📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

เปตวตฺถุปาฬิ

๑. อุรควคฺโค

๑. เขตฺตูปมเปตวตฺถุ

.

‘‘เขตฺตูปมา อรหนฺโต, ทายกา กสฺสกูปมา;

พีชูปมํ เทยฺยธมฺมํ, เอตฺโต นิพฺพตฺตเต ผลํ.

.

‘‘เอตํ พีชํ กสิ เขตฺตํ, เปตานํ ทายกสฺส จ;

ตํ เปตา ปริภุฺชนฺติ, ทาตา ปุฺเน วฑฺฒติ.

.

‘‘อิเธว กุสลํ กตฺวา, เปเต จ ปฏิปูชิย;

สคฺคฺจ กมติ [คมติ (ก.)] ฏฺานํ, กมฺมํ กตฺวาน ภทฺทก’’นฺติ.

เขตฺตูปมเปตวตฺถุ ปมํ.

๒. สูกรมุขเปตวตฺถุ

.

‘‘กาโย เต สพฺพโสวณฺโณ, สพฺพา โอภาสเต ทิสา;

มุขํ เต สูกรสฺเสว, กึ กมฺมมกรี ปุเร’’ [มกรา ปุเร (ก.)].

.

‘‘กาเยน สฺโต อาสึ, วาจายาสิมสฺโต;

เตน เมตาทิโส วณฺโณ, ยถา ปสฺสสิ นารท.

.

‘‘ตํ ตฺยาหํ [ตาหํ (ก.)] นารท พฺรูมิ, สามํ ทิฏฺมิทํ ตยา;

มากาสิ มุขสา ปาปํ, มา โข สูกรมุโข อหู’’ติ.

สูกรมุขเปตวตฺถุ ทุติยํ.

๓. ปูติมุขเปตวตฺถุ

.

‘‘ทิพฺพํ สุภํ ธาเรสิ วณฺณธาตุํ, เวหายสํ ติฏฺสิ อนฺตลิกฺเข;

มุขฺจ เต กิมโย ปูติคนฺธํ, ขาทนฺติ กึ กมฺมมกาสิ ปุพฺเพ’’.

.

‘‘สมโณ อหํ ปาโปติทุฏฺวาโจ [ปาโป ทุฏฺวาโจ (สี.), ปาโป ทุกฺขวาโจ (สฺยา. ปี.)], ตปสฺสิรูโป มุขสา อสฺโต;

ลทฺธา จ เม ตปสา วณฺณธาตุ, มุขฺจ เม เปสุณิเยน ปูติ.

.

‘‘ตยิทํ ตยา นารท สามํ ทิฏฺํ,

อนุกมฺปกา เย กุสลา วเทยฺยุํ;

‘มา เปสุณํ มา จ มุสา อภาณิ,

ยกฺโข ตุวํ โหหิสิ กามกามี’’’ติ.

ปูติมุขเปตวตฺถุ ตติยํ.

๔. ปิฏฺธีตลิกเปตวตฺถุ

๑๐.

‘‘ยํ กิฺจารมฺมณํ กตฺวา, ทชฺชา ทานํ อมจฺฉรี;

ปุพฺพเปเต จ อารพฺภ, อถ วา วตฺถุเทวตา.

๑๑.

‘‘จตฺตาโร จ มหาราเช, โลกปาเล ยสสฺสิเน [ยสสฺสิโน (สี. สฺยา.)];

กุเวรํ ธตรฏฺฺจ, วิรูปกฺขํ วิรูฬฺหกํ;

เต เจว ปูชิตา โหนฺติ, ทายกา จ อนิปฺผลา.

๑๒.

‘‘น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จฺา ปริเทวนา;

น ตํ เปตสฺส อตฺถาย, เอวํ ติฏฺนฺติ าตโย.

๑๓.

‘‘อยฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺิตา;

ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, านโส อุปกปฺปตี’’ติ.

ปิฏฺธีตลิกเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุ

๑๔.

[ขุ. ปา. ๗.๑ ขุทฺทกปาเ] ‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ [ติโรกุฑฺเฑสุ (สี. สฺยา. ปี.)] ติฏฺนฺติ, สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จ;

ทฺวารพาหาสุ ติฏฺนฺติ, อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรํ.

๑๕.

‘‘ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, ขชฺชโภชฺเช อุปฏฺิเต;

น เตสํ โกจิ สรติ, สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา.

๑๖.

‘‘เอวํ ททนฺติ าตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;

สุจึ ปณีตํ กาเลน, กปฺปิยํ ปานโภชนํ;

‘อิทํ โว าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.

๑๗.

‘‘เต จ ตตฺถ สมาคนฺตฺวา, าติเปตา สมาคตา;

ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, สกฺกจฺจํ อนุโมทเร.

๑๘.

‘‘‘จิรํ ชีวนฺตุ โน าตี, เยสํ เหตุ ลภามเส;

อมฺหากฺจ กตา ปูชา, ทายกา จ อนิปฺผลา’.

๑๙.

‘‘‘น หิ ตตฺถ กสิ อตฺถิ, โครกฺเขตฺถ น วิชฺชติ;

วณิชฺชา ตาทิสี นตฺถิ, หิรฺเน กยากยํ [กโยกฺกยํ (สี. ก.) กโยกยํ (ขุ. ปา. ๗.๖)];

อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลคตา [กาลกตา (สี. สฺยา. ปี.)] ตหึ’.

๒๐.

‘‘‘อุนฺนเม อุทกํ วุฏฺํ, ยถา นินฺนํ ปวตฺตติ;

เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติ’.

๒๑.

‘‘‘ยถา วาริวหา ปูรา, ปริปูเรนฺติ สาครํ;

เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติ’.

๒๒.

‘‘‘อทาสิ เม อกาสิ เม, าติ มิตฺตา [าติ มิตฺโต (?)] สขา จ เม;

เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา, ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ’.

๒๓.

‘‘‘น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จฺา ปริเทวนา;

น ตํ เปตานมตฺถาย, เอวํ ติฏฺนฺติ าตโย’.

๒๔.

‘‘‘อยฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺิตา;

ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, านโส อุปกปฺปติ’.

๒๕.

‘‘โส าติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต, เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา;

พลฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนํ, ตุมฺเหหิ ปุฺํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติ.

ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. ปฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ

๒๖.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;

มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณา [มกฺขิกาปริกิณฺณา จ (สี.)], กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.

๒๗.

‘‘อหํ ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)] เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๒๘.

‘‘กาเลน ปฺจ ปุตฺตานิ, สายํ ปฺจ ปุนาปเร;

วิชายิตฺวาน ขาทามิ, เตปิ นา โหนฺติ เม อลํ.

๒๙.

‘‘ปริฑยฺหติ ธูมายติ, ขุทาย [ขุทฺทาย (ก.)] หทยํ มม;

ปานียํ น ลเภ ปาตุํ, ปสฺส มํ พฺยสนํ คต’’นฺติ.

๓๐.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปุตฺตมํสานิ ขาทสี’’ติ.

๓๑.

‘‘สปตี [สปตฺตี (สี.)] เม คพฺภินี อาสิ, ตสฺสา ปาปํ อเจตยึ;

สาหํ ปทุฏฺมนสา, อกรึ คพฺภปาตนํ.

๓๒.

‘‘ตสฺสา ทฺเวมาสิโก คพฺโภ, โลหิตฺเว ปคฺฆริ;

ตทสฺสา มาตา กุปิตา, มยฺหํ าตี สมานยิ;

สปถฺจ มํ กาเรสิ, ปริภาสาปยี จ มํ.

๓๓.

‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทํ อภาสิสํ;

ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, สเจ ตํ ปกตํ มยา.

๓๔.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน [วิปากํ (สฺยา. ก.)], มุสาวาทสฺส จูภยํ;

ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, ปุพฺพโลหิตมกฺขิตา’’ติ.

ปฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ [ปฺจปุตฺตขาทเปตวตฺถุ (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ] ฉฏฺํ.

๗. สตฺตปุตฺตขาทเปติวตฺถุ

๓๕.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;

มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณา, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.

๓๖.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๓๗.

‘‘กาเลน สตฺต ปุตฺตานิ, สายํ สตฺต ปุนาปเร;

วิชายิตฺวาน ขาทามิ, เตปิ นา โหนฺติ เม อลํ.

๓๘.

‘‘ปริฑยฺหติ ธูมายติ, ขุทาย หทยํ มม;

นิพฺพุตึ นาธิคจฺฉามิ, อคฺคิทฑฺฒาว อาตเป’’ติ.

๓๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปุตฺตมํสานิ ขาทสี’’ติ.

๔๐.

‘‘อหู มยฺหํ ทุเว ปุตฺตา, อุโภ สมฺปตฺตโยพฺพนา;

สาหํ ปุตฺตพลูเปตา, สามิกํ อติมฺิสํ.

๔๑.

‘‘ตโต เม สามิโก กุทฺโธ, สปตฺตึ มยฺหมานยิ;

สา จ คพฺภํ อลภิตฺถ, ตสฺสา ปาปํ อเจตยึ.

๔๒.

‘‘สาหํ ปทุฏฺมนสา, อกรึ คพฺภปาตนํ;

ตสฺสา เตมาสิโก คพฺโภ, ปุพฺพโลหิตโก [ปุพฺพโลหิตโก (ก.)] ปติ.

๔๓.

‘‘ตทสฺสา มาตา กุปิตา, มยฺหํ าตี สมานยิ;

สปถฺจ มํ กาเรสิ, ปริภาสาปยี จ มํ.

๔๔.

‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทํ อภาสิสํ;

‘ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, สเจ ตํ ปกตํ มยา’.

๔๕.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, มุสาวาทสฺส จูภยํ;

ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, ปุพฺพโลหิตมกฺขิตา’’ติ.

สตฺตปุตฺตขาทเปติวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. โคณเปตวตฺถุ

๔๖.

‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, ลายิตฺวา หริตํ ติณํ;

ขาท ขาทาติ ลปสิ, คตสตฺตํ ชรคฺควํ.

๔๗.

‘‘น หิ อนฺเนน ปาเนน, มโต โคโณ สมุฏฺเห;

ตฺวํสิ พาโล จ [พาโลว (ก.)] ทุมฺเมโธ, ยถา ตฺโว ทุมฺมตี’’ติ.

๔๘.

‘‘อิเม ปาทา อิทํ สีสํ, อยํ กาโย สวาลธิ;

เนตฺตา ตเถว ติฏฺนฺติ, อยํ โคโณ สมุฏฺเห.

๔๙.

‘‘นายฺยกสฺส หตฺถปาทา, กาโย สีสฺจ ทิสฺสติ;

รุทํ มตฺติกถูปสฺมึ, นนุ ตฺวฺเว ทุมฺมตี’’ติ.

๕๐.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๕๑.

‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺหํ (พหูสุ)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตสฺส, ปิตุโสกํ อปานุทิ.

๕๒.

‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณว’.

๕๓.

เอวํ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;

วินิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, สุชาโต ปิตรํ ยถาติ.

โคณเปตวตฺถุ อฏฺมํ.

๙. มหาเปสการเปติวตฺถุ

๕๔.

‘‘คูถฺจ มุตฺตํ รุหิรฺจ ปุพฺพํ, ปริภุฺชติ กิสฺส อยํ วิปาโก;

อยํ นุ กึ กมฺมมกาสิ นารี, ยา สพฺพทา โลหิตปุพฺพภกฺขา.

๕๕.

‘‘นวานิ วตฺถานิ สุภานิ เจว, มุทูนิ สุทฺธานิ จ โลมสานิ;

ทินฺนานิ มิสฺสา กิตกา [กิฏกา (ก.)] ภวนฺติ, อยํ นุ กึ กมฺมมกาสิ นารี’’ติ.

๕๖.

‘‘ภริยา มเมสา อหู ภทนฺเต, อทายิกา มจฺฉรินี กทริยา;

สา มํ ททนฺตํ สมณพฺราหฺมณานํ, อกฺโกสติ จ ปริภาสติ จ.

๕๗.

‘‘‘คูถฺจ มุตฺตํ รุหิรฺจ ปุพฺพํ, ปริภุฺช ตฺวํ อสุจึ สพฺพกาลํ;

เอตํ เต ปรโลกสฺมึ โหตุ, วตฺถา จ เต กิฏกสมา ภวนฺตุ’;

เอตาทิสํ ทุจฺจริตํ จริตฺวา, อิธาคตา จิรรตฺตาย ขาทตี’’ติ.

มหาเปสการเปติวตฺถุ นวมํ.

๑๐. ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ

๕๘.

‘‘กา นุ อนฺโตวิมานสฺมึ, ติฏฺนฺตี นูปนิกฺขมิ;

อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท, ปสฺสาม ตํ พหิฏฺิต’’นฺติ.

๕๙.

‘‘อฏฺฏียามิ หรายามิ, นคฺคา นิกฺขมิตุํ พหิ;

เกเสหมฺหิ ปฏิจฺฉนฺนา, ปุฺํ เม อปฺปกํ กต’’นฺติ.

๖๐.

‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิทํ ทุสฺสํ นิวาสย;

อิทํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ นิกฺขม โสภเน;

อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท, ปสฺสาม ตํ พหิฏฺิต’’นฺติ.

๖๑.

‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;

เอเสตฺถุปาสโก สทฺโธ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก.

๖๒.

‘‘เอตํ อจฺฉาทยิตฺวาน, มม ทกฺขิณมาทิส;

ตถาหํ [อถาหํ (สี.)] สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๖๓.

ตฺจ เต นฺหาปยิตฺวาน, วิลิมฺเปตฺวาน วาณิชา;

วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสุํ.

๖๔.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ [สมนนฺตรา อนุทฺทิฏฺเ (สฺยา. ก.)], วิปาโก อุทปชฺชถ [อุปปชฺชถ (สี. สฺยา.)];

โภชนจฺฉาทนปานียํ [โภชนจฺฉาทนํ ปานียํ (สฺยา. ก.)], ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๖๕.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

หสนฺตี วิมานา นิกฺขมิ, ‘ทกฺขิณาย อิทํ ผล’’’นฺติ.

๖๖.

‘‘สุจิตฺตรูปํ รุจิรํ, วิมานํ เต ปภาสติ;

เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติ.

๖๗.

‘‘ภิกฺขุโน จรมานสฺส, โทณินิมฺมชฺชนึ อหํ;

อทาสึ อุชุภูตสฺส, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๖๘.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, วิปากํ ทีฆมนฺตรํ;

อนุโภมิ วิมานสฺมึ, ตฺจ ทานิ ปริตฺตกํ.

๖๙.

‘‘อุทฺธํ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา [กาลํกิริยา (ก.)] ภวิสฺสติ;

เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.

๗๐.

[ม. นิ. ๓.๒๕๐, ๒๖๗; อ. นิ. ๓.๓๖; เป. ว. ๒๔๐, ๖๙๓] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;

อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.

๗๑.

‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.

๗๒.

‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;

ผลฺจ ปาปกมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุส’’นฺติ.

ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ ทสมํ.

๑๑. นาคเปตวตฺถุ

๗๓.

‘‘ปุรโตว [ปุรโต จ (สฺยา.)] เสเตน ปเลติ หตฺถินา, มชฺเฌ ปน อสฺสตรีรเถน;

ปจฺฉา จ กฺา สิวิกาย นียติ, โอภาสยนฺตี ทส สพฺพโต [สพฺพโต (ก.)] ทิสา.

๗๔.

‘‘ตุมฺเห ปน มุคฺครหตฺถปาณิโน, รุทํมุขา ฉินฺนปภินฺนคตฺตา;

มนุสฺสภูตา กิมกตฺถ ปาปํ, เยนฺมฺสฺส ปิวาถ โลหิต’’นฺติ.

๗๕.

‘‘ปุรโตว โย คจฺฉติ กุฺชเรน, เสเตน นาเคน จตุกฺกเมน;

อมฺหาก ปุตฺโต อหุ เชฏฺโก โส [โสว เชฏฺโ (ก.)], ทานานิ ทตฺวาน สุขี ปโมทติ.

๗๖.

‘‘โย โส มชฺเฌ อสฺสตรีรเถน, จตุพฺภิ ยุตฺเตน สุวคฺคิเตน;

อมฺหาก ปุตฺโต อหุ มชฺฌิโม โส, อมจฺฉรี ทานวตี วิโรจติ.

๗๗.

‘‘ยา สา จ ปจฺฉา สิวิกาย นียติ, นารี สปฺา มิคมนฺทโลจนา;

อมฺหาก ธีตา อหุ สา กนิฏฺิกา, ภาคฑฺฒภาเคน สุขี ปโมทติ.

๗๘.

‘‘เอเต จ ทานานิ อทํสุ ปุพฺเพ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ;

มยํ ปน มจฺฉริโน อหุมฺห, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;

เอเต จ ทตฺวา ปริจารยนฺติ, มยฺจ สุสฺสาม นโฬว ฉินฺโน’’ติ [ขิตฺโตติ (สี.)].

๗๙.

‘‘กึ ตุมฺหากํ โภชนํ กึ สยานํ, กถฺจ ยาเปถ สุปาปธมฺมิโน;

ปหูตโภเคสุ อนปฺปเกสุ, สุขํ วิราธาย [วิราคาย (สฺยา. ก.)] ทุกฺขชฺช ปตฺตา’’ติ.

๘๐.

‘‘อฺมฺํ วธิตฺวาน, ปิวาม ปุพฺพโลหิตํ;

พหุํ ปิตฺวา น ธาตา โหม, นจฺฉาทิมฺหเส [นรุจฺจาทิมฺหเส (ก.)] มยํ.

๘๑.

‘‘อิจฺเจว มจฺจา ปริเทวยนฺติ, อทายกา เปจฺจ [มจฺฉริโน (ก.)] ยมสฺส ายิโน;

เย เต วิทิจฺจ [วิทิตฺวา (สี.)] อธิคมฺม โภเค, น ภุฺชเร นาปิ กโรนฺติ ปุฺํ.

๘๒.

‘‘เต ขุปฺปิปาสูปคตา ปรตฺถ, ปจฺฉา [เปตา (สี.)] จิรํ ฌายเร ฑยฺหมานา;

กมฺมานิ กตฺวาน ทุขุทฺรานิ, อนุโภนฺติ ทุกฺขํ กฏุกปฺผลานิ.

๘๓.

‘‘อิตฺตรํ หิ ธนํ ธฺํ, อิตฺตรํ อิธ ชีวิตํ;

อิตฺตรํ อิตฺตรโต ตฺวา, ทีปํ กยิราถ ปณฺฑิโต.

๘๔.

‘‘เย เต เอวํ ปชานนฺติ, นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;

เต ทาเน นปฺปมชฺชนฺติ, สุตฺวา อรหตํ วโจ’’ติ.

นาคเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.

๑๒. อุรคเปตวตฺถุ

๘๕.

‘‘อุรโคว ตจํ ชิณฺณํ, หิตฺวา คจฺฉติ สนฺตนุํ;

เอวํ สรีเร นิพฺโภเค, เปเต กาลงฺกเต สติ.

๘๖.

‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;

ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.

๘๗.

‘‘อนพฺภิโต [อนวฺหิโต (สี.)] ตโต อาคา, นานุฺาโต อิโต คโต;

ยถาคโต ตถา คโต, ตตฺถ กา [กา ตตฺถ (สี.)] ปริเทวนา.

