📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

องฺคุตฺตรนิกาโย

เอกาทสกนิปาตปาฬิ

๑. นิสฺสยวคฺโค

๑. กิมตฺถิยสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๑๐.๑] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิมตฺถิยานิ, ภนฺเต, กุสลานิ สีลานิ กิมานิสํสานี’’ติ? ‘‘อวิปฺปฏิสารตฺถานิ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานี’’ติ.

‘‘อวิปฺปฏิสาโร ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’? ‘‘อวิปฺปฏิสาโร โข, อานนฺท, ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส’’.

‘‘ปาโมชฺชํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํสํ’’? ‘‘ปาโมชฺชํ โข, อานนฺท, ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ’’.

‘‘ปีติ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’? ‘‘ปีติ โข, อานนฺท, ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา’’.

‘‘ปสฺสทฺธิ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’? ‘‘ปสฺสทฺธิ โข, อานนฺท, สุขตฺถา สุขานิสํสา’’.

‘‘สุขํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํสํ’’? ‘‘สุขํ โข, อานนฺท, สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ’’.

‘‘สมาธิ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’? ‘‘สมาธิ โข, อานนฺท, ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส’’.

‘‘ยถาภูตาณทสฺสนํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํสํ’’? ‘‘ยถาภูตาณทสฺสนํ โข, อานนฺท, นิพฺพิทตฺถํ นิพฺพิทานิสํสํ’’.

‘‘นิพฺพิทา, ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’? ‘‘นิพฺพิทา โข, อานนฺท, วิราคตฺถา วิราคานิสํสา ’’.

‘‘วิราโค ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’? ‘‘วิราโค โข, อานนฺท, วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส.

‘‘อิติ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารตฺถานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานิ, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถา สุขานิสํสา, สุขํ สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถํ นิพฺพิทานิสํสํ, นิพฺพิทา วิราคตฺถา วิราคานิสํสา, วิราโค วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส. อิติ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อนุปุพฺเพน อคฺคาย ปเรนฺตี’’ติ. ปมํ.

๒. เจตนากรณียสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๑๐.๒] ‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส น เจตนาย กรณียํ – ‘อวิปฺปฏิสาโร เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อวิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ.

‘‘อวิปฺปฏิสาริสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปาโมชฺชํ เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ อวิปฺปฏิสาริสฺส ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ.

‘‘ปมุทิตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปีติ เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปมุทิตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชติ.

‘‘ปีติมนสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘กาโย เม ปสฺสมฺภตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ.

‘‘ปสฺสทฺธกายสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘สุขํ เวทิยามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ.

‘‘สุขิโน, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘จิตฺตํ เม สมาธิยตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ.

‘‘สมาหิตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ยถาภูตํ ชานามิ ปสฺสามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สมาหิโต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ.

‘‘ยถาภูตํ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต น เจตนาย กรณียํ – ‘นิพฺพินฺทามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ.

‘‘นิพฺพินฺนสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘วิรชฺชามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ นิพฺพินฺโน วิรชฺชติ.

‘‘วิรตฺตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘วิมุตฺติาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรมี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ วิรตฺโต วิมุตฺติาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรติ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, วิราโค วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส, นิพฺพิทา วิราคตฺถา วิราคานิสํสา, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถํ นิพฺพิทานิสํสํ, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส, สุขํ สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถา สุขานิสํสา, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารตฺถานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมา ธมฺเม อภิสนฺเทนฺติ, ธมฺมา ธมฺเม ปริปูเรนฺติ อปารา ปารํ คมนายา’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมอุปนิสาสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๕.๒๔; ๑๐.๓] ‘‘ทุสฺสีลสฺส, ภิกฺขเว, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร. อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ. ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ. ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ. ปสฺสทฺธิยา อสติ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สุขํ. สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ. สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ. ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ นิพฺพิทา. นิพฺพิทาย อสติ นิพฺพิทาวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ วิราโค. วิราเค อสติ วิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ, ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ, สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย สติ นิพฺพิทาสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ วิราโค, วิราเค สติ วิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ตติยํ.

๔. ทุติยอุปนิสาสุตฺตํ

. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ [ภิกฺขโวติ (สี. สฺยา. ปี.) เอวํ สพฺพตฺถ อ. นิ. ๑๐.๔]. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘ทุสฺสีลสฺส, อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ, ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา อสติ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สุขํ, สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย อสติ นิพฺพิทาวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ วิราโค, วิราเค อสติ วิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ, ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ, สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย สติ นิพฺพิทาสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ วิราโค, วิราเค สติ วิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ตติยอุปนิสาสุตฺตํ

. [อ. นิ. ๑๐.๕] ตตฺร โข อายสฺมา อานนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… ‘‘ทุสฺสีลสฺส, อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ, ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา อสติ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สุขํ, สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย อสติ นิพฺพิทาวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ วิราโค, วิราเค อสติ วิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ, ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ, สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย สติ นิพฺพิทาสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ วิราโค, วิราเค สติ วิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. พฺยสนสุตฺตํ

. ‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, านเมตํ อวกาโส ยํ โส เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺย.

กตเมสํ เอกาทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธมฺเมสุ วา อธิมานิโก โหติ, อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตกฺเขปํ วา, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ – โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, านเมตํ อวกาโส ยํ โส อิเมสํ เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺย. [( ) เอตฺถนฺตเร ปาโ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ]

‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ น นิคจฺเฉยฺย.

กตเมสํ เอกาทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธมฺเมสุ วา อธิมานิโก โหติ, อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตกฺเขปํ วา, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ – โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส อิเมสํ เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ น นิคจฺเฉยฺยา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. สฺาสุตฺตํ

. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสาติ?

