📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
อิติวุตฺตกปาฬิ
๑. เอกกนิปาโต
๑. ปมวคฺโค
๑. โลภสุตฺตํ
๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โลภํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โลเภน ลุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โลภํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. โทสสุตฺตํ
๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค ¶ อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โทสํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ¶ ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โทเสน ทุฏฺาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โทสํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. โมหสุตฺตํ
๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โมหํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน โมเหน มูฬฺหาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โมหํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. โกธสุตฺตํ
๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โกธํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โกเธน กุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โกธํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. มกฺขสุตฺตํ
๕. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? มกฺขํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน มกฺเขน มกฺขาเส [มกฺขิตาเส (สฺยา.)], สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ มกฺขํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. มานสุตฺตํ
๖. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? มานํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน มาเนน มตฺตาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ มานํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. สพฺพปริฺาสุตฺตํ
๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. สพฺพฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ¶ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โย ¶ สพฺพํ สพฺพโต ตฺวา, สพฺพตฺเถสุ น รชฺชติ;
ส เว สพฺพปริฺา [สพฺพํ ปริฺา (สฺยา. ปี.)] โส, สพฺพทุกฺขมุปจฺจคา’’ติ [สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคาติ (สฺยา.), สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคาติ (ปี. อฏฺ.)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. มานปริฺาสุตฺตํ
๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘มานํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย ¶ . มานฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘มานุเปตา อยํ ปชา, มานคนฺถา ภเว รตา;
มานํ อปริชานนฺตา, อาคนฺตาโร ปุนพฺภวํ.
‘‘เย ¶ จ มานํ ปหนฺตฺวาน, วิมุตฺตา มานสงฺขเย;
เต มานคนฺถาภิภุโน, สพฺพทุกฺขมุปจฺจคุ’’นฺติ [สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ (ปี.), สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ (อฏฺกถา)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. โลภปริฺาสุตฺตํ
๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โลภํ, ภิกฺขเว ¶ , อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โลภฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน โลเภน ลุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โลภํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. โทสปริฺาสุตฺตํ
๑๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โทสํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โทสฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ ¶ โทเสน ทุฏฺาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โทสํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ปโม วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ราคโทสา อถ โมโห, โกธมกฺขา ¶ มานํ สพฺพํ;
มานโต ราคโทสา ปุน ทฺเว, ปกาสิตา วคฺคมาหุ ปมนฺติ.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. โมหปริฺาสุตฺตํ
๑๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โมหํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โมหฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน โมเหน มูฬฺหาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โมหํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย ¶ น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. โกธปริฺาสุตฺตํ
๑๒. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โกธํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โกธฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โกเธน กุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โกธํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓.มกฺขปริฺาสุตฺตํ
๑๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘มกฺขํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. มกฺขฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน มกฺเขน มกฺขาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ มกฺขํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. อวิชฺชานีวรณสุตฺตํ
๑๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ ¶ เม สุตํ –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนีวรณมฺปิ สมนุปสฺสามิ เยน [เยเนวํ (?)] นีวรเณน นิวุตา ปชา ทีฆรตฺตํ ¶ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, อวิชฺชานีวรณํ [อวิชฺชานีวรเณน (?)]. อวิชฺชานีวรเณน หิ, ภิกฺขเว, นิวุตา ปชา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘นตฺถฺโ ¶ เอกธมฺโมปิ, เยเนวํ [เยเนว (สี. ปี. ก.)] นิวุตา ปชา;
สํสรนฺติ ¶ อโหรตฺตํ, ยถา โมเหน อาวุตา.
‘‘เย จ โมหํ ปหนฺตฺวาน, ตโมขนฺธํ [ตโมกฺขนฺธํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปทาลยุํ;
น เต ปุน สํสรนฺติ, เหตุ เตสํ น วิชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ตณฺหาสํโยชนสุตฺตํ
๑๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกสํโยชนมฺปิ สมนุปสฺสามิ เยน [เยเนวํ (สฺยา.)] สํโยชเนน สํยุตฺตา สตฺตา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ตณฺหาสํโยชนํ [ตณฺหาสํโยชเนน (?)]. ตณฺหาสํโยชเนน หิ, ภิกฺขเว, สํยุตฺตา สตฺตา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ตณฺหาทุติโย ¶ ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ [อิตฺถมฺภาวฺถาภาวํ (สฺยา.)], สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอตมาทีนวํ [เอวมาทีนวํ (สี. ปี. ก.)] ตฺวา, ตณฺหํ [ตณฺหา (สี. ก.)] ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. ปมเสขสุตฺตํ
๑๖. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เสขสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปตฺตมานสสฺส อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานสฺส วิหรโต อชฺฌตฺติกํ องฺคนฺติ กริตฺวา นาฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ ยํ เอวํ พหูปการํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิกาโร. โยนิโส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มนสิ กโรนฺโต อกุสลํ ปชหติ ¶ , กุสลํ ภาเวตี’’ติ ¶ . เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โยนิโส ¶ มนสิกาโร, ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน;
นตฺถฺโ เอวํ พหุกาโร, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา;
โยนิโส ปทหํ ภิกฺขุ, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. ทุติยเสขสุตฺตํ
๑๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เสขสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปตฺตมานสสฺส อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานสฺส วิหรโต พาหิรํ องฺคนฺติ กริตฺวา นาฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ ยํ เอวํ พหูปการํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, กลฺยาณมิตฺตตา. กลฺยาณมิตฺโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กลฺยาณมิตฺโต โย ภิกฺขุ, สปฺปติสฺโส สคารโว;
กรํ มิตฺตานํ วจนํ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต;
ปาปุเณ อนุปุพฺเพน, สพฺพสํโยชนกฺขย’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. สงฺฆเภทสุตฺตํ
๑๘. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺโม, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน ¶ อุปฺปชฺชติ พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกธมฺโม? สงฺฆเภโท. สงฺเฆ โข ปน, ภิกฺขเว, ภินฺเน อฺมฺํ ภณฺฑนานิ เจว โหนฺติ, อฺมฺํ ปริภาสา จ โหนฺติ ¶ , อฺมฺํ ปริกฺเขปา จ โหนฺติ, อฺมฺํ ปริจฺจชนา จ โหนฺติ. ตตฺถ อปฺปสนฺนา เจว นปฺปสีทนฺติ, ปสนฺนานฺจ เอกจฺจานํ อฺถตฺตํ โหตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อาปายิโก ¶ เนรยิโก, กปฺปฏฺโ สงฺฆเภทโก;
วคฺคาราโม อธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา ปธํสติ [โยคกฺเขมโต ธํสติ (สฺยา. ปี.), โยคกฺเขมา วิมํสติ (สี. ก.)];
สงฺฆํ สมคฺคํ เภตฺวาน [ภิตฺวาน (สี. ก.), ภินฺทิตฺวา (จูฬว. ๓๕๔; อ. นิ. ๑๐.๓๙)], กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. สงฺฆสามคฺคีสุตฺตํ
๑๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺโม, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกธมฺโม ¶ ? สงฺฆสามคฺคี. สงฺเฆ โข ปน, ภิกฺขเว, สมคฺเค น เจว อฺมฺํ ภณฺฑนานิ โหนฺติ, น จ อฺมฺํ ปริภาสา โหนฺติ, น จ อฺมฺํ ปริกฺเขปา โหนฺติ, น จ อฺมฺํ ปริจฺจชนา โหนฺติ. ตตฺถ อปฺปสนฺนา เจว ปสีทนฺติ, ปสนฺนานฺจ ภิยฺโยภาโว โหตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี, สมคฺคานฺจนุคฺคโห;
สมคฺครโต ธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา น ธํสติ;
สงฺฆํ สมคฺคํ กตฺวาน, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. ปทุฏฺจิตฺตสุตฺตํ
๒๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมมฺหิ จายํ สมเย ปุคฺคโล กาลงฺกเรยฺย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปทุฏฺํ. เจโตปโทสเหตุ โข ปน, ภิกฺขเว, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปทุฏฺจิตฺตํ ¶ ¶ ตฺวาน, เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;
เอตมตฺถฺจ พฺยากาสิ, พุทฺโธ ภิกฺขูน สนฺติเก.
‘‘อิมมฺหิ จายํ สมเย, กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;
นิรยํ อุปปชฺเชยฺย, จิตฺตํ หิสฺส ปทูสิตํ.
‘‘ยถา หริตฺวา นิกฺขิเปยฺย, เอวเมว ตถาวิโธ;
เจโตปโทสเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคติ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ทุติโย วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
โมโห โกโธ อถ มกฺโข, วิชฺชา ตณฺหา เสขทุเว จ;
เภโท สามคฺคิปุคฺคโล [โมหโกธ อถ มกฺขาคโต, มูหา กามเสกฺขทุเว; เภทสามคฺคปุคฺคโล จ (สี. ก.) โมหโกธา อถ มกฺโข โมหกามา เสกฺขา ทุเว; เภทโมทา ปุคฺคโล จ (สฺยา. ปี.)], วคฺคมาหุ ทุติยนฺติ วุจฺจตีติ.
๓. ตติยวคฺโค
๑. ปสนฺนจิตฺตสุตฺตํ
๒๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสนฺนจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ ¶ – ‘อิมมฺหิ จายํ สมเย ปุคฺคโล กาลํ กเรยฺย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปสนฺนํ. เจโตปสาทเหตุ โข ปน, ภิกฺขเว, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปสนฺนจิตฺตํ ตฺวาน, เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;
เอตมตฺถฺจ พฺยากาสิ, พุทฺโธ ภิกฺขูน สนฺติเก.
‘‘อิมมฺหิ ¶ จายํ สมเย, กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;
สุคตึ อุปปชฺเชยฺย, จิตฺตํ หิสฺส ปสาทิตํ.
‘‘ยถา หริตฺวา นิกฺขิเปยฺย, เอวเมว ตถาวิโธ;
เจโตปสาทเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. เมตฺตสุตฺตํ
๒๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘มา, ภิกฺขเว, ปฺุานํ ภายิตฺถ ¶ . สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ อิฏฺสฺส กนฺตสฺส ปิยสฺส มนาปสฺส ยทิทํ ปฺุานิ [ปฺุานนฺติ, (อ. นิ. ๗.๖๒)]. อภิชานามิ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปฺุานํ อิฏฺํ กนฺตํ ปิยํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํ. สตฺต วสฺสานิ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต ¶ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป ¶ นยิมํ โลกํ ปุนราคมาสึ. สํวฏฺฏมาเน สุทํ, ภิกฺขเว, กปฺเป อาภสฺสรูปโค โหมิ; วิวฏฺฏมาเน กปฺเป สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิ.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี. ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สกฺโก อโหสึ เทวานมินฺโท; อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสึ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. โก ปน วาโท ปเทสรชฺชสฺส!
‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิสฺส นุ โข เม อิทํ กมฺมสฺส ผลํ, กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ติณฺณํ โข เม อิทํ กมฺมานํ ผลํ, ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโวติ, เสยฺยถิทํ [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – ทานสฺส, ทมสฺส, สฺมสฺสา’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปฺุเมว โส สิกฺเขยฺย, อายตคฺคํ สุขุทฺรยํ;
ทานฺจ ¶ สมจริยฺจ, เมตฺตจิตฺตฺจ ภาวเย.
‘‘เอเต ¶ ธมฺเม ภาวยิตฺวา, ตโย สุขสมุทฺทเย [สุขสมุทฺรเย (สี. อฏฺ.)];
อพฺยาปชฺฌํ [อพฺยาปชฺชํ (สฺยา. ก.), อพฺยาพชฺฌํ (?)] สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. อุภยตฺถสุตฺตํ
๒๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺโม ¶ , ภิกฺขเว, ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจ. กตโม เอกธมฺโม? อปฺปมาโท กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อยํ โข, ภิกฺขเว, เอกธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อปฺปมาทํ ¶ ปสํสนฺติ, ปฺุกิริยาสุ ปณฺฑิตา;
อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ, อธิคณฺหาติ ปณฺฑิโต.
‘‘ทิฏฺเ ¶ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;
อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. อฏฺิปฺุชสุตฺตํ
๒๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกปุคฺคลสฺส, ภิกฺขเว, กปฺปํ สนฺธาวโต สํสรโต สิยา เอวํ มหา อฏฺิกงฺกโล อฏฺิปฺุโช อฏฺิราสิ ยถายํ เวปุลฺโล ปพฺพโตः สเจ สํหารโก อสฺส, สมฺภตฺจ น วินสฺเสยฺยา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เอกสฺเสเกน กปฺเปน, ปุคฺคลสฺสฏฺิสฺจโย;
สิยา ปพฺพตสโม ราสิ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.
‘‘โส โข ปนายํ อกฺขาโต, เวปุลฺโล ปพฺพโต มหา;
อุตฺตโร คิชฺฌกูฏสฺส, มคธานํ คิริพฺพเช.
‘‘ยโต ¶ จ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ;
ทุกฺขํ ¶ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยฺจฏฺงฺคิกํ ¶ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘ส สตฺตกฺขตฺตุํ ปรมํ, สนฺธาวิตฺวาน ปุคฺคโล;
ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, สพฺพสํโยชนกฺขยา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. มุสาวาทสุตฺตํ
๒๕. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ อตีตสฺส, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลสฺส นาหํ ตสฺส กิฺจิ ปาปกมฺมํ อกรณียนฺติ วทามิ. กตมํ เอกธมฺมํ? ยทิทํ [ยถยิทํ (สี. สฺยา. ก.), ยถายิทํ (ปี.)] ภิกฺขเว, สมฺปชานมุสาวาโท’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เอกธมฺมํ อตีตสฺส, มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน;
วิติณฺณปรโลกสฺส, นตฺถิ ปาปํ อการิย’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทานสุตฺตํ
๒๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอวฺเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทานสํวิภาคสฺส วิปากํ ยถาหํ ชานามิ, น อทตฺวา ภฺุเชยฺยุํ, น จ เนสํ มจฺเฉรมลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺเยฺย. โยปิ เนสํ อสฺส จริโม อาโลโป จริมํ กพฬํ, ตโตปิ น อสํวิภชิตฺวา ภฺุเชยฺยุํ, สเจ เนสํ ปฏิคฺคาหกา อสฺสุ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สตฺตา ¶ น เอวํ ชานนฺติ ทานสํวิภาคสฺส วิปากํ ยถาหํ ชานามิ, ตสฺมา อทตฺวา ภฺุชนฺติ, มจฺเฉรมลฺจ เนสํ จิตฺตํ ¶ ปริยาทาย ติฏฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เอวํ เจ สตฺตา ชาเนยฺยุํ, ยถาวุตฺตํ มเหสินา;
วิปากํ สํวิภาคสฺส, ยถา โหติ มหปฺผลํ.
‘‘วิเนยฺย ¶ มจฺเฉรมลํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;
ทชฺชุํ กาเลน อริเยสุ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.
