📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาโย

ทสกนิปาตปาฬิ

๑. ปมปณฺณาสกํ

๑. อานิสํสวคฺโค

๑. กิมตฺถิยสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กิมตฺถิยานิ, ภนฺเต, กุสลานิ สีลานิ กิมานิสํสานี’’ติ? ‘‘อวิปฺปฏิสารตฺถานิ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานี’’ติ.

‘‘อวิปฺปฏิสาโร ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’ติ? ‘‘อวิปฺปฏิสาโร โข, อานนฺท, ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส’’ติ [ปามุชฺชตฺโถ ปามุชฺชานิสํโสติ (สี. สฺยา. ปี.) อ. นิ. ๑๑.๑].

‘‘ปาโมชฺชํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํส’’นฺติ? ‘‘ปาโมชฺชํ โข, อานนฺท, ปีตตฺถํ ปีตานิสํส’’นฺติ.

‘‘ปีติ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’ติ? ‘‘ปีติ โข, อานนฺท, ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา’’ติ.

‘‘ปสฺสทฺธิ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’ติ? ‘‘ปสฺสทฺธิ โข, อานนฺท, สุขตฺถา สุขานิสํสา’’ติ.

‘‘สุขํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํส’’นฺติ? ‘‘สุขํ โข, อานนฺท, สมาธตฺถํ สมาธานิสํส’’นฺติ.

‘‘สมาธิ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’ติ? ‘‘สมาธิ โข, อานนฺท, ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส’’ติ.

‘‘ยถาภูตาณทสฺสนํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํส’’นฺติ? ‘‘ยถาภูตาณทสฺสนํ โข, อานนฺท, นิพฺพิทาวิราคตฺถํ นิพฺพิทาวิราคานิสํส’’นฺติ.

‘‘นิพฺพิทาวิราโค ปน, ภนฺเต กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’ติ? ‘‘นิพฺพิทาวิราโค โข, อานนฺท, วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส [… นิสํโสติ (สี. ก.)].

‘‘อิติ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารตฺถานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานิ; อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส; ปาโมชฺชํ ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ; ปีติ ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา; ปสฺสทฺธิ สุขตฺถา สุขานิสํสา; สุขํ สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ; สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส; ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทาวิราคตฺถํ นิพฺพิทาวิราคานิสํสํ; นิพฺพิทาวิราโค วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส. อิติ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อนุปุพฺเพน อคฺคาย ปเรนฺตี’’ติ [อรหตฺตาย ปูเรนฺตีติ (สฺยา.)]. ปมํ.

๒. เจตนากรณียสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๑๑.๒] ‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส น เจตนาย กรณียํ – ‘อวิปฺปฏิสาโร เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อวิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ. อวิปฺปฏิสาริสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปาโมชฺชํ เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ อวิปฺปฏิสาริสฺส ปาโมชฺชํ ชายติ. ปมุทิตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปีติ เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปมุทิตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชติ. ปีติมนสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘กาโย เม ปสฺสมฺภตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ. ปสฺสทฺธกายสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘สุขํ เวทิยามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ. สุขิโน, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘จิตฺตํ เม สมาธิยตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. สมาหิตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ยถาภูตํ ชานามิ ปสฺสามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สมาหิโต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ. ยถาภูตํ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต น เจตนาย กรณียํ – ‘นิพฺพินฺทามิ วิรชฺชามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ วิรชฺชติ. นิพฺพินฺนสฺส [นิพฺพินฺทสฺส (สี. ก.)], ภิกฺขเว, วิรตฺตสฺส น เจตนาย กรณียํ – ‘วิมุตฺติาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรมี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ นิพฺพินฺโน [นิพฺพินฺโท (สี. ก.)] วิรตฺโต วิมุตฺติาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรติ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, นิพฺพิทาวิราโค วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส; ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทาวิราคตฺถํ นิพฺพิทาวิราคานิสํสํ; สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส; สุขํ สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ; ปสฺสทฺธิ สุขตฺถา สุขานิสํสา; ปีติ ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา; ปาโมชฺชํ ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ; อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส; กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารตฺถานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมา ธมฺเม อภิสนฺเทนฺติ, ธมฺมา ธมฺเม ปริปูเรนฺติ อปารา ปารํ คมนายา’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมอุปนิสสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๕.๒๔; ๑๑.๓] ‘‘ทุสฺสีลสฺส, ภิกฺขเว, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ; ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ; ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ; ปสฺสทฺธิยา อสติ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สุขํ; สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ; ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ; ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปสฺสทฺธิ; ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ; สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ตติยํ.

๔. ทุติยอุปนิสสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๑๑.๔] ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ทุสฺสีลสฺส, อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ…เป. … วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ตติยอุปนิสสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๑๑.๕] ตตฺร โข อายสฺมา อานนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ทุสฺสีลสฺส, อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ; ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ; ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ; ปสฺสทฺธิยา อสติ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สุขํ; สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ; ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ; ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปสฺสทฺธิ; ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ; สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ; ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร; อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. สมาธิสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๑๑.๑๘] อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี [ปวิสฺี (สี.), ปวีสฺี (สฺยา.)] อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ? ‘‘สิยา, อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตฺตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สาริปุตฺตสุตฺตํ

. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สิยา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘สิยา, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, อาวุโส สาริปุตฺต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ? ‘‘เอกมิทาหํ, อาวุโส อานนฺท, สมยํ อิเธว สาวตฺถิยํ วิหรามิ อนฺธวนสฺมึ. ตตฺถาหํ [อถาหํ (ก.)] ตถารูปํ สมาธึ สมาปชฺชึ [ปฏิลภามิ (ก.)] ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อโหสึ, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อโหสึ, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อโหสึ, น วายสฺมึ วาโยสฺี อโหสึ, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อโหสึ, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อโหสึ, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อโหสึ, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อโหสึ, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อโหสึ, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อโหสึ; สฺี จ ปน อโหสิ’’นฺติ.

‘‘กึสฺี ปนายสฺมา สาริปุตฺโต [กึ สฺี ปนาวุโส สาริปุตฺต (ก.)] ตสฺมึ สมเย อโหสี’’ติ? ‘‘ภวนิโรโธ นิพฺพานํ ภวนิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ โข เม, อาวุโส, อฺาว สฺา อุปฺปชฺชติ อฺาว สฺา นิรุชฺฌติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สกลิกคฺคิสฺส ฌายมานสฺส อฺาว อจฺจิ อุปฺปชฺชติ อฺาว อจฺจิ นิรุชฺฌติ; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ‘ภวนิโรโธ นิพฺพานํ ภวนิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ อฺาว สฺา อุปฺปชฺชติ อฺาว สฺา นิรุชฺฌติ. ‘ภวนิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ [นิพฺพานํ (สี. ก.)] สฺี จ ปนาหํ, อาวุโส, ตสฺมึ สมเย อโหสิ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ฌานสุตฺตํ

. ‘‘สทฺโธ จ [อิมสฺมึ วากฺเย อยํ จ กาโร นตฺถิ สฺยามโปตฺถเก], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ, โน จ [โน (สฺยา.) เอวมุปริปิ. อ. นิ. ๘.๗๑] สีลวา; เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ, สีลวา จา’ติ! ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ สีลวา จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ.

‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ, โน จ พหุสฺสุโต…เป… พหุสฺสุโต จ, โน จ ธมฺมกถิโก… ธมฺมกถิโก จ, โน จ ปริสาวจโร… ปริสาวจโร จ, โน จ วิสารโท ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ… วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, โน จ วินยธโร… วินยธโร จ, โน จ อารฺิโก [อารฺโก (ก.)] ปนฺตเสนาสโน… อารฺิโก จ ปนฺตเสนาสโน, โน จ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี… จตุนฺนฺจ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, โน จ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสยฺยํ, วินยธโร จ, อารฺิโก จ ปนฺตเสนาสโน, จตุนฺนฺจ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อสฺสํ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ.

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, วินยธโร จ, อารฺิโก จ ปนฺตเสนาสโน, จตุนฺนฺจ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สมนฺตปาสาทิโก จ โหติ สพฺพาการปริปูโร จา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. สนฺตวิโมกฺขสุตฺตํ

. ‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ, โน จ สีลวา…เป… สีลวา จ, โน จ พหุสฺสุโต… พหุสฺสุโต จ, โน จ ธมฺมกถิโก… ธมฺมกถิโก จ, โน จ ปริสาวจโร… ปริสาวจโร จ, โน จ วิสารโท ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ… วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, โน จ วินยธโร… วินยธโร จ, โน จ อารฺิโก ปนฺตเสนาสโน… อารฺิโก จ ปนฺตเสนาสโน, โน จ เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ… เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต จ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, โน จ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสยฺยํ, วินยธโร จ, อารฺิโก จ ปนฺตเสนาสโน, เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต จ กาเยน ผุสิตฺวา วิหเรยฺยํ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ.

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, วินยธโร จ, อารฺิโก จ ปนฺตเสนาสโน, เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต จ กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สมนฺตปาสาทิโก จ โหติ สพฺพาการปริปูโร จา’’ติ. นวมํ.

๑๐. วิชฺชาสุตฺตํ

๑๐. ‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ, โน จ สีลวา. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ สีลวา จา’ติ. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, สีลวา จ, เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ.

‘‘สทฺโธ จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โหติ สีลวา จ, โน จ พหุสฺสุโต พหุสฺสุโต จ, โน จ ธมฺมกถิโก ธมฺมกถิโก จ, โน จ ปริสาวจโร ปริสาวจโร จ, โน จ วิสารโท ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, โน จ วินยธโร วินยธโร จ, โน จ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อเนกวิหิตฺจ…เป… ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, โน จ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ ทิพฺเพน จ จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ, โน จ อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติ. เตน ตํ องฺคํ ปริปูเรตพฺพํ – ‘กินฺตาหํ สทฺโธ จ อสฺสํ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสยฺยํ, วินยธโร จ, อเนกวิหิตฺจ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, ทิพฺเพน จ จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺยํ, อาสวานฺจ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ.

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, สีลวา จ, พหุสฺสุโต จ, ธมฺมกถิโก จ, ปริสาวจโร จ, วิสารโท จ ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, วินยธโร จ, อเนกวิหิตฺจ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ทิพฺเพน จ จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติ. อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สมนฺตปาสาทิโก จ โหติ สพฺพาการปริปูโร จา’’ติ. ทสมํ.

อานิสํสวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

กิมตฺถิยํ เจตนา จ, ตโย อุปนิสาปิ จ;

สมาธิ สาริปุตฺโต จ, ฌานํ สนฺเตน วิชฺชยาติ.

๒. นาถวคฺโค

๑. เสนาสนสุตฺตํ

๑๑. ‘‘ปฺจงฺคสมนฺนาคโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ เสนาสนํ เสวมาโน ภชมาโน นจิรสฺเสว อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ; สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… ภควา’ติ; อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก, สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย; อสโ โหติ อมายาวี, ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกตฺตา สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ; อารทฺธวีริโย วิหรติ, อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย; ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ; ปฺวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ [อปฺปฑํส… สิรึสปสมฺผสฺสํ (สี. สฺยา. ปี.)]; ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา; ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา; เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ; ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานึ กโรนฺติ อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหติ. ปฺจงฺคสมนฺนาคโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ เสนาสนํ เสวมาโน ภชมาโน นจิรสฺเสว อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ. ปมํ.

๒. ปฺจงฺคสุตฺตํ

๑๒. ‘‘ปฺจงฺควิปฺปหีโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคโต อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ [ถีนมิทฺธํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเสเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคโต โหติ.

‘‘ปฺจงฺควิปฺปหีโน โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺคสมนฺนาคโต อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจติ.

‘‘กามจฺฉนฺโท จ พฺยาปาโท, ถินมิทฺธฺจ ภิกฺขุโน;

อุทฺธจฺจํ วิจิกิจฺฉา จ, สพฺพโสว น วิชฺชติ.

‘‘อเสเขน จ สีเลน, อเสเขน สมาธินา;

วิมุตฺติยา จ สมฺปนฺโน, าเณน จ ตถาวิโธ.

‘‘ส เว ปฺจงฺคสมฺปนฺโน, ปฺจ องฺเค [ปฺจงฺคานิ (สฺยา.)] วิวชฺชยํ [วิวชฺชิย (ก.)];

อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, เกวลี อิติ วุจฺจตี’’ติ. ทุติยํ;

๓. สํโยชนสุตฺตํ

๑๓. ‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, สํโยชนานิ. กตมานิ ทส? ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ, ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ. กตมานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ? สกฺกายทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส, กามจฺฉนฺโท, พฺยาปาโท – อิมานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ.

‘‘กตมานิ ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ? รูปราโค, อรูปราโค, มาโน, อุทฺธจฺจํ, อวิชฺชา – อิมานิ ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส สํโยชนานี’’ติ. ตติยํ.

๔. เจโตขิลสุตฺตํ

๑๔. ‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ปฺจ เจโตขิลา อปฺปหีนา ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา อสมุจฺฉินฺนา, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘กตมสฺส ปฺจ เจโตขิลา อปฺปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปโม เจโตขิโล อปฺปหีโน โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเม กงฺขติ…เป… สงฺเฆ กงฺขติ… สิกฺขาย กงฺขติ… สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปฺจโม เจโตขิโล อปฺปหีโน โหติ. อิมสฺส ปฺจ เจโตขิลา อปฺปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตมสฺส ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา อสมุจฺฉินฺนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปโม เจตโสวินิพนฺโธ อสมุจฺฉินฺโน โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย อวีตราโค โหติ…เป… รูเป อวีตราโค โหติ…เป… ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ… อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปฺจโม เจตโสวินิพนฺโธ อสมุจฺฉินฺโน โหติ. อิมสฺส ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา อสมุจฺฉินฺนา โหนฺติ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา อิเม ปฺจ เจโตขิลา อปฺปหีนา อิเม ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา อสมุจฺฉินฺนา, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา อิเม ปฺจ เจโตขิลา อปฺปหีนา อิเม ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา อสมุจฺฉินฺนา, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ปฺจ เจโตขิลา ปหีนา ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา สุสมุจฺฉินฺนา, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ.

‘‘กตมสฺส ปฺจ เจโตขิลา ปหีนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ น กงฺขติ น วิจิกิจฺฉติ, อธิมุจฺจติ สมฺปสีทติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ น กงฺขติ น วิจิกิจฺฉติ อธิมุจฺจติ สมฺปสีทติ, ตสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปโม เจโตขิโล ปหีโน โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเม น กงฺขติ…เป… สงฺเฆ น กงฺขติ… สิกฺขาย น กงฺขติ … สพฺรหฺมจารีสุ น กุปิโต โหติ อตฺตมโน น อาหตจิตฺโต น ขิลชาโต. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีสุ น กุปิโต โหติ อตฺตมโน น อาหตจิตฺโต น ขิลชาโต, ตสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปฺจโม เจโตขิโล ปหีโน โหติ. อิมสฺส ปฺจ เจโตขิลา ปหีนา โหนฺติ.

‘‘กตมสฺส ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา สุสมุจฺฉินฺนา โหนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ วีตราโค โหติ วิคตจฺฉนฺโท วิคตเปโม วิคตปิปาโส วิคตปริฬาโห วิคตตณฺโห. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเมสุ วีตราโค โหติ วิคตจฺฉนฺโท วิคตเปโม วิคตปิปาโส วิคตปริฬาโห วิคตตณฺโห, ตสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปโม เจตโสวินิพนฺโธ สุสมุจฺฉินฺโน โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย วีตราโค โหติ…เป… รูเป วีตราโค โหติ …เป… น ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ, น อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย…เป… เทวฺตโร วาติ, ตสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, เอวมสฺสายํ ปฺจโม เจตโสวินิพนฺโธ สุสมุจฺฉินฺโน โหติ. อิมสฺส ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา สุสมุจฺฉินฺนา โหนฺติ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา อิเม ปฺจ เจโตขิลา ปหีนา อิเม ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา สุสมุจฺฉินฺนา, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา อิเม ปฺจ เจโตขิลา ปหีนา อิเม ปฺจ เจตโสวินิพนฺธา สุสมุจฺฉินฺนา, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. อปฺปมาทสุตฺตํ

๑๕. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺินาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา. อปฺปมาโท เตสํ [เตสํ ธมฺมานํ (สี. ก.) สํ. นิ. ๕.๑๓๙] อคฺคมกฺขายติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ชงฺคลานํ [ชงฺคมานํ (สี. ปี.) สํ. นิ. ๕.๑๓๙] ปาณานํ ปทชาตานิ, สพฺพานิ ตานิ หตฺถิปเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ, หตฺถิปทํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ มหนฺตตฺเตน; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา. อปฺปมาโท เตสํ อคฺคมกฺขายติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กูฏาคารสฺส ยา กาจิ โคปานสิโย สพฺพา ตา กูฏงฺคมา กูฏนินฺนา กูฏสโมสรณา, กูโฏ ตาสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา. อปฺปมาโท เตสํ อคฺคมกฺขายติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เย เกจิ มูลคนฺธา, กาฬานุสาริยํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข ภิกฺขเว…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เย เกจิ สารคนฺธา, โลหิตจนฺทนํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข ภิกฺขเว…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เย เกจิ ปุปฺผคนฺธา, วสฺสิกํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข ภิกฺขเว…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เย เกจิ ขุทฺทราชาโน [กุฑฺฑราชาโน (สี. สฺยา. ปี.), กุฏฺฏราชาโน, กูฏราชาโน (ก.) อ. นิ. ๖.๕๓], สพฺเพ เต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา ภวนฺติ, ราชา เตสํ จกฺกวตฺตี อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ ตารกรูปานํ ปภา, สพฺพา ตา จนฺทปฺปภาย กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, จนฺทปฺปภา ตาสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อาทิจฺโจ นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโน [อพฺภุสฺสุกฺกมาโน (สี.) สํ. นิ. ๕.๑๔๖-๑๔๘] สพฺพํ อากาสคตํ ตมคตํ อภิวิหจฺจ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว…เป….

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหี, สพฺพา ตา สมุทฺทงฺคมา สมุทฺทนินฺนา สมุทฺทโปณา สมุทฺทปพฺภารา, มหาสมุทฺโท ตาสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา. อปฺปมาโท เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อาหุเนยฺยสุตฺตํ

๑๖. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเม ทส? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ปจฺเจกพุทฺโธ, อุภโตภาควิมุตฺโต, ปฺาวิมุตฺโต, กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต, สทฺธานุสารี, ธมฺมานุสารี, โคตฺรภู – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ปุคฺคลา อาหุเนยฺยา…เป… อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมนาถสุตฺตํ

๑๗. [ที. นิ. ๓.๓๔๕, ๓๖๐] ‘‘สนาถา, ภิกฺขเว, วิหรถ, มา อนาถา. ทุกฺขํ, ภิกฺขเว, อนาโถ วิหรติ. ทสยิเม, ภิกฺขเว, นาถกรณา ธมฺมา. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ [สาตฺถา สพฺยฺชนา (สี.)] เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา [พหู สุตา (?)] โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ…เป… อนุสาสนึ, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรูปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ…เป… อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร, อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร, อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา, อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘สนาถา, ภิกฺขเว, วิหรถ, มา อนาถา. ทุกฺขํ, ภิกฺขเว, อนาโถ วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส นาถกรณา ธมฺมา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยนาถสุตฺตํ

๑๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘สนาถา, ภิกฺขเว, วิหรถ, มา อนาถา. ทุกฺขํ, ภิกฺขเว, อนาโถ วิหรติ. ทสยิเม, ภิกฺขเว, นาถกรณา ธมฺมา. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. ‘สีลวา วตายํ ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสู’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. ‘พหุสฺสุโต วตายํ ภิกฺขุ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. ‘กลฺยาณมิตฺโต วตายํ ภิกฺขุ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. ‘สุวโจ วตายํ ภิกฺขุ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิ’นฺติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส, ตตฺรูปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. ‘ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข วตายํ ภิกฺขุ อนลโส, ตตฺรูปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุ’นฺติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร, อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช. ‘ธมฺมกาโม วตายํ ภิกฺขุ ปิยสมุทาหาโร, อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ ‘อารทฺธวีริโย วตายํ ภิกฺขุ วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสู’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. ‘สนฺตุฏฺโ วตายํ ภิกฺขุ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนา’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. ‘สติมา วตายํ ภิกฺขุ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส มชฺฌิมานุกมฺปิตสฺส นวานุกมฺปิตสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. ‘ปฺวา วตายํ ภิกฺขุ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา’ติ เถราปิ นํ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ, มชฺฌิมาปิ ภิกฺขู… นวาปิ ภิกฺขู วตฺตพฺพํ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺติ. ตสฺส เถรานุกมฺปิตสฺส…เป… โน ปริหานิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.

‘‘สนาถา, ภิกฺขเว, วิหรถ, มา อนาถา. ทุกฺขํ, ภิกฺขเว, อนาโถ วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส นาถกรณา ธมฺมา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อฏฺมํ.

๙. ปมอริยาวาสสุตฺตํ

๑๙. [ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐] ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยาวาสา, เย อริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ, ฉฬงฺคสมนฺนาคโต, เอการกฺโข, จตุราปสฺเสโน, ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ [ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ (ก.)], สมวยสฏฺเสโน, อนาวิลสงฺกปฺโป, ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร, สุวิมุตฺตจิตฺโต, สุวิมุตฺตปฺโ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อริยาวาสา, เย อริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยอริยาวาสสุตฺตํ

๒๐. เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป….

‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยาวาสา, เย อริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ, ฉฬงฺคสมนฺนาคโต, เอการกฺโข, จตุราปสฺเสโน, ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ, สมวยสฏฺเสโน, อนาวิลสงฺกปฺโป, ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร, สุวิมุตฺตจิตฺโต, สุวิมุตฺตปฺโ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ยานิ ตานิ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ปุถุปจฺเจกสจฺจานิ, เสยฺยถิทํ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, สพฺพานิ ตานิ นุนฺนานิ โหนฺติ ปณุนฺนานิ [นุณฺณานิ โหนฺติ ปนุณฺณานิ (?)] จตฺตานิ วนฺตานิ มุตฺตานิ ปหีนานิ ปฏินิสฺสฏฺานิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กาเมสนา ปหีนา โหติ, ภเวสนา ปหีนา โหติ, พฺรหฺมจริเยสนา ปฏิปฺปสฺสทฺธา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกปฺโป โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กามสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ, พฺยาปาทสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ, วิหึสาสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกปฺโป โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ราคา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โทสา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โมหา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิตฺโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปฺโ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ราโค เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ, โทโส เม ปหีโน…เป… ‘โมโห เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปฺโ โหติ.

‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อตีตมทฺธานํ อริยา อริยาวาเส อาวสึสุ, สพฺเพ เต อิเมว ทส อริยาวาเส อาวสึสุ; เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, อนาคตมทฺธานํ อริยา อริยาวาเส อาวสิสฺสนฺติ, สพฺเพ เต อิเมว ทส อริยาวาเส อาวสิสฺสนฺติ; เย หิ [เยปิ (?)] เกจิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อริยา อริยาวาเส อาวสนฺติ, สพฺเพ เต อิเมว ทส อริยาวาเส อาวสนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อริยาวาสา, เย อริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา’’ติ. ทสมํ.

นาถวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

เสนาสนฺจ ปฺจงฺคํ, สํโยชนาขิเลน จ;

อปฺปมาโท อาหุเนยฺโย, ทฺเว นาถา ทฺเว อริยาวาสาติ.

๓. มหาวคฺโค

๑. สีหนาทสุตฺตํ

๒๑. ‘‘สีโห, ภิกฺขเว, มิคราชา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขมติ. อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺภติ. วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสา (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๖.๖๔] อนุวิโลเกติ. สมนฺตา จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสา (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๖.๖๔] อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทติ. ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘มาหํ ขุทฺทเก ปาเณ วิสมคเต สงฺฆาตํ อาปาเทสิ’นฺติ!

‘‘‘สีโห’ติ, โข ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ยํ โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, อิทมสฺส โหติ สีหนาทสฺมึ.

[ม. นิ. ๑.๑๔๘; วิภ. ๗๖๐; ปฏิ. ม. ๒.๔๔] ‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. กตมานิ ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สพฺพตฺถคามินึ ปฏิปทํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สพฺพตฺถคามินึ ปฏิปทํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกธาตุํ นานาธาตุํ โลกํ [อเนกธาตุนานาธาตุโลกํ (สี. ก.)] ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกธาตุํ นานาธาตุํ โลกํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิ…เป… ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ…เป… พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป, ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ, อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ยมฺปิ ภิกฺขเว, ตถาคโต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ. ปมํ.

๒. อธิวุตฺติปทสุตฺตํ

๒๒. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘เย เต, อานนฺท, ธมฺมา เตสํ เตสํ อธิวุตฺติปทานํ [อธิมุตฺติปทานํ (ก.)] อภิฺา สจฺฉิกิริยาย สํวตฺตนฺติ, วิสารโท อหํ, อานนฺท, ตตฺถ ปฏิชานามิ. ‘เตสํ เตสํ ตถา ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ ยถา ยถา ปฏิปนฺโน สนฺตํ วา อตฺถีติ สฺสติ, อสนฺตํ วา นตฺถีติ สฺสติ, หีนํ วา หีนนฺติ สฺสติ, ปณีตํ วา ปณีตนฺติ สฺสติ, สอุตฺตรํ วา สอุตฺตรนฺติ สฺสติ, อนุตฺตรํ วา อนุตฺตรนฺติ สฺสติ; ยถา ยถา วา ปน ตํ าเตยฺยํ วา ทฏฺเยฺยํ วา สจฺฉิกเรยฺยํ วา, ตถา ตถา สฺสติ วา ทกฺขติ วา สจฺฉิกริสฺสติ วา’ติ านเมตํ วิชฺชติ. เอตทานุตฺตริยํ, อานนฺท, าณานํ ยทิทํ ตตฺถ ตตฺถ ยถาภูตาณํ. เอตสฺมา จาหํ, อานนฺท, าณา อฺํ าณํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา นตฺถีติ วทามิ.

‘‘ทสยิมานิ, อานนฺท, ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ. กตมานิ ทส? อิธานนฺท, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปานนฺท, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปานนฺท, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปานนฺท…เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต สพฺพตฺถคามินึ ปฏิปทํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปานนฺท…เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต อเนกธาตุํ นานาธาตุํ โลกํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปานนฺท …เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปานนฺท…เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปานนฺท…เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปานนฺท…เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ยมฺปานนฺท…เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ยมฺปานนฺท…เป… อิทมฺปานนฺท…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ตถาคโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยมฺปานนฺท, ตถาคโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปานนฺท, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ.

‘‘อิมานิ โข, อานนฺท, ทส ตถาคตสฺส ตถาคตพลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทติ, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. กายสุตฺตํ

๒๓. ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา กาเยน ปหาตพฺพา, โน วาจาย. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา วาจาย ปหาตพฺพา, โน กาเยน. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา เนว กาเยน ปหาตพฺพา โน วาจาย, ปฺาย ทิสฺวา [ทิสฺวา ทิสฺวา (สี. สฺยา.)] ปหาตพฺพา.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา กาเยน ปหาตพฺพา, โน วาจาย? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกุสลํ อาปนฺโน โหติ กิฺจิ เทสํ [กฺจิ เทว เทสํ (สี. สฺยา.)] กาเยน. ตเมนํ อนุวิจฺจ วิฺู สพฺรหฺมจารี เอวมาหํสุ – ‘อายสฺมา โข อกุสลํ อาปนฺโน กิฺจิ เทสํ กาเยน. สาธุ วตายสฺมา กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวตู’ติ. โส อนุวิจฺจ วิฺูหิ สพฺรหฺมจารีหิ วุจฺจมาโน กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ธมฺมา กาเยน ปหาตพฺพา, โน วาจาย.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา วาจาย ปหาตพฺพา, โน กาเยน? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกุสลํ อาปนฺโน โหติ กิฺจิ เทสํ วาจาย. ตเมนํ อนุวิจฺจ วิฺู สพฺรหฺมจารี เอวมาหํสุ – ‘อายสฺมา โข อกุสลํ อาปนฺโน กิฺจิ เทสํ วาจาย. สาธุ วตายสฺมา วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวตู’ติ. โส อนุวิจฺจ วิฺูหิ สพฺรหฺมจารีหิ วุจฺจมาโน วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ธมฺมา วาจาย ปหาตพฺพา, โน กาเยน.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา เนว กาเยน ปหาตพฺพา โน วาจาย, ปฺาย ทิสฺวา ปหาตพฺพา? โลโภ, ภิกฺขเว, เนว กาเยน ปหาตพฺโพ โน วาจาย, ปฺาย ทิสฺวา ปหาตพฺโพ. โทโส, ภิกฺขเว…เป… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส … มจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, เนว กาเยน ปหาตพฺพํ โน วาจาย, ปฺาย ทิสฺวา ปหาตพฺพํ.

‘‘ปาปิกา, ภิกฺขเว, อิสฺสา เนว กาเยน ปหาตพฺพา โน วาจาย, ปฺาย ทิสฺวา ปหาตพฺพา. กตมา จ, ภิกฺขเว, ปาปิกา อิสฺสา? อิธ, ภิกฺขเว, อิชฺฌติ คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา ธเนน วา ธฺเน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา. ตตฺราฺตรสฺส ทาสสฺส วา อุปวาสสฺส วา เอวํ โหติ – ‘อโห วติมสฺส คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา น อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธฺเน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา’ติ. สมโณ วา ปน พฺราหฺมโณ วา ลาภี โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ตตฺราฺตรสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เอวํ โหติ – ‘อโห วต อยมายสฺมา น ลาภี อสฺส จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปาปิกา อิสฺสา.

‘‘ปาปิกา, ภิกฺขเว, อิจฺฉา เนว กาเยน ปหาตพฺพา โน วาจาย, ปฺาย ทิสฺวา ปหาตพฺพา. กตมา จ, ภิกฺขเว, ปาปิกา อิจฺฉา? [วิภ. ๘๕๑] อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อสฺสทฺโธ สมาโน ‘สทฺโธติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; ทุสฺสีโล สมาโน ‘สีลวาติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; อปฺปสฺสุโต สมาโน ‘พหุสฺสุโตติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; สงฺคณิการาโม สมาโน ‘ปวิวิตฺโตติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; กุสีโต สมาโน ‘อารทฺธวีริโยติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; มุฏฺสฺสติ สมาโน ‘อุปฏฺิตสฺสตีติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; อสมาหิโต สมาโน ‘สมาหิโตติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; ทุปฺปฺโ สมาโน ‘ปฺวาติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ; อขีณาสโว สมาโน ‘ขีณาสโวติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ อิจฺฉติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปาปิกา อิจฺฉา. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ธมฺมา เนว กาเยน ปหาตพฺพา โน วาจาย, ปฺาย ทิสฺวา ปหาตพฺพา.

‘‘ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ โลโภ อภิภุยฺย อิริยติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย อิริยติ. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ อภิภุยฺย อิริยติ; นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย อิริยตี’ติ.

‘‘ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ โลโภ นาภิภุยฺย อิริยติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย อิริยติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ นาภิภุยฺย อิริยติ; ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ … อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย อิริยตี’’’ติ. ตติยํ.

๔. มหาจุนฺทสุตฺตํ

๒๔. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหาจุนฺโท เจตีสุ วิหรติ สหชาติยํ. ตตฺร โข อายสฺมา มหาจุนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาจุนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหาจุนฺโท เอตทโวจ –

‘‘าณวาทํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วทมาโน – ‘ชานามิมํ ธมฺมํ, ปสฺสามิมํ ธมฺม’นฺติ. ตฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห … โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ; นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺตี’ติ.

‘‘ภาวนาวาทํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วทมาโน – ‘ภาวิตกาโยมฺหิ ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโ’ติ. ตฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ; นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส … มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺตี’ติ.

‘‘าณวาทฺจ, อาวุโส, ภิกฺขุ วทมาโน ภาวนาวาทฺจ – ‘ชานามิมํ ธมฺมํ, ปสฺสามิมํ ธมฺมํ, ภาวิตกาโยมฺหิ ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโ’ติ. ตฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ; นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺตี’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส ทลิทฺโทว สมาโน อฑฺฒวาทํ วเทยฺย, อธโนว สมาโน ธนวาวาทํ วเทยฺย, อโภโคว สมาโน โภควาวาทํ วเทยฺย. โส กิสฺมิฺจิเทว ธนกรณีเย สมุปฺปนฺเน น สกฺกุเณยฺย อุปนีหาตุํ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา. ตเมนํ เอวํ ชาเนยฺยุํ – ‘ทลิทฺโทว อยมายสฺมา สมาโน อฑฺฒวาทํ วเทติ, อธโนว อยมายสฺมา สมาโน ธนวาวาทํ วเทติ, อโภควาว อยมายสฺมา สมาโน โภควาวาทํ วเทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา กิสฺมิฺจิเทว ธนกรณีเย สมุปฺปนฺเน น สกฺโกติ อุปนีหาตุํ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา’ติ.

‘‘เอวเมวํ โข, อาวุโส, าณวาทฺจ ภิกฺขุ วทมาโน ภาวนาวาทฺจ – ‘ชานามิมํ ธมฺมํ, ปสฺสามิมํ ธมฺมํ, ภาวิตกาโยมฺหิ ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโ’ติ. ตํ เจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ อภิภุยฺย ติฏฺติ; นายมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา … ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา อภิภุยฺย ติฏฺตี’ติ.

‘‘าณวาทํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วทมาโน – ‘ชานามิมํ ธมฺมํ, ปสฺสามิมํ ธมฺม’นฺติ. ตฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘อยมายสฺมา ตถา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ; ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺตี’ติ.

‘‘ภาวนาวาทํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วทมาโน – ‘ภาวิตกาโยมฺหิ ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโ’ติ. ตฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ; ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺตี’ติ.

‘‘าณวาทฺจ, อาวุโส, ภิกฺขุ วทมาโน ภาวนาวาทฺจ – ‘ชานามิมํ ธมฺมํ, ปสฺสามิมํ ธมฺมํ, ภาวิตกาโยมฺหิ ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโ’ติ. ตฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ; ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺตี’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส อฑฺโฒว สมาโน อฑฺฒวาทํ วเทยฺย, ธนวาว สมาโน ธนวาวาทํ วเทยฺย, โภควาว สมาโน โภควาวาทํ วเทยฺย. โส กิสฺมิฺจิเทว ธนกรณีเย สมุปฺปนฺเน สกฺกุเณยฺย อุปนีหาตุํ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา. ตเมนํ เอวํ ชาเนยฺยุํ – ‘อฑฺโฒว อยมายสฺมา สมาโน อฑฺฒวาทํ วเทติ, ธนวาว อยมายสฺมา สมาโน ธนวาวาทํ วเทติ, โภควาว อยมายสฺมา สมาโน โภควาวาทํ วเทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ อยมายสฺมา กิสฺมิฺจิเทว ธนกรณีเย สมุปฺปนฺเน สกฺโกติ อุปนีหาตุํ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา’ติ.