‘‘สิยา, อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสาติ.

‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สิยา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี ปน อสฺสาติ. ‘‘สิยา, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘อิธ, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อาวุโส อานนฺท, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส! ยตฺร หิ นาม สตฺถุ เจว สาวกสฺส จ อตฺเถน อตฺโถ พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ สเมสฺสติ น วิคฺคยฺหิสฺสติ, ยทิทํ อคฺคปทสฺมึ! อิทานาหํ, อาวุโส, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ อปุจฺฉึ. ภควาปิ เม เอเตหิ อกฺขเรหิ เอเตหิ ปเทหิ เอเตหิ พฺยฺชเนหิ เอตมตฺถํ พฺยากาสิ, เสยฺยถาปิ อายสฺมา สาริปุตฺโต. อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยตฺร หิ นาม สตฺถุ เจว สาวกสฺส จ อตฺเถน อตฺโถ พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ สเมสฺสติ น วิคฺคยฺหิสฺสติ, ยทิทํ อคฺคปทสฺมิ’’นฺติ! สตฺตมํ.

๘. มนสิการสุตฺตํ

. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย, น โสตํ มนสิ กเรยฺย, น สทฺทํ มนสิ กเรยฺย, น ฆานํ มนสิ กเรยฺย, น คนฺธํ มนสิ กเรยฺย, น ชิวฺหํ มนสิ กเรยฺย, น รสํ มนสิ กเรยฺย, น กายํ มนสิ กเรยฺย, น โผฏฺพฺพํ มนสิ กเรยฺย, น ปถวึ มนสิ กเรยฺย, น อาปํ มนสิ กเรยฺย, น เตชํ มนสิ กเรยฺย, น วายํ มนสิ กเรยฺย, น อากาสานฺจายตนํ มนสิ กเรยฺย, น วิฺาณฺจายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อากิฺจฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น เนวสฺานาสฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อิธโลกํ มนสิ กเรยฺย, น ปรโลกํ มนสิ กเรยฺย, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ?

‘‘สิยา, อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย, น โสตํ มนสิ กเรยฺย, น สทฺทํ มนสิ กเรยฺย, น ฆานํ มนสิ กเรยฺย, น คนฺธํ มนสิ กเรยฺย, น ชิวฺหํ มนสิ กเรยฺย, น รสํ มนสิ กเรยฺย, น กายํ มนสิ กเรยฺย, น โผฏฺพฺพํ มนสิ กเรยฺย, น ปถวึ มนสิ กเรยฺย, น อาปํ มนสิ กเรยฺย, น เตชํ มนสิ กเรยฺย, น วายํ มนสิ กเรยฺย, น อากาสานฺจายตนํ มนสิ กเรยฺย, น วิฺาณฺจายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อากิฺจฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น เนวสฺานาสฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อิธโลกํ มนสิ กเรยฺย, น ปรโลกํ มนสิ กเรยฺย, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ?

‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ มนสิ กโรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. สทฺธสุตฺตํ

. เอกํ สมยํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ. อถ โข อายสฺมา สทฺโธ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สทฺธํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อาชานียฌายิตํ โข, สทฺธ, ฌาย; มา ขฬุงฺกฌายิตํ [อาชานียชฺฌายิตํ โข สทฺธ ฌายถ, มา ขฬุงฺกชฺฌายิตํ (สี. ปี.)]. กถฺจ, ขฬุงฺกฌายิตํ โหติ? อสฺสขฬุงฺโก หิ, สทฺธ, โทณิยา พทฺโธ [พนฺโธ (สฺยา. ก.)] ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ, สทฺธ, อสฺสขฬุงฺกสฺส โทณิยา พทฺธสฺส เอวํ โหติ – ‘กึ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ [กมฺมสฺสาหํ (ก.)] ปฏิกโรมี’ติ. โส โทณิยา พทฺโธ ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. เอวเมวํ โข, สทฺธ, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุฺาคารคโตปิ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. โส กามราคํเยว อนฺตรํ กตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อวชฺฌายติ, พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. โส วิจิกิจฺฉํเยว อนฺตรํ กตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อวชฺฌายติ. โส ปถวิมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อาปมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, เตชมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, วายมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อากาสานฺจายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, วิฺาณฺจายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อากิฺจฺายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, เนวสฺานาสฺายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อิธโลกมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, ปรโลกมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ. เอวํ โข, สทฺธ, ปุริสขฬุงฺกฌายิตํ โหติ.

‘‘กถฺจ, สทฺธ, อาชานียฌายิตํ โหติ? ภทฺโร หิ, สทฺธ, อสฺสาชานีโย โทณิยา พทฺโธ น ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ภทฺรสฺส หิ, สทฺธ, อสฺสาชานียสฺส โทณิยา พทฺธสฺส เอวํ โหติ – ‘กึ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ ปฏิกโรมี’ติ. โส โทณิยา พทฺโธ น ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. ภทฺโร หิ, สทฺธ, อสฺสาชานีโย ยถา อิณํ ยถา พนฺธํ ยถา ชานึ ยถา กลึ เอวํ ปโตทสฺส อชฺโฌหรณํ สมนุปสฺสติ. เอวเมวํ โข, สทฺธ, ภทฺโร ปุริสาชานีโย อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุฺาคารคโตปิ น กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ, น พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… น ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… น อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… น วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. โส เนว ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ, น อาปํ นิสฺสาย ฌายติ, น เตชํ นิสฺสาย ฌายติ, น วายํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากาสานฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น วิฺาณฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากิฺจฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น เนวสฺานาสฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อิธโลกํ นิสฺสาย ฌายติ, น ปรโลกํ นิสฺสาย ฌายติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ; ฌายติ จ ปน. เอวํ ฌายิฺจ ปน, สทฺธ, ภทฺรํ ปุริสาชานียํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อารกาว นมสฺสนฺติ –

