📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
อุทานปาฬิ
๑. โพธิวคฺโค
๑. ปมโพธิสุตฺตํ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที [วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวที (สฺยา. ปี. ก.)]. อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา รตฺติยา ปมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมํ สาธุกํ มนสากาสิ –
‘‘อิติ อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ, ยทิทํ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ¶ ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยทา ¶ ¶ หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,
อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;
อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,
ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺม’’นฺติ. ปมํ;
๒. ทุติยโพธิสุตฺตํ
๒. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอก สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที. อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปฏิโลมํ สาธุกํ มนสากาสิ –
‘‘อิติ อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ, ยทิทํ – อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,
อาตาปิโน ¶ ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;
อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,
ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที’’ติ. ทุติยํ;
๓. ตติยโพธิสุตฺตํ
๓. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ¶ ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที. อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ สาธุกํ มนสากาสิ –
‘‘อิติ อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ, อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ; ยทิทํ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ.
‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ ¶ , ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ ¶ โหตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,
อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;
วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ,
สูริโยว [สุริโยว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โอภาสยมนฺตลิกฺข’’นฺติ. ตติยํ;
๔. หุํหุงฺกสุตฺตํ
๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที. อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺาสิ.
อถ โข อฺตโร หุํหุงฺกชาติโก [หุหุงฺกชาติโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ โหติ, กตเม จ ปน พฺราหฺมณกรณา [พฺราหฺมณการกา (ก.)] ธมฺมา’’ติ?
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ¶ ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘โย พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺโม,
นิหุํหุงฺโก [นิหุหุงฺโก (สี. สฺยา. กํ ปี.)] นิกฺกสาโว ยตตฺโต;
เวทนฺตคู วูสิตพฺรหฺมจริโย,
ธมฺเมน โส พฺรหฺมวาทํ วเทยฺย;
ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. พฺราหฺมณสุตฺตํ
๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมา จ มหากสฺสโป อายสฺมา จ มหากจฺจาโน [มหากจฺจายโน (สี. ปี. ก.)] อายสฺมา จ มหาโกฏฺิโก อายสฺมา จ มหากปฺปิโน อายสฺมา จ มหาจุนฺโท อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ เรวโต อายสฺมา จ นนฺโท [อานนฺโท (สี. ปี.)] เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ ¶ .
อทฺทสา ¶ โข ภควา เต อายสฺมนฺเต ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต; ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอเต, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณา อาคจฺฉนฺติ; เอเต, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณา อาคจฺฉนฺตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต ¶ , อฺตโร พฺราหฺมณชาติโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, พฺราหฺมโณ โหติ, กตเม จ ปน พฺราหฺมณกรณา ธมฺมา’’ติ?
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘พาหิตฺวา ปาปเก ธมฺเม, เย จรนฺติ สทา สตา;
ขีณสํโยชนา ¶ พุทฺธา, เต เว [เตว (สี.)] โลกสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. ปฺจมํ;
๖. มหากสฺสปสุตฺตํ
๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากสฺสโป ปิปฺปลิคุหายํ [ปิปฺผลิคุหายํ (สฺยา.), สิมฺพลิคุหายํ (ก.)] วิหรติ อาพาธิโก [อาพาธิโก โหติ (สฺยา. ปี.)] ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อปเรน สมเยน ตมฺหา อาพาธา วุฏฺาสิ. อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ตมฺหา อาพาธา วุฏฺิตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิเสยฺย’’นฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ปฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺนานิ โหนฺติ อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตปฏิลาภาย. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตานิ ปฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ – เยน ทลิทฺทวิสิขา กปณวิสิขา เปสการวิสิขา. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ เยน ทลิทฺทวิสิขา กปณวิสิขา เปสการวิสิขา.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อนฺโปสิมฺาตํ, ทนฺตํ สาเร ปติฏฺิตํ;
ขีณาสวํ วนฺตโทสํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติ. ฉฏฺํ;
๗. อชกลาปกสุตฺตํ
๗. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ปาวายํ [ปาฏลิยํ (ปี.)] วิหรติ อชกลาปเก ¶ เจติเย, อชกลาปกสฺส ยกฺขสฺส ภวเน. เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺตนฺธการติมิสายํ ¶ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ; เทโว จ เอกเมกํ ผุสายติ. อถ โข อชกลาปโก ยกฺโข ภควโต ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต อวิทูเร ติกฺขตฺตุํ ‘‘อกฺกุโล ปกฺกุโล’’ติ อกฺกุลปกฺกุลิกํ อกาสิ – ‘‘เอโส เต, สมณ, ปิสาโจ’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยทา สเกสุ ธมฺเมสุ, ปารคู โหติ พฺราหฺมโณ;
อถ เอตํ ปิสาจฺจ, ปกฺกุลฺจาติวตฺตตี’’ติ. สตฺตมํ;
๘. สงฺคามชิสุตฺตํ
๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สงฺคามชิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺโต โหติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อสฺโสสิ โข อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุราณทุติยิกา – ‘‘อยฺโย กิร สงฺคามชิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺโต’’ติ. สา ทารกํ อาทาย เชตวนํ อคมาสิ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สงฺคามชิ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุราณทุติยิกา เยนายสฺมา สงฺคามชิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สงฺคามชึ เอตทโวจ – ‘‘ขุทฺทปุตฺตฺหิ [ขุทฺทปุตฺตามฺหิ (สี.)], สมณ, โปส ม’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สงฺคามชิ ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุราณทุติยิกา อายสฺมนฺตํ ¶ สงฺคามชึ เอตทโวจ – ‘‘ขุทฺทปุตฺตฺหิ, สมณ, โปส ม’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา สงฺคามชิ ตุณฺหี อโหสิ.
ตติยมฺปิ ¶ ¶ โข อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุราณทุติยิกา อายสฺมนฺตํ สงฺคามชึ เอตทโวจ – ‘‘ขุทฺทปุตฺตฺหิ, สมณ, โปส ม’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา สงฺคามชิ ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุราณทุติยิกา ตํ ทารกํ อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุรโต นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกามิ [ปกฺกมิ (ก.) เอวมุปริปิ] – ‘‘เอโส [เอส (สี. ก.)] เต, สมณ, ปุตฺโต; โปส น’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา สงฺคามชิ ตํ ทารกํ เนว โอโลเกสิ นาปิ อาลปิ. อถ โข อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุราณทุติยิกา ¶ อวิทูรํ [อวิทูเร (สฺยา. ปี.)] คนฺตฺวา อปโลเกนฺตี อทฺทส อายสฺมนฺตํ สงฺคามชึ ตํ ทารกํ เนว โอโลเกนฺตํ นาปิ อาลปนฺตํ, ทิสฺวานสฺสา เอตทโหสิ – ‘‘น จายํ สมโณ ปุตฺเตนปิ อตฺถิโก’’ติ. ตโต ปฏินิวตฺติตฺวา ทารกํ อาทาย ปกฺกามิ. อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อายสฺมโต สงฺคามชิสฺส ปุราณทุติยิกาย เอวรูปํ วิปฺปการํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อายนฺตึ นาภินนฺทติ, ปกฺกมนฺตึ น โสจติ;
สงฺคา สงฺคามชึ มุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติ. อฏฺมํ;
๙. ชฏิลสุตฺตํ
๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา คยายํ วิหรติ คยาสีเส. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ชฏิลา สีตาสุ เหมนฺติกาสุ ¶ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺเก หิมปาตสมเย คยายํ อุมฺมุชฺชนฺติปิ นิมุชฺชนฺติปิ, อุมฺมุชฺชนิมุชฺชมฺปิ กโรนฺติ โอสิฺจนฺติปิ, อคฺคิมฺปิ ชุหนฺติ – ‘‘อิมินา สุทฺธี’’ติ.
อทฺทสา โข ภควา เต สมฺพหุเล ชฏิเล สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺเก หิมปาตสมเย คยายํ อุมฺมุชฺชนฺเตปิ นิมุชฺชนฺเตปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชมฺปิ กโรนฺเต [อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺเตปิ (สี. ปี. ก.)] โอสิฺจนฺเตปิ อคฺคิมฺปิ ชุหนฺเต – ‘‘อิมินา สุทฺธี’’ติ.
อถ ¶ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘น อุทเกน สุจี โหตี, พหฺเวตฺถ นฺหายตี [นหายตี (สี.)] ชโน;
ยมฺหิ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, โส สุจี โส จ พฺราหฺมโณ’’ติ. นวมํ;
๑๐. พาหิยสุตฺตํ
๑๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน พาหิโย ทารุจีริโย สุปฺปารเก ปฏิวสติ สมุทฺทตีเร สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อถ โข พาหิยสฺส ทารุจีริยสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘เย โข เกจิ โลเก อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา, อหํ เตสํ อฺตโร’’ติ.
อถ โข ¶ พาหิยสฺส ทารุจีริยสฺส ปุราณสาโลหิตา เทวตา อนุกมฺปิกา อตฺถกามา พาหิยสฺส ทารุจีริยสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เยน พาหิโย ทารุจีริโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา พาหิยํ ทารุจีริยํ เอตทโวจ – ‘‘เนว โข ตฺวํ ¶ , พาหิย, อรหา, นาปิ อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน. สาปิ เต ปฏิปทา นตฺถิ ยาย ตฺวํ อรหา วา อสฺส [อสฺสสิ (สฺยา. ก.)] อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน’’ติ.
‘‘อถ เก จรหิ สเทวเก โลเก อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน’’ติ? ‘‘อตฺถิ, พาหิย, อุตฺตเรสุ ชนปเทสุ [ชนปเท (สี.)] สาวตฺถิ นาม นครํ. ตตฺถ โส ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พาหิย, ภควา อรหา เจว อรหตฺตาย จ ธมฺมํ เทเสตี’’ติ.
อถ โข พาหิโย ทารุจีริโย ตาย เทวตาย สํเวชิโต ตาวเทว สุปฺปารกมฺหา ปกฺกามิ. สพฺพตฺถ เอกรตฺติปริวาเสน เยน สาวตฺถิ เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน ¶ สมฺพหุลา ภิกฺขู อพฺโภกาเส จงฺกมนฺติ. อถ โข พาหิโย ทารุจีริโย เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กหํ นุ โข, ภนฺเต, เอตรหิ ภควา วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ? ทสฺสนกามมฺหา มยํ ตํ ¶ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. ‘‘อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโ โข, พาหิย, ภควา ปิณฺฑายา’’ติ.
อถ โข พาหิโย ทารุจีริโย ตรมานรูโป เชตวนา นิกฺขมิตฺวา สาวตฺถึ ปวิสิตฺวา อทฺทส ภควนฺตํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ปาสาทิกํ ปสาทนียํ สนฺตินฺทฺริยํ สนฺตมานสํ ¶ อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปตฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ ยตินฺทฺริยํ นาคํ. ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เทเสตุ เม, ภนฺเต ภควา, ธมฺมํ; เทเสตุ, สุคโต, ธมฺมํ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา พาหิยํ ทารุจีริยํ เอตทโวจ – ‘‘อกาโล โข ตาว, พาหิย, อนฺตรฆรํ ปวิฏฺมฺหา ปิณฺฑายา’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข พาหิโย ทารุจีริโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทุชฺชานํ โข ปเนตํ, ภนฺเต, ภควโต วา ชีวิตนฺตรายานํ, มยฺหํ วา ชีวิตนฺตรายานํ ¶ . เทเสตุ เม, ภนฺเต ภควา, ธมฺมํ; เทเสตุ, สุคโต, ธมฺมํ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา พาหิยํ ทารุจีริยํ เอตทโวจ – ‘‘อกาโล โข ตาว, พาหิย, อนฺตรฆรํ ปวิฏฺมฺหา ปิณฺฑายา’’ติ.
ตติยมฺปิ โข พาหิโย ทารุจีริโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทุชฺชานํ โข ปเนตํ, ภนฺเต, ภควโต วา ชีวิตนฺตรายานํ, มยฺหํ วา ชีวิตนฺตรายานํ. เทเสตุ เม ภนฺเต ภควา, ธมฺมํ; เทเสตุ, สุคโต, ธมฺมํ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
‘‘ตสฺมาติห เต, พาหิย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต สุตมตฺตํ ภวิสฺสติ, มุเต มุตมตฺตํ ภวิสฺสติ, วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, พาหิย, สิกฺขิตพฺพํ. ยโต โข เต, พาหิย, ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต สุตมตฺตํ ภวิสฺสติ, มุเต ¶ มุตมตฺตํ ภวิสฺสติ, วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน; ยโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน ตโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ ¶ ; ยโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ, ตโต ตฺวํ, พาหิย, เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ.
อถ โข พาหิยสฺส ทารุจีริยสฺส ภควโต อิมาย สํขิตฺตาย ธมฺมเทสนาย ตาวเทว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ.
อถ ¶ โข ภควา พาหิยํ ทารุจีริยํ อิมินา สํขิตฺเตน โอวาเทน โอวทิตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต พาหิยํ ทารุจีริยํ คาวี ตรุณวจฺฉา อธิปติตฺวา [อธิปาเตตฺวา (สี. สฺยา. ปี.), อธิปาติตฺวา (ก.)] ชีวิตา โวโรเปสิ.
อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ นครมฺหา นิกฺขมิตฺวา อทฺทส พาหิยํ ทารุจีริยํ กาลงฺกตํ [กาลกตํ (สี. สฺยา. กํ.)]; ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘คณฺหถ, ภิกฺขเว, พาหิยสฺส ทารุจีริยสฺส สรีรกํ; มฺจกํ อาโรเปตฺวา นีหริตฺวา ฌาเปถ; ถูปฺจสฺส กโรถ. สพฺรหฺมจารี โว, ภิกฺขเว, กาลงฺกโต’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา พาหิยสฺส ทารุจีริยสฺส สรีรกํ มฺจกํ อาโรเปตฺวา นีหริตฺวา ฌาเปตฺวา ถูปฺจสฺส กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ทฑฺฒํ, ภนฺเต, พาหิยสฺส ทารุจีริยสฺส สรีรํ, ถูโป จสฺส ¶ กโต. ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ? ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, พาหิโย ทารุจีริโย ปจฺจปาทิ ธมฺมสฺสานุธมฺมํ; น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ ¶ วิเหเสสิ. ปรินิพฺพุโต, ภิกฺขเว, พาหิโย ทารุจีริโย’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยตฺถ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;
น ตตฺถ สุกฺกา โชตนฺติ, อาทิจฺโจ นปฺปกาสติ;
น ตตฺถ จนฺทิมา ภาติ, ตโม ตตฺถ น วิชฺชติ.
‘‘ยทา ¶ จ อตฺตนาเวทิ [เวธี (ก.)], มุนิ โมเนน พฺราหฺมโณ;
อถ รูปา อรูปา จ, สุขทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. ทสมํ;
(อยมฺปิ อุทาโน วุตฺโต ภควตา อิติ เม สุตนฺติ.) [( ) สฺยามโปตฺถเก นตฺถิ]
โพธิวคฺโค ปโม นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
ตโย โพธิ จ หุํหุงฺโก [ตโย จ โพธิ นิคฺโรโธ (สพฺพตฺถ)], พฺราหฺมโณ [เต เถรา (สี. สฺยา. ปี.), เถโร (ก.)] กสฺสเปน จ;
อช [ปาวาย (สี. สฺยา.), ปาฏลิยํ (ปี.), ปาวา (ก.)] สงฺคาม ชฏิลา, พาหิเยนาติ เต ทสาติ.
๒. มุจลินฺทวคฺโค
๑. มุจลินฺทสุตฺตํ
๑๑. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร มุจลินฺทมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที.
เตน โข ปน สมเยน มหา อกาลเมโฆ อุทปาทิ ¶ สตฺตาหวทฺทลิกา สีตวาตทุทฺทินี. อถ โข มุจลินฺโท นาคราชา สกภวนา นิกฺขมิตฺวา ภควโต กายํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ วิหจฺจ อฏฺาสิ – ‘‘มา ภควนฺตํ สีตํ, มา ภควนฺตํ อุณฺหํ, มา ภควนฺตํ ฑํสมกสวาตาตปสรีสป [สิรึสป (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สมฺผสฺโส’’ติ.
อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺาสิ. อถ โข มุจลินฺโท นาคราชา วิทฺธํ วิคตวลาหกํ เทวํ วิทิตฺวา ภควโต กายา โภเค วินิเวเตฺวา สกวณฺณํ ปฏิสํหริตฺวา มาณวกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา ภควโต ปุรโต อฏฺาสิ ปฺชลิโก ภควนฺตํ นมสฺสมาโน.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุโข วิเวโก ตุฏฺสฺส, สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต;
อพฺยาปชฺชํ สุขํ โลเก, ปาณภูเตสุ สํยโม.
‘‘สุขา ¶ วิราคตา โลเก, กามานํ สมติกฺกโม;
อสฺมิมานสฺส โย วินโย, เอตํ เว ปรมํ สุข’’นฺติ. ปมํ;
๒. ราชสุตฺตํ
๑๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ ¶ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ราชูนํ มหทฺธนตโร วา มหาโภคตโร วา มหาโกสตโร วา มหาวิชิตตโร วา มหาวาหนตโร วา ¶ มหพฺพลตโร วา มหิทฺธิกตโร วา มหานุภาวตโร วา ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร, ราชา วา ปเสนทิ โกสโล’’ติ? อยฺจรหิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตา.
อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?
‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โก นุ โข, อาวุโส, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ราชูนํ มหทฺธนตโร วา มหาโภคตโร วา มหาโกสตโร วา มหาวิชิตตโร วา มหาวาหนตโร วา มหพฺพลตโร วา มหิทฺธิกตโร วา มหานุภาวตโร วา ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร, ราชา วา ปเสนทิ โกสโล’ติ? อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
‘‘น ¶ ขฺเวตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ ยํ ตุมฺเห เอวรูปึ กถํ กเถยฺยาถ. สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ – ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยฺจ ¶ กามสุขํ โลเก, ยฺจิทํ ทิวิยํ สุขํ;
ตณฺหกฺขยสุขสฺเสเต ¶ , กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิ’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. ทณฺฑสุตฺตํ
๑๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา กุมารกา อนฺตรา จ สาวตฺถึ อนฺตรา จ เชตวนํ อหึ ทณฺเฑน หนนฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา สมฺพหุเล กุมารเก อนฺตรา จ สาวตฺถึ อนฺตรา จ เชตวนํ อหึ ทณฺเฑน หนนฺเต ¶ .
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุขกามานิ ภูตานิ, โย ทณฺเฑน วิหึสติ;
อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส น ลภเต สุขํ.
‘‘สุขกามานิ ภูตานิ, โย ทณฺเฑน น หึสติ;
อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส ลภเต สุข’’นฺติ. ตติยํ;
๔. สกฺการสุตฺตํ
๑๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ สกฺกโต โหติ ¶ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อฺติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา [น อปจิตา (สฺยา. ปี.)] อปูชิตา ¶ อนปจิตา, น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อถ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต สกฺการํ อสหมานา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คาเม จ อรฺเ จ ภิกฺขู ทิสฺวา อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหเสนฺติ.
อถ ¶ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภควา สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต, ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อฺติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อนปจิตา, น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อถ โข เต, ภนฺเต, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต สกฺการํ อสหมานา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คาเม จ อรฺเ จ ภิกฺขู ทิสฺวา อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหสนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘คาเม อรฺเ สุขทุกฺขผุฏฺโ,
เนวตฺตโต โน ปรโต ทเหถ;
ผุสนฺติ ¶ ผสฺสา อุปธึ ปฏิจฺจ,
นิรูปธึ เกน ผุเสยฺยุ ผสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. อุปาสกสุตฺตํ
๑๕. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร อิจฺฉานงฺคลโก ¶ อุปาสโก สาวตฺถึ อนุปฺปตฺโต โหติ เกนจิเทว กรณีเยน. อถ โข โส อุปาสโก สาวตฺถิยํ ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ อุปาสกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จิรสฺสํ โข ตฺวํ, อุปาสก, อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนายา’’ติ.
