตนฺติ, ปริวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต หิ อปฺปมาโท ปริปูรติ.
สฺุาคาเร อภิรมามีติ วิวิตฺโตกาเส สพฺพิริยาปเถสุ เอกโกว หุตฺวา กจฺจิ นุ โข อภิรมามีติ อตฺโถ. เอวํ ปจฺจเวกฺขโต กายวิเวโก ปริปูรติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺโมติ อุตฺตริมนุสฺสานํ อุกฺกฏฺมนุสฺสภูตานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ฌานาทิธมฺโม, ทสกุสลกมฺมปถสงฺขาตมนุสฺสธมฺมโต วา อุตฺตริตโร วิสิฏฺตโร ธมฺโม เม มม สนฺตาเน อตฺถิ นุ โข, สนฺติ นุ โขติ อตฺโถ. อลมริยาณทสฺสนวิเสโสติ มหคฺคตโลกุตฺตรปฺา ปชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา ทิฏฺมิว ธมฺมํ ปจฺจกฺขกรณโต ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ าณทสฺสนํ, อริยํ วิสุทฺธํ อุตฺตมํ าณทสฺสนนฺติ ¶ อริยาณทสฺสนํ, อลํ ปริยตฺตกํ กิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ อริยาณทสฺสนเมตฺถ, อสฺส วาติ อลมริยาณทสฺสโน, ฌานาทิเภโท อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อลมริยาณทสฺสโน จ โส วิเสโส จาติ อลมริยาณทสฺสนวิเสโส. อถ วา ตเมว กิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ วิสุทฺธํ าณทสฺสนเมว วิเสโสติ อลมริยาณทสฺสนวิเสโส วา. อธิคโตติ ปฏิลทฺโธ เม อตฺถิ นุ โข. โสหนฺติ ปฏิลทฺธวิเสโส โส อหํ. ปจฺฉิเม กาเลติ มรณมฺเจ นิปนฺนกาเล. ปุฏฺโติ สพฺรหฺมจารีหิ อธิคตคุณวิเสสํ ปุจฺฉิโต. น มงฺกุ ภวิสฺสามีติ ปติตกฺขนฺโธ นิตฺเตโช น เหสฺสามีติ. เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส หิ โมฆกาลกิริยา นาม น โหติ.
๙-๑๐. สรีรฏฺธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๔๙-๕๐. นวเม ¶ โปโนพฺภวิโกติ ปุนพฺภวนิพฺพตฺตโก. ภวสงฺขาโรติ ภวสงฺขรณกมฺมํ. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏเมว กถิตํ. ทสเม สีลพาหุสจฺจวีริยสติปฺา โลกิยโลกุตฺตรามิสฺสิกา กถิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อกฺโกสวคฺโค ปฺจโม.
ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
(๖) ๑. สจิตฺตวคฺโค
๑-๔. สจิตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๑-๕๔. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม สจิตฺตปริยายกุสโลติ อตฺตโน จิตฺตวารกุสโล. รชนฺติ อาคนฺตุกอุปกฺกิเลสํ. องฺคณนฺติ ตตฺถชาตกองฺคกาฬติลกาทึ. อาสวานํ ขยายาติ อรหตฺตตฺถาย. ตติเย ปฏิภาเนนาติ วจนสณฺาเนน. จตุตฺเถ ¶ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายาติ สงฺขารปริคฺคาหกวิปสฺสนาย.
๘. มูลกสุตฺตวณฺณนา
๕๘. อฏฺเม อมโตคธาติ เอตฺถ สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ กถิตา, นิพฺพานปริโยสานาติ เอตฺถ อนุปาทิเสสา. อนุปาทิเสสํ ปตฺตสฺส หิ สพฺเพ ธมฺมา ปริโยสานปฺปตฺตา นาม โหนฺติ. เสสปทานิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว.
๙. ปพฺพชฺชาสุตฺตวณฺณนา
๕๙. นวเม ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ อปริจิตจิตฺตสฺส สามฺตฺโถ น สมฺปชฺชติ, ตสฺมา. ยถาปพฺพชฺชาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ ยถา ปพฺพชฺชานุรูเปน ปริจิตํ. เย หิ เกจิ ปพฺพชนฺติ นาม, สพฺเพ เต อรหตฺตํ ปตฺเถตฺวา. ตสฺมา ยํ จิตฺตํ อรหตฺตาธิคมตฺถาย ปริจิตํ วฑฺฒิตํ, ตํ ยถาปพฺพชฺชาปริจิตํ นามาติ เวทิตพฺพํ. เอวรูปํ ปน จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ สิกฺขิตพฺพํ. โลกสฺส สมฺจ วิสมฺจาติ สตฺตโลกสฺส สุจริตทุจฺจริตานิ. โลกสฺส ภวฺจ วิภวฺจาติ ตสฺส วฑฺฒิฺจ วินาสฺจ, ตถา สมฺปตฺติฺจ วิปตฺติฺจ. โลกสฺส ¶ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจาติ ปน สงฺขารโลกํ สนฺธาย วุตฺตํ, ขนฺธานํ นิพฺพตฺติฺจ เภทฺจาติ อตฺโถ.
๑๐. คิริมานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๖๐. ทสเม ¶ อนุกมฺปํ อุปาทายาติ คิริมานนฺทตฺเถเร อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ. จกฺขุโรโคติอาทโย วตฺถุวเสน เวทิตพฺพา. นิพฺพตฺติตปฺปสาทานฺหิ โรโค นาม นตฺถิ. กณฺณโรโคติ ¶ พหิกณฺเณ โรโค. ปินาโสติ พหินาสิกาย โรโค. นขสาติ นเขหิ วิเลขิตฏฺาเน โรโค. ปิตฺตสมุฏฺานาติ ปิตฺตสมุฏฺิตา. เต กิร ทฺวตฺตึส โหนฺติ. เสมฺหสมุฏฺานาทีสุปิ เอเสว นโย. อุตุปริณามชาติ อุตุปริณาเมน อจฺจุณฺหาติสีเตน อุปฺปชฺชนกโรคา. วิสมปริหารชาติ อติจิรฏฺานนิสชฺชาทินา วิสมปริหาเรน ชาตา. โอปกฺกมิกาติ วธพนฺธนาทินา อุปกฺกเมน ชาตา. กมฺมวิปากชาติ พลวกมฺมวิปากสมฺภูตา. สนฺตนฺติ ราคาทิสนฺตตาย สนฺตํ. อตปฺปกฏฺเน ปณีตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สจิตฺตวคฺโค ปโม.
(๗) ๒. ยมกวคฺโค
๑. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา
๖๑-๖๒. ทุติยสฺส ปเม สาหารนฺติ สปจฺจยํ. วิชฺชาวิมุตฺตินฺติ ผลาณฺเจว เสสสมฺปยุตฺตธมฺเม จ. โพชฺฌงฺคาติ มคฺคโพชฺฌงฺคา. ทุติเย ภวตณฺหายาติ ภวปตฺถนาย. เอวํ ทฺวีสุปิ สุตฺเตสุ วฏฺฏเมว กถิตํ, วฏฺฏฺเจตฺถ ปเม สุตฺเต อวิชฺชามูลกํ วฏฺฏํ กถิตํ, ทุติเย ตณฺหามูลกํ.
๓-๔. นิฏฺงฺคตสุตฺตาทิวณฺณนา
๖๓-๖๔. ตติเย ¶ ¶ นิฏฺํ คตาติ นิพฺเพมติกา. อิธ นิฏฺาติ อิมสฺมึเยว โลเก ปรินิพฺพานํ. อิธ วิหายาติ อิมํ โลกํ วิชหิตฺวา สุทฺธาวาสพฺรหฺมโลกํ. จตุตฺเถ อเวจฺจปฺปสนฺนาติ อจลปฺปสาเทน สมฺปนฺนา. โสตาปนฺนาติ อริยมคฺคโสตํ อาปนฺนา.
๕-๗. ปมสุขสุตฺตาทิวณฺณนา
๖๕-๖๗. ปฺจเม ¶ วฏฺฏมูลกํ สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตํ, ฉฏฺเ สาสนมูลกํ. สตฺตเม นฬกปานนฺติ อตีเต โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา วานรยูเถน นเฬหิ อุทกสฺส ปีตฏฺาเน มาปิตตฺตา เอวํลทฺธนาโม นิคโม. ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยํ ยํ ทิสํ อนุวิโลเกติ, ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภูตเมว. อนุวิโลเกตฺวาติ ตโต ตโต วิโลเกตฺวา. ปิฏฺิ เม อาคิลายตีติ กสฺมา อาคิลายติ? ภควโต หิ ฉ วสฺสานิ มหาปธานํ ปทหนฺตสฺส มหนฺตํ กายทุกฺขํ อโหสิ, อถสฺส อปรภาเค มหลฺลกกาเล ปิฏฺิวาโต อุปฺปชฺชิ. อุปาทินฺนกสรีรสฺส านนิสชฺชาทีหิ อปฺปมตฺตเกน อาพาเธน น สกฺกา เกนจิ ภวิตุํ. ตํ คเหตฺวาปิ เถรสฺส โอกาสกรณตฺถํ เอวมาห. สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา เอกมนฺเต ปติรูปฏฺาเน ปฺตฺตสฺส กปฺปิยมฺจสฺส อุปริ อตฺถริตฺวา.
๙-๑๐. กถาวตฺถุสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๖๙-๗๐. นวเม ติรจฺฉานกถนฺติ อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตํ กถํ. ตตฺถ ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก ¶ เอวํมหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตกถา ราชกถา. เอส นโย โจรกถาทีสุ. เตสุ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ, ‘‘โสปิ นาม เอวํมหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํมหานุภาโว, เมฆเทโว เอวํมหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ ‘‘อโห สูรา’’ติ เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธสุปิ ภารตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กมฺมสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา, ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานเมว ¶ โหติ. อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภฺุชิมฺห ปิวิมฺห ปริภฺุชิมฺหา’’ติ กามรสสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลํ คนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติยํ ปูชิมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติ.
าติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ ¶ , สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพํ. คามกถาปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน ¶ วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา ‘‘ขยวยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโย.
อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. สูรกถาปิ ‘‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺโธ อโหสิ ขยํ คโต’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. สุรากถนฺติ ปาฬิยํ ปน อเนกวิธํ มชฺชกถํ อสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนววเสเนว วตฺตุํ วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกวิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา สูรา สมตฺถา’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ วฏฺฏติ. กุมฺภฏฺานกถา นาม กูฏฏฺานกถา อุทกติตฺถกถา วุจฺจติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๗; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๐๘๐). กุมฺภทาสิกถา วา. สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติ.
ปุพฺพเปตกถา นาม อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโย. นานตฺตกถา นาม ปุริมปจฺฉิมกถาวิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา ติรจฺฉานกถา. โลกกฺขายิกา นาม ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต? อสุเกน นาม ¶ นิมฺมิโต. กาโก เสโต อฏฺีนํ เสตตฺตา, พลากา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตา’’ติเอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา. สมุทฺทกฺขายิกา นาม กสฺมา สมุทฺโท สาคโรติ. สาครเทเวน ขตตฺตา ¶ สาคโร, ขโต เมติ หตฺถมุทฺทาย นิเวทิตตฺตา สมุทฺโทติเอวมาทิกา นิรตฺถกา สมุทฺทกฺขายนกถา. ภโวติ วุทฺธิ, อภโวติ หานิ. อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา นาม.
เตชสา เตชนฺติ อตฺตโน เตชสา เตสํ เตชํ. ปริยาทิเยยฺยาถาติ เขเปตฺวา คเหตฺวา อภิภเวยฺยาถ. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก ปิณฺฑปาติโก ¶ มหาเถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, เตชสา เตชํ ปริยาทิยมานา ภิกฺขู กึ กโรนฺตี’’ติ. เถโร อาห – อาวุโส, กิฺจิเทว อาตเป เปตฺวา ยถา ฉายา เหฏฺา น โอตรติ, อุทฺธํเยว คจฺฉติ ตถา กโรนฺติ. ทสเม ปาสํสานิ านานีติ ปสํสาวหานิ การณานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ยมกวคฺโค ทุติโย.
(๘) ๓. อากงฺขวคฺโค
๑. อากงฺขสุตฺตวณฺณนา
๗๑. ตติยสฺส ปเม สมฺปนฺนสีลาติ ปริปุณฺณสีลา, สีลสมงฺคิโน วา หุตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ สมฺปนฺนสีลตา โหติ สีลวิปตฺติยา จ ¶ อาทีนวทสฺสเนน, สีลสมฺปตฺติยา จ อานิสํสทสฺสเนน. ตทุภยมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๙, ๒๑) วิตฺถาริตํ. ตตฺถ ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติ เอตฺตาวตา กิร ภควา จตุปาริสุทฺธิสีลํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา’’ติ อิมินา ตตฺถ เชฏฺกสีลํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสสีติ ทีปวิหารวาสี สุมนตฺเถโร อาห. อนฺเตวาสิโก ปนสฺส เตปิฏกจูฬนาคตฺเถโร อาห – อุภยตฺถปิ ปาติโมกฺขสํวโรว ภควตา วุตฺโต. ปาติโมกฺขสํวโรเยว หิ สีลํ, อิตรานิ ปน ตีณิ สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ อตฺถีติ อนนุชานนฺโต วตฺวา อาห – อินฺทฺริยสํวโร นาม ฉทฺวารารกฺขามตฺตกเมว, อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมน สเมน ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกํ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปจฺจเย ¶ อิทมตฺถนฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชนมตฺตกํ. นิปฺปริยาเยน ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํ. ยสฺส โส ภินฺโน, อยํ สีสจฺฉินฺโน วิย ปุริโส หตฺถปาเท เสสานิ รกฺขิสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. ยสฺส ปน โส อโรโค, อยํ อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส ชีวิตํ เสสานิ ปุน ปากติกานิ กาตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สมฺปนฺนปาติโมกฺขา’’ติ ตสฺเสว เววจนํ วตฺวา ตํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต ปาติโมกฺขสํวรสํวุตาติอาทิมาห. ตตฺถ ปาติโมกฺขสํวรสํวุตฺตาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อากงฺเขยฺย เจติ ¶ อิทํ กสฺมา อารทฺธนฺติ? สีลานิสํสทสฺสนตฺถํ ¶ . สเจปิ อจิรปพฺพชิตานํ วา ทุปฺปฺานํ วา เอวมสฺส ‘‘ภควา ‘สีลํ ปูเรถ สีลํ ปูเรถา’ติ วทติ, โก นุ โข สีลปูรเณ อานิสํโส, โก วิเสโส, กา วฑฺฒี’’ติ เตสํ ทส อานิสํเส ทสฺเสตุํ เอวมาห – ‘‘อปฺเปว นาม เอตํ สพฺรหฺมจารีนํ ปิยมนาปตาทิอาสวกฺขยปริโยสานํ อานิสํสํ สุตฺวาปิ สีลํ ปริปูเรยฺยุ’’นฺติ.