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สทฺโธ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กถํ ฌายี ปน, ภนฺเต, ภทฺโร ปุริสาชานีโย [ปุริสาชานีโย ฌายติ, โส (สี. สฺยา. ปี.), ปุริสาชานีโย, โส (ก.)] เนว ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ, น อาปํ นิสฺสาย ฌายติ, น เตชํ นิสฺสาย ฌายติ, น วายํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากาสานฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น วิฺาณฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากิฺจฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น เนวสฺานาสฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อิธโลกํ นิสฺสาย ฌายติ, น ปรโลกํ นิสฺสาย ฌายติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ; ฌายติ จ ปน? กถํ ฌายิฺจ ปน, ภนฺเต, ภทฺรํ ปุริสาชานียํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อารกาว นมสฺสนฺติ –

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ.

‘‘อิธ, สทฺธ, ภทฺรสฺส ปุริสาชานียสฺส ปถวิยํ ปถวิสฺา วิภูตา โหติ, อาปสฺมึ อาโปสฺา วิภูตา โหติ, เตชสฺมึ เตโชสฺา วิภูตา โหติ, วายสฺมึ วาโยสฺา วิภูตา โหติ, อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺา วิภูตา โหติ, วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺา วิภูตา โหติ, อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺา วิภูตา โหติ, เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺา วิภูตา โหติ, อิธโลเก อิธโลกสฺา วิภูตา โหติ, ปรโลเก ปรโลกสฺา วิภูตา โหติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ สฺา วิภูตา โหติ. เอวํ ฌายี โข, สทฺธ, ภทฺโร ปุริสาชานีโย เนว ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ; ฌายติ จ ปน. เอวํ ฌายิฺจ ปน, สทฺธ, ภทฺรํ ปุริสาชานียํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อารกาว นมสฺสนฺติ –

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ. นวมํ;

๑๐. โมรนิวาปสุตฺตํ

๑๐. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ โมรนิวาเป ปริพฺพาชการาเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ตีหิ? อเสเขน สีลกฺขนฺเธน, อเสเขน สมาธิกฺขนฺเธน, อเสเขน ปฺากฺขนฺเธน – อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ตีหิ? อิทฺธิปาฏิหาริเยน, อาเทสนาปาฏิหาริเยน, อนุสาสนีปาฏิหาริเยน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ, อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ตีหิ? สมฺมาทิฏฺิยา, สมฺมาาเณน, สมฺมาวิมุตฺติยา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ.

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ทฺวีหิ? วิชฺชาย, จรเณน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. พฺรหฺมุนา เปสา, ภิกฺขเว, สนงฺกุมาเรน คาถา ภาสิตา –

‘‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’’ติ [ที. นิ. ๑.๒๗๗; สํ. นิ. ๑.๑๘๒; ๒.๒๔๕].

‘‘สา โข ปเนสา, ภิกฺขเว, สนงฺกุมาเรน คาถา ภาสิตา สุภาสิตา, โน ทุพฺภาสิตา; อตฺถสํหิตา, โน อนตฺถสํหิตา; อนุมตา มยา. อหมฺปิ, ภิกฺขเว, เอวํ วทามิ –

‘‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’’ติ. ทสมํ;

นิสฺสยวคฺโค [นิสฺสายวคฺโค (สฺยา. กํ.)] ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

กิมตฺถิยา เจตนา ตโย, อุปนิสา พฺยสเนน จ;

ทฺเว สฺา มนสิกาโร, สทฺโธ โมรนิวาปกนฺติ.

๒. อนุสฺสติวคฺโค

๑. ปมมหานามสุตฺตํ

๑๑. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – ‘‘นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ. อสฺโสสิ โข มหานาโม สกฺโก – ‘‘สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – ‘นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’’ติ.

อถ โข มหานาโม สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ. เตสํ โน, ภนฺเต, นานาวิหาเรหิ วิหรตํ เกนสฺส [เกน (สฺยา. กํ.)] วิหาเรน วิหาตพฺพ’’นฺติ?

‘‘สาธุ สาธุ, มหานาม! เอตํ โข, มหานาม, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ, ยํ ตุมฺเห ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยาถ – ‘เตสํ โน, ภนฺเต, นานาวิหาเรหิ วิหรตํ เกนสฺส วิหาเรน วิหาตพฺพ’’’นฺติ? สทฺโธ โข, มหานาม, อาราธโก โหติ, โน อสฺสทฺโธ; อารทฺธวีริโย อาราธโก โหติ, โน กุสีโต; อุปฏฺิตสฺสติ อาราธโก โหติ, โน มุฏฺสฺสติ; สมาหิโต อาราธโก โหติ, โน อสมาหิโต; ปฺวา อาราธโก โหติ, โน ทุปฺปฺโ. อิเมสุ โข ตฺวํ, มหานาม, ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย ฉ ธมฺเม อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภาเวยฺยาสิ. [อ. นิ. ๖.๑๐] ‘‘อิธ ตฺวํ, มหานาม, ตถาคตํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตสมาปนฺโน พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, มหานาม, ธมฺมํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก [โอปนยิโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ธมฺมํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตสมาปนฺโน ธมฺมานุสฺสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, มหานาม, สงฺฆํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ สงฺฆํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตสมาปนฺโน สงฺฆานุสฺสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, มหานาม, อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสเรยฺยาสิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก สีลํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ สีลํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตสมาปนฺโน สีลานุสฺสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, มหานาม, อตฺตโน จาคํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, โยหํ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตาย ปชาย วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสามิ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก จาคํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ จาคํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตสมาปนฺโน จาคานุสฺสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, มหานาม, เทวตา อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา ตาวตึสา, สนฺติ เทวา ยามา, สนฺติ เทวา ตุสิตา, สนฺติ เทวา นิมฺมานรติโน, สนฺติ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา พฺรหฺมกายิกา, สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถูปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถูปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สีลํ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สุเตน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถูปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปํ สุตํ สํวิชฺชติ. ยถารูเปน จาเคน สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถูปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูโป จาโค สํวิชฺชติ. ยถารูปาย ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถูปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ เทวตา อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อยํ วุจฺจติ, มหานาม, อริยสาวโก วิสมคตาย ปชาย สมปฺปตฺโต วิหรติ, สพฺยาปชฺชาย ปชาย อพฺยาปชฺโช วิหรติ, ธมฺมโสตสมาปนฺโน เทวตานุสฺสตึ ภาเวตี’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยมหานามสุตฺตํ

๑๒. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. เตน โข ปน สมเยน มหานาโม สกฺโก คิลานา วุฏฺิโต โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – ‘‘นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ.

อสฺโสสิ โข มหานาโม สกฺโก – ‘‘สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – ‘นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’’ติ. อถ โข มหานาโม สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ. เตสํ โน, ภนฺเต, นานาวิหาเรหิ วิหรตํ เกนสฺส วิหาเรน วิหาตพฺพ’’นฺติ?

‘‘สาธุ สาธุ, มหานาม! เอตํ โข, มหานาม, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ ยํ ตุมฺเห ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยาถ – ‘เตสํ โน, ภนฺเต, นานาวิหาเรหิ วิหรตํ เกนสฺส วิหาเรน วิหาตพฺพ’นฺติ? สทฺโธ โข, มหานาม, อาราธโก โหติ, โน อสฺสทฺโธ; อารทฺธวีริโย อาราธโก โหติ, โน กุสีโต; อุปฏฺิตสฺสติ อาราธโก โหติ, โน มุฏฺสฺสติ; สมาหิโต อาราธโก โหติ, โน อสมาหิโต; ปฺวา อาราธโก โหติ, โน ทุปฺปฺโ. อิเมสุ โข ตฺวํ, มหานาม, ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย ฉ ธมฺเม อุตฺตริ ภาเวยฺยาสิ.

[อ. นิ. ๖.๙] ‘‘อิธ ตฺวํ, มหานาม, ตถาคตํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิมํ โข ตฺวํ, มหานาม, พุทฺธานุสฺสตึ คจฺฉนฺโตปิ ภาเวยฺยาสิ, ิโตปิ ภาเวยฺยาสิ, นิสินฺโนปิ ภาเวยฺยาสิ, สยาโนปิ ภาเวยฺยาสิ, กมฺมนฺตํ อธิฏฺหนฺโตปิ ภาเวยฺยาสิ, ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโตปิ ภาเวยฺยาสิ.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, มหานาม, ธมฺมํ อนุสฺสเรยฺยาสิ…เป… สงฺฆํ อนุสฺสเรยฺยาสิ…เป… อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสเรยฺยาสิ…เป… อตฺตโน จาคํ อนุสฺสเรยฺยาสิ…เป… เทวตา อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา…เป… สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ. ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถูปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถูปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’ติ. ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ เทวตา อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิมํ โข ตฺวํ, มหานาม, เทวตานุสฺสตึ คจฺฉนฺโตปิ ภาเวยฺยาสิ, ิโตปิ ภาเวยฺยาสิ, นิสินฺโนปิ ภาเวยฺยาสิ, สยาโนปิ ภาเวยฺยาสิ, กมฺมนฺตํ อธิฏฺหนฺโตปิ ภาเวยฺยาสิ, ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโตปิ ภาเวยฺยาสี’’ติ. ทุติยํ.

๓. นนฺทิยสุตฺตํ

๑๓. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ อุปคนฺตุกาโม โหติ [อโหสิ (ก.)].

อสฺโสสิ โข นนฺทิโย สกฺโก – ‘‘ภควา กิร สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ อุปคนฺตุกาโม’’ติ. อถ โข นนฺทิยสฺส สกฺกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหมฺปิ สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ อุปคจฺเฉยฺยํ. ตตฺถ กมฺมนฺตฺเจว อธิฏฺหิสฺสามิ, ภควนฺตฺจ ลจฺฉามิ กาเลน กาลํ ทสฺสนายา’’ติ.

อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ อุปคจฺฉิ [อุปคฺฉิ (สี. ปี.)]. นนฺทิโยปิ โข สกฺโก สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ อุปคจฺฉิ. ตตฺถ กมฺมนฺตฺเจว อธิฏฺาสิ [อธิฏฺาย (สฺยา.), อธิฏฺาติ (ก.)], ภควนฺตฺจ ลภิ [ลจฺฉติ (สฺยา. ก.)] กาเลน กาลํ ทสฺสนาย. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – ‘‘นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ.

อสฺโสสิ โข นนฺทิโย สกฺโก – ‘‘สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – ‘นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’’ติ. อถ โข นนฺทิโย สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข นนฺทิโย สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ. เตสํ โน, ภนฺเต, นานาวิหาเรหิ วิหรตํ เกนสฺส วิหาเรน วิหาตพฺพ’’นฺติ?