เอวเมวํ โข, อาวุโส, าณวาทฺจ ภิกฺขุ วทมาโน ภาวนาวาทฺจ – ‘ชานามิมํ ธมฺมํ, ปสฺสามิมํ ธมฺมํ, ภาวิตกาโยมฺหิ ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโ’ติ. ตฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โทโส… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺติ, โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โลโภ น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ โลโภ นาภิภุยฺย ติฏฺติ; ตถา อยมายสฺมา ปชานาติ ยถา ปชานโต โทโส น โหติ… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส… มจฺฉริยํ… ปาปิกา อิสฺสา… ปาปิกา อิจฺฉา น โหติ, ตถาหิมํ อายสฺมนฺตํ ปาปิกา อิจฺฉา นาภิภุยฺย ติฏฺตี’’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. กสิณสุตฺตํ

๒๕. [ที. นิ. ๓.๓๔๖, ๓๖๐; อ. นิ. ๑๐.๒๙] ‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, กสิณายตนานิ. กตมานิ ทส? ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ; อาโปกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… เตโชกสิณเมโก สฺชานาติ… วาโยกสิณเมโก สฺชานาติ… นีลกสิณเมโก สฺชานาติ… ปีตกสิณเมโก สฺชานาติ… โลหิตกสิณเมโก สฺชานาติ… โอทาตกสิณเมโก สฺชานาติ… อากาสกสิณเมโก สฺชานาติ… วิฺาณกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส กสิณายตนานี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. กาฬีสุตฺตํ

๒๖. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากจฺจาโน อวนฺตีสุ วิหรติ กุรรฆเร [คุลฆเร (ก.) กุรุรฆเร มหาว. ๒๕๗] ปวตฺเต ปพฺพเต. อถ โข กาฬี อุปาสิกา กุรรฆริกา เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข กาฬี อุปาสิกา กุรรฆริกา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ – ‘‘วุตฺตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา กุมาริปฺเหสุ –

‘อตฺถสฺส ปตฺตึ หทยสฺส สนฺตึ,

เชตฺวาน เสนํ ปิยสาตรูปํ;

เอโกหํ [เอกาหํ (ก.)] ฌายํ สุขมนุโพธึ,

ตสฺมา ชเนน น กโรมิ สกฺขึ [สขึ (ก.) สํ. นิ. ๑.๑๖๑ ปสฺสิตพฺพํ];

สกฺขี [สขี (ก.)] น สมฺปชฺชติ เกนจิ เม’ติ.

‘‘อิมสฺส โข, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส กถํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?

‘‘ปถวีกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ, เอเก สมณพฺราหฺมณา ‘อตฺโถ’ติ อภินิพฺพตฺเตสุํ [อตฺถาภินิพฺพตฺเตสุํ (สี. สฺยา.)]. ยาวตา โข, ภคินิ, ปถวีกสิณสมาปตฺติปรมตา, ตทภิฺาสิ ภควา. ตทภิฺาย ภควา อสฺสาทมทฺทส [อาทิมทฺทส (สี. สฺยา.)] อาทีนวมทฺทส นิสฺสรณมทฺทส มคฺคามคฺคาณทสฺสนมทฺทส. ตสฺส อสฺสาททสฺสนเหตุ อาทีนวทสฺสนเหตุ นิสฺสรณทสฺสนเหตุ มคฺคามคฺคาณทสฺสนเหตุ อตฺถสฺส ปตฺติ หทยสฺส สนฺติ วิทิตา โหติ.

‘‘อาโปกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ…เป… เตโชกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ… วาโยกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ… นีลกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ… ปีตกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ… โลหิตกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ… โอทาตกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ… อากาสกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ… วิฺาณกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ, เอเก สมณพฺราหฺมณา ‘อตฺโถ’ติ อภินิพฺพตฺเตสุํ. ยาวตา โข, ภคินิ, วิฺาณกสิณสมาปตฺติปรมตา, ตทภิฺาสิ ภควา. ตทภิฺาย ภควา อสฺสาทมทฺทส อาทีนวมทฺทส นิสฺสรณมทฺทส มคฺคามคฺคาณทสฺสนมทฺทส. ตสฺส อสฺสาททสฺสนเหตุ อาทีนวทสฺสนเหตุ นิสฺสรณทสฺสนเหตุ มคฺคามคฺคาณทสฺสนเหตุ อตฺถสฺส ปตฺติ หทยสฺส สนฺติ วิทิตา โหติ. อิติ โข, ภคินิ, ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา กุมาริปฺเหสุ –

‘อตฺถสฺส ปตฺตึ หทยสฺส สนฺตึ,

เชตฺวาน เสนํ ปิยสาตรูปํ;

เอโกหํ ฌายํ สุขมนุโพธึ,

ตสฺมา ชเนน น กโรมิ สกฺขึ;

สกฺขี น สมฺปชฺชติ เกนจิ เม’ติ.

‘‘อิมสฺส โข, ภคินิ, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมมหาปฺหาสุตฺตํ

๒๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ; ยํนูน มยํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺยามา’’ติ.

อถ โข เต ภิกฺขู เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ภิกฺขู เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ –

‘‘สมโณ, อาวุโส, โคตโม สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สพฺพํ ธมฺมํ อภิชานาถ, สพฺพํ ธมฺมํ อภิฺาย วิหรถา’ติ; มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสม – ‘เอถ ตุมฺเห, อาวุโส, สพฺพํ ธมฺมํ อภิชานาถ, สพฺพํ ธมฺมํ อภิฺาย วิหรถา’ติ. อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส กึ นานากรณํ สมณสฺส วา โคตมสฺส อมฺหากํ วา, ยทิทํ ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนํ อนุสาสนิยา วา อนุสาสนิ’’นฺติ?

อถ โข เต ภิกฺขู เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึสุ นปฺปฏิกฺโกสึสุ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึสุ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามา’’ติ.

อถ โข เต ภิกฺขู สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิมฺหา. เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ; ยํนูน มยํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺยามา’ติ. อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิมฺหา; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิมฺหา. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิมฺหา. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข, ภนฺเต, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อมฺเห เอตทโวจุํ –

‘สมโณ, อาวุโส, โคตโม สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สพฺพํ ธมฺมํ อภิชานาถ, สพฺพํ ธมฺมํ อภิฺาย วิหรถาติ; มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสม – เอถ ตุมฺเห, อาวุโส, สพฺพํ ธมฺมํ อภิชานาถ, สพฺพํ ธมฺมํ อภิฺาย วิหรถาติ. อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส กึ นานากรณํ สมณสฺส วา โคตมสฺส อมฺหากํ วา, ยทิทํ ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนํ อนุสาสนิยา วา อนุสาสนิ’นฺติ?

‘‘อถ โข มยํ, ภนฺเต, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิมฺหา นปฺปฏิกฺโกสิมฺหา. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมิมฺหา – ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามา’’’ติ.

‘‘เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘เอโก, อาวุโส, ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณํ, ทฺเว ปฺหา ทฺเว อุทฺเทสา ทฺเว เวยฺยากรณานิ, ตโย ปฺหา ตโย อุทฺเทสา ตีณิ เวยฺยากรณานิ, จตฺตาโร ปฺหา จตฺตาโร อุทฺเทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานิ, ปฺจ ปฺหา ปฺจุทฺเทสา ปฺจ เวยฺยากรณานิ, ฉ ปฺหา ฉ อุทฺเทสา ฉ เวยฺยากรณานิ, สตฺต ปฺหา สตฺตุทฺเทสา สตฺต เวยฺยากรณานิ, อฏฺ ปฺหา อฏฺุทฺเทสา อฏฺ เวยฺยากรณานิ, นว ปฺหา นวุทฺเทสา นว เวยฺยากรณานิ, ทส ปฺหา ทสุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ. เอวํ ปุฏฺา, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา น เจว สมฺปายิสฺสนฺติ, อุตฺตริ จ วิฆาตํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมึ. นาหํ ตํ, ภิกฺขเว, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย โย อิเมสํ ปฺหานํ เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺย, อฺตฺร ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา อิโต วา ปน สุตฺวา.

‘‘‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณ’นฺติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? เอกธมฺเม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตมสฺมึ เอกธมฺเม? ‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’ – อิมสฺมึ โข, ภิกฺขเว, เอกธมฺเม ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ทฺเว ปฺหา ทฺเว อุทฺเทสา ทฺเว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ทฺวีสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? นาเม จ รูเป จ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘ทฺเว ปฺหา ทฺเว อุทฺเทสา ทฺเว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ตโย ปฺหา ตโย อุทฺเทสา ตีณิ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตีสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ตีสุ? ตีสุ เวทนาสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ตีสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘ตโย ปฺหา ตโย อุทฺเทสา ตีณิ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘จตฺตาโร ปฺหา จตฺตาโร อุทฺเทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จตูสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ จตูสุ? จตูสุ อาหาเรสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, จตูสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘จตฺตาโร ปฺหา จตฺตาโร อุทฺเทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปฺจ ปฺหา ปฺจุทฺเทสา ปฺจ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ปฺจสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ปฺจสุ? ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ปฺจสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘ปฺจ ปฺหา ปฺจุทฺเทสา ปฺจ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ฉ ปฺหา ฉ อุทฺเทสา ฉ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ฉสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ฉสุ? ฉสุ อชฺฌตฺติเกสุ อายตเนสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ฉสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘ฉ ปฺหา ฉ อุทฺเทสา ฉ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สตฺต ปฺหา สตฺตุทฺเทสา สตฺต เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? สตฺตสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ สตฺตสุ? สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, สตฺตสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘สตฺต ปฺหา สตฺตุทฺเทสา สตฺต เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อฏฺ ปฺหา อฏฺุทฺเทสา อฏฺ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อฏฺสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ อฏฺสุ? อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, อฏฺสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘อฏฺ ปฺหา อฏฺุทฺเทสา อฏฺ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘นว ปฺหา นวุทฺเทสา นว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? นวสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ นวสุ? นวสุ สตฺตาวาเสสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, นวสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘นว ปฺหา นวุทฺเทสา นว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ทส ปฺหา ทสุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ทสสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ทสสุ? ทสสุ อกุสเลสุ กมฺมปเถสุ – อิเมสุ โข, ภิกฺขเว, ทสสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘ทส ปฺหา ทสุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยมหาปฺหาสุตฺตํ

๒๘. เอกํ สมยํ ภควา กชงฺคลายํ วิหรติ เวฬุวเน. อถ โข สมฺพหุลา กชงฺคลกา อุปาสกา เยน กชงฺคลิกา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา กชงฺคลิกํ ภิกฺขุนึ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข กชงฺคลกา อุปาสกา กชงฺคลิกํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจุํ –

‘‘วุตฺตมิทํ, อยฺเย, ภควตา มหาปฺเหสุ – ‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณํ, ทฺเว ปฺหา ทฺเว อุทฺเทสา ทฺเว เวยฺยากรณานิ, ตโย ปฺหา ตโย อุทฺเทสา ตีณิ เวยฺยากรณานิ, จตฺตาโร ปฺหา จตฺตาโร อุทฺเทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานิ, ปฺจ ปฺหา ปฺจุทฺเทสา ปฺจ เวยฺยากรณานิ, ฉ ปฺหา ฉ อุทฺเทสา ฉ เวยฺยากรณานิ, สตฺต ปฺหา สตฺตุทฺเทสา สตฺต เวยฺยากรณานิ, อฏฺ ปฺหา อฏฺุทฺเทสา อฏฺ เวยฺยากรณานิ, นว ปฺหา นวุทฺเทสา นว เวยฺยากรณานิ, ทส ปฺหา ทสุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ. อิมสฺส นุ โข, อยฺเย, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส กถํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?

‘‘น โข ปเนตํ, อาวุโส, ภควโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, นปิ มโนภาวนียานํ ภิกฺขูนํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ; อปิ จ, ยถา เมตฺถ ขายติ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ, โข กชงฺคลกา อุปาสกา กชงฺคลิกาย ภิกฺขุนิยา ปจฺจสฺโสสุํ. กชงฺคลิกา ภิกฺขุนี เอตทโวจ –

‘‘‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณ’นฺติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? เอกธมฺเม, อาวุโส, ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตมสฺมึ เอกธมฺเม? สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา – อิมสฺมึ โข, อาวุโส, เอกธมฺเม ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณนฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ทฺเว ปฺหา ทฺเว อุทฺเทสา ทฺเว เวยฺยากรณานี’ติ อิติ, โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ทฺวีสุ, อาวุโส, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ทฺวีสุ? นาเม จ รูเป จ…เป… กตเมสุ ตีสุ? ตีสุ เวทนาสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, ตีสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘ตโย ปฺหา ตโย อุทฺเทสา ตีณิ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘จตฺตาโร ปฺหา จตฺตาโร อุทฺเทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จตูสุ, อาวุโส, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิตฺโต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ จตูสุ? จตูสุ สติปฏฺาเนสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, จตูสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิตฺโต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘จตฺตาโร ปฺหา จตฺตาโร อุทฺเทสา จตฺตาริ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปฺจ ปฺหา ปฺจุทฺเทสา ปฺจ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ปฺจสุ, อาวุโส, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิตฺโต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ปฺจสุ? ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ…เป… กตเมสุ ฉสุ? ฉสุ นิสฺสรณียาสุ ธาตูสุ…เป… กตเมสุ สตฺตสุ? สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ…เป… กตเมสุ อฏฺสุ? อฏฺสุ อริยอฏฺงฺคิกมคฺเคสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, อฏฺสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิตฺโต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘อฏฺ ปฺหา อฏฺุทฺเทสา อฏฺ เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘นว ปฺหา นวุทฺเทสา นว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? นวสุ, อาวุโส, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ นวสุ? นวสุ สตฺตาวาเสสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, นวสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา นิพฺพินฺทมาโน สมฺมา วิรชฺชมาโน สมฺมา วิมุจฺจมาโน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘นว ปฺหา นวุทฺเทสา นว เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ทส ปฺหา ทสุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ทสสุ, อาวุโส, ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิตฺโต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. กตเมสุ ทสสุ? ทสสุ กุสเลสุ กมฺมปเถสุ – อิเมสุ โข, อาวุโส, ทสสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุ สมฺมา สุภาวิตจิตฺโต สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. ‘ทส ปฺหา ทสุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘อิติ โข, อาวุโส, ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตาสุ มหาปฺหาสุ – ‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณํ…เป… ทส ปฺหา ทสุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณานี’ติ, อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, ภควนฺตฺเว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โว [ยถา โข (ก.), ยถา โน (พหูสุ) อ. นิ. ๑๐.๑๑๕, ๑๗๒ ปน ปาเภโท นตฺถิ] ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข กชงฺคลกา อุปาสกา กชงฺคลิกาย โข ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา กชงฺคลิกํ ภิกฺขุนึ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข กชงฺคลกา อุปาสกา ยาวตโก อโหสิ กชงฺคลิกาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสุํ.

‘‘สาธุ สาธุ, คหปตโย! ปณฺฑิตา, คหปตโย, กชงฺคลิกา ภิกฺขุนี. มหาปฺา, คหปตโย, กชงฺคลิกา ภิกฺขุนี. มฺเจปิ ตุมฺเห, คหปตโย, อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ เจตํ เอวเมวํ [เอวเมว (ก.) ม. นิ. ๑.๒๐๕ ปสฺสิตพฺพํ] พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ กชงฺคลิกาย ภิกฺขุนิยา พฺยากตํ. เอโส เจว ตสฺส [เอโส เจเวตสฺส (ม. นิ. ๑.๒๐๕)] อตฺโถ. เอวฺจ นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมโกสลสุตฺตํ

๒๙. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, กาสิโกสลา, ยาวตา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส วิชิตํ [วิชิเต (สี. ก.)], ราชา ตตฺถ ปเสนทิ โกสโล อคฺคมกฺขายติ. รฺโปิ โข, ภิกฺขเว, ปเสนทิสฺส โกสลสฺส อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ ทิสา ภนฺติ วิโรจมานา, ตาว สหสฺสธา โลโก. ตสฺมึ สหสฺสธา โลเก สหสฺสํ จนฺทานํ สหสฺสํ สูริยานํ [สุริยานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สหสฺสํ สิเนรุปพฺพตราชานํ สหสฺสํ ชมฺพุทีปานํ สหสฺสํ อปรโคยานานํ สหสฺสํ อุตฺตรกุรูนํ สหสฺสํ ปุพฺพวิเทหานํ จตฺตาริ มหาสมุทฺทสหสฺสานิ จตฺตาริ มหาราชสหสฺสานิ สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ สหสฺสํ ตาวตึสานํ สหสฺสํ ยามานํ สหสฺสํ ตุสิตานํ สหสฺสํ นิมฺมานรตีนํ สหสฺสํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ สหสฺสํ พฺรหฺมโลกานํ. ยาวตา, ภิกฺขเว, สหสฺสี โลกธาตุ, มหาพฺรหฺมา ตตฺถ อคฺคมกฺขายติ. มหาพฺรหฺมุโนปิ โข, ภิกฺขเว, อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

‘‘โหติ โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ อยํ โลโก สํวฏฺฏติ. สํวฏฺฏมาเน, ภิกฺขเว, โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา [อาภสฺสรวตฺตนิกา (สี. สฺยา.)] ภวนฺติ. เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺเขจรา สุภฏฺายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ. สํวฏฺฏมาเน, ภิกฺขเว, โลเก อาภสฺสรา เทวา อคฺคมกฺขายนฺติ. อาภสฺสรานมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวานํ อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

[อ. นิ. ๑๐.๒๕] ‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, กสิณายตนานิ. กตมานิ ทส? ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ; อาโปกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… เตโชกสิณเมโก สฺชานาติ… วาโยกสิณเมโก สฺชานาติ… นีลกสิณเมโก สฺชานาติ… ปีตกสิณเมโก สฺชานาติ… โลหิตกสิณเมโก สฺชานาติ… โอทาตกสิณเมโก สฺชานาติ… อากาสกสิณเมโก สฺชานาติ… วิฺาณกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส กสิณายตนานิ.

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทสนฺนํ กสิณายตนานํ ยทิทํ วิฺาณกสิณํ เอโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ. เอวํสฺิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตา. เอวํสฺีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

[ที. นิ. ๓.๓๓๘, ๓๕๘; อ. นิ. ๘.๖๔] ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, อภิภายตนานิ. กตมานิ อฏฺ? อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ; เอวเมวํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อภิภายตนานิ.

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ อฏฺนฺนํ อภิภายตนานํ ยทิทํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ; ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ, เอวํสฺี โหติ. เอวํสฺิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตา. เอวํสฺีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ปฏิปทา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส ปฏิปทา.

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ จตุนฺนํ ปฏิปทานํ ยทิทํ สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. เอวํปฏิปนฺนาปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตา. เอวํปฏิปนฺนานมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, สฺา. กตมา จตสฺโส? ปริตฺตเมโก สฺชานาติ, มหคฺคตเมโก สฺชานาติ, อปฺปมาณเมโก สฺชานาติ, ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนเมโก สฺชานาติ – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สฺา.

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิมาสํ จตุนฺนํ สฺานํ ยทิทํ ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนเมโก สฺชานาติ. เอวํสฺิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตา. เอวํสฺีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, พาหิรกานํ ทิฏฺิคตานํ ยทิทํ ‘โน จสฺสํ, โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสามิ, น เม ภวิสฺสตี’ติ. เอวํทิฏฺิโน, ภิกฺขเว, เอตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘ยา จายํ ภเว อปฺปฏิกุลฺยตา, สา จสฺส น ภวิสฺสติ; ยา จายํ ภวนิโรเธ ปาฏิกุลฺยตา, สา จสฺส น ภวิสฺสตี’ติ. เอวํทิฏฺิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตา. เอวํทิฏฺีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปรมตฺถวิสุทฺธึ ปฺาเปนฺติ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, ปรมตฺถวิสุทฺธึ ปฺาเปนฺตานํ ยทิทํ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เต ตทภิฺาย ตสฺส สจฺฉิกิริยาย ธมฺมํ เทเสนฺติ. เอวํวาทิโนปิ โข, ภิกฺขเว, สนฺติ สตฺตา. เอวํวาทีนมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตานํ อตฺเถว อฺถตฺตํ อตฺถิ วิปริณาโม. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. ตสฺมึ นิพฺพินฺทนฺโต อคฺเค วิรชฺชติ, ปเคว หีนสฺมึ.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺาเปนฺติ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺาเปนฺตานํ ยทิทํ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทา วิโมกฺโข. เอวํวาทึ โข มํ, ภิกฺขเว, เอวมกฺขายึ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘สมโณ โคตโม น กามานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, น รูปานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺาเปตี’ติ. กามานฺจาหํ, ภิกฺขเว, ปริฺํ ปฺาเปมิ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺาเปมิ, เวทนานฺจ ปริฺํ ปฺาเปมิ, ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีติภูโต อนุปาทา ปรินิพฺพานํ ปฺาเปมี’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยโกสลสุตฺตํ

๓๐. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ราชา ปเสนทิ โกสโล อุยฺโยธิกา นิวตฺโต โหติ วิชิตสงฺคาโม ลทฺธาธิปฺปาโย. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน อาราโม เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว อารามํ ปาวิสิ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู อพฺโภกาเส จงฺกมนฺติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กหํ นุ โข, ภนฺเต, ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ทสฺสนกามา หิ มยํ, ภนฺเต, ตํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. ‘‘เอโส, มหาราช, วิหาโร สํวุตทฺวาโร. เตน อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา อตรมาโน อาลินฺทํ ปวิสิตฺวา อุกฺกาสิตฺวา อคฺคฬํ อาโกเฏหิ; วิวริสฺสติ เต ภควา ทฺวาร’’นฺติ.

อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน โส วิหาโร สํวุตทฺวาโร, เตน อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา อตรมาโน อาลินฺทํ ปวิสิตฺวา อุกฺกาสิตฺวา อคฺคฬํ อาโกเฏสิ. วิวริ ภควา ทฺวารํ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล วิหารํ ปวิสิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ นามฺจ สาเวติ – ‘‘ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโล; ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโล’’ติ.

‘‘กํ ปน ตฺวํ, มหาราช, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อิมสฺมึ สรีเร เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรสิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสสี’’ติ? ‘‘กตฺุตํ โข อหํ, ภนฺเต, กตเวทิตํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ภควา หิ, ภนฺเต, พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อริเย าเย ปติฏฺาปิตา ยทิทํ กลฺยาณธมฺมตาย กุสลธมฺมตาย. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อริเย าเย ปติฏฺาปิตา ยทิทํ กลฺยาณธมฺมตาย กุสลธมฺมตาย, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา สีลวา วุทฺธสีโล อริยสีโล กุสลสีโล กุสลสีเลน สมนฺนาคโต. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา สีลวา วุทฺธสีโล อริยสีโล กุสลสีโล กุสลสีเลน สมนฺนาคโต, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา ทีฆรตฺตํ อารฺิโก, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา ทีฆรตฺตํ อารฺิโก, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวติ, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ. ‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนกถา, เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ, อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิทมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ภควติ เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรมิ, เมตฺตูปหารํ อุปทํเสมิ.

‘‘หนฺท จ ทานิ มยํ, ภนฺเต, คจฺฉาม. พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺส ทานิ ตฺวํ, มหาราช, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามีติ. ทสมํ.

มหาวคฺโค ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

สีหาธิวุตฺติ กาเยน, จุนฺเทน กสิเณน จ;

กาฬี จ ทฺเว มหาปฺหา, โกสเลหิ ปเร ทุเวติ.

๔. อุปาลิวคฺโค

๑. อุปาลิสุตฺตํ

๓๑. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺ’’นฺติ?

‘‘ทส โข, อุปาลิ, อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺํ. กตเม ทส? สงฺฆสุฏฺุตาย, สงฺฆผาสุตาย, ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย, สทฺธมฺมฏฺิติยา, วินยานุคฺคหาย – อิเม โข, อุปาลิ, ทส อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺ’’นฺติ. ปมํ.

๒. ปาติโมกฺขฏฺปนาสุตฺตํ

๓๒. ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, ปาติโมกฺขฏฺปนา’’ติ? ‘‘ทส โข, อุปาลิ, ปาติโมกฺขฏฺปนา. กตเม ทส? ปาราชิโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, ปาราชิกกถา วิปฺปกตา โหติ, อนุปสมฺปนฺโน ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, อนุปสมฺปนฺนกถา วิปฺปกตา โหติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตกกถา วิปฺปกตา โหติ, ปณฺฑโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, ปณฺฑกกถา วิปฺปกตา โหติ, ภิกฺขุนิทูสโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุนิทูสกกถา วิปฺปกตา โหติ – อิเม โข, อุปาลิ, ทส ปาติโมกฺขฏฺปนา’’ติ. ทุติยํ.

๓. อุพฺพาหิกาสุตฺตํ

๓๓. [จูฬว. ๒๓๑] ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ; ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ [สตฺถา สพฺยฺชนา (สี.) เอวมุปริปิ] เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโร; ปฏิพโล โหติ อุโภ อตฺถปจฺจตฺถิเก สฺาเปตุํ ปฺาเปตุํ นิชฺฌาเปตุํ เปกฺเขตุํ ปสาเทตุํ; อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมกุสโล โหติ – อธิกรณํ ชานาติ; อธิกรณสมุทยํ ชานาติ; อธิกรณนิโรธํ ชานาติ; อธิกรณนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ชานาติ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ’’ติ. ตติยํ.

๔. อุปสมฺปทาสุตฺตํ

๓๔. ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรตึ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิจิตฺเต สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิปฺาย สมาทเปตุํ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. นิสฺสยสุตฺตํ

๓๕. ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรตึ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล…เป… อธิจิตฺเต… อธิปฺาย สมาทเปตุํ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สามเณรสุตฺตํ

๓๖. ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรตึ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิจิตฺเต สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิปฺาย สมาทเปตุํ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สงฺฆเภทสุตฺตํ

๓๗. ‘‘‘สงฺฆเภโท สงฺฆเภโท’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ? ‘‘อิธุปาลิ, ภิกฺขู อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ อวกสฺสนฺติ อปกสฺสนฺติ อาเวนิ [อาเวนึ (จูฬว. ๓๕๒) อาเวณิ, อาเวณิกํ (ตตฺเถว อโธลิปิ)] กมฺมานิ กโรนฺติ อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อุปาลิ, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. สงฺฆสามคฺคีสุตฺตํ

๓๘. [จูฬว. ๓๕๓] ‘‘‘สงฺฆสามคฺคี สงฺฆสามคฺคี’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ? ‘‘อิธุปาลิ, ภิกฺขู อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, วินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ น อวกสฺสนฺติ น อปกสฺสนฺติ น อาเวนิ กมฺมานิ กโรนฺติ น อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อุปาลิ, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมอานนฺทสุตฺตํ

๓๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สงฺฆเภโท สงฺฆเภโท’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขู อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ…เป… ปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ อวกสฺสนฺติ อปกสฺสนฺติ อาเวนิ กมฺมานิ กโรนฺติ อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ.

‘‘สมคฺคํ ปน, ภนฺเต, สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา กึ โส ปสวตี’’ติ? ‘‘กปฺปฏฺิกํ, อานนฺท, กิพฺพิสํ ปสวตี’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, กปฺปฏฺิกํ กิพฺพิส’’นฺติ? ‘‘กปฺปํ, อานนฺท, นิรยมฺหิ ปจฺจตีติ –

‘‘อาปายิโก เนรยิโก, กปฺปฏฺโ สงฺฆเภทโก;

วคฺครโต อธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา ปธํสติ;

สงฺฆํ สมคฺคํ ภินฺทิตฺวา [เภตฺวาน (สี. สฺยา.), ภิตฺวาน (ก.) จูฬว. ๓๕๔; อิติวุ. ๑๘; กถาว. ๖๕๗] กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ. นวมํ;

๑๐. ทุติยอานนฺทสุตฺตํ

๔๐. ‘‘‘สงฺฆสามคฺคี สงฺฆสามคฺคี’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขู อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, วินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ น อวกสฺสนฺติ น อปกสฺสนฺติ น อาเวนิ กมฺมานิ กโรนฺติ น อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ.

‘‘ภินฺนํ ปน, ภนฺเต, สงฺฆํ สมคฺคํ กตฺวา กึ โส ปสวตี’’ติ? ‘‘พฺรหฺมํ, อานนฺท, ปุฺํ ปสวตี’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมํ ปุฺ’’นฺติ? ‘‘กปฺปํ, อานนฺท, สคฺคมฺหิ โมทตีติ –

‘‘สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี, สมคฺคานฺจ อนุคฺคโห;

สมคฺครโต ธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา น ธํสติ;

สงฺฆํ สมคฺคํ กตฺวาน, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ. ทสมํ;

อุปาลิวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

อุปาลิ ปนา อุพฺพาโห, อุปสมฺปทนิสฺสยา;

สามเณโร จ ทฺเว เภทา, อานนฺเทหิ ปเร ทุเวติ.

๕. อกฺโกสวคฺโค

๑. วิวาทสุตฺตํ

๔๑. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน สงฺเฆ ภณฺฑนกลหวิคฺคหวิวาทา อุปฺปชฺชนฺติ, ภิกฺขู จ น ผาสุ [ผาสุํ (?)] วิหรนฺตี’’ติ? ‘‘อิธุปาลิ, ภิกฺขู อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. อยํ โข, อุปาลิ, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน สงฺเฆ ภณฺฑนกลหวิคฺคหวิวาทา อุปฺปชฺชนฺติ, ภิกฺขู จ น ผาสุ วิหรนฺตี’’ติ. ปมํ.

๒. ปมวิวาทมูลสุตฺตํ

๔๒. ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, วิวาทมูลานี’’ติ? ‘‘ทส โข, อุปาลิ, วิวาทมูลานิ. กตมานิ ทส? อิธุปาลิ, ภิกฺขู อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. อิมานิ โข, อุปาลิ, ทส วิวาทมูลานี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ทุติยวิวาทมูลสุตฺตํ

๔๓. ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, วิวาทมูลานี’’ติ? ‘‘ทส โข, อุปาลิ, วิวาทมูลานิ. กตมานิ ทส? อิธุปาลิ, ภิกฺขู อนาปตฺตึ อาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, อาปตฺตึ อนาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ครุกาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, ครุกํ อาปตฺตึ ลหุกาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ อทุฏฺุลฺลาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, อทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ทุฏฺุลฺลาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, สาวเสสํ อาปตฺตึ อนวเสสาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, อนวเสสํ อาปตฺตึ สาวเสสาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, สปฺปฏิกมฺมํ อาปตฺตึ อปฺปฏิกมฺมาปตฺตีติ ทีเปนฺติ, อปฺปฏิกมฺมํ อาปตฺตึ สปฺปฏิกมฺมาปตฺตีติ ทีเปนฺติ. อิมานิ โข, อุปาลิ, ทส วิวาทมูลานี’’ติ. ตติยํ.

๔. กุสินารสุตฺตํ

๔๔. เอกํ สมยํ ภควา กุสินารายํ วิหรติ พลิหรเณ วนสณฺเฑ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

[จูฬว. ๓๙๙; ปริ. ๔๓๖] ‘‘โจทเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ. กตเม ปฺจ ธมฺมา อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา? โจทเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหิ, ปริสุทฺเธนมฺหิ กายสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน. สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ ปริสุทฺเธน กายสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา กายิกํ สิกฺขสฺสู’ติ, อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ปริสุทฺธวจีสมาจาโร นุ โขมฺหิ, ปริสุทฺเธนมฺหิ วจีสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน. สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ ปริสุทฺเธน วจีสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา วาจสิกํ สิกฺขสฺสู’ติ, อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘เมตฺตํ นุ โข เม จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ สพฺรหฺมจารีสุ อนาฆาตํ. สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อนาฆาตํ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา สพฺรหฺมจารีสุ เมตฺตํ จิตฺตํ อุปฏฺาเปหี’ติ, อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘พหุสฺสุโต นุ โขมฺหิ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปา เม ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา อาคมํ ปริยาปุณสฺสู’ติ, อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อุภยานิ โข ปน เม ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส. สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, ‘อิทํ ปนายสฺมา, กตฺถ วุตฺตํ ภควตา’ติ, อิติ ปุฏฺโ น สมฺปายิสฺสติ. ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา วินยํ สิกฺขสฺสู’ติ, อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. อิเม ปฺจ ธมฺมา อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา.

‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตพฺพา? ‘กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลน; ภูเตน วกฺขามิ, โน อภูเตน; สณฺเหน วกฺขามิ, โน ผรุเสน; อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ, โน อนตฺถสํหิเตน; เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโร’ติ – อิเม ปฺจ ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตพฺพา. โจทเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ราชนฺเตปุรปฺปเวสนสุตฺตํ

๔๕. [ปาจิ. ๔๙๗] ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ราชา มเหสิยา สทฺธึ นิสินฺโน โหติ. ตตฺร ภิกฺขุ ปวิสติ. มเหสี วา ภิกฺขุํ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ, ภิกฺขุ วา มเหสึ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ. ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ – ‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’ติ! อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย อฺตรํ อิตฺถึ คนฺตฺวา น สรติ – ‘สา เตน คพฺภํ คณฺหาติ’. ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ – ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ, อฺตฺร ปพฺพชิเตน. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อฺตรํ รตนํ นสฺสติ. ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ – ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ, อฺตฺร ปพฺพชิเตน. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อพฺภนฺตรา คุยฺหมนฺตา พหิทฺธา สมฺเภทํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ – ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ, อฺตฺร ปพฺพชิเตน. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร ปิตา วา ปุตฺตํ ปตฺเถติ ปุตฺโต วา ปิตรํ ปตฺเถติ. เตสํ เอวํ โหติ – ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ, อฺตฺร ปพฺพชิเตน. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา นีจฏฺานิยํ อุจฺเจ าเน เปติ. เยสํ ตํ อมนาปํ เตสํ เอวํ โหติ – ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อุจฺจฏฺานิยํ นีเจ าเน เปติ. เยสํ ตํ อมนาปํ เตสํ เอวํ โหติ – ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อกาเล เสนํ อุยฺโยเชติ. เยสํ ตํ อมนาปํ เตสํ เอวํ โหติ – ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา กาเล เสนํ อุยฺโยเชตฺวา อนฺตรามคฺคโต นิวตฺตาเปติ. เยสํ ตํ อมนาปํ เตสํ เอวํ โหติ – ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ. สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, นวโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุรํ หตฺถิสมฺมทฺทํ อสฺสสมฺมทฺทํ รถสมฺมทฺทํ รชนียานิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานิ, ยานิ น ปพฺพชิตสฺส สารุปฺปานิ. อยํ, ภิกฺขเว, ทสโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สกฺกสุตฺตํ

๔๖. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข สมฺพหุลา สกฺกา อุปาสกา ตทหุโปสเถ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สกฺเก อุปาสเก ภควา เอตทโวจ – ‘‘อปิ นุ ตุมฺเห, สกฺกา, อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสถา’’ติ? ‘‘อปฺเปกทา มยํ, ภนฺเต, อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสาม, อปฺเปกทา น อุปวสามา’’ติ. ‘‘เตสํ โว, สกฺกา, อลาภา เตสํ ทุลฺลทฺธํ, เย ตุมฺเห เอวํ โสกสภเย ชีวิเต มรณสภเย ชีวิเต อปฺเปกทา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสถ, อปฺเปกทา น อุปวสถ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, สกฺกา, อิธ ปุริโส เยน เกนจิ กมฺมฏฺาเนน อนาปชฺช อกุสลํ ทิวสํ อฑฺฒกหาปณํ นิพฺพิเสยฺย. ทกฺโข ปุริโส อุฏฺานสมฺปนฺโนติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, สกฺกา, อิธ ปุริโส เยน เกนจิ กมฺมฏฺาเนน อนาปชฺช อกุสลํ ทิวสํ กหาปณํ นิพฺพิเสยฺย. ทกฺโข ปุริโส อุฏฺานสมฺปนฺโนติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ, มฺถ, สกฺกา, อิธ ปุริโส เยน เกนจิ กมฺมฏฺาเนน อนาปชฺช อกุสลํ ทิวสํ ทฺเว กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย … ตโย กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… จตฺตาโร กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… ปฺจ กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… ฉ กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… สตฺต กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… อฏฺ กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… นว กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… ทส กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… วีส กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… ตึส กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… จตฺตารีสํ กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… ปฺาสํ กหาปเณ นิพฺพิเสยฺย… กหาปณสตํ นิพฺพิเสยฺย. ทกฺโข ปุริโส อุฏฺานสมฺปนฺโนติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, สกฺกา, อปิ นุ โส ปุริโส ทิวเส ทิวเส กหาปณสตํ กหาปณสหสฺสํ นิพฺพิสมาโน ลทฺธํ ลทฺธํ นิกฺขิปนฺโต วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, สกฺกา, อปิ นุ โส ปุริโส โภคเหตุ โภคนิทานํ โภคาธิกรณํ เอกํ วา รตฺตึ เอกํ วา ทิวสํ อุปฑฺฒํ วา รตฺตึ อุปฑฺฒํ วา ทิวสํ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘กามา หิ, ภนฺเต, อนิจฺจา ตุจฺฉา มุสา โมสธมฺมา’’ติ.

