📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
เถรีคาถา-อฏฺกถา
๑. เอกกนิปาโต
๑. อฺตราเถรีคาถาวณฺณนา
อิทานิ ¶ ¶ ¶ เถรีคาถานํ อตฺถสํวณฺณนาย โอกาโส อนุปฺปตฺโต. ตตฺถ ยสฺมา ภิกฺขุนีนํ อาทิโต ยถา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ ปฏิลทฺธา, ตํ ปกาเสตฺวา อตฺถสํวณฺณนาย กรียมานาย ตตฺถ ตตฺถ คาถานํ อฏฺุปฺปตฺตึ วิภาเวตุํ สุกรา โหติ สุปากฏา จ, ตสฺมา ตํ ปกาเสตุํ อาทิโต ปฏฺาย สงฺเขปโต อยํ อนุปุพฺพิกถา –
อยฺหิ ¶ โลกนาโถ ‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺตี’’ตฺยาทินา วุตฺตานิ อฏฺงฺคานิ สโมธาเนตฺวา ทีปงฺกรสฺส ภควโต ปาทมูเล กตมหาภินีหาโร สมตึสปารมิโย ปูเรนฺโต จตุวีสติยา พุทฺธานํ สนฺติเก ลทฺธพฺยากรโณ อนุกฺกเมน ปารมิโย ปูเรตฺวา าตตฺถจริยาย โลกตฺถจริยาย พุทฺธตฺถจริยาย จ โกฏึ ปตฺวา ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตาหิ พุทฺธภาวาย –
‘‘กาโล โข เต มหาวีร, อุปฺปชฺช มาตุกุจฺฉิยํ;
สเทวกํ ตารยนฺโต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปท’’นฺติ. (พุ. วํ. ๑.๖๗) –
อายาจิตมนุสฺสูปปตฺติโก ¶ ตาสํ เทวตานํ ปฏิฺํ ทตฺวา, กตปฺจมหาวิโลกโน สกฺยราชกุเล สุทฺโธทนมหาราชสฺส เคเห สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต ทสมาเส สโต สมฺปชาโน ตตฺถ ตฺวา, สโต สมฺปชาโน ตโต นิกฺขนฺโต ลุมฺพินีวเน ลทฺธาภิชาติโก วิวิธา ธาติโย อาทึ กตฺวา มหตา ปริหาเรน สมฺมเทว ปริหริยมาโน อนุกฺกเมน วุฑฺฒิปฺปตฺโต ตีสุ ปาสาเทสุ วิวิธนาฏกชนปริวุโต เทโว วิย สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ชิณฺณพฺยาธิมตทสฺสเนน ชาตสํเวโค าณสฺส ปริปากตํ คตตฺตา, กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ทิสฺวา, ราหุลกุมารสฺส ชาตทิวเส ฉนฺนสหาโย กณฺฑกํ อสฺสราชํ อารุยฺห ¶ , เทวตาหิ วิวเฏน ทฺวาเรน อฑฺฒรตฺติกสมเย มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา, เตเนว รตฺตาวเสเสน ตีณิ รชฺชานิ อติกฺกมิตฺวา อโนมานทีตีรํ ปตฺวา ฆฏิการมหาพฺรหฺมุนา อานีเต อรหตฺตทฺธเช คเหตฺวา ปพฺพชิโต, ตาวเทว วสฺสสฏฺิกตฺเถโร วิย อากปฺปสมฺปนฺโน หุตฺวา, ปาสาทิเกน อิริยาปเถน อนุกฺกเมน ราชคหํ ปตฺวา, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปณฺฑวปพฺพตปพฺภาเร ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา, มาคธราเชน รชฺเชน นิมนฺติยมาโน ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา, ภคฺควสฺสารามํ คนฺตฺวา, ตสฺส สมยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ตโต อาฬารุทกานํ สมยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา, ตํ สพฺพํ อนลงฺกริตฺวา อนุกฺกเมน อุรุเวลํ คนฺตฺวา ตตฺถ ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กตฺวา, ตาย อริยธมฺมปฏิเวธสฺสาภาวํ ตฺวา ‘‘นายํ มคฺโค โพธายา’’ติ โอฬาริกํ อาหารํ อาหรนฺโต กติปาเหน พลํ คาเหตฺวา วิสาขาปุณฺณมทิวเส สุชาตาย ทินฺนํ วรโภชนํ ภฺุชิตฺวา, สุวณฺณปาตึ นทิยา ปฏิโสตํ ขิปิตฺวา, ‘‘อชฺช พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ กตสนฺนิฏฺาโน สายนฺหสมเย กาเฬน นาคราเชน อภิตฺถุติคุโณ โพธิมณฺฑํ อารุยฺห อจลฏฺาเน ปาจีนโลกธาตุอภิมุโข อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ อธิฏฺาย, สูริเย อนตฺถงฺคเตเยว มารพลํ วิธมิตฺวา, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา ¶ , มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา, ปจฺฉิมยาเม ปฏิจฺจสมุปฺปาเท าณํ โอตาเรตฺวา, อนุโลมปฏิโลมํ ปจฺจยาการํ สมฺมสนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สพฺพพุทฺเธหิ อธิคตํ อนฺสาธารณํ สมฺมาสมฺโพธึ อธิคนฺตฺวา, นิพฺพานารมฺมณาย ผลสมาปตฺติยา ตตฺเถว สตฺตาหํ ¶ วีตินาเมตฺวา, เตเนว นเยน อิตรสตฺตาเหปิ โพธิมณฺเฑเยว วีตินาเมตฺวา, ราชายตนมูเล มธุปิณฺฑิกโภชนํ ภฺุชิตฺวา, ปุน อชปาลนิคฺโรธมูเล นิสินฺโน ธมฺมตาย ธมฺมคมฺภีรตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺเต นมนฺเต มหาพฺรหฺมุนา อายาจิโต พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยาทิเภเท สตฺเต ทิสฺวา มหาพฺรหฺมุนา ธมฺมเทสนาย กตปฏิฺโ ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต อาฬารุทกานํ กาลงฺกตภาวํ ตฺวา, ‘‘พหุปการา โข เม ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู, เย ¶ มํ ปธานปหิตตฺตํ อุปฏฺหึสุ, ยํนูนาหํ ปฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๐) จินฺเตตฺวา, อาสาฬฺหิปุณฺณมายํ มหาโพธิโต พาราณสึ อุทฺทิสฺส อฏฺารสโยชนํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค อุปเกน อาชีวเกน สทฺธึ มนฺเตตฺวา, อนุกฺกเมน อิสิปตนํ ปตฺวา ตตฺถ ปฺจวคฺคิเย สฺาเปตฺวา ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ธมฺมจกฺกปวตฺตนสุตฺตนฺตเทสนาย อฺาสิโกณฺฑฺปฺปมุขา อฏฺารสพฺรหฺมโกฏิโย ธมฺมามตํ ปาเยตฺวา ปาฏิปเท ภทฺทิยตฺเถรํ, ปกฺขสฺส ทุติยายํ วปฺปตฺเถรํ, ปกฺขสฺส ตติยายํ มหานามตฺเถรํ, จตุตฺถิยํ อสฺสชิตฺเถรํ, โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา, ปฺจมิยํ ปน ปกฺขสฺส อนตฺตลกฺขณสุตฺตนฺตเทสนาย (มหาว. ๒๐; สํ. นิ. ๓.๕๙) สพฺเพปิ อรหตฺเต ปติฏฺาเปตฺวา ตโต ปรํ ยสทารกปฺปมุเข ปฺจปณฺณาสปุริเส, กปฺปาสิกวนสณฺเฑ ตึสมตฺเต ภทฺทวคฺคิเย, คยาสีเส ปิฏฺิปาสาเณ สหสฺสมตฺเต ปุราณชฏิเลติ เอวํ มหาชนํ อริยภูมึ โอตาเรตฺวา พิมฺพิสารปฺปมุขานิ เอกาทสนหุตานิ โสตาปตฺติผเล นหุตํ สรณตฺตเย ปติฏฺาเปตฺวา เวฬุวนํ ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺถ วิหรนฺโต อสฺสชิตฺเถรสฺส วาหสา อธิคตปมมคฺเค สฺจยํ อาปุจฺฉิตฺวา, สทฺธึ ปริสาย อตฺตโน สนฺติกํ อุปคเต สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน อคฺคผลํ สจฺฉิกตฺวา สาวกปารมิยา มตฺถกํ ปตฺเต อคฺคสาวกฏฺาเน เปตฺวา กาฬุทายิตฺเถรสฺส อภิยาจนาย กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา, มานตฺถทฺเธ าตเก ยมกปาฏิหาริเยน ทเมตฺวา, ปิตรํ อนาคามิผเล, มหาปชาปตึ โสตาปตฺติผเล ปฏิฏฺาเปตฺวา ¶ , นนฺทกุมารํ ราหุลกุมารฺจ ปพฺพาเชตฺวา, สตฺถา ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคจฺฉิ.
อถาปเรน สมเยน สตฺถริ เวสาลึ อุปนิสฺสาย กูฏาคารสาลายํ วิหรนฺเต สุทฺโธทนมหาราชา ¶ เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺาว อรหตฺตํ สจฺฉิกตฺวา ปรินิพฺพายิ. อถ มหาปชาปติยา โคตมิยา ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ, ตโต โรหินีนทีตีเร กลหวิวาทสุตฺตนฺตเทสนาย (สุ. นิ. ๘๖๘ อาทโย) ปริโยสาเน นิกฺขมิตฺวา, ปพฺพชิตานํ ปฺจนฺนํ กุมารสตานํ ปาทปริจาริกา เอกชฺฌาสยาว หุตฺวา มหาปชาปติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา, สพฺพาว ‘‘สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามา’’ติ ¶ มหาปชาปตึ เชฏฺิกํ กตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตุกามา อเหสุํ. อยฺจ มหาปชาปติ ปุพฺเพปิ เอกวารํ สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา นาลตฺถ, ตสฺมา กปฺปกํ ปกฺโกสาเปตฺวา เกเส ฉินฺทาเปตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา สพฺพา ตา สากิยานิโย อาทาย เวสาลึ คนฺตฺวา อานนฺทตฺเถเรน ทสพลํ ยาจาเปตฺวา, อฏฺครุธมฺมปฏิคฺคหเณน ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ อลตฺถ. อิตรา ปน สพฺพาปิ เอกโต อุปสมฺปนฺนา อเหสุํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปเนตํ วตฺถุ ตตฺถ ตตฺถ ปาฬิยํ (จูฬว. ๔๐๒) อาคตเมว.
