📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

เถรคาถา-อฏฺกถา

(ทุติโย ภาโค)

๔. จตุกฺกนิปาโต

๑. นาคสมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา

อลงฺกตาติอาทิกา อายสฺมโต นาคสมาลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต คิมฺหสมเย สูริยาตปสนฺตตฺตาย ภูมิยา คจฺฉนฺตํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ฉตฺตํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา นาคสมาโลติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต าติสมาคเม ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา กิฺจิ กาลํ ภควโต อุปฏฺาโก อโหสิ. โส เอกทิวสํ นครํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ อลงฺกตปฏิยตฺตํ อฺตรํ นจฺจกึ มหาปเถ ตูริเยสุ วชฺชนฺเตสุ นจฺจนฺตึ ทิสฺวา, ‘‘อยํ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสน กรชกายสฺส ตถา ตถา ปริวตฺติ, อโห อนิจฺจา สงฺขารา’’ติ ขยวยํ ปฏฺเปตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๖.๓๗-๔๘) –

‘‘องฺคารชาตา ปถวี, กุกฺกุฬานุคตา มหี;

ปทุมุตฺตโร ภควา, อพฺโภกาสมฺหิ จงฺกมิ.

‘‘ปณฺฑรํ ฉตฺตมาทาย, อทฺธานํ ปฏิปชฺชหํ;

ตตฺถ ทิสฺวาน สมฺพุทฺธํ, วิตฺติ เม อุปปชฺชถ.

‘‘มรีจิโยตฺถฏา ภูมิ, องฺคาราว มหี อยํ;

อุปหนฺติ มหาวาตา, สรีรสฺสาสุเขปนา.

‘‘สีตํ อุณฺหํ วิหนนฺตํ, วาตาตปนิวารณํ;

ปฏิคฺคณฺห อิมํ ฉตฺตํ, ผสฺสยิสฺสามิ นิพฺพุตึ.

‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, ปทุมุตฺตโร มหายโส;

มม สงฺกปฺปมฺาย, ปฏิคฺคณฺหิ ตทา ชิโน.

‘‘ตึสกปฺปานิ เทวินฺโท, เทวรชฺชมการยึ;

สตานํ ปฺจกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ.

‘‘ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;

อนุโภมิ สกํ กมฺมํ, ปุพฺเพ สุกตมตฺตโน.

‘‘อยํ เม ปจฺฉิมา ชาติ, จริโม วตฺตเต ภโว;

อชฺชาปิ เสตจฺฉตฺตํ เม, สพฺพกาลํ ธรียติ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ ฉตฺตมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ฉตฺตทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา –

๒๖๗.

‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทนุสฺสทา;

มชฺเฌ มหาปเถ นารี, ตูริเย นจฺจติ นฏฺฏกี.

๒๖๘.

‘‘ปิณฺฑิกาย ปวิฏฺโหํ, คจฺฉนฺโต นํ อุทิกฺขิสํ;

อลงฺกตํ สุวสนํ, มจฺจุปาสํว โอฑฺฑิตํ.

๒๖๙.

‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;

อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฏฺถ.

๒๗๐.

‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

จตูหิ คาถาหิ อตฺตโน ปฏิปตฺติกิตฺตนมุเขน อฺํ พฺยากาสิ.

ตตฺถ อลงฺกตาติ หตฺถูปคาทิอาภรเณหิ อลงฺกตคตฺตา. สุวสนาติ สุนฺทรวสนา โสภนวตฺถนิวตฺถา. มาลินีติ มาลาธารินี ปิฬนฺธิตปุปฺผมาลา. จนฺทนุสฺสทาติ จนฺทนานุเลปลิตฺตสรีรา. มชฺเฌ มหาปเถ นารี, ตูริเย นจฺจติ นฏฺฏกีติ ยถาวุตฺตฏฺาเน เอกา นารี นฏฺฏกี นาฏกิตฺถี นครวีถิยา มชฺเฌ ปฺจงฺคิเก ตูริเย วชฺชนฺเต นจฺจติ, ยถาปฏฺปิตํ นจฺจํ กโรติ.

ปิณฺฑิกายาติ ภิกฺขาย. ปวิฏฺโหนฺติ นครํ ปวิฏฺโ อหํ. คจฺฉนฺโต นํ อุทิกฺขิสนฺติ นครวีถิยํ คจฺฉนฺโต ปริสฺสยปริหรณตฺถํ วีถึ โอโลเกนฺโต ตํ นฏฺฏกึ โอโลเกสึ. กึ วิย? มจฺจุปาสํว โอฑฺฑิตนฺติ ยถา มจฺจุสฺส มจฺจุราชสฺส ปาสภูโต รูปาทิโก โอฑฺฑิโต โลเก อนุวิจริตฺวา ิโต เอกํเสน สตฺตานํ อนตฺถาวโห, เอวํ สาปิ อปฺปฏิสงฺขาเน ิตานํ อนฺธปุถุชฺชนานํ เอกํสโต อนตฺถาวหาติ มจฺจุปาสสทิสี วุตฺตา.

ตโตติ ตสฺมา มจฺจุปาสสทิสตฺตา. เมติ มยฺหํ. มนสีกาโร โยนิโส อุทปชฺชถาติ ‘‘อยํ อฏฺิสงฺฆาโต นฺหารุสมฺพนฺโธ มํเสน อนุปลิตฺโต ฉวิยา ปฏิจฺฉนฺโน อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูโล อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโม อีทิเส วิกาเร ทสฺเสตี’’ติ เอวํ โยนิโส มนสิกาโร อุปฺปชฺชิ. อาทีนโว ปาตุรหูติ เอวํ กายสฺส สภาวูปธารณมุเขน ตสฺส จ ตํนิสฺสิตานฺจ จิตฺตเจตสิกานํ อุทยพฺพยํ สรสปภงฺคุตฺจ มนสิ กโรโต เตสุ จ ยกฺขรกฺขสาทีสุ วิย ภยโต อุปฏฺหนฺเตสุ ตตฺถ เม อเนกาการอาทีนโว โทโส ปาตุรโหสิ. ตปฺปฏิปกฺขโต จ นิพฺพาเน อานิสํโส. นิพฺพิทา สมติฏฺถาติ นิพฺพินฺทนํ อาทีนวานุปสฺสนานุภาวสิทฺธํ นิพฺพิทาาณํ มม หทเย สณฺาสิ, มุหุตฺตมฺปิ เตสํ รูปารูปธมฺมานํ คหเณ จิตฺตํ นาโหสิ, อฺทตฺถุ มุฺจิตุกามตาทิวเสน ตตฺถ อุทาสีนเมว ชาตนฺติ อตฺโถ.

ตโตติ วิปสฺสนาาณโต ปรํ. จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ โลกุตฺตรภาวนาย วตฺตมานาย มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพกิเลเสหิ มม จิตฺตํ วิมุตฺตํ อโหสิ. เอเตน ผลุปฺปตฺตึ ทสฺเสติ. มคฺคกฺขเณ หิ กิเลสา วิมุจฺจนฺติ นาม, ผลกฺขเณ วิมุตฺตาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

นาคสมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ภคุตฺเถรคาถาวณฺณนา

อหํ มิทฺเธนาติอาทิกา อายสฺมโต ภคุตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต ตสฺส ธาตุโย ปุปฺเผหิ ปูเชสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน นิมฺมานรตีสุ นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ภคูติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต อนุรุทฺธกิมิเลหิ สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตฺวา พาลกโลณกคาเม วสนฺโต เอกทิวสํ ถินมิทฺธาภิภวํ วิโนเทตุํ วิหารโต นิกฺขมฺม จงฺกมํ อภิรุหนฺโต ปปติตฺวา ตเทว องฺกุสํ กตฺวา ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๖.๔๙-๕๗) –

‘‘ปรินิพฺพุเต ภควติ, ปทุมุตฺตเร มหายเส;

ปุปฺผวฏํสเก กตฺวา, สรีรมภิโรปยึ.

‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, นิมฺมานํ อคมาสหํ;

เทวโลกคโต สนฺโต, ปุฺกมฺมํ สรามหํ.

‘‘อมฺพรา ปุปฺผวสฺโส เม, สพฺพกาลํ ปวสฺสติ;

สํสรามิ มนุสฺเส เจ, ราชา โหมิ มหายโส.

‘‘ตหึ กุสุมวสฺโส เม, อภิวสฺสติ สพฺพทา;

ตสฺเสว ปุปฺผปูชาย, วาหสา สพฺพทสฺสิโน.

‘‘อยํ ปจฺฉิมโก มยฺหํ, จริโม วตฺตเต ภโว;

อชฺชาปิ ปุปฺผวสฺโส เม, อภิวสฺสติ สพฺพทา.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยึ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, เทหปูชายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺโต สตฺถารา เอกวิหารํ อนุโมทิตุํ อุปคเตน – ‘‘กจฺจิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อปฺปมตฺโต วิหรสี’’ติ ปุฏฺโ อตฺตโน อปฺปมาทวิหารํ นิเวเทนฺโต –

๒๗๑.

‘‘อหํ มิทฺเธน ปกโต, วิหารา อุปนิกฺขมึ;

จงฺกมํ อภิรุหนฺโต, ตตฺเถว ปปตึ ฉมา.

๒๗๒.

‘‘คตฺตานิ ปริมชฺชิตฺวา, ปุนปารุยฺห จงฺกมํ;

จงฺกเม จงฺกมึ โสหํ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต.

๒๗๓.

‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;

อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฏฺถ.

๒๗๔.

‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมา จตสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ มิทฺเธน ปกโตติ กายาลสิยสงฺขาเตน อสตฺติวิฆาตสภาเวน มิทฺเธน อภิภูโต. วิหาราติ เสนาสนโต. อุปนิกฺขมินฺติ จงฺกมิตุํ นิกฺขมึ. ตตฺเถว ปปตึ ฉมาติ ตตฺเถว จงฺกมโสปาเน นิทฺทาภิภูตตาย ภูมิยํ นิปตึ. คตฺตานิ ปริมชฺชิตฺวาติ ภูมิยํ ปตเนน ปํสุกิตานิ อตฺตโน สรีราวยวานิ อนุมชฺชิตฺวา. ปุนปารุยฺห จงฺกมนฺติ ‘‘ปติโต ทานาห’’นฺติ สงฺโกจํ อนาปชฺชิตฺวา ปุนปิ จงฺกมฏฺานํ อารุหิตฺวา. อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโตติ โคจรชฺฌตฺเต กมฺมฏฺาเน นีวรณวิกฺขมฺภเนน สุฏฺุ สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต หุตฺวา จงฺกมินฺติ โยชนา. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิทเมว จ เถรสฺส อฺาพฺยากรณํ อโหสิ.

ภคุตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สภิยตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปเร จาติอาทิกา อายสฺมโต สภิยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต กกุสนฺธสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิวาวิหาราย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อุปาหนํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสเป ภควติ ปรินิพฺพุเต ปติฏฺิเต สุวณฺณเจติเย ฉหิ กุลปุตฺเตหิ สทฺธึ อตฺตสตฺตโม สาสเน ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต อิตเร อาห – ‘‘มยํ ปิณฺฑปาตาย คจฺฉนฺโต ชีวิเต สาเปกฺขา โหม, ชีวิเต สาเปกฺเขน จ น สกฺกา โลกุตฺตรธมฺมํ อธิคนฺตุํ, ปุถุชฺชนกาลงฺกิริยา จ ทุกฺขา. หนฺท, มยํ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา ปพฺพตํ อภิรุยฺห กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขา สมณธมฺมํ กโรมา’’ติ. เต ตถา อกํสุ.

อถ เนสํ มหาเถโร อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตฺตา ตทเหว ฉฬภิฺโ หุตฺวา อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาตํ อุปเนสิ. อิตเร – ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, กตกิจฺจา ตุมฺเหหิ สทฺธึ สลฺลาปมตฺตมฺปิ ปปฺโจ, สมณธมฺมเมว มยํ กริสฺสาม, ตุมฺเห อตฺตนา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารมนุยุฺชถา’’ติ วตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปฏิกฺขิปึสุ. เถโร เน สมฺปฏิจฺฉาเปตุํ อสกฺโกนฺโต อคมาสิ.

ตโต เนสํ เอโก ทฺวีหตีหจฺจเยน อภิฺาปริวารํ อนาคามิผลํ สจฺฉิกตฺวา ตเถว วตฺวา เตหิ ปฏิกฺขิตฺโต อคมาสิ. เตสุ ขีณาสวตฺเถโร ปรินิพฺพายิ, อนาคามี สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชิ. อิตเร ปุถุชฺชนกาลงฺกิริยเมว กตฺวา ฉสุ กามสคฺเคสุ อนุโลมปฏิโลมโต ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล เทวโลกา จวิตฺวา เอโก มลฺลราชกุเล ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, เอโก คนฺธารราชกุเล, เอโก พาหิรรฏฺเ, เอโก ราชคเห เอกิสฺสา กุลทาริกาย กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. อิตโร อฺตริสฺสา ปริพฺพาชิกาย กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. สา กิร อฺตรสฺส ขตฺติยสฺส ธีตา, นํ มาตาปิตโร – ‘‘อมฺหากํ ธีตา สมยนฺตรํ ชานาตู’’ติ เอกสฺส ปริพฺพาชกสฺส นิยฺยาทยึสุ. อเถโก ปริพฺพาชโก ตาย สทฺธึ วิปฺปฏิปชฺชิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิ. ตํ คพฺภินึ ทิสฺวา ปริพฺพาชกา นิกฺกฑฺฒึสุ. สา อฺตฺถ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเค สภายํ วิชายิ. เตนสฺส สภิโยตฺเวว นามํ อกาสิ. โส วฑฺฒิตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา นานาสตฺถานิ อุคฺคเหตฺวา มหาวาที หุตฺวา วาทปฺปสุโต วิจรนฺโต อตฺตนา สทิสํ อทิสฺวา นครทฺวาเร อสฺสมํ กาเรตฺวา ขตฺติยกุมาราทโย สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺโต วิหรนฺโต อตฺตโน มาตุยา อิตฺถิภาวํ ชิคุจฺฉิตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนาย อภิสงฺขริตฺวา ทินฺเน วีสติปฺเห คเหตฺวา เต เต สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิ. เต จสฺส เตสํ ปฺหานํ อตฺถํ พฺยากาตุํ นาสกฺขึสุ. สภิยสุตฺตวณฺณนายํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒. สภิยสุตฺตวณฺณนา) ปน ‘‘สุทฺธาวาสพฺรหฺมา เต ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา อทาสี’’ติ อาคตํ.

ยทา ปน ภควา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ราชคหํ อาคนฺตฺวา เวฬุวเน วิหาสิ, ตทา สภิโย ตตฺถ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา เต ปฺเห ปุจฺฉิ. สตฺถา ตสฺส เต ปฺเห พฺยากาสีติ สพฺพํ สภิยสุตฺเต (สุ. นิ. สภิยสุตฺตํ) อาคตนเยน เวทิตพฺพํ. สภิโย ปน ภควตา เตสุ ปฺเหสุ พฺยากเตสุ ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๖.๒๗-๓๑) –

‘‘กกุสนฺธสฺส มุนิโน, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโต;

ทิวาวิหารํ วชโต, อกฺกมนมทาสหํ.

‘‘อิมสฺมึเยว กปฺปมฺหิ, ยํ ทานมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อกฺกมนสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหา ปน หุตฺวา เทวทตฺเต สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺเต เทวทตฺตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ โอวาทํ เทนฺโต –

๒๗๕.

‘‘ปเร จ น วิชานนฺติ, มยเมตฺถ ยมามเส;

เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ, ตโต สมฺมนฺติ เมธคา.

๒๗๖.

‘‘ยทา จ อวิชานนฺตา, อิริยนฺตฺยมรา วิย;

วิชานนฺติ จ เย ธมฺมํ, อาตุเรสุ อนาตุรา.

๒๗๗.

‘‘ยํ กิฺจิ สิถิลํ กมฺมํ, สํกิลิฏฺฺจ ยํ วตํ;

สงฺกสฺสรํ พฺรหฺมจริยํ, น ตํ โหติ มหปฺผลํ.

๒๗๘.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว นูปลพฺภติ;

อารกา โหติ สทฺธมฺมา, นภํ ปุถวิยา ยถา’’ติ. –

จตูหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ.

ตตฺถ ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ – ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ‘‘ธมฺมํ อธมฺโม’’ติอาทิเภทกรวตฺถุทีปนวเสน วิวาทปฺปสุตา ปเร นาม. เต ตตฺถ วิวาทํ กโรนฺตา ‘‘มยํ ยมามเส อุปรมาม นสฺสาม สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย ตตฺถ ปณฺฑิตา – ‘‘มยํ มจฺจุสมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ เอวฺหิ เต ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ. อถ เนสํ ตาย ปฏิปตฺติยา เต เมธคา สมฺมนฺติ. อถ วา ปเร จาติ เย สตฺถุ โอวาทานุสาสนิยา อคฺคหเณน สาสนโต พาหิรตาย ปเร, เต ยาว ‘‘มยํ มิจฺฉาคาหํ คเหตฺวา เอตฺถ อิธ โลเก สาสนสฺส ปฏินิคฺคาเหน ยมามเส วายมามา’’ติ น วิชานนฺติ, ตาว วิวาทา น วูปสมฺมนฺติ, ยทา ปน ตสฺส คาหสฺส วิสฺสชฺชนวเสน เย จ ตตฺถ เตสุ วิวาทปฺปสุเตสุ อธมฺมธมฺมาทิเก อธมฺมธมฺมาทิโต ยถาภูตํ วิชานนฺติ, ตโต เตสํ สนฺติกา เต ปณฺฑิตปุริเส นิสฺสาย วิวาทสงฺขาตา เมธคา สมฺมนฺตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ยทาติ ยสฺมึ กาเล. อวิชานนฺตาติ วิวาทสฺส วูปสมูปายํ, ธมฺมาธมฺเม วา ยาถาวโต อชานนฺตา. อิริยนฺตฺยมรา วิยาติ อมรา วิย ชรามรณํ อติกฺกนฺตา วิย อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิปฺปกิณฺณวาจา หุตฺวา วตฺตนฺติ จรนฺติ วิจรนฺติ ตทา วิวาโท น วูปสมฺมเตว. วิชานนฺติ จ เย ธมฺมํ, อาตุเรสุ อนาตุราติ เย ปน สตฺถุ สาสนธมฺมํ ยถาภูตํ ชานนฺติ, เต กิเลสโรเคน อาตุเรสุ สตฺเตสุ อนาตุรา นิกฺกิเลสา อนีฆา วิหรนฺติ, เตสํ วเสน วิวาโท อจฺจนฺตเมว วูปสมฺมตีติ อธิปฺปาโย.

ยํ กิฺจิ สิถิลํ กมฺมนฺติ โอลิยิตฺวา กรเณน สิถิลคาหํ กตฺวา สาถลิภาเวน กตํ ยํ กิฺจิ กุสลกมฺมํ. สํกิลิฏฺนฺติ เวสีอาทิเก อโคจเร จรเณน, กุหนาทิมิจฺฉาชีเวน วา สํกิลิฏฺํ วตสมาทานํ. สงฺกสฺสรนฺติ สงฺกาหิ สริตพฺพํ, วิหาเร กิฺจิ อสารุปฺปํ สุตฺวา – ‘‘นูน อสุเกน กต’’นฺติ ปเรหิ อสงฺกิตพฺพํ, อุโปสถกิจฺจาทีสุ อฺตรกิจฺจวเสน สนฺนิปติตมฺปิ สงฺฆํ ทิสฺวา, ‘‘อทฺธา อิเม มม จริยํ ตฺวา มํ อุกฺขิปิตุกามา สนฺนิปติตา’’ติ เอวํ อตฺตโน วา อาสงฺกาหิ สริตํ อุสงฺกิตํ ปริสงฺกิตํ. น ตํ โหตีติ ตํ เอวรูปํ พฺรหฺมจริยํ สมณธมฺมกรณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส มหปฺผลํ น โหติ. ตสฺส อมหปฺผลภาเวเนว ปจฺจยทายกานมฺปิสฺส น มหปฺผลํ โหติ. ตสฺมา สลฺเลขวุตฺตินา ภวิตพฺพํ. สลฺเลขวุตฺติโน จ วิวาทสฺส อวสโร เอว นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

คารโว นูปลพฺภตีติ อนุสาสนิยา อปทกฺขิณคฺคาหิภาเวน ครุกาตพฺเพสุ สพฺรหฺมจารีสุ ยสฺส ปุคฺคลสฺส คารโว ครุกรณํ น วิชฺชติ. อารกา โหติ สทฺธมฺมาติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล ปฏิปตฺติสทฺธมฺมโตปิ ปฏิเวธสทฺธมฺมโตปิ ทูเร โหติ, น หิ ตํ ครู สิกฺขาเปนฺติ, อสิกฺขิยมาโน อนาทิยนฺโต น ปฏิปชฺชติ, อปฺปฏิปชฺชนฺโต กุโต สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิสฺสตีติ. เตนาห – ‘‘อารกา โหติ สทฺธมฺมา’’ติ. ยถา กึ? ‘‘นภํ ปุถวิยา ยถา’’ติ ยถา นภํ อากาสํ ปุถวิยา ปถวีธาตุยา สภาวโต ทูเร. น กทาจิ สมฺมิสฺสภาโว. เตเนวาห –

‘‘นภฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตฺจ ธมฺโม อสตฺจ ราชา’’ติ.(ชา. ๒.๒๑.๔๑๔);

สภิยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นนฺทกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ธิรตฺถูติอาทิกา อายสฺมโต นนฺทกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร มหาวิภโว เสฏฺิ หุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา สตสหสฺสคฺฆนิเกน วตฺเถน ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ปณิธานมกาสิ, สตฺถุ โพธิรุกฺเข ปทีปปูชฺจ ปวตฺเตติ. โส ตโต ปฏฺาย เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กกุสนฺธสฺส ภควโต กาเล กรวิกสกุโณ หุตฺวา มธุรกูชิตํ กูชนฺโต สตฺถารํ ปทกฺขิณํ อกาสิ. อปรภาเค มยูโร หุตฺวา อฺตรสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส วสนคุหาย ทฺวาเร ปสนฺนมานโส ทิวเส ทิวเส ติกฺขตฺตุํ มธุรวสฺสิตํ วสฺสิ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ปุฺานิ กตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล สาวตฺถิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา นนฺทโกติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๖.๒๒-๒๖) –

‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส โพธิยา ปาทปุตฺตเม;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, ตโย อุกฺเก อธารยึ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โสหํ อุกฺกมธารยึ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อุกฺกทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหา ปน หุตฺวา วิมุตฺติสุเขน วีตินาเมนฺโต สตฺถารา ภิกฺขุนีนํ โอวาเท อาณตฺโต เอกสฺมึ อุโปสถทิวเส ปฺจ ภิกฺขุนิสตานิ เอโกวาเทเนว อรหตฺตํ ปาเปสิ. เตน นํ ภควา ภิกฺขุโนวาทกานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. อเถกทิวสํ เถรํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ อฺตรา ปุราณทุติยิกา อิตฺถี กิเลสวเสน โอโลเกตฺวา หสิ. เถโร ตสฺสา ตํ กิริยํ ทิสฺวา สรีรสฺส ปฏิกฺกูลวิภาวนมุเขน ธมฺมํ กเถนฺโต –

๒๗๙.

‘‘ธิรตฺถุ ปูเร ทุคฺคนฺเธ, มารปกฺเข อวสฺสุเต;

นวโสตานิ เต กาเย, ยานิ สนฺทนฺติ สพฺพทา.

๒๘๐.

‘‘มา ปุราณํ อมฺิตฺโถ, มาสาเทสิ ตถาคเต;

สคฺเคปิ เต น รชฺชนฺติ, กิมงฺคํ ปน มานุเส.

๒๘๑.

‘‘เย จ โข พาลา ทุมฺเมธา, ทุมฺมนฺตี โมหปารุตา;

ตาทิสา ตตฺถ รชฺชนฺติ, มารขิตฺตมฺหิ พนฺธเน.

๒๘๒.

‘‘เยสํ ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;

ตาที ตตฺถ น รชฺชนฺติ, ฉินฺนสุตฺตา อพนฺธนา’’ติ. – คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ธีติ ชิคุจฺฉนตฺเถ นิปาโต, รตฺถูติ ร-กาโร ปทสนฺธิกโร, ธี อตฺถุ ตํ ชิคุจฺฉามิ ตว ธิกฺกาโร โหตูติ อตฺโถ. ปูเรติอาทีนิ ตสฺสา ธิกฺกาตพฺพภาวทีปนานิ อามนฺตนวจนานิ. ปูเรติ อติวิย เชคุจฺเฉหิ นานากุณเปหิ นานาวิธอสุจีหิ สมฺปุณฺเณ. ทุคฺคนฺเธติ กุณปปูริตตฺตา เอว สภาวทุคฺคนฺเธ. มารปกฺเขติ ยสฺมา วิสภาควตฺถุ อนฺธปุถุชฺชนานํ อโยนิโสมนสิการนิมิตฺตตาย กิเลสมารํ วฑฺเฒติ, เทวปุตฺตมารสฺส จ โอตารํ ปวิฏฺํ เทติ. ตสฺมา มารสฺส ปกฺโข โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มารปกฺเข’’ติ. อวสฺสุเตติ สพฺพกาลํ กิเลสาวสฺสวเนน ตหึ ตหึ อสุจินิสฺสนฺทเนน จ อวสฺสุเต. อิทานิสฺสา นวโสตานิ เต กาเย, ยานิ สนฺทนฺติ สพฺพทาติ ‘‘อกฺขิมฺหา อกฺขิคูถโก’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๑๙๙) วุตฺตํ อสุจิโน อวสฺสวนฏฺานํ ทสฺเสติ.

เอวํ ปน นวฉิทฺทํ ธุวสฺสวํ อสุจิภริตํ กายํ ยถาภูตํ ชานนฺตี มา ปุราณํ อมฺิตฺโถติ ปุราณํ อชานนกาเล ปวตฺตํ หสิตลปิตํ กีฬิตํ มา มฺิ, ‘‘อิทานิปิ เอวํ ปฏิปชฺชิสฺสตี’’ติ มา จินฺเตหิ. มาสาเทสิ ตถาคเตติ ยถา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา ปุริมกา พุทฺธสาวกา อาคตา, ยถา วา เต สมฺมาปฏิปตฺติยา คตา ปฏิปนฺนา, ยถา จ รูปารูปธมฺมานํ ตถลกฺขณํ ตถธมฺเม จ อริยสจฺจานิ อาคตา อธิคตา อวพุทฺธา, ตถา อิเมปีติ เอวํ ตถา อาคมนาทิอตฺเถน ตถาคเต อริยสาวเก ปกติสตฺเต วิย อวฺาย กิเลสวเสน จ อุปสงฺกมมานา มาสาเทสิ. อนาสาเทตพฺพตาย การณมาห. สคฺเคปิ เต น รชฺชนฺติ, กิมงฺคํ ปน มานุเสติ สพฺพฺุพุทฺเธนาปิ อกฺขาเนน ปริโยสาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยสุเข สคฺเคปิ เต สาวกพุทฺธา น รชฺชนฺติ, สงฺขาเรสุ อาทีนวสฺส สุปริทิฏฺตฺตา ราคํ น ชเนนฺติ, กิมงฺคํ ปน มีฬฺหราสิสทิเส มานุเส กามคุเณ, ตตฺถ น รชฺชนฺตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

เย จ โขติ เย ปน พาลฺยปฺปโยคโต พาลา, ธมฺโมชปฺาย อภาวโต ทุมฺเมธา, อสุเภ สุภานุปสฺสเนน ทุจินฺติตจินฺติตาย ทุมฺมนฺตี, โมเหน อฺาเณน สพฺพโส ปฏิจฺฉาทิตจิตฺตตาย โมหปารุตา ตาทิสา ตถารูปา อนฺธปุถุชฺชนา, ตตฺถ ตสฺมึ อิตฺถิสฺิเต, มารขิตฺตมฺหิ พนฺธเน มาเรน โอฑฺฑิเต มารปาเส, รชฺชนฺติ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา ติฏฺนฺติ.

วิราชิตาติ เยสํ ปน ขีณาสวานํ เตลฺชนราโค วิย ทุมฺโมจนียสภาโว ราโค สปตฺโต วิย ลทฺโธกาโส ทุสฺสนสภาโว โทโส อฺาณสภาวา อวิชฺชา จ อริยมคฺควิราเคน สพฺพโส วิราชิตา ปหีนา สมุจฺฉินฺนา, ตาทิสา อคฺคมคฺคสตฺเถน ฉินฺนภวเนตฺติสุตฺตา ตโต เอว กตฺถจิปิ พนฺธนาภาวโต อพนฺธนา ตตฺถ ตสฺมึ ยถาวุตฺเต มารปาเส น รชฺชนฺติ. เอวํ เถโร ตสฺสา อิตฺถิยา ธมฺมํ กเถตฺวา คโต.

นนฺทกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ชมฺพุกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปฺจปฺาสาติอาทิกา อายสฺมโต ชมฺพุกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต ติสฺสสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถุ สมฺมาสมฺโพธึ สทฺทหนฺโต โพธิรุกฺขํ วนฺทิตฺวา พีชเนน ปูเชสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา อฺตเรน อุปาสเกน การิเต อาราเม อาวาสิโก หุตฺวา วิหรติ เตน อุปฏฺียมาโน. อเถกทิวสํ เอโก ขีณาสวตฺเถโร ลูขจีวรธโร เกโสหรณตฺถํ อรฺโต คามาภิมุโข อาคจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา โส อุปาสโก อิริยาปเถ ปสีทิตฺวา กปฺปเกน เกสมสฺสูนิ โอหาราเปตฺวา ปณีตโภชนํ โภเชตฺวา สุนฺทรานิ จีวรานิ ทตฺวา ‘‘อิเธว, ภนฺเต, วสถา’’ติ วสาเปติ. ตํ ทิสฺวา อาวาสิโก อิสฺสามจฺเฉรปกโต ขีณาสวตฺเถรํ อาห – ‘‘วรํ เต, ภิกฺขุ, อิมินา ปาปุปาสเกน อุปฏฺียมานสฺส เอวํ อิธ วสนโต องฺคุลีหิ เกเส ลุฺจิตฺวา อเจลสฺส สโต คูถมุตฺตาหารชีวน’’นฺติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ตาวเทว วจฺจกุฏึ ปวิสิตฺวา ปายาสํ วฑฺเฒนฺโต วิย หตฺเถน คูถํ วฑฺเฒตฺวา วฑฺเฒตฺวา ยาวทตฺถํ ขาทิ, มุตฺตฺจ ปิวิ. อิมินา นิยาเมน ยาวตายุกํ ตฺวา กาลงฺกตฺวา นิรเย ปจฺจิตฺวา ปุน คูถมุตฺตาหาโร วสิตฺวา ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน มนุสฺเสสุ อุปฺปนฺโนปิ ปฺจ ชาติสตานิ นิคณฺโ หุตฺวา คูถภกฺโข อโหสิ.

ปุน อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มนุสฺสโยนิยํ นิพฺพตฺตมาโนปิ อริยูปวาทพเลน ทุคฺคตกูเล นิพฺพตฺติตฺวา ถฺํ วา ขีรํ วา สปฺปึ วา ปายมาโน, ตํ ฉฑฺเฑตฺวา มุตฺตเมว ปิวติ, โอทนํ โภชิยมาโน, ตํ ฉฑฺเฑตฺวา คูถเมว ขาทติ, เอวํ คูถมุตฺตปริโภเคน วฑฺฒนฺโต วยปฺปตฺโตปิ ตเทว ปริภุฺชติ. มนุสฺสา ตโต วาเรตุํ อสกฺโกนฺตา ปริจฺจชึสุ. โส าตเกหิ ปริจฺจตฺโต นคฺคปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา น นฺหายติ, รโชชลฺลธโร เกสมสฺสูนิ ลุฺจิตฺวา อฺเ อิริยาปเถ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกปาเทน ติฏฺติ, นิมนฺตนํ น สาทิยติ, มาโสปวาสํ อธิฏฺาย ปุฺตฺถิเกหิ ทินฺนํ โภชนํ มาเส มาเส เอกวารํ กุสคฺเคน คเหตฺวา ทิวา ชิวฺหคฺเคน เลหติ, รตฺติยํ ปน ‘‘อลฺลคูถํ สปฺปาณก’’นฺติ อขาทิตฺวา สุกฺขคูถเมว ขาทติ, เอวํ กโรนฺตสฺส ปฺจปฺาสวสฺสานิ วีติวตฺตานิ มหาชโน ‘‘มหาตโป ปรมปฺปิจฺโฉ’’ติ มฺมาโน ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณ อโหสิ.

อถ ภควา ตสฺส หทยพฺภนฺตเร ฆเฏ ปทีปํ วิย อรหตฺตูปนิสฺสยํ ปชฺชลนฺตํ ทิสฺวา สยเมว ตตฺถ คนฺตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา, เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย ลทฺธูปสมฺปทํ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ธมฺมปเท ‘‘มาเส มาเส กุสคฺเคนา’’ติ คาถาวณฺณนาย (ธ. ป. อฏฺ. ๑.ชมฺพุกตฺเถรวตฺถุ) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อรหตฺเต ปน ปติฏฺิโต ปรินิพฺพานกาเล ‘‘อาทิโต มิจฺฉา ปฏิปชฺชิตฺวาปิ สมฺมาสมฺพุทฺธํ นิสฺสาย สาวเกน อธิคนฺตพฺพํ มยา อธิคต’’นฺติ ทสฺเสนฺโต –

๒๘๓.

‘‘ปฺจปฺาสวสฺสานิ, รโชชลฺลมธารยึ;

ภุฺชนฺโต มาสิกํ ภตฺตํ, เกสมสฺสุํ อโลจยึ.

๒๘๔.

‘‘เอกปาเทน อฏฺาสึ, อาสนํ ปริวชฺชยึ;

สุกฺขคูถานิ จ ขาทึ, อุทฺเทสฺจ น สาทิยึ.

๒๘๕.

‘‘เอตาทิสํ กริตฺวาน, พหุํ ทุคฺคติคามินํ;

วุยฺหมาโน มโหเฆน, พุทฺธํ สรณมาคมํ.

๒๘๖.

‘‘สรณคมนํ ปสฺส, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมา จตสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ปฺจปฺาสวสฺสานิ, รโชชลฺลมธารยินฺติ นคฺคปพฺพชฺชูปคมเนน นฺหานปฏิกฺเขปโต ปฺจาธิกานิ ปฺาสวสฺสานิ สรีเร ลคฺคํ อาคนฺตุกเรณุสงฺขาตํ รโช, สรีรมลสงฺขาตํ ชลฺลฺจ กาเยน ธาเรสึ. ภุฺชนฺโต มาสิกํ ภตฺตนฺติ รตฺติยํ คูถํ ขาทนฺโต โลกวฺจนตฺถํ มาโสปวาสิโก นาม หุตฺวา ปุฺตฺถิเกหิ ทินฺนํ โภชนํ มาเส มาเส เอกวารํ ชิวฺหคฺเค ปนวเสน ภุฺชนฺโต อโลจยินฺติ ตาทิสจฺฉาริกาปกฺเขเปน สิถิลมูลํ เกสมสฺสุํ องฺคุลีหิ ลุฺจาเปสึ.

เอกปาเทน อฏฺาสึ, อาสนํ ปริวชฺชยินฺติ สพฺเพน สพฺพํ อาสนํ นิสชฺชํ ปริวชฺเชสึ, ติฏฺนฺโต จ อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา เอเกเนว ปาเทน อฏฺาสึ. อุทฺเทสนฺติ นิมนฺตนํ. อุทิสฺสกตนฺติ เกจิ. น สาทิยินฺติ น สมฺปฏิจฺฉึ ปฏิกฺขิปินฺติ อตฺโถ.

เอตาทิสํ กริตฺวาน, พหุํ ทุคฺคติคามินนฺติ เอตาทิสํ เอวรูปํ วิปากนิพฺพตฺตนกํ ทุคฺคติคามินํ พหุํ ปาปกมฺมํ ปุริมชาตีสุ อิธ จ กตฺวา อุปฺปาเทตฺวา. วุยฺหมาโน มโหเฆนาติ กาโมฆาทินา มหตา โอเฆน วิเสสโต ทิฏฺโเฆน อปายสมุทฺทํ ปติอากฑฺฒิยมาโน, พุทฺธํ สรณมาคมนฺติ ตาทิเสน ปุฺกมฺมจฺฉิทฺเทน กิจฺเฉน มนุสฺสตฺตภาวํ ลภิตฺวา อิทานิ ปุฺพเลน พุทฺธํ ‘‘สรณ’’นฺติ อาคมาสึ, ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติ อเวจฺจปสาเทน สตฺถริ ปสีทึ. สรณคมนํ ปสฺส, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตนฺติ อายตนคตํ มม สรณคมนํ ปสฺส, ปสฺส สาสนธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ โยหํ ตถามิจฺฉาปฏิปนฺโนปิ เอโกวาเทเนว สตฺถารา เอทิสํ สมฺปตฺตึ สมฺปาปิโต. ‘‘ติสฺโส วิชฺชา’’ติอาทินา ตํ สมฺปตฺตึ ทสฺเสติ เตนาห (อป. เถร ๒.๔๖.๑๗-๒๑) –

‘‘ติสฺสสฺสาหํ ภควโต, โพธิรุกฺขมวนฺทิยํ;

ปคฺคยฺห พีชนึ ตตฺถ, สีหาสนมพีชหํ.

‘‘ทฺเวนวุเต อิโต กปฺเป, สีหาสนมพีชหํ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พีชนาย อิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

ชมฺพุกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เสนกตฺเถรคาถาวณฺณนา

สฺวาคตํ วตาติอาทิกา อายสฺมโต เสนกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิขิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส โมรหตฺเถน ภควนฺตํ ปูเชสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุรุเวลกสฺสปตฺเถรสฺส ภคินิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, เสนโกติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต ฆราวาสํ วสติ. เตน จ สมเยน มหาชโน สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร ผคฺคุนมาเส อุตฺตรผคฺคุนนกฺขตฺเต อุสฺสวํ อนุภวนฺโต คยายํ ติตฺถาภิเสกํ กโรติ. เตน ตํ อุสฺสวํ ‘‘คยาผคฺคู’’ติ วทนฺติ. อถ ภควา ตาทิเส อุสฺสวทิวเส เวเนยฺยานุกมฺปาย คยาติตฺถสมีเป วิหรติ, มหาชโนปิ ติตฺถาภิเสกาธิปฺปาเยน ตโต ตโต ตํ านํ อุปคจฺฉติ. ตสฺมึ ขเณ เสนโกปิ ติตฺถาภิเสกตฺถํ ตํ านํ อุปคโต สตฺถารํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๖.๙-๑๖) –

‘‘โมรหตฺถํ คเหตฺวาน, อุเปสึ โลกนายกํ;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, โมรหตฺถมทาสหํ.

‘‘อิมินา โมรหตฺเถน, เจตนาปณิธีหิ จ;

นิพฺพายึสุ ตโย อคฺคี, ลภามิ วิปุลํ สุขํ.

‘‘อโห พุทฺโธ อโห ธมฺโม, อโห โน สตฺถุสมฺปทา;

ทตฺวานหํ โมรหตฺถํ, ลภามิ วิปุลํ สุขํ.

‘‘ติยคฺคี นิพฺพุตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

สพฺพาสวา ปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, โมรหตฺถสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สฺชาตโสมนสฺโส อุทานวเสน –

๒๘๗.

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, คยายํ คยผคฺคุยา;

ยํ อทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, เทเสนฺตํ ธมฺมมุตฺตมํ.

๒๘๘.

‘‘มหปฺปภํ คณาจริยํ, อคฺคปตฺตํ วินายกํ;

สเทวกสฺส โลกสฺส, ชินํ อตุลทสฺสนํ.

๒๘๙.

‘‘มหานาคํ มหาวีรํ, มหาชุติมนาสวํ;

สพฺพาสวปริกฺขีณํ, สตฺถารมกุโตภยํ.

๒๙๐.

‘‘จิรสงฺกิลิฏฺํ วต มํ, ทิฏฺิสนฺทานพนฺธิตํ;

วิโมจยิ โส ภควา, สพฺพคนฺเถหิ เสนก’’นฺติ. –

จตสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ สฺวาคตํ วต เม อาสีติ มยา สุฏฺุ อาคตํ วต อาสิ. มม วา สุนฺทรํ วต อาคมนํ อาสิ. คยายนฺติ คยาติตฺถสมีเป. คยผคฺคุยาติ ‘‘คยาผคฺคู’’ติ ลทฺธโวหาเร ผคฺคุนมาสสฺส อุตฺตรผคฺคุนีนกฺขตฺเต. ‘‘ย’’นฺติอาทิ สฺวาคตภาวสฺส การณทสฺสนํ. ตตฺถ นฺติ ยสฺมา. อทฺทสาสินฺติ อทฺทกฺขึ. สมฺพุทฺธนฺติ สมฺมา สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺพุทฺธํ. เทเสนฺตํ ธมฺมมุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ อคฺคํ สพฺพเสฏฺํ เอกนฺตนิยฺยานิกํ ธมฺมํ เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ ภาสนฺตํ.

มหปฺปภนฺติ มหติยา สรีรปฺปภาย าณปฺปภาย จ สมนฺนาคตํ. คณาจริยนฺติ ภิกฺขุปริสาทีนํ คณานํ อุตฺตเมน ทมเถน อาจารสิกฺขาปเนน คณาจริยํ. อคฺคภูตานํ สีลาทีนํ คุณานํ อธิคเมน อคฺคปฺปตฺตํ. เทวมนุสฺสาทีนํ ปรเมน วินเยน วินยนโต, สยํ นายกรหิตตฺตา จ วินายกํ. เกนจิ อนภิภูโต หุตฺวา สกลํ โลกํ อภิภวิตฺวา ิตตฺตา, ปฺจนฺนมฺปิ มารานํ ชิตตฺตา จ สเทวกสฺส โลกสฺส ชินํ สเทวเก โลเก อคฺคชินํ, พาตฺตึสวรมหาปุริสลกฺขณอสีติอนุพฺยฺชนาทิปฏิมณฺฑิตรูปกายตาย ทสพลจตุเวสารชฺชาทิคุณปฏิมณฺฑิตธมฺมกายตาย จ สเทวเกน โลเกน อปริเมยฺยทสฺสนตาย อสทิสทสฺสนตาย จ อตุลทสฺสนํ.

คติพลปรกฺกมาทิสมฺปตฺติยา มหานาคสทิสตฺตา, นาเคสุปิ ขีณาสเวสุ มหานุภาวตาย จ มหานาคํ. มารเสนาวิมถนโต มหาวิกฺกนฺตตาย จ มหาวีรํ. มหาชุตินฺติ มหาปตาปํ มหาเตชนฺติ อตฺโถ. นตฺถิ เอตสฺส จตฺตาโรปิ อาสวาติ อนาสวํ. สพฺเพ อาสวา สวาสนา ปริกฺขีณา เอตสฺสาติ สพฺพาสวปริกฺขีณํ. กามํ สาวกพุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา จ ขีณาสวาว, สพฺพฺุพุทฺธา เอว ปน สวาสเน อาสเว เขเปนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนาสว’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘สพฺพาสวปริกฺขีณ’’นฺติ วุตฺตํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺเพ อาสวา สวาสนา ปริกฺขีณา เอตสฺสาติ สพฺพาสวปริกฺขีณ’’นฺติ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ เวเนยฺยานํ อนุสาสนโต สตฺถารํ, จตุเวสารชฺชวิสารทตาย กุโตจิปิ ภยาภาวโต อกุโตภยํ, เอวรูปํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ยํ ยสฺมา อทฺทสาสึ, ตสฺมา สฺวาคตํ วต เม อาสีติ โยชนา.

อิทานิ สตฺถุ ทสฺสเนน อตฺตนา ลทฺธคุณํ ทสฺเสนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – กฺชิยปุณฺณลาพุ วิย ตกฺกภริตจาฏิ วิย วสาปีตปิโลติกา วิย จ สํกิเลสวตฺถูหิ อนมตคฺเค สํสาเร จิรกาลํ สํกิลิฏฺํ. คทฺทุลพนฺธิตํ วิย ถมฺเภ สารเมยํ สกฺกายถมฺเภ ทิฏฺิสนฺทาเนน, ทิฏฺิพนฺธเนน พนฺธิตํ พทฺธํ, ตโต วิโมเจนฺโต จ อภิชฺฌาทีหิ สพฺพคนฺเถ หิ มํ เสนกํ อริยมคฺคหตฺเถน, วิโมจยิ วต โส ภควา มยฺหํ สตฺถาติ ภควติ อภิปฺปสาทํ ปเวเทติ.

เสนกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สมฺภูตตฺเถรคาถาวณฺณนา

โย ทนฺธกาเลติอาทิกา อายสฺมโต สมฺภูตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ กโรนฺโต พุทฺธสุฺเ โลเก จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺโต. เอกทิวสํ อฺตรํ ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส วนฺทิตฺวา กตฺชลี อชฺชุนปุปฺเผหิ ปูชํ อกาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา สมฺภูโตติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต ภควโต ปรินิพฺพานสฺส ปจฺฉา ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๒.๒๘-๓๖) –

‘‘จนฺทภาคานทีตีเร, อโหสึ กินฺนโร ตทา;

อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, สยมฺภุํ อปราชิตํ.

‘‘ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, เวทชาโต กตฺชลี;

คเหตฺวา อชฺชุนํ ปุปฺผํ, สยมฺภุํ อภิปูชยึ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา กินฺนรํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ฉตฺติสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชมการยึ;

ทสกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺตี, มหารชฺชมการยึ.

‘‘ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;

สุเขตฺเต วปฺปิตํ พีชํ, สยมฺภุมฺหิ อโห มม.

‘‘กุสลํ วิชฺชเต มยฺหํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ปูชารโห อหํ อชฺช, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิมุตฺติสุเขน วิหรนฺโต วสฺสสตปรินิพฺพุเต ภควติ เวสาลิเกสุ วชฺชิปุตฺตเกสุ ทส วตฺถูนิ ปคฺคยฺห ิเตสุ กากณฺฑกปุตฺเตน ยสตฺเถเรน อุสฺสาหิเตหิ สตฺตสเตหิ ขีณาสเวหิ ตํ ทิฏฺึ ภินฺทิตฺวา สทฺธมฺมํ ปคฺคณฺหนฺเตหิ ธมฺมวินยสงฺคเห กเต เตสํ วชฺชิปุตฺตกานํ อุทฺธมฺมอุพฺพินยทีปเน ธมฺมสํเวเคน เถโร –

๒๙๑.

‘‘โย ทนฺธกาเล ตรติ, ตรณีเย จ ทนฺธเย;

อโยนิสํวิธาเนน, พาโล ทุกฺขํ นิคจฺฉติ.

๒๙๒.

‘‘ตสฺสตฺถา ปริหายนฺติ, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา;

อายสกฺยฺจ ปปฺโปติ, มิตฺเตหิ จ วิรุชฺฌติ.

๒๙๓.

‘‘โย ทนฺธกาเล ทนฺเธติ, ตรณีเย จ ตารเย;

โยนิโส สํวิธาเนน, สุขํ ปปฺโปติ ปณฺฑิโต.

๒๙๔.

‘‘ตสฺสตฺถา ปริปูเรนฺติ, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา;

ยโส กิตฺติฺจ ปปฺโปติ, มิตฺเตหิ น วิรุชฺฌตี’’ติ. –

อิมา คาถา ภณนฺโต อฺํ พฺยากาสิ.

ตตฺถ โย ทนฺธกาเล ตรตีติ กิสฺมิฺจิ กตฺตพฺพวตฺถุสฺมึ – ‘‘กปฺปติ นุ โข, น นุ โข กปฺปตี’’ติ วินยกุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน ยาว วิยตฺตํ วินยธรํ ปุจฺฉิตฺวา ตํ กุกฺกุจฺจํ น วิโนเทติ, ตาว ทนฺธกาเล ตสฺส กิจฺจสฺส ทนฺธายิตพฺพสมเย ตรติ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ. ตรณีเย จ ทนฺธเยติ คหฏฺสฺส ตาว สรณคมนสีลสมาทานาทิเก, ปพฺพชิตสฺส วตฺตปฏิวตฺตกรณาทิเก สมถวิปสฺสนานุโยเค จ ตริตพฺเพ สมฺปตฺเต สีฆํ ตํ กิจฺจํ อนนุยุฺชิตฺวา – ‘‘อาคมนมาเส ปกฺเข วา กริสฺสามี’’ติ ทนฺธาเยยฺย, ตํ กิจฺจํ อกโรนฺโตว กาลํ วีตินาเมยฺย. อโยนิสํวิธาเนนาติ เอวํ ทนฺธายิตพฺเพ ตรนฺโต ตริตพฺเพ จ ทนฺธายนฺโต อนุปายสํวิธาเนน อุปายสํวิธานาภาเวน พาโล, มนฺทพุทฺธิโก ปุคฺคโล, สมฺปติ อายติฺจ ทุกฺขํ อนตฺถํ ปาปุณาติ.

ตสฺสตฺถา ปริหายนฺตีติ ตสฺส ตถารูปสฺส ปุคฺคลสฺส ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทา อตฺถา กาฬปกฺเข จนฺทิมา วิย, ปริหายนฺติ ทิวเส ทิวเส ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺฉนฺติ. ‘‘อสุโก ปุคฺคโล อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน กุสีโต หีนวีริโย’’ติอาทินา. อายสกฺยํ วิฺูหิ ครหิตพฺพตํ ปปฺโปติ ปาปุณาติ. มิตฺเตหิ จ วิรุชฺฌตีติ ‘‘เอวํ ปฏิปชฺช, มา เอวํ ปฏิปชฺชา’’ติ โอวาททายเกหิ กลฺยาณมิตฺเตหิ ‘‘อวจนียา มย’’นฺติ โอวาทสฺส อนาทาเนเนว วิรุทฺโธ นาม โหติ.

เสสคาถาทฺวยสฺส วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เกจิ ปเนตฺถ – ‘‘ตรติ ทนฺธเย’’ติปทานํ อตฺถภาเวน ภาวนาจิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคเห อุทฺธรนฺติ. ตํ ปจฺฉิมคาถาสุ ยุชฺชติ. ปุริมา หิ ทฺเว คาถา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย จริตพฺพํ สมณธมฺมํ อกตฺวา กุกฺกุจฺจปกตตาย ทส วตฺถูนิ ทีเปตฺวา สงฺเฆน นิกฺกฑฺฒิเต วชฺชิปุตฺตเก สนฺธาย เถเรน วุตฺตา. ปจฺฉิมา ปน อตฺตสทิเส สมฺมา ปฏิปนฺเน สกตฺถํ นิปฺผาเทตฺวา ิเตติ.

สมฺภูตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ราหุลตฺเถรคาถาวณฺณนา

อุภเยนาติอาทิกา อายสฺมโต ราหุลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สิกฺขากามานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา เสนาสนวิโสธนวิชฺโชตนาทิกํ อุฬารํ ปุฺํ กตฺวา ปณิธานมกาสิ. โส ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อมฺหากํ โพธิสตฺตํ ปฏิจฺจ ยโสธราย เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา ราหุโลติ ลทฺธนาโม มหตา ขตฺติยปริวาเรน วฑฺฒิ, ตสฺส ปพฺพชฺชาวิธานํ ขนฺธเก (มหาว. ๑๐๕) อาคตเมว. โส ปพฺพชิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ สุลทฺโธวาโท ปริปกฺกาโณ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๒.๖๘-๘๕) –

‘‘ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

สตฺตภูมมฺหิ ปาสาเท, อาทาสํ สนฺถรึ อหํ.

‘‘ขีณาสวสหสฺเสหิ, ปริกิณฺโณ มหามุนิ;

อุปาคมิ คนฺธกุฏึ, ทฺวิปทินฺโท นราสโภ.

‘‘วิโรเจนฺโต คนฺธกุฏึ, เทวเทโว นราสโภ;

ภิกฺขุสงฺเฆ ิโต สตฺถา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘เยนายํ โชติตา เสยฺยา, อาทาโสว สุสนฺถโต;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘โสณฺณมยา รูปิมยา, อโถ เวฬุริยามยา;

นิพฺพตฺติสฺสนฺติ ปาสาทา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

‘‘จตุสฏฺิกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

สหสฺสกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺตี, ภวิสฺสติ อนนฺตรา.

‘‘เอกวีสติกปฺปมฺหิ, วิมโล นาม ขตฺติโย;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.

‘‘นครํ เรณุวตี นาม, อิฏฺกาหิ สุมาปิตํ;

อายามโต ตีณิ สตํ, จตุรสฺสสมายุตํ.

‘‘สุทสฺสโน นาม ปาสาโท, วิสฺสกมฺเมน มาปิโต;

กูฏาคารวรูเปโต, สตฺตรตนภูสิโต.

‘‘ทสสทฺทาวิวิตฺตํ ตํ, วิชฺชาธรสมากุลํ;

สุทสฺสนํว นครํ, เทวตานํ ภวิสฺสติ.

‘‘ปภา นิคฺคจฺฉเต ตสฺส, อุคฺคจฺฉนฺเตว สูริเย;

วิโรเจสฺสติ ตํ นิจฺจํ, สมนฺตา อฏฺโยชนํ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตุสิตา โส จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

โคตมสฺส ภควโต, อตฺรโช โส ภวิสฺสติ.

‘‘สเจวเสยฺย อคารํ, จกฺกวตฺตี ภเวยฺย โส;

อฏฺานเมตํ ยํ ตาที, อคาเร รติมชฺฌคา.

‘‘นิกฺขมิตฺวา อคารมฺหา, ปพฺพชิสฺสติ สุพฺพโต;

ราหุโล นาม นาเมน, อรหา โส ภวิสฺสติ.

‘‘กิกีว อณฺฑํ รกฺเขยฺย, จามรี วิย วาลธึ;

นิปโก สีลสมฺปนฺโน, มมํ รกฺขิ มหามุนิ.

‘‘ตสฺสาหํ ธมฺมมฺาย, วิหาสึ สาสเน รโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๒๙๕.

‘‘อุภเยเนว สมฺปนฺโน, ราหุลภทฺโทติ มํ วิทู;

ยฺจมฺหิ ปุตฺโต พุทฺธสฺส, ยฺจ ธมฺเมสุ จกฺขุมา.

๒๙๖.

‘‘ยฺจ เม อาสวา ขีณา, ยฺจ นตฺถิ ปุนพฺภโว;

อรหา ทกฺขิเณยฺโยมฺหิ, เตวิชฺโช อมตทฺทโส.

๒๙๗.

‘‘กามนฺธา ชาลปจฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;

ปมตฺตพนฺธุนา พทฺธา, มจฺฉาว กุมินามุเข.

๒๙๘.

‘‘ตํ กามํ อหมุชฺฌิตฺวา, เฉตฺวา มารสฺส พนฺธนํ;

สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต’’ติ. –

จตสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อุภเยเนว สมฺปนฺโนติ ชาติสมฺปทา, ปฏิปตฺติสมฺปทาติ อุภยสมฺปตฺติยาปิ สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต. ราหุลภทฺโทติ มํ วิทูติ ‘‘ราหุลภทฺโท’’ติ มํ สพฺรหฺมจาริโน สฺชานนฺติ. ตสฺส หิ ชาตสาสนํ สุตฺวา โพธิสตฺเตน ‘‘ราหุ ชาโต, พนฺธนํ ชาต’’นฺติ วุตฺตวจนํ อุปาทาย สุทฺโธทนมหาราชา ‘‘ราหุโล’’ติ นามํ คณฺหิ. ตตฺถ อาทิโต ปิตรา วุตฺตปริยายเมว คเหตฺวา อาห – ‘‘ราหุลภทฺโทติ มํ วิทู’’ติ. ภทฺโทติ จ ปสํสาวจนเมตํ.

อิทานิ ตํ อุภยสมฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺจมฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นฺติ ยสฺมา. -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. อมฺหิ ปุตฺโต พุทฺธสฺสาติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอรสปุตฺโต อมฺหิ. ธมฺเมสูติ โลกิเยสุ โลกุตฺตเรสุ จ ธมฺเมสุ, จตุสจฺจธมฺเมสูติ อตฺโถ. จกฺขุมาติ มคฺคปฺาจกฺขุนา จกฺขุมา จ อมฺหีติ โยเชตพฺพํ.

ปุน อปราปเรหิปิ ปริยาเยหิ อตฺตนิ อุภยสมฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ – ‘‘ยฺจ เม อาสวา ขีณา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ทกฺขิเณยฺโยติ ทกฺขิณารโห. อมตทฺทโสติ นิพฺพานสฺส ทสฺสาวี. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อิทานิ ยาย วิชฺชาสมฺปตฺติยา จ วิมุตฺติสมฺปตฺติยา จ อภาเวน สตฺตกาโย กุมิเน พนฺธมจฺฉา วิย สํสาเร ปริวตฺตติ, ตํ อุภยสมฺปตฺตึ อตฺตนิ ทสฺเสตุํ ‘‘กามนฺธา’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ กาเมหิ กาเมสุ วา อนฺธาติ กามนฺธา. ‘‘ฉนฺโท ราโค’’ติอาทิวิภาเคหิ (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘) กิเลสกาเมหิ รูปาทีสุ วตฺถุกาเมสุ อนาทีนวทสฺสิตาย อนฺธีกตา. ชาลปจฺฉนฺนาติ สกลํ ภวตฺตยํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิเตน วิสตฺติกาชาเลน ปการโต ฉนฺนา ปลิคุณฺิตา. ตณฺหาฉทนฉาทิตาติ ตโต เอว ตณฺหาสงฺขาเตน ฉทเนน ฉาทิตา นิวุตา สพฺพโส ปฏิกุชฺชิตา. ปมตฺตพนฺธุนา พทฺธา, มจฺฉาว กุมินามุเขติ กุมินามุเข มจฺฉพนฺธานํ มจฺฉปสิพฺพกมุเข พทฺธา มจฺฉา วิย ปมตฺตพนฺธุนา มาเรน เยน กามพนฺธเนน พทฺธา อิเม สตฺตา ตโต น นิคจฺฉนฺติ อนฺโตพนฺธนคตาว โหนฺติ.

ตํ ตถารูปํ กามํ พนฺธนภูตํ อุชฺฌิตฺวา ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา ปหาย กิเลสมารสฺส พนฺธนํ เฉตฺวา, ปุน อริยมคฺคสตฺเถน อนวเสสโต สมุจฺฉินฺทิตฺวา ตโต เอว อวิชฺชาสงฺขาเตน มูเลน สมูลํ, กามตณฺหาทิกํ ตณฺหํ อพฺพุยฺห อุทฺธริตฺวา สพฺพกิเลสทรถปริฬาหาภาวโต, สีติภูโต สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพุโต, อหํ อสฺมิ โหมีติ อตฺโถ.

ราหุลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. จนฺทนตฺเถรคาถาวณฺณนา

ชาตรูเปนาติอาทิกา อายสฺมโต จนฺทนตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิโต เอกตึเส กปฺเป พุทฺธสุฺเ โลเก รุกฺขเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺโต สุทสฺสนํ นาม ปจฺเจกพุทฺธํ ปพฺพตนฺตเร วสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส กุฏชปุปฺเผหิ ปูชํ อกาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา จนฺทโนติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต ฆราวาสํ วสนฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา โสตาปนฺโน อโหสิ. โส เอกํ ปุตฺตํ ลภิตฺวา ฆราวาสํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต สตฺถารํ วนฺทิตุํ สาวตฺถึ อาคโต สุสาเน วสติ. ตสฺส อาคตภาวํ สุตฺวา ปุราณทุติยิกา อลงฺกตปฏิยตฺตา ทารกํ อาทาย มหตา ปริวาเรน เถรสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ – ‘‘อิตฺถิกุตฺตาทีหิ นํ ปโลเภตฺวา อุปฺปพฺพาเชสฺสามี’’ติ. เถโร ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทูรโตว ทิสฺวา ‘‘อิทานิสฺสา อวิสโย ภวิสฺสามี’’ติ ยถารทฺธํ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ฉฬภิฺโ อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๒.๓๗-๔๓) –

‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, วสโล นาม ปพฺพโต;

พุทฺโธ สุทสฺสโน นาม, วสเต ปพฺพตนฺตเร.

‘‘ปุปฺผํ เหมวนฺตํ มยฺห, เวหาสํ อคมาสหํ;

ตตฺถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ.

‘‘ปุปฺผํ กุฏชมาทาย, สิเร กตฺวาน อฺชลึ;

พุทฺธสฺส อภิโรเปสึ, สยมฺภุสฺส มเหสิโน.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิปูชยึ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

ฉฬภิฺโ ปน หุตฺวา อากาเส ตฺวา ตสฺสา ธมฺมํ เทเสตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปตฺวา สยํ อตฺตนา ปุพฺเพ วสิตฏฺานเมว คโต. สหายภิกฺขูหิ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, กจฺจิ ตยา สจฺจานิ ปฏิวิทฺธานี’’ติ ปุฏฺโ –

๒๙๙.

‘‘ชาตรูเปน สฺฉนฺนา, ทาสีคณปุรกฺขตา;

องฺเกน ปุตฺตมาทาย, ภริยา มํ อุปาคมิ.

๓๐๐.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตึ, สกปุตฺตสฺส มาตรํ;

อลงฺกตํ สุวสนํ, มจฺจุปาสํว โอฑฺฑิตํ.

๓๐๑.

‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;

อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฏฺถ.

๓๐๒.

‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมาหิ คาถาหิ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ กเถนฺโต อฺํ พฺยากาสิ.

ตตฺถ ชาตรูเปน สฺฉนฺนาติ ชาตรูปมเยน สีสูปคาทิอลงฺกาเรน อลงฺกรณวเสน ปฏิจฺฉาทิตสรีรา, สพฺพาภรณภูสิตาติ อตฺโถ. ทาสีคณปุรกฺขตาติ ยถารหํ อลงฺกตปฏิยตฺเตน อตฺตโน ทาสิคเณน ปุรโต กตา ปริวาริตาติ อตฺโถ. องฺเกน ปุตฺตมาทายาติ ‘‘อปิ นาม ปุตฺตมฺปิ ทิสฺวา เคหสฺสิตสาโต ภเวยฺยา’’ติ ปุตฺตํ อตฺตโน องฺเกน คเหตฺวา.

อายนฺตินฺติ อาคจฺฉนฺตึ. สกปุตฺตสฺส มาตรนฺติ มม โอรสปุตฺตสฺส ชนนึ, มยฺหํ ปุราณทุติยิกนฺติ อตฺโถ. สพฺพมิทํ เถโร อตฺตโน กามราคสมุจฺเฉทํ พหุมฺนฺโต วทติ. โยนิโส อุทปชฺชถาติ ‘‘เอวรูปาปิ นาม สมฺปตฺติ ชราพฺยาธิมรเณหิ อภิภุยฺยติ, อโห สงฺขารา อนิจฺจา อธุวา อนสฺสาสิกา’’ติ เอวํ โยนิโสมนสิกาโร อุปฺปชฺชิ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

จนฺทนตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ธมฺมิกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ธมฺโม หเวติอาทิกา อายสฺมโต ธมฺมิกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิขิสฺส ภควโต กาเล มิคลุทฺทโก หุตฺวา เอกทิวสํ อรฺายตเน เทวปริสาย สตฺถุ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ เทสนาย นิมิตฺตํ คณฺหิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสลรฏฺเ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ธมฺมิโกติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต เชตวนปฏิคฺคหเณ ลทฺธปฺปสาโท ปพฺพชิตฺวา อฺตรสฺมึ คามกาวาเส อาวาสิโก หุตฺวา วิหรนฺโต อาคนฺตุกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตาวตฺเตสุ อุชฺฌานพหุโล อกฺขโม อโหสิ. เตน ภิกฺขู ตํ วิหารํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมึสุ. โส เอกโกว อโหสิ. วิหารสามิโก อุปาสโก ตํ การณํ สุตฺวา ภควโต ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกเสตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต – ‘‘นายํ อิทาเนว อกฺขโม, ปุพฺเพปิ อกฺขโม อโหสี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต รุกฺขธมฺมํ (ชา. ๑.๑.๗๔) กเถตฺวา อุปริ ตสฺส โอวาทํ เทนฺโต –

๓๐๓.

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.

๓๐๔.

‘‘น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;

อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคตึ.

๓๐๕.

‘‘ตสฺมา หิ ธมฺเมสุ กเรยฺย ฉนฺทํ, อิติ โมทมาโน สุคเตน ตาทินา;

ธมฺเม ิตา สุคตวรสฺส สาวกา, นียนฺติ ธีรา สรณวรคฺคคามิโน.

๓๐๖.

‘‘วิปฺโผฏิโต คณฺฑมูโล, ตณฺหาชาโล สมูหโต;

โส ขีณสํสาโร น จตฺถิ กิฺจนํ,

จนฺโท ยถา โทสินา ปุณฺณมาสิย’’นฺติ. – จตสฺโส คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ธมฺโมติ โลกิยโลกุตฺตโร สุจริตธมฺโม. รกฺขตีติ อปายทุกฺขโต รกฺขติ, สํสารทุกฺขโต จ วิวฏฺฏูปนิสฺสยภูโต รกฺขติเยว. ธมฺมจารินฺติ ตํ ธมฺมํ จรนฺตํ ปฏิปชฺชนฺตํ. สุจิณฺโณติ สุฏฺุ จิณฺโณ กมฺมผลานิ สทฺทหิตฺวา สกฺกจฺจํ จิตฺตีกตฺวา อุปจิโต. สุขนฺติ โลกิยโลกุตฺตรสุขํ. ตตฺถ โลกิยํ ตาว กามาวจราทิเภโท ธมฺโม ยถาสกํ สุขํ ทิฏฺเ วา ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย อาวหติ นิปฺผาเทติ, อิตรํ ปน วิวฏฺฏูปนิสฺสเย ตฺวา จิณฺโณ ปรมฺปราย อาวหตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ อนุปนิสฺสยสฺส ตทภาวโต. เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารีติ ธมฺมจารี ปุคฺคโล ธมฺเม สุจิณฺเณ ตํนิมิตฺตํ ทุคฺคตึ น คจฺฉตีติ เอโส ธมฺเม สุจิณฺเณ อานิสํโส อุทฺรโยติ อตฺโถ.

ยสฺมา ธมฺเมเนว สุคติคมนํ, อธมฺเมเนว จ ทุคฺคติคมนํ, ตสฺมา ‘‘ธมฺโม อธมฺโม’’ติ อิเม อฺมฺํ อสํกิณฺณผลาติ ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ ธมฺโม’’ติอาทินา ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ อธมฺโมติ ธมฺมปฏิปกฺโข ทุจฺจริตํ. สมวิปากิโนติ สทิสวิปากา สมานผลา.

ตสฺมาติ ยสฺมา ธมฺมาธมฺมานํ อยํ ยถาวุตฺโต วิปากเภโท, ตสฺมา. ฉนฺทนฺติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ. อิติ โมทมาโน สุคเตน ตาทินาติ อิติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน โอวาททาเนน สุคเตน สมฺมคฺคเตน สมฺมาปฏิปนฺเนน อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺติยา ตาทินามวตา เหตุภูเตน โมทมาโน ตุฏฺึ อาปชฺชมาโน ธมฺเมสุ ฉนฺทํ กเรยฺยาติ โยชนา. เอตฺตาวตา วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺเม ิตา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา สุคตสฺส วรสฺส สุคเตสุ จ วรสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกา ตสฺส ธมฺเม ิตา ธีรา อติวิย อคฺคภูตสรณคามิโน เตเนว สรณคมนสงฺขาเต ธมฺเม ิตภาเวน สกลวฏฺฏทุกฺขโตปิ นียนฺติ นิสฺสรนฺติ, ตสฺมา หิ ธมฺเมสุ กเรยฺย ฉนฺทนฺติ.

เอวํ สตฺถารา ตีหิ คาถาหิ ธมฺเม เทสิเต เทสนานุสาเรน ยถานิสินฺโนว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๒.๔๔-๕๐) –

‘‘มิคลุทฺโท ปุเร อาสึ, อรฺเ วิปิเน อหํ;

อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, เทวสงฺฆปุรกฺขตํ.

‘‘จตุสจฺจํ ปกาเสนฺตํ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ;

อสฺโสสึ มธุรํ ธมฺมํ, สิขิโน โลกพนฺธุโน.

‘‘โฆเส จิตฺตํ ปสาเทสึ, อสมปฺปฏิปุคฺคเล;

ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, อุตฺตรึ ทุตฺตรํ ภวํ.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ สฺมลภึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, โฆสสฺายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

ตถา อรหตฺเต ปติฏฺิโต. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตนา อธิคตํ วิเสสํ สตฺถุ นิเวเทนฺโต จริมคาถาย อฺํ พฺยากาสิ.

ตตฺถ วิปฺโผฏิโตติ วิธุโต, มคฺคาเณน ปฏินิสฺสฏฺโติ อตฺโถ. คณฺฑมูโลติ อวิชฺชา. สา หิ คณฺฑติ สวติ. ‘‘คณฺโฑติ โข, ภิกฺขุ, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๑๐๓; อ. นิ. ๖.๒๓; ๘.๕๖; ๙.๑๕; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๓๗) เอวํ สตฺถารา วุตฺตสฺส ทุกฺขมูลโยคโต, กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต, อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปกฺกปภิชฺชนโต จ, คณฺฑาภิธานสฺส อุปาทานกฺขนฺธปฺจกสฺส มูลํ การณํ ตณฺหาชาโล สมูหโตติ ตณฺหาสงฺขาโต ชาโล มคฺเคน สมุคฺฆาฏิโต. โส ขีณสํสาโร น จตฺถิ กิฺจนนฺติ โส อหํ เอวํ ปหีนตณฺหาวิชฺชตาย ปริกฺขีณสํสาโร ปหีนภวมูลตฺตา เอว น จตฺถิ, น จ อุปลพฺภติ ราคาทิกิฺจนํ. จนฺโท ยถา โทสินา ปุณฺณมาสิยนฺติ ยถา นาม จนฺโท อพฺภมหิกาทิโทสรหิโต ปุณฺณมาสิยํ ปริปุณฺณกาเล เอวํ อหมฺปิ อรหตฺตาธิคเมน อเปตราคาทิกิฺจโน ปริปุณฺณธมฺมโกฏฺาโส อโหสินฺติ.

ธมฺมิกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. สปฺปกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยทา พลากาติอาทิกา อายสฺมโต สปฺปกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิโต เอกตึเส กปฺเป มหานุภาโว นาคราชา หุตฺวา นิพฺพตฺโต สมฺภวสฺส นาม ปจฺเจกพุทฺธสฺส อพฺโภกาเส สมาปตฺติยา นิสินฺนสฺส มหนฺตํ ปทุมํ คเหตฺวา อุปริมุทฺธนิ ธาเรนฺโต ปูชํ อกาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สปฺปโกติ ลทฺธนาโม วิฺุตํ ปตฺโต ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อชกรณิยา นาม นทิยา ตีเร เลณคิริวิหาเร วสนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๒.๗๘-๘๓) –

‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, โรมโส นาม ปพฺพโต;

พุทฺโธปิ สมฺภโว นาม, อพฺโภกาเส วสี ตทา.

‘‘ภวนา นิกฺขมิตฺวาน, ปทุมํ ธารยึ อหํ;

เอกาหํ ธารยิตฺวาน, ภวนํ ปุนราคมึ.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ พุทฺธมภิปูชยึ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

โส อรหตฺตํ ปตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตุํ สาวตฺถึ อาคโต าตีหิ อุปฏฺียมาโน ตตฺถ กติปาหํ วสิตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา าตเก สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปตฺวา ยถาวุตฺตฏฺานเมว คนฺตุกาโม อโหสิ. ตํ าตกา ‘‘อิเธว, ภนฺเต, วสถ, มยํ ปฏิชคฺคิสฺสามา’’ติ ยาจึสุ. โส คมนาการํ ทสฺเสตฺวา ิโต อตฺตนา วสิตฏฺานกิตฺตนาปเทเสน วิเวกาภิรตึ ปกาเสนฺโต –

๓๐๗.

‘‘ยทา พลากา สุจิปณฺฑรจฺฉทา, กาฬสฺส เมฆสฺส ภเยน ตชฺชิตา;

ปเลหิติ อาลยมาลเยสินี, ตทา นที อชกรณี รเมติ มํ.

๓๐๘.

‘‘ยทา พลากา สุวิสุทฺธปณฺฑรา, กาฬสฺส เมฆสฺส ภเยน ตชฺชิตา;

ปริเยสติ เลณมเลณทสฺสินี, ตทา นที อชกรณี รเมติ มํ.

๓๐๙.

‘‘กํ นุ ตตฺถ น รเมนฺติ, ชมฺพุโย อุภโต ตหึ;

โสเภนฺตี อาปคากูลํ, มม เลณสฺส ปจฺฉโต.

๓๑๐.

‘‘ตามตมทสงฺฆสุปฺปหีนา, เภกา มนฺทวตี ปนาทยนฺติ;

นาชฺช คิรินทีหิ วิปฺปวาสสมโย,

เขมา อชกรณี สิวา สุรมฺมา’’ติ. – จตสฺโส คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ยทาติ ยสฺมึ กาเล. พลากาติ พลากาสกุณิกา. สุจิปณฺฑรจฺฉทาติ สุจิสุทฺธธวลปกฺขา. กาฬสฺส เมฆสฺส ภเยน ตชฺชิตาติ ชลภารภริตตาย กาฬสฺส อฺชนคิริสนฺนิกาสสฺส ปาวุสฺสกเมฆสฺส คชฺชโต วุฏฺิภเยน นิพฺพิชฺชิตา ภึสาปิตา. ปเลหิตีติ โคจรภูมิโต อุปฺปติตฺวา คมิสฺสติ. อาลยนฺติ นิลยํ อตฺตโน กุลาวกํ. อาลเยสินีติ ตตฺถ อาลยนํ นิลียนเมว อิจฺฉนฺตี. ตทา นที อชกรณี รเมติ มนฺติ ตสฺมึ ปาวุสฺสกกาเล อชกรณีนามิกา นที นโวทกสฺส ปูรา หารหารินี กุลงฺกสา มํ รเมติ มม จิตฺตํ อาราเธตีติ อุตุปเทสวิเสสกิตฺตนาปเทเสน วิเวกาภิรตึ ปกาเสสิ.

สุวิสุทฺธปณฺฑราติ สุฏฺุ วิสุทฺธปณฺฑรวณฺณา, อสมฺมิสฺสวณฺณา สพฺพเสตาติ อตฺโถ. ปริเยสตีติ มคฺคติ. เลณนฺติ วสนฏฺานํ. อเลณทสฺสินีติ วสนฏฺานํ อปสฺสนฺตี. ปุพฺเพ นิพทฺธวสนฏฺานสฺส อภาเวน อเลณทสฺสินี, อิทานิ ปาวุสฺสกกาเล เมฆคชฺชิเตน อาหิตคพฺภา ปริเยสติ เลณนฺติ นิพทฺธวสนฏฺานํ กุลาวกํ กโรตีติ อตฺโถ.

กํ นุ ตตฺถ…เป… ปจฺฉโตติ มม วสนกมหาเลณสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉาภาเค อาปคากูลํ อชกรณีนทิยา อุภโตตีรํ ตหึ ตหึ อิโต จิโต จ โสเภนฺติโย นิจฺจกาลํ ผลภารนมิตสาขา สินิทฺธปณฺณจฺฉายา ชมฺพุโย ตตฺถ ตสฺมึ าเน กํ นาม สตฺตํ น รเมนฺติ นุ, สพฺพํ รเมนฺติเยว.

ตามตมทสงฺฆสุปฺปหีนาติ อมตํ วุจฺจติ อคทํ, เตน มชฺชนฺตีติ อมตมทา, สปฺปา, เตสํ สงฺโฆ อมตมทสงฺโฆ, ตโต สุฏฺุ ปหีนา อปคตา. เภกา มณฺฑูกิโย, มนฺทวตี สรวติโย, ปนาทยนฺติ ตํ านํ มธุเรน วสฺสิเตน นินฺนาทยนฺติ. นาชฺช คิรินทีหิ วิปฺปวาสสมโยติ อชฺช เอตรหิ อฺาหิปิ ปพฺพเตยฺยาหิ นทีหิ วิปฺปวาสสมโย น โหติ, วิเสสโต ปน วาฬมจฺฉสุสุมาราทิวิรหิตโต เขมา อชกรณี นที. สุนฺทรตลติตฺถปุลินสมฺปตฺติยา สิวา. สุฏฺุ รมฺมา รมณียา, ตสฺมา ตตฺเถว เม มโน รมตีติ อธิปฺปาโย.

เอวํ ปน วตฺวา าตเก วิสฺสชฺเชตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว คโต. สุฺาคาราภิรติทีปเนน อิทเมว จ เถรสฺส อฺาพฺยากรณํ อโหสีติ.

สปฺปกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. มุทิตตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปพฺพชินฺติอาทิกา อายสฺมโต มุทิตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส เอกํ มฺจมทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสลรฏฺเ คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา มุทิโตติ ลทฺธนาโม วิฺุตํ ปาปุณิ. เตน จ สมเยน ตํ กุลํ รฺา เกนจิเทว กรณีเยน ปลิพุทฺธํ อโหสิ. มุทิโต ราชภยาภีโต ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิฏฺโ อฺตรสฺส ขีณาสวตฺเถรสฺส วสนฏฺานํ อุปคจฺฉิ. เถโร ตสฺส ภีตภาวํ ตฺวา ‘‘มา ภายี’’ติ สมสฺสาเสสิ. โส ‘‘กิตฺตเกน นุ โข, ภนฺเต, กาเลน อิทํ เม ภยํ วูปสเมสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สตฺตฏฺมาเส อติกฺกมิตฺวา’’ติ วุตฺเต – ‘‘เอตฺตกํ กาลํ อธิวาเสตุํ น สกฺโกมิ, ปพฺพชิสฺสามหํ, ภนฺเต, ปพฺพาเชถ ม’’นฺติ ชีวิตรกฺขณตฺถํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เถโร ตํ ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตฺวา สาสเน ปฏิลทฺธสทฺโธ ภเย วูปสนฺเตปิ สมณธมฺมํเยว โรเจนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต – ‘‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อิมสฺมา วสนคพฺภา พหิ น นิกฺขมิสฺสามี’’ติอาทินา ปฏิฺํ กตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๓๖.๓๐-๓๓) –

‘‘วิปสฺสิโน ภควโต, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

เอกํ มฺจํ มยา ทินฺนํ, ปสนฺเนน สปาณินา.

‘‘หตฺถิยานํ อสฺสยานํ, ทิพฺพยานํ สมชฺฌคํ;

เตน มฺจกทาเนน, ปตฺโตมฺหิ อาสวกฺขยํ.

‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ มฺจมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, มฺจทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโต สหายภิกฺขูหิ อธิคตํ ปุจฺฉิโต อตฺตโน ปฏิปนฺนาการํ กเถนฺโต –

๓๑๑.

‘‘ปพฺพชึ ชีวิกตฺโถหํ, ลทฺธาน อุปสมฺปทํ;

ตโต สทฺธํ ปฏิลภึ, ทฬฺหวีริโย ปรกฺกมึ.

๓๑๒.

‘‘กามํ ภิชฺชตุยํ กาโย, มํสเปสี วิสียรุํ;

อุโภ ชณฺณุกสนฺธีหิ, ชงฺฆาโย ปปตนฺตุ เม.

๓๑๓.

‘‘นาสิสฺสํ น ปิวิสฺสามิ, วิหารา จ น นิกฺขเม;

นปิ ปสฺสํ นิปาเตสฺสํ, ตณฺหาสลฺเล อนูหเต.

๓๑๔.

‘‘ตสฺส เมวํ วิหรโต, ปสฺส วีริยปรกฺกมํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

จตสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ชีวิกตฺโถติ ชีวิกาย อตฺถิโก ชีวิกปฺปโยชโน. ‘‘เอตฺถ ปพฺพชิตฺวา นิพฺภโย สุเขน อกิลมนฺโต ชีวิสฺสามี’’ติ เอวํ ชีวิกตฺถาย ปพฺพชินฺติ อตฺโถ. ลทฺธาน อุปสมฺปทนฺติ ปมํ สามเณรปพฺพชฺชายํ ิโต ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา. ตโต สทฺธํ ปฏิลภินฺติ ตโต อุปสมฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺโต ทฺเว มาติกา, ติสฺโส อนุโมทนา, เอกจฺจํ สุตฺตํ, สมถกมฺมฏฺานํ, วิปสฺสนาวิธิฺจ อุคฺคณฺหนฺโต พุทฺธาทีนํ มหานุภาวตํ ทิสฺวา – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ รตนตฺตเย สทฺธํ ปฏิลภึ. ทฬฺหวีริโย ปรกฺกมินฺติ เอวํ ปฏิลทฺธสทฺโธ หุตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว สจฺจปฏิเวธาย ทฬฺหวีริโย ถิรวีริโย หุตฺวา ปรกฺกมึ, อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย สมฺมเทว ปทหึ.

ยถา ปน ปรกฺกมึ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กามนฺติ ยถากามํ เอกํสโต วา ภิชฺชตุ. อยํ กาโยติ อยํ มม ปูติกาโย, อิมินา วีริยปตาเปน ภิชฺชติ เจ, ภิชฺชตุ ฉินฺนภินฺนํ โหตุ. มํสเปสี วิสียรุนฺติ อิมินา ทฬฺหปรกฺกเมน อิมสฺมา กายา มํสเปสิโย วิสียนฺติ เจ, วิสียนฺตุ อิโต จิโต วิทฺธํสนฺตุ. อุโภ ชณฺณุกสนฺธีหิ, ชงฺฆาโย ปปตนฺตุ เมติ อุโภหิ ชณฺณุกสนฺธีหิ สห มม อุโภ ชงฺฆาโย สตฺถิโย อูรุพนฺธโต ภิชฺชิตฺวา ภูมิยํ ปปตนฺตุ. ‘‘ม’’นฺติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

มุทิตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุกฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจกนิปาโต

๑. ราชทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปฺจกนิปาเต ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวาติอาทิกา อายสฺมโต ราชทตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร, ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปุฺํ อุปจินนฺโต, อิโต จตุทฺทเส กปฺเป พุทฺธสุฺเ โลเก กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต, เอกทิวสํ เกนจิเทว กรณีเยน วนนฺตํ อุปคโต ตตฺถ อฺตรํ ปจฺเจกพุทฺธํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส สุปริสุทฺธํ อมฺพาฏกผลํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ สตฺถวาหกุเล นิพฺพตฺติ. ตสฺส มหาราชํ เวสฺสวณํ อาราเธตฺวา ปฏิลทฺธภาวโต มาตาปิตโร ราชทตฺโตติ นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ปฺจหิ สกฏสเตหิ ภณฺฑํ อาทาย วาณิชฺชวเสน ราชคหํ อคมาสิ. เตน จ สมเยน ราชคเห อฺตรา คณิกา อภิรูปา ทสฺสนียา ปรมโสภคฺคโยคโต ทิวเส ทิวเส สหสฺสํ ลภติ. อถ โส สตฺถวาหปุตฺโต ทิวเส ทิวเส ตสฺสา คณิกาย สหสฺสํ ทตฺวา สํวาสํ กปฺเปนฺโต นจิรสฺเสว สพฺพํ ธนํ เขเปตฺวา ทุคฺคโต หุตฺวา ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ อลภนฺโต อิโต จิโต จ ปริพฺภมนฺโต สํเวคปฺปตฺโต อโหสิ. โส เอกทิวสํ อุปาสเกหิ สทฺธึ เวฬุวนํ อคมาสิ.

เตน จ สมเยน สตฺถา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสนฺโต นิสินฺโน โหติ. โส ปริสปริยนฺเต นิสีทิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ธุตงฺคานิ สมาทิยิตฺวา สุสาเน วสติ. ตทา อฺตโรปิ สตฺถวาหปุตฺโต สหสฺสํ ทตฺวา ตาย คณิกาย สห วสติ. สา จ คณิกา ตสฺส หตฺเถ มหคฺฆรตนํ ทิสฺวา โลภํ อุปฺปาเทตฺวา อฺเหิ ธุตฺตปุริเสหิ ตํ มาราเปตฺวา ตํ รตนํ คณฺหิ. อถ ตสฺส สตฺถวาหปุตฺตสฺส มนุสฺสา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา โอจรกมนุสฺเส เปเสสุํ. เต รตฺติยํ ตสฺสา คณิกาย ฆรํ ปวิสิตฺวา ฉวิอาทีนิ อนุปหจฺเจว ตํ มาเรตฺวา สิวถิกาย ฉฑฺเฑสุํ. ราชทตฺตตฺเถโร อสุภนิมิตฺตํ คเหตุํ สุสาเน วิจรนฺโต ตสฺสา คณิกาย กเฬวรํ ปฏิกฺกุลโต มนสิ กาตุํ อุปคโต กติปยวาเร โยนิโส มนสิ กตฺวา อจิรมตภาวโต โสณสิงฺคาลาทีหิ อนุปหตฉวิตาย วิสภาควตฺถุตาย จ อโยนิโส มนสิกโรนฺโต, ตตฺถ กามราคํ อุปฺปาเทตฺวา สํวิคฺคตรมานโส อตฺตโน จิตฺตํ ปริภาสิตฺวา มุหุตฺตํ เอกมนฺตํ อปสกฺกิตฺวา อาทิโต อุปฏฺิตํ อสุภนิมิตฺตเมว คเหตฺวา โยนิโส มนสิกโรนฺโต ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ตาวเทว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๕๕-๕๙) –

‘‘วิปิเน พุทฺธํ ทิสฺวาน, สยมฺภุํ อปราชิตํ;

อมฺพาฏกํ คเหตฺวาน, สยมฺภุสฺส อทาสหํ.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ผลมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต –

๓๑๕.

‘‘ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา, อทฺทส อิตฺถิมุชฺฌิตํ;

อปวิทฺธํ สุสานสฺมึ, ขชฺชนฺตึ กิมิหี ผุฏํ.

๓๑๖.

‘‘ยฺหิ เอเก ชิคุจฺฉนฺติ, มตํ ทิสฺวาน ปาปกํ;

กามราโค ปาตุรหุ, อนฺโธว สวตี อหุํ.

๓๑๗.

‘‘โอรํ โอทนปากมฺหา, ตมฺหา านา อปกฺกมึ;

สติมา สมฺปชาโนหํ, เอกมนฺตํ อุปาวิสึ.

๓๑๘.

‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;

อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฏฺถ.

๓๑๙.

‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวาติ สํสาเร ภยสฺส อิกฺขนโต ภิกฺขุ, อสุภกมฺมฏฺานตฺถํ อามกสุสานํ อุปคนฺตฺวา. ‘‘ภิกฺขู’’ติ เจตํ อตฺตานํ สนฺธาย เถโร สยํ วทติ. อิตฺถินฺติ ถียติ เอตฺถ สุกฺกโสณิตํ สตฺตสนฺตานภาเวน สํหฺตีติ ถี, มาตุคาโม. เอวฺจ สภาวนิรุตฺติวเสน ‘‘อิตฺถี’’ติปิ วุจฺจติ. วฺฌาทีสุ ปน ตํสทิสตาย ตํสภาวานติวตฺตนโต จ ตพฺโพหาโร. ‘‘อิตฺถี’’ติ อิตฺถิกเฬวรํ วทติ. อุชฺฌิตนฺติ ปริจฺจตฺตํ อุชฺฌนิยตฺตา เอว อปวิทฺธํ อนเปกฺขภาเวน ขิตฺตํ. ขชฺชนฺตึ กิมิหี ผุฏนฺติ กิมีหิ ปูริตํ หุตฺวา ขชฺชมานํ.

ยฺหิ เอเก ชิคุจฺฉนฺติ, มตํ ทิสฺวาน ปาปกนฺติ ยํ อปคตายุอุสฺมาวิฺาณตาย มตํ กเฬวรํ ปาปกํ นิหีนํ ลามกํ เอเก โจกฺขชาติกา ชิคุจฺฉนฺติ, โอโลเกตุมฺปิ น อิจฺฉนฺติ. กามราโค ปาตุรหูติ ตสฺมึ กุณเป อโยนิโสมนสิการสฺส พลวตาย กามราโค มยฺหํ ปาตุรโหสิ อุปฺปชฺชิ. อนฺโธว สวตี อหุนฺติ ตสฺมึ กเฬวเร นวหิ ทฺวาเรหิ อสุจึ สวติ สนฺทนฺเต อสุจิภาวสฺส อทสฺสเนน อนฺโธ วิย อโหสึ. เตนาห –

‘‘รตฺโต อตฺถํ น ชานาติ, รตฺโต ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ ราโค สหเต นร’’นฺติ จ.

‘‘กามจฺฉนฺโท โข, พฺราหฺมณ, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ’’ติ จ อาทิ. เกจิ ปเนตฺถ ตการาคมํ กตฺวา ‘‘กิเลสปริยุฏฺาเนน อวสวตฺติ กิเลสสฺส วา วสวตฺตี’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. อปเร ‘‘อนฺโธว อสติ อหุ’’นฺติ ปาฬึ วตฺวา ‘‘กามราเคน อนฺโธ เอว หุตฺวา สติรหิโต อโหสิ’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ. ตทุภยํ ปน ปาฬิยํ นตฺถิ.

โอรํ โอทนปากมฺหาติ โอทนปากโต โอรํ, ยาวตา กาเลน สุปริโธตตินฺตตณฺฑุลนาฬิยา โอทนํ ปจติ, ตโต โอรเมว กาลํ, ตโตปิ ลหุกาเลน ราคํ วิโนเทนฺโต, ตมฺหา านา อปกฺกมึ ยสฺมึ าเน ิตสฺส เม ราโค อุปฺปชฺชิ, ตมฺหา านา อปกฺกมึ อปสกฺกึ. อปกฺกนฺโตว สติมา สมฺปชาโนหํ สมณสฺํ อุปฏฺเปตฺวา สติปฏฺานมนสิการวเสน สติมา, สมฺมเทว ธมฺมสภาวชานเนน สมฺปชาโน จ หุตฺวา เอกมนฺตํ อุปาวิสึ, ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทึ. นิสินฺนสฺส จ ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถาติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

ราชทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุภูตตฺเถรคาถาวณฺณนา

อโยเคติอาทิกา อายสฺมโต สุภูตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล พาราณสิยํ คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนมานโส สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาย มาเส มาเส อฏฺกฺขตฺตุํ จตุชฺชาติยคนฺเธน สตฺถุ คนฺธกุฏึ โอปุฺชาเปสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน สุคนฺธสรีโร หุตฺวา, อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มคธรฏฺเ คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สุภูโตติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต, นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ สารํ อลภนฺโต, สตฺถุ สนฺติเก อุปติสฺสโกลิตเสลาทิเก พหู สมณพฺราหฺมเณ ปพฺพชิตฺวา สามฺสุขํ อนุภวนฺเต ทิสฺวา สาสเน ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา อาจริยุปชฺฌาเย อาราเธตฺวา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิเวกวาสํ วสนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๕.๒๗๒-๓๐๘) –

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘อนุพฺยฺชนสมฺปนฺโน, พาตฺตึสวรลกฺขโณ;

พฺยามปฺปภาปริวุโต, รํสิชาลสโมตฺถโฏ.

‘‘อสฺสาเสตา ยถา จนฺโท, สูริโยว ปภงฺกโร;

นิพฺพาเปตา ยถา เมโฆ, สาคโรว คุณากโร.

‘‘ธรณีริว สีเลน, หิมวาว สมาธินา;

อากาโส วิย ปฺาย, อสงฺโค อนิโล ยถา.

‘‘ตทาหํ พาราณสิยํ, อุปปนฺโน มหากุเล;

ปหูตธนธฺสฺมึ, นานารตนสฺจเย.

‘‘มหตา ปริวาเรน, นิสินฺนํ โลกนายกํ;

อุเปจฺจ ธมฺมมสฺโสสึ, อมตํว มโนหรํ.

‘‘ทฺวตฺตึสลกฺขณธโร, สนกฺขตฺโตว จนฺทิมา;

อนุพฺยฺชนสมฺปนฺโน, สาลราชาว ผุลฺลิโต.

‘‘รํสิชาลปริกฺขิตฺโต, ทิตฺโตว กนกาจโล;

พฺยามปฺปภาปริวุโต, สตรํสี ทิวากโร.

‘‘โสณฺณานโน ชินวโร, สมณีว สิลุจฺจโย;

กรุณาปุณฺณหทโย, คุเณน วิย สาคโร.

‘‘โลกวิสฺสุตกิตฺติ จ, สิเนรูว นคุตฺตโม;

ยสสา วิตฺถโต วีโร, อากาสสทิโส มุนิ.

‘‘อสงฺคจิตฺโต สพฺพตฺถ, อนิโล วิย นายโก;

ปติฏฺา สพฺพภูตานํ, มหีว มุนิสตฺตโม.

‘‘อนุปลิตฺโต โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา;

กุวาทคจฺฉทหโน, อคฺคิกฺขนฺโธว โสภติ.

‘‘อคโท วิย สพฺพตฺถ, กิเลสวิสนาสโก;

คนฺธมาทนเสโลว, คุณคนฺธวิภูสิโต.

‘‘คุณานํ อากโร วีโร, รตนานํว สาคโร;

สินฺธูว วนราชีนํ, กิเลสมลหารโก.

‘‘วิชยีว มหาโยโธ, มารเสนาวมทฺทโน;

จกฺกวตฺตีว โส ราชา, โพชฺฌงฺครตนิสฺสโร.

‘‘มหาภิสกฺกสงฺกาโส, โทสพฺยาธิติกิจฺฉโก;

สลฺลกตฺโต ยถา เวชฺโช, ทิฏฺิคณฺฑวิผาลโก.

‘‘โส ตทา โลกปชฺโชโต, สนรามรสกฺกโต;

ปริสาสุ นราทิจฺโจ, ธมฺมํ เทสยเต ชิโน.

‘‘ทานํ ทตฺวา มหาโภโค, สีเลน สุคตูปโค;

ภาวนาย จ นิพฺพาติ, อิจฺเจวมนุสาสถ.

‘‘เทสนํ ตํ มหสฺสาทํ, อาทิมชฺฌนฺตโสภนํ;

สุณนฺติ ปริสา สพฺพา, อมตํว มหารสํ.

‘‘สุตฺวา สุมธุรํ ธมฺมํ, ปสนฺโน ชินสาสเน;

สุคตํ สรณํ คนฺตฺวา, ยาวชีวํ นมสฺสหํ.

‘‘มุนิโน คนฺธกุฏิยา, โอปุฺเชสึ ตทา มหึ;

จตุชฺชาเตน คนฺเธน, มาเส อฏฺ ทิเนสฺวหํ.

‘‘ปณิธาย สุคนฺธตฺตํ, สรีรวิสฺสคนฺธิโน;

ตทา ชิโน วิยากาสิ, สุคนฺธตนุลาภิตํ.

‘‘โย ยํ คนฺธกุฏิภูมึ, คนฺเธโนปุฺชเต สกึ;

เตน กมฺมวิปาเกน, อุปปนฺโน ตหึ ตหึ.

‘‘สุคนฺธเทโห สพฺพตฺถ, ภวิสฺสติ อยํ นโร;

คุณคนฺธยุตฺโต หุตฺวา, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาโต วิปฺปกุเล อหํ;

คพฺภํ เม วสโต มาตา, เทเหนาสิ สุคนฺธิตา.

‘‘ยทา จ มาตุกุจฺฉิมฺหา, นิกฺขมามิ ตทา ปุรี;

สาวตฺถิ สพฺพคนฺเธหิ, วาสิตา วิย วายถ.

‘‘ปุปฺผวสฺสฺจ สุรภิ, ทิพฺพคนฺธํ มโนรมํ;

ธูปานิ จ มหคฺฆานิ, อุปวายึสุ ตาวเท.

‘‘เทวา จ สพฺพคนฺเธหิ, ธูปปุปฺเผหิ ตํ ฆรํ;

วาสยึสุ สุคนฺเธน, ยสฺมึ ชาโต อหํ ฆเร.

‘‘ยทา จ ตรุโณ ภทฺโท, ปเม โยพฺพเน ิโต;

ตทา เสลํ สปริสํ, วิเนตฺวา นรสารถิ.

‘‘เตหิ สพฺเพหิ ปริวุโต, สาวตฺถิปุรมาคโต;

ตทา พุทฺธานุภาวํ ตํ, ทิสฺวา ปพฺพชิโต อหํ.

‘‘สีลํ สมาธิปฺฺจ, วิมุตฺติฺจ อนุตฺตรํ;

ภาเวตฺวา จตุโร ธมฺเม, ปาปุณึ อาสวกฺขยํ.

‘‘ยทา ปพฺพชิโต จาหํ, ยทา จ อรหา อหุํ;

นิพฺพายิสฺสํ ยทา จาหํ, คนฺธวสฺโส ตทา อหุ.

‘‘สรีรคนฺโธ จ สทาติเสติ เม, มหารหํ จนฺทนจมฺปกุปฺปลํ;

ตเถว คนฺเธ อิตเร จ สพฺพโส, ปสยฺห วายามิ ตโต ตหึ ตหึ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ อตฺตกิลมถานุโยคํ ทุกฺขํ, สาสเน ปพฺพชิตฺวา ปตฺตํ ฌานาทิสุขฺจ จินฺเตตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺติปจฺจเวกฺขณมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๓๒๐.

‘‘อโยเค ยุฺชมตฺตานํ, ปุริโส กิจฺจมิจฺฉโก;

จรํ เจ นาธิคจฺเฉยฺย, ตํ เม ทุพฺภคลกฺขณํ.

๓๒๑.

‘‘อพฺพูฬฺหํ อฆคตํ วิชิตํ, เอกฺเจ โอสฺสเชยฺย กลีว สิยา;

สพฺพานิปิ เจ โอสฺสเชยฺย อนฺโธว สิยา, สมวิสมสฺส อทสฺสนโต.

๓๒๒.

‘‘ยฺหิ กยิรา ตฺหิ วเท, ยํ น กยิรา น ตํ วเท;

อกโรนฺตํ ภาสมานํ, ปริชานนฺติ ปณฺฑิตา.

๓๒๓.

‘‘ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ, วณฺณวนฺตํ อคนฺธกํ;

เอวํ สุภาสิตา วาจา, อผลา โหติ อกุพฺพโต.

๓๒๔.

‘‘ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ, วณฺณวนฺตํ สุคนฺธกํ;

เอวํ สุภาสิตา วาจา, สผลา โหติ กุพฺพโต’’ติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อโยเคติ อยุฺชิตพฺเพ อเสวิตพฺเพ อนฺตทฺวเย. อิธ ปน อตฺตกิลมถานุโยควเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยุฺชนฺติ ตสฺมึ อตฺตานํ ยุฺชนฺโต โยเชนฺโต ตถา ปฏิปชฺชนฺโต. กิจฺจมิจฺฉโกติ อุภยหิตาวหํ กิจฺจํ อิจฺฉนฺโต, ตปฺปฏิปกฺขโต อโยเค จรํ จรนฺโต เจ ภเวยฺย. นาธิคจฺเฉยฺยาติ ยถาธิปฺเปตํ หิตสุขํ น ปาปุเณยฺยาติ าโย. ตสฺมา ยํ อหํ ติตฺถิยมตวฺจิโต อโยเค ยุฺชึ, ตํ เม ทุพฺภคลกฺขณํ อปุฺสภาโว. ‘‘ปุริมกมฺมพฺยาโมหิโต อโยเค ยุฺชิ’’นฺติ ทสฺเสติ.

อพฺพูฬฺหํ อฆคตํ วิชิตนฺติ วิพาธนสภาวตาย อฆา นาม ราคาทโย, อฆานิ เอว อฆคตํ, อฆคตานํ วิชิตํ สํสารปฺปวตฺติ, เตสํ วิชโย กุสลธมฺมาภิภโว. ‘‘อฆคตํ วิชิต’’นฺติ อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา วุตฺตํ. ตํ อพฺพูฬฺหํ อนุทฺธตํ เยน, ตํ อพฺพูฬฺหาฆคตํ วิชิตํ กตฺวา เอวํภูโต หุตฺวา, กิเลเส อสมุจฺฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. เอกฺเจ โอสฺสเชยฺยาติ อทุติยตาย ปธานตาย จ เอกํ อปฺปมาทํ สมฺมาปโยคเมว วา โอสฺสเชยฺย ปริจฺจเชยฺย เจ. กลีว โส ปุคฺคโล กาฬกณฺณี วิย สิยา. สพฺพานิปิ เจ โอสฺสเชยฺยาติ สพฺพานิปิ วิมุตฺติยา ปริปาจกานิ สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺินฺทฺริยานิ โอสฺสเชยฺย เจ, อภาวนาย ฉฑฺเฑยฺย เจ, อนฺโธว สิยา สมวิสมสฺส อทสฺสนโต.

ยถาติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนตฺเถ นิปาโต. รุจิรนฺติ โสภนํ. วณฺณวนฺตนฺติ วณฺณสณฺานสมฺปนฺนํ. อคนฺธกนฺติ คนฺธรหิตํ ปาลิภทฺทกคิริกณฺณิกชยสุมนาทิเภทํ. เอวํ สุภาสิตา วาจาติ สุภาสิตา วาจา นาม เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ วณฺณสณฺานสมฺปนฺนปุปฺผสทิสํ. ยถา หิ อคนฺธกํ ปุปฺผํ ธาเรนฺตสฺส สรีเร คนฺโธ น ผรติ, เอวํ เอตมฺปิ โย สกฺกจฺจสวนาทีหิ จ สมาจรติ, ตสฺส สกฺกจฺจํ อสมาจรนฺตสฺส ยํ ตตฺถ กตฺตพฺพํ, ตํ อกุพฺพโต สุตคนฺธํ ปฏิปตฺติคนฺธฺจ น อาวหติ อผลา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ สุภาสิตา วาจา, อผลา โหติ อกุพฺพโต’’ติ.

สุคนฺธกนฺติ สุมนจมฺปกนีลุปฺปลปุปฺผาทิเภทํ. เอวนฺติ ยถา ตํ ปุปฺผํ ธาเรนฺตสฺส สรีเร คนฺโธ ผรติ, เอวํ เตปิฏกพุทฺธวจนสงฺขาตา สุภาสิตา วาจาปิ โย สกฺกจฺจสวนาทีหิ ตตฺถ กตฺตพฺพํ กโรติ, อสฺส ปุคฺคลสฺส สผลา โหติ, สุตคนฺธปฏิปตฺติคนฺธานํ อาวหนโต มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ตสฺมา ยโถวาทํ ปฏิปชฺเชยฺย, ยถาการี ตถาวาที จ ภเวยฺยาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

สุภูตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. คิริมานนฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา

วสฺสติ เทโวติอาทิกา อายสฺมโต คิริมานนฺทตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต สุเมธสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ฆราวาสํ วสนฺโต อตฺตโน ภริยาย ปุตฺเต จ กาลงฺกเต โสกสลฺลสมปฺปิโต อรฺํ ปวิฏฺโ สตฺถารา ตตฺถ คนฺตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา โสกสลฺเล อพฺพูฬฺเห ปสนฺนมานโส สุคนฺธปุปฺเผหิ ปูเชตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา สิรสิ อฺชลึ กตฺวา อภิตฺถวิ.

โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พิมฺพิสารรฺโ ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, คิริมานนฺโทติสฺส นามํ อโหสิ. โส วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถุ ราชคหคมเน พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโต กติปยํ ทิวสํ คามกาวาเส วสิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตุํ ราชคหํ อคมาสิ. พิมฺพิสารมหาราชา ตสฺส อาคมนํ สุตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิเธว, ภนฺเต, วสถ, อหํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหามี’’ติ สมฺปวาเรตฺวา คโต พหุกิจฺจตาย น สริ. ‘‘เถโร อพฺโภกาเส วสตี’’ติ เทวตา เถรสฺส เตมนภเยน วสฺสํ วาเรสุํ. ราชา อวสฺสนการณํ สลฺลกฺเขตฺวา เถรสฺส กุฏิกํ การาเปสิ. เถโร กุฏิกายํ วสนฺโต เสนาสนสปฺปายลาเภน สมาธานํ ลภิตฺวา วีริยสมตํ โยเชตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๔๐.๔๑๙-๔๔๘) –

‘‘ภริยา เม กาลงฺกตา, ปุตฺโต สิวถิกํ คโต;

มาตา ปิตา มตา ภาตา, เอกจิตมฺหิ ฑยฺหเร.

‘‘เตน โสเกน สนฺตตฺโต, กิโส ปณฺฑุ อโหสหํ;

จิตฺตกฺเขโป จ เม อาสิ, เตน โสเกน อฏฺฏิโต.

‘‘โสกสลฺลปเรโตหํ, วนนฺตมุปสงฺกมึ;

ปวตฺตผลํ ภุฺชิตฺวา, รุกฺขมูเล วสามหํ.

‘‘สุเมโธ นาม สมฺพุทฺโธ, ทุกฺขสฺสนฺตกโร ชิโน;

มมุทฺธริตุกาโม โส, อาคฺฉิ มม สนฺติกํ.

‘‘ปทสทฺทํ สุณิตฺวาน, สุเมธสฺส มเหสิโน;

ปคฺคเหตฺวานหํ สีสํ, อุลฺโลเกสึ มหามุนึ.

‘‘อุปาคเต มหาวีเร, ปีติ เม อุทปชฺชถ;

ตทาสิเมกคฺคมโน, ทิสฺวา ตํ โลกนายกํ.

‘‘สตึ ปฏิลภิตฺวาน, ปณฺณมุฏฺิมทาสหํ;

นิสีทิ ภควา ตตฺถ, อนุกมฺปาย จกฺขุมา.

‘‘นิสชฺช ตตฺถ ภควา, สุเมโธ โลกนายโก;

ธมฺมํ เม กถยี พุทฺโธ, โสกสลฺลวิโนทนํ.

‘‘อนวฺหิตา ตโต อาคุํ, อนนุฺาตา อิโต คตา;

ยถาคตา ตถา คตา, ตตฺถ กา ปริเทวนา.

‘‘ยถาปิ ปถิกา สตฺตา, วสฺสมานาย วุฏฺิยา;

สภณฺฑา อุปคจฺฉนฺติ, วสฺสสฺสาปตนาย เต.

‘‘วสฺเส จ เต โอรมิเต, สมฺปยนฺติ ยทิจฺฉกํ;

เอวํ มาตา ปิตา ตุยฺหํ, ตตฺถ กา ปริเทวนา.

‘‘อาคนฺตุกา ปาหุนกา, จลิเตริตกมฺปิตา;

เอวํ มาตา ปิตา ตุยฺหํ, ตตฺถ กา ปริเทวนา.

‘‘ยถาปิ อุรโค ชิณฺณํ, หิตฺวา คจฺฉติ สํ ตจํ;

เอวํ มาตา ปิตา ตุยฺหํ, สํ ตนุํ อิธ หียเร.

‘‘พุทฺธสฺส คิรมฺาย, โสกสลฺลํ วิวชฺชยึ;

ปาโมชฺชํ ชนยิตฺวาน, พุทฺธเสฏฺํ อวนฺทหํ.

‘‘วนฺทิตฺวาน มหานาคํ, ปูชยึ คิริมฺชรึ;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตํ, สุเมธํ โลกนายกํ.

‘‘ปูชยิตฺวาน สมฺพุทฺธํ, สิเร กตฺวาน อฺชลึ;

อนุสฺสรํ คุณคฺคานิ, สนฺถวึ โลกนายกํ.

‘‘นิตฺติณฺโณสิ มหาวีร, สพฺพฺุ โลกนายก;

สพฺเพ สตฺเต อุทฺธรสิ, าเณน ตฺวํ มหามุเน.

‘‘วิมตึ ทฺเวฬฺหกํ วาปิ, สฺฉินฺทสิ มหามุเน;

ปฏิปาเทสิ เม มคฺคํ, ตว าเณน จกฺขุม.

‘‘อรหา วสิปตฺตา จ, ฉฬภิฺา มหิทฺธิกา;

อนฺตลิกฺขจรา ธีรา, ปริวาเรนฺติ ตาวเท.

‘‘ปฏิปนฺนา จ เสขา จ, ผลฏฺา สนฺติ สาวกา;

สุโรทเยว ปทุมา, ปุปฺผนฺติ ตว สาวกา.

‘‘มหาสมุทฺโทวกฺโขโภ, อตุโลปิ ทุรุตฺตโร;

เอวํ าเณน สมฺปนฺโน, อปฺปเมยฺโยสิ จกฺขุม.

‘‘วนฺทิตฺวาหํ โลกชินํ, จกฺขุมนฺตํ มหายสํ;

ปุถุทิสา นมสฺสนฺโต, ปฏิกุฏิโก อาคฺฉหํ.

‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, สมฺปชาโน ปติสฺสโต;

โอกฺกมึ มาตุยา กุจฺฉึ, สนฺธาวนฺโต ภวาภเว.

‘‘อคารา อภินิกฺขมฺม, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

อาตาปี นิปโก ฌายี, ปฏิสลฺลานโคจโร.

‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน, โตสยิตฺวา มหามุนึ;

จนฺโทวพฺภฆนา มุตฺโต, วิจรามิ อหํ สทา.

‘‘วิเวกมนุยุตฺโตมฺหิ, อุปสนฺโต นิรูปธิ;

สพฺพาสเว ปริฺาย, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘ตึสกปฺปสหสฺสมฺหิ, ยํ พุทฺธมภิปูชยึ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ เถรสฺส อรหตฺตปฺปตฺติยา หฏฺตุฏฺเ วิย เทเว วสฺสนฺเต อุปริ ตํ วสฺสเน นิโยชนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๓๒๕.

‘‘วสฺสติ เทโว ยถาสุคีตํ, ฉนฺนา เม กุฏิกา สุขา นิวาตา;

ตสฺสํ วิหรามิ วูปสนฺโต, อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทว.

๓๒๖.

‘‘วสฺสติ เทโว ยถาสุคีตํ, ฉนฺนา เม กุฏิกา สุขา นิวาตา;

ตสฺสํ วิหรามิ สนฺตจิตฺโต, อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทว.

๓๒๗.

‘‘วสฺสติ เทโว…เป… ตสฺสํ วิหรามิ วีตราโค…เป….

๓๒๘.

‘‘วสฺสติ เทโว…เป… ตสฺสํ วิหรามิ วีตโทโส…เป….

๓๒๙.

‘‘วสฺสติ เทโว…เป… ตสฺสํ วิหรามิ วีตโมโห;

อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทวา’’ติ. – อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ยถาสุคีตนฺติ สุคีตานุรูปํ, สุนฺทรสฺส อตฺตโน เมฆคีตสฺส อนุรูปเมวาติ อตฺโถ. วลาหโก หิ ยถา อคชฺชนฺโต เกวลํ วสฺสนฺโต น โสภติ, เอวํ สตปฏลสหสฺสปฏเลน อุฏฺหิตฺวา ถนยนฺโต คชฺชนฺโต วิชฺชุลฺลตา นิจฺฉาเรนฺโตปิ อวสฺสนฺโต น โสภติ, ตถาภูโต ปน หุตฺวา วสฺสนฺโต โสภตีติ วุตฺตํ ‘‘วสฺสติ เทโว ยถาสุคีต’’นฺติ. เตนาห – ‘‘อภิตฺถนย, ปชฺชุนฺน’’, (จริยา. ๓.๘๙; ชา. ๑.๑.๗๕) ‘‘คชฺชิตา เจว วสฺสิตา จา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๐๑; ปุ. ป. ๑๕๗) จ. ตสฺสํ วิหรามีติ ตสฺสํ กุฏิกายํ อริยวิหารคพฺเภน อิริยาปถวิหาเรน วิหรามิ. วูปสนฺตจิตฺโตติ อคฺคผลสมาธินา สมฺมเทว อุปสนฺตมานโส.

เอวํ เถรสฺส อเนกวารํ กตํ อุยฺโยชนํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉนฺโต วลาหกเทวปุตฺโต นินฺนฺจ ถลฺจ ปูเรนฺโต มหาวสฺสํ วสฺสาเปสิ.

คิริมานนฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สุมนตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยํ ปตฺถยาโนติอาทิกา อายสฺมโต สุมนตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิโต ปฺจนวุเต กปฺเป พุทฺธสุฺเ โลเก กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ พฺยาธิตํ ทิสฺวา หรีตกํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสลรฏฺเ คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สุมโนติ ลทฺธนาโม สุเขน วฑฺฒิ. ตสฺส ปน มาตุโล ปพฺพชิตฺวา อรหา หุตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต สุมเน วยปฺปตฺเต ตํ ปพฺพาเชตฺวา จริตานุกูลํ กมฺมฏฺานํ อทาสิ. โส ตตฺถ โยคกมฺมํ กโรนฺโต จตฺตาริ ฌานานิ ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตสิ. อถสฺส เถโร วิปสฺสนาวิธึ อาจิกฺขิ. โส จ นจิเรเนว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๖๐-๗๑) –

‘‘หรีตกํ อามลกํ, อมฺพชมฺพุวิภีตกํ;

โกลํ ภลฺลาตกํ พิลฺลํ, สยเมว หรามหํ.

‘‘ทิสฺวาน ปพฺภารคตํ, ฌายึ ฌานรตํ มุนึ;

อาพาเธน อาปีเฬนฺตํ, อทุตียํ มหามุนึ.

‘‘หรีตกํ คเหตฺวาน, สยมฺภุสฺส อทาสหํ;

ขาทมตฺตมฺหิ เภสชฺเช, พฺยาธิ ปสฺสมฺภิ ตาวเท.

‘‘ปหีนทรโถ พุทฺโธ, อนุโมทมกาสิ เม;

เภสชฺชทาเนนิมินา, พฺยาธิวูปสเมน จ.

‘‘เทวภูโต มนุสฺโส วา, ชาโต วา อฺชาติยา;

สพฺพตฺถ สุขิโต โหตุ, มา จ เต พฺยาธิมาคมา.

‘‘อิทํ วตฺวาน สมฺพุทฺโธ, สยมฺภู อปราชิโต;

นภํ อพฺภุคฺคมี ธีโร, หํสราชาว อมฺพเร.

‘‘ยโต หรีตกํ ทินฺนํ, สยมฺภุสฺส มเหสิโน;

อิมํ ชาตึ อุปาทาย, พฺยาธิ เม นุปปชฺชถ.

‘‘อยํ ปจฺฉิมโก มยฺหํ, จริโม วตฺตเต ภโว;

ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, เภสชฺชมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, เภสชฺชสฺส อิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺเต ปน ปติฏฺิโต เอกทิวสํ มาตุลตฺเถรสฺส อุปฏฺานํ อคมาสิ. ตํ เถโร อธิคมํ ปุจฺฉิ, ตํ พฺยากโรนฺโต –

๓๓๐.

‘‘ยํ ปตฺถยาโน ธมฺเมสุ, อุปชฺฌาโย อนุคฺคหิ;

อมตํ อภิกงฺขนฺตํ, กตํ กตฺตพฺพกํ มยา.

๓๓๑.

‘‘อนุปฺปตฺโต สจฺฉิกโต, สยํ ธมฺโม อนีติโห;

วิสุทฺธาโณ นิกฺกงฺโข, พฺยากโรมิ ตวนฺติเก.

๓๓๒.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

สทตฺโถ เม อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๓๓๓.

‘‘อปฺปมตฺตสฺส เม สิกฺขา, สุสฺสุตา ตว สาสเน;

สพฺเพ เม อาสวา ขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

๓๓๔.

‘‘อนุสาสิ มํ อริยวตา, อนุกมฺปิ อนุคฺคหิ;

อโมโฆ ตุยฺหโมวาโท, อนฺเตวาสิมฺหิ สิกฺขิโต’’ติ. –

อิมาหิ ปฺจหิ คาถาหิ สีหนาทํ นทนฺโต อฺํ พฺยากาสิ.

ตตฺถ ยํ ปตฺถยาโน ธมฺเมสุ, อุปชฺฌาโย อนุคฺคหิ. อมตํ อภิกงฺขนฺตนฺติ สมถวิปสฺสนาทีสุ อนวชฺชธมฺเมสุ ยํ ธมฺมํ มยฺหํ ปตฺถยนฺโต อากงฺขนฺโต อุปชฺฌาโย อมตํ นิพฺพานํ อภิกงฺขนฺตํ มํ โอวาททานวเสน อนุคฺคณฺหิ. กตํ กตฺตพฺพกํ มยาติ ตสฺส อธิคมตฺถํ กตฺตพฺพํ ปริฺาทิโสฬสวิธํ กิจฺจํ กตํ นิฏฺาปิตํ มยา.

ตโต เอว อนุปฺปตฺโต อธิคโต จตุพฺพิโธปิ มคฺคธมฺโม สจฺฉิกโต. สยํ ธมฺโม อนีติโหติ สยํ อตฺตนาเยว นิพฺพานธมฺโม ผลธมฺโม จ อนีติโห อสนฺทิทฺโธ อตฺตปจฺจกฺโข กโต, ‘‘อิติห, อิติ กิรา’’ติ ปวตฺติยา อิติหสงฺขาตํ สํสยํ สมุจฺฉินฺทนฺโตเยว อริยมคฺโค ปวตฺตติ. เตนาห ‘‘วิสุทฺธาโณ นิกฺกงฺโข’’ติอาทิ. ตตฺถ วิสุทฺธาโณติ สพฺพสํกิเลสวิสุทฺธิยา วิสุทฺธาโณ. ตวนฺติเกติ ตว สมีเป.

สทตฺโถติ อรหตฺตํ. สิกฺขาติ อธิสีลสิกฺขาทโย. สุสฺสุตาติ ปริยตฺติพาหุสจฺจสฺส ปฏิเวธพาหุสจฺจสฺส จ ปาริปูริวเสน สุฏฺุ สุตา. ตว สาสเนติ ตว โอวาเท อนุสิฏฺิยํ ิตสฺส.

อริยวตาติ สุวิสุทฺธสีลาทิวตสมาทาเนน. อนฺเตวาสิมฺหิ สิกฺขิโตติ ตุยฺหํ สมีเป จิณฺณพฺรหฺมจริยวาสตาย อนฺเตวาสี สิกฺขิตวา สิกฺขิตอธิสีลาทิสิกฺโข อมฺหีติ.

สุมนตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วฑฺฒตฺเถรคาถาวณฺณนา

สาธู หีติอาทิกา อายสฺมโต วฑฺฒตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ภารุกจฺฉนคเร คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วฑฺโฒติ ลทฺธนาโม อนุปุพฺเพน วฑฺฒติ. อถสฺส มาตา สํสาเร สฺชาตสํเวคา ปุตฺตํ าตีนํ นิยฺยาเทตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา อปเรน สมเยน ปุตฺตมฺปิ วิฺุตํ ปตฺตํ เวฬุทนฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิโต พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก หุตฺวา คนฺถธุรํ วหนฺโต เอกทิวสํ ‘‘เอกโก สนฺตรุตฺตโรว มาตรํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อคมาสิ. ตํ ทิสฺวา มาตา ‘‘กสฺมา ตฺวํ เอกโก สนฺตรุตฺตโรว อิธาคโต’’ติ โจเทสิ. โส มาตรา โจทิยมาโน ‘‘อยุตฺตํ มยา กต’’นฺติ อุปฺปนฺนสํเวโค วิหารํ คนฺตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺโน วิปสฺสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา มาตุ โอวาทสมฺปตฺติปกาสนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๓๓๕.

‘‘สาธู หิ กิร เม มาตา, ปโตทํ อุปทํสยิ;

ยสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, อนุสิฏฺโ ชเนตฺติยา;

อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.

๓๓๖.

‘‘อรหา ทกฺขิเณยฺโยมฺหิ, เตวิชฺโช อมตทฺทโส;

เชตฺวา นมุจิโน เสนํ, วิหรามิ อนาสโว.

๓๓๗.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, เย เม วิชฺชึสุ อาสวา;

สพฺเพ อเสสา อุจฺฉินฺนา, น จ อุปฺปชฺชเร ปุน.

๓๓๘.

‘‘วิสารทา โข ภคินี, เอวมตฺถํ อภาสยิ;

อปิหา นูน มยิปิ, วนโถ เต น วิชฺชติ.

๓๓๙.

‘‘ปริยนฺตกตํ ทุกฺขํ, อนฺติโมยํ สมุสฺสโย;

ชาติมรณสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ สาธู หิ กิร เม มาตา, ปโตทํ อุปทํสยีติ สาธุ วต มาตา มยฺหํ โอวาทสงฺขาตํ ปโตทํ ทสฺเสติ, เตน เม วีริยํ อุตฺเตเชนฺตี อุตฺตมงฺเค ปฺาสีเส วิชฺฌิ. ยสฺสาติ ยสฺสา เม มาตุยา. สมฺโพธินฺติ อรหตฺตํ. อยฺเหตฺถ โยชนา – ชเนตฺติยา เม อนุสิฏฺโ ยสฺสา อนุสาสนีภูตํ วจนํ สุตฺวา อหํ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต วิหรนฺโต อุตฺตมํ อคฺคผลํ สมฺโพธึ อรหตฺตํ ปตฺโต.

ตโต เอว อารกตฺตา กิเลเสหิ อรหา ปุฺกฺเขตฺตตาย ทกฺขิเณยฺโย ทกฺขิณารโห อมฺหิ. ปุพฺเพนิวาสาณาทิวิชฺชาตฺตยสฺส อธิคตตฺตา เตวิชฺโช นิพฺพานสฺส สจฺฉิกตตฺตา อมตทฺทโส นมุจิโน มารสฺส เสนํ กิเลสวาหินึ โพธิปกฺขิยเสนาย ชินิตฺวา ตสฺส ชิตตฺตาเยว อนาสโว สุขํ วิหรามีติ.

อิทานิ ‘‘อนาสโว’’ติ วุตฺตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘อชฺฌตฺตฺจา’’ ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อชฺฌตฺตํ อชฺฌตฺตวตฺถุกา จ พหิทฺธา พหิทฺธวตฺถุกา จ อาสวา เย มยฺหํ อริยมคฺคาธิคมโต ปุพฺเพ วิชฺชึสุ อุปลพฺภึสุ, เต สพฺเพ อนวเสสา อุจฺฉินฺนา อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺนา ปหีนา ปุน ทานิ กทาจิปิ น จ อุปฺปชฺเชยฺยุํ น อุปฺปชฺชิสฺสนฺติเยวาติ.

อิทานิ มาตุ วจนํ องฺกุสํ กตฺวา อตฺตนา อรหตฺตสฺส อธิคตตฺตา มาตรํ โถเมนฺโต ‘‘วิสารทา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ วิสารทา โขติ เอกํเสน วิคตสารชฺชา. เอวํ มาตุ อตฺตโน จ อรหตฺตาธิคเมน สตฺถุ โอรสปุตฺตภาวํ อุลฺลเปนฺโต มาตรํ ‘‘ภคินี’’ติ อาห. เอตมตฺถํ อภาสยีติ เอตํ มม โอวาทภูตํ อตฺถํ อภณิ. เอวํ ปน มํ โอวทนฺตี น เกวลํ วิสารทา เอว, อถ โข อปิหา นูน มยิปิ ตว ปุตฺตเกปิ อปิหา อสนฺถวา มฺเ, กึ วา เอเตน ปริกปฺปเนน? วนโถ เต น วิชฺชติ อวิชฺชาทิโก วนโถ ตว สนฺตาเน นตฺเถว, ยา มํ ภวกฺขเย นิโยเชสีติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ‘‘ตยา นิโยชิตากาเรเนว มยา ปฏิปนฺน’’นฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริยนฺตกต’’นฺติ โอสานคาถมาห, ตสฺสตฺโถ สุวิฺเยฺโยว.

วฑฺฒตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. นทีกสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา

อตฺถาย วต เมติอาทิกา อายสฺมโต นทีกสฺสปตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อตฺตนา โรปิตสฺส อมฺพรุกฺขสฺส ปมุปฺปนฺนํ มโนสิลาวณฺณํ เอกํ อมฺพผลํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มคธรฏฺเ พฺราหฺมณกุเล อุรุเวลกสฺสปสฺส ภาตา หุตฺวา นิพฺพตฺโต. วยปฺปตฺโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ อนิจฺฉนฺโต ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตีหิ ตาปสสเตหิ สทฺธึ เนรฺชราย นทิยา ตีเร อสฺสมํ มาเปตฺวา วิหรติ. นทีตีเร วสนโต หิสฺส กสฺสปโคตฺตตาย จ นทีกสฺสโปติ สมฺา อโหสิ. ตสฺส ภควา สปริสสฺส เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปทํ อทาสิ. ตํ สพฺพํ ขนฺธเก (มหาว. ๓๖-๓๙) อาคตเมว. โส ภควโต อาทิตฺตปริยายเทสนาย (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๘๑-๘๗) –

‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

ปิณฺฑาย วิจรนฺตสฺส, ธารโต อุตฺตมํ ยสํ.

‘‘อคฺคผลํ คเหตฺวาน, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

ทกฺขิเณยฺยสฺส วีรสฺส, อทาสึ สตฺถุโน อหํ.

‘‘เตน กมฺเมน ทฺวิปทินฺท, โลกเชฏฺ นราสภ;

ปตฺโตมฺหิ อจลํ านํ, หิตฺวา ชยปราชยํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อคฺคทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺเต ปน ปติฏฺิโต อปรภาเค อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ทิฏฺิสมุคฺฆาตกิตฺตนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๓๔๐.

‘‘อตฺถาย วต เม พุทฺโธ, นทึ เนรฺชรํ อคา;

ยสฺสาหํ ธมฺมํ สุตฺวาน, มิจฺฉาทิฏฺึ วิวชฺชยึ.

๓๔๑.

‘‘ยชึ อุจฺจาวเจ ยฺเ, อคฺคิหุตฺตํ ชุหึ อหํ;

เอสา สุทฺธีติ มฺนฺโต, อนฺธภูโต ปุถุชฺชโน.

๓๔๒.

‘‘ทิฏฺิคหนปกฺขนฺโท, ปรามาเสน โมหิโต;

อสุทฺธึ มฺิสํ สุทฺธึ, อนฺธภูโต อวิทฺทสุ.

๓๔๓.

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ ปหีนา เม, ภวา สพฺเพ วิทาลิตา;

ชุหามิ ทกฺขิเณยฺยคฺคึ, นมสฺสามิ ตถาคตํ.

๓๔๔.

‘‘โมหา สพฺเพ ปหีนา เม, ภวตณฺหา ปทาลิตา;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อตฺถาย วต เมติ มยฺหํ อตฺถาย วต หิตาย วต. พุทฺโธติ สพฺพฺุพุทฺโธ. นทึ เนรฺชรํ อคาติ เนรฺชราสงฺขาตํ นทึ อคฺฉิ, ตสฺสา นทิยา ตีเร จ มม ภาตุ อุรุเวลกสฺสปสฺส อสฺสมํ อุปคโตติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ยสฺสาห’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺสาติ ยสฺส พุทฺธสฺส ภควโต. ธมฺมํ สุตฺวานาติ จตุสจฺจปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมํ สุตฺวา, โสตทฺวารานุสาเรน อุปลภิตฺวา. มิจฺฉาทิฏฺึ วิวชฺชยินฺติ ‘‘ยฺาทีหิ สุทฺธิ โหตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ วิปรีตทสฺสนํ ปชหึ.

มิจฺฉาทิฏฺึ วิวชฺชยินฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยชิ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยชึ อุจฺจาวเจ ยฺเติ ปากฏยฺเ โสมยาควาชเปยฺยาทิเก นานาวิเธ ยฺเ ยชึ. อคฺคิหุตฺตํ ชุหึ อหนฺติ เตสํ ยฺานํ ยชนวเสน อาหุตึ ปคฺคณฺหนฺโต อคฺคึ ปริจรึ. เอสา สุทฺธีติ มฺนฺโตติ เอสา ยฺกิริยา อคฺคิปาริจริยา สุทฺธิเหตุภาวโต สุทฺธิ ‘‘เอวํ เม สํสารสุทฺธิ โหตี’’ติ มฺมาโน. อนฺธภูโต ปุถุชฺชโนติ ปฺาจกฺขุเวกลฺเลน อวิชฺชนฺธตาย อนฺธภูโต ปุถุชฺชโน หุตฺวา วนคหนปพฺพตคหนาทีนิ วิย ทุรติกฺกมนฏฺเน ทิฏฺิเยว คหนํ ทิฏฺิคหนํ, ตํ ปกฺขนฺโท อนุปวิฏฺโติ ทิฏฺิคหนปกฺขนฺโท. ปรามาเสนาติ ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ ปรามสนโต ปรามาสสงฺขาเตน มิจฺฉาภินิเวเสน. โมหิโตติ มูฬฺหภาวํ ปาปิโต. อสุทฺธึ มฺิสํ สุทฺธินฺติ อสุทฺธึ มคฺคํ ‘‘สุทฺธึ มคฺค’’นฺติ มฺิสํ มฺึ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อนฺธภูโต อวิทฺทสู’’ติ. ยสฺมา อวิชฺชาย อนฺธภูโต, ตโต เอว ธมฺมาธมฺมํ ยุตฺตายุตฺตฺจ อวิทฺวา, ตสฺมา ตถา มฺินฺติ อตฺโถ.

มิจฺฉาทิฏฺิ ปหีนา เมติ เอวํภูตสฺส ปน สตฺถุ สมฺมุขา จตุสจฺจคพฺภํ ธมฺมกถํ สุตฺวา โยนิโส ปฏิปชฺชนฺตสฺส อริยมคฺคสมฺมาทิฏฺิยา สพฺพาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน มยฺหํ ปหีนา. ภวาติ กามภวาทโย สพฺเพปิ ภวา อริยมคฺคสตฺเถน วิทาลิตา วิทฺธํสิตา. ชุหามิ ทกฺขิเณยฺยคฺคินฺติ อาหวนียาทิเก อคฺคี ฉฑฺเฑตฺวา สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺยตาย สพฺพสฺส จ ปาปสฺส ทหนโต ทกฺขิเณยฺยคฺคึ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ชุหามิ ปริจรามิ. ตยิทํ มยฺหํ ทกฺขิเณยฺยคฺคิปริจรณํ ทธินวนีตมถิตสปฺปิอาทินิรเปกฺขํ สตฺถุ นมสฺสนเมวาติ อาห ‘‘นมสฺสามิ ตถาคต’’นฺติ. อถ วา ชุหามิ ทกฺขิเณยฺยคฺคินฺติ ทายกานํ ทกฺขิณาย มหปฺผลภาวกรเณน ปาปสฺส จ ทหเนน ทกฺขิเณยฺยคฺคิภูตํ อตฺตานํ ชุหามิ ปริจรามิ ตถา กตฺวา ปริจรามิ, ตถา กตฺวา ปริหรามิ. ปุพฺเพ อคฺคิเทวํ นมสฺสามิ, อิทานิ ปน นมสฺสามิ ตถาคตนฺติ.

โมหา สพฺเพ ปหีนา เมติ ทุกฺเข อฺาณาทิเภทา สพฺเพ โมหา มยฺหํ ปหีนา สมุจฺฉินฺนา, ตโต เอว ‘‘ภวตณฺหา ปทาลิตา. วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ ตีสุ ปเทสุ เม-สทฺโท อาเนตฺวา โยเชตพฺโพ.

นทีกสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. คยากสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปาโต มชฺฌนฺหิกนฺติอาทิกา อายสฺมโต คยากสฺสปตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺโต อิโต เอกตึเส กปฺเป สิขิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺายตเน อสฺสมํ กาเรตฺวา วนมูลผลาหาโร วสติ. เตน จ สมเยน ภควา เอโก อทุติโย ตสฺส อสฺสมสมีเปน คจฺฉติ. โส ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต เวลํ โอโลเกตฺวา มโนหรานิ โกลผลานิ สตฺถุ อุปเนสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ทฺวีหิ ตาปสสเตหิ สทฺธึ คยายํ วิหรติ. คยายํ วสนโต หิสฺส กสฺสปโคตฺตตาย จ คยากสฺสโปติ สมฺา อโหสิ. โส ภควตา สทฺธึ ปริสาย เอหิภิกฺขูปสมฺปทํ ทตฺวา อาทิตฺตปริยายเทสนาย (มหาว. ๕๔) โอวทิยมาโน อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๕.๘-๑๔) –

‘‘อชิเนน นิวตฺโถหํ, วากจีรธโร ตทา;

ขาริยา ปูรยิตฺวานํ, โกลํหาสึ มมสฺสมํ.

‘‘ตมฺหิ กาเล สิขี พุทฺโธ, เอโก อทุติโย อหุ;

มมสฺสมํ อุปคจฺฉิ, ชานนฺโต สพฺพกาลิกํ.

‘‘สกํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, วนฺทิตฺวาน จ สุพฺพตํ;

อุโภ หตฺเถหิ ปคฺคยฺห, โกลํ พุทฺธสฺสทาสหํ.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ผลมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, โกลทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺเต ปน ปติฏฺิโต อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาปปวาหนกิตฺตนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๓๔๕.

‘‘ปาโต มชฺฌนฺหิกํ สายํ, ติกฺขตฺตุํ ทิวสสฺสหํ;

โอตรึ อุทกํ โสหํ, คยาย คยผคฺคุยา.

๓๔๖.

‘‘ยํ มยา ปกตํ ปาปํ, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาติสุ;

ตํ ทานีธ ปวาเหมิ, เอวํทิฏฺิ ปุเร อหุํ.

๓๔๗.

‘‘สุตฺวา สุภาสิตํ วาจํ, ธมฺมตฺถสหิตํ ปทํ;

ตถํ ยาถาวกํ อตฺถํ, โยนิโส ปจฺจเวกฺขิสํ.

๓๔๘.

‘‘นินฺหาตสพฺพปาโปมฺหิ, นิมฺมโล ปยโต สุจิ;

สุทฺโธ สุทฺธสฺส ทายาโท, ปุตฺโต พุทฺธสฺส โอรโส.

๓๔๙.

‘‘โอคยฺหฏฺงฺคิกํ โสตํ, สพฺพปาปํ ปวาหยึ;

ติสฺโส วิชฺชา อชฺฌคมึ, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ปมคาถาย ตาว อยํ สงฺเขปตฺโถ – ปาโต สูริยุคฺคมนเวลายํ, มชฺฌนฺหิกํ มชฺฌนฺหเวลายํ, สายํ สายนฺหเวลายนฺติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ตโย วาเร อหํ อุทกํ โอตรึ โอคาหึ. โอตรนฺโต จ โสหํ น ยตฺถ กตฺถจิ ยทา วา ตทา วา โอตรึ, อถ โข คยาย มหาชนสฺส ‘‘ปาปปวาหน’’นฺติ อภิสมฺมเต คยาติตฺเถ, คยผคฺคุยา คยาผคฺคุนามเก ผคฺคุนีมาสสฺส อุตฺตรผคฺคุนีนกฺขตฺเต อนุสํวจฺฉรํ อุทโกโรหนมนุยุตฺโต อโหสินฺติ.

อิทานิ ตทา เยนาธิปฺปาเยน อุทโกโรหนมนุยุตฺตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ มยา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ยํ มยา ปุพฺเพ อิโต อฺาสุ ชาตีสุ ปาปกมฺมํ อุปจิตํ. ตํ อิทานิ อิธ คยาติตฺเถ อิมิสฺสา จ คยาผคฺคุยา อิมินา อุทโกโรหเนน ปวาเหมิ อปเนมิ วิกฺขาเลมี’’ติ. ปุเร สตฺถุ สาสนุปคมนโต ปุพฺเพ เอวํทิฏฺิ เอวรูปวิปรีตทสฺสโน อหุํ อโหสึ.

ธมฺมตฺถสหิตํ ปทนฺติ วิภตฺติอโลเปน นิทฺเทโส. ธมฺเมน จ อตฺเถน จ สหิตโกฏฺาสํ, อาทิโต มชฺฌโต ปริโยสานโต จ ธมฺมูปสํหิตํ อตฺถูปสํหิตํ สุฏฺุ เอกนฺเตน นิยฺยานิกํ กตฺวา ภาสิตํ วาจํ สมฺมาสมฺพุทฺธวจนํ สุตฺวา เตน ปกาสิตํ ปรมตฺถภาเวน ตจฺฉภาวโต ตถํ ยถารหํ ปวตฺตินิวตฺติอุปายภาเว พฺยภิจาราภาวโต ยาถาวกํ ทุกฺขาทิอตฺถํ โยนิโส อุปาเยน ปริฺเยฺยาทิภาเวน ปจฺจเวกฺขิสํ ‘‘ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ, สมุทโย ปหาตพฺโพ, นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ, มคฺโค ภาเวตพฺโพ’’ติ ปติอเวกฺขึ, าณจกฺขุนา ปสฺสึ ปฏิวิชฺฌินฺติ อตฺโถ.

นินฺหาตสพฺพปาโปมฺหีติ เอวํ ปฏิวิทฺธสจฺจตฺตา เอว อริยมคฺคชเลน วิกฺขาลิตสพฺพปาโป อมฺหิ. ตโต เอว ราคมลาทีนํ อภาเวน นิมฺมลตฺตา นิมฺมโล. ตโต เอว ปริสุทฺธกายสมาจารตาย ปริสุทฺธวจีสมาจารตาย ปริสุทฺธมโนสมาจารตาย ปยโต สุจิ สุทฺโธ. สวาสนสพฺพกิเลสมลวิสุทฺธิยา สุทฺธสฺส พุทฺธสฺส ภควโต โลกุตฺตรธมฺมทายสฺส อาทิยนโต ทายาโท. ตสฺเสว เทสนาาณสมุฏฺานอุโรวายามชนิตาภิชาติตาย โอรโส ปุตฺโต อมฺหีติ โยชนา.

ปุนปิ อตฺตโน ปรมตฺถโต นฺหาตกภาวเมว วิภาเวตุํ ‘‘โอคยฺหา’’ติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ โอคยฺหาติ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา. อฏฺงฺคิกํ โสตนฺติ สมฺมาทิฏฺิอาทีหิ อฏฺงฺคสโมธานภูตํ มคฺคโสตํ. สพฺพปาปํ ปวาหยินฺติ อนวเสสํ ปาปมลํ ปกฺขาเลสึ, อริยมคฺคชลปวาหเนน ปรมตฺถนฺหาตโก อโหสึ. ตโต เอว ติสฺโส วิชฺชา อชฺฌคมึ, กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺติ วุตฺตตฺถเมว.

คยากสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วกฺกลิตฺเถรคาถาวณฺณนา

วาตโรคาภินีโตติอาทิกา อายสฺมโต วกฺกลิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉนฺเตหิ อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ิโต ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สทฺธาธิมุตฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านํ ปตฺเถนฺโต สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถา ตสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา พฺยากริ.

โสปิ ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ สตฺถุ กาเล สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, วกฺกลีติสฺส นามํ อกํสุ. โส วุทฺธิปฺปตฺโต ตโย เวเท อุคฺคณฺหิตฺวา พฺราหฺมณสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต สตฺถารํ ทิสฺวา รูปกายสฺส สมฺปตฺติทสฺสเนน อติตฺโต สตฺถารา สทฺธึเยว วิจรติ. ‘‘อคารมชฺเฌ วสนฺโต นิจฺจกาลํ สตฺถารํ ทฏฺุํ น ลภิสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา เปตฺวา โภชนเวลํ สรีรกิจฺจกาลฺจ เสสกาเล ยตฺถ ิเตน สกฺกา ทสพลํ ปสฺสิตุํ, ตตฺถ ิโต อฺํ กิจฺจํ ปหาย ภควนฺตํ โอโลเกนฺโตว วิหรติ. สตฺถา ตสฺส าณปริปากํ อาคเมนฺโต พหุกาลํ ตสฺมึ รูปทสฺสเนเนว วิจรนฺเต กิฺจิ อวตฺวา ปุเนกทิวสํ ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน? โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสติ. โย มํ ปสฺสติ, โส ธมฺมํ ปสฺสติ. ธมฺมฺหิ, วกฺกลิ, ปสฺสนฺโต มํ ปสฺสติ, มํ ปสฺสนฺโต ธมฺมํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗) อาห.

สตฺถริ เอวํ วทนฺเตปิ เถโร สตฺถุ ทสฺสนํ ปหาย อฺตฺถ คนฺตุํ น สกฺโกติ. ตโต สตฺถา ‘‘นายํ ภิกฺขุ สํเวคํ อลภิตฺวา พุชฺฌิสฺสตี’’ติ วสฺสูปนายิกทิวเส ‘‘อเปหิ, วกฺกลี’’ติ เถรํ ปณาเมสิ. โส สตฺถารา ปณามิโต สมฺมุเข าตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘กึ มยฺหํ ชีวิเตน, โยหํ สตฺถารํ ทฏฺุํ น ลภามี’’ติ คิชฺฌกูฏปพฺพเต ปปาตฏฺานํ อภิรุหิ. สตฺถา ตสฺส ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘อยํ ภิกฺขุ มม สนฺติกา อสฺสาสํ อลภนฺโต มคฺคผลานํ อุปนิสฺสยํ นาเสยฺยา’’ติ อตฺตานํ ทสฺเสตุํ โอภาสํ วิสฺสชฺเชนฺโต –

‘‘ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน;

อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๘๑) –

คาถํ วตฺวา ‘‘เอหิ, วกฺกลี’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. เถโร ‘‘ทสพโล เม ทิฏฺโ, ‘เอหี’ติ อวฺหานมฺปิ ลทฺธ’’นฺติ พลวปีติโสมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘กุโต อาคจฺฉามี’’ติ อตฺตโน คมนภาวํ อชานิตฺวา สตฺถุ สมฺมุเข อากาเส ปกฺขนฺทนฺโต ปมปาเทน ปพฺพเต ิโตเยว สตฺถารา วุตฺตคาถํ อาวชฺเชนฺโต อากาเสเยว ปีตึ วิกฺขมฺเภตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณีติ องฺคุตฺตรฏฺกถายํ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๐๘) ธมฺมปทวณฺณนายฺจ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๓๘๑) อาคตํ.

อิธ ปน เอวํ วทนฺติ – ‘‘กึ เต, วกฺกลี’’ติอาทินา สตฺถารา โอวทิโต คิชฺฌกูเฏ วิหรนฺโต วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ, ตสฺส สทฺธาย พลวภาวโต เอว วิปสฺสนา วีถึ น โอตรติ, ภควา ตํ ตฺวา กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อทาสิ. ปุน วิปสฺสนํ มตฺถกํ ปาเปตุํ นาสกฺขิเยว, อถสฺส อาหารเวกลฺเลน วาตาพาโธ อุปฺปชฺชิ, ตํ วาตาพาเธน ปีฬิยมานํ ตฺวา ภควา ตตฺถ คนฺตฺวา ปุจฺฉนฺโต –

๓๕๐.

‘‘วาตโรคาภินีโต ตฺวํ, วิหรํ กานเน วเน;

ปวิทฺธโคจเร ลูเข, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติ. –

อาห. ตํ สุตฺวา เถโร –

๓๕๑.

‘‘ปีติสุเขน วิปุเลน, ผรมาโน สมุสฺสยํ;

ลูขมฺปิ อภิสมฺโภนฺโต, วิหริสฺสามิ กานเน.

๓๕๒.

‘‘ภาเวนฺโต สติปฏฺาเน, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;

โพชฺฌงฺคานิ จ ภาเวนฺโต, วิหริสฺสามิ กานเน.

๓๕๓.

‘‘อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเม;

สมคฺเค สหิเต ทิสฺวา, วิหริสฺสามิ กานเน.

๓๕๔.

‘‘อนุสฺสรนฺโต สมฺพุทฺธํ, อคฺคํ ทนฺตํ สมาหิตํ;

อตนฺทิโต รตฺตินฺทิวํ, วิหริสฺสามิ กานเน’’ติ. –

จตสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ วาตโรคาภินีโตติ วาตาพาเธน อเสริภาวํ อุปนีโต, วาตพฺยาธินา อภิภูโต. ตฺวนฺติ เถรํ อาลปติ. วิหรนฺติ เตน อิริยาปถวิหาเรน วิหรนฺโต. กานเน วเนติ กานนภูเต วเน, มหาอรฺเติ อตฺโถ. ปวิทฺธโคจเรติ วิสฺสฏฺโคจเร ทุลฺลภปจฺจเย. วาตโรคสฺส สปฺปายานํ สปฺปิอาทิเภสชฺชานํ อภาเวน ผรุสภูมิภาคตาย จ ลูเข ลูขฏฺาเน. กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสีติ ภิกฺขุ ตฺวํ กถํ วิหริสฺสสีติ ภควา ปุจฺฉิ.

ตํ สุตฺวา เถโร นิรามิสปีติโสมนสฺสาทินา อตฺตโน สุขวิหารํ ปกาเสนฺโต ‘‘ปีติสุเขนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปีติสุเขนาติ อุพฺเพคลกฺขณาย ผรณลกฺขณาย จ ปีติยา ตํสมฺปยุตฺตสุเขน จ. เตนาห ‘‘วิปุเลนา’’ติ อุฬาเรนาติ อตฺโถ. ผรมาโน สมุสฺสยนฺติ ยถาวุตฺตปีติสุขสมุฏฺิเตหิ ปณีเตหิ รูเปหิ สกลํ กายํ ผราเปนฺโต นิรนฺตรํ ผุฏํ กโรนฺโต. ลูขมฺปิ อภิสมฺโภนฺโตติ อรฺาวาสชนิตํ สลฺเลขวุตฺติเหตุกํ ทุสฺสหมฺปิ ปจฺจยลูขํ อภิภวนฺโต อธิวาเสนฺโต. วิหริสฺสามิ กานเนติ ฌานสุเขน วิปสฺสนาสุเขน จ อรฺายตเน วิหริสฺสามีติ อตฺโถ. เตนาห – ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสิ’’นฺติ (ปารา. ๑๑).

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ จ. (ธ. ป. ๓๗๔);

ภาเวนฺโต สติปฏฺาเนติ มคฺคปริยาปนฺเน กายานุปสฺสนาทิเก จตฺตาโร สติปฏฺาเน อุปฺปาเทนฺโต วฑฺเฒนฺโต จ. อินฺทฺริยานีติ มคฺคปริยาปนฺนานิ เอว สทฺธาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ. พลานีติ ตถา สทฺธาทีนิ ปฺจ พลานิ. โพชฺฌงฺคานีติ ตถา สติสมฺโพชฺฌงฺคาทีนิ สตฺต โพชฺฌงฺคานิ. -สทฺเทน สมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทมคฺคงฺคานิ สงฺคณฺหาติ. ตทวินาภาวโต หิ ตคฺคหเณเนว เตสํ คหณํ โหติ. วิหริสฺสามีติ ยถาวุตฺเต โพธิปกฺขิยธมฺเม ภาเวนฺโต มคฺคสุเขน ตทธิคมสิทฺเธน ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วิหริสฺสามิ.

อารทฺธวีริเยติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวเสน ปคฺคหิตวีริเย. ปหิตตฺเตติ นิพฺพานํ ปติเปสิตจิตฺเต. นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเมติ สพฺพกาลํ อสิถิลวีริเย. อวิวาทวเสน กายสามคฺคิทานวเสน จ สมคฺเค. ทิฏฺิสีลสามฺเน สหิเต สพฺรหฺมจารี ทิสฺวา. เอเตน กลฺยาณมิตฺตสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ.

อนุสฺสรนฺโต สมฺพุทฺธนฺติ สมฺมา สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธํ สพฺพสตฺตุตฺตมตาย, อคฺคํ อุตฺตเมน ทมเถน ทนฺตํ, อนุตฺตรสมาธินา สมาหิตํ อตนฺทิโต อนลโส หุตฺวา, รตฺตินฺทิวํ สพฺพกาลํ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทินา อนุสฺสรนฺโต วิหริสฺสามิ. เอเตน พุทฺธานุสฺสติภาวนาย ยุตฺตาการทสฺสเนน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานานุโยคมาห, ปุริเมน ปาริหาริยกมฺมฏฺานานุโยคํ.

เอวํ ปน วตฺวา เถโร วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๔.๒๘-๖๕) –

‘‘อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก;

อโนมนาโม อมิโต, นาเมน ปทุมุตฺตโร.

‘‘ปทุมาการวทโน, ปทุมามลสุจฺฉวี;

โลเกนานุปลิตฺโตว, โตเยน ปทุมํ ยถา.

‘‘วีโร ปทุมปตฺตกฺโข, กนฺโต จ ปทุมํ ยถา;

ปทุมุตฺตรคนฺโธว, ตสฺมา โส ปทุมุตฺตโร.

‘‘โลกเชฏฺโ จ นิมฺมาโน, อนฺธานํ นยนูปโม;

สนฺตเวโส คุณนิธิ, กรุณามติสาคโร.

‘‘ส กทาจิ มหาวีโร, พฺรหฺมาสุรสุรจฺจิโต;

สเทวมนุชากิณฺเณ, ชนมชฺเฌ ชินุตฺตโม.

‘‘วทเนน สุคนฺเธน, มธุเรน รุเตน จ;

รฺชยํ ปริสํ สพฺพํ, สนฺถวี สาวกํ สกํ.

‘‘สทฺธาธิมุตฺโต สุมติ, มม ทสฺสนลาลโส;

นตฺถิ เอตาทิโส อฺโ, ยถายํ ภิกฺขุ วกฺกลิ.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, นคเร พฺราหฺมณตฺรโช;

หุตฺวา สุตฺวา จ ตํ วากฺยํ, ตํ านมภิโรจยึ.

‘‘สสาวกํ ตํ วิมลํ, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;

สตฺตาหํ โภชยิตฺวาน, ทุสฺเสหจฺฉาทยึ ตทา.

‘‘นิปจฺจ สิรสา ตสฺส, อนนฺตคุณสาคเร;

นิมุคฺโค ปีติสมฺปุณฺโณ, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘โย โส ตยา สนฺถวิโต, อิโต สตฺตมเก มุนิ;

ภิกฺขุ สทฺธาวตํ อคฺโค, ตาทิโส โหมหํ มุเน.

‘‘เอวํ วุตฺเต มหาวีโร, อนาวรณทสฺสโน;

อิมํ วากฺยํ อุทีเรสิ, ปริสาย มหามุนิ.

‘‘ปสฺสเถตํ มาณวกํ, ปีตมฏฺนิวาสนํ;

เหมยฺโปจิตงฺคํ, ชนเนตฺตมโนหรํ.

‘‘เอโส อนาคตทฺธาเน, โคตมสฺส มเหสิโน;

อคฺโค สทฺธาธิมุตฺตานํ, สาวโกยํ ภวิสฺสติ.

‘‘เทวภูโต มนุสฺโส วา, สพฺพสนฺตาปวชฺชิโต;

สพฺพโภคปริพฺยูฬฺโห, สุขิโต สํสริสฺสติ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

วกฺกลิ นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘เตน กมฺมวิเสเสน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘สพฺพตฺถ สุขิโต หุตฺวา, สํสรนฺโต ภวาภเว;

สาวตฺถิยํ ปุเร ชาโต, กุเล อฺตเร อหํ.

‘‘โนนีตสุขุมาลํ มํ, ชาตปลฺลวโกมลํ;

มนฺทํ อุตฺตานสยนํ, ปิสาจภยตชฺชิตา.

‘‘ปาทมูเล มเหสิสฺส, สาเยสุํ ทีนมานสา;

อิมํ ททาม เต นาถ, สรณํ โหหิ นายก.

‘‘ตทา ปฏิคฺคหิ โส มํ, ภีตานํ สรโณ มุนิ;

ชาลินา จกฺกงฺกิเตน, มุทุโกมลปาณินา.

‘‘ตทา ปภุติ เตนาหํ, อรกฺเขยฺเยน รกฺขิโต;

สพฺพเวรวินิมุตฺโต, สุเขน ปริวุทฺธิโต.

‘‘สุคเตน วินา ภูโต, อุกฺกณฺามิ มุหุตฺตกํ;

ชาติยา สตฺตวสฺโสหํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘สพฺพปารมิสมฺภูตํ, นีลกฺขินยนํ วรํ;

รูปํ สพฺพสุภากิณฺณํ, อติตฺโต วิหรามหํ.

‘‘พุทฺธรูปรตึ ตฺวา, ตทา โอวทิ มํ ชิโน;

อลํ วกฺกลิ กึ รูเป, รมเส พาลนนฺทิเต.

‘‘โย หิ ปสฺสติ สทฺธมฺมํ, โส มํ ปสฺสติ ปณฺฑิโต;

อปสฺสมาโน สทฺธมฺมํ, มํ ปสฺสมฺปิ น ปสฺสติ.

‘‘อนนฺตาทีนโว กาโย, วิสรุกฺขสมูปโม;

อาวาโส สพฺพโรคานํ, ปุฺโช ทุกฺขสฺส เกวโล.

‘‘นิพฺพินฺทิย ตโต รูเป, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ปสฺส อุปกฺกิเลสานํ, สุเขนนฺตํ คมิสฺสสิ.

‘‘เอวํ เตนานุสิฏฺโหํ, นายเกน หิเตสินา;

คิชฺฌกูฏํ สมารุยฺห, ฌายามิ คิริกนฺทเร.

‘‘ิโต ปพฺพตปาทมฺหิ, อสฺสาสยิ มหามุนิ;

วกฺกลีติ ชิโน วาจํ, ตํ สุตฺวา มุทิโต อหํ.

‘‘ปกฺขนฺทึ เสลปพฺภาเร, อเนกสตโปริเส;

ตทา พุทฺธานุภาเวน, สุเขเนว มหึ คโต.

‘‘ปุโนปิ ธมฺมํ เทเสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ตมหํ ธมฺมมฺาย, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘สุมหาปริสมชฺเฌ, ตทา มํ จรณนฺตโค;

อคฺคํ สทฺธาธิมุตฺตานํ, ปฺเปสิ มหามติ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโตปิ เถโร อิมา เอว คาถา อภาสิ. อถ นํ สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ นิสินฺโน สทฺธาธิมุตฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปสีติ.

วกฺกลิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วิชิตเสนตฺเถรคาถาวณฺณนา

โอลคฺเคสฺสามีติอาทิกา อายสฺมโต วิชิตเสนตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺโต อตฺถทสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ฆราวาสํ ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต อากาเสน คจฺฉนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ปสนฺนาการํ ทสฺเสนฺโต อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺส อชฺฌาสยํ ตฺวา อากาสโต โอตริ. โส ภควโต มโนหรานิ มธุรานิ ผลานิ อุปเนสิ, ปฏิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทาย. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสลรฏฺเ หตฺถาจริยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิชิตเสโนติ ลทฺธนาโม วิฺุตํ ปาปุณิ. ตสฺส มาตุลา เสโน จ อุปเสโน จาติ ทฺเว หตฺถาจริยา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา วาสธุรํ ปูเรนฺตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. วิชิตเสโนปิ หตฺถิสิปฺเป นิปฺผตฺตึ คโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาเส อลคฺคมานโส สตฺถุ ยมกปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ มาตุลตฺเถรานํ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา เตสํ โอวาทานุสาสนิยา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต วิปสฺสนาวีถึ ลงฺฆิตฺวา พหิทฺธา นานารมฺมเณ วิธาวนฺตํ อตฺตโน จิตฺตํ โอวทนฺโต –

๓๕๕.

‘‘โอลคฺเคสฺสามิ เต จิตฺต, อาณิทฺวาเรว หตฺถินํ;

น ตํ ปาเป นิโยเชสฺสํ, กามชาลํ สรีรชํ.

๓๕๖.

‘‘ตฺวํ โอลคฺโค น คจฺฉสิ, ทฺวารวิวรํ คโชว อลภนฺโต;

น จ จิตฺตกลิ ปุนปฺปุนํ, ปสกฺก ปาปรโต จริสฺสสิ.

๓๕๗.

‘‘ยถา กุฺชรํ อทนฺตํ, นวคฺคหมงฺกุสคฺคโห;

พลวา อาวตฺเตติ อกามํ, เอวํ อาวตฺตยิสฺสํ ตํ.

๓๕๘.

‘‘ยถา วรหยทมกุสโล, สารถิปวโร ทเมติ อาชฺํ;

เอวํ ทมยิสฺสํ ตํ, ปติฏฺิโต ปฺจสุ พเลสุ.

๓๕๙.

‘‘สติยา ตํ นิพนฺธิสฺสํ, ปยุตฺโต เต ทเมสฺสามิ;

วีริยธุรนิคฺคหิโต, น ยิโต ทูรํ คมิสฺสเส จิตฺตา’’ติ. –

คาถา อภาสิ.

ตตฺถ โอลคฺเคสฺสามีติ สํวริสฺสามิ นิวาเรสฺสามิ. เตติ ตํ. อุปโยคตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. เต คมนนฺติ วา วจนเสโส. หตฺถินนฺติ จ หตฺถินฺติ อตฺโถ. จิตฺตาติ อตฺตโน จิตฺตํ อาลปติ. ยถา ตํ วาเรตุกาโม, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อาณิทฺวาเรว หตฺถิน’’นฺติ อาห. อาณิทฺวารํ นาม ปาการพทฺธสฺส นครสฺส ขุทฺทกทฺวารํ, ยํ ฆฏิกาฉิทฺเท อาณิมฺหิ ปกฺขิตฺเต ยนฺเตน วินา อพฺภนฺตเร ิเตหิปิ วิวริตุํ น สกฺกา. เยน มนุสฺสควสฺสมหึสาทโย น นิคฺคนฺตุํ สกฺกา. นครโต พหิ นิคฺคนฺตุกามมฺปิ หตฺถึ ยโต ปโลเภตฺวา หตฺถาจริโย คมนํ นิวาเรสิ. อถ วา อาณิทฺวารํ นาม ปลิฆทฺวารํ. ตตฺถ หิ ติริยํ ปลิฆํ เปตฺวา รุกฺขสูจิสงฺขาตํ อาณึ ปลิฆสีเส อาวุณนฺติ. ปาเปติ รูปาทีสุ อุปฺปชฺชนกอภิชฺฌาทิปาปธมฺเม ตํ น นิโยเชสฺสํ น นิโยชิสฺสามิ. กามชาลาติ กามสฺส ชาลภูตํ. ยถา หิ มจฺฉพนฺธมิคลุทฺทานํ ชาลํ นาม มจฺฉาทีนํ เตสํ ยถากามการสาธนํ, เอวํ อโยนิโสมนสิการานุปาติตํ จิตฺตํ มารสฺส กามการสาธนํ. เตน หิ โส สตฺเต อนตฺเถสุ ปาเตติ. สรีรชาติ สรีเรสุ อุปฺปชฺชนก. ปฺจโวการภเว หิ จิตฺตํ รูปปฏิพทฺธวุตฺติตาย ‘‘สรีรช’’นฺติ วุจฺจติ.

ตฺวํ โอลคฺโค น คจฺฉสีติ ตฺวํ, จิตฺตกลิ, มยา สติปฺาปโตทองฺกุเสหิ วาริโต น ทานิ ยถารุจึ คมิสฺสสิ, อโยนิโสมนสิการวเสน ยถากามํ วตฺติตุํ น ลภิสฺสสิ. ยถา กึ? ทฺวารวิวรํ คโชว อลภนฺโต นครโต คชนิโรธโต วา นิคฺคมนาย ทฺวารวิวรกํ อลภมาโน หตฺถี วิย. จิตฺตกลีติ จิตฺตกาฬกณฺณิ. ปุนปฺปุนนฺติ อปราปรํ. ปสกฺกาติ สรณสมฺปสฺสาสวเสน. ปาปรโตติ ปาปกมฺมนิรโต ปุพฺเพ วิย อิทานิ น จริสฺสสิ ตถา จริตุํ น ทสฺสามีติ อตฺโถ.

อทนฺตนฺติ อทมิตํ หตฺถิสิกฺขํ อสิกฺขิตํ. นวคฺคหนฺติ อจิรคหิตํ. องฺกุสคฺคโหติ หตฺถาจริโย. พลวาติ กายพเลน าณพเลน จ พลวา. อาวตฺเตติ อกามนฺติ อนิจฺฉนฺตเมว นิเสธนโต นิวตฺเตติ. เอวํ อาวตฺตยิสฺสนฺติ ยถา ยถาวุตฺตํ หตฺถึ หตฺถาจริโย, เอวํ ตํ จิตฺตํ จิตฺตกลึ ทุจฺจริตนิเสธนโต นิวตฺตยิสฺสามิ.

วรหยทมกุสโลติ อุตฺตมานํ อสฺสทมฺมานํ ทมเน กุสโล. ตโต เอว สารถิปวโร อสฺสทมฺมสารถีสุ วิสิฏฺโ ทเมติ อาชฺํ อาชานียํ อสฺสทมฺมํ เทสกาลานุรูปํ สณฺหผรุเสหิ ทเมติ วิเนติ นิพฺพิเสวนํ กโรติ. ปติฏฺิโต ปฺจสุ พเลสูติ สทฺธาทีสุ ปฺจสุ พเลสุ ปติฏฺิโต หุตฺวา อสฺสทฺธิยาทินิเสธนโต ตํ ทมยิสฺสํ ทเมสฺสามีติ อตฺโถ.

สติยา ตํ นิพนฺธิสฺสนฺติ โคจรชฺฌตฺตโต พหิ คนฺตุํ อเทนฺโต สติโยตฺเตน กมฺมฏฺานถมฺเภ, จิตฺตกลิ, ตํ นิพนฺธิสฺสามิ นิยเมสฺสามิ. ปยุตฺโต เต ทเมสฺสามีติ ตตฺถ นิพนฺธนฺโต เอว ยุตฺตปฺปยุตฺโต หุตฺวา เต ทเมสฺสามิ, สํกิเลสมลโต ตํ วิโสเธสฺสามิ. วีริยธุรนิคฺคหิโตติ ยถาวุตฺโต เฉเกน สุสารถินา ยุเค โยชิโต ยุคนิคฺคหิโต ยุคนฺตรคโต ตํ นาติกฺกมติ, เอวํ ตฺวมฺปิ จิตฺต, มม วีริยธุเร นิคฺคหิโต สกฺกจฺจการิตาย สาตจฺจการิตาย อฺถา วตฺติตุํ อลภนฺโต อิโต โคจรชฺฌตฺตโต ทูรํ พหิ น คมิสฺสสิ. ภาวนานุยุตฺตสฺส หิ กมฺมฏฺานโต อฺํ อาสนฺนมฺปิ ลกฺขณโต ทูรเมวาติ เอวํ เถโร อิมาหิ คาถาหิ อตฺตโน จิตฺตํ นิคฺคณฺหนฺโตว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๕.๒๒-๓๐) –

‘‘สุวณฺณวณฺณํ สมฺพุทฺธํ, ทฺวตฺตึสวรลกฺขณํ;

วิปินคฺเคน คจฺฉนฺตํ, สาลราชํว ผุลฺลิตํ.

‘‘ติณตฺถรํ ปฺาเปตฺวา, พุทฺธเสฏฺํ อยาจหํ;

อนุกมฺปตุ มํ พุทฺโธ, ภิกฺขํ อิจฺฉามิ ทาตเว.

‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, อตฺถทสฺสี มหายโส;

มม สงฺกปฺปมฺาย, โอรูหิ มม อสฺสเม.

‘‘โอโรหิตฺวาน สมฺพุทฺโธ, นิสีทิ ปณฺณสนฺถเร;

ภลฺลาตกํ คเหตฺวาน, พุทฺธเสฏฺสฺสทาสหํ.

‘‘มม นิชฺฌายมานสฺส, ปริภุฺชิ ตทา ชิโน;

ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, อภิวนฺทึ ตทา ชินํ.

‘‘อฏฺารเส กปฺปสเต, ยํ ผลมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโตปิ อิมา คาถา อภาสิ.

วิชิตเสนตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ยสทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

อุปารมฺภจิตฺโตติอาทิกา อายสฺมโต ยสทตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิ. ตถา เหส ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต กาเม ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อฺชลึ ปคฺคยฺห อภิตฺถวิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มลฺลรฏฺเ มลฺลราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ยสทตฺโตติ ลทฺธนาโม, วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขิตฺวา สภิเยน ปริพฺพาชเกน สทฺธึเยว จาริกํ จรมาโน, อนุปุพฺเพน สาวตฺถิยํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา สภิเยน ปุฏฺปฺเหสุ วิสฺสชฺชิยมาเนสุ สยํ โอตาราเปกฺโข สุณนฺโต นิสีทิ ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส วาเท โทสํ ทสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา จิตฺตาจารํ ตฺวา สภิยสุตฺตเทสนาวสาเน (สุ. นิ. สภิยสุตฺต) โอวาทํ เทนฺโต –

๓๖๐.

‘‘อุปารมฺภจิตฺโต ทุมฺเมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;

อารกา โหติ สทฺธมฺมา, นภโส ปถวี ยถา.

๓๖๑.

‘‘อุปารมฺภจิตฺโต ทุมฺเมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;

ปริหายติ สทฺธมฺมา, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา.

๓๖๒.

‘‘อุปารมฺภจิตฺโต ทุมฺเมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;

ปริสุสฺสติ สทฺธมฺเม, มจฺโฉ อปฺโปทเก ยถา.

๓๖๓.

‘‘อุปารมฺภจิตฺโต ทุมฺเมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;

น วิรูหติ สทฺธมฺเม, เขตฺเต พีชํว ปูติกํ.

๓๖๔.

‘‘โย จ ตุฏฺเน จิตฺเตน, สุณาติ ชินสาสนํ;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, สจฺฉิกตฺวา อกุปฺปตํ;

ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ, ปรินิพฺพาตินาสโว’’ติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อุปารมฺภจิตฺโตติ สารมฺภจิตฺโต, โทสาโรปนาธิปฺปาโยติ อตฺโถ. ทุมฺเมโธติ นิปฺปฺโ. อารกา โหติ สทฺธมฺมาติ โส ตาทิโส ปุคฺคโล นภโส วิย ปถวี ปฏิปตฺติสทฺธมฺมโตปิ ทูเร โหติ, ปเคว ปฏิเวธสทฺธมฺมโต. ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๘) วิคฺคาหิกกถํ อนุยุตฺตสฺส กุโต สนฺตนิปุโณ ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม.

ปริหายติ สทฺธมฺมาติ นววิธโลกุตฺตรธมฺมโต ปุพฺพภาคิยสทฺธาทิสทฺธมฺมโตปิ นิหียติ. ปริสุสฺสตีติ วิสุสฺสติ กายจิตฺตานํ ปีณนรสสฺส ปีติปาโมชฺชาทิกุสลธมฺมสฺสาภาวโต. น วิรูหตีติ วิรูฬฺหึ วุทฺธึ น ปาปุณาติ. ปูติกนฺติ โคมยเลปทานาทิอภาเวน ปูติภาวํ ปตฺตํ.

ตุฏฺเน จิตฺเตนาติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, อตฺตมโน ปมุทิโต หุตฺวาติ อตฺโถ. เขเปตฺวาติ สมุจฺฉินฺทิตฺวา. อกุปฺปตนฺติ อรหตฺตํ. ปปฺปุยฺยาติ ปาปุณิตฺวา. ปรมํ สนฺตินฺติ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ. ตทธิคโม จสฺส เกวลํ กาลาคมนเมว, น โกจิวิโธติ ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘ปรินิพฺพาตินาสโว’’ติ.

เอวํ สตฺถารา โอวทิโต สํเวคชาโต ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๓๕-๔๓) –

‘‘กณิการํว ชลิตํ, ทีปรุกฺขํว โชติตํ;

กฺจนํว วิโรจนฺตํ, อทฺทสํ ทฺวิปทุตฺตมํ.

‘‘กมณฺฑลุํ เปตฺวาน, วากจีรฺจ กุณฺฑิกํ;

เอกํสํ อชินํ กตฺวา, พุทฺธเสฏฺํ ถวึ อหํ.

‘‘ตมนฺธการํ วิธมํ, โมหชาลสมากุลํ;

าณาโลกํ ทสฺเสตฺวาน, นิตฺติณฺโณสิ มหามุนิ.

‘‘สมุทฺธรสิมํ โลกํ, สพฺพาวนฺตมนุตฺตรํ;

าเณ เต อุปมา นตฺถิ, ยาวตา ชคโต คติ.

‘‘เตน าเณน สพฺพฺู, อิติ พุทฺโธ ปวุจฺจติ;

วนฺทามิ ตํ มหาวีรํ, สพฺพฺุตมนาวรํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, พุทฺธเสฏฺํ ถวึ อหํ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, าณตฺถวายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโตปิ เถโร อิมา เอว คาถา อภาสิ.

ยสทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. โสณกุฏิกณฺณตฺเถรคาถาวณฺณนา

อุปสมฺปทา จ เม ลทฺธาติอาทิกา อายสฺมโต โสณสฺส กุฏิกณฺณสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร วิภวสมฺปนฺโน เสฏฺิ หุตฺวา อุฬาราย อิสฺสริยสมฺปตฺติยา ิโต เอกทิวสํ สตฺถารํ สตสหสฺสขีณาสวปริวุตํ มหติยา พุทฺธลีฬาย มหนฺเตน พุทฺธานุภาเวน นครํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส วนฺทิตฺวา อฺชลึ กตฺวา อฏฺาสิ. โส ปจฺฉาภตฺตํ อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ กลฺยาณวากฺกรณานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านํ ปตฺเถตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถา ตสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน กลฺยาณวากฺกรณานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ.

โส ตตฺถ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล สาสเน ปพฺพชิตฺวา วตฺตปฏิวตฺตานิ ปูเรนฺโต เอกสฺส ภิกฺขุโน จีวรํ สิพฺพิตฺวา อทาสิ. ปุน พุทฺธสุฺเ โลเก พาราณสิยํ ตุนฺนวาโย หุตฺวา เอกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส จีวรโกฏึ ฉินฺนํ ฆเฏตฺวา อทาสิ. เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ปุฺานิ กตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อวนฺติรฏฺเ กุรรฆเร มหาวิภวสฺส เสฏฺิโน ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โสโณติสฺส นามํ อกํสุ. โกฏิอคฺฆนกสฺส กณฺณปิฬนฺธนสฺส ธารเณน ‘‘โกฏิกณฺโณ’’ติ วตฺตพฺเพ กุฏิกณฺโณติ ปฺายิตฺถ.

โส อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา กุฏุมฺพํ สณฺเปนฺโต อายสฺมนฺเต มหากจฺจาเน กุลฆรํ นิสฺสาย ปวตฺตปพฺพเต วิหรนฺเต ตสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาย ตํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิ. โส อปรภาเค สํสาเร สฺชาตสํเวโค เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ทสวคฺคํ สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา กติปยกาลํ เถรสฺส สนฺติเก วสิตฺวา, เถรํ อาปุจฺฉิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตุํ สาวตฺถึ อุปคโต, สตฺถารา เอกคนฺธกุฏิยํ วาสํ ลภิตฺวา ปจฺจูสสมเย อชฺฌิฏฺโ โสฬสอฏฺกวคฺคิยานํ อุสฺสารเณน สาธุการํ ทตฺวา ภาสิตาย ‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก’’ติ (อุทา. ๔๖; มหาว. ๒๕๘) อุทานคาถาย ปริโยสาเน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๒๖-๓๔) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

วสีสตสหสฺเสหิ, นครํ ปาวิสี ตทา.

‘‘นครํ ปวิสนฺตสฺส, อุปสนฺตสฺส ตาทิโน;

รตนานิ ปชฺโชตึสุ, นิคฺโฆโส อาสิ ตาวเท.

‘‘พุทฺธสฺส อานุภาเวน, เภรี วชฺชุมฆฏฺฏิตา;

สยํ วีณา ปวชฺชนฺติ, พุทฺธสฺส ปวิสโต ปุรํ.

‘‘พุทฺธเสฏฺํ นมสฺสามิ, ปทุมุตฺตรมหามุนึ;

ปาฏิหีรฺจ ปสฺสิตฺวา, ตตฺถ จิตฺตํ ปสาทยึ.

‘‘อโห พุทฺโธ อโห ธมฺโม, อโห โน สตฺถุ สมฺปทา;

อเจตนาปิ ตูริยา, สยเมว ปวชฺชเร.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ สฺมลภึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธสฺายิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺเต ปน ปติฏฺิโต อตฺตโน อุปชฺฌาเยน อาจิกฺขิตนิยาเมน ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ วินยธรปฺจเมน คเณน อุปสมฺปทา, ธุวนฺหานํ, จมฺมตฺถรณํ, คุณงฺคุณูปาหนํ, จีวรวิปฺปวาโสติ ปฺจ วเร ยาจิตฺวา เต สตฺถุ สนฺติกา ลภิตฺวา ปุนเทว อตฺตโน วสิตฏฺานํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน อุทานฏฺกถายํ อาคตนเยน เวทิตพฺโพ. องฺคุตฺตรฏฺกถายํ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๐๖) ปน ‘‘อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณี’’ติ วุตฺตํ.

โส อปรภาเค วิมุตฺติสุเขน วิหรนฺโต อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โสมนสฺสชาโต อุทานวเสน –

๓๖๕.

‘‘อุปสมฺปทา จ เม ลทฺธา, วิมุตฺโต จมฺหิ อนาสโว;

โส จ เม ภควา ทิฏฺโ, วิหาเร จ สหาวสึ.

๓๖๖.

‘‘พหุเทว รตฺตึ ภควา, อพฺโภกาเสตินามยิ;

วิหารกุสโล สตฺถา, วิหารํ ปาวิสี ตทา.

๓๖๗.

‘‘สนฺถริตฺวาน สงฺฆาฏึ, เสยฺยํ กปฺเปสิ โคตโม;

สีโห เสลคุหายํว, ปหีนภยเภรโว.

๓๖๘.

‘‘ตโต กลฺยาณวากฺกรโณ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก;

โสโณ อภาสิ สทฺธมฺมํ, พุทฺธเสฏฺสฺส สมฺมุขา.

๓๖๙.

‘‘ปฺจกฺขนฺเธ ปริฺาย, ภาวยิตฺวาน อฺชสํ;

ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ, ปรินิพฺพิสฺสตฺยนาสโว’’ติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อุปสมฺปทา จ เม ลทฺธาติ ยา สา กิจฺเฉน ทสวคฺคํ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา อตฺตนา ลทฺธา อุปสมฺปทา. ยา จ ปน วรทานวเสน สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ วินยธรปฺจเมน คเณน สตฺถารา อนุฺาตา อุปสมฺปทา, ตทุภยํ สนฺธายาห. -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, เตน อิตเรปิ สตฺถุ สนฺติกา ลทฺธวเร สงฺคณฺหาติ. วิมุตฺโต จมฺหิ อนาสโวติ อคฺคมคฺเคน สกลกิเลสวตฺถุวิมุตฺติยา วิมุตฺโต จ อมฺหิ. ตโต เอว กามาสวาทีหิ อนาสโว อมฺหีติ โยชนา. โส จ เม ภควา ทิฏฺโติ ยทตฺถํ อหํ อวนฺติรฏฺโต สาวตฺถึ คโต, โส จ ภควา มยา อทิฏฺปุพฺโพ ทิฏฺโ. วิหาเร จ สหาวสินฺติ น เกวลํ ตสฺส ภควโต ทสฺสนเมว มยา ลทฺธํ, อถ โข วิหาเร สตฺถุ คนฺธกุฏิยํ สตฺถารา การณํ สลฺลกฺเขตฺวา วาเสนฺเตน สห อวสึ. ‘‘วิหาเรติ วิหารสมีเป’’ติ เกจิ.

พหุเทว รตฺตินฺติ ปมํ ยามํ ภิกฺขูนํ ธมฺมเทสนาวเสน กมฺมฏฺานโสธนวเสน จ, มชฺฌิมํ ยามํ เทวานํ พฺรหฺมูนฺจ กงฺขจฺเฉทนวเสน ภควา พหุเทว รตฺตึ อพฺโภกาเส อตินามยิ วีตินาเมสิ. วิหารกุสโลติ ทิพฺพพฺรหฺมอาเนฺชอริยวิหาเรสุ กุสโล. วิหารํ ปาวิสีติ อติเวลํ นิสชฺชจงฺกเมหิ อุปฺปนฺนปริสฺสมวิโนทนตฺถํ คนฺธกุฏึ ปาวิสิ.

สนฺถริตฺวาน สงฺฆาฏึ, เสยฺยํ กปฺเปสีติ จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ. เตนาห ‘‘โคตโม สีโห เสลคุหายํว ปหีนภยเภรโว’’ติ. ตตฺถ โคตโมติ ภควนฺตํ โคตฺเตน กิตฺเตติ. สีโห เสลคุหายํวาติ เสลสฺส ปพฺพตสฺส คุหายํ. ยถา สีโห มิคราชา เตชุสฺสทตาย ปหีนภยเภรโว ทกฺขิเณน ปสฺเสน ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย เสยฺยํ กปฺเปสิ, เอวํ จิตฺตุตฺราสโลมหํสนฉมฺภิตตฺตเหตูนํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา ปหีนภยเภรโว โคตโม ภควา เสยฺยํ กปฺเปสีติ อตฺโถ.

ตโตติ ปจฺฉา, สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา ตโต วุฏฺหิตฺวา ‘‘ปฏิภาตุ ตํ ภิกฺขุ ธมฺโม ภาสิตุ’’นฺติ (อุทา. ๔๖) สตฺถารา อชฺเฌสิโตติ อตฺโถ. กลฺยาณวากฺกรโณติ สุนฺทรวจีกรโณ, ลกฺขณสมฺปนฺนวจนกฺกโมติ อตฺโถ. โสโณ อภาสิ สทฺธมฺมนฺติ โสฬส อฏฺกวคฺคิยสุตฺตานิ โสโณ กุฏิกณฺโณ, พุทฺธเสฏฺสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สมฺมุขา, ปจฺจกฺขโต อภาสีติ เถโร อตฺตานเมว ปรํ วิย อโวจ.

ปฺจกฺขนฺเธ ปริฺายาติ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ ตีหิปิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา เต ปริชานนฺโตเยว, อฺชสํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยิตฺวา, ปรมํ สนฺตึ นิพฺพานํ ปปฺปุยฺย ปาปุณิตฺวา ิโต อนาสโว. ตโต เอว อิทานิ ปรินิพฺพิสฺสติ อนุปาทิเสสนิพฺพานวเสน นิพฺพายิสฺสตีติ.

โสณกุฏิกณฺณตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. โกสิยตฺเถรคาถาวณฺณนา

โย เอว ครูนนฺติอาทิกา อายสฺมโต โกสิยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต อุจฺฉุขณฺฑิกํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มคธรฏฺเ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, โกสิโยติสฺส โคตฺตวเสน นามํ อกาสิ. โส วิฺุตํ ปตฺโต อายสฺมนฺตํ ธมฺมเสนาปตึ อภิณฺหํ อุปสงฺกมติ, ตสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุณาติ. โส เตน สาสเน ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๔๔-๔๙) –

‘‘นคเร พนฺธุมติยา, ทฺวารปาโล อโหสหํ;

อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ.

‘‘อุจฺฉุขณฺฑิกมาทาย พุทฺธเสฏฺสฺสทาสหํ;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, วิปสฺสิสฺส มเหสิโน.

‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ อุจฺฉุมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อุจฺฉุขณฺฑสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ครุวาสํ สปฺปุริสูปนิสฺสยฺจ ปสํสนฺโต –

๓๗๐.

‘‘โย เว ครูนํ วจนฺุ ธีโร, วเส จ ตมฺหิ ชนเยถ เปมํ;

โส ภตฺติมา นาม จ โหติ ปณฺฑิโต, ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺส.

๓๗๑.

‘‘ยํ อาปทา อุปฺปติตา อุฬารา, นกฺขมฺภยนฺเต ปฏิสงฺขยนฺตํ;

โส ถามวา นาม จ โหติ ปณฺฑิโต, ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺส.

๓๗๒.

‘‘โย เว สมุทฺโทว ิโต อเนโช, คมฺภีรปฺโ นิปุณตฺถทสฺสี;

อสํหาริโย นาม จ โหติ ปณฺฑิโต, ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺส.

๓๗๓.

‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร จ โหติ, ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี;

โส ตาทิโส นาม จ โหติ ปณฺฑิโต, ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺส.

๓๗๔.

‘‘อตฺถฺจ โย ชานาติ ภาสิตสฺส,

อตฺถฺจ ตฺวาน ตถา กโรติ;

อตฺถนฺตโร นาม ส โหติ ปณฺฑิโต,

ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺสา’’ติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ โยติ ขตฺติยาทีสุ จตูสุ ปริสาสุ โย โกจิ. เวติ พฺยตฺตํ. ครูนนฺติ สีลาทิครุคุณยุตฺตานํ ปณฺฑิตานํ. วจนฺูติ เตสํ อนุสาสนีวจนํ ชานนฺโต, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาโน ปฏิปชฺชิตฺวา จ ตสฺส ผลํ ชานนฺโตติ อตฺโถ. ธีโรติ ธิติสมฺปนฺโน. วเส จ ตมฺหิ ชนเยถ เปมนฺติ ตสฺมึ ครูนํ วจเน โอวาเท วเสยฺย ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺเชยฺย, ปฏิปชฺชิตฺวา ‘‘อิมินา วตาหํ โอวาเทน อิมํ ชาติอาทิทุกฺขํ วีติวตฺโต’’ติ ตตฺถ ชนเยถ เปมํ คารวํ อุปฺปาเทยฺย. อิทฺหิ ทฺวยํ ‘‘ครูนํ วจนฺุ ธีโร’’ติ ปททฺวเยน วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ. โสติ โย ครูนํ วจนฺู ธีโร, โส ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติยา ตตฺถ ภตฺติมา จ นาม โหติ, ชีวิตเหตุปิ ตสฺส อนติกฺกมนโต ปณฺฑิโต จ นาม โหติ. ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺสาติ ตถา ปฏิปชฺชนฺโต จ ตาย เอว ปฏิปตฺติยา จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ชานนเหตุ โลกิยโลกุตฺตรธมฺเมสุ วิชฺชาตฺตยาทิวเสน ‘‘เตวิชฺโช, ฉฬภิฺโ, ปฏิสมฺภิทาปตฺโต’’ติ วิเสสิ วิเสสวา สิยาติ อตฺโถ.

นฺติ ยํ ปุคฺคลํ ปฏิปตฺติยา อนฺตรายกรณโต ‘‘อาปทา’’ติ ลทฺธโวหารา โสตุณฺหขุปฺปิปาสาทิปากฏปริสฺสยา เจว ราคาทิปฏิจฺฉนฺนปริสฺสยา จ อุปฺปติตา อุปฺปนฺนา, อุฬารา พลวนฺโตปิ นกฺขมฺภยนฺเต น กิฺจิ จาเลนฺติ. กสฺมา? ปฏิสงฺขยนฺตนฺติ ปฏิสงฺขายมานํ ปฏิสงฺขานพเล ิตนฺติ อตฺโถ. โสติ โย ทฬฺหตราหิ อาปทาหิปิ อกฺขมฺภนีโย, โส ถามวา ธิติมา ทฬฺหปรกฺกโม นาม โหติ. อนวเสสสํกิเลสปกฺขสฺส อภิภวนกปฺาพลสมงฺคิตาย ปณฺฑิโต จ นาม โหติ. ตถาภูโต จ ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺสาติ ตํ วุตฺตตฺถเมว.

สมุทฺโทว ิโตติ สมุทฺโท วิย ิตสภาโว. ยถา หิ จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีเร สิเนรุปาทสมีเป มหาสมุทฺโท อฏฺหิปิ ทิสาหิ อุฏฺิเตหิ ปกติวาเตหิ อนิฺชนโต ิโต อเนโช คมฺภีโร จ, เอวํ กิเลสวาเตหิ ติตฺถิยวาทวาเตหิ จ อกมฺปนียโต ิโต อเนโช. คมฺภีรสฺส อนุปจิตาณสมฺภาเรหิ อลทฺธคาธสฺส นิปุณสฺส สุขุมสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิอตฺถสฺส ปฏิวิชฺฌเนน คมฺภีรปฺโ นิปุณตฺถทสฺสี. อสํหาริโย นาม จ โหติ ปณฺฑิโต โส ตาทิโส ปุคฺคโล กิเลเสหิ เทวปุตฺตมาราทีสุ วา เกนจิ อสํหาริยตาย อสํหาริโย นาม โหติ, ยถาวุตฺเตน อตฺเถน ปณฺฑิโต จ นาม โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

พหุสฺสุโตติ ปริยตฺติพาหุสจฺจวเสน พหุสฺสุโต, สุตฺตเคยฺยาทิ พหุํ สุตํ เอตสฺสาติ พหุสฺสุโต. ตเมว ธมฺมํ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสํ วิย อวินสฺสนฺตเมว ธาเรตีติ ธมฺมธโร จ โหติ. ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารีติ ยถาสุตสฺส ยถาปริยตฺตสฺส ธมฺมสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย นวโลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปํ ธมฺมํ ปุพฺพภาคปฏิปทาสงฺขาตํ จตุปาริสุทฺธิสีลธุตงฺคอสุภกมฺมฏฺานาทิเภทํ จรติ ปฏิปชฺชตีติ อนุธมฺมจารี โหติ, ‘‘อชฺช อชฺเชวา’’ติ ปฏิเวธํ อากงฺขนฺโต วิจรติ. โส ตาทิโส นาม จ โหติ ปณฺฑิโตติ โย ปุคฺคโล ยํ ครุํ นิสฺสาย พหุสฺสุโต ธมฺมธโร ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมจารี โหติ. โส จ ตาทิโส เตน ครุนา สทิโส ปณฺฑิโต นาม โหติ ปฏิปตฺติยา สทิสภาวโต. ตถาภูโต ปน โส ตฺวา จ ธมฺเมสุ วิเสสิ อสฺส, ตํ วุตฺตตฺถํว.

อตฺถฺจ โย ชานาติ ภาสิตสฺสาติ โย ปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺเธน ภาสิตสฺส ปริยตฺติธมฺมสฺส อตฺถํ ชานาติ. ชานนฺโต ปน ‘‘อิธ สีลํ วุตฺตํ, อิธ สมาธิ, อิธ ปฺา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ ยถาวุตฺตํ อตฺถฺจ ตฺวาน ตถา กโรติ ยถา สตฺถารา อนุสิฏฺํ, ตถา ปฏิปชฺชติ. อตฺถนฺตโร นาม ส โหติ ปณฺฑิโตติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล อตฺถนฺตโร อตฺถการณา สีลาทิอตฺถชานนมตฺตเมว อุปนิสฺสยํ กตฺวา ปณฺฑิโต โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เอตฺถ จ ปมคาถาย ‘‘โย เว ครูน’’นฺติอาทินา สทฺธูปนิสฺสโย วิเสสภาโว วุตฺโต, ทุติยคาถาย ‘‘ยํ อาปทา’’ติ อาทินา วีริยูปนิสฺสโย, ตติยคาถาย ‘‘โย เว สมุทฺโทว ิโต’’ติอาทินา สมาธูปนิสฺสโย, จตุตฺถคาถาย ‘‘พหุสฺสุโต’’ติอาทินา สตูปนิสฺสโย, ปฺจมคาถาย ‘‘อตฺถฺจ โย ชานาตี’’ติอาทินา ปฺูปนิสฺสโย วิเสสภาโว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

โกสิยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉกฺกนิปาโต

๑. อุรุเวลกสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา

ฉกฺกนิปาเต ทิสฺวาน ปาฏิหีรานีติอาทิกา อายสฺมโต อุรุเวลกสฺสปตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา, วยปฺปตฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ มหาปริสานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ปณิธานมกาสิ. ภควา จสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา, ‘‘อนาคเต โคตมพุทฺธสฺส สาสเน มหาปริสานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ.