‘‘สาธุ สาธุ, นนฺทิย! เอตํ โข, นนฺทิย, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ, ยํ ตุมฺเห ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยาถ – ‘เตสํ โน, ภนฺเต, นานาวิหาเรหิ วิหรตํ เกนสฺส วิหาเรน วิหาตพฺพ’นฺติ? สทฺโธ โข, นนฺทิย, อาราธโก โหติ, โน อสฺสทฺโธ; สีลวา อาราธโก โหติ, โน ทุสฺสีโล; อารทฺธวีริโย อาราธโก โหติ, โน กุสีโต; อุปฏฺิตสฺสติ อาราธโก โหติ, โน มุฏฺสฺสติ; สมาหิโต อาราธโก โหติ, โน อสมาหิโต; ปฺวา อาราธโก โหติ, โน ทุปฺปฺโ. อิเมสุ โข เต, นนฺทิย, ฉสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย ปฺจสุ ธมฺเมสุ อชฺฌตฺตํ สติ อุปฏฺาเปตพฺพา.

‘‘อิธ ตฺวํ, นนฺทิย, ตถาคตํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ, สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อิติ โข เต, นนฺทิย, ตถาคตํ อารพฺภ อชฺฌตฺตํ สติ อุปฏฺาเปตพฺพา.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, นนฺทิย, ธมฺมํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. อิติ โข เต, นนฺทิย, ธมฺมํ อารพฺภ อชฺฌตฺตํ สติ อุปฏฺาเปตพฺพา.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, นนฺทิย, กลฺยาณมิตฺเต อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กลฺยาณมิตฺตา อนุกมฺปกา อตฺถกามา โอวาทกา อนุสาสกา’ติ. อิติ โข เต, นนฺทิย, กลฺยาณมิตฺเต อารพฺภ อชฺฌตฺตํ สติ อุปฏฺาเปตพฺพา.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, นนฺทิย, อตฺตโน จาคํ อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, โยหํ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตาย ปชาย วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสามิ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติ. อิติ โข เต, นนฺทิย, จาคํ อารพฺภ อชฺฌตฺตํ สติ อุปฏฺาเปตพฺพา.

‘‘ปุน จปรํ ตฺวํ, นนฺทิย, เทวตา อนุสฺสเรยฺยาสิ – ‘ยา เทวตา อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ [กพฬึการภกฺขานํ (สี.), กพฬีการภกฺขานํ (สฺยา. กํ. ปี.)] เทวตานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺนา, ตา กรณียํ อตฺตโน น สมนุปสฺสนฺติ กตสฺส วา ปติจยํ. เสยฺยถาปิ, นนฺทิย, ภิกฺขุ อสมยวิมุตฺโต กรณียํ อตฺตโน น สมนุปสฺสติ กตสฺส วา ปติจยํ; เอวเมวํ โข, นนฺทิย, ยา ตา เทวตา อติกฺกมฺเมว กพฬีการาหารภกฺขานํ เทวตานํ สหพฺยตํ อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺนา, ตา กรณียํ อตฺตโน น สมนุปสฺสนฺติ กตสฺส วา ปติจยํ. อิติ โข เต, นนฺทิย, เทวตา อารพฺภ อชฺฌตฺตํ สติ อุปฏฺาเปตพฺพา.

‘‘อิเมหิ โข, นนฺทิย, เอกาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก ปชหเตว ปาปเก อกุสเล ธมฺเม, น อุปาทิยติ. เสยฺยถาปิ, นนฺทิย, กุมฺโภ นิกฺกุชฺโช [นิกุชฺโช (ก.)] วมเตว อุทกํ, โน วนฺตํ ปจฺจาวมติ [ปจฺจามสติ (สฺยา.)]; เสยฺยถาปิ วา ปน, นนฺทิย, สุกฺเข ติณทาเย อคฺคิ มุตฺโต ฑหฺเว คจฺฉติ, โน ทฑฺฒํ ปจฺจุทาวตฺตติ; เอวเมวํ โข, นนฺทิย, อิเมหิ เอกาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก ปชหเตว ปาปเก อกุสเล ธมฺเม, น อุปาทิยตี’’ติ. ตติยํ.

๔. สุภูติสุตฺตํ

๑๔. อถ โข อายสฺมา สุภูติ สทฺเธน ภิกฺขุนา สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สุภูตึ ภควา เอตทโวจ – ‘‘โก นามายํ [โก นาโม อยํ (สี. ก.), โก นาม อยํ (สฺยา. กํ.)], สุภูติ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘สทฺโธ นามายํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ, สุทตฺตสฺส [สทฺธสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปาสกสฺส ปุตฺโต, สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต’’ติ.

‘‘กจฺจิ ปนายํ, สุภูติ, สทฺโธ ภิกฺขุ สุทตฺตสฺส อุปาสกสฺส ปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สนฺทิสฺสติ สทฺธาปทาเนสู’’ติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล, ยํ ภควา สทฺธสฺส สทฺธาปทานานิ ภาเสยฺย. อิทานาหํ ชานิสฺสามิ ยทิ วา อยํ ภิกฺขุ สนฺทิสฺสติ สทฺธาปทาเนสุ ยทิ วา โน’’ติ.

