📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาโย

อฏฺกนิปาตปาฬิ

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. เมตฺตาวคฺโค

๑. เมตฺตาสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

[อ. นิ. ๑๑.๑๕] ‘‘เมตฺตาย, ภิกฺขเว, เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย อฏฺานิสํสา ปาฏิกงฺขา. กตเม อฏฺ? สุขํ สุปติ, สุขํ ปฏิพุชฺฌติ, น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, มนุสฺสานํ ปิโย โหติ, อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ, เทวตา รกฺขนฺติ, นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ, อุตฺตรึ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต พฺรหฺมโลกูปโค โหติ. เมตฺตาย, ภิกฺขเว, เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย อิเม อฏฺานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ.

‘‘โย จ เมตฺตํ ภาวยติ, อปฺปมาณํ ปฏิสฺสโต [ปติสฺสโต (สี.)];

ตนู สํโยชนา โหนฺติ, ปสฺสโต อุปธิกฺขยํ.

‘‘เอกมฺปิ เจ ปาณมทุฏฺจิตฺโต,

เมตฺตายติ กุสลี เตน โหติ;

สพฺเพ จ ปาเณ มนสานุกมฺปี,

ปหูตมริโย ปกโรติ ปุฺํ.

‘‘เย สตฺตสณฺฑํ ปถวึ วิเชตฺวา,

ราชิสโย ยชมานา อนุปริยคา;

อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ,

สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬํ.

‘‘เมตฺตสฺส จิตฺตสฺส สุภาวิตสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;

จนฺทปฺปภา ตารคณาว สพฺเพ,

ยถา น อคฺฆนฺติ กลมฺปิ โสฬสึ [อยํ ปาโท พหูสุ น ทิสฺสติ].

‘‘โย น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;

เมตฺตํโส สพฺพภูตานํ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’ติ. ปมํ;

๒. ปฺาสุตฺตํ

. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, เหตู อฏฺ ปจฺจยา อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตนฺติ. กตเม อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถารํ อุปนิสฺสาย วิหรติ อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ, ยตฺถสฺส ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ เปมฺจ คารโว จ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม เหตุ ปโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘โส ตํ สตฺถารํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ, ยตฺถสฺส ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ เปมํ คารโว จ, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานี กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย เหตุ ทุติโย ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ทฺวเยน วูปกาเสน สมฺปาเทติ – กายวูปกาเสน จ จิตฺตวูปกาเสน จ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย เหตุ ตติโย ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ เหตุ จตุตฺโถ ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ [สตฺถา สพฺยฺชนา (ก. สี.)] เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา [ธตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม เหตุ ปฺจโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ เหตุ ฉฏฺโ ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘สงฺฆคโต โข ปน อนานากถิโก โหติ อติรจฺฉานกถิโก. สามํ วา ธมฺมํ ภาสติ ปรํ วา อชฺเฌสติ อริยํ วา ตุณฺหีภาวํ นาติมฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม เหตุ สตฺตโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘ปฺจสุ โข ปน อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา…เป… อิติ สงฺขารา…เป… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม เหตุ อฏฺโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

‘‘ตเมนํ สพฺรหฺมจารี เอวํ สมฺภาเวนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา สตฺถารํ อุปนิสฺสาย วิหรติ อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ, ยตฺถสฺส ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ เปมฺจ คารโว จ. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย [ปิยตาย ครุตาย (สฺยา.)] ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘‘ตํ โข ปนายมายสฺมา สตฺถารํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ, ยตฺถสฺส ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ เปมฺจ คารโว จ, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส โก อตฺโถติ? ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานี กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘‘ตํ โข ปนายมายสฺมา ธมฺมํ สุตฺวา ทฺวเยน วูปกาเสน สมฺปาเทติ – กายวูปกาเสน จ จิตฺตวูปกาเสน จ. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘‘สีลวา โข ปนายมายสฺมา ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘‘พหุสฺสุโต โข ปนายมายสฺมา สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘‘อารทฺธวีริโย โข ปนายมายสฺมา วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘‘สงฺฆคโต โข ปนายมายสฺมา อนานากถิโก โหติ อติรจฺฉานกถิโก. สามํ วา ธมฺมํ ภาสติ ปรํ วา อชฺเฌสติ อริยํ วา ตุณฺหีภาวํ นาติมฺติ. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘‘ปฺจสุ โข ปนายมายสฺมา อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา…เป… อิติ สฺา…เป… อิติ สงฺขารา…เป… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโมติ. อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’ติ! อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตฺตาย ครุตฺตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ เหตู อฏฺ ปจฺจยา อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมอปฺปิยสุตฺตํ

. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปิยปสํสี จ โหติ, ปิยครหี จ, ลาภกาโม จ, สกฺการกาโม จ, อหิริโก จ, อโนตฺตปฺปี จ, ปาปิจฺโฉ จ, มิจฺฉาทิฏฺิ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อปฺปิยปสํสี จ โหติ, น ปิยครหี จ, น ลาภกาโม จ, น สกฺการกาโม จ, หิรีมา จ โหติ, โอตฺตปฺปี จ, อปฺปิจฺโฉ จ, สมฺมาทิฏฺิ จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. ตติยํ.

๔. ทุติยอปฺปิยสุตฺตํ

. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลาภกาโม จ โหติ, สกฺการกาโม จ, อนวฺตฺติกาโม จ, อกาลฺู จ, อมตฺตฺู จ, อสุจิ จ, พหุภาณี จ, อกฺโกสกปริภาสโก จ สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ อปฺปิโย จ โหติ อมนาโป จ อครุ จ อภาวนีโย จ.

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ลาภกาโม จ โหติ, น สกฺการกาโม จ, น อนวฺตฺติกาโม จ, กาลฺู จ, มตฺตฺู จ, สุจิ จ, น พหุภาณี จ, อนกฺโกสกปริภาสโก จ สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมโลกธมฺมสุตฺตํ

. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ. กตเม อฏฺ? ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อิเม อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตตี’’ติ.

‘‘ลาโภ อลาโภ จ ยสายโส จ,

นินฺทา ปสํสา จ สุขํ ทุขฺจ;

เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา,

อสสฺสตา วิปริณามธมฺมา.

‘‘เอเต จ ตฺวา สติมา สุเมโธ,

อเวกฺขติ วิปริณามธมฺเม;

อิฏฺสฺส ธมฺมา น มเถนฺติ จิตฺตํ,

อนิฏฺโต โน ปฏิฆาตเมติ.

‘‘ตสฺสานุโรธา อถ วา วิโรธา,

วิธูปิตา อตฺถงฺคตา น สนฺติ;

ปทฺจ ตฺวา วิรชํ อโสกํ,

สมฺมปฺปชานาติ ภวสฺส ปารคู’’ติ. ปฺจมํ;

๖. ทุติยโลกธมฺมสุตฺตํ

. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ. กตเม อฏฺ? ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อิเม อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ.

‘‘อสฺสุตวโต, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชนสฺส อุปฺปชฺชติ ลาโภปิ อลาโภปิ ยโสปิ อยโสปิ นินฺทาปิ ปสํสาปิ สุขมฺปิ ทุกฺขมฺปิ. สุตวโตปิ, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส อุปฺปชฺชติ ลาโภปิ อลาโภปิ ยโสปิ อยโสปิ นินฺทาปิ ปสํสาปิ สุขมฺปิ ทุกฺขมฺปิ. ตตฺร, ภิกฺขเว, โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส [อธิปฺปาโย (สี.), อธิปฺปายโส (สฺยา. กํ.) อธิ + ป + ยสุ + ณ = อธิปฺปยาโส] กึ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนนา’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา. สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อสฺสุตวโต, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชนสฺส อุปฺปชฺชติ ลาโภ. โส น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อุปฺปนฺโน โข เม อยํ ลาโภ; โส จ โข อนิจฺโจ ทุกฺโข วิปริณามธมฺโม’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อุปฺปชฺชติ อลาโภ…เป… อุปฺปชฺชติ ยโส… อุปฺปชฺชติ อยโส… อุปฺปชฺชติ นินฺทา… อุปฺปชฺชติ ปสํสา… อุปฺปชฺชติ สุขํ… อุปฺปชฺชติ ทุกฺขํ. โส น อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ ทุกฺขํ; ตฺจ โข อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺม’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ’’.

‘‘ตสฺส ลาโภปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, อลาโภปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, ยโสปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, อยโสปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, นินฺทาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, ปสํสาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, สุขมฺปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, ทุกฺขมฺปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ. โส อุปฺปนฺนํ ลาภํ อนุรุชฺฌติ, อลาเภ ปฏิวิรุชฺฌติ; อุปฺปนฺนํ ยสํ อนุรุชฺฌติ, อยเส ปฏิวิรุชฺฌติ; อุปฺปนฺนํ ปสํสํ อนุรุชฺฌติ, นินฺทาย ปฏิวิรุชฺฌติ; อุปฺปนฺนํ สุขํ อนุรุชฺฌติ, ทุกฺเข ปฏิวิรุชฺฌติ. โส เอวํ อนุโรธวิโรธสมาปนฺโน น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ. ‘น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมา’ติ วทามิ’’.

‘‘สุตวโต จ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส อุปฺปชฺชติ ลาโภ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อุปฺปนฺโน โข เม อยํ ลาโภ; โส จ โข อนิจฺโจ ทุกฺโข วิปริณามธมฺโม’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อุปฺปชฺชติ อลาโภ…เป… อุปฺปชฺชติ ยโส… อุปฺปชฺชติ อยโส… อุปฺปชฺชติ นินฺทา… อุปฺปชฺชติ ปสํสา… อุปฺปชฺชติ สุขํ… อุปฺปชฺชติ ทุกฺขํ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ ทุกฺขํ; ตฺจ โข อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺม’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ’’.

‘‘ตสฺส ลาโภปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, อลาโภปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ยโสปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, อยโสปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, นินฺทาปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ปสํสาปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, สุขมฺปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ทุกฺขมฺปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ. โส อุปฺปนฺนํ ลาภํ นานุรุชฺฌติ, อลาเภ นปฺปฏิวิรุชฺฌติ; อุปฺปนฺนํ ยสํ นานุรุชฺฌติ, อยเส นปฺปฏิวิรุชฺฌติ; อุปฺปนฺนํ ปสํสํ นานุรุชฺฌติ, นินฺทาย นปฺปฏิวิรุชฺฌติ; อุปฺปนฺนํ สุขํ นานุรุชฺฌติ, ทุกฺเข นปฺปฏิวิรุชฺฌติ. โส เอวํ อนุโรธวิโรธวิปฺปหีโน ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ. ‘ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมา’ติ วทามิ. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส อยํ อธิปฺปยาโส อิทํ นานากรณํ สุตวโต อริยสาวกสฺส อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนนา’’ติ.

‘‘ลาโภ อลาโภ จ ยสายโส จ,

นินฺทา ปสํสา จ สุขํ ทุขฺจ;

เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา,

อสสฺสตา วิปริณามธมฺมา.

‘‘เอเต จ ตฺวา สติมา สุเมโธ,

อเวกฺขติ วิปริณามธมฺเม;

อิฏฺสฺส ธมฺมา น มเถนฺติ จิตฺตํ,

อนิฏฺโต โน ปฏิฆาตเมติ.

‘‘ตสฺสานุโรธา อถ วา วิโรธา,

วิธูปิตา อตฺถงฺคตา น สนฺติ;

ปทฺจ ตฺวา วิรชํ อโสกํ,

สมฺมปฺปชานาติ ภวสฺส ปารคู’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. เทวทตฺตวิปตฺติสุตฺตํ

. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต อจิรปกฺกนฺเต เทวทตฺเต. ตตฺร ภควา เทวทตฺตํ อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’’.

[จูฬว. ๓๔๘] ‘‘กตเมหิ อฏฺหิ? ลาเภน หิ, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. อลาเภน, ภิกฺขเว…เป… ยเสน, ภิกฺขเว… อยเสน, ภิกฺขเว… สกฺกาเรน, ภิกฺขเว… อสกฺกาเรน, ภิกฺขเว… ปาปิจฺฉตาย, ภิกฺขเว… ปาปมิตฺตตาย, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ.

‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย, อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ … อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย.

‘‘กิฺจ [กถฺจ (ก.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย, อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย?

‘‘ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อุปฺปนฺนํ ลาภํ อนภิภุยฺย [อนภิภูยฺย อนภิภูยฺย (ก.)] วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย [อภิภูยฺย อภิภูยฺย (ก.)] วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อนภิภุยฺย วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย, อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ … อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหริสฺสาม, อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหริสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. อุตฺตรวิปตฺติสุตฺตํ

. เอกํ สมยํ อายสฺมา อุตฺตโร มหิสวตฺถุสฺมึ วิหรติ สงฺเขยฺยเก ปพฺพเต วฏชาลิกายํ [ธวชาลิกายํ (สี.), วฏฺฏชาลิกายํ (สฺยา.)]. ตตฺร โข อายสฺมา อุตฺตโร ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหตี’’ติ.

เตน โข ปน สมเยน เวสฺสวโณ มหาราชา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณํ ทิสํ คจฺฉติ เกนจิเทว กรณีเยน. อสฺโสสิ โข เวสฺสวโณ มหาราชา อายสฺมโต อุตฺตรสฺส มหิสวตฺถุสฺมึ สงฺเขยฺยเก ปพฺพเต วฏชาลิกายํ ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส – ‘‘สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหตี’’ติ.

อถ โข เวสฺสวณฺโณ มหาราชา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย [สมฺมิฺเชยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เอวเมวํ มหิสวตฺถุสฺมึ สงฺเขยฺยเก ปพฺพเต วฏชาลิกายํ อนฺตรหิโต เทเวสุ ตาวตึเสสุ ปาตุรโหสิ. อถ โข เวสฺสวณฺโณ มหาราชา เยน สกฺโก เทวานมินฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ยคฺเฆ มาริส, ชาเนยฺยาสิ! เอโส อายสฺมา อุตฺตโร มหิสวตฺถุสฺมึ สงฺเขยฺยเก ปพฺพเต วฏชาลิกายํ ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรวิปตฺตึ…เป… อตฺตสมฺปตฺตึ… ปรสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหตี’’’ติ.

อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิโต มหิสวตฺถุสฺมึ สงฺเขยฺยเก ปพฺพเต วฏชาลิกายํ อายสฺมโต อุตฺตรสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท เยนายสฺมา อุตฺตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุตฺตรํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ อุตฺตรํ เอตทโวจ –

‘‘สจฺจํ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา อุตฺตโร ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสสิ – ‘สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ, สาธาวุโส, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรวิปตฺตึ…เป… อตฺตสมฺปตฺตึ… ปรสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหตี’’’ ติ? ‘‘เอวํ, เทวานมินฺทา’’ติ. ‘‘กึ ปนิทํ [กึ ปน (สฺยา.)], ภนฺเต, อายสฺมโต อุตฺตรสฺส สกํ ปฏิภานํ [สกปฏิภานํ อุปาทาย (ก.)], อุทาหุ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ? ‘‘เตน หิ, เทวานมินฺท, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชาน’’นฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, เทวานมินฺท, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร มหาธฺราสิ. ตโต มหาชนกาโย ธฺํ อาหเรยฺย – กาเชหิปิ ปิฏเกหิปิ อุจฺฉงฺเคหิปิ อฺชลีหิปิ. โย นุ โข, เทวานมินฺท, ตํ มหาชนกายํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ ปุจฺเฉยฺย – ‘กุโต อิมํ ธฺํ อาหรถา’ติ, กถํ พฺยากรมาโน นุ โข, เทวานมินฺท, โส มหาชนกาโย สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยา’’ติ? ‘‘‘อมุมฺหา มหาธฺราสิมฺหา อาหรามา’ติ โข, ภนฺเต, โส มหาชนกาโย สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมวํ โข, เทวานมินฺท, ยํ กิฺจิ สุภาสิตํ สพฺพํ ตํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ตโต อุปาทายุปาทาย มยํ จฺเ จ ภณามา’’ติ.

‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ ภนฺเต! ยาว สุภาสิตํ จิทํ อายสฺมตา อุตฺตเรน – ‘ยํ กิฺจิ สุภาสิตํ สพฺพํ ตํ ตสฺส ภควโต วจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ตโต อุปาทายุปาทาย มยํ จฺเ จ ภณามา’ติ. เอกมิทํ, ภนฺเต อุตฺตร, สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต อจิรปกฺกนฺเต เทวทตฺเต. ตตฺร โข ภควา เทวทตฺตํ อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตวิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ ปรวิปตฺตึ…เป… อตฺตสมฺปตฺตึ… ปรสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. กตเมหิ อฏฺหิ? ลาเภน หิ, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ; อลาเภน, ภิกฺขเว…เป… ยเสน, ภิกฺขเว … อยเสน, ภิกฺขเว… สกฺกาเรน, ภิกฺขเว… อสกฺกาเรน, ภิกฺขเว… ปาปิจฺฉตาย, ภิกฺขเว… ปาปมิตฺตตาย, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ.

‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย; อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย.

‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย; อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย?

‘‘ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อุปฺปนฺนํ ลาภํ อนภิภุยฺย วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. ยํ หิสฺส, ภิกฺขเว, อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อนภิภุยฺย วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย; อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ … อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – อุปฺปนฺนํ ลาภํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหริสฺสาม, อุปฺปนฺนํ อลาภํ…เป… อุปฺปนฺนํ ยสํ… อุปฺปนฺนํ อยสํ… อุปฺปนฺนํ สกฺการํ… อุปฺปนฺนํ อสกฺการํ… อุปฺปนฺนํ ปาปิจฺฉตํ… อุปฺปนฺนํ ปาปมิตฺตตํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหริสฺสามาติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.

‘‘เอตฺตาวตา, ภนฺเต อุตฺตร, มนุสฺเสสุ จตสฺโส ปริสา – ภิกฺขู, ภิกฺขุนิโย, อุปาสกา, อุปาสิกาโย. นายํ ธมฺมปริยาโย กิสฺมิฺจิ อุปฏฺิโต [ปติฏฺิโต (สี. สฺยา.)]. อุคฺคณฺหตุ, ภนฺเต, อายสฺมา อุตฺตโร อิมํ ธมฺมปริยายํ. ปริยาปุณาตุ, ภนฺเต, อายสฺมา อุตฺตโร อิมํ ธมฺมปริยายํ. ธาเรตุ, ภนฺเต, อายสฺมา อุตฺตโร อิมํ ธมฺมปริยายํ. อตฺถสํหิโต อยํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย อาทิพฺรหฺมจริยโก’’ติ [อาทิพฺรหฺมจริยิโก (สี. ก.)]. อฏฺมํ.

๙. นนฺทสุตฺตํ

. ‘‘‘กุลปุตฺโต’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย. ‘พลวา’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย. ‘ปาสาทิโก’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย. ‘ติพฺพราโค’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย. กิมฺตฺร, ภิกฺขเว, นนฺโท อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตฺู, ชาคริยํ อนุยุตฺโต, สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต, เยหิ [เยน (ก.)] นนฺโท สกฺโกติ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ! ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปุรตฺถิมา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นนฺโท ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลเกติ – ‘เอวํ เม ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลกยโต นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปจฺฉิมา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ…เป… อุตฺตรา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ… ทกฺขิณา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ… อุทฺธํ อุลฺโลเกตพฺพา โหติ… อโธ โอโลเกตพฺพา โหติ… อนุทิสา อนุวิโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นนฺโท อนุทิสํ อนุวิโลเกติ – ‘เอวํ เม อนุทิสํ อนุวิโลกยโต นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย โหติ.

‘‘ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส โภชเน มตฺตฺุตาย โหติ. อิธ, ภิกฺขเว, นนฺโท ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส โภชเน มตฺตฺุตาย โหติ.

‘‘ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ชาคริยานุโยคสฺมึ โหติ. อิธ, ภิกฺขเว, นนฺโท ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ; รตฺติยา ปมํ ยามํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ; รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปติ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา; รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปจฺจุฏฺาย จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ชาคริยานุโยคสฺมึ โหติ.

‘‘ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส สติสมฺปชฺสฺมึ โหติ. อิธ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สฺา…เป… วิทิตา วิตกฺกา…เป… อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส สติสมฺปชฺสฺมึ โหติ.

‘‘กิมฺตฺร, ภิกฺขเว, นนฺโท อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตฺู, ชาคริยํ อนุยุตฺโต, สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต, เยหิ นนฺโท สกฺโกติ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุ’’นฺติ! นวมํ.

๑๐. การณฺฑวสุตฺตํ

๑๐. เอกํ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อฺเนาฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ.

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘นิทฺธมเถตํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลํ; นิทฺธมเถตํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลํ. อปเนยฺเยโส [อปเนยฺโย โส (สี.), อปเนยฺโย (สฺยา.)], ภิกฺขเว, ปุคฺคโล. กึ โว เตน ปรปุตฺเตน วิโสธิเตน [กึ โวปรปุตฺโต วิเหิยติ (สี.), กึ ปรปุตฺโต วิเหเติ (สฺยา.), กึ โว ปรปุตฺตา วิเหเติ (ปี.), กึ โส ปรปุตฺโต วิโสเธติ (ก.)]! อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตาทิสํเยว โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ, เสยฺยถาปิ อฺเสํ ภทฺทกานํ ภิกฺขูนํ – ยาวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ น ปสฺสนฺติ. ยโต จ ขฺวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ ปสฺสนฺติ, ตเมนํ เอวํ ชานนฺติ – ‘สมณทูสีวายํ [สมณรูปี (ก.)] สมณปลาโป สมณการณฺฑโว’ติ [สมณกรณฺฑโวติ (ก.)]. ตเมนํ อิติ วิทิตฺวา พหิทฺธา นาเสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? มา อฺเ ภทฺทเก ภิกฺขู ทูเสสี’’ติ!

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สมฺปนฺเน ยวกรเณ ยวทูสี [ยวรูปี (ก.)] ชาเยถ ยวปลาโป ยวการณฺฑโวติ. ตสฺส ตาทิสํเยว มูลํ โหติ, เสยฺยถาปิ อฺเสํ ภทฺทกานํ ยวานํ; ตาทิสํเยว นาฬํ โหติ, เสยฺยถาปิ อฺเสํ ภทฺทกานํ ยวานํ; ตาทิสํเยว ปตฺตํ โหติ, เสยฺยถาปิ อฺเสํ ภทฺทกานํ ยวานํ – ยาวสฺส สีสํ น นิพฺพตฺตติ. ยโต จ ขฺวสฺส สีสํ นิพฺพตฺตติ, ตเมนํ เอวํ ชานนฺติ – ‘ยวทูสีวายํ ยวปลาโป ยวการณฺฑโว’ติ. ตเมนํ อิติ วิทิตฺวา สมูลํ อุปฺปาเฏตฺวา พหิทฺธา ยวกรณสฺส ฉฑฺเฑนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? มา อฺเ ภทฺทเก ยเว ทูเสสีติ!

