📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
องฺคุตฺตรนิกาโย
นวกนิปาตปาฬิ
๑. ปมปณฺณาสกํ
๑. สมฺโพธิวคฺโค
๑. สมฺโพธิสุตฺตํ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘สมฺโพธิปกฺขิกานํ [สมฺโพธปกฺขิกานํ (สี. สฺยา. ปี.)], อาวุโส, ธมฺมานํ กา อุปนิสา ภาวนายา’ติ, เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ¶ ปริพฺพาชกานํ กินฺติ พฺยากเรยฺยาถา’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา…เป… ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘สมฺโพธิปกฺขิกานํ, อาวุโส, ธมฺมานํ กา อุปนิสา ภาวนายา’ติ, เอวํ ปุฏฺา ¶ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ ¶ –
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก ¶ . สมฺโพธิปกฺขิกานํ, อาวุโส, ธมฺมานํ อยํ ปมา อุปนิสา ภาวนาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. สมฺโพธิปกฺขิกานํ, อาวุโส, ธมฺมานํ อยํ ทุติยา อุปนิสา ภาวนาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปิยา กถาย นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. สมฺโพธิปกฺขิกานํ, อาวุโส, ธมฺมานํ อยํ ตติยา อุปนิสา ภาวนาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. สมฺโพธิปกฺขิกานํ, อาวุโส, ธมฺมานํ อยํ จตุตฺถี อุปนิสา ภาวนาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย ¶ นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. สมฺโพธิปกฺขิกานํ, อาวุโส, ธมฺมานํ อยํ ปฺจมี อุปนิสา ภาวนาย’’.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – สีลวา ภวิสฺสติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหริสฺสติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขิสฺสติ สิกฺขาปเทสุ.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา ¶ อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปิยา กถาย นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – อารทฺธวีริโย วิหริสฺสติ ¶ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – ปฺวา ภวิสฺสติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา.
‘‘เตน จ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อิเมสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย จตฺตาโร ธมฺมา อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. ปี.)] ภาเวตพฺพา – อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานาย, เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ปหานาย, อานาปานสฺสติ [อานาปานสติ (สี. ปี.)] ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทาย, อนิจฺจสฺา ภาเวตพฺพา อสฺมิมานสมุคฺฆาตาย. อนิจฺจสฺิโน, ภิกฺขเว, อนตฺตสฺา สณฺาติ. อนตฺตสฺี อสฺมิมานสมุคฺฆาตํ ปาปุณาติ ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพาน’’นฺติ ¶ . ปมํ.
๒. นิสฺสยสุตฺตํ
๒. อถ ¶ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘นิสฺสยสมฺปนฺโน นิสฺสยสมฺปนฺโน’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุ นิสฺสยสมฺปนฺโน โหตี’’ติ? ‘‘สทฺธํ เจ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ นิสฺสาย อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, ปหีนเมวสฺส ตํ อกุสลํ โหติ. หิรึ เจ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ นิสฺสาย…เป… โอตฺตปฺปํ เจ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ นิสฺสาย…เป… วีริยํ เจ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ นิสฺสาย…เป… ปฺํ เจ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ นิสฺสาย อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, ปหีนเมวสฺส ตํ อกุสลํ โหติ ¶ . ตํ หิสฺส ภิกฺขุโน อกุสลํ ปหีนํ โหติ สุปฺปหีนํ, ยํส อริยาย ปฺาย ทิสฺวา ปหีนํ’’.
‘‘เตน ¶ จ ปน, ภิกฺขุ, ภิกฺขุนา อิเมสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย จตฺตาโร อุปนิสฺสาย วิหาตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ นิสฺสยสมฺปนฺโน โหตี’’ติ. ทุติยํ.
๓. เมฆิยสุตฺตํ
๓. เอกํ สมยํ ภควา จาลิกายํ วิหรติ จาลิกาปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา เมฆิโย ภควโต อุปฏฺาโก โหติ. อถ โข อายสฺมา เมฆิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ชนฺตุคามํ [ชตุคามํ (สี. อฏฺ., สฺยา. อฏฺ.), ชตฺตุคามํ (ก. อฏฺกถายมฺปิ ปานฺตรํ)] ปิณฺฑาย ¶ ปวิสิตุ’’นฺติ. ‘‘ยสฺส ทานิ ตฺวํ, เมฆิย, กาลํ มฺสี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน กิมิกาฬาย นทิยา ตีรํ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข อายสฺมา เมฆิโย กิมิกาฬาย นทิยา ¶ ตีเร ชงฺฆาวิหารํ [ชงฺฆวิหารํ (สฺยา. ก.)] อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน อมฺพวนํ ¶ ปาสาทิกํ รมณียํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปาสาทิกํ วติทํ อมฺพวนํ รมณียํ, อลํ วติทํ กุลปุตฺตสฺส ปธานตฺถิกสฺส ปธานาย. สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, อาคจฺเฉยฺยาหํ อิมํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน กิมิกาฬาย นทิยา ตีรํ เตนุปสงฺกมึ. อทฺทสํ โข อหํ, ภนฺเต, กิมิกาฬาย นทิยา ตีเร ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน อมฺพวนํ ปาสาทิกํ รมณียํ. ทิสฺวาน เม เอตทโหสิ – ‘ปาสาทิกํ วติทํ อมฺพวนํ รมณียํ. อลํ วติทํ กุลปุตฺตสฺส ปธานตฺถิกสฺส ปธานาย. สเจ ¶ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, อาคจฺเฉยฺยาหํ อิมํ อมฺพวนํ ปธานายา’ติ. สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, คจฺเฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ. ‘‘อาคเมหิ ตาว, เมฆิย ¶ ! เอกกมฺหิ [เอกกมฺหา (สี. ปี.)] ตาว [วต (ก.)] ยาว อฺโปิ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉตี’’ติ [ทิสฺสตูติ (สพฺพตฺถ, ฏีกายมฺปิ ปานฺตรํ), อาคจฺฉตูติ, ทิสฺสตีติ (ฏีกายํ ปานฺตรานิ)].
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควโต, ภนฺเต, นตฺถิ กิฺจิ อุตฺตริ กรณียํ, นตฺถิ กตสฺส ปฏิจโย. มยฺหํ โข ปน, ภนฺเต, อตฺถิ อุตฺตริ กรณียํ, อตฺถิ กตสฺส ปฏิจโย. สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, คจฺเฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ. ‘‘อาคเมหิ ตาว, เมฆิย, เอกกมฺหิ ตาว ยาว อฺโปิ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉตี’’ติ.
ตติยมฺปิ ¶ โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควโต, ภนฺเต, นตฺถิ กิฺจิ อุตฺตริ กรณียํ, นตฺถิ กตสฺส ปฏิจโย. มยฺหํ โข ปน, ภนฺเต, อตฺถิ อุตฺตริ กรณียํ, อตฺถิ กตสฺส ปฏิจโย. สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, คจฺเฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ. ‘‘ปธานนฺติ โข, เมฆิย, วทมานํ กินฺติ วเทยฺยาม! ยสฺส ทานิ ตฺวํ, เมฆิย, กาลํ มฺสี’’ติ.
อถ ¶ โข อายสฺมา เมฆิโย อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ตํ อมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อมฺพวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข อายสฺมโต เมฆิยสฺส ตสฺมึ อมฺพวเน วิหรนฺตสฺส เยภุยฺเยน ตโย ปาปกา อกุสลา วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ, เสยฺยถิทํ – กามวิตกฺโก, พฺยาปาทวิตกฺโก, วิหึสาวิตกฺโก. อถ โข อายสฺมโต เมฆิยสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! สทฺธาย จ วตมฺหา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา; อถ จ ปนิเมหิ ตีหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ วิตกฺเกหิ อนฺวาสตฺตา – กามวิตกฺเกน, พฺยาปาทวิตกฺเกน, วิหึสาวิตกฺเกนา’’ติ.
อถ ¶ โข อายสฺมา เมฆิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธ ¶ มยฺหํ, ภนฺเต, ตสฺมึ อมฺพวเน วิหรนฺตสฺส เยภุยฺเยน ตโย ปาปกา อกุสลา วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ, เสยฺยถิทํ – กามวิตกฺโก, พฺยาปาทวิตกฺโก, วิหึสาวิตกฺโก. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! สทฺธาย จ วตมฺหา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา; อถ จ ปนิเมหิ ¶ ตีหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ วิตกฺเกหิ อนฺวาสตฺตา – กามวิตกฺเกน, พฺยาปาทวิตกฺเกน, วิหึสาวิตกฺเกนาติ’’’.
‘‘อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา ปฺจ ธมฺมา ปริปกฺกาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ? อิธ, เมฆิย, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ปโม ธมฺโม ปริปกฺกาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ทุติโย ธมฺโม ปริปกฺกาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา ¶ สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา ¶ วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปิยา กถาย นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ตติโย ธมฺโม ปริปกฺกาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ จตุตฺโถ ธมฺโม ปริปกฺกาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ปฺจโม ธมฺโม ปริปกฺกาย สํวตฺตติ.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ ¶ , เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – ‘สีลวา ภวิสฺสติ…เป. ¶ … สมาทาย สิกฺขิสฺสติ สิกฺขาปเทสุ’’’.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – ‘ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปิยา กถาย นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’’.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – ‘อารทฺธวีริโย วิหริสฺสติ…เป… อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ’’’.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ ¶ , เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส – ‘ปฺวา ภวิสฺสติ…เป… สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยา’’’.
‘‘เตน ¶ จ ปน, เมฆิย, ภิกฺขุนา อิเมสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย จตฺตาโร ธมฺมา อุตฺตริ ภาเวตพฺพา – อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานาย, เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ปหานาย, อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทาย, อนิจฺจสฺา ภาเวตพฺพา อสฺมิมานสมุคฺฆาตาย. อนิจฺจสฺิโน, เมฆิย, อนตฺตสฺา สณฺาติ. อนตฺตสฺี อสฺมิมานสมุคฺฆาตํ ปาปุณาติ ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพาน’’นฺติ. ตติยํ.
๔. นนฺทกสุตฺตํ
๔. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นนฺทโก อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺเก อฏฺาสิ กถาปริโยสานํ อาคมยมาโน. อถ โข ภควา กถาปริโยสานํ วิทิตฺวา อุกฺกาเสตฺวา อคฺคฬํ ¶ อาโกเฏสิ. วิวรึสุ โข เต ภิกฺขู ภควโต ทฺวารํ.
อถ ¶ โข ภควา อุปฏฺานสาลํ ปวิสิตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ เอตทโวจ – ‘‘ทีโฆ โข ตฺยายํ, นนฺทก, ธมฺมปริยาโย ภิกฺขูนํ ปฏิภาสิ. อปิ เม ปิฏฺิ อาคิลายติ พหิทฺวารโกฏฺเก ¶ ิตสฺส กถาปริโยสานํ อาคมยมานสฺสา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา นนฺทโก สารชฺชมานรูโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข ปน มยํ, ภนฺเต, ชานาม ‘ภควา พหิทฺวารโกฏฺเก ิโต’ติ. สเจ หิ มยํ, ภนฺเต, ชาเนยฺยาม ‘ภควา พหิทฺวารโกฏฺเก ิโต’ติ, เอตฺตกมฺปิ ( ) [(ธมฺมํ) กตฺถจิ] โน นปฺปฏิภาเสยฺยา’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ สารชฺชมานรูปํ วิทิตฺวา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, สาธุ, นนฺทก! เอตํ โข, นนฺทก, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ, ยํ ตุมฺเห ธมฺมิยา กถาย สนฺนิสีเทยฺยาถ. สนฺนิปติตานํ โว, นนฺทก, ทฺวยํ กรณียํ – ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว. [อ. นิ. ๘.๗๑; ๙.๑] สทฺโธ จ, นนฺทก, ภิกฺขุ ¶ โหติ, โน จ สีลวา. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ ¶ สีลวา จา’ติ. ยโต จ โข, นนฺทก, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ.
‘‘สทฺโธ จ, นนฺทก, ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ, โน จ ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ สีลวา จ ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺสา’ติ. ยโต จ โข, นนฺทก, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ.
‘‘สทฺโธ จ, นนฺทก, ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. เอวํ โส เตนงฺเคน ¶ อปริปูโร โหติ. เสยฺยถาปิ, นนฺทก, ปาณโก จตุปฺปาทโก อสฺส. ตสฺส เอโก ปาโท โอมโก ลามโก. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร อสฺส. เอวเมวํ โข, นนฺทก, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย. เอวํ ¶ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ สีลวา จ ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายา’’’ติ.
‘‘ยโต จ โข, นนฺทก, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
อถ โข อายสฺมา นนฺทโก อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิทานิ, อาวุโส, ภควา จตูหิ ปเทหิ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตฺวา ¶ อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘สทฺโธ จ, นนฺทก, ภิกฺขุ โหติ, โน จ สีลวา. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ สีลวา จา’ติ. ยโต จ โข นนฺทก ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ. สทฺโธ จ นนฺทก ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ, โน จ ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส…เป… ลาภี ¶ จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร ¶ โหติ. เสยฺยถาปิ นนฺทก ปาณโก จตุปฺปาทโก อสฺส, ตสฺส เอโก ปาโท โอมโก ลามโก, เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร อสฺส. เอวเมวํ โข, นนฺทก, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ, ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ, เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ สีลวา จ, ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส, ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายา’ติ. ยโต จ โข, นนฺทก, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมาธิสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหตี’’ติ.
‘‘ปฺจิเม, อาวุโส, อานิสํสา กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน ธมฺมสากจฺฉาย. กตเม ปฺจ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ ¶ , ตถา ตถา โส สตฺถุ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ. อยํ, อาวุโส, ปโม อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน ธมฺมสากจฺฉาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ ¶ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ¶ ปกาเสติ, ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฺปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฺปฏิสํเวที จ. อยํ, อาวุโส, ทุติโย อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน ธมฺมสากจฺฉาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ, ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม คมฺภีรํ อตฺถปทํ ปฺาย อติวิชฺฌ ปสฺสติ. อยํ, อาวุโส, ตติโย อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน ธมฺมสากจฺฉาย.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ, ตถา ตถา นํ สพฺรหฺมจารี อุตฺตริ สมฺภาเวนฺติ – ‘อทฺธา อยมายสฺมา ปตฺโต วา ปชฺชติ วา’. อยํ, อาวุโส, จตุตฺโถ อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน ธมฺมสากจฺฉาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ ¶ , เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ, ตตฺถ เย โข ภิกฺขู เสขา อปฺปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ, เต ตํ ธมฺมํ สุตฺวา วีริยํ อารภนฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส ¶ อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เย ปน ตตฺถ ภิกฺขู อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทฺาวิมุตฺตา, เต ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํเยว ¶ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. อยํ, อาวุโส, ปฺจโม อานิสํโส กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน ธมฺมสากจฺฉาย. อิเม โข, อาวุโส, ปฺจ อานิสํสา กาเลน ธมฺมสฺสวเน กาเลน ธมฺมสากจฺฉายา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. พลสุตฺตํ
๕. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปฺาพลํ, วีริยพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคาหพลํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ? เย ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา เย ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา เย ธมฺมา สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา เย ธมฺมา อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา เย ธมฺมา กณฺหา กณฺหสงฺขาตา เย ธมฺมา สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตา เย ธมฺมา เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา เย ธมฺมา อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา เย ธมฺมา นาลมริยา นาลมริยสงฺขาตา เย ธมฺมา อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, ตฺยาสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฺาพลํ.