โส ตตฺถ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิโต ทฺวานวุติกปฺปมตฺถเก ผุสฺสสฺส ภควโต เวมาติกกนิฏฺภาตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อฺเปิสฺส ทฺเว กนิฏฺภาตโร อเหสุํ. เต ตโยปิ พุทฺธปฺปมุขํ สงฺฆํ ปรมาย ปูชาย ปูเชตฺวา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ ภควโต นิพฺพตฺติโต ปุเรตรเมว พาราณสิยํ พฺราหฺมณกุเล ภาตโร หุตฺวา, อนุกฺกเมน นิพฺพตฺตา โคตฺตวเสน ตโยปิ กสฺสปา เอว นาม ชาตา. เต วยปฺปตฺตา ตโย เวเท อุคฺคณฺหึสุ. เตสํ เชฏฺภาติกสฺส ปฺจ มาณวกสตานิ ปริวาโร, มชฺฌิมสฺส ตีณิ, กนิฏฺสฺส ทฺเว. เต อตฺตโน คนฺเถ สารํ โอโลเกนฺตา ทิฏฺธมฺมิกเมว อตฺถํ ทิสฺวา ปพฺพชฺชํ โรเจสุํ. เตสุ เชฏฺภาตา อตฺตโน ปริวาเรน สทฺธึ อุรุเวลํ คนฺตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อุรุเวลกสฺสโป นาม ชาโต มหาคงฺคานทีวงฺเก ปพฺพชิโต นทีกสฺสโป นาม ชาโต, คยาสีเส ปพฺพชิโต คยากสฺสโป นาม ชาโต.

เอวํ เตสุ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วสนฺเตสุ พหูนํ ทิวสานํ อจฺจเยน อมฺหากํ โพธิสตฺโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา, ปฏิวิทฺธสพฺพฺุตฺาโณ อนุกฺกเมน ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา, ปฺจวคฺคิยตฺเถเร อรหตฺเต ปติฏฺาเปตฺวา ยสปฺปมุเข ปฺจปฺาส สหายเก วิเนตฺวา สฏฺิ อรหนฺเต ‘‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริก’’นฺติ วิสฺสชฺเชตฺวา, ภทฺทวคฺคิเย วิเนตฺวา อุรุเวลกสฺสปสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา วสนตฺถาย อคฺยาคารํ ปวิสิตฺวา, ตตฺถ กตนาคทมนํ อาทึ กตฺวา อฑฺฒุฑฺฒสหสฺเสหิ ปาฏิหาริเยหิ อุรุเวลกสฺสปํ สปริสํ วิเนตฺวา ปพฺพาเชสิ. ตสฺส ปพฺพชิตภาวํ ตฺวา อิตเรปิ ทฺเว ภาตโร สปริสา อาคนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชึสุ. สพฺเพว เอหิภิกฺขู อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา อเหสุํ.

สตฺถา ตํ สมณสหสฺสํ อาทาย คยาสีสํ คนฺตฺวา ปิฏฺิปาสาเณ นิสินฺโน อาทิตฺตปริยายเทสนาย สพฺเพ อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๔.๒๕๑-๒๙๕) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพโลกวิทู มุนิ;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ จกฺขุมา.

‘‘โอวาทโก วิฺาปโก, ตารโก สพฺพปาณินํ;

เทสนากุสโล พุทฺโธ, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, หิเตสี สพฺพปาณินํ;

สมฺปตฺเต ติตฺถิเย สพฺเพ, ปฺจสีเล ปติฏฺปิ.

‘‘เอวํ นิรากุลํ อาสิ, สุฺตํ ติตฺถิเยหิ จ;

วิจิตฺตํ อรหนฺเตหิ, วสีภูเตหิ ตาทิภิ.

‘‘รตนานฏฺปฺาสํ, อุคฺคโต โส มหามุนิ;

กฺจนคฺฆิยสงฺกาโส, พาตฺตึสวรลกฺขโณ.

‘‘วสฺสสตสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

‘‘ตทาหํ หํสวติยา, พฺราหฺมโณ สาธุสมฺมโต;

อุเปจฺจ โลกปชฺโชตํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ.

‘‘ตทา มหาปริสตึ, มหาปริสสาวกํ;

เปนฺตํ เอตทคฺคมฺหิ, สุตฺวาน มุทิโต อหํ.

‘‘มหตา ปริวาเรน, นิมนฺเตตฺวา มหาชินํ;

พฺราหฺมณานํ สหสฺเสน, สหทานมทาสหํ.

‘‘มหาทานํ ททิตฺวาน, อภิวาทิย นายกํ;

เอกมนฺตํ ิโต หฏฺโ, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘ตยิ สทฺธาย เม วีร, อธิการคุเณน จ;

ปริสา มหตี โหตุ, นิพฺพตฺตสฺส ตหึ ตหึ.

‘‘ตทา อโวจ ปริสํ, คชคชฺชิตสุสฺสโร;

กรวีกรุโต สตฺถา, เอตํ ปสฺสถ พฺราหฺมณํ.

‘‘เหมวณฺณํ มหาพาหุํ, กมลานนโลจนํ;

อุทคฺคตนุชํ หฏฺํ, สทฺธวนฺตํ คุเณ มม.

‘‘เอส ปตฺถยเต านํ, สีหโฆสสฺส ภิกฺขุโน;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, ลจฺฉเส ตํ มโนรถํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘อิโต ทฺเวนวุเต กปฺเป, อหุ สตฺถา อนุตฺตโร;

อนูปโม อสทิโส, ผุสฺโส โลกคฺคนายโก.

‘‘โส จ สพฺพํ ตมํ หนฺตฺวา, วิชเฏตฺวา มหาชฏํ;

วสฺสเต อมตํ วุฏฺึ, ตปฺปยนฺโต สเทวกํ.

‘‘ตทา หิ พาราณสิยํ, ราชาปจฺจา อหุมฺหเส;

ภาตโรมฺห ตโย สพฺเพ, สํวิสฏฺาว ราชิโน.

‘‘วีรงฺครูปา พลิโน, สงฺคาเม อปราชิตา;

ตทา กุปิตปจฺจนฺโต, อมฺเห อาห มหีปติ.

‘‘เอถ คนฺตฺวาน ปจฺจนฺตํ, โสเธตฺวา อฏฺฏวีพลํ;

เขมํ วิชิริตํ กตฺวา, ปุน เทถาติ ภาสถ.

‘‘ตโต มยํ อโวจุมฺห, ยทิ เทยฺยาสิ นายกํ;

อุปฏฺานาย อมฺหากํ, สาธยิสฺสาม โว ตโต.

‘‘ตโต มยํ ลทฺธวรา, ภูมิปาเลน เปสิตา;

นิกฺขิตฺตสตฺถํ ปจฺจนฺตํ, กตฺวา ปุนรุเปจฺจ ตํ.

‘‘ยาจิตฺวา สตฺถุปฏฺานํ, ราชานํ โลกนายกํ;

มุนิวีรํ ลภิตฺวาน, ยาวชีวํ ยชิมฺห ตํ.

‘‘มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ, ปณีตานิ รสานิ จ;

เสนาสนานิ รมฺมานิ, เภสชฺชานิ หิตานิ จ.

‘‘ทตฺวา สสงฺฆมุนิโน, ธมฺเมนุปฺปาทิตานิ โน;

สีลวนฺโต การุณิกา, ภาวนายุตฺตมานสา.

‘‘สทฺธา ปริจริตฺวาน, เมตฺตจิตฺเตน นายกํ;

นิพฺพุเต ตมฺหิ โลกคฺเค, ปูชํ กตฺวา ยถาพลํ.

‘‘ตโต จุตา สนฺตุสิตํ, คตา ตตฺถ มหาสุขํ;

อนุภูตา มยํ สพฺเพ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘มายากาโร ยถา รงฺเค, ทสฺเสสิ วิกตึ พหุํ;

ตถา ภเว ภมนฺโตหํ, วิเทหาธิปตี อหุํ.

‘‘คุณาเจลสฺส วากฺเยน, มิจฺฉาทิฏฺิคตาสโย;

นรกํ มคฺคมารูฬฺโห, รุจาย มม ธีตุยา.

‘‘โอวาทํ นาทิยิตฺวาน, พฺรหฺมุนา นารเทนหํ;

พหุธา สํสิโต สนฺโต, ทิฏฺึ หิตฺวาน ปาปิกํ.

‘‘ปูรยิตฺวา วิเสเสน, ทส กมฺมปถานิหํ;

หิตฺวาน เทหมคมึ, สคฺคํ สภวนํ ยถา.

‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, พฺรหฺมพนฺธุ อโหสหํ;

พาราณสิยํ ผีตายํ, ชาโต วิปฺปมหากุเล.

‘‘มจฺจุพฺยาธิชราภีโต, โอคาเหตฺวา มหาวนํ;

นิพฺพานํ ปทเมสนฺโต, ชฏิเลสุ ปริพฺพชึ.

‘‘ตทา ทฺเว ภาตโร มยฺหํ, ปพฺพชึสุ มยา สห;

อุรุเวลายํ มาเปตฺวา, อสฺสมํ นิวสึ อหํ.

‘‘กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุรุเวลนิวาสิโก;

ตโต เม อาสิ ปฺตฺติ, อุรุเวลกสฺสโป อิติ.

‘‘นทีสกาเส ภาตา เม, นทีกสฺสปสวฺหโย;

อาสี สกาสนาเมน, คยายํ คยากสฺสโป.

‘‘ทฺเว สตานิ กนิฏฺสฺส, ตีณิ, มชฺฌสฺส ภาตุโน;

มม ปฺจ สตานูนา, สิสฺสา สพฺเพ มมานุคา.

‘‘ตทา อุเปจฺจ มํ พุทฺโธ, กตฺวาน วิวิธานิ เม;

ปาฏิหีรานิ โลกคฺโค, วิเนสิ นรสารถิ.

‘‘สหสฺสปริวาเรน, อโหสึ เอหิภิกฺขุโก;

เตเหว สห สพฺเพหิ, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘เต เจวฺเ จ พหโว, สิสฺสา มํ ปริวารยุํ;

ภาสิตุฺจ สมตฺโถหํ, ตโต มํ อิสิสตฺตโม.

‘‘มหาปริสภาวสฺมึ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;

อโห พุทฺเธ กตํ การํ, สผลํ เม อชายถ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สีหนาทํ นทนฺโต –

๓๗๕.

‘‘ทิสฺวาน ปาฏิหีรานิ, โคตมสฺส ยสสฺสิโน;

น ตาวาหํ ปณิปตึ, อิสฺสามาเนน วฺจิโต.

๓๗๖.

‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, โจเทสิ นรสารถิ;

ตโต เม อาสิ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน.

๓๗๗.

‘‘ปุพฺเพ ชฏิลภูตสฺส, ยา เม สิทฺธิ ปริตฺติกา;

ตาหํ ตทา นิรากตฺวา, ปพฺพชึ ชินสาสเน.

๓๗๘.

‘‘ปุพฺเพ ยฺเน สนฺตุฏฺโ, กามธาตุปุรกฺขโต;

ปจฺฉา ราคฺจ โทสฺจ, โมหฺจาปิ สมูหนึ.

๓๗๙.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

อิทฺธิมา ปรจิตฺตฺู, ทิพฺพโสตฺจ ปาปุณึ.

๓๘๐.

‘‘ยสฺส จตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย’’ติ. –

อิมา ฉ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ทิสฺวาน ปาฏิหีรานีติ นาคราชทมนาทีนิ อฑฺฒุฑฺฒสหสฺสานิ ปาฏิหาริยานิ ทิสฺวา. ‘‘ปาฏิหีรํ, ปาฏิเหรํ, ปาฏิหาริย’’นฺติ หิ อตฺถโต เอกํ, พฺยฺชนเมว นานํ. ยสสฺสิโน’’ติ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา สเทวเก โลเก ยถาภุจฺจํ ปตฺถฏกิตฺติสทฺทสฺส. น ตาวาหํ ปณิปตินฺติ ยาว มํ ภควา ‘‘เนว โข ตฺวํ, กสฺสป, อรหา, นาปิ อรหตฺตมคฺคํ สมาปนฺโน, สาปิ เต ปฏิปทา นตฺถิ, ยาย ตฺวํ อรหา วา อสฺส, อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน’’ติ น ตชฺเชสิ, ตาว อหํ น ปณิปาตนํ อกาสึ. กึการณา? อิสฺสามาเนน วฺจิโต, ‘‘อิมสฺส มยิ สาวกตฺตํ อุปคเต มม ลาภสกฺกาโร ปริหายิสฺสติ, อิมสฺส เอว วฑฺฒิสฺสตี’’ติ เอวํ ปรสมฺปตฺติอสหนลกฺขณาย อิสฺสาย เจว, ‘‘อหํ คณปาโมกฺโข พหุชนสมฺมโต’’ติ เอวํ อพฺภุนฺนติลกฺขเณน มาเนน จ วฺจิโต, ปลมฺภิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

มม สงฺกปฺปมฺายาติ มยฺหํ มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ชานิตฺวา, ยํ ยํ ภควา อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสติ, ตํ ตํ ทิสฺวา ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว’’ติ จินฺเตตฺวาปิ ‘‘น ตฺเวว โข อรหา ยถา อห’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ มิจฺฉาวิตกฺกํ ชานนฺโตปิ าณปริปากํ อาคเมนฺโต อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ปจฺฉา เนรฺชราย มชฺเฌ สมนฺตโต อุทกํ อุสฺสาเรตฺวา เรณุหตาย ภูมิยา จงฺกมิตฺวา เตน อาภตนาวาย ิโต ตทาปิ ‘‘มหิทฺธิโก’’ติอาทิกํ จินฺเตตฺวา ปุน ‘‘น ตฺเวว โข อรหา ยถา อห’’นฺติ ปวตฺติตํ มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ตฺวาติ อตฺโถ. โจเทสิ นรสารถีติ ตทา เม าณปริปากํ ตฺวา ‘‘เนว โข ตฺวํ อรหา’’ติอาทินา ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา มํ โจเทสิ นิคฺคณฺหิ. ตโต เม อาสิ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโนติ ตโต ยถาวุตฺตโจทนาเหตุ เอตฺตกํ กาลํ อภูตปุพฺพตาย อพฺภุโต โลมหํสนวเสน ปวตฺติยา โลมหํสโน ‘‘อนรหาว สมาโน ‘อรหา’ติ มฺิ’’นฺติ สํเวโค สโหตฺตปฺโป าณุปฺปาโท มยฺหํ อโหสิ.

ชฏิลภูตสฺสาติ ตาปสภูตสฺส. สิทฺธีติ ลาภสกฺการสมิทฺธิ. ปริตฺติกาติ อปฺปมตฺติกา. ตาหนฺติ ตํ อหํ. ตทาติ ภควโต โจทนาย สํเวคุปฺปตฺติกาเล. นิรากตฺวาติ อปเนตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา, อนเปกฺโข หุตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อิทฺธีติ ภาวนามยอิทฺธี’’ติ วทนฺติ. ตทยุตฺตํ ตทา ตสฺส อฌานลาภีภาวโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กามธาตุปุรกฺขโต’’ติ.

ยฺเน สนฺตุฏฺโติ ‘‘ยฺํ ยชิตฺวา สคฺคสุขํ อนุภวิสฺสามิ, อลเมตฺตาวตา’’ติ ยฺยชเนน สนฺตุฏฺโ นิฏฺิตกิจฺจสฺี. กามธาตุปุรกฺขโตติ กามสุคตึ อารพฺภ อุปฺปนฺนตณฺโห ยฺยชเนน กามโลกํ ปุรกฺขตฺวา ิโต. โส เจ ยฺโ ปาณาติปาตปฏิสํยุตฺโต โหติ, น เตน สุคตึ สกฺกา ลทฺธุํ. น หิ อกุสลสฺส อิฏฺโ กนฺโต วิปาโก นิพฺพตฺตติ. ยา ปน ตตฺถ ทานาทิกุสลเจตนา, ตาย สติ ปจฺจยสมวาเย สุคตึ คจฺเฉยฺย. ปจฺฉาติ ตาปสปพฺพชฺชาโต ปจฺฉา สตฺถุ โอวาเทน ตาปสลทฺธึ ปหาย จตุสจฺจกมฺมฏฺานานุโยคกาเล. สมูหนินฺติ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา ราคฺจ โทสฺจ โมหฺจ อนวเสสโต สมุคฺฆาเตสึ.

ยสฺมา ปนายํ เถโร อริยมคฺเคน ราคาทโย สมูหนนฺโตเยว ฉฬภิฺโ อโหสิ, ตสฺมา ตํ อตฺตโน ฉฬภิฺภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุพฺเพนิวาสํ ชานามีติ อตฺตโน ปเรสฺจ ปุพฺเพนิวาสํ อตีตาสุ ชาตีสุ นิพฺพตฺตกฺขนฺเธ ขนฺธปฏิพทฺเธ จ ปุพฺเพนิวาสาเณน หตฺถตเล อามลกํ วิย ปจฺจกฺขโต ชานามิ พุชฺฌามิ. ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตนฺติ ทิพฺพจกฺขุาณํ วิโสธิตํ, ปกติจกฺขุนา อาปาถคตํ ปกติรูปํ วิย ทิพฺพํ มานุสมฺปิ ทูรํ ติโรฏฺิตํ อติสุขุมฺจ รูปํ วิภาเวตุํ สมตฺถาณํ ภาวนาย มยา วิสุทฺธํ กตฺวา ปฏิลทฺธนฺติ อตฺโถ. อิทฺธิมาติ อธิฏฺานิทฺธิวิกุพฺพนิทฺธิอาทีหิ อิทฺธีหิ อิทฺธิมา, อิทฺธิวิธาณลาภีติ อตฺโถ. สราคาทิเภทสฺส ปเรสํ จิตฺตสฺส ชานนโต ปรจิตฺตฺู, เจโตปริยาณลาภีติ วุตฺตํ โหติ. ทิพฺพโสตฺจ ปาปุณินฺติ ทิพฺพโสตาณฺจ ปฏิลภึ.

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโยติ โย สพฺเพสํ สํโยชนานํ ขยภูโต ขเยน วา ลทฺธพฺโพ, โส สทตฺโถ ปรมตฺโถ จ มยา อริยมคฺคาธิคเมน อธิคโตติ. เอวเมตาย คาถาย เถรสฺส อฺาพฺยากรณํ อโหสีติ เวทิตพฺโพ.

อุรุเวลกสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เตกิจฺฉการิตฺเถรคาถาวณฺณนา

อติหิตา วีหีติอาทิกา อายสฺมโต เตกิจฺฉการิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิโต เอกนวุเต กปฺเป วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เวชฺชสตฺเถ นิปฺผตฺตึ คโต. วิปสฺสิสฺส ภควโต อุปฏฺากํ อโสกํ นาม เถรํ พฺยาธิตํ อโรคมกาสิ, อฺเสฺจ สตฺตานํ โรคาภิภูตานํ อนุกมฺปาย เภสชฺชํ สํวิทหิ.

โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สุพุทฺธสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส ติกิจฺฉเกหิ คพฺภกาเล ปริสฺสยํ อปหริตฺวา ปริปาลิตตาย เตกิจฺฉการีติ นามํ อกํสุ. โส อตฺตโน กุลานุรูปานิ วิชฺชาฏฺานานิ สิปฺปานิ จ สิกฺขนฺโต วฑฺฒติ. ตทา จาณกฺโก สุพุทฺธสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ กิริยาสุ อุปายโกสลฺลฺจ ทิสฺวา, ‘‘อยํ อิมสฺมึ ราชกุเล ปติฏฺํ ลภนฺโต มํ อภิภเวยฺยา’’ติ อิสฺสาปกโต รฺา จนฺทคุตฺเตน ตํ พนฺธนาคาเร ขิปาเปสิ. เตกิจฺฉการี ปิตุ พนฺธนาคารปฺปเวสนํ สุตฺวา ภีโต ปลายิตฺวา สาณวาสิตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อตฺตโน สํเวคการณํ เถรสฺส กเถตฺวา ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อพฺโภกาสิโก เนสชฺชิโก จ หุตฺวา วิหรติ, สีตุณฺหํ อคเณนฺโต สมณธมฺมเมว กโรติ, วิเสสโต พฺรหฺมวิหารภาวนมนุยุฺชติ. ตํ ทิสฺวา มาโร ปาปิมา ‘‘น อิมสฺส มม วิสยํ อติกฺกมิตุํ ทสฺสามี’’ติ วิกฺเขปํ กาตุกาโม สสฺสานํ นิปฺผตฺติกาเล เขตฺตโคปกวณฺเณน เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ นิปฺปณฺเฑนฺโต –

๓๘๑.

‘‘อติหิตา วีหิ, ขลคตา สาลี;

น จ ลเภ ปิณฺฑํ, กถมหํ กสฺส’’นฺติ. – อาห; ตํ สุตฺวา เถโร –

๓๘๒.

‘‘พุทฺธมปฺปเมยฺยํ อนุสฺสร ปสนฺโน, ปีติยา ผุฏสรีโร โหหิสิ สตตมุทคฺโค.

๓๘๓.

‘‘ธมฺมมปฺปเมยฺยํ …เป… สตตมุทคฺโค.

๓๘๔.

‘‘สงฺฆมปฺปเมยฺยํ…เป… สตตมุทคฺโค’’ติ. – อาห; ตํ สุตฺวา มาโร –

๓๘๕.

‘‘อพฺโภกาเส วิหรสิ, สีตา เหมนฺติกา อิมา รตฺโย;

มา สีเตน ปเรโต วิหฺิตฺโถ, ปวิส ตฺวํ วิหารํ ผุสิตคฺคฬ’’นฺติ. –

อาห. อถ เถโร –

๓๘๖.

‘‘ผุสิสฺสํ จตสฺโส อปฺปมฺาโย, ตาหิ จ สุขิโต วิหริสฺสํ;

นาหํ สีเตน วิหฺิสฺสํ, อนิฺชิโต วิหรนฺโต’’ติ. – อาห;

ตตฺถ อติหิตา วีหีติ วีหโย โกฏฺาคารํ อติเนตฺวา ปิตา, ตตฺถ ปฏิสามิตา ขลโต วา ฆรํ อุปนีตาติ อตฺโถ. วีหิคฺคหเณน เจตฺถ อิตรมฺปิ ธฺํ สงฺคณฺหาติ. สาลี ปน เยภุยฺเยน วีหิโต ปจฺฉา ปจฺจนฺตีติ อาห. ขลคตา สาลีติ ขลํ ธฺกรณฏฺานํ คตา, ตตฺถ ราสิวเสน มทฺทนจาวนาทิวเสน ิตาติ อตฺโถ. ปธานธฺภาวทสฺสนตฺถฺเจตฺถ สาลีนํ วิสุํ คหณํ, อุภเยนปิ คาเม, คามโต พหิ จ ธฺํ ปริปุณฺณํ ิตนฺติ ทสฺเสติ. น จ ลเภ ปิณฺฑนฺติ เอวํ สุลภธฺเ สุภิกฺขกาเล อหํ ปิณฺฑมตฺตมฺปิ น ลภามิ. อิทานิ กถมหํ กสฺสนฺติ อหํ กถํ กริสฺสามิ, กถํ ชีวิสฺสามีติ ปริหาสเกฬึ อกาสิ.

ตํ สุตฺวา เถโร ‘‘อยํ วราโก อตฺตนา อตฺตโน ปวตฺตึ มยฺหํ ปกาเสสิ, มยา ปน อตฺตนาว อตฺตา โอวทิตพฺโพ, น มยา กิฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ วตฺถุตฺตยานุสฺสติยํ อตฺตานํ นิโยเชนฺโต ‘‘พุทฺธมปฺปเมยฺย’’นฺติอาทินา ติสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ พุทฺธมปฺปเมยฺยํ อนุสฺสร ปสนฺโนติ สวาสนาย อวิชฺชานิทฺทาย อจฺจนฺตวิคเมน, พุทฺธิยา จ วิกสิตภาเวน พุทฺธํ ภควนฺตํ ปมาณกรานํ ราคาทิกิเลสานํ อภาวา อปริมาณคุณสมงฺคิตาย อปฺปเมยฺยปุฺกฺเขตฺตตาย จ อปฺปเมยฺยํ. โอกปฺปนลกฺขเณน อภิปฺปสาเทน ปสนฺโน, ปสนฺนมานโส ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๗๔; สํ. นิ. ๕.๙๙๗) อนุสฺสร อนุ อนุ พุทฺธารมฺมณํ สตึ ปวตฺเตหิ, ปีติยา ผุฏสรีโร โหหิสิ. สตตมุทคฺโคติ อนุสฺสรนฺโตว ผรณลกฺขณาย ปีติยา สตตํ สพฺพทา ผุฏสรีโร ปีติสมุฏฺานปณีตรูเปหิ อชฺโฌตฺถฏสรีโร อุพฺเพคปีติยา อุทคฺโค กายํ อุทคฺคํ กตฺวา อากาสํ ลงฺฆิตุํ สมตฺโถ จ ภเวยฺยาสิ, พุทฺธานุสฺสติยา พุทฺธารมฺมณํ อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทยฺยาสิ. ยโต สีตุณฺเหหิ วิย ชิฆจฺฉาปิปาสาหิปิ อนภิภูโต โหหิสีติ อตฺโถ.

ธมฺมนฺติ อริยํ โลกุตฺตรธมฺมํ. สงฺฆนฺติ อริยํ ปรมตฺถสงฺฆํ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อนุสฺสราติ ปเนตฺถ ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทินา ธมฺมํ, ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา สงฺฆํ อนุสฺสราติ โยเชตพฺพํ.

เอวํ เถเรน รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณ นิโยชนวเสน อตฺตนิ โอวทิเต ปุน มาโร วิเวกวาสโต นํ วิเวเจตุกาโม หิเตสีภาวํ วิย ทสฺเสนฺโต ‘‘อพฺโภกาเส วิหรสี’’ติ ปฺจมํ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ตฺวํ, ภิกฺขุ, อพฺโภกาเส เกนจิ อปฏิจฺฉนฺเน วิวฏงฺคเณ วิหรสิ อิริยาปเถ กปฺเปสิ. เหมนฺติกา หิมปาตสมเย ปริยาปนฺนา อิมา สีตา รตฺติโย วตฺตนฺติ. ตสฺมา สีเตน ปเรโต อภิภูโต หุตฺวา มา วิหฺิตฺโถ วิฆาตํ มา อาปชฺชิ มา กิลมิ. ผุสิตคฺคฬํ ปิหิตกวาฏํ เสนาสนํ ปวิส, เอวํ เต สุขวิหาโร ภวิสฺสตีติ.

ตํ สุตฺวา เถโร ‘‘น มยฺหํ เสนาสนปริเยสนาย ปโยชนํ, เอตฺเถวาหํ สุขวิหารี’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ผุสิสฺส’’นฺติอาทินา ฉฏฺํ คาถมาห. ตตฺถ ผุสิสฺสํ จตสฺโส อปฺปมฺาโยติ อปฺปมาณโคจรตาย ‘‘อปฺปมฺา’’ติ ลทฺธโวหาเร จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ผุสิสฺสํ ผุสิสฺสามิ, กาเลน กาลํ สมาปชฺชิสฺสามิ. ตาหิ จ สุขิโต วิหริสฺสนฺติ ตาหิ อปฺปมฺาหิ สุขิโต สฺชาตสุโข หุตฺวา วิหริสฺสํ จตฺตาโรปิ อิริยาปเถ กปฺเปสฺสามีติ. เตน มยฺหํ สพฺพกาเล สุขเมว, น ทุกฺขํ. ยโต นาหํ สีเตน วิหฺิสฺสํ อนฺตรฏฺเกปิ หิมปาตสมเย อหํ สีเตน น กิลมิสฺสามิ, ตสฺมา อนิฺชิโต วิหรนฺโต จิตฺตสฺส อิฺชิตการณานํ พฺยาปาทาทีนํ สุปฺปหีนตฺตา ปจฺจยุปฺปนฺนิฺชนาย จ อภาวโต สมาปตฺติสุเขเนว สุขิโต วิหริสฺสามีติ. เอวํ เถโร อิมํ คาถํ วทนฺโตเยว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๘.๓๙-๔๔) –

‘‘นคเร พนฺธุมติยา, เวชฺโช อาสึ สุสิกฺขิโต;

อาตุรานํ สทุกฺขานํ, มหาชนสุขาวโห.

‘‘พฺยาธิตํ สมณํ ทิสฺวา, สีลวนฺตํ มหาชุตึ;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, เภสชฺชมททึ ตทา.

‘‘อโรโค อาสิ เตเนว, สมโณ สํวุตินฺทฺริโย;

อโสโก นาม นาเมน, อุปฏฺาโก วิปสฺสิโน.

‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ โอสธมทาสหํ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, เภสชฺชสฺส อิทํ ผลํ.

‘‘อิโต จ อฏฺเม กปฺเป, สพฺโพสธสนามโก;

สตฺตรตนสมฺปนฺโน, จกฺกวตฺตี มหปฺผโล.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

เอตฺถ จ พินฺทุสารรฺโ กาเล อิมสฺส เถรสฺส อุปฺปนฺนตฺตา ตติยสงฺคีติยํ อิมา คาถา สงฺคีตาติ เวทิตพฺพา.

เตกิจฺฉการิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหานาคตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยสฺส สพฺรหฺมจารีสูติอาทิกา อายสฺมโต มหานาคตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺโต กกุสนฺธสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ กกุสนฺธํ ภควนฺตํ อรฺํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ฌานสุเขน นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ตสฺส ทาฬิมผลํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาเกเต มธุวาเสฏฺสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, มหานาโคติสฺส นามํ อโหสิ. โส วิฺุตํ ปตฺโต ภควติ สาเกเต อฺชนวเน วิหรนฺเต อายสฺมโต ควมฺปติตฺเถรสฺส ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ เถรสฺเสว สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตสฺโสวาเท ตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๕.๑-๗) –

‘‘กกุสนฺโธ มหาวีโร, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

คณมฺหา วูปกฏฺโ โส, อคมาสิ วนนฺตรํ.

‘‘พีชมิฺชํ คเหตฺวาน, ลตาย อาวุณึ อหํ;

ภควา ตมฺหิ สมเย, ฌายเต ปพฺพตนฺตเร.

‘‘ทิสฺวานหํ เทวเทวํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

ทกฺขิเณยฺยสฺส วีรสฺส, พีชมิฺชมทาสหํ.

‘‘อิมสฺมึเยว กปฺปมฺหิ, ยํ มิฺชมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พีชมิฺชสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิมุตฺติสุเขน วิหรนฺโต เถโร ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู สพฺรหฺมจารีสุ คารวํ อกตฺวา วิหรนฺเต ทิสฺวา เตสํ โอวาททานวเสน –

๓๘๗.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว นูปลพฺภติ;

ปริหายติ สทฺธมฺมา, มจฺโฉ อปฺโปทเก ยถา.

๓๘๘.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว นูปลพฺภติ;

น วิรูหติ สทฺธมฺเม, เขตฺเต พีชํว ปูติกํ.

๓๘๙.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว นูปลพฺภติ;

อารกา โหติ นิพฺพานา, ธมฺมราชสฺส สาสเน.

๓๙๐.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว อุปลพฺภติ;

น วิหายติ สทฺธมฺมา, มจฺโฉ พวฺโหทเก ยถา.

๓๙๑.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว อุปลพฺภติ;

โส วิรูหติ สทฺธมฺเม, เขตฺเต พีชํว ภทฺทกํ.

๓๙๒.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว อุปลพฺภติ;

สนฺติเก โหติ นิพฺพานํ, ธมฺมราชสฺส สาสเน’’ติ. –

อิมา ฉ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ สพฺรหฺมจารีสูติ สมานํ พฺรหฺมํ สีลาทิธมฺมํ จรนฺตีติ สพฺรหฺมจาริโน, สีลทิฏฺิสามฺคตา สหธมฺมิกา, เตสุ. คารโวติ ครุภาโว สีลาทิคุณนิมิตฺตํ ครุกรณํ. นูปลพฺภตีติ น วิชฺชติ น ปวตฺตติ, น อุปติฏฺตีติ อตฺโถ. นิพฺพานาติ กิเลสานํ นิพฺพาปนโต กิเลสกฺขยาติ อตฺโถ. ธมฺมราชสฺสาติ สตฺถุโน. สตฺถา หิ สเทวกํ โลกํ ยถารหํ โลกิยโลกุตฺตเรน ธมฺเมน รฺเชติ โตเสตีติ ธมฺมราชา. เอตฺถ จ ‘‘ธมฺมราชสฺส สาสเน’’ติ อิมินา นิพฺพานํ นาม ธมฺมราชสฺเสว สาสเน, น อฺตฺถ. ตตฺถ โย สพฺรหฺมจารีสุ คารวรหิโต, โส ยถา นิพฺพานา อารกา โหติ, ตถา ธมฺมราชสฺส สาสนโตปิ อารกา โหตีติ ทสฺเสติ. พวฺโหทเกติ พหุอุทเก. สนฺติเก โหติ นิพฺพานนฺติ นิพฺพานํ ตสฺส สนฺติเก สมีเป เอว โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิมา เอว จ เถรสฺส อฺาพฺยากรณคาถา อเหสุํ.

มหานาคตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. กุลฺลตฺเถรคาถาวณฺณนา

กุลฺโล สิวถิกนฺติอาทิกา อายสฺมโต กุลฺลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ กุฏุมฺพิยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา กุลฺโลติ ลทฺธนาโม วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิ. โส จ ราคจริตตฺตา ติพฺพราคชาติโก โหติ. เตนสฺส อภิกฺขณํ กิเลสา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ. อถสฺส สตฺถา จิตฺตาจารํ ตฺวา อสุภกมฺมฏฺานํ ทตฺวา, ‘‘กุลฺล, ตยา อภิณฺหํ สุสาเน จาริกา จริตพฺพา’’ติ อาห. โส สุสานํ ปวิสิตฺวา อุทฺธุมาตกาทีนิ ตานิ ตานิ อสุภานิ ทิสฺวา ตํ มุหุตฺตํ อสุภมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา สุสานโต นิกฺขนฺตมตฺโตว กามราเคน อภิภุยฺยติ. ปุน ภควา ตสฺส ตํ ปวตฺตึ ตฺวา เอกทิวสํ ตสฺส สุสานฏฺานํ คตกาเล เอกํ ตรุณิตฺถิรูปํ อธุนา มตํ อวินฏฺจฺฉวึ นิมฺมินิตฺวา ทสฺเสติ. ตสฺส ตํ ทิฏฺมตฺตสฺส ชีวมานวิสภาควตฺถุสฺมึ วิย สหสา ราโค อุปฺปชฺชติ. อถ นํ สตฺถา ตสฺส เปกฺขนฺตสฺเสว นวหิ วณมุเขหิ ปคฺฆรมานาสุจึ กิมิกุลากุลํ อติวิย พีภจฺฉํ ทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ ปฏิกฺกูลํ กตฺวา ทสฺเสสิ. โส ตํ เปกฺขนฺโต วิรตฺตจิตฺโต หุตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺส ภควา โอภาสํ ผริตฺวา สตึ ชเนนฺโต –

‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส กุลฺล สมุสฺสยํ;

อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ, พาลานํ อภินนฺทิต’’นฺติ. –

อาห. ตํ สุตฺวา เถโร สมฺมเทว สรีรสภาวํ อุปธาเรนฺโต อสุภสฺํ ปฏิลภิตฺวา ตตฺถ ปมํ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา –

๓๙๓.

‘‘กุลฺโล สิวถิกํ คนฺตฺวา, อทฺทส อิตฺถิมุชฺฌิตํ;

อปวิทฺธํ สุสานสฺมึ, ขชฺชนฺตึ กิมิหี ผุฏํ.

๓๙๔.

‘‘อาตุรํ…เป… พาลานํ อภินนฺทิตํ.

๓๙๕.

‘‘ธมฺมาทาสํ คเหตฺวาน, าณทสฺสนปตฺติยา;

ปจฺจเวกฺขึ อิมํ กายํ, ตุจฺฉํ สนฺตรพาหิรํ.

๓๙๖.

‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;

ยถา อโธ ตถา อุทฺธํ, ยถา อุทฺธํ ตถา อโธ.

๓๙๗.

‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺตึ, ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา;

ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา, ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเร.

๓๙๘.

‘‘ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน, น รตี โหติ ตาทิสี;

ยถา เอกคฺคจิตฺตสฺส, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต’’ติ. –

อุทานวเสน อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ กุลฺโลติ อตฺตานเมว เถโร ปรํ วิย กตฺวา วทติ.

อาตุรนฺติ นานปฺปกาเรหิ ทุกฺเขหิ อภิณฺหํ ปฏิปีฬิตํ. อสุจินฺติ สุจิรหิตํ เชคุจฺฉํ ปฏิกฺกูลํ. ปูตินฺติ ทุคฺคนฺธํ. ปสฺสาติ สภาวโต โอโลเกหิ. กุลฺลาติ โอวาทกาเล ภควา เถรํ อาลปติ. อุทานกาเล ปน เถโร สยเมว อตฺตานํ วทติ. สมุสฺสยนฺติ สรีรํ. อุคฺฆรนฺตนฺติ อุทฺธํ วณมุเขหิ อสุจึ สวนฺตํ. ปคฺฆรนฺตนฺติ อโธ วณมุเขหิ สมนฺตโต จ อสุจึ สวนฺตํ. พาลานํ อภินนฺทิตนฺติ พาเลหิ อนฺธปุถุชฺชเนหิ ทิฏฺิตณฺหาภินนฺทนาหิ ‘‘อหํ มม’’นฺติ อภินิวิสฺส นนฺทิตํ.

ธมฺมาทาสนฺติ ธมฺมมยํ อาทาสํ. ยถา หิ สตฺตา อทาเสน อตฺตโน มุเข กาเย วา คุณโทเส ปสฺสนฺติ, เอวํ โยคาวจโร เยน อตฺตภาเว สํกิเลสโวทานธมฺเม ยาถาวโต ปสฺสติ, ตํ วิปสฺสนาาณํ อิธ ‘‘ธมฺมาทาส’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ าณทสฺสนสฺส มคฺคาณสงฺขาตสฺส ธมฺมจกฺขุสฺส อธิคมาย อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทตฺวา. ปจฺจเวกฺขึ อิมํ กายนฺติ อิมํ กรชกายํ นิจฺจสาราทิวิรหโต ตุจฺฉํ อตฺตปรสนฺตานานํ วิภาคโต สนฺตรพาหิรํ าณจกฺขุนา ปติอเวกฺขึ ปสฺสึ.

ยถา ปน ปจฺจเวกฺขึ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา อิท’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา อิทํ ตถา เอตนฺติ ยถา อิทํ มยฺหํ สรีรสงฺขาตํ อสุภํ อายุอุสฺมาวิฺาณานํ อนปคมา นานาวิธํ มาโยปมํ กิริยํ ทสฺเสติ, ตถาว เอตํ มตสรีรํ ปุพฺเพ เตสํ ธมฺมานํ อนปคมา อโหสิ. ยถา เอตํ เอตรหิ มตสรีรํ เตสํ ธมฺมานํ อปคมา น กิฺจิ กิริยํ ทสฺเสติ, ตถา อิทํ มม สรีรมฺปิ เตสํ ธมฺมานํ อปคมา นสฺสเตวาติ. ยถา จ อิทํ มม สรีรํ เอตรหิ สุสาเน น มตํ น สยิตํ, น อุทฺธุมาตกาทิภาวํ อุปคตํ, ตถา เอตํ เอตรหิ มตสรีรมฺปิ ปุพฺเพ อโหสิ. ยถา ปเนตํ เอตรหิ มตสรีรํ สุสาเน สยิตํ อุทฺธุมาตกาทิภาวํ อุปคตํ, ตถา อิทํ มม สรีรมฺปิ ภวิสฺสติ. อถ วา ยถา อิทํ มม สรีรํ อสุจิ ทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ ปฏิกฺกูลํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, ตถา เอตํ มตสรีรมฺปิ. ยถา วา เอตํ มตสรีรํ อสุจิอาทิสภาวฺเจว อนิจฺจาทิสภาวฺจ, ตถา อิทํ มม สรีรมฺปิ. ยถา อโธ ตถา อุทฺธนฺติ ยถา นาภิโต อโธ เหฏฺา อยํ กาโย อสุจิ ทุคฺคนฺโธ เชคุจฺโฉ ปฏิกฺกูโล อนิจฺโจ ทุกฺโข อนตฺตา จ, ตถา อุทฺธํ นาภิโต อุปริ อสุจิอาทิสภาโว จ. ยถา อุทฺธํ ตถา อโธติ ยถา จ นาภิโต, อุทฺธํ อสุจิอาทิสภาโว, ตถา อโธ นาภิโต เหฏฺาปิ.

ยถา ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา อยํ กาโย ทิวา ‘‘อกฺขิมฺหา อกฺขิคูถโก’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๑๙๙) อสุจิ ปคฺฆรติ, ตถา รตฺติมฺปิ. ยถา รตฺตึ ตถา ทิวาติ ยถา จ รตฺตึ อยํ กาโย อสุจิ ปคฺฆรติ, ตถา ทิวาปิ, นยิมสฺส กาลวิภาเคน อฺถาภาโวติ อตฺโถ. ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ยถา อยํ กาโย ปุเร ปุพฺเพ ตรุณกาเล อสุจิ ทุคฺคนฺโธ เชคุจฺโฉ ปฏิกฺกูโล, ตถา จ ปจฺฉา ชิณฺณกาเล. ยถา จ ปจฺฉา ชิณฺณกาเล อสุจิอาทิสภาโว, ตถา ปุเร ตรุณกาเลปิ. ยถา วา ปุเร อตีตกาเล สวิฺาณกาเล อสุจิอาทิสภาโว จ อนิจฺจาทิสภาโว จ, ตถา ปจฺฉา อนาคตกาเล อวิฺาณกาเลติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปฺจงฺคิเกน ตุริเยนาติ ‘‘อาตตํ วิตตํ อาตตวิตตํ ฆนํ สุสีร’’นฺติ เอวํ ปฺจงฺคิเกน ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ตุริเยน ปริจริยมานสฺส กามสุขสมงฺคิโน อิสฺสรชนสฺส ตาทิสี ตถารูปา รติ สุขสฺสาโท น โหติ. ยถา เอกคฺคจิตฺตสฺส, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโตติ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ กตฺวา อินฺทฺริยานํ เอกรสภาเวน วีถิปฏิปนฺนาย วิปสฺสนาย ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส โยคาวจรสฺส ยาทิสา ธมฺมรติ, ตสฺสา กลมฺปิ กามรติ น อุเปตีติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔);

อิมา เอว จ เถรสฺส อฺาพฺยากรณคาถาปิ อเหสุํ.

กุลฺลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มาลุกฺยปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

มนุชสฺสาติอาทิกา อายสฺมโต มาลุกฺยปุตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ โกสลรฺโ อคฺคาสนิกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส มาตา มาลุกฺยา นาม, ตสฺสา วเสน มาลุกฺยปุตฺโตตฺเวว ปฺายิตฺถ. โส วยปฺปตฺโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วิจรนฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา สาสเน ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว ฉฬภิฺโ อโหสิ. โส าตีสุ อนุกมฺปาย าติกุลํ อคมาสิ. ตํ าตกา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา ธเนน ปโลเภตุกามา มหนฺตํ ธนราสึ ปุรโต อุปฏฺเปตฺวา ‘‘อิทํ ธนํ ตว สนฺตกํ, วิพฺภมิตฺวา อิมินา ธเนน ปุตฺตทารํ ปฏิชคฺคนฺโต ปุฺานิ กโรหี’’ติ ยาจึสุ. เถโร เตสํ อชฺฌาสยํ วิปริวตฺเตนฺโต อากาเส ตฺวา –

๓๙๙.

‘‘มนุชสฺส ปมตฺตจาริโน, ตณฺหา วฑฺฒติ มาลุวา วิย;

โส ปฺลวตี หุรา หุรํ, ผลมิจฺฉํว วนสฺมิ วานโร.

๔๐๐.

‘‘ยํ เอสา สหเต ชมฺมี, ตณฺหา โลเก วิสตฺติกา;

โสกา ตสฺส ปวฑฺฒนฺติ, อภิวฏฺํว พีรณํ.

๔๐๑.

‘‘โย เจตํ สหเต ชมฺมึ, ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ;

โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ, อุทพินฺทูว โปกฺขรา.

๔๐๒.

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

ตณฺหาย มูลํ ขณถ, อุสีรตฺโถว พีรณํ;

มา โว นฬํว โสโตว, มาโร ภฺชิ ปุนปฺปุนํ.

๔๐๓.

‘‘กโรถ พุทฺธวจนํ, ขโณ โว มา อุปจฺจคา;

ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.

๔๐๔.

‘‘ปมาโท รโช ปมาโท, ปมาทานุปติโต รโช;

อปฺปมาเทน วิชฺชาย, อพฺพเห สลฺลมตฺตโน’’ติ. –

อิมาหิ ฉหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสติ.

ตตฺถ มนุชสฺสาติ สตฺตสฺส. ปมตฺตจาริโนติ สติโวสฺสคฺคลกฺขเณน ปมาเทน ปมตฺตจาริสฺส, เนว ฌานํ, น วิปสฺสนา, น มคฺคผลานิ วฑฺฒนฺติ. ยถา ปน รุกฺขํ สํสิพฺพนฺตี ปริโยนนฺธนฺตี ตสฺส วินาสาย มาลุวา ลตา วฑฺฒติ, เอวมสฺส ฉ ทฺวารานิ นิสฺสาย รูปาทีสุ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา ตณฺหา วฑฺฒติ. วฑฺฒมานาว ยถา มาลุวา ลตา อตฺตโน อปสฺสยภูตํ รุกฺขํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ปาเตติ, เอวํ ตณฺหาวสิกํ ปุคฺคลํ อปาเย นิปาเตติ. โส ปฺลวตีติ โส ตณฺหาวสิโก ปุคฺคโล อปราปรํ ภวาภเว อุปฺลวติ ธาวติ. ยถา กึ? ผลมิจฺฉํว วนสฺมิ วานโร ยถา รุกฺขผลํ อิจฺฉนฺโต วานโร วนสฺมึ ธาวนฺโต รุกฺขสฺส เอกํ สาขํ คณฺหาติ, ตํ มุฺจิตฺวา อฺํ คณฺหาติ, ตํ มุฺจิตฺวา อฺนฺติ ‘‘สาขํ อลภิตฺวา นิสินฺโน’’ติ วตฺตพฺพตํ นาปชฺชติ; เอวเมว ตณฺหาวสิโก ปุคฺคโล หุรา หุรํ ธาวนฺโต ‘‘อารมฺมณํ อลภิตฺวา ตณฺหาย อปฺปวตฺตึ ปตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตํ นาปชฺชติ.

นฺติ ยํ ปุคฺคลํ. เอสา ลามกภาเวน ชมฺมี วิสาหารตาย วิสมูลตาย วิสผลตาย วิสปริโภคตาย รูปาทีสุ วิสตฺตตาย อาสตฺตตาย จ วิสตฺติกาติ สงฺขํ คตา ฉทฺวาริกา ตณฺหา สหเต อภิภวติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส. ยถา นาม วเน ปุนปฺปุนํ วสฺสนฺเต เทเว อภิวฏฺํ พีรณํ พีรณติณํ วฑฺฒติ, เอวํ วฏฺฏมูลกา โสกา อภิวฑฺฒนฺติ วุทฺธึ อาปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

โย เจตํ…เป… ทุรจฺจยนฺติ โย ปน ปุคฺคโล เอวํ วุตฺตปฺปการํ อติกฺกมิตุํ ปชหิตุํ ทุกฺกรตาย ทุรจฺจยํ ตณฺหํ สหเต อภิภวติ, ตมฺหา ปุคฺคลา วฏฺฏมูลกา โสกา ปปตนฺติ. ยถา นาม โปกฺขเร ปทุมปตฺเต ปติตํ อุทพินฺทุ น ปติฏฺาติ, เอวํ น ปติฏฺหนฺตีติ อตฺโถ.

ตํ โว วทามีติ เตน การเณน อหํ ตุมฺเห วทามิ. ภทฺทํ โวติ ภทฺทํ ตุมฺหากํ โหตุ, มา ตณฺหํ อนุวตฺตปุคฺคโล วิย วิภวํ อนตฺถํ ปาปุณาถาติ อตฺโถ. ยาวนฺเตตฺถ สมาคตาติ อิมสฺมึ าเน ยตฺตกา สนฺนิปติตา, ตตฺตกา. กึ วทสีติ เจ? ตณฺหาย มูลํ ขณถ อิมิสฺสา ฉทฺวาริกตณฺหาย มูลํ การณํ อวิชฺชาทิกิเลสคฺคหนํ อรหตฺตมคฺคาณกุทาเลน ขณถ สมุจฺฉินฺทถ. กึ วิยาติ? อุสีรตฺโถว พีรณํ ยถา อุสีเรน อตฺถิโก ปุริโส มหนฺเตน กุทาเลน พีรณาปรนามํ อุสีรํ นาม ติณํ ขณติ, เอวมสฺส มูลํ ขณถาติ อตฺโถ. มา โว นฬํว โสโตว, มาโร ภฺชิ ปุนปฺปุนนฺติ ตุมฺเห นทีตีเร ชาตํ นฬํ มหาเวเคน อาคโต นทีโสโต วิย กิเลสมาโร มจฺจุมาโร เทวปุตฺตมาโร จ ปุนปฺปุนํ มา ภฺชีติ อตฺโถ.

ตสฺมา กโรถ พุทฺธวจนํ ‘‘ฌายถ, ภิกฺขเว, มา ปมาทตฺถา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๑๕) วุตฺตํ พุทฺธสฺส ภควโต วจนํ กโรถ, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติยา สมฺปาเทถ. ขโณ โว มา อุปจฺจคาติ โย หิ พุทฺธวจนํ น กโรติ, ตํ ปุคฺคลํ อยํ พุทฺธุปฺปาทกฺขโณ ปติรูปเทสวาเส อุปฺปตฺติกฺขโณ สมฺมทิฏฺิยา ปฏิลทฺธกฺขโณ ฉนฺนํ อายตนานํ อเวกลฺลกฺขโณติ สพฺโพปิ ขโณ อติกฺกมติ, โส ขโณ มา ตุมฺเห อติกฺกมตุ. ขณาตีตาติ เย หิ ตํ ขณํ อตีตา, เย วา ปุคฺคเล โส ขโณ อตีโต, เต นิรยมฺหิ สมปฺปิตา ตตฺถ นิพฺพตฺตา จิรกาลํ โสจนฺติ.

ปมาโท รโชติ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ สติโวสฺสคฺคลกฺขโณ ปมาโท, สํกิเลสสภาวตฺตา ราครชาทิมิสฺสตาย จ รโช. ปมาทานุปติโต รโชติ โย หิ โกจิ รโช นาม ราคาทิโก, โส สพฺโพ ปมาทานุปติโต ปมาทวเสเนว อุปฺปชฺชติ. อปฺปมาเทนาติ อปฺปมชฺชเนน อปฺปมาทปฏิปตฺติยา. วิชฺชายาติ อคฺคมคฺควิชฺชาย. อพฺพเห สลฺลมตฺตโนติ อตฺตโน หทยนิสฺสิตํ ราคาทิสลฺลํ อุทฺธเรยฺย สมูหเนยฺยาติ.

มาลุกฺยปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สปฺปทาสตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปณฺณวีสตีติอาทิกา อายสฺมโต สปฺปทาสตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมึ สุทฺโธทนมหาราชสฺส ปุโรหิตปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส สปฺปทาโสติ นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต สตฺถุ าติสมาคเม ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา กิเลสาภิภเวน เจโตสมาธึ อลภนฺโต พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา สํเวคชาโต ปจฺฉา สตฺถํ อาหรนฺโต โยนิโส มนสิการํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๔๐๕.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ยโต ปพฺพชิโต อหํ;

อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ, เจโตสนฺติมนชฺฌคํ.

๔๐๖.

‘‘อลทฺธา จิตฺตสฺเสกคฺคํ, กามราเคน อฏฺฏิโต;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโต, วิหารา อุปนิกฺขมึ.

๔๐๗.

‘‘สตฺถํ วา อาหริสฺสามิ, โก อตฺโถ ชีวิเตน เม;

กถฺหิ สิกฺขํ ปจฺจกฺขํ, กาลํ กุพฺเพถ มาทิโส.

๔๐๘.

‘‘ตทาหํ ขุรมาทาย, มฺจกมฺหิ อุปาวิสึ;

ปรินีโต ขุโร อาสิ, ธมนึ เฉตฺตุมตฺตโน.

๔๐๙.

‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;

อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฏฺถ.

๔๑๐.

‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ปณฺณวีสติวสฺสานิ, ยโต ปพฺพชิโต อหนฺติ ยโต ปฏฺาย อหํ ปพฺพชิโต ตานิมานิ ปณฺณวีสติวสฺสานิ. อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ, เจโตสนฺติมนชฺฌคนฺติ โสหํ เอตฺตกํ กาลํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺโต อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ องฺคุลิโผฏนมตฺตมฺปิ ขณํ เจโตสนฺตึ เจตโส สมาธานํ น ลภึ.

เอวํ ปน อลทฺธา จิตฺตสฺเสกคฺคตํ, ตตฺถ การณมาห ‘‘กามราเคน อฏฺฏิโต’’ติ. ตตฺถ อฏฺฏิโตติ ปีฬิโต, อภิภูโตติ อตฺโถ. พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโตติ ‘‘อิทมิธ อติวิย อยุตฺตํ วตฺตติ, ยทาหํ นิยฺยานิเก สาสเน ปพฺพชิตฺวา อตฺตานํ กิเลสปงฺกโต อุทฺธริตุํ น สกฺโกมี’’ติ อุทฺธํมุโข พาหา ปคฺคยฺห กนฺทมาโน. วิหารา อุปนิกฺขมินฺติ วสนกวิหารโต พหิ นิกฺขนฺโต.

เยนาธิปฺปาเยน นิกฺขนฺโต, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺถํ วา อาหริสฺสามี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตฺถํ วา อาหริสฺสามีติ วา-สทฺโท วิกปฺปนตฺโถ. เตน ‘‘รุกฺขา วา ปปติสฺสามิ, อุพฺพนฺธิตฺวา วา มริสฺสามี’’ติอาทิเก มรณปฺปกาเร สงฺคณฺหาติ. สิกฺขนฺติ อธิสีลสิกฺขํ. ปจฺจกฺขนฺติ ปจฺจาจิกฺขนฺโต ปริจฺจชนฺโต. ‘‘ปจฺจกฺขา’’ติปิ ปาฬิ, ปจฺจกฺขายาติ อตฺโถ. กาลนฺติ มรณํ. กถฺหิ นาม มาทิโส สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน กาลํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. สิกฺขาปจฺจกฺขานฺหิ อริยสฺส วินเย มรณํ นาม. ยถาห ภควา – ‘‘มรณฺเหตํ, ภิกฺขเว, โย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๖๓). ‘‘สิกฺขํ ปจฺจกฺขา’’ติ ปน ปาเ กถฺหิ นาม มาทิโส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย กาลํ กเรยฺย, สิกฺขาสมงฺคี เอว ปน หุตฺวา กาลํ กเรยฺย? ตสฺมา สตฺถํ วา อาหริสฺสามิ, โก อตฺโถ ชีวิเตน เมติ โยชนา.

ตทาหนฺติ ยทา กิเลสาภิภเวน สมณธมฺมํ กาตุํ อสมตฺถตาย ชีวิเต นิพฺพินฺทนฺโต ตทา. ขุรนฺติ นิสิตขุรํ, ขุรสทิสํ วา สตฺถกํ. มฺจกมฺหิ อุปาวิสินฺติ ปเรสํ นิวารณภเยน โอวรกํ ปวิสิตฺวา มฺจเก นิสีทึ. ปรินีโตติ อุปนีโต, คเล ปิโตติ อธิปฺปาโย. ธมนินฺติ ‘‘กณฺเ ธมนึ, กณฺธมนึ คลวลย’’นฺติปิ วทนฺติ. เฉตฺตุนฺติ ฉินฺทิตุํ.

ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถาติ ‘‘ยทาหํ มริสฺสามี’’ติ กณฺเ ธมนึ ฉินฺทิตุํ ขุรํ อุปเนสึ, ตโต ปรํ ‘‘อโรคํ นุ โข เม สีล’’นฺติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อกฺขณฺฑํ อจฺฉิทฺทํ สุปริสุทฺธํ สีลํ ทิสฺวา ปีติ อุปฺปชฺชิ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภิ, ปสฺสทฺธกายสฺส นิรามิสํ สุขํ อนุภวนฺตสฺส จิตฺตสฺส สมาหิตตาย วิปสฺสนาวเสน โยนิโส มนสิกาโร อุปฺปชฺชิ. อถ วา ตโตติ กณฺเ ขุรสฺส อุปนยโต วเณ ชาเต อุปฺปนฺนํ เวทนํ วิกฺขมฺเภนฺโต วิปสฺสนาย วเสน โยนิโสมนสิกาโร อุปฺปชฺชิ. อิทานิ ตโต ปรํ มคฺคผลปจฺจเวกฺขณาณํ อุปฺปนฺนภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาทีนโว ปาตุรหู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.

สปฺปทาสตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กาติยานตฺเถรคาถาวณฺณนา

อุฏฺเหีติอาทิกา อายสฺมโต กาติยานตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อฺตรสฺส โกสิยโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺโต, มาตุโคตฺตวเสน ปน กาติยาโนติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต สามฺกานิตฺเถรสฺส คิหิสหาโย เถรํ ทิสฺวา ปพฺพชิโต สมณธมฺมํ กโรนฺโต รตฺตึ ‘‘นิทฺทาภิภวํ วิโนเทสฺสามี’’ติ จงฺกมํ อารุหิ. โส จงฺกมนฺโต นิทฺทาย อภิภูโต ปจลายมาโน ปริปติตฺวา ตตฺเถว อนนฺตรหิตาย ภูมิยา นิปชฺชิ, สตฺถา ตสฺส ตํ ปวตฺตึ ทิสฺวา สยํ ตตฺถ คนฺตฺวา อากาเส ตฺวา ‘‘กาติยานา’’ติ สฺํ อทาสิ. โส สตฺถารํ ทิสฺวา อุฏฺหิตฺวา วนฺทิตฺวา สํเวคชาโต อฏฺาสิ. อถสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสนฺโต –

๔๑๑.

‘‘อุฏฺเหิ นิสีท กาติยาน, มา นิทฺทาพหุโล อหุ ชาครสฺสุ;

มา ตํ อลสํ ปมตฺตพนฺธุ, กูเฏเนว ชินาตุ มจฺจุราชา.

๔๑๒.

‘‘เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺทเวโค, เอวํ ชาติชราติ วตฺตเต ตํ;

โส กโรหิ สุทีปมตฺตโน ตฺวํ, น หิ ตาณํ ตว วิชฺชเตว อฺํ.

๔๑๓.

‘‘สตฺถา หิ วิเชสิ มคฺคเมตํ, สงฺคา ชาติชราภยา อตีตํ;

ปุพฺพาปรรตฺตมปฺปมตฺโต, อนุยุฺชสฺสุ ทฬฺหํ กโรหิ โยคํ.

๔๑๔.

‘‘ปุริมานิ ปมุฺจ พนฺธนานิ, สงฺฆาฏิขุรมุณฺฑภิกฺขโภชี;

มา ขิฑฺฑารติฺจ มา นิทฺทํ, อนุยุฺชิตฺถ ฌาย กาติยาน.

๔๑๕.

‘‘ฌายาหิ ชินาหิ กาติยาน, โยคกฺเขมปเถสุ โกวิโทสิ;

ปปฺปุยฺย อนุตฺตรํ วิสุทฺธึ, ปรินิพฺพาหิสิ วารินาว โชติ.

๔๑๖.

‘‘ปชฺโชตกโร ปริตฺตรํโส, วาเตน วินมฺยเต ลตาว;

เอวมฺปิ ตุวํ อนาทิยาโน, มารํ อินฺทสโคตฺต นิทฺธุนาหิ;

โส เวทยิตาสุ วีตราโค, กาลํ กงฺข อิเธว สีติภูโต’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อุฏฺเหีติ นิทฺทูปคมนโต อุฏฺหนฺโต อุฏฺานวีริยํ กโรหิ. ยสฺมา นิปชฺชา นาม โกสชฺชปกฺขิยา, ตสฺมา มา สยิ. นิสีทาติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา นิสีท. กาติยานาติ ตํ นาเมน อาลปติ. มา นิทฺทาพหุโล อหูติ นิทฺทาพหุโล นิทฺทาภิภูโต มา อหุ. ชาครสฺสูติ ชาคร, ชาคริยมนุยุตฺโต โหหิ. มา ตํ อลสนฺติ ชาคริยํ อนนุยุฺชนฺตํ ตํ อลสํ กุสีตํ ปมตฺตพนฺธุ มจฺจุราชา กูเฏเนว อทฺทุหเนน วิย เนสาโท มิคํ วา ปกฺขึ วา ชราโรเคหิ มา ชินาตุ มา อภิภวตุ, มา อชฺโฌตฺถรตูติ อตฺโถ.

เสยฺยถาปีติ เสยฺยถา อปิ. มหาสมุทฺทเวโคติ มหาสมุทฺทสฺส อูมิเวโค. เอวนฺติ ยถา นาม มหาสมุทฺทอูมิเวโค อุปรูปริ อุฏฺหนฺโต ตํ อภิกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺตํ ปุริสํ อภิภวติ, เอวํ ชาติ ชรา จ โกสชฺชาภิภูตํ ตํ อติวตฺตเต อุปรูปริ อชฺโฌตฺถรติ. โส กโรหีติ โส ตฺวํ, กาติยาน, จตูหิ โอเฆหิ อนชฺโฌตฺถรณียํ อรหตฺตผลสงฺขาตํ สุทีปํ อตฺตโน กโรหิ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทหิ. น หิ ตาณํ ตว วิชฺชเตว อฺนฺติ หีติ เหตุอตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา ตโต อคฺคผลโต อฺํ ตว ตาณํ นาม อิธ วา หุรํ วา น อุปลพฺภติ, ตสฺมา ตํ อรหตฺตสงฺขาตํ สุทีปํ กโรหีติ.

สตฺถา หิ วิเชสิ มคฺคเมตนฺติ ยํ สาเธตุํ อวิสหนฺตา ยโต ปราชิตา ปุถู อฺติตฺถิยา, ตเทตํ ตสฺส สุทีปสฺส การณภูตํ ปฺจวิธสงฺคโต ชาติอาทิภยโต จ อตีตํ อริยมคฺคํ เทวปุตฺตมาราทิเก อภิภวิตฺวา ตุยฺหํ สตฺถา วิเชสิ สาเธสิ. ยสฺมา สตฺถุ สนฺตกํ นาม สาวเกน อธิคนฺตพฺพํ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ, ตสฺมา ตสฺส อธิคมาย ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ปุริมยามํ ปจฺฉิมยามฺจ, อปฺปมตฺโต สโต สมฺปชาโน หุตฺวา อนุยุฺช โยคํ ภาวนํ ทฬฺหฺจ กโรหิ.

ปุริมานิ ปมุฺจ พนฺธนานีติ ปุริมกานิ คิหิกาเล อาพทฺธานิ คิหิพนฺธนานิ กามคุณพนฺธนานิ ปมุฺจ วิสฺสชฺเชหิ, ตตฺถ อนเปกฺโข โหหิ. สงฺฆาฏิขุรมุณฺฑภิกฺขโภชีติ สงฺฆาฏิธารี ขุเรน กตสิรมุณฺโฑ ภิกฺขาหารโภชี, ติวิธมฺเปตํ ปุริมพนฺธนปโมกฺขสฺส ขิฑฺฑารตินิทฺทานนุโยคสฺส จ การณวจนํ. ยสฺมา ตฺวํ สงฺฆาฏิปารุโต มุณฺโฑ ภิกฺขาหาโร ชีวติ, ตสฺมา เต กามสุขานุโยโค ขิฑฺฑารตินิทฺทานุโยโค จ น ยุตฺโตติ ตโต ปุริมานิ ปมุฺจ พนฺธนานิ ขิฑฺฑารตึ นิทฺทฺจ มานุยุฺชิตฺถาติ โยชนา. ฌายาติ ฌายสฺสุ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ อนุยุฺช.

ตํ ปน อนุยุฺชนฺโต เยน ฌาเนน ฌายโต กิเลสา สพฺพโส ชิตา โหนฺติ, ตํ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อนุยุฺชาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฌายาหิ ชินาหี’’ติ อาห. โยคกฺเขมปเถสุ โกวิโทสีติ จตูหิ โยเคหิ เขมสฺส นิพฺพานสฺส ปถภูเตสุ โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ กุสโล เฉโก อสิ, ตสฺมา ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต อนุตฺตรํ อุตฺตรรหิตํ, วิสุทฺธึ นิพฺพานํ อรหตฺตฺจ ปปฺปุยฺย ปาปุณิตฺวา ปน ตฺวํ ปรินิพฺพาหิสิ. วารินาว โชตีติ มหตา สลิลวุฏฺินิปาเตน อคฺคิขนฺโธ วิย อริยมคฺควุฏฺินิปาเตน ปรินิพฺพายิสฺสติ.

ปชฺโชตกโรติ ปชฺโชตึ กโร ปทีโป. ปริตฺตรํโสติ ขุทฺทกจฺจิโก. วินมฺยเตติ วินมียติ อปนิยฺยติ. ลตาวาติ วลฺลิ วิย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา วฏฺฏิอาทิปจฺจยเวกลฺเลน ปริตฺตรํโส มนฺทปโภ ปทีโป อปฺปิกา ลตา วา วาเตน วิธมิยฺยติ วิทฺธํสิยฺยติ, เอวํ ตุวมฺปิ. โกสิยโคตฺตตาย, อินฺทสโคตฺต, อินฺทสมานโคตฺตํ. มารํ ตสฺส วเส อนาวตฺตนา อนุปาทานโต จ อนาทิยาโน, นิทฺธุนาหิ วิธเมหิ วิทฺธํเสหิ. เอวํ ปน วิทฺธํสมาโน โส ตฺวํ เวทยิตาสุ สพฺพาสุ เวทนาสุ วิคตจฺฉนฺทราโค อิเธว อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สพฺพกิเลสทรถปริฬาหาภาเวน สีติภูโต นิพฺพุโต อตฺตโน ปรินิพฺพานกาลํ กงฺข อาคเมหีติ. เอวํ สตฺถารา อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ ปาเปตฺวา เทสนาย กตาย เถโร เทสนาวสาเน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สตฺถารา เทสิตนิยาเมเนว อิมา คาถา อภาสิ. ตา เอว อิมา คาถา เถรสฺส อฺาพฺยากรณฺจ ชาตา.

กาติยานตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. มิคชาลตฺเถรคาถาวณฺณนา

สุเทสิโตติอาทิกา อายสฺมโต มิคชาลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ วิสาขาย มหาอุปาสิกาย ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, มิคชาโลติสฺส นามํ อโหสิ. โส วิหารํ คนฺตฺวา อภิณฺหโส ธมฺมสฺสวเนน ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๔๑๗.

‘‘สุเทสิโต จกฺขุมตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

สพฺพสํโยชนาตีโต, สพฺพวฏฺฏวินาสโน.

๔๑๘.

‘‘นิยฺยานิโก อุตฺตรโณ, ตณฺหามูลวิโสสโน;

วิสมูลํ อาฆาตนํ, เฉตฺวา ปาเปติ นิพฺพุตึ.

๔๑๙.

‘‘อฺาณมูลเภทาย, กมฺมยนฺตวิฆาฏโน;

วิฺาณานํ ปริคฺคเห, าณวชิรนิปาตโน.

๔๒๐.

‘‘เวทนานํ วิฺาปโน, อุปาทานปฺปโมจโน;

ภวํ องฺคารกาสุํว, าเณน อนุปสฺสโน.

๔๒๑.

‘‘มหารโส สุคมฺภีโร, ชรามจฺจุนิวารโณ;

อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ทุกฺขูปสมโน สิโว.

๔๒๒.

‘‘กมฺมํ กมฺมนฺติ ตฺวาน, วิปากฺจ วิปากโต;

ปฏิจฺจุปฺปนฺนธมฺมานํ, ยถาวาโลกทสฺสโน;

มหาเขมงฺคโม สนฺโต, ปริโยสานภทฺทโก’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ สุเทสิโตติ สุฏฺุ เทสิโต, เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถานํ ยาถาวโต วิภาวนวเสน เทสิโตติ อตฺโถ. อถ วา สุเทสิโตติ สมฺมา เทสิโต, ปวตฺตินิวตฺตีนํ ตทุภยเหตูนฺจ อวิปรีตโต ปกาสนวเสน ภาสิโต สฺวาขฺยาโตติ อตฺโถ. จกฺขุมตาติ มํสจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ, ปฺาจกฺขุ, พุทฺธจกฺขุ, สมนฺตจกฺขูติ อิเมหิ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมตา. พุทฺเธนาติ สพฺพฺุพุทฺเธน. อาทิจฺจพนฺธุนาติ อาทิจฺจโคตฺเตน. ทุวิโธ หิ โลเก ขตฺติยวํโส – อาทิจฺจวํโส, โสมวํโสติ. ตตฺถ อาทิจฺจวํโส, โอกฺกากราชวํโสติ ชานิตพฺพํ. ตโต สฺชาตตาย สากิยา อาทิจฺจโคตฺตาติ ภควา ‘‘อาทิจฺจพนฺธู’’ติ วุจฺจติ. อถ วา อาทิจฺจสฺส พนฺธูติปิ ภควา อาทิจฺจพนฺธุ, สฺวายมตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตเยว. กามราคสํโยชนาทีนํ สพฺเพสํ สํโยชนานํ สมติกฺกมนภาวโต สพฺพสํโยชนาตีโต ตโต เอว กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏานํ วินาสนโต วิทฺธํสนโต สพฺพวฏฺฏวินาสโน, สํสารจารกโต นิยฺยานโต นิยฺยานิโก, สํสารมโหฆโต สมุตฺตรณฏฺเน อุตฺตรโณ, กามตณฺหาทีนํ สพฺพตณฺหานํ มูลํ อวิชฺชํ อโยนิโส มนสิการฺจ วิโสเสติ สุกฺขาเปตีติ ตณฺหามูลวิโสสโน, ติณฺณมฺปิ เวทานํ สมฺปฏิเวธสฺส วิทฺธํสนโต วิสสฺส ทุกฺขสฺส การณตฺตา วิสมูลํ, สตฺตานํ พฺยสนุปฺปตฺติฏฺานตาย อาฆาตนํ กมฺมํ กิเลสํ วา เฉตฺวา สมุจฺฉินฺทิตฺวา นิพฺพุตึ นิพฺพานํ ปาเปติ.

อฺาณสฺส มูลํ อโยนิโส มนสิกาโร อาสวา จ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) หิ วุตฺตํ, ตสฺส เภทาย วชิรูปมาเณน ภินฺทนตฺถาย. อถ วา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทิวจนโต (วิภ. ๒๒๕-๒๒๖; สํ. นิ. ๒.๑) อฺาณํ มูลํ เอตสฺสาติ อฺาณมูลํ, ภวจกฺกํ, ตสฺส มคฺคาณวชิเรน ปทาลนตฺถํ เทสิโตติ สมฺพนฺโธ. กมฺมยนฺตวิฆาฏโนติ กมฺมฆฏิตสฺส อตฺตภาวยนฺตสฺส วิทฺธํสโน. วิฺาณานํ ปริคฺคเหติ กามภวาทีสุ ยถาสกกมฺมุนา วิฺาณคฺคหเณ อุปฏฺิเตติ วจนเสโส. ตตฺถ ตตฺถ หิ ภเว ปฏิสนฺธิยา คหิตาย ตํตํภวนิสฺสิตวิฺาณานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ. าณวชิรนิปาตโนติ าณวชิรสฺส นิปาโต, าณวชิรํ นิปาเตตฺวา เตสํ ปทาเลตา. โลกุตฺตรธมฺโม หิ อุปฺปชฺชมาโน สตฺตมภวาทีสุ อุปฺปชฺชนารหานิ วิฺาณานิ ภินฺทตฺตเมว อุปฺปชฺชตีติ.

เวทนานํ วิฺาปโนติ สุขาทีนํ ติสฺสนฺนํ เวทนานํ ยถากฺกมํ ทุกฺขสลฺลานิจฺจวเสน ยาถาวโต ปเวทโก. อุปาทานปฺปโมจโนติ กามุปาทานาทีหิ จตูหิปิ อุปาทาเนหิ จิตฺตสนฺตานสฺส วิโมจโก. ภวํ องฺคารกาสุํว, าเณน อนุปสฺสโนติ กามภวาทินววิธมฺปิ ภวํ เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาวโต สาธิกโปริสํ องฺคารกาสุํ วิย มคฺคาเณน อนุปจฺจกฺขโต ทสฺเสตา.

สนฺตปณีตภาวโต อติตฺติกรฏฺเน มหารโส ปริฺาทิวเสน วา มหากิจฺจตาย สามฺผลวเสน มหาสมฺปตฺติตาย จ มหารโส, อนุปจิตสมฺภาเรหิ ทุรวคาหตาย อลพฺภเนยฺยปติฏฺตาย จ สุฏฺุ คมฺภีโร ชรามจฺจุนิวารโณ, อายตึ ภวาภินิปฺผตฺติยา นิวตฺตเนน ชราย มจฺจุโน จ ปฏิเสธโก. อิทานิ ยถาวุตฺตคุณวิเสสยุตฺตํ ธมฺมํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อริโย อฏฺงฺคิโก’’ติ วตฺวา ปุนปิ ตสฺส กติปเย คุเณ วิภาเวตุํ ‘‘ทุกฺขูปสมโน สิโว’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ปริสุทฺธฏฺเน อริโย, สมฺมาทิฏฺิอาทิอฏฺธมฺมสโมธานตาย อฏฺงฺคิโก, นิพฺพานคเวสนฏฺเน มคฺโค สกลวฏฺฏทุกฺขวูปสมนฏฺเน ทุกฺขวูปสมโน, เขมฏฺเน สิโว.

ยถา อิโต พาหิรกสมเย อสมฺมาสมฺพุทฺธปเวทิตตฺตา กมฺมวิปาโก วิปลฺลาโส สิยาติ เอวํ อวิปลฺลาเสตฺวา ปฏิจฺจุปฺปนฺนธมฺมานํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กมฺมํ กมฺมนฺติ วิปากฺจ วิปากโต ตฺวาน ปุพฺพภาคาเณน ชานนเหตุ สสฺสตุจฺเฉทคฺคาหานํ วิธมเนน ยาถาวโต อาโลกทสฺสโน ตกฺกรสฺส โลกุตฺตราณาโลกสฺส ทสฺสโน. เกนจิ กฺจิ กทาจิปิ อนุปทฺทุตตฺตา มหาเขมํ นิพฺพานํ คจฺฉติ สตฺเต คเมติ จาติ มหาเขมงฺคโม, สพฺพกิเลสทรถปริฬาหวูปสมนโต สนฺโต, อกุปฺปาย เจโตวิมุตฺติยา อนุปาทิเสสาย จ นิพฺพานธาตุยา ปาปเนน ปริโยสานภทฺทโก สุเทสิโต จกฺขุมตาติ โยชนา.

เอวํ เถโร นานานเยหิ อริยธมฺมํ ปสํสนฺโต ตสฺส ธมฺมสฺส อตฺตนา อธิคตภาวํ อฺาปเทเสน ปกาเสสิ.

มิคชาลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปุโรหิตปุตฺตเชนฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

ชาติมเทน มตฺโตหนฺติอาทิกา อายสฺมโต เชนฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ โกสลรฺโ ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส เชนฺโตติ นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ชาติมเทน โภคอิสฺสริยรูปมเทน จ มตฺโต อฺเ หีเฬนฺโต ครุฏฺานิยานมฺปิ อปจิตึ อกโรนฺโต มานถทฺโธ วิจรติ. โส เอกทิวสํ สตฺถารํ มหติยา ปริสาย ปริวุตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา อุปสงฺกมนฺโต ‘‘สเจ มํ สมโณ โคตโม ปมํ อาลปิสฺสติ, อหมฺปิ อาลปิสฺสามิ; โน เจ, นาลปิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ิโต ภควติ ปมํ อนาลปนฺเต สยมฺปิ มาเนน อนาลปิตฺวา คมนาการํ ทสฺเสสิ. ตํ ภควา –

‘‘น มานํ พฺราหฺมณ สาธุ, อตฺถิกสฺสีธ พฺราหฺมณ;

เยน อตฺเถน อาคจฺฉิ, ตเมวมนุพฺรูหเย’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๐๑) –

คาถาย อชฺฌภาสิ. โส ‘‘จิตฺตํ เม สมโณ โคตโม ชานาตี’’ติ อภิปฺปสนฺโน ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ปรมนิปจฺจาการํ กตฺวา –

‘‘เกสุ น มานํ กยิราถ, เกสุ จสฺส สคารโว;

กฺยสฺส อปจิตา อสฺสุ, กฺยสฺสุ สาธุ สุปูชิตา’’ติ. –

ปุจฺฉิ. ตสฺส ภควา –

‘‘มาตริ ปิตริ จาปิ, อโถ เชฏฺมฺหิ ภาตริ;

อาจริเย จตุตฺถมฺหิ, สมณพฺราหฺมเณสุ จ.

‘‘เตสุ น มานํ กยิราถ, เตสุ อสฺส สคารโว;

กฺยสฺส อปจิตา อสฺสุ, ตฺยสฺสุ สาธุ สุปูชิตา.

‘‘อรหนฺเต สีติภูเต, กตกิจฺเจ อนาสเว;

นิหจฺจ มานํ อตฺถทฺโธ, เต นมสฺเส อนุตฺตเร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๐๑) –

ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต ธมฺมํ เทเสสิ. โส ตาย เทสนาย โสตาปนฺโน หุตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺติกิตฺตนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๔๒๓.

‘‘ชาติมเทน มตฺโตหํ, โภคอิสฺสริเยน จ;

สณฺานวณฺณรูเปน, มทมตฺโต อจาริหํ.

๔๒๔.

‘‘นาตฺตโน สมกํ กฺจิ, อติเรกฺจ มฺิสํ;

อติมานหโต พาโล, ปตฺถทฺโธ อุสฺสิตทฺธโช.

๔๒๕.

‘‘มาตรํ ปิตรฺจาปิ, อฺเปิ ครุสมฺมเต;

น กฺจิ อภิวาเทสึ, มานตฺถทฺโธ อนาทโร.

๔๒๖.

‘‘ทิสฺวา วินายกํ อคฺคํ, สารถีนํ วรุตฺตมํ;

ตปนฺตมิว อาทิจฺจํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ.

๔๒๗.

‘‘มานํ มทฺจ ฉฑฺเฑตฺวา, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

สิรสา อภิวาเทสึ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํ.

๔๒๘.

‘‘อติมาโน จ โอมาโน, ปหีนา สุสมูหตา;

อสฺมิมาโน สมุจฺฉินฺโน, สพฺเพ มานวิธา หตา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ชาติมเทน มตฺโตหนฺติ อหํ อุทิจฺเจ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺโต, ‘‘น มาทิโส อุภโต สุชาโต อฺโ อตฺถี’’ติ กุลมาเนน มตฺโต มานถทฺโธ อจารินฺติ โยชนา. โภคอิสฺสริเยน จาติ วิภเวน อาธิปจฺเจน จ เหตุภูเตน โภคสมฺปทฺจ อิสฺสริยสมฺปทฺจ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนมเทน มตฺโต อหํ อจารินฺติ โยชนา. สณฺานวณฺณรูเปนาติ สณฺานํ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติ, วณฺโณ โอทาตสามตาทิฉวิสมฺปตฺติ, รูปํ องฺคปจฺจงฺคโสภา. อิธาปิ วุตฺตนเยน โยชนา เวทิตพฺพา. มทมตฺโตติ วุตฺตปฺปการโต อฺเนปิ มเทน มตฺโต.

นาตฺตโน สมกํ กฺจีติ อตฺตโน สมกํ สทิสํ ชาติอาทีหิ สมานํ อติเรกํ วา กฺจิ น มฺิสํ น มฺึ, มยา สมานมฺปิ น มฺึ, กุโต อธิกนฺติ อธิปฺปาโย. อติมานหโต พาโลติ พาโล อหํ ตโต พาลภาวโต อติมาเนน ขตูปหตกุสลาจาโร, ตโต เอว ปตฺถทฺโธ อุสฺสิตทฺธโช ถมฺภวเสน ครูนมฺปิ นิปจฺจการสฺส อกรณโต ภุสํ ถทฺโธ อโนนมนถทฺธชาโต อุสฺสิตมานทฺธโช.

วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘มาตร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺเติ เชฏฺภาตุอาทิเก, สมณพฺราหฺมเณ จ. ครุสมฺมเตติ ครูติ สมฺมเต ครุฏฺานิเย. อนาทโรติ อาทรรหิโต.

ทิสฺวา วินายกํ อคฺคนฺติ เอวํ มานถทฺโธ หุตฺวา วิจรนฺโต ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ เวเนยฺยานํ วินยนโต สยมฺภุตาย นายกภาวโต จ วินายกํ. สเทวเก โลเก สีลาทิคุเณหิ เสฏฺภาวโต อคฺคํ. ปุริสทมฺมานํ อจฺจนฺตตาย ทมนโต สารถีนํ วรุตฺตมํ, อติวิย อุตฺตมํ พฺยามปฺปภาทิโอภาเสน อาทิจฺจมิว ตปนฺตํ, โอภาสนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ สพฺพสตฺตานํ อุตฺตมํ สตฺถารํ ทิสฺวา พุทฺธานุภาเวน สนฺตชฺชิโต ‘‘อหเมว เสฏฺโ, อฺเ หีนา’’ติ ปวตฺตมานํ โภคมทาทิมทฺจ ฉฑฺเฑตฺวา ปหาย วิปฺปสนฺเนน เจตสา สิรสา อภิวาเทสินฺติ โยชนา. กถํ ปนายํ มานถทฺโธ สมาโน สตฺถุ ทสฺสนมตฺเตน มานํ ปหาสีติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. สตฺถุ ทสฺสนมตฺเตน มานํ น ปหาสิ ‘‘น มานํ, พฺราหฺมณ, สาธู’’ติอาทิกาย ปน เทสนาย มานํ ปหาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘มานํ มทฺจ ฉฑฺเฑตฺวา, วิปฺปสนฺเนน เจตสา. สิรสา อภิวาเทสิ’’นฺติ. วิปฺปสนฺเนน เจตสาติ จ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ ทฏฺพฺพํ.

‘‘อหเมว เสฏฺโ’’ติ ปวตฺโต มาโน อติมาโน. ‘‘อิเม ปน นิหีนา’’ติ อฺเ หีนโต ทหนฺตสฺส มาโน ‘‘โอมาโน’’ติ วทนฺติ. ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ ปน อฺํ อติกฺกมิตฺวา อตฺตานํ เสยฺยโต ทหนฺตสฺส ปวตฺโต เสยฺยมาโน อติมาโน. ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ ปวตฺโต หีนมาโน โอมาโน. ปหีนา สุสมูหตาติ เหฏฺิมมคฺเคหิ ปหีนา หุตฺวา อคฺคมคฺเคน สุฏฺุ สมุคฺฆาฏิตา. อสฺมิมาโนติ ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ ขนฺเธ ‘‘อห’’นฺติ คหณวเสน ปวตฺตมาโน. สพฺเพติ น เกวลํ อติมานโอมานอสฺมิมานา เอว, อถ โข เสยฺยสฺส เสยฺยมานาทโย นววิธา อนฺตรเภเทน อเนกวิธา จ สพฺเพ มานวิธา มานโกฏฺาสา หตา อคฺคมคฺเคน สมุคฺฆาฏิตาติ.

ปุโรหิตปุตฺตเชนฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สุมนตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยทา นโว ปพฺพชิโตติอาทิกา อายสฺมโต สุมนตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิขิสฺส ภควโต กาเล มาลาการกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สิขึ ภควนฺตํ ปสฺสิตฺวา ปสนฺนมานโส สุมนปุปฺเผหิ ปูชํ อกาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อฺตรสฺส อุปาสกสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. โส จ อุปาสโก อายสฺมโต อนุรุทฺธตฺเถรสฺส อุปฏฺาโก อโหสิ. ตสฺส จ ตโต ปุพฺเพ ชาตาชาตา ทารกา มรึสุ. เตน โส ‘‘สจาหํ อิทานิ เอกํ ปุตฺตํ ลภิสฺสามิ, อยฺยสฺส อนุรุทฺธตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. โส จ ทสมาสจฺจเยน ชาโต อโรโคเยว หุตฺวา อนุกฺกเมน วฑฺเฒนฺโต สตฺตวสฺสิโก อโหสิ, ตํ ปิตา เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตฺวา ตโต ปริปกฺกาณตฺตา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว ฉฬภิฺโ หุตฺวา เถรํ อุปฏฺหนฺโต ‘‘ปานียํ อาหริสฺสามี’’ติ ฆฏํ อาทาย อิทฺธิยา อโนตตฺตทหํ อคมาสิ. อเถโก มิจฺฉาทิฏฺิโก นาคราชา อโนตตฺตทหํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคน ปริกฺขิปิตฺวา อุปริ มหนฺตํ ผณํ กตฺวา สุมนสฺส ปานียํ คเหตุํ โอกาสํ น เทติ. สุมโน ครุฬรูปํ คเหตฺวา ตํ นาคราชํ อภิภวิตฺวา ปานียํ คเหตฺวา เถรสฺส วสนฏฺานํ อุทฺทิสฺส อากาเสน คจฺฉติ. ตํ สตฺถา เชตวเน นิสินฺโน ตถา คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ธมฺมเสนาปตึ อามนฺเตตฺวา, ‘‘สาริปุตฺต, อิมํ ปสฺสา’’ติอาทินา จตูหิ คาถาหิ ตสฺส คุเณ อภาสิ. อถ สุมนตฺเถโร –

๔๒๙.

‘‘ยทา นโว ปพฺพชิโต, ชาติยา สตฺตวสฺสิโก;

อิทฺธิยา อภิโภตฺวาน, ปนฺนคินฺทํ มหิทฺธิกํ.

๔๓๐.

‘‘อุปชฺฌายสฺส อุทกํ, อโนตตฺตา มหาสรา;

อาหรามิ ตโต ทิสฺวา, มํ สตฺถา เอตทพฺรวิ.

๔๓๑.

‘‘สาริปุตฺต อิมํ ปสฺส, อาคจฺฉนฺตํ กุมารกํ;

อุทกกุมฺภมาทาย, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตํ.

๔๓๒.

‘‘ปาสาทิเกน วตฺเตน, กลฺยาณอิริยาปโถ;

สามเณโรนุรุทฺธสฺส, อิทฺธิยา จ วิสารโท.

๔๓๓.

‘‘อาชานีเยน อาชฺโ, สาธุนา สาธุการิโต;

วินีโต อนุรุทฺเธน, กตกิจฺเจน สิกฺขิโต.

๔๓๔.

‘‘โส ปตฺวา ปรมํ สนฺตึ, สจฺฉิกตฺวา อกุปฺปตํ;

สามเณโร ส สุมโน, มา มํ ชฺาติ อิจฺฉตี’’ติ. –

อฺาพฺยากรณวเสน ฉ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อาทิโต ทฺเว คาถา สุมนตฺเถเรเนว ภาสิตา, อิตรา จตสฺโส ตํ ปสํสนฺเตน สตฺถารา ภาสิตา. ตา สพฺพา เอกชฺฌํ กตฺวา สุมนตฺเถโร ปจฺฉา อฺาพฺยากรณวเสน อภาสิ. ตตฺถ ปนฺนคินฺทนฺติ นาคราชํ. ตโตติ ตตฺถ, ยทา นโว ปพฺพชิโต ชาติยา สตฺตวสฺสิโก อิทฺธิพเลน มหิทฺธิกํ นาคราชํ อภิภวิตฺวา อโนตตฺตทหโต อุปชฺฌายสฺส ปานียํ อาหรามิ, ตสฺมึ กาเลติ อตฺโถ.

มํ อุทฺทิสฺส มยฺหํ สตฺถา เอตทพฺรวิ, ตํ ทสฺเสนฺโต, ‘‘สาริปุตฺต, อิมํ ปสฺสา’’ติอาทิมาห. อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตนฺติ วิสยชฺฌตฺตภูเตน อคฺคผลสมาธินา สุฏฺุ สมาหิตํ.

ปาสาทิเกน วตฺเตนาติ ปสฺสนฺตานํ ปสาทาวเหน อาจารวตฺเตน, กรณตฺเถ อิทํ กรณวจนํ. กลฺยาณอิริยาปโถติ สมฺปนฺนิริยาปโถ. ปาสาทิเกน วตฺเตนาติ วา อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ. สมณสฺส ภาโว สามณฺยํ, สามฺนฺติ อตฺโถ. ตทตฺถํ อีรติ ปวตฺตตีติ สามเณโร, สมณุทฺเทโส. อิทฺธิยา จ วิสารโทติ อิทฺธิยมฺปิ พฺยตฺโต สุกุสโล. อาชานีเยนาติ ปุริสาชานีเยน. อตฺตหิตปรหิตานํ สาธนโต สาธุนา กตกิจฺเจน อนุรุทฺเธน สาธุ อุภยหิตสาธโก, สุฏฺุ วา อาชฺโ การิโต ทมิโต. อคฺควิชฺชาย วินีโต อเสกฺขภาวาปาทเนน สิกฺขิโต สิกฺขาปิโตติ อตฺโถ.

โส สามเณโร สุมโน ปรมํ สนฺตึ นิพฺพานํ ปตฺวา อคฺคมคฺคาธิคเมน อธิคนฺตฺวา สจฺฉิกตฺวา อตฺตปจฺจกฺขํ กตฺวา อกุปฺปตํ อรหตฺตผลํ อปฺปิจฺฉภาวสฺส ปรมุกฺกํสคตตฺตา มา มํ ชฺาติ มํ ‘‘อยํ ขีณาสโว’’ติ วา ‘‘ฉฬภิฺโ’’ติ วา โกจิปิ มา ชาเนยฺยาติ อิจฺฉติ อภิกงฺขตีติ.

สุมนตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. นฺหาตกมุนิตฺเถรคาถาวณฺณนา

วาตโรคาภินีโตติอาทิกา อายสฺมโต นฺหาตกมุนิสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต วิชฺชาฏฺานาทีสุ นิปฺผตฺตึ คโต นฺหาตกลกฺขณโยเคน นฺหาตโกติ ปฺายิตฺถ. โส ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ราชคหสฺส ติโยชนปฺปมาเณ าเน อรฺายตเน นีวาเรหิ ยาเปนฺโต อคฺคึ ปริจารยมาโน วสติ. ตสฺส สตฺถา ฆเฏ วิย ปทีปํ หทยพฺภนฺตเร ปชฺชลนฺตํ อรหตฺตูปนิสฺสยํ ทิสฺวา อสฺสมปทํ อคมาสิ. โส ภควนฺตํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺโ อตฺตโน อุปกปฺปนนิยาเมน อาหารํ อุปเนสิ. ตํ ภควา ปริภุฺชิ. เอวํ ตโย ทิวเส ทตฺวา จตุตฺถทิวเส ‘‘ภควา ตุมฺเห ปรมสุขุมาลา, กถํ อิมินา อาหาเรน ยาเปถา’’ติ อาห. ตสฺส สตฺถา อริยสนฺโตสคุณํ ปกาเสนฺโต ธมฺมํ เทเสสิ. ตาปโส ตํ สุตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. ภควา ตํ อรหตฺเต ปติฏฺเปตฺวา คโต. โส ปน ตตฺเถว วิหรนฺโต อปรภาเค วาตาพาเธน อุปทฺทุโต อโหสิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารมุเขน ตสฺส วิหารํ ปุจฺฉนฺโต –

๔๓๕.

‘‘วาตโรคาภินีโต ตฺวํ, วิหรํ กานเน วเน;

ปวิทฺธโคจเร ลูเข, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติ. – คาถมาห; อถ เถโร –

๔๓๖.

‘‘ปีติสุเขน วิปุเลน, ผริตฺวาน สมุสฺสยํ;

ลูขมฺปิ อภิสมฺโภนฺโต, วิหริสฺสามิ กานเน.

๔๓๗.

‘‘ภาเวนฺโต สตฺต โพชฺฌงฺเค, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;

ฌานโสขุมฺมสมฺปนฺโน, วิหริสฺสํ อนาสโว.

๔๓๘.

‘‘วิปฺปมุตฺตํ กิเลเสหิ, สุทฺธจิตฺตํ อนาวิลํ;

อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขนฺโต, วิหริสฺสํ อนาสโว.

๔๓๙.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, เย เม วิชฺชึสุ อาสวา;

สพฺเพ อเสสา อุจฺฉินฺนา, น จ อุปฺปชฺชเร ปุน.

๔๔๐.

‘‘ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา, ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา;

ทุกฺขกฺขโย อนุปฺปตฺโต, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. –

อิมาหิ เสสคาถาหิ อตฺตโน วิหารํ สตฺถุ ปเวเทสิ.

ตตฺถ ฌานโสขุมฺมสมฺปนฺโนติ ฌานสุขุมภาเวน สมนฺนาคโต. ฌานสุขุมํ นาม อรูปชฺฌานํ, ตสฺมา อฏฺสมาปตฺติลาภิมฺหีติ วุตฺตํ โหติ. เตน อตฺตโน อุภโตภาควิมุตฺติตํ ทสฺเสติ. อปเร ปนาหุ – ‘‘โสขุมฺมนฺติ อคฺคมคฺคผเลสุ อธิปฺาสิกฺขา อธิปฺเปตา, ตโต ฌานคฺคหเณน อตฺตโน อุภโตภาควิมุตฺติตํ วิภาเวตี’’ติ. วิปฺปมุตฺตํ กิเลเสหีติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติยา สพฺพกิเลเสหิ วิมุตฺตํ, ตโต เอว สุทฺธจิตฺตํ, อนาวิลสงฺกปฺปตาย อนาวิลํ, ตีหิปิ ปเทหิ อรหตฺตผลจิตฺตเมว วทติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. อิมเมว จ เถรสฺส อฺาพฺยากรณํ อโหสีติ.

นฺหาตกมุนิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. พฺรหฺมทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

อกฺโกธสฺสาติอาทิกา อายสฺมโต พฺรหฺมทตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ โกสลรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, พฺรหฺมทตฺโตติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต เชตวนมเห พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต สห ปฏิสมฺภิทาหิ ฉฬภิฺโ อโหสิ. ตํ เอกทิวสํ นคเร ปิณฺฑาย จรนฺตํ อฺตโร พฺราหฺมโณ อกฺโกสิ. เถโร ตํ สุตฺวาปิ ตุณฺหีภูโต ปิณฺฑาย จรติเยว, พฺราหฺมโณ ปุนปิ อกฺโกสิเยว. มนุสฺสา เอวํ อกฺโกสนฺตมฺปิ นํ ‘‘อยํ เถโร น กิฺจิ ภณตี’’ติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวา เถโร เตสํ มนุสฺสานํ ธมฺมํ เทเสนฺโต –

๔๔๑.

‘‘อกฺโกธสฺส กุโต โกโธ, ทนฺตสฺส สมชีวิโน;

สมฺมทฺา วิมุตฺตสฺส, อุปสนฺตสฺส ตาทิโน.

๔๔๒.

‘‘ตสฺเสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฏิกุชฺฌติ;

กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํ.

๔๔๓.

‘‘อุภินฺนมตฺถํ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;

ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติ.

๔๔๔.

‘‘อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตํ ตํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;

ชนา มฺนฺติ พาโลติ, เย ธมฺมสฺส อโกวิทา. (สํ. นิ. ๑.๑๘๙);

๔๔๕.

‘‘อุปฺปชฺเช เต สเจ โกโธ, อาวชฺช กกจูปมํ;

อุปฺปชฺเช เจ รเส ตณฺหา, ปุตฺตมํสูปมํ สร.

๔๔๖.

‘‘สเจ ธาวติ จิตฺตํ เต, กาเมสุ จ ภเวสุ จ;

ขิปฺปํ นิคฺคณฺห สติยา, กิฏฺาทํ วิย ทุปฺปสุ’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อกฺโกธสฺสาติ โกธรหิตสฺส มคฺเคน สมุจฺฉินฺนโกธสฺส. กุโต โกโธติ กุโต นาม เหตุ โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส อุปฺปตฺติการณํ นตฺถีติ อตฺโถ. ทนฺตสฺสาติ อุตฺตเมน ทเมน อคฺคมคฺคทมเถน ทนฺตสฺส. สมชีวิโนติ กายวิสมาทีนิ สพฺพโส ปหาย กายสมาทีนํ วเสน สมํ ชีวนฺตสฺส สตฺตฏฺานิเยน สมฺปชฺเน สมฺมเทว วตฺตนฺตสฺส. สมฺมทฺา วิมุตฺตสฺสาติ สมฺมา อฺาย อภิฺเยฺยาทิเก ธมฺเม ชานิตฺวา สพฺพาสเวหิ วิปฺปมุตฺตสฺส. ตโต เอว สพฺพกิเลสทรถปริฬาหวูปสเมน อุปสนฺตสฺส. อิฏฺาทีสุ ตาทิลกฺขณปฺปตฺติยา ตาทิโน ขีณาสวสฺส กุโต โกโธติ อฺาปเทเสน เถโร อตฺตโน โกธาภาวํ ตสฺส จ การณานิ วตฺวา อิทานิ โกเธ อโกเธ จ อาทีนวานิสํสทสฺสเนน ธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘ตสฺเสวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โย กุทฺธํ ปฏิกุชฺฌตีติ โย ปุคฺคโล อตฺตโน อุปริ กุทฺธํ กุปิตํ ปุคฺคลํ ปฏิกุชฺฌติ, ตสฺเสว เตน ปฏิกุชฺฌนปจฺจกฺโกสนปฏิปฺปหรณาทินา ปาปิโย อิธโลเก วิฺูครหาทิวเสน ปรโลเก นิรยทุกฺขาทิวเสน อภทฺทกตรํ อกลฺยาณตรํ โหติ. กุชฺฌเนน ปน อกุทฺธสฺส ปาปํ โหตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เกจิ ปน ‘‘โย อกุทฺธํ ปฏิกุทฺธํ อารพฺภ กุชฺฌตี’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโตติ โย ปน กุทฺธํ ปุคฺคลํ ‘‘อยํ กุทฺโธ โกธปเรโต’’ติ ตฺวา น ปฏิกุชฺฌติ ขมติ, โส ทุชฺชยํ กิเลสสงฺคามํ เชติ นาม. น เกวลฺจสฺส กิเลสสงฺคามชโย เอว, อถ โข อุภยหิตปฏิปตฺติมฺปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุภินฺนมตฺถํ…เป… อุปสมฺมตี’’ติ. โย ปรํ ปุคฺคลํ สงฺกุปิตํ กุทฺธํ ‘‘โกธปเรโต’’ติ ตฺวา ตํ เมตฺตายนฺโต อชฺฌุเปกฺขนฺโต วา สโต สมฺปชาโน หุตฺวา อุปสมฺมติ ขมติ น ปฏิปฺผรติ. โส อตฺตโน จ ปรสฺส จาติ อุภินฺนํ อุภยโลกสุขาวหํ อตฺถํ หิตํ จรติ.

อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตํ ตนฺติ ตํ อตฺตโน จ ปรสฺส จาติ อุภินฺนํ ทฺวินฺนํ โกธพฺยาธิติกิจฺฉาย ติกิจฺฉนฺตํ ขมนฺตํ ปุคฺคลํ เย ชนา ธมฺมสฺส อริยาจารธมฺเม อกุสลา, เต พาลา ‘‘อยํ อวิทฺทสุ โย อตฺตานํ อกฺโกสนฺตสฺส ปหรนฺตสฺส กิฺจิ น กโรตี’’ติ มฺนฺติ, ตํ เตสํ อโยนิโส มฺนนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ติกิจฺฉน’’นฺติปิ ปนฺติ, ติกิจฺฉนสภาวนฺติ อตฺโถ.

เอวํ เถเรน วุจฺจมานํ ธมฺมํ สุตฺวา อกฺโกสกพฺราหฺมโณ สํวิคฺโค ปสนฺนจิตฺโต จ หุตฺวา เถรํ ขมาเปตฺวา ตสฺเสว สนฺติเก ปพฺพชิ. เถโร ตสฺส กมฺมฏฺานํ เทนฺโต ‘‘อิมสฺส เมตฺตาภาวนา ยุตฺตา’’ติ เมตฺตากมฺมฏฺานํ ทตฺวา โกธปริยุฏฺานาทีสุ ปจฺจเวกฺขณาทิวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปฺปชฺเช เต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺเช เต สเจติ สเจ เต กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชนฺตสฺส กฺจิ ปุคฺคลํ นิสฺสาย จิรปริจโย โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส วูปสมาย –

‘‘อุภโตทณฺฑเกน เจปิ, ภิกฺขเว, กกเจน โจรา โอจรกา องฺคมงฺคานิ โอกนฺเตยฺยุํ, ตตฺราปิ โย มโน ปทูเสยฺย, น เม โส เตน สาสนกโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๒) –

สตฺถารา วุตฺตํ กกจูปมํ โอวาทํ อาวชฺเชหิ. อุปฺปชฺเช เจ รเส ตณฺหาติ สเจ เต มธุราทิเภเท รเส ตณฺหา อภิลาโส อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส วูปสมาย –

‘‘ปุตฺตมํสํ ชายมฺปติกา ยถา กนฺตารนิตฺถรณตฺถเมว ขาทึสุ, น รสตณฺหาย เอวํ กุลปุตฺโตปิ ปพฺพชิโต ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ…เป… ผาสุวิหาโร จา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๓ อตฺถโต สมานํ) –

เอวํ วุตฺตํ ปุตฺตมํสูปโมวาทํ สร อนุสฺสร.

สเจ ธาวติ เต จิตฺตนฺติ อโยนิโส มนสิ กโรโต ตว จิตฺตํ กาเมสุ ปฺจกามคุเณสุ ฉนฺทราควเสน, กามภวาทีสุ ภเวสุ ภวปตฺถนาวเสน สเจ ธาวติ สรติ ชวติ. ขิปฺปํ นิคฺคณฺห สติยา, กิฏฺาทํ วิย ทุปฺปสุนฺติ ตถา ธาวิตุํ อเทนฺโต ยถา นาม ปุริโส กิฏฺาทํ สสฺสขาทกํ ทุปฺปสุํ ทุฏฺโคณํ โยตฺเตน ถมฺเภ พนฺธิตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตติ, เอวํ สติยา สติโยตฺเตน สมฺมาธิถมฺเภ พนฺธนฺโต ขิปฺปํ สีฆเมว นิคฺคณฺห, ยถา กิเลสวิคเมน นิพฺพิเสวนํ โหติ, ตถา ทเมหีติ. เกจิ ปน ‘‘เถโร ปุถุชฺชโนว หุตฺวา อกฺโกสํ อธิวาเสนฺโต เตสํ มนุสฺสานํ อริยคุเณ ปกาเสนฺโต ธมฺมํ กเถตฺวา ปจฺฉา ทฺวีหิ คาถาหิ อตฺตานํ โอวทนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต อิมาเยว คาถา อภาสี’’ติ วทนฺติ.

พฺรหฺมทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. สิริมณฺฑตฺเถรคาถาวณฺณนา

ฉนฺนมติวสฺสตีติอาทิกา อายสฺมโต สิริมณฺฑตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สํสุมารคิเร พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สิริมณฺโฑติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต เภสกลาวเน ภควติ วิหรนฺเต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท สมณธมฺมํ กโรนฺโต เอกสฺมึ อุโปสถทิวเส ปาติโมกฺขุทฺเทสฏฺาเน นิสินฺโน นิทานุทฺเทสสฺส ปริโยสาเน ‘‘อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔) ปาฬิยา อตฺถํ อุปธาเรนฺโต อาปนฺนํ อาปตฺตึ อนาวิกตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺโต อุปรูปริ อาปตฺติโย อาปชฺชติ, เตนสฺส น ผาสุ โหติ, อาวิกตฺวา ปน ยถาธมฺมํ ปฏิกโรนฺตสฺส ผาสุ โหตีติ อิมมตฺถํ มนสิ กตฺวา ‘‘อโห สตฺถุ สาสนํ สุวิสุทฺธ’’นฺติ ลทฺธปฺปสาโท ตถา อุปฺปนฺนํ ปีตึ วิกฺขมฺเภตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปสนฺนมานโส ภิกฺขูนํ โอวาทํ เทนฺโต –

๔๔๗.

‘‘ฉนฺนมติวสฺสติ, วิวฏํ นาติวสฺสติ;

ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสติ.

๔๔๘.

‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก, ชราย ปริวาริโต;

ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณ, อิจฺฉาธูปายิโต สทา. (สํ. นิ. ๑.๖๖);

๔๔๙.

‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก, ปริกฺขิตฺโต ชราย จ;

หฺติ นิจฺจมตฺตาโณ, ปตฺตทณฺโฑว ตกฺกโร.

๔๕๐.

‘‘อาคจฺฉนฺตคฺคิขนฺธาว, มจฺจุ พฺยาธิ ชรา ตโย;

ปจฺจุคฺคนฺตุํ พลํ นตฺถิ, ชโว นตฺถิ ปลายิตุํ.

๔๕๑.

‘‘อโมฆํ ทิวสํ กยิรา, อปฺเปน พหุเกน วา;

ยํ ยํ วิชหเต รตฺตึ, ตทูนํ ตสฺส ชีวิตํ.

๔๕๒.

‘‘จรโต ติฏฺโต วาปิ, อาสีนสยนสฺส วา;

อุเปติ จริมา รตฺติ, น เต กาโล ปมชฺชิตุ’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ฉนฺนนฺติ ฉาทิตํ ยถาภูตํ อวิวฏํ อปฺปกาสิตํ ทุจฺจริตํ. อติวสฺสตีติ อาปตฺติวสฺสฺเจว กิเลสวสฺสฺจ อติวิย วสฺสติ. อาปตฺติยา หิ ฉาทนํ อลชฺชิภาวาทินา ตาทิโสว, ฉาทเนน ตโต อฺถาว ปุนปิ ตถารูปํ ตโต วา ปาปิฏฺตรํ อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺยาติ ฉาทนํ วสฺสนสฺส การณํ วุตฺตํ. วิวฏนฺติ ปกาสิตํ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ. นาติวสฺสตีติ เอตฺถ อตีติ อุปสคฺคมตฺตํ, น วสฺสตีติ อตฺโถ. อวสฺสนฺเจตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพํ จิตฺตสนฺตานสฺส วิโสธิตตฺตา. ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ, ฉนฺนสฺส ทุจฺจริตสฺส อาปตฺติวสฺสาทีนํ อติวสฺสนโต วิวฏสฺส จ อวสฺสนโตติ อตฺโถ. ฉนฺนํ วิวเรถาติ ปุถุชฺชนภาเวน ฉาทนาธิปฺปาเย อุปฺปนฺเนปิ ตํ อนนุวตฺติตฺวา วิวเรถ อาวิกเรยฺย, ยถาธมฺมํ ปฏิกเรยฺย. เอวนฺติ วิวรเณน ยถาธมฺมํ ปฏิปตฺติยา. นฺติ ตํ ฉนฺนํ ทุจฺจริตํ. นาติวสฺสติ อาปตฺติวสฺสํ กิเลสวสฺสฺจ น วสฺสติ, สุทฺธนฺเต ปุคฺคลํ ปติฏฺเปตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ‘‘เอกํเสน สีฆํเยว จ อตฺตา โสเธตพฺโพ, อปฺปมาโท กาตพฺโพ’’ติ ตสฺส การณํ สํเวควตฺถุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มจฺจุนาพฺภาหโต โลโกติ อยํ สพฺโพปิ สตฺตโลโก โจโร วิย โจรฆาตเกน, สพฺพวฏฺฏนิปาตินา มจฺจุนา มรเณน อภิหโต, น ตสฺส หตฺถโต มุจฺจติ. ชราย ปริวาริโตติ อยํ โลโก อุปฺปาทโต อุทฺธํ มรณูปนยนรสาย ชราย ปริวาริโต อชฺโฌตฺถโฏ, ชราสงฺฆาตปริมุกฺโกติ อตฺโถ. ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณติ สรีรสฺส อนฺโต นิมุคฺเคน วิสปีตขุรปฺเปน วิย อุปาทานลกฺขเณน ตณฺหาสงฺขาเตน สลฺเลน โอติณฺโณ หทยพฺภนฺตเร โอคาฬฺโห. ตณฺหา หิ ปีฬาชนนโต อนฺโต ตุทนโต ทุรุทฺธารโต จ ‘‘สลฺโล’’ติ วุจฺจติ. อิจฺฉาธูปายิโตติ อารมฺมณาภิปตฺถนลกฺขณาย อิจฺฉาย สนฺตาปิโต. ตํ วิสยํ อิจฺฉนฺโต หิ ปุคฺคโล ยทิจฺฉิตํ วิสยํ ลภนฺโต วา อลภนฺโต วา ตาย เอว อนุทหนลกฺขณาย อิจฺฉาย สนฺตตฺโต ปริฬาหปฺปตฺโต โหติ. สทาติ สพฺพกาลํ, อิทฺจ ปทํ สพฺพปเทสุ โยเชตพฺพํ.

ปริกฺขิตฺโต ชราย จาติ น เกวลํ มจฺจุนา อพฺภาหโตเยว, อถ โข ชราย จ ปริกฺขิตฺโต. ชราย สมวรุทฺโธ ชราปาการปริกฺขิตฺโต, น ตํ สมติกฺกมตีติ อตฺโถ. หฺติ นิจฺจมตฺตาโณติ อตาโณ อสรโณ หุตฺวา นิจฺจกาลํ ชรามรเณหิ หฺติ วิพาธียติ. ยถา กึ? ปตฺตทณฺโฑว ตกฺกโร ยถา ตกฺกโร โจโร กตาปราโธ วชฺฌปฺปตฺโต อตาโณ ราชาณาย หฺติ, เอวมยํ โลโก ชรามรเณหีติ ทสฺเสติ.

อาคจฺฉนฺตคฺคิขนฺธาวาติ มหาวเน ฑยฺหมาเน ตํ อภิภวนฺตา มหนฺตา อคฺคิกฺขนฺธา วิย มจฺจุ พฺยาธิ ชราติ อิเม ตโย อนุทหนฏฺเน อคฺคิกฺขนฺธา อิมํ สตฺตโลกํ อภิภวนฺตา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ปน ปฏิพโล หุตฺวา ปจฺจุคฺคนฺตุํ อภิภวิตุํ พลํ อุสฺสาโห นตฺถิ, อิมสฺส โลกสฺส, ชโว นตฺถิ ปลายิตุํ ชวนฺเตสุ, อชฺโฌตฺถรนฺเตสุ. ยตฺถ เต นาภิภวนฺติ, ปิฏฺึ ทสฺเสตฺวา ตโต ปลายิตุมฺปิ อิมสฺส โลกสฺส ชงฺฆาชโว นตฺถิ, เอวํ อตฺตนา อสมตฺโถ มายาทีหิ อุปาเยหิ อปฺปฏิกาเร ติวิเธ พลวติ ปจฺจามิตฺเต นิจฺจุปฏฺิเต กึ กาตพฺพนฺติ เจ? อโมฆํ ทิวสํ กยิรา, อปฺเปน พหุเกน วาติ อปฺเปน อนฺตมโส คทฺทูหนมตฺตมฺปิ กาลํ ปวตฺติเตน พหุเกน วา สกลํ อโหรตฺตํ ปวตฺติเตน วิปสฺสนามนสิกาเรน อโมฆํ อวฺฌํ ทิวสํ กเรยฺย, ยสฺมา ยํ ยํ วิชหเต รตฺตึ, ตทูนํ ตสฺส ชีวิตํ อยํ สตฺโต ยํ ยํ รตฺตึ วิชหติ นาเสติ เขเปติ, ตทูนํ เตน อูนํ ตสฺส สตฺตสฺส ชีวิตํ โหติ. เอเตน รตฺติกฺขโย นาม ชีวิตกฺขโย ตสฺส อนิวตฺตนโตติ ทสฺเสติ. เตนาห –

‘‘ยเมกรตฺตึ ปมํ, คพฺเภ วสติ มาณโว;

อพฺภุฏฺิโตว โส ยาติ, ส คจฺฉํ น นิวตฺตตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓);

น เกวลํ รตฺติวเสเนว, อถ โข อิริยาปถวเสนาปิ ชีวิตกฺขโย อุปธาเรตพฺโพติ อาห ‘‘จรโต’’ติอาทิ. จรโตติ คจฺฉนฺตสฺส. ติฏฺโตติ ิตํ กปฺเปนฺตสฺส. อาสีนสยนสฺส วาติ อาสีนสฺส สยนสฺส วา, นิสินฺนสฺส นิปชฺชนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ‘‘อาสีทน’’นฺติปิ ปนฺติ, ตตฺถ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ. อุเปติ จริมา รตฺตีติ จริมกจิตฺตสหิตา รตฺติ อุปคจฺฉติ, รตฺติคฺคหณฺเจตฺถ เทสนาสีสมตฺตํ. คมนาทีสุ เยน เกนจิ อิริยาปเถน สมงฺคีภูตสฺส จริมกาโลเยว, เตเนวสฺส อิริยาปถกฺขณา ชีวิตํ เขเปตฺวา เอว คจฺฉนฺติ, ตสฺมา น เต กาโล ปมชฺชิตุํ นายํ ตุยฺหํ ปมาทํ อาปชฺชิตุํ กาโล ‘‘อิมสฺมึ นาม กาเล มรณํ น โหตี’’ติ อวิทิตตฺตา. วุตฺตํ หิ –

‘‘อนิมิตฺตมนฺาตํ, มจฺจานํ อิธ ชีวิตํ;

กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุต’’นฺติ. (สุ. นิ. ๕๗๙);

ตสฺมา เอวํ อตฺตานํ โอวทิตฺวา อปฺปมตฺเตน ตีสุ สิกฺขาสุ อนุโยโค กาตพฺโพติ อธิปฺปาโย.

สิริมณฺฑตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. สพฺพกามิตฺเถรคาถาวณฺณนา

ทฺวิปาทโกติอาทิกา อายสฺมโต สพฺพกามิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต สาสเน อุปฺปนฺนํ อพฺพุทํ โสเธตฺวา ปฏิปากติกํ เปนฺตํ เอกํ เถรํ ทิสฺวา, ‘‘อหมฺปิ อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน อพฺพุทํ โสเธตฺวา ปฏิปากติกํ เปตุํ สมตฺโถ ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ ปฏฺเปตฺวา ตทนุรูปานิ ปุฺานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อปรินิพฺพุเต เอว ภควติ เวสาลิยํ ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สพฺพกาโมติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต าตเกหิ ทารปริคฺคหํ การิโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ชิคุจฺฉนฺโต ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโต อุปชฺฌาเยน สทฺธึ เวสาลึ อุปคโต าติฆรํ อคมาสิ. ตตฺถ นํ ปุราณทุติยิกา ปติวิโยคทุกฺขิตา กิสา ทุพฺพณฺณา อนลงฺกตา กิลิฏฺวตฺถนิวสนา วนฺทิตฺวา โรทมานา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา เถรสฺส กรุณาปุรสฺสรํ เมตฺตํ อุปฏฺาปยโต อนุภูตารมฺมเณ อโยนิโสมนสิการวเสน สหสา กิเลโส อุปฺปชฺชิ.

โส เตน กสาหิ ตาฬิโต อาชานีโย วิย สฺชาตสํเวโค ตาวเทว สุสานํ คนฺตฺวา, อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคเหตฺวา, ตตฺถ ปฏิลทฺธฌานํ ปาทกํ กตฺวา, วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถสฺส สสุโร อลงฺกตปฏิยตฺตํ ธีตรํ อาทาย มหตา ปริวาเรน นํ อุปฺปพฺพาเชตุกาโม วิหารํ อคมาสิ. เถโร ตสฺสา อธิปฺปายํ ตฺวา อตฺตโน กาเมสุ วิรตฺตภาวํ สพฺพตฺถ จ อนุปลิตฺตตํ ปกาเสนฺโต –

๔๕๓.

‘‘ทฺวิปาทโกยํ อสุจิ, ทุคฺคนฺโธ ปริหีรติ;

นานากุณปปริปูโร, วิสฺสวนฺโต ตโต ตโต.

๔๕๔.

‘‘มิคํ นิลีนํ กูเฏน, พฬิเสเนว อมฺพุชํ;

วานรํ วิย เลเปน, พาธยนฺติ ปุถุชฺชนํ.

๔๕๕.

‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;

ปฺจ กามคุณา เอเต, อิตฺถิรูปสฺมิ ทิสฺสเร.

๔๕๖.

‘‘เย เอตา อุปเสวนฺติ, รตฺตจิตฺตา ปุถุชฺชนา;

วฑฺเฒนฺติ กฏสึ โฆรํ, อาจินนฺติ ปุนพฺภวํ.

๔๕๗.

‘‘โย เจตา ปริวชฺเชติ, สปฺปสฺเสว ปทา สิโร;

โสมํ วิสตฺติกํ โลเก, สโต สมติวตฺตติ.

๔๕๘.

‘‘กาเมสฺวาทีนวํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;

นิสฺสโฏ สพฺพกาเมหิ, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ทฺวิปาทโกติ ยทิปิ อปาทกาทโยปิ กายา อสุจีเยว, อธิการวเสน ปน อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วา เอวํ วุตฺตํ. ยสฺมา วา อฺเ อสุจิภูตาปิ กายา โลณมฺพิลาทีหิ อภิสงฺขริตฺวา มนุสฺสานํ โภชเนปิ อุปนียนฺติ, น ปน มนุสฺสกาโย, ตสฺมา อสุจิตรสภาวมสฺส ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺวิปาทโก’’ติ อาห. อยนฺติ ตทา อุปฏฺิตํ อิตฺถิรูปํ สนฺธายาห. อสุจีติ อสุจิ เอว, น เอตฺถ กิฺจิปิ สุจีติ อตฺโถ. ทุคฺคนฺโธ ปริหีรตีติ ทุคฺคนฺโธ สมาโน ปุปฺผคนฺธาทีหิ สงฺขริตฺวา ปริหรียติ. นานากุณปปริปูโรติ เกสาทิอเนกปฺปการกุณปภริโต. วิสฺสวนฺโต ตโต ตโตติ ปุปฺผคนฺธาทีหิสฺส เชคุจฺฉภาวํ ปฏิจฺฉาเทตุํ วายมนฺตานมฺปิ ตํ วายามํ นิปฺผลํ กตฺวา นวหิ ทฺวาเรหิ เขฬสิงฺฆาณิกาทีนิ โลมกูเปหิ จ เสทชลฺลิกํ ‘วิสฺสวนฺโตเยว ปริหีรตี’ติ สมฺพนฺโธ.

เอวํ เชคุจฺโฉปิ สมาโน จายํ กาโย กูฏาทีหิ วิย มิคาทิเก อตฺตโน รูปาทีหิ อนฺธปุถุชฺชเน วฺเจติเยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มิค’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มิคํ นิลีนํ กูเฏนาติ ปาสวากราทินา กูเฏน นิลีนํ, ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา มิคํ วิย เนสาโท. วกฺขมาโน หิ อิว-สทฺโท อิธาปิ อาเนตฺวา โยเชตพฺโพ. พฬิเสเนว อมฺพุชนฺติ อมฺพุชํ มจฺฉํ อามิสพทฺเธน พฬิเสน วิย พาฬิสิโก. วานรํ วิย เลเปนาติ รุกฺขสิลาทีสุ ปกฺขิตฺเตน มกฺกฏเลเปน มกฺกฏํ วิย มิคลุทฺโท อนฺธปุถุชฺชนํ วฺเจนฺโต พาเธนฺตีติ.

เก ปน พาเธนฺตีติ อาห. ‘‘รูปา สทฺทา’’ติอาทิ. รูปาทโย หิ ปฺจ กามโกฏฺาสา วิเสสโต วิสภาควตฺถุสนฺนิสฺสยา วิปลฺลาสูปนิสฺสเยน อโยนิโสมนสิกาเรน ปริกฺขิตฺตานํ อนฺธปุถุชฺชนานํ มโน รเมนฺโต กิเลสวตฺถุตาย อนตฺถาวหภาวโต เต พาเธนฺติ นาม. เตน วุตฺตํ ‘‘รูปา สทฺทา…เป… อิตฺถิรูปสฺมิ ทิสฺสเร’’ติ.

อิตฺถิคฺคหณฺเจตฺถ อธิการวเสน กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘เย เอตา อุปเสวนฺตี’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – เย ปุถุชฺชนา เอตา อิตฺถิโย รตฺตจิตฺตา ราคาภิภูตจิตฺตา อุปโภควตฺถุสฺาย อุปเสวนฺติ. วฑฺเฒนฺติ กฏสึ โฆรนฺติ เต ชาติอาทีหิ นิรยาทีหิ จ โฆรํ, ภยานกํ, อนฺธพาเลหิ อภิรมิตพฺพโต กฏสิสงฺขาตํ สํสารํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติมรณาทินา วฑฺเฒนฺติ. เตนาห ‘‘อาจินนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.

โย เจตาติ โย ปน ปุคฺคโล เอตา อิตฺถิโย ตตฺถ ฉนฺทราคสฺส วิกฺขมฺภเนน วา สมุจฺฉินฺทเนน วา อตฺตโน ปาเทน สปฺปสฺส สิรํ วิย ปริวชฺเชติ, โส สพฺพํ โลกํ วิสชิตฺวา ิตตฺตา โลเก วิสตฺติกาสงฺขาตํ ตณฺหํ สโต หุตฺวา สมติวตฺตติ.

กาเมสฺวาทีนวํ ทิสฺวาติ ‘‘อฏฺิกงฺกลูปมา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๗; จูฬว. ๖๕; ม. นิ. ๑.๒๓๔) วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมสุ อเนกาการโวการํ อาทีนวํ, โทสํ, ทิสฺวา. เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโตติ กาเมหิ ภเวหิ จ นิกฺขนฺตภาวโต เนกฺขมฺมํ, ปพฺพชฺชํ, นิพฺพานฺจ, เขมโต, อนุปทฺทวโต, ทฏฺุ, ทิสฺวา. สพฺพกาเมหิปิ เตภูมกธมฺเมหิ นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต. สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา กามนียฏฺเน กามา, เตหิ จ เถโร วิสํยุตฺโต. เตนาห ‘‘ปตฺโต เม อาสวกฺขโย’’ติ.

เอวํ เถโร อาทิโต ปฺจหิ คาถาหิ ธมฺมํ กเถตฺวา ฉฏฺคาถาย อฺํ พฺยากาสิ. ตํ สุตฺวา สสุโร ‘‘อยํ สพฺพตฺถ อนุปลิตฺโต, น สกฺกา อิมํ กาเมสุ ปตาเรตุ’’นฺติ ยถาคตมคฺเคเนว คโต. เถโรปิ วสฺสสตปรินิพฺพุเต ภควติ อุปสมฺปทาย วีสวสฺสสติโก ปถพฺยา เถโร หุตฺวา, เวสาลิเกหิ วชฺชิปุตฺเตหิ อุปฺปาทิตํ สาสนสฺส อพฺพุทํ โสเธตฺวา, ทุติยํ ธมฺมสงฺคีตึ สงฺคายิตฺวา ‘‘อนาคเต ธมฺมาโสกกาเล อุปฺปชฺชนกํ อพฺพุทํ โสเธหี’’ติ ติสฺสมหาพฺรหฺมานํ อาณาเปตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ.

สพฺพกามิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉกฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตกนิปาโต

๑. สุนฺทรสมุทฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา

สตฺตกนิปาเต อลงฺกตาติอาทิกา อายสฺมโต สุนฺทรสมุทฺทตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺส มหาวิภวสฺส เสฏฺิโน ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สมุทฺโทติสฺส นามํ อโหสิ. รูปสมฺปตฺติยา ปน สุนฺทรสมุทฺโทติ ปฺายิตฺถ. โส ปมวเย ิโต ภควโต ราชคหปฺปเวเส พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา, ปฏิลทฺธสทฺโธ นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ปพฺพชิตฺวา, ลทฺธูปสมฺปโท สมาทินฺนธุตธมฺโม ราชคหโต สาวตฺถึ คนฺตฺวา, กลฺยาณมิตฺตสฺส สนฺติเก วิปสฺสนาจารํ อุคฺคเหตฺวา, กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชนฺโต วิหรติ. ตสฺส มาตา ราชคเห อุสฺสวทิวเส อฺเ เสฏฺิปุตฺเต สปชาปติเก อลงฺกตปฏิยตฺเต อุสฺสวกีฬํ กีฬนฺเต ทิสฺวา, ปุตฺตํ อนุสฺสริตฺวา โรทติ. ตํ ทิสฺวา อฺตรา คณิกา โรทนการณํ ปุจฺฉิ. สา ตสฺสา ตํ การณํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา คณิกา ‘‘อหํ ตํ อาเนสฺสามิ, ปสฺส ตาว มม อิตฺถิภาว’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยทิ เอวํ ตํเยว ตสฺส ปชาปตึ กตฺวา อิมสฺส กุลสฺส สามินึ กริสฺสามี’’ติ ตาย พหุํ ธนํ ทตฺวา, วิสฺสชฺชิตา มหตา ปริวาเรน สาวตฺถึ คนฺตฺวา, เถรสฺส ปิณฺฑาย วิจรณฏฺาเน เอกสฺมึ เคเห วสมานา ทิวเส ทิวเส อฺเหิ เถรสฺส สกฺกจฺจํ ปิณฺฑปาตํ ทาเปสิ. อลงฺกตปฏิยตฺตา จ หุตฺวา สุวณฺณปาทุกา อารุยฺห อตฺตานํ ทสฺเสสิ. อเถกทิวสํ เคหทฺวาเรน คจฺฉนฺตํ เถรํ ทิสฺวา, สุวณฺณปาทุกา โอมุฺจิตฺวา, อฺชลึ ปคฺคยฺห ปุรโต คจฺฉนฺตี นานปฺปการํ เถรํ กามนิมนฺตนาย นิมนฺเตสิ. ตํ สุตฺวา เถโร ‘‘ปุถุชฺชนจิตฺตํ นาม จฺจลํ, ยํนูน มยา อิทาเนว อุสฺสาโห กรณีโย’’ติ ตตฺเถว ิโต ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ฉฬภิฺโ อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ –

๔๕๙.

‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลธารี วิภูสิตา;

อลตฺตกกตาปาทา, ปาทุการุยฺห เวสิกา.

๔๖๐.

‘‘ปาทุกา โอรุหิตฺวาน, ปุรโต ปฺชลีกตา;

สา มํ สณฺเหน มุทุนา, มฺหิตปุพฺพํ อภาสถ.

๔๖๑.

‘‘‘ยุวาสิ ตฺวํ ปพฺพชิโต, ติฏฺาหิ มม สาสเน;

ภุฺช มานุสเก กาเม, อหํ วิตฺตํ ททามิ เต;

สจฺจํ เต ปฏิชานามิ, อคฺคึ วา เต หรามหํ.

๔๖๒.

‘‘‘ยทา ชิณฺณา ภวิสฺสาม, อุโภ ทณฺฑปรายนา;

อุโภปิ ปพฺพชิสฺสาม, อุภยตฺถ กฏคฺคโห’’’.

๔๖๓.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน ยาจนฺตึ, เวสิกํ ปฺชลีกตํ;

อลงฺกตํ สุวสนํ, มจฺจุปาสํว โอฑฺฑิตํ.

๔๖๔.

‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;

อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฏฺถ.

๔๖๕.

‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

ตตฺถ มาลธารีติ มาลาธารินี ปิฬนฺธปุปฺผทามา. วิภูสิตาติ อูนฏฺานสฺส ปูรณวเสน ปุปฺเผหิ เจว คนฺธวิเลปนาทีหิ จ วิภูสิตคตฺตา. ‘‘อลงฺกตา’’ติ อิมินา หตฺถูปคคีวูปคาทีหิ อาภรเณหิ อลงฺกรณํ อธิปฺเปตํ. อลตฺตกกตาปาทาติ ปริณตชยสุมนปุปฺผวณฺเณน ลาขารเสน รฺชิตจรณยุคฬา. สมาสปทฺเหตํ, ‘‘อลตฺตกกตปาทา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาสุขตฺถํ ทีฆํ กตฺวา วุตฺตํ. อสมาสภาเว ปน ‘‘ตสฺสา’’ติ วจนเสโส เวทิตพฺโพ. ปาทุการุยฺห เวสิกาติ เอกา รูปูปชีวิกา อิตฺถี ยถาวุตฺตเวสา สุวณฺณปาทุกา ปฏิมุฺจิตฺวา ‘‘ิตา’’ติ วจนเสโส.

ปาทุกา โอรุหิตฺวานาติ ปาทุกาหิ โอตริตฺวา, สุวณฺณปาทุกาโย โอมุฺจิตฺวาติ อตฺโถ. ปฺชลีกตาติ ปคฺคหิตอฺชลิกา สา เวสี มํ. สามํ วา วจนปรมฺปรํ วินา สยเมว อภาสถ. สณฺเหนาติ มฏฺเน. มุทุนาติ มธุเรน. ‘‘วจเนนา’’ติ อวุตฺตมฺปิ วุตฺตเมว โหติ, อภาสถาติ, วุตฺตตฺตา.

ยุวาสิ ตฺวํ ปพฺพชิโตติ ตฺวํ ปพฺพชนฺโต ยุวา, ทหโรเยว หุตฺวา ปพฺพชิโตสิ, นนุ ปพฺพชนฺเตน สตฺตเม ทสเก สมฺปตฺเตว ปพฺพชิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ติฏฺาหิ มม สาสเนติ มม วจเน ติฏฺ.

กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘ภุฺช มานุสเก กาเม’’ติ กาเม ปริภุฺชิตุกามสฺส รูปสมฺปตฺติ, วยสมฺปตฺติ, ปริวารสมฺปตฺติ, โภคสมฺปตฺติ จ อิจฺฉิตพฺพา. ตตฺถ ‘‘กุโต เม โภคสมฺปตฺตี’’ติ วเทยฺยาติ, อาห ‘‘อหํ วิตฺตํ ททามิ เต’’ติ. ‘‘ตยิทํ วจนํ กถํ สทฺทหาตพฺพ’’นฺติ มฺเยฺยาติ ตํ สทฺทหาเปนฺตี อาห ‘‘สจฺจํ เต ปฏิชานามิ, อคฺคึ วา เต หรามห’’นฺติ. ‘‘ภุฺช มานุสเก กาเม, อหํ วิตฺตํ ททามิ เต’’ติ ยทิทํ มยา ปฏิฺาตํ, ตํ เอกํเสน สจฺจเมว ปฏิชานามิ, สเจ เม น ปตฺติยายสิ, อคฺคึ วา เต หรามหํ อคฺคึ หริตฺวา อคฺคิปจฺจยํ สปถํ กโรมีติ อตฺโถ. อุภยตฺถ กฏคฺคโหติ อมฺหากํ อุภินฺนํ ชิณฺณกาเล ปพฺพชฺชนํ อุภยตฺถ ชยคฺคาโห. ยํ มยํ ยาว ทณฺฑปรายนกาลา โภเค ภุฺชาม, เอวํ อิธโลเกปิ โภเคหิ น ชียาม, มยํ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสาม, เอวํ ปรโลเกปิ โภเคหิ น ชียามาติ อธิปฺปาโย. ตโตติ ตํ นิมิตฺตํ, กาเมหิ นิมนฺเตนฺติยา ‘‘ยุวาสิ ตฺว’’นฺติอาทินา ‘‘ยทา ชิณฺณา ภวิสฺสามา’’ติอาทินา จ ตสฺสา เวสิยา วุตฺตวจนเหตุ. ตฺหิ วจนํ องฺกุสํ กตฺวา เถโร สมณธมฺมํ กโรนฺโต สทตฺถํ ปริปูเรสิ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

สุนฺทรสมุทฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ลกุณฺฑกภทฺทิยตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปเร อมฺพาฏการาเมติอาทิกา อายสฺมโต ลกุณฺฑกภทฺทิยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร มหาโภเค กุเล นิพฺพตฺติตฺวา, วยปฺปตฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต นิสินฺโน ตสฺมึ ขเณ สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ มฺชุสฺสรานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, สยมฺปิ ตํ านํ ปตฺเถนฺโต พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา, ‘‘อโห วตาหมฺปิ อนาคเต อยํ ภิกฺขุ วิย เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน มฺชุสฺสรานํ อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปณิธานํ อกาสิ. ภควา จ ตสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา พฺยากริตฺวา ปกฺกามิ.

โส ตตฺถ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต ผุสฺสสฺส ภควโต กาเล จิตฺตปตฺตโกกิโล หุตฺวา ราชุยฺยานโต มธุรํ อมฺพผลํ ตุณฺเฑนาทาย คจฺฉนฺโต สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ‘‘ทสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. สตฺถา ตสฺส จิตฺตํ ตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา นิสีทิ. โกกิโล ทสพลสฺส ปตฺเต อมฺพปกฺกํ ปติฏฺาเปสิ. สตฺถา ตํ ปริภุฺชิ. โส โกกิโล ปสนฺนมานโส เตเนว ปีติสุเขน สตฺตาหํ วีตินาเมสิ. เตน จ ปุฺกมฺเมน มฺชุสฺสโร อโหสิ. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ปน เจติเย อารทฺเธ กึ ปมาณํ กโรม? สตฺตโยชนปฺปมาณํ. อติมหนฺตเมตํ. ฉโยชนปฺปมาณํ. เอตมฺปิ อติมหนฺตํ. ปฺจโยชนํ, จตุโยชนํ, ติโยชนํ, ทฺวิโยชนนฺติ วุตฺเต อยํ ตทา เชฏฺวฑฺฒกี หุตฺวา ‘‘เอถ, โภ, อนาคเต สุขปฏิชคฺคิยํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา รชฺชุยา ปริกฺขิปนฺโต คาวุตมตฺตเก ตฺวา ‘‘เอเกกํ มุขํ คาวุตํ คาวุตํ โหตุ, เจติยํ เอกโยชนาวฏฺฏํ โยชนุพฺเพธํ ภวิสฺสตี’’ติ อาห. เต ตสฺส วจเน อฏฺํสุ. อิติ อปฺปมาณสฺส พุทฺธสฺส ปมาณํ อกาสีติ. เตน ปน กมฺเมน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน อฺเหิ นีจตรปฺปมาโณ โหติ.

โส อมฺหากํ สตฺถุ กาเล สาวตฺถิยํ มหาโภคกุเล นิพฺพตฺติ, ภทฺทิโยติสฺส นามํ อโหสิ. อติรสฺสตาย ปน ลกุณฺฑกภทฺทิโยติ ปฺายิตฺถ. โส สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา, ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา, พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก หุตฺวา มธุเรน สเรน ปเรสํ ธมฺมํ กเถสิ. อเถกสฺมึ อุสฺสวทิวเส เอเกน พฺราหฺมเณน สทฺธึ รเถน คจฺฉนฺตี อฺตรา คณิกา เถรํ ทิสฺวา ทนฺตวิทํสกํ หสิ. เถโร ตสฺสา ทนฺตฏฺิเก นิมิตฺตํ คเหตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา, ตํ ปาทกํ กตฺวา, วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา, อนาคามี อโหสิ. โส อภิณฺหํ กายคตาย สติยา วิหรนฺโต เอกทิวสํ อายสฺมตา ธมฺมเสนาปตินา โอวทิยมาโน อรหตฺเต ปติฏฺหิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๕.๑-๓๓) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ เสฏฺิปุตฺโต มหทฺธโน;

ชงฺฆาวิหารํ วิจรํ, สงฺฆารามํ อคจฺฉหํ.

‘‘ตทา โส โลกปชฺโชโต, ธมฺมํ เทเสสิ นายโก;

มฺชุสฺสรานํ ปวรํ, สาวกํ อภิกิตฺตยิ.

‘‘ตํ สุตฺวา มุทิโต หุตฺวา, การํ กตฺวา มเหสิโน;

วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, ตํ านมภิปตฺถยึ.

‘‘ตทา พุทฺโธ วิยากาสิ, สงฺฆมชฺเฌ วินายโก;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, ลจฺฉเส ตํ มโนรถํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

ภทฺทิโย นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ทฺเวนวุเต อิโต กปฺเป, ผุสฺโส อุปฺปชฺชิ นายโก;

ทุราสโท ทุปฺปสโห, สพฺพโลกุตฺตโม ชิโน.

‘‘จรเณน จ สมฺปนฺโน, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;

หิเตสี สพฺพสตฺตานํ, พหุํ โมเจสิ พนฺธนา.

‘‘นนฺทารามวเน ตสฺส, อโหสึ ผุสฺสโกกิโล;

คนฺธกุฏิสมาสนฺเน, อมฺพรุกฺเข วสามหํ.

‘‘ตทา ปิณฺฑาย คจฺฉนฺตํ, ทกฺขิเณยฺยํ ชินุตฺตมํ;

ทิสฺวา จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, มฺชุนาภินิกูชหํ.

‘‘ราชุยฺยานํ ตทา คนฺตฺวา, สุปกฺกํ กนกตฺตจํ;

อมฺพปิณฺฑํ คเหตฺวาน, สมฺพุทฺธสฺโสปนามยึ.

‘‘ตทา เม จิตฺตมฺาย, มหาการุณิโก ชิโน;

อุปฏฺากสฺส หตฺถโต, ปตฺตํ ปคฺคณฺหิ นายโก.

‘‘อทาสึ หฏฺจิตฺโตหํ, อมฺพปิณฺฑํ มหามุเน;

ปตฺเต ปกฺขิปฺป ปกฺเขหิ, ปฺชลึ กตฺวาน มฺชุนา.

‘‘สเรน รชนีเยน, สวนีเยน วคฺคุนา;

วสฺสนฺโต พุทฺธปูชตฺถํ, นีฬํ คนฺตฺวา นิปชฺชหํ.

‘‘ตทา มุทิตจิตฺตํ มํ, พุทฺธเปมคตาสยํ;

สกุณคฺฆิ อุปาคนฺตฺวา, ฆาตยี ทุฏฺมานโส.

‘‘ตโต จุโตหํ ตุสิเต, อนุโภตฺวา มหาสุขํ;

มนุสฺสโยนิมาคจฺฉึ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา.

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘สาสนํ โชตยิตฺวา โส, อภิภุยฺย กุติตฺถิเย;

วินยิตฺวาน เวเนยฺเย, นิพฺพุโต โส สสาวโก.

‘‘นิพฺพุเต ตมฺหิ โลกคฺเค, ปสนฺนา ชนตา พหู;

ปูชนตฺถาย พุทฺธสฺส, ถูปํ กุพฺพนฺติ สตฺถุโน.

‘‘สตฺตโยชนิกํ ถูปํ, สตฺตรตนภูสิตํ;

กริสฺสาม มเหสิสฺส, อิจฺเจวํ มนฺตยนฺติ เต.

‘‘กิกิโน กาสิราชสฺส, ตทา เสนาย นายโก;

หุตฺวาหํ อปฺปมาณสฺส, ปมาณํ เจติเย วทึ.

‘‘ตทา เต มม วากฺเยน, เจติยํ โยชนุคฺคตํ;

อกํสุ นรวีรสฺส, นานารตนภูสิตํ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาโต เสฏฺิกุเล อหํ;

สาวตฺถิยํ ปุรวเร, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน.

‘‘ปุรปฺปเวเส สุคตํ, ทิสฺวา วิมฺหิตมานโส;

ปพฺพชิตฺวาน น จิรํ, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘เจติยสฺส ปมาณํ ยํ, อกรึ เตน กมฺมุนา;

ลกุณฺฑกสรีโรหํ, ชาโต ปริภวารโห.

‘‘สเรน มธุเรนาหํ, ปูชิตฺวา อิสิสตฺตมํ;

มฺชุสฺสรานํ ภิกฺขูนํ, อคฺคตฺตมนุปาปุณึ.

‘‘ผลทาเนน พุทฺธสฺส, คุณานุสฺสรเณน จ;

สามฺผลสมฺปนฺโน, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อปรภาเค อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๔๖๖.

‘‘ปเร อมฺพาฏการาเม, วนสณฺฑมฺหิ ภทฺทิโย;

สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, ตตฺถ ภทฺโทว ฌายติ.

๔๖๗.

‘‘รมนฺเตเก มุทิงฺเคหิ, วีณาหิ ปณเวหิ จ;

อหฺจ รุกฺขมูลสฺมึ, รโต พุทฺธสฺส สาสเน.

๔๖๘.

‘‘พุทฺโธ เจ เม วรํ ทชฺชา, โส จ ลพฺเภถ เม วโร;

คณฺเหหํ สพฺพโลกสฺส, นิจฺจํ กายคตํ สติ’’นฺติ. –

อิมา ติสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ปเรติ เสฏฺเ อธิเก, วิสิฏฺเติ อตฺโถ. อธิกวาจี หิ อยํ ปรสทฺโท ‘‘ปรํ วิย มตฺตายา’’ติอาทีสุ วิย. อมฺพาฏการาเมติ เอวํนามเก อาราเม. โส กิร ฉายูทกสมฺปนฺโน วนสณฺฑมณฺฑิโต รมณีโย โหติ เตน ‘‘ปเร’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺโต. ‘‘อมฺพาฏกวเน อมฺพาฏเกหิ อภิลกฺขิตวเน’’ติ จ วทนฺติ. วนสณฺฑมฺหีติ วนคหเน, ฆนนิจิตรุกฺขคจฺฉลตาสมูเห วเนติ อตฺโถ. ภทฺทิโยติ เอวํนามโก, อตฺตานเมว เถโร อฺํ วิย วทติ. สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺหาติ ตณฺหาย มูลํ นาม อวิชฺชา. ตสฺมา สาวิชฺชํ ตณฺหํ อคฺคมคฺเคน สมุคฺฆาเฏตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถ ภทฺโทว ฌายตีติ โลกุตฺตเรหิ สีลาทีหิ ภทฺโท สุนฺทโร ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ กตกิจฺจตาย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารวเสน อคฺคผลฌาเนน ฌายติ.

ผลสุเขน จ ฌานสมาปตฺตีหิ จ วีตินาเมตีติ อตฺตโน วิเวกรตึ ทสฺเสตฺวา ‘‘รมนฺเตเก’’ติ คาถายปิ พฺยติเรกมุเขน ตเมวตฺถํ ทสฺเสติ. ตตฺถ มุทิงฺเคหีติ องฺคิกาทีหิ มุรเชหิ. วีณาหีติ นนฺทินีอาทีหิ วีณาหิ. ปณเวหีติ ตุริเยหิ รมนฺติ เอเก กามโภคิโน, สา ปน เตสํ รติ อนริยา อนตฺถสํหิตา. อหฺจา ติ อหํ ปน, เอกโก พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน รโต, ตโต เอว รุกฺขมูลสฺมึ รโต อภิรโต วิหรามีติ อตฺโถ.

เอวํ อตฺตโน วิเวกาภิรตึ กิตฺเตตฺวา อิทานิ ยํ กายคตาสติกมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, ตสฺส ปสํสนตฺถํ ‘‘พุทฺโธ เจ เม’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – สเจ พุทฺโธ ภควา ‘‘เอกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วรํ ยาจามี’’ติ มยา ยาจิโต ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข, ภิกฺขุ, ตถาคตา’’ติ อปฏิกฺขิปิตฺวา มยฺหํ ยถายาจิตํ วรํ ทเทยฺย, โส จ วโร มมาธิปฺปายปูรโก ลพฺเภถ มยฺหํ มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปยฺยาติ เถโร ปริกปฺปวเสน วทติ. ‘‘ภนฺเต, สพฺโพ โลโก สพฺพกาลํ กายคตาสติกมฺมฏฺานํ ภาเวตู’’ติ ‘‘สพฺพโลกสฺส นิจฺจํ กายคตาสติ ภาเวตพฺพา’’ติ กตฺวา วรํ คณฺเห อหนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘คณฺเหหํ สพฺพโลกสฺส, นิจฺจํ กายคตํ สติ’’นฺติ. อิทานิ อปริกฺขณครหามุเขน ปริกฺขณํ ปสํสนฺโต –

๔๖๙.

‘‘เย มํ รูเปน ปามึสุ, เย จ โฆเสน อนฺวคู;

ฉนฺทราควสูเปตา, น มํ ชานนฺติ เต ชนา.

๔๗๐.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ น ปสฺสติ;

สมนฺตาวรโณ พาโล, ส เว โฆเสน วุยฺหติ.

๔๗๑.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;

พหิทฺธา ผลทสฺสาวี, โสปิ โฆเสน วุยฺหติ.

๔๗๒.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ ปชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;

อนาวรณทสฺสาวี, น โส โฆเสน วุยฺหตี’’ติ. –

อิมา จตสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ เย มํ รูเปน ปามึสูติ เย ชนา อวิทฺทสู มม รูเปน อปสาทิเกน นิหีเนน ‘‘อาการสทิสี ปฺา’’ติ, ธมฺมสรีเรน จ มํ นิหีนํ ปามึสุ, ‘‘โอรโก อย’’นฺติ หีเฬนฺตา ปริจฺฉินฺทนวเสน มฺึสูติ อตฺโถ. เย จ โฆเสน อนฺวคูติ เย จ สตฺตา โฆเสน มฺชุนา มํ สมฺภาวนาวเสน อนุคตา พหุ มฺึสุ, ตํ เตสํ มิจฺฉา, น หิ อหํ รูปมตฺเตน อวมนฺตพฺโพ, โฆสมตฺเตน วา น พหุํ มนฺตพฺโพ, ตสฺมา ฉนฺทราควสูเปตา, น มํ ชานนฺติ เต ชนาติ เต ทุวิธาปิ ชนา ฉนฺทราคสฺส วสํ อุเปตา อปฺปหีนฉนฺทราคา สพฺพโส ปหีนฉนฺทราคํ มํ น ชานนฺติ.

อวิสโย เตสํ มาทิโส อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ อปริฺาตวตฺถุตายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อชฺฌตฺตนฺติ อตฺตโน สนฺตาเน ขนฺธายตนาทิธมฺมํ. พหิทฺธาติ ปรสนฺตาเน. อถ วา อชฺฌตฺตนฺติ, มม อพฺภนฺตเร อเสกฺขสีลกฺขนฺธาทึ. พหิทฺธาติ, มเมว อากปฺปสมฺปตฺติยาทิยุตฺตํ พหิทฺธา รูปธมฺมปฺปวตฺตึ จกฺขุวิฺาณาทิปฺปวตฺติฺจ. สมนฺตาวรโณติ เอวํ อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ อชานเนน สมนฺตโต อาวรณยุตฺโต อาวฏาณคติโก. ส เว โฆเสน วุยฺหตีติ โส ปรเนยฺยพุทฺธิโก พาโล โฆเสน ปเรสํ วจเนน วุยฺหติ นิยฺยติ อากฑฺฒียติ.

พหิทฺธา จ วิปสฺสตีติ โย จ วุตฺตนเยน อชฺฌตฺตํ น ชานาติ, พหิทฺธา ปน สุตานุสาเรน อากปฺปสมฺปตฺติอาทิอุปธารเณน วา วิเสสโต ปสฺสติ. ‘‘คุณวิเสสยุตฺโต สิยา’’ติ มฺติ, โสปิ พหิทฺธา ผลทสฺสาวี นยคฺคาเหน ผลมตฺตํ คณฺหนฺโต วุตฺตนเยน โฆเสน วุยฺหติ, โสปิ มาทิเส น ชานาตีติ อตฺโถ.

โย ปน อชฺฌตฺตฺจ ขีณาสวสฺส อพฺภนฺตเร อเสกฺขสีลกฺขนฺธาทิคุณํ ชานาติ, พหิทฺธา จสฺส ปฏิปตฺติสลฺลกฺขเณน วิเสสโต คุณวิเสสโยคํ ปสฺสติ. อนาวรณทสฺสาวี เกนจิ อนาวโฏ หุตฺวา อริยานํ คุเณ ทฏฺุํ าตุํ สมตฺโถ, น โส โฆสมตฺเตน วุยฺหติ ยาถาวโต ทสฺสนโตติ.

ลกุณฺฑกภทฺทิยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ภทฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา

เอกปุตฺโตติอาทิกา อายสฺมโต ภทฺทตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ สตสหสฺสปริมาณํ จีวราทีหิ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปูเชสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ. นิพฺพตฺตมาโน จ อปุตฺตเกสุ มาตาปิตูสุ เทวตายาจนาทีนิ กตฺวาปิ อลภนฺเตสุ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘สเจ, ภนฺเต, มยํ เอกํ ปุตฺตํ ลจฺฉาม, ตํ ตุมฺหากํ ทาสตฺถาย ทสฺสามา’’ติ วตฺวา อายาจิตฺวา คเตสุ สตฺถุ อธิปฺปายํ ตฺวา อฺตโร เทวปุตฺโต ขีณายุโก หุตฺวา ิโต สกฺเกน เทวรฺา ‘‘อมุกสฺมึ กุเล นิพฺพตฺตาหี’’ติ อาณตฺโต ตตฺถ นิพฺพตฺติ, ภทฺโทติสฺส นามํ อกํสุ. ตํ สตฺตวสฺสุทฺเทสิกํ ชาตํ มาตาปิตโร อลงฺกริตฺวา ภควโต สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ โส, ภนฺเต, ตุมฺเห อายาจิตฺวา ลทฺธทารโก, อิมํ ตุมฺหากํ นิยฺยาเตมา’’ติ อาหํสุ. สตฺถา อานนฺทตฺเถรํ อาณาเปสิ – ‘‘อิมํ ปพฺพาเชหี’’ติ. อาณาเปตฺวา จ คนฺธกุฏึ ปาวิสิ. เถโร ตํ ปพฺพาเชตฺวา สงฺเขเปน วิปสฺสนามุขํ อาจิกฺขิ. โส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตฺตา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต สูริเย อโนคฺคเตเยว ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ฉฬภิฺโ อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๕.๕๔-๖๙) –

‘‘ปทุมุตฺตรสมฺพุทฺธํ, เมตฺตจิตฺตํ มหามุนึ;

อุเปติ ชนตา สพฺพา, สพฺพโลกคฺคนายกํ.

‘‘สตฺตุกฺจ พทฺธกฺจ, อามิสํ ปานโภชนํ;

ททนฺติ สตฺถุโน สพฺเพ, ปุฺกฺเขตฺเต อนุตฺตเร.

‘‘อหมฺปิ ทานํ ทสฺสามิ, เทวเทวสฺส ตาทิโน;

พุทฺธเสฏฺํ นิมนฺเตตฺวา, สงฺฆมฺปิ จ อนุตฺตรํ.

‘‘อุยฺโยชิตา มยา เจเต, นิมนฺเตสุํ ตถาคตํ;

เกวลํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ, ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ.

‘‘สตสหสฺสปลฺลงฺกํ, โสวณฺณํ โคนกตฺถตํ;

ตูลิกาปฏลิกาย, โขมกปฺปาสิเกหิ จ;

มหารหํ ปฺาปยึ, อาสนํ พุทฺธยุตฺตกํ.

‘‘ปทุมุตฺตโร โลกวิทู, เทวเทโว นราสโภ;

ภิกฺขุสงฺฆปริพฺยูฬฺโห, มม ทฺวารมุปาคมิ.

‘‘ปจฺจุคฺคนฺตฺวาน สมฺพุทฺธํ, โลกนาถํ ยสสฺสินํ;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, อภินามยึ สงฺฆรํ.

‘‘ภิกฺขูนํ สตสหสฺสํ, พุทฺธฺจ โลกนายกํ;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, ปรมนฺเนน ตปฺปยึ.

‘‘ปทุมุตฺตโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘เยนิทํ อาสนํ ทินฺนํ, โสวณฺณํ โคนกตฺถตํ;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘จตุสตฺตติกฺขตฺตุํ โส, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

อนุโภสฺสติ สมฺปตฺตึ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต.

‘‘ปเทสรชฺชํ สหสฺสํ, วสุธํ อาวสิสฺสติ;

เอกปฺาสกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.

‘‘สพฺพาสุ ภวโยนีสุ, อุจฺจากุลี ภวิสฺสติ;

โส จ ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวา, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

ภทฺทิโย นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘วิเวกมนุยุตฺโตมฺหิ, ปนฺตเสนนิวาสหํ;

ผลฺจาธิคตํ สพฺพํ, จตฺตกฺเลโสมฺหิ อชฺชหํ.

‘‘มม สพฺพํ อภิฺาย, สพฺพฺู โลกนายโก;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, เอตทคฺเค เปสิ มํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

ตสฺส ภควา ฉฬภิฺุปฺปตฺตึ ตฺวา ‘‘เอหิ, ภทฺทา’’ติ อาห. โส ตาวเทว สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ปฺชลิโก สตฺถุ สมีเป อฏฺาสิ, สา เอว จสฺส อุปสมฺปทา อโหสิ. พุทฺธูปสมฺปทา นาม กิเรสา. เถโร ชาติโต ปฏฺาย อตฺตโน ปวตฺติยา กถนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๔๗๓.

‘‘เอกปุตฺโต อหํ อาสึ, ปิโย มาตุ ปิโย ปิตุ;

พหูหิ วตจริยาหิ, ลทฺโธ อายาจนาหิ จ.

๔๗๔.

‘‘เต จ มํ อนุกมฺปาย, อตฺถกามา หิเตสิโน;

อุโภ ปิตา จ มาตา จ, พุทฺธสฺส อุปนามยุํ.

๔๗๕.

‘‘กิจฺฉา ลทฺโธ อยํ ปุตฺโต, สุขุมาโล สุเขธิโต;

อิมํ ททาม เต นาถ, ชินสฺส ปริจารกํ.

๔๗๖.

‘‘สตฺถา จ มํ ปฏิคฺคยฺห, อานนฺทํ เอตทพฺรวิ;

ปพฺพาเชหิ อิมํ ขิปฺปํ, เหสฺสตฺยาชานิโย อยํ.

๔๗๗.

‘‘ปพฺพาเชตฺวาน มํ สตฺถา, วิหารํ ปาวิสี ชิโน;

อโนคฺคตสฺมึ สูริยสฺมึ, ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม.

๔๗๘.

‘‘ตโต สตฺถา นิรากตฺวา, ปฏิสลฺลานวุฏฺิโต;

เอหิ ภทฺทาติ มํ อาห, สา เม อาสูปสมฺปทา.

๔๗๙.

‘‘ชาติยา สตฺตวสฺเสน, ลทฺธา เม อุปสมฺปทา;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, อโห ธมฺมสุธมฺมตา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ วตจริยาหีติ, ‘‘เอวํ กตฺวา ปุตฺตํ ลภิสฺสถา’’ติ วุตฺตํ สมณพฺราหฺมณานํ วจนํ สุตฺวา, ขีรํ ปายิตฺวา, อนสนาทิวตจรเณหิ. อายาจนาหีติ เทวตายาจนาหิ สตฺถุอายาจนาย จ, อิทเมว เจตฺถ การณํ, อิตรํ เถโร มาตาปิตูนํ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถฺเจว กิจฺฉลทฺธภาวทสฺสนตฺถฺจ วทติ.

เตติ มาตาปิตโร. อุปนามยุนฺติ อุปนาเมสุํ.

สุเขธิโตติ สุขสํวฑฺฒิโต. เตติ ตุยฺหํ. ปริจารกนฺติ กึการํ.

เหสฺสตฺยาชานิโย อยนฺติ อยํ ทารโก มม สาสเน อาชานีโย ภวิสฺสติ. ตสฺมา ขิปฺปํ อชฺเชว ปพฺพาเชหีติ เอตํ อพฺรวิ, อาห.

ปพฺพาเชตฺวานาติ อานนฺทตฺเถเรน ปพฺพาเชตฺวา. วิหารนฺติ คนฺธกุฏึ. อโนคฺคตสฺมึ สูริยสฺมินฺติ สูริเย อนตฺถงฺคเตเยว. ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ ตโต วิปสฺสนารมฺภโต ปรํ น จิเรเนว ขเณน สพฺพาสเวหิ เม จิตฺตํ วิมุจฺจิ, ขีณาสโว อโหสึ.

ตโตติ มม อาสวกฺขยโต ปจฺฉา. นิรากตฺวาติ อตฺตนา สมาปนฺนํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา ตโต วุฏฺาย. เตนาห ‘‘ปฏิสลฺลานวุฏฺิโต’’ติ. สา เม อาสูปสมฺปทาติ ยา มํ อุทฺทิสฺส ‘‘เอหิ, ภทฺทา’’ติ สตฺถุ วาจา ปวตฺตา, สา เอว เม มยฺหํ อุปสมฺปทา อาสิ. เอวํ ชาติยา สตฺตวสฺเสน, ลทฺธา เม อุปสมฺปทาติ สาติสยํ สตฺถารา อตฺตโน กตํ อนุคฺคหํ สาสนสฺส จ นิยฺยานิกตํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อโห ธมฺมสุธมฺมตา’’ติ.

เอตฺถ จ ‘‘จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม’’ติ ขีณาสวภาวํ ปกาเสตฺวาปิ ปุน ‘‘ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา’’ติ โลกิยาภิฺเกเทสทสฺสนํ ฉฬภิฺภาววิภาวนตฺถํ. เตนาห อปทาเน ‘‘ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา’’ติ.

ภทฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โสปากตฺเถรคาถาวณฺณนา

ทิสฺวา ปาสาทฉายายนฺติอาทิกา อายสฺมโต โสปากตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ฆราวาสํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกสฺมึ ปพฺพเต วิหรติ. สตฺถา อาสนฺนมรณํ ตํ ตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โส ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปเวเทนฺโต ปุปฺผมยํ อาสนํ ปฺเปตฺวา อทาสิ. สตฺถา ตตฺถ นิสีทิตฺวา, อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ กเถตฺวา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อากาเสน อคมาสิ. โส ปุพฺเพ คหิตํ นิจฺจคฺคาหํ ปหาย อนิจฺจสฺํ หทเย เปตฺวา, กาลงฺกตฺวา, เทวโลเก อุปฺปชิตฺวา, อปราปรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต, อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห โสปากโยนิยํ นิพฺพตฺติ. โส ชาติอาคเตน โสปาโกติ นาเมน ปฺายิ. เกจิ ปน ‘‘วาณิชกุเล นิพฺพตฺโต, ‘โสปาโก’ติ ปน นามมตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ตํ อปทานปาฬิยา วิรุชฺฌติ ‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, โสปากโยนุปาคมิ’’นฺติ วจนโต.

ตสฺส จตุมาสชาตสฺส ปิตา กาลมกาสิ, จูฬปิตา โปเสสิ. อนุกฺกเมน สตฺตวสฺสิโก ชาโต. เอกทิวสํ จูฬปิตา ‘‘อตฺตโน ปุตฺเตน กลหํ กโรตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา, ตํ สุสานํ เนตฺวา, ทฺเว หตฺเถ รชฺชุยา เอกโต พนฺธิตฺวา, ตาย เอว รชฺชุยา มตมนุสฺสสฺส สรีเร คาฬฺหํ พนฺธิตฺวา คโต ‘‘สิงฺคาลาทโย ขาทนฺตู’’ติ. ปจฺฉิมภวิกตาย ทารกสฺส ปุฺผเลน สยํ มาเรตุํ น วิสหิ, สิงฺคาลาทโยปิ น อภิภวึสุ. ทารโก อฑฺฒรตฺตสมเย เอวํ วิปฺปลปติ –

‘‘กา คติ เม อคติสฺส, โก วา พนฺธุ อพนฺธุโน;

สุสานมชฺเฌ พนฺธสฺส, โก เม อภยทายโก’’ติ.

สตฺถา ตาย เวลาย เวเนยฺยพนฺธเว โอโลเกนฺโต ทารกสฺส หทยพฺภนฺตเร ปชฺชลนฺตํ อรหตฺตูปนิสฺสยํ ทิสฺวา โอภาสํ ผริตฺวา สตึ ชเนตฺวา เอวมาห –

‘‘เอหิ โสปาก มา ภายิ, โอโลกสฺสุ ตถาคตํ;

อหํ ตํ ตารยิสฺสามิ, ราหุมุเขว จนฺทิม’’นฺติ.

ทารโก พุทฺธานุภาเวน ฉินฺนพนฺธโน คาถาปริโยสาเน โสตาปนฺโน หุตฺวา คนฺธกุฏิสมฺมุเข อฏฺาสิ. ตสฺส มาตา ปุตฺตํ อปสฺสนฺตี จูฬปิตรํ ปุจฺฉิตฺวา เตนสฺส ปวตฺติยา อกถิตาย ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา วิจินนฺตี ‘‘พุทฺธา กิร อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ชานนฺติ, ยํนูนาหํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา มม ปุตฺตสฺส ปวตฺตึ ชาเนยฺย’’นฺติ สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. สตฺถา, อิทฺธิยา ตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มม ปุตฺตํ น ปสฺสามิ, อปิจ ภควา ตสฺส ปวตฺตึ ชานาตี’’ติ ตาย ปุฏฺโ –

‘‘น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย, น ปิตา นาปิ พนฺธวา;

อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, นตฺถิ าตีสุ ตาณตา’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๘) –

ธมฺมํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา สา โสตาปนฺนา อโหสิ. ทารโก อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๒.๑๑๒-๑๒๓) –

‘‘ปพฺภารํ โสธยนฺตสฺส, วิปิเน ปพฺพตุตฺตเม;

สิทฺธตฺโถ นาม ภควา, อาคจฺฉิ มม สนฺติกํ.

‘‘พุทฺธํ อุปคตํ ทิสฺวา, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

สนฺถรํ สนฺถริตฺวาน, ปุปฺผาสนมทาสหํ.

‘‘ปุปฺผาสเน นิสีทิตฺวา, สิทฺธตฺโถ โลกนายโก;

มมฺจ คติมฺาย, อนิจฺจตมุทาหริ.

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน;

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, เตสํ วูปสโม สุโข.

‘‘อิทํ วตฺวาน สพฺพฺู, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

นภํ อพฺภุคฺคมี วีโร, หํสราชาว อมฺพเร.

‘‘สกํ ทิฏฺึ ชหิตฺวาน, ภาวยานิจฺจสฺหํ;

เอกาหํ ภาวยิตฺวาน, ตตฺถ กาลํ กโต อหํ.

‘‘ทฺเว สมฺปตฺตี อนุโภตฺวา, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, สปากโยนุปาคมึ.

‘‘อคารา อภินิกฺขมฺม, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ชาติยา สตฺตวสฺโสหํ, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, สีเลสุ สุสมาหิโต;

โตเสตฺวาน มหานาคํ, อลตฺถํ อุปสมฺปทํ.

‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปุปฺผทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ สฺํ ภาวยึ ตทา;

ตํ สฺํ ภาวยนฺตสฺส, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ ภควา อิทฺธึ ปฏิสํหริ. สาปิ ปุตฺตํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺโ ตสฺส ขีณาสวภาวํ สุตฺวา ปพฺพาเชตฺวา คตา. โส สตฺถารํ คนฺธกุฏิจฺฉายายํ จงฺกมนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา, วนฺทิตฺวา อนุจงฺกมิ. ตสฺส ภควา อุปสมฺปทํ อนุชานิตุกาโม ‘‘เอกํ นาม กิ’’นฺติอาทินา ทส ปฺเห ปุจฺฉิ. โสปิ สตฺถุ อธิปฺปายํ คณฺหนฺโต สพฺพฺุตฺาเณน สํสนฺเทนฺโต ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติอาทินา (ขุ. ปา. ๔.๑) เต ปฺเห วิสฺสชฺเชสิ. เตเนว เต กุมารปฺหา นาม ชาตา. สตฺถา ตสฺส ปฺหพฺยากรเณน อาราธิตจิตฺโต อุปสมฺปทํ อนุชานิ. เตน สา ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา นาม ชาตา. ตสฺสิมํ อตฺตโน ปวตฺตึ ปกาเสตฺวา เถโร อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๔๘๐.

‘‘ทิสฺวา ปาสาทฉายายํ, จงฺกมนฺตํ นรุตฺตมํ;

ตตฺถ นํ อุปสงฺกมฺม, วนฺทิสฺสํ ปุริสุตฺตมํ.

๔๘๑.

‘‘เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, สํหริตฺวาน ปาณโย;

อนุจงฺกมิสฺสํ วิรชํ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํ.

๔๘๒.

‘‘ตโต ปฺเห อปุจฺฉิ มํ, ปฺหานํ โกวิโท วิทู;

อจฺฉมฺภี จ อภีโต จ, พฺยากาสึ สตฺถุโน อหํ.

๔๘๓.

‘‘วิสฺสชฺชิเตสุ ปฺเหสุ, อนุโมทิ ตถาคโต;

ภิกฺขุสงฺฆํ วิโลเกตฺวา, อิมมตฺถํ อภาสถ.

๔๘๔.

‘‘‘ลาภา องฺคานํ มคธานํ, เยสายํ ปริภุฺชติ;

จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

ปจฺจุฏฺานฺจ สามีจึ, เตสํ ลาภา’ติ จาพฺรวิ.

๔๘๕.

‘‘‘อชฺชทคฺเค มํ โสปาก, ทสฺสนาโยปสงฺกม;

เอสา เจว เต โสปาก, ภวตุ อุปสมฺปทา’’’.

๔๘๖.

‘‘ชาติยา สตฺตวสฺเสน, ลทฺธาน อุปสมฺปทํ;

ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, อโห ธมฺมสุธมฺมตา’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ปาสาทฉายายนฺติ คนฺธกุฏิจฺฉายายํ. วนฺทิสฺสนฺติ, อภิวนฺทึ.

สํหริตฺวาน ปาณโยติ อุโภ หตฺเถ กมลมกุฬากาเรน สงฺคเต กตฺวา, อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. อนุจงฺกมิสฺสนฺติ จงฺกมนฺตสฺส สตฺถุโน อนุปจฺฉโต อนุคมนวเสน จงฺกมึ. วิรชนฺติ วิคตราคาทิรชํ.

ปฺเหติ กุมารปฺเห. วิทูติ เวทิตพฺพํ วิทิตวา, สพฺพฺูติ อตฺโถ. ‘‘สตฺถา มํ ปุจฺฉตี’’ติ อุปฺปชฺชนกสฺส ฉมฺภิตตฺตสฺส ภยสฺส จ เสตุฆาเตน ปหีนตฺตา อจฺฉมฺภีอภีโต จ พฺยากาสิ.

เยสายนฺติ เยสํ องฺคมคธานํ อยํ โสปาโก. ปจฺจยนฺติ คิลานปจฺจยํ. สามีจินฺติ มคฺคทานพีชนาทิสามีจิกิริยํ.

อชฺชทคฺเคติ ท-กาโร ปทสนฺธิกโร, อชฺช อคฺเค อาทึ กตฺวา, อชฺช ปฏฺาย. ‘‘อชฺชตคฺเค’’ติปิ ปาฬิ, อชฺชตํ อาทึ กตฺวาติ อตฺโถ. ทสฺสนาโยปสงฺกมาติ ‘‘หีนชจฺโจ, วยสา ตรุณตโร’’ติ วา อจินฺเตตฺวา ทสฺสนาย มํ อุปสงฺกม. เอสา เจวาติ ยา ตสฺส มม สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺเทตฺวา กตา ปฺหวิสฺสชฺชนา. เอสาเยว เต ภวตุ อุปสมฺปทา อิติ จ อพฺรวีติ โยชนา. ‘‘ลทฺธา เม อุปสมฺปทา’’ติปิ ปาฬิ. เย ปน ‘‘ลทฺธาน อุปสมฺปท’’นฺติปิ ปนฺติ, เตสํ สตฺตวสฺเสนาติ สตฺตเมน วสฺเสนาติ อตฺโถ, สตฺตวสฺเสน วา หุตฺวาติ วจนเสโส. ยํ ปเนตฺถ อวุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

โสปากตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สรภงฺคตฺเถรคาถาวณฺณนา

สเร หตฺเถหีติอาทิกา อายสฺมโต สรภงฺคตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อนภิลกฺขิโตติสฺส กุลวํสาคตํ นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต กาเม ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สรติณานิ สยเมว ภฺชิตฺวา ปณฺณสาลํ กตฺวา วสติ. ตโต ปฏฺาย สรภงฺโคติสฺส สมฺา อโหสิ. อถ ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต ตสฺส อรหตฺตูปนิสฺสยํ ทิสฺวา, ตตฺถ คนฺตฺวา, ธมฺมํ เทเสสิ. โส ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา ตตฺเถว วสติ. อถสฺส ตาปสกาเล กตา ปณฺณสาลา ชิณฺณา ปลุคฺคา อโหสิ. ตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘กิสฺส, ภนฺเต, อิมํ กุฏิกํ น ปฏิสงฺขโรถา’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘กุฏิกา ยถา ตาปสกาเล กตา, อิทานิ ตถา กาตุํ น สกฺกา’’ติ ตํ สพฺพํ ปกาเสนฺโต –

๔๘๗.

‘‘สเร หตฺเถหิ ภฺชิตฺวา, กตฺวาน กุฏิมจฺฉิสํ;

เตน เม สรภงฺโคติ, นามํ สมฺมุติยา อหุ.

๔๘๘.

‘‘น มยฺหํ กปฺปเต อชฺช, สเร หตฺเถหิ ภฺชิตุํ;

สิกฺขาปทา โน ปฺตฺตา, โคตเมน ยสสฺสินา’’ติ. – ทฺเว คาถา อภาสิ;

ตตฺถ สเร หตฺเถหิ ภฺชิตฺวาติ, ปุพฺเพ ตาปสกาเล สรติณานิ มม หตฺเถหิ ฉินฺทิตฺวา ติณกุฏึ กตฺวา อจฺฉิสํ วสึ, นิสีทิฺเจว นิปชฺชิฺจ. เตนาติ กุฏิกรณตฺถํ สรานํ ภฺชเนน. สมฺมุติยาติ อนฺวตฺถสมฺมุติยา สรภงฺโคติ, นามํ อหุ อโหสิ.

น มยฺหํ กปฺปเต อชฺชาติ อชฺช อิทานิ อุปสมฺปนฺนสฺส มยฺหํ สเร สรติเณ หตฺเถหิ ภฺชิตุํ น กปฺปเต น วฏฺฏติ. กสฺมา? สิกฺขาปทา โน ปฺตฺตา, โคตเมน ยสสฺสินาติ. เตน ยํ อมฺหากํ สตฺถารา สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มยํ ชีวิตเหตุนาปิ นาติกฺกมามาติ ทสฺเสติ.

เอวํ เอเกน ปกาเรน ติณกุฏิกาย อปฏิสงฺขรเณ การณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปเรนปิ ปริยาเยน นํ ทสฺเสนฺโต –

๔๘๙.

‘‘สกลํ สมตฺตํ โรคํ, สรภงฺโค นาทฺทสํ ปุพฺเพ;

โสยํ โรโค ทิฏฺโ, วจนกเรนาติเทวสฺสา’’ติ. – อิมํ คาถมาห;

ตตฺถ สกลนฺติ สพฺพํ. สมตฺตนฺติ สมฺปุณฺณํ, สพฺพภาคโต อนวเสสนฺติ อตฺโถ. โรคนฺติ ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน รุชนฏฺเน โรคภูตํ อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ สนฺธาย วทติ. นาทฺทสํ ปุพฺเพติ สตฺถุ โอวาทปฏิลาภโต ปุพฺเพ น อทฺทกฺขึ. โสยํ โรโค ทิฏฺโ, วจนกเรนาติเทวสฺสาติ สมฺมุติเทวา อุปปตฺติเทวา วิสุทฺธิเทวาติ สพฺเพปิ เทเว อตฺตโน สีลาทิคุเณหิ อติกฺกมิตฺวา ิตตฺตา อติเทวสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอวาทปฏิกเรน สรภงฺเคน โส อยํ ขนฺธปฺจกสงฺขาโต โรโค วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ปฺจกฺขนฺธโต ทิฏฺโ, ปริฺาโตติ อตฺโถ. เอเตน เอวํ อตฺตภาวกุฏิกายมฺปิ อนเปกฺโข พาหิรํ ติณกุฏิกํ กถํ ปฏิสงฺขริสฺสตีติ ทสฺเสติ.

อิทานิ ยํ มคฺคํ ปฏิปชฺชนฺเตน มยา อยํ อตฺตภาวโรโค ยาถาวโต ทิฏฺโ, สฺวายํ มคฺโค สพฺพพุทฺธสาธารโณ. เยน เนสํ โอวาทธมฺโมปิ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณสทิโส ยตฺถาหํ ปติฏฺาย ทุกฺขกฺขยํ ปตฺโตติ เอวํ อตฺตโน อรหตฺตปฏิปตฺตึ พฺยากโรนฺโต –

๔๙๐.

‘‘เยเนว มคฺเคน คโต วิปสฺสี, เยเนว มคฺเคน สิขี จ เวสฺสภู;

กกุสนฺธโกณาคมโน จ กสฺสโป, เตนฺชเสน อคมาสิ โคตโม.

๔๙๑.

‘‘วีตตณฺหา อนาทานา, สตฺต พุทฺธา ขโยคธา;

เยหายํ เทสิโต ธมฺโม, ธมฺมภูเตหิ ตาทิภิ.

๔๙๒.

‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อนุกมฺปาย ปาณินํ;

ทุกฺขํ สมุทโย มคฺโค, นิโรโธ ทุกฺขสงฺขโย.

๔๙๓.

‘‘ยสฺมึ นิวตฺตเต ทุกฺขํ, สํสารสฺมึ อนนฺตกํ;

เภทา อิมสฺส กายสฺส, ชีวิตสฺส จ สงฺขยา;

อฺโ ปุนพฺภโว นตฺถิ, สุวิมุตฺโตมฺหิ สพฺพธี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ –

ตตฺถ เยเนว มคฺเคนาติ เยเนว สปุพฺพภาเคน อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน. คโตติ ปฏิปนฺโน นิพฺพานํ อธิคโต. วิปสฺสีติ วิปสฺสี สมฺมาสมฺพุทฺโธ. กกุสนฺธาติ อวิภตฺติโก นิทฺเทโส. ‘‘กกุสนฺธโกณาคมนา’’ติปิ ปาโ. เตนฺชเสนาติ เตเนว อฺชเสน อริยมคฺเคน.

อนาทานาติ อนุปาทานา อปฺปฏิสนฺธิกา วา. ขโยคธาติ นิพฺพาโนคธา นิพฺพานปติฏฺา. เยหายํ เทสิโต ธมฺโมติ เยหิ สตฺตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อยํ สาสนธมฺโม เทสิโต ปเวทิโต. ธมฺมภูเตหีติ ธมฺมกายตาย ธมฺมสภาเวหิ, นวโลกุตฺตรธมฺมโต วา ภูเตหิ ชาเตหิ, ธมฺมํ วา ปตฺเตหิ. ตาทิภีติ, อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺเตหิ.

‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ติอาทินา เตหิ เทสิตํ ธมฺมํ ทสฺเสติ. ตตฺถ จตฺตารีติ คณนปริจฺเฉโท. อริยสจฺจานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมทสฺสนํ. วจนตฺถโต ปน อริยานิ จ อวิตถฏฺเน สจฺจานิ จาติ อริยสจฺจานิ, อริยสฺส วา ภควโต สจฺจานิ เตน เทสิตตฺตา, อริยภาวกรานิ วา สจฺจานีติ อริยสจฺจานิ. กุจฺฉิตภาวโต ตุจฺฉภาวโต จ ทุกฺขํ, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. ตํ ทุกฺขํ สมุเทติ เอตสฺมาติ สมุทโย, ตณฺหา. กิเลเส มาเรนฺโต คจฺฉติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคียตีติ วา มคฺโค, สมฺมาทิฏฺิอาทโย อฏฺ ธมฺมา. สํสารจารกสงฺขาโต นตฺถิ เอตฺถ โรโธ, เอตสฺมึ วา อธิคเต ปุคฺคลสฺส โรธาภาโว โหติ, นิรุชฺฌติ ทุกฺขเมตฺถาติ วา นิโรโธ, นิพฺพานํ. เตนาห ‘‘ทุกฺขสงฺขโย’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ยสฺมินฺติ ยสฺมึ นิโรเธ นิพฺพาเน อธิคเต. นิวตฺตเตติ อริยมคฺคภาวนาย สติ อนนฺตกํ อปริยนฺตํ อิมสฺมึ สํสาเร ชาติอาทิทุกฺขํ น ปวตฺตติ อุจฺฉิชฺชติ, โส นิโรโธติ อยํ ธมฺมภูเตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ เทสิโต ธมฺโมติ โยชนา. ‘‘เภทา’’ติอาทินา ‘‘โรโค ทิฏฺโ’’ติ ทุกฺขปริฺาย สูจิตํ อตฺตโน อรหตฺตปฺปตฺตึ สรูปโต ทสฺเสติ. ‘‘ยสฺมึ นิพฺพตฺตเต ทุกฺข’’นฺติ ปน ปาเ สกลคาถาย ตตฺถายํ โยชนา – ยสฺมึ ขนฺธาทิปฏิปาฏิสฺิเต สํสาเร อิทํ อนนฺตกํ ชาติอาทิทุกฺขํ นิพฺพตฺตํ, โส อิโต ทุกฺขปฺปตฺติโต อฺโ ปุนปฺปุนํ ภวนภาวโต ปุนพฺภโว. อิมสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส สงฺขยา กายสงฺขาตสฺส ขนฺธปฺจกสฺส เภทา วินาสา อุทฺธํ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพธิ สพฺเพหิ กิเลเสหิ สพฺเพหิ ภเวหิ สุฏฺุ วิมุตฺโต วิสํยุตฺโต อมฺหีติ.

สรภงฺคตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺกนิปาโต

๑. มหากจฺจายนตฺเถรคาถาวณฺณนา

อฏฺกนิปาเต กมฺมํ พหุกนฺติอาทิกา อายสฺมโต มหากจฺจายนตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วุทฺธิปฺปตฺโต, เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ อคฺคฏฺาเน ปิยมานํ เอกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา, สยมฺปิ ตํ านํ ปตฺเถนฺโต ปณิธานํ กตฺวา, ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา, เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต สุเมธสฺส ภควโต กาเล วิชฺชาธโร หุตฺวา อากาเสน คจฺฉนฺโต สตฺถารํ หิมวนฺตปพฺพเต เอกสฺมึ วนสณฺเฑ นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส กณิการปุปฺเผหิ ปูชํ อกาสิ.

โส เตน ปุฺกมฺเมน อปราปรํ สุคตีสุเยว ปริวตฺเตนฺโต กสฺสปทสพลสฺส กาเล พาราณสิยํ กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา ปรินิพฺพุเต ภควติ สุวณฺณเจติยกรณฏฺาเน สตสหสฺสคฺฆนิกาย สุวณฺณิฏฺกาย ปูชํ กตฺวา, ‘‘ภควา มยฺหํ นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน สรีรํ สุวณฺณวณฺณํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ.

ตโต ยาวชีวํ กุสลกมฺมํ กตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อุชฺเชนิยํ รฺโ จณฺฑปชฺโชตสฺส ปุโรหิตเคเห นิพฺพตฺติ. ตสฺส นามคฺคหณทิวเส มาตา ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต สุวณฺณวณฺโณ, อตฺตโน นามํ คเหตฺวา อาคโต’’ติ กฺจนมาณโว ตฺเวว นามํ อกาสิ. โส วุฑฺฒิมนฺวาย ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา ปิตุ อจฺจเยน ปุโรหิตฏฺานํ ลภิ. โส โคตฺตวเสน กจฺจายโนติ ปฺายิตฺถ. ตํ ราชา จณฺฑปชฺโชโต พุทฺธุปฺปาทํ สุตฺวา, ‘‘อาจริย, ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา สตฺถารํ อิธาเนหี’’ติ เปเสสิ. โส อตฺตฏฺโม สตฺถุ สนฺติกํ อุปคโต. ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ. เทสนาปริโยสาเน โส สตฺตหิ ชเนหิ สทฺธึ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๔.๑-๒๗) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, อเนโช อชิตํ ชโย;

สตสหสฺเส กปฺปานํ, อิโต อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘วีโร กมลปตฺตกฺโข, สสงฺกวิมลานโน;

กนกาจลสงฺกาโส, รวิทิตฺติสมปฺปโภ.

‘‘สตฺตเนตฺตมโนหารี, วรลกฺขณภูสิโต;

สพฺพวากฺยปถาตีโต, มนุชามรสกฺกโต.

‘‘สมฺพุทฺโธ โพธยํ สตฺเต, วาคีโส มธุรสฺสโร;

กรุณานิพนฺธสนฺตาโน, ปริสาสุ วิสารโท.

‘‘เทเสติ มธุรํ ธมฺมํ, จตุสจฺจูปสํหิตํ;

นิมุคฺเค โมหปงฺกมฺหิ, สมุทฺธรติ ปาณิเน.

‘‘ตทา เอกจโร หุตฺวา, ตาปโส หิมวาลโย;

นภสา มานุสํ โลกํ, คจฺฉนฺโต ชินมทฺทสํ.

‘‘อุเปจฺจ สนฺติกํ ตสฺส, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;

วณฺณยนฺตสฺส วีรสฺส, สาวกสฺส มหาคุณํ.

‘‘สํขิตฺเตน มยา วุตฺตํ, วิตฺถาเรน ปกาสยํ;

ปริสํ มฺจ โตเสติ, ยถา กจฺจายโน อยํ.

‘‘นาหํ เอวมิเธกจฺจํ, อฺํ ปสฺสามิ สาวกํ;

ตสฺมาตทคฺเค เอสคฺโค, เอวํ ธาเรถ ภิกฺขโว.

‘‘ตทาหํ วิมฺหิโต หุตฺวา, สุตฺวา วากฺยํ มโนรมํ;

หิมวนฺตํ คมิตฺวาน, อาหิตฺวา ปุปฺผสฺจยํ.

‘‘ปูเชตฺวา โลกสรณํ, ตํ านมภิปตฺถยึ;

ตทา มมาสยํ ตฺวา, พฺยากาสิ ส รณฺชโห.

‘‘ปสฺสเถตํ อิสิวรํ, นิทฺธนฺตกนกตฺตจํ;

อุทฺธคฺคโลมํ ปีณํสํ, อจลํ ปฺชลึ ิตํ.

‘‘หาสํ สุปุณฺณนยนํ, พุทฺธวณฺณคตาสยํ;

ธมฺมชํ อุคฺคหทยํ, อมตาสิตฺตสนฺนิภํ.

‘‘กจฺจานสฺส คุณํ สุตฺวา, ตํ านํ ปตฺถยํ ิโต;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, โคตมสฺส มหามุเน.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

กจฺจาโน นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘พหุสฺสุโต มหาาณี, อธิปฺปายวิทู มุเน;

ปาปุณิสฺสติ ตํ านํ, ยถายํ พฺยากโต มยา.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘ทุเว ภเว สํสรามิ, เทวตฺเต อถ มานุเส;

อฺํ คตึ น คจฺฉามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘ทุเว กุเล ปชายามิ, ขตฺติเย อถ พฺราหฺมเณ;

นีเจ กุเล น ชายามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาโต อุชฺเชนิยํ ปุเร;

ปชฺโชตสฺส จ จณฺฑสฺส, ปุโรหิตทิชาธิโน.

‘‘ปุตฺโต ติริฏิวจฺฉสฺส, นิปุโณ เวทปารคู;

มาตา จ จนฺทิมา นาม, กจฺจาโนหํ วรตฺตโจ.

‘‘วีมํสนตฺถํ พุทฺธสฺส, ภูมิปาเลน เปสิโต;

ทิสฺวา โมกฺขปุรทฺวารํ, นายกํ คุณสฺจยํ.

‘‘สุตฺวา จ วิมลํ วากฺยํ, คติปงฺกวิโสสนํ;

ปาปุณึ อมตํ สนฺตํ, เสเสหิ สห สตฺตหิ.

‘‘อธิปฺปายวิทู ชาโต, สุคตสฺส มหามเต.

ปิโต เอตทคฺเค จ, สุสมิทฺธมโนรโถ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ สตฺถา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. เต ตาวเทว ทฺวงฺคุลมตฺตเกสมสฺสุกา อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา วสฺสสฏฺิกตฺเถรา วิย อเหสุํ. เอวํ เถโร สทตฺถํ นิปฺผาเทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ราชา ปชฺโชโต ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทิตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ อิจฺฉตี’’ติ สตฺถุ อาโรเจสิ. สตฺถา, ‘‘ตฺวํเยว, ภิกฺขุ, ตตฺถ คจฺฉ, ตยิ คเตปิ ราชา ปสีทิสฺสตี’’ติ อาห. เถโร สตฺถุ อาณาย อตฺตฏฺโม ตตฺถ คนฺตฺวา ราชานํ ปสาเทตฺวา อวนฺตีสุ สาสนํ ปติฏฺาเปตฺวา ปุน สตฺถุ สนฺติกเมว คโต. โส เอกทิวสํ สมฺพหุเล ภิกฺขู สมณธมฺมํ ปหาย กมฺมาราเม สงฺคณิการาเม รสตณฺหานุคเต จ ปมาทวิหาริโน ทิสฺวา เตสํ โอวาทวเสน –

๔๙๔.

‘‘กมฺมํ พหุกํ น การเย, ปริวชฺเชยฺย ชนํ น อุยฺยเม;

โส อุสฺสุกฺโก รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาธิวาโห.

๔๙๕.

‘‘ปงฺโกติ หิ นํ อเวทยุํ, ยายํ วนฺทนปูชนา กุเลสุ;

สุขุมํ สลฺลํ ทุรุพฺพหํ, สกฺกาโร กาปุริเสน ทุชฺชโห’’ติ. –

ทฺเว คาถา อภาสิ.