๘๘.

‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;

ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.

๘๙.

‘‘สเจ โรเท กิสา อสฺสํ, ตตฺถ เม กึ ผลํ สิยา;

าติมิตฺตสุหชฺชานํ, ภิยฺโย โน อรตี สิยา.

๙๐.

‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;

ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.

๙๑.

‘‘ยถาปิ ทารโก จนฺทํ, คจฺฉนฺตมนุโรทติ;

เอวํ สมฺปทเมเวตํ, โย เปตมนุโสจติ.

๙๒.

‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;

ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.

๙๓.

‘‘ยถาปิ พฺรหฺเม อุทกุมฺโภ, ภินฺโน อปฺปฏิสนฺธิโย;

เอวํ สมฺปทเมเวตํ, โย เปตมนุโสจติ.

๙๔.

‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;

ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คตี’’ติ.

อุรคเปตวตฺถุ ทฺวาทสมํ.

อุรควคฺโค ปโม นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

เขตฺตฺจ สูกรํ ปูติ, ปิฏฺํ จาปิ ติโรกุฏฺฏํ;

ปฺจาปิ สตฺตปุตฺตฺจ, โคณํ เปสการกฺจ;

ตถา ขลฺลาฏิยํ นาคํ, ทฺวาทสํ อุรคฺเจวาติ.

๒. อุพฺพริวคฺโค

๑. สํสารโมจกเปติวตฺถุ

๙๕.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิเก [อุปฺปาสุฬิเก (ก.)] กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.

๙๖.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๙๗.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๙๘.

‘‘อนุกมฺปกา มยฺหํ นาเหสุํ ภนฺเต, ปิตา จ มาตา อถวาปิ าตกา;

เย มํ นิโยเชยฺยุํ ททาหิ ทานํ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ.

๙๙.

‘‘อิโต อหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, ยํ เอวรูปา วิจรามิ นคฺคา;

ขุทาย ตณฺหาย จ ขชฺชมานา, ปาปสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทํ.

๑๐๐.

‘‘วนฺทามิ ตํ อยฺย ปสนฺนจิตฺตา, อนุกมฺป มํ วีร มหานุภาว;

ทตฺวา จ เม อาทิส ยํ หิ กิฺจิ, โมเจหิ มํ ทุคฺคติยา ภทนฺเต’’ติ.

๑๐๑.

สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, สาริปุตฺโตนุกมฺปโก;

ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;

ถาลกสฺส จ ปานียํ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสิ.

๑๐๒.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๐๓.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สาริปุตฺตํ อุปสงฺกมิ.

๑๐๔.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๐๕.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๐๖.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๐๗.

‘‘อุปฺปณฺฑุกึ กิสํ ฉาตํ, นคฺคํ สมฺปติตจฺฉวึ [อาปติตจฺฉวึ (สี.)];

มุนิ การุณิโก โลเก, ตํ มํ อทฺทกฺขิ ทุคฺคตํ.

๑๐๘.

‘‘ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;

ถาลกสฺส จ ปานียํ, มม ทกฺขิณมาทิสิ.

๑๐๙.

‘‘อาโลปสฺส ผลํ ปสฺส, ภตฺตํ วสฺสสตํ ทส;

ภุฺชามิ กามกามินี, อเนกรสพฺยฺชนํ.

๑๑๐.

‘‘ปาณิมตฺตสฺส โจฬสฺส, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;

ยาวตา นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมึ ปฏิจฺฉทา.

๑๑๑.

‘‘ตโต พหุตรา ภนฺเต, วตฺถานจฺฉาทนานิ เม;

โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขมกปฺปาสิกานิ จ.

๑๑๒.

‘‘วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร;

สาหํ ตํ ปริทหามิ, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํ.

๑๑๓.

‘‘ถาลกสฺส จ ปานียํ, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;

คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.

๑๑๔.

‘‘เสโตทกา สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฏิคนฺธิยา;

ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, วาริกิฺชกฺขปูริตา.

๑๑๕.

‘‘สาหํ รมามิ กีฬามิ, โมทามิ อกุโตภยา;

มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.

สํสารโมจกเปติวตฺถุ ปมํ.

๒. สาริปุตฺตตฺเถรมาตุเปติวตฺถุ

๑๑๖.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสิ’’.

๑๑๗.

‘‘อหํ เต สกิยา มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;

อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.

๑๑๘.

‘‘ฉฑฺฑิตํ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;

วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.

๑๑๙.

‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;

ขุทาปเรตา ภุฺชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.

๑๒๐.

‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขามิ [ปุพฺพโลหิตภกฺขาสฺมิ (สี.)], ปสูนํ มานุสาน จ;

อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.

๑๒๑.

‘‘เทหิ ปุตฺตก เม ทานํ, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ เม;

อปฺเปว นาม มุจฺเจยฺยํ, ปุพฺพโลหิตโภชนา’’ติ.

๑๒๒.

มาตุยา วจนํ สุตฺวา, อุปติสฺโสนุกมฺปโก;

อามนฺตยิ โมคฺคลฺลานํ, อนุรุทฺธฺจ กปฺปินํ.

๑๒๓.

จตสฺโส กุฏิโย กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;

กุฏิโย อนฺนปานฺจ, มาตุ ทกฺขิณมาทิสี.

๑๒๔.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนํ ปานียํ วตฺถํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๒๕.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, โกลิตํ อุปสงฺกมิ.

๑๒๖.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๒๗.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๒๘.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๒๙.

‘‘สาริปุตฺตสฺสาหํ มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;

อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.

๑๓๐.

‘‘ฉฑฺฑิตํ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;

วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.

๑๓๑.

‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;

ขุทาปเรตา ภุฺชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.

๑๓๒.

‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขิสฺสํ, ปสูนํ มานุสาน จ;

อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.

๑๓๓.

‘‘สาริปุตฺตสฺส ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;

มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.

สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุเปติวตฺถุ ทุติยํ.

๓. มตฺตาเปติวตฺถุ

๑๓๔.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.

๑๓๕.

‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๓๖.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๓๗.

‘‘จณฺฑี จ ผรุสา จาสึ, อิสฺสุกี มจฺฉรี สา [สี (สี.)];

ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๓๘.

สพฺพํ [สจฺจํ (ก.)] อหมฺปิ ชานามิ, ยถา ตฺวํ จณฺฑิกา อหุ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.

๑๓๙.

‘‘สีสํนฺหาตา ตุวํ อาสิ, สุจิวตฺถา อลงฺกตา;

อหฺจ โข [โข ตํ (สี. ก.)] อธิมตฺตํ, สมลงฺกตตรา ตยา.

๑๔๐.

‘‘ตสฺสา เม เปกฺขมานาย, สามิเกน สมนฺตยิ;

ตโต เม อิสฺสา วิปุลา, โกโธ เม สมชายถ.

๑๔๑.

‘‘ตโต ปํสุํ คเหตฺวาน, ปํสุนา ตํ หิ โอกิรึ [ตํ วิกีริหํ (สฺยา. ก.)];

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.

๑๔๒.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ปํสุนา มํ ตฺวโมกิริ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกน ขชฺชสิ กจฺฉุยา’’ติ.

๑๔๓.

‘‘เภสชฺชหารี อุภโย, วนนฺตํ อคมิมฺหเส;

ตฺวฺจ เภสชฺชมาหริ, อหฺจ กปิกจฺฉุโน.

๑๔๔.

‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, เสยฺยํ ตฺยาหํ สโมกิรึ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตน ขชฺชามิ กจฺฉุยา’’ติ.

๑๔๕.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, เสยฺยํ เม ตฺวํ สโมกิริ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ นคฺคิยา ตุว’’นฺติ.

๑๔๖.

‘‘สหายานํ สมโย อาสิ, าตีนํ สมิตี อหุ;

ตฺวฺจ อามนฺติตา อาสิ, สสามินี โน จ โข อหํ.

๑๔๗.

‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, ทุสฺสํ ตฺยาหํ อปานุทึ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ นคฺคิยา อห’’นฺติ.

๑๔๘.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ทุสฺสํ เม ตฺวํ อปานุทิ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ คูถคนฺธินี’’ติ.

๑๔๙.

‘‘ตว คนฺธฺจ มาลฺจ, ปจฺจคฺฆฺจ วิเลปนํ;

คูถกูเป อธาเรสึ [อธาเรสึ (ก.)], ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ คูถคนฺธินี’’ติ.

๑๕๐.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ทุคฺคตา ตุว’’นฺติ.

๑๕๑.

‘‘อุภินฺนํ สมกํ อาสิ, ยํ เคเห วิชฺชเต ธนํ;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ทุคฺคตา อหํ.

๑๕๒.

‘‘ตเทว มํ ตฺวํ อวจ, ‘ปาปกมฺมํ นิเสวสิ;

น หิ ปาเปหิ กมฺเมหิ, สุลภา โหติ สุคฺคตี’’’ติ.

๑๕๓.

‘‘วามโต มํ ตฺวํ ปจฺเจสิ, อโถปิ มํ อุสูยสิ;

ปสฺส ปาปานํ กมฺมานํ, วิปาโก โหติ ยาทิโส.

๑๕๔.

‘‘เต ฆรา ตา จ ทาสิโย [เต ฆรทาสิโย อาสุํ (สี. สฺยา.), เต ฆเร ทาสิโย เจว (ก.)], ตาเนวาภรณานิเม;

เต อฺเ ปริจาเรนฺติ, น โภคา โหนฺติ สสฺสตา.

๑๕๕.

‘‘อิทานิ ภูตสฺส ปิตา, อาปณา เคหเมหิติ;

อปฺเปว เต ทเท กิฺจิ, มา สุ ตาว อิโต อคา’’ติ.

๑๕๖.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปามฺหิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

โกปีนเมตํ อิตฺถีนํ, มา มํ ภูตปิตาทฺทสา’’ติ.

๑๕๗.

‘‘หนฺท กึ วา ตฺยาหํ [กึ ตฺยาหํ (สี. สฺยา.), กึ วตาหํ (ก.)] ทมฺมิ, กึ วา เตธ [กึ วา จ เต (สี. สฺยา.), กึ วิธ เต (ก.)] กโรมหํ;

เยน ตฺวํ สุขิตา อสฺส, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๑๕๘.

‘‘จตฺตาโร ภิกฺขู สงฺฆโต, จตฺตาโร ปน ปุคฺคลา;

อฏฺ ภิกฺขู โภชยิตฺวา, มม ทกฺขิณมาทิส;

ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๑๕๙.

สาธูติ สา ปฏิสฺสุตฺวา, โภชยิตฺวาฏฺ ภิกฺขโว;

วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.

๑๖๐.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๖๑.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สปตฺตึ อุปสงฺกมิ.

๑๖๒.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๖๓.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๖๔.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๖๕.

‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๑๖๖.

‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;

จีรํ ชีวาหิ ภคินิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

อโสกํ วิรชํ านํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.

๑๖๗.

‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวาน โสภเน;

วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.

มตฺตาเปติวตฺถุ ตติยํ.

๔. นนฺทาเปติวตฺถุ

๑๖๘.

‘‘กาฬี ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ผรุสา ภีรุทสฺสนา;

ปิงฺคลาสิ กฬาราสิ, น ตํ มฺามิ มานุสิ’’นฺติ.

๑๖๙.

‘‘อหํ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๗๐.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๗๑.

‘‘จณฺฑี จ ผรุสา จาสึ [จณฺฑี ผรุสวาจา จ (สี.)], ตยิ จาปิ อคารวา;

ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๗๒.

‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิมํ [อิทํ (สี. อฏฺ.)] ทุสฺสํ นิวาสย;

อิมํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ เนสฺสามิ ตํ ฆรํ.

๑๗๓.

‘‘วตฺถฺจ อนฺนปานฺจ, ลจฺฉสิ ตฺวํ ฆรํ คตา;

ปุตฺเต จ เต ปสฺสิสฺสสิ, สุณิสาโย จ ทกฺขสี’’ติ.

๑๗๔.

‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;

ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต.

๑๗๕.

‘‘ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, มม ทกฺขิณมาทิส;

ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๑๗๖.

สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, ทานํ วิปุลมากิริ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ฉตฺตํ คนฺธฺจ มาลฺจ, วิวิธา จ อุปาหนา.

๑๗๗.

ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;

ตปฺเปตฺวา อนฺนปาเนน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.

๑๗๘.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๗๙.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สามิกํ อุปสงฺกมิ.

๑๘๐.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๘๑.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๘๒.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๘๓.

‘‘อหํ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๑๘๔.

‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;

จิรํ ชีว คหปติ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

อโสกํ วิรชํ เขมํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.

๑๘๕.

‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวา คหปติ;

วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.

นนฺทาเปติวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ

๑๘๖.

[วิ. ว. ๑๒๐๗] ‘‘อลงฺกโต มฏฺกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.

๑๘๗.

‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;

ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติ.

๑๘๘.

‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ [โลหิตงฺคมยํ (สฺยา.), โลหิตงฺกมยํ (สี.), โลหมยํ (กตฺถจิ)] อถ รูปิยมยํ;

อาจิกฺข เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติ.

๑๘๙.

โส มาณโว ตสฺส ปาวทิ, ‘‘จนฺทสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;

โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.

๑๙๐.

‘‘พาโล โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;

มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย’’ติ.

๑๙๑.

‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;

เปโต กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.

๑๙๒.

‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;

จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติ.

๑๙๓.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๑๙๔.

‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺหํ (สฺยา. ก.)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.

๑๙๕.

‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.

๑๙๖.

‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

๑๙๗.

‘‘ยฺจ กนฺทสิ ยฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;

สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.

๑๙๘.

‘‘อปฺปํ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;

อุโปสถกมฺมํ วา ตาทิสํ, เกน กมฺเมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติ.

๑๙๙.

‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;

พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขึ สุคตํ อโนมปฺํ.

๒๐๐.

‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อฺชลึ อกรึ ตถาคตสฺส;

ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.

๒๐๑.

‘‘อจฺฉริยํ วต อพฺภุตํ วต, อฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;

อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติ.

๒๐๒.

‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;

ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.

๒๐๓.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;

อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.

๒๐๔.

‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;

กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมาติ.

๒๐๕.

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;

สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.

๒๐๖.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;

อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ; สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ.

มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. กณฺหเปตวตฺถุ

๒๐๗.

‘‘อุฏฺเหิ กณฺห กึ เสสิ, โก อตฺโถ สุปเนน เต;

โย จ ตุยฺหํ สโก ภาตา, หทยํ จกฺขุ จ [จกฺขุํว (อฏฺ.)] ทกฺขิณํ;

ตสฺส วาตา พลียนฺติ, สสํ ชปฺปติ [ฆโฏ ชปฺปติ (ก.)] เกสวา’’ติ.

๒๐๘.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;

ตรมานรูโป วุฏฺาสิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิโต.

๒๐๙.

‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;

สโส สโสติ ลปสิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสิ.

๒๑๐.

‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยมยํ;

สงฺขสิลาปวาฬมยํ, การยิสฺสามิ เต สสํ.

๒๑๑.

‘‘สนฺติ อฺเปิ สสกา, อรฺวนโคจรา;

เตปิ เต อานยิสฺสามิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสี’’ติ.

๒๑๒.

‘‘นาหเมเต สเส อิจฺเฉ, เย สสา ปถวิสฺสิตา;

จนฺทโต สสมิจฺฉามิ, ตํ เม โอหร เกสวา’’ติ.

๒๑๓.

‘‘โส นูน มธุรํ าติ, ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;

อปตฺถิยํ ปตฺถยสิ, จนฺทโต สสมิจฺฉสี’’ติ.

๒๑๔.

‘‘เอวํ เจ กณฺห ชานาสิ, ยถฺมนุสาสสิ;

กสฺมา ปุเร มตํ ปุตฺตํ, อชฺชาปิ มนุโสจสิ.

๒๑๕.

‘‘น ยํ ลพฺภา มนุสฺเสน, อมนุสฺเสน วา ปน;

ชาโต เม มา มริ ปุตฺโต, กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํ.

๒๑๖.

‘‘น มนฺตา มูลเภสชฺชา, โอสเธหิ ธเนน วา;

สกฺกา อานยิตุํ กณฺห, ยํ เปตมนุโสจสิ.

๒๑๗.

‘‘มหทฺธนา มหาโภคา, รฏฺวนฺโตปิ ขตฺติยา;

ปหูตธนธฺาเส, เตปิ โน [นตฺเถตฺถปาเภโท] อชรามรา.

๒๑๘.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

เอเต จฺเ จ ชาติยา, เตปิ โน อชรามรา.

๒๑๙.

‘‘เย มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;

เอเต จฺเ จ วิชฺชาย, เตปิ โน อชรามรา.

๒๒๐.

‘‘อิสโย วาปิ [อิสโย จาปิ (วิมานวตฺถุ ๙๙)] เย สนฺตา, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;

สรีรํ เตปิ กาเลน, วิชหนฺติ ตปสฺสิโน.

๒๒๑.

‘‘ภาวิตตฺตา อรหนฺโต, กตกิจฺจา อนาสวา;

นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ, ปุฺปาปปริกฺขยา’’ติ.

๒๒๒.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๒๒๓.

‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.

๒๒๔.

‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน ภาติก’’ [ภาสิตํ (สฺยา.)].

๒๒๕.

เอวํ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;

นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรํ.

๒๒๖.

ยสฺส เอตาทิสา โหนฺติ, อมจฺจา ปริจารกา;

สุภาสิเตน อนฺเวนฺติ, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรนฺติ.

กณฺหเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ

๒๒๗.

‘‘นคฺโค ทุพฺพณฺณรูโปสิ, กิโส ธมนิสนฺถโต;

อุปฺผาสุลิโก กิสิโก, โก นุ ตฺวมสิ มาริส’’.

๒๒๘.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.

๒๒๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.

๒๓๐.

‘‘นครํ อตฺถิ ปณฺณานํ [ทสนฺนานํ (สี. สฺยา. ปี.)], เอรกจฺฉนฺติ วิสฺสุตํ;

ตตฺถ เสฏฺิ ปุเร อาสึ, ธนปาโลติ มํ วิทู.

๒๓๑.

‘‘อสีติ สกฏวาหานํ, หิรฺสฺส อโหสิ เม;

ปหูตํ เม ชาตรูปํ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.

๒๓๒.

‘‘ตาว มหทฺธนสฺสาปิ, น เม ทาตุํ ปิยํ อหุ;

ปิทหิตฺวา ทฺวารํ ภุฺชึ [ภุฺชามิ (สี. สฺยา.)], มา มํ ยาจนกาทฺทสุํ.

๒๓๓.

‘‘อสฺสทฺโธ มจฺฉรี จาสึ, กทริโย ปริภาสโก;

ททนฺตานํ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุ ชเน [พหุชฺชนํ (สี. สฺยา.)].

๒๓๔.

‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;

โปกฺขรฺโทปานานิ, อารามานิ จ โรปิเต;

ปปาโย จ วินาเสสึ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ.

๒๓๕.

‘‘สฺวาหํ อกตกลฺยาโณ, กตปาโป ตโต จุโต;

อุปปนฺโน เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิโต.

๒๓๖.

‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกโต อหํ;

นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ.

๒๓๗.