‘‘กตมฺจ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, วีริยพลํ? เย ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา เย ธมฺมา สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา เย ธมฺมา กณฺหา กณฺหสงฺขาตา เย ธมฺมา อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา เย ธมฺมา นาลมริยา นาลมริยสงฺขาตา, เตสํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เย ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา เย ธมฺมา อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา เย ธมฺมา สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตา เย ธมฺมา เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา ¶ เย ธมฺมา อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, เตสํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วีริยพลํ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อนวชฺชพลํ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อนวชฺเชน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนวชฺชพลํ.
‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, สงฺคาหพลํ? จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สงฺคหวตฺถูนิ – ทานํ, เปยฺยวชฺชํ, อตฺถจริยา, สมานตฺตตา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, ทานานํ ยทิทํ ธมฺมทานํ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, เปยฺยวชฺชานํ ยทิทํ อตฺถิกสฺส โอหิตโสตสฺส ปุนปฺปุนํ ธมฺมํ เทเสติ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อตฺถจริยานํ ยทิทํ อสฺสทฺธํ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ, ทุสฺสีลํ สีลสมฺปทาย… เป… มจฺฉรึ จาคสมฺปทาย…เป… ทุปฺปฺํ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ นิเวเสติ ปติฏฺาเปติ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, สมานตฺตตานํ ยทิทํ ¶ โสตาปนฺโน โสตาปนฺนสฺส สมานตฺโต, สกทาคามี สกทาคามิสฺส สมานตฺโต, อนาคามี อนาคามิสฺส สมานตฺโต, อรหา อรหโต สมานตฺโต. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สงฺคาหพลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ พลานิ.
‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ พเลหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก ปฺจ ภยานิ สมติกฺกนฺโต โหติ. กตมานิ ปฺจ? อาชีวิกภยํ, อสิโลกภยํ, ปริสสารชฺชภยํ, มรณภยํ ¶ , ทุคฺคติภยํ. ส โข โส, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘นาหํ อาชีวิกภยสฺส ภายามิ. กิสฺสาหํ อาชีวิกภยสฺส ภายิสฺสามิ? อตฺถิ เม จตฺตาริ พลานิ – ปฺาพลํ, วีริยพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคาหพลํ. ทุปฺปฺโ โข อาชีวิกภยสฺส ¶ ภาเยยฺย. กุสีโต อาชีวิกภยสฺส ภาเยยฺย. สาวชฺชกายกมฺมนฺตวจีกมฺมนฺตมโนกมฺมนฺโต อาชีวิกภยสฺส ภาเยยฺย. อสงฺคาหโก อาชีวิกภยสฺส ภาเยยฺย. นาหํ อสิโลกภยสฺส ภายามิ…เป… นาหํ ปริสสารชฺชภยสฺส ภายามิ…เป… นาหํ มรณภยสฺส ภายามิ…เป… นาหํ ทุคฺคติภยสฺส ภายามิ. กิสฺสาหํ ทุคฺคติภยสฺส ภายิสฺสามิ? อตฺถิ เม จตฺตาริ พลานิ – ปฺาพลํ, วีริยพลํ, อนวชฺชพลํ, สงฺคาหพลํ. ทุปฺปฺโ โข ทุคฺคติภยสฺส ภาเยยฺย. กุสีโต ทุคฺคติภยสฺส ภาเยยฺย. สาวชฺชกายกมฺมนฺตวจีกมฺมนฺตมโนกมฺมนฺโต ทุคฺคติภยสฺส ภาเยยฺย. อสงฺคาหโก ทุคฺคติภยสฺส ภาเยยฺย. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ พเลหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อิมานิ ปฺจ ภยานิ สมติกฺกนฺโต โหตี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. เสวนาสุตฺตํ
๖. ตตฺร ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘ปุคฺคโลปิ ¶ , อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปิ. จีวรมฺปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺพํ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. ปิณฺฑปาโตปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปิ. เสนาสนมฺปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺพํ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. คามนิคโมปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ ¶ อเสวิตพฺโพปิ. ชนปทปเทโสปิ อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปิ.
‘‘‘ปุคฺคโลปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ปุคฺคลํ – ‘อิมํ โข เม ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; เย จ โข เม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา เต จ กสิเรน สมุทาคจฺฉนฺติ; ยสฺส จมฺหิ อตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โส จ เม สามฺตฺโถ ¶ น ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’ติ, เตนาวุโส, ปุคฺคเลน โส ปุคฺคโล รตฺติภาคํ วา ทิวสภาคํ วา สงฺขาปิ อนาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพํ นานุพนฺธิตพฺโพ.
‘‘ตตฺถ ยํ ชฺา ปุคฺคลํ – ‘อิมํ โข เม ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; เย จ โข เม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา เต ¶ จ อปฺปกสิเรน สมุทาคจฺฉนฺติ; ยสฺส จมฺหิ อตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โส จ เม สามฺตฺโถ น ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’ติ, เตนาวุโส, ปุคฺคเลน โส ปุคฺคโล สงฺขาปิ อนาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพํ นานุพนฺธิตพฺโพ.
‘‘ตตฺถ ยํ ชฺา ปุคฺคลํ – ‘อิมํ โข เม ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ¶ ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ; เย จ โข เม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา เต จ กสิเรน สมุทาคจฺฉนฺติ; ยสฺส จมฺหิ อตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โส จ เม สามฺตฺโถ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’ติ, เตนาวุโส, ปุคฺคเลน โส ปุคฺคโล สงฺขาปิ อนุพนฺธิตพฺโพ น ปกฺกมิตพฺพํ.
‘‘ตตฺถ ¶ ยํ ชฺา ปุคฺคลํ – ‘อิมํ โข เม ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ; เย จ โข เม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา เต จ อปฺปกสิเรน สมุทาคจฺฉนฺติ; ยสฺส จมฺหิ อตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โส จ เม สามฺตฺโถ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’ติ, เตนาวุโส, ปุคฺคเลน โส ปุคฺคโล ยาวชีวํ อนุพนฺธิตพฺโพ น ปกฺกมิตพฺพํ อปิ ปนุชฺชมาเนน [ปณุชฺชมาเนน (?)]. ‘ปุคฺคโลปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘จีวรมฺปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺพํ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ¶ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา จีวรํ – ‘อิทํ โข เม จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ จีวรํ น เสวิตพฺพํ ¶ . ตตฺถ ยํ ชฺา จีวรํ – ‘อิทํ โข เม จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ จีวรํ เสวิตพฺพํ. ‘จีวรมฺปิ ¶ , อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺพํ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ปิณฺฑปาโตปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ปิณฺฑปาตํ – ‘อิมํ โข เม ปิณฺฑปาตํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป ปิณฺฑปาโต น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา ปิณฺฑปาตํ – ‘อิมํ โข เม ปิณฺฑปาตํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป ปิณฺฑปาโต เสวิตพฺโพ. ‘ปิณฺฑปาโตปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘เสนาสนมฺปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺพํ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา เสนาสนํ – ‘‘อิทํ โข เม เสนาสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ เสนาสนํ น ¶ เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ชฺา เสนาสนํ – ‘อิทํ โข เม เสนาสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ ¶ , กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ เสนาสนํ เสวิตพฺพํ. ‘เสนาสนมฺปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺพํ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘คามนิคโมปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา คามนิคมํ – ‘อิมํ โข เม คามนิคมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป คามนิคโม น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา คามนิคมํ – ‘อิมํ โข, เม คามนิคมํ ¶ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป คามนิคโม เสวิตพฺโพ. ‘คามนิคโมปิ, อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ชนปทปเทโสปิ ¶ , อาวุโส, ทุวิเธน เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ชนปทปเทสํ – ‘อิมํ โข เม ชนปทปเทสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป ชนปทปเทโส น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา ชนปทปเทสํ – ‘อิมํ โข เม ชนปทปเทสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป ชนปทปเทโส เสวิตพฺโพ. ‘ชนปทปเทโสปิ, อาวุโส, ทุวิเธน ¶ เวทิตพฺโพ – เสวิตพฺโพปิ อเสวิตพฺโพปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ฉฏฺํ.
๗. สุตวาสุตฺตํ
๗. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข สุตวา ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุตวา ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ ภควา อิเธว ราชคเห วิหรามิ คิริพฺพเช. ตตฺร เม, ภนฺเต, ภควโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘โย โส, สุตวา ¶ [สุตว (สฺยา.)], ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร ¶ อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, อภพฺโพ โส ปฺจ านานิ อชฺฌาจริตุํ – อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา [สมฺปชานํ มุสา (ก. สี.)] ภาสิตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริยภูโต’ติ. กจฺจิ เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริต’’นฺติ?
‘‘ตคฺฆ เต เอตํ, สุตวา, สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ. ปุพฺเพ จาหํ, สุตวา, เอตรหิ จ เอวํ วทามิ – ‘โย โส ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, อภพฺโพ ¶ โส นว านานิ อชฺฌาจริตุํ ¶ – อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริยภูโต, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ฉนฺทาคตึ คนฺตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ โทสาคตึ คนฺตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ โมหาคตึ คนฺตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ภยาคตึ ¶ คนฺตุํ’. ปุพฺเพ จาหํ, สุตวา, เอตรหิ จ เอวํ วทามิ – ‘โย โส ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, อภพฺโพ โส อิมานิ นว านานิ อชฺฌาจริตุ’’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. สชฺฌสุตฺตํ
๘. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข สชฺโฌ ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สชฺโฌ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ ภควา อิเธว ราชคเห วิหรามิ คิริพฺพเช. ตตฺร เม, ภนฺเต, ภควโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘โย โส, สชฺฌ, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, อภพฺโพ โส ปฺจ านานิ อชฺฌาจริตุํ – อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ¶ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริยภูโต’ติ. กจฺจิ เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริต’’นฺติ?
‘‘ตคฺฆ ¶ เต เอตํ, สชฺฌ, สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ. ปุพฺเพ จาหํ, สชฺฌ ¶ , เอตรหิ จ เอวํ วทามิ – ‘โย โส ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, อภพฺโพ โส นว านานิ อชฺฌาจริตุํ – อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ…เป… อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริยภูโต, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ พุทฺธํ ปจฺจกฺขาตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ธมฺมํ ปจฺจกฺขาตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สงฺฆํ ปจฺจกฺขาตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตุํ’. ปุพฺเพ จาหํ, สชฺฌ, เอตรหิ จ เอวํ วทามิ – ‘โย โส ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, อภพฺโพ โส อิมานิ นว านานิ อชฺฌาจริตุ’’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. ปุคฺคลสุตฺตํ
๙. ‘‘นวยิเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ¶ นว? อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ¶ , โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, ปุถุชฺชโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, นว ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. นวมํ.
๑๐. อาหุเนยฺยสุตฺตํ
๑๐. ‘‘นวยิเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม นว? อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, โคตฺรภู – อิเม โข, ภิกฺขเว, นว ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ทสมํ.
สมฺโพธิวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
สมฺโพธิ นิสฺสโย เจว, เมฆิย นนฺทกํ พลํ;
เสวนา สุตวา สชฺโฌ, ปุคฺคโล อาหุเนยฺเยน จาติ.
๒. สีหนาทวคฺโค
๑. สีหนาทสุตฺตํ
๑๑. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘วุตฺโถ ¶ เม, ภนฺเต, สาวตฺถิยํ วสฺสาวาโส. อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ชนปทจาริกํ ปกฺกมิตุ’’นฺติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ ¶ โข อฺตโร ภิกฺขุ อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต สาริปุตฺเต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา มํ, ภนฺเต, สาริปุตฺโต อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกนฺโต’’ติ. อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ¶ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน สาริปุตฺตํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ตสฺส ภิกฺขุโน ปจฺจสฺโสสิ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน [มหาโมคฺคลาโน (ก.)] อายสฺมา จ อานนฺโท อวาปุรณํ [อปาปุรณํ (สฺยา. ก.)] อาทาย วิหาเร อาหิณฺฑนฺติ [วิหาเรน วิหารํ อนฺวาหิณฺฑนฺติ (สี. ปี.), วิหารํ อาหิณฺฑนฺติ (สฺยา.)] – ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต! อิทานายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต สมฺมุขา สีหนาทํ นทิสฺสตี’’ติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อิธ เต, สาริปุตฺต, อฺตโร สพฺรหฺมจารี ขียนธมฺมํ อาปนฺโน – ‘อายสฺมา มํ, ภนฺเต, สาริปุตฺโต อาสชฺช ¶ อปฺปฏินิสฺสชฺชจาริกํ ปกฺกนฺโต’’’ติ.