‘‘เตน หิ, สุภูติ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สุภูติ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, สุภูติ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย; เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ ตตฺร ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ ตตฺร ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, สุภูติ, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยมฺปิ, สุภูติ, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิทมฺปิ, สุภูติ, สทฺธสฺส สทฺธาปทานํ โหตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สุภูติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา สทฺธสฺส สทฺธาปทานานิ ภาสิตานิ, สํวิชฺชนฺติ ตานิ อิมสฺส ภิกฺขุโน, อยฺจ ภิกฺขุ เอเตสุ สนฺทิสฺสติ.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย; เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ…เป… อนุสาสนึ.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ…เป… ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘อยํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา…เป… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา สทฺธสฺส สทฺธาปทานานิ ภาสิตานิ, สํวิชฺชนฺติ ตานิ อิมสฺส ภิกฺขุโน, อยฺจ ภิกฺขุ เอเตสุ สนฺทิสฺสตี’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, สุภูติ! เตน หิ ตฺวํ, สุภูติ, อิมินา จ สทฺเธน ภิกฺขุนา สทฺธึ วิหเรยฺยาสิ. ยทา จ ตฺวํ, สุภูติ, อากงฺเขยฺยาสิ ตถาคตํ ทสฺสนาย, อิมินา สทฺเธน ภิกฺขุนา สทฺธึ อุปสงฺกเมยฺยาสิ ตถาคตํ ทสฺสนายา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. เมตฺตาสุตฺตํ

๑๕. [ปฏิ. ม. ๒.๒๒; มิ. ป. ๔.๔.๖] ‘‘เมตฺตาย, ภิกฺขเว, เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย เอกาทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา.

กตเม เอกาทส? สุขํ สุปติ, สุขํ ปฏิพุชฺฌติ, น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, มนุสฺสานํ ปิโย โหติ, อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ, เทวตา รกฺขนฺติ, นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ, ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยติ, มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต พฺรหฺมโลกูปโค โหติ. เมตฺตาย, ภิกฺขเว, เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย อิเม เอกาทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อฏฺกนาครสุตฺตํ

๑๖. เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท เวสาลิยํ วิหรติ เพลุวคามเก [เวฬุวคามเก (สฺยา. กํ. ก.)]. เตน โข ปน สมเยน ทสโม คหปติ อฏฺกนาคโร ปาฏลิปุตฺตํ อนุปฺปตฺโต โหติ เกนจิเทว กรณีเยน.

อถ โข ทสโม คหปติ อฏฺกนาคโร เยน กุกฺกุฏาราโม เยน อฺตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ นุ โข, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท เอตรหิ วิหรติ? ทสฺสนกามา หิ มยํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ อานนฺท’’นฺติ. ‘‘เอโส, คหปติ, อายสฺมา อานนฺโท เวสาลิยํ วิหรติ เพลุวคามเก’’ติ.

อถ โข ทสโม คหปติ อฏฺกนาคโร ปาฏลิปุตฺเต ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน เวสาลี เพลุวคามโก เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ทสโม คหปติ อฏฺกนาคโร อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต อานนฺท, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอกธมฺโม สมฺมทกฺขาโต, ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาตี’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, คหปติ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอกธมฺโม สมฺมทกฺขาโต, ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาตี’’ติ.

‘‘กตโม ปน, ภนฺเต อานนฺท, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอกธมฺโม สมฺมทกฺขาโต, ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาตี’’ติ? ‘‘อิธ, คหปติ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อิทมฺปิ โข ปมํ ฌานํ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ’. ‘ยํ โข ปน กิฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ, ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ; โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, คหปติ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอกธมฺโม สมฺมทกฺขาโต, ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อิทมฺปิ โข จตุตฺถํ ฌานํ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ’. ‘ยํ โข ปน กิฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ; โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, คหปติ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอกธมฺโม สมฺมทกฺขาโต, ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยมฺปิ โข เมตฺตา เจโตวิมุตฺติ อภิสงฺขตา อภิสฺเจตยิตา’. ‘ยํ โข ปน กิฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ; โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, คหปติ, เตน ภควตา ชานตา…เป. … อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, ภิกฺขุ กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยมฺปิ โข อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ อภิสงฺขตา อภิสฺเจตยิตา’. ‘ยํ โข ปน กิฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ; โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, คหปติ, เตน ภควตา ชานตา…เป… อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยมฺปิ โข อากาสานฺจายตนสมาปตฺติ อภิสงฺขตา อภิสฺเจตยิตา’. ‘ยํ โข ปน กิฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ; โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, คหปติ, เตน ภควตา ชานตา…เป… อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติ.

‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยมฺปิ โข อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ อภิสงฺขตา อภิสฺเจตยิตา’. ‘ยํ โข ปน กิฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ; โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, คหปติ, เตน ภควตา ชานตา…เป… อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ทสโม คหปติ อฏฺกนาคโร อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต อานนฺท, ปุริโส เอกํ นิธิมุขํ คเวสนฺโต สกิเทว [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ] เอกาทส นิธิมุขานิ อธิคจฺเฉยฺย; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, เอกํ อมตทฺวารํ คเวสนฺโต สกิเทว เอกาทส อมตทฺวารานิ [เอกาทสนฺนํ อมตทฺวารานํ (สพฺพตฺถ) ม. นิ. ๒.๒๑ ปสฺสิตพฺพํ] อลตฺถํ เสวนาย [สวนาย (สฺยา.) สี. ปี. มชฺฌิมปณฺณาสกทุติยสุตฺเตปิ, ภาวนาย (ม. นิ. ๒.๒๑)]. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ปุริสสฺส อคารํ เอกาทส ทฺวารํ. โส ตสฺมึ อคาเร อาทิตฺเต เอกเมเกนปิ ทฺวาเรน สกฺกุเณยฺย อตฺตานํ โสตฺถึ กาตุํ; เอวเมวํ โข อหํ, ภนฺเต, อิเมสํ เอกาทสนฺนํ อมตทฺวารานํ เอกเมเกนปิ อมตทฺวาเรน สกฺกุณิสฺสามิ อตฺตานํ โสตฺถึ กาตุํ. อิเม หิ นาม, ภนฺเต, อฺติตฺถิยา อาจริยสฺส อาจริยธนํ ปริเยสิสฺสนฺติ. กึ [กิมงฺคํ (ม. นิ. ๒.๒๑)] ปนาหํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปูชํ น กริสฺสามี’’ติ!