เอวํ อุปสมฺปนฺนา ปน มหาปชาปติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถสฺสา สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. สา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เสสา จ ปฺจสตภิกฺขุนิโย นนฺทโกวาทปริโยสาเน (ม. นิ. ๓.๓๙๘) อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. เอวํ ภิกฺขุนิสงฺเฆ สุปฺปติฏฺิเต ปุถุภูเต ตตฺถ ตตฺถ คามนิคมชนปทราชธานีสุ กุลิตฺถิโย กุลสุณฺหาโย กุลกุมาริกาโย พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติตฺจ สุตฺวา, สาสเน อภิปฺปสนฺนา สํสาเร จ ชาตสํเวคา อตฺตโน สามิเก มาตาปิตโร าตเก จ อนุชานาเปตฺวา, สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชึสุ. ปพฺพชิตฺวา จ สีลาจารสมฺปนฺนา สตฺถุโน จ เตสํ เถรานฺจ สนฺติเก โอวาทํ ลภิตฺวา ฆเฏนฺติโย วายมนฺติโย นจิรสฺเสว อรหตฺตํ สจฺฉากํสุ. ตาหิ อุทานาทิวเสน ตตฺถ ตตฺถ ภาสิตา ¶ คาถา ปจฺฉา สงฺคีติการเกหิ เอกชฺฌํ กตฺวา เอกกนิปาตาทิวเสน สงฺคีตึ อาโรปยึสุ ‘‘อิมา เถรีคาถา นามา’’ติ. ตาสํ นิปาตาทิวิภาโค เหฏฺา วุตฺโตเยว. ตตฺถ นิปาเตสุ เอกกนิปาโต อาทิ. ตตฺถปิ –
‘‘สุขํ สุปาหิ เถริเก, กตฺวา โจเฬน ปารุตา;
อุปสนฺโต หิ เต ราโค, สุกฺขฑากํว กุมฺภิย’’นฺติ. –
อยํ คาถา อาทิ. ตสฺสา กา อุปฺปตฺติ? อตีเต กิร อฺตรา กุลธีตา ¶ โกณาคมนสฺส ภควโต ¶ กาเล สาสเน อภิปฺปสนฺนา หุตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ทุติยทิวเส สาขามณฺฑปํ กาเรตฺวา วาลิกํ อตฺถริตฺวา อุปริ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูชํ กตฺวา สตฺถุ กาลํ อาโรจาเปสิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. สา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา, ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ ติจีวเรน อจฺฉาเทสิ. ตสฺสา ภควา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สา ยาวตายุกํ ปฺุานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ สุคตีสุ เอว สํสรนฺตี กสฺสปสฺส ภควโต กาเล คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, สํสาเร ชาตสํเวคา สาสเน ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา วีสติวสฺสหสฺสานิ ภิกฺขุนิสีลํ ปูเรตฺวา, ปุถุชฺชนกาลกิริยํ กตฺวา, สคฺเค นิพฺพตฺตา เอกํ พุทฺธนฺตรํ สคฺคสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ ขตฺติยมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ. ตํ ถิรสนฺตสรีรตาย เถริกาติ โวหรึสุ. สา วยปฺปตฺตา กุลปฺปเทสาทินา สมานชาติกสฺส ขตฺติยกุมารสฺส มาตาปิตูหิ ทินฺนา ปติเทวตา หุตฺวา วสนฺตี สตฺถุ เวสาลิคมเน สาสเน ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา, อปรภาเค มหาปชาปติโคตมีเถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชฺชาย รุจึ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ สามิกสฺสาโรเจสิ. สามิโก นานุชานาติ. สา ปน กตาธิการตาย ยถาสุตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา รูปารูปธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ อนุยุตฺตา วิหรติ.
อเถกทิวสํ มหานเส พฺยฺชเน ปจฺจมาเน มหตี อคฺคิชาลา อุฏฺหิ. สา อคฺคิชาลา สกลภาชนํ ตฏตฏายนฺตํ ฌายติ. สา ตํ ทิสฺวา ตเทวารมฺมณํ ¶ กตฺวา สุฏฺุตรํ อนิจฺจตํ อุปฏฺหนฺตํ อุปธาเรตฺวา ตโต ตตฺถ ทุกฺขานิจฺจานตฺตตฺจ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนุกฺกเมน อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อนาคามิผเล ปติฏฺหิ. สา ตโต ปฏฺาย อาภรณํ วา อลงฺการํ วา น ธาเรติ. สา สามิเกน ‘‘กสฺมา ตฺวํ, ภทฺเท, อิทานิ ปุพฺเพ วิย อาภรณํ วา อลงฺการํ วา น ธาเรสี’’ติ วุตฺตา อตฺตโน คิหิภาเว อภพฺพภาวํ อาโรเจตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปสิ. โส วิสาโข อุปาสโก วิย ธมฺมทินฺนํ มหตา ปริหาเรน ¶ มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อิมํ, อยฺเย, ปพฺพาเชถา’’ติ อาห. อถ มหาปชาปติโคตมี ตํ ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา วิหารํ เนตฺวา สตฺถารํ ทสฺเสสิ. สตฺถาปิสฺสา ปกติยา ทิฏฺารมฺมณเมว วิภาเวนฺโต ‘‘สุขํ สุปาหี’’ติ คาถมาห.
ตตฺถ สุขนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สุปาหีติ อาณตฺติวจนํ. เถริเกติ อามนฺตนวจนํ. กตฺวา โจเฬน ปารุตาติ อปฺปิจฺฉตาย นิโยชนํ. อุปสนฺโต หิ เต ราโคติ ปฏิปตฺติกิตฺตนํ. สุกฺขฑากํวาติ ¶ อุปสเมตพฺพสฺส กิเลสสฺส อสารภาวนิทสฺสนํ. กุมฺภิยนฺติ ตทาธารสฺส อนิจฺจตุจฺฉาทิภาวนิทสฺสนํ.
สุขนฺติ เจตํ อิฏฺาธิวจนํ. สุเขน นิทุกฺขา หุตฺวาติ อตฺโถ. สุปาหีติ นิปชฺชนิทสฺสนฺเจตํ จตุนฺนํ อิริยาปถานํ, ตสฺมา จตฺตาโรปิ อิริยาปเถ สุเขเนว กปฺเปหิ สุขํ วิหราติ อตฺโถ. เถริเกติ อิทํ ยทิปิ ตสฺสา นามกิตฺตนํ, ปจุเรน อนฺวตฺถสฺาภาวโต ปน ถิเร สาสเน ถิรภาวปฺปตฺเต, ถิเรหิ สีลาทิธมฺเมหิ สมนฺนาคเตติ อตฺโถ. กตฺวา โจเฬน ปารุตาติ ปํสุกูลโจเฬหิ จีวรํ กตฺวา อจฺฉาทิตสรีรา ตํ นิวตฺถา เจว ปารุตา จ. อุปสนฺโต หิ เต ราโคติ หิ-สทฺโท เหตฺวตฺโถ. ยสฺมา ตว สนฺตาเน อุปฺปชฺชนกกามราโค อุปสนฺโต อนาคามิมคฺคาณคฺคินา ทฑฺโฒ, อิทานิ ตทวเสสํ ราคํ อคฺคมคฺคาณคฺคินา ทเหตฺวา สุขํ สุปาหีติ อธิปฺปาโย. สุกฺขฑากํว กุมฺภิยนฺติ ยถา ตํ ปกฺเก ภาชเน อปฺปกํ ฑากพฺยฺชนํ มหติยา อคฺคิชาลาย ปจฺจมานํ ฌายิตฺวา สุสฺสนฺตํ วูปสมฺมติ, ยถา วา อุทกมิสฺเส ฑากพฺยฺชเน อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา ปจฺจมาเน อุทเก ¶ วิชฺชมาเน ตํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ, อุทเก ปน ฉินฺเน อุปสนฺตเมว โหติ, เอวํ ตว สนฺตาเน กามราโค อุปสนฺโต, อิตรมฺปิ วูปสเมตฺวา สุขํ สุปาหีติ.
