📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
เปตวตฺถุปาฬิ
๑. อุรควคฺโค
๑. เขตฺตูปมเปตวตฺถุ
‘‘เขตฺตูปมา ¶ ¶ ¶ ¶ อรหนฺโต, ทายกา กสฺสกูปมา;
พีชูปมํ เทยฺยธมฺมํ, เอตฺโต นิพฺพตฺตเต ผลํ.
‘‘เอตํ พีชํ กสิ เขตฺตํ, เปตานํ ทายกสฺส จ;
ตํ เปตา ปริภฺุชนฺติ, ทาตา ปฺุเน วฑฺฒติ.
‘‘อิเธว ¶ กุสลํ กตฺวา, เปเต จ ปฏิปูชิย;
สคฺคฺจ กมติ [คมติ (ก.)] ฏฺานํ, กมฺมํ กตฺวาน ภทฺทก’’นฺติ.
เขตฺตูปมเปตวตฺถุ ปมํ.
๒. สูกรมุขเปตวตฺถุ
‘‘กาโย ¶ เต สพฺพโสวณฺโณ, สพฺพา โอภาสเต ทิสา;
มุขํ เต สูกรสฺเสว, กึ กมฺมมกรี ปุเร’’ [มกรา ปุเร (ก.)].
‘‘กาเยน สฺโต อาสึ, วาจายาสิมสฺโต;
เตน เมตาทิโส วณฺโณ, ยถา ปสฺสสิ นารท.
‘‘ตํ ¶ ตฺยาหํ [ตาหํ (ก.)] นารท พฺรูมิ, สามํ ทิฏฺมิทํ ตยา;
มากาสิ ¶ มุขสา ปาปํ, มา โข สูกรมุโข อหู’’ติ.
สูกรมุขเปตวตฺถุ ทุติยํ.
๓. ปูติมุขเปตวตฺถุ
‘‘ทิพฺพํ สุภํ ธาเรสิ วณฺณธาตุํ, เวหายสํ ติฏฺสิ อนฺตลิกฺเข;
มุขฺจ เต กิมโย ปูติคนฺธํ, ขาทนฺติ กึ กมฺมมกาสิ ปุพฺเพ’’.
‘‘สมโณ อหํ ปาโปติทุฏฺวาโจ [ปาโป ทุฏฺวาโจ (สี.), ปาโป ทุกฺขวาโจ (สฺยา. ปี.)], ตปสฺสิรูโป มุขสา อสฺโต;
ลทฺธา จ เม ตปสา วณฺณธาตุ, มุขฺจ เม เปสุณิเยน ปูติ.
‘‘ตยิทํ ตยา นารท สามํ ทิฏฺํ,
อนุกมฺปกา เย กุสลา วเทยฺยุํ;
‘มา เปสุณํ มา จ มุสา อภาณิ,
ยกฺโข ตุวํ โหหิสิ กามกามี’’’ติ.
ปูติมุขเปตวตฺถุ ตติยํ.
๔. ปิฏฺธีตลิกเปตวตฺถุ
‘‘ยํ ¶ ¶ กิฺจารมฺมณํ กตฺวา, ทชฺชา ทานํ อมจฺฉรี;
ปุพฺพเปเต จ อารพฺภ, อถ วา วตฺถุเทวตา.
‘‘จตฺตาโร จ มหาราเช, โลกปาเล ยสสฺสิเน [ยสสฺสิโน (สี. สฺยา.)];
กุเวรํ ธตรฏฺฺจ, วิรูปกฺขํ วิรูฬฺหกํ;
เต ¶ เจว ปูชิตา โหนฺติ, ทายกา จ อนิปฺผลา.
‘‘น ¶ หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จฺา ปริเทวนา;
น ตํ เปตสฺส อตฺถาย, เอวํ ติฏฺนฺติ าตโย.
‘‘อยฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺิตา;
ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, านโส อุปกปฺปตี’’ติ.
ปิฏฺธีตลิกเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุ
[ขุ. ปา. ๗.๑ ขุทฺทกปาเ] ‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ [ติโรกุฑฺเฑสุ (สี. สฺยา. ปี.)] ติฏฺนฺติ, สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จ;
ทฺวารพาหาสุ ติฏฺนฺติ, อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรํ.
‘‘ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, ขชฺชโภชฺเช อุปฏฺิเต;
น เตสํ โกจิ สรติ, สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา.
‘‘เอวํ ¶ ททนฺติ าตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
สุจึ ปณีตํ กาเลน, กปฺปิยํ ปานโภชนํ;
‘อิทํ โว าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
‘‘เต จ ตตฺถ สมาคนฺตฺวา, าติเปตา สมาคตา;
ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, สกฺกจฺจํ อนุโมทเร.
‘‘‘จิรํ ชีวนฺตุ โน าตี, เยสํ เหตุ ลภามเส;
อมฺหากฺจ กตา ปูชา, ทายกา จ อนิปฺผลา’.
‘‘‘น หิ ตตฺถ กสิ อตฺถิ, โครกฺเขตฺถ น วิชฺชติ;
วณิชฺชา ตาทิสี นตฺถิ, หิรฺเน กยากยํ [กโยกฺกยํ (สี. ก.) กโยกยํ (ขุ. ปา. ๗.๖)];
อิโต ¶ ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลคตา [กาลกตา (สี. สฺยา. ปี.)] ตหึ’.
‘‘‘อุนฺนเม ¶ อุทกํ วุฏฺํ, ยถา นินฺนํ ปวตฺตติ;
เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติ’.
‘‘‘ยถา วาริวหา ปูรา, ปริปูเรนฺติ สาครํ;
เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติ’.
‘‘‘อทาสิ ¶ เม อกาสิ เม, าติ มิตฺตา [าติ มิตฺโต (?)] สขา จ เม;
เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา, ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ’.
‘‘‘น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จฺา ปริเทวนา;
น ตํ เปตานมตฺถาย, เอวํ ติฏฺนฺติ าตโย’.
‘‘‘อยฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺิตา;
ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, านโส อุปกปฺปติ’.
‘‘โส าติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต, เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา;
พลฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนํ, ตุมฺเหหิ ปฺุํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติ.
ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. ปฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;
มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณา [มกฺขิกาปริกิณฺณา จ (สี.)], กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)] เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ ¶ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘กาเลน ปฺจ ปุตฺตานิ, สายํ ปฺจ ปุนาปเร;
วิชายิตฺวาน ขาทามิ, เตปิ นา โหนฺติ เม อลํ.
‘‘ปริฑยฺหติ ธูมายติ, ขุทาย [ขุทฺทาย (ก.)] หทยํ มม;
ปานียํ น ลเภ ปาตุํ, ปสฺส มํ พฺยสนํ คต’’นฺติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปุตฺตมํสานิ ขาทสี’’ติ.
‘‘สปตี [สปตฺตี (สี.)] เม คพฺภินี อาสิ, ตสฺสา ปาปํ อเจตยึ;
สาหํ ปทุฏฺมนสา, อกรึ คพฺภปาตนํ.
‘‘ตสฺสา ¶ ¶ ทฺเวมาสิโก คพฺโภ, โลหิตฺเว ปคฺฆริ;
ตทสฺสา มาตา กุปิตา, มยฺหํ าตี สมานยิ;
สปถฺจ มํ กาเรสิ, ปริภาสาปยี จ มํ.
‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทํ อภาสิสํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, สเจ ตํ ปกตํ มยา.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน [วิปากํ (สฺยา. ก.)], มุสาวาทสฺส จูภยํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, ปุพฺพโลหิตมกฺขิตา’’ติ.
ปฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ [ปฺจปุตฺตขาทเปตวตฺถุ (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ] ฉฏฺํ.
๗. สตฺตปุตฺตขาทเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;
มกฺขิกาหิ ¶ ปริกิณฺณา, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘กาเลน สตฺต ปุตฺตานิ, สายํ สตฺต ปุนาปเร;
วิชายิตฺวาน ขาทามิ, เตปิ นา โหนฺติ เม อลํ.
‘‘ปริฑยฺหติ ธูมายติ, ขุทาย หทยํ มม;
นิพฺพุตึ นาธิคจฺฉามิ, อคฺคิทฑฺฒาว อาตเป’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปุตฺตมํสานิ ขาทสี’’ติ.
‘‘อหู มยฺหํ ทุเว ปุตฺตา, อุโภ สมฺปตฺตโยพฺพนา;
สาหํ ปุตฺตพลูเปตา, สามิกํ อติมฺิสํ.
‘‘ตโต เม สามิโก กุทฺโธ, สปตฺตึ มยฺหมานยิ;
สา จ คพฺภํ อลภิตฺถ, ตสฺสา ปาปํ อเจตยึ.
‘‘สาหํ ¶ ปทุฏฺมนสา, อกรึ คพฺภปาตนํ;
ตสฺสา เตมาสิโก คพฺโภ, ปุพฺพโลหิตโก [ปุพฺพโลหิตโก (ก.)] ปติ.
‘‘ตทสฺสา มาตา กุปิตา, มยฺหํ าตี สมานยิ;
สปถฺจ มํ กาเรสิ, ปริภาสาปยี จ มํ.
‘‘สาหํ ¶ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทํ อภาสิสํ;
‘ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, สเจ ตํ ปกตํ มยา’.
‘‘ตสฺส ¶ กมฺมสฺส วิปาเกน, มุสาวาทสฺส จูภยํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, ปุพฺพโลหิตมกฺขิตา’’ติ.
สตฺตปุตฺตขาทเปติวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. โคณเปตวตฺถุ
‘‘กึ ¶ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, ลายิตฺวา หริตํ ติณํ;
ขาท ขาทาติ ลปสิ, คตสตฺตํ ชรคฺควํ.
‘‘น หิ อนฺเนน ปาเนน, มโต โคโณ สมุฏฺเห;
ตฺวํสิ พาโล จ [พาโลว (ก.)] ทุมฺเมโธ, ยถา ตฺโว ทุมฺมตี’’ติ.
‘‘อิเม ปาทา อิทํ สีสํ, อยํ กาโย สวาลธิ;
เนตฺตา ตเถว ติฏฺนฺติ, อยํ โคโณ สมุฏฺเห.
‘‘นายฺยกสฺส หตฺถปาทา, กาโย สีสฺจ ทิสฺสติ;
รุทํ มตฺติกถูปสฺมึ, นนุ ตฺวฺเว ทุมฺมตี’’ติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺหํ (พหูสุ)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปิตุโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณว’.
เอวํ ¶ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
วินิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, สุชาโต ปิตรํ ยถาติ.
โคณเปตวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. มหาเปสการเปติวตฺถุ
‘‘คูถฺจ ¶ ¶ ¶ มุตฺตํ รุหิรฺจ ปุพฺพํ, ปริภฺุชติ กิสฺส อยํ วิปาโก;
อยํ นุ กึ กมฺมมกาสิ นารี, ยา สพฺพทา โลหิตปุพฺพภกฺขา.
‘‘นวานิ วตฺถานิ สุภานิ เจว, มุทูนิ สุทฺธานิ จ โลมสานิ;
ทินฺนานิ มิสฺสา กิตกา [กิฏกา (ก.)] ภวนฺติ, อยํ นุ กึ กมฺมมกาสิ นารี’’ติ.
‘‘ภริยา มเมสา อหู ภทนฺเต, อทายิกา มจฺฉรินี กทริยา;
สา มํ ททนฺตํ สมณพฺราหฺมณานํ, อกฺโกสติ จ ปริภาสติ จ.
‘‘‘คูถฺจ มุตฺตํ รุหิรฺจ ปุพฺพํ, ปริภฺุช ตฺวํ อสุจึ สพฺพกาลํ;
เอตํ เต ปรโลกสฺมึ โหตุ, วตฺถา จ เต กิฏกสมา ภวนฺตุ’;
เอตาทิสํ ทุจฺจริตํ จริตฺวา, อิธาคตา จิรรตฺตาย ขาทตี’’ติ.
มหาเปสการเปติวตฺถุ นวมํ.
๑๐. ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ
‘‘กา ¶ ¶ นุ อนฺโตวิมานสฺมึ, ติฏฺนฺตี นูปนิกฺขมิ;
อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท, ปสฺสาม ตํ พหิฏฺิต’’นฺติ.
‘‘อฏฺฏียามิ ¶ หรายามิ, นคฺคา นิกฺขมิตุํ พหิ;
เกเสหมฺหิ ปฏิจฺฉนฺนา, ปฺุํ เม อปฺปกํ กต’’นฺติ.
‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิทํ ทุสฺสํ นิวาสย;
อิทํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ นิกฺขม โสภเน;
อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท, ปสฺสาม ตํ พหิฏฺิต’’นฺติ.
‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;
เอเสตฺถุปาสโก สทฺโธ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก.
‘‘เอตํ อจฺฉาทยิตฺวาน, มม ทกฺขิณมาทิส;
ตถาหํ [อถาหํ (สี.)] สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
ตฺจ เต นฺหาปยิตฺวาน, วิลิมฺเปตฺวาน วาณิชา;
วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสุํ.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ [สมนนฺตรา อนุทฺทิฏฺเ (สฺยา. ก.)], วิปาโก อุทปชฺชถ [อุปปชฺชถ (สี. สฺยา.)];
โภชนจฺฉาทนปานียํ [โภชนจฺฉาทนํ ปานียํ (สฺยา. ก.)], ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
หสนฺตี วิมานา นิกฺขมิ, ‘ทกฺขิณาย อิทํ ผล’’’นฺติ.
‘‘สุจิตฺตรูปํ รุจิรํ, วิมานํ เต ปภาสติ;
เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติ.
‘‘ภิกฺขุโน ¶ จรมานสฺส, โทณินิมฺมชฺชนึ อหํ;
อทาสึ อุชุภูตสฺส, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, วิปากํ ทีฆมนฺตรํ;
อนุโภมิ วิมานสฺมึ, ตฺจ ทานิ ปริตฺตกํ.
‘‘อุทฺธํ ¶ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา [กาลํกิริยา (ก.)] ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.
[ม. นิ. ๓.๒๕๐, ๒๖๗; อ. นิ. ๓.๓๖; เป. ว. ๒๔๐, ๖๙๓] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
‘‘ตสฺส ¶ อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.
‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลฺจ ปาปกมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุส’’นฺติ.
ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ ทสมํ.
๑๑. นาคเปตวตฺถุ
‘‘ปุรโตว ¶ [ปุรโต จ (สฺยา.)] เสเตน ปเลติ หตฺถินา, มชฺเฌ ปน อสฺสตรีรเถน;
ปจฺฉา จ กฺา สิวิกาย นียติ, โอภาสยนฺตี ทส สพฺพโต [สพฺพโต (ก.)] ทิสา.
‘‘ตุมฺเห ปน มุคฺครหตฺถปาณิโน, รุทํมุขา ฉินฺนปภินฺนคตฺตา;
มนุสฺสภูตา ¶ กิมกตฺถ ปาปํ, เยนฺมฺสฺส ปิวาถ โลหิต’’นฺติ.
‘‘ปุรโตว โย คจฺฉติ กฺุชเรน, เสเตน นาเคน จตุกฺกเมน;
อมฺหาก ปุตฺโต อหุ เชฏฺโก โส [โสว เชฏฺโ (ก.)], ทานานิ ทตฺวาน สุขี ปโมทติ.
‘‘โย ¶ โส มชฺเฌ อสฺสตรีรเถน, จตุพฺภิ ยุตฺเตน สุวคฺคิเตน;
อมฺหาก ปุตฺโต อหุ มชฺฌิโม โส, อมจฺฉรี ทานวตี วิโรจติ.
‘‘ยา สา จ ปจฺฉา สิวิกาย นียติ, นารี สปฺา มิคมนฺทโลจนา;
อมฺหาก ธีตา อหุ สา กนิฏฺิกา, ภาคฑฺฒภาเคน สุขี ปโมทติ.
‘‘เอเต ¶ จ ทานานิ อทํสุ ปุพฺเพ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ;
มยํ ปน มจฺฉริโน อหุมฺห, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;
เอเต จ ทตฺวา ปริจารยนฺติ, มยฺจ ¶ สุสฺสาม นโฬว ฉินฺโน’’ติ [ขิตฺโตติ (สี.)].
‘‘กึ ตุมฺหากํ โภชนํ กึ สยานํ, กถฺจ ยาเปถ สุปาปธมฺมิโน;
ปหูตโภเคสุ อนปฺปเกสุ, สุขํ วิราธาย [วิราคาย (สฺยา. ก.)] ทุกฺขชฺช ปตฺตา’’ติ.
‘‘อฺมฺํ วธิตฺวาน, ปิวาม ปุพฺพโลหิตํ;
พหุํ ปิตฺวา น ธาตา โหม, นจฺฉาทิมฺหเส [นรุจฺจาทิมฺหเส (ก.)] มยํ.
‘‘อิจฺเจว มจฺจา ปริเทวยนฺติ, อทายกา เปจฺจ [มจฺฉริโน (ก.)] ยมสฺส ายิโน;
เย เต วิทิจฺจ [วิทิตฺวา (สี.)] อธิคมฺม โภเค, น ภฺุชเร นาปิ กโรนฺติ ปฺุํ.
‘‘เต ¶ ขุปฺปิปาสูปคตา ปรตฺถ, ปจฺฉา [เปตา (สี.)] จิรํ ฌายเร ฑยฺหมานา;
กมฺมานิ กตฺวาน ทุขุทฺรานิ, อนุโภนฺติ ทุกฺขํ กฏุกปฺผลานิ.
‘‘อิตฺตรํ หิ ธนํ ธฺํ, อิตฺตรํ อิธ ชีวิตํ;
อิตฺตรํ อิตฺตรโต ตฺวา, ทีปํ กยิราถ ปณฺฑิโต.