‘‘อิธ ปน โว, สกฺกา, มม สาวโก ทส วสฺสานิ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ยถา มยานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน สตมฺปิ วสฺสานิ สตมฺปิ วสฺสสตานิ สตมฺปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺย. โส จ ขฺวสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา อปณฺณกํ วา โสตาปนฺโน. ติฏฺนฺตุ, สกฺกา, ทส วสฺสานิ.

อิธ มม สาวโก นว วสฺสานิ… อฏฺ วสฺสานิ… สตฺต วสฺสานิ… ฉ วสฺสานิ… ปฺจ วสฺสานิ จตฺตาริ วสฺสานิ… ตีณิ วสฺสานิ… ทฺเว วสฺสานิ… เอกํ วสฺสํ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ยถา มยานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน สตมฺปิ วสฺสานิ สตมฺปิ วสฺสสตานิ สตมฺปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺย, โส จ ขฺวสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา อปณฺณกํ วา โสตาปนฺโน. ติฏฺตุ, สกฺกา, เอกํ วสฺสํ.

อิธ มม สาวโก ทส มาเส อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ยถา มยานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน สตมฺปิ วสฺสานิ สตมฺปิ วสฺสสตานิ สตมฺปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺย, โส จ ขฺวสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา อปณฺณกํ วา โสตาปนฺโน. ติฏฺนฺตุ, สกฺกา, ทส มาสา.

อิธ มม สาวโก นว มาเส… อฏฺ มาเส… สตฺต มาเส… ฉ มาเส… ปฺจ มาเส… จตฺตาโร มาเส… ตโย มาเส… ทฺเว มาเส… เอกํ มาสํ… อฑฺฒมาสํ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ยถา มยานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน สตมฺปิ วสฺสานิ สตมฺปิ วสฺสสตานิ สตมฺปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺย, โส จ ขฺวสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา อปณฺณกํ วา โสตาปนฺโน. ติฏฺตุ, สกฺกา, อฑฺฒมาโส.

อิธ มม สาวโก ทส รตฺตินฺทิเว [รตฺติทิเว (ก.)] อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ยถา มยานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน สตมฺปิ วสฺสานิ สตมฺปิ วสฺสสตานิ สตมฺปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺย, โส จ ขฺวสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา อปณฺณกํ วา โสตาปนฺโน. ติฏฺนฺตุ, สกฺกา, ทส รตฺตินฺทิวา.

อิธ มม สาวโก นว รตฺตินฺทิเว… อฏฺ รตฺตินฺทิเว… สตฺต รตฺตินฺทิเว… ฉ รตฺตินฺทิเว… ปฺจ รตฺตินฺทิเว… จตฺตาโร รตฺตินฺทิเว… ตโย รตฺตินฺทิเว… ทฺเว รตฺตินฺทิเว… เอกํ รตฺตินฺทิวํ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ยถา มยานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน สตมฺปิ วสฺสานิ สตมฺปิ วสฺสสตานิ สตมฺปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกนฺตสุขปฺปฏิสํเวที วิหเรยฺย, โส จ ขฺวสฺส สกทาคามี วา อนาคามี วา อปณฺณกํ วา โสตาปนฺโน. เตสํ โว, สกฺกา, อลาภา เตสํ ทุลฺลทฺธํ, เย ตุมฺเห เอวํ โสกสภเย ชีวิเต มรณสภเย ชีวิเต อปฺเปกทา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสถ, อปฺเปกทา น อุปวสถา’’ติ. ‘‘เอเต มยํ, ภนฺเต, อชฺชตคฺเค อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิสฺสามา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. มหาลิสุตฺตํ

๔๗. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข มหาลิ ลิจฺฉวิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มหาลิ ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต เหตุ, โก ปจฺจโย ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา’’ติ? ‘‘โลโภ โข, มหาลิ, เหตุ, โลโภ ปจฺจโย ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. โทโส โข, มหาลิ, เหตุ, โทโส ปจฺจโย ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. โมโห โข, มหาลิ, เหตุ, โมโห ปจฺจโย ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. อโยนิโส มนสิกาโร โข, มหาลิ, เหตุ, อโยนิโส มนสิกาโร ปจฺจโย ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. มิจฺฉาปณิหิตํ โข, มหาลิ, จิตฺตํ เหตุ, มิจฺฉาปณิหิตํ จิตฺตํ ปจฺจโย ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยาติ. อยํ โข, มหาลิ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา’’ติ.

‘‘โก ปน, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส กิริยาย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา’’ติ? ‘‘อโลโภ โข, มหาลิ, เหตุ, อโลโภ ปจฺจโย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส กิริยาย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. อโทโส โข, มหาลิ, เหตุ, อโทโส ปจฺจโย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส กิริยาย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. อโมโห โข, มหาลิ, เหตุ, อโมโห ปจฺจโย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส กิริยาย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. โยนิโส มนสิกาโร โข, มหาลิ, เหตุ, โยนิโส มนสิกาโร ปจฺจโย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส กิริยาย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. สมฺมาปณิหิตํ โข, มหาลิ, จิตฺตํ เหตุ, สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ ปจฺจโย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส กิริยาย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. อยํ โข, มหาลิ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส กิริยาย กลฺยาณสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา. อิเม จ, มหาลิ, ทส ธมฺมา โลเก น สํวิชฺเชยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ อธมฺมจริยาวิสมจริยาติ วา ธมฺมจริยาสมจริยาติ วา. ยสฺมา จ โข, มหาลิ, อิเม ทส ธมฺมา โลเก สํวิชฺชนฺติ, ตสฺมา ปฺายติ อธมฺมจริยาวิสมจริยาติ วา ธมฺมจริยาสมจริยาติ วา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ปพฺพชิตอภิณฺหสุตฺตํ

๔๘. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา. กตเม ทส? ‘เววณฺณิยมฺหิ อชฺฌุปคโต’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘ปรปฏิพทฺธา เม ชีวิกา’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘อฺโ เม อากปฺโป กรณีโย’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘กจฺจิ นุ โข เม อตฺตา สีลโต น อุปวทตี’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘กจฺจิ นุ โข มํ อนุวิจฺจ วิฺู สพฺรหฺมจารี สีลโต น อุปวทนฺตี’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘สพฺเพหิ เม ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘กมฺมสฺสโกมฺหิ กมฺมทายาโท กมฺมโยนิ กมฺมพนฺธุ กมฺมปฏิสรโณ, ยํ กมฺมํ กริสฺสามิ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา ตสฺส ทายาโท ภวิสฺสามี’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘กถํภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติวตฺตนฺตี’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘กจฺจิ นุ โข อหํ สุฺาคาเร อภิรมามี’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ; ‘อตฺถิ นุ โข เม อุตฺตริ มนุสฺสธมฺโม อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต, เยนาหํ [โยหํ (สี. ปี. ก.), โสหํ (สฺยา.)] ปจฺฉิเม กาเล สพฺรหฺมจารีหิ ปุฏฺโ น มงฺกุ ภวิสฺสามี’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. สรีรฏฺธมฺมสุตฺตํ

๔๙. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สรีรฏฺา. กตเม ทส? สีตํ, อุณฺหํ, ชิฆจฺฉา, ปิปาสา, อุจฺจาโร, ปสฺสาโว, กายสํวโร, วจีสํวโร, อาชีวสํวโร, โปโนภวิโก [โปโนพฺภวิโก (ก.)] ภวสงฺขาโร – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา สรีรฏฺา’’ติ. นวมํ.

๑๐. ภณฺฑนสุตฺตํ

๕๐. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ.

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?

‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรามา’’ติ. ‘‘น โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ, ยํ ตุมฺเห ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหเรยฺยาถ.

‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สารณียา ปิยกรณา ครุกรณา [ปิยกราณา ครุกราณา (?)] สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ – ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส, ตตฺรูปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ – ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรูปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ, อยมฺปิ ธมฺโม ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร, อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร, อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติมา โหติ, ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติมา โหติ, ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา สารณียา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทสมํ.

อกฺโกสวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

วิวาทา ทฺเว จ มูลานิ, กุสินารปเวสเน;

สกฺโก มหาลิ อภิณฺหํ, สรีรฏฺา จ ภณฺฑนาติ.

ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ

(๖) ๑. สจิตฺตวคฺโค

๑. สจิตฺตสุตฺตํ

๕๑. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปรจิตฺตปริยายกุสโล โหติ, อถ ‘สจิตฺตปริยายกุสโล ภวิสฺสามี’ติ [ภวิสฺสามาติ (สฺยา.)] – เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สจิตฺตปริยายกุสโล โหติ? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทกปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สเจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมติ. โน เจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, เตเนวตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป – ‘ลาภา วต เม, ปริสุทฺธํ วต เม’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณา พหุการา [ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน พหุกาโร (ก.)] โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ – ‘อภิชฺฌาลุ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อนภิชฺฌาลุ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, พฺยาปนฺนจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, ถินมิทฺธปริยุฏฺิโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, วิคตถินมิทฺโธ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อุทฺธโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อนุทฺธโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, วิจิกิจฺโฉ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, ติณฺณวิจิกิจฺโฉ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, โกธโน นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อกฺโกธโน นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํกิลิฏฺจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสํกิลิฏฺจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สารทฺธกาโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสารทฺธกาโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, กุสีโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อารทฺธวีริโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสมาหิโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สมาหิโต นุ โข พหุลํ วิหรามี’ติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภิชฺฌาลุ พหุลํ วิหรามิ, พฺยาปนฺนจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, ถินมิทฺธปริยุฏฺิโต พหุลํ วิหรามิ, อุทฺธโต พหุลํ วิหรามิ, วิจิกิจฺโฉ พหุลํ วิหรามิ, โกธโน พหุลํ วิหรามิ, สํกิลิฏฺจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, สารทฺธกาโย พหุลํ วิหรามิ, กุสีโต พหุลํ วิหรามิ, อสมาหิโต พหุลํ วิหรามี’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา. ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย. เอวเมวํ โข เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อนภิชฺฌาลุ พหุลํ วิหรามิ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, วิคตถินมิทฺโธ พหุลํ วิหรามิ, อนุทฺธโต พหุลํ วิหรามิ, ติณฺณวิจิกิจฺโฉ พหุลํ วิหรามิ, อกฺโกธโน พหุลํ วิหรามิ, อสํกิลิฏฺจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, อสารทฺธกาโย พหุลํ วิหรามิ, อารทฺธวีริโย พหุลํ วิหรามิ, สมาหิโต พหุลํ วิหรามี’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสุเยว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย’’ติ. ปมํ.

๒. สาริปุตฺตสุตฺตํ

๕๒. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘โน เจ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปรจิตฺตปริยายกุสโล โหติ, อถ ‘สจิตฺตปริยายกุสโล ภวิสฺสามี’ติ – เอวฺหิ โว, อาวุโส, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ สจิตฺตปริยายกุสโล โหติ? เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สเจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมติ. โน เจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, เตเนวตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป – ‘ลาภา วต เม, ปริสุทฺธํ วต เม’ติ.

เอวเมวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณา พหุการา โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ – ‘อภิชฺฌาลุ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อนภิชฺฌาลุ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, พฺยาปนฺนจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, ถินมิทฺธปริยุฏฺิโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, วิคตถินมิทฺโธ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อุทฺธโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อนุทฺธโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, วิจิกิจฺโฉ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, ติณฺณวิจิกิจฺโฉ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, โกธโน นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อกฺโกธโน นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํกิลิฏฺจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสํกิลิฏฺจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สารทฺธกาโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสารทฺธกาโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, กุสีโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อารทฺธวีริโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สมาหิโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสมาหิโต นุ โข พหุลํ วิหรามี’ติ.

‘‘สเจ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภิชฺฌาลุ พหุลํ วิหรามิ…เป… อสมาหิโต พหุลํ วิหรามี’ติ, เตนาวุโส, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา. ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย. เอวเมวํ โข, อาวุโส, เตน ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปนาวุโส, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อนภิชฺฌาลุ พหุลํ วิหรามิ…เป… สมาหิโต พหุลํ วิหรามี’ติ, เตนาวุโส, ภิกฺขุนา เตสุเยว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย’’ติ. ทุติยํ.

๓. ิติสุตฺตํ

๕๓. ‘‘ิติมฺปาหํ, ภิกฺขเว, น วณฺณยามิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ปเคว ปริหานึ. วุฑฺฒิฺจ โข อหํ, ภิกฺขเว, วณฺณยามิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ิตึ โน หานึ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, หานิ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ิติ โน วุฑฺฒิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยตฺตโก โหติ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย ปฏิภาเนน, ตสฺส เต ธมฺมา เนว ติฏฺนฺติ โน วฑฺฒนฺติ. หานิเมตํ, ภิกฺขเว, วทามิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ิตึ โน วุฑฺฒึ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, หานิ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ิติ โน วุฑฺฒิ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว ิติ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน หานิ โน วุฑฺฒิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยตฺตโก โหติ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย ปฏิภาเนน, ตสฺส เต ธมฺมา เนว หายนฺติ โน วฑฺฒนฺติ. ิติเมตํ, ภิกฺขเว, วทามิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน หานึ โน วุฑฺฒึ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ิติ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน วุฑฺฒิ โน หานิ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, วุฑฺฒิ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ิติ โน หานิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยตฺตโก โหติ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย ปฏิภาเนน, ตสฺส เต ธมฺมา เนว ติฏฺนฺติ โน หายนฺติ. วุฑฺฒิเมตํ, ภิกฺขเว, วทามิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ิตึ โน หานึ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, วุฑฺฒิ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โน ิติ โน หานิ.

‘‘โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปรจิตฺตปริยายกุสโล โหติ, อถ ‘สจิตฺตปริยายกุสโล ภวิสฺสามี’ติ – เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สจิตฺตปริยายกุสโล โหติ? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สเจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมติ. โน เจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, เตเนวตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป – ‘ลาภา วต เม, ปริสุทฺธํ วต เม’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณา พหุการา โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ – ‘อภิชฺฌาลุ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อนภิชฺฌาลุ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, พฺยาปนฺนจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, ถินมิทฺธปริยุฏฺิโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, วิคตถินมิทฺโธ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อุทฺธโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อนุทฺธโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, วิจิกิจฺโฉ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, ติณฺณวิจิกิจฺโฉ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, โกธโน นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อกฺโกธโน นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํกิลิฏฺจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสํกิลิฏฺจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สารทฺธกาโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสารทฺธกาโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, กุสีโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อารทฺธวีริโย นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สมาหิโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, อสมาหิโต นุ โข พหุลํ วิหรามี’ติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภิชฺฌาลุ พหุลํ วิหรามิ, พฺยาปนฺนจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, ถินมิทฺธปริยุฏฺิโต พหุลํ วิหรามิ, อุทฺธโต พหุลํ วิหรามิ, วิจิกิจฺโฉ พหุลํ วิหรามิ, โกธโน พหุลํ วิหรามิ, สํกิลิฏฺจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, สารทฺธกาโย พหุลํ วิหรามิ, กุสีโต พหุลํ วิหรามิ, อสมาหิโต พหุลํ วิหรามี’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา. ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อนภิชฺฌาลุ พหุลํ วิหรามิ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, วิคตถินมิทฺโธ พหุลํ วิหรามิ, อนุทฺธโต พหุลํ วิหรามิ, ติณฺณวิจิกิจฺโฉ พหุลํ วิหรามิ, อกฺโกธโน พหุลํ วิหรามิ, อสํกิลิฏฺจิตฺโต พหุลํ วิหรามิ, อสารทฺธกาโย พหุลํ วิหรามิ, อารทฺธวีริโย พหุลํ วิหรามิ, สมาหิโต พหุลํ วิหรามี’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสุเยว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย’’ติ. ตติยํ.

๔. สมถสุตฺตํ

๕๔. ‘‘โน เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปรจิตฺตปริยายกุสโล โหติ, อถ ‘สจิตฺตปริยายกุสโล ภวิสฺสามี’ติ – เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สจิตฺตปริยายกุสโล โหติ? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สเจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมติ. โน เจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, เตเนวตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป – ‘ลาภา วต เม, ปริสุทฺธํ วต เม’ติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณา พหุการา โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ – ‘ลาภี นุ โขมฺหิ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น นุ โขมฺหิ ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, ลาภี นุ โขมฺหิ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น นุ โขมฺหิ ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายา’ติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ลาภีมฺหิ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อชฺฌตฺตํ เจโตสมเถ ปติฏฺาย อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย โยโค กรณีโย. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ลาภีมฺหิ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺสา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ปติฏฺาย อชฺฌตฺตํ เจโตสมเถ โยโค กรณีโย. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย ลาภี จ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส.

‘‘สเจ, ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา. ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เตน ภิกฺขุนา เตสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. โส อปเรน สมเยน ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ลาภีมฺหิ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายา’ติ, เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา เตสุเยว กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย.

‘‘จีวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. ปิณฺฑปาตมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. เสนาสนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. คามนิคมมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. ชนปทปเทสมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. ปุคฺคลมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ.

‘‘‘จีวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา จีวรํ – ‘อิทํ โข เม จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ จีวรํ น เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ชฺา จีวรํ – ‘อิทํ โข เม จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ จีวรํ เสวิตพฺพํ. ‘จีวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปิณฺฑปาตมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ปิณฺฑปาตํ – ‘อิมํ โข เม ปิณฺฑปาตํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป ปิณฺฑปาโต น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา ปิณฺฑปาตํ – ‘อิมํ โข เม ปิณฺฑปาตํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป ปิณฺฑปาโต เสวิตพฺโพ. ‘ปิณฺฑปาตมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘เสนาสนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา เสนาสนํ – ‘อิทํ โข เม เสนาสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ เสนาสนํ น เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ชฺา เสนาสนํ – ‘อิทํ โข เม เสนาสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ เสนาสนํ เสวิตพฺพํ. ‘เสนาสนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘คามนิคมมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา คามนิคมํ – ‘อิมํ โข เม คามนิคมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป คามนิคโม น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา คามนิคมํ – ‘อิมํ โข เม คามนิคมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป คามนิคโม เสวิตพฺโพ. ‘คามนิคมมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ชนปทปเทสมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ชนปทปเทสํ – ‘อิมํ โข เม ชนปทปเทสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป ชนปทปเทโส น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา ชนปทปเทสํ – ‘อิมํ โข เม ชนปทปเทสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป ชนปทปเทโส เสวิตพฺโพ. ‘ชนปทปเทสมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปุคฺคลมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ปุคฺคลํ – ‘อิมํ โข เม ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา ปุคฺคลํ – ‘อิมํ โข เม ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ. ‘ปุคฺคลมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ปริหานสุตฺตํ

๕๕. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ [ภิกฺขโวติ (สี. สฺยา.)]. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘‘ปริหานธมฺโม ปุคฺคโล, ปริหานธมฺโม ปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. ‘อปริหานธมฺโม ปุคฺคโล, อปริหานธมฺโม ปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ปริหานธมฺโม ปุคฺคโล วุตฺโต ภควตา, กิตฺตาวตา จ ปน อปริหานธมฺโม ปุคฺคโล วุตฺโต ภควตา’’ติ? ‘‘ทูรโตปิ โข มยํ, อาวุโส, อาคจฺฉาม อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. สาธุ วตายสฺมนฺตํเยว สาริปุตฺตํ ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

‘‘เตนหาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ปริหานธมฺโม ปุคฺคโล วุตฺโต ภควตา? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อสฺสุตฺเจว ธมฺมํ น สุณาติ, สุตา จสฺส ธมฺมา สมฺโมสํ คจฺฉนฺติ, เย จสฺส ธมฺมา ปุพฺเพ เจตโส อสมฺผุฏฺปุพฺพา เต จสฺส น สมุทาจรนฺติ, อวิฺาตฺเจว น วิชานาติ. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ปริหานธมฺโม ปุคฺคโล วุตฺโต ภควตา.

‘‘กิตฺตาวตา จ ปนาวุโส, อปริหานธมฺโม ปุคฺคโล วุตฺโต ภควตา? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อสฺสุตฺเจว ธมฺมํ สุณาติ, สุตา จสฺส ธมฺมา น สมฺโมสํ คจฺฉนฺติ, เย จสฺส ธมฺมา ปุพฺเพ เจตโส อสมฺผุฏฺปุพฺพา เต จสฺส สมุทาจรนฺติ, อวิฺาตฺเจว วิชานาติ. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, อปริหานธมฺโม ปุคฺคโล วุตฺโต ภควตา.

‘‘โน เจ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปรจิตฺตปริยายกุสโล โหติ, อถ ‘สจิตฺตปริยายกุสโล ภวิสฺสามี’ติ – เอวฺหิ โว, อาวุโส, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ สจิตฺตปริยายกุสโล โหติ? เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สเจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมติ. โน เจ ตตฺถ ปสฺสติ รชํ วา องฺคณํ วา, เตเนวตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป – ‘ลาภา วต เม, ปริสุทฺธํ วต เม’ติ. เอวเมว โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณา พหุการา โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ – ‘อนภิชฺฌาลุ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, อพฺยาปนฺนจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, วิคตถินมิทฺโธ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, อนุทฺธโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, ติณฺณวิจิกิจฺโฉ นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, อกฺโกธโน นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, อสํกิลิฏฺจิตฺโต นุ โข พหุลํ วิหรามิ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, ลาภี นุ โขมฺหิ อชฺฌตฺตํ ธมฺมปาโมชฺชสฺส, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, ลาภี นุ โขมฺหิ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน, ลาภี นุ โขมฺหิ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ.

‘‘สเจ ปน, อาวุโส, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน สพฺเพปิเม กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ น สมนุปสฺสติ, เตนาวุโส, ภิกฺขุนา สพฺเพสํเยว อิเมสํ กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา. ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย. เอวเมวํ โข, อาวุโส, เตน ภิกฺขุนา สพฺเพสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปนาวุโส, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอกจฺเจ กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, เอกจฺเจ กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ น สมนุปสฺสติ, เตนาวุโส, ภิกฺขุนา เย กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ เตสุ กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย, เย กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ น สมนุปสฺสติ เตสํ กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อาทิตฺตเจโล วา อาทิตฺตสีโส วา. ตสฺเสว เจลสฺส วา สีสสฺส วา นิพฺพาปนาย อธิมตฺตํ ฉนฺทฺจ วายามฺจ อุสฺสาหฺจ อุสฺโสฬฺหิฺจ อปฺปฏิวานิฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ กเรยฺย. เอวเมวํ โข, อาวุโส, เตน ภิกฺขุนา เย กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ เตสุ กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย, เย กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ น สมนุปสฺสติ เตสํ กุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิลาภาย อธิมตฺโต ฉนฺโท จ วายาโม จ อุสฺสาโห จ อุสฺโสฬฺหี จ อปฺปฏิวานี จ สติ จ สมฺปชฺฺจ กรณียํ.

‘‘สเจ ปนาวุโส, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน สพฺเพปิเม กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ สมนุปสฺสติ, เตนาวุโส, ภิกฺขุนา สพฺเพสฺเวว อิเมสุ กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย อุตฺตริ อาสวานํ ขยาย โยโค กรณีโย’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ปมสฺาสุตฺตํ

๕๖. ‘‘ทสยิมา, ภิกฺขเว, สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. กตมา ทส? อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ทส สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ทุติยสฺาสุตฺตํ

๕๗. ‘‘ทสยิมา, ภิกฺขเว, สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา. กตมา ทส? อนิจฺจสฺา, อนตฺตสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อฏฺิกสฺา, ปุฬวกสฺา [ปุลวกสฺา (สี. ปี.), ปุฬุวกสฺา (ก.), อ. นิ. ๑.๔๖๓-๔๗๒], วินีลกสฺา, วิจฺฉิทฺทกสฺา, อุทฺธุมาตกสฺา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ทส สฺา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. มูลกสุตฺตํ

๕๘. [อ. นิ. ๘.๘๓] ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กึมูลกา, อาวุโส, สพฺเพ ธมฺมา, กึสมฺภวา สพฺเพ ธมฺมา, กึสมุทยา สพฺเพ ธมฺมา, กึสโมสรณา สพฺเพ ธมฺมา, กึปมุขา สพฺเพ ธมฺมา, กึอธิปเตยฺยา สพฺเพ ธมฺมา, กึอุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา, กึสารา สพฺเพ ธมฺมา, กึโอคธา สพฺเพ ธมฺมา, กึปริโยสานา สพฺเพ ธมฺมา’ติ, เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ กินฺติ พฺยากเรยฺยาถา’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา. สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กึมูลกา, อาวุโส, สพฺเพ ธมฺมา, กึสมฺภวา สพฺเพ ธมฺมา, กึสมุทยา สพฺเพ ธมฺมา, กึสโมสรณา สพฺเพ ธมฺมา กึปมุขา สพฺเพ ธมฺมา, กึ อธิปเตยฺยา สพฺเพ ธมฺมา, กึอุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา, กึสารา สพฺเพ ธมฺมา, กึโอคธา สพฺเพ ธมฺมา, กึปริโยสานา สพฺเพ ธมฺมา’ติ, เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘ฉนฺทมูลกา, อาวุโส, สพฺเพ ธมฺมา, มนสิการสมฺภวา สพฺเพ ธมฺมา, ผสฺสสมุทยา สพฺเพ ธมฺมา, เวทนาสโมสรณา สพฺเพ ธมฺมา, สมาธิปฺปมุขา สพฺเพ ธมฺมา, สตาธิปเตยฺยา สพฺเพ ธมฺมา, ปฺุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา, วิมุตฺติสารา สพฺเพ ธมฺมา, อมโตคธา สพฺเพ ธมฺมา, นิพฺพานปริโยสานา สพฺเพ ธมฺมา’ติ. เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปพฺพชฺชาสุตฺตํ

๕๙. ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยถาปพฺพชฺชาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, น จุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสนฺติ; อนิจฺจสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, อนตฺตสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, อสุภสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, อาทีนวสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, โลกสฺส สมฺจ วิสมฺจ ตฺวา ตํสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, โลกสฺส ภวฺจ [สมฺภวฺจ (สี. สฺยา.)] วิภวฺจ ตฺวา ตํสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, โลกสฺส สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ ตฺวา ตํสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, ปหานสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, วิราคสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสติ, นิโรธสฺาปริจิตฺจ โน จิตฺตํ ภวิสฺสตี’ติ – เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ.

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ยถาปพฺพชฺชาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ น จุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, อนิจฺจสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, อนตฺตสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, อสุภสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, อาทีนวสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, โลกสฺส สมฺจ วิสมฺจ ตฺวา ตํสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, โลกสฺส ภวฺจ วิภวฺจ ตฺวา ตํสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, โลกสฺส สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ ตฺวา ตํสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, ปหานสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, วิราคสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, นิโรธสฺาปริจิตฺจ จิตฺตํ โหติ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ. นวมํ.

๑๐. คิริมานนฺทสุตฺตํ

๖๐. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา คิริมานนฺโท อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, คิริมานนฺโท อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยนายสฺมา คิริมานนฺโท เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ‘‘สเจ โข ตฺวํ, อานนฺท, คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน ทส สฺา ภาเสยฺยาสิ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน ทส สฺา สุตฺวา โส อาพาโธ านโส ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺย.

‘‘กตมา ทส? อนิจฺจสฺา, อนตฺตสฺา, อสุภสฺา, อาทีนวสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา [อนภิรติสฺา (ก.)], สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺฉาสฺา, อานาปานสฺสติ.

‘‘กตมา จานนฺท, อนิจฺจสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา, สฺา อนิจฺจา, สงฺขารา อนิจฺจา, วิฺาณํ อนิจฺจ’นฺติ. อิติ อิเมสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, อนิจฺจสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, อนตฺตสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, โสตํ อนตฺตา, สทฺทา อนตฺตา, ฆานํ อนตฺตา, คนฺธา อนตฺตา, ชิวฺหา อนตฺตา, รสา อนตฺตา, กายา อนตฺตา, โผฏฺพฺพา อนตฺตา, มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา’ติ. อิติ อิเมสุ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสี วิหรติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, อนตฺตสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, อสุภสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานาปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ. อิติ อิมสฺมึ กาเย อสุภานุปสฺสี วิหรติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, อสุภสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, อาทีนวสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘พหุทุกฺโข โข อยํ กาโย พหุอาทีนโว? อิติ อิมสฺมึ กาเย วิวิธา อาพาธา อุปฺปชฺชนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุโรโค โสตโรโค ฆานโรโค ชิวฺหาโรโค กายโรโค สีสโรโค กณฺณโรโค มุขโรโค ทนฺตโรโค โอฏฺโรโค กาโส สาโส ปินาโส ฑาโห [ฑโห (สี. สฺยา.)] ชโร กุจฺฉิโรโค มุจฺฉา ปกฺขนฺทิกา สูลา วิสูจิกา กุฏฺํ คณฺโฑ กิลาโส โสโส อปมาโร ททฺทุ กณฺฑุ กจฺฉุ นขสา วิตจฺฉิกา โลหิตํ ปิตฺตํ [โลหิตปิตฺตํ (สี.)] มธุเมโห อํสา ปิฬกา ภคนฺทลา ปิตฺตสมุฏฺานา อาพาธา เสมฺหสมุฏฺานา อาพาธา วาตสมุฏฺานา อาพาธา สนฺนิปาติกา อาพาธา อุตุปริณามชา อาพาธา วิสมปริหารชา อาพาธา โอปกฺกมิกา อาพาธา กมฺมวิปากชา อาพาธา สีตํ อุณฺหํ ชิฆจฺฉา ปิปาสา อุจฺจาโร ปสฺสาโว’ติ. อิติ อิมสฺมึ กาเย อาทีนวานุปสฺสี วิหรติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, อาทีนวสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, ปหานสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติ. อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติ. อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, ปหานสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, วิราคสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฺปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิพฺพาน’นฺติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, วิราคสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, นิโรธสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฺปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, นิโรธสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ เย โลเก อุปาทานา เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยา, เต ปชหนฺโต วิหรติ อนุปาทิยนฺโต. อยํ วุจฺจตานนฺท, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺฉาสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพสงฺขาเรสุ อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺฉาสฺา.

‘‘กตมา จานนฺท, อานาปานสฺสติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ สโตว ปสฺสสติ. ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ. ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ. รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ. รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ. ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปีติปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปีติปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘สุขปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘สุขปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘จิตฺตปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘จิตฺตปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ…เป… สมาทหํ จิตฺตํ…เป… วิโมจยํ จิตฺตํ…เป… อนิจฺจานุปสฺสี…เป… วิราคานุปสฺสี…เป… นิโรธานุปสฺสี…เป… ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. อยํ วุจฺจตานนฺท, อานาปานสฺสติ.

‘‘สเจ โข ตฺวํ, อานนฺท, คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน อิมา ทส สฺา ภาเสยฺยาสิ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน อิมา ทส สฺา สุตฺวา โส อาพาโธ านโส ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยา’’ติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต สนฺติเก อิมา ทส สฺา อุคฺคเหตฺวา เยนายสฺมา คิริมานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมโต คิริมานนฺทสฺส อิมา ทส สฺา อภาสิ. อถ โข อายสฺมโต คิริมานนฺทสฺส ทส สฺา สุตฺวา โส อาพาโธ านโส ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. วุฏฺหิ จายสฺมา คิริมานนฺโท ตมฺหา อาพาธา. ตถา ปหีโน จ ปนายสฺมโต คิริมานนฺทสฺส โส อาพาโธ อโหสี’’ติ. ทสมํ.

สจิตฺตวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

สจิตฺตฺจ สาริปุตฺต, ิติ จ สมเถน จ;

ปริหาโน จ ทฺเว สฺา, มูลา ปพฺพชิตํ คิรีติ.

(๗) ๒. ยมกวคฺโค

๑. อวิชฺชาสุตฺตํ

๖๑. ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย – ‘อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ – ‘อิทปฺปจฺจยา อวิชฺชา’ติ.