ตตฺถ อากงฺเขยฺย เจติ ยทิ อิจฺเฉยฺย. ปิโย จสฺสนฺติ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสิตพฺโพ, สิเนหุปฺปตฺติยา ปทฏฺานภูโต ภเวยฺยํ. มนาโปติ เตสํ มนวฑฺฒนโก, เตสํ วา มเนน ปตฺตพฺโพ, เมตฺตจิตฺเตน ผริตพฺโพติ อตฺโถ. ครูติ เตสํ ครุฏฺานิโย ปาสาณจฺฉตฺตสทิโส. ภาวนีโยติ ‘‘อทฺธายมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’’ติ เอวํ สมฺภาวนีโย. สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการีติ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุเยว ปริปูรการี อสฺส, อนูเนน อากาเรน สมนฺนาคโต ภเวยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโตติ อตฺตโน จิตฺตสมเถ ยุตฺโต. อนิรากตชฺฌาโนติ พหิ อนีหฏชฺฌาโน, อวินาสิตชฺฌาโน วา. วิปสฺสนายาติ สตฺตวิธาย อนุปสฺสนาย. พฺรูเหตา สฺุาคารานนฺติ วฑฺเฒตา สฺุาคารานํ. เอตฺถ จ สมถวิปสฺสนาวเสน กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา รตฺตินฺทิวํ สฺุาคารํ ปวิสิตฺวา นิสีทมาโน ภิกฺขุ ‘‘พฺรูเหตา สฺุาคาราน’’นฺติ เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ สงฺเขโป ¶ , วิตฺถาโร ปน อิจฺฉนฺเตน มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๖๔ อาทโย) อากงฺเขยฺยสุตฺตวณฺณนาย โอโลเกตพฺโพ.
ลาภีติ เอตฺถ น ภควา ลาภนิมิตฺตํ สีลาทิปริปูรณํ กเถติ. ภควา หิ ‘‘ฆาเสสนํ ฉินฺนกโถ, น วาจํ ปยุตํ ภเณ’’ติ (สุ. นิ. ๗๑๖) เอวํ สาวเก โอวทติ. โส กถํ ลาภนิมิตฺตํ สีลาทิปริปูรณํ กเถยฺย. ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. เยสฺหิ เอวํ อชฺฌาสโย ¶ ภเวยฺย ‘‘สเจ มยํ จตูหิ ปจฺจเยหิ น กิลเมยฺยาม, สีลานิ ปริปูเรตุํ สกฺกุเณยฺยามา’’ติ, เตสํ อชฺฌาสยวเสเนวมาห. อปิจ สรสานิสํโส เอส สีลสฺส ยทิทํ จตฺตาโร ปจฺจยา นาม. ตถา หิ ปณฺฑิตมนุสฺสา โกฏฺาทีสุ ปิตํ นีหริตฺวา อตฺตนาปิ อปริภฺุชิตฺวา สีลวนฺตานํ เทนฺตีติ สีลสฺส สรสานิสํสทสฺสนตฺถมฺเปตํ วุตฺตํ.
ตติยวาเร ¶ เยสาหนฺติ เยสํ อหํ. เตสํ เต การาติ เตสํ เทวานํ วา มนุสฺสานํ วา เต มยิ กตา ปจฺจยทานการา. มหปฺผลา โหนฺตุ มหานิสํสาติ โลกิยสุเขน ผลภูเตน มหปฺผลา, โลกุตฺตเรน มหานิสํสา. อุภยํ วา เอตํ เอกตฺถเมว. สีลาทิคุณยุตฺตสฺส หิ กฏจฺฉุภิกฺขาปิ ปฺจรตนมตฺตาย ภูมิยา ปณฺณสาลาปิ กตฺวา ทินฺนา อเนกานิ กปฺปสหสฺสานิ ทุคฺคติวินิปาตโต รกฺขติ, ปริโยสาเน จ อมตาย ธาตุยา ปรินิพฺพานสฺส ปจฺจโย โหติ. ‘‘ขีโรทนํ ¶ อหมทาสิ’’นฺติอาทีนิ (วิ. ว. ๔๑๓) เจตฺถ วตฺถูนิ. สกลเมว วา เปตวตฺถุ วิมานวตฺถุ จ สาธกํ.
จตุตฺถวาเร เปตาติ เปจฺจภวํ คตา. าตีติ สสฺสุสสุรปกฺขิกา. สาโลหิตาติ เอกโลหิตพทฺธา ปิติปิตามหาทโย. กาลงฺกตาติ มตา. เตสํ ตนฺติ เตสํ ตํ มยิ ปสนฺนจิตฺตํ, ตํ วา ปสนฺเนน จิตฺเตน อนุสฺสรณํ. ยสฺส หิ ภิกฺขุโน กาลกโต ปิตา วา มาตา วา ‘‘อมฺหากํ าตกตฺเถโร สีลวา กลฺยาณธมฺโม’’ติ ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อนุสฺสรติ, ตสฺส โส จิตฺตปฺปสาโทปิ ตํ อนุสฺสรณมตฺตมฺปิ มหปฺผลํ มหานิสํสเมว โหติ.
อรติรติสโหติ เนกฺขมฺมปฏิปตฺติยา อรติยา กามคุเณสุ รติยา จ สโห อภิภวิตา อชฺโฌตฺถริตา. ภยเภรวสโหติ เอตฺถ ภยํ จิตฺตุตฺราโสปิ อารมฺมณมฺปิ, เภรวํ อารมฺมณเมว.
๒. กณฺฏกสุตฺตวณฺณนา
๗๒. ทุติเย อภิฺาเตหีติ คคนมชฺเฌ ปุณฺณจนฺโท วิย สูริโย วิย าเตหิ ปากเฏหิ. ปรปุรายาติ ปรํ วุจฺจติ ปจฺฉิมภาโค, ปุราติ ปุริมภาโค, ปุรโต ธาวนฺเตน ปจฺฉโต ¶ อนุพนฺธนฺเตน จ มหาปริวาเรนาติ อตฺโถ. กณฺฏโกติ วิชฺฌนฏฺเน กณฺฏโก. วิสูกทสฺสนนฺติ วิสูกภูตํ ทสฺสนํ. มาตุคามูปจาโรติ ¶ มาตุคามสฺส สมีปจาริตา.
๓-๔. อิฏฺธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๗๓-๗๔. ตติเย ¶ วณฺโณติ สรีรวณฺโณ. ธมฺมาติ นว โลกุตฺตรธมฺมา. จตุตฺเถ อริยายาติ อโปถุชฺชนิกาย, สีลาทีหิ มิสฺสกตฺตา เอวํ วุตฺตํ. สาราทายี จ โหติ วรทายีติ สารสฺส จ วรสฺส จ อาทายโก โหติ. โย กายสฺส สาโร, ยฺจสฺส วรํ, ตํ คณฺหาตีติ อตฺโถ.
๕. มิคสาลาสุตฺตวณฺณนา
๗๕. ปฺจมสฺส อาทิมฺหิ ตาว ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ฉกฺกนิปาเต วุตฺตเมว. ทุสฺสีโล โหตีติอาทีสุ ปน ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลาณํ. นปฺปชานาตีติ อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน น ชานาติ. ทุสฺสีลฺยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตีติ เอตฺถ ปฺจ ทุสฺสีลฺยานิ ตาว โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, ทส อรหตฺตมคฺเคน. ผลกฺขเณ ตานิ ปหีนานิ นาม โหนฺติ. ผลกฺขณํ สนฺธาย อิธ ‘‘นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. ปุถุชฺชนสฺส สีลํ ปฺจหิ การเณหิ ภิชฺชติ ปาราชิกาปชฺชเนน สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน ติตฺถิยปกฺขนฺทเนน อรหตฺเตน มรเณนาติ. ตตฺถ ปุริมา ตโย ภาวนาปริหานาย สํวตฺตนฺติ, จตุตฺโถ วฑฺฒิยา, ปฺจโม เนว หานาย น วฑฺฒิยา. กถํ ปเนตํ อรหตฺเตน สีลํ ภิชฺชตีติ? ปุถุชฺชนสฺส หิ สีลํ อจฺจนฺตกุสลเมว โหติ, อรหตฺตมคฺโค จ กุสลากุสลกมฺมกฺขยาย สํวตฺตตีติ เอวํ เตน ตํ ภิชฺชติ. สวเนนปิ ¶ อกตํ โหตีติ โสตพฺพยุตฺตกํ อสฺสุตํ โหติ. พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหตีติ เอตฺถ พาหุสจฺจนฺติ วีริยํ. วีริเยน กตฺตพฺพยุตฺตกํ อกตํ โหติ, ตสฺส อกตตฺตา สคฺคโตปิ มคฺคโตปิ ปริหายติ. ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหตีติ ทิฏฺิยา ปฏิวิชฺฌิตพฺพํ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ อปจฺจกฺขกตํ. สามยิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภตีติ กาลานุกาลํ ธมฺมสฺสวนํ นิสฺสาย ปีติปาโมชฺชํ น ลภติ. หานาย ปเรตีติ หานาย ปวตฺตติ.
ยถาภูตํ ปชานาตีติ ‘‘โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา ปฺจวิธํ ทุสฺสีลฺยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน ชานาติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหตีติ โสตพฺพยุตฺตกํ สุตํ ¶ โหติ. พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหตีติ ¶ วีริเยน กตฺตพฺพยุตฺตกํ อนฺตมโส ทุพฺพลวิปสฺสนามตฺตกมฺปิ กตํ โหติ. ทิฏฺิยาปิ สุปฺปฏิวิทฺธํ โหตีติ อนฺตมโส โลกิยปฺายปิ ปจฺจยปฏิเวโธ กโต โหติ. อิมสฺส หิ ปุคฺคลสฺส ปฺา สีลํ ปริโธวติ, โส ปฺาปริโธเตน วิเสสํ ปาปุณาติ.
ปมาณิกาติ ปุคฺคเลสุ ปมาณคฺคาหกา. ปมิณนฺตีติ ปเมตุํ ตุเลตุํ อรหนฺติ. เอโก หีโนติ เอโก คุเณหิ หีโน. ปณีโตติ เอโก คุเณหิ ปณีโต อุตฺตโม. ตํ หีติ ตํ ปมาณกรณํ. อภิกฺกนฺตตโรติ สุนฺทรตโร. ปณีตตโรติ อุตฺตมตโร. ธมฺมโสโต นิพฺพหตีติ สูรํ หุตฺวา ปวตฺตมานํ วิปสฺสนาาณํ นิพฺพหติ, อริยภูมึ ปาเปติ. ตทนฺตรํ ¶ โก ชาเนยฺยาติ ตํ เอวํ การณํ โก ชาเนยฺย. สีลวา โหตีติ โลกิยสีเลน สีลวา โหติ. ยตฺถสฺส ตํ สีลนฺติ อรหตฺตวิมุตฺตึ ปตฺวา สีลํ อปริเสสมฺปิ นิรุชฺฌติ นาม, ตตฺถ ยุตฺติ วุตฺตาเยว. อิโต ปเรสุ ทฺวีสุ องฺเคสุ อนาคามิผลํ วิมุตฺติ นาม, ปฺจเม อรหตฺตเมว. เสสเมตฺถ วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. ฉฏฺํ อุตฺตานตฺถเมว.
๗. กากสุตฺตวณฺณนา
๗๗. สตฺตเม ธํสีติ คุณธํสโก. กสฺสจิ คุณํ อนาทิยิตฺวา หตฺเถนปิ คหิโต ตสฺส สีเสปิ วจฺจํ กโรติ. ปคพฺโภติ ปาคพฺภิเยน สมนฺนาคโต. ตินฺติโณติ ตินฺติณํ วุจฺจติ ตณฺหา, ตาย สมนฺนาคโต, อาสงฺกาพหุโล วา. ลุทฺโทติ ทารุโณ. อการุณิโกติ นิกฺการุณิโก. ทุพฺพโลติ อพโล อปฺปถาโม. โอรวิตาติ โอรวยุตฺโต โอรวนฺโต จรติ. เนจยิโกติ นิจยกโร.
๙. อาฆาตวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๗๙. นวเม อฏฺาเนติ อการเณ. สจิตฺตกปวตฺติยฺหิ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิ การณํ ภเวยฺย, ขาณุปหฏาทีสุ ตํ นตฺถิ. ตสฺมา ตตฺถ อาฆาโต อฏฺาเน อาฆาโต นาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อากงฺขวคฺโค ตติโย.
(๙) ๔. เถรวคฺโค
๑-๓. วาหนสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๑-๘๓. จตุตฺถสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม วิมริยาทีกเตนาติ กิเลสมริยาทํ ภินฺทิตฺวา วิมริยาทํ กเตน. ทุติยํ อุตฺตานตฺถเมว. ตติเย โน จ ปยิรุปาสิตาติ น อุปฏฺาติ.
๔. พฺยากรณสุตฺตวณฺณนา
๘๔. จตุตฺเถ ฌายี สมาปตฺติกุสโลติ ฌาเนหิ จ สมฺปนฺโน สมาปตฺติยฺจ เฉโก. อิรีณนฺติ ตุจฺฉภาวํ. วิจินนฺติ คุณวิจินตํ นิคฺคุณภาวํ. อถ วา อิรีณสงฺขาตํ อรฺํ วิจินสงฺขาตํ มหาคหนฺจ อาปนฺโน วิย โหติ. อนยนฺติ อวฑฺฒึ. พฺยสนนฺติ วินาสํ. อนยพฺยสนนฺติ อวฑฺฒิวินาสํ. กึ นุ โขติ เกน การเณน.
๕-๖. กตฺถีสุตฺตาทิวณฺณนา
๘๕-๘๖. ปฺจเม กตฺถี โหติ วิกตฺถีติ กตฺถนสีโล โหติ วิกตฺถนสีโล, วิวฏํ กตฺวา กเถติ. น สนฺตตการีติ น สตตการี. ฉฏฺเ อธิมานิโกติ อนธิคเต อธิคตมาเนน สมนฺนาคโต. อธิมานสจฺโจติ อธิคตมานเมว สจฺจโต วทติ.