‘‘เย เต เอวํ ปชานนฺติ, นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;
เต ทาเน นปฺปมชฺชนฺติ, สุตฺวา อรหตํ วโจ’’ติ.
นาคเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.
๑๒. อุรคเปตวตฺถุ
‘‘อุรโคว ¶ ¶ ¶ ตจํ ชิณฺณํ, หิตฺวา คจฺฉติ สนฺตนุํ;
เอวํ สรีเร นิพฺโภเค, เปเต กาลงฺกเต สติ.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘อนพฺภิโต [อนวฺหิโต (สี.)] ตโต อาคา, นานฺุาโต อิโต คโต;
ยถาคโต ตถา คโต, ตตฺถ กา [กา ตตฺถ (สี.)] ปริเทวนา.
‘‘ฑยฺหมาโน ¶ น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘สเจ โรเท กิสา อสฺสํ, ตตฺถ เม กึ ผลํ สิยา;
าติมิตฺตสุหชฺชานํ, ภิยฺโย โน อรตี สิยา.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘ยถาปิ ทารโก จนฺทํ, คจฺฉนฺตมนุโรทติ;
เอวํ สมฺปทเมเวตํ, โย เปตมนุโสจติ.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘ยถาปิ พฺรหฺเม อุทกุมฺโภ, ภินฺโน อปฺปฏิสนฺธิโย;
เอวํ สมฺปทเมเวตํ, โย เปตมนุโสจติ.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา ¶ เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คตี’’ติ.
อุรคเปตวตฺถุ ทฺวาทสมํ.
อุรควคฺโค ปโม นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
เขตฺตฺจ สูกรํ ปูติ, ปิฏฺํ จาปิ ติโรกุฏฺฏํ;
ปฺจาปิ ¶ สตฺตปุตฺตฺจ, โคณํ เปสการกฺจ;
ตถา ขลฺลาฏิยํ นาคํ, ทฺวาทสํ อุรคฺเจวาติ.
๒. อุพฺพริวคฺโค
๑. สํสารโมจกเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ¶ ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก [อุปฺปาสุฬิเก (ก.)] กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘อนุกมฺปกา มยฺหํ นาเหสุํ ภนฺเต, ปิตา จ มาตา อถวาปิ าตกา;
เย มํ นิโยเชยฺยุํ ททาหิ ทานํ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ.
‘‘อิโต อหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, ยํ เอวรูปา วิจรามิ นคฺคา;
ขุทาย ¶ ตณฺหาย จ ขชฺชมานา, ปาปสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทํ.
‘‘วนฺทามิ ตํ อยฺย ปสนฺนจิตฺตา, อนุกมฺป มํ วีร มหานุภาว;
ทตฺวา จ เม อาทิส ยํ หิ กิฺจิ, โมเจหิ มํ ทุคฺคติยา ภทนฺเต’’ติ.
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, สาริปุตฺโตนุกมฺปโก;
ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;
ถาลกสฺส จ ปานียํ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสิ.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต ¶ ¶ สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สาริปุตฺตํ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ¶ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ ¶ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘อุปฺปณฺฑุกึ กิสํ ฉาตํ, นคฺคํ สมฺปติตจฺฉวึ [อาปติตจฺฉวึ (สี.)];
มุนิ การุณิโก โลเก, ตํ มํ อทฺทกฺขิ ทุคฺคตํ.
‘‘ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;
ถาลกสฺส จ ปานียํ, มม ทกฺขิณมาทิสิ.
‘‘อาโลปสฺส ผลํ ปสฺส, ภตฺตํ วสฺสสตํ ทส;
ภฺุชามิ กามกามินี, อเนกรสพฺยฺชนํ.
‘‘ปาณิมตฺตสฺส โจฬสฺส, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;
ยาวตา นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมึ ปฏิจฺฉทา.
‘‘ตโต พหุตรา ภนฺเต, วตฺถานจฺฉาทนานิ เม;
โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขมกปฺปาสิกานิ จ.
‘‘วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร;
สาหํ ตํ ปริทหามิ, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํ.
‘‘ถาลกสฺส จ ปานียํ, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;
คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.
‘‘เสโตทกา สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฏิคนฺธิยา;
ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, วาริกิฺชกฺขปูริตา.
‘‘สาหํ ¶ รมามิ กีฬามิ, โมทามิ อกุโตภยา;
มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.
สํสารโมจกเปติวตฺถุ ปมํ.
๒. สาริปุตฺตตฺเถรมาตุเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสิ’’.
‘‘อหํ ¶ เต สกิยา มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.
‘‘ฉฑฺฑิตํ ¶ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;
วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.
‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;
ขุทาปเรตา ภฺุชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.
‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขามิ [ปุพฺพโลหิตภกฺขาสฺมิ (สี.)], ปสูนํ มานุสาน จ;
อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.
‘‘เทหิ ปุตฺตก เม ทานํ, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ เม;
อปฺเปว นาม มุจฺเจยฺยํ, ปุพฺพโลหิตโภชนา’’ติ.
มาตุยา วจนํ สุตฺวา, อุปติสฺโสนุกมฺปโก;
อามนฺตยิ โมคฺคลฺลานํ, อนุรุทฺธฺจ กปฺปินํ.
จตสฺโส กุฏิโย กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
กุฏิโย อนฺนปานฺจ, มาตุ ทกฺขิณมาทิสี.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนํ ปานียํ วตฺถํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, โกลิตํ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน ¶ ¶ วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘สาริปุตฺตสฺสาหํ มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.
‘‘ฉฑฺฑิตํ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;
วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.
‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;
ขุทาปเรตา ภฺุชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.
‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขิสฺสํ, ปสูนํ มานุสาน จ;
อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.
‘‘สาริปุตฺตสฺส ¶ ¶ ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.
สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุเปติวตฺถุ ทุติยํ.
๓. มตฺตาเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก ¶ กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘จณฺฑี ¶ ¶ จ ผรุสา จาสึ, อิสฺสุกี มจฺฉรี สา [สี (สี.)];
ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
สพฺพํ [สจฺจํ (ก.)] อหมฺปิ ชานามิ, ยถา ตฺวํ จณฺฑิกา อหุ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.
‘‘สีสํนฺหาตา ตุวํ อาสิ, สุจิวตฺถา อลงฺกตา;
อหฺจ โข [โข ตํ (สี. ก.)] อธิมตฺตํ, สมลงฺกตตรา ตยา.
‘‘ตสฺสา เม เปกฺขมานาย, สามิเกน สมนฺตยิ;
ตโต เม อิสฺสา วิปุลา, โกโธ เม สมชายถ.
‘‘ตโต ปํสุํ คเหตฺวาน, ปํสุนา ตํ หิ โอกิรึ [ตํ วิกีริหํ (สฺยา. ก.)];
ตสฺส ¶ กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ปํสุนา มํ ตฺวโมกิริ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกน ขชฺชสิ กจฺฉุยา’’ติ.
‘‘เภสชฺชหารี อุภโย, วนนฺตํ อคมิมฺหเส;
ตฺวฺจ เภสชฺชมาหริ, อหฺจ กปิกจฺฉุโน.
‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, เสยฺยํ ตฺยาหํ สโมกิรึ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตน ขชฺชามิ กจฺฉุยา’’ติ.
‘‘สจฺจํ ¶ อหมฺปิ ชานามิ, เสยฺยํ เม ตฺวํ สโมกิริ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ นคฺคิยา ตุว’’นฺติ.
‘‘สหายานํ สมโย อาสิ, าตีนํ สมิตี อหุ;
ตฺวฺจ อามนฺติตา อาสิ, สสามินี โน จ โข อหํ.
‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, ทุสฺสํ ตฺยาหํ อปานุทึ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ นคฺคิยา อห’’นฺติ.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ทุสฺสํ เม ตฺวํ อปานุทิ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ คูถคนฺธินี’’ติ.
‘‘ตว ¶ คนฺธฺจ มาลฺจ, ปจฺจคฺฆฺจ วิเลปนํ;
คูถกูเป อธาเรสึ [อธาเรสึ (ก.)], ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ คูถคนฺธินี’’ติ.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ทุคฺคตา ตุว’’นฺติ.
‘‘อุภินฺนํ สมกํ อาสิ, ยํ เคเห วิชฺชเต ธนํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ทุคฺคตา อหํ.
‘‘ตเทว ¶ มํ ตฺวํ อวจ, ‘ปาปกมฺมํ นิเสวสิ;
น หิ ปาเปหิ กมฺเมหิ, สุลภา โหติ สุคฺคตี’’’ติ.
‘‘วามโต มํ ตฺวํ ปจฺเจสิ, อโถปิ มํ อุสูยสิ;
ปสฺส ¶ ปาปานํ กมฺมานํ, วิปาโก โหติ ยาทิโส.
‘‘เต ฆรา ตา จ ทาสิโย [เต ฆรทาสิโย อาสุํ (สี. สฺยา.), เต ฆเร ทาสิโย เจว (ก.)], ตาเนวาภรณานิเม;
เต อฺเ ปริจาเรนฺติ, น โภคา โหนฺติ สสฺสตา.
‘‘อิทานิ ภูตสฺส ปิตา, อาปณา เคหเมหิติ;
อปฺเปว เต ทเท กิฺจิ, มา สุ ตาว อิโต อคา’’ติ.
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปามฺหิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
โกปีนเมตํ อิตฺถีนํ, มา มํ ภูตปิตาทฺทสา’’ติ.
‘‘หนฺท กึ วา ตฺยาหํ [กึ ตฺยาหํ (สี. สฺยา.), กึ วตาหํ (ก.)] ทมฺมิ, กึ วา เตธ [กึ วา จ เต (สี. สฺยา.), กึ วิธ เต (ก.)] กโรมหํ;
เยน ตฺวํ สุขิตา อสฺส, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
‘‘จตฺตาโร ¶ ภิกฺขู สงฺฆโต, จตฺตาโร ปน ปุคฺคลา;
อฏฺ ภิกฺขู โภชยิตฺวา, มม ทกฺขิณมาทิส;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
สาธูติ สา ปฏิสฺสุตฺวา, โภชยิตฺวาฏฺ ภิกฺขโว;
วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สปตฺตึ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ¶ ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
จีรํ ชีวาหิ ภคินิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
อโสกํ วิรชํ านํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.
‘‘อิธ ¶ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวาน โสภเน;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.
มตฺตาเปติวตฺถุ ตติยํ.
๔. นนฺทาเปติวตฺถุ
‘‘กาฬี ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ผรุสา ภีรุทสฺสนา;
ปิงฺคลาสิ กฬาราสิ, น ตํ มฺามิ มานุสิ’’นฺติ.
‘‘อหํ ¶ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ ¶ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘จณฺฑี จ ผรุสา จาสึ [จณฺฑี ผรุสวาจา จ (สี.)], ตยิ จาปิ อคารวา;
ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิมํ [อิทํ (สี. อฏฺ.)] ทุสฺสํ นิวาสย;
อิมํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ เนสฺสามิ ตํ ฆรํ.
‘‘วตฺถฺจ อนฺนปานฺจ, ลจฺฉสิ ตฺวํ ฆรํ คตา;
ปุตฺเต จ เต ปสฺสิสฺสสิ, สุณิสาโย จ ทกฺขสี’’ติ.
‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต.
‘‘ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, มม ทกฺขิณมาทิส;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, ทานํ วิปุลมากิริ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ฉตฺตํ คนฺธฺจ มาลฺจ, วิวิธา จ อุปาหนา.
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปตฺวา อนฺนปาเนน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต ¶ สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สามิกํ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ¶ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘อหํ ¶ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
จิรํ ชีว คหปติ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
อโสกํ วิรชํ เขมํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวา คหปติ;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.
นนฺทาเปติวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ
[วิ. ว. ๑๒๐๗] ‘‘อลงฺกโต ¶ มฏฺกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;
ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติ.
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ [โลหิตงฺคมยํ (สฺยา.), โลหิตงฺกมยํ (สี.), โลหมยํ (กตฺถจิ)] อถ รูปิยมยํ;
อาจิกฺข เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติ.
โส ¶ มาณโว ตสฺส ปาวทิ, ‘‘จนฺทสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;
โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.
‘‘พาโล โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;
มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย’’ติ.
‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;
เปโต กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.
‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;
จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺหํ (สฺยา. ก.)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.
‘‘เทวตา ¶ นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
‘‘ยฺจ กนฺทสิ ยฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;
สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.
‘‘อปฺปํ ¶ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;
อุโปสถกมฺมํ วา ตาทิสํ, เกน กมฺเมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติ.
‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;
พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขึ สุคตํ อโนมปฺํ.
‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อฺชลึ อกรึ ตถาคตสฺส;
ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ วต อพฺภุตํ วต, อฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;
อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติ.
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมาติ.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา ¶ วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ; สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ.
มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. กณฺหเปตวตฺถุ
‘‘อุฏฺเหิ ¶ กณฺห กึ เสสิ, โก อตฺโถ สุปเนน เต;
โย จ ตุยฺหํ สโก ภาตา, หทยํ จกฺขุ จ [จกฺขุํว (อฏฺ.)] ทกฺขิณํ;
ตสฺส วาตา พลียนฺติ, สสํ ชปฺปติ [ฆโฏ ชปฺปติ (ก.)] เกสวา’’ติ.
‘‘ตสฺส ¶ ตํ วจนํ สุตฺวา, โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;
ตรมานรูโป วุฏฺาสิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิโต.
‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;
สโส สโสติ ลปสิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสิ.
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยมยํ;
สงฺขสิลาปวาฬมยํ, การยิสฺสามิ เต สสํ.
‘‘สนฺติ อฺเปิ สสกา, อรฺวนโคจรา;
เตปิ เต อานยิสฺสามิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสี’’ติ.
‘‘นาหเมเต สเส อิจฺเฉ, เย สสา ปถวิสฺสิตา;
จนฺทโต สสมิจฺฉามิ, ตํ เม โอหร เกสวา’’ติ.
‘‘โส นูน มธุรํ าติ, ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;
อปตฺถิยํ ปตฺถยสิ, จนฺทโต สสมิจฺฉสี’’ติ.
‘‘เอวํ เจ กณฺห ชานาสิ, ยถฺมนุสาสสิ;
กสฺมา ¶ ปุเร มตํ ปุตฺตํ, อชฺชาปิ มนุโสจสิ.
‘‘น ยํ ลพฺภา มนุสฺเสน, อมนุสฺเสน วา ปน;
ชาโต เม มา มริ ปุตฺโต, กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํ.
‘‘น ¶ มนฺตา มูลเภสชฺชา, โอสเธหิ ธเนน วา;
สกฺกา อานยิตุํ กณฺห, ยํ เปตมนุโสจสิ.
‘‘มหทฺธนา ¶ มหาโภคา, รฏฺวนฺโตปิ ขตฺติยา;
ปหูตธนธฺาเส, เตปิ โน [นตฺเถตฺถปาเภโท] อชรามรา.
‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
เอเต จฺเ จ ชาติยา, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘เย มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;
เอเต จฺเ จ วิชฺชาย, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘อิสโย วาปิ [อิสโย จาปิ (วิมานวตฺถุ ๙๙)] เย สนฺตา, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;
สรีรํ เตปิ กาเลน, วิชหนฺติ ตปสฺสิโน.
‘‘ภาวิตตฺตา อรหนฺโต, กตกิจฺจา อนาสวา;
นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ, ปฺุปาปปริกฺขยา’’ติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี ¶ วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ ¶ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน ภาติก’’ [ภาสิตํ (สฺยา.)].
เอวํ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรํ.
ยสฺส เอตาทิสา โหนฺติ, อมจฺจา ปริจารกา;
สุภาสิเตน อนฺเวนฺติ, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรนฺติ.
กณฺหเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ
‘‘นคฺโค ¶ ¶ ทุพฺพณฺณรูโปสิ, กิโส ธมนิสนฺถโต;
อุปฺผาสุลิโก กิสิโก, โก นุ ตฺวมสิ มาริส’’.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.
‘‘นครํ อตฺถิ ปณฺณานํ [ทสนฺนานํ (สี. สฺยา. ปี.)], เอรกจฺฉนฺติ วิสฺสุตํ;
ตตฺถ เสฏฺิ ปุเร อาสึ, ธนปาโลติ มํ วิทู.
‘‘อสีติ สกฏวาหานํ, หิรฺสฺส อโหสิ เม;
ปหูตํ เม ชาตรูปํ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.
‘‘ตาว มหทฺธนสฺสาปิ, น เม ทาตุํ ปิยํ อหุ;
ปิทหิตฺวา ¶ ทฺวารํ ภฺุชึ [ภฺุชามิ (สี. สฺยา.)], มา มํ ยาจนกาทฺทสุํ.
‘‘อสฺสทฺโธ มจฺฉรี จาสึ, กทริโย ปริภาสโก;
ททนฺตานํ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุ ชเน [พหุชฺชนํ (สี. สฺยา.)].
‘‘วิปาโก ¶ นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;
โปกฺขรฺโทปานานิ, อารามานิ จ โรปิเต;
ปปาโย จ วินาเสสึ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ.
‘‘สฺวาหํ ¶ อกตกลฺยาโณ, กตปาโป ตโต จุโต;
อุปปนฺโน เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิโต.
‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกโต อหํ;
นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ.
‘‘โย สํยโม โส วินาโส,โย วินาโส โส สํยโม;
เปตา หิ กิร ชานนฺติ, โย สํยโม โส วินาโส.
‘‘อหํ ¶ ปุเร สํยมิสฺสํ, นาทาสึ พหุเก ธเน;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;
สฺวาหํ ปจฺฉานุตปฺปามิ, อตฺตกมฺมผลูปโค.