‘‘ยสฺส ¶ นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ปถวิยํ สุจิมฺปิ นิกฺขิปนฺติ อสุจิมฺปิ นิกฺขิปนฺติ คูถคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ มุตฺตคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ เขฬคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ ปุพฺพคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ โลหิตคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, น จ เตน ปถวี อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมวํ ¶ โข อหํ, ภนฺเต, ปถวีสเมน เจตสา วิหรามิ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อาปสฺมึ สุจิมฺปิ โธวนฺติ อสุจิมฺปิ โธวนฺติ คูถคตมฺปิ… มุตฺตคตมฺปิ… เขฬคตมฺปิ… ปุพฺพคตมฺปิ… โลหิตคตมฺปิ โธวนฺติ, น จ เตน อาโป อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อาโปสเมน เจตสา วิหรามิ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน ¶ อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, เตโช สุจิมฺปิ ฑหติ อสุจิมฺปิ ฑหติ คูถคตมฺปิ… มุตฺตคตมฺปิ… เขฬคตมฺปิ… ปุพฺพคตมฺปิ… โลหิตคตมฺปิ ฑหติ, น จ เตน เตโช อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมวํ โข อหํ ¶ , ภนฺเต, เตโชสเมน เจตสา วิหรามิ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, วาโย สุจิมฺปิ อุปวายติ อสุจิมฺปิ อุปวายติ คูถคตมฺปิ… มุตฺตคตมฺปิ… เขฬคตมฺปิ… ปุพฺพคตมฺปิ… โลหิตคตมฺปิ อุปวายติ, น จ เตน วาโย อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, วาโยสเมน เจตสา วิหรามิ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ ¶ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภนฺเต, รโชหรณํ สุจิมฺปิ ปฺุฉติ อสุจิมฺปิ ปฺุฉติ คูถคตมฺปิ… มุตฺตคตมฺปิ… เขฬคตมฺปิ… ปุพฺพคตมฺปิ… โลหิตคตมฺปิ ปฺุฉติ, น จ เตน รโชหรณํ อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, รโชหรณสเมน เจตสา วิหรามิ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, จณฺฑาลกุมารโก วา จณฺฑาลกุมาริกา วา กโฬปิหตฺโถ นนฺตกวาสี คามํ วา นิคมํ วา ปวิสนฺโต นีจจิตฺตํเยว อุปฏฺเปตฺวา ¶ ปวิสติ; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, จณฺฑาลกุมารกจณฺฑาลกุมาริกาสเมน เจตสา วิหรามิ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ ¶ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อุสโภ ฉินฺนวิสาโณ สูรโต สุทนฺโต สุวินีโต รถิยาย รถิยํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ อนฺวาหิณฺฑนฺโต น กิฺจิ หึสติ ปาเทน วา วิสาเณน วา; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อุสภฉินฺนวิสาณสเมน เจตสา วิหรามิ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก สีสํนฺหาโต อหิกุณเปน วา กุกฺกุรกุณเปน ¶ วา มนุสฺสกุณเปน วา กณฺเ อาสตฺเตน อฏฺฏีเยยฺย หราเยยฺย ชิคุจฺเฉยฺย; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อิมินา ปูติกาเยน อฏฺฏียามิ หรายามิ ชิคุจฺฉามิ. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺย.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภนฺเต, ปุริโส เมทกถาลิกํ ปริหเรยฺย ฉิทฺทาวฉิทฺทํ อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อิมํ กายํ ปริหรามิ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ ¶ อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ. ยสฺส นูน, ภนฺเต, กาเย กายคตาสติ อนุปฏฺิตา อสฺส, โส อิธ อฺตรํ สพฺรหฺมจารึ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกเมยฺยา’’ติ.
อถ โข โส ภิกฺขุ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โย อหํ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขึ. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหตุ อายตึ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตํ [ตฺวํ (สี. ปี.)], ภิกฺขุ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โย ตฺวํ สาริปุตฺตํ อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขิ. ยโต จ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ¶ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุฑฺฒิเหสา, ภิกฺขุ, อริยสฺส วินเย โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ขม, สาริปุตฺต, อิมสฺส โมฆปุริสสฺส, ปุรา ตสฺส ตตฺเถว สตฺตธา มุทฺธา ผลตี’’ติ [ผลิสฺสตีติ (ก. สี. สฺยา. ปี. ก.) อฏฺกถาสุ ปน ‘‘ผลตีติ’’ อิตฺเวว ทิสฺสติ]. ‘‘ขมามหํ, ภนฺเต, ตสฺส อายสฺมโต สเจ มํ โส อายสฺมา เอวมาห – ‘ขมตุ จ เม โส อายสฺมา’’’ติ. ปมํ.
๒. สอุปาทิเสสสุตฺตํ
๑๒. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ¶ สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ, ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, สอุปาทิเสโส กาลํ กโรติ, สพฺโพ โส อปริมุตฺโต นิรยา อปริมุตฺโต ติรจฺฉานโยนิยา อปริมุตฺโต เปตฺติวิสยา อปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา’’ติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ¶ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ¶ ปิณฺฑาย จริตุํ; ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ. อถ โข อหํ, ภนฺเต, เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เตน โข ปน สมเยน เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, สอุปาทิเสโส กาลํ กโรติ, สพฺโพ โส อปริมุตฺโต นิรยา อปริมุตฺโต ติรจฺฉานโยนิยา อปริมุตฺโต เปตฺติวิสยา อปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา’ติ. อถ โข อหํ, ภนฺเต, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ – ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’’ติ.
‘‘เก จ [เกจิ (สฺยา. ปี.), เต จ (ก.)], สาริปุตฺต, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา พาลา อพฺยตฺตา, เก จ [เกจิ (สฺยา. ปี. ก.) อ. นิ. ๖.๔๔ ปาฬิยา สํสนฺเทตพฺพํ] สอุปาทิเสสํ วา ‘สอุปาทิเสโส’ติ ชานิสฺสนฺติ, อนุปาทิเสสํ วา ‘อนุปาทิเสโส’ติ ชานิสฺสนฺติ’’!
‘‘นวยิเม, สาริปุตฺต, ปุคฺคลา สอุปาทิเสสา กาลํ กุรุมานา ปริมุตฺตา นิรยา ปริมุตฺตา ติรจฺฉานโยนิยา ปริมุตฺตา เปตฺติวิสยา ปริมุตฺตา อปายทุคฺคติวินิปาตา. กตเม นว? อิธ ¶ , สาริปุตฺต, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี ¶ , ปฺาย มตฺตโส การี. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. อยํ, สาริปุตฺต ¶ , ปโม ปุคฺคโล สอุปาทิเสโส กาลํ กุรุมาโน ปริมุตฺโต นิรยา ปริมุตฺโต ติรจฺฉานโยนิยา ¶ ปริมุตฺโต เปตฺติวิสยา ปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา.
‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ…เป… อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ…เป… อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. อยํ, สาริปุตฺต, ปฺจโม ปุคฺคโล สอุปาทิเสโส กาลํ กุรุมาโน ปริมุตฺโต นิรยา ปริมุตฺโต ติรจฺฉานโยนิยา ปริมุตฺโต เปตฺติวิสยา ปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา.
‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ, สาริปุตฺต, ฉฏฺโ ปุคฺคโล สอุปาทิเสโส กาลํ กุรุมาโน ปริมุตฺโต นิรยา…เป… ปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา.
‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา เอกพีชี โหติ, เอกํเยว มานุสกํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ ¶ กโรติ. อยํ, สาริปุตฺต, สตฺตโม ปุคฺคโล สอุปาทิเสโส ¶ กาลํ กุรุมาโน ปริมุตฺโต นิรยา…เป… ปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา.
‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โกลํโกโล โหติ, ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานิ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ, สาริปุตฺต, อฏฺโม ปุคฺคโล สอุปาทิเสโส กาลํ กุรุมาโน ปริมุตฺโต นิรยา…เป… ปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, สาริปุตฺต, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ติณฺณํ ¶ สํโยชนานํ ปริกฺขยา สตฺตกฺขตฺตุปรโม โหติ, สตฺตกฺขตฺตุปรมํ เทเว จ มนุสฺเส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ, สาริปุตฺต, นวโม ปุคฺคโล สอุปาทิเสโส กาลํ กุรุมาโน ปริมุตฺโต นิรยา ปริมุตฺโต ติรจฺฉานโยนิยา ปริมุตฺโต เปตฺติวิสยา ปริมุตฺโต อปายทุคฺคติวินิปาตา.
‘‘เก จ, สาริปุตฺต, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา พาลา อพฺยตฺตา, เก จ สอุปาทิเสสํ วา ‘สอุปาทิเสโส’ติ ชานิสฺสนฺติ, อนุปาทิเสสํ วา ‘อนุปาทิเสโส’ติ ชานิสฺสนฺติ! อิเม โข, สาริปุตฺต, นว ปุคฺคลา สอุปาทิเสสา กาลํ กุรุมานา ปริมุตฺตา นิรยา ปริมุตฺตา ติรจฺฉานโยนิยา ปริมุตฺตา เปตฺติวิสยา ปริมุตฺตา อปายทุคฺคติวินิปาตา. น ตาวายํ, สาริปุตฺต, ธมฺมปริยาโย ปฏิภาสิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. ตํ กิสฺส ¶ เหตุ? มายิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ปมาทํ อาหรึสูติ [อาหรึสุ (สี. ปี.)]. อปิ ¶ จ มยา [อปิ จายํ (?)], สาริปุตฺต, ธมฺมปริยาโย ปฺหาธิปฺปาเยน ภาสิโต’’ติ. ทุติยํ.
๓. โกฏฺิกสุตฺตํ
๑๓. อถ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก [มหาโกฏฺิโต (สี. สฺยา. ปี.)] เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ สมฺปรายเวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ สุขเวทนียํ [สุขเวทนิยํ (ก.) ม. นิ. ๓.๘ ปสฺสิตพฺพํ], ตํ เม กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ [ทุกฺขเวทนิยํ (ก.)] โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ สุขเวทนียํ [สุขเวทนิยํ (ก.) ม. นิ. ๓.๘ ปสฺสิตพฺพํ], ตํ เม กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ [ทุกฺขเวทนิยํ (ก.)] โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ¶ ¶ ปนาวุโส, สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ สุขเวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน ¶ หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ พหุเวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ อปฺปเวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต ¶ , ‘ยํ กมฺมํ อปฺปเวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ พหุเวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ เวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ อเวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ‘ยํ กมฺมํ อเวทนียํ, ตํ เม กมฺมํ เวทนียํ โหตู’ติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’.
‘‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ สมฺปรายเวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ สมฺปรายเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหตูติ ¶ , เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ¶ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ สุขเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ สุขเวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ¶ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ ¶ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ พหุเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ อปฺปเวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ อปฺปเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ พหุเวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ เวทนียํ ตํ เม กมฺมํ อเวทนียํ โหตูติ ¶ , เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ยํ กมฺมํ อเวทนียํ ตํ เม กมฺมํ เวทนียํ โหตูติ, เอตสฺส อตฺถาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘โน หิทํ, อาวุโส’ติ วเทสิ. อถ กิมตฺถํ จรหาวุโส, ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ?
‘‘ยํ ขฺวสฺส [ยํ โข (ก.)], อาวุโส, อฺาตํ อทิฏฺํ อปฺปตฺตํ อสจฺฉิกตํ อนภิสเมตํ, ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ปตฺติยา สจฺฉิกิริยาย อภิสมยาย ภควติ ¶ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ [วุสฺสติ (สฺยา.)]. (‘‘กึ ปนสฺสาวุโส, อฺาตํ ¶ อทิฏฺํ อปฺปตฺตํ อสจฺฉิกตํ อนภิสเมตํ, ยสฺส าณาย ทสฺสนาย ปตฺติยา สจฺฉิกิริยาย อภิสมยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ?) [( ) สฺยา. ก. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] ‘‘‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ขฺวสฺส [โข ยํ (ก.)], อาวุโส, อฺาตํ อทิฏฺํ อปฺปตฺตํ อสจฺฉิกตํ อนภิสเมตํ. ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ปตฺติยา สจฺฉิกิริยาย อภิสมยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. อยํ ¶ ‘ทุกฺขสมุทโย’ติ ขฺวสฺส, อาวุโส…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ขฺวสฺส, อาวุโส…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ขฺวสฺส, อาวุโส, อฺาตํ อทิฏฺํ อปฺปตฺตํ อสจฺฉิกตํ อนภิสเมตํ. ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ปตฺติยา สจฺฉิกิริยาย อภิสมยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. อิทํ ขฺวสฺส [อิติ โข ยํ (ก.)], อาวุโส, อฺาตํ อทิฏฺํ อปฺปตฺตํ อสจฺฉิกตํ อนภิสเมตํ. ตสฺส [ยสฺส (?)] าณาย ทสฺสนาย ปตฺติยา สจฺฉิกิริยาย อภิสมยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ. ตติยํ.
๔. สมิทฺธิสุตฺตํ
๑๔. อถ โข อายสฺมา สมิทฺธิ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สมิทฺธึ อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘กิมารมฺมณา, สมิทฺธิ, ปุริสสฺส สงฺกปฺปวิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘นามรูปารมฺมณา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน, สมิทฺธิ, กฺว นานตฺตํ คจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘ธาตูสุ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึสมุทยา’’ติ? ‘‘ผสฺสสมุทยา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึสโมสรณา’’ติ? ‘‘เวทนาสโมสรณา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน ¶ , สมิทฺธิ, กึปมุขา’’ติ? ‘‘สมาธิปฺปมุขา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึอธิปเตยฺยา’’ติ? ‘‘สตาธิปเตยฺยา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึอุตฺตรา’’ติ? ‘‘ปฺุตฺตรา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึสารา’’ติ? ‘‘วิมุตฺติสารา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึโอคธา’’ติ? ‘‘อมโตคธา, ภนฺเต’’ติ.
‘‘‘กิมารมฺมณา, สมิทฺธิ, ปุริสสฺส สงฺกปฺปวิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นามรูปารมฺมณา, ภนฺเต’ติ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กฺว ¶ นานตฺตํ คจฺฉนฺตี’ติ, อิติ ¶ ปุฏฺโ สมาโน ‘ธาตูสุ, ภนฺเต’ติ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึสมุทยา’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘ผสฺสสมุทยา, ภนฺเต’ติ ¶ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึสโมสรณา’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘เวทนาสโมสรณา, ภนฺเต’ติ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึปมุขา’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘สมาธิปฺปมุขา, ภนฺเต’ติ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึอธิปเตยฺยา’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘สตาธิปเตยฺยา, ภนฺเต’ติ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึอุตฺตรา’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘ปฺุตฺตรา, ภนฺเต’ติ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึสารา’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘วิมุตฺติสารา, ภนฺเต’ติ วเทสิ. ‘เต ปน, สมิทฺธิ, กึโอคธา’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘อมโตคธา, ภนฺเต’ติ วเทสิ. สาธุ สาธุ, สมิทฺธิ! สาธุ โข ตฺวํ, สมิทฺธิ, ปุฏฺโ [ปฺหํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชสิ, เตน จ มา มฺี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. คณฺฑสุตฺตํ
๑๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คณฺโฑ อเนกวสฺสคณิโก. ตสฺสสฺสุ คณฺฑสฺส นว วณมุขานิ นว อเภทนมุขานิ. ตโต ยํ กิฺจิ ปคฺฆเรยฺย – อสุจิเยว ปคฺฆเรยฺย, ทุคฺคนฺธํเยว ปคฺฆเรยฺย, เชคุจฺฉิยํเยว [เชคุจฺฉิเยว (ก.)] ปคฺฆเรยฺย; ยํ กิฺจิ ปสเวยฺย – อสุจิเยว ปสเวยฺย, ทุคฺคนฺธํเยว ปสเวยฺย, เชคุจฺฉิยํเยว ปสเวยฺย.