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตาทิสํเยว โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ, เสยฺยถาปิ อฺเสํ ภทฺทกานํ ภิกฺขูนํ – ยาวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ น ปสฺสนฺติ. ยโต จ ขฺวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ ปสฺสนฺติ, ตเมนํ เอวํ ชานนฺติ – ‘สมณทูสีวายํ สมณปลาโป สมณการณฺฑโว’ติ. ตเมนํ อิติ วิทิตฺวา พหิทฺธา นาเสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? มา อฺเ ภทฺทเก ภิกฺขู ทูเสสีติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหโต ธฺราสิสฺส ผุณมานสฺส [วุยฺหมานสฺส (สี. ปี.), ผุสยมานสฺส (สฺยา.), ปุนมานสฺส (?)] ตตฺถ ยานิ ตานิ ธฺานิ ทฬฺหานิ สารวนฺตานิ ตานิ เอกมนฺตํ ปุฺชํ โหติ, ยานิ ปน ตานิ ธฺานิ ทุพฺพลานิ ปลาปานิ ตานิ วาโต เอกมนฺตํ อปวหติ [อปกสฺสติ (สี.)]. ตเมนํ สามิกา สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย อปสมฺมชฺชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? มา อฺเ ภทฺทเก ธฺเ ทูเสสีติ! เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตาทิสํเยว โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ, เสยฺยถาปิ อฺเสํ ภทฺทกานํ ภิกฺขูนํ – ยาวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ น ปสฺสนฺติ. ยโต จ ขฺวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ ปสฺสนฺติ, ตเมนํ เอวํ ชานนฺติ – ‘สมณทูสีวายํ สมณปลาโป สมณการณฺฑโว’ติ. ตเมนํ อิติ วิทิตฺวา พหิทฺธา นาเสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? มา อฺเ ภทฺทเก ภิกฺขู ทูเสสีติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อุทปานปนาฬิยตฺถิโก ติณฺหํ กุารึ [กุธารึ (สฺยา. กํ. ก.)] อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ยํ ยเทว รุกฺขํ กุาริปาเสน อาโกเฏยฺย ตตฺถ ยานิ ตานิ รุกฺขานิ ทฬฺหานิ สารวนฺตานิ ตานิ กุาริปาเสน อาโกฏิตานิ กกฺขฬํ ปฏินทนฺติ; ยานิ ปน ตานิ รุกฺขานิ อนฺโตปูตีนิ อวสฺสุตานิ กสมฺพุชาตานิ ตานิ กุาริปาเสน อาโกฏิตานิ ททฺทรํ ปฏินทนฺติ. ตเมนํ มูเล ฉินฺทติ, มูเล ฉินฺทิตฺวา อคฺเค ฉินฺทติ, อคฺเค ฉินฺทิตฺวา อนฺโต สุวิโสธิตํ วิโสเธติ, อนฺโต สุวิโสธิตํ วิโสเธตฺวา อุทปานปนาฬึ โยเชติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตาทิสํเยว โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ, เสยฺยถาปิ อฺเสํ ภทฺทกานํ ภิกฺขูนํ – ยาวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ น ปสฺสนฺติ. ยโต จ ขฺวสฺส ภิกฺขู อาปตฺตึ ปสฺสนฺติ, ตเมนํ เอวํ ชานนฺติ – ‘สมณทูสีวายํ สมณปลาโป สมณการณฺฑโว’ติ. ตเมนํ อิติ วิทิตฺวา พหิทฺธา นาเสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? มา อฺเ ภทฺทเก ภิกฺขู ทูเสสี’’ติ.

‘‘สํวาสายํ วิชานาถ, ปาปิจฺโฉ โกธโน อิติ;

มกฺขี ถมฺภี ปฬาสี จ, อิสฺสุกี มจฺฉรี สโ.

‘‘สนฺตวาโจ ชนวติ, สมโณ วิย ภาสติ;

รโห กโรติ กรณํ, ปาปทิฏฺิ อนาทโร.

‘‘สํสปฺปี จ มุสาวาที, ตํ วิทิตฺวา ยถาตถํ;

สพฺเพ สมคฺคา หุตฺวาน, อภินิพฺพชฺชยาถ [อภินิพฺพิชฺชเยถ (ก.)] นํ.

‘‘การณฺฑวํ [กรณฺฑวํ (ก.) สุ. นิ. ๒๘๓ ปสฺสิตพฺพํ] นิทฺธมถ, กสมฺพุํ อปกสฺสถ [อวกสฺสถ (ก.)];

ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน.

‘‘นิทฺธมิตฺวาน ปาปิจฺเฉ, ปาปอาจารโคจเร;

สุทฺธาสุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;

ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’ติ. ทสมํ;

เมตฺตาวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

เมตฺตํ ปฺา จ ทฺเว ปิยา, ทฺเว โลกา ทฺเว วิปตฺติโย;

เทวทตฺโต จ อุตฺตโร, นนฺโท การณฺฑเวน จาติ.

๒. มหาวคฺโค

๑. เวรฺชสุตฺตํ

๑๑. [ปารา. ๑ อาทโย] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล. อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ [สาราณียํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม – ‘น สมโณ โคตโม พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุฑฺเฒ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตตี’ติ. ตยิทํ, โภ โคตม, ตเถว. น หิ ภวํ โคตโม พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุฑฺเฒ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. ตยิทํ, โภ โคตม, น สมฺปนฺนเมวา’’ติ. ‘‘นาหํ ตํ, พฺราหฺมณ, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยมหํ อภิวาเทยฺยํ วา ปจฺจุฏฺเยฺยํ วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยํ. ยฺหิ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต อภิวาเทยฺย วา ปจฺจุฏฺเยฺย วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺย, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’’ติ.

‘‘อรสรูโป ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อรสรูโป สมโณ โคตโม’ติ. เย เต, พฺราหฺมณ, รูปรสา สทฺทรสา คนฺธรสา รสรสา โผฏฺพฺพรสา, เต ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา [อนภาวกตา (สี. ปี.)] อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อรสรูโป สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ [วเทสิ (สี. ก.)].

‘‘นิพฺโภโค ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘นิพฺโภโค สมโณ โคตโม’ติ. เย เต, พฺราหฺมณ, รูปโภคา สทฺทโภคา คนฺธโภคา รสโภคา โผฏฺพฺพโภคา, เต ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘นิพฺโภโค สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.

‘‘อกิริยวาโท ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อกิริยํ วทามิ กายทุจฺจริตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อกิริยํ วทามิ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.

‘‘อุจฺเฉทวาโท ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อุจฺเฉทํ วทามิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุจฺเฉทํ วทามิ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.

‘‘เชคุจฺฉี ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, ชิคุจฺฉามิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน; ชิคุจฺฉามิ อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.

‘‘เวนยิโก ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.

‘‘ตปสฺสี ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม’ติ. ตปนียาหํ, พฺราหฺมณ, ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วทามิ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. ยสฺส โข, พฺราหฺมณ, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ‘ตปสฺสี’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, พฺราหฺมณ, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.

‘‘อปคพฺโภ ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม’ติ. ยสฺส โข, พฺราหฺมณ, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ‘อปคพฺโภ’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, พฺราหฺมณ, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วา. ตานาสฺสุ กุกฺกุฏิยา สมฺมา อธิสยิตานิ สมฺมา ปริเสทิตานิ สมฺมา ปริภาวิตานิ. โย นุ โข เตสํ กุกฺกุฏจฺฉาปกานํ ปมตรํ ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺเชยฺย, กินฺติ สฺวาสฺส วจนีโย – ‘เชฏฺโ วา กนิฏฺโ วา’’’ติ? ‘‘เชฏฺโ ติสฺส, โภ โคตม, วจนีโย. โส หิ เนสํ, โภ โคตม, เชฏฺโ โหตี’’ติ.

‘‘เอวเมวํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, อวิชฺชาคตาย ปชาย อณฺฑภูตาย ปริโยนทฺธาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา เอโกว โลเก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, เชฏฺโ เสฏฺโ โลกสฺส. อารทฺธํ โข ปน เม, พฺราหฺมณ, วีริยํ อโหสิ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ.

‘‘โส โข อหํ, พฺราหฺมณ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรามิ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทมิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ.

‘‘อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา ปเม ยาเม ปมา วิชฺชา อธิคตา; อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ปมา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว อณฺฑโกสมฺหา.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, อริยานํ อุปวาทกา, มิจฺฉาทิฏฺิกา, มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนาติ. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา, วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา, มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา, อริยานํ อนุปวาทกา, สมฺมาทิฏฺิกา, สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ.

‘‘อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม ทุติยา วิชฺชา อธิคตา; อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ทุติยา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว อณฺฑโกสมฺหา.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ. ตสฺส เม เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ อโหสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสึ.

‘‘อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตติยา วิชฺชา อธิคตา; อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ตติยา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว อณฺฑโกสมฺหา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เชฏฺโ ภวํ โคตโม, เสฏฺโ ภวํ โคตโม. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ [นิกุชฺชิตํ (ก.)] วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปมํ.

๒. สีหสุตฺตํ

๑๒. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร [สนฺธาคาเร (ก.)] สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน สีโห เสนาปติ นิคณฺสาวโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ยํนูนาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (ก. สี.), นาตปุตฺโต (ก. สี.)] เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

‘‘กึ ปน ตฺวํ, สีห, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ? สมโณ หิ, สีห, โคตโม อกิริยวาโท, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ. อถ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส โย อโหสิ คมิยาภิสงฺขาโร [คมิกาภิสงฺขาโร (ก. สี.) มหาว. ๒๙๐] ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิ.

ทุติยมฺปิ โข สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส…เป… ธมฺมสฺส…เป… สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ทุติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส…เป… สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ยํนูนาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

‘‘กึ ปน ตฺวํ, สีห, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ? สมโณ หิ, สีห, โคตโม อกิริยวาโท อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส โย อโหสิ คมิยาภิสงฺขาโร ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิ.

ตติยมฺปิ โข สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส…เป… ธมฺมสฺส…เป… สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ตติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. กึ หิเม กริสฺสนฺติ นิคณฺา อปโลกิตา วา อนปโลกิตา วา? ยํนูนาหํ อนปโลเกตฺวาว นิคณฺเ [นิคณฺํ (สฺยา. ก.) มหาว. ๒๙๐ ปสฺสิตพฺพํ] ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ.

อถ โข สีโห เสนาปติ ปฺจมตฺเตหิ รถสเตหิ ทิวาทิวสฺส เวสาลิยา นิยฺยาสิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว อคมาสิ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ. เย เต, ภนฺเต, เอวมาหํสุ – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ, กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภควโต วุตฺตวาทิโน น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท [วาทานุปาโต (ก. สี. สฺยา.) อ. นิ. ๓.๕๘; ๕.๕] คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ? อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ, ภนฺเต, ภควนฺต’’นฺติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม, อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสฺสาสโก สมโณ โคตโม, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, อกิริยํ วทามิ กายทุจฺจริตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อกิริยํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, กิริยํ วทามิ กายสุจริตสฺส วจีสุจริตสฺส มโนสุจริตสฺส; อเนกวิหิตานํ กุสลานํ ธมฺมานํ กิริยํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม, อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, อุจฺเฉทํ วทามิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุจฺเฉทํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม, อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, ชิคุจฺฉามิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน; ชิคุจฺฉามิ อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? ตปนียาหํ, สีห, ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วทามิ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. ยสฺส โข, สีห, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ‘ตปสฺสี’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, สีห, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? ยสฺส โข, สีห, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ‘อปคพฺโภ’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, สีห, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสฺสาสโก สมโณ โคตโม, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, อสฺสาสโก ปรเมน อสฺสาเสน, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสมิ, เตน จ สาวเก วิเนมิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสฺสาสโก สมโณ โคตโม, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.

เอวํ วุตฺเต สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

‘‘อนุวิจฺจการํ โข, สีห, กโรหิ. อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’’ติ. ‘‘อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ, ยํ มํ ภควา เอวมาห – ‘อนุวิจฺจการํ โข, สีห, กโรหิ. อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. มฺหิ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยา สาวกํ ลภิตฺวา เกวลกปฺปํ เวสาลึ ปฏากํ ปริหเรยฺยุํ – ‘สีโห อมฺหากํ เสนาปติ สาวกตฺตํ อุปคโต’ติ. อถ จ ปน ภควา เอวมาห – ‘อนุวิจฺจการํ, สีห, กโรหิ. อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. เอสาหํ, ภนฺเต, ทุติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

‘‘ทีฆรตฺตํ โข เต, สีห, นิคณฺานํ โอปานภูตํ กุลํ, เยน เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสี’’ติ. ‘‘อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ, ยํ มํ ภควา เอวมาห – ‘ทีฆรตฺตํ โข เต, สีห, นิคณฺานํ โอปานภูตํ กุลํ, เยน เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสี’ติ. สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมโณ โคตโม เอวมาห – มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ, มยฺหเมว สาวกานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ, อถ จ ปน มํ ภควา นิคณฺเสุปิ ทาเน สมาทเปติ [สมาทาเปติ (?)]. อปิ จ, ภนฺเต, มยเมตฺถ กาลํ ชานิสฺสาม. เอสาหํ, ภนฺเต, ตติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

อถ โข ภควา สีหสฺส เสนาปติสฺส อนุปุพฺพึ กถํ [อนุปุพฺพิกถํ (สพฺพตฺถ)] กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ สีหํ เสนาปตึ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย; เอวเมวํ สีหสฺส เสนาปติสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.

อถ โข สีโห เสนาปติ ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

อถ โข สีโห เสนาปติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข สีโห เสนาปติ อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปวตฺตมํสํ ชานาหี’’ติ. อถ โข สีโห เสนาปติ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต! นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สีหสฺส เสนาปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา นิคณฺา เวสาลิยํ รถิกาย รถิกํ [รถิยาย รถิยํ (พหูสุ)] สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ – ‘‘อชฺช สีเหน เสนาปตินา ถูลํ ปสุํ วธิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส ภตฺตํ กตํ. ตํ สมโณ โคตโม ชานํ อุทฺทิสฺสกตํ มํสํ ปริภุฺชติ ปฏิจฺจกมฺม’’นฺติ.

อถ โข อฺตโร ปุริโส เยน สีโห เสนาปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สีหสฺส เสนาปติสฺส อุปกณฺณเก อาโรเจสิ – ‘‘ยคฺเฆ, ภนฺเต, ชาเนยฺยาสิ! เอเต สมฺพหุลา นิคณฺา เวสาลิยํ รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ – ‘อชฺช สีเหน เสนาปตินา ถูลํ ปสุํ วธิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส ภตฺตํ กตํ. ตํ สมโณ โคตโม ชานํ อุทฺทิสฺสกตํ มํสํ ปริภุฺชติ ปฏิจฺจกมฺม’นฺติ. อลํ อยฺโย ทีฆรตฺตฺหิ เต อายสฺมนฺโต อวณฺณกามา พุทฺธสฺส อวณฺณกามา ธมฺมสฺส อวณฺณกามา สงฺฆสฺส. น จ ปเนเต อายสฺมนฺโต ชิริทนฺติ ตํ ภควนฺตํ อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขิตุํ; น จ มยํ ชีวิตเหตุปิ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺยามา’’ติ.

อถ โข สีโห เสนาปติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สีหํ เสนาปตึ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. ทุติยํ.

๓. อสฺสาชานียสุตฺตํ

๑๓. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโท อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโท อสฺสาชานีโย อุภโต สุชาโต โหติ – มาติโต จ ปิติโต จ. ยสฺสํ ทิสายํ อฺเปิ ภทฺทา อสฺสาชานียา ชายนฺติ, ตสฺสํ ทิสายํ ชาโต โหติ. ยํ โข ปนสฺส โภชนํ เทนฺติ – อลฺลํ วา สุกฺขํ วา – ตํ สกฺกจฺจํเยว ปริภุฺชติ อวิกิรนฺโต. เชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา อภินิสีทิตุํ วา อภินิปชฺชิตุํ วา. โสรโต โหติ สุขสํวาโส, น จ อฺเ อสฺเส อุพฺเพเชตา. ยานิ โข ปนสฺส โหนฺติ [ยานิ โข ปนสฺส ตานิ (สฺยา.)] สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ, ตานิ ยถาภูตํ สารถิสฺส อาวิกตฺตา โหติ. เตสมสฺส สารถิ อภินิมฺมทนาย วายมติ. วาหี โข ปน โหติ. ‘กามฺเ อสฺสา วหนฺตุ วา มา วา, อหเมตฺถ วหิสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ. คจฺฉนฺโต โข ปน อุชุมคฺเคเนว คจฺฉติ. ถามวา โหติ ยาว ชีวิตมรณปริยาทานา ถามํ อุปทํเสตา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโท อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. ยํ โข ปนสฺส โภชนํ เทนฺติ – ลูขํ วา ปณีตํ วา – ตํ สกฺกจฺจํเยว ปริภุฺชติ อวิหฺมาโน. เชคุจฺฉี โหติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน; เชคุจฺฉี โหติ อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. โสรโต โหติ สุขสํวาโส, น อฺเ ภิกฺขู อุพฺเพเชตา. ยานิ โข ปนสฺส โหนฺติ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ, ตานิ ยถาภูตํ อาวิกตฺตา โหติ สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ. เตสมสฺส สตฺถา วา วิฺู วา สพฺรหฺมจารี อภินิมฺมทนาย วายมติ. สิกฺขิตา โข ปน โหติ. ‘กามฺเ ภิกฺขู สิกฺขนฺตุ วา มา วา, อหเมตฺถ สิกฺขิสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ. คจฺฉนฺโต โข ปน อุชุมคฺเคเนว คจฺฉติ; ตตฺรายํ อุชุมคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ. อารทฺธวีริโย วิหรติ – ‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ; ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ, น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ตติยํ.

๔. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตํ

๑๔. ‘‘อฏฺ จ [อฏฺ (สฺยา.)], ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺเก [อสฺสขลุงฺเก (สี.)] เทเสสฺสามิ อฏฺ จ อสฺสโทเส, อฏฺ จ ปุริสขฬุงฺเก อฏฺ จ ปุริสโทเส. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อฏฺ อสฺสขฬุงฺกา อฏฺ จ อสฺสโทสา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉโต ปฏิกฺกมติ, ปิฏฺิโต รถํ ปวตฺเตติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อสฺสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉา ลงฺฆติ, กุพฺพรํ หนติ, ติทณฺฑํ ภฺชติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย อสฺสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา รถีสาย สตฺถึ อุสฺสชฺชิตฺวา รถีสํเยว อชฺโฌมทฺทติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย อสฺสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อุมฺมคฺคํ คณฺหติ, อุพฺพฏุมํ รถํ กโรติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ อสฺสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ลงฺฆติ ปุริมกายํ ปคฺคณฺหติ ปุริเม ปาเท. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม อสฺสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อนาทิยิตฺวา สารถึ อนาทิยิตฺวา ปโตทลฏฺึ [ปโตทํ (สี. ปี.), ปโตทยฏฺึ (สฺยา. กํ.)] ทนฺเตหิ มุขาธานํ [มุขาานํ (ก.)] วิธํสิตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ อสฺสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา เนว อภิกฺกมติ โน ปฏิกฺกมติ ตตฺเถว ขีลฏฺายี ิโต โหติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อสฺสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปุริเม จ ปาเท สํหริตฺวา ปจฺฉิเม จ ปาเท สํหริตฺวา [สงฺขริตฺวา (ก.)] ตตฺเถว จตฺตาโร ปาเท อภินิสีทติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อสฺสโทโส. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อสฺสขฬุงฺกา อฏฺ จ อสฺสโทสา.

[วิภ. ๙๕๖] ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุริสขฬุงฺกา อฏฺ จ ปุริสโทสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘น สรามี’ติ อสติยา นิพฺเพเติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉโต ปฏิกฺกมติ, ปิฏฺิโต รถํ วตฺเตติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกํเยว ปฏิปฺผรติ – ‘กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน! ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มฺสี’ติ! เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉา ลงฺฆติ, กุพฺพรํ หนติ, ติทณฺฑํ ภฺชติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกสฺเสว ปจฺจาโรเปติ – ‘ตฺวํ โขสิ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตฺวํ ตาว ปมํ ปฏิกโรหี’ติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา รถีสาย สตฺถึ อุสฺสชฺชิตฺวา รถีสํเยว อชฺโฌมทฺทติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อฺเนาฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อุมฺมคฺคํ คณฺหติ, อุพฺพฏุมํ รถํ กโรติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน สงฺฆมชฺเฌ พาหุวิกฺเขปํ กโรติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ลงฺฆติ, ปุริมกายํ ปคฺคณฺหติ ปุริเม ปาเท; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อนาทิยิตฺวา สงฺฆํ อนาทิยิตฺวา โจทกํ สาปตฺติโกว เยน กามํ ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อนาทิยิตฺวา สารถึ อนาทิยิตฺวา ปโตทลฏฺึ ทนฺเตหิ มุขาธานํ วิธํสิตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘เนวาหํ อาปนฺโนมฺหิ, น ปนาหํ อาปนฺโนมฺหี’ติ โส ตุณฺหีภาเวน สงฺฆํ วิเหเติ [วิเหเสติ (ปี. ก.)]. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา เนว อภิกฺกมติ โน ปฏิกฺกมติ ตตฺเถว ขีลฏฺายี ิโต โหติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน เอวมาห – ‘กึ นุ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อติพาฬฺหํ มยิ พฺยาวฏา ยาว [อิทํ ปทํ สีหฬโปตฺถเก นตฺถิ] อิทานาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’ติ. โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา เอวมาห – ‘อิทานิ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อตฺตมนา โหถา’ติ? เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปุริเม จ ปาเท สํหริตฺวา ปจฺฉิเม จ ปาเท สํหริตฺวา ตตฺเถว จตฺตาโร ปาเท อภินิสีทติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม ปุริสโทโส. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุริสขฬุงฺกา อฏฺ จ ปุริสโทสา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. มลสุตฺตํ

๑๕. ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, มลานิ. กตมานิ อฏฺ? อสชฺฌายมลา, ภิกฺขเว, มนฺตา; อนุฏฺานมลา, ภิกฺขเว, ฆรา; มลํ, ภิกฺขเว, วณฺณสฺส โกสชฺชํ; ปมาโท, ภิกฺขเว, รกฺขโต มลํ; มลํ, ภิกฺขเว, อิตฺถิยา ทุจฺจริตํ; มจฺเฉรํ, ภิกฺขเว, ททโต มลํ; มลา, ภิกฺขเว, ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ; ตโต [ตโต จ (สฺยา. ปี.)], ภิกฺขเว, มลา มลตรํ อวิชฺชา ปรมํ มลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ มลานี’’ติ.

‘‘อสชฺฌายมลา มนฺตา, อนุฏฺานมลา ฆรา;

มลํ วณฺณสฺส โกสชฺชํ, ปมาโท รกฺขโต มลํ.

‘‘มลิตฺถิยา ทุจฺจริตํ, มจฺเฉรํ ททโต มลํ;

มลา เว ปาปกา ธมฺมา, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ;

ตโต มลา มลตรํ, อวิชฺชา ปรมํ มล’’นฺติ. ปฺจมํ;

๖. ทูเตยฺยสุตฺตํ

๑๖. [จูฬว. ๓๔๗] ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา จ โหติ, สาเวตา จ, อุคฺคเหตา จ, ธาเรตา จ, วิฺาตา จ, วิฺาเปตา จ, กุสโล จ สหิตาสหิตสฺส, โน จ กลหการโก – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหติ. อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต โสตา จ โหติ, สาเวตา จ, อุคฺคเหตา จ, ธาเรตา จ, วิฺาตา จ, วิฺาเปตา จ, กุสโล จ สหิตาสหิตสฺส, โน จ กลหการโก. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหตี’’ติ.

‘‘โย เว น พฺยถติ [น เวธติ (สี.), น พฺยาธติ (สฺยา. ปี.)] ปตฺวา, ปริสํ อุคฺควาทินึ [อุคฺควาทินํ (สี.), อุคฺคหวาทินํ (สฺยา. ปี.), อุคฺคตวาทินึ (ก.)];

น จ หาเปติ วจนํ, น จ ฉาเทติ สาสนํ.

‘‘อสนฺทิทฺธฺจ ภณติ [อสนฺทิทฺโธ จ อกฺขาติ (จูฬว. ๓๔๗)], ปุจฺฉิโต น จ กุปฺปติ;

ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ, ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหตี’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ปมพนฺธนสุตฺตํ

๑๗. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อากาเรหิ อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ. กตเมหิ อฏฺหิ? รุณฺเณน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; หสิเตน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; ภณิเตน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; อากปฺเปน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; วนภงฺเคน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; คนฺเธน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; รเสน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; ผสฺเสน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหากาเรหิ อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ. เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุพทฺธา [สุพนฺธา (สี. สฺยา. ก.)], เย [เยว (สฺยา. ปี. ก.)] ผสฺเสน พทฺธา’’ติ [พนฺธาติ (สี. สฺยา. ก.)]. สตฺตมํ.