เถรี อินฺทฺริยานํ ปริปากํ คตตฺตา สตฺถุ เทสนาวิลาเสน จ คาถาปริโยสาเน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๒๖-๓๐).
‘‘โกณาคมนพุทฺธสฺส, มณฺฑโป การิโต มยา;
ธุวํ ติจีวรํทาสึ, พุทฺธสฺส โลกพนฺธุโน.
‘‘ยํ ยํ ชนปทํ ยามิ, นิคเม ราชธานิโย;
สพฺพตฺถ ¶ ปูชิโต โหมิ, ปฺุกมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวา.
‘‘สฺวาคตํ ¶ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เถรี อุทาเนนฺตี ตเมว คาถํ อภาสิ, เตนายํ คาถา ตสฺสา เถริยา คาถา อโหสิ. ตตฺถ เถริยา วุตฺตคาถาย อนวเสโส ราโค ปริคฺคหิโต อคฺคมคฺเคน ตสฺส วูปสมสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ราควูปสเมเนว เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กิเลสานํ วูปสโม วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ ตเทกฏฺตาย สพฺเพสํ กิเลสธมฺมานํ วูปสมสิทฺธิโต. ตถา หิ วุจฺจติ –
‘‘อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาหิ, โย โมโห สหโช มโต;
ปหาเนกฏฺภาเวน, ราเคน สรโณ หิ โส’’ติ.
ยถา เจตฺถ สพฺเพสํ สํกิเลสานํ วูปสโม วุตฺโต, เอวํ สพฺพตฺถาปิ เตสํ วูปสโม วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ. ปุพฺพภาเค ตทงฺควเสน, สมถวิปสฺสนากฺขเณ วิกฺขมฺภนวเสน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน, ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน วูปสมสิทฺธิโต. เตน จตุพฺพิธสฺสาปิ ปหานสฺส สิทฺธิ เวทิตพฺพา ¶ . ตตฺถ ตทงฺคปฺปหาเนน สีลสมฺปทาสิทฺธิ, วิกฺขมฺภนปหาเนน สมาธิสมฺปทาสิทฺธิ, อิตเรหิ ปฺาสมฺปทาสิทฺธิ ทสฺสิตา โหติ ปหานาภิสมโยปสิชฺฌนโต. ยถา ภาวนาภิสมยํ สาเธติ ตสฺมึ อสติ ตทภาวโต, ตถา สจฺฉิกิริยาภิสมยํ ปริฺาภิสมยฺจ สาเธติ เอวาติ. จตุราภิสมยสิทฺธิยา ติสฺโส สิกฺขา, ปฏิปตฺติยา ติวิธกลฺยาณตา, สตฺตวิสุทฺธิโย จ ปริปุณฺณา อิมาย คาถาย ปกาสิตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. อฺตราเถรี อปฺาตา นามโคตฺตาทิวเสน อปากฏา, เอกา เถรี ลกฺขณสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี อิมํ คาถํ อภาสีติ อธิปฺปาโย.
อฺตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
‘‘มุตฺเต ¶ ¶ มุจฺจสฺสุ โยเคหิ, จนฺโท ราหุคฺคหา อิว;
วิปฺปมุตฺเตน จิตฺเตน, อนณา ภฺุช ปิณฺฑก’’นฺติ. –
อยํ มุตฺตาย นาม สิกฺขมานาย คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารํ รถิยํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ปีติเวเคน สตฺถุ ปาทมูเล อวกุชฺชา นิปชฺชิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, มุตฺตาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย วีสติวสฺสกาเล มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา สิกฺขมานาว หุตฺวา กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรติ. สา เอกทิวสํ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เถรีนํ ภิกฺขุนีนํ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ทิวาฏฺานํ คนฺตฺวา รโห นิสินฺนา วิปสฺสนาย มนสิการํ อารภิ. สตฺถา สุรภิคนฺธกุฏิยา นิสินฺโนว โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตสฺสา ปุรโต นิสินฺโน วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘มุตฺเต มุจฺจสฺสุ โยเคหี’’ติ อิมํ คาถมาห.
ตตฺถ ¶ มุตฺเตติ ตสฺสา อาลปนํ. มุจฺจสฺสุ โยเคหีติ มคฺคปฏิปาฏิยา กามโยคาทีหิ จตูหิ โยเคหิ มุจฺจ, เตหิ วิมุตฺตจิตฺตา โหหิ. ยถา กึ? จนฺโท ราหุคฺคหา อิวาติ ราหุสงฺขาโต คหโต จนฺโท วิย อุปกฺกิเลสโต มุจฺจสฺสุ. วิปฺปมุตฺเตน จิตฺเตนาติ อริยมคฺเคน สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺเตน จิตฺเตน, อิตฺถํ ภูตลกฺขเณ เจตํ กรณวจนํ. อนณา ภฺุช ปิณฺฑกนฺติ กิเลสอิณํ ปหาย อนณา หุตฺวา รฏฺปิณฺฑํ ภฺุเชยฺยาสิ. โย หิ กิเลเส อปฺปหาย สตฺถารา อนฺุาตปจฺจเย ปริภฺุชติ, โส สาโณ ปริภฺุชติ นาม. ยถาห อายสฺมา พากุโล – ‘‘สตฺตาหเมว โข อหํ, อาวุโส, สาโณ ¶ รฏฺปิณฺฑํ ภฺุชิ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๒๑๑). ตสฺมา สาสเน ปพฺพชิเตน กามจฺฉนฺทาทิอิณํ ปหานาย อนเณน หุตฺวา สทฺธาเทยฺยํ ปริภฺุชิตพฺพํ. ปิณฺฑกนฺติ เทสนาสีสเมว, จตฺตาโรปิ ปจฺจเยติ อตฺโถ. อภิณฺหํ โอวทตีติ อริยมคฺคปฺปตฺติยา อุปกฺกิเลเส วิโสเธนฺโต พหุโส โอวาทํ เทติ.