อถ โข ทสโม คหปติ อฏฺกนาคโร เวสาลิกฺจ ปาฏลิปุตฺตกฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. เอกเมกฺจ ภิกฺขุํ ปจฺเจกํ ทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทสิ, อายสฺมนฺตฺจ อานนฺทํ ติจีวเรน. อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฺจสตํ วิหารํ การาเปสีติ. ฉฏฺํ.

๗. โคปาลสุตฺตํ

๑๗. ‘‘เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาตึ กาตุํ [ผาติกตฺตุํ (สี.), ผาติกาตุํ (สฺยา. ปี.)]. กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, โคปาลโก น รูปฺู โหติ, น ลกฺขณกุสโล โหติ, น อาสาฏิกํ หาเรตา [สาเฏตา (สี. สฺยา. ปี.)] โหติ, น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ, น ธูมํ กตฺตา โหติ, น ติตฺถํ ชานาติ, น ปีตํ ชานาติ, น วีถึ ชานาติ, น โคจรกุสโล โหติ, อนวเสสโทหี จ โหติ, เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกา เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาตึ กาตุํ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น รูปฺู โหติ, น ลกฺขณกุสโล โหติ, น อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ, น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ, น ธูมํ กตฺตา โหติ, น ติตฺถํ ชานาติ, น ปีตํ ชานาติ, น วีถึ ชานาติ, น โคจรกุสโล โหติ, อนวเสสโทหี จ โหติ, เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น รูปฺู โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยํ กิฺจิ รูปํ ( ) [(สพฺพํ รูปํ) ม. นิ. ๑.๓๔๗ ( ) กตฺถจิ ทิสฺสติ] ‘จตฺตาริ มหาภูตานิ, จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น รูปฺู โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ลกฺขณกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโต’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ลกฺขณกุสโล โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ อธิวาเสติ นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อธิวาเสติ นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชติ; น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ นาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชติ; น รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ นาปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ธูมํ กตฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น [ม. นิ. ๑.๓๔๖-๓๔๗ ปน อยํ นกาโร ธมฺมนฺติปทสฺส อนนฺตรํ ทิสฺสติ] ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ธูมํ กตฺตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ติตฺถํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา น ปริปุจฺฉติ น ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว น วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ น อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ น ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ติตฺถํ ชานาติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปีตํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน น ลภติ อตฺถเวทํ, น ลภติ ธมฺมเวทํ, น ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปีตํ ชานาติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วีถึ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วีถึ ชานาติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น โคจรกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น โคจรกุสโล โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนวเสสโทหี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ สทฺธา คหปติกา อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ. ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ น ชานาติ ปฏิคฺคหณาย. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนวเสสโทหี โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เตสุ น เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปติ อาวิ เจว รโห จ, น เมตฺตํ วจีกมฺมํ… น เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปติ อาวิ เจว รโห จ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, น เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ.

‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ.

‘‘เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก ภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาตึ กาตุํ. กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, โคปาลโก รูปฺู โหติ, ลกฺขณกุสโล โหติ, อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ, วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ, ธูมํ กตฺตา โหติ, ติตฺถํ ชานาติ, ปีตํ ชานาติ, วีถึ ชานาติ, โคจรกุสโล โหติ, สาวเสสโทหี จ โหติ, เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกา เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก ภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาตึ กาตุํ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํ. กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปฺู โหติ, ลกฺขณกุสโล โหติ, อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ, วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ, ธูมํ กตฺตา โหติ, ติตฺถํ ชานาติ, ปีตํ ชานาติ, วีถึ ชานาติ, โคจรกุสโล โหติ, สาวเสสโทหี จ โหติ, เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปฺู โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยํ กิฺจิ รูปํ ‘จตฺตาริ มหาภูตานิ, จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปฺู โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลกฺขณกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโต’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลกฺขณกุสโล โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธูมํ กตฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธูมํ กตฺตา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติตฺถํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติตฺถํ ชานาติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีตํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีตํ ชานาติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วีถึ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วีถึ ชานาติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โคจรกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โคจรกุสโล โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สาวเสสโทหี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ สทฺธา คหปติกา อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ. ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ ชานาติ ปฏิคฺคหณาย. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สาวเสสโทหี โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปติ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ… เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปติ อาวิ เจว รโห จ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ.

‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุ’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ปมสมาธิสุตฺตํ

๑๘. [อ. นิ. ๑๐.๖] อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘สิยา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป. … ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ทุติยสมาธิสุตฺตํ

๑๙. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘สิยา นุ โข ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส…เป… น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา. สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘สิยา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป. … ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ. นวมํ.

๑๐. ตติยสมาธิสุตฺตํ

๒๐. [อ. นิ. ๑๐.๗] อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘สิยา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ? ‘‘สิยา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปน, อาวุโส สาริปุตฺต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘อิธ, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อาวุโส, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ. ทสมํ.

๑๑. จตุตฺถสมาธิสุตฺตํ

๒๑. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา นุ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘ทูรโตปิ โข มยํ, อาวุโส, อาคจฺเฉยฺยาม อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. สาธุ วตายสฺมนฺตํเยว สาริปุตฺตํ ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

‘‘เตนหาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘สิยา, อาวุโส ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.

‘‘ยถา กถํ ปนาวุโส, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?