๗. นปฺปิยสุตฺตวณฺณนา
๘๗. สตฺตเม อธิกรณิโก โหตีติ อธิกรณการโก โหติ. น ปิยตายาติ น ปิยภาวาย. น ครุตายาติ น ครุภาวาย. น ¶ สามฺายาติ น สมณธมฺมภาวาย. น เอกีภาวายาติ น นิรนฺตรภาวาย. ธมฺมานํ น นิสามกชาติโกติ นวนฺนํ โลกุตฺตรธมฺมานํ น นิสามนสภาโว น อุปธารณสภาโว. น ปฏิสลฺลาโนติ น ปฏิสลฺลีโน. สาเยฺยานีติ สภาโว. กูเฏยฺยานีติ กูฏภาโว. ชิมฺเหยฺยานีติ น อุชุภาวา. วงฺเกยฺยานีติ วงฺกภาวา.
๘. อกฺโกสกสุตฺตวณฺณนา
๘๘. อฏฺเม ¶ ¶ อกฺโกสกปริภาสโก อริยูปวาที สพฺรหฺมจารินนฺติ เอตฺถ สพฺรหฺมจาริปทํ อกฺโกสกปริภาสกปเทหิ โยเชตพฺพํ ‘‘อกฺโกสโก สพฺรหฺมจารีนํ, ปริภาสโก สพฺรหฺมจารีน’’นฺติ. อริยานํ ปน คุเณ ฉินฺทิสฺสามีติ อนฺติมวตฺถุนา อุปวทนฺโต อริยูปวาที นาม โหติ. สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺตีติ สิกฺขาตฺตยสงฺขาตา สาสนสทฺธมฺมา อสฺส โวทานํ น คจฺฉนฺติ. โรคาตงฺกนฺติ เอตฺถ โรโคว กิจฺฉาชีวิตภาวกรเณน อาตงฺโกติ เวทิตพฺโพ.
๙. โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา
๘๙. นวเม โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ โกยํ โกกาลิโก, กสฺมา จ อุปสงฺกมิ? อยํ กิร โกกาลิกรฏฺเ โกกาลิกนคเร โกกาลิกเสฏฺิสฺส ปุตฺโต ปพฺพชิตฺวา ปิตรา การิเต วิหาเร วสติ จูฬโกกาลิโกติ นาเมน, น ปน เทวทตฺตสฺส สิสฺโส. โส หิ พฺราหฺมณปุตฺโต ¶ มหาโกกาลิโก นาม. ภควติ ปน สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต ทฺเว อคฺคสาวกา ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ชนปทจาริกํ จรมานา อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย วิเวกวาสํ วสิตุกามา เต ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ตสฺมึ ชนปเท ตํ นครํ ปตฺวา วิหารํ อคมึสุ. ตตฺถ เนสํ โกกาลิโก วตฺตํ อกาสิ. เตปิ เตน สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา, ‘‘อาวุโส, มยํ อิธ เตมาสํ วสิสฺสาม, มา โน กสฺสจิ อาโรเจสี’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา วสึสุ. วสิตฺวา ปวารณาทิวเส ปวาเรตฺวา ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส’’ติ โกกาลิกํ อาปุจฺฉึสุ. โกกาลิโก ‘‘อชฺช, อาวุโส, เอกทิวสํ วสิตฺวา สฺเว คมิสฺสถา’’ติ วตฺวา ทุติยทิวเส นครํ ปวิสิตฺวา มนุสฺเส อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห ทฺเว อคฺคสาวเก อิธ อาคนฺตฺวา วสมาเนปิ น ชานาถ, น เต โกจิ ปจฺจเยนปิ นิมนฺเตตี’’ติ. นครวาสิโน ‘‘กหํ, ภนฺเต, เถรา, กสฺมา โน นาโรจยิตฺถา’’ติ? กึ, อาวุโส, อาโรจิเตน, กึ น ปสฺสถ ทฺเว ภิกฺขู เถราสเน นิสีทนฺเต, เอเต อคฺคสาวกาติ. เต ขิปฺปํ สนฺนิปติตฺวา สปฺปิผาณิตาทีนิ เจว จีวรทุสฺสานิ จ สํหรึสุ.
โกกาลิโก ¶ จินฺเตสิ – ‘‘ปรมปฺปิจฺฉา อคฺคสาวกา ปยุตฺตวาจาย อุปฺปนฺนลาภํ น สาทิยิสฺสนฺติ, อสาทิยนฺตา ‘อาวาสิกสฺส เทถา’ติ วกฺขนฺตี’’ติ ตํ ลาภํ คาหาเปตฺวา เถรานํ ¶ สนฺติกํ อคมาสิ. เถรา ทิสฺวาว ‘‘อิเม ปจฺจยา เนว อมฺหากํ, น โกกาลิกสฺส กปฺปนฺตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมึสุ. โกกาลิโก ‘‘กถฺหิ นาม สยํ อคฺคณฺหนฺตา มยฺหมฺปิ อทาเปตฺวา ปกฺกมิสฺสนฺตี’’ติ อาฆาตํ อุปฺปาเทสิ ¶ . เตปิ ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปุน อตฺตโน ปริสํ อาทาย ชนปทจาริกํ จรนฺตา อนุปุพฺเพน ตสฺมึ รฏฺเ ตเมว นครํ ปจฺจาคมึสุ. นาครา เถเร สฺชานิตฺวา สห ปริกฺขาเรหิ ทานํ สชฺเชตฺวา นครมชฺเฌ มณฺฑปํ กตฺวา ทานํ อทํสุ, เถรานฺจ ปริกฺขาเร อุปนาเมสุํ. เถรา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาทยึสุ. ตํ ทิสฺวา โกกาลิโก จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา อเหสุํ, อิทานิ ปาปิจฺฉา ชาตา, ปุพฺเพปิ อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺปวิวิตฺตสทิสาว มฺเ’’ติ เถเร อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา วิย, อิทานิ ปน ปาปภิกฺขู ชาตตฺถา’’ติ วตฺวา ‘‘มูลฏฺาเนเยว เนสํ ปติฏฺํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตรมานรูโป นิกฺขมิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อยเมส โกกาลิโก, อิมินา จ การเณน อุปสงฺกมีติ เวทิตพฺโพ.
ภควา ตํ ตุริตตุริตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อาวชฺเชนฺโต อฺาสิ ‘‘อยํ อคฺคสาวเก อกฺโกสิตุกาโม อาคโต, สกฺกา นุ โข ปฏิเสเธตุ’’นฺติ. ตโต ‘‘น สกฺกา ปฏิเสเธตุํ, เถเรสุ อปรชฺฌิตฺวา อาคโต, เอกํเสน ปน ปทุมนิรเย นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนปิ นาม ครหนฺตํ สุตฺวา น นิเสเธตี’’ติ วาทโมจนตฺถํ อริยูปวาทสฺส จ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ มา เหวนฺติ ติกฺขตฺตุํ ปฏิเสเธสิ. ตตฺถ มา เหวนฺติ มา เอวํ อภณิ. สทฺธายิโกติ สทฺธาย อาคมกโร ปสาทาวโห, สทฺธาตพฺพวจโน วา. ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพวจโน.
ปกฺกามีติ ¶ กมฺมานุภาเวน โจทิยมาโน ปกฺกามิ. โอกาสกตฺหิ กมฺมํ น สกฺกา ปฏิพาหิตุํ. อจิรปกฺกนฺตสฺสาติ ปกฺกนฺตสฺส สโต นจิเรเนว. สพฺโพ กาโย ผุโฏ อโหสีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ โอกาสํ อวชฺเชตฺวา สกลสรีรํ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา อุคฺคตาหิ ปีฬกาหิ อชฺโฌตฺถฏํ ¶ อโหสิ. ยสฺมา ปน พุทฺธานุภาเวน ตถารูปํ กมฺมํ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว วิปากํ ทาตุํ น สกฺโกติ, ทสฺสนูปจาเร วิชหิตมตฺเต เทติ, ตสฺมา ตสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ปีฬกา อุฏฺหึสุ. กลายมตฺติโยติ จณกมตฺติโย. เพลุวสลาฏุกมตฺติโยติ ตรุณเพลุวมตฺติโย. ปภิชฺชึสูติ ภิชฺชึสุ. ตาสุ ภินฺนาสุ สกลสรีรํ ปนสปกฺกํ วิย อโหสิ. โส ปกฺเกน คตฺเตน เชตวนทฺวารโกฏฺเก วิสคิลิโต มจฺโฉ วิย กทลิปตฺเตสุ นิปชฺชิ. อถ ธมฺมสฺสวนตฺถํ อาคตาคตา ¶ มนุสฺสา ‘‘ธิ โกกาลิก, ธิ โกกาลิก, อยุตฺตมกาสิ, อตฺตโนเยว มุขํ นิสฺสาย อนยพฺยสนํ ปตฺโตสี’’ติ อาหํสุ. เตสํ สทฺทํ สุตฺวา อารกฺขเทวตา ธิกฺการมกํสุ, อารกฺขเทวตานํ อากาสเทวตาติ อิมินา อุปาเยน ยาว อกนิฏฺภวนา เอกธิกฺกาโร อุทปาทิ.
ตุรูติ โกกาลิกสฺส อุปชฺฌาโย ตุรุตฺเถโร นาม อนาคามิผลํ วตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต. โส ภุมฺมฏฺเทวตา อาทึ กตฺวา ‘‘อยุตฺตํ โกกาลิเกน กตํ อคฺคสาวเก อนฺติมวตฺถุนา อพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติ ปรมฺปราย พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตํ ¶ ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘มา มยฺหํ ปสฺสนฺตสฺเสว วราโก นสฺสิ, โอวทิสฺสามิ นํ เถเรสุ จิตฺตปฺปสาทตฺถายา’’ติ อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อฏฺาสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา’’ติ. เปสลาติ ปิยสีลา. โกสิ ตฺวํ, อาวุโสติ นิสินฺนโกว กพรกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เอวมาห. ปสฺส ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธติ ยตฺตกํ ตยา อปรทฺธํ, อตฺตโน นลาเฏ มหาคณฺฑํ อปสฺสนฺโต สาสปมตฺตาย ปีฬกาย มํ โจเทตพฺพํ มฺสีติ อาห.
อถ นํ ‘‘อทิฏฺิปฺปตฺโต อยํ โกกาลิโก, คิลิตวิโส วิย น กสฺสจิ วจนํ น กริสฺสตี’’ติ ตฺวา ปุริสสฺส หีติอาทิมาห. ตตฺถ กุารีติ กุาริสทิสา ผรุสวาจา. ฉินฺทตีติ กุสลมูลสงฺขาเต มูเลเยว นิกนฺตติ. นินฺทิยนฺติ นินฺทิตพฺพํ ทุสฺสีลปุคฺคลํ. ปสํสตีติ อุตฺตมตฺเถ สมฺภาเวตฺวา ขีณาสโวติ วทติ. ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโยติ โย วา ปสํสิตพฺโพ ขีณาสโว, ตํ อนฺติมวตฺถุนา โจเทนฺโต ‘‘ทุสฺสีโล อย’’นฺติ วทติ. วิจินาติ มุเขน โส กลินฺติ โส ตํ อปราธํ ¶ มุเขน วิจินาติ นาม. กลินา ¶ เตนาติ เตน อปราเธน สุขํ น วินฺทติ. นินฺทิยปสํสาย หิ ปสํสิยนินฺทาย จ สมโกว วิปาโก.
สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนาติ สพฺเพน สเกน ธเนนปิ อตฺตนาปิ สทฺธึ โย อกฺเขสุ ธนปราชโย นาม, อยํ อปฺปมตฺตโก อปราโธ. โย สุคเตสูติ โย ปน สมฺมคฺคเตสุ ปุคฺคเลสุ จิตฺตํ ทูเสยฺย, อยํ จิตฺตปโทโสว ตโต กลิโต มหนฺตตโร กลิ.
อิทานิ ตสฺส มหนฺตตรภาวํ ทสฺเสนฺโต สตํ สหสฺสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สตํ สหสฺสานนฺติ ¶ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสฺจ. ฉตฺตึสตีติ อปรานิ ฉตฺตึสติ นิรพฺพุทานิ. ปฺจ จาติ อพฺพุทคณนาย ปฺจ อพฺพุทานิ. ยมริยครหีติ ยํ อริเย ครหนฺโต นิรยํ อุปปชฺชติ, ตตฺถ เอตฺตกํ อายุปฺปมาณนฺติ อตฺโถ.
กาลมกาสีติ อุปชฺฌาเย ปกฺกนฺเต กาลํ อกาสิ. ปทุมนิรยนฺติ ปาฏิเยกฺโก ปทุมนิรโย นาม นตฺถิ, อวีจิมหานิรยสฺมึเยว ปน ปทุมคณนาย ปจฺจิตพฺเพ เอกสฺมึ าเน นิพฺพตฺติ.
วีสติขาริโกติ มาคธเกน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา, โกสลรฏฺเ เอโก ปตฺโถ โหติ. เตน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา อาฬฺหกํ ¶ , จตฺตาริ อาฬฺหกานิ โทณํ, จตุโทณา มานิกา, จตุมานิกา ขารี, ตาย ขาริยา วีสติขาริโก. ติลวาโหติ มาคธกานํ สุขุมติลานํ ติลสกฏํ. อพฺพุโท นิรโยติ อพฺพุโท นาม ปาฏิเยกฺโก นิรโย นตฺถิ, อวีจิมฺหิเยว ปน อพฺพุทคณนาย ปจฺจิตพฺพฏฺานสฺเสตํ นามํ. นิรพฺพุทาทีสุปิ เอเสว นโย.
วสฺสคณนาปิ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา – ยเถว หิ สตํ สตสหสฺสานิ โกฏิ โหติ, เอวํ สตํ สตสหสฺสโกฏิโย ปโกฏิ นาม โหติ, สตํ สตสหสฺสปโกฏิโย โกฏิปโกฏิ นาม, สตํ สตสหสฺสโกฏิปโกฏิโย นหุตํ, สตํ สตสหสฺสนหุตานิ นินฺนหุตํ, สตํ สตสหสฺสนินฺนหุตานิ เอกํ อพฺพุทํ, ตโต วีสติคุณํ นิรพฺพุทํ, เอส นโย สพฺพตฺถาติ. ทสมํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
เถรวคฺโค จตุตฺโถ.