‘‘อนฺนฺจ ทตฺวา [ทตฺวาน (สฺยา.)] พหุโน, ทกฺขิเณยฺเยสุ ทกฺขิณํ;
อิโต จุตา มนุสฺสตฺตา, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา.
‘‘เต ¶ จ สคฺคคตา [สคฺคํ คตา (สี. ปี. ก.)] ตตฺถ, โมทนฺติ กามกามิโน;
วิปากํ สํวิภาคสฺส, อนุโภนฺติ อมจฺฉรา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. เมตฺตาภาวนาสุตฺตํ
๒๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ. เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ ตารกรูปานํ ปภา สพฺพา ตา ¶ จนฺทิยา ปภาย กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, จนฺทปภาเยว ตา อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ ¶ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว [นเภ (สี.)] อาทิจฺโจ นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโน [อพฺภุคฺคมมาโน (ก. อฏฺ.)] สพฺพํ อากาสคตํ [อากาสํ (สฺยา.)] ตมคตํ อภิวิหจฺจ [อภิหจฺจ (สฺยา.)] ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ โอสธิตารกา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ ¶ , เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โย ¶ จ เมตฺตํ ภาวยติ, อปฺปมาณํ ปฏิสฺสโต;
ตนู [ตนุ (สี.)] สํโยชนา โหนฺติ, ปสฺสโต อุปธิกฺขยํ.
‘‘เอกมฺปิ เจ ปาณมทุฏฺจิตฺโต, เมตฺตายติ กุสโล เตน โหติ;
สพฺเพ จ ปาเณ มนสานุกมฺปํ, ปหูตมริโย ปกโรติ ปฺุํ.
‘‘เย [โย (สี.)] สตฺตสณฺฑํ ปถวึ วิชิตฺวา, ราชิสโย ¶ [ราชีสโย (สี.)] ยชมานานุปริยคา;
อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬํ.
‘‘เมตฺตสฺส จิตฺตสฺส สุภาวิตสฺส, กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;
จนฺทปฺปภา ¶ ตารคณาว สพฺเพ.
‘‘โย น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;
เมตฺตํโส สพฺพภูเตสุ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
ตติโย วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
จิตฺตํ ¶ เมตฺตํ [ฌายี (สี. สฺยา.), ฌายิ (ปี. ก.)] อุโภ อตฺเถ, ปฺุชํ เวปุลฺลปพฺพตํ;
สมฺปชานมุสาวาโท, ทานฺจ เมตฺตภาวนา [เมตฺตภาวฺจ (สี. สฺยา. ปี.), เมตฺตวาจฺจ (ก.)].
สตฺติมานิ จ [สตฺติมานิธ (สี. ก.)] สุตฺตานิ, ปุริมานิ จ วีสติ;
เอกธมฺเมสุ สุตฺตนฺตา, สตฺตวีสติสงฺคหาติ.
เอกกนิปาโต นิฏฺิโต.
๒. ทุกนิปาโต
๑. ปมวคฺโค
๑. ทุกฺขวิหารสุตฺตํ
๒๘. (ทฺเว ¶ ¶ ธมฺเม อนุกฺกฏิ) [( ) สฺยามโปตฺถเก นตฺถิ] วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ ¶ สปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. กตเมหิ ทฺวีหิ? อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตาย [อคุตฺตทฺวาโร (อฏฺ.)] จ, โภชเน อมตฺตฺุตาย [อมตฺตฺู (อฏฺ.)] จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิธาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘จกฺขุ โสตฺจ ฆานฺจ, ชิวฺหา กาโย ตถา มโน;
เอตานิ ยสฺส ทฺวารานิ, อคุตฺตานิธ [อคุตฺตานิ จ (สฺยา.)] ภิกฺขุโน.
‘‘โภชนมฺหิ อมตฺตฺู, อินฺทฺริเยสุ อสํวุโต;
กายทุกฺขํ เจโตทุกฺขํ, ทุกฺขํ โส อธิคจฺฉติ.
‘‘ฑยฺหมาเนน กาเยน, ฑยฺหมาเนน เจตสา;
ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, ทุกฺขํ วิหรติ ตาทิโส’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. สุขวิหารสุตฺตํ
๒๙. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ¶ ปาฏิกงฺขา ¶ ¶ . กตเมหิ ทฺวีหิ? อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย จ, โภชเน มตฺตฺุตาย จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘จกฺขุ โสตฺจ ฆานฺจ, ชิวฺหา กาโย ตถา [อโถ (สี. สฺยา. ก.)] มโน;
เอตานิ ยสฺส ทฺวารานิ, สุคุตฺตานิธ ภิกฺขุโน.
‘‘โภชนมฺหิ จ มตฺตฺู, อินฺทฺริเยสุ จ สํวุโต;
กายสุขํ เจโตสุขํ, สุขํ โส อธิคจฺฉติ.
‘‘อฑยฺหมาเนน กาเยน, อฑยฺหมาเนน เจตสา;
ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, สุขํ วิหรติ ตาทิโส’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. ตปนียสุตฺตํ
๓๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ตปนียา. กตเม ¶ ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อกตกลฺยาโณ โหติ, อกตกุสโล, อกตภีรุตฺตาโณ, กตปาโป, กตลุทฺโท, กตกิพฺพิโส. โส ‘อกตํ เม กลฺยาณ’นฺติปิ ตปฺปติ, ‘กตํ เม ปาป’นฺติปิ ตปฺปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา ตปนียา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายทุจฺจริตํ กตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;
มโนทุจฺจริตํ ¶ กตฺวา, ยฺจฺํ โทสสฺหิตํ.
‘‘อกตฺวา ¶ กุสลํ กมฺมํ, กตฺวานากุสลํ พหุํ;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ [นิรยํ โส อุปปชฺชตีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. อตปนียสุตฺตํ
๓๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อตปนียา. กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กตกลฺยาโณ โหติ, กตกุสโล, กตภีรุตฺตาโณ, อกตปาโป, อกตลุทฺโท, อกตกิพฺพิโส. โส ‘กตํ เม กลฺยาณ’นฺติปิ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม ปาป’นฺติปิ น ตปฺปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ¶ ธมฺมา อตปนียา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;
มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, ยฺจฺํ โทสสฺหิตํ.
‘‘อกตฺวากุสลํ กมฺมํ, กตฺวาน กุสลํ พหุํ;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ปมสีลสุตฺตํ
๓๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทฺวีหิ? ปาปเกน จ สีเลน, ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ ¶ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปาปเกน ¶ จ สีเลน, ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา;
เอเตหิ ทฺวีหิ ธมฺเมหิ, โย สมนฺนาคโต นโร;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยสีลสุตฺตํ
๓๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทฺวีหิ ¶ ? ภทฺทเกน จ สีเลน, ภทฺทิกาย จ ทิฏฺิยา. อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ภทฺทเกน จ สีเลน, ภทฺทิกาย จ ทิฏฺิยา;
เอเตหิ ทฺวีหิ ธมฺเมหิ, โย สมนฺนาคโต นโร;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. อาตาปีสุตฺตํ
๓๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อนาตาปี, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อโนตฺตาปี [อโนตฺตปฺปี (พหูสุ) อฏฺกถา ปสฺสิตพฺพา] อภพฺโพ สมฺโพธาย, อภพฺโพ นิพฺพานาย, อภพฺโพ อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมาย. อาตาปี จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โอตฺตาปี [โอตฺตปฺปี (พหูสุ)] ภพฺโพ สมฺโพธาย, ภพฺโพ นิพฺพานาย, ภพฺโพ อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ ¶ . ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อนาตาปี ¶ อโนตฺตาปี, กุสีโต หีนวีริโย;
โย ถีนมิทฺธพหุโล, อหิรีโก อนาทโร;
อภพฺโพ ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘โย ¶ จ สติมา นิปโก ฌายี, อาตาปี โอตฺตาปี จ อปฺปมตฺโต;
สํโยชนํ ชาติชราย เฉตฺวา, อิเธว สมฺโพธิมนุตฺตรํ ผุเส’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. ปมนกุหนสุตฺตํ
๓๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถํ, น ชนลปนตฺถํ, น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ, น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติ. อถ โข อิทํ, ภิกฺขเว ¶ , พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ สํวรตฺถฺเจว ปหานตฺถฺจา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ, พฺรหฺมจริยํ อนีติหํ;
อเทสยิ โส ภควา, นิพฺพาโนคธคามินํ.
‘‘เอส มคฺโค มหตฺเตหิ [มหนฺเตหิ (สี. ก.), มหตฺเถหิ (สฺยา.)], อนุยาโต ¶ มเหสิภิ [มเหสิโน (สี. ก.)];
เย เย ตํ ปฏิปชฺชนฺติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;
ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, สตฺถุสาสนการิโน’’ติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. ทุติยนกุหนสุตฺตํ
๓๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถํ, น ชนลปนตฺถํ, น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ, น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติ. อถ โข อิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ ¶ วุสฺสติ อภิฺตฺถฺเจว ปริฺตฺถฺจา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อภิฺตฺถํ ปริฺตฺถํ, พฺรหฺมจริยํ อนีติหํ;
อเทสยิ โส ภควา, นิพฺพาโนคธคามินํ.
‘‘เอส มคฺโค มหตฺเตหิ, อนุยาโต มเหสิภิ;
เย เย ตํ ปฏิปชฺชนฺติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;
ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, สตฺถุสาสนการิโน’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. โสมนสฺสสุตฺตํ
๓๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ¶ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขโสมนสฺสพหุโล วิหรติ, โยนิ จสฺส [โยนิโส (สี. สฺยา. ปี.), โยนิสฺส (ก.)] อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยาย. กตเมหิ ¶ ทฺวีหิ? สํเวชนีเยสุ าเนสุ สํเวชเนน, สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปธาเนน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขโสมนสฺสพหุโล วิหรติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สํเวชนียฏฺาเนสุ [สํเวชนีเยสุ าเนสุ (สฺยา. ปี.)], สํวิชฺเชเถว ปณฺฑิโต;
อาตาปี ¶ นิปโก ภิกฺขุ, ปฺาย สมเวกฺขิย.
‘‘เอวํ วิหารี อาตาปี, สนฺตวุตฺติ อนุทฺธโต;
เจโตสมถมนุยุตฺโต, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ปโม วคฺโค นิฏฺิโต.
ทฺเว จ ภิกฺขู ตปนียา, ตปนียา ปรตฺเถหิ;
อาตาปี [ทฺเว ปาทา (ก.), ทฺเว อาตาปี (สี.)] นกุหนา ทฺเว [น กุหนา จ (สพฺพตฺถ)], โสมนสฺเสน เต ทสาติ.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. วิตกฺกสุตฺตํ
๓๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตถาคตํ, ภิกฺขเว, อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทฺเว วิตกฺกา พหุลํ สมุทาจรนฺติ – เขโม จ วิตกฺโก, ปวิเวโก จ [วิเวโก จ (สฺยา.)]. อพฺยาปชฺฌาราโม [อพฺยาปชฺชาราโม (ก.), อพฺยาพชฺฌาราโม (?)], ภิกฺขเว, ตถาคโต อพฺยาปชฺฌรโต. ตเมนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺยาปชฺฌารามํ อพฺยาปชฺฌรตํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจรติ – ‘อิมายาหํ อิริยาย น กิฺจิ พฺยาพาเธมิ ตสํ วา ถาวรํ วา’ติ.
‘‘ปวิเวการาโม ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปวิเวกรโต. ตเมนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตํ ปวิเวการามํ ปวิเวกรตํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจรติ – ‘ยํ อกุสลํ ตํ ปหีน’นฺติ.
‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ตุมฺเหปิ อพฺยาปชฺฌารามา ¶ วิหรถ ¶ อพฺยาปชฺฌรตา. เตสํ โว, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ อพฺยาปชฺฌารามานํ วิหรตํ อพฺยาปชฺฌรตานํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจริสฺสติ – ‘อิมาย มยํ อิริยาย น กิฺจิ พฺยาพาเธม ตสํ วา ถาวรํ วา’ติ.
‘‘ปวิเวการามา, ภิกฺขเว, วิหรถ ปวิเวกรตา. เตสํ โว, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปวิเวการามานํ วิหรตํ ปวิเวกรตานํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจริสฺสติ – ‘กึ อกุสลํ, กึ อปฺปหีนํ, กึ ปชหามา’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ตถาคตํ พุทฺธมสยฺหสาหินํ, ทุเว วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ นํ;
เขโม วิตกฺโก ปโม อุทีริโต, ตโต วิเวโก ทุติโย ปกาสิโต.
‘‘ตโมนุทํ ¶ ปารคตํ มเหสึ, ตํ ปตฺติปตฺตํ วสิมํ อนาสวํ;
วิสนฺตรํ [เวสนฺตรํ (สี. ก.), วิสฺสนฺตรํ (ปี.)] ตณฺหกฺขเย วิมุตฺตํ, ตํ เว มุนึ อนฺติมเทหธารึ;
มารฺชหํ ¶ [มารชหํ (สฺยา.), มานชหํ (สี. ก.), มานํ ชหํ (ปี.)] พฺรูมิ ชราย ปารคุํ.
‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต, ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;
ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมโธ, ปาสาทมารุยฺห ¶ สมนฺตจกฺขุ;
โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก, อเวกฺขติ ชาติชราภิภูต’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. เทสนาสุตฺตํ
๓๙. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทฺเว ธมฺมเทสนา ปริยาเยน ภวนฺติ. กตมา ทฺเว? ‘ปาปํ ปาปกโต ปสฺสถา’ติ – อยํ ปมา ธมฺมเทสนา; ‘ปาปํ ปาปกโต ทิสฺวา ตตฺถ นิพฺพินฺทถ วิรชฺชถ วิมุจฺจถา’ติ – อยํ ทุติยา ธมฺมเทสนา. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิมา ทฺเว ธมฺมเทสนา ปริยาเยน ภวนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ตถาคตสฺส พุทฺธสฺส, สพฺพภูตานุกมฺปิโน;
ปริยายวจนํ ปสฺส, ทฺเว จ ธมฺมา ปกาสิตา.
‘‘ปาปกํ ¶ ปสฺสถ เจตํ [เจกํ (สี. ปี.), เฉกา (สฺยา.)], ตตฺถ จาปิ วิรชฺชถ;
ตโต วิรตฺตจิตฺตาเส, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. วิชฺชาสุตฺตํ
๔๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อวิชฺชา ¶ , ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา อนฺวเทว อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ; วิชฺชา จ โข, ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา กุสลานํ ธมฺมานํ ¶ สมาปตฺติยา อนฺวเทว หิโรตฺตปฺป’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยา กาจิมา ทุคฺคติโย, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ;
อวิชฺชามูลิกา สพฺพา, อิจฺฉาโลภสมุสฺสยา.
‘‘ยโต จ โหติ ปาปิจฺโฉ, อหิรีโก อนาทโร;
ตโต ปาปํ ปสวติ, อปายํ เตน คจฺฉติ.