‘‘จิรปฏิกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม, อปิ จาหํ เกหิจิ เกหิจิ กิจฺจกรณีเยหิ พฺยาวโฏ. เอวาหํ นาสกฺขึ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุขํ วต ตสฺส น โหติ กิฺจิ,
สงฺขาตธมฺมสฺส พหุสฺสุตสฺส;
สกิฺจนํ ปสฺส วิหฺมานํ,
ชโน ชนสฺมึ ปฏิพนฺธรูโป’’ติ. ปฺจมํ;
๖. คพฺภินีสุตฺตํ
๑๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ปริพฺพาชกสฺส ทหรมาณวิกา ปชาปติ โหติ คพฺภินี ¶ อุปวิชฺา. อถ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, โส ปริพฺพาชโก ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจ – ‘‘กุโต ปนาหํ, โภติ [โภติยา (สฺยา. ปี. ก.)], เตลํ อาหรามี’’ติ? ทุติยมฺปิ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข โส ปริพฺพาชิโก ตํ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจ – ‘‘กุโต ปนาหํ, โภติ, เตลํ อาหรามี’’ติ? ตติยมฺปิ โข สา ปริพฺพาชิกา ตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เตลํ อาหร, ยํ เม วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน รฺโ ¶ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺาคาเร สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ยาวทตฺถํ ปาตุํ ทียติ [ทิยฺยติ (สี. ก.)], โน นีหริตุํ.
อถ โข ตสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘รฺโ โข ปน ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺาคาเร สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ยาวทตฺถํ ปาตุํ ทียติ, โน นีหริตุํ. ยํนูนาหํ รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺาคารํ คนฺตฺวา เตลสฺส ยาวทตฺถํ ปิวิตฺวา ฆรํ อาคนฺตฺวา อุจฺฉทฺทิตฺวาน [อุคฺคิริตฺวาน (สี. สฺยา. ปี.), อุจฺฉทิตฺวา (สี. สฺยา. อฏฺ.), อุจฺฉฑฺฑิตฺวาน (ก.)] ทเทยฺยํ, ยํ อิมิสฺสา วิชาตาย ภวิสฺสตี’’ติ.
อถ ¶ โข โส ปริพฺพาชโก รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส โกฏฺาคารํ คนฺตฺวา เตลสฺส ยาวทตฺถํ ปิวิตฺวา ฆรํ อาคนฺตฺวา เนว ¶ สกฺโกติ อุทฺธํ กาตุํ, น ปน อโธ. โส ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ [ติปฺปาหิ (สฺยา.)] ขราหิ กฏุกาหิ เวทนาหิ ผุฏฺโ อาวฏฺฏติ ปริวฏฺฏติ.
อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา ตํ ปริพฺพาชกํ ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ ขราหิ กฏุกาหิ เวทนาหิ ผุฏฺํ อาวฏฺฏมานํ ปริวฏฺฏมานํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุขิโน วต เย อกิฺจนา,
เวทคุโน หิ ชนา อกิฺจนา;
สกิฺจนํ ปสฺส วิหฺมานํ,
ชโน ชนสฺมึ ปฏิพนฺธจิตฺโต’’ [ปฏิพทฺธจิตฺโต (สฺยา.), ปฏิพนฺธรุโป (?)] ติ. ฉฏฺํ;
๗. เอกปุตฺตกสุตฺตํ
๑๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส อุปาสกสฺส เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป กาลงฺกโต โหติ.
อถ ¶ โข สมฺพหุลา อุปาสกา อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต อุปาสเก ภควา เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข ตุมฺเห, อุปาสกา, อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกมนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติ?
เอวํ วุตฺเต, โส อุปาสโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, ภนฺเต, เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป ¶ กาลงฺกโต. เตน มยํ อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกมนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ปิยรูปสฺสาทคธิตาเส ¶ ¶ [ปิยรูปสฺสาตคธิตาเส (สี. ปี.)],
เทวกายา ปุถุ มนุสฺสา จ;
อฆาวิโน ปริชุนฺนา,
มจฺจุราชสฺส วสํ คจฺฉนฺติ.
‘‘เย เว ทิวา จ รตฺโต จ,
อปฺปมตฺตา ชหนฺติ ปิยรูปํ;
เต เว ขณนฺติ อฆมูลํ,
มจฺจุโน อามิสํ ทุรติวตฺต’’นฺติ. สตฺตมํ;
๘. สุปฺปวาสาสุตฺตํ
๑๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุณฺฑิกายํ [กุณฺฑิยายํ (สี. สฺยา. ปี.)] วิหรติ กุณฺฑธานวเน [กุณฺฑิฏฺานวเน (สฺยา. ปี.)]. เตน โข ปน สมเยน สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สตฺต วสฺสานิ คพฺภํ ธาเรติ. สตฺตาหํ มูฬฺหคพฺภา สา ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ ขราหิ กฏุกาหิ เวทนาหิ ผุฏฺา ตีหิ วิตกฺเกหิ อธิวาเสติ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา โย อิมสฺส เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ; สุปฺปฏิปนฺโน วต ตสฺส ภควโต สาวกสงฺโฆ โย อิมสฺส เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย ปฏิปนฺโน; สุสุขํ วต ตํ นิพฺพานํ ยตฺถิทํ เอวรูปํ ทุกฺขํ น สํวิชฺชตี’’ติ.
อถ ¶ ¶ โข สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สามิกํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อยฺยปุตฺต, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ; อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘สุปฺปวาสา, ภนฺเต, โกลิยธีตา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ; อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘สุปฺปวาสา, ภนฺเต, โกลิยธีตา สตฺต วสฺสานิ คพฺภํ ธาเรติ. สตฺตาหํ มูฬฺหคพฺภา สา ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ ขราหิ กฏุกาหิ เวทนาหิ ผุฏฺา ตีหิ วิตกฺเกหิ อธิวาเสติ – สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา โย อิมสฺส เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ; สุปฺปฏิปนฺโน วต ตสฺส ภควโต สาวกสงฺโฆ โย อิมสฺส เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย ปฏิปนฺโน; สุสุขํ วต ตํ นิพฺพานํ ยตฺถิทํ เอวรูปํ ทุกฺขํ น สํวิชฺชตี’’’ติ.
‘‘ปรม’’นฺติ โข โส โกลิยปุตฺโต สุปฺปวาสาย โกลิยธีตาย ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โกลิยปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุปฺปวาสา, ภนฺเต, โกลิยธีตา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ; เอวฺจ วเทติ – ‘สุปฺปวาสา, ภนฺเต, โกลิยธีตา สตฺต วสฺสานิ คพฺภํ ธาเรติ. สตฺตาหํ มูฬฺหคพฺภา ¶ สา ทุกฺขาหิ ติพฺพาหิ ขราหิ กฏุกาหิ เวทนาหิ ผุฏฺา ตีหิ วิตกฺเกหิ อธิวาเสติ – สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา โย ¶ อิมสฺส เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสติ; สุปฺปฏิปนฺโน วต ตสฺส ภควโต สาวกสงฺโฆ โย อิมสฺส เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย ปฏิปนฺโน; สุสุขํ วต นิพฺพานํ ยตฺถิทํ เอวรูปํ ทุกฺขํ น สํวิชฺชตี’’’ติ.
‘‘สุขินี โหตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา; อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชายตู’’ติ. สห วจนา จ ปน ภควโต สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สุขินี อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชายิ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส โกลิยปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน สกํ ฆรํ เตน ปจฺจายาสิ. อทฺทสา โข โส โกลิยปุตฺโต สุปฺปวาสํ โกลิยธีตรํ สุขินึ อโรคํ อโรคํ ¶ ปุตฺตํ วิชาตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นามายํ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สห วจนา จ ปน [สห วจนา ปน (ปี.), สห วจนา (?)] ภควโต สุขินี อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชายิสฺสตี’’ติ! อตฺตมโน ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต อโหสิ.
อถ โข สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สามิกํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อยฺยปุตฺต, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ – ‘สุปฺปวาสา, ภนฺเต, โกลิยธีตา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ; เอวฺจ วเทหิ – ‘สุปฺปวาสา, ภนฺเต, โกลิยธีตา สตฺต วสฺสานิ คพฺภํ ธาเรติ. สตฺตาหํ มูฬฺหคพฺภา สา เอตรหิ สุขินี อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชาตา. สา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขํ ¶ ภิกฺขุสงฺฆํ ภตฺเตน นิมนฺเตติ. อธิวาเสตุ กิร, ภนฺเต, ภควา สุปฺปวาสาย โกลิยธีตาย สตฺต ภตฺตานิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’’ติ.
‘‘ปรม’’นฺติ โข โส โกลิยปุตฺโต สุปฺปวาสาย โกลิยธีตาย ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส โกลิยปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สุปฺปวาสา ¶ , ภนฺเต, โกลิยธีตา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ; เอวฺจ วเทติ – ‘สุปฺปวาสา, ภนฺเต, โกลิยธีตา สตฺต วสฺสานิ คพฺภํ ธาเรติ. สตฺตาหํ มูฬฺหคพฺภา สา เอตรหิ สุขินี อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชาตา. สา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ภตฺเตน นิมนฺเตติ. อธิวาเสตุ กิร, ภนฺเต, ภควา สุปฺปวาสาย โกลิยธีตาย สตฺต ภตฺตานิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตเรน อุปาสเกน พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ สฺวาตนาย ภตฺเตน นิมนฺติโต โหติ. โส จ อุปาสโก อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส [มหาโมคฺคลานสฺส (ก.)] อุปฏฺาโก โหติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, เยน โส อุปาสโก เตนุปสงฺกม ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อุปาสกํ เอวํ วเทหิ – ‘สุปฺปวาสา, อาวุโส, โกลิยธีตา สตฺต ¶ วสฺสานิ คพฺภํ ธาเรสิ. สตฺตาหํ มูฬฺหคพฺภา สา เอตรหิ สุขินี อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชาตา. สา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ภตฺเตน ¶ นิมนฺเตติ. กโรตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สตฺต ภตฺตานิ, ปจฺฉา ตฺวํ กริสฺสสี’ติ [กริสฺสสีติ สฺาเปหิ (ก.)]. ตุยฺเหโส อุปฏฺาโก’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส อุปาสโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อุปาสกํ เอตทโวจ – ‘‘สุปฺปวาสา, อาวุโส, โกลิยธีตา สตฺต วสฺสานิ คพฺภํ ธาเรติ. สตฺตาหํ มูฬฺหคพฺภา สา เอตรหิ สุขินี อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชาตา. สา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ภตฺเตน นิมนฺเตติ. กโรตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สตฺต ภตฺตานิ, ปจฺฉา ตฺวํ กริสฺสสี’’ติ.
‘‘สเจ เม, ภนฺเต, อยฺโย มหาโมคฺคลฺลาโน ติณฺณํ ธมฺมานํ ปาฏิโภโค – โภคานฺจ ชีวิตสฺส จ สทฺธาย จ, กโรตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สตฺต ภตฺตานิ, ปจฺฉาหํ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘ทฺวินฺนํ โข เต อหํ [ทฺวินฺนํ โข เตสํ (ปี.), ทฺวินฺนํ โข เนสํ (ก.)], อาวุโส, ธมฺมานํ ปาฏิโภโค – โภคานฺจ ชีวิตสฺส จ. สทฺธาย ปน ตฺวํเยว ปาฏิโภโค’’ติ.
‘‘สเจ เม, ภนฺเต, อยฺโย มหาโมคฺคลฺลาโน ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ ปาฏิโภโค – โภคานฺจ ชีวิตสฺส จ, กโรตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สตฺต ภตฺตานิ, ปจฺฉาหํ กริสฺสามี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ อุปาสกํ สฺาเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สฺตฺโต [สฺาโต (สฺยา.)], ภนฺเต, โส อุปาสโก มยา; กโรตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สตฺต ภตฺตานิ, ปจฺฉา โส กริสฺสตี’’ติ.
อถ โข สุปฺปวาสา โกลิยธีตา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ ¶ สมฺปวาเรสิ, ตฺจ ทารกํ ภควนฺตํ วนฺทาเปสิ สพฺพฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ.
อถ ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ตํ ทารกํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, ทารก, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ น กิฺจิ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘กุโต เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, ขมนียํ, กุโต ยาปนียํ! สตฺต เม วสฺสานิ โลหิตกุมฺภิยํ วุตฺตานี’’ติ.
อถ โข สุปฺปวาสา โกลิยธีตา – ‘‘ปุตฺโต เม ธมฺมเสนาปตินา สทฺธึ มนฺเตตี’’ติ อตฺตมนา ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา อโหสิ. อถ โข ภควา (สุปฺปวาสํ โกลียธีตรํ อตฺตมนํ ปมุทิตํ ปีติโสมนสฺสชาตํ วิทิตฺวา [ทิสฺวา (สี.)]) [( ) นตฺถิ อิงฺคลิสโปตฺถเก] สุปฺปวาสํ โกลิยธีตรํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺเฉยฺยาสิ ตฺวํ, สุปฺปวาเส, อฺมฺปิ เอวรูปํ ปุตฺต’’นฺติ? ‘‘อิจฺเฉยฺยามหํ, ภควา, อฺานิปิ เอวรูปานิ สตฺต ปุตฺตานี’’ติ ¶ .
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อสาตํ สาตรูเปน, ปิยรูเปน อปฺปิยํ;
ทุกฺขํ สุขสฺส รูเปน, ปมตฺตมติวตฺตตี’’ติ. อฏฺมํ;
๙. วิสาขาสุตฺตํ
๑๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน วิสาขาย มิคารมาตุยา โกจิเทว อตฺโถ รฺเ ปเสนทิมฺหิ โกสเล ปฏิพทฺโธ [ปฏิพนฺโธ (ปี. ก.)] โหติ. ตํ ราชา ปเสนทิ โกสโล น ยถาธิปฺปายํ ตีเรติ ¶ .
อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ทิวา ทิวสฺส [ทิวาทิวสฺเสว (สฺยา.), ทิวาทิวสฺเสเยว (ปี.), ทิวา ทิวสฺสเยว (ก.)] เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา ¶ เอตทโวจ – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, วิสาเข, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติ? ‘‘อิธ เม, ภนฺเต, โกจิเทว อตฺโถ รฺเ ปเสนทิมฺหิ โกสเล ปฏิพทฺโธ; ตํ ราชา ปเสนทิ โกสโล น ยถาธิปฺปายํ ตีเรตี’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สพฺพํ ปรวสํ ทุกฺขํ, สพฺพํ อิสฺสริยํ สุขํ;
สาธารเณ วิหฺนฺติ, โยคา หิ ทุรติกฺกมา’’ติ. นวมํ;
๑๐. ภทฺทิยสุตฺตํ
๒๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อนุปิยายํ วิหรติ อมฺพวเน. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ภทฺทิโย กาฬีโคธาย ปุตฺโต อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ!
อสฺโสสุํ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู อายสฺมโต ภทฺทิยสฺส กาฬีโคธาย ปุตฺตสฺส อรฺคตสฺสปิ รุกฺขมูลคตสฺสปิ สฺุาคารคตสฺสปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนนฺตสฺส – ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ! สุตฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข, อาวุโส, อายสฺมา ภทฺทิโย กาฬีโคธาย ปุตฺโต อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรติ, ยํส ปุพฺเพ อคาริยภูตสฺส [อคาริกภูตสฺส (สฺยา.)] รชฺชสุขํ, โส ตมนุสฺสรมาโน อรฺคโตปิ ¶ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ ¶ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติ!
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ภทฺทิโย กาฬีโคธาย ปุตฺโต อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ! นิสฺสํสยํ โข, ภนฺเต, อายสฺมา ภทฺทิโย กาฬีโคธาย ปุตฺโต อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรติ. ยํส ปุพฺเพ อคาริยภูตสฺส รชฺชสุขํ, โส ตมนุสฺสรมาโน อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติ!
อถ ¶ ¶ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน ภทฺทิยํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ภทฺทิย, อามนฺเตตี’’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา ภทฺทิโย กาฬีโคธาย ปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภทฺทิยํ กาฬีโคธาย ปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ภทฺทิย, อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ภทฺทิโย กาฬีโคธาย ปุตฺโต ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภทฺทิยํ กาฬีโคธาย ปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภทฺทิย, อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติ! ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘กึ ปน [กํ ปน (สฺยา ปี.)] ตฺวํ, ภทฺทิย, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ ¶ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติ! ‘‘ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, อคาริยภูตสฺส รชฺชํ กาเรนฺตสฺส อนฺโตปิ อนฺเตปุเร รกฺขา สุสํวิหิตา อโหสิ, พหิปิ อนฺเตปุเร รกฺขา สุสํวิหิตา อโหสิ, อนฺโตปิ นคเร รกฺขา สุสํวิหิตา อโหสิ, พหิปิ นคเร รกฺขา สุสํวิหิตา อโหสิ, อนฺโตปิ ชนปเท รกฺขา สุสํวิหิตา อโหสิ, พหิปิ ชนปเท รกฺขา สุสํวิหิตา อโหสิ. โส โข อหํ, ภนฺเต, เอวํ รกฺขิโต โคปิโต สนฺโต ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺราสี วิหาสึ. เอตรหิ โข ปนาหํ, ภนฺเต, อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ เอโก [เอกโก (สฺยา. ปี.)] อภีโต อนุพฺพิคฺโค อนุสฺสงฺกี อนุตฺราสี อปฺโปสฺสุกฺโก ปนฺนโลโม ปรทตฺตวุตฺโต [ปรทวุตฺโต (ก. สี. สฺยา. ปี.)], มิคภูเตน เจตสา วิหรามิ. อิมํ [อิทํ (สี. ก.)] โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อรฺคโตปิ ¶ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ [อุทาเนมิ (ก.)] – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติ!
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺสนฺตรโต ¶ น สนฺติ โกปา,
อิติภวาภวตฺจ วีติวตฺโต;
ตํ ¶ วิคตภยํ สุขึ อโสกํ,
เทวา นานุภวนฺติ ทสฺสนายา’’ติ. ทสมํ;
มุจลินฺทวคฺโค ทุติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
มุจลินฺโท ¶ ราชา ทณฺเฑน, สกฺกาโร อุปาสเกน จ;
คพฺภินี เอกปุตฺโต จ, สุปฺปวาสา วิสาขา จ;
กาฬีโคธาย ภทฺทิโยติ.
๓. นนฺทวคฺโค
๑. กมฺมวิปากชสุตฺตํ
๒๑. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปุราณกมฺมวิปากชํ ทุกฺขํ ติพฺพํ ขรํ กฏุกํ เวทนํ อธิวาเสนฺโต สโต สมฺปชาโน อวิหฺมาโน.
อทฺทสา โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปุราณกมฺมวิปากชํ ทุกฺขํ ติพฺพํ ขรํ กฏุกํ เวทนํ อธิวาเสนฺตํ สตํ สมฺปชานํ อวิหฺมานํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สพฺพกมฺมชหสฺส ภิกฺขุโน,
ธุนมานสฺส ปุเร กตํ รชํ;
อมมสฺส ¶ ิตสฺส ตาทิโน,
อตฺโถ นตฺถิ ชนํ ลเปตเว’’ติ. ปมํ;
๒. นนฺทสุตฺตํ
๒๒. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจติ – ‘‘อนภิรโต อหํ, อาวุโส, พฺรหฺมจริยํ จรามิ; น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’ติ.
อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจติ – ‘อนภิรโต อหํ, อาวุโส, พฺรหฺมจริยํ จรามิ, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ¶ หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ.
อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน นนฺทํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส นนฺท, อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา นนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส นนฺท, อามนฺเตตี’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา นนฺโท ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ นนฺทํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, นนฺท, สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจสิ – ‘อนภิรโต อหํ, อาวุโส, พฺรหฺมจริยํ จรามิ, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ ¶ ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, นนฺท, อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรสิ, น สกฺโกสิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ ¶ , สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสสี’’ติ? ‘‘สากิยานี มํ [มม (สฺยา., อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา)], ภนฺเต, ชนปทกลฺยาณี ฆรา นิกฺขมนฺตสฺส [นิกฺขมนฺตํ (อฏฺกถายํ ปานฺตรํ)] อุปฑฺฒุลฺลิขิเตหิ เกเสหิ อปโลเกตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘ตุวฏํ โข, อยฺยปุตฺต, อาคจฺเฉยฺยาสี’ติ. โส ¶ โข อหํ, ภนฺเต, ตมนุสฺสรมาโน อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรามิ, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ พาหายํ คเหตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย [สมฺมิฺเชยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เอวเมว – เชตวเน อนฺตรหิโต เทเวสุ ตาวตึเสสุ ปาตุรโหสิ.