‘‘คณฺโฑติ โข, ภิกฺขเว, อิมสฺเสตํ จาตุมหาภูติกสฺส [จาตุมฺมหาภูติกสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] กายสฺส อธิวจนํ มาตาเปตฺติกสมฺภวสฺส โอทนกุมฺมาสูปจยสฺส อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺส. ตสฺสสฺสุ คณฺฑสฺส นว วณมุขานิ นว อเภทนมุขานิ. ตโต ยํ กิฺจิ ปคฺฆรติ – อสุจิเยว ปคฺฆรติ, ทุคฺคนฺธํเยว ปคฺฆรติ, เชคุจฺฉิยํเยว ¶ ปคฺฆรติ; ยํ กิฺจิ ปสวติ ¶ – อสุจิเยว ¶ ปสวติ, ทุคฺคนฺธํเยว ปสวติ, เชคุจฺฉิยํเยว ปสวติ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ กาเย นิพฺพินฺทถา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. สฺาสุตฺตํ
๑๖. ‘‘นวยิมา, ภิกฺขเว, สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. กตมา นว ¶ ? อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา [ปฏิกฺกูลสฺา (สี. สฺยา. ปี.)], สพฺพโลเก อนภิรตสฺา [อนภิรติสฺา (ก.) อ. นิ. ๕.๑๒๑-๑๒๒], อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา – อิมา โข, ภิกฺขเว, นว สฺา, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. กุลสุตฺตํ
๑๗. ‘‘นวหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา นาลํ อุปคนฺตุํ, อุปคนฺตฺวา วา นาลํ นิสีทิตุํ. กตเมหิ นวหิ? น มนาเปน ปจฺจุฏฺเนฺติ, น มนาเปน อภิวาเทนฺติ, น มนาเปน อาสนํ เทนฺติ, สนฺตมสฺส ปริคุหนฺติ, พหุกมฺปิ โถกํ เทนฺติ, ปณีตมฺปิ ลูขํ เทนฺติ, อสกฺกจฺจํ เทนฺติ โน สกฺกจฺจํ, น อุปนิสีทนฺติ ธมฺมสฺสวนาย, ภาสิตมสฺส น สุสฺสูสนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, นวหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา นาลํ อุปคนฺตุํ อุปคนฺตฺวา วา นาลํ นิสีทิตุํ.
‘‘นวหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา อลํ อุปคนฺตุํ, อุปคนฺตฺวา วา อลํ นิสีทิตุํ. กตเมหิ นวหิ? มนาเปน ปจฺจุฏฺเนฺติ, มนาเปน อภิวาเทนฺติ, มนาเปน อาสนํ เทนฺติ, สนฺตมสฺส ¶ น ปริคุหนฺติ, พหุกมฺปิ ¶ พหุกํ เทนฺติ, ปณีตมฺปิ ปณีตํ เทนฺติ, สกฺกจฺจํ เทนฺติ โน อสกฺกจฺจํ, อุปนิสีทนฺติ ธมฺมสฺสวนาย, ภาสิตมสฺส สุสฺสูสนฺติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, นวหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ กุลํ อนุปคนฺตฺวา วา อลํ อุปคนฺตุํ, อุปคนฺตฺวา วา อลํ นิสีทิตุ’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. นวงฺคุโปสถสุตฺตํ
๑๘. ‘‘นวหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, ภิกฺขเว, นวหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ¶ ทยาปนฺนา สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน [อิมินาปิ องฺเคน (ก. สี.)] อรหตํ อนุกโรมิ; อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ…เป. ¶ ….
‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ ¶ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา; อหมฺปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ ¶ อนุกโรมิ; อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน [อพฺยาปชฺเฌน (ก.), อพฺยาพชฺเฌน (?)] ผริตฺวา วิหรติ. อิมินา นวเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, ภิกฺขเว, นวหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร’’ติ. อฏฺมํ.
๙. เทวตาสุตฺตํ
๑๙. ‘‘อิมฺจ, ภิกฺขเว, รตฺตึ สมฺพหุลา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อุปสงฺกมึสุ โน, ภนฺเต, ปุพฺเพ มนุสฺสภูตานํ ปพฺพชิตา อคารานิ. เต มยํ, ภนฺเต, ปจฺจุฏฺิมฺห, โน จ โข อภิวาทิมฺห. ตา มยํ, ภนฺเต, อปริปุณฺณกมฺมนฺตา วิปฺปฏิสารินิโย ปจฺจานุตาปินิโย หีนํ กายํ อุปปนฺนา’’’ติ.
‘‘อปราปิ ¶ ¶ มํ, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘อุปสงฺกมึสุ โน, ภนฺเต, ปุพฺเพ มนุสฺสภูตานํ ปพฺพชิตา อคารานิ. เต มยํ, ภนฺเต, ปจฺจุฏฺิมฺห อภิวาทิมฺห [ปจฺจุฏฺิมฺห จ อภิวาทิมฺห จ (สฺยา.)], โน จ เตสํ อาสนํ อทมฺห. ตา มยํ, ภนฺเต, อปริปุณฺณกมฺมนฺตา วิปฺปฏิสารินิโย ปจฺจานุตาปินิโย หีนํ กายํ อุปปนฺนา’’’ติ.
‘‘อปราปิ มํ, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา ¶ เอตทโวจุํ – ‘อุปสงฺกมึสุ โน, ภนฺเต, ปุพฺเพ มนุสฺสภูตานํ ปพฺพชิตา อคารานิ. เต มยํ, ภนฺเต, ปจฺจุฏฺิมฺห อภิวาทิมฺห [ปจฺจุฏฺิมฺห จ อภิวาทิมฺห จ (สฺยา.)] อาสนํ [อาสนฺจ (สี. สฺยา.)] อทมฺห, โน จ โข ยถาสตฺติ ยถาพลํ สํวิภชิมฺห…เป… ยถาสตฺติ ยถาพลํ [ยถาพลํ จ (?)] สํวิภชิมฺห, โน จ โข อุปนิสีทิมฺห ธมฺมสฺสวนาย…เป… อุปนิสีทิมฺห [อุปนิสีทิมฺห จ (สฺยา.)] ธมฺมสฺสวนาย, โน จ โข โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณิมฺห…เป… โอหิตโสตา จ ธมฺมํ สุณิมฺห, โน จ โข สุตฺวา ธมฺมํ ธารยิมฺห…เป… สุตฺวา จ ธมฺมํ ธารยิมฺห, โน จ โข ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขิมฺห…เป… ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขิมฺห, โน จ โข อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชิมฺห. ตา มยํ, ภนฺเต, อปริปุณฺณกมฺมนฺตา วิปฺปฏิสารินิโย ปจฺจานุตาปินิโย หีนํ กายํ อุปปนฺนา’’’ติ.
‘‘อปราปิ มํ, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘อุปสงฺกมึสุ โน, ภนฺเต, ปุพฺเพ มนุสฺสภูตานํ ปพฺพชิตา อคารานิ. เต มยํ, ภนฺเต, ปจฺจุฏฺิมฺห อภิวาทิมฺห [ปจฺจุฏฺิมฺห จ อภิวาทิมฺห จ (สฺยา.)], อาสนํ [อาสนฺจ (สี. สฺยา.)] อทมฺห, ยถาสตฺติ ¶ ยถาพลํ [ยถาพลํ จ (?)] สํวิภชิมฺห, อุปนิสีทิมฺห [อุปนิสีทิมฺห จ (สฺยา.)] ธมฺมสฺสวนาย, โอหิตโสตา จ ธมฺมํ สุณิมฺห, สุตฺวา จ ธมฺมํ ธารยิมฺห, ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขิมฺห, อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมํ [ธมฺมานุธมฺมฺจ (?)] ปฏิปชฺชิมฺห. ตา มยํ, ภนฺเต, ปริปุณฺณกมฺมนฺตา อวิปฺปฏิสารินิโย อปจฺจานุตาปินิโย ปณีตํ กายํ อุปปนฺนา’ติ. เอตานิ, ภิกฺขเว, รุกฺขมูลานิ เอตานิ สฺุาคารานิ. ฌายถ, ภิกฺขเว, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ เสยฺยถาปิ ตา ปุริมิกา เทวตา’’ติ. นวมํ.
๑๐. เวลามสุตฺตํ
๒๐. เอกํ ¶ ¶ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘อปิ นุ เต, คหปติ, กุเล ทานํ ทียตี’’ติ? ‘‘ทียติ เม, ภนฺเต, กุเล ทานํ; ตฺจ โข ลูขํ กณาชกํ พิฬงฺคทุติย’’นฺติ. ‘‘ลูขฺเจปิ [ลูขํ วาปิ (สฺยา.), ลูขฺจาปิ (ก.)], คหปติ, ทานํ เทติ ปณีตํ วา; ตฺจ อสกฺกจฺจํ เทติ, อจิตฺตีกตฺวา [อจิตฺตึ กตฺวา (ก.), อปจิตฺตึ กตฺวา (สฺยา.), อจิตฺติกตฺวา (ปี.)] เทติ, อสหตฺถา เทติ, อปวิทฺธํ [อปวิฏฺํ (สฺยา.)] เทติ, อนาคมนทิฏฺิโก เทติ. ยตฺถ ยตฺถ ตสฺส ตสฺส ทานสฺส วิปาโก นิพฺพตฺตติ, น อุฬาราย ภตฺตโภคาย จิตฺตํ นมติ, น อุฬาราย วตฺถโภคาย จิตฺตํ นมติ, น อุฬาราย ยานโภคาย จิตฺตํ นมติ, น อุฬาเรสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ โภคาย จิตฺตํ นมติ. เยปิสฺส เต โหนฺติ ¶ ปุตฺตาติ วา ทาราติ วา ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ น สุสฺสูสนฺติ น โสตํ โอทหนฺติ น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ [เอวฺเจตํ (สฺยา. ก.)], คหปติ, โหติ อสกฺกจฺจํ กตานํ กมฺมานํ วิปาโก’’.
‘‘ลูขฺเจปิ, คหปติ, ทานํ เทติ ปณีตํ วา; ตฺจ สกฺกจฺจํ เทติ, จิตฺตีกตฺวา เทติ, สหตฺถา เทติ, อนปวิทฺธํ เทติ, อาคมนทิฏฺิโก เทติ. ยตฺถ ยตฺถ ตสฺส ตสฺส ทานสฺส วิปาโก นิพฺพตฺตติ, อุฬาราย ภตฺตโภคาย จิตฺตํ นมติ, อุฬาราย วตฺถโภคาย จิตฺตํ นมติ, อุฬาราย ยานโภคาย จิตฺตํ นมติ, อุฬาเรสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ โภคาย จิตฺตํ นมติ. เยปิสฺส เต โหนฺติ ปุตฺตาติ ¶ วา ทาราติ วา ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ สุสฺสูสนฺติ โสตํ โอทหนฺติ อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, คหปติ, โหติ สกฺกจฺจํ กตานํ กมฺมานํ วิปาโก.
‘‘ภูตปุพฺพํ, คหปติ, เวลาโม นาม พฺราหฺมโณ อโหสิ. โส เอวรูปํ ทานํ อทาสิ มหาทานํ. จตุราสีติ สุวณฺณปาติสหสฺสานิ อทาสิ รูปิยปูรานิ ¶ , จตุราสีติ รูปิยปาติสหสฺสานิ อทาสิ สุวณฺณปูรานิ, จตุราสีติ กํสปาติสหสฺสานิ อทาสิ หิรฺปูรานิ ¶ , จตุราสีติ หตฺถิสหสฺสานิ อทาสิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฺปฏิจฺฉนฺนานิ [เหมชาลสฺฉนฺนานิ (สี. ปี.)], จตุราสีติ รถสหสฺสานิ อทาสิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฺปฏิจฺฉนฺนานิ, จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ อทาสิ ทุกูลสนฺธนานิ [ทุกูลสนฺทสฺสนานิ (สี.), ทุกูลสณฺนานิ (สฺยา.), ทุกูลสนฺถนานิ (ปี.), ทุหสนฺทนานิ (ที. นิ. ๒.๒๖๓), ทุกูลสนฺทนานิ (ตตฺถ ปานฺตรํ)] กํสูปธารณานิ, จตุราสีติ กฺาสหสฺสานิ อทาสิ อามุตฺตมณิกุณฺฑลาโย [อามุกฺกมณิกุณฺฑลาโย (?)], จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ อทาสิ โคนกตฺถตานิ ¶ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ, จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ อทาสิ โขมสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ, โก ปน วาโท อนฺนสฺส ปานสฺส ขชฺชสฺส โภชฺชสฺส เลยฺยสฺส เปยฺยสฺส, นชฺโช มฺเ วิสฺสนฺทนฺติ [วิสฺสนฺทติ (สี. ปี.)].
‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘อฺโ นูน เตน สมเยน เวลาโม พฺราหฺมโณ อโหสิ, โส [โย (?)] ตํ ทานํ อทาสิ มหาทาน’นฺติ. น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อหํ เตน สมเยน เวลาโม พฺราหฺมโณ ¶ อโหสึ. อหํ ตํ ทานํ อทาสึ มหาทานํ. ตสฺมึ โข ปน, คหปติ, ทาเน น โกจิ ทกฺขิเณยฺโย อโหสิ, น ตํ โกจิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘ยํ, คหปติ, เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ, โย เจกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ โภเชยฺย, อิทํ ตโต มหปฺผลตรํ.
( ) [(ยฺจ คหปติ เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ) (สี. ปี.)] ‘‘โย จ สตํ ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ โภเชยฺย, โย เจกํ สกทาคามึ โภเชยฺย, อิทํ ตโต มหปฺผลตรํ.
( ) [(ยฺจ คหปติ เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ) (สี. ปี.)] ‘‘โย จ สตํ สกทาคามีนํ โภเชยฺย, โย เจกํ อนาคามึ โภเชยฺย…เป… โย จ สตํ อนาคามีนํ โภเชยฺย, โย เจกํ ¶ อรหนฺตํ โภเชยฺย… โย จ สตํ อรหนฺตานํ โภเชยฺย, โย เจกํ ปจฺเจกพุทฺธํ โภเชยฺย ¶ … โย จ สตํ ปจฺเจกพุทฺธานํ โภเชยฺย, โย จ ตถาคตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ โภเชยฺย… โย จ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ โภเชยฺย… โย จ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารํ การาเปยฺย… โย จ ปสนฺนจิตฺโต พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ คจฺเฉยฺย… โย จ ปสนฺนจิตฺโต สิกฺขาปทานิ สมาทิเยยฺย – ปาณาติปาตา เวรมณึ, อทินฺนาทานา ¶ เวรมณึ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณึ, มุสาวาทา เวรมณึ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณึ, โย จ อนฺตมโส คนฺโธหนมตฺตมฺปิ [คนฺธูหนมตฺตมฺปิ (สี.), คทฺทูหนมตฺตมฺปิ (สฺยา. ปี.) ม. นิ. ๓.๒๑๑] เมตฺตจิตฺตํ ภาเวยฺย, ( ) [(โย จ อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ อนิจฺจสฺํ ภาเวยฺย) (ก.)] อิทํ ตโต มหปฺผลตรํ.