‘‘ตสฺมา ฉนฺทฺจ โลภฺจ, อวิชฺชฺจ วิราชยํ;
วิชฺชํ อุปฺปาทยํ ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. ปฺาปริหีนสุตฺตํ
๔๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุปริหีนา เย อริยาย ปฺาย ปริหีนา. เต ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรนฺติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. เต [เต จ โข (?)], ภิกฺขเว, สตฺตา อปริหีนา เย อริยาย ปฺาย อปริหีนา. เต ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรนฺติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปฺาย ปริหาเนน, ปสฺส โลกํ สเทวกํ;
นิวิฏฺํ นามรูปสฺมึ, อิทํ สจฺจนฺติ มฺติ.
‘‘ปฺา หิ เสฏฺา โลกสฺมึ, ยายํ นิพฺเพธคามินี;
ยาย ¶ สมฺมา ปชานาติ, ชาติภวปริกฺขยํ.
‘‘เตสํ ¶ เทวา มนุสฺสา จ, สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ;
ปิหยนฺติ ¶ หาสปฺานํ [หาสุปฺานํ (สี. อฏฺ.)], สรีรนฺติมธาริน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. สุกฺกธมฺมสุตฺตํ
๔๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. กตเม ทฺเว? หิรี [หิริ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ, โอตฺตปฺปฺจ. อิเม เจ, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา. สมฺเภทํ โลโก อคมิสฺส ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา [โสณสิคาลา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ ตสฺมา ปฺายติ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยสํ ¶ เจ หิริโอตฺตปฺปํ, สพฺพทา จ น วิชฺชติ;
โวกฺกนฺตา สุกฺกมูลา เต, ชาติมรณคามิโน.
‘‘เยสฺจ หิริโอตฺตปฺปํ, สทา สมฺมา อุปฏฺิตา;
วิรูฬฺหพฺรหฺมจริยา ¶ เต, สนฺโต ขีณปุนพฺภวา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. อชาตสุตฺตํ
๔๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว ¶ , อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ. โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺส อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, นยิธ ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺาเยถ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, ตสฺมา ชาตสฺส ภูตสฺส ¶ กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺายตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ชาตํ ภูตํ สมุปฺปนฺนํ, กตํ สงฺขตมทฺธุวํ;
ชรามรณสงฺฆาฏํ, โรคนีฬํ [โรคนิฑฺฒํ (สี.)] ปภงฺคุรํ [ปภงฺคุนํ (ก. สี. ก.), ปภงฺคุณํ (สฺยา.)].
‘‘อาหารเนตฺติปฺปภวํ, นาลํ ตทภินนฺทิตุํ;
ตสฺส นิสฺสรณํ สนฺตํ, อตกฺกาวจรํ ธุวํ.
‘‘อชาตํ อสมุปฺปนฺนํ, อโสกํ วิรชํ ปทํ;
นิโรโธ ¶ ทุกฺขธมฺมานํ, สงฺขารูปสโม สุโข’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. นิพฺพานธาตุสุตฺตํ
๔๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, นิพฺพานธาตุโย. กตเม ทฺเว? สอุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ, อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ.
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต. ตสฺส ติฏฺนฺเตว ปฺจินฺทฺริยานิ เยสํ อวิฆาตตฺตา [อวิคตตฺตา (สี. อฏฺ.)] มนาปามนาปํ ปจฺจนุโภติ, สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ ¶ . ตสฺส โย ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต. ตสฺส อิเธว, ภิกฺขเว, สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีติ ภวิสฺสนฺติ [สีตีภวิสฺสนฺติ (?)]. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว นิพฺพานธาตุโย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ทุเว ¶ อิมา จกฺขุมตา ปกาสิตา, นิพฺพานธาตู อนิสฺสิเตน ตาทินา;
เอกา หิ ธาตุ อิธ ทิฏฺธมฺมิกา, สอุปาทิเสสา ภวเนตฺติสงฺขยา;
อนุปาทิเสสา ¶ ปน สมฺปรายิกา, ยมฺหิ นิรุชฺฌนฺติ ภวานิ สพฺพโส.
‘‘เย เอตทฺาย ปทํ อสงฺขตํ, วิมุตฺตจิตฺตา ภวเนตฺติสงฺขยา;
เต ธมฺมสาราธิคมา ขเย รตา, ปหํสุ เต สพฺพภวานิ ตาทิโน’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. ปฏิสลฺลานสุตฺตํ
๔๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ปฏิสลฺลานารามา ¶ [ปฏิสลฺลานารามา (ก.)], ภิกฺขเว, วิหรถ ปฏิสลฺลานรตา, อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺตา, อนิรากตชฺฌานา, วิปสฺสนาย สมนฺนาคตา, พฺรูเหตา สฺุาคารานํ ¶ . ปฏิสลฺลานารามานํ, ภิกฺขเว, วิหรตํ ปฏิสลฺลานรตานํ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺตานํ อนิรากตมชฺฌานานํ วิปสฺสนาย สมนฺนาคตานํ พฺรูเหตานํ สฺุาคารานํ ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เย สนฺตจิตฺตา นิปกา, สติมนฺโต จ [สติมนฺโตว (สี. ก.)] ฌายิโน;
สมฺมา ¶ ธมฺมํ วิปสฺสนฺติ, กาเมสุ อนเปกฺขิโน.
‘‘อปฺปมาทรตา สนฺตา, ปมาเท ภยทสฺสิโน;
อภพฺพา ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. สิกฺขานิสํสสุตฺตํ
๔๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘สิกฺขานิสํสา ¶ , ภิกฺขเว, วิหรถ ปฺุตฺตรา วิมุตฺติสารา สตาธิปเตยฺยา. สิกฺขานิสํสานํ, ภิกฺขเว, วิหรตํ ปฺุตฺตรานํ วิมุตฺติสารานํ สตาธิปเตยฺยานํ ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปริปุณฺณสิกฺขํ [ปริปุณฺณเสขํ (สี.), ปริปุณฺณเสกฺขํ (สฺยา.)] อปหานธมฺมํ, ปฺุตฺตรํ ¶ ชาติขยนฺตทสฺสึ;
ตํ เว มุนึ อนฺติมเทหธารึ, มารฺชหํ พฺรูมิ ชราย ปารคุํ.
‘‘ตสฺมา สทา ฌานรตา สมาหิตา, อาตาปิโน ¶ ชาติขยนฺตทสฺสิโน;
มารํ สเสนํ อภิภุยฺย ภิกฺขโว, ภวถ ชาติมรณสฺส ปารคา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. ชาคริยสุตฺตํ
๔๗. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ชาคโร จสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สโต สมฺปชาโน สมาหิโต ปมุทิโต วิปฺปสนฺโน จ ตตฺถ กาลวิปสฺสี จ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ชาครสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วิหรโต สตสฺส สมฺปชานสฺส สมาหิตสฺส ปมุทิตสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ตตฺถ กาลวิปสฺสิโน กุสเลสุ ธมฺเมสุ ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ชาครนฺตา สุณาเถตํ, เย สุตฺตา เต ปพุชฺฌถ;
สุตฺตา ชาคริตํ เสยฺโย, นตฺถิ ชาครโต ภยํ.
‘‘โย ¶ ชาคโร จ สติมา สมฺปชาโน, สมาหิโต มุทิโต วิปฺปสนฺโน จ;
กาเลน ¶ โส สมฺมา ธมฺมํ ปริวีมํสมาโน, เอโกทิภูโต วิหเน ตมํ โส.
‘‘ตสฺมา หเว ชาคริยํ ภเชถ, อาตาปี ภิกฺขุ นิปโก ฌานลาภี;
สํโยชนํ ชาติชราย เฉตฺวา, อิเธว สมฺโพธิมนุตฺตรํ ผุเส’’ติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
๑๑. อาปายิกสุตฺตํ
๔๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อาปายิกา เนรยิกา อิทมปฺปหาย. กตเม ทฺเว? โย จ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, โย จ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตํ อมูลเกน อพฺรหฺมจริเยน อนุทฺธํเสติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อาปายิกา เนรยิกา อิทมปฺปหายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อภูตวาที ¶ นิรยํ อุเปติ, โย วาปิ กตฺวา น กโรมิ จาห;
อุโภปิ ¶ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ, นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถ.
‘‘กาสาวกณฺา พหโว, ปาปธมฺมา อสฺตา;
ปาปา ปาเปหิ กมฺเมหิ, นิรยํ เต อุปปชฺชเร.
‘‘เสยฺโย อโยคุโฬ ภุตฺโต, ตตฺโต อคฺคิสิขูปโม;
ยฺเจ ¶ ภฺุเชยฺย ทุสฺสีโล, รฏฺปิณฺฑมสฺโต’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. เอกาทสมํ.
๑๒. ทิฏฺิคตสุตฺตํ
๔๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิคเตหิ ปริยุฏฺิตา เทวมนุสฺสา โอลียนฺติ เอเก, อติธาวนฺติ เอเก; จกฺขุมนฺโต จ ปสฺสนฺติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเก? ภวารามา, ภิกฺขเว, เทวมนุสฺสา ภวรตา ภวสมฺมุทิตา เตสํ ภวนิโรธาย ธมฺเม เทสิยมาเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเก.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเก? ภเวเนว โข ปเนเก อฏฺฏียมานา หรายมานา ชิคุจฺฉมานา วิภวํ อภินนฺทนฺติ ¶ – ยโต กิร, โภ, อยํ อตฺตา [สตฺโต (สี. ก.)] กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา; เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ เอตํ ยาถาวนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเก.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จกฺขุมนฺโต ปสฺสนฺติ? อิธ ภิกฺขุ ภูตํ ภูตโต ปสฺสติ; ภูตํ ภูตโต ทิสฺวา ภูตสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จกฺขุมนฺโต ปสฺสนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เย ¶ [โย (สฺยา. ก.)] ภูตํ ภูตโต ทิสฺวา, ภูตสฺส จ อติกฺกมํ;
ยถาภูเต วิมุจฺจนฺติ, ภวตณฺหา ปริกฺขยา.
‘‘ส เว [สเจ (ก. สี. สฺยา. ปี.)] ภูตปริฺโ, โส วีตตณฺโห ภวาภเว;
ภูตสฺส ¶ วิภวา ภิกฺขุ, นาคจฺฉติ ปุนพฺภว’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทฺวาทสมํ.
ทุติโย วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว อินฺทฺริยา ทฺเว ตปนียา, สีเลน อปเร ทุเว;
อโนตฺตาปี กุหนา ทฺเว จ, สํเวชนีเยน ¶ เต ทส.
วิตกฺกา เทสนา วิชฺชา, ปฺา ธมฺเมน ปฺจมํ;
อชาตํ ธาตุสลฺลานํ, สิกฺขา ชาคริเยน จ;
อปายทิฏฺิยา เจว [เยว (สี. สฺยา.)], พาวีสติ ปกาสิตาติ.
ทุกนิปาโต นิฏฺิโต.
๓. ติกนิปาโต
๑. ปมวคฺโค
๑. มูลสุตฺตํ
๕๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อกุสลมูลานิ. กตมานิ ตีณิ? โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อกุสลมูลานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โลโภ โทโส จ โมโห จ, ปุริสํ ปาปเจตสํ;
หึสนฺติ อตฺตสมฺภูตา, ตจสารํว สมฺผล’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. ธาตุสุตฺตํ
๕๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ธาตุโย. กตมา ติสฺโส? รูปธาตุ, อรูปธาตุ, นิโรธธาตุ – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส ธาตุโย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘รูปธาตุํ [รูปธาตุ (สพฺพตฺถ)] ปริฺาย, อรูเปสุ อสณฺิตา;
นิโรเธ ¶ เย วิมุจฺจนฺติ, เต ชนา มจฺจุหายิโน.
‘‘กาเยน ¶ อมตํ ธาตุํ, ผุสยิตฺวา [ผุสฺสยิตฺวา (สฺยา.), ผสฺสยิตฺวา (ปี.)] นิรูปธึ;
อุปธิปฺปฏินิสฺสคฺคํ, สจฺฉิกตฺวา อนาสโว;
เทเสติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อโสกํ วิรชํ ปท’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. ปมเวทนาสุตฺตํ
๕๒. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา. กตมา ติสฺโส? สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา –
อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส เวทนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สมาหิโต สมฺปชาโน, สโต พุทฺธสฺส สาวโก;
เวทนา จ ปชานาติ, เวทนานฺจ สมฺภวํ.
‘‘ยตฺถ เจตา นิรุชฺฌนฺติ, มคฺคฺจ ขยคามินํ;
เวทนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. ทุติยเวทนาสุตฺตํ
๕๓. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา ¶ , ภิกฺขเว, เวทนา. กตมา ติสฺโส? สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา. สุขา, ภิกฺขเว, เวทนา ทุกฺขโต ทฏฺพฺพา; ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต ทฏฺพฺพา; อทุกฺขมสุขา เวทนา อนิจฺจโต ทฏฺพฺพา. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สุขา เวทนา ทุกฺขโต ทิฏฺา โหติ, ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต ทิฏฺา โหติ, อทุกฺขมสุขา เวทนา อนิจฺจโต ทิฏฺา โหติ; อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อริโย สมฺมทฺทโส อจฺเฉจฺฉิ [อจฺเฉชฺชิ (สี. ปี.), อจฺฉิชฺชิ (ก.)], ตณฺหํ, วิวตฺตยิ ¶ [วาวตฺตยิ (สี. อฏฺ.)] สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท [ทกฺขิ (สี. ปี. ก.), อทกฺขิ (สฺยา.)], ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;
อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทกฺขิ นํ อนิจฺจโต.
‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ยโต ตตฺถ วิมุจฺจติ;
อภิฺาโวสิโต สนฺโต, ส เว โยคาติโค มุนี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ปมเอสนาสุตฺตํ
๕๔. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เอสนา. กตมา ติสฺโส? กาเมสนา, ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส เอสนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สมาหิโต สมฺปชาโน, สโต พุทฺธสฺส สาวโก;
เอสนา ¶ จ ปชานาติ, เอสนานฺจ สมฺภวํ.
‘‘ยตฺถ เจตา นิรุชฺฌนฺติ, มคฺคฺจ ขยคามินํ;
เอสนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยเอสนาสุตฺตํ
๕๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เอสนา. กตมา ติสฺโส? กาเมสนา, ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา ¶ – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส เอสนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กาเมสนา ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา สห;
อิติ สจฺจปรามาโส, ทิฏฺิฏฺานา สมุสฺสยา.
‘‘สพฺพราควิรตฺตสฺส, ตณฺหกฺขยวิมุตฺติโน;
เอสนา ¶ ปฏินิสฺสฏฺา, ทิฏฺิฏฺานา สมูหตา;
เอสนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิราโส อกถํกถี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. ปมอาสวสุตฺตํ
๕๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อาสวา. กตเม ตโย? กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโว – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อาสวา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สมาหิโต ¶ สมฺปชาโน, สโต พุทฺธสฺส สาวโก;
อาสเว จ ปชานาติ, อาสวานฺจ สมฺภวํ.