๘. ทุติยพนฺธนสุตฺตํ

๑๘. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อากาเรหิ ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ. กตเมหิ อฏฺหิ? รุณฺเณน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; หสิเตน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; ภณิเตน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; อากปฺเปน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; วนภงฺเคน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; คนฺเธน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; รเสน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; ผสฺเสน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหากาเรหิ ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ. เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุพทฺธา, เย ผสฺเสน พทฺธา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปหาราทสุตฺตํ

๑๙. เอกํ สมยํ ภควา เวรฺชายํ วิ หรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล. อถ โข ปหาราโท อสุรินฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข ปหาราทํ อสุรินฺทํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อปิ [กึ (ก.)] ปน, ปหาราท, อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อภิรมนฺติ, ภนฺเต, อสุรา มหาสมุทฺเท’’ติ. ‘‘กติ ปน, ปหาราท, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา [อพฺภุตธมฺมา (สฺยา. ก.) จูฬว. ๓๘๔ ปสฺสิตพฺพํ], เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อฏฺ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? มหาสมุทฺโท, ภนฺเต, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต. อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; อยํ [อยมฺปิ (ก.)], ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ [สํวตฺตติ (สฺยา.)]. ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว [ขิปฺปํเยว (สี.), ขิปฺปํเอว (ปี.), ขิปฺปฺเว (จูฬว. ๓๘๔)] ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา [ปตฺตา (ก., จูฬว. ๓๘๔)] ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ยา จ [ยา กาจิ (สฺยา. ปี. ก.)] โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท พหุรตโน [ปหูตรตโน (ก.)] อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺลํ. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺลํ. อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล [ติมิติมิงฺคลา ติมิรปิงฺคลา (สี.), ติมิติมิงฺคลา ติมิรมิงฺคลา (สฺยา. ปี.)] อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา; สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ทฺวิโยชน… ติโยชน… จตุโยชน… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺตีติ.

‘‘อปิ ปน, ภนฺเต, ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อภิรมนฺติ, ปหาราท, ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย’’ติ. ‘‘กติ ปน, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อฏฺ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. ยมฺปิ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ. ยมฺปิ, ปหาราท, มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ. ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ ถลํ อุสฺสาเรติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ; ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ.

‘‘กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺนิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา สงฺโฆ จ เตน. ยมฺปิ, ปหาราท, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ; ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ; กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺนิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา สงฺโฆ จ เตน. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, จตฺตาโรเม วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา, เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ ตฺเวว [สมโณ สกฺยปุตฺติโย ตฺเวว (สฺยา. ก.)] สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ปหาราท, จตฺตาโรเม วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา, เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ปหาราท, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส, วิมุตฺติรโส. ยมฺปิ ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส, วิมุตฺติรโส; อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺลํ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. ยมฺปิ, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค; อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา; สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน. ยมฺปิ, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน; อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. อิเม โข, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. อุโปสถสุตฺตํ

๒๐. [จูฬว. ๓๘๓; อุทา. ๔๕; กถา. ๓๔๖] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต ภควา ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต มชฺฌิโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม, อุทฺธสฺเต อรุเณ, นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม, อุทฺธสฺตํ อรุณํ, นนฺทิมุขี รตฺติ; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’ติ.

อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กํ นุ โข ภควา ปุคฺคลํ สนฺธาย เอวมาห – ‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’’ติ? อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สพฺพาวนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ ทุสฺสีลํ ปาปธมฺมํ อสุจึ สงฺกสฺสรสมาจารํ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตํ อสฺสมณํ สมณปฏิฺํ อพฺรหฺมจารึ พฺรหฺมจาริปฏิฺํ อนฺโตปูตึ อวสฺสุตํ กสมฺพุชาตํ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺนํ; ทิสฺวาน อุฏฺายาสนา เยน โส ปุคฺคโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา. นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ.

เอวํ วุตฺเต โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา. นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ทุติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา. นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ตติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ.

อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ พาหายํ คเหตฺวา พหิทฺวารโกฏฺกา นิกฺขาเมตฺวา สูจิฆฏิกํ ทตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิกฺขามิโต โส, ภนฺเต, ปุคฺคโล มยา. ปริสุทฺธา ปริสา. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, โมคฺคลฺลาน! ยาว พาหา คหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคมิสฺสตี’’ติ!

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, อุโปสถํ กเรยฺยาถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาถ. น ทานาหํ, ภิกฺขเว, อชฺชตคฺเค อุโปสถํ กริสฺสามิ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามิ. อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺย’’.

‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? มหาสมุทฺโท, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ…เป… (ยถา ปุริเม ตถา วิตฺถาเรตพฺโพ).

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. วสนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา; วสนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ…เป… เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา, วสนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน…เป… อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน…เป… อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ. ทสมํ.

มหาวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

เวรฺโช สีโห อาชฺํ, ขฬุงฺเกน มลานิ จ;

ทูเตยฺยํ ทฺเว จ พนฺธนา, ปหาราโท อุโปสโถติ.

๓. คหปติวคฺโค

๑. ปมอุคฺคสุตฺตํ

๒๑. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ [อพฺภุตธมฺเมหิ (สฺยา. ก.)] สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ ธาเรถา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ โส ภิกฺขุ เอตทโวจ –

‘‘อฏฺหิ โข ตฺวํ, คหปติ, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเม เต, คหปติ, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เยหิ ตฺวํ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ? ‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, ชานามิ – กตเมหิ อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโตติ. อปิ จ, ภนฺเต, เย เม อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ, ตํ สุโณหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก เอตทโวจ – ‘‘ยทาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ปมํ ทูรโตว อทฺทสํ; สห ทสฺสเนเนว เม, ภนฺเต, ภควโต จิตฺตํ ปสีทิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ’’.

‘‘โส โข อหํ, ภนฺเต, ปสนฺนจิตฺโต ภควนฺตํ ปยิรุปาสึ. ตสฺส เม ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา มํ ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย; เอวเมวํ โข เม ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ตตฺเถว พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ อคมาสึ, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ จ สิกฺขาปทานิ สมาทิยึ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, จตสฺโส โกมาริโย ปชาปติโย อเหสุํ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เยน ตา ปชาปติโย เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ตา ปชาปติโย เอตทวจํ – ‘มยา โข, ภคินิโย, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ สิกฺขาปทานิ สมาทินฺนานิ [สมาทิณฺณานิ (สี. ก.)]. ยา อิจฺฉติ สา อิเธว โภเค จ ภุฺชตุ ปุฺานิ จ กโรตุ, สกานิ วา าติกุลานิ คจฺฉตุ. โหติ วา ปน ปุริสาธิปฺปาโย, กสฺส โว ทมฺมี’ติ? เอวํ วุตฺเต สา, ภนฺเต, เชฏฺา ปชาปติ มํ เอตทโวจ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส มํ, อยฺยปุตฺต, ปุริสสฺส เทหี’ติ. อถ โข อหํ, ภนฺเต, ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา วาเมน หตฺเถน ปชาปตึ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ภิงฺคารํ คเหตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส โอโณเชสึ. โกมารึ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ทารํ ปริจฺจชนฺโต นาภิชานามิ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม, ภนฺเต, กุเล โภคา. เต จ โข อปฺปฏิวิภตฺตา สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ยํ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ภิกฺขุํ ปยิรุปาสามิ; สกฺกจฺจํเยว ปยิรุปาสามิ, โน อสกฺกจฺจํ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘โส เจ, ภนฺเต, เม อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ; สกฺกจฺจํเยว สุโณมิ, โน อสกฺกจฺจํ. โน เจ เม โส อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ, อหมสฺส ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข เม, ภนฺเต ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘อนจฺฉริยํ โข ปน มํ, ภนฺเต, เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘สฺวากฺขาโต, คหปติ, ภควตา ธมฺโม’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ตา เทวตา เอวํ วทามิ – ‘วเทยฺยาถ วา เอวํ โข ตุมฺเห เทวตา โน วา วเทยฺยาถ, อถ โข สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’ติ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อุนฺนตึ [อุณฺณตึ (ก.) ธ. ส. ๑๑๒๑; วิภ. ๘๔๓, ๘๔๕ ปสฺสิตพฺพํ] – ‘มํ วา เทวตา อุปสงฺกมนฺติ, อหํ วา เทวตาหิ สทฺธึ สลฺลปามี’ติ. อยํ โข เม, ภนฺเต, สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ, นาหํ เตสํ กิฺจิ อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสามิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ. อิเม โข เม, ภนฺเต, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ. น จ โข อหํ ชานามิ – กตเมหิ จาหํ [กตเมหิปหํ (สี.), กตเมหิปาหํ (ปี. ก.)] อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ.

อถ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข โส ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ยาวตโก อโหสิ อุคฺเคน คหปตินา เวสาลิเกน สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! ยถา ตํ อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺย, อิเมเหว โข, ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก มยา พฺยากโต. อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ ธาเรหี’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยอุคฺคสุตฺตํ

๒๒. เอกํ สมยํ ภควา วชฺชีสุ วิหรติ หตฺถิคาเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ หตฺถิคามกํ ธาเรถา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุคฺคสฺส คหปติโน หตฺถิคามกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุคฺคํ คหปตึ หตฺถิคามกํ โส ภิกฺขุ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺหิ โข ตฺวํ, คหปติ, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเม เต, คหปติ, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เยหิ ตฺวํ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ?

‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, ชานามิ – กตเมหิ อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโตติ. อปิ จ, ภนฺเต, เย เม อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ, ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน หตฺถิคามกสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก เอตทโวจ – ‘‘ยทาหํ, ภนฺเต, นาควเน ปริจรนฺโต ภควนฺตํ ปมํ ทูรโตว อทฺทสํ; สห ทสฺสเนเนว เม, ภนฺเต, ภควโต จิตฺตํ ปสีทิ, สุรามโท จ ปหียิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘โส โข อหํ, ภนฺเต, ปสนฺนจิตฺโต ภควนฺตํ ปยิรุปาสึ. ตสฺส เม ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา มํ ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย; เอวเมวํ โข เม ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ตตฺเถว พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ อคมาสึ, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ จ สิกฺขาปทานิ สมาทิยึ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, จตสฺโส โกมาริโย ปชาปติโย อเหสุํ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เยน ตา ปชาปติโย เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ตา ปชาปติโย เอตทวจํ – ‘มยา โข, ภคินิโย, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ สิกฺขาปทานิ สมาทินฺนานิ. ยา อิจฺฉติ สา อิเธว โภเค จ ภุฺชตุ ปุฺานิ จ กโรตุ, สกานิ วา าติกุลานิ คจฺฉตุ. โหติ วา ปน ปุริสาธิปฺปาโย, กสฺส โว ทมฺมี’ติ? เอวํ วุตฺเต สา, ภนฺเต, เชฏฺา ปชาปติ มํ เอตทโวจ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส มํ, อยฺยปุตฺต, ปุริสสฺส เทหี’ติ. อถ โข อหํ, ภนฺเต, ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา วาเมน หตฺเถน ปชาปตึ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ภิงฺคารํ คเหตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส โอโณเชสึ. โกมารึ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ทารํ ปริจฺจชนฺโต นาภิชานามิ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม, ภนฺเต, กุเล โภคา. เต จ โข อปฺปฏิวิภตฺตา สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ยํ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ภิกฺขุํ ปยิรุปาสามิ; สกฺกจฺจํเยว ปยิรุปาสามิ, โน อสกฺกจฺจํ. โส เจ เม อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ; สกฺกจฺจํเยว สุโณมิ, โน อสกฺกจฺจํ. โน เจ เม โส อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ, อหมสฺส ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘อนจฺฉริยํ โข ปน, ภนฺเต, สงฺเฆ นิมนฺติเต เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘อสุโก, คหปติ, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต อสุโก ปฺาวิมุตฺโต อสุโก กายสกฺขี อสุโก ทิฏฺิปฺปตฺโต [ทิฏฺปฺปตฺโต (ก.)] อสุโก สทฺธาวิมุตฺโต อสุโก ธมฺมานุสารี อสุโก สทฺธานุสารี อสุโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม อสุโก ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’ติ. สงฺฆํ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ปริวิสนฺโต นาภิชานามิ เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺโต – ‘อิมสฺส วา โถกํ เทมิ อิมสฺส วา พหุก’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, สมจิตฺโตว เทมิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘อนจฺฉริยํ โข ปน มํ, ภนฺเต, เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘สฺวากฺขาโต, คหปติ, ภควตา ธมฺโม’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ตา เทวตา เอวํ วเทมิ – ‘วเทยฺยาถ วา เอวํ โข ตุมฺเห เทวตา โน วา วเทยฺยาถ, อถ โข สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’ติ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อุนฺนตึ – ‘มํ ตา เทวตา อุปสงฺกมนฺติ, อหํ วา เทวตาหิ สทฺธึ สลฺลปามี’ติ. อยํ โข เม, ภนฺเต, สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘สเจ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ภควโต ปมตรํ กาลํ กเรยฺยํ, อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ ยํ มํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘นตฺถิ ตํ สํโยชนํ เยน สํยุตฺโต อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก ปุน อิมํ โลกํ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. อยํ โข เม, ภนฺเต, อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ. อิเม โข เม, ภนฺเต, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ. น จ โข อหํ ชานามิ – กตเมหิ จาหํ อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ.

‘‘อถ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน หตฺถิคามกสฺส นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข โส ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ยาวตโก อโหสิ อุคฺเคน คหปตินา หตฺถิคามเกน สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! ยถา ตํ อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺย, อิเมเหว โข ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก มยา พฺยากโต. อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ หตฺถิคามกํ ธาเรหี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมหตฺถกสุตฺตํ

๒๓. เอกํ สมยํ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถ. กตเมหิ สตฺตหิ? สทฺโธ หิ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; หิรีมา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; โอตฺตปฺปี, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; พหุสฺสุโต, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; จาควา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน หตฺถกสฺส อาฬวกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข หตฺถโก อาฬวโก เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข หตฺถกํ อาฬวกํ โส ภิกฺขุ เอตทโวจ –

‘‘สตฺตหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเมหิ สตฺตหิ? ‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา…เป… หิริมา… โอตฺตปฺปี… พหุสฺสุโต… จาควา… ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก’ติ. อิเมหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, สตฺตหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ. ‘‘กจฺจิตฺถ, ภนฺเต, น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’ติ? ‘‘น เหตฺถ, อาวุโส, โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ยเทตฺถ น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’ติ.

อถ โข โส ภิกฺขุ หตฺถกสฺส อาฬวกสฺส นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข โส ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน หตฺถกสฺส อาฬวกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ. อถ โข, ภนฺเต, หตฺถโก อาฬวโก เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภนฺเต, หตฺถกํ อาฬวกํ เอตทวจํ – ‘สตฺตหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเมหิ สตฺตหิ? สทฺโธ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา…เป… หิริมา… โอตฺตปฺปี… พหุสฺสุโต… จาควา… ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโกติ. อิเมหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, สตฺตหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’ติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, หตฺถโก มํ เอตทโวจ – ‘กจฺจิตฺถ, ภนฺเต, น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’ติ? ‘น เหตฺถ, อาวุโส, โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’ติ. ‘สาธุ, ภนฺเต, ยเทตฺถ น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! อปฺปิจฺโฉ โส, ภิกฺขุ, กุลปุตฺโต. สนฺเตเยว อตฺตนิ กุสลธมฺเม น อิจฺฉติ ปเรหิ ายมาเน [ปฺาปยมาเน (ก.)]. เตน หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมินาปิ อฏฺเมน อจฺฉริเยน อพฺภุเตน ธมฺเมน สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรหิ, ยทิทํ อปฺปิจฺฉตายา’’ติ. ตติยํ.

๔. ทุติยหตฺถกสุตฺตํ

๒๔. เอกํ สมยํ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเย. อถ โข หตฺถโก อาฬวโก ปฺจมตฺเตหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข หตฺถกํ อาฬวกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘มหตี โข ตฺยายํ, หตฺถก, ปริสา. กถํ ปน ตฺวํ, หตฺถก, อิมํ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหาสี’’ติ? ‘‘ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา เทสิตานิ [อ. นิ. ๔.๓๒; ที. นิ. ๓.๓๑๓] จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ, เตหาหํ [เตนาหํ (สี.)] อิมํ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหามิ. อหํ, ภนฺเต, ยํ ชานามิ – ‘อยํ ทาเนน สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ ทาเนน สงฺคณฺหามิ; ยํ ชานามิ – ‘อยํ เปยฺยวชฺเชน สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ เปยฺยวชฺเชน สงฺคณฺหามิ; ยํ ชานามิ – ‘อยํ อตฺถจริยาย สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ อตฺถจริยาย สงฺคณฺหามิ; ยํ ชานามิ – ‘อยํ สมานตฺตตาย สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ สมานตฺตตาย สงฺคณฺหามิ. สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม, ภนฺเต, กุเล โภคา. ทลิทฺทสฺส โข โน ตถา โสตพฺพํ มฺนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, หตฺถก! โยนิ โข ตฺยายํ, หตฺถก, มหตึ ปริสํ สงฺคเหตุํ. เย หิ เกจิ, หตฺถก, อตีตมทฺธานํ มหตึ ปริสํ สงฺคเหสุํ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ มหตึ ปริสํ สงฺคเหสุํ. เยปิ หิ เกจิ, หตฺถก, อนาคตมทฺธานํ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหิสฺสนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหิสฺสนฺติ. เยปิ หิ เกจิ, หตฺถก, เอตรหิ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหนฺตี’’ติ.

อถ โข หตฺถโก อาฬวโก ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต หตฺถเก อาฬวเก ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถ. กตเมหิ อฏฺหิ? สทฺโธ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา, ภิกฺขเว…เป… หิรีมา… โอตฺตปฺปี… พหุสฺสุโต… จาควา… ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; อปฺปิจฺโฉ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. มหานามสุตฺตํ

๒๕. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข มหานาโม สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, อุปาสโก โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ; เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ; เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตนาว สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ [สมาทาเปติ (?)]; อตฺตนาว สีลสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนาว จาคสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ จาคสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนาว ภิกฺขูนํ ทสฺสนกาโม โหติ, โน ปรํ ภิกฺขูนํ ทสฺสเน สมาทเปติ; อตฺตนาว สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ, โน ปรํ สทฺธมฺมสฺสวเน สมาทเปติ; อตฺตนาว สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ, โน ปรํ ธมฺมธารณาย สมาทเปติ; อตฺตนาว สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ, โน ปรํ อตฺถูปปริกฺขาย สมาทเปติ; อตฺตนาว อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตนา จ สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ จาคสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ภิกฺขูนํ ทสฺสนกาโม โหติ, ปรฺจ ภิกฺขูนํ ทสฺสเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ, ปรฺจ สทฺธมฺมสฺสวเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ, ปรฺจ ธมฺมธารณาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ, ปรฺจ อตฺถูปปริกฺขาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ชีวกสุตฺตํ

๒๖. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ ชีวกมฺพวเน. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, อุปาสโก โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ; เอตฺตาวตา โข ชีวก, อุปาสโก โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ; เอตฺตาวตา โข, ชีวก, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตนาว สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ…เป… อตฺตนาว อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตนา จ สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ จาคสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ภิกฺขูนํ ทสฺสนกาโม โหติ, ปรฺจ ภิกฺขูนํ ทสฺสเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ, ปรฺจ สทฺธมฺมสฺสวเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ, ปรฺจ ธมฺมธารณาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ, ปรฺจ อตฺถูปปริกฺขาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมพลสุตฺตํ

๒๗. ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ อฏฺ? รุณฺณพลา, ภิกฺขเว, ทารกา, โกธพลา มาตุคามา, อาวุธพลา โจรา, อิสฺสริยพลา ราชาโน, อุชฺฌตฺติพลา พาลา, นิชฺฌตฺติพลา ปณฺฑิตา, ปฏิสงฺขานพลา พหุสฺสุตา, ขนฺติพลา สมณพฺราหฺมณา – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ พลานี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยพลสุตฺตํ

๒๘. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, สาริปุตฺต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ? ‘‘อฏฺ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘กตมานิ อฏฺ? [อ. นิ. ๑๐.๙๐; ปฏิ. ม. ๒.๔๔] อิธ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺติภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺติภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา…เป… ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ โหนฺติ สุภาวิตานิ…เป… สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา…เป… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘อิมานิ โข, ภนฺเต, อฏฺ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อกฺขณสุตฺตํ

๒๙. ‘‘‘ขณกิจฺโจ โลโก, ขณกิจฺโจ โลโก’ติ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ, โน จ โข โส ชานาติ ขณํ วา อกฺขณํ วา. อฏฺิเม, ภิกฺขเว, อกฺขณา อสมยา พฺรหฺมจริยวาสาย. กตเม อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต; อยฺจ ปุคฺคโล นิรยํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต; อยฺจ ปุคฺคโล ติรจฺฉานโยนึ อุปปนฺโน โหติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล เปตฺติวิสยํ อุปปนฺโน โหติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล อฺตรํ ทีฆายุกํ เทวนิกายํ อุปปนฺโน โหติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ อวิฺาตาเรสุ มิลกฺเขสุ [มิลกฺขูสุ (สฺยา. ก.) ที. นิ. ๓.๓๕๘], ยตฺถ นตฺถิ คติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ…เป… ปฺจโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิโก วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมา ปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ทุปฺปฺโ ชโฬ เอฬมูโค อปฺปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อนุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. ธมฺโม จ น เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ปฺวา อชโฬ อเนฬมูโค ปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย. ‘อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อกฺขณา อสมยา พฺรหฺมจริยวาสาย’’’.

‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสาย. กตโม เอโก? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ปฺวา อชโฬ อเนฬมูโค ปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. อยํ, ภิกฺขเว, เอโกว ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติ.

‘‘มนุสฺสลาภํ [มนุสฺสโลกํ (สฺยา.)] ลทฺธาน, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต;

เย ขณํ นาธิคจฺฉนฺติ, อตินาเมนฺติ เต ขณํ.

‘‘พหู หิ อกฺขณา วุตฺตา, มคฺคสฺส อนฺตรายิกา;

กทาจิ กรหจิ โลเก, อุปฺปชฺชนฺติ ตถาคตา.

‘‘ตยิทํ [ตสฺสิทํ (ก.)] สมฺมุขีภูตํ, ยํ โลกสฺมึ สุทุลฺลภํ;

มนุสฺสปฏิลาโภ จ, สทฺธมฺมสฺส จ เทสนา;

อลํ วายมิตุํ ตตฺถ, อตฺตกาเมน [อตฺถกาเมน (สี. สฺยา. ก.)] ชนฺตุนา.

‘‘กถํ วิชฺา สทฺธมฺมํ, ขโณ เว [โว (สฺยา.)] มา อุปจฺจคา;

ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.

‘‘อิธ เจ นํ วิราเธติ, สทฺธมฺมสฺส นิยามตํ [นิยามิตํ (สฺยา.)];

วาณิโชว อตีตตฺโถ, จิรตฺตํ [จิรนฺตํ (ก.)] อนุตปิสฺสติ.

‘‘อวิชฺชานิวุโต โปโส, สทฺธมฺมํ อปราธิโก;

ชาติมรณสํสารํ, จิรํ ปจฺจนุโภสฺสติ.

‘‘เย จ ลทฺธา มนุสฺสตฺตํ, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต;

อกํสุ สตฺถุ วจนํ, กริสฺสนฺติ กโรนฺติ วา.

‘‘ขณํ ปจฺจวิทุํ โลเก, พฺรหฺมจริยํ อนุตฺตรํ;

เย มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ, ตถาคตปฺปเวทิตํ.

‘‘เย สํวรา จกฺขุมตา, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา;

เตสุ [เตสํ (ก.)] คุตฺโต สทา สโต, วิหเร อนวสฺสุโต.

‘‘สพฺเพ อนุสเย เฉตฺวา, มารเธยฺยปรานุเค;

เต เว ปารงฺคตา [ปารคตา (สี. สฺยา. ปี.)] โลเก, เย ปตฺตา อาสวกฺขย’’นฺติ. นวมํ;

๑๐. อนุรุทฺธมหาวิตกฺกสุตฺตํ

๓๐. เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุํสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อนุรุทฺโธ เจตีสุ วิหรติ ปาจีนวํสทาเย. อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺส; สนฺตุฏฺสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺส; ปวิวิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺส; อารทฺธวีริยสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺส; อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ [อุปฏฺิตสติสฺสายํ (สี. สฺยา. ปี.)] ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺส [มุฏฺสติสฺส (สี. สฺยา. ปี.)]; สมาหิตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺส; ปฺวโต อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’’ติ.