‘‘ยฺจ, คหปติ, เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ, โย เจกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ โภเชยฺย… โย จ สตํ ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ โภเชยฺย, โย เจกํ สกทาคามึ โภเชยฺย… โย จ สตํ สกทาคามีนํ โภเชยฺย, โย ¶ เจกํ อนาคามึ โภเชยฺย… โย จ สตํ อนาคามีนํ โภเชยฺย, โย เจกํ อรหนฺตํ โภเชยฺย… โย จ สตํ อรหนฺตานํ โภเชยฺย, โย เจกํ ปจฺเจกพุทฺธํ โภเชยฺย… โย จ สตํ ปจฺเจกพุทฺธานํ โภเชยฺย, โย จ ตถาคตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ โภเชยฺย… โย จ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ โภเชยฺย, โย จ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารํ การาเปยฺย… โย จ ปสนฺนจิตฺโต พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ คจฺเฉยฺย, โย จ ปสนฺนจิตฺโต สิกฺขาปทานิ สมาทิเยยฺย – ปาณาติปาตา เวรมณึ… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณึ, โย จ อนฺตมโส คนฺโธหนมตฺตมฺปิ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวยฺย ¶ , โย จ อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ อนิจฺจสฺํ ภาเวยฺย, อิทํ ตโต มหปฺผลตร’’นฺติ. ทสมํ.
สีหนาทวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
นาโท สอุปาทิเสโส จ, โกฏฺิเกน สมิทฺธินา;
คณฺฑสฺา กุลํ เมตฺตา, เทวตา เวลาเมน จาติ.
๓. สตฺตาวาสวคฺโค
๑. ติานสุตฺตํ
๒๑. ‘‘ตีหิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, าเนหิ อุตฺตรกุรุกา มนุสฺสา เทเว จ ตาวตึเส อธิคฺคณฺหนฺติ ชมฺพุทีปเก จ มนุสฺเส. กตเมหิ ตีหิ? อมมา, อปริคฺคหา, นิยตายุกา, วิเสสคุณา [วิเสสภุโน (สี. สฺยา. ปี.)] – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ าเนหิ อุตฺตรกุรุกา ¶ มนุสฺสา เทเว จ ตาวตึเส อธิคฺคณฺหนฺติ ชมฺพุทีปเก จ มนุสฺเส.
‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ เทวา ตาวตึสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ ชมฺพุทีปเก จ มนุสฺเส. กตเมหิ ตีหิ? ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ าเนหิ เทวา ตาวตึสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ ชมฺพุทีปเก จ มนุสฺเส.
[กถา. ๒๗๑] ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส. กตเมหิ ตีหิ? สูรา, สติมนฺโต, อิธ พฺรหฺมจริยวาโส – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส’’ติ. ปมํ.
๒. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตํ
๒๒. [อ. นิ. ๓.๑๔๑] ‘‘ตโย ¶ จ, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺเก เทเสสฺสามิ ตโย จ ปุริสขฬุงฺเก ตโย จ อสฺสปรสฺเส [อสฺสสทสฺเส (สี. สฺยา. ปี.) อ. นิ. ๓.๑๔๒] ตโย จ ปุริสปรสฺเส [ปุริสสทสฺเส (สี. สฺยา. ปี.)] ตโย จ ภทฺเท อสฺสาชานีเย ตโย จ ภทฺเท ปุริสาชานีเย. ตํ สุณาถ.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ตโย อสฺสขฬุงฺกา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน ¶ โหติ, น วณฺณสมฺปนฺโน, น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ, น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อสฺสขฬุงฺกา.
‘‘กตเม ¶ ¶ จ, ภิกฺขเว, ตโย ปุริสขฬุงฺกา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน โหติ, น วณฺณสมฺปนฺโน, น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ, น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน โหติ, น วณฺณสมฺปนฺโน น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทมสฺส ¶ ชวสฺมึ วทามิ. อภิธมฺเม โข ปน อภิวินเย ปฺหํ ปุฏฺโ สํสาเทติ [สํสาเรติ (ก.) อ. นิ. ๑.๓.๑๔๑], โน วิสฺสชฺเชติ. อิทมสฺส น วณฺณสฺมึ วทามิ. น โข ปน ลาภี โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อิทมสฺส น อาโรหปริณาหสฺมึ วทามิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน โหติ, น วณฺณสมฺปนฺโน น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ, น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทมสฺส ชวสฺมึ วทามิ. อภิธมฺเม โข ปน อภิวินเย ปฺหํ ¶ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชติ, โน สํสาเทติ. อิทมสฺส วณฺณสฺมึ วทามิ. น โข ปน ลาภี โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อิทมสฺส น อาโรหปริณาหสฺมึ วทามิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ, น อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทมสฺส ชวสฺมึ วทามิ. อภิธมฺเม โข ปน อภิวินเย ปฺหํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชติ, โน สํสาเทติ. อิทมสฺส วณฺณสฺมึ วทามิ. ลาภี ¶ โข ปน ¶ โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อิทมสฺส อาโรหปริณาหสฺมึ วทามิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุริสขฬุงฺโก ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุริสขฬุงฺกา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ตโย อสฺสปรสฺสา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อสฺสปรสฺโส…เป… ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อสฺสปรสฺสา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ตโย ปุริสปรสฺสา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุริสปรสฺโส…เป… ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุริสปรสฺโส…เป… ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อิทมสฺส ชวสฺมึ วทามิ. อภิธมฺเม โข ปน อภิวินเย ปฺหํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชติ, โน สํสาเทติ. อิทมสฺส วณฺณสฺมึ วทามิ. ลาภี โข ปน โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อิทมสฺส อาโรหปริณาหสฺมึ วทามิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุริสปรสฺโส ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุริสปรสฺสา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ตโย ภทฺทา อสฺสาชานียา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภทฺโท อสฺสาชานีโย…เป… ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, ตโย ภทฺทา อสฺสาชานียา.
‘‘กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, ตโย ภทฺทา ปุริสาชานียา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ภทฺโท ปุริสาชานีโย…เป… ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภทฺโท ปุริสาชานีโย…เป… ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ¶ ธมฺเม สยํ อภิฺา ¶ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมสฺส ชวสฺมึ วทามิ. อภิธมฺเม โข ปน อภิวินเย ปฺหํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชติ, โน สํสาเทติ. อิทมสฺส วณฺณสฺมึ วทามิ. ลาภี โข ปน โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อิทมสฺส อาโรหปริณาหสฺมึ วทามิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภทฺโท ปุริสาชานีโย ชวสมฺปนฺโน จ โหติ วณฺณสมฺปนฺโน จ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน จ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ภทฺทา ปุริสาชานียา’’ติ. ทุติยํ.
๓. ตณฺหามูลกสุตฺตํ
๒๓. [ที. นิ. ๒.๑๐๓] ‘‘นว, ภิกฺขเว, ตณฺหามูลเก ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ. กตเม จ, ภิกฺขเว, นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา? ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ฉนฺทราคํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺโข, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานํ สตฺถาทานํ ¶ กลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสฺุมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา’’ติ. ตติยํ.
๔. สตฺตาวาสสุตฺตํ
๒๔. [ที. นิ. ๓.๓๔๑] ‘‘นวยิเม, ภิกฺขเว, สตฺตาวาสา. กตเม นว? สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา, เอกจฺเจ จ เทวา, เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติโย สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติโย สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺโถ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา อสฺิโน อปฺปฏิสํเวทิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อสฺสตฺตา. อยํ ปฺจโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ฉฏฺโ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ สตฺตโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ อฏฺโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนูปคา. อยํ นวโม สตฺตาวาโส. อิเม โข, ภิกฺขเว, นว สตฺตาวาสา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปฺาสุตฺตํ
๒๕. ‘‘ยโต ¶ ¶ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ, ตสฺเสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กลฺลํ วจนาย – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ? ‘วีตราคํ เม จิตฺต’นฺติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘วีตโทสํ เม จิตฺต’นฺติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘วีตโมหํ เม จิตฺต’นฺติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อสราคธมฺมํ เม จิตฺต’นฺติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อสโทสธมฺมํ เม จิตฺต’นฺติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อสโมหธมฺมํ เม จิตฺต’นฺติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อนาวตฺติธมฺมํ เม จิตฺตํ กามภวายา’ติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อนาวตฺติธมฺมํ เม จิตฺตํ รูปภวายา’ติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อนาวตฺติธมฺมํ เม จิตฺตํ อรูปภวายา’ติ ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺาย จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ, ตสฺเสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กลฺลํ วจนาย – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ. ปฺจมํ.
๖. สิลายูปสุตฺตํ
๒๖. เอกํ ¶ สมยํ อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ จนฺทิกาปุตฺโต ราชคเห วิหรนฺติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข อายสฺมา จนฺทิกาปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ ( ) [(อาวุโส…เป… เอตทโวจ) (สี.)] – ‘‘เทวทตฺโต, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย ¶ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ จนฺทิกาปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส จนฺทิกาปุตฺต, เทวทตฺโต ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ ¶ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ ¶ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. เอวฺจ โข, อาวุโส, จนฺทิกาปุตฺต, เทวทตฺโต ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา จนฺทิกาปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เทวทตฺโต, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ จนฺทิกาปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส จนฺทิกาปุตฺต, เทวทตฺโต ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. เอวฺจ โข, อาวุโส จนฺทิกาปุตฺต, เทวทตฺโต ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ.
ตติยมฺปิ ¶ ¶ โข อายสฺมา จนฺทิกาปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เทวทตฺโต, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ จนฺทิกาปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, อาวุโส จนฺทิกาปุตฺต, เทวทตฺโต ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. เอวฺจ โข, อาวุโส จนฺทิกาปุตฺต, เทวทตฺโต ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ, ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน กลฺลํ เวยฺยากรณาย – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’’’ติ.
‘‘กถฺจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ? ‘วีตราคํ ¶ เม จิตฺต’นฺติ ¶ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘วีตโทสํ เม จิตฺต’นฺติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘วีตโมหํ เม จิตฺต’นฺติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อสราคธมฺมํ เม จิตฺต’นฺติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อสโทสธมฺมํ เม จิตฺต’นฺติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อสโมหธมฺมํ เม จิตฺต’นฺติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อนาวตฺติธมฺมํ เม ¶ จิตฺตํ กามภวายา’ติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อนาวตฺติธมฺมํ เม จิตฺตํ รูปภวายา’ติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ; ‘อนาวตฺติธมฺมํ เม จิตฺตํ อรูปภวายา’ติ เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตํ โหติ. เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ; อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ, วยํ จสฺสานุปสฺสติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สิลายูโป โสฬสกุกฺกุโก. ตสฺสสฺสุ อฏฺ กุกฺกู เหฏฺา เนมงฺคมา, อฏฺ กุกฺกู อุปริ เนมสฺส. อถ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ, เนว นํ สงฺกมฺเปยฺย ¶ น สมฺปเวเธยฺย; อถ ปจฺฉิมาย… อถ อุตฺตราย… อถ ทกฺขิณาย เจปิ ทิสาย ¶ อาคจฺเฉยฺย ภุสา วาตวุฏฺิ, เนว นํ สงฺกมฺเปยฺย น สมฺปเวเธยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? คมฺภีรตฺตา, อาวุโส, เนมสฺส, สุนิขาตตฺตา สิลายูปสฺส. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ; อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ, วยํ จสฺสานุปสฺสติ.
‘‘ภุสา เจปิ โสตวิฺเยฺยา สทฺทา… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา ¶ โผฏฺพฺพา… มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา มนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ; อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ, วยํ จสฺสานุปสฺสตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ปมเวรสุตฺตํ
๒๗. [อ. นิ. ๙.๙๒; สํ. นิ. ๕.๑๐๒๔] อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยโต โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, จตูหิ จ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’’ติ.
‘‘กตมานิ ¶ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ? ยํ, คหปติ, ปาณาติปาตี ปาณาติปาตปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต เนว ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, น สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺส เอวํ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ.
‘‘ยํ, คหปติ, อทินฺนาทายี…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารี… มุสาวาที… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, เจตสิกมฺปิ ¶ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ¶ ปฏิสํเวเทติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต เนว ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, น สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตสฺส เอวํ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ. อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ.
‘‘กตเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’’’ติ.
ธมฺเม ¶ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ.
สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ายปฺปฏิปนฺโน ¶ ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ; ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ.
อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺุปฺปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ. อิเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘ยโต ¶ โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, อิเมหิ จ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต; โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’’ติ. สตฺตมํ.
๘. ทุติยเวรสุตฺตํ
๒๘. [สํ. นิ. ๕.๑๐๒๕] ‘‘ยโต ¶ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, จตูหิ จ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต; โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’’ติ.
‘‘กตมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ? ยํ, ภิกฺขเว, ปาณาติปาตี ปาณาติปาตปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, เจตสิกมฺปิ ¶ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต…เป… เอวํ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ.
‘‘ยํ, ภิกฺขเว, อทินฺนาทายี…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต เนว ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, น สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ, น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ¶ ปฏิวิรตสฺส เอวํ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ. อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ.
‘‘กตเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ธมฺเม…เป… สงฺเฆ… อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺุปฺปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ. อิเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘ยโต ¶ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, อิเมหิ จ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต ¶ ; โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’’ติ. อฏฺมํ.
๙. อาฆาตวตฺถุสุตฺตํ
๒๙. [วิภ. ๙๖๐; ที. นิ. ๓.๓๔๐; อ. นิ. ๑๐.๗๙] ‘‘นวยิมานิ, ภิกฺขเว, อาฆาตวตฺถูนิ. กตมานิ นว? ‘อนตฺถํ เม อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจรี’ติ…เป… ‘อนตฺถํ จรตี’ติ…เป… ‘อนตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อปฺปิยสฺส เม ¶ อมนาปสฺส อตฺถํ อจรี’ติ ¶ …เป… ‘อตฺถํ จรตี’ติ…เป… ‘อตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, นว อาฆาตวตฺถูนี’’ติ. นวมํ.
๑๐. อาฆาตปฏิวินยสุตฺตํ
๓๐. [ที. นิ. ๓.๓๔๐, ๓๕๙] ‘‘นวยิเม, ภิกฺขเว, อาฆาตปฏิวินยา. กตเม นว? ‘อนตฺถํ เม อจริ [อจรีติ (สฺยา.), เอวํ ‘‘จรติ, จริสฺสติ’’ ปเทสุปิ], ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘อนตฺถํ เม จรติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ…เป… อนตฺถํ จรติ…เป… ‘อนตฺถํ ¶ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ…เป… อตฺถํ จรติ…เป… ‘อตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, นว อาฆาตปฏิวินยา’’ติ. ทสมํ.