‘‘โย สํยโม โส วินาโส,โย วินาโส โส สํยโม;

เปตา หิ กิร ชานนฺติ, โย สํยโม โส วินาโส.

๒๓๘.

‘‘อหํ ปุเร สํยมิสฺสํ, นาทาสึ พหุเก ธเน;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;

สฺวาหํ ปจฺฉานุตปฺปามิ, อตฺตกมฺมผลูปโค.

๒๓๙.

[เป. ว. ๖๙] ‘‘อุทฺธํ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา ภวิสฺสติ;

เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.

๒๔๐.

[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;

อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.

๒๔๑.

[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.

๒๔๒.

[เป. ว. ๗๒] ‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;

ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.

๒๔๓.

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.

๒๔๔.

‘‘สเจ ตํ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;

น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ [ปมุตฺตตฺถิ (สพฺพตฺถ) อุทา. ๔๔ ปสฺสิตพฺพํ], อุปฺปจฺจาปิ [อุเปจฺจาปิ (สฺยา. ก.)] ปลายตํ.

๒๔๕.

‘‘มตฺเตยฺยา โหถ เปตฺเตยฺยา, กุเล เชฏฺาปจายิกา;

สามฺา โหถ พฺรหฺมฺา, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสถา’’ติ.

ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ

๒๔๖.

‘‘นคฺโค กิโส ปพฺพชิโตสิ ภนฺเต, รตฺตึ กุหึ คจฺฉสิ กิสฺส เหตุ;

อาจิกฺข เม ตํ อปิ สกฺกุเณมุ, สพฺเพน วิตฺตํ ปฏิปาทเย ตุว’’นฺติ.

๒๔๗.

‘‘พาราณสี นครํ ทูรฆุฏฺํ, ตตฺถาหํ คหปติ อฑฺฒโก อหุ ทีโน;

อทาตา เคธิตมโน อามิสสฺมึ, ทุสฺสีลฺเยน ยมวิสยมฺหิ ปตฺโต.

๒๔๘.

‘‘โส สูจิกาย กิลมิโต เตหิ,

เตเนว าตีสุ ยามิ อามิสกิฺจิกฺขเหตุ;

อทานสีลา น จ สทฺทหนฺติ,

ทานผลํ โหติ ปรมฺหิ โลเก.

๒๔๙.

‘‘ธีตา จ มยฺหํ ลปเต อภิกฺขณํ, ‘ทสฺสามิ ทานํ ปิตูนํ ปิตามหานํ’;

ตมุปกฺขฏํ ปริวิสยนฺติ พฺราหฺมณา [พฺราหฺมเณ (สี.)], ‘ยามิ อหํ อนฺธกวินฺทํ โภตฺตุ’’’นฺติ.

๒๕๐.

ตมโวจ ราชา ‘‘อนุภวิยาน ตมฺปิ,

เอยฺยาสิ ขิปฺปํ อหมปิ กสฺสํ ปูชํ;

อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ,

สทฺธายิตํ เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.

๒๕๑.

‘ตถา’ติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ภุฺชึสุ ภตฺตํ น จ ทกฺขิณารหา;

ปจฺจาคมิ ราชคหํ ปุนาปรํ, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส.

๒๕๒.

ทิสฺวาน เปตํ ปุนเทว อาคตํ, ราชา อโวจ ‘‘อหมปิ กึ ททามิ;

อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ, เยน ตุวํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.

๒๕๓.

‘‘พุทฺธฺจ สงฺฆํ ปริวิสิยาน ราช, อนฺเนน ปาเนน จ จีวเรน;

ตํ ทกฺขิณํ อาทิส เม หิตาย, เอวํ อหํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.

๒๕๔.

ตโต จ ราชา นิปติตฺวา ตาวเท [ตาวเทว (สฺยา.), ตเทว (ก.)], ทานํ สหตฺถา อตุลํ ททิตฺวา [อตุลฺจ ทตฺวา (สฺยา. ก.)] สงฺเฆ;

อาโรเจสิ ปกตํ [อาโรจยี ปกตึ (สี. สฺยา.)] ตถาคตสฺส, ตสฺส จ เปตสฺส ทกฺขิณํ อาทิสิตฺถ.

๒๕๕.

โส ปูชิโต อติวิย โสภมาโน, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส;

‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, น มยฺหมตฺถิ สมา สทิสา [มยฺหมิทฺธิสมสทิสา (สี. สฺยา.)] มานุสา.

๒๕๖.

‘‘ปสฺสานุภาวํ อปริมิตํ มมยิทํ, ตยานุทิฏฺํ อตุลํ ทตฺวา สงฺเฆ;

สนฺตปฺปิโต สตตํ สทา พหูหิ, ยามิ อหํ สุขิโต มนุสฺสเทวา’’ติ.

จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.

ภาณวารํ ปมํ นิฏฺิตํ.

๙. องฺกุรเปตวตฺถุ

๒๕๗.

‘‘ยสฺส อตฺถาย คจฺฉาม, กมฺโพชํ ธนหารกา;

อยํ กามทโท ยกฺโข, อิมํ ยกฺขํ นยามเส.

๒๕๘.

‘‘อิมํ ยกฺขํ คเหตฺวาน, สาธุเกน ปสยฺห วา;

ยานํ อาโรปยิตฺวาน, ขิปฺปํ คจฺฉาม ทฺวารก’’นฺติ.

๒๕๙.

[ชา. ๑.๑๐.๑๕๑; ๑.๑๔.๑๙๖; ๒.๑๘.๑๕๓; ๒.๒๒.๑๐] ‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.

๒๖๐.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

ขนฺธมฺปิ ตสฺส ฉินฺเทยฺย, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.

๒๖๑.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส ปตฺตํ ภินฺเทยฺย [หึเสยฺย (ก.)], มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.

๒๖๒.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

สมูลมฺปิ ตํ อพฺพุเห [อุพฺพเห (?)], อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.

๒๖๓.

‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, ยตฺถนฺนปานํ ปุริโส ลเภถ;

น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, กตฺุตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา.

๒๖๔.

‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโต สิยา;

น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, อทุพฺภปาณี ทหเต มิตฺตทุพฺภึ.

๒๖๕.

‘‘โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ, ปจฺฉา ปาเปน หึสติ;

อลฺลปาณิหโต [อทุพฺภิปาณีหโต (ก)] โปโส, น โส ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.

๒๖๖.

‘‘นาหํ เทเวน วา มนุสฺเสน วา, อิสฺสริเยน วาหํ สุปฺปสยฺโห;

ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, ทูรงฺคโม วณฺณพลูปปนฺโน’’ติ.

๒๖๗.

‘‘ปาณิ เต สพฺพโส วณฺโณ, ปฺจธาโร มธุสฺสโว;

นานารสา ปคฺฆรนฺติ, มฺเหํ ตํ ปุรินฺทท’’นฺติ.

๒๖๘.

‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

เปตํ มํ องฺกุร ชานาหิ, โรรุวมฺหา [เหรุวมฺหา (สี.)] อิธาคต’’นฺติ.

๒๖๙.

‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, โรรุวสฺมึ ปุเร ตุวํ;

เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.

๒๗๐.

‘‘ตุนฺนวาโย ปุเร อาสึ, โรรุวสฺมึ ตทา อหํ;

สุกิจฺฉวุตฺติ กปโณ, น เม วิชฺชติ ทาตเว.

๒๗๑.

‘‘นิเวสนฺจ [อาเวสนฺจ (สี.)] เม อาสิ, อสยฺหสฺส อุปนฺติเก;

สทฺธสฺส ทานปติโน, กตปุฺสฺส ลชฺชิโน.

๒๗๒.

‘‘ตตฺถ ยาจนกา ยนฺติ, นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;

เต จ มํ ตตฺถ ปุจฺฉนฺติ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.

๒๗๓.

‘‘กตฺถ คจฺฉาม ภทฺทํ โว, กตฺถ ทานํ ปทียติ;

เตสาหํ ปุฏฺโ อกฺขามิ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.

๒๗๔.

‘‘ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, เอตฺถ คจฺฉถ ภทฺทํ โว;

เอตฺถ ทานํ ปทียติ, อสยฺหสฺส นิเวสเน.

๒๗๕.

‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;

เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.

๒๗๖.

‘‘น กิร ตฺวํ อทา ทานํ, สกปาณีหิ กสฺสจิ;

ปรสฺส ทานํ อนุโมทมาโน, ปาณึ ปคฺคยฺห ปาวทิ.

๒๗๗.

‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;

เตน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.

๒๗๘.

‘‘โย โส ทานมทา ภนฺเต, ปสนฺโน สกปาณิภิ;

โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, กึ นุ โส ทิสตํ คโต’’ติ.

๒๗๙.

‘‘นาหํ ปชานามิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺส คตึ อาคตึ วา;

สุตฺจ เม เวสฺสวณสฺส สนฺติเก, สกฺกสฺส สหพฺยตํ คโต อสยฺโห’’ติ.

๒๘๐.

‘‘อลเมว กาตุํ กลฺยาณํ, ทานํ ทาตุํ ยถารหํ;

ปาณึ กามททํ ทิสฺวา, โก ปุฺํ น กริสฺสติ.

๒๘๑.

‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;

ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.

๒๘๒.

‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.

๒๘๓.

‘‘เกน เต องฺคุลี กุณา [กุณฺา (สี. สฺยา.)], มุขฺจ กุณลีกตํ [กุณฺฑลีกตํ (สี. สฺยา. ก.)];

อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, กึ ปาปํ ปกตํ ตยา’’ติ.

๒๘๔.

‘‘องฺคีรสสฺส คหปติโน, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

ตสฺสาหํ ทานวิสฺสคฺเค, ทาเน อธิกโต อหุํ.

๒๘๕.

‘‘ตตฺถ ยาจนเก ทิสฺวา, อาคเต โภชนตฺถิเก;

เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม, อกาสึ กุณลึ มุขํ.

๒๘๖.

‘‘เตน เม องฺคุลี กุณา, มุขฺจ กุณลีกตํ;

อกฺขีนิ เม ปคฺฆรนฺติ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา’’ติ.

๒๘๗.

‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส, มุขฺจ กุณลีกตํ;

อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, ยํ ตํ ปรสฺส ทานสฺส;

อกาสิ กุณลึ มุขํ.

๒๘๘.

‘‘กถํ หิ ทานํ ททมาโน, กเรยฺย ปรปตฺติยํ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.

๒๘๙.

‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;

ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.

๒๙๐.

‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.

๒๙๑.

ตโต หิ โส นิวตฺติตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;

ทานํ ปฏฺปยิ องฺกุโร, ยํตุมสฺส [ยํ ตํ อสฺส (สฺยา.), ยนฺตมสฺส (ก.)] สุขาวหํ.

๒๙๒.

อทา อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๒๙๓.

‘‘โก ฉาโต โก จ ตสิโต, โก วตฺถํ ปริทหิสฺสติ;

กสฺส สนฺตานิ โยคฺคานิ, อิโต โยเชนฺตุ วาหนํ.

๒๙๔.

‘‘โก ฉตฺติจฺฉติ คนฺธฺจ, โก มาลํ โก อุปาหนํ;

อิติสฺสุ ตตฺถ โฆเสนฺติ, กปฺปกา สูทมาคธา [ปาฏวา (ก.)];

สทา สายฺจ ปาโต จ, องฺกุรสฺส นิเวสเน.

๒๙๕.

‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;

ทุกฺขํ สุปามิ สินฺธก [สนฺทุก, สินฺธุก (ก.)], ยํ น ปสฺสามิ ยาจเก.

๒๙๖.

‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;

ทุกฺขํ สินฺธก สุปามิ, อปฺปเก สุ วนิพฺพเก’’ติ.

๒๙๗.

‘‘สกฺโก เจ เต วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;

กิสฺส สพฺพสฺส โลกสฺส, วรมาโน วรํ วเร’’ติ.

๒๙๘.

‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;

กาลุฏฺิตสฺส เม สโต, สุริยุคฺคมนํ ปติ;

ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, สีลวนฺโต จ ยาจกา.

๒๙๙.

‘‘ททโต เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;

ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, เอตํ สกฺกํ วรํ วเร’’ติ.

๓๐๐.

‘‘น สพฺพวิตฺตานิ ปเร ปเวจฺเฉ, ทเทยฺย ทานฺจ ธนฺจ รกฺเข;

ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, อติปฺปทาเนน กุลา น โหนฺติ.

๓๐๑.

‘‘อทานมติทานฺจ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;

ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, สเมน วตฺเตยฺย ส ธีรธมฺโม’’ติ.

๓๐๒.

‘‘อโห วต เร อหเมว ทชฺชํ, สนฺโต จ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;

เมโฆว นินฺนานิ ปริปูรยนฺโต [ภิปูรยนฺโต (สี.), หิ ปูรยนฺโต (สฺยา.)], สนฺตปฺปเย สพฺพวนิพฺพกานํ.

๓๐๓.

‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, ตํ ฆรํ วสโต สุขํ.

๓๐๔.

‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปุฺสฺส (สี.)] สมฺปทา.

๓๐๕.

[อ. นิ. ๖.๓๗] ‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมโน, ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปุฺสฺส (สี.)] สมฺปทา’’ติ.

๓๐๖.

สฏฺิ วาหสหสฺสานิ, องฺกุรสฺส นิเวสเน;

โภชนํ ทียเต นิจฺจํ, ปุฺเปกฺขสฺส ชนฺตุโน.

๓๐๗.

ติสหสฺสานิ สูทานิ หิ [สูทานิ (สฺยา. ก.)], อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

องฺกุรํ อุปชีวนฺติ, ทาเน ยฺสฺส วาวฏา [พฺยาวฏา (สี.), ปาวฏา (สฺยา.)].

๓๐๘.

สฏฺิ ปุริสสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

องฺกุรสฺส มหาทาเน, กฏฺํ ผาเลนฺติ มาณวา.

๓๐๙.

โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

องฺกุรสฺส มหาทาเน, วิธา ปิณฺเฑนฺติ นาริโย.

๓๑๐.

โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

องฺกุรสฺส มหาทาเน, ทพฺพิคาหา อุปฏฺิตา.

๓๑๑.

พหุํ พหูนํ ปาทาสิ, จิรํ ปาทาสิ ขตฺติโย;

สกฺกจฺจฺจ สหตฺถา จ, จิตฺตีกตฺวา ปุนปฺปุนํ.

๓๑๒.

พหู มาเส จ ปกฺเข จ, อุตุสํวจฺฉรานิ จ;

มหาทานํ ปวตฺเตสิ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ.

๓๑๓.

เอวํ ทตฺวา ยชิตฺวา จ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ;

โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.

๓๑๔.

กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, อนุรุทฺธสฺส อินฺทโก;

โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.

๓๑๕.

ทสหิ าเนหิ องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ;

รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.

๓๑๖.

อายุนา ยสสา เจว, วณฺเณน จ สุเขน จ;

อาธิปจฺเจน องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ.

๓๑๗.

ตาวตึเส ยทา พุทฺโธ, สิลายํ ปณฺฑุกมฺพเล;

ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ, วิหาสิ ปุริสุตฺตโม.

๓๑๘.

ทสสุ โลกธาตูสุ, สนฺนิปติตฺวาน เทวตา;

ปยิรุปาสนฺติ สมฺพุทฺธํ, วสนฺตํ นคมุทฺธนิ.

๓๑๙.

น โกจิ เทโว วณฺเณน, สมฺพุทฺธํ อติโรจติ;

สพฺเพ เทเว อติกฺกมฺม [อธิคยฺห (สี.), อติคฺคยฺห (ก)], สมฺพุทฺโธว วิโรจติ.

๓๒๐.

โยชนานิ ทส ทฺเว จ, องฺกุโรยํ ตทา อหุ;

อวิทูเรว พุทฺธสฺส [อวิทูเร สมฺพุทฺธสฺส (ก.)], อินฺทโก อติโรจติ.

๓๒๑.

โอโลเกตฺวาน สมฺพุทฺโธ, องฺกุรฺจาปิ อินฺทกํ;

ทกฺขิเณยฺยํ สมฺภาเวนฺโต [ปภาเวนฺโต (สี.)], อิทํ วจนมพฺรวิ.

๓๒๒.

‘‘มหาทานํ ตยา ทินฺนํ, องฺกุร ทีฆมนฺตรํ;

อติทูเร [สุวิทูเร (ก.)] นิสินฺโนสิ, อาคจฺฉ มม สนฺติเก’’ติ.

๓๒๓.

โจทิโต ภาวิตตฺเตน, องฺกุโร อิทมพฺรวิ;

‘‘กึ มยฺหํ เตน ทาเนน, ทกฺขิเณยฺเยน สุฺตํ.

๓๒๔.

‘‘อยํ โส อินฺทโก ยกฺโข, ทชฺชา ทานํ ปริตฺตกํ;

อติโรจติ อมฺเหหิ, จนฺโท ตารคเณ ยถา’’ติ.

๓๒๕.

‘‘อุชฺชงฺคเล ยถา เขตฺเต, พีชํ พหุมฺปิ โรปิตํ;

น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ กสฺสกํ.

๓๒๖.

‘‘ตเถว ทานํ พหุกํ, ทุสฺสีเลสุ ปติฏฺิตํ;

น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ ทายกํ.

๓๒๗.

‘‘ยถาปิ ภทฺทเก เขตฺเต, พีชํ อปฺปมฺปิ โรปิตํ;

สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต, ผลํ โตเสติ กสฺสกํ.

๓๒๘.

‘‘ตเถว สีลวนฺเตสุ, คุณวนฺเตสุ ตาทิสุ;

อปฺปกมฺปิ กตํ การํ, ปุฺํ โหติ มหปฺผล’’นฺติ.

๓๒๙.

วิเจยฺย ทานํ ทาตพฺพํ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;

วิเจยฺย ทานํ ทตฺวาน, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา.

๓๓๐.

วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ, เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;

เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ, พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเตติ.

องฺกุรเปตวตฺถุ นวมํ.

๑๐. อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ

๓๓๑.

ทิวาวิหารคตํ ภิกฺขุํ, คงฺคาตีเร นิสินฺนกํ;

ตํ เปตี อุปสงฺกมฺม, ทุพฺพณฺณา ภีรุทสฺสนา.

๓๓๒.

เกสา จสฺสา อติทีฆา [อหู ทีฆา (ก.)], ยาวภูมาวลมฺพเร [ยาว ภูมฺยา’วลมฺพเร (?)];

เกเสหิ สา ปฏิจฺฉนฺนา, สมณํ เอตทพฺรวิ.

๓๓๓.

‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกตา อหํ;

นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ;

เทหิ ตฺวํ ปานิยํ ภนฺเต, ตสิตา ปานิยาย เม’’ติ.

๓๓๔.

‘‘อยํ สีโตทิกา คงฺคา, หิมวนฺตโต [หิมวนฺตาว (ก.)] สนฺทติ;

ปิว เอตฺโต คเหตฺวาน, กึ มํ ยาจสิ ปานิย’’นฺติ.

๓๓๕.

‘‘สจาหํ ภนฺเต คงฺคาย, สยํ คณฺหามิ ปานิยํ;

โลหิตํ เม ปริวตฺตติ, ตสฺมา ยาจามิ ปานิย’’นฺติ.

๓๓๖.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, คงฺคา เต โหติ โลหิต’’นฺติ.

๓๓๗.