[เป. ว. ๖๙] ‘‘อุทฺธํ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.
[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส ¶ อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.
[เป. ว. ๗๒] ‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.
‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.
‘‘สเจ ตํ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;
น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ [ปมุตฺตตฺถิ (สพฺพตฺถ) อุทา. ๔๔ ปสฺสิตพฺพํ], อุปฺปจฺจาปิ [อุเปจฺจาปิ (สฺยา. ก.)] ปลายตํ.
‘‘มตฺเตยฺยา โหถ เปตฺเตยฺยา, กุเล เชฏฺาปจายิกา;
สามฺา โหถ พฺรหฺมฺา, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสถา’’ติ.
ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ
‘‘นคฺโค ¶ กิโส ปพฺพชิโตสิ ภนฺเต, รตฺตึ กุหึ คจฺฉสิ กิสฺส เหตุ;
อาจิกฺข เม ตํ อปิ สกฺกุเณมุ, สพฺเพน วิตฺตํ ปฏิปาทเย ตุว’’นฺติ.
‘‘พาราณสี ¶ ¶ ¶ นครํ ทูรฆุฏฺํ, ตตฺถาหํ คหปติ อฑฺฒโก อหุ ทีโน;
อทาตา เคธิตมโน อามิสสฺมึ, ทุสฺสีลฺเยน ยมวิสยมฺหิ ปตฺโต.
‘‘โส สูจิกาย กิลมิโต เตหิ,
เตเนว าตีสุ ยามิ อามิสกิฺจิกฺขเหตุ;
อทานสีลา น จ สทฺทหนฺติ,
ทานผลํ โหติ ปรมฺหิ โลเก.
‘‘ธีตา ¶ จ มยฺหํ ลปเต อภิกฺขณํ, ‘ทสฺสามิ ทานํ ปิตูนํ ปิตามหานํ’;
ตมุปกฺขฏํ ปริวิสยนฺติ พฺราหฺมณา [พฺราหฺมเณ (สี.)], ‘ยามิ อหํ อนฺธกวินฺทํ โภตฺตุ’’’นฺติ.
ตมโวจ ราชา ‘‘อนุภวิยาน ตมฺปิ,
เอยฺยาสิ ขิปฺปํ อหมปิ กสฺสํ ปูชํ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ,
สทฺธายิตํ เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.
‘ตถา’ติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ภฺุชึสุ ภตฺตํ น จ ทกฺขิณารหา;
ปจฺจาคมิ ¶ ราชคหํ ปุนาปรํ, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส.
ทิสฺวาน เปตํ ปุนเทว อาคตํ, ราชา อโวจ ‘‘อหมปิ กึ ททามิ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ, เยน ตุวํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.
‘‘พุทฺธฺจ สงฺฆํ ปริวิสิยาน ราช, อนฺเนน ปาเนน จ จีวเรน;
ตํ ทกฺขิณํ อาทิส เม หิตาย, เอวํ อหํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.
ตโต ¶ จ ราชา นิปติตฺวา ตาวเท [ตาวเทว (สฺยา.), ตเทว (ก.)], ทานํ สหตฺถา อตุลํ ททิตฺวา [อตุลฺจ ทตฺวา (สฺยา. ก.)] สงฺเฆ;
อาโรเจสิ ปกตํ [อาโรจยี ปกตึ (สี. สฺยา.)] ตถาคตสฺส, ตสฺส จ เปตสฺส ทกฺขิณํ อาทิสิตฺถ.
โส ปูชิโต อติวิย โสภมาโน, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส;
‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, น มยฺหมตฺถิ สมา สทิสา [มยฺหมิทฺธิสมสทิสา (สี. สฺยา.)] มานุสา.
‘‘ปสฺสานุภาวํ อปริมิตํ มมยิทํ, ตยานุทิฏฺํ ¶ อตุลํ ทตฺวา สงฺเฆ;
สนฺตปฺปิโต สตตํ สทา พหูหิ, ยามิ อหํ สุขิโต มนุสฺสเทวา’’ติ.
จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.
ภาณวารํ ปมํ นิฏฺิตํ.
๙. องฺกุรเปตวตฺถุ
‘‘ยสฺส ¶ ¶ อตฺถาย คจฺฉาม, กมฺโพชํ ธนหารกา;
อยํ กามทโท ยกฺโข, อิมํ ยกฺขํ นยามเส.
‘‘อิมํ ยกฺขํ คเหตฺวาน, สาธุเกน ปสยฺห วา;
ยานํ อาโรปยิตฺวาน, ขิปฺปํ คจฺฉาม ทฺวารก’’นฺติ.
[ชา. ๑.๑๐.๑๕๑; ๑.๑๔.๑๙๖; ๒.๑๘.๑๕๓; ๒.๒๒.๑๐] ‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
ขนฺธมฺปิ ตสฺส ฉินฺเทยฺย, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.
‘‘ยสฺส ¶ รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส ปตฺตํ ภินฺเทยฺย [หึเสยฺย (ก.)], มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
สมูลมฺปิ ตํ อพฺพุเห [อุพฺพเห (?)], อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.
‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, ยตฺถนฺนปานํ ปุริโส ลเภถ;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, กตฺุตา ¶ สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา.
‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโต สิยา;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, อทุพฺภปาณี ทหเต มิตฺตทุพฺภึ.
‘‘โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ, ปจฺฉา ปาเปน หึสติ;
อลฺลปาณิหโต [อทุพฺภิปาณีหโต (ก)] โปโส, น โส ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.
‘‘นาหํ เทเวน วา มนุสฺเสน วา, อิสฺสริเยน วาหํ สุปฺปสยฺโห;
ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, ทูรงฺคโม วณฺณพลูปปนฺโน’’ติ.
‘‘ปาณิ เต สพฺพโส วณฺโณ, ปฺจธาโร มธุสฺสโว;
นานารสา ปคฺฆรนฺติ, มฺเหํ ตํ ปุรินฺทท’’นฺติ.
‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;
เปตํ มํ องฺกุร ชานาหิ, โรรุวมฺหา [เหรุวมฺหา (สี.)] อิธาคต’’นฺติ.
‘‘กึสีโล ¶ ¶ กึสมาจาโร, โรรุวสฺมึ ปุเร ตุวํ;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.
‘‘ตุนฺนวาโย ปุเร อาสึ, โรรุวสฺมึ ตทา อหํ;
สุกิจฺฉวุตฺติ กปโณ, น เม วิชฺชติ ทาตเว.
‘‘นิเวสนฺจ ¶ ¶ [อาเวสนฺจ (สี.)] เม อาสิ, อสยฺหสฺส อุปนฺติเก;
สทฺธสฺส ทานปติโน, กตปฺุสฺส ลชฺชิโน.
‘‘ตตฺถ ยาจนกา ยนฺติ, นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;
เต จ มํ ตตฺถ ปุจฺฉนฺติ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.
‘‘กตฺถ คจฺฉาม ภทฺทํ โว, กตฺถ ทานํ ปทียติ;
เตสาหํ ปุฏฺโ อกฺขามิ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.
‘‘ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, เอตฺถ คจฺฉถ ภทฺทํ โว;
เอตฺถ ทานํ ปทียติ, อสยฺหสฺส นิเวสเน.
‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.
‘‘น กิร ตฺวํ อทา ทานํ, สกปาณีหิ กสฺสจิ;
ปรสฺส ทานํ อนุโมทมาโน, ปาณึ ปคฺคยฺห ปาวทิ.
‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เต พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.
‘‘โย ¶ โส ทานมทา ภนฺเต, ปสนฺโน สกปาณิภิ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, กึ นุ โส ทิสตํ คโต’’ติ.
‘‘นาหํ ปชานามิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺส คตึ อาคตึ วา;
สุตฺจ เม เวสฺสวณสฺส สนฺติเก, สกฺกสฺส สหพฺยตํ คโต อสยฺโห’’ติ.
‘‘อลเมว กาตุํ กลฺยาณํ, ทานํ ทาตุํ ยถารหํ;
ปาณึ กามททํ ทิสฺวา, โก ปฺุํ น กริสฺสติ.
‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.
‘‘เกน ¶ เต องฺคุลี กุณา [กุณฺา (สี. สฺยา.)], มุขฺจ กุณลีกตํ [กุณฺฑลีกตํ (สี. สฺยา. ก.)];
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, กึ ปาปํ ปกตํ ตยา’’ติ.
‘‘องฺคีรสสฺส ¶ คหปติโน, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;
ตสฺสาหํ ทานวิสฺสคฺเค, ทาเน อธิกโต อหุํ.
‘‘ตตฺถ ยาจนเก ทิสฺวา, อาคเต โภชนตฺถิเก;
เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม, อกาสึ กุณลึ มุขํ.
‘‘เตน ¶ เม องฺคุลี กุณา, มุขฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ เม ปคฺฆรนฺติ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา’’ติ.
‘‘ธมฺเมน ¶ เต กาปุริส, มุขฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, ยํ ตํ ปรสฺส ทานสฺส;
อกาสิ กุณลึ มุขํ.
‘‘กถํ หิ ทานํ ททมาโน, กเรยฺย ปรปตฺติยํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.
‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.
ตโต หิ โส นิวตฺติตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺปยิ องฺกุโร, ยํตุมสฺส [ยํ ตํ อสฺส (สฺยา.), ยนฺตมสฺส (ก.)] สุขาวหํ.
อทา อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘โก ฉาโต โก จ ตสิโต, โก วตฺถํ ปริทหิสฺสติ;
กสฺส สนฺตานิ โยคฺคานิ, อิโต โยเชนฺตุ วาหนํ.
‘‘โก ฉตฺติจฺฉติ คนฺธฺจ, โก มาลํ โก อุปาหนํ;
อิติสฺสุ ตตฺถ โฆเสนฺติ, กปฺปกา สูทมาคธา [ปาฏวา (ก.)];
สทา สายฺจ ปาโต จ, องฺกุรสฺส นิเวสเน.
‘‘‘สุขํ ¶ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;
ทุกฺขํ ¶ สุปามิ สินฺธก [สนฺทุก, สินฺธุก (ก.)], ยํ น ปสฺสามิ ยาจเก.
‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;
ทุกฺขํ สินฺธก สุปามิ, อปฺปเก สุ วนิพฺพเก’’ติ.
‘‘สกฺโก เจ เต วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;
กิสฺส สพฺพสฺส โลกสฺส, วรมาโน วรํ วเร’’ติ.
‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;
กาลุฏฺิตสฺส เม สโต, สุริยุคฺคมนํ ปติ;
ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, สีลวนฺโต จ ยาจกา.
‘‘ททโต ¶ ¶ เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;
ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, เอตํ สกฺกํ วรํ วเร’’ติ.
‘‘น สพฺพวิตฺตานิ ปเร ปเวจฺเฉ, ทเทยฺย ทานฺจ ธนฺจ รกฺเข;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, อติปฺปทาเนน กุลา น โหนฺติ.
‘‘อทานมติทานฺจ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, สเมน วตฺเตยฺย ส ธีรธมฺโม’’ติ.
‘‘อโห วต เร อหเมว ทชฺชํ, สนฺโต จ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;
เมโฆว ¶ นินฺนานิ ปริปูรยนฺโต [ภิปูรยนฺโต (สี.), หิ ปูรยนฺโต (สฺยา.)], สนฺตปฺปเย สพฺพวนิพฺพกานํ.
‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, ตํ ฆรํ วสโต สุขํ.
‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปฺุสฺส (สี.)] สมฺปทา.
[อ. นิ. ๖.๓๗] ‘‘ปุพฺเพว ¶ ทานา สุมโน, ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปฺุสฺส (สี.)] สมฺปทา’’ติ.
สฏฺิ วาหสหสฺสานิ, องฺกุรสฺส นิเวสเน;
โภชนํ ทียเต นิจฺจํ, ปฺุเปกฺขสฺส ชนฺตุโน.
ติสหสฺสานิ สูทานิ หิ [สูทานิ (สฺยา. ก.)], อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรํ อุปชีวนฺติ, ทาเน ยฺสฺส วาวฏา [พฺยาวฏา (สี.), ปาวฏา (สฺยา.)].
สฏฺิ ปุริสสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, กฏฺํ ผาเลนฺติ มาณวา.
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, วิธา ปิณฺเฑนฺติ นาริโย.
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, ทพฺพิคาหา อุปฏฺิตา.
พหุํ ¶ พหูนํ ปาทาสิ, จิรํ ปาทาสิ ขตฺติโย;
สกฺกจฺจฺจ สหตฺถา จ, จิตฺตีกตฺวา ปุนปฺปุนํ.
พหู มาเส จ ปกฺเข จ, อุตุสํวจฺฉรานิ จ;
มหาทานํ ปวตฺเตสิ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ.
เอวํ ¶ ¶ ทตฺวา ยชิตฺวา จ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.
กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, อนุรุทฺธสฺส อินฺทโก;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.
ทสหิ าเนหิ องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ;
รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.
อายุนา ยสสา เจว, วณฺเณน จ สุเขน จ;
อาธิปจฺเจน องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ.
ตาวตึเส ยทา พุทฺโธ, สิลายํ ปณฺฑุกมฺพเล;
ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ, วิหาสิ ปุริสุตฺตโม.
ทสสุ ¶ โลกธาตูสุ, สนฺนิปติตฺวาน เทวตา;
ปยิรุปาสนฺติ สมฺพุทฺธํ, วสนฺตํ นคมุทฺธนิ.
น โกจิ เทโว วณฺเณน, สมฺพุทฺธํ อติโรจติ;
สพฺเพ เทเว อติกฺกมฺม [อธิคยฺห (สี.), อติคฺคยฺห (ก)], สมฺพุทฺโธว วิโรจติ.
โยชนานิ ¶ ทส ทฺเว จ, องฺกุโรยํ ตทา อหุ;
อวิทูเรว พุทฺธสฺส [อวิทูเร สมฺพุทฺธสฺส (ก.)], อินฺทโก อติโรจติ.
โอโลเกตฺวาน สมฺพุทฺโธ, องฺกุรฺจาปิ อินฺทกํ;
ทกฺขิเณยฺยํ สมฺภาเวนฺโต [ปภาเวนฺโต (สี.)], อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘มหาทานํ ตยา ทินฺนํ, องฺกุร ทีฆมนฺตรํ;
อติทูเร [สุวิทูเร (ก.)] นิสินฺโนสิ, อาคจฺฉ มม สนฺติเก’’ติ.
โจทิโต ภาวิตตฺเตน, องฺกุโร อิทมพฺรวิ;
‘‘กึ มยฺหํ เตน ทาเนน, ทกฺขิเณยฺเยน สฺุตํ.
‘‘อยํ โส อินฺทโก ยกฺโข, ทชฺชา ทานํ ปริตฺตกํ;
อติโรจติ อมฺเหหิ, จนฺโท ตารคเณ ยถา’’ติ.
‘‘อุชฺชงฺคเล ยถา เขตฺเต, พีชํ พหุมฺปิ โรปิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ กสฺสกํ.
‘‘ตเถว ทานํ พหุกํ, ทุสฺสีเลสุ ปติฏฺิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ ทายกํ.
‘‘ยถาปิ ¶ ภทฺทเก เขตฺเต, พีชํ อปฺปมฺปิ โรปิตํ;
สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต, ผลํ โตเสติ กสฺสกํ.
‘‘ตเถว สีลวนฺเตสุ, คุณวนฺเตสุ ตาทิสุ;
อปฺปกมฺปิ กตํ การํ, ปฺุํ โหติ มหปฺผล’’นฺติ.
วิเจยฺย ¶ ¶ ทานํ ทาตพฺพํ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;
วิเจยฺย ทานํ ทตฺวาน, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา.
วิเจยฺย ¶ ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ, เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;
เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ, พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเตติ.
องฺกุรเปตวตฺถุ นวมํ.
๑๐. อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ
ทิวาวิหารคตํ ¶ ภิกฺขุํ, คงฺคาตีเร นิสินฺนกํ;
ตํ เปตี อุปสงฺกมฺม, ทุพฺพณฺณา ภีรุทสฺสนา.
เกสา จสฺสา อติทีฆา [อหู ทีฆา (ก.)], ยาวภูมาวลมฺพเร [ยาว ภูมฺยา’วลมฺพเร (?)];
เกเสหิ สา ปฏิจฺฉนฺนา, สมณํ เอตทพฺรวิ.
‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกตา อหํ;
นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ;
เทหิ ตฺวํ ปานิยํ ภนฺเต, ตสิตา ปานิยาย เม’’ติ.
‘‘อยํ สีโตทิกา คงฺคา, หิมวนฺตโต [หิมวนฺตาว (ก.)] สนฺทติ;
ปิว เอตฺโต คเหตฺวาน, กึ มํ ยาจสิ ปานิย’’นฺติ.
‘‘สจาหํ ภนฺเต คงฺคาย, สยํ คณฺหามิ ปานิยํ;
โลหิตํ เม ปริวตฺตติ, ตสฺมา ยาจามิ ปานิย’’นฺติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, คงฺคา เต โหติ โลหิต’’นฺติ.
‘‘ปุตฺโต เม อุตฺตโร นาม [ปุตฺโต เม ภนฺเต อุตฺตโร (ก.)], สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
โส ¶ จ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉติ.
‘‘จีวรํ ¶ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
ตมหํ ปริภาสามิ, มจฺเฉเรน อุปทฺทุตา.
‘‘ยํ ตฺวํ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;
จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ.
‘‘เอตํ ¶ เต ปรโลกสฺมึ, โลหิตํ โหตุ อุตฺตร;
ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, คงฺคา เม โหติ โลหิต’’นฺติ.
อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ ทสมํ.