ตตฺถ กมฺมํ พหุกํ น การเยติ นวาวาสการาปนาทึ สมณธมฺมกรณสฺส ปริพนฺธภูตํ มหนฺตํ นวกมฺมํ น ปฏฺเปยฺย, ขุทฺทกํ อปฺปสมารมฺภํ ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณาทึ สตฺถุ วจนปฏิปูชนตฺถํ กาตพฺพเมว. ปริวชฺเชยฺย ชนนฺติ คณสงฺคณิกวเสน ชนํ วิวชฺเชยฺย. ชนนฺติ วา ยาทิสํ สํเสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, ตาทิสํ อกลฺยาณมิตฺตภูตํ ชนํ ปริวชฺเชยฺย. น อุยฺยเมติ, ปจฺจยุปฺปาทนตฺถํ กุลสงฺคณฺหนวเสน น วายเมยฺย, ยสฺมา โส อุสฺสุกฺโก รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาธิวาโหติ โย รสานุคิทฺโธ รสตณฺหาวสิโก ภิกฺขุ ปจฺจยุปฺปาทนปสุโต, โส กุลสงฺคณฺหนตฺถํ อุสฺสุกฺโก, เตสุ สุขิเตสุ สุขิโต, ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโต, อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนา โยคํ อาปชฺชติ, โย สุขาธิวาโห สมถวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานสุขาวโห สีลาทิอตฺโถ, ตํ ริฺจติ ปชหติ เอกํเสน อตฺตานํ ตโต วิเวเจตีติ อตฺโถ.

เอวํ ปมคาถาย ‘‘กมฺมารามตํ สงฺคณิการามตํ ปจฺจยเคธฺจ วชฺเชถา’’ติ โอวทิตฺวา อิทานิ สกฺการาภิลาสํ ครหนฺโต ทุติยํ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยา อยํ ภิกฺขาย อุปคตานํ ปพฺพชิตานํ กุเลสุ เคหวาสีหิ คุณสมฺภาวนาย กรียมานา วนฺทนา ปูชนา จ, ยสฺมา ตํ อภาวิตตฺตานํ โอสีทาปนฏฺเน มลินภาวกรณฏฺเน จ ปงฺโก กทฺทโมติ พุทฺธาทโย อริยา ปเวทยุํ อพฺภฺํสุ ปเวเทสุํ วา, ยสฺมา จ อปริฺาตกฺขนฺธานํ อนฺธปุถุชฺชนานํ สกฺการาภิลาสํ ทุวิฺเยฺยสภาวตาย ปีฬาชนนโต อนฺโต ตุทนโต ทุรุทฺธรณโต จ สุขุมํ สลฺลํ ทุรุพฺพหํ ปเวทยุํ, ตโต เอว สกฺกาโร กาปุริเสน ทุชฺชโห ทุปฺปชเหยฺโย ตสฺส ปหานปฏิปตฺติยา อปฺปฏิปชฺชนโต. สกฺการาภิลาสปฺปหาเนน หิ สกฺกาโร ปหีโน โหติ, ตสฺมา ตสฺส ปหานาย อาโยโค กรณีโยติ ทสฺเสติ –

๔๙๖.

‘‘น ปรสฺสุปนิธาย, กมฺมํ มจฺจสฺส ปาปกํ;

อตฺตนา ตํ น เสเวยฺย, กมฺมพนฺธู หิ มาติยา.

๔๙๗.

‘‘น ปเร วจนา โจโร, น ปเร วจนา มุนิ;

อตฺตา จ นํ ยถา เวทิ, เทวาปิ นํ ตถา วิทู.

๔๙๘.

‘‘ปเร จ น วิชานนฺติ, มยเมตฺถ ยมามเส;

เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ, ตโต สมฺมนฺติ เมธคา.

๔๙๙.

‘‘ชีวเต วาปิ สปฺปฺโ, อปิ วิตฺตปริกฺขโย;

ปฺาย จ อลาเภน, วิตฺตวาปิ น ชีวติ.

๕๐๐.

‘‘สพฺพํ สุณาติ โสเตน, สพฺพํ ปสฺสติ จกฺขุนา;

น จ ทิฏฺํ สุตํ ธีโร, สพฺพํ อุชฺฌิตุมรหติ.

๕๐๑.

‘‘จกฺขุมาสฺส ยถา อนฺโธ, โสตวา พธิโร ยถา;

ปฺวาสฺส ยถา มูโค, พลวา ทุพฺพโลริว;

อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สเยถ มตสายิก’’นฺติ. –

อิมา ฉ คาถา รฺโ ปชฺโชตสฺส โอวาทวเสน อภาสิ. โส กิร พฺราหฺมเณ สทฺทหิตฺวา ปสุฆาตยฺํ กาเรติ, กมฺมํ อโสเธตฺวาว อโจเร โจรสฺาย ทณฺเฑสิ, อฏฺฏกรเณ จ อสฺสามิเก สามิเก กโรติ, สามิเก จ อสฺสามิเก. ตโต นํ เถโร วิเวเจตุํ ‘‘น ปรสฺสา’’ติอาทินา ฉ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ น ปรสฺสุปนิธาย, กมฺมํ มจฺจสฺส ปาปกนฺติ ปรสฺส มจฺจสฺส สตฺตสฺส อุปนิธาย อุทฺทิสฺส การณํ กตฺวา ปาปกํ วธพนฺธาทิกมฺมํ น เสเวยฺย, ปเรน น การาเปยฺยาติ อตฺโถ. อตฺตนา ตํ น เสเวยฺยาติ อตฺตนาปิ ตํ ปาปกํ น กเรยฺย. กสฺมา? กมฺมพนฺธู หิ มาติยา อิเม มาติยา มจฺจา กมฺมทายาทา, ตสฺมา อตฺตนา จ กิฺจิ ปาปกมฺมํ น กเรยฺย, ปเรนปิ น การาเปยฺยาติ อตฺโถ.

น ปเร วจนา โจโรติ อตฺตนา โจริยํ อกตฺวา ปรวจนา ปรสฺส วจนมตฺเตน โจโร นาม น โหติ, ตถา น ปเร วจนา มุนิ ปรสฺส วจนมตฺเตน มุนิ สุวิสุทฺธกายวจีมโนสมาจาโร น โหติ. เอตฺถ หิ ปเรติ วิภตฺติอโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส. เกจิ ปน ‘‘ปเรสนฺติ วตฺตพฺเพ ปเรติ สํ-การโลปํ กตฺวา นิทฺทิฏฺ’’นฺติ วทนฺติ. อตฺตา จ นํ ยถา เวทีติ นํ สตฺตํ ตสฺส อตฺตา จิตฺตํ ยถา ‘‘อหํ ปริสุทฺโธ, อปริสุทฺโธ วา’’ติ ยาถาวโต อเวทิ ชานาติ. เทวาปิ นํ ตถา วิทูติ วิสุทฺธิเทวา, อุปปตฺติเทวา จ ตถา วิทู วิทนฺติ ชานนฺติ, ตสฺมา สยํ ตาทิสา เทวา จ ปมาณํ สุทฺธาสุทฺธานํ สุทฺธาสุทฺธภาวชานเน, น เย เกจิ อิจฺฉาโทสปเรตา สตฺตาติ อธิปฺปาโย.

ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ, กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชํ กมฺมํ กมฺมผลํ กายสฺส อสุภตํ สงฺขารานํ อนิจฺจตํ อชานนฺตา อิธ ปเร นาม. เต มยเมตฺถ อิมสฺมึ ชีวโลเก ยมาม อุปรมาม, ‘‘สตตํ สมิตํ มจฺจุ สนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย จ ตตฺถ ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุ สมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ เอวฺหิ เต ชานนฺตา เมธคานํ ปรวิหึสนานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ, อตฺตนา ปเร จ อฺเ น เมธนฺติ น พาเธนฺตีติ อตฺโถ. ตฺวํ ปน ชีวิตนิมิตฺตํ อโจเร โจเร กโรนฺโตปิ ทณฺฑเนน สามิเก อสฺสามิเก กโรนฺโตปิ ธนชานิยา พาธสิ ปฺาเวกลฺลโต. ตถา อกโรนฺโตปิ ชีวเต วาปิ สปฺปฺโ, อปิ วิตฺตปริกฺขโย ปริกฺขีณธโนปิ สปฺปฺชาติโก อิตรีตรสนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ อนวชฺชาย ชีวิกาย ชีวติเยว. ตสฺส หิ ชีวิตํ นาม. เตนาห ภควา – ‘‘ปฺาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๓, ๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๔). ทุมฺเมธปุคฺคโล ปน ปฺาย จ อลาเภน ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ อตฺถํ วิราเธนฺโต วิตฺตวาปิ น ชีวติ ครหาทิปวตฺติยา ชีวนฺโต นาม น โหติ, อนุปายฺุตาย ยถาธิคตํ ธนํ นาเสนฺโต ชีวิตมฺปิ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติเยว.

อิมา กิร จตสฺโสปิ คาถา เถโร สุปินนฺเตน รฺโ กเถสิ. ราชา สุปินํ ทิสฺวา เถรํ นมสฺสนฺโตเยว ปพุชฺฌิตฺวา ปภาตาย รตฺติยา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อตฺตนา ทิฏฺนิยาเมน สุปินํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา เถโร ตา คาถา ปจฺจุนุภาสิตฺวา ‘‘สพฺพํ สุณาตี’’ติอาทินา ทฺวีหิ คาถาหิ ราชานํ โอวทิ. ตตฺถ สพฺพํ สุณาติ โสเตนาติ อิธ โสตพฺพํ สทฺทํ อาปาถคตํ สพฺพํ สุภาสิตํ ทุพฺภาสิตฺจ อพธิโร โสเตน สุณาติ. ตถา สพฺพํ รูปํ สุนฺทรํ อสุนฺทรมฺปิ จกฺขุนา อนนฺโธ ปสฺสติ, อยมินฺทฺริยานํ สภาโว. ตตฺถ ปน น จ ทิฏฺํ สุตํ ธีโร, สพฺพํ อุชฺฌิตุนฺติ จ นิทสฺสนมตฺตเมตํ. ยฺหิ ตํ ทิฏฺํ สุตํ วา, น ตํ สพฺพํ ธีโร สปฺปฺโ อุชฺฌิตุํ ปริจฺจชิตุํ คเหตุํ วา อรหติ. คุณาคุณํ ปน ตตฺถ อุปปริกฺขิตฺวา อุชฺฌิตพฺพเมว อุชฺฌิตุํ คเหตพฺพฺจ คเหตุํ อรหติ, ตสฺมา จกฺขุมาสฺส ยถา อนฺโธ จกฺขุมาปิ สมาโน อุชฺฌิตพฺเพ ทิฏฺเ อนฺโธ ยถา อสฺส อปสฺสนฺโต วิย ภเวยฺย, ตถา อุชฺฌิตพฺเพ สุเต โสตวาปิ พธิโร ยถา อสฺส อสุณนฺโต วิย ภเวยฺย. ปฺวาสฺส ยถา มูโคติ วิจารณปฺาย ปฺวา วจนกุสโลปิ อวตฺตพฺเพ มูโค วิย ภเวยฺย. พลวา ถามสมฺปนฺโนปิ อกตฺตพฺเพ ทุพฺพโลริว, รกาโร ปทสนฺธิกโร, อสมตฺโถ วิย ภเวยฺย. อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สเยถ มตสายิกนฺติ อตฺตนา กาตพฺพกิจฺเจ อุปฺปนฺเน อุปฏฺิเต มตสายิกํ สเยถ, มตสายิกํ สยิตฺวาปิ ตํ กิจฺจํ ตีเรตพฺพเมว, น วิราเธตพฺพํ. อถ วา อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเนติ อตฺตนา อกรณีเย อตฺเถ กิจฺเจ อุปฺปนฺเน อุปฏฺิเต มตสายิกํ สเยถ, มตสายิกํ สยิตฺวาปิ ตํ น กาตพฺพเมว. น หิ ปณฺฑิโต อยุตฺตํ กาตุมรหตีติ เอวํ เถเรน โอวทิโต ราชา อกตฺตพฺพํ ปหาย กาตพฺเพเยว ยุตฺตปฺปยุตฺโต อโหสีติ.

มหากจฺจายนตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สิริมิตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

อกฺโกธโนติอาทิกา อายสฺมโต สิริมิตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห มหทฺธนกุฏุมฺพิกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สิริมิตฺโตติ ลทฺธนาโม. ตสฺส กิร มาตา สิริคุตฺตสฺส ภคินี. ตสฺส วตฺถุ ธมฺมปทวณฺณนายํ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.ครหทินฺนวตฺถุ) อาคตเมว. โส สิริคุตฺตสฺส ภาคิเนยฺโย สิริมิตฺโต วยปฺปตฺโต สตฺถุ ธนปาลทมเน ลทฺธปฺปสาโท ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺโต. เอกทิวสํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ อาสนํ อภิรุหิตฺวา จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา นิสินฺโน ภิกฺขูนํ ธมฺมํ กเถสิ. กเถนฺโต จ อุฬารตเร คุเณ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต –

๕๐๒.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๓.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

คุตฺตทฺวาโร สทา ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๔.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

กลฺยาณสีโล โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๕.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

กลฺยาณมิตฺโต โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๖.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

กลฺยาณปฺโ โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๗.

‘‘ยสฺส สทฺธา ตถาคเต, อจลา สุปฺปติฏฺิตา;

สีลฺจ ยสฺส กลฺยาณํ, อริยกนฺตํ ปสํสิตํ.

๕๐๘.

‘‘สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถิ, อุชุภูตฺจ ทสฺสนํ;

อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ.

๕๐๙.

‘‘ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;

อนุยุฺเชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ อกฺโกธโนติ อกุชฺฌนสีโล. อุปฏฺิเต หิ โกธุปฺปตฺตินิมิตฺเต อธิวาสนขนฺติยํ ตฺวา โกปสฺส อนุปฺปาทโก. อนุปนาหีติ น อุปนาหโก, ปเรหิ กตํ อปราธํ ปฏิจฺจ ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม’’ติอาทินา (ธ. ป. ๓; มหาว. ๔๖๔; ม. นิ. ๓.๒๓๗) โกธสฺส อนุปนยฺหนสีโล. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย มายาย อภาวโต อมาโย. ปิสุณวาจาวิรหิตโต ริตฺตเปสุโณ, ส เว ตาทิสโก ภิกฺขูติ โส ตถารูโป ตถาชาติโก ยถาวุตฺตคุณสมนฺนาคโต ภิกฺขุ. เอวํ ยถาวุตฺตปฏิปตฺติยา เปจฺจ ปรโลเก น โสจติ โสกนิมิตฺตสฺส อภาวโต. จกฺขุทฺวาราทโย กายทฺวาราทโย จ คุตฺตา ปิหิตา สํวุตา เอตสฺสาติ คุตฺตทฺวาโร. กลฺยาณสีโลติ สุนฺทรสีโล สุวิสุทฺธสีโล. กลฺยาณมิตฺโตติ –

‘‘ปิโย ครุภาวนิโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชเย’’ติ. (อ. นิ. ๗.๓๗) –

เอวํ วิภาวิตลกฺขโณ กลฺยาณมิตฺโต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิตฺโต. กลฺยาณปฺโติ สุนฺทรปฺโ. ยทิปิ ปฺา นาม อสุนฺทรา นตฺถิ, นิยฺยานิกาย ปน ปฺาย วเสน เอวํ วุตฺตํ

เอวเมตฺถ โกธาทีนํ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ อกฺโกธนาทิมุเขน, ปุคฺคลาธิฏฺานาย คาถาย สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺผตฺติตโลกุตฺตรสทฺธาทิเก อุทฺธริตฺวา ปุคฺคลาธิฏฺานาย เอว คาถาย สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺส สทฺธา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตถาคเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา มคฺเคนาคตสทฺธา, ตโต เอว อจลา อวิกมฺปา สุฏฺุ ปติฏฺิตา. ‘‘อตฺถี’’ติ, ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อริยกนฺตนฺติ อริยานํ กนฺตํ ปิยายิตํ ภวนฺตเรปิ อวิชหนโต. ปสํสิตนฺติ พุทฺธาทีหิ ปสฏฺํ, วณฺณิตํ โถมิตํ อตฺถีติ โยชนา. ตํ ปเนตํ สีลํ คหฏฺสีลํ ปพฺพชิตสีลนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ คหฏฺสีลํ นาม ปฺจสิกฺขาปทสีลํ, ยํ คหฏฺเน รกฺขิตุํ สกฺกา. ปพฺพชิตสีลํ นาม ทสสิกฺขาปทสีลํ อุปาทาย สพฺพํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ, ตยิทํ สพฺพมฺปิ อขณฺฑาทิภาเวน อปรามฏฺตาย ‘‘กลฺยาณ’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถีติ ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา อริยสงฺเฆ ปสาโท สทฺธา ยสฺส ปุคฺคลสฺส อตฺถิ อจโล สุปฺปติฏฺิโตติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. อุชุภูตฺจ ทสฺสนนฺติ ทิฏฺิวงฺกาภาวโต กิเลสวงฺกาภาวโต จ อุชุภูตํ. อกุฏิลํ อชิมฺหํ กมฺมสฺสกตาทสฺสนฺเจว สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนฺจาติ ทุวิธมฺปิ ทสฺสนํ ยสฺส อตฺถิ อจลํ สุปฺปติฏฺิตนฺติ โยชนา. อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ สทฺธาธนํ, สีลธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนนฺติ อิเมสํ สุวิสุทฺธานํ ธนานํ อตฺถิตาย ‘‘อทลิทฺโท’’ติ ตํ ตาทิสํ ปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาหุ. อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ ตสฺส ตถารูปสฺส ชีวิตํ ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถาธิคเมน อโมฆํ อวฺฌํ สผลเมวาติ อาหูติ อตฺโถ.

ตสฺมาติ, ยสฺมา ยถาวุตฺตสทฺธาทิคุณสมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อทลิทฺโท อโมฆชีวิโต’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา อหมฺปิ ตถารูโป ภเวยฺยนฺติ. สทฺธฺจ…เป… สาสนนฺติ ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๑๘๓; ที. นิ. ๒.๙๐) วุตฺตํ พุทฺธานํ สาสนํ อนุสฺสรนฺโต กุลปุตฺโต วุตฺตปฺปเภทํ สทฺธฺเจว สีลฺจ ธมฺมทสฺสนเหตุกํ ธมฺเม สุนิจฺฉยา วิโมกฺขภูตํ ปสาทฺจ อนุยุฺเชยฺย วฑฺเฒยฺยาติ.

เอวํ เถโร ภิกฺขูนํ ธมฺมเทสนามุเขน อตฺตนิ วิชฺชมาเน คุเณ ปกาเสนฺโต อฺํ พฺยากาสิ.

สิริมิตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหาปนฺถกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยทา ปมมทฺทกฺขินฺติอาทิกา อายสฺมโต มหาปนฺถกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร วิภวสมฺปนฺโน กุฏุมฺพิโย หุตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สฺาวิวฏฺฏกุสลานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยํ ภิกฺขุํ ตุมฺเห อิโต สตฺตทิวสมตฺถเก – ‘สฺาวิวฏฺฏกุสลานํ อยํ มม สาสเน อคฺโค’ติ เอตทคฺเค ปยิตฺถ, อหมฺปิ อิมสฺส อธิการกมฺมสฺส พเลน โส ภิกฺขุ วิย อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิ. กนิฏฺภาตา ปนสฺส ตเถว ภควติ อธิการกมฺมํ กตฺวา มโนมยสฺส กายสฺสาภินิมฺมานํ เจโตวิวฏฺฏโกสลฺลนฺติ ทฺวินฺนํ องฺคานํ วเสน วุตฺตนเยเนว ปณิธานํ อกาสิ. ภควา ทฺวินฺนมฺปิ ปตฺถนํ อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต กปฺปสตสหสฺสมตฺถเก โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน ตุมฺหากํ ปตฺถนา สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ.

เต อุโภปิ ชนา ตตฺถ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. ตตฺถ มหาปนฺถกสฺส อนฺตรากตํ กลฺยาณธมฺมํ น กถียติ. จูฬปนฺถโก ปน กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ โอทาตกสิณกมฺมํ กตฺวา เทวปุเร นิพฺพตฺติ. อปทาเน ปน ‘‘จูฬปนฺถโก ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล ตาปโส หุตฺวา หิมวนฺเต วสนฺโต ตตฺถ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปุปฺผจฺฉตฺเตน ปูชํ อกาสี’’ติ อาคตํ. เตสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตานํเยว กปฺปสตสหสฺสํ อติกฺกนฺตํ. อถ อมฺหากํ สตฺถา อภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก ราชคหํ อุปนิสฺสาย เวฬุวเน มหาวิหาเร วิหรติ.

เตน จ สมเยน ราชคเห ธนเสฏฺิสฺส ธีตา อตฺตโน ทาเสน สทฺธึ สนฺถวํ กตฺวา าตเกหิ ภีตา หตฺถสารํ คเหตฺวา เตน สทฺธึ ปลายิตฺวา อฺตฺถ วสนฺตี ตํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ลภิตฺวา ปริปกฺกคพฺภา ‘‘าติฆรํ คนฺตฺวา วิชายิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเคเยว ปุตฺตํ วิชายิตฺวา สามินา นิวตฺติตา ปุพฺเพ วสิตฏฺาเน วสนฺตี ปุตฺตสฺส ปนฺเถ ชาตตฺตา ปนฺถโกติ, นามํ อกาสิ. ตสฺมึ อาธาวิตฺวา วิธาวิตฺวา วิจรณกาเล ตเมว ปฏิจฺจ ทุติยํ คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปริปกฺกคพฺภา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อนฺตรามคฺเค ปุตฺตํ วิชายิตฺวา สามินา นิวตฺติตา เชฏฺปุตฺตสฺส มหาปนฺถโกติ กนิฏฺสฺส จูฬปนฺถโกติ นามํ กตฺวา ยถาวสิตฏฺาเนเยว วสนฺตี อนุกฺกเมน ทารเกสุ วฑฺฒนฺเตสุ เตหิ, ‘‘อมฺม, อยฺยกกุลํ โน ทสฺเสหี’’ติ นิพุนฺธิยมานา ทารเก มาตาปิตูนํ สนฺติกํ เปเสสิ. ตโต ปฏฺาย ทารกา ธนเสฏฺิโน เคเห วฑฺฒนฺติ. เตสุ จูฬปนฺถโก อติทหโร. มหาปนฺถโก ปน อยฺยเกน สทฺธึ ภควโต สนฺติกํ คโต สตฺถารํ ทิสฺวา สห ทสฺสเนน ปฏิลทฺธสทฺโธ ธมฺมํ สุตฺวา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ปิตามหํ อาปุจฺฉิ. โส สตฺถุ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ตํ ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตฺวา พหุํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา ปริปุณฺณวสฺโส อุปสมฺปชฺชิตฺวา โยนิโสมนสิกาเร กมฺมํ กโรนฺโต วิเสสโต จตุนฺนํ อรูปชฺฌานานํ ลาภี หุตฺวา ตโต วุฏฺาย วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อิติ โส สฺาวิวฏฺฏกุสลานํ อคฺโค ชาโต. โส ฌานสุเขน ผลสุเขน วีตินาเมนฺโต เอกทิวสํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อธิคตสมฺปตฺตึ ปฏิจฺจ สฺชาตโสมนสฺโส สีหนาทํ นทนฺโต –

๕๑๐.

‘‘ยทา ปมมทฺทกฺขึ, สตฺถารมกุโตภยํ;

ตโต เม อหุ สํเวโค, ปสฺสิตฺวา ปุริสุตฺตมํ.

๕๑๑.

‘‘สิรึ หตฺเถหิ ปาเทหิ, โย ปณาเมยฺย อาคตํ;

เอตาทิสํ โส สตฺถารํ, อาราเธตฺวา วิราธเย.

๕๑๒.

‘‘ตทาหํ ปุตฺตทารฺจ, ธนธฺฺจ ฉฑฺฑยึ;

เกสมสฺสูนิ เฉเทตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

๕๑๓.

‘‘สิกฺขาสาชีวสมฺปนฺโน, อินฺทฺริเยสุ สุสํวุโต;

นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธํ, วิหาสึ อปราชิโต.

๕๑๔.

‘‘ตโต เม ปณิธี อาสิ, เจตโส อภิปตฺถิโต;

น นิสีเท มุหุตฺตมฺปิ, ตณฺหาสลฺเล อนูหเต.

๕๑๕.

‘‘ตสฺส เมวํ วิหรโต, ปสฺส วีริยปรกฺกมํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๕๑๖.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

อรหา ทกฺขิเณยฺโยมฺหิ, วิปฺปมุตฺโต นิรูปธิ.

๕๑๗.

‘‘ตโต รตฺยาวิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

สพฺพํ ตณฺหํ วิโสเสตฺวา, ปลฺลงฺเกน อุปาวิสิ’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ยทาติ ยสฺมึ กาเล. ปมนฺติ อาทิโต. อทฺทกฺขินฺติ ปสฺสึ, สตฺถารนฺติ, ภควนฺตํ. อกุโตภยนฺติ นิพฺภยํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – สพฺเพสํ ภยเหตูนํ โพธิมูเลเยว ปหีนตฺตา กุโตจิปิ ภยาภาวโต อกุโตภยํ นิพฺภยํ, จตุเวสารชฺชวิสารทํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ เวเนยฺยานํ ยถารหมนุสาสนโต สตฺถารํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ มยฺหํ ปิตามเหน สทฺธึ คนฺตฺวา ยาย เวลาย สพฺพปมํ ปสฺสึ, ตํ ปุริสุตฺตมํ สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลํ ปสฺสิตฺวา ตโต ทสฺสนเหตุ ตโต ทสฺสนโต ปจฺฉา ‘‘เอตฺตกํ กาลํ สตฺถารํ ทฏฺุํ ธมฺมฺจ โสตุํ นาลตฺถ’’นฺติ มยฺหํ สํเวโค อหุ สโหตฺตปฺปํ าณํ อุปฺปชฺชิ. อุปฺปนฺนสํเวโค ปนาหํ เอวํ จินฺเตสินฺติ ทสฺเสติ สิรึ หตฺเถหีติ คาถาย. ตสฺสตฺโถ – โย วิภวตฺถิโก ปุริโส ‘‘อุปฏฺายิโก หุตฺวา ตว สนฺติเก วสิสฺสามี’’ติ สวิคฺคหํ สิรึ สยเน อุปคตํ หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ โกฏฺเฏนฺโต ปณาเมยฺย นีหเรยฺย, โส ตถารูโป อลกฺขิกปุริโส เอตาทิสํ สตฺถารํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อาราเธตฺวา อิมสฺมึ นวเม ขเณ ปฏิลภิตฺวา วิราธเย ตสฺส โอวาทากรเณน ตํ วิรชฺเฌยฺย, อหํ ปเนวํ น กโรมีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตทาหํ…เป… อนคาริย’’นฺติ. ตตฺถ ฉฑฺฑยินฺติ, ปชหึ. ‘‘ฉฑฺฑิย’’นฺติปิ ปาโ. นนุ อยํ เถโร ทารปริคฺคหํ อกตฺวาว ปพฺพชิโต, โส กสฺมา ‘‘ปุตฺตทารฺจ ฉฑฺฑยิ’’นฺติ อโวจาติ? ยถา นาม ปุริโส อนิพฺพตฺตผลเมว รุกฺขํ ฉินฺทนฺโต อจฺฉินฺเน ตโต ลทฺธผเลหิ ปริหีโน นาม โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา อธิสีลสิกฺขา, ตาย จ, ยตฺถ ภิกฺขู สห ชีวนฺติ, เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, เตน ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสงฺขาเตน สาชีเวน จ สมนฺนาคโต สิกฺขนภาเวน สมงฺคีภูโต, สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ สมฺปาเทนฺโตติ อตฺโถ. เตน สุวิสุทฺเธ ปาติโมกฺเข สีเล ปติฏฺิตภาวํ ทสฺเสติ. อินฺทฺริเยสุ สุสํวุโตติ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ สุฏฺุ สํวุโต. รูปาทิวิสเยสุ อุปฺปชฺชนกานํ อภิชฺฌาทีนํ ปวตฺตินิวารณวเสน สติกวาเฏน สุปิหิตจกฺขาทิทฺวาโรติ อตฺโถ. เอวํ ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรสีลสมฺปตฺติทสฺสเนน อิตรสีลมฺปิ อตฺถโต ทสฺสิตเมว โหตีติ เถโร อตฺตโน จตุปาริสุทฺธิสีลสมฺปทํ ทสฺเสตฺวา ‘‘นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธ’’นฺติ อิมินา พุทฺธานุสฺสติภาวนานุโยคมาห. วิหาสึ อปราชิโตติ กิเลสมาราทีหิ อปราชิโต เอว หุตฺวา วิหรึ, ยาว อรหตฺตปฺปตฺติ, ตาว เตหิ อนภิภูโต, อฺทตฺถุ เต อภิภวนฺโต เอว วิหาสินฺติ อตฺโถ.

ตโตติ ตสฺมา, ยสฺมา สุวิสุทฺธสีโล สตฺถริ อภิปฺปสนฺโน กิเลสาภิภวนปฏิปตฺติยฺจ ิโต, ตสฺมา. ปณิธีติ ปณิธานํ. ตโต วา จิตฺตาภินีหาโร. อาสีติ อโหสิ. เจตโส อภิปตฺถิโตติ, มม จิตฺเตน อิจฺฉิโต. กีทิโส ปน โสติ อาห ‘‘น นิสีเท มุหุตฺตมฺปิ, ตณฺหาสลฺเล อนูหเต’’ติ. ‘‘อคฺคมคฺคสณฺฑาเสน มม หทยโต ตณฺหาสลฺเล อนุทฺธเฏ มุหุตฺตมฺปิ น นิสีเท, นิสชฺชํ น กปฺเปยฺย’’นฺติ เอวํ เม จิตฺตาภินีหาโร อโหสีติ อตฺโถ.

เอวํ ปน จิตฺตํ อธิฏฺาย ภาวนํ ภาวยิตฺวา านจงฺกเมเหว รตฺตึ วีตินาเมนฺโต อรูปสมาปตฺติโต วุฏฺาย ฌานงฺคมุเขน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺส เม’’ติอาทิ. นิรูปธีติ กิเลสุปธิอาทีนํ อภาเวน นิรุปธิ. รตฺยาวิวสาเนติ รตฺติภาคสฺส วิคมเน วิภาตาย รตฺติยา. สูริยุคฺคมนํ ปตีติ สูริยุคฺคมนํ ลกฺขณํ กตฺวา. สพฺพํ ตณฺหนฺติ กามตณฺหาทิเภทํ สพฺพํ ตณฺหาโสตํ อคฺคมคฺเคน วิโสเสตฺวา สุกฺขาเปตฺวา ‘‘ตณฺหาสลฺเล อนูหเต น นิสีเท’’ติ, ปฏิฺาย โมจิตตฺตา. ปลฺลงฺเกน อุปาวิสินฺติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทินฺติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

มหาปนฺถกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวกนิปาโต

๑. ภูตตฺเถรคาถาวณฺณนา

นวกนิปาเต ยทา ทุกฺขนฺติอาทิกา อายสฺมโต ภูตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปุฺํ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา เสโนติ ลทฺธนาโม วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ‘‘อุสภํ ปวร’’นฺติอาทินา จตูหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ.

โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาเกตนครสฺส ทฺวารคาเม มหาวิภวสฺส เสฏฺิสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส กิร เสฏฺิโน ชาตา ชาตา ทารกา พทฺธาฆาเตน เอเกน ยกฺเขน ขาทิตา, อิมสฺส ปน ปจฺฉิมภวิกตฺตา ภูตา อารกฺขํ คณฺหึสุ. ยกฺโข ปน เวสฺสวณสฺส อุปฏฺานํ คโต, ปุน นาคมาสิ. นามกรณทิวเส จสฺส ‘‘เอวํ กเต อมนุสฺสา อนุกมฺปนฺตา ปริหเรยฺยุ’’นฺติ ภูโตติ นามํ อกํสุ. โส ปน อตฺตโน ปุฺพเลน อนนฺตราโย วฑฺฒิ, ตสฺส ‘‘ตโย ปาสาทา อเหสุ’’นฺติอาทิ สพฺพํ ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส วิภวกิตฺตเน วิย เวทิตพฺพํ. โส วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถริ สาเกเต วสนฺเต อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คโต. สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา อชกรณิยา นาม นทิยา ตีเร เลเณ วสนฺโต วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๗.๒๐-๒๘) –

‘‘อุสภํ ปวรํ วีรํ, มเหสึ วิชิตาวินํ;

สุวณฺณวณฺณํ สมฺพุทฺธํ, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ.

‘‘หิมวา วาปริเมยฺโย, สาคโรว ทุรุตฺตโร;

ตเถว ฌานํ พุทฺธสฺส, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ.

‘‘วสุธา ยถาปฺปเมยฺยา, จิตฺตา วนวฏํสกา;

ตเถว สีลํ พุทฺธสฺส, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ.

‘‘อนิลฺชสาสงฺขุพฺโภ, ยถากาโส อสงฺขิโย;

ตเถว าณํ พุทฺธสฺส, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ.

‘‘อิมาหิ จตุคาถาหิ, พฺราหฺมโณ เสนสวฺหโย;

พุทฺธเสฏฺํ ถวิตฺวาน, สิทฺธตฺถํ อปราชิตํ.

‘‘จตุนฺนวุติกปฺปานิ, ทุคฺคตึ นุปปชฺชถ;

สุคตึ สุขสมฺปตฺตึ, อนุโภสิมนปฺปกํ.

‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ถวิตฺวา โลกนายกํ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, โถมนาย อิทํ ผลํ.

‘‘จาตุทฺทสมฺหิ กปฺปมฺหิ, จตุโร อาสุมุคฺคตา;

สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อปเรน สมเยน าตีนํ อนุกมฺปาย สาเกตํ คนฺตฺวา กติปาหํ เตหิ อุปฏฺิยมาโน อฺชนวเน วสิตฺวา ปุน อตฺตนา วสิตฏฺานเมว คนฺตุกาโม คมนาการํ ทสฺเสสิ. าตกา ‘‘อิเธว, ภนฺเต, วสถ, ตุมฺเหปิ น กิลมิสฺสถ, มยมฺปิ ปุฺเน วฑฺฒิสฺสามา’’ติ เถรํ ยาจึสุ. เถโร อตฺตโน วิเวกาภิรตึ ตตฺถ จ ผาสุวิหารํ ปกาเสนฺโต –

๕๑๘.

‘‘ยทา ทุกฺขํ ชรามรณนฺติ ปณฺฑิโต, อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชฺชนา;

ทุกฺขํ ปริฺาย สโตว ฌายติ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๑๙.

‘‘ยทา ทุกฺขสฺสาวหนึ วิสตฺติกํ, ปปฺจสงฺฆาตทุขาธิวาหินึ;

ตณฺหํ ปหนฺตฺวาน สโตว ฌายติ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๒๐.

‘‘ยทา สิวํ ทฺเวจตุรงฺคคามินํ, มคฺคุตฺตมํ สพฺพกิเลสโสธนํ;

ปฺาย ปสฺสิตฺว สโตว ฌายติ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๒๑.

‘‘ยทา อโสกํ วิรชํ อสงฺขตํ, สนฺตํ ปทํ สพฺพกิเลสโสธนํ;

ภาเวติ สฺโชนพนฺธนจฺฉิทํ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๒๒.

‘‘ยทา นเภ คชฺชติ เมฆทุนฺทุภิ, ธารากุลา วิหคปเถ สมนฺตโต;

ภิกฺขู จ ปพฺภารคโตว ฌายติ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๒๓.

‘‘ยทา นทีนํ กุสุมากุลานํ, วิจิตฺต-วาเนยฺย-วฏํสกานํ;

ตีเร นิสินฺโน สุมโนว ฌายติ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๒๔.

‘‘ยทา นิสีเถ รหิตมฺหิ กานเน, เทเว คฬนฺตมฺหิ นทนฺติ ทาิโน;

ภิกฺขู จ ปพฺภารคโตว ฌายติ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๒๕.

‘‘ยทา วิตกฺเก อุปรุนฺธิยตฺตโน, นคนฺตเร นควิวรํ สมสฺสิโต;

วีตทฺทโร วีตขิโลว ฌายติ, ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.

๕๒๖.

‘‘ยทา สุขี มลขิลโสกนาสโน,

นิรคฺคโฬ นิพฺพนโถ วิสลฺโล;

สพฺพาสเว พฺยนฺติกโตว ฌายติ,

ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทตี’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถายํ ปทโยชนามุเขน ปมคาถาย อตฺถวณฺณนา – ขนฺธานํ ปริปาโก ชรา. เภโท มรณํ. ชรามรณสีเสน เจตฺถ ชรามรณวนฺโต ธมฺมา คหิตา. ‘‘ตยิทํ ชรามรณํ ทุกฺข’’นฺติ อวิทฺทสู ยถาภูตํ อชานนฺตา ปุถุชฺชนา ยตฺถ ยสฺมึ อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก สิตา ปฏิพนฺธา อลฺลีนา, ตํ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ปริชานิตฺวา, อิธ อิมสฺมึ สาสเน สโต สมฺปชาโน, ปณฺฑิโต ภิกฺขุ, ยทา ยสฺมึ กาเล ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน ฌายติ. ตโต วิปสฺสนารติโต มคฺคผลรติโต จ ปรมตรํ อุตฺตมตรํ รตึ น วินฺทติ นปฺปฏิลภติ. เตนาห ภควา –

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานตํ.

‘‘ปพฺยา เอกรชฺเชน, สคฺคสฺส คมเนน วา;

สพฺพโลกาธิปจฺเจน, โสตาปตฺติผลํ วร’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔, ๑๗๘);

เอวํ ปริฺาภิสมยมุเขน วิเวกรตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปหานาภิสมยาทิมุเขนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยาทิกา ติสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ ทุกฺขสฺสาวหนินฺติ ทุกฺขสฺส อายตึ ปวตฺตึ, ทุกฺขสฺส นิปฺผตฺติกนฺติ อตฺโถ. วิสตฺติกนฺติ ตณฺหํ. สา หิ วิสตาติ วิสตฺติกา, วิสาลาติ วิสตฺติกา, วิสฏาติ วิสตฺติกา, วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา, วิสํ หรตีติ วิสตฺติกา, วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา, วิสมูลาติ วิสตฺติกา, วิสผลาติ วิสตฺติกา, วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา, วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม กุเล คเณ วิตฺถฏาติ วิสตฺติกาติ วุจฺจติ. ปปฺจสงฺฆาตทุขาธิวาหินินฺติ สตฺตสนฺตานํ สํสาเร ปปฺเจนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ ปปฺจา, ราคาทโย มานาทโย จ. เต เอว ปวตฺติทุกฺขสฺส สงฺฆาตฏฺเน สงฺฆาตา, สทรถปริฬาหสภาวตฺตา ทุกฺขฺจาติ ปปฺจสงฺฆาตทุขํ, ตสฺส อธิวาหโต นิพฺพตฺตนโต ปปฺจสงฺฆาตทุขาธิวาหินี. ตํ ตณฺหํ ปหนฺตฺวานาติ อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา.

สิวนฺติ เขมํ, อเขมกรานํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทเนน เตหิ อนุปทฺทุตนฺติ อตฺโถ. สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ วเสน ทฺวิจตุรงฺโค หุตฺวา อริเย นิพฺพานํ คเมตีติ ทฺเวจตุรงฺคคามินํ, คาถาสุขตฺถฺเจตฺถ วิภตฺติอโลโป กโตติ ทฏฺพฺพํ. รูปูปปตฺติมคฺคาทีสุ สพฺเพสุ มคฺเคสุ อุตฺตมตฺตา มคฺคุตฺตมํ. เตนาห ภควา – ‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ติอาทิ (ธ. ป. ๒๗๓). สพฺเพหิ กิเลสมเลหิ สตฺตานํ โสธนโต สพฺพกิเลสโสธนํ. ปฺาย ปสฺสิตฺวาติ ปฏิเวธปฺาย ภาวนาภิสมยวเสน อภิสเมจฺจ.

โสกเหตูนํ อภาวโต ปุคฺคลสฺส จ โสกาภาวเหตุโต นตฺถิ เอตฺถ โสโกติ อโสกํ. ตถา วิคตราคาทิรชตฺตา วิรชํ. น เกนจิ ปจฺจเยน สงฺขตนฺติ อสงฺขตํ. สพฺเพสํ กิเลสานํ สพฺพสฺส จ ทุกฺขสฺส วูปสมภาวโต, สํสารทุกฺขทฺทิเตหิ ปชฺชิตพฺพโต อธิคนฺตพฺพโต จ สนฺตํ ปทํ. สพฺเพหิ กิเลสมเลหิ สตฺตสนฺตานสฺส โสธนนิมิตฺตโต สพฺพกิเลสโสธนํ. ภาเวตีติ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน อภิสเมติ. พหุกฺขตฺตุฺหิ นิพฺพานํ อารพฺภ สจฺฉิกิริยาภิสมยํ ปวตฺเตนฺตสฺส อาลมฺพเก ลพฺภมานวิเสสกํ อาลมฺพิตพฺเพ อาโรเปตฺวา เอวํ วุตฺตํ. สํโยชนสงฺขาตานํ พนฺธนานํ เฉทนโต สํโยชนพนฺธนจฺฉิทํ. นิมิตฺตฺเหตฺถ กตฺตุภาเวน อุปจาริตํ, ยถา อริยภาวกรานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ. ยถา ปุริมคาถาสุ ยทา ฌายติ, ตทา ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทตีติ โยชนา. เอวํ อิธ ยทา ภาเวติ, ตทา ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทตีติ โยชนา.

เอวํ เถโร จตูหิ คาถาหิ อตฺตานํ อนุปเนตฺวาว จตุสจฺจปฏิเวธกิตฺตเนน อฺํ พฺยากริตฺวา อิทานิ อตฺตนา วสิตฏฺานสฺส วิวิตฺตภาเวน ผาสุตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทา นเภ’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ นเภติ อากาเส. สินิทฺธคมฺภีรนิคฺโฆสตาย เมโฆเยว ทุนฺทุภิ เมฆทุนฺทุภิ. สมนฺตโต ปคฺฆรนฺตีหิ ธาราหิ อากุลาติ ธารากุลา. วิหคานํ ปกฺขีนํ คมนมคฺคตฺตา วิหคปเถ นเภติ โยชนา. ตโตติ ฌานรติโต.

กุสุมากุลานนฺติ ตรูหิ คฬิตกุสุเมหิ สโมหิตานํ. วิจิตฺตวาเนยฺยวฏํสกานนฺติ วเน ชาตตฺตา วาเนยฺยานิ วนปุปฺผานิ, วิจิตฺตานิ วาเนยฺยานิ วฏํสกานิ เอตาสนฺติ วิจิตฺตวาเนยฺยวฏํสกา นทิโย, ตาสํ นานาวิธวนปุปฺผวฏํสกานนฺติ อตฺโถ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวเสน สุนฺทโร มโน เอตสฺสาติ สุมโน ฌายติ.

นิสีเถติ รตฺติยํ. รหิตมฺหีติ, ชนสมฺพาธวิรหิเต วิวิตฺเต. เทเวติ เมเฆ. คฬนฺตมฺหีติ วุฏฺิธาราโย ปคฺฆรนฺเต วสฺสนฺเต. ทาิโนติ สีหพฺยคฺฆาทโย ปฏิปกฺขสตฺตา. เต หิ ทาาวุธาติ ‘‘ทาิโน’’ติ วุจฺจนฺติ, นทนฺติ ทาิโนติ อิทมฺปิ ชนวิเวกทสฺสนตฺถเมว คหิตํ.

วิตกฺเก อุปรุนฺธิยตฺตโนติ อตฺตสนฺตานปริยาปนฺนตาย อตฺตโน กามวิตกฺกาทิเก มิจฺฉาวิตกฺเก ปฏิปกฺขพเลน นิเสเธตฺวา. อตฺตโนติ วา อิทํ วินฺทตีติ อิมินา โยเชตพฺพํ ‘‘ตโต รตึ ปรมตรํ อตฺตนา น วินฺทตี’’ติ. นคนฺตเรติ ปพฺพตนฺตเร. นควิวรนฺติ ปพฺพตคุหํ ปพฺภารํ วา. สมสฺสิโตติ นิสฺสิโต อุปคโต. วีตทฺทโรติ วิคตกิเลสทรโถ. วีตขิโลติ ปหีนเจโตขิโล.

สุขีติ ฌานาทิสุเขน สุขิโต. มลขิลโสกนาสโนติ ราคาทีนํ มลานํ ปฺจนฺนฺจ เจโตขิลานํ าติวิโยคาทิเหตุกสฺส โสกสฺส จ ปหายโก. นิรคฺคโฬติ, อคฺคฬํ วุจฺจติ อวิชฺชา นิพฺพานปุรปเวสนิวารณโต, ตทภาวโต นิรคฺคโฬ. นิพฺพนโถติ นิตณฺโห. วิสลฺโลติ, วิคตราคาทิสลฺโล. สพฺพาสเวติ, กามาสวาทิเก สพฺเพปิ อาสเว. พฺยนฺติกโตติ พฺยนฺติกตาวี อริยมคฺเคน วิคตนฺเต กตฺวา ิโต ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ ยทา ฌายติ, ตโต ฌานรติโต ปรมตรํ รตึ น วินฺทตีติ โยชนา. เอวํ ปน วตฺวา เถโร อชกรณีตีรเมว คโต.

ภูตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นวกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสกนิปาโต

๑. กาฬุทายิตฺเถรคาถาวณฺณนา

ทสกนิปาเต องฺคาริโนติอาทิกา อายสฺมโต กาฬุทายิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ กุลปฺปสาทกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา ตชฺชํ อภินีหารกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ.

โส ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ โพธิสตฺตสฺส มาตุกุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส กปิลวตฺถุสฺมึเยว อมจฺจเคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. โพธิสตฺเตน สทฺธึ เอกทิวสํเยว ชาโตติ ตํทิวสํเยว นํ ทุกูลจุมฺพเฏ นิปชฺชาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส อุปฏฺานํ นยึสุ. โพธิสตฺเตน หิ สทฺธึ โพธิรุกฺโข, ราหุลมาตา, จตฺตาโร นิธี, อาโรหนิยหตฺถี, อสฺสกณฺฑโก, ฉนฺโน กาฬุทายีติ อิเม สตฺต เอกทิวสํเยว ชาตตฺตา สหชาตา นาม อเหสุํ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส สกลนครสฺส อุทคฺคจิตฺตทิวเส ชาตตฺตา อุทายีตฺเวว นามํ อกํสุ, โถกํ กาฬธาตุกตฺตา ปน กาฬุทายีติ ปฺายิตฺถ. โส โพธิสตฺเตน สทฺธึ กุมารกีฬํ กีฬนฺโต วุทฺธึ อคมาสิ.

อปรภาเค โลกนาเถ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา อนุกฺกเมน สพฺพฺุตํ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก ราชคหํ อุปนิสฺสาย เวฬุวเน วิหรนฺเต สุทฺโธทนมหาราชา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปุริสสหสฺสปริวารํ เอกํ อมจฺจํ ‘‘ปุตฺตํ เม อิธาเนหี’’ติ เปเสสิ. โส ธมฺมเทสนาเวลาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ิโต ธมฺมํ สุตฺวา สปริโส อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถ เน สตฺถา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรติ. สพฺเพ ตงฺขณํเยว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา วสฺสสฏฺิกตฺเถรา วิย อเหสุํ. อรหตฺตํ ปตฺตโต ปฏฺาย ปน อริยา มชฺฌตฺตาว โหนฺติ, ตสฺมา รฺา ปหิตสาสนํ ทสพลสฺส น กเถสิ. ราชา ‘‘เนว คตพลโกฏฺโก อาคจฺฉติ, น สาสนํ สุยฺยตี’’ติ อปรมฺปิ อมจฺจํ ปุริสสหสฺเสน เปเสสิ. ตสฺมิมฺปิ ตถา ปฏิปนฺเน อปรนฺติ เอวํ นวหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ นว ปุริสสหสฺสานิ เปเสสิ สพฺเพ อรหตฺตํ ปตฺวา ตุณฺหี อเหสุํ.

อถ ราชา จินฺเตสิ – ‘‘เอตฺตกา ชนา มยิ สิเนหาภาเวน ทสพลสฺส อิธาคมนตฺถาย น กิฺจิ กถยึสุ, อยํ โข ปน อุทายี ทสพเลน สมวโย สหปํสุกีฬิโก, มยิ จ สิเนหวา, อิมํ เปเสสฺสามี’’ติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ ปุริสสหสฺสปริวาโร ราชคหํ คนฺตฺวา ทสพลํ อาเนหี’’ติ วตฺวา เปเสสิ. โส ปน คจฺฉนฺโต ‘‘สจาหํ, เทว, ปพฺพชิตุํ ลภิสฺสามิ, เอวาหํ ภควนฺตํ อิธาเนสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘ยํ กิฺจิ กตฺวา มม ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ วุตฺโต ราชคหํ คนฺตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนาเวลาย ปริสปริยนฺเต ิโต ธมฺมํ สุตฺวา สปริวาโร อรหตฺตํ ปตฺวา เอหิภิกฺขุภาเว ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๔.๔๘-๖๓) –

‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

อทฺธานํ ปฏิปนฺนสฺส, จรโต จาริกํ ตทา.

‘‘สุผุลฺลํ ปทุมํ คยฺห, อุปฺปลํ มลฺลิกฺจหํ;

ปรมนฺนํ คเหตฺวาน, อทาสึ สตฺถุโน อหํ.

‘‘ปริภุฺชิ มหาวีโร, ปรมนฺนํ สุโภชนํ;

ตฺจ ปุปฺผํ คเหตฺวาน, ชนสฺส สมฺปทสฺสยิ.

‘‘อิฏฺํ กนฺตํ ปิยํ โลเก, ชลชํ ปุปฺผมุตฺตมํ;

สุทุกฺกรํ กตํ เตน, โย เม ปุปฺผํ อทาสิทํ.

‘‘โย ปุปฺผมภิโรเปสิ, ปรมนฺนฺจทาสิ เม;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘ทส อฏฺ จกฺขตฺตุํ โส, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

อุปฺปลํ ปทุมฺจาปิ, มลฺลิกฺจ ตทุตฺตริ.

‘‘อสฺส ปุฺวิปาเกน, ทิพฺพคนฺธสมายุตํ;

อากาเส ฉทนํ กตฺวา, ธารยิสฺสติ ตาวเท.

‘‘ปฺจวีสติกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

ปถพฺยา รชฺชํ ปฺจสตํ, วสุธํ อาวสิสฺสติ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘สกกมฺมาภิรทฺโธ โส, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

สกฺยานํ นนฺทิชนโน, าติพนฺธุ ภวิสฺสติ.

‘‘โส ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘ปฏิสมฺภิทมนุปฺปตฺตํ, กตกิจฺจมนาสวํ;

โคตโม โลกพนฺธุ ตํ, เอตทคฺเค เปสฺสติ.

‘‘ปธานปหิตตฺโต โส, อุปสนฺโต นิรูปธิ;

อุทายี นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘ราโค โทโส จ โมโห จ, มาโน มกฺโข จ ธํสิโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘โตสยิฺจาปิ สมฺพุทฺธํ, อาตาปี นิปโก อหํ;

ปสาทิโต จ สมฺพุทฺโธ, เอตทคฺเค เปสิ มํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ‘‘น ตาวายํ ทสพลสฺส กุลนครํ คนฺตุํ กาโล, วสนฺเต ปน อุปคเต ปุปฺผิเตสุ วนสณฺเฑสุ หริตติณสฺฉนฺนาย ภูมิยา คมนกาโล ภวิสฺสตี’’ติ กาลํ ปฏิมาเนนฺโต วสนฺเต สมฺปตฺเต สตฺถุ กุลนครํ คนฺตุํ คมนมคฺควณฺณํ สํวณฺเณนฺโต –

๕๒๗.

‘‘องฺคาริโน ทานิ ทุมา ภทนฺเต, ผเลสิโน ฉทนํ วิปฺปหาย;

เต อจฺจิมนฺโตว ปภาสยนฺติ, สมโย มหาวีร ภาคีรสานํ.

๕๒๘.

‘‘ทุมานิ ผุลฺลานิ มโนรมานิ, สมนฺตโต สพฺพทิสา ปวนฺติ;

ปตฺตํ ปหาย ผลมาสสานา, กาโล อิโต ปกฺกมนาย วีร.

๕๒๙.

‘‘เนวาติสีตํ น ปนาติอุณฺหํ, สุขา อุตุ อทฺธนิยา ภทนฺเต;

ปสฺสนฺตุ ตํ สากิยา โกฬิยา จ, ปจฺฉามุขํ โรหินิยํ ตรนฺตํ.

๕๓๐.

‘‘อาสาย กสเต เขตฺตํ, พีชํ อาสาย วปฺปติ;

อาสาย วาณิชา ยนฺติ, สมุทฺทํ ธนหารกา;

ยาย อาสาย ติฏฺามิ, สา เม อาสา สมิชฺฌตุ.

๕๓๑.

‘‘ปุนปฺปุนฺเจว วปนฺติ พีชํ, ปุนปฺปุนํ วสฺสติ เทวราชา;

ปุนปฺปุนํ เขตฺตํ กสนฺติ กสฺสกา, ปุนปฺปุนํ ธฺมุเปติ รฏฺํ.

๕๓๒.

‘‘ปุนปฺปุนํ ยาจนกา จรนฺติ, ปุนปฺปุนํ ทานปตี ททนฺติ;

ปุนปฺปุนํ ทานปตี ททิตฺวา, ปุนปฺปุนํ สคฺคมุเปนฺติ านํ.

๕๓๓.

‘‘วีโร หเว สตฺตยุคํ ปุเนติ, ยสฺมึ กุเล ชายติ ภูริปฺโ;

มฺามหํ สกฺกติ เทวเทโว, ตยา หิ ชาโต มุนิ สจฺจนาโม.

๕๓๔.

‘‘สุทฺโธทโน นาม ปิตา มเหสิโน, พุทฺธสฺส มาตา ปน มายนามา;

ยา โพธิสตฺตํ ปริหริย กุจฺฉินา, กายสฺส เภทา ติทิวมฺหิ โมทติ.

๕๓๕.

‘‘สา โคตมี กาลกตา อิโต จุตา, ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูตา;

สา โมทติ กามคุเณหิ ปฺจหิ, ปริวาริตา เทวคเณหิ เตหิ.

๕๓๖.

‘‘พุทฺธสฺส ปุตฺโตมฺหิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺสปฺปฏิมสฺส ตาทิโน;

ปิตุปิตา มยฺหํ ตุวํสิ สกฺก, ธมฺเมน เม โคตม อยฺยโกสี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ องฺคาริโนติ องฺคารานิ วิยาติ องฺคารานิ, รตฺตปวาฬวณฺณานิ รุกฺขานํ ปุปฺผปลฺลวานิ, ตานิ เอเตสํ สนฺตีติ องฺคาริโน, อติโลหิตกุสุมกิสลเยหิ องฺคารวุฏฺิสํปริกิณฺณา วิยาติ อตฺโถ. อิทานีติ อิมสฺมึ กาเล. ทุมาติ รุกฺขา. ภทนฺเตติ, ภทฺทํ อนฺเต เอตสฺสาติ ภทนฺเตติ เอกสฺส ทการสฺส โลปํ กตฺวา วุจฺจติ, คุณวิเสสยุตฺโต, คุณวิเสสยุตฺตานฺจ อคฺคภูโต สตฺถา. ตสฺมา ภทนฺเตติ สตฺถุ อาลปนํ. ปจฺจตฺตวจนฺเจตํ เอการนฺตํ ‘‘สุกเฏ ปฏิกมฺเม สุเข ทุกฺเขปิ เจ’’ติอาทีสุ วิย. อิธ ปน สมฺโพธนตฺเถ ทฏฺพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภทนฺเตติ อาลปน’’นฺติ. ‘‘ภทฺทสทฺทสมานตฺถํ ปทนฺตรเมก’’นฺติ เกจิ. ผลานิ เอสนฺตีติ ผเลสิโน. อเจตเนปิ หิ สเจตนกิริยมาโรเปตฺวา โวหรนฺติ, ยถา กุลํ ปติตุกามนฺติ, ผลานิ คเหตุมารทฺธา สมฺปตฺติผลคหณกาลาติ อตฺโถ. ฉทนํ วิปฺปหายาติ ปุราณปณฺณานิ ปชหิตฺวา สมฺปนฺนปณฺฑุปลาสาติ อตฺโถ. เตติ ทุมา. อจฺจิมนฺโตว ปภาสยนฺตีติ ทีปสิขาวนฺโต วิย ชลิตอคฺคี วิย วา โอภาสยนฺติ สพฺพา ทิสาติ อธิปฺปาโย. สมโยติ กาโล, ‘‘อนุคฺคหายา’’ติ วจนเสโส. มหาวีราติ มหาวิกฺกนฺต. ภาคี รสานนฺติ อตฺถรสาทีนํ ภาคี. วุตฺตฺเหตํ ธมฺมเสนาปตินา – ‘‘ภาคี วา ภควา อตฺถรสสฺส ธมฺมรสสฺสา’’ติอาทิ (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒). มหาวีร, ภาคีติ จ อิทมฺปิ ทฺวยํ สมฺโพธนวจนํ ทฏฺพฺพํ. ภาคีรถานนฺติ ปน ปาเ ภคีรโถ นาม อาทิราชา. ตพฺพํสชาตตาย สากิยา ภาคีรถา, เตสํ ภาคีรถานํ อุปการตฺถนฺติ อธิปฺปาโย.

ทุมานีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, ทุมา รุกฺขาติ อตฺโถ. สมนฺตโต สพฺพทิสา ปวนฺตีติ, สมนฺตโต สพฺพภาคโต สพฺพทิสาสุ จ ผุลฺลานิ, ตถา ผุลฺลตฺตา เอว สพฺพทิสา ปวนฺติ คนฺธํ วิสฺสชฺเชนฺติ. อาสมานาติ อาสีสนฺตา คหิตุกามา. เอวํ รุกฺขโสภาย คมนมคฺคสฺส รามเณยฺยตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘เนวาติสีต’’นฺติอาทินา อุตุสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. สุขาติ นาติสีตนาติอุณฺหภาเวเนว สุขา อิฏฺา. อุตุ อทฺธนิยาติ อทฺธานคมนโยคฺคา อุตุ. ปสฺสนฺตุ ตํ สากิยา โกฬิยา จ, ปจฺฉามุขํ โรหินิยํ ตรนฺตนฺติ โรหินี นาม นที สากิยโกฬิยชนปทานํ อนฺตเร อุตฺตรทิสโต ทกฺขิณมุขา สนฺทติ, ราชคหํ จสฺสา ปุรตฺถิมทกฺขิณาย ทิสาย, ตสฺมา ราชคหโต กปิลวตฺถุํ คนฺตุํ ตํ นทึ ตรนฺตา ปจฺฉามุขา หุตฺวา ตรนฺติ. เตนาห ‘‘ปสฺสนฺตุ ตํ…เป… ตรนฺต’’นฺติ. ‘‘ภควนฺตํ ปจฺฉามุขํ โรหินึ นาม นทึ อติกฺกมนฺตํ สากิยโกฬิยชนปทวาสิโน ปสฺสนฺตู’’ติ กปิลวตฺถุคมนาย ภควนฺตํ อายาจนฺโต อุสฺสาเหติ.

อิทานิ อตฺตโน ปตฺถนํ อุปมาหิ ปกาเสนฺโต ‘‘อาสาย กสเต’’ติ คาถมาห. อาสาย กสเต เขตฺตนฺติ กสฺสโก กสนฺโต เขตฺตํ ผลาสาย กสติ. พีชํ อาสาย วปฺปตีติ กสิตฺวา จ วปนฺเตน ผลาสาย เอว พีชํ วปฺปติ นิกฺขิปียติ. อาสาย วาณิชา ยนฺตีติ ธนหารกา วาณิชา ธนาสาย สมุทฺทํ ตริตุํ เทสํ อุปคนฺตุํ สมุทฺทํ นาวาย ยนฺติ คจฺฉนฺติ. ยาย อาสาย ติฏฺามีติ เอวํ อหมฺปิ ยาย อาสาย ปตฺถนาย ภควา ตุมฺหากํ กปิลปุรคมนปตฺถนาย อิธ ติฏฺามิ. สา เม อาสา สมิชฺฌตุ, ตุมฺเหหิ ‘‘กปิลวตฺถุ คนฺตพฺพ’’นฺติ วทติ, อาสาย สทิสตาย เจตฺถ กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ อาสาติ อาห.

คมนมคฺคสํวณฺณนาทินา อเนกวารํ ยาจนาย การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – สกึ วุตฺตมตฺเตน วปฺเป อสมฺปชฺชมาเน กสฺสกา ปุนปฺปุนํ ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ พีชํ วปนฺติ. ปชฺชุนฺโน เทวราชาปิ เอกวารเมว อวสฺสิตฺวา ปุนปฺปุนํ กาเลน กาลํ วสฺสติ. กสฺสกาปิ เอกวารเมว อกสิตฺวา สสฺสสมฺปตฺติอตฺถํ ปํสุํ กทฺทมํ วา มุทุํ กาตุํ เขตฺตํ ปุนปฺปุนํ กสนฺติ. เอกวารเมว ธฺํ สงฺคหํ กตฺวา ‘‘อลเมตฺตาวตา’’ติ อปริตุสฺสนโต โกฏฺาคาราทีสุ ปฏิสามนวเสน มนุสฺเสหิ อุปนียมานํ ปุนปฺปุนํ สาลิอาทิธฺํ รฏฺํ อุเปติ อุปคจฺฉติ.

ยาจนกาปิ ยาจนฺตา ปุนปฺปุนํ กุลานิ จรนฺติ อุปคจฺฉนฺติ, น เอกวารเมว, ยาจิตา ปน เตสํ ปุนปฺปุนํ ทานปตี ททนฺติ, น สกึเยว. ตถา ปน เทยฺยธมฺมํ ปุนปฺปุนํ ทานปตี ททิตฺวา ทานมยํ ปุฺํ อุปจินิตฺวา ปุนปฺปุนํ อปราปรํ สคฺคมุเปนฺติ านํ ปฏิสนฺธิวเสน เทวโลกํ อุปคจฺฉนฺติ. ตสฺมา อหมฺปิ ปุนปฺปุนํ ยาจามิ ภควา มยฺหํ มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปหีติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ยทตฺถํ สตฺถารํ กปิลวตฺถุคมนํ ยาจติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วีโร หเว’’ติคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – วีโร วีริยวา มหาวิกฺกนฺโต ภูริปฺโ มหาปฺโ ปุริโส ยสฺมึ กุเล ชายติ นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ หเว เอกํเสน สตฺตยุคํ สตฺตปุริสยุคํ ยาวสตฺตมํ ปิตามหยุคํ สมฺมาปฏิปตฺติยา ปุเนติ โสเธตีติ โลกวาโท อติวาโท อฺเสุ. ภควา ปน สพฺเพสํ เทวานํ อุตฺตมเทวตาย เทวเทโว ปาปนิวารเณน กลฺยาณปติฏฺาปเนน ตโต ปรมฺปิ โสเธตุํ สกฺกติ สกฺโกตีติ มฺามิ อหํ. กสฺมา? ตยา หิ ชาโต มุนิ สจฺจนาโม ยสฺมา ตยา สตฺถารา อริยาย ชาติยา ชาโต มุนิภาโว, มุนิ วา สมาโน อตฺตหิตปรหิตานํ อิธโลกปรโลกานฺจ มุนนฏฺเน ‘‘มุนี’’ติ อวิตถนาโม, โมนวา วา มุนิ, ‘‘สมโณ ปพฺพชิโต อิสี’’ติ อวิตถนาโม ตยา ชาโต. ตสฺมา สตฺตานํ เอกนฺตหิตปฏิลาภเหตุภาวโต ภควา ตว ตตฺถ คมนํ ยาจามาติ อตฺโถ.

อิทานิ ‘‘สตฺตยุค’’นฺติ วุตฺเต ปิตุยุคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุทฺโธทโน นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุทฺธํ โอทนํ ชีวนํ เอตสฺสาติ สุทฺโธทโน. พุทฺธปิตา หิ เอกํสโต สุวิสุทฺธกายวจีมโนสมาจาโร สุวิสุทฺธาชีโว โหติ ตถา อภินีหารสมฺปนฺนตฺตา. มายนามาติ กุลรูปสีลาจาราทิสมฺปตฺติยา าติมิตฺตาทีหิ ‘‘มา ยาหี’’ติ วตฺตพฺพคุณตาย ‘‘มายา’’ติ ลทฺธนามา. ปริหริยาติ ธาเรตฺวา. กายสฺส เภทาติ สเทวกสฺส โลกสฺส เจติยสทิสสฺส อตฺตโน กายสฺส วินาสโต อุทฺธํ. ติทิวมฺหีติ ตุสิตเทวโลเก.

สาติ มายาเทวี. โคตมีติ โคตฺเตน ตํ กิตฺเตติ. ทิพฺเพหิ กาเมหีติ, ตุสิตภวนปริยาปนฺเนหิ ทิพฺเพหิ วตฺถุกาเมหิ. สมงฺคิภูตาติ สมนฺนาคตา. กามคุเณหีติ กามโกฏฺาเสหิ, ‘‘กาเมหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘กามคุเณหี’’ติ วจเนน อเนกภาเคหิ วตฺถุกาเมหิ ปริจาริยตีติ ทีเปติ. เตหีติ ยสฺมึ เทวนิกาเย นิพฺพตฺติ, เตหิ ตุสิตเทวคเณหิ, เตหิ วา กามคุเณหิ. ‘‘สมงฺคิภูตา ปริวาริตา’’ติ จ อิตฺถิลิงฺคนิทฺเทโส ปุริมตฺตภาวสิทฺธํ อิตฺถิภาวํ, เทวตาภาวํ วา สนฺธาย กโต, เทวูปปตฺติ ปน ปุริสภาเวเนว ชาตา.

เอวํ เถเรน ยาจิโต ภควา ตตฺถ คมเน พหูนํ วิเสสาธิคมํ ทิสฺวา วีสติสหสฺส ขีณาสวปริวุโต ราชคหโต อตุริตจาริกาวเสน กปิลวตฺถุคามิมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. เถโร อิทฺธิยา กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อากาเส ิโต อทิฏฺปุพฺพํ เวสํ ทิสฺวา รฺา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิโต, ‘‘สเจ อมจฺจปุตฺตํ ตยา ภควโต สนฺติกํ เปสิตํ มํ น ชานาสิ, เอวํ ปน ชานาหี’’ติ ทสฺเสนฺโต –

‘‘พุทฺธสฺส ปุตฺโตมฺหิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺสปฺปฏิมสฺส ตาทิโน;

ปิตุปิตา มยฺหํ ตุวํสิ สกฺก, ธมฺเมน เม โคตม อยฺยโกสี’’ติ. –

โอสานคาถมาห.

ตตฺถ พุทฺธสฺส ปุตฺโตมฺหีติ, สพฺพฺุพุทฺธสฺส อุเร ชาตตาย โอรสปุตฺโต อมฺหิ. อสยฺหสาหิโนติ, อภิสมฺโพธิโต ปุพฺเพ เปตฺวา มหาโพธิสตฺตํ อฺเหิ สหิตุํ วหิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อสยฺหสฺส สกลสฺส โพธิสมฺภารสฺส มหาการุณิกาธิการสฺส จ สหนโต วหนโต, ตโต ปรมฺปิ อฺเหิ สหิตุํ อภิภวิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อสยฺหานํ ปฺจนฺนํ มารานํ สหนโต อภิภวนโต, อาสยานุสยจริตาธิมุตฺติอาทิวิภาคาวโพธเนน ยถารหํ เวเนยฺยานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ อนุสาสนีสงฺขาตสฺส อฺเหิ อสยฺหสฺส พุทฺธกิจฺจสฺส จ สหนโต, ตตฺถ วา สาธุการีภาวโต อสยฺหสาหิโน. องฺคีรสสฺสาติ องฺคีกตสีลาทิสมฺปตฺติกสฺส. ‘‘องฺคมงฺเคหิ นิจฺฉรณกโอภาสสฺสา’’ติ อปเร. เกจิ ปน ‘‘องฺคีรโส, สิทฺธตฺโถติ ทฺเว นามานิ ปิตราเยว คหิตานี’’ติ วทนฺติ. อปฺปฏิมสฺสาติ อนูปมสฺส. อิฏฺานิฏฺเสุ ตาทิลกฺขณปฺปตฺติยา ตาทิโน. ปิตุปิตา มยฺหํ ตุวํสีติ อริยชาติวเสน มยฺหํ ปิตุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โลกโวหาเรน ตฺวํ ปิตา อสิ. สกฺกาติ ชาติวเสน ราชานํ อาลปติ. ธมฺเมนาติ สภาเวน อริยชาติ โลกิยชาตีติ ทฺวินฺนํ ชาตีนํ สภาวสโมธาเนน โคตมาติ ราชานํ โคตฺเตน อาลปติ. อยฺยโกสีติ ปิตามโห อสิ. เอตฺถ จ ‘‘พุทฺธสฺส ปุตฺโตมฺหี’’ติอาทึ วทนฺโต เถโร อฺํ พฺยากาสิ.

เอวํ ปน อตฺตานํ ชานาเปตฺวา หฏฺตุฏฺเน รฺา มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน ปฏิยาทิตสฺส นานคฺครสสฺส โภชนสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทินฺเน คมนาการํ ทสฺเสติ. ‘‘กสฺมา คนฺตุกามตฺถ, ภุฺชถา’’ติ จ วุตฺเต, ‘‘สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภุฺชิสฺสามี’’ติ. ‘‘กหํ ปน สตฺถา’’ติ? ‘‘วีสติสหสฺสภิกฺขุปริวาโร ตุมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย มคฺคํ ปฏิปนฺโน’’ติ. ‘‘ตุมฺเห อิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ยาว มม ปุตฺโต อิมํ นครํ สมฺปาปุณาติ, ตาวสฺส อิโตว ปิณฺฑปาตํ หรถา’’ติ. เถโร ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา รฺโ ปริสาย จ ธมฺมํ กเถตฺวา สตฺถุ อาคมนโต ปุเรตรเมว สกลํ ราชนิเวสนํ รตนตฺตเย อภิปฺปสนฺนํ กโรนฺโต สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานํเยว สตฺถุ อาหริตพฺพภตฺตปุณฺณํ ปตฺตํ อากาเส วิสฺสชฺเชตฺวา สยมฺปิ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปิณฺฑปาตํ อุปเนตฺวา สตฺถุ หตฺเถ เปสิ. สตฺถา ตํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิ. เอวํ สฏฺิโยชนํ มคฺคํ ทิวเส ทิวเส โยชนํ คจฺฉนฺตสฺส สตฺถุ ราชเคหโตว ภตฺตํ อาหริตฺวา อทาสิ. อถ นํ ภควา ‘‘มยฺหํ ปิตุ มหาราชสฺส สกลนิเวสนํ ปสาเทสี’’ติ กุลปฺปสาทกานํ อคฺคฏฺาเน เปสีติ.

กาฬุทายิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เอกวิหาริยตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปุรโต ปจฺฉโต วาติอาทิกา อายสฺมโต เอกวิหาริยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต กสฺสปทสพลสฺส กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา วิเวกวาสํ วสิ.

โส เตน ปุฺกมฺเมน เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ภควติ ปรินิพฺพุเต ธมฺมาโสกรฺโ กนิฏฺภาตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อโสกมหาราชา กิร สตฺถุ ปรินิพฺพานโต ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อุปริ อฏฺารสเม วสฺเส สกลชมฺพุทีเป เอกรชฺชาภิเสกํ ปตฺวา อตฺตโน กนิฏฺํ ติสฺสกุมารํ โอปรชฺเช เปตฺวา เอเกน อุปาเยน ตํ สาสเน อภิปฺปสนฺนํ อกาสิ. โส เอกทิวสํ มิควํ คโต อรฺเ โยนกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรํ หตฺถินาเคน สาลสาขํ คเหตฺวา พีชิยมานํ นิสินฺนํ ทิสฺวา สฺชาตปสาโท ‘‘อโห วตาหมฺปิ อยํ มหาเถโร วิย ปพฺพชิตฺวา อรฺเ วิหเรยฺย’’นฺติ จินฺเตสิ. เถโร ตสฺส จิตฺตาจารํ ตฺวา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อโสการาเม โปกฺขรณิยา อภิชฺชมาเน อุทเก ตฺวา จีวรฺจ อุตฺตราสงฺคฺจ อากาเส โอลคฺเคตฺวา นฺหายิตุํ อารภิ. กุมาโร เถรสฺส อานุภาวํ ทิสฺวา อภิปฺปสนฺโน อรฺโต นิวตฺติตฺวา ราชเคหํ คนฺตฺวา ‘‘ปพฺพชิสฺสามี’’ติ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตํ อเนกปฺปการํ ยาจิตฺวา ปพฺพชฺชาธิปฺปายํ นิวตฺเตตุํ นาสกฺขิ. โส อุปาสโก หุตฺวา ปพฺพชฺชาสุขํ ปตฺเถนฺโต –

๕๓๗.

‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วาปิ, อปโร เจ น วิชฺชติ;

อตีว ผาสุ ภวติ, เอกสฺส วสโต วเน.

๕๓๘.

‘‘หนฺท เอโก คมิสฺสามิ, อรฺํ พุทฺธวณฺณิตํ;

ผาสุ เอกวิหาริสฺส, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๕๓๙.

‘‘โยคี-ปีติกรํ รมฺมํ, มตฺตกุฺชรเสวิตํ;

เอโก อตฺถวสี ขิปฺปํ, ปวิสิสฺสามิ กานนํ.

๕๔๐.

‘‘สุปุปฺผิเต สีตวเน, สีตเล คิริกนฺทเร;

คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา, จงฺกมิสฺสามิ เอกโก.

๕๔๑.

‘‘เอกากิโย อทุติโย, รมณีเย มหาวเน;

กทาหํ วิหริสฺสามิ, กตกิจฺโจ อนาสโว.

๕๔๒.

‘‘เอวํ เม กตฺตุกามสฺส, อธิปฺปาโย สมิชฺฌตุ;

สาธยิสฺสามหํเยว, นาฺโ อฺสฺส การโก’’ติ. –

อิมา ฉ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ปุรโต ปจฺฉโต วาติ อตฺตโน ปุรโต วา ปจฺฉโต วา, วา-สทฺทสฺส วิกปฺปตฺถตฺตา ปสฺสโต วา อปโร อฺโ ชโน น วิชฺชติ เจ, อตีว อติวิย ผาสุ จิตฺตสุขํ ภวติ. เอกวิหารีภาเวน เอกสฺส อสหายสฺส. วเน วสโตติ จิรปริจิเตน วิเวกชฺฌาสเยน อากฑฺฒิยมานหทโย โส รตฺตินฺทิวํ มหาชนปริวุตสฺส วสโต สงฺคณิกวิหารํ นิพฺพินฺทนฺโต วิเวกสุขฺจ พหุํ มฺนฺโต วทติ.

หนฺทาติ โวสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต, เตน อิทานิ กรียมานสฺส อรฺคมนสฺส นิจฺฉิตภาวมาห. เอโก คมิสฺสามีติ ‘‘สุฺาคาเร โข, คหปติ, ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติอาทิวจนโต (จูฬว. ๓๐๖) พุทฺเธหิ วณฺณิตํ ปสฏฺํ อรฺํ เอโก อสหาโย คมิสฺสามิ วาสาธิปฺปาเยน อุปคจฺฉามิ. ยสฺมา เอกวิหาริสฺส านาทีสุ อสหายภาเวน เอกวิหาริสฺส นิพฺพานํ ปฏิเปสิตจิตฺตตาย ปหิตตฺตสฺส อธิสีลสิกฺขาทิกา ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขโต ภิกฺขุโน อรฺํ ผาสุ อิฏฺํ สุขาวหนฺติ อตฺโถ.

โยคี-ปีติกรนฺติ โยคีนํ ภาวนาย ยุตฺตปฺปยุตฺตานํ อปฺปสทฺทาทิภาเวน ฌานวิปสฺสนาทิปีตึ อาวหนโต โยคี-ปีติกรํ. วิสภาคารมฺมณาภาเวน ปฏิสลฺลานสารุปฺปตาย รมฺมํ. มตฺตกุฺชรเสวิตนฺติ มตฺตวรวารณวิจริตํ, อิมินาปิ พฺรหารฺภาเวน ชนวิเวกํเยว ทสฺเสติ. อตฺถวสีติ อิธ อตฺโถติ สมณธมฺโม อธิปฺเปโต. ‘‘กถํ นุ โข โส เม ภเวยฺยา’’ติ ตสฺส วสํ คโต.

สุปุปฺผิเตติ สุฏฺุ ปุปฺผิเต. สีตวเนติ ฉายูทกสมฺปตฺติยา สีเต วเน. อุภเยนปิ ตสฺส รมณียตํเยว วิภาเวติ. คิริกนฺทเรติ คิรีนํ อพฺภนฺตเร กนฺทเร. กนฺติ หิ อุทกํ, เตน ทาริตํ นินฺนฏฺานํ กนฺทรํ นาม. ตาทิเส สีตเล คิริกนฺทเร ฆมฺมปริตาปํ วิโนเทตฺวา อตฺตโน คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา นฺหายิตฺวา จงฺกมิสฺสามิ เอกโกติ กตฺถจิ อนายตฺตวุตฺติตํ ทสฺเสติ.

เอกากิโยติ เอกากี อสหาโย. อทุติโยติ ตณฺหาสงฺขาตทุติยาภาเวน อทุติโย. ตณฺหา หิ ปุริสสฺส สพฺพทา อวิชหนฏฺเน ทุติยา นาม. เตนาห ภควา – ‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสร’’นฺติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕).

เอวํ เม กตฺตุกามสฺสาติ ‘‘หนฺท เอโก คมิสฺสามี’’ติอาทินา วุตฺตวิธินา อรฺํ คนฺตฺวา ภาวนาภิโยคํ กตฺตุกามสฺส เม. อธิปฺปาโย สมิชฺฌตูติ ‘‘กทาหํ วิหริสฺสามิ, กตกิจฺโจ อนาสโว’’ติ เอวํ ปวตฺโต มโนรโถ อิชฺฌตุ สิทฺธึ ปาปุณาตุ. อรหตฺตปฺปตฺติ จ ยสฺมา น อายาจนมตฺเตน สิชฺฌติ, นาปิ อฺเน สาเธตพฺพา, ตสฺมา อาห ‘‘สาธยิสฺสามหํเยว, นาฺโ อฺสฺส การโก’’ติ.

เอวํ อุปราชสฺส ปพฺพชฺชาย ทฬฺหนิจฺฉยตํ ตฺวา ราชา อโสการามคมนียํ มคฺคํ อลงฺการาเปตฺวา กุมารํ สพฺพาลงฺการวิภูสิตํ มหติยา เสนาย มหจฺจราชานุภาเวน วิหารํ เนสิ. กุมาโร ปธานฆรํ คนฺตฺวา มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิ, อเนกสตา มนุสฺสา ตํ อนุปพฺพชึสุ. รฺโ ภาคิเนยฺโย สงฺฆมิตฺตาย สามิโก อคฺคิพฺรหฺมาปิ ตเมว อนุปพฺพชิ. โส ปพฺพชิตฺวา หฏฺตุฏฺโ อตฺตนา กาตพฺพํ ปกาเสนฺโต –

๕๔๓.

‘‘เอส พนฺธามิ สนฺนาหํ, ปวิสิสฺสามิ กานนํ;

น ตโต นิกฺขมิสฺสามิ, อปฺปตฺโต อาสวกฺขยํ.

๕๔๔.

‘‘มาลุเต อุปวายนฺเต, สีเต สุรภิคนฺธิเก;

อวิชฺชํ ทาลยิสฺสามิ, นิสินฺโน นคมุทฺธนิ.

๕๔๕.

‘‘วเน กุสุมสฺฉนฺเน, ปพฺภาเร นูน สีตเล;

วิมุตฺติสุเขน สุขิโต, รมิสฺสามิ คิริพฺพเช’’ติ. –

ติสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ เอส พนฺธามิ สนฺนาหนฺติ เอสาหํ วีริยสงฺขาตํ สนฺนาหํ พนฺธามิ, กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺโข วีริยสนฺนาเหน สนฺนยฺหามิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา นาม สูโร ปุริโส ปจฺจตฺถิเก ปจฺจุปฏฺิเต ตํ เชตุกาโม อฺํ กิจฺจํ ปหาย กวจปฏิมุจฺจนาทินา ยุทฺธาย สนฺนยฺหติ, ยุทฺธภูมิฺจ คนฺตฺวา ปจฺจตฺถิเก อเชตฺวา ตโต น นิวตฺตติ, เอวมหมฺปิ กิเลสปจฺจตฺถิเก เชตุํ อาทิตฺตมฺปิ สีสํ เจลฺจ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยสนฺนาหํ สนฺนยฺหามิ, กิเลเส อเชตฺวา กิเลสวิชยโยคฺคํ วิเวกฏฺานํ น วิสฺสชฺเชมีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปวิสิสฺสามิ กานนํ น ตโต นิกฺขมิสฺสามิ, อปฺปตฺโต อาสวกฺขย’’นฺติ.

‘‘มาลุเต อุปวายนฺเต’’ติอาทินา อรฺฏฺานสฺส กมฺมฏฺานภาวนาโยคฺยตํ วทติ, รมิสฺสามิ นูน คิริพฺพเชติ โยชนา. ปพฺพตปริกฺเขเป อภิรมิสฺสามิ มฺเติ อนาคตตฺถํ ปริกปฺเปนฺโต วทติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

เอวํ วตฺวา เถโร อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโต อุปชฺฌาเยน สทฺธึ กลิงฺครฏฺํ อคมาสิ. ตตฺถสฺส ปาเท จมฺมิกาพาโธ อุปฺปชฺชิ, ตํ ทิสฺวา เอโก เวชฺโช ‘‘สปฺปึ, ภนฺเต, ปริเยสถ, ติกิจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ อาห. เถโร สปฺปิปริเยสนํ อกตฺวา วิปสฺสนาย เอว กมฺมํ กโรติ, โรโค วฑฺฒติ, เวชฺโช เถรสฺส ตตฺถ อปฺโปสฺสุกฺกตํ ทิสฺวา สยเมว สปฺปึ ปริเยสิตฺวา เถรํ อโรคํ อกาสิ. โส อโรโค หุตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๑-๑๒) –

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘นิปฺปปฺโจ นิราลมฺโพ, อากาสสมมานโส;

สุฺตาพหุโล ตาที, อนิมิตฺตรโต วสี.

‘‘อสงฺคจิตฺโต นิกฺเลโส, อสํสฏฺโ กุเล คเณ;

มหาการุณิโก วีโร, วินโยปายโกวิโท.

‘‘อุยฺยุตฺโต ปรกิจฺเจสุ, วินยนฺโต สเทวเก;

นิพฺพานคมนํ มคฺคํ, คตึ ปงฺกวิโสสนํ.

‘‘อมตํ ปรมสฺสาทํ, ชรามจฺจุนิวารณํ;

มหาปริสมชฺเฌ โส, นิสินฺโน โลกตารโก.

‘‘กรวีกรุโต นาโถ, พฺรหฺมโฆโส ตถาคโต;

อุทฺธรนฺโต มหาทุคฺคา, วิปฺปนฏฺเ อนายเก.

‘‘เทเสนฺโต วิรชํ ธมฺมํ, ทิฏฺโ เม โลกนายโก;

ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘ปพฺพชิตฺวา ตทาปาหํ, จินฺเตนฺโต ชินสาสนํ;

เอกโกว วเน รมฺเม, วสึ สํสคฺคปีฬิโต.

‘‘สกฺกายวูปกาโส เม, เหตุภูโต มมาภวี;

มนโส วูปกาสสฺส, สํสคฺคภยทสฺสิโน.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เถเร ตตฺถ วิหรนฺเต ราชา โกฏิธนปริจฺจาเคน โภชกคิริวิหารํ นาม กาเรตฺวา เถรํ ตตฺถ วาเสสิ. โส ตตฺถ วิหรนฺโต ปรินิพฺพานกาเล –

๕๔๖.

‘‘โสหํ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป, จนฺโท ปนฺนรโส ยถา;

สพฺพาสวปริกฺขีโณ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. –

โอสานคาถมาห. สา อุตฺตานตฺถาว. ตเทว จ เถรสฺส อฺาพฺยากรณํ อโหสีติ.

เอกวิหาริยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหากปฺปินตฺเถรคาถาวณฺณนา

อนาคตํ โย ปฏิกจฺจ ปสฺสตีติอาทิกา อายสฺมโต มหากปฺปินตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล หํสวตีนคเร กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโอวาทกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา ตชฺชํ อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ.

โส ตตฺถ ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล พาราณสิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ปุริสสหสฺสคณเชฏฺโก หุตฺวา คพฺภสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ มหนฺตํ ปริเวณํ การาเปสิ. เต สพฺเพปิ ชนา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา ตํ อุปาสกํ เชฏฺกํ กตฺวา สปุตฺตทารา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรึสุ. เตสุ คณเชฏฺโก อมฺหากํ สตฺถุ นิพฺพตฺติโต ปุเรตรเมว ปจฺจนฺตเทเส กุกฺกุฏนามเก นคเร ราชเคเห นิพฺพตฺติ, ตสฺส กปฺปิโนติ นามํ อโหสิ. เสสปุริสา ตสฺมึเยว นคเร อมจฺจกุเล นิพฺพตฺตึสุ. กปฺปินกุมาโร ปิตุ อจฺจเยน ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา มหากปฺปินราชา นาม ชาโต. โส สุตวิตฺตกตาย ปาโตว จตูหิ ทฺวาเรหิ สีฆํ ทูเต เปเสสิ – ‘‘ยตฺถ พหุสฺสุเต ปสฺสถ, ตโต นิวตฺติตฺวา มยฺหํ อาโรเจถา’’ติ.

เตน จ สมเยน อมฺหากํ สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย วิหรติ. ตสฺมึ กาเล สาวตฺถิวาสิโน วาณิชา สาวตฺถิยํ อุฏฺานกภณฺฑํ คเหตฺวา ตํ นครํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ‘‘ราชานํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ปณฺณาการหตฺถา รฺโ อาโรจาเปสุํ. เต ราชา ปกฺโกสาเปตฺวา นิยฺยาทิตปณฺณากาเร วนฺทิตฺวา ิเต ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สาวตฺถิโต, เทวา’’ติ. ‘‘กจฺจิ โว รฏฺํ สุภิกฺขํ, ธมฺมิโก ราชา’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘กีทิโส ธมฺโม ตุมฺหากํ เทเส อิทานิ ปวตฺตตี’’ติ? ‘‘ตํ, เทว, น สกฺกา อุจฺฉิฏฺมุเขหิ กเถตุ’’นฺติ. ราชา สุวณฺณภิงฺคาเรน อุทกํ ทาเปสิ. เต มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ทสพลาภิมุขา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา, ‘‘เทว, อมฺหากํ เทเส พุทฺธรตนํ นาม อุปฺปนฺน’’นฺติ อาหํสุ. รฺโ ‘‘พุทฺโธ’’ติ วจเน สุตมตฺเตเยว สกลสรีรํ ผรมานา ปีติ อุปฺปชฺชิ. ตโต ‘‘พุทฺโธติ, ตาตา, วเทถา’’ติ อาห. ‘‘พุทฺโธติ, เทว, วทามา’’ติ. เอวํ ติกฺขตฺตุํ วทาเปตฺวา ‘‘พุทฺโธติ ปทํ อปริมาณ’’นฺติ ตสฺมึเยว ปเท ปสนฺโน สตสหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อปรํ วเทถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, โลเก ธมฺมรตนํ นาม อุปฺปนฺน’’นฺติ. ตมฺปิ สุตฺวา ตเถว สตสหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อปรํ วเทถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, สงฺฆรตนํ นาม อุปฺปนฺน’’นฺติ. ตมฺปิ สุตฺวา ตเถว สตสหสฺสํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธสฺส ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ตโตว นิกฺขมิ. อมจฺจาปิ ตเถว นิกฺขมึสุ. โส อมจฺจสหสฺเสน สทฺธึ คงฺคาตีรํ ปตฺวา ‘‘สเจ สตฺถา สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อิเมสํ อสฺสานํ ขุรมตฺตมฺปิ มา เตเมตู’’ติ สจฺจาธิฏฺานํ กตฺวา อุทกปิฏฺเเนว ปูรํ คงฺคานทึ อติกฺกมิตฺวา อปรมฺปิ อฑฺฒโยชนวิตฺถารํ นทึ ตเถว อติกฺกมิตฺวา ตติยํ จนฺทภาคํ นาม มหานทึ ปตฺวา ตมฺปิ ตาย เอว สจฺจกิริยาย อติกฺกมิ.

สตฺถาปิ ตํทิวสํ ปจฺจูสสมยํเยว มหากรุณาสมาปตฺติโต วุฏฺาย โลกํ โวโลเกนฺโต ‘‘อชฺช มหากปฺปิโน ติโยชนสติกํ รชฺชํ ปหาย อมจฺจสหสฺสปริวาโร มม สนฺติเก ปพฺพชิตุํ อาคมิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ‘‘มยา เตสํ ปจฺจุคฺคมนํ กาตุํ ยุตฺต’’นฺติ ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สยเมว อากาเสน คนฺตฺวา จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร เตสํ อุตฺตรณติตฺถสฺสาภิมุขฏฺาเน มหานิคฺโรธมูเล ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน ฉพฺพณฺณพุทฺธรสฺมิโย วิสฺสชฺเชสิ. เต เตน ติตฺเถน อุตฺตรนฺตา พุทฺธรสฺมิโย อิโต จิโต จ วิธาวนฺติโย โอโลเกนฺโต ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ยํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส มยํ อาคตา, อทฺธา โส เอโส’’ติ ทสฺสเนเนว นิฏฺํ คนฺตฺวา ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย โอนมิตฺวา ปรมนิปจฺจาการํ กโรนฺตา ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. ราชา ภควโต โคปฺผเกสุ คเหตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ สทฺธึ อมจฺจสหสฺเสน. สตฺถา เตสํ ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน สทฺธึ ปริสาย อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๔.๖๖-๑๐๗) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

อุทิโต อชฏากาเส, รวีว สรทมฺพเร.

‘‘วจนาภาย โพเธติ, เวเนยฺยปทุมานิ โส;

กิเลสปงฺกํ โสเสติ, มติรํสีหิ นายโก.

‘‘ติตฺถิยานํ ยเส หนฺติ, ขชฺโชตาภา ยถา รวิ;

สจฺจตฺถาภํ ปกาเสติ, รตนํว ทิวากโร.

‘‘คุณานํ อายติภูโต, รตนานํว สาคโร;

ปชฺชุนฺโนริว ภูตานิ, ธมฺมเมเฆน วสฺสติ.

‘‘อกฺขทสฺโส ตทา อาสึ, นคเร หํสสวฺหเย;

อุเปจฺจ ธมฺมมสฺโสสึ, ชลชุตฺตมนามิโน.

‘‘โอวาทกสฺส ภิกฺขูนํ, สาวกสฺส กตาวิโน;

คุณํ ปกาสยนฺตสฺส, ตปฺปยนฺตสฺส เม มนํ.

‘‘สุตฺวา ปตีโต สุมโน, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;

สสิสฺสํ โภชยิตฺวาน, ตํ านมภิปตฺถยึ.

‘‘ตทา หํสสมภาโค, หํสทุนฺทุภินิสฺสโน;

ปสฺสเถตํ มหามตฺตํ, วินิจฺฉยวิสารทํ.

‘‘ปติตํ ปาทมูเล เม, สมุคฺคตตนูรุหํ;

ชีมูตวณฺณํ ปีณํสํ, ปสนฺนนยนานนํ.

‘‘ปริวาเรน มหตา, ราชยุตฺตํ มหายสํ;

เอโส กตาวิโน านํ, ปตฺเถติ มุทิตาสโย.

‘‘อิมินา ปณิปาเตน, จาเคน ปณิธีหิ จ;

กปฺปสตสหสฺสานิ, นุปปชฺชติ ทุคฺคตึ.

‘‘เทเวสุ เทวโสภคฺคํ, มนุสฺเสสุ มหนฺตตํ;

อนุโภตฺวาน เสเสน, นิพฺพานํ ปาปุณิสฺสติ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

กปฺปิโน นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘ตโตหํ สุกตํ การํ, กตฺวาน ชินสาสเน;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตุสิตํ อคมาสหํ.

‘‘เทวมานุสรชฺชานิ, สตโส อนุสาสิย;

พาราณสิยมาสนฺเน, ชาโต เกณิยชาติยํ.

‘‘สหสฺสปริวาเรน, สปชาปติโก อหํ;

ปฺจปจฺเจกพุทฺธานํ, สตานิ สมุปฏฺหึ.

‘‘เตมาสํ โภชยิตฺวาน, ปจฺฉาทมฺห ติจีวรํ;

ตโต จุตา มยํ สพฺเพ, อหุมฺห ติทสูปคา.

‘‘ปุโน สพฺเพ มนุสฺสตฺตํ, อคมิมฺห ตโต จุตา;

กุกฺกุฏมฺหิ ปุเร ชาตา, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต.

‘‘กปฺปิโน นามหํ อาสึ, ราชปุตฺโต มหายโส;

เสสามจฺจกุเล ชาตา, มเมว ปริวารยุํ.

‘‘มหารชฺชสุขํ ปตฺโต, สพฺพกามสมิทฺธิมา;

วาณิเชหิ สมกฺขาตํ, พุทฺธุปฺปาทมหํ สุณึ.

‘‘พุทฺโธ โลเก สมุปฺปนฺโน, อสโม เอกปุคฺคโล;

โส ปกาเสติ สทฺธมฺมํ, อมตํ สุขมุตฺตมํ.

‘‘สุยุตฺตา ตสฺส สิสฺสา จ, สุมุตฺตา จ อนาสวา;

สุตฺวา เนสํ สุวจนํ, สกฺกริตฺวาน วาณิเช.

‘‘ปหาย รชฺชํ สามจฺโจ, นิกฺขมึ พุทฺธมามโก;

นทึ ทิสฺวา มหาจนฺทํ, ปูริตํ สมติตฺติกํ.

‘‘อปฺปติฏฺํ อนาลมฺพํ, ทุตฺตรํ สีฆวาหินึ;

คุณํ สริตฺวา พุทฺธสฺส, โสตฺถินา สมติกฺกมึ.

‘‘ภวโสตํ สเจ พุทฺโธ, ติณฺโณ โลกนฺตคู วิทู;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, คมนํ เม สมิชฺฌตุ.

‘‘ยทิ สนฺติคโม มคฺโค, โมกฺโข จจฺจนฺติกํ สุขํ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, คมนํ เม สมิชฺฌตุ.

‘‘สงฺโฆ เจ ติณฺณกนฺตาโร, ปุฺกฺเขตฺโต อนุตฺตโร;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, คมนํ เม สมิชฺฌตุ.

‘‘สห กเต สจฺจวเร, มคฺคา อปคตํ ชลํ;

ตโต สุเขน อุตฺติณฺโณ, นทีตีเร มโนรเม.

‘‘นิสินฺนํ อทฺทสํ พุทฺธํ, อุเทนฺตํว ปภงฺกรํ;

ชลนฺตํ เหมเสลํว, ทีปรุกฺขํว โชติตํ.

‘‘สสึว ตาราสหิตํ, สาวเกหิ ปุรกฺขตํ;

วาสวํ วิย วสฺสนฺตํ, เทสนาชลทนฺตรํ.

‘‘วนฺทิตฺวาน สหามจฺโจ, เอกมนฺตมุปาวิสึ;

ตโต โน อาสยํ ตฺวา, พุทฺโธ ธมฺมมเทสยิ.

‘‘สุตฺวาน ธมฺมํ วิมลํ, อโวจุมฺห มยํ ชินํ;

ปพฺพาเชหิ มหาวีร, นิพฺพินฺทามฺห มยํ ภเว.

‘‘สฺวกฺขาโต ภิกฺขเว ธมฺโม, ทุกฺขนฺตกรณาย โว;

จรถ พฺรหฺมจริยํ, อิจฺจาห มุนิสตฺตโม.

‘‘สห วาจาย สพฺเพปิ, ภิกฺขุเวสธรา มยํ;

อหุมฺห อุปสมฺปนฺนา, โสตาปนฺนา จ สาสเน.

‘‘ตโต เชตวนํ คนฺตฺวา, อนุสาสิ วินายโก;

อนุสิฏฺโ ชิเนนาหํ, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘ตโต ภิกฺขุสหสฺสานิ, อนุสาสิมหํ ตทา;

มมานุสาสนกรา, เตปิ อาสุํ อนาสวา.

‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;

ภิกฺขุโอวาทกานคฺโค, กปฺปิโนติ มหาชเน.

‘‘สตสหสฺเส กตํ กมฺมํ, ผลํ ทสฺเสสิ เม อิธ;

ปมุตฺโต สรเวโคว, กิเลเส ฌาปยึ มม.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปตฺวา ปน เต สพฺเพว สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจึสุ. สตฺถา เต ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ อาห. สา เอว เตสํ ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ อโหสิ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุสหสฺสํ อาทาย อากาเสน เชตวนํ อคมาสิ. อเถกทิวสํ ภควา ตสฺสนฺเตวาสิเก ภิกฺขู อาห – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขเว, กปฺปิโน ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสตี’’ติ? ‘‘น, ภควา, เทเสติ. อปฺโปสฺสุกฺโก ทิฏฺธมฺมสุขวิหารมนุยุตฺโต วิหรติ, โอวาทมตฺตมฺปิ น เทตี’’ติ. สตฺถา เถรํ ปกฺโกสาเปตฺวา – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, กปฺปิน, อนฺเตวาสิกานํ โอวาทมตฺตมฺปิ น เทสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติ. ‘‘พฺราหฺมณ, มา เอวํ กริ, อชฺช ปฏฺาย อุปคตานํ ธมฺมํ เทเสหี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ เถโร สตฺถุ วจนํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอโกวาเทเนว สมณสหสฺสํ อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ. เตน นํ สตฺถา ปฏิปาฏิยา อตฺตโน สาวเก เถเร านนฺตเร เปนฺโต ภิกฺขุโอวาทกานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. อเถกทิวสํ เถโร ภิกฺขุนิโย โอวทนฺโต –

๕๔๗.

‘‘อนาคตํ โย ปฏิกจฺจ ปสฺสติ, หิตฺจ อตฺถํ อหิตฺจ ตํ ทฺวยํ;

วิทฺเทสิโน ตสฺส หิเตสิโน วา, รนฺธํ น ปสฺสนฺติ สเมกฺขมานา.

๕๔๘.

‘‘อานาปานสตี ยสฺส, ปริปุณฺณา สุภาวิตา;

อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตา;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

๕๔๙.

‘‘โอทาตํ วต เม จิตฺตํ, อปฺปมาณํ สุภาวิตํ;

นิพฺพิทฺธํ ปคฺคหีตฺจ, สพฺพา โอภาสเต ทิสา.

๕๕๐.

‘‘ชีวเต วาปิ สปฺปฺโ, อปิ วิตฺตปริกฺขโย;

ปฺาย จ อลาเภน, วิตฺตวาปิ น ชีวติ.

๕๕๑.

‘‘ปฺา สุตวินิจฺฉินี, ปฺา กิตฺติสิโลกวทฺธนี;

ปฺาสหิโต นโร อิธ, อปิ ทุกฺเขสุ สุขานิ วินฺทติ.

๕๕๒.

‘‘นายํ อชฺชตโน ธมฺโม, นจฺเฉโร นปิ อพฺภุโต;

ยตฺถ ชาเยถ มีเยถ, ตตฺถ กึ วิย อพฺภุตํ.

๕๕๓.

‘‘อนนฺตรฺหิ ชาตสฺส, ชีวิตา มรณํ ธุวํ;

ชาตา ชาตา มรนฺตีธ, เอวํ ธมฺมา หิ ปาณิโน.

๕๕๔.

‘‘น เหตทตฺถาย มตสฺส โหติ, ยํ ชีวิตตฺถํ ปรโปริสานํ;

มตมฺหิ รุณฺณํ น ยโส น โลกฺยํ, น วณฺณิตํ สมณพฺราหฺมเณหิ.

๕๕๕.

‘‘จกฺขุํ สรีรํ อุปหนฺติ เตน, นิหียติ วณฺณพลํ มตี จ;

อานนฺทิโน ตสฺส ทิสา ภวนฺติ, หิเตสิโน นาสฺส สุขี ภวนฺติ.

๕๕๖.

‘‘ตสฺมา หิ อิจฺเฉยฺย กุเล วสนฺเต, เมธาวิโน เจว พหุสฺสุเต จ;

เยสฺหิ ปฺาวิภเวน กิจฺจํ, ตรนฺติ นาวาย นทึว ปุณฺณ’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อนาคตนฺติ น อาคตํ, อวินฺทนฺติ, อตฺโถ. ปฏิกจฺจาติ ปุเตตรํเยว. ปสฺสตีติ โอโลเกติ. อตฺถนฺติ กิจฺจํ. ตํ ทฺวยนฺติ หิตาหิตํ. วิทฺเทสิโนติ อมิตฺตา. หิเตสิโนติ มิตฺตา. รนฺธนฺติ ฉิทฺทํ. สเมกฺขมานาติ คเวสนฺตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปุคฺคโล อตฺตโน หิตาวหํ อหิตาวหํ ตทุภยฺจ อตฺถํ กิจฺจํ อนาคตํ อสมฺปตฺตํ ปุเรตรํเยว ปฺาจกฺขุนา อหํ วิย ปสฺสติ วีมํสติ วิจาเรติ, ตสฺส อมิตฺตา วา อหิตชฺฌาสเยน มิตฺตา วา หิตชฺฌาสเยน รนฺธํ คเวสนฺตา น ปสฺสนฺติ, ตาทิโส ปฺวา ปุคฺคโล อจฺฉิทฺทวุตฺติ, ตสฺมา ตุมฺเหหิ ตถารูเปหิ ภวิตพฺพนฺติ.

อิทานิ อานาปานสติภาวนาย คุณํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ ตานิ โยเชตุํ ‘‘อานาปานสตี ยสฺสา’’ติ ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ อานนฺติ อสฺสาโส. อปานนฺติ ปสฺสาโส. อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณา สติ อานาปานสติ. สติสีเสน เจตฺถ ตํสมฺปยุตฺตสมาธิภาวนา อธิปฺเปตา. ยสฺสาติ, ยสฺส โยคิโน. ปริปุณฺณา สุภาวิตาติ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ โสฬสนฺนฺจ อาการานํ ปาริปูริยา สพฺพโส ปุณฺณา สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ วิชฺชาวิมุตฺตีนฺจ ปาริปูริยา สุฏฺุ ภาวิตา วฑฺฒิตา. อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตาติ ‘‘โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) ยถา ภควตา เทสิตา, ตถา อนุปุพฺพํ อนุกฺกเมน ปริจิตา อาเสวิตา ภาวิตา. โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมาติ โส โยคาวจโร ยถา อพฺภาทิอุปกฺกิเลสา วิมุตฺโต จนฺโท จนฺทาโลเกน อิมํ โอกาสโลกํ ปภาเสติ, เอวํ อวิชฺชาทิอุปกฺกิเลสวิมุตฺโต าณาโลเกน อตฺตสนฺตานปติตํ ปรสนฺตานปติตฺจ สงฺขารโลกํ ปภาเสติ ปกาเสติ. ตสฺมา ตุมฺเหหิ อานาปานสติภาวนา ภาเวตพฺพาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ อตฺตานํ นิทสฺสนํ กตฺวา ภาวนาภิโยคสฺส สผลตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอทาตํ วต เม จิตฺต’’นฺติ ตติยํ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – นีวรณมลวิคมโต โอทาตํ สุทฺธํ วต มม จิตฺตํ. ยถา ปมาณกรา ราคาทโย ปหีนา, อปฺปมาณฺจ นิพฺพานํ ปจฺจกฺขํ กตํ อโหสิ, ตถา ภาวิตตฺตา อปฺปมาณํ สุภาวิตํ, ตโต เอว จตุสจฺจํ นิพฺพิทฺธํ ปฏิวิชฺฌิตํ, สกลสํกิเลสปกฺขโต ปคฺคหิตฺจ หุตฺวา ทุกฺขาทิกา ปุพฺพนฺตาทิกา จ ทิสา โอภาสเต ตตฺถ วิติณฺณกงฺขตฺตา สพฺพธมฺเมสุ วิคตสมฺโมหตฺตา จ. ตสฺมา ตุมฺเหหิปิ เอวํ จิตฺตํ ภาเวตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.

ยถา ภาวนามยา ปฺา จิตฺตมลวิโสธนาทินา ปุริสสฺส พหุปการา, เอวํ อิตราปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชีวเต วาปิ สปฺปฺโ’’ติ จตุตฺถคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ปริกฺขีณธโนปิ สปฺปฺชาติโก อิตรีตรสนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ อนวชฺชาย ชีวิกาย ชีวติเยว. ตสฺส หิ ชีวิตํ ชีวิตํ นาม. เตนาห ภควา – ‘‘ปฺาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๓, ๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๔). ทุมฺเมธปุคฺคโล ปน ปฺาย อลาเภน ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ อตฺถํ วิราเธนฺโต วิตฺตวาปิ น ชีวติ, ครหาทิปฺปตฺติยา ชีวนฺโต นาม น ตสฺส โหติ, อนุปายฺุตาย วา ยถาธิคตํ ธนํ นาเสนฺโต ชีวิตมฺปิ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติเยว, ตสฺมา ปาริหาริยปฺาปิ ตุมฺเหหิ อปฺปมตฺเตหิ สมฺปาเทตพฺพาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ปฺาย อานิสํเส ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺา สุตวินิจฺฉินี’’ติ ปฺจมํ คาถมาห. ตตฺถ ปฺา สุตวินิจฺฉินีติ ปฺา นาเมสา สุตสฺส วินิจฺฉยินี, ยถาสุเต โสตปถมาคเต อตฺเถ ‘‘อยํ อกุสโล, อยํ กุสโล, อยํ สาวชฺโช, อยํ อนวชฺโช’’ติอาทินา วินิจฺฉยชนนี. กิตฺติสิโลกวทฺธนีติ กิตฺติยา สมฺมุขา ปสํสาย สิโลกสฺส ปตฺถฏยสภาวสฺส วทฺธนี, ปฺวโตเยว หิ กิตฺติอาทโย วิฺูนํ ปาสํสภาวโต. ปฺาสหิโตติ ปาริหาริยปฺาย, วิปสฺสนาปฺาย จ ยุตฺโต. อปิ ทุกฺเขสุ สุขานิ วินฺทตีติ เอกนฺตทุกฺขสภาเวสุ ขนฺธายตนาทีสุ สมฺมาปฏิปตฺติยา ยถาภูตสภาวาวโพเธน นิรามิสานิปิ สุขานิ ปฏิลภติ.

อิทานิ ตาสํ ภิกฺขุนีนํ อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตํ ธีรภาวาวหํ ธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘นายํ อชฺชตโน ธมฺโม’’ติอาทินา เสสคาถา อภาสิ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ยฺวายํ สตฺตานํ ชายนมียนสภาโว, อยํ ธมฺโม อชฺชตโน อธุนาคโต น โหติ, อภิณฺหปวตฺติกตาย น อจฺฉริโย, อพฺภุตปุพฺพตาภาวโต นาปิ อพฺภุโต. ตสฺมา ยตฺถ ชาเยถ มีเยถ, ยสฺมึ โลเก สตฺโต ชาเยยฺย, โส เอกํเสน มีเยถ, ตตฺถ กึ วิย? กึ นาม อพฺภุตํ สิยา? สภาวิกตฺตา มรณสฺส – น หิ ขณิกมรณสฺส กิฺจิ การณํ อตฺถิ. ยโต อนนฺตรฺหิ ชาตสฺส, ชีวิตา มรณํ ธุวํ ชาตสฺส ชาติสมนนฺตรํ ชีวิตโต มรณํ เอกนฺติกํ อุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ เอกํเสน ภิชฺชนโต. โย ปเนตฺถ ชีวตีติ โลกโวหาโร, โส ตทุปาทานสฺส อเนกปจฺจยายตฺตตาย อเนกนฺติโก, ยสฺมา เอตเทวํ, ตสฺมา ชาตา มรนฺตีธ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโนติ อยํ สตฺตานํ ปกติ, ยทิทํ ชาตานํ มรณนฺติ ชาติยา มรณานุพนฺธนตํ อาห.

อิทานิ ยสฺมา ตาสุ ภิกฺขุนีสุ กาจิ โสกพนฺธิตจิตฺตาปิ อตฺถิ, ตสฺมา ตาสํ โสกวิโนทนํ กาตุํ ‘‘น เหตทตฺถายาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ น เหตทตฺถาย มตสฺส โหตีติ ยํ มตสฺส ชีวิตตฺถํ ชีวิตนิมิตฺตํ ปรโปริสานํ ปรปุคฺคลานํ รุณฺณํ, เอตํ ตสฺส มตสฺส สตฺตสฺส ชีวิตตฺถํ ตาว ติฏฺตุ, กสฺสจิปิ อตฺถาย น โหติ, เย ปน รุทนฺติ, เตสมฺปิ มตมฺหิ มตปุคฺคลนิมิตฺตํ รุณฺณํ, น ยโส น โลกฺยํ ยสาวหํ วิสุทฺธาวหฺจ น โหติ. น วณฺณิตํ สมณพฺราหฺมเณหีติ วิฺุปฺปสฏฺมฺปิ น โหติ, อถ โข วิฺุครหิตเมวาติ อตฺโถ.

น เกวลเมเตว เย รุทโต อาทีนวา, อถ โข อิเมปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุํ สรีรํ อุปหนฺตี’’ติ คาถํ วตฺวา ตโต ปรํ โสกาทิอนตฺถปฏิพาหนตฺถํ กลฺยาณมิตฺตปยิรุปาสนายํ ตา นิโยเชนฺโต ‘‘ตสฺมา’’ติอาทินา โอสานคาถมาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา รุณฺณํ รุทนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส จกฺขุํ สรีรฺจ อุปหนฺติ วิพาธติ, เตน รุณฺเณน วณฺโณ พลํ มติ จ นิหียติ ปริหายติ, ตสฺส รุทนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส ทิสา สปตฺตา อานนฺทิโน ปโมทวนฺโต ปีติวนฺโต ภวนฺติ. หิเตสิโน มิตฺตา ทุกฺขี ทุกฺขิตา ภวนฺติ ตสฺมา ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคตตฺตา เมธาวิโน ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถสนฺนิสฺสิตสฺส พาหุสจฺจสฺส ปาริปูริยา พหุสฺสุเต, อตฺตโน กุเล วสนฺเต อิจฺเฉยฺย ปาฏิกงฺเขยฺย กุลูปเก กเรยฺย. เยสนฺติ เยสํ เมธาวีนํ พหุสฺสุตานํ ปณฺฑิตานํ ปฺาวิภเวน ปฺาพเลน ยถา มโหฆสฺส ปุณฺณํ นทึ นาวาย ตรนฺติ, เอวํ กุลปุตฺตา อตฺตโน อตฺถกิจฺจํ ตรนฺติ ปารํ ปาปุณนฺติ. เต อิจฺเฉยฺย กุเล วสนฺเตติ โยชนา.

เอวํ เถโร ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ธมฺมํ กเถตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. ตา เถรสฺส โอวาเท ตฺวา โสกํ วิโนเทตฺวา โยนิโส ปฏิปชฺชนฺติโย สทตฺถํ ปริปูเรสุํ.

มหากปฺปินตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จูฬปนฺถกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ทนฺธา มยฺหํ คตีติอาทิกา อายสฺมโต จูฬปนฺถกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? ยเทตฺถ อฏฺุปฺปตฺติวเสน วตฺตพฺพํ, ตํ อฏฺกนิปาเต มหาปนฺถกวตฺถุสฺมึ (เถรคา. อฏฺ. ๒.มหาปนฺถกตฺเถรคาถาวณฺณนา) วุตฺตเมว. อยํ ปน วิเสโส – มหาปนฺถกตฺเถโร อรหตฺตํ ปตฺวา อคฺคผลสุเขน วีตินาเมนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘กถํ นุ โข สกฺกา จูฬปนฺถกมฺปิ อิมสฺมึ สุเข ปติฏฺเปตุ’’นฺติ? โส อตฺตโน อยฺยกํ ธนเสฏฺึ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘สเจ, มหาเสฏฺิ, อนุชานาถ, อหํ จูฬปนฺถกํ ปพฺพาเชยฺย’’นฺติ. ‘‘ปพฺพาเชถ, ภนฺเต’’ติ. เถโร ตํ ปพฺพาเชสิ. โส ทสสุ สีเลสุ ปติฏฺิโต ภาตุ สนฺติเก –

‘‘ปทุมํ ยถา โกกนทํ สุคนฺธํ, ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ;

องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ, ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเข’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๓; อ. นิ. ๕.๑๙๕) –

คาถํ อุคฺคณฺหนฺโต จตูหิ มาเสหิ คเหตุํ นาสกฺขิ, คหิตคหิตํ ปทํ หทเย น ติฏฺติ. อถ นํ มหาปนฺถโก อาห – ‘‘ปนฺถก, ตฺวํ อิมสฺมึ สาสเน อภพฺโพ, จตูหิ มาเสหิ เอกคาถมฺปิ คเหตุํ น สกฺโกสิ. ปพฺพชิตกิจฺจํ ปน ตฺวํ กถํ มตฺถกํ ปาเปสฺสสิ? นิกฺขม อิโต’’ติ. โส เถเรน ปณามิโต ทฺวารโกฏฺกสมีเป โรทมาโน อฏฺาสิ.

เตน จ สมเยน สตฺถา ชีวกมฺพวเน วิหรติ. อถ ชีวโก ปุริสํ เปเสสิ, ‘‘ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สตฺถารํ นิมนฺเตหี’’ติ. เตน จ สมเยน อายสฺมา มหาปนฺถโก ภตฺตุทฺเทสโก โหติ. โส ‘‘ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ภิกฺขํ ปฏิจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺโต ‘‘จูฬปนฺถกํ เปตฺวา เสสานํ ปฏิจฺฉามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา จูฬปนฺถโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โทมนสฺสปฺปตฺโต อโหสิ. สตฺถา ตสฺส จิตฺตกฺเขทํ ตฺวา, ‘‘จูฬปนฺถโก มยา กเตน อุปาเยน พุชฺฌิสฺสตี’’ติ ตสฺส อวิทูเร าเน อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กึ, ปนฺถก, โรทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภาตา มํ, ภนฺเต, ปณาเมตี’’ติ อาห. ‘‘ปนฺถก, มา จินฺตยิ, มม สาสเน ตุยฺหํ ปพฺพชฺชา, เอหิ, อิมํ คเหตฺวา ‘รโชหรณํ, รโชหรณ’นฺติ มนสิ กโรหี’’ติ อิทฺธิยา สุทฺธํ โจฬกฺขณฺฑํ อภิสงฺขริตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนํ โจฬกฺขณฺฑํ ‘‘รโชหรณํ, รโชหรณ’’นฺติ หตฺเถน ปริมชฺชนฺโต นิสีทิ. ตสฺส ตํ ปริมชฺชนฺตสฺส กิลิฏฺธาตุกํ ชาตํ, ปุน ปริมชฺชนฺตสฺส อุกฺขลิปริปุฺฉนสทิสํ ชาตํ. โส าณสฺส ปริปกฺกตฺตา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ โจฬกฺขณฺฑํ ปกติยา ปริสุทฺธํ, อิมํ อุปาทิณฺณกสรีรํ นิสฺสาย กิลิฏฺํ อฺถา ชาตํ, ตสฺมา อนิจฺจํ ยถาเปตํ, เอวํ จิตฺตมฺปี’’ติ ขยวยํ ปฏฺเปตฺวา ตสฺมึเยว นิมิตฺเต ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปาทกํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๒.๓๕-๕๔) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

คณมฺหา วูปกฏฺโ โส, หิมวนฺเต วสี ตทา.

‘‘อหมฺปิ หิมวนฺตมฺหิ, วสามิ อสฺสเม ตทา;

อจิราคตํ มหาวีรํ, อุเปสึ โลกนายกํ.

‘‘ปุปฺผจฺฉตฺตํ คเหตฺวาน, อุปคจฺฉึ นราสภํ;

สมาธึ สมาปชฺชนฺตํ, อนฺตรายมกาสหํ.

‘‘อุโภ หตฺเถหิ ปคฺคยฺห, ปุปฺผจฺฉตฺตํ อทาสหํ;

ปฏิคฺคเหสิ ภควา, ปทุมุตฺตโร มหามุนิ.

‘‘สพฺเพ เทวา อตฺตมนา, หิมวนฺตํ อุเปนฺติ เต;

สาธุการํ ปวตฺเตสุํ, อนุโมทิสฺสติ จกฺขุมา.

‘‘อิทํ วตฺวาน เต เทวา, อุปคจฺฉุํ นรุตฺตมํ;

อากาเส ธารยนฺตสฺส, ปทุมจฺฉตฺตมุตฺตมํ.

‘‘สตปตฺตฉตฺตํ ปคฺคยฺห, อทาสิ ตาปโส มม;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘ปฺจวีสติกปฺปานิ, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

จตุตฺตึสติกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.

‘‘ยํ ยํ โยนึ สํสรติ, เทวตฺตํ อถ มานุสํ;

อพฺโภกาเส ปติฏฺนฺตํ, ปทุมํ ธารยิสฺสติ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ปกาสิเต ปาวจเน, มนุสฺสตฺตํ ลภิสฺสติ;

มโนมยมฺหิ กายมฺหิ, อุตฺตโม โส ภวิสฺสติ.

‘‘ทฺเว ภาตโร ภวิสฺสนฺติ, อุโภปิ ปนฺถกวฺหยา;

อนุโภตฺวา อุตฺตมตฺถํ, โชตยิสฺสนฺติ สาสนํ.

‘‘โสหํ อฏฺารสวสฺโส, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

วิเสสาหํ น วินฺทามิ, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.

‘‘ทนฺธา มยฺหํ คตี อาสิ, ปริภูโต ปุเร อหุํ;

ภาตา จ มํ ปณาเมสิ, คจฺฉ ทานิ สกํ ฆรํ.

‘‘โสหํ ปณามิโต สนฺโต, สงฺฆารามสฺส โกฏฺเก;

ทุมฺมโน ตตฺถ อฏฺาสึ, สามฺสฺมึ อเปกฺขวา.

‘‘ภควา ตตฺถ อาคจฺฉิ, สีสํ มยฺหํ ปรามสิ;

พาหาย มํ คเหตฺวาน, สงฺฆารามํ ปเวสยิ.

‘‘อนุกมฺปาย เม สตฺถา, อทาสิ ปาทปุฺฉนึ;

เอวํ สุทฺธํ อธิฏฺเหิ, เอกมนฺตมธิฏฺหํ.

‘‘หตฺเถหิ ตมหํ คยฺห, สรึ โกกนทํ อหํ;

ตตฺถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, อรหตฺตํ อปาปุณึ.

‘‘มโนมเยสุ กาเยสุ, สพฺพตฺถ ปารมึ คโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตมคฺเคเนวสฺส เตปิฏกํ ปฺจาภิฺา จ อาคมึสุ. สตฺถา เอเกน อูเนหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ คนฺตฺวา ชีวกสฺส นิเวสเน ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. จูฬปนฺถโก ปน อตฺตโน ภิกฺขาย อปฺปฏิจฺฉิตตฺตา เอว น คโต. ชีวโก ยาคุํ ทาตุํ อารภิ, สตฺถา ปตฺตํ หตฺเถน ปิทหิ. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ วุตฺเต – ‘‘วิหาเร เอโก ภิกฺขุ อตฺถิ, ชีวกา’’ติ. โส ปุริสํ ปหิณิ, ‘‘คจฺฉ, ภเณ, วิหาเร นิสินฺนํ อยฺยํ คเหตฺวา เอหี’’ติ. จูฬปนฺถกตฺเถโรปิ รูเปน กิริยาย จ เอกมฺปิ เอเกน อสทิสํ ภิกฺขุสหสฺสํ นิมฺมินิตฺวา นิสีทิ. โส ปุริโส วิหาเร ภิกฺขูนํ พหุภาวํ ทิสฺวา คนฺตฺวา ชีวกสฺส กเถสิ – ‘‘อิมสฺมา ภิกฺขุสงฺฆา วิหาเร ภิกฺขุสงฺโฆ พหุตโร, ปกฺโกสิตพฺพํ อยฺยํ น ชานามี’’ติ. ชีวโก สตฺถารํ ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘โกนาโม, ภนฺเต, วิหาเร นิสินฺโน ภิกฺขู’’ติ? ‘‘จูฬปนฺถโก นาม, ชีวกา’’ติ. ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ‘จูฬปนฺถโก นาม กตโร’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ อาเนหี’’ติ. โส วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘จูฬปนฺถโก นาม กตโร, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ จูฬปนฺถโก’’,‘‘อหํ จูฬปนฺถโก’’ติ เอกปหาเรเนว ภิกฺขุสหสฺสมฺปิ กเถสิ. โส ปุนาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ ชีวกสฺส อาโรเจสิ. ชีวโก ปฏิวิทฺธสจฺจตฺตา ‘‘อิทฺธิมา มฺเ, อยฺโย’’ติ นยโต ตฺวา ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ปมํ กถนกมยฺยเมว ‘ตุมฺเห สตฺถา ปกฺโกสตี’ติ วตฺวา จีวรกณฺเณ คณฺหา’’ติ อาห. โส วิหารํ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ, ตาวเทว นิมฺมิตภิกฺขู อนฺตรธายึสุ. โส เถรํ คเหตฺวา อคมาสิ.

สตฺถา ตสฺมึ ขเณ ยาคุฺจ ขชฺชกาทิเภทฺจ ปฏิคฺคณฺหิ. ทสพเล ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ คเต ธมฺมสภายํ กถา อุทปาทิ – ‘‘อโห พุทฺธานํ อานุภาโว, ยตฺร หิ นาม จตฺตาโร มาเส เอกคาถํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตมฺปิ ลหุเกน ขเณเนว เอวํ มหิทฺธิกํ อกํสู’’ติ. สตฺถา เตสํ ภิกฺขูนํ กถาสลฺลาปํ สุตฺวา อาคนฺตฺวา พุทฺธาสเน นิสชฺช, ‘‘กึ วเทถ, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อิมํ นาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, จูฬปนฺถเกน อิทานิ มยฺหํ โอวาเท ตฺวา โลกุตฺตรทายชฺชํ ลทฺธํ, ปุพฺเพ ปน โลกิยทายชฺช’’นฺติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต จูฬเสฏฺิชาตกํ (ชา. ๑.๑.๔) กเถสิ. อปรภาเค ตํ สตฺถา อริยคณปริวุโต ธมฺมาสเน นิสินฺโน มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินนฺตานํ ภิกฺขูนํ เจโตวิวฏฺฏกุสลานฺจ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส อปเรน สมเยน ภิกฺขูหิ ‘‘ตถา ทนฺธธาตุเกน กถํ ตยา สจฺจานิ ปฏิวิทฺธานี’’ติ ปุฏฺโ ภาตุ ปณามนโต ปฏฺาย อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปกาเสนฺโต –

๕๕๗.

‘‘ทนฺธา มยฺหํ คตี อาสิ, ปริภูโต ปุเร อหํ;

ภาตา จ มํ ปณาเมสิ, คจฺฉ ทานิ ตุวํ ฆรํ.

๕๕๘.

‘‘โสหํ ปณามิโต สนฺโต, สงฺฆารามสฺส โกฏฺเก;

ทุมฺมโน ตตฺถ อฏฺาสึ, สาสนสฺมึ อเปกฺขวา.

๕๕๙.

‘‘ภควา ตตฺถ อาคจฺฉิ, สีสํ มยฺหํ ปรามสิ;

พาหาย มํ คเหตฺวาน, สงฺฆารามํ ปเวสยิ.

๕๖๐.

‘‘อนุกมฺปาย เม สตฺถา, ปาทาสิ ปาทปุฺฉนึ;

เอตํ สุทฺธํ อธิฏฺเหิ, เอกมนฺตํ สฺวธิฏฺิตํ.

๕๖๑.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหาสึ สาสเน รโต;

สมาธึ ปฏิปาเทสึ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา.

๕๖๒.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๕๖๓.

‘‘สหสฺสกฺขตฺตุมตฺตานํ, นิมฺมินิตฺวาน ปนฺถโก;

นิสีทมฺพวเน รมฺเม, ยาว กาลปฺปเวทนา.

๕๖๔.

‘‘ตโต เม สตฺถา ปาเหสิ, ทูตํ กาลปฺปเวทกํ;

ปเวทิตมฺหิ กาลมฺหิ, เวหาสาทุปสงฺกมึ.

๕๖๕.

‘‘วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, เอกมนฺตํ นิสีทหํ;

นิสินฺนํ มํ วิทิตฺวาน, อตฺถ สตฺถา ปฏิคฺคหิ.

๕๖๖.

‘‘อายาโค สพฺพโลกสฺส, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

ปุฺกฺเขตฺตํ มนุสฺสานํ, ปฏิคฺคณฺหิตฺถ ทกฺขิณ’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ทนฺธาติ, มนฺทา, จตุปฺปทิกํ คาถํ จตูหิ มาเสหิ คเหตุํ อสมตฺถภาเวน ทุพฺพลา. คตีติ าณคติ. อาสีติ, อโหสิ. ปริภูโตติ, ตโต เอว ‘‘มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน’’ติ หีฬิโต. ปุเรติ, ปุพฺเพ ปุถุชฺชนกาเล. ภาตา จาติ สมุจฺจยตฺโถ จ-สทฺโท, น เกวลํ ปริภูโตว, อถ โข ภาตาปิ มํ ปณาเมสิ, ‘‘ปนฺถก, ตฺวํ ทุปฺปฺโ อเหตุโก มฺเ, ตสฺมา ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปตุํ อสมตฺโถ, น อิมสฺส สาสนสฺส อนุจฺฉวิโก, คจฺฉ ทานิ ตุยฺหํ อยฺยกฆร’’นฺติ นิกฺกฑฺเฒสิ. ภาตาติ, ภาตรา.

โกฏฺเกติ, ทฺวารโกฏฺกสมีเป. ทุมฺมโนติ, โทมนสฺสิโต. สาสนสฺมึ อเปกฺขวาติ, สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน สาเปกฺโข อวิพฺภมิตุกาโม.

ภควา ตตฺถ อาคจฺฉีติ, มหากรุณาสฺโจทิตมานโส มํ อนุคฺคณฺหนฺโต ภควา ยตฺถาหํ ิโต, ตตฺถ อาคจฺฉิ. อาคนฺตฺวา จ, ‘‘ปนฺถก, อหํ เต สตฺถา, น มหาปนฺถโก, มํ อุทฺทิสฺส ตว ปพฺพชฺชา’’ติ สมสฺสาเสนฺโต สีสํ มยฺหํ ปรามสิ ชาลาพนฺธนมุทุตลุนปีณวรายตงฺคุลิสมุปโสภิเตน วิกสิตปทุมสสฺสิรีเกน จกฺกงฺกิเตน หตฺถตเลน ‘‘อิทานิเยว มม ปุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ ทีเปนฺโต มยฺหํ สีสํ ปรามสิ. พาหาย มํ คเหตฺวานาติ, ‘‘กสฺมา ตฺวํ, อิธ ติฏฺสี’’ติ จนฺทนคนฺธคนฺธินา อตฺตโน หตฺเถน มํ ภุเช คเหตฺวา อนฺโตสงฺฆารามํ ปเวเสสิ. ปาทาสิ ปาทปุฺฉนินฺติ ปาทปุฺฉนึ กตฺวา ปาทาสิ ‘‘รโชหรณนฺติ มนสิ กโรหี’’ติ อทาสีติ อตฺโถ. ‘‘อทาสี’’ติ ‘‘ปาทปุฺฉนิ’’นฺติ จ ปนฺติ. เกจิ ปน ‘‘ปาทปุฺฉนิ’’นฺติ ปาทปุฺฉนโจฬกฺขณฺฑํ ปาทาสี’’ติ วทนฺติ. ตทยุตฺตํ อิทฺธิยา อภิสงฺขริตฺวา โจฬกฺขณฺฑสฺส ทินฺนตฺตา. เอตํ สุทฺธํ อธิฏฺเหิ, เอกมนฺตํ สฺวธิฏฺิตนฺติ, เอตํ สุทฺธํ โจฬกฺขณฺฑํ ‘‘รโชหรณํ, รโชหรณ’’นฺติ มนสิกาเรน สฺวธิฏฺิตํ กตฺวา เอกมนฺตํ เอกมนฺเต วิวิตฺเต คนฺธกุฏิปมุเข นิสินฺโน อธิฏฺเหิ ตถา จิตฺตํ สมาหิตํ กตฺวา ปวตฺเตหิ.

ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวาติ, ตสฺส ภควโต วจนํ โอวาทํ อหํ สุตฺวา ตสฺมึ สาสเน โอวาเท รโต อภิรโต หุตฺวา วิหาสึ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชึ. ปฏิปชฺชนฺโต จ สมาธึ ปฏิปาเทสึ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยาติ, อุตฺตมตฺโถ นาม อรหตฺตํ, ตสฺส อธิคมาย กสิณปริกมฺมวเสน รูปชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปาทกํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อคฺคมคฺคสมาธึ สมฺปาเทสินฺติ อตฺโถ. เอตฺถ หิ สมาธีติ อุปจารสมาธิโต ปฏฺาย ยาว จตุตฺถมคฺคสมาธิ, ตาว สมาธิสามฺเน คหิโต, อคฺคผลสมาธิ ปน อุตฺตมตฺถคฺคหเณน, สาติสยํ เจวายํ สมาธิกุสโล, ตสฺมา ‘‘สมาธึ ปฏิปาเทสิ’’นฺติ อาห. สมาธิกุสลตาย หิ อยมายสฺมา เจโตวิวฏฺฏกุสโล นาม ชาโต, มหาปนฺถกตฺเถโร ปน วิปสฺสนากุสลตาย สฺาวิวฏฺฏกุสโล นาม. เอโก เจตฺถ สมาธิลกฺขเณ เฉโก, เอโก วิปสฺสนาลกฺขเณ, เอโก สมาธิคาฬฺโห, เอโก วิปสฺสนาคาฬฺโห เอโก องฺคสํขิตฺเต เฉโก, เอโก อารมฺมณสํขิตฺเต, เอโก องฺคววตฺถาเน, เอโก อารมฺมณววตฺถาเนติ วณฺเณนฺติ. อปิจ จูฬปนฺถกตฺเถโร สาติสยํ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ ลาภิตาย เจโตวิวฏฺฏกุสโล วุตฺโต, มหาปนฺถกตฺเถโร สาติสยํ จตุนฺนํ อรูปาวจรชฺฌานานํ ลาภิตาย สฺาวิวฏฺฏกุสโล. ปโม วา รูปาวจรชฺฌานลาภี หุตฺวา ฌานงฺเคหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺโตติ เจโตวิวฏฺฏกุสโล, อิตโร อรูปาวจรชฺฌานลาภี หุตฺวา ฌานงฺเคหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺโตติ สฺาวิวฏฺฏกุสโล. มโนมยํ ปน กายํ นิพฺพตฺเตนฺโต อฺเ ตโย วา จตฺตาโร วา นิพฺพตฺตนฺติ, น พหุเก, เอกสทิเสเยว จ กตฺวา นิพฺพตฺเตนฺติ, เอกวิธเมว กมฺมํ กุรุมาเน. อยํ ปน เถโร เอกาวชฺชเนน สมณสหสฺสํ มาเปสิ, ทฺเวปิ น กาเยน เอกสทิเส อกาสิ, น เอกวิธํ กมฺมํ กุรุมาเน. ตสฺมา มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินนฺตานํ อคฺโค นาม ชาโต.

อิทานิ อตฺตโน อธิคตวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามี’’ติอาทิมาห. กามฺจายํ เถโร ฉฬภิฺโ, ยา ปน อภิฺา อาสวกฺขยาณาธิคมสฺส พหูปการา, ตํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิต’’นฺติ วตฺวา ‘‘ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺเพนิวาสยถากมฺมุปคอนาคตํสาณานิ หิ วิปสฺสนาจารสฺส พหูปการานิ, น ตถา อิตราณานิ.

สหสฺสกฺขตฺตุนฺติ สหสฺสํ. ‘‘สหสฺสวาร’’นฺติ เกจิ วทนฺติ. เอกาวชฺชเนน ปน เถโร สหสฺเส มโนมเย กาเย นิมฺมินิ, น วาเรน. เต จ โข อฺมฺมสทิเส วิวิธฺจ กมฺมํ กโรนฺเต. ‘‘กึ ปน สาวกานมฺปิ เอวรูปํ อิทฺธินิมฺมานํ สมฺภวตี’’ติ? น สมฺภวติ สพฺเพสํ, อภินีหารสมฺปตฺติยา ปน อยเมว เถโร เอวมกาสิ, ตถา เหส อิมินา องฺเคน เอตทคฺเค ปิโต. ปนฺถโก นิสีทีติ อตฺตานเมว ปรํ วิย วทติ. อมฺพวเนติ, อมฺพวเน ชีวเกน กตวิหาเร. เวหาสาทุปสงฺกมินฺติ เวหาสาติ กรเณ นิสฺสกฺกวจนํ, เวหาเสนาติ อตฺโถ, -กาโร ปทสนฺธิกโร. อถาติ, มม นิสชฺชาย ปจฺฉา. ปฏิคฺคหีติ ทกฺขิโณทกํ ปฏิคฺคณฺหิ. อายาโค สพฺพโลกสฺสาติ, สพฺพสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺยตาย เทยฺยธมฺมํ อาเนตฺวา ยชิตพฺพฏฺานภูโต. อาหุตีนํ ปฏิคฺคโหติ, มหาผลภาวกรเณน ทกฺขิณาหุตีนํ ปฏิคฺคณฺหโก. ปฏิคฺคณฺหิตฺถ ทกฺขิณนฺติ ชีวเกน อุปนีตํ ยาคุขชฺชาทิเภทํ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคเหสิ.

อถ โข ภควา กตภตฺตกิจฺโจ อายสฺมนฺตํ จูฬปนฺถกํ อาณาเปสิ – ‘‘อนุโมทนํ กโรหี’’ติ. โส สิเนรุํ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ มนฺเถนฺโต วิย ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตตาย เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สงฺโขเภนฺโต สตฺถุ อชฺฌาสยํ คณฺหนฺโต อนุโมทนํ อกาสิ. ตถา อุปนิสฺสยสมฺปนฺโนปิ จายมายสฺมา ตถารูปาย กมฺมปิโลติกาย ปริพาธิโต จตุปฺปทิกํ คาถํ จตูหิปิ มาเสหิ คเหตุํ นาสกฺขิ. ตํ ปนสฺส อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา สตฺถา ปุพฺพจริยานุรูปํ โยนิโสมนสิกาเร นิโยเชสิ. ตถา หิ ภควา ตทา ชีวกสฺส นิเวสเน นิสินฺโน เอว ‘‘จูฬปนฺถกสฺส จิตฺตํ สมาหิตํ, วีถิปฏิปนฺนา วิปสฺสนา’’ติ ตฺวา ยถานิสินฺโนว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา, ‘‘ปนฺถก, ยทิปายํ ปิโลติกา สํกิลิฏฺา รชานุกิณฺณา, อิโต ปน อฺโ เอว อริยสฺส วินเย สํกิเลโส รโช จาติ ทสฺเสนฺโต –

‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ, ราคสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;

เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺวา ภิกฺขโว, วิหรนฺติ เต วีตรชสฺส สาสเน.

‘‘โทโส รโช…เป… สาสเน.

‘‘โมโห รโช…เป… วีตรชสฺส สาสเน’’ติ. –

อิมา ติสฺโส โอภาสคาถา อภาสิ. คาถาปริโยสาเน จูฬปนฺถโก อภิฺาปฏิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ ปาปุณีติ.

จูฬปนฺถกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. กปฺปตฺเถรคาถาวณฺณนา

นานากุลมลสมฺปุณฺโณติอาทิกา อายสฺมโต กปฺปตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปิตุ อจฺจเยน วิฺุตํ ปตฺโต นานาวิราควณฺณวิจิตฺเตหิ วตฺเถหิ อเนกวิเธหิ อาภรเณหิ นานาวิเธหิ มณิรตเนหิ พหุวิเธหิ ปุปฺผทามมาลาทีหิ จ กปฺปรุกฺขํ นาม อลงฺกริตฺวา เตน สตฺถุ ถูปํ ปูเชสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มคธรฏฺเ มณฺฑลิกราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺิโต กาเมสุ อติวิย รตฺโต คิทฺโธ หุตฺวา วิหรติ. ตํ สตฺถา มหากรุณาสมาปตฺติโต วุฏฺาย โลกํ โวโลเกนฺโต าณชาเล ปฺายมานํ ทิสฺวา, ‘‘กึ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต, ‘‘เอส มม สนฺติเก อสุภกถํ สุตฺวา กาเมสุ วิรตฺตจิตฺโต หุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ ตฺวา อากาเสน ตตฺถ คนฺตฺวา –

๕๖๗.

‘‘นานากุลมลสมฺปุณฺโณ, มหาอุกฺการสมฺภโว;

จนฺทนิกํว ปริปกฺกํ, มหาคณฺโฑ มหาวโณ.

๕๖๘.

‘‘ปุพฺพรุหิรสมฺปุณฺโณ, คูถกูเปน คาฬฺหิโต;

อาโปปคฺฆรโณ กาโย, สทา สนฺทติ ปูติกํ.

๕๖๙.

‘‘สฏฺิกณฺฑรสมฺพนฺโธ, มํสเลปนเลปิโต;

จมฺมกฺจุกสนฺนทฺโธ, ปูติกาโย นิรตฺถโก.

๕๗๐.

‘‘อฏฺิสงฺฆาตฆฏิโต, นฺหารุสุตฺตนิพนฺธโน;

เนเกสํ สํคตีภาวา, กปฺเปติ อิริยาปถํ.

๕๗๑.

‘‘ธุวปฺปยาโต มรณาย, มจฺจุราชสฺส สนฺติเก;

อิเธว ฉฑฺฑยิตฺวาน, เยนกามงฺคโม นโร.

๕๗๒.

‘‘อวิชฺชาย นิวุโต กาโย, จตุคนฺเถน คนฺถิโต;

โอฆสํสีทโน กาโย, อนุสยาชาลโมตฺถโต.

๕๗๓.

‘‘ปฺจนีวรเณ ยุตฺโต, วิตกฺเกน สมปฺปิโต;

ตณฺหามูเลนานุคโต, โมหจฺฉาทนฉาทิโต.

๕๗๔.

‘‘เอวายํ วตฺตเต กาโย, กมฺมยนฺเตน ยนฺติโต;

สมฺปตฺติ จ วิปตฺยนฺตา, นานาภาโว วิปชฺชติ.

๕๗๕.

‘‘เยมํ กายํ มมายนฺติ, อนฺธพาลา ปุถุชฺชนา;

วฑฺเฒนฺติ กฏสึ โฆรํ, อาทิยนฺติ ปุนพฺภวํ.

๕๗๖.

‘‘เยมํ กายํ วิวชฺเชนฺติ, คูถลิตฺตํว ปนฺนคํ;

ภวมูลํ วมิตฺวาน, ปรินิพฺพิสฺสนฺตินาสวา’’ติ. –

อิมาหิ คาถาหิ ตสฺส อสุภกถํ กเถสิ. โส สตฺถุ สมฺมุขา อเนกาการโวการํ ยาถาวโต สรีรสภาววิภาวนํ อสุภกถํ สุตฺวา สเกน กาเยน อฏฺฏียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน สํวิคฺคหทโย สตฺถารํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺช’’นฺติ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา สมีเป ิตมฺตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภิกฺขุ, อิมํ ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา อาเนหี’’ติ. โส ตํ ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ขุรคฺเคเยว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เตร ๑.๔.๑๐๒-๑๐๗) –

‘‘สิทฺธตฺถสฺส ภควโต, ถูปเสฏฺสฺส สมฺมุขา;

วิจิตฺตทุสฺเส ลเคตฺวา, กปฺปรุกฺขํ เปสหํ.

‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, เทวตฺตํ อถ มานุสํ;

โสภยนฺโต มม ทฺวารํ, กปฺปรุกฺโข ปติฏฺติ.

‘‘อหฺจ ปริสา เจว, เย เกจิ มมวสฺสิตา;

ตมฺหา ทุสฺสํ คเหตฺวาน, นิวาเสม มยํ สทา.

‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ รุกฺขํ ปยึ อหํ;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, กปฺปรุกฺขสฺสิทํ ผลํ.

‘‘อิโต จ สตฺตเม กปฺเป, สุเจฬา อฏฺ ขตฺติยา;

สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน อฺํ พฺยากโรนฺโต ตา เอว คาถา อภาสิ. เตเนว ตา เถรคาถา นาม ชาตา.

ตตฺถ นานากุลมลสมฺปุณฺโณติ, นานากุเลหิ นานาภาเคหิ มเลหิ สมฺปุณฺโณ, เกสโลมาทินานาวิธอสุจิโกฏฺาสภริโตติ อตฺโถ. มหาอุกฺการสมฺภโวติ, อุกฺกาโร วุจฺจติ วจฺจกูปํ. ยตฺตกวยา มาตา, ตตฺตกํ กาลํ การปริเสทิตวจฺจกูปสทิสตาย มาตุ กุจฺฉิ อิธ ‘‘มหาอุกฺกาโร’’ติ อธิปฺเปโต. โส กุจฺฉิ สมฺภโว อุปฺปตฺติฏฺานํ เอตสฺสาติ มหาอุกฺการสมฺภโว. จนฺทนิกํวาติ จนฺทนิกํ นาม อุจฺฉิฏฺโทกคพฺภมลาทีนํ ฉฑฺฑนฏฺานํ, ยํ ชณฺณุมตฺตํ อสุจิภริตมฺปิ โหติ, ตาทิสนฺติ อตฺโถ. ปริปกฺกนฺติ, ปริณตํ ปุราณํ. เตน ยถา จณฺฑาลคามทฺวาเร นิทาฆสมเย ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต อุทเกน สมุปพฺยูฬฺหมุตฺตกรีสอฏฺิจมฺมนฺหารุขณฺฑเขฬสิงฺฆาณิกาทินานากุณปภริตํ กทฺทโมทกาลุฬิตํ กติปยทิวสาติกฺกเมน สํชาต กิมิกุลากุลํ สูริยาตปสนฺตาปกุถิตํ อุปริ เผณปุพฺพุฬกานิ มุฺจนฺตํ อภินีลวณฺณํ ปรมทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ จนฺทนิกาวาฏํ เนว อุปคนฺตุํ, น ทฏฺุํ อรหรูปํ หุตฺวา ติฏฺติ, ตถารูโปยํ กาโยติ ทสฺเสติ. สทา ทุกฺขตามูลโยคโต อสุจิปคฺฆรณโต อุปฺปาทชรามรเณหิ อุทฺธุมายนปริปจฺจนภิชฺชนสภาวตฺตา จ มหนฺโต คณฺโฑ วิยาติ มหาคณฺโฑ. สพฺพตฺถกเมว ทุกฺขเวทนานุพทฺธตฺตา คณฺฑานํ สหนโต อสุจิวิสฺสนฺทนโต จ มหนฺโต วโณ วิยาติ มหาวโณ คูถกูเปน คาฬิโตติ, วจฺจกูเปน วจฺเจเนว วา ภริโต. ‘‘คูถกูปนิคาฬฺหิโต’’ติปิ ปาฬิ, วจฺจกูปโต นิกฺขนฺโตติ อตฺโถ. อาโปปคฺฆรโณ กาโย, สทา สนฺทติ ปูติกนฺติ, อยํ กาโย อาโปธาตุยา สทา ปคฺฆรณสีโล, ตฺจ โข ปิตฺตเสมฺหเสทมุตฺตาทิกํ ปูติกํ อสุจึเยว สนฺทติ, น กทาจิ สุจินฺติ อตฺโถ.

สฏฺิกณฺฑรสมฺพนฺโธติ, คีวาย อุปริมภาคโต ปฏฺาย สรีรํ วินทฺธมานา สรีรสฺส ปุริมปจฺฉิมทกฺขิณวามปสฺเสสุ ปจฺเจกํ ปฺจ ปฺจ กตฺวา วีสติ, หตฺถปาเท วินทฺธมานา เตสํ ปุริมปจฺฉิมปสฺเสสุ ปฺจ ปฺจ กตฺวา จตฺตาลีสาติ สฏฺิยา กณฺฑเรหิ มหานฺหารูหิ สพฺพโส พทฺโธ วินทฺโธติ สฏฺิกณฺฑรสมฺพนฺโธ. มํสเลปนเลปิโตติ, มํสสงฺขาเตน เลปเนน ลิตฺโต, นวมํสเปสิสตานุลิตฺโตติ อตฺโถ. จมฺมกฺจุกสนฺนทฺโธติ, จมฺมสงฺขาเตน กฺจุเกน สพฺพโส โอนทฺโธ ปริโยนทฺโธ ปริจฺฉินฺโน. ปูติกาโยติ, สพฺพโส ปูติคนฺธิโก กาโย. นิรตฺถโกติ, นิปฺปโยชโน. อฺเสฺหิ ปาณีนํ กาโย จมฺมาทิวินิโยเคน สิยา สปฺปโยชโน, น ตถา มนุสฺสกาโยติ. อฏฺิสงฺฆาตฆฏิโตติ, อติเรกติสตานํ อฏฺีนํ สงฺฆาเตน ฆฏิโต สมฺพนฺโธ. นฺหารุสุตฺตนิพนฺธโนติ, สุตฺตสทิเสหิ นวหิ นฺหารุสเตหิ นิพนฺธิโต. เนเกสํ สํคตีภาวาติ, จตุมหาภูตชีวิตินฺทฺริยอสฺสาสปสฺสาสวิฺาณาทีนํ สมวายสมฺพนฺเธน สุตฺตเมรกสมวาเยน ยนฺตํ วิย านาทิอิริยาปถํ กปฺเปติ.

ธุวปฺปยาโต มรณายาติ, มรณสฺส อตฺถาย เอกนฺตคมโน, นิพฺพตฺติโต ปฏฺาย มรณํ ปติ ปวตฺโต. ตโต เอว มจฺจุราชสฺส มรณสฺส สนฺติเก ิโต. อิเธว ฉฑฺฑยิตฺวานาติ, อิมสฺมึเยว โลเก กายํ ฉฑฺเฑตฺวา, ยถารุจิตฏฺานคามี อยํ สตฺโต, ตสฺมา ‘‘ปหาย คมนีโย อยํ กาโย’’ติ เอวมฺปิ สงฺโค น กาตพฺโพติ ทสฺเสติ.

อวิชฺชาย นิวุโตติ, อวิชฺชานีวรเณน นิวุโต ปฏิจฺฉาทิตาทีนโว, อฺถา โก เอตฺถ สงฺคํ ชเนยฺยาติ อธิปฺปาโย. จตุคนฺเถนาติ, อภิชฺฌากายคนฺถาทินา จตุพฺพิเธน คนฺเถน คนฺถิโต, คนฺถนิยภาเวน วินทฺธิโต. โอฆสํสีทโนติ, โอฆนิยภาเวน กาโมฆาทีสุ จตูสุ โอเฆสุ สํสีทนโก. อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน อนุ อนุ เสนฺตีติ อนุสยา, กามราคาทโย อนุสยา. เตสํ ชาเลน โอตฺถโต อภิภูโตติ อนุสยาชาลโมตฺถโต. มกาโร ปทสนฺธิกโร, คาถาสุขตฺถํ ทีฆํ กตฺวา วุตฺตํ. กามจฺฉนฺทาทินา ปฺจวิเธน นีวรเณน ยุตฺโต อธิมุตฺโตติ ปฺจนีวรเณ ยุตฺโต, กรณตฺเถ ภุมฺมวจนํ.

กามวิตกฺกาทินา มิจฺฉาวิตกฺเกน สมปฺปิโต สมสฺสิโตติ วิตกฺเกน สมปฺปิโต. ตณฺหามูเลนานุคโตติ, ตณฺหาสงฺขาเตน ภวมูเลน อนุพทฺโธ. โมหจฺฉาทนฉาทิโตติ, สมฺโมหสงฺขาเตน อาวรเณน ปลิคุณฺิโต. สพฺพเมตํ สวิฺาณกํ กรชกายํ สนฺธาย วทติ. สวิฺาณโก หิ อตฺตภาโว ‘‘อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส กาโย ติฏฺติ, อยฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูป’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑.๑๔๗) กาโยติ วุจฺจติ, เอวายํ วตฺตเต กาโยติ เอวํ ‘‘นานากุลมลสมฺปุณฺโณ’’ติอาทินา ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต’’ติอาทินา จ วุตฺตปฺปกาเรน อยํ กาโย วตฺตติ, วตฺตนฺโต จ กมฺมยนฺเตน สุกตทุกฺกเฏน กมฺมสงฺขาเตน ยนฺเตน ยนฺติโต สงฺฆฏิโต. ยถา วา เขมนฺตํ คนฺตุํ น สกฺโกติ, ตถา สงฺโขภิโต สุคติทุคฺคตีสุ วตฺตติ ปริพฺภมติ. สมฺปตฺติ จ วิปตฺยนฺตาติ ยา เอตฺถ สมฺปตฺติ, สา วิปตฺติปริโยสานา. สพฺพฺหิ โยพฺพนํ ชราปริโยสานํ, สพฺพํ อาโรคฺยํ พฺยาธิปริโยสานํ, สพฺพํ ชีวิตํ มรณปริโยสานํ, สพฺโพ สมาคโม วิโยคปริโยสาโน. เตนาห ‘‘นานาภาโว วิปชฺชตี’’ติ. นานาภาโวติ, วินาภาโว วิปฺปโยโค, โส กทาจิ วิปฺปยุฺชกสฺส วเสน, กทาจิ วิปฺปยุฺชิตพฺพสฺส วเสนาติ วิวิธํ ปชฺชติ ปาปุณียติ.

เยมํ กายํ มมายนฺตีติ เย อนฺธพาลา ปุถุชฺชนา เอวํ อสุภํ อนิจฺจํ อธุวํ ทุกฺขํ อสารํ อิมํ กายํ ‘‘มม อิท’’นฺติ คณฺหนฺตา มมายนฺติ ฉนฺทราคํ อุปฺปาเทนฺติ, เต ชาติอาทีหิ นิรยาทีหิ จ โฆรํ ภยานกํ อปณฺฑิเตหิ อภิรมิตพฺพโต กฏสิสงฺขาตํ สํสารํ ปุนปฺปุนํ ชนนมรณาทีหิ วฑฺเฒนฺติ, เตนาห ‘‘อาทิยนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.

เยมํ กายํ วิวชฺเชนฺติ, คูถลิตฺตํว ปนฺนคนฺติ ยถา นาม ปุริโส สุขกาโม ชีวิตุกาโม คูถคตํ อาสีวิสํ ทิสฺวา ชิคุจฺฉนิยตาย วา สปฺปฏิภยตาย วา วิวชฺเชติ น อลฺลียติ, เอวเมวํ เย ปณฺฑิตา กุลปุตฺตา อสุจิภาเวน เชคุจฺฉํ อนิจฺจาทิภาเวน สปฺปฏิภยํ อิมํ กายํ วิวชฺเชนฺติ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหนฺติ. เต ภวมูลํ อวิชฺชํ ภวตณฺหฺจ วมิตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา อจฺจนฺตเมว ปหาย ตโต เอว สพฺพโส อนาสวา สอุปาทิเสสาย อนุปาทิเสสาย จ นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิสฺสนฺตีติ.

กปฺปตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. วงฺคนฺตปุตฺตอุปเสนตฺเถรคาถาวณฺณนา

วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติอาทิกา อายสฺมโต อุปเสนตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณมาโน สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สมนฺตปาสาทิกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สตฺถุ อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท นาลกคาเม รูปสารีพฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, อุปเสโนติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปทาย เอกวสฺสิโก ‘‘อริยคพฺภํ วฑฺเฒมี’’ติ เอกํ กุลปุตฺตํ อตฺตโน สนฺติเก อุปสมฺปาเทตฺวา เตน สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ คโต. สตฺถารา จสฺส ตสฺส อวสฺสิกสฺส ภิกฺขุโน สทฺธิวิหาริกภาวํ สุตฺวา, ‘‘อติลหุํ โข ตฺวํ, โมฆปุริส, พาหุลฺลาย อาวตฺโต’’ติ (มหาว. ๗๕) ครหิโต. ‘‘อิทานาหํ ยทิปิ ปริสํ นิสฺสาย สตฺถารา ครหิโต, ปริสํเยว ปน นิสฺสาย สตฺถุ ปาสํโสปิ ภวิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๒.๘๖-๙๖) –

‘‘ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ, โลกเชฏฺํ นราสภํ;

ปพฺภารมฺหิ นิสีทนฺตํ, อุปคจฺฉึ นรุตฺตมํ.

‘‘กณิการปุปฺผํ ทิสฺวา, วณฺเฏ เฉตฺวานหํ ตทา;

อลงฺกริตฺวา ฉตฺตมฺหิ, พุทฺธสฺส อภิโรปยึ.

‘‘ปิณฺฑปาตฺจ ปาทาสึ, ปรมนฺนํ สุโภชนํ;

พุทฺเธน นวเม ตตฺถ, สมเณ อฏฺ โภชยึ.

‘‘อนุโมทิ มหาวีโร, สยมฺภู อคฺคปุคฺคโล;

อิมินา ฉตฺตทาเนน, ปรมนฺนปเวจฺฉนา.

‘‘เตน จิตฺตปฺปสาเทน, สมฺปตฺติมนุโภสฺสสิ;

ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชํ กริสฺสติ.

‘‘เอกวีสติกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘สาสเน ทิพฺพมานมฺหิ, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;

ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต.

‘‘อุปเสโนติ นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก;

สมนฺตปาสาทิกตฺตา, อคฺคฏฺาเน เปสฺสติ.

‘‘จริมํ วตฺตเต มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สยมฺปิ สพฺเพ ธุตงฺคธมฺเม สมาทาย วตฺตติ, อฺเปิ ตทตฺถาย สมาทเปติ, เตน นํ ภควา สมนฺตปาสาทิกานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส อปเรน สมเยน โกสมฺพิยํ กลเห อุปฺปนฺเน ภิกฺขุสงฺเฆ จ ทฺวิธาภูเต เอเกน ภิกฺขุนา ตํ กลหํ ปริวชฺชิตุกาเมน ‘‘เอตรหิ โข กลโห อุปฺปนฺโน, สงฺโฆ ทฺวิธาภูโต, กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ ปุฏฺโ วิเวกวาสโต ปฏฺาย ตสฺส ปฏิปตฺตึ กเถนฺโต –

๕๗๗.

‘‘วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสํ, วาฬมิคนิเสวิตํ;

เสเว เสนาสนํ ภิกฺขุ, ปฏิสลฺลานการณา.

๕๗๘.

‘‘สงฺการปุฺชา อาหตฺวา, สุสานา รถิยาหิ จ;

ตโต สงฺฆาฏิกํ กตฺวา, ลูขํ ธาเรยฺย จีวรํ.

๕๗๙.

‘‘นีจํ มนํ กริตฺวาน, สปทานํ กุลา กุลํ;

ปิณฺฑิกาย จเร ภิกฺขุ, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต.

๕๘๐.

‘‘ลูเขนปิ วา สนฺตุสฺเส, นาฺํ ปตฺเถ รสํ พหุํ;

รเสสุ อนุคิทฺธสฺส, ฌาเน น รมตี มโน.

๕๘๑.

‘‘อปฺปิจฺโฉ เจว สนฺตุฏฺโ, ปวิวิตฺโต วเส มุนิ;

อสํสฏฺโ คหฏฺเหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ.

๕๘๒.

‘‘ยถา ชโฬ ว มูโค ว, อตฺตานํ ทสฺสเย ตถา;

นาติเวลํ สมฺภาเสยฺย, สงฺฆมชฺฌมฺหิ ปณฺฑิโต.

๕๘๓.

‘‘น โส อุปวเท กฺจิ, อุปฆาตํ วิวชฺชเย;

สํวุโต ปาติโมกฺขสฺมึ, มตฺตฺู จสฺส โภชเน.

๕๘๔. ‘‘สุคฺคหีตนิมิตฺตสฺส, จิตฺตสฺสุปฺปาทโกวิโท.

สมถํ อนุยุฺเชยฺย, กาเลน จ วิปสฺสนํ.

๕๘๕.

‘‘วีริยสาตจฺจสมฺปนฺโน, ยุตฺตโยโค สทา สิยา;

น จ อปฺปตฺวา ทุกฺขนฺตํ, วิสฺสาสํ เอยฺย ปณฺฑิโต.

๕๘๖.

‘‘เอวํ วิหรมานสฺส, สุทฺธิกามสฺส ภิกฺขุโน;

ขียนฺติ อาสวา สพฺเพ, นิพฺพุติฺจาธิคจฺฉตี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ วิวิตฺตนฺติ, ชนวิวิตฺตํ สุฺํ อรฺาทึ. อปฺปนิคฺโฆสนฺติ, นิสฺสทฺทํ สทฺทสงฺฆฏฺฏนรหิตํ. วาฬมิคนิเสวิตนฺติ, สีหพฺยคฺฆทีปิวาฬมิเคหิ จริตํ. อิมินาปิ ชนวิเวกํเยว ทสฺเสติ ปนฺตเสนาสนภาวทีปนโต. เสนาสนนฺติ, สยิตุํ อาสยิตุฺจ ยุตฺตภาเวน วสนฏฺานํ อิธ เสนาสนนฺติ อธิปฺเปตํ. ปฏิสลฺลานการณาติ, ปฏิสลฺลานนิมิตฺตํ, นานารมฺมณโต นิวตฺเตตฺวา กมฺมฏฺาเนเยว จิตฺตสฺส ปฏิ ปฏิ สมฺมเทว อลฺลียนตฺถํ.

เอวํ ภาวนานุรูปํ เสนาสนํ นิทฺทิสนฺโต เสนาสเน สนฺโตสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จีวราทีสุปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สํการปุฺชา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สํการปุฺชาติ สํการานํ ปุฺชํ สํการปุฺชํ, ตโต กจวรฏฺานา. อาหตฺวาติ อาหริตฺวา. ตโตติ ตถา อาหฏโจฬกฺขณฺเฑหิ. กรเณ หิ อิทํ นิสฺสกฺกวจนํ ลูขนฺติ สตฺถลูขรชนลูขาทินา ลูขํ อวณฺณามฏฺํ. ธาเรยฺยาติ นิวาสนาทิวเสน ปริหเรยฺย, เอเตน จีวรสนฺโตสํ วทติ.

นีจ มนํ กริตฺวานาติ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกาน’’นฺติอาทิกํ (อิติวุ. ๙๑; สํ. นิ. ๓.๘๐) สุคโตวาทํ อนุสฺสริตฺวา นิหตมานทปฺปํ จิตฺตํ กตฺวา. สปทานนฺติ ฆเรสุ อวขณฺฑรหิตํ; อนุฆรนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘กุลา กุล’’นฺติ. กุลา กุลนฺติ กุลโต กุลํ, กุลานุปุพฺพิยา ฆรปฏิปาฏิยาติ อตฺโถ. ปิณฺฑิกายาติ มิสฺสกภิกฺขาย, อิมินา ปิณฺฑปาตสนฺโตสํ วทติ. คุตฺตทฺวาโรติ สุปิหิตจกฺขาทิทฺวาโร. สุสํวุโตติ หตฺถกุกฺกุจฺจาทีนํ อภาเวน สุฏฺุ สํวุโต.

ลูเขนปิ วาติ อปิสทฺโท สมุจฺจเย, วา-สทฺโท วิกปฺเป. อุภเยนปิ ลูเขนปิ อปฺเปนปิ เยน เกนจิ สุลเภน อิตรีตเรน สนฺตุสฺเส สมํ สมฺมา ตุสฺเสยฺย. เตนาห ‘‘นาฺํ ปตฺเถ รสํ พหุ’’นฺติ. นาฺํ ปตฺเถ รสํ พหุนฺติ อตฺตนา ยถาลทฺธโต อฺํ มธุราทิรสํ พหุํ ปณีตฺจ น ปตฺเถยฺย น ปิเหยฺย, อิมินา คิลานปจฺจเยปิ สนฺโตโส ทสฺสิโต โหติ. รเสสุ เคธวารณตฺถํ ปน การณํ วทนฺโต รเสสุ อนุคิทฺธสฺส, ฌาเน น รมตี มโน’’ติ อาห. อินฺทฺริยสํวรมฺปิ อปริปูเรนฺตสฺส กุโต วิกฺขิตฺตจิตฺตสมาธานนฺติ อธิปฺปาโย.

เอวํ จตูสุ ปจฺจเยสุ สลฺเลขปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวสิฏฺกถาวตฺถูนิ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปิจฺโฉ เจวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อปฺปิจฺโฉติ, อนิจฺโฉ จตูสุ ปจฺจเยสุ อิจฺฉารหิโต, เตน จตุพฺพิธปจฺจเยสุ ตณฺหุปฺปาทวิกฺขมฺภนมาห. สนฺตุฏฺโติ, จตูสุ ปจฺจเยสุ ยถาลาภสนฺโตสาทินา สนฺตุฏฺโ. โย หิ –

‘‘อตีตํ นานุโสเจยฺย, นปฺปชปฺเปยฺยนาคตํ;

ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปยฺย, โส ‘สนฺตุฏฺโ’ติ ปวุจฺจตี’’ติ.

ปวิวิตฺโตติ คณสงฺคณิกํ ปหาย กาเยน ปวิวิตฺโต วูปกฏฺโ. จิตฺตวิเวกาทิเก หิ ปรโต วกฺขติ. วเสติ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ. โมเนยฺยธมฺมสมนฺนาคเมน มุนิ. อสํสฏฺโติ ทสฺสนสวนสมุลฺลปนสมฺโภคกายสํสคฺคานํ อภาเวน อสํสฏฺโ ยถาวุตฺตสํสคฺครหิโต. อุภยนฺติ, คหฏฺเหิ อนาคาเรหิ จาติ อุภเยหิปิ อสํสฏฺโ. กรเณ หิ อิทํ ปจฺจตฺตวจนํ.

อตฺตานํ ทสฺสเย ตถาติ อชโฬ อมูโคปิ สมาโน ยถา ชโฬ วา มูโค วา, ตถา อตฺตานํ ทสฺเสยฺย, เอเตน ปาคพฺพิยปฺปหานมาห. ชโฬ ว มูโค วาติ จ คาถาสุขตฺถํ รสฺสตฺตํ กตํ, สมุจฺจยตฺโถ จ วาสทฺโท. นาติเวลํ สมฺภาเสยฺยาติ อติเวลํ อติกฺกนฺตปมาณํ น ภาเสยฺย, มตฺตภาณี อสฺสาติ อตฺโถ. สงฺฆมชฺฌมฺหีติ ภิกฺขุสงฺเฆ, ชนสมูเห วา.

น โส อุปวเท กฺจีติ โส ยถาวุตฺตปฏิปตฺติโก ภิกฺขุ หีนํ วา มชฺฌิมํ วา อุกฺกฏฺํ วา ยํกิฺจิ น วาจาย อุปวเทยฺย. อุปฆาตํ วิวชฺชเยติ กาเยน อุปฆาตํ ปริวิเหนํ วชฺเชยฺย. สํวุโต ปาติโมกฺขสฺมินฺติ ปาติโมกฺขมฺหิ ปาติโมกฺขสํวรสีเล สํวุโต อสฺส, ปาติโมกฺขสํวเรน ปิหิตกายวาโจ สิยาติ อตฺโถ. มตฺตฺู จสฺส โภชเนติ ปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภควิสฺสชฺชเนสุ โภชเน ปมาณฺู สิยา.

สุคฺคหีตนิมิตฺตสฺสาติ ‘‘เอวํ เม มนสิ กโรโต จิตฺตํ สมาหิตํ อโหสี’’ติ ตทาการํ สลฺลกฺเขนฺโต สุฏฺุ คหิตสมาธินิมิตฺโต อสฺส. ‘‘สุคฺคหีตนิมิตฺโต โส’’ติปิ ปาโ, โส โยคีติ อตฺโถ. จิตฺตสฺสุปฺปาทโกวิโทติ เอวํ ภาวยโต จิตฺตํ ลีนํ โหติ, ‘‘เอวํ อุทฺธต’’นฺติ ลีนสฺส อุทฺธตสฺส จ จิตฺตสฺส อุปฺปตฺติการเณ กุสโล อสฺส. ลีเน หิ จิตฺเต ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคา ภาเวตพฺพา, อุทฺธเต ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคา. สติสมฺโพชฺฌงฺโค ปน สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺโพ. เตนาห ภควา – ‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). สมถํ อนุยุฺเชยฺยาติ สมถภาวนํ ภาเวยฺย, อนุปฺปนฺนํ สมาธึ อุปฺปาเทยฺย, อุปฺปนฺนฺจ ยาว วสีภาวปฺปตฺติ, ตาว วฑฺเฒยฺย พฺยูเหยฺยาติ อตฺโถ. กาเลน จ วิปสฺสนนฺติ ยถาลทฺธํ สมาธึ นิกนฺติยา อปริยาทาเนน หานภาคิยํ ิติภาคิยํ วา อกตฺวา นิพฺเพธภาคิยํว กตฺวา กาเลน วิปสฺสนฺจ อนุยุฺเชยฺย. อถ วา กาเลน จ วิปสฺสนนฺติ สมถํ อนุยุฺชนฺโต ตสฺส ถิรีภูตกาเล สงฺโกจํ อนาปชฺชิตฺวา อริยมคฺคาธิคมาย วิปสฺสนํ อนุยุฺเชยฺย. ยถาห –

‘‘อถ วา สมาธิลาเภน, วิวิตฺตสยเนน วา;

ภิกฺขุ วิสฺสาสมาปาทิ, อปฺปตฺโต อาสวกฺขย’’นฺติ. (ธ. ป. ๒๗๑-๒๗๒);

เตน วุตฺตํ – ‘‘วีริยสาตจฺจสมฺปนฺโน’’ติอาทิ. สตตภาโว สาตจฺจํ, วีริยสฺส สาตจฺจํ, เตน สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต, สตตปวตฺตวีริโย, นิจฺจปคฺคหิตวีริโยติ อตฺโถ. ยุตฺตโยโค สทา สิยาติ สพฺพกาลํ ภาวนานุยุตฺโต สิยา. ทุกฺขนฺตนฺติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ ปริโยสานํ นิโรธํ นิพฺพานํ อปฺปตฺวา วิสฺสาสํ น เอยฺย น คจฺเฉยฺย. ‘‘อหํ ปริสุทฺธสีโล ฌานลาภี อภิฺาลาภี วิปสฺสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ิโต’’ติ วา วิสฺสฏฺโ น ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

เอวํ วิหรมานสฺสาติ, เอวํ วิวิตฺตเสนาสนเสวนาทินา วิปสฺสนาวเสน ยุตฺตโยคตาปริโยสาเนน วิธินา วิหรนฺตสฺส. สุทฺธิกามสฺสาติ, าณทสฺสนวิสุทฺธึ อจฺจนฺตวิสุทฺธึ นิพฺพานํ อรหตฺตฺจ อิจฺฉนฺตสฺส. สํสาเร ภยสฺส อิกฺขโต ภิกฺขุโน, กามาสวาทโย สพฺเพ อาสวา ขียนฺติ ขยํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ, เตสํ ขยคมเนเนว สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสปเภทํ ทุวิธมฺปิ นิพฺพานํ อธิคจฺฉติ ปาปุณาติ.

เอวํ เถโร ตสฺส ภิกฺขุโน โอวาททานาปเทเสน อตฺตนา ตถาปฏิปนฺนภาวํ ทีเปนฺโต อฺํ พฺยากาสิ.

วงฺคนฺตปุตฺตอุปเสนตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. (อปร)-โคตมตฺเถรคาถาวณฺณนา

วิชาเนยฺย สกํ อตฺถนฺติอาทิกา อายสฺมโต อปรสฺส โคตมตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อมฺหากํ ภควโต อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว สาวตฺถิยํ อุทิจฺจพฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ติณฺณํ เวทานํ ปารคู หุตฺวา, วาทมคฺคํ อุคฺคเหตฺวา อตฺตโน วาทสฺส อุปริ อุตฺตรึ วทนฺตํ อลภนฺโต เตหิ เตหิ วิคฺคาหิกกถํ อนุยุตฺโต วิจรติ. อถ อมฺหากํ ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ยสาทิเก เวเนยฺเย วิเนตฺวา อนาถปิณฺฑิกสฺส อภิยาจนาย สาวตฺถึ อุปคจฺฉิ. ตทา สตฺถุ เชตวนปฏิคฺคเห ปฏิลทฺธสทฺโธ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา อฺตรํ ปิณฺฑจาริกํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ – ‘‘ภิกฺขุ, อิมํ ปพฺพาเชหี’’ติ. โส เตน ปพฺพาชิยมาโน ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา โกสลชนปทํ คนฺตฺวา ตตฺถ จิรํ วสิตฺวา ปุน สาวตฺถึ ปจฺจาคมิ. ตํ พหู าตกา พฺราหฺมณมหาสาลา อุปสงฺกมิตฺวา ปยิรุปาสิตฺวา นิสินฺนา ‘‘อิมสฺมึ โลเก พหู สมณพฺราหฺมณา สํสาเร สุทฺธิวาทา, เตสุ กตเมสํ นุ โข วาโท นิยฺยานิโก, กถํ ปฏิปชฺชนฺโต สํสารโต สุชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉึสุ. เถโร เตสํ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต –

๕๘๗.

‘‘วิชาเนยฺย สกํ อตฺถํ, อวโลเกยฺยาถ ปาวจนํ;

ยฺเจตฺถ อสฺส ปติรูปํ, สามฺํ อชฺฌูปคตสฺส.

๕๘๘.

‘‘มิตฺตํ อิธ จ กลฺยาณํ, สิกฺขา วิปุลํ สมาทานํ;

สุสฺสูสา จ ครูนํ, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๘๙.

‘‘พุทฺเธสุ สคารวตา, ธมฺเม อปจิติ ยถาภูตํ;

สงฺเฆ จ จิตฺตีกาโร, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๙๐.

‘‘อาจารโคจเร ยุตฺโต, อาชีโว โสธิโต อคารยฺโห;

จิตฺตสฺส จ สณฺปนํ, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๙๑.

‘‘จาริตฺตํ อถ วาริตฺตํ, อิริยาปถิยํ ปสาทนิยํ;

อธิจิตฺเต จ อาโยโค, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๙๒.

‘‘อารฺกานิ เสนาสนานิ, ปนฺตานิ อปฺปสทฺทานิ;

ภชิตพฺพานิ มุนินา, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๙๓.

‘‘สีลฺจ พาหุสจฺจฺจ, ธมฺมานํ ปวิจโย ยถาภูตํ;

สจฺจานํ อภิสมโย, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๙๔.

‘‘ภาเวยฺย จ อนิจฺจนฺติ, อนตฺตสฺํ อสุภสฺฺจ;

โลกมฺหิ จ อนภิรตึ, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๙๕.

‘‘ภาเวยฺย จ โพชฺฌงฺเค, อิทฺธิปาทานิ อินฺทฺริยานิ พลานิ;

อฏฺงฺคมคฺคมริยํ, เอตํ สมณสฺส ปติรูปํ.

๕๙๖.

‘‘ตณฺหํ ปชเหยฺย มุนิ, สมูลเก อาสเว ปทาเลยฺย;

วิหเรยฺย วิปฺปมุตฺโต, เอตํ สมณสฺส ปติรูป’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ วิชาเนยฺย สกํ อตฺถนฺติ, วิฺูชาติโก ปุริโส อตฺตโน อตฺถํ ยาถาวโต วิจาเรตฺวา ชาเนยฺย. วิจาเรนฺโต จ อวโลเกยฺยาถ ปาวจนํ อิธ โลเก ปุถุสมณพฺราหฺมเณหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน จ ปวุตฺตํ ปาวจนํ, สมโย. ตตฺถ ยํ นิยฺยานิกํ, ตํ โอโลเกยฺย ปฺาจกฺขุนา ปสฺเสยฺย. อิเม หิ นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ, อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ, อสุทฺธิมคฺคฺจ ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ มิจฺฉาภินิเวสิโน อฺมฺฺจ วิรุทฺธวาทา, ตสฺมา เนสํ วาโท อนิยฺยานิโก. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา, สนฺตํ นิพฺพาน’’นฺติ สยมฺภูาเณน ยถาภูตํ อพฺภฺาย ปเวเทติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺส วาโท นิยฺยานิโก’’ติ สตฺถุ สาสนมหนฺตตํ โอโลเกยฺยาติ อตฺโถ. ยฺเจตฺถ อสฺส ปติรูปํ, สามฺํ อชฺฌูปคตสฺสาติ, สามฺํ สมณภาวํ ปพฺพชฺชํ อุปคตสฺส กุลปุตฺตสฺส ยํ เอตฺถ สาสเน ปพฺพชิตภาเว วา ปติรูปํ ยุตฺตรูปํ สารุปฺปํ อสฺส สิยา, ตมฺปิ อปโลเกยฺย.

กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘มิตฺตํ อิธ จ กลฺยาณ’’นฺติอาทิ. อิมสฺมึ สาสเน กลฺยาณมิตฺตํ เสวิยมานํ สมณสฺส ปติรูปนฺติ โยชนา. เอส นโย อิตเรสุปิ. กลฺยาณมิตฺตฺหิ นิสฺสาย อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรติ. สิกฺขา วิปุลํ สมาทานนฺติ วิปุลํ สิกฺขาสมาทานํ, มหติยา นิพฺพานาวหาย อธิสีลาทิสิกฺขาย อนุฏฺานนฺติ อตฺโถ. สุสฺสูสา จ ครูนนฺติ ครูนํ อาจริยุปชฺฌายาทีนํ กลฺยาณมิตฺตานํ โอวาทสฺส โสตุกมฺยตา ปาริจริยา จ. เอตนฺติ กลฺยาณมิตฺตเสวนาทิ.

พุทฺเธสุ สคารวตาติ สพฺพฺุพุทฺเธสุ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติ คารวโยโค ครุจิตฺตีกาโร. ธมฺเม อปจิติ ยถาภูตนฺติ อริยธมฺเม ยาถาวโต อปจายนํ อาทเรน อภิปูชนํ. สงฺเฆติ อริยสงฺเฆ. จิตฺตีกาโรติ สกฺกาโร สมฺมานนํ. เอตนฺติ รตนตฺตยครุกรณํ.

อาจารโคจเร ยุตฺโตติ กายิกวาจสิกวีติกฺกมนสงฺขาตํ อนาจารํ, ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อุปสงฺกมิตุํ อยุตฺตฏฺานภูตํ เวสิยาทิอโคจรฺจ ปหาย กายิกวาจสิกอวีติกฺกมนสงฺขาเตน อาจาเรน ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺานภูเตน โคจเรน จ ยุตฺโต สมฺปนฺโน, สมฺปนฺนอาจารโคจโรติ อตฺโถ. อาชีโว โสธิโตติ เวฬุทานาทึ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนํ ปหาย อนวชฺชุปฺปาเท ปจฺจเย เสวนฺตสฺส อาชีโว โสธิโต โหติ สุวิสุทฺโธ, โสธิตตฺตา เอว อคารยฺโห วิฺูหิ. จิตฺตสฺส จ สณฺปนนฺติ ยถา จกฺขาทิทฺวาเรหิ รูปาทิอารมฺมเณสุ อภิชฺฌาทโย นปฺปวตฺตนฺติ, เอวํ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตาทิวเสน จิตฺตสฺส สมฺมา ปนํ. เอตนฺติ อาจารโคจรสมฺปตฺติ อาชีวปาริสุทฺธิ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาติ เอตํ ตยํ.

จาริตฺตนฺติ จริตฺวา ปริปูเรตพฺพสีลํ. วาริตฺตนฺติ วิรติยา อกรเณน ปริปูเรตพฺพสีลํ. อิริยาปถิยํ ปสาทนิยนฺติ ปเรสํ ปสาทาวหํ อากปฺปสมฺปตฺตินิมิตฺตํ อิริยาปถนิสฺสิตํ สมฺปชฺํ. อธิจิตฺเต จ อาโยโคติ สมถวิปสฺสนาสุ อนุโยโค ภาวนา.

อารฺกานีติ อรฺเ ปริยาปนฺนานิ. ปนฺตานีติ วิวิตฺตานิ.

สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. เหฏฺา หิ ภินฺทิตฺวา วุตฺตํ, อิธ อภินฺทิตฺวา วทติ. พาหุสจฺจนฺติ พหุสฺสุตภาโว. โส หิ ภาวนานุโยคสฺส พหุกาโร, โพชฺฌงฺคโกสลฺลอนุตฺตรสีติภาวอธิจิตฺตยุตฺตตาทีสุ สมฺมา ปวิจยพหุลสฺส สมถวิปสฺสนานุโยโค สมฺปชฺชติ. ธมฺมานํ ปวิจโย ยถาภูตนฺติ รูปารูปธมฺมานํ อวิปรีตสลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ ปริวีมํสา. อิมินา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนมาห. สจฺจานํ อภิสมโยติ ทุกฺขาทีนํ อริยสจฺจานํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน ปฏิเวโธ.

สฺวายํ สจฺจาภิสมโย ยถา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภาเวยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ภาเวยฺย จ อนิจฺจนฺติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา (ธ. ป. ๒๗๗) อวิภาคโต ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา (วิภ. ๒; สํ. นิ. ๓.๔๙) วิภาคโต วา สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจสฺํ ภาเวยฺย อุปฺปาเทยฺย เจว วฑฺเฒยฺย จาติ อตฺโถ. อนตฺตสฺนฺติ, ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ ปวตฺตํ อนตฺตสฺฺจ ภาเวยฺยาติ โยชนา. เอวํ เสเสสุปิ. อสุภสฺนฺติ, กรชกาเย สพฺพสฺมิมฺปิ วา เตภูมกสงฺขาเร กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต ‘‘อสุภา’’ติ ปวตฺตสฺํ. ทุกฺขสฺาปริวารา หิ อยํ, เอเตเนว เจตฺถ ทุกฺขสฺาปิ คหิตาติ เวทิตพฺพํ. โลกมฺหิ จ อนภิรตินฺติ สพฺพโลเก เตภูมเกสุ สงฺขาเรสุ อนาภิรติสฺํ. เอเตน อาทีนวานุปสฺสนํ นิพฺพิทานุปสฺสนฺจ วทติ.

เอวํ ปน วิปสฺสนาภาวนํ อนุยุตฺโต ตํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต อิเม ธมฺเม วฑฺเฒยฺยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภาเวยฺย จ โพชฺฌงฺเค’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – โพธิยา สติอาทิสตฺตวิธธมฺมสามคฺคิยา, โพธิสฺส วา ตํสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา, สติอาทโย ธมฺมา. เต สติอาทิเก สตฺตโพชฺฌงฺเค, ฉนฺทอาทีนิ จตฺตาริ อิทฺธิปาทานิ, สทฺธาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ, สทฺธาทีนิเยว ปฺจ พลานิ, สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ วเสน อฏฺงฺคอริยมคฺคฺจ. จ-สทฺเทน สติปฏฺานานิ สมฺมปฺปธานานิ จ คหิตานีติ สพฺเพปิ สตฺตตึสปฺปเภเท โพธิปกฺขิยธมฺเม ภาเวยฺย อุปฺปาเทยฺย เจว วฑฺเฒยฺย จ. ตตฺถ ยเทเตสํ ปมมคฺคกฺขเณ อุปฺปาทนํ, อุปริมคฺคกฺขเณ จ วฑฺฒนํ, เอตํ สมณสฺส ภิกฺขุโน สารุปฺปนฺติ.

เอวํ โพธิปกฺขิยสตฺตตึสธมฺเม ภาเวนฺโต ยถา มคฺคสจฺจํ ภาวนาภิสมยวเสน อภิสเมติ, เอวํ สมุทยสจฺจํ ปหานาภิสมยวเสน, นิโรธสจฺจํ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน อภิสเมตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตณฺหํ ปชเหยฺยา’’ติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ตณฺหํ ปชเหยฺยาติ, กามตณฺหาทิปเภทํ สพฺพํ ตณฺหํ อริยมคฺเคน อนวเสสโต สมุจฺฉินฺเทยฺย, โมนํ วุจฺจติ าณํ, เตน สมนฺนาคตตฺตา มุนิ. สมูลเก อาสเว ปทาเลยฺยาติ กามราคานุสยาทิสมูลเก กามาสวาทิเก สพฺเพปิ อาสเว ภินฺเทยฺย สมุจฺฉินฺเทยฺย. วิหเรยฺย วิปฺปมุตฺโตติ เอวํ สพฺพโส กิเลสานํ ปหีนตฺตา สพฺพธิ วิมุตฺโต สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคํ นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา วิหเรยฺย. เอตนฺติ ยเทตํ วิหรณํ, เอตํ สมณสฺส สมิตปาปสฺส ภิกฺขุโน ปติรูปํ สารุปฺปนฺติ อตฺโถ.

เอวํ เถโร สมณสารุปฺปปฏิปตฺติกิตฺตนมุเขน สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ ตพฺพิโลมโต พาหิรกสมยสฺส อนิยฺยานิกตฺจ วิภาเวสิ. ตํ สุตฺวา เต พฺราหฺมณมหาสาลา สาสเน อภิปฺปสนฺนา สรณาทีสุ ปติฏฺหึสุ.

(อปร)-โคตมตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. เอกาทสนิปาโต

๑. สํกิจฺจตฺเถรคาถาวณฺณนา

เอกาทสนิปาเต กึ ตวตฺโถ วเน ตาตาติอาทิกา อายสฺมโต สํกิจฺจตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณมหาสาลกุเล ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺมึ กุจฺฉิคเตเยว มาตา พฺยาธิตา หุตฺวา กาลมกาสิ. ตสฺสา สุสานํ เนตฺวา ฌาปิยมานาย คพฺภาสโย น ฌายิ. มนุสฺสา สูเลหิ กุจฺฉึ วิชฺฌนฺตา ทารกสฺส อกฺขิโกฏึ ปหรึสุ. เต ตํ วิชฺฌิตฺวา องฺคาเรหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปกฺกมึสุ. กุจฺฉิปเทโสปิ ฌายิ, องฺคารมตฺถเก ปน สุวณฺณพิมฺพสทิโส ทารโก ปทุมคพฺเภ นิปนฺโน วิย อโหสิ. ปจฺฉิมภวิกสตฺตสฺส หิ สิเนรุนา โอตฺถริยมานสฺสปิ อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ชีวิตกฺขโย นาม นตฺถิ.

ปุนทิวเส อาฬาหนฏฺานํ คตา มนุสฺสา ตถานิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา ทารกํ อาทาย คามํ ปวิสิตฺวา เนมิตฺตเก ปุจฺฉึสุ. เนมิตฺตกา ‘‘สเจ อยํ ทารโก อคารํ อชฺฌาวสิสฺสติ, ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ทุคฺคตา ภวิสฺสนฺติ. สเจ ปพฺพชิสฺสติ, ปฺจหิ สมณสเตหิ ปริวุโต วิจริสฺสตี’’ติ อาหํสุ. าตกา ‘‘โหตุ, วฑฺฒิตกาเล อมฺหากํ อยฺยสฺส สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก ตํ ปพฺพาเชสฺสามา’’ติ วตฺวา สงฺกุนา ฉินฺนกฺขิโกฏิตาย สํกิจฺโจติ วทนฺตา อปรภาเค สํกิจฺโจติ โวหรึสุ. โส สตฺตวสฺสิกกาเล อตฺตโน คพฺภคตสฺเสว มาตุ มรณํ, คพฺเภ จ อตฺตโน ปวตฺตึ สุตฺวา สํเวคชาโต ‘‘ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. าตกา ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ธมฺมเสนาปติสฺส สนฺติกํ เนตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ อทํสุ. เถโร ตํ ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ขุรคฺเคเยว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา ตึสมตฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อรฺเ วิหรนฺโต เจ โจรหตฺถโต โมเจตฺวา สยมฺปิ เต โจเร ทเมตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อฺตรสฺมึ วิหาเร พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ วิหรนฺโต เต วิวาทปสุเต ทิสฺวา ‘‘อฺตฺถ คจฺฉามี’’ติ ภิกฺขู อาปุจฺฉิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ธมฺมปทวตฺถุมฺหิ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.สงฺกิจฺจสามเณรวตฺถุ) อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อถ นํ อฺตโร อุปาสโก อุปฏฺาตุกาโม อาสนฺนฏฺาเน วาสํ ยาจนฺโต –

๕๙๗.

‘‘กึ ตวตฺโถ วเน ตาต, อุชฺชุหาโนว ปาวุเส;

เวรมฺภา รมณียา เต, ปวิเวโก หิ ฌายิน’’นฺติ. –

ปมํ คาถมาห. ตํ สุตฺวา เถโร –

๕๙๘.

‘‘ยถา อพฺภานิ เวรมฺโภ, วาโต นุทติ ปาวุเส;

สฺา เม อภิกิรนฺติ, วิเวกปฏิสฺุตา.

๕๙๙.

‘‘อปณฺฑโร อณฺฑสมฺภโว, สีวถิกาย นิเกตจาริโก;

อุปฺปาทยเตว เม สตึ, สนฺเทหสฺมึ วิราคนิสฺสิตํ.

๖๐๐.

‘‘ยฺจ อฺเ น รกฺขนฺติ, โย จ อฺเ น รกฺขติ;

ส เว ภิกฺขุ สุขํ เสติ, กาเมสุ อนเปกฺขวา.

๖๐๑.

‘‘อจฺโฉทิกา ปุถุสิลา, โคนงฺคลมิคายุตา;

อมฺพุเสวาลสฺฉนฺนา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๖๐๒.

‘‘วสิตํ เม อรฺเสุ, กนฺทราสุ คุหาสุ จ;

เสนาสเนสุ ปนฺเตสุ, วาฬมิคนิเสวิเต.

๖๐๓.

‘‘‘อิเม หฺนฺตุ วชฺฌนฺตุ, ทุกฺขํ ปปฺโปนฺตุ ปาณิโน’;

สงฺกปฺปํ นาภิชานามิ, อนริยํ โทสสํหิตํ.

๖๐๔.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

๖๐๕.

‘‘ยสฺส จตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

๖๐๖.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา.

๖๐๗.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ.