อถ โข ภควา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมวํ – ภคฺเคสุ สุํสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย อนฺตรหิโต เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. อายสฺมาปิ โข อนุรุทฺโธ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ

นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธ! สาธุ โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, (ยํ ตํ มหาปุริสวิตกฺกํ) [สตฺต มหาปุริสวิตกฺเก (สี. ปี.) ที. นิ. ๓.๓๕๘] วิตกฺเกสิ – ‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺส; สนฺตุฏฺสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺส; ปวิวิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺส; อารทฺธวีริยสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺส; อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺส; สมาหิตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺส; ปฺวโต อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’ติ. เตน หิ ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิมมฺปิ อฏฺมํ มหาปุริสวิตกฺกํ วิตกฺเกหิ – ‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’’’ติ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ, ยาวเทว [ยาวเท (สํ. นิ. ๒.๑๕๒)] อากงฺขิสฺสสิ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ, ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหริสฺสสิ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวทิสฺสสิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ, สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา นานารตฺตานํ ทุสฺสานํ ทุสฺสกรณฺฑโก ปูโร; เอวเมวํ เต ปํสุกูลจีวรํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา สาลีนํ โอทโน วิจิตกาฬโก อเนกสูโป อเนกพฺยฺชโน; เอวเมวํ เต ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา กูฏาคารํ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ นิวาตํ ผุสิตคฺคฬํ ปิหิตวาตปานํ; เอวเมวํ เต รุกฺขมูลเสนาสนํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา ปลฺลงฺโก โคนกตฺถโต ปฏิกตฺถโต ปฏลิกตฺถโต กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณ [กาทลิ… ปจฺจตฺถรโณ (สี.)] สอุตฺตรจฺฉโท อุภโตโลหิตกูปธาโน; เอวเมวํ เต ติณสนฺถารกสยนาสนํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา นานาเภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ; เอวเมวํ เต ปูติมุตฺตเภสชฺชํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส. เตน หิ ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อายติกมฺปิ วสฺสาวาสํ อิเธว เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย วิหเรยฺยาสี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย อนฺตรหิโต ภคฺเคสุ สุํสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย ปาตุรโหสีติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อฏฺ โข, ภิกฺขเว, มหาปุริสวิตกฺเก เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา? อปฺปิจฺฉสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺส; สนฺตุฏฺสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺส; ปวิวิตฺตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺส; อารทฺธวีริยสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺส; อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺส; สมาหิตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺส; ปฺวโต อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺส; นิปฺปปฺจารามสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’’.

‘‘‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปิจฺโฉ สมาโน ‘อปฺปิจฺโฉติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, สนฺตุฏฺโ สมาโน ‘สนฺตุฏฺโติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, ปวิวิตฺโต สมาโน ‘ปวิวิตฺโตติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, อารทฺธวีริโย สมาโน ‘อารทฺธวีริโยติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, อุปฏฺิตสฺสติ สมาโน ‘อุปฏฺิตสฺสตีติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, สมาหิโต สมาโน ‘สมาหิโตติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, ปฺวา สมาโน ‘ปฺวาติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, นิปฺปปฺจาราโม สมาโน ‘นิปฺปปฺจาราโมติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ. ‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สนฺตุฏฺสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. ‘สนฺตุฏฺสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปวิวิตฺตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต ภวนฺติ อุปสงฺกมิตาโร ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย ราชาโน ราชมหามตฺตา ติตฺถิยา ติตฺถิยสาวกา. ตตฺร ภิกฺขุ วิเวกนินฺเนน จิตฺเตน วิเวกโปเณน วิเวกปพฺภาเรน วิเวกฏฺเน เนกฺขมฺมาภิรเตน อฺทตฺถุ อุยฺโยชนิกปฏิสํยุตฺตํเยว กถํ กตฺตา [ปวตฺตา (ก.)] โหติ. ‘ปวิวิตฺตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อารทฺธวีริยสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ‘อารทฺธวีริยสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. ‘อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม, มุฏฺสฺสติสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สมาหิตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ‘สมาหิตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปฺวโต อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. ‘ปฺวโต อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปปฺจนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อายติกมฺปิ วสฺสาวาสํ ตตฺเถว เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย วิหาสิ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร จ ปนายสฺมา อนุรุทฺโธ อรหตํ อโหสีติ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อรหตฺตปฺปตฺโต ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –

[เถรคา. ๙๐๑-๙๐๓] ‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

มโนมเยน กาเยน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมิ.

‘‘ยถา เม อหุ สงฺกปฺโป, ตโต อุตฺตริ เทสยิ;

นิปฺปปฺจรโต พุทฺโธ, นิปฺปปฺจํ อเทสยิ.

‘‘ตสฺสาหํ ธมฺมมฺาย, วิหาสึ สาสเน รโต;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. ทสมํ;

คหปติวคฺโค ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว อุคฺคา ทฺเว จ หตฺถกา, มหานาเมน ชีวโก;

ทฺเว พลา อกฺขณา วุตฺตา, อนุรุทฺเธน เต ทสาติ.

๔. ทานวคฺโค

๑. ปมทานสุตฺตํ

๓๑. [ที. นิ. ๓.๓๓๖] ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, ทานานิ. กตมานิ อฏฺ? อาสชฺช ทานํ เทติ, ภยา ทานํ เทติ, ‘อทาสิ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘ทสฺสติ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ; นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อิมํ เม ทานํ ททโต กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’ติ ทานํ เทติ, จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ทานานี’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยทานสุตฺตํ

๓๒.

[กถา. ๔๘๐] ‘‘สทฺธา หิริยํ กุสลฺจ ทานํ,

ธมฺมา เอเต สปฺปุริสานุยาตา;

เอตฺหิ มคฺคํ ทิวิยํ วทนฺติ,

เอเตน หิ คจฺฉติ เทวโลก’’นฺติ. ทุติยํ;

๓. ทานวตฺถุสุตฺตํ

๓๓. ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, ทานวตฺถูนิ. กตมานิ อฏฺ? ฉนฺทา ทานํ เทติ, โทสา ทานํ เทติ, โมหา ทานํ เทติ, ภยา ทานํ เทติ, ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ, นารหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อิมาหํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ, ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ, จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ทานวตฺถูนี’’ติ. ตติยํ.

๔. เขตฺตสุตฺตํ

๓๔. ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหสฺสาทํ น ผาติเสยฺยํ [น ผาติเสยฺยนฺติ (สี. สฺยา. ก.), น ผาติเสยฺยา (กตฺถจิ)]. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต? อิธ, ภิกฺขเว, เขตฺตํ อุนฺนามนินฺนามิ จ โหติ, ปาสาณสกฺขริกฺจ โหติ, อูสรฺจ โหติ, น จ คมฺภีรสิตํ โหติ, น อายสมฺปนฺนํ โหติ, น อปายสมฺปนฺนํ โหติ, น มาติกาสมฺปนฺนํ โหติ, น มริยาทสมฺปนฺนํ โหติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหสฺสาทํ น ผาติเสยฺยํ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ น มหาชุติกํ น มหาวิปฺผารํ. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ? อิธ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา มิจฺฉาทิฏฺิกา โหนฺติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปา, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺตา, มิจฺฉาอาชีวา, มิจฺฉาวายามา, มิจฺฉาสติโน, มิจฺฉาสมาธิโน. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ น มหาชุติกํ น มหาวิปฺผารํ.

‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ มหปฺผลํ โหติ มหสฺสาทํ ผาติเสยฺยํ. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต? อิธ, ภิกฺขเว, เขตฺตํ อนุนฺนามานินฺนามิ จ โหติ, อปาสาณสกฺขริกฺจ โหติ, อนูสรฺจ โหติ, คมฺภีรสิตํ โหติ, อายสมฺปนฺนํ โหติ, อปายสมฺปนฺนํ โหติ, มาติกาสมฺปนฺนํ โหติ, มริยาทสมฺปนฺนํ โหติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ มหปฺผลํ โหติ มหสฺสาทํ ผาติเสยฺยํ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ มหาชุติกํ มหาวิปฺผารํ. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ? อิธ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา สมฺมาทิฏฺิกา โหนฺติ, สมฺมาสงฺกปฺปา, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺตา, สมฺมาอาชีวา, สมฺมาวายามา, สมฺมาสติโน, สมฺมาสมาธิโน. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ มหาชุติกํ มหาวิปฺผาร’’นฺติ.

‘‘ยถาปิ เขตฺเต สมฺปนฺเน, ปวุตฺตา พีชสมฺปทา;

เทเว สมฺปาทยนฺตมฺหิ [สฺชายนฺตมฺหิ (ก.)], โหติ ธฺสฺส สมฺปทา.

‘‘อนีติสมฺปทา โหติ, วิรูฬฺหี ภวติ สมฺปทา;

เวปุลฺลสมฺปทา โหติ, ผลํ เว โหติ สมฺปทา.

‘‘เอวํ สมฺปนฺนสีเลสุ, ทินฺนา โภชนสมฺปทา;

สมฺปทานํ อุปเนติ, สมฺปนฺนํ หิสฺส ตํ กตํ.

‘‘ตสฺมา สมฺปทมากงฺขี, สมฺปนฺนตฺถูธ ปุคฺคโล;

สมฺปนฺนปฺเ เสเวถ, เอวํ อิชฺฌนฺติ สมฺปทา.

‘‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺเน, ลทฺธา จิตฺตสฺส สมฺปทํ;

กโรติ กมฺมสมฺปทํ, ลภติ จตฺถสมฺปทํ.

‘‘โลกํ ตฺวา ยถาภูตํ, ปปฺปุยฺย ทิฏฺิสมฺปทํ;

มคฺคสมฺปทมาคมฺม, ยาติ สมฺปนฺนมานโส.

‘‘โอธุนิตฺวา มลํ สพฺพํ, ปตฺวา นิพฺพานสมฺปทํ;

มุจฺจติ สพฺพทุกฺเขหิ, สา โหติ สพฺพสมฺปทา’’ติ. จตุตฺถํ;

๕. ทานูปปตฺติสุตฺตํ

๓๕. [ที. นิ. ๓.๓๓๗] ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, ทานูปปตฺติโย. กตมา อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ [ปจฺจาสึสติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. โส ปสฺสติ ขตฺติยมหาสาเล วา พฺราหฺมณมหาสาเล วา คหปติมหาสาเล วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิเต สมงฺคีภูเต ปริจารยมาเน. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ [หีเนธิมุตฺตํ (สฺยา. ปี.) วิมุตฺตนฺติ อธิมุตฺตํ, วิมุตฺตนฺติ วา วิสฺสฏฺํ (ฏีกาสํวณฺณนา)], อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ, อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ตาวตึสา เทวา…เป… ยามา เทวา… ตุสิตา เทวา… นิมฺมานรตี เทวา… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ, อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘พฺรหฺมกายิกา เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ, อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส; วีตราคสฺส, โน สราคสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วีตราคตฺตา. อิมา โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ทานูปปตฺติโย’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ปุฺกิริยวตฺถุสุตฺตํ

๓๖. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปุฺกิริยวตฺถูนิ. กตมานิ ตีณิ? ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ [ปุฺกิริยวตฺถุํ (สี. ปี.) เอวมุปริปิ], สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ. อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ ปริตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ ปริตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ [ปุฺกิริยวตฺถุ (สฺยา.)] นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสโทภคฺยํ อุปปชฺชติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ มตฺตโส กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ มตฺตโส กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสโสภคฺยํ อุปปชฺชติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาราชาโน ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, จาตุมหาราชิเก เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหนฺติ – ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน, ทิพฺเพน ยเสน, ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน, ทิพฺเพหิ รูเปหิ, ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ, ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ, ทิพฺเพหิ รเสหิ, ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา ตาวตึเส เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สุยาโม เทวปุตฺโต ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ยาเม เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สนฺตุสิโต เทวปุตฺโต ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ตุสิเต เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สุนิมฺมิโต เทวปุตฺโต ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, นิมฺมานรตีเทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, วสวตฺตี เทวปุตฺโต ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีเทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน, ทิพฺเพน ยเสน, ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน, ทิพฺเพหิ รูเปหิ, ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ, ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ, ทิพฺเพหิ รเสหิ, ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปุฺกิริยวตฺถูนี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สปฺปุริสทานสุตฺตํ

๓๗. ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสทานานิ. กตมานิ อฏฺ? สุจึ เทติ, ปณีตํ เทติ, กาเลน เทติ, กปฺปิยํ เทติ, วิเจยฺย เทติ, อภิณฺหํ เทติ, ททํ จิตฺตํ ปสาเทติ, ทตฺวา อตฺตมโน โหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ สปฺปุริสทานานี’’ติ.

‘‘สุจึ ปณีตํ กาเลน, กปฺปิยํ ปานโภชนํ;

อภิณฺหํ ททาติ ทานํ, สุเขตฺเตสุ [สุเขตฺเต (สี. ปี.)] พฺรหฺมจาริสุ.

‘‘เนว [น จ (สี. ปี.)] วิปฺปฏิสาริสฺส, จชิตฺวา อามิสํ พหุํ;

เอวํ ทินฺนานิ ทานานิ, วณฺณยนฺติ วิปสฺสิโน.

‘‘เอวํ ยชิตฺวา เมธาวี, สทฺโธ มุตฺเตน เจตสา;

อพฺยาพชฺฌํ [อพฺยาปชฺฌํ (ก.) อ. นิ. ๔.๔๐; ๖.๓๗] สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ. สตฺตมํ;

๘. สปฺปุริสสุตฺตํ

๓๘. ‘‘สปฺปุริโส, ภิกฺขเว, กุเล ชายมาโน พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ – มาตาปิตูนํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุตฺตทารสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ทาสกมฺมกรโปริสสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, มิตฺตามจฺจานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุพฺพเปตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, รฺโ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, เทวตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาเมโฆ สพฺพสสฺสานิ สมฺปาเทนฺโต พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย [หิตาย…เป… (สฺยา. ก.)] โหติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส กุเล ชายมาโน พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ – มาตาปิตูนํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุตฺตทารสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ทาสกมฺมกรโปริสสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, มิตฺตามจฺจานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุพฺพเปตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, รฺโ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, เทวตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหตี’’ติ.

‘‘พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. ปี.)] วต อตฺถาย, สปฺปฺโ ฆรมาวสํ;

มาตรํ ปิตรํ ปุพฺเพ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.

‘‘ปูเชติ สหธมฺเมน, ปุพฺเพกตมนุสฺสรํ;

อนาคาเร ปพฺพชิเต, อปเจ พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา.)].

‘‘นิวิฏฺสทฺโธ ปูเชติ, ตฺวา ธมฺเม จ เปสโล [เปสเล (ก.)];

รฺโ หิโต เทวหิโต, าตีนํ สขินํ หิโต.

‘‘สพฺเพสํ [สพฺเพสุ (ก.)] โส [ส (สฺยา. ปี. ก.)] หิโต โหติ, สทฺธมฺเม สุปฺปติฏฺิโต;

วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ, ส โลกํ ภชเต สิว’’นฺติ. อฏฺมํ;

๙. อภิสนฺทสุตฺตํ

๓๙. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, ปุฺาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. กตเม อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปุฺาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุฺาภิสนฺโท…เป… สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ปุฺาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.

[กถา. ๔๘๐] ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, ทานานิ มหาทานานิ อคฺคฺานิ รตฺตฺานิ วํสฺานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกิยนฺติ น สํกิยิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺานิ [อปฺปติกุฏฺานิ (สี.)] สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. กตมานิ ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ. ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ เทติ, อเวรํ เทติ, อพฺยาพชฺฌํ [อพฺยาปชฺฌํ (ก.) เอวมุปริปิ] เทติ. อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ ทตฺวา อเวรํ ทตฺวา อพฺยาพชฺฌํ ทตฺวา อปริมาณสฺส อภยสฺส อเวรสฺส อพฺยาพชฺฌสฺส ภาคี โหติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ ทานํ มหาทานํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกิยติ น สํกิยิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ปุฺาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ…เป… มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ เทติ อเวรํ เทติ อพฺยาพชฺฌํ เทติ. อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ ทตฺวา อเวรํ ทตฺวา อพฺยาพชฺฌํ ทตฺวา, อปริมาณสฺส อภยสฺส อเวรสฺส อพฺยาพชฺฌสฺส ภาคี โหติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ ทานํ มหาทานํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกิยติ น สํกิยิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อยํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺโม ปุฺาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุฺาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทุจฺจริตวิปากสุตฺตํ

๔๐. ‘‘ปาณาติปาโต, ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส [สพฺพลหุโสติ สพฺพลหุโก (สฺยา. อฏฺ.)] ปาณาติปาตสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อปฺปายุกสํวตฺตนิโก โหติ.

‘‘อทินฺนาทานํ, ภิกฺขเว, อาเสวิตํ ภาวิตํ พหุลีกตํ นิรยสํวตฺตนิกํ ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกํ เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกํ. โย สพฺพลหุโส อทินฺนาทานสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส โภคพฺยสนสํวตฺตนิโก โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจาโร, ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส กาเมสุมิจฺฉาจารสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส สปตฺตเวรสํวตฺตนิโก โหติ.

‘‘มุสาวาโท, ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส มุสาวาทสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อภูตพฺภกฺขานสํวตฺตนิโก โหติ.

‘‘ปิสุณา, ภิกฺขเว, วาจา อาเสวิตา ภาวิตา พหุลีกตา นิรยสํวตฺตนิกา ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกา เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกา. โย สพฺพลหุโส ปิสุณาย วาจาย วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส มิตฺเตหิ เภทนสํวตฺตนิโก โหติ.

‘‘ผรุสา, ภิกฺขเว, วาจา อาเสวิตา ภาวิตา พหุลีกตา นิรยสํวตฺตนิกา ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกา เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกา. โย สพฺพลหุโส ผรุสาย วาจาย วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อมนาปสทฺทสํวตฺตนิโก โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาโป, ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส สมฺผปฺปลาปสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อนาเทยฺยวาจาสํวตฺตนิโก โหติ.

‘‘สุราเมรยปานํ, ภิกฺขเว, อาเสวิตํ ภาวิตํ พหุลีกตํ นิรยสํวตฺตนิกํ ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกํ เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกํ. โย สพฺพลหุโส สุราเมรยปานสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อุมฺมตฺตกสํวตฺตนิโก โหตี’’ติ. ทสมํ.

ทานวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว ทานานิ วตฺถุฺจ, เขตฺตํ ทานูปปตฺติโย;

กิริยํ ทฺเว สปฺปุริสา, อภิสนฺโท วิปาโก จาติ.

๕. อุโปสถวคฺโค

๑. สงฺขิตฺตูโปสถสุตฺตํ

๔๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต, ภิกฺขเว, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน [อิมินาปิ องฺเคน (สี. ปี.) อ. นิ. ๓.๗๑] อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ทุติเยน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจาริโน อาราจาริโน วิรตา เมถุนา คามธมฺมา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี อาราจารี [อนาจารี (ก.)] วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ตติเยน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรตา สจฺจวาทิโน สจฺจสนฺธา เถตา ปจฺจยิกา อวิสํวาทโก โลกสฺส. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา จตุตฺเถน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปฺจเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต เอกภตฺติกา รตฺตูปรตา วิรตา วิกาลโภชนา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ เอกภตฺติโก รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ฉฏฺเน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานํ ปหาย นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรตา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานํ ปหาย นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา สตฺตเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร’’ติ. ปมํ.

๒. วิตฺถตูโปสถสุตฺตํ

๔๒. ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต, ภิกฺขเว, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ…เป….

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร.

‘‘กีวมหปฺผโล โหติ กีวมหานิสํโส กีวมหาชุติโก กีวมหาวิปฺผาโร? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, โย อิเมสํ โสฬสนฺนํ มหาชนปทานํ ปหูตรตฺตรตนานํ [ปหูตสตฺตรตนานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. ๓.๗๑ ปาฬิยา ฏีกายํ ทสฺสิตปาฬิเยว. ตทฏฺกถาปิ ปสฺสิตพฺพา] อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรยฺย, เสยฺยถิทํ – องฺคานํ มคธานํ กาสีนํ โกสลานํ วชฺชีนํ มลฺลานํ เจตีนํ วงฺคานํ กุรูนํ ปฺจาลานํ มจฺฉานํ [มชฺชานํ (ก.)] สูรเสนานํ อสฺสกานํ อวนฺตีนํ คนฺธารานํ กมฺโพชานํ, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส อุโปสถสฺส เอตํ [เอกํ (ก.)] กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. ตํ กิสฺส เหตุ? กปณํ, ภิกฺขเว, มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว [รตฺติทิโว (ก.)]. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจ วสฺสสตานิ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ วสฺสสตานิ, ตาวตึสานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพํ วสฺสสหสฺสํ ตาวตึสานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ, ยามานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ทฺเว วสฺสสหสฺสานิ ยามานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ จตฺตาริ วสฺสสตานิ, ตุสิตานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ จตฺตาริ วสฺสสหสฺสานิ ตุสิตานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ อฏฺ วสฺสสตานิ, นิมฺมานรตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ อฏฺ วสฺสสหสฺสานิ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ โสฬส วสฺสสตานิ, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธายา’’’ติ.

‘‘ปาณํ น หฺเ [หาเน (สี.), เหน (ก.) อ. นิ. ๓.๗๑] น จทินฺนมาทิเย,

มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา,

รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนํ.

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร [คนฺธมาธเร (ก.)],

มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,

พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา,

โอภาสยํ อนุปริยนฺติ ยาวตา;

ตโมนุทา เต ปน อนฺตลิกฺขคา,

นเภ ปภาสนฺติ ทิสาวิโรจนา.

‘‘เอตสฺมึ ยํ วิชฺชติ อนฺตเร ธนํ,

มุตฺตา มณิ เวฬุริยฺจ ภทฺทกํ;

สิงฺคีสุวณฺณํ อถ วาปิ กฺจนํ,

ยํ ชาตรูปํ หฏกนฺติ วุจฺจติ.

‘‘อฏฺงฺคุเปตสฺส อุโปสถสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;

จนฺทปฺปภา ตารคณา จ สพฺเพ.

‘‘ตสฺมา หิ นารี จ นโร จ สีลวา,

อฏฺงฺคุเปตํ อุปวสฺสุโปสถํ;

ปุฺานิ กตฺวาน สุขุทฺรยานิ,

อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. ทุติยํ;

๓. วิสาขาสุตฺตํ

๔๓. [อ. นิ. ๓.๗๑] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต โข, วิสาเข, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, วิสาเข, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’’’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ…เป….

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, วิสาเข, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร.

‘‘กีวมหปฺผโล โหติ, กีวมหานิสํโส, กีวมหาชุติโก, กีวมหาวิปฺผาโร? เสยฺยถาปิ, วิสาเข, โย อิเมสํ โสฬสนฺนํ มหาชนปทานํ ปหูตรตฺตรตนานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรยฺย, เสยฺยถิทํ – องฺคานํ มคธานํ กาสีนํ โกสลานํ วชฺชีนํ มลฺลานํ เจตีนํ วงฺคานํ กุรูนํ ปฺจาลานํ มจฺฉานํ สูรเสนานํ อสฺสกานํ อวนฺตีนํ คนฺธารานํ กมฺโพชานํ, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส อุโปสถสฺส เอตํ กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. ตํ กิสฺส เหตุ? กปณํ, วิสาเข, มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย.

‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจ วสฺสสตานิ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยํ, วิสาเข, มานุสกํ วสฺสสตํ, ตาวตึสานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน วสฺสสหสฺสํ ตาวตึสานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ…เป… จตฺตาริ วสฺสสตานิ…เป… อฏฺ วสฺสสตานิ…เป… โสฬส วสฺสสตานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธายา’’’ติ.

‘‘ปาณํ น หฺเ น จทินฺนมาทิเย,

มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา,

รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนํ.

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร,

มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,

พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา,

โอภาสยํ อนุปริยนฺติ ยาวตา;

ตโมนุทา เต ปน อนฺตลิกฺขคา,

นเภ ปภาสนฺติ ทิสาวิโรจนา.

‘‘เอตสฺมึ ยํ วิชฺชติ อนฺตเร ธนํ,

มุตฺตา มณิ เวฬุริยฺจ ภทฺทกํ;

สิงฺคีสุวณฺณํ อถ วาปิ กฺจนํ,

ยํ ชาตรูปํ หฏกนฺติ วุจฺจติ.

‘‘อฏฺงฺคุเปตสฺส อุโปสถสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;

จนฺทปฺปภา ตารคณา จ สพฺเพ.