๑๑. สุตฺตเปตวตฺถุ
‘‘อหํ ¶ ปุเร ปพฺพชิตสฺส ภิกฺขุโน, สุตฺตํ อทาสึ อุปสงฺกมฺม ยาจิตา;
ตสฺส วิปาโก วิปุลผลูปลพฺภติ, พหุกา จ เม อุปฺปชฺชเร [พหู จ เม อุปปชฺชเร (สี.)] วตฺถโกฏิโย.
‘‘ปุปฺผาภิกิณฺณํ รมิตํ [รมฺมมิทํ (ก.)] วิมานํ, อเนกจิตฺตํ นรนาริเสวิตํ;
สาหํ ภฺุชามิ จ ปารุปามิ จ, ปหูตวิตฺตา น จ ตาว ขียติ.
‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากมนฺวยา, สุขฺจ สาตฺจ อิธูปลพฺภติ;
สาหํ คนฺตฺวา ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ¶ ปฺุานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.
‘‘สตฺต ตุวํ วสฺสสตา อิธาคตา,
ชิณฺณา จ วุฑฺฒา จ ตหึ ภวิสฺสสิ;
สพฺเพว เต กาลกตา จ าตกา,
กึ ตตฺถ คนฺตฺวาน อิโต กริสฺสสี’’ติ.
‘‘สตฺเตว วสฺสานิ อิธาคตาย เม, ทิพฺพฺจ สุขฺจ สมปฺปิตาย;
สาหํ คนฺตฺวาน ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปฺุานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.
โส ¶ ตํ คเหตฺวาน ปสยฺห พาหายํ, ปจฺจานยิตฺวาน เถรึ สุทุพฺพลํ;
‘‘วชฺเชสิ อฺมฺปิ ชนํ อิธาคตํ, ‘กโรถ ปฺุานิ สุขูปลพฺภติ’’.
‘‘ทิฏฺา ¶ มยา อกเตน สาธุนา, เปตา วิหฺนฺติ ตเถว มนุสฺสา;
กมฺมฺจ กตฺวา สุขเวทนียํ, เทวา มนุสฺสา จ สุเข ิตา ปชา’’ติ.
สุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.
๑๒. กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ
‘‘โสณฺณโสปานผลกา ¶ ¶ , โสณฺณวาลุกสนฺถตา;
ตตฺถ โสคนฺธิยา วคฺคู, สุจิคนฺธา มโนรมา.
‘‘นานารุกฺเขหิ สฺฉนฺนา, นานาคนฺธสเมริตา;
นานาปทุมสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสโมตตา [สโมหตา (ก.)].
‘‘สุรภึ สมฺปวายนฺติ, มนฺุา มาลุเตริตา;
หํสโกฺจาภิรุทา จ, จกฺกวกฺกาภิกูชิตา.
‘‘นานาทิชคณากิณฺณา ¶ , นานาสรคณายุตา;
นานาผลธรา รุกฺขา, นานาปุปฺผธรา วนา.
‘‘น มนุสฺเสสุ อีทิสํ, นครํ ยาทิสํ อิทํ;
ปาสาทา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;
ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ [อาภนฺติ (ก.)], สมนฺตา จตุโร ทิสา.
‘‘ปฺจ ทาสิสตา ตุยฺหํ, ยา เตมา ปริจาริกา;
ตา [กา (ก.)] กมฺพุกายูรธรา [กมฺพุเกยูรธรา (สี.)], กฺจนาเวฬภูสิตา.
‘‘ปลฺลงฺกา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;
กทลิมิคสฺฉนฺนา [กาทลิมิคสฺฉนฺนา (สี.)], สชฺชา โคนกสนฺถตา.
‘‘ยตฺถ ตฺวํ วาสูปคตา, สพฺพกามสมิทฺธินี;
สมฺปตฺตายฑฺฒรตฺตาย [… รตฺติยา (ก.)], ตโต อุฏฺาย คจฺฉสิ.
‘‘อุยฺยานภูมึ ¶ คนฺตฺวาน, โปกฺขรฺา สมนฺตโต;
ตสฺสา ¶ ตีเร ตุวํ าสิ, หริเต สทฺทเล สุเภ.
‘‘ตโต เต กณฺณมุณฺโฑ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ;
ยทา จ ขายิตา อาสิ, อฏฺิสงฺขลิกา กตา;
โอคาหสิ โปกฺขรณึ, โหติ กาโย ยถา ปุเร.
‘‘ตโต ตฺวํ องฺคปจฺจงฺคี [องฺคปจฺจงฺคา (ก.)], สุจารุ ปิยทสฺสนา;
วตฺเถน ปารุปิตฺวาน, อายาสิ มม สนฺติกํ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, กณฺณมุณฺโฑ สุนโข ตวองฺคมงฺคานิ ขาทตี’’ติ.
‘‘กิมิลายํ [กิมฺพิลายํ (สี. สฺยา.)] คหปติ, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
ตสฺสาหํ ภริยา อาสึ, ทุสฺสีลา อติจารินี.
‘‘โส ¶ มํ อติจรมานาย [เอวมาติจรมานาย (สฺยา. ปี.)], สามิโก เอตทพฺรวิ;
‘เนตํ ฉนฺนํ [เนตํ ฉนฺนํ น (สี.), เนตํ ฉนฺนํ เนตํ (ก.)] ปติรูปํ, ยํ ตฺวํ อติจราสิ มํ’.
‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทฺจ ภาสิสํ;
‘นาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา.
‘‘‘สจาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา;
กณฺณมุณฺโฑ ยํ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทตุ’.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปากํ, มุสาวาทสฺส จูภยํ;
สตฺเตว วสฺสสตานิ, อนุภูตํ ยโต หิ เม;
กณฺณมุณฺโฑ ¶ จ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ.
‘‘ตฺวฺจ เทว พหุกาโร, อตฺถาย เม อิธาคโต;
สุมุตฺตาหํ กณฺณมุณฺฑสฺส, อโสกา อกุโตภยา.
‘‘ตาหํ ¶ เทว นมสฺสามิ, ยาจามิ ปฺชลีกตา;
ภฺุช อมานุเส กาเม, รม เทว มยา สหา’’ติ.
‘‘ภุตฺตา ¶ อมานุสา กามา, รมิโตมฺหิ ตยา สห;
ตาหํ สุภเค ยาจามิ, ขิปฺปํ ปฏินยาหิ ม’’นฺติ.
กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ ทฺวาทสมํ.
๑๓. อุพฺพริเปตวตฺถุ
อหุ ¶ ราชา พฺรหฺมทตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;
อโหรตฺตานมจฺจยา, ราชา กาลมกฺรุพฺพถ [ราชา กาลงฺกรี ตทา (สี.)].
ตสฺส อาฬาหนํ คนฺตฺวา, ภริยา กนฺทติ อุพฺพรี [อุปฺปริ (ก.)];
พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, พฺรหฺมทตฺตาติ กนฺทติ.
อิสิ จ ตตฺถ อาคจฺฉิ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;
โส จ ตตฺถ อปุจฺฉิตฺถ, เย ตตฺถ สุสมาคตา.
‘‘กสฺส อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;
กสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;
พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.
เต ¶ จ ตตฺถ วิยากํสุ, เย ตตฺถ สุสมาคตา;
‘‘พฺรหฺมทตฺตสฺส ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)], พฺรหฺมทตฺตสฺส มาริส.
‘‘ตสฺส ¶ อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;
ตสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;
พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.
‘‘ฉฬาสีติสหสฺสานิ, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;
อิมสฺมึ อาฬาหเน ทฑฺฒา, เตสํ กมนุโสจสี’’ติ.
‘‘โย ราชา จูฬนีปุตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;
ตํ ภนฺเต อนุโสจามิ, ภตฺตารํ สพฺพกามท’’นฺติ.
‘‘สพฺเพ วาเหสุํ ราชาโน, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;
สพฺเพวจูฬนีปุตฺตา, ปฺจาลานํ รเถสภา.
‘‘สพฺเพสํ ¶ อนุปุพฺเพน, มเหสิตฺตมการยิ;
กสฺมา ปุริมเก หิตฺวา, ปจฺฉิมํ อนุโสจสี’’ติ.
‘‘อาตุเม ¶ อิตฺถิภูตาย, ทีฆรตฺตาย มาริส;
ยสฺสา เม อิตฺถิภูตาย, สํสาเร พหุภาสสี’’ติ.
‘‘อหุ อิตฺถี อหุ ปุริโส, ปสุโยนิมฺปิ อาคมา;
เอวเมตํ อตีตานํ, ปริยนฺโต น ทิสฺสตี’’ติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตาย, ปติโสกํ อปานุทิ.
‘‘สาหํ ¶ อพฺพูฬฺหสลฺลาสฺมิ, สีติภูตาสฺมิ นิพฺพุตา;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวา มหามุนี’’ติ.
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, สมณสฺส สุภาสิตํ;
ปตฺตจีวรมาทาย, ปพฺพชิ อนคาริยํ.
สา จ ปพฺพชิตา สนฺตา, อคารสฺมา อนคาริยํ;
เมตฺตาจิตฺตํ อภาเวสิ, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา.
คามา คามํ วิจรนฺตี, นิคเม ราชธานิโย;
อุรุเวลา นาม โส คาโม, ยตฺถ กาลมกฺรุพฺพถ.
เมตฺตาจิตฺตํ ¶ อาภาเวตฺวา, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา;
อิตฺถิจิตฺตํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหูติ.
อุพฺพริเปตวตฺถุ เตรสมํ.
อุพฺพริวคฺโค ทุติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
โมจกํ [ปณฺฑุ (สพฺพตฺถ)] มาตา มตฺตา [ปิตา (สี. ก.), ปติยา (สฺยา.)] จ, นนฺทา กุณฺฑลีนา ฆโฏ;
ทฺเว เสฏฺี ตุนฺนวาโย จ, อุตฺตร [วิหาร (สพฺพตฺถ)] สุตฺตกณฺณ [โสปาน (สพฺพตฺถ)] อุพฺพรีติ.
๓. จูฬวคฺโค
๑. อภิชฺชมานเปตวตฺถุ
‘‘อภิชฺชมาเน ¶ ¶ ¶ วาริมฺหิ, คงฺคาย อิธ คจฺฉสิ;
นคฺโค ปุพฺพทฺธเปโตว มาลธารี อลงฺกโต;
กุหึ คมิสฺสสิ เปต, กตฺถ วาโส ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘จุนฺทฏฺิลํ ¶ [จุนฺทฏฺิกํ (สี.)] คมิสฺสามิ, เปโต โส อิติ ภาสติ;
อนฺตเร วาสภคามํ, พาราณสึ จ [พาราณสิยา จ (สี. สฺยา.)] สนฺติเก’’.
ตฺจ ทิสฺวา มหามตฺโต, โกลิโย อิติ วิสฺสุโต;
สตฺตุํ ภตฺตฺจ เปตสฺส, ปีตกฺจ ยุคํ อทา.
นาวาย ติฏฺมานาย, กปฺปกสฺส อทาปยิ;
กปฺปกสฺส ปทินฺนมฺหิ, าเน เปตสฺส ทิสฺสถ [เปตสฺสุ’ทิสฺสถ (สี.), เปตสฺสุ’ทิจฺฉถ (?)].
ตโต สุวตฺถวสโน, มาลธารี อลงฺกโต;
าเน ิตสฺส เปตสฺส, ทกฺขิณา อุปกปฺปถ;
ตสฺมา ทชฺเชถ เปตานํ, อนุกมฺปาย ปุนปฺปุนํ.
สาตุนฺนวสนา [สาหุนฺนวาสิโน (สฺยา. ปี.), สาหุนฺทวาสิโน (ก.)] เอเก, อฺเ เกสนิวาสนา [เกสนิวาสิโน (สฺยา. ก.)];
เปตา ภตฺตาย คจฺฉนฺติ, ปกฺกมนฺติ ทิโสทิสํ.
ทูเร เอเก [ทูเร เปตา (ก.)] ปธาวิตฺวา, อลทฺธาว นิวตฺตเร;
ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา.
เต จ [เกจิ (สี. สฺยา.)] ตตฺถ ปปติตา [ปปติตฺวา (สี.), จ ปติตา (สฺยา.)], ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
ปุพฺเพ อกตกลฺยาณา, อคฺคิทฑฺฒาว อาตเป.
‘‘มยํ ปุพฺเพ ปาปธมฺมา, ฆรณี กุลมาตโร;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘ปหูตํ ¶ ¶ อนฺนปานมฺปิ, อปิสฺสุ อวกิรียติ;
สมฺมคฺคเต ปพฺพชิเต, น จ กิฺจิ อทมฺหเส.
‘‘อกมฺมกามา ¶ อลสา, สาทุกามา มหคฺฆสา;
อาโลปปิณฺฑทาตาโร, ปฏิคฺคเห ปริภาสิมฺหเส [ปริภาสิตา (สฺยา. ก.)].
‘‘เต ¶ ฆรา ตา จ ทาสิโย, ตาเนวาภรณานิ โน;
เต อฺเ ปริจาเรนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคิโน.
‘‘เวณี วา อวฺา โหนฺติ, รถการี จ ทุพฺภิกา;
จณฺฑาลี กปณา โหนฺติ, กปฺปกา [นฺหาปิกา (สี.)] จ ปุนปฺปุนํ.
‘‘ยานิ ยานิ นิหีนานิ, กุลานิ กปณานิ จ;
เตสุ เตสฺเวว ชายนฺติ, เอสา มจฺฉริโน คติ.
‘‘ปุพฺเพ จ กตกลฺยาณา, ทายกา วีตมจฺฉรา;
สคฺคํ เต ปริปูเรนฺติ, โอภาเสนฺติ จ นนฺทนํ.
‘‘เวชยนฺเต จ ปาสาเท, รมิตฺวา กามกามิโน;
อุจฺจากุเลสุ ชายนฺติ, สโภเคสุ ตโต จุตา.
‘‘กูฏาคาเร จ ปาสาเท, ปลฺลงฺเก โคนกตฺถเต;
พีชิตงฺคา [วีชิตงฺคา (สี. สฺยา.)] โมรหตฺเถหิ, กุเล ชาตา ยสสฺสิโน.
‘‘องฺกโต องฺกํ คจฺฉนฺติ, มาลธารี อลงฺกตา;
ธาติโย อุปติฏฺนฺติ, สายํ ปาตํ สุเขสิโน.
‘‘นยิทํ ¶ อกตปฺุานํ, กตปฺุานเมวิทํ;
อโสกํ นนฺทนํ รมฺมํ, ติทสานํ มหาวนํ.
‘‘สุขํ อกตปฺุานํ, อิธ นตฺถิ ปรตฺถ จ;
สุขฺจ กตปฺุานํ, อิธ เจว ปรตฺถ จ.
‘‘เตสํ สหพฺยกามานํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุํ;
กตปฺุา หิ โมทนฺติ, สคฺเค โภคสมงฺคิโน’’ติ.
อภิชฺชมานเปตวตฺถุ ปมํ.
๒. สาณวาสีเถรเปตวตฺถุ
กุณฺฑินาคริโย ¶ เถโร, สาณวาสิ [สานุวาสิ (สี.), สานวาสิ (สฺยา.)] นิวาสิโก;
โปฏฺปาโทติ นาเมน, สมโณ ภาวิตินฺทฺริโย.
ตสฺส ¶ มาตา ปิตา ภาตา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ ¶ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
เต ¶ ทุคฺคตา สูจิกฏฺฏา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;
อุตฺตสนฺตา [โอตฺตปฺปนฺตา (สฺยา. ก.)] มหตฺตาสา [มหาตาสา (สี.)], น ทสฺเสนฺติ กุรูริโน [กุรุทฺทิโน (ก.)].
ตสฺส ภาตา วิตริตฺวา, นคฺโค เอกปเถกโก;
จตุกุณฺฑิโก ภวิตฺวาน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํ.
เถโร จามนสิกตฺวา, ตุณฺหีภูโต อติกฺกมิ;
โส จ วิฺาปยี เถรํ, ‘ภาตา เปตคโต อหํ’.
‘‘มาตา ¶ ปิตา จ เต ภนฺเต, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘เต ทุคฺคตา สูจิกฏฺฏา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;
อุตฺตสนฺตา มหตฺตาสา, น ทสฺเสนฺติ กุรูริโน.
‘‘อนุกมฺปสฺสุ การุณิโก, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ โน;
ตว ทินฺเนน ทาเนน, ยาเปสฺสนฺติ กุรูริโน’’ติ.
เถโร จริตฺวา ปิณฺฑาย, ภิกฺขู อฺเ จ ทฺวาทส;
เอกชฺฌํ สนฺนิปตึสุ, ภตฺตวิสฺสคฺคการณา.
เถโร สพฺเพว เต อาห, ‘‘ยถาลทฺธํ ททาถ เม;
สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามิ, อนุกมฺปาย าตินํ’’.
นิยฺยาทยึสุ เถรสฺส, เถโร สงฺฆํ นิมนฺตยิ;
ทตฺวา อนฺวาทิสิ เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, โภชนํ อุทปชฺชถ;
สุจึ ปณีตํ สมฺปนฺนํ, อเนกรสพฺยฺชนํ.
ตโต อุทฺทสฺสยี [อุทฺทิสยี (สี. ก.), อุทฺทิสฺสติ (สฺยา. ก.)] ภาตา, วณฺณวา พลวา สุขี;
‘‘ปหูตํ โภชนํ ภนฺเต, ปสฺส นคฺคามฺหเส มยํ;
ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา วตฺถํ ลภามเส’’ติ.
เถโร ¶ สงฺการกูฏมฺหา, อุจฺจินิตฺวาน นนฺตเก;
ปิโลติกํ ¶ ปฏํ กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา.
ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วตฺถานิ อุทปชฺชิสุํ;
ตโต สุวตฺถวสโน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํ.
‘‘ยาวตา ¶ นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมึ ปฏิจฺฉทา;
ตโต พหุตรา ภนฺเต, วตฺถานจฺฉาทนานิ โน.
‘‘โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขม กปฺปาสิกานิ จ;
วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร.
‘‘เต มยํ ปริทหาม, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํ;
ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา เคหํ ลภามเส’’ติ.
เถโร ปณฺณกุฏึ กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , ฆรานิ อุทปชฺชิสุํ;
กูฏาคารนิเวสนา, วิภตฺตา ภาคโส มิตา.
‘‘น มนุสฺเสสุ อีทิสา, ยาทิสา โน ฆรา อิธ;
อปิ ทิพฺเพสุ ยาทิสา, ตาทิสา โน ฆรา อิธ.
‘‘ททฺทลฺลมานา ¶ อาเภนฺติ [อาภนฺติ (ก.)], สมนฺตา จตุโร ทิสา;
‘ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา ปานียํ ลภามเส’’ติ.
เถโร กรณํ [กรกํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปูเรตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, ปานียํ อุทปชฺชถ;
คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.
สีโตทิกา ¶ สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฏิคนฺธิยา;
ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, วาริกิฺชกฺขปูริตา.
ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ, เถรสฺส ปฏิทสฺสยุํ;
‘‘ปหูตํ ปานียํ ภนฺเต, ปาทา ทุกฺขา ผลนฺติ โน’’.
‘‘อาหิณฺฑมานา ขฺชาม, สกฺขเร กุสกณฺฏเก;
‘ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา ยานํ ลภามเส’’’ติ.
เถโร สิปาฏิกํ ลทฺธา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , เปตา รเถน มาคมุํ;
‘‘อนุกมฺปิตมฺห ภทนฺเต, ภตฺเตนจฺฉาทเนน จ.
‘‘ฆเรน ปานียทาเนน, ยานทาเนน จูภยํ;
มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.
สาณวาสีเถรเปตวตฺถุ ทุติยํ.
๓. รถการเปติวตฺถุ
‘‘เวฬุริยถมฺภํ ¶ ¶ รุจิรํ ปภสฺสรํ, วิมานมารุยฺห อเนกจิตฺตํ;
ตตฺถจฺฉสิ เทวิ มหานุภาเว, ปถทฺธนิ [สมนฺตโต (ก.)] ปนฺนรเสว จนฺโท.
‘‘วณฺโณ จ เต กนกสฺส สนฺนิโภ, อุตฺตตฺตรูโป ภุส ทสฺสเนยฺโย;
ปลฺลงฺกเสฏฺเ อตุเล นิสินฺนา, เอกา ตุวํ นตฺถิ จ ตุยฺห สามิโก.
‘‘อิมา จ เต โปกฺขรณี สมนฺตา, ปหูตมลฺยา [ปหูตมาลา (สี. สฺยา.)] พหุปุณฺฑรีกา;
สุวณฺณจุณฺเณหิ สมนฺตโมตฺถตา, น ตตฺถ ปงฺโก ปณโก จ วิชฺชติ.
‘‘หํสา ¶ จิเม ทสฺสนียา มโนรมา, อุทกสฺมิมนุปริยนฺติ สพฺพทา;
สมยฺย วคฺคูปนทนฺติ สพฺเพ, พินฺทุสฺสรา ทุนฺทุภีนํว โฆโส.
‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, นาวาย จ ตฺวํ อวลมฺพ ติฏฺสิ;
อาฬารปมฺเห ¶ หสิเต ปิยํวเท, สพฺพงฺคกลฺยาณิ ภุสํ วิโรจสิ.
‘‘อิทํ ¶ วิมานํ วิรชํ สเม ิตํ, อุยฺยานวนฺตํ [อุยฺยานวนํ (ก.)] รตินนฺทิวฑฺฒนํ;
อิจฺฉามหํ นาริ อโนมทสฺสเน, ตยา สห นนฺทเน อิธ โมทิตุ’’นฺติ.
‘‘กโรหิ กมฺมํ อิธ เวทนียํ, จิตฺตฺจ เต อิธ นิหิตํ ภวตุ [นตฺจ โหตุ (ก.), นิตฺจ โหตุ (สฺยา.)];
กตฺวาน กมฺมํ อิธ เวทนียํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ กามกามินิ’’นฺติ.
‘‘สาธู’’ติ โส ตสฺสา ปฏิสฺสุณิตฺวา, อกาสิ กมฺมํ ตหึ เวทนียํ;
กตฺวาน กมฺมํ ตหึ เวทนียํ, อุปปชฺชิ โส มาณโว ตสฺสา สหพฺยตนฺติ.
รถการเปติวตฺถุ ตติยํ.
ภาณวารํ ทุติยํ นิฏฺิตํ.
๔. ภุสเปตวตฺถุ
‘‘ภุสานิ ¶ ¶ เอโก สาลึ ปุนาปโร, อยฺจ นารี สกมํสโลหิตํ;
ตุวฺจ ¶ คูถํ อสุจึ อกนฺตํ [อกนฺติกํ (สี. ปี.)], ปริภฺุชสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
‘‘อยํ ¶ ปุเร มาตรํ หึสติ, อยํ ปน กูฏวาณิโช;
อยํ มํสานิ ขาทิตฺวา, มุสาวาเทน วฺเจติ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;
สนฺเตสุ ปริคุหามิ, มา จ กิฺจิ อิโต อทํ.
‘‘มุสาวาเทน ฉาเทมิ, ‘นตฺถิ เอตํ มม เคเห;
สเจ สนฺตํ นิคุหามิ, คูโถ เม โหตุ โภชนํ’.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, มุสาวาทสฺส จูภยํ;
สุคนฺธํ สาลิโน ภตฺตํ, คูถํ เม ปริวตฺตติ.
‘‘อวฺฌานิ จ กมฺมานิ, น หิ กมฺมํ วินสฺสติ;
ทุคฺคนฺธํ กิมินํ [กิมิชํ (สี.)] มีฬํ, ภฺุชามิ จ ปิวามิ จา’’ติ.
ภุสเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. กุมารเปตวตฺถุ
อจฺเฉรรูปํ สุคตสฺส าณํ, สตฺถา ยถา ปุคฺคลํ พฺยากาสิ;
อุสฺสนฺนปฺุาปิ ภวนฺติ เหเก, ปริตฺตปฺุาปิ ภวนฺติ เหเก.
อยํ ¶ กุมาโร สีวถิกาย ฉฑฺฑิโต, องฺคุฏฺสฺเนเหน ¶ ยาเปติ รตฺตึ;
น ยกฺขภูตา น สรีสปา [สิรึสปา (สี. สฺยา. ปี.)] วา, วิเหเยยฺยุํ กตปฺุํ กุมารํ.
สุนขาปิมสฺส ปลิหึสุ ปาเท, ธงฺกา สิงฺคาลา [สิคาลา (สี. สฺยา. ปี.)] ปริวตฺตยนฺติ;
คพฺภาสยํ ปกฺขิคณา หรนฺติ, กากา ปน อกฺขิมลํ หรนฺติ.
นยิมสฺส ¶ [น อิมสฺส (สฺยา.), นิมสฺส (ก.)] รกฺขํ วิทหึสุ เกจิ, น โอสธํ สาสปธูปนํ วา;
นกฺขตฺตโยคมฺปิ น อคฺคเหสุํ [น อุคฺคเหสุํ (ก.)], น สพฺพธฺานิปิ อากิรึสุ.
เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปตฺตํ, รตฺตาภตํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ;
โนนีตปิณฺฑํว ปเวธมานํ, สสํสยํ ชีวิตสาวเสสํ.
ตมทฺทสา ¶ เทวมนุสฺสปูชิโต, ทิสฺวา จ ตํ พฺยากริ ภูริปฺโ;
‘‘อยํ กุมาโร นครสฺสิมสฺส, อคฺคกุลิโก ภวิสฺสติ โภคโต จ’’ [โภควา จ (สฺยา. ก.)].
‘‘กิสฺส ¶ [กึ’ส (?)] วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เอตาทิสํ พฺยสนํ ปาปุณิตฺวา, ตํ ตาทิสํ ปจฺจนุโภสฺสติทฺธิ’’นฺติ.
พุทฺธปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ปูชํ อกาสิ ชนตา อุฬารํ;
ตตฺรสฺส จิตฺตสฺสหุ อฺถตฺตํ, วาจํ อภาสิ ผรุสํ อสพฺภํ.
โส ตํ วิตกฺกํ ปวิโนทยิตฺวา, ปีตึ ปสาทํ ปฏิลทฺธา ปจฺฉา;
ตถาคตํ เชตวเน วสนฺตํ, ยาคุยา อุปฏฺาสิ สตฺตรตฺตํ.
ตสฺส [ตํ’ส (?)] วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เอตาทิสํ พฺยสนํ ปาปุณิตฺวา, ตํ ตาทิสํ ปจฺจนุโภสฺสติทฺธึ.
ตฺวาน ¶ โส วสฺสสตํ อิเธว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, สหพฺยตํ คจฺฉติ วาสวสฺสาติ.
กุมารเปตวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. เสริณีเปตวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา กุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘อนาวเฏสุ ติตฺเถสุ, วิจินึ อฑฺฒมาสกํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน.
‘‘นทึ อุเปมิ ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;
ฉายํ อุเปมิ อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.
‘‘อคฺคิวณฺโณ จ เม วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;
เอตฺจ ภนฺเต อรหามิ, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.
‘‘คนฺตฺวาน ¶ ¶ หตฺถินึ ปุรํ, วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’.
‘‘อตฺถิ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตฺจ ตํ มยา;
จตฺตาริสตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺโต.
‘‘ตโต เม ทานํ ททตุ, ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;
ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา, ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ [อนุทิสฺสตุ (สี. ปี.), อนฺวาทิสฺสตุ (สฺยา.)];
ตทาหํ ¶ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
‘‘สาธู’’ติ ¶ โส ปฏิสฺสุตฺวา, คนฺตฺวาน หตฺถินึ ปุรํ;
อโวจ ตสฺสา มาตรํ –
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’.
‘‘สา มํ ตตฺถ สมาทเปสิ, ( ) [(คนฺตฺวาน หตฺถินึ ปุรํ) (สฺยา. ก.)] วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’.
‘‘อตฺถิ จ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตฺจ ตํ มยา;
จตฺตาริสตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺโต.
‘‘ตโต เม ทานํ ททตุ, ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;
ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา, ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ ( ) [(ตโต ตุวํ ทานํ เทหิ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี) (ก.)];
‘ตทา สา สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’’ติ.
ตโต หิ สา ทานมทา, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี;
เปตี จ สุขิตา อาสิ, ตสฺสา จาสิ สุชีวิกาติ.
เสริณีเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. มิคลุทฺทกเปตวตฺถุ
‘‘นรนาริปุรกฺขโต ¶ ยุวา, รชนีเยหิ กามคุเณหิ [กาเมหิ (ก.)] โสภสิ;
ทิวสํ อนุโภสิ การณํ, กิมกาสิ ปุริมาย ชาติยา’’ติ.
‘‘อหํ ¶ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;
มิคลุทฺโท ¶ ปุเร อาสึ, โลหิตปาณิ ทารุโณ.
‘‘อวิโรธกเรสุ ปาณิสุ, ปุถุสตฺเตสุ ปทุฏฺมานโส;
วิจรึ อติทารุโณ สทา [ตทา (สี.)], ปรหึสาย รโต อสฺโต.
‘‘ตสฺส ¶ เม สหาโย สุหทโย [สุหโท (สี.)], สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
โสปิ [โส หิ (สฺยา.)] มํ อนุกมฺปนฺโต, นิวาเรสิ ปุนปฺปุนํ.
‘‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, มา ตาต ทุคฺคตึ อคา;
สเจ อิจฺฉสิ เปจฺจ สุขํ, วิรม ปาณวธา อสํยมา’.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สุขกามสฺส หิตานุกมฺปิโน;
นากาสึ สกลานุสาสนึ, จิรปาปาภิรโต อพุทฺธิมา.
‘‘โส มํ ปุน ภูริสุเมธโส, อนุกมฺปาย สํยเม นิเวสยิ;
‘สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺตึ ภวตุ สํยโม’.
‘‘สฺวาหํ ¶ ทิวา หนิตฺวา ปาณิโน, วิรโต รตฺติมโหสิ สฺโต;
รตฺตาหํ ปริจาเรมิ, ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโต.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺตึ อมานุสึ;
ทิวา ปฏิหตาว [ปฏิหตา จ (ก.)] กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุํ.
‘‘เย จ เต สตตานุโยคิโน, ธุวํ ปยุตฺตา สุคตสฺส สาสเน;
มฺามิ เต อมตเมว เกวลํ, อธิคจฺฉนฺติ ปทํ อสงฺขต’’นฺติ.
มิคลุทฺทกเปตวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุ
‘‘กูฏาคาเร ¶ จ ปาสาเท, ปลฺลงฺเก โคนกตฺถเต;
ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน, รมสิ สุปฺปวาทิเต.
‘‘ตโต ¶ รตฺยา วิวสาเน [วฺยวสาเน (สี.)], สูริยุคฺคมนํ ปติ;
อปวิทฺโธ สุสานสฺมึ, พหุทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘กึ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ’’.
‘‘อหํ ¶ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;
มิคลุทฺโท ปุเร อาสึ, ลุทฺโท จาสิมสฺโต.
‘‘ตสฺส เม สหาโย สุหทโย, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
ตสฺส กุลุปโก ภิกฺขุ, อาสิ โคตมสาวโก;
โสปิ มํ อนุกมฺปนฺโต, นิวาเรสิ ปุนปฺปุนํ.
‘‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, มา ตาต ทุคฺคตึ อคา;
สเจ อิจฺฉสิ เปจฺจ สุขํ, วิรม ปาณวธา อสํยมา’.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สุขกามสฺส หิตานุกมฺปิโน;
นากาสึ สกลานุสาสนึ, จิรปาปาภิรโต อพุทฺธิมา.
‘‘โส มํ ปุน ภูริสุเมธโส, อนุกมฺปาย สํยเม นิเวสยิ;
‘สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺตึ ภวตุ สํยโม’.
‘‘สฺวาหํ ทิวา หนิตฺวา ปาณิโน, วิรโต รตฺติมโหสิ สฺโต;
รตฺตาหํ ปริจาเรมิ, ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโต.
‘‘ตสฺส ¶ กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺตึ อมานุสึ;
ทิวา ปฏิหตาว กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุํ.
‘‘เย จ เต สตตานุโยคิโน, ธุวํ ปยุตฺตา [ธุวยุตฺตา (สี.)] สุคตสฺส สาสเน;
มฺามิ เต อมตเมว เกวลํ, อธิคจฺฉนฺติ ปทํ อสงฺขต’’นฺติ.
ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. กูฏวินิจฺฉยิกเปตวตฺถุ
‘‘มาลี ¶ ¶ กิริฏี กายูรี [เกยูรี (สี.)], คตฺตา เต จนฺทนุสฺสทา;
ปสนฺนมุขวณฺโณสิ, สูริยวณฺโณว โสภสิ.
‘‘อมานุสา ปาริสชฺชา, เย เตเม ปริจารกา;
ทส กฺาสหสฺสานิ, ยา เตมา ปริจาริกา;
ตา [กา (ก.)] กมฺพุกายูรธรา, กฺจนาเวฬภูสิตา.
‘‘มหานุภาโวสิ ตุวํ, โลมหํสนรูปวา;
ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน, สามํ อุกฺกจฺจ [อุกฺกฑฺฒ (สี.)] ขาทสิ.
‘‘กึ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกุฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน;
สามํ อุกฺกจฺจ ขาทสี’’ติ.
‘‘อตฺตโนหํ อนตฺถาย, ชีวโลเก อจาริสํ;
เปสฺุมุสาวาเทน, นิกติวฺจนาย จ.
‘‘ตตฺถาหํ ปริสํ คนฺตฺวา, สจฺจกาเล อุปฏฺิเต;
อตฺถํ ¶ ธมฺมํ นิรากตฺวา [นิรํกตฺวา (ก.) นิ + อา + กร + ตฺวา = นิรากตฺวา], อธมฺมมนุวตฺติสํ.
‘‘เอวํ โส ขาทตตฺตานํ, โย โหติ ปิฏฺิมํสิโก;
ยถาหํ อชฺช ขาทามิ, ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน.
‘‘ตยิทํ ตยา นารท สามํ ทิฏฺํ, อนุกมฺปกา เย กุสลา วเทยฺยุํ;
มา เปสุณํ มา จ มุสา อภาณิ, มา โขสิ ปิฏฺิมํสิโก ตุว’’นฺติ.
กูฏวินิจฺฉยิกเปตวตฺถุ นวมํ.
๑๐. ธาตุวิวณฺณเปตวตฺถุ
‘‘อนฺตลิกฺขสฺมึ ¶ ติฏฺนฺโต, ทุคฺคนฺโธ ปูติ วายสิ;
มุขฺจ เต กิมโย ปูติคนฺธํ, ขาทนฺติ กึ กมฺมมกาสิ ปุพฺเพ.
‘‘ตโต ¶ สตฺถํ คเหตฺวาน, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนํ;
ขาเรน ปริปฺโผสิตฺวา, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนํ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.
‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;
อิสฺสโร ธนธฺสฺส, สุปหูตสฺส มาริส.
‘‘ตสฺสายํ เม ภริยา จ, ธีตา จ สุณิสา จ เม;
ตา มาลํ อุปฺปลฺจาปิ, ปจฺจคฺฆฺจ วิเลปนํ;
ถูปํ หรนฺติโย วาเรสึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา.