‘‘ปุตฺโต เม อุตฺตโร นาม [ปุตฺโต เม ภนฺเต อุตฺตโร (ก.)], สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;

โส จ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉติ.

๓๓๘.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

ตมหํ ปริภาสามิ, มจฺเฉเรน อุปทฺทุตา.

๓๓๙.

‘‘ยํ ตฺวํ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;

จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ.

๓๔๐.

‘‘เอตํ เต ปรโลกสฺมึ, โลหิตํ โหตุ อุตฺตร;

ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, คงฺคา เม โหติ โลหิต’’นฺติ.

อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ ทสมํ.

๑๑. สุตฺตเปตวตฺถุ

๓๔๑.

‘‘อหํ ปุเร ปพฺพชิตสฺส ภิกฺขุโน, สุตฺตํ อทาสึ อุปสงฺกมฺม ยาจิตา;

ตสฺส วิปาโก วิปุลผลูปลพฺภติ, พหุกา จ เม อุปฺปชฺชเร [พหู จ เม อุปปชฺชเร (สี.)] วตฺถโกฏิโย.

๓๔๒.

‘‘ปุปฺผาภิกิณฺณํ รมิตํ [รมฺมมิทํ (ก.)] วิมานํ, อเนกจิตฺตํ นรนาริเสวิตํ;

สาหํ ภุฺชามิ จ ปารุปามิ จ, ปหูตวิตฺตา น จ ตาว ขียติ.

๓๔๓.

‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากมนฺวยา, สุขฺจ สาตฺจ อิธูปลพฺภติ;

สาหํ คนฺตฺวา ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปุฺานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.

๓๔๔.

‘‘สตฺต ตุวํ วสฺสสตา อิธาคตา,

ชิณฺณา จ วุฑฺฒา จ ตหึ ภวิสฺสสิ;

สพฺเพว เต กาลกตา จ าตกา,

กึ ตตฺถ คนฺตฺวาน อิโต กริสฺสสี’’ติ.

๓๔๕.

‘‘สตฺเตว วสฺสานิ อิธาคตาย เม, ทิพฺพฺจ สุขฺจ สมปฺปิตาย;

สาหํ คนฺตฺวาน ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปุฺานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.

๓๔๖.

โส ตํ คเหตฺวาน ปสยฺห พาหายํ, ปจฺจานยิตฺวาน เถรึ สุทุพฺพลํ;

‘‘วชฺเชสิ อฺมฺปิ ชนํ อิธาคตํ, ‘กโรถ ปุฺานิ สุขูปลพฺภติ’’.

๓๔๗.

‘‘ทิฏฺา มยา อกเตน สาธุนา, เปตา วิหฺนฺติ ตเถว มนุสฺสา;

กมฺมฺจ กตฺวา สุขเวทนียํ, เทวา มนุสฺสา จ สุเข ิตา ปชา’’ติ.

สุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.

๑๒. กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ

๓๔๘.

‘‘โสณฺณโสปานผลกา, โสณฺณวาลุกสนฺถตา;

ตตฺถ โสคนฺธิยา วคฺคู, สุจิคนฺธา มโนรมา.

๓๔๙.

‘‘นานารุกฺเขหิ สฺฉนฺนา, นานาคนฺธสเมริตา;

นานาปทุมสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสโมตตา [สโมหตา (ก.)].

๓๕๐.

‘‘สุรภึ สมฺปวายนฺติ, มนุฺา มาลุเตริตา;

หํสโกฺจาภิรุทา จ, จกฺกวกฺกาภิกูชิตา.

๓๕๑.

‘‘นานาทิชคณากิณฺณา, นานาสรคณายุตา;

นานาผลธรา รุกฺขา, นานาปุปฺผธรา วนา.

๓๕๒.

‘‘น มนุสฺเสสุ อีทิสํ, นครํ ยาทิสํ อิทํ;

ปาสาทา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;

ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ [อาภนฺติ (ก.)], สมนฺตา จตุโร ทิสา.

๓๕๓.

‘‘ปฺจ ทาสิสตา ตุยฺหํ, ยา เตมา ปริจาริกา;

ตา [กา (ก.)] กมฺพุกายูรธรา [กมฺพุเกยูรธรา (สี.)], กฺจนาเวฬภูสิตา.

๓๕๔.

‘‘ปลฺลงฺกา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;

กทลิมิคสฺฉนฺนา [กาทลิมิคสฺฉนฺนา (สี.)], สชฺชา โคนกสนฺถตา.

๓๕๕.

‘‘ยตฺถ ตฺวํ วาสูปคตา, สพฺพกามสมิทฺธินี;

สมฺปตฺตายฑฺฒรตฺตาย [… รตฺติยา (ก.)], ตโต อุฏฺาย คจฺฉสิ.

๓๕๖.

‘‘อุยฺยานภูมึ คนฺตฺวาน, โปกฺขรฺา สมนฺตโต;

ตสฺสา ตีเร ตุวํ าสิ, หริเต สทฺทเล สุเภ.

๓๕๗.

‘‘ตโต เต กณฺณมุณฺโฑ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ;

ยทา จ ขายิตา อาสิ, อฏฺิสงฺขลิกา กตา;

โอคาหสิ โปกฺขรณึ, โหติ กาโย ยถา ปุเร.

๓๕๘.

‘‘ตโต ตฺวํ องฺคปจฺจงฺคี [องฺคปจฺจงฺคา (ก.)], สุจารุ ปิยทสฺสนา;

วตฺเถน ปารุปิตฺวาน, อายาสิ มม สนฺติกํ.

๓๕๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, กณฺณมุณฺโฑ สุนโข ตวองฺคมงฺคานิ ขาทตี’’ติ.

๓๖๐.

‘‘กิมิลายํ [กิมฺพิลายํ (สี. สฺยา.)] คหปติ, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;

ตสฺสาหํ ภริยา อาสึ, ทุสฺสีลา อติจารินี.

๓๖๑.

‘‘โส มํ อติจรมานาย [เอวมาติจรมานาย (สฺยา. ปี.)], สามิโก เอตทพฺรวิ;

‘เนตํ ฉนฺนํ [เนตํ ฉนฺนํ น (สี.), เนตํ ฉนฺนํ เนตํ (ก.)] ปติรูปํ, ยํ ตฺวํ อติจราสิ มํ’.

๓๖๒.

‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทฺจ ภาสิสํ;

‘นาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา.

๓๖๓.

‘‘‘สจาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา;

กณฺณมุณฺโฑ ยํ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทตุ’.

๓๖๔.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปากํ, มุสาวาทสฺส จูภยํ;

สตฺเตว วสฺสสตานิ, อนุภูตํ ยโต หิ เม;

กณฺณมุณฺโฑ จ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ.

๓๖๕.

‘‘ตฺวฺจ เทว พหุกาโร, อตฺถาย เม อิธาคโต;

สุมุตฺตาหํ กณฺณมุณฺฑสฺส, อโสกา อกุโตภยา.

๓๖๖.

‘‘ตาหํ เทว นมสฺสามิ, ยาจามิ ปฺชลีกตา;

ภุฺช อมานุเส กาเม, รม เทว มยา สหา’’ติ.

๓๖๗.

‘‘ภุตฺตา อมานุสา กามา, รมิโตมฺหิ ตยา สห;

ตาหํ สุภเค ยาจามิ, ขิปฺปํ ปฏินยาหิ ม’’นฺติ.

กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ ทฺวาทสมํ.

๑๓. อุพฺพริเปตวตฺถุ

๓๖๘.

อหุ ราชา พฺรหฺมทตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;

อโหรตฺตานมจฺจยา, ราชา กาลมกฺรุพฺพถ [ราชา กาลงฺกรี ตทา (สี.)].

๓๖๙.

ตสฺส อาฬาหนํ คนฺตฺวา, ภริยา กนฺทติ อุพฺพรี [อุปฺปริ (ก.)];

พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, พฺรหฺมทตฺตาติ กนฺทติ.

๓๗๐.

อิสิ จ ตตฺถ อาคจฺฉิ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;

โส จ ตตฺถ อปุจฺฉิตฺถ, เย ตตฺถ สุสมาคตา.

๓๗๑.

‘‘กสฺส อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;

กสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;

พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.

๓๗๒.

เต จ ตตฺถ วิยากํสุ, เย ตตฺถ สุสมาคตา;

‘‘พฺรหฺมทตฺตสฺส ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)], พฺรหฺมทตฺตสฺส มาริส.

๓๗๓.

‘‘ตสฺส อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;

ตสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;

พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.

๓๗๔.

‘‘ฉฬาสีติสหสฺสานิ, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;

อิมสฺมึ อาฬาหเน ทฑฺฒา, เตสํ กมนุโสจสี’’ติ.

๓๗๕.

‘‘โย ราชา จูฬนีปุตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;

ตํ ภนฺเต อนุโสจามิ, ภตฺตารํ สพฺพกามท’’นฺติ.

๓๗๖.

‘‘สพฺเพ วาเหสุํ ราชาโน, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;

สพฺเพวจูฬนีปุตฺตา, ปฺจาลานํ รเถสภา.

๓๗๗.

‘‘สพฺเพสํ อนุปุพฺเพน, มเหสิตฺตมการยิ;

กสฺมา ปุริมเก หิตฺวา, ปจฺฉิมํ อนุโสจสี’’ติ.

๓๗๘.

‘‘อาตุเม อิตฺถิภูตาย, ทีฆรตฺตาย มาริส;

ยสฺสา เม อิตฺถิภูตาย, สํสาเร พหุภาสสี’’ติ.

๓๗๙.

‘‘อหุ อิตฺถี อหุ ปุริโส, ปสุโยนิมฺปิ อาคมา;

เอวเมตํ อตีตานํ, ปริยนฺโต น ทิสฺสตี’’ติ.

๓๘๐.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๓๘๑.

‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตาย, ปติโสกํ อปานุทิ.

๓๘๒.

‘‘สาหํ อพฺพูฬฺหสลฺลาสฺมิ, สีติภูตาสฺมิ นิพฺพุตา;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวา มหามุนี’’ติ.

๓๘๓.

ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, สมณสฺส สุภาสิตํ;

ปตฺตจีวรมาทาย, ปพฺพชิ อนคาริยํ.

๓๘๔.

สา จ ปพฺพชิตา สนฺตา, อคารสฺมา อนคาริยํ;

เมตฺตาจิตฺตํ อภาเวสิ, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา.

๓๘๕.

คามา คามํ วิจรนฺตี, นิคเม ราชธานิโย;

อุรุเวลา นาม โส คาโม, ยตฺถ กาลมกฺรุพฺพถ.

๓๘๖.

เมตฺตาจิตฺตํ อาภาเวตฺวา, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา;

อิตฺถิจิตฺตํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหูติ.

อุพฺพริเปตวตฺถุ เตรสมํ.

อุพฺพริวคฺโค ทุติโย นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

โมจกํ [ปณฺฑุ (สพฺพตฺถ)] มาตา มตฺตา [ปิตา (สี. ก.), ปติยา (สฺยา.)] จ, นนฺทา กุณฺฑลีนา ฆโฏ;

ทฺเว เสฏฺี ตุนฺนวาโย จ, อุตฺตร [วิหาร (สพฺพตฺถ)] สุตฺตกณฺณ [โสปาน (สพฺพตฺถ)] อุพฺพรีติ.

๓. จูฬวคฺโค

๑. อภิชฺชมานเปตวตฺถุ

๓๘๗.

‘‘อภิชฺชมาเน วาริมฺหิ, คงฺคาย อิธ คจฺฉสิ;

นคฺโค ปุพฺพทฺธเปโตว มาลธารี อลงฺกโต;

กุหึ คมิสฺสสิ เปต, กตฺถ วาโส ภวิสฺสตี’’ติ.

๓๘๘.

‘‘จุนฺทฏฺิลํ [จุนฺทฏฺิกํ (สี.)] คมิสฺสามิ, เปโต โส อิติ ภาสติ;

อนฺตเร วาสภคามํ, พาราณสึ จ [พาราณสิยา จ (สี. สฺยา.)] สนฺติเก’’.

๓๘๙.

ตฺจ ทิสฺวา มหามตฺโต, โกลิโย อิติ วิสฺสุโต;

สตฺตุํ ภตฺตฺจ เปตสฺส, ปีตกฺจ ยุคํ อทา.

๓๙๐.

นาวาย ติฏฺมานาย, กปฺปกสฺส อทาปยิ;

กปฺปกสฺส ปทินฺนมฺหิ, าเน เปตสฺส ทิสฺสถ [เปตสฺสุ’ทิสฺสถ (สี.), เปตสฺสุ’ทิจฺฉถ (?)].

๓๙๑.

ตโต สุวตฺถวสโน, มาลธารี อลงฺกโต;

าเน ิตสฺส เปตสฺส, ทกฺขิณา อุปกปฺปถ;

ตสฺมา ทชฺเชถ เปตานํ, อนุกมฺปาย ปุนปฺปุนํ.

๓๙๒.

สาตุนฺนวสนา [สาหุนฺนวาสิโน (สฺยา. ปี.), สาหุนฺทวาสิโน (ก.)] เอเก, อฺเ เกสนิวาสนา [เกสนิวาสิโน (สฺยา. ก.)];

เปตา ภตฺตาย คจฺฉนฺติ, ปกฺกมนฺติ ทิโสทิสํ.

๓๙๓.

ทูเร เอเก [ทูเร เปตา (ก.)] ปธาวิตฺวา, อลทฺธาว นิวตฺตเร;

ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา.

๓๙๔.

เต จ [เกจิ (สี. สฺยา.)] ตตฺถ ปปติตา [ปปติตฺวา (สี.), จ ปติตา (สฺยา.)], ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;

ปุพฺเพ อกตกลฺยาณา, อคฺคิทฑฺฒาว อาตเป.

๓๙๕.

‘‘มยํ ปุพฺเพ ปาปธมฺมา, ฆรณี กุลมาตโร;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.

๓๙๖.

‘‘ปหูตํ อนฺนปานมฺปิ, อปิสฺสุ อวกิรียติ;

สมฺมคฺคเต ปพฺพชิเต, น จ กิฺจิ อทมฺหเส.

๓๙๗.

‘‘อกมฺมกามา อลสา, สาทุกามา มหคฺฆสา;

อาโลปปิณฺฑทาตาโร, ปฏิคฺคเห ปริภาสิมฺหเส [ปริภาสิตา (สฺยา. ก.)].

๓๙๘.

‘‘เต ฆรา ตา จ ทาสิโย, ตาเนวาภรณานิ โน;

เต อฺเ ปริจาเรนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคิโน.

๓๙๙.

‘‘เวณี วา อวฺา โหนฺติ, รถการี จ ทุพฺภิกา;

จณฺฑาลี กปณา โหนฺติ, กปฺปกา [นฺหาปิกา (สี.)] จ ปุนปฺปุนํ.

๔๐๐.

‘‘ยานิ ยานิ นิหีนานิ, กุลานิ กปณานิ จ;

เตสุ เตสฺเวว ชายนฺติ, เอสา มจฺฉริโน คติ.

๔๐๑.

‘‘ปุพฺเพ จ กตกลฺยาณา, ทายกา วีตมจฺฉรา;

สคฺคํ เต ปริปูเรนฺติ, โอภาเสนฺติ จ นนฺทนํ.

๔๐๒.

‘‘เวชยนฺเต จ ปาสาเท, รมิตฺวา กามกามิโน;

อุจฺจากุเลสุ ชายนฺติ, สโภเคสุ ตโต จุตา.

๔๐๓.

‘‘กูฏาคาเร จ ปาสาเท, ปลฺลงฺเก โคนกตฺถเต;

พีชิตงฺคา [วีชิตงฺคา (สี. สฺยา.)] โมรหตฺเถหิ, กุเล ชาตา ยสสฺสิโน.

๔๐๔.

‘‘องฺกโต องฺกํ คจฺฉนฺติ, มาลธารี อลงฺกตา;

ธาติโย อุปติฏฺนฺติ, สายํ ปาตํ สุเขสิโน.

๔๐๕.

‘‘นยิทํ อกตปุฺานํ, กตปุฺานเมวิทํ;

อโสกํ นนฺทนํ รมฺมํ, ติทสานํ มหาวนํ.

๔๐๖.

‘‘สุขํ อกตปุฺานํ, อิธ นตฺถิ ปรตฺถ จ;

สุขฺจ กตปุฺานํ, อิธ เจว ปรตฺถ จ.

๔๐๗.

‘‘เตสํ สหพฺยกามานํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุํ;

กตปุฺา หิ โมทนฺติ, สคฺเค โภคสมงฺคิโน’’ติ.

อภิชฺชมานเปตวตฺถุ ปมํ.

๒. สาณวาสีเถรเปตวตฺถุ

๔๐๘.

กุณฺฑินาคริโย เถโร, สาณวาสิ [สานุวาสิ (สี.), สานวาสิ (สฺยา.)] นิวาสิโก;

โปฏฺปาโทติ นาเมน, สมโณ ภาวิตินฺทฺริโย.

๔๐๙.

ตสฺส มาตา ปิตา ภาตา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๔๑๐.

เต ทุคฺคตา สูจิกฏฺฏา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;

อุตฺตสนฺตา [โอตฺตปฺปนฺตา (สฺยา. ก.)] มหตฺตาสา [มหาตาสา (สี.)], น ทสฺเสนฺติ กุรูริโน [กุรุทฺทิโน (ก.)].

๔๑๑.

ตสฺส ภาตา วิตริตฺวา, นคฺโค เอกปเถกโก;

จตุกุณฺฑิโก ภวิตฺวาน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํ.

๔๑๒.

เถโร จามนสิกตฺวา, ตุณฺหีภูโต อติกฺกมิ;

โส จ วิฺาปยี เถรํ, ‘ภาตา เปตคโต อหํ’.

๔๑๓.

‘‘มาตา ปิตา จ เต ภนฺเต, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๔๑๔.

‘‘เต ทุคฺคตา สูจิกฏฺฏา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;

อุตฺตสนฺตา มหตฺตาสา, น ทสฺเสนฺติ กุรูริโน.

๔๑๕.

‘‘อนุกมฺปสฺสุ การุณิโก, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ โน;

ตว ทินฺเนน ทาเนน, ยาเปสฺสนฺติ กุรูริโน’’ติ.

๔๑๖.

เถโร จริตฺวา ปิณฺฑาย, ภิกฺขู อฺเ จ ทฺวาทส;

เอกชฺฌํ สนฺนิปตึสุ, ภตฺตวิสฺสคฺคการณา.

๔๑๗.

เถโร สพฺเพว เต อาห, ‘‘ยถาลทฺธํ ททาถ เม;

สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามิ, อนุกมฺปาย าตินํ’’.

๔๑๘.

นิยฺยาทยึสุ เถรสฺส, เถโร สงฺฆํ นิมนฺตยิ;

ทตฺวา อนฺวาทิสิ เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.

๔๑๙.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, โภชนํ อุทปชฺชถ;

สุจึ ปณีตํ สมฺปนฺนํ, อเนกรสพฺยฺชนํ.

๔๒๐.

ตโต อุทฺทสฺสยี [อุทฺทิสยี (สี. ก.), อุทฺทิสฺสติ (สฺยา. ก.)] ภาตา, วณฺณวา พลวา สุขี;

‘‘ปหูตํ โภชนํ ภนฺเต, ปสฺส นคฺคามฺหเส มยํ;

ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา วตฺถํ ลภามเส’’ติ.