๑๑. อนุปุพฺพนิโรธสุตฺตํ
๓๑. ‘‘นวยิเม, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพนิโรธา. กตเม นว? ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส กามสฺา [อามิสฺสสฺา (สฺยา.)] นิรุทฺธา โหติ; ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วิตกฺกวิจารา นิรุทฺธา โหนฺติ; ตติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ปีติ นิรุทฺธา โหติ; จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสา นิรุทฺธา โหนฺติ; อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสฺา นิรุทฺธา โหติ; วิฺาณฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส อากาสานฺจายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ; อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส ¶ วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ ¶ ; เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนสฺส อากิฺจฺายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ; สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส สฺา จ เวทนา จ นิรุทฺธา โหนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, นว อนุปุพฺพนิโรธา’’ติ [ที. นิ. ๓.๓๔๔, ๓๔๙]. เอกาทสมํ.
สตฺตาวาสวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ติานํ ขฬุงฺโก ตณฺหา, สตฺตปฺา สิลายุโป;
ทฺเว เวรา ทฺเว อาฆาตานิ, อนุปุพฺพนิโรเธน จาติ.
๔. มหาวคฺโค
๑. อนุปุพฺพวิหารสุตฺตํ
๓๒. [ที. นิ. ๓.๓๔๔, ๓๕๙] ‘‘นวยิเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อนุปุพฺพวิหารา. กตเม นว? [เอตฺถ สี. ปี. โปตฺถเกสุ ‘‘อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ ติอาทินา วิตฺถเรน ปาโ ทิสฺสติ] ปมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ ฌานํ, จตุตฺถํ ฌานํ, อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตนํ, สฺาเวทยิตนิโรโธ – อิเม โข, ภิกฺขเว, นว อนุปุพฺพวิหารา’’ติ. ปมํ.
๒. อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติสุตฺตํ
๓๓. ‘‘นวยิมา, ภิกฺขเว [นว ภิกฺขเว (?)], อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ…เป… กตมา จ, ภิกฺขเว, นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย? ยตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺติ, เย จ กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ¶ ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺติ, เก จ กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส ¶ , ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ. เอตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺติ, เต จ กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, เย จ วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, เก จ วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย ¶ – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺถ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, เต จ วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ ปีติ นิรุชฺฌติ, เย จ ปีตึ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ ปีติ นิรุชฺฌติ, เก จ ปีตึ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ¶ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺถ ปีติ นิรุชฺฌติ, เต จ ปีตึ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา ¶ วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ อุเปกฺขาสุขํ นิรุชฺฌติ, เย จ อุเปกฺขาสุขํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ อุเปกฺขาสุขํ นิรุชฺฌติ, เก จ อุเปกฺขาสุขํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺถ อุเปกฺขาสุขํ นิรุชฺฌติ, เต จ อุเปกฺขาสุขํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย ¶ อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ รูปสฺํ [ยตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌนฺติ, เย จ รูปสฺา (สี. สฺยา. ปี.)] นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌติ ¶ , เก จ รูปสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานฺจายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ รูปสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ ¶ อากาสานฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ อากาสานฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ อากาสานฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ อากาสานฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ อากาสานฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ อากาสานฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ วิฺาณฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ¶ ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ วิฺาณฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ ¶ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ วิฺาณฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย ¶ ; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ อากิฺจฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ อากิฺจฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ อากิฺจฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ อากิฺจฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ ¶ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ อากิฺจฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ อากิฺจฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ เนวสฺานาสฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต ¶ อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ เนวสฺานาสฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ เนวสฺานาสฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา ¶ นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย. อิมา โข, ภิกฺขเว, นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย’’ติ. ทุติยํ.
๓. นิพฺพานสุขสุตฺตํ
๓๔. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สุขมิทํ, อาวุโส, นิพฺพานํ. สุขมิทํ ¶ , อาวุโส, นิพฺพาน’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ ¶ ปเนตฺถ, อาวุโส สาริปุตฺต, สุขํ ยเทตฺถ นตฺถิ เวทยิต’’นฺติ? ‘‘เอตเทว ขฺเวตฺถ, อาวุโส, สุขํ ยเทตฺถ นตฺถิ เวทยิตํ. ปฺจิเม, อาวุโส, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา ¶ อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, อาวุโส, ปฺจ กามคุณา. ยํ โข, อาวุโส, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อิทํ วุจฺจตาวุโส, กามสุขํ.
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา ¶ สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ ¶ . สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต ¶ ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ ¶ , อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต ¶ รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ ¶ . สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ ¶ , อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม, นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพาน’’นฺติ. ตติยํ.
๔. คาวีอุปมาสุตฺตํ
๓๕. ‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. ตสฺสา เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ. สา ปุริมํ ปาทํ น สุปฺปติฏฺิตํ ปติฏฺาเปตฺวา ปจฺฉิมํ ปาทํ อุทฺธเรยฺย. สา น เจว อคตปุพฺพํ ทิสํ คจฺเฉยฺย, น จ อขาทิตปุพฺพานิ ติณานิ ขาเทยฺย, น จ อปีตปุพฺพานิ ปานียานิ ปิเวยฺย; ยสฺมึ จสฺสา ปเทเส ิตาย เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ ¶ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ ¶ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ ตฺจ ปเทสํ น โสตฺถินา ปจฺจาคจฺเฉยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ สา, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ พาโล อพฺยตฺโต อเขตฺตฺู อกุสโล วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; โส ตํ นิมิตฺตํ น อาเสวติ น ภาเวติ น พหุลีกโรติ น สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหเรยฺย’นฺติ. โส น สกฺโกติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส น สกฺโกติ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อุภโต ภฏฺโ อุภโต ปริหีโน, เสยฺยถาปิ สา คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ’’’.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เขตฺตฺู กุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. ตสฺสา เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ ¶ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ. สา ปุริมํ ปาทํ สุปฺปติฏฺิตํ ปติฏฺาเปตฺวา ปจฺฉิมํ ปาทํ อุทฺธเรยฺย. สา อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺย, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ¶ ขาเทยฺย, อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ ปิเวยฺย. ยสฺมึ จสฺสา ปเทเส ิตาย เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ ตฺจ ปเทสํ โสตฺถินา ปจฺจาคจฺเฉยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ สา, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เขตฺตฺู กุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เขตฺตฺู กุสโล วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ ¶ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส ทุติยํ ฌานํ อนภิหึสมาโน วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหเรยฺยํ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทยฺยํ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ ตติยํ ¶ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส ตติยํ ฌานํ อนภิหึสมาโน ปีติยา จ วิราคา…เป… ¶ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส จตุตฺถํ ฌานํ อนภิหึสมาโน สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส อากาสานฺจายตนํ ¶ อนภิหึสมาโน สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ¶ …เป… อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส วิฺาณฺจายตนํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส อากิฺจฺายตนํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส ¶ วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส เนวสฺานาสฺายตนํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ ¶ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส สฺาเวทยิตนิโรธํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตํ ตเทว สมาปตฺตึ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ, ตสฺส มุทุ จิตฺตํ โหติ กมฺมฺํ. มุทุนา กมฺมฺเน จิตฺเตน อปฺปมาโณ สมาธิ โหติ สุภาวิโต. โส อปฺปมาเณน สมาธินา สุภาวิเตน ยสฺส ยสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ ¶ อภินินฺนาเมติ ¶ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภเวยฺยํ, เอโกปิ หุตฺวา พหุธา อสฺสํ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก อสฺสํ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ทิพฺพาย ¶ โสตธาตุยา…เป… สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชาเนยฺยํ, สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตราคํ วา จิตฺตํ วีตราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สโทสํ วา จิตฺตํ สโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ วีตโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สโมหํ วา จิตฺตํ สโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส ¶ สเจ อากงฺขติ – ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ฌานสุตฺตํ
๓๖. ‘‘ปมมฺปาหํ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ ¶ ; ทุติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; ตติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; จตุตฺถมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; อากาสานฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; วิฺาณฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; อากิฺจฺายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; เนวสฺานาสฺายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; สฺาเวทยิตนิโรธมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ.
‘‘‘ปมมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต ¶ อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ [ปติฏฺาเปติ (สฺยา.), ปฏิปาเทติ (ก.) ม. นิ. ๒.๑๓๓ ปสฺสิตพฺพํ]. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา [ปติฏฺาเปตฺวา (สฺยา.), ปฏิปาเทตฺวา (ก.)] อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา [ปทาลิตา (ก.) อ. นิ. ๓.๑๓๔; ๔.๑๘๑]; เอวเมวํ โข ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ ¶ . โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘ปมมฺปาหํ ¶ , ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘ทุติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย…เป… ตติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย… ‘จตุตฺถมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต ¶ โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา ¶ ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา, ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘จตุตฺถมฺปาหํ ¶ , ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘อากาสานฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ ¶ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘อากาสานฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘วิฺาณฺจายตนมฺปาหํ ¶ , ภิกฺขเว, นิสฺสาย…เป… อากิฺจฺายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ¶ . กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ¶ ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ ¶ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘อากิฺจฺายตนมฺปาหํ, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ยาวตา สฺาสมาปตฺติ ตาวตา อฺาปฏิเวโธ. ยานิ จ โข อิมานิ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย ทฺเว อายตนานิ – เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ จ สฺาเวทยิตนิโรโธ ¶ จ, ฌายีเหเต ¶ , ภิกฺขเว, สมาปตฺติกุสเลหิ สมาปตฺติวุฏฺานกุสเลหิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา สมฺมา อกฺขาตพฺพานีติ วทามี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อานนฺทสุตฺตํ
๓๗. เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. ตตฺร โข อายสฺมา อานนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม ¶ อนุพุทฺโธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย. ตเทว นาม จกฺขุํ ภวิสฺสติ เต รูปา ตฺจายตนํ ¶ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ [ปฏิสํเวทยติ (ก.)]. ตเทว นาม โสตํ ภวิสฺสติ เต สทฺทา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ. ตเทว นาม ฆานํ ภวิสฺสติ เต คนฺธา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ. สาว นาม ชิวฺหา ภวิสฺสติ เต รสา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ. โสว นาม กาโย ภวิสฺสติ เต โผฏฺพฺพา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสตี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สฺีเมว นุ โข, อาวุโส อานนฺท, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ อุทาหุ อสฺี’’ติ? ‘‘สฺีเมว โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ, โน อสฺี’’ติ.
‘‘กึสฺี ปนาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตี’’ติ? ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ, สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํสฺีปิ โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ ¶ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํสฺีปิ โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํสฺีปิ โข ¶ , อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตี’’ติ.
‘‘เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมยํ สาเกเต วิหรามิ อฺชนวเน มิคทาเย. อถ โข, อาวุโส, ชฏิลวาสิกา [ชฏิลคาหิยา (สี. ปี.), ชฑิลภาคิกา (สฺยา.)] ภิกฺขุนี ¶ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, อาวุโส, ชฏิลวาสิกา ภิกฺขุนี มํ เอตทโวจ – ‘ยายํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ น จาภินโต น จาปนโต น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต [สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตวโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโฏ (ก.) อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๗; ที. นิ. ๓.๓๕๕], วิมุตฺตตฺตา ิโต, ิตตฺตา สนฺตุสิโต, สนฺตุสิตตฺตา โน ปริตสฺสติ. อยํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ กึผโล วุตฺโต ภควตา’’’ติ?
‘‘เอวํ วุตฺเต, โสหํ, อาวุโส, ชฏิลวาสิกํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจํ – ‘ยายํ, ภคินิ, สมาธิ น จาภินโต น จาปนโต น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต, วิมุตฺตตฺตา ิโต, ิตตฺตา สนฺตุสิโต, สนฺตุสิตตฺตา โน ปริตสฺสติ. อยํ, ภคินิ, สมาธิ อฺาผโล วุตฺโต ภควตา’ติ. เอวํสฺีปิ โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. โลกายติกสุตฺตํ
๓๘. อถ โข ทฺเว โลกายติกา พฺราหฺมณา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต พฺราหฺมณา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘ปูรโณ, โภ โคตม, กสฺสโป สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ – ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส ¶ จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ¶ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส เอวมาห – ‘อหํ อนนฺเตน าเณน อนนฺตํ โลกํ ชานํ ปสฺสํ ¶ วิหรามี’ติ. อยมฺปิ ¶ [อยมฺปิ หิ (สฺยา. ก.)], โภ โคตม, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ – ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส [โสปิ (?)] เอวมาห – ‘อหํ อนนฺเตน าเณน อนนฺตํ โลกํ ชานํ ปสฺสํ วิหรามี’ติ. อิเมสํ, โภ โคตม, อุภินฺนํ าณวาทานํ อุภินฺนํ อฺมฺํ วิปจฺจนีกวาทานํ โก สจฺจํ อาห โก มุสา’’ติ?
‘‘อลํ, พฺราหฺมณา! ติฏฺเตตํ – ‘อิเมสํ อุภินฺนํ าณวาทานํ อุภินฺนํ อฺมฺํ วิปจฺจนีกวาทานํ โก สจฺจํ อาห โก มุสา’ติ. ธมฺมํ โว, พฺราหฺมณา, เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข เต พฺราหฺมณา ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณา, จตฺตาโร ปุริสา จตุทฺทิสา ิตา ปรเมน ชเวน จ สมนฺนาคตา ปรเมน จ ปทวีติหาเรน. เต เอวรูเปน ชเวน สมนฺนาคตา อสฺสุ, เสยฺยถาปิ นาม ทฬฺหธมฺมา [ทฬฺหธมฺโม (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๔.๔๕; ม. นิ. ๑.๑๑๖ จ, ตํสํวณฺณนาฏีกาโย จ โมคฺคลฺลานพฺยากรณฺจ โอโลเกตพฺพา] ธนุคฺคโห สิกฺขิโต กตหตฺโถ กตูปาสโน ลหุเกน อสเนน อปฺปกสิเรน ติริยํ ตาลจฺฉายํ [ตาลจฺฉาตึ (สี. สฺยา. ปี.), ตาลจฺฉาทึ (ก.) อ. นิ. ๔.๔๕; ม. นิ. ๑.๑๖๑ ปสฺสิตพฺพํ] อติปาเตยฺย; เอวรูเปน จ ปทวีติหาเรน, เสยฺยถาปิ นาม ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโม สมุทฺโท อถ ปุรตฺถิมาย ทิสาย ิโต ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ปาปุณิสฺสามี’ติ. โส อฺตฺเรว อสิตปีตขายิตสายิตา อฺตฺร อุจฺจารปสฺสาวกมฺมา อฺตฺร นิทฺทากิลมถปฏิวิโนทนา ¶ วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี วสฺสสตํ คนฺตฺวา อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ อนฺตรา กาลํ ¶ กเรยฺย. อถ ปจฺฉิมาย ทิสาย…เป… อถ อุตฺตราย ทิสาย… อถ ทกฺขิณาย ทิสาย ิโต ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ปาปุณิสฺสามี’ติ. โส อฺตฺเรว อสิตปีตขายิตสายิตา อฺตฺร อุจฺจารปสฺสาวกมฺมา อฺตฺร ¶ นิทฺทากิลมถปฏิวิโนทนา วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี วสฺสสตํ คนฺตฺวา อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ อนฺตรา กาลํ กเรยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? นาหํ, พฺราหฺมณา, เอวรูปาย สนฺธาวนิกาย โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามิ. น จาหํ, พฺราหฺมณา, อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ วทามิ.