‘‘ฉฬาสีติสหสฺสานิ ¶ , มยํ ปจฺจตฺตเวทนา;
ถูปปูชํ วิวณฺเณตฺวา, ปจฺจาม นิรเย ภุสํ.
‘‘เย ¶ จ โข ถูปปูชาย, วตฺตนฺเต อรหโต มเห;
อาทีนวํ ปกาเสนฺติ, วิเวจเยถ [วิเวจยถ (สี.)] เน ตโต.
‘‘อิมา จ ปสฺส อายนฺติโย, มาลธารี อลงฺกตา;
มาลาวิปากํนุโภนฺติโย [อนุภวนฺติ (สี. ปี.)], สมิทฺธา จ ตา [สมิทฺธา ตา (สี. สฺยา.)] ยสสฺสินิโย.
‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อจฺเฉรํ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
นโม กโรนฺติ สปฺปฺา, วนฺทนฺติ ตํ มหามุนึ.
‘‘โสหํ ¶ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
ถูปปูชํ กริสฺสามิ, อปฺปมตฺโต ปุนปฺปุน’’นฺติ.
ธาตุวิวณฺณเปตวตฺถุ ทสมํ.
จูฬวคฺโค ตติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
อภิชฺชมาโน กุณฺฑิโย [โกณฺฑฺโ (สพฺพตฺถ)], รถการี ภุเสน จ;
กุมาโร คณิกา เจว, ทฺเว ลุทฺทา ปิฏฺิปูชนา;
วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติ.
๔. มหาวคฺโค
๑. อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ
เวสาลี ¶ ¶ ¶ ¶ นาม นครตฺถิ วชฺชีนํ, ตตฺถ อหุ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร [อมฺพสกฺขโร (สี. สฺยา.), อปฺปสกฺกโร (ก.)];
ทิสฺวาน เปตํ นครสฺส พาหิรํ, ตตฺเถว ปุจฺฉิตฺถ ตํ การณตฺถิโก.
‘‘เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถิ, อภิกฺกโม นตฺถิ ปฏิกฺกโม จ;
อสิตปีตขายิตวตฺถโภคา, ปริจาริกา [ปริจารณา (สี. ปี.)] สาปิ อิมสฺส นตฺถิ.
‘‘เย าตกา ทิฏฺสุตา สุหชฺชา, อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุพฺเพ;
ทฏฺุมฺปิ เต ทานิ น ตํ ลภนฺติ, วิราชิตตฺโต [วิราธิตตฺโต (สี. ปี.)] หิ ชเนน เตน.
‘‘น โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวา;
อตฺถฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺติ, พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺติ.
‘‘นิหีนตฺโต สพฺพโภเคหิ กิจฺโฉ, สมฺมกฺขิโต ¶ สมฺปริภินฺนคตฺโต;
อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมาโน, อชฺช สุเว ชีวิตสฺสูปโรโธ.
‘‘เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปฺปตฺตํ, อุตฺตาสิตํ ปุจิมนฺทสฺส สูเล;
‘อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน วเทสิ ยกฺข, ชีว โภ ชีวิตเมว เสยฺโย’’’ติ.
‘‘สาโลหิโต ¶ ¶ เอส อโหสิ มยฺหํ, อหํ สรามิ ปุริมาย ชาติยา;
ทิสฺวา จ เม การฺุมโหสิ ราช, มา ปาปธมฺโม นิรยํ ปตายํ [ปติ + อยํ = ปตายํ].
‘‘อิโต จุโต ลิจฺฉวิ เอส โปโส, สตฺตุสฺสทํ นิรยํ โฆรรูปํ;
อุปปชฺชติ ทุกฺกฏกมฺมการี, มหาภิตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.
‘‘อเนกภาเคน คุเณน เสยฺโย, อยเมว สูโล นิรเยน เตน;
เอกนฺตทุกฺขํ กฏุกํ ภยานกํ, เอกนฺตติพฺพํ นิรยํ ปตายํ [ปเต + อยํ = ปตายํ].
‘‘อิทฺจ ¶ สุตฺวา วจนํ มเมโส, ทุกฺขูปนีโต วิชเหยฺย ปาณํ;
ตสฺมา อหํ สนฺติเก น ภณามิ, มา เม กโต ชีวิตสฺสูปโรโธ’’.
‘‘อฺาโต เอโส [อชฺฌิโต เอส (ก.)] ปุริสสฺส อตฺโถ, อฺมฺปิ อิจฺฉามเส ปุจฺฉิตุํ ตุวํ;
โอกาสกมฺมํ สเจ โน กโรสิ, ปุจฺฉาม ตํ โน น จ กุชฺฌิตพฺพ’’นฺติ.
‘‘อทฺธา ปฏิฺา เม ตทา อหุ [ปฏิฺาตเมตํ ตทาหุ (ก.), ปฏิฺา น เมเต ตทา อหุ (?)], นาจิกฺขนา อปฺปสนฺนสฺส โหติ;
อกามา สทฺเธยฺยวโจติ กตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ มํ กามํ ยถา วิสยฺห’’นฺติ [วิสยํ (ก.)].
‘‘ยํ ¶ กิฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ [ปสฺสามิ (ก.)], สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยํ;
ทิสฺวาว ตํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ, กเรยฺยาสิ [กโรหิ (กตฺถจิ)] เม ยกฺข นิยสฺสกมฺม’’นฺติ.
‘‘สจฺจปฺปฏิฺา ¶ ตว เมสา โหตุ, สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทํ;
อฺตฺถิโก ¶ โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, ยํ เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ;
สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสํ [สพฺพํ อาจิกฺขิสฺสํ (สี.)] ยถา ปชานนฺติ.
‘‘เสเตน อสฺเสน อลงฺกเตน, อุปยาสิ สูลาวุตกสฺส สนฺติเก;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, กิสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
‘‘เวสาลิยา ¶ นครสฺส [ตสฺส นครสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] มชฺเฌ, จิกฺขลฺลมคฺเค นรกํ อโหสิ;
โคสีสเมกาหํ ปสนฺนจิตฺโต, เสตํ [เสตุํ (สฺยา. ก.)] คเหตฺวา นรกสฺมึ นิกฺขิปึ.
‘‘เอตสฺมึ ปาทานิ ปติฏฺเปตฺวา, มยฺจ อฺเ จ อติกฺกมิมฺหา;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
‘‘วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสติ, คนฺโธ จ เต สพฺพทิสา ปวายติ;
ยกฺขิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, นคฺโค จาสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
‘‘อกฺโกธโน ¶ นิจฺจปสนฺนจิตฺโต, สณฺหาหิ วาจาหิ ชนํ อุเปมิ;
ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม วณฺโณ สตตํ ปภาสติ.
‘‘ยสฺจ กิตฺติฺจ ธมฺเม ิตานํ, ทิสฺวาน มนฺเตมิ [ทิสฺวา สมนฺเตมิ (ก.)] ปสนฺนจิตฺโต;
ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม คนฺโธ สตตํ ปวายติ.
‘‘สหายานํ ¶ ติตฺถสฺมึ นฺหายนฺตานํ, ถเล คเหตฺวา นิทหิสฺส ทุสฺสํ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.
‘‘โย กีฬมาโน ปกโรติ ปาปํ, ตสฺเสทิสํ กมฺมวิปากมาหุ;
อกีฬมาโน ปน โย กโรติ, กึ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหู’’ติ.
‘‘เย ทุฏฺสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา, กาเยน วาจาย จ สงฺกิลิฏฺา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต นิรยํ อุเปนฺติ.
‘‘อปเร ¶ ปน สุคติมาสมานา, ทาเน รตา สงฺคหิตตฺตภาวา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต สุคตึ อุเปนฺตี’’ติ.
‘‘ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กึ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยํ, โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอต’’นฺติ.
‘‘ทิสฺวา ¶ จ สุตฺวา อภิสทฺทหสฺสุ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กลฺยาณปาเป อุภเย อสนฺเต, สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา.
‘‘โน ¶ เจตฺถ กมฺมานิ กเรยฺยุํ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
นาเหสุํ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
‘‘ยสฺมา ¶ จ กมฺมานิ กโรนฺติ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
ตสฺมา หิ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ¶ ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
‘‘ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหุ, สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนียํ;
ตา เทวตาโย ปริจารยนฺติ, ปจฺจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโน.
‘‘น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานิ, ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย [โส (สพฺพตฺถ)] อาทิเสยฺย;
อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.
‘‘สิยา นุ โข การณํ กิฺจิ ยกฺข, อจฺฉาทนํ เยน ตุวํ ลเภถ;
อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ [สทฺธายิตํ (สี. ปี.)] เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.
‘‘กปฺปิตโก [กปฺปินโก (สี.)] นาม อิธตฺถิ ภิกฺขุ, ฌายี สุสีโล อรหา วิมุตฺโต;
คุตฺตินฺทฺริโย สํวุตปาติโมกฺโข, สีติภูโต อุตฺตมทิฏฺิปตฺโต.
‘‘สขิโล วทฺู สุวโจ สุมุโข, สฺวาคโม สุปฺปฏิมุตฺตโก จ;
ปฺุสฺส เขตฺตํ อรณวิหารี, เทวมนุสฺสานฺจ ¶ ทกฺขิเณยฺโย.
‘‘สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, มุตฺโต วิสลฺโล อมโม อวงฺโก;
นิรูปธี สพฺพปปฺจขีโณ, ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺโต ชุติมา.
‘‘อปฺปฺาโต ¶ ทิสฺวาปิ น จ สุชาโน, มุนีติ นํ วชฺชิสุ โวหรนฺติ;
ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชํ, กลฺยาณธมฺมํ วิจรนฺตํ โลเก.
‘‘ตสฺส ¶ ตุวํ เอกยุคํ ทุเว วา, มมุทฺทิสิตฺวาน สเจ ทเทถ;
ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, มมฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.
‘‘กสฺมึ ปเทเส สมณํ วสนฺตํ, คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ มยํ อิทานิ;
โย มชฺช [ส มชฺช (สี.)] กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตฺจ, ทิฏฺีวิสูกานิ วิโนทเยยฺยา’’ติ.
‘‘เอโส นิสินฺโน กปินจฺจนายํ, ปริวาริโต เทวตาหิ พหูหิ;
ธมฺมึ ¶ กถํ ภาสติ สจฺจนาโม, สกสฺมิมาเจรเก อปฺปมตฺโต’’ติ.
‘‘ตถาหํ [ยถาหํ (ก.)] กสฺสามิ คนฺตฺวา อิทานิ, อจฺฉาทยิสฺสํ สมณํ ยุเคน;
ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ตุวฺจ ปสฺเสมุ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.
‘‘มา อกฺขเณ ปพฺพชิตํ อุปาคมิ, สาธุ โว ลิจฺฉวิ เนส ธมฺโม;
ตโต จ กาเล อุปสงฺกมิตฺวา, ตตฺเถว ปสฺสาหิ รโห นิสินฺน’’นฺติ.
ตถาติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ปริวาริโต ทาสคเณน ลิจฺฉวิ;
โส ตํ นครํ อุปสงฺกมิตฺวา, วาสูปคจฺฉิตฺถ สเก นิเวสเน.
ตโต ¶ ¶ จ กาเล คิหิกิจฺจานิ กตฺวา, นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ขณํ ลภิตฺวา;
วิเจยฺย เปฬาโต จ ยุคานิ อฏฺ, คาหาปยี ทาสคเณน ลิจฺฉวิ.
โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, ตํ อทฺทส สมณํ สนฺตจิตฺตํ;
ปฏิกฺกนฺตํ ¶ โคจรโต นิวตฺตํ, สีติภูตํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ.
ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, อปฺปาพาธํ ผาสุวิหารฺจ ปุจฺฉิ;
‘‘เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ ภทนฺเต, ชานนฺติ มํ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร.
‘‘อิมานิ เม อฏฺ ยุคา สุภานิ [ยุคานิ ภนฺเต (สฺยา. ก.)], ปฏิคณฺห ภนฺเต ปททามิ ตุยฺหํ;
เตเนว อตฺเถน อิธาคโตสฺมิ, ยถา อหํ อตฺตมโน ภเวยฺย’’นฺติ.
‘‘ทูรโตว ¶ สมณพฺราหฺมณา จ, นิเวสนํ เต ปริวชฺชยนฺติ;
ปตฺตานิ ภิชฺชนฺติ จ เต [ภิชฺชนฺติ ตว (สฺยา. ก.)] นิเวสเน, สงฺฆาฏิโย จาปิ วิทาลยนฺติ [วิปาฏยนฺติ (สี.), วิปาตยนฺติ (ก.)].
‘‘อถาปเร ปาทกุาริกาหิ, อวํสิรา สมณา ปาตยนฺติ;
เอตาทิสํ ปพฺพชิตา วิเหสํ, ตยา กตํ สมณา ปาปุณนฺติ.
‘‘ติเณน เตลมฺปิ น ตฺวํ อทาสิ, มูฬฺหสฺส ¶ มคฺคมฺปิ น ปาวทาสิ;
อนฺธสฺส ทณฺฑํ สยมาทิยาสิ, เอตาทิโส กทริโย อสํวุโต ตุวํ;
อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน กิเมว ทิสฺวา,
อมฺเหหิ สห สํวิภาคํ กโรสี’’ติ.
‘‘ปจฺเจมิ ¶ ภนฺเต ยํ ตฺวํ วเทสิ, วิเหสยึ สมเณ พฺราหฺมเณ จ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เอตมฺปิ เม ทุกฺกฏเมว ภนฺเต.
‘‘ขิฑฺฑาย ยกฺโข ปสวิตฺวา ปาปํ, เวเทติ ทุกฺขํ อสมตฺตโภคี;
ทหโร ยุวา นคฺคนิยสฺส ภาคี, กึ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหติ.
‘‘ตํ ทิสฺวา สํเวคมลตฺถํ ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาปิ [ตปฺปจฺจยา ตาหํ (สี.), ตปฺปจฺจยา จาหํ (ปี.)] ททามิ ทานํ;
ปฏิคณฺห ภนฺเต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.
‘‘อทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ, ททโต จ เต อกฺขยธมฺมมตฺถุ;
ปฏิคณฺหามิ ¶ เต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.
ตโต หิ โส อาจมยิตฺวา ลิจฺฉวิ, เถรสฺส ทตฺวาน ยุคานิ อฏฺ;
‘ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ยกฺขฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺสํ’.
ตมทฺทสา จนฺทนสารลิตฺตํ, อาชฺมารูฬฺหมุฬารวณฺณํ;
อลงฺกตํ สาธุนิวตฺถทุสฺสํ, ปริวาริตํ ยกฺขมหิทฺธิปตฺตํ.
โส ¶ ตํ ทิสฺวา อตฺตมนา อุทคฺโค, ปหฏฺจิตฺโต จ สุภคฺครูโป;
กมฺมฺจ ทิสฺวาน มหาวิปากํ, สนฺทิฏฺิกํ จกฺขุนา สจฺฉิกตฺวา.
ตเมนมโวจ ¶ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ทสฺสามิ ทานํ สมณพฺราหฺมณานํ;
น จาปิ เม กิฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, ตุวฺจ เม ยกฺข พหูปกาโร’’ติ.
‘‘ตุวฺจ เม ลิจฺฉวิ เอกเทสํ, อทาสิ ทานานิ อโมฆเมตํ;
สฺวาหํ ¶ กริสฺสามิ ตยาว สกฺขึ, อมานุโส มานุสเกน สทฺธิ’’นฺติ.
‘‘คตี จ พนฺธู จ ปรายณฺจ [ปรายนฺจ (สฺยา. ก.)], มิตฺโต มมาสิ อถ เทวตา เม [เทวตาสิ (สี. สฺยา.)];
ยาจามิ ตํ [ยาจามหํ (สี.)] ปฺชลิโก ภวิตฺวา, อิจฺฉามิ ตํ ยกฺข ปุนาปิ ทฏฺุ’’นฺติ.
‘‘สเจ ตุวํ อสฺสทฺโธ ภวิสฺสสิ, กทริยรูโป วิปฺปฏิปนฺนจิตฺโต;
ตฺวํ เนว มํ ลจฺฉสิ [เตเนว มํ น ลจฺฉสี (สี.), เตเนว มํ ลิจฺฉวิ (สฺยา.), เตเนว มํ ลจฺฉสิ (ก.)] ทสฺสนาย, ทิสฺวา จ ตํ โนปิ จ อาลปิสฺสํ.
‘‘สเจ ปน ตฺวํ ภวิสฺสสิ ธมฺมคารโว, ทาเน รโต สงฺคหิตตฺตภาโว;
โอปานภูโต สมณพฺราหฺมณานํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย.
‘‘ทิสฺวา จ ตํ อาลปิสฺสํ ภทนฺเต, อิมฺจ สูลโต ลหุํ ปมฺุจ;
ยโต นิทานํ อกริมฺห สกฺขึ, มฺามิ สูลาวุตกสฺส การณา.
‘‘เต ¶ อฺมฺํ อกริมฺห สกฺขึ, อยฺจ ¶ สูลโต [สูลาวุโต (สี. สฺยา.)] ลหุํ ปมุตฺโต;
สกฺกจฺจ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต, มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา;
กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียํ.
‘‘กปฺปิตกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว [เตน (สฺยา. ก.)] สห สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉ, โส เต อกฺขิสฺสติ เอตมตฺถํ.
‘‘ตเมว ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต;
โส เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ,
สพฺพมฺปิ ¶ อกฺขิสฺสติ ยถา ปชาน’’นฺติ.