๔๒๑.

เถโร สงฺการกูฏมฺหา, อุจฺจินิตฺวาน นนฺตเก;

ปิโลติกํ ปฏํ กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา.

๔๒๒.

ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.

๔๒๓.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วตฺถานิ อุทปชฺชิสุํ;

ตโต สุวตฺถวสโน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํ.

๔๒๔.

‘‘ยาวตา นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมึ ปฏิจฺฉทา;

ตโต พหุตรา ภนฺเต, วตฺถานจฺฉาทนานิ โน.

๔๒๕.

‘‘โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขม กปฺปาสิกานิ จ;

วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร.

๔๒๖.

‘‘เต มยํ ปริทหาม, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํ;

ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา เคหํ ลภามเส’’ติ.

๔๒๗.

เถโร ปณฺณกุฏึ กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;

ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.

๔๒๘.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, ฆรานิ อุทปชฺชิสุํ;

กูฏาคารนิเวสนา, วิภตฺตา ภาคโส มิตา.

๔๒๙.

‘‘น มนุสฺเสสุ อีทิสา, ยาทิสา โน ฆรา อิธ;

อปิ ทิพฺเพสุ ยาทิสา, ตาทิสา โน ฆรา อิธ.

๔๓๐.

‘‘ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ [อาภนฺติ (ก.)], สมนฺตา จตุโร ทิสา;

‘ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา ปานียํ ลภามเส’’ติ.

๔๓๑.

เถโร กรณํ [กรกํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปูเรตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;

ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.

๔๓๒.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, ปานียํ อุทปชฺชถ;

คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.

๔๓๓.

สีโตทิกา สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฏิคนฺธิยา;

ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, วาริกิฺชกฺขปูริตา.

๔๓๔.

ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ, เถรสฺส ปฏิทสฺสยุํ;

‘‘ปหูตํ ปานียํ ภนฺเต, ปาทา ทุกฺขา ผลนฺติ โน’’.

๔๓๕.

‘‘อาหิณฺฑมานา ขฺชาม, สกฺขเร กุสกณฺฏเก;

‘ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา ยานํ ลภามเส’’’ติ.

๔๓๖.

เถโร สิปาฏิกํ ลทฺธา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;

ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

‘‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’.

๔๓๗.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, เปตา รเถน มาคมุํ;

‘‘อนุกมฺปิตมฺห ภทนฺเต, ภตฺเตนจฺฉาทเนน จ.

๔๓๘.

‘‘ฆเรน ปานียทาเนน, ยานทาเนน จูภยํ;

มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.

สาณวาสีเถรเปตวตฺถุ ทุติยํ.

๓. รถการเปติวตฺถุ

๔๓๙.

‘‘เวฬุริยถมฺภํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, วิมานมารุยฺห อเนกจิตฺตํ;

ตตฺถจฺฉสิ เทวิ มหานุภาเว, ปถทฺธนิ [สมนฺตโต (ก.)] ปนฺนรเสว จนฺโท.

๔๔๐.

‘‘วณฺโณ จ เต กนกสฺส สนฺนิโภ, อุตฺตตฺตรูโป ภุส ทสฺสเนยฺโย;

ปลฺลงฺกเสฏฺเ อตุเล นิสินฺนา, เอกา ตุวํ นตฺถิ จ ตุยฺห สามิโก.

๔๔๑.

‘‘อิมา จ เต โปกฺขรณี สมนฺตา, ปหูตมลฺยา [ปหูตมาลา (สี. สฺยา.)] พหุปุณฺฑรีกา;

สุวณฺณจุณฺเณหิ สมนฺตโมตฺถตา, น ตตฺถ ปงฺโก ปณโก จ วิชฺชติ.

๔๔๒.

‘‘หํสา จิเม ทสฺสนียา มโนรมา, อุทกสฺมิมนุปริยนฺติ สพฺพทา;

สมยฺย วคฺคูปนทนฺติ สพฺเพ, พินฺทุสฺสรา ทุนฺทุภีนํว โฆโส.

๔๔๓.

‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, นาวาย จ ตฺวํ อวลมฺพ ติฏฺสิ;

อาฬารปมฺเห หสิเต ปิยํวเท, สพฺพงฺคกลฺยาณิ ภุสํ วิโรจสิ.

๔๔๔.

‘‘อิทํ วิมานํ วิรชํ สเม ิตํ, อุยฺยานวนฺตํ [อุยฺยานวนํ (ก.)] รตินนฺทิวฑฺฒนํ;

อิจฺฉามหํ นาริ อโนมทสฺสเน, ตยา สห นนฺทเน อิธ โมทิตุ’’นฺติ.

๔๔๕.

‘‘กโรหิ กมฺมํ อิธ เวทนียํ, จิตฺตฺจ เต อิธ นิหิตํ ภวตุ [นตฺจ โหตุ (ก.), นิตฺจ โหตุ (สฺยา.)];

กตฺวาน กมฺมํ อิธ เวทนียํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ กามกามินิ’’นฺติ.

๔๔๖.

‘‘สาธู’’ติ โส ตสฺสา ปฏิสฺสุณิตฺวา, อกาสิ กมฺมํ ตหึ เวทนียํ;

กตฺวาน กมฺมํ ตหึ เวทนียํ, อุปปชฺชิ โส มาณโว ตสฺสา สหพฺยตนฺติ.

รถการเปติวตฺถุ ตติยํ.

ภาณวารํ ทุติยํ นิฏฺิตํ.

๔. ภุสเปตวตฺถุ

๔๔๗.

‘‘ภุสานิ เอโก สาลึ ปุนาปโร, อยฺจ นารี สกมํสโลหิตํ;

ตุวฺจ คูถํ อสุจึ อกนฺตํ [อกนฺติกํ (สี. ปี.)], ปริภุฺชสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

๔๔๘.

‘‘อยํ ปุเร มาตรํ หึสติ, อยํ ปน กูฏวาณิโช;

อยํ มํสานิ ขาทิตฺวา, มุสาวาเทน วฺเจติ.

๔๔๙.

‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;

สนฺเตสุ ปริคุหามิ, มา จ กิฺจิ อิโต อทํ.

๔๕๐.

‘‘มุสาวาเทน ฉาเทมิ, ‘นตฺถิ เอตํ มม เคเห;

สเจ สนฺตํ นิคุหามิ, คูโถ เม โหตุ โภชนํ’.

๔๕๑.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, มุสาวาทสฺส จูภยํ;

สุคนฺธํ สาลิโน ภตฺตํ, คูถํ เม ปริวตฺตติ.

๔๕๒.

‘‘อวฺฌานิ จ กมฺมานิ, น หิ กมฺมํ วินสฺสติ;

ทุคฺคนฺธํ กิมินํ [กิมิชํ (สี.)] มีฬํ, ภุฺชามิ จ ปิวามิ จา’’ติ.

ภุสเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. กุมารเปตวตฺถุ

๔๕๓.

อจฺเฉรรูปํ สุคตสฺส าณํ, สตฺถา ยถา ปุคฺคลํ พฺยากาสิ;

อุสฺสนฺนปุฺาปิ ภวนฺติ เหเก, ปริตฺตปุฺาปิ ภวนฺติ เหเก.

๔๕๔.

อยํ กุมาโร สีวถิกาย ฉฑฺฑิโต, องฺคุฏฺสฺเนเหน ยาเปติ รตฺตึ;

น ยกฺขภูตา น สรีสปา [สิรึสปา (สี. สฺยา. ปี.)] วา, วิเหเยยฺยุํ กตปุฺํ กุมารํ.

๔๕๕.

สุนขาปิมสฺส ปลิหึสุ ปาเท, ธงฺกา สิงฺคาลา [สิคาลา (สี. สฺยา. ปี.)] ปริวตฺตยนฺติ;

คพฺภาสยํ ปกฺขิคณา หรนฺติ, กากา ปน อกฺขิมลํ หรนฺติ.

๔๕๖.

นยิมสฺส [น อิมสฺส (สฺยา.), นิมสฺส (ก.)] รกฺขํ วิทหึสุ เกจิ, น โอสธํ สาสปธูปนํ วา;

นกฺขตฺตโยคมฺปิ น อคฺคเหสุํ [น อุคฺคเหสุํ (ก.)], น สพฺพธฺานิปิ อากิรึสุ.

๔๕๗.

เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปตฺตํ, รตฺตาภตํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ;

โนนีตปิณฺฑํว ปเวธมานํ, สสํสยํ ชีวิตสาวเสสํ.

๔๕๘.

ตมทฺทสา เทวมนุสฺสปูชิโต, ทิสฺวา จ ตํ พฺยากริ ภูริปฺโ;

‘‘อยํ กุมาโร นครสฺสิมสฺส, อคฺคกุลิโก ภวิสฺสติ โภคโต จ’’ [โภควา จ (สฺยา. ก.)].

๔๕๙.

‘‘กิสฺส [กึ’ส (?)] วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

เอตาทิสํ พฺยสนํ ปาปุณิตฺวา, ตํ ตาทิสํ ปจฺจนุโภสฺสติทฺธิ’’นฺติ.

๔๖๐.

พุทฺธปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ปูชํ อกาสิ ชนตา อุฬารํ;

ตตฺรสฺส จิตฺตสฺสหุ อฺถตฺตํ, วาจํ อภาสิ ผรุสํ อสพฺภํ.

๔๖๑.

โส ตํ วิตกฺกํ ปวิโนทยิตฺวา, ปีตึ ปสาทํ ปฏิลทฺธา ปจฺฉา;

ตถาคตํ เชตวเน วสนฺตํ, ยาคุยา อุปฏฺาสิ สตฺตรตฺตํ.

๔๖๒.

ตสฺส [ตํ’ส (?)] วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

เอตาทิสํ พฺยสนํ ปาปุณิตฺวา, ตํ ตาทิสํ ปจฺจนุโภสฺสติทฺธึ.

๔๖๓.

ตฺวาน โส วสฺสสตํ อิเธว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;

กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, สหพฺยตํ คจฺฉติ วาสวสฺสาติ.

กุมารเปตวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. เสริณีเปตวตฺถุ

๔๖๔.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.

๔๖๕.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๔๖๖.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา กุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๔๖๗.

‘‘อนาวเฏสุ ติตฺเถสุ, วิจินึ อฑฺฒมาสกํ;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน.

๔๖๘.

‘‘นทึ อุเปมิ ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;

ฉายํ อุเปมิ อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.

๔๖๙.

‘‘อคฺคิวณฺโณ จ เม วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;

เอตฺจ ภนฺเต อรหามิ, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.

๔๗๐.

‘‘คนฺตฺวาน หตฺถินึ ปุรํ, วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;

‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’.

๔๗๑.

‘‘อตฺถิ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตฺจ ตํ มยา;

จตฺตาริสตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺโต.

๔๗๒.

‘‘ตโต เม ทานํ ททตุ, ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;

ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา, ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ [อนุทิสฺสตุ (สี. ปี.), อนฺวาทิสฺสตุ (สฺยา.)];

ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๔๗๓.

‘‘สาธู’’ติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, คนฺตฺวาน หตฺถินึ ปุรํ;

อโวจ ตสฺสา มาตรํ –

‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’.

๔๗๔.

‘‘สา มํ ตตฺถ สมาทเปสิ, ( ) [(คนฺตฺวาน หตฺถินึ ปุรํ) (สฺยา. ก.)] วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;

‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’.

๔๗๕.

‘‘อตฺถิ จ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตฺจ ตํ มยา;

จตฺตาริสตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺโต.

๔๗๖.

‘‘ตโต เม ทานํ ททตุ, ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;

ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา, ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ ( ) [(ตโต ตุวํ ทานํ เทหิ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี) (ก.)];

‘ตทา สา สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’’ติ.

๔๗๗.

ตโต หิ สา ทานมทา, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี;

เปตี จ สุขิตา อาสิ, ตสฺสา จาสิ สุชีวิกาติ.

เสริณีเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. มิคลุทฺทกเปตวตฺถุ

๔๗๘.

‘‘นรนาริปุรกฺขโต ยุวา, รชนีเยหิ กามคุเณหิ [กาเมหิ (ก.)] โสภสิ;

ทิวสํ อนุโภสิ การณํ, กิมกาสิ ปุริมาย ชาติยา’’ติ.

๔๗๙.

‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;

มิคลุทฺโท ปุเร อาสึ, โลหิตปาณิ ทารุโณ.

๔๘๐.

‘‘อวิโรธกเรสุ ปาณิสุ, ปุถุสตฺเตสุ ปทุฏฺมานโส;

วิจรึ อติทารุโณ สทา [ตทา (สี.)], ปรหึสาย รโต อสฺโต.

๔๘๑.

‘‘ตสฺส เม สหาโย สุหทโย [สุหโท (สี.)], สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;

โสปิ [โส หิ (สฺยา.)] มํ อนุกมฺปนฺโต, นิวาเรสิ ปุนปฺปุนํ.

๔๘๒.

‘‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, มา ตาต ทุคฺคตึ อคา;

สเจ อิจฺฉสิ เปจฺจ สุขํ, วิรม ปาณวธา อสํยมา’.

๔๘๓.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สุขกามสฺส หิตานุกมฺปิโน;

นากาสึ สกลานุสาสนึ, จิรปาปาภิรโต อพุทฺธิมา.

๔๘๔.

‘‘โส มํ ปุน ภูริสุเมธโส, อนุกมฺปาย สํยเม นิเวสยิ;

‘สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺตึ ภวตุ สํยโม’.

๔๘๕.

‘‘สฺวาหํ ทิวา หนิตฺวา ปาณิโน, วิรโต รตฺติมโหสิ สฺโต;

รตฺตาหํ ปริจาเรมิ, ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโต.

๔๘๖.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺตึ อมานุสึ;

ทิวา ปฏิหตาว [ปฏิหตา จ (ก.)] กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุํ.

๔๘๗.

‘‘เย จ เต สตตานุโยคิโน, ธุวํ ปยุตฺตา สุคตสฺส สาสเน;

มฺามิ เต อมตเมว เกวลํ, อธิคจฺฉนฺติ ปทํ อสงฺขต’’นฺติ.

มิคลุทฺทกเปตวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุ

๔๘๘.

‘‘กูฏาคาเร จ ปาสาเท, ปลฺลงฺเก โคนกตฺถเต;

ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน, รมสิ สุปฺปวาทิเต.

๔๘๙.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน [วฺยวสาเน (สี.)], สูริยุคฺคมนํ ปติ;

อปวิทฺโธ สุสานสฺมึ, พหุทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๔๙๐.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ’’.

๔๙๑.

‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;

มิคลุทฺโท ปุเร อาสึ, ลุทฺโท จาสิมสฺโต.

๔๙๒.

‘‘ตสฺส เม สหาโย สุหทโย, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;

ตสฺส กุลุปโก ภิกฺขุ, อาสิ โคตมสาวโก;

โสปิ มํ อนุกมฺปนฺโต, นิวาเรสิ ปุนปฺปุนํ.

๔๙๓.

‘‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, มา ตาต ทุคฺคตึ อคา;

สเจ อิจฺฉสิ เปจฺจ สุขํ, วิรม ปาณวธา อสํยมา’.

๔๙๔.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สุขกามสฺส หิตานุกมฺปิโน;

นากาสึ สกลานุสาสนึ, จิรปาปาภิรโต อพุทฺธิมา.

๔๙๕.

‘‘โส มํ ปุน ภูริสุเมธโส, อนุกมฺปาย สํยเม นิเวสยิ;

‘สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺตึ ภวตุ สํยโม’.

๔๙๖.

‘‘สฺวาหํ ทิวา หนิตฺวา ปาณิโน, วิรโต รตฺติมโหสิ สฺโต;

รตฺตาหํ ปริจาเรมิ, ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโต.

๔๙๗.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺตึ อมานุสึ;

ทิวา ปฏิหตาว กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุํ.

๔๙๘.

‘‘เย จ เต สตตานุโยคิโน, ธุวํ ปยุตฺตา [ธุวยุตฺตา (สี.)] สุคตสฺส สาสเน;

มฺามิ เต อมตเมว เกวลํ, อธิคจฺฉนฺติ ปทํ อสงฺขต’’นฺติ.

ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุ อฏฺมํ.

๙. กูฏวินิจฺฉยิกเปตวตฺถุ

๔๙๙.

‘‘มาลี กิริฏี กายูรี [เกยูรี (สี.)], คตฺตา เต จนฺทนุสฺสทา;

ปสนฺนมุขวณฺโณสิ, สูริยวณฺโณว โสภสิ.

๕๐๐.

‘‘อมานุสา ปาริสชฺชา, เย เตเม ปริจารกา;

ทส กฺาสหสฺสานิ, ยา เตมา ปริจาริกา;

ตา [กา (ก.)] กมฺพุกายูรธรา, กฺจนาเวฬภูสิตา.

๕๐๑.

‘‘มหานุภาโวสิ ตุวํ, โลมหํสนรูปวา;

ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน, สามํ อุกฺกจฺจ [อุกฺกฑฺฒ (สี.)] ขาทสิ.

๕๐๒.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกุฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน;

สามํ อุกฺกจฺจ ขาทสี’’ติ.

๕๐๓.

‘‘อตฺตโนหํ อนตฺถาย, ชีวโลเก อจาริสํ;

เปสุฺมุสาวาเทน, นิกติวฺจนาย จ.

๕๐๔.

‘‘ตตฺถาหํ ปริสํ คนฺตฺวา, สจฺจกาเล อุปฏฺิเต;

อตฺถํ ธมฺมํ นิรากตฺวา [นิรํกตฺวา (ก.) นิ + อา + กร + ตฺวา = นิรากตฺวา], อธมฺมมนุวตฺติสํ.

๕๐๕.

‘‘เอวํ โส ขาทตตฺตานํ, โย โหติ ปิฏฺิมํสิโก;

ยถาหํ อชฺช ขาทามิ, ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน.

๕๐๖.

‘‘ตยิทํ ตยา นารท สามํ ทิฏฺํ, อนุกมฺปกา เย กุสลา วเทยฺยุํ;

มา เปสุณํ มา จ มุสา อภาณิ, มา โขสิ ปิฏฺิมํสิโก ตุว’’นฺติ.

กูฏวินิจฺฉยิกเปตวตฺถุ นวมํ.

๑๐. ธาตุวิวณฺณเปตวตฺถุ

๕๐๗.

‘‘อนฺตลิกฺขสฺมึ ติฏฺนฺโต, ทุคฺคนฺโธ ปูติ วายสิ;

มุขฺจ เต กิมโย ปูติคนฺธํ, ขาทนฺติ กึ กมฺมมกาสิ ปุพฺเพ.

๕๐๘.

‘‘ตโต สตฺถํ คเหตฺวาน, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนํ;

ขาเรน ปริปฺโผสิตฺวา, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนํ.

๕๐๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.

๕๑๐.

‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;

อิสฺสโร ธนธฺสฺส, สุปหูตสฺส มาริส.

๕๑๑.

‘‘ตสฺสายํ เม ภริยา จ, ธีตา จ สุณิสา จ เม;

ตา มาลํ อุปฺปลฺจาปิ, ปจฺจคฺฆฺจ วิเลปนํ;

ถูปํ หรนฺติโย วาเรสึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา.

๕๑๒.