(๑๐) ๕. อุปาลิวคฺโค
๑-๒. กามโภคีสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๑-๙๒. ปฺจมสฺส ¶ ¶ ปเม สาหเสนาติ สาหสิยกมฺเมน. ทุติเย ภยานีติ จิตฺตุตฺราสภยานิ. เวรานีติ อกุสลเวรปุคฺคลเวรานิ. อริโย จสฺส าโยติ สห วิปสฺสนาย มคฺโค. อิติ อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตีติ เอวํ อิมสฺมึ อวิชฺชาทิเก การเณ สติ อิทํ สงฺขาราทิกํ ผลํ โหติ. อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตีติ โย ยสฺส สหชาตปจฺจโย โหติ, ตสฺส อุปฺปาทา อิตรํ อุปฺปชฺชติ นาม. อิมสฺมึ อสตีติ อวิชฺชาทิเก การเณ อสติ สงฺขาราทิกํ ผลํ น โหติ. อิมสฺส ¶ นิโรธาติ การณสฺส อปฺปวตฺติยา ผลสฺส อปฺปวตฺติ โหติ.
๓. กึทิฏฺิกสุตฺตวณฺณนา
๙๓. ตติเย สณฺาเปสุนฺติ อิริยาปถมฺปิ วจนปถมฺปิ สณฺาเปสุํ. อปฺปสทฺทวินีตาติ อปฺปสทฺเทน มตฺตภาณินา สตฺถารา วินีตา. ปรโตโฆสปจฺจยา วาติ ปรสฺส วา วจนการณา. เจตยิตาติ ปกปฺปิตา. มงฺกุภูตาติ โทมนสฺสปฺปตฺตา นิตฺเตชา. ปตฺตกฺขนฺธาติ ปติตกฺขนฺธา. สหธมฺเมนาติ สเหตุเกน การเณน วจเนน.
๔. วชฺชิยมาหิตสุตฺตวณฺณนา
๙๔. จตุตฺเถ วชฺชิยมาหิโตติ เอวํนามโก. สพฺพํ ตปนฺติ สพฺพเมว ทุกฺกรการิกํ. สพฺพํ ตปสฺสินฺติ สพฺพํ ตปนิสฺสิตกํ. ลูขาชีวินฺติ ทุกฺกรการิกชีวิกานุโยคํ อนุยุตฺตํ. คารยฺหนฺติ ครหิตพฺพยุตฺตกํ. ปสํสิยนฺติ ปสํสิตพฺพยุตฺตกํ. เวนยิโกติ สยํ อวินีโต อฺเหิ วิเนตพฺโพ. อปฺตฺติโกติ น กิฺจิ ปฺาเปตุํ สกฺโกติ. อถ วา เวนยิโกติ สตฺตวินาสโก. อปฺตฺติโกติ อปจฺจกฺขํ นิพฺพานํ ปฺาเปติ, สยํกตาทีสุ กิฺจิ ปฺาเปตุํ น สกฺโกติ. น โส ภควา เวนยิโกติ โส ภควา เอวํ ยาถาวโต ตฺวา ¶ กุสลากุสลํ ¶ ปฺาเปนฺโต น อฺเน วิเนตพฺโพ น อฺสิกฺขิโต. เย จ ธมฺเม อุปาทาย สตฺโต ปฺาปิยติ, เตสํ ปฺาปนโต น สตฺตวินาสโก, สุวินีโต สุสิกฺขิโต สตฺตวินายโกติ อตฺโถ. ตสฺส จ ปฺตฺติโย ¶ สปฺตฺติโยเยวาติ ทสฺเสติ. วิมุตฺตึ วิมุจฺจโต อกุสลา ธมฺมาติ มิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตํ จิตฺตสฺส อธิมุตฺตึ อธิมุจฺจโต อกุสลา ธมฺมา วฑฺฒนฺติ นาม, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สาสเน ปน จิตฺตสฺส วิมุตฺติสงฺขาโต วิมุตฺติ กุสลานํเยว ปจฺจโย โหติ.
๕. อุตฺติยสุตฺตวณฺณนา
๙๕. ปฺจเม ตุณฺหี อโหสีติ สตฺตูปลทฺธิยํ ตฺวา อปุจฺฉํ ปุจฺฉตีติ ตุณฺหี อโหสิ. สพฺพสามุกฺกํสิกํ วต เมติ มยา สพฺพปุจฺฉานํ อุตฺตมปุจฺฉํ ปุจฺฉิโต สมโณ โคตโม สํสาเทติ โน วิสฺสชฺเชติ, นูน น วิสหติ น สกฺโกติ วิสฺสชฺเชตุนฺติ เอวํ ปาปิกํ ทิฏฺึ มา ปฏิลภีติ. ตทสฺสาติ ตํ เอวํ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ภเวยฺย. ปจฺจนฺติมนฺติ ยสฺมา มชฺฌิมเทเส นครสฺส อุทฺธาปาทีนิ ถิรานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพลานิ วา, สพฺพโส วา ปน มา โหนฺตุ, โจราสงฺกา น โหติ. ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ปจฺจนฺติมํ นคร’’นฺติ อาห. ทฬฺหุทฺธาปนฺติ ¶ ถิรปาการปาทํ. ทฬฺหปาการโตรณนฺติ ถิรปาการฺเจว ถิรปิฏฺิสงฺฆาฏฺจ. เอกทฺวารนฺติ กสฺมา อาห? พหุทฺวารสฺมิฺหิ นคเร พหูหิ ปณฺฑิตโทวาริเกหิ ภวิตพฺพํ, เอกทฺวาเร เอโกว วฏฺฏติ. ตถาคตสฺส จ ปฺาย อฺโ สทิโส นตฺถิ. ตสฺมา สตฺถุ ปณฺฑิตภาวสฺส โอปมฺมตฺถํ เอกํเยว โทวาริกํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกทฺวาร’’นฺติ อาห. ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. พฺยตฺโตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต. เมธาวีติ านุปฺปตฺติยปฺาสงฺขาตาย เมธาย สมนฺนาคโต. อนุปริยายปถนฺติ อนุปริยายนามกํ มคฺคํ. ปาการสนฺธินฺติ ทฺวินฺนํ อิฏฺกานํ อปคตฏฺานํ. ปาการวิวรนฺติ ปาการสฺส ฉินฺนฏฺานํ. ตเทเวตํ ปฺหนฺติ ตํเยว ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทินา นเยน ปุฏฺํ ปนียปฺหํ ปุนปิ ปุจฺฉิ. สพฺโพ จ เตน โลโกติ สตฺตูปลทฺธิยํเยว ตฺวา อฺเนากาเรน ปุจฺฉตีติ ทสฺเสติ.
๖. โกกนุทสุตฺตวณฺณนา
๙๖. ฉฏฺเ ปุพฺพาปยมาโนติ ปุพฺพสทิสานิ นิรุทกานิ กุรุมาโน. กฺเวตฺถ, อาวุโสติ โก ¶ เอตฺถ, อาวุโส. ยาวตา, อาวุโส, ทิฏฺีติ ¶ ยตฺติกา ทฺวาสฏฺิวิธาปิ ทิฏฺิ นาม อตฺถิ. ยาวตา ทิฏฺิฏฺานนฺติ ‘‘ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานํ, อวิชฺชาปิ, ผสฺโสปิ, สฺาปิ, วิตกฺโกปิ อโยนิโสมนสิกาโรปิ, ปาปมิตฺโตปิ ¶ , ปรโตโฆโสปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติ เอวํ ยตฺตกํ อฏฺวิธมฺปิ ทิฏฺิฏฺานํ ทิฏฺิการณํ นาม อตฺถิ. ทิฏฺาธิฏฺานนฺติ ทิฏฺีนํ อธิฏฺานํ, อธิตฺวา อธิภวิตฺวา ปวตฺตาย ทิฏฺิยา เอตํ นามํ. ทิฏฺิปริยุฏฺานนฺติ ‘‘กตมานิ อฏฺารส ทิฏฺิปริยุฏฺานานิ? ยา ทิฏฺิ ทิฏฺิคตํ ทิฏฺิคหนํ ทิฏฺิกนฺตารํ ทิฏฺิวิสูกํ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺิสํโยชนํ ทิฏฺิสลฺลํ ทิฏฺิสมฺพาโธ ทิฏฺิปลิโพโธ ทิฏฺิพนฺธนํ ทิฏฺิปปาโต ทิฏฺานุสโย ทิฏฺิสนฺตาโป ทิฏฺิปริฬาโห ทิฏฺิคนฺโถ ทิฏฺุปาทานํ ทิฏฺาภินิเวโส ทิฏฺิปรามาโส. อิมานิ อฏฺารส ทิฏฺิปริยุฏฺานานี’’ติ เอวํ วุตฺตํ ทิฏฺิปริยุฏฺานํ. สมุฏฺานนฺติ ทิฏฺิฏฺานสฺเสว เววจนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ขนฺธา ปจฺจโย ทิฏฺีนํ อุปาทาย สมุฏฺานฏฺเนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. โสตาปตฺติมคฺโค ปน ทิฏฺิสมุคฺฆาโต นาม สพฺพทิฏฺีนํ สมุคฺฆาตกตฺตา. ตมหนฺติ ตํ สพฺพํ อหํ ชานามิ. กฺยาหํ วกฺขามีติ กึการณา อหํ วกฺขามิ.
๗-๘. อาหุเนยฺยสุตฺตาทิวณฺณนา
๙๗-๙๘. สตฺตเม สมฺมาทิฏฺิโกติ ยาถาวทิฏฺิโก. อฏฺเม อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมกุสโลติ จตุนฺนํ อธิกรณานํ มูลํ คเหตฺวา วูปสเมน สมุปฺปาทวูปสมกุสโล โหติ.
๙. อุปาลิสุตฺตวณฺณนา
๙๙. นวเม ¶ ทุรภิสมฺภวานีติ สมฺภวิตุํ ทุกฺขานิ ทุสฺสหานิ, น สกฺกา อปฺเปสกฺเขหิ อชฺโฌคาหิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺานิ จ วนปตฺถานิ จ. อารฺกงฺคนิปฺผาทเนน อรฺานิ, คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานภาเวน วนปตฺถานิ. ปนฺตานีติ ปริยนฺตานิ อติทูรานิ. ทุกฺกรํ ปวิเวกนฺติ กายวิเวโก ทุกฺกโร. ทุรภิรมนฺติ อภิรมิตุํ น สุกรํ. เอกตฺเตติ เอกีภาเว. กึ ทสฺเสติ? กายวิเวเก กเตปิ ตตฺถ จิตฺตํ อภิรมาเปตุํ ทุกฺกรํ. ทฺวยํทฺวยาราโม หิ อยํ โลโกติ. หรนฺติ มฺเติ หรนฺติ วิย ฆสนฺติ วิย. มโนติ จิตฺตํ. สมาธึ อลภมานสฺสาติ อุปจารสมาธึ วา อปฺปนาสมาธึ วา อลภนฺตสฺส ¶ . กึ ทสฺเสติ? อีทิสสฺส ภิกฺขุโน ¶ ติณปณฺณมิคาทิสทฺเทหิ วิวิเธหิ จ ภีสนเกหิ วนานิ จิตฺตํ วิกฺขิปนฺติ มฺเติ. สํสีทิสฺสตีติ กามวิตกฺเกน สํสีทิสฺสติ. อุปฺลวิสฺสตีติ พฺยาปาทวิหึสาวิตกฺเกหิ อุทฺธํ ปฺลวิสฺสติ.
กณฺณสํโธวิกนฺติ กณฺเณ โธวนฺเตน กีฬิตพฺพํ. ปิฏฺิสํโธวิกนฺติ ปิฏฺึ โธวนฺเตน กีฬิตพฺพํ. ตตฺถ ¶ อุทกํ โสณฺฑาย คเหตฺวา ทฺวีสุ กณฺเณสุ อาสิฺจนํ กณฺณสํโธวิกา นาม, ปิฏฺิยํ อาสิฺจนํ ปิฏฺิสํโธวิกา นาม. คาธํ วินฺทตีติ ปติฏฺํ ลภติ. โก จาหํ โก จ หตฺถินาโคติ อหํ โก, หตฺถินาโค โก, อหมฺปิ ติรจฺฉานคโต, อยมฺปิ, มยฺหมฺปิ จตฺตาโร ปาทา, อิมสฺสปิ, นนุ อุโภปิ มยํ สมสมาติ.
วงฺกกนฺติ กุมารกานํ กีฬนกํ ขุทฺทกนงฺคลํ. ฆฏิกนฺติ ทีฆทณฺฑเกน รสฺสทณฺฑกํ ปหรณกีฬํ. โมกฺขจิกนฺติ สํปริวตฺตกกีฬํ, อากาเส ทณฺฑกํ คเหตฺวา ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนกีฬนฺติ วุตฺตํ โหติ. จิงฺคุลกนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ. ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิ, ตาย วาลุกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถกนฺติ ขุทฺทกรถํ. ธนุกนฺติ ขุทฺทกธนุเมว.
อิธ โข ปน โวติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ, อิธ โข ปนาติ อตฺโถ. อิงฺฆ ตฺวํ, อุปาลิ, สงฺเฆ วิหราหีติ เอตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. เตน เถรํ สงฺฆมชฺเฌ วิหารตฺถาย โจเทติ, นาสฺส อรฺวาสํ อนุชานาติ. กสฺมา? อรฺเสนาสเน ¶ วสโต กิรสฺส วาสธุรเมว ปูริสฺสติ, น คนฺถธุรํ. สงฺฆมชฺเฌ วสนฺโต ปน ทฺเว ธุรานิ ปูเรตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ, วินยปิฏเก จ ปาโมกฺโข ภวิสฺสติ. อถสฺสาหํ ปริสมชฺเฌ ปุพฺพปตฺถนํ ปุพฺพาภินีหารฺจ กเถตฺวา อิมํ ภิกฺขุํ วินยธรานํ อคฺคฏฺาเน เปสฺสามีติ อิมมตฺถํ ปสฺสมาโน สตฺถา เถรสฺส อรฺวาสํ นานุชานีติ. ทสมํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อุปาลิวคฺโค ปฺจโม.
ทุติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๓. ตติยปณฺณาสกํ
(๑๑) ๑. สมณสฺาวคฺโค
๑. สมณสฺาสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม สมณสฺาติ สมณานํ อุปฺปชฺชนกสฺา. สนฺตตการีติ นิรนฺตรการี. อพฺยาปชฺโฌติ นิทฺทุกฺโข. อิทมตฺถํติสฺส โหตีติ อิทมตฺถํ อิเม ปจฺจยาติ เอวมสฺส ชีวิตปริกฺขาเรสุ โหติ, ปจฺจเวกฺขิตปริโภคํ ปริภฺุชตีติ อตฺโถ. ทุติยํ อุตฺตานตฺถเมว.