‘‘ยตฺถ ¶ เจตา นิรุชฺฌนฺติ, มคฺคฺจ ขยคามินํ;
อาสวานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. ทุติยอาสวสุตฺตํ
๕๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อาสวา. กตเม ตโย? กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโว – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อาสวา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยสฺส ¶ กามาสโว ขีโณ, อวิชฺชา ¶ จ วิราชิตา;
ภวาสโว ปริกฺขีโณ, วิปฺปมุตฺโต นิรูปธิ;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ [สวาหนนฺติ (พหูสุ)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. ตณฺหาสุตฺตํ
๕๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ตณฺหา. กตมา ติสฺโส? กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส ตณฺหา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ตณฺหาโยเคน สํยุตฺตา, รตฺตจิตฺตา ภวาภเว;
เต โยคยุตฺตา มารสฺส, อโยคกฺเขมิโน ชนา;
สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาตีมรณคามิโน.
‘‘เย จ ตณฺหํ ปหนฺตฺวาน, วีตตณฺหา [นิกฺกณฺหา จ (สี. ก.)] ภวาภเว;
เต เว [เต จ (สี. ปี. ก.)] ปารงฺคตา [ปารคตา (ก. สี. สฺยา.)] โลเก, เย ปตฺตา อาสวกฺขย’’นฺติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. มารเธยฺยสุตฺตํ
๕๙. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ¶ อติกฺกมฺม มารเธยฺยํ อาทิจฺโจว วิโรจติ. กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเสเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อติกฺกมฺม มารเธยฺยํ อาทิจฺโจว วิโรจตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สีลํ ¶ สมาธิ ปฺา จ, ยสฺส เอเต สุภาวิตา;
อติกฺกมฺม มารเธยฺยํ, อาทิจฺโจว วิโรจตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ปโม วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
มูลธาตุ อถ เวทนา ทุเว, เอสนา จ ทุเว อาสวา ทุเว;
ตณฺหาโต จ อถ [ตณฺหาโต อถ (สฺยา.)] มารเธยฺยโต, วคฺคมาหุ ปมนฺติ มุตฺตมนฺติ.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. ปฺุกิริยวตฺถุสุตฺตํ
๖๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปฺุกิริยวตฺถูนิ. กตมานิ ตีณิ? ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ – อิมานิ ¶ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปฺุกิริยวตฺถูนี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปฺุเมว ¶ โส สิกฺเขยฺย, อายตคฺคํ สุขุทฺรยํ;
ทานฺจ สมจริยฺจ, เมตฺตจิตฺตฺจ ภาวเย.
‘‘เอเต ธมฺเม ภาวยิตฺวา, ตโย สุขสมุทฺทเย;
อพฺยาปชฺฌํ สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. จกฺขุสุตฺตํ
๖๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, จกฺขูนิ. กตมานิ ตีณิ? มํสจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ, ปฺาจกฺขุ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ จกฺขูนี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘มํสจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ, ปฺาจกฺขุ อนุตฺตรํ;
เอตานิ ตีณิ จกฺขูนิ, อกฺขาสิ ปุริสุตฺตโม.
‘‘มํสจกฺขุสฺส อุปฺปาโท, มคฺโค ทิพฺพสฺส จกฺขุโน;
ยโต าณํ อุทปาทิ, ปฺาจกฺขุ อนุตฺตรํ;
ยสฺส ¶ จกฺขุสฺส ปฏิลาภา, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. อินฺทฺริยสุตฺตํ
๖๒. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณิ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ, อฺินฺทฺริยํ, อฺาตาวินฺทฺริยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อินฺทฺริยานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เสขสฺส สิกฺขมานสฺส, อุชุมคฺคานุสาริโน;
ขยสฺมึ ปมํ าณํ, ตโต อฺา อนนฺตรา.
‘‘ตโต ¶ อฺา วิมุตฺตสฺส, าณํ เว โหติ ตาทิโน;
อกุปฺปา เม วิมุตฺตีติ, ภวสํโยชนกฺขยา.
‘‘ส ¶ เว [สเจ (สี. สฺยา.)] อินฺทฺริยสมฺปนฺโน, สนฺโต สนฺติปเท รโต;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. อทฺธาสุตฺตํ
๖๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อทฺธา. กตเม ตโย? อตีโต อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อทฺธา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อกฺเขยฺยสฺิโน สตฺตา, อกฺเขยฺยสฺมึ ปติฏฺิตา;
อกฺเขยฺยํ ¶ อปริฺาย, โยคมายนฺติ มจฺจุโน.
‘‘อกฺเขยฺยฺจ ¶ ปริฺาย, อกฺขาตารํ น มฺติ;
ผุฏฺโ วิโมกฺโข มนสา, สนฺติปทมนุตฺตรํ.
‘‘ส เว [สเจ (ก.)] อกฺเขยฺยสมฺปนฺโน, สนฺโต สนฺติปเท รโต;
สงฺขายเสวี ธมฺมฏฺโ, สงฺขฺยํ โนเปติ เวทคู’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ทุจฺจริตสุตฺตํ
๖๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ทุจฺจริตานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายทุจฺจริตํ ¶ กตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;
มโนทุจฺจริตํ กตฺวา, ยฺจฺํ โทสสํหิตํ.
‘‘อกตฺวา ¶ ¶ กุสลํ กมฺมํ, กตฺวานากุสลํ พหุํ;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. สุจริตสุตฺตํ
๖๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สุจริตานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;
มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, ยฺจฺํ โทสสํหิตํ.
‘‘อกตฺวากุสลํ ¶ กมฺมํ, กตฺวาน กุสลํ พหุํ;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. โสเจยฺยสุตฺตํ
๖๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, โสเจยฺยานิ. กตมานิ ตีณิ? กายโสเจยฺยํ, วจีโสเจยฺยํ, มโนโสเจยฺยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ โสเจยฺยานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายสุจึ ¶ วจีสุจึ [วาจาสุจึ (ก.)], เจโตสุจิมนาสวํ;
สุจึ ¶ โสเจยฺยสมฺปนฺนํ, อาหุ สพฺพปฺปหายิน’’นฺติ [อาหุ นินฺหาตปาปกนฺติ (อ. นิ. ๓.๑๒๒) ยุตฺตตรํ].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. โมเนยฺยสุตฺตํ
๖๗. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, โมเนยฺยานิ. กตมานิ ตีณิ? กายโมเนยฺยํ, วจีโมเนยฺยํ, มโนโมเนยฺยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ โมเนยฺยานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายมุนึ วจีมุนึ, มโนมุนิมนาสวํ;
มุนึ โมเนยฺยสมฺปนฺนํ, อาหุ นินฺหาตปาปก’’นฺติ [อาหุ สพฺพปฺปหายินนฺติ (อ. นิ. ๓.๑๒๓)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. ปมราคสุตฺตํ
๖๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ราโค อปฺปหีโน, โทโส อปฺปหีโน, โมโห อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘พทฺโธ [พนฺโท (พหูสุ)] มารสฺส ปฏิมุกฺกสฺส มารปาโส ¶ ยถากามกรณีโย [ยถา กามกรณีโย จ (สี. สฺยา. ปี. ก.)] ปาปิมโต’. ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ราโค ปหีโน, โทโส ปหีโน, โมโห ปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘อพทฺโธ มารสฺส โอมุกฺกสฺส มารปาโส น ยถา กามกรณีโย [น ยถากามกรณีโย จ (สฺยา.)] ปาปิมโต’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยสฺส ¶ ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;
ตํ ภาวิตตฺตฺตรํ, พฺรหฺมภูตํ ตถาคตํ;
พุทฺธํ เวรภยาตีตํ, อาหุ สพฺพปฺปหายิน’’นฺติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. ทุติยราคสุตฺตํ
๖๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ราโค อปฺปหีโน, โทโส อปฺปหีโน, โมโห อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น ‘อตริ ¶ [อติณฺโณ (ก. สี. ก.)] สมุทฺทํ สอูมึ สวีจึ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ’. ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ราโค ปหีโน, โทโส ปหีโน, โมโห ปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘อตริ สมุทฺทํ สอูมึ สวีจึ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ, ติณฺโณ ปารงฺคโต [ปารคโต (สี. อฏฺ. สฺยา.)] ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยสฺส ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;
โสมํ สมุทฺทํ สคหํ สรกฺขสํ, สอูมิภยํ ทุตฺตรํ อจฺจตาริ.
‘‘สงฺคาติโค ¶ มจฺจุชโห นิรูปธิ, ปหาสิ ¶ ทุกฺขํ อปุนพฺภวาย;
อตฺถงฺคโต โส น ปมาณเมติ, อโมหยิ มจฺจุราชนฺติ พฺรูมี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ทุติโย วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปฺุํ จกฺขุ อถ อินฺทฺริยานิ [อตฺถินฺทฺริยา (สฺยา.)], อทฺธา จ จริตํ ทุเว โสจิ [สุจิ (สฺยา.)];
มุโน [มุเน (สฺยา.)] อถ ราคทุเว, ปุน วคฺคมาหุ ทุติยมุตฺตมนฺติ.
๓. ตติยวคฺโค
๑. มิจฺฉาทิฏฺิกสุตฺตํ
๗๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.
‘‘ตํ ¶ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, นาฺสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิ. ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อปิ จ, ภิกฺขเว, ยเทว สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทวาหํ วทามิ.
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา ¶ ¶ มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘มิจฺฉา มนํ ปณิธาย, มิจฺฉา วาจฺจ ภาสิย [มิจา วาจํ อภาสิย (สพฺพตฺถ)];
มิจฺฉา กมฺมานิ กตฺวาน, กาเยน อิธ ปุคฺคโล.
‘‘อปฺปสฺสุตาปฺุกโร [อปฺปสฺสุโตปฺุกโร (สี.), อปฺปสฺสุโต อปฺุกโร (สฺยา. ปี.)], อปฺปสฺมึ อิธ ชีวิเต;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. สมฺมาทิฏฺิกสุตฺตํ
๗๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน ¶ สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา.
‘‘ตํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, นาฺสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิ. ทิฏฺา มยา ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ ¶ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา. อปิ จ, ภิกฺขเว, ยเทว สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทวาหํ วทามิ.
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สมฺมา มนํ ปณิธาย, สมฺมา วาจฺจ ภาสิย [สมฺมา วาจํ อภาสิย (สพฺพตฺถ)];
สมฺมา กมฺมานิ กตฺวาน, กาเยน อิธ ปุคฺคโล.
‘‘พหุสฺสุโต ปฺุกโร, อปฺปสฺมึ อิธ ชีวิเต;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. นิสฺสรณิยสุตฺตํ
๗๒. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสรณิยา [นิสฺสารณียา (อ. นิ. ๕.๒๐๐)] ธาตุโย. กตมา ติสฺโส? กามานเมตํ นิสฺสรณํ ¶ ยทิทํ เนกฺขมฺมํ, รูปานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ อารุปฺปํ, ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ นิโรโธ ตสฺส นิสฺสรณํ – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส นิสฺสรณิยา ธาตุโย’’ติ. เอตมตฺถํ ¶ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กามนิสฺสรณํ ตฺวา, รูปานฺจ อติกฺกมํ;
สพฺพสงฺขารสมถํ, ผุสํ อาตาปิ สพฺพทา.
‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ยโต ตตฺถ วิมุจฺจติ;
อภิฺาโวสิโต สนฺโต, ส เว โยคาติโค มุนี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. สนฺตตรสุตฺตํ
๗๓. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ ¶ เม สุตํ –
‘‘รูเปหิ, ภิกฺขเว, อรูปา [อารุปฺปา (สี.)] สนฺตตรา, อรูเปหิ นิโรโธ สนฺตตโร’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เย จ รูปูปคา สตฺตา, เย จ อรูปฏฺายิโน [อารุปฺปฏฺายิโน (สี.)];
นิโรธํ อปฺปชานนฺตา, อาคนฺตาโร ปุนพฺภวํ.
‘‘เย จ รูเป ปริฺาย, อรูเปสุ อสณฺิตา;
นิโรเธ เย วิมุจฺจนฺติ, เต ชนา มจฺจุหายิโน.
‘‘กาเยน อมตํ ธาตุํ, ผุสยิตฺวา นิรูปธึ;
อุปธิปฺปฏินิสฺสคฺคํ, สจฺฉิกตฺวา อนาสโว;
เทเสติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อโสกํ วิรชํ ปท’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ปุตฺตสุตฺตํ
๗๔. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุตฺตา สนฺโต สํวิชฺชมานา ¶ โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อติชาโต, อนุชาโต, อวชาโตติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุตฺโต อติชาโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ น พุทฺธํ สรณํ คตา, น ธมฺมํ สรณํ คตา, น สงฺฆํ สรณํ คตา; ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา อปฺปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา อปฺปฏิวิรตา, มุสาวาทา อปฺปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรตา, ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. ปุตฺโต จ เนสํ โหติ พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโต; ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต, สีลวา กลฺยาณธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุตฺโต อติชาโต โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุตฺโต อนุชาโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ พุทฺธํ สรณํ คตา, ธมฺมํ สรณํ คตา, สงฺฆํ สรณํ คตา; ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา, มุสาวาทา ปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. ปุตฺโตปิ เนสํ โหติ พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโต; ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต, สีลวา กลฺยาณธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุตฺโต อนุชาโต โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุตฺโต อวชาโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ พุทฺธํ สรณํ คตา, ธมฺมํ สรณํ คตา, สงฺฆํ สรณํ คตา; ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา, มุสาวาทา ปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. ปุตฺโต จ เนสํ โหติ น พุทฺธํ สรณํ คโต, น ธมฺมํ สรณํ คโต, น สงฺฆํ สรณํ คโต; ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา อปฺปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ¶ อปฺปฏิวิรโต, มุสาวาทา อปฺปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรโต, ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุตฺโต อวชาโต ¶ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุตฺตา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อติชาตํ อนุชาตํ, ปุตฺตมิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา;
อวชาตํ น อิจฺฉนฺติ, โย โหติ กุลคนฺธโน.
‘‘เอเต โข ปุตฺตา โลกสฺมึ, เย ภวนฺติ อุปาสกา;
สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, วทฺู วีตมจฺฉรา;
จนฺโท อพฺภฆนา มุตฺโต, ปริสาสุ วิโรจเร’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. อวุฏฺิกสุตฺตํ
๗๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อวุฏฺิกสโม ¶ , ปเทสวสฺสี, สพฺพตฺถาภิวสฺสี.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อวุฏฺิกสโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺเพสฺเว น ทาตา โหติ, สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ [… วณิพฺพกยาจกานํ (สี.)] อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ ¶ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อวุฏฺิกสโม โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปเทสวสฺสี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เอกจฺจานํ ทาตา (โหติ) [( ) นตฺถิ สฺยามโปตฺถเก], เอกจฺจานํ น ทาตา โหติ สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปเทสวสฺสี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สพฺพตฺถาภิวสฺสี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺเพสํว เทติ, สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สพฺพตฺถาภิวสฺสี โหติ. อิเม ¶ โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘น สมเณ น พฺราหฺมเณ, น กปณทฺธิกวนิพฺพเก;
ลทฺธาน สํวิภาเชติ, อนฺนํ ¶ ปานฺจ โภชนํ;
ตํ เว อวุฏฺิกสโมติ, อาหุ นํ ปุริสาธมํ.