เตน โข ปน สมเยน ปฺจมตฺตานิ อจฺฉราสตานิ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อุปฏฺานํ อาคตานิ โหนฺติ กกุฏปาทานิ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, นนฺท, อิมานิ ปฺจ อจฺฉราสตานิ กกุฏปาทานี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, นนฺท, กตมา นุ โข อภิรูปตรา วา ทสฺสนียตรา วา ปาสาทิกตรา วา, สากิยานี วา ชนปทกลฺยาณี, อิมานิ วา ปฺจ อจฺฉราสตานิ กกุฏปาทานี’’ติ? ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ปลุฏฺมกฺกฏี กณฺณนาสจฺฉินฺนา, เอวเมว โข, ภนฺเต, สากิยานี ชนปทกลฺยาณี ¶ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ¶ อุปนิธาย สงฺขฺยมฺปิ [สงฺขมฺปิ (สี.)] โนเปติ กลภาคมฺปิ โนเปติ อุปนิธิมฺปิ โนเปติ. อถ โข อิมานิ ปฺจ อจฺฉราสตานิ อภิรูปตรานิ เจว ทสฺสนียตรานิ จ ปาสาทิกตรานิ จา’’ติ.
‘‘อภิรม, นนฺท, อภิรม, นนฺท! อหํ เต ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทาน’’นฺติ. ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ภควา ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทานํ, อภิรมิสฺสามหํ, ภนฺเต, ภควติ พฺรหฺมจริเย’’ติ [ภควา พฺรหฺมจริเยติ (สฺยา. ปี.), ภควา พฺรหฺมจริยนฺติ (ก.)].
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ พาหายํ คเหตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิ.
อสฺโสสุํ ¶ โข ภิกฺขู – ‘‘อายสฺมา กิร นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต อจฺฉรานํ ¶ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรติ; ภควา กิรสฺส ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทาน’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมโต นนฺทสฺส สหายกา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ นนฺทํ ภตกวาเทน จ อุปกฺกิตกวาเทน จ สมุทาจรนฺติ – ‘‘ภตโก กิรายสฺมา นนฺโท อุปกฺกิตโก กิรายสฺมา นนฺโท อจฺฉรานํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรติ; ภควา กิรสฺส ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทาน’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา นนฺโท ¶ สหายกานํ ภิกฺขูนํ ภตกวาเทน จ อุปกฺกิตกวาเทน จ อฏฺฏียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา นนฺโท อรหตํ อโหสิ.
อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา ¶ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทิ – ‘‘นนฺโท อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา นนฺโท ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา นนฺโท ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยํ เม, ภนฺเต, ภควา ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทานํ, มฺุจามหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ เอตสฺมา ปฏิสฺสวา’’ติ. ‘‘มยาปิ โข ¶ ตฺวํ, นนฺท [โข เต นนฺท (สี. สฺยา. ปี.), โข นนฺท (ก.)], เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘นนฺโท อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสิ – ‘อายสฺมา, ภนฺเต, นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต อาสวานํ ขยา ¶ อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. ยเทว โข เต, นนฺท, อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อถาหํ มุตฺโต เอตสฺมา ปฏิสฺสวา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส นิตฺติณฺโณ ปงฺโก,
มทฺทิโต กามกณฺฏโก;
โมหกฺขยํ อนุปฺปตฺโต,
สุขทุกฺเขสุ น เวธตี ส ภิกฺขู’’ติ. ทุติยํ;
๓. ยโสชสุตฺตํ
๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ยโสชปฺปมุขานิ ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺตานิ โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตธ โข อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา [อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา (ก.)] อเหสุํ ¶ .
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก ปเนเต, อานนฺท, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘เอตานิ, ภนฺเต, ยโสชปฺปมุขานิ ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตเต อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติ. ‘‘เตนหานนฺท, มม วจเนน เต ภิกฺขู อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’’ติ.
‘‘เอวํ ¶ , ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ภิกฺขู ภควา เอตทโวจ –
‘‘กึ นุ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา, เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา ยโสโช ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตเม อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติ. ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ปณาเมมิ ¶ โว [โว ปณาเมมิ (สพฺพตฺถ) ม. นิ. ๒.๑๕๗ ปสฺสิตพฺพํ]; น โว มม สนฺติเก วตฺถพฺพ’’นฺติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา [ปฏิสํสาเมตฺวา (สฺยา.)] ปตฺตจีวรมาทาย เยน วชฺชี เตน จาริกํ ปกฺกมึสุ. วชฺชีสุ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมานา เยน วคฺคุมุทา นที เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร ปณฺณกุฏิโย กริตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ.
อถ โข อายสฺมา ยโสโช วสฺสูปคโต [วสฺสูปคเต (ก.)] ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภควตา มยํ, อาวุโส, ปณามิตา อตฺถกาเมน หิเตสินา, อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย. หนฺท มยํ, อาวุโส, ตถา วิหารํ กปฺเปม ยถา โน วิหรตํ ภควา อตฺตมโน อสฺสา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต ยโสชสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข เต ภิกฺขู วูปกฏฺา อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา เตเนวนฺตรวสฺเสน สพฺเพว ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉากํสุ.
อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ.
อถ ¶ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริยานํ ภิกฺขูนํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อาโลกชาตา วิย เม, อานนฺท, เอสา ทิสา, โอภาสชาตา วิย เม, อานนฺท, เอสา ทิสา; ยสฺสํ ทิสายํ [ยายํ (ก.)] วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู ¶ วิหรนฺติ. คนฺตุํ อปฺปฏิกูลาสิ ¶ เม มนสิ กาตุํ. ปหิเณยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, วคฺคุมุทาตีริยานํ ¶ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน อฺตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อาวุโส, เยน วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอวํ วเทหิ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข โส ภิกฺขุ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – มหาวเน กูฏาคารสาลายํ อนฺตรหิโต วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร เตสํ ภิกฺขูนํ ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส ภิกฺขุ วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร อนฺตรหิตา มหาวเน กูฏาคารสาลายํ ภควโต สมฺมุเข ปาตุรเหสุํ. เตน โข ปน สมเยน ภควา อาเนฺเชน สมาธินา นิสินฺโน ¶ โหติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กตเมน นุ โข ภควา วิหาเรน เอตรหิ วิหรตี’’ติ? อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อาเนฺเชน โข ภควา วิหาเรน เอตรหิ วิหรตี’’ติ. สพฺเพว อาเนฺชสมาธินา นิสีทึสุ.
อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ [จีวรํ (สพฺพตฺถ)] กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฏิสมฺโมทตุ, ภนฺเต, ภควา อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหี’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต มชฺฌิโม ยาโม; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฏิสมฺโมทตุ, ภนฺเต, ภควา อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี อโหสิ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม, อุทฺธสฺเต อรุเณ, นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม; อุทฺธสฺโต อรุโณ; นนฺทิมุขี รตฺติ; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฏิสมฺโมทตุ, ภนฺเต, ภควา, อาคนฺตุเกหิ ¶ ภิกฺขูหี’’ติ.
อถ โข ภควา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สเจ โข ตฺวํ, อานนฺท, ชาเนยฺยาสิ เอตฺตกมฺปิ เต นปฺปฏิภาเสยฺย [นปฺปฏิเภยฺย (?)]. อหฺจ, อานนฺท, อิมานิ จ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สพฺเพว อาเนฺชสมาธินา นิสีทิมฺหา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส ชิโต กามกณฺฏโก,
อกฺโกโส จ วโธ จ พนฺธนฺจ;
ปพฺพโตว [ปพฺพโต วิย (สี. สฺยา. ปี.)] โส ิโต อเนโช,
สุขทุกฺเขสุ น เวธตี ส ภิกฺขู’’ติ. ตติยํ;
๔. สาริปุตฺตสุตฺตํ
๒๔. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยถาปิ ¶ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;
เอวํ โมหกฺขยา ภิกฺขุ, ปพฺพโตว น เวธตี’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตํ
๒๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ¶ อายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตาย. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตาย.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สติ กายคตา อุปฏฺิตา,
ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุโต;
สตตํ ภิกฺขุ สมาหิโต,
ชฺา นิพฺพานมตฺตโน’’ติ. ปฺจมํ;
๖. ปิลินฺทวจฺฉสุตฺตํ
๒๖. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ [ปิลินฺทิวจฺโฉ (สี.)] ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรติ. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ปิลินฺทวจฺโฉ ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรตี’’ติ.
อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน ปิลินฺทวจฺฉํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ปิลินฺทวจฺฉ [วจฺฉ (สฺยา.)], อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ อายสฺมนฺตํ ¶ ปิลินฺทวจฺฉํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ปิลินฺทวจฺฉ, อามนฺเตตี’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, วจฺฉ, ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรสี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปุพฺเพนิวาสํ มนสิ กริตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘มา โข ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วจฺฉสฺส ภิกฺขุโน อุชฺฌายิตฺถ. น, ภิกฺขเว, วจฺโฉ โทสนฺตโร ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรติ. วจฺฉสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺจ ชาติสตานิ อพฺโพกิณฺณานิ พฺราหฺมณกุเล ปจฺจาชาตานิ. โส ตสฺส วสลวาโท ทีฆรตฺตํ ¶ สมุทาจิณฺโณ [อชฺฌาจิณฺโณ (สฺยา. ปี. ก. อฏฺกถายํ ปานฺตรํ)]. เตนายํ วจฺโฉ ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยมฺหี ¶ น มายา วสตี น มาโน,
โย วีตโลโภ อมโม นิราโส;
ปนุณฺณโกโธ [ปณุนฺนโกโธ (ปี.)] อภินิพฺพุตตฺโต,
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขู’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. สกฺกุทานสุตฺตํ
๒๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากสฺสโป ปิปฺปลิคุหายํ วิหรติ, สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ อฺตรํ ¶ [นิสินฺโน อฺตรํ (สฺยา. ก.)] สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺาสิ. อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิเสยฺย’’นฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ปฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺนานิ โหนฺติ อายสฺมโต ¶ มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตปฏิลาภาย. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตานิ ปฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
เตน โข ปน สมเยน สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตํ ทาตุกาโม โหติ. เปสการวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา ตนฺตํ วินาติ. สุชา [สุชาตา (สฺยา. ปี. ก.)] อสุรกฺา ตสรํ ปูเรติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ราชคเห สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปจฺจุคนฺตฺวา หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ฆรํ ปวิสิตฺวา [ปวิเสตฺวา (ก.)] ฆฏิยา โอทนํ อุทฺธริตฺวา ปตฺตํ ปูเรตฺวา อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส อทาสิ. โส อโหสิ ปิณฺฑปาโต อเนกสูโป อเนกพฺยฺชโน อเนกรสพฺยฺชโน [อเนกสูปรสพฺยฺชโน (สี. ปี.)]. อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ โข อยํ สตฺโต ยสฺสายํ ¶ เอวรูโป อิทฺธานุภาโว’’ติ ¶ ? อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สกฺโก โข ¶ อยํ เทวานมินฺโท’’ติ. อิติ วิทิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กตํ โข เต อิทํ, โกสิย; มา [มาสฺสุ (สี. สฺยา.)] ปุนปิ เอวรูปมกาสี’’ติ. ‘‘อมฺหากมฺปิ, ภนฺเต กสฺสป, ปฺุเน อตฺโถ; อมฺหากมฺปิ ปฺุเน กรณีย’’นฺติ.
อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ [ปรมํ ทานํ (ปี. ก.)] กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิต’’นฺติ!!! อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนนฺตสฺส – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิต’’นฺติ!!!
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุโน,
อตฺตภรสฺส อนฺโปสิโน;
เทวา ¶ ปิหยนฺติ ตาทิโน,
อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติ. สตฺตมํ;
๘. ปิณฺฑปาติกสุตฺตํ
๒๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ ¶ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ –
‘‘ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน ¶ คนฺเธ ฆายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺพฺเพ ผุสิตุํ. ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ปิณฺฑาย จรติ. หนฺทาวุโส, มยมฺปิ ปิณฺฑปาติกา โหม. มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน คนฺเธ ฆายิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺพฺเพ ¶ ผุสิตุํ; มยมฺปิ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. อยฺจรหิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตา.
อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน กเรริมณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?
‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ ¶ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ –
‘ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา ¶ รูเป ปสฺสิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน คนฺเธ ฆายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺพฺเพ ผุสิตุํ. ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ปิณฺฑาย จรติ. หนฺทาวุโส, มยมฺปิ ปิณฺฑปาติกา โหม. มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ…เป… กาเยน โผฏฺพฺเพ ผุสิตุํ. มยมฺปิ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
‘‘น ¶ ขฺเวตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ ยํ ตุมฺเห เอวรูปึ กถํ กเถยฺยาถ. สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ – ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ ¶ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุโน,
อตฺตภรสฺส อนฺโปสิโน;
เทวา ปิหยนฺติ ตาทิโน,
โน เจ สทฺทสิโลกนิสฺสิโต’’ติ. อฏฺมํ;
๙. สิปฺปสุตฺตํ
๒๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, สิปฺปํ ชานาติ? โก กึ สิปฺปํ สิกฺขิ? กตรํ สิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ?
ตตฺเถกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘หตฺถิสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘อสฺสสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘รถสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ธนุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ถรุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘มุทฺทาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ ¶ – ‘‘คณนาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ ¶ – ‘‘สงฺขานสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘เลขาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘กาเวยฺยสิปฺปํ [กาพฺยสิปฺปํ (สฺยา.)] สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘โลกายตสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ขตฺตวิชฺชาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. อยฺจรหิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตา.
อถ โข ภควา ¶ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน มณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช ¶ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?
‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โก นุ โข, อาวุโส, สิปฺปํ ชานาติ? โก กึ สิปฺปํ สิกฺขิ? กตรํ สิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ?
‘‘ตตฺเถกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘หตฺถิสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘อสฺสสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘รถสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘ธนุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘ถรุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ, เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘มุทฺทาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘คณนาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘สงฺขานสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘เลขาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘กาเวยฺยสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘โลกายตสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘ขตฺตวิชฺชาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
‘‘น ขฺเวตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ ยํ ตุมฺเห เอวรูปึ กถํ กเถยฺยาถ. สนฺนิปติตานํ ¶ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ – ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อสิปฺปชีวี ¶ ลหุ อตฺถกาโม,
ยตินฺทฺริโย สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต;
อโนกสารี อมโม นิราโส,
หิตฺวา มานํ เอกจโร ส ภิกฺขู’’ติ. นวมํ;
๑๐. โลกสุตฺตํ
๓๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ¶ ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที.
อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสิ. อทฺทสา โข ภควา พุทฺธจกฺขุนา โวโลเกนฺโต สตฺเต อเนเกหิ สนฺตาเปหิ สนฺตปฺปมาเน, อเนเกหิ จ ปริฬาเหหิ ปริฑยฺหมาเน – ราคเชหิปิ, โทสเชหิปิ, โมหเชหิปิ [โมหเชหิปีติ (สพฺพตฺถ)].
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อยํ โลโก สนฺตาปชาโต,
ผสฺสปเรโต โรคํ วทติ อตฺตโต;
เยน เยน หิ มฺติ [เยน หิ มฺติ (สฺยา. ปี.)],
ตโต ตํ โหติ อฺถา.
‘‘อฺถาภาวี ภวสตฺโต โลโก,
ภวปเรโต ภวเมวาภินนฺทติ;
ยสฺส ภายติ ตํ ทุกฺขํ;
ภววิปฺปหานาย โข ปนิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ’’.
‘‘‘เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภเวน ภวสฺส วิปฺปโมกฺขมาหํสุ, สพฺเพ เต อวิปฺปมุตฺตา ¶ ภวสฺมา’ติ วทามิ. ‘เย วา ปน เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณมาหํสุ, สพฺเพ เต อนิสฺสฏา ภวสฺมา’ติ วทามิ.
‘‘อุปธิฺหิ ปฏิจฺจ ทุกฺขมิทํ สมฺโภติ, สพฺพุปาทานกฺขยา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว. โลกมิมํ ปสฺส; ปุถู อวิชฺชาย ปเรตา ภูตา ภูตรตา อปริมุตฺตา; เย หิ เกจิ ภวา สพฺพธิ สพฺพตฺถตาย สพฺเพ เต ภวา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’’ติ.
‘‘เอวเมตํ ¶ ยถาภูตํ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต;
ภวตณฺหา ปหียติ, วิภวํ นาภินนฺทติ.
‘‘สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา,
อเสสวิราคนิโรโธ นิพฺพานํ;
ตสฺส นิพฺพุตสฺส ภิกฺขุโน,
อนุปาทา [อนุปาทานา (สี.)] ปุนพฺภโว น โหติ;
อภิภูโต มาโร วิชิตสงฺคาโม,
อุปจฺจคา สพฺพภวานิ ตาที’’ติ. ทสมํ;
นนฺทวคฺโค ตติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
กมฺมํ ¶ นนฺโท ยโสโช จ, สาริปุตฺโต จ โกลิโต;
ปิลินฺโท [ปิลินฺทิ (สี.)] กสฺสโป ปิณฺโฑ, สิปฺปํ โลเกน เต ทสาติ.
๔. เมฆิยวคฺโค
๑. เมฆิยสุตฺตํ
๓๑. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา จาลิกายํ วิหรติ จาลิเก ปพฺพเต. เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมา เมฆิโย ภควโต อุปฏฺาโก โหติ. อถ โข อายสฺมา เมฆิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตุ’’นฺติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, เมฆิย, กาลํ มฺสี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน กิมิกาฬาย นทิยา ตีรํ เตนุปสงฺกมิ. [อุปสงฺกมิตฺวา (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๙.๓ ปสฺสิตพฺพํ] อทฺทสา ¶ โข อายสฺมา เมฆิโย [อุปสงฺกมิตฺวา (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๙.๓ ปสฺสิตพฺพํ] กิมิกาฬาย นทิยา ตีเร ชงฺฆาวิหารํ [ชงฺฆวิหารํ (ก.)] อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน [อนุวิจรมาโน อทฺทสา โข (สี. สฺยา. ปี.), อนุวิจรมาโน อทฺทส (ก.)] อมฺพวนํ ปาสาทิกํ มนฺุํ รมณียํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปาสาทิกํ วติทํ อมฺพวนํ มนฺุํ [อิทํ ปทํ วิเทสโปตฺถเกสุ นตฺถิ, องฺคุตฺตเรปิ] รมณียํ. อลํ วติทํ กุลปุตฺตสฺส ปธานตฺถิกสฺส ปธานาย. สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, อาคจฺเฉยฺยาหํ อิมํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน กิมิกาฬาย นทิยา ตีรํ เตนุปสงฺกมึ [อุปสงฺกมิตฺวา (สพฺพตฺถ)]. อทฺทสํ โข อหํ, ภนฺเต [อุปสงฺกมิตฺวา (สพฺพตฺถ)], กิมิกาฬาย นทิยา ตีเร ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน [อนุวิจรมาโน อทฺทสํ (สพฺพตฺถ)] อมฺพวนํ ปาสาทิกํ มนฺุํ รมณียํ. ทิสฺวาน เม เอตทโหสิ – ‘ปาสาทิกํ วติทํ อมฺพวนํ มนฺุํ รมณียํ. อลํ วติทํ กุลปุตฺตสฺส ปธานตฺถิกสฺส ปธานาย. สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, อาคจฺเฉยฺยาหํ อิมํ อมฺพวนํ ปธานายา’ติ. สเจ มํ, ภนฺเต, ภควา อนุชานาติ [อนุชาเนยฺย (อ. นิ. ๙.๓)], คจฺเฉยฺยาหํ ตํ ¶ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, ภควา อายสฺมนฺตํ เมฆิยํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมหิ ตาว, เมฆิย, เอกกมฺหิ [เอกกมฺหา (สี. ปี.), เอกโกมฺหิ (สฺยา.)] ตาว, ยาว อฺโปิ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉตี’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควโต, ภนฺเต, นตฺถิ กิฺจิ ¶ อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กรณียํ, นตฺถิ กตสฺส วา ปติจโย. มยฺหํ โข ปน, ภนฺเต, อตฺถิ อุตฺตริ กรณียํ, อตฺถิ กตสฺส ปติจโย. สเจ มํ ภควา อนุชานาติ, คจฺเฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ¶ ภควา อายสฺมนฺตํ เมฆิยํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมหิ ตาว, เมฆิย, เอกกมฺหิ ตาว, ยาว อฺโปิ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉตี’’ติ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘ภควโต, ภนฺเต, นตฺถิ กิฺจิ อุตฺตริ กรณียํ, นตฺถิ กตสฺส วา ปติจโย. มยฺหํ โข ปน, ภนฺเต, อตฺถิ อุตฺตริ กรณียํ, อตฺถิ กตสฺส ปติจโย. สเจ มํ ภควา อนุชานาติ, คจฺเฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติ. ‘‘ปธานนฺติ โข, เมฆิย, วทมานํ กินฺติ วเทยฺยาม? ยสฺสทานิ ตฺวํ, เมฆิย, กาลํ มฺสี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ตํ อมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อมฺพวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา [อชฺโฌคเหตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข อายสฺมโต เมฆิยสฺส ตสฺมึ อมฺพวเน วิหรนฺตสฺส เยภุยฺเยน ตโย ปาปกา อกุสลา วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ, เสยฺยถิทํ – กามวิตกฺโก, พฺยาปาทวิตกฺโก, วิหึสาวิตกฺโก [วิตกฺโกติ (สี. ปี. ก.)].