‘‘ตสฺมา หิ นารี จ นโร จ สีลวา,

อฏฺงฺคุเปตํ อุปวสฺสุโปสถํ;

ปุฺานิ กตฺวาน สุขุทฺรยานิ,

อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. ตติยํ;

๔. วาเสฏฺสุตฺตํ

๔๔. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข วาเสฏฺโ อุปาสโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วาเสฏฺํ อุปาสกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต, วาเสฏฺ, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ…เป… อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต วาเสฏฺโ อุปาสโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปิยา เม, ภนฺเต, าติสาโลหิตา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, ปิยานมฺปิ เม อสฺส าติสาโลหิตานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, ขตฺติยา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, พฺราหฺมณา…เป… เวสฺสา … สุทฺทา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

‘‘เอวเมตํ, วาเสฏฺ, เอวเมตํ, วาเสฏฺ! สพฺเพ เจปิ, วาเสฏฺ, ขตฺติยา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณา…เป… เวสฺสา… สุทฺทา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สเทวโก เจปิ, วาเสฏฺ, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ [อุปวเสยฺย (?)], สเทวกสฺสปิสฺส [สเทวกสฺส (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๔.๑๙๓; ม. นิ. ๓.๖๔ ปสฺสิตพฺพํ] โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. อิเม เจปิ, วาเสฏฺ, มหาสาลา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, อิเมสมฺปิสฺส มหาสาลานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ( ) [(สเจ เจเตยฺยุํ) กตฺถจิ อตฺถิ. อ. นิ. ๔.๑๙๓ ปสฺสิตพฺพํ]. โก ปน วาโท มนุสฺสภูตสฺสา’’ติ! จตุตฺถํ.

๕. โพชฺฌสุตฺตํ

๔๕. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข โพชฺฌา อุปาสิกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โพชฺฌํ อุปาสิกํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต, โพชฺเฌ, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, โพชฺเฌ, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ, โพชฺเฌ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ…เป….

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, โพชฺเฌ, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร.

‘‘กีวมหปฺผโล โหติ, กีวมหานิสํโส, กีวมหาชุติโก, กีวมหาวิปฺผาโร? เสยฺยถาปิ, โพชฺเฌ, โย อิเมสํ โสฬสนฺนํ มหาชนปทานํ ปหูตรตฺตรตนานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรยฺย, เสยฺยถิทํ – องฺคานํ มคธานํ กาสีนํ โกสลานํ วชฺชีนํ มลฺลานํ เจตีนํ วงฺคานํ กุรูนํ ปฺจาลานํ มจฺฉานํ สูรเสนานํ อสฺสกานํ อวนฺตีนํ คนฺธารานํ กมฺโพชานํ, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส อุโปสถสฺส เอตํ กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. ตํ กิสฺส เหตุ? กปณํ, โพชฺเฌ, มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย.

‘‘ยานิ, โพชฺเฌ, มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจ วสฺสสตานิ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยํ, โพชฺเฌ, มานุสกํ วสฺสสตํ…เป… ตานิ, โพชฺเฌ, มานุสกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ…เป… จตฺตาริ วสฺสสตานิ…เป… อฏฺ วสฺสสตานิ…เป… โสฬส วสฺสสตานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธายา’’’ติ.

‘‘ปาณํ น หฺเ น จทินฺนมาทิเย,

มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา,

รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนํ.

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร,

มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,

พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา,

โอภาสยํ อนุปริยนฺติ ยาวตา;

ตโมนุทา เต ปน อนฺตลิกฺขคา,

นเภ ปภาสนฺติ ทิสาวิโรจนา.

‘‘เอตสฺมึ ยํ วิชฺชติ อนฺตเร ธนํ,

มุตฺตา มณิ เวฬุริยฺจ ภทฺทกํ;

สิงฺคีสุวณฺณํ อถ วาปิ กฺจนํ,

ยํ ชาตรูปํ หฏกนฺติ วุจฺจติ.

‘‘อฏฺงฺคุเปตสฺส อุโปสถสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;

จนฺทปฺปภา ตารคณา จ สพฺเพ.

‘‘ตสฺมา หิ นารี จ นโร จ สีลวา,

อฏฺงฺคุเปตํ อุปวสฺสุโปสถํ;

ปุฺานิ กตฺวาน สุขุทฺรยานิ,

อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. ปฺจมํ;

๖. อนุรุทฺธสุตฺตํ

๔๖. เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทิวาวิหารํ คโต โหติ ปฏิสลฺลีโน. อถ โข สมฺพหุลา มนาปกายิกา เทวตา เยนายสฺมา อนุรุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตา เทวตา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, ยาทิสกํ วณฺณํ อากงฺขาม ตาทิสกํ วณฺณํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สรํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สรํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สุขํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สุขํ านโส ปฏิลภาม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตมา’’ติ.

อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว นีลา อสฺสุ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา’’ติ. อถ โข ตา เทวตา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส จิตฺตมฺาย สพฺพาว นีลา อเหสุํ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา.

อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว ปีตา อสฺสุ…เป… สพฺพาว โลหิตกา อสฺสุ… สพฺพาว โอทาตา อสฺสุ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา’’ติ. อถ โข ตา เทวตา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส จิตฺตมฺาย สพฺพาว โอทาตา อเหสุํ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา.

อถ โข ตา เทวตา เอกา จ [โก (สี.), เอกาว (สฺยา. ปี.)] คายิ เอกา จ [เอกา ปน (สี.), เอกาว (สฺยา. ปี.)] นจฺจิ เอกา จ [เอกา (สี.), เอกาว (สฺยา. ปี.)] อจฺฉรํ วาเทสิ. เสยฺยถาปิ นาม ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส [ตุริยสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] สุวินีตสฺส สุปฺปฏิปตาฬิตสฺส กุสเลหิ สุสมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ; เอวเมวํ ตาสํ เทวตานํ อลงฺการานํ สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปิ.

อถ โข ตา เทวตา ‘‘น ขฺวยฺโย อนุรุทฺโธ สาทิยตี’’ติ [สาทยตีติ (สทฺทนีติธาตุมาลา)] ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ทิวาวิหารํ คโต โหมิ ปฏิสลฺลีโน. อถ โข, ภนฺเต, สมฺพหุลา มนาปกายิกา เทวตา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภนฺเต, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, ยาทิสกํ วณฺณํ อากงฺขาม ตาทิสกํ วณฺณํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สรํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สรํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สุขํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สุขํ านโส ปฏิลภาม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตมา’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว นีลา อสฺสุ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา’ติ. อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา มม จิตฺตมฺาย สพฺพาว นีลา อเหสุํ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว ปีตา อสฺสุ…เป… สพฺพาว โลหิตกา อสฺสุ…เป… สพฺพาว โอทาตา อสฺสุ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา’ติ. อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา มม จิตฺตมฺาย สพฺพาว โอทาตา อเหสุํ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา.

‘‘อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา เอกา จ คายิ เอกา จ นจฺจิ เอกา จ อจฺฉรํ วาเทสิ. เสยฺยถาปิ นาม ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิปตาฬิตสฺส กุสเลหิ สุสมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ; เอวเมวํ ตาสํ เทวตานํ อลงฺการานํ สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปึ.

‘‘อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา ‘น ขฺวยฺโย อนุรุทฺโธ สาทิยตี’ติ ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อฏฺหิ โข, อนุรุทฺธ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, อนุรุทฺธ, มาตุคาโม ยสฺส มาตาปิตโร ภตฺตุโน เทนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย ตสฺส โหติ ปุพฺพุฏฺายินี ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี.

‘‘เย เต ภตฺตุ ครุโน [คุรุโน (ก.)] โหนฺติ – มาตาติ วา ปิตาติ วา สมณพฺราหฺมณาติ วา – เต สกฺกโรติ, ครุํ กโรติ [ครุกโรติ (สี. สฺยา. ปี.)], มาเนติ, ปูเชติ, อพฺภาคเต จ อาสโนทเกน ปฏิปูเชติ.

‘‘เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา – อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา – ตตฺถ ทกฺขา โหติ อนลสา ตตฺรุปายาย [ตตฺรูปายาย (สี.), อ. นิ. ๔.๓๕; ๑๑.๑๔] วีมํสาย สมนฺนาคตา อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ.

‘‘โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน – ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา – เตสํ กตฺจ กตโต ชานาติ อกตฺจ อกตโต ชานาติ, คิลานกานฺจ พลาพลํ ชานาติ ขาทนียํ โภชนียฺจสฺส ปจฺจํเสน [ปจฺจเยน (สฺยา.), ปจฺจตฺตํเสน (ก.) อ. นิ. ๕.๓๓] สํวิภชติ.

‘‘ยํ ภตฺตุ อาหรติ ธนํ วา ธฺํ วา ชาตรูปํ วา ตํ อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ, ตตฺถ จ โหติ อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกา.

‘‘อุปาสิกา โข ปน โหติ พุทฺธํ สรณํ คตา ธมฺมํ สรณํ คตา สงฺฆํ สรณํ คตา.

‘‘สีลวตี โข ปน โหติ – ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา, มุสาวาทา ปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา.

‘‘จาควตี โข ปน โหติ. วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา [มุตฺตจาคี (สฺยา.)] ปยตปาณินี [ปยตปาณิ (สี.), ปยตปาณี (สฺยา. ปี. ก.)] โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา.

‘‘อิเมหิ โข, อนุรุทฺธ, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

ตํ สพฺพกามทํ [ตํ สพฺพกามหรํ (สี. สฺยา. ปี.) สพฺพกามหรํ (อ. นิ. ๕.๓๓] โปสํ, ภตฺตารํ นาติมฺติ.

‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาวาเทน โรสเย;

ภตฺตุ จ ครุโน สพฺเพ, ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา.

‘‘อุฏฺาหิกา [อุฏฺายิกา (ก.)] อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘ยา เอวํ วตฺตติ นารี, ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา;

มนาปา นาม เต [มนาปกายิกา (สี. ก.)] เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ทุติยวิสาขาสุตฺตํ

๔๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺหิ โข, วิสาเข, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ยสฺส มาตาปิตโร ภตฺตุโน เทนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย ตสฺส โหติ ปุพฺพุฏฺายินี ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี…เป….

‘‘จาควตี โข ปน โหติ. วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา ปยตปาณินี โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา. อิเมหิ โข, วิสาเข, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

ตํ สพฺพกามทํ โปสํ, ภตฺตารํ นาติมฺติ.

‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาวาเทน โรสเย;

ภตฺตุ จ ครุโน สพฺเพ, ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา.

‘‘อุฏฺาหิกา อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘ยา เอวํ วตฺตติ นารี, ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา;

มนาปา นาม เต [มนาปกายิกา (สี. ก.)] เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติ. สตฺตมํ;

๘. นกุลมาตาสุตฺตํ

๔๘. เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุํสุมารคิเร [สุํสุมารคิเร (สี. สฺยา. ปี.)] เภสกฬาวเน มิคทาเย. อถ โข นกุลมาตา คหปตานี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา…เป…. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นกุลมาตรํ คหปตานึ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺหิ โข, นกุลมาเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, นกุลมาเต, มาตุคาโม ยสฺส มาตาปิตโร ภตฺตุโน เทนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย ตสฺส โหติ ปุพฺพุฏฺายินี ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี.

‘‘เย เต ภตฺตุ ครุโน โหนฺติ – มาตาติ วา ปิตาติ วา สมณพฺราหฺมณาติ วา – เต สกฺกโรติ ครุํ กโรติ มาเนติ ปูเชติ, อพฺภาคเต จ อาสโนทเกน ปฏิปูเชติ.

‘‘เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา – อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา – ตตฺถ ทกฺขา โหติ อนลสา ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคตา อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ.

‘‘โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน – ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา – เตสํ กตฺจ กตโต ชานาติ อกตฺจ อกตโต ชานาติ, คิลานกานฺจ พลาพลํ ชานาติ ขาทนียํ โภชนียฺจสฺส ปจฺจํเสน สํวิภชติ.

‘‘ยํ ภตฺตา อาหรติ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ตํ อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ, ตตฺถ จ โหติ อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกา.

‘‘อุปาสิกา โข ปน โหติ พุทฺธํ สรณํ คตา ธมฺมํ สรณํ คตา สงฺฆํ สรณํ คตา.

‘‘สีลวตี โข ปน โหติ – ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา…เป….

‘‘จาควตี โข ปน โหติ วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา ปยตปาณินี โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา.

‘‘อิเมหิ โข, นกุลมาเต, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

ตํ สพฺพกามทํ โปสํ, ภตฺตารํ นาติมฺติ.

‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาวาเทน โรสเย;

ภตฺตุ จ ครุโน สพฺเพ, ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา.

‘‘อุฏฺาหิกา อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘ยา เอวํ วตฺตติ นารี, ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา;

มนาปา นาม เต [มนาปกายิกา (สี.)] เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติ. อฏฺมํ;

๙. ปมอิธโลกิกสุตฺตํ

๔๙. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป…. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘จตูหิ โข, วิสาเข, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ, สงฺคหิตปริชโน, ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา – อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา – ตตฺถ ทกฺขา โหติ อนลสา ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคตา อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน – ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา – เตสํ กตฺจ กตโต ชานาติ อกตฺจ อกตโต ชานาติ, คิลานกานฺจ พลาพลํ ชานาติ ขาทนียํ โภชนียฺจสฺส ปจฺจํเสน สํวิภชติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ยํ ภตฺตุ อมนาปสงฺขาตํ ตํ ชีวิตเหตุปิ น อชฺฌาจรติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ยํ ภตฺตา อาหรติ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ตํ อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ, ตตฺถ จ โหติ อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกา. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ. อิเมหิ โข, วิสาเข, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ.

‘‘จตูหิ โข, วิสาเข, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปนฺโน โหติ, จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา ปยตปาณินี โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ปฺวา โหติ…เป… เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ. อิเมหิ โข, วิสาเข, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหตี’’ติ.

‘‘สุสํวิหิตกมฺมนฺตา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, วทฺู วีตมจฺฉรา;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, ยสฺสา วิชฺชนฺติ นาริยา;

ตมฺปิ สีลวตึ อาหุ, ธมฺมฏฺํ สจฺจวาทินึ.

‘‘โสฬสาการสมฺปนฺนา, อฏฺงฺคสุสมาคตา;

ตาทิสี สีลวตี อุปาสิกา;

อุปปชฺชติ เทวโลกํ มนาป’’นฺติ. นวมํ;

๑๐. ทุติยอิธโลกิกสุตฺตํ

๕๐. ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ, สงฺคหิตปริชโน, ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ยํ ภตฺตุ อมนาปสงฺขาตํ ตํ ชีวิตเหตุปิ น อชฺฌาจรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ยํ ภตฺตา อาหรติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ.

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปนฺโน โหติ, จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺโธ โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปฺวา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหตี’’ติ.

‘‘สุสํวิหิตกมฺมนฺตา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, วทฺู วีตมจฺฉรา;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, ยสฺสา วิชฺชนฺติ นาริยา;

ตมฺปิ สีลวตึ อาหุ, ธมฺมฏฺํ สจฺจวาทินึ.

‘‘โสฬสาการสมฺปนฺนา, อฏฺงฺคสุสมาคตา;

ตาทิสี สีลวตี อุปาสิกา, อุปปชฺชติ เทวโลกํ มนาป’’นฺติ. ทสมํ;

อุโปสถวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

สํขิตฺเต วิตฺถเต วิสาเข, วาเสฏฺโ โพชฺฌาย ปฺจมํ;

อนุรุทฺธํ ปุน วิสาเข, นกุลา อิธโลกิกา ทฺเวติ.

ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. โคตมีวคฺโค

๑. โคตมีสุตฺตํ

๕๑. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข มหาปชาปตี [มหาปชาปติ (สฺยา.) จูฬว. ๔๐๒] โคตมี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข มหาปชาปตี โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ลเภยฺย มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. ‘‘อลํ, โคตมิ! มา เต รุจฺจิ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชา’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข มหาปชาปตี โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ลเภยฺย มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. ‘‘อลํ, โคตมิ! มา เต รุจฺจิ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชา’’ติ. ‘‘ตติยมฺปิ โข มหาปชาปตี โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ ภนฺเต, ลเภยฺย มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. ‘‘อลํ, โคตมิ! มา เต รุจฺจิ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชา’’ติ.

อถ โข มหาปชาปตี โคตมี ‘‘น ภควา อนุชานาติ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข ภควา กปิลวตฺถุสฺมึ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข มหาปชาปตี โคตมี เกเส เฉทาเปตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา สมฺพหุลาหิ สากิยานีหิ สทฺธึ เยน เวสาลี เตน ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน เยน เวสาลี มหาวนํ กูฏาคารสาลา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข มหาปชาปตี โคตมี สูเนหิ ปาเทหิ รโชกิณฺเณน คตฺเตน ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา พหิทฺวารโกฏฺเก อฏฺาสิ.

อทฺทสา โข อายสฺมา อานนฺโท มหาปชาปตึ โคตมึ สูเนหิ ปาเทหิ รโชกิณฺเณน คตฺเตน ทุกฺขึ ทุมฺมนํ อสฺสุมุขึ รุทมานํ พหิทฺวารโกฏฺเก ิตํ. ทิสฺวาน มหาปชาปตึ โคตมึ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ ตฺวํ, โคตมิ, สูเนหิ ปาเทหิ รโชกิณฺเณน คตฺเตน ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา พหิทฺวารโกฏฺเก ิตา’’ติ? ‘‘ตถา หิ ปน, ภนฺเต อานนฺท, น ภควา อนุชานาติ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, โคตมิ, มุหุตฺตํ อิเธว ตาว โหหิ, ยาวาหํ ภควนฺตํ ยาจามิ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอสา, ภนฺเต, มหาปชาปตี โคตมี สูเนหิ ปาเทหิ รโชกิณฺเณน คตฺเตน ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา พหิทฺวารโกฏฺเก ิตา – ‘น ภควา อนุชานาติ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’นฺติ. สาธุ, ภนฺเต, ลเภยฺย มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. ‘‘อลํ, อานนฺท! มา เต รุจฺจิ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชา’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ลเภยฺย มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. ‘‘อลํ, อานนฺท! มา เต รุจฺจิ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชา’’ติ.

อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น ภควา อนุชานาติ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ. ยํนูนาหํ อฺเนปิ ปริยาเยน ภควนฺตํ ยาเจยฺยํ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภพฺโพ นุ โข, ภนฺเต, มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา โสตาปตฺติผลํ วา สกทาคามิผลํ วา อนาคามิผลํ วา อรหตฺตผลํ วา สจฺฉิกาตุ’’นฺติ? ‘‘ภพฺโพ, อานนฺท, มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา โสตาปตฺติผลมฺปิ สกทาคามิผลมฺปิ อนาคามิผลมฺปิ อรหตฺตผลมฺปิ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ‘‘สเจ, ภนฺเต, ภพฺโพ มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา โสตาปตฺติผลมฺปิ…เป… อรหตฺตผลมฺปิ สจฺฉิกาตุํ, พหุการา, ภนฺเต, มหาปชาปตี โคตมี ภควโต มาตุจฺฉา อาปาทิกา โปสิกา ขีรสฺส ทายิกา; ภควนฺตํ ชเนตฺติยา กาลงฺกตาย ถฺํ ปาเยสิ. สาธุ, ภนฺเต, ลเภยฺย มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺช’’นฺติ.

‘‘สเจ, อานนฺท, มหาปชาปตี โคตมี อฏฺ ครุธมฺเม ปฏิคฺคณฺหาติ, สาวสฺสา โหตุ อุปสมฺปทา –

[ปาจิ. ๑๔๙; จูฬว. ๔๐๓] ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ตทหูปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กตฺตพฺพํ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา [ครุกตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘น ภิกฺขุนิยา อภิกฺขุเก อาวาเส วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘อนฺวฑฺฒมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา [ปจฺจาสึสิตพฺพา (สี. สฺยา. ปี.)] – อุโปสถปุจฺฉกฺจ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘วสฺสํวุฏฺาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตพฺพํ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ปกฺขมานตฺตํ จริตพฺพํ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปทา ปริเยสิตพฺพา. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘น เกนจิ ปริยาเยน ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุ อกฺโกสิตพฺโพ ปริภาสิตพฺโพ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘อชฺชตคฺเค โอวโฏ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ วจนปโถ, อโนวโฏ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีสุ วจนปโถ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย.

‘‘สเจ, อานนฺท, มหาปชาปตี โคตมี อิเม อฏฺ ครุธมฺเม ปฏิคฺคณฺหาติ, สาวสฺสา โหตุ อุปสมฺปทา’’ติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต สนฺติเก อิเม อฏฺ ครุธมฺเม อุคฺคเหตฺวา เยน มหาปชาปตี โคตมี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาปชาปตึ โคตมึ เอตทโวจ –

‘‘สเจ โข ตฺวํ, โคตมิ, อฏฺ ครุธมฺเม ปฏิคฺคณฺเหยฺยาสิ, สาว เต ภวิสฺสติ อุปสมฺปทา –

‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ตทหูปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กตฺตพฺพํ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย…เป….

‘‘อชฺชตคฺเค โอวโฏ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ วจนปโถ, อโนวโฏ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีสุ วจนปโถ. อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย. สเจ โข ตฺวํ, โคตมิ, อิเม อฏฺ ครุธมฺเม ปฏิคฺคณฺเหยฺยาสิ, สาว เต ภวิสฺสติ อุปสมฺปทา’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต อานนฺท, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก [มณฺฑนกชาติโย (สี. ปี.)] สีสํนฺหาโต [สีสํนหาโต (สี. ปี.), สีสนหาโต (สฺยา.)] อุปฺปลมาลํ วา วสฺสิกมาลํ วา อธิมุตฺตกมาลํ [อติมุตฺตกมาลํ (สี.)] วา ลภิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ปฏิคฺคเหตฺวา อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ปติฏฺาเปยฺย; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต อานนฺท, อิเม อฏฺ ครุธมฺเม ปฏิคฺคณฺหามิ ยาวชีวํ อนติกฺกมนีเย’’ติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิคฺคหิตา, ภนฺเต, มหาปชาปติยา โคตมิยา อฏฺ ครุธมฺมา ยาวชีวํ อนติกฺกมนียา’’ติ.

‘‘สเจ, อานนฺท, นาลภิสฺส มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ, จิรฏฺิติกํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ อภวิสฺส, วสฺสสหสฺสเมว สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺย. ยโต จ โข, อานนฺท, มาตุคาโม ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, น ทานิ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ จิรฏฺิติกํ ภวิสฺสติ. ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ยานิ กานิจิ กุลานิ พหุตฺถิกานิ [พหุกิตฺถิกานิ (สี. ปี.), พหุอิตฺถิกานิ (สฺยา.)] อปฺปปุริสกานิ, ตานิ สุปฺปธํสิยานิ โหนฺติ โจเรหิ กุมฺภตฺเถนเกหิ; เอวเมวํ โข, อานนฺท, ยสฺมึ ธมฺมวินเย ลภติ มาตุคาโม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ, น ตํ พฺรหฺมจริยํ จิรฏฺิติกํ โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สมฺปนฺเน สาลิกฺเขตฺเต เสตฏฺิกา นาม โรคชาติ นิปตติ, เอวํ ตํ สาลิกฺเขตฺตํ น จิรฏฺิติกํ โหติ; เอวเมวํ โข, อานนฺท, ยสฺมึ ธมฺมวินเย ลภติ มาตุคาโม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ, น ตํ พฺรหฺมจริยํ จิรฏฺิติกํ โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สมฺปนฺเน อุจฺฉุกฺเขตฺเต มฺชิฏฺิกา [มฺเชฏฺิกา (สี. สฺยา.)] นาม โรคชาติ นิปตติ, เอวํ ตํ อุจฺฉุกฺเขตฺตํ น จิรฏฺิติกํ โหติ; เอวเมวํ โข, อานนฺท, ยสฺมึ ธมฺมวินเย ลภติ มาตุคาโม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ, น ตํ พฺรหฺมจริยํ จิรฏฺิติกํ โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปุริโส มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว [ปฏิคจฺเจว (สี. ปี.)] อาฬึ พนฺเธยฺย ยาวเทว อุทกสฺส อนติกฺกมนาย; เอวเมวํ โข, อานนฺท, มยา ปฏิกจฺเจว ภิกฺขุนีนํ อฏฺ ครุธมฺมา ปฺตฺตา ยาวชีวํ อนติกฺกมนียา’’ติ. ปมํ.