‘‘เอกจฺจานํ ¶ น ททาติ, เอกจฺจานํ ปเวจฺฉติ;
ตํ เว ปเทสวสฺสีติ, อาหุ เมธาวิโน ชนา.
‘‘สุภิกฺขวาโจ ปุริโส, สพฺพภูตานุกมฺปโก;
อาโมทมาโน ปกิเรติ, เทถ เทถาติ ภาสติ.
‘‘ยถาปิ เมโฆ ถนยิตฺวา, คชฺชยิตฺวา ปวสฺสติ;
ถลํ นินฺนฺจ ปูเรติ, อภิสนฺทนฺโตว [อภิสนฺเทนฺโตว (?)] วารินา.
‘‘เอวเมว ¶ อิเธกจฺโจ, ปุคฺคโล โหติ ตาทิโส;
ธมฺเมน สํหริตฺวาน, อุฏฺานาธิคตํ ธนํ;
ตปฺเปติ ¶ อนฺนปาเนน, สมฺมา ปตฺเต วนิพฺพเก’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. สุขปตฺถนาสุตฺตํ
๗๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ ปตฺถยมาโน สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต. กตมานิ ตีณิ? ปสํสา เม อาคจฺฉตูติ [อาคจฺฉนฺตูติ (สฺยา.)] สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต, โภคา เม อุปฺปชฺชนฺตูติ สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามีติ สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สุขานิ ปตฺถยมาโน สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สีลํ ¶ รกฺเขยฺย เมธาวี, ปตฺถยาโน ตโย สุเข;
ปสํสํ วิตฺตลาภฺจ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํ.
‘‘อกโรนฺโตปิ ¶ เจ ปาปํ, กโรนฺตมุปเสวติ;
สงฺกิโย โหติ ปาปสฺมึ, อวณฺโณ จสฺส รูหติ.
‘‘ยาทิสํ กุรุเต มิตฺตํ, ยาทิสํ จูปเสวติ;
ส ¶ เว ตาทิสโก โหติ, สหวาโส หิ [สหวาโสปิ (สี. ก.)] ตาทิโส.
‘‘เสวมาโน เสวมานํ, สมฺผุฏฺโ สมฺผุสํ ปรํ;
สโร ทิทฺโธ กลาปํว, อลิตฺตมุปลิมฺปติ;
อุปเลปภยา [อุปลิมฺปภยา (ก.)] ธีโร, เนว ปาปสขา สิยา.
‘‘ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน, โย นโร อุปนยฺหติ;
กุสาปิ ปูติ วายนฺติ, เอวํ พาลูปเสวนา.
‘‘ตครฺจ ปลาเสน, โย นโร อุปนยฺหติ;
ปตฺตาปิ สุรภิ วายนฺติ, เอวํ ธีรูปเสวนา.
‘‘ตสฺมา ¶ ปตฺตปุฏสฺเสว [ปลาสปุฏสฺเสว (ปี. ก.)], ตฺวา สมฺปากมตฺตโน;
อสนฺเต นุปเสเวยฺย, สนฺเต ¶ เสเวยฺย ปณฺฑิโต;
อสนฺโต นิรยํ เนนฺติ, สนฺโต ปาเปนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. ภิทุรสุตฺตํ
๗๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ภิทุรายํ [ภินฺทนฺตายํ (สฺยา. ปี. ก.)], ภิกฺขเว, กาโย, วิฺาณํ วิราคธมฺมํ, สพฺเพ อุปธี อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายฺจ ¶ ภิทุรํ [ภินฺทนฺตํ (สฺยา. ปี. ก.)] ตฺวา, วิฺาณฺจ วิราคุนํ [วิราคิกํ (ก. สี.), ปภงฺคุณํ (สฺยา.)];
อุปธีสุ ¶ ภยํ ทิสฺวา, ชาติมรณมจฺจคา;
สมฺปตฺวา ปรมํ สนฺตึ, กาลํ กงฺขติ ภาวิตตฺโต’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. ธาตุโสสํสนฺทนสุตฺตํ
๗๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ ¶ เม สุตํ –
‘‘ธาตุโส, ภิกฺขเว, สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ.
‘‘อตีตมฺปิ, ภิกฺขเว, อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทึสุ สมึสุ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทึสุ สมึสุ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทึสุ สมึสุ.
‘‘อนาคตมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทิสฺสนฺติ สเมสฺสนฺติ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทิสฺสนฺติ สเมสฺสนฺติ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทิสฺสนฺติ สเมสฺสนฺติ.
‘‘เอตรหิปิ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนํ อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สํสคฺคา วนโถ ชาโต, อสํสคฺเคน ฉิชฺชติ;
ปริตฺตํ ¶ ¶ ทารุมารุยฺห, ยถา สีเท มหณฺณเว.
‘‘เอวํ ¶ กุสีตมาคมฺม, สาธุชีวีปิ สีทติ;
ตสฺมา ตํ ปริวชฺเชยฺย, กุสีตํ หีนวีริยํ.
‘‘ปวิวิตฺเตหิ อริเยหิ, ปหิตตฺเตหิ ฌายิภิ;
นิจฺจํ อารทฺธวีริเยหิ, ปณฺฑิเตหิ สหาวเส’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. ปริหานสุตฺตํ
๗๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ กมฺมาราโม โหติ, กมฺมรโต, กมฺมารามตมนุยุตฺโต; ภสฺสาราโม โหติ, ภสฺสรโต, ภสฺสารามตมนุยุตฺโต; นิทฺทาราโม โหติ, นิทฺทารโต, นิทฺทารามตมนุยุตฺโต. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ น กมฺมาราโม โหติ, น กมฺมรโต, น กมฺมารามตมนุยุตฺโต; น ภสฺสาราโม โหติ, น ภสฺสรโต, น ภสฺสารามตมนุยุตฺโต; น นิทฺทาราโม โหติ, น นิทฺทารโต ¶ ¶ , น นิทฺทารามตมนุยุตฺโต. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กมฺมาราโม ภสฺสาราโม [ภสฺสรโต (สพฺพถ)], นิทฺทาราโม จ อุทฺธโต;
อภพฺโพ ¶ ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘ตสฺมา หิ อปฺปกิจฺจสฺส, อปฺปมิทฺโธ อนุทฺธโต;
ภพฺโพ โส ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ตติโย วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว ทิฏฺี นิสฺสรณํ รูปํ, ปุตฺโต อวุฏฺิเกน จ;
สุขา จ ภิทุโร [ภินฺทนา (สพฺพตฺถ)] ธาตุ, ปริหาเนน เต ทสาติ.
๔. จตุตฺถวคฺโค
๑. วิตกฺกสุตฺตํ
๘๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อกุสลวิตกฺกา. กตเม ตโย? อนวฺตฺติปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก, ลาภสกฺการสิโลกปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก, ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อกุสลวิตกฺกา’’ติ ¶ . เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อนวฺตฺติสํยุตฺโต, ลาภสกฺการคารโว;
สหนนฺที อมจฺเจหิ, อารา สํโยชนกฺขยา.
‘‘โย จ ปุตฺตปสุํ หิตฺวา, วิวาเห สํหรานิ [สงฺคหานิ (ก. สี. สฺยา. ปี.)] จ;
ภพฺโพ โส ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. สกฺการสุตฺตํ
๘๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทิฏฺา ¶ ¶ มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา อสกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน จ อสกฺกาเรน จ ตทุภเยน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ ¶ นิรยํ อุปปนฺนา.
‘‘ตํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, นาฺสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิ; ( ) [(ทิฏฺา มยา ภิกฺขเว สตฺตา สกฺกาเรน อภิภูตา. …เป… อสกฺกาเรน อภิภูตา …เป… สกฺกาเรน จ อสกฺกาเรน จ ตทุภเยน อภิภูตา ปริยาทินฺนจิตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.) (สฺยา.) ปุริมวคฺเค มิจฺฉาทิฏฺิกสมฺมาทิฏฺิกสุตฺเตหิ ปน สเมติ, อนฺวยพฺยติเรกวากฺยานํ ปน อนนฺตริตตฺตา ปาสํสตรา.)] อปิ จ, ภิกฺขเว, ยเทว เม สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเมวาหํ วทามิ.
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา อสกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ ¶ อุปปนฺนา.
‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน จ อสกฺกาเรน จ ตทุภเยน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยสฺส สกฺกริยมานสฺส, อสกฺกาเรน จูภยํ;
สมาธิ น วิกมฺปติ, อปฺปมาทวิหาริโน [อปฺปมาณวิหาริโน (สี. อฏฺ.)].
‘‘ตํ ¶ ฌายินํ สาตติกํ, สุขุมํ ทิฏฺิวิปสฺสกํ ¶ ;
อุปาทานกฺขยารามํ, อาหุ สปฺปุริโส อิตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. เทวสทฺทสุตฺตํ
๘๒. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, เทเวสุ เทวสทฺทา นิจฺฉรนฺติ สมยา สมยํ อุปาทาย. กตเม ตโย? ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย เจเตติ, ตสฺมึ สมเย [ตสฺมึ ภิกฺขเว สมเย (ปี. ก.)] เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ – ‘เอโส อริยสาวโก มาเรน สทฺธึ สงฺคามาย เจเตตี’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ สมยา สมยํ อุปาทาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย อริยสาวโก สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ, ตสฺมึ สมเย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ – ‘เอโส อริยสาวโก มาเรน สทฺธึ สงฺคาเมตี’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ สมยา สมยํ อุปาทาย.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย อริยสาวโก อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ, ตสฺมึ สมเย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ – ‘เอโส อริยสาวโก วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อภิวิชิย อชฺฌาวสตี’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ สมยา สมยํ อุปาทาย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย เทเวสุ เทวสทฺทา นิจฺฉรนฺติ สมยา สมยํ อุปาทายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ทิสฺวา ¶ วิชิตสงฺคามํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวกํ;
เทวตาปิ นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘‘นโม ¶ เต ปุริสาชฺ, โย ตฺวํ ทุชฺชยมชฺฌภู;
เชตฺวาน มจฺจุโน เสนํ, วิโมกฺเขน อนาวรํ.
‘‘อิติ เหตํ นมสฺสนฺติ, เทวตา ปตฺตมานสํ;
ตฺหิ ตสฺส น ปสฺสนฺติ, เยน มจฺจุวสํ วเช’’ติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. ปฺจปุพฺพนิมิตฺตสุตฺตํ
๘๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ยทา, ภิกฺขเว, เทโว เทวกายา จวนธมฺโม โหติ, ปฺจสฺส ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปาตุภวนฺติ – มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, สเก เทโว เทวาสเน นาภิรมตีติ. ตเมนํ, ภิกฺขเว, เทวา ‘จวนธมฺโม อยํ เทวปุตฺโต’ติ อิติ วิทิตฺวา ตีหิ วาจาหิ อนุโมเทนฺติ [อนุโมทนฺติ (สี. สฺยา. ปี.)] – ‘อิโต, โภ, สุคตึ คจฺฉ, สุคตึ คนฺตฺวา ¶ สุลทฺธลาภํ ลภ, สุลทฺธลาภํ ลภิตฺวา สุปฺปติฏฺิโต ภวาหี’’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กินฺนุ โข, ภนฺเต, เทวานํ สุคติคมนสงฺขาตํ; กิฺจ, ภนฺเต, เทวานํ สุลทฺธลาภสงฺขาตํ ¶ ; กึ ปน, ภนฺเต, เทวานํ สุปฺปติฏฺิตสงฺขาต’’นฺติ?
‘‘มนุสฺสตฺตํ โข, ภิกฺขุ [ภิกฺขเว (สฺยา. ปี.)], เทวานํ สุคติคมนสงฺขาตํ; ยํ มนุสฺสภูโต สมาโน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย สทฺธํ ปฏิลภติ. อิทํ โข, ภิกฺขุ [ภิกฺขเว (สฺยา. ปี.)], เทวานํ สุลทฺธลาภสงฺขาตํ; สา โข ปนสฺส สทฺธา นิวิฏฺา โหติ มูลชาตา ปติฏฺิตา ทฬฺหา อสํหาริยา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. อิทํ โข, ภิกฺขุ [ภิกฺขเว (สฺยา. ปี.)], เทวานํ สุปฺปติฏฺิตสงฺขาต’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยทา เทโว เทวกายา, จวติ อายุสงฺขยา;
ตโย สทฺทา นิจฺฉรนฺติ, เทวานํ อนุโมทตํ.
‘‘‘อิโต ¶ โภ สุคตึ คจฺฉ, มนุสฺสานํ สหพฺยตํ;
มนุสฺสภูโต สทฺธมฺเม, ลภ สทฺธํ อนุตฺตรํ.
‘‘‘สา เต สทฺธา นิวิฏฺสฺส, มูลชาตา ปติฏฺิตา;
ยาวชีวํ ¶ อสํหีรา, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต.
‘‘‘กายทุจฺจริตํ ¶ หิตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;
มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, ยฺจฺํ โทสสฺหิตํ.
‘‘‘กาเยน กุสลํ กตฺวา, วาจาย กุสลํ พหุํ;
มนสา กุสลํ กตฺวา, อปฺปมาณํ นิรูปธึ.
‘‘‘ตโต โอปธิกํ ปฺุํ, กตฺวา ทาเนน ตํ พหุํ;
อฺเปิ มจฺเจ สทฺธมฺเม, พฺรหฺมจริเย นิเวสย’ [นิเวสเย (สี. สฺยา.)].
‘‘อิมาย อนุกมฺปาย, เทวา เทวํ ยทา วิทู;
จวนฺตํ ¶ อนุโมเทนฺติ, เอหิ เทว ปุนปฺปุน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. พหุชนหิตสุตฺตํ
๘๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ¶ ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปุคฺคโล โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว สตฺถุ [สตฺถุโน (สฺยา.)] สาวโก อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน ¶ สมฺมทฺา วิมุตฺโต. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุคฺคโล โลเก อุปฺปชฺชมาโน ¶ อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว สตฺถุ สาวโก เสโข โหติ ปาฏิปโท พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน. โสปิ [โส (?)] ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ ¶ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ปุคฺคโล โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สตฺถา หิ โลเก ปโม มเหสิ, ตสฺสนฺวโย สาวโก ภาวิตตฺโต;
อถาปโร ¶ ปาฏิปโทปิ เสโข, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน.