อถ โข อายสฺมโต เมฆิยสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! สทฺธาย จ วตมฺหา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา. อถ จ ปนิเมหิ ตีหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ วิตกฺเกหิ อนฺวาสตฺตา, เสยฺยถิทํ – กามวิตกฺเกน, พฺยาปาทวิตกฺเกน, วิหึสาวิตกฺเกน’’.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, ตสฺมึ อมฺพวเน วิหรนฺตสฺส เยภุยฺเยน ตโย ¶ ปาปกา อกุสลา วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ, เสยฺยถิทํ – กามวิตกฺโก, พฺยาปาทวิตกฺโก, วิหึสาวิตกฺโก ¶ . ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! สทฺธาย จ วตมฺหา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา. อถ จ ปนิเมหิ ตีหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ¶ วิตกฺเกหิ อนฺวาสตฺตา, เสยฺยถิทํ – กามวิตกฺเกน, พฺยาปาทวิตกฺเกน, วิหึสาวิตกฺเกน’’’.
‘‘อปริปกฺกาย ¶ , เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา ปฺจ ธมฺมา ปริปากาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ?
‘‘อิธ, เมฆิย, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ปโม ธมฺโม ปริปากาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ทุติโย ธมฺโม ปริปากาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฏฺิกถา, ปวิเวกกถา, อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา, ปฺากถา, วิมุตฺติกถา, วิมุตฺติาณทสฺสนกถา; เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี. อปริปากาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ตติโย ธมฺโม ปริปากาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , เมฆิย, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ, อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย [อุปฺปาทาย (สฺยา.)], ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ จตุตฺโถ ธมฺโม ปริปากาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ปฺจโม ธมฺโม ปริปากาย สํวตฺตติ. อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อิเม ปฺจ ธมฺมา ปริปากาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ ¶ , เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ สีลวา ภวิสฺสติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหริสฺสติ, อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขิสฺสติ สิกฺขาปเทสุ.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ ¶ , เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ ¶ ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฏฺิกถา, ปวิเวกกถา, อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา, ปฺากถา, วิมุตฺติกถา, วิมุตฺติาณทสฺสนกถา; เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ อารทฺธวีริโย วิหริสฺสติ ¶ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ ปฺวา ภวิสฺสติ, อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา.
‘‘เตน จ ปน, เมฆิย, ภิกฺขุนา อิเมสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย จตฺตาโร ธมฺมา อุตฺตริ ภาเวตพฺพา – อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานาย, เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ปหานาย, อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทาย, อนิจฺจสฺา ภาเวตพฺพา อสฺมิมานสมุคฺฆาตาย. อนิจฺจสฺิโน หิ, เมฆิย, อนตฺตสฺา สณฺาติ, อนตฺตสฺี อสฺมิมานสมุคฺฆาตํ ปาปุณาติ ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพาน’’นฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ขุทฺทา ¶ วิตกฺกา สุขุมา วิตกฺกา,
อนุคตา [อนุคฺคตา (สี. ก. อฏฺกถายํ ปานฺตรํ)] มนโส อุปฺปิลาวา [อุพฺพิลาปา (สี. สฺยา. ปี.)];
เอเต อวิทฺวา มนโส วิตกฺเก,
หุรา หุรํ ธาวติ ภนฺตจิตฺโต.
‘‘เอเต จ วิทฺวา มนโส วิตกฺเก,
อาตาปิโย สํวรตี สตีมา;
อเสสเมเต ปชหาสิ พุทฺโธ’’ติ. ปมํ;
๒. อุทฺธตสุตฺตํ
๓๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุสินารายํ วิหรติ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต อวิทูเร อรฺกุฏิกายํ วิหรนฺติ อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา มุฏฺสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ปากตินฺทฺริยา.
อทฺทสา โข ภควา เต สมฺพหุเล ¶ ภิกฺขู อวิทูเร อรฺกุฏิกายํ วิหรนฺเต อุทฺธเต อุนฺนเฬ จปเล มุขเร วิกิณฺณวาเจ มุฏฺสฺสติโน อสมฺปชาเน อสมาหิเต วิพฺภนฺตจิตฺเต ปากตินฺทฺริเย.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อรกฺขิเตน กาเยน [จิตฺเตน (เนตฺติยํ)], มิจฺฉาทิฏฺิหเตน [มิจฺฉาทิฏฺิคเตน (พหูสุ)] จ;
ถินมิทฺธา [ถีนมิทฺธา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภิภูเตน, วสํ มารสฺส คจฺฉติ.
‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร;
สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพยํ;
ถีนมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ. ทุติยํ;
๓. โคปาลกสุตฺตํ
๓๓. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ.
อถ โข อฺตโร โคปาลโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ โคปาลกํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ [สมาทาเปสิ (?)] สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ.
อถ โข โส โคปาลโก ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต [สมาทิปิโต (?)] สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข โส โคปาลโก ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข โส โคปาลโก ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปหูตํ อปฺโปทกปายสํ [อปฺโปทกปายาสํ (สพฺพตฺถ)] ปฏิยาทาเปตฺวา นวฺจ สปฺปึ ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน ตสฺส โคปาลกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข โส โคปาลโก พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ อปฺโปทกปายเสน [อปฺโปทกปายาเสน จ (สฺยา. ปี.)] นเวน จ สปฺปินา สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข โส โคปาลโก ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ ¶ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ โคปาลกํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต ตํ โคปาลกํ อฺตโร ¶ ปุริโส สีมนฺตริกาย ชีวิตา โวโรเปสิ.
อถ ¶ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘เยน, ภนฺเต, โคปาลเกน อชฺช พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อปฺโปทกปายเสน นเวน จ สปฺปินา สหตฺถา สนฺตปฺปิโต สมฺปวาริโต โส กิร, ภนฺเต, โคปาลโก อฺตเรน ปุริเสน สีมนฺตริกาย ชีวิตา โวโรปิโต’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ทิโส ทิสํ ยํ ตํ กยิรา, เวรี วา ปน เวรินํ;
มิจฺฉาปณิหิตํ จิตฺตํ, ปาปิโย นํ ตโต กเร’’ติ. ตติยํ;
๔. ยกฺขปหารสุตฺตํ
๓๔. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน กโปตกนฺทรายํ วิหรนฺติ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ อฺตรํ สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา.
เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ยกฺขา สหายกา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณํ ทิสํ คจฺฉนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อทฺทสํสุ โข เต ยกฺขา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อพฺโภกาเส นิสินฺนํ. ทิสฺวาน เอโก ยกฺโข ทุติยํ ยกฺขํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘ปฏิภาติ มํ, สมฺม, อิมสฺส สมณสฺส สีเส ปหารํ ทาตุ’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, สมฺม, มา สมณํ อาสาเทสิ. อุฬาโร โส, สมฺม, สมโณ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิภาติ มํ, สมฺม, อิมสฺส สมณสฺส ¶ สีเส ปหารํ ทาตุ’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, สมฺม, มา สมณํ อาสาเทสิ. อุฬาโร โส, สมฺม, สมโณ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ. ตติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิภาติ มํ, สมฺม, อิมสฺส สมณสฺส สีเส ปหารํ ¶ ทาตุ’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, สมฺม, มา สมณํ อาสาเทสิ. อุฬาโร โส, สมฺม, สมโณ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ.
อถ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ อนาทิยิตฺวา อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สีเส ปหารํ อทาสิ. ตาว มหา ปหาโร อโหสิ, อปิ เตน ปหาเรน สตฺตรตนํ วา อฑฺฒฏฺมรตนํ วา นาคํ โอสาเทยฺย, มหนฺตํ วา ปพฺพตกูฏํ ปทาเลยฺย. อถ จ ปน โส ยกฺโข ‘ฑยฺหามิ ฑยฺหามี’ติ วตฺวา ตตฺเถว มหานิรยํ อปตาสิ [อวตฺถาสิ (ก. สี.)].
อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน เตน ยกฺเขน อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สีเส ปหารํ ทียมานํ. ทิสฺวา เยน อายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ ¶ เต, อาวุโส, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ น กิฺจิ ทุกฺข’’นฺติ ¶ ? ‘‘ขมนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาปนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน; อปิ จ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’’นฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อพฺภุตํ, อาวุโส สาริปุตฺต! ยาว [ยํ ตฺวํ (สี. ก.), ยํ (สฺยา.)] มหิทฺธิโก อายสฺมา สาริปุตฺโต มหานุภาโว! อิธ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อฺตโร ยกฺโข สีเส ปหารํ อทาสิ. ตาว มหา ปหาโร อโหสิ, อปิ เตน ปหาเรน สตฺตรตนํ วา อฑฺฒฏฺมรตนํ วา นาคํ โอสาเทยฺย, มหนฺตํ วา ปพฺพตกูฏํ ปทาเลยฺย, อถ จ ปนายสฺมา สาริปุตฺโต เอวมาห – ‘ขมนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาปนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน; อปิ จ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’’’นฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน! ยาว [ยํ (สฺยา.)] มหิทฺธิโก อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มหานุภาโว ยตฺร หิ นาม ยกฺขมฺปิ ปสฺสิสฺสติ! มยํ ปเนตรหิ ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามา’’ติ.
อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย เตสํ อุภินฺนํ มหานาคานํ อิมํ เอวรูปํ กถาสลฺลาปํ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส ¶ เสลูปมํ จิตฺตํ, ิตํ นานุปกมฺปติ;
วิรตฺตํ รชนีเยสุ, โกปเนยฺเย น กุปฺปติ;
ยสฺเสวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, กุโต ตํ ทุกฺขเมสฺสตี’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. นาคสุตฺตํ
๓๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม ¶ . เตน โข ปน สมเยน ภควา อากิณฺโณ วิหรติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขูนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. อากิณฺโณ ทุกฺขํ น ผาสุ วิหรติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข เอตรหิ อากิณฺโณ วิหรามิ ภิกฺขูหิ ¶ ภิกฺขูนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. อากิณฺโณ ทุกฺขํ น ผาสุ วิหรามิ. ยํนูนาหํ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’’นฺติ.
อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สามํ เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อนามนฺเตตฺวา อุปฏฺากํ อนปโลเกตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ เอโก อทุติโย เยน ปาลิเลยฺยกํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ปาลิเลยฺยกํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ปาลิเลยฺยเก วิหรติ รกฺขิตวนสณฺเฑ ภทฺทสาลมูเล.
อฺตโรปิ โข หตฺถินาโค อากิณฺโณ วิหรติ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ. ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทติ, โอภคฺโคภคฺคฺจสฺส สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวติ, โอคาหา จสฺส อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ. อากิณฺโณ ทุกฺขํ น ผาสุ วิหรติ. อถ โข ตสฺส หตฺถินาคสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข เอตรหิ อากิณฺโณ วิหรามิ ¶ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ เม อุตฺติณฺณสฺส ¶ หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ, อากิณฺโณ ทุกฺขํ น ผาสุ วิหรามิ. ยํนูนาหํ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’’นฺติ.
อถ โข โส หตฺถินาโค ยูถา อปกฺกมฺม เยน ปาลิเลยฺยกํ รกฺขิตวนสณฺโฑ ¶ ภทฺทสาลมูลํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. ตตฺร สุทํ [อุปสงฺกมิตฺวา ตตฺร สุทํ (สฺยา. ปี. ก.)] โส หตฺถินาโค ยสฺมึ ปเทเส ภควา วิหรติ ตํ ปเทสํ [อปฺปหริตฺจ กโรติ, โสณฺฑาย (พหูสุ)] อปฺปหริตํ กโรติ, โสณฺฑาย จ [อปฺปหริตฺจ กโรติ, โสณฺฑาย (พหูสุ)] ภควโต ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปติ [อุปฏฺเปติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ วิหาสึ ภิกฺขูหิ ภิกฺขูนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ, อากิณฺโณ ทุกฺขํ น ผาสุ วิหาสึ. โสมฺหิ เอตรหิ อนากิณฺโณ วิหรามิ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ, อนากิณฺโณ สุขํ ผาสุ วิหรามี’’ติ.
ตสฺสปิ ¶ โข หตฺถินาคสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ วิหาสึ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทึ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทึสุ, อาวิลานิ จ ปานียานิ อปายึ, โอคาหา ¶ จ เม อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย อคมํสุ, อากิณฺโณ ทุกฺขํ น ผาสุ วิหาสึ. โสมฺหิ เอตรหิ อนากิณฺโณ วิหรามิ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, อจฺฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ น ขาทนฺติ, อนาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ เม อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย น กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ, อนากิณฺโณ สุขํ ผาสุ วิหรามี’’ติ.
อถ โข ภควา อตฺตโน จ ปวิเวกํ วิทิตฺวา ตสฺส จ หตฺถินาคสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘เอตํ ¶ [เอวํ (ก.)] นาคสฺส นาเคน, อีสาทนฺตสฺส หตฺถิโน;
สเมติ จิตฺตํ จิตฺเตน, ยเทโก รมตี มโน’’ติ. ปฺจมํ;
๖. ปิณฺโฑลสุตฺตํ
๓๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปิณฺโฑลภารทฺวาโช ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อารฺิโก ปิณฺฑปาติโก ปํสุกูลิโก เตจีวริโก อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย [อารทฺธวิริโย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ธุตวาโท อธิจิตฺตมนุยุตฺโต.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ ปิณฺโฑลภารทฺวาชํ ¶ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อารฺิกํ ปิณฺฑปาติกํ ปํสุกูลิกํ เตจีวริกํ อปฺปิจฺฉํ สนฺตุฏฺํ ปวิวิตฺตํ อสํสฏฺํ อารทฺธวีริยํ ธุตวาทํ อธิจิตฺตมนุยุตฺตํ ¶ .
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อนูปวาโท ¶ อนูปฆาโต [อนุปวาโท อนุปฆาโต (สฺยา. ปี. ก.)], ปาติโมกฺเข จ สํวโร;
มตฺตฺุตา จ ภตฺตสฺมึ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;
อธิจิตฺเต จ อาโยโค, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. ฉฏฺํ;
๗. สาริปุตฺตสุตฺตํ
๓๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย อธิจิตฺตมนุยุตฺโต.
อทฺทสา ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อปฺปิจฺฉํ สนฺตุฏฺํ ปวิวิตฺตํ อสํสฏฺํ อารทฺธวีริยํ อธิจิตฺตมนุยุตฺตํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อธิเจตโส อปฺปมชฺชโต,
มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต;
โสกา น ภวนฺติ ตาทิโน,
อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติ. สตฺตมํ;
๘. สุนฺทรีสุตฺตํ
๓๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ ¶ . ภิกฺขุสงฺโฆปิ สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. อฺติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อนปจิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ.
อถ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต สกฺการํ อสหมานา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ¶ เยน สุนฺทรี ปริพฺพาชิกา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ สุนฺทรึ ปริพฺพาชิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘อุสฺสหสิ ตฺวํ, ภคินิ, าตีนํ อตฺถํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘กฺยาหํ, อยฺยา, กโรมิ? กึ มยา น สกฺกา [กึ มยา สกฺกา (สฺยา. ปี.)] กาตุํ? ชีวิตมฺปิ เม ปริจฺจตฺตํ าตีนํ อตฺถายา’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภคินิ, อภิกฺขณํ เชตวนํ คจฺฉาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, อยฺยา’’ติ โข สุนฺทรี ปริพฺพาชิกา เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ปฏิสฺสุตฺวา อภิกฺขณํ เชตวนํ อคมาสิ.
ยทา ¶ เต อฺึสุ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา – ‘‘โวทิฏฺา โข สุนฺทรี ปริพฺพาชิกา พหุชเนน อภิกฺขณํ เชตวนํ คจฺฉตี’’ติ [คจฺฉตีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. อถ นํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา ตตฺเถว เชตวนสฺส ปริขากูเป นิกฺขิปิตฺวา [นิขนิตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] เยน ราชา ปเสนทิ โกสโล เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยา สา, มหาราช, สุนฺทรี ปริพฺพาชิกา; สา โน น ทิสฺสตี’’ติ. ‘‘กตฺถ ปน ตุมฺเห อาสงฺกถา’’ติ ¶ ? ‘‘เชตวเน, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ เชตวนํ วิจินถา’’ติ.
อถ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เชตวนํ วิจินิตฺวา ยถานิกฺขิตฺตํ ปริขากูปา อุทฺธริตฺวา มฺจกํ อาโรเปตฺวา สาวตฺถึ ปเวเสตฺวา รถิยาย รถิยํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา มนุสฺเส อุชฺฌาเปสุํ –
‘‘ปสฺสถายฺยา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ กมฺมํ! อลชฺชิโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา มุสาวาทิโน อพฺรหฺมจาริโน. อิเม หิ นาม ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา ปฏิชานิสฺสนฺติ! นตฺถิ อิเมสํ สามฺํ, นตฺถิ อิเมสํ พฺรหฺมฺํ. นฏฺํ อิเมสํ สามฺํ, นฏฺํ อิเมสํ พฺรหฺมฺํ. กุโต อิเมสํ สามฺํ, กุโต อิเมสํ พฺรหฺมฺํ? อปคตา อิเม สามฺา, อปคตา อิเม พฺรหฺมฺา. กถฺหิ นาม ปุริโส ปุริสกิจฺจํ กริตฺวา อิตฺถึ ชีวิตา โวโรเปสฺสตี’’ติ!
เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ มนุสฺสา ภิกฺขู ทิสฺวา อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรสนฺติ วิเหสนฺติ –
‘‘อลชฺชิโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา มุสาวาทิโน อพฺรหฺมจาริโน ¶ . อิเม หิ นาม ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา ปฏิชานิสฺสนฺติ! นตฺถิ อิเมสํ สามฺํ, นตฺถิ อิเมสํ พฺรหฺมฺํ. นฏฺํ อิเมสํ สามฺํ, นฏฺํ อิเมสํ พฺรหฺมฺํ. กุโต อิเมสํ สามฺํ, กุโต อิเมสํ พฺรหฺมฺํ? อปคตา อิเม สามฺา, อปคตา อิเม ¶ พฺรหฺมฺา. กถฺหิ นาม ปุริโส ปุริสกิจฺจํ กริตฺวา อิตฺถึ ชีวิตา โวโรเปสฺสตี’’ติ!
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ¶ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา ¶ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, สาวตฺถิยํ มนุสฺสา ภิกฺขู ทิสฺวา อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรสนฺติ วิเหสนฺติ – ‘อลชฺชิโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา มุสาวาทิโน อพฺรหฺมจาริโน. อิเม หิ นาม ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา ปฏิชานิสฺสนฺติ. นตฺถิ อิเมสํ สามฺํ, นตฺถิ อิเมสํ พฺรหฺมฺํ. นฏฺํ อิเมสํ สามฺํ, นฏฺํ อิเมสํ พฺรหฺมฺํ. กุโต อิเมสํ สามฺํ, กุโต อิเมสํ พฺรหฺมฺํ? อปคตา อิเม สามฺา, อปคตา อิเม พฺรหฺมฺา. กถฺหิ นาม ปุริโส ปุริสกิจฺจํ กริตฺวา อิตฺถึ ชีวิตา โวโรเปสฺสตี’’’ติ!