๒. โอวาทสุตฺตํ

๕๒. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมนฺนิตพฺโพ’’ติ?

[ปาจิ. ๑๔๗] ‘‘อฏฺหิ โข, อานนฺท, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมนฺนิตพฺโพ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ, โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย [วิสฏฺาย (ก.)] อเนลคฬาย [อเนฬคฬาย (สี. ก.)] อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; ปฏิพโล โหติ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุํ; เยภุยฺเยน ภิกฺขุนีนํ ปิโย โหติ มนาโป; น โข ปเนตํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตาย กาสายวตฺถนิวสนาย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนปุพฺโพ โหติ; วีสติวสฺโส วา โหติ อติเรกวีสติวสฺโส วา. อิเมหิ โข, อานนฺท, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมนฺนิตพฺโพ’’ติ. ทุติยํ.

๓. สํขิตฺตสุตฺตํ

๕๓. [จูฬว. ๔๐๖] เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข มหาปชาปตี โคตมี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา มหาปชาปตี โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตุ, ยมหํ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เอกา วูปกฏฺา อปฺปมตฺตา อาตาปินี ปหิตตฺตา วิหเรยฺย’’นฺติ. ‘‘เย โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ – ‘อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิราคาย; สํโยคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิสํโยคาย; อาจยาย สํวตฺตนฺติ, โน อปจยาย; มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ, โน อปฺปิจฺฉตาย; อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ, โน สนฺตุฏฺิยา; สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ, โน ปวิเวกาย; โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ, โน วีริยารมฺภาย; ทุพฺภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน สุภรตายา’ติ, เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ – ‘เนโส ธมฺโม, เนโส วินโย, เนตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ.

‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ – ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย; วิสํโยคาย สํวตฺตนฺติ, โน สํโยคาย; อปจยาย สํวตฺตนฺติ, โน อาจยาย; อปฺปิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ, โน มหิจฺฉตาย; สนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ, โน อสนฺตุฏฺิยา; ปวิเวกาย สํวตฺตนฺติ, โน สงฺคณิกาย; วีริยารมฺภาย สํวตฺตนฺติ, โน โกสชฺชาย; สุภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน ทุพฺภรตายา’ติ, เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ – ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ. ตติยํ.

๔. ทีฆชาณุสุตฺตํ

๕๔. เอกํ สมยํ ภควา โกลิเยสุ วิหรติ กกฺกรปตฺตํ นาม โกลิยานํ นิคโม. อถ โข ทีฆชาณุ โกลิยปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ทีฆชาณุ โกลิยปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ, ภนฺเต, คิหี กามโภคิโน [กามโภคี (สี. สฺยา. ปี.)] ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสาม, กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภม, มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยาม, ชาตรูปรชตํ สาทยาม. เตสํ โน, ภนฺเต, ภควา อมฺหากํ ตถา ธมฺมํ เทเสตุ เย อมฺหากํ อสฺสุ ธมฺมา ทิฏฺธมฺมหิตาย ทิฏฺธมฺมสุขาย, สมฺปรายหิตาย สมฺปรายสุขายา’’ติ.

‘‘จตฺตาโรเม, พฺยคฺฆปชฺช, ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมหิตาย สํวตฺตนฺติ ทิฏฺธมฺมสุขาย. กตเม จตฺตาโร? อุฏฺานสมฺปทา, อารกฺขสมฺปทา, กลฺยาณมิตฺตตา, สมชีวิตา [สมชีวิกตา (สี.) อ. นิ. ๘.๗๕]. กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, อุฏฺานสมฺปทา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต เยน กมฺมฏฺาเนน ชีวิกํ [ชีวิตํ (ก.)] กปฺเปติ – ยทิ กสิยา, ยทิ วณิชฺชาย, ยทิ โครกฺเขน, ยทิ อิสฺสตฺเตน [อิสฺสตฺเถน (สี. สฺยา. ปี.)], ยทิ ราชโปริเสน, ยทิ สิปฺปฺตเรน – ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส, ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, อุฏฺานสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, อารกฺขสมฺปทา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺตสฺส โภคา โหนฺติ อุฏฺานวีริยาธิคตา พาหาพลปริจิตา, เสทาวกฺขิตฺตา, ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา. เต อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ – ‘กินฺติ เม อิเม โภเค เนว ราชาโน หเรยฺยุํ, น โจรา หเรยฺยุํ, น อคฺคิ ฑเหยฺย, น อุทกํ วเหยฺย, น อปฺปิยา ทายาทา หเรยฺยุ’นฺติ! อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, อารกฺขสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, กลฺยาณมิตฺตตา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ปฏิวสติ, ตตฺถ เย เต โหนฺติ – คหปตี วา คหปติปุตฺตา วา ทหรา วา วุทฺธสีลิโน, วุทฺธา วา วุทฺธสีลิโน, สทฺธาสมฺปนฺนา, สีลสมฺปนฺนา, จาคสมฺปนฺนา, ปฺาสมฺปนฺนา – เตหิ สทฺธึ สนฺติฏฺติ สลฺลปติ สากจฺฉํ สมาปชฺชติ; ยถารูปานํ สทฺธาสมฺปนฺนานํ สทฺธาสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ สีลสมฺปนฺนานํ สีลสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ จาคสมฺปนฺนานํ จาคสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ ปฺาสมฺปนฺนานํ ปฺาสมฺปทํ อนุสิกฺขติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, กลฺยาณมิตฺตตา.

‘‘กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, สมชีวิตา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา, วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา, สมํ ชีวิกํ [สมชีวิกํ (สฺยา.), สมชีวิตํ (ก.)] กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, พฺยคฺฆปชฺช, ตุลาธาโร วา ตุลาธารนฺเตวาสี วา ตุลํ ปคฺคเหตฺวา ชานาติ – ‘เอตฺตเกน วา โอนตํ [โอณตํ (ก.)], เอตฺตเกน วา อุนฺนต’นฺติ [อุณฺณตนฺติ (ก.)]; เอวเมวํ โข, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา, วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา, สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. สจายํ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต อปฺปาโย สมาโน อุฬารํ ชีวิกํ [ชีวิตํ (ก.)] กปฺเปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อุทุมฺพรขาทีวายํ [อุทุมฺพรขาทิกํ วายํ (สี. ปี.), อุทุมฺพรขาทกํ จายํ (สฺยา.)] กุลปุตฺโต โภเค ขาทตี’ติ. สเจ ปนายํ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต มหาโย สมาโน กสิรํ ชีวิกํ [ชีวิตํ (ก.)] กปฺเปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อเชฏฺมรณํวายํ [อชทฺธุมาริกํ วายํ (สี. ปี.), อทฺธมารกํ จายํ (สฺยา.), เอตฺถ ชทฺธูติ อสนํ = ภตฺตภุฺชนํ, ตสฺมา อชทฺธุมาริกนฺติ อนสนมรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ม. นิ. ๑.๓๗๙ อโธลิปิยา ‘‘อชทฺธุก’’นฺติ ปทํ ทสฺสิตํ] กุลปุตฺโต มริสฺสตี’ติ. ยโต จ โขยํ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา, วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา, สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, สมชีวิตา.

‘‘เอวํ สมุปฺปนฺนานํ, พฺยคฺฆปชฺช, โภคานํ จตฺตาริ อปายมุขานิ โหนฺติ – อิตฺถิธุตฺโต, สุราธุตฺโต, อกฺขธุตฺโต, ปาปมิตฺโต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก. เสยฺยถาปิ, พฺยคฺฆปชฺช, มหโต ตฬากสฺส จตฺตาริ เจว อายมุขานิ, จตฺตาริ จ อปายมุขานิ. ตสฺส ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย; เทโว จ น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺส, พฺยคฺฆปชฺช, มหโต ตฬากสฺส ปริหานิเยว ปาฏิกงฺขา, โน วุทฺธิ; เอวเมวํ, พฺยคฺฆปชฺช, เอวํ สมุปฺปนฺนานํ โภคานํ จตฺตาริ อปายมุขานิ โหนฺติ – อิตฺถิธุตฺโต, สุราธุตฺโต, อกฺขธุตฺโต, ปาปมิตฺโต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก.

‘‘เอวํ สมุปฺปนฺนานํ, พฺยคฺฆปชฺช, โภคานํ จตฺตาริ อายมุขานิ โหนฺติ – น อิตฺถิธุตฺโต, น สุราธุตฺโต, น อกฺขธุตฺโต, กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. เสยฺยถาปิ, พฺยคฺฆปชฺช, มหโต ตฬากสฺส จตฺตาริ เจว อายมุขานิ, จตฺตาริ จ อปายมุขานิ. ตสฺส ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย; เทโว จ สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺส, พฺยคฺฆปชฺช, มหโต ตฬากสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ; เอวเมวํ โข, พฺยคฺฆปชฺช, เอวํ สมุปฺปนฺนานํ โภคานํ จตฺตาริ อายมุขานิ โหนฺติ – น อิตฺถิธุตฺโต, น สุราธุตฺโต, น อกฺขธุตฺโต, กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. อิเม โข, พฺยคฺฆปชฺช, จตฺตาโร ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมหิตาย สํวตฺตนฺติ ทิฏฺธมฺมสุขาย.

‘‘จตฺตาโรเม, พฺยคฺฆปชฺช, ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส สมฺปรายหิตาย สํวตฺตนฺติ สมฺปรายสุขาย. กตเม จตฺตาโร? สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา. กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, สทฺธาสมฺปทา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, สทฺธาสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, สีลสมฺปทา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, สีลสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, จาคสมฺปทา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, จาคสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺยคฺฆปชฺช, ปฺาสมฺปทา? อิธ, พฺยคฺฆปชฺช, กุลปุตฺโต ปฺวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อยํ วุจฺจติ, พฺยคฺฆปชฺช, ปฺาสมฺปทา. อิเม โข, พฺยคฺฆปชฺช, จตฺตาโร ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส สมฺปรายหิตาย สํวตฺตนฺติ สมฺปรายสุขายา’’ติ.

‘‘อุฏฺาตา กมฺมเธยฺเยสุ, อปฺปมตฺโต วิธานวา;

สมํ กปฺเปติ ชีวิกํ [ชีวิตํ (ก.)], สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺโธ สีเลน สมฺปนฺโน, วทฺู วีตมจฺฉโร;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

อกฺขาตา สจฺจนาเมน, อุภยตฺถ สุขาวหา.

‘‘ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;

เอวเมตํ คหฏฺานํ, จาโค ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ. จตุตฺถํ;

๕. อุชฺชยสุตฺตํ

๕๕. อถ โข อุชฺชโย พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุชฺชโย พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ, โภ โคตม, ปวาสํ คนฺตุกามา. เตสํ โน ภวํ โคตโม อมฺหากํ ตถา ธมฺมํ เทเสตุ – เย อมฺหากํ อสฺสุ ธมฺมา ทิฏฺธมฺมหิตาย, ทิฏฺธมฺมสุขาย, สมฺปรายหิตาย, สมฺปรายสุขายา’’ติ.

‘‘จตฺตาโรเม, พฺราหฺมณ, ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมหิตาย สํวตฺตนฺติ, ทิฏฺธมฺมสุขาย. กตเม จตฺตาโร? อุฏฺานสมฺปทา, อารกฺขสมฺปทา, กลฺยาณมิตฺตตา, สมชีวิตา. กตมา จ, พฺราหฺมณ, อุฏฺานสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต เยน กมฺมฏฺาเนน ชีวิกํ กปฺเปติ – ยทิ กสิยา, ยทิ วณิชฺชาย, ยทิ โครกฺเขน, ยทิ อิสฺสตฺเตน, ยทิ ราชโปริเสน, ยทิ สิปฺปฺตเรน – ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส, ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อุฏฺานสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, อารกฺขสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺตสฺส โภคา โหนฺติ อุฏฺานวีริยาธิคตา, พาหาพลปริจิตา, เสทาวกฺขิตฺตา, ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา. เต อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ – ‘กินฺติ เม อิเม โภเค เนว ราชาโน หเรยฺยุํ, น โจรา หเรยฺยุํ, น อคฺคิ ฑเหยฺย, น อุทกํ วเหยฺย, น อปฺปิยา ทายาทา หเรยฺยุ’นฺติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อารกฺขสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, กลฺยาณมิตฺตตา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ปฏิวสติ ตตฺร เย เต โหนฺติ – คหปตี วา คหปติปุตฺตา วา ทหรา วา วุทฺธสีลิโน, วุทฺธา วา วุทฺธสีลิโน, สทฺธาสมฺปนฺนา, สีลสมฺปนฺนา, จาคสมฺปนฺนา, ปฺาสมฺปนฺนา – เตหิ สทฺธึ สนฺติฏฺติ สลฺลปติ สากจฺฉํ สมาปชฺชติ; ยถารูปานํ สทฺธาสมฺปนฺนานํ สทฺธาสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ สีลสมฺปนฺนานํ สีลสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ จาคสมฺปนฺนานํ จาคสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ ปฺาสมฺปนฺนานํ ปฺาสมฺปทํ อนุสิกฺขติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กลฺยาณมิตฺตตา.

‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, สมชีวิตา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ตุลาธาโร วา ตุลาธารนฺเตวาสี วา ตุลํ ปคฺคเหตฺวา ชานาติ – ‘เอตฺตเกน วา โอนตํ, เอตฺตเกน วา อุนฺนต’นฺติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. สจายํ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต อปฺปาโย สมาโน อุฬารํ ชีวิกํ กปฺเปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อุทุมฺพรขาทีวายํ กุลปุตฺโต โภเค ขาทตี’ติ. สเจ ปนายํ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต มหาโย สมาโน กสิรํ ชีวิกํ กปฺเปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อเชฏฺมรณํวายํ กุลปุตฺโต มริสฺสตี’ติ. ยโต จ โขยํ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, สมชีวิตา.

‘‘เอวํ สมุปฺปนฺนานํ, พฺราหฺมณ, โภคานํ จตฺตาริ อปายมุขานิ โหนฺติ – อิตฺถิธุตฺโต, สุราธุตฺโต, อกฺขธุตฺโต, ปาปมิตฺโต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก. เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, มหโต ตฬากสฺส จตฺตาริ เจว อายมุขานิ, จตฺตาริ จ อปายมุขานิ. ตสฺส ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย; เทโว จ น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺส พฺราหฺมณ, มหโต ตฬากสฺส ปริหานิเยว ปาฏิกงฺขา, โน วุทฺธิ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, เอวํ สมุปฺปนฺนานํ โภคานํ จตฺตาริ อปายมุขานิ โหนฺติ – อิตฺถิธุตฺโต, สุราธุตฺโต, อกฺขธุตฺโต, ปาปมิตฺโต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก.

‘‘เอวํ สมุปฺปนฺนานํ, พฺราหฺมณ, โภคานํ จตฺตาริ อายมุขานิ โหนฺติ – น อิตฺถิธุตฺโต, น สุราธุตฺโต, น อกฺขธุตฺโต, กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, มหโต ตฬากสฺส จตฺตาริ เจว อายมุขานิ จตฺตาริ จ อปายมุขานิ. ตสฺส ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย; เทโว จ สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. เอวฺหิ ตสฺส, พฺราหฺมณ, มหโต ตฬากสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, เอวํ สมุปฺปนฺนานํ โภคานํ จตฺตาริ อายมุขานิ โหนฺติ – น อิตฺถิธุตฺโต…เป… กลฺยาณสมฺปวงฺโก. อิเม โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาโร ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมหิตาย สํวตฺตนฺติ ทิฏฺธมฺมสุขาย.

‘‘จตฺตาโรเม, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺตสฺส ธมฺมา สมฺปรายหิตาย สํวตฺตนฺติ สมฺปรายสุขาย. กตเม จตฺตาโร? สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา. กตมา จ, พฺราหฺมณ, สทฺธาสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, สทฺธาสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, สีลสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, สีลสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, จาคสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, จาคสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, ปฺาสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺโต ปฺวา โหติ…เป… สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ปฺาสมฺปทา. อิเม โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาโร ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส สมฺปรายหิตาย สํวตฺตนฺติ สมฺปรายสุขายา’’ติ.

‘‘อุฏฺาตา กมฺมเธยฺเยสุ, อปฺปมตฺโต วิธานวา;

สมํ กปฺเปติ ชีวิกํ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺโธ สีเลน สมฺปนฺโน, วทฺู วีตมจฺฉโร;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

อกฺขาตา สจฺจนาเมน, อุภยตฺถ สุขาวหา.

‘‘ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;

เอวเมตํ คหฏฺานํ, จาโค ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ. ปฺจมํ;

๖. ภยสุตฺตํ

๕๖. ‘‘‘ภย’นฺติ [จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๓๗], ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. ‘ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. ‘โรโค’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. ‘คณฺโฑ’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. ‘สลฺล’นฺติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. ‘สงฺโค’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. ‘ปงฺโก’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. ‘คพฺโภ’ติ, ภิกฺขเว, กามานเมตํ อธิวจนํ. กสฺมา จ, ภิกฺขเว, ‘ภย’นฺติ กามานเมตํ อธิวจนํ? ยสฺมา จ กามราครตฺตายํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราควินิพทฺโธ ทิฏฺธมฺมิกาปิ ภยา น ปริมุจฺจติ, สมฺปรายิกาปิ ภยา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา ‘ภย’นฺติ กามานเมตํ อธิวจนํ. กสฺมา จ, ภิกฺขเว, ‘ทุกฺข’นฺติ…เป… ‘โรโค’ติ… ‘คณฺโฑ’ติ… ‘สลฺล’นฺติ… ‘สงฺโค’ติ… ‘ปงฺโก’ติ… ‘คพฺโภ’ติ กามานเมตํ อธิวจนํ? ยสฺมา จ กามราครตฺตายํ, ภิกฺขเว, ฉนฺทราควินิพทฺโธ ทิฏฺธมฺมิกาปิ คพฺภา น ปริมุจฺจติ, สมฺปรายิกาปิ คพฺภา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา ‘คพฺโภ’ติ กามานเมตํ อธิวจนํ’’.

‘‘ภยํ ทุกฺขฺจ โรโค จ, คณฺโฑ สลฺลฺจ สงฺโค จ;

ปงฺโก คพฺโภ จ อุภยํ, เอเต กามา ปวุจฺจนฺติ;

ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน.

‘‘โอติณฺโณ สาตรูเปน, ปุน คพฺภาย คจฺฉติ;

ยโต จ ภิกฺขุ อาตาปี, สมฺปชฺํ [สมฺปชฺโ (สฺยา. ก.) สํ. นิ. ๔.๒๕๑ ปสฺสิตพฺพํ] น ริจฺจติ.

‘‘โส อิมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ, อติกฺกมฺม ตถาวิโธ;

ปชํ ชาติชรูเปตํ, ผนฺทมานํ อเวกฺขตี’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ปมอาหุเนยฺยสุตฺตํ

๕๗. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ …เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก; สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, สมฺมาทสฺสเนน สมนฺนาคโต; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ; อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยอาหุเนยฺยสุตฺตํ

๕๘. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ …เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; อารทฺธวีริโย วิหรติ ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ; อารฺิโก โหติ ปนฺตเสนาสโน; อรติรติสโห โหติ, อุปฺปนฺนํ อรตึ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหรติ; ภยเภรวสโห โหติ, อุปฺปนฺนํ ภยเภรวํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหรติ; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมปุคฺคลสุตฺตํ

๕๙. ‘‘อฏฺิเม ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส? กตเม อฏฺ? โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ.

‘‘จตฺตาโร จ ปฏิปนฺนา, จตฺตาโร จ ผเล ิตา;

เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปฺาสีลสมาหิโต.

‘‘ยชมานานํ มนุสฺสานํ, ปุฺเปกฺขาน ปาณินํ;

กโรตํ โอปธิกํ ปุฺํ, สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ. นวมํ;

๑๐. ทุติยปุคฺคลสุตฺตํ

๖๐. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม อฏฺ? โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน…เป… อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ.

‘‘จตฺตาโร จ ปฏิปนฺนา, จตฺตาโร จ ผเล ิตา;

เอส สงฺโฆ สมุกฺกฏฺโ, สตฺตานํ อฏฺ ปุคฺคลา.

‘‘ยชมานานํ มนุสฺสานํ, ปุฺเปกฺขาน ปาณินํ;

กโรตํ โอปธิกํ ปุฺํ, เอตฺถ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ. ทสมํ;

โคตมีวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

โคตมี โอวาทํ สํขิตฺตํ, ทีฆชาณุ จ อุชฺชโย;

ภยา ทฺเว อาหุเนยฺยา จ, ทฺเว จ อฏฺ ปุคฺคลาติ.

(๗) ๒. ภูมิจาลวคฺโค

๑. อิจฺฉาสุตฺตํ

๖๑. [อ. นิ. ๘.๗๗] ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต ฆฏโต วายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต ฆฏโต วายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน มชฺชติ ปมชฺชติ ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย, ลาภี จ มที จ ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ น ฆฏติ น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต อฆฏโต อวายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน โสจติ, กิลมติ, ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ น ฆฏติ น วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต, อฆฏโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน มชฺชติ, ปมชฺชติ, ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ น ฆฏติ น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ มที จ, ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต ฆฏโต วายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต ฆฏโต วายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน น มชฺชติ, น ปมชฺชติ, น ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต, อฆฏโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน น โสจติ, น กิลมติ, น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต อฆฏโต อวายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน น มชฺชติ, น ปมชฺชติ, น ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา ’. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. ปมํ.

๒. อลํสุตฺตํ

๖๒. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน อลํ ปเรสํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก [ธารกชาติโก (สี. สฺยา. ปี.) อ. นิ. ๘.๗๘] โหติ; ธาตานฺจ [ธตานฺจ (สี. สฺยา. ปี.)] ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา [อตฺถูปวริกฺขี (สี. สฺยา. ปี.)] โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ, โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก [สมาทาปโก (?)] สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน อลํ ปเรสํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน อลํ ปเรสํ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ…เป… อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน อลํ ปเรสํ.

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน นาลํ ปเรสํ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ, โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน นาลํ ปเรสํ.

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ นาลํ อตฺตโน. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; น จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ…เป… อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; สนฺทสฺสโก จ โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน.

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน นาลํ ปเรสํ. กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ, โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ.

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน. กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ…เป… อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน.

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ…เป… อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; โน จ สนฺทสฺสโก โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ.

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน. กตเมหิ ทฺวีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ, โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน’’ติ. ทุติยํ.

๓. สํขิตฺตสุตฺตํ

๖๓. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตุ, ยมหํ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหเรยฺย’’นฺติ. ‘‘เอวเมวํ ปนิเธกจฺเจ โมฆปุริสา มมฺเว อชฺเฌสนฺติ. ธมฺเม จ ภาสิเต มมฺเว อนุพนฺธิตพฺพํ มฺนฺตี’’ติ. ‘‘เทเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต สํขิตฺเตน ธมฺมํ. อปฺเปว นามาหํ ภควโต ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชาเนยฺยํ, อปฺเปว นามาหํ ภควโต ภาสิตสฺส ทายาโท อสฺส’’นฺติ. ‘‘ตสฺมาติห เต, ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อชฺฌตฺตํ เม จิตฺตํ ิตํ ภวิสฺสติ สุสณฺิตํ, น จ อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสนฺตี’ติ. เอวฺหิ เต, ภิกฺขุ, สิกฺขิตพฺพํ’’.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ ิตํ โหติ สุสณฺิตํ, น จ อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, ตโต เต, ภิกฺขุ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เมตฺตา เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา ภวิสฺสติ พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา’ติ. เอวฺหิ เต, ภิกฺขุ, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ พหุลีกโต, ตโต ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมํ สมาธึ สวิตกฺกมฺปิ สวิจารํ [สวิตกฺกสวิจารมฺปิ (ก.)] ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกมฺปิ วิจารมตฺตํ [อวิตกฺกวิจารมตฺตมฺปิ (ก.) วิสุทฺธิ. ๑.๒๗๑ ปสฺสิตพฺพํ] ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกมฺปิ อวิจารํ [อวิตกฺกอวิจารมฺปิ (ก.)] ภาเวยฺยาสิ, สปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, นิปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สาตสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ.