สา ¶ ตสฺมึ โอวาเท ตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๓๑-๓๖) –
‘‘วิปสฺสิสฺส ภควโต, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;
รถิยํ ปฏิปนฺนสฺส, ตารยนฺตสฺส ปาณิโน.
‘‘ฆรโต นิกฺขมิตฺวาน, อวกุชฺชา นิปชฺชหํ;
อนุกมฺปโก โลกนาโถ, สิรสิ อกฺกมี มม.
‘‘อกฺกมิตฺวาน สิรสิ, อคมา โลกนายโก;
เตน จิตฺตปฺปสาเทน, ตุสิตํ อคมาสหํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สา ตเมว คาถํ อุทาเนสิ. ปริปุณฺณสิกฺขา อุปสมฺปชฺชิตฺวา อปรภาเค ปรินิพฺพานกาเลปิ ตเมว คาถํ ปจฺจภาสีติ.
มุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา
ปุณฺเณ ¶ ปูรสฺสุ ธมฺเมหีติ ปุณฺณาย นาม สิกฺขมานาย คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี พุทฺธสฺุเ โลเก จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺตา. เอกทิวสํ ตตฺถ อฺตรํ ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา นฬมาลาย ตํ ปูเชตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ. ปุณฺณาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย วีสติวสฺสานิ วสมานา มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา ¶ สิกฺขมานา เอว หุตฺวา วิปสฺสนํ อารภิ. สตฺถา ตสฺสา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโน เอว โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา –
‘‘ปุณฺเณ ¶ ปูรสฺสุ ธมฺเมหิ, จนฺโท ปนฺนรเสริว;
ปริปุณฺณาย ปฺาย, ตโมขนฺธํ ปทาลยา’’ติ. – อิมํ คาถมาห;
ตตฺถ ปุณฺเณติ ตสฺสา อาลปนํ. ปูรสฺสุ ธมฺเมหีติ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺเมหิ ปริปุณฺณา โหหิ. จนฺโท ปนฺนรเสริวาติ ร-กาโร ปทสนฺธิกโร. ปนฺนรเส ปุณฺณมาสิยํ สพฺพาหิ กลาหิ ปริปุณฺโณ จนฺโท วิย. ปริปุณฺณาย ปฺายาติ โสฬสนฺนํ กิจฺจานํ ปาริปูริยา ปริปุณฺณาย อรหตฺตมคฺคปฺาย. ตโมขนฺธํ ปทาลยาติ โมหกฺขนฺธํ อนวเสสโต ภินฺท สมุจฺฉินฺท. โมหกฺขนฺธปทาลเนน สเหว สพฺเพปิ กิเลสา ปทาลิตา โหนฺตีติ.
สา ตํ คาถํ สุตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๓๗-๔๕) –
‘‘จนฺทภาคานทีตีเร, อโหสึ กินฺนรี ตทา;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, สยมฺภุํ อปราชิตํ.
‘‘ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, เวทชาตา กตฺชลี;
นฬมาลํ คเหตฺวาน, สยมฺภุํ อภิปูชยึ.
‘‘เตน ¶ กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา กินฺนรีเทหํ, อคจฺฉึ ติทสํ คตึ.
‘‘ฉตฺตึสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
ทสนฺนํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
สํเวเชตฺวาน เม จิตฺตํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิปูชยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปุปฺผปูชายิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา สา เถรี ตเมว คาถํ อุทาเนสิ. อยเมว ¶ จสฺสา อฺาพฺยากรณคาถา อโหสีติ.
ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ติสฺสาเถรีคาถาวณฺณนา
ติสฺเส สิกฺขสฺสุ สิกฺขายาติ ติสฺสาย สิกฺขมานาย คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สมฺภตกุสลปจฺจยา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมึ สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา โพธิสตฺตสฺส โอโรธภูตา ปจฺฉา มหาปชาปติโคตมิยา สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรติ. ตสฺสา สตฺถา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา –
‘‘ติสฺเส สิกฺขสฺสุ สิกฺขาย, มา ตํ โยคา อุปจฺจคุํ;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, จร โลเก อนาสวา’’ติ. – คาถํ อภาสิ;
ตตฺถ ติสฺเสติ ตสฺสา อาลปนํ. สิกฺขสฺสุ สิกฺขายาติ อธิสีลสิกฺขาทิกาย ติวิธาย สิกฺขาย สิกฺข, มคฺคสมฺปยุตฺตา ติสฺโส สิกฺขาโย ¶ สมฺปาเทหีติ อตฺโถ. อิทานิ ตาสํ สมฺปาทเน การณมาห ‘‘มา ตํ โยคา อุปจฺจคุ’’นฺติ มนุสฺสตฺตํ, อินฺทฺริยาเวกลฺลํ, พุทฺธุปฺปาโท, สทฺธาปฏิลาโภติ อิเม โยคา สมยา ทุลฺลภกฺขณา ตํ มา อติกฺกมุํ. กามโยคาทโย เอว วา จตฺตาโร โยคา ตํ มา อุปจฺจคุํ มา อภิภเวยฺยุํ. สพฺพโยควิสํยุตฺตาติ สพฺเพหิ กามโยคาทีหิ โยเคหิ วิมุตฺตา ตโต เอว อนาสวา หุตฺวา โลเก จร, ทิฏฺสุขวิหาเรน วิหราหีติ อตฺโถ.
สา ตํ คาถํ สุตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณีติ อาทินโย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ติสฺสาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๑๐. ติสฺสาทิเถรีคาถาวณฺณนา
ติสฺเส ¶ ยฺุชสฺสุ ธมฺเมหีติ ติสฺสาย เถริยา คาถา ¶ . ตสฺสา วตฺถุ ติสฺสาสิกฺขมานาย วตฺถุสทิสํ. อยํ ปน เถรี หุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. ยถา จ อยํ, เอวํ อิโต ปรํ ธีรา, วีรา, มิตฺตา, ภทฺรา, อุปสมาติ ปฺจนฺนํ เถรีนํ วตฺถุ เอกสทิสเมว. สพฺพาปิ อิมา กปิลวตฺถุวาสินิโย โพธิสตฺตสฺส โอโรธภูตา มหาปชาปติโคตมิยา สทฺธึ นิกฺขนฺตา โอภาสคาถาย จ อรหตฺตํ ปตฺตา เปตฺวา สตฺตมึ. สา ปน โอภาสคาถาย วินา ปเคว สตฺถุ สนฺติเก ลทฺธํ โอวาทํ นิสฺสาย วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา อุทานวเสน ‘‘วีรา วีเรหี’’ติ คาถํ อภาสิ. อิตราปิ อรหตฺตํ ปตฺวา –
‘‘ติสฺเส ยฺุชสฺสุ ธมฺเมหิ, ขโณ ตํ มา อุปจฺจคา;
ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.