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ กึ ตวตฺโถ วเนติ กินฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. วเน โก ตวตฺโถ, กึ ปโยชนนฺติ อตฺโถ. ตาตาติ ทหรสามเณรตาย นํ อตฺตโน ปุตฺตฏฺาเน เปตฺวา อาลปติ. อุชฺชุหาโนว ปาวุเสติ อุชฺชุหาโน กิร นาม เอโก ปพฺพโต, โส ปน คหนสฺฉนฺโน พหุโสณฺฑิกนฺทโร, ตหํ ตหํ สนฺทมานสลิโล, วสฺสกาเล อสปฺปาโย, ตสฺมา อุชฺชุหาโน วา ปพฺพโต เอตรหิ ปาวุสกาเล ตว กิมตฺถิโยติ อตฺโถ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อุชฺชุหาโน นาม เอโก สกุโณ สีตํ น สหติ, วสฺสกาเล วนคุมฺเพ นิลีโน อจฺฉตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ มเตน อุชฺชุหานสฺส วิย สกุณสฺส ปาวุสกาเล โก ตว อตฺโถ วเนติ? เวรมฺภา รมณียา เตติ เวรมฺภวาตา วายนฺตา กึ เต รมณียาติ โยชนา. เกจิ ‘‘เวรมฺภา นาม เอกา ปพฺพตคุหา, ปพฺภาโร’’ติ จ วทนฺติ. ตฺจ านํ คมนาคมนยุตฺตํ ชนสมฺพาธรหิตํ ฉายูทกสมฺปนฺนฺจ, ตสฺมา เวรมฺภา รมณียา, วเน วสิตุํ ยุตฺตรูปา. กสฺมา? ปวิเวโก หิ ฌายินํ ยสฺมา ตาทิสานํ ฌายีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปวิเวโกเยว อิจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘ทูรํ อรฺฏฺานํ อคนฺตฺวา เวรมฺภายํ วส, ตาตา’’ติ วทติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยสฺมา ฌายีนํ ปวิเวกกฺขเม นิวาสผาสุเก เสนาสเน ลทฺเธเยว ฌานาทโย สมฺปชฺชนฺติ, น อลทฺเธ, ตสฺมา น เอวรูเป สีตกาเล ยตฺถ กตฺถจิ วเน วสิตุํ สกฺกา, คุหาปพฺภาราทีสุ ปน สกฺกาติ.

เอวํ อุปาสเกน วุตฺเต เถโร วนาทโย เอว มํ รเมนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา อพฺภานี’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา ปาวุเส กาเล อพฺภานิ วลาหกานิ เวรมฺภวาโต นุทติ ขิปติ นีหรติ, เอวเมว เม จิตฺตํ วิเวกปฏิสฺุตา สฺา อภิกิรนฺติ วิเวกฏฺานํเยว อากฑฺฒนฺติ.

กิฺจ? อปณฺฑโร กาฬวณฺโณ, อณฺฑสมฺภโว อณฺฑโช กาโก, สีวถิกาย สุสานฏฺาเน, นิเกตจาริโก ตเมว นิวาสนฏฺานํ กตฺวา วิจรณโก อุปฺปาทยเตว เม สตึ, สนฺเทหสฺมึ วิราคนิสฺสิตนฺติ, กายสฺมึ วิราคูปสํหิตํ กายคตาสติกมฺมฏฺานํ มยฺหํ อุปฺปาทยติเยว. เอกทิวสํ กิร เถโร กาเกน ขชฺชมานํ มนุสฺสกุณปํ ปสฺสิตฺวา อสุภสฺํ ปฏิลภิ, ตํ สนฺธาย เอวมาห. เตน กาเย สพฺพโส ฉนฺทราคสฺส นตฺถิตาย วเนเยว วสิตุกาโมมฺหีติ ทสฺเสติ. ยฺจาติ -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, เตน อฺมฺปิ มม อรฺวาสการณํ สุณาหีติ ทสฺเสติ. ยํ ปพฺพชิตํ เมตฺตาวิหาริตาย อโลภนิยปริกฺขารตาย จ รกฺขิตพฺพสฺส อภาวโต อฺเ เสวกาทโย น รกฺขนฺติ. โย จ ปพฺพชิโต อฺเ เกนจิ กิฺจนปลิโพธภูเต น รกฺขติ ตาทิสานํเยว อภาวโต. ส เว ภิกฺขุ สุขํ เสตีติ, โส ภิกฺขุ สมุจฺฉินฺนกิเลสกามตาย สพฺพโส วตฺถุกาเมสุ อนเปกฺขวา อเปกฺขารหิโต ยตฺถ กตฺถจิ สุขํ เสติ. ตสฺส อนุสงฺกิตปริสงฺกิตาภาวโต อรฺมฺหิ คามมฺหิ สทิสเมวาติ อตฺโถ.

อิทานิ ปพฺพตวนาทีนํ รมณียตํ วสิตปุพฺพตฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺโฉทิกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วสิตํ เมติ, วุฏฺปุพฺพํ มยา. วาฬมิคนิเสวิเตติ, สีหพฺยคฺฆาทีหิ วาฬมิเคหิ อุปเสวิเต วเน.

สงฺกปฺปํ นาภิชานามีติ, อิเม เย เกจิ ปาณิโน สตฺตา อุสุสตฺติอาทีหิ ปหรเณหิ หฺนฺตุ มาริยนฺตุ มุฏฺิปฺปหาราทีหิ วชฺฌนฺตุ พาธียนฺตุ, อฺเน วา เยน เกนจิ อากาเรน ทุกฺขํ ปปฺโปนฺตุ ปาปุณนฺตูติ; เอวํ โทสสํหิตํ ปฏิฆสํยุตฺตํ ตโต เอว อนริยํ พฺยาปาทวิหึสาทิปฺปเภทํ ปาปสงฺกปฺปํ อุปฺปาทิตํ นาภิชานามิ, มิจฺฉาวิตกฺโก น อุปฺปนฺนปุพฺโพติ เมตฺตาวิหาริตํ ทสฺเสติ.

อิทานิ ‘‘ปริจิณฺโณ’’ติอาทินา อตฺตโน กตกิจฺจตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปริจิณฺโณติ อุปาสิโต โอวาทานุสาสนีกรณวเสน. โอหิโตติ โอโรหิโต. ครุโก ภาโรติ ครุตโร ขนฺธภาโร.

นาภินนฺทามิ มรณนฺติ ‘‘กถํ นุ โข เม มรณํ สิยา’’ติ มรณํ น อิจฺฉามิ. นาภินนฺทามิ ชีวิตนฺติ ‘‘กถํ นุ โข อหํ จิรํ ชีเวยฺย’’นฺติ ชีวิตมฺปิ น อิจฺฉามิ. เอเตน มรเณ ชีวิเต จ สมานจิตฺตตํ ทสฺเสติ. กาลฺจ ปฏิกงฺขามีติ ปรินิพฺพานกาลํว อาคเมมิ. นิพฺพิสนฺติ นิพฺพิสนฺโต, ภติยา กมฺมํ กโรนฺโต. ภตโก ยถาติ ยถา ภตโก ปรสฺส กมฺมํ กโรนฺโต กมฺมสิทฺธึ อนภินนฺทนฺโตปิ กมฺมํ กโรนฺโตว ทิวสกฺขยํ อุทิกฺขติ, เอวํ อหมฺปิ ชีวิตํ อนภินนฺทนฺโตปิ อตฺตภาวสฺส ยาปเนน มรณํ อนภินนฺทนฺโตปิ ปริโยสานกาลํ ปฏิกงฺขามีติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

สํกิจฺจตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกาทสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทฺวาทสกนิปาโต

๑. สีลวตฺเถรคาถาวณฺณนา

ทฺวาทสกนิปาเต สีลเมวาติอาทิกา อายสฺมโต สีลวตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พิมฺพิสารรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สีลวาติสฺส นามํ อโหสิ. ตํ วยปฺปตฺตํ ราชา อชาตสตฺตุ มาเรตุกาโม จณฺฑํ มตฺตหตฺถึ อาโรเปตฺวา นานาวิเธหิ อุปาเยหิ อุปกฺกมนฺโตปิ มาเรตุํ นาสกฺขิ ปจฺฉิมภวิกสฺส อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อนฺตรา ชีวิตนฺตรายาภาวโต. ตสฺส ปวตฺตึ ทิสฺวา ภควา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อาณาเปสิ – ‘‘สีลวกุมารํ อาเนหี’’ติ. เถโร อิทฺธิพเลน สทฺธึ หตฺถินา ตํ อาเนสิ. กุมาโร หตฺถิโต โอรุยฺห ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ภควา ตสฺส อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ เทเสสิ. โส ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา โกสลรฏฺเ วสติ. อถ นํ อชาตสตฺตุ ‘‘มาเรถา’’ติ ปุริเส อาณาเปสิ. เต เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ิตา เถเรน กถิตํ ธมฺมกถํ สุตฺวา สฺชาตสํเวคา ปสนฺนจิตฺตา หุตฺวา ปพฺพชึสุ. เถโร เตสํ –

๖๐๘.

‘‘สีลเมวิธ สิกฺเขถ, อสฺมึ โลเก สุสิกฺขิตํ.

สีลฺหิ สพฺพสมฺปตฺตึ, อุปนาเมติ เสวิตํ.

๖๐๙.

‘‘สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี, ปตฺถยาโน ตโย สุเข;

ปสํสํ วิตฺติลาภฺจ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํ.

๖๑๐.

‘‘สีลวา หิ พหู มิตฺเต, สฺเมนาธิคจฺฉติ;

ทุสฺสีโล ปน มิตฺเตหิ, ธํสเต ปาปมาจรํ.

๖๑๑.

‘‘อวณฺณฺจ อกิตฺติฺจ, ทุสฺสีโล ลภเต นโร;

วณฺณํ กิตฺตึ ปสํสฺจ, สทา ลภติ สีลวา.

๖๑๒.

‘‘อาทิ สีลํ ปติฏฺา จ, กลฺยาณานฺจ มาตุกํ;

ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ, ตสฺมา สีลํ วิโสธเย.

๖๑๓.

‘‘เวลา จ สํวรํ สีลํ, จิตฺตสฺส อภิหาสนํ;

ติตฺถฺจ สพฺพพุทฺธานํ, ตสฺมา สีลํ วิโสธเย.

๖๑๔.

‘‘สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ, สีลํ อาวุธมุตฺตมํ;

สีลมาภรณํ เสฏฺํ, สีลํ กวจมพฺภุตํ.

๖๑๕.

‘‘สีลํ เสตุ มเหสกฺโข, สีลํ คนฺโธ อนุตฺตโร;

สีลํ วิเลปนํ เสฏฺํ, เยน วาติ ทิโสทิสํ.

๖๑๖.

‘‘สีลํ สมฺพลเมวคฺคํ, สีลํ ปาเถยฺยมุตฺตมํ;

สีลํ เสฏฺโ อติวาโห, เยน ยาติ ทิโสทิสํ.

๖๑๗.

‘‘อิเธว นินฺทํ ลภติ, เปจฺจาปาเย จ ทุมฺมโน;

สพฺพตฺถ ทุมฺมโน พาโล, สีเลสุ อสมาหิโต.

๖๑๘.

‘‘อิเธว กิตฺตึ ลภติ, เปจฺจ สคฺเค จ สุมฺมโน;

สพฺพตฺถ สุมโน ธีโร, สีเลสุ สุสมาหิโต.

๖๑๙.

‘‘สีลเมว อิธ อคฺคํ, ปฺวา ปน อุตฺตโม;

มนุสฺเสสุ จ เทเวสุ, สีลปฺาณโต ชย’’นฺติ. –

อิมาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ.

ตตฺถ สีลเมวิธ สิกฺเขถ, อสฺมึ โลเกติ อิธาติ, นิปาตมตฺตํ, อิมสฺมึ สตฺตโลเก อตฺถกาโม กุลปุตฺโต จาริตฺตวาริตฺตาทิเภทํ อาทิโต สีลเมว สิกฺเขยฺย, สิกฺขนฺโต จ นํ สุสิกฺขิตํ อขณฺฑาทิภาวาปาทเนน สุฏฺุ สิกฺขิตํ สุปริสุทฺธํ ปริปุณฺณฺจ กตฺวา สิกฺเขยฺย. อสฺมึ โลเกติ วา อิมสฺมึ สงฺขารโลเก สิกฺขิตพฺพธมฺเมสุ สีลํ อาทิโต สิกฺเขยฺย. ทิฏฺิสมฺปตฺติยาปิ สีลสฺส ปติฏฺาภาวโต อาห ‘‘สีลํ หี’’ติอาทิ. ตตฺถ หีติ การณวจนํ. ยสฺมา สีลํ เสวิตํ ปริจิตํ รกฺขิตํ มนุสฺสสมฺปตฺติ, ทิพฺพสมฺปตฺติ, นิพฺพานสมฺปตฺตีติ เอตํ สพฺพสมฺปตฺตึ ตํสมงฺคิโน สตฺตสฺส อุปนาเมติ อาวหติ.

สีลํ สพฺพสมฺปตฺตึ อุปนาเมตีติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สีลํ รกฺเขยฺยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ รกฺเขยฺยาติ โคเปยฺย. ปาณาติปาตาทิโต หิ วิรมนฺโต วตฺตปฏิวตฺตฺจ ปูเรนฺโต ปฏิปกฺขาภิภวนโต ตํ รกฺขติ นาม. เมธาวีติ ปฺวา, อิทํ ตสฺส รกฺขนุปายทสฺสนํ าณพเลน หิสฺส สมาทานํ อวิโกปนฺจ โหติ. ปตฺถยาโนติ อิจฺฉนฺโต. ตโย สุเขติ ตีณิ สุขานิ. สุขนิมิตฺตํ วา ‘‘สุข’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ปสํสนฺติ กิตฺตึ, วิฺูหิ วา ปสํสนํ. วิตฺติลาภนฺติ ตุฏฺิลาภํ. ‘‘วิตฺตลาภ’’นฺติ จ ปนฺติ, ธนลาภนฺติ อตฺโถ. สีลวา หิ อปฺปมตฺตตาย มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ. เปจฺจาติ กาลงฺกตฺวา. สคฺเค ปโมทนนฺติ เทวโลเก อิฏฺเหิ กามคุเณหิ, โมทนฺจ ปตฺถยมาโนติ สมฺพนฺโธ. อิธโลเก ปสํสํ วิตฺติลาภํ ปรโลเก ทิพฺพสมฺปตฺติยา โมทนฺจ อิจฺฉนฺโต สีลํ รกฺเขยฺยาติ โยชนา.

สฺเมนาติ กายาทีนํ สํยเมน. สํยโต หิ กายทุจฺจริตาทีหิ กฺจิ อวิเหเนฺโต อภยทานํ ททนฺโต ปิยมนาปตาย มิตฺตานิ คนฺถติ. ธํสเตติ อเปติ. ปาปมาจรนฺติ ปาณาติปาตาทิปาปกมฺมํ กโรนฺโต. ทุสฺสีลฺหิ ปุคฺคลํ อตฺถกามา สตฺตา น ภชนฺติ, อฺทตฺถุ ปริวชฺเชนฺติ.

อวณฺณนฺติ อคุณํ, สมฺมุขา ครหํ วา. อกิตฺตินฺติ, อยสํ อสิโลกํ. วณฺณนฺติ คุณํ. กิตฺตินฺติ สิโลกํ ปตฺถฏยสตํ. ปสํสนฺติ สมฺมุขา โถมนํ.

อาทีติ มูลํ. สีลฺหิ กุสลานํ ธมฺมานํ อาทิ. ยถาห – ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ปติฏฺาติ อธิฏฺานํ. สีลฺหิ สพฺเพสํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ ปติฏฺา. เตนาห – ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๒๓; ๑๙๒; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๑.๙). กลฺยาณานฺจ มาตุกนฺติ สมถวิปสฺสนาทีนํ กลฺยาณธมฺมานํ มาตุภูตํ, ชนกนฺติ, อตฺโถ. ปมุขํ สพฺพธมฺมานนฺติ, สพฺเพสํ ปาโมชฺชาทีนํ อนวชฺชธมฺมานํ ปมุขํ มุขภูตํ, ปวตฺติทฺวารนฺติ อตฺโถ. ตสฺมาติ อาทิภาวาทิโต. วิโสธเยติ อกฺขณฺฑาทิภาเวน สมฺปาเทยฺย.

เวลาติ ทุจฺจริเตหิ อนติกฺกมนียฏฺเน เวลา, สีมาติ อตฺโถ. เวลายติ วา ทุสฺสิลฺยํ จลยติ วิทฺธํเสตีติ เวลา. สํวรํ สีลํ กายทุจฺจริตาทีนํ อุปฺปตฺติทฺวารสฺส ปิทหนโต. อภิหาสนนฺติ โตสนํ อวิปฺปฏิสารเหตุตาย จิตฺตสฺสาภิปฺปโมทนโต. ติตฺถฺจ สพฺพพุทฺธานนฺติ สาวกพุทฺธา, ปจฺเจกพุทฺธา, สมฺมาสมฺพุทฺธาติ สพฺเพสํ พุทฺธานํ กิเลสมลปฺปวาหเน นิพฺพานมหาสมุทฺทาวคาหเณ จ ติตฺถภูตฺจ.

สีลํ พลํ อปฺปฏิมนฺติ มารเสนปฺปมทฺทเน อสทิสํ พลํ เสนาถาโม จ. อาวุธมุตฺตมนฺติ สํกิเลสธมฺมานํ เฉทเน อุตฺตมํ ปหรณํ. คุณสรีโรปโสภนฏฺเน อาภรณํ. เสฏฺนฺติ สพฺพกาลํ อุตฺตมํ ทพฺพฺจ. สปาณปริตฺตานโต กวจมพฺภุตํ. ‘‘อพฺภิท’’นฺติ จ ปนฺติ, อเภชฺชนฺติ อตฺโถ.

อปายมโหฆาติกฺกมเน สํสารมโหฆาติกฺกมเน จ กิเลเสหิ อสํสีทนฏฺเน เสตุ. มเหสกฺโขติ มหพฺพโล. คนฺโธ อนุตฺตโรติ ปฏิวาตํ สพฺพทิสาสุ วายนโต อนุตฺตโร คนฺโธ สพฺพชนมโนหรตฺตา. เตนาห ‘‘เยน วาติ ทิโสทิส’’นฺติ เยน สีลคนฺเธน ตํสมงฺคี ทิโสทิสํ สพฺพา ทิสา วายติ. ‘‘ทิโสทิสา’’ติปิ ปาฬิ, ทส ทิสาติ อตฺโถ.

สมฺพลเมวคฺคนฺติ สมฺพลํ นาม ปุฏภตฺตํ. ยถา ปุฏภตฺตํ คเหตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺโต ปุริโส อนฺตรามคฺเค ชิฆจฺฉาทุกฺเขน น กิลมติ, เอวํ สีลสมฺปนฺโนปิ สุทฺธํ สีลสมฺพลํ คเหตฺวา สํสารกนฺตารํ ปฏิปนฺโน คตคตฏฺาเน น กิลมตีติ สีลํ อคฺคํ สมฺพลํ นาม. ตถา สีลํ ปาเถยฺยมุตฺตมํ โจราทีหิ อสาธารณตฺตา ตตฺถ ตตฺถ อิจฺฉิตพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทนโต จ. อติกฺกาเมนฺโต ตํ ตํ านํ ยถิจฺฉิตฏฺานํ วา วาเหติ สมฺปาเปตีติ อติวาโห, ยานํ. เกนจิ อนุปทฺทุตํ หุตฺวา อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติเหตุตาย สีลํ เสฏฺํ อติวาโห. เยนาติ เยน อติวาเหน ยาติ ทิโสทิสนฺติ อคตึ คติฺจาปิ ตํ ตํ ทิสํ สุเขเนว คจฺฉติ.

อิเธว นินฺทํ ลภตีติ อิธโลเกปิ ทุมฺมโน ราคาทีหิ ทูสิตจิตฺโต ‘‘ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’’ติ นินฺทํ ครหํ ลภติ. เปจฺจ ปรโลเกปิ อปาเย ‘‘ปุริสตฺตกลิ อวชาตา’’ติอาทินา ยมปุริสาทีหิ จ นินฺทํ ลภติ. น เกวลํ นินฺทเมว ลภติ, อถ โข สพฺพตฺถ ทุมฺมโน พาโล อิธโลเก ทุจฺจริตจรเณน ทูสิตจิตฺโต ปรโลเก กมฺมการณาทิวเสน ทุกฺขุปฺปตฺติยาติ สพฺพตฺถ พาโล ทุมฺมโน โหติ. กถํ? สีเลสุ อสมาหิโต สมฺมา สีเลสุ น ปิตจิตฺโต อปฺปติฏฺิตจิตฺโต.

อิเธว กิตฺตึ ลภตีติ อิธโลเกปิ สุมโน ‘‘สปฺปุริโส สีลวา กลฺยาณธมฺโม’’ติ กิตฺตึ ลภติ. เปจฺจ ปรโลเกปิ สคฺเค ‘‘อยํ สปฺปุริโส สีลวา กลฺยาณธมฺโม. ตถา หิ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน’’ติอาทินา กิตฺตึ ลภติ. น เกวลํ กิตฺติเมว ลภติ, อถ โข ธีโร ธิติสมฺปนฺโน สีเลสุ สุฏฺุ สมาหิโต อปฺปิตจิตฺโต สุปติฏฺิตจิตฺโต สพฺพตฺถ อิธโลเก สุจริตจรเณน, ปรโลเก สมฺปตฺติปฏิลาเภน สุมโน โสมนสฺสปฺปตฺโต โหติ. สีลเมว อิธ อคฺคนฺติ ทุวิธํ สีลํ โลกิยํ โลกุตฺตรนฺติ. ตตฺถ โลกิยํ ตาว กามโลเก ขตฺติยมหาสาลาทีสุ, เทวโลเก พฺรหฺมโลเก จ อุปปตฺติวิเสสํ อาวหติ, ลาภีภาวาทิกสฺส จ การณํ โหติ. โลกุตฺตรํ ปน สกลมฺปิ วฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกาเมตีติ สีลํ อคฺคเมว. ตถา หิ วุตฺตํ –

‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;

มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌตี’’ติ. (ชา. ๑.๘.๗๕);

อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘‘ลาภี อสฺสํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๖๕), ‘‘สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๕), ‘‘อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (อ. นิ. ๘.๓๕; ที. นิ. ๓.๓๓๗) จ.

โลกุตฺตรสีลสฺส ปน สพฺพโส ปหีนปฏิปกฺขสฺส สตฺตมภวโต ปฏฺาย สํสารทุกฺขํ วินิวตฺเตนฺตสฺส อคฺคภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ปฺวา ปน อุตฺตโมติ ‘‘ปฺวา ปน ปุคฺคโล อุตฺตโม ปรโม เสฏฺโเยวา’’ติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ปฺาย เอว เสฏฺภาวํ วทติ. อิทานิ สีลปฺานํ เสฏฺภาวํ กิจฺจโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สีลปฺาณโต ชย’’นฺติ อาห. ชยนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส ทฏฺพฺโพ, อหูติ วา วจนเสโส. ตตฺถ ปชานนฏฺเน ปฺาณํ, สีลโต ปฺาณโต จ ปฏิปกฺขชโย. น หิ สีเลน วินา ปฺา สมฺภวติ, ปฺาย จ วินา สีลํ กิจฺจกรํ, อฺมฺโปการกฺเจตํ. วุตฺตฺหิ ‘‘สีลปริโธตา ปฺา, ปฺาปริโธตํ สีล’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๓๑๗) มนุสฺเสสุ จ เทเวสูติ อิทํ เนสํ านวิเสสทสฺสนํ. ตตฺถ หิ ตานิ สวิเสสานิ วตฺตนฺติ, สมาธิ ปเนตฺถ สีลปกฺขิโก ปฺาย อธิฏฺานภาวโต, ปฺาปกฺขิโก วา ภาเวตพฺพโต สีลาธิฏฺานโต จ.

เอวํ เถโร เตสํ ภิกฺขูนํ สีลมุเขน ธมฺมํ เทเสนฺโต อตฺตโน สุวิสุทฺธสีลาทิคุณตาทีปเนน อฺํ พฺยากาสิ.

สีลวตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุนีตตฺเถรคาถาวณฺณนา

นีเจ กุลมฺหีติอาทิกา อายสฺมโต สุนีตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต พุทฺธสฺส สุฺกาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต พาลชเนหิ สทฺธึ กีฬาปสุโต หุตฺวา วิจรนฺโต เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ คาเม ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา, ‘‘กึ ตุยฺหํ สพฺพโส วณิตสรีรสฺส วิย สกลํ กายํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ภิกฺขาจรเณน, นนุ นาม กสิวาณิชฺชาทีหิ ชีวิกา กปฺเปตพฺพา? ตานิ เจ กาตุํ น สกฺโกสิ, ฆเร ฆเร มุตฺตกรีสาทีนิ นีหรนฺโต ปจฺฉา วตฺถุโสธเนน ชีวาหี’’ติ อกฺโกสิ. โส เตน กมฺเมน นิรเย ปจฺจิตฺวา ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน มนุสฺสโลเกปิ พหูนิ ชาติสตานิ ปุปฺผฉฑฺฑกกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ตถา ชีวิกํ กปฺเปสิ. อิมสฺมิฺจ พุทฺธุปฺปาเท ปุปฺผฉฑฺฑกกุเล เอว นิพฺพตฺโต อุกฺการโสธนกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปติ ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ อลภนฺโต.

อถ ภควา ปจฺฉิมยาเม พุทฺธาจิณฺณํ มหากรุณาสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สุนีตสฺส หทยพฺภนฺตเร ฆเฏ ปทีปํ วิย ปชฺชลนฺตํ อรหตฺตูปนิสฺสยํ ทิสฺวา วิภาตาย รตฺติยา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ. ยสฺสํ วีถิยํ สุนีโต อุกฺการโสธนกมฺมํ กโรติ, ตํ วีถึ ปฏิปชฺชิ. สุนีโตปิ ตตฺถ ตตฺถ วิฆาสุจฺจารสงฺการาทิกํ ราสึ กตฺวา ปิฏเกสุ ปกฺขิปิตฺวา กาเชนาทาย ปริหรนฺโต ภิกฺขุสงฺฆปริวุตํ สตฺถารํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สารชฺชมาโน สมฺภมากุลหทโย คมนมคฺคํ นิลียโนกาสฺจ อลภนฺโต กาชํ ภิตฺติปสฺเส เปตฺวา เอเกน ปสฺเสน อนุปวิสนฺโต วิย ภิตฺตึ อลฺลีโน ปฺชลิโก อฏฺาสิ. ‘‘ภิตฺติฉิทฺเทน อปกฺกมิตุกาโม อโหสี’’ติปิ วทนฺติ.

สตฺถา ตสฺส สมีปํ ปตฺวา ‘‘อยํ อตฺตโน กุสลมูลสฺโจทิตํ อุปคตํ มํ สารชฺชมาโน ชาติยา กมฺมสฺส จ นิหีนตาย สมฺมุขีภาวมฺปิ ลชฺชติ, หนฺทสฺส เวสารชฺชํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ กรวีกรุตมฺชุนา สกลนครนินฺนาทวร-คมฺภีเรน พฺรหฺมสฺสเรน ‘‘สุนีตา’’ติ อาลปิตฺวา ‘‘กึ อิมาย ทุกฺขชีวิกาย ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ อาห. สุนีโต เตน สตฺถุ วจเนน อมเตน วิย อภิสิตฺโต อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทนฺโต ‘‘ภควา, สเจ มาทิสาปิ อิธ ปพฺพชฺชํ ลภนฺติ, กสฺมาหํ น ปพฺพชิสฺสามิ, ปพฺพาเชถ มํ ภควา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘เอหิ, ภิกฺขู’’ติ อาห. โส ตาวเทว เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา อิทฺธิมยปตฺตจีวรธโร วสฺสสฏฺิกตฺเถโร วิย หุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก อฏฺาสิ. ภควา ตํ วิหารํ เนตฺวา กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ. โส ปมํ อฏฺ สมาปตฺติโย, ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ฉฬภิฺโ อโหสิ. ตํ สกฺกาทโย เทวา พฺรหฺมาโน จ อุปสงฺกมิตฺวา นมสฺสึสุ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ตา เทวตา สตฺตสตา อุฬารา, พฺรหฺมา จ อินฺโท อุปสงฺกมิตฺวา;

อาชานียํ ชาติชราภิภูตํ, สุนีตํ นมสฺสนฺติ ปสนฺนจิตฺตา’’ติอาทิ.

ภควา ตํเยว เทวสงฺฆปุรกฺขตํ ทิสฺวา สิตํ กตฺวา ปสํสนฺโต ‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยนา’’ติ คาถาย ธมฺมํ เทเสสิ. อถ นํ สมฺพหุลา ภิกฺขู สีหนาทํ นทาเปตุกามา, ‘‘อาวุโส สุนีต, กสฺมา กุลา ตฺวํ ปพฺพชิโต, กถํ วา ปพฺพชิโต, กถฺจ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌี’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส ตํ สพฺพํ ปกาเสนฺโต –

๖๒๐.

‘‘นีเจ กุลมฺหิ ชาโตหํ, ทลิทฺโท อปฺปโภชโน;

หีนกมฺมํ มมํ อาสิ, อโหสึ ปุปฺผฉฑฺฑโก.

๖๒๑.

‘‘ชิคุจฺฉิโต มนุสฺสานํ, ปริภูโต จ วมฺภิโต;

นีจํ มนํ กริตฺวาน, วนฺทิสฺสํ พหุกํ ชนํ.

๖๒๒.

‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ;

ปวิสนฺตํ มหาวีรํ, มคธานํ ปุรุตฺตมํ.

๖๒๓.

‘‘นิกฺขิปิตฺวาน พฺยาภงฺคึ, วนฺทิตุํ อุปสงฺกมึ;

มเมว อนุกมฺปาย, อฏฺาสิ ปุริสุตฺตโม.

๖๒๔.

‘‘วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, เอกมนฺตํ ิโต ตทา;

ปพฺพชฺชํ อหมายาจึ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํ.

๖๒๕.

‘‘ตโต การุณิโก สตฺถา, สพฺพโลกานุกมฺปโก;

‘เอหิ ภิกฺขู’ติ มํ อาห, สา เม อาสูปสมฺปทา.

๖๒๖. ‘‘โสหํ เอโก อรฺสฺมึ, วิหรนฺโต อตนฺทิโต.

อกาสึ สตฺถุ วจนํ, ยถา มํ โอวที ชิโน.

๖๒๗.

‘‘รตฺติยา ปมํ ยามํ, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ;

รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ;

รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยึ.

๖๒๘.

‘‘ตโต รตฺยาวิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ; (ชา. ๑.๑๑.๗๙);

อินฺโท พฺรหฺมา จ อาคนฺตฺวา, มํ นมสฺสึสุ ปฺชลี.

๖๒๙.

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริส.

๖๓๐.

‘‘ตโต ทิสฺวาน มํ สตฺถา, เทวสงฺฆปุรกฺขตํ;

สิตํ ปาตุกริตฺวาน, อิมมตฺถํ อภาสถ.

๖๓๑.

‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยน, สํยเมน ทเมน จ;

เอเตน พฺราหฺมโณ โหติ, เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตม’’นฺติ. –

อิมาหิ คาถาหิ สีหนาทํ นทิ.

ตตฺถ นีเจติ ลามเก สพฺพนิหีเน. อุจฺจนีจภาโว หิ นาม สตฺตานํ อุปาทายุปาทาย, อยํ ปน สพฺพนิหีเน ปุกฺกุสกุเล อุปฺปนฺนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นีเจ กุลมฺหิ ชาโต’’ติ อาห. เตน วุตฺตํ – ‘‘นีเจติ ลามเก สพฺพนิหีเน’’ติ. ทลิทฺโทติ ทุคฺคโต, ทลิทฺทาปิ เกจิ กทาจิ ฆาสจฺฉาทนสฺส ลาภิโน, อกสิรวุตฺติโน โหนฺติ, อหํ ปน สพฺพกาลํ กสิรวุตฺติตาย หีโน อุทฺธนํ อุปฏฺปิตอุกฺขลิโก ทสฺสนยุตฺตํ เถวกมฺปิ อปสฺสึ เยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปโภชโน’’ติ อาห. นีจกุลิกา ทลิทฺทาปิ เกจิ อนีจกมฺมาชีวา โหนฺติ, มยฺหํ ปน น ตถาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หีนกมฺมํ มมํ อาสี’’ติ. กีทิสนฺติ เจ? อโหสึ ปุปฺผฉฑฺฑโก, หตฺถวิกลสฺส หตฺถวาติ วิย อุปจารวเสนายํ อิมสฺส สมฺา อโหสิ ยทิทํ ‘‘ปุปฺผฉฑฺฑโก’’ติ. มิลาตปุปฺผสนฺถรวณฺณตาย วา อุกฺการภูมิยา เอวํ วุตฺโต.

ชิคุจฺฉิโตติ ชาติยา เจว กมฺมุนา จ หีฬิโต. มนุสฺสานนฺติ มนุสฺเสหิ. ปริภูโตติ อวฺาโต. วมฺภิโตติ ขุํสิโต. นีจํ มนํ กริตฺวานาติ อฺเ มนุสฺเส สิเนรุํ วิย อุกฺขิปิตฺวา เตสํ ปาทปํสุโตปิ อตฺตานํ นิหีนํ กตฺวา ปวตฺติยา นีจํ นิหีนํ มนํ กตฺวา. วนฺทิสฺสํ พหุกํ ชนนฺติ ปุถุมหาชนํ ทิฏฺทิฏฺกาเล วนฺทึ สิรสิ อฺชลึ กโรนฺโต ปณามึ.

อถาติ อธิการนฺตรทีปเน นิปาโต. อทฺทสาสินฺติ อทฺทกฺขึ. มคธานนฺติ มคธา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหิยา ‘‘มคธาน’’นฺติ วุตฺโต, มคธชนปทสฺสาติ อตฺโถ. ปุรุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ นครํ.

พฺยาภงฺคินฺติ กาชํ. ปพฺพชฺชํ อหมายาจินฺติ, ‘‘สุนีต, ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ สตฺถารา โอกาเส กเต อหํ ปพฺพชฺชํ อยาจึ. อาสูปสมฺปทาติ ‘‘เอหิ, ภิกฺขู’’ติ สตฺถุ วจนมตฺเตน อาสิ อุปสมฺปทา. ยถา มํ โอวทีติ ‘‘เอวํ สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวหี’’ติ ยถา มํ โอวทิ, ตถา สตฺถุโน วจนํ อกาสึ ปฏิปชฺชึ. รตฺติยาติอาทิ ตสฺสา ปฏิปตฺติยา รสทสฺสนํ. ตตฺถ ปุพฺเพนิวาสาณํ อนาคตํสาณฺจ พหุกิจฺจนฺติ ‘‘ปมํ ยามํ มชฺฌิมํ ยาม’’นฺติ อจฺจนฺตสํโยควเสน อุปโยควจนํ วุตฺตํ. น ตถา อาสวกฺขยาณํ เอกาภิสมยวเสน ปวตฺตนโตติ ‘‘ปจฺฉิเม ยาเม’’ติ ภุมฺมวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อินฺโทติ สกฺโก เทวราชา. พฺรหฺมาติ มหาพฺรหฺมา. อินฺทพฺรหฺมคฺคหเณน อฺเสํ กามเทวานํ พฺรหฺมูนฺจ อาคมนํ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อุกฺกฏฺนิทฺเทโส เหส ยถา ‘‘ราชา อาคโต’’ติ. นมสฺสึสูติ กาเยน วาจาย จ นมกฺการํ อกํสุ.

ตตฺถ กาเยน กตํ นมกฺการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺชลี’’ติ วตฺวา วาจาย กตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นโม เต’’ติอาทิ วุตฺตํ. เทวสงฺฆปุรกฺขตนฺติ เทวคฺคหเณน อุปปตฺติเทวภาวโต พฺรหฺมาโนปิ คหิตา. สิตํ ปาตุกริตฺวานาติ อตฺตโน โอวาทสฺส มหปฺผลตํ เทวพฺรหฺมูนฺจ คุณสมฺปตฺตึ นิสฺสาย สตฺถา สิตํ ปาตฺวากาสิ. ปาตุกโรนฺโต จ น อฺเ วิย ทนฺเต วิทํเสติ, มุขาธานํ ปน โถกํ วิวรติ, ตตฺตเกน จ อภิภูตทิพฺพผลิกมุตฺตรสฺมิโย อวหสิตตารกาสสิมรีจิโย สุสุกฺกทาสมฺภวา ฆนรสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สตฺถุ มุขํ ปทกฺขิณํ กโรนฺติ, ตํ ทิสฺวา ปจฺฉโต คจฺฉนฺตาปิ สตฺถา สิตํ ปาตฺวากาสีติ สฺชานนฺติ.

ตเปนาติ อินฺทฺริยสํวเรน, ‘‘ธุตธมฺมสมาทาเนนา’’ติ เกจิ. สํยเมนาติ สีเลน. ทเมนาติ ปฺาย. พฺรหฺมจริเยนาติ อวสิฏฺเสฏฺจริยาย. เอเตนาติ ยถาวุตฺเตน ตปาทินา. พฺราหฺมโณ โหติ พาหิตปาปภาวโต. เอตนฺติ ตปาทิ ยถาวุตฺตํ. พฺราหฺมณมุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ พฺราหฺมณํ, พฺราหฺมเณสุ วา อุตฺตมํ สพฺพเสฏฺํ, อหูติ วจนเสโส. พฺราหฺมณนฺติ วา พฺรหฺมฺมาห, เอวํ อุตฺตมํ พฺรหฺมฺํ, น ชจฺจาทีติ อธิปฺปาโย. น หิ ชาติกุลปเทสโคตฺตสมฺปตฺติอาทโย อริยภาวสฺส การณํ, อธิสีลสิกฺขาทโย เอว ปน การณํ. เตนาห –

‘‘ยถา สงฺการานสฺมึ, อุชฺฌิตสฺมึ มหาปเถ;

ปทุมํ ตตฺถ ชาเยถ, สุจิคนฺธํ มโนรมํ.

‘‘เอวํ สงฺการภูเตสุ, อนฺธภูเต ปุถุชฺชเน;

อติโรจติ ปฺาย, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก’’ติ. (ธ. ป. ๕๘-๕๙);

เอวํ เถโร เตหิ ภิกฺขูหิ ปุจฺฉิตมตฺถํ อิมาหิ คาถาหิ วิสฺสชฺเชนฺโต สีหนาทํ นทีติ.

สุนีตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวาทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. เตรสนิปาโต

๑. โสณโกฬิวิสตฺเถรคาถาวณฺณนา

เตรสนิปาเต ยาหุ รฏฺเติอาทิกา อายสฺมโต โสณสฺส โกฬิวิสสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินิ. อยํ กิร อโนมทสฺสิสฺส ภควโต กาเล มหาวิภโว เสฏฺิ หุตฺวา อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนมานโส สตฺถุ จงฺกมนฏฺาเน สุธาย ปริกมฺมํ กาเรตฺวา นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ สนฺถริตฺวา อุปริ นานาวิราควตฺเถหิ วิตานํ พนฺธาเปสิ, ตถา สตฺถุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ทีฆสาลํ กาเรตฺวา นิยฺยาเทสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ, สิริวฑฺโฒติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ อารทฺธวีริยานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปณิธานมกาสิ. สตฺถาปิ ตสฺส ปตฺถนาย สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา พฺยากริตฺวา ปกฺกามิ.

โสปิ ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต ปรินิพฺพุเต กสฺสปทสพเล อนุปฺปนฺเน อมฺหากํ ภควติ พาราณสิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ กริตฺวา เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ เตมาสํ จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิ. ปจฺเจกพุทฺโธ วุฏฺวสฺโส ปริปุณฺณปริกฺขาโร คนฺธมาทนเมว คโต. โสปิ กุลปุตฺโต ยาวชีวํ ตตฺถ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ ภควโต กาเล จมฺปานคเร อุสภเสฏฺิสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย เสฏฺิสฺส มหาโภคกฺขนฺโธ อภิวฑฺฒิ. ตสฺส ชาตทิวเส สกลนคเร มหาสกฺการสมฺปนฺโน อโหสิ, ตสฺส ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺธสฺส สตสหสฺสคฺฆนิกรตฺตกมฺพลปริจฺจาเคน สุวณฺณวณฺโณ สุขุมาลตโร จ อตฺตภาโว อโหสิ, เตนสฺส โสโณติ นามํ อกํสุ. มหตา ปริวาเรน วฑฺฒติ, ตสฺส หตฺถปาทตลานิ พนฺธุชีวกปุปฺผวณฺณานิ อเหสุํ, สตวิหตกปฺปาสสฺส วิย สมฺผสฺโส ปาทตเลสุ มณิกุณฺฑลาวฏฺฏวณฺณานิ โลมานิ ชายึสุ. วยปฺปตฺตสฺส ตสฺส ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเก ตโย ปาสาเท กาเรตฺวา นาฏกานิ อุปฏฺาเปสุํ. โส ตตฺถ มหตึ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต เทวกุมาโร วิย ปฏิวสติ.

อถ อมฺหากํ สตฺถริ สพฺพฺุตํ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺเต พิมฺพิสารรฺา ปกฺโกสาปิโต อสีติยา คามิกสหสฺเสหิ สทฺธึ ราชคหํ อาคโต, สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา, ชนสํสคฺคปริหรณตฺถํ สีตวเน วสนฺโต ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ านจงฺกมเมว อธิฏฺาย, ปธานมนุยุฺชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺหิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหํ วีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต, ‘‘เอวํ วายมนฺโตปิ อหํ มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกมิ, กึ เม ปพฺพชฺชาย, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุฺชิสฺสามิ, ปุฺานิ จ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. สตฺถา ตสฺส จิตฺตาจารํ ตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วีณูปโมวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. โสณตฺเถโรปิ สตฺถุ สมฺมุขา โอวาทํ ลภิตฺวา วีริยสมตํ โยเชตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๕.๒๕-๕๓) –

‘‘อโนมทสฺสิสฺส มุนิโน, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

สุธาย เลปนํ กตฺวา, จงฺกมํ การยึ อหํ.

‘‘นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ, จงฺกมํ สนฺถรึ อหํ;

อากาเส วิตานํ กตฺวา, โภชยึ พุทฺธมุตฺตมํ.

‘‘อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, อภิวาเทตฺวาน สุพฺพตํ;

ทีฆสาลํ ภควโต, นิยฺยาเทสิมหํ ตทา.

‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

ปฏิคฺคเหสิ ภควา, อนุกมฺปาย จกฺขุมา.

‘‘ปฏิคฺคเหตฺวาน สมฺพุทฺโธ, ทกฺขิเณยฺโย สเทวเก;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘โย โส หฏฺเน จิตฺเตน, ทีฆสาลํ อทาสิ เม;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘อิมสฺส มจฺจุกาลมฺหิ, ปุฺกมฺมสมงฺคิโน;

สหสฺสยุตฺตสฺสรโถ, อุปฏฺิสฺสติ ตาวเท.

‘‘เตน ยาเนนยํ โปโส, เทวโลกํ คมิสฺสติ;

อนุโมทิสฺสเร เทวา, สมฺปตฺเต กุลสมฺภเว.

‘‘มหารหํ พฺยมฺหํ เสฏฺํ, รตนมตฺติกเลปนํ;

กูฏาคารวรูเปตํ, พฺยมฺหํ อชฺฌาวสิสฺสติ.

‘‘ตึสกปฺปสหสฺสานิ, เทวโลเก รมิสฺสติ;

ปฺจวีสติ กปฺปานิ, เทวราชา ภวิสฺสติ.

‘‘สตฺตสตฺตติกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

ยโสธรสนามา เต, สพฺเพปิ เอกนามกา.

‘‘ทฺเว สมฺปตฺตี อนุโภตฺวา, วฑฺเฒตฺวา ปุฺสฺจยํ;

อฏฺวีสติกปฺปมฺหิ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.

‘‘ตตฺราปิ พฺยมฺหํ ปวรํ, วิสฺสกมฺเมน มาปิตํ;

ทสสทฺทาวิวิตฺตํ ตํ, ปุรมชฺฌาวสิสฺสติ.

‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, ภูมิปาโล มหิทฺธิโก;

โอกฺกาโก นาม นาเมน, ราชา รฏฺเ ภวิสฺสติ.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานํ, สพฺพาสํ ปวรา จ สา;

อภิชาตา ขตฺติยานี, นว ปุตฺเต ชเนสฺสติ.

‘‘นว ปุตฺเต ชเนตฺวาน, ขตฺติยานี มริสฺสติ;

ตรุณี จ ปิยา กฺา, มเหสิตฺตํ กริสฺสติ.

‘‘โอกฺกากํ โตสยิตฺวาน, วรํ กฺา ลภิสฺสติ;

วรํ ลทฺธาน สา กฺา, ปุตฺเต ปพฺพาชยิสฺสติ.

‘‘ปพฺพาชิตา จ เต สพฺเพ, คมิสฺสนฺติ นคุตฺตมํ;

ชาติเภทภยา สพฺเพ, ภคินีหิ วสิสฺสเร.

‘‘เอกา จ กฺา พฺยาธีหิ, ภวิสฺสติ ปริกฺขตา;

มา โน ชาติ ปภิชฺชีติ, นิขณิสฺสนฺติ ขตฺติยา.

‘‘ขตฺติโย นีหริตฺวาน, ตาย สทฺธึ วสิสฺสติ;

ภวิสฺสติ ตทา เภโท, โอกฺกากกุลสมฺภโว.

‘‘เตสํ ปชา ภวิสฺสนฺติ, โกฬิยา นาม ชาติยา;

ตตฺถ มานุสกํ โภคํ, อนุโภสฺสตินปฺปกํ.

‘‘ตมฺหา กายา จวิตฺวาน, เทวโลกํ คมิสฺสติ;

ตตฺราปิ ปวรํ พฺยมฺหํ, ลภิสฺสติ มโนรมํ.

‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

อาคนฺตฺวาน มนุสฺสตฺตํ, โสโณ นาม ภวิสฺสติ.

‘‘อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, ปทหํ สตฺถุ สาสเน;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘อนนฺตทสฺสี ภควา, โคตโม สกฺยปุงฺคโว;

วิเสสฺู มหาวีโร, อคฺคฏฺาเน เปสฺสติ.

‘‘วุฏฺมฺหิ เทเว จตุรงฺคุลมฺหิ, ติเณ อนิเลริตองฺคณมฺหิ;

ตฺวาน โยคสฺส ปยุตฺตตาทิโน, ตโตตฺตรึ ปารมตา น วิชฺชติ.

‘‘อุตฺตเม ทมเถ ทนฺโต, จิตฺตํ เม สุปณีหิตํ;

ภาโร เม โอหิโต สพฺโพ, นิพฺพุโตมฺหิ อนาสโว.

‘‘องฺคีรโส มหานาโค, อภิชาโตว เกสรี;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, เอตทคฺเค เปสิ มํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน อฺาพฺยากรณวเสน จ –

๖๓๒.

‘‘ยาหุ รฏฺเ สมุกฺกฏฺโ, รฺโ องฺคสฺส ปทฺธคู;

สฺวาชฺช ธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโ, โสโณ ทุกฺขสฺส ปารคู.

๖๓๓.

‘‘ปฺจ ฉินฺเท ปฺจ ชเห, ปฺจ จุตฺตริ ภาวเย;

ปฺจสงฺคาติโค ภิกฺขุ, โอฆติณฺโณติ วุจฺจติ.

๖๓๔.

‘‘อุนฺนฬสฺส ปมตฺตสฺส, พาหิราสสฺส ภิกฺขุโน;

สีลํ สมาธิ ปฺา จ, ปาริปูรึ น คจฺฉติ.

๖๓๕.

‘‘ยฺหิ กิจฺจํ อปวิทฺธํ, อกิจฺจํ ปน กรียติ;

อุนฺนฬานํ ปมตฺตานํ, เตสํ วฑฺฒนฺติ อาสวา.

๖๓๖.

‘‘เยสฺจ สุสมารทฺธา, นิจฺจํ กายคตา สติ;

อกิจฺจํ เต น เสวนฺติ, กิจฺเจ สาตจฺจการิโน;

สตานํ สมฺปชานานํ, อตฺถํ คจฺฉนฺติ อาสวา.

๖๓๗.

‘‘อุชุมคฺคมฺหิ อกฺขาเต, คจฺฉถ มา นิวตฺตถ;

อตฺตนา โจทยตฺตานํ, นิพฺพานมภิหารเย.

๖๓๘.

‘‘อจฺจารทฺธมฺหิ วีริยมฺหิ, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

วีโณปมํ กริตฺวา เม, ธมฺมํ เทเสติ จกฺขุมา;

ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหาสึ สาสเน รโต.

๖๓๙.

‘‘สมถํ ปฏิปาเทสึ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๖๔๐.

‘‘เนกฺขมฺเม อธิมุตฺตสฺส, ปวิเวกฺจ เจตโส;

อพฺยาพชฺฌาธิมุตฺตสฺส, อุปาทานกฺขยสฺส จ.

๖๔๑.

‘‘ตณฺหกฺขยาธิมุตฺตสฺส, อสมฺโมหฺจ เจตโส;

ทิสฺวา อายตนุปฺปาทํ, สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติ.

๖๔๒.

‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

กตสฺส ปติจโย นตฺถิ, กรณียํ น วิชฺชติ.

๖๔๓.

‘‘เสโล ยถา เอกฆโน, วาเตน น สมีรติ;

เอวํ รูปา รสา สทฺทา, คนฺธา ผสฺสา จ เกวลา.

๖๔๔.

‘‘อิฏฺา ธมฺมา อนิฏฺา จ, นปฺปเวเธนฺติ ตาทิโน;

ิตํ จิตฺตํ วิสฺุตฺตํ, วยฺจสฺสานุปสฺสตี’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ยาหุ รฏฺเ สมุกฺกฏฺโติ โย อหุ อโหสิ องฺครฏฺเ อสีติยา คามิกสหสฺเสหิ โภคสมฺปตฺติยา อิสฺสริยสมฺปตฺติยา จ สมฺมา อติวิย อุกฺกฏฺโ เสฏฺโ. รฺโ องฺคสฺส ปทฺธคูติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ปริสาย รฺชนฏฺเน รฺโ องฺคาธิปติโน พิมฺพิสารสฺส ปริวารภูโต คหปติวิเสโส ตสฺส รฏฺเ กุฏุมฺพิโก อหูติ โยเชตพฺพํ. สฺวาชฺช ธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโติ โส โสโณ อชฺเชตรหิ โลกุตฺตรธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโ ชาโต, คิหิกาเลปิ เกหิจิ อุกฺกฏฺโเยว หุตฺวา อิทานิ ปพฺพชิตกาเลปิ อุกฺกฏฺโเยว โหตีติ อตฺตานเมว ปรํ วิย ทสฺเสติ. ทุกฺขสฺส ปารคูติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส ปารํ ปริยนฺตํ คโต, เอเตน ธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโติ อวิเสเสน วุตฺตํ อุกฺกฏฺภาวํ วิเสเสติ อรหตฺตาธิคมทีปนโต.

อิทานิ ยาย ปฏิปตฺติยา ทุกฺขปารคู ชาโต, อฺาปเทเสน ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจ ฉินฺเท’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อปายกามสุคติสมฺปาปกานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปุริโส สตฺเถน ปาเท พทฺธรชฺชุกํ วิย เหฏฺิเมน มคฺคตฺตเยน ฉินฺเทยฺย, รูปารูปภวสมฺปาปกานิ ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปุริโส คีวาย พทฺธรชฺชุกํ วิย อคฺคมคฺเคน ชเหยฺย, ฉินฺเทยฺย, เตสํ ปน อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ ปหานาย ปฺจ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ อุตฺตริ ภาวเย ภาเวยฺย. เอวํภูโต ปน ภิกฺขุ ราคสงฺโค โทสโมหมานทิฏฺิสงฺโคติ ปฺจนฺนํ สงฺคานํ อติกฺกมเนน ปฺจสงฺคาติโค หุตฺวา, กาโมโฆ, ภโวโฆ, ทิฏฺโโฆ, อวิชฺโชโฆติ จตุนฺนํ โอฆานํ ติณฺณตฺตา โอฆติณฺโณติ วุจฺจติ.

อยฺจ โอฆตรณปฏิปตฺติสีลาทีนํ ปาริปูริยาว โหติ, สีลาทโย จ มานาทิปฺปหาเนน ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, น อฺถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุนฺนฬสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อุนฺนฬสฺสาติ อุคฺคตตุจฺฉมานสฺส. มาโน หิ อุนฺนมนาการวุตฺติยา ตุจฺฉภาเวน นโฬ วิยาติ ‘‘นโฬ’’ติ วุจฺจติ. ปมตฺตสฺสาติ สติโวสฺสคฺเคน ปมาทํ อาปนฺนสฺส. พาหิราสสฺสาติ พาหิเรสุ อายตเนสุ อาสาวโต, กาเมสุ อวีตราคสฺสาติ อตฺโถ. สีลํ สมาธิ ปฺา จ, ปาริปูรึ น คจฺฉตีติ ตสฺส สีลาทีนํ ปฏิปกฺขเสวิโน โลกิโยปิ ตาว สีลาทิคุโณ ปาริปูรึ น คจฺฉติ, ปเคว โลกุตฺตโร.

ตตฺถ การณมาห ‘‘ยฺหิ กิจฺจ’’นฺติอาทินา. ภิกฺขุโน หิ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย อปริมาณสีลกฺขนฺธโคปนํ อรฺวาโส ธุตงฺคปริหรณํ ภาวนารามตาติ เอวมาทิ กิจฺจํ นาม. เยหิ ปน อิทํ ยถาวุตฺตํ อตฺตโน กิจฺจํ, ตํ อปวิทฺธํ อกรเณน ฉฑฺฑิตํ. อกิจฺจนฺติ ปตฺตมณฺฑนํ จีวรกายพนฺธนอํสพทฺธฉตฺตุปาหนตาลวณฺฏธมฺมกรณมณฺฑนนฺติ เอวมาทิ ปริกฺขารมณฺฑนํ ปจฺจยพาหุลิยนฺติ เอวมาทิ ภิกฺขุโน อกิจฺจํ นาม, ตํ กยิรติ, เตสํ มานนฬํ อุกฺขิปิตฺวา จรเณน อุนฺนฬานํ สติโวสฺสคฺเคน ปมตฺตานํ จตฺตาโรปิ อาสวา วฑฺฒนฺติ.

เยสํ ปน ปฺาทิคุโณ วฑฺฒติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘เยส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ ปคฺคหิตา. กายคตา สตีติ, กายานุปสฺสนาภาวนา. อกิจฺจํ เตติ เต เอตํ ปตฺตมณฺฑนาทิอกิจฺจํ. น เสวนฺตีติ น กโรนฺติ. กิจฺเจติ, ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย กตฺตพฺเพ อปริมาณสีลกฺขนฺธโคปนาทิเก. สาตจฺจการิโนติ สตตการิโน เตสํ สติยา อวิปฺปวาเสน สตานํ สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ, อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ จตูหิ สมฺปชฺเหิ สมฺปชานานํ, จตฺตาโรปิ อาสวา อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปริกฺขยํ อภาวํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.

อิทานิ อตฺตโน สนฺติเก ิตภิกฺขูนํ โอวาทํ เทนฺโต ‘‘อุชุมคฺคมฺหี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อุชุมคฺคมฺหิ อกฺขาเตติ อนฺตทฺวยปริวชฺชเนน กายวงฺกาทิปฺปหาเนน จ อุชุเก มชฺฌิมปฏิปทาภูเต อริยมคฺเค สตฺถารา ภาสิเต. คจฺฉถาติ ปฏิปชฺชถ. มา นิวตฺตถาติ อนฺตรา โวสานํ มาปชฺชถ. อตฺตนา โจทยตฺตานนฺติ อิธ อตฺถกาโม กุลปุตฺโต อปายภยปจฺจเวกฺขณาทินา อตฺตนาว อตฺตานํ โจเทนฺโต. นิพฺพานมภิหารเยติ, อตฺตานํ นิพฺพานํ อภิหเรยฺย อุปเนยฺย, ยถา นํ สจฺฉิกโรติ, ตถา ปฏิปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ.

อิทานิ มยาปิ เอวเมว ปฏิปนฺนนฺติ, อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺจารทฺธมฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อจฺจารทฺธมฺหิ วีริยมฺหีติ วิปสฺสนํ ภาเวนฺเตน มยา สมาธินา วีริยํ สมรสํ อกตฺวา อติวิย วีริเย ปคฺคหิเต. อจฺจารทฺธวีริยตา จสฺส เหฏฺา วุตฺตาเยว. วีโณปมํ กริตฺวา เมติ อายสฺมโต โสณสฺส ‘‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ. อหํ เตสํ อฺตโร, อถ จ ปน เม นานุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ตสฺมาหํ วิพฺภมิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน สตฺถา อิทฺธิยา ตสฺส สมฺมุเข อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กสฺมา ตฺวํ, โสณ, ‘วิพฺภมิสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ, กุสโล ตฺวํ ปุพฺเพ อคาริยภูโต วีณาย ตนฺติสฺสเร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ตํ กึ มฺสิ, โสณ? ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อจฺจายตา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วาติ? โน เหตํ, ภนฺเต! ตํ กึ มฺสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อติสิถิลา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วาติ? โน เหตํ, ภนฺเต. ตํ กึ มฺสิ, โสณ, ยทา ปน เต วีณาย ตนฺติโย เนว อจฺจายตา โหนฺติ, นาติสิถิลา สเม คุเณ ปติฏฺิตา, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วาติ? เอวํ, ภนฺเต. เอวเมว โข, โสณ, อจฺจารทฺธวีริยํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตติ, อติลีนวีริยํ โกสชฺชาย สํวตฺตติ, ตสฺมาติห ตฺวํ, โสณ, วีริยสมตํ อธิฏฺห, อินฺทฺริยานฺจ สมตํ ปฏิวิชฺฌา’’ติ เอวํ วีณํ อุปมํ กตฺวา ปวตฺติเตน วีโณปโมวาเทน มยฺหํ ธมฺมํ เทเสสิ. ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวาติ ตสฺส ภควโต วจนํ วีโณปโมวาทํ สุตฺวา อนฺตรา อุปฺปนฺนํ วิพฺภมิตุกามตํ ปหาย สตฺถุ สาสเน รโต อภิรโต วิหรึ.

วิหรนฺโต จ สมถํ ปฏิปาเทสึ วีริยสมตํ โยเชนฺโต สทฺธาปฺานํ วิย สมาธิวีริยานํ สมรสตํ อุปฺปาเทนฺโต ฌานาธิฏฺานํ วิปสฺสนาสมาธึ สมฺปาเทสึ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปสึ. ตตฺถ ปโยชนํ อาห ‘‘อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา’’ติ. อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตาธิคมายาติ อตฺโถ.

อิทานิ ยถา ปฏิปนฺนสฺส สมถวิปสฺสนา สมฺปชฺชึสุ, ตํ อฺาปเทเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘เนกฺขมฺเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เนกฺขมฺเมติ ปพฺพชฺชาทิเก กามนิสฺสรเณ. อธิมุตฺตสฺสาติ ตตฺถ นินฺนโปณปพฺภารภาเวน ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส, ปมํ ตาว ปพฺพชฺชาภิมุโข หุตฺวา กาเม ปหาย ปพฺพชิตฺวา จ สีลวิโสธนํ อรฺวาโส ธุตงฺคปริหรณํ ภาวนาภิโยโคติ เอวมาทีสุ อนวชฺชธมฺเมสุ ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปวิเวกฺจ เจตโสติ เจตโส ปวิเวกฺจ อธิมุตฺตสฺส เอวํ เนกฺขมฺมาธิมุตฺตสฺส สโต จตุกฺกปฺจกชฺฌานานํ นิพฺพตฺตเนน วิเวเก ยุตฺตสฺส ปยุตฺตสฺส. อพฺยาพชฺฌาธิมุตฺตสฺสาติ อพฺยาพชฺเฌ นิทุกฺขตาย อธิมุตฺตสฺส ฌานสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมถสุเข ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส. อุปาทานกฺขยสฺส จาติ จตุนฺนมฺปิ อุปาทานานํ ขยนฺเต อรหตฺเต อธิมุตฺตสฺส. ภุมฺมตฺเถ หิ เอตํ สามิวจนํ. ตํ ยถาธิคตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตาธิคมาย วิปสฺสนํ อนุยุฺชนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

ตณฺหกฺขยาธิมุตฺตสฺสาติ ตณฺหา ขียติ เอตฺถาติ ตณฺหกฺขโย, นิพฺพานํ, ตสฺมึ อธิมุตฺตสฺส อุปาทึ ภยโต, อนุปาทิฺจ เขมโต ทสฺสเนน นิโรเธ นินฺนโปณปพฺภารสฺส. อสมฺโมหฺจ เจตโสติ อสมฺโมหสมฺปชฺวเสน จิตฺตสฺส อสมฺโมหปวตฺตึ สมฺโมหสมุจฺฉินฺทเนน วา จิตฺตสฺส อสมฺโมหภูตํ อริยมคฺคํ อธิมุตฺตสฺส. ทิสฺวา อายตนุปฺปาทนฺติ จกฺขาทีนํ อายตนานํ ยถาสกปจฺจเยหิ ขเณ ขเณ อุปฺปาทํ, ตปฺปฏิปกฺขโต นิโรธฺจ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ทิสฺวา ทสฺสนเหตุ สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ สมฺมา เหตุนา าเยน มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพาสวโต จิตฺตํ วิมุจฺจติ.

‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺสา’’ติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ตสฺส วุตฺตนเยน สมฺมเทว สพฺพสํกิเลสโต วิมุตฺตสฺส, ตโต เอว อจฺจนฺตุปสเมน สนฺตจิตฺตสฺส ขีณาสวภิกฺขุโน กตสฺส กุสลสฺส อกุสลสฺส วา อุปจโย นตฺถิ มคฺเคเนว สมุคฺฆาติตตฺตา, ปริฺาทิเภทํ กรณียํ น วิชฺชติ กตกิจฺจตฺตา. เอวํ ภูตสฺส ยถา เอกฆโน เสโล ปพฺพโต ปกติวาเตน น สมีรติ น สํกมฺปติ, เอวํ อิฏฺา จ อนิฏฺา จ รูปาทโย อารมฺมณธมฺมา ตาทิโน ตาทิภาวปฺปตฺตสฺส ิตํ อเนชํ ปหีนสพฺพโสกตาย วิสํยุตฺตํ จิตฺตํ นปฺปเวธนฺติ น จาเลนฺติ. อสฺส จ อารมฺมณธมฺมสฺส กาเลน กาลํ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วิปสฺสนฺโต วยํ นิโรธํ ขเณ ขเณ ภิชฺชนสภาวํ อนุปสฺสตีติ อฺํ พฺยากาสิ.

โสณโกฬิวิสตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตรสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. จุทฺทสกนิปาโต

๑. ขทิรวนิยเรวตตฺเถรคาถาวณฺณนา

จุทฺทสกนิปาเต ยทา อหนฺติอาทิกา อายสฺมโต ขทิรวนิยเรวตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? กามฺจิมสฺส เถรสฺส คาถา เหฏฺา เอกกนิปาเต (เถรคา. อฏฺ. ๑. ขทิรวนิยตฺเถรคาถาวณฺณนา) อาคตา. ตตฺถ ปนสฺส อตฺตโน ภาคิเนยฺเยสุ สติชนนมตฺตํ ทสฺสิตนฺติ ตสฺสา เอกกนิปาเต สงฺคโห กโต. อิมา ปน เถรสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย ยาว ปรินิพฺพานา ปฏิปตฺติปกาสิตา คาถา อิมสฺมึ จุทฺทสกนิปาเต สงฺคหํ อาโรปิตา. ตตฺถ อฏฺุปฺปตฺติ เหฏฺา วุตฺตาเยว. อยํ ปน วิเสโส – เถโร กิร อรหตฺตํ ปตฺวา กาเลน กาลํ สตฺถุ ธมฺมเสนาปติปฺปภูตีนํ มหาเถรานฺจ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา กติปาหเมว ตตฺถ วสิตฺวา ขทิรวนเมว ปจฺจาคนฺตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน พฺรหฺมวิหาเรหิ จ วีตินาเมติ. เอวํ คจฺฉนฺเต กาเล ชิณฺโณ วุฑฺโฒ วโย อนุปฺปตฺโต อโหสิ. โส เอกทิวสํ พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค สาวตฺถิยา อวิทูเร อรฺเ วสิ. เตน จ สมเยน โจรา นคเร กตกมฺมา อารกฺขมนุสฺเสหิ อนุพนฺธา ปลายนฺตา เถรสฺส สมีเป คหิตภณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายึสุ. มนุสฺสา อนุธาวนฺตา เถรสฺส สมีเป ภณฺฑํ ทิสฺวา เถรํ พนฺธิตฺวา ‘‘โจโร’’ติ สฺาย คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสสุํ, ‘‘อยํ, เทว, โจโร’’ติ. ราชา เถรํ มุฺจาเปตฺวา, ‘‘กึ, ภนฺเต, ตุมฺเหหิ อิทํ โจริกกมฺมํ กตํ วา, โน วา’’ติ ปุจฺฉิ. เถโร กิฺจาปิ ชาติโต ปฏฺาย อตฺตนา ตาทิสํ น กตปุพฺพํ, ตํ ปพฺพชิตโต ปฏฺาย ปน อกตภาวสฺส, สพฺพโส กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา ตาทิสสฺส กรเณ อภพฺพตาย ปกาสนตฺถํ สมีเป ิตานํ ภิกฺขูนํ รฺโ จ ธมฺมํ เทเสนฺโต –

๖๔๕.

‘‘ยทา อหํ ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

นาภิชานามิ สงฺกปฺปํ, อนริยํ โทสสํหิตํ.

๖๔๖.

‘‘‘อิเม หฺนฺตุ วชฺฌนฺตุ, ทุกฺขํ ปปฺโปนฺตุ ปาณิโน’;

สงฺกปฺปํ นาภิชานามิ, อิมสฺมึ ทีฆมนฺตเร.

๖๔๗.

‘‘เมตฺตฺจ อภิชานามิ, อปฺปมาณํ สุภาวิตํ;

อนุปุพฺพํ ปริจิตํ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ.

๖๔๘.

‘‘สพฺพมิตฺโต สพฺพสโข, สพฺพภูตานุกมฺปโก;

เมตฺตจิตฺตฺจ ภาเวมิ, อพฺยาปชฺชรโต สทา.

๖๔๙.

‘‘อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, จิตฺตํ อาโมทยามหํ;

พฺรหฺมวิหารํ ภาเวมิ, อกาปุริสเสวิตํ.

๖๕๐.

‘‘อวิตกฺกํ สมาปนฺโน, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก;

อริเยน ตุณฺหีภาเวน, อุเปโต โหติ ตาวเท.

๖๕๑.

‘‘ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;

เอวํ โมหกฺขยา ภิกฺขุ, ปพฺพโตว น เวธติ.

๖๕๒.

‘‘อนงฺคณสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ สุจิคเวสิโน;

วาลคฺคมตฺตํ ปาปสฺส, อพฺภมตฺตํว ขายติ.

๖๕๓.

‘‘นครํ ยถา ปจฺจนฺตํ, คุตฺตํ สนฺตรพาหิรํ;

เอวํ โคเปถ อตฺตานํ, ขโณ โว มา อุปจฺจคา.

๖๕๔.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา.

๖๕๕.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต.

๖๕๖.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

๖๕๗.

‘‘ยสฺส จตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

๖๕๘.

‘‘สมฺปาเทถปฺปมาเทน, เอสา เม อนุสาสนี;

หนฺทาหํ ปรินิพฺพิสฺสํ วิปฺปมุตฺโตมฺหิ สพฺพธี’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถายํ อปุพฺพปทวณฺณนา อิมสฺมึ ทีฆมนฺตเรติ, ยทา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ, ตโต ปฏฺาย อยฺจ เม จริมกาโล, เอตสฺมึ ทีฆมนฺตเร กาเล ‘‘อิทํ มยฺหํ โหตู’’ติ อภิชฺฌาวเสน วา, ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตู’’ติอาทินา พฺยาปาทวเสน วา อนริยํ โทสสํหิตํ สงฺกปฺปํ นาภิชานามีติ โยชนา.

เมตฺตฺจ อภิชานามีติ, มิชฺชติ สินิยฺหติ เอตายาติ เมตฺตา, อพฺยาปาโท. เมตฺตา เอติสฺสา อตฺถีติ เมตฺตา, เมตฺตาภาวนา เมตฺตาพฺรหฺมวิหาโร, ตํ เมตฺตํ. จ-สทฺเทน กรุณํ มุทิตํ อุเปกฺขฺจาติ อิตรพฺรหฺมวิหาเร สงฺคณฺหาติ. อภิชานามีติ, อภิมุขโต ชานามิ. อธิคตฺหิ ฌานํ ปจฺจเวกฺขโต ปจฺจเวกฺขณาณสฺส อภิมุขํ โหติ. กีทิสนฺติ อาห ‘‘อปฺปมาณ’’นฺติอาทิ. ตฺหิ ยถา พุทฺเธน ภควตา เทสิตํ, ตถา อโนทิสฺสกผรณวเสน อปริมาณสตฺตารมฺมณตาย อปฺปมาณํ. ปคุณพลวภาวาปาทเนน สุฏฺุ ภาวิตตฺตา สุภาวิตํ. ปมํ เมตฺตา, ตโต กรุณา, ตโต มุทิตา, ปจฺฉา อุเปกฺขาติ เอวํ อนุปุพฺพํ อนุกฺกเมน ปริจิตํ อาเสวิตํ, พหุลีกตํ อภิชานามีติ โยชนา.

สพฺเพสํ สตฺตานํ มิตฺโต, สพฺเพ วา เต มยฺหํ มิตฺตาติ สพฺพมิตฺโต. เมตฺตฺหิ ภาเวนฺโต สตฺตานํ ปิโย โหติ. สพฺพสโขติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สพฺพภูตานุกมฺปโกติ, สพฺพสตฺตานํ อนุคฺคณฺหนโก. เมตฺตจิตฺตฺจ ภาเวมีติ, เมตฺตาย สหิตํ สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ วิเสสโต ภาเวมิ, วฑฺเฒมิ, ปกาเสมิ วา อกเถนฺเตปิ ภาวนาย อุกฺกํสคตภาวโต. ‘‘เมตฺตํ จิตฺตฺจ ภาเวมี’’ติ วา ปาโ. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนโยว. อพฺยาปชฺชรโตติ, อพฺยาปชฺเช สตฺตานํ หิตูปสํหาเร อภิรโต. สทาติ, สพฺพกาลํ, เตน ตตฺถ สาตจฺจกิริยํ ทสฺเสติ.

อสํหีรนฺติ น สํหีรํ, อาสนฺนปจฺจตฺถิเกน ราเคน อนากฑฺฒนิยํ. อสํกุปฺปนฺติ น กุปฺปํ, ทูรปจฺจตฺถิเกน พฺยาปาเทน อโกปิยํ, เอวํภูตํ กตฺวา มม เมตฺตจิตฺตํ อาโมทยามิ อภิปฺปโมทยามิ พฺรหฺมวิหารํ ภาเวมิ. อกาปุริสเสวิตนฺติ, กาปุริเสหิ นีจชเนหิ อเสวิตํ, อกาปุริเสหิ วา อริเยหิ พุทฺธาทีหิ เสวิตํ พฺรหฺมํ เสฏฺํ นิทฺโทสํ เมตฺตาทิวิหารํ ภาเวมิ วฑฺเฒมีติ อตฺโถ.

เอวํ อตฺตุทฺเทสวเสน ปฺจหิ คาถาหิ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ อฺาปเทเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อวิตกฺก’’นฺติอาทินา จตสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ อวิตกฺกํ สมาปนฺโนติ, วิตกฺกวิรหิตํ ทุติยาทิฌานํ สมาปนฺโน, เอเตน เถโร พฺรหฺมวิหารภาวนาย อฺาปเทเสน อตฺตนา ทุติยาทิฌานาธิคมมาห. ยสฺมา ปนายํ เถโร ตเมว ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา เอกาสเนเนว อรหตฺตํ คณฺหิ, ตสฺมา ตมตฺถํ อฺาปเทเสเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘อวิตกฺกํ สมาปนฺโน’’ติ วตฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก. อริเยน ตุณฺหีภาเวน, อุเปโต โหติ ตาวเท’’ติ อาห. ตตฺถ วจีสงฺขาราภาวโต อวิตกฺกาวิจารา สมาปตฺติ ‘‘อริโย ตุณฺหีภาโว’’ติ วทนฺติ. ‘‘สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๗๓) ปน วจนโต ยา กาจิ สมาปตฺติ อริโย ตุณฺหีภาโว นาม. อิธ ปน จตุตฺถชฺฌานิกา อคฺคผลสมาปตฺติ อธิปฺเปตา.

อิทานิ ตสฺสาธิคตตฺตา โลกธมฺเมหิ อกมฺปนียตํ อุปมาย ปกาเสนฺโต ‘‘ยถาปิ ปพฺพโต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยถาปิ ปพฺพโต เสโลติ, ยถา สิลามโย เอกฆนเสโล ปพฺพโต, น ปํสุปพฺพโต น มิสฺสกปพฺพโตติ อตฺโถ. อจโล สุปฺปติฏฺิโตติ, สุฏฺุ ปติฏฺิตมูโล ปกติวาเตหิ อจโล อกมฺปนีโย โหติ, ตสฺมา อรหตฺตํ นิพฺพานฺจ เอวํ โมหกฺขยา ภิกฺขุ, ปพฺพโตว น เวธตีติ โมหสฺส อนวเสสปฺปหานา, โมหมูลกตฺตา จ สพฺพากุสลานํ ปหีนสพฺพากุสโล ภิกฺขุ ยถา โส ปพฺพโต ปกติวาเตหิ, เอวํ โลกธมฺเมหิ น เวธติ น กมฺปติ, โมหกฺขโยติ วา ยสฺมา อรหตฺตํ นิพฺพานฺจ วุจฺจติ, ตสฺมา โมหกฺขยาติ โมหกฺขยสฺส เหตุ นิพฺพานสฺส อรหตฺตสฺส จ อธิคตตฺตา จตูสุ อริยสจฺเจสุ สุปฺปติฏฺิโต อสมาปนฺนกาเลปิ ปพฺพโต วิย น เวธติ, ปเคว สมาปนฺนกาเลติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ปาปํ นาเมตํ อสุจิสีโล เอว สมาจรติ, น จ สุจิสีโล, สุจิสีลสฺส ปน ตํ อณุมตฺตมฺปิ ภาริยํ หุตฺวา อุปฏฺาตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนงฺคณสฺสา’’ติอาทิคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ราคาทิองฺคณาภาวโต อนงฺคณสฺส สพฺพกาลํ สุจิอนวชฺชธมฺเม เอว คเวสนฺตสฺส สปฺปุริสสฺส วาลคฺคมตฺตํ เกสคฺคมตฺตํ ปาปสฺส เลสมตฺตมฺปิ สกลํ โลกธาตุํ ผริตฺวา ิตํ อพฺภมตฺตํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ตสฺมา น เอวรูเป กมฺเม มาทิสา อาสงฺกิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.

ยสฺมา นิกฺกิเลเสสุปิ อนฺธพาลา เอวรูเป อปวาเท สมุฏฺาเปนฺติ, ตสฺมา อตฺถกาเมหิ สกฺกจฺจํ อตฺตา รกฺขิตพฺโพติ โอวาทํ เทนฺโต ‘‘นครํ ยถา’’ติอาทิคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา ปน ปจฺจนฺตนครวาสีหิ มนุสฺเสหิ ปจฺจนฺตํ นครํ ทฺวารปาการาทีนิ ถิรานิ กโรนฺเตหิ สอนฺตรํ, อุทฺทาปปริขาทีนิ ถิรานิ กโรนฺเตหิ สพาหิรนฺติ สนฺตรพาหิรํ คุตฺตํ กรียติ, เอวํ ตุมฺเหหิปิ สตึ อุปฏฺเปตฺวา อชฺฌตฺติกานิ ฉ ทฺวารานิ ปิทหิตฺวา ทฺวารรกฺขิตํ สตึ อวิสฺสชฺเชตฺวา ยถา คยฺหมานานิ พาหิรานิ ฉ อายตนานิ อชฺฌตฺติกานิ อุปฆาตาย สํวตฺตนฺติ, ตถา อคฺคหเณน ตานิปิ ถิรานิ กตฺวา เตสํ อปฺปเวสาย ทฺวารรกฺขิตํ สตึ อปฺปหาย วิจรนฺตา อตฺตานํ โคเปถ. กสฺมา? ขโณ โว มา อุปจฺจคา. โย หิ เอวํ อตฺตานํ น โคเปติ, ตํ ปุคฺคลํ พุทฺธุปฺปาทกฺขโณ, มนุสฺสตฺตภาวกฺขโณ, มชฺฌิมเทเส อุปฺปตฺติกฺขโณ, สมฺมาทิฏฺิยา ปฏิลทฺธกฺขโณ, ฉนฺนํ อายตนานํ อเวกลฺลกฺขโณติ สพฺโพปิ อยํ ขโณ อติกฺกมติ, โส ขโณ ตุมฺเห มา อติกฺกมตูติ.

เอวํ เถโร อิมาย คาถาย สราชิกํ ปริสํ ภิกฺขู จ โอวทิตฺวา ปุน มรเณ ชีวิเต จ อตฺตโน สมจิตฺตตํ กตกิจฺจตฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘นาภินนฺทามิ มรณ’’นฺติอาทิมาห. ตํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว (เถรคา. อฏฺ. ๒.๖๐๗).

เอวํ ปน วตฺวา อตฺตโน ปรินิพฺพานกาลํ อุปฏฺิตํ ทิสฺวา สงฺเขเปเนว เนสํ โอวาทํ ทตฺวา ปรินิพฺพานํ ปเวเทนฺโต โอสานคาถมาห. ตตฺถ สมฺปาเทถปฺปมาเทนาติ สมฺปาเทตพฺพํ ทานสีลาทึ อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปเภเท คหฏฺวตฺเต สีลานุรกฺขเณ สมถอนุโยเค วิปสฺสนาภาวนาย จ อปฺปมตฺตา โหถ. เอสา เม อนุสาสนีติ ทานสีลาทีสุ น ปมชฺชถาติ เอสา มม อนุสิฏฺิ โอวาโท.

เอวํ สิขาปตฺตํ ปรหิตปฏิปตฺตึ ทีเปตฺวา อตฺตหิตปฏิปตฺติยาปิ มตฺถกํ คณฺหนฺโต ‘‘หนฺทาหํ ปรินิพฺพิสฺสํ, วิปฺปมุตฺโตมฺหิ สพฺพธี’’ติ อาห. ตตฺถ วิปฺปมุตฺโตมฺหิ สพฺพธีติ สพฺพโส กิเลเสหิ ภเวหิ จ วิปฺปมุตฺโต อมฺหิ, ตสฺมา เอกํเสน ปรินิพฺพายิสฺสามีติ.

เอวํ ปน วตฺวา อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปชฺชลนฺโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ.

ขทิรวนิยเรวตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โคทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยถาปิ ภทฺโทติอาทิกา อายสฺมโต โคทตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ สตฺถวาหกุเล นิพฺพตฺโต. โคทตฺโตติ นาเมน วยปฺปตฺโต ปิตริ กาลงฺกเต กุฏุมฺพํ สณฺเปนฺโต ปฺจหิ สกฏสเตหิ ภณฺฑํ อาทาย อปราปรํ สฺจริตฺวา วาณิชฺเชน ชีวิกํ กปฺเปติ ยถาวิภวํ ปุฺานิปิ กโรติ. โส เอกทิวสํ อนฺตรามคฺเค ธุเร ยุตฺตโคเณ วหิตุํ อสกฺโกนฺเต ปติเต มนุสฺเสสุ ตํ วุฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺเตสุ สยเมว คนฺตฺวา ตํ นงฺคุฏฺเ คาฬฺหํ วิชฺฌิ. โคโณ ‘‘อยํ อสปฺปุริโส มม พลาพลํ อชานนฺโต คาฬฺหํ วิชฺฌตี’’ติ กุทฺโธ มนุสฺสวาจาย, ‘‘โภ โคทตฺต, อหํ เอตฺตกํ กาลํ อตฺตโน พลํ อนิคุหนฺโต ตุยฺหํ ภารํ วหึ, อชฺช ปน อสมตฺถภาเวน ปติตํ มํ อติวิย พาธสิ, โหตุ, อิโต จวิตฺวา นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน ตํ พาเธตุํ สมตฺโถ ปฏิสตฺตุ ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนานุรูเปน อกฺโกสิ. ตํ สุตฺวา โคทตฺโต ‘‘เอวํ นาม สตฺเต พาเธตฺวา กึ อิมาย ชีวิกายา’’ติ สํเวคชาโต สพฺพํ วิภวํ ปหาย อฺตรสฺส มหาเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา สมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺโต เอกทิวสํ อตฺตโน สนฺติกํ อุปคตานํ คหฏฺปพฺพชิตานํ อริยคณานํ โลกธมฺเม อารพฺภ ธมฺมํ กเถนฺโต –

๖๕๙.

‘‘ยถาปิ ภทฺโท อาชฺโ, ธุเร ยุตฺโต ธุรสฺสโห;

มถิโต อติภาเรน, สํยุคํ นาติวตฺตติ.

๖๖๐.

‘‘เอวํ ปฺาย เย ติตฺตา, สมุทฺโท วารินา ยถา;

น ปเร อติมฺนฺติ, อริยธมฺโมว ปาณินํ.

๖๖๑.

‘‘กาเล กาลวสํ ปตฺตา, ภวาภววสํ คตา;

นรา ทุกฺขํ นิคจฺฉนฺติ, เตธ โสจนฺติ มาณวา.

๖๖๒.

‘‘อุนฺนตา สุขธมฺเมน, ทุกฺขธมฺเมน โจนตา;

ทฺวเยน พาลา หฺนฺติ, ยถาภูตํ อทสฺสิโน.

๖๖๓.

‘‘เย จ ทุกฺเข สุขสฺมิฺจ, มชฺเฌ สิพฺพินิมจฺจคู;

ิตา เต อินฺทขีโลว, น เต อุนฺนตโอนตา.

๖๖๔.

‘‘น เหว ลาเภ นาลาเภ, น ยเส น จ กิตฺติยา;

น นินฺทายํ ปสํสาย, น เต ทุกฺเข สุขมฺหิ จ.

๖๖๕.

‘‘สพฺพตฺถ เต น ลิมฺปนฺติ, อุทพินฺทุว โปกฺขเร;

สพฺพตฺถ สุขิตา ธีรา, สพฺพตฺถ อปราชิตา.

๖๖๖.

‘‘ธมฺเมน จ อลาโภ โย, โย จ ลาโภ อธมฺมิโก;

อลาโภ ธมฺมิโก เสยฺโย, ยฺเจ ลาโภ อธมฺมิโก.

๖๖๗.

‘‘ยโส จ อปฺปพุทฺธีนํ, วิฺูนํ อยโส จ โย;

อยโสว เสยฺโย วิฺูนํ, น ยโส อปฺปพุทฺธินํ.

๖๖๘.

‘‘ทุมฺเมเธหิ ปสํสา จ, วิฺูหิ ครหา จ ยา;

ครหาว เสยฺโย วิฺูหิ, ยฺเจ พาลปฺปสํสนา.

๖๖๙.

‘‘สุขฺจ กามมยิกํ, ทุกฺขฺจ ปวิเวกิยํ;

ปวิเวกทุกฺขํ เสยฺโย, ยฺเจ กามมยํ สุขํ.

๖๗๐.

‘‘ชีวิตฺจ อธมฺเมน, ธมฺเมน มรณฺจ ยํ;

มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย, ยฺเจ ชีเว อธมฺมิกํ.

๖๗๑.

‘‘กามโกปปฺปหีนา เย, สนฺตจิตฺตา ภวาภเว;

จรนฺติ โลเก อสิตา, นตฺถิ เตสํ ปิยาปิยํ.

๖๗๒.

‘‘ภาวยิตฺวาน โพชฺฌงฺเค, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;

ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ อาชฺโติ, อุสภาชานีโย. ธุเร ยุตฺโตติ, สกฏธุเร โยชิโต. ธุรสฺสโหติ, ธุรวาโห. คาถาสุขตฺถฺเจตฺถ ทฺวิสการโต นิทฺเทโส กโต, สกฏภารํ วหิตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ. มถิโต อติภาเรนาติ, อติภาเรน ครุภาเรน ปีฬิโต. ‘‘มทฺทิโต’’ติปิ ปาฬิ, โส เอวตฺโถ. สํยุคนฺติ, อตฺตโน ขนฺเธ ปิตํ ยุคํ นาติวตฺตติ น อติกฺกาเมติ, สมฺมา โย อุทฺธริตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา น ติฏฺติ. เอวนฺติ ยถา โส โธรยฺโห อตฺตโน ภทฺราชานียตาย อตฺตโน ธีรวีรตาย อตฺตโน ภารํ นาติวตฺตติ น ปริจฺจชติ, เอวํ เย วารินา วิย มหาสมุทฺโท โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย ติตฺตา ธาตา ปริปุณฺณา, เต ปเร นิหีนปฺเ น อติมฺนฺติ, น ปริภวนฺติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อริยธมฺโมว ปาณิน’’นฺติ, ปาณินํ สตฺเตสุ อยํ อริยานํ ธมฺโม ยทิทํ เตสํ ปฺาย ปาริปูรึ คตตฺตา ลาภาทินา อตฺตานุกฺกํสนํ วิย อลาภาทินา ปเรสํ อวมฺภนํ.

เอวํ ปฺาปาริปูริยา อริยานํ สุขวิหารํ ทสฺเสตฺวา ตทภาวโต อนริยานํ ทุกฺขวิหารํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาเล’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กาเลติ ลาภาลาภาทินา สมงฺคีภูตกาเล. กาลวสํ ปตฺตาติ ลาภาทิกาลสฺส จ วสํ อุปคตา, ลาภาทินา โสมนสฺสิตา อลาภาทินา จ โทมนสฺสิตาติ อตฺโถ. ภวาภววสํ คตาติ ภวสฺส อภวสฺส จ วสํ อุปคตา วุทฺธิหานิโย อนุวตฺตนฺตา เต. นรา ทุกฺขํ นิคจฺฉนฺติ, เตธ โสจนฺติ มาณวาติ เต นรา ‘‘มาณวา’’ติ ลทฺธนามา สตฺตา ลาภาลาภาทิวเสน วุทฺธิหานิวเสน อนุโรธปฏิวิโรธํ อาปนฺนา อิธโลเก โสจนฺติ, ปรโลเก จ นิรยาทิทุกฺขํ คจฺฉนฺติ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ.

‘‘อุนฺนตา’’ติอาทินาปิ โลกธมฺมวเสน สตฺตานํ อนตฺถปฺปตฺติเมว ทสฺเสติ. ตตฺถ อุนฺนตา สุขธมฺเมนาติ สุขเหตุนา สุขปจฺจเยน โภคสมฺปตฺติอาทินา อุนฺนตึ คตา, โภคมทาทินา มตฺตาติ อตฺโถ. ทุกฺขธมฺเมน โจนตาติ ทุกฺขเหตุนา ทุกฺขปจฺจเยน โภควิปตฺติอาทินา นิหีนตํ คตา ทาลิทฺทิยาทินา กาปฺตํ ปตฺตา. ทฺวเยนาติ ยถาวุตฺเตน อุนฺนติโอนติทฺวเยน ลาภาลาภาทิทฺวเยน วา พาลปุถุชฺชนา หฺนฺติ, อนุโรธปฏิวิโรธวเสน วิพาธียนฺติ ปีฬิยนฺติ. กสฺมา? ยถาภูตํ อทสฺสิโน ยสฺมา เต ธมฺมสภาวํ ยาถาวโต นพฺภฺํสุ, ปริฺาตกฺขนฺธา ปหีนกิเลสา จ น โหนฺติ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ‘‘ยถาภูตํ อทสฺสนา’’ติปิ ปนฺติ, อทสฺสนเหตูติ อตฺโถ. เย จ ทุกฺเข สุขสฺมิฺจ, มชฺเฌ สิพฺพินิมจฺจคูติ เย ปน อริยา ทุกฺขเวทนาย สุขเวทนาย มชฺฌตฺตตาเวทนาย จ ตปฺปฏิพทฺธํ ฉนฺทราคภูตํ สิพฺพินึ ตณฺหํ อคฺคมคฺคาธิคเมน อจฺจคู อติกฺกมึสุ, เต อินฺทขีโล วิย วาเตหิ โลกธมฺเมหิ อสมฺปกมฺปิยา ิตา, น เต อุนฺนตโอนตา, กทาจิปิ อุนฺนตา วา โอนตา วา น โหนฺติ สพฺพโส อนุนยปฏิฆาภาวโต.

เอวํ เวทนาธิฏฺานํ อรหโต อนุปเลปํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โลกธมฺเม วิภชิตฺวา สพฺพตฺถกเมวสฺส อนุปเลปํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เหวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ลาเภติ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ ปฏิลาเภ. อลาเภติ เตสํเยว อปฺปฏิลาเภ อปคเม. น ยเสติ ปริวารหานิยํ อกิตฺติยฺจ. กิตฺติยาติ ปรมฺมุขา กิตฺตเน ปตฺถฏยสตายํ. นินฺทายนฺติ สมฺมุขา ครหายํ. ปสํสายนฺติ, ปจฺจกฺขโต คุณาภิตฺถวเน. ทุกฺเขติ ทุกฺเข อุปฺปนฺเน. สุเขติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ ยถาวุตฺเต อฏฺวิเธปิ โลกธมฺเม, สพฺพตฺถ วา รูปาทิเก วิสเย เต ขีณาสวา น ลิมฺปนฺติ สพฺพโส ปหีนกิเลสตฺตา. ยถา กึ? อุทพินฺทุว โปกฺขเร ยถา กมลทเล ชลพินฺทุ อลฺลียิตฺวา ิตมฺปิ เตน น ลิมฺปติ, ชลพินฺทุนา จ กมลทลํ, อฺทตฺถุ วิสํสฏฺเมว, เอวเมเตปิ อุปฏฺิเต ลาภาทิเก, อาปาถคเต รูปาทิอารมฺมเณ จ วิสํสฏฺา เอวํ. ตโต เอว ธีรา ปณฺฑิตา สพฺพตฺถ ลาภาทีสุ าณมุเขน ปิยนิมิตฺตานํ โสกาทีนฺจ อภาวโต สุขิตา ลาภาทีหิ จ อนภิภวนียโต สพฺพตฺถ อปราชิตาว โหนฺติ.

อิทานิ ลาภาลาภาทีสุ เสยฺยํ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺเมนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ธมฺเมน จ อลาโภ โยติ โย ธมฺมํ รกฺขนฺตสฺส ตํนิมิตฺตํ อลาโภ ลาภาภาโว, ลาภหานิ. โย จ ลาโภ อธมฺมิโก อธมฺเมน อฺาเยน พุทฺธปฏิกุฏฺเน วิธินา อุปฺปนฺโน, เตสุ ทฺวีสุ อลาโภ ธมฺมิโก ธมฺมาวโห เสยฺโย, ยาทิสํ ลาภํ ปริวชฺชนฺตสฺส อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, ตาทิโส อลาโภ ปาสํสตโร อตฺถาวโห. ยฺเจ ลาโภ อธมฺมิโกติ โย ลาโภ อธมฺเมน อุปฺปนฺโน, โส น เสยฺโยติ อธิปฺปาโย.

ยโส จ อปฺปพุทฺธีนํ, วิฺูนํ อยโส จ โยติ โย อปฺปพุทฺธีนํ ทุปฺปฺานํ วเสน ปุคฺคลสฺส ยโส ลพฺภติ, โย จ วิฺูนํ ปณฺฑิตานํ วเสน อยโส ยสหานิ. อิเมสุ ทฺวีสุ อยโสว เสยฺโย วิฺูนํ. เต หิสฺส ยถา อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวํ ยสหานึ อิจฺเฉยฺยุํ, ตถา จ ภพฺพชาติโก ตํ อคุณํ ปหาย คุเณ ปติฏฺเยฺย. น ยโส อปฺปพุทฺธีนนฺติ ทุปฺปฺานํ วเสน ยโส เสยฺโย โหติ, เต หิ อภูตคุณาภิพฺยาหารวเสนาปิ นํ อุปฺปาเทยฺยุํ, โส จสฺส อิธ เจว วิฺูครหาทินา สมฺปราเย จ ทุคฺคติยํ ทุกฺขปริกฺกิเลสาทินา อนตฺถาวโห. เตนาห ภควา – ‘‘ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร, มิจฺฉาลทฺโธ จ โย ยโส’’ติ (สุ. นิ. ๔๔๐) ‘‘สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺตี’’ติ (จูฬว. ๓๓๕; อ. นิ. ๔.๖๘) จ.

ทุมฺเมเธหีติ, นิปฺปฺเหิ. ยฺเจ พาลปฺปสํสนาติ พาเลหิ อวิทฺทสูหิ ยา นาม ปสํสนา.

กามมยิกนฺติ วตฺถุกามมยํ, กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ. ทุกฺขฺจ ปวิเวกิยนฺติ ปวิเวกโต นิพฺพตฺตํ กายกิลมถวเสน ปวตฺตํ วิสมาสนุปตาปาทิเหตุกํ กายิกํ ทุกฺขํ, ตํ ปน นิรามิสวิวฏฺฏูปนิสฺสยตาย วิฺูนํ ปาสํสา. เตน วุตฺตํ ‘‘ปวิเวกทุกฺขํ เสยฺโย’’ติ.

ชีวิตฺจ อธมฺเมนาติ อธมฺเมน ชีวิกกปฺปนํ ชีวิตเหตุ อธมฺมจรณํ. ธมฺเมน มรณํ นาม ‘‘อิมํ นาม ปาปํ อกโรนฺตํ ตํ มาเรสฺสามี’’ติ เกนจิ วุตฺเต มาเรนฺเตปิ ตสฺมึ ปาปํ อกตฺวา ธมฺมํ อวิโกเปนฺตสฺส ธมฺมเหตุมรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโยติ ตาทิสํ มรณํ ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมิกํ สคฺคสมฺปาปนโต นิพฺพานุปนิสฺสยโต จ วิฺูนํ ปาสํสตรํ. ตถา หิ วุตฺตํ –

‘‘จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ, องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน;

องฺคํ ธนํ ชีวิตฺจาปิ สพฺพํ, จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๔๗๐);

ยฺเจ ชีเว อธมฺมิกนฺติ ปุริโส ยํ ธมฺมโต อเปตํ ชีวิกํ ชีเวยฺย, ตํ น เสเวยฺย วิฺูหิ ครหิตตฺตา อปายสมฺปาปนโต จาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ยถาวุตฺตํ ขีณาสวานํ อนุปเลปํ การณโต ทสฺเสนฺโต ‘‘กามโกปปหีนา’’ติอาทิคาถมาห.

ตตฺถ กามโกปปหีนาติ อริยมคฺเคน สพฺพโสว ปหีนา อนุโรธปฏิวิโรธา. สนฺตจิตฺตา ภวาภเวติ ขุทฺทเก เจว มหนฺเต จ ภเว อนวเสสปหีนกิเลสปริฬาหตาย วูปสนฺตจิตฺตา. โลเกติ ขนฺธาทิโลเก. อสิตาติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสยวเสน อนิสฺสิตา. นตฺถิ เตสํ ปิยาปิยนฺติ เตสํ ขีณาสวานํ กตฺถจิ ลาภาทิเก รูปาทิวิสเย จ ปิยํ วา อปิยํ วา นตฺถิ, ตํนิมิตฺตานํ กิเลสานํ สพฺพโส สมุจฺฉินฺนตฺตา.

อิทานิ ยาย ภาวนาย เต เอวรูปา ชาตา, ตํ ทสฺเสตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา เทสนาย กูฏํ คณฺหนฺโต ‘‘ภาวยิตฺวานา’’ติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ปปฺปุยฺยาติ, ปาปุณิตฺวา. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. อิมา เอว จ คาถา เถรสฺส อฺาพฺยากรณาปิ อเหสุํ.

โคทตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จุทฺทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. โสฬสกนิปาโต

๑. อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรคาถาวณฺณนา

โสฬสกนิปาเต เอส ภิยฺโยติอาทิกา อายสฺมโต อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ อตฺตโน สาสเน ปมํ ปฏิวิทฺธธมฺมรตฺตฺูนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต สตสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส สตฺถุโน สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา ภาวินึ สมฺปตฺตึ พฺยากาสิ. โส ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา สตฺถริ ปรินิพฺพุเต เจติเย ปติฏฺาปิยมาเน อนฺโตเจติเย รตนฆรํ กาเรสิ, เจติยํ ปริวาเรตฺวา สหสฺสรตนคฺฆิยานิ จ กาเรสิ.

โส เอวํ ปุฺานิ กตฺวา, ตโต จวิตฺวา, เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล มหากาโล นาม กุฏุมฺพิโก หุตฺวา อฏฺกรีสมตฺเต เขตฺเต สาลิคพฺภํ ผาเลตฺวา, คหิตสาลิตณฺฑุเลหิ อสมฺภินฺนขีรปายาสํ สมฺปาเทตฺวา, ตตฺถ มธุสปฺปิสกฺกราทโย ปกฺขิปิตฺวา, พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส อทาสิ. สาลิคพฺภํ ผาเลตฺวา คหิตคหิตฏฺานํ ปุน ปูรติ, ปุถุกกาเล ปุถุกคฺคํ นาม อทาสิ. ลายเน ลายนคฺคํ, เวณิกรเณ เวณคฺคํ, กลาปาทิกรเณ กลาปคฺคํ, ขลคฺคํ, ภณฺฑคฺคํ, มินคฺคํ, โกฏฺคฺคนฺติ; เอวํ เอกสสฺเส นว วาเร อคฺคทานํ นาม อทาสิ. ตมฺปิ สสฺสํ อติเรกตรํ สมฺปนฺนํ อโหสิ.

เอวํ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา, ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สํสรนฺโต, อมฺหากํ ภควโต อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว กปิลวตฺถุนครสฺส อวิทูเร โทณวตฺถุนามเก พฺราหฺมณคาเม พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ. ตสฺส โกณฺฑฺโติ โคตฺตโต อาคตํ นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา ลกฺขณมนฺเตสุ จ ปารํ อคมาสิ. เตน สมเยน อมฺหากํ โพธิสตฺโต ตุสิตปุรโต จวิตฺวา กปิลวตฺถุปุเร สุทฺโธทนมหาราชสฺส เคเห นิพฺพตฺติ. ตสฺส นามคฺคหณทิวเส อฏฺุตฺตรสเตสุ พฺราหฺมเณสุ อุปนีเตสุ เย อฏฺ พฺราหฺมณา ลกฺขณปริคฺคหณตฺถํ มหาตลํ อุปนีตา. โส เตสุ สพฺพนวโก หุตฺวา, มหาปุริสสฺส ลกฺขณนิปฺผตฺตึ ทิสฺวา, ‘‘เอกํเสน อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส อภินิกฺขมนํ อุทิกฺขนฺโต วิจรติ.

โพธิสตฺโตปิ โข มหตา ปริวาเรน วฑฺฒมาโน อนุกฺกเมน วุทฺธิปฺปตฺโต าณปริปากํ คนฺตฺวา เอกูนตึสติเม วสฺเส มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมนฺโต อโนมานทีตีเร ปพฺพชิตฺวา อนุกฺกเมน อุรุเวลํ คนฺตฺวา ปธานํ ปทหิ. ตทา โกณฺฑฺโ มาณโว มหาสตฺตสฺส ปพฺพชิตภาวํ สุตฺวา, ลกฺขณปริคฺคาหกพฺราหฺมณานํ ปุตฺเตหิ วปฺปมาณวาทีหิ สทฺธึ อตฺตปฺจโม ปพฺพชิตฺวา, อนุกฺกเมน โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา, ฉพฺพสฺสานิ ตํ อุปฏฺหนฺโต ตสฺส โอฬาริกาหารปริโภเคน นิพฺพินฺโน อปกฺกมิตฺวา อิสิปตนํ อคมาสิ. อถ โข โพธิสตฺโต โอฬาริกาหารปริโภเคน ลทฺธกายพโล เวสาขปุณฺณมายํ โพธิรุกฺขมูเล อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน ติณฺณํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา, อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา, สตฺตสตฺตาหํ โพธิมณฺเฑเยว วีตินาเมตฺวา, ปฺจวคฺคิยานํ าณปริปากํ ตฺวา, อาสาฬฺหีปุณฺณมายํ อิสิปตนํ คนฺตฺวา, เตสํ ธมฺมจกฺกปวตฺตนสุตฺตนฺตํ (มหาว. ๑๓ อาทโย; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑) เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน โกณฺฑฺตฺเถโร อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. อถ ปฺจมิยํ ปกฺขสฺส อนตฺตลกฺขณสุตฺตนฺตเทสนาย (มหาว. ๒๐; สํ. นิ. ๓.๕๙) อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๕๙๖-๖๑๒) –

‘‘ปทุมุตฺตรสมฺพุทฺธํ, โลกเชฏฺํ วินายกํ;

พุทฺธภูมิมนุปฺปตฺตํ, ปมํ อทฺทสํ อหํ.

‘‘ยาวตา โพธิยา มูเล, ยกฺขา สพฺเพ สมาคตา;

สมฺพุทฺธํ ปริวาเรตฺวา, วนฺทนฺติ ปฺชลีกตา.

‘‘สพฺเพ เทวา ตุฏฺมนา, อากาเส สฺจรนฺติ เต;

พุทฺโธ อยํ อนุปฺปตฺโต, อนฺธการตโมนุโท.

‘‘เตสํ หาสปเรตานํ, มหานาโท อวตฺตถ;

กิเลเส ฌาปยิสฺสาม, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน.

‘‘เทวานํ คิรมฺาย, วาจาสภิมุทีริหํ;

หฏฺโ หฏฺเน จิตฺเตน, อาทิภิกฺขมทาสหํ.

‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

เทวสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘สตฺตาหํ อภินิกฺขมฺม, โพธึ อชฺฌคมํ อหํ;

อิทํ เม ปมํ ภตฺตํ, พฺรหฺมจาริสฺส ยาปนํ.

‘‘ตุสิตา หิ อิธาคนฺตฺวา, โย เม ภิกฺขํ อุปานยิ;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุโณถ มม ภาสโต.

‘‘ตึสกปฺปสหสฺสานิ, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

สพฺเพ เทเว อภิโภตฺวา, ติทิวํ อาวสิสฺสติ.

‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;

สหสฺสธา จกฺกวตฺตี, ตตฺถ รชฺชํ กริสฺสติ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ติทสา โส จวิตฺวาน, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;

อคารา ปพฺพชิตฺวาน, ฉพฺพสฺสานิ วสิสฺสติ.

‘‘ตโต สตฺตมเก วสฺเส, พุทฺโธ สจฺจํ กเถสฺสติ;

โกณฺฑฺโ นาม นาเมน, ปมํ สจฺฉิกาหิติ.

‘‘นิกฺขนฺเตนานุปพฺพชึ, ปธานํ สุกตํ มยา;

กิเลเส ฌาปนตฺถาย, ปพฺพชึ, อนคาริยํ.

‘‘อภิคนฺตฺวาน สพฺพฺู, พุทฺโธ โลเก สเทวเก;

อิสินาเม มิคารฺเ, อมตเภริมาหนิ.

‘‘โส ทานิ ปตฺโต อมตํ, สนฺติปทมนุตฺตรํ;

สพฺพาสเว ปริฺาย, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ นํ สตฺถา อปรภาเค เชตวนมหาวิหาเร ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน ปมํ ปฏิวิทฺธธมฺมภาวํ ทีเปนฺโต, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ รตฺตฺูนํ ยทิทํ อฺาสิโกณฺฑฺโ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘) เอตทคฺเค เปสิ. โส ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ อตฺตนิ กรียมานํ ปรมนิปจฺจการํ คามนฺตเสนาสเน อากิณฺณวิหารฺจ ปริหริตุกาโม, วิเวกาภิรติยา วิหริตุกาโม จ อตฺตโน สนฺติกํ อุปคตานํ คหฏฺปพฺพชิตานํ ปฏิสนฺถารกรณมฺปิ ปปฺจํ มฺมาโน สตฺถารํ อาปุจฺฉิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ฉทฺทนฺเตหิ นาเคหิ อุปฏฺิยมาโน ฉทฺทนฺตทหตีเร ทฺวาทส วสฺสานิ วสิ. เอวํ ตตฺถ วสนฺตํ เถรํ เอกทิวสํ สกฺโก เทวราชา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ิโต เอวมาห – ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, อยฺโย ธมฺมํ เทเสตู’’ติ. เถโร ตสฺส จตุสจฺจคพฺภํ ติลกฺขณาหตํ สุฺตปฏิสํยุตฺตํ นานานยวิจิตฺตํ อมโตคธํ พุทฺธลีลาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตํ สุตฺวา สกฺโก อตฺตโน ปสาทํ ปเวเทนฺโต –

๖๗๓.

‘‘เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, สุตฺวา ธมฺมํ มหารสํ;

วิราโค เทสิโต ธมฺโม, อนุปาทาย สพฺพโส’’ติ. – ปมํ คาถมาห;

ตตฺถ เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, สุตฺวา ธมฺมํ มหารสนฺติ ยทิปิ อเนกวารํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ตตฺถ อภิปฺปสนฺโน. อิทานิ ปน ตุมฺเหหิ กถิตํ นานานยวิจิตฺตตาย อเสจนกตาย จ มหารสํ ธมฺมํ สุตฺวา เอโส อหํ ตโต ภิยฺโย ปสีทามิ. วิราโค เทสิโต ธมฺโม, อนุปาทาย สพฺพโสติ สพฺพสํกิเลสโต สพฺพสงฺขารโต จ วิรชฺชนโต วิราคชนนโต วิราโค. ตโต เอว รูปาทีสุ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทาย อคฺคเหตฺวา วิมุตฺติสาธนวเสน ปวตฺตตฺตา สพฺพโส อนุปาทาย เทสิโต.

เอวํ สกฺโก เทวราชา เถรสฺส เทสนํ โถเมตฺวา เถรํ อภิวาเทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. อเถกทิวสํ เถโร มิจฺฉาวิตกฺเกหิ อภิภุยฺยมานานํ เอกจฺจานํ ปุถุชฺชนานํ จิตฺตาจารํ ทิสฺวา ตปฺปฏิปกฺขภูตฺจสฺส อนุกฺกมํ อนุสฺสริตฺวา, อตฺตโน จ สพฺพโส ตโต วินิวตฺติตมานสตํ อาวชฺเชตฺวา ตทตฺถํ ทีเปตฺวา –

๖๗๔.

‘‘พหูนิ โลเก จิตฺรานิ, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;

มเถนฺติ มฺเ สงฺกปฺปํ, สุภํ ราคูปสํหิตํ.

๖๗๕.

‘‘รชมุหตฺจ วาเตน, ยถา เมโฆปสมฺมเย;

เอวํ สมฺมนฺติ สงฺกปฺปา, ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติ. – ทฺเว คาถา อภาสิ;

ตตฺถ พหูนิ โลเก จิตฺรานีติ รูปาทิวเสน ตตฺถาปิ นีลปีตาทิวเสน อิตฺถิปุริสาทิวเสน จ อเนกานิ โลเก จิตฺตวิจิตฺตานิ อารมฺมณชาตานิ. อสฺมึ ปถวิมณฺฑเลติ ปจฺจกฺขภูตํ มนุสฺสโลกํ สนฺธาย วทติ. มเถนฺติ มฺเ สงฺกปฺปนฺติ ตชฺชํ ปุริสวายามสหิตํ อรณิสหิตํ วิย อคฺคึ อโยนิโสมนสิการาภิสงฺขาตานิ มิจฺฉาสงฺกปฺปานิ มเถนฺติ มฺเ มเถนฺตานิ วิย ติฏฺนฺติ. กีทิสํ? สุภํ ราคูปสํหิตํ, กามวิตกฺกนฺติ อตฺโถ. โส หิ สุภาการคฺคหเณน ‘‘สุโภ’’ติ โวหรียติ.

รชมุหตฺจ วาเตนาติ -อิติ นิปาตมตฺตํ. ยถา คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส วาเตน อูหตํ อุฏฺิตํ รชํ มหาเมโฆ วสฺสนฺโต อุปสมฺมเย, วูปสเมยฺย. เอวํ สมฺมนฺติ สงฺกปฺปา, ยทา ปฺาย ปสฺสตีติ ยทา อริยสาวโก ตานิ โลกจิตฺรานิ สมุทยโต, อสฺสาทโต, อาทีนวโต, นิสฺสรณโต จ ยถาภูตํ ปฺาย ปสฺสติ, อถ ยถา ตํ รชํ อุหตํ เมเฆน, เอวํ สมฺมนฺติ ปฺาย สพฺเพปิ มิจฺฉาสงฺกปฺปา. น หิ อุปฺปนฺนาย สมฺมาทิฏฺิยา มิจฺฉาสงฺกปฺปา ปติฏฺํ ลภนฺติ. ยถา ปน ปฺาย ปสฺสติ, ตํ ทสฺเสนฺโต –

๖๗๖.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.

๖๗๗.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขาติ…เป… เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.

๖๗๘.

‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ. –

ติสฺโส คาถา อภาสิ.

ตตฺถ สพฺเพ สงฺขาราติ ฉฬารมฺมณสงฺคหา สพฺเพ เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา. อนิจฺจาติ ‘‘อาทิมชฺฌอนฺตวนฺตโต, อนิจฺจนฺติกโต, ตาวกาลิกโต, ตตฺถ ตตฺถ ภิชฺชนโต น นิจฺจา’’ติ ยทา วิปสฺสนาปฺาย ปสฺสติ. อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเขติ อถ อิมสฺมึ วฏฺฏทุกฺเข นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทนฺโต ทุกฺขปริชานนาทิวิธินา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. เอส มคฺโค วิสุทฺธิยาติ เอส ยถาวุตฺโต วิปสฺสนาวิธิ าณทสฺสนวิสุทฺธิยา, อจฺจนฺตวิสุทฺธิยา จ มคฺโค อธิคมุปาโย.

ทุกฺขาติ สปฺปฏิภยโต, อุทยพฺพยสมฺปฏิปีฬนโต, ทุกฺขมโต, สุขปฏิกฺเขปโต จ ทุกฺขา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ สพฺเพปิ จตุภูมกา ธมฺมา อนตฺตา. อิธ ปน เตภูมกธมฺมาว คเหตพฺพา. เต หิ อสารโต, อวสวตฺตนโต, สุฺโต, อตฺตปฏิกฺเขปโต จ อนตฺตาติ วิปสฺสิตพฺพา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

เอวํ วิปสฺสนาวิธึ ทสฺเสตฺวา เตน วิธินา กตกิจฺจํ อตฺตานํ อฺํ วิย กตฺวา ทสฺเสนฺโต –

๖๗๙.

‘‘พุทฺธานุพุทฺโธ โย เถโร, โกณฺฑฺโ ติพฺพนิกฺกโม;

ปหีนชาติมรโณ, พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี.

๖๘๐.

‘‘โอฆปาโส ทฬฺหขิโล, ปพฺพโต ทุปฺปทาลโย;

เฉตฺวา ขิลฺจ ปาสฺจ, เสลํ เภตฺวาน ทุพฺภิทํ;

ติณฺโณ ปารงฺคโต ฌายี, มุตฺโต โส มารพนฺธนา’’ติ. –

คาถาทฺวยมาห.

ตตฺถ พุทฺธานุพุทฺโธติ พุทฺธานํ อนุพุทฺโธ, สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ พุชฺฌิตานิ สจฺจานิ เตสํ เทสนานุสาเรน พุชฺฌตีติ อตฺโถ. ถิเรหิ อเสกฺเขหิ สีลสาราทีหิ สมนฺนาคโตติ, เถโร. โกณฺฑฺโติ โคตฺตกิตฺตนํ. ติพฺพนิกฺกโมติ ทฬฺหวีริโย, ถิรปรกฺกโม. ชาติมรณานํ ปหีนการณตฺตา ปหีนชาติมรโณ. พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อนวเสสํ, อนวเสสโต วา มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปาริปูรโก, อถ วา เกวลี นาม กิเลเสหิ อสมฺมิสฺสตาย มคฺคาณํ ผลาณฺจ, ตํ อิมสฺมึ อตฺถีติ เกวลี. ยสฺมา ปน ตทุภยมฺปิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส วเสน โหติ น อฺถา, ตสฺมา ‘‘พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี’’ติ วุตฺตํ.

โอฆปาโสติ ‘‘กาโมโฆ, ภโวโฆ, ทิฏฺโโฆ, อวิชฺโชโฆ’’ติ (ธ. ส. ๑๑๕๖; วิภ. ๙๓๘) เอวํ วุตฺตา จตฺตาโร โอฆา – ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (มหาว. ๓๓; สํ. นิ. ๑.๑๕๑) เอวํ วุตฺโต ราคปาโส จ. ทฬฺหขิโลติ ‘‘สตฺถริ กงฺขติ, ธมฺเม กงฺขติ, สงฺเฆ กงฺขติ, สิกฺขาย กงฺขติ, สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๕; อ. นิ. ๕.๒๐๕) เอวํ วุตฺโต ทฬฺโห ถิโร ปฺจวิโธ เจโตขิโล จ. ปจุรชเนหิ ปทาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ทุปฺปทาลโย. ตโต เอว ปพฺพตสทิสตาย ปพฺพโตติ จ สงฺขํ คโต. ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา (วิภ. ๒๒๖; สํ. นิ. ๒.๒) วา นเยน วุตฺโต อฺาณปฺปเภโท จ. อิติ เอตํ สพฺพํ เฉตฺวา ขิลฺจ ปาสฺจาติ เอเตสุ จตุพฺพิเธสุ สํกิเลสธมฺเมสุ โย ขิลฺจ ปาสฺจ อริยมคฺคาณาสินา ฉินฺทิตฺวา. เสลํ เภตฺวาน ทุพฺภิทนฺติ เยน เกนจิ าเณน ฉินฺทิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อฺาณเสลํ วชิรูปมาเณน ฉินฺทิตฺวา, จตฺตาโรปิ โอเฆ ตริตฺวา, เตสํ ปรตีเร นิพฺพาเน ิตตฺตา ติณฺโณ ปารงฺคโต. อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขเณน ลกฺขณูปนิชฺฌานลกฺขเณนาติ ทุวิเธนปิ ฌายี; มุตฺโต โส มารพนฺธนาติ โส เอวรูโป ขีณาสโว สพฺพสฺมาปิ กิเลสมารพนฺธนา มุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโตติ. อตฺตานเมว สนฺธาย เถโร วทติ.

อเถกทิวสํ เถโร, อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ เอกํ ภิกฺขุํ อกลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน กุสีตํ หีนวีริยํ อุทฺธตํ อุนฺนฬํ วิหรนฺตํ ทิสฺวา, อิทฺธิยา ตตฺถ คนฺตฺวา, ตํ ‘‘มา, อาวุโส, เอวํ กริ, อกลฺยาณมิตฺเต ปหาย กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺโต สมณธมฺมํ กโรหี’’ติ โอวทิ. โส เถรสฺส วจนํ นาทิยิ. เถโร ตสฺส อนาทิยเนน ธมฺมสํเวคปฺปตฺโต ปุคฺคลาธิฏฺานาย กถาย มิจฺฉาปฏิปตฺตึ ครหนฺโต สมฺมาปฏิปตฺตึ วิเวกวาสฺจ ปสํสนฺโต –

๖๘๑.

‘‘อุทฺธโต จปโล ภิกฺขุ, มิตฺเต อาคมฺม ปาปเก;

สํสีทติ มโหฆสฺมึ, อูมิยา ปฏิกุชฺชิโต.

๖๘๒.

‘‘อนุทฺธโต อจปโล, นิปโก สํวุตินฺทฺริโย;

กลฺยาณมิตฺโต เมธาวี, ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา.

๖๘๓.

‘‘กาลปพฺพงฺคสงฺกาโส, กิโส ธมนิสนฺถโต;

มตฺตฺู อนฺนปานสฺมึ, อทีนมนโส นโร.

๖๘๔.

‘‘ผุฏฺโ ฑํเสหิ มกเสหิ, อรฺสฺมึ พฺรหาวเน;

นาโค สงฺคามสีเสว, สโต ตตฺราธิวาสเย.

๖๘๕-๖.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ…เป… สมฺปชาโน ปติสฺสโต.

๖๘๗.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา…เป… ภวเนตฺติ สมูหตา.

๖๘๘.

‘‘ยสฺส จตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, กึ เม สทฺธิวิหารินา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อุทฺธโตติ อุทฺธจฺจยุตฺโต อสมาหิโต วิกฺขิตฺตจิตฺโต. จปโลติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปลฺเยน สมนฺนาคโต โลลปกติโก. มิตฺเต อาคมฺม ปาปเกติ อกลฺยาณมิตฺเต นิสฺสาย สมณธมฺมํ อกโรนฺโต. สํสีทติ มโหฆสฺมึ, อูมิยา ปฏิกุชฺชิโตติ ยถา มหาสมุทฺเท ปติตปุริโส สมุทฺทวีจีหิ โอตฺถโฏ สีสํ อุกฺขิปิตุํ อลภนฺโต ตตฺเถว สํสีทติ, เอวํ สํสารมโหฆสฺมึ ปริพฺภมนฺโต โกธุปายาสอูมิยา ปฏิกุชฺชิโต โอตฺถโฏ วิปสฺสนาวเสน ปฺาสีสํ อุกฺขิปิตุํ อลภนฺโต ตตฺเถว สํสีทติ.

นิปโกติ นิปุโณ, อตฺตตฺถปรตฺเถสุ กุสโล. สํวุตินฺทฺริโยติ มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวรเณน ปิหิตินฺทฺริโย. กลฺยาณมิตฺโตติ กลฺยาเณหิ มิตฺเตหิ สมนฺนาคโต. เมธาวีติ ธมฺโมชปฺาย สมงฺคีภูโต. ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยาติ โส ตาทิโส สกลสฺสาปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกโร ภเวยฺย.

กาลปพฺพงฺคสงฺกาโสติอาทิ วิเวกาภิรติกิตฺตนํ. นาภินนฺทามีติอาทิ ปน กตกิจฺจภาวทสฺสนํ. ตํ สพฺพํ เหฏฺา (เถรคา. อฏฺ. ๒.๖๐๗) วุตฺตตฺถเมว. โอสาเน ปน กึ เม สทฺธิวิหารินาติ อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมา เอทิเสน ทุพฺพเจน อนาทเรน สทฺธิวิหารินา กึ เม ปโยชนํ เอกวิหาโรเยว มยฺหํ รุจฺจตีติ อตฺโถ.

เอวํ ปน วตฺวา ฉทฺทนฺตทหเมว คโต. ตตฺถ ทฺวาทส วสฺสานิ วสิตฺวา อุปกฏฺเ ปรินิพฺพาเน สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปรินิพฺพานํ อนุชานาเปตฺวา ตตฺเถว คนฺตฺวา ปรินิพฺพายิ.

อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุทายิตฺเถรคาถาวณฺณนา

มนุสฺสภูตนฺติอาทิกา อายสฺมโต อุทายิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปุฺํ อุปจินิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมึ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุทายีติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต สตฺถุ าติสมาคเม พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา, ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตโย หิ อิเม อุทายิตฺเถรา อมจฺจปุตฺโต ปุพฺเพ อาคโต กาฬุทายี, โกวริยปุตฺโต ลาลุทายี, อยํ พฺราหฺมณปุตฺโต มหาอุทายีติ. สฺวายํ เอกทิวสํ สตฺถารา เสตวารณํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ มหาชเนน ปสํสิยมานํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา นาโคปมสุตฺตนฺเต (อ. นิ. ๖.๔๓) เทสิเต เทสนาปริโยสาเน อตฺตโน าณพลานุรูปํ สตฺถุ คุเณ อนุสฺสริตฺวา, พุทฺธารมฺมณาย ปีติยา สมุสฺสาหิตมานโส ‘‘อยํ มหาชโน อิมํ ติรจฺฉานคตํ นาคํ ปสํสติ, น พุทฺธมหานาคํ. หนฺทาหํ พุทฺธมหาคนฺธหตฺถิโน คุเณ ปากเฏ กริสฺสามี’’ติ สตฺถารํ โถเมนฺโต –

๖๘๙.

‘‘มนุสฺสภูตํ สมฺพุทฺธํ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;

อิริยมานํ พฺรหฺมปเถ, จิตฺตสฺสูปสเม รตํ.

๖๙๐.

‘‘ยํ มนุสฺสา นมสฺสนฺติ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ;

เทวาปิ ตํ นมสฺสนฺติ, อิติ เม อรหโต สุตํ.

๖๙๑.

‘‘สพฺพสํโยชนาตีตํ, วนา นิพฺพนมาคตํ;

กาเมหิ เนกฺขมฺมรตํ, มุตฺตํ เสลาว กฺจนํ.

๖๙๒.

‘‘ส เว อจฺจรุจิ นาโค, หิมวาวฺเ สิลุจฺจเย;

สพฺเพสํ นาคนามานํ, สจฺจนาโม อนุตฺตโร.

๖๙๓.

‘‘นาคํ โว กิตฺตยิสฺสามิ, น หิ อาคุํ กโรติ โส;

โสรจฺจํ อวิหึสา จ, ปาทา นาคสฺส เต ทุเว.

๖๙๔.

‘‘สติ จ สมฺปชฺฺจ, จรณา นาคสฺส เตปเร;

สทฺธาหตฺโถ มหานาโค, อุเปกฺขาเสตทนฺตวา.

๖๙๕.

‘‘สติ คีวา สิโร ปฺา, วีมํสา ธมฺมจินฺตนา;

ธมฺมกุจฺฉิสมาวาโส, วิเวโก ตสฺส วาลธิ.

๖๙๖.

‘‘โส ฌายี อสฺสาสรโต, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต;

คจฺฉํ สมาหิโต นาโค, ิโต นาโค สมาหิโต.

๖๙๗.

‘‘สยํ สมาหิโต นาโค, นิสินฺโนปิ สมาหิโต;

สพฺพตฺถ สํวุโต นาโค, เอสา นาคสฺส สมฺปทา.

๖๙๘.

‘‘ภุฺชติ อนวชฺชานิ, สาวชฺชานิ น ภุฺชติ;

ฆาสมจฺฉาทนํ ลทฺธา, สนฺนิธึ ปริวชฺชยํ.

๖๙๙.

‘‘สํโยชนํ อณุํ ถูลํ, สพฺพํ เฉตฺวาน พนฺธนํ;

เยน เยเนว คจฺฉติ, อนเปกฺโขว คจฺฉติ.

๗๐๐.

‘‘ยถาปิ อุทเก ชาตํ, ปุณฺฑรีกํ ปวฑฺฒติ;

โนปลิปฺปติ โตเยน, สุจิคนฺธํ มโนรมํ.

๗๐๑.

‘‘ตเถว จ โลเก ชาโต, พุทฺโธ โลเก วิหรติ;

โนปลิปฺปติ โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา.

๗๐๒.

‘‘มหาคินิ ปชฺชลิโต, อนาหาโรปสมฺมติ;

องฺคาเรสุ จ สนฺเตสุ, นิพฺพุโตติ ปวุจฺจติ.

๗๐๓.

‘‘อตฺถสฺสายํ วิฺาปนี, อุปมา วิฺูหิ เทสิตา;

วิฺิสฺสนฺติ มหานาคา, นาคํ นาเคน เทสิตํ.

๗๐๔.

‘‘วีตราโค วีตโทโส, วีตโมโห อนาสโว;

สรีรํ วิชหํ นาโค, ปรินิพฺพิสฺสตฺยนาสโว’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ มนุสฺสภูตนฺติ มนุสฺเสสุ ภูตํ, นิพฺพตฺตํ; มนุสฺสตฺตภาวํ วา ปตฺตํ. สตฺถา หิ อาสวกฺขยาณาธิคเมน สพฺพคติวิมุตฺโตปิ จริมตฺตภาเว คหิตปฏิสนฺธิวเสน ‘‘มนุสฺโส’’ตฺเวว โวหรียตีติ. คุณวเสน ปน เทวานํ อติเทโว, พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. สมฺพุทฺธนฺติ สยเมว พุชฺฌิตพฺพพุทฺธวนฺตํ. อตฺตทนฺตนฺติ อตฺตนาเยว ทนฺตํ. ภควา หิ อตฺตนาเยว อุปฺปาทิเตน อริยมคฺเคน จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปิ อุตฺตเมน ทมเถน ทนฺโต. สมาหิตนฺติ อฏฺวิเธน สมาธินา มคฺคผลสมาธินา จ สมาหิตํ. อิริยมานํ พฺรหฺมปเถติ จตุพฺพิเธปิ พฺรหฺมวิหารปเถ, พฺรหฺเม วา เสฏฺเ ผลสมาปตฺติปเถ สมาปชฺชนวเสน ปวตฺตมานํ. กิฺจาปิ ภควา น สพฺพกาลํ ยถาวุตฺเต พฺรหฺมปเถ อิริยติ, ตตฺถ อิริยสามตฺถิยํ ปน ตนฺนินฺนตฺจ อุปาทาย ‘‘อิริยมาน’’นฺติ วุตฺตํ. จิตฺตสฺสูปสเม รตนฺติ จิตฺตสฺส อุปสมเหตุภูเต สพฺพสงฺขารสมเถ, นิพฺพาเน, อภิรตํ. ยํ มนุสฺสา นมสฺสนฺติ, สพฺพธมฺมาน ปารคุนฺติ ยํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ สพฺเพสํ ขนฺธายตนาทิธมฺมานํ อภิฺาปารคู, ปริฺาปารคู, ปหานปารคู, ภาวนาปารคู, สจฺฉิกิริยปารคู, สมาปตฺติปารคูติ ฉธา ปารคุํ ปรมุกฺกํสคตสมฺปตฺตึ ขตฺติยปณฺฑิตาทโย มนุสฺสา นมสฺสนฺติ. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติยา ปูเชนฺตา กาเยน วาจาย มนสา จ ตนฺนินฺนา ตปฺโปณา ตปฺปพฺภารา โหนฺติ. เทวาปิ ตํ นมสฺสนฺตีติ น เกวลํ มนุสฺสา เอว, อถ โข อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ เทวาปิ ตํ นมสฺสนฺติ. อิติ เม อรหโต สุตนฺติ เอวํ มยา อารกตฺตาทีหิ การเณหิ อรหโต, ภควโต, ธมฺมเสนาปติอาทีนฺจ ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทิกํ วทนฺตานํ สนฺติเก เอวํ สุตนฺติ ทสฺเสติ.

สพฺพสํโยชนาตีตนฺติ สพฺพานิ ทสปิ สํโยชนานิ ยถารหํ จตูหิ มคฺเคหิ สห วาสนาย อติกฺกนฺตํ. วนา นิพฺพนมาคตนฺติ กิเลสวนโต ตพฺพิรหิตํ นิพฺพนํ อุปคตํ. กาเมหิ เนกฺขมฺมรตนฺติ สพฺพโส กาเมหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชฺชาฌานวิปสฺสนาทิเภเท เนกฺขมฺเม อภิรตํ. มุตฺตํ เสลาว กฺจนนฺติ อสารโต นิสฺสฏสารสภาวตฺตา เสลโต นิสฺสฏกฺจนสทิสํ เทวาปิ ตํ นมสฺสนฺตีติ โยชนา.

เว อจฺจรุจิ นาโคติ โส เอกํสโต อาคุํ น กโรติ, ปุนพฺภวํ น คจฺฉติ; นาโค วิย พลวาติ. ‘‘นาโค’’ติ ลทฺธนาโม สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อจฺจรุจีติ อตฺตโน กายรุจิยา าณรุจิยา จ สเทวกํ โลกํ อติกฺกมิตฺวา รุจิ, โสภิ. ยถา กึ? หิมวาวฺเ สิลุจฺจเย, ยถา หิ หิมวา ปพฺพตราชา อตฺตโน ถิรครุมหาสารภาวาทีหิ คุเณหิ อฺเ ปพฺพเต อติโรจติ, เอวํ อติโรจตีติ อตฺโถ. สพฺเพสํ นาคนามานนฺติ อหินาคหตฺถินาคปุริสนาคานํ, เสขาเสขปจฺเจกพุทฺธนาคานํ วา. สจฺจนาโมติ สจฺเจเนว นาคนาโม. ตํ ปน สจฺจนามตํ ‘‘น หิ อาคุํ กโรตี’’ติอาทินา สยเมว วกฺขติ.

อิทานิ พุทฺธนาคํ อวยวโต จ ทสฺเสนฺโต นามโต ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ อาคุํ กโรติ โส’’ติ อาห. ยสฺมา อาคุํ, ปาปํ, สพฺเพน สพฺพํ น กโรติ, ตสฺมา นาโคติ อตฺโถ. โสรจฺจนฺติ สีลํ. อวิหึสาติ กรุณา. ตทุภยํ สพฺพสฺสปิ คุณราสิสฺส ปุพฺพงฺคมนฺติ, กตฺวา พุทฺธนาคสฺส ปุริมปาทภาโว ตสฺส ยุตฺโตติ อาห ‘‘ปาทา นาคสฺส เต ทุเว’’ติ.

อปรปาทภาเวน วทนฺโต ‘‘สติ จ สมฺปชฺฺจ, จรณา นาคสฺส เตปเร’’ติ อาห. ‘‘ตฺยาปเร’’ติ วา ปาโ. เต อปเรตฺเวว ปทวิภาโค. อนวชฺชธมฺมานํ อาทาเน สทฺธา หตฺโถ เอตสฺสาติ, สทฺธาหตฺโถ. สุปริสุทฺธเวทนา าณปฺปเภทา อุเปกฺขา เสตทนฺตา เต เอตสฺส อตฺถีติ, อุเปกฺขาเสตทนฺตวา.

อุตฺตมงฺคํ ปฺา, ตสฺสา อธิฏฺานํ สตีติ อาห ‘‘สติ คีวา สิโร ปฺา’’ติ. วีมํสา ธมฺมจินฺตนาติ ยถา ขาทิตพฺพาขาทิตพฺพสฺส โสณฺฑาย ปรามสนํ ฆายนฺจ หตฺถินาคสฺส วีมํสา นาม โหติ, เอวํ พุทฺธนาคสฺส กุสลาทิธมฺมจินฺตนา วีมํสา. สมา วสนฺติ เอตฺถาติ, สมาวาโส, ภาชนํ กุจฺฉิ เอว สมาวาโส, อภิฺาสมถานํ อาธานภาวโต สมถวิปสฺสนาสงฺขาโต ธมฺโม กุจฺฉิสมาวาโส เอตสฺสาติ ธมฺมกุจฺฉิสมาวาโส. วิเวโกติ อุปธิวิเวโก. ตสฺสาติ พุทฺธนาคสฺส. วาลธิ, ปริโยสานงฺคภาวโต.

ฌายีติ อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน จ ฌายนสีโล. อสฺสาสรโตติ ปรมสฺสาสภูเต นิพฺพาเน รโต. อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโตติ วิสยชฺฌตฺเต ผลสมาปตฺติยํ สุฏฺุ สมาหิโต ตทิทํ สมาธานํ สุฏฺุ สพฺพกาลิกนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘คจฺฉํ สมาหิโต นาโค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภควา หิ สวาสนสฺส อุทฺธจฺจสฺส ปหีนตฺตา วิกฺเขปาภาวโต นิจฺจํ สมาหิโตว. ตสฺมา ยํ ยํ อิริยาปถํ กปฺเปติ, ตํ ตํ สมาหิโตว กปฺเปสีติ.

สพฺพตฺถาติ, สพฺพสฺมึ โคจเร, สพฺพสฺมิฺจ ทฺวาเร สพฺพโส ปิหิตวุตฺติ. เตนาห – ‘‘สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺต’’นฺติอาทิ (เนตฺติ. ๑๕). เอสา นาคสฺส สมฺปทาติ เอสา ‘‘น หิ อาคุํ กโรติ โส’’ติอาทินา ‘‘สมฺพุทฺธ’’นฺติอาทินา เอว วา ยถาวุตฺตา วกฺขมานา จ พุทฺธคนฺธหตฺถิโน สมฺปตฺติ คุณปริปุณฺณา.

ภุฺชติ อนวชฺชานีติ สมฺมาชีวสฺส อุกฺกํสปารมิปฺปตฺติยา ภุฺชติ อครหิตพฺพานิ, มิจฺฉาชีวสฺส สพฺพโส สวาสนานฺจ ปหีนตฺตา สาวชฺชานิ ครหิตพฺพานิ น ภุฺชติ อนวชฺชานิ ภุฺชนฺโต จ สนฺนิธึ ปริวชฺชยํ ภุฺชตีติ โยชนา.

สํโยชนนฺติ วฏฺฏทุกฺเขน สทฺธึ สนฺตานํ สํโยชนโต วฏฺเฏ โอสีทาปนสมตฺถํ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ. อณุํ ถูลนฺติ ขุทฺทกฺเจว มหนฺตฺจ. สพฺพํ เฉตฺวาน พนฺธนนฺติ มคฺคาเณน อนวเสสํ กิเลสพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา. เยน เยนาติ เยน เยน ทิสาภาเคน.

ยถา หิ อุทเก ชาตํ ปุณฺฑรีกํ อุทเก ปวฑฺฒติ โนปลิปฺปติ โตเยน, อนุปเลปสภาวตฺตา, ตเถว โลเก ชาโต พุทฺโธ โลเก วิหรติ, โนปลิปฺปติ โลเกน ตณฺหาทิฏฺิมานเลปาภาวโตติ โยชนา.

คินีติ อคฺคิ. อนาหาโรติ อนินฺธโน.

อตฺถสฺสายํ วิฺาปนีติ สตฺถุ คุณสงฺขาตสฺส อุปเมยฺยตฺถสฺส วิฺาปนี, ปกาสนี อยํ นาคูปมา. วิฺูหีติ สตฺถุ ปฏิวิทฺธจตุสจฺจธมฺมํ ปริชานนฺเตหิ อตฺตานํ สนฺธาย วทติ. วิฺิสฺสนฺตีติอาทิ การณวจนํ, ยสฺมา นาเคน มยา เทสิตํ นาคํ ตถาคตคนฺธหตฺถึ มหานาคา ขีณาสวา อตฺตโน วิสเย ตฺวา วิชานิสฺสนฺติ, ตสฺมา อฺเสํ ปุถุชฺชนานํ าปนตฺถํ อยํ อุปมา อมฺเหหิ ภาสิตาติ อธิปฺปาโย.

สรีรํ วิชหํ นาโค, ปรินิพฺพิสฺสตฺยนาสโวติ โพธิมูเล สอุปาทิเสสปรินิพฺพาเนน อนาสโว สมฺมาสมฺพุทฺธนาโค, อิทานิ สรีรํ อตฺตภาวํ วิชหนฺโต ขนฺธปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายิสฺสตีติ.

เอวํ จุทฺทสหิ อุปมาหิ มณฺเฑตฺวา, โสฬสหิ คาถาหิ, จตุสฏฺิยา ปาเทหิ สตฺถุ คุเณ วณฺเณนฺโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

อุทายิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โสฬสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖. วีสตินิปาโต

๑. อธิมุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

วีสตินิปาเต ยฺตฺถํ วาติอาทิกา อายสฺมโต อปรสฺส อธิมุตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อตฺถทสฺสิสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต ภิกฺขุสงฺฆํ อุปฏฺหนฺโต มหาทานานิ ปวตฺเตสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อายสฺมโต สํกิจฺจตฺเถรสฺส ภคินิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, อธิมุตฺโตติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต มาตุลตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต สามเณรภูมิยํเยว ิโต อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๔.๘๔-๘๘) –

‘‘นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ, อตฺถทสฺสีนรุตฺตเม;

อุปฏฺหึ ภิกฺขุสงฺฆํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

‘‘นิมนฺเตตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ, อุชุภูตํ สมาหิตํ;

อุจฺฉุนา มณฺฑปํ กตฺวา, โภเชสึ สงฺฆมุตฺตมํ.

‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, เทวตฺตํ อถมานุสํ;

สพฺเพ สตฺเต อภิโภมิ, ปุฺกมฺมสฺสิทํ ผลํ.

‘‘อฏฺารเส กปฺปสเต, ยํ ทานมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อุจฺฉุทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺโต อุปสมฺปชฺชิตุกาโม ‘‘มาตรํ อาปุจฺฉิสฺสามี’’ติ มาตุ สนฺติกํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เทวตาย พลิกมฺมกรณตฺถํ มํสปริเยสนํ จรนฺเตหิ ปฺจสเตหิ โจเรหิ สมาคจฺฉิ. โจรา จ ตํ อคฺคเหสุํ ‘‘เทวตาย พลิ ภวิสฺสตี’’ติ. โส โจเรหิ คหิโตปิ อภีโต อจฺฉมฺภี วิปฺปสนฺนมุโขว อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา โจรคามณิอจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต ปสํสนฺโต –

๗๐๕.

‘‘ยฺตฺถํ วา ธนตฺถํ วา, เย หนาม มยํ ปุเร;

อวเสสํ ภยํ โหติ, เวธนฺติ วิลปนฺติ จ.

๗๐๖.

‘‘ตสฺส เต นตฺถิ ภีตตฺตํ, ภิยฺโย วณฺโณ ปสีทติ;

กสฺมา น ปริเทเวสิ, เอวรูเป มหพฺภเย’’ติ. – ทฺเว คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ยฺตฺถนฺติ ยชนตฺถํ เทวตานํ พลิกมฺมกรณตฺถํ วา. วา-สทฺโท วิกปฺปนตฺโถ. ธนตฺถนฺติ สาปเตยฺยหรณตฺถํ. เย หนาม มยํ ปุเรติ เย สตฺเต มยํ ปุพฺเพ หนิมฺห. อตีตตฺเถ หิ อิทํ วตฺตมานวจนํ. อวเสติ อวเส อเสริเก กตฺวา. นฺติ เตสํ. ‘‘อวเสสนฺติ’’ปิ ปนฺติ. อมฺเหหิ คหิเตสุ ตํ เอกํ เปตฺวา อวเสสานํ; อยเมว วา ปาโ. ภยํ โหตีติ มรณภยํ โหติ. เยน เต เวธนฺติ วิลปนฺติ,จิตฺตุตฺราเสน เวธนฺติ, ‘‘สามิ, ตุมฺหากํ อิทฺจิทฺจ ทสฺสาม, ทาสา ภวิสฺสามา’’ติอาทิกํ วทนฺตา วิลปนฺติ.

ตสฺส เตติ โย ตฺวํ อมฺเหหิ เทวตาย พลิกมฺมตฺถํ ชีวิตา โวโรเปตุกาเมหิ อุกฺขิตฺตาสิเกหิ สนฺตชฺชิโต, ตสฺส เต. ภีตตฺตนฺติ ภีตภาโว, ภยนฺติ อตฺโถ. ภิยฺโย วณฺโณ ปสีทตีติ ปกติวณฺณโต อุปริปิ เต มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ. เถรสฺส กิร ตทา ‘‘สเจ อิเม มาเรสฺสนฺติ, อิทาเนวาหํ อนุปาทาย ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ทุกฺขภาโร วิคจฺฉิสฺสตี’’ติ อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. เอวรูเป มหพฺภเยติ เอทิเส มหติ มรณภเย อุปฏฺิเต. เหตุอตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมวจนํ.

อิทานิ เถโร โจรคามณิสฺส ปฏิวจนทานมุเขน ธมฺมํ เทเสนฺโต –

๗๐๗.

‘‘นตฺถิ เจตสิกํ ทุกฺขํ, อนเปกฺขสฺส คามณิ;

อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพ, ขีณสํโยชนสฺส เว.

๗๐๘.

‘‘ขีณาย ภวเนตฺติยา, ทิฏฺเ ธมฺเม ยถาตเถ;

น ภยํ มรเณ โหติ, ภารนิกฺเขปเน ยถา.

๗๐๙.

‘‘สุจิณฺณํ พฺรหฺมจริยํ เม, มคฺโค จาปิ สุภาวิโต;

มรเณ เม ภยํ นตฺถิ, โรคานมิว สงฺขเย.

๗๑๐.

‘‘สุจิณฺณํ พฺรหฺมจริยํ เม, มคฺโค จาปิ สุภาวิโต;

นิรสฺสาทา ภวา ทิฏฺา, วิสํ ปิตฺวาว ฉฑฺฑิตํ.

๗๑๑.

‘‘ปารคู อนุปาทาโน, กตกิจฺโจ อนาสโว;

ตุฏฺโ อายุกฺขยา โหติ, มุตฺโต อาฆาตนา ยถา.

๗๑๒.

‘‘อุตฺตมํ ธมฺมตํ ปตฺโต, สพฺพโลเก อนตฺถิโก;

อาทิตฺตาว ฆรา มุตฺโต, มรณสฺมึ น โสจติ.

๗๑๓.

‘‘ยทตฺถิ สงฺคตํ กิฺจิ, ภโว วา ยตฺถ ลพฺภติ;

สพฺพํ อนิสฺสรํ เอตํ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.

๗๑๔.

‘‘โย ตํ ตถา ปชานาติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;

น คณฺหาติ ภวํ กิฺจิ, สุตตฺตํว อโยคุฬํ.

๗๑๕.

‘‘น เม โหติ ‘อโหสิ’นฺติ, ‘ภวิสฺส’นฺติ น โหติ เม;

สงฺขารา วิคมิสฺสนฺติ, ตตฺถ กา ปริเทวนา.

๗๑๖.

‘‘สุทฺธํ ธมฺมสมุปฺปาทํ, สุทฺธํ สงฺขารสนฺตตึ;

ปสฺสนฺตสฺส ยถาภูตํ, น ภยํ โหติ คามณิ.

๗๑๗.

‘‘ติณกฏฺสมํ โลกํ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

มมตฺตํ โส อสํวินฺทํ, ‘นตฺถิ เม’ติ น โสจติ.

๗๑๘.

‘‘อุกฺกณฺามิ สรีเรน, ภเวนมฺหิ อนตฺถิโก;

โสยํ ภิชฺชิสฺสติ กาโย, อฺโ จ น ภวิสฺสติ.

๗๑๙.

‘‘ยํ โว กิจฺจํ สรีเรน, ตํ กโรถ ยทิจฺฉถ;

น เม ตปฺปจฺจยา ตตฺถ, โทโส เปมฺจ เหหิตี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

๗๒๐.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;

สตฺถานิ นิกฺขิปิตฺวาน, มาณวา เอตทพฺรวุ’’นฺติ. –

อยํ สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตคาถา. อิโต อปรา ติสฺโส โจรานํ, เถรสฺส จ วจนปฏิวจนคาถา –

๗๒๑.

‘‘กึ ภทนฺเต กริตฺวาน, โก วา อาจริโย ตว;

กสฺส สาสนมาคมฺม, ลพฺภเต ตํ อโสกตา.

๗๒๒.

‘‘สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี, ชิโน อาจริโย มม;

มหาการุณิโก สตฺถา, สพฺพโลกติกิจฺฉโก.

๗๒๓.

‘‘เตนายํ เทสิโต ธมฺโม, ขยคามี อนุตฺตโร;

ตสฺส สาสนมาคมฺม, ลพฺภเต ตํ อโสกตา.

๗๒๔.

‘‘สุตฺวาน โจรา อิสิโน สุภาสิตํ, นิกฺขิปฺป สตฺถานิ จ อาวุธานิ จ;

ตมฺหา จ กมฺมา วิรมึสุ เอเก, เอเก จ ปพฺพชฺชมโรจยึสุ.

๗๒๕.

‘‘เต ปพฺพชิตฺวา สุคตสฺส สาสเน, ภาเวตฺว โพชฺฌงฺคพลานิ ปณฺฑิตา;

อุทคฺคจิตฺตา สุมนา กตินฺทฺริยา, ผุสึสุ นิพฺพานปทํ อสงฺขต’’นฺติ. –

อิมาปิ สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตคาถา.

ตตฺถ นตฺถิ เจตสิกํ ทุกฺขํ, อนเปกฺขสฺส, คามณีติ คามณิ, อเปกฺขาย, ตณฺหาย, อภาเวน อนเปกฺขสฺส มาทิสสฺส, โลหิตสภาโว ปุพฺโพ วิย, เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ นตฺถิ, โทมนสฺสาภาวาปเทเสน ภยาภาวํ วทติ. เตนาห ‘‘อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพ’’ติ. อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพติ ขีณสํโยชนสฺส อรหโต ปฺจวีสติ มหาภยา, อฺเ จ สพฺเพปิ ภยา เอกํเสน อติกฺกนฺตา อตีตา, อปคตาติ อตฺโถ.

ทิฏฺเ ธมฺเม ยถาตเถติ จตุสจฺจธมฺเม ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยภาวนาวเสน มคฺคปฺาย ยถาภูตํ ทิฏฺเ. มรเณติ มรณเหตุ. ภารนิกฺเขปเน ยถาติ ยถา โกจิ ปุริโส สีเส ิเตน มหตา ครุภาเรน สํสีทนฺโต ตสฺส นิกฺเขปเน, อปนยเน น ภายติ, เอวํ สมฺปทมิทนฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา, ภารหาโร จ ปุคฺคโล;

ภาราทานํ ทุขํ โลเก, ภารนิกฺเขปนํ สุข’’นฺติ. (สํ. นิ. ๓.๒๒);

สุจิณฺณนฺติ สุฏฺุ จริตํ. พฺรหฺมจริยนฺติ, สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. ตโต เอว มคฺโค จาปิ สุภาวิโต อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโคปิ สมฺมเทว ภาวิโต. โรคานมิว สงฺขเยติ ยถา พหูหิ โรเคหิ อภิภูตสฺส อาตุรสฺส โรคานํ สงฺขเย ปีติโสมนสฺสเมว โหติ, เอวํ ขนฺธโรคสงฺขเย มรเณ มาทิสสฺส ภยํ นตฺถิ.

นิรสฺสาทา ภวา ทิฏฺาติ ตีหิ ทุกฺขตาหิ อภิภูตา, เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตา, ตโย ภวา นิรสฺสาทา, อสฺสาทรหิตา, มยา ทิฏฺา. วิสํ ปิตฺวาว ฉฑฺฑิตนฺติ ปมาทวเสน วิสํ ปิวิตฺวา ตาทิเสน ปโยเคน ฉฑฺฑิตํ วิย มรเณ เม ภยํ นตฺถีติ อตฺโถ.

มุตฺโต อาฆาตนา ยถาติ ยถา โจเรหิ มารณตฺถํ อาฆาตนํ นีโต เกนจิ อุปาเยน ตโต มุตฺโต หฏฺตุฏฺโ โหติ, เอวํ สํสารปารํ, นิพฺพานํ, คตตฺตา ปารคู, จตูหิปิ อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน, ปริฺาทีนํ โสฬสนฺนํ กิจฺจานํ กตตฺตา กตกิจฺโจ กามาสวาทีหิ อนาสโว, อายุกฺขยา อายุกฺขยเหตุ ตุฏฺโ โสมนสฺสิโก โหติ.

อุตฺตมนฺติ เสฏฺํ. ธมฺมตนฺติ, ธมฺมสภาวํ. อรหตฺเต สิทฺเธ สิชฺฌนเหตุ อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวํ. สพฺพโลเกติ สพฺพโลกสฺมิมฺปิ, ทีฆายุกสุขพหุลตาทิวเสน สํยุตฺเตปิ โลเก. อนตฺถิโกติ, อนเปกฺโข. อาทิตฺตาว ฆรา มุตฺโตติ ยถา โกจิ ปุริโส สมนฺตโต อาทิตฺตโต ปชฺชลิตโต เคหโต นิสฺสโฏ, ตโต นิสฺสรณนิมิตฺตํ น โสจติ, เอวํ ขีณาสโว มรณนิมิตฺตํ น โสจติ.

ยทตฺถิ สงฺคตํ กิฺจีติ ยํกิฺจิ อิมสฺมึ โลเก อตฺถิ, วิชฺชติ, อุปลพฺภติ สงฺคตํ, สตฺเตหิ สงฺขาเรหิ วา สมาคโม, สโมธานํ. ‘‘สงฺขต’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส ยํกิฺจิ ปจฺจเยหิ สมจฺจ สมฺภุยฺย กตํ, ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. ภโว วา ยตฺถ ลพฺภตีติ ยสฺมึ สตฺตนิกาเย โย อุปปตฺติภโว ลพฺภติ. สพฺพํ อนิสฺสรํ เอตนฺติ สพฺพเมตํ อิสฺสรรหิตํ, น เอตฺถ เกนจิ ‘‘เอวํ โหตู’’ติ อิสฺสริยํ วตฺเตตุํ สกฺกา. อิติ วุตฺตํ มเหสินาติ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ เอวํ วุตฺตํ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ตสฺมา ‘‘อนิสฺสรํ เอต’’นฺติ ปชานนฺโต มรณสฺมึ น โสจตีติ โยชนา.

คณฺหาติ ภวํ กิฺจีติ โย อริยสาวโก ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา (ธ. ป. ๒๗๗) ยถา พุทฺเธน ภควตา เทสิตํ, ตถา ตํ ภวตฺตยํ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ปชานาติ. โส ยถา โกจิ ปุริโส สุขกาโม ทิวสํ สนฺตตฺตํ อโยคุฬํ หตฺเถน น คณฺหาติ, เอวํ กิฺจิ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา ภวํ น คณฺหาติ, น ตตฺถ ตณฺหํ กโรตีติ อตฺโถ.

น เม โหติ ‘‘อโหสิ’’นฺติ ‘‘อตีตมทฺธานํ อหํ อีทิโส อโหสิ’’นฺติ อตฺตทิฏฺิวเสน น เม จิตฺตปฺปวตฺติ อตฺถิ ทิฏฺิยา สมฺมเทว อุคฺฆาฏิตตฺตา, ธมฺมสภาวสฺส จ สุทิฏฺตฺตา. ‘‘ภวิสฺส’’นฺติ น โหติ เมติ ตโต เอว ‘‘อนาคตมทฺธานํ อหํ เอทิโส กถํ นุ โข ภวิสฺสํ ภเวยฺย’’นฺติ เอวมฺปิ เม น โหติ. สงฺขารา วิคมิสฺสนฺตีติ เอวํ ปน โหติ ‘‘ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานา สงฺขาราว, น เอตฺถ โกจิ อตฺตา วา อตฺตนิยํ วา, เต จ โข วิคมิสฺสนฺติ, วินสฺสิสฺสนฺติ, ขเณ ขเณ ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ. ตตฺถ กา ปริเทวนาติ เอวํ ปสฺสนฺตสฺส มาทิสสฺส ตตฺถ สงฺขารคเต กา นาม ปริเทวนา.

สุทฺธนฺติ เกวลํ, อตฺตสาเรน อสมฺมิสฺสํ. ธมฺมสมุปฺปาทนฺติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสมุปฺปตฺตึ อวิชฺชาทิปจฺจเยหิ สงฺขาราทิธมฺมมตฺตปฺปวตฺตึ. สงฺขารสนฺตตินฺติ กิเลสกมฺมวิปากปฺปเภทสงฺขารปพนฺธํ. ปสฺสนฺตสฺส ยถาภูตนฺติ สห วิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ยาถาวโต ชานนฺตสฺส.

ติณกฏฺสมํ โลกนฺติ ยถา อรฺเ อปริคฺคเห ติณกฏฺเ เกนจิ คยฺหมาเน อปรสฺส ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ อยํ คณฺหตี’’ติ น โหติ, เอวํ โส อสามิกตาย ติณกฏฺสมํ สงฺขารโลกํ ยทา ปฺาย ปสฺสติ, โส ตตฺถ มมตฺตํ อสํวินฺทํ อสํวินฺทนฺโต อลภนฺโต อกโรนฺโต. นตฺถิ เมติ ‘‘อหุ วต โสหํ, ตํ เม นตฺถี’’ติ น โสจติ.

อุกฺกณฺามิ สรีเรนาติ อสารเกน อภินุเทน ทุกฺเขน อกตฺุนา อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลสภาเวน อิมินา กาเยน อุกฺกณฺามิ อิมํ กายํ นิพฺพินฺทนฺโต เอวํ ติฏฺามิ. ภเวนมฺหิ อนตฺถิโกติ สพฺเพนปิ ภเวน อนตฺถิโก อมฺหิ, น กิฺจิ ภวํ ปตฺเถมิ. โสยํ ภิชฺชิสฺสติ กาโยติ อยํ มม กาโย อิทานิ ตุมฺหากํ ปโยเคน อฺถา วา อฺตฺถ ภิชฺชิสฺสติ. อฺโ จ น ภวิสฺสตีติ อฺโ กาโย มยฺหํ อายตึ น ภวิสฺสติ, ปุนพฺภวาภาวโต.

ยํ โว กิจฺจํ สรีเรนาติ ยํ ตุมฺหากํ อิมินา สรีเรน ปโยชนํ, ตํ กโรถ ยทิจฺฉถ, อิจฺฉถ เจ. น เม ตปฺปจฺจยาติ, ตํ นิมิตฺตํ อิมสฺส สรีรสฺส ตุมฺเหหิ ยถิจฺฉิตกิจฺจสฺส กรณเหตุ. ตตฺถาติ เตสุ กโรนฺเตสุ จ อกโรนฺเตสุ จ. โทโส เปมฺจ เหหิตีติ ยถากฺกมํ ปฏิโฆ อนุนโย น ภวิสฺสติ, อตฺตโน ภเว อเปกฺขาย สพฺพโส ปหีนตฺตาติ อธิปฺปาโย. อฺปจฺจยา อฺตฺถ จ ปฏิฆานุนเยสุ อสนฺเตสุปิ ตปฺปจฺจยา, ‘‘ตตฺถา’’ติ วจนํ ยถาธิคตวเสน วุตฺตํ.

ตสฺสาติ อธิมุตฺตตฺเถรสฺส. ตํ วจนนฺติ ‘‘นตฺถิ เจตสิกํ ทุกฺข’’นฺติอาทิกํ มรเณ ภยาภาวาทิทีปกํ, ตโต เอว อพฺภุตํ โลมหํสนํ วจนํ สุตฺวา. มาณวาติ โจรา. โจรา หิ ‘‘มาณวา’’ติ วุจฺจนฺติ ‘‘มาณเวหิ สห คจฺฉนฺติ กตกมฺเมหิ อกตกมฺเมหิปี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) วิย.

กึ ภทนฺเต กริตฺวานาติ, ภนฺเต, กึ นาม ตโปกมฺมํ กตฺวา. โก วา ตว อาจริโย กสฺส สาสนํ, โอวาทํ นิสฺสาย อยํ อโสกตา มรณกาเล โสกาภาโว ลพฺภตีติ เอตํ อตฺถํ อพฺรวุํ, ปุจฺฉาวเสน กเถสุํ, ภาสึสุ.

ตํ สุตฺวา เถโร เตสํ ปฏิวจนํ เทนฺโต ‘‘สพฺพฺู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพฺูติ ปโรปเทเสน วินา สพฺพปกาเรน สพฺพธมฺมาวโพธนสมตฺถสฺส อากงฺขาปฏิพทฺธวุตฺติโน อนาวรณาณสฺส อธิคเมน อตีตาทิเภทํ สพฺพํ ชานาตีติ, สพฺพฺู. เตเนว สมนฺตจกฺขุนา สพฺพสฺส ทสฺสนโต สพฺพทสฺสาวี. ยมฺหิ อนาวรณาณํ, ตเทว สพฺพฺุตฺาณํ, นตฺเถว อสาธารณาณปาฬิยา วิโรโธ วิสยุปฺปตฺติมุเขน อฺเหิ อสาธารณภาวทสฺสนตฺถํ เอกสฺเสว าณสฺส ทฺวิธา วุตฺตตฺตา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อิติวุตฺตกวณฺณนายํ (อิติวุ. อฏฺ. ๓๘) วิตฺถารโต วุตฺตเมวาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปฺจนฺนมฺปิ มารานํ วิชยโต ชิโน, หีนาทิวิภาคภินฺเน สพฺพสฺมึ สตฺตนิกาเย อธิมุตฺตวุตฺติตาย มหติยา กรุณาย สมนฺนาคตตฺตา มหาการุณิโก, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ เวเนยฺยานํ อนุสาสนโต สตฺถา, ตโต เอว สพฺพโลกสฺส กิเลสโรคติกิจฺฉนโต สพฺพโลกติกิจฺฉโก, สมฺมาสมฺพุทฺโธ อาจริโย มมาติ โยชนา. ขยคามีติ นิพฺพานคามี.

เอวํ เถเรน สตฺถุ สาสนสฺส จ คุเณ ปกาสิเต ปฏิลทฺธสทฺธา เอกจฺเจ โจรา ปพฺพชึสุ, เอกจฺเจ อุปาสกตฺตํ ปเวเทสุํ. ตมตฺถํ ทีเปนฺโต ธมฺมสงฺคาหกา ‘‘สุตฺวาน โจรา’’ติอาทินา ทฺเว คาถา อภาสึสุ. ตตฺถ อิสิโนติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ เอสนฏฺเน อิสิโน, อธิมุตฺตตฺเถรสฺส. นิกฺขิปฺปาติ ปหาย. สตฺถานิ จ อาวุธานิ จาติ อสิอาทิสตฺถานิ เจว ธนุกลาปาทิอาวุธานิ จ. ตมฺหา จ กมฺมาติ ตโต โจรกมฺมโต.

เต ปพฺพชิตฺวา สุคตสฺส สาสเนติ เต โจรา โสภนคมนตาทีหิ สุคตสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชฺชํ อุปคนฺตฺวา. ภาวนาวิเสสาธิคตาย โอทคฺยลกฺขณาย ปีติยา สมนฺนาคเมน อุทคฺคจิตฺตา. สุมนาติ โสมนสฺสปฺปตฺตา. กตินฺทฺริยาติ ภาวิตินฺทฺริยา. ผุสึสูติ อคฺคมคฺคาธิคเมน อสงฺขตํ นิพฺพานํ อธิคจฺฉึสุ. อธิมุตฺโต กิร โจเร นิพฺพิเสวเน กตฺวา, เต ตตฺเถว เปตฺวา, มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวา, ปจฺจาคนฺตฺวา เตหิ สทฺธึ อุปชฺฌายสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปทํ อกาสิ. อถ เตสํ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ, เต นจิรสฺเสว อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปพฺพชิตฺวา…เป… อสงฺขต’’นฺติ.

อธิมุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา

สมณสฺส อหุ จินฺตาติอาทิกา อายสฺมโต ปาราปริยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อฺตรสฺส พฺราหฺมณมหาสาลสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส วยปฺปตฺตสฺส โคตฺตวเสน ปาราปริโยตฺเวว สมฺา อโหสิ. โส ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา พฺราหฺมณสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต. เอกทิวสํ สตฺถุ ธมฺมเทสนากาเล เชตวนวิหารํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต นิสีทิ. สตฺถา ตสฺส อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๔๕๓) เทเสสิ. โส ตํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิ. ตํ สุตฺตํ อุคฺคเหตฺวา ตทตฺถมนุจินฺเตสิ. ยถา ปน อนุจินฺเตสิ, สฺวายมตฺโถ คาถาสุ เอว อาวิ ภวิสฺสติ. โส ตถา อนุวิจินฺเตนฺโต อายตนมุเขน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺโต. อปรภาเค อตฺตนา จินฺติตาการํ ปกาเสนฺโต –

๗๒๖.

‘‘สมณสฺส อหุ จินฺตา, ปาราปริยสฺส ภิกฺขุโน;

เอกกสฺส นิสินฺนสฺส, ปวิวิตฺตสฺส ฌายิโน.

๗๒๗.

‘‘กิมานุปุพฺพํ ปุริโส, กึ วตํ กึ สมาจารํ;

อตฺตโน กิจฺจการีสฺส, น จ กฺจิ วิเหเย.

๗๒๘.

‘‘อินฺทฺริยานิ มนุสฺสานํ, หิตาย อหิตาย จ;

อรกฺขิตานิ อหิตาย, รกฺขิตานิ หิตาย จ.

๗๒๙.

‘‘อินฺทฺริยาเนว สารกฺขํ, อินฺทฺริยานิ จ โคปยํ;

อตฺตโน กิจฺจการีสฺส, น จ กฺจิ วิเหเย.

๗๓๐.

‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ เจ รูเปสุ, คจฺฉนฺตํ อนิวารยํ;

อนาทีนวทสฺสาวี, โส ทุกฺขา น หิ มุจฺจติ.

๗๓๑.

‘‘โสตินฺทฺริยํ เจ สทฺเทสุ, คจฺฉนฺตํ อนิวารยํ;

อนาทีนวทสฺสาวี, โส ทุกฺขา น หิ มุจฺจติ.

๗๓๒.

‘‘อนิสฺสรณทสฺสาวี, คนฺเธ เจ ปฏิเสวติ;

น โส มุจฺจติ ทุกฺขมฺหา, คนฺเธสุ อธิมุจฺฉิโต.

๗๓๓.

‘‘อมฺพิลํ มธุรคฺคฺจ, ติตฺตกคฺคมนุสฺสรํ;

รสตณฺหาย คธิโต, หทยํ นาวพุชฺฌติ.

๗๓๔.

‘‘สุภานฺยปฺปฏิกูลานิ, โผฏฺพฺพานิ อนุสฺสรํ;

รตฺโต ราคาธิกรณํ, วิวิธํ วินฺทเต ทุขํ.

๗๓๕.

‘‘มนํ เจเตหิ ธมฺเมหิ, โย น สกฺโกติ รกฺขิตุํ;

ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ, สพฺเพเหเตหิ ปฺจหิ.

๗๓๖.

‘‘ปุพฺพโลหิตสมฺปุณฺณํ, พหุสฺส กุณปสฺส จ;

นรวีรกตํ วคฺคุํ, สมุคฺคมิว จิตฺติตํ.

๗๓๗.

‘‘กฏุกํ มธุรสฺสาทํ, ปิยนิพนฺธนํ ทุขํ;

ขุรํว มธุนา ลิตฺตํ, อุลฺลิหํ นาวพุชฺฌติ.

๗๓๘.

‘‘อิตฺถิรูเป อิตฺถิสเร, โผฏฺพฺเพปิ จ อิตฺถิยา;

อิตฺถิคนฺเธสุ สารตฺโต, วิวิธํ วินฺทเต ทุขํ.

๗๓๙.

‘‘อิตฺถิโสตานิ สพฺพานิ, สนฺทนฺติ ปฺจ ปฺจสุ;

เตสมาวรณํ กาตุํ, โย สกฺโกติ วีริยวา.

๗๔๐.

‘‘โส อตฺถวา โส ธมฺมฏฺโ, โส ทกฺโข โส วิจกฺขโณ;

กเรยฺย รมมาโนปิ, กิจฺจํ ธมฺมตฺถสํหิตํ.

๗๔๑.

‘‘อโถ สีทติ สฺุตฺตํ, วชฺเช กิจฺจํ นิรตฺถกํ;

น ตํ กิจฺจนฺติ มฺิตฺวา, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ.

๗๔๒.

‘‘ยฺจ อตฺเถน สฺุตฺตํ, ยา จ ธมฺมคตา รติ;

ตํ สมาทาย วตฺเตถ, สา หิ เว อุตฺตมา รติ.

๗๔๓.

‘‘อุจฺจาวเจหุปาเยหิ, ปเรสมภิชิคีสติ;

หนฺตฺวา วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา, อาโลปติ สาหสา โย ปเรสํ.

๗๔๔.

‘‘ตจฺฉนฺโต อาณิยา อาณึ, นิหนฺติ พลวา ยถา;

อินฺทฺริยานินฺทฺริเยเหว, นิหนฺติ กุสโล ตถา.

๗๔๕.

‘‘สทฺธํ วีริยํ สมาธิฺจ, สติปฺฺจ ภาวยํ;

ปฺจ ปฺจหิ หนฺตฺวาน, อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ.

๗๔๖.

‘‘โส อตฺถวา โส ธมฺมฏฺโ, กตฺวา วากฺยานุสาสนึ;

สพฺเพน สพฺพํ พุทฺธสฺส, โส นโร สุขเมธตี’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ สมณสฺสาติ ปพฺพชิตสฺส. อหูติ อโหสิ. จินฺตาติ ธมฺมจินฺตา ธมฺมวิจารณา. ปาราปริยสฺสาติ ปาราปรโคตฺตสฺส. ‘‘ปาราจริยสฺสา’’ติปิ ปนฺติ. ภิกฺขุโนติ สํสาเร ภยํ อิกฺขนสีลสฺส. เอกกสฺสาติ อสหายสฺส, เอเตน กายวิเวกํ ทสฺเสติ. ปวิวิตฺตสฺสาติ ปวิเวกเหตุนา กิเลสานํ วิกฺขมฺภเนน วิเวกํ อารทฺธสฺส, เอเตน จิตฺตวิเวกํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ฌายิโน’’ติ. ฌายิโนติ ฌายนสีลสฺส, โยนิโสมนสิกาเรสุ ยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ เถโร อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา วทติ.

‘‘กิมานุปุพฺพ’’นฺติอาทินา ตํ จินฺตนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปมคาถายํ ตาว กิมานุปุพฺพนฺติ อนุปุพฺพํ อนุกฺกโม, อนุปุพฺพเมว วกฺขมาเนสุ วตสมาจาเรสุ โก อนุกฺกโม, เกน อนุกฺกเมน เต ปฏิปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ. ปุริโส กึ วตํ กึ สมาจารนฺติ อตฺถกาโม ปุริโส สมาทิยิตพฺพฏฺเน ‘‘วต’’นฺติ ลทฺธนามํ, กีทิสํ สีลํ สมาจารํ, สมาจรนฺโต, อตฺตโน กิจฺจการี กตฺตพฺพการี อสฺส, กฺจิ สตฺตํ น จ วิเหเย, น พาเธยฺยาติ อตฺโถ. อตฺตโน กิจฺจํ นาม สมณธมฺโม, สงฺเขปโต สีลสมาธิปฺา, ตํ สมฺปาเทนฺตสฺส ปรวิเหนาย เลโสปิ นตฺถิ ตาย สติ สมณภาวสฺเสว อภาวโต.

ยถาห ภควา – ‘‘น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี, น สมโณ โหติ ปรํ วิเหยนฺโต’’ติ (ธ. ป. ๑๘๔). เอตฺถ จ วตคฺคหเณน วาริตฺตสีลํ คหิตํ, สมาจารคฺคหเณน สมาจริตพฺพโต จาริตฺตสีเลน สทฺธึ ฌานวิปสฺสนาทิ, ตสฺมา วาริตฺตสีลํ ปธานํ. ตตฺถาปิ จ ยสฺมา อินฺทฺริยสํวเร สิทฺเธ สพฺพํ สีลํ สุรกฺขิตํ, สุโคปิตเมว โหติ, ตสฺมา อินฺทฺริยสํวรสีลํ ตาว ทสฺเสตุกาโม อินฺทฺริยานํ อรกฺขเณ รกฺขเณ จ อาทีนวานิสํเส วิภาเวนฺโต ‘‘อินฺทฺริยานิ มนุสฺสาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อินฺทฺริยานีติ รกฺขิตพฺพธมฺมนิทสฺสนํ, ตสฺมา จกฺขาทีนิ ฉ อินฺทฺริยานีติ วุตฺตํ โหติ. มนุสฺสานนฺติ รกฺขณโยคฺยปุคฺคลนิทสฺสนํ. หิตายาติ อตฺถาย. อหิตายาติ อนตฺถาย. โหนฺตีติ วจนเสโส. กถํ ปน ตานิเยว หิตาย จ อหิตาย โหนฺตีติ อาห ‘‘รกฺขิตานี’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ สติกวาเฏน อปิหิตานิ, ตสฺส รูปาทีสุ อภิชฺฌาทิปาปธมฺมปวตฺติยา ทฺวารภาวโต อนตฺถาย ปิหิตานิ, ตทภาวโต อตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ.

อินฺทฺริยาเนว สารกฺขนฺติ ยสฺมา อินฺทฺริยสํวโร ปริปุณฺโณ สีลสมฺปทํ ปริปูเรติ, สีลสมฺปทา ปริปุณฺณา สมาธิสมฺปทํ ปริปูเรติ, สมาธิสมฺปทา ปริปุณฺณา ปฺาสมฺปทํ ปริปูเรติ, ตสฺมา อินฺทฺริยารกฺขา อตฺตหิตปฏิปตฺติยาว มูลนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อินฺทฺริยาเนว สารกฺข’’นฺติ. สติปุพฺพงฺคเมน อารกฺเขน สํรกฺขนฺโต โยนิโสมนสิกาเรน อินฺทฺริยานิ เอว ตาว สมฺมเทว รกฺขนฺโต, ยถา อกุสลโจรา เตหิ เตหิ ทฺวาเรหิ ปวิสิตฺวา จิตฺตสนฺตาเน กุสลํ ภณฺฑํ น วิลุมฺปนฺติ, ตถา ตานิ ปิทหนฺโตติ อตฺโถ. สารกฺขนฺติ จ สํ-สทฺทสฺส สาภาวํ กตฺวา วุตฺตํ, ‘‘สาราโค’’ติอาทีสุ วิย. ‘‘สํรกฺข’’นฺติ จ ปาโ. อินฺทฺริยานิ จ โคปยนฺติ ตสฺเสว ปริยายวจนํ, ปริยายวจเน ปโยชนํ เนตฺติอฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ‘‘อตฺตโน กิจฺจการีสฺสา’’ติ อิมินา อตฺตหิตปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ, ‘‘น จ กฺจิ วิเหเย’’ติ อิมินา ปรหิตปฏิปตฺตึ, อุภเยนาปิ วา อตฺตหิตปฏิปตฺติเมว ทสฺเสติ ปราวิเหนสฺสาปิ อตฺตหิตปฏิปตฺติภาวโต. อถ วา ปททฺวเยนปิ อตฺตหิตปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ ปุถุชฺชนสฺส เสกฺขสฺส จ ปรหิตปฏิปตฺติยาปิ อตฺตหิตปฏิปตฺติภาวโต.

เอวํ รกฺขิตานิ อินฺทฺริยานิ หิตาย โหนฺตีติ โวทานปกฺขํ สงฺเขเปเนว ทสฺเสตฺวา, อรกฺขิตานิ อหิตาย โหนฺตีติ สํกิเลสปกฺขํ ปน วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ เจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุนฺทฺริยํ เจ รูเปสุ, คจฺฉนฺตํ อนิวารยํ. อนาทีนวทสฺสาวีติ โย นีลปีตาทิเภเทสุ อิฏฺานิฏฺเสุ รูปายตเนสุ คจฺฉนฺตํ ยถารุจิ ปวตฺตนฺตํ จกฺขุนฺทฺริยํ อนิวารยํ, อนิวารยนฺโต อปฺปฏิพาหนฺโต ตถาปวตฺติยํ อาทีนวทสฺสาวี น โหติ เจ, ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ อาทีนวํ โทสํ น ปสฺสติ เจ. ‘‘คจฺฉนฺตํ นิวารเย อนิสฺสรณทสฺสาวี’’ติ จ ปาโ. ตตฺถ โย ‘‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๕) วุตฺตวิธินา ทิฏฺมตฺเตเยว ตฺวา สติสมฺปชฺวเสน รูปายตเน ปวตฺตมาโน ตตฺถ นิสฺสรณทสฺสาวี นาม. วุตฺตวิปริยาเยน อนิสฺสรณทสฺสาวี ทฏฺพฺโพ. โส ทุกฺขา น หิ มุจฺจตีติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล วฏฺฏทุกฺขโต น มุจฺจเตว. เอตฺถ จ จกฺขุนฺทฺริยสฺส อนิวารณํ นาม ยถา เตน ทฺวาเรน อภิชฺฌาทโย ปาปธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตถา ปวตฺตนํ, ตํ ปน อตฺถโต สติสมฺปชฺสฺส อนุฏฺาปนํ ทฏฺพฺพํ. เสสินฺทฺริเยสุปิ เอเสว นโย. อธิมุจฺฉิโตติ อธิมุตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อาปนฺโน. อมฺพิลนฺติ อมฺพิลรสํ. มธุรคฺคนฺติ มธุรรสโกฏฺาสํ. ตถา ติตฺตกคฺคํ. อนุสฺสรนฺติ อสฺสาทวเสน ตํ ตํ รสํ อนุวิจินฺเตนฺโต. คนฺถิโตติ รสตณฺหาย ตสฺมึ ตสฺมึ รเส คนฺถิโต พนฺโธ. ‘‘คธิโต’’ติ จ ปนฺติ, เคธํ อาปนฺโนติ อตฺโถ. หทยํ นาวพุชฺฌตีติ ‘‘ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’’ติ ปพฺพชฺชาทิกฺขเณ อุปฺปนฺนํ จิตฺตํ น ชานาติ น สลฺลกฺเขติ, สาสนสฺส หทยํ อพฺภนฺตรํ อนวชฺชธมฺมานํ สมฺมทฺทนรสตณฺหาย คธิโต นาวพุชฺฌติ น ชานาติ, น ปฏิปชฺชตีติ อตฺโถ.

สุภานีติ สุนฺทรานิ. อปฺปฏิกูลานีติ มโนรมานิ, อิฏฺานิ. โผฏฺพฺพานีติ อุปาทิณฺณานุปาทิณฺณปฺปเภเท ผสฺเส. รตฺโตติ รชฺชนสภาเวน ราเคน รตฺโต. ราคาธิกรณนฺติ ราคเหตุ. วิวิธํ วินฺทเต ทุขนฺติ ราคปริฬาหาทิวเสน ทิฏฺธมฺมิกฺจ นิรยสนฺตาปาทิวเสน อภิสมฺปรายฺจ นานปฺปการํ ทุกฺขํ ปฏิลภติ.

มนํ เจเตหีติ มนฺจ เอเตหิ รูปารมฺมณาทีหิ ธมฺมารมฺมณปฺปเภเทหิ จ. นฺติ ปุคฺคลํ. สพฺเพหีติ สพฺเพหิ ปฺจหิปิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปุคฺคโล มนํ, มโนทฺวารํ, เอเตหิ ยถาวุตฺเตหิ รูปาทีหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ ธมฺมารมฺมณปฺปเภทโต จ. ตตฺถ ปวตฺตนกปาปกมฺมนิวารเณน รกฺขิตุํ, โคปิตุํ น สกฺโกติ, ตโต ตสฺส อรกฺขณโต นํ ปุคฺคลํ ตํนิมิตฺตํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, อนุคจฺฉติ, อนุคจฺฉนฺตฺจ เอเตหิ ปฺจหิปิ รูปารมฺมณาทีหิ ฉฏฺารมฺมเณน สทฺธึ สพฺเพหิปิ อารมฺมณปฺปจฺจยภูเตหิ อนุคจฺฉตีติ. เอตฺถ จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยฺจ อสมฺปตฺตคฺคาหิภาวโต ‘‘คจฺฉนฺตํ อนิวารย’’นฺติ วุตฺตํ อิตรํ สมฺปตฺตคฺคาหีติ ‘‘คนฺเธ เจ ปฏิเสวตี’’ติอาทินา วุตฺตํ. ตตฺถาปิ จ รสตณฺหา จ โผฏฺพฺพตณฺหา จ สตฺตานํ วิเสสโต พลวตีติ ‘‘รสตณฺหาย คธิโต, โผฏฺพฺพานิ อนุสฺสรนฺโตติ’’ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ อคุตฺตทฺวารสฺส ปุคฺคลสฺส ฉหิ ทฺวาเรหิ ฉสุปิ อารมฺมเณสุ อสํวรนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ ทสฺเสตฺวา สฺวายมสํวโร ยสฺมา สรีรสภาวานวโพเธน โหติ, ตสฺมา สรีรสภาวํ วิจินนฺโต ‘‘ปุพฺพโลหิตสมฺปุณฺณ’’นฺติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตสฺสตฺโถ – สรีรํ นาเมตํ ปุพฺเพน โลหิเตน จ สมฺปุณฺณํ ภริตํ อฺเน จ ปิตฺตเสมฺหาทินา พหุนา กุณเปน, ตยิทํ นรวีเรน นเรสุ เฉเกน สิปฺปาจริเยน กตํ วคฺคุ มฏฺํ ลาขาปริกมฺมาทินา จิตฺติตํ, อนฺโต ปน คูถาทิอสุจิภริตํ สมุคฺคํ วิย ฉวิมตฺตมโนหรํ พาลชนสมฺโมหํ ทุกฺขสภาวตาย นิรยาทิทุกฺขตาปนโต จ กฏุกํ, ปริกปฺปสมฺภเวน อมูลเกน อสฺสาทมตฺเตน มธุรตาย มธุรสฺสาทํ, ตโต เอว ปิยภาวนิพนฺธเนน ปิยนิพนฺธนํ, ทุสฺสหตาย อปฺปตีตตาย จ ทุขํ, อีทิเส สรีเร อสฺสาทโลเภน มหาทุกฺขํ ปจฺจนุภุยฺยมานํ อนวพุชฺฌนฺโต โลโก มธุรคิทฺโธ ขุรธาราเลหกปุริโส วิย ทฏฺพฺโพติ.

อิทานิ เอเต จกฺขาทีนํ โคจรภูตา รูปาทโย วุตฺตา, เต วิเสสโต ปุริสสฺส อิตฺถิปฏิพทฺธา กมนียาติ ตตฺถ สํวโร กาตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถิรูเป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิตฺถิรูเปติ อิตฺถิยา จตุสมุฏฺานิกรูปายตนสงฺขาเต วณฺเณ. อปิ จ โย โกจิ อิตฺถิยา นิวตฺถสฺส อลงฺการสฺส วา คนฺธวณฺณกาทีนํ วา ปิฬนฺธนมาลานํ วา กายปฏิพทฺโธ วณฺโณ ปุริสสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณภาวาย อุปกปฺปติ, สพฺพเมตํ ‘‘อิตฺถิรูป’’นฺตฺเวว เวทิตพฺพํ. อิตฺถิสเรติ อิตฺถิยา คีตลปิตหสิตรุทิตสทฺเท. อปิ จ อิตฺถิยา นิวตฺถวตฺถสฺสปิ อลงฺกตอลงฺการสฺสปิ อิตฺถิปโยคนิปฺผาทิตา เวณุวีณาสงฺขปณวาทีนมฺปิ สทฺทา อิธ อิตฺถิสรคฺคหเณน คหิตาติ เวทิตพฺพา. สพฺโพเปโส ปุริสสฺส จิตฺตํ อากฑฺฒตีติ. ‘‘อิตฺถิรเส’’ติ ปน ปาฬิยา จตุสมุฏฺานิกรสายตนวเสน วุตฺตํ. อิตฺถิยา กึการปฏิสฺสาวิตาทิวเสน อสฺสวรโส เจว ปริโภครโส จ อิตฺถิรโสติ เอเก. โย ปน อิตฺถิยา โอฏฺมํสสมฺมกฺขิตเขฬาทิรโส, โย จ ตาย ปุริสสฺส ทินฺนยาคุภตฺตาทีนํ รโส, สพฺโพเปโส ‘‘อิตฺถิรโส’’ตฺเวว เวทิตพฺโพ. โผฏฺพฺเพปิ จ อิตฺถิยา กายสมฺผสฺโส, อิตฺถิสรีรารูฬฺหานํ วตฺถาลงฺการมาลาทีนํ ผสฺโส ‘‘อิตฺถิโผฏฺพฺโพ’’ตฺเวว เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ เยสํ อิตฺถิรูเป อิตฺถิสเรติ ปาฬิ, เตสํ อปิ-สทฺเทน อิตฺถิรสสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อิตฺถิคนฺเธสูติ อิตฺถิยา จตุสมุฏฺานิกคนฺธายตเนสุ. อิตฺถิยา สรีรคนฺโธ นาม ทุคฺคนฺโธ. เอกจฺจา หิ อิตฺถี อสฺสคนฺธินี โหติ, เอกจฺจา เมณฺฑคนฺธินี, เอกจฺจา เสทคนฺธินี, เอกจฺจา โสณิตคนฺธินี, ตถาปิ ตาสุ อนฺธพาโล รชฺชเตว. จกฺกวตฺติโน ปน อิตฺถิรตนสฺส กายโต จนฺทนคนฺโธ วายติ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ, อยํ น สพฺพาสํ โหตีติ, อิตฺถิยา สรีเร อารูฬฺโห อาคนฺตุโก อนุลิมฺปนาทิคนฺโธ ‘‘อิตฺถิคนฺโธ’’ติ เวทิตพฺโพ. สารตฺโตติ สุฏฺุ รตฺโต คธิโต มุจฺฉิโต, อิทํ ปน ปทํ ‘‘อิตฺถิรูเป’’ติอาทีสุปิ โยเชตพฺพํ. วิวิธํ วินฺทเต ทุขนฺติ อิตฺถิรูปาทีสุ สราคนิมิตฺตํ ทิฏฺธมฺมิกํ วธพนฺธนาทิวเสน สมฺปรายิกํ ปฺจวิธพนฺธนาทิวเสน นานปฺปการํ ทุกฺขํ ปฏิลภติ.

อิตฺถิโสตานิ สพฺพานีติ อิตฺถิยา รูปาทิอารมฺมณานิ สพฺพานิ อนวเสสานิ ปฺจ ตณฺหาโสตานิ สนฺทนฺติ. ปฺจสูติ ปุริสสฺส ปฺจสุ ทฺวาเรสุ. เตสนฺติ เตสํ ปฺจนฺนํ โสตานํ. อาวรณนฺติ สํวรณํ, ยถา อสํวโร น อุปฺปชฺชติ, เอวํ สติสมฺปชฺํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สํวรํ ปวตฺเตตุํ โย สกฺโกติ, โส วีริยวา อารทฺธวีริโย อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทายาติ อตฺโถ.

เอวํ รูปาทิโคจเร ปพฺพชิตสฺส ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ คหฏฺสฺส ทสฺเสตุํ ‘‘โส อตฺถวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โส อตฺถวา โส ธมฺมฏฺโ, โส ทกฺโข โส วิจกฺขโณติ โส ปุคฺคโล อิมสฺมึ โลเก อตฺถวา, พุทฺธิมา, ธมฺเม ิโต, ธมฺเม ทกฺโข, ธมฺเม เฉโก, อนลโส วา วิจกฺขโณ อิติ กตฺตพฺพตาสุ กุสโล นาม. กเรยฺย รมมาโนปิ, กิจฺจํ ธมฺมตฺถสํหิตนฺติ เคหรติยา รมมาโนปิ ธมฺมตฺถสํหิตํ ธมฺมโต อตฺถโต จ อนเปตเมว ตํ ตํ กตฺตพฺพํ. อนุปฺปนฺนานํ โภคานํ อุปฺปาทนํ, อุปฺปนฺนานํ ปริปาลนํ, ปริโภคฺจ กเรยฺย, อฺมฺํ, อวิโรเธน, อฺมฺํ, อพาธเนน, ติวคฺคตฺถํ อนุยุฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย. อยฺจ นโย เยสํ สมฺมาปฏิปตฺติอวิโรเธน ติวคฺคตฺถสฺส วเสน วตฺตติ พิมฺพิสารมหาราชาทีนํ วิย, เตสํ วเสน วุตฺโต. น เยสํ เกสฺจิ วเสนาติ ทฏฺพฺพํ.

อโถ สีทติ สฺุตฺตนฺติ ยทิ อิธโลเก สุปสํหิตํ ทิฏฺธมฺมิกํ อตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา ิตํ. วชฺเช กิจฺจํ นิรตฺถกนฺติ สมฺปรายิกตฺถรหิตํ อนตฺถุปสํหิตํ กิจฺจํ สเจปิ วิสฺสชฺเชยฺย ปริจฺจเชยฺย. น ตํ กิจฺจนฺติ มฺิตฺวา, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณติ สติอวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺโต วิจารณปฺาสมฺภเวน วิจกฺขโณ อนตฺถุปสํหิตํ, ตํ กิจฺจํ มยา น กาตพฺพนฺติ มฺิตฺวา วิวชฺเชยฺย.

วิวชฺเชตฺวา ปน ยฺจ อตฺเถน สฺุตฺตํ, ยา จ ธมฺมคตา รติ. ตํ สมาทาย วตฺเตถาติ ยํกิฺจิ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปฺปเภเทน อตฺเถน หิเตน สํยุตฺตํ ตทุภยหิตาวหํ, ยา จ อธิกุสลธมฺมคตา สมถวิปสฺสนาสหิตา รติ, ตทุภยํ สมฺมา อาทิยิตฺวา ปริคฺคหํ กตฺวา วตฺเตยฺย. ‘‘สพฺพํ รตึ ธมฺมรติ ชินาตี’’ติ (ธ. ป. ๓๕๔) วจนโต สา หิ เอกํเสน อุตฺตมตฺถสฺส ปาปนโต อุตฺตมา รติ นาม.

ยํ ปน กามรติสํยุตฺตํ กิจฺจํ นิรตฺถกนฺติ วุตฺตํ, ตสฺสา อนตฺถุปสํหิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุจฺจาวเจหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุจฺจาวเจหีติ มหนฺเตหิ เจว ขุทฺทเกหิ จ. อุปาเยหีติ นเยหิ. ปเรสมภิชิคีสตีติ ปเรสํ สนฺตกํ อาหริตุํ อิจฺฉติ, ปเร วา สพฺพถา หาเปติ, ชินาเปติ ปรํ หนฺตฺวา, วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา, อาโลปติ สาหสา โย ปเรสํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปุคฺคโล กามเหตุ ปเร หนนฺโต, ฆาเตนฺโต, โสเจนฺโต สนฺธิจฺเฉทสนฺธิรุหนปสยฺหาวหาราทีหิ นานุปาเยหิ ปเรสํ สนฺตกํ หริตุํ วายมนฺโต สาหสาการํ กโรติ, อาโลปติ, ชิคีสติ สาปเตยฺยวเสน ปเร หาเปติ, ตสฺส ตํ กิจฺจํ กามรติสนฺนิสฺสิตํ อนตฺถุปสํหิตํ เอกนฺตนิหีนนฺติ. เอเตน ตปฺปฏิปกฺขโต ธมฺมคตาย รติยา เอกํสโต อุตฺตมภาวํเยว วิภาเวติ.

อิทานิ ยํ ‘‘เตสมาวรณํ กาตุํ โย สกฺโกตี’’ติ อินฺทฺริยานํ อาวรณํ วุตฺตํ, ตํ อุปาเยน สห วิภาเวนฺโต ‘‘ตจฺฉนฺโต อาณิยา อาณึ, นิหนฺติ พลวา ยถา’’ติ อาห. ยถา พลวา กายพเลน, าณพเลน จ สมนฺนาคโต ตจฺฉโก รุกฺขทณฺฑคตํ อาณึ นีหริตุกาโม ตโต พลวตึ อาณึ โกเฏนฺโต ตโต นีหรติ, ตถา กุสโล ภิกฺขุ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ วิปสฺสนาพเลน นิหนฺตุกาโม อินฺทฺริเยหิ เอว นิหนฺติ.