‘‘ฉฬาสีติสหสฺสานิ, มยํ ปจฺจตฺตเวทนา;

ถูปปูชํ วิวณฺเณตฺวา, ปจฺจาม นิรเย ภุสํ.

๕๑๓.

‘‘เย จ โข ถูปปูชาย, วตฺตนฺเต อรหโต มเห;

อาทีนวํ ปกาเสนฺติ, วิเวจเยถ [วิเวจยถ (สี.)] เน ตโต.

๕๑๔.

‘‘อิมา จ ปสฺส อายนฺติโย, มาลธารี อลงฺกตา;

มาลาวิปากํนุโภนฺติโย [อนุภวนฺติ (สี. ปี.)], สมิทฺธา จ ตา [สมิทฺธา ตา (สี. สฺยา.)] ยสสฺสินิโย.

๕๑๕.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อจฺเฉรํ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;

นโม กโรนฺติ สปฺปฺา, วนฺทนฺติ ตํ มหามุนึ.

๕๑๖.

‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

ถูปปูชํ กริสฺสามิ, อปฺปมตฺโต ปุนปฺปุน’’นฺติ.

ธาตุวิวณฺณเปตวตฺถุ ทสมํ.

จูฬวคฺโค ตติโย นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

อภิชฺชมาโน กุณฺฑิโย [โกณฺฑฺโ (สพฺพตฺถ)], รถการี ภุเสน จ;

กุมาโร คณิกา เจว, ทฺเว ลุทฺทา ปิฏฺิปูชนา;

วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติ.

๔. มหาวคฺโค

๑. อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ

๕๑๗.

เวสาลี นาม นครตฺถิ วชฺชีนํ, ตตฺถ อหุ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร [อมฺพสกฺขโร (สี. สฺยา.), อปฺปสกฺกโร (ก.)];

ทิสฺวาน เปตํ นครสฺส พาหิรํ, ตตฺเถว ปุจฺฉิตฺถ ตํ การณตฺถิโก.

๕๑๘.

‘‘เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถิ, อภิกฺกโม นตฺถิ ปฏิกฺกโม จ;

อสิตปีตขายิตวตฺถโภคา, ปริจาริกา [ปริจารณา (สี. ปี.)] สาปิ อิมสฺส นตฺถิ.

๕๑๙.

‘‘เย าตกา ทิฏฺสุตา สุหชฺชา, อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุพฺเพ;

ทฏฺุมฺปิ เต ทานิ น ตํ ลภนฺติ, วิราชิตตฺโต [วิราธิตตฺโต (สี. ปี.)] หิ ชเนน เตน.

๕๒๐.

‘‘น โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวา;

อตฺถฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺติ, พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺติ.

๕๒๑.

‘‘นิหีนตฺโต สพฺพโภเคหิ กิจฺโฉ, สมฺมกฺขิโต สมฺปริภินฺนคตฺโต;

อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมาโน, อชฺช สุเว ชีวิตสฺสูปโรโธ.

๕๒๒.

‘‘เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปฺปตฺตํ, อุตฺตาสิตํ ปุจิมนฺทสฺส สูเล;

‘อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน วเทสิ ยกฺข, ชีว โภ ชีวิตเมว เสยฺโย’’’ติ.

๕๒๓.

‘‘สาโลหิโต เอส อโหสิ มยฺหํ, อหํ สรามิ ปุริมาย ชาติยา;

ทิสฺวา จ เม การุฺมโหสิ ราช, มา ปาปธมฺโม นิรยํ ปตายํ [ปติ + อยํ = ปตายํ].

๕๒๔.

‘‘อิโต จุโต ลิจฺฉวิ เอส โปโส, สตฺตุสฺสทํ นิรยํ โฆรรูปํ;

อุปปชฺชติ ทุกฺกฏกมฺมการี, มหาภิตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.

๕๒๕.

‘‘อเนกภาเคน คุเณน เสยฺโย, อยเมว สูโล นิรเยน เตน;

เอกนฺตทุกฺขํ กฏุกํ ภยานกํ, เอกนฺตติพฺพํ นิรยํ ปตายํ [ปเต + อยํ = ปตายํ].

๕๒๖.

‘‘อิทฺจ สุตฺวา วจนํ มเมโส, ทุกฺขูปนีโต วิชเหยฺย ปาณํ;

ตสฺมา อหํ สนฺติเก น ภณามิ, มา เม กโต ชีวิตสฺสูปโรโธ’’.

๕๒๗.

‘‘อฺาโต เอโส [อชฺฌิโต เอส (ก.)] ปุริสสฺส อตฺโถ, อฺมฺปิ อิจฺฉามเส ปุจฺฉิตุํ ตุวํ;

โอกาสกมฺมํ สเจ โน กโรสิ, ปุจฺฉาม ตํ โน น จ กุชฺฌิตพฺพ’’นฺติ.

๕๒๘.

‘‘อทฺธา ปฏิฺา เม ตทา อหุ [ปฏิฺาตเมตํ ตทาหุ (ก.), ปฏิฺา น เมเต ตทา อหุ (?)], นาจิกฺขนา อปฺปสนฺนสฺส โหติ;

อกามา สทฺเธยฺยวโจติ กตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ มํ กามํ ยถา วิสยฺห’’นฺติ [วิสยํ (ก.)].

๕๒๙.

‘‘ยํ กิฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ [ปสฺสามิ (ก.)], สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยํ;

ทิสฺวาว ตํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ, กเรยฺยาสิ [กโรหิ (กตฺถจิ)] เม ยกฺข นิยสฺสกมฺม’’นฺติ.

๕๓๐.

‘‘สจฺจปฺปฏิฺา ตว เมสา โหตุ, สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทํ;

อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, ยํ เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ;

สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสํ [สพฺพํ อาจิกฺขิสฺสํ (สี.)] ยถา ปชานนฺติ.

๕๓๑.

‘‘เสเตน อสฺเสน อลงฺกเตน, อุปยาสิ สูลาวุตกสฺส สนฺติเก;

ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, กิสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

๕๓๒.

‘‘เวสาลิยา นครสฺส [ตสฺส นครสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] มชฺเฌ, จิกฺขลฺลมคฺเค นรกํ อโหสิ;

โคสีสเมกาหํ ปสนฺนจิตฺโต, เสตํ [เสตุํ (สฺยา. ก.)] คเหตฺวา นรกสฺมึ นิกฺขิปึ.

๕๓๓.

‘‘เอตสฺมึ ปาทานิ ปติฏฺเปตฺวา, มยฺจ อฺเ จ อติกฺกมิมฺหา;

ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

๕๓๔.

‘‘วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสติ, คนฺโธ จ เต สพฺพทิสา ปวายติ;

ยกฺขิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, นคฺโค จาสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

๕๓๕.

‘‘อกฺโกธโน นิจฺจปสนฺนจิตฺโต, สณฺหาหิ วาจาหิ ชนํ อุเปมิ;

ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม วณฺโณ สตตํ ปภาสติ.

๕๓๖.

‘‘ยสฺจ กิตฺติฺจ ธมฺเม ิตานํ, ทิสฺวาน มนฺเตมิ [ทิสฺวา สมนฺเตมิ (ก.)] ปสนฺนจิตฺโต;

ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม คนฺโธ สตตํ ปวายติ.

๕๓๗.

‘‘สหายานํ ติตฺถสฺมึ นฺหายนฺตานํ, ถเล คเหตฺวา นิทหิสฺส ทุสฺสํ;

ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.

๕๓๘.

‘‘โย กีฬมาโน ปกโรติ ปาปํ, ตสฺเสทิสํ กมฺมวิปากมาหุ;

อกีฬมาโน ปน โย กโรติ, กึ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหู’’ติ.

๕๓๙.

‘‘เย ทุฏฺสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา, กาเยน วาจาย จ สงฺกิลิฏฺา;

กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต นิรยํ อุเปนฺติ.

๕๔๐.

‘‘อปเร ปน สุคติมาสมานา, ทาเน รตา สงฺคหิตตฺตภาวา;

กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต สุคตึ อุเปนฺตี’’ติ.

๕๔๑.

‘‘ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;

กึ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยํ, โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอต’’นฺติ.

๕๔๒.

‘‘ทิสฺวา จ สุตฺวา อภิสทฺทหสฺสุ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;

กลฺยาณปาเป อุภเย อสนฺเต, สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา.

๕๔๓.

‘‘โน เจตฺถ กมฺมานิ กเรยฺยุํ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;

นาเหสุํ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.

๕๔๔.

‘‘ยสฺมา จ กมฺมานิ กโรนฺติ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;

ตสฺมา หิ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.

๕๔๕.

‘‘ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหุ, สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนียํ;

ตา เทวตาโย ปริจารยนฺติ, ปจฺจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโน.

๕๔๖.

‘‘น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานิ, ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย [โส (สพฺพตฺถ)] อาทิเสยฺย;

อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.

๕๔๗.

‘‘สิยา นุ โข การณํ กิฺจิ ยกฺข, อจฺฉาทนํ เยน ตุวํ ลเภถ;

อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ [สทฺธายิตํ (สี. ปี.)] เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.

๕๔๘.

‘‘กปฺปิตโก [กปฺปินโก (สี.)] นาม อิธตฺถิ ภิกฺขุ, ฌายี สุสีโล อรหา วิมุตฺโต;

คุตฺตินฺทฺริโย สํวุตปาติโมกฺโข, สีติภูโต อุตฺตมทิฏฺิปตฺโต.

๕๔๙.

‘‘สขิโล วทฺู สุวโจ สุมุโข, สฺวาคโม สุปฺปฏิมุตฺตโก จ;

ปุฺสฺส เขตฺตํ อรณวิหารี, เทวมนุสฺสานฺจ ทกฺขิเณยฺโย.

๕๕๐.

‘‘สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, มุตฺโต วิสลฺโล อมโม อวงฺโก;

นิรูปธี สพฺพปปฺจขีโณ, ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺโต ชุติมา.

๕๕๑.

‘‘อปฺปฺาโต ทิสฺวาปิ น จ สุชาโน, มุนีติ นํ วชฺชิสุ โวหรนฺติ;

ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชํ, กลฺยาณธมฺมํ วิจรนฺตํ โลเก.

๕๕๒.

‘‘ตสฺส ตุวํ เอกยุคํ ทุเว วา, มมุทฺทิสิตฺวาน สเจ ทเทถ;

ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, มมฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.

๕๕๓.

‘‘กสฺมึ ปเทเส สมณํ วสนฺตํ, คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ มยํ อิทานิ;

โย มชฺช [ส มชฺช (สี.)] กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตฺจ, ทิฏฺีวิสูกานิ วิโนทเยยฺยา’’ติ.

๕๕๔.

‘‘เอโส นิสินฺโน กปินจฺจนายํ, ปริวาริโต เทวตาหิ พหูหิ;

ธมฺมึ กถํ ภาสติ สจฺจนาโม, สกสฺมิมาเจรเก อปฺปมตฺโต’’ติ.

๕๕๕.

‘‘ตถาหํ [ยถาหํ (ก.)] กสฺสามิ คนฺตฺวา อิทานิ, อจฺฉาทยิสฺสํ สมณํ ยุเคน;

ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ตุวฺจ ปสฺเสมุ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.

๕๕๖.

‘‘มา อกฺขเณ ปพฺพชิตํ อุปาคมิ, สาธุ โว ลิจฺฉวิ เนส ธมฺโม;

ตโต จ กาเล อุปสงฺกมิตฺวา, ตตฺเถว ปสฺสาหิ รโห นิสินฺน’’นฺติ.

๕๕๗.

ตถาติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ปริวาริโต ทาสคเณน ลิจฺฉวิ;

โส ตํ นครํ อุปสงฺกมิตฺวา, วาสูปคจฺฉิตฺถ สเก นิเวสเน.

๕๕๘.

ตโต จ กาเล คิหิกิจฺจานิ กตฺวา, นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ขณํ ลภิตฺวา;

วิเจยฺย เปฬาโต จ ยุคานิ อฏฺ, คาหาปยี ทาสคเณน ลิจฺฉวิ.

๕๕๙.

โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, ตํ อทฺทส สมณํ สนฺตจิตฺตํ;

ปฏิกฺกนฺตํ โคจรโต นิวตฺตํ, สีติภูตํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ.

๕๖๐.

ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, อปฺปาพาธํ ผาสุวิหารฺจ ปุจฺฉิ;

‘‘เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ ภทนฺเต, ชานนฺติ มํ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร.

๕๖๑.

‘‘อิมานิ เม อฏฺ ยุคา สุภานิ [ยุคานิ ภนฺเต (สฺยา. ก.)], ปฏิคณฺห ภนฺเต ปททามิ ตุยฺหํ;

เตเนว อตฺเถน อิธาคโตสฺมิ, ยถา อหํ อตฺตมโน ภเวยฺย’’นฺติ.

๕๖๒.

‘‘ทูรโตว สมณพฺราหฺมณา จ, นิเวสนํ เต ปริวชฺชยนฺติ;

ปตฺตานิ ภิชฺชนฺติ จ เต [ภิชฺชนฺติ ตว (สฺยา. ก.)] นิเวสเน, สงฺฆาฏิโย จาปิ วิทาลยนฺติ [วิปาฏยนฺติ (สี.), วิปาตยนฺติ (ก.)].

๕๖๓.

‘‘อถาปเร ปาทกุาริกาหิ, อวํสิรา สมณา ปาตยนฺติ;

เอตาทิสํ ปพฺพชิตา วิเหสํ, ตยา กตํ สมณา ปาปุณนฺติ.

๕๖๔.

‘‘ติเณน เตลมฺปิ น ตฺวํ อทาสิ, มูฬฺหสฺส มคฺคมฺปิ น ปาวทาสิ;

อนฺธสฺส ทณฺฑํ สยมาทิยาสิ, เอตาทิโส กทริโย อสํวุโต ตุวํ;

อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน กิเมว ทิสฺวา,

อมฺเหหิ สห สํวิภาคํ กโรสี’’ติ.

๕๖๕.

‘‘ปจฺเจมิ ภนฺเต ยํ ตฺวํ วเทสิ, วิเหสยึ สมเณ พฺราหฺมเณ จ;

ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เอตมฺปิ เม ทุกฺกฏเมว ภนฺเต.

๕๖๖.

‘‘ขิฑฺฑาย ยกฺโข ปสวิตฺวา ปาปํ, เวเทติ ทุกฺขํ อสมตฺตโภคี;

ทหโร ยุวา นคฺคนิยสฺส ภาคี, กึ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหติ.

๕๖๗.

‘‘ตํ ทิสฺวา สํเวคมลตฺถํ ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาปิ [ตปฺปจฺจยา ตาหํ (สี.), ตปฺปจฺจยา จาหํ (ปี.)] ททามิ ทานํ;

ปฏิคณฺห ภนฺเต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.

๕๖๘.

‘‘อทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ, ททโต จ เต อกฺขยธมฺมมตฺถุ;

ปฏิคณฺหามิ เต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.

๕๖๙.

ตโต หิ โส อาจมยิตฺวา ลิจฺฉวิ, เถรสฺส ทตฺวาน ยุคานิ อฏฺ;

‘ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ยกฺขฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺสํ’.

๕๗๐.

ตมทฺทสา จนฺทนสารลิตฺตํ, อาชฺมารูฬฺหมุฬารวณฺณํ;

อลงฺกตํ สาธุนิวตฺถทุสฺสํ, ปริวาริตํ ยกฺขมหิทฺธิปตฺตํ.

๕๗๑.

โส ตํ ทิสฺวา อตฺตมนา อุทคฺโค, ปหฏฺจิตฺโต จ สุภคฺครูโป;

กมฺมฺจ ทิสฺวาน มหาวิปากํ, สนฺทิฏฺิกํ จกฺขุนา สจฺฉิกตฺวา.

๕๗๒.

ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ทสฺสามิ ทานํ สมณพฺราหฺมณานํ;

น จาปิ เม กิฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, ตุวฺจ เม ยกฺข พหูปกาโร’’ติ.

๕๗๓.

‘‘ตุวฺจ เม ลิจฺฉวิ เอกเทสํ, อทาสิ ทานานิ อโมฆเมตํ;

สฺวาหํ กริสฺสามิ ตยาว สกฺขึ, อมานุโส มานุสเกน สทฺธิ’’นฺติ.

๕๗๔.

‘‘คตี จ พนฺธู จ ปรายณฺจ [ปรายนฺจ (สฺยา. ก.)], มิตฺโต มมาสิ อถ เทวตา เม [เทวตาสิ (สี. สฺยา.)];

ยาจามิ ตํ [ยาจามหํ (สี.)] ปฺชลิโก ภวิตฺวา, อิจฺฉามิ ตํ ยกฺข ปุนาปิ ทฏฺุ’’นฺติ.

๕๗๕.

‘‘สเจ ตุวํ อสฺสทฺโธ ภวิสฺสสิ, กทริยรูโป วิปฺปฏิปนฺนจิตฺโต;

ตฺวํ เนว มํ ลจฺฉสิ [เตเนว มํ น ลจฺฉสี (สี.), เตเนว มํ ลิจฺฉวิ (สฺยา.), เตเนว มํ ลจฺฉสิ (ก.)] ทสฺสนาย, ทิสฺวา จ ตํ โนปิ จ อาลปิสฺสํ.

๕๗๖.

‘‘สเจ ปน ตฺวํ ภวิสฺสสิ ธมฺมคารโว, ทาเน รโต สงฺคหิตตฺตภาโว;

โอปานภูโต สมณพฺราหฺมณานํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย.

๕๗๗.

‘‘ทิสฺวา จ ตํ อาลปิสฺสํ ภทนฺเต, อิมฺจ สูลโต ลหุํ ปมุฺจ;

ยโต นิทานํ อกริมฺห สกฺขึ, มฺามิ สูลาวุตกสฺส การณา.

๕๗๘.

‘‘เต อฺมฺํ อกริมฺห สกฺขึ, อยฺจ สูลโต [สูลาวุโต (สี. สฺยา.)] ลหุํ ปมุตฺโต;

สกฺกจฺจ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต, มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา;

กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียํ.

๕๗๙.

‘‘กปฺปิตกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว [เตน (สฺยา. ก.)] สห สํวิภชิตฺวา กาเล;

สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉ, โส เต อกฺขิสฺสติ เอตมตฺถํ.

๕๘๐.

‘‘ตเมว ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต;

โส เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ,

สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสติ ยถา ปชาน’’นฺติ.

๕๘๑.

โส ตตฺถ รหสฺสํ สมุลฺลปิตฺวา, สกฺขึ กริตฺวาน อมานุเสน;

ปกฺกามิ โส ลิจฺฉวีนํ สกาสํ, อถ พฺรวิ ปริสํ สนฺนิสินฺนํ.

๕๘๒.

‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวากฺยํ, วรํ วริสฺสํ ลภิสฺสามิ อตฺถํ;

สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีหิตทณฺโฑ [ปณีตนณฺโฑ (ก.)] อนุสตฺตรูโป [อนุปกฺกรูโป (ก.)].

๕๘๓.

‘‘เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต;

ตาหํ โมจยิสฺสามิ ทานิ, ยถามตึ อนุชานาตุ สงฺโฆ’’ติ.

๕๘๔.