‘‘อวิชฺชมฺปาหํ [อวิชฺชมฺปหํ (สี. สฺยา.)], ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อวิชฺชาย? ‘ปฺจ นีวรณา’ติสฺส วจนียํ. ปฺจปาหํ, ภิกฺขเว, นีวรเณ สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร ปฺจนฺนํ นีวรณานํ? ‘ตีณิ ทุจฺจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณํ ทุจฺจริตานํ? ‘อินฺทฺริยอสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยอสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อินฺทฺริยอสํวรสฺส? ‘อสตาสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. อสตาสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสตาสมฺปชฺสฺส? ‘อโยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. อโยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อโยนิโสมนสิการสฺส? ‘อสฺสทฺธิย’นฺติสฺส วจนียํ. อสฺสทฺธิยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสฺสทฺธิยสฺส? ‘อสทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. อสทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘อสปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ. เอวเมติสฺสา อวิชฺชาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ( ) [(คลคลายนฺเต) (สี.), (คฬคฬายนฺเต) (สฺยา.)] ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรติ, ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูรา กุโสพฺเภ [กุสฺสุพฺเภ (สี.), กุสุพฺเภ (สฺยา.), กุโสมฺเภ (ก.) อ. นิ. ๓.๙๖] ปริปูเรนฺติ. กุโสพฺภา ปริปูรา มหาโสพฺเภ [มหาโสมฺเภ (ก.)] ปริปูเรนฺติ, มหาโสพฺภา ปริปูรา กุนฺนทิโย ปริปูเรนฺติ, กุนฺนทิโย ปริปูรา มหานทิโย ปริปูเรนฺติ, มหานทิโย ปริปูรา มหาสมุทฺทํ สาครํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา อวิชฺชาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘วิชฺชาวิมุตฺติมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร วิชฺชาวิมุตฺติยา? ‘สตฺต โพชฺฌงฺคา’ติสฺส วจนียํ. สตฺตปาหํ, ภิกฺขเว, โพชฺฌงฺเค สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ? ‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. จตฺตาโรปาหํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺาเน สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ? ‘ตีณิ สุจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณํ สุจริตานํ? ‘อินฺทฺริยสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อินฺทฺริยสํวรสฺส? ‘สติสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. สติสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สติสมฺปชฺสฺส? ‘โยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. โยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร โยนิโสมนสิการสฺส? ‘สทฺธา’ติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธาย? ‘สทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘สปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ สทฺธํ ปริปูเรติ, สทฺธา ปริปูรา โยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, โยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร สติสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, สติสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวโร ปริปูโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ สุจริตานิ ปริปูรานิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ปริปูรา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ปริปูรา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรติ, ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูรา กุโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ, กุโสพฺภา ปริปูรา มหาโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ, มหาโสพฺภา ปริปูรา กุนฺนทิโย ปริปูเรนฺติ, กุนฺนทิโย ปริปูรา มหานทิโย ปริปูเรนฺติ, มหานทิโย ปริปูรา มหาสมุทฺทํ สาครํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ สทฺธํ ปริปูเรติ, สทฺธา ปริปูรา โยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, โยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร สติสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, สติสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวโร ปริปูโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ สุจริตานิ ปริปูรานิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ปริปูรา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ปริปูรา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูรี’’ติ. ปมํ.

๒. ตณฺหาสุตฺตํ

๖๒. ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย – ‘อิโต ปุพฺเพ ภวตณฺหา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ – ‘อิทปฺปจฺจยา ภวตณฺหา’ติ.

‘‘ภวตณฺหามฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร ภวตณฺหาย? ‘อวิชฺชา’ติสฺส วจนียํ. อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อวิชฺชาย? ‘ปฺจ นีวรณา’ติสฺส วจนียํ. ปฺจ นีวรเณปาหํ, ภิกฺขเว, สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร ปฺจนฺนํ นีวรณานํ? ‘ตีณิ ทุจฺจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณนฺนํ ทุจฺจริตานํ? ‘อินฺทฺริยอสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยอสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อินฺทฺริยอสํวรสฺส? ‘อสตาสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. อสตาสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสตา สมฺปชฺสฺส? ‘อโยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. อโยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อโยนิโสมนสิการสฺส? ‘อสฺสทฺธิย’นฺติสฺส วจนียํ. อสฺสทฺธิยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสฺสทฺธิยสฺส? ‘อสฺสทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. อสฺสทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสฺสทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘อสปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ, อวิชฺชา ปริปูรา ภวตณฺหํ ปริปูเรติ; เอวเมติสฺสา ภวตณฺหาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรติ, ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูรา กุโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ, กุโสพฺภา ปริปูรา มหาโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ, มหาโสพฺภา ปริปูรา กุนฺนทิโย ปริปูเรนฺติ, กุนฺนทิโย ปริปูรา มหานทิโย ปริปูเรนฺติ, มหานทิโย ปริปูรา มหาสมุทฺทํ สาครํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ, อวิชฺชา ปริปูรา ภวตณฺหํ ปริปูเรติ; เอวเมติสฺสา ภวตณฺหาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘วิชฺชาวิมุตฺติมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร วิชฺชาวิมุตฺติยา? ‘สตฺต โพชฺฌงฺคา’ติสฺส วจนียํ. สตฺตปาหํ, ภิกฺขเว, โพชฺฌงฺเค สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ? ‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. จตฺตาโรปาหํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺาเน สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ? ‘ตีณิ สุจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณนฺนํ สุจริตานํ? ‘อินฺทฺริยสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อินฺทฺริยสํวรสฺส? ‘สติสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. สติสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สติสมฺปชฺสฺส? ‘โยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. โยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร โยนิโสมนสิการสฺส? ‘สทฺธา’ติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธาย? ‘สทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘สปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ สทฺธํ ปริปูเรติ, สทฺธา ปริปูรา โยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, โยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร สติสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, สติสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวโร ปริปูโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ สุจริตานิ ปริปูรานิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ปริปูรา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ปริปูรา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ…เป… เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ…เป… เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูรี’’ติ. ทุติยํ.

๓. นิฏฺงฺคตสุตฺตํ

๖๓. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ นิฏฺํ คตา สพฺเพ เต ทิฏฺิสมฺปนฺนา. เตสํ ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา? สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส, โกลํโกลสฺส, เอกพีชิสฺส, สกทาคามิสฺส, โย จ ทิฏฺเว ธมฺเม อรหา – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ นิฏฺํ คตา, สพฺเพ เต ทิฏฺิสมฺปนฺนา. เตสํ ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ. ตติยํ.

๔. อเวจฺจปฺปสนฺนสุตฺตํ

๖๔. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ อเวจฺจปฺปสนฺนา, สพฺเพ เต โสตาปนฺนา. เตสํ โสตาปนฺนานํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา? สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส, โกลํโกลสฺส, เอกพีชิสฺส, สกทาคามิสฺส, โย จ ทิฏฺเว ธมฺเม อรหา – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ อเวจฺจปฺปสนฺนา สพฺเพ เต โสตาปนฺนา. เตสํ โสตาปนฺนานํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมสุขสุตฺตํ

๖๕. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต มคเธสุ วิหรติ นาลกคามเก. อถ โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, สุขํ, กึ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘อภินิพฺพตฺติ โข, อาวุโส, ทุกฺขา, อนภินิพฺพตฺติ สุขา. อภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ – สีตํ อุณฺหํ ชิฆจฺฉา ปิปาสา อุจฺจาโร ปสฺสาโว อคฺคิสมฺผสฺโส ทณฺฑสมฺผสฺโส สตฺถสมฺผสฺโส าตีปิ มิตฺตาปิ สงฺคมฺม สมาคมฺม โรเสนฺติ. อภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ. อนภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺขํ – น สีตํ น อุณฺหํ น ชิฆจฺฉา น ปิปาสา น อุจฺจาโร น ปสฺสาโว น อคฺคิสมฺผสฺโส น ทณฺฑสมฺผสฺโส น สตฺถสมฺผสฺโส าตีปิ มิตฺตาปิ สงฺคมฺม สมาคมฺม น โรเสนฺติ. อนภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺข’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยสุขสุตฺตํ

๖๖. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต มคเธสุ วิหรติ นาลกคามเก. อถ โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, สาริปุตฺต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สุขํ, กึ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘อนภิรติ โข, อาวุโส, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทุกฺขา, อภิรติ สุขา. อนภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ – คจฺฉนฺโตปิ สุขํ สาตํ นาธิคจฺฉติ, ิโตปิ… นิสินฺโนปิ… สยาโนปิ… คามคโตปิ… อรฺคโตปิ… รุกฺขมูลคโตปิ… สุฺาคารคโตปิ… อพฺโภกาสคโตปิ… ภิกฺขุมชฺฌคโตปิ สุขํ สาตํ นาธิคจฺฉติ. อนภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ.

‘‘อภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺขํ – คจฺฉนฺโตปิ สุขํ สาตํ อธิคจฺฉติ, ิโตปิ… นิสินฺโนปิ… สยาโนปิ… คามคโตปิ… อรฺคโตปิ… รุกฺขมูลคโตปิ… สุฺาคารคโตปิ… อพฺโภกาสคโตปิ… ภิกฺขุมชฺฌคโตปิ สุขํ สาตํ อธิคจฺฉติ. อภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺข’’นฺติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมนฬกปานสุตฺตํ

๖๗. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน นฬกปานํ นาม โกสลานํ นิคโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา นฬกปาเน วิหรติ ปลาสวเน. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ –

‘‘วิคตถินมิทฺโธ [วิคตถีนมิทฺโธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุสงฺโฆ. ปฏิภาตุ ตํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ ธมฺมี กถา. ปิฏฺิ เม อาคิลายติ; ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี [หิริ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ … วีริยํ [วิริยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘อสฺสทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘อหิริโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘อโนตฺตปฺปี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘กุสีโต ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘ทุปฺปฺโ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘โกธโน ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘อุปนาหี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘ปาปิจฺโฉ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘ปาปมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘มิจฺฉาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ.

‘‘‘สทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘หิรีมา ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘โอตฺตปฺปี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อารทฺธวีริโย ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘ปฺวา ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อกฺโกธโน ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อนุปนาหี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อปฺปิจฺโฉ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘กลฺยาณมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘สมฺมาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมต’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา …เป… โน วุทฺธิ.

‘‘‘อสฺสทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, ปริหานเมตํ; อหิริโก… อโนตฺตปฺปี… กุสีโต… ทุปฺปฺโ… โกธโน… อุปนาหี… ปาปิจฺโฉ… ปาปมิตฺโต… ‘มิจฺฉาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, ปริหานเมตํ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ.

‘‘‘สทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, อปริหานเมตํ; หิรีมา… โอตฺตปฺปี… อารทฺธวีริโย… ปฺวา… อกฺโกธโน… อนุปนาหี… อปฺปิจฺโฉ… กลฺยาณมิตฺโต… ‘สมฺมาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, อปริหานเมต’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยนฬกปานสุตฺตํ

๖๘. เอกํ สมยํ ภควา นฬกปาเน วิหรติ ปลาสวเน. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ –

‘‘วิคตถินมิทฺโธ โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุสงฺโฆ. ปฏิภาตุ ตํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ ธมฺมี กถา. ปิฏฺิ เม อาคิลายติ; ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขเว’’ติ! ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ… โสตาวธานํ นตฺถิ… ธมฺมธารณา นตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา นตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ นตฺถิ… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ… โสตาวธานํ นตฺถิ… ธมฺมธารณา นตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา นตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ นตฺถิ… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ… โสตาวธานํ อตฺถิ… ธมฺมธารณา อตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา อตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ อตฺถิ… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานี’’ติ.

อถ โข ภควา ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… โสตาวธานํ นตฺถิ… ธมฺมธารณา นตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา นตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ นตฺถิ… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ… โสตาวธานํ อตฺถิ… ธมฺมธารณา อตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา อตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ อตฺถิ… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมกถาวตฺถุสุตฺตํ

๖๙. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – [ที. นิ. ๑.๑๗; ม. นิ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๐; ปาจิ. ๕๐๘] ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ [อิตฺถิกถํ ปุริสกถํ (ก.) ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒๓ ปสฺสิตพฺพํ] สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วาติ.

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?

‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหราม, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา’’ติ. ‘‘น โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ, ยํ ตุมฺเห อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหเรยฺยาถ, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วาติ.

‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, กถาวตฺถูนิ. กตมานิ ทส? อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฏฺิกถา, ปวิเวกกถา, อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา, ปฺากถา, วิมุตฺติกถา, วิมุตฺติาณทสฺสนกถาติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส กถาวตฺถูนิ.

‘‘อิเมสํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ทสนฺนํ กถาวตฺถูนํ อุปาทายุปาทาย กถํ กเถยฺยาถ, อิเมสมฺปิ จนฺทิมสูริยานํ เอวํมหิทฺธิกานํ เอวํมหานุภาวานํ เตชสา เตชํ ปริยาทิเยยฺยาถ, โก ปน วาโท อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกาน’’นฺติ! นวมํ.

๑๐. ทุติยกถาวตฺถุสุตฺตํ

๗๐. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วาติ.

‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, ปาสํสานิ านานิ. กตมานิ ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ โหติ, อปฺปิจฺฉกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘อปฺปิจฺโฉ ภิกฺขุ อปฺปิจฺฉกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺตุฏฺิกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘สนฺตุฏฺโ ภิกฺขุ สนฺตุฏฺิกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ ปวิวิตฺโต โหติ, ปวิเวกกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘ปวิวิตฺโต ภิกฺขุ ปวิเวกกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ อสํสฏฺโ โหติ, อสํสฏฺกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘อสํสฏฺโ ภิกฺขุ อสํสฏฺกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ อารทฺธวีริโย โหติ, วีริยารมฺภกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘อารทฺธวีริโย ภิกฺขุ วีริยารมฺภกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ สีลสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, สมาธิสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘สมาธิสมฺปนฺโน ภิกฺขุ สมาธิสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘ปฺาสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ปฺาสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘วิมุตฺติสมฺปนฺโน ภิกฺขุ วิมุตฺติสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน ภิกฺขุ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส ปาสํสานิ านานี’’ติ. ทสมํ.

ยมกวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

อวิชฺชา ตณฺหา นิฏฺา จ, อเวจฺจ ทฺเว สุขานิ จ;

นฬกปาเน ทฺเว วุตฺตา, กถาวตฺถูปเร ทุเวติ.

(๘) ๓. อากงฺขวคฺโค

๑. อากงฺขสุตฺตํ

๗๑. [อ. นิ. ๔.๑๒; อิติวุ. ๑๑๑] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถ สมฺปนฺนปาติโมกฺขา, ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน, สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสุ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จสฺสํ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ลาภี อสฺสํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘เยสาหํ ปริภุฺชามิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ เตสํ เต การา มหปฺผลา อสฺสุ มหานิสํสา’ติ, สีเลสฺเววสฺส…เป… พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘เย เม [เย มํ (ม. นิ. ๑.๖๕)] เปตา าตี สาโลหิตา กาลงฺกตา [กาลกตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปสนฺนจิตฺตา อนุสฺสรนฺติ เตสํ ตํ มหปฺผลํ อสฺส มหานิสํส’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส…เป… พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘สนฺตุฏฺโ อสฺสํ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนา’ติ, สีเลสฺเววสฺส…เป… พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ขโม อสฺสํ สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ, ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ [ติปฺปานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก อสฺส’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส…เป… พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อรติรติสโห อสฺสํ, น จ มํ อรติรติ สเหยฺย, อุปฺปนฺนํ อรติรตึ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส…เป… พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ภยเภรวสโห อสฺสํ, น จ มํ ภยเภรโว สเหยฺย, อุปฺปนฺนํ ภยเภรวํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส…เป… พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อสฺสํ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’ติ, สีเลสฺเววสฺส…เป… พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สุฺาคารานํ.

‘‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถ สมฺปนฺนปาติโมกฺขา, ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน, สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสู’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ปมํ.

๒. กณฺฏกสุตฺตํ

๗๒. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ สมฺพหุเลหิ อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธึ – อายสฺมตา จ จาเลน [ปาเลน (สฺยา.)], อายสฺมตา จ อุปจาเลน [อุปฺปาเลน (สฺยา.)], อายสฺมตา จ กุกฺกุเฏน [กกฺกเฏน (สี. สฺยา.)], อายสฺมตา จ กฬิมฺเภน [กวิมฺเภน (สี.)], อายสฺมตา จ นิกเฏน [กเฏน (สี.)], อายสฺมตา จ กฏิสฺสเหน; อฺเหิ จ อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธึ.

เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ ปรปุราย [ปรํปุราย (สฺยา. อฏฺ.)] อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา มหาวนํ อชฺโฌคาหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข เตสํ อายสฺมนฺตานํ เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ ปรปุราย อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา มหาวนํ อชฺโฌคาหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ‘สทฺทกณฺฏกา โข ปน ฌานา’ วุตฺตา ภควตา. ยํนูน มยํ เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกเมยฺยาม. ตตฺถ มยํ อปฺปสทฺทา อปฺปากิณฺณา ผาสุํ [ผาสุ (สฺยา. ก.)] วิหเรยฺยามา’’ติ. อถ โข เต อายสฺมนฺโต เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกมึสุ; ตตฺถ เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทา อปฺปากิณฺณา ผาสุํ วิหรนฺติ.

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กหํ นุ โข, ภิกฺขเว, จาโล, กหํ อุปจาโล, กหํ กุกฺกุโฏ, กหํ กฬิมฺโภ, กหํ นิกโฏ, กหํ กฏิสฺสโห; กหํ นุ โข เต, ภิกฺขเว, เถรา สาวกา คตา’’ติ?

‘‘อิธ, ภนฺเต, เตสํ อายสฺมนฺตานํ เอตทโหสิ – ‘อิเม โข สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ ปรปุราย อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา มหาวนํ อชฺโฌคาหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย ‘สทฺทกณฺฏกา โข ปน ฌานาวุตฺตา ภควตา ยํนูน มยํ เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกเมยฺยาม ตตฺถ มยํ อปฺปสทฺทา อปฺปากิณฺณา ผาสุํ วิหเรยฺยามา’ติ. อถ โข เต, ภนฺเต, อายสฺมนฺโต เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทา อปฺปากิณฺณา ผาสุํ วิหรนฺตี’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขเว, ยถา เต มหาสาวกา สมฺมา พฺยากรมานา พฺยากเรยฺยุํ, ‘สทฺทกณฺฏกา หิ, ภิกฺขเว, ฌานา’ วุตฺตา มยา.

‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, กณฺฏกา. กตเม ทส? ปวิเวการามสฺส สงฺคณิการามตา กณฺฏโก, อสุภนิมิตฺตานุโยคํ อนุยุตฺตสฺส สุภนิมิตฺตานุโยโค กณฺฏโก, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารสฺส วิสูกทสฺสนํ กณฺฏโก, พฺรหฺมจริยสฺส มาตุคามูปจาโร [มาตุคาโมปวิจาโร (สี.), มาตุคามูปวิจโร (ก.)] กณฺฏโก, [กถา. ๓๓๓] ปมสฺส ฌานสฺส สทฺโท กณฺฏโก, ทุติยสฺส ฌานสฺส วิตกฺกวิจารา กณฺฏกา, ตติยสฺส ฌานสฺส ปีติ กณฺฏโก, จตุตฺถสฺส ฌานสฺส อสฺสาสปสฺสาโส กณฺฏโก, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา สฺา จ เวทนา จ กณฺฏโก ราโค กณฺฏโก โทโส กณฺฏโก โมโห กณฺฏโก.

‘‘อกณฺฏกา, ภิกฺขเว, วิหรถ. นิกฺกณฺฏกา, ภิกฺขเว, วิหรถ. อกณฺฏกนิกฺกณฺฏกา, ภิกฺขเว, วิหรถ. อกณฺฏกา, ภิกฺขเว, อรหนฺโต; นิกฺกณฺฏกา, ภิกฺขเว, อรหนฺโต; อกณฺฏกนิกฺกณฺฏกา, ภิกฺขเว, อรหนฺโต’’ติ. ทุติยํ.

๓. อิฏฺธมฺมสุตฺตํ

๗๓. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. กตเม ทส? โภคา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ; วณฺโณ อิฏฺโ กนฺโต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมึ; อาโรคฺยํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ ทุลฺลภํ โลกสฺมึ; สีลํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ ทุลฺลภํ โลกสฺมึ; พฺรหฺมจริยํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ ทุลฺลภํ โลกสฺมึ; มิตฺตา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ; พาหุสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ ทุลฺลภํ โลกสฺมึ; ปฺา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ; ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ; สคฺคา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมึ.

‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทสนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ ทส ธมฺมา ปริปนฺถา [ปริพนฺธา (ก.)] – อาลสฺยํ อนุฏฺานํ โภคานํ ปริปนฺโถ, อมณฺฑนา อวิภูสนา วณฺณสฺส ปริปนฺโถ, อสปฺปายกิริยา อาโรคฺยสฺส ปริปนฺโถ, ปาปมิตฺตตา สีลานํ ปริปนฺโถ, อินฺทฺริยอสํวโร พฺรหฺมจริยสฺส ปริปนฺโถ, วิสํวาทนา มิตฺตานํ ปริปนฺโถ, อสชฺฌายกิริยา พาหุสจฺจสฺส ปริปนฺโถ, อสุสฺสูสา อปริปุจฺฉา ปฺาย ปริปนฺโถ, อนนุโยโค อปจฺจเวกฺขณา ธมฺมานํ ปริปนฺโถ, มิจฺฉาปฏิปตฺติ สคฺคานํ ปริปนฺโถ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทสนฺนํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ อิเม ทส ธมฺมา ปริปนฺถา.

‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทสนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ ทส ธมฺมา อาหารา – อุฏฺานํ อนาลสฺยํ โภคานํ อาหาโร, มณฺฑนา วิภูสนา วณฺณสฺส อาหาโร, สปฺปายกิริยา อาโรคฺยสฺส อาหาโร, กลฺยาณมิตฺตตา สีลานํ อาหาโร, อินฺทฺริยสํวโร พฺรหฺมจริยสฺส อาหาโร, อวิสํวาทนา มิตฺตานํ อาหาโร, สชฺฌายกิริยา พาหุสจฺจสฺส อาหาโร, สุสฺสูสา ปริปุจฺฉา ปฺาย อาหาโร, อนุโยโค ปจฺจเวกฺขณา ธมฺมานํ อาหาโร, สมฺมาปฏิปตฺติ สคฺคานํ อาหาโร. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ทสนฺนํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมึ อิเม ทส ธมฺมา อาหารา’’ติ. ตติยํ.

๔. วฑฺฒิสุตฺตํ

๗๔. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, วฑฺฒีหิ วฑฺฒมาโน อริยสาวโก อริยาย วฑฺฒิยา วฑฺฒติ, สาราทายี จ โหติ วราทายี กายสฺส. กตเมหิ ทสหิ? เขตฺตวตฺถูหิ วฑฺฒติ, ธนธฺเน วฑฺฒติ, ปุตฺตทาเรหิ วฑฺฒติ, ทาสกมฺมกรโปริเสหิ วฑฺฒติ, จตุปฺปเทหิ วฑฺฒติ, สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน วฑฺฒติ, สุเตน วฑฺฒติ, จาเคน วฑฺฒติ, ปฺาย วฑฺฒติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ วฑฺฒีหิ วฑฺฒมาโน อริยสาวโก อริยาย วฑฺฒิยา วฑฺฒติ, สาราทายี จ โหติ วราทายี กายสฺสาติ.

‘‘ธเนน ธฺเน จ โยธ วฑฺฒติ,

ปุตฺเตหิ ทาเรหิ จตุปฺปเทหิ จ;

ส โภควา โหติ ยสสฺสิ ปูชิโต,

าตีหิ มิตฺเตหิ อโถปิ ราชุภิ.

‘‘สทฺธาย สีเลน จ โยธ วฑฺฒติ,

ปฺาย จาเคน สุเตน จูภยํ;

โส ตาทิโส สปฺปุริโส วิจกฺขโณ,

ทิฏฺเว ธมฺเม อุภเยน วฑฺฒตี’’ติ. จตุตฺถํ;

๕. มิคสาลาสุตฺตํ

๗๕. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข มิคสาลา อุปาสิกา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข มิคสาลา อุปาสิกา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –

‘‘กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปรายํ. ปิตา เม, ภนฺเต, ปุราโณ พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี [อนาจารี (ก.)] วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. โส กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต – ‘สกทาคามี สตฺโต [สกทาคามิสตฺโต (สี. สฺยา. ปี.)] ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโน’ติ. ปิตามโห เม [เปตฺตาปิ โย เม (สี.), ปิต ปิโย เม (สฺยา.) อ. นิ. ๖.๔๔], ภนฺเต, อิสิทตฺโต อพฺรหฺมจารี อโหสิ สทารสนฺตุฏฺโ. โสปิ กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต – ‘สกทาคามี สตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโน’ติ.

‘‘กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปราย’’นฺติ? ‘‘เอวํ โข ปเนตํ, ภคินิ, ภควตา พฺยากต’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิคสาลาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ. อถ โข, ภนฺเต, มิคสาลา อุปาสิกา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข, ภนฺเต, มิคสาลา อุปาสิกา มํ เอตทโวจ

‘กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปรายํ. ปิตา เม, ภนฺเต, ปุราโณ พฺรหฺมจารี อโหสิ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. โส กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต สกทาคามี สตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ. ปิตามโห เม, ภนฺเต, อิสิทตฺโต อพฺรหฺมจารี อโหสิ สทารสนฺตุฏฺโ. โสปิ กาลงฺกโต ภควตา พฺยากโต – สกทาคามี สตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปนฺโนติ.

กถํ กถํ นามายํ, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา ธมฺโม เทสิโต อฺเยฺโย, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมจารี จ อพฺรหฺมจารี จ อุโภ สมสมคติกา ภวิสฺสนฺติ อภิสมฺปราย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, มิคสาลํ อุปาสิกํ เอตทโวจํ – ‘เอวํ โข ปเนตํ, ภคินิ, ภควตา พฺยากต’’’นฺติ.

‘‘กา จานนฺท, มิคสาลา อุปาสิกา พาลา อพฺยตฺตา อมฺมกา อมฺมกปฺา [อมฺพกา อมฺพกปฺา (สี. ปี.), อนฺธกา อนฺธกปฺา (สฺยา.)], เก จ ปุริสปุคฺคลปโรปริเย าเณ?

‘‘ทสยิเม, อานนฺท, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ทส? อิธานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส ตํ ทุสฺสีลฺยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ, โน วิเสสาย; หานคามีเยว โหติ, โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส ตํ ทุสฺสีลฺยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ [สุปฺปฏิวิทฺธํ (สฺยา.)] โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ, โน หานาย; วิเสสคามีเยว โหติ, โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ – ‘อิมสฺสปิ เตว ธมฺมา, อปรสฺสปิ เตว ธมฺมา. กสฺมา เนสํ เอโก หีโน เอโก ปณีโต’ติ? ตฺหิ เตสํ, อานนฺท, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส ตํ ทุสฺสีลฺยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. อยํ, อานนฺท, ปุคฺคโล อมุนา ปุริเมน ปุคฺคเลน อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมํ หานนฺท, ปุคฺคลํ ธมฺมโสโต นิพฺพหติ. ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย, อฺตฺร ตถาคเตน! ตสฺมาติหานนฺท, มา ปุคฺคเลสุ ปมาณิกา อหุวตฺถ, มา ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหิตฺถ. ขฺติ หานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหนฺโต. อหํ วา, อานนฺท [อหฺจานนฺท (สี. สฺยา. ก.) อ. นิ. ๖.๔๔ ปสฺสิตพฺพํ], ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส ตํ สีลํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ, โน วิเสสาย; หานคามีเยว โหติ, โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส ตํ สีลํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ, โน หานาย; วิเสสคามีเยว โหติ, โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ…เป… อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ติพฺพราโค โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส โส ราโค อปริเสโส นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ, โน วิเสสาย; หานคามีเยว โหติ, โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ติพฺพราโค โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส โส ราโค อปริเสโส นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ, โน หานาย; วิเสสคามีเยว โหติ, โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ…เป… อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส โส โกโธ อปริเสโส นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ, โน วิเสสาย; หานคามีเยว โหติ, โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส โส โกโธ อปริเสโส นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ, โน หานาย; วิเสสคามีเยว โหติ, โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ…เป… อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุทฺธโต โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส ตํ อุทฺธจฺจํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ อกตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ อกตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ อปฺปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ น ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หานาย ปเรติ, โน วิเสสาย; หานคามีเยว โหติ, โน วิเสสคามี.

‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุทฺธโต โหติ. ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส ตํ อุทฺธจฺจํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิเสสาย ปเรติ, โน หานาย; วิเสสคามีเยว โหติ, โน หานคามี.

‘‘ตตฺรานนฺท, ปมาณิกา ปมิณนฺติ – ‘อิมสฺสปิ เตว ธมฺมา, อปรสฺสปิ เตว ธมฺมา. กสฺมา เนสํ เอโก หีโน เอโก ปณีโต’ติ? ตฺหิ เตสํ, อานนฺท, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อุทฺธโต โหติ ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส ตํ อุทฺธจฺจํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส สวเนนปิ กตํ โหติ, พาหุสจฺเจนปิ กตํ โหติ, ทิฏฺิยาปิ ปฏิวิทฺธํ โหติ, สามายิกมฺปิ วิมุตฺตึ ลภติ. อยํ, อานนฺท, ปุคฺคโล อมุนา ปุริเมน ปุคฺคเลน อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมํ หานนฺท, ปุคฺคลํ ธมฺมโสโต นิพฺพหติ. ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคเตน! ตสฺมาติหานนฺท, มา ปุคฺคเลสุ ปมาณิกา อหุวตฺถ; มา ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหิตฺถ. ขฺติ หานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺหนฺโต. อหํ วา, อานนฺท, ปุคฺคเลสุ ปมาณํ คณฺเหยฺยํ โย วา ปนสฺส มาทิโส.

‘‘กา จานนฺท, มิคสาลา อุปาสิกา พาลา อพฺยตฺตา อมฺมกา อมฺมกปฺา, เก จ ปุริสปุคฺคลปโรปริเย าเณ! อิเม โข, อานนฺท, ทส ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.

‘‘ยถารูเปน, อานนฺท, สีเลน ปุราโณ สมนฺนาคโต อโหสิ ตถารูเปน สีเลน อิสิทตฺโต สมนฺนาคโต อภวิสฺส, นยิธ ปุราโณ อิสิทตฺตสฺส คติมฺปิ อฺสฺส. ยถารูปาย จานนฺท, ปฺาย อิสิทตฺโต สมนฺนาคโต อโหสิ ตถารูปาย ปฺาย ปุราโณ สมนฺนาคโต อภวิสฺส, นยิธ อิสิทตฺโต ปุราณสฺส คติมฺปิ อฺสฺส. อิติ โข, อานนฺท, อิเม ปุคฺคลา อุโภ เอกงฺคหีนา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ตโยธมฺมสุตฺตํ

๗๖. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา โลเก น สํวิชฺเชยฺยุํ, น ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺเชยฺย อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, น ตถาคตปฺปเวทิโต ธมฺมวินโย โลเก ทิพฺเพยฺย. กตเม ตโย? ชาติ จ, ชรา จ, มรณฺจ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา โลเก น สํวิชฺเชยฺยุํ, น ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺเชยฺย อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, น ตถาคตปฺปเวทิโต ธมฺมวินโย โลเก ทิพฺเพยฺย. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ตโย ธมฺมา โลเก สํวิชฺชนฺติ ตสฺมา ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา ตถาคตปฺปเวทิโต ธมฺมวินโย โลเก ทิพฺพติ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ชาตึ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? ราคํ อปฺปหาย, โทสํ อปฺปหาย, โมหํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ชาตึ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? สกฺกายทิฏฺึ อปฺปหาย, วิจิกิจฺฉํ อปฺปหาย, สีลพฺพตปรามาสํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ สกฺกายทิฏฺึ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อโยนิโสมนสิการํ อปฺปหาย, กุมฺมคฺคเสวนํ อปฺปหาย, เจตโส ลีนตฺตํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ สกฺกายทิฏฺึ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อโยนิโส มนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? มุฏฺสจฺจํ อปฺปหาย, อสมฺปชฺํ อปฺปหาย, เจตโส วิกฺเขปํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ มุฏฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชฺํ ปหาตุํ เจตโส วิกฺเขปํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ อปฺปหาย, อริยธมฺมสฺส [อริยธมฺมํ (สฺยา.)] อโสตุกมฺยตํ อปฺปหาย, อุปารมฺภจิตฺตตํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ มุฏฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชฺํ ปหาตุํ เจตโส วิกฺเขปํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อุทฺธจฺจํ อปฺปหาย, อสํวรํ อปฺปหาย, ทุสฺสีลฺยํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อสฺสทฺธิยํ อปฺปหาย, อวทฺุตํ อปฺปหาย, โกสชฺชํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทฺุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อนาทริยํ อปฺปหาย, โทวจสฺสตํ อปฺปหาย, ปาปมิตฺตตํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทฺุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อหิริกํ อปฺปหาย, อโนตฺตปฺปํ อปฺปหาย, ปมาทํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํ.

‘‘อหิริโกยํ, ภิกฺขเว, อโนตฺตาปี ปมตฺโต โหติ. โส ปมตฺโต สมาโน อภพฺโพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํ. โส ปาปมิตฺโต สมาโน อภพฺโพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทฺุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํ. โส กุสีโต สมาโน อภพฺโพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํ. โส ทุสฺสีโล สมาโน อภพฺโพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํ. โส อุปารมฺภจิตฺโต สมาโน อภพฺโพ มุฏฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชฺํ ปหาตุํ เจตโส วิกฺเขปํ ปหาตุํ. โส วิกฺขิตฺตจิตฺโต สมาโน อภพฺโพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํ. โส ลีนจิตฺโต สมาโน อภพฺโพ สกฺกายทิฏฺึ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํ. โส วิจิกิจฺโฉ สมาโน อภพฺโพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํ. โส ราคํ อปฺปหาย โทสํ อปฺปหาย โมหํ อปฺปหาย อภพฺโพ ชาตึ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ชาตึ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ชาตึ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? สกฺกายทิฏฺึ ปหาย, วิจิกิจฺฉํ ปหาย, สีลพฺพตปรามาสํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ สกฺกายทิฏฺึ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อโยนิโสมนสิการํ ปหาย, กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาย, เจตโส ลีนตฺตํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ สกฺกายทิฏฺึ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? มุฏฺสจฺจํ ปหาย, อสมฺปชฺํ ปหาย, เจตโส วิกฺเขปํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ มุฏฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชฺํ ปหาตุํ เจตโส วิกฺเขปํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาย, อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาย, อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ มุฏฺสฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชฺํ ปหาตุํ เจตโส วิกฺเขปํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อุทฺธจฺจํ ปหาย, อสํวรํ ปหาย, ทุสฺสีลฺยํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อสฺสทฺธิยํ ปหาย, อวทฺุตํ ปหาย, โกสชฺชํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทฺุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อนาทริยํ ปหาย, โทวจสฺสตํ ปหาย, ปาปมิตฺตตํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทฺุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํ. กตเม ตโย? อหิริกํ ปหาย, อโนตฺตปฺปํ ปหาย, ปมาทํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํ.

‘‘หิรีมายํ, ภิกฺขเว, โอตฺตาปี อปฺปมตฺโต โหติ. โส อปฺปมตฺโต สมาโน ภพฺโพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํ. โส กลฺยาณมิตฺโต สมาโน ภพฺโพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทฺุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํ. โส อารทฺธวีริโย สมาโน ภพฺโพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํ. โส สีลวา สมาโน ภพฺโพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํ. โส อนุปารมฺภจิตฺโต สมาโน ภพฺโพ มุฏฺสฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชฺํ ปหาตุํ เจตโส วิกฺเขปํ ปหาตุํ. โส อวิกฺขิตฺตจิตฺโต สมาโน ภพฺโพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํ. โส อลีนจิตฺโต สมาโน ภพฺโพ สกฺกายทิฏฺึ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํ. โส อวิจิกิจฺโฉ สมาโน ภพฺโพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํ. โส ราคํ ปหาย โทสํ ปหาย โมหํ ปหาย ภพฺโพ ชาตึ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุ’’นฺติ. ฉฏฺํ.