โส ตตฺถ รหสฺสํ สมุลฺลปิตฺวา, สกฺขึ กริตฺวาน อมานุเสน;
ปกฺกามิ โส ลิจฺฉวีนํ สกาสํ, อถ พฺรวิ ปริสํ สนฺนิสินฺนํ.
‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวากฺยํ, วรํ วริสฺสํ ลภิสฺสามิ อตฺถํ;
สูลาวุโต ¶ ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีหิตทณฺโฑ [ปณีตนณฺโฑ (ก.)] อนุสตฺตรูโป [อนุปกฺกรูโป (ก.)].
‘‘เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต;
ตาหํ โมจยิสฺสามิ ทานิ, ยถามตึ อนุชานาตุ สงฺโฆ’’ติ.
‘‘เอตฺจ อฺฺจ ลหุํ ปมฺุจ, โก ตํ วเทถ [วเทถาติ (ก.), วเทถ จ (สฺยา.)] ตถา กโรนฺตํ;
ยถา ปชานาสิ ตถา กโรหิ, ยถามตึ อนุชานาติ สงฺโฆ’’ติ.
โส ¶ ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, สูลาวุตํ โมจยิ ขิปฺปเมว;
‘มา ภายิ สมฺมา’ติ จ ตํ อโวจ, ติกิจฺฉกานฺจ อุปฏฺเปสิ.
‘‘กปฺปิตกฺจ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว สห [เตน สมํ (สี.), เตน สห (สฺยา. ก.)] สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ลิจฺฉวิ, ตเถว ปุจฺฉิตฺถ นํ การณตฺถิโก.
‘‘สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีตทณฺโฑ ¶ อนุสตฺตรูโป;
เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต.
‘‘โส โมจิโต คนฺตฺวา มยา อิทานิ, เอตสฺส ยกฺขสฺส วโจ หิ ภนฺเต;
สิยา นุ โข การณํ กิฺจิเทว, เยน โส นิรยํ โน วเชยฺย.
‘‘อาจิกฺข ภนฺเต ยทิ อตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณม;
น เตสํ กมฺมานํ วินาสมตฺถิ, อเวทยิตฺวา อิธ พฺยนฺติภาโว’’ติ.
‘‘สเจ ¶ ส ธมฺมานิ สมาจเรยฺย, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.
‘‘อฺาโต [าโตมฺหิ (ก.)] เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ, มมมฺปิ ทานิ อนุกมฺป ภนฺเต;
อนุสาส มํ โอวท ภูริปฺ, ยถา อหํ โน นิรยํ วเชยฺย’’นฺติ.
‘‘อชฺเชว ¶ ¶ พุทฺธํ สรณํ อุเปหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ;
อิมฺจ อริยํ [อิมฺจ (สฺยา.)] อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยาหิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ททาหิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา [สทา ปฺุํ ปวฑฺฒติ (สฺยา. ก.)].
‘‘ภิกฺขูปิ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, สทา ปฺุํ ปวฑฺฒติ.
‘‘เอวฺจ ธมฺมานิ [กมฺมานิ (สี. สฺยา.)] สมาจรนฺโต, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มฺุจ ตุวํ [มุจฺเจยฺย โส ตฺวํ (ก.)] นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ ¶ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยามิ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ;
อิมฺจ อริยํ อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยามิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
‘‘จีวรํ ¶ ¶ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.
‘‘ภิกฺขู ¶ จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ททามิ น วิกมฺปามิ [วิกปฺปามิ (สี. สฺยา.)], พุทฺธานํ สาสเน รโต’’ติ.
เอตาทิสา ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร, เวสาลิยํ อฺตโร อุปาสโก;
สทฺโธ มุทู การกโร จ ภิกฺขุ, สงฺฆฺจ สกฺกจฺจ ตทา อุปฏฺหิ.
สูลาวุโต จ อโรโค หุตฺวา, เสรี ¶ สุขี ปพฺพชฺชํ อุปาคมิ [ปพฺพชฺชมุปคจฺฉิ (ก.)];
ภิกฺขฺุจ อาคมฺม กปฺปิตกุตฺตมํ, อุโภปิ สามฺผลานิ อชฺฌคุํ.
เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหปฺผลา โหติ สตํ วิชานตํ;
สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ [ผุสฺสยิ (สฺยา. ก.)], ผลํ กนิฏฺํ ปน อมฺพสกฺกโร’’ติ.
อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ ปมํ.
๒. เสรีสกเปตวตฺถุ
[วิ. ว. ๑๒๒๘] สุโณถ ยกฺขสฺส วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;
ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตฺจ สุณาถ สพฺเพ.
โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม [นาโม (สี.)], ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;
โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติ.
‘‘วงฺเก ¶ อรฺเ อมนุสฺสฏฺาเน, กนฺตาเร อปฺโปทเก อปฺปภกฺเข;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, วงฺกํภยา นฏฺมนา มนุสฺสา.
‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภกฺโข [ภิกฺโข (ก.)];
อฺตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จ.
‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;
ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโป.
‘‘‘อถ ตุมฺเห เกน วณฺเณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสํ หิ;
อนุปวิฏฺา สหสา สมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’’ติ.
‘‘มคเธสุ องฺเคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;
เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา.
‘‘ทิวา ปิปาสํ นธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปฺจ สเมกฺขมานา;
เอเตน เวเคน อายาม สพฺเพ, รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปนฺนา วิกาเล.
‘‘เต ¶ ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตา.
‘‘อิทฺจ ¶ ทิสฺวาน อทิฏฺปุพฺพํ, วิมานเสฏฺฺจ ตวฺจ ยกฺข;
ตตุตฺตรึ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติ.
‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมฺจ วณฺณุํ, เวตฺตาจรํ [เวตฺตํ ปรํ (สฺยา.), เวตฺตาจารํ (ก.)] สงฺกุปถฺจ มคฺคํ;
นทิโย ปน ปพฺพตานฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุ.
‘‘ปกฺขนฺทิยาน วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;
ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ, อจฺเฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติ.
‘‘อิโตปิ อจฺเฉรตรํ กุมาร, น โน สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ;
อตีตมานุสฺสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวา น ตปฺปาม อโนมวณฺณํ.
‘‘เวหายสํ โปกฺขรฺโ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา [ปหูตมาลฺยา (สฺยา.)] พหุปุณฺฑรีกา;
ทุมา จิเม นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภึ ปวายนฺติ.
‘‘เวฬูริยถมฺภา สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;
มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเส.
‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;
รตนนฺตรํ กฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปฏฺเฏหิ จ สาธุฉนฺนํ.
‘‘ชมฺโพนทุตฺตตฺตมิทํ ¶ สุมฏฺโ, ปาสาทโสปาณผลูปปนฺโน;
ทฬฺโห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ [วคฺคุ สุมุโข สุสงฺคโต (สี.)], อตีว นิชฺฌานขโม มนฺุโ.
‘‘รตนนฺตรสฺมึ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;
มุรชอาลมฺพรตูริยฆุฏฺโ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนาย.
‘‘โส โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;
อจินฺติโย สพฺพคุณูปปนฺโน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา [นฬิฺํ (ก.)].
‘‘เทโว นุ อาสิ อุทวาสิ ยกฺโข, อุทาหุ เทวินฺโท มนุสฺสภูโต;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยกฺโข’’ติ.
‘‘เสรีสโก นาม อหมฺหิ ยกฺโข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุตฺโต;
อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รฺโ’’ติ.
‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํ กตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ.
‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํ กตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;
สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ เม ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ.
‘‘กึ ¶ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.
‘‘มมํ ¶ ปายาสีติ อหุ สมฺา, รชฺชํ ยทา การยึ โกสลานํ;
นตฺถิกทิฏฺิ กทริโย ปาปธมฺโม, อุจฺเฉทวาที จ ตทา อโหสึ.
‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;
โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ, ทิฏฺิวิสูกานิ วิโนทยี เม.
‘‘ตาหํ ตสฺส ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฏิเทวยิสฺสํ;
ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;
อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณึ, สเกน ทาเรน จ อโหสิ ตุฏฺโ.
‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เตเหว กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.
‘‘สจฺจํ กิราหํสุ นรา สปฺา, อนฺถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;
ยหึ ยหึ คจฺฉติ ปฺุกมฺโม, ตหึ ตหึ โมทติ กามกามี.
‘‘ยหึ ยหึ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พนฺโธ จ ปริกฺกิเลโส;
ตหึ ตหึ คจฺฉติ ปาปกมฺโม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติ.
‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ¶ ชโน อโหสิ, อสฺมึ มุหุตฺเต กลลีกโตว;
ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติ.
‘‘อิเม จ สิรีสวนา [อิเม สิรีสูปวนา จ (สี.), อิเมปิ สิรีสวนา จ (ปี. ก.)] ตาตา, ทิพฺพา คนฺธา สุรภี สมฺปวนฺติ;
เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา จ รตฺโต จ ตมํ นิหนฺตฺวา.
‘‘อิเมสฺจ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฏิกา ผลติ เอกเมกา;
มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทคฺเค กายมฺหิ อิธูปปนฺโน.
‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, อสฺมึ วิมาเน ตฺวาน ตาตา;
อายุกฺขยา ปฺุกฺขยา จวิสฺสํ, เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ.
‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;
เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปฺุา’’ติ.
‘‘อนุจฺฉวึ โอวทิยฺจ เม ตํ, ยํ มํ ตุมฺเห เปยฺยวาจํ วเทถ;
ตุมฺเห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยนิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติ.
‘‘คนฺตฺวา มยํ สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนฺนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม เสรีสมหํ อุฬาร’’นฺติ.
‘‘มา ¶ เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;
ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคฺจ อธิฏฺหาถ.
‘‘อุปาสโก อตฺถิ อิมมฺหิ สงฺเฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน;
สทฺโธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมา.
‘‘สฺชานมาโน ¶ น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย จ เจตเยยฺย;
เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺย.
‘‘สคารโว สปฺปฏิสฺโส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุทฺโธ;
โส มาตรํ ปิตรฺจาปิ ชนฺตุ, ธมฺเมน โปเสติ อริยวุตฺติ.
‘‘มฺเ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;
มาตาปิตูนฺจ โย อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.
‘‘อุชู อวงฺโก อสโ อมาโย, น เลสกปฺเปน จ โวหเรยฺย;
โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธมฺเม ิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํ.
‘‘ตํ การณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;
อฺตฺร เตนิห ภสฺมี [ภสฺมิ (สฺยา.), ภสฺม (ก.)] ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติ.
‘‘กึ ¶ นาม โส กิฺจ กโรติ กมฺมํ, กึ นามเธยฺยํ กึ ปน ตสฺส โคตฺตํ;
มยมฺปิ นํ ทฏฺุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;
ลาภา หิ ตสฺส ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติ.
‘‘โย กปฺปโก สมฺภวนามเธยฺโย, อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;
ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส, มา โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติ.
‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ ยกฺข, น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;
มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข, สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติ.
‘‘เย เกจิ อิมสฺมึ สตฺเถ มนุสฺสา, ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;
สพฺเพว เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ, ปสฺสนฺตุ ปฺุานํ ผลํ กทริยา’’ติ.
เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา [ปุรกฺขิปิตฺวา (สี.)];
สพฺเพว เต อาลมฺพึสุ วิมานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส.
เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยึสุ;
ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยึสุ;
อมชฺชปา โน จ มุสา ภณึสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฏฺา.
เต ¶ ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิตฺวา;
ปกฺกามิ สตฺโถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํ.
คนฺตฺวาน เต สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ [อุทย (ปี. ก.)] ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ.
คนฺตฺวาน เต สงฺฆรํ โสตฺถิวนฺโต, ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;
อานนฺที วิตฺตา สุมนา ปตีตา, อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;
เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยึสุ.
เอตาทิสา ¶ สปฺปุริสาน เสวนา, มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;
เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส, สพฺเพว สตฺตา สุขิตา [สุขิโน (ปี. ก.)] อเหสุนฺติ.
เสรีสกเปตวตฺถุ ทุติยํ.
ภาณวารํ ตติยํ นิฏฺิตํ.
๓. นนฺทกเปตวตฺถุ
ราชา ¶ ปิงฺคลโก นาม, สุรฏฺานํ อธิปติ อหุ;
โมริยานํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา, สุรฏฺํ ปุนราคมา.
อุณฺเห มชฺฌนฺหิเก [มชฺฌนฺติเก (สพฺพตฺถ)] กาเล, ราชา ปงฺกํ [วงฺกํ (ก.)] อุปาคมิ;
อทฺทส มคฺคํ รมณียํ, เปตานํ ตํ วณฺณุปถํ [วณฺณนาปถํ (สี. สฺยา.)].
สารถึ ¶ อามนฺตยี ราชา –
‘‘อยํ มคฺโค รมณีโย, เขโม โสวตฺถิโก สิโว;
อิมินา สารถิ ยาม, สุรฏฺานํ สนฺติเก อิโต’’.
เตน ¶ ปายาสิ โสรฏฺโ, เสนาย จตุรงฺคินิยา;
อุพฺพิคฺครูโป ปุริโส, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;
ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;
อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ [สูยติ (สี. สฺยา.)] ทารุโณ’’.
สํวิคฺโค ราชา โสรฏฺโ, สารถึ เอตทพฺรวิ;
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;
ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;
อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ ทารุโณ’’.
หตฺถิกฺขนฺธํ สมารุยฺห, โอโลเกนฺโต จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสฺสา (ก.)];
อทฺทส นิคฺโรธํ รมณียํ [รุกฺขํ นิคฺโรธํ (สฺยา. ก.)], ปาทปํ ฉายาสมฺปนฺนํ;
นีลพฺภวณฺณสทิสํ, เมฆวณฺณสิรีนิภํ.
สารถึ ¶ ¶ อามนฺตยี ราชา, ‘‘กึ เอโส ทิสฺสติ พฺรหา;
นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.
‘‘นิคฺโรโธ โส มหาราช, ปาทโป ฉายาสมฺปนฺโน;
นีลพฺภวณฺณสทิโส ¶ , เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.
เตน ปายาสิ โสรฏฺโ, เยน โส ทิสฺสเต พฺรหา;
นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ.
หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ราชา รุกฺขํ อุปาคมิ;
นิสีทิ รุกฺขมูลสฺมึ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ อทฺทส.
ปุริโส ¶ จ เทววณฺณี, สพฺพาภรณภูสิโต;
อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
ปิวตุ เทโว ปานียํ, ปูเว ขาท อรินฺทม’’.
ปิวิตฺวา ราชา ปานียํ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
ปูเว ขาทิตฺวา ปิตฺวา จ, โสรฏฺโ เอตทพฺรวิ.
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ [นมฺหิ (ก.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;
เปโต อหํ มหาราช, สุรฏฺา อิธ มาคโต’’ติ.
‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, สุรฏฺสฺมึ ปุเร ตุวํ;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, อานุภาโว อยํ ตวา’’ติ.
‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
อมจฺจา ปาริสชฺชา จ, พฺราหฺมโณ จ ปุโรหิโต.
‘‘สุรฏฺสฺมึ อหํ เทว, ปุริโส ปาปเจตโส;
มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘‘ททนฺตานํ ¶ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุชฺชนํ;
อฺเสํ ททมานานํ, อนฺตรายกโร อหํ.
‘‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;
นตฺถิ อาจริโย นาม, อทนฺตํ โก ทเมสฺสติ.
‘‘‘สมตุลฺยานิ ¶ ภูตานิ, กุโต [กุเล (สฺยา. ก.)] เชฏฺาปจายิโก;
นตฺถิ พลํ วีริยํ วา, กุโต อุฏฺานโปริสํ.
‘‘‘นตฺถิ ทานผลํ นาม, น วิโสเธติ เวรินํ;
ลทฺเธยฺยํ ลภเต มจฺโจ, นิยติปริณามชํ [ปริณามชา (สี. ก.)].
‘‘‘นตฺถิ ¶ มาตา ปิตา ภาตา, โลโก นตฺถิ อิโต ปรํ;
นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ หุตํ, สุนิหิตํ น วิชฺชติ.
‘‘‘โยปิ ¶ หเนยฺย ปุริสํ, ปรสฺส ฉินฺทเต [ปุริสสฺส ฉินฺเท (สฺยา. ก.)] สิรํ;
น โกจิ กฺจิ หนติ, สตฺตนฺนํ วิวรมนฺตเร.
‘‘‘อจฺเฉชฺชาเภชฺโช หิ [เภชฺโช (สี.), อเภชฺโช (สฺยา.), เภชฺชาสิ (ก.)] ชีโว, อฏฺํโส คุฬปริมณฺฑโล;
โยชนานํ สตํ ปฺจ, โก ชีวํ เฉตฺตุมรหติ.
‘‘‘ยถา สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต, นิพฺเพเนฺตํ ปลายติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, นิพฺเพเนฺโต ปลายติ.
‘‘‘ยถา คามโต นิกฺขมฺม, อฺํ คามํ ปวิสติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.
‘‘‘ยถา ¶ เคหโต นิกฺขมฺม, อฺํ เคหํ ปวิสติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.
‘‘‘จุลฺลาสีติ [จุฬาสีติ (สี. สฺยา. ก.)] มหากปฺปิโน [มหากปฺปุโน (สี.)], สตสหสฺสานิ หิ;
เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา, สํสารํ เขปยิตฺวาน;
ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสเร.
‘‘‘มิตานิ สุขทุกฺขานิ, โทเณหิ ปิฏเกหิ จ;
ชิโน สพฺพํ ปชานาติ’, สมฺมูฬฺหา อิตรา ปชา.