‘‘เอตฺจ อฺฺจ ลหุํ ปมุฺจ, โก ตํ วเทถ [วเทถาติ (ก.), วเทถ จ (สฺยา.)] ตถา กโรนฺตํ;

ยถา ปชานาสิ ตถา กโรหิ, ยถามตึ อนุชานาติ สงฺโฆ’’ติ.

๕๘๕.

โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, สูลาวุตํ โมจยิ ขิปฺปเมว;

‘มา ภายิ สมฺมา’ติ จ ตํ อโวจ, ติกิจฺฉกานฺจ อุปฏฺเปสิ.

๕๘๖.

‘‘กปฺปิตกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว สห [เตน สมํ (สี.), เตน สห (สฺยา. ก.)] สํวิภชิตฺวา กาเล;

สยํ มุเขนูปนิสชฺช ลิจฺฉวิ, ตเถว ปุจฺฉิตฺถ นํ การณตฺถิโก.

๕๘๗.

‘‘สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีตทณฺโฑ อนุสตฺตรูโป;

เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต.

๕๘๘.

‘‘โส โมจิโต คนฺตฺวา มยา อิทานิ, เอตสฺส ยกฺขสฺส วโจ หิ ภนฺเต;

สิยา นุ โข การณํ กิฺจิเทว, เยน โส นิรยํ โน วเชยฺย.

๕๘๙.

‘‘อาจิกฺข ภนฺเต ยทิ อตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณม;

น เตสํ กมฺมานํ วินาสมตฺถิ, อเวทยิตฺวา อิธ พฺยนฺติภาโว’’ติ.

๕๙๐.

‘‘สเจ ส ธมฺมานิ สมาจเรยฺย, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;

มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.

๕๙๑.

‘‘อฺาโต [าโตมฺหิ (ก.)] เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ, มมมฺปิ ทานิ อนุกมฺป ภนฺเต;

อนุสาส มํ โอวท ภูริปฺ, ยถา อหํ โน นิรยํ วเชยฺย’’นฺติ.

๕๙๒.

‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;

ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.

๕๙๓.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;

อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ;

อิมฺจ อริยํ [อิมฺจ (สฺยา.)] อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยาหิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.

๕๙๔.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ททาหิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา [สทา ปุฺํ ปวฑฺฒติ (สฺยา. ก.)].

๕๙๕.

‘‘ภิกฺขูปิ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;

ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, สทา ปุฺํ ปวฑฺฒติ.

๕๙๖.

‘‘เอวฺจ ธมฺมานิ [กมฺมานิ (สี. สฺยา.)] สมาจรนฺโต, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;

มุฺจ ตุวํ [มุจฺเจยฺย โส ตฺวํ (ก.)] นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.

๕๙๗.

‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;

ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยามิ.

๕๙๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;

อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ;

อิมฺจ อริยํ อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยามิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.

๕๙๙.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.

๖๐๐.

‘‘ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;

ททามิ น วิกมฺปามิ [วิกปฺปามิ (สี. สฺยา.)], พุทฺธานํ สาสเน รโต’’ติ.

๖๐๑.

เอตาทิสา ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร, เวสาลิยํ อฺตโร อุปาสโก;

สทฺโธ มุทู การกโร จ ภิกฺขุ, สงฺฆฺจ สกฺกจฺจ ตทา อุปฏฺหิ.

๖๐๒.

สูลาวุโต จ อโรโค หุตฺวา, เสรี สุขี ปพฺพชฺชํ อุปาคมิ [ปพฺพชฺชมุปคจฺฉิ (ก.)];

ภิกฺขุฺจ อาคมฺม กปฺปิตกุตฺตมํ, อุโภปิ สามฺผลานิ อชฺฌคุํ.

๖๐๓.

เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหปฺผลา โหติ สตํ วิชานตํ;

สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ [ผุสฺสยิ (สฺยา. ก.)], ผลํ กนิฏฺํ ปน อมฺพสกฺกโร’’ติ.

อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ ปมํ.

๒. เสรีสกเปตวตฺถุ

๖๐๔.

[วิ. ว. ๑๒๒๘] สุโณถ ยกฺขสฺส วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;

ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตฺจ สุณาถ สพฺเพ.

๖๐๕.

โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม [นาโม (สี.)], ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;

โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติ.

๖๐๖.

‘‘วงฺเก อรฺเ อมนุสฺสฏฺาเน, กนฺตาเร อปฺโปทเก อปฺปภกฺเข;

สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, วงฺกํภยา นฏฺมนา มนุสฺสา.

๖๐๗.

‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภกฺโข [ภิกฺโข (ก.)];

อฺตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จ.

๖๐๘.

‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;

ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโป.

๖๐๙.

‘‘‘อถ ตุมฺเห เกน วณฺเณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสํ หิ;

อนุปวิฏฺา สหสา สมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’’ติ.

๖๑๐.

‘‘มคเธสุ องฺเคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;

เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา.

๖๑๑.

‘‘ทิวา ปิปาสํ นธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปฺจ สเมกฺขมานา;

เอเตน เวเคน อายาม สพฺเพ, รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปนฺนา วิกาเล.

๖๑๒.

‘‘เต ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;

สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตา.

๖๑๓.

‘‘อิทฺจ ทิสฺวาน อทิฏฺปุพฺพํ, วิมานเสฏฺฺจ ตวฺจ ยกฺข;

ตตุตฺตรึ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติ.

๖๑๔.

‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมฺจ วณฺณุํ, เวตฺตาจรํ [เวตฺตํ ปรํ (สฺยา.), เวตฺตาจารํ (ก.)] สงฺกุปถฺจ มคฺคํ;

นทิโย ปน ปพฺพตานฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุ.

๖๑๕.

‘‘ปกฺขนฺทิยาน วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;

ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ, อจฺเฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติ.

๖๑๖.

‘‘อิโตปิ อจฺเฉรตรํ กุมาร, น โน สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ;

อตีตมานุสฺสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวา น ตปฺปาม อโนมวณฺณํ.

๖๑๗.

‘‘เวหายสํ โปกฺขรฺโ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา [ปหูตมาลฺยา (สฺยา.)] พหุปุณฺฑรีกา;

ทุมา จิเม นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภึ ปวายนฺติ.

๖๑๘.

‘‘เวฬูริยถมฺภา สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;

มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเส.

๖๑๙.

‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;

รตนนฺตรํ กฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปฏฺเฏหิ จ สาธุฉนฺนํ.

๖๒๐.

‘‘ชมฺโพนทุตฺตตฺตมิทํ สุมฏฺโ, ปาสาทโสปาณผลูปปนฺโน;

ทฬฺโห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ [วคฺคุ สุมุโข สุสงฺคโต (สี.)], อตีว นิชฺฌานขโม มนุฺโ.

๖๒๑.

‘‘รตนนฺตรสฺมึ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;

มุรชอาลมฺพรตูริยฆุฏฺโ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนาย.

๖๒๒.

‘‘โส โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;

อจินฺติโย สพฺพคุณูปปนฺโน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา [นฬิฺํ (ก.)].

๖๒๓.

‘‘เทโว นุ อาสิ อุทวาสิ ยกฺโข, อุทาหุ เทวินฺโท มนุสฺสภูโต;

ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยกฺโข’’ติ.

๖๒๔.

‘‘เสรีสโก นาม อหมฺหิ ยกฺโข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุตฺโต;

อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รฺโ’’ติ.

๖๒๕.

‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํ กตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนุฺ’’นฺติ.

๖๒๖.

‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํ กตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;

สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ มนุฺ’’นฺติ.

๖๒๗.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.

๖๒๘.

‘‘มมํ ปายาสีติ อหุ สมฺา, รชฺชํ ยทา การยึ โกสลานํ;

นตฺถิกทิฏฺิ กทริโย ปาปธมฺโม, อุจฺเฉทวาที จ ตทา อโหสึ.

๖๒๙.

‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;

โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ, ทิฏฺิวิสูกานิ วิโนทยี เม.

๖๓๐.

‘‘ตาหํ ตสฺส ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฏิเทวยิสฺสํ;

ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;

อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณึ, สเกน ทาเรน จ อโหสิ ตุฏฺโ.

๖๓๑.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

เตเหว กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.

๖๓๒.

‘‘สจฺจํ กิราหํสุ นรา สปฺา, อนฺถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;

ยหึ ยหึ คจฺฉติ ปุฺกมฺโม, ตหึ ตหึ โมทติ กามกามี.

๖๓๓.

‘‘ยหึ ยหึ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พนฺโธ จ ปริกฺกิเลโส;

ตหึ ตหึ คจฺฉติ ปาปกมฺโม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติ.

๖๓๔.

‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ชโน อโหสิ, อสฺมึ มุหุตฺเต กลลีกโตว;

ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติ.

๖๓๕.

‘‘อิเม จ สิรีสวนา [อิเม สิรีสูปวนา จ (สี.), อิเมปิ สิรีสวนา จ (ปี. ก.)] ตาตา, ทิพฺพา คนฺธา สุรภี สมฺปวนฺติ;

เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา จ รตฺโต จ ตมํ นิหนฺตฺวา.

๖๓๖.

‘‘อิเมสฺจ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฏิกา ผลติ เอกเมกา;

มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทคฺเค กายมฺหิ อิธูปปนฺโน.

๖๓๗.

‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, อสฺมึ วิมาเน ตฺวาน ตาตา;

อายุกฺขยา ปุฺกฺขยา จวิสฺสํ, เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ.

๖๓๘.

‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;

เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปุฺา’’ติ.

๖๓๙.

‘‘อนุจฺฉวึ โอวทิยฺจ เม ตํ, ยํ มํ ตุมฺเห เปยฺยวาจํ วเทถ;

ตุมฺเห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยนิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติ.

๖๔๐.

‘‘คนฺตฺวา มยํ สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนฺนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;

ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม เสรีสมหํ อุฬาร’’นฺติ.

๖๔๑.

‘‘มา เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;

ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคฺจ อธิฏฺหาถ.

๖๔๒.

‘‘อุปาสโก อตฺถิ อิมมฺหิ สงฺเฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน;

สทฺโธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมา.

๖๔๓.

‘‘สฺชานมาโน น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย จ เจตเยยฺย;

เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺย.

๖๔๔.

‘‘สคารโว สปฺปฏิสฺโส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุทฺโธ;

โส มาตรํ ปิตรฺจาปิ ชนฺตุ, ธมฺเมน โปเสติ อริยวุตฺติ.

๖๔๕.

‘‘มฺเ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;

มาตาปิตูนฺจ โย อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.

๖๔๖.

‘‘อุชู อวงฺโก อสโ อมาโย, น เลสกปฺเปน จ โวหเรยฺย;

โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธมฺเม ิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํ.

๖๔๗.

‘‘ตํ การณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;

อฺตฺร เตนิห ภสฺมี [ภสฺมิ (สฺยา.), ภสฺม (ก.)] ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;

ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติ.

๖๔๘.

‘‘กึ นาม โส กิฺจ กโรติ กมฺมํ, กึ นามเธยฺยํ กึ ปน ตสฺส โคตฺตํ;

มยมฺปิ นํ ทฏฺุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;

ลาภา หิ ตสฺส ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติ.

๖๔๙.

‘‘โย กปฺปโก สมฺภวนามเธยฺโย, อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;

ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส, มา โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติ.

๖๕๐.

‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ ยกฺข, น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;

มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข, สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติ.

๖๕๑.

‘‘เย เกจิ อิมสฺมึ สตฺเถ มนุสฺสา, ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;

สพฺเพว เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ, ปสฺสนฺตุ ปุฺานํ ผลํ กทริยา’’ติ.

๖๕๒.

เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา [ปุรกฺขิปิตฺวา (สี.)];

สพฺเพว เต อาลมฺพึสุ วิมานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส.

๖๕๓.

เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยึสุ;

ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยึสุ;

อมชฺชปา โน จ มุสา ภณึสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฏฺา.

๖๕๔.

เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิตฺวา;

ปกฺกามิ สตฺโถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํ.

๖๕๕.

คนฺตฺวาน เต สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ [อุทย (ปี. ก.)] ปตฺถยานา;

ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ.

๖๕๖.

คนฺตฺวาน เต สงฺฆรํ โสตฺถิวนฺโต, ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;

อานนฺที วิตฺตา สุมนา ปตีตา, อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;

เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยึสุ.

๖๕๗.

เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;

เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส, สพฺเพว สตฺตา สุขิตา [สุขิโน (ปี. ก.)] อเหสุนฺติ.

เสรีสกเปตวตฺถุ ทุติยํ.

ภาณวารํ ตติยํ นิฏฺิตํ.

๓. นนฺทกเปตวตฺถุ

๖๕๘.

ราชา ปิงฺคลโก นาม, สุรฏฺานํ อธิปติ อหุ;

โมริยานํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา, สุรฏฺํ ปุนราคมา.

๖๕๙.

อุณฺเห มชฺฌนฺหิเก [มชฺฌนฺติเก (สพฺพตฺถ)] กาเล, ราชา ปงฺกํ [วงฺกํ (ก.)] อุปาคมิ;

อทฺทส มคฺคํ รมณียํ, เปตานํ ตํ วณฺณุปถํ [วณฺณนาปถํ (สี. สฺยา.)].

๖๖๐.

สารถึ อามนฺตยี ราชา –

‘‘อยํ มคฺโค รมณีโย, เขโม โสวตฺถิโก สิโว;

อิมินา สารถิ ยาม, สุรฏฺานํ สนฺติเก อิโต’’.

๖๖๑.

เตน ปายาสิ โสรฏฺโ, เสนาย จตุรงฺคินิยา;

อุพฺพิคฺครูโป ปุริโส, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.

๖๖๒.

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;

ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.

๖๖๓.

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;

อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ [สูยติ (สี. สฺยา.)] ทารุโณ’’.

๖๖๔.

สํวิคฺโค ราชา โสรฏฺโ, สารถึ เอตทพฺรวิ;

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;

ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.

๖๖๕.

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;

อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ ทารุโณ’’.

๖๖๖.

หตฺถิกฺขนฺธํ สมารุยฺห, โอโลเกนฺโต จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสฺสา (ก.)];

อทฺทส นิคฺโรธํ รมณียํ [รุกฺขํ นิคฺโรธํ (สฺยา. ก.)], ปาทปํ ฉายาสมฺปนฺนํ;

นีลพฺภวณฺณสทิสํ, เมฆวณฺณสิรีนิภํ.

๖๖๗.

สารถึ อามนฺตยี ราชา, ‘‘กึ เอโส ทิสฺสติ พฺรหา;

นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.

๖๖๘.

‘‘นิคฺโรโธ โส มหาราช, ปาทโป ฉายาสมฺปนฺโน;

นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.

๖๖๙.

เตน ปายาสิ โสรฏฺโ, เยน โส ทิสฺสเต พฺรหา;

นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ.

๖๗๐.

หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ราชา รุกฺขํ อุปาคมิ;

นิสีทิ รุกฺขมูลสฺมึ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;

ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ อทฺทส.

๖๗๑.

ปุริโส จ เทววณฺณี, สพฺพาภรณภูสิโต;

อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.

๖๗๒.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

ปิวตุ เทโว ปานียํ, ปูเว ขาท อรินฺทม’’.

๖๗๓.

ปิวิตฺวา ราชา ปานียํ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;

ปูเว ขาทิตฺวา ปิตฺวา จ, โสรฏฺโ เอตทพฺรวิ.

๖๗๔.

‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

๖๗๕.

‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ [นมฺหิ (ก.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;

เปโต อหํ มหาราช, สุรฏฺา อิธ มาคโต’’ติ.

๖๗๖.

‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, สุรฏฺสฺมึ ปุเร ตุวํ;

เกน เต พฺรหฺมจริเยน, อานุภาโว อยํ ตวา’’ติ.

๖๗๗.

‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;

อมจฺจา ปาริสชฺชา จ, พฺราหฺมโณ จ ปุโรหิโต.

๖๗๘.

‘‘สุรฏฺสฺมึ อหํ เทว, ปุริโส ปาปเจตโส;

มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.

๖๗๙.

‘‘‘ททนฺตานํ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุชฺชนํ;

อฺเสํ ททมานานํ, อนฺตรายกโร อหํ.

๖๘๐.

‘‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;

นตฺถิ อาจริโย นาม, อทนฺตํ โก ทเมสฺสติ.

๖๘๑.

‘‘‘สมตุลฺยานิ ภูตานิ, กุโต [กุเล (สฺยา. ก.)] เชฏฺาปจายิโก;

นตฺถิ พลํ วีริยํ วา, กุโต อุฏฺานโปริสํ.

๖๘๒.

‘‘‘นตฺถิ ทานผลํ นาม, น วิโสเธติ เวรินํ;

ลทฺเธยฺยํ ลภเต มจฺโจ, นิยติปริณามชํ [ปริณามชา (สี. ก.)].

๖๘๓.

‘‘‘นตฺถิ มาตา ปิตา ภาตา, โลโก นตฺถิ อิโต ปรํ;

นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ หุตํ, สุนิหิตํ น วิชฺชติ.

๖๘๔.

‘‘‘โยปิ หเนยฺย ปุริสํ, ปรสฺส ฉินฺทเต [ปุริสสฺส ฉินฺเท (สฺยา. ก.)] สิรํ;

น โกจิ กฺจิ หนติ, สตฺตนฺนํ วิวรมนฺตเร.

๖๘๕.

‘‘‘อจฺเฉชฺชาเภชฺโช หิ [เภชฺโช (สี.), อเภชฺโช (สฺยา.), เภชฺชาสิ (ก.)] ชีโว, อฏฺํโส คุฬปริมณฺฑโล;

โยชนานํ สตํ ปฺจ, โก ชีวํ เฉตฺตุมรหติ.

๖๘๖.

‘‘‘ยถา สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต, นิพฺเพเนฺตํ ปลายติ;

เอวเมว จ โส ชีโว, นิพฺเพเนฺโต ปลายติ.

๖๘๗.

‘‘‘ยถา คามโต นิกฺขมฺม, อฺํ คามํ ปวิสติ;

เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.

๖๘๘.

‘‘‘ยถา เคหโต นิกฺขมฺม, อฺํ เคหํ ปวิสติ;

เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.

๖๘๙.

‘‘‘จุลฺลาสีติ [จุฬาสีติ (สี. สฺยา. ก.)] มหากปฺปิโน [มหากปฺปุโน (สี.)], สตสหสฺสานิ หิ;

เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา, สํสารํ เขปยิตฺวาน;

ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสเร.

๖๙๐.

‘‘‘มิตานิ สุขทุกฺขานิ, โทเณหิ ปิฏเกหิ จ;

ชิโน สพฺพํ ปชานาติ’, สมฺมูฬฺหา อิตรา ปชา.

๖๙๑.

‘‘เอวํทิฏฺิ ปุเร อาสึ, สมฺมูฬฺโห โมหปารุโต;

มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.

๖๙๒.

‘‘โอรํ เม ฉหิ มาเสหิ, กาลงฺกิริยา ภวิสฺสติ;

เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.

๖๙๓.

[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;

อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.

๖๙๔.

[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.

๖๙๕.

‘‘วสฺสานิ สตสหสฺสานิ, โฆโส สุยฺยติ ตาวเท;

ลกฺโข เอโส มหาราช, สตภาควสฺสโกฏิโย.