๗. กากสุตฺตํ

๗๗. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต กาโก. กตเมหิ ทสหิ? ธํสี จ, ปคพฺโภ จ, ตินฺติโณ [นิลฺลชฺโช (ก.) ตินฺติโณติ ตินฺติณํ วุจฺจติ ตณฺหา… (สี. สฺยา. อฏฺ.) อภิธมฺเม ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค ตินฺติณปทนิทฺเทเส ปสฺสิตพฺพํ] จ, มหคฺฆโส จ, ลุทฺโท จ, อการุณิโก จ, ทุพฺพโล จ, โอรวิตา จ, มุฏฺสฺสติ จ, เนจยิโก [เนรสิโก (สี.) ตทฏฺกถายํ ปน ‘‘เนจยิโก’’ ตฺเวว ทิสฺสติ] จ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต กาโก. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปาปภิกฺขุ. กตเมหิ ทสหิ? ธํสี จ, ปคพฺโภ จ, ตินฺติโณ จ, มหคฺฆโส จ, ลุทฺโท จ, อการุณิโก จ, ทุพฺพโล จ, โอรวิตา จ, มุฏฺสฺสติ จ, เนจยิโก จ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปาปภิกฺขู’’ติ. สตฺตมํ.

๘. นิคณฺสุตฺตํ

๗๘. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคตา นิคณฺา. กตเมหิ ทสหิ? อสฺสทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา; ทุสฺสีลา, ภิกฺขเว, นิคณฺา; อหิริกา, ภิกฺขเว, นิคณฺา; อโนตฺตปฺปิโน, ภิกฺขเว, นิคณฺา; อสปฺปุริสสมฺภตฺติโน, ภิกฺขเว, นิคณฺา; อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกา, ภิกฺขเว, นิคณฺา; สนฺทิฏฺิปรามาสา อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคิโน, ภิกฺขเว, นิคณฺา; กุหกา, ภิกฺขเว, นิคณฺา; ปาปิจฺฉา, ภิกฺขเว, นิคณฺา; ปาปมิตฺตา, ภิกฺขเว, นิคณฺา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคตา นิคณฺา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อาฆาตวตฺถุสุตฺตํ

๗๙. [อ. นิ. ๙.๒๙] ‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, อาฆาตวตฺถูนิ. กตมานิ ทส? ‘อนตฺถํ เม อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจรี’ติ…เป… ‘อนตฺถํ จรตี’ติ…เป… ‘อนตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจรี’ติ…เป… ‘อตฺถํ จรตี’ติ…เป… ‘อตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; อฏฺาเน จ กุปฺปติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส อาฆาตวตฺถูนี’’ติ. นวมํ.

๑๐. อาฆาตปฏิวินยสุตฺตํ

๘๐. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อาฆาตปฏิวินยา. กตเม ทส? ‘อนตฺถํ เม อจริ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ, ‘อนตฺถํ เม จรติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ, ‘อนตฺถํ เม จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ, ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ…เป… จรติ…เป… จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ, อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ…เป… อตฺถํ จรติ…เป… อตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ, อฏฺาเน จ น กุปฺปติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อาฆาตปฏิวินยา’’ติ. ทสมํ.

อากงฺขวคฺโค ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

อากงฺโข กณฺฏโก อิฏฺา, วฑฺฒิ จ มิคสาลาย;

ตโย ธมฺมา จ กาโก จ, นิคณฺา ทฺเว จ อาฆาตาติ.

(๙) ๔. เถรวคฺโค

๑. วาหนสุตฺตํ

๘๑. เอกํ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. อถ โข อายสฺมา วาหโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา วาหโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรตี’’ติ?

‘‘ทสหิ โข, วาหน, ธมฺเมหิ ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. กตเมหิ ทสหิ? รูเปน โข, วาหน, ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ, เวทนาย โข, วาหน…เป… สฺาย โข, วาหน… สงฺขาเรหิ โข, วาหน… วิฺาเณน โข, วาหน… ชาติยา โข, วาหน… ชราย โข, วาหน… มรเณน โข, วาหน… ทุกฺเขหิ โข, วาหน… กิเลเสหิ โข, วาหน, ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. เสยฺยถาปิ, วาหน, อุปฺปลํ วา ปทุมํ วา ปุณฺฑรีกํ วา อุทเก ชาตํ อุทเก สํวฑฺฒํ อุทกา ปจฺจุคฺคมฺม ิตํ อนุปลิตฺตํ อุทเกน; เอวเมวํ โข, วาหน, อิเมหิ ทสหิ ธมฺเมหิ ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรตี’’ติ. ปมํ.

๒. อานนฺทสุตฺตํ

๘๒. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อสฺสทฺโธ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ทุสฺสีโล สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อปฺปสฺสุโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ทุพฺพโจ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ปาปมิตฺโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘กุสีโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘มุฏฺสฺสติ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อสนฺตุฏฺโ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ปาปิจฺโฉ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘มิจฺฉาทิฏฺิโก สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อิเมหิ ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สทฺโธ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สีลวา สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘พหุสฺสุโต สุตธโร สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สุวโจ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘กลฺยาณมิตฺโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อารทฺธวีริโย สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อุปฏฺิตสฺสติ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สนฺตุฏฺโ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อปฺปิจฺโฉ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สมฺมาทิฏฺิโก สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อิเมหิ ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปุณฺณิยสุตฺตํ

๘๓. อถ โข อายสฺมา ปุณฺณิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ปุณฺณิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อปฺเปกทา ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ อปฺเปกทา นปฺปฏิภาตี’’ติ?

‘‘สทฺโธ จ, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ โหติ, โน จ อุปสงฺกมิตา; เนว ตาว ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ. ยโต จ โข, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ อุปสงฺกมิตา จ, เอวํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ.

‘‘สทฺโธ จ, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ โหติ อุปสงฺกมิตา จ, โน จ ปยิรุปาสิตา…เป… ปยิรุปาสิตา จ, โน จ ปริปุจฺฉิตา… ปริปุจฺฉิตา จ, โน จ โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ… โอหิตโสโต จ ธมฺมํ สุณาติ, โน จ สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรติ… สุตฺวา จ ธมฺมํ ธาเรติ, โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ… ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ… อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ, โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา… กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ, เนว ตาว ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ.

‘‘ยโต จ โข, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, อุปสงฺกมิตา จ, ปยิรุปาสิตา จ, ปริปุจฺฉิตา จ, โอหิตโสโต จ ธมฺมํ สุณาติ, สุตฺวา จ ธมฺมํ ธาเรติ, ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ, อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ, กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ – เอวํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ. อิเมหิ โข, ปุณฺณิย, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา [สมนฺนาคโต (ก.)] [เอกนฺตํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาตีติ (สฺยา.)] เอกนฺตปฏิภานา [เอกนฺตปฏิภานํ (สี.)] ตถาคตํ ธมฺมเทสนา โหตี’’ติ [เอกนฺตํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาตีติ (สฺยา.)]. ตติยํ.

๔. พฺยากรณสุตฺตํ

๘๔. ตตฺร โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ [วิสินํ (สี. อฏฺ.)] อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ?

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘โกธโน โข อยมายสฺมา; โกธปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. โกธปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อุปนาหี โข ปน อยมายสฺมา; อุปนาหปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อุปนาหปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มกฺขี โข ปน อยมายสฺมา; มกฺขปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. มกฺขปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปฬาสี โข ปน อยมายสฺมา; ปฬาสปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. ปฬาสปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อิสฺสุกี โข ปน อยมายสฺมา; อิสฺสาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อิสฺสาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มจฺฉรี โข ปน อยมายสฺมา; มจฺเฉรปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. มจฺเฉรปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สโ โข ปน อยมายสฺมา; สาเยฺยปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. สาเยฺยปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มายาวี โข ปน อยมายสฺมา; มายาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. มายาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปาปิจฺโฉ โข ปน อยมายสฺมา; อิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อิจฺฉาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สติ [มุฏฺสฺสติ (สี. สฺยา.)] โข ปน อยมายสฺมา อุตฺตริ กรณีเย โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตรา โวสานํ อาปนฺโน. อนฺตรา โวสานคมนํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม อปฺปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม ปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. กตฺถีสุตฺตํ

๘๕. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหาจุนฺโท เจตีสุ วิหรติ สหชาติยํ. ตตฺร โข อายสฺมา มหาจุนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาจุนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหาจุนฺโท เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – ‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ…เป… อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา ขณฺฑการี ฉิทฺทการี สพลการี กมฺมาสการี น สนฺตตการี น สนฺตตวุตฺติ สีเลสุ. ทุสฺสีโล โข อยมายสฺมา. ทุสฺสิลฺยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อสฺสทฺโธ โข ปน อยมายสฺมา; อสฺสทฺธิยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อปฺปสฺสุโต โข ปน อยมายสฺมา อนาจาโร; อปฺปสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุพฺพโจ โข ปน อยมายสฺมา; โทวจสฺสตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปาปมิตฺโต โข ปน อยมายสฺมา; ปาปมิตฺตตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุสีโต โข ปน อยมายสฺมา; โกสชฺชํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มุฏฺสฺสติ โข ปน อยมายสฺมา; มุฏฺสฺสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุหโก โข ปน อยมายสฺมา; โกหฺํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุพฺภโร โข ปน อยมายสฺมา; ทุพฺภรตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุปฺปฺโ โข ปน อยมายสฺมา; ทุปฺปฺตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สหายโก สหายกํ เอวํ วเทยฺย – ‘ยทา เต, สมฺม, ธเนน [พนฺโธ (ก.)] ธนกรณียํ อสฺส, ยาเจยฺยาสิ มํ [ยาจิสฺสสิ มํ (สี.), ปเวเทยฺยาสิ มํ (สฺยา.), ปราเชยฺยาปิ มํ (ก.)] ธนํ. ทสฺสามิ เต ธน’นฺติ. โส กิฺจิเทว ธนกรณีเย สมุปฺปนฺเน สหายโก สหายกํ เอวํ วเทยฺย – ‘อตฺโถ เม, สมฺม, ธเนน. เทหิ เม ธน’นฺติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘เตน หิ, สมฺม, อิธ ขนาหี’ติ. โส ตตฺร ขนนฺโต นาธิคจฺเฉยฺย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘อลิกํ มํ, สมฺม, อวจ; ตุจฺฉกํ มํ, สมฺม, อวจ – อิธ ขนาหี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นาหํ ตํ, สมฺม, อลิกํ อวจํ, ตุจฺฉกํ อวจํ. เตน หิ, สมฺม, อิธ ขนาหี’ติ. โส ตตฺรปิ ขนนฺโต นาธิคจฺเฉยฺย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘อลิกํ มํ, สมฺม, อวจ, ตุจฺฉกํ มํ, สมฺม, อวจ – อิธ ขนาหี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นาหํ ตํ, สมฺม, อลิกํ อวจํ, ตุจฺฉกํ อวจํ. เตน หิ, สมฺม, อิธ ขนาหี’ติ. โส ตตฺรปิ ขนนฺโต นาธิคจฺเฉยฺย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘อลิกํ มํ, สมฺม, อวจ, ตุจฺฉกํ มํ, สมฺม, อวจ – อิธ ขนาหี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นาหํ ตํ, สมฺม, อลิกํ อวจํ, ตุจฺฉกํ อวจํ. อปิ จ อหเมว อุมฺมาทํ ปาปุณึ เจตโส วิปริยาย’นฺติ.

‘‘เอวเมวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – ‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ…เป… อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา ขณฺฑการี ฉิทฺทการี สพลการี กมฺมาสการี, น สนฺตตการี น สนฺตตวุตฺติ สีเลสุ. ทุสฺสีโล โข อยมายสฺมา; ทุสฺสิลฺยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อสฺสทฺโธ โข ปน อยมายสฺมา; อสฺสทฺธิยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อปฺปสฺสุโต โข ปน อยมายสฺมา อนาจาโร; อปฺปสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุพฺพโจ โข ปน อยมายสฺมา; โทวจสฺสตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปาปมิตฺโต โข ปน อยมายสฺมา; ปาปมิตฺตตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุสีโต โข ปน อยมายสฺมา; โกสชฺชํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มุฏฺสฺสติ โข ปน อยมายสฺมา; มุฏฺสฺสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุหโก โข ปน อยมายสฺมา; โกหฺํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุพฺภโร โข ปน อยมายสฺมา; ทุพฺภรตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุปฺปฺโ โข ปน อยมายสฺมา; ทุปฺปฺตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม อปฺปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม ปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อธิมานสุตฺตํ

๘๖. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากสฺสโป ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหากสฺสโป เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘อธิมานิโก โข อยมายสฺมา อธิมานสจฺโจ, อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี, อกเต กตสฺี, อนธิคเต อธิคตสฺี. อธิมาเนน อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา นิสฺสาย อธิมานิโก อธิมานสจฺโจ, อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี, อกเต กตสฺี, อนธิคเต อธิคตสฺี. อธิมาเนน อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘พหุสฺสุโต โข ปน อยมายสฺมา สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. ตสฺมา อยมายสฺมา อธิมานิโก อธิมานสจฺโจ, อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี, อกเต กตสฺี, อนธิคเต อธิคตสฺี. อธิมาเนน อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘อภิชฺฌาลุ โข ปน อยมายสฺมา; อภิชฺฌาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อภิชฺฌาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘พฺยาปนฺโน โข ปน อยมายสฺมา; พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. พฺยาปาทปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ถินมิทฺโธ โข ปน อยมายสฺมา; ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. ถินมิทฺธปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อุทฺธโต โข ปน อยมายสฺมา; อุทฺธจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อุทฺธจฺจปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘วิจิกิจฺโฉ โข ปน อยมายสฺมา; วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กมฺมาราโม โข ปน อยมายสฺมา กมฺมรโต กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต. กมฺมารามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ภสฺสาราโม โข ปน อยมายสฺมา ภสฺสรโต ภสฺสารามตํ อนุยุตฺโต. ภสฺสารามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘นิทฺทาราโม โข ปน อยมายสฺมา นิทฺทารโต นิทฺทารามตํ อนุยุตฺโต. นิทฺทารามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สงฺคณิการาโม โข ปน อยมายสฺมา สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต. สงฺคณิการามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สติ โข ปน อยมายสฺมา อุตฺตริ กรณีเย โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตรา โวสานํ อาปนฺโน. อนฺตรา โวสานคมนํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม อปฺปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม ปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. นปฺปิยสุตฺตํ

๘๗. ตตฺร โข ภควา กาลงฺกตํ ภิกฺขุํ [กลนฺทกํ ภิกฺขุํ (สี.), กาฬกภิกฺขุํ (สฺยา.)] อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิกรณิโก โหติ, อธิกรณสมถสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิกรณิโก โหติ อธิกรณสมถสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สิกฺขากาโม โหติ, สิกฺขาสมาทานสฺส [สิกฺขากามสฺส (ก.)] น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สิกฺขากาโม โหติ สิกฺขาสมาทานสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ โหติ, อิจฺฉาวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ โหติ อิจฺฉาวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ, โกธวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ โกธวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ, มกฺขวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ มกฺขวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโ โหติ, สาเยฺยวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโ โหติ สาเยฺยวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มายาวี โหติ, มายาวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มายาวี โหติ มายาวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ น นิสามกชาติโก โหติ, ธมฺมนิสนฺติยา น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ น นิสามกชาติโก โหติ ธมฺมนิสนฺติยา น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปฏิสลฺลีโน โหติ, ปฏิสลฺลานสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปฏิสลฺลีโน โหติ ปฏิสลฺลานสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ น ปฏิสนฺถารโก [ปฏิสนฺธารโก (ก.)] โหติ, ปฏิสนฺถารกสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ น ปฏิสนฺถารโก โหติ ปฏิสนฺถารกสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘เอวรูปสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ [ครุกเรยฺยุํ (สี. สฺยา.)] มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี น เจว สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ [ครุกโรนฺติ (สี. สฺยา.)] น มาเนนฺติ น ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อปฺปหีเน สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺกสฺส กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ มนุสฺสา อาชานียฏฺาเน เปยฺยุํ, อาชานียโภชนฺจ โภเชยฺยุํ, อาชานียปริมชฺชนฺจ ปริมชฺเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ มนุสฺสา น เจว อาชานียฏฺาเน เปนฺติ น จ อาชานียโภชนํ โภเชนฺติ น จ อาชานียปริมชฺชนํ ปริมชฺชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู มนุสฺสา ตานิ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ อปฺปหีนานิ สมนุปสฺสนฺติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี น เจว สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อปฺปหีเน สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อธิกรณิโก โหติ, อธิกรณสมถสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อธิกรณิโก โหติ อธิกรณสมถสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตาย ครุตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สิกฺขากาโม โหติ, สิกฺขาสมาทานสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สิกฺขากาโม โหติ สิกฺขาสมาทานสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตาย ครุตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปิจฺโฉ โหติ, อิจฺฉาวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปิจฺโฉ โหติ อิจฺฉาวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกธโน โหติ, โกธวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกธโน โหติ โกธวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อมกฺขี โหติ, มกฺขวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อมกฺขี โหติ มกฺขวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสโ โหติ, สาเยฺยวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสโ โหติ สาเยฺยวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อมายาวี โหติ, มายาวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อมายาวี โหติ มายาวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ นิสามกชาติโก โหติ, ธมฺมนิสนฺติยา วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ นิสามกชาติโก โหติ ธมฺมนิสนฺติยา วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสลฺลีโน โหติ, ปฏิสลฺลานสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสลฺลีโน โหติ ปฏิสลฺลานสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปฏิสนฺถารโก โหติ, ปฏิสนฺถารกสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปฏิสนฺถารโก โหติ ปฏิสนฺถารกสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตาย ครุตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘เอวรูปสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ภทฺทสฺส อสฺสาชานียสฺส กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ มนุสฺสา อาชานียฏฺาเน เปยฺยุํ, อาชานียโภชนฺจ โภเชยฺยุํ, อาชานียปริมชฺชนฺจ ปริมชฺเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ มนุสฺสา อาชานียฏฺาเน จ เปนฺติ อาชานียโภชนฺจ โภเชนฺติ อาชานียปริมชฺชนฺจ ปริมชฺชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู มนุสฺสา ตานิ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ ปหีนานิ สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน สมนุปสฺสนฺตี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. อกฺโกสกสุตฺตํ

๘๘. ‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสกปริภาสโก อริยูปวาที สพฺรหฺมจารีนํ านเมตํ อวกาโส [อฏฺานเมตํ อนวกาโส (สี. สฺยา. ปี.)] ยํ โส ทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺย [น นิคจฺเฉยฺย (สี. สฺยา. ปี.)]. กตเมสํ ทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธมฺเมสุ วา อธิมานิโก โหติ อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตกฺเขปํ, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสกปริภาสโก อริยูปวาที สพฺรหฺมจารีนํ, านเมตํ อวกาโส ยํ โส อิเมสํ ทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺยา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. โกกาลิกสุตฺตํ

๘๙. [สํ. นิ. ๑.๑๘๑; สุ. นิ. โกกาลิกสุตฺต] อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปาปิจฺฉา, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ เม, ภนฺเต, ภควา สทฺธายิโก ปจฺจยิโก, อถ โข ปาปิจฺฉาว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

ตติยมฺปิ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ เม, ภนฺเต, ภควา สทฺธายิโก ปจฺจยิโก, อถ โข ปาปิจฺฉาว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อจิรปกฺกนฺตสฺส จ โกกาลิกสฺส ภิกฺขุโน สาสปมตฺตีหิ ปีฬกาหิ สพฺโพ กาโย ผุโฏ อโหสิ. สาสปมตฺติโย หุตฺวา มุคฺคมตฺติโย อเหสุํ, มุคฺคมตฺติโย หุตฺวา กลายมตฺติโย อเหสุํ, กลายมตฺติโย หุตฺวา โกลฏฺิมตฺติโย อเหสุํ, โกลฏฺิมตฺติโย หุตฺวา โกลมตฺติโย อเหสุํ, โกลมตฺติโย หุตฺวา อามลกมตฺติโย อเหสุํ, อามลกมตฺติโย หุตฺวา (ติณฺฑุกมตฺติโย อเหสุํ, ติณฺฑุกมตฺติโย หุตฺวา,) [สํ. นิ. ๑.๑๘๑; สุ. นิ. โกกาลิกสุตฺต นตฺถิ] เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย อเหสุํ, เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย หุตฺวา พิลฺลมตฺติโย อเหสุํ, พิลฺลมตฺติโย หุตฺวา ปภิชฺชึสุ, ปุพฺพฺจ โลหิตฺจ ปคฺฆรึสุ. โส สุทํ กทลิปตฺเตสุ เสติ มจฺโฉว วิสคิลิโต.

อถ โข ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา [ตุทุปฺปจฺเจกพฺรหฺมา (สี. ปี.), ตุทิ ปจฺเจกพฺรหฺมา (สฺยา.), ตุริ ปจฺเจกพฺรหฺมา (ก.) สํ. นิ. ๑.๑๘๐] เยน โกกาลิโก ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เวหาเส ตฺวา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ. ‘‘โกสิ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ? ‘‘อหํ ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา’’ติ. ‘‘นนุ ตฺวํ, อาวุโส, ภควตา อนาคามี พฺยากโต, อถ กิฺจรหิ อิธาคโต? ปสฺส ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’’นฺติ.

อถ โข ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘‘ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส, กุารี ชายเต มุเข;

ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.

‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;

วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.

‘‘อปฺปมตฺตโก อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;

สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหตฺตโร กลิ;

โย สุคเตสุ มนํ ปทูสเย.

‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสติ ปฺจ จ อพฺพุทานิ;

ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ.

อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เตเนว อาพาเธน กาลมกาสิ. กาลงฺกโต จ โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปชฺชติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา.

อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โกกาลิโก, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต. กาลงฺกโต จ, ภนฺเต, โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ. อิทํ วตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ มํ เอตทโวจ – ‘โกกาลิโก, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต; กาลงฺกโต จ, ภนฺเต, โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กีว ทีฆํ นุ โข, ภนฺเต, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณ’’นฺติ? ‘‘ทีฆํ โข, ภิกฺขุ, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณํ. น ตํ สุกรํ สงฺขาตุํ – ‘เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา’’’ติ.

‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อุปมํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา, ภิกฺขู,’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห ตโต ปุริโส วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน เอกเมกํ ติลํ อุทฺธเรยฺย. ขิปฺปตรํ โข โส, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห อิมินา อุปกฺกเมน ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย, น ตฺเวว เอโก อพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก นิรพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ นิรพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก อพโพ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพพา นิรยา, เอวเมโก อฏโฏ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อฏฏา นิรยา, เอวเมโก อหโห นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อหหา นิรยา, เอวเมโก กุมุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ กุมุทา นิรยา, เอวเมโก โสคนฺธิโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ โสคนฺธิกา นิรยา, เอวเมโก อุปฺปลโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อุปฺปลกา นิรยา, เอวเมโก ปุณฺฑรีโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ ปุณฺฑรีกา นิรยา, เอวเมโก ปทุโม นิรโย. ปทุมํ โข ปน, ภิกฺขุ, นิรยํ โกกาลิโก ภิกฺขุ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส, กุารี ชายเต มุเข;

ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.

‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;

วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.

‘‘อปฺปมตฺตโก อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;

สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหตฺตโร กลิ;

โย สุคเตสุ มนํ ปทูสเย.

‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสติ ปฺจ จ อพฺพุทานิ;

ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ. นวมํ;

๑๐. ขีณาสวพลสุตฺตํ

๙๐. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, สาริปุตฺต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ?

‘‘ทส, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ. กตมานิ ทส? [อ. นิ. ๘.๒๘; ปฏิ. ม. ๒.๔๔] อิธ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา…เป… จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา …เป… ปฺจินฺทฺริยานิ… ปฺจ พลานิ ภาวิตานิ โหนฺติ สุภาวิตานิ… สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘อิมานิ โข, ภนฺเต, ทส ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ. ทสมํ.

เถรวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

วาหนานนฺโท ปุณฺณิโย, พฺยากรํ กตฺถิมานิโก;

นปิยกฺโกสโกกาลิ, ขีณาสวพเลน จาติ.

(๑๐) ๕. อุปาลิวคฺโค

๑. กามโภคีสุตฺตํ

๙๑. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –

‘‘ทสยิเม, คหปติ, กามโภคี สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ทส? อิธ, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน; อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ [น อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ] น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน; อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน; อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ; ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ; ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ; ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ. เต จ โภเค คถิโต [คธิโต (ก.) อ. นิ. ๓.๑๒๔ ปสฺสิตพฺพํ] มุจฺฉิโต อชฺโฌสนฺโน [อชฺฌาปนฺโน (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๓.๑๒๔ สุตฺตวณฺณนา ฏีกา โอโลเกตพฺพา] อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ.

‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ. เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ตีหิ าเนหิ คารยฺโห. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. ‘น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ าเนหิ คารยฺโห.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรตี’ติ อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี เอเกน าเนน คารยฺโห ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห, อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี เอเกน าเนน ปาสํโส ตีหิ าเนหิ คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. ‘น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส อิเมหิ ตีหิ าเนหิ คารยฺโห.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ตีหิ าเนหิ ปาสํโส เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน ปาสํโส. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ าเนหิ ปาสํโส อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี เอเกน าเนน ปาสํโส ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห. ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณตี’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘น สํวิภชติ น ปุฺานิ กโรตี’ติ อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห.

‘‘ตตฺร, คหปติ ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ, เต จ โภเค คถิโต มุจฺฉิโต อชฺโฌสนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ตีหิ าเนหิ ปาสํโส เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน ปาสํโส. ‘เต จ โภเค คถิโต มุจฺฉิโต อชฺโฌสนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชตี’ติ, อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ าเนหิ ปาสํโส อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห.

‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ, เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี จตูหิ าเนหิ ปาสํโส. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปุฺานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน ปาสํโส. ‘เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชตี’ติ, อิมินา จตุตฺเถน าเนน ปาสํโส. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาสํโส.

‘‘อิเม โข, คหปติ, ทส กามโภคี สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ โข, คหปติ, ทสนฺนํ กามโภคีนํ ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ, เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ, อยํ อิเมสํ ทสนฺนํ กามโภคีนํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข [โมกฺโข (ก. สี.) อ. นิ. ๔.๙๕; ๕.๑๘๑; สํ. นิ. ๓.๖๖๒] จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ. สปฺปิมณฺโฑ ตตฺถ อคฺคมกฺขายติ.

เอวเมวํ โข, คหปติ, อิเมสํ ทสนฺนํ กามโภคีนํ ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุฺานิ กโรติ, เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ, อยํ อิเมสํ ทสนฺนํ กามโภคีนํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข [โมกฺโข (ก. สี.) อ. นิ. ๕.๑๘๑] จ อุตฺตโม จ ปวโร จา’’ติ. ปมํ.

๒. ภยสุตฺตํ

๙๒. [อ. นิ. ๙.๒๗; สํ. นิ. ๕.๑๐๒๔] อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยโต, โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, จตูหิ จ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, อริโย จสฺส าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ, โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต. โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ.

‘‘กตมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ? ยํ, คหปติ, ปาณาติปาตี ปาณาติปาตปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต เนว ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ [เนว ทิฏฺธมฺมิกํ] ภยํ เวรํ ปสวติ น สมฺปรายิกมฺปิ [น สมฺปรายิกํ] ภยํ เวรํ ปสวติ น เจตสิกมฺปิ [น เจตสิกํ (สี. สฺยา. ปี.)] ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺส เอวํ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ.

‘‘ยํ, คหปติ, อทินฺนาทายี…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารี… มุสาวาที… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต เนว ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ น สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตสฺส เอวํ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ. อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ.

‘‘กตเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ; ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ; สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ; อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ ‘อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺุปฺปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ’. อิเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘กตโม จสฺส อริโย าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อิติ อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ; อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ; อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ; อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ, ยทิทํ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ; อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ…เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’ติ. อยฺจสฺส อริโย าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ.

‘‘ยโต โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, อิเมหิ จ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, อยฺจสฺส อริโย าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ, โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต; โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ. ทุติยํ.

๓. กึทิฏฺิกสุตฺตํ

๙๓. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ทิวา ทิวสฺส สาวตฺถิยา นิกฺขมิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ตาว ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีโน ภควา. มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อกาโล ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนียา ภิกฺขู. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.

อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สงฺคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ. อทฺทสํสุ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อฺมฺํ สณฺาเปสุํ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อารามํ อาคจฺฉติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก. ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อฺตโร อนาถปิณฺฑิโก คหปติ. อปฺปสทฺทกามา โข ปน เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ.

อถ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ – ‘‘วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิโก สมโณ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, ภควโต สพฺพํ ทิฏฺึ ชานามี’’ติ.

‘‘อิติ กิร ตฺวํ, คหปติ, น สมณสฺส โคตมสฺส สพฺพํ ทิฏฺึ ชานาสิ; วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิกา ภิกฺขู’’ติ? ‘‘ภิกฺขูนมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, น สพฺพํ ทิฏฺึ ชานามี’’ติ.

‘‘อิติ กิร ตฺวํ, คหปติ, น สมณสฺส โคตมสฺส สพฺพํ ทิฏฺึ ชานาสิ นปิ ภิกฺขูนํ สพฺพํ ทิฏฺึ ชานาสิ; วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิโกสิ ตุว’’นฺติ? ‘‘เอตํ โข, ภนฺเต, อมฺเหหิ น ทุกฺกรํ พฺยากาตุํ ยํทิฏฺิกา มยํ. อิงฺฆ ตาว อายสฺมนฺโต ยถาสกานิ ทิฏฺิคตานิ พฺยากโรนฺตุ, ปจฺฉาเปตํ อมฺเหหิ น ทุกฺกรํ ภวิสฺสติ พฺยากาตุํ ยํทิฏฺิกา มย’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’’ติ.

อฺตโรปิ โข ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’’ติ.

อฺตโรปิ โข ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ – ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, อายสฺมา เอวมาห – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’ติ, อิมสฺส อยมายสฺมโต ทิฏฺิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วา. สา โข ปเนสา ทิฏฺิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโต.

‘‘โยปายํ, ภนฺเต, อายสฺมา เอวมาห – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’ติ, อิมสฺสาปิ อยมายสฺมโต ทิฏฺิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วา. สา โข ปเนสา ทิฏฺิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโต.

‘‘โยปายํ, ภนฺเต, อายสฺมา เอวมาห – ‘อนฺตวา โลโก …เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’ติ, อิมสฺสาปิ อยมายสฺมโต ทิฏฺิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วา. สา โข ปเนสา ทิฏฺิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโต’’ติ.

เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจุํ – ‘‘พฺยากตานิ โข, คหปติ, อมฺเหหิ สพฺเพเหว ยถาสกานิ ทิฏฺิคตานิ. วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิโกสิ ตุว’’นฺติ? ‘‘ยํ โข, ภนฺเต, กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ‘ยํ ทุกฺขํ ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, ภนฺเต’’ติ.

‘‘ยํ โข, คหปติ, กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทว ตฺวํ, คหปติ, อลฺลีโน, ตเทว ตฺวํ, คหปติ, อชฺฌุปคโต’’ติ.

‘‘ยํ โข, ภนฺเต, กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ‘ยํ ทุกฺขํ ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, นเมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ. ตสฺส จ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานามี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหีภูตา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เต ปริพฺพาชเก ตุณฺหีภูเต มงฺกุภูเต ปตฺตกฺขนฺเธ อโธมุเข ปชฺฌายนฺเต อปฺปฏิภาเน วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ยาวตโก อโหสิ เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ. ‘‘สาธุ สาธุ, คหปติ! เอวํ โข เต, คหปติ, โมฆปุริสา กาเลน กาลํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตพฺพา’’ติ.

อถ โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต อนาถปิณฺฑิเก คหปติมฺหิ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วสฺสสตุปสมฺปนฺโน [ภิกฺขุ ทีฆรตฺตํ อเวธิ ธมฺโม (สฺยา.)] อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, โสปิ เอวเมวํ อฺติตฺถิเย ปริพฺพาชเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺเหยฺย ยถา ตํ อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา นิคฺคหิตา’’ติ. ตติยํ.

๔. วชฺชิยมาหิตสุตฺตํ

๙๔. เอกํ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ ทิวา ทิวสฺส จมฺปาย นิกฺขมิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข วชฺชิยมาหิตสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ตาว ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีโน ภควา. มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อกาโล ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนียาปิ ภิกฺขู. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.

อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สงฺคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ.

อทฺทสํสุ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา วชฺชิยมาหิตํ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อฺมฺํ สณฺาเปสุํ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ. มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ วชฺชิยมาหิโต คหปติ อาคจฺฉติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก. ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา จมฺปายํ ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อฺตโร วชฺชิยมาหิโต คหปติ. อปฺปสทฺทกามา โข ปน เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ.

อถ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ เยน เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วชฺชิยมาหิตํ คหปตึ เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ – ‘‘สจฺจํ กิร, คหปติ, สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี’’ติ? ‘‘น โข, ภนฺเต, ภควา สพฺพํ ตปํ ครหติ นปิ สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทติ. คารยฺหํ โข, ภนฺเต, ภควา ครหติ, ปสํสิตพฺพํ ปสํสติ. คารยฺหํ โข ปน, ภนฺเต, ภควา ครหนฺโต ปสํสิตพฺพํ ปสํสนฺโต วิภชฺชวาโท ภควา. น โส ภควา เอตฺถ เอกํสวาโท’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ปริพฺพาชโก วชฺชิยมาหิตํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ, คหปติ, ยสฺส ตฺวํ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สมโณ โคตโม เวนยิโก อปฺปฺตฺติโก’’ติ? ‘‘เอตฺถปาหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต วกฺขามิ สหธมฺเมน – ‘อิทํ กุสล’นฺติ, ภนฺเต, ภควตา ปฺตฺตํ; ‘อิทํ อกุสล’นฺติ, ภนฺเต, ภควตา ปฺตฺตํ. อิติ กุสลากุสลํ ภควา ปฺาปยมาโน สปฺตฺติโก ภควา; น โส ภควา เวนยิโก อปฺปฺตฺติโก’’ติ.

เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหีภูตา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ. อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ เต ปริพฺพาชเก ตุณฺหีภูเต มงฺกุภูเต ปตฺตกฺขนฺเธ อโธมุเข ปชฺฌายนฺเต อปฺปฏิภาเน วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ ยาวตโก อโหสิ เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.