‘‘อิธ, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อาวุโส, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ. เอกาทสมํ.

อนุสฺสติวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว วุตฺตา มหานาเมน, นนฺทิเยน สุภูตินา;

เมตฺตา อฏฺโก โคปาโล, จตฺตาโร จ สมาธินาติ.

๓. สามฺวคฺโค

๒๒-๒๙. ‘‘เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาตึ กาตุํ. กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, โคปาลโก น รูปฺู โหติ, น ลกฺขณกุสโล โหติ, น อาสาฏิกํ หาเรตา โหติ, น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหติ, น ธูมํ กตฺตา โหติ, น ติตฺถํ ชานาติ, น ปีตํ ชานาติ, น วีถึ ชานาติ, น โคจรกุสโล โหติ, อนวเสสโทหี จ โหติ, เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกา เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภพฺโพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาตึ กาตุํ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ อนิจฺจานุปสฺสี วิหริตุํ…เป… อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ ทุกฺขานุปสฺสี วิหริตุํ… อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ อนตฺตานุปสฺสี วิหริตุํ… อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ ขยานุปสฺสี วิหริตุํ… อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ วยานุปสฺสี วิหริตุํ… อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ วิราคานุปสฺสี วิหริตุํ… อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ นิโรธานุปสฺสี วิหริตุํ… อภพฺโพ จกฺขุสฺมึ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหริตุํ’’.

๓๐-๖๙. …โสตสฺมึ… ฆานสฺมึ… ชิวฺหาย… กายสฺมึ… มนสฺมึ….

๗๐-๑๑๗. …รูเปสุ… สทฺเทสุ… คนฺเธสุ… รเสสุ… โผฏฺพฺเพสุ… ธมฺเมสุ….

๑๑๘-๑๖๕. …จกฺขุวิฺาเณ… โสตวิฺาเณ… ฆานวิฺาเณ… ชิวฺหาวิฺาเณ… กายวิฺาเณ… มโนวิฺาเณ….

๑๖๖-๒๑๓. …จกฺขุสมฺผสฺเส… โสตสมฺผสฺเส… ฆานสมฺผสฺเส… ชิวฺหาสมฺผสฺเส … กายสมฺผสฺเส… มโนสมฺผสฺเส….

๒๑๔-๒๖๑. …จกฺขุสมฺผสฺสชาย เวทนาย… โสตสมฺผสฺสชาย เวทนาย… ฆานสมฺผสฺสชาย เวทนาย… ชิวฺหาสมฺผสฺสชาย เวทนาย… กายสมฺผสฺสชาย เวทนาย… มโนสมฺผสฺสชาย เวทนาย….

๒๖๒-๓๐๙. …รูปสฺาย… สทฺทสฺาย… คนฺธสฺาย… รสสฺาย… โผฏฺพฺพสฺาย … ธมฺมสฺาย….

๓๑๐-๓๕๗. …รูปสฺเจตนาย… สทฺทสฺเจตนาย… คนฺธสฺเจตนาย… รสสฺเจตนาย… โผฏฺพฺพสฺเจตนาย… ธมฺมสฺเจตนาย….

๓๕๘-๔๐๕. …รูปตณฺหาย… สทฺทตณฺหาย… คนฺธตณฺหาย… รสตณฺหาย… โผฏฺพฺพตณฺหาย… ธมฺมตณฺหาย….

๔๐๖-๔๕๓. …รูปวิตกฺเก… สทฺทวิตกฺเก… คนฺธวิตกฺเก… รสวิตกฺเก… โผฏฺพฺพวิตกฺเก… ธมฺมวิตกฺเก….

๔๕๔-๕๐๑. …รูปวิจาเร… สทฺทวิจาเร… คนฺธวิจาเร… รสวิจาเร… โผฏฺพฺพวิจาเร… ธมฺมวิจาเร อนิจฺจานุปสฺสี วิหริตุํ… ทุกฺขานุปสฺสี วิหริตุํ… อนตฺตานุปสฺสี วิหริตุํ… ขยานุปสฺสี วิหริตุํ… วยานุปสฺสี วิหริตุํ… วิราคานุปสฺสี วิหริตุํ… นิโรธานุปสฺสี วิหริตุํ… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหริตุํ…เป….

๔. ราคเปยฺยาลํ

๕๐๒. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย เอกาทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา. กตเม เอกาทส? ปมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ ฌานํ, จตุตฺถํ ฌานํ, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, กรุณาเจโตวิมุตฺติ, มุทิตาเจโตวิมุตฺติ, อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ, อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ – ราคสฺส, ภิกฺขเว, อภิฺาย อิเม เอกาทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา.

๕๐๓-๕๑๑. ‘‘ราคสฺส, ภิกฺขเว, ปริฺาย… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย… อิเม เอกาทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา.

๕๑๒-๖๗๑. ‘‘โทสสฺส …เป… โมหสฺส… โกธสฺส… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส อภิฺาย…เป… ปริฺาย… ปริกฺขยาย… ปหานาย… ขยาย… วยาย… วิราคาย… นิโรธาย… จาคาย… ปฏินิสฺสคฺคาย อิเม เอกาทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

ราคเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

นว สุตฺตสหสฺสานิ, ภิยฺโย ปฺจสตานิ จ [ปฺจ สุตฺตสตานิ จ (อฏฺ.)];

สตฺตปฺาส สุตฺตนฺตา [สุตฺตานิ (อฏฺ.)], องฺคุตฺตรสมายุตา [โหนฺติ องฺคุตฺตราคเม (อฏฺ.)] ติ.

เอกาทสกนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.

องฺคุตฺตรนิกาโย สมตฺโต.