๖๙๖.

‘‘โกฏิสตสหสฺสานิ, นิรเย ปจฺจเร ชนา;

มิจฺฉาทิฏฺี จ ทุสฺสีลา, เย จ อริยูปวาทิโน.

๖๙๗.

‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;

ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.

๖๙๘.

‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;

ธีตา มยฺหํ มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต.

๖๙๙.

‘‘กโรติ ภทฺทกํ กมฺมํ, สีเลสุโปสเถ รตา;

สฺตา สํวิภาคี จ, วทฺู วีตมจฺฉรา.

๗๐๐.

‘‘อขณฺฑการี สิกฺขาย, สุณฺหา ปรกุเลสุ จ;

อุปาสิกา สกฺยมุนิโน, สมฺพุทฺธสฺส สิรีมโต.

๗๐๑.

‘‘ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ;

โอกฺขิตฺตจกฺขุ สติมา, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต.

๗๐๒.

‘‘สปทานํ จรมาโน, อคมา ตํ นิเวสนํ;

‘ตมทฺทส มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต’.

๗๐๓.

‘‘ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ สา อทา;

‘ปิตา เม กาลงฺกโต, ภนฺเต ตสฺเสตํ อุปกปฺปตุ’.

๗๐๔.

‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

ภุฺชามิ กามกามีหํ, ราชา เวสฺสวโณ ยถา.

๗๐๕.

‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;

สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจติ;

ตํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.

๗๐๖.

‘‘อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน, ผุสนฺติ อมตํ ปทํ;

ตํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.

๗๐๗.

‘‘จตฺตาโร จ ปฏิปนฺนา [มคฺคปฏิปนฺนา (สี. สฺยา.)], จตฺตาโร จ ผเล ิตา;

เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปฺาสีลสมาหิโต;

ตํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.

๗๐๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;

อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.

๗๐๙.

‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;

กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.

๗๑๐.

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;

สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.

๗๑๑.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;

อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ.

๗๑๒.

‘‘โอผุณามิ [โอปุณามิ (สี.), โอผุนามิ (สฺยา. ก.), โอปุนามิ (?)] มหาวาเต, นทิยา สีฆคามิยา;

วมามิ ปาปิกํ ทิฏฺึ, พุทฺธานํ สาสเน รโต’’.

๗๑๓.

อิทํ วตฺวาน โสรฏฺโ, วิรมิตฺวา ปาปทสฺสนา [ปาปทสฺสนํ (สฺยา. ก.)];

นโม ภควโต กตฺวา, ปาโมกฺโข รถมารุหีติ.

นนฺทกเปตวตฺถุ ตติยํ.

๔. เรวตีเปตวตฺถุ

๗๑๔.

[วิ. ว. ๘๖๓] ‘‘อุฏฺเหิ เรวเต สุปาปธมฺเม, อปารุตทฺวาเร อทานสีเล;

เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา [สมชฺชตา (สี.)] เนรยิกา ทุเขนา’’ติ.

๗๑๕.

อิจฺเจว [อิจฺเจวํ (สฺยา. ก.)] วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต ทฺเว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;

ปจฺเจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเก.

๗๑๖.

‘‘อาทิจฺจวณฺณํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กฺจนชาลฉนฺนํ;

กสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.

๗๑๗.

‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา [จนฺทนสารานุลิตฺตา (สฺยา.)], อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;

ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.

๗๑๘.

‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทฺู;

ตสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.

๗๑๙.

‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;

ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.

๗๒๐.

‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;

ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยทสฺสนายา’’ติ.

๗๒๑.

‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธมฺเม, ปุฺํ ตยา อกตํ ชีวโลเก;

น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติ.

๗๒๒.

‘‘กึ นุ คูถฺจ มุตฺตฺจ, อสุจี ปฏิทิสฺสติ;

ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติ.

๗๒๓.

‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;

ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติ.

๗๒๔.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

เกน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติ.

๗๒๕.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;

มุสาวาเทน วฺเจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา.

๗๒๖.

‘‘เตน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส;

ตตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต.

๗๒๗.

‘‘หตฺเถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กณฺเณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;

อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ.

๗๒๘.

‘‘สาธุ โข มํ ปฏิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;

ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติ.

๗๒๙.

‘‘ปุเร ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;

สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติ.

๗๓๐.

‘‘โก เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุฏฺโ เม เอวํ วเทยฺย;

‘นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺย [สยน (สี.)] มถนฺนปานํ;

น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ’.

๗๓๑.

‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ.

๗๓๒.

‘‘อารามานิ จ โรปิสฺสํ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๗๓๓.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๗๓๔.

‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;

น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฏฺมิทํ มยา’’ติ.

๗๓๕.

อิจฺเจวํ วิปฺปลปนฺตึ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;

ขิปึสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธํปาทํ อวํสิรํ.

๗๓๖.

‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสึ, ปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ;

วิตเถน จ สามิกํ วฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติ.

เรวตีเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. อุจฺฉุเปตวตฺถุ

๗๓๗.

‘‘อิทํ มม อุจฺฉุวนํ มหนฺตํ, นิพฺพตฺตติ ปุฺผลํ อนปฺปกํ;

ตํ ทานิ เม น [น ทานิ เม ตํ (สี. ก.)] ปริโภคเมติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.

๗๓๘.

‘‘หฺามิ [วิหฺามิ (ก.)] ขชฺชามิ จ วายมามิ, ปริสกฺกามิ ปริภุฺชิตุํ กิฺจิ;

สฺวาหํ ฉินฺนถาโม กปโณ ลาลปามิ, กิสฺส [กิสฺสสฺส (สี.), กิสฺสสฺสุ (?)] กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.

๗๓๙.

‘‘วิฆาโต จาหํ ปริปตามิ ฉมายํ, ปริวตฺตามิ วาริจโรว ฆมฺเม;

รุทโต จ เม [ทูรโต จ เม (สฺยา. ก.)] อสฺสุกา นิคฺคลนฺติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.

๗๔๐.

‘‘ฉาโต กิลนฺโต จ ปิปาสิโต จ, สนฺตสฺสิโต สาตสุขํ น วินฺเท;

ปุจฺฉามิ ตํ เอตมตฺถํ ภทนฺเต, กถํ นุ อุจฺฉุปริโภคํ ลเภยฺย’’นฺติ.

๗๔๑.

‘‘ปุเร ตุวํ กมฺมมกาสิ อตฺตนา, มนุสฺสภูโต ปุริมาย ชาติยา;

อหฺจ ตํ เอตมตฺถํ วทามิ, สุตฺวาน ตฺวํ เอตมตฺถํ วิชาน.

๗๔๒.

‘‘อุจฺฉุํ ตุวํ ขาทมาโน ปยาโต, ปุริโส จ เต ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉิ;

โส จ ตํ ปจฺจาสนฺโต กเถสิ, ตสฺส ตุวํ น กิฺจิ อาลปิตฺถ.

๗๔๓.

‘‘โส จ ตํ อภณนฺตํ อยาจิ, ‘เทหยฺย อุจฺฉุ’นฺติ จ ตํ อโวจ;

ตสฺส ตุวํ ปิฏฺิโต อุจฺฉุํ อทาสิ, ตสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.

๗๔๔.

‘‘อิงฺฆ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปิฏฺิโต คณฺเหยฺยาสิ [อิงฺฆ ตฺวํ ปิฏฺิโต คณฺห อุจฺฉุํ (สี.)], คเหตฺวาน ตํ ขาทสฺสุ ยาวทตฺถํ;

เตเนว ตฺวํ อตฺตมโน ภวิสฺสสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จา’’ติ.

๗๔๕.

คนฺตฺวาน โส ปิฏฺิโต อคฺคเหสิ, คเหตฺวาน ตํ ขาทิ ยาวทตฺถํ;

เตเนว โส อตฺตมโน อโหสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จาติ.

อุจฺฉุเปตวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. กุมารเปตวตฺถุ

๗๔๖.

‘‘สาวตฺถิ นาม นครํ, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;

ตตฺถ อาสุํ ทฺเว กุมารา, ราชปุตฺตาติ เม สุตํ.

๗๔๗.

‘‘สมฺมตฺตา [ปมตฺตา (ก.)] รชนีเยสุ, กามสฺสาทาภินนฺทิโน;

ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธา, น เต ปสฺสึสุนาคตํ.

๗๔๘.

‘‘เต จุตา จ มนุสฺสตฺตา, ปรโลกํ อิโต คตา;

เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตา, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.

๗๔๙.

‘‘‘พหูสุ วต [พหุสฺสุเตสุ (สี. ก.)] สนฺเตสุ, เทยฺยธมฺเม อุปฏฺิเต;

นาสกฺขิมฺหา จ อตฺตานํ, ปริตฺตํ กาตุํ สุขาวหํ.

๗๕๐.

‘‘‘กึ ตโต ปาปกํ อสฺส, ยํ โน ราชกุลา จุตา;

อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา [ขุปฺปิปาสาสมปฺปิตา (สี. ปี.)].

๗๕๑.

‘‘สามิโน อิธ หุตฺวาน, โหนฺติ อสามิโน ตหึ;

ภมนฺติ [จรนฺติ (สี. ปี.), มรนฺติ (สฺยา.)] ขุปฺปิปาสาย, มนุสฺสา อุนฺนโตนตา.

๗๕๒.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;

ปหาย อิสฺสรมทํ, ภเว สคฺคคโต นโร;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

กุมารเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. ราชปุตฺตเปตวตฺถุ

๗๕๓.

ปุพฺเพ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนํ;

รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.

๗๕๔.

นจฺจํ คีตํ รตึ ขิฑฺฑํ, อนุภุตฺวา อนปฺปกํ;

อุยฺยาเน ปริจริตฺวา, ปวิสนฺโต คิริพฺพชํ.

๗๕๕.

อิสึ สุเนตฺต [สุนิต (ก.)] มทฺทกฺขิ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;

อปฺปิจฺฉํ หิริสมฺปนฺนํ, อุฺเฉ ปตฺตคเต รตํ.

๗๕๖.

หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ลทฺธา ภนฺเตติ จาพฺรวิ;

ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, อุจฺจํ ปคฺคยฺห ขตฺติโย.

๗๕๗.

ถณฺฑิเล ปตฺตํ ภินฺทิตฺวา, หสมาโน อปกฺกมิ;

‘‘รฺโ กิตวสฺสาหํ ปุตฺโต, กึ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสิ’’.

๗๕๘.

ตสฺส กมฺมสฺส ผรุสสฺส, วิปาโก กฏุโก อหุ;

ยํ ราชปุตฺโต เวเทสิ, นิรยมฺหิ สมปฺปิโต.

๗๕๙.

ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นวุตานิ จ;

ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.

๗๖๐.

อุตฺตาโนปิ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุชฺโช วามทกฺขิโณ;

อุทฺธํปาโท ิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถ.

๗๖๑.

พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ, ปูคานิ นหุตานิ จ;

ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.

๗๖๒.

เอตาทิสํ โข กฏุกํ, อปฺปทุฏฺปฺปโทสินํ;

ปจฺจนฺติ ปาปกมฺมนฺตา, อิสิมาสชฺช สุพฺพตํ.

๗๖๓.

โส ตตฺถ พหุวสฺสานิ, เวทยิตฺวา พหุํ ทุขํ;

ขุปฺปิปาสหโต นาม [ขุปฺปิปาสาหโต นาม (สี. ปี)], เปโต อาสิ ตโต จุโต.

๗๖๔.

เอตมาทีนวํ ตฺวา [ทิสฺวา (สี.)], อิสฺสรมทสมฺภวํ;

ปหาย อิสฺสรมทํ, นิวาตมนุวตฺตเย.

๗๖๕.

ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํโส, โย พุทฺเธสุ สคารโว;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตีติ.

ราชปุตฺตเปตวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. คูถขาทกเปตวตฺถุ

๗๖๖.

‘‘คูถกูปโต อุคฺคนฺตฺวา, โก นุ ทีโน ปติฏฺสิ [ทีโน หิ ติฏฺสิ (สี.)];

นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.

๗๖๗.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.

๗๖๘.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.

๗๖๙.

‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;

อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.

๗๗๐.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติ.

๗๗๑.

‘‘อมิตฺโต มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.

๗๗๒.

‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;

โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.

๗๗๓.

‘‘ยํ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;

อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.

คูถขาทกเปตวตฺถุ อฏฺมํ.

๙. คูถขาทกเปติวตฺถุ

๗๗๔.

‘‘คูถกูปโต อุคฺคนฺตฺวา, กา นุ ทีนา ปติฏฺสิ;

นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺตา, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.

๗๗๕.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๗๖.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.

๗๗๗.

‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;

อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.

๗๗๘.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๗๙.

‘‘อมิตฺโต มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.

๗๘๐.

‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;

โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.

๗๘๑.

‘‘ยํ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;

อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.

คูถขาทกเปติวตฺถุ นวมํ.

๑๐. คณเปตวตฺถุ

๗๘๒.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาตฺถ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิกา [อุปฺปาสุฬิกา (ก.)] กิสิกา, เก นุ ตุมฺเหตฺถ มาริสา’’ติ.

๗๘๓.

‘‘มยํ ภทนฺเต เปตามฺหา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๘๔.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๘๕.

‘‘อนาวเฏสุ ติตฺเถสุ, วิจินิมฺหทฺธมาสกํ;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.

๗๘๖.

‘‘นทึ อุเปม ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;

ฉายํ อุเปม อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.

๗๘๗.

‘‘อคฺคิวณฺโณ จ โน วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;

เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.

๗๘๘.

‘‘อปิ โยชนานิ [อธิโยชนานิ (สี. ก.)] คจฺฉาม, ฉาตา อาหารเคธิโน;

อลทฺธาว นิวตฺตาม, อโห โน อปฺปปุฺตา.

๗๘๙.

‘‘ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;

อุตฺตานา ปฏิกิราม, อวกุชฺชา ปตามเส.

๗๙๐.

‘‘เต จ ตตฺเถว ปติตา [ตตฺถ ปปหิตา (ก.)], ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;

อุรํ สีสฺจ ฆฏฺเฏม, อโห โน อปฺปปุฺตา.

๗๙๑.

‘‘เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.

๗๙๒.

‘‘เต หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหาม กุสลํ พหุ’’นฺติ.

คณเปตวตฺถุ ทสมํ.

๑๑. ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ

๗๙๓.

‘‘ทิฏฺา ตยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ,

เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา; สยมทฺทส กมฺมวิปากมตฺตโน,

เนสฺสามิ ตํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ; ตตฺถ คนฺตฺวา กุสลํ กโรหิ กมฺมํ’’.

๗๙๔.

‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;

กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.

๗๙๕.

‘‘ทิฏฺา มยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ, เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา;

สยมทฺทสํ กมฺมวิปากมตฺตโน, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.

๑๒. อมฺพวนเปตวตฺถุ

๗๙๖.

‘‘อยฺจ เต โปกฺขรณี สุรมฺมา, สมา สุติตฺถา จ มโหทกา จ;

สุปุปฺผิตา ภมรคณานุกิณฺณา, กถํ ตยา ลทฺธา อยํ มนุฺา.

๗๙๗.

‘‘อิทฺจ เต อมฺพวนํ สุรมฺมํ, สพฺโพตุกํ ธารยเต [ธารยติ (สฺยา. ก.)] ผลานิ;

สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุกิณฺณํ, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมานํ’’.

๗๙๘.

‘‘อมฺพปกฺกํ ทกํ [อมฺพปกฺโกทกํ (สี. สฺยา. ปี.), อมฺพปกฺกูทกํ (ก.)] ยาคุ, สีตจฺฉายา มโนรมา;

ธีตาย ทินฺนทาเนน, เตน เม อิธ ลพฺภติ’’.

๗๙๙.

‘‘สนฺทิฏฺิกํ กมฺมํ เอวํ [สนฺทิฏฺิกํ เอว (สฺยา.)] ปสฺสถ, ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺส วิปากํ;

ทาสี อหํ อยฺยกุเลสุ หุตฺวา, สุณิสา โหมิ อคารสฺส อิสฺสรา’’ติ.

อมฺพวนเปตวตฺถุ ทฺวาทสมํ.

๑๓. อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ

๘๐๐.

‘‘ยํ ททาติ น ตํ โหติ, เทเถว ทานํ ทตฺวา อุภยํ ตรติ;

อุภยํ เตน ทาเนน [เตน (ก.)] คจฺฉติ, ชาครถ มาปมชฺชถา’’ติ.

อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ เตรสมํ.

๑๔. โภคสํหรเปตวตฺถุ

๘๐๑.

‘‘มยํ โภเค สํหริมฺห, สเมน วิสเมน จ;

เต อฺเ ปริภุฺชนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินี’’ติ.

โภคสํหรเปตวตฺถุ จุทฺทสมํ.

๑๕. เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ

๘๐๒.

[ชา. ๑.๔.๕๔ ชาตเกปิ] ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสติ’’.

๘๐๓.

[ชา. ๑.๔.๕๕ ชาตเกปิ] ‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;

ตถา หิ ปกตํ ปาปํ, ตุยฺหํ มยฺหฺจ มาริสา [มม ตุยฺหฺจ มาริส (สี. สฺยา. ปี.)].

๘๐๔.

[ชา. ๑.๔.๕๓ ชาตเกปิ] ‘‘ทุชฺชีวิตมชีวมฺห, เย สนฺเต น ททมฺหเส;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.

๘๐๕.

[ชา. ๑.๔.๕๖ ชาตเกปิ] ‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

วทฺู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติ.

เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ ปนฺนรสมํ.

๑๖. สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ

๘๐๖.

‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, มิโค ภนฺโตว ธาวสิ;

นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต [ปาปกมฺมํ (สฺยา. ปี.)], กึ นุ สทฺทายเส ตุว’’นฺติ.

๘๐๗.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต.

๘๐๘.

‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.

๘๐๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๘๑๐.

‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.

๘๑๑.

‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, สุเนตฺตํ ภาวิตินฺทฺริยํ;

นิสินฺนํ รุกฺขมูลสฺมึ, ฌายนฺตํ อกุโตภยํ.

๘๑๒.

‘‘สาลิตฺตกปฺปหาเรน, ภินฺทิสฺสํ ตสฺส มตฺถกํ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิสํ.

๘๑๓.

‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ [นิปตนฺติ, โว ภินฺทนฺเตว (สี. ธมฺมปทฏฺกถา)] มตฺถก’’นฺติ.

๘๑๔.

‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส, สฏฺิกูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.

สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ โสฬสมํ.

มหาวคฺโค จตุตฺโถ นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ

อมฺพสกฺกโร เสรีสโก, ปิงฺคโล เรวติ อุจฺฉุ;

ทฺเว กุมารา ทุเว คูถา, คณปาฏลิอมฺพวนํ.

อกฺขรุกฺขโภคสํหรา, เสฏฺิปุตฺตสฏฺิกูฏา;

อิติ โสฬสวตฺถูนิ, วคฺโค เตน ปวุจฺจติ.

อถ วคฺคุทฺทานํ –

อุรโค อุปริวคฺโค, จูฬมหาติ จตุธา;

วตฺถูนิ เอกปฺาสํ, จตุธา ภาณวารโต.

เปตวตฺถุปาฬิ นิฏฺิตา.