‘‘สาธุ สาธุ, คหปติ! เอวํ โข เต, คหปติ, โมฆปุริสา กาเลน กาลํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตพฺพา. นาหํ, คหปติ, สพฺพํ ตปํ ตปิตพฺพนฺติ วทามิ; น จ ปนาหํ, คหปติ, สพฺพํ ตปํ น ตปิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺพํ สมาทานํ สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, คหปติ, สพฺพํ สมาทานํ น สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺพํ ปธานํ ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, คหปติ, สพฺพํ ปธานํ น ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺโพ ปฏินิสฺสคฺโค ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ. น ปนาหํ, คหปติ, สพฺโพ ปฏินิสฺสคฺโค น ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺพา วิมุตฺติ วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามิ; น ปนาหํ, คหปติ, สพฺพา วิมุตฺติ น วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามิ.

‘‘ยฺหิ, คหปติ, ตปํ ตปโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ ตปํ น ตปิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส คหปติ, ตปํ ตปโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ ตปํ ตปิตพฺพนฺติ วทามิ.

‘‘ยฺหิ, คหปติ, สมาทานํ สมาทิยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ สมาทานํ น สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, สมาทานํ สมาทิยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ สมาทานํ สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ.

‘‘ยฺหิ, คหปติ, ปธานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ ปธานํ น ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, ปธานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ ปธานํ ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ.

‘‘ยฺหิ, คหปติ, ปฏินิสฺสคฺคํ ปฏินิสฺสชฺชโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป ปฏินิสฺสคฺโค น ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, ปฏินิสฺสคฺคํ ปฏินิสฺสชฺชโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูโป ปฏินิสฺสคฺโค ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ.

‘‘ยฺหิ, คหปติ, วิมุตฺตึ วิมุจฺจโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปา วิมุตฺติ น วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, วิมุตฺตึ วิมุจฺจโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปา วิมุตฺติ วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามี’’ติ.

อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต วชฺชิยมาหิเต คหปติมฺหิ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺโข อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, โสปิ เอวเมวํ อฺติตฺถิเย ปริพฺพาชเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺเหยฺย ยถา ตํ วชฺชิยมาหิเตน คหปตินา นิคฺคหิตา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. อุตฺติยสุตฺตํ

๙๕. อถ โข อุตฺติโย ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุตฺติโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, อุตฺติย, มยา – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, โภ โคตม, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘อพฺยากตํ โข เอตํ, อุตฺติย, มยา – สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.

‘‘‘กึ ปน, โภ โคตม, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.

‘‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. อถ กิฺจรหิ โภตา โคตเมน พฺยากต’’นฺติ?

‘‘อภิฺาย โข อหํ, อุตฺติย, สาวกานํ ธมฺมํ เทเสมิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.

‘‘ยํ ปเนตํ ภวํ โคตโม อภิฺาย สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, สพฺโพ วา [สพฺโพ จ (ก.)] เตน โลโก นียติ [นียิสฺสติ (สี.), นิยฺยาสฺสติ (สฺยา.), นิยฺยํสฺสติ (ปี.)] อุปฑฺโฒ วา ติภาโค วา’’ติ [ติภาโค วาติ ปเทหิ (ก.)]? เอวํ วุตฺเต ภควา ตุณฺหี อโหสิ.

อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มา เหวํ โข อุตฺติโย ปริพฺพาชโก ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏิลภิ – ‘สพฺพสามุกฺกํสิกํ วต เม สมโณ โคตโม ปฺหํ ปุฏฺโ สํสาเทติ, โน วิสฺสชฺเชติ, น นูน วิสหตี’ติ. ตทสฺส อุตฺติยสฺส ปริพฺพาชกสฺส ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อุตฺติยํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘เตนหาวุโส อุตฺติย, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส อุตฺติย, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ ทฬฺหุทฺธาปํ [ทฬฺหุทฺทาปํ (สี. ปี.)] ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํ. ตตฺรสฺส โทวาริโก ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี อฺาตานํ นิวาเรตา าตานํ ปเวเสตา. โส ตสฺส นครสฺส สมนฺตา อนุปริยายปถํ อนุกฺกมติ. อนุปริยายปถํ อนุกฺกมมาโน น ปสฺเสยฺย ปาการสนฺธึ วา ปาการวิวรํ วา, อนฺตมโส พิฬารนิกฺขมนมตฺตมฺปิ. โน จ ขฺวสฺส เอวํ าณํ โหติ – ‘เอตฺตกา ปาณา อิมํ นครํ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติ. อถ ขฺวสฺส เอวเมตฺถ โหติ – ‘เย โข เกจิ โอฬาริกา ปาณา อิมํ นครํ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา, สพฺเพ เต อิมินา ทฺวาเรน ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติ.

‘‘เอวเมวํ โข, อาวุโส อุตฺติย, น ตถาคตสฺส เอวํ อุสฺสุกฺกํ โหติ – ‘สพฺโพ วา เตน โลโก นียติ, อุปฑฺโฒ วา, ติภาโค วา’ติ. อถ โข เอวเมตฺถ ตถาคตสฺส โหติ – ‘เย โข เกจิ โลกมฺหา นียึสุ วา นียนฺติ วา นียิสฺสนฺติ วา, สพฺเพ เต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา, สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา. เอวเมเต [เอวเมเตน (ก.)] โลกมฺหา นียึสุ วา นียนฺติ วา นียิสฺสนฺติ วา’ติ. ยเทว โข ตฺวํ [ยเทว ขฺเวตฺถ (ก.)], อาวุโส อุตฺติย, ภควนฺตํ ปฺหํ [อิมํ ปฺหํ (สฺยา. ก.)] อปุจฺฉิ ตเทเวตํ ปฺหํ ภควนฺตํ อฺเน ปริยาเยน อปุจฺฉิ. ตสฺมา เต ตํ ภควา น พฺยากาสี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. โกกนุทสุตฺตํ

๙๖. ‘‘เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห วิหรติ ตโปทาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ตโปทา เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. ตโปทาย [ตโปเท (ก.)] คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน. โกกนุโทปิ โข ปริพฺพาชโก รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ตโปทา เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ.

อทฺทสา โข โกกนุโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กฺเวตฺถ [โก เตตฺถ (สี.), กฺวตฺถ (ปี. ก.)], อาวุโส’’ติ? ‘‘อหมาวุโส, ภิกฺขู’’ติ.

‘‘กตเมสํ, อาวุโส, ภิกฺขูน’’นฺติ? ‘‘สมณานํ, อาวุโส, สกฺยปุตฺติยาน’’นฺติ.

‘‘ปุจฺเฉยฺยาม มยํ อายสฺมนฺตํ กิฺจิเทว เทสํ, สเจ อายสฺมา โอกาสํ กโรติ ปฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉาวุโส, สุตฺวา เวทิสฺสามา’’ติ.

‘‘กึ นุ โข, โภ, ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺิโก (สฺยา.)] ภว’’นฺติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, โภ, ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’’นฺติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ นุ โข, โภ, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’’นฺติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘เตน หิ ภวํ น ชานาติ, น ปสฺสตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, น ชานามิ น ปสฺสามิ. ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี’’ติ.

‘‘‘กึ นุ โข, โภ, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.

‘‘‘กึ ปน, โภ, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.

‘‘กึ นุ โข, โภ, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวนฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.

‘‘‘เตน หิ ภวํ น ชานาติ น ปสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส, น ชานามิ น ปสฺสามิ. ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี’ติ วเทสิ. ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?

‘‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ โข, อาวุโส, ทิฏฺิคตเมตํ. ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ โข, อาวุโส, ทิฏฺิคตเมตํ. อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ โข, อาวุโส, ทิฏฺิคตเมตํ.

‘‘ยาวตา, อาวุโส, ทิฏฺิ [ทิฏฺิคตา (สพฺพตฺถ)] ยาวตา ทิฏฺิฏฺานํ ทิฏฺิอธิฏฺานํ ทิฏฺิปริยุฏฺานํ ทิฏฺิสมุฏฺานํ ทิฏฺิสมุคฺฆาโต [ยาวตา ทิฏฺิฏฺาน อธิฏฺาน ปริยุฏฺาน สมุฏฺาน สมุคฺฆาโต (สี. ปี.)], ตมหํ ชานามิ ตมหํ ปสฺสามิ. ตมหํ ชานนฺโต ตมหํ ปสฺสนฺโต กฺยาหํ วกฺขามิ – ‘น ชานามิ น ปสฺสามี’ติ? ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี’’ติ.

‘‘โก นาโม อายสฺมา, กถฺจ ปนายสฺมนฺตํ สพฺรหฺมจารี ชานนฺตี’’ติ? ‘‘‘อานนฺโท’ติ โข เม, อาวุโส, นามํ. ‘อานนฺโท’ติ จ ปน มํ สพฺรหฺมจารี ชานนฺตี’’ติ. ‘‘มหาจริเยน วต กิร, โภ, สทฺธึ มนฺตยมานา น ชานิมฺห – ‘อายสฺมา อานนฺโท’ติ. สเจ หิ มยํ ชาเนยฺยาม – ‘อยํ อายสฺมา อานนฺโท’ติ, เอตฺตกมฺปิ โน นปฺปฏิภาเยยฺย [นปฺปฏิภาเสยฺยาม (ก.) นปฺปฏิภาเสยฺย (พหูสุ) ม. นิ. ๓.๒๑๖ ปสฺสิตพฺพํ]. ขมตุ จ เม อายสฺมา อานนฺโท’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. อาหุเนยฺยสุตฺตํ

๙๗. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส.

‘‘กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ.

‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา.

‘‘กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก.

‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ สมฺมาทสฺสเนน สมนฺนาคโต.

‘‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ; พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ [ปริมสติ (สี.)] ปริมชฺชติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จ.

‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ. สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; สโทสํ วา จิตฺตํ… วีตโทสํ วา จิตฺตํ… สโมหํ วา จิตฺตํ… วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.

‘‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ, อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โข โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. เถรสุตฺตํ

๙๘. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ, ผาสุเยว วิหรติ. กตเมหิ ทสหิ? เถโร โหติ รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต, สีลวา โหติ …เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺโธ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมกุสโล โหติ, ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช, สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, ปาสาทิโก โหติ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺเต [อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺโต (ก.)] สุสํวุโต อนฺตรฆเร นิสชฺชาย, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ, ผาสุเยว วิหรตี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อุปาลิสุตฺตํ

๙๙. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ.

‘‘ทุรภิสมฺภวานิ หิ โข [ทุรภิสมฺภวานิ โข (สี. ปี.)], อุปาลิ, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ. ทุกฺกรํ ปวิเวกํ ทุรภิรมํ. เอกตฺเต หรนฺติ มฺเ มโน วนานิ สมาธึ อลภมานสฺส ภิกฺขุโน. โย โข, อุปาลิ, เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ สมาธึ อลภมาโน อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิสฺสามี’ติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘สํสีทิสฺสติ วา อุปฺลวิสฺสติ วา’ติ [อุปฺปิลวิสฺสติ วา (สี. สฺยา. ปี.)].

‘‘เสยฺยถาปิ, อุปาลิ, มหาอุทกรหโท. อถ อาคจฺเฉยฺย หตฺถินาโค สตฺตรตโน วา อฑฺฒฏฺรตโน [อฏฺรตโน (สี. ปี.)] วา. ตสฺส เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อิมํ อุทกรหทํ โอคาเหตฺวา กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ. กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา นฺหตฺวา [นหาตฺวา (สี. ปี.), นฺหาตฺวา (สฺยา.)] จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน กามํ ปกฺกเมยฺย’นฺติ. โส ตํ อุทกรหทํ โอคาเหตฺวา กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺย ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺย; กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน กามํ ปกฺกเมยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? มหา, อุปาลิ [มหา หุปาลิ (สี. ปี.)], อตฺตภาโว คมฺภีเร คาธํ วินฺทติ.

‘‘อถ อาคจฺเฉยฺย สโส วา พิฬาโร วา. ตสฺส เอวมสฺส – ‘โก จาหํ, โก จ หตฺถินาโค! ยํนูนาหํ อิมํ อุทกรหทํ โอคาเหตฺวา กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ; กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน กามํ ปกฺกเมยฺย’นฺติ. โส ตํ อุทกรหทํ สหสา อปฺปฏิสงฺขา ปกฺขนฺเทยฺย. ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘สํสีทิสฺสติ วา อุปฺลวิสฺสติ วา’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปริตฺโต, อุปาลิ, อตฺตภาโว คมฺภีเร คาธํ น วินฺทติ. เอวเมวํ โข, อุปาลิ, โย เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ สมาธึ อลภมาโน อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิสฺสามี’ติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘สํสีทิสฺสติ วา อุปฺลวิสฺสติ วา’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อุปาลิ, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก สเกน มุตฺตกรีเสน กีฬติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, นนฺวายํ เกวลา ปริปูรา พาลขิฑฺฑา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ส โข โส, อุปาลิ, กุมาโร อปเรน สมเยน วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ยานิ กานิจิ กุมารกานํ กีฬาปนกานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – วงฺกกํ [วงฺกํ (สี. ปี.)] ฆฏิกํ โมกฺขจิกํ จิงฺคุลกํ [ปิงฺคุลิกํ (สฺยา.), จิงฺกุลกํ (ก.)] ปตฺตาฬฺหกํ รถกํ ธนุกํ, เตหิ กีฬติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, นนฺวายํ ขิฑฺฑา ปุริมาย ขิฑฺฑาย อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘ส โข โส, อุปาลิ, กุมาโร อปเรน สมเยน วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจาเรติ จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โสตวิฺเยฺเยหิ สทฺเทหิ… ฆานวิฺเยฺเยหิ คนฺเธหิ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยหิ รเสหิ… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, นนฺวายํ ขิฑฺฑา ปุริมาหิ ขิฑฺฑาหิ อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

[ที. นิ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. ๒.๒๓๓] ‘‘อิธ โข ปน โว [โวติ นิปาตมตฺตํ (อฏฺ.)], อุปาลิ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ.

‘‘ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ.

‘‘โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.

‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี; อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ.

‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา.

‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส.

‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที; สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ.

‘‘โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ. เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต, วิรโต วิกาลโภชนา. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ, กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ, ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ, อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา ปฏิวิรโต โหติ, เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.

‘‘โส สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ, เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ.

‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเ สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.

‘‘โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.

‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ…เป….

ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป….

‘‘สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป….

‘‘สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม ‘สนฺตเมตํ ปณีตเมต’นฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.

‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อนุปฺปตฺตสทตฺถา จ วิหรนฺติ. อิงฺฆ ตฺวํ, อุปาลิ, สงฺเฆ วิหราหิ. สงฺเฆ เต วิหรโต ผาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. อภพฺพสุตฺตํ

๑๐๐. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ทส? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มานํ – อิเม โข ภิกฺขเว, ทส ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ.

‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ทส? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มานํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ทสมํ.

อุปาลิวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

กามโภคี ภยํ ทิฏฺิ, วชฺชิยมาหิตุตฺติยา;

โกกนุโท อาหุเนยฺโย, เถโร อุปาลิ อภพฺโพติ.

ทุติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๓. ตติยปณฺณาสกํ

(๑๑) ๑. สมณสฺาวคฺโค

๑. สมณสฺาสุตฺตํ

๑๐๑. ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, สมณสฺา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต ธมฺเม ปริปูเรนฺติ. กตมา ติสฺโส? เววณฺณิยมฺหิ อชฺฌุปคโต, ปรปฏิพทฺธา เม ชีวิกา, อฺโ เม อากปฺโป กรณีโยติ – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส สมณสฺา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต ธมฺเม ปริปูเรนฺติ.

‘‘กตเม สตฺต? สนฺตตการี [สตตการี (สฺยา. ปี. ก.)] โหติ สนฺตตวุตฺติ [สตตวุตฺติ (สฺยา. ปี.)] สีเลสุ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปชฺโช โหติ, อนติมานี โหติ, สิกฺขากาโม โหติ, อิทมตฺถํติสฺส โหติ ชีวิตปริกฺขาเรสุ, อารทฺธวีริโย จ [อารทฺธวิริโย จ (สี. ปี.), อารทฺธวิริโย (สฺยา.)] วิหรติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส สมณสฺา ภาวิตา พหุลีกตา อิเม สตฺต ธมฺเม ปริปูเรนฺตี’’ติ. ปมํ.

๒. โพชฺฌงฺคสุตฺตํ

๑๐๒. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา ติสฺโส วิชฺชา ปริปูเรนฺติ. กตเม สตฺต? สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค – อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา ติสฺโส วิชฺชา ปริปูเรนฺติ. กตมา ติสฺโส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา อิมา ติสฺโส วิชฺชา ปริปูเรนฺตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. มิจฺฉตฺตสุตฺตํ

๑๐๓. ‘‘มิจฺฉตฺตํ, ภิกฺขเว, อาคมฺม วิราธนา โหติ, โน อาราธนา. กถฺจ, ภิกฺขเว, มิจฺฉตฺตํ อาคมฺม วิราธนา โหติ, โน อาราธนา? มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป ปโหติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส มิจฺฉาวาจา ปโหติ, มิจฺฉาวาจสฺส มิจฺฉากมฺมนฺโต ปโหติ, มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส มิจฺฉาอาชีโว ปโหติ, มิจฺฉาอาชีวสฺส มิจฺฉาวายาโม ปโหติ, มิจฺฉาวายามสฺส มิจฺฉาสติ ปโหติ, มิจฺฉาสติสฺส มิจฺฉาสมาธิ ปโหติ, มิจฺฉาสมาธิสฺส มิจฺฉาาณํ ปโหติ, มิจฺฉาาณิสฺส [มิจฺฉาาณสฺส (ปี. ก.)] มิจฺฉาวิมุตฺติ ปโหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, มิจฺฉตฺตํ อาคมฺม วิราธนา โหติ, โน อาราธนา.

‘‘สมฺมตฺตํ, ภิกฺขเว, อาคมฺม อาราธนา โหติ, โน วิราธนา. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมตฺตํ อาคมฺม อาราธนา โหติ, โน วิราธนา? สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺโต ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ, สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ, สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณํ ปโหติ, สมฺมาาณิสฺส [สมฺมาาณสฺส (ปี. ก.)] สมฺมาวิมุตฺติ ปโหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สมฺมตฺตํ อาคมฺม อาราธนา โหติ, โน วิราธนา’’ติ. ตติยํ.

๔. พีชสุตฺตํ

๑๐๔. [อ. นิ. ๑.๓๐๖; กถา. ๗๐๘] ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส มิจฺฉาวาจสฺส มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส มิจฺฉาอาชีวสฺส มิจฺฉาวายามสฺส มิจฺฉาสติสฺส มิจฺฉาสมาธิสฺส มิจฺฉาาณิสฺส มิจฺฉาวิมุตฺติสฺส ยฺจ กายกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ [สมาทิณฺณํ (ปี. ก.)] ยฺจ วจีกมฺมํ… ยฺจ มโนกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยา จ เจตนา ยา จ ปตฺถนา โย จ ปณิธิ เย จ สงฺขารา, สพฺเพ เต ธมฺมา อนิฏฺาย อกนฺตาย อมนาปาย อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทิฏฺิ หิสฺส [ทิฏฺิ หิ (สี. สฺยา. ปี.)], ภิกฺขเว, ปาปิกา.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, นิมฺพพีชํ วา โกสาตกิพีชํ วา ติตฺตกาลาพุพีชํ วา อลฺลาย ปถวิยา นิกฺขิตฺตํ ยฺเจว ปถวิรสํ อุปาทิยติ ยฺจ อาโปรสํ อุปาทิยติ, สพฺพํ ตํ ติตฺตกตฺตาย กฏุกตฺตาย อสาตตฺตาย สํวตฺตติ. ตํ กิสฺส เหตุ? พีชฺหิ, ภิกฺขเว, ปาปกํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส มิจฺฉาวาจสฺส มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส มิจฺฉาอาชีวสฺส มิจฺฉาวายามสฺส มิจฺฉาสติสฺส มิจฺฉาสมาธิสฺส มิจฺฉาาณิสฺส มิจฺฉาวิมุตฺติสฺส ยฺเจว กายกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยฺจ วจีกมฺมํ… ยฺจ มโนกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยา จ เจตนา ยา จ ปตฺถนา โย จ ปณิธิ เย จ สงฺขารา, สพฺเพ เต ธมฺมา อนิฏฺาย อกนฺตาย อมนาปาย อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทิฏฺิ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปาปิกา.

‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณิสฺส สมฺมาวิมุตฺติสฺส ยฺเจว กายกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยฺจ วจีกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยฺจ มโนกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยา จ เจตนา ยา จ ปตฺถนา โย จ ปณิธิ เย จ สงฺขารา, สพฺเพ เต ธมฺมา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทิฏฺิ หิสฺส, ภิกฺขเว, ภทฺทิกา.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุจฺฉุพีชํ วา สาลิพีชํ วา มุทฺทิกาพีชํ วา อลฺลาย ปถวิยา นิกฺขิตฺตํ ยฺจ ปถวิรสํ อุปาทิยติ ยฺจ อาโปรสํ อุปาทิยติ สพฺพํ ตํ สาตตฺตาย มธุรตฺตาย อเสจนกตฺตาย สํวตฺตติ. ตํ กิสฺส เหตุ? พีชฺหิ ภิกฺขเว, ภทฺทกํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิกสฺส…เป. … สมฺมาวิมุตฺติสฺส ยฺเจว กายกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยฺจ วจีกมฺมํ… ยฺจ มโนกมฺมํ ยถาทิฏฺิ สมตฺตํ สมาทินฺนํ ยา จ เจตนา ยา จ ปตฺถนา โย จ ปณิธิ เย จ สงฺขารา, สพฺเพ เต ธมฺมา อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทิฏฺิ หิสฺส, ภิกฺขเว, ภทฺทิกา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. วิชฺชาสุตฺตํ

๑๐๕. ‘‘อวิชฺชา, ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา, อนฺวเทว อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ. อวิชฺชาคตสฺส, ภิกฺขเว, อวิทฺทสุโน มิจฺฉาทิฏฺิ ปโหติ, มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส มิจฺฉาสงฺกปฺโป ปโหติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส มิจฺฉาวาจา ปโหติ, มิจฺฉาวาจสฺส มิจฺฉากมฺมนฺโต ปโหติ, มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส มิจฺฉาอาชีโว ปโหติ, มิจฺฉาอาชีวสฺส มิจฺฉาวายาโม ปโหติ, มิจฺฉาวายามสฺส มิจฺฉาสติ ปโหติ, มิจฺฉาสติสฺส มิจฺฉาสมาธิ ปโหติ, มิจฺฉาสมาธิสฺส มิจฺฉาาณํ ปโหติ, มิจฺฉาาณิสฺส มิจฺฉาวิมุตฺติ ปโหติ.

‘‘วิชฺชา, ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา, อนฺวเทว หิโรตฺตปฺปํ. วิชฺชาคตสฺส, ภิกฺขเว, วิทฺทสุโน สมฺมาทิฏฺิ ปโหติ, สมฺมาทิฏฺิกสฺส สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺโต ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ, สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ, สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณํ ปโหติ, สมฺมาาณิสฺส สมฺมาวิมุตฺติ ปโหตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. นิชฺชรสุตฺตํ

๑๐๖. [ที. นิ. ๓.๓๖๐] ‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, นิชฺชรวตฺถูนิ. กตมานิ ทส? สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหติ; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป นิชฺชิณฺโณ โหติ; เย จ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาสงฺกปฺปปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา นิชฺชิณฺณา โหติ; เย จ มิจฺฉาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาวาจาปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต นิชฺชิณฺโณ โหติ; เย จ มิจฺฉากมฺมนฺตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมากมฺมนฺตปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว นิชฺชิณฺโณ โหติ; เย จ มิจฺฉาอาชีวปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาอาชีวปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม นิชฺชิณฺโณ โหติ; เย จ มิจฺฉาวายามปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาวายามปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ นิชฺชิณฺณา โหติ; เย จ มิจฺฉาสติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาสติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ นิชฺชิณฺโณ โหติ; เย จ มิจฺฉาสมาธิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาสมาธิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาาณิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาาณํ นิชฺชิณฺณํ โหติ; เย จ มิจฺฉาาณปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาาณปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาวิมุตฺติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ นิชฺชิณฺณา โหติ; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส นิชฺชรวตฺถูนี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. โธวนสุตฺตํ

๑๐๗. ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ทกฺขิเณสุ ชนปเทสุ โธวนํ นาม. ตตฺถ โหติ อนฺนมฺปิ ปานมฺปิ ขชฺชมฺปิ โภชฺชมฺปิ เลยฺยมฺปิ เปยฺยมฺปิ นจฺจมฺปิ คีตมฺปิ วาทิตมฺปิ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, โธวนํ; ‘เนตํ นตฺถี’ติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, โธวนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ.

‘‘อหฺจ โข, ภิกฺขเว, อริยํ โธวนํ เทเสสฺสามิ, ยํ โธวนํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ยํ โธวนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ, ชราธมฺมา สตฺตา ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณธมฺมา สตฺตา มรเณน ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมฺจ ตํ, ภิกฺขเว, อริยํ โธวนํ, (ยํ โธวนํ) [( ) นตฺถิ สฺยามโปตฺถเก] เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ยํ โธวนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ, ชราธมฺมา สตฺตา ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณธมฺมา สตฺตา มรเณน ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ?

‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิทฺโธตา โหติ; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิทฺโธตา โหนฺติ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป นิทฺโธโต โหติ…เป… สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา นิทฺโธตา โหติ… สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต นิทฺโธโต โหติ… สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว นิทฺโธโต โหติ… สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม นิทฺโธโต โหติ… สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ นิทฺโธตา โหติ… สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ นิทฺโธโต โหติ… สมฺมาาณิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาาณํ นิทฺโธตํ โหติ…เป….

‘‘สมฺมาวิมุตฺติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ นิทฺโธตา โหติ; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิทฺโธตา โหนฺติ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อิทํ โข ตํ, ภิกฺขเว, อริยํ โธวนํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ยํ โธวนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ, ชราธมฺมา สตฺตา ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณธมฺมา สตฺตา มรเณน ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺตี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ติกิจฺฉกสุตฺตํ

๑๐๘. ‘‘ติกิจฺฉกา, ภิกฺขเว, วิเรจนํ เทนฺติ ปิตฺตสมุฏฺานานมฺปิ อาพาธานํ ปฏิฆาตาย, เสมฺหสมุฏฺานานมฺปิ อาพาธานํ ปฏิฆาตาย, วาตสมุฏฺานานมฺปิ อาพาธานํ ปฏิฆาตาย. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, วิเรจนํ; ‘เนตํ นตฺถี’ติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, วิเรจนํ สมฺปชฺชติปิ วิปชฺชติปิ.

‘‘อหฺจ โข, ภิกฺขเว, อริยํ วิเรจนํ เทเสสฺสามิ, ยํ วิเรจนํ สมฺปชฺชติเยว โน วิปชฺชติ, ยํ วิเรจนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ, ชราธมฺมา สตฺตา ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณธมฺมา สตฺตา มรเณน ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมฺจ ตํ, ภิกฺขเว, อริยํ วิเรจนํ, ยํ วิเรจนํ สมฺปชฺชติเยว โน วิปชฺชติ, ยํ วิเรจนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ, ชราธมฺมา สตฺตา ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณธมฺมา สตฺตา มรเณน ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ?

‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ วิริตฺตา โหติ; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส วิริตฺตา โหนฺติ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป วิริตฺโต โหติ…เป… สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา วิริตฺตา โหติ… สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต วิริตฺโต โหติ… สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว วิริตฺโต โหติ… สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม วิริตฺโต โหติ… สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ วิริตฺตา โหติ… สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ วิริตฺโต โหติ… สมฺมาาณิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาาณํ วิริตฺตํ โหติ…เป….

‘‘สมฺมาวิมุตฺติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ วิริตฺตา โหติ; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส วิริตฺตา โหนฺติ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อิทํ โข ตํ, ภิกฺขเว, อริยํ วิเรจนํ ยํ วิเรจนํ สมฺปชฺชติเยว โน วิปชฺชติ, ยํ วิเรจนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ…เป… โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺตี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. วมนสุตฺตํ

๑๐๙. ‘‘ติกิจฺฉกา, ภิกฺขเว, วมนํ เทนฺติ ปิตฺตสมุฏฺานานมฺปิ อาพาธานํ ปฏิฆาตาย, เสมฺหสมุฏฺานานมฺปิ อาพาธานํ ปฏิฆาตาย, วาตสมุฏฺานานมฺปิ อาพาธานํ ปฏิฆาตาย. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, วมนํ; ‘เนตํ นตฺถี’ติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, วมนํ สมฺปชฺชติปิ วิปชฺชติปิ.

‘‘อหฺจ โข, ภิกฺขเว, อริยํ วมนํ เทเสสฺสามิ, ยํ วมนํ สมฺปชฺชติเยว โน วิปชฺชติ, ยํ วมนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ, ชราธมฺมา สตฺตา ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณธมฺมา สตฺตา มรเณน ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ. ตํ สุณาถ…เป….

‘‘กตมฺจ ตํ, ภิกฺขเว, อริยํ วมนํ, ยํ วมนํ สมฺปชฺชติเยว โน วิปชฺชติ, ยํ วมนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ…เป… โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ?

‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ วนฺตา โหติ; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส วนฺตา โหนฺติ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป วนฺโต โหติ…เป… สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา วนฺตา โหติ… สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต วนฺโต โหติ… สมฺมาอาชีวสฺส ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว วนฺโต โหติ… สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม วนฺโต โหติ… สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ วนฺตา โหติ… สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ วนฺโต โหติ… สมฺมาาณิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาาณํ วนฺตํ โหติ …เป….

‘‘สมฺมาวิมุตฺติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ วนฺตา โหติ; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส วนฺตา โหนฺติ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อิทํ โข ตํ, ภิกฺขเว, อริยํ วมนํ ยํ วมนํ สมฺปชฺชติเยว โน วิปชฺชติ, ยํ วมนํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ…เป… โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. นิทฺธมนียสุตฺตํ

๑๑๐. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, นิทฺธมนียา ธมฺมา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิทฺธนฺตา โหติ; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิทฺธนฺตา โหนฺติ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป นิทฺธนฺโต โหติ…เป… สมฺมาวาจสฺส ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา นิทฺธนฺตา โหติ… สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต นิทฺธนฺโต โหติ… สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว นิทฺธนฺโต โหติ… สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม นิทฺธนฺโต โหติ… สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ นิทฺธนฺตา โหติ… สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ นิทฺธนฺโต โหติ… สมฺมาาณิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาาณํ นิทฺธนฺตํ โหติ….

‘‘สมฺมาวิมุตฺติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ นิทฺธนฺตา โหติ; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิทฺธนฺตา โหนฺติ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส นิทฺธมนียา ธมฺมา’’ติ. ทสมํ.

๑๑. ปมอเสขสุตฺตํ

๑๑๑. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘‘อเสโข อเสโข’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา ภนฺเต, ภิกฺขุ อเสโข โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ อเสขาย สมฺมาทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาสงฺกปฺเปน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย สมฺมาวาจาย สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมากมฺมนฺเตน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาอาชีเวน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาวายาเมน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย สมฺมาสติยา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาสมาธินา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาาเณน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย สมฺมาวิมุตฺติยา สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, ภิกฺขุ อเสโข โหตี’’ติ. เอกาทสมํ.

๑๒. ทุติยอเสขสุตฺตํ

๑๑๒. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อเสขิยา ธมฺมา. กตเม ทส? อเสขา สมฺมาทิฏฺิ, อเสโข สมฺมาสงฺกปฺโป, อเสขา สมฺมาวาจา, อเสโข สมฺมากมฺมนฺโต, อเสโข สมฺมาอาชีโว, อเสโข สมฺมาวายาโม, อเสขา สมฺมาสติ, อเสโข สมฺมาสมาธิ, อเสขํ สมฺมาาณํ, อเสขา สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อเสขิยา ธมฺมา’’ติ. ทฺวาทสมํ.

สมณสฺาวคฺโค ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

สฺา โพชฺฌงฺคา มิจฺฉตฺตํ, พีชํ วิชฺชาย นิชฺชรํ;

โธวนํ ติกิจฺฉา วมนํ นิทฺธมนํ ทฺเว อเสขาติ.

(๑๒) ๒. ปจฺโจโรหณิวคฺโค

๑. ปมอธมฺมสุตฺตํ

๑๑๓. [อ. นิ. ๑๐.๑๗๑] ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม จ อนตฺโถ จ? มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺโต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม, มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิ, มิจฺฉาาณํ, มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม จ อนตฺโถ จ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ, สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ.

‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ปมํ.

๒. ทุติยอธมฺมสุตฺตํ

๑๑๔. ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม, กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ?

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสงฺกปฺโป ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาสงฺกปฺปปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาวาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวาจา ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวาจาปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉากมฺมนฺโต, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมากมฺมนฺโต ธมฺโม; เย จ มิจฺฉากมฺมนฺตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมากมฺมนฺตปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาอาชีโว, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาอาชีโว ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาอาชีวปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาอาชีวปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาวายาโม, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวายาโม ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวายามปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวายามปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาสติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาสติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาสติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาสมาธิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสมาธิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาสมาธิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาสมาธิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาาณํ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาาณํ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาาณปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาาณปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาวิมุตฺติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวิมุตฺติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ทุติยํ.

๓. ตติยอธมฺมสุตฺตํ

๑๑๕. ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’’ติ?

อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม [ปุจฺเฉยฺยาม (สี. สฺยา. ปี.) ม. นิ. ๑.๒๐๒ ปสฺสิตพฺพํ]. ยถา โน อายสฺมา อานนฺโท พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ.

อถ โข เต ภิกฺขู เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ –

‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส อานนฺท, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.

‘‘เตสํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?

‘‘เตสํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา อานนฺโท พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’ติ. วิภชตุ อายสฺมา อานนฺโท’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต อติกฺกมฺเมว มูลํ อติกฺกมฺม ขนฺธํ สาขาปลาเส สารํ ปริเยสิตพฺพํ มฺเยฺย; เอวํสมฺปทมิทํ อายสฺมนฺตานํ สตฺถริ สมฺมุขีภูเต ตํ ภควนฺตํ อติสิตฺวา อมฺเห เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ มฺถ. โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ, จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ตุมฺเห ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โว ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.

‘‘อทฺธาวุโส อานนฺท, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ มยํ ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม, ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาม. อปิ จายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. วิภชตายสฺมา อานนฺโท อครุํ กตฺวา’’ติ.

‘‘เตนหาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –

‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.

กตโม จาวุโส, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม, กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ?

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาสงฺกปฺโป ธมฺโม… มิจฺฉาวาจา, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาวาจา ธมฺโม … มิจฺฉากมฺมนฺโต, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมากมฺมนฺโต ธมฺโม… มิจฺฉาอาชีโว, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาอาชีโว ธมฺโม… มิจฺฉาวายาโม, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาวายาโม ธมฺโม… มิจฺฉาสติ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาสติ ธมฺโม… มิจฺฉาสมาธิ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาสมาธิ ธมฺโม… มิจฺฉาาณํ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาาณํ ธมฺโม….