๓. มิจฺฉตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓. ตติเย วิราธนา โหตีติ สคฺคโต มคฺคโต จ วิรชฺฌนํ โหติ. โน อาราธนาติ น สมฺปาทนา น ปริปูรการิตา โหติ. ปโหตีติ ปวตฺตติ.
๔-๕. พีชสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๔-๑๐๕. จตุตฺเถ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนนฺติ ทิฏฺานุรูเปน ปริปุณฺณํ สมาทินฺนํ สกลํ คหิตํ. เจตนาติ ตีสุ ทฺวาเรสุ นิพฺพตฺติตเจตนาว คหิตา. ปตฺถนาติ ‘‘เอวรูโป สิย’’นฺติ เอวํ ปตฺถนา. ปณิธีติ ¶ ‘‘เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’’ติ จิตฺตฏฺปนา. สงฺขาราติ สมฺปยุตฺตกสงฺขารา. ปฺจเม ปุเรจาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมา. อนฺวเทวาติ ตํ อนุพนฺธมานเมว.
๖. นิชฺชรสุตฺตวณฺณนา
๑๐๖. ฉฏฺเ ¶ นิชฺชรวตฺถูนีติ นิชฺชรการณานิ. มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตีติ อยํ เหฏฺา วิปสฺสนายปิ นิชฺชิณฺณา เอว ปหีนา. กสฺมา ปุน คหิตาติ? อสมุจฺฉินฺนตฺตา. วิปสฺสนาย หิ กิฺจาปิ นิชฺชิณฺณา, น ปน สมุจฺฉินฺนา. มคฺโค ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ สมุจฺฉินฺทติ, น ปุน วุฏฺาตุํ เทติ. ตสฺมา ปุน คหิตา. เอวํ สพฺพปเทสุ โยเชตพฺโพ. เอตฺถ จ สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จตุสฏฺิ ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. กตเม จตุสฏฺิ? โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ อธิโมกฺขฏฺเน ¶ สทฺธินฺทฺริยํ ปริปูรติ, ปคฺคหฏฺเน วีริยินฺทฺริยํ, อุปฏฺานฏฺเน สตินฺทฺริยํ, อวิกฺเขปฏฺเน สมาธินฺทฺริยํ, ทสฺสนฏฺเน ปฺินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, วิชานนฏฺเน มนินฺทฺริยํ, อภินนฺทนฏฺเน โสมนสฺสินฺทฺริยํ, ปวตฺตสนฺตติอาธิปเตยฺยฏฺเน ชีวิตินฺทฺริยํ ปริปูรติ…เป… อรหตฺตผลกฺขเณ อธิโมกฺขฏฺเน สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ปวตฺตสนฺตติอาธิปเตยฺยฏฺเน ชีวิตินฺทฺริยํ ปริปูรตีติ เอวํ จตูสุ จ มคฺเคสุ จตูสุ จ ผเลสุ อฏฺฏฺ หุตฺวา จตุสฏฺิ ธมฺมา ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
๗. โธวนาสุตฺตวณฺณนา
๑๐๗. สตฺตเม ¶ โธวนนฺติ อฏฺิโธวนํ. ตสฺมิฺหิ ชนปเท มนุสฺสา าตเก มเต น ฌาเปนฺติ, อาวาฏํ ปน ขณิตฺวา ภูมิยํ นิทหนฺติ. อถ เนสํ ปูติภูตานํ อฏฺีนิ นีหริตฺวา โธวิตฺวา ปฏิปาฏิยา อุสฺสาเปตฺวา คนฺธมาเลหิ ปูเชตฺวา เปนฺติ. นกฺขตฺเต ปตฺเต ตานิ อฏฺีนิ คเหตฺวา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ, ตโต นกฺขตฺตํ กีฬนฺติ.
๘-๑๐. ติกิจฺฉกสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๐๘-๑๑๐. อฏฺเม วิเรจนนฺติ โทสนีหรณเภสชฺชํ. วิริตฺตา โหตีติ นีหฏา โหติ ปนุทิตา. นวเม วมนนฺติ วมนกรณเภสชฺชํ. ทสเม นิทฺธมนียาติ นิทฺธมิตพฺพา. นิทฺธนฺตาติ นิทฺธมิตา.
๑๑. ปมอเสขสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑. เอกาทสเม ¶ องฺคปริปูรณตฺถํ สมฺมาทิฏฺิเยว สมฺมาาณนฺติ วุตฺตา. เอวเมเต สพฺเพปิ อรหตฺตผลธมฺมา อเสขา, อเสขสฺส ปวตฺตตฺตา ปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ อเสขนฺติ วุตฺตํ.
๑๒. ทุติยอเสขสุตฺตวณฺณนา
๑๑๒. ทฺวาทสเม อเสขิยาติ อเสขาเยว, อเสขสนฺตกา วา. อิมินา สุตฺเตน ขีณาสโวว กถิโตติ.
สมณสฺาวคฺโค ปโม.
(๑๒) ๒. ปจฺโจโรหณิวคฺโค
๑-๒. อธมฺมสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๑๑๓-๑๑๔. ทุติยสฺส ¶ ปเม ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉา จ วิสฺสชฺชนา จ กตา. ทุติเย เอกโตว.
๓. ตติยอธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕. ตติเย อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวาติ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา. สตฺถุ ¶ เจว สํวณฺณิโตติ ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺเค เปนฺเตน สตฺถารา สํวณฺณิโต. สมฺภาวิโตติ คุณสมฺภาวนาย สมฺภาวิโต. ปโหตีติ สกฺโกติ. อติสิตฺวาติ อติกฺกมิตฺวา. ชานํ ชานาตีติ ชานิตพฺพกํ ¶ ชานาติ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ปสฺสิตพฺพกํ ปสฺสติ. จกฺขุภูโตติ จกฺขุ วิย ภูโต ชาโต นิพฺพตฺโต. าณภูโตติ าณสภาโว. ธมฺมภูโตติ ธมฺมสภาโว. พฺรหฺมภูโตติ เสฏฺสภาโว. วตฺตาติ วตฺตุํ สมตฺโถ. ปวตฺตาติ ปวตฺเตตุํ สมตฺโถ. อตฺถสฺส นินฺเนตาติ อตฺถํ นีหริตฺวา ทสฺเสตา. ยถา โน ภควาติ ยถา อมฺหากํ ภควา พฺยากเรยฺย.
๔. อชิตสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. จตุตฺเถ อชิโตติ เอวํนามโก. จิตฺตฏฺานสตานีติ จิตฺตุปฺปาทสตานิ. เยหีติ เยหิ จิตฺตฏฺานสเตหิ อนุยฺุชิยมานา. อุปารทฺธาว ชานนฺติ อุปารทฺธสฺมาติ วิรทฺธา นิคฺคหิตา เอวํ ชานนฺติ ‘‘วิรทฺธา มยํ, นิคฺคหิตา มยํ, อาโรปิโต โน โทโส’’ติ. ปณฺฑิตวตฺถูนีติ ปณฺฑิตภาวตฺถาย การณานิ.
๕-๖. สงฺคารวสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๗-๑๑๘. ปฺจเม โอริมํ ตีรนฺติ โลกิยํ โอริมตีรํ. ปาริมํ ตีรนฺติ โลกุตฺตรํ ปาริมตีรํ. ปารคามิโนติ นิพฺพานคามิโน. ตีรเมวานุธาวตีติ สกฺกายทิฏฺิตีรํเยว อนุธาวติ. ธมฺเม ¶ ธมฺมานุวตฺติโนติ สมฺมา อกฺขาเต นววิเธ โลกุตฺตรธมฺเม อนุธมฺมวตฺติโน, ตสฺส ธมฺมสฺสานุจฺฉวิกาย สหสีลาย ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา ปวตฺตมานา. มจฺจุเธยฺยํ ¶ สุทุตฺตรนฺติ มจฺจุโน านภูตํ เตภูมกวฏฺฏํ สุทุตฺตรํ ตริตฺวา. ปารเมสฺสนฺตีติ นิพฺพานํ ปาปุณิสฺสนฺติ.
โอกา อโนกมาคมฺมาติ วฏฺฏโต วิวฏฺฏํ อาคมฺม. วิเวเก ยตฺถ ทูรมนฺติ ยสฺมึ กายจิตฺตอุปธิวิเวเก ทุรภิรมํ, ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย. หิตฺวา กาเมติ ทุวิเธปิ กาเม ปหาย. อกิฺจโนติ นิปฺปลิโพโธ. อาทานปฏินิสฺสเคติ คหณปฏินิสฺสคฺคสงฺขาเต นิพฺพาเน. อนุปาทาย เย รตาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ กิฺจิปิ อนุปาทิยิตฺวา เย อภิรตา. ปรินิพฺพุตาติ เต อปจฺจยปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุตา นามาติ เวทิตพฺพา. ฉฏฺํ ภิกฺขูนํ เทสิตํ.
๗-๘. ปจฺโจโรหณีสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๑๑๙-๑๒๐. สตฺตเม ¶ ปจฺโจโรหณีติ ปาปสฺส ปจฺโจโรหณํ. ปตฺถริตฺวาติ สนฺถริตฺวา. อนฺตรา จ เวลํ อนฺตรา จ อคฺยาคารนฺติ วาลิการาสิสฺส จ อคฺคิอคารสฺส จ อนฺตเร. อฏฺมํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทสิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปจฺโจโรหณิวคฺโค ทุติโย.
(๑๓) ๓. ปริสุทฺธวคฺควณฺณนา
๑๒๓. ตติยสฺส ¶ ปเม ปริสุทฺธาติ นิมฺมลา. ปริโยทาตาติ ปภสฺสรา. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.
ปริสุทฺธวคฺโค ตติโย.
(๑๔) ๔. สาธุวคฺควณฺณนา
๑๓๔. จตุตฺถสฺส ปเม สาธุนฺติ ภทฺทกํ สิลิฏฺกํ. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ. อริยมคฺควคฺโค อุตฺตานตฺโถเยวาติ.
สาธุวคฺโค จตุตฺโถ.
ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๔. จตุตฺถปณฺณาสกํ
๑๕๕. จตุตฺถสฺส ¶ ¶ ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.
๘. กมฺมนิทานสุตฺตวณฺณนา
๑๗๔. อฏฺเม โลภเหตุกมฺปีติ ปาณาติปาตสฺส โลโภ อุปนิสฺสยโกฏิยา เหตุ โหติ โทสโมหสมฺปยุตฺโตปิ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๙. ปริกฺกมนสุตฺตวณฺณนา
๑๗๕. นวเม ปริกฺกมนํ โหตีติ ปริวชฺชนํ โหติ.
๑๐. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา
๑๗๖. ทสเม กมฺมารปุตฺตสฺสาติ สุวณฺณการปุตฺตสฺส. กสฺส โน ตฺวนฺติ กสฺส นุ ตฺวํ. ปจฺฉาภูมกาติ ปจฺฉาภูมิวาสิกา. กมณฺฑลุกาติ กมณฺฑลุธาริโน. เสวาลมาลิกาติ เสวาลมาลา วิย ธาเรนฺติ. เสวาลปฏนิวาสิตาติปิ วุตฺตเมว. อุทโกโรหกาติ สายตติยกํ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺตา. อามเสยฺยาสีติ หตฺเถน ปริมชฺเชยฺยาสิ.
๑๑. ชาณุสฺโสณิสุตฺตวณฺณนา
๑๗๗. เอกาทสเม อุปกปฺปตูติ ปาปุณาตุ. าเนติ โอกาเส. โน อฏฺาเนติ โน อโนกาเส. เนรยิกานํ ¶ อาหาโร นาม ตตฺถ นิพฺพตฺตนกมฺมเมว. เตเนว หิ เต ตตฺถ ยาเปนฺติ. ติรจฺฉานโยนิกานํ ปน ติณปณฺณาทิวเสน อาหาโร เวทิตพฺโพ. มนุสฺสานํ โอทนกุมฺมาสาทิวเสน ¶ , เทวานํ สุธาโภชนาทิวเสน, เปตฺติเวสยิกานํ เขฬสิงฺฆาณิกาทิวเสน. ยํ วา ปนสฺส อิโต อนุปฺปเวจฺฉนฺตีติ ยํ ตสฺส มิตฺตาทโย อิโต ททนฺตา อนุปเวเสนฺติ. เปตฺติเวสยิกา เอว หิ ปรทตฺตูปชีวิโน โหนฺติ, น อฺเสํ ปเรหิ ทินฺนํ ¶ อุปกปฺปติ. ทายโกปิ อนิปฺผโลติ ยํ สนฺธาย ตํ ทานํ ทินฺนํ, ตสฺส อุปกปฺปตุ วา มา วา, ทายเกน ปน น สกฺกา นิปฺผเลน ภวิตุํ, ทายโก ตสฺส ทานสฺส วิปากํ ลภติเยว.
อฏฺาเนปิ ภวํ โคตโม ปริกปฺปํ วทตีติ อโนกาเส อุปฺปนฺเนปิ ตสฺมึ าตเก ภวํ โคตโม ทานสฺส ผลํ ปริกปฺเปติเยว ปฺาเปติเยวาติ ปุจฺฉติ. พฺราหฺมณสฺส หิ ‘‘เอวํ ทินฺนสฺส ทานสฺส ผลํ ทายโก น ลภตี’’ติ ลทฺธิ. อถสฺส ภควา ปฺหํ ปฏิชานิตฺวา ‘‘ทายโก นาม ยตฺถ กตฺถจิ ปฺุผลูปชีวิฏฺาเน นิพฺพตฺโต ทานสฺส ผลํ ลภติเยวา’’ติ ทสฺเสตุํ อิธ พฺราหฺมณาติอาทิมาห. โส ตตฺถ ลาภี โหตีติ โส ตตฺถ หตฺถิโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ มงฺคลหตฺถิฏฺานํ ปตฺวา ลาภี โหติ. อสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. สาธุวคฺโค อุตฺตานตฺโถเยวาติ.
ชาณุสฺโสณิวคฺโค ทุติโย.
จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
(๒๑) ๑. กรชกายวคฺโค
๒๑๑. ปฺจมสฺส ¶ ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๖. สํสปฺปนียสุตฺตวณฺณนา
๒๑๖. ฉฏฺเ สํสปฺปนียปริยายํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายนฺติ สํสปฺปนสฺส การณํ เทสนาสงฺขาตํ ธมฺมเทสนํ. สํสปฺปตีติ ตํ กมฺมํ กโรนฺโต อาสปฺปติ ปริสปฺปติ วิปฺผนฺทติ. ชิมฺหา ¶ คตีติ เตน กมฺเมน ยํ คตึ คมิสฺสติ, สา ชิมฺหา โหติ. ชิมฺหุปปตฺตีติ ตสฺส ยํ ¶ คตึ อุปปชฺชิสฺสติ, สาปิ ชิมฺหาว โหติ. สํสปฺปชาติกาติ สํสปฺปนสภาวา. ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหตีติ ภูตสฺมา สภาวโต วิชฺชมานกมฺมา สตฺตสฺส นิพฺพตฺติ โหติ. ผสฺสา ผุสนฺตีติ วิปากผสฺสา ผุสนฺติ.
๗-๘. สฺเจตนิกสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๒๑๗-๒๑๘. สตฺตเม สฺเจตนิกานนฺติ เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา กตานํ. อุปจิตานนฺติ จิตานํ วฑฺฒิตานํ. อปฺปฏิสํเวทิตฺวาติ เตสํ กมฺมานํ วิปากํ อเวทิยิตฺวา. พฺยนฺตีภาวนฺติ วิคตนฺตภาวํ เตสํ กมฺมานํ ปริจฺเฉทปริวฏุมตากรณํ. ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเมติ ตฺจ โข วิปากํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ทิฏฺเว ธมฺเม. อุปปชฺชนฺติ อุปปชฺชเวทนียํ อนนฺตเร อตฺตภาเว. อปเร วา ปริยาเยติ อปรปริยายเวทนียํ ปน สํสารปฺปวตฺเต สติ สหสฺสิเมปิ อตฺตภาเวติ. อิมินา อิทํ ทสฺเสติ ‘‘สํสารปฺปวตฺเต ปฏิลทฺธวิปาการหกมฺเม น วิชฺชติ โส ชคติปฺปเทโส, ยตฺถ ิโต มุจฺเจยฺย ปาปกมฺมา’’ติ. ติวิธาติ ¶ ติปฺปการา. กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺตีติ กายกมฺมนฺตสงฺขาตา วิปตฺติ. อิมินา นเยน สพฺพปทานิ เวทิตพฺพานิ. อฏฺเม อปณฺณโก มณีติ สมนฺตโต จตุรสฺโส ปาสโก.
๙. กรชกายสุตฺตวณฺณนา
๒๑๙. นวเม ทุกฺขสฺสาติ วิปากทุกฺขสฺส, วฏฺฏทุกฺขสฺเสว วา. อิมสฺมึ สุตฺเต มณิโอปมฺมํ นตฺถิ. เอวํ วิคตาภิชฺโฌติ เอวนฺติ นิปาตมตฺตํ. ยถา วา เมตฺตํ ¶ ภาเวนฺตา วิคตาภิชฺฌา ภวนฺติ, เอวํ วิคตาภิชฺโฌ. เอวมสฺส วิคตาภิชฺฌตาทีหิ นีวรณวิกฺขมฺภนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อกุสลนิสฺสรณานิ กเถนฺโต เมตฺตาสหคเตนาติอาทิมาห. อปฺปมาณนฺติ อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตาย จิณฺณวสิตาย วา อปฺปมาณํ. ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรกมฺมํ. น ตํ ตตฺราวติฏฺตีติ ตํ มโหโฆ ปริตฺตํ อุทกํ วิย อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา าตุํ น สกฺโกติ, อถ โข นํ โอเฆ ปริตฺตํ อุทกํ วิย อิทเมว อปฺปมาณํ กมฺมํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อตฺตโน วิปากํ นิพฺพตฺเตติ. ทหรตคฺเคติ ทหรกาลโต ปฏฺาย.
นายํ กาโย อาทายคมนิโยติ อิมํ กายํ คเหตฺวา ปรโลกํ คนฺตุํ นาม น สกฺกาติ อตฺโถ ¶ . จิตฺตนฺตโรติ จิตฺตการโณ, อถ วา จิตฺเตเนว อนฺตริโก. เอกสฺเสว หิ จุติจิตฺตสฺส อนนฺตรา ทุติเย ปฏิสนฺธิจิตฺเต เทโว นาม โหติ, เนรยิโก นาม ¶ โหติ, ติรจฺฉานคโต นาม โหติ. ปุริมนเยปิ จิตฺเตน การณภูเตน เทโว เนรยิโก วา โหตีติ อตฺโถ. สพฺพํ ตํ อิธ เวทนียนฺติ ทิฏฺธมฺมเวทนียโกฏฺาสวเนตํ วุตฺตํ. น ตํ อนุคํ ภวิสฺสตีติ เมตฺตาย อุปปชฺชเวทนียภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา อุปปชฺชเวทนียวเสน น อนุคตํ ภวิสฺสติ. อิทํ โสตาปนฺนสกทาคามิอริยปุคฺคลานํ ปจฺจเวกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อนาคามิตายาติ ฌานานาคามิตาย. อิธปฺสฺสาติ อิมสฺมึ สาสเน ปฺา อิธปฺา นาม, สาสนจริตาย อริยปฺาย ิตสฺส อริยสาวกสฺสาติ อตฺโถ. อุตฺตริวิมุตฺตินฺติ อรหตฺตํ. ทสมํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
กรชกายวคฺโค ปโม.
(๒๒) ๒. สามฺวคฺควณฺณนา
๒๒๑. ทุติยสฺส ปมํ อาทึ กตฺวา สพฺพา เปยฺยาลตนฺติ อุตฺตานตฺถาเยวาติ.
มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
ทสกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาเย
เอกาทสกนิปาต-อฏฺกถา
๑. นิสฺสยวคฺโค
๑-๖. กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา
๑-๖. เอกาทสกนิปาตสฺส ¶ ¶ ¶ ปมาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว. เกวลฺเจตฺถ อาทิโต ปฺจสุ นิพฺพิทาวิราคํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา เอกาทสงฺคานิ กตานิ. ฉฏฺเ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ อธิกํ.
๗-๘. ปมสฺาสุตฺตาทิวณฺณนา
๗-๘. สตฺตเม อตฺเถน อตฺโถติ อตฺเถน สทฺธิมตฺโถ. พฺยฺชเนน พฺยฺชนนฺติ พฺยฺชเนน สทฺธึ ¶ พฺยฺชนํ. สํสนฺทิสฺสตีติ สมฺปวตฺติสฺสติ. สเมสฺสตีติ สมานํ ภวิสฺสติ. น วิคฺคยฺหิสฺสตีติ น วิรชฺฌิสฺสติ. อคฺคปทสฺมินฺติ นิพฺพาเน. อฏฺเม ปจฺจเวกฺขณา กถิตา.
๙. สทฺธสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม โทณิยา พทฺโธติ ยวสสฺสโทณิยา สมีเป พทฺโธ. อนฺตรํ กริตฺวาติ อพฺภนฺตเร กตฺวา. ฌายตีติ จินฺเตติ. ปชฺฌายตีติ อิโต จิโต จ นานปฺปการกํ ฌายติ. นิชฺฌายตีติ นิรนฺตรวเสน นิพทฺธํ ฌายติ. ปถวิมฺปิ นิสฺสาย ฌายตีติ สมาปตฺติยํ สนิกนฺติกวเสเนตํ ¶ วุตฺตํ. สมาปตฺติยฺหิ สนิกนฺติกตฺตา เอส ขฬุงฺโก นาม กโต. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย.
กถฺจ สทฺธ อาชานียฌายิตํ โหตีติ กถํ การณาการณํ ชานนฺตสฺส สินฺธวสฺส ฌายิตํ โหติ. ยถา อิณนฺติอาทีสุ อิณสทิสํ พนฺธนสทิสํ ธนชานิสทิสํ กลิสงฺขาตมหาปราธสทิสฺจ กตฺวา อตฺตโน อภิมุขสฺส ปโตทสฺส อชฺโฌหรณสงฺขาตํ ปตนํ วิปสฺสตีติ อตฺโถ. เนว ปถวึ นิสฺสาย ฌายตีติ สมาปตฺติสุขนิกนฺติยา อภาเวน ปถวิอารมฺมณาย ¶ จตุกฺกปฺจกชฺฌานสฺาย น ฌายติ, นิยนฺติยา อภาเวเนว โส อาชานีโย นาม โหตีติ. ฌายติ จ ปนาติ นิพฺพานารมฺมณาย ผลสมาปตฺติยา ฌายติ. ปถวิยํ ปถวิสฺา วิภูตา โหตีติ ปถวารมฺมเณ อุปฺปนฺนา จตุกฺกปฺจกชฺฌานสฺา วิภูตา ปากฏา โหติ. ‘‘วิภูตา, ภนฺเต, รูปสฺา อวิภูตา อฏฺิกสฺา’’ติ อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต สมติกฺกมสฺส อตฺถิตาย วิภูตตา วุตฺตา, อิธ ปน วิปสฺสนาวเสน อนิจฺจทุกฺขานตฺตโต ทิฏฺตฺตา วิภูตา นาม ชาตา. อาโปสฺาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ เหฏฺา วิย สมาปตฺติวเสน สมติกฺกมํ อวตฺวา วิปสฺสนาจารวเสน สมติกฺกโม วุตฺโต. เอวํ ฌายีติ เอวํ วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา อาคนฺตฺวา อุปฺปาทิตาย ผลสมาปตฺติยา ฌายนฺโต.
๑๐. โมรนิวาปสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสเม ¶ อจฺจนฺตนิฏฺโติ อนฺตํ อตีตตฺตา อจฺจนฺตสงฺขาตํ อวินาสธมฺมํ นิพฺพานํ นิฏฺา อสฺสาติ อจฺจนฺตนิฏฺโ. อิมินา นเยน เสสปทานิ เวทิตพฺพานิ. ชเนตสฺมินฺติ ชนิตสฺมึ ¶ , ปชายาติ อตฺโถ. เย โคตฺตปฏิสาริโนติ เย ชนา ตสฺมึ โคตฺเต ปฏิสรนฺติ ‘‘อหํ โคตโม, อหํ กสฺสโป’’ติ, เตสุ โลเก โคตฺตปฏิสารีสุ ขตฺติโย เสฏฺโ. อนุมตา มยาติ มม สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺเทตฺวา เทสิตา มยา อนฺุาตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นิสฺสยวคฺโค ปโม.
๒. อนุสฺสติวคฺโค
๑-๒. มหานามสุตฺตทฺวยวณฺณนา
๑๑-๑๒. ทุติยสฺส ปเม นานาวิหาเรหิ วิหรตนฺติ คิหีนํ นิพทฺโธ เอโก วิหาโร นาม นตฺถิ, ตสฺมา อมฺหากํ อนิพทฺธวิหาเรน วิหรนฺตานํ เกน วิหาเรน กตเรน นิพทฺธวิหาเรน วิหาตพฺพนฺติ ปุจฺฉติ. อาราธโกติ สมฺปาทโก ปริปูรโก. ธมฺมโสตสมาปนฺโน พุทฺธานุสฺสตึ ¶ ภาเวตีติ ธมฺมโสตสมาปนฺโน หุตฺวา พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวติ. ทุติเย คิลานา วุฏฺิโตติ คิลาโน หุตฺวา วุฏฺิโต.
๓. นนฺทิยสุตฺตวณฺณนา
๑๓. ตติเย กลฺยาณมิตฺเตติ สุมิตฺเต. เอวเมตฺถ กลฺยาณมิตฺตวเสน สงฺฆานุสฺสติ กถิตา. กพฬีการาหารภกฺขานนฺติ กามาวจรเทวานํ. อสมยวิมุตฺโตติ ¶ อสมยวิมุตฺติยา วิมุตฺโต ขีณาสโว.
๔. สุภูติสุตฺตวณฺณนา
๑๔. จตุตฺเถ ¶ โก นามายํ สุภูตี ภิกฺขูติ ชานนฺโตปิ สตฺถา กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ปุจฺฉติ. สุทตฺตสฺส อุปาสกสฺส ปุตฺโตติ อนาถปิณฺฑิกํ สนฺธายาห. อนาถปิณฺฑิกสฺส หิ ปุตฺโต อตฺตโน จูฬปิตุ สนฺติเก ปพฺพชิโต, อถ นํ สุภูติตฺเถโร อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. สทฺธาปทาเนสูติ สทฺธานํ ปุคฺคลานํ อปทาเนสุ ลกฺขเณสุ.
๕. เมตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๕. ปฺจเม สุขํ สุปตีติ ยถา เสสชนา สมฺปริวตฺตมานา กากจฺฉมานา ทุกฺขํ สุปนฺติ, เอวํ อสุปิตฺวา สุขํ สุปติ. นิทฺทํ โอกฺกมนฺโตปิ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน วิย โหติ. สุขํ ปฏิพุชฺฌตีติ ยถา อฺเ นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภมานา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺติ, เอวํ อปฺปฏิพุชฺฌิตฺวา วิกสมานํ วิย ปทุมํ สุขํ นิพฺพิกาโร ปฏิพุชฺฌติ. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสตีติ สุปินํ ปสฺสนฺโตปิ ภทฺทกเมว สุปินํ ปสฺสติ, เจติยํ วนฺทนฺโต วิย ปูชํ กโรนฺโต วิย จ ธมฺมํ สุณนฺโต วิย จ โหติ. ยถา ปนฺเ อตฺตานํ โจเรหิ สมฺปริวาริตํ วิย วาเฬหิ อุปทฺทุตํ วิย ปปาเต ปตนฺตํ วิย จ ปสฺสนฺติ, น เอวํ ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ.
มนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ อุเร อามุกฺกมุตฺตาหาโร วิย สีเส ปิฬนฺธิตมาลา วิย จ มนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป. อมนุสฺสานํ ¶ ปิโย โหตีติ ยเถว มนุสฺสานํ, อมนุสฺสานมฺปิ ปิโย โหติ วิสาขตฺเถโร วิย. วตฺถุ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๘) เมตฺตากมฺมฏฺานนิทฺเทเส วิตฺถาริตเมว. เทวตา รกฺขนฺตีติ ปุตฺตมิว มาตาปิตโร เทวตา รกฺขนฺติ. นาสฺส อคฺคิ ¶ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมตีติ เมตฺตาวิหาริสฺส กาเย อุตฺตราย อุปาสิกาย วิย อคฺคิ วา, สํยุตฺตภาณกจูฬสีวตฺเถรสฺเสว วิสํ วา, สํกิจฺจสามเณรสฺเสว สตฺถํ วา น กมติ นปฺปวิสติ, นาสฺส กายํ วิโกเปตีติ วุตฺตํ โหติ. เธนุวตฺถุมฺปิ เจตฺถ กถยนฺติ. เอกา กิร เธนุ วจฺฉกสฺส ขีรธารํ มฺุจมานา อฏฺาสิ. เอโก ลุทฺทโก ‘‘ตํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ หตฺเถน สมฺปริวตฺเตตฺวา ทีฆทณฺฑํ สตฺตึ มฺุจิ. สา ตสฺสา สรีรํ อาหจฺจ ตาลปณฺณํ วิย วฏฺฏมานา คตา ¶ , เนว อุปจารพเลน น อปฺปนาพเลน, เกวลํ วจฺฉเก พลวหิตจิตฺตตาย. เอวํ มหานุภาวา เมตฺตา.
ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยตีติ เมตฺตาวิหาริโน ขิปฺปเมว จิตฺตํ สมาธิยติ, นตฺถิ ตสฺส ทนฺธายิตตฺตํ. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทตีติ พนฺธนา ปวุตฺตตาลปกฺกํ วิย จสฺส วิปฺปสนฺนวณฺณํ มุขํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตีติ เมตฺตาวิหาริโน สมฺโมหมรณํ นาม นตฺถิ, อสมฺมูฬฺโห ปน นิทฺทํ โอกฺกมนฺโต วิย กาลํ กโรติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโตติ เมตฺตาสมาปตฺติโต อุตฺตริ อรหตฺตํ ¶ อธิคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต อิโต จวิตฺวา สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชตีติ.
๖. อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา
๑๖. ฉฏฺเ ทสโมติ ชาติโคตฺตวเสน เจว สารปตฺตกุลคณนาย จ ทสเม าเน คณียติ, เตนสฺส ทสโมตฺเวว นามํ ชาตํ. อฏฺกนาคโรติ อฏฺกนครวาสี. กุกฺกุฏาราเมติ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิเต อาราเม.
เตน ภควตา…เป… สมฺมทกฺขาโตติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย โส ภควา สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, เตน ภควตา เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยํ ชานตา, หตฺถตเล ปิตํ อามลกํ วิย สพฺพเยฺยธมฺเม ปสฺสตา, อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วา วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิ จาปิ ¶ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา วา ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย เทสนาปฺาย ปสฺสตา, อนฺตรายิกธมฺเม วา ชานตา, นิยฺยานิกธมฺเม ปสฺสตา, อรีนํ หตตฺตา อรหตา, สมฺมา สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ เอวํ จตุเวสารชฺชวเสน จตูหิ การเณหิ โถมิเตน อตฺถิ นุ โข เอโก ธมฺโม อกฺขาโตติ.
อภิสงฺขตนฺติ ¶ กตํ อุปฺปาทิตํ. อภิสฺเจตยิตนฺติ เจตยิตํ กปฺปยิตํ. โส ¶ ตตฺถ ิโตติ โส ตสฺมึ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ิโต. ธมฺมราเคน ธมฺมนนฺทิยาติ ปททฺวเยนปิ สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค วุตฺโต. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺเพน สพฺพํ ฉนฺทราคํ ปริยาทิยิตุํ สกฺโกนฺโต อรหา โหติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ. โส สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราคสฺส อปฺปหีนตฺตา จตุตฺถชฺฌานเจตนาย สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตติ. อยํ อาจริยานํ สมานตฺถกถา.
วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘‘เตเนว ธมฺมราเคนาติ วจนโต อกุสเลน สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตตี’’ติ. โส ‘‘สุตฺตํ อาหราหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อทฺธา อฺํ อปสฺสนฺโต อิทเมว อาหริสฺสติ. ตโต วตฺตพฺโพ ‘‘กิมฺปนิทํ สุตฺตํ นีตตฺถํ, อุทาหุ เนยฺยตฺถ’’นฺติ. อทฺธา ‘‘นีตตฺถ’’นฺติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – เอวํ สนฺเต อนาคามิผลตฺถิเกน สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, ฉนฺทราเค อุปฺปาทิเต อนาคามิผลํ ปฏิลทฺธํ ภวิสฺสติ, มา ‘‘สุตฺตํ เม ลทฺธ’’นฺติ ยํ วา ตํ วา ทีเปหิ. ปฺหํ กเถนฺเตน หิ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา อตฺถรสํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา กเถตุํ วฏฺฏติ. อกุสเลน หิ สคฺเค, กุสเลน จ อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถิ. วุตฺตฺเจตํ ภควตา –
‘‘น, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน, โทสเชน กมฺเมน, โมหเชน กมฺเมน เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย. อถ โข, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน, โทสเชน กมฺเมน, โมหเชน กมฺเมน นิรโย ปฺายติ, ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ, เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย’’ติ (อ. นิ. ๖.๓๙) –
เอวํ ¶ สฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ, สฺชานาตุ. โน เจ สฺชานาติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวา’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.
อยํ โข, คหปติ, เอกธมฺโม อกฺขาโตติ เอกํ ธมฺมํ ¶ ปุจฺฉิเตน ‘‘อยมฺปิ เอกธมฺโม อกฺขาโต, อยมฺปิ เอกธมฺโม อกฺขาโต’’ติ เอวํ ปุจฺฉาวเสน กถิตตฺตา เอกาทสปิ ธมฺมา เอกธมฺโม นาม กโต. อมตุปฺปตฺติอตฺเถน วา สพฺเพปิ เอกธมฺโมติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
นิธิมุขํ ¶ คเวสนฺโตติ นิธึ ปริเยสนฺโต. สกิเทวาติ เอกปฺปโยเคเนว. กถํ ปน เอกปฺปโยเคเนว เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหตีติ? อิเธกจฺโจ อรฺเ ชีวิตวุตฺตึ คเวสมาโน จรติ. ตเมนํ อฺตโร อตฺถจรโก ทิสฺวา ‘‘กึ, โภ, จรสี’’ติ ปุจฺฉติ. โส ‘‘ชีวิตวุตฺตึ ปริเยสามี’’ติ อาห. อิตโร ‘‘เตน หิ สมฺม อาคจฺฉ, เอตํ ปาสาณํ ปวฏฺเฏหี’’ติ อาห. โส ตํ ปวฏฺเฏตฺวา อุปรูปริฏฺิตา วา กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ ิตา วา เอกาทส กุมฺภิโย ปสฺสติ. เอวํ เอกปฺปโยเคน เอกาทสนฺนํ อธิคโม โหติ.
อาจริยธนํ ปริเยสิสฺสนฺตีติ อฺติตฺถิยา หิ ยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ, ตสฺส สิปฺปุคฺคหณโต ปุเร วา ปจฺฉา วา อนฺตรนฺตรา วา เคหโต นีหริตฺวา ธนํ เทนฺติ. เยสํ เคเห นตฺถิ, เต าติสภาคโต ปริเยสนฺติ. เยสํ ตมฺปิ นตฺถิ, เต สภาคโต ปริเยสนฺติ. ตถา อลภมานา ภิกฺขมฺปิ จริตฺวา เทนฺติเยว. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
กึ ปนาหนฺติ พาหิรกา ตาว อนิยฺยานิเกปิ สาสเน สิปฺปมตฺตทายกสฺส ธนํ ปริเยสนฺติ, อหํ ปน เอวํวิเธ นิยฺยานิกสาสเน เอกาทสวิธํ อมตุปฺปตฺติปฏิปทํ ¶ เทเสนฺตสฺส อาจริยสฺส ปูชํ กึ น กริสฺสามิ, กริสฺสามิเยวาติ วทติ. ปจฺเจกํ ทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทสีติ เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอเกกํ ทุสฺสยุคํ อทาสีติ อตฺโถ. สมุทาจารวจนํ ปเนตฺถ เอวรูปํ โหติ, ตสฺมา อจฺฉาเทสีติ วุตฺตํ. ปฺจสตํ วิหารนฺติ ปฺจสตคฺฆนิกํ ปณฺณสาลํ กาเรสีติ อตฺโถ.
๗. โคปาลสุตฺตวณฺณนา
๑๗. สตฺตเม ติสฺโส กถา เอกนาฬิกา จตุรสฺสา นิสินฺนวตฺติกาติ. ตตฺถ ปาฬึ วตฺวา เอเกกสฺส ปทสฺส อตฺถกถนํ เอกนาฬิกา นาม ¶ . อปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, อปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวาติ จตุกฺกํ พนฺธิตฺวา กถนํ จตุรสฺสา นาม. อปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, อปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนนฺติ อยํ นิสินฺนวตฺติกา นาม. อยํ อิธ สพฺพาจริยานํ อาจิณฺณา.
เอกาทสหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหีติ เอกาทสหิ อคุณโกฏฺาเสหิ. โคคณนฺติ โคมณฺฑลํ. ปริหริตุนฺติ ปริคฺคเหตฺวา วิจริตุํ. ผาตึ กาตุนฺติ วฑฺฒึ อาปาเทตุํ. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. น รูปฺู โหตีติ คณนโต วา วณฺณโต วา รูปํ น ชานาติ. คณนโต น ชานาติ นาม อตฺตโน คุนฺนํ สตํ วา สหสฺสํ วาติ สงฺขฺยํ น ชานาติ, โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา โคคณํ คเณตฺวา ‘‘อชฺช เอตฺตกา น ¶ ทิสฺสนฺตี’’ติ ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ วา อฏวึ วา วิจรนฺโต น ปริเยสติ. อฺเสํ คาวีสุ อตฺตโน โคคณํ ปวิฏฺาสุปิ โคคณํ คเณตฺวา ‘‘อิมา เอตฺติกา คาโว น อมฺหาก’’นฺติ ยฏฺิยา โปเถตฺวา น นีหรติ. ตสฺส นฏฺา คาวิโย นฏฺาว โหนฺติ. ปรคาวิโย คเหตฺวา จรติ. โคสามิกา ทิสฺวา ‘‘อยํ เอตฺตกํ กาลํ อมฺหากํ เธนู ทุหี’’ติ ตชฺเชตฺวา อตฺตโน คาวิโย คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจ โครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. วณฺณโต น ชานาติ นาม ‘‘เอตฺติกา คาวี เสตา, เอตฺติกา รตฺตา, เอตฺติกา กาฬา, เอตฺติกา โอทาตา, เอตฺติกา กพรา, เอตฺติกา นีลา’’ติ น ชานาติ. โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ลกฺขณกุสโลติ คาวีนํ สรีเร กตํ ธนุสตฺติสูลาทิเภทํ ลกฺขณํ น ชานาติ. โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา ‘‘อชฺช อสุกลกฺขณา อสุกลกฺขณา จ คาโว น ทิสฺสนฺตี’’ติ…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น อาสาฏิกํ หาเรตาติ คุนฺนํ ขาณุกณฺฏกาทีหิ ปหฏฏฺาเนสุ วโณ โหติ. ตตฺถ นีลมกฺขิกา อณฺฑกานิ เปนฺติ, เตสํ อาสาฏิกาติ นามํ. ตานิ ทณฺฑเกน อปเนตฺวา เภสชฺชํ ทาตพฺพํ โหติ, พาโล โคปาลโก ตถา น กโรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘น อาสาฏิกํ หาเรตา ¶ โหตี’’ติ. ตสฺส คุนฺนํ วณา วฑฺฒนฺติ, คมฺภีรา โหนฺติ, ปาณกา กุจฺฉึ ปวิสนฺติ, คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณํ ขาทิตุํ ¶ น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคณานํ ชโว หายติ, อุภเยสมฺปิ ชีวิตนฺตราโย โหติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ คุนฺนํ วุตฺตนเยเนว สฺชาโต วโณ เภสชฺชํ ทตฺวา วาเกน วา จีรเกน วา พนฺธิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตพฺโพ โหติ. พาลโคปาลโก ตํ น กโรติ. อถสฺส คุนฺนํ ¶ วเณหิ ยูสา ปคฺฆรนฺติ, ตา อฺมฺํ นิฆํสนฺติ. เตน อฺเสมฺปิ วณา ชายนฺติ. เอวํ คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ธูมํ กตฺตา โหตีติ อนฺโตวสฺเส ฑํสมกสาทีนํ อุสฺสนฺนกาเล โคคเณ วชํ ปวิฏฺเ ตตฺถ ตตฺถ ธูโม กาตพฺโพ โหติ. อปณฺฑิตโคปาลโก ตํ น กโรติ, โคคโณ สพฺพรตฺตึ ฑํสาทีหิ อุปทฺทุโต นิทฺทํ อลภิตฺวา ปุนทิวเส อรฺเ ตตฺถ ตตฺถ รุกฺขมูลาทีสุ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายติ. เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถมฺปิ สมนฺติ วา วิสมนฺติ วา สคาหนฺติ วา นิคฺคาหนฺติ วา น ชานาติ. โส อติตฺเถน คาวิโย โอตาเรติ. ตาสํ วิสมติตฺเถ ปาสาณาทีนิ อกฺกมนฺตีนํ ปาทา ภิชฺชนฺติ. สคาหํ คมฺภีรํ ติตฺถํ โอติณฺเณ กุมฺภีลาทโย คาโว คณฺหนฺติ, ‘‘อชฺช เอตฺติกา คาโว นฏฺา, อชฺช เอตฺติกา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชนฺติ. เอวมสฺส ¶ โค คโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ปีตํ ชานาตีติ ปีตมฺปิ อปีตมฺปิ น ชานาติ. โคปาลเกน หิ ‘‘อิมาย คาวิยา ปีตํ, อิมาย น ปีตํ, อิมาย ปานียติตฺเถ โอกาโส ลทฺโธ, อิมาย น ลทฺโธ’’ติ เอวํ ปีตาปีตํ ชานิตพฺพํ โหติ. อยํ ปน ทิวสภาเค อรฺเ โคคณํ รกฺขิตฺวา ‘‘ปานียํ ปาเยสฺสามี’’ติ นทึ วา ตฬากํ วา โอคาเหตฺวา คจฺฉติ. ตตฺถ มหาอุสภา จ อนุสภา จ พลวคาวิโย จ ทุพฺพลานิ เจว มหลฺลกานิ จ โครูปานิ สิงฺเคหิ ¶ วา ผาสุกาหิ วา ปหริตฺวา อตฺตโน โอกาสํ กตฺวา อูรุปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ยถากามํ ปิวนฺติ. อวเสสา โอกาสํ อลภมานา ตีเร ตฺวา กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวนฺติ วา อปีตา เอว วา โหนฺติ. อถ โส โคปาลโก ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปุน อรฺํ ปเวเสติ. ตตฺถ อปีตา คาวิโย ปิปาสาย สุสฺสมานา ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ น สกฺโกนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ. โคณานํ ชโว หายติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วีถึ ชานาตีติ ‘‘อยํ มคฺโค สโม เขโม, อยํ วิสโม สาสงฺโก สปฺปฏิภโย’’ติ น ชานาติ. โส สมํ เขมํ มคฺคํ วชฺเชตฺวา โคคณํ อิตรมคฺคํ ปฏิปาเทติ. ตตฺถ คาโว สีหพฺยคฺฆาทีนํ คนฺเธน โจรปริสฺสเยน จ อภิภูตา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺติ ¶ , เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทนฺติ, น ปานียํ ปิวนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ¶ โคจรกุสโล โหตีติ โคปาลเกน หิ โคจรกุสเลน ภวิตพฺพํ, ปฺจาหิกจาโร วา สตฺตาหิกจาโร วา ชานิตพฺโพ. เอกทิสาย โคคณํ จาเรตฺวา ปุนทิวเส ตตฺถ น จาเรตพฺโพ. มหตา หิ โคคเณน จิณฺณฏฺานํ เภริตลํ วิย สุทฺธํ โหติ นิตฺติณํ, อุทกมฺปิ อาลุลียติ. ตสฺมา ปฺจเม วา สตฺตเม วา ทิวเส ปุน ตตฺถ จาเรตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตเกน หิ ติณมฺปิ ปฏิวิรุหติ, อุทกมฺปิ ปสีทติ, อยํ ปน อิมํ ปฺจาหิกจารํ วา สตฺตาหิกจารํ วา น ชานาติ, ทิวเส ทิวเส รกฺขิตฏฺาเนเยว รกฺขติ. อถสฺส โคคโณ หริตติณํ น ลภติ, สุกฺขติณํ ขาทนฺโต กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปณฺฑิตโคปาลเกน หิ ยาว วจฺฉกสฺส มํสโลหิตํ สณฺาติ, ตาว เอกํ ทฺเว ถเน เปตฺวา สาวเสสโทหินา ภวิตพฺพํ. อยํ วจฺฉกสฺส กิฺจิ อนวเสเสตฺวา ทุหติ. ขีรปโก วจฺโฉ ขีรปิปาสาย สุสฺสติ, สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต กมฺปมาโน มาตุ ปุรโต ปติตฺวา กาลํ กโรนฺติ. มาตา ปุตฺตกํ ทิสฺวา, ‘‘มยฺหํ ปุตฺตโก อตฺตโน มาตุขีรํ ปาตุํ น ลภตี’’ติ ¶ ปุตฺตโสเกน เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกติ, ถเนสุ ขีรํ ฉิชฺชติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