‘‘เนโส, ภิกฺขเว, สทฺโท จิรํ ภวิสฺสติ สตฺตาหเมว ภวิสฺสติ. สตฺตาหสฺส อจฺจเยน อนฺตรธายิสฺสติ. เตน หิ, ภิกฺขเว, เย มนุสฺสา ภิกฺขู ทิสฺวา อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรสนฺติ วิเหสนฺติ, เต ตุมฺเห อิมาย คาถาย ปฏิโจเทถ –
‘‘‘อภูตวาที ¶ นิรยํ อุเปติ,
โย วาปิ [โย จาปิ (สี. ปี. ก.)] กตฺวา น กโรมิ จาห;
อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ,
นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถา’’’ติ.
อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ ปริยาปุณิตฺวา เย มนุสฺสา ภิกฺขู ทิสฺวา ¶ อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรสนฺติ วิเหสนฺติ เต อิมาย คาถาย ปฏิโจเทนฺติ –
‘‘อภูตวาที นิรยํ อุเปติ,
โย วาปิ กตฺวา น กโรมิจาห;
อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ,
นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถา’’ติ.
มนุสฺสานํ ¶ เอตทโหสิ – ‘‘อการกา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา. นยิเมหิ กตํ. สปนฺติเม สมณา สกฺยปุตฺติยา’’ติ. เนว โส สทฺโท จิรํ อโหสิ. สตฺตาหเมว อโหสิ. สตฺตาหสฺส อจฺจเยน อนฺตรธายิ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตทโวจุํ –
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตํ จิทํ ภนฺเต ภควตา – ‘เนโส, ภิกฺขเว, สทฺโท จิรํ ภวิสฺสติ. สตฺตาหเมว ภวิสฺสติ. สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ¶ อนฺตรธายิสฺสตี’ติ. อนฺตรหิโต โส, ภนฺเต, สทฺโท’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ตุทนฺติ วาจาย ชนา อสฺตา,
สเรหิ สงฺคามคตํว กฺุชรํ;
สุตฺวาน วากฺยํ ผรุสํ อุทีริตํ,
อธิวาสเย ภิกฺขุ อทุฏฺจิตฺโต’’ติ. อฏฺมํ;
๙. อุปเสนสุตฺตํ
๓๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข อายสฺมโต อุปเสนสฺส ¶ วงฺคนฺตปุตฺตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก ¶ อุทปาทิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, สตฺถา จ เม ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ; สฺวากฺขาเต จมฺหิ ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต; สพฺรหฺมจาริโน จ เม สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา; สีเลสุ จมฺหิ ปริปูรการี; สุสมาหิโต จมฺหิ เอกคฺคจิตฺโต; อรหา จมฺหิ ขีณาสโว; มหิทฺธิโก จมฺหิ มหานุภาโว. ภทฺทกํ เม ชีวิตํ, ภทฺทกํ มรณ’’นฺติ.
อถ โข ภควา อายสฺมโต อุปเสนสฺส วงฺคนฺตปุตฺตสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยํ ¶ ชีวิตํ น ตปติ, มรณนฺเต น โสจติ;
ส เว ทิฏฺปโท ธีโร, โสกมชฺเฌ น โสจติ.
‘‘อุจฺฉินฺนภวตณฺหสฺส ¶ , สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ. นวมํ;
๑๐. สาริปุตฺตอุปสมสุตฺตํ
๔๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อตฺตโน อุปสมํ ปจฺจเวกฺขมาโน.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อตฺตโน อุปสมํ ปจฺจเวกฺขมานํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อุปสนฺตสนฺตจิตฺตสฺส, เนตฺติจฺฉินฺนสฺส ภิกฺขุโน;
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, มุตฺโต โส มารพนฺธนา’’ติ. ทสมํ;
เมฆิยวคฺโค จตุตฺโถ นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
เมฆิโย อุทฺธตา โคปาโล, ยกฺโข [ชุณฺหา (สี. สฺยา. ปี.), ชุณฺหํ (ก.)] นาเคน ปฺจมํ;
ปิณฺโฑโล สาริปุตฺโต จ, สุนฺทรี ภวติ อฏฺมํ;
อุปเสโน วงฺคนฺตปุตฺโต, สาริปุตฺโต จ เต ทสาติ.
๕. โสณวคฺโค [มหาวคฺค (อฏฺกถาย สเมติ)]
๑. ปิยตรสุตฺตํ
๔๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ราชา ปเสนทิ โกสโล มลฺลิกาย เทวิยา สทฺธึ อุปริปาสาทวรคโต โหติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข เต, มลฺลิเก, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ?
‘‘นตฺถิ โข เม, มหาราช, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร. ตุยฺหํ ปน, มหาราช, อตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ? ‘‘มยฺหมฺปิ โข, มลฺลิเก, นตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ.
อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ปาสาทา โอโรหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, มลฺลิกาย เทวิยา สทฺธึ อุปริปาสาทวรคโต มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจํ – ‘อตฺถิ นุ โข เต, มลฺลิเก, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร’ติ? เอวํ วุตฺเต, มลฺลิกา เทวี มํ เอตทโวจ – ‘นตฺถิ โข เม, มหาราช, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร. ตุยฺหํ ปน, มหาราช, อตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’ติ? เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภนฺเต, มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจํ – ‘มยฺหมฺปิ โข, มลฺลิเก, นตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สพฺพา ¶ ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา,
เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ;
เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ,
ตสฺมา น หึเส ปรมตฺตกาโม’’ติ. ปมํ;
๒. อปฺปายุกสุตฺตํ
๔๒. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ¶ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา [ปฏิสลฺลาณา (สี.)] วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว อปฺปายุกา หิ, ภนฺเต, ภควโต มาตา อโหสิ, สตฺตาหชาเต ภควติ ภควโต มาตา กาลมกาสิ, ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชี’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, อานนฺท [เอวเมตํ อานนฺท เอวเมตํ อานนฺท (สฺยา.)], อปฺปายุกา หิ, อานนฺท, โพธิสตฺตมาตโร โหนฺติ. สตฺตาหชาเตสุ โพธิสตฺเตสุ โพธิสตฺตมาตโร กาลํ กโรนฺติ, ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘เย เกจิ ภูตา ภวิสฺสนฺติ เย วาปิ,
สพฺเพ คมิสฺสนฺติ ปหาย เทหํ;
ตํ สพฺพชานึ กุสโล วิทิตฺวา,
อาตาปิโย พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยา’’ติ. ทุติยํ;
๓. สุปฺปพุทฺธกุฏฺิสุตฺตํ
๔๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน ¶ กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน ราชคเห สุปฺปพุทฺโธ นาม กุฏฺี อโหสิ – มนุสฺสทลิทฺโท, มนุสฺสกปโณ ¶ , มนุสฺสวราโก. เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสนฺโต นิสินฺโน โหติ.
อทฺทสา โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ตํ มหาชนกายํ ทูรโตว สนฺนิปติตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข เอตฺถ กิฺจิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ภาชียติ [ภาชียิสฺสติ (สี.)]. ยํนูนาหํ เยน โส มหาชนกาโย เตนุปสงฺกเมยฺยํ. อปฺเปว นาเมตฺถ กิฺจิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ลเภยฺย’’นฺติ.
อถ ¶ โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี เยน โส มหาชนกาโย เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ภควนฺตํ มหติยา ปริสาย ปริวุตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ นิสินฺนํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข เอตฺถ กิฺจิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ภาชียติ. สมโณ อยํ โคตโม ปริสติ ธมฺมํ เทเสติ. ยํนูนาหมฺปิ ธมฺมํ สุเณยฺย’’นฺติ. ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสีทิ – ‘‘อหมฺปิ ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ.
อถ โข ภควา สพฺพาวนฺตํ ¶ ปริสํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ ‘‘โก นุ โข อิธ ภพฺโพ ธมฺมํ วิฺาตุ’’นฺติ? อทฺทสา โข ภควา สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺนํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อิธ ภพฺโพ ธมฺมํ วิฺาตุ’’นฺติ. สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ อารพฺภ อานุปุพฺพึ กถํ [อานุปุพฺพิกถํ (สี.), อนุปุพฺพิกถํ (สฺยา. ปี. ก.)] กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สงฺกิเลสํ; เนกฺขมฺเม [เนกฺขมฺเม จ (สี. สฺยา. ปี.)] อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ ¶ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว สุปฺปพุทฺธสฺส กุฏฺิสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.
อถ โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุ สาสเน อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อภิกฺกนฺตํ ¶ , ภนฺเต, อภิกฺกตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
อถ ¶ โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ ¶ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข อจิรปกฺกนฺตํ สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ คาวี ตรุณวจฺฉา อธิปติตฺวา ชีวิตา โวโรเปสิ.
อถ โข สมฺพหุลา ¶ ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, สุปฺปพุทฺโธ นาม กุฏฺี ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต, โส กาลงฺกโต. ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ?
‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี; ปจฺจปาทิ ธมฺมสฺสานุธมฺมํ; น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสิ. สุปฺปพุทฺโธ, ภิกฺขเว, กุฏฺี ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี อโหสิ – มนุสฺสทลิทฺโท, มนุสฺสกปโณ, มนุสฺสวราโก’’ติ?
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี อิมสฺมึเยว ราชคเห เสฏฺิปุตฺโต อโหสิ. โส อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต อทฺทส ตครสิขึ [ตคฺครสิขึ (ก.)] ปจฺเจกพุทฺธํ นครํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘กฺวายํ กุฏฺี กุฏฺิจีวเรน วิจรตี’ติ? นิฏฺุภิตฺวา อปสพฺยโต [อปพฺยามโต (สฺยา. สํ. นิ. ๑.๒๕๕)] กริตฺวา ปกฺกามิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺถ. ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน ¶ อิมสฺมึเยว ราชคเห กุฏฺี อโหสิ มนุสฺสทลิทฺโท, มนุสฺสกปโณ, มนุสฺสวราโก. โส ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม สทฺธํ สมาทิยิ สีลํ สมาทิยิ สุตํ สมาทิยิ จาคํ สมาทิยิ ปฺํ สมาทิยิ. โส ¶ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม สทฺธํ สมาทิยิตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา สุตํ สมาทิยิตฺวา จาคํ สมาทิยิตฺวา ปฺํ สมาทิยิตฺวา กายสฺส ¶ เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. โส ตตฺถ อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘จกฺขุมา วิสมานีว, วิชฺชมาเน ปรกฺกเม;
ปณฺฑิโต ชีวโลกสฺมึ, ปาปานิ ปริวชฺชเย’’ติ. ตติยํ;
๔. กุมารกสุตฺตํ
๔๔. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา กุมารกา อนฺตรา จ สาวตฺถึ อนฺตรา จ เชตวนํ มจฺฉเก พาเธนฺติ.
อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา เต สมฺพหุเล กุมารเก อนฺตรา จ สาวตฺถึ อนฺตรา จ เชตวนํ มจฺฉเก พาเธนฺเต. ทิสฺวาน เยน เต กุมารกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต กุมารเก เอตทโวจ – ‘‘ภายถ โว, ตุมฺเห กุมารกา, ทุกฺขสฺส, อปฺปิยํ โว ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต, ภายาม มยํ, ภนฺเต, ทุกฺขสฺส ¶ , อปฺปิยํ โน ทุกฺข’’นฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.
‘‘สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;
น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุเปจฺจปิ [อุปจฺจปิ (ก.), อุปฺปจฺจปิ (?), อุปฺปติตฺวาปิ อิติ อตฺโถ] ปลายต’’นฺติ. จตุตฺถํ;
๕. อุโปสถสุตฺตํ
๔๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ [จีวรํ (สพฺพตฺถ)] กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ; อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต มชฺฌิโม ยาโม; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ; อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี ¶ อโหสิ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ¶ ปจฺฉิเม ยาเม, อุทฺธสฺเต อรุเณ, นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม; อุทฺธสฺโต อรุโณ; นนฺทิมุขี รตฺติ; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ; อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’ติ.
อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กํ นุ โข ภควา ปุคฺคลํ สนฺธาย เอวมาห – ‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’ติ? อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สพฺพาวนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ ทุสฺสีลํ ปาปธมฺมํ อสุจึ สงฺกสฺสรสมาจารํ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตํ อสมณํ สมณปฏิฺํ อพฺรหฺมจารึ พฺรหฺมจาริปฏิฺํ อนฺโตปูตึ อวสฺสุตํ กสมฺพุชาตํ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺนํ. ทิสฺวาน อุฏฺายาสนา เยน โส ปุคฺคโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ¶ ปุคฺคลํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา; นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. เอวํ วุตฺเต [อถ โข (สพฺพตฺถ), จูฬว. ๓๘๓; อ. นิ. ๘.๒๐ ปสฺสิตพฺพํ], โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา; นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ทุติยมฺปิ โข…เป… ¶ ตติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ พาหายํ คเหตฺวา พหิทฺวารโกฏฺกา นิกฺขาเมตฺวา สูจิฆฏิกํ ทตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิกฺขามิโต, ภนฺเต, โส ปุคฺคโล มยา. ปริสุทฺธา ปริสา. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, โมคฺคลฺลาน! ยาว พาหาคหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคเมสฺสตี’’ติ!
อถ โข ¶ ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น ทานาหํ, ภิกฺขเว, อิโต ปรํ [น ทานาหํ ภิกฺขเว อชฺชตคฺเค (อ. นิ. ๘.๒๐)] อุโปสถํ กริสฺสามิ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามิ. ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, อิโต ปรํ อุโปสถํ กเรยฺยาถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาถ. อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถํ กเรยฺย, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺย.
‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ?
‘‘มหาสมุทฺโท, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต. ยมฺปิ [ยํ (สี. สฺยา. ก.)], ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร น อายตเกเนว ปปาโต; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; อยํ, ภิกฺขเว [อยมฺปิ (สพฺพตฺถ)], มหาสมุทฺเท ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ. ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ ตํ ขิปฺปเมว [ขิปฺปฺเว (สี.), ขิปฺปํเยว (ก.)] ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ ถลํ อุสฺสาเรติ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา [ปตฺตา (สฺยา. ปี. ก.)] ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ; ‘มหาสมุทฺโท’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส ¶ อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว ¶ , ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมฺมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ ¶ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโค มสารคลฺลํ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโค [โลหิตงฺโก (สี. ปี.), โลหิตโก (?)] มสารคลฺลํ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิติมิงฺคโล [ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล (สี. ปี., อ. นิ. ๘.๑๙)] อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ ¶ อตฺตภาวา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิติมิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา, สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ?
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; เอวเมว ¶ โข, ภิกฺขเว, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ; ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ ¶ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ; อถ โข นํ ขิปฺปเมว สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ. กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา, สงฺโฆ จ เตน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ; ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ. กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา, สงฺโฆ จ เตน; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ¶ ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา [ปพฺพชิตา (ก. สี.)] ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ ¶ , ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา ¶ อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส วิมุตฺติรโส. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส วิมุตฺติรโส; อยํ ¶ , ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโค มสารคลฺลํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิติมิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา, สนฺติ ¶ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามิ, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี, อนาคามีผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน [อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย (สี.)]. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ฉนฺนมติวสฺสติ, วิวฏํ นาติวสฺสติ;
ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี’’ติ. ปฺจมํ;
๖. โสณสุตฺตํ
๔๖. เอวํ ¶ ¶ เม ¶ สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากจฺจาโน อวนฺตีสุ วิหรติ กุรรฆเร [กุรุรฆเร (สฺยา. มหาว. ๒๕๗), กุลฆเร (ก.)] ปวตฺเต ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส อุปฏฺาโก โหติ.
อถ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ ¶ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ.
อถ โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ –
‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. ปพฺพาเชตุ มํ, ภนฺเต ¶ , อยฺโย มหากจฺจาโน’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มหากจฺจาโน โสณํ อุปาสกํ กุฏิกณฺณํ เอตทโวจ – ‘‘ทุกฺกรํ โข, โสณ, ยาวชีวํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ พฺรหฺมจริยํ. อิงฺฆ ตฺวํ, โสณ, ตตฺเถว อาคาริกภูโต สมาโน พุทฺธานํ สาสนํ อนุยฺุช กาลยุตฺตํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ. อถ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส โย อโหสิ ปพฺพชฺชาภิสงฺขาโร โส ปฏิปสฺสมฺภิ.
ทุติยมฺปิ โข…เป… ¶ ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน โสณํ อุปาสกํ กุฏิกณฺณํ เอตทโวจ – ‘‘ทุกฺกรํ โข, โสณ, ยาวชีวํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ พฺรหฺมจริยํ. อิงฺฆ ตฺวํ, โสณ, ตตฺเถว อาคาริกภูโต สมาโน พุทฺธานํ สาสนํ อนุยฺุช กาลยุตฺตํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ ¶ พฺรหฺมจริย’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส โย อโหสิ ปพฺพชฺชาภิสงฺขาโร โส ปฏิปสฺสมฺภิ.
ตติยมฺปิ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ ¶ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ ¶ –
‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ ¶ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. ปพฺพาเชตุ มํ, ภนฺเต, อยฺโย มหากจฺจาโน’’ติ.
อถ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน โสณํ อุปาสกํ กุฏิกณฺณํ ปพฺพาเชสิ. เตน โข ปน สมเยน อวนฺติทกฺขิณาปโถ [อวนฺติ ทกฺขิณปโถ (สี.)] อปฺปภิกฺขุโก โหติ. อถ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน ติณฺณํ วสฺสานํ อจฺจเยน กิจฺเฉน กสิเรน ตโต ตโต ทสวคฺคํ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา อายสฺมนฺตํ โสณํ อุปสมฺปาเทสิ.
อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส วสฺสํวุฏฺสฺส [วสฺสํวุตฺถสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘น โข เม โส ภควา สมฺมุขา ทิฏฺโ, อปิ จ สุโตเยว เม โส ภควา – ‘อีทิโส จ อีทิโส จา’ติ. สเจ มํ อุปชฺฌาโย อนุชาเนยฺย, คจฺเฉยฺยาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา โสโณ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา โสโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ –
‘‘อิธ ¶ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘น โข เม โส ภควา สมฺมุขา ทิฏฺโ, อปิ จ สุโตเยว เม โส ภควา – อีทิโส จ อีทิโส จา’ติ. สเจ มํ อุปชฺฌาโย ¶ อนุชาเนยฺย, คจฺเฉยฺยาหํ ¶ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ ( ) [(คจฺเฉยฺยาหํ ภนฺเต ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ, สเจ มํ อุปชฺฌาโย อนุชานาตีติ (มหาว. ๒๕๗)].
‘‘สาธุ สาธุ, โสณ; คจฺฉ ตฺวํ, โสณ, ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ [สมาสมฺพุทฺธนฺติ (สพฺพตฺถ)]. ทกฺขิสฺสสิ ตฺวํ, โสณ, ตํ ภควนฺตํ ปาสาทิกํ ปสาทนียํ สนฺตินฺทฺริยํ สนฺตมานสํ อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปตฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ ยตินฺทฺริยํ นาคํ. ทิสฺวาน มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ [ผาสุวิหารฺจ (สี.)] ปุจฺฉ – ‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ [ผาสุวิหารฺจ (สี.)] ปุจฺฉตี’’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม, เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา โสโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ [ผาสุวิหารฺจ (สี.)] ปุจฺฉตี’’ติ.
‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิสิ อปฺปกิลมเถน อทฺธานํ อาคโต, น จ ปิณฺฑเกน กิลนฺโตสี’’ติ? ‘‘ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา, อปฺปกิลมเถน จาหํ, ภนฺเต, อทฺธานํ อาคโต, น ปิณฺฑเกน กิลนฺโตมฺหี’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิมสฺสานนฺท, อาคนฺตุกสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฺาเปหี’’ติ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยสฺส โข มํ ภควา อาณาเปติ ¶ – ‘อิมสฺสานนฺท, อาคนฺตุกสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฺาเปหี’ติ, อิจฺฉติ ภควา เตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกวิหาเร วตฺถุํ, อิจฺฉติ ภควา อายสฺมตา โสเณน สทฺธึ เอกวิหาเร วตฺถุ’’นฺติ. ยสฺมึ วิหาเร ภควา วิหรติ, ตสฺมึ วิหาเร อายสฺมโต โสณสฺส เสนาสนํ ปฺาเปสิ.