มิจฺฉาวิมุตฺติ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาวิมุตฺติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘อยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โว ภควา พฺยากโรติ [พฺยากเรยฺย (สฺยา.)] ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.

‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘ยํ โข โน ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิชฺชิตพฺพ’นฺติ.

‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?

‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา อานนฺโท พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’ติ.

‘‘อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิมฺหา; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ อปุจฺฉิมฺหา. เตสํ โน, ภนฺเต, อายสฺมตา อานนฺเทน อิเมหิ อากาเรหิ อิเมหิ ปเทหิ อิเมหิ พฺยฺชเนหิ อตฺโถ สุวิภตฺโต’’ติ [วิภตฺโตติ (?) เอวเมว หิ อฺเสุ อีทิสสุตฺเตสุ ทิสฺสติ].

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขเว! ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, อานนฺโท. มหาปฺโ, ภิกฺขเว, อานนฺโท. มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ เจตํ เอวเมวํ [อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ (ม. นิ. ๑.๒๐๕)] พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ อานนฺเทน พฺยากตํ. เอโส เจว ตสฺส [เอโส เจเวตสฺส (ม. นิ. ๑.๒๐๕)] อตฺโถ เอวฺจ นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ. ตติยํ.

๔. อชิตสุตฺตํ

๑๑๖. อถ โข อชิโต ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อชิโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อมฺหากํ, โภ โคตม, ปณฺฑิโต นาม สพฺรหฺมจารี. เตน ปฺจมตฺตานิ จิตฺตฏฺานสตานิ จินฺติตานิ, เยหิ อฺติตฺถิยา อุปารทฺธาว ชานนฺติ [อุปารทฺธา ปชานนฺติ (สี.)] อุปารทฺธสฺมา’’ติ [อุปารทฺธมฺหาติ (สี. ปี.)].

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ธาเรถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตวตฺถูนี’’ติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา ภาเสยฺย, ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อธมฺมิเกน วาเทน อธมฺมิกํ วาทํ อภินิคฺคณฺหาติ อภินิปฺปีเฬติ, เตน จ อธมฺมิกํ ปริสํ รฺเชติ. เตน สา อธมฺมิกา ปริสา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา โหติ – ‘ปณฺฑิโต วต, โภ, ปณฺฑิโต วต, โภ’ติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อธมฺมิเกน วาเทน ธมฺมิกํ วาทํ อภินิคฺคณฺหาติ อภินิปฺปีเฬติ, เตน จ อธมฺมิกํ ปริสํ รฺเชติ. เตน สา อธมฺมิกา ปริสา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา โหติ – ‘ปณฺฑิโต วต, โภ, ปณฺฑิโต วต, โภ’ติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อธมฺมิเกน วาเทน ธมฺมิกฺจ วาทํ อธมฺมิกฺจ วาทํ อภินิคฺคณฺหาติ อภินิปฺปีเฬติ, เตน จ อธมฺมิกํ ปริสํ รฺเชติ. เตน สา อธมฺมิกา ปริสา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา โหติ – ‘ปณฺฑิโต วต, โภ, ปณฺฑิโต วต, โภ’ติ.

‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม, กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ? มิจฺฉาทิฏฺิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสงฺกปฺโป ธมฺโม… มิจฺฉาวาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวาจา ธมฺโม… มิจฺฉากมฺมนฺโต, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมากมฺมนฺโต ธมฺโม… มิจฺฉาอาชีโว, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาอาชีโว ธมฺโม … มิจฺฉาวายาโม, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวายาโม ธมฺโม… มิจฺฉาสติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสติ ธมฺโม… มิจฺฉาสมาธิ, ภิกฺขเว อธมฺโม; สมฺมาสมาธิ ธมฺโม… มิจฺฉาาณํ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาาณํ ธมฺโม.

‘‘มิจฺฉาวิมุตฺติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวิมุตฺติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. สงฺคารวสุตฺตํ

๑๑๗. [อ. นิ. ๑๐.๑๖๙] อถ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, โอริมํ ตีรํ, กึ ปาริมํ ตีร’’นฺติ? ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาสงฺกปฺโป โอริมํ ตีรํ, สมฺมาสงฺกปฺโป ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาวาจา โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวาจา ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉากมฺมนฺโต โอริมํ ตีรํ, สมฺมากมฺมนฺโต ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาอาชีโว โอริมํ ตีรํ, สมฺมาอาชีโว ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาวายาโม โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวายาโม ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาสติ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาสติ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาสมาธิ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาสมาธิ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาาณํ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาาณํ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาวิมุตฺติ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวิมุตฺติ ปาริมํ ตีรนฺติ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ปาริมํ ตีรนฺติ.

‘‘อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;

อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.

‘‘เย จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;

เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.

‘‘กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;

โอกา อโนกมาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.

‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;

ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.

‘‘เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;

อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;

ขีณาสวา ชุติมนฺโต [ชุตีมนฺโต (สี.)], เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. ปฺจมํ;

๖. โอริมตีรสุตฺตํ

๑๑๘. ‘‘โอริมฺจ, ภิกฺขเว, ตีรํ เทเสสฺสามิ ปาริมฺจ ตีรํ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, กตมฺจ ปาริมํ ตีรํ? มิจฺฉาทิฏฺิ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวิมุตฺติ ปาริมํ ตีรํ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ปาริมํ ตีรนฺติ.

‘‘อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;

อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.

‘‘เย จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;

เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.

‘‘กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;

โอกา อโนก มาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.

‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;

ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.

‘‘เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;

อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;

ขีณาสวา ชุติมนฺโต, เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ปมปจฺโจโรหณีสุตฺตํ

๑๑๙. เตน โข ปน สมเยน ชาณุสฺโสณิ [ชานุสฺโสนิ (ก. สี.), ชานุสฺโสณิ (ก. สี.), ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต [สีสํนหาโต (สี. ปี.), สีสนฺหาโต (สฺยา.)] นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย ภควโต อวิทูเร เอกมนฺตํ ิโต โหติ.

อทฺทสา โข ภควา ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตํ นวํ โขมยุคํ นิวตฺถํ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิตํ. ทิสฺวาน ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิโต? กึ นฺวชฺช [กึ นุ อชฺช (สฺยา.), กึ นุ โข อชฺช (ปี.), กึ นุ ขฺวชฺช (ก.)] พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ [พฺราหฺมณ พฺรหฺมกุสลสฺสาติ (ก.)]? ‘‘ปจฺโจโรหณี, โภ โคตม, อชฺช พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ [พฺรหฺมกุสลสฺสาติ (ก.)].

‘‘ยถา กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตา นวํ โขมยุคํ นิวตฺถา อลฺเลน โคมเยน ปถวึ โอปุฺชิตฺวา หริเตหิ กุเสหิ ปตฺถริตฺวา [ปวิตฺถาเรตฺวา (ก.)] อนฺตรา จ เวลํ อนฺตรา จ อคฺยาคารํ เสยฺยํ กปฺเปนฺติ. เต ตํ รตฺตึ ติกฺขตฺตุํ ปจฺจุฏฺาย ปฺชลิกา อคฺคึ นมสฺสนฺติ – ‘ปจฺโจโรหาม ภวนฺตํ, ปจฺโจโรหาม ภวนฺต’นฺติ. พหุเกน จ สปฺปิเตลนวนีเตน อคฺคึ สนฺตปฺเปนฺติ. ตสฺสา จ รตฺติยา อจฺจเยน ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน พฺราหฺมเณ สนฺตปฺเปนฺติ. เอวํ, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.

‘‘อฺถา โข, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ? สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ.

… มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ปชหติ; มิจฺฉาสงฺกปฺปา ปจฺโจโรหติ.

… มิจฺฉาวาจาย โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวาจํ ปชหติ; มิจฺฉาวาจาย ปจฺโจโรหติ.

…มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ; มิจฺฉากมฺมนฺตา ปจฺโจโรหติ.

…มิจฺฉาอาชีวสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ; มิจฺฉาอาชีวา ปจฺโจโรหติ.

…มิจฺฉาวายามสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวายามํ ปชหติ; มิจฺฉาวายามา ปจฺโจโรหติ.

…มิจฺฉาสติยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาสตึ ปชหติ; มิจฺฉาสติยา ปจฺโจโรหติ.

…มิจฺฉาสมาธิสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาสมาธึ ปชหติ; มิจฺฉาสมาธิมฺหา ปจฺโจโรหติ.

…มิจฺฉาาณสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาาณํ ปชหติ; มิจฺฉาาณมฺหา ปจฺโจโรหติ.

‘มิจฺฉาวิมุตฺติยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวิมุตฺตึ ปชหติ; มิจฺฉาวิมุตฺติยา ปจฺโจโรหติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.

‘‘อฺถา, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ. อิมิสฺสา จ, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณิยา พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยปจฺโจโรหณีสุตฺตํ

๑๒๐. ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, ปจฺโจโรหณึ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ… กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ. มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส โข ปาปโก วิปาโก… มิจฺฉาวาจาย โข… มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส โข… มิจฺฉาอาชีวสฺส โข… มิจฺฉาวายามสฺส โข… มิจฺฉาสติยา โข… มิจฺฉาสมาธิสฺส โข… มิจฺฉาาณสฺส โข… มิจฺฉาวิมุตฺติยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวิมุตฺตึ ปชหติ; มิจฺฉาวิมุตฺติยา ปจฺโจโรหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปุพฺพงฺคมสุตฺตํ

๑๒๑. ‘‘สูริยสฺส, ภิกฺขเว, อุทยโต เอตํ ปุพฺพงฺคมํ เอตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ยทิทํ – อรุณุคฺคํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, กุสลานํ ธมฺมานํ เอตํ ปุพฺพงฺคมํ เอตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ยทิทํ – สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺโต ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ, สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ, สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณํ ปโหติ, สมฺมาาณิสฺส สมฺมาวิมุตฺติ ปโหตี’’ติ. นวมํ.

๑๐. อาสวกฺขยสุตฺตํ

๑๒๒. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ, สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทสมํ.

ปจฺโจโรหณิวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

ตโย อธมฺมา อชิโต, สงฺคารโว จ โอริมํ;

ทฺเว เจว ปจฺโจโรหณี, ปุพฺพงฺคมํ อาสวกฺขโยติ.

(๑๓) ๓. ปริสุทฺธวคฺโค

๑. ปมสุตฺตํ

๑๒๓. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ, สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยสุตฺตํ

๑๒๔. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ …เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. ทุติยํ.

๓. ตติยสุตฺตํ

๑๒๕. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา มหปฺผลา มหานิสํสา, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา มหปฺผลา มหานิสํสา, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. ตติยํ.

๔. จตุตฺถสุตฺตํ

๑๒๖. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ราควินยปริโยสานา โหนฺติ โทสวินยปริโยสานา โหนฺติ โมหวินยปริโยสานา โหนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ราควินยปริโยสานา โหนฺติ โทสวินยปริโยสานา โหนฺติ โมหวินยปริโยสานา โหนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปฺจมสุตฺตํ

๑๒๗. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ฉฏฺสุตฺตํ

๑๒๘. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ …เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สตฺตมสุตฺตํ

๑๒๙. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. สตฺตมํ.

๘. อฏฺมสุตฺตํ

๑๓๐. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา ราควินยปริโยสานา โหนฺติ โทสวินยปริโยสานา โหนฺติ โมหวินยปริโยสานา โหนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา ราควินยปริโยสานา โหนฺติ โทสวินยปริโยสานา โหนฺติ โมหวินยปริโยสานา โหนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. นวมสุตฺตํ

๑๓๑. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ, นาฺตฺร สุคตวินยา’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทสมสุตฺตํ

๑๓๒. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, มิจฺฉตฺตา. กตเม ทส? มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺโต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม, มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิ, มิจฺฉาาณํ, มิจฺฉาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส มิจฺฉตฺตา’’ติ. ทสมํ.

๑๑. เอกาทสมสุตฺตํ

๑๓๓. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, สมฺมตฺตา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ, สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส สมฺมตฺตา’’ติ. เอกาทสมํ.

ปริสุทฺธวคฺโค ตติโย.

(๑๔) ๔. สาธุวคฺโค

๑. สาธุสุตฺตํ

๑๓๔. [อ. นิ. ๑๐.๑๗๘] ‘‘สาธุฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อสาธุฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อสาธุ? มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺโต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม, มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิ, มิจฺฉาาณํ, มิจฺฉาวิมุตฺติ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสาธุ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, สาธุ? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ, สมฺมาวิมุตฺติ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สาธู’’ติ. ปมํ.

๒. อริยธมฺมสุตฺตํ

๑๓๕. ‘‘อริยธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อนริยธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อนริโย ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนริโย ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อริโย ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย ธมฺโม’’ติ. ทุติยํ.

๓. อกุสลสุตฺตํ

๑๓๖. ‘‘อกุสลฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ กุสลฺจ. ตํ สุณาถ …เป… กตมฺจ, ภิกฺขเว, อกุสลํ? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อกุสลํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, กุสลํ? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กุสล’’นฺติ. ตติยํ.

๔. อตฺถสุตฺตํ

๑๓๗. ‘‘อตฺถฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อนตฺถฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อนตฺโถ? มิจฺฉาทิฏฺิ …เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนตฺโถ. กตโม จ, ภิกฺขเว, อตฺโถ? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตฺโถ’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ธมฺมสุตฺตํ

๑๓๘. ‘‘ธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺโม’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สาสวสุตฺตํ

๑๓๙. ‘‘สาสวฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อนาสวฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, สาสโว ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สาสโว ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อนาสโว ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนาสโว ธมฺโม’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สาวชฺชสุตฺตํ

๑๔๐. ‘‘สาวชฺชฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อนวชฺชฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, สาวชฺโช ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สาวชฺโช ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อนวชฺโช ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนวชฺโช ธมฺโม’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ตปนียสุตฺตํ

๑๔๑. ‘‘ตปนียฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อตปนียฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, ตปนีโย ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตปนีโย ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อตปนีโย ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตปนีโย ธมฺโม’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อาจยคามิสุตฺตํ

๑๔๒. ‘‘อาจยคามิฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อปจยคามิฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อาจยคามี ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาจยคามี ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อปจยคามี ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อปจยคามี ธมฺโม’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทุกฺขุทฺรยสุตฺตํ

๑๔๓. ‘‘ทุกฺขุทฺรยฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ สุขุทฺรยฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขุทฺรโย ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขุทฺรโย ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, สุขุทฺรโย ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขุทฺรโย ธมฺโม’’ติ. ทสมํ.

๑๑. ทุกฺขวิปากสุตฺตํ

๑๔๔. ‘‘ทุกฺขวิปากฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ สุขวิปากฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขวิปาโก ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขวิปาโก ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, สุขวิปาโก ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขวิปาโก ธมฺโม’’ติ. เอกาทสมํ.

สาธุวคฺโค จตุตฺโถ.

(๑๕) ๕. อริยวคฺโค

๑. อริยมคฺคสุตฺตํ

๑๔๕. ‘‘อริยมคฺคฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อนริยมคฺคฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อนริโย มคฺโค? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนริโย มคฺโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, อริโย มคฺโค? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย มคฺโค’’ติ. ปมํ.

๒. กณฺหมคฺคสุตฺตํ

๑๔๖. ‘‘กณฺหมคฺคฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ สุกฺกมคฺคฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, กณฺหมคฺโค? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กณฺหมคฺโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, สุกฺกมคฺโค? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุกฺกมคฺโค’’ติ. ทุติยํ.

๓. สทฺธมฺมสุตฺตํ

๑๔๗. ‘‘สทฺธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อสทฺธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺโม’’ติ. ตติยํ.

๔. สปฺปุริสธมฺมสุตฺตํ

๑๔๘. ‘‘สปฺปุริสธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อสปฺปุริสธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ …เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. อุปฺปาเทตพฺพสุตฺตํ

๑๔๙. ‘‘อุปฺปาเทตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น อุปฺปาเทตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อาเสวิตพฺพสุตฺตํ

๑๕๐. ‘‘อาเสวิตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น อาเสวิตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น อาเสวิตพฺโพ ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น อาเสวิตพฺโพ ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อาเสวิตพฺโพ ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาเสวิตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ภาเวตพฺพสุตฺตํ

๑๕๑. ‘‘ภาเวตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น ภาเวตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น ภาเวตพฺโพ ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น ภาเวตพฺโพ ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, ภาเวตพฺโพ ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาเวตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. สตฺตมํ.

๘. พหุลีกาตพฺพสุตฺตํ

๑๕๒. ‘‘พหุลีกาตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น พหุลีกาตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อนุสฺสริตพฺพสุตฺตํ

๑๕๓. ‘‘อนุสฺสริตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น อนุสฺสริตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น อนุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น อนุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, อนุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. นวมํ.

๑๐. สจฺฉิกาตพฺพสุตฺตํ

๑๕๔. ‘‘สจฺฉิกาตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น สจฺฉิกาตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม? มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม. กตโม จ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม? สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. ทสมํ.

อริยวคฺโค ปฺจโม.

ตติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๔. จตุตฺถปณฺณาสกํ

(๑๖) ๑. ปุคฺคลวคฺโค

๑. เสวิตพฺพสุตฺตํ

๑๕๕. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป โหติ, มิจฺฉาวาโจ โหติ, มิจฺฉากมฺมนฺโต โหติ, มิจฺฉาอาชีโว โหติ, มิจฺฉาวายาโม โหติ, มิจฺฉาสติ โหติ, มิจฺฉาสมาธิ โหติ, มิจฺฉาาณี โหติ, มิจฺฉาวิมุตฺติ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ, สมฺมาวาโจ โหติ, สมฺมากมฺมนฺโต โหติ, สมฺมาอาชีโว โหติ, สมฺมาวายาโม โหติ, สมฺมาสติ โหติ, สมฺมาสมาธิ โหติ, สมฺมาาณี โหติ, สมฺมาวิมุตฺติ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ’’ติ.

๒-๑๒. ภชิตพฺพาทิสุตฺตานิ

๑๕๖-๑๖๖. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล น ภชิตพฺโพ…เป… ภชิตพฺโพ…เป… น ปยิรุปาสิตพฺโพ… ปยิรุปาสิตพฺโพ…เป… น ปุชฺโช โหติ… ปุชฺโช โหติ…เป… น ปาสํโส โหติ… ปาสํโส โหติ…เป… อคารโว โหติ… สคารโว โหติ…เป… อปฺปติสฺโส โหติ… สปฺปติสฺโส โหติ…เป… น อาราธโก โหติ … อาราธโก โหติ…เป… น วิสุชฺฌติ… วิสุชฺฌติ…เป… มานํ นาธิโภติ… มานํ อธิโภติ…เป. … ปฺาย น วฑฺฒติ… ปฺาย วฑฺฒติ…เป….

‘‘พหุํ อปุฺํ ปสวติ… พหุํ ปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทสหิ? สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ, สมฺมาวาโจ โหติ, สมฺมากมฺมนฺโต โหติ, สมฺมาอาชีโว โหติ, สมฺมาวายาโม โหติ, สมฺมาสติ โหติ, สมฺมาสมาธิ โหติ, สมฺมาาณี โหติ, สมฺมาวิมุตฺติ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล พหุํ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

ปุคฺคลวคฺโค ปโม.

(๑๗) ๒. ชาณุสฺโสณิวคฺโค

๑. พฺราหฺมณปจฺโจโรหณีสุตฺตํ

๑๖๗. เตน โข ปน สมเยน ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย ภควโต อวิทูเร เอกมนฺตํ ิโต โหติ.

อทฺทสา โข ภควา ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตํ นวํ โขมยุคํ นิวตฺถํ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิตํ. ทิสฺวาน ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิโต? กึ นฺวชฺช พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ? ‘‘ปจฺโจโรหณี, โภ โคตม, อชฺช พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตา นวํ โขมยุคํ นิวตฺถา อลฺเลน โคมเยน ปถวึ โอปุฺชิตฺวา หริเตหิ กุเสหิ ปตฺถริตฺวา อนฺตรา จ เวลํ อนฺตรา จ อคฺยาคารํ เสยฺยํ กปฺเปนฺติ. เต ตํ รตฺตึ ติกฺขตฺตุํ ปจฺจุฏฺาย ปฺชลิกา อคฺคึ นมสฺสนฺติ – ‘ปจฺโจโรหาม ภวนฺตํ, ปจฺโจโรหาม ภวนฺต’นฺติ. พหุเกน จ สปฺปิเตลนวนีเตน อคฺคึ สนฺตปฺเปนฺติ. ตสฺสา จ รตฺติยา อจฺจเยน ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน พฺราหฺมเณ สนฺตปฺเปนฺติ. เอวํ, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.

‘‘อฺถา โข, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ? สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ปาณาติปาตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ปาณาติปาตํ ปชหติ; ปาณาติปาตา ปจฺโจโรหติ.

…อทินฺนาทานสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย อทินฺนาทานํ ปชหติ; อทินฺนาทานา ปจฺโจโรหติ.

…กาเมสุมิจฺฉาจารสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปชหติ; กาเมสุมิจฺฉาจารา ปจฺโจโรหติ.

…มุสาวาทสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มุสาวาทํ ปชหติ; มุสาวาทา ปจฺโจโรหติ.

…ปิสุณาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ปิสุณํ วาจํ ปชหติ; ปิสุณาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.

…ผรุสาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ผรุสํ วาจํ ปชหติ; ผรุสาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.

…สมฺผปฺปลาปสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย สมฺผปฺปลาปํ ปชหติ; สมฺผปฺปลาปา ปจฺโจโรหติ.

…อภิชฺฌาย โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย อภิชฺฌํ ปชหติ; อภิชฺฌาย ปจฺโจโรหติ.

…พฺยาปาทสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย พฺยาปาทํ ปชหติ; พฺยาปาทา ปจฺโจโรหติ.

…มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.

‘‘อฺถา โข, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ. อิมิสฺสา, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณิยา พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปมํ.

๒. อริยปจฺโจโรหณีสุตฺตํ

๑๖๘. ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, ปจฺโจโรหณึ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ปาณาติปาตสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ปาณาติปาตํ ปชหติ; ปาณาติปาตา ปจฺโจโรหติ.

… ‘อทินฺนาทานสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย อทินฺนาทานํ ปชหติ; อทินฺนาทานา ปจฺโจโรหติ.

‘กาเมสุมิจฺฉาจารสฺส โข ปาปโก วิปาโก…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปจฺโจโรหติ.

… ‘มุสาวาทสฺส โข ปาปโก วิปาโก…เป… มุสาวาทา ปจฺโจโรหติ.

… ‘ปิสุณาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก…เป… ปิสุณาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.

… ‘ผรุสาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก…เป… ผรุสาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.

… ‘สมฺผปฺปลาปสฺส โข ปาปโก วิปาโก…เป… สมฺผปฺปลาปา ปจฺโจโรหติ.

… ‘อภิชฺฌาย โข ปาปโก วิปาโก…เป… อภิชฺฌาย ปจฺโจโรหติ.

… ‘พฺยาปาทสฺส โข ปาปโก วิปาโก…เป… พฺยาปาทา ปจฺโจโรหติ.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี’’ติ. ทุติยํ.

๓. สงฺคารวสุตฺตํ

๑๖๙. [อ. นิ. ๑๐.๑๑๗] อถ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, โอริมํ ตีรํ, กึ ปาริมํ ตีร’’นฺติ? ‘‘ปาณาติปาโต โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, ปาณาติปาตา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อทินฺนาทานํ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, อทินฺนาทานา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. กาเมสุมิจฺฉาจาโร โอริมํ ตีรํ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. มุสาวาโท โอริมํ ตีรํ, มุสาวาทา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ปิสุณา วาจา โอริมํ ตีรํ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ผรุสา วาจา โอริมํ ตีรํ, ผรุสาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. สมฺผปฺปลาโป โอริมํ ตีรํ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อภิชฺฌา โอริมํ ตีรํ, อนภิชฺฌา ปาริมํ ตีรํ. พฺยาปาโท โอริมํ ตีรํ, อพฺยาปาโท ปาริมํ ตีรํ. มิจฺฉาทิฏฺิ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ปาริมํ ตีรนฺติ.

‘‘อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;

อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.

‘‘เย จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;

เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.

‘‘กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;

โอกา อโนกมาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.

‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;

ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.

‘‘เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;

อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;

ขีณาสวา ชุติมนฺโต, เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. ตติยํ;

๔. โอริมสุตฺตํ

๑๗๐. ‘‘โอริมฺจ, ภิกฺขเว, ตีรํ เทเสสฺสามิ ปาริมฺจ ตีรํ. ตํ สุณาถ…เป… กตมฺจ, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, กตมฺจ ปาริมํ ตีรํ? ปาณาติปาโต, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, ปาณาติปาตา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อทินฺนาทานํ โอริมํ ตีรํ, อทินฺนาทานา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. กาเมสุมิจฺฉาจาโร โอริมํ ตีรํ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. มุสาวาโท โอริมํ ตีรํ, มุสาวาทา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ปิสุณา วาจา โอริมํ ตีรํ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ผรุสา วาจา โอริมํ ตีรํ, ผรุสาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. สมฺผปฺปลาโป โอริมํ ตีรํ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อภิชฺฌา โอริมํ ตีรํ, อนภิชฺฌา ปาริมํ ตีรํ. พฺยาปาโท โอริมํ ตีรํ, อพฺยาปาโท ปาริมํ ตีรํ. มิจฺฉาทิฏฺิ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ปาริมํ ตีรนฺติ.

‘‘อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;

อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.

‘‘เย จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;

เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.

‘‘กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;

โอกา อโนกมาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.

‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;

ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.

‘‘เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;

อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;

ขีณาสวา ชุติมนฺโต, เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. จตุตฺถํ;

๕. ปมอธมฺมสุตฺตํ

๑๗๑. [อ. นิ. ๑๐.๑๑๓] ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม จ อนตฺโถ จ? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม จ อนตฺโถ จ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ? ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ.

‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยอธมฺมสุตฺตํ

๑๗๒. ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’’ติ?

อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา มหากจฺจาโน พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ.

อถ โข เต ภิกฺขู เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจุํ –

‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส กจฺจาน, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.

‘‘เตสํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ, ภิกฺขเว…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?

‘‘เตสํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา มหากจฺจาโน พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’ติ. วิภชตุ อายสฺมา มหากจฺจาโน’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส สารตฺถิโก สารํ คเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต อติกฺกมฺเมว มูลํ อติกฺกมฺม ขนฺธํ สาขาปลาเส สารํ ปริเยสิตพฺพํ มฺเยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ อายสฺมนฺตานํ สตฺถริ สมฺมุขีภูเต ตํ ภควนฺตํ อติสิตฺวา อมฺเห เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ มฺถ [มฺเถ (สี.), มฺเยฺยาถ (ก.)]. โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ตุมฺเห ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โว ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.

‘‘อทฺธา, อาวุโส กจฺจาน, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ มยํ ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาม. อปิ จายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. วิภชตายสฺมา มหากจฺจาโน อครุํ กริตฺวา’’ติ.

‘‘เตน หาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถายสฺมา มหากจฺจาโน เอตทโวจ –

‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.

‘‘กตโม, จาวุโส, อธมฺโม; กตโม จ ธมฺโม? กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ? ‘‘ปาณาติปาโต, อาวุโส, อธมฺโม; ปาณาติปาตา เวรมณี ธมฺโม; เย จ ปาณาติปาตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ปาณาติปาตา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘อทินฺนาทานํ, อาวุโส, อธมฺโม; อทินฺนาทานา เวรมณี ธมฺโม; เย จ อทินฺนาทานปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; อทินฺนาทานา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจาโร, อาวุโส, อธมฺโม; กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ธมฺโม; เย จ กาเมสุมิจฺฉาจารปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มุสาวาโท, อาวุโส, อธมฺโม; มุสาวาทา เวรมณี ธมฺโม; เย จ มุสาวาทปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; มุสาวาทา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘ปิสุณา วาจา, อาวุโส, อธมฺโม; ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม; เย จ ปิสุณาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ปิสุณาย วาจาย เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘ผรุสา วาจา, อาวุโส, อธมฺโม; ผรุสาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม; เย จ ผรุสาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ผรุสาย วาจาย เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘สมฺผปฺปลาโป, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ธมฺโม; เย จ สมฺผปฺปลาปปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺผปฺปลาปา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘อภิชฺฌา, อาวุโส, อธมฺโม; อนภิชฺฌา ธมฺโม; เย จ อภิชฺฌาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; อนภิชฺฌาปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘พฺยาปาโท, อาวุโส, อธมฺโม; อพฺยาปาโท ธมฺโม; เย จ พฺยาปาทปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; อพฺยาปาทปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โน ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.

‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘ยํ โข โน, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.

‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?

‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา มหากจฺจาโน พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’ติ.

‘‘อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิมฺหา; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ อปุจฺฉิมฺหา. เตสํ โน, ภนฺเต, อายสฺมตา มหากจฺจาเนน อิเมหิ อกฺขเรหิ อิเมหิ ปเทหิ อิเมหิ พฺยฺชเนหิ อตฺโถ สุวิภตฺโต’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขเว! ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน. มหาปฺโ, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน. มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ เจตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ มหากจฺจาเนน พฺยากตํ. เอโส เจว ตสฺส อตฺโถ. เอวฺจ นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ตติยอธมฺมสุตฺตํ

๑๗๓. ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม; กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ? ปาณาติปาโต, ภิกฺขเว, อธมฺโม; ปาณาติปาตา เวรมณี ธมฺโม; เย จ ปาณาติปาตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ปาณาติปาตา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘อทินฺนาทานํ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; อทินฺนาทานา เวรมณี ธมฺโม… กาเมสุมิจฺฉาจาโร, ภิกฺขเว, อธมฺโม; กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ธมฺโม… มุสาวาโท, ภิกฺขเว, อธมฺโม; มุสาวาทา เวรมณี ธมฺโม… ปิสุณา วาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม… ผรุสา วาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; ผรุสาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม… สมฺผปฺปลาโป, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ธมฺโม… อภิชฺฌา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; อนภิชฺฌา ธมฺโม… พฺยาปาโท, ภิกฺขเว, อธมฺโม; อพฺยาปาโท ธมฺโม….

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.

‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. กมฺมนิทานสุตฺตํ

๑๗๔. ‘‘ปาณาติปาตมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘อทินฺนาทานมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘มุสาวาทมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘ปิสุณวาจมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘ผรุสวาจมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘สมฺผปฺปลาปมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘อภิชฺฌมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘พฺยาปาทมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, โลโภ กมฺมนิทานสมฺภโว, โทโส กมฺมนิทานสมฺภโว, โมโห กมฺมนิทานสมฺภโว. โลภกฺขยา กมฺมนิทานสงฺขโย, โทสกฺขยา กมฺมนิทานสงฺขโย, โมหกฺขยา กมฺมนิทานสงฺขโย’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปริกฺกมนสุตฺตํ

๑๗๕. ‘‘สปริกฺกมโน อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อปริกฺกมโน. กถฺจ, ภิกฺขเว, สปริกฺกมโน อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อปริกฺกมโน? ปาณาติปาติสฺส, ภิกฺขเว, ปาณาติปาตา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. อทินฺนาทายิสฺส, ภิกฺขเว, อทินฺนาทานา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. กาเมสุมิจฺฉาจาริสฺส, ภิกฺขเว, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. มุสาวาทิสฺส, ภิกฺขเว, มุสาวาทา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. ปิสุณวาจสฺส, ภิกฺขเว, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. ผรุสวาจสฺส, ภิกฺขเว, ผรุสาย วาจาย เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. สมฺผปฺปลาปิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. อภิชฺฌาลุสฺส, ภิกฺขเว, อนภิชฺฌา ปริกฺกมนํ โหติ. พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส [พฺยาปาทสฺส (สี. ปี. ก.), พฺยาปนฺนสฺส (สฺยา.)], ภิกฺขเว, อพฺยาปาโท ปริกฺกมนํ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปริกฺกมนํ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปริกฺกมโน อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อปริกฺกมโน’’ติ. นวมํ.

๑๐. จุนฺทสุตฺตํ

๑๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ปาวายํ [จมฺปายํ (ก. สี.) ที. นิ. ๒.๑๘๙ ปสฺสิตพฺพํ] วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กสฺส โน ตฺวํ, จุนฺท, โสเจยฺยานิ โรเจสี’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา, ภนฺเต, ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา [เสวาลมาลกา (สี. สฺยา. ปี.)] อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺติ; เตสาหํ โสเจยฺยานิ โรเจมี’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, จุนฺท, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา. เต สาวกํ [สาวเก (สฺยา. ก.)] เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, กาลสฺเสว [สกาลสฺเสว (สฺยา.)] อุฏฺหนฺโตว [อุฏฺหนฺโต (สฺยา.), วุฏฺหนฺโตว (ปี. ก.)] สยนมฺหา ปถวึ อามเสยฺยาสิ; โน เจ ปถวึ อามเสยฺยาสิ, อลฺลานิ โคมยานิ อามเสยฺยาสิ; โน เจ อลฺลานิ โคมยานิ อามเสยฺยาสิ, หริตานิ ติณานิ อามเสยฺยาสิ; โน เจ หริตานิ ติณานิ อามเสยฺยาสิ, อคฺคึ ปริจเรยฺยาสิ; โน เจ อคฺคึ ปริจเรยฺยาสิ, ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺเสยฺยาสิ; โน เจ ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺเสยฺยาสิ, สายตติยกํ อุทกํ โอโรเหยฺยาสี’ติ. เอวํ โข, ภนฺเต, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺติ; เตสาหํ โสเจยฺยานิ โรเจมี’’ติ.

‘‘อฺถา โข, จุนฺท, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหติ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, จุนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ติวิธํ โข, จุนฺท, กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ; จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ; ติวิธํ มนสา อโสเจยฺยํ โหติ.

‘‘กถฺจ, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ? ‘‘อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ [ปาณภูเตสุ (ก.)].

‘‘อทินฺนาทายี โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา [นตฺถิ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ] ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา [นตฺถิ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ] ธมฺมรกฺขิตา สสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ.

‘‘กถฺจ, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ มุสาวาที โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ [โส อชานํ วา อหํ ชานามีติ, ชานํ วา อหํ น ชานามีติ, อปสฺสํ วา อหํ ปสฺสามีติ, ปสฺสํ วา อหํ น ปสฺสามีติ (ปี. ก.) เอวมุปริปิ], โส อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ; อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ [โส อชานํ วา อหํ ชานามีติ, ชานํ วา อหํ น ชานามีติ, อปสฺสํ วา อหํ ปสฺสามีติ, ปสฺสํ วา อหํ น ปสฺสามีติ (ปี. ก.) เอวมุปริปิ]. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณวาโจ โหติ. อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา [เภทาตา (ก.)], ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา, วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสวาโจ โหติ. ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปี โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที; อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ.