‘‘เอเต ตโย เทวมนุสฺสเสฏฺา, ปภงฺกรา ธมฺมมุทีรยนฺตา;
อปาปุรนฺติ [อปาปุเรนฺติ (ก.)] อมตสฺส ทฺวารํ, โยคา ปโมเจนฺติ [ยาคา ปมุจฺจนฺติ (สี.), โยคา โมจนฺติ (สฺยา.)] หุชฺชนํ เต.
‘‘เย สตฺถวาเหน อนุตฺตเรน, สุเทสิตํ มคฺคมนุกฺกมนฺติ [มคฺคมนุคฺคมนฺติ (สี. ก.)];
อิเธว ทุกฺขสฺส กโรนฺติ อนฺตํ, เย อปฺปมตฺตา สุคตสฺส สาสเน’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. อสุภานุปสฺสีสุตฺตํ
๘๕. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อสุภานุปสฺสี, ภิกฺขเว, กายสฺมึ วิหรถ; อานาปานสฺสติ จ โว อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิตา โหตุ; สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโน ¶ วิหรถ. อสุภานุปสฺสีนํ, ภิกฺขเว, กายสฺมึ วิหรตํ โย สุภาย ธาตุยา ราคานุสโย โส ปหียติ [ปหิยฺยติ (ก.)]. อานาปานสฺสติยา อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิติตาย เย พาหิรา ¶ วิตกฺกาสยา วิฆาตปกฺขิกา, เต น โหนฺติ. สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสีนํ ¶ วิหรตํ ยา อวิชฺชา สา ปหียติ, ยา วิชฺชา สา อุปฺปชฺชตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อสุภานุปสฺสี กายสฺมึ, อานาปาเน ปฏิสฺสโต;
สพฺพสงฺขารสมถํ, ปสฺสํ อาตาปิ สพฺพทา.
‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ยโต ตตฺถ วิมุจฺจติ;
อภิฺาโวสิโต สนฺโต, ส เว โยคาติโค มุนี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺนสุตฺตํ
๘๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อยมนุธมฺโม โหติ เวยฺยากรณาย – ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโนยนฺติ ภาสมาโน ธมฺมฺเว ภาสติ โน อธมฺมํ, วิตกฺกยมาโน วา ธมฺมวิตกฺกฺเว วิตกฺเกติ โน อธมฺมวิตกฺกํ, ตทุภยํ วา ปน อภินิเวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ธมฺมาราโม ¶ ธมฺมรโต, ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ;
ธมฺมํ อนุสฺสรํ ภิกฺขุ, สทฺธมฺมา น ปริหายติ.
‘‘จรํ วา ยทิ วา ติฏฺํ, นิสินฺโน อุท วา สยํ;
อชฺฌตฺตํ สมยํ จิตฺตํ, สนฺติเมวาธิคจฺฉตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. อนฺธกรณสุตฺตํ
๘๗. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม ¶ , ภิกฺขเว, อกุสลวิตกฺกา อนฺธกรณา อจกฺขุกรณา อฺาณกรณา ปฺานิโรธิกา วิฆาตปกฺขิกา อนิพฺพานสํวตฺตนิกา ¶ . กตเม ตโย? กามวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. พฺยาปาทวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. วิหึสาวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อกุสลวิตกฺกา อนฺธกรณา อจกฺขุกรณา อฺาณกรณา ปฺานิโรธิกา วิฆาตปกฺขิกา อนิพฺพานสํวตฺตนิกา.
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, กุสลวิตกฺกา อนนฺธกรณา จกฺขุกรณา าณกรณา ปฺาวุทฺธิกา อวิฆาตปกฺขิกา นิพฺพานสํวตฺตนิกา. กตเม ตโย? เนกฺขมฺมวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนนฺธกรโณ จกฺขุกรโณ าณกรโณ ปฺาวุทฺธิโก อวิฆาตปกฺขิโก นิพฺพานสํวตฺตนิโก. อพฺยาปาทวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนนฺธกรโณ จกฺขุกรโณ าณกรโณ ปฺาวุทฺธิโก อวิฆาตปกฺขิโก นิพฺพานสํวตฺตนิโก. อวิหึสาวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนนฺธกรโณ จกฺขุกรโณ าณกรโณ ปฺาวุทฺธิโก อวิฆาตปกฺขิโก ¶ นิพฺพานสํวตฺตนิโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย กุสลวิตกฺกา อนนฺธกรณา จกฺขุกรณา าณกรณา ปฺาวุทฺธิกา อวิฆาตปกฺขิกา นิพฺพานสํวตฺตนิกา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ตโย วิตกฺเก กุสเล วิตกฺกเย, ตโย ¶ ปน อกุสเล นิรากเร;
ส เว วิตกฺกานิ วิจาริตานิ, สเมติ วุฏฺีว รชํ สมูหตํ;
ส เว วิตกฺกูปสเมน เจตสา, อิเธว โส สนฺติปทํ สมชฺฌคา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. อนฺตรามลสุตฺตํ
๘๘. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อนฺตรามลา อนฺตราอมิตฺตา อนฺตราสปตฺตา อนฺตราวธกา อนฺตราปจฺจตฺถิกา. กตเม ตโย? โลโภ, ภิกฺขเว, อนฺตรามโล อนฺตราอมิตฺโต อนฺตราสปตฺโต ¶ อนฺตราวธโก อนฺตราปจฺจตฺถิโก. โทโส, ภิกฺขเว, อนฺตรามโล อนฺตราอมิตฺโต อนฺตราสปตฺโต อนฺตราวธโก อนฺตราปจฺจตฺถิโก. โมโห, ภิกฺขเว, อนฺตรามโล อนฺตราอมิตฺโต อนฺตราสปตฺโต อนฺตราวธโก อนฺตราปจฺจตฺถิโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อนฺตรามลา อนฺตราอมิตฺตา อนฺตราสปตฺตา อนฺตราวธกา อนฺตราปจฺจตฺถิกา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อนตฺถชนโน โลโภ, โลโภ จิตฺตปฺปโกปโน;
ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.
‘‘ลุทฺโธ ¶ อตฺถํ น ชานาติ, ลุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;
อนฺธตมํ [อนฺธํ ตมํ (สี.)] ตทา โหติ, ยํ โลโภ สหเต นรํ.
‘‘โย จ โลภํ ปหนฺตฺวาน, โลภเนยฺเย น ลุพฺภติ;
โลโภ ปหียเต ตมฺหา, อุทพินฺทูว โปกฺขรา.
‘‘อนตฺถชนโน ¶ โทโส, โทโส จิตฺตปฺปโกปโน;
ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.
‘‘ทุฏฺโ อตฺถํ น ชานาติ, ทุฏฺโ ธมฺมํ น ปสฺสติ;
อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โทโส สหเต นรํ.
‘‘โย จ โทสํ ปหนฺตฺวาน, โทสเนยฺเย น ทุสฺสติ;
โทโส ปหียเต ตมฺหา, ตาลปกฺกํว พนฺธนา.
‘‘อนตฺถชนโน โมโห, โมโห จิตฺตปฺปโกปโน;
ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.
‘‘มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาติ, มูฬฺโห ธมฺมํ น ปสฺสติ;
อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โมโห สหเต นรํ.
‘‘โย ¶ ¶ ¶ จ โมหํ ปหนฺตฺวาน, โมหเนยฺเย น มุยฺหติ;
โมหํ วิหนฺติ โส สพฺพํ, อาทิจฺโจวุทยํ ตม’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. เทวทตฺตสุตฺตํ
๘๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. กตเมหิ ตีหิ? ปาปิจฺฉตาย, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. ปาปมิตฺตตาย, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. สติ โข ปน อุตฺตริกรณีเย [อุตฺตรึ กรณีเย (สฺยา.)] โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน [วิเสสาธิคเมน จ (สฺยา. ปี.)] อนฺตรา โวสานํ อาปาทิ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก ¶ กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘มา ชาตุ โกจิ โลกสฺมึ, ปาปิจฺโฉ อุทปชฺชถ;
ตทมินาปิ ชานาถ, ปาปิจฺฉานํ ยถา คติ.
‘‘ปณฺฑิโตติ ¶ สมฺาโต, ภาวิตตฺโตติ สมฺมโต;
ชลํว ยสสา อฏฺา, เทวทตฺโตติ วิสฺสุโต [เม สุตํ (ปาฬิยํ)].
‘‘โส ปมาณมนุจิณฺโณ [ปมาทมนุจิณฺโณ (ก. สี. สฺยา. ปี.), สมานมนุจิณฺโณ (อฏฺ.)], อาสชฺช นํ ตถาคตํ;
อวีจินิรยํ ปตฺโต, จตุทฺวารํ ภยานกํ.
‘‘อทุฏฺสฺส หิ โย ทุพฺเภ, ปาปกมฺมํ อกุพฺพโต;
ตเมว ปาปํ ผุสติ [ผุสฺเสติ (สฺยา.)], ทุฏฺจิตฺตํ อนาทรํ.
‘‘สมุทฺทํ วิสกุมฺเภน, โย มฺเยฺย ปทูสิตุํ;
น โส เตน ปทูเสยฺย, เภสฺมา หิ อุทธิ มหา.
‘‘เอวเมว ¶ ¶ [เอวเมตํ (สฺยา.)] ตถาคตํ, โย วาเทน วิหึสติ;
สมฺมคฺคตํ ¶ [สมคฺคตํ (สี. ก.)] สนฺตจิตฺตํ, วาโท ตมฺหิ น รูหติ.
‘‘ตาทิสํ มิตฺตํ กุพฺเพถ, ตฺจ เสเวยฺย ปณฺฑิโต;
ยสฺส มคฺคานุโค ภิกฺขุ, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
จตุตฺโถ วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
วิตกฺกาสกฺการสทฺท, จวนโลเก อสุภํ;
ธมฺมอนฺธการมลํ, เทวทตฺเตน เต ทสาติ.
๕. ปฺจมวคฺโค
๑. อคฺคปฺปสาทสุตฺตํ
๙๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อคฺคปฺปสาทา. กตเม ตโย? ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา [พหุปทา (ก.)] วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺินาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ . เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.
‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย อาลยสมุคฺฆาโต วฏฺฏุปจฺเฉโท ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. เย, ภิกฺขเว, วิราเค ธมฺเม ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.
‘‘ยาวตา ¶ , ภิกฺขเว, สงฺฆา วา คณา วา, ตถาคตสาวกสงฺโฆ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา ¶ เอส ¶ ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. เย, ภิกฺขเว, สงฺเฆ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อคฺคปฺปสาทา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อคฺคโต เว ปสนฺนานํ, อคฺคํ ธมฺมํ วิชานตํ;
อคฺเค พุทฺเธ ปสนฺนานํ, ทกฺขิเณยฺเย อนุตฺตเร.
‘‘อคฺเค ธมฺเม ปสนฺนานํ, วิราคูปสเม สุเข;
อคฺเค สงฺเฆ ปสนฺนานํ, ปฺุกฺเขตฺเต อนุตฺตเร.
‘‘อคฺคสฺมึ ¶ ทานํ ททตํ, อคฺคํ ปฺุํ ปวฑฺฒติ;
อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ, ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ.
‘‘อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี, อคฺคธมฺมสมาหิโต;
เทวภูโต มนุสฺโส วา, อคฺคปฺปตฺโต ปโมทตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. ชีวิกสุตฺตํ
๙๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺยํ. อภิสาโปยํ [อภิสาปายํ (สี.), อภิลาปายํ (สฺยา. ปี.), อภิสปายํ (ก.)], ภิกฺขเว, โลกสฺมึ – ‘ปิณฺโฑโล วิจรสิ ปตฺตปาณี’ติ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตา อุเปนฺติ อตฺถวสิกา, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ; เนว ราชาภินีตา, น โจราภินีตา, น อิณฏฺฏา, น ภยฏฺฏา, น อาชีวิกาปกตา. อปิ จ โข ‘โอติณฺณมฺหา ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ ทุกฺโขติณฺณา ทุกฺขปเรตา ¶ , อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ. เอวํ ปพฺพชิโต จายํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต โส ¶ จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค, พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป, มุฏฺสฺสติ ¶ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ฉวาลาตํ อุภโตปทิตฺตํ มชฺเฌ คูถคตํ เนว คาเม กฏฺตฺถํ ผรติ ¶ น อรฺเः ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ คิหิโภคา ปริหีโน สามฺตฺถฺจ น ปริปูเรตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘คิหิโภคา ปริหีโน, สามฺตฺถฺจ ทุพฺภโค;
ปริธํสมาโน ปกิเรติ, ฉวาลาตํว นสฺสติ.
‘‘กาสาวกณฺา พหโว, ปาปธมฺมา อสฺตา;
ปาปา ปาเปหิ กมฺเมหิ, นิรยํ เต อุปปชฺชเร.
‘‘เสยฺโย อโยคุโฬ ภุตฺโต, ตตฺโต อคฺคิสิขูปโม;
ยฺเจ ภฺุเชยฺย ทุสฺสีโล, รฏฺปิณฺฑมสฺโต’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. สงฺฆาฏิกณฺณสุตฺตํ
๙๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘สงฺฆาฏิกณฺเณ เจปิ, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ คเหตฺวา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺโธ อสฺส ปาเท ปาทํ นิกฺขิปนฺโต, โส จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย; อถ โข โส อารกาว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปสฺสติ. ธมฺมํ อปสฺสนฺโต ¶ น มํ ปสฺสติ [มํ น ปสฺสติ (สฺยา.)].
‘‘โยชนสเต เจปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย. โส จ โหติ อนภิชฺฌาลุ กาเมสุ น ติพฺพสาราโค อพฺยาปนฺนจิตฺโต อปทุฏฺมนสงฺกปฺโป อุปฏฺิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย; อถ โข โส สนฺติเกว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมํ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสติ; ธมฺมํ ปสฺสนฺโต มํ ปสฺสตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อนุพนฺโธปิ ¶ เจ อสฺส, มหิจฺโฉ จ วิฆาตวา;
เอชานุโค อเนชสฺส, นิพฺพุตสฺส อนิพฺพุโต;
คิทฺโธ โส วีตเคธสฺส, ปสฺส ยาวฺจ อารกา.
‘‘โย ¶ จ ธมฺมมภิฺาย, ธมฺมมฺาย ปณฺฑิโต;
รหโทว ¶ นิวาเต จ, อเนโช วูปสมฺมติ.
‘‘อเนโช โส อเนชสฺส, นิพฺพุตสฺส จ นิพฺพุโต;
อคิทฺโธ วีตเคธสฺส, ปสฺส ยาวฺจ สนฺติเก’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. อคฺคิสุตฺตํ
๙๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อคฺคี. กตเม ตโย? ราคคฺคิ, โทสคฺคิ, โมหคฺคิ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อคฺคี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ราคคฺคิ ทหติ มจฺเจ, รตฺเต กาเมสุ มุจฺฉิเต;
โทสคฺคิ ปน พฺยาปนฺเน, นเร ปาณาติปาติโน.
‘‘โมหคฺคิ ปน สมฺมูฬฺเห, อริยธมฺเม อโกวิเท;
เอเต อคฺคี อชานนฺตา, สกฺกายาภิรตา ปชา.