อถ ¶ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ อพฺโภกาเส นิสชฺชาย วีตินาเมตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา วิหารํ ปาวิสิ. อายสฺมาปิ โข โสโณ พหุเทว รตฺตึ อพฺโภกาเส นิสชฺชาย วีตินาเมตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา วิหารํ ปาวิสิ. อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ โสณํ อชฺเฌสิ – ‘‘ปฏิภาตุ ตํ ภิกฺขุ ธมฺโม ภาสิตุ’’นฺติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา โสฬส อฏฺกวคฺคิกานิ สพฺพาเนว สเรน อภณิ. อถ โข ภควา อายสฺมโต โสณสฺส สรภฺปริโยสาเน อพฺภนุโมทิ – ‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ, สุคฺคหิตานิ เต, ภิกฺขุ, โสฬส อฏฺกวคฺคิกานิ สุมนสิกตานิ สูปธาริตานิ, กลฺยาณิยาสิ [กลฺยาณิยา จ (ก.), กลฺยาณิยา จาสิ (?)] วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา. กติ วสฺโสสิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘เอกวสฺโส อหํ ภควา’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ ¶ , ภิกฺขุ, เอวํ จิรํ อกาสี’’ติ? ‘‘จิรํ ทิฏฺโ [จิรทิฏฺโ (สี.)] เม, ภนฺเต, กาเมสุ อาทีนโว; อปิ จ สมฺพาโธ ฆราวาโส พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก, ตฺวา ธมฺมํ นิรูปธึ;
อริโย น รมตี ปาเป, ปาเป น รมตี สุจี’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. กงฺขาเรวตสุตฺตํ
๔๗. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา กงฺขาเรวโต ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อตฺตโน กงฺขาวิตรณวิสุทฺธึ ปจฺจเวกฺขมาโน.
อทฺทสา ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ กงฺขาเรวตํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อตฺตโน กงฺขาวิตรณวิสุทฺธึ ปจฺจเวกฺขมานํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยา ¶ กาจิ กงฺขา อิธ วา หุรํ วา,
สกเวทิยา วา ปรเวทิยา วา;
เย ฌายิโน ตา ปชหนฺติ สพฺพา,
อาตาปิโน พฺรหฺมจริยํ จรนฺตา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. สงฺฆเภทสุตฺตํ
๔๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ ¶ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท ตทหุโปสเถ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
อทฺทสา โข เทวทตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ. ทิสฺวาน เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อชฺชตคฺเค ทานาหํ, อาวุโส อานนฺท, อฺตฺเรว ภควตา อฺตฺร ภิกฺขุสงฺฆา อุโปสถํ กริสฺสามิ สงฺฆกมฺมานิ จา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข มํ, ภนฺเต, เทวทตฺโต ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ. ทิสฺวาน เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘อชฺชตคฺเค ทานาหํ, อาวุโส อานนฺท, อฺตฺเรว ภควตา อฺตฺร ภิกฺขุสงฺฆา อุโปสถํ กริสฺสามิ สงฺฆกมฺมานิ จา’ติ. อชฺช, ภนฺเต, เทวทตฺโต สงฺฆํ ภินฺทิสฺสติ, อุโปสถฺจ กริสฺสติ สงฺฆกมฺมานิ จา’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุกรํ ¶ สาธุนา สาธุ, สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ [สุกรํ สาธุนา สาธุํ, สาธุํ ปาเปน ทุกฺกรํ (ก.)];
ปาปํ ¶ ปาเปน สุกรํ, ปาปมริเยหิ ทุกฺกร’’นฺติ. อฏฺมํ;
๙. สธายมานสุตฺตํ
๔๙. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา มาณวกา ภควโต อวิทูเร สธายมานรูปา [สทฺทายมานรูปา (สฺยา. ปี. อฏฺกถายํ ปานฺตรํ), ปถายมานรูปา (ก.), วธายมานรูปา (ก. สี., ก. อฏฺ.), สทฺธายมานรูปา (?), สทฺธุธาตุยา สธุธาตุยา วา สิทฺธมิทนฺติ เวทิตพฺพํ] อติกฺกมนฺติ. อทฺทสา โข ภควา สมฺพหุเล มาณวเก อวิทูเร สธายมานรูเป อติกฺกนฺเต.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ปริมุฏฺา ปณฺฑิตาภาสา, วาจาโคจรภาณิโน;
ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ, เยน นีตา น ตํ วิทู’’ติ. นวมํ;
๑๐. จูฬปนฺถกสุตฺตํ
๕๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จูฬปนฺถโก [จุลฺลปนฺถโก (สี.), จูลปนฺถโก (ปี.)] ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ จูฬปนฺถกํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ิเตน ¶ กาเยน ิเตน เจตสา,
ติฏฺํ นิสินฺโน อุท วา สยาโน;
เอตํ [เอวํ (ก.)] สตึ ภิกฺขุ อธิฏฺหาโน,
ลเภถ ¶ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;
ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ,
อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ. ทสมํ;
โสณวคฺโค [โสณเถรวคฺโค (สฺยา. กํ. ก.) มหาวคฺโค (อฏฺกถาย สเมติ)] ปฺจโม นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
ปิโย อปฺปายุกา กุฏฺี, กุมารกา อุโปสโถ;
โสโณ จ เรวโต เภโท, สธาย ปนฺถเกน จาติ.
๖. ชจฺจนฺธวคฺโค
๑. อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนสุตฺตํ
๕๑. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คณฺหาหิ, อานนฺท, นิสีทนํ. เยน จาปาลํ [ปาวาลํ (สฺยา.)] เจติยํ เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวาวิหารายา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิสีทนํ อาทาย ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. อถ โข ภควา เยน จาปาลํ เจติยํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ –
‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี; รมณียํ อุเทนํ เจติยํ; รมณียํ โคตมกํ เจติยํ; รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ; รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ; รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ; รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท ¶ , จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน ( ) [(อานนฺท) (ก.)] กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ.
เอวมฺปิ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน, โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน, นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ; ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต ¶ . ทุติยมฺปิ โข…เป… ¶ ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ –
‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี; รมณียํ อุเทนํ เจติยํ; รมณียํ โคตมกํ เจติยํ; รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ; รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ; รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ; รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ ¶ วา’’ติ.
เอวมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน, โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน, นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ; ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, ยสฺสทานิ กาลํ มฺสี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ¶ ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ.
อถ โข มาโร ปาปิมา, อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข มาโร ปาปิมา ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต; ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ¶ ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา [วิสารทา ปตฺตโยคเขมา (อ. นิ. ๘.๗๐), วิสารทปฺปตฺตา โยคเขมา (สี. ปี. ก.), วิสารทปฺปตฺตา โยคเขมกามา (สฺยา.)] พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ ¶ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต [สนฺติ โข ปน ภนฺเต เอตรหิ (สี. ปี. สํ. นิ. ๕.๘๒๒)] ภิกฺขู ภควโต สาวกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต; ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต.
‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต ¶ , ภิกฺขุนิโย ภควโต สาวิกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา ¶ อนุธมฺมจารินิโย สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ¶ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต; ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต.
‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, อุปาสกา ภควโต สาวกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน สกํ อาจริยกํ ¶ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต; ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต.
‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ¶ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, อุปาสิกา ภควโต สาวิกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต; ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต.
‘‘ภาสิตา ¶ โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธฺเจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’นฺติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต [ตยิทํ ภนฺเต (สํ. นิ. ๕.๘๒๒)], ภควโต พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต; ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, ภควา มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ¶ ตฺวํ, ปาปิม, โหหิ. น จิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ.
อถ โข ภควา จาปาเล เจติเย สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชิ. โอสฺสฏฺเ จ ภควตา อายุสงฺขาเร มหาภูมิจาโล อโหสิ ภึสนโก โลมหํโส, เทวทุนฺทุภิโย [เทวทุทฺรภิโย (ก.)] จ ผลึสุ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภวํ,
ภวสงฺขารมวสฺสชิ มุนิ;
อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต,
อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภว’’นฺติ. ปมํ;
๒. สตฺตชฏิลสุตฺตํ
๕๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ¶ ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต พหิทฺวารโกฏฺเก นิสินฺโน โหติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สตฺต จ ชฏิลา, สตฺต จ นิคณฺา, สตฺต จ อเจลกา, สตฺต จ เอกสาฏกา, สตฺต จ ปริพฺพาชกา, ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา ขาริวิวิธมาทาย [ขารีวิธมาทาย (ก. สํ. นิ. ๑.๑๒๒; ที. นิ. ๑.๒๘๐)] ภควโต อวิทูเร อติกฺกมนฺติ.
อทฺทสา โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เต สตฺต จ ชฏิเล, สตฺต จ นิคณฺเ, สตฺต จ อเจลเก, สตฺต จ เอกสาฏเก, สตฺต จ ปริพฺพาชเก ¶ , ปรูฬฺหกจฺฉนขโลเม ขาริวิวิธมาทาย ภควโต อวิทูเร อติกฺกมนฺเต. ทิสฺวาน อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ [ปวิยํ (สี. สฺยา. ปี.)] นิหนฺตฺวา เยน เต สตฺต จ ชฏิลา, สตฺต จ นิคณฺา, สตฺต จ อเจลกา, สตฺต จ เอกสาฏกา, สตฺต จ ปริพฺพาชกา, เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ นามํ สาเวสิ – ‘‘ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโล; ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโล; ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโล’’ติ.
อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อจิรปกฺกนฺเตสุ เตสุ สตฺตสุ จ ชฏิเลสุ, สตฺตสุ จ นิคณฺเสุ, สตฺตสุ จ อเจลเกสุ, สตฺตสุ จ เอกสาฏเกสุ, สตฺตสุ จ ปริพฺพาชเกสุ, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน ¶ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เย โข [เย จ โข (สี.), เย จ เต (สฺยา.), เย นุ เกจิ โข (ปี.), เย เต (สํ. นิ. ๑.๑๒๒), เย นุ โข เกจิ (?)] ภนฺเต, โลเก อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา เอเต เตสํ อฺตเร’’ติ [อฺตราติ (สี. ก.), อฺตโรติ (สฺยา. ปี.)].
‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, มหาราช, ตยา คิหินา กามโภคินา ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺเตน กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺเตน มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยนฺเตน ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺเตน – อิเม วา อรหนฺโต, อิเม วา อรหตฺตมคฺคํ สมาปนฺนาติ.
‘‘สํวาเสน โข, มหาราช, สีลํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา น อิตฺตรํ [น อิตฺตเรน (สฺยา. สี. สฺยา. อฏฺ.)], มนสิกโรตา โน อมนสิกโรตา, ปฺวตา โน ทุปฺปฺเน. สํโวหาเรน โข, มหาราช, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา ¶ ¶ น อิตฺตรํ, มนสิกโรตา โน อมนสิกโรตา, ปฺวตา โน ทุปฺปฺเน. อาปทาสุ โข, มหาราช, ถาโม เวทิตพฺโพ. โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา น อิตฺตรํ, มนสิกโรตา โน อมนสิกโรตา, ปฺวตา โน ทุปฺปฺเน. สากจฺฉาย โข, มหาราช, ปฺา เวทิตพฺพา. สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา น อิตฺตรํ, มนสิกโรตา โน อมนสิกโรตา, ปฺวตา โน ทุปฺปฺเนา’’ติ ¶ .
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตํ จิทํ [สุภาสิตมิทํ (สํ. นิ. ๑.๑๒๒)], ภนฺเต, ภควตา – ‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, มหาราช, ตยา คิหินา ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺเตน กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺเตน มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยนฺเตน ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺเตน – อิเม วา อรหนฺโต, อิเม วา อรหตฺตมคฺคํ สมาปนฺนาติ. สํวาเสน โข, มหาราช, สีลํ เวทิตพฺพํ…เป… สากจฺฉาย โข, มหาราช, ปฺา เวทิตพฺพา. สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา น อิตฺตรํ, มนสิกโรตา โน ¶ อมนสิกโรตา, ปฺวตา โน ทุปฺปฺเนา’’’ติ.
‘‘เอเต, ภนฺเต, มม ปุริสา โจรา [จรา (สํ. นิ. ๑.๑๒๒)] โอจรกา ชนปทํ โอจริตฺวา คจฺฉนฺติ. เตหิ ปมํ โอจิณฺณํ อหํ ปจฺฉา โอสาริสฺสามิ [โอตริสฺสามิ (สี. สฺยา. ปี.), โอยายิสฺสามิ (สี. สฺยา. อฏฺ.), โอสาปยิสฺสามิ (สํ. นิ. ๑.๑๒๒)]. อิทานิ เต, ภนฺเต, ตํ รโชชลฺลํ ปวาเหตฺวา สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา กปฺปิตเกสมสฺสู โอทาตวตฺถวสนา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคิภูตา ปริจาเรสฺสนฺตี’’ [จาริยนฺติ (สฺยา.)] ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘น ¶ วายเมยฺย สพฺพตฺถ, นาฺสฺส ปุริโส สิยา;
นาฺํ นิสฺสาย ชีเวยฺย, ธมฺเมน น วณึ [วาณึ (สี.), วณี (สฺยา. ปี.), วาณิชํ (ก.)] จเร’’ติ. ทุติยํ;
๓. ปจฺจเวกฺขณสุตฺตํ
๕๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา อตฺตโน อเนเก ¶ ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน ปจฺจเวกฺขมาโน นิสินฺโน โหติ, อเนเก จ กุสเล ธมฺเม ภาวนาปาริปูรึ คเต.
อถ โข ภควา [เอตมตฺถํ วิทิตฺวา (สี. ก.)] อตฺตโน อเนเก ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน วิทิตฺวา อเนเก จ กุสเล ธมฺเม ภาวนาปาริปูรึ คเต [เอตมตฺถํ วิทิตฺวา (สี. ก.)] ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อหุ ปุพฺเพ ตทา นาหุ, นาหุ ปุพฺเพ ตทา อหุ;
น จาหุ น จ ภวิสฺสติ, น เจตรหิ วิชฺชตี’’ติ. ตติยํ;
๔. ปมนานาติตฺถิยสุตฺตํ
๕๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ¶ นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา ¶ สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ นานาทิฏฺิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฏฺินิสฺสยนิสฺสิตา.
สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา ¶ , อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก ¶ สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ.
เต ภณฺฑนชาตา ¶ กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’ติ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิธ, ภนฺเต, สมฺพหุลา นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ นานาทิฏฺิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฏฺินิสฺสยนิสฺสิตา.
‘‘สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ…เป… ¶ เต ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’’ ติ.
‘‘อฺติตฺถิยา, ภิกฺขเว, ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา; อตฺถํ น ชานนฺติ, อนตฺถํ น ชานนฺติ, ธมฺมํ น ชานนฺติ, อธมฺมํ ¶ น ชานนฺติ. เต อตฺถํ อชานนฺตา อนตฺถํ อชานนฺตา ธมฺมํ อชานนฺตา อธมฺมํ อชานนฺตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’’ติ.
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อิมิสฺสาเยว สาวตฺถิยา อฺตโร ราชา อโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, โส ราชา อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ยาวตกา สาวตฺถิยา ชจฺจนฺธา เต สพฺเพ เอกชฺฌํ สนฺนิปาเตหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส ¶ ตสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา ยาวตกา สาวตฺถิยา ชจฺจนฺธา เต ¶ สพฺเพ คเหตฺวา เยน โส ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘สนฺนิปาติตา โข เต, เทว, ยาวตกา สาวตฺถิยา ชจฺจนฺธา’ติ ¶ . ‘เตน หิ, ภเณ, ชจฺจนฺธานํ หตฺถึ ทสฺเสหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส ตสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา ชจฺจนฺธานํ หตฺถึ ทสฺเสสิ.
‘‘เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส สีสํ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส กณฺณํ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส ทนฺตํ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส โสณฺฑํ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส กายํ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส ปาทํ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส สตฺถึ [ปิฏฺึ (สฺยา.)] ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส นงฺคุฏฺํ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ. เอกจฺจานํ ชจฺจนฺธานํ หตฺถิสฺส วาลธึ ทสฺเสสิ – ‘เอทิโส, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’’’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส ชจฺจนฺธานํ หตฺถึ ทสฺเสตฺวา เยน โส ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘ทิฏฺโ โข เตหิ, เทว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถี; ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, โส ราชา เยน เต ชจฺจนฺธา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ชจฺจนฺเธ เอตทโวจ – ‘ทิฏฺโ โว, ชจฺจนฺธา, หตฺถี’ติ ¶ ? ‘เอวํ, เทว, ทิฏฺโ โน หตฺถี’ติ. ‘วเทถ, ชจฺจนฺธา, กีทิโส หตฺถี’ติ?
‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส สีสํ ทิฏฺํ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ กุมฺโภ’ติ.
‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส กณฺโณ ทิฏฺโ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ สุปฺโป’ติ.
‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส ทนฺโต ทิฏฺโ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ ¶ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ ขีโล’ติ.
‘‘เยหิ ¶ , ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส โสณฺโฑ ทิฏฺโ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ นงฺคลีสา’ติ.
‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส กาโย ทิฏฺโ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ โกฏฺโ’ติ.
‘‘เยหิ ¶ , ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส ปาโท ทิฏฺโ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ ถูโณ’ติ.
‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส สตฺถิ ทิฏฺโ [ปิฏฺิ ทิฏฺฏา (ก. สี. สฺยา. ปี.), สตฺถิ ทิฏฺา (ก. สี.)] โหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ อุทุกฺขโล’ติ.
‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส นงฺคุฏฺํ ทิฏฺํ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ มุสโล’ติ.
‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ชจฺจนฺเธหิ หตฺถิสฺส วาลธิ ทิฏฺโ อโหสิ, เต เอวมาหํสุ – ‘เอทิโส, เทว, หตฺถี เสยฺยถาปิ สมฺมชฺชนี’ติ.
‘‘เต ‘เอทิโส หตฺถี, เนทิโส หตฺถี; เนทิโส หตฺถี, เอทิโส หตฺถี’’’ติ อฺมฺํ มุฏฺีหิ สํสุมฺภึสุ [สํยุชฺฌึสุ (ก. สี., สฺยา. ปี.)]. เตน จ ปน, ภิกฺขเว, โส ราชา อตฺตมโน อโหสิ.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยา ¶ ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา. เต อตฺถํ น ชานนฺติ อนตฺถํ น ชานนฺติ, ธมฺมํ น ชานนฺติ อธมฺมํ น ชานนฺติ. เต อตฺถํ อชานนฺตา อนตฺถํ อชานนฺตา, ธมฺมํ อชานนฺตา อธมฺมํ อชานนฺตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อิเมสุ กิร สชฺชนฺติ, เอเก สมณพฺราหฺมณา;
วิคฺคยฺห นํ วิวทนฺติ, ชนา เอกงฺคทสฺสิโน’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. ทุติยนานาติตฺถิยสุตฺตํ
๕๕. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ นานาทิฏฺิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฏฺินิสฺสยนิสฺสิตา.
สนฺเตเก ¶ สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสโต จ อสสฺสโต จ [สสฺสโต อสสฺสโต (สี.)] อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก ¶ สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เนว สสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘ปรํกโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกโต จ ปรํกโต จ [สยํกโต ปรํกโต (สี.)] อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสยํกาโร อปรํกาโร [อสยํกาโร จ อปรํกาโร จ (สฺยา. ปี.)] อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก ¶ สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสตฺจ อสสฺสตฺจ [สสฺสตํ อสสฺสตํ (สี.)] สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เนว สสฺสตํ นาสสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ ¶ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวทิฏฺิโน – ‘‘ปรํกตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกตฺจ ปรํกตฺจ [สยํกถํ ปรํกตํ (สี.)] สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก ¶ จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา ¶ เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ.
เต ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’ติ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิธ, ภนฺเต, สมฺพหุลา นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ นานาทิฏฺิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฏฺินิสฺสยนิสฺสิตา.
‘‘สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ…เป… เต ภณฺฑนชาตา กลหชาตา ¶ วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’’ติ.