‘‘กถฺจ, จุนฺท, ติวิธํ มนสา อโสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อภิชฺฌาตา [อภิชฺฌิตา (ก.) ม. นิ. ๑.๔๔๐ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ.

‘‘พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ [มา วา อเหสุํ อิติ วา ติ (สี. ปี. ก.)].

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ [นตฺเถตฺถ ปาเภโท] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, จุนฺท, มนสา ติวิธํ อโสเจยฺยํ โหติ.

‘‘อิเม โข, จุนฺท, ทส อกุสลกมฺมปถา [อกุสลา กมฺมปถา (?)]. อิเมหิ โข, จุนฺท, ทสหิ อกุสเลหิ กมฺมปเถหิ สมนฺนาคโต กาลสฺเสว อุฏฺหนฺโตว สยนมฺหา ปถวึ เจปิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปถวึ อามสติ, อสุจิเยว โหติ.

‘‘อลฺลานิ เจปิ โคมยานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ อลฺลานิ โคมยานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ.

‘‘หริตานิ เจปิ ติณานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ หริตานิ ติณานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ.

‘‘อคฺคึ เจปิ ปริจรติ, อสุจิเยว โหติ, โน เจปิ อคฺคึ ปริจรติ, อสุจิเยว โหติ.

‘‘ปฺชลิโก เจปิ อาทิจฺจํ นมสฺสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺสติ, อสุจิเยว โหติ.

‘‘สายตติยกํ เจปิ อุทกํ โอโรหติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ สายตติยกํ อุทกํ โอโรหติ, อสุจิเยว โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิเม, จุนฺท, ทส อกุสลกมฺมปถา อสุจีเยว [อสุจิจฺเจว (สฺยา.)] โหนฺติ อสุจิกรณา จ.

‘‘อิเมสํ ปน, จุนฺท, ทสนฺนํ อกุสลานํ กมฺมปถานํ สมนฺนาคมนเหตุ นิรโย ปฺายติ, ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ, เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา [ยา จ (ก.)] ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย [ทุคฺคติ โหติ (สฺยา. ก.)].

‘‘ติวิธํ โข, จุนฺท, กาเยน โสเจยฺยํ โหติ; จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ; ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติ.

‘‘กถํ, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, น ตํ อทินฺนํ [ตํ นาทินฺนํ (ก. สี., ม. นิ. ๑.๔๔๑)] เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน โสเจยฺยํ โหติ.

‘‘กถฺจ, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ – น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, น อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที; นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ.

‘‘กถฺจ, จุนฺท, ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อนภิชฺฌิตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ.

‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา โหนฺตุ [อิทํ ปทํ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ, ตถา ม. นิ. ๑.๔๔๑] อพฺยาปชฺชา, อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ.

‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติ.

‘‘อิเม โข, จุนฺท, ทส กุสลกมฺมปถา. อิเมหิ โข, จุนฺท, ทสหิ กุสเลหิ กมฺมปเถหิ สมนฺนาคโต กาลสฺเสว อุฏฺหนฺโตว สยนมฺหา ปถวึ เจปิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปถวึ อามสติ, สุจิเยว โหติ.

‘‘อลฺลานิ เจปิ โคมยานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ อลฺลานิ โคมยานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ.

‘‘หริตานิ เจปิ ติณานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ หริตานิ ติณานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ.

‘‘อคฺคึ เจปิ ปริจรติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ อคฺคึ ปริจรติ, สุจิเยว โหติ.

‘‘ปฺชลิโก เจปิ อาทิจฺจํ นมสฺสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺสติ, สุจิเยว โหติ.

‘‘สายตติยกํ เจปิ อุทกํ โอโรหติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ สายตติยกํ อุทกํ โอโรหติ, สุจิเยว โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิเม, จุนฺท, ทส กุสลกมฺมปถา สุจีเยว โหนฺติ สุจิกรณา จ.

‘‘อิเมสํ ปน, จุนฺท, ทสนฺนํ กุสลานํ กมฺมปถานํ สมนฺนาคมนเหตุ เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย’’ติ [สุคติ โหตีติ (สฺยา.), สุคติ โหติ (ก.)].

เอวํ วุตฺเต จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.

๑๑. ชาณุสฺโสณิสุตฺตํ

๑๗๗. อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นาม. ทานานิ เทม, สทฺธานิ กโรม – ‘อิทํ ทานํ เปตานํ าติสาโลหิตานํ อุปกปฺปตุ, อิทํ ทานํ เปตา าติสาโลหิตา ปริภุฺชนฺตู’ติ. กจฺจิ ตํ, โภ โคตม, ทานํ เปตานํ าติสาโลหิตานํ อุปกปฺปติ; กจฺจิ เต เปตา าติสาโลหิตา ตํ ทานํ ปริภุฺชนฺตี’’ติ? ‘‘าเน โข, พฺราหฺมณ, อุปกปฺปติ, โน อฏฺาเน’’ติ.

‘‘กตมํ ปน, โภ [กตมฺจ ปน โภ (สี. ปี.) กตมํ (สฺยา.)] โคตม, านํ, กตมํ อฏฺาน’’นฺติ? ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรยํ อุปปชฺชติ. โย เนรยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ [อิทํ (สฺยา.)] โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชติ. โย ติรจฺฉานโยนิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โย มนุสฺสานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โย เทวานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปติ.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เปตฺติวิสยํ อุปปชฺชติ. โย เปตฺติเวสยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ, ยํ วา ปนสฺส อิโต อนุปฺปเวจฺฉนฺติ มิตฺตามจฺจา วา าติสาโลหิตา วา [มิตฺตา วา อมจฺจา วา าตี วา สาโลหิตา วา (สี. ปี.)], เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, านํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปตี’’ติ.

‘‘สเจ ปน, โภ โคตม, โส เปโต าติสาโลหิโต ตํ านํ อนุปปนฺโน โหติ, โก ตํ ทานํ ปริภุฺชตี’’ติ? ‘‘อฺเปิสฺส, พฺราหฺมณ, เปตา าติสาโลหิตา ตํ านํ อุปปนฺนา โหนฺติ, เต ตํ ทานํ ปริภุฺชนฺตี’’ติ.

‘‘สเจ ปน, โภ โคตม, โส เจว เปโต าติสาโลหิโต ตํ านํ อนุปปนฺโน โหติ อฺเปิสฺส าติสาโลหิตา เปตา ตํ านํ อนุปปนฺนา โหนฺติ, โก ตํ ทานํ ปริภุฺชตี’’ติ? ‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ ตํ านํ วิวิตฺตํ อสฺส อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา ยทิทํ เปเตหิ าติสาโลหิเตหิ. อปิ จ, พฺราหฺมณ, ทายโกปิ อนิปฺผโล’’ติ.

‘‘อฏฺาเนปิ ภวํ โคตโม ปริกปฺปํ วทตี’’ติ? ‘‘อฏฺาเนปิ โข อหํ, พฺราหฺมณ, ปริกปฺปํ วทามิ. อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ; โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หตฺถีนํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส [มาลาคนฺธวิเลปนสฺส นานาลงฺการสฺส (ก.)].

‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หตฺถีนํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ. โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ…เป… คุนฺนํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ…เป… กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ [‘‘กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ อยํ วาโร เกสุจิ สีหฬโปตฺถเกสุ น ทิสฺสตีติ อิงฺคลิสโปตฺถเก อโธลิปิ. ตํ ทสวารคณนาย สเมติ]. โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส.

‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตี…เป. … มิจฺฉาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ ลาภี โหติ มานุสกานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ.

‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน โส ตตฺถ ลาภี โหติ มานุสกานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ.

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ ลาภี โหติ ทิพฺพานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ.

‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน โส ตตฺถ ลาภี โหติ ทิพฺพานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ. อปิ จ, พฺราหฺมณ, ทายโกปิ อนิปฺผโล’’ติ.

‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาวฺจิทํ, โภ โคตม, อลเมว ทานานิ ทาตุํ, อลํ สทฺธานิ กาตุํ, ยตฺร หิ นาม ทายโกปิ อนิปฺผโล’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, พฺราหฺมณ [เอวเมตํ พฺราหฺมณ เอวเมตํ พฺราหฺมณ (สี. สฺยา.)], ทายโกปิ หิ, พฺราหฺมณ, อนิปฺผโล’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. เอกาทสมํ.

ชาณุสฺโสณิวคฺโค [ยมกวคฺโค (ก.)] ทุติโย.

(๑๘) ๓. สาธุวคฺโค

๑. สาธุสุตฺตํ

๑๗๘. [อ. นิ. ๑๐.๑๓๔] ‘‘สาธุฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อสาธุฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อสาธุ? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสาธุ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สาธุ? ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฏฺิ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สาธู’’ติ. ปมํ.

๒. อริยธมฺมสุตฺตํ

๑๗๙. ‘‘อริยธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อนริยธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อนริโย ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนริโย ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อริโย ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย ธมฺโม’’ติ. ทุติยํ.

๓. กุสลสุตฺตํ

๑๘๐. ‘‘กุสลฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อกุสลฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตมฺจ, ภิกฺขเว, อกุสลํ? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อกุสลํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กุสลํ? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กุสล’’นฺติ. ตติยํ.

๔. อตฺถสุตฺตํ

๑๘๑. ‘‘อตฺถฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อนตฺถฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อนตฺโถ? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนตฺโถ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อตฺโถ? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตฺโถ’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ธมฺมสุตฺตํ

๑๘๒. ‘‘ธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺโม’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อาสวสุตฺตํ

๑๘๓. ‘‘สาสวฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อนาสวฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, สาสโว ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สาสโว ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อนาสโว ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนาสโว ธมฺโม’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. วชฺชสุตฺตํ

๑๘๔. ‘‘สาวชฺชฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อนวชฺชฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, สาวชฺโช ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สาวชฺโช ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อนวชฺโช ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนวชฺโช ธมฺโม’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ตปนียสุตฺตํ

๑๘๕. ‘‘ตปนียฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อตปนียฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, ตปนีโย ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตปนีโย ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อตปนีโย ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตปนีโย ธมฺโม’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อาจยคามิสุตฺตํ

๑๘๖. ‘‘อาจยคามิฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อปจยคามิฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อาจยคามี ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาจยคามี ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อปจยคามี ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อปจยคามี ธมฺโม’’ติ. นวมํ.

๑๐. ทุกฺขุทฺรยสุตฺตํ

๑๘๗. ‘‘ทุกฺขุทฺรยฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ สุขุทฺรยฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขุทฺรโย ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขุทฺรโย ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สุขุทฺรโย ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขุทฺรโย ธมฺโม’’ติ. ทสมํ.

๑๑. วิปากสุตฺตํ

๑๘๘. ‘‘ทุกฺขวิปากฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ สุขวิปากฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุกฺขวิปาโก ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขวิปาโก ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สุขวิปาโก ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุขวิปาโก ธมฺโม’’ติ. เอกาทสมํ.

สาธุวคฺโค ตติโย.

(๑๙) ๔. อริยมคฺควคฺโค

๑. อริยมคฺคสุตฺตํ

๑๘๙. ‘‘อริยมคฺคฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อนริยมคฺคฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อนริโย มคฺโค? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนริโย มคฺโค.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อริโย มคฺโค? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย มคฺโค’’ติ. ปมํ.

๒. กณฺหมคฺคสุตฺตํ

๑๙๐. ‘‘กณฺหมคฺคฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ สุกฺกมคฺคฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, กณฺโห มคฺโค? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กณฺโห มคฺโค.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สุกฺโก มคฺโค? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุกฺโก มคฺโค’’ติ. ทุติยํ.

๓. สทฺธมฺมสุตฺตํ

๑๙๑. ‘‘สทฺธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อสทฺธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สทฺธมฺโม’’ติ. ตติยํ.

๔. สปฺปุริสธมฺมสุตฺตํ

๑๙๒. ‘‘สปฺปุริสธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อสปฺปุริสธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. อุปฺปาเทตพฺพธมฺมสุตฺตํ

๑๙๓. ‘‘อุปฺปาเทตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น อุปฺปาเทตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุปฺปาเทตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อาเสวิตพฺพธมฺมสุตฺตํ

๑๙๔. ‘‘อาเสวิตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ นาเสวิตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, นาเสวิตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, นาเสวิตพฺโพ ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อาเสวิตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาเสวิตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ภาเวตพฺพธมฺมสุตฺตํ

๑๙๕. ‘‘ภาเวตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น ภาเวตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น ภาเวตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาโต …เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น ภาเวตพฺโพ ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ภาเวตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภาเวตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. สตฺตมํ.

๘. พหุลีกาตพฺพสุตฺตํ

๑๙๖. ‘‘พหุลีกาตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น พหุลีกาตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, พหุลีกาตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อนุสฺสริตพฺพสุตฺตํ

๑๙๗. ‘‘อนุสฺสริตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ นานุสฺสริตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, นานุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, นานุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อนุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุสฺสริตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. นวมํ.

๑๐. สจฺฉิกาตพฺพสุตฺตํ

๑๙๘. ‘‘สจฺฉิกาตพฺพฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ น สจฺฉิกาตพฺพฺจ. ตํ สุณาถ…เป… กตโม จ, ภิกฺขเว, น สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาโต…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม? ปาณาติปาตา เวรมณี…เป… สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺโพ ธมฺโม’’ติ. ทสมํ.

อริยมคฺควคฺโค จตุตฺโถ.

(๒๐) ๕. อปรปุคฺคลวคฺโค

นเสวิตพฺพาทิสุตฺตานิ

๑๙๙. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิโก โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ’’.

๒๐๐-๒๐๙. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล น ภชิตพฺโพ…เป… ภชิตพฺโพ… น ปยิรุปาสิตพฺโพ… ปยิรุปาสิตพฺโพ… น ปุชฺโช โหติ… ปุชฺโช โหติ… น ปาสํโส โหติ… ปาสํโส โหติ… อคารโว โหติ… คารโว โหติ… อปฺปติสฺโส โหติ… สปฺปติสฺโส โหติ… น อาราธโก โหติ… อาราธโก โหติ… น วิสุชฺฌติ… วิสุชฺฌติ… มานํ นาธิโภติ [นาภิโภติ (สี.) อ. นิ. ๑๐.๑๕๖-๑๖๖] … มานํ อธิโภติ… ปฺาย น วฑฺฒติ… ปฺาย วฑฺฒติ…เป….

๒๑๐. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล พหุํ อปุฺํ ปสวติ… พหุํ ปุฺํ ปสวติ. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิโก โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล พหุํ ปุฺํ ปสวตี’’ติ.

อปรปุคฺคลวคฺโค ปฺจโม.

จตุตฺถปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

(๒๑) ๑. กรชกายวคฺโค

๑. ปมนิรยสคฺคสุตฺตํ

๒๑๑. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ [นตฺเถตฺถ ปาเภโท].

‘‘อทินฺนาทายี โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุ มิจฺฉาจารี โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ.

‘‘มุสาวาที โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณวาโจ โหติ – อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที, วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสวาโจ โหติ – ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปี โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที, อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ.

‘‘อภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มม อสฺสา’ติ.

‘‘พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ.

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, น ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา…เป… อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ.

‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณวาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ – น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที, สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสวาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที, อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ.

‘‘อนภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อนภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มม อสฺสา’ติ.

‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชา อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ.

‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยนิรยสคฺคสุตฺตํ

๒๑๒. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ.

‘‘อทินฺนาทายี โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ… มุสาวาที โหติ… ปิสุณวาโจ โหติ… ผรุสวาโจ โหติ … สมฺผปฺปลาปี โหติ… อภิชฺฌาลุ โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ…เป… สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ… มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ… ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ… อนภิชฺฌาลุ โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ…เป… เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ทุติยํ.

๓. มาตุคามสุตฺตํ

๒๑๓. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตี โหติ…เป… อทินฺนาทายี โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ… มุสาวาที โหติ… ปิสุณวาโจ โหติ… ผรุสวาโจ โหติ… สมฺผปฺปลาปี โหติ… อภิชฺฌาลุ โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ… มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ… ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ… อนภิชฺฌาลุ โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ… อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ตติยํ.

๔. อุปาสิกาสุตฺตํ

๒๑๔. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตินี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’. จตุตฺถํ.

๕. วิสารทสุตฺตํ

๒๑๕. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา อวิสารทา อคารํ อชฺฌาวสติ. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตินี โหติ… อทินฺนาทายินี โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารินี โหติ… มุสาวาทินี โหติ… ปิสุณาวาจา โหติ… ผรุสวาจา โหติ… สมฺผปฺปลาปินี โหติ… อภิชฺฌาลุนี โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺตา โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา อวิสารทา อคารํ อชฺฌาวสติ.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา วิสารทา อคารํ อชฺฌาวสติ. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา โหติ… อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา โหติ… มุสาวาทา ปฏิวิรตา โหติ… ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา โหติ… ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา โหติ… สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา โหติ… อนภิชฺฌาลุนี โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺตา โหติ… สมฺมาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา วิสารทา อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สํสปฺปนียสุตฺตํ

๒๑๖. ‘‘สํสปฺปนียปริยายํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สํสปฺปนียปริยาโย ธมฺมปริยาโย? กมฺมสฺสกา, ภิกฺขเว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, ยํ กมฺมํ กโรนฺติ – กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา – ตสฺส ทายาทา ภวนฺติ.

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ, อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ. โส สํสปฺปติ กาเยน, สํสปฺปติ วาจาย, สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส ชิมฺหํ กายกมฺมํ โหติ, ชิมฺหํ วจีกมฺมํ, ชิมฺหํ มโนกมฺมํ, ชิมฺหา คติ, ชิมฺหุปปตฺติ.

‘‘ชิมฺหคติกสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ชิมฺหุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตทุกฺขา นิรยา ยา วา สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ. กตมา จ สา, ภิกฺขเว, สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ? อหิ วิจฺฉิกา สตปที นกุลา พิฬารา มูสิกา อุลูกา, เย วา ปนฺเปิ เกจิ ติรจฺฉานโยนิกา สตฺตา มนุสฺเส ทิสฺวา สํสปฺปนฺติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ. ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อทินฺนาทายี โหติ…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ… มุสาวาที โหติ… ปิสุณวาโจ โหติ… ผรุสวาโจ โหติ… สมฺผปฺปลาปี โหติ… อภิชฺฌาลุ โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ…เป… สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. โส สํสปฺปติ กาเยน, สํสปฺปติ วาจาย, สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส ชิมฺหํ กายกมฺมํ โหติ, ชิมฺหํ วจีกมฺมํ, ชิมฺหํ มโนกมฺมํ, ชิมฺหา คติ, ชิมฺหุปปตฺติ.

‘‘ชิมฺหคติกสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ชิมฺหุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตทุกฺขา นิรยา ยา วา สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ. กตมา จ สา, ภิกฺขเว, สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ? อหิ วิจฺฉิกา สตปที นกุลา พิฬารา มูสิกา อุลูกา, เย วา ปนฺเปิ เกจิ ติรจฺฉานโยนิกา สตฺตา มนุสฺเส ทิสฺวา สํสปฺปนฺติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ, ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ. กมฺมสฺสกา, ภิกฺขเว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, ยํ กมฺมํ กโรนฺติ – กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา – ตสฺส ทายาทา ภวนฺติ.

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. โส น สํสปฺปติ กาเยน, น สํสปฺปติ วาจาย, น สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส อุชุ กายกมฺมํ โหติ, อุชุ วจีกมฺมํ, อุชุ มโนกมฺมํ, อุชุ คติ, อุชุปปตฺติ.

‘‘อุชุคติกสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อุชุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตสุขา สคฺคา ยานิ วา ปน ตานิ อุจฺจากุลานิ ขตฺติยมหาสาลกุลานิ วา พฺราหฺมณมหาสาลกุลานิ วา คหปติมหาสาลกุลานิ วา อฑฺฒานิ มหทฺธนานิ มหาโภคานิ ปหูตชาตรูปรชตานิ ปหูตวิตฺตูปกรณานิ ปหูตธนธฺานิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ. ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ… มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ… ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ… อนภิชฺฌาลุ โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ…เป… เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. โส น สํสปฺปติ กาเยน, น สํสปฺปติ วาจาย, น สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส อุชุ กายกมฺมํ โหติ, อุชุ วจีกมฺมํ, อุชุ มโนกมฺมํ, อุชุ คติ, อุชุปปตฺติ.

‘‘อุชุคติกสฺส โข ปน อหํ, ภิกฺขเว, อุชุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตสุขา สคฺคา ยานิ วา ปน ตานิ อุจฺจากุลานิ ขตฺติยมหาสาลกุลานิ วา พฺราหฺมณมหาสาลกุลานิ วา คหปติมหาสาลกุลานิ วา อฑฺฒานิ มหทฺธนานิ มหาโภคานิ ปหูตชาตรูปรชตานิ ปหูตวิตฺตูปกรณานิ ปหูตธนธฺานิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ. ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ.

‘‘กมฺมสฺสกา, ภิกฺขเว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, ยํ กมฺมํ กโรนฺติ – กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา – ตสฺส ทายาทา ภวนฺติ. อยํ โข โส, ภิกฺขเว, สํสปฺปนียปริยาโย ธมฺมปริยาโย’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมสฺเจตนิกสุตฺตํ

๒๑๗. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา [อปฺปฏิสํวิทิตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] พฺยนฺตีภาวํ วทามิ. ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา [อุปปชฺชํ วา (ก.) อ. นิ. ๖.๖๓ ปสฺสิตพฺพํ, อุปปชฺช วา (ม. นิ. ๓.๓๐๓)] อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา [อกุสลํ สฺเจตนิกํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ (ก.)] โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ.

‘‘อทินฺนาทายี โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา…เป… อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ มุสาวาที โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณวาโจ โหติ. อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที, วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสวาโจ โหติ. ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา. อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปี โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที, อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ, ตํ อภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต, ยํ ปรสฺส ตํ มม อสฺสา’ติ.

‘‘พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ.

มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ…เป. … เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธ กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ [… สฺเจตนิกเหตุ (ก.)] วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อปณฺณโก มณิ อุทฺธํขิตฺโต เยน เยเนว ปติฏฺาติ สุปฺปติฏฺิตํเยว ปติฏฺาติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธกายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตีติ.

‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ…เป….

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, น ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา …เป… อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ – น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺทึ, สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อนภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต, ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ.

‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชา อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ.

‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ…เป… เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธกายกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อปณฺณโก มณิ อุทฺธํขิตฺโต เยน เยเนว ปติฏฺาติ สุปฺปติฏฺิตํเยว ปติฏฺาติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธกายกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ. ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามี’’ติ. สตฺตมํ. [อฏฺกถายํ ปน อฏฺมสุตฺตมฺปิ เอตฺเถว ปริยาปนฺนํ วิย สํวณฺณนา ทิสฺสติ]

๘. ทุติยสฺเจตนิกสุตฺตํ

๒๑๘. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธ กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ, จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺต…เป… ติวิธมโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธกายกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ…เป… ติวิธมโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ…เป…. [อุปปชฺชนฺติ. (สฺยา. ก.) ตถา สติ ‘‘นาหํ ภิกฺขเว สฺเจตนิกาน’’ มิจฺจาทินา วุจฺจมานวจเนน สห เอกสุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เปยฺยาเลน ปน ปุริมสุตฺเต วิย นิคมนํ ทสฺสิตํ] อฏฺมํ.

๙. กรชกายสุตฺตํ

๒๑๙. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ วิคตาภิชฺโฌ วิคตพฺยาปาโท อสมฺมูฬฺโห สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ [จตุตฺถึ (?)]. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.

‘‘โส เอวํ ปชานาติ – ‘ปุพฺเพ โข เม อิทํ จิตฺตํ ปริตฺตํ อโหสิ อภาวิตํ, เอตรหิ ปน เม อิทํ จิตฺตํ อปฺปมาณํ สุภาวิตํ. ยํ โข ปน กิฺจิ ปมาณกตํ กมฺมํ, น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ น ตํ ตตฺราวติฏฺตี’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ทหรตคฺเค เจ โส อยํ [เจ อยํ (สฺยา.)] กุมาโร เมตฺตํ เจโตวิมุตฺตึ ภาเวยฺย, อปิ นุ โข [อปิ นุ โส (?)] ปาปกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘อกโรนฺตํ โข ปน ปาปกมฺมํ อปิ นุ โข ทุกฺขํ ผุเสยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. อกโรนฺตฺหิ, ภนฺเต, ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’’ติ!

‘‘ภาเวตพฺพา โข ปนายํ, ภิกฺขเว, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา. อิตฺถิยา วา, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส วา นายํ กาโย อาทาย คมนีโย. จิตฺตนฺตโร อยํ, ภิกฺขเว, มจฺโจ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยํ โข เม อิทํ กิฺจิ ปุพฺเพ อิมินา กรชกาเยน ปาปกมฺมํ กตํ, สพฺพํ ตํ อิธ เวทนียํ; น ตํ อนุคํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, เมตฺตา เจโตวิมุตฺติ อนาคามิตาย สํวตฺตติ, อิธ ปฺสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. ปี.)] วิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโต.

‘‘กรุณาสหคเตน เจตสา… มุทิตาสหคเตน เจตสา… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.

‘‘โส เอวํ ปชานาติ – ‘ปุพฺเพ โข เม อิทํ จิตฺตํ ปริตฺตํ อโหสิ อภาวิตํ, เอตรหิ ปน เม อิทํ จิตฺตํ อปฺปมาณํ สุภาวิตํ. ยํ โข ปน กิฺจิ ปมาณกตํ กมฺมํ, น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ น ตํ ตตฺราวติฏฺตี’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ทหรตคฺเค เจ โส อยํ กุมาโร อุเปกฺขํ เจโตวิมุตฺตึ ภาเวยฺย, อปิ นุ โข ปาปกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘อกโรนฺตํ โข ปน ปาปกมฺมํ อปิ นุ โข ทุกฺขํ ผุเสยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. อกโรนฺตฺหิ, ภนฺเต, ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’’ติ!

‘‘ภาเวตพฺพา โข ปนายํ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา เจโตวิมุตฺติ อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา. อิตฺถิยา วา, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส วา นายํ กาโย อาทาย คมนีโย. จิตฺตนฺตโร อยํ, ภิกฺขเว, มจฺโจ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยํ โข เม อิทํ กิฺจิ ปุพฺเพ อิมินา กรชกาเยน ปาปกมฺมํ กตํ, สพฺพํ ตํ อิธ เวทนียํ; น ตํ อนุคํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา เจโตวิมุตฺติ อนาคามิตาย สํวตฺตติ, อิธ ปฺสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริ วิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโต’’ติ. นวมํ.

๑๐. อธมฺมจริยาสุตฺตํ

๒๒๐. [อ. นิ. ๒.๑๖] อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยนมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘โก ปน, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยนมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘น โข อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถาหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ติวิธา โข, พฺราหฺมณ, กาเยน อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ; จตุพฺพิธา วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ; ติวิธา มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน อธมฺมจริยา วิสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย อธมฺมจริยา วิสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ. เอวํ อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘ติวิธา พฺราหฺมณ, กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ; จตุพฺพิธา วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ; ติวิธา มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ. เอวํ ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.

กรชกายวคฺโค ปโม.

(๒๒) ๒. สามฺวคฺโค

๒๒๑. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิโก โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ.

๒๒๒. ‘‘วีสติยา, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ วีสติยา? อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ; อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ, ปรฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจาเร สมาทเปติ; อตฺตนา จ มุสาวาที โหติ, ปรฺจ มุสาวาเท สมาทเปติ; อตฺตนา จ ปิสุณวาโจ โหติ, ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ผรุสวาโจ โหติ, ปรฺจ ผรุสาย วาจาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปี โหติ, ปรฺจ สมฺผปฺปลาเป สมาทเปติ; อตฺตนา จ อภิชฺฌาลุ โหติ, ปรฺจ อภิชฺฌาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, ปรฺจ พฺยาปาเท สมาทเปติ; อตฺตนา จ มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ปรฺจ มิจฺฉาทิฏฺิยา สมาทเปติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, วีสติยา ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘วีสติยา, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ วีสติยา? อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา จ อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา จ มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา จ ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา จ ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา สมาทเปติ; อตฺตนา จ อนภิชฺฌาลุ โหติ, ปรฺจ อนภิชฺฌาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, ปรฺจ อพฺยาปาเท สมาทเปติ; อตฺตนา จ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, ปรฺจ สมฺมาทิฏฺิยา สมาทเปติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, วีสติยา ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ.

๒๒๓. ‘‘ตึสาย, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ตึสาย? อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ, ปาณาติปาเต จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ, ปรฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ, อทินฺนาทาเน จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจาเร สมาทเปติ, กาเมสุมิจฺฉาจาเร จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ มุสาวาที โหติ, ปรฺจ มุสาวาเท สมาทเปติ, มุสาวาเท จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ ปิสุณวาโจ โหติ, ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย สมาทเปติ, ปิสุณาย วาจาย จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ ผรุสวาโจ โหติ, ปรฺจ ผรุสาย วาจาย สมาทเปติ, ผรุสาย วาจาย จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปี โหติ, ปรฺจ สมฺผปฺปลาเป สมาทเปติ, สมฺผปฺปลาเป จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ อภิชฺฌาลุ โหติ, ปรฺจ อภิชฺฌาย สมาทเปติ, อภิชฺฌาย จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, ปรฺจ พฺยาปาเท สมาทเปติ, พฺยาปาเท จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ปรฺจ มิจฺฉาทิฏฺิยา สมาทเปติ, มิจฺฉาทิฏฺิยา จ สมนุฺโ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตึสาย ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ตึสาย, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ตึสาย? อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ, ปาณาติปาตา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ, อทินฺนาทานา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ, มุสาวาทา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ, ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา สมาทเปติ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ อนภิชฺฌาลุ โหติ, ปรฺจ อนภิชฺฌาย สมาทเปติ, อนภิชฺฌาย จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, ปรฺจ อพฺยาปาเท สมาทเปติ, อพฺยาปาเท จ สมนุฺโ โหติ; อตฺตนา จ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, ปรฺจ สมฺมาทิฏฺิยา สมาทเปติ, สมฺมาทิฏฺิยา จ สมนุฺโ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตึสาย ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ.

๒๒๔. ‘‘จตฺตารีสาย, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ จตฺตารีสาย? อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ, ปาณาติปาเต จ สมนุฺโ โหติ, ปาณาติปาตสฺส จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ, ปรฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ, อทินฺนาทาเน จ สมนุฺโ โหติ, อทินฺนาทานสฺส จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจาเร สมาทเปติ, กาเมสุมิจฺฉาจาเร จ สมนุฺโ โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารสฺส จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ มุสาวาที โหติ, ปรฺจ มุสาวาเท สมาทเปติ, มุสาวาเท จ สมนุฺโ โหติ, มุสาวาทสฺส จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ ปิสุณวาโจ โหติ, ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย สมาทเปติ, ปิสุณาย วาจาย จ สมนุฺโ โหติ, ปิสุณาย วาจาย จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ ผรุสวาโจ โหติ, ปรฺจ ผรุสาย วาจาย สมาทเปติ, ผรุสาย วาจาย จ สมนุฺโ โหติ, ผรุสาย วาจาย จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปี โหติ, ปรฺจ สมฺผปฺปลาเป สมาทเปติ, สมฺผปฺปลาเป จ สมนุฺโ โหติ, สมฺผปฺปลาปสฺส จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ อภิชฺฌาลุ โหติ, ปรฺจ อภิชฺฌาย สมาทเปติ, อภิชฺฌาย จ สมนุฺโ โหติ, อภิชฺฌาย จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, ปรฺจ พฺยาปาเท สมาทเปติ, พฺยาปาเท จ สมนุฺโ โหติ, พฺยาปาทสฺส จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ปรฺจ มิจฺฉาทิฏฺิยา สมาทเปติ, มิจฺฉาทิฏฺิยา จ สมนุฺโ โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิยา จ วณฺณํ ภาสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตารีสาย ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘จตฺตารีสาย, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ จตฺตารีสาย? อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ, ปาณาติปาตา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ, ปาณาติปาตา เวรมณิยา จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ, อทินฺนาทานา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ, อทินฺนาทานา เวรมณิยา จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ, มุสาวาทา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ, มุสาวาทา เวรมณิยา จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา จ สมาทเปติ, ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ, ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, ปรฺจ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา สมาทเปติ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา จ สมนุฺโ โหติ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ อนภิชฺฌาลุ โหติ, ปรฺจ อนภิชฺฌาย สมาทเปติ, อนภิชฺฌาย จ สมนุฺโ โหติ, อนภิชฺฌาย จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, ปรฺจ อพฺยาปาเท สมาทเปติ, อพฺยาปาเท จ สมนุฺโ โหติ, อพฺยาปาทสฺส จ วณฺณํ ภาสติ; อตฺตนา จ สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, ปรฺจ สมฺมาทิฏฺิยา สมาทเปติ, สมฺมาทิฏฺิยา จ สมนุฺโ โหติ, สมฺมาทิฏฺิยา จ วณฺณํ ภาสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตารีสาย ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ.

๒๒๕-๒๒๘. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ…เป… อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ…เป… วีสติยา, ภิกฺขเว…เป… ตึสาย, ภิกฺขเว…เป… จตฺตารีสาย, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ…เป….

๒๒๙-๒๓๒. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ…เป… อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. วีสติยา, ภิกฺขเว…เป… ตึสาย, ภิกฺขเว,…เป… จตฺตารีสาย, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ…เป… อิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ’’.

๒๓๓-๒๓๖. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ…เป… ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ…เป… วีสติยา, ภิกฺขเว…เป… ตึสาย, ภิกฺขเว…เป… จตฺตารีสาย, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ…เป… ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ …เป… อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตารีสาย ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ’’ติ.

สามฺวคฺโค ทุติโย.

๒๓. ราคเปยฺยาลํ

๒๓๗. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทส? อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๒๓๘. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทส? อนิจฺจสฺา, อนตฺตสฺา, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเก อนภิรตสฺา, อฏฺิกสฺา, ปุฬวกสฺา [ปุลวกสฺา (สี.) ปุฬุวกสฺา (ก.)], วินีลกสฺา, วิปุพฺพกสฺา, วิจฺฉิทฺทกสฺา, อุทฺธุมาตกสฺา – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๒๓๙. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ, สมฺมาวิมุตฺติ – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

๒๔๐-๒๖๖. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย…เป… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… ( ) [(อุปสมาย) (สี. สฺยา. ปี.) อฺเสํ ปน นิปาตานํ ปริโยสาเน อิทํ ปทํ น ทิสฺสติ] จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย…เป… อิเม ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา.

๒๖๗-๗๔๖. ‘‘โทสสฺส …เป… โมหสฺส… โกธสฺส… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส ปริฺาย…เป… ปริกฺขยาย… ปหานาย … ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… ( ) [(อุปสมาย) (สี. สฺยา. ปี.) อฺเสํ ปน นิปาตานํ ปริโยสาเน อิทํ ปทํ น ทิสฺสติ] จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย…เป… อิเม ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

ทสกนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.