‘‘เต วฑฺฒยนฺติ นิรยํ, ติรจฺฉานฺจ โยนิโย;
อสุรํ ¶ ¶ เปตฺติวิสยํ, อมุตฺตา มารพนฺธนา.
‘‘เย จ รตฺตินฺทิวา ยุตฺตา, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน;
เต นิพฺพาเปนฺติ ราคคฺคึ, นิจฺจํ อสุภสฺิโน.
‘‘โทสคฺคึ ¶ ปน เมตฺตาย, นิพฺพาเปนฺติ นรุตฺตมา;
โมหคฺคึ ปน ปฺาย, ยายํ นิพฺเพธคามินี.
‘‘เต นิพฺพาเปตฺวา นิปกา, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา;
อเสสํ ปรินิพฺพนฺติ, อเสสํ ทุกฺขมจฺจคุํ.
‘‘อริยทฺทสา เวทคุโน, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;
ชาติกฺขยมภิฺาย, นาคจฺฉนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. อุปปริกฺขสุตฺตํ
๙๔. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย ¶ ยถา ยถาสฺส [ยถา ยถา (พหูสุ)] อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สตฺตสงฺคปฺปหีนสฺส, เนตฺติจฺฉินฺนสฺส ภิกฺขุโน;
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. กามูปปตฺติสุตฺตํ
๙๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, กามูปปตฺติโย [กามุปฺปตฺติโย (สี.)]. กตมา ติสฺโส? ปจฺจุปฏฺิตกามา, นิมฺมานรติโน ¶ , ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส กามูปปตฺติโย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปจฺจุปฏฺิตกามา จ, เย เทวา วสวตฺติโน;
นิมฺมานรติโน เทวา, เย จฺเ กามโภคิโน;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ ¶ , สํสารํ นาติวตฺตเร.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, กามโภเคสุ ปณฺฑิโต;
สพฺเพ ปริจฺจเช กาเม, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา.
‘‘ปิยรูปสาตคธิตํ ¶ , เฉตฺวา โสตํ ทุรจฺจยํ;
อเสสํ ปรินิพฺพนฺติ, อเสสํ ทุกฺขมจฺจคุํ.
‘‘อริยทฺทสา เวทคุโน, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;
ชาติกฺขยมภิฺาย, นาคจฺฉนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. กามโยคสุตฺตํ
๙๖. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘กามโยคยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภวโยคยุตฺโต อาคามี โหติ อาคนฺตา [อาคนฺตฺวา (สฺยา. ก.)] อิตฺถตฺตํ. กามโยควิสํยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภวโยคยุตฺโต อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. กามโยควิสํยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภวโยควิสํยุตฺโต อรหา โหติ, ขีณาสโว’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กามโยเคน สํยุตฺตา, ภวโยเคน จูภยํ;
สตฺตา ¶ คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาติมรณคามิโน.
‘‘เย จ กาเม ปหนฺตฺวาน, อปฺปตฺตา อาสวกฺขยํ;
ภวโยเคน สํยุตฺตา, อนาคามีติ วุจฺจเร.
‘‘เย ¶ จ โข ฉินฺนสํสยา, ขีณมานปุนพฺภวา;
เต เว ปารงฺคตา โลเก, เย ปตฺตา อาสวกฺขย’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
กลฺยาณสีลสุตฺตํ
๙๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘กลฺยาณสีโล, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณธมฺโม กลฺยาณปฺโ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจติ –
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ, อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหติ. อิติ กลฺยาณสีโล.
‘‘กลฺยาณธมฺโม ¶ จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณธมฺโม โหติ. อิติ กลฺยาณสีโล, กลฺยาณธมฺโม.
‘‘กลฺยาณปฺโ จ กถํ โหติ ¶ ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณปฺโ โหติ.
‘‘อิติ กลฺยาณสีโล กลฺยาณธมฺโม กลฺยาณปฺโ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยสฺส ¶ กาเยน วาจาย, มนสา นตฺถิ ทุกฺกฏํ;
ตํ เว กลฺยาณสีโลติ, อาหุ ภิกฺขุํ หิรีมนํ [หิรีมตํ (สฺยา. ก.)].
‘‘ยสฺส ธมฺมา สุภาวิตา, สตฺต [ปตฺต (สพฺพตฺถ)] สมฺโพธิคามิโน;
ตํ เว กลฺยาณธมฺโมติ, อาหุ ภิกฺขุํ อนุสฺสทํ.
‘‘โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยมตฺตโน;
ตํ เว กลฺยาณปฺโติ, อาหุ ภิกฺขุํ อนาสวํ.
‘‘เตหิ ธมฺเมหิ สมฺปนฺนํ, อนีฆํ ฉินฺนสํสยํ;
อสิตํ ¶ สพฺพโลกสฺส, อาหุ สพฺพปหายิน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. ทานสุตฺตํ
๙๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺเวมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ทานานิ – อามิสทานฺจ ธมฺมทานฺจ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทานานํ ยทิทํ – ธมฺมทานํ.
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สํวิภาคา – อามิสสํวิภาโค จ ธมฺมสํวิภาโค จ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สํวิภาคานํ ยทิทํ – ธมฺมสํวิภาโค.
‘‘ทฺเวเม ¶ , ภิกฺขเว, อนุคฺคหา – อามิสานุคฺคโห จ ธมฺมานุคฺคโห จ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ อนุคฺคหานํ ยทิทํ – ธมฺมานุคฺคโห’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยมาหุ ทานํ ปรมํ อนุตฺตรํ, ยํ สํวิภาคํ ภควา อวณฺณยิ [อวณฺณยี (สี.)];
อคฺคมฺหิ เขตฺตมฺหิ ปสนฺนจิตฺโต, วิฺู ปชานํ โก น ยเชถ กาเล.
‘‘เย ¶ เจว ภาสนฺติ สุณนฺติ จูภยํ, ปสนฺนจิตฺตา สุคตสฺส สาสเน;
เตสํ โส อตฺโถ ปรโม วิสุชฺฌติ, เย อปฺปมตฺตา สุคตสฺส สาสเน’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. เตวิชฺชสุตฺตํ
๙๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ธมฺเมนาหํ, ภิกฺขเว, เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ ปฺาเปมิ, นาฺํ ลปิตลาปนมตฺเตน.
‘‘กถฺจาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺเมน เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ ปฺาเปมิ, นาฺํ ลปิตลาปนมตฺเตน? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ ¶ – เอกมฺปิ ¶ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ. ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ ¶ . อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อยมสฺส ปมา วิชฺชา อธิคตา โหติ, อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา ¶ มโนสุจริเตน ¶ สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน ¶ อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อยมสฺส ทุติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ, อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยมสฺส ตติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ, อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. เอวํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ธมฺเมน เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ ปฺาเปมิ, นาฺํ ลปิตลาปนมตฺเตนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โยเวทิ [โยเวทิ (สพฺพตฺถ)], สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ;
อโถ [อถ (สฺยา. ก.)] ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺาโวสิโต มุนิ.
‘‘เอตาหิ ¶ ¶ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิชฺโช โหติ พฺราหฺมโณ;
ตมหํ วทามิ เตวิชฺชํ, นาฺํ ลปิตลาปน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ปฺจโม วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปสาท ชีวิต สงฺฆาฏิ ¶ , อคฺคิ อุปปริกฺขยา;
อุปปตฺติ [อุปฺปตฺติ (สี.)] กาม กลฺยาณํ, ทานํ ธมฺเมน เต ทสาติ.
ติกนิปาโต นิฏฺิโต.
๔. จตุกฺกนิปาโต
๑. พฺราหฺมณธมฺมยาคสุตฺตํ
๑๐๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค สทา ปยตปาณิ [ปยตปาณี (สี. สฺยา.)] อนฺติมเทหธโร อนุตฺตโร ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต. ตสฺส เม ตุมฺเห ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา ธมฺมชา ธมฺมนิมฺมิตา ธมฺมทายาทา, โน อามิสทายาทา.
‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, ทานานิ – อามิสทานฺจ ¶ ธมฺมทานฺจ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทานานํ ยทิทํ – ธมฺมทานํ.
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สํวิภาคา – อามิสสํวิภาโค จ ธมฺมสํวิภาโค จ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สํวิภาคานํ ยทิทํ – ธมฺมสํวิภาโค.
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนุคฺคหา – อามิสานุคฺคโห จ ธมฺมานุคฺคโห จ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ อนุคฺคหานํ ยทิทํ – ธมฺมานุคฺคโห.
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ยาคา – อามิสยาโค จ ธมฺมยาโค จ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ยาคานํ ยทิทํ – ธมฺมยาโค’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โย ¶ ธมฺมยาคํ อยชี อมจฺฉรี, ตถาคโต สพฺพภูตานุกมฺปี [สพฺพสตฺตานุกมฺปี (สฺยา.) อฏฺกถายมฺปิ];
ตํ ตาทิสํ เทวมนุสฺสเสฏฺํ, สตฺตา นมสฺสนฺติ ภวสฺส ปารคุ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. สุลภสุตฺตํ
๑๐๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อปฺปานิ เจว สุลภานิ จ, ตานิ จ อนวชฺชานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปํสุกูลํ, ภิกฺขเว, จีวรานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. ปิณฺฑิยาโลโป ¶ , ภิกฺขเว, โภชนานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. รุกฺขมูลํ, ภิกฺขเว ¶ , เสนาสนานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ, ตฺจ อนวชฺชํ. ปูติมุตฺตํ, ภิกฺขเว, เภสชฺชานํ อปฺปฺจ สุลภฺจ ตฺจ อนวชฺชํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อปฺปานิ เจว สุลภานิ จ, ตานิ จ อนวชฺชานิ. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺเปน จ ตุฏฺโ โหติ สุลเภน จ (อนวชฺเชน จ) [(…) นตฺถิ สี. ปี. ก. โปตฺถเกสุ จ องฺคุตฺตเร จ], อิมสฺสาหํ อฺตรํ สามฺงฺคนฺติ วทามี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อนวชฺเชน ตุฏฺสฺส, อปฺเปน สุลเภน จ;
น เสนาสนมารพฺภ, จีวรํ ปานโภชนํ;
วิฆาโต โหติ จิตฺตสฺส, ทิสา นปฺปฏิหฺติ.
‘‘เย จสฺส [เยปสฺส (สฺยา.)] ธมฺมา อกฺขาตา, สามฺสฺสานุโลมิกา;
อธิคฺคหิตา ตุฏฺสฺส, อปฺปมตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ [สิกฺขโตติ (สี. ก.)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. อาสวกฺขยสุตฺตํ
๑๐๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ชานโตหํ, ภิกฺขเว, ปสฺสโต อาสวานํ ขยํ วทามิ ¶ , โน อชานโต โน อปสฺสโต. กิฺจ, ภิกฺขเว, ชานโต, กึ ปสฺสโต อาสวานํ ขโย โหติ? อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต อาสวานํ ขโย ¶ โหติ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต อาสวานํ ขโย โหติ. อยํ ทุกฺขนิโรโธติ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต อาสวานํ ขโย โหติ. อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต อาสวานํ ขโย โหติ. เอวํ โข ¶ , ภิกฺขเว, ชานโต เอวํ ปสฺสโต อาสวานํ ขโย โหตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เสขสฺส สิกฺขมานสฺส, อุชุมคฺคานุสาริโน;
ขยสฺมึ ปมํ าณํ, ตโต อฺา อนนฺตรา.
‘‘ตโต ¶ อฺา วิมุตฺตสฺส, วิมุตฺติาณมุตฺตมํ;
อุปฺปชฺชติ ขเย าณํ, ขีณา สํโยชนา อิติ.
‘‘น ตฺเววิทํ กุสีเตน, พาเลนมวิชานตา;
นิพฺพานํ อธิคนฺตพฺพํ, สพฺพคนฺถปฺปโมจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. สมณพฺราหฺมณสุตฺตํ
๑๐๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา ¶ วา ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ; ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ – น เม เต, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมเณสุ วา สมณสมฺมตา พฺราหฺมเณสุ วา พฺราหฺมณสมฺมตา, น จ ปเนเต อายสฺมนฺโต สามฺตฺถํ วา พฺรหฺมฺตฺถํ วา ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ.
‘‘เย จ โข เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ; ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานนฺติ – เต โข เม, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมเณสุ เจว สมณสมฺมตา พฺราหฺมเณสุ จ พฺราหฺมณสมฺมตา, เต จ ปนายสฺมนฺโต สามฺตฺถฺจ พฺรหฺมฺตฺถฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เย ¶ ¶ ทุกฺขํ นปฺปชานนฺติ, อโถ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
ยตฺถ จ สพฺพโส ทุกฺขํ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;
ตฺจ มคฺคํ น ชานนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘เจโตวิมุตฺติหีนา เต, อโถ ปฺาวิมุตฺติยา;
อภพฺพา เต อนฺตกิริยาย, เต เว ชาติชรูปคา.
‘‘เย ¶ จ ทุกฺขํ ปชานนฺติ, อโถ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
ยตฺถ จ สพฺพโส ทุกฺขํ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;
ตฺจ มคฺคํ ปชานนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘เจโตวิมุตฺติสมฺปนฺนา, อโถ ปฺาวิมุตฺติยา;
ภพฺพา เต อนฺตกิริยาย, น เต ชาติชรูปคา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. สีลสมฺปนฺนสุตฺตํ
๑๐๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เย เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ¶ ปฺาสมฺปนฺนา วิมุตฺติสมฺปนฺนา วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนา โอวาทกา ¶ วิฺาปกา สนฺทสฺสกา สมาทปกา สมุตฺเตชกา สมฺปหํสกา อลํสมกฺขาตาโร สทฺธมฺมสฺส ทสฺสนมฺปหํ, ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ พหูปการํ วทามิ; สวนมฺปหํ, ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ พหูปการํ วทามิ; อุปสงฺกมนมฺปหํ, ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ พหูปการํ วทามิ; ปยิรุปาสนมฺปหํ, ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ พหูปการํ วทามิ; อนุสฺสรณมฺปหํ, ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ พหูปการํ วทามิ; อนุปพฺพชฺชมฺปหํ [อนุสฺสติมฺปหํ (สฺยา.)], ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ พหูปการํ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถารูเป, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต อปริปูโรปิ สีลกฺขนฺโธ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, อปริปูโรปิ สมาธิกฺขนฺโธ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, อปริปูโรปิ ¶ ปฺากฺขนฺโธ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, อปริปูโรปิ วิมุตฺติกฺขนฺโธ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, อปริปูโรปิ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺโธ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวรูปา จ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สตฺถาโรติปิ ¶ วุจฺจนฺติ, สตฺถวาหาติปิ วุจฺจนฺติ, รณฺชหาติปิ วุจฺจนฺติ, ตโมนุทาติปิ วุจฺจนฺติ, อาโลกกราติปิ วุจฺจนฺติ, โอภาสกราติปิ วุจฺจนฺติ, ปชฺโชตกราติปิ วุจฺจนฺติ, อุกฺกาธาราติปิ วุจฺจนฺติ, ปภงฺกราติปิ วุจฺจนฺติ, อริยาติปิ วุจฺจนฺติ, จกฺขุมนฺโตติปิ วุจฺจนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปาโมชฺชกรณํ ¶ านํ [… กรณานํ (สี. สฺยา.)], เอตํ โหติ วิชานตํ;
ยทิทํ ภาวิตตฺตานํ, อริยานํ ธมฺมชีวินํ.