กตเมหิ ปนาติ อาห ‘‘สทฺธ’’นฺติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธํ, ปคฺคหลกฺขณํ วีริยํ, อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธึ, อุปฏฺานลกฺขณํ สตึ, ทสฺสนลกฺขณํ ปฺนฺติ อิมานิปิ วิมุตฺติปริปาจกานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวนฺโต วฑฺเฒนฺโต เอเตหิ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ จกฺขาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ อนุนยปฏิฆาทิกิเลสุปฺปตฺติยา ทฺวารภาววิหเนน หนฺตฺวา, อริยมคฺเคน ตทุปนิสฺสเย กิเลเส สมุจฺฉินฺทิตฺวา, ตโต เอว อนีโฆ นิทฺทุกฺโข พฺราหฺมโณ อนุปาทิเสสปรินิพฺพานเมว ยาติ อุปคจฺฉตีติ.

โส อตฺถวาติ โส ยถาวุตฺโต พฺราหฺมโณ อุตฺตมตฺเถน สมนฺนาคตตฺตา อตฺถวา, ตํ สมฺปาปเก ธมฺเม ิตตฺตา ธมฺมฏฺโ. สพฺเพน สพฺพํ อนวเสเสน วิธินา อนวเสสํ พุทฺธสฺส ภควโต วากฺยภูตํ อนุสาสนึ กตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิตฺวา ิโต. ตโต เอว โส นโร อุตฺตมปุริโส นิพฺพานสุขฺจ เอธติ, พฺรูเหติ, วฑฺเฒตีติ.

เอวํ เถเรน อตฺตโน จินฺติตาการวิภาวนาวเสน ปฏิปตฺติยา ปกาสิตตฺตา อิทเมว จสฺส อฺาพฺยากรณํ ทฏฺพฺพํ.

ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เตลกานิตฺเถรคาถาวณฺณนา

จิรรตฺตํ วตาตาปีติอาทิกา อายสฺมโต เตลกานิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สตฺถุ อภิชาติโต ปุเรตรํเยว สาวตฺถิยํ อฺตรสฺมึ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา เตลกานีติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต เหตุสมฺปนฺนตาย กาเม ชิคุจฺฉนฺโต ฆราวาสํ ปหาย ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วิวฏฺฏชฺฌาสโย ‘‘โก โส ปารงฺคโต โลเก’’ติอาทินา วิโมกฺขปริเยสนํ จรมาโน เต เต สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ, เต น สมฺปายนฺติ. โส เตน อนาราธิตจิตฺโต วิจรติ. อถ อมฺหากํ ภควติ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก โลกหิตํ กโรนฺเต เอกทิวสํ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺเต ปติฏฺาติ. โส เอกทิวสํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ นิสินฺโน อตฺตนา อธิคตวิเสสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตทนุสาเรน อตฺตโน ปฏิปตฺตึ อนุสฺสริตฺวา ตํ สพฺพํ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขนฺโต –

๗๔๗.

‘‘จิรรตฺตํ วตาตาปี, ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ;

สมํ จิตฺตสฺส นาลตฺถํ, ปุจฺฉํ สมณพฺราหฺมเณ.

๗๔๘.

‘‘โก โส ปารงฺคโต โลเก, โก ปตฺโต อมโตคธํ;

กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามิ, ปรมตฺถวิชานนํ.

๗๔๙.

‘‘อนฺโตวงฺกคโต อาสิ, มจฺโฉว ฆสมามิสํ;

พทฺโธ มหินฺทปาเสน, เวปจิตฺยสุโร ยถา.

๗๕๐.

‘‘อฺฉามิ นํ น มุฺจามิ, อสฺมา โสกปริทฺทวา;

โก เม พนฺธํ มุฺจํ โลเก, สมฺโพธึ เวทยิสฺสติ.

๗๕๑.

‘‘สมณํ พฺราหฺมณํ วา กํ, อาทิสนฺตํ ปภงฺคุนํ;

กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามิ, ชรามจฺจุปวาหนํ.

๗๕๒.

‘‘วิจิกิจฺฉากงฺขาคนฺถิตํ, สารมฺภพลสฺุตํ;

โกธปฺปตฺตมนตฺถทฺธํ, อภิชปฺปปฺปทารณํ.

๗๕๓.

‘‘ตณฺหาธนุสมุฏฺานํ, ทฺเว จ ปนฺนรสายุตํ;

ปสฺส โอรสิกํ พาฬฺหํ, เภตฺวาน ยทิ ติฏฺติ.

๗๕๔.

‘‘อนุทิฏฺีนํ อปฺปหานํ, สงฺกปฺปปรเตชิตํ;

เตน วิทฺโธ ปเวธามิ, ปตฺตํว มาลุเตริตํ.

๗๕๕.

‘‘อชฺฌตฺตํ เม สมุฏฺาย, ขิปฺปํ ปจฺจติ มามกํ;

ฉผสฺสายตนี กาโย, ยตฺถ สรติ สพฺพทา.

๗๕๖.

‘‘ตํ น ปสฺสามิ เตกิจฺฉํ, โย เมตํ สลฺลมุทฺธเร;

นานารชฺเชน สตฺเถน, นาฺเน วิจิกิจฺฉิตํ.

๗๕๗.

‘‘โก เม อสตฺโถ อวโณ, สลฺลมพฺภนฺตรปสฺสยํ;

อหึสํ สพฺพคตฺตานิ, สลฺลํ เม อุทฺธริสฺสติ.

๗๕๘.

‘‘ธมฺมปฺปติ หิ โส เสฏฺโ, วิสโทสปฺปวาหโก;

คมฺภีเร ปติตสฺส เม, ถลํ ปาณิฺจ ทสฺสเย.

๗๕๙.

‘‘รหเทหมสฺมิ โอคาฬฺโห, อหาริยรชมตฺติเก;

มายาอุสูยสารมฺภ, ถินมิทฺธมปตฺถเฏ.

๗๖๐.

‘‘อุทฺธจฺจเมฆถนิตํ, สํโยชนวลาหกํ;

วาหา วหนฺติ กุทฺทิฏฺึ, สงฺกปฺปา ราคนิสฺสิตา.

๗๖๑.

‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, ลตา อุพฺภิชฺช ติฏฺติ;

เต โสเต โก นิวาเรยฺย, ตํ ลตํ โก หิ เฉจฺฉติ.

๗๖๒.

‘‘เวลํ กโรถ ภทฺทนฺเต, โสตานํ สนฺนิวารณํ;

มา เต มโนมโย โสตา, รุกฺขํว สหสา ลุเว.

๗๖๓.

‘‘เอวํ เม ภยชาตสฺส, อปารา ปารเมสโต;

ตาโณ ปฺาวุโธ สตฺถา, อิสิสงฺฆนิเสวิโต.

๗๖๔.

‘‘โสปานํ สุคตํ สุทฺธํ, ธมฺมสารมยํ ทฬฺหํ;

ปาทาสิ วุยฺหมานสฺส, มา ภายีติ จ มพฺรวิ.

๗๖๕.

‘‘สติปฏฺานปาสาทํ, อารุยฺห ปจฺจเวกฺขิสํ;

ยํ ตํ ปุพฺเพ อมฺิสฺสํ, สกฺกายาภิรตํ ปชํ.

๗๖๖.

‘‘ยทา จ มคฺคมทฺทกฺขึ, นาวาย อภิรูหนํ;

อนธิฏฺาย อตฺตานํ, ติตฺถมทฺทกฺขิมุตฺตมํ.

๗๖๗.

‘‘สลฺลํ อตฺตสมุฏฺานํ, ภวเนตฺติปฺปภาวิตํ;

เอเตสํ อปฺปวตฺตาย, เทเสสิ มคฺคมุตฺตมํ.

๗๖๘.

‘‘ทีฆรตฺตานุสยิตํ, จิรรตฺตมธิฏฺิตํ;

พุทฺโธ เมปานุที คนฺถํ, วิสโทสปฺปวาหโน’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ จิรรตฺตํ วตาติ จิรกาลํ วต. อาตาปีติ วีริยวา วิโมกฺขธมฺมปริเยสเน อารทฺธวีริโย. ธมฺมํ อนุวิจินฺตยนฺติ ‘‘กีทิโส นุ โข วิโมกฺขธมฺโม, กถํ วา อธิคนฺตพฺโพ’’ติ วิมุตฺติธมฺมํ อนุวิจินนฺโต คเวสนฺโต. สมํ จิตฺตสฺส นาลตฺถํ, ปุจฺฉํ สมณพฺราหฺมเณติ เต เต นานาติตฺถิเย สมณพฺราหฺมเณ วิมุตฺติธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปกติยา อนุปสนฺตสภาวสฺส จิตฺตสฺส สมํ วูปสมภูตํ วฏฺฏทุกฺขวิสฺสรณํ อริยธมฺมํ นาลตฺถํ นาธิคจฺฉนฺติ อตฺโถ.

โก โส ปารงฺคโตติอาทิ ปุจฺฉิตาการทสฺสนํ. ตตฺถ โก โส ปารงฺคโต โลเกติ อิมสฺมึ โลเก ติตฺถการปฏิฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ โก นุ โข โส สํสารสฺส ปารํ นิพฺพานํ อุปคโต. โก ปตฺโต อมโตคธนฺติ นิพฺพานปติฏฺํ วิโมกฺขมคฺคํ โก ปตฺโต อธิคโตติ อตฺโถ. กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามีติ กสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา โอวาทธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหามิ ปฏิปชฺชามิ. ปรมตฺถวิชานนนฺติ ปรมตฺถสฺส วิชานนํ, อวิปรีตปฺปวตฺตินิวตฺติโย ปเวเทนฺตนฺติ อตฺโถ.

อนฺโตวงฺกคโต อาสีติ วงฺกํ วุจฺจติ ทิฏฺิคตํ มโนวงฺกภาวโต, สพฺเพปิ วา กิเลสา, อนฺโตติ ปน หทยวงฺกสฺส อนฺโต, หทยพฺภนฺตรคตกิเลสวงฺโก วา อโหสีติ อตฺโถ. มจฺโฉว ฆสมามิสนฺติ อามิสํ ฆสนฺโต ขาทนฺโต มจฺโฉ วิย, คิลพฬิโส มจฺโฉ วิยาติ อธิปฺปาโย. พทฺโธ มหินฺทปาเสน, เวปจิตฺยสุโร ยถาติ มหินฺทสฺส สกฺกสฺส ปาเสน พทฺโธ ยถา เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อเสริวิหารี มหาทุกฺขปฺปตฺโต, เอวมหํ ปุพฺเพ กิเลสปาเสน พทฺโธ อาสึ, อเสริวิหารี มหาทุกฺขปฺปตฺโตติ อธิปฺปาโย.

อฺฉามีติ อากฑฺฒามิ. นฺติ กิเลสปาสํ. น มุฺจามีติ น โมเจมิ. อสฺมา โสกปริทฺทวาติ อิมสฺมา โสกปริเทววฏฺฏโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาปาเสน พทฺโธ มิโค สูกโร วา โมจนุปายํ อชานนฺโต ปริปฺผนฺทมาโน ตํ อาวิฺฉนฺโต พนฺธนํ ทฬฺหํ กโรติ, เอวํ อหํ ปุพฺเพ กิเลสปาเสน ปฏิมุกฺโก โมจนุปายํ อชานนฺโต กายสฺเจตนาทิวเสน ปริปฺผนฺทมาโน ตํ น โมเจสึ, อฺทตฺถุ ตํ ทฬฺหํ กโรนฺโต โสกาทินา ปรํ กิเลสํ เอว ปาปุณินฺติ. โก เม พนฺธํ มุฺจํ โลเก, สมฺโพธึ เวทยิสฺสตีติ อิมสฺมึ โลเก เอตํ กิเลสพนฺธเนน พนฺธํ มุฺจนฺโต สมฺพุชฺฌติ เอเตนาติ ‘‘สมฺโพธี’’ติ ลทฺธนามํ วิโมกฺขมคฺคํ โก เม เวทยิสฺสติ อาจิกฺขิสฺสตีติ อตฺโถ. ‘‘พนฺธมุฺจ’’นฺติปิ ปนฺติ, พนฺธา, พนฺธสฺส วา โมจกํ สมฺโพธินฺติ โยชนา.

อาทิสนฺตนฺติ เทเสนฺตํ. ปภงฺคุนนฺติ ปภฺชนํ กิเลสานํ วิทฺธํสนํ, ปภงฺคุนํ วา ธมฺมปฺปวตฺตึ อาทิสนฺตํ กเถนฺตํ ชราย มจฺจุโน จ ปวาหนํ กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามิ. ‘‘ปฏิปชฺชามี’’ติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. วิจิกิจฺฉากงฺขาคนฺถิตนฺติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตาย (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) วิจิกิจฺฉาย อาสปฺปนปริสปฺปนาการวุตฺติยา กงฺขาย จ คนฺถิตํ. สารมฺภพลสฺุตนฺติ กรณุตฺตริยกรณลกฺขเณน พลปฺปตฺเตน สารมฺเภน ยุตฺตํ. โกธปฺปตฺตมนตฺถทฺธนฺติ สพฺพตฺถ โกเธน ยุตฺตมนสา ถทฺธภาวํ คตํ อภิชปฺปปฺปทารณํ. อิจฺฉิตาลาภาทิวเสน หิ ตณฺหา สตฺตานํ จิตฺตํ ปทาเลนฺตี วิย ปวตฺตติ. ทูเร ิตสฺสาปิ วิชฺฌนุปายตาย ตณฺหาว ธนุ สมุปติฏฺติ อุปฺปชฺชติ เอตสฺมาติ ตณฺหาธนุสมุฏฺานํ, ทิฏฺิสลฺลํ. ตํ ปน ยสฺมา วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ, ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺีติ ตึสปฺปเภทํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว จ ปนฺนรสายุต’’นฺติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปนฺนรสเภทวนฺตนฺติ อตฺโถ. ปสฺส โอรสิกํ พาฬฺหํ, เภตฺวาน ยทิ ติฏฺตีติ ยํ อุรสมฺพนฺธนียตาย โอรสิกํ พาฬฺหํ พลวตรํ เภตฺวาน หทยํ วินิวิชฺฌิตฺวา ตสฺมึเยว หทเย ติฏฺติ, ตํ ปสฺสาติ อตฺตานเมว อาลปติ.

อนุทิฏฺีนํ อปฺปหานนฺติ อนุทิฏฺิภูตานํ เสสทิฏฺีนํ อปฺปหานการณํ. ยาว หิ สกฺกายทิฏฺิ สนฺตานโต น วิคจฺฉติ, ตาว สสฺสตทิฏฺิอาทีนํ อปฺปหานเมวาติ. สงฺกปฺปปรเตชิตนฺติ สงฺกปฺเปน มิจฺฉาวิตกฺเกน ปเร ปรชเน นิสฺสยลกฺขณํ ปติปติเต เตชิตํ อุสฺสาหิตํ. เตน วิทฺโธ ปเวธามีติ เตน ทิฏฺิสลฺเลน ยถา หทยํ อาหจฺจ ติฏฺติ, เอวํ วิทฺโธ ปเวธามิ สงฺกปฺปามิ สสฺสตุจฺเฉทาทิวเสน อิโต จิโต จ ปริวฏฺฏามิ. ปตฺตํว มาลุเตริตนฺติ มาลุเตน วายุนา เอริตํ วณฺฏโต มุตฺตํ ทุมปตฺตํ วิย.

อชฺฌตฺตํ เม สมุฏฺายาติ ยถา โลเก สลฺลํ นาม พาหิรโต อุฏฺาย อชฺฌตฺตํ นิมฺมเถตฺวา พาธติ, น เอวมิทํ. อิทํ ปน อชฺฌตฺตํ เม มม อตฺตภาเว สมุฏฺาย โส อตฺตภาวสฺิโต ฉผสฺสายตนกาโย ยถา ขิปฺปํ สีฆํ ปจฺจติ, ฑยฺหติ. ยถา กึ? อคฺคิ วิย สนิสฺสยฑาหโก ตํเยว มามกํ มม สนฺตกํ อตฺตภาวํ ฑหนฺโต ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตตฺเถว สรติ ปวตฺตติ.

ตํ น ปสฺสามิ เตกิจฺฉนฺติ ตาทิสาย ติกิจฺฉาย นิยุตฺตตาย เตกิจฺฉํ สลฺลกตฺตํ ภิสกฺกํ ตํ น ปสฺสามิ. โย เมตํ สลฺลมุทฺธเรติ โย ภิสกฺโก เอตํ ทิฏฺิสลฺลํ กิเลสสลฺลฺจ อุทฺธเรยฺย, อุทฺธรนฺโต จ นานารชฺเชน รชฺชุสทิสสงฺขาตาย เอสนิสลากาย ปเวเสตฺวาน สตฺเถน กนฺติตฺวา นาฺเน มนฺตาคทปฺปโยเคน วิจิกิจฺฉิตํ สลฺลํ ติกิจฺฉิตุํ สกฺกาติ อาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. วิจิกิจฺฉิตนฺติ, จ นิทสฺสนมตฺตเมตํ. สพฺพสฺสปิ กิเลสสลฺลสฺส วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อสตฺโถติ สตฺถรหิโต. อวโณติ วเณน วินา. อพฺภนฺตรปสฺสยนฺติ อพฺภนฺตรสงฺขาตํ หทยํ นิสฺสาย ิตํ. อหึสนฺติ อปีเฬนฺโต. ‘‘อหึสา’’ติ จ ปาโ, อหึสาย อปีฬเนนาติ อตฺโถ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โก นุ โข กิฺจิ สตฺถํ อคฺคเหตฺวา วณฺจ อกโรนฺโต ตโต เอว สพฺพคตฺตานิ อพาเธนฺโต มม หทยพฺภนฺตรคตํ ปีฬาชนนโต อนฺโต ตุทนโต อนฺโต รุทฺธนโต จ ปรมตฺเถเนว สลฺลภูตํ กิเลสสลฺลํ อุทฺธริสฺสตีติ.

เอวํ ทสหิ คาถาหิ ปุพฺเพ อตฺตนา จินฺติตาการํ ทสฺเสตฺวา ปุนปิ ตํ ปการนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมปฺปติ หิ โส เสฏฺโ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ธมฺมปฺปตีติ ธมฺมนิมิตฺตํ ธมฺมเหตุ. หีติ นิปาตมตฺตํ. โส เสฏฺโติ โส ปุคฺคโล อุตฺตโม. วิสโทสปฺปวาหโกติ โย มยฺหํ ราคาทิกิเลสสฺส ปวาหโก อุจฺฉินฺนโก. คมฺภีเร ปติตสฺส เม, ถลํ ปาณิฺจ ทสฺสเยติ โก นุ โข อติคมฺภีเร สํสารมโหเฆ ปติตสฺส มยฺหํ ‘‘มา ภายี’’ติ อสฺสาเสนฺโต นิพฺพานถลํ ตํสมฺปาปกํ อริยมคฺคหตฺถฺจ ทสฺเสยฺย.

รหเทหมสฺมิ โอคาฬฺโหติ มหติ สํสารรหเท อหมสฺมิ สสีสํ นิมุชฺชนวเสน โอติณฺโณ อนุปวิฏฺโ. อหาริยรชมตฺติเกติ อปเนตุํ อสกฺกุเณยฺโย ราคาทิรโช มตฺติกา กทฺทโม เอตสฺสาติ อหาริยรชมตฺติโก, รหโท. ตสฺมึ รหทสฺมึ. ‘‘อหาริยรชมนฺติเก’’ติ วา ปาโ, อนฺติเก ิตราคาทีสุ ทุนฺนีหรณียราคาทิรเชติ อตฺโถ. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, ปรสมฺปตฺติอสหนลกฺขณา อุสูยา, กรณุตฺตริยกรณลกฺขโณ สารมฺโภ, จิตฺตาลสิยลกฺขณํ ถินํ, กายาลสิยลกฺขณํ มิทฺธนฺติ อิเม ปาปธมฺมา ปตฺถฏา ยํ รหทํ, ตสฺมึ มายาอุสูยสารมฺภถินมิทฺธมปตฺถเฏ, มกาโร เจตฺถ ปทสนฺธิกโร วุตฺโต. ยถาวุตฺเตหิ อิเมหิ ปาปธมฺเมหิ ปตฺถเฏติ อตฺโถ.

อุทฺธจฺจเมฆถนิตํ, สํโยชนวลาหกนฺติ วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตํ, ภนฺตสภาวํ อุทฺธจฺจํ เมฆถนิตํ เมฆคชฺชิตํ เอเตสนฺติ อุทฺธจฺจเมฆถนิตา. ทสวิธา สํโยชนา เอว วลาหกา เอเตสนฺติ สํโยชนวลาหกา. วาหา มหาอุทกวาหสทิสา ราคนิสฺสิตา มิจฺฉาสงฺกปฺปา อสุภาทีสุ ิตา กุทฺทิฏฺึ มํ วหนฺติ อปายสมุทฺทเมว อุทฺทิสฺส กฑฺฒนฺตีติ อตฺโถ.

สวนฺติ สพฺพธิ โสตาติ ตณฺหาโสโต, ทิฏฺิโสโต, มานโสโต, อวิชฺชาโสโต, กิเลสโสโตติ อิเม ปฺจปิโสตา จกฺขุทฺวาราทีนํ วเสน สพฺเพสุ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ สวนโต ‘‘รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหา’’ติอาทินา (วิภ. ๒๐๔, ๒๓๒) สพฺพภาเคหิ วา สวนโต สพฺพธิ สวนฺติ. ลตาติ ปลิเวนฏฺเน สํสิพฺพนฏฺเน ลตา วิยาติ ลตา, ตณฺหา. อุพฺภิชฺช ติฏฺตีติ ฉหิ ทฺวาเรหิ อุพฺภิชฺชิตฺวา รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ติฏฺติ. เต โสเตติ ตณฺหาทิเก โสเต มม สนฺตาเน สนฺทนฺเต มคฺคเสตุพนฺธเนน โก ปุริสวิเสโส นิวาเรยฺย, ตํ ลตนฺติ ตณฺหาลตํ, มคฺคสตฺเถน โก เฉจฺฉติ ฉินฺทิสฺสติ.

เวลํ กโรถาติ เตสํ โสตานํ เวลํ เสตุํ กโรถ สนฺนิวารณํ. ภทฺทนฺเตติ อาลปนาการทสฺสนํ. มา เต มโนมโย โสโตติ อุทกโสโต โอฬาริโก, ตสฺส พาลมหาชเนนปิ เสตุํ กตฺวา นิวารณํ สกฺกา. อยํ ปน มโนมโย โสโต สุขุโม ทุนฺนิวารโณ. โส ยถา อุทกโสโต วฑฺฒนฺโต กูเล ิตํ รุกฺขํ ปาเตตฺวาว นาเสติ, เอวํ ตุมฺเห อปายตีเร ิเต ตตฺถ สหสา ปาเตตฺวา อปายสมุทฺทํ ปาเปนฺโต มา ลุเว มา วินาเสยฺย มา อนยพฺยสนํ ปาเปยฺยาติ อตฺโถ.

เอวํ อยํ เถโร ปุริมตฺตภาเว ปริมทฺทิตสงฺขารตฺตา าณปริปากํ คตตฺตา ปวตฺติทุกฺขํ อุปธาเรนฺโต ยถา วิจิกิจฺฉาทิเก สํกิเลสธมฺเม ปริคฺคณฺหิ, ตมาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ชาตสํเวโค กึกุสลคเวสี สตฺถุ สนฺติกํ คโต ยํ วิเสสํ อธิมุจฺจิ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ เม ภยชาตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ เม ภยชาตสฺสาติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน สํสาเร ชาตภยสฺส อปารา โอริมตีรโต สปฺปฏิภยโต สํสารวฏฺฏโต ‘‘กถํ นุ โข มุฺเจยฺย’’นฺติ ปารํ นิพฺพานํ, เอสโต คเวสโต, ตาโณ สเทวกสฺส โลกสฺส ตาณภูโต กิเลสสมุจฺเฉทนี ปฺา อาวุโธ เอตสฺสาติ ปฺาวุโธ. ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺเถน สตฺตานํ ยถารหํ อนุสาสนโต สตฺถา, อิสิสงฺเฆน อคฺคสาวกาทิอริยปุคฺคลสมูเหน นิเสวิโต ปยิรุปาสิโต อิสิสงฺฆนิเสวิโต, โสปานนฺติ เทสนาาเณน สุฏฺุ กตตฺตา อภิสงฺขตตฺตา สุกตํ, อุปกฺกิเลสวิรหิตโต สุทฺธํ, สทฺธาปฺาทิสารภูตํ ธมฺมสารมยํ ปฏิปกฺเขหิ อจลนียโต ทฬฺหํ, วิปสฺสนาสงฺขาตํ โสปานํ มโหเฆน วุยฺหมานสฺส มยฺหํ สตฺถา ปาทาสิ, ททนฺโต จ ‘‘อิมินา เต โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สมสฺสาเสนฺโต มา ภายีติ จ อพฺรวิ, กเถสิ.

สติปฏฺานปาสาทนฺติ เตน วิปสฺสนาโสปาเนน กายานุปสฺสนาทินา ลทฺธพฺพจตุพฺพิธสามฺผลวิเสเสน จตุภูมิสมฺปนฺนํ สติปฏฺานปาสาทํ อารุหิตฺวา ปจฺจเวกฺขิสํ จตุสจฺจธมฺมํ มคฺคาเณน ปติอเวกฺขึ ปฏิวิชฺฌึ. ยํ ตํ ปุพฺเพ อมฺิสฺสํ, สกฺกายาภิรตํ ปชนฺติ เอวํ ปฏิวิทฺธสจฺโจ ยํ สกฺกาเย ‘‘อหํ มมา’’ติ อภิรตํ ปชํ ติตฺถิยชนํ เตน ปริกปฺปิตอตฺตานฺจ ปุพฺเพ สารโต อมฺิสฺสํ. ยทา จ มคฺคมทฺทกฺขึ, นาวาย อภิรูหนนฺติ อริยมคฺคนาวาย อภิรุหนูปายภูตํ ยทา วิปสฺสนามคฺคํ ยาถาวโต อทฺทกฺขึ. ตโต ปฏฺาย ตํ ติตฺถิยชนํ อตฺตานฺจ อนธิฏฺาย จิตฺเต อฏฺเปตฺวา อคฺคเหตฺวา ติตฺถํ นิพฺพานสงฺขาตสฺส อมตมหาปารสฺส ติตฺถภูตํ อริยมคฺคทสฺสนํ สพฺเพหิ มคฺเคหิ สพฺเพหิ กุสลธมฺเมหิ อุกฺกฏฺํ อทฺทกฺขึ, ยาถาวโต อปสฺสินฺติ อตฺโถ.

เอวํ อตฺตโน อนุตฺตรํ มคฺคาธิคมํ ปกาเสตฺวา อิทานิ ตสฺส เทสกํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ โถเมนฺโต ‘‘สลฺลํ อตฺตสมุฏฺาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สลฺลนฺติ ทิฏฺิมานาทิกิเลสสลฺลํ. อตฺตสมุฏฺานนฺติ ‘‘อห’’นฺติ มานฏฺานตาย ‘‘อตฺตา’’ติ จ ลทฺธนาเม อตฺตภาเว สมฺภูตํ. ภวเนตฺติปฺปภาวิตนฺติ ภวตณฺหาสมุฏฺิตํ ภวตณฺหาสนฺนิสฺสยํ. สา หิ ทิฏฺิมานาทีนํ สมฺภโว. เอเตสํ อปฺปวตฺตายาติ ยถาวุตฺตานํ ปาปธมฺมานํ อปฺปวตฺติยา อนุปฺปาทาย. เทเสสิ มคฺคมุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ เสฏฺํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ตทุปายฺจ วิปสฺสนามคฺคํ กเถสิ.

ทีฆรตฺตานุสยิตนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร จิรกาลํ สนฺตาเน อนุ อนุ สยิตํ การณลาเภน อุปฺปชฺชนารหภาเวน ถามคตํ, ตโต จ จิรรตฺตํ อธิฏฺิตํ สนฺตานํ อชฺฌารุยฺห ิตํ. คนฺถนฺติ อภิชฺฌากายคนฺถาทึ มม สนฺตาเน คนฺถภูตํ กิเลสวิสโทสํ ปวาหโน พุทฺโธ ภควา อตฺตโน เทสนานุภาเวน อปานุที ปริชหาเปสิ, คนฺเถสุ หิ อนวเสสโต ปหีเนสุ อปฺปหีโน นาม กิเลโส นตฺถีติ.

เตลกานิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. รฏฺปาลตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปสฺส จิตฺตกตนฺติอาทิกา อายสฺมโต รฏฺปาลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว หํสวตีนคเร คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ปิตุ อจฺจเยน ฆราวาเส ปติฏฺิโต รตนโกฏฺาคารกมฺมิเกน ทสฺสิตํ อปริมาณํ กุลวํสานุคตํ ธนํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ เอตฺตกํ ธนราสึ มยฺหํ ปิตุอยฺยกปยฺยกาทโย อตฺตนา สทฺธึ คเหตฺวา คนฺตุํ นาสกฺขึสุ, มยา ปน คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา กปณทฺธิกาทีนํ มหาทานํ อทาสิ. โส อภิฺาลาภึ เอกํ ตาปสํ อุปฏฺหนฺโต เตน เทวโลกาธิปจฺเจ นิโยชิโต ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต มนุสฺสโลเก ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺถสฺส กุลสฺส เอกปุตฺตโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

เตน จ สมเยน ปทุมุตฺตโร ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก เวเนยฺยสตฺเต นิพฺพานมหานครสงฺขาตํ เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปสิ. อถ โส กุลปุตฺโต อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปริสปริยนฺเต นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน สตฺถา เอกํ ภิกฺขุํ สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. ตํ ทิสฺวา โส ปสนฺนมานโส ตทตฺถาย จิตฺตํ เปตฺวา สตสหสฺสภิกฺขุปริวุตสฺส ภควโต มหตา สกฺกาเรน สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถา ตสฺส อนนฺตราเยน อิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. โส สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ วนฺทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิโต ทฺเวนวุเต กปฺเป ผุสฺสสฺส ภควโต กาเล สตฺถุ เวมาติกภาติเกสุ ตีสุ ราชปุตฺเตสุ สตฺถารํ อุปฏฺหนฺเตสุ เตสํ ปุฺกิริยาย กิจฺจํ อกาสิ.

เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ภเว ตํ ตํ พหุํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ ถุลฺลโกฏฺิกนิคเม รฏฺปาลเสฏฺิโน เคเห นิพฺพตฺติ, ตสฺส ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺเถ กุเล นิพฺพตฺตตฺตา รฏฺปาโลติ วํสานุคตเมว นามํ อโหสิ. โส มหตา ปริวาเรน วฑฺฒนฺโต อนุกฺกเมน โยพฺพนปตฺโต มาตาปิตูหิ ปติรูเปน ทาเรน สํโยชิโต มหนฺเต จ ยเส ปติฏฺาปิโต ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสํ สมฺปตฺตึ ปจฺจนุโภติ. อถ ภควา กุรุรฏฺเ ชนปทจาริกํ จรนฺโต ถุลฺลโกฏฺิกํ อนุปาปุณิ. ตํ สุตฺวา รฏฺปาโล กุลปุตฺโต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตุกาโม สตฺตาหํ ภตฺตจฺเฉทํ กตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุ อาณตฺติยา อฺตรสฺส เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๒.๙๗-๑๑๑) –

‘‘ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

วรนาโค มยา ทินฺโน, อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา.

‘‘เสตจฺฉตฺโต ปโสภิโต, สกปฺปโน สหตฺถิโป;

อคฺฆาเปตฺวาน ตํ สพฺพํ, สงฺฆารามํ อการยึ.

‘‘จตุปฺาสสหสฺสานิ, ปาสาเท การยึ อหํ;

มโหฆทานํ กริตฺวาน, นิยฺยาเทสึ มเหสิโน.

‘‘อนุโมทิ มหาวีโร, สยมฺภู อคฺคปุคฺคโล;

สพฺเพ ชเน หาสยนฺโต, เทเสสิ อมตํ ปทํ.

‘‘ตํ เม พุทฺโธ วิยากาสิ, ชลชุตฺตรนามโก;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘จตุปฺาสสหสฺสานิ, ปาสาเท การยี อยํ;

กถยิสฺสามิ วิปากํ, สุโณถ มม ภาสโต.

‘‘อฏฺารสสหสฺสานิ, กูฏาคารา ภวิสฺสเร;

พฺยมฺหุตฺตมมฺหิ นิพฺพตฺตา, สพฺพโสณฺณมยา จ เต.

‘‘ปฺาสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

อฏฺปฺาสกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

อฑฺเฒ กุเล มหาโภเค, นิพฺพตฺติสฺสติ ตาวเท.

‘‘โส ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

รฏฺปาโลติ นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘ปธานปหิตตฺโต โส, อุปสนฺโต นิรูปธิ;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘อุฏฺาย อภินิกฺขมฺม, ชหิตา โภคสมฺปทา;

เขฬปิณฺเฑว โภคมฺหิ, เปมํ มยฺหํ น วิชฺชติ.

‘‘วีริยํ เม ธุรโธรยฺหํ, โยคกฺเขมาธิวาหนํ;

ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สตฺถารํ อนุชานาเปตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิตุํ ถุลฺลโกฏฺิกํ คนฺตฺวา, ตตฺถ สปทานํ ปิณฺฑาย จรนฺโต ปิตุ นิเวสเน อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ลภิตฺวา ตํ อมตํ วิย ปริภุฺชนฺโต, ปิตรา นิมนฺติโต สฺวาตนาย อธิวาเสตฺวา, ทุติยทิวเส ปิตุ นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺเต อิตฺถาคารชเน อุปคนฺตฺวา ‘‘กีทิสา นาม ตา, อยฺยปุตฺต, อจฺฉราโย, ยาสํ ตฺวํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรสี’’ติอาทีนิ (ม. นิ. ๒.๓๐๑) วตฺวา, ปโลภนกมฺมํ กาตุํ อารทฺเธ ตสฺส อธิปฺปายํ ปริวตฺเตตฺวา อนิจฺจตาทิปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมํ กเถนฺโต –

๗๖๙.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;

อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิติ.

๗๗๐.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ รูปํ, มณินา กุณฺฑเลน จ;

อฏฺึ ตเจน โอนทฺธํ, สห วตฺเถหิ โสภติ.

๗๗๑.

‘‘อลตฺตกกตา ปาทา, มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๗๗๒.

‘‘อฏฺาปทกตา เกสา, เนตฺตา อฺชนมกฺขิตา;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๗๗๓.

‘‘อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโต;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๗๗๔.

‘‘โอทหิ มิคโว ปาสํ, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, กนฺทนฺเต มิคพนฺธเก.

๗๗๕.

‘‘ฉินฺโน ปาโส มิควสฺส, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, โสจนฺเต มิคลุทฺทเก’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ จิตฺตกตนฺติ จิตฺตํ กตํ จิตฺตกตํ, วตฺถาภรณมาลาทีหิ วิจิตฺตํ กตนฺติ อตฺโถ. พิมฺพนฺติ ทีฆาทิภาเวน ยุตฺตฏฺาเนสุ ทีฆาทีหิ องฺคปจฺจงฺเคหิ มณฺฑิตํ อตฺตภาวํ. อรุกายนฺติ นวนฺนํ วณมุขานํ โลมกูปานฺจ วเสน วิสฺสนฺทมานอสุจึ, สพฺพโส จ อรุภูตํ วณภูตํ อรูนํ วา กายํ. สมุสฺสิตนฺติ ตีหิ อฏฺิสเตหิ สมุสฺสิตํ. อาตุรนฺติ สพฺพกาลํ อิริยาปถนฺตราทีหิ ปริหริตพฺพตาย นิจฺจํ คิลานํ. พหุสงฺกปฺปนฺติ พาลชเนน อภูตํ อาโรเปตฺวา พหุธา สงฺกปฺปิตพฺพํ. ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิตีติ ยสฺส กายสฺส ธุวภาโว ิติสภาโว นตฺถิ, เอกํสโต เภทนวิกิรณวิทฺธํสนธมฺโมเยว. ตํ ปสฺสาติ สมีเป ิตํ ชนํ, อตฺตานเมว วา สนฺธาย วทติ.

รูปนฺติ สรีรํ. สรีรมฺปิ หิ ‘‘อฏฺิฺจ ปฏิจฺจ, นฺหารุฺจ ปฏิจฺจ, มํสฺจ ปฏิจฺจ, จมฺมฺจ ปฏิจฺจ, อากาโส ปริวาริโต ‘รูปนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๖) รูปนฺติ วุจฺจติ. มณินา กุณฺฑเลน จาติ สีสูปคาทิอาภรณคเตน มณินา กุณฺฑเลน จิตฺตกตํ. อฏฺึ ตเจน โอนทฺธนฺติ อลฺลจมฺเมน ปริโยนทฺธํ อติเรกติสตปเภทํ อฏฺึ ปสฺสาติ โยชนา. กุณฺฑเลน จาติ -สทฺเทน เสสาภรณาลงฺกาเร สงฺคณฺหาติ. สห วตฺเถหิ โสภตีติ ตยิทํ รูปํ มณินา จิตฺตกตมฺปิ วตฺเถหิ ปฏิจฺฉาทิตเมว โสภติ, น อปฏิจฺฉาทิตนฺติ อตฺโถ. เย ปน ‘‘อฏฺิตเจนา’’ติ ปนฺติ, เตสํ อฏฺิตเจนํ โอนทฺธํ โสภติ, โอนทฺธตฺตา อฏฺิตเจนาติ อตฺโถ.

อลตฺตกกตาติ อลตฺตเกน กตรฺชนา ลาขาย สํรฺชิตา. ปาทาติ จรณา. มุขํ จุณฺณกมกฺขิตนฺติ มุขํ จุณฺณเกน มกฺขิตํ, ยํ มณฺฑนมนุยุตฺตา สาสปกกฺเกน มุขปีฬกาทีนิ หริตฺวา โลณมตฺติกาย ทุฏฺโลหิตํ หริตฺวา มุขจุณฺณกวิเลปนํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อลนฺติ พาลสฺส อนฺธปุถุชฺชนสฺส โน จ ปารคเวสิโน วฏฺฏาภิรตสฺส โมหาย สมฺโมหนาย สมตฺถํ ตสฺส จิตฺตํ โมเหตุํ ปริยตฺตํ, ปารคเวสิโน ปน วิวฏฺฏาภิรตสฺส โน อลํ น ปริยตฺตํ.

อฏฺาปทกตาติ อฏฺปทากาเรน กตา สฺจิตา ปุริมภาเค เกเส กปฺเปตฺวา นลาฏสฺส ปฏิจฺฉาทนวเสน กตา เกสรจนา อฏฺปทํ นาม, ยํ ‘‘อลก’’นฺติปิ วุจฺจติ. เนตฺตา อฺชนมกฺขิตาติ อุโภปิ นยนานิ อนฺโต ทฺวีสุ อนฺเตสุ จ ยถา อฺชนจฺฉายา ทิสฺสติ, เอวํ อฺชิตฺชนานิ.

อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโตติ ยถา อฺชนี อฺชนนาฬิกา นวา อภินวา มาลากมฺมมกรทนฺตาทิวเสน จิตฺตา พหิ มฏฺา อุชฺชลา ทสฺสนียา, อนฺโต ปน น ทสฺสนียา โหติ, เอวเมว ตาสํ กาโย นฺหานพฺภฺชนวตฺถาลงฺกาเรหิ อลงฺกโต พหิ อุชฺชโล, อนฺโต ปน ปูติ นานปฺปการอสุจีหิ ภริโต ติฏฺตีติ อตฺโถ.

โอทหีติ โอฑฺเฑสิ. มิคโวติ, มิคลุทฺทโก. ปาสนฺติ, ทณฺฑวาคุรํ. นาสทาติ น สงฺฆฏฺเฏสิ. วาคุรนฺติ ปาสํ. นิวาปนฺติ มิคานํ ขาทนตฺถาย ขิตฺตํ ติณาทิฆาสํ. อุปมา โข อยํ เถเรน กตา อตฺถสฺส วิฺาปนาย. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา มิคานํ มารณตฺถาย ทณฺฑวาคุรํ โอฑฺเฑตฺวา ตตฺถ นิวาปํ วิกิริย มิคลุทฺทเก นิลีเน ิเต ตตฺเถโก ชวปรกฺกมสมฺปนฺโน เฉโก มิโค ปาสํ อผุสนฺโต เอว ยถาสุขํ นิวาปํ ขาทิตฺวา, ‘‘วฺเจสิ วต มิโค’’ติ มิคลุทฺทเก วิรวนฺเต เอว คจฺฉติ. อปโร มิโค พลวา เฉโก ชวสมฺปนฺโนว ตตฺถ คนฺตฺวา นิวาปํ ขาทิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปาสํ ฉินฺทิตฺวา, ‘‘วฺเจสิ วต มิโค, ปาโส ฉินฺโน’’ติ มิคลุทฺทเก โสจนฺเต เอว คจฺฉติ, เอวํ มยมฺปิ ปุพฺเพ ปุถุชฺชนกาเล มาตาปิตูหิ อาสชฺชนตฺถาย นิยฺยาทิเต โภเค ภุฺชิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อสชฺชมานา นิกฺขนฺตา. อิทานิ ปน สพฺพโส ฉินฺนกิเลสา อปาสา หุตฺวา ิตา, เตหิ ทินฺนโภชนํ ภุฺชิตฺวา เตสุ โสจนฺเตสุ เอว คจฺฉามาติ.

เอวํ เถโร มิคลุทฺทกํ วิย มาตาปิตโร, หิรฺสุวณฺณํ อิตฺถาคารฺจ วาคุรชาลํ วิย, อตฺตนา ปุพฺเพ ภุตฺตโภเค จ อิทานิ ภุตฺตโภชนฺจ นิวาปติณํ วิย, อตฺตานํ มหามิคํ วิย จ กตฺวา ทสฺเสติ. อิมา คาถา วตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา รฺโ โกรพฺยสฺส มิคาชินอุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. เถรสฺส กิร ปิตา สตฺตสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ อคฺคฬํ ทาเปตฺวา มลฺเล อาณาเปสิ ‘‘นิกฺขมิตุํ มา เทถ, กาสายานิ อปเนตฺวา เสตกานิ นิวาเสถา’’ติ, ตสฺมา เถโร อากาเสน อคมาสิ. อถ ราชา โกรพฺโย เถรสฺส ตตฺถ นิสินฺนภาวํ สุตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ‘‘อิธ, โภ รฏฺปาล, ปพฺพชนฺโต พฺยาธิปาริชุฺํ วา ชราโภคาติปาริชุฺํ วา ปตฺโต ปพฺพชติ. ตฺวํ ปน กิฺจิปิ ปาริชุฺํ อนุปคโต เอว กสฺมา ปพฺพชิโต’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส เถโร, ‘‘อุปนิยฺยติ โลโก อทฺธุโว, อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร, อสฺสโก โลโก สพฺพํ ปหาย คมนียํ, อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) อิเมสํ จตุนฺนํ ธมฺมุทฺเทสานํ อตฺตานํ วิวิตฺตภาวํ กเถตฺวา ตสฺสา เทสนาย อนุคีตึ กเถนฺโต –

๗๗๖.

‘‘ปสฺสามิ โลเก สธเน มนุสฺเส, ลทฺธาน วิตฺตํ น ททนฺติ โมหา;

ลุทฺธา ธนํ สนฺนิจยํ กโรนฺติ, ภิยฺโยว กาเม อภิปตฺถยนฺติ.

๗๗๗.

‘‘ราชา ปสยฺหปฺปถวึ วิเชตฺวา, สสาครนฺตํ มหิมาวสนฺโต;

โอรํ สมุทฺทสฺส อติตฺตรูโป, ปารํ สมุทฺทสฺสปิ ปตฺถเยถ.

๗๗๘.

‘‘ราชา จ อฺเ จ พหู มนุสฺสา, อวีตตณฺหา มรณํ อุเปนฺติ;

อูนาว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ, กาเมหิ โลกมฺหิ น หตฺถิ ติตฺติ.

๗๗๙.

‘‘กนฺทนฺติ นํ าตี ปกิริย เกเส, ‘อโห วตา โน อมรา’ติ จาหุ;

วตฺเถน นํ ปารุตํ นีหริตฺวา, จิตํ สโมธาย ตโต ฑหนฺติ.

๗๘๐.

‘‘โส ฑยฺหติ สูเลหิ ตุชฺชมาโน, เอเกน วตฺเถน ปหาย โภเค;

น มียมานสฺส ภวนฺติ ตาณา, าตี จ มิตฺตา อถ วา สหายา.

๗๘๑.

‘‘ทายาทกา ตสฺส ธนํ หรนฺติ, สตฺโต ปน คจฺฉติ เยนกมฺมํ;

น มียมานํ ธนมนฺเวติ กิฺจิ, ปุตฺตา จ ทารา จ ธนฺจ รฏฺํ.

๗๘๒.

‘‘น ทีฆมายุํ ลภเต ธเนน, น จาปิ วิตฺเตน ชรํ วิหนฺติ;

อปฺปํ หิทํ ชีวิตมาหุ ธีรา, อสสฺสตํ วิปฺปริณามธมฺมํ.

๗๘๓.

‘‘อฑฺฒา ทลิทฺทา จ ผุสนฺติ ผสฺสํ, พาโล จ ธีโร จ ตเถว ผุฏฺโ;

พาโล หิ พาลฺยา วธิโตว เสติ, ธีโร จ โน เวธติ ผสฺสผุฏฺโ.

๗๘๔.

‘‘ตสฺมา หิ ปฺาว ธเนน เสยฺยา, ยาย โวสานมิธาธิคจฺฉติ;

อพฺโยสิตตฺตา หิ ภวาภเวสุ, ปาปานิ กมฺมานิ กโรติ โมหา.

๗๘๕.

‘‘อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ, สํสารมาปชฺช ปรมฺปราย;

ตสฺสปฺปปฺโ อภิสทฺทหนฺโต, อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ.

๗๘๖.

‘‘โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต, สกมฺมุนา หฺติ ปาปธมฺโม;

เอวํ ปชา เปจฺจ ปรมฺหิ โลเก, สกมฺมุนา หฺติ ปาปธมฺโม.

๗๘๗.

‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๗๘๘.

‘‘ทุมปฺผลานีว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรเภทา;

เอตมฺปิ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย.

๗๘๙.

‘‘สทฺธายาหํ ปพฺพชิโต, อุเปโต ชินสาสเน;

อวฺฌา มยฺหํ ปพฺพชฺชา, อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ.

๗๙๐.

‘‘กาเม อาทิตฺตโต ทิสฺวา, ชาตรูปานิ สตฺถโต;

คพฺภโวกฺกนฺติโต ทุกฺขํ, นิรเยสุ มหพฺภยํ.

๗๙๑.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, สํเวคํ อลภึ ตทา;

โสหํ วิทฺโธ ตทา สนฺโต, สมฺปตฺโต อาสวกฺขยํ.

๗๙๒.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

๗๙๓.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย’’ติ. – อิมา คาถา อโวจ;

ตตฺถ ปสฺสามิ โลเกติ อหํ, มหาราช, อิมสฺมึ โลเก สธเน ธนสมฺปนฺเน อฑฺเฒ มนุสฺเส ปสฺสามิ, เต ปน ลทฺธาน วิตฺตํ ธนํ ลภิตฺวา โภคสมฺปตฺติยํ ิตา สมณพฺราหฺมณาทีสุ กสฺสจิ กิฺจิปิ น ททนฺติ. กสฺมา? โมหา กมฺมสฺสกตาปฺาย อภาวโต. ลุทฺธา โลภาภิภูตา ยถาลทฺธํ ธนํ สนฺนิจยํ สพฺพโส นิเจตพฺพํ นิเธตพฺพํ กโรนฺติ. ภิยฺโยว ยถาธิคตกามโต อุปริ กาเม กามคุเณ ‘‘ตถาหํ เอทิเส จ โภเค ปฏิลเภยฺย’’นฺติ อภิปตฺถยนฺติ ปจฺจาสีสนฺติ ตชฺชฺจ วายามํ กโรนฺติ.

ภิยฺโย กามปตฺถนาย อุทาหรณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ราชา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปสยฺหปฺปถวึ วิเชตฺวาติ อตฺตโน วํสานุคตํ ปถวึ พลกฺกาเรน อภิวิชิย. อาวสนฺโตติ ปสาเสนฺโต. โอรํ สมุทฺทสฺสาติ อนวเสสํ สมุทฺทสฺส โอรภาคํ ลภิตฺวาปิ เตน อติตฺตรูโป ปารํ สมุทฺทสฺส ทีปนฺตรมฺปิ ปตฺถเยยฺย.

อวีตตณฺหาติ อวิคตตณฺหา. อูนาวาติ อปริปุณฺณมโนรถาว. กาเมหิ โลกมฺหิ น หตฺถิ ติตฺตีติ ตณฺหาวิปนฺนานํ อิมสฺมึ โลเก วตฺถุกาเมหิ ติตฺติ นาม นตฺถิ.

กนฺทนฺติ นนฺติ มตปุริสํ อุทฺทิสฺส ตสฺส คุเณ กิตฺเตนฺตา กนฺทนํ กโรนฺติ. อโห วตา โน อมราติ จาหูติ อโห วต อมฺหากํ าตี อมรา สิยุนฺติ จ กเถนฺติ, คาถาสุขตฺถฺเหตฺถ วตา-อิติ ทีฆํ กตฺวา วุตฺตํ.

โส ฑยฺหติ สูเลหิ ตุชฺชมาโนติ โส มตสตฺโต ฉวฑาหเกหิ สมฺมา ฌาเปตุํ สูเลหิ ตุชฺชมาโน. ตาณาติ ปริตฺตาณกรา.

เยนกมฺมนฺติ ยถากมฺมํ. ธนนฺติ ธนายิตพฺพํ ยํกิฺจิ วตฺถุ. ปุน ธนนฺติ หิรฺสุวณฺณํ สนฺธาย วทติ.

‘‘น ทีฆมายุ’’นฺติอาทินา กามคุณสฺส ชราย จ ปฏิการาภาวํ วตฺวา ปุน ตสฺส เอกนฺติกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ผุสนฺตีติ อนิฏฺผสฺสํ ผุสนฺติ ปาปุณนฺติ, ตตฺถ อฑฺฒทลิทฺทตา อการณนฺติ ทสฺเสติ. ผสฺสํ พาโล จ ธีโร จ ตเถว ผุฏฺโติ ยถา พาโล อิฏฺานิฏฺสมฺผสฺสํ ผุฏฺโ, ตเถว ธีโร อิฏฺานิฏฺผสฺสํ ผุฏฺโ โหติ, น เอตฺถ พาลปณฺฑิตานํ โกจิ วิเสโส. อยํ ปน วิเสโส, พาโล หิ พาลฺยา วธิโตว เสตีติ พาลปุคฺคโล เกนจิ ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺโ โสจนฺโต กิลมนฺโต อุรตฺตาฬึ กนฺทนฺโต พาลภาเวน วธิโต ปีฬิโตว หุตฺวา เสติ สยติ. อิโต จิโต จ อาวฏฺฏนฺโต วิวฏฺฏนฺโต วิโรเธนฺโต เวธติ ผสฺสผุฏฺโติ ธีโร ปน ปณฺฑิโต ทุกฺขสมฺผสฺเสน สมฺผุฏฺโ น เวธติ กมฺปนมตฺตมฺปิ ตสฺส น โหตีติ.

ตสฺมาติ ยสฺมา พาลปณฺฑิตานํ โลกธมฺเม เอทิสี ปวตฺติ, ตสฺมา หิ ปฺาว ธเนน เสยฺยา, ยาย โวสานมิธาธิคจฺฉตีติ ปฺาว ธนโต ปาสํสตรา, ยาย ปฺาย โวสานํ ภวสฺส ปริโยสานภูตํ นิพฺพานํ อธิคจฺฉติ. อพฺโยสิตตฺตา หีติ อนธิคตนิฏฺตฺตา. ภวาภเวสูติ มหนฺตามหนฺเตสุ ภเวสุ.

อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ, สํสารมาปชฺช ปรมฺปรายาติ โย ปาปานิ กตฺวา อปราปรํ สํสรณมาปชฺชิตฺวา อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ คพฺภเสยฺยาย ปรโลกุปฺปตฺติยา จ น มุจฺจติ, ตสฺส ปาปกมฺมการิโน ปุคฺคลสฺส กิริยํ อภิสทฺทหนฺโต ‘‘อตฺตา จ เม โหตี’’ติ ปตฺติยายนฺโต อฺโปิ อปฺปปฺโ พาโล ยถา ปฏิปชฺชิตฺวา อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ, น ตโต ปริมุจฺจติ.

โจโร ยถาติ ยถา โจโร ปาปธมฺโม ฆรสนฺธึ ฉินฺทนฺโต สนฺธิมุเข อารกฺขกปุริเสหิ คหิโต สกมฺมุนา เตน อตฺตโน สนฺธิจฺเฉทกมฺมุนา การณภูเตน กสาทีหิ ตาฬนาทิวเสน หฺติ ราชปุริเสหิ พาธิยฺยติ พชฺฌติ จ. เอวํ ปชาติ เอวมยํ สตฺตโลโก อิธ ปาปานิ กริตฺวา เปจฺจ ปตฺวา เตน กมฺมุนา ปรมฺหิ โลเก นิรยาทีสุ หฺติ, ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณาทิวเสน พาธิยฺยติ.

เอวเมตาหิ เอกาทสหิ คาถาหิ ยถารหํ จตฺตาโร ธมฺมุทฺเทเส ปกาเสตฺวา อิทานิ กาเมสุ สํสาเร จ อาทีนวํ ทิสฺวา สทฺธาย อตฺตโน ปพฺพชิตภาวํ ปพฺพชิตกิจฺจสฺส จ มตฺถกปฺปตฺตึ วิภาเวนฺโต ‘‘กามา หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามาติ วตฺถุกามา มนาปิยา รูปาทโย ธมฺมา, กิเลสกามา สพฺเพปิ ราคปฺปเภทา. อิธ ปน วตฺถุกามา เวทิตพฺพา. เต หิ รูปาทิวเสน อเนกปฺปการตาย จิตฺรา. โลกสฺสาทวเสน อิฏฺาการตาย มธุรา. พาลปุถุชฺชนานํ มนํ รเมนฺตีติ มโนรมา. วิรูปรูเปนาติ วิวิธรูเปน, อเนกวิธสภาเวนาติ อตฺโถ. เต หิ รูปาทิวเสน จิตฺรา, นีลาทิวเสน วิวิธรูปา. เอวํ เตน วิรูปรูเปน ตถา ตถา อสฺสาทํ ทสฺเสตฺวา มเถนฺติ จิตฺตํ ปพฺพชฺชาย อภิรมิตุํ น เทนฺตีติ อิมินา อปฺปสฺสาทพหุทุกฺขตาทินา อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา ตสฺมา ตํนิมิตฺตํ อหํ ปพฺพชิโต อมฺหิ. ทุมปฺผลานิ ปกฺกกาเล อปริปกฺกกาเล จ ยตฺถ กตฺถจิ ปรูปกฺกมโต สรสโต วา ปตนฺติ, เอวํ สตฺตา ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรสฺส เภทา ปตนฺติเยว. เอตมฺปิ ทิสฺวาติ เอวํ อนิจฺจตมฺปิ ปฺาจกฺขุนา ทิสฺวา, น เกวลํ อปฺปสฺสาทตาทิตาย อาทีนวเมวาติ อธิปฺปาโย. อปณฺณกนฺติ อวิรทฺธนกํ สามฺเมว สมณภาโวว เสยฺโย อุตฺตริตโร.

สทฺธายาติ กมฺมํ กมฺมผลํ พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติฺจ สทฺทหิตฺวา. อุเปโต ชินสาสเนติ สตฺถุ สาสเน สมฺมาปฏิปตฺตึ อุปคโต. อวฺฌา มยฺหํ ปพฺพชฺชา อรหตฺตสฺส อธิคตตฺตา. ตโต เอว อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ นิกฺกิเลสวเสน สามิภาวโต สามิปริโภเคน ปริภุฺชนโต.

กาเม อาทิตฺตโต ทิสฺวาติ วตฺถุกาเม กิเลสกาเม จ เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาวโต ทิสฺวา. ชาตรูปานิ สตฺถโตติ กตากตปฺปเภทา สพฺพสุวณฺณวิกติโย อนตฺถาวหตาย นิสิตสตฺถโต. คพฺภโวกฺกนฺติโต ทุกฺขนฺติ คพฺภโวกฺกนฺติโต ปฏฺาย สพฺพสํสารปวตฺติทุกฺขํ. นิรเยสุ มหพฺภยนฺติ สอุสฺสเทสุ อฏฺสุ มหานิรเยสุ ลพฺภมานํ มหาภยฺจ สพฺพตฺถ ทิสฺวาติ โยชนา.

เอตมาทีนวํ ตฺวาติ เอตํ กามานํ อาทิตฺตตาทึ สํสาเร อาทีนวํ โทสํ ตฺวา. สํเวคํ อลภึ ตทาติ ตสฺมึ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมสฺส สุตกาเล ภวาทิเก สํเวคํ อลตฺถํ. วิทฺโธ ตทา สนฺโตติ ตสฺมึ คหฏฺกาเล ราคสลฺลาทีหิ วิทฺโธ สมาโน อิทานิ สตฺถุ สาสนํ อาคมฺม สมฺปตฺโต อาสวกฺขยํ, วิทฺโธ วา จตฺตาริ สจฺจานิ, ปฏิวิทฺโธติ อตฺโถ. เสสํ อนฺตรนฺตราทีสุ วุตฺตตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

เอวํ เถโร รฺโ โกรพฺยสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา สตฺถุ สนฺติกเมว คโต. สตฺถา จ อปรภาเค อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน เถรํ สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺคฏฺาเน เปสีติ.

รฏฺปาลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มาลุกฺยปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

รูปํ ทิสฺวา สติ มุฏฺาติอาทิกา อายสฺมโต มาลุกฺยปุตฺตสฺส คาถา. อิมสฺส อายสฺมโต วตฺถุ เหฏฺา ฉกฺกนิปาเต (เถรคา. ๓๙๙ อาทโย) วุตฺตเมว. ตา ปน คาถา เถเรน อรหตฺเต ปติฏฺิเตน าตีนํ ธมฺมเทสนาวเสน ภาสิตา. อิธ ปน ปุถุชฺชนกาเล ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติ ยาจิเตน สตฺถารา ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาลุกฺยปุตฺต, เย เต จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อทิฏฺา อทิฏฺปุพฺพา, น จ ปสฺสสิ, น จ เต โหติ ปสฺเสยฺยนฺติ, อตฺถิ เต ตตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เย เต โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆาน…ชิวฺหา…กาย…มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา อวิฺาตา อวิฺาตปุพฺพา, น จ วิชานาสิ, น จ เต โหติ วิชาเนยฺยนฺติ, อตฺถิ เต ตตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอตฺถ จ เต, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต สุตมตฺตํ, มุเต มุตมตฺตํ, วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ. ยโต โข เต, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ, สุเต สุตมตฺตํ, มุเต มุตมตฺตํ, วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น เตน. ยโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น เตน, ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น ตตฺถ. ยโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น ตตฺถ, ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน, เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๕). สํขิตฺเตน ธมฺเม เทสิเต ตสฺส ธมฺมสฺส สาธุกํ อุคฺคหิตภาวํ ปกาเสนฺเตน –

๗๙๔.

‘‘รูปํ ทิสฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๗๙๕.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รูปสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๗๙๖.

‘‘สทฺทํ สุตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๗๙๗.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา สทฺทสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๗๙๘.

‘‘คนฺธํ ฆตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๗๙๙.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา คนฺธสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๐.

‘‘รสํ โภตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๑.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รสสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๒.

‘‘ผสฺสํ ผุสฺส สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๓.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา ผสฺสสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๔.

‘‘ธมฺมํ ตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๕.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา ธมฺมสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๖.

‘‘น โส รชฺชติ รูเปสุ, รูปํ ทิสฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๗.

‘‘ยถาสฺส ปสฺสโต รูปํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๘.

‘‘น โส รชฺชติ สทฺเทสุ, สทฺทํ สุตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๙.

‘‘ยถาสฺส สุณโต สทฺทํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๐.

‘‘น โส รชฺชติ คนฺเธสุ, คนฺธํ ฆตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๑.

‘‘ยถาสฺส ฆายโต คนฺธํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๒.

‘‘น โส รชฺชติ รเสสุ, รสํ โภตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๓.

‘‘ยถาสฺส สายโต รสํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๔.

‘‘น โส รชฺชติ ผสฺเสสุ, ผสฺสํ ผุสฺส ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๕.

‘‘ยถาสฺส ผุสโต ผสฺสํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๖.

‘‘น โส รชฺชติ ธมฺเมสุ, ธมฺมํ ตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๗.

‘‘ยถาสฺส วิชานโต ธมฺมํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจตี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ จกฺขุทฺวาเรน อุปลภิตฺวา. สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโตติ ตสฺมึ รูเป ทิฏฺมตฺเต เอว อฏฺตฺวา สุภนิมิตฺตํ มนสิ กโรโต สุภาการคฺคหณวเสน อโยนิโส มนสิ กโรโต สติ มุฏฺา โหติ. ตถา จ สติ สารตฺตจิตฺโต เวเทติ ตํ รูปารมฺมณํ รตฺโต, คิทฺโธ, คธิโต หุตฺวา อนุภวติ, อสฺสาเทติ, อภินนฺทติ. ตถาภูโต จ ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺตีติ ตฺจ รูปารมฺมณํ อชฺโฌสาย ‘‘สุขํ สุข’’นฺติ อภินิวิสฺส คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา ติฏฺติ.

ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รูปสมฺภวาติ ตสฺส เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส รูปสมฺภวา รูปารมฺมณา สุขาทิเภเทน อเนกา เวทนา กิเลสุปฺปตฺติเหตุภูตา วฑฺฒนฺติ. อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺตีติ ปิยรูเป สารชฺชนวเสน อุปฺปชฺชมานาย อภิชฺฌาย, อปิยรูเป พฺยาปชฺชนวเสน ปิยรูปสฺเสว วิปริณามฺถาภาวาย อุปฺปชฺชมานาย โสกาทิลกฺขณาย วิเหสาย จ อสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตํ อุปหฺติ พาธียติ. เอวมาจินโต ทุกฺขนฺติ วุตฺตากาเรน ตํ ตํ เวทนสฺสาทวเสน ภวาภิสงฺขารํ อาจินโต วฏฺฏทุกฺขํ ปวตฺตติ. เตนาห ภควา – ‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (วิภ. ๒๒๕; สํ. นิ. ๒.๑). ตถาภูตสฺส อารา อารกา ทูเร นิพฺพานํ วุจฺจติ, ตสฺส ตํ ทุลฺลภนฺติ อตฺโถ. สทฺทํ สุตฺวาติอาทิคาถาสุปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ฆตฺวาติ ฆายิตฺวา. โภตฺวาติ สายิตฺวา. ผุสฺสาติ ผุสิตฺวา. ธมฺมํ ตฺวาติ ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา.

เอวํ ฉทฺวารโคจเร สารชฺชนฺตสฺส วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ วิรชฺชนฺตสฺส วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น โส รชฺชติ รูเปสู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น โส รชฺชติ รูเปสุ, รูปํ ทิสฺวา ปฏิสฺสโตติ โย ปุคฺคโล รูปํ ทิสฺวา อาปาถคตํ รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาริเกน วิฺาณสนฺตาเนน คเหตฺวา จตุสมฺปชฺวเสน สมฺปชานการิตาย ปฏิสฺสโต โหติ, โส รูปารมฺมเณสุ น รชฺชติ ราคํ น ชเนติ, อฺทตฺถุ วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, รูปารมฺมณมฺหิ สมุทยาทิโต ยถาภูตํ ปชานนฺโต นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทนฺโต ตํ ตตฺถุปฺปนฺนเวทนฺจ วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตถาภูโต จ ตฺจ นชฺโฌส ติฏฺตีติ ตํ รูปารมฺมณํ สมฺมเทว วิรตฺตจิตฺตตาย อชฺโฌสาย น ติฏฺติ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน นาภินิวิสติ.

ยถาสฺส ปสฺสโต รูปนฺติ อสฺส โยคิโน ยถา ตตฺถ อภิชฺฌาทโย นปฺปวตฺตนฺติ, เอวํ อนิจฺจาทิโต รูปํ ปสฺสนฺตสฺส. เสวโต จาปิ เวทนนฺติ ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนํ เวทนํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺเม จ โคจรเสวนาย เสวโต จาปิ. ขียตีติ สพฺพํ กิเลสวฏฺฏํ ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺฉติ. โนปจียตีติ น อุปจิยติ น อาจยํ คจฺฉติ. เอวํ โส จรตี สโตติ เอวํ กิเลสาปนยนปฏิปตฺติยา สโต สมฺปชาโน หุตฺวา จรติ, วิหรติ. เอวํ อปจินโต ทุกฺขนฺติ วุตฺตนเยน อปจยคามินิยา มคฺคปฺาย สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ อปจินนฺตสฺส. สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจตีติ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุสมีเป เอวาติ วุจฺจติ อสงฺขตาย ธาตุยา สจฺฉิกตตฺตา. น โส รชฺชติ สทฺเทสูติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ เถโร อิมาหิ คาถาหิ สตฺถุ โอวาทสฺส อตฺตนา อุปธาริตภาวํ ปเวเทตฺวา อุฏฺายาสนา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา คโต นจิรสฺเสว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณีติ.

มาลุกฺยปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เสลตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปริปุณฺณกาโยติอาทิกา อายสฺมโต เสลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต คณปาโมกฺโข หุตฺวา ตีณิ ปุริสสตานิ สมาทเปตฺวา เตหิ สทฺธึ สตฺถุ คนฺธกุฏึ กาเรตฺวา กตปริโยสิตาย คนฺธกุฏิยา สภิกฺขุสงฺฆสฺส ภควโต มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺถารํ ภิกฺขู จ ติจีวเรน อจฺฉาเทสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวโลเก เอว วสิตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท องฺคุตฺตราเปสุ อาปเณ นาม พฺราหฺมณคาเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา เสโลติ ลทฺธนาโม อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ตีสุ เวเทสุ, พฺราหฺมณสิปฺเปสุ จ นิปฺผตฺตึ คนฺตฺวา ตีณิ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจนฺโต อาปเณ ปฏิวสติ. เตน จ สมเยน สตฺถา สาวตฺถิโต นิกฺขมิตฺวา อฑฺฒเตฬสหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรนฺโต เสลสฺส, อนฺเตวาสิกานฺจ าณปริปากํ ทิสฺวา อฺตรสฺมึ วนสณฺเฑ วิหรติ. อถ เกณิโย นาม ชฏิโล สตฺถุ อาคมนํ สุตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน สตฺถารํ สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา สเก อสฺสเม ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาเทติ. ตสฺมิฺจ สมเย เสโล พฺราหฺมโณ สทฺธึ ตีหิ มาณวกสเตหิ ชงฺฆาวิหารํ อนุวิจรนฺโต เกณิยสฺส อสฺสมํ ปวิสิตฺวา ชฏิเล กฏฺผาลนุทฺธนสมฺปาทนาทินา ทานูปกรณํ สชฺเชนฺเต ทิสฺวา, ‘‘กึ นุ โข เต, เกณิย, มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต’’ติอาทึ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘พุทฺโธ ภควา มยา สฺวาตนาย นิมนฺติโต’’ติ วุตฺเต ‘‘พุทฺโธ’’ติ วจนํ สุตฺวาว หฏฺโ อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต ตาวเทว มาณวเกหิ สทฺธึ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา กตปฏิสนฺถาโร เอกมนฺตํ นิสินฺโน ภควโต กาเย พาตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ ทิสฺวา ‘‘อิเมหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต ราชา วา โหติ จกฺกวตฺตี, พุทฺโธ วา โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท, อยํ ปน ปพฺพชิโต, โน จ โข นํ ชานามิ ‘พุทฺโธ วา, โน วา’, สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ ‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สเก วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’ติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ สมฺมุเข ตฺวา พุทฺธคุเณหิ อภิตฺถวียมาโน สารชฺชติ มงฺกุภาวํ อาปชฺชติ อเวสารชฺชปฺปตฺตตาย อนนุโยคกฺขมตฺตา, ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปน จินฺเตตฺวา –

๘๑๘.

‘‘ปริปุณฺณกาโย สุรุจิ, สุชาโต จารุทสฺสโน;

สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา, สุสุกฺกทาโสิ วีริยวา.

๘๑๙.

‘‘นรสฺส หิ สุชาตสฺส, เย ภวนฺติ วิยฺชนา;

สพฺเพ เต ตว กายสฺมึ, มหาปุริสลกฺขณา.

๘๒๐.

‘‘ปสนฺนเนตฺโต สุมุโข, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;

มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺส, อาทิจฺโจว วิโรจสิ.

๘๒๑.

‘‘กลฺยาณทสฺสโน ภิกฺขุ, กฺจนสนฺนิภตฺตโจ;

กึ เต สมณภาเวน, เอวํ อุตฺตมวณฺณิโน.

๘๒๒.

‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ, จกฺกวตฺตี รเถสโภ;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ชมฺพุสณฺฑสฺส อิสฺสโร.

๘๒๓.

‘‘ขตฺติยา โภคี ราชาโน, อนุยนฺตา ภวนฺติ เต;

ราชาภิราชา มนุชินฺโท, รชฺชํ กาเรหิ โคตมา’’ติ. –

ฉหิ คาถาหิ ภควนฺตํ อภิตฺถวิ.

ตตฺถ ปริปุณฺณกาโยติ อภิพฺยตฺตรูปานํ ทฺวตฺตึสาย มหาปุริสลกฺขณานํ ปริปุณฺณตาย อหีนงฺคปจฺจงฺคตาย จ ปริปุณฺณสรีโร. สุรุจีติ สุนฺทรสรีรปฺปโภ. สุชาโตติ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา, สณฺานสมฺปตฺติยา จ สุนิพฺพตฺโต. จารุทสฺสโนติ สุจิรมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติชนกํ อปฺปฏิกฺกูลํ รมณียํ จารุ เอว ทสฺสนํ อสฺสาติ จารุทสฺสโน. เกจิ ปนาหุ ‘‘จารุทสฺสโนติ สุนฺทรเนตฺโต’’ติ. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณสทิสวณฺโณ. อสีติ ภวสิ, อิทํ ปทํ ‘‘ปริปุณฺณกาโย อสี’’ติอาทินา สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ. สุสุกฺกทาโติ สุฏฺุ สุกฺกทาโ. ภควโต หิ ทาาหิ จนฺทกิรณา วิย ธวลรสฺมิโย นิจฺฉรนฺติ. วีริยวาติ วีริยปารมีปาริปูริยา จตุรงฺคสมนฺนาคตวีริยาธิฏฺานโต จตุพฺพิธสฺส สมฺมปฺปธานสฺส สมฺปตฺติยา จ อติสยยุตฺโต.

นรสฺส หิ สุชาตสฺสาติ สมตึสาย ปารมีนํ, อริยสฺส วา จกฺกวตฺตีวตฺตสฺส ปริปูริตตฺตา สุฏฺุ สมฺมเทว ชาตสฺส นรสฺส, มหาปุริสสฺสาติ อตฺโถ. สพฺเพ เตติ เย มหาปุริสภาวํ โลเก อคฺคปุคฺคลภาวํ พฺยฺชยนฺตีติ พฺยฺชนาติ ลทฺธโวหารสุปฺปติฏฺิตปาทตาทิพาตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสงฺขาตา ตมฺพนขตุงฺคนขตาทิอสีติอนุพฺยฺชนสงฺขาตา จ รูปคุณา, เต อนวเสสา, ตว กายสฺมึ สนฺตีติ วจนเสโส.

มหาปุริสลกฺขณาติ ปุพฺเพ วุตฺตพฺยฺชนาเนว วจนนฺตเรน นิคเมนฺโต อาห.

อิทานิ เตสุ ลกฺขเณสุ อตฺตนา อภิรุจิเตหิ ลกฺขเณหิ ภควนฺตํ โถเมนฺโต ‘‘ปสนฺนเนตฺโต’’ติอาทิมาห. ภควา หิ ปฺจ วณฺณปสาทสมฺปตฺติยา ปสนฺนเนตฺโต. ปริปุณฺณจนฺทมณฺฑลสทิสมุขตาย สุมุโข. อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา พฺรหา. พฺรหฺมุชุคตฺตตาย อุชุ. ชุติมนฺตตาย ปตาปวา.

อิทานิ ตเมว ปตาปวนฺตตํ อาทิจฺจูปมาย วิภาเวนฺโต ‘‘มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาทิจฺโจว วิโรจสีติ ยถา อาทิจฺโจ อุคฺคจฺฉนฺโต สพฺพํ ตมคตํ วิธเมตฺวา อาโลกํ กโรนฺโต วิโรจติ, เอวํ ตฺวมฺปิ อนฺโต เจว พหิ จ สพฺพํ อวิชฺชาตมํ วิทฺธํเสตฺวา าณาโลกํ กโรนฺโต วิโรจสิ.

ทสฺสนียรูปตาย องฺคีคตานํ ทสฺสนสมฺปตฺตีนํ อาวหนโต, กลฺยาเณหิ ปฺจหิ ทสฺสเนหิ สมนฺนาคตตฺตา จ กลฺยาณทสฺสโน. อุตฺตมวณฺณิโนติ อุตฺตมวณฺณสมฺปนฺนสฺส.

จกฺกวตฺตีติ จกฺกรตนํ วตฺเตติ, จตูหิ สมฺปตฺติจกฺเกหิ วตฺเตติ, เตหิ จ ปเร วตฺเตติ. ปรหิตาย อิริยาปถจกฺกานํ วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติ จกฺกวตฺตี. อถ วา จตูหิ อจฺฉริยธมฺเมหิ จ สงฺคหวตฺถูหิ จ สมนฺนาคเมน ปเรหิ อนภิภวนียสฺส อาณาจกฺกสฺส วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติปิ จกฺกวตฺตี. รเถสโภติ รถิเกสุ อาชานียอุสภปุริโส, มหารถิโกติ อตฺโถ. จาตุรนฺโตติ จตุสมุทฺทนฺตาย ปถวิยา อิสฺสโร. วิชิตาวีติ วิชิตวิชโย. ชมฺพุสณฺฑสฺสาติ ชมฺพุทีปสฺส, ปากเฏน หิ อิสฺสริยานิ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. จกฺกวตฺตี ปน สปริตฺตทีปานํ จตุนฺนมฺปิ มหาทีปานํ อิสฺสโรว.

ขตฺติยาติ ชาติขตฺติยา. โภคีติ โภคิยา. ราชาโนติ เย เกจิ รชฺชํ กาเรนฺตา. อนุยนฺตาติ อนุคามิโน เสวกา. ราชาภิราชาติ ราชูนํ ปูชนีโย ราชา หุตฺวา, จกฺกวตฺตีติ อธิปฺปาโย. มนุชินฺโทติ มนุสฺสาธิปติ, มนุสฺสานํ ปรมิสฺสโรติ อตฺโถ.

เอวํ เสเลน วุตฺเต ภควา ‘‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สเก วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’’ติ อิมํ เสลสฺส มโนรถํ ปูเรนฺโต –

๘๒๔.

‘‘ราชาหมสฺมิ เสล, (เสลาติ ภควา) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติย’’นฺติ. – อิมํ คาถมาห;

ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยํ มํ ตฺวํ, เสล, ยาจสิ, ‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ จกฺกวตฺตี’’ติ, เอตฺถ อปฺโปสฺสุกฺโก โหหิ, ราชาหมสฺมิ, สติ จ ราชตฺเต ยถา อฺโ ราชา สมาโนปิ โยชนสตํ วา อนุสาสติ, ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ โยชนสตานิ วา โยชนสหสฺสํ วา จกฺกวตฺตี หุตฺวาปิ จตุทีปปริยนฺตมตฺตํ วา, นาหเมวํ ปริจฺฉินฺนวิสโย. อหฺหิ ธมฺมราชา อนุตฺตโร ภวคฺคโต อวีจิปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริเมยฺยโลกธาตุโย อนุสาสามิ. ยาวตา หิ อปทาทิเภทา สตฺตา, อหํ เตสํ อคฺโค. น หิ เม โกจิ สีเลน วา…เป… วิมุตฺติาณทสฺสเนน วา สทิโส นตฺถิ, กุโต ภิยฺโย. สฺวาหํ เอวํ ธมฺมราชา อนุตฺตโร, อนุตฺตเรเนว จตุสติปฏฺานาทิเภทโพธิปกฺขิยสงฺขาเตน ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, ‘‘อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’ติอาทินา อาณาจกฺกํ. ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๔; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑) ปริยตฺติธมฺเมน ธมฺมจกฺกเมว วา. จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ยํ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ โหติ สมเณน วา…เป… เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ.

เอวํ อตฺตานมาวิกโรนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต เสโล ปุน ทฬฺหีกรณตฺถํ –

๘๒๕.

‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสิ, (อิติ เสโล พฺราหฺมโณ) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, อิติ ภาสถ โคตม.

๘๒๖.

‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต, สาวโก สตฺถุรนฺวโย;

โก เตตมนุวตฺเตติ, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’’นฺติ. – คาถาทฺวยมาห;

ตตฺถ โก นุ เสนาปตีติ ธมฺมรฺโ โภโต ธมฺเมน ปวตฺติตสฺส จกฺกสฺส อนุปวตฺตนโก เสนาปติ โก นูติ ปุจฺฉิ.

เตน จ สมเยน ภควโต ทกฺขิณปสฺเส อายสฺมา สาริปุตฺโต นิสินฺโน โหติ, สุวณฺณปุฺโช วิย สิริยา โสภมาโน. ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา –

๘๒๗.

‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺกํ, (เสลาติ ภควา) ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ;

สาริปุตฺโต อนุวตฺเตติ, อนุชาโต ตถาคต’’นฺติ. – คาถมาห;

ตตฺถ อนุชาโต ตถาคตนฺติ, ตถาคตํ อนุชาโต, ตถา คเตน เหตุนา อริยาย ชาติยา ชาโตติ อตฺโถ.

เอวํ ‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต’’ติ เสเลน วุตฺตปฺหํ พฺยากริตฺวา ยํ เสโล อาห ‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสี’’ติ ตตฺถ นํ นิกฺกงฺขํ กาตุกาโม ‘‘นาหํ ปฏิฺามตฺเตเนว ปฏิชานามิ, อปิ จาหํ อิมินา การเณน พุทฺโธ’’ติ าเปตุํ –

๘๒๘.

‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;

ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. – คาถมาห;

ตตฺถ อภิฺเยฺยนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. จตุนฺนฺหิ สจฺจานํ อริยสจฺจานฺจ สามฺคฺคหณเมตํ ยทิทํ อภิฺเยฺยนฺติ. ตตฺถ อริยสจฺเจสุ ยํ ภาเวตพฺพํ มคฺคสจฺจํ, ยฺจ ปหาตพฺพํ สมุทยสจฺจํ, ตทุภยคฺคหเณน เตสํ ผลภูตานิ นิโรธสจฺจทุกฺขสจฺจานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ เหตุคฺคหเณเนว ผลสิทฺธิโต. เตน ตตฺถ ‘‘สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตํ, ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติ อิทมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. ‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาต’’นฺติ วา อิมินา จ สพฺพสฺสปิ เยฺยสฺส อภิฺาตสมฺพุทฺธภาวํ อุทฺเทสวเสน ปกาเสตฺวา ตเทกเทสํ นิทฺเทสวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ภาเวตพฺพฺจ ภาวิต’’นฺติอาทิมาห. อถ วา ‘‘ภาเวตพฺพํ ภาวิตํ, ปหาตพฺพํ ปหีน’’นฺติ อิมินา อตฺตโน าณปหานสมฺปทากิตฺตนมุเขน ตํมูลกตฺตา สพฺเพปิ พุทฺธคุณา กิตฺติตา โหนฺตีติ อาห ‘‘ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ, พฺราหฺมณา’’ติ. อภิฺเยฺยอภิฺาตคฺคหเณน หิ สพฺพโส วิชฺชาวิมุตฺตีนํ คหิตตฺตา สผลํ จตุสจฺจภาวํ สทฺธึ เหตุสมฺปตฺติยา ทสฺเสนฺโต พุชฺฌิตพฺพํ สพฺพํ พุชฺฌิตฺวา พุทฺโธ ชาโตสฺมีติ าเยน เหตุนา อตฺตโน พุทฺธภาวํ วิภาเวติ.

เอวํ นิปฺปริยาเยน อตฺตานํ ปาตุกริตฺวา อตฺตนิ กงฺขาวิตรณตฺถํ พฺราหฺมณํ อุสฺสาเหนฺโต –

๘๒๙.

‘‘วินยสฺสุ มยิ กงฺขํ, อธิมุจฺจสฺสุ พฺราหฺมณ;

ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส.

๘๓๐.

‘‘เยสํ เว ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;

โสหํ พฺราหฺมณ พุทฺโธสฺมิ, สลฺลกตฺโต อนุตฺตโร.

๘๓๑.

‘‘พฺรหฺมภูโต อติตุโล, มารเสนปฺปมทฺทโน;

สพฺพามิตฺเต วเส กตฺวา, โมทามิ อกุโตภโย’’ติ. – คาถตฺตยมาห;

ตตฺถ วินยสฺสูติ วิเนหิ ฉินฺท. กงฺขนฺติ วิจิกิจฺฉํ. อธิมุจฺจสฺสูติ อธิโมกฺขํ กร ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ สทฺทห. ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, สมฺพุทฺธานนฺติ ยโต กปฺปานํ อสงฺขฺเยยฺยมฺปิ พุทฺธสุฺโ โลโก โหติ. สลฺลกตฺโตติ, ราคาทิสลฺลกตฺตโน. พฺรหฺมภูโตติ เสฏฺภูโต. อติตุโลติ ตุลํ อตีโต, นิรุปโมติ อตฺโถ. มารเสนปฺปมทฺทโนติ ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติ (สุ. นิ. ๔๓๘; มหานิ. ๒๘; จูฬนิ. นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔๗) เอวํ อาคตาย มารเสนาย ปมทฺทโน. สพฺพามิตฺเตติ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุเทวปุตฺตมารสงฺขาเต สพฺพปจฺจตฺถิเก. วเส กตฺวาติ อตฺตโน วเส กตฺวา. โมทามิ อกุโตภโยติ กุโตจิ นิพฺภโย สมาธิสุเขน, ผลนิพฺพานสุเขน จ โมทามิ.

เอวํ วุตฺเต เสโล พฺราหฺมโณ ตาวเทว ภควติ สฺชาตปสาโท ปพฺพชฺชาเปกฺโข หุตฺวา –

๘๓๒.

‘‘อิทํ โภนฺโต นิสาเมถ, ยถา ภาสติ จกฺขุมา;

สลฺลกตฺโต มหาวีโร, สีโหว นทตี วเน.

๘๓๓.

‘‘พฺรหฺมภูตํ อติตุลํ, มารเสนปฺปมทฺทนํ;

โก ทิสฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโก.

๘๓๔.

‘‘โย มํ อิจฺฉติ อนฺเวตุ, โย วา นิจฺฉติ คจฺฉตุ;

อิธาหํ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก’’ติ. –

คาถตฺตยมาห. ยถา ตํ ปริปากคตาย อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา โจทิยมาโน.

ตตฺถ กณฺหาภิชาติโกติ, นีจชาติโก, ตโมตมปรายณภาเว ิโต.

ตโต เตปิ มาณวกา เหตุสมฺปนฺนตาย ตตฺเถว ปพฺพชฺชาเปกฺขา หุตฺวา –

๘๓๕.

‘‘เอตํ เจ รุจฺจติ โภโต, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ;

มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม, วรปฺสฺส สนฺติเก’’ติ. –

คาถมาหํสุ, ยถา ตํ เตน สทฺธึ กตาธิการา กุลปุตฺตา.

อถ เสโล เตสุ มาณวเกสุ ตุฏฺจิตฺโต เต ทสฺเสนฺโต ปพฺพชฺชฺจ ยาจมาโน –

๘๓๖.

‘‘พฺราหฺมณา ติสตา อิเม, ยาจนฺติ ปฺชลีกตา;

พฺรหฺมจริยํ จริสฺสาม, ภควา ตว สนฺติเก’’ติ. – คาถมาห;

ตโต ภควา ยสฺมา เสโล เหฏฺา วุตฺตนเยน ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล เตสํเยว ติณฺณํ ปุริสสตานํ คณเชฏฺโ หุตฺวา โรปิตกุสลมูโล, อิทานิ ปจฺฉิมภเวปิ เตสํเยว อาจริโย หุตฺวา นิพฺพตฺโต, าณฺจสฺส เตสฺจ ปริปกฺกํ, เอหิภิกฺขุภาวสฺส จ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺมา เต สพฺเพว เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพชฺชาย ปพฺพาเชนฺโต –

๘๓๗.

‘‘สฺวาขาตํ พฺรหฺมจริยํ, (เสลาติ ภควา) สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ยตฺถ อโมฆา ปพฺพชฺชา, อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต’’ติ. – คาถมาห;

ตตฺถ สนฺทิฏฺิกนฺติ ปจฺจกฺขํ. อกาลิกนฺติ มคฺคานนฺตรผลุปฺปตฺติโต น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพผลํ. ยตฺถาติ ยํนิมิตฺตา. มคฺคพฺรหฺมจริยนิมิตฺตา หิ ปพฺพชฺชา อโมฆา อนิปฺผลา, ยตฺถาติ วา ยสฺมึ สาสเน อปฺปมตฺตสฺส สติวิปฺปวาสรหิตสฺส ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขโต.

เอวฺจ วตฺวา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ. ตาวเทว เต สพฺเพ อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา หุตฺวา สฏฺิวสฺสิกตฺเถรา วิย ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปริวาเรสุํ. โส เอวํ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต สตฺตเม ทิวเส สปริโส อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๔๐.๒๐๘-๓๐๓) –

‘‘นคเร หํสวติยา, วีถิสามี อโหสหํ;

มม าตี สมาเนตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘พุทฺโธ โลเก สมุปฺปนฺโน, ปุฺกฺเขตฺโต อนุตฺตโร;

อาสิ โส สพฺพโลกสฺส, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห.

‘‘ขตฺติยา เนคมา เจว, มหาสาลา จ พฺราหฺมณา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อุคฺคา จ ราชปุตฺตา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อาฬาริกา กปฺปกา จ, นฺหาปกา มาลการกา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘รชกา เปสการา จ, จมฺมการา จ นฺหาปิตา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อุสุการา ภมการา, จมฺมการา จ ตจฺฉกา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘กมฺมารา โสณฺณการา จ, ติปุโลหกรา ตถา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘ภตกา เจฏกา เจว, ทาสกมฺมกรา พหู;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อุทหารา กฏฺหารา, กสฺสกา ติณหารกา;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘ปุปฺผิกา มาลิกา เจว, ปณฺณิกา ผลหารกา;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘คณิกา กุมฺภทาสี จ, ปูวิกา มจฺฉิกาปิ จ;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘เอถ สพฺเพ สมาคนฺตฺวา, คณํ พนฺธาม เอกโต;

อธิการํ กริสฺสาม, ปุฺกฺเขตฺเต อนุตฺตเร.

‘‘เต เม สุตฺวาน วจนํ, คณํ พนฺธึสุ ตาวเท;

อุปฏฺานสาลํ สุกตํ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส การยุํ.

‘‘นิฏฺาเปตฺวาน ตํ สาลํ, อุทคฺโค ตุฏฺมานโส;

ปเรโต เตหิ สพฺเพหิ, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมึ.

‘‘อุปสงฺกมฺม สมฺพุทฺธํ, โลกนาถํ นราสภํ;

วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘อิเม ตีณิ สตา วีร, ปุริสา เอกโต คณา;

อุปฏฺานสาลํ สุกตํ, นิยฺยาเทนฺติ ตุวํ มุนิ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปุรโต, สมฺปฏิจฺฉตฺว จกฺขุมา;

ติณฺณํ สตานํ ปุรโต, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘ติสตาปิ จ เชฏฺโ จ, อนุวตฺตึสุ เอกโต;

สมฺปตฺติฺหิ กริตฺวาน, สพฺเพ อนุภวิสฺสถ.

‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, สีติภาวมนุตฺตรํ;

อชรํ อมตํ สนฺตํ, นิพฺพานํ ผสฺสยิสฺสถ.

‘‘เอวํ พุทฺโธ วิยากาสิ, สพฺพฺู สมณุตฺตโร;

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, โสมนสฺสํ ปเวทยึ.

‘‘ตึสกปฺปสหสฺสานิ, เทวโลเก รมึ อหํ;

เทวาธิโป ปฺจสตํ, เทวรชฺชมการยึ.

‘‘สหสฺสกฺขตฺตุํ ราชา จ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ;

เทวรชฺชํ กโรนฺตสฺส, มหาเทวา อวนฺทิสุํ.

‘‘อิธ มานุสเก รชฺชํ, ปริสา โหนฺติ พนฺธวา;

ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, วาเสฏฺโ นาม พฺราหฺมโณ.

‘‘อสีติโกฏิ นิจโย, ตสฺส ปุตฺโต อโหสหํ;

เสโล อิติ มมํ นามํ, ฉฬงฺเค ปารมึ คโต.

‘‘ชงฺฆาวิหารํ วิจรํ, สสิสฺเสหิ ปุรกฺขโต;

ชฏาภาริกภริตํ, เกณิยํ นาม ตาปสํ.

‘‘ปฏิยตฺตาหุตึ ทิสฺวา, อิทํ วจนมพฺรวึ;

อาวาโห วา วิวาโห วา, ราชา วา เต นิมนฺติโต.

‘‘อาหุตึ ยิฏฺุกาโมหํ, พฺราหฺมเณ เทวสมฺมเต;

น นิมนฺเตมิ ราชานํ, อาหุตี เม น วิชฺชติ.

‘‘น จตฺถิ มยฺหมาวาโห, วิวาโห เม น วิชฺชติ;

สกฺยานํ นนฺทิชนโน, เสฏฺโ โลเก สเทวเก.

‘‘สพฺพโลกหิตตฺถาย, สพฺพสตฺตสุขาวโห;

โส เม นิมนฺติโต อชฺช, ตสฺเสตํ ปฏิยาทนํ.

‘‘ติมฺพรูสกวณฺณาโภ, อปฺปเมยฺโย อนูปโม;

รูเปนาสทิโส พุทฺโธ, สฺวาตนาย นิมนฺติโต.

‘‘อุกฺกามุขปหฏฺโว, ขทิรงฺคารสนฺนิโภ;

วิชฺชูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ปพฺพตคฺเค ยถา อจฺจิ, ปุณฺณมาเยว จนฺทิมา;

นฬคฺคิวณฺณสงฺกาโส, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อสมฺภีโต ภยาตีโต, ภวนฺตกรโณ มุนิ;

สีหูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘กุสโล พุทฺธธมฺเมหิ, อปสยฺโห ปเรหิ โส;

นาคูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘สทฺธมฺมาจารกุสโล, พุทฺธนาโค อสาทิโส;

อุสภูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อนนฺตวณฺโณ อมิตยโส, วิจิตฺตสพฺพลกฺขโณ;

สกฺกูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘วสี คณี ปตาปี จ, เตชสฺสี จ ทุราสโท;

พฺรหฺมูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ปตฺตธมฺโม ทสพโล, พลาติพลปารโค;

ธรณูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘สีลวีจิสมากิณฺโณ, ธมฺมวิฺาณโขภิโต;

อุทธูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ทุราสโท ทุปฺปสโห, อจโล อุคฺคโต พฺรหา;

เนรูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อนนฺตาโณ อสมสโม, อตุโล อคฺคตํ คโต;

คคนูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ปติฏฺา ภยภีตานํ, ตาโณ สรณคามินํ;

อสฺสาสโก มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อาสโย พุทฺธิมนฺตานํ, ปุฺกฺเขตฺตํ สุเขสินํ;

รตนากโร มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อสฺสาสโก เวทกโร, สามฺผลทายโก;

เมฆูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘โลกจกฺขุ มหาเตโช, สพฺพตมวิโนทโน;

สูริยูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อารมฺมณวิมุตฺตีสุ, สภาวทสฺสโน มุนิ;

จนฺทูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘พุทฺโธ สมุสฺสิโต โลเก, ลกฺขเณหิ อลงฺกโต;

อปฺปเมยฺโย มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ยสฺส าณํ อปฺปเมยฺยํ, สีลํ ยสฺส อนูปมํ;

วิมุตฺติ อสทิสา ยสฺส, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ยสฺส ธีติ อสทิสา, ถาโม ยสฺส อจินฺติโย;

ยสฺส ปรกฺกโม เชฏฺโ, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ราโค โทโส จ โมโห จ, วิสา สพฺเพ สมูหตา;

อคทูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘กฺเลสพฺยาธิพหุทุกฺข-สพฺพตมวิโนทโน;

เวชฺชูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘พุทฺโธติ โภ ยํ วเทสิ, โฆโสเปโส สุทุลฺลโภ;

พุทฺโธ พุทฺโธติ สุตฺวาน, ปีติ เม อุทปชฺชถ.

‘‘อพฺภนฺตรํ อคณฺหนฺตํ, ปีติ เม พหิ นิจฺฉเร;

โสหํ ปีติมโน สนฺโต, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘กหํ นุ โข โส ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

ตตฺถ คนฺตฺวา นมสฺสิสฺสํ, สามฺผลทายกํ.

‘‘ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, เวทชาโต กตฺชลี;

อาจิกฺขิ เม ธมฺมราชํ, โสกสลฺลวิโนทนํ.

‘‘อุเทนฺตํว มหาเมฆํ, นีลํ อฺชนสนฺนิภํ;

สาครํ วิย ทิสฺสนฺตํ, ปสฺสเสตํ มหาวนํ.

‘‘เอตฺถ โส วสเต พุทฺโธ, อทนฺตทมโก มุนิ;

วินยนฺโต จ เวเนยฺเย, โพเธนฺโต โพธิปกฺขิเย.

‘‘ปิปาสิโตว อุทกํ, โภชนํว ชิฆจฺฉิโต;

คาวี ยถา วจฺฉคิทฺธา, เอวาหํ วิจินึ ชินํ.

‘‘อาจารอุปจารฺู, ธมฺมานุจฺฉวิสํวรํ;

สิกฺขาเปมิ สเก สิสฺเส, คจฺฉนฺเต ชินสนฺติกํ.

‘‘ทุราสทา ภควนฺโต, สีหาว เอกจาริโน;

ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา, อาคจฺเฉยฺยาถ มาณวา.

‘‘อาสีวิโส ยถา โฆโร, มิคราชาว เกสรี;

มตฺโตว กุฺชโร ทนฺตี, เอวํ พุทฺธา ทุราสทา.

‘‘อุกฺกาสิตฺจ ขิปิตํ, อชฺฌุเปกฺขิย มาณวา;

ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา, อุเปถ พุทฺธสนฺติกํ.

‘‘ปฏิสลฺลานครุกา, อปฺปสทฺทา ทุราสทา;

ทุรูปสงฺกมา พุทฺธา, ครู โหนฺติ สเทวเก.

‘‘ยทาหํ ปฺหํ ปุจฺฉามิ, ปฏิสมฺโมทยามิ วา;

อปฺปสทฺทา ตทา โหถ, มุนิภูตาว ติฏฺถ.

‘‘ยํ โส เทเสติ สมฺพุทฺโธ, เขมํ นิพฺพานปตฺติยา;

ตเมวตฺถํ นิสาเมถ, สทฺธมฺมสวนํ สุขํ.

‘‘อุปสงฺกมฺม สมฺพุทฺธํ, สมฺโมทึ มุนินา อหํ;

ตํ กถํ วีติสาเรตฺวา, ลกฺขเณ อุปธารยึ.

‘‘ลกฺขเณ ทฺเว จ กงฺขามิ, ปสฺสามิ ตึสลกฺขเณ;

โกโสหิตวตฺถคุยฺหํ, อิทฺธิยา ทสฺสยี มุนิ.

‘‘ชิวฺหํ นินฺนามยิตฺวาน, กณฺณโสเต จ นาสิเก;

ปฏิมสิ นลาฏนฺตํ, เกวลํ ฉาทยี ชิโน.

‘‘ตสฺสาหํ ลกฺขเณ ทิสฺวา, ปริปุณฺเณ สพฺยฺชเน;

พุทฺโธติ นิฏฺํ คนฺตฺวาน, สห สิสฺเสหิ ปพฺพชึ.

‘‘สเตหิ ตีหิ สหิโต, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

อฑฺฒมาเส อสมฺปตฺเต, สพฺเพ ปตฺตามฺห นิพฺพุตึ.

‘‘เอกโต กมฺมํ กตฺวาน, ปุฺกฺเขตฺเต อนุตฺตเร;

เอกโต สํสริตฺวาน, เอกโต วินิวตฺตยุํ.

‘‘โคปานสิโย ทตฺวาน, ปูคธมฺเม วสึ อหํ

เตน กมฺเมน สุกเตน, อฏฺ เหตู ลภามหํ.

‘‘ทิสาสุ ปูชิโต โหมิ, โภคา จ อมิตา มม;

ปติฏฺา โหมิ สพฺเพสํ, ตาโส มม น วิชฺชติ.

‘‘พฺยาธโย เม น วิชฺชนฺติ, ทีฆายุํ ปาลยามิ จ;

สุขุมจฺฉวิโก โหมิ, อาวาเส ปตฺถิเต วเส.

‘‘อฏฺ โคปานสี ทตฺวา, ปูคธมฺเม วสึ อหํ;

ปฏิสมฺภิทารหตฺตฺจ, เอตํ เม อปรฏฺมํ.

‘‘สพฺพโวสิตโวสาโน, กตกิจฺโจ อนาสโว;

อฏฺ โคปานสี นาม, ตว ปุตฺโต มหามุนิ.

‘‘ปฺจ ถมฺภานิ ทตฺวาน, ปูคธมฺเม วสึ อหํ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, ปฺจ เหตู ลภามหํ.

‘‘อจโล โหมิ เมตฺตาย, อนูนงฺโค ภวามหํ;

อาเทยฺยวจโน โหมิ, น ธํเสมิ ยถา อหํ.

‘‘อภนฺตํ โหติ เม จิตฺตํ, อขิโล โหมิ กสฺสจิ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, วิมโล โหมิ สาสเน.

‘‘สคารโว สปฺปติสฺโส, กตกิจฺโจ อนาสโว;

สาวโก เต มหาวีร, ภิกฺขุ ตํ วนฺทเต มุนิ.

‘‘กตฺวา สุกตปลฺลงฺกํ, สาลายํ ปฺเปสหํ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, ปฺจ เหตู ลภามหํ.

‘‘อุจฺเจ กุเล ปชายิตฺวา, มหาโภโค ภวามหํ;

สพฺพสมฺปตฺติโก โหมิ, มจฺเฉรํ เม น วิชฺชติ.

‘‘คมเน ปตฺถิเต มยฺหํ, ปลฺลงฺโก อุปติฏฺติ;

สห ปลฺลงฺกเสฏฺเน, คจฺฉามิ มม ปตฺถิตํ.

‘‘เตน ปลฺลงฺกทาเนน, ตมํ สพฺพํ วิโนทยึ;

สพฺพาภิฺาพลปฺปตฺโต, เถโร วนฺทติ ตํ มุนิ.

‘‘ปริกิจฺจตฺตกิจฺจานิ, สพฺพกิจฺจานิ สาธยึ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, ปาวิสึ อภยํ ปุรํ.

‘‘ปรินิฏฺิตสาลมฺหิ, ปริโภคมทาสหํ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, เสฏฺตฺตํ อชฺฌุปาคโต.

‘‘เย เกจิ ทมกา โลเก, หตฺถิอสฺเส ทเมนฺติ เย;

กริตฺวา การณา นานา, ทารุเณน ทเมนฺติ เต.

‘‘น เหวํ ตฺวํ มหาวีร, ทเมสิ นรนาริโย;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, ทเมสิ อุตฺตเม ทเม.

‘‘ทานสฺส วณฺเณ กิตฺเตนฺโต, เทสนากุสโล มุนิ;

เอกปฺหํ กเถนฺโตว, โพเธสิ ติสเต มุนิ.

‘‘ทนฺตา มยํ สารถินา, สุวิมุตฺตา อนาสวา;

สพฺพาภิฺาพลปตฺตา, นิพฺพุตา อุปธิกฺขเย.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;

อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพ, สาลาทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๘๓๘.

‘‘ยํ ตํ สรณมาคมฺห, อิโต อฏฺเม จกฺขุม;

สตฺตรตฺเตน ภควา, ทนฺตามฺห ตว สาสเน’’ติ. –

คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุม ภควา ยสฺมา มยํ อิโต อตีเต อฏฺเม ทิวเส ตํ สรณํ อคมิมฺห. ตสฺมา สตฺตรตฺเตน ตว สาสเน ทมเกน ทนฺตา อมฺห, อโห เต สรณคมนสฺส อานุภาโวติ. ตโต ปรํ –

๘๓๙.

‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;

ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.

๘๔๐.

‘‘อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;

สีโหว อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว’’ติ. –

อิมาหิ ทฺวีหิ คาถาหิ อภิตฺถวิตฺวา โอสานคาถาย สตฺถารํ วนฺทนํ ยาจติ –

๘๔๑.

‘‘ภิกฺขโว ติสตา อิเม, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา;

ปาเท วีร ปสาเรหิ, นาคา วนฺทนฺตุ สตฺถุโน’’ติ.

ตตฺถ ตุวํ พุทฺโธติ ตฺวเมว อิมสฺมึ โลเก สพฺพฺุพุทฺโธ. ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺเถน สตฺตานํ อนุสาสนโต ตฺวเมว สตฺถา. สพฺเพสํ มารานํ อภิภวนโต มาราภิภู. มุนิภาวโต มุนิ. อนุสเย เฉตฺวาติ กามราคาทิเก อนุสเย อริยมคฺคสตฺเถน ฉินฺทิตฺวา. ติณฺโณติ สยํ สํสารมโหฆํ ติณฺโณ, เทสนาหตฺเถน อิมํ ปชํ สตฺตกายํ ตาเรสิ. อุปธีติ ขนฺธูปธิอาทโย สพฺเพ อุปธี. อทุปาทาโนติ สพฺพโส ปหีนกามุปาทานาทิโก. เอวํ วตฺวา เถโร สปริโส สตฺถารํ อภิวนฺทตีติ.

เสลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กาฬิโคธาปุตฺตภทฺทิยตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยาตํ เม หตฺถิคีวายาติอาทิกา อายสฺมโต ภทฺทิยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล มหาโภคกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารา เอกํ ภิกฺขุํ อุจฺจากุลิกานํ อคฺคฏฺาเน ปิยมานํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา พฺยากาสิ. โสปิ ตํ พฺยากรณํ สุตฺวา อุจฺจากุลิกสํวตฺตนิกํ กมฺมํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมสฺสวนสฺส การาปนํ, ธมฺมมณฺฑเป อาสนทานํ, พีชนีทานํ, ธมฺมกถิกานํ ปูชาสกฺการกรณํ, อุโปสถาคาเร ปฏิสฺสยทานนฺติ เอวมาทึ ยาวชีวํ พหุปุฺํ กตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต อปรภาเค อมฺหากํ ภควโต อุปฺปตฺติยา ปุเรตรํ พาราณสิยํ กุฏุมฺพิยฆเร นิพฺพตฺโต สมฺพหุเล ปจฺเจกพุทฺเธ ปิณฺฑาย จริตฺวา เอกสฺมึเยว าเน สมาคนฺตฺวา ภตฺตวิสฺสคฺคํ กโรนฺเต ทิสฺวา ตตฺถ ปาสาณผลกานิ อตฺถริตฺวา ปาโททกาทึ อุปฏฺเปนฺโต ยาวชีวํ อุปฏฺหิ.

โส เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุนคเร สากิยราชกุเล นิพฺพตฺติ, ภทฺทิโยติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต อนุรุทฺธาทีหิ ปฺจหิ ขตฺติเยหิ สทฺธึ สตฺถริ อนุปิยมฺพวเน วิหรนฺเต สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตํ สตฺถา อปรภาเค เชตวเน อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน อุจฺจากุลิกานํ ภิกฺขูนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺโต อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุฺาคารคโตปิ ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู สตฺถุ อาโรเจสุํ – ‘‘อายสฺมา ภทฺทิโย กาฬิโคธาย ปุตฺโต อภิกฺขณํ ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทติ, อนภิรโต มฺเ พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ. สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภทฺทิย, อภิกฺขณํ ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ ปฏิชานิตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, รชฺชํ กาเรนฺตสฺส สุสํวิหิตารกฺโข อโหสึ, ตถาปิ ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกิโต วิหาสึ. อิทานิ ปน ปพฺพชิโต อภีโต อนุพฺพิคฺโค อนุสฺสงฺกิโต วิหรามี’’ติ วตฺวา –

๘๔๒.

‘‘ยาตํ เม หตฺถิคีวาย, สุขุมา วตฺถา ปธาริตา;

สาลีนํ โอทโน ภุตฺโต, สุจิมํสูปเสจโน.

๘๔๓.

‘‘โสชฺช ภทฺโท สาตติโก, อุฺฉาปตฺตาคเต รโต;

ฌายติ อนุปาทาโน, ปุตฺโต โคธาย ภทฺทิโย.

๘๔๔.

‘‘ปํสุกูลี สาตติโก, อุฺฉาปตฺตาคเต รโต;

ฌายติ อนุปาทาโน, ปุตฺโต โคธาย ภทฺทิโย.

๘๔๕.

‘‘ปิณฺฑปาตี สาตติโก…เป….

๘๔๖.

‘‘เตจีวรี สาตติโก…เป….

๘๔๗.

‘‘สปทานจารี สาตติโก…เป….

๘๔๘.

‘‘เอกาสนี สาตติโก…เป….

๘๔๙.

‘‘ปตฺตปิณฺฑี สาตติโก…เป….

๘๕๐.

‘‘ขลุปจฺฉาภตฺตี สาตติโก…เป….

๘๕๑.

‘‘อารฺิโก สาตติโก…เป….

๘๕๒.

‘‘รุกฺขมูลิโก สาตติโก…เป….

๘๕๓.

‘‘อพฺโภกาสี สาตติโก…เป….

๘๕๔.

‘‘โสสานิโก สาตติโก…เป….

๘๕๕.

‘‘ยถาสนฺถติโก สาตติโก…เป….

๘๕๖.

‘‘เนสชฺชิโก สาตติโก…เป….

๘๕๗.

‘‘อปฺปิจฺโฉ สาตติโก…เป….

๘๕๘.

‘‘สนฺตุฏฺโ สาตติโก…เป….

๘๕๙.

‘‘ปวิวิตฺโต สาตติโก…เป….

๘๖๐.

‘‘อสํสฏฺโ สาตติโก…เป….

๘๖๑.

‘‘อารทฺธวีริโย สาตติโก…เป….

๘๖๒.

‘‘หิตฺวา สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;

อคฺคหึ มตฺติกาปตฺตํ, อิทํ ทุติยาภิเสจนํ.

๘๖๓.

‘‘อุจฺเจ มณฺฑลิปากาเร, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺเก;

รกฺขิโต ขคฺคหตฺเถหิ, อุตฺตมํ วิหรึ ปุเร.

๘๖๔.

‘‘โสชฺช ภทฺโท อนุตฺราสี, ปหีนภยเภรโว;

ฌายติ วนโมคยฺห, ปุตฺโต โคธาย ภทฺทิโย.

๘๖๕.

‘‘สีลกฺขนฺเธ ปติฏฺาย, สตึ ปฺฺจ ภาวยํ;

ปาปุณึ อนุปุพฺเพน, สพฺพสํโยชนกฺขย’’นฺติ. –

อิมาหิ คาถาหิ สตฺถุ ปุรโต สีหนาทํ นทิ.

ตตฺถ ยาตํ เม หตฺถิคีวายาติ, ภนฺเต, ปุพฺเพ มยา คจฺฉนฺเตนาปิ หตฺถิคีวาย หตฺถิกฺขนฺเธ นิสีทิตฺวา ยาตํ จริตํ. วตฺถานิ ปริหรนฺเตนาปิ สุขุมา สุขสมฺผสฺสา กาสิกวตฺถวิเสสา ธาริตา. โอทนํ ภุฺชนฺเตนาปิ ติวสฺสิกานํ ปุราณคนฺธสาลีนํ โอทโน ติตฺติรกปิฺชราทินา สุจินา มํเสน อุปสิตฺตตาย สุจิมํสูปเสจโน ภุตฺโต, ตถาปิ ตํ สุขํ น มยฺหํ จิตฺตปริโตสกรํ อโหสิ, ยถา เอตรหิ วิเวกสุขนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โสชฺช ภทฺโท’’ติอาทิ. เอตฺถ จ หตฺถิคฺคหเณเนว อสฺสรถยานานิ, วตฺถคฺคหเณน สพฺพราชาลงฺการา, โอทนคฺคหเณน สพฺพโภชนวิกติ คหิตาติ เวทิตพฺพํ. โสชฺชาติ โส อชฺช เอตรหิ ปพฺพชฺชายํ ิโต. ภทฺโทติ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา ภทฺโท. สาตติโกติ สมณธมฺเม ทิฏฺธมฺมสุขวิหาเร สาตจฺจยุตฺโต. อุฺฉาปตฺตาคเต รโตติ อุฺฉาจริยาย ปตฺเต อาคเต ปตฺตปริยาปนฺเน อภิรโต, เตเนว สนฺตุฏฺโติ อธิปฺปาโย. ฌายตีติ ผลสมาปตฺติฌาเนน ฌายติ. ปุตฺโต โคธายาติ กาฬิโคธาย นาม ขตฺติยาย ปุตฺโต. ภทฺทิโยติ เอวํนาโม อตฺตานเมว เถโร อฺํ วิย กตฺวา วทติ.

คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปํสุกูลิกงฺคสมาทาเนน ปํสุกูลิโก. สงฺฆภตฺตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑปาติกงฺคสมาทาเนน ปิณฺฑปาติโก. อติเรกจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เตจีวริกงฺคสมาทาเนน เตจีวริโก. โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สปทานจาริกงฺคสมาทาเนน สปทานจารี. นานาสนโภชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกาสนิกงฺคสมาทาเนน เอกาสนิโก. ทุติยกภาชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปตฺตปิณฺฑิกงฺคสมาทาเนน ปตฺตปิณฺฑิโก. อติริตฺตโภชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคสมาทาเนน ขลุปจฺฉาภตฺติโก. คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อารฺิกงฺคสมาทาเนน อารฺิโก. ฉนฺนวาสํ ปฏิกฺขิปิตฺวา รุกฺขมูลิกงฺคสมาทาเนน รุกฺขมูลิโก. ฉนฺนรุกฺขมูลานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺโภกาสิกงฺคสมาทาเนน อพฺโภกาสิโก. นสุสานํ ปฏิกฺขิปิตฺวา โสสานิกงฺคสมาทาเนน โสสานิโก. เสนาสนโลลุปฺปํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยถาสนฺถติกงฺคสมาทาเนน ยถาสนฺถติโก. สยนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เนสชฺชิกงฺคสมาทาเนน เนสชฺชิโก. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ธุตงฺคกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒ อาทโย) วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพา.

อุจฺเจติ อุจฺจาทิฏฺาเน, อุปริปาสาทตาย วา อุจฺเจ. มณฺฑลิปากาเรติ มณฺฑลากาเรน ปาการปริกฺขิตฺเต. ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺเกติ ถิเรหิ อฏฺฏาเลหิ ทฺวารโกฏฺเกหิ จ สมนฺนาคเต, นคเรติ อตฺโถ.

สตึ ปฺฺจาติ เอตฺถ สติสีเสน สมาธึ วทติ. ผลสมาปตฺตินิโรธสมาปตฺติโย สนฺธาย ‘‘สตึ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ วุตฺโต. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.

เอวํ เถโร สตฺถุ สมฺมุขา สีหนาทํ นทิ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู อภิปฺปสนฺนา อเหสุํ.

กาฬิโคธาปุตฺตภทฺทิยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. องฺคุลิมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา

คจฺฉํ วเทสีติอาทิกา อายสฺมโต องฺคุลิมาลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ โกสลรฺโ ปุโรหิตสฺส ภคฺควสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส ชาตทิวเส สกลนคเร อาวุธานิ ปชฺชลึสุ, รฺโ จ มงฺคลาวุธํ สยนปีเ ปิตํ ปชฺชลิ, ตํ ทิสฺวา ราชา ภีโต สํวิคฺโค นิทฺทํ น ลภิ. ปุโรหิโต ตายํ เวลายํ นกฺขตฺตโยคํ อุลฺโลเกนฺโต ‘‘โจรนกฺขตฺเตน ชาโต’’ติ สนฺนิฏฺานมกาสิ. โส วิภาตาย รตฺติยา รฺโ สนฺติกํ คโต สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิ. ราชา ‘‘กุโต, อาจริย, สุขเสยฺยํ, รตฺติยํ มยฺหํ มงฺคลาวุธํ ปชฺชลิ, ตสฺส โก นุ โข วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘มา ภายิ, มหาราช, มยฺหํ ฆเร ทารโก ชาโต. ตสฺส อานุภาเวน สกลนคเรปิ อาวุธานิ ปชฺชลึสู’’ติ. ‘‘กึ ภวิสฺสติ, อาจริยา’’ติ? ‘‘ทารโก โจโร ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘กึ เอกจารี โจโร, อุทาหุ คณเชฏฺโก’’ติ? ‘‘เอกจาริโก, เทว’’. ‘‘กึ นํ มาเรมา’’ติ? ‘‘เอกจาริโก เจ, ปฏิชคฺคถ ตาว น’’นฺติ อาห. ตสฺส นามํ กโรนฺตา ยสฺมา ชายมาโน รฺโ จิตฺตํ วิเหเสนฺโต ชาโต, ตสฺมา หึสโกติ กตฺวา ปจฺฉา ทิฏฺํ อทิฏฺนฺติ วิย อหึสโกติ โวหรึสุ.

โส วยปฺปตฺโต ปุพฺพกมฺมพเลน สตฺตนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. ตสฺสิทํ ปุพฺพกมฺมํ – พุทฺธสุฺเ โลเก กสฺสโก หุตฺวา นิพฺพตฺโต เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ วสฺโสทเกน ตินฺตํ อลฺลจีวรํ สีตปีฬิตํ อตฺตโน เขตฺตภูมึ อุปคตํ ทิสฺวา ‘‘ปุฺกฺเขตฺตํ เม อุปฏฺิต’’นฺติ โสมนสฺสชาโต อคฺคึ กตฺวา อทาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส พเลน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน ถามชวพลสมฺปนฺโน จ หุตฺวา อิมสฺมึ ปจฺฉิมตฺตภาเว สตฺตนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. โส ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก ธมฺมนฺเตวาสี หุตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหโต อาจริยพฺราหฺมณํ ตสฺส ภริยฺจ สกฺกจฺจํ ปฏิชคฺคติ. เตนสฺส สา พฺราหฺมณี เคเห ลพฺภมาเนน ภตฺตาทินา สงฺคหํ กโรติ. ตํ อสหมานา อฺเ มาณวา อาจริเยน สทฺธึ เภทํ อกํสุ. พฺราหฺมโณ เตสํ วจนํ ทฺเว ตโย วาเร อสทฺทหนฺโต หุตฺวา ปจฺฉา สทฺทหิตฺวา ‘‘มหาพโล มาณโว, น สกฺกา เกนจิ มาราเปตุํ, อุปาเยน นํ มาเรสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิฏฺิตสิปฺปํ อตฺตโน นครํ คนฺตุํ อาปุจฺฉนฺตํ มาณวํ อาห – ‘‘ตาต อหึสก, นิฏฺิตสิปฺเปน นาม อนฺเตวาสินา อาจริยสฺส ครุทกฺขิณา ทาตพฺพา, ตํ มยฺหํ เทหี’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริย, กึ ทสฺสามี’’ติ? ‘‘มนุสฺสานํ สหสฺสทกฺขิณหตฺถงฺคลิโย อาเนหี’’ติ. พฺราหฺมณสฺส กิร อยมสฺส อธิปฺปาโย – พหูสุ มาริยมาเนสุ เอกนฺตโต เอโก นํ มาเรยฺยาติ. ตํ สุตฺวา อหึสโก อตฺตโน จิรปริจิตํ นิกฺกรุณตํ ปุรกฺขตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ โกสลรฺโ วิชิเต ชาลินํ วนํ ปวิสิตฺวา มหามคฺคสมีเป ปพฺพตนฺตเร วสนฺโต ปพฺพตสิขเร ตฺวา มคฺเคน คจฺฉนฺเต มนุสฺเส โอโลเกตฺวา เวเคน คนฺตฺวา องฺคุลิโย คเหตฺวา รุกฺขคฺเค โอลมฺเพสิ. ตา คิชฺฌาปิ กากาปิ ขาทึสุ, ภูมิยํ นิกฺขิตฺตา ปูติภาวํ อคมํสุ. เอวํ คณนาย อปริปูรมานาย ลทฺธา ลทฺธา องฺคุลิโย สุตฺเตน คนฺถิตฺวา มาลํ กตฺวา ยฺโปจิตํ วิย อํเส โอลมฺเพสิ. ตโต ปฏฺาย องฺคุลิมาโลตฺเววสฺส สมฺา อโหสิ.

เอวํ ตสฺมึ มนุสฺเส มาเรนฺเต มคฺโค อวฬฺโช อโหสิ. โส มคฺเค มนุสฺเส อลภนฺโต คามูปจารํ คนฺตฺวา นิลียิตฺวา อาคตาคเต มนุสฺเส มาเรตฺวา องฺคุลิโย คเหตฺวา คจฺฉติ. ตํ ตฺวา มนุสฺสา คามโต อปกฺกมึสุ, คามา สุฺา อเหสุํ, ตถา นิคมา ชนปทา จ. เอวํ เตน โส ปเทโส อุพฺพาสิโต อโหสิ. องฺคุลิมาลสฺส จ เอกาย อูนา สหสฺสองฺคุลิโย สงฺคหา อเหสุํ. อถ มนุสฺสา ตํ โจรุปทฺทวํ โกสลรฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ปาโตว นคเร เภรึ จราเปสิ, ‘‘สีฆํ องฺคุลิมาลโจรํ คณฺหาม, พลกาโย อาคจฺฉตู’’ติ. ตํ สุตฺวา องฺคุลิมาลสฺส มาตา มนฺตาณี นาม พฺราหฺมณี ตสฺส ปิตรํ อาห – ‘‘ปุตฺโต กิร เต โจโร หุตฺวา อิทฺจิทฺจ กโรติ, ตํ ‘อีทิสํ มา กรี’ติ สฺาเปตฺวา อาเนหิ, อฺถา นํ ราชา ฆาเตยฺยา’’ติ. พฺราหฺมโณ ‘‘น มยฺหํ ตาทิเสหิ ปุตฺเตหิ อตฺโถ, ราชา ยํ วา ตํ วา กโรตู’’ติ อาห. อถ พฺราหฺมณี ปุตฺตสิเนเหน ปาเถยฺยํ คเหตฺวา ‘‘มม ปุตฺตํ สฺาเปตฺวา อาเนสฺสามี’’ติ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.

ภควา ‘‘อยํ ‘องฺคุลิมาลํ อาเนสฺสามี’ติ คจฺฉติ, สเจ สา คมิสฺสติ, องฺคุลิมาโล ‘องฺคุลิสหสฺสํ ปูเรสฺสามี’ติ มาตรมฺปิ มาเรสฺสติ. โส จ ปจฺฉิมภวิโก, สจาหํ น คมิสฺสํ, มหาชานิ อภวิสฺสา’’ติ ตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สยเมว ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา องฺคุลิมาลํ อุทฺทิสฺส ตึสโยชนิกํ มคฺคํ ปทสาว ปฏิปชฺชมาโน อนฺตรามคฺเค โคปาลกาทีหิ วาริยมาโนปิ ชาลินํ วนํ อุปคจฺฉิ. ตสฺมิฺจ ขเณ ตสฺส มาตา เตน ทิฏฺา, โส มาตรํ ทูรโตว ทิสฺวา ‘‘มาตรมฺปิ มาเรตฺวา อชฺช อูนงฺคุลึ ปูเรสฺสามี’’ติ อสึ อุกฺขิปิตฺวา อุปธาวิ. เตสํ อุภินฺนํ อนฺตเร ภควา อตฺตานํ ทสฺเสสิ. องฺคุลิมาโล ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กึ เม มาตรํ วธิตฺวา องฺคุลิยา คหิเตน? ชีวตุ เม มาตา, ยํนูนาหํ อิมํ สมณํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา องฺคุลึ คณฺเหยฺย’’นฺติ อุกฺขิตฺตาสิโก ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ, ยถา ปกติอิริยาปเถน คจฺฉนฺตมฺปิ อตฺตานํ องฺคุลิมาโล สพฺพถาเมน ธาวนฺโตปิ น สกฺโกติ สมฺปาปุณิตุํ. โส ปริหีนชโว ฆุรุฆุรุปสฺสาสี กจฺเฉหิ เสทํ มุฺจนฺโต ปทํ อุทฺธริตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต ขาณุ วิย ิโต ภควนฺตํ ‘‘ติฏฺ ติฏฺ, สมณา’’ติ อาห. ภควา คจฺฉนฺโตว ‘‘ิโต อหํ, องฺคุลิมาล, ตฺวฺจ ติฏฺา’’ติ อาห. โส ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สจฺจวาทิโน, อยํ สมโณ คจฺฉนฺโตเยว ‘ิโต อหํ, องฺคุลิมาล, ตฺวฺจ ติฏฺา’ติ อาห, อหฺจมฺหิ ิโต, โก นุ โข อิมสฺส อธิปฺปาโย, ปุจฺฉิตฺวา นํ ชานิสฺสามี’’ติ ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๘๖๖.

‘‘คจฺฉํ วเทสิ สมณ ิโตมฺหิ, มมฺจ พฺรูสิ ิตมฏฺิโตติ;

ปุจฺฉามิ ตํ สมณ เอตมตฺถํ, กถํ ิโต ตฺวํ อหมฏฺิโตมฺหี’’ติ.

ตตฺถ สมณาติ ภควนฺตํ อาลปติ. มมนฺติ มํ. กถนฺติ เกนากาเรน. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – สมณ, ตฺวํ คจฺฉนฺโตว สมาโน ‘‘ิโตมฺหี’’ติ วเทสิ. มมฺจ ิตํเยว ‘‘อฏฺิโต’’ติ พฺรูสิ, วเทสิ. การเณเนตฺถ ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ตํ สมณํ อหํ เอวมตฺถํ ปุจฺฉามิ. กถํ เกนากาเรน ตฺวํ ิโต อโหสิ, อหฺจ อฏฺิโตมฺหีติ. เอวํ วุตฺเต ภควา –

๘๖๗.

‘‘ิโต อหํ องฺคุลิมาล สพฺพทา, สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ;

ตุวฺจ ปาเณสุ อสฺโตสิ, ตสฺมา ิโตหํ ตุวมฏฺิโตสี’’ติ. –

คาถาย ตํ อชฺฌภาสิ.

ตตฺถ ิโต อหํ, องฺคุลิมาล, สพฺพทา, สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑนฺติ, องฺคุลิมาล, อหํ สพฺพทา สพฺพกาเล อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ ตสถาวรเภเทสุ สพฺเพสุ สตฺเตสุ ทณฺฑํ นิธาย นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, ตโต อฺถา อวตฺตนโต เอวรูเปเนว ิโต. ตุวฺจ ปาเณสุ อสฺโตสีติ ตฺวํ ปน สตฺเตสุ สฺมรหิโต อสิ, ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน, ตสฺมา อสฺโต วิรติวเสน อฏฺิโต. ตโต เอว ตาสุ ตาสุ คตีสุ ปริพฺภมนโตปิ ตุวํ อิทานิ อิริยาปเถน ิโตปิ อฏฺิโต อสิ, อหํ ปน วุตฺตปฺปกาเรน ิโตติ. ตโต องฺคุลิมาโล ยถาภุจฺจคุณปฺปภาวิตสฺส ชลตเล เตลสฺส วิย สกลํ โลกํ อภิพฺยาเปตฺวา ิตสฺส ภควโต กิตฺติสทฺทสฺส สุตปุพฺพตฺตา เหตุสมฺปตฺติยา าณสฺส จ ปริปากคตตฺตา ‘‘อยํ โส ภควา’’ติ สฺชาตปีติโสมนสฺโส ‘‘มหา อยํ สีหนาโท, มหนฺตํ คชฺชิตํ, นยิทํ อฺสฺส ภวิสฺสติ, สมณสฺส มฺเ โคตมสฺส เอตํ คชฺชิตํ, ทิฏฺโ วตมฺหิ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน, มยฺหํ สงฺคหกรณตฺถํ ภควา อิธาคโต’’ติ จินฺเตตฺวา –

๘๖๘.

‘‘จิรสฺสํ วต เม มหิโต มเหสี, มหาวนํ สมโณ ปจฺจปาทิ;

โสหํ จชิสฺสามิ สหสฺสปาปํ, สุตฺวาน คาถํ ตว ธมฺมยุตฺต’’นฺติ. –

อิมํ คาถํ อภาสิ.

ตตฺถ จิรสฺสํ วตาติ จิรกาเลน วต. เมติ มยฺหํ อนุคฺคหตฺถาย. มหิโตติ สเทวเกน โลเกน มหติยา ปูชาย ปูชิโต. มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทิคุเณ เอสิ, คเวสีติ มเหสี. มหาวนํ สมโณ ปจฺจปาทีติ อิมํ มหารฺํ สมิตสพฺพปาโป ภควา ปฏิปชฺชิ. โสหํ จชิสฺสามิ สหสฺสปาปํ, สุตฺวาน คาถํ ตว ธมฺมยุตฺตนฺติ โสหํ ธมฺมยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิตํ ตว คาถํ สุณึ. โสหํ ตํ สุตฺวาน ‘‘จิรสฺสมฺปิ จิรกาเลนปิ สงฺคตํ ปริจิตํ ปาปสหสฺสํ ปชหิสฺส’’นฺติ จินฺเตตฺวา อิทานิ นํ อฺทตฺถุ ปริจฺจชิสฺสามีติ อตฺโถ. เอวํ ปน วตฺวา ยถา ปฏิปชฺชิ, ยถา จ ภควตา อนุคฺคหิโต, ตํ ทสฺเสตุํ –

๘๖๙.

‘‘อิจฺเจว โจโร อสิมาวุธฺจ, โสพฺเภ ปปาเต นรเก อนฺวกาสิ;

อวนฺทิ โจโร สุคตสฺส ปาเท, ตตฺเถว ปพฺพชฺชมยาจิ พุทฺธํ.

๘๗๐.

‘‘พุทฺโธ จ โข การุณิโก มเหสิ, โย สตฺถา โลกสฺส สเทวกสฺส;

ตเมหิ ภิกฺขูติ ตทา อโวจ, เอเสว ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโว’’ติ.

สงฺคีติการา อิมา ทฺเว คาถา เปสุํ.

ตตฺถ อิจฺเจวาติ อิติ เอว เอวํ วตฺวา อนนฺตรเมว. โจโรติ องฺคุลิมาโล. อสินฺติ ขคฺคํ. อาวุธนฺติ เสสาวุธํ. โสพฺเภติ สมนฺตโต ฉินฺนตเฏ. ปปาเตติ เอกโต ฉินฺนตเฏ. นรเกติ ภูมิยา ผลิตวิวเร. อิธ ปน ตีหิปิ ปเทหิ ยตฺถ ปติตํ อฺเน คเหตุํ น สกฺกา, ตาทิสํ ปพฺพตนฺตรเมว วทติ. อนฺวกาสีติ อนุ อกาสิ, ปฺจวิธมฺปิ อตฺตโน อาวุธํ อนุ ขิปิ ฉฑฺเฑสิ, ตานิ ฉฑฺเฑตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ มํ, ภนฺเต’’ติ อาห. เตน วุตฺตํ ‘‘อวนฺทิ โจโร สุคตสฺส ปาเท, ตตฺเถว ปพฺพชฺชมยาจิ พุทฺธ’’นฺติ. เอวํ เตน ปพฺพชฺชาย ยาจิตาย สตฺถา ตสฺส ปุริมกมฺมํ โอโลเกนฺโต เอหิภิกฺขุภาวาย เหตุสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา – ‘‘เอหิ, ภิกฺขุ, สฺวาขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ, สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ อาห. สา เอว จ ตสฺส ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ อโหสิ. เตนาห ‘‘ตเมหิ ภิกฺขูติ ตทา อโวจ, เอเสว ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโว’’ติ.

เอวํ เถโร สตฺถุ สนฺติเก เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโต ปีติโสมนสฺสชาโต อุทานวเสน –

๘๗๑.

‘‘โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา, ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

๘๗๒.

‘‘ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ, กุสเลน ปิธียติ;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

๘๗๓.

‘‘โย หเว ทหโร ภิกฺขุ, ยุฺชติ พุทฺธสาสเน;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. – คาถตฺตยํ อภาสิ;

ตสฺสตฺโถ – โย ปุคฺคโล คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคโต ปุพฺเพ ปาปมิตฺตสํสคฺเคน วา อตฺตโน วา ปฏิสงฺขานาภาเวน ปมชฺชิตฺวา สมฺมาปฏิปตฺติยํ ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา, ปจฺฉา กลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺโต นปฺปมชฺชติ, สมฺมา ปฏิปชฺชติ, สมถวิปสฺสนํ อนุยุฺชนฺโต ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา ปาปุณาติ, โส อพฺภาทีหิ มุตฺโต จนฺโท วิย โอกาสโลกํ อตฺตนา อธิคตาหิ วิชฺชาภิฺาหิ อิมํ ขนฺธาทิโลกํ โอภาเสตีติ.

ยสฺส ปุคฺคลสฺส กตํ อุปจิตํ ปาปกมฺมํ กมฺมกฺขยกเรน โลกุตฺตรกุสเลน อวิปาการหภาวสฺส อาหริตตฺตา วิปากุปฺปาทเน ทฺวารปิธาเนน ปิธียติ ถกียติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ทหโรติ ตรุโณ, เตนสฺส โยคกฺขมสรีรตํ ทสฺเสติ. โส หิ อุปฺปนฺนํ วาตาตปปริสฺสยํ อภิภวิตฺวา โยคํ กาตุํ สกฺโกติ. ยุฺชติ พุทฺธสาสเน สิกฺขตฺตเย ยุตฺตปฺปยุตฺโต โหติ, สกฺกจฺจํ สมฺปาเทตีติ อตฺโถ.

เอวํ ปีติโสมนสฺสชาโต วิมุตฺติสุเขน วิหรนฺโต ยทา นครํ ปิณฺฑาย ปวิสติ, ตทา อฺเนปิ ขิตฺโต เลฑฺฑุ เถรสฺส กาเย นิปตติ, อฺเนปิ ขิตฺโต ทณฺโฑ ตสฺเสว กาเย นิปตติ. โส ภินฺเนน ปตฺเตน วิหารํ ปวิสิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉติ. สตฺถา ตํ โอวทติ ‘‘อธิวาเสหิ, ตฺวํ พฺราหฺมณ, อธิวาเสหิ, ตฺวํ พฺราหฺมณ, ยสฺส โข, ตฺวํ พฺราหฺมณ, กมฺมสฺส วิปาเกน พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺเจยฺยาสิ, ตสฺส, ตฺวํ พฺราหฺมณ, กมฺมสฺส วิปากํ ทิฏฺเว ธมฺเม ปฏิสํเวเทสี’’ติ. อถ เถโร อโนธิโส สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา –

๘๗๔.

‘‘ทิสาปิ เม ธมฺมกถํ สุณนฺตุ, ทิสาปิ เม ยุฺชนฺตุ พุทฺธสาสเน;

ทิสาปิ เม เต มนุเช ภชนฺตุ, เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโต.

๘๗๕.

‘‘ทิสา หิ เม ขนฺติวาทานํ, อวิโรธปฺปสํสินํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ กาเลน, ตฺจ อนุวิธียนฺตุ.

๘๗๖.

‘‘น หิ ชาตุ โส มมํ หึเส, อฺํ วา ปน กฺจิ นํ;

ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ, รกฺเขยฺย ตสถาวเร.

๘๗๗.

‘‘อุทกฺหิ นยนฺติ เนตฺติกา, อุสุการา ทมยนฺติ เตชนํ;

ทารุํ ทมยนฺติ ตจฺฉกา, อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา.

๘๗๘.

‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสภิ กสาหิ จ;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, อหํ ทนฺโตมฺหิ ตาทินา.

๘๗๙.

‘‘อหึสโกติ เม นามํ, หึสกสฺส ปุเร สโต;

อชฺชาหํ สจฺจนาโมมฺหิ, น นํ หึสามิ กฺจิ นํ.

๘๘๐.

‘‘โจโร อหํ ปุเร อาสึ, องฺคุลิมาโลติ วิสฺสุโต;

วุยฺหมาโน มโหเฆน, พุทฺธํ สรณมาคมํ.

๘๘๑.

‘‘โลหิตปาณิ ปุเร อาสึ, องฺคุลิมาโลติ วิสฺสุโต;

สรณคมนํ ปสฺส, ภวเนตฺติ สมูหตา.

๘๘๒.

‘‘ตาทิสํ กมฺมํ กตฺวาน, พหุํ ทุคฺคติคามินํ;

ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกน, อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ.

๘๘๓.

‘‘ปมาทมนุยุฺชนฺติ, พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา;

อปฺปมาทฺจ เมธาวี, ธนํ เสฏฺํว รกฺขติ.

๘๘๔.

‘‘มา ปมาทมนุยุฺเชถ, มา กามรติสนฺถวํ;

อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต, ปปฺโปติ ปรมํ สุขํ.

๘๘๕.

‘‘สฺวาคตํ นาปคตํ, เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มม;

สวิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ, ยํ เสฏฺํ ตทุปาคมํ.

๘๘๖.

‘‘สฺวาคตํ นาปคตํ, เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มม;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๘๘๗.

‘‘อรฺเ รุกฺขมูเล วา, ปพฺพเตสุ คุหาสุ วา;

ตตฺถ ตตฺเถว อฏฺาสึ, อุพฺพิคฺคมนโส ตทา.

๘๘๘.

‘‘สุขํ สยามิ ายามิ, สุขํ กปฺเปมิ ชีวิตํ;

อหตฺถปาโส มารสฺส, อโห สตฺถานุกมฺปิโต.

๘๘๙.

‘‘พฺรหฺมชจฺโจ ปุเร อาสึ, อุทิจฺโจ อุภโต อหุ.

โสชฺช ปุตฺโต สุคตสฺส, ธมฺมราชสฺส สตฺถุโน.

๘๙๐.

‘‘วีตตณฺโห อนาทาโน, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต;

อฆมูลํ วธิตฺวาน, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย.

๘๙๑.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ทิสาปีติ มยฺหํ ทิสาปิ อมิตฺตา ปจฺจตฺถิกาปิ เย มํ เอวํ อุปวทนฺติ ‘‘ยถา มยํ องฺคุลิมาลสฺส วเสน าติวิโยคทุกฺขปเรตา ทุกฺขํ ปาปุณาม, เอวํ องฺคุลิมาโลปิ ทุกฺขํ ปาปุณาตู’’ติ. เม ธมฺมกถํ สุณนฺตูติ มยา สตฺถุ สนฺติเก สุตํ จตุสจฺจธมฺมปฏิสํยุตฺตํ กถํ สุณนฺตุ. ยุฺชนฺตูติ สุตฺวา จ ตทตฺถาย ปฏิปชฺชนฺตุ. เต มนุเช ภชนฺตูติ ตาทิเส สปฺปุริเส กลฺยาณมิตฺเต ภชนฺตุ เสวนฺตุ. เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโตติ เย สปฺปุริสา กุสลธมฺมเมว, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว, นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรธมฺมเมว จ อาทเปนฺติ สมาทเปนฺติ คณฺหาเปนฺติ.

ขนฺติวาทานนฺติ อธิวาสนขนฺติเมว วทนฺตานํ ตโต เอว อวิโรธปฺปสํสินนฺติ เกนจิ อวิโรธภูตาย เมตฺตาย เอว ปสํสนสีลานํ. สุณนฺตุ ธมฺมํ กาเลนาติ ยุตฺตปฺปยุตฺตกาเล เตสํ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตุ. ตฺจ อนุวิธียนฺตูติ ตฺจ ยถาสุตํ ธมฺมํ สมฺมเทว อุคฺคหิตฺวา อนุกโรนฺตุ ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชนฺตูติ อตฺโถ.

น หิ ชาตุ โส มมํ หึเสติ โส มยฺหํ ทิโส ปจฺจตฺถิโก ชาตุ, เอกํเสเนว มํ น หึเส, น พาเธยฺย. อฺํ วา ปน กฺจิ นนฺติ น เกวลํ มํเยว, อฺํ วาปิ กฺจิ สตฺตํ น หึเสยฺย, ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตินฺติ, ปรมํ อุตฺตมํ สนฺตึ นิพฺพานํ ปาปุเณยฺย, ปาปุณิตฺวา จ รกฺเขยฺย ตสถาวเรติ สพฺเพ จ สตฺเต ปรมาย รกฺขาย รกฺเขยฺย, สิสฺสํ ปุตฺตํ วิย ปริปาเลยฺยาติ อตฺโถ.

เอวํ เถโร อิมาหิ คาถาหิ ปเร ปาปโต ปริโมเจนฺโต ปริตฺตกิริยํ นาม กตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปกาเสนฺโต ‘‘อุทกํ หี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ปถวิยา ถลฏฺานํ ขณิตฺวา นินฺนฏฺานํ ปูเรตฺวา มาติกํ วา กตฺวา รุกฺขโทณึ วา เปตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิกิจฺฉิตฏฺานํ อุทกํ เนนฺตีติ เนตฺติกา, อุทกหาริโน. เตชนนฺติ กณฺฑํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เนตฺติกา อตฺตโน รุจิยา อุทกํ นยนฺติ, อุสุการาปิ ตาเปตฺวา วงฺกาภาวํ หรนฺตา เตชนํ อุสุํ ทมยนฺติ, อุชุกํ กโรนฺติ, ตจฺฉกาปิ เนมิอาทีนํ อตฺถาย ตจฺฉนฺตา ทารุํ ทมยนฺติ อตฺตโน รุจิยา อุชุํ วา วงฺกํ วา กโรนฺติ. เอวํ เอตฺตกํ อารมฺมณํ กตฺวา ปณฺฑิตา สปฺปฺา อริยมคฺคํ อุปฺปาเทนฺตา อตฺตานํ ทเมนฺติ, อรหตฺตปฺปตฺตา ปน เอกนฺตทนฺตา นาม โหนฺตีติ.

อิทานิ ปุริสทมฺมสารถินา สตฺถารา อตฺตโน ทมิตาการํ กตฺุตฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘ทณฺเฑเนเก’’ติอาทิกา ปฺจ คาถา อภาสิ. ตตฺถ ทณฺเฑเนเก ทมยนฺตีติ ราชราชมหามตฺตาทโย ทณฺเฑน, หตฺถิอสฺสาทินา พลกาเยน จ ปจฺจตฺถิกาทิเก ทเมนฺติ, โคปาลาทโย จ คาวาทิเก ทณฺเฑน ยฏฺิยา ทเมนฺติ. หตฺถาจริยา หตฺถึ องฺกุเสหิ, อสฺสาจริยา อสฺเส กสาหิ จ ทเมนฺติ. อทณฺเฑน อสตฺเถน, อหํ ทนฺโตมฺหิ ตาทินาติ อหํ ปน อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธน วินา เอว ทณฺเฑน, วินา สตฺเถน, นิหิตทณฺฑนิหิตสตฺถภาเวน ทนฺโต ทมิโต นิพฺพิเสวโน คโต อมฺหิ.

อหึสโกติ เม นามํ, หึสกสฺส ปุเร สโตติ สตฺถารา สมาคมโต ปุพฺเพ หึสกสฺส เม สมานสฺส อหึสโกติ นามมตฺตํ อโหสิ. อชฺชาหนฺติ อิทานิ ปนาหํ ‘‘อหึสโก’’ติ สจฺจนาโม อวิตถนาโม อมฺหิ. ตสฺมา น นํ หึสามิ กฺจิปิ สตฺตํ น หึสามิ น พาเธมิ, นฺติ นิปาตมตฺตํ.

วิสฺสุโตติ ‘‘ปาณาติปาตี ลุทฺโท โลหิตปาณี’’ติอาทินา ปฺาโต. มโหเฆนาติ กาโมฆาทินา มหตา โอเฆน, ตสฺส โอฆสฺส วิจฺเฉทกรํ พุทฺธํ สรณํ พุทฺธสงฺขาตํ สรณํ อคมํ อุปคจฺฉึ.

โลหิตปาณีติ ปาณมติปาตเนน ปเรสํ โลหิเตน รุหิเรน มกฺขิตปาณิ. สรณคมนํ ปสฺสาติ มหปฺผลํ มม สรณคมนํ ปสฺสาติ อตฺตานเมวาลปติ.

ตาทิสํ กมฺมนฺติ อเนกสตปุริสวธํ ทารุณํ ตถารูปํ ปาปกมฺมํ. ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกนาติ ปุพฺเพ กตสฺส ปาปกมฺมสฺส วิปาเกน ผุฏฺโ, สพฺพโส ปหีนกมฺโม วิปากมตฺตํ ปจฺจนุโภนฺโต. อถ วา ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกนาติ อุปนิสฺสยภูตสฺส กุสลกมฺมสฺส ผลภูเตน โลกุตฺตรมคฺเคน, โลกุตฺตรกมฺมสฺเสว วา ผเลน วิมุตฺติสุเขน ผุฏฺโ. สพฺพโส กิเลสานํ ขีณตฺตา อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ, โภชนาปเทเสน จตฺตาโรปิ ปจฺจเย วทติ.

อิทานิ ปุพฺเพ อตฺตโน ปมาทวิหารํ ครหามุเขน ปจฺฉา อปฺปมาทปฏิปตฺตึ ปสํสนฺโต ตตฺถ จ ปเรสํ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต ‘‘ปมาทมนุยุฺชนฺตี’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ พาลาติ พาลฺเยน สมนฺนาคตา อิธโลกปรโลกตฺถํ อชานนฺตา. ทุมฺเมธิโนติ นิปฺปฺา, เต ปมาเท อาทีนวํ อปสฺสนฺตา ปมาทํ อนุยุฺชนฺติ ปวตฺเตนฺติ, ปมาเทเนว กาลํ วีตินาเมนฺติ. เมธาวีติ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคโต ปน ปณฺฑิโต กุลวํสาคตํ เสฏฺํ อุตฺตมํ สตฺตรตนธนํ วิย อปฺปมาทํ รกฺขติ. ยถา หิ ‘‘อุตฺตมํ ธนํ นิสฺสาย โภคสมฺปตฺตึ ปาปุณิสฺสาม, ปุตฺตทารํ โปเสสฺสาม, สุคติมคฺคํ โสเธสฺสามา’’ติ ธเน อานิสํสํ ปสฺสนฺตา ธนํ รกฺขนฺติ; เอวํ ปณฺฑิโตปิ ‘‘อปฺปมาทํ นิสฺสาย ปมชฺฌานาทีนิ ปฏิลภิสฺสามิ, มคฺคผลานิ ปาปุณิสฺสามิ, ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อปฺปมาเท อานิสํสํ ปสฺสนฺโต ธนํ เสฏฺํว อปฺปมาทํ รกฺขตีติ อตฺโถ.

มา ปมาทนฺติ ปมาทํ มา อนุยุฺเชถ ปมาเทน กาลํ มา วีตินามยิตฺถ. กามรติสนฺถวนฺติ วตฺถุกาเมสุ, กิเลสกาเมสุ จ รติสงฺขาตํ ตณฺหาสนฺถวมฺปิ มา อนุยุฺเชถ มา วินฺทิตฺถ มา ปฏิลภิตฺถ. อปฺปมตฺโต หีติ อุปฏฺิตสติตาย อปฺปมตฺโต ปุคฺคโล ฌายนฺโต ฌายนปฺปสุโต ปรมํ อุตฺตมํ นิพฺพานสุขํ ปาปุณาติ.

สฺวาคตํ นาปคตนฺติ ยํ ตทา มม สตฺถุ สนฺติเก อาคตํ อาคมนํ, สตฺถุ วา ตสฺมึ มหาวเน อาคมนํ, ตํ สฺวาคตํ สฺวาคมนํ นาปคตํ, อตฺถโต อเปตํ วิคตํ น โหติ. เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มมาติ ยํ ตทา มยา ‘‘สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ มนฺติตํ, อิทมฺปิ มม น ทุมฺมนฺติตํ, สุมนฺติตเมว. กสฺมา? สวิภตฺเตสุ ธมฺเมสูติ สาวชฺชานวชฺชาทิวเสน ปการโต วิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ ยํ เสฏฺํ อุตฺตมํ ปวรํ นิพฺพานํ. ตทุปาคมํ ตเทว อุปคจฺฉินฺติ อตฺโถ.

‘‘ตทา ปุถุชฺชนกาเล ปโยคาสยวิปนฺนตาย อรฺาทีสุ ทุกฺขํ วิหาสึ, อิทานิ ปโยคาสยสมฺปนฺนตาย ตตฺถ สุขํ วิหรามี’’ติ สุขวิหารภาวฺเจว ‘‘ปุพฺเพ ชาติมตฺเตน พฺราหฺมโณ, อิทานิ สตฺถุ โอรสปุตฺตตาย พฺราหฺมโณ’’ติ ปรมตฺถพฺราหฺมณภาวฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺเ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุขํ สยามีติ สยนฺโตปิ สุขํ สุเขน นิทุกฺเขน จิตฺตุตฺราสาทีนํ อภาเวน เจโตทุกฺขรหิโต สยามิ. ายามีติ ามิ. อหตฺถปาโส มารสฺสาติ กิเลสมาราทีนํ อโคจโร. อโห สตฺถานุกมฺปิโตติ สตฺถารานุกมฺปิโต อโห.

พฺรหฺมชจฺโจติ พฺราหฺมณชาติโก. อุทิจฺโจ อุภโตติ มาติโต จ ปิติโต จ อุภโต อุทิโต สํสุทฺธคหณิโก. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยเมว.

องฺคุลิมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อนุรุทฺธตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปหาย มาตาปิตโรติอาทิกา อายสฺมโต อนุรุทฺธตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปนฺโน กุฏุมฺพิโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส เอกทิวสํ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา สตสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส ภควโต สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตเม ทิวเส ภควโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อุตฺตมานิ วตฺถานิ ทตฺวา ปณิธานมกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. โสปิ ตตฺถ ปุฺานิ กโรนฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต นิฏฺิเต สตฺตโยชนิเก สุวณฺณเจติเย อเนกสหสฺเสหิ ทีปรุกฺเขหิ ทีปกปลฺลิกาหิ จ ‘‘ทิพฺพจกฺขุาณสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตู’’ติ อุฬารํ ทีปปูชํ อกาสิ.

เอวํ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล พาราณสิยํ กุฏุมฺพิกเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต นิฏฺิเต โยชนิเก กนกถูเป พหู กํสปาติโย กาเรตฺวา สปฺปิมณฺฑสฺส ปูเรตฺวา มชฺเฌ เอเกกํ คุฬปิณฺฑํ เปตฺวา มุขวฏฺฏิยา มุขวฏฺฏึ ผุสาเปนฺโต เจติยํ ปริกฺขิปาเปตฺวา อตฺตนา เอกํ มหตึ กํสปาตึ กาเรตฺวา สปฺปิมณฺฑสฺส ปูเรตฺวา สหสฺสวฏฺฏิโย ชาลาเปตฺวา สีเส เปตฺวา สพฺพรตฺตึ เจติยํ อนุปริยายิ.

เอวํ ตสฺมิมฺปิ อตฺตภาเว ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาราณสิยํเยว ทุคฺคตกุเล นิพฺพตฺติ, อนฺนภาโรติสฺส นามํ อโหสิ. โส สุมนเสฏฺิสฺส นาม เคเห กมฺมํ กโรนฺโต ชีวติ. โส เอกทิวสํ อุปริฏฺํ นาม ปจฺเจกพุทฺธํ นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺาย คนฺธมาทนปพฺพตโต อากาเสนาคนฺตฺวา พาราณสีนครทฺวาเร โอตริตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา นคเร ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปตฺตํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ปิตํ เอกํ ภาคภตฺตํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทาตุกาโม อารภิ. ภริยาปิสฺส อตฺตโน ภาคภตฺตํ ตตฺเถว ปกฺขิปิ. โส ตํ เนตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ เปสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ ตํ คเหตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. ตํ ทิสฺวา รตฺตึ สุมนเสฏฺิสฺส ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ, อุปริฏฺเ, สุปฺปติฏฺิต’’นฺติ มหาสทฺเทน อนุโมทิ. ตํ สุตฺวา สุมนเสฏฺิ ‘‘เอวํ เทวตาย อนุโมทิตํ อิทเมว อุตฺตมทาน’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ ปตฺตึ ยาจิ. อนฺนภาโร ปน ตสฺส ปตฺตึ อทาสิ. เตน ปสนฺนจิตฺโต สุมนเสฏฺิ ตสฺส สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ตุยฺหํ สหตฺเถน กมฺมกรณกิจฺจํ นตฺถิ, ปติรูปํ เคหํ กตฺวา นิจฺจํ วสาหี’’ติ อาห.

ยสฺมา นิโรธโต วุฏฺิตสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทินฺนปิณฺฑปาโต ตํทิวสเมว อุฬารตรวิปาโก โหติ, ตสฺมา ตํทิวสํ สุมนเสฏฺิ รฺโ สนฺติกํ คจฺฉนฺโต ตํ คเหตฺวา อคมาสิ. ราชา ปน ตํ อาทรวเสน โอโลเกสิ. เสฏฺิ ‘‘มหาราช, อยํ โอโลเกตพฺพยุตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ตทา เตน กตปุฺํ อตฺตนาปิสฺส สหสฺสํ ทินฺนภาวํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ตุสฺสิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน เคหํ กตฺวา วสา’’ติ เคหฏฺานมสฺส อาณาเปสิ. ตสฺส ตํ านํ โสธาเปนฺตสฺส มหนฺติโย นิธิกุมฺภิโย อุฏฺหึสุ. ตา ทิสฺวา โส รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สพฺพํ ธนํ อุทฺธราเปตฺวา ราสิกตํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตกํ ธนํ อิมสฺมึ นคเร กสฺส เคเห อตฺถี’’ติ? ‘‘น กสฺสจิ, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ อยํ อนฺนภาโร อิมสฺมึ นคเร มหาธนเสฏฺิ นาม โหตู’’ติ ตํทิวสเมว ตสฺส เสฏฺิฉตฺตํ อุสฺสาเปสิ.

โส ตโต ปฏฺาย ยาวชีวํ กุสลกมฺมํ กตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุนคเร สุกฺโกทนสกฺกสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, อนุรุทฺโธติสฺส นามํ อโหสิ. โส มหานามสฺส สกฺกสฺส กนิฏฺภาตา, สตฺถุ จูฬปิตุ ปุตฺโต ปรมสุขุมาโล มหาปุฺโ ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเกสุ ตีสุ ปาสาเทสุ อลงฺกตนาฏกิตฺถีหิ ปริวุโต เทโว วิย สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต สุทฺโธทนมหาราเชน อุสฺสาหิเตหิ สกฺยราชูหิ สตฺถุ ปริวารตฺถํ เปสิเตหิ ภทฺทิยกุมาราทีหิ อนุปิยมฺพวเน วิหรนฺตํ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อนฺโตวสฺเสเยว ทิพฺพจกฺขุํ นิพฺพตฺเตตฺวา, ปุน ธมฺมเสนาปติสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา เจติยรฏฺเ ปาจีนวํสทายํ คนฺตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโต สตฺตมหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกตฺวา อฏฺมํ ชานิตุํ นาสกฺขิ. ตสฺส ตํ ปวตฺตึ ตฺวา สตฺถา อฏฺมํ มหาปุริสวิตกฺกํ กเถตฺวา จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามปฏิมณฺฑิตํ มหาอริยวํสปฏิปทํ เทเสติ. โส เทสนานุสาเรน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อภิฺาปฏิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๔๒๑-๔๓๓) –

‘‘สุเมธํ ภควนฺตาหํ, โลกเชฏฺํ นราสภํ;

วูปกฏฺํ วิหรนฺตํ, อทฺทสํ โลกนายกํ.

‘‘อุปคนฺตฺวาน สมฺพุทฺธํ, สุเมธํ โลกนายกํ;

อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, พุทฺธเสฏฺมยาจหํ.

‘‘อนุกมฺป มหาวีร, โลกเชฏฺ นราสภ;

ปทีปํ เต ปทสฺสามิ, รุกฺขมูลมฺหิ ฌายโต.

‘‘อธิวาเสสิ โส ธีโร, สยมฺภู วทตํ วโร;

ทุเมสุ วินิวิชฺฌิตฺวา, ยนฺตํ โยชิยหํ ตทา.

‘‘สหสฺสวฏฺฏึ ปาทาสึ, พุทฺธสฺส โลกพนฺธุโน;

สตฺตาหํ ปชฺชลิตฺวาน, ทีปา วูปสมึสุ เม.

‘‘เตน จิตฺตปฺปสาเทน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, วิมานมุปปชฺชหํ.

‘‘อุปปนฺนสฺส เทวตฺตํ, พฺยมฺหํ อาสิ สุนิมฺมิตํ;

สมนฺตโต ปชฺชลติ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘สมนฺตา โยชนสตํ, วิโรเจสิมหํ ตทา;

สพฺเพ เทเว อภิโภมิ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘ตึสกปฺปานิ เทวินฺโท, เทวรชฺชมการยึ;

น มํ เกจีติมฺนฺติ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘อฏฺวีสติกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ;

ทิวา รตฺติฺจ ปสฺสามิ, สมนฺตา โยชนํ ตทา.

‘‘สหสฺสโลกํ าเณน, ปสฺสามิ สตฺถุ สาสเน;

ทิพฺพจกฺขุมนุปฺปตฺโต, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘สุเมโธ นาม สมฺพุทฺโธ, ตึสกปฺปสหสฺสิโต;

ตสฺส ทีโป มยา ทินฺโน, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ นํ สตฺถา อปรภาเค เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ อนุรุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๐, ๑๙๒).

โส วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวที วิหรนฺโต เอกทิวสํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต อุทานวเสน ‘‘ปหาย มาตาปิตโร’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. เกจิ ปน ‘‘เถรสฺส ปพฺพชฺชํ อรหตฺตปฺปตฺติฺจ ปกาเสนฺเตหิ สงฺคีติกาเรหิ อาทิโต จตสฺโส คาถา ภาสิตา. ตโต ปรา เถรสฺส อริยวํสปฏิปตฺติยา อาราธิตจิตฺเตน ภควตา ภาสิตา. อิตรา สพฺพาปิ เตน เตน การเณน เถเรเนว ภาสิตา’’ติ วทนฺติ. อิติ สพฺพถาปิ อิมา คาถา เถเรน ภาสิตาปิ, เถรํ อุทฺทิสฺส ภาสิตาปิ เถรสฺส เจตา คาถาติ เวทิตพฺพา. เสยฺยถิทํ –

๘๙๒.

‘‘ปหาย มาตาปิตโร, ภคินี าติภาตโร;

ปฺจ กามคุเณ หิตฺวา, อนุรุทฺโธว ฌายติ.

๘๙๓.

‘‘สเมโต นจฺจคีเตหิ, สมฺมตาฬปฺปโพธโน;

น เตน สุทฺธิมชฺฌคํ, มารสฺส วิสเย รโต.

๘๙๔.

‘‘เอตฺจ สมติกฺกมฺม, รโต พุทฺธสฺส สาสเน;

สพฺโพฆํ สมติกฺกมฺม, อนุรุทฺโธว ฌายติ.

๘๙๕.

‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;

เอเต จ สมติกฺกมฺม, อนุรุทฺโธว ฌายติ.

๘๙๖.

‘‘ปิณฺฑปาตมติกฺกนฺโต, เอโก อทุติโย มุนิ;

เอสติ ปํสุกูลานิ อนุรุทฺโธ อนาสโว.

๘๙๗.

‘‘วิจินี อคฺคหี โธวิ, รชยี ธารยี มุนิ;

ปํสุกูลานิ มติมา, อนุรุทฺโธ อนาสโว.

๘๙๘.

‘‘มหิจฺโฉ จ อสนฺตุฏฺโ, สํสฏฺโ โย จ อุทฺธโต;

ตสฺส ธมฺมา อิเม โหนฺติ, ปาปกา สํกิเลสิกา.

๘๙๙.

‘‘สโต จ โหติ อปฺปิจฺโฉ, สนฺตุฏฺโ อวิฆาตวา;

ปวิเวกรโต วิตฺโต, นิจฺจมารทฺธวีริโย.

๙๐๐.

‘‘ตสฺส ธมฺมา อิเม โหนฺติ, กุสลา โพธิปกฺขิกา;

อนาสโว จ โส โหติ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.

๙๐๑.

‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

มโนมเยน กาเยน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมิ.

๙๐๒.

‘‘ยทา เม อหุ สงฺกปฺโป, ตโต อุตฺตริ เทสยิ;

นิปฺปปฺจรโต พุทฺโธ, นิปฺปปฺจมเทสยิ.

๙๐๓.

‘‘ตสฺสาหํ ธมฺมมฺาย, วิหาสึ สาสเน รโต;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๙๐๔.

‘‘ปฺจปฺาสวสฺสานิ, ยโต เนสชฺชิโก อหํ;

ปฺจวีสติวสฺสานิ, ยโต มิทฺธํ สมูหตํ.

๙๐๕.

‘‘นาหุ อสฺสาสปสฺสาสา, ิตจิตฺตสฺส ตาทิโน;

อเนโช สนฺติมารพฺภ, จกฺขุมา ปรินิพฺพุโต.

๙๐๖.

‘‘อสลฺลีเนน จิตฺเตน, เวทนํ อชฺฌวาสยิ;

ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข เจตโส อหุ.

๙๐๗.

‘‘เอเต ปจฺฉิมกา ทานิ, มุนิโน ผสฺสปฺจมา;

นาฺเ ธมฺมา ภวิสฺสนฺติ, สมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต.

๙๐๘.

‘‘นตฺถิ ทานิ ปุนาวาโส, เทวกายสฺมิ ชาลินิ;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

๙๐๙.

‘‘ยสฺส มุหุตฺเตน สหสฺสธา, โลโก สํวิทิโต สพฺรหฺมกปฺโป;

วสี อิทฺธิคุเณ จุตูปปาเต, กาเล ปสฺสติ เทวตา ส ภิกฺขุ.

๙๑๐.

‘‘อนฺนภาโร ปุเร อาสึ, ทลิทฺโท ฆาสหารโก;

สมณํ ปฏิปาเทสึ, อุปริฏฺํ ยสสฺสินํ.

๙๑๑.

‘‘โสมฺหิ สกฺยกุเล ชาโต, อนุรุทฺโธติ มํ วิทู;

อุเปโต นจฺจคีเตหิ, สมฺมตาฬปฺปโพธโน.

๙๑๒.

‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, สตฺถารํ อกุโตภยํ;

ตสฺมึ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

๙๑๓.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, อฏฺาสึ สกฺกชาติยา.

๙๑๔.

‘‘สตฺตกฺขตฺตุํ มนุสฺสินฺโท, อหํ รชฺชมการยึ;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ชมฺพุสณฺฑสฺส อิสฺสโร;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, ธมฺเมน อนุสาสยึ.

๙๑๕.

‘‘อิโต สตฺต ตโต สตฺต, สํสารานิ จตุทฺทส;

นิวาสมภิชานิสฺสํ, เทวโลเก ิโต ตทา.

๙๑๖.

‘‘ปฺจงฺคิเก สมาธิมฺหิ, สนฺเต เอโกทิภาวิเต;

ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺธมฺหิ, ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌิ เม.

๙๑๗.

‘‘จุตูปปาตํ ชานามิ, สตฺตานํ อาคตึ คตึ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, ฌาเน ปฺจงฺคิเก ิโต.

๙๑๘.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา…เป… ภวเนตฺติ สมูหตา.

๙๑๙.

‘‘วชฺชีนํ เวฬุวคาเม, อหํ ชีวิตสงฺขยา;

เหฏฺโต เวฬุคุมฺพสฺมึ, นิพฺพายิสฺสํ อนาสโว’’ติ.

ตตฺถ ปหายาติ ปชหิตฺวา. มาตาปิตโรติ มาตรฺจ ปิตรฺจ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยถา อฺเ เกจิ าติปาริชุฺเน วา โภคปาริชุฺเน วา อภิภูตา ปพฺพชนฺติ, ปพฺพชิตา จ กิจฺจนฺตรปสุตา วิหรนฺติ, น เอวํ มยํ. มยํ ปน มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ, มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย กาเมสุ นิรเปกฺขา ปพฺพชิตาติ. ฌายตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานฺจาติ, ทุวิธมฺปิ ฌานํ อนุยุตฺโต วิหรติ.

สเมโต นจฺจคีเตหีติ นจฺเจหิ จ คีเตหิ จ สมงฺคีภูโต, นจฺจานิ ปสฺสนฺโต คีตานิ สุณนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สมฺมโต’’ติ จ ปนฺติ, นจฺจคีเตหิ ปูชิโตติ อตฺโถ. สมฺมตาฬปฺปโพธโนติ สมฺมตาฬสทฺเทหิ ปจฺจูสกาเล ปโพเธตพฺโพ. น เตน สุทฺธิมชฺฌคนฺติ เตน กามโภเคน สํสารสุทฺธึ นาธิคจฺฉึ. มารสฺส วิสเย รโตติ กิเลสมารสฺส วิสยภูเต กามคุเณ รโต. ‘‘กิเลสมารสฺส วิสยภูเตน กามคุณโภเคน สํสารสุทฺธิ โหตี’’ติ เอวํทิฏฺิโก อหุตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอตฺจ สมติกฺกมฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอตนฺติ เอตํ ปฺจวิธมฺปิ กามคุณํ. สมติกฺกมฺมาติ สมติกฺกมิตฺวา, อนเปกฺโข ฉฑฺเฑตฺวาติ อตฺโถ. สพฺโพฆนฺติ กาโมฆาทิกํ สพฺพมฺปิ โอฆํ.

ปฺจ กามคุเณ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘รูปา สทฺทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มโนรมาติ โลภนียฏฺเน มนํ รมยนฺตีติ มโนรมา, มนาปิยาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กตเม ปฺจ มนาปิยา รูปา, มนาปิยา สทฺทา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๓๒๘ อตฺถโต สมานํ).

ปิณฺฑปาตมติกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตคฺคหณํ อติกฺกนฺโต, ปิณฺฑปาตคฺคหณโต นิวตฺเตนฺโตติ อตฺโถ. เอโกติ เอกากี อปจฺฉาสมโณ. อทุติโยติ นิตฺตณฺโห. ตณฺหา หิ ปุริสสฺส ทุติโย นาม. ยถาห ‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; มหานิ. ๑๙๑). เอสตีติ ปริเยสติ.

วิจินีติ เอสนฺโตว ตตฺถ ตตฺถ สงฺการกูฏาทิเก ปํสุกูลุปฺปตฺติฏฺาเน วิจินิ. อคฺคหีติ วิจินิตฺวา อสุจิมกฺขิตมฺปิ อชิคุจฺฉนฺโต คณฺหิ. โธวีติ, วิกฺขาเลสิ. รชยีติ โธวิตฺวา คหิตํ สิพฺพิตฺวา กปฺปิยรชเนน รชยิ. ธารยีติ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ธาเรสิ, นิวาเสสิ เจว ปารุปิ จ.

อิทานิ ปาจีนวํสทาเย สตฺถารา ทินฺนโอวาทํ ตสฺส จ อตฺตนา มตฺถกปฺปตฺตภาวํ ทีเปนฺโต ‘‘มหิจฺโฉ จ อสนฺตุฏฺโ’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ มหิจฺโฉติ มหติยา ปจฺจยิจฺฉาย สมนฺนาคโต, อุฬารุฬาเร พหู จ ปจฺจเย อิจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. อสนฺตุฏฺโติ นิสฺสนฺตุฏฺโ, ยถาลาภสนฺโตสาทินา สนฺโตเสน วิรหิโต. สํสฏฺโติ คิหีหิ เจว ปพฺพชิเตหิ จ อนนุโลมิเกน สํสคฺเคน สํสฏฺโ. อุทฺธโตติ อุกฺขิตฺโต. ตสฺสาติ ‘‘มหิจฺโฉ’’ติอาทินา วุตฺตปุคฺคลสฺส. ธมฺมาติ มหิจฺฉตา อสนฺโตโส, สํสฏฺตา วิกฺเขโปติ อีทิสา. ลามกฏฺเน ปาปกา. สํกิเลสิกาติ ตสฺส จิตฺตสฺส มลีนภาวกรณโต สํกิเลสิกา ธมฺมา โหนฺติ.

สโต จ โหติ อปฺปิจฺโฉติ ยทา ปนายํ ปุคฺคโล กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺโต ภชนฺโต ปยิรุปาสนฺโต สทฺธมฺมํ สุณนฺโต โยนิโส มนสิ กโรนฺโต สติมา จ มหิจฺฉตํ ปหาย อปฺปิจฺโฉ จ โหติ. อสนฺโตสํ ปหาย สนฺตุฏฺโ, จิตฺตสฺส วิฆาตกรํ วิกฺเขปํ ปหาย อวิฆาตวา อวิกฺขิตฺโต สมาหิโต, คณสงฺคณิกํ ปหาย ปวิเวกรโต, วิเวกาภิรติยา นิพฺพิทาย ธมฺมปีติยา วิตฺโต สุมโน ตุฏฺจิตฺโต, สพฺพโส โกสชฺชปหาเนน อารทฺธวีริโย.

ตสฺส เอวํ อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมนฺนาคตสฺส อิเม สติปฏฺานาทโย สตฺตตึสปฺปเภทา ติวิธวิปสฺสนาสงฺคหา โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลา, มคฺคปริยาปนฺนา โพธิปกฺขิกา ธมฺมา โหนฺติ. โส เตหิ สมนฺนาคโต สพฺพโส อาสวานํ เขปเนน อคฺคมคฺคกฺขณโต ปฏฺาย อนาสโว จ โหติ. อิติ เอวํ วุตฺตํ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปาจีนวํสทาเย มหาปุริสวิตกฺเก มตฺถกํ ปาปนวเสนาติ อธิปฺปาโย.

มม สงฺกปฺปมฺายาติ ‘‘อปิจฺฉสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺสา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๓๐) มหาปุริสวิตกฺกวเสน อารทฺธํ, เต จ มตฺถกํ ปาเปตุํ อสมตฺถภาเวน ิตํ มม สงฺกปฺปํ ชานิตฺวา. มโนมเยนาติ มโนมเยน วิย, มนสา นิมฺมิตสทิเสน ปริณามิเตนาติ อตฺโถ. อิทฺธิยาติ ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ เอวํ ปวตฺตอธิฏฺานิทฺธิยา.

ยทา เม อหุ สงฺกปฺโปติ ยสฺมึ กาเล มยฺหํ ‘‘กีทิโส นุ โข อฏฺโม มหาปุริสวิตกฺโก’’ติ ปริวิตกฺโก อโหสิ. ตโต มม สงฺกปฺปมฺาย อิทฺธิยา อุปสงฺกมีติ โยชนา. อุตฺตริ เทสยีติ ‘‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’’ติ (อ. นิ. ๘.๓๐) อิมมฏฺมํ มหาปุริสวิตกฺกํ ปูเรนฺโต อุปริ เทสยิ. ตํ ปน เทสิตํ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห ‘‘นิปฺปปฺจรโต พุทฺโธ, นิปฺปปฺจมเทสยี’’ติ. ปปฺจา นาม ราคาทโย กิเลสา, เตสํ วูปสมตาย, ตทภาวโต จ โลกุตฺตรธมฺมา นิปฺปปฺจา นาม. ตสฺมึ นิปฺปปฺเจ รโต อภิรโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ ยถา ตํ ปาปุณามิ, ตถา ตาทิสํ ธมฺมํ อเทสยิ, สามุกฺกํสิกํ จตุสจฺจธมฺมเทสนํ ปกาสยีติ อตฺโถ.

ตสฺสาหํ ธมฺมมฺายาติ ตสฺสา สตฺถุ เทสนาย ธมฺมํ ชานิตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนฺโต วิหาสึ สิกฺขตฺตยสงฺคเห สาสเน รโต อภิรโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

สตฺถารา อตฺตโน สมาคมํ เตน สาธิตมตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย อารทฺธวีริยตํ, กาเย อนเปกฺขตาย เสยฺยสุขปสฺสสุขานํ ปริจฺจาคํ, อปฺปมิทฺธกาลโต ปฏฺาย อารทฺธวีริยตฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจปฺาสวสฺสานี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยโต เนสชฺชิโก อหนฺติ ยโต ปฏฺาย ‘‘โยคานุกูลตา กมฺมฏฺานปริยุฏฺิตสปฺปุริสจริยา สลฺเลขวุตฺตี’’ติ เอวมาทิคุเณ ทิสฺวา เนสชฺชิโก อโหสึ ตานิ ปฺจปฺาส วสฺสานิ. ยโต มิทฺธํ สมูหตนฺติ ยโต ปฏฺาย มยา นิทฺทา ปริจฺจตฺตา ตานิ ปฺจวีสติวสฺสานิ. ‘‘เถรสฺส ปฺจปฺาสาย วสฺเสสุ เนสชฺชิกสฺส สโต อาทิโต ปฺจวีสติวสฺสานิ นิทฺทา นาโหสิ, ตโต ปรํ สรีรกิลมเถน ปจฺฉิมยาเม นิทฺทา อโหสี’’ติ วทนฺติ.

‘‘นาหุ อสฺสาสปสฺสาสา’’ ติอาทิกา ติสฺโส คาถา สตฺถุ ปรินิพฺพานกาเล ภิกฺขูหิ ‘‘กึ ภควา ปรินิพฺพุโต’’ติ ปุฏฺโ ปรินิพฺพานภาวํ ปเวเทนฺโต อาห. ตตฺถ นาหุ อสฺสาสปสฺสาสา, ิตจิตฺตสฺส ตาทิโนติ อนุโลมปฏิโลมโต อเนกาการโวการา สพฺพา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สพฺพปจฺฉา จตุตฺถชฺฌาเน ิตจิตฺตสฺส ตาทิโน พุทฺธสฺส ภควโต อสฺสาสปสฺสาสา นาหุ นาเหสุนฺติ อตฺโถ. เอเตน ยสฺมา จตุตฺถชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส กายสงฺขารา นิรุชฺฌนฺติ. กายสงฺขาราติ จ อสฺสาสปสฺสาสา วุจฺจนฺติ, ตสฺมา จตุตฺถชฺฌานกฺขณโต ปฏฺาย อสฺสาสปสฺสาสา นาเหสุนฺติ ทสฺเสติ. ตณฺหาสงฺขาตาย เอชาย อภาวโต อเนโช, สมาธิสฺมึ ิตตฺตา วา อเนโช. สนฺติมารพฺภาติ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. ปรินิพฺพุโตติ ปรินิพฺพายิ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – นิพฺพานารมฺมณจตุตฺถชฺฌานผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตทนนฺตรเมว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโตติ.

อสลฺลีเนนาติ อลีเนน อสํกุฏิเตน สุวิกสิเตเนว จิตฺเตน. เวทนํ อชฺฌวาสยีติ สโต สมฺปชาโน หุตฺวา มารณนฺติกํ เวทนํ อธิวาเสสิ, น เวทนานุวตฺตี หุตฺวา อิโต จิโต จ สมฺปริวตฺติ. ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข เจตโส อหูติ ยถา เตลฺจ ปฏิจฺจ, วฏฺฏิฺจ ปฏิจฺจ ปชฺชลนฺโต ปชฺโชโต ปทีโป เตสํ ปริกฺขเย นิพฺพายติ. นิพฺพุโต จ กตฺถจิ คนฺตฺวา น ติฏฺติ, อฺทตฺถุ อนฺตรธายติ, อทสฺสนเมว คจฺฉติ; เอวํ กิเลสาภิสงฺขาเร นิสฺสาย ปวตฺตมาโน ขนฺธสนฺตาโน เตสํ ปริกฺขเย นิพฺพายติ, นิพฺพุโต จ กตฺถจิ คนฺตฺวา น ติฏฺติ, อฺทตฺถุ อนฺตรธายติ, อทสฺสนเมว คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพนฺติ ธีรา ยถายํ ปทีโป’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๑๕), ‘‘อจฺจี ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๘๐) จ อาทิ.

เอเตติ ปรินิพฺพานกฺขเณ สตฺถุ สนฺตาเน ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ อตฺตโน ปจฺจกฺขตาย วุตฺตํ. ปจฺฉิมกา ตโต ปรํ จิตฺตุปฺปาทาภาวโต. ทานีติ เอตรหิ. ผสฺสปฺจมาติ ผสฺสปฺจมกานํ ธมฺมานํ ปากฏภาวโต วุตฺตํ. ตถา หิ จิตฺตุปฺปาทกถายมฺปิ ผสฺสปฺจมกาว อาทิโต วุตฺตา. อฺเ ธมฺมาติ สห นิสฺสเยน อฺเ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, น ปรินิพฺพานจิตฺตเจตสิกา. นนุ เตปิ น ภวิสฺสนฺเตวาติ? สจฺจํ น ภวิสฺสนฺติ, อาสงฺกาภาวโต ปน เต สนฺธาย ‘‘น ภวิสฺสนฺตี’’ติ น วตฺตพฺพเมว. ‘‘อิตเร ปน เสกฺขปุถุชฺชนานํ วิย ภวิสฺสนฺติ นุ โข’’ติ สิยา อาสงฺกาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ‘‘นาฺเ ธมฺมา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

นตฺถิ ทานิ ปุนาวาโส, เทวกายสฺมิ ชาลินีติ, เอตฺถ ชาลินีติ เทวตํ อาลปติ, เทวเต เทวกายสฺมึ เทวสมูเห อุปปชฺชนวเสน ปุน อาวาโส อาวสนํ อิทานิ มยฺหํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตตฺถ การณมาห ‘‘วิกฺขีโณ’’ติอาทินา. สา กิร เทวตา ปุริมตฺตภาเว เถรสฺส ปาทปริจาริกา, ตสฺมา อิทานิ เถรํ ชิณฺณํ วุทฺธํ ทิสฺวา ปุริมสิเนเหน อาคนฺตฺวา ‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ปณิเธหิ, ยตฺถ เต วุสิตํ ปุเร’’ติ เทวูปปตฺตึ ยาจิ. อถ ‘‘ทานิ นตฺถี’’ติอาทินา เถโร ตสฺสา ปฏิวจนํ อทาสิ. ตํ สุตฺวา เทวตา วิหตาสา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ เถโร เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อตฺตโน อานุภาวํ สพฺรหฺมจารีนํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยสฺส มุหุตฺเตนา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส ขีณาสวภิกฺขุโน มุหุตฺตมตฺเตน เอว สหสฺสธา สหสฺสปฺปกาโร ติสหสฺสิมหาสหสฺสิปเภโท, โลโก สพฺรหฺมกปฺโป สหพฺรหฺมโลโก, สํวิทิโต สมฺมเทว วิทิโต าโต ปจฺจกฺขํ กโต, เอวํ อิทฺธิคุเณ อิทฺธิสมฺปทาย จุตูปปาเต จ วสีภาวปฺปตฺโต โส ภิกฺขุ อุปคตกาเล เทวตา ปสฺสติ, น ตสฺส เทวตานํ ทสฺสเน ปริหานีติ. เถเรน กิร ชาลินิยา เทวตาย ปฏิวจนทานวเสน ‘‘นตฺถิ ทานี’’ติ คาถาย วุตฺตาย ภิกฺขู ชาลินึ อปสฺสนฺตา ‘‘กึ นุ โข เถโร ธมฺมาลปนวเสน กิฺจิ อาลปตี’’ติ จินฺเตสุํ. เตสํ จิตฺตาจารํ ตฺวา เถโร ‘‘ยสฺส มุหุตฺเตนา’’ติ อิมํ คาถมาห.

อนฺนภาโร ปุเรติ เอวํนาโม ปุริมตฺตภาเว. ฆาสหารโกติ ฆาสมตฺตสฺส อตฺถาย ภตฺตึ กตฺวา ชีวนโก. สมณนฺติ สมิตปาปํ. ปฏิปาเทสินฺติ ปฏิมุโข หุตฺวา ปาทาสึ, ปสาเทน อภิมุโข หุตฺวา อาหารทานํ อทาสินฺติ อธิปฺปาโย. อุปริฏฺนฺติ เอวํนามกํ ปจฺเจกพุทฺธํ. ยสสฺสินนฺติ กิตฺติมนฺตํ ปตฺถฏยสํ. อิมาย คาถาย ยาว จริมตฺตภาวา อุฬารสมฺปตฺติเหตุภูตํ อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘โสมฺหิ สกฺยกุเล ชาโต’’ติอาทิ.

อิโต สตฺตาติ อิโต มนุสฺสโลกโต จวิตฺวา เทวโลเก ทิพฺเพน อาธิปจฺเจน สตฺต. ตโต สตฺตาติ ตโต เทวโลกโต จวิตฺวา มนุสฺสโลเก จกฺกวตฺติภาเวน สตฺต. สํสารานิ จตุทฺทสาติ จตุทฺทส ภวนฺตรสํสรณานิ. นิวาสมภิชานิสฺสนฺติ ปุพฺเพนิวาสํ อฺาสึ. เทวโลเก ิโต ตทาติ ตฺจ โข น อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว, อปิ จ โข ยทา อิโต อนนฺตราตีเต อตฺตภาเว เทวโลเก ิโต, ตทา อฺาสินฺติ อตฺโถ.

อิทานิ อตฺตนา ทิพฺพจกฺขุาณจุตูปปาตาณานํ อธิคตาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจงฺคิเก’’ติอาทินา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตตฺถ ปฺจงฺคิเก สมาธิมฺหีติ อภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานสมาธิมฺหิ. โส หิ ปีติผรณตา, สุขผรณตา, เจโตผรณตา, อาโลกผรณตา, ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา ปฺจงฺคิโก สมาธีติ วุจฺจติ. สนฺเตติ ปฏิปกฺขวูปสเมน องฺคสนฺตตาย จ สนฺเต. เอโกทิภาวิเตติ เอโกทิภาวคเต, สุจิณฺเณ วสีภาวปฺปตฺเตติ อตฺโถ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺธมฺหีติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ลทฺเธ. ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌิ เมติ เอวํวิเธ สมาธิมฺหิ สมฺปาทิเต มยฺหํ ทิพฺพจกฺขุาณํ วิสุชฺฌิ, เอกาทสหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺติยา วิสุทฺธํ อโหสิ.

จุตูปปาตํ ชานามีติ สตฺตานํ จุติฺจ อุปปตฺติฺจ ชานามิ, ชานนฺโต จ ‘‘อิเม สตฺตา อมุมฺหา โลกมฺหา อาคนฺตฺวา อิธูปปนฺนา, อิมมฺหา จ โลกา คนฺตฺวา อมุมฺหิ โลเก อุปปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ สตฺตานํ อาคตึ คติฺจ ชานามิ, ชานนฺโต เอว จ เนสํ อิตฺถภาวํ มนุสฺสภาวํ ตโต อฺถาภาวํ อฺถาติรจฺฉานภาวฺจ อุปปตฺติโต ปุเรตรเมว ชานามิ. ตยิทํ สพฺพมฺปิ ปฺจงฺคิเก สมาธิมฺหิ สมฺปาทิเต เอวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฌาเน ปฺจงฺคิเก ิโต’’ติ. ตตฺถ ปฺจงฺคิเก ฌาเน ิโต ปติฏฺิโต หุตฺวา เอวํ ชานามีติ อตฺโถ.

เอวํ วิชฺชาตฺตยํ ทสฺเสตฺวา ตปฺปสงฺเคน ปุพฺเพ ทสฺสิตมฺปิ ตติยวิชฺชํ สห กิจฺจนิปฺผตฺติยา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา’’ติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ วชฺชีนํ เวฬุวคาเมติ วชฺชิรฏฺสฺส เวฬุวคาเม, วชฺชิรฏฺเ ยตฺถ ปจฺฉิมวสฺสํ อุปคจฺฉิ เวฬุวคาเม. เหฏฺโต เวฬุคุมฺพสฺมินฺติ ตตฺถ อฺตรสฺส เวฬุคุมฺพสฺส เหฏฺา. นิพฺพายิสฺสนฺติ นิพฺพายิสฺสามิ, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิสฺสามีติ อตฺโถ.

อนุรุทฺธตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา

สมณสฺส อหุ จินฺตาติอาทิกา อายสฺมโต ปาราปริยตฺเถรสฺส คาถา. อิมสฺส วตฺถุ เหฏฺา อาคตเมว. ตา จ คาถา สตฺถริ ธรนฺเต อตฺตโน ปุถุชฺชนกาเล มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ นิคฺคณฺหนจินฺตาย ปกาสนวเสน ภาสิตา. อิมา ปน อปรภาเค สตฺถริ ปรินิพฺพุเต อตฺตโน จ ปรินิพฺพาเน อุปฏฺิเต ตทา อายติฺจ ภิกฺขูนํ อุทฺธมฺมปฏิปตฺติยา ปกาสนวเสน ภาสิตา. ตตฺถ –

๙๒๐.

‘‘สมณสฺส อหุ จินฺตา, ปุปฺผิตมฺหิ มหาวเน;

เอกคฺคสฺส นิสินฺนสฺส, ปวิวิตฺตสฺส ฌายิโน’’ติ. –

อยํ คาถา สงฺคีติกาเรหิ ปิตา. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนโยว. อยํ ปน สมฺพนฺโธ – สตฺถริ อคฺคสาวเกสุ เอกจฺเจสุ มหาเถเรสุ จ ปรินิพฺพุเตสุ อตีตสตฺถุเก ปาวจเน สุพฺพเจสุ สิกฺขากาเมสุ ภิกฺขูสุ ทุลฺลเภสุ, ทุพฺพเจสุ มิจฺฉาปฏิปตฺติพหุเลสุ ภิกฺขูสุ จ ชาเตสุ สุปุปฺผิเต มหนฺเต สาลวเน นิสินฺนสฺส ปวิวิตฺตสฺส เอกคฺคสฺส ฌายนสีลสฺส, สมิตปาปตาย สมณสฺส, ปาราปริยตฺเถรสฺส ปฏิปตฺตึ นิสฺสาย จินฺตา วีมํสา อโหสีติ อิตรา –

๙๒๑.

‘‘อฺถา โลกนาถมฺหิ, ติฏฺนฺเต ปุริสุตฺตเม;

อิริยํ อาสิ ภิกฺขูนํ, อฺถา ทานิ ทิสฺสติ.

๙๒๒.

‘‘สีตวาตปริตฺตาณํ, หิริโกปีนฉาทนํ;

มตฺตฏฺิยํ อภุฺชึสุ, สนฺตุฏฺา อิตรีตเร.

๙๒๓.

‘‘ปณีตํ ยทิ วา ลูขํ, อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ;

ยาปนตฺถํ อภุฺชึสุ, อคิทฺธา นาธิมุจฺฉิตา.

๙๒๔.

‘‘ชีวิตานํ ปริกฺขาเร, เภสชฺเช อถ ปจฺจเย;

น พาฬฺหํ อุสฺสุกา อาสุํ, ยถา เต อาสวกฺขเย.

๙๒๕.

‘‘อรฺเ รุกฺขมูเลสุ, กนฺทราสุ คุหาสุ จ;

วิเวกมนุพฺรูหนฺตา, วิหํสุ ตปฺปรายณา.

๙๒๖.

‘‘นีจา นิวิฏฺา สุภรา, มุทู อถทฺธมานสา;

อพฺยาเสกา อมุขรา, อตฺถจินฺตาวสานุคา.

๙๒๗.

‘‘ตโต ปาสาทิกํ อาสิ, คตํ ภุตฺตํ นิเสวิตํ;

สินิทฺธา เตลธาราว, อโหสิ อิริยาปโถ.

๙๒๘.

‘‘สพฺพาสวปริกฺขีณา, มหาฌายี มหาหิตา;

นิพฺพุตา ทานิ เต เถรา, ปริตฺตา ทานิ ตาทิสา.

๙๒๙.

‘‘กุสลานฺจ ธมฺมานํ, ปฺาย จ ปริกฺขยา;

สพฺพาการวรูเปตํ, ลุชฺชเต ชินสาสนํ.

๙๓๐.

‘‘ปาปกานฺจ ธมฺมานํ, กิเลสานฺจ โย อุตุ;

อุปฏฺิตา วิเวกาย, เย จ สทฺธมฺมเสสกา.

๙๓๑.

‘‘เต กิเลสา ปวฑฺฒนฺตา, อาวิสนฺติ พหุํ ชนํ;

กีฬนฺติ มฺเ พาเลหิ, อุมฺมตฺเตหิว รกฺขสา.

๙๓๒.

‘‘กิเลเสหาภิภูตา เต, เตน เตน วิธาวิตา;

นรา กิเลสวตฺถูสุ, สสงฺคาเมว โฆสิเต.

๙๓๓.

‘‘ปริจฺจชิตฺวา สทฺธมฺมํ, อฺมฺเหิ ภณฺฑเร;

ทิฏฺิคตานิ อนฺเวนฺตา, อิทํ เสยฺโยติ มฺเร.

๙๓๔.

‘‘ธนฺจ ปุตฺตํ ภริยฺจ, ฉฑฺฑยิตฺวาน นิคฺคตา;

กฏจฺฉุภิกฺขเหตูปิ, อกิจฺฉานิ นิเสวเร.

๙๓๕.

‘‘อุทราวเทหกํ ภุตฺวา, สยนฺตุตฺตานเสยฺยกา;

กถา วฑฺเฒนฺติ ปฏิพุทฺธา, ยา กถา สตฺถุครหิตา.

๙๓๖.

‘‘สพฺพการุกสิปฺปานิ, จิตฺตึ กตฺวาน สิกฺขเร;

อวูปสนฺตา อชฺฌตฺตํ, สามฺตฺโถติอจฺฉติ.

๙๓๗.

‘‘มตฺติกํ เตลจุณฺณฺจ, อุทกาสนโภชนํ;

คิหีนํ อุปนาเมนฺติ, อากงฺขนฺตา พหุตฺตรํ.

๙๓๘.

‘‘ทนฺตโปนํ กปิตฺถฺจ, ปุปฺผํ ขาทนิยานิ จ;

ปิณฺฑปาเต จ สมฺปนฺเน, อมฺเพ อามลกานิ จ.

๙๓๙.

‘‘เภสชฺเชสุ ยถา เวชฺชา, กิจฺจากิจฺเจ ยถา คิหี;

คณิกาว วิภูสายํ, อิสฺสเร ขตฺติยา ยถา.

๙๔๐.

‘‘เนกติกา วฺจนิกา, กูฏสกฺขี อปาฏุกา;

พหูหิ ปริกปฺเปหิ, อามิสํ ปริภุฺชเร.

๙๔๑.

‘‘เลสกปฺเป ปริยาเย, ปริกปฺเปนุธาวิตา;

ชีวิกตฺถา อุปาเยน, สงฺกฑฺฒนฺติ พหุํ ธนํ.

๙๔๒.

‘‘อุปฏฺาเปนฺติ ปริสํ, กมฺมโต โน จ ธมฺมโต;

ธมฺมํ ปเรสํ เทเสนฺติ, ลาภโต โน จ อตฺถโต.

๙๔๓.

‘‘สงฺฆลาภสฺส ภณฺฑนฺติ, สงฺฆโต ปริพาหิรา;

ปรลาโภปชีวนฺตา, อหิรีกา น ลชฺชเร.

๙๔๔.

‘‘นานุยุตฺตา ตถา เอเก, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

สมฺภาวนํเยวิจฺฉนฺติ, ลาภสกฺการมุจฺฉิตา.

๙๔๕.

‘‘เอวํ นานปฺปยาตมฺหิ, น ทานิ สุกรํ ตถา;

อผุสิตํ วา ผุสิตุํ, ผุสิตํ วานุรกฺขิตุํ.

๙๔๖.

‘‘ยถา กณฺฏกฏฺานมฺหิ, จเรยฺย อนุปาหโน;

สตึ อุปฏฺเปตฺวาน, เอวํ คาเม มุนี จเร.

๙๔๗.

‘‘สริตฺวา ปุพฺพเก โยคี, เตสํ วตฺตมนุสฺสรํ;

กิฺจาปิ ปจฺฉิโม กาโล, ผุเสยฺย อมตํ ปทํ.

๙๔๘.

‘‘อิทํ วตฺวา สาลวเน, สมโณ ภาวิตินฺทฺริโย;

พฺราหฺมโณ ปรินิพฺพายี, อิสิ ขีณปุนพฺภโว’’ติ. –

อิมา คาถา เถเรเนว ภาสิตา.

ตตฺถ อิริยํ อาสิ ภิกฺขูนนฺติ ปุริสุตฺตเม โลกนาถมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธ ติฏฺนฺเต ธรนฺเต เอตรหิ ปฏิปตฺติภาวโต. อฺถา อฺเน ปกาเรน ภิกฺขูนํ อิริยํ จริตํ อโหสิ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติภาวโต. อฺถา ทานิ ทิสฺสตีติ อิทานิ ปน ตโต อฺถา ภิกฺขูนํ อิริยํ ทิสฺสติ อยาถาวปฏิปตฺติภาวโตติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ สตฺถริ ธรนฺเต เยนากาเรน ภิกฺขูนํ ปฏิปตฺติ อโหสิ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘สีตวาตปริตฺตาณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มตฺตฏฺิยนฺติ ตํ มตฺตํ ปโยชนํ. ยาวเทว สีตวาตปริตฺตาณํ, ยาวเทว หิรีโกปีนปฏิจฺฉาทนํ กตฺวา จีวรํ ปริภุฺชึสุ. กถํ? สนฺตุฏฺา อิตรีตเร ยสฺมึ ตสฺมึ หีเน ปณีเต วา ยถาลทฺเธ ปจฺจเย สนฺโตสํ อาปนฺนา.

ปณีตนฺติ อุฬารํ สปฺปิอาทินา สํสฏฺํ, ตทภาเวน ลูขํ. อปฺปนฺติ, จตุปฺจาโลปมตฺตมฺปิ. พหุํ ยาปนตฺถํ อภุฺชึสูติ ปณีตํ พหุํ ภุฺชนฺตาปิ ยาปนมตฺตเมว อาหารํ ภุฺชึสุ. ตโต เอว อคิทฺธา เคธํ อนาปนฺนา. นาธิมุจฺฉิตา น อชฺโฌสิตา อกฺขพฺภฺชนํ วิย สากฏิกา, วณเลปนํ วิย วณิโน อภุฺชึสุ.

ชีวิตานํ ปริกฺขาเร, เภสชฺเช อถ ปจฺจเยปิ ชีวิตานํ ปวตฺติยา ปริกฺขารภูเต เภสชฺชสงฺขาเต ปจฺจเย คิลานปจฺจเย. ยถา เตติ ยถา เต ปุริมกา ภิกฺขู อาสวกฺขเย อุสฺสุกา ยุตฺตา อาสุํ, ตถา เต โรคาภิภูตาปิ คิลานปจฺจเย พาฬฺหํ อติวิย อุสฺสุกา นาเหสุนฺติ อตฺโถ.

ตปฺปรายณาติ วิเวกปรายณา วิเวกโปณา. เอวํ จตูหิ คาถาหิ จตุปจฺจยสนฺโตสํ ภาวนาภิรติฺจ ทสฺเสนฺเตน เตสํ อริยวํสปฏิปทา ทสฺสิตา.

นีจาติ ‘‘มยํ ปํสุกูลิกา ปิณฺฑปาติกา’’ติ อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนานิ อกตฺวา นีจวุตฺติโน, นิวาตวุตฺติโนติ อตฺโถ. นิวิฏฺาติ สาสเน นิวิฏฺสทฺธา. สุภราติ อปฺปิจฺฉตาทิภาเวน สุโปสา. มุทูติ วตฺตปฏิปตฺติยํ สกเล จ พฺรหฺมจริเย มุทู, สุปริกมฺมกตสุวณฺณํ วิย วินิโยคกฺขมา. มุทูติ วา อภากุฏิกา อุตฺตานมุขา ปุปฺผิตมุเขน ปฏิสนฺถารวุตฺติโน, สุติตฺถํ วิย สุขาวหาติ วุตฺตํ โหติ. อถทฺธมานสาติ อกถินจิตฺตา เตน สุพฺพจภาวมาห. อพฺยาเสกาติ สติวิปฺปวาสาภาวโต กิเลสพฺยาเสกรหิตา, อนฺตรนฺตรา ตณฺหาทิฏฺิมานาทีหิ อโวกิณฺณาติ อตฺโถ. อมุขราติ น มุขรา, น มุเขน ขรา วจีปาคพฺภิยรหิตาติ วา อตฺโถ. อตฺถจินฺตาวสานุคาติ หิตจินฺตาวสานุคาหิตจินฺตาวสิกา, อตฺตโน ปเรสฺจ หิตจินฺตเมว อนุปริวตฺตนกา.

ตโตติ ตสฺมา นีจวุตฺตาทิเหตุ. ปาสาทิกนฺติ ปสาทชนิกํ ปฏิปตฺตึ ปสฺสนฺตานํ สุณนฺตานฺจ ปสาทาวหํ. คตนฺติ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตปริวตฺตนาทิคมนํ. คตนฺติ วา กายวาจาปวตฺติ. ภุตฺตนฺติ จตุปจฺจยปริโภโค. นิเสวิตนฺติ โคจรนิเสวนํ. สินิทฺธา เตลธาราวาติ ยถา อนิวตฺติตา กุสลชนาภิสิฺจิตา สวนฺตี เตลธารา อวิจฺฉินฺนา สินิทฺธา มฏฺา ทสฺสนียา ปาสาทิกา โหติ, เอวํ เตสํ อากปฺปสมฺปนฺนานํ อิริยาปโถ อจฺฉิทฺโท สณฺโห มฏฺโ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก อโหสิ.

มหาฌายีติ มหนฺเตหิ ฌาเนหิ ฌายนสีลา, มหนฺตํ วา นิพฺพานํ ฌายนฺตีติ มหาฌายี. ตโต เอว มหาหิตา, มหนฺเตหิ หิเตหิ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. เต เถราติ เต ยถาวุตฺตปฺปการา ปฏิปตฺติปรายณา เถรา อิทานิ ปรินิพฺพุตาติ อตฺโถ. ปริตฺตา ทานิ ตาทิสาติ อิทานิ ปจฺฉิเม กาเล ตาทิสา ตถารูปา เถรา ปริตฺตา อปฺปกา กติปยา เอวาติ วุตฺตํ โหติ.

กุสลานฺจ ธมฺมานนฺติ วิวฏฺฏสฺส อุปนิสฺสยภูตานํ วิโมกฺขสมฺภารานํ อนวชฺชธมฺมานํ. ปฺาย จาติ ตถารูปาย ปฺาย จ. ปริกฺขยาติ อภาวโต อนุปฺปตฺติโต. กามฺเจตฺถ ปฺาปิ สิยา อนวชฺชธมฺมา, พหุการภาวทสฺสนตฺถํ ปนสฺสา วิสุํ คหณํ ยถา ปุฺาณสมฺภาราติ. สพฺพาการวรูเปตนฺติ อาทิกลฺยาณตาทีหิ สพฺเพหิ อาการวเรหิ ปการวิเสเสหิ อุเปตํ ยุตฺตํ ชินสฺส ภควโต สาสนํ ลุชฺชติ วินสฺสตีติ อตฺโถ.

ปาปกานฺจ ธมฺมานํ, กิเลสานฺจ โย อุตูติ กายทุจฺจริตาทีนํ ปาปธมฺมานํ โลภาทีนฺจ กิเลสานํ โย อุตุ โย กาโล, โส อยํ วตฺตตีติ วจนเสโส. อุปฏฺิตา วิเวกาย, เย จ สทฺธมฺมเสสกาติ เย ปน เอวรูเป กาเล กายจิตฺตอุปธิวิเวกตฺถาย อุปฏฺิตา อารทฺธวีริยา, เต จ เสสปฏิปตฺติสทฺธมฺมกา โหนฺติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สุวิสุทฺธสีลาจาราปิ สมานา อิทานิ เอกจฺเจ ภิกฺขู อิริยาปถสณฺาปนํ, สมถวิปสฺสนาภาวนาวิธานํ, มหาปลิโพธูปจฺเฉโท, ขุทฺทกปลิโพธูปจฺเฉโทติ เอวมาทิปุพฺพกิจฺจํ สมฺปาเทตฺวา ภาวนมนุยุฺชนฺติ. เต เสสปฏิปตฺติสทฺธมฺมกา, ปฏิปตฺตึ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกนฺตีติ.

เต กิเลสา ปวฑฺฒนฺตาติ เย ภควโต โอรสปุตฺเตหิ จ ตทา ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คมิตา กิเลสา, เต เอตรหิ ลทฺโธกาสา ภิกฺขูสุ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตา. อาวิสนฺติ พหุํ ชนนฺติ กลฺยาณมิตฺตรหิตํ อโยนิโสมนสิการพหุลํ อนฺธพาลชนํ อภิภวิตฺวา อวสํ กโรนฺตา อาวิสนฺติ สนฺตานํ อนุปวิสนฺติ. เอวํภูตา จ เต กีฬนฺติ มฺเ พาเลหิ, อุมฺมตฺเตหิว รกฺขสา, ยถา นาม เกฬิสีลา รกฺขสา ภิสกฺกรหิเต อุมฺมตฺเต อาวิสิตฺวา เต อนยพฺยสนํ อาปาเทนฺตา เตหิ กีฬนฺติ, เอวํ เต กิเลสา สมฺมาสมฺพุทฺธภิสกฺกรหิเต อนฺธพาเล ภิกฺขู อาวิสิตฺวา เตสํ ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทํ อนตฺถํ อุปฺปาเทนฺตา เตหิ สทฺธึ กีฬนฺติ มฺเ, กีฬนฺตา วิย โหนฺตีติ อตฺโถ.

เตน เตนาติ เตน เตน อารมฺมณภาเคน. วิธาวิตาติ วิรูปํ ธาวิตา อสารุปฺปวเสน ปฏิปชฺชนฺตา. กิเลสวตฺถูสูติ ปมํ อุปฺปนฺนํ กิเลสา ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกานํ การณภาวโต กิเลสาว กิเลสวตฺถูนิ, เตสุ กิเลสวตฺถูสุ สมูหิเตสุ. สสงฺคาเมว โฆสิเตติ หิรฺสุวณฺณมณิมุตฺตาทิกํ ธนํ วิปฺปกิริตฺวา ‘‘ยํ ยํ หิรฺสุวณฺณาทิ ยสฺส ยสฺส หตฺถคตํ, ตํ ตํ ตสฺส ตสฺเสว โหตู’’ติ เอวํ กามโฆสนา สสงฺคามโฆสนา นาม. ตตฺถายมตฺโถ – กิเลสวตฺถูสุ ‘‘โย โย กิเลโส ยํ ยํ สตฺตํ คณฺหาติ อภิภวติ, โส โส ตสฺส ตสฺส โหตู’’ติ กิเลสเสนาปตินา มาเรน สสงฺคาเม โฆสิเต วิย. เตหิ เตหิ กิเลเสหิ อภิภูตา เต พาลปุถุชฺชนา เตน เตน อารมฺมณภาเคน วิธาวิตา โวสิตาติ.

เต เอวํ วิธาวิตา กึ กโรนฺตีติ อาห ‘‘ปริจฺจชิตฺวา สทฺธมฺมํ, อฺมฺเหิ ภณฺฑเร’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ปฏิปตฺติสทฺธมฺมํ ฉฑฺเฑตฺวา อามิสกิฺชกฺขเหตุ อฺมฺเหิ ภณฺฑเร กลหํ กโรนฺตีติ. ทิฏฺิคตานีติ ‘‘วิฺาณมตฺตเมว อตฺถิ, นตฺเถว รูปธมฺมา’’ติ, ‘‘ยถา ปุคฺคโล นาม ปรมตฺถโต นตฺถิ, เอวํ สภาวธมฺมาปิ ปรมตฺถโต นตฺถิ, โวหารมตฺตเมวา’’ติ จ เอวมาทีนิ ทิฏฺิคตานิ มิจฺฉาคาเห อนฺเวนฺตา อนุคจฺฉนฺตา อิทํ เสยฺโย อิทเมว เสฏฺํ, อฺํ มิจฺฉาติ มฺนฺติ.

นิคฺคตาติ เคหโต นิกฺขนฺตา. กฏจฺฉุภิกฺขเหตูปีติ กฏจฺฉุมตฺตภิกฺขานิมิตฺตมฺปิ. ตํ ททนฺตสฺส คหฏฺสฺส อนนุโลมิกสํสคฺควเสน อกิจฺจานิ ปพฺพชิเตน อกตฺตพฺพานิ กมฺมานิ นิเสวเร กโรนฺติ.

อุทราวเทหกํ ภุตฺวาติ ‘‘อูนูทโร มิตาหาโร’’ติ (เถรคา. ๙๘๒; มิ. ป. ๖.๕.๑๐) วุตฺตวจนํ อจินฺเตตฺวา อุทรปูรํ ภุฺชิตฺวา. สยนฺตุตฺตานเสยฺยกาติ ‘‘ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปติ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน’’ติ (อ. นิ. ๘.๙; วิภ. ๕๑๙) วุตฺตวิธานํ อนนุสฺสริตฺวา อุตฺตานเสยฺยกา สยนฺติ. ยา กถา สตฺถุครหิตาติ ราชกถาทิติรจฺฉานกถํ สนฺธาย วทติ.

สพฺพการุกสิปฺปานีติ สพฺเพหิ เวสฺสาทีหิ การุเกหิ กตฺตพฺพานิ ภตฺตตาลวณฺฏกรณาทีนิ หตฺถสิปฺปานิ. จิตฺตึ กตฺวานาติ สกฺกจฺจํ สาทรํ กตฺวา. อวูปสนฺตา อชฺฌตฺตนฺติ กิเลสวูปสมาภาวโต คทฺทุหนมตฺตมฺปิ สมาธานาภาวโต จ อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตา, อวูปสนฺตจิตฺตาติ อตฺโถ. สามฺตฺโถติ สมณธมฺโม. อติอจฺฉตีติ เตสํ อาชีวกิจฺจปสุตตาย เอกเทสมฺปิ อผุสนโต วิสุํเยว นิสีทติ, อนลฺลียตีติ วุตฺตํ โหติ.

มตฺติกนฺติ ปากติกํ วา ปฺจวณฺณํ วา คิหีนํ วินิโยคกฺขมํ มตฺติกํ. เตลจุณฺณฺจาติ ปากติกํ, อภิสงฺขตํ วา เตลฺจ จุณฺณฺจ. อุทกาสนโภชนนฺติ อุทกฺจ อาสนฺจ โภชนฺจ. อากงฺขนฺตา พหุตฺตรนฺติ พหุํ ปิณฺฑปาตาทิอุตฺตรุตฺตรํ อากงฺขนฺตา ‘‘อมฺเหหิ มตฺติกาทีสุ ทินฺเนสุ มนุสฺสา ทฬฺหภตฺติกา หุตฺวา พหุํ อุตฺตรุตฺตรํ จตุปจฺจยชาตํ ทสฺสนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน คิหีนํ อุปนาเมนฺตีติ อตฺโถ.

ทนฺเต ปุนนฺติ โสเธนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ, ทนฺตกฏฺํ. กปิตฺถนฺติ กปิตฺถผลํ. ปุปฺผนฺติ สุมนจมฺปกาทิปุปฺผํ. ขาทนียานีติ อฏฺารสวิเธปิ ขชฺชกวิเสเส. ปิณฺฑปาเต จ สมฺปนฺเนติ วณฺณาทิสมฺปยุตฺเต โอทนวิเสเส. ‘‘อมฺเพ อามลกานิ จา’’ติ -สทฺเทน มาตุลุงฺคตาลนาฬิเกราทิผลานิ อวุตฺตานิ สงฺคณฺหาติ. สพฺพตฺถ คิหีนํ อุปนาเมนฺติ อากงฺขนฺตา พหุตฺตรนฺติ โยชนา.

เภสชฺเชสุ ยถา เวชฺชาติ คิหีนํ เภสชฺชปฺปโยเคสุ ยถา เวชฺชา, ตถา ภิกฺขู ปฏิปชฺชนฺตีติ อธิปฺปาโย. กิจฺจากิจฺเจ ยถา คิหีติ คหฏฺานํ ขุทฺทเก เจว มหนฺเต จ กิจฺเจ กตฺตพฺเพ คิหี วิย. คณิกาว วิภูสายนฺติ อตฺตโน สรีรสฺส วิภูสเน รูปูปชีวินิโย วิย. อิสฺสเร ขตฺติยา ยถาติ อิสฺสเร อิสฺสริยปวตฺตเน ยถา ขตฺติยา, เอวํ กุลปตี หุตฺวา วตฺตนฺตีติ อตฺโถ.

เนกติกาติ นิกติยํ นิยุตฺตา, อมณึเยว มณึ, อสุวณฺณํเยว สุวณฺณํ กตฺวา ปฏิรูปสาจิโยคนิรตา. วฺจนิกาติ กูฏมานาทีหิ วิปฺปลมฺพกา. กูฏสกฺขีติ อยาถาวสกฺขิโน. อปาฏุกาติ วามกา, อสํยตวุตฺตีติ อตฺโถ. พหูหิ ปริกปฺเปหีติ ยถาวุตฺเตหิ อฺเหิ จ พหูหิ มิจฺฉาชีวปฺปกาเรหิ.

เลสกปฺเปติ กปฺปิยเลเส กปฺปิยปฏิรูเป. ปริยาเยติ, ปจฺจเยสุ ปริยายสฺส โยเค. ปริกปฺเปติ วฑฺฒิอาทิวิกปฺปเน, สพฺพตฺถ วิสเย ภุมฺมํ. อนุธาวิตาติ มหิจฺฉตาทีหิ ปาปธมฺเมหิ อนุธาวิตา โวสิตา. ชีวิกตฺถา ชีวิกปฺปโยชนา อาชีวเหตุกา. อุปาเยนาติ ปริกถาทินา อุปาเยน ปจฺจยุปฺปาทนนเยน. สงฺกฑฺฒนฺตีติ สํหรนฺติ.

อุปฏฺาเปนฺติ ปริสนฺติ ปริสาย อตฺตานํ อุปฏฺเปนฺติ, ยถา ปริสา อตฺตานํ อุปฏฺเปนฺติ, เอวํ ปริสํ สงฺคณฺหนฺตีติ อตฺโถ. กมฺมโตติ กมฺมเหตุ. เต หิ อตฺตโน กตฺตพฺพเวยฺยาวจฺจนิมิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ. โน จ ธมฺมโตติ ธมฺมนิมิตฺตํ โน จ อุปฏฺเปนฺติ. โย สตฺถารา อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิตาย ปริสาย สงฺคโห อนุฺาโต, เตน น สงฺคณฺหนฺตีติ อตฺโถ. ลาภโตติ ลาภเหตุ, ‘‘อยฺโย พหุสฺสุโต, ภาณโก, ‘ธมฺมกถิโก’ติ เอวํ สมฺภาเวนฺโต มหาชโน มยฺหํ ลาภสกฺกาเร อุปนยิสฺสตี’’ติ อิจฺฉาจาเร ตฺวา ลาภนิมิตฺตํ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. โน จ อตฺถโตติ โย โส วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา สทฺธมฺมํ กเถนฺเตน ปตฺตพฺโพ อตฺโถ, น ตํทิฏฺธมฺมิกาทิเภทหิตนิมิตฺตํ ธมฺมํ เทเสนฺตีติ อตฺโถ.

สงฺฆลาภสฺส ภณฺฑนฺตีติ สงฺฆลาภเหตุ ภณฺฑนฺติ ‘‘มยฺหํ ปาปุณาติ, น ตุยฺห’’นฺติอาทินา กลหํ กโรนฺติ. สงฺฆโต ปริพาหิราติ, อริยสงฺฆโต พหิภูตา อริยสงฺเฆ ตทภาวโต. ปรลาโภปชีวนฺตาติ สาสเน ลาภสฺส อนฺธพาลปุถุชฺชเนหิ ปเร สีลาทิคุณสมฺปนฺเน เสกฺเข อุทฺทิสฺส อุปฺปนฺนตฺตา ตํ ปรลาภํ, ปรโต วา ทายกโต ลทฺธพฺพลาภํ อุปชีวนฺตา ภณฺฑนการกา ภิกฺขู ปาปชิคุจฺฉาย อภาวโต อหิริกา สมานา จ ‘‘มยํ ปรลาภํ ภุฺชาม, ปรปฏิพทฺธชีวิกา’’ติปิ น ลชฺชเร น หิรียนฺติ.

นานุยุตฺตาติ สมณกรเณหิ ธมฺเมหิ อนนุยุตฺตา. ตถาติ ยถา ปุพฺเพ วุตฺตา พนฺธนการกาทโย, ตถา. เอเกติ เอกจฺเจ. มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตาติ เกวลํ มุณฺฑิตเกสตาย มุณฺฑา ปิโลติกขณฺเฑหิ สงฺฆฏิตฏฺเน ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ ลทฺธนาเมน จีวเรน ปารุตสรีรา. สมฺภาวนํเยวิจฺฉนฺติ, ลาภสกฺการมุจฺฉิตาติ ลาภสกฺการาสาย มุจฺฉิตา อชฺโฌสิตา หุตฺวา, ‘‘เปสโล ธุตวาโท พหุสฺสุโต’’ติ วา มธุรวจนมนุยุตฺตา ‘‘อริโย’’ติ จ เกวลํ สมฺภาวนํ พหุมานํเยว อิจฺฉนฺติ เอสนฺติ, น ตนฺนิมิตฺเต คุเณติ อตฺโถ.

เอวนฺติ ‘‘กุสลานฺจ ธมฺมานํ ปฺาย จ ปริกฺขยา’’ติ วุตฺตนเยน. นานปฺปยาตมฺหีติ นานปฺปกาเร เภทนธมฺเม ปยาเต สมกเต, นานปฺปกาเรน วา สํกิเลสธมฺเม ปยาตุํ ปวตฺติตุํ อารทฺเธ. น ทานิ สุกรํ ตถาติ อิทานิ อิมสฺมึ ทุลฺลภกลฺยาณมิตฺเต ทุลฺลภสปฺปายสทฺธมฺมสฺสวเน จ กาเล ยถา สตฺถริ ธรนฺเต อผุสิตํ อผุฏฺํ, อนธิคตํ ฌานวิปสฺสนํ ผุสิตุํ อธิคนฺตุํ, ผุสิตํ วา หานภาคิยํ ิติภาคิยเมว วา อหุตฺวา ยถา วิเสสภาคิยํ โหติ, ตถา อนุรกฺขิตุํ ปาเลตุํ สุกรํ, ตถา น สุกรํ, ตถา สมฺปาเทตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ.

อิทานิ อตฺตโน ปรินิพฺพานกาลสฺส อาสนฺนตฺตา สํขิตฺเตน โอวาเทน สพฺรหฺมจารึ โอวทนฺโต ‘‘ยถา กณฺฏกฏฺานมฺหี’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา ปุริโส เกนจิเทว ปโยชเนน กณฺฏกนิจิเต ปเทเส อนุปาหโน วิจรนฺโต ‘‘มา มํ กณฺฏโก วิชฺฌี’’ติ สตึ อุปฏฺเปตฺวาว วิจรติ, เอวํ กิเลสกณฺฏกนิจิเต โคจรคาเม ปโยชเนน จรนฺโต มุนิ สตึ อุปฏฺเปตฺวาน สติสมฺปชฺยุตฺโต อปฺปมตฺโตว จเรยฺย กมฺมฏฺานํ อวิชหนฺโตติ วุตฺตํ โหติ.

สริตฺวา ปุพฺพเก โยคี, เตสํ วตฺตมนุสฺสรนฺติ ปุริมเก โยเค ภาวนาย ยุตฺตตาย โยคี อารทฺธวิปสฺสเก สริตฺวา เตสํ วตฺตํ อาคมานุสาเรน สมฺมาปฏิปตฺติภาวนาวิธึ อนุสฺสรนฺโต ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา ยถาปฏิปชฺชนฺโต. กิฺจาปิ ปจฺฉิโม กาโลติ ยทิปายํ อตีตสตฺถุโก จริโม กาโล, ตถาปิ ยถาธมฺมเมว ปฏิปชฺชนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต ผุเสยฺย อมตํ ปทํ นิพฺพานํ อธิคจฺเฉยฺย.

อิทํ วตฺวาติ, ยถาทสฺสิตํ สํกิเลสโวทาเนสุ อิมํ ปฏิปตฺติวิธึ กเถตฺวา. อยฺจ โอสานคาถา สงฺคีติกาเรหิ เถรสฺส ปรินิพฺพานํ ปกาเสตุํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วีสตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๗. ตึสนิปาโต

๑. ผุสฺสตฺเถรคาถาวณฺณนา

ตึสนิปาเต ปาสาทิเก พหู ทิสฺวาติอาทิกา อายสฺมโต ผุสฺสตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺส มณฺฑลิกรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ผุสฺโสติ นามํ อโหสิ. โส วิฺุตํ ปตฺโต ขตฺติยกุมาเรหิ สิกฺขิตพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต. อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตฺตา กาเมสุ อลคฺคจิตฺโต อฺตรสฺส มหาเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนํ อนุยุฺชนฺโต ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปาทกํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว ฉฬภิฺโ อโหสิ. อเถกทิวสํ ปณฺฑรโคตฺโต นาม เอโก ตาปโส ตสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา นิสินฺโน สมฺพหุเล ภิกฺขู สีลาจารสมฺปนฺเน สุสํวุตินฺทฺริเย ภาวิตกาเย ภาวิตจิตฺเต ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘สาธุ วตายํ ปฏิปตฺติ โลเก จิรํ ติฏฺเยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กถํ นุ โข, ภนฺเต, อนาคตมทฺธานํ ภิกฺขูนํ ปฏิปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติ เถรํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต สงฺคีติการา –

๙๔๙.

‘‘ปาสาทิเก พหู ทิสฺวา, ภาวิตตฺเต สุสํวุเต;

อิสิ ปณฺฑรสโคตฺโต, อปุจฺฉิ ผุสฺสสวฺหย’’นฺติ. – คาถํ อาทิโต เปสุํ;

ตตฺถ ปาสาทิเกติ อตฺตโน ปฏิปตฺติยา ปสาทารเห. พหูติ สมฺพหุเล. ภาวิตตฺเตติ สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ ภาวิตจิตฺเต. สุสํวุเตติ สุฏฺุ สํวุตินฺทฺริเย. อิสีติ ตาปโส. ปณฺฑรสโคตฺโตติ ปณฺฑรสฺส นาม อิสิโน วํเส ชาตตฺตา เตน สมานโคตฺโต. ผุสฺสสวฺหยนฺติ ผุสฺสสทฺเทน อวฺหาตพฺพํ, ผุสฺสนามกนฺติ อตฺโถ.

๙๕๐.

‘‘กึ ฉนฺทา กิมธิปฺปายา, กิมากปฺปา ภวิสฺสเร;

อนาคตมฺหิ กาลมฺหิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ. –

อยํ ตสฺส อิสิโน ปุจฺฉาคาถา.

ตตฺถ กึ ฉนฺทาติ อิมสฺมึ สาสเน อนาคเต ภิกฺขู กีทิสจฺฉนฺทา กีทิสาธิมุตฺติกา, กึ หีนาธิมุตฺติกา, อุทาหุ ปณีตาธิมุตฺติกาติ อตฺโถ. กิมธิปฺปายาติ กีทิสาธิปฺปายา กีทิสชฺฌาสยา, กึ สํกิเลสชฺฌาสยา, อุทาหุ โวทานชฺฌาสยาติ อตฺโถ. อถ วา ฉนฺทา นาม กตฺตุกมฺยตา, ตสฺมา กีทิสี เตสํ กตฺตุกมฺยตาติ อตฺโถ. อธิปฺปาโย อชฺฌาสโยเยว. กิมากปฺปาติ กีทิสากปฺปา. อากปฺปาติ จ เวสคหณาทิวาริตฺตจาริตฺตวนฺโตติ อตฺโถ. ภวิสฺสเรติ ภวิสฺสนฺติ. ตํ เมติ ตํ อนาคเต ภิกฺขูนํ ฉนฺทาธิปฺปายากปฺปเภทํ ปุจฺฉิโต มยฺหํ อกฺขาหิ กเถหีติ เถรํ อชฺเฌสติ. ตสฺส เถโร ตมตฺถํ อาจิกฺขนฺโต สกฺกจฺจสวเน ตาว นิโยเชตุํ –

๙๕๑.

‘‘สุโณหิ วจนํ มยฺหํ, อิสิ ปณฺฑรสวฺหย;

สกฺกจฺจํ อุปธาเรหิ, อาจิกฺขิสฺสามฺยนาคต’’นฺติ. – คาถมาห;

ตสฺสตฺโถ – โภ ปณฺฑรนาม อิสิ, ยํ ตฺวํ มํ ปุจฺฉสิ, ตํ เต อนาคตํ อาจิกฺขิสฺสามิ, อาจิกฺขโต ปน มม วจนํ สุณาหิ อนาคตตฺถทีปนโต สํเวคาวหโต จ สกฺกจฺจํ อุปธาเรหีติ.

อถ เถโร อนาคตํสาเณน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ ภาวินึ ปวตฺตึ ยถาภูตํ ทิสฺวา ตสฺส อาจิกฺขนฺโต –

๙๕๒.

‘‘โกธนา อุปนาหี จ, มกฺขี ถมฺภี สา พหู;

อิสฺสุกี นานาวาทา จ, ภวิสฺสนฺติ อนาคเต.

๙๕๓.

‘‘อฺาตมานิโน ธมฺเม, คมฺภีเร ตีรโคจรา;

ลหุกา อครู ธมฺเม, อฺมฺมคารวา.

๙๕๔.

‘‘พหู อาทีนวา โลเก, อุปฺปชฺชิสฺสนฺตฺยนาคเต;

สุเทสิตํ อิมํ ธมฺมํ, กิเลสิสฺสนฺติ ทุมฺมตี.

๙๕๕.

‘‘คุณหีนาปิ สงฺฆมฺหิ, โวหรนฺตา วิสารทา;

พลวนฺโต ภวิสฺสนฺติ, มุขรา อสฺสุตาวิโน.

๙๕๖.

‘‘คุณวนฺโตปิ สงฺฆมฺหิ, โวหรนฺตา ยถาตฺถโต;

ทุพฺพลา เต ภวิสฺสนฺติ, หิรีมนา อนตฺถิกา.

๙๕๗.

‘‘รชตํ ชาตรูปฺจ, เขตฺตํ วตฺถุมเชฬกํ.

ทาสิทาสฺจ ทุมฺเมธา, สาทิยิสฺสนฺตฺยนาคเต.

๙๕๘.

‘‘อุชฺฌานสฺิโน พาลา, สีเลสุ อสมาหิตา;

อุนฺนฬา วิจริสฺสนฺติ, กลหาภิรตา มคา.

๙๕๙.

‘‘อุทฺธตา จ ภวิสฺสนฺติ, นีลจีวรปารุตา;

กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี, จริสฺสนฺตฺยริยา วิย.

๙๖๐.

‘‘เตลสณฺเหิ เกเสหิ, จปลา อฺชนกฺขิกา;

รถิยาย คมิสฺสนฺติ, ทนฺตวณฺณิกปารุตา.

๙๖๑.

‘‘อเชคุจฺฉํ วิมุตฺเตหิ, สุรตฺตํ อรหทฺธชํ;

ชิคุจฺฉิสฺสนฺติ กาสาวํ, โอทาเตสุ สมุจฺฉิตา.

๙๖๒.

‘‘ลาภกามา ภวิสฺสนฺติ, กุสีตา หีนวีริยา;

กิจฺฉนฺตา วนปตฺถานิ, คามนฺเตสุ วสิสฺสเร.

๙๖๓.

‘‘เย เย ลาภํ ลภิสฺสนฺติ, มิจฺฉาชีวรตา สทา;

เต เตว อนุสิกฺขนฺตา, ภชิสฺสนฺติ อสํยตา.

๙๖๔.

‘‘เย เย อลาภิโน ลาภํ, น เต ปุชฺชา ภวิสฺสเร;

สุเปสเลปิ เต ธีเร, เสวิสฺสนฺติ น เต ตทา.

๙๖๕.

‘‘มิลกฺขุรชนํ รตฺตํ, ครหนฺตา สกํ ธชํ;

ติตฺถิยานํ ธชํ เกจิ, ธาริสฺสนฺตฺยวทาตกํ.

๙๖๖.

‘‘อคารโว จ กาสาเว, ตทา เตสํ ภวิสฺสติ;

ปฏิสงฺขา จ กาสาเว, ภิกฺขูนํ น ภวิสฺสติ.

๙๖๗.

‘‘อภิภูตสฺส ทุกฺเขน, สลฺลวิทฺธสฺส รุปฺปโต;

ปฏิสงฺขา มหาโฆรา, นาคสฺสาสิ อจินฺติยา.

๙๖๘.

‘‘ฉทฺทนฺโต หิ ตทา ทิสฺวา, สุรตฺตํ อรหทฺธชํ;

ตาวเทวภณี คาถา, คโช อตฺโถปสํหิตา.

๙๖๙.

‘‘อนิกฺกสาโว กาสาวํ, โย วตฺถํ ปริธสฺสติ;

อเปโต ทมสจฺเจน, น โส กาสาวมรหติ.

๙๗๐.

‘‘โย จ วนฺตกสาวสฺส, สีเลสุ สุสมาหิโต;

อุเปโต ทมสจฺเจน, ส เว กาสาวมรหติ.

๙๗๑.

‘‘วิปนฺนสีโล ทุมฺเมโธ, ปากโฏ กามการิโย;

วิพฺภนฺตจิตฺโต นิสฺสุกฺโก, น โส กาสาวมรหติ.

๙๗๒.

‘‘โย จ สีเลน สมฺปนฺโน, วีตราโค สมาหิโต;

โอทาตมนสงฺกปฺโป, ส เว กาสาวมรหติ.

๙๗๓.

‘‘อุทฺธโต อุนฺนโฬ พาโล, สีลํ ยสฺส น วิชฺชติ;

โอทาตกํ อรหติ, กาสาวํ กึ กริสฺสติ.

๙๗๔.

‘‘ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ, ทุฏฺจิตฺตา อนาทรา;

ตาทีนํ เมตฺตจิตฺตานํ, นิคฺคณฺหิสฺสนฺตฺยนาคเต.

๙๗๕.

‘‘สิกฺขาเปนฺตาปิ เถเรหิ, พาลา จีวรธารณํ;

น สุณิสฺสนฺติ ทุมฺเมธา, ปากฏา กามการิยา.

๙๗๖.

‘‘เต ตถา สิกฺขิตา พาลา, อฺมฺํ อคารวา;

นาทิยิสฺสนฺตุปชฺฌาเย, ขฬุงฺโก วิย สารถึ.

๙๗๗.

‘‘เอวํ อนาคตทฺธานํ, ปฏิปตฺติ ภวิสฺสติ;

ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ, ปตฺเต กาลมฺหิ ปจฺฉิเม.

๙๗๘.

‘‘ปุรา อาคจฺฉเต เอตํ, อนาคตํ มหพฺภยํ;

สุพฺพจา โหถ สขิลา, อฺมฺํ สคารวา.

๙๗๙.

‘‘เมตฺตจิตฺตา การุณิกา, โหถ สีเลสุ สํวุตา;

อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมา.

๙๘๐.

‘‘ปมาทํ ภยโต ทิสฺวา, อปฺปมาทฺจ เขมโต;

ภาเวถฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ผุสนฺตา อมตํ ปท’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ โกธนาติ กุชฺฌนสีลา. ภวิสฺสนฺติ อนาคเตติ สมฺพนฺโธ. กึ เถรสฺส กาเล ตถา นาเหสุนฺติ? น นาเหสุํ. ตทา ปน กลฺยาณมิตฺตพหุลตาย โอวาทเกสุ วิฺาปเกสุ สพฺรหฺมจารีสุ พหูสุ วิชฺชมาเนสุ กิเลเสสุ พลวนฺเตสุ ปฏิสงฺขานพหุลตาย จ เยภุยฺเยน ภิกฺขู อกฺโกธนา อเหสุํ, อายตึ ตพฺพิปริยาเย อติโกธนา ภวิสฺสนฺติ, ตสฺมา ‘‘อนาคเต’’ติ วุตฺตํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อุปนาหีติ อาฆาตวตฺถูสุ อาฆาตสฺส อุปนยฺหนสีลา อุปนาหสมฺภวโต วา อุปนาหี. ตตฺถ ปุริมกาลิโก พฺยาปาโท โกโธ, อปรกาลิโก อุปนาโห. สกึ ปวตฺโต วา โทโส โกโธ, อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺโต อุปนาโห. ปเรสํ วิชฺชมาเน คุเณ มกฺขนฺติ ปุฺชนฺติ, เตสํ วา อุทกปุฺชนิยา วิย อุทกสฺส มกฺโข มกฺขนํ ปุฺชนํ เอเตสํ อตฺถีติ มกฺขี. อติมานลกฺขโณ ถมฺโภ เอเตสํ อตฺถีติ ถมฺภี. สาติ อสนฺตคุณวิภาวนลกฺขเณน สาเยฺเยน สมนฺนาคตา. อิสฺสุกีติ ปรสมฺปตฺติขิยฺยนลกฺขณาย อิสฺสาย สมนฺนาคตา. นานาวาทาติ อฺมฺํ วิรุทฺธวาทา วิรุทฺธทิฏฺิกา, กลหการกา จาติ อตฺโถ.

อฺาตมานิโน ธมฺเม, คมฺภีเร ตีรโคจราติ คมฺภีเร ทุโรภาเส สทฺธมฺเม อฺาเต เอว ‘‘าโตติ, ทิฏฺโ’’ติ เอวํ มานิโน, ตโต เอว ตสฺส โอรภาเค ปวตฺติตาย โอริมตีรโคจรา. ลหุกาติ ลหุสภาวา จปลา. อครู ธมฺเมติ สทฺธมฺเม คารวรหิตา. อฺมฺมคารวาติ อฺมฺสฺมึ อปฺปติสฺสา, สงฺเฆ สพฺรหฺมจารีสุ จ ครุคารววิรหิตา. พหู อาทีนวาติ วุตฺตปฺปการา, วกฺขมานา จ พหู อเนกโทสา อนฺตรายา. โลเกติ สตฺตโลเก. อุปฺปชฺชิสฺสนฺตฺยนาคเตติ อนาคเต ปาตุ ภวิสฺสนฺติ. สุเทสิตํ อิมํ ธมฺมนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺเธน สุฏฺุ อวิปรีตํ อาทิกลฺยาณาทิปฺปกาเรน เทสิตํ อิมํ อาคมสทฺธมฺมํ. กิเลสิสฺสนฺตีติ กิลิฏฺํ กิเลสทูสิตํ กริสฺสนฺติ, ‘‘อาปตฺตึ ‘อนาปตฺตี’ติ ครุกาปตฺตึ ‘ลหุกาปตฺตี’’’ติอาทินา ทุจฺจริตสํกิเลเสน อสทฺธมฺเมน สณฺหสุขุมํ รูปารูปธมฺมํ ปฏิกฺขิปิสฺสนฺติ, ทิฏฺิสํกิเลเสน อุภยตฺราปิ ตณฺหาสํกิเลเสน สํกิเลสิสฺสนฺติ มลินํ กริสฺสนฺติ. ทุมฺมตีติ นิปฺปฺา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘ภวิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ…เป… อภิธมฺมกถํ เวทลฺลกถํ กเถนฺตา กณฺหธมฺมํ โอกฺกมมานา น พุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๗๙).

คุณหีนาติ สีลาทิคุณวิรหิตา ทุสฺสีลา, อลชฺชิโน จ. อถ วา คุณหีนาติ วินยวาริตฺตาทิคุเณน หีนา ธมฺมวินเย อปฺปกตฺุโน. สงฺฆมฺหีติ สงฺฆมชฺเฌ. โวหรนฺตาติ กเถนฺตา, สงฺเฆ วินิจฺฉยกถาย วตฺตมานาย ยํกิฺจิ ภณนฺตา. วิสารทาติ นิพฺภยา ปคพฺภา. พลวนฺโตติ ปกฺขพเลน พลวนฺโต. มุขราติ มุขขรา ขรวาทิโน. อสฺสุตาวิโนติ น สุตวนฺโต, เกวลํ ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสเยน คุณธรา หุตฺวา ‘‘ธมฺมํ ‘อธมฺโม’ติ, อธมฺมฺจ ‘ธมฺโม’ติ, วินยํ ‘อวินโย’ติ, อวินยฺจ ‘วินโย’’’ติ เอวํ อตฺตนา ยถิจฺฉิตมตฺถํ สงฺฆมชฺเฌ ปติฏฺเปนฺตา พลวนฺโต ภวิสฺสนฺติ.

คุณวนฺโตติ สีลาทิคุณสมฺปนฺนา. โวหรนฺตา ยถาตฺถโตติ อตฺถานุรูปํ, อวิปรีตตฺถํ ‘‘ธมฺมํ ‘ธมฺโม’ติ, อธมฺมํ ‘อธมฺโม’ติ, วินยํ ‘วินโย’ติ อวินยํ ‘อวินโย’’’ติ เอวํ ทีเปนฺตา. ทุพฺพลา เต ภวิสฺสนฺตีติ ปริสายํ อลชฺชุสฺสนฺนตาย พลวิรหิตา เต ภวิสฺสนฺติ, เตสํ วจนํ น ติฏฺิสฺสติ. หิรีมนา อนตฺถิกาติ หิรีมนฺโต เกนจิ อนตฺถิกา. เต หิ ธมฺเมน วตฺตุํ สมตฺถาปิ ปาปชิคุจฺฉตาย อปฺปกิจฺจตาย จ เกหิจิ วิโรธํ อกโรนฺตา อตฺตโน วาทํ ปติฏฺาเปตุํ น วายมนฺตา ทิฏฺาวิกมฺมํ วา อธิฏฺานํ วา อกตฺวา ตุณฺหี โหนฺติ.

รชตนฺติ รูปิยํ, เตน กหาปณโลหมาสกาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ, เตน มณิมุตฺตาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ ‘‘อปทา วา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๔; ๕.๓๒; อิติวุ. ๙๐) วิย. ‘‘รชตชาตรูปฺจา’’ติ วา ปาโ. เขตฺตนฺติ ยตฺถ ปุพฺพณฺณาปรณฺณํ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถํ อกตภูมิภาโค วตฺถุ. อเชฬกนฺติ เอฬกา นาม อชาเยว, เต เปตฺวา อวเสสา ปสุชาตี อชา นาม. อเชฬกคฺคหเณเนว เหตฺถ โคมหึสาทีนมฺปิ สงฺคโห กโต. ทาสิทาสฺจาติ ทาสิโย จ ทาเส จ. ทุมฺเมธาติ อวิทฺทสุโน, กปฺปิยากปฺปิยํ สารุปฺปาสารุปฺปํ อชานนฺตา อตฺตโน อตฺถาย สาทิยิสฺสนฺติ สมฺปฏิจฺฉิสฺสนฺติ.

อุชฺฌานสฺิโนติ ปเร เหฏฺโต กตฺวา โอโลกนจิตฺตา, อนุชฺฌายิตพฺพฏฺาเนปิ วา อุชฺฌานสีลา. พาลาติ ทุจฺจินฺติตจินฺตนาทินา พาลลกฺขเณน สมนฺนาคตา, ตโต เอว สีเลสุ อสมาหิตา จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ น สมาหิตจิตฺตา. อุนฺนฬาติ, สมุสฺสิตตุจฺฉมานา. วิจริสฺสนฺตีติ มานทฺธชํ อุกฺขิปิตฺวา วิจริสฺสนฺติ. กลหาภิรตา มคาติ สารมฺภพหุลตาย กรณุตฺตริยปสุตา กลเห เอว อภิรตา มคสทิสา มิคา วิย อตฺตหิตาเปกฺขา ฆาเสสนาภิรตา ทุพฺพลวิเหสปราติ อตฺโถ.

อุทฺธตาติ อุทฺธจฺเจน สมนฺนาคตา จิตฺเตกคฺคตารหิตา. นีลจีวรปารุตาติ อกปฺปิยรชนรตฺเตน นีลวณฺเณน จีวเรน ปารุตา, ตาทิสํ จีวรํ นิวาเสตฺวา เจว ปารุปิตฺวา จ วิจรณกา. กุหาติ สามนฺตชปฺปนาทินา กุหนวตฺถุนา กุหกา, อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย โกหฺํ กตฺวา ปเรสํ วิมฺหาปยา. ถทฺธาติ โกเธน มาเนน จ ถทฺธมานสา กกฺขฬหทยา. ลปาติ ลปนกา กุหนวุตฺติกา, ปสนฺนมานเสหิ มนุสฺเสหิ ‘‘เกน, ภนฺเต, อยฺยสฺส อตฺโถ’’ติ ปจฺจยทายกานํ วทาปนกา, ปยุตฺตวาจาวเสน, นิปฺเปสิกตาวเสน จ ปจฺจยตฺถํ ลปกาติ วา อตฺโถ. สิงฺคีติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สิงฺคํ? ยํ สิงฺคํ สิงฺคารตา จาตุรตา จาตุริยํ ปริกฺขตตา ปาริกฺขติย’’นฺติ (วิภ. ๘๕๒) เอวํ วุตฺเตหิ สิงฺคสทิเสหิ ปากฏกิเลเสหิ สมนฺนาคตา, สิงฺคารจริตาติ อตฺโถ. ‘‘อริยา วิยา’’ติ อิทํ ‘‘กุหา’’ติ เอตสฺเสว อตฺถทสฺสนํ. กุหกานฺหิ อริยานมิว ิตภาวํ ทสฺเสนฺโต อริยา วิย วิจรนฺตีติ อาห.

เตลสณฺเหีติ สิตฺถกเตเลน วา อุทกเตเลน วา โอสณฺิเตหิ. จปลาติ กายมณฺฑนปริกฺขารมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺตา. อฺชนกฺขิกาติ อลงฺการฺชเนน อฺชิตเนตฺตา. รถิยาย คมิสฺสนฺตีติ ภิกฺขาจริยาย กุลูปสงฺกมนาปเทเสหิ, มหารจฺฉาย อิโต จิโต จ ปริพฺภมิสฺสนฺติ. ทนฺตวณฺณิกปารุตาติ ทนฺตวณฺณรตฺเตน จีวเรน ปารุตสรีรา.

อเชคุจฺฉนฺติ อชิคุจฺฉิตพฺพํ. วิมุตฺเตหีติ อริเยหิ. สุรตฺตนฺติ กปฺปิยรชเนน สุฏฺุ รตฺตํ, อรหนฺตานํ พุทฺธาทีนํ จิณฺณตาย อรหทฺธชํ ชิคุจฺฉิสฺสนฺติ กาสาวํ. กสฺมา? โอทาเตสุ สมุจฺฉิตา เคธํ อาปนฺนา. ทนฺตวณฺณปารุปนสฺส หิ อิทํ การณวจนํ. เต หิ เสตกํ สมฺภาเวนฺตา ‘‘สพฺเพน สพฺพํ เสตเก คหิเต ลิงฺคปริจฺจาโค เอว สิยา’’ติ ทนฺตวณฺณํ ปารุปนฺติ.

ลาภกามาติ ลาภคิทฺธา. ภิกฺขาจริยาสุปิ โกสชฺชโยคโต กุสีตา. สมณธมฺมํ กาตุํ จิตฺตสฺส อุสฺสาหาภาเวน หีนวีริยา. กิจฺฉนฺตาติ, กิลมนฺตา, วนปตฺเถสุ วสิตุํ กิจฺฉนฺตา กิลนฺตจิตฺตาติ อตฺโถ. คามนฺเตสูติ คามนฺตเสนาสเนสุ คามสมีเปสุ เสนาสเนสุ, คามทฺวาเรสุ วา เสนาสเนสุ. วสิสฺสเรติ วสิสฺสนฺติ.

เต เตว อนุสิกฺขนฺตาติ เย เย มิจฺฉาชีวปฺปโยเคน ลทฺธลาภา, เต เต เอว ปุคฺคเล อนุสิกฺขนฺตา ภมิสฺสนฺติ. ภมิสฺสนฺตีติ สยมฺปิ เต วิย มิจฺฉาชีเวน ลาภํ อุปฺปาเทตุํ ราชกุลาทีนิ เสวนฺตา ปริพฺภมิสฺสนฺติ. ‘‘ภชิสฺสนฺตี’’ติ วา ปาโ, เสวิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อสํยตาติ สีลสํยมรหิตา.

เย เย อลาภิโน ลาภนฺติ เย เย ภิกฺขู มิจฺฉาชีวปริวชฺชเนน อปฺปปุฺตาย จ ลาภสฺส ปจฺจยสฺส น ลาภิโน, เต ปุชฺชา ปูชนียา ปาสํสา ตทา อนาคเต กาเล น ภวิสฺสนฺติ. สุเปสเลปิ เต ธีเรติ ธิติสมฺปนฺนตาย ธีเร สุฏฺุ เปสเลปิ เต ภิกฺขู น เสวิสฺสนฺติ, ตทา อนาคเต เต ลาภิโน ลาภกามาว ภิกฺขูติ อตฺโถ.

มิลกฺขุรชนํ รตฺตนฺติ กาลกจฺฉกรชเนน รตฺตํ. สมาสปทฺเหตํ, คาถาสุขตฺถํ สานุนาสิกนิทฺเทโส. ครหนฺตา สกํ ธชนฺติ อตฺตโน ธชภูตํ กาสาวํ ชิคุจฺฉนฺตา. สาสเน ปพฺพชิตานฺหิ กาสาโว ธโช นาม. ติตฺถิยานํ ธชํ เกจีติ เกจิ สกฺยปุตฺติยภาวํ ปฏิชานนฺตา เอว ติตฺถิยานํ เสตวตฺถิกานํ ธชภูตํ อวทาตกํ เสตวตฺถํ ธาเรสฺสนฺติ.

อคารโว จ กาสาเวติ อรหทฺธชภูเต กาสาเว อคารโว อพหุมานํ ตทา อนาคเต เตสํ ภวิสฺสติ. ปฏิสงฺขา จ กาสาเวติ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน ปจฺจเวกฺขณมตฺตมฺปิ กาสาวปริโภเค น ภวิสฺสติ.

กาสาวํ ธาเรนฺเตน กาสาวํ พหุมาเนน ‘‘ทุจฺจริตโต โอรมิตพฺพ’’นฺติ กาสาวสฺส ครุกาตพฺพภาเว ฉทฺทนฺตชาตกมุทาหรนฺโต ‘‘อภิภูตสฺส ทุกฺเขนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สลฺลวิทฺธสฺสาติ ปุถุนา สวิเสน สลฺเลน วิทฺธสฺส, ตโต เอว มหตา ทุกฺเขน อภิภูตสฺส. รุปฺปโตติ สรีรวิการํ อาปชฺชโต. มหาโฆราติ สรีรชีวิเตสุ นิรเปกฺขตาย ภิมฺมา ครุตรา ปฏิสงฺขา อฺเหิ อจินฺติยา จินฺตามตฺเตน ปวตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยา ฉทฺทนฺตมหานาคสฺสอาสิ, อโหสิ. ฉทฺทนฺตนาคราชกาเล หิ โพธิสตฺโต โสณุตฺตเรน นาม เนสาเทน ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ตฺวา วิสปีเตน สลฺเลน วิทฺโธ มหตา ทุกฺเขน อภิภูโต ตํ คเหตฺวา ปริทหิตํ กาสาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อริยทฺธเชน ปฏิจฺฉนฺโน, น มยา หึสิตพฺโพ’’ติ ตตฺถ เมตฺตจิตฺตเมว ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อุปริธมฺมํ เทเสสิ. ยถาห –

‘‘สมปฺปิโต ปุถุสลฺเลน นาโค,

อทุฏฺจิตฺโต ลุทฺทกมชฺฌภาสิ;

กิมตฺถยํ กิสฺส วา สมฺม เหตุ,

มมํ วธี กสฺส วายํ ปโยโค’’ติอาทิ. (ชา. ๑.๑๖.๑๒๔);

อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต เถโร ‘‘ฉทฺทนฺโต หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุรตฺตํ อรหทฺธชนฺติ โสณุตฺตเรน ปริทหิตกาสาวํ สนฺธายาห. อภณีติ อภาสิ. คาถาติ คาถาโย. คโชติ ฉทฺทนฺโต นาคราชา. อตฺโถปสํหิตาติ อตฺถสนฺนิสฺสิตา หิตา, หิตยุตฺตาติ อตฺโถ.

ฉทฺทนฺตนาคราเชน วุตฺตคาถาสุ อนิกฺกสาโวติ ราคาทีหิ กสาเวหิ กสาโว, ปริทหิสฺสตีติ นิวาสนปารุปนอตฺถรณวเสน ปริภุฺชิสฺสติ. ‘‘ปริธสฺสตี’’ติ วา ปาโ. อเปโต ทมสจฺเจนาติ อินฺทฺริยทเมน เจว ปรมตฺถสจฺจปกฺขิเกน วจีสจฺเจน จ อเปโต, วิยุตฺโต ปริจฺจตฺโตติ อตฺโถ. น โสติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล กาสาวํ ปริทหิตุํ นารหติ.

วนฺตกสาวสฺสาติ จตูหิ มคฺเคหิ วนฺตกสาโว ฉฑฺฑิตกสาโว ปหีนกสาโว อสฺส ภเวยฺยาติ อตฺโถ. สีเลสูติ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ. สุสมาหิโตติ สุฏฺุ สมาหิโต. อุเปโตติ อินฺทฺริยทเมน เจว วุตฺตปฺปกาเรน สจฺเจน จ อุปคโต สมนฺนาคโต. ส เวติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล ตํ คนฺธกาสาววตฺถํ เอกนฺเตน อรหตีติ อตฺโถ.

วิปนฺนสีโลติ ภินฺนสีโล. ทุมฺเมโธติ นิปฺปฺโ สีลวิโสธนปฺาย วิรหิโต. ปากโฏติ ‘‘ทุสฺสีโล อย’’นฺติ ปากโฏ ปกาโส, วิกฺขิตฺตินฺทฺริยตาย วา ปากโฏ ปากฏินฺทฺริโยติ อตฺโถ. กามการิโยติ ภินฺนสํวรตาย ยถิจฺฉิตการโก, กามสฺส วา มารสฺส ยถากามกรณีโย. วิพฺภนฺตจิตฺโตติ รูปาทีสุ วิสเยสุ วิกฺขิตฺตจิตฺโต. นิสฺสุกฺโกติ อสุกฺโก สุกฺกธมฺมรหิโต หิโรตฺตปฺปวิวชฺชิโต, กุสลธมฺมสมฺปาทนอุสฺสุกฺกรหิโต วา.

วีตราโคติ วิคตจฺฉนฺทราโค. โอทาตมนสงฺกปฺโปติ สุวิสุทฺธมโนวิตกฺโก, อนาวิลสงฺกปฺโป วา.

กาสาวํ กึ กริสฺสตีติ ยสฺส สีลํ นตฺถิ, ตสฺส กาสาวํ กึ นาม ปโยชนํ สาเธสฺสติ, จิตฺตกตสทิสํ ตสฺส ปพฺพชิตลิงฺคนฺติ อตฺโถ.

ทุฏฺจิตฺตาติ ราคาทิโทเสหิ ทูสิตจิตฺตา. อนาทราติ สตฺถริ ธมฺเม อฺมฺฺจ อาทรรหิตา อคารวา. ตาทีนํ เมตฺตจิตฺตานนฺติ เมตฺตาภาวนาย สมฺปยุตฺตหทเย เตเนว อรหตฺตาธิคเมน อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺเต อุฬารคุเณ. อุปโยคตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. นิคฺคณฺหิสฺสนฺตีติ ‘‘สีลาทิสมฺปนฺเน ทิสฺวา เต สมฺภาเวนฺตา วิปนฺนสีเล อมฺเห น พหุํ มฺิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตนิ อคารวภเยน ยถา เต อุพฺพาฬฺหา ปกฺกมิสฺสนฺติ, ตถา พาธิสฺสนฺตีติ อตฺโถ.

สิกฺขาเปนฺตาปีติ สิกฺขาปิยมานาปิ. กมฺมตฺเถ หิ อยํ กตฺตุนิทฺเทโส. เถเรหีติ อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยหิ. จีวรธารณนฺติ อิทํ สมณปฏิปตฺติยา นิทสฺสนมตฺตํ, ตสฺมา ‘‘เอวํ เต อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต ปฏิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๔.๑๒๒) สิกฺขาปิยมานาปีติ อตฺโถ. น สุณิสฺสนฺตีติ โอวาทํ น คณฺหิสฺสนฺติ.

เต ตถา สิกฺขิตา พาลาติ เต อนฺธพาลา อาจริยุปชฺฌาเยหิ สิกฺขาปิยมานาปิ อนาทรตาย อสิกฺขิตาติ. นาทิยิสฺสนฺตุปชฺฌาเยติ อุปชฺฌาเย อาจริเย จ อาทรํ น กโรนฺติ, เตสํ อนุสาสนิยํ น ติฏฺนฺติ. ยถา กึ? ขฬุงฺโก วิย สารถึ ยถา ขฬุงฺโก ทุฏฺสฺโส อสฺสทมกํ นาทิยติ น ตสฺส อุปเทเส ติฏฺติ, เอวํ เตปิ อุปชฺฌายาจริเย น ภายนฺติ น สารชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนํ. ตตฺถ เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. อนาคตทฺธานนฺติ อนาคตมทฺธานํ, อนาคเต กาเลติ อตฺโถ. ตํเยว สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺเต กาลมฺหิ ปจฺฉิเม’’ติ อาห. ตตฺถ กตโม ปจฺฉิมกาโล? ‘‘ตติยสงฺคีติโต ปฏฺาย ปจฺฉิมกาโล’’ติ เกจิ, ตํ เอเก นานุชานนฺติ. สาสนสฺส หิ ปฺจยุคานิ วิมุตฺติยุคํ, สมาธิยุคํ, สีลยุคํ, สุตยุคํ, ทานยุคนฺติ. เตสุ ปมํ วิมุตฺติยุคํ, ตสฺมึ อนฺตรหิเต สมาธิยุคํ วตฺตติ, ตสฺมิมฺปิ อนฺตรหิเต สีลยุคํ วตฺตติ, ตสฺมิมฺปิ อนฺตรหิเต สุตยุคํ วตฺตเตว. อปริสุทฺธสีโล หิ เอกเทเสน ปริยตฺติพาหุสจฺจํ ปคฺคยฺห ติฏฺติ ลาภาทิกามตาย. ยทา ปน มาติกาปริโยสานา ปริยตฺติ สพฺพโส อนฺตรธายติ, ตโต ปฏฺาย ลิงฺคมตฺตเมว อวสิสฺสติ, ตทา ยถา ตถา ธนํ สํหริตฺวา ทานมุเขน วิสฺสชฺเชนฺติ, สา กิร เนสํ จริมา สมฺมาปฏิปตฺติ. ตตฺถ สุตยุคโต ปฏฺาย ปจฺฉิมกาโล, ‘‘สีลยุคโต ปฏฺายา’’ติ อปเร.

เอวํ เถโร ปจฺฉิเม กาเล อุปฺปชฺชนกํ มหาภยํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตตฺถ สนฺนิปติตภิกฺขูนํ โอวาทํ ททนฺโต ‘‘ปุรา อาคจฺฉเต’’ติอาทินา ติสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ ปุรา อาคจฺฉเต เอตนฺติ เอตํ มยา ตุมฺหากํ วุตฺตํ ปฏิปตฺติอนฺตรายกรํ อนาคตํ มหาภยํ อาคจฺฉติ ปุรา, ยาว อาคมิสฺสติ, ตาวเทวาติ อตฺโถ. สุพฺพจาติ วจนกฺขมา โสวจสฺสการเกหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา, ครูนํ อนุสาสนิโย ปทกฺขิณคฺคาหิโน โหถาติ อตฺโถ. สขิลาติ มุทุหทยา.

เมตฺตจิตฺตาติ สพฺพสตฺเตสุ หิตูปสํหารลกฺขณาย เมตฺตาย สมฺปยุตฺตจิตฺตา. การุณิกาติ กรุณาย นิยุตฺตา ปเรสํ ทุกฺขาปนยนาการวุตฺติยา กรุณาย สมนฺนาคตา. อารทฺธวีริยาติ อกุสลานํ ปหานาย กุสลานํ อุปสมฺปทาย ปคฺคหิตวีริยา. ปหิตตฺตาติ นิพฺพานํ ปฏิเปสิตจิตฺตา. นิจฺจนฺติ สพฺพกาลํ. ทฬฺหปรกฺกมาติ ถิรวีริยา.

ปมาทนฺติ ปมชฺชนํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อนนุฏฺานํ, อกุสเลสุ จ ธมฺเมสุ จิตฺตโวสฺสคฺโค. วุตฺตฺหิ –

‘‘ตตฺถ กตโม ปมาโท? กายทุจฺจริเต วา วจีทุจฺจริเต วา มโนทุจฺจริเต วา ปฺจสุ วา กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค โวสฺสคฺคานุปฺปทานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อสกฺกจฺจกิริยตา’’ติอาทิ (วิภ. ๙๓๐).

อปฺปมาทนฺติ อปฺปมชฺชนํ, โส ปมาทสฺส ปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ. อตฺถโต หิ อปฺปมาโท นาม สติยา อวิปฺปวาโส, อุปฏฺิตาย สติยา เอว เจตํ นามํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยสฺมา ปมาทมูลกา สพฺเพ อนตฺถา, อปฺปมาทมูลกา จ สพฺเพ อตฺถา, ตสฺมา ปมาทํ ภยโต อุปทฺทวโต ทิสฺวา อปฺปมาทฺจ เขมโต อนุปทฺทวโต ทิสฺวา อปฺปมาทปฏิปตฺติยา สิขาภูตํ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสงฺคหํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อฏฺนฺนํ องฺคานํ วเสน อฏฺงฺคิกํ อริยมคฺคํ ภาเวถ, อมตํ นิพฺพานํ ผุสนฺตา สจฺฉิกโรนฺตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทถ, ทสฺสนมคฺคมตฺเต อฏฺตฺวา อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปฺปาทนวเสน วฑฺเฒถ, เอวํ โว อปฺปมาทภาวนา สิขาปตฺตา ภวิสฺสตีติ.

เอวํ เถโร สมฺปตฺตปริสํ โอวทติ. อิมา เอว จิมสฺส เถรสฺส อฺาพฺยากรณคาถา อเหสุนฺติ.

ผุสฺสตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สาริปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยถาจารี ยถาสโตติอาทิกา อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส คาถา. ตสฺส อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส จ วตฺถุ เอวํ เวทิตพฺพํ – อตีเต อิโต สตสหสฺสกปฺปาธิเก อสงฺขฺเยยฺยมตฺถเก อายสฺมา สาริปุตฺโต พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, นาเมน สรทมาณโว นาม อโหสิ. มหาโมคฺคลฺลาโน คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, นาเมน สิริวฑฺฒกุฏุมฺพิโก นาม อโหสิ. เต อุโภปิ สหปํสุกีฬกสหายา อเหสุํ. เตสุ สรทมาณโว ปิตุ อจฺจเยน กุลสนฺตกํ ธนํ ปฏิปชฺชิตฺวา เอกทิวสํ รโหคโต จินฺเตสิ – ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ มรณํ นาม เอกนฺติกํ, ตสฺมา มยา เอกํ ปพฺพชฺชํ อุปคนฺตฺวา โมกฺขมคฺโค คเวสิตพฺโพ’’ติ สหายํ อุปสงฺกมิตฺวา, สมฺม, อหํ ปพฺพชิตุกาโม, กึ ตฺวํ ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘น สกฺขิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘โหตุ อหเมว ปพฺพชิสฺสามี’’ติ รตนโกฏฺาคารานิ วิวราเปตฺวา กปณทฺธิกาทีนํ มหาทานํ ทตฺวา ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. ตสฺส ปพฺพชฺชํ อนุปพฺพชิตา จตุสตฺตติสหสฺสมตฺตา พฺราหฺมณปุตฺตา อเหสุํ. โส ปฺจ อภิฺาโย อฏฺ จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เตสมฺปิ ชฏิลานํ กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ. เตปิ สพฺเพ ปฺจาภิฺา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตสุํ.

เตน สมเยน อโนมทสฺสี นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก สตฺเต สํสารมโหฆโต ตาเรตฺวา เอกทิวสํ ‘‘สรทตาปสสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ เอโก อทุติโย ปตฺตจีวรมาทาย อากาเสน คนฺตฺวา ‘‘พุทฺธภาวํ เม ชานาตู’’ติ ตาปสสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อากาสโต โอตริตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺาสิ. สรทตาปโส สตฺถุ สรีเร มหาปุริสลกฺขณานิ อุปธาเรตฺวา ‘‘สพฺพฺุพุทฺโธเยวาย’’นฺติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. สรทตาปโส สตฺถุ สนฺติเก เอกมนฺตํ นิสีทิ.

ตสฺมึ สมเย ตสฺส อนฺเตวาสิกา จตุสตฺตติสหสฺสมตฺตา ชฏิลา ปณีตปณีตานิ โอชวนฺตานิ ผลาผลานิ คเหตฺวา อาคตา สตฺถารํ ทิสฺวา สฺชาตปฺปสาทา อตฺตโน อาจริยสฺส จ สตฺถุ จ นิสินฺนาการํ โอโลเกตฺวา, ‘‘อาจริย, มยํ ปุพฺเพ ‘ตุมฺเหหิ มหนฺตตโร โกจิ นตฺถี’ติ วิจราม, อยํ ปน ปุริโส ตุมฺเหหิ มหนฺตตโร มฺเ’’ติ อาหํสุ. ‘‘กึ วเทถ, ตาตา? สาสเปน สทฺธึ อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธํ สิเนรุํ สมํ กาตุํ อิจฺฉถ? สพฺพฺุพุทฺเธน มํ ตุลฺยํ มา กริตฺถา’’ติ. อถ เต ตาปสา อาจริยสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ยาว มหา วตายํ ปุริสุตฺตโม’’ติ สพฺเพว ปาเทสุ นิปติตฺวา สตฺถารํ วนฺทึสุ.

อถ เต อาจริโย อาห – ‘‘ตาตา, สตฺถุ อนุจฺฉวิโก โน เทยฺยธมฺโม นตฺถิ, สตฺถา จ ภิกฺขาจารเวลาย อิธาคโต, หนฺท มยํ เทยฺยธมฺมํ ยถาพลํ ทสฺสาม. ตุมฺเหหิ ยํ ยํ ปณีตํ ผลาผลํ อาภตํ, ตํ ตํ อาหรถา’’ติ อาหราเปตฺวา หตฺเถ โธวิตฺวา สยํ ตถาคตสฺส ปตฺเต ปติฏฺาเปสิ. สตฺถารา จ ผลาผเล ปฏิคฺคณฺหิตมตฺเต เทวตา ทิพฺโพชํ ปกฺขิปึสุ. ตาปโส อุทกมฺปิ สยเมว ปริสฺสาเวตฺวา อทาสิ. ตโต โภชนกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา สตฺถริ นิสินฺเน สพฺเพ อนฺเตวาสิเก ปกฺโกสิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก สารณียํ กถํ กเถนฺโต นิสีทิ. สตฺถา ‘‘ทฺเว อคฺคสาวกา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อาคจฺฉนฺตู’’ติ จินฺเตสิ. เต สตฺถุ จิตฺตํ ตฺวา ตาวเทว สตสหสฺสขีณาสวปริวารา อคฺคสาวกา อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ.

ตโต สรทตาปโส อนฺเตวาสิเก อามนฺเตสิ – ‘‘ตาตา, สตฺถุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ปุปฺผาสเนน ปูชา กาตพฺพา, ตสฺมา ปุปฺผานิ อาหรถา’’ติ. เต ตาวเทว อิทฺธิยา วณฺณคนฺธสมฺปนฺนานิ ปุปฺผานิ อาหริตฺวา พุทฺธสฺส โยชนปฺปมาณํ ปุปฺผาสนํ ปฺาเปสุํ, อุภินฺนํ อคฺคสาวกานํ ติคาวุตํ, เสสภิกฺขูนํ อฑฺฒโยชนิกาทิเภทํ, สงฺฆนวกสฺส อุสภมตฺตํ ปฺาเปสุํ. เอวํ เตสํ ปฺตฺเตสุ อาสเนสุ สรทตาปโส ตถาคตสฺส ปุรโต อฺชลึ ปคฺคยฺห ิโต – ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ อนุคฺคหตฺถาย อิมํ ปุปฺผาสนํ อภิรุหถา’’ติ อาห. นิสีทิ ภควา ปุปฺผาสเน. สตฺถริ นิสินฺเน ทฺเว อคฺคสาวกา เสสภิกฺขู จ อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทึสุ. สตฺถา ‘‘เตสํ มหปฺผลํ โหตู’’ติ นิโรธํ สมาปชฺชิ. สตฺถุ สมาปนฺนภาวํ ตฺวา ทฺเว อคฺคสาวกาปิ เสสภิกฺขูปิ นิโรธํ สมาปชฺชึสุ. ตาปโส สตฺตาหํ นิรนฺตรํ ปุปฺผจฺฉตฺตํ ธาเรนฺโต อฏฺาสิ. อิตเร ปน วนมูลผลาผลํ ปริภุฺชิตฺวา เสสกาเล อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺํสุ.

สตฺถา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน นิโรธโต วุฏฺาย อคฺคสาวกํ นิสภตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตาปสานํ ปุปฺผาสนานุโมทนํ กโรหี’’ติ. เถโร สาวกปารมีาเณ ตฺวา เตสํ ปุปฺผาสนานุโมทนํ อกาสิ. ตสฺส เทสนาวสาเน สตฺถา ทุติยํ อคฺคสาวกํ อโนมตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตฺวมฺปิ อิเมสํ ธมฺมํ เทเสหี’’ติ. โสปิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สมฺมสิตฺวา เตสํ ธมฺมํ กเถสิ. ทฺวินฺนมฺปิ เทสนาย เอกสฺสปิ ธมฺมาภิสมโย นาโหสิ. อถ สตฺถา พุทฺธวิสเย ตฺวา ธมฺมเทสนํ อารภิ. เทสนาวสาเน เปตฺวา สรทตาปสํ อวเสสา สพฺเพปิ จตุสตฺตติสหสฺสมตฺตา ชฏิลา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. สตฺถา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. เต ตาวเทว อนฺตรหิตตาปสเวสา อฏฺปริกฺขารวรธรา สฏฺิวสฺสิกตฺเถรา วิย อเหสุํ.

สรทตาปโส ปน ‘‘อโห วตาหมฺปิ อยํ นิสภตฺเถโร วิย อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส อคฺคสาวโก ภเวยฺย’’นฺติ สตฺถุ เทสนากาเล อุปฺปนฺนปริวิตกฺกตาย อฺวิหิโต หุตฺวา มคฺคผลานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ นาสกฺขิ. อถ ตถาคตํ วนฺทิตฺวา ตถา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา – ‘‘อิโต ตฺวํ กปฺปสตสหสฺสาธิกํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคสาวโก สาริปุตฺโต นาม ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากริตฺวา ธมฺมกถํ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อากาสํ ปกฺขนฺทิ.

สรทตาปโสปิ สหายกสฺส สิริวฑฺฒสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, สมฺม, มยา อโนมทสฺสิสฺส ภควโต ปาทมูเล อนาคเต อุปฺปชฺชนกสฺส โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคสาวกฏฺานํ ปตฺถิตํ, ตฺวมฺปิ ตสฺส ทุติยสาวกฏฺานํ ปตฺเถหีติ.

สิริวฑฺโฒ ตํ อุปเทสํ สุตฺวา อตฺตโน นิเวสนทฺวาเร อฏฺกรีสมตฺตํ านํ สมตลํ กาเรตฺวา ลาชปฺจมานิ ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา นีลุปฺปลจฺฉทนํ มณฺฑปํ กาเรตฺวา พุทฺธาสนํ ปฺาเปตฺวา ภิกฺขูนมฺปิ อาสนานิ ปฺาเปตฺวา มหนฺตํ สกฺการสมฺมานํ สชฺเชตฺวา, สรทตาปเสน สตฺถารํ นิมนฺตาเปตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา, พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ มหารเหหิ วตฺเถหิ อจฺฉาเทตฺวา, ทุติยสาวกภาวาย ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา วุตฺตนเยน พฺยากริตฺวา ภตฺตานุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สิริวฑฺโฒ หฏฺปหฏฺโ ยาวชีวํ กุสลกมฺมํ กตฺวา ทุติยจิตฺตวาเร กามาวจรเทวโลเก นิพฺพตฺติ. สรทตาปโส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.

ตโต ปฏฺาย เนสํ อุภินฺนมฺปิ อนฺตรากมฺมํ น กถิตํ. อมฺหากํ ปน ภควโต อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว สรทตาปโส ราชคหสฺส อวิทูเร อุปติสฺสคาเม รูปสาริยา พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตํทิวสเมวสฺส สหาโยปิ ราชคหสฺเสว อวิทูเร โกลิตคาเม โมคฺคลิยา พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตานิ กิร ทฺเวปิ กุลานิ ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา อาพทฺธปฏิพทฺธสหายกาเนว. เตสํ ทฺวินฺนํ เอกทิวสเมว คพฺภปริหารมทํสุ. ทสมาสจฺจเยน ชาตานมฺปิ เตสํ ฉสฏฺิ ธาติโย อุปฏฺาเปสุํ, นามคฺคหณทิวเส รูปสาริพฺราหฺมณิยา ปุตฺตสฺส อุปติสฺสคาเม เชฏฺกุลสฺส ปุตฺตตฺตา อุปติสฺโสติ นามํ อกํสุ. อิตรสฺส โกลิตคาเม เชฏฺกุลสฺส ปุตฺตตฺตา โกลิโตติ นามํ อกํสุ. เต อุโภปิ มหตา ปริวาเรน วฑฺฒนฺตา วุทฺธิมนฺวาย สพฺพสิปฺปานํ ปารํ อคมํสุ.

อเถกทิวสํ เต ราชคเห คิรคฺคสมชฺชํ ปสฺสนฺตา มหาชนํ สนฺนิปติตํ ทิสฺวา าณสฺส ปริปากคตตฺตา โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตา ‘‘สพฺเพปิเม โอรํ วสฺสสตานํ มจฺจุมุเข ปติสฺสนฺตี’’ติ สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘อมฺเหหิ โมกฺขธมฺโม ปริเยสิตพฺโพ, ตฺจ ปริเยสนฺเตหิ เอกํ ปพฺพชฺชํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ นิจฺฉยํ กตฺวา ปฺจหิ มาณวกสเตหิ สทฺธึ สฺจยสฺส ปริพฺพาชกสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ. เตสํ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย สฺจโย ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต อโหสิ. เต กติปาเหเนว สพฺพํ สฺจยสฺส สมยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ตตฺถ สารํ อทิสฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ เต เต ปณฺฑิตสมฺมเต สมณพฺราหฺมเณ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, เต เตหิ ปุฏฺา เนว สมฺปายนฺติ, อฺทตฺถุ เตเยว เตสํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺติ. เอวํ เต โมกฺขํ ปริเยสนฺตา กติกํ อกํสุ – ‘‘อมฺเหสุ โย ปมํ อมตํ อธิคจฺฉติ, โส อิตรสฺส อาโรเจตู’’ติ.

เตน จ สมเยน อมฺหากํ สตฺถริ ปมาภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก อนุปุพฺเพน อุรุเวลกสฺสปาทิเก สหสฺสชฏิเล ทเมตฺวา ราชคเห วิหรนฺเต เอกทิวสํ อุปติสฺโส ปริพฺพาชโก ปริพฺพาชการามํ คจฺฉนฺโต อายสฺมนฺตํ อสฺสชิตฺเถรํ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘น มยา เอวรูโป อากปฺปสมฺปนฺโน ปพฺพชิโต ทิฏฺปุพฺโพ, สนฺตธมฺเมน นาม เอตฺถ ภวิตพฺพ’’นฺติ สฺชาตปฺปสาโท ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อายสฺมนฺตํ อุทิกฺขนฺโต ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. เถโรปิ ลทฺธปิณฺฑปาโต ปริภุฺชิตุํ ปติรูปํ โอกาสํ คโต. ปริพฺพาชโก อตฺตโน ปริพฺพาชกปีํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน จสฺส อตฺตโน กุณฺฑิกาย อุทกํ อทาสิ.

เอวํ โส อาจริยวตฺตํ กตฺวา กตภตฺตกิจฺเจน เถเรน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ ปุจฺฉิ. เถโร สมฺมาสมฺพุทฺธํ อปทิสิ. ปุน เตน ‘‘กึวาที ปนายสฺมโต สตฺถา’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อิมสฺส สาสนสฺส คมฺภีรตํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ อตฺตโน นวกภาวํ ปเวเทตฺวา สงฺเขปวเสน จสฺส สาสนธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา’’ติ (มหาว. ๖๐; อป. เถร ๑.๑.๒๘๖; เปฏโก. ๙) คาถมาห. ปริพฺพาชโก ปมปททฺวยเมว สุตฺวา สหสฺสนยสมฺปนฺเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ, อิตรํ ปททฺวยํ โสตาปนฺนกาเล นิฏฺาสิ. คาถาปริโยสาเน ปน โสตาปนฺโน หุตฺวา อุปริ วิเสเส อปฺปวตฺเตนฺเต ‘‘ภวิสฺสติ เอตฺถ การณ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา เถรํ อาห – ‘‘มา, ภนฺเต, อุปริ ธมฺมเทสนํ วฑฺฒยิตฺถ, เอตฺตกเมว โหตุ, กหํ อมฺหากํ สตฺถา วสตี’’ติ? ‘‘เวฬุวเน’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ปุรโต คจฺฉถ, อหํ มยฺหํ สหายกสฺส กตปฏิฺํ โมเจตฺวา ตํ คเหตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เถรํ อุยฺโยเชตฺวา ปริพฺพาชการามํ อคมาสิ.

โกลิตปริพฺพาชโก ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มุขวณฺโณ น อฺทิวเสสุ วิย, อทฺธาเนน อมตํ อธิคตํ ภวิสฺสตี’’ติ เตเนวสฺส วิเสสาธิคมํ สมฺภาเวตฺวา อมตาธิคมํ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส ‘‘อามาวุโส, อมตํ อธิคต’’นฺติ ปฏิชานิตฺวา ตเมว คาถํ อภาสิ. คาถาปริโยสาเน โกลิโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา อาห – ‘‘กหํ โน สตฺถา’’ติ? ‘‘เวฬุวเน’’ติ. ‘‘เตน หิ, อาวุโส, อายาม, สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. อุปติสฺโส สพฺพกาลมฺปิ อาจริยปูชโกว, ตสฺมา สฺจยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถุ คุเณ ปกาเสตฺวา ตมฺปิ สตฺถุ สนฺติกํ เนตุกาโม อโหสิ. โส ลาภาสาปกโต อนฺเตวาสิกภาวํ อนิจฺฉนฺโต ‘‘น สกฺโกมิ จาฏิ หุตฺวา อุทกสิฺจนํ โหตุ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิ. เต อเนเกหิ การเณหิ ตํ สฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา อตฺตโน โอวาเท วตฺตมาเนหิ อฑฺฒเตยฺยสเตหิ อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ เวฬุวนํ อคมํสุ. สตฺถา เต ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘เอตํ เม สาวกยุคํ ภวิสฺสติ อคฺคํ ภทฺทยุค’’นฺติ วตฺวา เตสํ ปริสาย จริยวเสน ธมฺมํ เทเสตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาเปตฺวา เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปทํ อทาสิ. ยถา เตสํ, เอวํ อคฺคสาวกานมฺปิ อิทฺธิมยปตฺตจีวรํ อาคตเมว. อุปริมคฺคตฺตยกิจฺจํ ปน น นิฏฺาติ. กสฺมา? สาวกปารมีาณสฺส มหนฺตตาย.

เตสุ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส มคธรฏฺเ กลฺลวาลคาเม สมณธมฺมํ กโรนฺโต ถินมิทฺเธ โอกฺกนฺเต สตฺถารา สํเวชิโต ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ธาตุกมฺมฏฺานํ (อ. นิ. ๗.๖๑) สุณนฺโต เอว อุปริมคฺคตฺตยํ อธิคนฺตฺวา สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปาปุณิ. อายสฺมา สาริปุตฺโต ปพฺพชิตทิวสโต อฑฺฒมาสํ อติกฺกมิตฺวา สตฺถารา สทฺธึ ราชคเห สูกรขตเลเณ วิหรนฺโต อตฺตโน ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนาปริคฺคหสุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๒.๒๐๑ อาทโย) เทสิยมาเน เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา ปรสฺส วฑฺฒิตํ ภตฺตํ ภุฺชนฺโต วิย สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปาปุณิ. อิติ ทฺวินฺนมฺปิ อคฺคสาวกานํ สตฺถุ สมีเป เอว สาวกปารมีาณํ มตฺถกํ ปตฺตํ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๑๔๑-๓๗๔) –

‘‘หิมวนฺตสฺส อวิทูเร, ลมฺพโก นาม ปพฺพโต;

อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา.

‘‘อุตฺตานกูลา นทิกา, สุปติตฺถา มโนรมา;

สุสุทฺธปุลินากิณฺณา, อวิทูเร มมสฺสมํ.

‘‘อสกฺขรา อปพฺภารา, สาทุ อปฺปฏิคนฺธิกา;

สนฺทตี นทิกา ตตฺถ, โสภยนฺตา มมสฺสมํ.

‘‘กุมฺภีลา มกรา เจตฺถ, สุสุมารา จ กจฺฉปา;

จรนฺติ นทิยา ตตฺถ, โสภยนฺตา มมสฺสมํ.

‘‘ปาีนา ปาวุสา มจฺฉา, พลชา มุฺชโรหิตา;

วคฺคฬา ปปตายนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อุโภ กูเลสุ นทิยา, ปุปฺผิโน ผลิโน ทุมา;

อุภโต อภิลมฺพนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อมฺพา สาลา จ ติลกา, ปาฏลี สินฺทุวารกา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, ปุปฺผิตา มม อสฺสเม.

‘‘จมฺมกา สฬลา นีปา, นาคปุนฺนาคเกตกา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, ปุปฺผิตา มม อสฺสเม.

‘‘อติมุตฺตา อโสกา จ, ภคินีมาลา จ ปุปฺผิตา;

องฺโกลา พิมฺพิชาลา จ, ปุปฺผิตา มม อสฺสเม.

‘‘เกตกา กนฺทลิ เจว, โคธุกา ติณสูลิกา;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘กณิการา กณฺณิกา จ, อสนา อชฺชุนา พหู;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘ปุนฺนาคา คิริปุนฺนาคา, โกวิฬารา จ ปุปฺผิตา;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อุทฺทาลกา จ กุฏชา, กทมฺพา วกุลา พหู;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อาฬกา อิสิมุคฺคา จ, กทลิมาตุลุงฺคิโย;

คนฺโธทเกน สํวฑฺฒา, ผลานิ ธารยนฺติ เต.

‘‘อฺเ ปุปฺผนฺติ ปทุมา, อฺเ ชายนฺติ เกสรี;

อฺเ โอปุปฺผา ปทุมา, ปุปฺผิตา ตฬาเก ตทา.

‘‘คพฺภํ คณฺหนฺติ ปทุมา, นิทฺธาวนฺติ มุฬาลิโย;

สิงฺฆาฏิปตฺตมากิณฺณา, โสภนฺติ ตฬาเก ตทา.

‘‘นยิตา อมฺพคนฺธี จ, อุตฺตลี พนฺธุชีวกา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, ปุปฺผิตา ตฬาเก ตทา.

‘‘ปาีนา ปาวุสา มจฺฉา, พลชา มุฺชโรหิตา;

สํคุลา มคฺคุรา เจว, วสนฺติ ตฬาเก ตทา.

‘‘กุมฺภีลา สุสุมารา จ, ตนฺติคาหา จ รกฺขสา;

โอคุหา อชครา จ, วสนฺติ ตฬาเก ตทา.

‘‘ปาเรวตา รวิหํสา, จกฺกวากา นทีจรา;

โกกิลา สุกสาฬิกา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘กุกุตฺถกา กุฬีรกา, วเน โปกฺขรสาตกา;

ทินฺทิภา สุวโปตา จ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘หํสา โกฺจา มยูรา จ, โกกิลา ตมฺพจูฬกา;

ปมฺปกา ชีวํชีวา จ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘โกสิกา โปฏฺสีสา จ, กุรรา เสนกา พหู;

มหากาฬา จ สกุณา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘ปสทา จ วราหา จ, จมรา คณฺฑกา พหู;

โรหิจฺจา สุกโปตา จ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘สีหพฺยคฺฆา จ ทีปี จ, อจฺฉโกกตรจฺฉกา;

ติธา ปภินฺนมาตงฺคา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘กินฺนรา วานรา เจว, อโถปิ วนกมฺมิกา;

เจตา จ ลุทฺทกา เจว, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;

ธุวํ ผลานิ ธาเรนฺติ, อวิทูเร มมสฺสมํ.

‘‘โกสมฺพา สฬลา นิมฺพา, สาทุผลสมายุตา;

ธุวํ ผลานิ ธาเรนฺติ, อวิทูเร มมสฺสมํ.

‘‘หรีตกา อามลกา, อมฺพชมฺพุวิภีตกา;

โกลา ภลฺลาตกา พิลฺลา, ผลานิ ธารยนฺติ เต.

‘‘อาลุวา จ กฬมฺพา จ, พิฬาลีตกฺกฬานิ จ;

ชีวกา สุตกา เจว, พหุกา มม อสฺสเม.

‘‘อสฺสมสฺสาวิทูรมฺหิ, ตฬากาสุํ สุนิมฺมิตา;

อจฺโฉทกา สีตชลา, สุปติตฺถา มโนรมา.

‘‘ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสมายุตา;

มนฺทาลเกหิ สฺฉนฺนา, ทิพฺพคนฺโธปวายติ.

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺเน, ปุปฺผิเต ผลิเต วเน;

สุกเต อสฺสเม รมฺเม, วิหรามิ อหํ ตทา.

‘‘สีลวา วตสมฺปนฺโน, ฌายี ฌานรโต สทา;

ปฺจาภิฺาพลปฺปตฺโต, สุรุจิ นาม ตาปโส.

‘‘จตุวีสสหสฺสานิ, สิสฺสา มยฺหํ อุปฏฺหุํ;

สพฺเพ มํ พฺราหฺมณา เอเต, ชาติมนฺโต ยสสฺสิโน.

‘‘ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สนิฆณฺฑุสเกฏุเภ;

ปทกา เวยฺยากรณา, สธมฺเม ปารมึ คตา.

‘‘อุปฺปาเตสุ นิมิตฺเตสุ, ลกฺขเณสุ จ โกวิทา;

ปถพฺยา ภูมนฺตลิกฺเข, มม สิสฺสา สุสิกฺขิตา.

‘‘อปฺปิจฺฉา นิปกา เอเต, อปฺปาหารา อโลลุปา;

ลาภาลาเภน สนฺตุฏฺา, ปริวาเรนฺติ มํ สทา.

‘‘ฌายี ฌานรตา ธีรา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

อากิฺจฺํ ปตฺถยนฺตา, ปริวาเรนฺติ มํ สทา.

‘‘อภิฺาปารมิปฺปตฺตา, เปตฺติเก โคจเร รตา;

อนฺตลิกฺขจรา ธีรา, ปริวาเรนฺติ มํ สทา.

‘‘สํวุตา ฉสุ ทฺวาเรสุ, อเนชา รกฺขิตินฺทฺริยา;

อสํสฏฺา จ เต ธีรา, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘ปลฺลงฺเกน นิสชฺชาย, านจงฺกมเนน จ;

วีตินาเมนฺติ เต รตฺตึ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘รชฺชนีเย น รชฺชนฺติ, ทุสฺสนีเย น ทุสฺสเร;

โมหนีเย น มุยฺหนฺติ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘อิทฺธึ วีมํสมานา เต, วตฺตนฺติ นิจฺจกาลิกํ;

ปถวึ เต ปกมฺเปนฺติ, สารพฺเภน ทุราสทา.

‘‘กีฬมานา จ เต สิสฺสา, กีฬนฺติ ฌานกีฬิตํ.

ชมฺพุโต ผลมาเนนฺติ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘อฺเ คจฺฉนฺติ โคยานํ, อฺเ ปุพฺพวิเทหกํ;

อฺเ จ อุตฺตรกุรุํ, เอสนาย ทุราสทา.

‘‘ปุรโต เปเสนฺติ ขารึ, ปจฺฉโต จ วชนฺติ เต;

จตุวีสสหสฺเสหิ, ฉาทิตํ โหติ อมฺพรํ.

‘‘อคฺคิปากี อนคฺคี จ, ทนฺโตทุกฺขลิกาปิ จ;

อสฺเมน โกฏฺฏิตา เกจิ, ปวตฺตผลโภชนา.

‘‘อุทโกโรหณา เกจิ, สายํ ปาโต สุจีรตา;

โตยาภิเสจนกรา, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา, ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;

คนฺธิตา สีลคนฺเธน, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘ปาโตว สนฺนิปติตฺวา, ชฏิลา อุคฺคตาปนา;

ลาภาลาภํ ปกิตฺเตตฺวา, คจฺฉนฺติ อมฺพเร ตทา.

‘‘เอเตสํ ปกฺกมนฺตานํ, มหาสทฺโท ปวตฺตติ;

อชินจมฺมสทฺเทน, มุทิตา โหนฺติ เทวตา.

‘‘ทิโสทิสํ ปกฺกมนฺติ, อนฺตลิกฺขจรา อิสี;

สเก พเลนุปตฺถทฺธา, เต คจฺฉนฺติ ยทิจฺฉกํ.

‘‘ปถวีกมฺปกา เอเต, สพฺเพว นภจาริโน;

อุคฺคเตชา ทุปฺปสหา, สาคโรว อโขภิยา.

‘‘านจงฺกมิโน เกจิ, เกจิ เนสชฺชิกา อิสี;

ปวตฺตโภชนา เกจิ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘เมตฺตาวิหาริโน เอเต, หิเตสี สพฺพปาณินํ;

อนตฺตุกฺกํสกา สพฺเพ, น เต วมฺเภนฺติ กสฺสจิ.

‘‘สีหราชาวสมฺภีตา, คชราชาว ถามวา;

ทุราสทา พฺยคฺฆาริว, อาคจฺฉนฺติ มมนฺติเก.

‘‘วิชฺชาธรา เทวตา จ, นาคคนฺธพฺพรกฺขสา;

กุมฺภณฺฑา ทานวา ครุฬา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘เต ชฏาขาริภริตา, อชินุตฺตรวาสนา;

อนฺตลิกฺขจรา สพฺเพ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘สทานุจฺฉวิกา เอเต, อฺมฺํ สคารวา;

จตุพฺพีสสหสฺสานํ, ขิปิตสทฺโท น วิชฺชติ.

‘‘ปาเท ปาทํ นิกฺขิปนฺตา, อปฺปสทฺทา สุสํวุตา;

อุปสงฺกมฺม สพฺเพว, สิรสา วนฺทเร มมํ.

‘‘เตหิ สิสฺเสหิ ปริวุโต, สนฺเตหิ จ ตปสฺสิภิ;

วสามิ อสฺสเม ตตฺถ, ฌายี ฌานรโต อหํ.

‘‘อิสีนํ สีลคนฺเธน, ปุปฺผคนฺเธน จูภยํ;

ผลีนํ ผลคนฺเธน, คนฺธิโต โหติ อสฺสโม.

‘‘รตฺตินฺทิวํ น ชานามิ, อรติ เม น วิชฺชติ;

สเก สิสฺเส โอวทนฺโต, ภิยฺโย หาสํ ลภามหํ.

‘‘ปุปฺผานํ ปุปฺผมานานํ, ผลานฺจ วิปจฺจตํ;

ทิพฺพคนฺธา ปวายนฺติ, โสภยนฺตา มมสฺสมํ.

‘‘สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา, อตาปี นิปโก อหํ;

ขาริภารํ คเหตฺวาน, วนํ อชฺโฌคหึ อหํ.

‘‘อุปฺปาเต สุปิเน จาปิ, ลกฺขเณสุ สุสิกฺขิโต;

ปวตฺตมานํ มนฺตปทํ, ธารยามิ อหํ ตทา.

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

วิเวกกาโม สมฺพุทฺโธ, หิมวนฺตมุปาคมิ.

‘‘อชฺโฌคาเหตฺวา หิมวนฺตํ, อคฺโค การุณิโก มุนิ;

ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาน, นิสีทิ ปุริสุตฺตโม.

‘‘ตมทฺทสาหํ สมฺพุทฺธํ, สปฺปภาสํ มโนรมํ;

อินฺทีวรํว ชลิตํ, อาทิตฺตํว หุตาสนํ.

‘‘ชลนฺตํ ทีปรุกฺขํว, วิชฺชุตํ คคเน ยถา;

สุผุลฺลํ สาลราชํว, อทฺทสํ โลกนายกํ.

‘‘อยํ นาโค มหาวีโร, ทุกฺขสฺสนฺตกโร มุนิ;

อิมํ ทสฺสนมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจเร.

‘‘ทิสฺวานาหํ เทวเทวํ, ลกฺขณํ อุปธารยึ;

พุทฺโธ นุ โข น วา พุทฺโธ, หนฺท ปสฺสามิ จกฺขุมํ.

‘‘สหสฺสารานิ จกฺกานิ, ทิสฺสนฺติ จรณุตฺตเม;

ลกฺขณานิสฺส ทิสฺวาน, นิฏฺํ คจฺเฉ ตถาคเต.

‘‘สมฺมชฺชนึ คเหตฺวาน, สมฺมชฺชิตฺวานหํ ตทา;

อถ ปุปฺเผ สมาเนตฺวา, พุทฺธเสฏฺํ อปูชยึ.

‘‘ปูชยิตฺวาน สมฺพุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ;

เอกํสํ อชินํ กตฺวา, นมสฺสึ โลกนายกํ.

‘‘เยน าเณน สมฺพุทฺโธ, วิหรติ อนาสโว;

ตํ าณํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘สมุทฺธรสิมํ โลกํ, สยมฺภู อมิโตทย;

ตว ทสฺสนมาคมฺม, กงฺขาโสตํ ตรนฺติ เต.

‘‘ตุวํ สตฺถา จ เกตุ จ, ธโช ยูโป จ ปาณินํ;

ปรายโณ ปติฏฺา จ, ทีโป จ ทฺวิปทุตฺตโม.

‘‘สกฺกา สมุทฺเท อุทกํ, ปเมตุํ อาฬฺหเกน วา;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ปเมตเว.

‘‘ธาเรตุํ ปถวึ สกฺกา, เปตฺวา ตุลมณฺฑเล;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ธเรตเว.

‘‘อากาโส มินิตุํ สกฺกา, รชฺชุยา องฺคุเลน วา;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ปเมตเว.

‘‘มหาสมุทฺเท อุทกํ, ปถวิฺจาขิลฺชเห;

พุทฺธาณํ อุปาทาย, อุปมาโต น ยุชฺชเร.

‘‘สเทวกสฺส โลกสฺส, จิตฺตํ เยสํ ปวตฺตติ;

อนฺโตชาลีกตา เอเต, ตว าณมฺหิ จกฺขุม.

‘‘เยน าเณน ปตฺโตสิ, เกวลํ โพธิมุตฺตมํ;

เตน าเณน สพฺพฺุ, มทฺทสี ปรติตฺถิเย.

‘‘อิมา คาถา ถวิตฺวาน, สุรุจิ นาม ตาปโส;

อชินํ ปตฺถริตฺวาน, ปถวิยํ นิสีทิ โส.

‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, คิริราชา ปวุจฺจติ.

‘‘ตาว อจฺจุคฺคโต เนรุ, อายโต วิตฺถโต จ โส;

จุณฺณิโต อณุเภเทน, โกฏิสตสหสฺสโส.

‘‘ลกฺเข ปิยมานมฺหิ, ปริกฺขยมคจฺฉถ;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ปเมตเว.

‘‘สุขุมจฺฉิเกน ชาเลน, อุทกํ โย ปริกฺขิเป;

เย เกจิ อุทเก ปาณา, อนฺโตชาลีกตา สิยุํ.

‘‘ตเถว หิ มหาวีร, เย เกจิ ปุถุติตฺถิยา;

ทิฏฺิคหนปกฺขนฺทา, ปรามาเสน โมหิตา.

‘‘ตว สุทฺเธน าเณน, อนาวรณทสฺสินา;

อนฺโตชาลีกตา เอเต, าณํ เต นาติวตฺตเร.

‘‘ภควา ตมฺหิ สมเย, อโนมทสฺสี มหายโส;

วุฏฺหิตฺวา สมาธิมฺหา, ทิสํ โอโลกยี ชิโน.

‘‘อโนมทสฺสิมุนิโน, นิสโภ นาม สาวโก;

ปริวุโต สตสหสฺเสหิ, สนฺตจิตฺเตหิ ตาทิภิ.

‘‘ขีณาสเวหิ สุทฺเธหิ, ฉฬภิฺเหิ ฌายิภิ;

จิตฺตมฺาย พุทฺธสฺส, อุเปสิ โลกนายกํ.

‘‘อนฺตลิกฺเข ิตา ตตฺถ, ปทกฺขิณมกํสุ เต;

นมสฺสนฺตา ปฺชลิกา, โอตรุํ พุทฺธสนฺติเก.

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, สิตํ ปาตุกรี ชิโน.

‘‘วรุโณ นามุปฏฺาโก, อโนมทสฺสิสฺส สตฺถุโน;

เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, อปุจฺฉิ โลกนายกํ.

‘‘โก นุ โข ภควา เหตุ, สิตกมฺมสฺส สตฺถุโน;

น หิ พุทฺธา อเหตูหิ, สิตํ ปาตุกโรนฺติ เต.

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

ภิกฺขุมชฺเฌ นิสีทิตฺวา, อิมํ คาถํ อภาสถ.

‘‘โย มํ ปุปฺเผน ปูเชสิ, าณฺจาปิ อนุตฺถวิ;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุโณถ มม ภาสโต.

‘‘พุทฺธสฺส คิรมฺาย, สพฺเพ เทวา สมาคตา;

สทฺธมฺมํ โสตุกามา เต, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมุํ.

‘‘ทสสุ โลกธาตูสุ, เทวกายา มหิทฺธิกา;

สทฺธมฺมํ โสตุกามา เต, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมุํ.

‘‘หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตี, เสนา จ จตุรงฺคินี;

ปริวาเรสฺสนฺติมํ นิจฺจํ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘สฏฺิตูริยสหสฺสานิ, เภริโย สมลงฺกตา;

อุปฏฺิสฺสนฺติมํ นิจฺจํ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, นาริโย สมลงฺกตา;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา.

‘‘อฬารปมฺหา หสุลา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;

ปริวาเรสฺสนฺติมํ นิจฺจํ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสานิ, เทวโลเก รมิสฺสติ;

สหสฺสกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺตี, ราชา รฏฺเ ภวิสฺสติ.

‘‘สหสฺสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ.

‘‘ปจฺฉิเม ภวสมฺปตฺเต, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;

พฺราหฺมณี สาริยา นาม, ธารยิสฺสติ กุจฺฉินา.

‘‘มาตุยา นามโคตฺเตน, ปฺายิสฺสติยํ นโร;

สาริปุตฺโตติ นาเมน, ติกฺขปฺโ ภวิสฺสติ.

‘‘อสีติโกฏี ฉฑฺเฑตฺวา, ปพฺพชิสฺสติกิฺจโน;

คเวสนฺโต สนฺติปทํ, จริสฺสติ มหึ อิมํ.

‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

สาริปุตฺโตติ นาเมน, เหสฺสติ อคฺคสาวโก.

‘‘อยํ ภาคีรถี คงฺคา, หิมวนฺตา ปภาวิตา;

มหาสมุทฺทมปฺเปติ, ตปฺปยนฺตี มโหทธึ.

‘‘ตเถวายํ สาริปุตฺโต, สเก ตีสุ วิสารโท;

ปฺาย ปารมึ คนฺตฺวา, ตปฺปยิสฺสติ ปาณิเน.

‘‘หิมวนฺตมุปาทาย, สาครฺจ มโหทธึ;

เอตฺถนฺตเร ยํ ปุลินํ, คณนาโต อสงฺขิยํ.

‘‘ตมฺปิ สกฺกา อเสเสน, สงฺขาตุํ คณนา ยถา;

น ตฺเวว สาริปุตฺตสฺส, ปฺายนฺโต ภวิสฺสติ.

‘‘ลกฺเข ปิยมานมฺหิ, ขีเย คงฺคาย วาลุกา;

น ตฺเวว สาริปุตฺตสฺส, ปฺายนฺโต ภวิสฺสติ.

‘‘มหาสมุทฺเท อูมิโย, คณนาโต อสงฺขิยา;

ตเถว สาริปุตฺตสฺส, ปฺายนฺโต น เหสฺสติ.

‘‘อาราธยิตฺวา สมฺพุทฺธํ, โคตมํ สกฺยปุงฺควํ;

ปฺาย ปารมึ คนฺตฺวา, เหสฺสติ อคฺคสาวโก.

‘‘ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ, สกฺยปุตฺเตน ตาทินา;

อนุวตฺเตสฺสติ สมฺมา, วสฺเสนฺโต ธมฺมวุฏฺิโย.

‘‘สพฺพเมตํ อภิฺาย, โคตโม สกฺยปุงฺคโว;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อคฺคฏฺาเน เปสฺสติ.

‘‘อโห เม สุกตํ กมฺมํ, อโนมทสฺสิสฺส สตฺถุโน;

ยสฺสาหํ การํ กตฺวาน, สพฺพตฺถ ปารมึ คโต.

‘‘อปริเมยฺเย กตํ กมฺมํ, ผลํ ทสฺเสติ เม อิธ;

สุมุตฺโต สรเวโคว, กิเลเส ฌาปยึ อหํ.

‘‘อสงฺขตํ คเวสนฺโต, นิพฺพานํ อจลํ ปทํ;

วิจินํ ติตฺถิเย สพฺเพ, เอสาหํ สํสรึ ภเว.

‘‘ยถาปิ พฺยาธิโต โปโส, ปริเยเสยฺย โอสธํ;

วิจิเนยฺย วนํ สพฺพํ, พฺยาธิโต ปริมุตฺติยา.

‘‘อสงฺขตํ คเวสนฺโต, นิพฺพานํ อมตํ ปทํ;

อพฺโพกิณฺณํ ปฺจสตํ, ปพฺพชึ อิสิปพฺพชํ.

‘‘ชฏาภาเรน ภริโต, อชินุตฺตรนิวาสโน;

อภิฺาปารมึ คนฺตฺวา, พฺรหฺมโลกํ อคจฺฉิหํ.

‘‘นตฺถิ พาหิรเก สุทฺธิ, เปตฺวา ชินสาสนํ;

เย เกจิ พุทฺธิมา สตฺตา, สุชฺฌนฺติ ชินสาสเน.

‘‘อตฺตการมยํ เอตํ, นยิทํ อิติหีติหํ;

อสงฺขตํ คเวสนฺโต, กุติตฺเถ สฺจรึ อหํ.

‘‘ยถา สารตฺถิโก โปโส, กทลึ เฉตฺวาน ผาลเย;

น ตตฺถ สารํ วินฺเทยฺย, สาเรน ริตฺตโก หิ โส.

‘‘ตเถว ติตฺถิยา โลเก, นานาทิฏฺี พหุชฺชนา.

อสงฺขเตน ริตฺตาเส, สาเรน กทลี ยถา.

‘‘ปจฺฉิเม ภวสมฺปตฺเต, พฺรหฺมพนฺธุ อโหสหํ;

มหาโภคํ ฉฑฺเฑตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทาน ปารคู;

พฺราหฺมโณ สฺจโย นาม, ตสฺส มูเล วสามหํ.

‘‘สาวโก เต มหาวีร, อสฺสชิ นาม พฺราหฺมโณ;

ทุราสโท อุคฺคเตโช, ปิณฺฑาย จรตี ตทา.

‘‘ตมทฺทสาสึ สปฺปฺํ, มุนึ โมเน สมาหิตํ;

สนฺตจิตฺตํ มหานาคํ, สุผุลฺลํ ปทุมํ ยถา.

‘‘ทิสฺวา เม จิตฺตมุปฺปชฺชิ, สุทนฺตํ สุทฺธมานสํ;

อุสภํ ปวรํ วีรํ, อรหายํ ภวิสฺสติ.

‘‘ปาสาทิโก อิริยติ, อภิรูโป สุสํวุโต;

อุตฺตเม ทมเถ ทนฺโต, อมตทสฺสี ภวิสฺสติ.

‘‘ยํนูนาหํ อุตฺตมตฺถํ, ปุจฺเฉยฺยํ ตุฏฺมานสํ;

โส เม ปุฏฺโ กเถสฺสติ, ปฏิปุจฺฉามหํ ตทา.

‘‘ปิณฺฑปาตํ จรนฺตสฺส, ปจฺฉโต อคมาสหํ;

โอกาสํ ปฏิมาเนนฺโต, ปุจฺฉิตุํ อมตํ ปทํ.

‘‘วีถินฺตเร อนุปฺปตฺตํ, อุปคนฺตฺวาน ปุจฺฉหํ;

กถํ โคตฺโตสิ ตฺวํ วีร, กสฺส สิสฺโสสิ มาริส.

‘‘โส เม ปุฏฺโ วิยากาสิ, อสมฺภีโตว เกสรี;

พุทฺโธ โลเก สมุปฺปนฺโน, ตสฺส สิสฺโสมฺหิ อาวุโส.

‘‘กีทิสํ เต มหาวีร, อนุชาโต มหายโส;

พุทฺธสฺส สาสนํ ธมฺมํ, สาธุ เม กถยสฺสุ โภ.

‘‘โส เม ปุฏฺโ กถี สพฺพํ, คมฺภีรํ นิปุณํ ปทํ;

ตณฺหาสลฺลสฺส หนฺตารํ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ.

‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา, เตสํ เหตุํ ตถาคโต อาห;

เตสฺจ โย นิโรโธ, เอวํวาที มหาสมโณ.

‘‘โสหํ วิสฺสชฺชิเต ปฺเห, ปมํ ผลมชฺฌคํ;

วิรโช วิมโล อาสึ, สุตฺวาน ชินสาสนํ.

‘‘สุตฺวาน มุนิโน วากฺยํ, ปสฺสิตฺวา ธมฺมมุตฺตมํ;

ปริโยคาฬฺหสทฺธมฺโม, อิมํ คาถมภาสหํ.

‘‘เอเสว ธมฺโม ยทิ ตาวเทว, ปจฺจพฺยถ ปทมโสกํ;

อทิฏฺํ อพฺภตีตํ, พหุเกหิ กปฺปนหุเตหิ.

‘‘ยฺวาหํ ธมฺมํ คเวสนฺโต, กุติตฺเถ สฺจรึ อหํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, กาโล เม นปฺปมชฺชิตุํ.

‘‘โตสิโตหํ อสฺสชินา, ปตฺวาน อจลํ ปทํ;

สหายกํ คเวสนฺโต, อสฺสมํ อคมาสหํ.

‘‘ทูรโตว มมํ ทิสฺวา, สหาโย เม สุสิกฺขิโต;

อิริยาปถสมฺปนฺโน, อิทํ วจนมพฺรวิ.

‘‘ปสนฺนมุขเนตฺโตสิ, มุนิภาโวว ทิสฺสติ;

อมตาธิคโต กจฺจิ, นิพฺพานมจฺจุตํ ปทํ.

‘‘สุภานุรูโป อายาสิ, อาเนฺชการิโต วิย;

ทนฺโตว ทนฺตทมโถ, อุปสนฺโตสิ พฺราหฺมณ.

‘‘อมตํ มยาธิคตํ, โสกสลฺลาปนูทนํ;

ตฺวมฺปิ ตํ อธิคจฺเฉสิ, คจฺฉาม พุทฺธสนฺติกํ.

‘‘สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, สหาโย เม สุสิกฺขิโต;

หตฺเถน หตฺถํ คณฺหิตฺวา, อุปคมฺม ตวนฺติกํ.

‘‘อุโภปิ ปพฺพชิสฺสาม, สกฺยปุตฺต ตวนฺติเก;

ตว สาสนมาคมฺม, วิหราม อนาสวา.

‘‘โกลิโต อิทฺธิยา เสฏฺโ, อหํ ปฺาย ปารโค;

อุโภว เอกโต หุตฺวา, สาสนํ โสภยามเส.

‘‘อปริโยสิตสงฺกปฺโป, กุติตฺเถ สฺจรึ อหํ;

ตว ทสฺสนมาคมฺม, สงฺกปฺโป ปูริโต มม.

‘‘ปถวิยํ ปติฏฺาย, ปุปฺผนฺติ สมเย ทุมา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, โตเสนฺติ สพฺพปาณินํ.

‘‘ตเถวาหํ มหาวีร, สกฺยปุตฺต มหายส;

สาสเน เต ปติฏฺาย, สมเยสามิ ปุปฺผิตุํ.

‘‘วิมุตฺติปุปฺผํ เอสนฺโต, ภวสํสารโมจนํ;

วิมุตฺติปุปฺผลาเภน, โตเสมิ สพฺพปาณินํ.

‘‘ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหิ, เปตฺวาน มหามุนึ;

ปฺาย สทิโส นตฺถิ, ตว ปุตฺตสฺส จกฺขุม.

‘‘สุวินีตา จ เต สิสฺสา, ปริสา จสุสิกฺขิตา;

อุตฺตเม ทมเถ ทนฺตา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘ฌายี ฌานรตา ธีรา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

มุนี โมเนยฺยสมฺปนฺนา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘อปฺปิจฺฉา นิปกา ธีรา, อปฺปาหารา อโลลุปา;

ลาภาลาเภน สนฺตุฏฺา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘อารฺิกา ธุตรตา, ฌายิโน ลูขจีวรา;

วิเวกาภิรตา ธีรา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘ปฏิปนฺนา ผลฏฺา จ, เสขา ผลสมงฺคิโน;

อาสีสกา อุตฺตมตฺถํ, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘โสตาปนฺนา จ วิมลา, สกทาคามิโน จ เย;

อนาคามี จ อรหา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘สติปฏฺานกุสลา, โพชฺฌงฺคภาวนารตา;

สาวกา เต พหู สพฺเพ, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘อิทฺธิปาเทสุ กุสลา, สมาธิภาวนารตา;

สมฺมปฺปธานานุยุตฺตา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘เตวิชฺชา ฉฬภิฺา จ, อิทฺธิยา ปารมึ คตา;

ปฺาย ปารมึ ปตฺตา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘เอทิสา เต มหาวีร, ตว สิสฺสา สุสิกฺขิตา;

ทุราสทา อุคฺคเตชา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘เตหิ สิสฺเสหิ ปริวุโต, สฺเตหิ ตปสฺสิภิ;

มิคราชาวสมฺภีโต, อุฬุราชาว โสภสิ.

‘‘ปถวิยํ ปติฏฺาย, รุหนฺติ ธรณีรุหา;

เวปุลฺลตํ ปาปุณนฺติ, ผลฺจ ทสฺสยนฺติ เต.

‘‘ปถวีสทิโส ตฺวํสิ, สกฺยปุตฺต มหายส;

สาสเน เต ปติฏฺาย, ลภนฺติ อมตํ ผลํ.

‘‘สินฺธุ สรสฺสตี เจว, นนฺทิโย จนฺทภาคิกา;

คงฺคา จ ยมุนา เจว, สรภู จ อโถ มหี.

‘‘เอตาสํ สนฺทมานานํ, สาคโรว สมฺปฏิจฺฉติ;

ชหนฺติ ปุริมํ นามํ, สาคโรเตว ายติ.

‘‘ตเถวิเม จตุพฺพณฺณา, ปพฺพชิตฺวา ตวนฺติเก;

ชหนฺติ ปุริมํ นามํ, พุทฺธปุตฺตาติ ายเร.

‘‘ยถาปิ จนฺโท วิมโล, คจฺฉํ อากาสธาตุยา;

สพฺเพ ตารคเณ โลเก, อาภาย อติโรจติ.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปริวุโต เทวมานุเส;

เอเต สพฺเพ อติกฺกมฺม, ชลสิ สพฺพทา ตุวํ.

‘‘คมฺภีเร อุฏฺิตา อูมี, น เวลมติวตฺตเร;

สพฺพา เวลํว ผุสนฺติ, สฺจุณฺณา วิกิรนฺติ ตา.

‘‘ตเถว ติตฺถิยา โลเก, นานาทิฏฺี พหุชฺชนา;

ธมฺมํ วาทิตุกามา เต, นาติวตฺตนฺติ ตํ มุนึ.

‘‘สเจ จ ตํ ปาปุณนฺติ, ปฏิวาเทหิ จกฺขุม;

ตวนฺติกํ อุปคนฺตฺวา, สฺจุณฺณาว ภวนฺติ เต.

‘‘ยถาปิ อุทเก ชาตา, กุมุทา มนฺทาลกา พหู;

อุปลิมฺปนฺติ โตเยน, กทฺทมกลเลน จ.

‘‘ตเถว พหุกา สตฺตา, โลเก ชาตา วิรูหเร;

อฏฺฏิตา ราคโทเสน, กทฺทเม กุมุทํ ยถา.

‘‘ยถาปิ ปทุมํ ชลชํ, ชลมชฺเฌ วิรูหติ;

น โส ลิมฺปติ โตเยน, ปริสุทฺโธ หิ เกสรี.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, โลเก ชาโต มหามุนิ;

โนปลิมฺปสิ โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา.

‘‘ยถาปิ รมฺมเก มาเส, พหู ปุปฺผนฺติ วาริชา;

นาติกฺกมนฺติ ตํ มาสํ, สมโย ปุปฺผนาย โส.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปุปฺผิโต เต วิมุตฺติยา;

สาสนํ นาติวตฺตนฺติ, ปทุมํ วาริชํ ยถา.

‘‘สุปุปฺผิโต สาลราชา, ทิพฺพคนฺธํ ปวายติ;

อฺสาเลหิ ปริวุโต, สาลราชาว โสภติ.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุทฺธาเณน ปุปฺผิโต;

ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต, สาลราชาว โสภสิ.

‘‘ยถาปิ เสโล หิมวา, โอสโธ สพฺพปาณินํ;

นาคานํ อสุรานฺจ, เทวตานฺจ อาลโย.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, โอสโธ วิย ปาณินํ;

เตวิชฺชา ฉฬภิฺา จ, อิทฺธิยา ปารมึ คตา.

‘‘อนุสิฏฺา มหาวีร, ตยา การุณิเกน เต;

รมนฺติ ธมฺมรติยา, วสนฺติ ตว สาสเน.

‘‘มิคราชา ยถา สีโห, อภินิกฺขมฺม อาสยา;

จตุทฺทิสานุวิโลเกตฺวา, ติกฺขตฺตุํ อภินาทติ.

‘‘สพฺเพ มิคา อุตฺตสนฺติ, มิคราชสฺส คชฺชโต;

ตถา หิ ชาติมา เอโส, ปสู ตาเสติ สพฺพทา.

‘‘คชฺชโต เต มหาวีร, วสุธา สมฺปกมฺปติ;

โพธเนยฺยาวพุชฺฌนฺติ, ตสนฺติ มารกายิกา.

‘‘ตสนฺติ ติตฺถิยา สพฺเพ, นทโต เต มหามุนิ;

กากา เสนาว วิพฺภนฺตา, มิครฺา ยถา มิคา.

‘‘เย เกจิ คณิโน โลเก, สตฺถาโรติ ปวุจฺจเร;

ปรมฺปราคตํ ธมฺมํ, เทเสนฺติ ปริสาย เต.

‘‘น เหวํ ตฺวํ มหาวีร, ธมฺมํ เทเสสิ ปาณินํ;

สามํ สจฺจานิ พุชฺฌิตฺวา, เกวลํ โพธิปกฺขิยํ.

‘‘อาสยานุสยํ ตฺวา; อินฺทฺริยานํ พลาพลํ;

ภพฺพาภพฺเพ วิทิตฺวาน, มหาเมโฆว คชฺชสิ.

‘‘จกฺกวาฬปริยนฺตา, นิสินฺนา ปริสา ภเว;

นานาทิฏฺี วิจินนฺตํ, วิมติจฺเฉทนาย ตํ.

‘‘สพฺเพสํ จิตฺตมฺาย, โอปมฺมกุสโล มุนิ;

เอกํ ปฺหํ กเถนฺโตว, วิมตึ ฉินฺทสิ ปาณินํ.

‘‘อุปติสฺสสทิเสเหว, วสุธา ปูริตา ภเว;

สพฺเพว เต ปฺชลิกา, กิตฺตยุํ โลกนายกํ.

‘‘กปฺปํ วา เต กิตฺตยนฺตา, นานาวณฺเณหิ กิตฺตยุํ;

ปริเมตุํ น สกฺเกยฺยุํ, อปฺปเมยฺโย ตถาคโต.

‘‘ยถา สเกน ถาเมน, กิตฺติโต หิ มยา ชิโน;

กปฺปโกฏีปิ กิตฺเตนฺตา, เอวเมว ปกิตฺตยุํ.

‘‘สเจ หิ โกจิ เทโว วา, มนุสฺโส วา สุสิกฺขิโต;

ปเมตุํ ปริกปฺเปยฺย, วิฆาตํว ลเภยฺย โส.

‘‘สาสเน เต ปติฏฺาย, สกฺยปุตฺต มหายส;

ปฺาย ปารมึ คนฺตฺวา, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘ติตฺถิเย สมฺปมทฺทามิ, วตฺเตมิ ชินสาสนํ;

ธมฺมเสนาปติ อชฺช, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.

‘‘อปริเมยฺเย กตํ กมฺมํ, ผลํ ทสฺเสสิ เม อิธ;

สุขิตฺโต สรเวโคว, กิเลเส ฌาปยี มม.

‘‘โย โกจิ มนุโช ภารํ, ธาเรยฺย มตฺถเก สทา;

ภาเรน ทุกฺขิโต อสฺส, ภาเรหิ ภริโต ตถา.

‘‘ฑยฺหมาโน ตีหคฺคีหิ, ภเวสุ สํสรึ อหํ;

ภริโต ภวภาเรน, คิรึ อุจฺจาริโต ยถา.

‘‘โอโรปิโต จ เม ภาโร, ภวา อุคฺฆาฏิตา มยา;

กรณียํ กตํ สพฺพํ, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.

‘‘ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหิ, เปตฺวา สกฺยปุงฺควํ;

อหํ อคฺโคมฺหิ ปฺาย, สทิโส เม น วิชฺชติ.

‘‘สมาธิมฺหิ สุกุสโล, อิทฺธิยา ปารมึ คโต;

อิจฺฉมาโน จหํ อชฺช, สหสฺสํ อภินิมฺมิเน.

‘‘อนุปุพฺพวิหารสฺส, วสีภูโต มหามุนิ;

กเถสิ สาสนํ มยฺหํ, นิโรโธ สยนํ มม.

‘‘ทิพฺพจกฺขุ วิสุทฺธํ เม, สมาธิกุสโล อหํ;

สมฺมปฺปธานานุยุตฺโต, โพชฺฌงฺคภาวนารโต.

‘‘สาวเกน หิ ปตฺตพฺพํ, สพฺพเมว กตํ มยา;

โลกนาถํ เปตฺวาน, สทิโส เม น วิชฺชติ.

‘‘สมาปตฺตีนํ กุสโล, ฌานวิโมกฺขาน ขิปฺปปฏิลาภี;

โพชฺฌงฺคภาวนารโต, สาวกคุณปารมิคโตสฺมิ.

‘‘สาวกคุเณนปิ ผุสฺเสน, พุทฺธิยา ปริสุตฺตมภารวา;

ยํ สทฺธาสงฺคหิตํ จิตฺตํ, สทา สพฺรหฺมจารีสุ.

‘‘อุทฺธตวิโสว สปฺโป, ฉินฺนวิสาโณว อุสโภ;

นิกฺขิตฺตมานทปฺโปว, อุเปมิ ครุคารเวน คณํ.

‘‘ยทิ รูปินี ภเวยฺย, ปฺา เม วสุมตีปิ น สเมยฺย;

อโนมทสฺสิสฺส ภควโต, ผลเมตํ าณถวนาย.

‘‘ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ, สกฺยปุตฺเตน ตาทินา;

อนุวตฺเตมหํ สมฺมา, าณถวนายิทํ ผลํ.

‘‘มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉ, กุสีโต หีนวีริโย;

อปฺปสฺสุโต อนาจาโร, สเมโต อหุ กตฺถจิ.

‘‘พหุสฺสุโต จ เมธาวี, สีเลสุ สุสมาหิโต;

เจโตสมถานุยุตฺโต, อปิ มุทฺธนิ ติฏฺตุ.

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทนฺเต, ตาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

อปฺปิจฺฉา โหถ สนฺตุฏฺา, ฌายี ฌานรตา สทา.

‘‘ยมหํ ปมํ ทิสฺวา, วิรโช วิมโล อหุํ;

โส เม อาจริโย ธีโร, อสฺสชิ นาม สาวโก.

‘‘ตสฺสาหํ วาหสา อชฺช, ธมฺมเสนาปตี อหุํ;

สพฺพตฺถ ปารมึ ปตฺวา, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘โย เม อาจริโย อาสิ, อสฺสชิ นาม สาวโก;

ยสฺสํ ทิสายํ วสติ, อุสฺสีสมฺหิ กโรมหํ.

‘‘มม กมฺมํ สริตฺวาน, โคตโม สกฺยปุงฺคโว;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อคฺคฏฺาเน เปสิ มํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อปรภาเค ปน สตฺถา เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน อตฺตโน สาวเก เตน เตน คุณวิเสเสน เอตทคฺเค เปนฺโต – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙) เถรํ มหาปฺภาเวน เอตทคฺเค เปสิ. โส เอวํ สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปตฺวา ธมฺมเสนาปติฏฺาเน ปติฏฺหิตฺวา สตฺตหิตํ กโรนฺโต เอกทิวสํ สพฺรหฺมจารีนํ อตฺตโน จริยวิภาวนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๙๘๑.

‘‘ยถาจารี ยถาสโต สตีมา, ยตสงฺกปฺปชฺฌายิ อปฺปมตฺโต;

อชฺฌตฺตรโต สมาหิตตฺโต, เอโก สนฺตุสิโต ตมาหุ ภิกฺขุํ.

๙๘๒.

‘‘อลฺลํ สุกฺขํ วา ภุฺชนฺโต, น พาฬฺหํ สุหิโต สิยา;

อูนูทโร มิตาหาโร, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.

๙๘๓.

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๙๘๔.

‘‘กปฺปิยํ ตฺเจ ฉาเทติ, จีวรํ อิทมตฺถิกํ;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๙๘๕.

‘‘ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส, ชณฺณุเก นาภิวสฺสติ;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๙๘๖.

‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

อุภยนฺตเรน นาโหสิ, เกน โลกสฺมิ กึ สิยา.

๙๘๗.

‘‘มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉ, กุสีโต หีนวีริโย;

อปฺปสฺสุโต อนาทโร, เกน โลกสฺมิ กึ สิยา.

๙๘๘.

‘‘พหุสฺสุโต จ เมธาวี, สีเลสุ สุสมาหิโต;

เจโตสมถมนุยุตฺโต, อปิ มุทฺธนิ ติฏฺตุ.

๙๘๙.

‘‘โย ปปฺจมนุยุตฺโต, ปปฺจาภิรโต มโค;

วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.

๙๙๐.

‘‘โย จ ปปฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปฺจปเถ รโต;

อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.

๙๙๑.

‘‘คาเม วา ยทิ วารฺเ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;

ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยกํ.

๙๙๒.

‘‘รมณียานิ อรฺานิ, ยตฺถ น รมตี ชโน;

วีตราคา รมิสฺสนฺติ, น เต กามคเวสิโน.

๙๙๓.

‘‘นิธีนํว ปวตฺตารํ, ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ;

นิคฺคยฺหวาทึ เมธาวึ, ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช;

ตาทิสํ ภชมานสฺส, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.

๙๙๔.

‘‘โอวเทยฺยานุสาเสยฺย, อสพฺภา จ นิวารเย;

สตฺหิ โส ปิโย โหติ, อสตํ โหติ อปฺปิโย.

๙๙๕.

‘‘อฺสฺส ภควา พุทฺโธ, ธมฺมํ เทเสสิ จกฺขุมา;

ธมฺเม เทสิยมานมฺหิ, โสตมาเธสิมตฺถิโก;

ตํ เม อโมฆํ สวนํ, วิมุตฺโตมฺหิ อนาสโว.

๙๙๖.

‘‘เนว ปุพฺเพนิวาสาย, นปิ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน;

เจโตปริยาย อิทฺธิยา, จุติยา อุปปตฺติยา;

โสตธาตุวิสุทฺธิยา, ปณิธี เม น วิชฺชติ.

๙๙๗.

‘‘รุกฺขมูลํว นิสฺสาย, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;

ปฺาย อุตฺตโม เถโร, อุปติสฺโสว ฌายติ.

๙๙๘.

‘‘อวิตกฺกํ สมาปนฺโน, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก;

อริเยน ตุณฺหีภาเวน, อุเปโต โหติ ตาวเท.

๙๙๙.

‘‘ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;

เอวํ โมหกฺขยา ภิกฺขุ, ปพฺพโตว น เวธติ.

๑๐๐๐.

‘‘อนงฺคณสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ สุจิคเวสิโน;

วาลคฺคมตฺตํ ปาปสฺส, อพฺภมตฺตํว ขายติ.

๑๐๐๑.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

นิกฺขิปิสฺสํ อิมํ กายํ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต.

๑๐๐๒.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา.

๑๐๐๓.

‘‘อุภเยน มิทํ มรณเมว, นามรณํ ปจฺฉา วา ปุเร วา;

ปฏิปชฺชถ มา วินสฺสถ, ขโณ โว มา อุปจฺจคา.

๑๐๐๔.

‘‘นครํ ยถา ปจฺจนฺตํ, คุตฺตํ สนฺตรพาหิรํ;

เอวํ โคเปถ อตฺตานํ, ขโณ โว มา อุปจฺจคา;

ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.

๑๐๐๕.

‘‘อุปสนฺโต อุปรโต, มนฺตภาณี อนุทฺธโต;

ธุนาติ ปาปเก ธมฺเม, ทุมปตฺตํว มาลุโต.

๑๐๐๖.

‘‘อุปสนฺโต อุปรโต, มนฺตภาณี อนุทฺธโต;

อปฺปาสิ ปาปเก ธมฺเม, ทุมปตฺตํว มาลุโต.

๑๐๐๗.

‘‘อุปสนฺโต อนายาโส, วิปฺปสนฺโน อนาวิโล;

กลฺยาณสีโล เมธาวี, ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา.

๑๐๐๘.

‘‘น วิสฺสเส เอกติเยสุ เอวํ, อคาริสุ ปพฺพชิเตสุ จาปิ;

สาธูปิ หุตฺวาน อสาธุ โหนฺติ, อสาธุ หุตฺวา ปุน สาธุ โหนฺติ.

๑๐๐๙.

‘‘กามจฺฉนฺโท จ พฺยาปาโท, ถินมิทฺธฺจ ภิกฺขุโน;

อุทฺธจฺจํ วิจิกิจฺฉา จ, ปฺเจเต จิตฺตเกลิสา.

๑๐๑๐.

‘‘ยสฺส สกฺกริยมานสฺส, อสกฺกาเรน จูภยํ;

สมาธิ น วิกมฺปติ, อปฺปมาทวิหาริโน.

๑๐๑๑.

‘‘ตํ ฌายินํ สาตติกํ, สุขุมทิฏฺิปสฺสกํ;

อุปาทานกฺขยารามํ, อาหุ สปฺปุริโส อิติ.

๑๐๑๒.

‘‘มหาสมุทฺโท ปถวี, ปพฺพโต อนิโลปิ จ;

อุปมาย น ยุชฺชนฺติ, สตฺถุ วรวิมุตฺติยา.

๑๐๑๓.

‘‘จกฺกานุวตฺตโก เถโร, มหาาณี สมาหิโต;

ปถวาปคฺคิสมาโน, น รชฺชติ น ทุสฺสติ.

๑๐๑๔.

‘‘ปฺาปารมิตํ ปตฺโต, มหาพุทฺธิ มหามติ;

อชโฬ ชฬสมาโน, สทา จรติ นิพฺพุโต.

๑๐๑๕.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา…เป… ภวเนตฺติสมูหตา.

๑๐๑๖.

‘‘สมฺปาเทถปฺปมาเทน, เอสา เม อนุสาสนี;

หนฺทาหํ ปรินิพฺพิสฺสํ, วิปฺปมุตฺโตมฺหิ สพฺพธี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ. อิมา หิ กาจิ คาถา เถเรน ภาสิตา, กาจิ เถรํ อารพฺภ ภควตา ภาสิตา, สพฺพา ปจฺฉา อตฺตโน จริยปเวทนวเสน เถเรน ภาสิตตฺตา เถรสฺเสว คาถา อเหสุํ.

ตตฺถ ยถาจารีติ ยถา กายาทีหิ สํยโต, สํวุโต หุตฺวา จรติ วิหรติ, ยถาจรณสีโลติ วา ยถาจารี, สีลสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. ยถาสโตติ ยถาสนฺโต. คาถาสุขตฺถฺหิ อนุนาสิกโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส กโต, สนฺโต วิย, อริเยหิ นิพฺพิเสโสติ อตฺโถ. สตีมาติ ปรมาย สติยา สมนฺนาคโต. ยตสงฺกปฺปชฺฌายีติ สพฺพโส มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ปหาย เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิวเสน สํยตสงฺกปฺโป หุตฺวา อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จ ฌายนสีโล. อปฺปมตฺโตติ ตสฺมึเยว ยถาจาริภาเว ยตสงฺกปฺโป หุตฺวา ฌายเนน จ ปมาทรหิโต สพฺพตฺถ สุปฺปติฏฺิตสติสมฺปชฺโ. อชฺฌตฺตรโตติ โคจรชฺฌตฺเต กมฺมฏฺานภาวนาย อภิรโต. สมาหิตตฺโตติ ตาย เอว ภาวนาย เอกคฺคจิตฺโต. เอโกติ อสหาโย คณสํสคฺคํ, กิเลสสํสคฺคฺจ ปหาย กายวิเวกํ, จิตฺตวิเวกฺจ ปริพฺรูหยนฺโต. สนฺตุสิโตติ ปจฺจยสนฺโตเสน จ ภาวนารามสนฺโตเสน จ สมฺมเทว ตุสิโต ตุฏฺโ. ภาวนาย หิ อุปรูปริ วิเสสํ อาวหนฺติยา อุฬารํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, มตฺถกํ ปตฺตาย ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตมาหุ ภิกฺขุนฺติ ตํ เอวรูปํ ปุคฺคลํ สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ภยํ อิกฺขนตาย ภินฺนกิเลสตาย จ ภิกฺขูติ วทนฺติ.

อิทานิ ยถาวุตฺตสนฺโตสทฺวเย ปจฺจยสนฺโตสํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘อลฺลํ สุกฺขํ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อลฺลนฺติ สปฺปิอาทิอุปเสเกน ตินฺตํ สินิทฺธํ. สุกฺขนฺติ ตทภาเวน ลูขํ. วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ, อลฺลํ วา สุกฺขํ วาติ. พาฬฺหนฺติ อติวิย. สุหิโตติ ธาโต น สิยาติ อตฺโถ. กถํ ปน สิยาติ อาห ‘‘อูนูทโร มิตาหาโร’’ติ ปณีตํ ลูขํ วาปิ โภชนํ ภุฺชนฺโต ภิกฺขุ ยาวทตฺถํ อภุฺชิตฺวา อูนูทโร สลฺลหุกุทโร, ตโต เอว มิตาหาโร ปริมิตโภชโน อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหรนฺโต ตตฺถ มตฺตฺุตาย ปจฺจเวกฺขณสติยา จ สโต หุตฺวา ปริพฺพเช วิหเรยฺย.

ยถา ปน อูนูทโร มิตาหาโร จ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อภุตฺวาติ จตฺตาโร วา ปฺจ วา อาโลเป กพเฬ อภุฺชิตฺวา ตตฺตกสฺส อาหารสฺส โอกาสํ เปตฺวา ปานียํ ปิเวยฺย. อยฺหิ อาหาเร สลฺลหุกวุตฺติ. นิพฺพานฺหิ เปสิตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ผาสุวิหาราย ฌานาทีนํ อธิคมโยคฺยตาย สุขวิหาราย อลํ ปริยตฺตนฺติ อตฺโถ. อิมินา กุจฺฉิปริหาริยํ ปิณฺฑปาตํ วทนฺโต ปิณฺฑปาเต อิตรีตรสนฺโตสํ ทสฺเสติ. ‘‘ภุตฺวานา’’ติ วา ปาโ, โส จตุปฺจาโลปมตฺเตนาปิ อาหาเรน สรีรํ ยาเปตุํ สมตฺถสฺส อติวิย ถิรปกติกสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน วุตฺโต สิยา, อุตฺตรคาถาหิปิ สํสนฺทติ เอว อปฺปกสฺเสว จีวรสฺส เสนาสนสฺส จ วกฺขมานตฺตา.

กปฺปิยนฺติ ยํ กปฺปิยกปฺปิยานุโลเมสุ โขมาทีสุ อฺตรนฺติ อตฺโถ. ตฺเจ ฉาเทตีติ กปฺปิยํ จีวรํ สมานํ ฉาเทตพฺพํ านํ ฉาเทติ เจ, สตฺถารา อนุฺาตชาติยํ สนฺตํ เหฏฺิมนฺเตน อนุฺาตปมาณยุตฺตํ เจ โหตีติ อตฺโถ. อิทมตฺถิกนฺติ อิทํ ปโยชนตฺถํ สตฺถารา วุตฺตปโยชนตฺถํ ยาวเทว สีตาทิปฏิฆาตนตฺถฺเจว หิรีโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถฺจาติ อตฺโถ. เอเตน กายปริหาริยํ จีวรํ ตตฺถ อิตรีตรสนฺโตสฺจ วทติ.

ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺสาติ ปลฺลงฺกํ วุจฺจติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ, เตน นิสินฺนสฺส, ติสนฺธิปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺนสฺสาติ อตฺโถ. ชณฺณุเก นาภิวสฺสตีติ ยสฺสํ กุฏิยํ ตถา นิสินฺนสฺส เทเว วสฺสนฺเต ชณฺณุกทฺวยํ วสฺโสทเกน น เตมิยติ, เอตฺตกมฺปิ สพฺพปริยนฺตเสนาสนํ, สกฺกา หิ ตตฺถ นิสีทิตฺวา อตฺถกามรูเปน กุลปุตฺเตน สทตฺถํ นิปฺผาเทตุํ. เตนาห ‘‘อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.

เอวํ เถโร อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ เย เต ภิกฺขู มหิจฺฉา อสนฺตุฏฺา, เตสํ ปรมุกฺกํสคตํ สลฺเลขโอวาทํ ปกาเสตฺวา อิทานิ เวทนามุเขน ภาวนารามสนฺโตสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย สุข’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สุขนฺติ สุขเวทนํ. ทุกฺขโตติ วิปริณามทุกฺขโต. อทฺทาติ อทฺทส, วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ยถาภูตํ โย อปสฺสีติ อตฺโถ. สุขเวทนา หิ ปริโภคกาเล อสฺสาทิยมานาปิ วิสมิสฺสํ วิย โภชนํ วิปริณามกาเล ทุกฺขาเยว โหติ. เตเนตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนํ ทสฺเสติ. ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโตติ ทุกฺขเวทนํ โย สลฺลนฺติ ปสฺสิ. ทุกฺขเวทนา หิ ยถา สลฺลํ สรีรํ อนุปวิสนฺตมฺปิ อนุปวิสิตฺวา ิตมฺปิ อุทฺธริยมานมฺปิ ปีฬนเมว ชเนติ, เอวํ อุปฺปชฺชมานาปิ ิติปฺปตฺตาปิ ภิชฺชมานาปิ วิพาธติเยวาติ. เอเตเนตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนํเยว อุกฺกํเสตฺวา วทติ, เตน จ ‘‘ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต เวทนาทฺวเย อตฺตตฺตนิยคาหํ วินิเวเติ. อุภยนฺตเรนาติ อุภเยสํ อนฺตเร, สุขทุกฺขเวทนานํ มชฺฌภูเต อทุกฺขมสุเขติ อตฺโถ. นาโหสีติ ยถาภูตาวโพธเน อตฺตตฺตนิยาภินิเวสนํ อโหสิ. เกน โลกสฺมิ กึ สิยาติ เอวํ เวทนามุเขน ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺเธ ปริชานิตฺวา ตปฺปฏิพทฺธํ สกลกิเลสชาลํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา ิโต เกน นาม กิเลเสน โลกสฺมึ พทฺโธ, เทวตาทีสุ กึ วา อายติ สิยา, อฺทตฺถุ ฉินฺนพนฺธโน อปฺตฺติโกว สิยาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ มิจฺฉาปฏิปนฺเน ปุคฺคเล ครหนฺโต สมฺมาปฏิปนฺเน ปสํสนฺโต ‘‘มา เม’’ติอาทิกา จตสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉติ โย อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย ปาปิจฺโฉ, สมณธมฺเม อุสฺสาหาภาเวน กุสีโต, ตโตเยว หีนวีริโย, สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิปฏิสํยุตฺตสฺส สุตสฺส อภาเวน อปฺปสฺสุโต, โอวาทานุสาสนีสุ อาทราภาเวน อนาทโร, ตาทิโส อติหีนปุคฺคโล มม สนฺติเก กทาจิปิ มา โหตุ. กสฺมา? เกน โลกสฺมิ กึ สิยาติ โลกสฺมึ สตฺตนิกาเย ตสฺส ตาทิสสฺส ปุคฺคลสฺส เกน โอวาเทน กึ ภวิตพฺพํ, เกน วา กเตน กึ สิยา, นิรตฺถกเมวาติ อตฺโถ.

พหุสฺสุโต จาติ โย ปุคฺคโล สีลาทิปฏิสํยุตฺตสฺส สุตฺตเคยฺยาทิเภทสฺส พหุโน สุตสฺส สมฺภเวน พหุสฺสุโต, ธมฺโมชปฺาย ปาริหาริยปฺาย ปฏิเวธปฺาย จ วเสน เมธาวี, สีเลสุ จ สุฏฺุ ปติฏฺิตตฺตา สุสมาหิโต, เจโตสมถํ โลกิยโลกุตฺตรเภทํ จิตฺตสมาธานํ อนุยุตฺโต, ตาทิโส ปุคฺคโล มยฺหํ มตฺถเกปิ ติฏฺตุ, ปเคว สหวาโส.

โย ปปฺจมนุยุตฺโตติ โย ปน ปุคฺคโล กมฺมารามตาทิวเสน รูปาภิสงฺคาทิวเสน จ ปวตฺติยา ปปฺจนฏฺเน ตณฺหาทิเภทํ ปปฺจํ อนุยุตฺโต, ตตฺถ จ อนาทีนวทสฺสเนน อภิรโต มคสทิโส, โส นิพฺพานํ วิราธยิ, โส นิพฺพานา สุวิทูรวิทูเร ิโต.

โย จ ปปฺจํ หิตฺวานาติ โย ปน ปุคฺคโล ตณฺหาปปฺจํ ปหาย ตทภาวโต นิปฺปปฺจสฺส นิพฺพานสฺส ปเถ อธิคมุปาเย อริยมคฺเค รโต ภาวนาภิสมเย อภิรโต, โส นิพฺพานํ อาราธยิ สาเธสิ อธิคจฺฉีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ เถโร อตฺตโน กนิฏฺภาติกสฺส เรวตตฺเถรสฺส กณฺฏกนิจิตขทิรรุกฺขสฺฉนฺเน นิรุทกกนฺตาเร วาสํ ทิสฺวา ตํ ปสํสนฺโต ‘‘คาเม วา’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตตฺถ คาเม วาติ กิฺจาปิ อรหนฺโต คามนฺเต กายวิเวกํ น ลภนฺติ, จิตฺตวิเวกํ ปน ลภนฺเตว. เตสฺหิ ทิพฺพปฏิภาคานิปิ อารมฺมณานิ จิตฺตํ จาเลตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา คาเม วา โหตุ อรฺาทีสุ อฺตรํ วา, ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยกนฺติ โส ภูมิปฺปเทโส รมณีโย เอวาติ อตฺโถ.

อรฺานีติ สุปุปฺผิตตรุสณฺฑมณฺฑิตานิ วิมลสลิลาสยสมฺปนฺนานิ อรฺานิ รมณียานีติ สมฺพนฺโธ. ยตฺถาติ เยสุ อรฺเสุ วิกสิเตสุ วิย รมมาเนสุ กามปกฺขิโก กามคเวสโก ชโน น รมติ. วีตราคาติ วิคตราคา ปน ขีณาสวา ภมรมธุกรา วิย ปทุมวเนสุ ตถารูเปสุ อรฺเสุ รมิสฺสนฺตีติ. น เต กามคเวสิโนติ ยสฺมา เต วีตราคา กามคเวสิโน น โหนฺตีติ อตฺโถ.

ปุน เถโร ราธํ นาม ทุคฺคตพฺราหฺมณํ อนุกมฺปาย ปพฺพาเชตฺวา, อุปสมฺปาเทตฺวา ตเมว ปจฺฉาสมณํ กตฺวา วิจรนฺโต เอกทิวสํ ตสฺส จ สุพฺพจภาเวน ตุสฺสิตฺวา โอวาทํ เทนฺโต ‘‘นิธีนํวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิธีนํวาติ ตตฺถ ตตฺถ นิทหิตฺวา ปิตานํ หิรฺสุวณฺณาทิปูรานํ นิธิกุมฺภีนํ. ปวตฺตารนฺติ กิจฺฉชีวิเก ทุคฺคตมนุสฺเส อนุกมฺปํ กตฺวา ‘‘เอหิ เต สุเขน ชีวิตุํ อุปายํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ นิธิฏฺานํ เนตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘อิมํ คเหตฺวา สุขํ ชีวาหี’’ติ อาจิกฺขิตารํ วิย. วชฺชทสฺสินนฺติ ทฺเว วชฺชทสฺสิโน – ‘‘อิมินา นํ อสารุปฺเปน วา ขลิเตน วา สงฺฆมชฺเฌ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ รนฺธคเวสโก จ, อฺาตํ าเปตุกาโม าตํ อสฺสาเทนฺโต สีลาทิวุทฺธิกามตาย ตํ ตํ วชฺชํ โอโลเกนฺโต อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิโต จาติ, อยํ อิธ อธิปฺเปโต. ยถา หิ ทุคฺคตมนุสฺโส ‘‘อิมํ นิธึ คณฺหาหี’’ติ นิคฺคยฺหมาโนปิ นิธิทสฺสเน โกปํ น กโรติ, ปมุทิโตว โหติ, เอวํ เอวรูเปสุ ปุคฺคเลสุ อสารุปฺปํ วา ขลิตํ วา ทิสฺวา อาจิกฺขนฺเต โกโป น กาตพฺโพ, ตุฏฺจิตฺเตเนว ภวิตพฺพํ, ‘‘ภนฺเต, ปุนปิ มํ เอวรูปํ วเทยฺยาถา’’ติ ปวาเรตพฺพเมว. นิคฺคยฺหวาทินฺติ โย วชฺชํ ทิสฺวา อยํ เม สทฺธิวิหาริโก, อนฺเตวาสิโก, อุปการโกติ อจินฺเตตฺวา วชฺชานุรูปํ ตชฺเชนฺโต ปณาเมนฺโต ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺโต สิกฺขาเปติ, อยํ นิคฺคยฺหวาที นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิย. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาหํ, อานนฺท, วกฺขามิ; ปวยฺห ปวยฺห, อานนฺท, วกฺขามิ. โย สาโร โส สฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๙๖). เมธาวินฺติ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคตํ. ตาทิสนฺติ เอวรูปํ ปณฺฑิตํ. ภเชติ ปยิรุปาเสยฺย. ตาทิสฺหิ อาจริยํ ภชมานสฺส อนฺเตวาสิกสฺส เสยฺโย โหติ, น ปาปิโย, วุฑฺฒิเยว โหติ, โน ปริหานีติ อตฺโถ.

อเถกทา อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ กีฏาคิริสฺมึ อาวาเส ทูสิเต สตฺถารา อาณตฺโต อตฺตโน ปริสาย มหาโมคฺคลฺลาเนน จ สทฺธึ ตตฺถ คโต ธมฺมเสนาปติ อสฺสชิปุนพฺพสุเกสุ โอวาทํ อนาทิยนฺเตสุ อิมํ คาถมาห. ตตฺถ โอวเทยฺยาติ โอวาทํ อนุสิฏฺึ ทเทยฺย. อนุสาเสยฺยาติ ตสฺเสว ปริยายวจนํ. อถ วา อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ วทนฺโต โอวทติ นาม, อนุปฺปนฺเน ‘‘อยโสปิ เต สิยา’’ติอาทึ อนาคตํ อุทฺทิสฺส วทนฺโต อนุสาสติ นาม. สมฺมุขา วทนฺโต วา โอวทติ นาม, ปรมฺมุขา ทูตํ, สาสนํ วา เปเสตฺวา วทนฺโต อนุสาสติ นาม. สกึ วทนฺโต วา โอวทติ นาม, ปุนปฺปุนํ วทนฺโต อนุสาสติ นาม. อสพฺภา จาติ อกุสลา ธมฺมา จ นิวารเย, กุสเล ธมฺเม จ ปติฏฺาเปยฺยาติ อตฺโถ. สตฺหิ โสติ เอวรูโป ปุคฺคโล สาธูนํ ปิโย โหติ. เย ปน อสนฺตา อสปฺปุริสา วิติณฺณปรโลกา อามิสจกฺขุกา ชีวิกตฺถาย ปพฺพชิตา, เตสํ โส โอวาทโก อนุสาสโก ‘‘น ตฺวํ อมฺหากํ อุปชฺฌาโย, น อาจริโย, กสฺมา อมฺเห วทสี’’ติ เอวํ มุขสตฺตีหิ วิชฺฌนฺตานํ อปฺปิโย โหตีติ.

‘‘ยํ อารพฺภ สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, โส เอว อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน’’ติ ภิกฺขูสุ กถาย สมุฏฺิตาย ‘‘นยิทเมต’’นฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฺสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อฺสฺสาติ อตฺตโน ภาคิเนยฺยํ ทีฆนขปริพฺพาชกํ สนฺธายาห. ตสฺส หิ สตฺถารา เวทนาปริคฺคหสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๐๕-๒๐๖) เทสิยมาเน อยํ มหาเถโร ภาวนามคฺเค อธิคนฺตฺวา สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปตฺโต. โสตโมเธสิมตฺถิโกติ สตฺถารํ พีชยมาโน ิโต อตฺถิโก หุตฺวา สุสฺสูสนฺโต โสตํ โอทหึ. ตํ เม อโมฆํ สวนนฺติ ตํ ตถา สุตํ สวนํ มยฺหํ อโมฆํ อวฺฌํ อโหสิ, อคฺคสาวเกน ปตฺตพฺพํ สมฺปตฺตีนํ อวสฺสโย อโหสิ. เตนาห ‘‘วิมุตฺโตมฺหี’’ติอาทิ.

ตตฺถ เนว ปุพฺเพนิวาสายาติ อตฺตโน ปเรสฺจ ปุพฺเพนิวาสชานนาณตฺถาย, ปณิธี เม เนว วิชฺชตีติ โยชนา. ปริกมฺมกรณวเสน ตทตฺถํ จิตฺตปณิธานมตฺตมฺปิ เนวตฺถิ เนว อโหสีติ อตฺโถ. เจโตปริยายาติ เจโตปริยาณสฺส. อิทฺธิยาติ อิทฺธิวิธาณสฺส. จุติยา อุปปตฺติยาติ, สตฺตานํ จุติยา อุปปตฺติยา จ ชานนาณาย จุตูปปาตาณตฺถาย. โสตธาตุวิสุทฺธิยาติ ทิพฺพโสตาณสฺส. ปณิธี เม น วิชฺชตีติ อิเมสํ อภิฺาวิเสสานํ อตฺถาย ปริกมฺมวเสน จิตฺตสฺส ปณิธิ จิตฺตาภินีหาโร เม นตฺถิ นาโหสีติ อตฺโถ. สพฺพฺุคุณา วิย หิ พุทฺธานํ อคฺคมคฺคาธิคเมเนว สาวกานํ สพฺเพ สาวกคุณา หตฺถคตา โหนฺติ, น เตสํ อธิคมาย วิสุํ ปริกมฺมกรณกิจฺจํ อตฺถีติ.

รุกฺขมูลนฺติอาทิกา ติสฺโส คาถา กโปตกนฺทรายํ วิหรนฺตสฺส ยกฺเขน ปหตกาเล สมาปตฺติพเลน อตฺตโน นิพฺพิการตาทีปนวเสน วุตฺตา. ตตฺถ มุณฺโฑติ น โวโรปิตเกโส. สงฺฆาฏิปารุโตติ สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน. ‘‘สงฺฆาฏิยา สุปารุโต’’ติ จ ปนฺติ. ปฺาย อุตฺตโม เถโรติ เถโร หุตฺวา ปฺาย อุตฺตโม, สาวเกสุ ปฺาย เสฏฺโติ อตฺโถ. ฌายตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จ ฌายติ, พหุลํ สมาปตฺติวิหาเรน วิหรตีติ อตฺโถ.

อุเปโต โหติ ตาวเทติ ยทา ยกฺเขน สีเส ปหโต, ตาวเทว อวิตกฺกํ จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺตึ สมาปนฺโน อริเยน ตุณฺหีภาเวน อุเปโต สมนฺนาคโต อโหสิ. อตีตตฺเถ หิ โหตีติ อิทํ วตฺตมานวจนํ.

ปพฺพโตว น เวธตีติ โมหกฺขยา ภินฺนสพฺพกิเลโส ภิกฺขุ. โส เสลมยปพฺพโต วิย อจโล สุปฺปติฏฺิโต อิฏฺาทินา เกนจิ น เวธติ, สพฺพตฺถ นิพฺพิกาโร โหตีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ เถรสฺส อสติยา นิวาสนกณฺเณ โอลมฺพนฺเต อฺตโร สามเณโร, ‘‘ภนฺเต, ปริมณฺฑลํ นิวาเสตพฺพ’’นฺติ อาห. ตํ สุตฺวา ‘‘ภทฺทํ ตยา สุฏฺุ วุตฺต’’นฺติ สิรสา วิย สมฺปฏิจฺฉนฺโต ตาวเทว โถกํ อปกฺกมิตฺวา ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา ‘‘มาทิสานํ อยมฺปิ โทโสเยวา’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนงฺคณสฺสา’’ติ คาถมาห.

ปุน มรเณ ชีวิเต จ อตฺตโน สมจิตฺตตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาภินนฺทามี’’ติอาทินา ทฺเว คาถา วตฺวา ปเรสํ ธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘อุภเยน มิท’’นฺติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ อุภเยนาติ อุภเยสุ, อุโภสุ กาเลสูติ อตฺโถ. มิทนฺติ ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. อิทํ มรณเมว, มรณํ อตฺเถว นาม, อมรณํ นาม นตฺถิ. เกสุ อุโภสุ กาเลสูติ อาห ‘‘ปจฺฉา วา ปุเร วา’’ติ มชฺฌิมวยสฺส ปจฺฉา วา ชราชิณฺณกาเล ปุเร วา ทหรกาเล มรณเมว มรณํ เอกนฺติกเมว. ตสฺมา ปฏิปชฺชถ สมฺมา ปฏิปตฺตึ ปูเรถ วิปฺปฏิปชฺชิตฺวา มา วินสฺสถ อปาเยสุ มหาทุกฺขํ มานุภวถ. ขโณ โว มา อุปจฺจคาติ อฏฺหิ อกฺขเณหิ วิวชฺชิโต อยํ นวโม ขโณ มา ตุมฺเห อติกฺกมีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ อายสฺมนฺตํ มหาโกฏฺิกํ ทิสฺวา ตสฺส คุณํ ปกาเสนฺโต ‘‘อุปสนฺโต’’ติอาทินา ติสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ อนุทฺเทสิกวเสน ‘‘ธุนาตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปุน เถรสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทนฺโต ‘‘อปฺปาสี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปาสีติ อธุนา ปหาสีติ อตฺโถ. อนายาโสติ อปริสฺสโม, กิเลสทุกฺขรหิโตติ อตฺโถ. วิปฺปสนฺโน อนาวิโลติ วิปฺปสนฺโน อสทฺธิยาทีนํ อภาเวน สุฏฺุ ปสนฺนจิตฺโต อนาวิลสงฺกปฺปตาย อนาวิโล.

น วิสฺสเสติ คาถา เทวทตฺตํ สทฺทหิตฺวา ตสฺส ทิฏฺึ โรเจตฺวา ิเต วชฺชิปุตฺตเก อารพฺภ วุตฺตา. ตตฺถ น วิสฺสเสติ วิสฺสฏฺโ น ภเวยฺย, น สทฺทเหยฺยาติ อตฺโถ. เอกติเยสูติ เอกจฺเจสุ อนวฏฺิตสภาเวสุ ปุถุชฺชเนสุ. เอวนฺติ ยถา ตุมฺเห ‘‘เทวทตฺโต สมฺมา ปฏิปนฺโน’’ติ วิสฺสาสํ อาปชฺชิตฺถ, เอวํ. อคาริสูติ คหฏฺเสุ. สาธูปิ หุตฺวานาติ ยสฺมา ปุถุชฺชนภาโว นาม อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑํ วิย ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุกํ วิย จ อนวฏฺิโต, ตสฺมา เอกจฺเจ อาทิโต สาธู หุตฺวา ิตาปิ ปจฺฉา อสาธู โหนฺติ. ยถา เทวทตฺโต ปุพฺเพ สีลสมฺปนฺโน อภิฺาสมาปตฺติลาภี หุตฺวา ลาภสกฺการปกโต อิทานิ ปริหีนวิเสโส ฉินฺนปกฺขกาโก วิย อาปายิโก ชาโต. ตสฺมา ตาทิโส ทิฏฺมตฺเตน ‘‘สาธู’’ติ น วิสฺสาสิตพฺโพ. เอกจฺเจ ปน กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคาภาเวน อาทิโต อสาธู หุตฺวาปิ ปจฺฉา กลฺยาณสํสคฺเคน สาธู โหนฺติเยว, ตสฺมา เทวทตฺตสทิเส สาธุปติรูเป ‘‘สาธู’’ติ น วิสฺสาเสยฺยาติ อตฺโถ.

เยสํ กามจฺฉนฺทาทโย จิตฺตุปกฺกิเลสา อวิคตา, เต อสาธู. เยสํ เต วิคตา, เต สาธูติ ทสฺเสตุํ ‘‘กามจฺฉนฺโท’’ติ คาถํ วตฺวา อสาธารณโต อุกฺกํสคตํ สาธุลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส สกฺกริยมานสฺสา’’ติอาทินา คาถาทฺวยํ วุตฺตํ.

อสาธารณโต ปน อุกฺกํสคตํ ตํ ทสฺเสตุํ สตฺถารํ อตฺตานฺจ อุทาหรนฺโต ‘‘มหาสมุทฺโท’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ มหาสมุทฺโทติ อยํ มหาสมุทฺโท, มหาปถวี เสโล ปพฺพโต, ปุรตฺถิมาทิเภทโต อนิโล จ อตฺตโน อเจตนาภาเวน อิฏฺานิฏฺํ สหนฺติ, น ปฏิสงฺขานพเลน, สตฺถา ปน ยสฺสา อรหตฺตุปฺปตฺติยา วเสน อุตฺตเม ตาทิภาเว ิโต อิฏฺาทีสุ สพฺพตฺถ สโม นิพฺพิกาโร, ตสฺสา สตฺถุ วรวิมุตฺติยา อคฺคผลวิมุตฺติยา เต มหาสมุทฺทาทโย อุปมาย อุปมาภาเวน น ยุชฺชนฺติ กลภาคมฺปิ น อุเปนฺตีติ อตฺโถ.

จกฺกานุวตฺตโกติ สตฺถารา วตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส อนุวตฺตโก. เถโรติ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคเมน เถโร. มหาาณีติ มหาปฺโ. สมาหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธินา อนุตฺตรสมาธินา จ สมาหิโต. ปวาปคฺคิสมาโนติ อิฏฺาทิอารมฺมณสนฺนิปาเต นิพฺพิการตาย ปถวิยา อาเปน อคฺคินา จ สทิสวุตฺติโก. เตนาห ‘‘น รชฺชติ น ทุสฺสตี’’ติ.

ปฺาปารมิตํ ปตฺโตติ สาวกาณสฺส ปารมึ ปารโกฏึ ปตฺโต. มหาพุทฺธีติ มหาปุถุหาสชวนติกฺขนิพฺเพธิกภาวปฺปตฺตาย มหติยา พุทฺธิยา ปฺาย สมนฺนาคโต. มหามตีติ ธมฺมนฺวยเวทิตสงฺขาตาย มหติยา นยคฺคาหมติยา สมนฺนาคโต. เย หิ เต จตุพฺพิธา, โสฬสวิธา, จตุจตฺตาลีสวิธา, เตสตฺตติวิธา จ ปฺปฺปเภทา. เตสํ สพฺพโส อนวเสสานํ อธิคตตฺตา มหาปฺตา ทิวิเสสโยคโต จ อยํ มหาเถโร สาติสยํ ‘‘มหาพุทฺธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. ยถาห ภควา –

‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; มหาปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ปุถุปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; หาสปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ชวนปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ติกฺขปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; นิพฺเพธิกปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๙๓).

ตตฺถายํ ปณฺฑิตภาวาทีนํ วิภาควิภาวนา. ธาตุกุสลตา, อายตนกุสลตา, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา, านาฏฺานกุสลตาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ ปณฺฑิโต. มหาปฺตาทีนํ วิภาคทสฺสเน อยํ ปาฬิ –

‘‘กตมา มหาปฺา? มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต ธมฺเม ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตา นิรุตฺติโย ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต ปฺากฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต วิมุตฺติกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ านาฏฺานานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตา วิหารสมาปตฺติโย ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สติปฏฺาเน ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมฺมปฺปธาเน ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต อิทฺธิปาเท ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ พลานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต โพชฺฌงฺเค ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต อริยมคฺเค ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ สามฺผลานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตา อภิฺาโย ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.

‘‘กตมา ปุถุปฺา? ปุถุนานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาธาตูสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอายตเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสุฺตมนุปลพฺเภสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอตฺเถสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาธมฺเมสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานานิรุตฺตีสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาปฏิภาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสีลกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสมาธิกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาปฺากฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาวิมุตฺติกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาวิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาานาฏฺาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาวิหารสมาปตฺตีสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอริยสจฺเจสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสติปฏฺาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสมฺมปฺปธาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอิทฺธิปาเทสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอินฺทฺริเยสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาพเลสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาโพชฺฌงฺเคสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอริยมคฺเคสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสามฺผเลสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอภิฺาสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุชฺชนสาธารเณ ธมฺเม อติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.

‘‘กตมา หาสปฺา? อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลานิ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล โภชเน มตฺตฺุตํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล ชาคริยานุโยคํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล สีลกฺขนฺธํ…เป… สมาธิกฺขนฺธํ, ปฺากฺขนฺธํ, วิมุตฺติกฺขนฺธํ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ…เป… ปฏิวิชฺฌตีติ. วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ, อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌตีติ, สติปฏฺาเน ภาเวตีติ, สมฺมปฺปธาเน ภาเวตีติ, อิทฺธิปาเท ภาเวตีติ, อินฺทฺริยานิ ภาเวตีติ, พลานิ ภาเวตีติ, โพชฺฌงฺเค ภาเวตีติ, อริยมคฺคํ ภาเวตีติ…เป… สามฺผลานิ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา; หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.

‘‘กตมา ชวนปฺา? ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, ทุกฺขโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา; ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, ทุกฺขโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ, อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, ทุกฺขโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

‘‘รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา…เป… เวทนา…เป… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

‘‘รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา…เป… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

‘‘กตมา ติกฺขปฺา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา, อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ นาธิวาเสติ…เป… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ ราคํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ โทสํ…เป… อุปฺปนฺนํ โมหํ… อุปฺปนฺนํ โกธํ… อุปฺปนฺนํ อุปนาหํ… มกฺขํ… ปฬาสํ… อิสฺสํ… มจฺฉริยํ… มายํ… สาเยฺยํ… ถมฺภํ… สารมฺภํ… มานํ… อติมานํ… มทํ… ปมาทํ… สพฺเพ กิเลเส… สพฺเพ ทุจฺจริเต… สพฺเพ อภิสงฺขาเร…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร จ อริยมคฺคา, จตฺตาริ สามฺผลานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.

‘‘กตมา นิพฺเพธิกปฺา? อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา; อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โกธํ…เป… อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๖-๗).

เอวํ ยถาวุตฺตวิภาคาย มหติยา ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา ‘‘มหาพุทฺธี’’ติ วุตฺตํ.

อปิจ อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสนาปิ อิมสฺส เถรสฺส มหาปฺตา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ อนุปทธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสติ. ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตสฺส อนุปทธมฺมวิปสฺสนาย โหติ.

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ ปเม ฌาเน ธมฺมา วิตกฺโก จ…เป… จิตฺเตกคฺคตา จ ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร, ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ, ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ ‘เอวํ กิร เม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหติ, โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหิตฺวา เย ธมฺมา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา, เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ ‘‘เอวํ กิร เม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหติ, โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหิตฺวา เย ธมฺมา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา, เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ ‘เอวํ กิร เม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ, โส ‘นตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา นตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย ‘วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สีลสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สมาธิสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย ปฺาย, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย วิมุตฺติยา’ติ. สาริปุตฺตเมเวตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๓-๙๗).

เอวํ มหาปุถุหาสชวนติกฺขนิพฺเพธิกภาวปฺปตฺตาย มหติยา พุทฺธิยา สมนฺนาคตตฺตา เถโร มหาพุทฺธีติ อตฺโถ. ธมฺมนฺวยเวทิตา ปนสฺส สมฺปสาทนียสุตฺเตน (ที. นิ. ๓.๑๔๑ อาทโย) ทีเปตพฺพา. ตตฺถ หิ สพฺพฺุตฺาณสทิโส เถรสฺส นยคฺคาโห วุตฺโต. อชโฬ ชฬสมาโนติ สาวเกสุ ปฺาย อุกฺกํสคตตฺตา สพฺพถาปิ อชโฬ สมาโน ปรมปฺปิจฺฉตาย อตฺตานํ อชานนฺตํ วิย กตฺวา, ทสฺสเนน ชฬสทิโส มนฺทสริกฺโข กิเลสปริฬาหาภาเวน นิพฺพุโต สีติภูโต สทา จรติ นิจฺจํ วิหรตีติ อตฺโถ.

ปริจิณฺโณติ คาถา เถเรน อตฺตโน กตกิจฺจตํ ปกาเสนฺเตน ภาสิตา, สาปิ วุตฺตตฺถาเยว.

สมฺปาเทถปฺปมาเทนาติ อยํ ปน อตฺตโน ปรินิพฺพานกาเล สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน ภาสิตา. สาปิ วุตฺตตฺถาเยวาติ.

สาริปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อานนฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปิสุเณน จ โกธเนนาติอาทิกา อายสฺมโต อานนฺทตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร สตฺถุ เวมาติกภาตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สุมโนติสฺส นามํ อโหสิ. ปิตา ปนสฺส อานนฺทราชา นาม. โส อตฺตโน ปุตฺตสฺส สุมนกุมารสฺส วยปฺปตฺตสฺส หํสวติโต วีสโยชนสเต าเน โภคนครํ อทาสิ. โส กทาจิ กทาจิ อาคนฺตฺวา อตฺตานฺจ ปิตรฺจ ปสฺสติ. ตทา ราชา สตฺถารฺจ สตสหสฺสปริมาณํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ สยเมว สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิ, อฺเสํ อุปฏฺาตุํ น เทติ.

เตน สมเยน ปจฺจนฺโต กุปิโต อโหสิ. กุมาโร ตสฺส กุปิตภาวํ รฺโ อนาโรเจตฺวา สยเมว ตํ วูปสเมติ. ตํ สุตฺวา ราชา ตุฏฺมานโส ปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘วรํ เต, ตาต ทมฺมิ, วรํ คณฺหาหี’’ติ อาห. กุมาโร ‘‘สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ เตมาสํ อุปฏฺหนฺโต ชีวิตํ อวฺฌํ กาตุํ อิจฺฉามี’’ติ อาห. ‘‘เอตํ น สกฺกา, อฺํ วเทหี’’ติ. ‘‘เทว, ขตฺติยานํ ทฺเวกถา นาม นตฺถิ, เอตเทว เม เทหิ, น มยฺหํ อฺเน อตฺโถ’’ติ. ‘‘สเจ สตฺถา อนุชานาติ, ทินฺนเมวา’’ติ. โส ‘‘สตฺถุ จิตฺตํ ชานิสฺสามี’’ติ วิหารํ คโต.

เตน จ สมเยน ภควา ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิฏฺโ โหติ. โส ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ทสฺสนาย อาคโต, ทสฺเสถ เม ภควนฺต’’นฺติ อาห. ภิกฺขู ‘‘สุมโน นาม เถโร สตฺถุ อุปฏฺาโก, ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ อาหํสุ. โส เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘สตฺถารํ, ภนฺเต, เม ทสฺเสถา’’ติ อาห. อถ เถโร ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ราชปุตฺโต ตุมฺหากํ ทสฺสนาย อาคโต’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขุ, พหิ อาสนํ ปฺาเปหี’’ติ. เถโร ปุนปิ ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว พุทฺธาสนํ คเหตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ นิมุชฺชิตฺวา พหิปริเวเณ ปาตุภวิตฺวา คนฺธกุฏิปริเวเณ อาสนํ ปฺาเปสิ. กุมาโร ตํ ทิสฺวา ‘‘มหนฺโต วตายํ ภิกฺขู’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ.

ภควาปิ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ราชปุตฺโต สตฺถารํ วนฺทิตฺวา, ปฏิสนฺถารํ กตฺวา, อยํ, ภนฺเต, เถโร ตุมฺหากํ สาสเน วลฺลโภ มฺเติ. ‘‘อาม กุมาร, วลฺลโภ’’ติ? ‘‘กึ กตฺวา, ภนฺเต, เอส วลฺลโภ โหตี’’ติ?‘‘ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา’’ติ. ‘‘ภควา, อหมฺปิ อยํ เถโร วิย อนาคเต พุทฺธสาสเน วลฺลโภ โหตุกาโม’’ติ สตฺถาหํ ขนฺธาวารภตฺตํ นาม ทตฺวาปิ สตฺตเม ทิวเส, ภนฺเต, มยา ปิตุ สนฺติกา เตมาสํ ตุมฺหากํ ปฏิชคฺคนวโร ลทฺโธ, เตมาสํ เม วสฺสาวาสํ อธิวาเสถาติ. ภควา, ‘‘อตฺถิ นุ โข ตตฺถ คเตน อตฺโถ’’ติ โอโลเกตฺวา ‘‘อตฺถี’’ติ ทิสฺวา ‘‘สุฺาคาเร โข, กุมาร, ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ อาห. กุมาโร ‘‘อฺาตํ ภควา, อฺาตํ สุคตา’’ติ วตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปุริมตรํ คนฺตฺวา วิหารํ กาเรมิ, มยา เปสิเต ภิกฺขุสตสหสฺเสน สทฺธึ อาคจฺฉถา’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ทินฺนา เม, เทว, ภควตา ปฏิฺา, มยา ปหิเต ภควนฺตํ เปเสยฺยาถา’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา, นิกฺขมิตฺวา โยชเน โยชเน วิหารํ กโรนฺโต วีสโยชนสตํ อทฺธานํ คโต. คนฺตฺวา จ อตฺตโน นคเร วิหารฏฺานํ วิจินนฺโต โสภนสฺส นาม กุฏุมฺพิกสฺส อุยฺยานํ ทิสฺวา สตสหสฺเสน กิณิตฺวา สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา วิหารํ กาเรสิ. ตตฺถ ภควโต คนฺธกุฏึ เสสภิกฺขูนฺจ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานตฺถาย กุฏิเลณมณฺฑเป กาเรตฺวา ปาการปริกฺเขปํ ทฺวารโกฏฺกฺจ นิฏฺาเปตฺวา ปิตุ สนฺติกํ เปเสสิ ‘‘นิฏฺิตํ มยฺหํ กิจฺจํ, สตฺถารํ ปหิณถา’’ติ.

ราชา ภควนฺตํ โภเชตฺวา ‘‘ภควา สุมนสฺส กิจฺจํ นิฏฺิตํ, ตุมฺหากํ คมนํ ปจฺจาสีสตี’’ติ อาห. ภควา สตสหสฺสภิกฺขุปริวุโต โยชเน โยชเน วิหาเรสุ วสมาโน อคมาสิ. กุมาโร ‘‘สตฺถา อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา โยชนํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมาโน สตสหสฺเสน กีเต โสภเน นาม อุยฺยาเน สตสหสฺเสน การิตํ วิหารํ ปเวเสตฺวา –

‘‘สตสหสฺเสน เม กีตํ, สตสหสฺเสน มาปิตํ;

โสภนํ นาม อุยฺยานํ, ปฏิคฺคณฺห มหามุนี’’ติ. –

ตํ นิยฺยาเทสิ. โส วสฺสูปนายิกทิวเส มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ‘‘อิมินาว นีหาเรน ทานํ ทเทยฺยาถา’’ติ ปุตฺตทาเร อมจฺเจ จ กิจฺจกรณีเยสุ จ นิโยเชตฺวา สยํ สุมนตฺเถรสฺส วสนฏฺานสมีเปเยว วสนฺโต เตมาสํ สตฺถารํ อุปฏฺหนฺโต อุปกฏฺาย ปวารณาย คามํ ปวิสิตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตเม ทิวเส สตฺถุ ภิกฺขุสตสหสฺสสฺส จ ปาทมูเล ติจีวรานิ เปตฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยเทตํ มยา สตฺตาหํ ขนฺธาวารทานโต ปฏฺาย ปุฺํ กตํ, น ตํ สคฺคสมฺปตฺติอาทีนํ อตฺถาย, อถ โข อหํ อยํ สุมนตฺเถโร วิย อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส อุปฏฺาโก ภเวยฺย’’นฺติ ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา พฺยากริตฺวา ปกฺกามิ.

โสปิ ตสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท วสฺสสตสหสฺสํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต ปรมฺปิ ตตฺถ ตตฺถ ภเว อุฬารานิ ปุฺกมฺมานิ อุปจินิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล ปิณฺฑาย จรโต เอกสฺส เถรสฺส ปตฺตคฺคหณตฺถํ อุตฺตรสาฏกํ ทตฺวา ปูชํ อกาสิ. ปุน สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต พาราณสิราชา หุตฺวา อฏฺ ปจฺเจกพุทฺเธ ทิสฺวา เต โภเชตฺวา อตฺตโน มงฺคลุยฺยาเน อฏฺ ปณฺณสาลาโย กาเรตฺวา เตสํ นิสีทนตฺถาย อฏฺ สพฺพรตนมยปีเ เจว มณิอาธารเก จ ปฏิยาเทตฺวา ทสวสฺสสหสฺสานิ อุปฏฺานํ อกาสิ. เอตานิ ปากฏฏฺานานิ.

กปฺปสตสหสฺสํ ปน ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ กโรนฺโตว อมฺหากํ โพธิสตฺเตน สทฺธึ ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต อมิโตทนสกฺกสฺส เคเห นิพฺพตฺติ. ตสฺส สพฺเพ าตเก อานนฺทิเต กโรนฺโต ชาโตติ อานนฺโทตฺเวว นามํ อโหสิ. โส อนุกฺกเมน วยปฺปตฺโต กตาภินิกฺขมเน สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก ปมํ กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา ตโต นิกฺขนฺเต ภควติ ตสฺส ปริวารตฺถํ ปพฺพชิตุํ นิกฺขนฺเตหิ ภทฺทิยาทีหิ สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว อายสฺมโต ปุณฺณสฺส มนฺตาณิปุตฺตสฺส สนฺติเก ธมฺมกถํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.

เตน จ สมเยน ภควโต ปมโพธิยํ วีสติวสฺสานิ อนิพทฺธอุปฏฺากา อเหสุํ. เอกทา นาคสมาโล ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิจริ, เอกทา นาคิโต, เอกทา อุปวาโน, เอกทา สุนกฺขตฺโต, เอกทา จุนฺโท สมณุทฺเทโส, เอกทา สาคโต, เอกทา เมฆิโย, เต เยภุยฺเยน สตฺถุ จิตฺตํ นาราธยึสุ. อเถกทิวสํ ภควา คนฺธกุฏิปริเวเณ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อหํ, ภิกฺขเว, อิทานิมฺหิ มหลฺลโก, เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’ติ วุตฺเต อฺเน คจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ มยฺหํ ปตฺตจีวรํ ภูมิยํ นิกฺขิปนฺติ, มยฺหํ นิพทฺธุปฏฺากํ ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมสํเวโค อุทปาทิ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺาย ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเห อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ภควา ปฏิกฺขิปิ. เอเตนุปาเยน มหาโมคฺคลฺลานํ อาทึ กตฺวา สพฺเพ มหาสาวกา – ‘‘อหํ อุปฏฺหิสฺสามิ, อหํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อุฏฺหึสุ เปตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ, เตปิ ภควา ปฏิกฺขิปิ. โส ปน ตุณฺหีเยว นิสีทิ. อถ นํ ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ตฺวมฺปิ สตฺถุ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ. ยาจิตฺวา ลทฺธฏฺานํ นาม กีทิสํ โหติ, สเจ รุจฺจติ, สตฺถา สยเมว วกฺขตีติ. อถ ภควา ‘‘น, ภิกฺขเว, อานนฺโท อฺเหิ อุสฺสาเหตพฺโพ, สยเมว ชานิตฺวา มํ อุปฏฺหิสฺสตี’’ติ อาห. ตโต ภิกฺขู ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส อานนฺท, สตฺถารํ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ อาหํสุ.

เถโร อุฏฺหิตฺวา ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ภควา อตฺตนา ลทฺธํ ปณีตจีวรํ น ทสฺสติ, ปณีตปิณฺฑปาตํ น ทสฺสติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตุํ น ทสฺสติ, นิมนฺตนํ คเหตฺวา น คมิสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘เอตฺตเก คุเณ ลภโต สตฺถุ อุปฏฺาเน โก ภาโร’’ติ อุปวาทโมจนตฺถํ อิเม จตฺตาโร ปฏิกฺเขปา จ – ‘‘สเจ, ภนฺเต, ภควา มยา คหิตนิมนฺตนํ คมิสฺสติ, สจาหํ เทสนฺตรโต อาคตาคเต ตาวเทว ทสฺเสตุํ ลจฺฉามิ; ยทา เม กงฺขา อุปฺปชฺชติ, ตาวเทว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ลจฺฉามิ, สเจ ภควา ปรมฺมุขา เทสิตํ ธมฺมํ ปุน มยฺหํ กเถสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ ‘‘เอตฺตกมฺปิ สตฺถุ สนฺติเก อนุคฺคหํ น ลภตี’’ติ อุปวาทโมจนตฺถฺเจว ธมฺมภณฺฑาคาริกภาวปารมีปูรณตฺถฺจ อิมา จตสฺโส อายาจนา จาติ อฏฺ วเร คเหตฺวา นิพทฺธุปฏฺาโก อโหสิ. ตสฺเสว านนฺตรสฺส อตฺถาย กปฺปสตสหสฺสํ ปูริตานํ ปารมีนํ ผลํ ปาปุณิ. โส อุปฏฺากฏฺานํ ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสพลํ ทุวิเธน อุทเกน, ติวิเธน ทนฺตกฏฺเน, หตฺถปาทปริกมฺเมน ปิฏฺิปริกมฺเมน, คนฺธกุฏิปริเวณสมฺมชฺชเนนาติ เอวมาทีหิ กิจฺเจหิ อุปฏฺหนฺโต ‘‘อิมาย นาม เวลาย สตฺถุ อิทํ นาม ลทฺธุํ วฏฺฏติ, อิทํ นาม กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทิวสภาคํ สนฺติกาวจโร หุตฺวา, รตฺติภาเค มหนฺตํ ทณฺฑทีปิกํ คเหตฺวา คนฺธกุฏิปริเวณํ นว วาเร อนุปริยายติ, สตฺถริ ปกฺโกสนฺเต ปฏิวจนทานาย ถินมิทฺธวิโนทนตฺถํ.

อถ นํ สตฺถา เชตวเน อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน อเนกปริยาเยน ปสํสิตฺวา ‘‘พหุสฺสุตานํ สติมนฺตานํ คติมนฺตานํ ธิติมนฺตานํ อุปฏฺากานฺจ ภิกฺขูนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. เอวํ สตฺถารา ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺเค ปิโต จตูหิ อจฺฉริยพฺภุตธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สตฺถุ ธมฺมโกสารกฺโข อยํ มหาเถโร เสโขว สมาโน สตฺถริ ปรินิพฺพุเต เหฏฺา วุตฺตนเยน ภิกฺขูหิ สมุตฺเตชิโต เทวตาย จ สํเวชิโต ‘‘สฺเวเยว จ ทานิ ธมฺมสงฺคีติ กาตพฺพา, น โข ปน เมตํ ปติรูปํ, ยฺวายํ เสโข สกรณีโย หุตฺวา อเสเขหิ เถเรหิ สทฺธึ ธมฺมํ สงฺคายิตุํ สนฺนิปาตํ คนฺตุ’’นฺติ สฺชาตุสฺสาโห วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา พหุเทวรตฺตึ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต จงฺกเม วีริยสมตํ อลภิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา สยเน นิสีทิตฺวา สยิตุกาโม กายํ อาวฏฺเฏสิ. อปฺปตฺตฺจ สีสํ พิมฺโพหนํ ปาทา จ ภูมิโต มุตฺตมตฺตา, เอตสฺมึ อนฺตเร อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ ฉฬภิฺโ อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๖๔๔-๖๖๓) –

‘‘อารามทฺวารา นิกฺขมฺม, ปทุมุตฺตโร มหามุนิ;

วสฺเสนฺโต อมตํ วุฏฺึ, นิพฺพาเปสิ มหาชนํ.

‘‘สตสหสฺสํ เต ธีรา, ฉฬภิฺา มหิทฺธิกา;

ปริวาเรนฺติ สมฺพุทฺธํ, ฉายาว อนปายินี.

‘‘หตฺถิกฺขนฺธคโต อาสึ, เสตจฺฉตฺตํ วรุตฺตมํ;

สุจารุรูปํ ทิสฺวาน, วิตฺติ เม อุทปชฺชถ.

‘‘โอรุยฺห หตฺถิขนฺธมฺหา, อุปคจฺฉึ นราสภํ;

รตนามยฉตฺตํ เม, พุทฺธเสฏฺสฺส ธารยึ.

‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, ปทุมุตฺตโร มหาอิสิ;

ตํ กถํ ปยิตฺวาน, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘โย โส ฉตฺตมธาเรสิ, โสณฺณาลงฺการภูสิตํ;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุโณถ มม ภาสโต.

‘‘อิโต คนฺตฺวา อยํ โปโส, ตุสิตํ อาวสิสฺสติ;

อนุโภสฺสติ สมฺปตฺตึ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต.

‘‘จตุตึสติกฺขตฺตุฺจ, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

พลาธิโป อฏฺสตํ, วสุธํ อาวสิสฺสติ.

‘‘อฏฺปฺาสกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, มหิยา การยิสฺสติ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘สกฺยานํ กุลเกตุสฺส, าติพนฺธุ ภวิสฺสติ;

อานนฺโท นาม นาเมน, อุปฏฺาโก มเหสิโน.

‘‘อาตาปี นิปโก จาปิ, พาหุสจฺเจสุ โกวิโท;

นิวาตวุตฺติ อตฺถทฺโธ, สพฺพปาี ภวิสฺสติ.

‘‘ปธานปหิตตฺโต โส, อุปสนฺโต นิรูปธิ;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘สนฺติ อารฺกา นาคา, กุฺชรา สฏฺิหายนา;

ติธาปภินฺนา มาตงฺคา, อีสาทนฺตา อุรูฬฺหวา.

‘‘อเนกสตสหสฺสา, ปณฺฑิตาปิ มหิทฺธิกา;

สพฺเพ เต พุทฺธนาคสฺส, น โหนฺตุปณิธิมฺหิ เต.

‘‘อาทิยา เม นมสฺสามิ, มชฺฌิเม อถ ปจฺฉิเม;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, พุทฺธเสฏฺํ อุปฏฺหึ.

‘‘อาตาปี นิปโก จาปิ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต;

โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต, เสขภูมีสุ โกวิโท.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมภินีหรึ;

ตาหํ ภูมิมนุปฺปตฺโต, ิตา สทฺธมฺมมาจลา.

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

ฉฬภิฺโ ปน หุตฺวา สงฺคีติมณฺฑปํ ปวิสิตฺวา ธมฺมํ สงฺคายนฺโต ตตฺถ ตตฺถ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน อตฺตโน ปฏิปตฺติทีปนาทิวเสน จ ภาสิตคาถา เอกชฺฌํ กตฺวา อนุกฺกเมว ขุทฺทกนิกายสงฺคายนกาเล เถรคาถาสุ สงฺคีตึ อาโรเปนฺโต –

๑๐๑๗.

‘‘ปิสุเณน จ โกธเนน จ, มจฺฉรินา จ วิภูตนนฺทินา;

สขิตํ น กเรยฺย ปณฺฑิโต, ปาโป กาปุริเสน สงฺคโม.

๑๐๑๘.

‘‘สทฺเธน จ เปสเลน จ, ปฺวตา พหุสฺสุเตน จ;

สขิตํ กเรยฺย ปณฺฑิโต, ภทฺโท สปฺปุริเสน สงฺคโม.

๑๐๑๙.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;

อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิติ.

๑๐๒๐.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ รูปํ, มณินา กุณฺฑเลน จ;

อฏฺิตเจน โอนทฺธํ, สห วตฺเถหิ โสภติ.

๑๐๒๑.

‘‘อลตฺตกกตา ปาทา, มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๑๐๒๒.

‘‘อฏฺปทกตา เกสา, เนตฺตา อฺชนมกฺขิตา;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๑๐๒๓.

‘‘อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโต;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

‘‘โอทหิ มิคโว ปาสํ, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, กนฺทนฺเต มิคพนฺธเก.

‘‘ฉินฺโน ปาโส มิควสฺส, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, โสจนฺเต มิคลุทฺทเก.

๑๐๒๔.

‘‘พหุสฺสุโต จิตฺตกถี, พุทฺธสฺส ปริจารโก;

ปนฺนภาโร วิสฺุตฺโต, เสยฺยํ กปฺเปติ โคตโม.

๑๐๒๕.

‘‘ขีณาสโว วิสฺุตฺโต, สงฺคาตีโต สุนิพฺพุโต;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, ชาติมรณปารคู.

๑๐๒๖.

‘‘ยสฺมึ ปติฏฺิตา ธมฺมา, พุทฺธสฺสาทิจฺจพนฺธุโน;

นิพฺพานคมเน มคฺเค, โสยํ ติฏฺติ โคตโม.

๑๐๒๗.

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติสหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน.

๑๐๒๘.

‘‘อปฺปสฺสุตายํ ปุริโส, พลิพทฺโทว ชีรติ;

มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺติ, ปฺา ตสฺส น วฑฺฒติ.

๑๐๒๙.

‘‘พหุสฺสุโต อปฺปสฺสุตํ, โย สุเตนาติมฺติ;

อนฺโธ ปทีปธาโรว, ตเถว ปฏิภาติ มํ.

๑๐๓๐.

‘‘พหุสฺสุตํ อุปาเสยฺย, สุตฺจ น วินาสเย;

ตํ มูลํ พฺรหฺมจริยสฺส, ตสฺมา ธมฺมธโร สิยา.

๑๐๓๑.

‘‘ปุพฺพาปรฺู อตฺถฺู, นิรุตฺติปทโกวิโท;

สุคฺคหีตฺจ คณฺหาติ, อตฺถฺโจปปริกฺขติ.

๑๐๓๒.

‘‘ขนฺตฺยา ฉนฺทิกโต โหติ, อุสฺสหิตฺวา ตุเลติ ตํ;

สมเย โส ปทหติ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต.

๑๐๓๓.

‘‘พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ, สปฺปฺํ พุทฺธสาวกํ;

ธมฺมวิฺาณมากงฺขํ, ตํ ภเชถ ตถาวิธํ.

๑๐๓๔.

‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, โกสารกฺโข มเหสิโน;

จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส, ปูชนีโย พหุสฺสุโต.

๑๐๓๕.

‘‘ธมฺมาราโม ธมฺมรโต, ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ;

ธมฺมํ อนุสฺสรํ ภิกฺขุ, สทฺธมฺมา น ปริหายติ.

๑๐๓๖.

‘‘กายมจฺเฉรครุโน, หิยฺยมาเน อนุฏฺเห;

สรีรสุขคิทฺธสฺส, กุโต สมณผาสุตา.

๑๐๓๗.