‘‘ยโต โข, เต ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต เต, ภิกฺขุ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘กรุณา เม เจโตวิมุตฺติ… มุทิตา เม เจโตวิมุตฺติ… อุเปกฺขา เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา ภวิสฺสติ พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา’ติ. เอวฺหิ เต, ภิกฺขุ, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมํ สมาธึ สวิตกฺกสวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกวิจารมตฺตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกอวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, นิปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สาตสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต เต, ภิกฺขุ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘กาเย กายานุปสฺสี วิหริสฺสามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’นฺติ. เอวฺหิ เต, ภิกฺขุ, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ พหุลีกโต, ตโต ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมํ สมาธึ สวิตกฺกสวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกวิจารมตฺตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกอวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, นิปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สาตสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต เต, ภิกฺขุ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหริสฺสามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’นฺติ; จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหริสฺสามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’นฺติ; ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหริสฺสามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’นฺติ. เอวฺหิ เต, ภิกฺขุ, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ พหุลีกโต, ตโต ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมํ สมาธึ สวิตกฺกสวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกวิจารมตฺตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกอวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, นิปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สาตสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ.

‘‘ยโต โข เต, ภิกฺขุ, อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต ตฺวํ, ภิกฺขุ, เยน เยเนว คคฺฆสิ ผาสุํเยว คคฺฆสิ, ยตฺถ ยตฺถ สฺสสิ ผาสุํเยว สฺสสิ, ยตฺถ ยตฺถ นิสีทิสฺสสิ ผาสุํเยว นิสีทิสฺสสิ, ยตฺถ ยตฺถ เสยฺยํ กปฺเปสฺสสิ ผาสุํเยว เสยฺยํ กปฺเปสฺสสี’’ติ.

อถ โข โส ภิกฺขุ ภควตา อิมินา โอวาเทน โอวทิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข โส ภิกฺขุ เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร จ ปน โส ภิกฺขุ อรหตํ อโหสีติ. ตติยํ.

๔. คยาสีสสุตฺตํ

๖๔. เอกํ สมยํ ภควา คยายํ วิหรติ คยาสีเส. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… ‘‘ปุพฺพาหํ, ภิกฺขเว, สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺโธ โพธิสตฺโตว สมาโน โอภาสฺเว โข สฺชานามิ, โน จ รูปานิ ปสฺสามิ’’.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสฺเจว สฺชาเนยฺยํ รูปานิ จ ปสฺเสยฺยํ; เอวํ เม อิทํ าณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺเจว สฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ; โน จ โข ตาหิ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสฺเจว สฺชาเนยฺยํ, รูปานิ จ ปสฺเสยฺยํ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺเยฺยํ สลฺลเปยฺยํ สากจฺฉํ สมาปชฺเชยฺยํ; เอวํ เม อิทํ าณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺเจว สฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายาติ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสฺเจว สฺชาเนยฺยํ, รูปานิ จ ปสฺเสยฺยํ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺเยฺยํ สลฺลเปยฺยํ สากจฺฉํ สมาปชฺเชยฺยํ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ; เอวํ เม อิทํ าณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺเจว สฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ…เป… ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทินิโย’ติ …เป… ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทินิโย’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฏฺิติกา’ติ…เป… ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฏฺิติกา’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ ยทิ วา เม อิมาหิ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺนิวุตฺถปุพฺพํ ยทิ วา น สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสฺเจว สฺชาเนยฺยํ, รูปานิ จ ปสฺเสยฺยํ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺเยฺยํ สลฺลเปยฺยํ สากจฺฉํ สมาปชฺเชยฺยํ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทินิโย’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฏฺิติกา’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ ยทิ วา เม อิมาหิ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺนิวุตฺถปุพฺพํ ยทิ วา น สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติ; เอวํ เม อิทํ าณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺเจว สฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทินิโย’ติ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฏฺิติกา’ติ, ตา จ เทวตา ชานามิ ยทิ วา เม เทวตาหิ สทฺธึ สนฺนิวุตฺถปุพฺพํ ยทิ วา น สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติ.

‘‘ยาวกีวฺจ เม, ภิกฺขเว, เอวํ อฏฺปริวฏฺฏํ อธิเทวาณทสฺสนํ น สุวิสุทฺธํ อโหสิ, เนว ตาวาหํ, ภิกฺขเว, ‘สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ [อภิสมฺพุทฺโธ (สี. สฺยา. ปี.)] ปจฺจฺาสึ. ยโต จ โข เม, ภิกฺขเว, เอวํ อฏฺปริวฏฺฏํ อธิเทวาณทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ อโหสิ, อถาหํ, ภิกฺขเว, ‘สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ; าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ; อกุปฺปา เม เจโตวิมุตฺติ [วิมุตฺติ (ก. สี. ก.)]; อยมนฺติมา ชาติ นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. อภิภายตนสุตฺตํ

๖๕. [ที. นิ. ๓.๓๓๘, ๓๕๘; อ. นิ. ๑๐.๒๙] ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, อภิภายตนานิ. กตมานิ อฏฺ? อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อภิภายตนานี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. วิโมกฺขสุตฺตํ

๖๖. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, วิโมกฺขา. กตเม อฏฺ? รูปี รูปานิ ปสฺสติ. อยํ ปโม วิโมกฺโข.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี, พหิทฺธา [อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา (สฺยา. ปี. ก.) ที. นิ. ๒.๑๒๙; ที. นิ. ๓.๓๓๘, ๓๕๘; อ. นิ. ๘.๑๑๙; ม. นิ. ๒.๒๔๘ ปสฺสิตพฺพํ] รูปานิ ปสฺสติ. อยํ ทุติโย วิโมกฺโข.

‘‘สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ. อยํ ตติโย วิโมกฺโข.

‘‘สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข.

‘‘สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข.

‘‘สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข.

‘‘สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข.

‘‘สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ วิโมกฺขา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. อนริยโวหารสุตฺตํ

๖๗. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, อนริยโวหารา. กตเม อฏฺ? อทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตา, อสุเต สุตวาทิตา, อมุเต มุตวาทิตา, อวิฺาเต วิฺาตวาทิตา, ทิฏฺเ อทิฏฺวาทิตา, สุเต อสุตวาทิตา, มุเต อมุตวาทิตา, วิฺาเต อวิฺาตวาทิตา. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อนริยโวหารา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. อริยโวหารสุตฺตํ

๖๘. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, อริยโวหารา. กตเม อฏฺ? อทิฏฺเ อทิฏฺวาทิตา, อสุเต อสุตวาทิตา, อมุเต อมุตวาทิตา, อวิฺาเต อวิฺาตวาทิตา, ทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตา, สุเต สุตวาทิตา, มุเต มุตวาทิตา, วิฺาเต วิฺาตวาทิตา. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อริยโวหารา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปริสาสุตฺตํ

๖๙. ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, ปริสา. กตมา อฏฺ? ขตฺติยปริสา, พฺราหฺมณปริสา, คหปติปริสา, สมณปริสา, จาตุมหาราชิกปริสา, ตาวตึสปริสา, มารปริสา, พฺรหฺมปริสา. อภิชานามิ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ อุปสงฺกมิตา. ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพฺเจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปนฺนปุพฺพา. ตตฺถ ยาทิสโก เตสํ วณฺโณ โหติ ตาทิสโก มยฺหํ วณฺโณ โหติ, ยาทิสโก เตสํ สโร โหติ ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหติ. ธมฺมิยา จ กถาย สนฺทสฺเสมิ สมาทเปมิ สมุตฺเตเชมิ สมฺปหํเสมิ. ภาสมานฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ ภาสติ เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อนฺตรธายามิ. อนฺตรหิตฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต เทโว วา มนุสฺโส วา’’’ติ.

‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อเนกสตํ พฺราหฺมณปริสํ…เป… คหปติปริสํ… สมณปริสํ… จาตุมหาราชิกปริสํ… ตาวตึสปริสํ… มารปริสํ… พฺรหฺมปริสํ อุปสงฺกมิตา. ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพฺเจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปนฺนปุพฺพา. ตตฺถ ยาทิสโก เตสํ วณฺโณ โหติ ตาทิสโก มยฺหํ วณฺโณ โหติ, ยาทิสโก เตสํ สโร โหติ ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหติ. ธมฺมิยา จ กถาย สนฺทสฺเสมิ สมาทเปมิ สมุตฺเตเชมิ สมฺปหํเสมิ. ภาสมานฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ ภาสติ เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อนฺตรธายามิ. อนฺตรหิตฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปริสา’’ติ. นวมํ.

๑๐. ภูมิจาลสุตฺตํ

๗๐. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คณฺหาหิ, อานนฺท, นิสีทนํ. เยน จาปาลํ เจติยํ [ปาวาลเจติยํ (สฺยา.), จาปาลเจติยํ (ปี. ก.)] เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวาวิหารายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิสีทนํ อาทาย ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ.

อถ โข ภควา เยน จาปาลํ เจติยํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตกํ เจติยํ; รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, อากงฺขมาโน โส, อานนฺท, กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ. เอวมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต.

ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตกํ เจติยํ, รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, อากงฺขมาโน โส, อานนฺท, กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป… อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ. เอวมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ [คจฺฉ โข ตฺวํ (สํ. นิ. ๕.๘๒๒) อุทา. ๕๑ ปสฺสิตพฺพํ], อานนฺท, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ภควโต อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต. ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา [อิทํ ปทํ ที. นิ. ๒.๑๖๘ จ สํ. นิ. ๕.๘๒๒ จ น ทิสฺสติ] พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ, ภนฺเต, ภิกฺขู ภควโต สาวกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ.

‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต. ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ, ภนฺเต, อุปาสิกา ภควโต สาวิกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ.

‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต. ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธฺเจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’นฺติ. เอตรหิ, ภนฺเต, ภควโต พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ.

‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต. ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต’’ติ. ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, ปาปิม, โหหิ. นจิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ.

อถ โข ภควา จาปาเล เจติเย สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ. โอสฺสฏฺเ จ ภควตา อายุสงฺขาเร มหาภูมิจาโล อโหสิ ภึสนโก สโลมหํโส, เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภวํ, ภวสงฺขารมวสฺสชิ มุนิ;

อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต, อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภว’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหา วตายํ ภูมิจาโล; สุมหา วตายํ ภูมิจาโล ภึสนโก สโลมหํโส, เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ?

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มหา วตายํ, ภนฺเต, ภูมิจาโล; สุมหา วตายํ, ภนฺเต, ภูมิจาโล ภึสนโก สโลมหํโส, เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ?

‘‘อฏฺิเม, อานนฺท, เหตู, อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย. กตเม อฏฺ? อยํ, อานนฺท, มหาปถวี อุทเก ปติฏฺิตา; อุทกํ วาเต ปติฏฺิตํ; วาโต อากาสฏฺโ โหติ. โส, อานนฺท, สมโย ยํ มหาวาตา วายนฺติ; มหาวาตา วายนฺตา อุทกํ กมฺเปนฺติ; อุทกํ กมฺปิตํ ปถวึ กมฺเปติ. อยํ, อานนฺท, ปโม เหตุ, ปโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เทวตา วา มหิทฺธิกา มหานุภาวา. ตสฺส ปริตฺตา ปถวีสฺา ภาวิตา โหติ, อปฺปมาณา อาโปสฺา. โส อิมํ ปถวึ กมฺเปติ สงฺกมฺเปติ สมฺปกมฺเปติ สมฺปเวเธติ. อยํ, อานนฺท, ทุติโย เหตุ, ทุติโย ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ, อานนฺท, ตติโย เหตุ; ตติโย ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมา นิกฺขมติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ, อานนฺท, จตุตฺโถ เหตุ, จตุตฺโถ ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ, อานนฺท, ปฺจโม เหตุ, ปฺจโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ, อานนฺท, ฉฏฺโ เหตุ, ฉฏฺโ ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ, อานนฺท, สตฺตโม เหตุ, สตฺตโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ, อานนฺท, อฏฺโม เหตุ, อฏฺโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย. อิเม โข, อานนฺท, อฏฺ เหตู, อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ. ทสมํ.

ภูมิจาลวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

อิจฺฉา อลฺจ สํขิตฺตํ, คยา อภิภุนา สห;

วิโมกฺโข ทฺเว จ โวหารา, ปริสา ภูมิจาเลนาติ.

(๘) ๓. ยมกวคฺโค

๑. ปมสทฺธาสุตฺตํ

๗๑. ‘‘สทฺโธ [สทฺโธ (สฺยา.) เอตฺเถว. อ. นิ. ๙.๔], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ, โน จ [โน (สฺยา.) เอวมุปริปิ ‘‘โน’’ตฺเวว ทิสฺสติ] สีลวา. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ สีลวา จา’ติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ.

‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ, โน จ พหุสฺสุโต. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จา’ติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ พหุสฺสุโต จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ.

‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ พหุสฺสุโต จ, โน จ ธมฺมกถิโก…เป… ธมฺมกถิโก จ, โน จ ปริสาวจโร…เป… ปริสาวจโร จ, โน จ วิสารโท ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ…เป… วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, โน จ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี…เป… จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, โน จ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสยฺยํ, จตุนฺนฺจ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อสฺสํ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’’นฺติ.

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, จตุนฺนฺจ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ. อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สมนฺตปาสาทิโก จ โหติ สพฺพาการปริปูโร จา’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยสทฺธาสุตฺตํ

๗๒. ‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ, โน จ สีลวา. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ สีลวา จา’ติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ.

‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ, โน จ พหุสฺสุโต…เป… พหุสฺสุโต จ, โน จ ธมฺมกถิโก…เป… ธมฺมกถิโก จ, โน จ ปริสาวจโร…เป… ปริสาวจโร จ, โน จ วิสารโท ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ …เป… วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, โน จ เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ…เป… เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, โน จ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสยฺยํ, เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหเรยฺยํ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’’นฺติ.

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ. เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต จ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, อาสวานฺจ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สมนฺตปาสาทิโก จ โหติ สพฺพาการปริปูโร จา’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมมรณสฺสติสุตฺตํ

๗๓. เอกํ สมยํ ภควา นาติเก [นาทิเก (สี. สฺยา.), นาฏิเก (ปี.) อ. นิ. ๖.๑๙] วิหรติ คิฺชกาวสเถ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘มรณสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. ภาเวถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, มรณสฺสติ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ รตฺตินฺทิวํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ [พหุํ (สี. ปี.)] วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ อุปฑฺฒทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกปิณฺฑปาตํ ภุฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อุปฑฺฒปิณฺฑปาตํ ภุฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป สงฺขาทิตฺวา [สงฺขริตฺวา (ก.)] อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกํ อาโลปํ สงฺขาทิตฺวา [สงฺขริตฺวา (ก.)] อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

อฺตโรปิ โข ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, ภนฺเต, ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภาเวสิ มรณสฺสติ’’นฺติ? ‘‘อิธ มยฺหํ ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา วา ปสฺสสามิ, ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต ภาเวมิ มรณสฺสติ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ยฺวายํ [โย จายํ (ก. สี.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ รตฺตินฺทิวํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. โย จายํ [โย ปายํ (ก.) อ. นิ. ๖.๑๙ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ; โย จายํ [โย ปายํ (ก.) อ. นิ. ๖.๑๙ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ อุปฑฺฒทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. โย จายํ [โย ปายํ (ก.) อ. นิ. ๖.๑๙ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกปิณฺฑปาตํ ภุฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ; โย จายํ [โย ปายํ (ก.) อ. นิ. ๖.๑๙ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อุปฑฺฒปิณฺฑปาตํ ภุฺชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. โย จายํ [โย ปายํ (ก.) อ. นิ. ๖.๑๙ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ – อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขู ปมตฺตา วิหรนฺติ, ทนฺธํ มรณสฺสตึ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยาย’’’.

‘‘โย จ ขฺวายํ [โย จายํ (สฺยา.), โย จ โข ยํ (ก.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ เอกํ อาโลปํ สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ. โย จายํ [โย ปายํ (ก.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ – ‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา วา ปสฺสสามิ, ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’ติ – อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขู อปฺปมตฺตา วิหรนฺติ, ติกฺขํ มรณสฺสตึ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยาย’’’.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อปฺปมตฺตา วิหริสฺสาม, ติกฺขํ มรณสฺสตึ ภาวยิสฺสาม อาสวานํ ขยายา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ตติยํ.

๔. ทุติยมรณสฺสติสุตฺตํ

๗๔. เอกํ สมยํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ …เป… มรณสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา.

‘‘กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, มรณสฺสติ กถํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทิวเส นิกฺขนฺเต รตฺติยา ปติหิตาย [ปฏิหิตาย (ปี.), (อ. นิ. ๖.๒๐ ปสฺสิตพฺพํ)] อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘พหุกา โข เม ปจฺจยา มรณสฺส – อหิ วา มํ ฑํเสยฺย, วิจฺฉิโก วา มํ ฑํเสยฺย, สตปที วา มํ ฑํเสยฺย; เตน เม อสฺส กาลกิริยา. โส มม อสฺส [มมสฺส (อ. นิ. ๖.๒๐)] อนฺตราโย. อุปกฺขลิตฺวา วา ปปเตยฺยํ, ภตฺตํ วา เม ภุตฺตํ พฺยาปชฺเชยฺย, ปิตฺตํ วา เม กุปฺเปยฺย, เสมฺหํ วา เม กุปฺเปยฺย, สตฺถกา วา เม วาตา กุปฺเปยฺยุํ, มนุสฺสา วา มํ อุปกฺกเมยฺยุํ, อมนุสฺสา วา มํ อุปกฺกเมยฺยุํ; เตน เม อสฺส กาลกิริยา. โส มม อสฺส อนฺตราโย’ติ. เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘อตฺถิ นุ โข เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา เย เม อสฺสุ รตฺตึ กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’’’ติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา เย เม อสฺสุ รตฺตึ กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘นตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา เย เม อสฺสุ รตฺตึ กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รตฺติยา นิกฺขนฺตาย ทิวเส ปติหิเต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘พหุกา โข เม ปจฺจยา มรณสฺส – อหิ วา มํ ฑํเสยฺย, วิจฺฉิโก วา มํ ฑํเสยฺย, สตปที วา มํ ฑํเสยฺย; เตน เม อสฺส กาลกิริยา. โส มม อสฺส อนฺตราโย. อุปกฺขลิตฺวา วา ปปเตยฺยํ, ภตฺตํ วา เม ภุตฺตํ พฺยาปชฺเชยฺย, ปิตฺตํ วา เม กุปฺเปยฺย, เสมฺหํ วา เม กุปฺเปยฺย, สตฺถกา วา เม วาตา กุปฺเปยฺยุํ, มนุสฺสา วา มํ อุปกฺกเมยฺยุํ, อมนุสฺสา วา มํ อุปกฺกเมยฺยุํ; เตน เม อสฺส กาลกิริยา. โส มม อสฺส อนฺตราโย’ติ. เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘อตฺถิ นุ โข เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา เย เม อสฺสุ ทิวา กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’’’ติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา เย เม อสฺสุ ทิวา กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘นตฺถิ เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา เย เม อสฺสุ ทิวา กาลํ กโรนฺตสฺส อนฺตรายายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, มรณสฺสติ เอวํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมสมฺปทาสุตฺตํ

๗๕. ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, สมฺปทา. กตมา อฏฺ? [อ. นิ. ๘.๕๔] อุฏฺานสมฺปทา, อารกฺขสมฺปทา, กลฺยาณมิตฺตตา, สมชีวิตา, สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา – อิมา โข, ภิกฺขเว, อฏฺ สมฺปทา’’ติ.

‘‘อุฏฺาตา กมฺมเธยฺเยสุ, อปฺปมตฺโต วิธานวา;

สมํ กปฺเปติ ชีวิกํ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺโธ สีเลน สมฺปนฺโน, วทฺู วีตมจฺฉโร;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

อกฺขาตา สจฺจนาเมน, อุภยตฺถ สุขาวหา.

‘‘ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;

เอวเมตํ คหฏฺานํ, จาโค ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ. ปฺจมํ;

๖. ทุติยสมฺปทาสุตฺตํ

๗๖. ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, สมฺปทา. กตมา อฏฺ? อุฏฺานสมฺปทา, อารกฺขสมฺปทา, กลฺยาณมิตฺตตา, สมชีวิตา, สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อุฏฺานสมฺปทา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต เยน กมฺมฏฺาเนน ชีวิตํ กปฺเปติ – ยทิ กสิยา ยทิ วณิชฺชาย ยทิ โครกฺเขน ยทิ อิสฺสตฺเตน ยทิ ราชโปริเสน ยทิ สิปฺปฺตเรน – ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส, ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุฏฺานสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อารกฺขสมฺปทา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตสฺส โภคา โหนฺติ อุฏฺานวีริยาธิคตา พาหาพลปริจิตา เสทาวกฺขิตฺตา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา เต อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ – ‘กินฺติ เม โภเค เนว ราชาโน หเรยฺยุํ, น โจรา หเรยฺยุํ, น อคฺคิ ฑเหยฺย, น อุทกํ วเหยฺย, น อปฺปิยา ทายาทา หเรยฺยุ’นฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อารกฺขสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, กลฺยาณมิตฺตตา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ปฏิวสติ, ตตฺถ เย เต โหนฺติ คหปตี วา คหปติปุตฺตา วา ทหรา วา วุทฺธสีลิโน วุทฺธา วา วุทฺธสีลิโน สทฺธาสมฺปนฺนา สีลสมฺปนฺนา จาคสมฺปนฺนา ปฺาสมฺปนฺนา, เตหิ สทฺธึ สนฺติฏฺติ สลฺลปติ สากจฺฉํ สมาปชฺชติ; ยถารูปานํ สทฺธาสมฺปนฺนานํ สทฺธาสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ สีลสมฺปนฺนานํ สีลสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ จาคสมฺปนฺนานํ จาคสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ ปฺาสมฺปนฺนานํ ปฺาสมฺปทํ อนุสิกฺขติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กลฺยาณมิตฺตตา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมชีวิตา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ตุลาธาโร วา ตุลาธารนฺเตวาสี วา ตุลํ ปคฺคเหตฺวา ชานาติ – ‘เอตฺตเกน วา โอนตํ, เอตฺตเกน วา อุนฺนต’นฺติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. สจายํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต อปฺปาโย สมาโน อุฬารํ ชีวิกํ กปฺเปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร ‘อุทุมฺพรขาที วายํ กุลปุตฺโต โภเค ขาทตี’ติ. สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต มหาโย สมาโน กสิรํ ชีวิกํ กปฺเปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อเชฏฺมรณํ วายํ กุลปุตฺโต มริสฺสตี’ติ. ยโต จ โขยํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต อายฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กปฺเปติ นาจฺโจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย สฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมชีวิตา.

‘‘กตมา จ ภิกฺขเว, สทฺธาสมฺปทา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธาสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สีลสมฺปทา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สีลสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, จาคสมฺปทา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ…เป… ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, จาคสมฺปทา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ปฺาสมฺปทา? อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต ปฺวา โหติ…เป… สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฺาสมฺปทา. อิมา โข, ภิกฺขเว, อฏฺ สมฺปทา’’ติ.

‘‘อุฏฺาตา กมฺมเธยฺเยสุ, อปฺปมตฺโต วิธานวา;

สมํ กปฺเปติ ชีวิกํ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺโธ สีเลน สมฺปนฺโน, วทฺู วีตมจฺฉโร;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

อกฺขาตา สจฺจนาเมน, อุภยตฺถ สุขาวหา.

‘‘ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;

เอวเมตํ คหฏฺานํ, จาโค ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. อิจฺฉาสุตฺตํ

๗๗. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขโว’’ติ! ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

[อ. นิ. ๘.๖๑] ‘‘อฏฺิเม, อาวุโส, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม อฏฺ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ, ฆฏติ, วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต, ฆฏโต, วายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ, ฆฏติ, วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ, ฆฏติ, วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต ฆฏโต วายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน มชฺชติ ปมชฺชติ ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, มที จ ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต, อฆฏโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต, อฆฏโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน มชฺชติ ปมชฺชติ ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ น ฆฏติ น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, มที จ ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ, ฆฏติ, วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต, ฆฏโต, วายมโต ลาภาย, ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ ฆฏติ วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส อุฏฺหติ, ฆฏติ, วายมติ ลาภาย. ตสฺส อุฏฺหโต, ฆฏโต, วายมโต ลาภาย, ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน น มชฺชติ น ปมชฺชติ น ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, อุฏฺหติ, ฆฏติ, วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต, อฆฏโต, อวายมโต ลาภาย, ลาโภ นุปฺปชฺชติ. โส เตน อลาเภน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’.

‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภาย. โส น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย. ตสฺส อนุฏฺหโต, อฆฏโต, อวายมโต ลาภาย, ลาโภ อุปฺปชฺชติ. โส เตน ลาเภน น มชฺชติ น ปมชฺชติ น ปมาทมาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิจฺโฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฏฺหติ, น ฆฏติ, น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’. อิเม โข, อาวุโส, อฏฺ ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. อลํสุตฺตํ

๗๘. [อ. นิ. ๘.๖๒] ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… ฉหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, อลํ ปเรสํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ, โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, อลํ ปเรสํ.

‘‘ปฺจหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, อลํ ปเรสํ. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ…เป… สนฺทสฺสโก จ โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, อลํ ปเรสํ.

‘‘จตูหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ. กตเมหิ จตูหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ…เป… โน จ สนฺทสฺสโก โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ.

‘‘จตูหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน. กตเมหิ จตูหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ…เป… สนฺทสฺสโก จ โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน.

‘‘ตีหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ. กตเมหิ ตีหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ…เป… โน จ สนฺทสฺสโก โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ.

‘‘ตีหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน. กตเมหิ ตีหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; สุตานฺจ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ…เป… อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, สนฺทสฺสโก จ โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน.

‘‘ทฺวีหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ. กตเมหิ ทฺวีหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ…เป… โน จ สนฺทสฺสโก โหติ…เป… สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ อตฺตโน, นาลํ ปเรสํ.

‘‘ทฺวีหาวุโส, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน. กตเมหิ ทฺวีหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ น เหว โข ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ; โน จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ; โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ; โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ; กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ, โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา; สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํ ปเรสํ, นาลํ อตฺตโน’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปริหานสุตฺตํ

๗๙. ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม อฏฺ? กมฺมารามตา, ภสฺสารามตา, นิทฺทารามตา, สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา, โภชเน อมตฺตฺุตา, สํสคฺคารามตา, ปปฺจารามตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.

‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม อฏฺ? น กมฺมารามตา, น ภสฺสารามตา, น นิทฺทารามตา, น สงฺคณิการามตา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, อสํสคฺคารามตา, นิปฺปปฺจารามตา – อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. กุสีตารมฺภวตฺถุสุตฺตํ

๘๐. [ทิ. นิ. ๓.๓๓๔, ๓๕๘] ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, กุสีตวตฺถูนิ. กตมานิ อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตฺตพฺพํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กตฺตพฺพํ ภวิสฺสติ. กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ กุสีตวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสึ. กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลนฺโต. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ กุสีตวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มคฺโค เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ. มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ กุสีตวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา มคฺโค คโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ. มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลนฺโต. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ ภิกฺขเว, จตุตฺถํ กุสีตวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เม กาโย กิลนฺโต อกมฺมฺโ. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ กุสีตวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เม กาโย ครุโก อกมฺมฺโ มาสาจิตํ มฺเ. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺํ กุสีตวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุํ. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, สตฺตมํ กุสีตวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลานา วุฏฺิโต [อ. นิ. ๖.๑๖ สุตฺตวณฺณนา ฏีกา โอโลเกตพฺพา] โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานา วุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เม กาโย ทุพฺพโล อกมฺมฺโ. หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ, ภิกฺขเว, อฏฺมํ กุสีตวตฺถุ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ กุสีตวตฺถูนิ.

[ที. นิ. ๓.๓๓๕, ๓๕๘] ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, อารมฺภวตฺถูนิ. กตมานิ อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตฺตพฺพํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กตฺตพฺพํ ภวิสฺสติ. กมฺมํ โข มยา กโรนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ. หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ อารมฺภวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสึ. กมฺมํ โข ปนาหํ กโรนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ. หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. โส วีริยํ อารภติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อารมฺภวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – มคฺโค โข เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ. มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ. หนฺทาหํ วีริยํ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อารมฺภวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา มคฺโค คโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ. มคฺคํ โข ปนาหํ คจฺฉนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ. หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ อารมฺภวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เม กาโย ลหุโก กมฺมฺโ. หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ อารมฺภวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เม กาโย พลวา กมฺมฺโ. หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺํ อารมฺภวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ. ตสฺส เอวํ โหติ – อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อาพาโธ ปวฑฺเฒยฺย. หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ, ภิกฺขเว, สตฺตมํ อารมฺภวตฺถุ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลานา วุฏฺิโต โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานา วุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อาพาโธ ปจฺจุทาวตฺเตยฺย. หนฺทาหํ ปฏิกจฺเจว วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ, ภิกฺขเว, อฏฺมํ อารมฺภวตฺถุ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อารมฺภวตฺถูนี’’ติ. ทสมํ.

ยมกวคฺโค ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ

ทฺเว สทฺธา ทฺเว มรณสฺสตี, ทฺเว สมฺปทา อถาปเร;

อิจฺฉา อลํ ปริหานํ, กุสีตารมฺภวตฺถูนีติ.

(๙) ๔. สติวคฺโค

๑. สติสมฺปชฺสุตฺตํ

๘๑. ‘‘สติสมฺปชฺเ, ภิกฺขเว, อสติ สติสมฺปชฺวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ หิโรตฺตปฺปํ. หิโรตฺตปฺเป อสติ หิโรตฺตปฺปวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อินฺทฺริยสํวโร. อินฺทฺริยสํวเร อสติ อินฺทฺริยสํวรวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สีลํ. สีเล อสติ สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ. สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ. ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค. นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สติสมฺปชฺเ อสติ สติสมฺปชฺวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ หิโรตฺตปฺปํ; หิโรตฺตปฺเป อสติ หิโรตฺตปฺปวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘สติสมฺปชฺเ, ภิกฺขเว, สติ สติสมฺปชฺสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ หิโรตฺตปฺปํ. หิโรตฺตปฺเป สติ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อินฺทฺริยสํวโร. อินฺทฺริยสํวเร สติ อินฺทฺริยสํวรสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สีลํ. สีเล สติ สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ. สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ. ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค. นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สติสมฺปชฺเ สติ สติสมฺปชฺสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ หิโรตฺตปฺปํ; หิโรตฺตปฺเป สติ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ปมํ.

๒. ปุณฺณิยสุตฺตํ

๘๒. อถ โข อายสฺมา ปุณฺณิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ปุณฺณิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อปฺเปกทา ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ, อปฺเปกทา น ปฏิภาตี’’ติ? ‘‘สทฺโธ จ, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ โหติ, โน จุปสงฺกมิตา; เนว ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ. ยโต จ โข, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, อุปสงฺกมิตา จ; เอวํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ. สทฺโธ จ, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ โหติ, อุปสงฺกมิตา จ, โน จ ปยิรุปาสิตา…เป… ปยิรุปาสิตา จ, โน จ ปริปุจฺฉิตา… ปริปุจฺฉิตา จ, โน จ โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ… โอหิตโสโต จ ธมฺมํ สุณาติ, โน จ สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรติ… สุตฺวา จ ธมฺมํ ธาเรติ, โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ… ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ, โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เนว ตาว ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ.

‘‘ยโต จ โข, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, อุปสงฺกมิตา จ, ปยิรุปาสิตา จ, ปริปุจฺฉิตา จ, โอหิตโสโต จ ธมฺมํ สุณาติ, สุตฺวา จ ธมฺมํ ธาเรติ, ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ, อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ; เอวํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ. อิเมหิ โข, ปุณฺณิย, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา [สมนฺนาคโต (สี. ปี.), สมนฺนาคตํ (สฺยา. ก.)] เอกนฺตปฏิภานา [เอกนฺตปฏิภานํ (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๑๐.๘๓ ปน ปสฺสิตพฺพํ] ตถาคตํ ธมฺมเทสนา โหตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. มูลกสุตฺตํ

๘๓. [อ. นิ. ๑๐.๕๘ ปสฺสิตพฺพํ] ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กึมูลกา, อาวุโส, สพฺเพ ธมฺมา, กึสมฺภวา สพฺเพ ธมฺมา, กึสมุทยา สพฺเพ ธมฺมา, กึสโมสรณา สพฺเพ ธมฺมา, กึปมุขา สพฺเพ ธมฺมา, กึอธิปเตยฺยา สพฺเพ ธมฺมา, กึอุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา, กึสารา สพฺเพ ธมฺมา’ติ, เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ กินฺติ พฺยากเรยฺยาถา’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา, ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา. สาธุ, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กึมูลกา, อาวุโส, สพฺเพ ธมฺมา, กึสมฺภวา สพฺเพ ธมฺมา, กึสมุทยา สพฺเพ ธมฺมา, กึสโมสรณา สพฺเพ ธมฺมา, กึปมุขา สพฺเพ ธมฺมา, กึอธิปเตยฺยา สพฺเพ ธมฺมา, กึอุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา, กึสารา สพฺเพ ธมฺมา’ติ, เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘ฉนฺทมูลกา, อาวุโส, สพฺเพ ธมฺมา, มนสิการสมฺภวา สพฺเพ ธมฺมา, ผสฺสสมุทยา สพฺเพ ธมฺมา, เวทนาสโมสรณา สพฺเพ ธมฺมา, สมาธิปฺปมุขา สพฺเพ ธมฺมา, สตาธิปเตยฺยา สพฺเพ ธมฺมา, ปฺุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา, วิมุตฺติสารา สพฺเพ ธมฺมา’ติ, เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถา’’ติ. ตติยํ.

๔. โจรสุตฺตํ

๘๔. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต มหาโจโร ขิปฺปํ ปริยาปชฺชติ, น จิรฏฺิติโก โหติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อปฺปหรนฺตสฺส ปหรติ, อนวเสสํ อาทิยติ, อิตฺถึ หนติ, กุมารึ ทูเสติ, ปพฺพชิตํ วิลุมฺปติ, ราชโกสํ วิลุมฺปติ, อจฺจาสนฺเน กมฺมํ กโรติ, น จ นิธานกุสโล โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต มหาโจโร ขิปฺปํ ปริยาปชฺชติ, น จิรฏฺิติโก โหติ.

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต มหาโจโร น ขิปฺปํ ปริยาปชฺชติ, จิรฏฺิติโก โหติ. กตเมหิ อฏฺหิ? น อปฺปหรนฺตสฺส ปหรติ, น อนวเสสํ อาทิยติ, น อิตฺถึ หนติ, น กุมารึ ทูเสติ, น ปพฺพชิตํ วิลุมฺปติ, น ราชโกสํ วิลุมฺปติ, น อจฺจาสนฺเน กมฺมํ กโรติ, นิธานกุสโล จ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต มหาโจโร น ขิปฺปํ ปริยาปชฺชติ, จิรฏฺิติโก โหตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. สมณสุตฺตํ

๘๕. ‘‘‘สมโณ’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ‘พฺราหฺมโณ’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ‘เวทคู’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ‘ภิสกฺโก’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ‘นิมฺมโล’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ‘วิมโล’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ‘าณี’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ‘วิมุตฺโต’ติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ.

‘‘ยํ สมเณน ปตฺตพฺพํ, พฺราหฺมเณน วุสีมตา;

ยํ เวทคุนา ปตฺตพฺพํ, ภิสกฺเกน อนุตฺตรํ.

‘‘ยํ นิมฺมเลน ปตฺตพฺพํ, วิมเลน สุจีมตา;

ยํ าณินา จ ปตฺตพฺพํ, วิมุตฺเตน อนุตฺตรํ.

‘‘โสหํ วิชิตสงฺคาโม, มุตฺโต โมเจมิ พนฺธนา;

นาโคมฺหิ ปรมทนฺโต, อเสโข ปรินิพฺพุโต’’ติ. ปฺจมํ;

๖. ยสสุตฺตํ

๘๖. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน อิจฺฉานงฺคลํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. อสฺโสสุํ โข อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต อิจฺฉานงฺคลํ อนุปฺปตฺโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติ.

อถ โข อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปหุตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย เยน อิจฺฉานงฺคลวนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺเก อฏฺํสุ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคิโต ภควโต อุปฏฺาโก โหติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก ปน เต, นาคิต, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘เอเต, ภนฺเต, อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา ปหุตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย พหิทฺวารโกฏฺเก ิตา ภควนฺตํเยว อุทฺทิสฺส ภิกฺขุสงฺฆฺจา’’ติ. ‘‘มาหํ, นาคิต, ยเสน สมาคมํ, มา จ มยา ยโส. โย โข, นาคิต, นยิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อสฺส อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี [นิกามลาภี อสฺสํ (พหูสุ) อ. นิ. ๕.๓๐ ปสฺสิตพฺพํ. ตตฺถ หิ อยํ ปาเภทา นตฺถิ] อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, โส ตํ มีฬฺหสุขํ มิทฺธสุขํ ลาภสกฺการสิโลกสุขํ สาทิเยยฺยา’’ติ.

‘‘อธิวาเสตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา. อธิวาเสตุ สุคโต. อธิวาสนกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. เยน เยเนว ทานิ, ภนฺเต, ภควา คมิสฺสติ ตนฺนินฺนาว ภวิสฺสนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ยถานินฺนํ อุทกานิ ปวตฺตนฺติ; เอวเมวํ โข, ภนฺเต, เยน เยเนว ทานิ ภควา คมิสฺสติ ตนฺนินฺนาว ภวิสฺสนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ, ภนฺเต, ภควโต สีลปฺาณ’’นฺติ.

‘‘มาหํ, นาคิต, ยเสน สมาคมํ, มา จ มยา ยโส. โย โข, นาคิต, นยิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อสฺส อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, โส ตํ มีฬฺหสุขํ มิทฺธสุขํ ลาภสกฺการสิโลกสุขํ สาทิเยยฺย.

‘‘เทวตาปิ โข, นาคิต, เอกจฺจา นยิมสฺส [เอกจฺจา อิมสฺส (?)] เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภินิโย อสฺสุ [อิทํ ปทํ กตฺถจิ นตฺถิ] อกิจฺฉลาภินิโย [นิกามลาภินิโย อกิจฺฉลาภินิโย (?)] อกสิรลาภินิโย, ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ตุมฺหากมฺปิ [ตาสมฺปิ (?)] โข, นาคิต, สงฺคมฺม สมาคมฺม สงฺคณิกวิหารํ อนุยุตฺตานํ วิหรตํ [อนุยุตฺเต วิหรนฺเต ทิสฺวา (?)] เอวํ โหติ – ‘น หิ นูนเม [น หนูนเม (สี. สฺยา. ปี.)] อายสฺมนฺโต อิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภิโน อสฺสุ [อิทํ ปทํ กตฺถจิ นตฺถิ] อกิจฺฉลาภิโน อกสิรลาภิโน. ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ตถา หิ ปน เม อายสฺมนฺโต สงฺคมฺม สมาคมฺม สงฺคณิกวิหารํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ’’’.

‘‘อิธาหํ, นาคิต, ภิกฺขู ปสฺสามิ อฺมฺํ องฺคุลิปโตทเกน [องฺคุลิปโตทเกหิ (สี. ปี. ก.)] สฺชคฺฆนฺเต สงฺกีฬนฺเต. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘น หิ นูนเม อายสฺมนฺโต อิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภิโน อสฺสุ อกิจฺฉลาภิโน อกสิรลาภิโน. ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ตถา หิ ปน เม อายสฺมนฺโต อฺมฺํ องฺคุลิปโตทเกน สฺชคฺฆนฺติ สงฺกีฬนฺติ’’’.

‘‘อิธ ปนาหํ [อิธาหํ (สี. ปี. ก.)], นาคิต, ภิกฺขู ปสฺสามิ ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺเต วิหรนฺเต. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘น หิ นูนเม อายสฺมนฺโต อิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภิโน อสฺสุ อกิจฺฉลาภิโน อกสิรลาภิโน. ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ตถา หิ ปน เม อายสฺมนฺโต ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ’’’.

‘‘อิธาหํ [อิธ ปนาหํ (?)], นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ คามนฺตวิหารึ สมาหิตํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิ อิมํ [อิทานิมํ (กตฺถจิ) อ. นิ. ๖.๔๒] อายสฺมนฺตํ อารามิโก วา อุปฏฺหิสฺสติ [ปจฺเจสฺสติ (สี. ปี.), อุปฏฺหติ (ก.)] สมณุทฺเทโส วา. ตํ ตมฺหา [โส ตมฺหา (ก. สี.), โส ตํ ตมฺหา (?)] สมาธิมฺหา จาเวสฺสตี’ติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน น อตฺตมโน โหมิ คามนฺตวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ อรฺเ ปจลายมานํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิ อยมายสฺมา อิมํ นิทฺทากิลมถํ ปฏิวิโนเทตฺวา อรฺสฺํเยว มนสิ กริสฺสติ เอกตฺต’นฺติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ อรฺเ อสมาหิตํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิ อยมายสฺมา อสมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาทหิสฺสติ [สมาทเหสฺสติ (กตฺถจิ)], สมาหิตํ วา จิตฺตํ อนุรกฺขิสฺสตี’ติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ อรฺเ สมาหิตํ นิสินฺนํ. ตสฺส มยฺหํ, นาคิต, เอวํ โหติ – ‘อิทานิ อยมายสฺมา อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อนุรกฺขิสฺสตี’ติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ คามนฺตวิหารึ ลาภึ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. โส ตํ ลาภสกฺการสิโลกํ นิกามยมาโน ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, ริฺจติ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานึ โอสริตฺวา วาสํ กปฺเปติ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน น อตฺตมโน โหมิ คามนฺตวิหาเรน.

‘‘อิธ ปนาหํ, นาคิต, ภิกฺขุํ ปสฺสามิ อารฺิกํ ลาภึ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. โส ตํ ลาภสกฺการสิโลกํ ปฏิปณาเมตฺวา น ริฺจติ ปฏิสลฺลานํ, น ริฺจติ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ. เตนาหํ, นาคิต, ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตมโน โหมิ อรฺวิหาเรน. [[ ] เอตฺถนฺตเร ปาโ อ. นิ. ๖.๔๒ ฉกฺกนิปาเตเยว ทิสฺสติ, น เอตฺถ อฏฺกนิปาเต]

‘‘ยสฺมาหํ [ยสฺมึหํ (กตฺถจิ)], นาคิต, สมเย อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน น กฺจิ ปสฺสามิ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา, ผาสุ เม, นาคิต, ตสฺมึ สมเย โหติ อนฺตมโส อุจฺจารปสฺสาวกมฺมายา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปตฺตนิกุชฺชนสุตฺตํ

๘๗. [จูฬว. ๒๖๕] ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปตฺตํ นิกฺกุชฺเชยฺย [นิกุชฺเชยฺย (ก.)]. กตเมหิ อฏฺหิ? ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย [อนาวาสาย (สี. สฺยา.)] ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทติ [วิเภเทติ (พหูสุ)], พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปตฺตํ นิกฺกุชฺเชยฺย.

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปตฺตํ อุกฺกุชฺเชยฺย. กตเมหิ อฏฺหิ? น ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ, น ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปตฺตํ อุกฺกุชฺเชยฺยา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. อปฺปสาทปเวทนียสุตฺตํ

๘๘. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมานา อุปาสกา อปฺปสาทํ ปเวเทยฺยุํ. กตเมหิ อฏฺหิ? คิหีนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, คิหีนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, คิหี อกฺโกสติ ปริภาสติ, คิหี คิหีหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, อโคจเร จ นํ ปสฺสนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมานา อุปาสกา อปฺปสาทํ ปเวเทยฺยุํ.

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมานา อุปาสกา ปสาทํ ปเวเทยฺยุํ. กตเมหิ อฏฺหิ? น คิหีนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, น คิหีนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, น คิหี อกฺโกสติ ปริภาสติ, น คิหี คิหีหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ, โคจเร จ นํ ปสฺสนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมานา อุปาสกา ปสาทํ ปเวเทยฺยุ’’นฺติ. อฏฺมํ.

๙. ปฏิสารณียสุตฺตํ

๘๙. [จูฬว. ๓๙ โถกํ วิสทิสํ] ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปฏิสารณียกมฺมํ กเรยฺย. กตเมหิ อฏฺหิ? คิหีนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, คิหีนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, คิหี อกฺโกสติ ปริภาสติ, คิหี คิหีหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมิกฺจ คิหิปฏิสฺสวํ น สจฺจาเปติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปฏิสารณียํ กมฺมํ กเรยฺย.

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปฏิสารณียกมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺย. กตเมหิ อฏฺหิ? น คิหีนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, น คิหีนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, น คิหี อกฺโกสติ ปริภาสติ, น คิหี คิหีหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมิกฺจ คิหิปฏิสฺสวํ สจฺจาเปติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปฏิสารณียกมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยา’’ติ. นวมํ.

๑๐. สมฺมาวตฺตนสุตฺตํ

๙๐. [จูฬว. ๒๑๑] ‘‘ตสฺสปาปิยสิกกมฺมกเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อฏฺสุ ธมฺเมสุ สมฺมา วตฺติตพฺพํ – น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, น กาจิ สงฺฆสมฺมุติ สาทิตพฺพา, น กิสฺมิฺจิ ปจฺเจกฏฺาเน เปตพฺโพ, น จ เตน มูเลน วุฏฺาเปตพฺโพ. ตสฺสปาปิยสิกกมฺมกเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อิเมสุ อฏฺสุ ธมฺเมสุ สมฺมา วตฺติตพฺพ’’นฺติ. ทสมํ.

สติวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

สติปุณฺณิยมูเลน, โจรสมเณน ปฺจมํ;

ยโส ปตฺตปฺปสาเทน, ปฏิสารณียฺจ วตฺตนนฺติ.

(๑๐) ๕. สามฺวคฺโค

๙๑-๑๑๖. อถ โข [เอตฺถ ‘‘อถ โข’’ติ จ, ‘‘อุปาสิกา’’ติ จ อิทํ อฏฺกถายเมว ทิสฺสติ, น ปาฬิโปตฺถเกสุ] โพชฺฌา [โพชฺฌงฺคา (ก. สี.)] อุปาสิกา [เอตฺถ ‘‘อถ โข’’ติ จ, อุปาสิกา’’ติ จ อิทํ อฏฺกถายเมว ทิสฺสติ, น ปาฬิโปตฺถเกสุ], สิรีมา, ปทุมา, สุตนา [สุธนา (สี. ปี.), สุธมฺมา (สฺยา.)], มนุชา, อุตฺตรา, มุตฺตา, เขมา, รุจี [รูปี (สี. ปี.)], จุนฺที, พิมฺพี, สุมนา, มลฺลิกา, ติสฺสา, ติสฺสมาตา [ติสฺสาย มาตา (สี. ปี.)], โสณา, โสณาย มาตา [โสณมาตา (สฺยา.)], กาณา, กาณมาตา [กาณาย มาตา (สี. ปี.)], อุตฺตรา นนฺทมาตา, วิสาขา มิคารมาตา, ขุชฺชุตฺตรา อุปาสิกา, สามาวตี อุปาสิกา, สุปฺปวาสา โกลิยธีตา [โกฬิยธีตา (สฺยา. ปี.)], สุปฺปิยา อุปาสิกา, นกุลมาตา คหปตานี.

สามฺวคฺโค ปฺจโม.

ทุติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

(๑๑). ราคเปยฺยาลํ

๑๑๗. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม อฏฺ? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๑๑๘. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม อฏฺ? อชฺฌตฺตํ รูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ตานิ อภิภุยฺย ‘ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อชฺฌตฺตํ รูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ตานิ อภิภุยฺย ‘ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ตานิ อภิภุยฺย ‘ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ตานิ อภิภุยฺย ‘ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ…เป… โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ…เป… โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ…เป… โอทาตนิภาสานิ, ตานิ อภิภุยฺย ‘ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’.

๑๑๙. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม อฏฺ? รูปี รูปานิ ปสฺสติ, อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ, สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’.

๑๒๐-๑๔๖. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย…เป… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย…เป… อิเม อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’.

๑๔๗-๖๒๖. ‘‘โทสสฺส…เป… โมหสฺส… โกธสฺส… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส … มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส อภิฺาย…เป… ปริฺาย… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย…เป… อิเม อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

อฏฺกนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.