‘‘ปฺจิเม, พฺราหฺมณา, กามคุณา อริยสฺส วินเย โลโกติ วุจฺจติ. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา ¶ รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา; โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา; อิเม โข, พฺราหฺมณา, ปฺจ กามคุณา อริยสฺส วินเย โลโกติ วุจฺจติ.
‘‘อิธ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม, โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ ¶ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ. อหมฺปิ หิ [อหมฺปิ (สี. ปี.)], พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ. อหมฺปิ หิ, พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ ¶ . อหมฺปิ หิ, พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ ¶ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา ¶ , ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ. อหมฺปิ หิ, พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส ¶ อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ ติณฺโณ โลเก วิสตฺติก’’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. เทวาสุรสงฺคามสุตฺตํ
๓๙. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห [สมุปพฺพูฬฺโห (สี. ปี.)] อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, สงฺคาเม อสุรา ชินึสุ, เทวา ปราชยึสุ [ปราชิยึสุ (สี. สฺยา. ก.)]. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, เทวา [เทวา ภีตา (ปี.)] อปยึสุเยว [อปยํสฺเวว (สี.)] อุตฺตเรนาภิมุขา, อภิยึสุ [อภิยํสุ (สี.)] อสุรา. อถ โข, ภิกฺขเว, เทวานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข อสุรา. ยํนูน มยํ ทุติยมฺปิ อสุเรหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวา อสุเรหิ สงฺคาเมสุํ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อสุราว ชินึสุ, เทวา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, เทวา อปยึสุเยว อุตฺตเรนาภิมุขา, อภิยึสุ อสุรา’’.
อถ โข, ภิกฺขเว, เทวานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข อสุรา. ยํนูน มยํ ตติยมฺปิ อสุเรหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ¶ เทวา อสุเรหิ สงฺคาเมสุํ. ตติยมฺปิ โข ¶ , ภิกฺขเว, อสุราว ชินึสุ, เทวา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, เทวา ภีตา เทวปุรํเยว ปวิสึสุ. เทวปุรคตานฺจ ปน [ปุน (ก.)], ภิกฺขเว, เทวานํ เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ มยํ เอตรหิ ¶ อตฺตนา วิหราม อกรณียา อสุเรหี’ติ. อสุรานมฺปิ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ เทวา เอตรหิ อตฺตนา วิหรนฺติ อกรณียา อมฺเหหี’ติ.
‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, สงฺคาเม เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, อสุรา อปยึสุเยว ทกฺขิเณนาภิมุขา, อภิยึสุ เทวา. อถ โข, ภิกฺขเว, อสุรานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข เทวา. ยํนูน มยํ ทุติยมฺปิ เทเวหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อสุรา เทเวหิ สงฺคาเมสุํ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, อสุรา อปยึสุเยว ทกฺขิเณนาภิมุขา, อภิยึสุ เทวา’’.
อถ โข, ภิกฺขเว, อสุรานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข เทวา. ยํนูน มยํ ตติยมฺปิ เทเวหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อสุรา เทเวหิ สงฺคาเมสุํ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, อสุรา ภีตา อสุรปุรํเยว ปวิสึสุ. อสุรปุรคตานฺจ ปน, ภิกฺขเว, อสุรานํ เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ มยํ เอตรหิ อตฺตนา วิหราม อกรณียา ¶ เทเวหี’ติ. เทวานมฺปิ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ อสุรา เอตรหิ อตฺตนา วิหรนฺติ อกรณียา อมฺเหหี’ติ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุสฺส เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานาหํ เอตรหิ อตฺตนา วิหรามิ ¶ อกรณีโย มารสฺสา’ติ ¶ . มารสฺสาปิ, ภิกฺขเว, ปาปิมโต เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ ภิกฺขุ เอตรหิ อตฺตนา วิหรติ อกรณีโย มยฺห’’’นฺติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ¶ ภิกฺขุสฺส เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานาหํ เอตรหิ อตฺตนา วิหรามิ อกรณีโย มารสฺสา’ติ. มารสฺสาปิ, ภิกฺขเว, ปาปิมโต เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ ภิกฺขุ เอตรหิ อตฺตนา วิหรติ, อกรณีโย มยฺห’’’นฺติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อนฺตมกาสิ มารํ, อปทํ วธิตฺวา มารจกฺขุํ อทสฺสนํ คโต ปาปิมโต ติณฺโณ โลเก วิสตฺติก’’’นฺติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ ¶ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อนฺตมกาสิ มารํ, อปทํ วธิตฺวา มารจกฺขุํ อทสฺสนํ คโต ปาปิมโต ติณฺโณ โลเก วิสตฺติก’’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. นาคสุตฺตํ
๔๐. ‘‘ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส โคจรปสุตสฺส หตฺถีปิ หตฺถินิโยปิ หตฺถิกลภาปิ หตฺถิจฺฉาปาปิ ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ติณคฺคานิ ฉินฺทนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส โคจรปสุตสฺส หตฺถีปิ หตฺถินิโยปิ หตฺถิกลภาปิ หตฺถิจฺฉาปาปิ โอภคฺโคภคฺคํ สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส โอคาหํ โอติณฺณสฺส หตฺถีปิ หตฺถินิโยปิ หตฺถิกลภาปิ หตฺถิจฺฉาปาปิ ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา โสณฺฑาย อุทกํ อาโลเฬนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส ¶ นาคสฺส โอคาหา อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ.
‘‘ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข เอตรหิ อากิณฺโณ วิหรามิ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ ¶ . ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ [ขาทิตํ (สฺยา. ก.) มหาว. ๔๖๗ ปสฺสิตพฺพํ], อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ [โอคาหาปิ จ (สฺยา. ก.) มหาว. ๔๖๗ ปสฺสิตพฺพํ] เม อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ. ยํนูนาหํ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหรติ, อจฺฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทติ, โอภคฺโคภคฺคฺจสฺส สาขาภงฺคํ ¶ น ขาทนฺติ [น โอภคฺโคภคฺคฺจ สาขาภงฺค ขาทติ (สฺยา. ก.)], อนาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวติ, โอคาหา จสฺส อุตฺติณฺณสฺส น หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ.
‘‘ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ วิหาสึ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทึ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทึสุ, อาวิลานิ จ ปานียานิ อปายึ, โอคาหา [เอตฺถ ปิสทฺโท สพฺพตฺถปิ นตฺถิ] จ เม อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย อคมํสุ. โสหํ เอตรหิ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหรามิ, อจฺฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ น ขาทนฺติ, อนาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ เม อุตฺติณฺณสฺส น หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺตี’ติ. โส โสณฺฑาย สาขาภงฺคํ ภฺชิตฺวา สาขาภงฺเคน กายํ ปริมชฺชิตฺวา อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรติ [กณฺฑุํ สํหนฺติ (สี. ปี.) กณฺฑุํ สํหนติ (สฺยา.), เอตฺถ กณฺฑุวนทุกฺขํ วิเนตีติ อตฺโถ],.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ อากิณฺโณ วิหรติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ¶ ติตฺถิยสาวเกหิ, ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข เอตรหิ อากิณฺโณ วิหรามิ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ ¶ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. ยํนูนาหํ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’นฺติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ¶ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ ¶ . โส อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
‘‘โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรติ [กณฺฑุํ สํหนฺติ (สี. ปี.), กณฺฑุํ สํหนติ (สฺยา.), เอตฺถ กณฺฑุวนสทิสํ ฌานปฏิปกฺขํ กิเลสทุกฺขํ วิเนตีติ อตฺโถ]. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรติ.
‘‘สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ ¶ สํหรติ. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ ¶ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. ตปุสฺสสุตฺตํ
๔๑. เอกํ ¶ สมยํ ภควา มลฺเลสุ วิหรติ อุรุเวลกปฺปํ นาม มลฺลานํ นิคโม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อุรุเวลกปฺปํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อุรุเวลกปฺเป ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิเธว ตาว ตฺวํ, อานนฺท, โหหิ, ยาวาหํ มหาวนํ อชฺโฌคาหามิ ทิวาวิหารายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหาวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ.
อถ โข ตปุสฺโส คหปติ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ตปุสฺโส คหปติ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –
‘‘มยํ, ภนฺเต อานนฺท, คิหี กามโภคิโน กามารามา กามรตา กามสมฺมุทิตา. เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ คิหีนํ กามโภคีนํ กามารามานํ กามรตานํ กามสมฺมุทิตานํ ¶ ปปาโต วิย ขายติ, ยทิทํ เนกฺขมฺมํ. สุตํ เมตํ, ภนฺเต, ‘อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทหรานํ ทหรานํ ภิกฺขูนํ เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’ [ปสฺสตํ (?)]. ตยิทํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ภิกฺขูนํ พหุนา ชเนน วิสภาโค, ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ.
‘‘อตฺถิ ¶ โข เอตํ, คหปติ, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อายาม, คหปติ, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสาม. ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ตปุสฺโส คหปติ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ตปุสฺเสน คหปตินา สทฺธึ ¶ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อยํ ¶ , ภนฺเต, ตปุสฺโส คหปติ เอวมาห – ‘มยํ, ภนฺเต อานนฺท, คิหี กามโภคิโน กามารามา กามรตา กามสมฺมุทิตา, เตสํ โน ภนฺเต, อมฺหากํ คิหีนํ กามโภคีนํ กามารามานํ กามรตานํ กามสมฺมุทิตานํ ปปาโต วิย ขายติ, ยทิทํ เนกฺขมฺมํ’. สุตํ เมตํ, ภนฺเต, ‘อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทหรานํ ทหรานํ ภิกฺขูนํ เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตยิทํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ภิกฺขูนํ พหุนา ชเนน วิสภาโค ยทิทํ เนกฺขมฺม’’’นฺติ.
‘‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท! มยฺหมฺปิ โข, อานนฺท, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ – ‘สาธุ เนกฺขมฺมํ ¶ , สาธุ ปวิเวโก’ติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘กาเมสุ โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, เนกฺขมฺเม จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต ¶ . ตสฺมา เม เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ [พหุลีกเรยฺยํ (สี. สฺยา. ปี.)], เนกฺขมฺเม อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ ¶ . เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ¶ ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ¶ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘วิตกฺเกสุ โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, อวิตกฺเก จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ ¶ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ วิตกฺเกสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, อวิตกฺเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อวิตกฺเก จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน วิตกฺเกสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, อวิตกฺเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อวิตกฺเก จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหเรยฺยํ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทยฺยํ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, นิปฺปีติเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย ¶ , เยน เม นิปฺปีติเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ปีติยา โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, นิปฺปีติเก จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม นิปฺปีติเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ ¶ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ ปีติยา อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ ¶ พหุลํ กเรยฺยํ, นิปฺปีติเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม นิปฺปีติเก จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน ปีติยา อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, นิปฺปีติเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, นิปฺปีติเก จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส ¶ โข อหํ, อานนฺท, ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘อุเปกฺขาสุเข โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, อทุกฺขมสุเข จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ ¶ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ อุเปกฺขาสุเข อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ ¶ พหุลํ กเรยฺยํ, อทุกฺขมสุเข อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ ¶ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน อุเปกฺขาสุเข อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ อทุกฺขมสุเข อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สุขสฺส จ ปหานา…เป… ¶ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ¶ เม อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘รูเปสุ โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ อพหุลีกโต, อากาสานฺจายตเน จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ¶ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ รูเปสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, อากาสานฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน รูเปสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, อากาสานฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ¶ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส ¶ มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ¶ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘อากาสานฺจายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ อพหุลีกโต, วิฺาณฺจายตเน จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ อากาสานฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ ¶ กเรยฺยํ, วิฺาณฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน อากาสานฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, วิฺาณฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย ¶ ; เอวเมวสฺส เม อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘วิฺาณฺจายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, อากิฺจฺายตเน จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ ¶ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ วิฺาณฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, อากิฺจฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ¶ ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อากิฺจฺายตเน ¶ จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน วิฺาณฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, อากิฺจฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ ¶ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘อากิฺจฺายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, เนวสฺานาสฺายตเน ¶ จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ อากิฺจฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, เนวสฺานาสฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส ¶ โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน อากิฺจฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, เนวสฺานาสฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ¶ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส ¶ มยฺหํ, อานนฺท, สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน เม สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘เนวสฺานาสฺายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, สฺาเวทยิตนิโรเธ จ อานิสํโส อนธิคโต, โส ¶ จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ เนวสฺานาสฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, สฺาเวทยิตนิโรเธ อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน เนวสฺานาสฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ ¶ , สฺาเวทยิตนิโรเธ อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ, ปฺาย จ เม ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขยํ อคมํสุ.
‘‘ยาวกีวฺจาหํ ¶ , อานนฺท, อิมา นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย น เอวํ อนุโลมปฏิโลมํ สมาปชฺชิมฺปิ วุฏฺหิมฺปิ, เนว ตาวาหํ, อานนฺท, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ. ยโต จ โข อหํ, อานนฺท, อิมา นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย เอวํ อนุโลมปฏิโลมํ ¶ สมาปชฺชิมฺปิ วุฏฺหิมฺปิ, อถาหํ, อานนฺท, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ – ‘อกุปฺปา เม เจโตวิมุตฺติ [วิมุตฺติ (ก. สี. ก.)], อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ. ทสมํ.
มหาวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว วิหารา จ นิพฺพานํ, คาวี ฌาเนน ปฺจมํ;
อานนฺโท พฺราหฺมณา เทโว, นาเคน ตปุสฺเสน จาติ.
๕. สามฺวคฺโค
๑. สมฺพาธสุตฺตํ
๔๒. เอกํ ¶ ¶ ¶ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. อถ โข อายสฺมา อุทายี เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน ¶ โข อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘วุตฺตมิทํ, อาวุโส, ปฺจาลจณฺเฑน เทวปุตฺเตน –
‘‘สมฺพาเธ คตํ [สมฺพาเธ วต (สี.)] โอกาสํ, อวิทฺวา ภูริเมธโส;
โย ฌานมพุชฺฌิ พุทฺโธ, ปฏิลีนนิสโภ มุนี’’ติ.
‘‘กตโม, อาวุโส, สมฺพาโธ, กตโม สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา’’ติ? ‘‘ปฺจิเม, อาวุโส, กามคุณา สมฺพาโธ วุตฺโต ภควตา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. อิเม โข, อาวุโส, ปฺจ กามคุณา สมฺพาโธ วุตฺโต ภควตา.