‘‘น ปกฺขนฺติ ทิสา สพฺพา, ธมฺมา น ปฏิภนฺติ มํ;

คเต กลฺยาณมิตฺตมฺหิ, อนฺธการํว ขายติ.

๑๐๓๘.

‘‘อพฺภตีตสหายสฺส, อตีตคตสตฺถุโน;

นตฺถิ เอตาทิสํ มิตฺตํ, ยถา กายคตา สติ.

๑๐๓๙.

‘‘เย ปุราณา อตีตา เต, นเวหิ น สเมติ เม;

สฺวชฺช เอโกว ฌายามิ, วสฺสุเปโตว ปกฺขิมา.

๑๐๔๐.

‘‘ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต, นานาเวรชฺชเก พหู;

มา วารยิตฺถ โสตาโร, ปสฺสนฺตุ สมโย มมํ.

๑๐๔๑.

‘‘ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต, นานาเวรชฺชเก ปุถุ;

กโรติ สตฺถา โอกาสํ, น นิวาเรติ จกฺขุมา.

๑๐๔๒.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, เสขภูตสฺส เม สโต;

น กามสฺา อุปฺปชฺชิ, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ.

๑๐๔๓.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, เสขภูตสฺส เม สโต;

น โทสสฺา อุปฺปชฺชิ, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ.

๑๐๔๔.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ภควนฺตํ อุปฏฺหึ;

เมตฺเตน กายกมฺเมน, ฉายาว อนปายินี.

๑๐๔๕.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ภควนฺตํ อุปฏฺหึ;

เมตฺเตน วจีกมฺเมน, ฉายาว อนปายินี.

๑๐๔๖.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ภควนฺตํ อุปฏฺหึ;

เมตฺเตน มโนกมฺเมน, ฉายาว อนปายินี.

๑๐๔๗.

‘‘พุทฺธสฺส จงฺกมนฺตสฺส, ปิฏฺิโต อนุจงฺกมึ;

ธมฺเม เทสิยมานมฺหิ, าณํ เม อุทปชฺชถ.

๑๐๔๘.

‘‘อหํ สกรณีโยมฺหิ, เสโข อปฺปตฺตมานโส;

สตฺถุ จ ปรินิพฺพานํ, โย อมฺหํ อนุกมฺปโก.

๑๐๔๙.

‘‘ตทาสิ ยํ ภึสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;

สพฺพการวรูเปเต, สมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต.

๑๐๕๐.

‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, โกสารกฺโข มเหสิโน;

จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส, อานนฺโท ปรินิพฺพุโต.

๑๐๕๑.

‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, โกสารกฺโข มเหสิโน;

จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส, อนฺธกาเร ตโมนุโท.

๑๐๕๒.

‘‘คติมนฺโต สติมนฺโต, ธิติมนฺโต จ โย อิสิ;

สทฺธมฺมธารโก เถโร, อานนฺโท รตนากโร.

๑๐๕๓.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ปิสุเณน จาติ อาทิโต ทฺเว คาถา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู เทวทตฺตปกฺขิเยหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํสคฺคํ กโรนฺเต ทิสฺวา เตสํ โอวาททานวเสน วุตฺตา. ตตฺถ ปิสุเณนาติ ปิสุณาย วาจาย. ตาย หิ ยุตฺโต ปุคฺคโล ‘‘ปิสุโณ’’ติ วุตฺโต ยถา นีลคุณยุตฺโต ปโฏ นีโลติ. โกธเนนาติ กุชฺฌนสีเลน. อตฺตสมฺปตฺตินิคูหณลกฺขณสฺส มจฺเฉรสฺส สมฺภวโต มจฺฉรินา. วิภูตนนฺทินาติ สตฺตานํ วิภูตํ วิภวนํ วินาสํ อิจฺฉนฺเตน, วิภูตํ วา วิสุํ ภาโว เภโท, ตํ นนฺทเนน, สพฺพเมตํ เทวทตฺตปกฺขิเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เต หิ ปฺจวตฺถุทีปนาย พหู ชเน สมฺมาปฏิปนฺเน ภินฺทนฺตา สตฺถริ พหิทฺธตาย ถทฺธมจฺฉริยาทิมจฺฉริยปกตา มหาชนสฺส มหโต อนตฺถาย ปฏิปชฺชึสุ. สขิตนฺติ สหายภาวํ สํสคฺคํ น กเรยฺย, กึการณา? ปาโป กาปุริเสน สงฺคโม กาปุริเสน ปาปปุคฺคเลน สมาคโม นิหีโน ลามโก. เย หิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ. เตสํ ทุจินฺติตาทิเภทํ พาลลกฺขณเมว อาวหติ, ปเคว วจนกรสฺส. เตนาห ภควา – ‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต’’ติอาทิ (อ. นิ. ๓.๑).

เยน ปน สํสคฺโค กาตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺเธน จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สทฺเธนาติ กมฺมกมฺมผลสทฺธาย เจว, รตนตฺตยสทฺธาย จ สมนฺนาคเตน. เปสเลนาติ ปิยสีเลน สีลสมฺปนฺเนน. ปฺวตาติ อุทยตฺถคามินิยา นิพฺเพธิกาย ปฺาย วเสน ปฺาสมฺปนฺเนน. พหุสฺสุเตนาติ ปริยตฺติปฏิเวธพาหุสจฺจานํ ปาริปูริยา พหุสฺสุเตน. ภทฺโทติ เตน ตาทิเสน สาธุนา สงฺคโม ภทฺโท สุนฺทโร กลฺยาโณ ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทํ อตฺถํ อาวหตีติ อธิปฺปาโย.

ปสฺส จิตฺตกตนฺติอาทิกา สตฺต คาถา อตฺตโน รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา กามสฺํ อุปฺปาเทนฺติยา อุตฺตราย นาม อุปาสิกาย กายวิจฺฉนฺทชนนตฺถํ ภาสิตา. ‘‘อมฺพปาลึ คณิกํ ทิสฺวา วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ โอวาททานตฺถ’’นฺติปิ วทนฺติ. ตา เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว.

พหุสฺสุโต จิตฺตกถีติอาทิกา ทฺเว คาถา เถเรน อรหตฺตํ ปตฺวา อุทานวเสน ภาสิตา. ตตฺถ ปริจารโกติ อุปฏฺาโก. เสยฺยํ กปฺเปตีติ อรหตฺตปฺปตฺติสมนนฺตรํ สยิตตฺตา วุตฺตํ. เถโร หิ พหุเทว รตฺตึ จงฺกเมน วีตินาเมตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปตุํ โอวรกํ ปวิสิตฺวา สยิตุํ มฺจเก นิสินฺโน ปาทา จ ภูมิโต มุตฺตา, อปฺปตฺตฺจ สีสํ พิมฺโพหนํ, เอตฺถนฺตเร อรหตฺตํ ปตฺวา สยิ.

ขีณาสโวติ ปริกฺขีณจตุราสโว, ตโต เอว จตูหิปิ โยเคหิ วิสํยุตฺโต, ราคสงฺคาทีนํ อติกฺกนฺตตฺตา สงฺคาตีโต, สพฺพโส กิเลสปริฬาหสฺส วูปสนฺตตฺตา สุนิพฺพุโต สีติภูโตติ อตฺโถ.

ยสฺมึ ปติฏฺิตา ธมฺมาติ เถรํ อุทฺทิสฺส ขีณาสวมหาพฺรหฺมุนา ภาสิตา คาถา. อุปฏฺิตาย หิ ธมฺมสงฺคีติยา เถรํ อุทฺทิสฺส เยหิ ภิกฺขูหิ ‘‘เอโก ภิกฺขุ วิสฺสคนฺธํ วายตี’’ติ วุตฺตํ. อถ เถโร อธิคเต อรหตฺเต สตฺตปณฺณิคุหาทฺวารํ สงฺฆสฺส สามคฺคีทานตฺถํ อาคโต, ตสฺส ขีณาสวภาวปฺปกาสเนน สุทฺธาวาสมหาพฺรหฺมา. เต ภิกฺขู ลชฺชาเปนฺโต ‘‘ยสฺมึ ปติฏฺิตา ธมฺมา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – พุทฺธสฺส ภควโต ธมฺมา เตเนว อธิคตา ปเวทิตา จ ปฏิเวธปริยตฺติธมฺมา. ยสฺมึ ปุริสวิเสเส ปติฏฺิตา, โสยํ โคตฺตโต โคตโม ธมฺมภณฺฑาคาริโก สอุปาทิเสสนิพฺพานสฺส อธิคตตฺตา อิทานิ อนุปาทิเสสนิพฺพานคมเน มคฺเค ปติฏฺหิ, ตสฺส เอกํสภาคีติ.

อเถกทิวสํ โคปกโมคฺคลฺลาโน นาม พฺราหฺมโณ เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตฺวํ พหุสฺสุโตติ พุทฺธสฺส สาสเน ปากโฏ, กิตฺตกา ธมฺมา เต สตฺถารา ภาสิตา, ตยา ธาริตา’’ติ? ตสฺส เถโร ปฏิวจนํ เทนฺโต ‘‘ทฺวาสีตี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ทฺวาสีติ สหสฺสานีติ โยชนา, พุทฺธโต คณฺหินฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธโต อุคฺคณฺหึ ทฺวิสหสฺสาธิกานิ อสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ สตฺถุ สนฺติกา อธิคณฺหินฺติ อตฺโถ. ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ ทฺเว ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ ภิกฺขุโต คณฺหึ, ธมฺมเสนาปติอาทีนํ ภิกฺขูนํ สนฺติกา อธิคจฺฉึ. จตุราสีติสหสฺสานีติ ตทุภยํ สโมธาเนตฺวา จตุสหสฺสาธิกานิ อสีติสหสฺสานิ. เย เม ธมฺมา ปวตฺติโนติ เย ยถาวุตฺตปริมาณา ธมฺมกฺขนฺธา มยฺหํ ปคุณา วาจุคฺคตา ชิวฺหคฺเค ปริวตฺตนฺตีติ.

อเถกทา เถโร สาสเน ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาธุเรปิ คนฺถธุเรปิ อนนุยุตฺตํ เอกํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา พาหุสจฺจาภาเว อาทีนวํ ปกาเสนฺโต ‘‘อปฺปสฺสุตาย’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ อปฺปสฺสุตายนฺติ เอกสฺส ทฺวินฺนํ วา ปณฺณาสานํ, อถ วา ปน วคฺคานํ อนฺตมโส เอกสฺส ทฺวินฺนํ วา สุตฺตนฺตานมฺปิ อุคฺคหิตานํ อภาเวน อปฺปสฺสุโต อยํ, กมฺมฏฺานํ ปน อุคฺคเหตฺวา อนุยุฺชนฺโต พหุสฺสุโตว. พลิพทฺโทว ชีรตีติ ยถา พลิพทฺโท ชีรมาโน วฑฺฒมาโน เนว มาตุ น ปิตุ, น เสสาตกานํ อตฺถาย วฑฺฒติ, อถ โข นิรตฺถกเมว ชีรติ; เอวเมวํ อยมฺปิ น อุปชฺฌายวตฺตํ กโรติ, น อาจริยวตฺตํ, น อาคนฺตุกวตฺตาทีนิ, น ภาวนํ อนุยุฺชติ, นิรตฺถกเมว ชีรติ. มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺตีติ ยถา พลิพทฺทสฺส ‘‘กสนภารวหนาทีสุ อสมตฺโถ เอโส’’ติ อรฺเ วิสฺสฏฺสฺส ยถา ตถา วิจรนฺตสฺส ขาทนฺตสฺส ปิวนฺตสฺส มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺติ; เอวเมวํ อิมสฺสาปิ อุปชฺฌายาทีหิ วิสฺสฏฺสฺส สงฺฆํ นิสฺสาย จตฺตาโร ปจฺจเย ลภิตฺวา อุทฺธํวิเรจนาทีนิ กตฺวา กายํ โปเสนฺตสฺส มํสานิ วฑฺฒนฺติ ถูลสรีโร หุตฺวา วิจรติ. ปฺาติ โลกิยโลกุตฺตรา ปนสฺส ปฺา เอกงฺคุลิมตฺตาปิ น วฑฺฒติ, อรฺเ คจฺฉลตาทีนิ วิย อสฺส ฉทฺวารานิ นิสฺสาย ตณฺหา เจว นววิธมาโน จ วฑฺฒตีติ อธิปฺปาโย.

พหุสฺสุโตติ คาถา อตฺตโน พาหุสจฺจํ นิสฺสาย อฺํ อติมฺนฺตํ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส วุตฺตา. ตตฺถ สุเตนาติ สุตเหตุ อตฺตโน พาหุสจฺจนิมิตฺตํ. อติมฺตีติ อติกฺกมิตฺวา มฺติ อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺโต ปรํ ปริภวติ. ตเถวาติ ยถา อนฺโธ อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรนฺโต อาโลกทาเนน ปเรสํเยว อตฺถาวโห, น อตฺตโน, ตเถว ปริยตฺติพาหุสจฺเจน สุตวา ปุคฺคโล สุเตน อนุปปนฺโน อตฺตโน อตฺถํ อปริปูเรนฺโต อนฺโธ าณาโลกทาเนน ปเรสํเยว อตฺถาวโห, น อตฺตโน, ทีปธาโร อนฺโธ วิย มยฺหํ อุปฏฺาตีติ.

อิทานิ พาหุสจฺเจ อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พหุสฺสุต’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ อุปาเสยฺยาติ ปยิรุปาเสยฺย. สุตฺจ น วินาสเยติ พหุสฺสุตํ ปยิรุปาสิตฺวา ลทฺธํ สุตฺจ น วินาเสยฺย, น สุสฺเสยฺย ธารณปริจยปริปุจฺฉามนสิกาเรหิ วฑฺเฒยฺย. ตํ มูลํ พฺรหฺมจริยสฺสาติ ยสฺมา พหุสฺสุตํ ปยิรุปาสิตฺวา ลทฺธํ ตํ สุตํ ปริยตฺติพาหุสจฺจํ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส มูลํ ปธานการณํ. ตสฺมา ธมฺมธโร สิยา วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา ยถาสุตสฺส ธมฺมสฺส ธารเณ ปมํ ปริยตฺติธมฺมธโร ภเวยฺย.

อิทานิ ปริยตฺติพาหุสจฺเจน สาเธตพฺพมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺพาปรฺู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺพฺจ อปรฺจ ชานาตีติ ปุพฺพาปรฺู. เอกิสฺสา หิ คาถาย ปุพฺพภาเค อปฺายมาเนปิ ปุพฺพภาเค วา ปฺายมาเน อปรภาเค อปฺายมาเนปิ ‘‘อิมสฺส อปรภาคสฺส อิมินา ปุพฺพภาเคน, อิมสฺส วา ปุพฺพภาคสฺส อิมินา อปรภาเคน ภวิตพฺพ’’นฺติ ชานนฺโต ปุพฺพาปรฺู นาม. อตฺตตฺถาทิเภทํ ตสฺส ตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาตีติ อตฺถฺู. นิรุตฺติปทโกวิโทติ นิรุตฺติยํ เสสปเทสุปิ จาติ จตูสุปิ ปฏิสมฺภิทาสุ เฉโก. สุคฺคหีตฺจ คณฺหาตีติ เตเนว โกวิทภาเวน อตฺถโต พฺยฺชนโต จ ธมฺมํ สุคหิตเมว กตฺวา คณฺหาติ. อตฺถฺโจปปริกฺขตีติ ยถาสุตสฺส ยถาปริยตฺตสฺส ธมฺมสฺส อตฺถํ อุปปริกฺขติ ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา, อิเม รูปารูปธมฺมา’’ติ มนสา อนุเปกฺขติ.

ขนฺตฺยา ฉนฺทิกโต โหตีติ เตสุ มนสา อนุเปกฺขิเตสุ ธมฺเมสุ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา นิชฺฌานํ ขมาเปตฺวา รูปปริคฺคหาทิมุเขน วิปสฺสนาภินิเวเส ฉนฺทิกโต ฉนฺทชาโต โหติ. ตถาภูโต จ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อุสฺสหิตฺวา ตุเลติ ตํตํปจฺจยนามรูปทสฺสนวเสน อุสฺสาหํ กตฺวา ตโต ปรํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ตุเลติ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติปิ, ‘‘ทุกฺข’’นฺติปิ, ‘‘อนตฺตา’’ติปิ ตํ นามรูปํ ตีเรติ วิปสฺสติ. สมเย โส ปทหติ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโตติ โส เอวํ ปสฺสนฺโต ปคฺคเหตพฺพาทิสมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนาทินา ปทหติ, ปทหนฺโต จ อชฺฌตฺตํ โคจรชฺฌตฺเต วิปสฺสนาสมาธินา มคฺคสมาธินา จ สุฏฺุ สมาหิโต ภเวยฺย, อสมาธานเหตุภูเต กิเลเส ปชเหยฺย. สฺวายํ คุโณ สพฺโพปิ ยสฺมา พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ สปฺปฺํ พุทฺธสาวกํ ปยิรุปาสนฺตสฺส โหติ, ตสฺมา อสงฺขตํ ธมฺมํ อารพฺภ ทุกฺขาทีสุ ปริฺาทิวิสิฏฺกิจฺจตาย ธมฺมวิฺาณสงฺขาตํ ธมฺมาณํ อากงฺขนฺโต ตถาวิธํ วุตฺตปฺปการํ กลฺยาณมิตฺตํ ภเชถ, เสเวยฺย ปยิรุปาเสยฺยาติ อตฺโถ.

เอวํ พหุปการตาย ตสฺส ปูชนียกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – สุตฺตเคยฺยาทิ พหุ สุตํ เอตสฺสาติ พหุสฺสุโต. ตเมว เทสนาธมฺมํ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย อวินสฺสนฺตํ ธาเรตีติ ธมฺมธโร. ตโต เอว มเหสิโน ภควโต ธมฺมโกสํ ธมฺมรตนํ อารกฺขตีติ โกสารกฺโข. ยสฺมา สเทวกสฺส โลกสฺส สมทสฺสเนน จกฺขุภูโต, ตสฺมา จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส ปูชนีโย มานนีโยติ, พหุสฺสุตภาเวน พหุชนสฺส ปูชนียภาวทสฺสนตฺถํ นิคมนวเสน ปุนปิ ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ วุตฺตํ.

เอวรูปํ กลฺยาณมิตฺตํ ลภิตฺวาปิ การกสฺเสว อปริหานิ, น อการกสฺสาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมาราโม’’ติ คาถมาห. ตตฺถ นิวาสนฏฺเน สมถวิปสฺสนาธมฺโม อาราโม, ตสฺมึ เอว ธมฺเม รโต อภิรโตติ ธมฺมรโต, ตสฺเสว ธมฺมสฺส ปุนปฺปุนํ วิจินฺตเนน ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ ธมฺมํ อาวชฺเชนฺโต มนสิ กโรตีติ อตฺโถ. อนุสฺสรนฺติ ตเมว ธมฺมํ อนุสฺสรนฺโต. สทฺธมฺมาติ เอวรูโป ภิกฺขุ สตฺตตึสปเภทา โพธิปกฺขิยธมฺมา นววิธโลกุตฺตรธมฺมา จ น ปริหายติ, น กทาจิ ตสฺส ตโต ปริหานิ โหตีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ กาเย อวีตราคํ กุสีตํ หีนวีริยํ โกสลฺลายา ติ นามํ ภิกฺขุํ สํเวเชนฺโต ‘‘กายมจฺเฉรครุโน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กายมจฺเฉรครุโนติ ‘‘กายทฬฺหีพหุลสฺส กาเย มมตฺตสฺส อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ กาเยน กตฺตพฺพํ กิฺจิ อกตฺวา วิจรนฺตสฺส. หิยฺยมาเนติ อตฺตโน กาเย ชีวิเต จ ขเณ ขเณ ปริหิยฺยมาเน. อนุฏฺเหติ สีลาทีนํ ปริปูรณวเสน อุฏฺานวีริยํ น กเรยฺย. สรีรสุขคิทฺธสฺสาติ อตฺตโน สรีรสฺส สุขาปเนเนว เคธํ อาปนฺนสฺส. กุโต สมณผาสุตาติ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส สามฺวเสน กุโต สุขวิหาโร, ผาสุวิหาโร น ตสฺส วิชฺชตีติ อตฺโถ.

น ปกฺขนฺตีติอาทิกา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ธมฺมเสนาปติโน ปรินิพฺพุตภาวํ สุตฺวา เถเรน ภาสิตา. ตตฺถ น ปกฺขนฺติ ทิสา สพฺพาติ ปุรตฺถิมาทิเภทา สพฺพา ทิสา น ปกฺขยนฺติ, ทิสามูฬฺโหติ อตฺโถ. ธมฺมา น ปฏิภนฺติ มนฺติ ปุพฺเพ สุฏฺุ ปคุณาปิ ปริยตฺติธมฺมา อิทานิ สกฺกจฺจํ สมนฺนาหริยมานาปิ มยฺหํ น อุปฏฺหนฺติ. คเต กลฺยาณมิตฺตมฺหีติ สเทวกสฺส โลกสฺส กลฺยาณมิตฺตภูเต ธมฺมเสนาปติมฺหิ อนุปาทิเสสนิพฺพานํ คเต. อนฺธการํว ขายตีติ สพฺโพปายํ โลโก อนฺธกาโร วิย อุปฏฺาติ.

อพฺภตีตสหายสฺสาติ อปคตสหายสฺส, กลฺยาณมิตฺตรหิตสฺสาติ อตฺโถ. อตีตคตสตฺถุโนติ อายสฺมโต อตีโต หุตฺวา นิพฺพานคตสตฺถุกสฺส, สตฺถริ ปรินิพฺพุเตติ อตฺโถ. ยถา กายคตา สตีติ กายคตาสติภาวนา ตกฺกรสฺส ยถา เอกนฺตหิตาวหา, เอวํ เอตาทิสํ อนาถสฺส ปุคฺคลสฺส เอกนฺตหิตาวหํ อฺํ มิตฺตํ นาม นตฺถิ, สนาถสฺส อฺาปิ ภาวนา หิตาวหา เอวาติ อธิปฺปาโย.

ปุราณาติ โปราณา, สาริปุตฺตาทิเก กลฺยาณมิตฺเต สนฺธาย วทติ. นเวหีติ นวเกหิ. น สเมติ เมติ มยฺหํ จิตฺตํ น สมาคจฺฉติ, น เต มม จิตฺตํ อาราเธนฺตีติ อตฺโถ. สฺวชฺช เอโกว ฌายามีติ โสหํ อชฺช วุฑฺฒตเรหิ วิรหิโต เอโกว หุตฺวา ฌายามิ ฌานปสุโต โหมิ. วสฺสุเปโตติ วสฺสกาเล กุลาวกํ อุเปโต ปกฺขี วิย. ‘‘วาสุเปโต’’ติปิ ปาฬิ, วาสํ อุปคโตติ อตฺโถ.

ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเตติ คาถา สตฺถารา ภาสิตา. ตสฺสตฺโถ – มม ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต นานาวิธวิเทสปวาสิกพหุชเน, อานนฺท, มม อุปสงฺกมนํ มา วาเรสิ. กสฺมา? เต โสตาโร ธมฺมสฺส, มมํ ปสฺสนฺตุ, อยเมว ทสฺสนาย สมโยติ.

ตํ สุตฺวา เถโร ‘‘ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต’’ติ อปรํ คาถมาห. อิมาย หิ คาถาย สมฺพนฺธตฺถํ ปุริมคาถา อิธ นิกฺขิตฺตา. เตเนว สจาหํ เทสนฺตรโต อาคตาคเต ตาวเทว ทสฺเสตุํ ลจฺฉามีติ เอตสฺส ปทสฺส อตฺถสิทฺธึ ทสฺเสติ.

ปณฺณวีสติ วสฺสานีติ ปฺจ คาถา อตฺตโน อคฺคุปฏฺากภาวํ ทีเปตุํ วุตฺตา. อารทฺธกมฺมฏฺานภาเวน หิ สตฺถุ อุปฏฺานปสุตภาเวน จ เถรสฺส มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนาปิ กามสฺาทโย น อุปฺปชฺชึสุ, กายวจีมโนกมฺมานิ จ สพฺพกาลํ สตฺถริ เมตฺตาปุพฺพงฺคมานิ เมตฺตานุปริวตฺตานิ อเหสุํ. ตตฺถ ปณฺณวีสติ วสฺสานีติ ปฺจวีสติ สํวจฺฉรานิ. เสขภูตสฺส เม สโตติ เสขภูมิยํ โสตาปตฺติผเล ิตสฺส เม สโต. กามสฺาติ กามสหคตา สฺา น อุปฺปชฺชิ, เอตฺถ จ กามสฺาทิอนุปฺปตฺติวจเนน อตฺตโน อาสยสุทฺธึ ทสฺเสติ, ‘‘เมตฺเตน กายกมฺเมนา’’ติอาทินา ปโยคสุทฺธึ. ตตฺถ คนฺธกุฏิยํ ปริภณฺฑกรณาทินา สตฺถุ วตฺตปฏิวตฺตกรเณน จ เมตฺตํ กายกมฺมํ เวทิตพฺพํ, ธมฺมเทสนากาลาโรจนาทินา เมตฺตํ วจีกมฺมํ, รโหคตสฺส สตฺถารํ อุทฺทิสฺส หิตูปสํหารมนสิกาเรน เมตฺตํ มโนกมฺมํ. าณํ เม อุทปชฺชถาติ อตฺตโน เสกฺขภูมิปตฺติมาห.

อหํ สกรณีโยมฺหีติ สตฺถุ ปรินิพฺพาเน อุปฏฺิเต มณฺฑลมาฬํ ปวิสิตฺวา กปิสีสํ อาลมฺพิตฺวา โสกาภิภูเตน วุตฺตคาถา. ตตฺถ สกรณีโยมฺหีติ ทุกฺขปริชานนาทินา กรณีเยน สกรณีโย อมฺหิ. อปฺปตฺตมานโสติ อนธิคตารหตฺโต. สตฺถุ จ ปรินิพฺพานนฺติ มยฺหํ สตฺถุ ปรินิพฺพานฺจ อุปฏฺิตํ. โย อมฺหํ อนุกมฺปโกติ โย สตฺถา มยฺหํ อนุคฺคาหโก.

ตทาสิ ยํ ภึสนกนฺติ คาถา สตฺถุ ปรินิพฺพานกาเล ปถวีกมฺปนเทวทุนฺทุภิผลนาทิเก ทิสฺวา สฺชาตสํเวเคน วุตฺตคาถา.

พหุสฺสุโตติอาทิกา ติสฺโส คาถา เถรํ ปสํสนฺเตหิ สงฺคีติกาเรหิ ปิตา. ตตฺถ คติมนฺโตติ อสทิสาย าณคติยา สมนฺนาคโต. สติมนฺโตติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต. ธิติมนฺโตติ อสาธารณาย พฺยฺชนตฺถาวธารณสมตฺถาย ธิติสมฺปตฺติยา สมนฺนาคโต. อยฺหิ เถโร เอกปเทเยว ตฺวา สฏฺิปทสหสฺสานิ สตฺถารา กถิตนิยาเมเนว คณฺหาติ, คหิตฺจ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย สพฺพกาลํ น วินสฺสติ, อวิปรีตพฺยฺชนาวธารณสมตฺถาย สติปุพฺพงฺคมาย ปฺาย, อตฺถาวธารณสมตฺถาย ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา จ สมนฺนาคโต. เตนาห ภควา – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตาน’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑.๒๑๙). ตถา จาห ธมฺมเสนาปติ – ‘‘อายสฺมา อานนฺโท อตฺถกุสโล’’ติอาทิ (อ. นิ. ๕.๑๖๙). รตนากโรติ สทฺธมฺมรตนสฺส อากรภูโต.

ปริจิณฺโณติ คาถา ปรินิพฺพานกาเล เถเรน ภาสิตา, สา วุตฺตตฺถา เอว.

อานนฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตึสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๘. จตฺตาลีสนิปาโต

๑. มหากสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา

จตฺตาลีสนิปาเต น คเณน ปุรกฺขโตติอาทิกา อายสฺมโต มหากสฺสปตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร เวเทโห นาม อสีติโกฏิวิภโว กุฏุมฺพิโก อโหสิ. โส พุทฺธมามโก, ธมฺมมามโก, สงฺฆมามโก อุปาสโก หุตฺวา วิหรนฺโต เอกสฺมึ อุโปสถทิวเส ปาโตว สุโภชนํ ภุฺชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย คนฺธปุปฺผาทีนิ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

ตสฺมิฺจ ขเณ สตฺถา มหานิสภตฺเถรํ นาม ตติยสาวกํ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ, ยทิทํ นิสโภ’’ติ เอตทคฺเค เปสิ. อุปาสโก ตํ สุตฺวา ปสนฺโน ธมฺมกถาวสาเน มหาชเน อุฏฺาย คเต สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘สฺเว มยฺหํ ภิกฺขํ อธิวาเสถา’’ติ นิมนฺเตสิ. ‘‘มหา โข, อุปาสก, ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ. ‘‘กิตฺตโก, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺส’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต, เอกํ สามเณรมฺปิ วิหาเร อเสเสตฺวา มยฺหํ ภิกฺขํ อธิวาเสถา’’ติ. สตฺถา อธิวาเสสิ. อุปาสโก สตฺถุ อธิวาสนํ วิทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา มหาทานํ สชฺเชตฺวา ปุนทิวเส สตฺถุ กาลํ อาโรจาเปสิ. สตฺถา ปตฺตจีวรมาทาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อุปาสกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสินฺโน ทกฺขิโณทกาวสาเน ยาคุอาทีนิ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ภตฺตวิสฺสคฺคํ อกาสิ. อุปาสโกปิ สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิ.

ตสฺมึ อนฺตเร มหานิสภตฺเถโร ปิณฺฑาย จรนฺโต ตเมว วีถึ ปฏิปชฺชิ. อุปาสโก ทิสฺวา อุฏฺาย คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ปตฺตํ, ภนฺเต, เทถา’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ อทาสิ. ‘‘ภนฺเต, อิเธว ปวิสถ, สตฺถาปิ เคเห นิสินฺโน’’ติ. ‘‘น วฏฺฏิสฺสติ, อุปาสกา’’ติ. โส เถรสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ. ตโต เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺโต สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิตฺวา เอวมาห – ‘‘มหานิสภตฺเถโร, ภนฺเต, ‘สตฺถาปิ เคเห นิสินฺโน’ติ วุตฺเตปิ ปวิสิตุํ น อิจฺฉิ, อตฺถิ นุ โข เอตสฺส ตุมฺหากํ คุเณหิ อติเรกคุโณ’’ติ. พุทฺธานฺจ วณฺณมจฺเฉรํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สตฺถา เอวมาห – ‘‘อุปาสก, มยํ ภิกฺขํ อาคมยมานา เคเห นิสีทาม, โส ปน ภิกฺขุ น เอวํ นิสีทิตฺวา ภิกฺขํ อุทิกฺขติ, มยํ คามนฺตเสนาสเน วสาม, โส อรฺสฺมึเยว วสติ, มยํ ฉนฺเน วสาม, โส อพฺโภกาเสเยว วสตี’’ติ ภควา ‘‘อยฺจ อยฺเจตสฺส คุโณ’’ติ มหาสมุทฺทํ ปูรยมาโน วิย ตสฺส คุณํ กเถสิ.

อุปาสโก ปกติยาปิ ชลมานปทีโป เตเลน อาสิตฺโต วิย สุฏฺุตรํ ปสนฺโน หุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘กึ มยฺหํ อฺาย สมฺปตฺติยา, อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก ธุตวาทานํ อคฺคภาวตฺถาย ปตฺถนํ กริสฺสามี’’ติ. โส ปุนปิ สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา เตเนว นิยาเมน สตฺต ทิวเส มหาทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส พุทฺธปฺปมุขสฺส มหาภิกฺขุสงฺฆสฺส ติจีวรานิ ทตฺวา สตฺถุ ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา เอวมาห – ‘‘ยํ เม, ภนฺเต, สตฺต ทิวเส ทานํ เทนฺตสฺส เมตฺตํ กายกมฺมํ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ, เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ, อิมินาหํ น อฺํ เทวสมฺปตฺตึ วา สกฺกมารพฺรหฺมสมฺปตฺตึ วา ปตฺเถมิ, อิทํ ปน เม กมฺมํ อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก มหานิสภตฺเถเรน ปตฺตฏฺานนฺตรํ ปาปุณนตฺถาย เตรสธุตงฺคธรานํ อคฺคภาวสฺส อธิกาโร โหตู’’ติ. สตฺถา ‘‘มหนฺตํ านํ อิมินา ปตฺถิตํ, สมิชฺฌิสฺสติ นุ โข, โน’’ติ โอโลเกนฺโต สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา อาห – ‘‘มนาปํ เต านํ ปตฺถิตํ, อนาคเต สตสหสฺสกปฺปาวสาเน โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส ตฺวํ ตติยสาวโก มหากสฺสปตฺเถโร นาม ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ. ตํ สุตฺวา อุปาสโก ‘‘พุทฺธานํ ทฺเว กถา นาม นตฺถี’’ติ ปุนทิวเส ปตฺตพฺพํ วิย ตํ สมฺปตฺตึ อมฺิตฺถ. โส ยาวตายุกํ ทานํ ทตฺวา, สีลํ สมาทาย รกฺขิตฺวา, นานปฺปการํ กลฺยาณกมฺมํ กตฺวา, กาลํ กตฺวา, สคฺเค นิพฺพตฺติ.

ตโต ปฏฺาย เทวมนุสฺเสสุ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต อิโต เอกนวุเต กปฺเป วิปสฺสิสมฺมาสมฺพุทฺเธ พนฺธุมตีนครํ อุปนิสฺสาย เขเม มิคทาเย วิหรนฺเต เทวโลกา จวิตฺวา อฺตรสฺมึ ปริชิณฺณพฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ. ตสฺมิฺจ กาเล วิปสฺสี ภควา สตฺตเม สตฺตเม สํวจฺฉเร ธมฺมํ กเถสิ, มหนฺตํ โกลาหลํ โหติ. สกลชมฺพุทีเป เทวตา ‘‘สตฺถา ธมฺมํ กเถสฺสตี’’ติ อาโรเจสุํ. พฺราหฺมโณ ตํ สาสนํ อสฺโสสิ. ตสฺส จ นิวาสนสาฏโก เอโกเยว โหติ, ตถา พฺราหฺมณิยา. ปารุปนํ ปน ทฺวินฺนมฺปิ เอกเมว. โส สกลนคเร ‘‘เอกสาฏกพฺราหฺมโณ’’ติ ปฺายิ. โส พฺราหฺมณานํ เกนจิเทว กิจฺเจน สนฺนิปาเต สติ พฺราหฺมณึ เคเห เปตฺวา สยํ ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา คจฺฉติ. พฺราหฺมณีนํ สนฺนิปาเต สติ สยํ เคเห อจฺฉติ, พฺราหฺมณี ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา คจฺฉติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ อาห – ‘‘โภติ, กึ รตฺตึ ธมฺมํ สุณิสฺสสิ, ทิวา’’ติ? ‘‘มยํ มาตุคามชาติกา นาม รตฺตึ โสตุํ น สกฺโกม, ทิวา โสสฺสามา’’ติ พฺราหฺมณํ เคเห เปตฺวา ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา อุปาสิกาหิ สทฺธึ ทิวา คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺเต นิสินฺนา ธมฺมํ สุตฺวา อุปาสิกาหิเยว สทฺธึ อาคมาสิ. อถ พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ เคเห เปตฺวา ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา วิหารํ คโต.

ตสฺมึ สมเย สตฺถา ปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน นิสินฺโน จิตฺตพีชนึ อาทาย อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย, สิเนรุํ มนฺถํ กตฺวา สาครํ นิมฺมเถนฺโต วิย, ธมฺมกถํ กเถสิ. พฺราหฺมณสฺส ปริสปริยนฺเต นิสินฺนสฺส ธมฺมํ สุณนฺตสฺส ปมยามสฺมึเยว สกลสรีรํ ปูรยมานา ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิ. โส ปารุตวตฺถํ สงฺฆริตฺวา ‘‘ทสพลสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อถสฺส อาทีนวสหสฺสํ ทสฺสยมานํ มจฺเฉรํ อุปฺปชฺชิ. โส ‘‘พฺราหฺมณิยา มยฺหฺจ เอกเมว วตฺถํ, อฺํ กิฺจิ ปารุปนํ นตฺถิ, อปารุปิตฺวา จ นาม พหิ วิจริตุํ น สกฺกา’’ติ สพฺพถาปิ อทาตุกาโม อโหสิ, อถสฺส นิกฺขนฺเต ปมยาเม มชฺฌิมยาเมปิ ตเถว ปีติ อุปฺปชฺชิ. ตเถว จินฺเตตฺวา ตเถว อทาตุกาโม อโหสิ. อถสฺส มชฺฌิมยาเม นิกฺขนฺเต ปจฺฉิมยาเมปิ ตเถว ปีติ อุปฺปชฺชิ. ตทา โส ‘‘ยํ วา โหตุ ตํ วา ปจฺฉาปิ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺถํ สงฺฆริตฺวา สตฺถุ ปาทมูเล เปสิ. ตโต วามหตฺถํ อาภุชิตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ติกฺขตฺตุํ อปฺโผเฏตฺวา ‘‘ชิตํ เม, ชิตํ เม’’ติ ตโย วาเร นทิ.

ตสฺมิฺจ สมเย พนฺธุมราชา ธมฺมาสนสฺส ปจฺฉโต อนฺโตสาณิยํ นิสินฺโน ธมฺมํ สุณาติ. รฺโ จ นาม ‘‘ชิตํ เม’’ติ สทฺโท อมนาโป โหติ. โส ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, เอตํ ปุจฺฉ กึ วทสี’’ติ. โส เตน คนฺตฺวา ปุจฺฉิโต ‘‘อวเสสา หตฺถิยานาทีนิ อารุยฺห อสิจมฺมาทีนิ คเหตฺวา ปรเสนํ ชินนฺติ, น ตํ อจฺฉริยํ. อหํ ปน ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตสฺส กูฏโคณสฺส มุคฺคเรน สีสํ ภินฺทิตฺวา ตํ ปลาเปนฺโต วิย มจฺเฉรจิตฺตํ มทฺทิตฺวา ปารุตวตฺถํ ทสพลสฺส อทาสึ, ตํ เม มจฺฉริยํ ชิต’’นฺติ อาห. โส ปุริโส อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา อาห – ‘‘อมฺเห, ภเณ, ทสพลสฺส อนุรูปํ น ชานิมฺห, พฺราหฺมโณ ชานี’’ติ วตฺถยุคํ เปเสสิ. ตํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มยฺหํ ตุณฺหีนิสินฺนสฺส ปมํ กิฺจิ อทตฺวา สตฺถุ คุเณ กเถนฺตสฺส อทาสิ. สตฺถุ คุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺเนน ปน มยฺหํ โก อตฺโถ’’ติ ตมฺปิ วตฺถยุคํ ทสพลสฺเสว อทาสิ. ราชาปิ ‘‘กึ พฺราหฺมเณน กต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตมฺปิ เตน วตฺถยุคํ ตถาคตสฺเสว ทินฺน’’นฺติ สุตฺวา อฺานิปิ ทฺเว วตฺถยุคานิ เปเสสิ, โส ตานิปิ อทาสิ. ราชา อฺานิปิ จตฺตารีติ เอวํ ยาว ทฺวตฺตึสวตฺถยุคานิ เปเสสิ. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘อิทํ วฑฺเฒตฺวา วฑฺเฒตฺวา คหณํ วิย โหตี’’ติ อตฺตโน อตฺถาย เอกํ, พฺราหฺมณิยา เอกนฺติ ทฺเว วตฺถยุคานิ คเหตฺวา ตึสยุคานิ ตถาคตสฺเสว อทาสิ. ตโต ปฏฺาย จ โส สตฺถุ วิสฺสาสิโก ชาโต.

อถ นํ ราชา เอกทิวสํ สีตสมเย สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตํ ทิสฺวา สตสหสฺสคฺฆนกํ อตฺตนา ปารุตรตฺตกมฺพลํ ทตฺวา อาห – ‘‘อิโต ปฏฺาย อิมํ ปารุปิตฺวา ธมฺมํ สุณาหี’’ติ. โส ‘‘กึ เม อิมินา กมฺพเลน อิมสฺมึ ปูติกาเย อุปนีเตนา’’ติ จินฺเตตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ ตถาคตสฺส มฺจสฺส อุปริ วิตานํ กตฺวา อคมาสิ. อเถกทิวสํ ราชา ปาโตว วิหารํ คนฺตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิ. ตสฺมิฺจ สมเย ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย กมฺพเล ปฏิหฺนฺติ, กมฺพโล อติวิย วิโรจติ. ราชา อุลฺโลเกนฺโต สฺชานิตฺวา อาห – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, เอส กมฺพโล, อมฺเหหิ เอกสาฏกพฺราหฺมณสฺส ทินฺโน’’ติ. ‘‘ตุมฺเหหิ, มหาราช, พฺราหฺมโณ ปูชิโต, พฺราหฺมเณน มยํ ปูชิตา’’ติ. ราชา ‘‘พฺราหฺมโณ ยุตฺตํ อฺาสิ, น มย’’นฺติ ปสีทิตฺวา ยํ มนุสฺสานํ อุปการภูตํ, ตํ สพฺพํ อฏฺฏฺกํ กตฺวา สพฺพฏฺกํ นาม ทานํ ทตฺวา ปุโรหิตฏฺาเน เปสิ. โสปิ ‘‘อฏฺฏฺกํ นาล จตุสฏฺิ โหตี’’ติ จตุสฏฺิ สลากภตฺตานิ อุปนิพนฺธาเปตฺวา ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา ตโต จุโต สคฺเค นิพฺพตฺติ.

ปุน ตโต จุโต อิมสฺมึ กปฺเป โกณาคมนสฺส จ ภควโต กสฺสปทสพลสฺส จาติ ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนฺตเร พาราณสิยํ กุฏุมฺพิยฆเร นิพฺพตฺโต. โส วุทฺธิมนฺวาย ฆราวาสํ วสนฺโต เอกทิวสํ อรฺเ ชงฺฆวิหารํ จรติ. ตสฺมิฺจ สมเย ปจฺเจกพุทฺโธ นทีตีเร จีวรกมฺมํ กโรนฺโต อนุวาเต อปฺปโหนฺเต สงฺฆริตฺวา เปตุํ อารทฺโธ. โส ทิสฺวา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, สงฺฆริตฺวา เปถา’’ติ อาห. ‘‘อนุวาโต นปฺปโหตี’’ติ. ‘‘อิมินา, ภนฺเต, กโรถา’’ติ อุตฺตรสาฏกํ ทตฺวา ‘‘นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม เกนจิ ปริหานิ มา โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ.

ฆเรปิสฺส ภคินิยา สทฺธึ ภริยาย กลหํ กโรนฺติยา ปจฺเจกพุทฺโธ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถสฺส ภคินี ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา ตสฺส ภริยํ สนฺธาย ‘‘เอวรูปํ พาลํ โยชนสเตน ปริวชฺเชยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. สา เคหงฺคเณ ิตา สุตฺวา ‘‘อิมาย ทินฺนภตฺตํ มา เอส ภุฺชตู’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑปาตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ. อิตรา ทิสฺวา ‘‘พาเล, ตฺวํ มํ ตาว อกฺโกส วา ปหร วา, เอวรูปสฺส ปน ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ ปูริตปารมิสฺส ปตฺตโต ภตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลํ ทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ อาห. อถสฺส ภริยาย ปฏิสงฺขานํ อุปฺปชฺชิ. สา ‘‘ติฏฺถ, ภนฺเต’’ติ กลลํ ฉฑฺเฑตฺวา ปตฺตํ โธวิตฺวา คนฺธจุณฺเณน. อุพฺพฏฺเฏตฺวา ปณีตภตฺตสฺส จตุมธุรสฺส จ ปูเรตฺวา อุปริ อาสิตฺเตน ปทุมคพฺภวณฺเณน สปฺปินา วิชฺโชตมานํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ยถา อยํ ปิณฺฑปาโต โอภาสชาโต, เอวํ โอภาสชาตํ เม สรีรํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ อนุโมทิตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ.

เตปิ ชายมฺปติกา ยาวตายุกํ กุสลํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ปุน ตโต จวิตฺวา อุปาสโก กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล พาราณสิยํ อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อิตราปิ ตาทิสสฺเสว เสฏฺิโน ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส วุทฺธิปฺปตฺตสฺส ตเมว เสฏฺิธีตรํ อานยึสุ. ตสฺสา ปุพฺเพ อนิฏฺวิปากสฺส ปาปกมฺมสฺส อานุภาเวน ปติกุลํ ปวิฏฺมตฺตาย อุมฺมารพฺภนฺตเร สกลสรีรํ อุคฺฆาฏิตวจฺจกุฏิ วิย ทุคฺคนฺธํ ชาตํ. เสฏฺิกุมาโร ‘‘กสฺสายํ คนฺโธ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘เสฏฺิกฺายา’’ติ สุตฺวา, ‘‘นีหรถ, นีหรถา’’ติ อาภตนิยาเมเนว กุลฆรํ เปเสสิ. สา เอเตเนว นีหาเรน สตฺตสุ าเนสุ ปฏินิวตฺติตา.

เตน จ สมเยน กสฺสปทสพโล ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ฆนโกฏฺฏิมาหิ สตสหสฺสคฺฆนิกาหิ รตฺตสุวณฺณิฏฺกาหิ โยชนุพฺเพธํ เจติยํ อารภึสุ. ตสฺมึ เจติเย กรียมาเน สา เสฏฺิธีตา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สตฺตสุ าเนสุ ปฏินิวตฺติตา, กึ เม ชีวิเตนา’’ติ อตฺตโน อาภรณภณฺฑํ ภฺชาเปตฺวา สุวณฺณิฏฺกํ กาเรสิ รตนายตํ วิทตฺถิวิตฺถินฺนํ จตุรงฺคุลุพฺเพธํ. ตโต หริตาลมโนสิลาปิณฺฑํ คเหตฺวา อฏฺ อุปฺปลหตฺถเก อาทาย เจติยกรณฏฺานํ คตา. ตสฺมิฺจ ขเณ เอกา อิฏฺกาปนฺติ ปริกฺขิปิตฺวา อาคจฺฉมานา ฆฏนิฏฺกาย อูนา โหติ, เสฏฺิธีตา วฑฺฒกึ อาห – ‘‘อิมํ อิฏฺกํ เอตฺถ เปถา’’ติ. ‘‘อมฺม, ภทฺทเก กาเล อาคตาสิ, สยเมว เปหี’’ติ. สา อารุยฺห เตเลน หริตาลมโนสิลาปิณฺฑํ โยเชตฺวา เตน พนฺธเนน อิฏฺกํ ปติฏฺเปตฺวา อุปริ อฏฺหิ อุปฺปลหตฺถเกหิ ปูชํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม กายโต จนฺทนคนฺโธ วายตุ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ’’ติ ปตฺถนํ กตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อคมาสิ.

อถ ตสฺมึเยว ขเณ ยสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส ปมํ เคหํ นีตา, ตสฺส ตํ อารพฺภ สติ อุทปาทิ. นคเรปิ นกฺขตฺตํ สงฺฆุฏฺํ โหติ. โส อุปฏฺาเก อาห – ‘‘ตทา อิธ อานีตา เสฏฺิธีตา อตฺถิ, กหํ สา’’ติ? ‘‘กุลเคเห สามี’’ติ. ‘‘อาเนถ นํ, นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ. เต คนฺตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา ิตา ‘‘กึ, ตาตา, อาคตตฺถา’’ติ ตาย ปุฏฺา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขึสุ. ‘‘ตาตา, มยา อาภรณภณฺเฑน เจติยํ ปูชิตํ, อาภรณํ เม นตฺถี’’ติ. เต คนฺตฺวา เสฏฺิปุตฺตสฺส อาโรเจสุํ. อาเนถ นํ, ปิฬนฺธนํ ลภิสฺสตีติ. เต อานยึสุ. ตสฺสา สห ฆรปเวสเนน สกลเคหํ จนฺทนคนฺโธ เจว นีลุปฺปลคนฺโธ จ วายิ. เสฏฺิปุตฺโต ตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ปมํ ตว สรีรโต ทุคฺคนฺโธ วายิ, อิทานิ ปน เต สรีรโต จนฺทนคนฺโธ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ วายติ. กึ เอต’’นฺติ? สา อาทิโต ปฏฺาย อตฺตนา กตกมฺมํ อาโรเจสิ. เสฏฺิปุตฺโต ‘‘นิยฺยานิกํ วต พุทฺธสาสน’’นฺติ ปสีทิตฺวา โยชนิกํ สุวณฺณเจติยํ กมฺพลกฺจุเกน ปริกฺขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ รถจกฺกปฺปมาเณหิ สุวณฺณปทุเมหิ อลงฺกริ. เตสํ ทฺวาทสหตฺถา โอลมฺพกา โหนฺติ.

โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต พาราณสิโต โยชนมตฺเต าเน อฺตรสฺมึ อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติ, เสฏฺิกฺาปิ เทวโลกโต จวิตฺวา ราชกุเล เชฏฺธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เตสุ วยปฺปตฺเตสุ กุมารสฺส วสนคาเม นกฺขตฺตํ สงฺฆุฏฺํ. โส มาตรํ อาห – ‘‘สาฏกํ เม, อมฺม, เทหิ, นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามี’’ติ. สา โธตวตฺถํ นีหริตฺวา อทาสิ. ‘‘อมฺม, ถูลํ อิท’’นฺติ อาห. สา อฺํ นีหริตฺวา อทาสิ, ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิ. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, ยาทิเส เคเห มยํ ชาตา, นตฺถิ โน อิโต สุขุมตรสฺส ปฏิลาภาย ปุฺ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ลภนฏฺานํ คจฺฉามิ อมฺมา’’ติ. ‘‘ปุตฺต, อหํ อชฺเชว ตุยฺหํ พาราณสินคเร รชฺชปฏิลาภมฺปิ อิจฺฉามี’’ติ. โส มาตรํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘คจฺฉามิ, อมฺมา’’ติ. ‘‘คจฺฉ, ตาตา’’ติ. เอวํ กิรสฺสา จิตฺตํ อโหสิ – ‘‘กหํ คมิสฺสติ? อิธ วา เอตฺถ วา เคเห นิสีทิสฺสตี’’ติ. โส ปน ปุฺนิยาเมน นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา อุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ สสีสํ ปารุปิตฺวา นิปชฺชิ. โส จ พาราณสิรฺโ กาลงฺกตสฺส สตฺตโม ทิวโส โหติ.

อมจฺจา รฺโ สรีรกิจฺจํ กตฺวา ราชงฺคเณ นิสีทิตฺวา มนฺตยึสุ – ‘‘รฺโ เอกา ธีตาว อตฺถิ, ปุตฺโต นตฺถิ, อราชกํ รชฺชํ นสฺสติ, โก ราชา โหตี’’ติ? ‘‘ตฺวํ โหหิ, ตฺวํ โหหี’’ติ อาหํสุ. ปุโรหิโต อาห – ‘‘พหุํ โอโลเกตุํ น วฏฺฏติ, ผุสฺสรถํ วิสฺสชฺเชมา’’ติ. เต กุมุทวณฺเณ จตฺตาโร สินฺธเว โยเชตฺวา ปฺจวิธํ ราชกกุธภณฺฑํ เสตจฺฉตฺตฺจ รถสฺมึเยว เปตฺวา รถํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปจฺฉโต ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสุํ. รโถ ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานาภิมุโข อโหสิ. ‘‘ปริจเยน อุยฺยานาภิมุโข คจฺฉติ, นิวตฺเตมา’’ติ เกจิ อาหํสุ. ปุโรหิโต ‘‘มา นิวตฺตยิตฺถา’’ติ อาห. รโถ กุมารํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาโรหนสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ, ปุโรหิโต ปารุปนกณฺณํ อปเนตฺวา ปาทตลานิ โอโลเกนฺโต, ‘‘ติฏฺตุ อยํ ทีโป, ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ เอส รชฺชํ กาเรตุํ ยุตฺโต’’ติ วตฺวา ‘‘ปุนปิ ตูริยานิ ปคฺคณฺหถ, ปุนปิ ปคฺคณฺหถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ.

อถ กุมาโร มุขํ วิวริตฺวา โอโลเกตฺวา, ‘‘เกน กมฺเมน อาคตตฺถา’’ติ อาห. ‘‘เทว, ตุมฺหากํ รชฺชํ ปาปุณาตี’’ติ. ‘‘ราชา กห’’นฺติ? ‘‘เทวตฺตํ คโต, สามี’’ติ. ‘‘กติ ทิวสา อติกฺกนฺตา’’ติ? ‘‘อชฺช สตฺตโม ทิวโส’’ติ. ‘‘ปุตฺโต วา ธีตา วา นตฺถี’’ติ? ‘‘ธีตา อตฺถิ เทว, ปุตฺโต นตฺถี’’ติ. ‘‘กริสฺสามิ รชฺช’’นฺติ. เต ตาวเทว อภิเสกมณฺฑปํ กาเรตฺวา ราชธีตรํ สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา, อุยฺยานํ อาเนตฺวา กุมารสฺส อภิเสกํ อกํสุ. อถสฺส กตาภิเสกสฺส สตสหสฺสคฺฆนกํ วตฺถํ อุปหรึสุ. โส ‘‘กิมิทํ, ตาตา’’ติ อาห. ‘‘นิวาสนวตฺถํ เทวา’’ติ. ‘‘นนุ, ตาตา, ถูล’’นฺติ? ‘‘มนุสฺสานํ ปริโภควตฺเถสุ อิโต สุขุมตรํ นตฺถิ, เทวา’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ ราชา เอวรูปํ นิวาเสสี’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘น มฺเ ปุฺวา ตุมฺหากํ ราชา, สุวณฺณภิงฺคารํ อาหรถ, ลภิสฺสาม วตฺถ’’นฺติ. สุวณฺณภิงฺคารํ อาหรึสุ. โส อุฏฺาย หตฺเถ โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา หตฺเถน อุทกํ อาทาย ปุรตฺถิมทิสายํ อพฺภุกฺกิริ. ตาวเทว ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อฏฺ กปฺปรุกฺขา อุฏฺหึสุ. ปุน อุทกํ คเหตฺวา ทกฺขิณายํ ปจฺฉิมายํ อุตฺตรายนฺติ เอวํ จตูสุ ทิสาสุ อพฺภุกฺกิริ. สพฺพทิสาสุ อฏฺฏฺกํ กตฺวา ทฺวตฺตึส กปฺปรุกฺขา อุฏฺหึสุ. โส เอกํ ทิพฺพทุสฺสํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ‘‘นนฺทรฺโ วิชิเต สุตฺตกนฺติกา อิตฺถิโย มา สุตฺตํ กนฺตึสูติ เอวํ เภรึ จราเปถา’’ติ วตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺโต หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห มหาสมฺปตฺตึ อนุภวิ.

เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต เอกทิวสํ เทวี รฺโ มหาสมฺปตฺตึ ทิสฺวา, ‘‘อโห ตปสฺสี’’ติ การุฺาการํ ทสฺเสติ. ‘‘กิมิทํ, เทวี’’ติ จ ปุฏฺา ‘‘อติมหตี เต, เทว, สมฺปตฺติ. อตีเต พุทฺธานํ สทฺทหิตฺวา กลฺยาณํ อกตฺถ, อิทานิ อนาคตสฺส ปจฺจยํ กุสลํ น กโรถา’’ติ อาห. ‘‘กสฺส ทสฺสาม, สีลวนฺโต นตฺถี’’ติ? ‘‘อสุฺโ, เทว, ชมฺพุทีโป อรหนฺเตหิ, ตุมฺเห ทานเมว สชฺเชถ, อหํ อรหนฺเต ลจฺฉามี’’ติ อาห. ราชา ปุนทิวเส ปาจีนทฺวาเร ทานํ สชฺชาเปสิ. เทวี ปาโตว อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุปริปาสาเท ปุรตฺถาภิมุขา อุเรน นิปชฺชิตฺวา ‘‘สเจ เอติสฺสํ ทิสายํ อรหนฺโต อตฺถิ, สฺเวว อาคนฺตฺวา อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ อาห. ตสฺสํ ทิสายํ อรหนฺโต นาเหสุํ, ตํ สกฺการํ กปณยาจกานํ อทํสุ. ปุนทิวเส ทกฺขิณทฺวาเร ทานํ สชฺเชตฺวา ตเถว อกาสิ, ปุนทิวเส ปจฺฉิมทฺวาเร. อุตฺตรทฺวาเร สชฺชิตทิวเส ปน เทวิยา ตเถว นิมนฺเตนฺติยา หิมวนฺเต วสนฺตานํ ปทุมวติยา ปุตฺตานํ ปฺจสตานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ เชฏฺโก มหาปทุมปจฺเจกพุทฺโธ ภาติเก อามนฺเตสิ, ‘‘มาริสา, นนฺทราชา, ตุมฺเห นิมนฺเตติ, อธิวาเสถ ตสฺสา’’ติ. เต อธิวาเสตฺวา ปุนทิวเส อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา, อากาเสน อาคนฺตฺวา อุตฺตรทฺวาเร โอตรึสุ. มนุสฺสา ทิสฺวา คนฺตฺวา ‘‘ปฺจสตา, เทว, ปจฺเจกพุทฺธา อาคตา’’ติ รฺโช อาโรเจสุํ. ราชา สทฺธึ เทวิยา คนฺตฺวา, วนฺทิตฺวา, ปตฺตํ คเหตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา, ตตฺร เนสํ ทานํ ทตฺวา, ภตฺตกิจฺจาวสาเน ราชา สงฺฆตฺเถรสฺส, เทวี, สงฺฆนวกสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘อยฺยา ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสนฺติ, มยํ ปุฺเน น หายิสฺสาม. อมฺหากํ ยาวชีวํ อิธ นิวาสาย ปฏิฺํ เทถา’’ติ ปฏิฺํ กาเรตฺวา อุยฺยาเน ปฺจปณฺณสาลาสตานิ ปฺจจงฺกมนสตานีติ สพฺพากาเรน นิวาสนฏฺานานิ สมฺปาเทตฺวา ตตฺถ วสาเปสุํ.

เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต รฺโ ปจฺจนฺโต กุปิโต. โส ‘‘อหํ ปจฺจนฺตํ วูปสเมตุํ คจฺฉามิ, ตฺวํ ปจฺเจกพุทฺเธสุ มา ปมชฺชี’’ติ เทวึ โอวทิตฺวา คโต. ตสฺมึ อนาคเตเยว ปจฺเจกพุทฺธานํ อายุสงฺขารา ขีณา. มหาปทุมปจฺเจกพุทฺโธ ติยามรตฺตึ ฌานกีฬํ กีฬิตฺวา อรุณุคฺคมเน อาลมฺพนผลกํ อาลมฺพิตฺวา ิตโกว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. เอเตนุปาเยน เสสาปีติ สพฺเพว ปรินิพฺพุตา. ปุนทิวเส เทวี ปจฺเจกพุทฺธานํ นิสีทนฏฺานํ หริตูปลิตฺตํ กาเรตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา, ธูปํ ทตฺวา เตสํ อาคมนํ โอโลกยนฺตี นิสินฺนา อาคมนํ อปสฺสนฺตี ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, ตาต, ชานาหิ, กึ อยฺยานํ กิฺจิ อผาสุก’’นฺติ? โส คนฺตฺวา มหาปทุมสฺส ปณฺณสาลาย ทฺวารํ วิวริตฺวา ตตฺถ อปสฺสนฺโต จงฺกมนํ คนฺตฺวา อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ิตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กาโล, ภนฺเต’’ติ อาห. ‘‘ปรินิพฺพุตสรีรํ กึ กเถสฺสติ? โส นิทฺทายติ มฺเ’’ติ คนฺตฺวา ปิฏฺิปาเท หตฺเถน ปรามสิตฺวา ปาทานํ สีตลตาย เจว ถทฺธตาย จ ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา, ทุติยสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เอวํ ตติยสฺสาติ สพฺเพสํ ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา ราชกุลํ คโต. ‘‘กหํ, ตาต, ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปรินิพฺพุตา, เทวี’’ติ อาห. เทวี กนฺทนฺตี โรทนฺตี นิกฺขมิตฺวา นาคเรหิ สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา สาธุกีฬิตํ กาเรตฺวา ปจฺเจกพุทฺธานํ สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ธาตุโย คเหตฺวา เจติยํ ปติฏฺาเปสิ.

ราชา ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา อาคโต ปจฺจุคฺคมนํ อาคตํ เทวึ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, ภทฺเท, ปจฺเจกพุทฺเธสุ นปฺปมชฺชิ, นิโรคา อยฺยา’’ติ? ‘‘ปรินิพฺพุตา เทวา’’ติ. ราชา จินฺเตติ ‘‘เอวรูปานมฺปิ ปณฺฑิตานํ มรณํ อุปฺปชฺชติ, อมฺหากํ กุโต โมกฺโข’’ติ. โส นครํ อคนฺตฺวา, อุยฺยานเมว ปวิสิตฺวา เชฏฺปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ตสฺส รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา, สยํ สมณปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. เทวีปิ ‘‘อิมสฺมึ ปพฺพชิเต อหํ กึ กริสฺสามี’’ติ ตตฺเถว อุยฺยาเน ปพฺพชิตฺวา ทฺเวปิ ฌานํ ภาเวตฺวา ตโต จุตา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.

เตสุ ตตฺเถว วสนฺเตสุ อมฺหากํ สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ราชคหํ ปาวิสิ. สตฺถริ ตตฺถ ปฏิวสนฺเต อยํ ปิปฺปลิมาณโว มคธรฏฺเ มหาติตฺถพฺราหฺมณคาเม กปิลพฺราหฺมณสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต. อยํ ภทฺทา กาปิลานี มทฺทรฏฺเ สาคลนคเร โกสิยโคตฺตพฺราหฺมณสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตา. เตสํ อนุกฺกเมน วฑฺฒมานานํ ปิปฺปลิมาณวสฺส วีสติเม, ภทฺทาย โสฬสเม วสฺเส สมฺปตฺเต มาตาปิตโร ปุตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ วยปฺปตฺโต, กุลวํโส นาม ปติฏฺเปตพฺโพ’’ติ อติวิย นิปฺปีฬยึสุ. มาณโว อาห ‘‘มยฺหํ โสตปเถ เอวรูปํ กถํ มา กเถถ. อหํ ยาว ตุมฺเห ธรถ, ตาว ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตุมฺหากํ อจฺจเยน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. เต กติปาหํ อติกฺกมิตฺวา ปุน กถยึสุ. โสปิ ตเถว ปฏิกฺขิปิ. ตโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ กเถติเยว.

มาณโว ‘‘มม มาตรํ สฺาเปสฺสามี’’ติ รตฺตสุวณฺณสฺส นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา สุวณฺณกาเรหิ เอกํ อิตฺถิรูปํ การาเปตฺวา ตสฺส มชฺชนฆฏฺฏนาทิกมฺมปริโยสาเน ตํ รตฺตวตฺถํ นิวาสาเปตฺวา วณฺณสมฺปนฺเนหิ ปุปฺเผหิ เจว นานาอลงฺกาเรหิ จ อลงฺการาเปตฺวา มาตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห ‘‘อมฺม, เอวรูปํ อารมฺมณํ ลภนฺโต เคเห วสิสฺสามิ อลภนฺโต น วสิสฺสามี’’ติ. ปณฺฑิตา พฺราหฺมณี จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต ปุฺวา ทินฺนทาโน กตาภินีหาโร, ปุฺํ กโรนฺโต น เอกโกว อกาสิ, อทฺธา เอเตน สหกตปุฺา สุวณฺณรูปปฏิภาคาว ภวิสฺสตี’’ติ อฏฺ พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา สุวณฺณรูปกํ รถํ อาโรเปตฺวา ‘‘คจฺฉถ, ตาตา, ยตฺถ อมฺหากํ ชาติโคตฺตโภเคหิ สมาเน กุเล เอวรูปํ ทาริกํ ปสฺสถ, อิมเมว สุวณฺณรูปกํ ปณฺณาการํ กตฺวา เอถา’’ติ อุยฺโยเชสิ.

เต ‘‘อมฺหากํ นาม เอตํ กมฺม’’นฺติ นิกฺขมิตฺวา ‘‘กตฺถ คมิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มทฺทรฏฺํ นาม อิตฺถากโร, มทฺทรฏฺํ คมิสฺสามา’’ติ มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ อคมํสุ. ตตฺถ ตํ สุวณฺณรูปกํ นฺหานติตฺเถ เปตฺวา เอกมนฺเต นิสีทึสุ. อถ ภทฺทาย ธาตี ภทฺทํ นฺหาเปตฺวา, อลงฺกริตฺวา, สิริคพฺเภ นิสีทาเปตฺวา สยํ นฺหายิตุํ อุทกติตฺถํ คตา ตตฺถ ตํ สุวณฺณรูปกํ ทิสฺวา ‘‘กิสฺสายํ อวินีตา อิธาคนฺตฺวา ิตา’’ติ ปิฏฺิปสฺเส ปหริตฺวา ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ ตฺวา ‘‘อยฺยธีตา เม’’ติ สฺํ อุปฺปาเทสึ, ‘‘อยํ ปน เม อยฺยธีตาย นิวาสนปฏิคฺคาหิกายาปิ อสทิสา’’ติ อาห. อถ นํ เต มนุสฺสา ปริวาเรตฺวา ‘‘เอวรูปา เต สามิธีตา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘กึ เอสา, อิมาย สุวณฺณปฏิมาย สตคุเณน สหสฺสคุเณน มยฺหํ อยฺยธีตา อภิรูปตรา, ทฺวาทสหตฺเถ คพฺเภ นิสินฺนาย ปทีปกิจฺจํ นตฺถิ, สรีโรภาเสเนว ตมํ วิธมตี’’ติ. ‘‘เตน หิ อาคจฺฉา’’ติ ตํ ขุชฺชํ คเหตฺวา สุวณฺณรูปกํ รเถ อาโรเปตฺวา โกสิยโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ฆรทฺวาเร ตฺวา อาคมนํ นิเวทยึสุ.

พฺราหฺมโณ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มคธรฏฺเ มหาติตฺถคาเม กปิลพฺราหฺมณสฺส ฆรโต’’ติ. ‘‘กึ การณา อาคตา’’ติ? ‘‘อิมินา นาม การเณนา’’ติ. ‘‘กลฺยาณํ, ตาตา, สมชาติโคตฺตวิภโว อมฺหากํ พฺราหฺมโณ, ทสฺสามิ ทาริก’’นฺติ ปณฺณาการํ คณฺหิ. เต กปิลพฺราหฺมณสฺส สาสนํ ปหิณึสุ ‘‘ลทฺธา ทาริกา, กตฺตพฺพํ กโรถา’’ติ. ตํ สาสนํ สุตฺวา ปิปฺปลิมาณวสฺส อาโรจยึสุ ‘‘ลทฺธา กิร ทาริกา’’ติ. มาณโว ‘‘อหํ ‘น ลภิสฺสนฺตี’ติ จินฺเตสึ, อิเม ‘ลทฺธา’ติ วทนฺติ, อนตฺถิโก หุตฺวา ปณฺณํ เปเสสฺสามี’’ติ รโหคโต ปณฺณํ ลิขิ ‘‘ภทฺทา, อตฺตโน ชาติโคตฺตโภคานุรูปํ ฆราวาสํ ลภตุ, อหํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามิ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารินี อโหสี’’ติ. ภทฺทาปิ ‘‘อสุกสฺส กิร มํ ทาตุกาโม’’ติ สุตฺวา ‘‘ปณฺณํ เปเสสฺสามี’’ติ รโหคตา ปณฺณํ ลิขิ ‘‘อยฺยปุตฺโต อตฺตโน ชาติโคตฺตโภคานุรูปํ ฆราวาสํ ลภตุ, อหํ ปพฺพชิสฺสามิ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสี’’ติ. ทฺเวปิ ปณฺณานิ อนฺตรามคฺเค สมาคจฺฉึสุ. ‘‘อิทํ กสฺส ปณฺณ’’นฺติ? ‘‘ปิปฺปลิมาณเวน ภทฺทาย ปหิต’’นฺติ. ‘‘อิทํ กสฺสา’’ติ? ‘‘ภทฺทาย ปิปฺปลิมาณวสฺส ปหิต’’นฺติ จ วุตฺเต เต ทฺเวปิ วาเจตฺวา ‘‘ปสฺสถ ทารกานํ กมฺม’’นฺติ ผาเลตฺวา อรฺเ ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ ตํสมานํ ปณฺณํ ลิขิตฺวา อิโต เอตฺโต จ เปเสสุํ. อิติ กุมารสฺส กุมาริกาย จ สทิสํ ปณฺณํ โลกสฺสาทรหิตเมวาติ อนิจฺฉมานานํเยว ทฺวินฺนํ สมาคโม อโหสิ.

ตํ ทิวสํเยว ปิปฺปลิมาณโว เอกํ ปุปฺผทามํ คนฺถาเปสิ ภทฺทาปิ. ตานิ สยนมชฺเฌ เปสุํ ภุตฺตสายมาสา อุโภปิ ‘‘สยนํ อารุหิสฺสามา’’ติ มาณโว ทกฺขิณปสฺเสน สยนํ อารุหิ. ภทฺทา วามปสฺเสน อภิรุหิตฺวา อาห – ‘‘ยสฺส ปสฺเส ปุปฺผานิ มิลายนฺติ, ตสฺส ราคจิตฺตํ อุปฺปนฺนนฺติ วิชานิสฺสาม, อิมํ ปุปฺผทามํ น อลฺลิยิตพฺพ’’นฺติ. เต ปน อฺมฺํ สรีรสมฺผสฺสภเยน ติยามรตฺตึ นิทฺทํ อโนกฺกมนฺตาว วีตินาเมนฺติ, ทิวา ปน หสิตมตฺตมฺปิ นาโหสิ. เต โลกามิเสน อสํสฏฺา ยาว มาตาปิตโร ธรนฺติ, ตาว กุฏุมฺพํ อวิจาเรตฺวา เตสุ กาลงฺกเตสุ วิจารยึสุ. มหตี มาณวสฺส สมฺปตฺติ – เอกทิวสํ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ฉฑฺเฑตพฺพํ สุวณฺณจุณฺณํ เอว มคธนาฬิยา ทฺวาทสนาฬิมตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. ยนฺตพทฺธานิ สฏฺิมหาตฬากานิ, กมฺมนฺโต ทฺวาทสโยชนิโก, อนุราธปุรปมาณา จุทฺทส คามา, จุทฺทส หตฺถานีกานิ, จุทฺทส อสฺสานีกานิ, จุทฺทส รถานีกานิ.

โส เอกทิวสํ อลงฺกตอสฺสํ อารุยฺห มหาชนปริวุโต กมฺมนฺตํ คนฺตฺวา เขตฺตโกฏิยํ ิโต นงฺคเลหิ ภินฺนฏฺานโต กากาทโย สกุเณ คณฺฑุปฺปาทาทิปาณเก อุทฺธริตฺวา ขาทนฺเต ทิสฺวา, ‘‘ตาตา, อิเม กึ ขาทนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘คณฺฑุปฺปาเท, อยฺยา’’ติ. ‘‘เอเตหิ กตํ ปาปํ กสฺส โหตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ, อยฺยา’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สเจ เอเตหิ กตํ ปาปํ มยฺหํ โหติ, กึ เม กริสฺสติ สตฺตอสีติโกฏิธนํ, กึ ทฺวาทสโยชโน กมฺมนฺโต, กึ ยนฺตพทฺธานิ ตฬากานิ, กึ จุทฺทส คามา, สพฺพเมตํ ภทฺทาย กาปิลานิยา นิยฺยาเตตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ภทฺทาปิ กาปิลานี ตสฺมึ ขเณ อนฺตรวตฺถุมฺหิ ตโย ติลกุมฺเภ ปตฺถราเปตฺวา ธาตีหิ ปริวุตา นิสินฺนา กาเก ติลปาณเก ขาทมาเน ทิสฺวา, ‘‘อมฺมา, กึ อิเม ขาทนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปาณเก อยฺเย’’ติ. ‘‘อกุสลํ กสฺส โหตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ, อยฺเย’’ติ. สา จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ จตุหตฺถวตฺถํ นาฬิโกทนมตฺตฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ยทิ ปเนตํ เอตฺตเกน ชเนน กตํ อกุสลํ มยฺหํ โหติ, ภวสหสฺเสนปิ วฏฺฏโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺกา. อยฺยปุตฺเต อาคตมตฺเตเยว สพฺพํ ตสฺส นิยฺยาเตตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

มาณโว อาคนฺตฺวา, นฺหตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทิ. อถสฺส จกฺกวตฺติโน อนุจฺฉวิกํ โภชนํ สชฺชยึสุ. ทฺเวปิ ภุฺชิตฺวา ปริชเน นิกฺขนฺเต รโหคตา ผาสุกฏฺาเน นิสีทึสุ. ตโต มาณโว ภทฺทํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อิมํ ฆรํ อาคจฺฉนฺตี ตฺวํ กิตฺตกํ ธนํ อาหรสี’’ติ? ‘‘ปฺจปณฺณาส สกฏสหสฺสานิ, อยฺยา’’ติ. ‘‘ตํ สพฺพํ, ยา จ อิมสฺมึ ฆเร สตฺตอสีติโกฏิโย ยนฺตพทฺธสฏฺิตฬากาทิเภทา จ สมฺปตฺติ อตฺถิ, ตํ สพฺพฺจ ตุยฺหํเยว นิยฺยาเทมี’’ติ. ‘‘ตุมฺเห ปน กหํ คจฺฉถ, อยฺยา’’ติ? ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘อยฺย, อหมฺปิ ตุมฺหากํเยว อาคมนํ โอโลกยมานา นิสินฺนา. อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. เตสํ อาทิตฺตปณฺณกุฏิ วิย ตโย ภวา อุปฏฺหึสุ. เต อนฺตราปณโต กสายรสปีตานิ วตฺถานิ มตฺติกาปตฺเต จ อาหราเปตฺวา อฺมฺํ เกเส โอโรเปตฺวา ‘‘เย โลเก อรหนฺโต, เต อุทฺทิสฺส อมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ปพฺพชิตฺวา, ถวิกาสุ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อํเส ลคฺเคตฺวา ปาสาทโต โอตรึสุ. เคเห ทาเสสุ วา กมฺมกเรสุ วา น โกจิ สฺชานิ.

อถ เน พฺราหฺมณคามโต นิกฺขมฺม ทาสคามทฺวาเรน คจฺฉนฺเต อากปฺปกุตฺตวเสน ทาสคามวาสิโน สฺชานึสุ. เต โรทนฺตา ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘กึ, อมฺเห, อนาเถ กโรถ อยฺยา’’ติ อาหํสุ. ‘‘มยํ, ‘ภเณ, อาทิตฺตปณฺณสาลา วิย ตโย ภวา’ติ ปพฺพชิมฺหา. สเจ ตุมฺเหสุ เอเกกํ ภุชิสฺสํ กโรม, วสฺสสตมฺปิ นปฺปโหติ. ตุมฺเหว ตุมฺหากํ สีสํ โธวิตฺวา ภุชิสฺสา หุตฺวา ชีวถา’’ติ วตฺวา เตสํ โรทนฺตานํเยว ปกฺกมึสุ.

เถโร ปุรโต คจฺฉนฺโต นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ, ภทฺทา กาปิลานี, สกลชมฺพุทีปคฺฆนิกา อิตฺถี มยฺหํ ปจฺฉโต อาคจฺฉติ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โกจิเทว เอวํ จินฺเตยฺย ‘อิเม ปพฺพชิตาปิ วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ, อนนุจฺฉวิกํ กโรนฺตี’ติ, โกจิ ปาเปน มนํ ปทูเสตฺวา อปายปูรโก ภเวยฺย, อิมํ ปหาย มยฺหํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. โส ปุรโต คจฺฉนฺโต ทฺเวธาปถํ ทิสฺวา ตสฺส มตฺถเก อฏฺาสิ. ภทฺทาปิ อาคนฺตฺวา, วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ อาห – ‘‘ภทฺเท, ตาทิสึ อิตฺถึ มม ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘อิเม ปพฺพชิตาปิ วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺตี’ติ จินฺเตตฺวา อมฺเหสุ ปทุฏฺจิตฺโต มหาชโน อปายปูรโก ภเวยฺย. อิมสฺมึ ทฺเวธาปเถ ตฺวํ เอกํ คณฺห, อหเมเกน คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘อาม, อยฺย, ปพฺพชิตานํ มาตุคาโม ปลิโพโธ, ‘ปพฺพชิตฺวาปิ วินา น ภวนฺตี’ติ อมฺหากํ โทสํ ทสฺเสสฺสนฺติ, ตุมฺเห เอกํ มคฺคํ คณฺหถ, วินา ภวิสฺสามา’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘สตสหสฺสกปฺปปริมาเณ อทฺธาเน กโต มิตฺตสนฺถโว อชฺช ภิชฺชตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺเห ทกฺขิณชาติกา นาม, ตุมฺหากํ ทกฺขิณมคฺโค วฏฺฏติ, มยํ มาตุคามา นาม วามชาติกา, อมฺหากํ วามมคฺโค วฏฺฏตี’’ติ วนฺทิตฺวา มคฺคํ ปฏิปนฺนา. เตสํ ทฺเวธาภูตกาเล อยํ มหาปถวี ‘‘อหํ จกฺกวาฬสิเนรุปพฺพเต ธาเรตุํ สกฺโกนฺตีปิ ตุมฺหากํ คุเณ ธาเรตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทนฺตี วิย วิรวมานา กมฺปิ, อากาเส อสนิสทฺโท วิย ปวตฺติ, จกฺกวาฬสิเนรุปพฺพโต อุนฺนทิ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธ เวฬุวนมหาวิหาเร คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโน ปถวีกมฺปนสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กิสฺส นุ โข ปถวี กมฺปตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘ปิปฺปลิมาณโว จ ภทฺทา จ กาปิลานี มํ อุทฺทิสฺส อปฺปเมยฺยํ สมฺปตฺตึ ปหาย ปพฺพชิตา. เตสํ วิโยคฏฺาเน อุภินฺนํ คุณพเลน อยํ ปถวีกมฺโป ชาโต. มยาปิ เอเตสํ สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย อสีติมหาเถเรสุ กฺจิปิ อนามนฺเตตฺวา ติคาวุตํ มคฺคํ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ราชคหสฺส จ นาลนฺทาย จ อนฺตเร พหุปุตฺตกนิคฺโรธรุกฺขมูเล ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทิ. นิสีทนฺโต ปน อฺตรปํสุกูลิโก วิย อนิสีทิตฺวา พุทฺธเวสํ คเหตฺวา อสีติหตฺถฆนพุทฺธรสฺมิโย วิสฺสชฺเชนฺโต นิสีทิ. อิติ ตสฺมึ ขเณ ปณฺณจฺฉตฺตสกฏจกฺกกูฏาคาราทิปฺปมาณา พุทฺธรสฺมิโย อิโต จิโต จ วิปฺผรนฺติโย วิธาวนฺติโย จนฺทสหสฺสสูริยสหสฺสอุคฺคมนกาโล วิย กุรุมานา ตํ วนนฺตํ เอโกภาสํ อกํสุ. ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสิริยา สมุชฺชลตาราคเณน วิย คคนํ, สุปุปฺผิตกมลกุวลเยน วิย สลิลํ, วนนฺตํ วิโรจิตฺถ. นิคฺโรธรุกฺขสฺส นาม ขนฺโธ เสโต โหติ, ปตฺตานิ นีลานิ, ปกฺกานิ รตฺตานิ. ตสฺมึ ปน ทิวเส สตสาโข นิคฺโรโธ สุวณฺณวณฺโณว อโหสิ.

มหากสฺสปตฺเถโร ‘‘อยํ อมฺหากํ สตฺถา ภวิสฺสติ, อิมํ อหํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต’’ติ ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย โอณโตณโตว คนฺตฺวา ตีสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมิ, สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา สาวโกหมสฺมี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) อาห. อถ นํ ภควา อาห ‘‘กสฺสป, สเจ ตฺวํ อิมํ นิปจฺจการํ มหาปถวิยา กเรยฺยาสิ, สาปิ ธาเรตุํ น สกฺกุเณยฺย. ตถาคตสฺส เอวํ คุณมหนฺตตํ ชานตา ตยา กโต นิปจฺจกาโร มยฺหํ, โลมมฺปิ จาเลตุํ น สกฺโกติ. นิสีท, กสฺสป, ทายชฺชํ เต ทสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา ตีหิ โอวาเทหิ อุปสมฺปทมทาสิ. ทตฺวา พหุปุตฺตกนิคฺโรธมูลโต นิกฺขมิตฺวา เถรํ ปจฺฉาสมณํ กตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. สตฺถุ สรีรํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวิจิตฺตํ, มหากสฺสปสฺส สรีรํ สตฺตมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ, โส กฺจนมหานาวาย ปจฺฉาพทฺโธ วิย สตฺถุ ปทานุปทิกํ อนุคจฺฉิ. สตฺถา โถกํ มคฺคํ คนฺตฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสชฺชาการํ ทสฺเสสิ. เถโร ‘‘นิสีทิตุกาโม สตฺถา’’ติ ตฺวา อตฺตโน ปารุปิตปฏปิโลติกสงฺฆาฏึ จตุคฺคุณํ กตฺวา ปฺเปสิ.

สตฺถา ตตฺถ นิสีทิตฺวา หตฺเถน จีวรํ ปริมชฺชนฺโต ‘‘มุทุกา โข ตฺยายํ, กสฺสป, ปฏปิโลติกสงฺฆาฏี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) อาห. เถโร ‘‘สตฺถา มม สงฺฆาฏิยา มุทุภาวํ กเถติ, ปารุปิตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘ปารุปตุ, ภนฺเต, ภควา สงฺฆาฏิ’’นฺติ อาห. ‘‘ตฺวํ กึ ปารุปิสฺสสิ, กสฺสปา’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ นิวาสนํ ลภนฺโต ปารุปิสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, กสฺสป, อิมํ ปริโภคชิณฺณํ ปํสุกูลํ ธาเรตุํ สกฺขิสฺสสิ? มยา หิ อิมสฺส ปํสุกูลสฺส คหิตทิวเส อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวี กมฺปิ, อิมํ พุทฺธานํ ปริโภคชิณฺณจีวรํ นาม น สกฺกา ปริตฺตคุเณน ธาเรตุํ, ปฏิพเลเนวิทํ ปฏิปตฺติปูรณสมตฺเถน ชาติปํสุกูลิเกน ธาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา เถเรน สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตสิ.

เอวํ ปน จีวรปริวตฺตนํ กตฺวา เถรสฺส ปารุตจีวรํ ภควา ปารุปิ, สตฺถุ จีวรํ เถโร. ตสฺมึ สมเย อเจตนาปิ อยํ มหาปถวี ‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต, อกตฺถ, อตฺตนา ปารุตจีวรํ สาวกสฺส ทินฺนปุพฺโพ นาม นตฺถิ, อหํ ตุมฺหากํ คุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทนฺตี วิย อุทกปริยนฺตํ กตฺวา กมฺปิ. เถโรปิ ‘‘ลทฺธํ ทานิ มยา พุทฺธานํ ปริโภคจีวรํ, กึ เม อิทานิ อุตฺตริ กตฺตพฺพํ อตฺถี’’ติ อุนฺนตึ อกตฺวา พุทฺธานํ สนฺติเกเยว เตรส ธุตคุเณ สมาทาย สตฺตทิวสมตฺตํ ปุถุชฺชโน อโหสิ, อฏฺเม ทิวเส สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๓๙๘-๔๒๐) –

‘‘ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ, ปูชํ กุพฺพนฺติ สตฺถุโน.

‘‘อุทคฺคจิตฺตา ชนตา, อาโมทิตปโมทิตา;

เตสุ สํเวคชาเตสุ, ปีติ เส อุทปชฺชถ.

‘‘าติมิตฺเต สมาเนตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวึ;

ปรินิพฺพุโต มหาวีโร, หนฺท ปูชํ กโรมเส.

‘‘สาธูติ เต ปฏิสฺสุตฺวา, ภิยฺโย หาสํ ชนึสุ เม;

พุทฺธสฺมึ โลกนาถมฺหิ, กาหาม ปุฺสฺจยํ.

‘‘อคฺฆิยํ สุกตํ กตฺวา, สตหตฺถสมุคฺคตํ;

ทิยฑฺฒหตฺถปตฺถฏํ, วิมานํ นภมุคฺคตํ.

‘‘กตฺวาน หมฺมิยํ ตตฺถ, ตาลปนฺตีหิ จิตฺติตํ;

สกํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, เจติยํ ปูชยุตฺตมํ.

‘‘อคฺคิกฺขนฺโธว ชลิโต, กึสุโก อิว ผุลฺลิโต;

อินฺทลฏฺีว อากาเส, โอภาเสติ จตุทฺทิสา.

‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, กตฺวาน กุสลํ พหุํ;

ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวาน, ติทสํ อุปปชฺชหํ.

‘‘สหสฺสยุตฺตํ หยวาหึ, ทิพฺพยานมธิฏฺิโต;

อุพฺพิทฺธํ ภวนํ มยฺหํ, สตฺตภูมํ สมุคฺคตํ.

‘‘กูฏาคารสหสฺสานิ, สพฺพโสณฺณมยา อหุํ;

ชลนฺติ สกเตเชน, ทิสา สพฺพา ปภาสยํ.

‘‘สนฺติ อฺเปิ นิยฺยูหา, โลหิตงฺคมยา ตทา;

เตปิ โชตนฺติ อาภาย, สมนฺตา จตุโร ทิสา.

‘‘ปุฺกมฺมาภินิพฺพตฺตา, กูฏาคารา สุนิมฺมิตา;

มณิมยาปิ โชตนฺติ, ทิสา ทส สมนฺตโต.

‘‘เตสํ อุชฺโชตมานานํ, โอภาโส วิปุโล อหุ;

สพฺเพ เทเว อภิโภมิ, ปุฺกมฺมสฺสิทํ ผลํ.

‘‘สฏฺิกปฺปสหสฺสมฺหิ, อุพฺพิทฺโธ นาม ขตฺติโย;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ปถวึ อาวสึ อหํ.

‘‘ตเถว ภทฺทเก กปฺเป, ตึสกฺขตฺตุํ อโหสหํ;

สกกมฺมาภิรทฺโธมฺหิ, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.

‘‘สตฺตรตนสมฺปนฺโน, จตุทีปมฺหิ อิสฺสโร;

ตตฺถาปิ ภวนํ มยฺหํ, อินฺทลฏฺีว อุคฺคตํ.

‘‘อายามโต จตุพฺพีสํ, วิตฺถาเรน จ ทฺวาทส;

รมฺมณํ นาม นครํ, ทฬฺหปาการโตรณํ.

‘‘อายามโต ปฺจสตํ, วิตฺถาเรน ตทฑฺฒกํ;

อากิณฺณํ ชนกาเยหิ, ติทสานํ ปุรํ วิย.

‘‘ยถา สูจิฆเร สูจี, ปกฺขิตฺตา ปณฺณวีสติ;

อฺมฺํ ปฆฏฺเฏนฺติ, อากิณฺณํ โหติ ลงฺกตํ.

‘‘เอวมฺปิ นครํ มยฺหํ, หตฺถิสฺสรถสํกุลํ;

มนุสฺเสหิ สทากิณฺณํ, รมฺมณํ นครุตฺตมํ.

‘‘ตตฺถ ภุตฺวา ปิวิตฺวา จ, ปุน เทวตฺตนํ คโต;

ภเว ปจฺฉิมเก มยฺหํ, อโหสิ กุลสมฺปทา.

‘‘พฺรหฺมฺกุลสมฺภูโต, มหารตนสฺจโย;

อสีติโกฏิโย หิตฺวา, หิรฺสฺสาปิ ปพฺพชึ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ นํ สตฺถา ‘‘กสฺสโป, ภิกฺขเว, จนฺทูปโม กุลานิ อุปสงฺกมติ อปกสฺเสว กายํ, อปกสฺส จิตฺตํ, นิจฺจนวโก กุเลสุ อปฺปคพฺโภ’’ติ เอวมาทินา (สํ. นิ. ๒.๑๔๖) ปสํสิตฺวา อปรภาเค อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ ยทิทํ มหากสฺสโป’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๑) ธุตงฺคธรานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส วิเวกาภิรติกิตฺตนมุเขน ภิกฺขูนํ โอวาทํ เทนฺโต อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปกาเสนฺโต –

๑๐๕๔.

‘‘น คเณน ปุรกฺขโต จเร, วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ;

นานาชนสงฺคโห ทุโข, อิติ ทิสฺวาน คณํ น โรจเย.

๑๐๕๕.

‘‘น กุลานิ อุปพฺพเช มุนิ, วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ;

โส อุสฺสุกฺโก รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาวโห.

๑๐๕๖.

‘‘ปงฺโกติ หิ นํ อเวทยุํ, ยายํ วนฺทนปูชนา กุเลสุ;

สุขุมํ สลฺลํ ทุรุพฺพหํ, สกฺกาโร กาปุริเสน ทุชฺชโห.

๑๐๕๗.

‘‘เสนาสนมฺหา โอรุยฺห, นครํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ;

ภุฺชนฺตํ ปุริสํ กุฏฺึ, สกฺกจฺจํ ตํ อุปฏฺหึ.

๑๐๕๘.

‘‘โส เม ปกฺเกน หตฺเถน, อาโลปํ อุปนามยิ;

อาโลปํ ปกฺขิปนฺตสฺส, องฺคุลิ เจตฺถ ฉิชฺชถ.

๑๐๕๙.

‘‘กุฏฺฏมูลฺจ นิสฺสาย, อาโลปํ ตํ อภุฺชิสํ;

ภุฺชมาเน วา ภุตฺเต วา, เชคุจฺฉํ เม น วิชฺชติ.

๑๐๖๐.

‘‘อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อาหาโร, ปูติมุตฺตฺจ โอสธํ;

เสนาสนํ รุกฺขมูลํ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;

ยสฺเสเต อภิสมฺภุตฺวา, ส เว จาตุทฺทิโส นโร.

๑๐๖๑.

‘‘ยตฺถ เอเก วิหฺนฺติ, อารุหนฺตา สิลุจฺจยํ;

ตตฺถ พุทฺธสฺส ทายาโท, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต;

อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธ, กสฺสโป อภิรูหติ.

๑๐๖๒.

‘‘ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต, เสลมารุยฺห กสฺสโป;

ฌายติ อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว.

๑๐๖๓.

‘‘ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต, เสลมารุยฺห กสฺสโป;

ฌายติ อนุปาทาโน, ฑยฺหมาเนสุ นิพฺพุโต.

๑๐๖๔.

‘‘ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต, เสลมารุยฺห กสฺสโป;

ฌายติ อนุปาทาโน, กตกิจฺโจ อนาสโว.

๑๐๖๕.

‘‘กเรริมาลาวิตตา, ภูมิภาคา มโนรมา;

กุฺชราภิรุทา รมฺมา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๑๐๖๖.

‘‘นีลพฺภวณฺณา รุจิรา, วาริสีตา สุจินฺธรา;

อินฺทโคปกสฺฉนฺนา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๑๐๖๗.

‘‘นีลพฺภกูฏสทิสา, กูฏาคารวรูปมา;

วารณาภิรุทา รมฺมา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๑๐๖๘.

‘‘อภิวุฏฺา รมฺมตลา, นคา อิสิภิ เสวิตา;

อพฺภุนฺนทิตา สิขีหิ, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๑๐๖๙.

‘‘อลํ ฌายิตุกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส เม สโต;

อลํ เม อตฺถกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๑๐๗๐.

‘‘อลํ เม ผาสุกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

อลํ เม โยคกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส ตาทิโน.

๑๐๗๑.

‘‘อุมาปุปฺเผน สมานา, คคนาวพฺภฉาทิตา;

นานาทิชคณากิณฺณา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๑๐๗๒.

‘‘อนากิณฺณา คหฏฺเหิ, มิคสงฺฆนิเสวิตา;

นานาทิชคณากิณฺณา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๑๐๗๓.

‘‘อจฺโฉทิกา ปุถุสิลา, โคนงฺคุลมิคายุตา;

อมฺพุเสวาลสฺฉนฺนา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.

๑๐๗๔.

‘‘น ปฺจงฺคิเกน ตูริเยน, รติ เม โหติ ตาทิสี;

ยถา เอกคฺคจิตฺตสฺส, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.

๑๐๗๕.

‘‘กมฺมํ พหุกํ น การเย, ปริวชฺเชยฺย ชนํ น อุยฺยเม;

อุสฺสุกฺโก โส รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาวโห.

๑๐๗๖.

‘‘กมฺมํ พหุกํ น การเย, ปริวชฺเชยฺย อนตฺตเนยฺยเมตํ;

กิจฺฉติ กาโย กิลมติ, ทุกฺขิโต โส สมถํ น วินฺทติ.

๑๐๗๗.

‘‘โอฏฺปฺปหตมตฺเตน, อตฺตานมฺปิ น ปสฺสติ;

ปตฺถทฺธคีโว จรติ, อหํ เสยฺโยติ มฺติ.

๑๐๗๘.

‘‘อเสยฺโย เสยฺยสมานํ, พาโล มฺติ อตฺตานํ;

น ตํ วิฺู ปสํสนฺติ, ปตฺถทฺธมานสํ นรํ.

๑๐๗๙.

‘‘โย จ เสยฺโยหมสฺมีติ, นาหํ เสยฺโยติ วา ปน;

หีโน ตํสทิโส วาติ, วิธาสุ น วิกมฺปติ.

๑๐๘๐.

‘‘ปฺวนฺตํ ตถา ตาทึ, สีเลสุ สุสมาหิตํ;

เจโตสมถมนุยุตฺตํ, ตฺเจ วิฺู ปสํสเร.

๑๐๘๑.

‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว นูปลพฺภติ;

อารกา โหติ สทฺธมฺมา, นภโต ปุถวี ยถา.

๑๐๘๒.

‘‘เยสฺจ หิริ โอตฺตปฺปํ, สทา สมฺมา อุปฏฺิตํ;

วิรูฬฺหพฺรหฺมจริยา เต, เตสํ ขีณา ปุนพฺภวา.

๑๐๘๓.

‘‘อุทฺธโต จปโล ภิกฺขุ, ปํสุกูเลน ปารุโต;

กปีว สีหจมฺเมน, น โส เตนุปโสภติ.

๑๐๘๔.

‘‘อนุทฺธโต อจปโล, นิปโก สํวุตินฺทฺริโย;

โสภติ ปํสุกูเลน, สีโหว คิริคพฺภเร.

๑๐๘๕.

‘‘เอเต สมฺพหุลา เทวา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;

ทสเทวสหสฺสานิ, สพฺเพ เต พฺรหฺมกายิกา.

๑๐๘๖.

‘‘ธมฺมเสนาปตึ วีรํ, มหาฌายึ สมาหิตํ;

สาริปุตฺตํ นมสฺสนฺตา, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา.

๑๐๘๗.

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ.

๑๐๘๘.

‘‘อจฺเฉรํ วต พุทฺธานํ, คมฺภีโร โคจโร สโก;

เย มยํ นาภิชานาม, วาลเวธิสมาคตา.

๑๐๘๙.

‘‘ตํ ตถา เทวกาเยหิ, ปูชิตํ ปูชนารหํ;

สาริปุตฺตํ ตทา ทิสฺวา, กปฺปินสฺส สิตํ อหุ.

๑๐๙๐.

‘‘ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหิ, ปยิตฺวา มหามุนึ;

ธุตคุเณ วิสิฏฺโหํ, สทิโส เม น วิชฺชติ.

๑๐๙๑.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

๑๐๙๒.

‘‘น จีวเร น สยเน, โภชเน นุปลิมฺปติ;

โคตโม อนปฺปเมยฺโย, มูฬาลปุปฺผํ วิมลํว;

อมฺพุนา เนกฺขมฺมนินฺโน, ติภวาภินิสฺสโฏ.

๑๐๙๓.

‘‘สติปฏฺานคีโว โส, สทฺธาหตฺโถ มหามุนิ;

ปฺาสีโส มหาาณี, สทา จรติ นิพฺพุโต’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ. ตตฺถ อาทิโต ติสฺโส คาถา คเณสุ กุเลสุ จ สํสฏฺเ ภิกฺขู ทิสฺวา เตสํ โอวาททานวเสน วุตฺตา.

ตตฺถ น คเณน ปุรกฺขโต จเรติ ภิกฺขุคเณหิ ปุรกฺขโต ปริวาริโต หุตฺวา น จเรยฺย น วิหเรยฺย. กสฺมา? วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ คณํ ปริหรนฺตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา พฺยากุลมนตาย, อุทฺเทเสน โอวาเทน อนุสาสนิยา อนุคฺคหํ กโรนฺโต ยถานุสิฏฺํ อปฺปฏิปตฺติยา จ วิมโน วิการิภูตจิตฺโต โหติ, ตโต สํสคฺเคน เอกคฺคตํ อลภนฺตสฺส สมาธิ ทุลฺลโภ โหติ. ตถารูปสฺส หิ อุปจารสมาธิมตฺตมฺปิ น อิชฺฌติ, ปเคว อิตโร. นานาชนสงฺคโหติ นานชฺฌาสยสฺส นานารุจิกสฺส ชนสฺส เปยฺยขชฺชาทินา สงฺคโห. ทุโขติ กิจฺโฉ กสิโร. อิติ ทิสฺวานาติ เอวํ คณสงฺคเห พหุวิธํ อาทีนวํ ทิสฺวา าณจกฺขุนา โอโลเกตฺวา. คณํ คณวาสํ น โรจเย น โรเจยฺย น อิจฺเฉยฺย.

น กุลานิ อุปพฺพเช มุนีติ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต ขตฺติยาทิกุลูปโก หุตฺวา น อุปคจฺเฉยฺย. กึการณา? วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ. โส อุสฺสุกฺโก กุลูปสงฺกมเน อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน กุเลสุ ลทฺธพฺเพสุ มธุราทิรเสสุ อนุคิทฺโธ เคธํ อาปนฺโน ตตฺถ อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนาว โยคํ อาปชฺชนฺโต. อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาวโหติ โย อตฺตโน มคฺคผลนิพฺพานสุขาวโห ตํ สีลวิสุทฺธิอาทิสงฺขาตํ อตฺถํ ริฺจติ ชหติ, นานุยุฺชตีติ อตฺโถ.

ตติยคาถา เหฏฺา วุตฺตา เอว.

เสนาสนมฺหา โอรุยฺหาติอาทิกา จตสฺโส คาถา ปจฺจเยสุ อตฺตโน สนฺโตสทสฺสนมุเขน ‘‘ภิกฺขุนา นาม เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน วุตฺตา. ตตฺถ เสนาสนมฺหา โอรุยฺหาติ ปพฺพตเสนาสนตฺตา วุตฺตํ. สกฺกจฺจํ ตํ อุปฏฺหินฺติ ตํ กุฏฺิปุริสํ อุฬารสมฺปตฺตึ ปาเปตุกามตาย ภิกฺขาย อตฺถิโก หุตฺวา ปณีตภิกฺขทายกํ กุลํ มหิจฺฉปุคฺคโล วิย อาทเรน อุปคนฺตฺวา อฏฺาสึ.

ปกฺเกนาติ อฏฺิคตกุฏฺโรคตาย อุปกฺเกน กุถิเตน. องฺคุลิ เจตฺถ ฉิชฺชถาติ เอตฺถ ปตฺเต ตสฺส องฺคุลิ ฉิชฺชิตฺวา อาหาเรน สทฺธึ ปตตีติ อตฺโถ.

กุฏฺฏมูลํ นิสฺสายาติ ตสฺส ปุริสสฺส ปสาทชนนตฺถํ ตาทิเส ฆรภิตฺติสมีเป นิสีทิตฺวา อาโลปํ ตํ อภุฺชิสํ ปริภุฺชึ. อยํ ปน เถรสฺส ปฏิปตฺติ สิกฺขาปเท อปฺตฺเตติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิกฺกูเล จ อปฺปฏิกฺกูเล อิว อปฺปฏิกฺกูลสฺิตาย อริยิทฺธิยา อุกฺกํสคตตฺตา เถรสฺส ตํ อชฺโฌหรนฺตสฺส ชิคุจฺฉา น อุปฺปชฺชิ, ปุถุชฺชนสฺส ปน ตาทิสํ ภุฺชนฺตสฺส อนฺตานิ นิกฺขเมยฺยุํ. เตนาห ‘‘ภุฺชมาเน วา ภุตฺเต วา, เชคุจฺฉํ เม น วิชฺชตี’’ติ.

อุตฺติฏฺปิณฺโฑติ อุตฺติฏฺิตฺวา ปเรสํ ฆรทฺวาเร ตฺวา คเหตพฺพปิณฺโฑ, ชงฺฆพลํ นิสฺสาย อนุฆรํ คนฺตฺวา ลทฺธพฺพมิสฺสกภิกฺขาติ อตฺโถ. ปูติมุตฺตนฺติ โคมุตฺตปริภาวิตหรีฏกาทิ จ. ยสฺเสเต อภิสมฺภุตฺวาติ, โย ภิกฺขุ เอเต อุตฺติฏฺปิณฺฑาทโย จตฺตาโร ปจฺจเย อนฺติมนฺเตน อภิรมิตฺวา ปริภุฺชติ. ส เว จาตุทฺทิโส นโรติ โส ปุคฺคโล เอกํเสน จาตุทฺทิโส ปุรตฺถิมาทิจตุทิสาโยคฺโย, กตฺถจิ อปฺปฏิโฆ ยาย กายจิ ทิสาย วิหริตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ.

อถ เถโร อตฺตโน มหลฺลกกาเล มนุสฺเสหิ ‘‘กถํ, ภนฺเต, ตุมฺเห เอวรูปาย ชราย วตฺตมานาย ทิเน ทิเน ปพฺพตํ อภิรุหถา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยตฺถ เอเก’’ติอาทิกา จตสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ ปจฺฉิมวเย. เอเกติ เอกจฺเจ. วิหฺนฺตีติ สรีรกิลมเถน จิตฺเตน วิฆาตํ อาปชฺชนฺติ. สิลุจฺจยนฺติ ปพฺพตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ชราชิณฺณกาเลปิ. สมฺปชาโน ปฏิสฺสโตติ อิมินา จิตฺตเขทาภาวํ ทสฺเสติ, อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธติ อิมินา สรีรเขทาภาวํ.

ภยเหตูนํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา ปหีนภยเภรโว.

ฑยฺหมาเนสูติ ราคคฺคิอาทีหิ เอกาทสหิ อคฺคีหิ สตฺเตสุ ฑยฺหมาเนสุ. สํกิเลสปริฬาหาภาเวน นิพฺพุโต สีติภูโต.

ปุน มนุสฺเสหิ ‘‘กึ, ภนฺเต, ชิณฺณกาเลปิ อรฺปพฺพเตเยว วิหรถ, นนุ อิเม เวฬุวนาทโย วิหารา มโนรมา’’ติ วุตฺเต อรฺปพฺพตา เอว มยฺหํ มโนรมาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กเรริมาลาวิตตา’’ติอาทิกา ทฺวาทส คาถา อภาสิ. ตตฺถ กเรริมาลาวิตตาติ วรุณรุกฺขปนฺตีหิ สมาคตา. ‘‘กาลวณฺณปุปฺเผหิ โอตฺถฏา’’ติปิ วทนฺติ. กุฺชราภิรุทาติ ปฏิโฆสาทิคุณีภูเตหิ หตฺถีนํ โคจเรสีนํ คชฺชิเตหิ อภิตฺถนิตา.

อภิวุฏฺาติ มหาเมเฆน อภิปฺปวุฏฺา. รมฺมตลาติ เตเนว รโชชลฺลปณฺเณยฺยาทีนํ อปคเมน รมณียตลา. นคาติ เทสนฺตรํ อคมนโต ‘‘นคา’’ติ เสลมยตาย ‘‘เสลา’’ติ จ ลทฺธนามา ปพฺพตา. อพฺภุนฺนทิตา สิขีหีติ มธุรสฺสเรน อุนฺนทิตา.

อลนฺติ ยุตฺตํ สมตฺถํ วา. ฌายิตุกามสฺส อตฺถกามสฺสาติอาทีสุปิ อิมินา นเยน โยเชตพฺพํ. ภิกฺขุโนติ ภินฺนกิเลสภิกฺขุโน, เมติ สมฺพนฺโธ.

อุมาปุปฺเผน สมานาติ เมจกนิภตาย อุมากุสุมสทิสา. คคนาวพฺภ ฉาทิตาติ ตโต เอว สรทสฺส คคนอพฺภา วิย กาฬเมฆสฺฉาทิตา, นีลวณฺณาติ อตฺโถ.

อนากิณฺณาติ อสํกิณฺณา อสมฺพาธา. ปฺจงฺคิเกนาติ อาตตาทีหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺเตน ตูริเยน ปริวาริยมานสฺส ตาทิสีปิ น โหติ, ยถา ยาทิสี เอกคฺคจิตฺตสฺส สมาหิตจิตฺตสฺส สมฺมเทว รูปารูปธมฺมํ อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนฺตสฺส รติ โหติ. เตนาห ภควา –

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔)

กมฺมํ พหุกนฺติอาทินา ทฺเว คาถา กมฺมารามานํ ปจฺจยคิทฺธานํ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน วุตฺตา. ตตฺถ กมฺมํ พหุกํ น การเยติ กมฺมาราโม หุตฺวา พหุํ นาม กมฺมํ น การเย น อธิฏฺเห, ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณํ ปน สตฺถารา อนุฺาตเมว. ปริวชฺเชยฺย ชนนฺติ อกลฺยาณมิตฺตภูตํ ชนํ วชฺเชยฺย. น อุยฺยเมติ ปจฺจยุปฺปาทนคณพนฺธาทิวเสน วายามํ น กเรยฺย.

อนตฺตเนยฺยเมตนฺติ เอตํ นวกมฺมาธิฏฺานาทิกํ อตฺตโน อตฺถาวหํ น โหตีติ อตฺโถ. ตตฺถ การณมาห ‘‘กิจฺฉติ กาโย กิลมตี’’ติ. นวกมฺมาทิปสุตสฺส หิ ตหํ ตหํ วิจรโต กายสุขาทิอลาเภน กิจฺฉปฺปตฺโต โหติ กิลมติ เขทํ อาปชฺชติ, เตน จ กายกิลมเถน ทุกฺขิโต. วตฺถุวิสทอตฺตเนยฺยกิริยาทีนํ อภาเวน โส ปุคฺคโล สมถํ น วินฺทติ จิตฺตสมาธานํ น ลภตีติ.

โอฏฺปฺปหตมตฺเตนาติอาทินา ทฺเว คาถา สุตปรมสฺส ปณฺฑิตมานิโน ครหวเสน, ตโต ปรา ทฺเว ปณฺฑิตสฺส ปสํสาวเสน วุตฺตา. ตตฺถ โอฏฺปฺปหตมตฺเตนาติ สชฺฌายสีเสน โอฏฺปริวตฺตนมตฺเตน, พุทฺธวจนํ สชฺฌายกรณมตฺเตนาติ อตฺโถ. อตฺตานมฺปิ น ปสฺสตีติ อนตฺถฺุตาย อตฺตโน ปจฺจกฺขภูตมฺปิ อตฺถํ น ชานาติ, ยาถาวโต อตฺตโน ปมาณํ น ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺโถ. ปตฺถทฺธคีโว จรตีติ ‘‘อหํ พหุสฺสุโต, สติมา, ปฺวา, น มยา สทิโส อฺโ อตฺถี’’ติ มานตฺถทฺโธ หุตฺวา ครุฏฺานิยานมฺปิ อปจิตึ อทสฺเสนฺโต อโยสลากํ คิลิตฺวา ิโต วิย ถทฺธคีโว จรติ. อหํ เสยฺโยติ มฺตีติ อหเมว เสยฺโย อุตฺตโมติ มฺติ.

อเสยฺโย เสยฺยสมานํ, พาโล มฺติ อตฺตานนฺติ อยํ อเสยฺโย หีโน สมาโน อฺเน เสยฺเยน อุตฺตเมน สมานํ สทิสํ กตฺวา อตฺตานํ พาโล มนฺทพุทฺธิ พาลภาเวเนว มฺตีติ. น ตํ วิฺู ปสํสนฺตีติ ตํ ตาทิสํ พาลํ ปคฺคหิตจิตฺตตาย ปตฺถทฺธมานสํ ถมฺภิตตฺตํ นรํ วิฺู ปณฺฑิตา น ปสํสนฺติ, อฺทตฺถุ ครหนฺติเยว.

เสยฺโยหมสฺมีติ โย ปน ปณฺฑิโต ปุคฺคโล ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ วา หีนสทิสมานวเสน ‘‘นาหํ เสยฺโย’’ติ วา กฺจิปิ มานํ อชปฺเปนฺโต วิธาสุ นวสุ มานโกฏฺาเสสุ กสฺสจิปิ วเสน น วิกมฺปติ.

ปฺวนฺตนฺติ อคฺคผลปฺาวเสน ปฺวนฺตํ อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺติยา ตาทึ, อเสกฺขผลสีเลสุ สุฏฺุ ปติฏฺิตตฺตา สีเลสุ สุสมาหิตํ, อรหตฺตผลสมาปตฺติสมาปชฺชเนน เจโตสมถมนุยุตฺตนฺติ ตาทิสํ สพฺพโส ปหีนมานํ ขีณาสวํ วิฺู พุทฺธาทโย ปณฺฑิตา ปสํสเร วณฺเณนฺติ โถเมนฺตีติ อตฺโถ.

ปุน อฺตรํ ทุพฺพจํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา โทวจสฺสตาย อาทีนวํ, โสวจสฺสตาย อานิสํสฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสู’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตา วุตฺตตฺถา เอว.

ปุน อุทฺธตํ อุนฺนฬํ เอกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อุทฺธตาทิภาเว โทสํ, อนุทฺธตาทิภาเว จ คุณํ วิภาเวนฺโต ‘‘อุทฺธโต จปโล ภิกฺขู’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตตฺถ กปีว สีหจมฺเมนาติ สีหจมฺเมน ปารุโต มกฺกโฏ วิย. โส อุทฺธตาทิโทสสํยุตฺโต ภิกฺขุ เตน ปํสุกูเลน อริยทฺธเชน น อุปโสภติ อริยคุณานํ อภาวโต.

โย ปน อุปโสภติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุทฺธโต’’ติอาทิ วุตฺตํ;

เอเต สมฺพหุลาติอาทิกา ปฺจ คาถา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ นมสฺสนฺเต พฺรหฺมกายิเก เทเว ทิสฺวา อายสฺมโต กปฺปินสฺส สิตปาตุกมฺมนิมิตฺตํ วุตฺตา. ตตฺถ เอเตติ เตสํ ปจฺจกฺขตาย วุตฺตํ. สมฺพหุลาติ พหุภาวโต, ตํ ปน พหุภาวํ ‘‘ทสเทวสหสฺสานี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อาห. เทวาติ อุปปตฺติเทวา. ตํ เตสํ เทวภาวํ อฺเหิ วิเสเสตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺเพ เต พฺรหฺมกายิกา’’ติ อาห. ยสฺมา เต อตฺตโน อุปปตฺติทฺธิยา มหติยา เทวิทฺธิยา สมนฺนาคตา ปริวารสมฺปนฺนา จ, ตสฺมา อาห ‘‘อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน’’ติ.

‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต’’ติ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนวเสน ‘‘มยา ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ สาริปุตฺโต อนุวตฺเตตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙) วทนฺเตน ภควตา อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ธมฺมเสนาปติภาโว อนุฺาโตติ อาห – ‘‘ธมฺมเสนาปตึ วีรํ มหาฌายึ สมาหิตํ สาริปุตฺต’’นฺติ. ตตฺถ วีรนฺติ กิเลสมาราทีนํ นิมฺมถเนน วีริยวนฺตํ มหาวิกฺกนฺตํ. มหาฌายินฺติ ทิพฺพวิหาราทีนํ อุกฺกํสคมเนน มหนฺตํ ฌายึ. ตโต เอว สพฺพโส วิกฺเขปวิทฺธํสนวเสน สมาหิตํ. นมสฺสนฺตาติ สิรสิ อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมานา ติฏฺนฺติ.

ยมฺปิ นิสฺสายาติ ยํ นุ โข อารมฺมณํ นิสฺสาย อารพฺภ ฌายตีติ นาภิชานามาติ ปุถุชฺชนภาเวน พฺรหฺมาโน เอวํ อาหํสุ.

อจฺเฉรํ วตาติ อจฺฉริยํ วต. พุทฺธานนฺติ จตุสจฺจพุทฺธานํ. คมฺภีโร โคจโร สโกติ ปรมคมฺภีโร อติทุทฺทโส ทุรนุโพโธ ปุถุชฺชเนหิ อสาธารโณ อวิสโย. อิทานิ ตสฺส คมฺภีรภาเว การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย มย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วาลเวธิสมาคตาติ เย มยํ วาลเวธิธนุคฺคหสทิสา อติสุขุมมฺปิ วิสยํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถา อาคตา อุปปริกฺขนฺตา นาภิชานาม, คมฺภีโร วต พุทฺธานํ วิสโยติ อตฺโถ. ตํ ตถา เทวกาเยหีติ ตํ ตถารูปํ สาริปุตฺตํ สเทวกสฺส โลกสฺส ปูชนารหํ เตหิ พฺรหฺมกายิเกหิ ตทา ตถา ปูชิตํ ทิสฺวา อายสฺมโต มหากปฺปินสฺส สิตํ อโหสิ. อิเมสํ โลกสมฺมตานํ พฺรหฺมูนมฺปิ อวิสโย, ยตฺถ สาวกานํ วิสโยติ.

ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหีติ คาถา เถเรน อตฺตานํ อารพฺภ สีหนาทํ นทนฺเตน ภาสิตา. ตตฺถ พุทฺธเขตฺตมฺหีติ อาณาเขตฺตํ สนฺธาย วทติ. ปยิตฺวา มหามุนินฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เปตฺวา. พุทฺธา หิ ภควนฺโต ธุตคุเณหิปิ สพฺพสตฺเตหิ ปรมุกฺกํสคตา เอว, เกวลํ ปน มหากรุณาสฺโจทิตมานสา สตฺตานํ ตาทิสํ มหนฺตํ อุปการํ โอโลเกตฺวา คามนฺตเสนาสนวาสาทึ อนุวตฺตนฺตีติ ตํ ตํ ธุตธมฺมวิโรธี โหติ. ธุตคุเณติ กิเลสานํ ธุเตน คุเณน อารฺกาทิภาเวน อเปกฺขิตคุเณ. กรณตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมวจนํ. สทิโส เม น วิชฺชติ, กุโต ปน อุตฺตรีติ อธิปฺปาโย. ตถา เหส เถโร ตตฺถ อคฺคฏฺาเน ปิโต.

น จีวเรติ คาถาย ‘‘ปยิตฺวา มหามุนิ’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ, จีวราทีสุ ตณฺหาย อนุปเลโป ธุตงฺคผลํ. ตตฺถ น จีวเร สมฺปตฺเต ตณฺหาเลเปนาติ โยชนา. สยเนติ เสนาสเน. โคตโมติ ภควนฺตํ โคตฺเตน กิตฺเตติ. อนปฺปเมยฺโยติ ปมาณกรกิเลสาภาวโต อปริมาณคุณตาย จ อนปฺปเมยฺโย. มุฬาลปุปฺผํ วิมลํว อมฺพุนาติ ยถา นิมฺมลํ วิรชํ นฬินํ อุทเกน น ลิมฺปติ, เอวํ โคตโม ภควา ตณฺหาเลปาทินา น ลิมฺปตีติ อตฺโถ. เนกฺขมฺมนินฺโน อภินิกฺขมฺมนินฺโน ตโต เอว ติภวาภินิสฺสโฏ ภวตฺตยโต วินิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต.

เยสํ สติปฏฺานคีวาทีนํ ภาวนาปาริปูริยา ยตฺถ กตฺถจิ อนุปลิตฺโต เนกฺขมฺมนินฺโนว อโหสิ, เต องฺคภูเต ทสฺเสนฺโต ‘‘สติปฏฺานคีโว’’ติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ คุณราสิโต อุตฺตมงฺคภูตาย ปฺาย อธิฏฺานภาวโต สติปฏฺานํ คีวา เอตสฺสาติ สติปฏฺานคีโว, อนวชฺชธมฺมานํ อาทาเน สทฺธา หตฺโถ เอตสฺสาติ สทฺธาหตฺโถ. คุณสรีรสฺส อุตฺตมงฺคภาวโต ปฺา สีสํ เอตสฺสาติ ปฺาสีโส. มหาสมุทาคมนตาย มหาวิสยตาย มหานุภาวตาย มหาพลตาย จ มหนฺตํ สพฺพฺุตสงฺขาตํ าณํ เอตสฺส อตฺถีติ มหาาณี. สทา สพฺพกาลํ นิพฺพุโต สีติภูโต จรติ. ‘‘สุสมาหิโต…เป… นาโค’’ติ (อ. นิ. ๖.๔๓) สุตฺตปทฺเจตฺถ นิทสฺเสตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

มหากสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตฺตาลีสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙. ปฺาสนิปาโต

๑. ตาลปุฏตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปฺาสนิปาเต กทา นุหนฺติอาทิกา อายสฺมโต ตาลปุฏตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺมึ นฏกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต กุลานุรูเปสุ นจฺจฏฺาเนสุ นิปฺผตฺตึ คนฺตฺวา สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ นฏคามณิ อโหสิ. โส ปฺจสตมาตุคามปริวาโร มหตา นฏวิภเวน คามนิคมราชธานีสุ สมชฺชํ ทสฺเสตฺวา, มหนฺตํ ปูชาสกฺการํ ลภิตฺวา, วิจรนฺโต ราชคหํ อาคนฺตฺวา, นครวาสีนํ สมชฺชํ ทสฺเสตฺวา, ลทฺธสมฺมานสกฺกาโร าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตเมตํ, ภนฺเต, ปุพฺพกานํ อาจริยปาจริยานํ นฏานํ ภาสมานานํ ‘โย โส นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ สจฺจาลิเกน ชนํ หาเสติ รเมติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปหาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’ติ, อิธ ภควา กิมาหา’’ติ. อถ นํ ภควา ติกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปิ ‘‘มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’’ติ. จตุตฺถวารํ ปุฏฺโ อาห – ‘‘คามณิ, อิเม สตฺตา ปกติยาปิ ราคพนฺธนพทฺธา โทสพนฺธนพทฺธา โมหพนฺธนพทฺธา เตสํ ภิยฺโยปิ รชนีเย โทสนีเย โมหนีเย ธมฺเม อุปสํหรนฺโต ปมาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรเย อุปปชฺชติ. สเจ ปนสฺส เอวํทิฏฺิ โหติ ‘โย โส นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ สจฺจาลิเกน ชนํ หาเสติ รเมติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปหาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’’ติ สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส จ ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรา คติ อิจฺฉิตพฺพา, นิรยสฺส วา ติรจฺฉานโยนิยา วาติ. ตํ สุตฺวา ตาลปุโฏ คามณิ ปโรทิ. นนุ คามณิ ปเคว มยา ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๕๔)? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, เอตํ โรทามิ, ยํ มํ ภควา นฏานํ อภิสมฺปรายํ เอวมาหา’’ติ. อปิ จาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพเกหิ อาจริยปาจริเยหิ นเฏหิ วฺจิโต ‘‘นโฏ มหาชนสฺส นฏสมชฺชํ ทสฺเสตฺวา สุคตึ อุปปชฺชตี’’ติ. โส สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปนฺโน วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ, อธิคตารหตฺโต ปน อรหตฺตปฺปตฺติโต ปุพฺเพ เยนากาเรน อตฺตโน จิตฺตํ นิคฺคณฺหนวเสน โยนิโสมนสิกาโร อุทปาทิ, ตํ อเนกธา วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ –

๑๐๙๔.

‘‘กทา นุหํ ปพฺพตกนฺทราสุ, เอกากิโย อทฺทุติโย วิหสฺสํ;

อนิจฺจโต สพฺพภวํ วิปสฺสํ, ตํ เม อิทํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๕.

‘‘กทา นุหํ ภินฺนปฏนฺธโร มุนิ, กาสาววตฺโถ อมโม นิราโส;

ราคฺจ โทสฺจ ตเถว โมหํ, หนฺตฺวา สุขี ปวนคโต วิหสฺสํ.

๑๐๙๖.

‘‘กทา อนิจฺจํ วธโรคนีฬํ, กายํ อิมํ มจฺจุชรายุปทฺทุตํ;

วิปสฺสมาโน วีตภโย วิหสฺสํ, เอโก วเน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๗.

‘‘กทา นุหํ ภยชนนึ ทุขาวหํ, ตณฺหาลตํ พหุวิธานุวตฺตนึ;

ปฺามยํ ติขิณมสึ คเหตฺวา, เฉตฺวา วเส ตมฺปิ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๘.

‘‘กทา นุ ปฺามยมุคฺคเตชํ, สตฺถํ อิสีนํ สหสาทิยิตฺวา;

มารํ สเสนํ สหสา ภฺชิสฺสํ, สีหาสเน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๙.

‘‘กทา นุหํ สพฺภิ สมาคเมสุ, ทิฏฺโ ภเว ธมฺมครูหิ ตาทิภิ;

ยาถาวทสฺสีหิ ชิตินฺทฺริเยหิ, ปธานิโย ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๐.

‘‘กทา นุ มํ ตนฺทิ ขุทา ปิปาสา, วาตาตปา กีฏสรีสปา วา;

น พาธยิสฺสนฺติ น ตํ คิริพฺพเช, อตฺถตฺถิยํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๑.

‘‘กทา นุ โข ยํ วิทิตํ มเหสินา, จตฺตาริ สจฺจานิ สุทุทฺทสานิ;

สมาหิตตฺโต สติมา อคจฺฉํ, ปฺาย ตํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๒.

‘‘กทา นุ รูเป อมิเต จ สทฺเท, คนฺเธ รเส ผุสิตพฺเพ จ ธมฺเม;

อาทิตฺตโตหํ สมเถหิ ยุตฺโต, ปฺาย ทจฺฉํ ตทิทํ กทา เม.

๑๑๐๓.

‘‘กทา นุหํ ทุพฺพจเนน วุตฺโต, ตโต นิมิตฺตํ วิมโน น เหสฺสํ;

อโถ ปสตฺโถปิ ตโต นิมิตฺตํ, ตุฏฺโ น เหสฺสํ ตทิทํ กทา เม.

๑๑๐๔.

‘‘กทา นุ กฏฺเ จ ติเณ ลตา จ, ขนฺเธ อิเมหํ อมิเต จ ธมฺเม;

อชฺฌตฺติกาเนว จ พาหิรานิ จ, สมํ ตุเลยฺยํ ตทิทํ กทา เม.

๑๑๐๕.

‘‘กทา นุ มํ ปาวุสกาลเมโฆ, นเวน โตเยน สจีวรํ วเน;

อิสิปฺปยาตมฺหิ ปเถ วชนฺตํ, โอวสฺสเต ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๖.

‘‘กทา มยูรสฺส สิขณฺฑิโน วเน, ทิชสฺส สุตฺวา คิริคพฺภเร รุตํ;

ปจฺจุฏฺหิตฺวา อมตสฺส ปตฺติยา, สํจินฺตเย ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๗.

‘‘กทา นุ คงฺคํ ยมุนํ สรสฺสตึ, ปาตาลขิตฺตํ วฬวามุขฺจ;

อสชฺชมาโน ปตเรยฺยมิทฺธิยา, วิภึสนํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๘.

‘‘กทา นุ นาโคว อสงฺคจารี, ปทาลเย กามคุเณสุ ฉนฺทํ;

นิพฺพชฺชยํ สพฺพสุภํ นิมิตฺตํ, ฌาเน ยุโต ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๙.

‘‘กทา อิณฏฺโฏว ทลิทฺทโก นิธึ, อาราธยิตฺวา ธนิเกหิ ปีฬิโต;

ตุฏฺโ ภวิสฺสํ อธิคมฺม สาสนํ, มเหสิโน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๑๐.

‘‘พหูนิ วสฺสานิ ตยามฺหิ ยาจิโต, อคารวาเสน อลํ นุ เต อิทํ;

ตํ ทานิ มํ ปพฺพชิตํ สมานํ, กึการณา จิตฺต ตุวํ น ยุฺชสิ.

๑๑๑๑.

‘‘นนุ อหํ จิตฺต ตยามฺหิ ยาจิโต, คิริพฺพเช จิตฺรฉทา วิหงฺคมา;

มหินฺทโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโน, เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินํ.

๑๑๑๒.

‘‘กุลมฺหิ มิตฺเต จ ปิเย จ าตเก, ขิฑฺฑารตึ กามคุณฺจ โลเก;

สพฺพํ ปหาย อิมมชฺฌุปาคโต, อโถปิ ตฺวํ จิตฺต น มยฺห ตุสฺสสิ.

๑๑๑๓.

‘‘มเมว เอตํ น หิ ตฺวํ ปเรสํ, สนฺนาหกาเล ปริเทวิเตน กึ;

สพฺพํ อิทํ จลมิติ เปกฺขมาโน, อภินิกฺขมึ อมตปทํ ชิคีสํ.

๑๑๑๔.

‘‘สุยุตฺตวาที ทฺวิปทานมุตฺตโม, มหาภิสกฺโก นรทมฺมสารถิ;

จิตฺตํ จลํ มกฺกฏสนฺนิภํ อิติ, อวีตราเคน สุทุนฺนิวารยํ.

๑๑๑๕.

‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชฺชนา;

เต ทุกฺขมิจฺฉนฺติ ปุนพฺภเวสิโน, จิตฺเตน นีตา นิรเย นิรากตา.

๑๑๑๖.

‘‘มยูรโกฺจาภิรุตมฺหิ กานเน, ทีปีหิ พฺยคฺเฆหิ ปุรกฺขโต วสํ;

กาเย อเปกฺขํ ชห มา วิราธย, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๑๗.

‘‘ภาเวหิ ฌานานิ จ อินฺทฺริยานิ จ, พลานิ โพชฺฌงฺคสมาธิภาวนา;

ติสฺโส จ วิชฺชา ผุส พุทฺธสาสเน, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๑๘.

‘‘ภาเวหิ มคฺคํ อมตสฺส ปตฺติยา, นิยฺยานิกํ สพฺพทุขกฺขโยคธํ;

อฏฺงฺคิกํ สพฺพกิเลสโสธนํ, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๑๙.

‘‘ทุกฺขนฺติ ขนฺเธ ปฏิปสฺส โยนิโส, ยโต จ ทุกฺขํ สมุเทติ ตํ ชห;

อิเธว ทุกฺขสฺส กโรหิ อนฺตํ, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๐.

‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขนฺติ วิปสฺส โยนิโส, สุฺํ อนตฺตาติ อฆํ วธนฺติ จ;

มโนวิจาเร อุปรุนฺธ เจตโส, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๑.

‘‘มุณฺโฑ วิรูโป อภิสาปมาคโต, กปาลหตฺโถว กุเลสุ ภิกฺขสุ;

ยุฺชสฺสุ สตฺถุวจเน มเหสิโน, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๒.

‘‘สุสํวุตตฺโต วิสิขนฺตเร จรํ, กุเลสุ กาเมสุ อสงฺคมานโส;

จนฺโท ยถา โทสินปุณฺณมาสิยา, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๓.

‘‘อารฺิโก โหหิ จ ปิณฺฑปาติโก, โสสานิโก โหหิ จ ปํสุกูลิโก;

เนสชฺชิโก โหหิ สทา ธุเต รโต, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๔.

‘‘โรเปตฺว รุกฺขานิ ยถา ผเลสี, มูเล ตรุํ เฉตฺตุ ตเมว อิจฺฉสิ;

ตถูปมํ จิตฺตมิทํ กโรสิ, ยํ มํ อนิจฺจมฺหิ จเล นิยุฺชสิ.

๑๑๒๕.

‘‘อรูป ทูรงฺคม เอกจาริ, น เต กริสฺสํ วจนํ อิทานิหํ;

ทุกฺขา หิ กามา กฏุกา มหพฺภยา, นิพฺพานเมวาภิมโน จริสฺสํ.

๑๑๒๖.

‘‘นาหํ อลกฺขฺยา อหิริกฺกตาย วา,

น จิตฺตเหตู น จ ทูรกนฺตนา;

อาชีวเหตู จ อหํ น นิกฺขมึ,

กโต จ เต จิตฺต ปฏิสฺสโว มยา.

๑๑๒๗.

‘‘อปฺปิจฺฉตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา, มกฺขปฺปหานํ วูปสโม ทุขสฺส;

อิติสฺสุ มํ จิตฺต ตทา นิยุฺชสิ, อิทานิ ตฺวํ คจฺฉสิ ปุพฺพจิณฺณํ.

๑๑๒๘.

‘‘ตณฺหา อวิชฺชา จ ปิยาปิยฺจ, สุภานิ รูปานิ สุขา จ เวทนา;

มนาปิยา กามคุณา จ วนฺตา, วนฺเต อหํ อาวมิตุํ น อุสฺสเห.

๑๑๒๙.

‘‘สพฺพตฺถ เต จิตฺต วโจ กตํ มยา, พหูสุ ชาตีสุ นเมสิ โกปิโต;

อชฺฌตฺตสมฺภโว กตฺุตาย เต, ทุกฺเข จิรํ สํสริตํ ตยา กเต.

๑๑๓๐.

‘‘ตฺวฺเว โน จิตฺต กโรสิ พฺราหฺมโณ, ตฺวํ ขตฺติโย ราชทสี กโรสิ;

เวสฺสา จ สุทฺทา จ ภวาม เอกทา, เทวตฺตนํ วาปิ ตเวว วาหสา.

๑๑๓๑.

‘‘ตเวว เหตู อสุรา ภวามเส, ตฺวํมูลกํ เนรยิกา ภวามเส;

อโถ ติรจฺฉานคตาปิ เอกทา, เปตตฺตนํ วาปิ ตเวว วาหสา.

๑๑๓๒.

‘‘นนุ ทุพฺภิสฺสสิ มํ ปุนปฺปุนํ, มุหุํ มุหุํ จารณิกํว ทสฺสยํ;

อุมฺมตฺตเกเนว มยา ปโลภสิ, กิฺจาปิ เต จิตฺต วิราธิตํ มยา.

๑๑๓๓.

‘‘อิทํ ปุเร จิตฺตมจาริ จาริกํ, เยนิจฺฉกํ ยตฺถกามํ ยถาสุขํ;

ตทชฺชหํ นิคฺคเหสฺสามิ โยนิโส, หตฺถิปฺปภินฺนํ วิย องฺคุสคฺคโห.

๑๑๓๔.

‘‘สตฺถา จ เม โลกมิมํ อธิฏฺหิ, อนิจฺจโต อทฺธุวโต อสารโต;

ปกฺขนฺท มํ จิตฺต ชินสฺส สาสเน, ตาเรหิ โอฆา มหตา สุทุตฺตรา.

๑๑๓๕.

‘‘น เต อิทํ จิตฺต ยถา ปุราณกํ, นาหํ อลํ ตุยฺห วเส นิวตฺติตุํ;

มเหสิโน ปพฺพชิโตมฺหิ สาสเน, น มาทิสา โหนฺติ วินาสธาริโน.

๑๑๓๖.

‘‘นคา สมุทฺทา สริตา วสุนฺธรา, ทิสา จตสฺโส วิทิสา อโธ ทิวา;

สพฺเพ อนิจฺจา ติภวา อุปทฺทุตา, กุหึ คโต จิตฺต สุขํ รมิสฺสสิ.

๑๑๓๗.

‘‘ธิติปฺปรํ กึ มม จิตฺต กาหิสิ, น เต อลํ จิตฺต วสานุวตฺตโก;

น ชาตุ ภสฺตํ อุภโตมุขํ ฉุเป, ธิรตฺถุ ปูรํ นวโสตสนฺทนึ.

๑๑๓๘.

‘‘วราหเอเณยฺยวิคาฬฺหเสวิเต, ปพฺภารกุฏฺเฏ ปกเตว สุนฺทเร;

นวมฺพุนา ปาวุสสิตฺตกานเน, ตหึ คุหาเคหคโต รมิสฺสสิ.

๑๑๓๙.

‘‘สุนีลคีวา สุสิขา สุเปขุนา, สุจิตฺตปตฺตจฺฉทนา วิหงฺคมา;

สุมฺชุโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโน, เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินํ.

๑๑๔๐.

‘‘วุฏฺมฺหิ เทเว จตุรงฺคุเล ติเณ, สํปุปฺผิเต เมฆนิภมฺหิ กานเน;

นคนฺตเร วิฏปิสโม สยิสฺสํ, ตํ เม มุทู เหหิติ ตูลสนฺนิภํ.

๑๑๔๑.

‘‘ตถา ตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโร, ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลํ;

น ตาหํ กสฺสามิ ยถา อตนฺทิโต, พิฬารภสฺตํว ยถา สุมทฺทิตํ.

๑๑๔๒.

‘‘ตถา ตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโร, ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลํ;

วิริเยน ตํ มยฺห วสานยิสฺสํ, คชํว มตฺตํ กุสลงฺกุสคฺคโห.

๑๑๔๓.

‘‘ตยา สุทนฺเตน อวฏฺิเตน หิ, หเยน โยคฺคาจริโยว อุชฺชุนา;

ปโหมิ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตุํ สิวํ, จิตฺตานุรกฺขีหิ สทา นิเสวิตํ.

๑๑๔๔.

‘‘อารมฺมเณ ตํ พลสา นิพนฺธิสํ, นาคํว ถมฺภมฺหิ ทฬฺหาย รชฺชุยา;

ตํ เม สุคุตฺตํ สติยา สุภาวิตํ, อนิสฺสิตํ สพฺพภเวสุ เหหิสิ.

๑๑๔๕.

‘‘ปฺาย เฉตฺวา วิปถานุสารินํ, โยเคน นิคฺคยฺห ปเถ นิเวสิย;

ทิสฺวา สมุทยํ วิภวฺจ สมฺภวํ, ทายาทโก เหหิสิ อคฺควาทิโน.

๑๑๔๖.

‘‘จตุพฺพิปลฺลาสวสํ อธิฏฺิตํ, คามณฺฑลํว ปริเนสิ จิตฺต มํ;

นนุ สํโยชนพนฺธนจฺฉิทํ, สํเสวเส การุณิกํ มหามุนึ.

๑๑๔๗.

‘‘มิโค ยถา เสริ สุจิตฺตกานเน, รมฺมํ คิรึ ปาวุสอพฺภมาลินึ;

อนากุเล ตตฺถ นเค รมิสฺสํ, อสํสยํ จิตฺต ปรา ภวิสฺสสิ.

๑๑๔๘.

‘‘เย ตุยฺห ฉนฺเทน วเสน วตฺติโน,

นรา จ นารี จ อนุโภนฺติ ยํ สุขํ;

อวิทฺทสู มารวสานุวตฺติโน,

ภวาภินนฺที ตว จิตฺต สาวกา’’ติ.

ตตฺถ กทา นุหนฺติ กทา นุ อหํ. ปพฺพตกนฺทราสูติ ปพฺพเตสุ จ กนฺทเรสุ จ, ปพฺพตสฺส วา กนฺทราสุ. เอกากิโยติ เอกโก. อทฺทุติโยติ นิตฺตณฺโห. ตณฺหา หิ ปุริสสฺส ทุติยา นาม. วิหสฺสนฺติ วิหริสฺสามิ. อนิจฺจโต สพฺพภวํ วิปสฺสนฺติ กามภวาทิเภทํ สพฺพมฺปิ ภวํ ‘‘หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจ’’นฺติ วิปสฺสนฺโต กทา นุ วิหริสฺสนฺติ โยชนา. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ วจนโต (สํ. นิ. ๓.๑๕) อิตรมฺปิ ลกฺขณทฺวยํ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ตํ เม อิทํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสตีติ ตํ อิทํ เม ปริวิตกฺกิตํ กทา นุ ภวิสฺสติ, กทา นุ โข มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตีติ อตฺโถ. ตํ นูติ เจตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – กทา นุ โข อหํ มหาคโช วิย สงฺขลิกพนฺธนํ, คิหิพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิตฺวา กายวิเวกํ ปริพฺรูหยนฺโต เอกากี ปพฺพตกนฺทราสุ อทุติโย สพฺพตฺถ นิรเปกฺโข สพฺพสงฺขารคตํ อนิจฺจาทิโต วิปสฺสนฺโต วิหริสฺสามีติ.

ภินฺนปฏนฺธโรติ ภินฺนวตฺถธโร, คาถาสุขตฺถํ นการาคมํ กตฺวา วุตฺตํ. สตฺถกจฺฉินฺนอคฺฆผสฺสวณฺณภินฺนํ ปฏจีวรํ ธาเรนฺโตติ อตฺโถ. มุนีติ ปพฺพชิโต. อมโมติ กุเล วา คเณ วา มมตฺตาภาเวน อมโม. กตฺถจิปิ อารมฺมเณ อาสีสนาย อภาเวน นิราโส. หนฺตฺวา สุขี ปวนคโต วิหสฺสนฺติ ราคาทิเก กิเลเส อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา มคฺคสุเขน ผลสุเขน สุขี มหาวนคโต กทา นุ โข อหํ วิหริสฺสามิ.

วธโรคนีฬนฺติ มรณสฺส จ โรคสฺส จ กุลาวกภูตํ. กายํ อิมนฺติ อิมํ ขนฺธปฺจกสงฺขาตํ กายํ. ขนฺธปฺจโกปิ หิ ‘‘อวิชฺชาคตสฺส, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลสฺส ตณฺหานุคตสฺส อยเมว กาโย พหิทฺธา นามรูป’’นฺติอาทีสุ กาโย วุจฺจติ. มจฺจุชรายุปทฺทุตนฺติ มรเณน เจว ชราย จ ปีฬิตํ, วิปสฺสมาโน อหํ ภยเหตุปหาเนน วีตภโย, ตํ นุ กทา ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

ภยชนนินฺติ ปฺจวีสติยา มหาภยานํ อุปฺปาทการณภูตํ กายิกสฺส จ เจตสิกสฺส จ สกลสฺสปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส อาวหนโต ทุขาวหํ. ตณฺหาลตํ พหุวิธานุวตฺตนินฺติ พหุวิธฺจ อารมฺมณํ ภวเมว วา อนุวตฺตติ สนฺตโนตีติ พหุวิธานุวตฺตนึ, ตณฺหาสงฺขาตลตํ. ปฺามยนฺติ มคฺคปฺามยํ สุนิสิตํ อสิขคฺคํ วีริยปคฺคหิเตน สทฺธาหตฺเถน คเหตฺวา สมุจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘กทา นุหํ วเส’’ติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตมฺปิ กทา ภวิสฺสตีติ โยชนา.

อุคฺคเตชนฺติ สมถวิปสฺสนาวเสน นิสิตตาย ติกฺขเตชํ. สตฺถํ อิสีนนฺติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวกอิสีนํ สตฺถภูตํ. มารํ สเสนํ สหสา ภฺชิสฺสนฺติ กิเลสเสนาย สเสนํ อภิสงฺขาราทิมารํ สหสา สีฆเมว ภฺชิสฺสามิ. สีหาสเนติ ถิราสเน, อปราชิตปลฺลงฺเกติ อตฺโถ.

สพฺภิ สมาคเมสุ ทิฏฺโ ภเวติ ธมฺมคารวยุตฺตตาย ธมฺมครูหิ ตาทิลกฺขณปฺปตฺติยา ตาทีหิ อวิปรีตทสฺสิตาย ยาถาวทสฺสีหิ อริยมคฺเคเนว ปาปชิตินฺทฺริยตาย ชิตินฺทฺริเยหิ พุทฺธาทีหิ สาธูหิ สมาคเมสุ ‘‘กทา นุ อหํ ปธานิโยติ ทิฏฺโ ภเวยฺย’’นฺติ ยํ เม ปริวิตกฺกิตํ, ตํ นุ กทา ภวิสฺสตีติ โยชนา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ปทโยชนา เวทิตพฺพา, ปทตฺถมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม.

ตนฺทีติ อาลสิยํ. ขุทาติ ชิฆจฺฉา. กีฏสรีสปาติ กีฏฺเจว สรีสปา จ. น พาธยิสฺสนฺตีติ มํ น พฺยาธยิสฺสนฺติ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ฌาเนหิ ปฏิพาหิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. คิริพฺพเชติ ปพฺพตกนฺทราย. อตฺถตฺถิยนฺติ สทตฺถสงฺขาเตน อตฺเถน อตฺถิกํ.

ยํ วิทิตํ มเหสินาติ ยํ จตุสจฺจํ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สยมฺภูาเณน าตํ ปฏิวิทฺธํ, ตานิ จตฺตาริ สจฺจานิ อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ สุฏฺุ ทุทฺทสานิ มคฺคสมาธินา สมาหิตตฺโต, สมฺมาสติยา สติมา, อริยมคฺคปฺาย อหํ อคจฺฉํ ปฏิวิชฺฌิสฺสํ อธิคมิสฺสนฺติ อตฺโถ.

รูเปติ จกฺขุวิฺเยฺยรูเป. อมิเตติ าเณน อมิเต, อปริจฺฉินฺเน อปริฺาเตติ อตฺโถ. ผุสิตพฺเพติ, โผฏฺพฺเพ. ธมฺเมติ มโนวิฺเยฺยธมฺเม. อมิเตติ วา อปริมาเณ นีลาทิวเสน อเนกเภทภินฺเน รูเป เภริสทฺทาทิวเสน, มูลรสาทิวเสน, กกฺขฬมุทุตาทิวเสน, สุขทุกฺขาทิวเสน จ, อเนกเภทสทฺทาทิเก จาติ อตฺโถ. อาทิตฺตโตติ เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาวโต. สมเถหิ ยุตฺโตติ ฌานวิปสฺสนามคฺคสมาธีหิ สมนฺนาคโต. ปฺาย ทจฺฉนฺติ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ทกฺขิสฺสํ.

ทุพฺพจเนน วุตฺโตติ ทุรุตฺตวจเนน ฆฏฺฏิโต. ตโต นิมิตฺตนฺติ ผรุสวาจาเหตุ. วิมโน น เหสฺสนฺติ โทมนสฺสิโต น ภเวยฺยํ. อโถติ อถ. ปสตฺโถติ เกนจิ ปสํสิโต.

กฏฺเติ ทารุกฺขนฺเธ. ติเณติ ติณานํ ขนฺเธ. อิเมติ อิเม มม สนฺตติปริยาปนฺเน ปฺจ ขนฺเธ. อมิเต จ ธมฺเมติ ตโต อฺเน อินฺทฺริยกฺขนฺเธน อมิเต รูปธมฺเม. เตนาห – ‘‘อชฺฌตฺติกาเนว จ พาหิรานิ จา’’ติ. สมํ ตุเลยฺยนฺติ อนิจฺจาทิวเสน เจว อสาราทิอุปมาวเสน จ สพฺพํ สมเมว กตฺวา ตีเรยฺยํ.

อิสิปฺปยาตมฺหิ ปเถ วชนฺตนฺติ พุทฺธาทีหิ มเหสีหิ สมฺมเทว ปยาเต สมถวิปสฺสนามคฺเค วชนฺตํ ปฏิปชฺชนฺตํ. ปาวุสสมเย กาลเมโฆ นเวน โตเยน วสฺโสทเกน สจีวรํ ปวเน กทา นุ โอวสฺสติ, เตเมตีติ อตฺตโน อพฺโภกาสิกภาวปริวิตกฺกิตํ ทสฺเสติ.

มยูรสฺส สิขณฺฑิโน วเน ทิชสฺสาติ มาตุกุจฺฉิโต อณฺฑโกสโต จาติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ชายนวเสน ทิชสฺส, สิขาสมฺภเวน สิขณฺฑิโน จ มยูรสฺส วเน กทา ปน คิริคพฺภเร รุตํ เกการวํ สุตฺวา เวลํ สลฺลกฺขิตฺวา สยนโต วุฏฺหิตฺวา อมตสฺส ปตฺติยา นิพฺพานาธิคมาย. สํจินฺตเยติ วุจฺจมาเน ภเว อนิจฺจาทิโต มนสิ กเรยฺยํ วิปสฺเสยฺยนฺติ อตฺโถ.

คงฺคํ ยมุนํ สรสฺสตินฺติ เอตา มหานทิโย อสชฺชมาโน ภาวนามยาย อิทฺธิยา กทา นุ ปตเรยฺยนฺติ โยชนา. ปาตาลขิตฺตํ พฬวามุขฺจาติ ปาตาย อลํ ปริยตฺตนฺติ ปาตาลํ, ตเทว ขิตฺตํ, ปถวิยา สณฺหนกาเล ตถา ิตนฺติ ปาตาลขิตฺตํ. โยชนสติกาทิเภทานิ สมุทฺทสฺส อนฺโตปถวิยา ตีรฏฺานานิ, เยสุ กานิจิ นาคาทีนํ วสนฏฺานานิ โหนฺติ, กานิจิ สุฺานิเยว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. พฬวามุขนฺติ มหาสมุทฺเท มหนฺตํ อาวฏฺฏมุขํ. มหานิรยทฺวารสฺส หิ วิวฏกาเล มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ตโต นิกฺขนฺโต ตทภิมุขํ อเนกโยชนสตายามวิตฺถารํ เหฏฺา สมุทฺทปเทสํ ฑหติ, ตสฺมึ ทฑฺเฒ อุปริ อุทกํ อาวฏฺฏากาเรน ปริพฺภมนฺตํ มหตา สทฺเทน เหฏฺา นิปตติ. ตตฺถ พฬวามุขสมฺา, อิติ ตฺจ ปาตาลขิตฺตํ พฬวามุขฺจ วิภึสนํ ภยานกํ อสชฺชมาโน อิทฺธิยา กทา นุ ปตเรยฺยนฺติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตํ กทา นุ ภวิสฺสติ, ภาวนามยํ อิทฺธึ นิพฺพตฺเตตฺวา กทา นุ เอวํ อิทฺธึ วฬฺชิสฺสามีติ อตฺโถ.

นาโคว อสงฺคจารี ปทาลเยติ ยถา มตฺตวารโณ ทฬฺหถมฺภํ ภินฺทิตฺวา อยสงฺขลิกํ วิทฺธํเสตฺวา อสงฺคจารี วนํ ปวิสิตฺวา เอโก อทุติโย หุตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน จรติ, เอวมหํ กทา นุ สพฺพสุภํ นิมิตฺตํ นิพฺพชฺชยํ นิรวเสสโต วชฺชยนฺโต กามจฺฉนฺทวโส อหุตฺวา ฌาเน ยุโต ปยุตฺโต กามคุเณสุ ฉนฺทํ สมฺมเทว ปทาเลยฺยํ ฉินฺเทยฺยํ ปชเหยฺยนฺติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

อิณฏฺโฏว ทลิทฺทโก นิธึ อาราธยิตฺวาติ ยถา โกจิ ทลิทฺโท ชีวิกปกโต อิณํ คเหตฺวา ตํ โสเธตุํ อสกฺโกนฺโต อิณฏฺโฏ อิเณน อฏฺฏิโต ธนิเกหิ ปีฬิโต นิธึ อาราธยิตฺวา อธิคนฺตฺวา อิณฺจ โสเธตฺวา สุเขน จ ชีวนฺโต ตุฏฺโ ภเวยฺย, เอวํ อหมฺปิ กทา นุ อิณสทิสํ กามจฺฉนฺทํ ปหาย มเหสิโน อริยธนสมฺปุณฺณตาย มณิกนกาทิรตนสมฺปุณฺณนิธิสทิสํ พุทฺธสฺส สาสนํ อธิคนฺตฺวา ตุฏฺโ ภเวยฺยนฺติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตํ กทา นุ ภวิสฺสตีติ.

เอวํ ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ เนกฺขมฺมวิตกฺกวเสน ปวตฺตํ อตฺตโน วิตกฺกปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปพฺพชิตฺวา เยหากาเรหิ อตฺตานํ โอวทิตฺวา อธิคจฺฉิ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘พหูนิ วสฺสานี’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ พหูนิ วสฺสานิ ตยามฺหิ ยาจิโต, อคารวาเสน อลํ นุ เต อิทนฺติ อเนกสํวจฺฉรานิ วิวิธทุกฺขานุพนฺเธน อคารมชฺเฌ วาเสน อลํ ปริยตฺตเมว เตติ, อมฺโภ จิตฺต, อิทํ ตยา อเนกานิ สํวจฺฉรานิ อหํ อมฺหิ นนุ ยาจิโต. ตํ ทานิ มํ ปพฺพชิตํ สมานนฺติ ตํ มํ ตยา ตถา อุสฺสาหเนน ปพฺพชิตํ สมานํ เกน การเณน จิตฺต ตุวํ น ยุฺชสิ, สมถวิปสฺสนํ ฉฑฺเฑตฺวา นิหีเน อาลสิเย นิโยเชสีติ อตฺโถ.

นนุ อหํ, จิตฺต, ตยามฺหิ ยาจิโตติ, อมฺโภ จิตฺต, อหํ ตยา นนุ ยาจิโต อมฺหิ อายาจิโต มฺเ. ยทิ ยาจิโต, กสฺมา อิทานิ ตทนุรูปํ น ปฏิปชฺชสีติ อธิปฺปาโย. ‘‘คิริพฺพเช’’ติอาทินา ยาจิตาการํ ทสฺเสติ. จิตฺรฉทา วิหงฺคมา วิจิตฺรเปขุณปกฺขิโน, มยูราติ อตฺโถ. มหินฺทโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโนติ ชลโฆสตฺถนิเตน เหตุนา สุฏฺุ คชฺชนสีลา. เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินนฺติ เต มยูรา ตํ วเน ฌานปสุตํ รเมสฺสนฺตีติ นนุ ตยา ยาจิโตติ ทสฺเสติ.

กุลมฺหีติ กุลปริวฏฺเฏ. อิมมชฺฌุปาคโตติ อิมํ อรฺฏฺานํ ปพฺพชฺชํ วา อชฺฌุปาคโต. อโถปิ ตฺวํ, จิตฺต, น มยฺห ตุสฺสสีติ ตฺวํ อนุวตฺติตฺวา ิตมฺปิ มํ นาราเธสฺสสีติ อตฺโถ.

มเมว เอตํ น หิ ตฺวํ ปเรสนฺติ เอตํ, จิตฺต, มเมว ตสฺมา ตฺวํ ปเรสํ น โหสิ. ตฺวํ ปน อฺเสํ วิย กตฺวา สนฺนาหกาเล กิเลสมาเร ยุชฺฌิตุํ ภาวนาสนฺนาหกาเล นติ วตฺวา ปริเทวิเตน กึ ปโยชนํ, อิทานิ ตํ อฺถา วตฺติตุํ น ทสฺสามีติ อธิปฺปาโย. สพฺพํ อิทํ จลมิติ เปกฺขมาโนติ ยสฺมา ‘‘อิทํ จิตฺตํ อฺฺจ สพฺพํ เตภูมกสงฺขารํ จลํ อนวฏฺิต’’นฺติ ปฺาจกฺขุนา โอโลเกนฺโต เคหโต กาเมหิ จ อภินิกฺขมึ อมตปทํ นิพฺพานํ ชิคีสํ ปริเยสนฺโต, ตสฺมา, จิตฺต, อนนุวตฺตนฺโต นิพฺพานํ ปริเยสนเมว กโรมีติ อธิปฺปาโย.

อวีตราเคน สุทุนฺนิวารยํ จิตฺตํ จลํ มกฺกฏสนฺนิภํ วนมกฺกฏสทิสํ อิติ สุยุตฺตวาที สุภาสิตวาที ทฺวิปทานมุตฺตโม มหาภิสกฺโก นรทมฺมสารถีติ โยชนา.

อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชฺชนาติ ยตฺถ เยสุ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมสุ จ สิตา ปฏิพทฺธา เต อนฺธปุถุชฺชนา เตน กามราเคน ปุนพฺภเวสิโน เอกนฺเตเนว ทุกฺขมิจฺฉนฺติ. อิจฺฉนฺตา จ จิตฺเตน นีตา นิรเย นิรากตาติ จิตฺตวสิกา นิรยสํวตฺตนิกํ กมฺมํ กโรนฺตา หิตสุขโต นิรากตา หุตฺวา อตฺตโน จิตฺเตเนว นิรเย นีตา น อฺถาติ จิตฺตสฺเสว นิคฺคเหตพฺพตํ ทสฺเสติ.

ปุนปิ จิตฺตํเยว นิคฺคเหตุํ มนฺเตนฺโต ‘‘มยูรโกฺจาภิรุตมฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มยูรโกฺจาภิรุตมฺหีติ สิขีหิ สารเสหิ จ อภิกูชิเต. ทีปีหิ พฺยคฺเฆหิ ปุรกฺขโต วสนฺติ เมตฺตาวิหาริตาย เอวรูเปหิ ติรจฺฉานคเตหิ ปุรกฺขโต ปริวาริโต หุตฺวา วเน วสนฺโต, เอเตน สุฺภาวปริพฺรูหนมาห. กาเย อเปกฺขํ ชหาติ สพฺพโส กาเย นิรเปกฺโข ชห, เอเตน ปหิตตฺตตํ วทติ. มา วิราธยาติ อิมํ สุทุลฺลภํ นวมํ ขณํ มา วิราเธหิ. อิติสฺสุ มํ, จิตฺต, ปุเร นิยุฺชสีติ เอวฺหิ ตฺวํ, จิตฺต, มํ ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ สมฺมาปฏิปตฺติยํ อุยฺโยเชสีติ อตฺโถ.

ภาเวหีติ อุปฺปาเทหิ วฑฺเฒหิ จ. ฌานานีติ ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ. อินฺทฺริยานีติ สทฺธาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ. พลานีติ ตานิเยว ปฺจ พลานิ. โพชฺฌงฺคสมาธิภาวนาติ สตฺต โพชฺฌงฺเค จตสฺโส สมาธิภาวนา จ. ติสฺโส จ วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสาณาทิกา ติสฺโส วิชฺชา จ. ผุส ปาปุณาหิ พุทฺธสาสเน สมฺมาสมฺพุทฺธโอวาเท ิโต.

นิยฺยานิกนฺติ วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺหานวหํ. สพฺพทุกฺขกฺขโยคธนฺติ อมโตคธํ นิพฺพานปติฏฺํ นิพฺพานารมฺมณํ. สพฺพกิเลสโสธนนฺติ อนวเสสกิเลสมลวิโสธนํ.

ขนฺเธติ อุปาทานกฺขนฺเธ. ปฏิปสฺส โยนิโสติ โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโตติ เอวมาทีหิ วิวิเธหิ ปกาเรหิ วิปสฺสนาาเณน สมฺมา อุปาเยน นเยน ปสฺส. ตํ ชหาติ ตํ ทุกฺขสฺส สมุทยํ ตณฺหํ ปชห, สมุจฺฉินฺท. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว.

อนิจฺจนฺติอาทิ อนฺตวนฺตโต อนิจฺจนฺติกโต ตาวกาลิกโต นิจฺจปฏิกฺเขปโต จ อนิจฺจนฺติ วา ปสฺส. ทุกฺขนฺติ เต อุทยพฺพยปฏิปีฬนโต สปฺปฏิภยโต ทุกฺขมโต สุขปฏิกฺเขปโต ทุกฺขนฺติ วา ปสฺส. สุฺนฺติ อวสวตฺตนโต อสามิกโต อสารโต อตฺตปฏิกฺเขปโต จ สุฺํ, ตโต เอว อนตฺตาติ. วิครหิตพฺพโต อวฑฺฒิอาพาธนโต จ อฆนฺติ จ วธนฺติ จ วิปสฺส โยนิโสติ โยชนา. มโนวิจาเร อุปรุนฺธ เจตโสติ มโนวิจารสฺิโน เคหสิตโสมนสฺสุปวิจาราทิเก อฏฺารส เจตโส อุปรุนฺธ วาเรหิ นิโรเธหิ.

มุณฺโฑติ มุณฺฑภาวํ อุปคโต, โอหาริตเกสมสฺสุโก. วิรูโปติ เตน มุณฺฑภาเวน ปรูฬฺหโลมตาย ฉินฺนภินฺนกาสาย วตฺถตาย วิรูโป เววณฺณิยํ อุปคโต. อภิสาปมาคโตติ ‘‘ปิณฺโฑโล วิจรติ ปตฺตปาณี’’ติ อริเยหิ กาตพฺพํ อภิสาปํ อุปคโต. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อภิสาโปยํ, ภิกฺขเว, โลกสฺมึ ปิณฺโฑโล วิจรสิ ปตฺตปาณี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๐). เตนาห ‘‘กปาลหตฺโถว กุเลสุ ภิกฺขสู’’ติ. ยุฺชสฺสุ สตฺถุวจเนติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอวาเท โยคํ กโรหิ อนุยุฺชสฺสุ.

สุสํวุตตฺโตติ สุฏฺุ กายวาจาจิตฺเตหิ สมฺมเทว สํวุโต. วิสิขนฺตเร จรนฺติ ภิกฺขาจริยาย อิจฺฉาวิเสเสสุ จรนฺโต. จนฺโท ยถา โทสินปุณฺณมาสิยาติ วิคตโทสาย ปุณฺณมาย กุเลสุ นิจฺจนวสาย ปาสาทิกตาย จนฺทิมา วิย จราติ โยชนา.

สทา ธุเต รโตติ สพฺพกาลฺจ ธุตคุเณ อภิรโต. ตถูปมํ จิตฺตมิทํ กโรสีติ ยถา โกจิ ปุริโส ผลานิ อิจฺฉนฺโต ผลรุกฺเข โรเปตฺวา ตโต อลทฺธผโลว เต มูลโต ฉินฺทิตุํ อิจฺฉติ, จิตฺต, ตฺวํ ตถูปมํ ตปฺปฏิภาคํ อิทํ กโรสิ. ยํ มํ อนิจฺจมฺหิ จเล นิยุฺชสีติ ยํ มํ ปพฺพชฺชาย นิโยเชตฺวา ปพฺพชิตฺวา อทฺธาคตํ ปพฺพชฺชาผลํ อนิจฺจมฺหิ จเล สํสารมุเข นิยุฺชสิ นิโยชนวเสน ปวตฺเตสิ.

รูปาภาวโต อรูปา. จิตฺตสฺส หิ ตาทิสํ สณฺานํ นีลาทิวณฺณเภโท วา นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ อรูปาติ. ทูรฏฺานปฺปวตฺติยา ทูรงฺคม. ยทิปิ จิตฺตสฺส มกฺกฏสุตฺตมตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมาทิทิสาภาเคน คมนํ นาม นตฺถิ, ทูเร สนฺตํ ปน อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉตีติ ทูรงฺคม. เอโกเยว หุตฺวา จรณวเสน ปวตฺตนโต เอกจาริ, อนฺตมโส ทฺเว ตีณิปิ จิตฺตานิ เอกโต อุปฺปชฺชิตุํ สมตฺถานิ นาม นตฺถิ, เอกเมว ปน จิตฺตํ เอกสฺมึ สนฺตาเน อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ อปรมฺปิ เอกเมว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา เอกจาริ. น เต กริสฺสํ วจนํ อิทานิหนฺติ ยทิปิ ปุพฺเพ ตว วเส อนุวตฺตึ, อิทานิ ปน สตฺถุ โอวาทํ ลทฺธกาลโต ปฏฺาย จิตฺตวสิโก น ภวิสฺสามิ. กสฺมาติ เจ? ทุกฺขา หิ กามา กฏุกา มหพฺภยา กามา นาเมเต อตีเตปิ ทุกฺขา, อายติมฺปิ กฏุกผลา, อตฺตานุวาทาทิเภเทน มหตา ภเยน อนุพนฺธนฺตา มหพฺภยา. นิพฺพานเมวาภิมโน จริสฺสํ ตสฺมา นิพฺพานเมว อุทฺทิสฺส อภิมุขจิตฺโต วิหริสฺสํ.

ตเมว นิพฺพานาภิมุขภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาหํ อลกฺขฺยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นาหํ อลกฺขฺยาติ อลกฺขิกตาย นิสฺสิรีกตาย นาหํ เคหโต นิกฺขมินฺติ โยชนา.

อหิริกฺกตายาติ ยถาวชฺชํ เกฬึ กโรนฺโต วิย นิลฺลชฺชตาย. จิตฺตเหตูติ เอกทา นิคณฺโ, เอกทา ปริพฺพาชกาทิโก โหนฺโต อนวฏฺิตจิตฺโต ปุริโส วิย จิตฺตวสิโก หุตฺวา. ทูรกนฺตนาติ ราชาทีหิ เมตฺตํ กตฺวา เตสุ ทุพฺภิตฺวา ทุพฺภิภาเวน. อาชีวเหตูติ อาชีวการณา ชีวิกาปกโต หุตฺวา อาชีวิกาภเยน อหํ น นิกฺขมึ น ปพฺพชึ. กโต จ เต, จิตฺต, ปฏิสฺสโว มยาติ, ‘‘ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย น ตว วเส วตฺตามิ, มเมว ปน วเส วตฺตามี’’ติ, จิตฺต, มยา นนุ ปฏิฺา กตาติ ทสฺเสติ.

อปฺปิจฺฉตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตาติ ‘‘ปจฺจเยสุ สพฺพโส อปฺปิจฺฉา นาม สาธู’’ติ พุทฺธาทีหิ ปสฏฺา, ตถา มกฺขปฺปหานํ ปเรสํ คุเณ มกฺขนสฺส ปหานํ วูปสโม สพฺพสฺส ทุกฺขสฺส วูปสโม นิพฺพาปนํ สปฺปุริเสหิ วณฺณิตํ. อิติสฺสุ มํ, จิตฺต, ตทา นิยุฺชสิ, ‘‘สมฺม, ตยา เตสุ คุเณสุ ปติฏฺาตพฺพ’’นฺติ, จิตฺต, ตฺวํ เอวํ ตทา นิยุฺชสิ. อิทานิ ตฺวํ คจฺฉสิ ปุพฺพจิณฺณํ อิทานิ มํ ตฺวํ ปหาย อตฺตโน ปุริมาจิณฺณํ มหิจฺฉตาทึ ปฏิปชฺชสิ, กึ นาเมตนฺติ อธิปฺปาโย.

ยมตฺถํ สนฺธาย ‘‘คจฺฉสิ ปุพฺพจิณฺณ’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหา อวิชฺชา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาติ ปจฺจเยสุ ตณฺหา, อวิชฺชาติ ตตฺเถว อาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. ปิยาปิยนฺติ ปุตฺตทาราทีสุ เปมสงฺขาโต ปิยภาโว เจว ปนฺตเสนาสเนสุ อธิกุสลธมฺเมสุ อนภิรติสงฺขาโต อปฺปิยภาโว จ อุภยตฺถ อนุโรธปฏิวิโรโธ. สุภานิ รูปานีติ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สุภรูปานิ. สุขา เวทนาติ อิฏฺารมฺมเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนสุขเวทนา. มนาปิยา กามคุณาติ วุตฺตาวเสสา มโนรมา กามโกฏฺาสา. วนฺตาติ นิรูปโต ตํนิสฺสิตสฺส ฉนฺทราคสฺส วิกฺขมฺภนปหาเนน ฉฑฺฑิตตาย ปริจฺจตฺตตาย จ วนฺตา. วนฺเต อหํ อาวมิตุํ น อุสฺสเหติ เอวํ เต ฉฑฺฑิเต ปุน ปจฺจาวมิตุํ อหํ น สกฺโกมิ, ปริจฺจตฺตา เอว โหนฺตีติ วทติ.

สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ภเวสุ สพฺพาสุ โยนีสุ สพฺพาสุ คตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ จ. วโจ กตํ มยาติ, อมฺโภ จิตฺต, ตว วจนํ มยา กตํ. กโรนฺโต จ พหูสุ ชาตีสุ น เมสิ โกปิโตติ อเนกาสุ ชาตีสุ ปน มยา น โกปิโต อสิ. มยา เนว ปริภวิโต. ตถาปิ อชฺฌตฺตสมฺภโว อตฺตนิ สมฺภูโต หุตฺวาปิ ตว อกตฺุตาย ทุกฺเข จีรํ สํสริตํ ตยา กเตติ ตยา นิพฺพตฺติเต อนาทิมติ สํสารทุกฺเข สุจิรกาลํ มยา สํสริตํ ปริพฺภมิตํ.

อิทานิ ‘‘ทุกฺเข จิรํ สํสริตํ ตยา กเต’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ อุปฺปตฺติเภเทน คติเภเทน จ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ตฺวฺเวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ราชทสีติ ราชา อสิ, ทกาโร ปทสนฺธิกโร, เวสฺสา จ สุทฺทา จ ภวาม เอกทา ตเวว วาหสาติ โยชนา. เทวตฺตนํ วาปีติ เทวภาวํ วาปิ ตฺวํเยว โน อมฺหากํ, จิตฺต, กโรสีติ โยชนา. วาหสาติ การณภาเวน.

ตเวว เหตูติ ตเวว เหตุภาเวน. ตฺวํมูลกนฺติ ตฺวํนิมิตฺตํ.

นนุ ทุพฺภิสฺสสิ มํ ปุนปฺปุนนฺติ ปุนปฺปุนํ ทุพฺภิสฺสสิ นุน, ยถา ปุพฺเพ ตฺวํ อนนฺตาสุ ชาตีสุ, จิตฺต, มิตฺตปฏิรูปโก สปตฺโต หุตฺวา มยฺหํ ปุนปฺปุนํ ทุพฺภิ, อิทานิ ตถา ทุพฺภิสฺสสิ มฺเ, ปุพฺเพ วิย จาเรตุํ น ทสฺสามีติ อธิปฺปาโย. มุหุํ มุหุํ จารณิกํว ทสฺสยนฺติ อภิณฺหโต จรณารหํ วิย มโน ทสฺเสนฺโต จรณารหํ ปุริสํ วฺเจตฺวา จรโคปกํ นิปฺผาเทนฺโต วิย ปุนปฺปุนํ ตํ ตํ ภวํ ทสฺเสนฺโต. อุมฺมตฺตเกเนว มยา ปโลภสีติ อุมฺมตฺตกปุริเสน วิย มยา สทฺธึ กีฬนฺโต ตํ ตํ ปโลภนียํ ทสฺเสตฺวา ปโลภสิ. กิฺจาปิ เต, จิตฺต, วิราธิตํ มยาติ, อมฺโภ จิตฺต, กึ นาม เต มยา วิรทฺธํ, ตํ กเถหีติ อธิปฺปาโย.

อิทํ ปุเร จิตฺตนฺติ อิทํ จิตฺตํ นาม อิโต ปุพฺเพ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ รชฺชนาทินา, เยน อากาเรน อิจฺฉติ, ยตฺเถว จสฺส กาโม อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วเสน ยตฺถกามํ ยถา วิจรนฺตสฺส สุขํ โหติ, ตเถว จ จรนฺโต ยถาสุขํ ทีฆรตฺตํ จาริกํ อจริ. อชฺชาหํ ปภินฺนมทํ มตฺตหตฺถึ หตฺถาจริยสงฺขาโต เฉโก องฺกุสคฺคโห องฺกุเสน วิย โยนิโสมนสิกาเรน นํ นิคฺคเหสฺสามิ, นสฺส วีติกฺกมิตุํ ทสฺสามีติ.

สตฺถา จ เม โลกมิมํ อธิฏฺหีติ มม สตฺถา สมฺมาสมฺพุทฺโธ อิมํ อนวเสสขนฺธโลกํ าเณน อธิฏฺหิ. กินฺติ? หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจโต, กสฺสจิปิ ธุวสฺส ถาวรสฺส อภาวโต อทฺธุวโต สุขสาราทีนํ อภาวโต อสารโต. ปกฺขนฺท มํ, จิตฺต, ชินสฺส สาสเนติ ตสฺมา ยาถาวโต ปฏิปชฺชิตุํ, จิตฺต, มํ ชินสฺส ภควโต สาสเน ปกฺขนฺเทหิ อนุปฺปเวเสหิ. ‘‘ปกฺขนฺทิม’’นฺติปิ ปาฬิ, ชินสฺส สาสเน อิมํ โลกํ าเณน ปกฺขนฺท, ยาถาวโต ตาเรหิ, ปกฺขนฺทนฺโต จ วิปสฺสนาาณมคฺเคน ยาเปนฺโต สุทุตฺตรโต มหนฺตโต สํสารมโหฆโต มํ ตาเรหิ.

น เต อิทํ, จิตฺต, ยถา ปุราณกนฺติ, อมฺโภ จิตฺต, อิทํ อตฺตภาวเคหํ โปราณกํ วิย ตว น โหตีติ อตฺโถ. กสฺมา? นาหํ อลํ ตุยฺห วเส นิวตฺติตุนฺติ อิทานาหํ ตว วเส นิวตฺติตุํ น ยุตฺโต. ยสฺมา มเหสิโน ภควโต ปพฺพชิโตมฺหิ สาสเน. ปพฺพชิตกาลโต จ ปฏฺาย สมณา นาม มาทิสาว น โหนฺติ วินาสธาริโน, เอกํสโต สมณาเยว โหนฺตีติ อตฺโถ.

นคาติ สิเนรุหิมวนฺตาทโย สพฺเพ ปพฺพตา. สมุทฺทาติ ปุรตฺถิมสมุทฺทาทโย สีตสมุทฺทาทโย, น สพฺเพ สมุทฺทา. สริตาติ คงฺคาทโย สพฺพา นทิโย จ. วสุนฺธราติ ปถวี. ทิสา จตสฺโสติ ปุรตฺถิมาทิเภทา จตสฺโส ทิสา. วิทิสาติ ปุรตฺถิมทกฺขิณาทโย จตสฺโส อนุทิสา. อโธติ เหฏฺา ยาว อุทกสนฺธารกวายุขนฺธา. ทิวาติ เทวโลกา. ทิวาคฺคหเณน เจตฺถ ตตฺถ คเต สตฺตสงฺขาเร วทติ. สพฺเพ อนิจฺจา ติภวา อุปทฺทุตาติ สพฺเพ กามภวาทโย ตโย ภวา อนิจฺจา เจว ชาติอาทีหิ ราคาทีหิ กิเลเสหิ อุปทฺทุตา ปีฬิตา จ, น เอตฺถ กิฺจิ เขมฏฺานํ นาม อตฺถิ, ตทภาวโต กุหึ คโต, จิตฺต, สุขํ รมิสฺสสิ, ตสฺมา ตโต นิสฺสรณฺเจตฺถ ปริเยสาหีติ อธิปฺปาโย.

ธิติปฺปรนฺติ ธิติปรายณํ ปรมํ ถิรภาเว ิตํ มมํ, จิตฺต, กึ กาหิสิ, ตโต อีสกมฺปิ มํ จาเลตุํ นาสกฺขิสฺสสีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘น เต อลํ, จิตฺต, วสานุวตฺตโก’’ติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘น ชาตุ ภสฺตํ อุภโตมุขํ ฉุเป, ธิรตฺถุ ปูรํ นวโสตสนฺทนิ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ภสฺตนฺติ รุตฺตึ. อุภโตมุขนฺติ ปุโตฬิยา อุภโตมุขํ. น ชาตุ ฉุเปติ เอกํเสเนว ปาเทนาปิ น ฉุเปยฺย, ตถา ธิรตฺถุ ปูรํ นวโสตสนฺทนินฺติ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปูรํ นวหิ โสเตหิ วณมุเขหิ อสุจิสนฺทนึ สวตึ. ตาย วจฺจกุฏิยา ธี อตฺถุ, ตสฺสา ครหา โหตุ.

เอวํ อฏฺวีสติยา คาถาหิ นิคฺคณฺหนวเสน จิตฺตํ โอวทิตฺวา อิทานิ วิเวกฏฺานาจิกฺขณาทินา สมฺปหํเสนฺโต ‘‘วราหเอเณยฺยวิคาฬฺหเสวิเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วราหเอเณยฺยวิคาฬฺหเสวิเตติ วราเหหิ เจว เอเณยฺเยหิ จ โอคาเหตฺวา เสวิเต. ปพฺภารกุฏฺเฏติ ปพฺภารฏฺาเน เจว ปพฺพตสิขเร จ. ปกเตว สุนฺทเรติ ปกติยา เอว สุนฺทเร อติตฺติมโนหเร. ‘‘ปกติวสุนฺธเร’’ติ วา ปาโ, ปากติเก ภูมิปเทเสติ อตฺโถ. นวมฺพุนา ปาวุสสิตฺตกานเนติ ปาวุสวเสน วุฏฺเน เมโฆทเกน อุปสิตฺตวสฺเส สุเถเว วเน. ตหึ คุหาเคหคโต รมิสฺสสีติ ตสฺมึ ปพฺพตกานเน คุหาสงฺขาตํ เคหํ อุปคโต ภาวนารติยา อภิรมิสฺสสิ.

เต ตํ รเมสฺสนฺตีติ เต มยูราทโย วนสฺํ อุปฺปาเทนฺตา ตํ รเมสฺสนฺตีติ อตฺโถ.

วุฏฺมฺหิ เทเวติ เมเฆ อธิปฺปวุฏฺเ. จตุรงฺคุเล ติเณติ เตเนว คสฺโสทกปาเตน ตตฺถ ตตฺถ ติเณ สุรตฺตวณฺณกมฺพลสทิเส จตุรงฺคุเล ชาเต. สํปุปฺผิเต เมฆนิภมฺหิ กานเนติ ปาวุสเมฆสงฺกาเส กานเน สมฺมเทว ปุปฺผิเต. นคนฺตเรติ ปพฺพตนฺตเร. วิฏปิสโม สยิสฺสนฺติ ตรุสทิโส อปริคฺคโห หุตฺวา นิปชฺชิสฺสํ. ตํ เม มุทู เหหิติ ตูลสนฺนิภนฺติ ตํ ติณปจฺจตฺถรณํ มุทุ สุขสมฺผสฺสํ ตูลสนฺนิภํ ตูลิกสทิสํ สยนํ เม ภวิสฺสติ.

ตถา ตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโรติ ยถา โกจิ อิสฺสรปุริโส อตฺตโน วจนกรทาสาทึ วเส วตฺเตติ, อหมฺปิ, จิตฺต, ตํ ตถา กริสฺสามิ, มยฺหํ วเส วตฺเตมิเยว. กถํ? ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลนฺติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ยํ ยาทิสํ วา ตาทิสํ วา ลพฺภติ, เตน จ มยฺหํ อลํ ปริยตฺตํ โหตุ. เอเตน อิทํ ทสฺเสติ – ยสฺมา อิเธกจฺเจ สตฺตา ตณฺหุปฺปาทเหตุ จิตฺตสฺส วเส อนุวตฺตนฺติ, อหํ ปน ตณฺหุปฺปาทํ ทูรโต วชฺเชนฺโต จิตฺตํ ทาสํ วิย กโรนฺโต อตฺตโน วเส วตฺเตมีติ. น ตาหํ กสฺสามิ ยถา อตนฺทิโต, พิฬารภสฺตํว ยถา สุมทฺทิตนฺติ จิตฺต ตณฺหุปฺปาทปริวชฺชนเหตุ, ปุน ตนฺติ จิตฺตํ อามสติ, ยถา อฺโปิ โกจิ สมฺมปฺปธานโยเคน ภาวนาย อตนฺทิโต อตฺตโน จิตฺตํ กมฺมกฺขมํ, กมฺมโยคฺคํ กโรติ, ตถา อหมฺปิ, จิตฺต, ตํ กมฺมกฺขมํ, กมฺมโยคฺคํ มยฺหํ วเส วตฺตํ กริสฺสามิ. ยถา กึ? พิฬารภสฺตํว ยถา สุมทฺทิตํ, นอิติ นิปาตมตฺตํ. ยถา สุฏฺุ มทฺทิตํ พิฬารภสฺตํ กมฺมกฺขมํ, กมฺมโยคฺคํ สุเขน ปริหรณียฺจ โหติ, ตถาหํ ตํ กริสฺสามิ.

วีริเยน ตํ มยฺห วสานยิสฺสนฺติ, อมฺโภ จิตฺต, ตํ อตฺตโน วีริเยน ภาวนาพลํ อุปฺปาเทตฺวา เตน มยฺหํ วสํ อานยิสฺสํ. คชํว มตฺตํ กุสลงฺกุสคฺคโหติ ยถา กุสโล เฉโก องฺกุสคฺคโห หตฺถาจริโย อตฺตโน สิกฺขาพเลน มตฺตหตฺถึ อตฺตโน วสํ อาเนติ, ตเถวาติ อตฺโถ.

ตยา สุทนฺเตน อวฏฺิเตน หีติ หีติ นิปาตมตฺตํ, จิตฺต, สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ สุฏฺุ ทนฺเตน ตโต เอว สมฺมเทว วิปสฺสนาวีถึ ปฏิปนฺนตฺตา อวฏฺิเตน ตยา. หเยน โยคฺคาจริโยว อุชฺชุนาติ ยถา สุทนฺเตน สุทนฺตตฺตา เอว อุชุนา อวงฺกคตินา อสฺสาชานีเยน โยคฺคาจริโย อสฺสทมฺมสารถิ อเขมฏฺานโต เขมนฺตภูมึ ปฏิปชฺชิตุํ สกฺโกติ, เอวํ ปโหมิ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตุํ สิวนฺติ อสิวภาวกรานํ กิเลสานํ อภาเวน สิวํ. จิตฺตานุรกฺขีหีติ อตฺตโน จิตฺตํ อนุรกฺขณสีเลหิ พุทฺธาทีหิ สพฺพกาลํ เสวิตํ อริยมคฺคํ อหํ ปฏิปชฺชิตุํ อธิคนฺตุํ ปโหมิ สกฺโกมีติ.

อารมฺมเณ ตํ พลสา นิพนฺธิสํ, นาคํว ถมฺภมฺหิ ทฬฺหาย รชฺชุยาติ ยถา หตฺถาจริโย มหาหตฺถึ อาฬานถมฺเภ ทฬฺหาย ถิราย รชฺชุยา นิพนฺธติ, เอวมหํ, จิตฺต, กมฺมฏฺานารมฺมเณ ภาวนาพเลน นิพนฺธิสฺสํ. ตํ เม สุคุตฺตํ สติยา สุภาวิตนฺติ ตํ ตฺวํ, จิตฺต, มม สติยา สุคุตฺตํ สุภาวิตฺจ หุตฺวา. อนิสฺสิตํ สพฺพภเวสุ เหหิสีติ อริยมคฺคภาวนาทิพเลน กามภวาทีสุ สพฺเพสุปิ ภเวสุ ตณฺหาทินิสฺสเยหิ อนิสฺสิตํ ภวิสฺสสิ.

ปฺาย เฉตฺวา วิปถานุสารินนฺติ อุปฺปถคามินํ อายตนสมุทยํ ยาถาวโต ทิสฺวา เยน สมุทเยน อุปฺปถคามี, ตสฺส กิเลสวิสฺสนฺทนํ กิเลสวิปฺผนฺทิตํ อินฺทฺริยสํวรูปนิสฺสยาย ปฏิสงฺขานปฺาย ฉินฺทิตฺวา โสตวิจฺเฉทนวเสน อาวรณํ กตฺวา. โยเคน นิคฺคยฺหาติ วิปสฺสนาภาวนาสงฺขาเตน โยเคน สามตฺถิยวิธมเนน นิคฺคเหตฺวา. ปเถ นิเวสิยาติ วิปสฺสนาวีถิยํ นิเวเสตฺวา, ปติฏฺเปตฺวา. ยทา ปน วิปสฺสนา อุสฺสุกฺกาปิตา มคฺเคน ฆฏฺเฏติ, ตทา มคฺคปฺาย ‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (มหาว. ๑๖; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑) นิทสฺสเนน สพฺพโส อายตนสมุทยสฺส วิภวํ สมฺภวฺจ อสมฺโมหโต ทิสฺวา สเทวเก โลเก อคฺควาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทายาโท โอรสปุตฺโต เหหิสิ ภวิสฺสสีติ อตฺโถ.

จตุพฺพิปลฺลาสวสํ อธิฏฺิตนฺติ อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ, อสุเภ สุภนฺติ, ทุกฺเข สุขนฺติ, อนตฺตนิ อตฺตาติ อิเมสํ จตุนฺนํ วิปลฺลาสานํ วสํ อธิฏฺิตํ อนุวตฺตนฺตํ. คามณฺฑลํว ปริเนสิ, จิตฺต, มนฺติ, อมฺโภ จิตฺต, มํ คามทารกํ วิย ปริกฑฺฒสิ, อิโต จิโต ปริกฑฺฒสิ. นนุ สํโยชนพนฺธนจฺฉิทนฺติ สํโยชนสงฺขาตานํ ทสนฺนํ พนฺธนานํ เฉทกํ การุณิกํ มหามุนึ สมฺมาสมฺพุทฺธํ สํเสวสิ นนุ, ‘‘ตถารูเป มหานุภาเว ทูรโตว วชฺเชสิ, มาทิเส ปน ตปสฺสิเน ยถารุจิ ปริเนสี’’ติ อปฺปสาทเลเสน สตฺถารํ ปสํสติ.

มิโค ยถาติ ยถา มิโค รุกฺขคจฺฉลตาทีหิ สุฏฺุ จิตฺตวิจิตฺเต อนากุเล กานเน เสริ สยํวสี รมติ. รมฺมํ คิรึ ปาวุสอพฺภมาลินินฺติ เอวํ ปาวุสกาเล สมนฺตโต สุมาลินีหิ ถลชชลชมาลาหิ สมนฺนาคตตฺตา อพฺภมาลินึ ชนวิวิตฺตตาย มโนรมตาย จ รมฺมํ ปพฺพตํ ลภิตฺวา ตตฺถ นเค รมิสฺสํ, อสํสยํ เอกํเสเนว ตฺวํ, จิตฺต, ปราภวิสฺสสิ, สํสารพฺยสเนหิ สฺสสีติ อตฺโถ.

เย ตุยฺห ฉนฺเทน วเสน วตฺติโนติ สพฺเพ ปุถุชฺชเน จิตฺตสามฺเน คเหตฺวา วทติ. ตสฺสตฺโถ – เย นรนาริโย, อมฺโภ จิตฺต, ตุยฺหํ ฉนฺเทน วเสน รุจิยา ิตา ยํ เคหนิสฺสิตํ สุขํ อนุโภนฺติ อนุภวิสฺสนฺติ, เต อวิทฺทสู อนฺธพาลา, มารวสานุวตฺติโน กิเลสมาราทีนํ วเส อนุวตฺตนสีลา, ภวาภินนฺที กามาทิภวเมว อภินนฺทนโต, ตว สาวกา อนุสิฏฺิกรา. มยํ ปน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกา, น ตุยฺหํ วเส อนุวตฺตามาติ.

เอวํ เถโร ปุพฺเพ อตฺตโน อุปฺปนฺนํ โยนิโสมนสิการํ จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนวเสน ปวตฺตํ นานปฺปการโต วิภชิตฺวา สมีเป ิตานํ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน ธมฺมํ กเถสิ. ยํ ปเนตฺถ อนฺตรนฺตรา อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ตาลปุฏตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺาสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๐. สฏฺินิปาโต

๑. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรคาถาวณฺณนา

สฏฺินิปาเต อารฺิกาติอาทิกา อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? ตสฺส วตฺถุ ธมฺมเสนาปติวตฺถุมฺหิ วุตฺตเมว. เถโร หิ ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส มคธรฏฺเ กลฺลวาลคามกํ อุปนิสฺสาย สมณธมฺมํ กโรนฺโต ถินมิทฺเธ โอกฺกนฺเต สตฺถารา – ‘‘โมคฺคลฺลาน, โมคฺคลฺลาน, มา, พฺราหฺมณ, อริยํ ตุณฺหีภาวํ ปมาโท’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๒๓๕) สํเวชิโต ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ภควตา วุจฺจมานํ ธาตุกมฺมฏฺานํ สุณนฺโต เอว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปฏิปาฏิยา อุปริมคฺคตฺตยํ อุปคนฺตฺวา อคฺคผลกฺขเณ สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๓๗๕-๓๙๗) –

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

วิหาสิ หิมวนฺตมฺหิ, เทวสงฺฆปุรกฺขโต.

‘‘วรุโณ นาม นาเมน, นาคราชา อหํ ตทา;

กามรูปี วิกุพฺพามิ, มโหทธินิวาสหํ.

‘‘สงฺคณิยํ คณํ หิตฺวา, ตูริยํ ปฏฺเปสหํ;

สมฺพุทฺธํ ปริวาเรตฺวา, วาเทสุํ อจฺฉรา ตทา.

‘‘วชฺชมาเนสุ ตูเรสุ, เทวา ตูรานิ วชฺชยุํ;

อุภินฺนํ สทฺทํ สุตฺวาน, พุทฺโธปิ สมฺปพุชฺฌถ.

‘‘นิมนฺเตตฺวาน สมฺพุทฺธํ, สกํ ภวนุปาคมึ;

อาสนํ ปฺเปตฺวาน, กาลมาโรจยึ อหํ.

‘‘ขีณาสวสหสฺเสหิ, ปริวุโต โลกนายโก;

โอภาเสนฺโต ทิสา สพฺพา, ภวนํ เม อุปาคมิ.

‘‘อุปวิฏฺํ มหาวีรํ, เทวเทวํ นราสภํ;

สภิกฺขุสงฺฆํ ตปฺเปสึ, อนฺนปาเนนหํ ตทา.

‘‘อนุโมทิ มหาวีโร, สยมฺภู อคฺคปุคฺคโล;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘โย โส สงฺฆํ อปูเชสิ, พุทฺธฺจ โลกนายกํ;

เตน จิตฺตปฺปสาเทน, เทวโลกํ คมิสฺสติ.

‘‘สตฺตสตฺตติกฺขตฺตุฺจ, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

ปถพฺยา รชฺชํ อฏฺสตํ, วสุธํ อาวสิสฺสติ.

‘‘ปฺจปฺาสกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

โภคา อสงฺขิยา ตสฺส, อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ ตาวเท.

‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘นิรยา โส จวิตฺวาน, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;

โกลิโต นาม นาเมน, พฺรหฺมพนฺธุ ภวิสฺสติ.

‘‘โส ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวาน, กุสลมูเลน โจทิโต;

โคตมสฺส ภควโต, ทุติโย เหสฺสติ สาวโก.

‘‘อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, อิทฺธิยา ปารมึ คโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘ปาปมิตฺโตปนิสฺสาย, กามราควสํ คโต;

มาตรํ ปิตรฺจาปิ, ฆาตยึ ทุฏฺมานโส.

‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, นิรยํ อถ มานุสํ;

ปาปกมฺมสมงฺคิตา, ภินฺนสีโส มรามหํ.

‘‘อิทํ ปจฺฉิมกํ มยฺหํ, จริโม วตฺตเต ภโว;

อิธาปิ เอทิโส มยฺหํ, มรณกาเล ภวิสฺสติ.