‘‘ธีเร นิโรธํ ผุเสหิ, สฺาวูปสมํ สุขํ;
อาราธยาหิ นิพฺพานํ, โยคกฺเขมมนุตฺตรํ.
‘‘วีรา ¶ วีเรหิ ธมฺเมหิ, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนํ.
‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, มิตฺเต มิตฺตรตา ภว;
ภาเวหิ กุสเล ธมฺเม, โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยา.
‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, ภทฺเร ภทฺรรตา ภว;
ภาเวหิ กุสเล ธมฺเม, โยคกฺเขมมนุตฺตรํ.
‘‘อุปสเม ตเร โอฆํ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ;
ธาเรหิ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหน’’นฺติ. – คาถาโย อภาสึสุ;
ตตฺถ ยฺุชสฺสุ ธมฺเมหีติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมหิ อริเยหิ โพธิปกฺขิยธมฺเมหิ จ ยฺุช โยคํ ¶ กโรหิ. ขโณ ตํ มา อุปจฺจคาติ โย เอวํ โยคภาวนํ น กโรติ, ตํ ปุคฺคลํ ปติรูปเทเส อุปฺปตฺติกฺขโณ, ฉนฺนํ อายตนานํ อเวกลฺลกฺขโณ, พุทฺธุปฺปาทกฺขโณ, สทฺธาย ปฏิลทฺธกฺขโณ, สพฺโพปิ อยํ ขโณ อติกฺกมติ นาม. โส ขโณ ตํ มา อติกฺกมิ. ขณาตีตาติ เย หิ ขณํ อตีตา, เย จ ปุคฺคเล โส ขโณ อภีโต, เต นิรยมฺหิ สมปฺปิตา หุตฺวา ¶ โสจนฺติ, ตตฺถ นิพฺพตฺติตฺวา มหาทุกฺขํ ปจฺจนุภวนฺตีติ อตฺโถ.
นิโรธํ ผุเสหีติ กิเลสนิโรธํ ผุสฺส ปฏิลภ. สฺาวูปสมํ สุขํ, อาราธยาหิ นิพฺพานนฺติ กามสฺาทีนํ ปาปสฺานํ อุปสมนิมิตฺตํ อจฺจนฺตสุขํ นิพฺพานํ อาราเธหิ.
วีรา วีเรหิ ธมฺเมหีติ วีริยปธานตาย วีเรหิ เตชุสฺสเทหิ อริยมคฺคธมฺเมหิ ภาวิตินฺทฺริยา วฑฺฒิตสทฺธาทิอินฺทฺริยา วีรา ภิกฺขุนี วตฺถุกาเมหิ สวาหนํ กิเลสมารํ ชินิตฺวา อายตึ ปุนพฺภวาภาวโต อนฺติมํ เทหํ ธาเรตีติ เถรี อฺํ วิย กตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสติ.
มิตฺเตติ ตํ อาลปติ. มิตฺตรตาติ กลฺยาณมิตฺเตสุ อภิรตา. ตตฺถ สกฺการสมฺมานกรณตา โหหิ. ภาเวหิ กุสเล ธมฺเมติ อริยมคฺคธมฺเม วฑฺเฒหิ. โยคกฺเขมสฺสาติ อรหตฺตสฺส นิพฺพานสฺส จ ปตฺติยา อธิคมาย.
ภทฺเรติ ¶ ตํ อาลปติ. ภทฺรรตาติ ภทฺเรสุ สีลาทิธมฺเมสุ รตา อภิรตา โหหิ. โยคกฺเขมมนุตฺตรนฺติ จตูหิ โยเคหิ เขมํ อนุปทฺทวํ อนุตฺตรํ นิพฺพานํ, ตสฺส ปตฺติยา กุสเล โพธิปกฺขิยธมฺเม ภาเวหีติ อตฺโถ.
อุปสเมติ ตํ อาลปติ. ตเร โอฆํ มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรนฺติ มจฺจุ เอตฺถ ธียตีติ มจฺจุเธยฺยํ, อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ สุฏฺุ ทุตฺตรนฺติ สุทุตฺตรํ, สํสารมโหฆํ ตเร อริยมคฺคนาวาย ตเรยฺยาสิ. ธาเรหิ อนฺติมํ เทหนฺติ ตสฺส ตรเณเนว อนฺติมเทหธรา โหหีติ อตฺโถ.
ติสฺสาทิเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา ปมวคฺควณฺณนา.
๑๑. มุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
สุมุตฺตา ¶ สาธุมุตฺตามฺหีติอาทิกา มุตฺตาเถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ¶ ภเว กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสลชนปเท โอฆาตกสฺส นาม ทลิทฺทพฺราหฺมณสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตํ วยปฺปตฺตกาเล มาตาปิตโร เอกสฺส ขุชฺชพฺราหฺมณสฺส อทํสุ. สา เตน ฆราวาสํ อโรจนฺตี ตํ อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรติ. ตสฺสา พหิทฺธารมฺมเณสุ จิตฺตํ วิธาวติ, สา ตํ นิคฺคณฺหนฺตี ‘‘สุมุตฺตา สาธุมุตฺตามฺหี’’ติ คาถํ วทนฺตีเยว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;
ปาณิเน อนุคณฺหนฺโต, ปิณฺฑาย ปาวิสี ปุรํ.
‘‘ตสฺส อาคจฺฉโต สตฺถุ, สพฺเพ นครวาสิโน;
หฏฺตุฏฺา สมาคนฺตฺวา, วาลิกา อากิรึสุ เต.