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน. ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ¶ ตตฺถ วิตกฺกวิจารา อนิรุทฺธา โหนฺติ, อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน ¶ . ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ตตฺถ ปีติ อนิรุทฺธา โหติ ¶ , อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน. ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ตตฺถ อุเปกฺขาสุขํ อนิรุทฺธํ โหติ, อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน. ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ตตฺถ รูปสฺา อนิรุทฺธา โหติ, อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน. ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ตตฺถ อากาสานฺจายตนสฺา อนิรุทฺธา โหติ, อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน ¶ . ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ตตฺถ วิฺาณฺจายตนสฺา อนิรุทฺธา โหติ, อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม ¶ วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน. ตตฺราปตฺถิ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ตตฺถ อากิฺจฺายตนสฺา อนิรุทฺธา โหติ, อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน. ตตฺราปตฺถิ ¶ สมฺพาโธ. กิฺจ ตตฺถ สมฺพาโธ? ยเทว ตตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสฺา อนิรุทฺธา โหติ, อยเมตฺถ สมฺพาโธ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม วุตฺโต ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ปมํ.
๒. กายสกฺขีสุตฺตํ
๔๓. ‘‘‘กายสกฺขี กายสกฺขี’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, กายสกฺขี วุตฺโต ภควตา’’ติ? ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยถา ยถา จ ตทายตนํ ตถา ตถา นํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ ¶ โข, อาวุโส, กายสกฺขี วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยถา ยถา จ ตทายตนํ ตถา ตถา นํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, กายสกฺขี วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา ¶ นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยถา ยถา จ ตทายตนํ ตถา ตถา นํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, กายสกฺขี วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน…เป….
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. ยถา ยถา จ ตทายตนํ ตถา ตถา นํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, กายสกฺขี วุตฺโต ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปฺาวิมุตฺตสุตฺตํ
๔๔. ‘‘‘ปฺาวิมุตฺโต ¶ ปฺาวิมุตฺโต’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ปฺาวิมุตฺโต วุตฺโต ภควตา’’ติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จ นํ ปชานาติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ปฺาวิมุตฺโต วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน…เป….
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, ปฺาย จ นํ ปชานาติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ปฺาวิมุตฺโต วุตฺโต ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ตติยํ.
๔. อุภโตภาควิมุตฺตสุตฺตํ
๔๕. ‘‘‘อุภโตภาควิมุตฺโต ¶ อุภโตภาควิมุตฺโต’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, อุภโตภาควิมุตฺโต วุตฺโต ภควตา’’ติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยถา ยถา จ ตทายตนํ ตถา ตถา นํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จ นํ ปชานาติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อุภโตภาควิมุตฺโต วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน…เป….
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. ยถา ยถา จ ตทายตนํ ตถา ตถา นํ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จ นํ ปชานาติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อุภโตภาควิมุตฺโต วุตฺโต ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. สนฺทิฏฺิกธมฺมสุตฺตํ
๔๖. ‘‘‘สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม วุตฺโต ภควตา’’ติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ ¶ โข, อาวุโส, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน…เป….
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม วุตฺโต ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. สนฺทิฏฺิกนิพฺพานสุตฺตํ
๔๗. ‘‘‘สนฺทิฏฺิกํ ¶ นิพฺพานํ สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพาน’นฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ วุตฺตํ ภควตา ปริยาเยน…เป….
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, สนฺทิฏฺิกํ นิพฺพานํ วุตฺตํ ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. นิพฺพานสุตฺตํ
๔๘. ‘‘‘นิพฺพานํ ¶ นิพฺพาน’นฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. สตฺตมํ.
๘. ปรินิพฺพานสุตฺตํ
๔๙. ‘‘‘ปรินิพฺพานํ ปรินิพฺพาน’นฺติ…เป…. อฏฺมํ.
๙. ตทงฺคนิพฺพานสุตฺตํ
๕๐. ‘‘‘ตทงฺคนิพฺพานํ ¶ ตทงฺคนิพฺพาน’นฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. นวมํ.
๑๐. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานสุตฺตํ
๕๑. ‘‘‘ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพาน’นฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ ¶ …เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วุตฺตํ ภควตา ปริยาเยน ¶ …เป….
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วุตฺตํ ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ทสมํ.
สามฺวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
สมฺพาโธ ¶ กายสกฺขี ปฺา,
อุภโตภาโค สนฺทิฏฺิกา ทฺเว;
นิพฺพานํ ปรินิพฺพานํ,
ตทงฺคทิฏฺธมฺมิเกน จาติ.
ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๒. ทุติยปณฺณาสกํ
(๖) ๑. เขมวคฺโค
๑. เขมสุตฺตํ
๕๒. ‘‘‘เขมํ ¶ เขม’นฺติ ¶ ¶ , อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, เขมํ วุตฺตํ ภควตา’’ติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, เขมํ วุตฺตํ ภควตา ปริยาเยน…เป….
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, เขมํ วุตฺตํ ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ปมํ.
๒. เขมปฺปตฺตสุตฺตํ
๕๓. เขมปฺปตฺโต เขมปฺปตฺโตติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. ทุติยํ.
๓. อมตสุตฺตํ
๕๔. อมตํ อมตนฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. ตติยํ.
๔. อมตปฺปตฺตสุตฺตํ
๕๕. อมตปฺปตฺโต อมตปฺปตฺโตติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. จตุตฺถํ.
๕. อภยสุตฺตํ
๕๖. อภยํ ¶ อภยนฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. ปฺจมํ.
๖. อภยปฺปตฺตสุตฺตํ
๕๗. อภยปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโตติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. ฉฏฺํ.
๗. ปสฺสทฺธิสุตฺตํ
๕๘. ปสฺสทฺธิ ปสฺสทฺธีติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. สตฺตมํ.
๘. อนุปุพฺพปสฺสทฺธิสุตฺตํ
๕๙. อนุปุพฺพปสฺสทฺธิ ¶ ¶ อนุปุพฺพปสฺสทฺธีติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. อฏฺมํ.
๙. นิโรธสุตฺตํ
๖๐. นิโรโธ นิโรโธติ, อาวุโส, วุจฺจติ…เป…. นวมํ.
๑๐. อนุปุพฺพนิโรธสุตฺตํ
๖๑. ‘‘‘อนุปุพฺพนิโรโธ อนุปุพฺพนิโรโธ’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา ¶ นุ โข, อาวุโส, อนุปุพฺพนิโรโธ วุตฺโต ภควตา’’ติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อนุปุพฺพนิโรโธ วุตฺโต ภควตา ปริยาเยน…เป… ¶ .
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อนุปุพฺพนิโรโธ วุตฺโต ภควตา นิปฺปริยาเยนา’’ติ. ทสมํ.
๑๑. อภพฺพสุตฺตํ
๖๒. ‘‘นว, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม นว? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, นว ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ.
‘‘นว, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม นว? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, นว ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. เอกาทสมํ.
เขมวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
เขโม ¶ จ อมตฺเจว, อภยํ ปสฺสทฺธิเยน จ;
นิโรโธ อนุปุพฺโพ จ, ธมฺมํ ปหาย ภพฺเพน จาติ.
(๗) ๒. สติปฏฺานวคฺโค
๑. สิกฺขาทุพฺพลฺยสุตฺตํ
๖๓. ‘‘ปฺจิมานิ ¶ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, สิกฺขาทุพฺพลฺยานิ. กตมานิ ปฺจ? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ สิกฺขาทุพฺพลฺยานิ.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ สิกฺขาทุพฺพลฺยานํ ปหานาย จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ…เป… จิตฺเต…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ สิกฺขาทุพฺพลฺยานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ปมํ.
๒. นีวรณสุตฺตํ
๖๔. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, นีวรณานิ. กตมานิ ปฺจ? กามจฺฉนฺทนีวรณํ, พฺยาปาทนีวรณํ, ถินมิทฺธนีวรณํ ¶ , อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ, วิจิกิจฺฉานีวรณํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ นีวรณานิ.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานาย จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ…เป… จิตฺเต…เป… ¶ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อิเมสํ ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ทุติยํ.
๓. กามคุณสุตฺตํ
๖๕. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา ¶ อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ กามคุณา.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ กามคุณานํ ปหานาย…เป… อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ตติยํ.
๔. อุปาทานกฺขนฺธสุตฺตํ
๖๖. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อุปาทานกฺขนฺธา. กตเม ปฺจ? รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ – อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ปหานาย…เป… อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. โอรมฺภาคิยสุตฺตํ
๖๗. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ. กตมานิ ปฺจ? สกฺกายทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส, กามจฺฉนฺโท, พฺยาปาโท – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ.
‘‘อิเมสํ ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย…เป… อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ปฺจมํ.
๖. คติสุตฺตํ
๖๘. ‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, คติโย. กตมา ปฺจ? นิรโย, ติรจฺฉานโยนิ ¶ , เปตฺติวิสโย, มนุสฺสา, เทวา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ คติโย.
‘‘อิมาสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ คตีนํ ปหานาย…เป… อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. มจฺฉริยสุตฺตํ
๖๙. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, มจฺฉริยานิ. กตมานิ ปฺจ? อาวาสมจฺฉริยํ, กุลมจฺฉริยํ, ลาภมจฺฉริยํ, วณฺณมจฺฉริยํ, ธมฺมมจฺฉริยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ มจฺฉริยานิ.
‘‘อิเมสํ ¶ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ มจฺฉริยานํ ปหานาย…เป… อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. อุทฺธมฺภาคิยสุตฺตํ
๗๐. ‘‘ปฺจิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, อุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ. กตมานิ ปฺจ? รูปราโค, อรูปราโค, มาโน, อุทฺธจฺจํ, อวิชฺชา – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ อุทฺธมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย…เป… อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. เจโตขิลสุตฺตํ
๗๑. [อ. นิ. ๕.๒๐๕; ที. นิ. ๓.๓๑๙; ม. นิ. ๑.๑๘๕] ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, เจโตขิลา [เจโตขีลา (ก.)]. กตเม ปฺจ? อิธ ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย ¶ , อยํ ปโม เจโตขิโล.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเม กงฺขติ…เป… สงฺเฆ กงฺขติ… สิกฺขาย กงฺขติ… สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปฺจโม เจโตขิโล.
‘‘อิเมสํ, โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เจโตขิลานํ ปหานาย…เป… อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. นวมํ.
๑๐. เจตโสวินิพนฺธสุตฺตํ
๗๒. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, เจตโสวินิพนฺธา [เจโตวินิพทฺธา (สารตฺถทีปนีฏีกา) อ. นิ. ๕.๒๐๖; ที. นิ. ๓.๓๒๐]. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส ¶ อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปโม เจตโสวินิพนฺโธ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย อวีตราโค โหติ…เป… รูเป อวีตราโค โหติ… ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ ¶ … อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร ¶ วา’ติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปฺจโม เจตโสวินิพนฺโธ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เจตโสวินิพนฺธานํ ปหานาย จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ…เป… จิตฺเต…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เจตโสวินิพนฺธานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ทสมํ.
สติปฏฺานวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
สิกฺขา ¶ นีวรณากามา, ขนฺธา จ โอรมฺภาคิยา คติ;
มจฺเฉรํ อุทฺธมฺภาคิยา อฏฺมํ, เจโตขิลา วินิพนฺธาติ.
(๘) ๓. สมฺมปฺปธานวคฺโค
๑. สิกฺขสุตฺตํ
๗๓. ‘‘ปฺจิมานิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, สิกฺขาทุพฺพลฺยานิ. กตมานิ ปฺจ? ปาณาติปาโต ¶ …เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ สิกฺขาทุพฺพลฺยานิ.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ สิกฺขาทุพฺพลฺยานํ ปหานาย จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาเวตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ สิกฺขาทุพฺพลฺยานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ปมํ.
๗๔-๘๑. (ยถา สติปฏฺานวคฺเค ตถา สมฺมปฺปธานวเสน วิตฺถาเรตพฺพา.)
๑๐. เจตโสวินิพนฺธสุตฺตํ
๘๒. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, เจตโสวินิพนฺธา. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ…เป… อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เจตโสวินิพนฺธานํ ปหานาย จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาเวตพฺพา ¶ . กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ ¶ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย… อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย… อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ ¶ . อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เจตโสวินิพนฺธานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาเวตพฺพา’’ติ. ทสมํ.
สมฺมปฺปธานวคฺโค ตติโย.
(๙) ๔. อิทฺธิปาทวคฺโค
๑. สิกฺขสุตฺตํ
๘๓. ‘‘ปฺจิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, สิกฺขาทุพฺพลฺยานิ. กตมานิ ปฺจ? ปาณาติปาโต…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ สิกฺขาทุพฺพลฺยานิ.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ สิกฺขาทุพฺพลฺยานํ ปหานาย จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาเวตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีริยสมาธิ… จิตฺตสมาธิ… วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ สิกฺขาทุพฺพลฺยานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาเวตพฺพา’’ติ. ปมํ.
๘๔-๙๑. (ยถา สติปฏฺานวคฺเค ตถา อิทฺธิปาทวเสน วิตฺถาเรตพฺพา.)
๑๐. เจตโสวินิพนฺธสุตฺตํ
๙๒. ‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, เจตโสวินิพนฺธา. กตเม ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ…เป… อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา.
‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เจตโสวินิพนฺธานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาเวตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีริยสมาธิ… จิตฺตสมาธิ… วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ¶ ภาเวติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ เจตโสวินิพนฺธานํ ปหานาย อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาเวตพฺพา’’ติ. ทสมํ.
อิทฺธิปาทวคฺโค จตุตฺโถ.
ยเถว ¶ สติปฏฺานา, ปธานา จตุโรปิ จ;
จตฺตาโร อิทฺธิปาทา จ, ตเถว สมฺปโยชเยติ.
(๑๐) ๕. ราคเปยฺยาลํ
๙๓. ‘‘ราคสฺส ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อภิฺาย นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม นว? อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา – ราคสฺส, ภิกฺขเว อภิฺาย อิเม นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
๙๔. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ¶ นว? ปมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ ฌานํ, จตุตฺถํ ฌานํ, อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตนํ, สฺาเวทยิตนิโรโธ – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
๙๕-๑๑๒. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย…เป… ปริกฺขยาย…เป… ปหานาย…เป… ขยาย…เป… วยาย…เป… วิราคาย…เป… นิโรธาย…เป… จาคาย…เป… ปฏินิสฺสคฺคาย…เป… อิเม นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’.
๑๑๓-๔๓๒. ‘‘โทสสฺส…เป… โมหสฺส… โกธสฺส… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส อภิฺาย…เป… ปริฺาย… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย ¶ … จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย…เป… อิเม นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.
ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.
นวกนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.