‘‘อฺติตฺถิยา, ภิกฺขเว, ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา; อตฺถํ น ชานนฺติ อนตฺถํ น ชานนฺติ, ธมฺมํ น ชานนฺติ อธมฺมํ น ชานนฺติ. เต อตฺถํ อชานนฺตา อนตฺถํ อชานนฺตา, ธมฺมํ อชานนฺตา อธมฺมํ อชานนฺตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อิเมสุ กิร สชฺชนฺติ, เอเก สมณพฺราหฺมณา;
อนฺตราว วิสีทนฺติ, อปฺปตฺวาว ตโมคธ’’นฺติ. ปฺจมํ;
๖. ตติยนานาติตฺถิยสุตฺตํ
๕๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ นานาทิฏฺิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฏฺินิสฺสยนิสฺสิตา.
สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสโต จ อสสฺสโต จ ¶ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เนว สสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘ปรํกโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกโต จ ปรํกโต จ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสยํกาโร อปรํกาโร อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สสฺสตฺจ อสสฺสตฺจ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เนว สสฺสตํ นาสสฺสตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน ¶ เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘ปรํกตํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ ¶ . สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘สยํกตฺจ ปรํกตฺจ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. สนฺติ ปเนเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ.
เต ¶ ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’ติ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิธ, ภนฺเต, สมฺพหุลา นานาติตฺถิยสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ นานาทิฏฺิกา นานาขนฺติกา นานารุจิกา นานาทิฏฺินิสฺสยนิสฺสิตา.
‘‘สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ ¶ …เป… เต ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’’ติ.
‘‘อฺติตฺถิยา, ภิกฺขเว, ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา. เต อตฺถํ น ชานนฺติ อนตฺถํ น ชานนฺติ, ธมฺมํ น ชานนฺติ อธมฺมํ น ชานนฺติ. เต อตฺถํ อชานนฺตา อนตฺถํ อชานนฺตา, ธมฺมํ อชานนฺตา อธมฺมํ อชานนฺตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘เอทิโส ธมฺโม, เนทิโส ธมฺโม; เนทิโส ธมฺโม, เอทิโส ธมฺโม’’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อหงฺการปสุตายํ ¶ ปชา, ปรํการูปสํหิตา;
เอตเทเก นาพฺภฺํสุ, น นํ สลฺลนฺติ อทฺทสุํ.
‘‘เอตฺจ สลฺลํ ปฏิกจฺจ [ปฏิคจฺจ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปสฺสโต;
อหํ กโรมีติ น ตสฺส โหติ;
ปโร ¶ กโรตีติ น ตสฺส โหติ.
‘‘มานุเปตา ¶ อยํ ปชา, มานคนฺถา มานวินิพทฺธา [มานวินิพนฺธา (สี.)];
ทิฏฺีสุ สารมฺภกถา, สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. สุภูติสุตฺตํ
๕๗. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สุภูติ ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อวิตกฺกํ สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ สุภูตึ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อวิตกฺกํ สมาธึ สมาปนฺนํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส วิตกฺกา วิธูปิตา,
อชฺฌตฺตํ สุวิกปฺปิตา อเสสา;
ตํ สงฺคมติจฺจ อรูปสฺี,
จตุโยคาติคโต น ชาตุ เมตี’’ติ [น ชาติเมตีติ (สฺยา. ปี. อฏฺ. ปานฺตรํ)]. สตฺตมํ;
๘. คณิกาสุตฺตํ
๕๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน ราชคเห ทฺเว ปูคา อฺตริสฺสา คณิกาย สารตฺตา โหนฺติ ปฏิพทฺธจิตฺตา; ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ ปาณีหิปิ อุปกฺกมนฺติ ¶ , เลฑฺฑูหิปิ อุปกฺกมนฺติ ¶ , ทณฺเฑหิปิ อุปกฺกมนฺติ, สตฺเถหิปิ อุปกฺกมนฺติ. เต ตตฺถ มรณมฺปิ นิคจฺฉนฺติ มรณมตฺตมฺปิ ทุกฺขํ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิธ, ภนฺเต, ราชคเห ทฺเว ปูคา อฺตริสฺสา คณิกาย สารตฺตา ปฏิพทฺธจิตฺตา; ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ ปาณีหิปิ อุปกฺกมนฺติ, เลฑฺฑูหิปิ อุปกฺกมนฺติ, ทณฺเฑหิปิ อุปกฺกมนฺติ, สตฺเถหิปิ อุปกฺกมนฺติ. เต ตตฺถ มรณมฺปิ นิคจฺฉนฺติ มรณมตฺตมฺปิ ทุกฺข’’นฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยฺจ ปตฺตํ ยฺจ ปตฺตพฺพํ, อุภยเมตํ รชานุกิณฺณํ, อาตุรสฺสานุสิกฺขโต. เย จ สิกฺขาสารา สีลพฺพตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺานสารา, อยเมโก อนฺโต. เย จ เอวํวาทิโน – ‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’ติ, อยํ ทุติโย อนฺโต. อิจฺเจเต ¶ อุโภ อนฺตา กฏสิวฑฺฒนา, กฏสิโย ทิฏฺึ วฑฺเฒนฺติ. เอเตเต อุโภ อนฺเต อนภิฺาย โอลียนฺติ เอเก, อติธาวนฺติ เอเก. เย ¶ จ โข เต อภิฺาย ตตฺร จ นาเหสุํ, เตน จ นามฺึสุ, วฏฺฏํ เตสํ นตฺถิ ปฺาปนายา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. อุปาติธาวนฺติสุตฺตํ
๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺตนฺธการติมิสายํ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ เตลปฺปทีเปสุ ฌายมาเนสุ.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อธิปาตกา เตสุ เตลปฺปทีเปสุ อาปาตปริปาตํ อนยํ อาปชฺชนฺติ, พฺยสนํ อาปชฺชนฺติ [นตฺถิ สีหฬโปตฺถเก], อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺติ ¶ [นตฺถิ สีหฬโปตฺถเก]. อทฺทสา โข ภควา เต สมฺพหุเล อธิปาตเก เตสุ เตลปฺปทีเปสุ อาปาตปริปาตํ อนยํ อาปชฺชนฺเต, พฺยสนํ อาปชฺชนฺเต, อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺเต.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อุปาติธาวนฺติ ¶ น สารเมนฺติ,
นวํ นวํ พนฺธนํ พฺรูหยนฺติ;
ปตนฺติ ปชฺโชตมิวาธิปาตกา [… ธิปาตา (สี. สฺยา.)],
ทิฏฺเ สุเต อิติเหเก นิวิฏฺา’’ติ. นวมํ;
๑๐. อุปฺปชฺชนฺติสุตฺตํ
๖๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ยาวกีวฺจ, ภนฺเต, ตถาคตา โลเก นุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ¶ ตาว อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สกฺกตา โหนฺติ ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ยโต จ โข, ภนฺเต, ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อถ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อนปจิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ภควา เยว ¶ [ภควา เจว (สฺยา.)] ทานิ, ภนฺเต, สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสงฺโฆ จา’’ติ.
‘‘เอวเมตํ ¶ , อานนฺท, ยาวกีวฺจ, อานนฺท, ตถาคตา โลเก นุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ตาว อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สกฺกตา โหนฺติ ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ยโต จ โข, อานนฺท, ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อถ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อนปจิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ตถาคโตว [ตถาคโต เจว (สฺยา.)] ทานิ สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสงฺโฆ จา’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘โอภาสติ ¶ ตาว โส กิมิ,
ยาว น อุนฺนมเต [อุคฺคมติ (สี.), อุนฺนมติ (สฺยา.)] ปภงฺกโร;
(ส) [( ) นตฺถิ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ] เวโรจนมฺหิ อุคฺคเต,
หตปฺปโภ โหติ น จาปิ ภาสติ.
‘‘เอวํ โอภาสิตเมว ตกฺกิกานํ [ติตฺถิยานํ (สี. สฺยา. ปี.)],
ยาว สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก นุปฺปชฺชนฺติ;
น ตกฺกิกา สุชฺฌนฺติ น จาปิ สาวกา,
ทุทฺทิฏฺี น ทุกฺขา ปมุจฺจเร’’ติ. ทสมํ;
ตสฺสุทฺทานํ –
อายุชฏิลเวกฺขณา, ตโย ติตฺถิยา สุภูติ;
คณิกา อุปาติ นวโม, อุปฺปชฺชนฺติ จ เต ทสาติ.
ชจฺจนฺธวคฺโค ฉฏฺโ นิฏฺิโต.
๗. จูฬวคฺโค
๑. ปมลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ
๖๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ [สมาทาเปติ (?)] สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ.
อถ ¶ โข อายสฺมโต ลกุณฺฑกภทฺทิยสฺส อายสฺมตา สาริปุตฺเตน อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา ¶ กถาย สนฺทสฺสิยมานสฺส สมาทปิยมานสฺส สมุตฺเตชิยมานสฺส สมฺปหํสิยมานสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ อายสฺมตา สาริปุตฺเตน อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานํ สมาทปิยมานํ สมุตฺเตชิยมานํ สมฺปหํสิยมานํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ [วิมุตฺตจิตฺตํ (?)].
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, อยํหมสฺมีติ [อยมหมสฺมีติ (สี. สฺยา. ปี.)] อนานุปสฺสี;
เอวํ วิมุตฺโต อุทตาริ โอฆํ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา’’ติ. ปมํ;
๒. ทุติยลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ
๖๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ เสขํ [เสกฺโขติ (สฺยา.), เสโขติ (ปี.)] มฺมาโน ภิยฺโยโสมตฺตาย อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ.
อทฺทสา ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ เสขํ มฺมานํ ภิยฺโยโสมตฺตาย ¶ อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสนฺตํ สมาทเปนฺตํ สมุตฺเตเชนฺตํ สมฺปหํเสนฺตํ.
อถ โข ภควา ¶ เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อจฺเฉจฺฉิ [อจฺเฉชฺชิ (ก. สี.), อจฺฉิชฺชิ (ก. สี. สฺยา.), อฉิชฺชิ (ก.)] วฏฺฏํ พฺยคา นิราสํ, วิสุกฺขา สริตา น สนฺทติ;
ฉินฺนํ วฏฺฏํ น วตฺตติ, เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ. ทุติยํ;
๓. ปมสตฺตสุตฺตํ
๖๓. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยา มนุสฺสา เยภุยฺเยน กาเมสุ อติเวลํ สตฺตา ( ) [(โหนฺติ) (พหูสุ) อฏฺกถาย สํสนฺเทตพฺพํ] รตฺตา คิทฺธา คธิตา [คถิตา (สี.)] มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา สมฺมตฺตกชาตา กาเมสุ วิหรนฺติ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เยภุยฺเยน กาเมสุ อติเวลํ สตฺตา รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา สมฺมตฺตกชาตา กาเมสุ วิหรนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘กาเมสุ สตฺตา กามสงฺคสตฺตา,
สํโยชเน วชฺชมปสฺสมานา;
น ¶ หิ ชาตุ สํโยชนสงฺคสตฺตา,
โอฆํ ตเรยฺยุํ วิปุลํ มหนฺต’’นฺติ. ตติยํ;
๔. ทุติยสตฺตสุตฺตํ
๖๔. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยา มนุสฺสา เยภุยฺเยน กาเมสุ สตฺตา ( ) [(โหนฺติ) (พหูสุ) อฏฺกถาย สํสนฺเทตพฺพํ] รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา อนฺธีกตา สมฺมตฺตกชาตา กาเมสุ วิหรนฺติ.
อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา สาวตฺถิยา เต มนุสฺเส เยภุยฺเยน ¶ กาเมสุ สตฺเต รตฺเต คิทฺเธ คธิเต มุจฺฉิเต อชฺโฌปนฺเน อนฺธีกเต สมฺมตฺตกชาเต กาเมสุ วิหรนฺเต.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;
ปมตฺตพนฺธุนา พทฺธา, มจฺฉาว กุมินามุเข;
ชรามรณมนฺเวนฺติ [ชรามรณํ คจฺฉนฺติ (สี. สฺยา.)], วจฺโฉ ขีรปโกว มาตร’’นฺติ. จตุตฺถํ;
๕. อปรลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ
๖๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ลกุณฺฑกภทฺทิโย สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ ทูรโตว สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺตํ ทุพฺพณฺณํ ทุทฺทสิกํ โอโกฏิมกํ เยภุยฺเยน ภิกฺขูนํ ปริภูตรูปํ ¶ . ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ –
‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ ทูรโตว สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺตํ ทุพฺพณฺณํ ทุทฺทสิกํ โอโกฏิมกํ เยภุยฺเยน ภิกฺขูนํ ปริภูตรูป’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘เอโส ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโว. น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา ยา เตน ภิกฺขุนา อสมาปนฺนปุพฺพา. ยสฺส จตฺถาย [ยสฺสตฺถาย (สี. ก.)] กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, เอกาโร วตฺตตี รโถ;
อนีฆํ ปสฺส อายนฺตํ, ฉินฺนโสตํ อพนฺธน’’นฺติ. ปฺจมํ;
๖. ตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ
๖๖. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ¶ อายสฺมา อฺาสิโกณฺฑฺโ [อฺาตโกณฺฑฺโ (สพฺพตฺถ)] ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ปจฺจเวกฺขมาโน.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ อฺาสิโกณฺฑฺํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ปจฺจเวกฺขมานํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส มูลํ ฉมา นตฺถิ, ปณฺณา นตฺถิ กุโต ลตา;
ตํ ¶ ธีรํ พนฺธนา มุตฺตํ, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. ปปฺจขยสุตฺตํ
๖๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา อตฺตโน ปปฺจสฺาสงฺขาปหานํ ปจฺจเวกฺขมาโน นิสินฺโน โหติ.
อถ ¶ โข ภควา อตฺตโน ปปฺจสฺาสงฺขาปหานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส ปปฺจา ิติ จ นตฺถิ,
สนฺทานํ ปลิฆฺจ วีติวตฺโต;
ตํ นิตฺตณฺหํ มุนึ จรนฺตํ,
นาวชานาติ สเทวโกปิ โลโก’’ติ. สตฺตมํ;
๘. กจฺจานสุตฺตํ
๖๘. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิตาย.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิตาย.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส ¶ สิยา สพฺพทา สติ,
สตตํ กายคตา อุปฏฺิตา;
โน ¶ จสฺส โน จ เม สิยา,
น ภวิสฺสติ น จ เม ภวิสฺสติ;
อนุปุพฺพวิหาริ ตตฺถ โส,
กาเลเนว ตเร วิสตฺติก’’นฺติ. อฏฺมํ;
๙. อุทปานสุตฺตํ
๖๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ถูณํ [ถูนํ (สี. สฺยา. ปี.)] นาม มลฺลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข ถูเณยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน ¶ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ถูณํ อนุปฺปตฺโต’’ติ.( ) [(อถ โข เต ถูเณยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา) (?)] อุทปานํ ติณสฺส จ ภุสสฺส จ ยาว มุขโต ปูเรสุํ – ‘‘มา เต มุณฺฑกา สมณกา ปานียํ อปํสู’’ติ.
อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, เอตมฺหา อุทปานา ปานียํ อาหรา’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ โส, ภนฺเต, อุทปาโน ถูเณยฺยเกหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ติณสฺส จ ภุสสฺส จ ยาว มุขโต ปูริโต – ‘มา เต มุณฺฑกา สมณกา ปานียํ อปํสู’’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข…เป… ¶ ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, เอตมฺหา อุทปานา ปานียํ อาหรา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา เยน โส อุทปาโน เตนุปสงฺกมิ. อถ โข โส อุทปาโน อายสฺมนฺเต อานนฺเท อุปสงฺกมนฺเต สพฺพํ ตํ ติณฺจ ภุสฺจ มุขโต โอวมิตฺวา อจฺฉสฺส อุทกสฺส อนาวิลสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ยาว มุขโต ปูริโต วิสฺสนฺทนฺโต [วิสฺสนฺโท (ก.)] มฺเ อฏฺาสิ.
อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ โส อุทปาโน มยิ อุปสงฺกมนฺเต สพฺพํ ตํ ติณฺจ ภุสฺจ มุขโต โอวมิตฺวา อจฺฉสฺส อุทกสฺส อนาวิลสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ยาว มุขโต ปูริโต วิสฺสนฺทนฺโต มฺเ ิโต’’ติ!! ปตฺเตน ปานียํ อาทาย เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ โส, ภนฺเต, อุทปาโน มยิ อุปสงฺกมนฺเต สพฺพํ ตํ ติณฺจ ภุสฺจ มุขโต โอวมิตฺวา อจฺฉสฺส อุทกสฺส อนาวิลสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ยาว มุขโต ปูริโต วิสฺสนฺทนฺโต มฺเ อฏฺาสิ!! ปิวตุ ภควา ปานียํ, ปิวตุ สุคโต ปานีย’’นฺติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘กึ ¶ กยิรา อุทปาเนน,
อาปา เจ สพฺพทา สิยุํ;
ตณฺหาย มูลโต เฉตฺวา,
กิสฺส ปริเยสนํ จเร’’ติ. นวมํ;
๑๐. อุเตนสุตฺตํ
๗๐. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน รฺโ อุเตนสฺส [อุเทนสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] อุยฺยานคตสฺส อนฺเตปุรํ ทฑฺฒํ โหติ, ปฺจ จ อิตฺถิสตานิ [ปฺจ อิตฺถิสตานิ (สี. สฺยา. ปี.)] กาลงฺกตานิ โหนฺติ สามาวตีปมุขานิ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, รฺโ อุเตนสฺส อุยฺยานคตสฺส อนฺเตปุรํ ทฑฺฒํ, ปฺจ จ อิตฺถิสตานิ กาลงฺกตานิ สามาวตีปมุขานิ. ตาสํ, ภนฺเต, อุปาสิกานํ กา คติ โก อภิสมฺปราโย’’ติ?
‘‘สนฺเตตฺถ, ภิกฺขเว, อุปาสิกาโย โสตาปนฺนา, สนฺติ สกทาคามินิโย, สนฺติ อนาคามินิโย. สพฺพา ตา, ภิกฺขเว, อุปาสิกาโย อนิปฺผลา กาลงฺกตา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก, ภพฺพรูโปว ทิสฺสติ;
อุปธิพนฺธโน [อุปธิสมฺพนฺธโน (ก. สี.)] พาโล, ตมสา ปริวาริโต;
สสฺสโตริว ¶ [สสฺสติ วิย (ก. สี.)] ขายติ, ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ. ทสมํ;
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว ¶ ภทฺทิยา ทฺเว จ สตฺตา, ลกุณฺฑโก ตณฺหาขโย;
ปปฺจขโย จ กจฺจาโน, อุทปานฺจ อุเตโนติ.
จูฬวคฺโค [จุลฺลวคฺโค (สี.), จูลวคฺโค (ปี.)] สตฺตโม นิฏฺิโต.
๘. ปาฏลิคามิยวคฺโค
๑. ปมนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ
๗๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู [เต จ ภิกฺขู (สี. สฺยา. ปี. ตทฏฺกถาปิ โอโลเกตพฺพา] อฏฺึ กตฺวา [อฏฺีกตฺวา (สี. สฺยา.), อฏฺิกตฺวา (ปี.)] มนสิ กตฺวา สพฺพํ เจตโส [สพฺพํ เจตสา (อิติปิ อฺสุตฺเตสุ)] สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตนํ, ยตฺถ เนว ปถวี, น อาโป, น เตโช, น วาโย, น อากาสานฺจายตนํ, น วิฺาณฺจายตนํ, น อากิฺจฺายตนํ, น เนวสฺานาสฺายตนํ, นายํ โลโก, น ปรโลโก, น อุโภ จนฺทิมสูริยา. ตตฺราปาหํ, ภิกฺขเว, เนว อาคตึ วทามิ ¶ , น คตึ, น ิตึ, น จุตึ, น อุปปตฺตึ; อปฺปติฏฺํ, อปฺปวตฺตํ, อนารมฺมณเมเวตํ. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ
๗๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ¶ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ทุทฺทสํ อนตํ นาม, น หิ สจฺจํ สุทสฺสนํ;
ปฏิวิทฺธา ตณฺหา ชานโต, ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. ตติยนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ
๗๓. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา, มนสิ กตฺวา, สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา, โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ. โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺส อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, นยิธ ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ¶ ปฺาเยถ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, ตสฺมา ชาตสฺส ภูตสฺส ¶ กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺายตี’’ติ. ตติยํ.