‘‘วีถิสมฺมชฺชนํ กตฺวา, กทลิปุณฺณกทฺธเช;
ธูมํ จุณฺณฺจ มาสฺจ, สกฺการํ กจฺจ สตฺถุโน.
‘‘มณฺฑปํ ¶ ปฏิยาเทตฺวา, นิมนฺเตตฺวา วินายกํ;
มหาทานํ ททิตฺวาน, สมฺโพธึ อภิปตฺถยิ.
‘‘ปทุมุตฺตโร มหาวีโร, หารโก สพฺพปาณินํ;
อนุโมทนิยํ กตฺวา, พฺยากาสิ อคฺคปุคฺคโล.
‘‘สตสหสฺเส อติกฺกนฺเต, กปฺโป เหสฺสติ ภทฺทโก;
ภวาภเว สุขํ ลทฺธา, ปาปุณิสฺสสิ โพธิยํ.
‘‘หตฺถกมฺมฺจ เย เกจิ, กตาวี นรนาริโย;
อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, สพฺพา เหสฺสนฺติ สมฺมุขา.
‘‘เตน ¶ กมฺมวิปาเกน, เจตนาปณิธีหิ จ;
อุปฺปนฺนเทวภวเน, ตุยฺหํ ตา ปริจาริกา.
‘‘ทิพฺพํ สุขมสงฺขฺเยยฺยํ, มานุสฺจ อสงฺขิยํ;
อนุโภนฺติ จิรํ กาลํ, สํสริมฺห ภวาภเว.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;
สุขุมาลา มนุสฺเสสุ, อโถ เทวปุเรสุ จ.
‘‘รูปํ โภคํ ยสํ อายุํ, อโถ กิตฺติสุขํ ปิยํ;
ลภามิ สตตํ สพฺพํ, สุกตํ กมฺมสมฺปทํ.
‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, ชาตาหํ พฺราหฺมเณ กุเล;
สุขุมาลหตฺถปาทา ¶ , รมณิเย นิเวสเน.
‘‘สพฺพกาลมฺปิ ปถวี, น ปสฺสามนลงฺกตํ;
จิกฺขลฺลภูมึ อสุจึ, น ปสฺสามิ กุทาจนํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อุทาเนนฺตี –
‘‘สุมุตฺตา สาธุมุตฺตามฺหิ, ตีหิ ขุชฺเชหิ มุตฺติยา;
อุทุกฺขเลน มุสเลน, ปตินา ขุชฺชเกน จ;
มุตฺตามฺหิ ชาติมรณา, ภวเนตฺติ สมูหตา’’ติ. – อิมํ คาถํ อภาสิ;
ตตฺถ ¶ สุมุตฺตาติ สุฏฺุ มุตฺตา. สาธุมุตฺตามฺหีติ สาธุ สมฺมเทว มุตฺตา อมฺหิ. กุโต ปน สุมุตฺตา สาธุมุตฺตาติ อาห ‘‘ตีหิ ขุชฺเชหิ มุตฺติยา’’ติ, ตีหิ วงฺกเกหิ ปริมุตฺติยาติ อตฺโถ. อิทานิ ตานิ สรูปโต ทสฺเสนฺตี ‘‘อุทุกฺขเลน มุสเลน, ปตินา ขุชฺชเกน จา’’ติ อาห. อุทุกฺขเล ¶ หิ ธฺํ ปกฺขิปนฺติยา ปริวตฺเตนฺติยา มุสเลน โกฏฺเฏนฺติยา จ ปิฏฺิ โอนาเมตพฺพา โหตีติ ขุชฺชกรณเหตุตาย ตทุภยํ ‘‘ขุชฺช’’นฺติ วุตฺตํ. สามิโก ปนสฺสา ขุชฺโช เอว. อิทานิ ยสฺสา มุตฺติยา นิทสฺสนวเสน ตีหิ ขุชฺเชหิ มุตฺติ วุตฺตา. ตเมว ทสฺเสนฺตี ‘‘มุตฺตามฺหิ ชาติมรณา’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘ภวเนตฺติ สมูหตา’’ติ. ตสฺสตฺโถ – น เกวลมหํ ตีหิ ขุชฺเชหิ เอว มุตฺตา, อถ โข สพฺพสฺมา ชาติมรณาปิ, ยสฺมา สพฺพสฺสาปิ ภวสฺส เนตฺติ นายิกา ตณฺหา อคฺคมคฺเคน มยา สมุคฺฆาฏิตาติ.
มุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ธมฺมทินฺนาเถรีคาถาวณฺณนา
ฉนฺทชาตา อวสายีติ ธมฺมทินฺนาเถริยา คาถา. สา กิร ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล หํสวตีนคเร ปราธีนวุตฺติกา หุตฺวา ชีวนฺตี นิโรธโต วุฏฺิตสฺส อคฺคสาวกสฺส ปูชาสกฺการปุพฺพกํ ทานํ ทตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตา. ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี ผุสฺสสฺส ภควโต กาเล สตฺถุ เวมาติกภาติกานํ กมฺมิกสฺส เคเห ¶ วสมานา ทานํ ปฏิจฺจ ‘‘เอกํ เทหี’’ติ สามิเกน วุตฺเต ทฺเว เทนฺตี, พหุํ ปฺุํ กตฺวา กสฺสปพุทฺธกาเล กิกิสฺส กาสิกรฺโ เคเห ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา สตฺตนฺนํ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา วีสติวสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา วิสาขสฺส เสฏฺิโน เคหํ คตา.