‘‘ปวิเวกมนุยุตฺโต, สมาธิภาวนารโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘ธรณิมฺปิ สุคมฺภีรํ, พหลํ ทุปฺปธํสิยํ;

วามงฺคุฏฺเน โขเภยฺยํ, อิทฺธิยา ปารมึ คโต.

‘‘อสฺมิมานํ น ปสฺสามิ, มาโน มยฺหํ น วิชฺชติ;

สามเณเร อุปาทาย, ครุจิตฺตํ กโรมหํ.

‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมภินีหรึ;

ตาหํ ภูมิมนุปฺปตฺโต, ปตฺโตมฺหิ อาสวกฺขยํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ นํ สตฺถา อปรภาเค เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน เตน เตน คุเณน อตฺตโน สาวเก เอตทคฺเค เปนฺโต ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๐) อิทฺธิมนฺตตาย เอตทคฺเค เปสิ. เตน เอวํ สตฺถารา เอตทคฺเค ปิเตน สาวกปารมิยา มตฺถกํ ปตฺเตน มหาเถเรน ตํ ตํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ตตฺถ ตตฺถ ภาสิตา คาถา, ตา สงฺคีติกาเล ธมฺมสงฺคาหเกหิ –

๑๑๔๙.

‘‘อารฺิกา ปิณฺฑปาติกา, อุฺฉาปตฺตาคเต รตา;

ทาเลมุ มจฺจุโน เสนํ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตา.

๑๑๕๐.

‘‘อารฺิกา ปิณฺฑปาติกา, อุฺฉาปตฺตาคเต รตา;

ธุนาม มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กุฺชโร.

๑๑๕๑.

‘‘รุกฺขมูลิกา สาตติกา, อุฺฉาปตฺตาคเต รตา;

ทาเลมุ มจฺจุโน เสนํ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตา.

๑๑๕๒.

‘‘รุกฺขมูลิกา สาตติกา, อุฺฉาปตฺตาคเต รตา;

ธุนาม มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กุฺชโร.

๑๑๕๓.

‘‘อฏฺิกงฺกลกุฏิเก, มํสนฺหารุปสิพฺพิเต;

ธิรตฺถุ ปุเร ทุคฺคนฺเธ, ปรคตฺเต มมายเส.

๑๑๕๔..

‘‘ตว สรีรํ นวโสตํ, ทุคฺคนฺธกรํ ปริพนฺธํ;

ภิกฺขุ ปริวชฺชยเต ตํ, มีฬฺหฺจ ยถา สุจิกาโม.

๑๑๕๖.

‘‘เอวฺเจ ตํ ชโน ชฺา, ยถา ชานามิ ตํ อหํ;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, คูถฏฺานํว ปาวุเส.

๑๑๕๗.

‘‘เอวเมตํ มหาวีร, ยถา สมณ ภาสสิ;

เอตฺถ เจเก วิสีทนฺติ, ปงฺกมฺหิว ชรคฺคโว.

๑๑๕๘.

‘‘อากาสมฺหิ หลิทฺทิยา, โย มฺเถ รเชตเว;

อฺเน วาปิ รงฺเคน, วิฆาตุทยเมว ตํ.

๑๑๕๙.

‘‘ตทากาสสมํ จิตฺตํ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตํ;

มา ปาปจิตฺเต อาสาทิ, อคฺคิขนฺธํว ปกฺขิมา.

๑๑๖๐.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;

อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิติ.

๑๑๖๑.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ รูปํ, มณินา กุณฺฑเลน จ;

อฏฺึ ตเจน โอนทฺธํ, สห วตฺเถหิ โสภติ.

๑๑๖๒.

‘‘อลตฺตกกตา ปาทา, มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๑๑๖๓.

‘‘อฏฺาปทกตา เกสา, เนตฺตา อฺชนมกฺขิตา;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๑๑๖๔.

‘‘อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโต;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๑๑๖๕.

‘‘โอทหิ มิคโว ปาสํ, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, กทฺทนฺเต มิคพนฺธเก.

๑๑๖๖.

‘‘ฉินฺโน ปาโส มิควสฺส, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, โสจนฺเต มิคลุทฺทเก.

๑๑๖๗.

‘‘ตทาสิ ยํ ภึสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;

อเนกาการสมฺปนฺเน, สาริปุตฺตมฺหิ นิพฺพุเต.

๑๑๖๘.

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน;

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, เตสํ วูปสโม สุโข.

๑๑๖๙.

‘‘สุขุมํ เต ปฏิวิชฺฌนฺติ, วาลคฺคํ อุสุนา ยถา;

เย ปฺจกฺขนฺเธ ปสฺสนฺติ, ปรโต โน จ อตฺตโต.

๑๑๗๐.

‘‘เย จ ปสฺสนฺติ สงฺขาเร, ปรโต โน จ อตฺตโต;

ปจฺจพฺยาธึสุ นิปุณํ, วาลคฺคํ อุสุนา ยถา.

๑๑๗๑.

‘‘สตฺติยา วิย โอมฏฺโ, ฑยฺหมาโนว มตฺถเก;

กามราคปฺปหานาย, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.

๑๑๗๒.

‘‘สตฺติยา วิย โอมฏฺโ, ฑยฺหมาโนว มตฺถเก;

ภวราคปฺปหานาย, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.

๑๑๗๓.

‘‘โจทิโต ภาวิตตฺเตน, สรีรนฺติมธารินา;

มิคารมาตุปาสาทํ, ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยึ.

๑๑๗๔.

‘‘นยิทํ สิถิลมารพฺภ, นยิทํ อปฺเปน ถามสา;

นิพฺพานมธิคนฺตพฺพํ, สพฺพคนฺถปโมจนํ.

๑๑๗๕.

‘‘อยฺจ ทหโร ภิกฺขุ, อยมุตฺตมโปริโส;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนํ.

๑๑๗๖.

‘‘วิวรมนุปภนฺติ วิชฺชุตา, เวภารสฺส จ ปณฺฑวสฺส จ;

นควิวรคโต ฌายติ, ปุตฺโต อปฺปฏิมสฺส ตาทิโน.

๑๑๗๗.

‘‘อุปสนฺโต อุปรโต, ปนฺตเสนาสโน มุนิ;

ทายาโท พุทฺธเสฏฺสฺส, พฺรหฺมุนา อภิวนฺทิโต.

๑๑๗๘.

‘‘อุปสนฺตํ อุปรตํ, ปนฺตเสนาสนํ มุนึ;

ทายาทํ พุทฺธเสฏฺสฺส, วนฺท พฺราหฺมณ กสฺสปํ.

๑๑๗๙.

‘‘โย จ ชาติสตํ คจฺเฉ, สพฺพา พฺราหฺมณชาติโย;

โสตฺติโย เวทสมฺปนฺโน, มนุสฺเสสุ ปุนปฺปุนํ.

๑๑๘๐.

‘‘อชฺฌายโกปิ เจ อสฺส, ติณฺณํ เวทาน ปารคู;

เอตสฺส วนฺทนาเยตํ, กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ.

๑๑๘๑.

‘‘โย โส อฏฺ วิโมกฺขานิ, ปุเรภตฺตํ อผสฺสยิ;

อนุโลมํ ปฏิโลมํ, ตโต ปิณฺฑาย คจฺฉติ.

๑๑๘๒.

‘‘ตาทิสํ ภิกฺขุํ มาสาทิ, มาตฺตานํ ขณิ พฺราหฺมณ;

อภิปฺปสาเทหิ มนํ, อรหนฺตมฺหิ ตาทิเน;

ขิปฺปํ ปฺชลิโก วนฺท, มา เต วิชฏิ มตฺถกํ.

๑๑๘๓.

‘‘เนโส ปสฺสติ สทฺธมฺมํ, สํสาเรน ปุรกฺขโต;

อโธคมํ ชิมฺหปถํ, กุมฺมคฺคมนุธาวติ.

๑๑๘๔.

‘‘กิมีว มีฬฺหสลฺลิตฺโต, สงฺขาเร อธิมุจฺฉิโต;

ปคาฬฺโห ลาภสกฺกาเร, ตุจฺโฉ คจฺฉติ โปฏฺิโล.

๑๑๘๕.

‘‘อิมฺจ ปสฺส อายนฺตํ, สาริปุตฺตํ สุทสฺสนํ;

วิมุตฺตํ อุภโตภาเค, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตํ.

๑๑๘๖.

‘‘วิสลฺลํ ขีณสํโยคํ, เตวิชฺชํ มจฺจุหายินํ;

ทกฺขิเณยฺยํ มนุสฺสานํ, ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ.

๑๑๘๗. ‘‘เอเต สมฺพหุลา เทวา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน.

ทส เทวสหสฺสานิ, สพฺเพ พฺรหฺมปุโรหิตา;

โมคฺคลฺลานํ นมสฺสนฺตา, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา.

๑๑๘๘.

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริส.

๑๑๘๙.

‘‘ปูชิโต นรเทเวน, อุปฺปนฺโน มรณาภิภู;

ปุณฺฑรีกํว โตเยน, สงฺขาเรนุปลิมฺปติ.

๑๑๙๐.

‘‘ยสฺส มุหุตฺเตน สหสฺสธา โลโก, สํวิทิโต สพฺรหฺมกปฺโป วสิ;

อิทฺธิคุเณ จุตุปปาเต กาเล, ปสฺสติ เทวตา ส ภิกฺขุ.

๑๑๙๑.

‘‘สาริปุตฺโตว ปฺาย, สีเลน อุปสเมน จ;

โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา.

๑๑๙๒.

‘‘โกฏิสตสหสฺสสฺส, อตฺตภาวํ ขเณน นิมฺมิเน;

อหํ วิกุพฺพนาสุ กุสโล, วสีภูโตมฺหิ อิทฺธิยา.

๑๑๙๓.

‘‘สมาธิวิชฺชาวสิปารมีคโต, โมคฺคลฺลานโคตฺโต อสิตสฺส สาสเน;

ธีโร สมุจฺฉินฺทิ สมาหิตินฺทฺริโย, นาโค ยถา ปูติลตํว พนฺธนํ.

๑๑๙๔.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

๑๑๙๕.

‘‘ยสฺส จตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

๑๑๙๖.

‘‘กีทิโส นิรโย อาสิ, ยตฺถ ทุสฺสี อปจฺจถ;

วิธุรํ สาวกมาสชฺช, กกุสนฺธฺจ พฺราหฺมณํ.

๑๑๙๗.

‘‘สตํ อาสิ อโยสงฺกู, สพฺเพ ปจฺจตฺตเวทนา;

อีทิโส นิรโย อาสิ, ยตฺถ ทุสฺสี อปจฺจถ;

วิธุรํ สาวกมาสชฺช, กกุสนฺธฺจ พฺราหฺมณํ.

๑๑๙๘.

‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;

ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๑๑๙๙.

‘‘มชฺเฌสรสฺมึ ติฏฺนฺติ, วิมานา กปฺปายิโน;

เวฬุริยวณฺณา รุจิรา, อจฺจิมนฺโต ปภสฺสรา;

อจฺฉรา ตตฺถ นจฺจนฺติ, ปุถุ นานตฺตวณฺณิโย.

๑๒๐๐.

‘‘โย เอตมภิชานาติ…เป… กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๑๒๐๑.

‘‘โย เว พุทฺเธน โจทิโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส เปกฺขโต;

มิคารมาตุปาสาทํ, ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยิ.

๑๒๐๒.

‘‘โย เอตมภิชานาติ…เป… กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๑๒๐๓.

‘‘โย เวชยนฺตปาสาทํ, ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยิ;

อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธ, สํเวเชสิ จ เทวตา.

๑๒๐๔.

‘‘โย เอตมภิชานาติ…เป… กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๑๒๐๕.

‘‘โย เวชยนฺตปาสาเท, สกฺกํ โส ปริปุจฺฉติ;

อปิ อาวุโส ชานาสิ, ตณฺหกฺขยวิมุตฺติโย;

ตสฺส สกฺโก วิยากาสิ, ปฺหํ ปุฏฺโ ยถาตถํ.

๑๒๐๖.

‘‘โย เอตมภิชานาติ…เป… กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๑๒๐๗.

‘‘โย พฺรหฺมานํ ปริปุจฺฉติ, สุธมฺมายํ ิโต สภํ;

อชฺชาปิ ตฺยาวุโส สา ทิฏฺิ, ยา เต ทิฏฺิ ปุเร อหุ;

ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ.

๑๒๐๘.

‘‘ตสฺส พฺรหฺมา วิยากาสิ, ปฺหํ ปุฏฺโ ยถาตถํ;

น เม มาริส สา ทิฏฺิ, ยา เม ทิฏฺิ ปุเร อหุ.

๑๒๐๙.

‘‘ปสฺสามิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ;

โสหํ อชฺช กถํ วชฺชํ, อหํ นิจฺโจมฺหิ สสฺสโต.

๑๒๑๐.

‘‘โย เอตมภิชานาติ…เป… กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๑๒๑๑.

‘‘โย มหาเนรุโน กูฏํ, วิโมกฺเขน อผสฺสยิ;

วนํ ปุพฺพวิเทหานํ, เย จ ภูมิสยา นรา.

๑๒๑๒.

‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;

ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๑๒๑๓.

‘‘น เว อคฺคิ เจตยติ, อหํ พาลํ ฑหามิติ;

พาโลว ชลิตํ อคฺคึ, อาสชฺช นํ ปฑยฺหติ.

๑๒๑๔.

‘‘เอวเมว ตุวํ มาร, อาสชฺช นํ ตถาคตํ;

สยํ ฑหิสฺสสิ อตฺตานํ, พาโล อคฺคึว สมฺผุสํ.

๑๒๑๕.

‘‘อปุฺํ ปสวี มาโร, อาสชฺช นํ ตถาคตํ;

กินฺนุ มฺสิ ปาปิม, น เม ปาปํ วิปจฺจติ.

๑๒๑๖.

‘‘กรโต เต จียเต ปาปํ, จิรรตฺตาย อนฺตก;

มาร นิพฺพินฺท พุทฺธมฺหา, อาสํ มากาสิ ภิกฺขุสุ.

๑๒๑๗.

‘‘อิติ มารํ อตชฺเชสิ, ภิกฺขุ เภสกฬาวเน;

ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข, ตตฺเถวนฺตรธายถา’’ติ. –

อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เถโร คาถาโย อภาสิตฺถาติ.

อิมินา อนุกฺกเมน เอกจฺจํ สงฺคหํ อาโรเปตฺวา ปิตา.

ตตฺถ ‘‘อารฺิกา’’ติอาทิกา จตสฺโส คาถา ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน ภาสิตา. อารฺิกาติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อารฺกธุตงฺคสมาทาเนน อารฺิกา. สงฺฆภตฺตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑปาติกงฺคสมาทาเนน ปิณฺฑปาติกา, ฆเร ฆเร ลทฺธปิณฺฑปาเตน ยาปนกา. อุฺฉาปตฺตาคเต รตาติ อุฺฉาจริยาย ปตฺเต อาคเต ปตฺตปริยาปนฺเน รตา, เตเนว อภิรตา สนฺตุฏฺา. ทาเลมุ มจฺจุโน เสนนฺติ อตฺตานํ อนตฺถชนเน สหายภาวูปคมนโต มจฺจุราชสฺส เสนาภูตํ กิเลสวาหินึ สมุจฺฉินฺเทม. อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตาติ โคจรชฺฌตฺเตสุ สุฏฺุ สมาหิตา หุตฺวา, เอเตนสฺส ปทาลนุปายมาห.

ธุนามาติ นิทฺธุนาม วิทฺธํเสม.

สาตติกาติ สาตจฺจการิโน ภาวนาย สตตปวตฺตวีริยา.

‘‘อฏฺิกงฺกลกุฏิเก’’ติอาทิกา จตสฺโส คาถา อตฺตานํ ปโลเภตุํ อุปคตาย คณิกาย โอวาทวเสน อภาสิ. ตตฺถ อฏฺิกงฺกลกุฏิเกติ อฏฺิสงฺขลิกามยกุฏิเก. นฺหารุปสิพฺพิเตติ นวหิ นฺหารุสเตหิ สมนฺตโต สิพฺพิเต. อรฺเ กุฏิโย ทารุทณฺเฑ อุสฺสาเปตฺวา วลฺลิอาทีหิ พนฺธิตฺวา กริยนฺติ, ตฺวํ ปน ปรมเชคุจฺเฉน อฏฺิกงฺกเลน ปรมเชคุจฺเฉเหว นฺหารูหิ พนฺธิตฺวา กตา, อติวิย เชคุจฺฉา ปฏิกฺกูลา จาติ ทสฺเสติ. ธิรตฺถุ ปูเร ทุคฺคนฺเธติ เกสโลมาทิโน นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปูเร ปริปุณฺเณ, ตโต เอว ทุคฺคนฺเธ ธิรตฺถุ ตว ธีกาโร โหตุ. ปรคตฺเต มมายเสติ อิทฺจ เต ทุคฺคนฺธสฺส อุปริ โผฏสมุฏฺานํ ปริสฺสยํ เอวํ อสุจิทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ ปฏิกฺกูลสมาทานํ ตาทิเส เอว อฺสฺมึ ปเทเส โสณสิงฺคาลกิมิกุลาทีนํ คตฺตภูเต กเฬวเร มมตฺตํ กโรสิ.

คูถภสฺเตติ คูถภริตภสฺตสทิเส. ตโจนทฺเธติ ตเจน โอนทฺเธ ฉวิมตฺตปฏิจฺฉาทิตกิพฺพิเส. อุรคณฺฑิปิสาจินีติ อุเร ิตคณฺฑทฺวยวตี ภยานกภาวโต อนตฺถาวหโต จ ปิสาจสทิสี. ยานิ สนฺทนฺติ สพฺพทาติ ยานิ นว โสตานิ, นว วณมุขานิ สพฺพทา รตฺตินฺทิวํ สนฺทนฺติ, สวนฺติ, อสุจึ ปคฺฆรนฺติ.

ปริพนฺธนฺติ สมฺมาปฏิปตฺติปริพนฺธภูตํ. ภิกฺขูติ สํสาเร ภยํ อิกฺขนฺโต ภินฺนกิเลโส วา ทูรโต ปริวชฺชยเตติ มมตฺตํ น กโรติ. มีฬฺหฺจ ยถา สุจิกาโมติ -อิติ นิปาตมตฺตํ. ยถา สุจิชาติโก สุจิเมว อิจฺฉนฺโต สสีสํ นฺหาโต มีฬฺหํ ทิสฺวา ทูรโตว ปริวชฺเชสิ, เอวเมวํ ภิกฺขูติ อตฺโถ.

เอวฺเจ ตํ ชโน ชฺา, ยถา ชานามิ ตํ อหนฺติ เอวํ สรีรสฺิตํ อสุจิปุฺชํ ยถา อหํ ยถาภูตํ ชานามิ, เอวเมว มหาชโน ชาเนยฺย, ตํ อารกา ทูรโตว ปริวชฺเชยฺย. คูถฏฺานํว ปาวุเสติ ปาวุสกาเล กิลินฺนาสุจึ นิรนฺตรํ คูถฏฺานํ วิย สุจิชาติโก. ยสฺมา ปน ตํ ยถาภูตํ น ชานาติ, ตสฺมา ตตฺถ นิมุคฺโค สีสํ น อุกฺขิปตีติ อธิปฺปาโย.

เอวํ เถเรน สรีเร โทเส วิภาวิเต สา คณิกา ลชฺชาวนตมุขา เถเร คารวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ‘‘เอวเมตํ มหาวีรา’’ติ คาถํ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. ตตฺถ เอตฺถ เจเกติ เอวํ ปากฏปฏิกฺกูลสภาเวปิ เอตสฺมึ กาเย เอกจฺเจ สตฺตา อาสตฺติพลวตาย วิสีทนฺติ วิสาทํ อาปชฺชนฺติ. ปงฺกมฺหิว ชรคฺคโว มหากทฺทมกุจฺฉิยํ สมฺปติตทุพฺพลพลิพทฺโท วิย พฺยสนเมว ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ.

ปุน ตํ เถโร มาทิเส เอวรูปา ปฏิปตฺติ นิรตฺถกา วิฆาตาวหา เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อากาสมฺหี’’ติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตสฺสตฺโถ – โย ปุคฺคโล หลิทฺทิยา อฺเน วา รงฺคชาเตน อากาสํ รฺชิตุํ มฺเยฺย, ตสฺส ตํ กมฺมํ วิฆาตุทยํ จิตฺตวิฆาตาวหเมว สิยา, ยถา ตํ อวิสเย โยโค.

ตทากาสสมํ จิตฺตนฺติ ตยิทํ มม จิตฺตํ อากาสสมํ กตฺถจิ อลคฺคภาเวน อชฺฌตฺตํ สุฏฺุ สมาหิตํ, ตสฺมา มา ปาปจิตฺเต อาสาทีติ กาเมสุ นิมุคฺคตาย ลามกจิตฺเต นิหีนจิตฺเต มาทิเส มา อาสาเทหิ. อคฺคิขนฺธํว ปกฺขิมาติ ปกฺขิมา สลโภ อคฺคิกฺขนฺธํ อาสาเทนฺโต อนตฺถเมว ปาปุณาติ, เอวํ สมฺปทมิทํ ตุยฺหนฺติ ทสฺเสติ.

ปสฺส จิตฺตกตนฺติอาทิกา สตฺต คาถา ตเมว คณิกํ ทิสฺวา วิปลฺลตฺตจิตฺตานํ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน วุตฺตา. ตํ สุตฺวา สา คณิกา มงฺกุภูตา อาคตมคฺเคเนว ปลาตา.

ตทาสีติอาทิกา จตสฺโส คาถา อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปรินิพฺพานํ อารพฺภ วุตฺตา. ตตฺถ อเนกาการสมฺปนฺเนติ อเนเกหิ สีลสํวราทิปฺปกาเรหิ ปริปุณฺเณ.

สุขุมํ เต ปฏิวิชฺฌนฺตีติ เต โยคิโน อติสุขุมํ ปฏิวิชฺฌนฺติ นาม. ยถา กึ? วาลคฺคํ อุสุนา ยถา ยถา สตธาภินฺนสฺส วาลสฺส เอกํ อํสุ อคฺคํ รตฺตนฺธการติมิสาย วิชฺชุลฺลโตภาเสน วิชฺฌนฺตา วิยาติ อตฺโถ. เก ปน เตติ อาห ‘‘เย ปฺจกฺขนฺเธ ปสฺสนฺติ, ปรโต โน จ อตฺตโต’’ติ. ตตฺถ ปรโตติ อนตฺตโต. ตสฺส อตฺตคฺคาหปฏิกฺเขปทสฺสนฺเหตํ. เตนาห ‘‘โน จ อตฺตโต’’ติ. เอเตน อนตฺตโต อภิวุฏฺิตสฺส อริยมคฺคสฺส วเสน ทุกฺขสจฺเจ ปริฺาภิสมยํ อาห, ตทวินาภาวโต ปน อิตเรสมฺปิ อภิสมยานํ สุปฺปฏิวิชฺฌตา วุตฺตา เอว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘อนตฺถการกโต ปเร นาม ปฺจุปาทานกฺขนฺธาติ ‘ปรโต ปสฺสนฺตี’ติ อิมินา วิเสสโต สพฺโพปิ สมฺมเทว วุตฺโต’’ติ วทนฺติ. ปจฺจพฺยาธึสูติ ปฏิวิชฺฌึสุ.

สตฺติยา วิย โอมฏฺโติ ปมคาถา ติสฺสตฺเถรํ อารพฺภ วุตฺตา, ทุติยา วฑฺฒมานตฺเถรํ. ตา เหฏฺา วุตฺตตฺถาว.

โจทิโต ภาวิตตฺเตนาติ คาถา ปาสาทกมฺปนสุตฺตนฺตํ อารพฺภ วุตฺตา. ตตฺถ ภาวิตตฺเตน สรีรนฺติมธารินาติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ.

นยิทํ สิถิลมารพฺภาติอาทิกา ทฺเว คาถา หีนวีริยํ เวทนามกํ ทหรภิกฺขุํ อารพฺภ วุตฺตา. ตตฺถ สิถิลมารพฺภาติ สิถิลํ กตฺวา วีริยํ อกตฺวา. อปฺเปน ถามสาติ อปฺปเกน วีริยพเลน นยิทํ นิพฺพานํ อธิคนฺตพฺพํ, มหนฺเตเนว ปน จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริเยน ปตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ.

วิวรมนุปภนฺตีติอาทิกา ทฺเว คาถา อตฺตโน วิเวกภาวํ อารพฺภ วุตฺตา. ตตฺถ พฺรหฺมุนา อภิวนฺทิโตติ มหาพฺรหฺมุนา สเทวเกน โลเกน จ อภิมุเขน หุตฺวา โถมิโต นมสฺสิโต จ.

อุปสนฺตํ อุปรตนฺติอาทิกา ปฺจ คาถา ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ มหากสฺสปตฺเถรํ ทิสฺวา ‘‘กาฬกณฺณี มยา ทิฏฺา’’ติ โอโลเกตฺวา ิตํ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยํ มิจฺฉาทิฏฺิพฺราหฺมณํ ทิสฺวา ตสฺส อนุกมฺปาย ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ มา นสฺสี’’ติ อริยูปวาทปฏิฆาตตฺถํ ‘‘เถรํ วนฺทาหี’’ติ ตํ อุยฺโยเชนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ ชาติสตํ คจฺเฉติ ชาตีนํ สตํ อุปคจฺเฉยฺย. โสตฺติโยติ โสตฺติยชาติโก. เวทสมฺปนฺโนติ าณสมฺปนฺโน. เอตสฺสาติ เถรสฺส. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โย ปุคฺคโล อุทิโตทิตา อสมฺภินฺนา สตพฺราหฺมณชาติโย อนุปฏิปาฏิยา อุปฺปชฺชนวเสน อุปคจฺเฉยฺย, ตตฺถ จ พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสุ นิปฺผตฺตึ คโต ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สิยา พฺราหฺมณวตฺตฺจ ปูเรนฺโต, ตสฺเสตํ วิชฺชาทิอนุฏฺานํ เอตสฺส มหากสฺสปตฺเถรสฺส วนฺทนาย วนฺทนามยปุฺสฺส โสฬสึ กลํ นาคฺฆติ, วนฺทนามยปุฺเมว ตโต มหนฺตตรนฺติ.

อฏฺ วิโมกฺขานีติ รูปชฺฌานาทิเก อฏฺ วิโมกฺเข. ภาวนาวเสน หิ ลทฺธานิ รูปชฺฌานานิ ปจฺจนีกธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุตฺตตํ อภิรติวเสน อารมฺมเณ นิราสงฺคฺจ ปวตฺตึ อุปาทาย ‘‘วิโมกฺขานี’’ติ วุจฺจนฺติ. นิโรธสมาปตฺติ ปน ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา เอว. อิธ ปน ฌานเมว เวทิตพฺพํ. อนุโลมํ ปฏิโลมนฺติ ปมชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว เนวสฺานาสฺายตนา อนุโลมํ, เนวสฺานาสฺายตนโต ปฏฺาย ยาว ปมชฺฌานา ปฏิโลมํ. ปุเรภตฺตนฺติ ภตฺตกิจฺจโต ปุเรเยว. อผสฺสยีติ อเนกาการโวการา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิ. ตโต ปิณฺฑาย คจฺฉตีติ ตโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย, ตโต วา สมาปตฺติสมาปชฺชิตโต ปจฺฉา อิทานิ ปิณฺฑาย คจฺฉตีติ ตทหุ ปวตฺตํ เถรสฺส ปฏิปตฺตึ สนฺธาย วทติ. เถโร ปน ทิวเส ทิวเส ตเถว ปฏิปชฺชติ.

ตาทิสํ ภิกฺขุํ มาสาทีติ ยาทิสสฺส คุณา เอกเทเสน วุตฺตา, ตาทิสํ ตถารูปํ พุทฺธานุพุทฺธํ มหาขีณาสวํ ภิกฺขุํ มา อาสาเทหิ. มาตฺตานํ ขณิ พฺราหฺมณาติ อาสาทเนน จ, พฺราหฺมณ, มา อตฺตานํ ขณิ, อริยูปวาเทน อตฺตโน กุสลธมฺมํ วา อุมฺมุเลหิ. อภิปฺปสาเทหิ มนนฺติ ‘‘สาธุรูโป วต อยํ สมโณ’’ติ อตฺตโน จิตฺตํ ปสาเทหิ. มา เต วิชฏิ มตฺถกนฺติ ตว มตฺถกํ ตสฺมึ กเตน อปราเธน สตฺตธา มา ผลิ. ตสฺมา ตสฺส ปฏิการตฺถํ ขิปฺปเมว ปฺชลิโก วนฺทาติ. พฺราหฺมโณ ตํ สุตฺวา ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต ตาวเทว เถรํ ขมาเปสิ.

เนโส ปสฺสตีติอาทิกา ทฺเว คาถา โปฏฺิลํ นาม ภิกฺขุํ สมฺมา อปฏิปชฺชนฺตํ มิจฺฉาชีวกตํ ทิสฺวา โจทนาวเสน วุตฺตา. ตตฺถ เนโส ปสฺสติ สทฺธมฺมนฺติ เอโส โปฏฺิโล ภิกฺขุ สตํ พุทฺธาทีนํ ธมฺมํ มคฺคผลนิพฺพานํ น ปสฺสติ. กสฺมา? สํสาเรน ปุรกฺขโต สํสารพนฺธนอวิชฺชาทินา ปุรกฺขโต อปาเยสุ นิพฺพตฺตนโต อโธคมํ เหฏฺาคามึ มายาสาเยฺยานุคตตฺตา ชิมฺหปถํ มิจฺฉามคฺคภาวโต กุมฺมคฺคภูตํ มิจฺฉาชีวํ อนุธาวติ อนุปริวตฺตติ.

กิมีว มีฬฺหสลฺลิตฺโตติ คูถกิมี วิย มีฬฺเหน สมนฺตโต ลิตฺโต กิเลสาสุจิวิมิสฺสิเต สงฺขาเร อธิมุจฺฉิโต อชฺฌาปนฺโน. ปคาฬฺโห ลาภสกฺกาเรติ ลาเภ จ สกฺกาเร จ ตณฺหาวเสน ปการโต คาฬฺโห โอคาฬฺโห. ตุจฺโฉ คจฺฉติ โปฏฺิโลติ อธิสีลสิกฺขาภาวโต ตุจฺโฉ อสาโร หุตฺวา โปฏฺิโล ภิกฺขุ คจฺฉติ ปวตฺตติ.

อิมฺจ ปสฺสาติอาทิกา ทฺเว คาถา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ปสํสนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ อิมฺจ ปสฺสาติ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตตฺเถรํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อตฺตโน จิตฺตํ อาลปติ. สุทสฺสนนฺติ อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธานฺเจว ปาริปูริยา สาวกปารมีาณสฺส จ ปาริปูริยา สุนฺทรทสฺสนํ. วิมุตฺตํ อุภโตภาเคติ อุภโตภาคโต วิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺตํ อุภโตภาเคติ อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต, มคฺเคน นามกายโต, ยถารหํ เตหิเยว วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทภาเคหิ วิมุตฺตนฺติ อตฺโถ. สพฺพโส ราคสลฺลาทีนํ อภาเวน วิสลฺลํ กามาทิโยคานํ สมฺมเทว ขีณตฺตา ขีณสํโยคํ สุปริสุทฺธสฺส วิชฺชาตฺตยสฺส อธิคตตฺตา เตวิชฺชํ มจฺจุราชสฺส ภฺชิตตฺตา มจฺจุหายินํ ปสฺสาติ โยชนา.

เอเต สมฺพหุลาติอาทิกา คาถา อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ ปสํสนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ ปูชิโต นรเทเวนาติ นเรหิ จ เทเวหิ จ ปรมาย ปูชาย ปูชิโต. อุปฺปนฺโน มรณาภิภูติ โลเก อุปฺปนฺโน หุตฺวา มรณํ อภิภวิตฺวา ิโต. อถ วา ปูชิโต นรเทเวน สมฺมาสมฺพุทฺเธน การณภูเตน อริยาย ชาติยา อุปฺปนฺโน. สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ ปมํ กมฺมุนา นโร มนุสฺโส หุตฺวา ปจฺฉาปิ อริยาย ชาติยา อุตฺตโม เทโว เทวาติเทโว อโหสิ, ตสฺมา ‘‘นรเทโว’’ติ วุจฺจติ. ปูชิโต นรเทเวน ภควตา ปสํสาวเสน อุปฺปนฺโน มรณาภิภูเต โลเก อุปฺปนฺโน หุตฺวา มรณาภิภู มจฺจุหายี. ปุณฺฑรีกํว โตเยน อุทเกน ปุณฺฑรีกํ วิย สงฺขารคเต ตณฺหาทิฏฺิเลเปน น อุปลิมฺปติ, กตฺถจิปิ อนิสฺสิโตติ อตฺโถ.

ยสฺสาติ เยน. มุหุตฺเตติ ขณมตฺเต กาเล. สหสฺสธาติ สหสฺสปกาโร. โลโกติ โอกาสโลโก. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เยน มหิทฺธิเกน อายสฺมตา มหาโมคฺคลฺลาเนน สหสฺสิโลกธาตุ ขเณเนว สมฺมเทว วิทิโต, ปจฺจกฺขโต าโต สพฺรหฺมกปฺโป มหาพฺรหฺมสทิโส อาวชฺชนาทิวสีภาวปฺปตฺติยา อิทฺธิสมฺปทาย จุตูปปาเต จ วสี. กาเล ปสฺสตีติ ตทนุรูเป กาเล ทิพฺเพน จกฺขุนา เทวตา ปสฺสตีติ.

สาริปุตฺโตวาติอาทิกา คาถา อายสฺมตา มหาโมคฺคลฺลาเนน อตฺตโน คุเณ ปกาเสนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ สาริปุตฺโตวาติ คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – ปฺาย ปฺาสมฺปทาย, สีเลน สีลสมฺปตฺติยา, อุปสเมน กิเลสวูปสเมน, โย ภิกฺขุ ปารงฺคโต ปารํ ปริยนฺตํ อุกฺกํสํ คโต โส สาริปุตฺโต สาวเกหิ ปฺาทีหิ คุเณหิ ปรมุกฺกํสคโต. ปฺาย สีเลน หิ ปรมุกฺกํสคโต. เอตาวปรโม สิยา เอตปรโม เอว, นตฺถิ ตโต อุตฺตรีติ. อิมํ ปน เถโร ยถา สาริปุตฺโต ปฺาย อุตฺตโม, ตถา อหํ สมาธินา อุตฺตโมติ ทีเปตุํ อโวจ. เตเนวาห ‘‘โกฏิสตสหสฺสสฺสา’’ติอาทิ.

ตตฺถ ขเณน นิมฺมิเนติ ขเณเนว โกฏิสตสหสฺสอตฺตภาวํ นิมฺมิเนยฺย นิมฺมิตุํ สมตฺโถ. ตสฺส นิมฺมินเน น มยฺหํ ภาโร อตฺถิ. วิกุพฺพนาสุ กุสโล, วสีภูโตมฺหิ อิทฺธิยาติ น เกวลํ มโนมยวิกุพฺพนาสุ เอว, สพฺพายปิ อิทฺธิยา วสีภาวปฺปตฺโต อมฺหิ.

สมาธิวิชฺชาวสิปารมีคโตติ สวิตกฺกสวิจาราทิสมาธีสุ เจว ปุพฺเพนิวาสาณาทิวิชฺชาสุ จ วสีภาเวน ปารมึ โกฏึ ปตฺโต อสิ. ตสฺส ตณฺหานิสฺสยาทิรหิตสฺส สตฺถุ สาสเน ยถาวุตฺเตหิ คุเณหิ อุกฺกํสคโต. ธิติสมฺปนฺนตาย ธีโร, โมคฺคลฺลานโคตฺโต โมคฺคลฺลาโน, สุฏฺุ ปิตอินฺทฺริยตาย สมาหิตินฺทฺริโย, ยถา หตฺถินาโค ปูติลตาพนฺธนํ สุเขเนว ฉินฺทติ, เอวํ สกลํ กิเลสพนฺธนํ สมุจฺฉินฺทิ เอวาติ.

กีทิโส นิรโย อาสีติอาทโย คาถา โกฏฺํ อนุปวิสิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ิตมารํ ตชฺเชนฺเตน เถเรน วุตฺตา. ตตฺถ กีทิโสติ กึปกาโร. ยตฺถ ทุสฺสีติ ยสฺมึ นิรเย ‘‘ทุสฺสี’’ติ เอวํนาโม มาโร. อปจฺจถาติ นิรยคฺคินา อปจฺจิ. วิธุรํ สาวกนฺติ วิธุรํ นาม กกุสนฺธสฺส ภควโต อคฺคสาวกํ. อาสชฺชาติ ฆฏฺฏยิตฺวา พาธิตฺวา. กกุสนฺธฺจ พฺราหฺมณนฺติ กกุสนฺธฺจ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อาสชฺชาติ อตฺโถ. ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส กุมารํ อาวิสิตฺวา มาเรน ขิตฺตา สกฺขรา เถรสฺส สีเส ปติ.

สตํ อาสิ อโยสงฺกูติ ตสฺมึ กิร นิรเย อุปปนฺนานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติ, ทุสฺสีมารสฺสาปิ ตาทิโสว อโหสิ. อถ นิรยปาลา ตาลกฺขนฺธปฺปมาณานํ อโยสูลานํ อาทิตฺตานํ สมฺปชฺชลิตานํ สโชติภูตานํ สตเมว คเหตฺวา ‘‘อิมสฺมึว เต าเน ิเตน หทเยน จินฺเตตฺวา ปาปํ กต’’นฺติ สุธาโทณิยํ สุธํ โกฏฺเฏนฺตา วิย หทยมชฺฌํ โกฏฺเฏตฺวา ปณฺณาส ชนา ปาทาภิมุขา, ปณฺณาส ชนา สีสาภิมุขา โกฏฺเฏนฺตา คจฺฉนฺติ, เอวํ คจฺฉนฺตา จ ปฺจหิ วสฺสสเตหิ อุโภ อนฺเต ปตฺวา ปุน นิวตฺตมานา ปฺจหิ วสฺสสเตหิ หทยมชฺฌํ อุปคจฺฉนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สตํ อาสิ อโยสงฺกู’’ติ. สพฺเพ ปจฺจตฺตเวทนาติ สยเมว ปาฏิเยกฺกเวทนาชนกา. สา กิร เวทนา มหานิรยเวทนาโต ทุกฺขตรา โหติ, ยถา หิ สิเนหปานสตฺตาหโต ปริหารสตฺตาหํ ทุกฺขตรํ, เอวํ มหานิรยทุกฺขโต อุสฺสเท วุฏฺานเวทนา ทุกฺขตรา. อีทิโส นิรโย อาสีติ อิมสฺมึ าเน เทวทูตสุตฺเตน (อ. นิ. ๓.๓๖; ม. นิ. ๓.๒๖๑) นิรโย ทีเปตพฺโพ.

โย เอตมภิชานาตีติ โย มหาภิฺโ เอตํ กมฺมผลฺจ หตฺถตเล ปิตอามลกํ วิย อภิมุขํ กตฺวา ปจฺจกฺขโต ชานาติ. ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโกติ ภินฺนกิเลโส ภิกฺขุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวโก. กณฺห, ทุกฺขํ นิคจฺฉสีติ เอกนฺตกาฬเกหิ ปาปธมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา, กณฺห มาร, ทุกฺขํ วินฺทิสฺสสิ.

มชฺเฌสรสฺมินฺติ มหาสมุทฺทสฺส มชฺเฌ กิร อุทกํ วตฺถุํ กตฺวา นิพฺพตฺตวิมานานิ กปฺปฏฺิติกานิ โหนฺติ. เตนาห ‘‘วิมานา กปฺปายิโน’’ติ. เตสํ เวฬุริยสฺส วิย วณฺโณ โหติ, ปพฺพตมตฺถเก ชลิตนฬคฺคิขนฺโธ วิย จ เอเตสํ อจฺจิโย โชตนฺติ, เตน เต อติวิย ปภสฺสรา ปภาสมฺปนฺนา โหนฺติ. เตนาห ‘‘เวฬุริยวณฺณา รุจิรา, อจฺจิมนฺโต ปภสฺสรา’’ติ. ปุถุ นานตฺตวณฺณิโยติ นีลาทิวเสน นานตฺตวณฺณา พหู อจฺฉรา ตตฺถ เตสุ วิมาเนสุ นจฺจนฺติ.

โย เอตมภิชานาตีติ โย เอตํ วิมานํ วตฺถุํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ชานาติ. อยฺหิ อตฺโถ วิมานเปตวตฺถูหิ ทีเปตพฺโพ.

พุทฺเธน โจทิโตติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน โจทิโต อุยฺโยชิโต. ภิกฺขุสงฺฆสฺส เปกฺขโตติ มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปสฺสนฺตสฺส. มิคารมาตุปาสาทํ ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยีติ (ม. นิ. ๑.๕๑๓) ปุพฺพาราเม วิสาขาย มหาอุปาสิกาย การิตํ สหสฺสคพฺภปฏิมณฺฑิตํ มหาปาสาทํ อตฺตโน ปาทงฺคุฏฺเน กมฺเปสึ. เอกสฺมิฺหิ สมเย ปุพฺพาราเม ยถาวุตฺตปาสาเท ภควติ วิหรนฺเต สมฺพหุลา นวกตรา ภิกฺขู อุปริปาสาเท นิสินฺนา สตฺถารมฺปิ อจินฺเตตฺวา ติรจฺฉานกถํ กเถตุมารทฺธา, ตํ สุตฺวา ภควา เต สํเวเชตฺวา อตฺตโน ธมฺมเทสนาย ภาชนภูเต กาตุกาโม อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, นเว ภิกฺขู ติรจฺฉานกถมนุยุตฺเต’’ติ. ตํ สุตฺวา เถโร สตฺถุ อชฺฌาสยํ ตฺวา อภิฺาปาทกํ อาโปกสิณารมฺมณํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘ปาสาทสฺส ปติฏฺิโตกาสํ อุทกํ โหตู’’ติ อธิฏฺาย ปาสาทมตฺถเก ถูปิกํ ปาทงฺคุฏฺเน ปหริ, ปาสาโท โอนมิตฺวา เอเกน ปสฺเสน อฏฺาสิ. ปุนปิ ปหริ, อปเรน ปสฺเสน อฏฺาสิ. เต ภิกฺขู ภีตา สํวิคฺคา ปาสาทสฺส ปตนภเยน ตโต นิกฺขมิตฺวา ภควโต สมีเป อฏฺํสุ. สตฺถา เตสํ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา ธมฺมํ เทเสติ. ตํ สุตฺวา เตสุ เกจิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ, เกจิ สกทาคามิผเล, เกจิ อนาคามิผเล, เกจิ อรหตฺตผเล ปติฏฺหึสุ. สฺวายมตฺโถ ปาสาทกมฺปนสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ.

เวชยนฺตปาสาทนฺติ โส เวชยนฺตปาสาโท ตาวตึสภวเน โยชนสหสฺสุพฺเพโธ อเนกสหสฺสนิยฺยูหกูฏาคารปฏิมณฺฑิโต เทวาสุรสงฺคาเม อสุเร ชินิตฺวา สกฺเก เทวานมินฺเท นครมชฺเฌ ิเต อุฏฺิโต วิชยนฺเตน นิพฺพตฺตตฺตา ‘‘เวชยนฺโต’’ติ ลทฺธนาโม ปาสาโท, ตํ สนฺธายาห ‘‘เวชยนฺตปาสาท’’นฺติ. ตมฺปิ หิ อยํ เถโร ปาทงฺคุฏฺเน กมฺเปสิ. เอกสฺมิฺหิ สมเย ภควนฺตํ ปุพฺพาราเม วิหรนฺตํ สกฺโก เทวราชา อุปสงฺกมิตฺวา ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ปุจฺฉิ. ตสฺส ภควา วิสฺสชฺเชติ. โส ตํ สุตฺวา อตฺตมโน ปมุทิโต อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อตฺตโน เทวโลกเมว คโต. อถายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สกฺโก ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวรูปํ คมฺภีรํ นิพฺพานปฏิสํยุตฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉิ, ภควตา จ ปฺโห วิสฺสชฺชิโต, กินฺนุ โข ชานิตฺวา คโต, อุทาหุ อชานิตฺวา? ยํนูนาหํ เทวโลกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ ชาเนยฺย’’นฺติ. โส ตาวเทว ตาวตึสภวนํ คนฺตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. สกฺโก ทิพฺพสมฺปตฺติยา ปมตฺโต หุตฺวา วิกฺเขปํ อกาสิ. เถโร ตสฺส สํเวคชนนตฺถํ เวชยนฺตปาสาทํ ปาทงฺคุฏฺเน กมฺเปสิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘โย เวชยนฺตปาสาทํ, ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยิ;

อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธ, สํเวเชสิ จ เทวตา’’ติ. (ม. นิ. ๑.๕๑๓)

อยํ ปนตฺโถ จูฬตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๓๙๐ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. กมฺปิตากาโร เหฏฺา วุตฺโตเยว.

สกฺกํ โส ปริปุจฺฉตีติ ยถาวุตฺตเมว เถรสฺส ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติปุจฺฉํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อปิ, อาวุโส, ชานาสิ, ตณฺหกฺขยวิมุตฺติโย’’ติ. ตสฺส สกฺโก วิยากาสีติ อิทํ เถเรน ปาสาทกมฺปเน กเต สํวิคฺคหทเยน ปมาทํ ปหาย โยนิโส มนสิ กริตฺวา ปฺหสฺส พฺยากตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. สตฺถารา เทสิตนิยาเมเนว หิ โส ตทา กเถสิ. เตนาห ‘‘ปฺหํ ปุฏฺโ ยถาตถ’’นฺติ. ตตฺถ สกฺกํ โส ปริปุจฺฉตีติ สกฺกํ เทวราชํ โส โมคฺคลฺลานตฺเถโร สตฺถารา เทสิตาย ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติยา สมฺมเทว คหิตภาวํ ปุจฺฉิ. อตีตตฺเถ หิ อิทํ วตฺตมานวจนํ. อปิ, อาวุโส, ชานาสีติ, อาวุโส, อปิ ชานาสิ, กึ ชานาสิ? ตณฺหกฺขยวิมุตฺติโยติ ยถา ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติโย สตฺถารา ตุยฺหํ เทสิตา, ตถา กึ ชานาสีติ ปุจฺฉิ. ตณฺหกฺขยวิมุตฺติโยติ วา ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺตสฺส เทสนํ ปุจฺฉติ.

พฺรหฺมานนฺติ มหาพฺรหฺมานํ. สุธมฺมายํ ิโต สภนฺติ สุธมฺมาย สภาย. อยํ ปน พฺรหฺมโลเก สุธมฺมสภาว, น ตาวตึสภวเน, สุธมฺมสภาวิรหิโต เทวโลโก นาม นตฺถิ. อชฺชาปิ ตฺยาวุโส, สา ทิฏฺิ, ยา เต ทิฏฺิ ปุเร อหูติ อิมํ พฺรหฺมโลกํ อุปคนฺตุํ สมตฺโถ นตฺถิ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา, สตฺถุ อิธาคมนโต ปุพฺเพ ยา ตุยฺหํ ทิฏฺิ อโหสิ, กึ อชฺชาปิ อิทานิปิ สา ทิฏฺิ น วิคตาติ? ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรนฺติ พฺรหฺมโลเก วีติปตนฺตํ มหากปฺปินมหากสฺสปาทีหิ สาวเกหิ ปริวาริตสฺส เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺนสฺส สสาวกสฺส ภควโต โอภาสํ ปสฺสสีติ อตฺโถ. เอกสฺมิฺหิ สมเย ภควา พฺรหฺมโลเก สุธมฺมาย สภาย สนฺนิปติตฺวา สนฺนิสินฺนสฺส – ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํมหิทฺธิโก, โย อิธ อาคนฺตุํ สกฺกุเณยฺยา’’ติ จินฺเตนฺตสฺส พฺรหฺมุโน จิตฺตมฺาย ตตฺถ คนฺตฺวา พฺรหฺมุโน มตฺถเก อากาเส นิสินฺโน เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา โอภาสํ มุฺจนฺโต มหาโมคฺคลฺลานาทีนํ อาคมนํ จินฺเตสิ. สห จินฺตเนน เตปิ ตตฺถ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา สตฺถุ อชฺฌาสยํ ตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปจฺเจกทิสาสุ นิสีทิตฺวา โอภาสํ วิสฺสชฺชิตฺวา สกลพฺรหฺมโลโก เอโกภาโส อโหสิ. สตฺถา พฺรหฺมุโน กลฺลจิตฺตตํ ตฺวา จตุสจฺจปกาสนํ ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน อเนกานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มคฺคผเลสุ ปติฏฺหึสุ, ตํ สนฺธาย โจเทนฺโต ‘‘อชฺชาปิ ตฺยาวุโส, สา ทิฏฺี’’ติ คาถมาห. อยํ ปนตฺโถ พกพฺรหฺมสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ (สํ. นิ. ๑.๑๗๖) –

‘‘เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส พฺรหฺมุโน เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘นตฺถิ โส สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา, โย อิธ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. อถ โข ภควา ตสฺส พฺรหฺมุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อถ โข ภควา ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ เวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา.

‘‘อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควนฺตํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสินฺนํ เตโชธาตุํ สมาปนฺนํ. ทิสฺวาน เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปุรตฺถิมํ ทิสํ นิสฺสาย ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโต.

‘‘อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภควนฺตํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสินฺนํ เตโชธาตุํ สมาปนฺนํ. ทิสฺวาน เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป… เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ทกฺขิณํ ทิสํ นิสฺสาย ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโต.

‘‘อถ โข อายสฺมโต มหากปฺปินสฺส เอตทโหสิ – ‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา มหากปฺปิโน ภควนฺตํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสินฺนํ เตโชธาตุํ สมาปนฺนํ. ทิสฺวาน เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป… เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อถ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน ปจฺฉิมํ ทิสํ นิสฺสาย ตสฺส พฺรหฺมุโน. อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโต.

‘‘อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตี’ติ? อทฺทสา โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควนฺตํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสินฺนํ เตโชธาตุํ สมาปนฺนํ. ทิสฺวาน เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป… เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อุตฺตรํ ทิสํ นิสฺสาย ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริเวหาสํ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นีจตรํ ภควโต. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ พฺรหฺมานํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘อชฺชาปิ เต อาวุโส สา ทิฏฺิ, ยา เต ทิฏฺิ ปุเร อหุ;

ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรนฺติ.

‘‘น เม มาริส สา ทิฏฺิ, ยา เม ทิฏฺิ ปุเร อหุ;

ปสฺสามิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ;

สฺวาหํ อชฺช กถํ วชฺชํ, อหํ นิจฺโจมฺหิ สสฺสโต’’ติ.

‘‘อถ โข ภควา ตํ พฺรหฺมานํ สํเวเชตฺวา เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส…เป… เอวเมว ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิ. อถ โข โส พฺรหฺมา อฺตรํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, มาริส, เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอวํ วเทหิ ‘อตฺถิ นุ โข มาริส โมคฺคลฺลาน, อฺเปิ ตสฺส ภควโต สาวกา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา เสยฺยถาปิ ภวํ โมคฺคลฺลาโน, กสฺสโป, กปฺปิโน, อนุรุทฺโธ’’’ติ. ‘‘เอวํ, มาริสา’’ติ โข โส พฺรหฺมปาริสชฺโช ตสฺส พฺรหฺมุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, อฺเปิ ตสฺส ภควโต สาวกา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา เสยฺยถาปิ ภวํ โมคฺคลฺลาโน, กสฺสโป, กปฺปิโน, อนุรุทฺโธ’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘เตวิชฺชา อิทฺธิปตฺตา จ, เจโตปริยายโกวิทา;

ขีณาสวา อรหนฺโต, พหู พุทฺธสฺส สาวกา’’ติ.

‘‘อถ โข โส พฺรหฺมปาริสชฺโช อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา เยน โส พฺรหฺมา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ พฺรหฺมานํ เอตทโวจ – อายสฺมา, มาริส มหาโมคฺคลฺลาโน เอวมาห –

‘‘เตวิชฺชา อิทฺธิปตฺตา จ, เจโตปริยายโกวิทา;

ขีณาสวา อรหนฺโต, พหู พุทฺธสฺส สาวกา’’ติ.

‘‘อิทมโวจ โส พฺรหฺมปาริสชฺโช. อตฺตมโน จ โส พฺรหฺมา ตสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส ภาสิตํ อภินนฺที’’ติ.

อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อยํ ปนตฺโถ พกพฺรหฺมสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ’’ติ.

มหาเนรุโน กูฏนฺติ กูฏสีเสน สกลเมว สิเนรุปพฺพตราชํ วทติ. วิโมกฺเขน อผสฺสยีติ ฌานวิโมกฺขนิสฺสเยน อภิฺาเณน ผสฺสยีติ อธิปฺปาโย. วนนฺติ ชมฺพุทีปํ. โส หิ วนพหุลตาย ‘‘วน’’นฺติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ชมฺพุสณฺฑสฺส อิสฺสโร’’ติ. ปุพฺพวิเทหานนฺติ ปุพฺพวิเทหฏฺานํ, ปุพฺพวิเทหนฺติ อตฺโถ. เย จ ภูมิสยา นราติ ภูมิสยา นรา นาม อปรโคยานกา จ อุตฺตรกุรุกา จ มนุสฺสา. เต หิ เคหาภาวโต ‘‘ภูมิสยา’’ติ วุตฺตา. เตปิ สพฺเพ อผสฺสยีติ สมฺพนฺโธ. อยํ ปนตฺโถ นนฺโทปนนฺททมเนน (วิสุทฺธิ. ๒.๓๙๖ นนฺโทปนนฺทนาคทมนกถา) ทีเปตพฺโพ –

‘‘เอกสฺมึ กิร สมเย อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ‘สฺเว, ภนฺเต, ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ มยฺหํ เคเห ภิกฺขํ คณฺหถา’ติ นิมนฺเตตฺวา ปกฺกามิ. ตํทิวสฺจ ภควโต ปจฺจูสสมเย ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกนฺตสฺส นนฺโทปนนฺโท นาม นาคราชา าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉิ. ภควา ‘อยํ นาคราชา มยฺหํ าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉติ, กึ นุ โข ภวิสฺสตี’ติ อาวชฺเชนฺโต สรณคมนสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ‘อยํ มิจฺฉาทิฏฺิโก ตีสุ รตเนสุ อปฺปสนฺโน, โก นุ โข อิมํ มิจฺฉาทิฏฺิโต วิโมเจยฺยา’ติ อาวชฺเชนฺโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อทฺทส.

‘‘ตโต ปภาตาย รตฺติยา สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘อานนฺท, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อาโรเจหิ ตถาคโต เทวจาริกํ คจฺฉตี’ติ. ตํทิวสฺจ นนฺโทปนนฺทสฺส อาปานภูมึ สชฺชยึสุ. โส ทิพฺพรตนปลฺลงฺเก ทิพฺเพน เสตจฺฉตฺเตน ธาริยมาโน ติวิธนาฏเกหิ เจว นาคปริสาย จ ปริวุโต ทิพฺพภาชเนสุ อุปฏฺาปิตํ อนฺนปานวิธึ โอโลกยมาโน นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา ยถา นาคราชา ปสฺสติ, ตถา กตฺวา ตสฺส วิมานมตฺถเกเนว ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ตาวตึสเทวโลกาภิมุโข ปายาสิ.

‘‘เตน โข ปน สมเยน นนฺโทปนนฺทสฺส นาคราชสฺส เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘อิเม หิ นาม มุณฺฑกา สมณกา อมฺหากํ อุปริภวเนน เทวานํ ตาวตึสานํ ภวนํ ปวิสนฺติปิ นิกฺขมนฺติปิ, น อิทานิ อิโต ปฏฺาย อิเมสํ อมฺหากํ มตฺถเก ปาทปํสุํ โอกิรนฺตานํ คนฺตุํ ทสฺสามี’ติ อุฏฺาย สิเนรุปาทํ คนฺตฺวา ตํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สิเนรุํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริ ผณํ กตฺวา ตาวตึสภวนํ อวกุชฺเชน ผเณน ปฏิคฺคเหตฺวา อทสฺสนํ คเมสิ.

‘‘อถ โข อายสฺมา รฏฺปาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘ปุพฺเพ, ภนฺเต, อิมสฺมึ ปเทเส ิโต สิเนรุํ ปสฺสามิ, สิเนรุปริภณฺฑํ ปสฺสามิ, ตาวตึสํ ปสฺสามิ, เวชยนฺตํ ปสฺสามิ, เวชยนฺตสฺส ปาสาทสฺส อุปริ ธชํ ปสฺสามิ. โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย, ยํ เอตรหิ เนว สิเนรุํ ปสฺสามิ…เป… น เวชยนฺตสฺส ปาสาทสฺส อุปริ ธชํ ปสฺสามี’ติ? อยํ, รฏฺปาล, นนฺโทปนนฺโท นาม นาคราชา ตุมฺหากํ กุปิโต สิเนรุํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริ ผเณน ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺธการํ กตฺวา ิโตติ. ‘ทเมมิ นํ, ภนฺเต’ติ. น ภควา นํ อนุชานิ. อถ โข อายสฺมา ภทฺทิโย อายสฺมา ราหุโลติ อนุกฺกเมน สพฺเพปิ ภิกฺขู อุฏฺหึสุ. น ภควา อนุชานิ.

‘‘อวสาเน มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ‘อหํ, ภนฺเต, ทเมมิ น’นฺติ อาห. ‘ทเมหิ, โมคฺคลฺลานา’ติ ภควา อนุชานิ. เถโร อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา มหนฺตํ นาคราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา นนฺโทปนนฺทํ จุทฺทสกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา ตสฺส ผณสฺส มตฺถเก อตฺตโน ผณํ เปตฺวา สิเนรุนา สทฺธึ อภินิปฺปีเฬสิ. นาคราชา ธูมายิ. เถโร ‘น ตุยฺหํเยว สรีเร ธูโม อตฺถิ, มยฺหมฺปิ อตฺถี’ติ ธูมายิ. นาคราชสฺส ธูโม เถรํ น พาธติ. เถรสฺส ปน ธูโม นาคราชํ พาธติ. ตโต นาคราชา ปชฺชลิ. เถโรปิ ‘น ตุยฺหํเยว สรีเร อคฺคิ อตฺถิ, มยฺหมฺปิ อตฺถี’ติ ปชฺชลิ. นาคราชสฺส เตโช เถรํ น พาธติ, เถรสฺส ปน เตโช นาคราชํ พาธติ. นาคราชา ‘อยํ มํ สิเนรุนา อภินิปฺปีเฬตฺวา ธูมายติ เจว ปชฺชลติ จา’ติ จินฺเตตฺวา, ‘โภ, ตุวํ โกสี’ติ ปฏิปุจฺฉิ. อหํ โข, นนฺท, โมคฺคลฺลาโนติ. ภนฺเต, อตฺตโน ภิกฺขุภาเวน ติฏฺาหี’’ติ.

‘‘เถโร ตํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา ตสฺส ทกฺขิณกณฺณโสเตน ปวิสิตฺวา วามกณฺณโสเตน นิกฺขมิ, วามกณฺณโสเตน ปวิสิตฺวา ทกฺขิณกณฺณโสเตน นิกฺขมิ. ตถา ทกฺขิณนาสโสเตน ปวิสิตฺวา วามนาสโสเตน นิกฺขมิ, วามนาสโสเตน ปวิสิตฺวา ทกฺขิณนาสโสเตน นิกฺขมิ. ตโต นาคราชา มุขํ วิวริ. เถโร มุเขน ปวิสิตฺวา อนฺโตกุจฺฉิยํ ปาจีเนน จ ปจฺฉิเมน จ จงฺกมติ. ภควา ‘โมคฺคลฺลาน, มนสิ กโรหิ มหิทฺธิโก นาโค’ติ อาห. เถโร ‘มยฺหํ โข, ภนฺเต, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, ติฏฺตุ, ภนฺเต, นนฺโทปนนฺโท, อหํ นนฺโทปนนฺทสทิสานํ นาคราชานํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ สตสหสฺสมฺปิ ทเมยฺย’นฺติ อาห.

‘‘นาคราชา จินฺเตสิ – ‘ปวิสนฺโต ตาว เม น ทิฏฺโ, นิกฺขมนกาเล ทานิ นํ ทาานฺตเร ปกฺขิปิตฺวา สงฺขาทิสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา ‘นิกฺขมถ, ภนฺเต, มา มํ อนฺโตกุจฺฉิยํ อปราปรํ จงฺกมนฺโต พาธยิตฺถา’ติ อาห. เถโร นิกฺขมิตฺวา พหิ อฏฺาสิ. นาคราชา ‘อยํ โส’ติ ทิสฺวา นาสวาตํ วิสฺสชฺชิ. เถโร จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิ, โลมกูปมฺปิสฺส วาโต จาเลตุํ นาสกฺขิ. ‘อวเสสา ภิกฺขู กิร อาทิโต ปฏฺาย สพฺพปาฏิหาริยานิ กาตุํ สกฺกุเณยฺยุํ, อิมํ ปน านํ ปตฺวา เอวํ ขิปฺปนิสนฺติโน หุตฺวา สมาปชฺชิตุํ นาสกฺขิสฺสนฺตี’ติ เนสํ ภควา นาคราชทมนํ นานุชานิ.

‘‘นาคราชา ‘อหํ อิมสฺส สมณสฺส นาสวาเตน โลมกูปมฺปิ จาเลตุํ นาสกฺขึ, มหิทฺธิโก โส สมโณ’ติ จินฺเตสิ. เถโร อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สุปณฺณรูปํ นิมฺมินิตฺวา สุปณฺณวาตํ ทสฺเสนฺโต นาคราชานํ อนุพนฺธิ, นาคราชา ตํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา มาณวกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา, ‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ สรณํ คจฺฉามี’ติ วทนฺโต เถรสฺส ปาเท วนฺทิ. เถโร ‘สตฺถา, นนฺโท อาคโต, เอหิ ตฺวํ, คมิสฺสามา’ติ นาคราชานํ ทเมตฺวา นิพฺพิสํ กตฺวา, คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. นาคราชา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ สรณํ คจฺฉามี’ติ อาห. ภควา ‘สุขี โหหิ, นาคราชา’ติ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อนาถปิณฺฑิกสฺส นิเวสนํ อคมาสิ.

‘‘อนาถปิณฺฑิโก ‘กึ, ภนฺเต, อติทิวา อาคตตฺถา’ติ อาห. โมคฺคลฺลานสฺส จ นนฺโทปนนฺทสฺส จ สงฺคาโม อโหสีติ. กสฺส ปน, ภนฺเต, ชโย, กสฺส ปราชโยติ? โมคฺคลฺลานสฺส ชโย, นนฺทสฺส ปราชโยติ. อนาถปิณฺฑิโก ‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สตฺตาหํ เอกปฏิปาฏิยา ภตฺตํ, สตฺตาหํ เถรสฺส สกฺการํ กริสฺสามี’ติ วตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ มหาสกฺการํ อกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘นนฺโทปนนฺททมเนน ทีเปตพฺโพ’’’ติ.

โย เอตมภิชานาตีติ เอตํ ยถาวุตฺตํ วิโมกฺขํ ผุสนกรณวเสน ชานาติ.

น เว อคฺคิ เจตยติ, อหํ พาลํ ฑหามีติ เอวํ น อคฺคิ อภิสํเจเตติ, นาปิ ฑหนาย ปโยคํ ปรกฺกมํ กโรติ, พาโล เอว ปน ‘‘อยํ มนฺทาคตี’’ติ อนิชลนฺตํ วิย ชลิตํ อคฺคึ อาสชฺช นํ ปฑยฺหติ, เอวเมว, มาร, น มยํ ฑหิตุกามา, พาเธตุกามา, ตฺวฺเว ปน ตถา อาคมนาทิอตฺเถน ตถาคตํ อคฺคิขนฺธสทิสํ อริยสาวกํ อาสชฺช อตฺตานํ ฑหิสฺสสิ, ฑหทุกฺขโต น มุฺจิสฺสสิ.

อปุฺํ ปสวีติ อปุฺํ ปฏิลภติ. น เม ปาปํ วิปจฺจตีติ มม ปาปํ น วิปจฺจติ, กึ นุ, มาร, เอวํ มฺสิ นยิทมตฺถิ.

กโรโต เต จียเต ปาปนฺติ เอกํเสน กโรนฺตสฺส เต ปาปํ จิรรตฺตาย จิรกาลํ อนตฺถาย ทุกฺขาย อุปจียติ. มาร, นิพฺพินฺท พุทฺธมฺหาติ จตุสจฺจพุทฺธโต พุทฺธสาวกโต นิพฺพินฺท นิพฺพิชฺช ปรโต กมฺมํ. อาสํ มากาสิ ภิกฺขุสูติ ‘‘ภิกฺขู วิโรเธมิ วิเหเสมี’’ติ เอตํ อาสํ มากาสิ.

อิตีติ เอวํ. มารํ อตชฺเชสีติ, ‘‘มาร, นิพฺพินฺท…เป… ภิกฺขุสู’’ติ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน. เภสกฬาวเนติ เอวํนามเก อรฺเ. ตโตติ ตชฺชนเหตุ. โส ทุมฺมโน ยกฺโขติ โส มาโร โทมนสฺสิโก หุตฺวา ตตฺเถว ตสฺมึเยว าเน อนฺตรธายิ, อทสฺสนํ อคมาสิ. อยฺจ คาถา ธมฺมสงฺคายนกาเล ปิตา. ยํ ปเนตฺถ อนฺตรนฺตรา อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.

เอวมยํ มหาเถโร มารํ ตชฺเชตฺวา เทวจาริกานรกจาริกาทิวเสน อฺเหิ สาวเกหิ อสาธารณํ สตฺตูปการํ กตฺวา อายุปริโยสาเน ปรินิพฺพายิ. ปรินิพฺพายนฺโต จ อโนมทสฺสิสฺส ภควโต ปาทมูเล ปณิธานํ กตฺวา ตโต ปฏฺาย ตตฺถ ตตฺถ ภเว อุฬารานิ ปุฺานิ กตฺวา สาวกปารมิยา มตฺถเก ิโตปิ อนฺตรา กตสฺส ปาปกมฺมสฺส วเสน อุฏฺิตาย กมฺมปิโลติกาย ติตฺถิเยหิ อุยฺโยชิเตหิ โจเรหิ พาธิโต อนปฺปกํ สรีรเขทํ กตฺวา ปรินิพฺพายิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๓๗๕, ๓๘๐-๓๙๗) –

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

วิหาสิ หิมวนฺตมฺหิ, เทวสงฺฆปุรกฺขโต.

‘‘ภควา ตโต โอตริตฺวา, วิจริ จาริกํ ชิโน;

สตฺตกายํ อนุคฺคณฺหนฺโต, พาราณสึ อุปาคมิ.

‘‘ขีณาสวสหสฺเสหิ, ปริวุโต โลกนายโก;

โอภาเสนฺโต ทิสา สพฺพา, วิโรจิตฺถ มหามุนิ.

‘‘ตทาหํ คหปติ หุตฺวา, สรเทน มหิทฺธินา;

อุยฺโยชิโต สหาเยน, สตฺถารํ อุปสงฺกมึ.

‘‘อุปสงฺกมิตฺวาน สมฺพุทฺธํ, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;

อตฺตโน ภวนํ เนสิ, มานยนฺโต มหามุนึ.

‘‘อุปฏฺิตํ มหาวีรํ, เทวเทวํ นราสภํ;

สภิกฺขุสงฺฆํ ตปฺเปมิ, อนฺนปาเนนหํ ตทา.

‘‘อนุโมทิ มหาวีโร, สยมฺภู อคฺคปุคฺคโล;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘ยํ โส สงฺฆมปูเชสิ, พุทฺธฺจ โลกนายกํ;

เตน จิตฺตปฺปสาเทน, เทวโลกํ คมิสฺสติ.

‘‘สตฺตสตฺตติกฺขตฺตุฺจ, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

ปถพฺยา รชฺชํ อฏฺสตํ, วสุธํ อาวสิสฺสติ.

‘‘ปฺจปฺาสกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

โภคา อสงฺขิยา ตสฺส, อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ ตาวเท.

‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘นิรยา โส จวิตฺวาน, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;

โกลิโต นาม นาเมน, พฺรหฺมพนฺธุ ภวิสฺสติ.

‘‘โส ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวาน, กุสลมูเลน โจทิโต;

โคตมสฺส ภควโต, ทุติโย เหสฺสติ สาวโก.

‘‘อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, อิทฺธิยา ปารมึ คโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘ปาปมิตฺโตปนิสฺสาย, กามราควสํ คโต;

มาตรํ ปิตรฺจาปิ, ฆาตยึ ทุฏฺมานโส.

‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, นิรยํ อถ มานุสํ;

ปาปกมฺมสมงฺคิตา, ภินฺนสีโส มรามหํ.

‘‘อิทํ ปจฺฉิมกํ มยฺหํ, จริโม วตฺตเต ภโว;

อิธาปิ เอทิโส มยฺหํ, มรณกาเล ภวิสฺสติ.

‘‘ปวิเวกมนุยุตฺโต, สมาธิภาวนารโต;

สพฺพาสเว ปริฺาย, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘ธรณิมฺปิ สุคมฺภีรํ, พหลํ ทุปฺปธํสิยํ;

วามงฺคุฏฺเน โขเภยฺยํ, อิทฺธิยา ปารมึ คโต.

‘‘อสฺมิมานํ น ปสฺสามิ, มาโน มยฺหํ น วิชฺชติ;

สามเณเร อุปาทาย, ครุจิตฺตํ กโรมหํ.

‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมภินีหรึ;

ตาหํ ภูมิมนุปฺปตฺโต, ปตฺโตมฺหิ อาสวกฺขยํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สฏฺินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๑. มหานิปาโต

๑. วงฺคีสตฺเถรคาถาวณฺณนา

สตฺตตินิปาเต นิกฺขนฺตํ วต มํ สนฺตนฺติอาทิกา อายสฺมโต วงฺคีสตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล หํสวตีนคเร มหาโภคกุเล นิพฺพตฺโต, ปุริมนเยเนว วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ปฏิภานวนฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สตฺถุ อธิการกมฺมํ กตฺวา – ‘‘อหมฺปิ อนาคเต ปฏิภานวนฺตานํ อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ กตฺวา, สตฺถารา พฺยากโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วงฺคีโสติ ลทฺธนาโม ตโย เพเท อุคฺคณฺหนฺโต อาจริยํ อาราเธตฺวา, ฉวสีสมนฺตํ นาม สิกฺขิตฺวา ฉวสีสํ นเขน อาโกเฏตฺวา ‘‘อยํ สตฺโต อสุกโยนิยํ นิพฺพตฺโต’’ติ ชานาติ.

พฺราหฺมณา ‘‘อยํ อมฺหากํ ชีวิตมคฺโค’’ติ ตฺวา วงฺคีสํ คเหตฺวา ปฏิจฺฉนฺนยาเน นิสีทาเปตฺวา คามนิคมราชธานิโย วิจรนฺติ. วงฺคีโสปิ ติวสฺสมตฺถเก มตานมฺปิ สีสํ อาหราเปตฺวา นเขน อาโกเฏตฺวา ‘‘อยํ สตฺโต อสุกโยนิยํ นิพฺพตฺโต’’ติ วตฺวา มหาชนสฺส กงฺขจฺเฉทนตฺถํ เต เต ชเน อาวาเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน คตึ กถาเปติ. เตน ตสฺมึ มหาชโน อภิปฺปสีทติ. โส ตํ นิสฺสาย มหาชนสฺส หตฺถโต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ลภตีติ. พฺราหฺมณา วงฺคีสมาทาย ยถารุจึ วิจริตฺวา ปุน สาวตฺถึ อคมํสุ. วงฺคีโส สตฺถุ คุเณ สุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตุกาโม อโหสิ. พฺราหฺมณา ‘‘สมโณ โคตโม มายาย ตํ อาวฏฺเฏสฺสตี’’ติ ปฏิกฺขิปึสุ. วงฺคีโส เตสํ วจนํ อนาทิยิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

ตํ สตฺถา ปุจฺฉิ – ‘‘วงฺคีส, กิฺจิ สิปฺปํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, โภ โคตม, ฉวสีสมนฺตํ นาม ชานามิ. เตน ติวสฺสมตฺถเก มตานมฺปิ สีสํ นเขน อาโกเฏตฺวา นิพฺพตฺตฏฺานํ ชานามี’’ติ. สตฺถา ตสฺส เอกํ นิรเย นิพฺพตฺตสฺส สีสํ ทสฺเสสิ, เอกํ มนุสฺเสสุ, เอกํ เทเวสุ, เอกํ ปรินิพฺพุตสฺส สีสํ ทสฺเสสิ. โส ปมํ สีสํ อาโกเฏตฺวา, ‘‘โภ โคตม, อยํ สตฺโต นิรเย นิพฺพตฺโต’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, วงฺคีส, สุฏฺุ ตยา ทิฏฺํ. อยํ สตฺโต กุหึ นิพฺพตฺโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มนุสฺสโลเก’’ติ. ‘‘อยํ กุหิ’’นฺติ? ‘‘เทวโลเก’’ติ ติณฺณนฺนมฺปิ นิพฺพตฺตฏฺานํ กเถสิ. ปรินิพฺพุตสฺส ปน สีสํ นเขน อาโกเฏนฺโต เนว อนฺตํ น โกฏึ ปสฺสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘น สกฺโกสิ วงฺคีสา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อุปปริกฺขามิ ตาวา’’ติ ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตตฺวา อาโกเฏนฺโตปิ พาหิรกมนฺเตน ขีณาสวสฺส คตึ กถํ ชานิสฺสติ, อถสฺส มตฺถกโต เสโท มุจฺจิ. โส ลชฺชิตฺวา ตุณฺหีภูโต อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา – ‘‘กิลมสิ, วงฺคีสา’’ติ อาห. ‘‘อาม, โภ โคตม, อิมสฺส อุปฺปนฺนฏฺานํ ชานิตุํ น สกฺโกมิ, สเจ ตุมฺเห ชานาถ, กเถถา’’ติ. ‘‘วงฺคีส, อหํ เอตมฺปิ ชานามิ, อิโต อุตฺตริตรมฺปิ ชานามี’’ติ วตฺวา –

‘‘จุตึ โย เวทิ สตฺตานํ, อุปปตฺติฺจ สพฺพโส;

อสตฺตํ สุคตํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

‘‘ยสฺส คตึ น ชานนฺติ, เทวา คนฺธพฺพมานุสา;

ขีณาสวํ อรหนฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติ. (ธ. ป. ๔๑๙-๔๒๐; สุ. นิ. ๖๔๘-๖๔๙) –

อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ. วงฺคีโส ‘‘เตน หิ, โภ โคตม, ตํ วิชฺชํ เม เทถา’’ติ อปจิตึ ทสฺเสตฺวา สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิ. สตฺถา ‘‘อมฺเหหิ สมานลิงฺคสฺส เทมา’’ติ อาห. วงฺคีโส ‘‘ยํกิฺจิ กตฺวา มยา อิมํ มนฺตํ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ พฺราหฺมเณ อาห – ‘‘ตุมฺเห มยิ ปพฺพชนฺเต มา จินฺตยิตฺถ, อหํ มนฺตํ อุคฺคณฺหิตฺวา สกลชมฺพุทีเป เชฏฺโก ภวิสฺสามิ, ตุมฺหากมฺปิ เตน ภทฺทกเมว ภวิสฺสตี’’ติ มนฺตตฺถาย สตฺถุสนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตทา จ เถโร นิคฺโรธกปฺโป ภควโต สนฺติเก ิโต โหติ, ตํ ภควา อาณาเปสิ – ‘‘นิคฺโรธกปฺป, อิมํ ปพฺพาเชหี’’ติ. โส สตฺถุ อาณาย ตํ ปพฺพาเชสิ. อถสฺส สตฺถา ‘‘มนฺตปริวารํ ตาว อุคฺคณฺหาหี’’ติ ทฺวตฺตึสาการกมฺมฏฺานํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานฺจ อาจิกฺขิ. โส ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺโตว วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ. พฺราหฺมณา วงฺคีสํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ, โภ วงฺคีส, สมณสฺม โคตมสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺขิต’’นฺติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘กึ สิปฺปสิกฺขเนน, คจฺฉถ ตุมฺเห, น มยฺหํ ตุมฺเหหิ กตฺตพฺพกิจฺจ’’นฺติ. พฺราหฺมณา ‘‘ตฺวมฺปิ ทานิ สมณสฺส โคตมสฺส วสํ อาปนฺโน, มายาย อาวฏฺฏิโต, กึ มยํ ตว สนฺติเก กริสฺสามา’’ติ อาคตมคฺเคเนว ปกฺกมึสุ. วงฺคีสตฺเถโร วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๕.๙๖-๑๔๒) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ยถาปิ สาคเร อูมิ, คคเน วิย ตารกา;

เอวํ ปาวจนํ ตสฺส, อรหนฺเตหิ จิตฺติตํ.

‘‘สเทวาสุรนาเคหิ, มนุเชหิ ปุรกฺขโต;

สมณพฺราหฺมณากิณฺเณ, ชนมชฺเฌ ชินุตฺตโม.

‘‘ปภาหิ อนุรฺชนฺโต, โลเก โลกนฺตคู ชิโน;

วจเนน วิโพเธนฺโต, เวเนยฺยปทุมานิ โส.

‘‘เวสารชฺเชหิ สมฺปนฺโน, จตูหิ ปุริสุตฺตโม;

ปหีนภยสารชฺโช, เขมปฺปตฺโต วิสารโท.

‘‘อาสภํ ปวรํ านํ, พุทฺธภูมิฺจ เกวลํ;

ปฏิชานาติ โลกคฺโค, นตฺถิ สฺโจทโก กฺวจิ.

‘‘สีหนาทมสมฺภีตํ, นทโต ตสฺส ตาทิโน;

เทวา นโร วา พฺรหฺมา วา, ปฏิวตฺตา น วิชฺชติ.

‘‘เทเสนฺโต ปวรํ ธมฺมํ, สนฺตาเรนฺโต สเทวกํ;

ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ, ปริสาสุ วิสารโท.

‘‘ปฏิภานวตํ อคฺคํ, สาวกํ สาธุสมฺมตํ;

คุณํ พหุํ ปกิตฺเตตฺวา, เอตทคฺเค เปสิ ตํ.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, พฺราหฺมโณ สาธุสมฺมโต;

สพฺพเวทวิทู ชาโต, วาคีโส วาทิสูทโน.

‘‘อุเปจฺจ ตํ มหาวีรํ, สุตฺวาหํ ธมฺมเทสนํ;

ปีติวรํ ปฏิลภึ, สาวกสฺส คุเณ รโต.

‘‘นิมนฺเตตฺวาว สุคตํ, สสงฺฆํ โลกนนฺทนํ;

สตฺตาหํ โภชยิตฺวาหํ, ทุสฺเสหจฺฉาทยึ ตทา.

‘‘นิปจฺจ สิรสา ปาเท, กโตกาโส กตฺชลี;

เอกมนฺตํ ิโต หฏฺโ, สนฺถวึ ชินมุตฺตมํ.

‘‘นโม เต วาทิมทฺทน, นโม เต อิสิสตฺตม;

นโม เต สพฺพโลกคฺค, นโม เต อภยํ กร.

‘‘นโม เต มารมถน, นโม เต ทิฏฺิสูทน;

นโม เต สนฺติสุขท, นโม เต สรณํ กร.

‘‘อนาถานํ ภวํ นาโถ, ภีตานํ อภยปฺปโท;

วิสฺสามภูมิ สนฺตานํ, สรณํ สรเณสินํ.

‘‘เอวมาทีหิ สมฺพุทฺธํ, สนฺถวิตฺวา มหาคุณํ;

อโวจํ วาทิสูทสฺส, คตึ ปปฺโปมิ ภิกฺขุโน.

‘‘ตทา อโวจ ภควา, อนนฺตปฏิภานวา;

โย โส พุทฺธํ อโภเชสิ, สตฺตาหํ สหสาวกํ.

‘‘คุณฺจ เม ปกิตฺเตสิ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ;

เอโส ปตฺถยเต านํ, วาทิสูทสฺส ภิกฺขุโน.

‘‘อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, ลจฺฉเส ตํ มโนรถํ;

เทวมานุสสมฺปตฺตึ, อนุโภตฺวา อนปฺปกํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

วงฺคีโส นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘ตํ สุตฺวา มุทิโต หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;

ปจฺจเยหิ อุปฏฺาสึ, เมตฺตจิตฺโต ตถาคตํ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตุสิตํ อคมาสหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาโต วิปฺปกุเล อหํ;

ปจฺจาชาโต ยทา อาสึ, ชาติยา สตฺตวสฺสิโก.

‘‘สพฺพเวทวิทู ชาโต, วาทสตฺถวิสารโท;

วาทิสฺสโร จิตฺตกถี, ปรวาทปฺปมทฺทโน.

‘‘วงฺเค ชาโตติ วงฺคีโส, วจเน อิสฺสโรติ วา;

วงฺคีโส อิติ เม นามํ, อภวี โลกสมฺมตํ.

‘‘ยทาหํ วิฺุตํ ปตฺโต, ิโต ปมโยพฺพเน;

ตทา ราชคเห รมฺเม, สาริปุตฺตมหทฺทสํ.

‘‘ปิณฺฑาย วิจรนฺตํ ตํ, ปตฺตปาณึ สุสํวุตํ;

อโลลกฺขึ มิตภาณึ, ยุคมตฺตํ นิทกฺขิตํ.

‘‘ตํ ทิสฺวา วิมฺหิโต หุตฺวา, อโวจํ มมนุจฺฉวํ;

กณิการํว นิจิตํ, จิตฺตํ คาถาปทํ อหํ.

‘‘อาจิกฺขิ โส เม สตฺถารํ, สมฺพุทฺธํ โลกนายกํ;

ตทา โส ปณฺฑิโต วีโร, อุตฺตรึ สมโวจ เม.

‘‘วิราคสํหิตํ วากฺยํ, กตฺวา ทุทฺทสมุตฺตมํ;

วิจิตฺตปฏิภาเนหิ, โตสิโต เตน ตาทินา.

‘‘นิปจฺจ สิรสา ปาเท, ปพฺพาเชหีติ มํ พฺรวิ;

ตโต มํ ส มหาปฺโ, พุทฺธเสฏฺมุปานยิ.

‘‘นิปจฺจ สิรสา ปาเท, นิสีทึ สตฺถุ สนฺติเก;

มมาห วทตํ เสฏฺโ, กจฺจิ วงฺคีส ชานาสิ.

‘‘กิฺจิ สิปฺปนฺติ ตสฺสาหํ, ชานามีติ จ อพฺรวึ;

มตสีสํ วนจฺฉุทฺธํ, อปิ พารสวสฺสิกํ;

ตว วิชฺชาวิเสเสน, สเจ สกฺโกสิ วาจย.

‘‘อาโมติ เม ปฏิฺาเต, ตีณิ สีสานิ ทสฺสยิ;

นิรยนรเทเวสุ, อุปปนฺเน อวาจยึ.

‘‘ตทา ขีณาสวสฺเสว, สีสํ ทสฺเสสิ นายโก;

ตโตหํ วิหตารพฺโภ, ปพฺพชฺชํ สมยาจิสํ.

‘‘ปพฺพชิตฺวาน สุคตํ, สนฺถวามิ ตหึ ตหึ;

ตโต มํ กพฺพวิตฺโตสิ, อุชฺฌายนฺติห ภิกฺขโว.

‘‘ตโต วีมํสนตฺถํ เม, อาห พุทฺโธ วินายโก;

ตกฺกิกา ปนิมา คาถา, านโส ปฏิภนฺติ ตํ.

‘‘น กพฺพวิตฺโตหํ วีร, านโส ปฏิภนฺติ มํ;

เตน หิ ทานิ วงฺคีส, านโส สนฺถวาหิ มํ.

‘‘ตทาหํ สนฺถวึ วีรํ, คาถาหิ อิสิสตฺตมํ;

านโส เม ตทา ตุฏฺโ, ชิโน อคฺเค เปสิ มํ.

‘‘ปฏิภาเนน จิตฺเตน, อฺเสมติมฺหํ;

เปสเล เตน สํวิคฺโค, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘ปฏิภานวตํ อคฺโค, อฺโ โกจิ น วิชฺชติ;

ยถายํ ภิกฺขุ วงฺคีโส, เอวํ ธาเรถ ภิกฺขโว.

‘‘สตสหสฺเส กตํ กมฺมํ, ผลํ ทสฺเสสิ เม อิธ;

สุมุตฺโต สรเวโคว, กิเลเส ฌาปยึ มม.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหา ปน หุตฺวา เถโร สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉนฺโต จกฺขุปถโต ปฏฺาย จนฺเทน, สูริเยน, อากาเสน, มหาสมุทฺเทน, สิเนรุนา ปพฺพตราเชน, สีเหน มิครฺา, หตฺถินาเคนาติ เตน เตน สทฺธึ อุปเมนฺโต อเนเกหิ ปทสเตหิ สตฺถารํ วณฺเณนฺโตว อุปคจฺฉติ. เตน ตํ สตฺถา สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺโน ปฏิภานวนฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. อถ เถเรน อรหตฺตปฺปตฺติโต ปุพฺเพ จ ปจฺฉา จ ตํ ตํ จิตฺตํ อาคมฺม ภาสิตา. เถรํ อุทฺทิสฺส อานนฺทตฺเถราทีหิ ภาสิตา จ –

๑๒๑๘.

‘‘นิกฺขนฺตํ วต มํ สนฺตํ, อคารสฺมานคาริยํ;

วิตกฺกา อุปธาวนฺติ, ปคพฺภา กณฺหโต อิเม.

๑๒๑๙.

‘‘อุคฺคปุตฺตา มหิสฺสาสา, สิกฺขิตา ทฬฺหธมฺมิโน;

สมนฺตา ปริกิเรยฺยุํ, สหสฺสํ อปลายินํ.

๑๒๒๐.

‘‘สเจปิ เอตฺตกา ภิยฺโย, อาคมิสฺสนฺติ อิตฺถิโย;

เนว มํ พฺยาธยิสฺสนฺติ, ธมฺเม สมฺหิ ปติฏฺิโต.

๑๒๒๑.

‘‘สกฺขี หิ เม สุตํ เอตํ, พุทฺธสฺสาทิจฺจพนฺธุโน;

นิพฺพานคมนํ มคฺคํ, ตตฺถ เม นิรโต มโน.

๑๒๒๒.

‘‘เอวฺเจ มํ วิหรนฺตํ, ปาปิม อุปคจฺฉสิ;

ตถา มจฺจุ กริสฺสามิ, น เม มคฺคมฺปิ ทกฺขสิ.

๑๒๒๓.

‘‘อรติฺจ รติฺจ ปหาย, สพฺพโส เคหสิตฺจ วิตกฺกํ;

วนถํ น กเรยฺย กุหิฺจิ, นิพฺพนโถ อวนโถ ส ภิกฺขุ.

๑๒๒๔.

‘‘ยมิธ ปถวิฺจ เวหาสํ, รูปคตํ ชคโตคธํ กิฺจิ;

ปริชียติ สพฺพมนิจฺจํ, เอวํ สเมจฺจ จรนฺติ มุตตฺตา.

๑๒๒๕.

‘‘อุปธีสุ ชนา คธิตาเส, ทิฏฺสุเต ปฏิเฆ จ มุเต จ;

เอตฺถ วิโนทย ฉนฺทมเนโช, โย เหตฺถ น ลิมฺปติ มุนิ ตมาหุ.

๑๒๒๖.

‘‘อถ สฏฺิสิตา สวิตกฺกา, ปุถุชฺชนตาย อธมฺมา นิวิฏฺา;

น จ วคฺคคตสฺส กุหิฺจิ, โน ปน ทุฏฺุลฺลคาหี ส ภิกฺขุ.

๑๒๒๗.

‘‘ทพฺโพ จิรรตฺตสมาหิโต, อกุหโก นิปโก อปิหาลุ;

สนฺตํ ปทํ อชฺฌคมา มุนิ, ปฏิจฺจ ปรินิพฺพุโต กงฺขติ กาลํ.

๑๒๒๘.

‘‘มานํ ปชหสฺสุ โคตม, มานปถฺจ ชหสฺสุ อเสสํ;

มานปถมฺหิ ส มุจฺฉิโต, วิปฺปฏิสารีหุวา จิรรตฺตํ.

๑๒๒๙.

‘‘มกฺเขน มกฺขิตา ปชา, มานหตา นิรยํ ปปตนฺติ;

โสจนฺติ ชนา จิรรตฺตํ, มานหตา นิรยํ อุปปนฺนา.

๑๒๓๐.

‘‘น หิ โสจติ ภิกฺขุ กทาจิ, มคฺคชิโน สมฺมา ปฏิปนฺโน;

กิตฺติฺจ สุขฺจานุโภติ, ธมฺมทโสติ ตมาหุ ตถตฺตํ.

๑๒๓๑.

‘‘ตสฺมา อขิโล อิธ ปธานวา, นีวรณานิ ปหาย วิสุทฺโธ;

มานฺจ ปหาย อเสสํ, วิชฺชายนฺตกโร สมิตาวี.

๑๒๓๒.

‘‘กามราเคน ฑยฺหามิ, จิตฺตํ เม ปริฑยฺหติ;

สาธุ นิพฺพาปนํ พฺรูหิ, อนุกมฺปาย โคตม.

๑๒๓๓.

‘‘สฺาย วิปริเยสา, จิตฺตํ เต ปริฑยฺหติ;

นิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ, สุภํ ราคูปสํหิตํ.

๑๒๓๔.

‘‘อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ;

สติ กายคตา ตฺยตฺถุ, นิพฺพิทาพหุโล ภว.

๑๒๓๕.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสสิ.

๑๒๓๖.

‘‘ตเมว วาจํ ภาเสยฺย, ยายตฺตานํ น ตาปเย;

ปเร จ น วิหึเสยฺย, สา เว วาจา สุภาสิตา.

๑๒๓๗.

‘‘ปิยวาจเมว ภาเสยฺย, ยา วาจา ปฏินนฺทิตา;

ยํ อนาทาย ปาปานิ, ปเรสํ ภาสเต ปิยํ.

๑๒๓๘.

‘‘สจฺจํ เว อมตา วาจา, เอส ธมฺโม สนนฺตโน;

สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ, อาหุ สนฺโต ปติฏฺิตา.

๑๒๓๙.

‘‘ยํ พุทฺโธ ภาสติ วาจํ, เขมํ นิพฺพานปตฺติยา;

ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, สา เว วาจานมุตฺตมา.

๑๒๔๐.

‘‘คมฺภีรปฺโ เมธาวี, มคฺคามคฺคสฺส โกวิโท;

สาริปุตฺโต มหาปฺโ, ธมฺมํ เทเสติ ภิกฺขุนํ.

๑๒๔๑.

‘‘สํขิตฺเตนปิ เทเสติ, วิตฺถาเรนปิ ภาสติ;

สาลิกายิว นิคฺโฆโส, ปฏิภานํ อุทิยฺยติ.

๑๒๔๒.

‘‘ตสฺส ตํ เทสยนฺตสฺส, สุณนฺติ มธุรํ คิรํ;

สเรน รชนีเยน, สวนีเยน วคฺคุนา;

อุทคฺคจิตฺตา มุทิตา, โสตํ โอเธนฺติ ภิกฺขโว.

๑๒๔๓.

‘‘อชฺช ปนฺนรเส วิสุทฺธิยา, ภิกฺขู ปฺจสตา สมาคตา;

สํโยชนพนฺธนจฺฉิทา, อนีฆา ขีณปุนพฺภวา อิสี.

๑๒๔๔.

‘‘จกฺกวตฺตี ยถา ราชา, อมจฺจปริวาริโต;

สมนฺตา อนุปริเยติ, สาครนฺตํ มหึ อิมํ.

๑๒๔๕.

‘‘เอวํ วิชิตสงฺคามํ, สตฺถวาหํ อนุตฺตรํ;

สาวกา ปยิรุปาสนฺติ, เตวิชฺชา มจฺจุหายิโน.

๑๒๔๖.

‘‘สพฺเพ ภควโต ปุตฺตา, ปลาเปตฺถ น วิชฺชติ;

ตณฺหาสลฺลสฺส หนฺตารํ, วนฺเท อาทิจฺจพนฺธุนํ.

๑๒๔๗.

‘‘ปโรสหสฺสํ ภิกฺขูนํ, สุคตํ ปยิรุปาสติ;

เทเสนฺตํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ อกุโตภยํ.

๑๒๔๘.

‘‘สุณนฺติ ธมฺมํ วิมลํ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ;

โสภติ วต สมฺพุทฺโธ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขโต.

๑๒๔๙.

‘‘นาคนาโมสิ ภควา, อิสีนํ อิสิสตฺตโม;

มหาเมโฆว หุตฺวาน, สาวเก อภิวสฺสสิ.

๑๒๕๐.

‘‘ทิวา วิหารา นิกฺขมฺม, สตฺถุทสฺสนกมฺยตา;

สาวโก เต มหาวีร, ปาเท วนฺทติ วงฺคิโส.

๑๒๕๑.

‘‘อุมฺมคฺคปถํ มารสฺส, อภิภุยฺย จรติ ปภิชฺช ขีลานิ;

ตํ ปสฺสถ พนฺธปมุฺจ กรํ, อสิตํว ภาคโส ปวิภชฺช.

๑๒๕๒.

‘‘โอฆสฺส หิ นิตรณตฺถํ, อเนกวิหิตํ มคฺคํ อกฺขาสิ;

ตสฺมิฺจ อมเต อกฺขาเต, ธมฺมทสา ิตา อสํหีรา.

๑๒๕๓.

‘‘ปชฺโชตกโร อติวิชฺฌ, สพฺพิตีนํ อติกฺกมมทฺทส;

ตฺวา จ สจฺฉิกตฺวา จ, อคฺคํ โส เทสยิ ทสทฺธานํ.

๑๒๕๔.

‘‘เอวํ สุเทสิเต ธมฺเม, โก ปมาโท วิชานตํ ธมฺมํ;

ตสฺมา หิ ตสฺส ภควโต สาสเน, อปฺปมตฺโต สทา นมสฺสมนุสิกฺเข.

๑๒๕๕.

‘‘พุทฺธานุพุทฺโธ โย เถโร, โกณฺฑฺโ ติพฺพนิกฺกโม;

ลาภี สุขวิหารานํ, วิเวกานํ อภิณฺหโส.

๑๒๕๖.

‘‘ยํ สาวเกน ปตฺตพฺพํ, สตฺถุ สาสนการินา;

สพฺพสฺส ตํ อนุปฺปตฺตํ, อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต.

๑๒๕๗.

‘‘มหานุภาโว เตวิชฺโช, เจโตปริยโกวิโท;

โกณฺฑฺโ พุทฺธทายาโท, ปาเท วนฺทติ สตฺถุโน.

๑๒๕๘.

‘‘นคสฺส ปสฺเส อาสีนํ, มุนึ ทุกฺขสฺส ปารคุํ;

สาวกา ปยิรุปาสนฺติ, เตวิชฺชา มจฺจุหายิโน.

๑๒๕๙.

‘‘เจตสา อนุปริเยติ, โมคฺคลฺลาโน มหิทฺธิโก;

จิตฺตํ เนสํ สมนฺเวสํ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ.

๑๒๖๐.

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ, มุนึ ทุกฺขสฺส ปารคุํ;

อเนกาการสมฺปนฺนํ, ปยิรุปาสนฺติ โคตมํ.

๑๒๖๑.

‘‘จนฺโท ยถา วิคตวลาหเก นเภ, วิโรจติ วีตมโลว ภาณุมา;

เอวมฺปิ องฺคีรส ตฺวํ มหามุนิ, อติโรจสิ ยสสา สพฺพโลกํ.

๑๒๖๒.

‘‘กาเวยฺยมตฺตา วิจริมฺห ปุพฺเพ, คามา คามํ ปุรา ปุรํ;

อถทฺทสาม สมฺพุทฺธํ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ.

๑๒๖๓.

‘‘โส เม ธมฺมมเทเสสิ, มุนิ ทุกฺขสฺส ปารคู;

ธมฺมํ สุตฺวา ปสีทิมฺห, สทฺธา โน อุทปชฺชถ.

๑๒๖๔.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ขนฺเธ อายตนานิ จ;

ธาตุโย จ วิทิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

๑๒๖๕.

‘‘พหูนํ วต อตฺถาย, อุปฺปชฺชนฺติ ตถาคตา;

อิตฺถีนํ ปุริสานฺจ, เย เต สาสนการกา.

๑๒๖๖.

‘‘เตสํ โข วต อตฺถาย, โพธิมชฺฌคมา มุนิ;

ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ, เย นิยามคตทฺทสา.

๑๒๖๗.

‘‘สุเทสิตา จกฺขุมตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อนุกมฺปาย ปาณินํ.

๑๒๖๘.

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๑๒๖๙.

‘‘เอวเมเต ตถา วุตฺตา, ทิฏฺา เม เต ยถา ตถา;

สทตฺโถ เม อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๑๒๗๐.

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, มม พุทฺธสฺส สนฺติเก;

สุวิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ, ยํ เสฏฺํ ตทุปาคมึ.

๑๒๗๑.

‘‘อภิฺาปารมิปฺปตฺโต, โสตธาตุ วิโสธิตา;

เตวิชฺโช อิทฺธิปตฺโตมฺหิ, เจโตปริยโกวิโท.

๑๒๗๒.

‘‘ปุจฺฉามิ สตฺถารมโนมปฺํ, ทิฏฺเว ธมฺเม โย วิจิกิจฺฉานํ เฉตฺตา;

อคฺคาฬเว กาลมกาสิ ภิกฺขุ, าโต ยสสฺสี อภินิพฺพุตตฺโต.

๑๒๗๓.

‘‘นิคฺโรธกปฺโป อิติ ตสฺส นามํ, ตยา กตํ ภควา พฺราหฺมณสฺส;

โส ตํ นมสฺสํ อจริ มุตฺยเปโข, อารทฺธวีริโย ทฬฺหธมฺมทสฺสี.

๑๒๗๔.

‘‘ตํ สาวกํ สกฺก มยมฺปิ สพฺเพ, อฺาตุมิจฺฉาม สมนฺตจกฺขุ;

สมวฏฺิตา โน สวนาย โสตา, ตุวํ โน สตฺถา ตฺวมนุตฺตโรสิ.

๑๒๗๕.

‘‘ฉินฺท โน วิจิกิจฺฉํ พฺรูหิ เมตํ, ปรินิพฺพุตํ เวทย ภูริปฺ;

มชฺเฌว โน ภาส สมนฺตจกฺขุ, สกฺโกว เทวาน สหสฺสเนตฺโต.

๑๒๗๖.

‘‘เย เกจิ คนฺถา อิธ โมหมคฺคา, อฺาณปกฺขา วิจิกิจฺฉานา;

ตถาคตํ ปตฺวา น เต ภวนฺติ, จกฺขุฺหิ เอตํ ปรมํ นรานํ.

๑๒๗๗.

‘‘โน เจ หิ ชาตุ ปุริโส กิเลเส, วาโต ยถา อพฺภฆนํ วิหาเน;

ตโมวสฺส นิวุโต สพฺพโลโก, โชติมนฺโตปิ น ปภาเสยฺยุํ.

๑๒๗๘.

‘‘ธีรา จ ปชฺโชตกรา ภวนฺติ, ตํ ตํ อหํ วีร ตเถว มฺเ;

วิปสฺสินํ ชานมุปาคมิมฺห, ปริสาสุ โน อาวิกโรหิ กปฺปํ.

๑๒๗๙.

‘‘ขิปฺปํ คิรํ เอรย วคฺคุ วคฺคุํ, หํโสว ปคฺคยฺห สณิกํ นิกูช;

พินฺทุสฺสเรน สุวิกปฺปิเตน, สพฺเพว เต อุชฺชุคตา สุโณม.

๑๒๘๐.

‘‘ปหีนชาติมรณํ อเสสํ, นิคฺคยฺห โธนํ วเทสฺสามิ ธมฺมํ;

น กามกาโร หิ ปุถุชฺชนานํ, สงฺเขยฺยกาโร จ ตถาคตานํ.

๑๒๘๑.

‘‘สมฺปนฺนเวยฺยากรณํ ตเวทํ, สมุชฺชุปฺสฺส สมุคฺคหีตํ;

อยมฺชลิ ปจฺฉิโม สุปฺปณามิโต, มา โมหยี ชานมโนมปฺ.

๑๒๘๒.

‘‘ปโรปรํ อริยธมฺมํ วิทิตฺวา, มา โมหยี ชานมโนมวีริย;

วารึ ยถา ฆมฺมนิ ฆมฺมตตฺโต, วาจาภิกงฺขามิ สุตํ ปวสฺส.

๑๒๘๓.

‘‘ยทตฺถิกํ พฺรหฺมจริยํ อจรี, กปฺปายโน กจฺจิสฺสตํ อโมฆํ;

นิพฺพายิ โส อาทุ สอุปาทิเสโส, ยถา วิมุตฺโต อหุ ตํ สุโณม.

๑๒๘๔.

‘‘อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ อิธ นามรูเป, (อิติ ภควา,)

กณฺหสฺส โสตํ ทีฆรตฺตานุสยิตํ;

อตาริ ชาตึ มรณํ อเสสํ, อิจฺจพฺรวิ ภควา ปฺจเสฏฺโ.

๑๒๘๕.

‘‘เอส สุตฺวา ปสีทามิ, วโจ เต อิสิสตฺตม;

อโมฆํ กิร เม ปุฏฺํ, น มํ วฺเจสิ พฺราหฺมโณ.

๑๒๘๖.

‘‘ยถา วาที ตถา การี, อหุ พุทฺธสฺส สาวโก;

อจฺเฉจฺฉิ มจฺจุโน ชาลํ, ตตํ มายาวิโน ทฬฺหํ.

๑๒๘๗.

‘‘อทฺทส ภควา อาทึ, อุปาทานสฺส กปฺปิโย;

อจฺจคา วต กปฺปาโน, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.

๑๒๘๘.

‘‘ตํ เทวเทวํ วนฺทามิ, ปุตฺตํ เต ทฺวิปทุตฺตม;

อนุชาตํ มหาวีรํ, นาคํ นาคสฺส โอรส’’นฺติ. –

อิมา คาถา สงฺคีติกาเล เอกชฺฌํ กตฺวา สงฺคหํ อาโรปิตา. ตตฺถ ‘‘นิกฺขนฺตํ วต มํ สนฺต’’นฺติอาทโย ปฺจ คาถา อายสฺมา วงฺคีโส นโว อจิรปพฺพชิโต หุตฺวา วิหารํ อุปคตา อลงฺกตปฏิยตฺตา สมฺพหุลา อิตฺถิโย ทิสฺวา อุปฺปนฺนราโค ตํ วิโนเทนฺโต อภาสิ.

ตตฺถ นิกฺขนฺตํ วต มํ สนฺตํ, อคารสฺมานคาริยนฺติ อคารโต นิกฺขนฺตํ อนคาริยํ ปพฺพชิตํ มํ สมานํ. วิตกฺกาติ กามวิตกฺกาทโย ปาปวิตกฺกา. อุปธาวนฺตีติ มม จิตฺตํ อุปคจฺฉนฺติ. ปคพฺภาติ ปาคพฺภิยยุตฺตา วสิโน. ‘‘อยํ เคหโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโต, นยิมํ อนุทฺธํสิตุํ ยุตฺต’’นฺติ เอวํ อปริหารโต นิลฺลชฺชา. กณฺหโตติ กาฬโต, ลามกภาวโตติ อตฺโถ. อิเมติ เตสํ อตฺตโน ปจฺจกฺขตา วุตฺตา.

อสุทฺธชีวิโน ปริวารยุตฺตา มนุสฺสา อุคฺคกิจฺจตาย ‘‘อุคฺคา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปุตฺตา อุคฺคปุตฺตา. มหิสฺสาสาติ มหาอิสฺสาสา. สิกฺขิตาติ ทฺวาทส วสฺสานิ อาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺปา. ทฬฺหธมฺมิโนติ, ทฬฺหธนุโน. ทฬฺหธนุ นาม ทฺวิสหสฺสถามํ วุจฺจติ. ทฺวิสหสฺสถามนฺติ, จ ยสฺส อาโรปิตสฺส ชิยาย พนฺโธ โลหสีสาทีนํ ภาโร ทณฺเฑ คเหตฺวา ยาว กณฺฑปมาณา นภํ อุกฺขิตฺตสฺส ปถวิโต มุจฺจติ. สมนฺตา ปริกิเรยฺยุนฺติ สมนฺตโต กณฺเฑ ขิเปยฺยุํ. กิตฺตกาติ เจ อาห ‘‘สหสฺสํ อปลายิน’’นฺติ. ยุทฺเธ อปรํ มุขานํ สหสฺสมตฺตานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สิกฺขิตา กตหตฺถา อุคฺคา ทฬฺหธนุโน มหิสฺสาสา อุคฺคปุตฺตา สหสฺสมตฺตา กทาจิปิ ยุทฺเธ ปราชยํ อปตฺตา อปฺปมตฺตา สมนฺตโต ตฺวา ถมฺภํ อุปนิสฺสาย สเจปิ วสฺเสยฺยุํ. ตาทิเสหิปิ อิสฺสาสสหสฺเสหิ สมนฺตา สเร ปริกิรียนฺเต สุสิกฺขิโต ปุริโส ทณฺฑํ คเหตฺวา สพฺเพ สเร อตฺตโน สรีเร อปตมาเน กตฺวา ปาทมูเล ปาเตยฺย. ตตฺถ เอโกปิ อิสฺสาโส ทฺเว สเร เอกโต ขิปนฺโต นาม นตฺถิ. อิตฺถิโย ปน รูปารมฺมณาทิวเสน ปฺจ ปฺจ สเร เอกโต ขิปนฺติ, เอวํ ขิปนฺติโย. เอตฺตกา ภิยฺโยติ อิมาหิ อิตฺถีหิ ภิยฺโยปิ พหู อิตฺถิโย อตฺตโน อิตฺถิกุตฺตหาสภาวาทิโต วิธํเสนฺติ.

สกฺขี หิ เม สุตํ เอตนฺติ สมฺมุขา มยา เอตํ สุตํ. นิพฺพานคมนํ มคฺคนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, นิพฺพานคามิมคฺโคติ อตฺโถ, วิปสฺสนํ สนฺธายาห. ตตฺถ เม นิรโต มโนติ ตสฺมึ วิปสฺสนามคฺเค มยฺหํ จิตฺตํ นิรตํ.

เอวฺเจ มํ วิหรนฺตนฺติ เอวํ อนิจฺจอสุภชฺฌานภาวนาย จ วิปสฺสนาภาวนาย จ วิหรนฺตํ มํ. ปาปิมาติ กิเลสมารํ อาลปติ. ตถา มจฺจุ กริสฺสามิ, น เม มคฺคมฺปิ ทกฺขสีติ มยา กตํ มคฺคมฺปิ ยถา น ปสฺสสิ, ตถา มจฺจุ อนฺตํ กริสฺสามีติ โยชนา.

อรติฺจาติอาทิกา ปฺจ คาถา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺเน อรติอาทิเก วิโนเทนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ อรตินฺติ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ ปนฺตเสนาสเนสุ จ อุกฺกณฺนํ. รตินฺติ ปฺจกามคุณรตึ. ปหายาติ ปชหิตฺวา. สพฺพโส เคหสิตฺจ วิตกฺกนฺติ, เคหนิสฺสิตํ ปุตฺตทาราทิปฏิสํยุตฺตํ าติวิตกฺกาทิฺจ มิจฺฉาวิตกฺกํ อนวเสสโต ปหาย. วนถํ น กเรยฺย กุหิฺจีติ อชฺฌตฺติกพาหิรปฺปเภเท สพฺพสฺมึ วตฺถุสฺมึ ตณฺหํ น กเรยฺยํ. นิพฺพนโถ อวนโถ ส ภิกฺขูติ โย หิ สพฺเพน สพฺพํ นิตฺตณฺโห, ตโต เอว กตฺถจิปิ นนฺทิยา อภาวโต อวนโถ, โส ภิกฺขุ นาม สํสาเร ภยสฺส สมฺมเทว อิกฺขณตาย ภินฺนกิเลสตาย จาติ อตฺโถ.

ยมิธ ปถวิฺจ เวหาสํ, รูปคตํ ชคโตคธํ กิฺจีติ ยํกิฺจิ อิธ ปถวีคตํ ภูมินิสฺสิตํ เวหาสํ เวหาสฏฺํ เทวโลกนิสฺสิตํ รูปคตํ รูปชาตํ รุปฺปนสภาวํ ชคโตคธํ โลกิกํ ภวตฺตยปริยาปนฺนํ สงฺขตํ. ปริชียติ สพฺพมนิจฺจนฺติ สพฺพํ ตํ ชราภิภูตํ, ตโต เอว อนิจฺจํ ตโต เอว ทุกฺขํ อนตฺตาติ เอวํ ติลกฺขณาโรปนํ อาห. อยํ เถรสฺส มหาวิปสฺสนาติ วทนฺติ. เอวํ สเมจฺจ จรนฺติ มุตตฺตาติ เอวํ สเมจฺจ อภิสเมจฺจ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ปฏิวิชฺฌิตฺวา มุตตฺตา ปริฺาตตฺตภาวา ปณฺฑิตา จรนฺติ วิหรนฺติ.

อุปธีสูติ ขนฺธูปธิอาทีสุ. ชนาติ อนฺธปุถุชฺชนา. คธิตาเสติ ปฏิพทฺธจิตฺตา. เอตฺถ หิ วิเสสโต กามคุณูปธีสุ ฉนฺโท อปเนตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ทิฏฺสุเต ปฏิเฆ จ มุเต จาติ. ทิฏฺสุเตติ ทิฏฺเ เจว สุเต จ, รูปสทฺเทสูติ อตฺโถ. ปฏิเฆติ ฆฏฺฏนีเย โผฏฺพฺเพ. มุเตติ วุตฺตาวเสเส มุเต, คนฺธรเสสูติ วุตฺตํ โหติ. สารตฺถปกาสนิยํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๐) ‘‘ปฏิฆปเทน คนฺธรสา คหิตา, มุตปเทน โผฏฺพฺพารมฺมณ’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ วิโนทย ฉนฺทมเนโชติ เอตสฺมึ ทิฏฺาทิเภเท ปฺจกามคุเณ กามจฺฉนฺทํ วิโนเทหิ, ตถา สติ สพฺพตฺถ อเนโช อวิกปฺโป ภวสิ. โย เหตฺถ น ลิมฺปติ มุนิ ตมาหูติ โย หิ เอตฺถ กามคุเณ ตณฺหาเลเปน น ลิมฺปติ, ตํ โมเนยฺยธมฺมฏฺโต ‘‘มุนี’’ติ ปณฺฑิตา วทนฺติ. ‘‘อถ สฏฺิสิตา’’ติ ปาฬีติ อธิปฺปาเยน เกจิ ‘‘สฏฺิธมฺมารมฺมณนิสฺสิตา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. ‘‘อฏฺสฏฺิสิตา สวิตกฺกา’’ติ ปน ปาฬิ, อปฺปกฺหิ อูนํ อธิกํ วา น คณนูปคํ โหตีติ. อฏฺสฏฺิสิตาติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตสนฺนิสฺสิตา มิจฺฉาวิตกฺกาติ อตฺโถติ เกจิ วทนฺติ. ทิฏฺิคติกา จ สตฺตาวาสาภาวลทฺธึ อชฺฌูปคตาติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนวาทํ เปตฺวา อิตเรสํ วเสน ‘‘อถ สฏฺิสิตา สวิตกฺกา’’ติ วุตฺตํ. ยถา หิ ตณฺหาเลปาภาเวน ภิกฺขูติ วุจฺจติ, เอวํ ทิฏฺิเลปาภาเวนปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ สฏฺิสิตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุถุชฺชนตาย อธมฺมา นิวิฏฺาติ เต ปน มิจฺฉาวิตกฺกา นิจฺจาทิคาหวเสน อธมฺมา ธมฺมโต อเปตา ปุถุชฺชนตายํ อนฺธพาเล นิวิฏฺา อภินิวิฏฺา. น จ วคฺคคตสฺส กุหิฺจีติ ยตฺถ กตฺถจิ วตฺถุสฺมึ สสฺสตวาทาทิมิจฺฉาทิฏฺิวคฺคคโต, ตํลทฺธิโก น จ อสฺส ภเวยฺย. อฏฺกถายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๐) ปน ‘‘อถ สฏฺิสิตา สวิตกฺกา, ปุถู ชนตาย อธมฺมา นิวิฏฺา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา อถ ฉ อารมฺมณนิสฺสิตา ปุถู อธมฺมวิตกฺกา ชนตาย นิวิฏฺาติ วุตฺตํ. ตถา น จ วคฺคคตสฺส กุหิฺจีติ เตสํ วเสน น กตฺถจิ กิเลสวคฺคคโต ภเวยฺยาติ จ วุตฺตํ. โน ปน ทุฏฺุลฺลคาหี ส ภิกฺขูติ โย กิเลเสหิ ทูสิตตฺตา อติวิย ทุฏฺุลฺลตา จ ทุฏฺุลฺลานํ มิจฺฉาวาทานํ คณฺหนสีโล จ โน อสฺส โน ภเวยฺย, โส ภิกฺขุ นาม โหตีติ.

ทพฺโพติ ทพฺพชาติโก ปณฺฑิโต. จิรรตฺตสมาหิโตติ จิรกาลโต ปฏฺาย สมาหิโต. อกุหโกติ โกหฺรหิโต อสโ อมายาวี. นิปโกติ นิปุโณ เฉโก. อปิหาลูติ นิตฺตณฺโห. สนฺตํ ปทํ อชฺฌคมาติ, นิพฺพานํ อธิคโต. โมเนยฺยธมฺมสมนฺนาคตโต มุนิ. ปรินิพฺพุโตติ อารมฺมณกรณวเสน นิพฺพานํ ปฏิจฺจ สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต. กงฺขติ กาลนฺติ อิทานิ อนุปาทิเสสนิพฺพานตฺถาย กาลํ อาคเมติ. น ตสฺส กิฺจิ กรณียํ อตฺถิ, ยถา เอทิโส ภวิสฺสติ, ตถา อตฺตานํ สมฺปาเทตีติ อธิปฺปาโย.

มานํ ปชหสฺสูติอาทโย จตสฺโส คาถา ปฏิภานสมฺปตฺตึ นิสฺสาย อตฺตโน ปวตฺตมานํ มานํ วิโนเทนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ มานํ ปชหสฺสูติ เสยฺยมานาทินววิธํ มานํ ปริจฺจช. โคตมาติ โคตมโคตฺตสฺส ภควโต สาวกตฺตา อตฺตานํ โคตมโคตฺตํ กตฺวา อาลปติ. มานปถนฺติ มานสฺส ปวตฺติฏฺานภูตํ อโยนิโสมนสิการปริกฺขิตฺตํ ชาติอาทึ ตปฺปฏิพทฺธกิเลสปฺปหาเนน ชหสฺสุ ปชห. อเสสนฺติ สพฺพเมว. มานปถมฺหิ ส มุจฺฉิโตติ มานวตฺถุนิมิตฺตํ มุจฺฉํ อาปนฺโน. วิปฺปฏิสารีหุวา จิรรตฺตนฺติ อิมสฺมึ มานปถานุโยคกฺขเณ วีติวตฺเต ปุพฺเพว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺส, ‘‘นฏฺโหมสฺมี’’ติ วิปฺปฏิสารี อหุวา อโหสิ.

มกฺเขน มกฺขิตา ปชาติ สูราทินา อตฺตานํ อุกฺกํเสตฺวา ปเร วมฺเภตฺวา ปรคุณมกฺขนลกฺขเณน มกฺเขน ปิสิตตฺตา มกฺขี. ปุคฺคโล หิ ยถา ยถา ปเรสํ คุเณ มกฺเขติ, ตถา ตถา อตฺตโน คุเณ ปุฺชติ นิรากโรติ นาม. มานหตาติ มาเนน หตคุณา. นิรยํ ปปตนฺตีติ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.

มคฺคชิโนติ มคฺเคน วิชิตกิเลโส. กิตฺติฺจ สุขฺจาติ วิฺูหิ ปสํสิตฺจ กายิกเจตสิกสุขฺจ อนุโภตีติ ปฏิลภติ. ธมฺมทโสติ ตมาหุ ตถตฺตนฺติ ตํ ตถภาวํ สมฺมาปฏิปนฺนํ ยาถาวโต ธมฺมทสฺสีติ ปณฺฑิตา อาหุ.

อขิโลติ ปฺจเจโตขิลรหิโต. ปธานวาติ สมฺมปฺปธานวีริยสมฺปนฺโน. วิสุทฺโธติ นีวรณสงฺขาตวลาหกาปคเมน วิสุทฺธมานโส. อเสสนฺติ นววิธมฺปิ มานํ อคฺคมคฺเคน ปชหิตฺวา. วิชฺชายนฺตกโร สมิตาวีติ สพฺพโส สมิตกิเลโส ติวิธาย วิชฺชาย ปริโยสานปฺปตฺโต โหตีติ อตฺตานํ โอวทติ.

อเถกทิวสํ อายสฺมา อานนฺโท อฺตเรน ราชมหามตฺเตน นิมนฺติโต ปุพฺพณฺหสมยํ ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ อายสฺมตา วงฺคีเสน ปจฺฉาสมเณน. อถ ตสฺมึ เคเห อิตฺถิโย สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, วนฺทิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, ธมฺมํ สุณนฺติ. อถายสฺมโต วงฺคีสสฺส นวปพฺพชิตสฺส อารมฺมณํ ปริคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส วิสภาคารมฺมเณ ราโค อุปฺปชฺชิ. โส สทฺโธ อุชุชาติโก กุลปุตฺโต ‘‘อยํ เม ราโค วฑฺฒิตฺวา ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกมฺปิ อตฺถํ นาเสยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา ยถานิสินฺโนว เถรสฺส อตฺตโน ปวตฺตึ อาวิกโรนฺโต ‘‘กามราเคนา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยทิปิ กิเลสรชฺชนปริฬาโห กายมฺปิ พาธติ, จิตฺตํ ปน พาเธนฺโต จิรตรํ พาเธตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘กามราเคน ฑยฺหามี’’ติ วตฺวา ‘‘จิตฺตํ เม ปริฑยฺหตี’’ติ วุตฺตํ. นิพฺพาปนนฺติ ราคนิพฺพาปนการณํ ราคปริฬาหสฺส นิพฺพาปนสมตฺถํ โอวาทํ กโรหีติ อตฺโถ.

สฺาย วิปริเยสาติอาทิกา คาถา เตน ยาจิเตน อายสฺมตา อานนฺเทน วุตฺตา. วิปริเยสาติ วิปลฺลาเสน อสุเภ สุภนฺติ ปวตฺเตน วิปรีตคฺคาเหน. นิมิตฺตนฺติ กิเลสชนกนิมิตฺตํ. ปริวชฺเชหีติ ปริพฺพช. สุภํ ราคูปสํหิตนฺติ ราควฑฺฒนารมฺมณํ สุภํ ปริวชฺเชนฺโต อสุภสฺาย ปริวชฺเชยฺย, สพฺพตฺถ อนภิรติสฺาย. ตสฺมา ตทุภยมฺปิ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสุภายา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อสุภายาติ อสุภานุปสฺสนาย. จิตฺตํ ภาเวหิ เอกคฺคํ สุสมาหิตนฺติ อตฺตโน จิตฺตวิกฺเขปาภาเวน เอกคฺคํ อารมฺมเณสุ สุสมาหิตํ อปฺปิตํ กตฺวา ภาเวหิ ตว อสุภานุปสฺสนํ สุกรํ อกฺขามีติ. สติ กายคตา ตฺยตฺถูติ วุตฺตกายคตาสติภาวนา ตยา ภาวิตา พหุลีกตา โหตูติ อตฺโถ. นิพฺพิทาพหุโล ภวาติ อตฺตภาเว สพฺพสฺมิฺจ นิพฺเพทพหุโล โหหิ.

อนิมิตฺตฺจ ภาเวหีติ นิจฺจนิมิตฺตาทีนํ อุคฺฆาฏเนน วิเสสโต อนิจฺจานุปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม, ตโต มานานุสยมุชฺชหาติ ตํ ภาเวนฺโต มคฺคปฏิปาฏิยา อคฺคมคฺคาธิคเมน มานานุสยํ สมุจฺฉินฺท. มานาภิสมยาติ มานสฺส ทสฺสนาภิสมยา เจว ปหานาภิสมยา จ. อุปสนฺโตติ สพฺพโส ราคาทีนํ สนฺตตาย อุปสนฺโต จริสฺสสิ วิหริสฺสสีติ อตฺโถ.

ตเมว วาจนฺติอาทิกา จตสฺโส คาถา ภควตา สุภาสิตสุตฺเต (สํ. นิ. ๑.๒๑๓) เทสิเต โสมนสฺสชาเตน เถเรน ภควนฺตํ สมฺมุขา อภิตฺถวนฺเตน วุตฺตา. ยายตฺตานํ น ตาปเยติ ยาย วาจาย เหตุภูตาย อตฺตานํ วิปฺปฏิสาเรน น ตาเปยฺย น วิเหเยฺย. ปเร จ น วิหึเสยฺยาติ ปเร จ ปเรหิ ภินฺทนฺโต น พาเธยฺย. สา เว วาจา สุภาสิตาติ สา วาจา เอกํเสน สุภาสิตา นาม, ตสฺมา ตเมว วาจํ ภาเสยฺยาติ โยชนา. อิมาย คาถาย อปิสุณวาจาวเสน ภควนฺตํ โถเมติ.

ปฏินนฺทิตาติ ปฏิมุขภาเวน นนฺทิตา ปิยายิตา สมฺปติ อายติฺจ สุณนฺเตหิ สมฺปฏิจฺฉิตา. ยํ อนาทายาติ ยํ วาจํ ภาสนฺโต ปาปานิ ปเรสํ อปฺปิยานิ อนิฏฺานิ ผรุสวจนานิ อนาทาย อคฺคเหตฺวา อตฺถพฺยฺชนมธุรํ ปิยเมว ทีเปติ. ตเมว ปิยวาจํ ภาเสยฺยาติ ปิยวาจาวเสน อภิตฺถวิ.

อมตาติ สาธุภาเวน อมตสทิสา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สจฺจํ หเว สาธุตรํ รสาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๓). นิพฺพานามตปจฺจยตฺตา วา อมตา. เอส ธมฺโม สนนฺตโนติ ยา อยํ สจฺจวาจา นาม, เอส โปราโณ ธมฺโม จริยา ปเวณิ. อิทเมว หิ โปราณานํ อาจิณฺณํ ยํ เต น อลิกํ ภาสึสุ. เตนาห – ‘‘สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ, อาหุ สนฺโต ปติฏฺิตา’’ติ. ตตฺถ สจฺเจ ปติฏฺิตตฺตา เอว อตฺตโน จ ปเรสฺจ อตฺเถ ปติฏฺิตา, อตฺเถ ปติฏฺิตตฺตา เอว ธมฺเม ปติฏฺิตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. สจฺจวิเสสนเมว วา เอตํ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – สจฺเจ ปติฏฺิตา. กีทิเส? อตฺเถ จ ธมฺเม จ, ยํ ปเรสํ อตฺถโต อนเปตตฺตา อตฺถํ อนุปโรธกรํ, ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมํ ธมฺมิกเมว อตฺถํ สาเธตีติ. อิมาย คาถาย สจฺจวาจาวเสน อภิตฺถวิ. เขมนฺติ อภยํ นิรุปทฺทวํ. เกน การเณนาติ เจ? นิพฺพานปตฺติยา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, ยสฺมา กิเลสนิพฺพานํ ปาเปติ, วฏฺฏทุกฺขสฺส จ อนฺตกิริยาย สํวฏฺฏติ, ตสฺมา เขมนฺติ อตฺโถ. อถ วา ยํ พุทฺโธ นิพฺพานปตฺติยา วา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย วาติ ทฺวินฺนํ นิพฺพานธาตูนํ อตฺถาย เขมมคฺคปฺปกาสนโต เขมํ วาจํ ภาสติ. สา เว วาจานมุตฺตมาติ สา วาจา สพฺพวาจานํ เสฏฺาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิมาย คาถาย มนฺตาวจนวเสน ภควนฺตํ อภิตฺถวนฺโต อรหตฺตนิกูเฏน โถมนํ ปริโยสาเปติ.

คมฺภีรปฺโติ ติสฺโส คาถา อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปสํสนวเสน วุตฺตา. ตตฺถ คมฺภีรปฺโติ คมฺภีเรสุ ขนฺธายตนาทีสุ ปวตฺตาย นิปุณาย ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา คมฺภีรปฺโ. เมธาสงฺขาตาย ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคตตฺตา เมธาวี. ‘‘อยํ ทุคฺคติยา มคฺโค, อยํ สุคติยา มคฺโค, อยํ นิพฺพานสฺส มคฺโค’’ติ เอวํ มคฺเค จ อมคฺเค จ โกวิทตาย มคฺคามคฺคสฺส โกวิโท. มหติยา สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปตฺตาย ปฺาย วเสน มหาปฺโ. ธมฺมํ เทเสติ ภิกฺขุนนฺติ สมฺมเทว ปวตฺตึ นิวตฺตึ วิภาเวนฺโต ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺสา ปน เทสนาย ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘สํขิตฺเตนปี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ สํขิตฺเตนปีติ ‘‘จตฺตาริมานิ, อาวุโส, อริยสจฺจานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ทุกฺขํ อริยสจฺจํ…เป… อิมานิ โข, อาวุโส, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, ตสฺมา ติหาวุโส, อิทํ ทุกฺขนฺติ โยโค กรณีโย’’ติ เอวํ สํขิตฺเตนปิ เทเสติ. ‘‘กตมฺจาวุโส, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๗๒-๓๗๓) นเยน ตาเนว วิภชนฺโต วิตฺถาเรนปิ ภาสติ. ขนฺธาทิเทสนาสุปิ เอเสว นโย. สาลิกายิว นิคฺโฆโสติ ยถา มธุรํ อมฺพปกฺกํ สายิตฺวา ปกฺเขหิ วาตํ ทตฺวา มธุรรวํ นิจฺฉาเรนฺติยา สาลิกาย นิคฺโฆโส, เอวํ เถรสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺส มธุโร นิคฺโฆโส โหติ. ธมฺมเสนาปติสฺส หิ ปิตฺตาทีนํ วเสน อปลิพุทฺธวจนํ โหติ, อยทณฺเฑน ปหฏกํสถาลโก วิย สทฺโท นิจฺฉรติ. ปฏิภานํ อุทิยฺยตีติ กเถตุกมฺยตาย สติ สมุทฺทโต วีจิโย วิย อุปรูปริ อนนฺตํ ปฏิภานํ อุฏฺหติ.

ตสฺสาติ ธมฺมเสนาปติสฺส. นฺติ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส. สุณนฺตีติ ยํ โน เถโร กเถติ, ตํ โน โสสฺสามาติ อาทรชาตา สุณนฺติ. มธุรนฺติ อิฏฺํ. รชนีเยนาติ กนฺเตน. สวนีเยนาติ กณฺณสุเขน. วคฺคุนาติ มฏฺเน มโนหเรน. อุทคฺคจิตฺตาติ โอทคฺยปีติยา วเสน อุทคฺคจิตฺตา อลีนจิตฺตา. มุทิตาติ อาโมทิตา ปาโมชฺเชน สมนฺนาคตา. โอเธนฺตีติ อวทหนฺติ อฺาย จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺตา โสตํ อุปเนนฺติ.

อชฺช ปนฺนรเสติอาทิกา จตสฺโส คาถา ปวารณาสุตฺตนฺตเทสนาย (สํ. นิ. ๑.๒๑๕) สตฺถารํ มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุตํ นิสินฺนํ ทิสฺวา โถเมนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ ปนฺนรเสติ ยสฺมิฺหิ สมเย ภควา ปุพฺพาราเม นิสีทนฺโต สายนฺหสมเย สมฺปตฺตปริสาย กาลยุตฺตํ สมยยุตฺตํ ธมฺมํ เทเสตฺวา, อุทกโกฏฺเก คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา, วตฺถนิวสโน เอกํสํ สุคตมหาจีวรํ กตฺวา, มิคารมาตุปาสาเท มชฺฌิมถมฺภํ นิสฺสาย ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา, สมนฺตโต นิสินฺนํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ตทหุโปสเถ ปวารณาทิวเส นิสินฺโน โหติ, อิมสฺมึ ปนฺนรสีอุโปสเถติ อตฺโถ. วิสุทฺธิยาติ วิสุทฺธตฺถาย วิสุทฺธิปวารณาย. ภิกฺขู ปฺจสตา สมาคตาติ, ปฺจสตมตฺตา ภิกฺขู สตฺถารํ ปริวาเรตฺวา นิสชฺชวเสน เจว อชฺฌาสยวเสน จ สมาคตา. เต จ สํโยชนพนฺธนจฺฉิทาติ สํโยชนสงฺขาเต สนฺตานสฺส พนฺธนภูเต กิเลเส ฉินฺทิตฺวา ิตา. ตโต เอว อนีฆา ขีณปุนพฺภวา อิสีติ กิเลสทุกฺขาภาเวน นิทุกฺขา ขีณปุนพฺภวา, อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสิตภาเวน อิสีติ.

วิชิตสงฺคามนฺติ วิชิตกิเลสสงฺคามตฺตา วิชิตมารพลตฺตา วิชิตสงฺคามํ. สตฺถวาหนฺติ อฏฺงฺคิเก อริยมคฺครเถ อาโรเปตฺวา เวเนยฺยสตฺเต วาเหติ สํสารกนฺตารโต อุตฺตาเรตีติ ภควา สตฺถวาโห. เตนาห พฺรหฺมา สหมฺปติ ‘‘อุฏฺเหิ, วีร, วิชิตสงฺคาม, สตฺถวาหา’’ติ (มหาว. ๘; ม. นิ. ๑.๒๘๒), ตํ สตฺถวาหํ อนุตฺตรํ สตฺถารํ สาวกา ปยิรุปาสนฺติ. เตวิชฺชา มจฺจุหายิโนติ เอวรูเปหิ สาวเกหิ ปริวาริโต จกฺกวตฺติ วิย ราชา อมจฺจปริวาริโต ชนปทจาริกวเสน สมนฺตา อนุปริเยตีติ โยชนา.

ปลาโปติ ตุจฺโฉ อนฺโตสารรหิโต, สีลรหิโตติ อตฺโถ. วนฺเท อาทิจฺจพนฺธุนนฺติ อาทิจฺจพนฺธุํ สตฺถารํ ทสพลํ วนฺทามีติ วทติ.

ปโรสหสฺสนฺติอาทิกา จตสฺโส คาถา นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ภควนฺตํ โถเมนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ ปโรสหสฺสนฺติ อติเรกสหสฺสํ, อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสหสฺสานิ สนฺธาย วุตฺตํ. อกุโตภยนฺติ นิพฺพาเน กุโตจิปิ ภยํ นตฺถิ. นิพฺพานํ ปตฺตสฺส จ กุโตจิปิ ภยํ นตฺถีติ นิพฺพานํ อกุโตภยํ นาม.

‘‘อาคุํ น กโรตี’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๕๒๗) วุตฺตการเณหิ ภควา นาโคติ วุจฺจตีติ นาคนาโมสิ ภควาติ. อิสีนํ อิสิสตฺตโมติ สาวกปจฺเจกพุทฺธอิสีนํ อุตฺตโม อิสิ, วิปสฺสีสมฺมาสมฺพุทฺธโต ปฏฺาย อิสีนํ วา สตฺตมโก อิสิ. มหาเมโฆวาติ จาตุทฺทีปิกมหาเมโฆ วิย หุตฺวา.

ทิวา วิหาราติ ปฏิสลฺลานฏฺานโต. สาวโก เต, มหาวีร, ปาเท วนฺทติ วงฺคีโสติ อิทํ เถโร อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน วิเสสาธิคมํ ปกาเสนฺโต วทติ.

อุมฺมคฺคปถนฺติอาทิกา จตสฺโส คาถา ภควตา ‘‘กึ นุ เต, วงฺคีส, อิมา คาถาโย ปุพฺเพ ปริวิตกฺกิตา, อุทาหุ านโส เจตา ปฏิภนฺตี’’ติ ปุจฺฉิเตน านโส ปฏิภนฺตีติ ทสฺเสนฺเตน วุตฺตา. กสฺมา ปเนวํ ตํ ภควา อโวจ? สงฺฆมชฺเฌ กิร กถา อุทปาทิ – ‘‘วงฺคีสตฺเถโร วิสฺสฏฺคนฺโถ เนว อุทฺเทเสน, น ปริปุจฺฉาย, น โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรติ. คาถํ พนฺธนฺโต วณฺณปทานิ กโรนฺโต วิจรตี’’ติ. อถ ภควา ‘‘อิเม ภิกฺขู วงฺคีสสฺส ปฏิภานสมฺปตฺตึ น ชานนฺติ, อหมสฺส ปฏิภานสมฺปตฺตึ ชานาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ นุ โข, วงฺคีสา’’ติอาทินา ปุจฺฉติ. อุมฺมคฺคปถนฺติ อเนกานิ กิเลสุปฺปชฺชนปถานิ. วฏฺฏปฺปสุตปถตาย หิ ปถนฺติ วุตฺตํ. ปภิชฺช ขีลานีติ ราคาทิขีลานิ ปฺจ ภินฺทิตฺวา จรสิ. ตํ ปสฺสถาติ เอวํ อภิภุยฺย จ ฉินฺทิตฺวา จ จรนฺตํ พุทฺธํ ปสฺสถ. พนฺธปมุฺจกรนฺติ พนฺธนโมจนกรํ. อสิตนฺติ อนิสฺสิตํ. ภาคโส ปฏิภชฺชาติ สติปฏฺานาทิโกฏฺาสโต ธมฺมํ ปฏิภชฺชนียํ กตฺวา. ปวิภชฺชาติปิ ปาโ. อุทฺเทสาทิโกฏฺาสโต ปกาเรน วิภชิตฺวา วิภชิตฺวา ธมฺมํ เทเสตีติ อตฺโถ.

โอฆสฺสาติ กามาทิจตุโรฆสฺส. อเนกวิหิตนฺติ สติปฏฺานาทิวเสน อเนกวิธํ อฏฺตึสาย วา กมฺมฏฺานานํ วเสน อเนกปฺปการํ อมตาวหํ มคฺคํ อกฺขาสิ อภาสิ. ตสฺมิฺจ อมเต อกฺขาเตติ ตสฺมึ เตน อกฺขาเต อมเต อมตาวเห. ธมฺมทสาติ ธมฺมสฺส ปสฺสิตาโร. ิตา อสํหีราติ เกนจิ อสํหาริยา หุตฺวา ปติฏฺิตา. อติวิชฺฌาติ อติวิชฺฌิตฺวา. สพฺพฏฺิตีนนฺติ สพฺเพสํ ทิฏฺิฏฺานานํ วิฺาณฏฺิตีนํ วา. อติกฺกมมทฺทสาติ อติกฺกมภูตํ นิพฺพานํ อทฺทส. อคฺคนฺติ อุตฺตมํ ธมฺมํ. อคฺเคติ วา ปาโ, ปมตรนฺติ อตฺโถ. ทสทฺธานนฺติ ปฺจวคฺคิยานํ อคฺคํ ธมฺมํ, อคฺเค วา อาทิโต เทสยีติ อตฺโถ.

ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘เอส ธมฺโม สุเทสิโต’’ติ ชานนฺเตน ปมาโท น กาตพฺโพ, ตสฺมา อนุสิกฺเขติ ติสฺโส สิกฺขา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา มคฺคปฏิปาฏิยา จ สิกฺเขยฺย.

พุทฺธานุพุทฺโธติอาทิกา ติสฺโส คาถา อายสฺมโต อฺาตโกณฺฑฺตฺเถรสฺส โถมนวเสน วุตฺตา. ตตฺถ พุทฺธานุพุทฺโธติ พุทฺธานํ อนุพุทฺโธ. พุทฺธา หิ ปมํ จตฺตาริ สจฺจานิ พุชฺฌึสุ, ปจฺฉา เถโร สพฺพปมํ, ตสฺมา พุทฺธานุพุทฺโธติ. ถิเรหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา เถโร, อกุปฺปธมฺโมติ อตฺโถ. ติพฺพนิกฺกโมติ ทฬฺหวีริโย. สุขวิหารานนฺติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ. วิเวกานนฺติ ติณฺณมฺปิ วิเวกานํ. สพฺพสฺส ตนฺติ ยํ สพฺพสาวเกน ปตฺตพฺพํ, อสฺส อเนน ตํ อนุปฺปตฺตํ. อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโตติ อปฺปมตฺเตน หุตฺวา สิกฺขนฺเตน.

เตวิชฺโช เจโตปริยโกวิโทติ ฉสุ อภิฺาสุ จตสฺโส วทติ, อิตรา ทฺเว ยทิปิ น วุตฺตา, เถโร ปน ฉฬภิฺโว. ยสฺมา เถรํ หิมวนฺเต ฉทฺทนฺตทหโต อาคนฺตฺวา ภควติ ปรมนิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา, วนฺทนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานเสน ภควโต สมฺมุขา เถรํ อภิตฺถวนฺเตน อิมา คาถา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘โกณฺฑฺโ พุทฺธทายาโท, ปาเท วนฺทติ สตฺถุโน’’ติ วุตฺตํ.

นคสฺส ปสฺเสติอาทิกา ติสฺโส คาถา ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ ภควติ กาฬสิลายํ วิหรนฺเต อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตสํ ภิกฺขูนํ จิตฺตํ สมนฺเวสนฺโต อรหตฺตผลวิมุตฺตึ ปสฺสิตฺถ. ตํ ทิสฺวา อายสฺมา วงฺคีโส ภควนฺตํ เถเร จ อภิตฺถวนฺโต อภาสิ. ตตฺถ นคสฺส ปสฺเสติ อิสิคิลิปพฺพตสฺส ปสฺเส กาฬสิลายํ. อาสีนนฺติ นิสินฺนํ.

เจตสาติ อตฺตโน เจโตปริยาเณน. จิตฺตํ เนสํ สมนฺเวสนฺติ เตสํ ขีณาสวภิกฺขูนํ จิตฺตํ สมนฺเวสนฺโต. อนุปริเยตีติ อนุกฺกเมน ปริจฺฉินฺทติ.

เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ ‘‘มุนึ ทุกฺขสฺส ปารคุ’’นฺติ วุตฺตาย สตฺถุสมฺปตฺติยา เจว ‘‘เตวิชฺชา มจฺจุหายิโน’’ติ วุตฺตาย สาวกสมฺปตฺติยา จาติ สพฺเพหิ องฺเคหิ สมฺปนฺนํ สมนฺนาคตํ. มุนินฺติ หิ อิมินา ปเทน โมนสงฺขาเตน าเณน สตฺถุ อนวเสสเยฺยาวโพโธ วุตฺโตติ อนาวรณาเณน ทสพลาณาทีนํ สงฺคโห กโต โหติ, เตนสฺส าณสมฺปทํ ทสฺเสติ. ทุกฺขสฺส ปารคุนฺติ อิมินา ปหานสมฺปทํ. ตทุภเยน จ สตฺถุ อานุภาวสมฺปทาทโย ทสฺสิตา โหนฺติ. เตวิชฺชา มจฺจุหายิโนติ อิมินา สาวกานํ าณสมฺปตฺติทีปเนน จ นิพฺพานธาตุยา อธิคมทีปเนน จ ปททฺวเยน สตฺถุสาวกสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติ. ตถา หิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘มุนึ ทุกฺขสฺส ปารคุํ. อเนกาการสมฺปนฺนํ, ปยิรุปาสนฺติ โคตม’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อเนกาการสมฺปนฺนนฺติ อเนเกหิ อากาเรหิ สมฺปนฺนํ, อเนกาการคุณสมนฺนาคตนฺติ อตฺโถ.

จนฺโท ยถาติ คาถา ภควนฺตํ จมฺปานคเร คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน อเนเกหิ จ เทวนาคสหสฺเสหิ ปริวุตํ อตฺตโน วณฺเณน จ ยสสา จ วิโรจมานํ ทิสฺวา โสมนสฺสชาเตน อภิตฺถวนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ จนฺโท ยถา วิคตวลาหเก นเภติ ยถา สรทสมเย อปคตวลาหเก วลาหกสทิเสน อฺเน จ มหิกาทินา อุปกฺกิเลเสน วิมุตฺเต อากาเส ปุณฺณจนฺโท วิโรจติ, วีตมโลว ภาณุมาติ เตเนว วลาหกาทิอุปกฺกิเลสวิคเมน วิคตมโล ภาณุมา สูริโย ยถา วิโรจติ. เอวมฺปิ, องฺคีรส, ตฺวนฺติ เอวํ องฺเคหิ นิจฺฉรณชุตีหิ ชุติมนฺต ตฺวมฺปิ มหามุนิ ภควา, อติโรจสิ อตฺตโน ยสสา สเทวกํ โลกํ อติกฺกมิตฺวา วิโรจสีติ.

กาเวยฺยมตฺตาติอาทิกา ทส คาถา อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สตฺถุ อตฺตโน จ คุเณ วิภาเวนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ กาเวยฺยมตฺตาติ กาเวยฺเยน กพฺพกรเณน มตฺตา มานิตา สมฺภาวิตา คุโณทยํ อาปนฺนา. อทฺทสามาติ อทฺทสิมฺหา.

อทฺธา โน อุทปชฺชถาติ รตนตฺตยํ อทฺธา อมฺหากํ อุปการตฺถาย อุปฺปชฺชิ.

วจนนฺติ สจฺจปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมกถํ. ขนฺเธ อายตนานิ จ ธาตุโย จาติ ปฺจกฺขนฺเธ ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย จ. อิมสฺมึ าเน ขนฺธาทิกถา วตฺตพฺพา. สา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๒๑ อาทโย) วิตฺถาริตา เอวาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. วิทิตฺวานาติ รูปาทิวิภาคาทิโต อนิจฺจตาทิโต จ ปุพฺพภาคาเณน ชานิตฺวา.

เย เต สาสนการกาติ เย เต สตฺตา ตถาคตานํ สาสนการกา, เตสํ พหูนํ อตฺถาย วต อุปฺปชฺชนฺติ ตถาคตา.

เย นิยามคตทฺทสาติ นิยาโม เอว นิยามคตํ, เย ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย จ สมฺมตฺตนิยามํ อทฺทสํสุ อธิคจฺฉึสุ. เตสํ อตฺถาย วต โพธึ สมฺมาสมฺโพธึ อชฺฌคมา, มุนิ ภควาติ โยชนา.

สุเทสิตาติ เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ สุฏฺุ เทสิตา. จกฺขุมตาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมตา. อตฺตหิตกาเมหิ อรณียานิ กรณียานิ อริยภาวกรานิ, อริยสฺส วา ภควโต สจฺจานีติ อริยสจฺจานิ. ทุกฺขนฺติอาทิ เตสํ อริยสจฺจานํ สรูปทสฺสนํ. อิมสฺมึ าเน อริยสจฺจกถา วตฺตพฺพา, สา สพฺพาการโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๙ อาทโย) วิตฺถาริตาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เอวเมเต ตถาติ เอเต ทุกฺขาทโย อริยสจฺจธมฺมา เอวํ ทุกฺขาทิปฺปกาเรน ตถา อวิตถา อนฺถา. วุตฺตา ทิฏฺา เม เต ยถา ตถาติ ยถา สตฺถารา วุตฺตา, ตถา มยา ทิฏฺา, อริยมคฺคาเณน ปฏิวิทฺธตฺตา เอวํ เตสํ. สทตฺโถ เม อนุปฺปตฺโต อรหตฺตํ มยา สจฺฉิกตํ. ตโต จ กตํ พุทฺธสฺส ภควโต สาสนํ โอวาทานุสิฏฺิยํ อนุปติฏฺโ.

สฺวาคตํ วต เม อาสีติ สุอาคมนํ วต เม อโหสิ. มม พุทฺธสฺส สนฺติเกติ มม สมฺพุทฺธสฺส ภควโต สนฺติเก สมีเป.

อภิฺาปารมิปฺปตฺโตติ ฉนฺนมฺปิ อภิฺานํ ปารมึ, อุกฺกํสํ อธิคโต. อิมินา หิ ปเทน วุตฺตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘โสตธาตุ วิโสธิตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปุจฺฉามิ สตฺถารนฺติอาทิกา ทฺวาทส คาถา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ ปุจฺฉนฺเตน วุตฺตา. อายสฺมโต นิคฺโรธกปฺปตฺเถรสฺส หิ ปรินิพฺพานกาเล อายสฺมา วงฺคีโส อสมฺมุขา อโหสิ. ทิฏฺปุพฺพฺจ เตน ตสฺส หตฺถกุกฺกุจฺจาทิ, ปุพฺพวาสนาวเสน หิ ตาทิสฺจ อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส วสลวาเทน สมุทาจาโร วิย ขีณาสวานมฺปิ โหติเยว. เตน ‘‘ปรินิพฺพุโต นุ โข เม อุปชฺฌาโย, อุทาหุ โน’’ติ อุปฺปนฺนปริวิตกฺโก สตฺถารํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปชฺฌายสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ ปุจฺฉนฺเตน วุตฺตา’’ติ. ตตฺถ สตฺถารนฺติ ทิฏฺธมฺมิกาทีหิ เวเนยฺยานํ อนุสาสกํ. อโนมปฺนฺติ โอมํ วุจฺจติ ปริตฺตํ ลามกํ. น โอมปฺํ อโนมปฺํ, มหาปฺนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ ปจฺจกฺขเมว, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเวติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉานนฺติ สํสยานํ เอวรูปานํ วา ปริวิตกฺกานํ เฉตฺตา. อคฺคาฬเวติ อคฺคาฬวเจติยสงฺขาเต วิหาเร. าโตติ ปากโฏ. ยสสฺสีติ ลาภสกฺการสมฺปนฺโน. อภินิพฺพุตตฺโตติ อุปสนฺตสภาโว อปริฑยฺหมานจิตฺโต.

ตยา กตนฺติ ตาทิเส ฉายาสมฺปนฺเน นิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสินฺนตฺตา ‘‘นิคฺโรธกปฺโป’’ติ ตยา กตํ นามํ. อิติ โส ยถา อตฺตนา อุปลกฺขิตํ ตถา วทติ. ภควา ปน น นิสินฺนตฺตา เอว ตํ ตถา อาลปติ, อปิ จ โข ตตฺถ อรหตฺตํ ปตฺตตฺตาปิ. พฺราหฺมณสฺสาติ ชาตึ สนฺธาย วทติ. โส กิร พฺราหฺมณมหาสาลกุลา ปพฺพชิโต. นมสฺสํ อจรินฺติ นมสฺสมาโน วิหาสึ. มุตฺยเปโขติ นิพฺพาเน ปติฏฺิโต.

ทฬฺหธมฺมทสฺสีติ ภควนฺตํ อาลปติ. ทฬฺหธมฺมฺหิ นิพฺพานํ อภิชฺชนฏฺเน, ตฺจ ภควา ปสฺสิ ทสฺเสสิ จ.

สกฺกาติปิ ภควนฺตเมว กุลนาเมน อาลปติ. มยมฺปิ สพฺเพติ, นิรวเสสปริสํ สงฺคณฺหิตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต วทติ. สมนฺตจกฺขูติปิ ภควนฺตเมว สพฺพฺุตฺาเณน อาลปติ. สมวฏฺิตาติ สมฺมา อวฏฺิตา, อาโภคํ กตฺวา ิตา. โนติ อมฺหากํ. สวนายาติ อิมสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณํ สวนตฺถาย. โสตาติ โสตธาตุยา. ตุวํ โน สตฺถา ตฺวมนุตฺตโรสีติ ถุติวจนวเสน วทติ.

ฉินฺท โน วิจิกิจฺฉนฺติ วิจิกิจฺฉาปฏิรูปกํ ตํ ปริวิตกฺกํ สนฺธายาห. อกุสลวิจิกิจฺฉาย ปน เถโร นิพฺพิจิกิจฺโฉว. พฺรูหิ เมตนฺติ พฺรูหิ เม เอตํ. ยํ มยา ยาจิโตสิ ‘‘ตํ สาวกํ, สกฺก, มยมฺปิ สพฺเพ อฺาตุมิจฺฉามา’’ติ ยาจิโตว, ตํ พฺราหฺมณํ ปรินิพฺพุตํ เวทย ภูริปฺ. มชฺเฌว โน ภาสา’’ติ ปรินิพฺพุตํ ชานิตฺวา มหาปฺ ภควา มชฺเฌว อมฺหากํ สพฺเพสํ ภาส, ยถา สพฺเพ มยํ ชาเนยฺยาม. สกฺโกว เทวาน สหสฺสเนตฺโตติ, อิทํ ปน ถุติวจนเมว. อปิเจตฺถ อยมธิปฺปาโย – ยถา สกฺโก สหสฺสเนตฺโต เทวานํ มชฺเฌ เตหิ สกฺกจฺจํ สมฺปฏิจฺฉิตวจนํ ภาสติ, เอวํ อมฺหากํ มชฺเฌ อมฺเหหิ สมฺปฏิจฺฉิตวจนํ ภาสาติ.

เย เกจีติ อิมมฺปิ คาถํ ภควนฺตํ ถุนนฺโต วตฺตุกามตํ ชเนตุํ ภณติ. ตสฺสตฺโถ – เย เกจิ อภิชฺฌาทโย คนฺถา, เตสํ อปฺปหาเน สติ โมหวิจิกิจฺฉานํ ปหานาภาวโต โมหมคฺคาติ จ, อฺาณปกฺขาติ จ, วิจิกิจฺฉานาติ จ วุจฺจนฺติ. สพฺเพ เต ตถาคตํ ปตฺวา ตถาคตสฺส เทสนาพเลน วิทฺธํสิตา ภวนฺติ, นสฺสนฺติ. กึการณนฺติ? จกฺขุฺหิ เอตํ ปรมํ นรานํ, ยสฺมา ตถาคโต สพฺพคนฺถวิธมเนน ปฺาจกฺขุชนนโต นรานํ ปรมํ จกฺขุนฺติ วุตฺตํ โหติ.

โน เจ หิ ชาตูติ อิมมฺปิ คาถํ ถุนนฺโต เอว วตฺตุกามตํ ชเนนฺโต ภณติ. ตตฺถ ชาตูติ เอกํสวจนํ. ปุริโสติ ภควนฺตํ สนฺธายาห. โชติมนฺโตติ ปฺาโชติสมฺปนฺนา สาริปุตฺตาทโย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ ภควา ปุรตฺถิมาทิเภโท วาโต วิย อพฺภฆนํ เทสนาเวเคน กิเลเส วิหเนยฺย, ตโต ยถา อพฺภฆนนิวุโต โลโก ตโมว โหติ เอกนฺธกาโร, เอวํ สพฺโพปิ โลโก อฺาณนิวุโต ตโมว สิยา. เย จาปิ อิเม อิทานิ โชติมนฺโต ขายนฺติ สาริปุตฺตาทโย, เตปิ น ภาเสยฺยุํ, น ทีเปยฺยุนฺติ.

ธีรา จาติ อิมมฺปิ คาถํ ปุริมนเยเนวาห. ตสฺสตฺโถ – ธีรา จ ปณฺฑิตปุริสา, ปชฺโชตกรา ภวนฺติ ปฺาปชฺโชตํ อุปฺปาเทนฺติ. ตํ ตสฺมา อหํ ตํ วีร ปธานวีริยสมนฺนาคต ภควา, ตเถว มฺเ ธีโร ปชฺโชตกโรตฺเวว มฺามิ. มยมฺปิ วิปสฺสินํ สพฺพธมฺเม ยถาภูตํ ปสฺสนฺตํ ภควนฺตํ ชานนฺตา เอว อุปาคมิมฺหา. ตสฺมา ‘‘ปริสาสุ โน อาวิกโรหิ กปฺปํ ปรินิพฺพุโตว ยถา นิคฺโรธกปฺปํ อาวิกโรหิ ปกาเสหี’’ติ.

ขิปฺปนฺติ อิมมฺปิ คาถํ ปุริมนเยเนว อาห. ตสฺสตฺโถ – ภควา ขิปฺปํ คิรํ เอรย วคฺคุ วคฺคุํ อจิรายมาโน วาจํ ภาส วคฺคุ มโนหรํ. หํโสว ยถา สุวณฺณหํโส โคจรํ ปริคฺคณฺหนฺโต ชาตสฺสรวนสณฺฑํ ทิสฺวา คีวํ ปคฺคยฺห ปกฺเข อุทฺธุนิตฺวา หฏฺตุฏฺโ สณิกํ อตรมาโน วคฺคุํ นิกูชติ คิรํ นิจฺฉาเรติ, เอวเมวํ ตฺวํ สณิกํ นิกูช อิมินา มหาปุริสลกฺขณฺตเรน พินฺทุสฺสเรน สุฏฺุ วิกปฺปิเตน อภิสงฺขเตน, เอเต มยํ สพฺเพ อุชุคตา อวิกฺขิตฺตมานสา หุตฺวา ตว นิกูชํ สุโณมาติ.

ปหีนชาติมรณนฺติ, อิทมฺปิ ปุริมนเยเนว อาห. ตตฺถ น สิสฺสตีติ อเสโส, ตํ อเสสํ, โสตาปนฺนาทโย วิย กิฺจิ อเสเสตฺวา ปหีนชาติมรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิคฺคยฺหาติ นิพนฺธิตฺวา, โธนนฺติ ธุตสพฺพปาปํ. วเทสฺสามีติ กถาเปสฺสามิ ธมฺมํ. น กามกาโร โหหิ ปุถุชฺชนานนฺติ ปุถุชฺชนเสกฺขาทีนํ ติวิธานํ ชนานํ กามกาโร นตฺถิ, เต ยํ อิจฺฉนฺติ าตุํ วา วตฺตุํ วา, ตํ น สกฺโกนฺติ. สงฺเขยฺยกาโร จ ตถาคตานนฺติ ตถาคตานํ ปน วีมํสกาโร ปฺาปุพฺพงฺคมกิริยา, เต ยํ อิจฺฉนฺติ าตุํ วา วตฺตุํ วา, ตํ สกฺโกนฺติเยวาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ ตํ สงฺเขยฺยการํ ปกาเสนฺโต ‘‘สมฺปนฺนเวยฺยากรณ’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ตถา หิ ตว ภควา อิทํ สมุชฺชุปฺสฺส สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตภาเวน อุชุคตปฺสฺส สมฺมเทว วุตฺตํ ปวตฺติตํ สมฺปนฺนเวยฺยากรณํ ‘‘สนฺตติมหามตฺโต สตฺตตาลมตฺตํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสติ, สุปฺปพุทฺโธ สกฺโก สตฺตเม ทิวเส ปถวึ ปวิสิสฺสตี’’ติ เอวมาทึ สมุคฺคหิตํ สมฺมเทว อุคฺคหิตํ อวิปรีตํ ทิฏฺํ, ปุน สุฏฺุตรํ อฺชลึ ปณาเมตฺวา อาห. อยมฺชลิ ปจฺฉิโม สุปฺปณามิโตติ อยํ อปโรปิ อฺชลิ สุฏฺุตรํ ปณามิโต. มา โมหยี ชานนฺติ มา โน อวจเนน โมหยิ, ชานนฺโต ตสฺส คตึ. อโนมปฺาติ ภควนฺตํ อาลปติ.

ปโรปรนฺติ อิมํ ปน คาถํ อปเรนปิ ปริยาเยน อโมหนเมว ยาจนฺโต อาห. ตตฺถ ปโรปรนฺติ โลกุตฺตรโลกิยวเสน สุนฺทราสุนฺทรํ ทูเร สนฺติเก วา. อริยธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ. วิทิตฺวาติ ปฏิวิชฺฌิตฺวา. ชานนฺติ สพฺพํ เยฺยธมฺมํ ชานนฺโต. วาจาภิกงฺขามีติ ยถา ฆมฺมนิ ฆมฺมกาเล อุณฺหาภิตตฺโต ปุริโส กิลนฺโต ตสิโต วารึ, เอวํ เต วาจํ อภิกงฺขามิ. สุตํ ปวสฺสาติ สุตสงฺขาตํ สทฺทายตนํ ปวสฺส ปคฺฆร มุฺจ ปวตฺต. ‘‘สุตสฺส วสฺสา’’ติปิ ปาฬิ. วุตฺตปการสฺส สทฺทายตนสฺส วุฏฺึ วสฺสาติ อตฺโถ.

อิทานิ ยาทิสํ วาจํ อภิกงฺขติ, ตํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยทตฺถิก’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ กปฺปายโนติ กปฺปเมว ปูชาวเสน วทติ. ยถา วิมุตฺโตติ ‘‘กึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ยถา อเสกฺโข, อุทาหุ สอุปาทิเสสาย ยถา เสกฺโข’’ติ วา ปุจฺฉติ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ทฺวาทสหิ คาถาหิ ยาจิโต ภควา ตํ วิยากโรนฺโต ‘‘อจฺเฉจฺฉี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหํ อิธ นามรูเป (อิติ ภควา) กณฺหสฺส โสตํ ทีฆรตฺตานุสยิตนฺติ อิมสฺมึ นามรูเป กามตณฺหาทิเภทา ตณฺหา ทีฆรตฺตํ อปฺปหีนฏฺเน อนุสยิตา กณฺหนามกสฺส มารสฺส โสตนฺติปิ วุจฺจติ. ตํ กณฺหสฺส โสตมุตํ ทีฆรตฺตานุสยิตํ อิธ นามรูเป ตณฺหํ กปฺปายโน ฉินฺทิ. อิติ ภควาติ อิทํ ปน สงฺคีติการานํ วจนํ. อตาริ ชาตึ มรณํ อเสสนฺติ โส ตํ ตณฺหํ เฉตฺวา อเสสํ ชาติมรณํ อตริ อนุปาทิเสสาย ปรินิพฺพายีติ ทสฺเสติ, อิจฺจพฺรวิ ภควา ปฺจเสฏฺโติ อายสฺมตา วงฺคีเสน ปุฏฺโ ภควา เอวํ อโวจ ปฺจหิ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ อนฺสาธารเณหิ จกฺขูหิ วา เสฏฺโ. อถ วา ปฺจเสฏฺโติ ปฺจหิ สีลาทีหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ, ปฺจหิ วา เหตุสมฺปทาทีหิ เสฏฺโ อุตฺตโม ปวโรติ สงฺคีติการานเมวิทมฺปิ วจนํ.

เอวํ วุตฺเต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทมานโส อายสฺมา วงฺคีโส ‘‘เอส สุตฺวา’’ติอาทิกา คาถาโย อาห. ตตฺถ ปมคาถายํ น มํ วฺเจสีติ ยสฺมา ปรินิพฺพุโต, ตสฺมา ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ อิจฺฉนฺตํ มํ น วฺเจสิ, น วิสํวาเทสีติ อตฺโถ. เสสํ ปากฏเมว.

ทุติยคาถายํ ยสฺมา มุตฺยเปโข วิหาสิ, ตสฺมา ตํ สนฺธายาห ‘‘ยถา วาที ตถา การี, อหุ พุทฺธสฺส สาวโก’’ติ. มจฺจุโน ชาลํ ตต’’นฺติ เตภูมกวฏฺเฏ วิตฺถตํ มารสฺส ตณฺหาชาลํ. มายาวิโนติ พหุมายสฺส. ‘‘ตถา มายาวิโน’’ติปิ เกจิ ปนฺติ, เตสํ โย อเนกาหิ มายาหิ อเนกกฺขตฺตุํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิ. ตสฺส ตถา มายาวิโนติ อธิปฺปาโย.

ตติยคาถาย อาทินฺติ มูลการณํ. อุปาทานสฺสาติ วฏฺฏสฺส. วฏฺฏํ ทฬฺเหหิ กมฺมกิเลเสหิ อุปาทาตพฺพฏฺเน ‘‘อุปาทาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺส อุปาทานสฺส อาทึ อวิชฺชาตณฺหาทิเภทํ การณํ าณจกฺขุนา อทฺทส. กปฺโป กปฺปิโยติ เอวํ วตฺตุํ วฏฺฏติ ภควาติ อธิปฺปาเยน วทติ. อจฺจคา วตาติ อติกฺกนฺโต วต. มจฺจุเธยฺยนฺติ มจฺจุ เอตฺถ ธิยฺยตีติ มจฺจุเธยฺยํ, เตภูมกวฏฺฏํ สุทุตฺตรํ อจฺจคา วตาติ เวทชาโต วทติ.

อิทานิ สตฺถริ อตฺตโน อุปชฺฌาเย จ ปสนฺนมานโส ปสนฺนาการํ วิภาเวนฺโต ‘‘ตํ เทวเทว’’นฺติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ตํ เทวเทวํ วนฺทามีติ สมฺมุติเทโว, อุปปตฺติเทโว, วิสุทฺธิเทโวติ เตสํ สพฺเพสมฺปิ เทวานํ อุตฺตมเทวตาย เทวเทวํ ทฺวิปทุตฺตม ภควา ตํ วนฺทามิ. น เกวลํ ตํเยว, อถ โข ตว สจฺจาภิสมฺโพธิยา อนุธมฺมชาตตฺตา อนุชาตํ, มารวิชเยน มหาวีริยตาย มหาวีรํ, อาคุอกรณาทิอตฺเถน นาคํ ตว อุเร วายามชนิตชาติตาย โอรสํ ปุตฺตํ นิคฺโรธกปฺปฺจ วนฺทามิ.

เอวเมเต สุภูติอาทโย วงฺคีสปริโยสานา ทฺวิสตํ จตุสฏฺิ จ มหาเถรา อิธ ปาฬิยํ อารูฬฺหา, เต สพฺเพ ยถา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกภาเวน เอกวิธา. ตถา อเสกฺขภาเวน, อุกฺขิตฺตปลิฆตาย สํกิณฺณปริกฺขตาย, อพฺพุฬฺเหสิกตาย, นิรคฺคฬตาย, ปนฺนทฺธชตาย, ปนฺนภารตาย, วิสํยุตฺตตาย, ทสสุ อริยวาเสสุ วุฏฺวาสตาย จ. ตถา หิ เต ปฺจงฺควิปฺปหีนา, ฉฬงฺคสมนฺนาคตา, เอการกฺขา, จตุราปสฺเสนา, ปนุณฺณปจฺเจกสจฺจา, สมวยสฏฺเสนา, อนาวิลสงฺกปฺปา, ปสฺสทฺธกายสงฺขารา, สุวิมุตฺตจิตฺตา, สุวิมุตฺตปฺา จ (อ. นิ. ๑๐.๑๙). อิติ เอวมาทินา นเยน เอกวิธา.

เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปนฺนา, น เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปนฺนาติ ทุวิธา. ตตฺถ อฺาสิ โกณฺฑฺปฺปมุขา ปฺจวคฺคิยตฺเถรา, ยสตฺเถโร, ตสฺส สหายภูตา วิมโล สุพาหุ ปุณฺณชิ ควมฺปตีติ จตฺตาโร, อปเรปิ ตสฺส สหายภูตา ปฺจปฺาส, ตึส ภทฺทวคฺคิยา, อุรุเวลกสฺสปปฺปมุขา สหสฺสปุราณชฏิลา, ทฺเว อคฺคสาวกา, เตสํ ปริวารภูตา อฑฺฒเตรสสตา ปริพฺพาชกา, โจโร องฺคุลิมาลตฺเถโรติ สพฺเพ สหสฺสํ ปฺาสาธิกานิ ตีณิ สตานิ จ โหนฺติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘สตตฺตยํ สหสฺสฺจ, ปฺาสฺจ ปุนาปเร;

เอเต เถรา มหาปฺา, สพฺเพว เอหิภิกฺขุกา’’ติ.

น เกวลฺจ เอเต เอว, อถ โข อฺเปิ พหู สนฺติ. เสยฺยถิทํ – เสโล พฺราหฺมโณ, ตสฺส อนฺเตวาสิกภูตา ติสตพฺราหฺมณา, มหากปฺปิโน, ตสฺส ปริวารภูตํ ปุริสสหสฺสํ, สุทฺโธทนมหาราเชน เปสิตา กปิลวตฺถุวาสิโน ทสสหสฺสปุริสา, มหาพาวริยพฺราหฺมณสฺส อนฺเตวาสิกภูตา อชิตาทโย โสฬส สหสฺสปริมาณาติ. เอวํ วุตฺตโต อฺเ น เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปทา, เต ปน สรณคมนูปสมฺปทา, โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ปฺหาพฺยากรณูปสมฺปทา, ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทาติ อิเมหิ จตูหิ อากาเรหิ ลทฺธูปสมฺปทา. อาทิโต หิ เอหิภิกฺขุภาวูปคตา เถรา, เตสํ ภควา ปพฺพชฺชํ วิย ตีหิ สรณคมเนเหว อุปสมฺปทมฺปิ อนุฺาสิ, อยํ สรณคมนูปสมฺปทา. ยา ปน –

‘‘ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ติพฺพํ เม หิโรตฺตปฺปํ, ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ เถเรสุ นเวสุ มชฺฌิเมสู’ติ, เอวํ หิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยํกิฺจิ ธมฺมํ สุณิสฺสามิ กุสลูปสํหิตํ, สพฺพํ ตํ อฏฺึ กตฺวา มนสิ กริตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณิสฺสามี’ติ, เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สาตสหคตา จ เม กายคตา สติ น วิชหิสฺสตี’ติ, เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔).

อิมสฺส โอวาทสฺส ปฏิคฺคหเณน มหากสฺสปตฺเถรสฺส อนุฺาตอุปสมฺปทา, อยํ โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา นาม. ยา ปุพฺพาราเม จงฺกมนฺเตน ภควตา ‘‘อุทฺธุมาตกสฺาติ วา โสปาก ‘รูปสฺา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา, อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติอาทินา อสุภนิสฺสิเตสุ ปฺเหสุ ปุจฺฉิเตสุ ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺเตน สตฺตวสฺสิเกน โสปากสามเณเรน ‘‘อุทฺธุมาตกสฺาติ วา ภควา ‘รูปสฺา’ติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติอาทินา วิสฺสชฺชิเตสุ ‘‘อิมินา สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อิเม ปฺหา พฺยากตา’’ติ อารทฺธจิตฺเตน ภควตา อนุฺาตอุปสมฺปทา. อยํ ปฺหาพฺยากรณูปสมฺปทา นาม. ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทา ปากฏาว.

ยถา เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปทา, น เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปทาติ ทุวิธา, เอวํ สมฺมุขาปรมฺมุขาเภทโตปิ ทุวิธา. เย หิ สตฺถุ ธรมานกาเล อริยาย ชาติยา ชาตา, เต อฺาสิโกณฺฑฺาทโย สมฺมุขสาวกา นาม. เย ปน ภควโต ปรินิพฺพานโต ปจฺฉา อธิคตวิเสสา, เต สติปิ สตฺถุ ธมฺมสรีรสฺส ปจฺจกฺขภาเว สตฺถุ สรีรสฺส อปจฺจกฺขภาวโต ปรมฺมุขสาวกา นาม.

ตถา อุภโตภาควิมุตฺตปฺาวิมุตฺตตาวเสน, อิธ ปาฬิยํ อาคตา ปน อุภโตภาควิมุตฺตา เอวาติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๕.๑๔๒) –

‘‘วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม, ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา’’ติ.

ตถา สาปทานานปทานเภทโต, เยสฺหิ ปุริเมสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวเกสุปิ ปุฺกิริยาวเสน ปวตฺติตํ สาวกปารมิตาสงฺขาตํ อตฺถิ อปทานํ, เต สาปทานา, เสยฺยถาปิ อปทานปาฬิยํ อาคตา เถรา. เยสํ ปน ตํ นตฺถิ, เต อนปทานา.

กึ ปน สพฺเพน สพฺพํ ปุพฺพเหตุสมฺปตฺติยา วินา สจฺจาภิสมฺโพโธ สมฺภวตีติ? น สมฺภวติ. น หิ อุปนิสฺสยสมฺปตฺติรหิตสฺส อริยมคฺคาธิคโม อตฺถิ, ตสฺส สุทุกฺกรทุรภิสมฺภวสภาวโต. ยถาห ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕). ยทิ เอวํ กสฺมา วุตฺตํ – ‘‘เยสํ ปน ตํ นตฺถิ, เต อนปทานา’’ติ? นยิทเมวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘เย สพฺเพน สพฺพํ อุปนิสฺสยสมฺปตฺติรหิตา, เต อนปทานา’’ติ ตาทิสานํ อิธ อนธิปฺเปตตฺตา. เยสํ ปน อติอุกฺกํสคตํ อปทานํ นตฺถิ, เต อิธ ‘‘อนปทานา’’ติ วุตฺตา, น สพฺเพน สพฺพํ อุปนิสฺสยรหิตาเยว. ตถา หิ อิเม สตฺตา พุทฺธุปฺปาเทสุ อจฺฉริยาจินฺเตยฺยคุณวิภูติวิตฺถตํ พุทฺธานํ อานุภาวํ ปสฺสนฺตา จตุปฺปมาณิกสฺส โลกสฺส สพฺพถาปิ ปสาทาวหตฺตา สตฺถริ สทฺธํ ปฏิลภนฺติ. ตถา สทฺธมฺมสฺสวเนน, สาวกานํ สมฺมาปฏิปตฺติทสฺสเนน, กทาจิ มหาโพธิสตฺตานํ สมฺมาสมฺโพธิยา จิตฺตาภินีหารทสฺสเนน, เตสํ สนฺติเก โอวาทานุสาสนปฏิลาเภน จ สทฺธมฺเม สทฺธํ ปฏิลภนฺติ, เต ตตฺถ ปฏิลทฺธสทฺธา ยทิปิ สํสาเร นิพฺพาเน จ อาทีนวานิสํเส ปสฺสนฺติ, มหารชกฺขตาย ปน โยคกฺเขมํ อนภิสมฺภุนนฺตา อนฺตรนฺตรา วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลพีชํ อตฺตโน สนฺตาเน โรเปนฺติเยว สปฺปุริสูปนิสฺสยสฺส พหูการภาวโต. เตนาห (พุ. วํ. ๒.๗๒-๗๔) –

‘‘ยทิมสฺส โลกนาถสฺส, วิรชฺฌิสฺสาม สาสนํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

‘‘ยถา มนุสฺสา นทึ ตรนฺตา, ปฏิติตฺถํ วิรชฺฌิย;

เหฏฺาติตฺเถ คเหตฺวาน, อุตฺตรนฺติ มหานทึ.

‘‘เอวเมว มยํ สพฺเพ, ยทิ มุฺจามิมํ ชินํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิม’’นฺติ.

เอวํ วิวฏฺฏํ อุทฺทิสฺส อุปฺปาทิตกุสลจิตฺตํ สตสหสฺสาธิกจตุอสงฺขฺเยยฺยกาลนฺตเร วิโมกฺขาธิคมสฺส อุปนิสฺสโย น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. ปเคว ปตฺถนาวเสน อธิการํ กตฺวา ปวตฺติตํ. เอวํ ทุวิธาเปเต.

อคฺคสาวกา, มหาสาวกา, ปกติสาวกาติ ติวิธา. เตสุ อายสฺมา อฺาสิโกณฺฑฺโ, วปฺโป, ภทฺทิโย, มหานาโม, อสฺสชิ, นาลโก, ยโส, วิมโล, สุพาหุ, ปุณฺณชิ, ควมฺปติ, อุรุเวลกสฺสโป, นทีกสฺสโป, คยากสฺสโป, สาริปุตฺโต, มหาโมคฺคลฺลาโน, มหากสฺสโป, มหากจฺจายโน, มหาโกฏฺิโก, มหากปฺปิโน, มหาจุนฺโท, อนุรุทฺโธ, กงฺขาเรวโต, อานนฺโท, นนฺทโก, ภคุ, นนฺโท, กิมิโล, ภทฺทิโย, ราหุโล, สีวลิ, อุปาลิ, ทพฺโพ, อุปเสโน, ขทิรวนิยเรวโต, ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต, ปุณฺโณ สุนาปรนฺตโก, โสโณ กุฏิกณฺโณ, โสโณ โกฬิวีโส, ราโธ, สุภูติ, องฺคุลิมาโล, วกฺกลิ, กาฬุทายี, มหาอุทายี, ปิลินฺทวจฺโฉ, โสภิโต, กุมารกสฺสโป, รฏฺปาโล , วงฺคีโส, สภิโย, เสโล, อุปวาโน, เมฆิโย, สาคโต, นาคิโต, ลกุณฺฑกภทฺทิโย, ปิณฺโฑลภารทฺวาโช, มหาปนฺถโก, จูฬปนฺถโก, พากุโล, กุณฺฑธาโน, ทารุจีริโย, ยโสโช, อชิโต, ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก, เมตฺตคู, โธตโก, อุปสิโว, นนฺโท, เหมโก, โตเทยฺโย, กปฺโป, ชตุกณฺณิ, ภทฺราวุโธ, อุทโย, โปสาโล, โมฆราชา, ปิงฺคิโยติ เอเต อสีติมหาสาวกา นาม.

กสฺมา ปน เต เอว เถรา ‘‘มหาสาวกา’’ติ วุจฺจนฺตีติ? อภินีหารสฺส มหนฺตภาวโต. ตถา หิ ทฺเว อคฺคสาวกาปิ มหาสาวเกสุ อนฺโตคธา. เต หิ สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา สาวเกสุ อคฺคธมฺมาธิคเมน อคฺคฏฺาเน ิตาปิ อภินีหารมหนฺตตาสามฺเน ‘‘มหาสาวกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ. อิตเร ปน ปกติสาวเกหิ สาติสยมหาภินีหารา. ตถา หิ เต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กตปณิธานา. ตโต เอว สาติสยํ อภิฺาสมาปตฺตีสุ วสิโน ปภินฺนปฏิสมฺภิทา จ. กามํ สพฺเพปิ อรหนฺโต สีลวิสุทฺธิอาทิเก สมฺปาเทตฺวา จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ปติฏฺิตจิตฺตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อนวเสสโต กิเลเส เขเปตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺหนฺติ, ตถาปิ ยถา สทฺธาวิมุตฺตโต ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส, ปฺาวิมุตฺตโต จ อุภโตภาควิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคภาวนาวิเสโส อทฺธา อิจฺฉิโต วิเสโส, เอวํ อภินีหารมหนฺตตาปุพฺพโยคมหนฺตตาหิ อตฺตสนฺตาเน สาติสยคุณวิเสสสฺส นิปฺผาทิตตฺตา สีลาทิคุเณหิ มหนฺตา สาวกาติ มหาสาวกา. เตสุเยว ปน เย โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ ปาโมกฺขภาเวน ธุรภูตานํ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสมาธีนํ สาติสยกิจฺจนฺตรภาวนิปฺผตฺติยา การณภูตาย ตชฺชาภินีหาราภินิหตาย สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ จิรกาลํ สมาหิตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา ยถากฺกมํ ปฺาย สมาธิสฺมิฺจ อุกฺกํสปารมิปฺปตฺติยา สวิเสสํ สพฺพคุเณหิ อคฺคภาเว ิตา. เต สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา สติปิ มหาสาวกตฺเต สาวกปารมิยา มตฺถเก สพฺพสาวกานํ อคฺคภาเว ิตตฺตา อภินีหารมหนฺตภาวโต, ปุพฺพโยคมหนฺตภาวโต จ ‘‘อคฺคสาวกา’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ. เย ปน อริยสาวกา อคฺคสาวกา วิย จ มหาสาวกา วิย จ น ปริมิตาว, อถ โข อเนกสตา อเนกสหสฺสา, เต ปกติสาวกา. อิธ ปาฬิยํ อารูฬฺหา ปน ปริมิตาว คาถาวเสน ปริคฺคหิตตฺตา. ตถาปิ มหาสาวเกสุปิ เกจิ อิธ ปาฬิยํ นารูฬฺหา.

เอวํ ติวิธาปิ เต อนิมิตฺตวิโมกฺขาทิเภทโต ติวิธา, วิโมกฺขสมธิคมวเสนปิ ติวิธา. ตโย หิ อิเม วิโมกฺขา สุฺโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโขติ. เต จ วิโมกฺขา สุฺตาทีหิ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ ตีหิ อนุปสฺสนาหิ อธิคนฺตพฺพา. อาทิโต หิ อนิจฺจาทีสุ เยน เกนจิ อากาเรน วิปสฺสนาภินิเวโส โหติ. ยทา ปน วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย อนิจฺจาการโต สงฺขาเร สมฺมสนฺติยา มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตทา วิปสฺสนา สติปิ ราคนิมิตฺตาทีนํ สมุคฺฆาฏเน สงฺขารนิมิตฺตํ ปน สา น วิสฺสชฺเชตีติ นิปฺปริยาเยน อนิมิตฺตนามํ อลภมานา อตฺตโน มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามํ ทาตุํ น สกฺโกตีติ. กิฺจาปิ อภิธมฺเม อนิมิตฺตวิโมกฺโข น อุทฺธโฏ, สุตฺตนฺเต ปน ราคาทินิมิตฺตานํ สมุคฺฆาเฏน ลพฺภตีติ.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสสี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๑๒) –

อาทินา หิ วิปสฺสนาย อนิมิตฺตวิโมกฺขภาโว อนุตฺตรสฺส อนิมิตฺตวิโมกฺขภาโว จ วุตฺโต. ยทา วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ทุกฺขโต สงฺขาเร สมฺมสนฺติยา มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตทา วิปสฺสนา ราคปณิธิอาทีนํ สมุคฺฆาฏเนน อปฺปณิหิตนามํ ลภตีติ อปฺปณิหิตวิโมกฺขํ นาม โหติ. ตทนนฺตโร จ มคฺโค อปฺปณิหิตวิโมกฺโข. ยทา ปน วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย อนตฺตากาเรน สมฺมสนฺติยา มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตทา วิปสฺสนา อตฺตทิฏฺิยา สมุคฺฆาฏเนน สุฺตนามํ ลภตีติ สุฺตวิโมกฺขํ นาม โหติ. ตทนนฺตโร จ มคฺโค สุฺตวิโมกฺโข นาม โหติ. อิเมสุ อคฺคมคฺคภูเตสุ ตีสุ วิโมกฺเขสุ อิเมสํ เถรานํ เกจิ อนิมิตฺตวิโมกฺเขน มุตฺตา, เกจิ อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน, เกจิ สุฺตวิโมกฺเขน. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺขาทิเภทโต ติวิธา, วิโมกฺขสมธิคเมนปิ ติวิธา’’ติ.

ปฏิปทาวิภาเคน จตุพฺพิธา. จตสฺโส หิ ปฏิปทา – ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺาติ. ตตฺถ รูปมุขาทีสุ วิปสฺสนาภินิเวเสสุ โย รูปมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสิตฺวา จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคเหตฺวา อุปาทารูปํ ปริคฺคณฺหาติ อรูปํ ปริคฺคณฺหาติ, รูปารูปํ ปน ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทุกฺขปฏิปทา นาม โหติ, ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส ปน วิปสฺสนาปริวาเส มคฺคปาตุภาวทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. โยปิ รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ววตฺถเปติ, ววตฺถปิเต จ นามรูเป วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกติ, ตสฺสปิ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. อปโร นามรูปมฺปิ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจเย ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคณฺหาติ. ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. อปโร ปจฺจเยปิ ปริคฺคเหตฺวา ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปฏิวิชฺฌติ, ปฏิวิทฺธลกฺขโณ จ วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. อปโร ลกฺขณานิปิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิปสฺสนาาเณ ติกฺเข สูเร ปสนฺเน วหนฺเต อุปฺปนฺนวิปสฺสนานิกนฺตึ ปริยาทิยมาโน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริยาทิยติ, นิกนฺติฺจ ปริยาทิยิตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. ยถาวุตฺตาสุเยว ปฏิปทาสุ มคฺคปาตุภาวสฺส ขิปฺปตาย ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, ตาสํ ปน ปฏิปทานํ อกิจฺฉสิทฺธิยํ มคฺคปาตุภาวสฺส ทนฺธตาย ขิปฺปตาย จ ยถากฺกมํ สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ เวทิตพฺพา. อิมาสํ จตสฺสนฺนํ ปฏิปทานํ วเสน อคฺคมคฺคปฺปตฺติยา เถรานํ จตุพฺพิธตา เวทิตพฺพา. น หิ ปฏิปทาหิ วินา อริยมคฺคาธิคโม อตฺถิ. ตถา หิ อภิธมฺเม ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามึ…เป… ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺ’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗) ปฏิปทาย สทฺธึเยว อริยมคฺโค วิภตฺโต, เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏิปทาวิภาเคน จตุพฺพิธา’’ติ.

อินฺทฺริยาธิกวิภาเคน ปฺจวิธา. สติปิ เนสํ สจฺจาภิสมฺโพธสามฺเ เอกจฺเจ เถรา สทฺธุตฺตรา, เสยฺยถาปิ เถโร วกฺกลิ; เอกจฺเจ วีริยุตฺตรา, เสยฺยถาปิ เถโร มหาโสโณ, โกฬิวีโส; เอกจฺเจ สตุตฺตรา, เสยฺยถาปิ เถโร โสภิโต, เอกจฺเจ สมาธุตฺตรา, เสยฺยถาปิ เถโร จูฬปนฺถโก, เอกจฺเจ ปฺุตฺตรา, เสยฺยถาปิ เถโร อานนฺโท. ตถา หิ โส คติมนฺตตาย อตฺถโกสลฺลาทิวนฺตตาย จ ปสํสิโต, อยฺจ วิภาโค ปุพฺพภาเค ลพฺภมานวิเสสวเสน วุตฺโต. อคฺคมคฺคกฺขเณ ปน เสสานมฺปิ อินฺทฺริยานํ เอกสภาวา อิจฺฉิตาติ.

ตถา ปารมิปฺปตฺตา, ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตา, ฉฬภิฺา, เตวิชฺชา, สุกฺขวิปสฺสกาติ ปฺจวิธา. สาวเกสุ หิ เอกจฺเจ สาวกปารมิยา มตฺถกปฺปตฺตา, ยถา ตํ อายสฺมา สาริปุตฺโต, อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน; เอกจฺเจ อตฺถปฏิสมฺภิทา ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ อิมาสํ จตุนฺนํ ปฏิสมฺภิทานํ วเสน ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตา; เอกจฺเจ อิทฺธิวิธาณาทีนํ อภิฺานํ วเสน ฉฬภิฺา; เอกจฺเจ ปุพฺเพนิวาสาณาทีนํ ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ วเสน เตวิชฺชา. เย ปน ขณิกสมาธิมตฺเต ตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อธิคตอคฺคมคฺคา, เต อาทิโต อนฺตรนฺตรา จ สมาธิเชน ฌานงฺเคน วิปสฺสนาพฺภนฺตรํ ปฏิสนฺธานานํ อภาวา สุกฺขา วิปสฺสนา เอเตสนฺติ สุกฺขวิปสฺสกา นาม. อยฺจ วิภาโค สาวกานํ สาธารณภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา วุตฺโต. อิธ ปาฬิยํ อาคตา นตฺเถว สุกฺขวิปสฺสกา. เตเนวาห –

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติอาทิ. (อป. เถร ๑.๑.๓๗๔; ๒.๔๓.๑๔);

เอวํ ปารมิปฺปตฺตาทิวเสน ปฺจวิธา.

อนิมิตฺตาทิวเสน ฉพฺพิธา อนิมิตฺตวิมุตฺโตติอาทโย.

สทฺธาธุโร, ปฺาธุโรติ ทุวิธา. ตถา อปฺปณิหิตวิมุตฺโต ปฺาวิมุตฺโต จาติ. เอวํ อนิมิตฺตวิมุตฺตาทิวเสน จ ปริยายวิมุตฺตเภเทน สตฺตวิธา. จตูสุ หิ อรูปสมาปตฺตีสุ เอกเมกํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร, นิโรธโต วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺโต จาติ ปฺจ, อุภโตภาควิมุตฺตา, สทฺธาธุรปฺาธุรวเสน ทฺเว ปฺาวิมุตฺตาติ เอวํ วิมุตฺติเภเทน สตฺตวิธา.

ธุรปฏิปทาวิภาเคน อฏฺวิธา. โย หิ ทุกฺขปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย นิยฺยาติ, โส สทฺธาธุรปฺาธุรวเสน ทุวิธา, ตถา เสสปฏิปทาสุปีติ เอวํ ธุรปฏิปทาวิภาเคน อฏฺวิธา.

วิมุตฺติเภเทน นววิธา. ปฺจ อุภโตภาควิมุตฺตา, ทฺเว ปฺาวิมุตฺตา, ปฺาวิมุตฺติยํ เจโตวิมุตฺติยฺจ ปารมิปฺปตฺตา ทฺเว อคฺคสาวกา จาติ เอวํ นววิธา.

วิมุตฺติวเสเนว ทสวิธา. จตูสุ อรูปาวจรชฺฌาเนสุ จ เอกเมกํ ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร, สุกฺขวิปสฺสโกติ ปฺจ ปฺาวิมุตฺตา, ยถาวุตฺตา จ อุภโตภาควิมุตฺตา จาติ เอวํ วิมุตฺติเภเทเนว ทสวิธา. เต ยถาวุตฺเตน ธุรเภเทน ภิชฺชมานา วีสติ โหนฺติ. ปฏิปทาเภเทน ภิชฺชมานา จตฺตาลีสํ โหนฺติ. ปุน ปฏิปทาเภเทน ธุรเภเทน จ ภิชฺชมานา อสีติ โหนฺติ. อถ เต สุฺตวิมุตฺตาทิวิภาเคน ภิชฺชมานา จตฺตาลีสาธิกา ทฺเว สตานิ โหนฺติ. ปุน อินฺทฺริยาธิกภาเวน ภิชฺชมานา ทฺวิสตุตฺตรํ สหสฺสํ โหนฺตีติ. เอวํ อตฺตโน คุณวเสน อเนกเภทวิภตฺเตสุ มคฺคฏฺผลฏฺเสุ อริยสาวเกสุ เย อตฺตโน ปฏิปตฺติปวตฺติอาทิเก จ วิภาเวนฺติ. เย ‘‘ฉนฺนา เม กุฏิกา’’ติอาทิกา (เถรคา. ๑) คาถา อุทานาทิวเสน อภาสึสุ. เต จ อิธ คาถามุเขน สงฺคหํ อารูฬฺหา. เตนาห – ‘‘สีหานํว นทนฺตานํ…เป… ผุสิตฺวา อจฺจุตํ ปท’’นฺติ (เถรคา. นิทานคาถา). เอวเมตฺถ ปกิณฺณกกถา เวทิตพฺพา.

วงฺคีสตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหานิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

พทรติตฺถมหาวิหารวาสินา อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน กตา

เถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.