๔. จตุตฺถนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ
๗๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘นิสฺสิตสฺส ¶ จลิตํ, อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิ. จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติ. นติยา อสติ อาคติคติ น โหติ. อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติ. จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน [น อุภยมนฺตเร (สพฺพตฺถ) ม. นิ. ๓.๓๙๓; สํ. นิ. ๔.๘๗ ปสฺสิตพฺพํ]. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. จุนฺทสุตฺตํ
๗๕. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาวา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน.
อสฺโสสิ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต – ‘‘ภควา กิร มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปาวํ อนุปฺปตฺโต ปาวายํ วิหรติ มยฺหํ อมฺพวเน’’ติ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา ¶ กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.
อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปหูตฺจ สูกรมทฺทวํ ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.
อถ ¶ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ เตน มํ ปริวิส, ยํ ปนฺํ ขาทนียํ ¶ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ เตน ภควนฺตํ ปริวิสิ; ยํ ปนฺํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิ.
อถ โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ ตํ โสพฺเภ นิขณาหิ. นาหํ ตํ, จุนฺท, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก ¶ สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยสฺส ตํ ปริภุตฺตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺเฉยฺย อฺตฺร ¶ ตถาคตสฺสา’’ติ [อฺตฺร ตถาคเตนาติ (ก. สี.)]. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ ตํ โสพฺเภ นิขณิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
อถ โข ภควโต จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ. โลหิตปกฺขนฺทิกา ปพาฬฺหา [พาฬฺหา (สี. สฺยา. ปี.)] เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. ตตฺร สุทํ ภควา สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสิ อวิหฺมาโน. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน กุสินารา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.
‘‘จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;
อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติกํ.
‘‘ภุตฺตสฺส จ สูกรมทฺทเวน, พฺยาธิปฺปพาฬฺโห อุทปาทิ สตฺถุโน;
วิริจฺจมาโน [วิริฺจมาโน (?) วิเรจมาโน (ที. นิ. ๒.๑๙๐)] ภควา อโวจ, ‘คจฺฉามหํ กุสินารํ นคร’’’นฺติ.
อถ ¶ ¶ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปหิ; กิลนฺโตสฺมิ, อานนฺท, นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ¶ ปฺาเปสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร; ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ. ตํ จกฺกจฺฉินฺนํ อุทกํ ปริตฺตํ ลุฬิตํ อาวิลํ สนฺทติ. อยํ, ภนฺเต, กุกุฏฺา [กกุตฺถา (สี.), กุกุฏา (สฺยา.), กกุธา (ที. นิ. ๒.๑๙๑)] นที อวิทูเร อจฺโฉทกา สาโตทกา สีโตทกา เสโตทกา สุปติตฺถา รมณียา. เอตฺถ ภควา ปานียฺจ ปิวิสฺสติ คตฺตานิ จ สีตีกริสฺสตี’’ติ [สีตึ กริสฺสตีติ (สี.), สีตํ กริสฺสตีติ (สฺยา. ปี. ก.)].
ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ ¶ – ‘‘อิงฺฆ เม ¶ ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร; ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา เยน สา นที เตนุปสงฺกมิ. อถ โข สา นที จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา อายสฺมนฺเต อานนฺเท อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทติ.
อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ สา นที จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทตี’’ติ!! ปตฺเตน ปานียํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ สา, ภนฺเต, นที จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทติ!! ปิวตุ ภควา ปานียํ ¶ , ปิวตุ สุคโต ปานีย’’นฺติ.
อถ โข ภควา ปานียํ อปายิ [อปาสิ (สี.)]. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน กุกุฏฺา นที เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กุกุฏฺํ นทึ อชฺโฌคาเหตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน อมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ จุนฺทกํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, จุนฺทก, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปหิ; กิลนฺโตสฺมิ, จุนฺทก, นิปชฺชิสฺสามี’’ติ ¶ ¶ . ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา จุนฺทโก ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปสิ. อถ โข ภควา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. อายสฺมา ปน จุนฺทโก ตตฺเถว ภควโต ปุรโต นิสีทิ.
‘‘คนฺตฺวาน พุทฺโธ นทิกํ กุกุฏฺํ,
อจฺโฉทกํ สาตุทกํ [สาโตทกํ (สพฺพตฺถ)] วิปฺปสนฺนํ;
โอคาหิ สตฺถา สุกิลนฺตรูโป,
ตถาคโต อปฺปฏิโมธ โลเก.
‘‘นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จุทตาริ [นฺหตฺวา จ อุตฺตริ (ก.)] สตฺถา,
ปุรกฺขโต ภิกฺขุคณสฺส มชฺเฌ;
สตฺถา ¶ ปวตฺตา ภควา อิธ ธมฺเม,
อุปาคมิ อมฺพวนํ มเหสิ;
อามนฺตยิ จุนฺทกํ นาม ภิกฺขุํ,
จตุคฺคุณํ สนฺถร [ปตฺถร (สี. ปี.)] เม นิปชฺชํ.
‘‘โส โจทิโต ภาวิตตฺเตน จุนฺโท,
จตุคฺคุณํ สนฺถริ [ปตฺถริ (สี. ปี.)] ขิปฺปเมว;
นิปชฺชิ สตฺถา สุกิลนฺตรูโป,
จุนฺโทปิ ตตฺถ ปมุเข นิสีที’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ¶ , ปนานนฺท, จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส โกจิ วิปฺปฏิสารํ อุปทเหยฺย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, อลาภา, ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา ปรินิพฺพุโต’ติ. จุนฺทสฺสานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส ¶ เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิโนเทตพฺโพ –
‘‘‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, ลาภา, ตสฺส เต สุลทฺธํ ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ปรินิพฺพุโต. สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส จุนฺท, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ทฺเวเม ปิณฺฑปาตา สมสมผลา ¶ สมสมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. กตเม ทฺเว? ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. อิเม ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมสมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ.
‘‘‘อายุสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, วณฺณสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สุขสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สคฺคสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, ยสสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, อาธิปเตยฺยสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิต’นฺติ. จุนฺทสฺสานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ¶ ปฏิวิโนเทตพฺโพ’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ททโต ปฺุํ ปวฑฺฒติ,
สํยมโต เวรํ น จียติ;
กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ,
ราคโทสโมหกฺขยา สนิพฺพุโต’’ติ [ปรินิพฺพุโตติ (สี. สฺยา. ปี.)]. ปฺจมํ;
๖. ปาฏลิคามิยสุตฺตํ
๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาฏลิคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข ปาฏลิคามิยา [ปาฏลิคามิกา (ที. นิ. ๒.๑๔๘)] อุปาสกา – ‘‘ภควา กิร มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปาฏลิคามํ อนุปฺปตฺโต’’ติ. อถ โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควนฺตํ ¶ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา อาวสถาคาร’’นฺติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.
อถ ¶ โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยนาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถรึ อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปตฺวา เตลปฺปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ [สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (สี. สฺยา. ปี.)], ภนฺเต, อาวสถาคารํ; อาสนานิ ¶ ปฺตฺตานิ; อุทกมณิโก ปติฏฺาปิโต [อุทกมณิกํ ปติฏฺาปิตํ (สฺยา.)] เตลปฺปทีโป อาโรปิโต. ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. ปาฏลิคามิยาปิ โข อุปาสกา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา ¶ นิสีทึสุ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเย อุปาสเก อามนฺเตสิ –
‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ปมาทาธิกรณํ มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ. อยํ ปโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.
‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.
‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ, ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ – อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อาทีนโว ¶ ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ. อยํ จตุตฺโถ อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.
‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทาย. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อปฺปมาทาธิกรณํ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ. อยํ ปโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.
‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.
‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ¶ , ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ – วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.
‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อสมฺมูฬฺโห กาลงฺกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.
‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทายา’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา ปาฏลิคามิเย อุปาสเก พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุยฺโยเชสิ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, คหปตโย, รตฺติ; ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มฺถา’’ติ. [‘‘เอวํ ภนฺเต‘‘ติ โขปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา (มหาว. ๒๘๕; ที. นิ. ๒.๑๕๑)] อถ โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา [‘‘เอวํ ภนฺเต‘‘ติ โขปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา (มหาว. ๒๘๕; ที. นิ. ๒.๑๕๑)] อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ ปาฏลิคามิเยสุ อุปาสเกสุ สฺุาคารํ ปาวิสิ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา [สุนีธวสฺสการา (สี. สฺยา. ปี.)] มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ ¶ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺสสหสฺเสว [สหสฺเสว (สฺยา. ก.), สหสฺสสฺเสว (ปี.)] ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ.
อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตา เทวตาโย สหสฺสสหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ ¶ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ¶ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา ปจฺจูสสมเย ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ –
‘‘เก นุ โข [โก นุ โข (สพฺพตฺถ)] อานนฺท ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตี’’ติ [มาเปตีติ (สพฺพตฺถ)]. ‘‘สุนิธวสฺสการา, ภนฺเต, มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหายา’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา; เอวเมว โข, อานนฺท, สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อิธาหํ, อานนฺท, อทฺทสํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺสสหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ¶ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตนํ ยาวตา วณิปฺปโถ อิทํ อคฺคนครํ ¶ ภวิสฺสติ ปาฏลิปุตฺตํ ปุฏเภทนํ. ปาฏลิปุตฺตสฺส โข, อานนฺท, ตโย อนฺตรายา ภวิสฺสนฺติ – อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทโต วา’’ติ.
อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สาราณิยํ [สาราณียํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข สุนิธวสฺสการา ¶ มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน ภวํ โคตโม อชฺชตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.
อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา เยน สโก อาวสโถ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สเก อาวสเถ ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสุํ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.
อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ อาวสโถ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสุํ สมฺปวาเรสุํ.
อถ ¶ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –
‘‘ยสฺมึ ¶ ปเทเส กปฺเปติ, วาสํ ปณฺฑิตชาติโย;
สีลวนฺเตตฺถ โภเชตฺวา, สฺเต พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา.), พฺรหฺมจริเย (ปี. ก.)].
‘‘ยา ¶ ตตฺถ เทวตา อาสุํ, ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส;
ตา ปูชิตา ปูชยนฺติ, มานิตา มานยนฺติ นํ.
‘‘ตโต นํ อนุกมฺปนฺติ, มาตา ปุตฺตํว โอรสํ;
เทวตานุกมฺปิโต โปโส, สทา ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.
อถ โข ภควา สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ – ‘‘เยนชฺช สมโณ โคตโม ทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสติ ตํ ‘โคตมทฺวารํ’ นาม ภวิสฺสติ. เยน ติตฺเถน คงฺคํ นทึ ตริสฺสติ ตํ ‘โคตมติตฺถํ’ นาม ภวิสฺสตี’’ติ.
อถ โข ภควา เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ ตํ ‘โคตมทฺวารํ’ ¶ นาม อโหสิ. อถ โข ภควา เยน คงฺคา นที เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน คงฺคา นที ปูรา โหติ สมติตฺติกา กากเปยฺยา. อปฺเปกจฺเจ มนุสฺสา นาวํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺติ อปารา ปารํ คนฺตุกามา. อถ โข ภควา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – คงฺคาย นทิยา โอริมตีเร [โอริมตีรา (พหูสุ) มหาว. ๒๘๖; ที. นิ. ๒.๑๕๔ ปสฺสิตพฺพํ)] อนฺตรหิโต ปาริมตีเร ปจฺจุฏฺาสิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน ¶ .
อทฺทสา โข ภควา เต มนุสฺเส อปฺเปกจฺเจ นาวํ ปริเยสนฺเต, อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺเต, อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺเต อปารา ปารํ คนฺตุกาเม.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘เย ตรนฺติ อณฺณวํ สรํ,
เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ;
กุลฺลฺหิ ชโน ปพนฺธติ [พนฺธติ (สฺยา. ปี.)],
ติณฺณา [นิติณฺณา (ก.)] เมธาวิโน ชนา’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. ทฺวิธาปถสุตฺตํ
๗๗. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน โหติ อายสฺมตา นาคสมาเลน ปจฺฉาสมเณน. อทฺทสา โข อายสฺมา นาคสมาโล อนฺตรามคฺเค ทฺวิธาปถํ [ทฺเวธาปถํ (สี.)]. ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, ภควา ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา อายสฺมนฺตํ นาคสมาลํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, นาคสมาล, ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ.
ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา นาคสมาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, ภควา ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ ¶ . ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นาคสมาลํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, นาคสมาล, ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ. อถ โข อายสฺมา นาคสมาโล ภควโต ปตฺตจีวรํ ตตฺเถว ฉมายํ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกามิ – ‘‘อิทํ, ภนฺเต, ภควโต ปตฺตจีวร’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมโต นาคสมาลสฺส เตน ปนฺเถน คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค โจรา นิกฺขมิตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ อาโกเฏสุํ ปตฺตฺจ ภินฺทึสุ สงฺฆาฏิฺจ วิปฺผาเลสุํ. อถ โข ¶ อายสฺมา นาคสมาโล ภินฺเนน ปตฺเตน วิปฺผาลิตาย สงฺฆาฏิยา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา นาคสมาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เตน ปนฺเถน คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค โจรา นิกฺขมิตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ อาโกเฏสุํ, ปตฺตฺจ ภินฺทึสุ, สงฺฆาฏิฺจ วิปฺผาเลสุ’’นฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สทฺธึ ¶ จรเมกโต วสํ,
มิสฺโส อฺชเนน เวทคู;
วิทฺวา ปชหาติ ปาปกํ,
โกฺโจ ขีรปโกว นินฺนค’’นฺติ. สตฺตมํ;
๘. วิสาขาสุตฺตํ
๗๘. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน วิสาขาย มิคารมาตุยา นตฺตา กาลงฺกตา โหติ ปิยา มนาปา. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ ¶ –
‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, วิสาเข, อาคจฺฉสิ อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติ? ‘‘นตฺตา เม, ภนฺเต, ปิยา มนาปา กาลงฺกตา. เตนาหํ อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติ. ‘‘อิจฺเฉยฺยาสิ ตฺวํ, วิสาเข, ยาวติกา [ยาวตกา (?)] สาวตฺถิยา มนุสฺสา ตาวติเก [ตาวตเก (?)] ปุตฺเต จ นตฺตาโร จา’’ติ? ‘‘อิจฺเฉยฺยาหํ, ภควา [อิจฺเฉยฺยาหํ ภนฺเต ภควา (สฺยา.)] ยาวติกา สาวตฺถิยา มนุสฺสา ตาวติเก ปุตฺเต จ นตฺตาโร จา’’ติ.
‘‘กีวพหุกา ปน, วิสาเข, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘ทสปิ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺติ; นวปิ, ภนฺเต… อฏฺปิ, ภนฺเต… สตฺตปิ, ภนฺเต… ฉปิ, ภนฺเต… ปฺจปิ, ภนฺเต… จตฺตาโรปิ, ภนฺเต… ตีณิปิ, ภนฺเต… ทฺเวปิ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺติ. เอโกปิ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺโส เทวสิกํ กาลํ กโรติ. อวิวิตฺตา, ภนฺเต, สาวตฺถิ มนุสฺเสหิ กาลํ กโรนฺเตหี’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, วิสาเข, อปิ นุ ตฺวํ กทาจิ กรหจิ อนลฺลวตฺถา วา ภเวยฺยาสิ อนลฺลเกสา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต ¶ . อลํ เม, ภนฺเต, ตาว พหุเกหิ ปุตฺเตหิ จ นตฺตาเรหิ จา’’ติ.
‘‘เยสํ ¶ ¶ โข, วิสาเข, สตํ ปิยานิ, สตํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ นวุติ ปิยานิ, นวุติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ อสีติ ปิยานิ, อสีติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สตฺตติ ปิยานิ, สตฺตติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สฏฺิ ปิยานิ, สฏฺิ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ปฺาสํ ปิยานิ, ปฺาสํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ จตฺตารีสํ ปิยานิ, จตฺตารีสํ เตสํ ทุกฺขานิ, เยสํ ตึสํ ปิยานิ, ตึสํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ วีสติ ปิยานิ, วีสติ เตสํ ทุกฺขานิ, เยสํ ทส ¶ ปิยานิ, ทส เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ นว ปิยานิ, นว เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ อฏฺ ปิยานิ, อฏฺ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สตฺต ปิยานิ, สตฺต เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ฉ ปิยานิ, ฉ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ปฺจ ปิยานิ, ปฺจ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ จตฺตาริ ปิยานิ, จตฺตาริ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ตีณิ ปิยานิ, ตีณิ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ทฺเว ปิยานิ, ทฺเว เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ เอกํ ปิยํ, เอกํ เตสํ ทุกฺขํ; เยสํ นตฺถิ ปิยํ, นตฺถิ เตสํ ทุกฺขํ, อโสกา เต วิรชา อนุปายาสาติ วทามี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา,
ทุกฺขา จ [ทุกฺขา ว (อฏฺ.)] โลกสฺมิมเนกรูปา;
ปิยํ ปฏิจฺจปฺปภวนฺติ เอเต,
ปิเย อสนฺเต น ภวนฺติ เอเต.
‘‘ตสฺมา หิ เต สุขิโน วีตโสกา,
เยสํ ¶ ปิยํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;
ตสฺมา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน,
ปิยํ น กยิราถ กุหิฺจิ โลเก’’ติ. อฏฺมํ;
๙. ปมทพฺพสุตฺตํ
๗๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปรินิพฺพานกาโล เม ทานิ, สุคตา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, ทพฺพ, กาลํ มฺสี’’ติ.
อถ ¶ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพายิ.
อถ ¶ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ ¶ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ น มสิ. เสยฺยถาปิ นาม สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายติ น มสิ; เอวเมว อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ¶ ปฺายิตฺถ น มสีติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อเภทิ กาโย นิโรธิ สฺา,
เวทนา สีติภวึสุ [ปีติทหํสุ (สี. ปี.), สีติทหึสุ (ก.)] สพฺพา;
วูปสมึสุ สงฺขารา,
วิฺาณํ อตฺถมาคมา’’ติ. นวมํ;
๑๐. ทุติยทพฺพสุตฺตํ
๘๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ทพฺพสฺส, ภิกฺขเว, มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ น มสิ. เสยฺยถาปิ นาม สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายติ น มสิ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ ¶ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ น มสี’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อโยฆนหตสฺเสว, ชลโต ชาตเวทโส [ชาตเวทสฺส (สฺยา.)];
อนุปุพฺพูปสนฺตสฺส, ยถา น ายเต คติ.
เอวํ ¶ สมฺมาวิมุตฺตานํ, กามพนฺโธฆตารินํ;
ปฺาเปตุํ คติ นตฺถิ, ปตฺตานํ อจลํ สุข’’นฺติ. ทสมํ;
ปาฏลิคามิยวคฺโค [ปาฏลิคามวคฺโค (ก.)] อฏฺโม.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
นิพฺพานา จตุโร วุตฺตา, จุนฺโท ปาฏลิคามิยา;
ทฺวิธาปโถ วิสาขา จ, ทพฺเพน สห เต ทสาติ.
อุทาเน วคฺคานมุทฺทานํ –
วคฺคมิทํ ปมํ วรโพธิ, วคฺคมิทํ ทุติยํ มุจลินฺโท;
นนฺทกวคฺควโร ตติโย ตุ, เมฆิยวคฺควโร จ จตุตฺโถ.
ปฺจมวคฺควรนฺติธ โสโณ, ฉฏฺมวคฺควรนฺติ ชจฺจนฺโธ [ฉฏฺมวคฺควรํ ตุ ตมนฺโธ (สี. ก.)];
สตฺตมวคฺควรนฺติ จ จูโฬ, ปาฏลิคามิยมฏฺมวคฺโค [ปาฏลิคามิยวรฏฺมวคฺโค (สฺยา. กํ. ปี.), ปาฏลิคามวรฏฺมวคฺโค (สี. ก.)].
อสีติมนูนกสุตฺตวรํ, วคฺคมิทฏฺกํ สุวิภตฺตํ;
ทสฺสิตํ จกฺขุมตา วิมเลน, อทฺธา หิ ตํ อุทานมิตีทมาหุ [อตฺถาเยตํ อุทานมิติมาหุ (ก.), สทฺธา หิ ตํ อุทานนฺติทมาหุ (สฺยา. กํ ปี.)].
อุทานปาฬิ นิฏฺิตา.