‘‘เต โชตยนฺติ สทฺธมฺมํ, ภาสยนฺติ ปภงฺกรา;
อาโลกกรณา ¶ ธีรา, จกฺขุมนฺโต รณฺชหา.
‘‘เยสํ เว สาสนํ สุตฺวา, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;
ชาติกฺขยมภิฺาย ¶ , นาคจฺฉนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตํ
๑๐๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ตณฺหุปฺปาทา, ยตฺถ ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ. กตเม จตฺตาโร? จีวรเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; ปิณฺฑปาตเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; เสนาสนเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; อิติภวาภวเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ตณฺหุปฺปาทา ยตฺถ ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอตมาทีนวํ ¶ ตฺวา, ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. สพฺรหฺมกสุตฺตํ
๑๐๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘สพฺรหฺมกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สปุพฺพเทวตานิ ¶ , ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ¶ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สปุพฺพาจริยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ. สาหุเนยฺยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ ¶ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติ.
‘‘‘พฺรหฺมา’ติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ‘ปุพฺพเทวตา’ติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ‘ปุพฺพาจริยา’ติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ‘อาหุเนยฺยา’ติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ตํ กิสฺส เหตุ? พหุการา, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร ปุตฺตานํ อาปาทกา โปสกา อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร, ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร;
อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ, ปชาย อนุกมฺปกา.
‘‘ตสฺมา หิ เน นมสฺเสยฺย, สกฺกเรยฺย จ ปณฺฑิโต;
อนฺเนน ¶ อถ ปาเนน, วตฺเถน สยเนน จ;
อุจฺฉาทเนน นฺหาปเนน [นหาปเนน (สี.)], ปาทานํ โธวเนน จ.
‘‘ตาย นํ ปาริจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;
อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. พหุการสุตฺตํ
๑๐๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘พหุการา [พหูปการา (สี. ปี.)], ภิกฺขเว, พฺราหฺมณคหปติกา ตุมฺหากํ เย โว [เย เต (สพฺพตฺถ)] ปจฺจุปฏฺิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ. ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, พหุการา พฺราหฺมณคหปติกานํ ยํ [เย (?)] เนสํ ธมฺมํ เทเสถ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. เอวมิทํ, ภิกฺขเว, อฺมฺํ นิสฺสาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ โอฆสฺส นิตฺถรณตฺถาย สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สาคารา ¶ ¶ อนคารา จ, อุโภ อฺโฺนิสฺสิตา;
อาราธยนฺติ สทฺธมฺมํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.
‘‘สาคาเรสุ ¶ จ จีวรํ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนคารา ปฏิจฺฉนฺติ, ปริสฺสยวิโนทนํ.
‘‘สุคตํ [ปุคฺคลํ (สี. ก.)] ปน นิสฺสาย, คหฏฺา ฆรเมสิโน;
สทฺทหานา อรหตํ, อริยปฺาย ฌายิโน.
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, มคฺคํ สุคติคามินํ;
นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ, โมทนฺติ กามกามิโน’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. กุหสุตฺตํ
๑๐๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี อุนฺนฬา อสมาหิตา, น เม เต ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกา. อปคตา จ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมา ธมฺมวินยา; น จ เต [น จ เต ภิกฺขเว ภิกฺขู (สี. ปี. ก.)] อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ¶ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ. เย จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขู นิกฺกุหา นิลฺลปา ธีรา อตฺถทฺธา สุสมาหิตา, เต โข เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มามกา. อนปคตา จ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมา ธมฺมวินยา; เต จ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย [อิมสฺมึ จ เต ธมฺมวินเย (สฺยา.), เต ภิกฺขเว ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย (ก.)] วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี, อุนฺนฬา อสมาหิตา;
น เต ธมฺเม วิรูหนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต.
‘‘นิกฺกุหา นิลฺลปา ธีรา, อตฺถทฺธา สุสมาหิตา;
เต เว ธมฺเม วิรูหนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. นทีโสตสุตฺตํ
๑๐๙. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, ปุริโส นทิยา โสเตน ¶ โอวุยฺเหยฺย ปิยรูปสาตรูเปน. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส ตีเร ิโต ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘กิฺจาปิ โข ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, นทิยา โสเตน โอวุยฺหสิ ปิยรูปสาตรูเปน, อตฺถิ เจตฺถ เหฏฺา รหโท สอูมิ สาวฏฺโฏ สคโห สรกฺขโส ยํ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, รหทํ ปาปุณิตฺวา มรณํ วา นิคจฺฉสิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’นฺติ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, ปุริโส ตสฺส ปุริสสฺส สทฺทํ สุตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ ปฏิโสตํ วายเมยฺย.
‘‘อุปมา โข เม อยํ, ภิกฺขเว, กตา อตฺถสฺส วิฺาปนาย. อยํ เจตฺถ [อยํ เจเวตฺถ (สฺยา.)] อตฺโถ – ‘นทิยา โสโต’ติ โข, ภิกฺขเว, ตณฺหาเยตํ อธิวจนํ.
‘‘‘ปิยรูปํ สาตรูป’นฺติ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ.
‘‘‘เหฏฺา ¶ รหโท’ติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ อธิวจนํ;
‘‘‘อูมิภย’นฺติ โข [สีมีติ โข (พหูสุ)], ภิกฺขเว, โกธุปายาสสฺเสตํ อธิวจนํ;
‘‘‘อาวฏฺฏ’นฺติ โข [สาวฏฺโฏติ โข (พหูสุ)], ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ;
‘‘‘คหรกฺขโส’ติ โข [สคโห สรกฺขโสติ โข (พหูสุ)], ภิกฺขเว, มาตุคามสฺเสตํ อธิวจนํ;
‘‘‘ปฏิโสโต’ติ ¶ โข, ภิกฺขเว, เนกฺขมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ;
‘‘‘หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ วายาโม’ติ โข, ภิกฺขเว, วีริยารมฺภสฺเสตํ อธิวจนํ;
‘‘‘จกฺขุมา ปุริโส ตีเร ิโตติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สหาปิ ¶ ทุกฺเขน ชเหยฺย กาเม, โยคกฺเขมํ อายตึ ปตฺถยาโน;
สมฺมปฺปชาโน ¶ สุวิมุตฺตจิตฺโต, วิมุตฺติยา ผสฺสเย ตตฺถ ตตฺถ;
ส เวทคู วูสิตพฺรหฺมจริโย, โลกนฺตคู ปารคโตติ วุจฺจตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
๑๑. จรสุตฺตํ
๑๑๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิวาเสติ นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ [พฺยนฺติกโรติ (สี. ปี.), พฺยนฺตํ กโรติ (ก.)] อนภาวํ คเมติ. จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อนาตาปี อโนตฺตาปี ¶ [อโนตฺตปฺปี (สพฺพตฺถ) ทุกนิปาเต, องฺคุตฺตเร ๑.๔.๑๑ ปสฺสิตพฺพํ] สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโยติ วุจฺจติ.
‘‘ิตสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิวาเสติ นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ. ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโยติ วุจฺจติ.
‘‘นิสินฺนสฺส ¶ เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิวาเสติ นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ. นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโยติ วุจฺจติ.
‘‘สยานสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิวาเสติ ¶ นปฺปชหติ ¶ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ. สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต อนาตาปี อโนตฺตาปี สตตํ สมิตํ กุสีโต หีนวีริโยติ วุจฺจติ.
‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อาตาปี โอตฺตาปี [โอตฺตปฺปี (สพฺพตฺถ)] สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจติ.
‘‘ิตสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อาตาปี ¶ โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจติ.
‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจติ.
‘‘สยานสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก วา พฺยาปาทวิตกฺโก วา วิหึสาวิตกฺโก วา. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ. สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ ¶ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘จรํ ¶ วา ยทิ วา ติฏฺํ, นิสินฺโน อุท วา สยํ;
โย วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, ปาปกํ เคหนิสฺสิตํ.
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺโน [กุมฺมคฺคปฺปฏิปนฺโน (อ. นิ. ๔.๑๑)] โส, โมหเนยฺเยสุ มุจฺฉิโต;
อภพฺโพ ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘โย ¶ จ จรํ วา ติฏฺํ วา [โย จรํ วา ยทิ วา ติฏฺํ (สฺยา.), โย จรํ วาถ ติฏฺํ วา (สี. ก.)], นิสินฺโน อุท วา สยํ;
วิตกฺกํ สมยิตฺวาน, วิตกฺกูปสเม ¶ รโต;
ภพฺโพ โส ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. เอกาทสมํ.
๑๒. สมฺปนฺนสีลสุตฺตํ
๑๑๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถ [โหถ (สฺยา.)] สมฺปนฺนปาติโมกฺขา; ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน; สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสุ.
‘‘สมฺปนฺนสีลานํ โว, ภิกฺขเว, วิหรตํ [ภวตํ (สฺยา.)] สมฺปนฺนปาติโมกฺขานํ ปาติโมกฺขสํวรสํวุตานํ วิหรตํ อาจารโคจรสมฺปนฺนานํ อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีนํ สมาทาย สิกฺขตํ สิกฺขาปเทสุ กิมสฺส อุตฺตริ กรณียํ [กิมสฺส ภิกฺขเว อุตฺตริ กรณียํ (สพฺพตฺถ)]?
‘‘จรโต เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน [อภิชฺฌา พฺยาปาโท วิคโต (อ. นิ. ๔.๑๒) อฏฺกถาย สเมติ] ภิชฺฌา วิคตา [อภิชฺฌา พฺยาปาโท วิคโต (อ. นิ. ๔.๑๒) อฏกถาย สเมติ] โหติ, พฺยาปาโท วิคโต โหติ [ถินมิทฺธํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิจิกิจฺฉา (อ. นิ. ๔.๑๒)], ถินมิทฺธํ วิคตํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ¶ วิคตํ โหติ, วิจิกิจฺฉา [ถินมิทฺธํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิจิกิจฺจา (อ. นิ. ๔.๑๒)] ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา [อปฺปมุฏฺา (สฺยา.)], ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ ¶ . จรมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจติ.
‘‘ิตสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌา วิคตา โหติ พฺยาปาโท…เป… ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ ¶ วีริยํ อสลฺลีนํ ¶ , อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ. ิโตปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจติ.
‘‘นิสินฺนสฺส เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌา วิคตา โหติ, พฺยาปาโท…เป… ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ. นิสินฺโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํภูโต อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจติ.
‘‘สยานสฺส เจปิ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ชาครสฺส อภิชฺฌา วิคตา โหติ พฺยาปาโท…เป… ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ… วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ, อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ. สยาโนปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ชาคโร เอวํภูโต อาตาปี โอตฺตาปี สตตํ สมิตํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโตติ วุจฺจตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ยตํ ¶ จเร ยตํ ติฏฺเ, ยตํ อจฺเฉ ยตํ สเย;
ยตํ สมิฺชเย [สมฺมิฺชเย (สี. สฺยา.)] ภิกฺขุ, ยตเมนํ ปสารเย.
‘‘อุทฺธํ ติริยํ อปาจีนํ, ยาวตา ชคโต คติ;
สมเวกฺขิตา จ ธมฺมานํ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ.
‘‘เอวํ ¶ วิหาริมาตาปึ, สนฺตวุตฺติมนุทฺธตํ;
เจโตสมถสามีจึ, สิกฺขมานํ สทา สตํ;
สตตํ ปหิตตฺโตติ, อาหุ ภิกฺขุํ ตถาวิธ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทฺวาทสมํ.
๑๓. โลกสุตฺตํ
๑๑๒. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โลโก, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธः โลกสฺมา ตถาคโต วิสํยุตฺโต. โลกสมุทโย, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ ¶ ः โลกสมุทโย ตถาคตสฺส ปหีโน. โลกนิโรโธ, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธः โลกนิโรโธ ตถาคตสฺส สจฺฉิกโต. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธาः โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา ตถาคตสฺส ภาวิตา.
‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ยสฺมา ตํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ, ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจติ.
‘‘ยฺจ, ภิกฺขเว, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ ¶ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ โน อฺถา, ตสฺมา ตถาคโตติ ¶ วุจฺจติ.
‘‘ยถาวาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที, อิติ ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที, ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจติ.
‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สพฺพโลกํ [สพฺพํ โลกํ (อ. นิ. ๔.๒๓)] อภิฺาย, สพฺพโลเก ยถาตถํ;
สพฺพโลกวิสํยุตฺโต, สพฺพโลเก อนูปโย [อนุสโย (สี.), อนุปโย (สฺยา.)].
‘‘ส เว [สพฺเพ (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๔.๒๓ ปสฺสิตพฺพํ] สพฺพาภิภู ธีโร, สพฺพคนฺถปฺปโมจโน;
ผุฏฺาสฺส ปรมา สนฺติ, นิพฺพานํ อกุโตภยํ.
‘‘เอส ¶ ¶ ขีณาสโว พุทฺโธ, อนีโฆ ฉินฺนสํสโย;
สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโต, วิมุตฺโต อุปธิสงฺขเย.
‘‘เอส ¶ โส ภควา พุทฺโธ, เอส สีโห อนุตฺตโร;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺตยิ.
‘‘อิติ เทวา มนุสฺสา จ, เย พุทฺธํ สรณํ คตา;
สงฺคมฺม ตํ นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘‘ทนฺโต ทมยตํ เสฏฺโ, สนฺโต สมยตํ อิสิ;
มุตฺโต โมจยตํ อคฺโค, ติณฺโณ ตารยตํ วโร.
‘‘อิติ เหตํ นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ;
สเทวกสฺมึ ¶ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. เตรสมํ.
จตุกฺกนิปาโต นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
พฺราหฺมณสุลภา [พฺราหฺมณจตฺตาริ (สพฺพตฺถ)] ชานํ, สมณสีลา ตณฺหา พฺรหฺมา;
พหุการา กุหปุริสา [กุหนา (สฺยา.)], จร สมฺปนฺน โลเกน เตรสาติ.
สุตฺตสงฺคโห –
สตฺตวิเสกนิปาตํ, ทุกฺกํ พาวีสสุตฺตสงฺคหิตํ;
สมปฺาสมถติกํ, เตรส จตุกฺกฺจ อิติ ยมิทํ.
ทฺวิทสุตฺตรสุตฺตสเต, สงฺคายิตฺวา สมาทหึสุ ปุรา;
อรหนฺโต จิรฏฺิติยา, ตมาหุ นาเมน อิติวุตฺตนฺติ.
อิติวุตฺตกปาฬิ นิฏฺิตา.