‘‘เอวํทิฏฺิ ปุเร อาสึ, สมฺมูฬฺโห โมหปารุโต;
มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘โอรํ เม ฉหิ มาเสหิ, กาลงฺกิริยา ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.
[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.
‘‘วสฺสานิ ¶ สตสหสฺสานิ, โฆโส สุยฺยติ ตาวเท;
ลกฺโข เอโส มหาราช, สตภาควสฺสโกฏิโย.
‘‘โกฏิสตสหสฺสานิ ¶ , นิรเย ปจฺจเร ชนา;
มิจฺฉาทิฏฺี จ ทุสฺสีลา, เย จ อริยูปวาทิโน.
‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.
‘‘ตํ ¶ ¶ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
ธีตา มยฺหํ มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต.
‘‘กโรติ ภทฺทกํ กมฺมํ, สีเลสุโปสเถ รตา;
สฺตา สํวิภาคี จ, วทฺู วีตมจฺฉรา.
‘‘อขณฺฑการี สิกฺขาย, สุณฺหา ปรกุเลสุ จ;
อุปาสิกา สกฺยมุนิโน, สมฺพุทฺธสฺส สิรีมโต.
‘‘ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ;
โอกฺขิตฺตจกฺขุ สติมา, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต.
‘‘สปทานํ จรมาโน, อคมา ตํ นิเวสนํ;
‘ตมทฺทส มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต’.
‘‘ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ สา อทา;
‘ปิตา เม กาลงฺกโต, ภนฺเต ตสฺเสตํ อุปกปฺปตุ’.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;
ภฺุชามิ กามกามีหํ, ราชา เวสฺสวโณ ยถา.
‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจติ;
ตํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน, ผุสนฺติ อมตํ ปทํ;
ตํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘จตฺตาโร ¶ จ ปฏิปนฺนา [มคฺคปฏิปนฺนา (สี. สฺยา.)], จตฺตาโร จ ผเล ิตา;
เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปฺาสีลสมาหิโต;
ตํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘ปาณาติปาตา ¶ ¶ วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ.
‘‘โอผุณามิ ¶ [โอปุณามิ (สี.), โอผุนามิ (สฺยา. ก.), โอปุนามิ (?)] มหาวาเต, นทิยา สีฆคามิยา;
วมามิ ปาปิกํ ทิฏฺึ, พุทฺธานํ สาสเน รโต’’.
อิทํ วตฺวาน โสรฏฺโ, วิรมิตฺวา ปาปทสฺสนา [ปาปทสฺสนํ (สฺยา. ก.)];
นโม ¶ ภควโต กตฺวา, ปาโมกฺโข รถมารุหีติ.
นนฺทกเปตวตฺถุ ตติยํ.
๔. เรวตีเปตวตฺถุ
[วิ. ว. ๘๖๓] ‘‘อุฏฺเหิ เรวเต สุปาปธมฺเม, อปารุตทฺวาเร อทานสีเล;
เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา [สมชฺชตา (สี.)] เนรยิกา ทุเขนา’’ติ.
อิจฺเจว [อิจฺเจวํ (สฺยา. ก.)] วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต ทฺเว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;
ปจฺเจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเก.
‘‘อาทิจฺจวณฺณํ ¶ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กฺจนชาลฉนฺนํ;
กสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา [จนฺทนสารานุลิตฺตา (สฺยา.)], อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.
‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทฺู;
ตสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.
‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ¶ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;
ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยทสฺสนายา’’ติ.
‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธมฺเม, ปฺุํ ตยา อกตํ ชีวโลเก;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติ.
‘‘กึ นุ คูถฺจ มุตฺตฺจ, อสุจี ปฏิทิสฺสติ;
ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติ.
‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;
ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติ.
‘‘กึ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
เกน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติ.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;
มุสาวาเทน วฺเจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา.
‘‘เตน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส;
ตตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต.
‘‘หตฺเถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กณฺเณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;
อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ.
‘‘สาธุ โข มํ ปฏิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;
ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติ.
‘‘ปุเร ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;
สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติ.
‘‘โก เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุฏฺโ เม เอวํ วเทยฺย;
‘นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺย [สยน (สี.)] มถนฺนปานํ;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ’.
‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ.
‘‘อารามานิ จ โรปิสฺสํ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ¶ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฏฺมิทํ มยา’’ติ.
อิจฺเจวํ ¶ วิปฺปลปนฺตึ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;
ขิปึสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธํปาทํ อวํสิรํ.
‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสึ, ปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ;
วิตเถน จ สามิกํ วฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติ.
เรวตีเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. อุจฺฉุเปตวตฺถุ
‘‘อิทํ ¶ มม อุจฺฉุวนํ มหนฺตํ, นิพฺพตฺตติ ปฺุผลํ อนปฺปกํ;
ตํ ทานิ เม น [น ทานิ เม ตํ (สี. ก.)] ปริโภคเมติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘หฺามิ [วิหฺามิ (ก.)] ขชฺชามิ จ วายมามิ, ปริสกฺกามิ ปริภฺุชิตุํ กิฺจิ;
สฺวาหํ ฉินฺนถาโม กปโณ ลาลปามิ, กิสฺส [กิสฺสสฺส (สี.), กิสฺสสฺสุ (?)] กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘วิฆาโต จาหํ ปริปตามิ ฉมายํ, ปริวตฺตามิ วาริจโรว ฆมฺเม;
รุทโต จ เม [ทูรโต จ เม (สฺยา. ก.)] อสฺสุกา นิคฺคลนฺติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘ฉาโต ¶ กิลนฺโต จ ปิปาสิโต จ, สนฺตสฺสิโต ¶ สาตสุขํ น วินฺเท;
ปุจฺฉามิ ตํ เอตมตฺถํ ภทนฺเต, กถํ นุ อุจฺฉุปริโภคํ ลเภยฺย’’นฺติ.
‘‘ปุเร ตุวํ กมฺมมกาสิ อตฺตนา, มนุสฺสภูโต ปุริมาย ชาติยา;
อหฺจ ตํ เอตมตฺถํ วทามิ, สุตฺวาน ตฺวํ เอตมตฺถํ วิชาน.
‘‘อุจฺฉุํ ¶ ตุวํ ขาทมาโน ปยาโต, ปุริโส จ เต ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉิ;
โส จ ตํ ปจฺจาสนฺโต กเถสิ, ตสฺส ตุวํ น กิฺจิ อาลปิตฺถ.
‘‘โส จ ตํ อภณนฺตํ อยาจิ, ‘เทหยฺย อุจฺฉุ’นฺติ จ ตํ อโวจ;
ตสฺส ตุวํ ปิฏฺิโต อุจฺฉุํ อทาสิ, ตสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘อิงฺฆ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปิฏฺิโต คณฺเหยฺยาสิ [อิงฺฆ ตฺวํ ปิฏฺิโต คณฺห อุจฺฉุํ (สี.)], คเหตฺวาน ตํ ขาทสฺสุ ยาวทตฺถํ;
เตเนว ตฺวํ อตฺตมโน ภวิสฺสสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จา’’ติ.
คนฺตฺวาน ¶ โส ปิฏฺิโต อคฺคเหสิ, คเหตฺวาน ตํ ขาทิ ยาวทตฺถํ;
เตเนว โส อตฺตมโน อโหสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จาติ.
อุจฺฉุเปตวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. กุมารเปตวตฺถุ
‘‘สาวตฺถิ ¶ ¶ นาม นครํ, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;
ตตฺถ อาสุํ ทฺเว กุมารา, ราชปุตฺตาติ เม สุตํ.
‘‘สมฺมตฺตา ¶ [ปมตฺตา (ก.)] รชนีเยสุ, กามสฺสาทาภินนฺทิโน;
ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธา, น เต ปสฺสึสุนาคตํ.
‘‘เต จุตา จ มนุสฺสตฺตา, ปรโลกํ อิโต คตา;
เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตา, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.
‘‘‘พหูสุ วต [พหุสฺสุเตสุ (สี. ก.)] สนฺเตสุ, เทยฺยธมฺเม อุปฏฺิเต;
นาสกฺขิมฺหา จ อตฺตานํ, ปริตฺตํ กาตุํ สุขาวหํ.
‘‘‘กึ ตโต ปาปกํ อสฺส, ยํ โน ราชกุลา จุตา;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา [ขุปฺปิปาสาสมปฺปิตา (สี. ปี.)].
‘‘สามิโน อิธ หุตฺวาน, โหนฺติ อสามิโน ตหึ;
ภมนฺติ [จรนฺติ (สี. ปี.), มรนฺติ (สฺยา.)] ขุปฺปิปาสาย, มนุสฺสา อุนฺนโตนตา.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;
ปหาย ¶ อิสฺสรมทํ, ภเว สคฺคคโต นโร;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.
กุมารเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. ราชปุตฺตเปตวตฺถุ
ปุพฺเพ ¶ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนํ;
รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.
นจฺจํ คีตํ รตึ ขิฑฺฑํ, อนุภุตฺวา อนปฺปกํ;
อุยฺยาเน ปริจริตฺวา, ปวิสนฺโต คิริพฺพชํ.
อิสึ สุเนตฺต [สุนิต (ก.)] มทฺทกฺขิ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;
อปฺปิจฺฉํ หิริสมฺปนฺนํ, อฺุเฉ ปตฺตคเต รตํ.
หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ลทฺธา ภนฺเตติ จาพฺรวิ;
ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, อุจฺจํ ปคฺคยฺห ขตฺติโย.
ถณฺฑิเล ¶ ปตฺตํ ภินฺทิตฺวา, หสมาโน อปกฺกมิ;
‘‘รฺโ กิตวสฺสาหํ ปุตฺโต, กึ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสิ’’.
ตสฺส ¶ กมฺมสฺส ผรุสสฺส, วิปาโก กฏุโก อหุ;
ยํ ราชปุตฺโต เวเทสิ, นิรยมฺหิ สมปฺปิโต.
ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นวุตานิ จ;
ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.
อุตฺตาโนปิ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุชฺโช วามทกฺขิโณ;
อุทฺธํปาโท ิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถ.
พหูนิ ¶ วสฺสสหสฺสานิ, ปูคานิ นหุตานิ จ;
ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.
เอตาทิสํ โข กฏุกํ, อปฺปทุฏฺปฺปโทสินํ;
ปจฺจนฺติ ปาปกมฺมนฺตา, อิสิมาสชฺช สุพฺพตํ.
โส ตตฺถ พหุวสฺสานิ, เวทยิตฺวา พหุํ ทุขํ;
ขุปฺปิปาสหโต นาม [ขุปฺปิปาสาหโต นาม (สี. ปี)], เปโต อาสิ ตโต จุโต.
เอตมาทีนวํ ตฺวา [ทิสฺวา (สี.)], อิสฺสรมทสมฺภวํ;
ปหาย อิสฺสรมทํ, นิวาตมนุวตฺตเย.
ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํโส, โย พุทฺเธสุ สคารโว;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตีติ.
ราชปุตฺตเปตวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. คูถขาทกเปตวตฺถุ
‘‘คูถกูปโต ¶ อุคฺคนฺตฺวา, โก นุ ทีโน ปติฏฺสิ [ทีโน หิ ติฏฺสิ (สี.)];
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.
‘‘อหุ ¶ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;
อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘ตสฺสาหํ ¶ ¶ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติ.
‘‘อมิตฺโต มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.
‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;
โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.
‘‘ยํ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;
อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.
คูถขาทกเปตวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. คูถขาทกเปติวตฺถุ
‘‘คูถกูปโต ¶ อุคฺคนฺตฺวา, กา นุ ทีนา ปติฏฺสิ;
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺตา, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.
‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;
อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘อมิตฺโต ¶ มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.
‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;
โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.
‘‘ยํ ¶ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;
อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.
คูถขาทกเปติวตฺถุ นวมํ.
๑๐. คณเปตวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ทุพฺพณฺณรูปาตฺถ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิกา [อุปฺปาสุฬิกา (ก.)] กิสิกา, เก นุ ตุมฺเหตฺถ มาริสา’’ติ.
‘‘มยํ ภทนฺเต เปตามฺหา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘อนาวเฏสุ ติตฺเถสุ, วิจินิมฺหทฺธมาสกํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘นทึ อุเปม ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;
ฉายํ อุเปม อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.
‘‘อคฺคิวณฺโณ จ โน วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;
เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.
‘‘อปิ โยชนานิ [อธิโยชนานิ (สี. ก.)] คจฺฉาม, ฉาตา อาหารเคธิโน;
อลทฺธาว ¶ นิวตฺตาม, อโห โน อปฺปปฺุตา.
‘‘ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
อุตฺตานา ปฏิกิราม, อวกุชฺชา ปตามเส.
‘‘เต จ ตตฺเถว ปติตา [ตตฺถ ปปหิตา (ก.)], ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
อุรํ สีสฺจ ฆฏฺเฏม, อโห โน อปฺปปฺุตา.
‘‘เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘เต หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหาม กุสลํ พหุ’’นฺติ.
คณเปตวตฺถุ ทสมํ.
๑๑. ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ
‘‘ทิฏฺา ¶ ¶ ¶ ตยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ,
เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา; สยมทฺทส กมฺมวิปากมตฺตโน,
เนสฺสามิ ตํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ; ตตฺถ คนฺตฺวา กุสลํ กโรหิ กมฺมํ’’.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.
‘‘ทิฏฺา มยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ, เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา;
สยมทฺทสํ ¶ กมฺมวิปากมตฺตโน, กาหามิ ปฺุานิ อนปฺปกานี’’ติ.
ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.
๑๒. อมฺพวนเปตวตฺถุ
‘‘อยฺจ เต โปกฺขรณี สุรมฺมา, สมา สุติตฺถา จ มโหทกา จ;
สุปุปฺผิตา ภมรคณานุกิณฺณา, กถํ ตยา ลทฺธา อยํ มนฺุา.
‘‘อิทฺจ เต อมฺพวนํ สุรมฺมํ, สพฺโพตุกํ ธารยเต [ธารยติ (สฺยา. ก.)] ผลานิ;
สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุกิณฺณํ, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมานํ’’.
‘‘อมฺพปกฺกํ ทกํ [อมฺพปกฺโกทกํ (สี. สฺยา. ปี.), อมฺพปกฺกูทกํ (ก.)] ยาคุ, สีตจฺฉายา มโนรมา;
ธีตาย ทินฺนทาเนน, เตน เม อิธ ลพฺภติ’’.
‘‘สนฺทิฏฺิกํ ¶ กมฺมํ เอวํ [สนฺทิฏฺิกํ เอว (สฺยา.)] ปสฺสถ, ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺส วิปากํ;
ทาสี อหํ อยฺยกุเลสุ หุตฺวา, สุณิสา โหมิ อคารสฺส อิสฺสรา’’ติ.
อมฺพวนเปตวตฺถุ ทฺวาทสมํ.
๑๓. อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ
‘‘ยํ ¶ ¶ ททาติ น ตํ โหติ, เทเถว ทานํ ทตฺวา อุภยํ ตรติ;
อุภยํ เตน ทาเนน [เตน (ก.)] คจฺฉติ, ชาครถ มาปมชฺชถา’’ติ.
อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ เตรสมํ.
๑๔. โภคสํหรเปตวตฺถุ
‘‘มยํ ¶ โภเค สํหริมฺห, สเมน วิสเมน จ;
เต อฺเ ปริภฺุชนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินี’’ติ.
โภคสํหรเปตวตฺถุ จุทฺทสมํ.
๑๕. เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ
[ชา. ๑.๔.๕๔ ชาตเกปิ] ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสติ’’.
[ชา. ๑.๔.๕๕ ชาตเกปิ] ‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;
ตถา หิ ปกตํ ปาปํ, ตุยฺหํ มยฺหฺจ มาริสา [มม ตุยฺหฺจ มาริส (สี. สฺยา. ปี.)].
[ชา. ๑.๔.๕๓ ชาตเกปิ] ‘‘ทุชฺชีวิตมชีวมฺห ¶ , เย สนฺเต น ททมฺหเส;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
[ชา. ๑.๔.๕๖ ชาตเกปิ] ‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติ.
เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ ปนฺนรสมํ.
๑๖. สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ
‘‘กึ ¶ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, มิโค ภนฺโตว ธาวสิ;
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต [ปาปกมฺมํ (สฺยา. ปี.)], กึ นุ สทฺทายเส ตุว’’นฺติ.
‘‘อหํ ¶ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต.
‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘สฏฺิ ¶ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.
‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, สุเนตฺตํ ภาวิตินฺทฺริยํ;
นิสินฺนํ รุกฺขมูลสฺมึ, ฌายนฺตํ อกุโตภยํ.
‘‘สาลิตฺตกปฺปหาเรน, ภินฺทิสฺสํ ตสฺส มตฺถกํ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิสํ.
‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ [นิปตนฺติ, โว ภินฺทนฺเตว (สี. ธมฺมปทฏฺกถา)] มตฺถก’’นฺติ.
‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส, สฏฺิกูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.
สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ โสฬสมํ.
มหาวคฺโค จตุตฺโถ นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
อมฺพสกฺกโร ¶ ¶ เสรีสโก, ปิงฺคโล เรวติ อุจฺฉุ;
ทฺเว กุมารา ทุเว คูถา, คณปาฏลิอมฺพวนํ.
อกฺขรุกฺขโภคสํหรา, เสฏฺิปุตฺตสฏฺิกูฏา;
อิติ โสฬสวตฺถูนิ, วคฺโค เตน ปวุจฺจติ.
อถ วคฺคุทฺทานํ –
อุรโค อุปริวคฺโค, จูฬมหาติ จตุธา;
วตฺถูนิ เอกปฺาสํ, จตุธา ภาณวารโต.
เปตวตฺถุปาฬิ นิฏฺิตา.