คุนฺนํ ปิติฏฺานํ กโรนฺตีติ โคปิตโร. คาโว ปริณายนฺติ ยถารุจึ คเหตฺวา คจฺฉนฺตีติ โคปริณายกา. เต น ¶ อติเรกปูชายาติ ปณฺฑิโต หิ โคปาลโก เอวรูเป อุสเภ อติเรกปูชาย ปูเชติ, ปณีตํ โคภตฺตํ เทติ, คนฺธปฺจงฺคุลิเกหิ มณฺเฑติ, มาลํ ปิฬนฺเธติ, สิงฺเคสุ สุวณฺณรชตโกสเก จ ธาเรติ, รตฺตึ ทีปํ ชาเลตฺวา เจลวิตานสฺส เหฏฺา สยาเปติ. อยํ ปน ตโต เอกสกฺการมฺปิ น กโรติ. อุสภา อติเรกปูชํ อลภมานา โคคณํ น รกฺขนฺติ, ปริสฺสยํ น วาเรนฺติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
อิธาติ ¶ อิมสฺมึ สาสเน. น รูปฺู โหตีติ ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ รูปํ ทฺวีหากาเรหิ น ชานาติ คณนโต วา สมุฏฺานโต วา. คณนโต น ชานาติ นาม – ‘‘จกฺขายตนํ โสตายตนํ ฆานายตนํ ชิวฺหากายรูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ, อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปสฺส ลหุตา, มุทุตา, กมฺมฺตา, อุปจโย, สนฺตติ, ชรตา, รูปสฺส อนิจฺจตา, กพฬีกาโร อาหาโร’’ติ (ธ. ส. ๖๕๗-๖๖๕) เอวํ ปาฬิยา อาคตา ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสาติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก คณนโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส คณนโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา ปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา ลกฺขณํ อาโรเปตฺวา กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน สีลสมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพาเนหิ น วฑฺฒติ. ยถา จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ ¶ , เอวเมวายํ อเสเขน สีลกฺขนฺเธน อเสเขน สมาธิปฺาวิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.
สมุฏฺานโต ¶ น ชานาติ นาม – ‘‘เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ทฺวิสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ติสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ จตุสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ นกุโตจิ สมุฏฺาตี’’ติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก วณฺณโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส สมุฏฺานโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ลกฺขณกุสโล โหตีติ ‘‘กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโต’’ติ เอวํ วุตฺตํ กุสลากุสลกมฺมํ ปณฺฑิตพาลลกฺขณนฺติ น ชานาติ. โส เอวํ อชานนฺโต พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต น เสวติ. พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต อเสวนฺโต กปฺปิยากปฺปิยํ กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉาเตกิจฺฉํ การณาการณํ น ชานาติ. ตํ อชานนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ยถาวุตฺเตหิ สีลาทีหิ น วฑฺฒติ. โส โคปาลโก วิย จ ปฺจหิ โครเสหิ, ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.
น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตีติ ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺก’’นฺติ เอวํ วุตฺเต กามวิตกฺกาทโย น ¶ วิโนเทติ. โส อิมํ อกุสลวิตกฺกํ อาสาฏิกํ อหาเรตฺวา วิตกฺกวสิโก หุตฺวา วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี ¶ โหตี’’ติอาทินา นเยน สพฺพารมฺมเณสุ นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต ยถา โส โคปาลโก วณํ น ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ สํวรํ น สมฺปาเทติ. โส วิวฏทฺวาโร วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ธูมํ กตฺตา โหตีติ โส โคปาลโก ธูมํ วิย ธมฺมเทสนาธูมํ น กโรติ, ธมฺมกถํ วา สรภฺํ วา อุปนิสินฺนกกถํ วา อนุโมทนํ วา น กโรติ, ตโต นํ มนุสฺสา ‘‘พหุสฺสุโต คุณวา’’ติ น ชานนฺติ. เต คุณาคุณํ อชานนฺโต จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคหํ น กโรนฺติ. โส ปจฺจเยหิ กิลมมาโน พุทฺธวจนํ สชฺฌายํ กาตุํ วตฺตปฏิวตฺตํ ปูเรตุํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ¶ ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถภูเต พหุสฺสุตภิกฺขู น อุปสงฺกมติ. อนุปสงฺกมนฺโต ‘‘อิทํ, ภนฺเต, พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพํ? อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถ? อิมสฺมึ าเน ปาฬิ กึ วทติ? อิมสฺมึ าเน อตฺโถ กึ ทีเปตี’’ติ เอวํ น ปริปุจฺฉติ น ปริปฺหติ, น ชานาเปตีติ อตฺโถ. ตสฺส เต เอวํ อปริปุจฺฉิตา อวิวฏฺเจว น วิวรนฺติ, ภาเชตฺวา น ทสฺเสนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ น อุตฺตานึ กโรนฺติ, อปากฏํ น ปากฏํ กโรนฺติ. อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสูติ อเนกวิธาสุ กงฺขาสุ เอกกงฺขมฺปิ น ปฏิวิโนเทนฺติ. กงฺขาเยว หิ กงฺขาานิยา ธมฺมา ¶ นาม. ตตฺถ เอกํ กงฺขมฺปิ น นีหรนฺตีติ อตฺโถ. โส เอวํ พหุสฺสุตติตฺถํ อนุปสงฺกมิตฺวา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. ยถา วา โส โคปาลโก ติตฺถํ น ชานาติ, เอวํ อยมฺปิ ภิกฺขุ ธมฺมติตฺถํ น ชานาติ. อชานนฺโต อวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อาภิธมฺมิกํ อุปสงฺกมิตฺวา กปฺปิยากปฺปิยํ ปุจฺฉติ, วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา รูปารูปปริจฺเฉทํ ปุจฺฉติ. เต อวิสเย ปุฏฺา กเถตุํ น สกฺโกนฺติ. โส อตฺตนา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ¶ ปีตํ ชานาตีติ ยถา โส โคปาลโก ปีตาปีตํ น ชานาติ, เอวํ ธมฺมูปสฺหิตํ ปาโมชฺชํ น ชานาติ น ลภติ. สวนมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นิสฺสาย อานิสํสํ น วินฺทติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา สกฺกจฺจํ น สุณาติ, นิสินฺโน นิทฺทายติ, กถํ กเถติ, อฺวิหิตโก โหติ. โส สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อสฺสุณนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วีถึ ชานาตีติ โส โคปาลโก มคฺคามคฺคํ วิย ‘‘อยํ โลกิโย, อยํ โลกุตฺตโร’’ติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อชานนฺโต โลกิยมคฺเค อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น โคจรกุสโล โหตีติ โส โคปาลโก ปฺจาหิกสตฺตาหิกจาเร วิย จตฺตาโร สติปฏฺาเน ‘‘อิเม โลกิยา, อิเม โลกุตฺตรา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อชานนฺโต สุขุมฏฺาเนสุ อตฺตโน าณํ จราเปตฺวา โลกิยสติปฏฺาเน อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
อนวเสสโทหี ¶ ¶ โหตีติ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ อชานนฺโต อนวเสสํ ทุหติ. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺตีติ อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. เอตฺถ ทฺเว อภิหารา วาจาภิหาโร จ, ปจฺจยาภิหาโร จ. วาจาภิหาโร นาม มนุสฺสา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘วเทยฺยาถ, ภนฺเต, เยนตฺโถ’’ติ ปวาเรนฺติ. ปจฺจยาภิหาโร นาม วตฺถาทีนิ วา สปฺปินวนีตผาณิตาทีนิ วา คเหตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, ยาวตเกน อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ น ชานาตีติ ภิกฺขุ เตสุ ปจฺจเยสุ ปมาณํ น ชานาติ. ‘‘ทายกสฺส วโส เวทิตพฺโพ, เทยฺยธมฺมสฺส วโส เวทิตพฺโพ, อตฺตโน ถาโม เวทิตพฺโพ’’ติ อิมินา นเยน ปมาณยุตฺตกํ อคฺคเหตฺวา ยํ อาหรนฺติ, ตํ สพฺพํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน น ปุน อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. โส ปจฺจเยหิ กิลมนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหตีติ โส โคปาลโก มหาอุสเภ วิย เถเร ภิกฺขู อิมาย อาวิ เจว รโห จ เมตฺตากายกมฺมาทิกาย อติเรกปูชาย น ปูเชติ. ตโต เถรา ‘‘อิเม ¶ อมฺเหสุ ครุจิตฺตีการํ น กโรนฺตี’’ติ นวเก ภิกฺขู ทฺวีหิ สงฺคเหหิ น สงฺคณฺหนฺติ, เนว ธมฺมสงฺคเหน สงฺคณฺหนฺติ, น อามิสสงฺคเหน, จีวเรน วา ปตฺเตน วา ปตฺตปริยาปนฺเนน วา วสนฏฺาเนน วา กิลมนฺเตปิ นปฺปฏิชคฺคนฺติ, ปาฬึ วา อฏฺกถํ วา ธมฺมกถาพนฺธํ ¶ วา คุฬฺหคนฺถํ วา น สิกฺขาเปนฺติ. นวกา เถรานํ สนฺติกา สพฺพโส อิเม ทฺเว สงฺคเห อลภมานา อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ สีลาทีหิ น วฑฺฒนฺติ. ยถา จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ, เอวํ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิรา โหนฺติ. สุกฺกปกฺโข กณฺหปกฺเข วุตฺตวิปลฺลาสวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺโพ.
อนุสฺสติวคฺโค ทุติโย.
มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
เอกาทสกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถา
เอตฺตาวตา ¶ จ –
อายาจิโต ¶ สุมตินา เถเรน ภทนฺตโชติปาเลน;
กฺจิปุราทีสุ มยา ปุพฺเพ สทฺธึ วสนฺเตน.
วรตมฺพปณฺณิทีเป มหาวิหารมฺหิ วสนกาเลปิ;
ปากํ คเต วิย ทุเม วลฺชมานมฺหิ สทฺธมฺเม.
ปารํ ปิฏกตฺตยสาครสฺส คนฺตฺวา ิเตน สุมตินา;
ปริสุทฺธาชีเวนาภิยาจิโต ชีวเกนาปิ.
ธมฺมกถาย ¶ นิปุณปรมนิกายสฺสฏฺกถํ อารทฺโธ;
ยมหํ จิรกาลฏฺิติมิจฺฉนฺโต สาสนวรสฺส.
สา หิ มหาอฏฺกถาย สารมาทาย นิฏฺิตา เอสา;
จตุนวุติปริมาณาย ปาฬิยา ภาณวาเรหิ.
สพฺพาคมสํวณฺณนมโนรโถ ปูริโต จ เม ยสฺมา;
เอตาย มโนรถปูรณีติ นามํ ตโต อสฺสา.
เอกูนสฏฺิมตฺโต ¶ วิสุทฺธิมคฺโคปิ ภาณวาเรหิ;
อตฺถปฺปกาสนตฺถาย อาคมานํ กโต ยสฺมา.
ตสฺมา เตน สหายํ คาถาคณนานเยน อฏฺกถา;
ตีหาธิกทิยฑฺฒสตํ วิฺเยฺยา ภาณวารานํ.
ตีหาธิกทิยฑฺฒสตปฺปมาณมิติ ภาณวารโต เอสา;
สมยํ ปกาสยนฺตี มหาวิหาราธิวาสีนํ.
มูลฏฺกถาสารํ อาทาย มยา อิมํ กโรนฺเตน;
ยํ ปฺุมุปจิตํ เตน โหตุ โลโก สทา สุขิโตติ.
ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฺปฏิมณฺฑิเตน ¶ สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหนสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุ สาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปฺปเภทคุณปฺปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรานํ เถรวํสปฺปทีปานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน สุวิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ¶ ¶ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ มโนรถปูรณี นาม องฺคุตฺตรนิกายฏฺกถา –
ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;
ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ จิตฺตวิสุทฺธิยา.
ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;
โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.
มโนรถปูรณี นาม
องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถา สพฺพากาเรน นิฏฺิตา.