อเถกทิวสํ วิสาโข เสฏฺิ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อนาคามี หุตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา ปาสาทํ อภิรุหนฺโต โสปานมตฺถเก ิตาย ธมฺมทินฺนาย ปสาริตหตฺถํ อนาลมฺพิตฺวาว ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ภฺุชมาโนปิ ¶ ตุณฺหีภูโตว ภฺุชิ. ธมฺมทินฺนา ตํ อุปธาเรตฺวา, ‘‘อยฺยปุตฺต, กสฺมา ตฺวํ อชฺช มม หตฺถํ นาลมฺพิ, ภฺุชมาโนปิ น กิฺจิ กเถสิ, อตฺถิ นุ โข โกจิ มยฺหํ โทโส’’ติ อาห. วิสาโข ‘‘ธมฺมทินฺเน, น เต โทโส อตฺถิ, อหํ ปน อชฺช ปฏฺาย อิตฺถิสรีรํ ผุสิตุํ อาหาเร จ โลลภาวํ กาตุํ อนรโห, ตาทิโส มยา ธมฺโม ปฏิวิทฺโธ. ตฺวํ ปน สเจ อิจฺฉสิ, อิมสฺมึเยว เคเห วส. โน เจ อิจฺฉสิ, ยตฺตเกน ธเนน เต อตฺโถ, ตตฺตกํ คเหตฺวา กุลฆรํ คจฺฉาหี’’ติ อาห. ‘‘นาหํ, อยฺยปุตฺต, ตยา วนฺตวมนํ อาจมิสฺสามิ, ปพฺพชฺชํ เม อนุชานาหี’’ติ. วิสาโข ‘‘สาธุ, ธมฺมทินฺเน’’ติ ตํ สุวณฺณสิวิกาย ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ เปเสสิ. สา ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา กติปาหํ ตตฺถ ¶ วสิตฺวา วิเวกวาสํ วสิตุกามา อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อยฺยา, อากิณฺณฏฺาเน มยฺหํ จิตฺตํ น รมติ, คามกาวาสํ คจฺฉามี’’ติ อาห. ภิกฺขุนิโย ตํ คามกาวาสํ นยึสุ. สา ตตฺถ วสนฺตี อตีเต มทฺทิตสงฺขารตาย น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๙๕-๑๓๐) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, กุเล อฺตเร อหุํ;
ปรกมฺมการี อาสึ, นิปกา สีลสํวุตา.
‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส, สุชาโต อคฺคสาวโก;
วิหารา ¶ อภินิกฺขมฺม, ปิณฺฑปาตาย คจฺฉติ.
‘‘ฆฏํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตี, ตทา อุทกหาริกา;
ตํ ทิสฺวา อททํ ปูปํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ.
‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺเถว, นิสินฺโน ปริภฺุชิ โส;
ตโต เนตฺวาน ตํ เคหํ, อทาสึ ตสฺส โภชนํ.
‘‘ตโต เม อยฺยโก ตุฏฺโ, อกรี สุณิสํ สกํ;
สสฺสุยา สห คนฺตฺวาน, สมฺพุทฺธํ อภิวาทยึ.
‘‘ตทา ¶ โส ธมฺมกถิกํ, ภิกฺขุนึ ปริกิตฺตยํ;
เปสิ เอตทคฺคมฺหิ, ตํ สุตฺวา มุทิตา อหํ.
‘‘นิมนฺตยิตฺวา สุคตํ, สสงฺฆํ โลกนายกํ;
มหาทานํ ททิตฺวาน, ตํ านมภิปตฺถยึ.
‘‘ตโต ¶ มํ สุคโต อาห, ฆนนินฺนาทสุสฺสโร;
มมุปฏฺานนิรเต, สสงฺฆปริเวสิเก.
‘‘สทฺธมฺมสฺสวเน ยุตฺเต, คุณวทฺธิตมานเส;
ภทฺเท ภวสฺสุ มุทิตา, ลจฺฉเส ปณิธีผลํ.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
ธมฺมทินฺนาติ นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ มหามุนึ;
เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;
กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.
‘‘ฉฏฺา ตสฺสาสหํ ธีตา, สุธมฺมา อิติ วิสฺสุตา;
ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.
‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;
วีสวสฺสสหสฺสานิ ¶ , วิจริมฺห อตนฺทิตา.
‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ ¶ , ราชกฺา สุเขธิตา;
พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺต ธีตโร.
‘‘สมณี ¶ สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;
ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.
‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, ปฏาจารา จ กุณฺฑลา;
โคตมี จ อหฺเจว, วิสาขา โหติ สตฺตมี.
‘‘เตหิ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, คิริพฺพชปุรุตฺตเม;
ชาตา เสฏฺิกุเล ผีเต, สพฺพกามสมิทฺธิเน.
‘‘ยทา รูปคุณูเปตา, ปเม โยพฺพเน ิตา;
ตทา ปรกุลํ คนฺตฺวา, วสึ สุขสมปฺปิตา.
‘‘อุเปตฺวา โลกสรณํ, สุณิตฺวา ธมฺมเทสนํ;
อนาคามิผลํ ปตฺโต, สามิโก เม สุพุทฺธิมา.
‘‘ตทาหํ อนุชาเนตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
นจิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘ตทา อุปาสโก โส มํ, อุปคนฺตฺวา อปุจฺฉถ;
คมฺภีเร นิปุเณ ปฺเห, เต สพฺเพ พฺยากรึ อหํ.
‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;
ภิกฺขุนึ ธมฺมกถิกํ, นาฺํ ปสฺสามิ เอทิสึ.
‘‘ธมฺมทินฺนา ยถา ธีรา, เอวํ ธาเรถ ภิกฺขโว;
เอวาหํ ปณฺฑิตา โหมิ, นายเกนานุกมฺปิตา.
‘‘ปริจิณฺโณ ¶ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.
‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ¶ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.
‘‘กิเลสา ¶ ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๓.๙๕-๑๓๐);
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ‘‘มยฺหํ มนํ มตฺถกํ ปตฺตํ, อิทานิ อิธ วสิตฺวา กึ กริสฺสามิ, ราชคหเมว คนฺตฺวา สตฺถารฺจ วนฺทิสฺสามิ, พหู จ เม าตกา ปฺุานิ กริสฺสนฺตี’’ติ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ ราชคหเมว ปจฺจาคตา. วิสาโข ตสฺสา อาคตภาวํ สุตฺวา ตสฺสา อธิคมํ วีมํสนฺโต ปฺจกฺขนฺธาทิวเสน ปฺหํ ปุจฺฉิ. ธมฺมทินฺนา สุนิสิเตน สตฺเถน กุมุทนาเฬ ฉินฺทนฺตี วิย ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ. วิสาโข สพฺพํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนนยํ สตฺถุ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘ปณฺฑิตา, วิสาข, ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี’’ติอาทินา ตํ ปสํสนฺโต สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺเทตฺวา พฺยากตภาวํ ปเวเทตฺวา ตเมว จูฬเวทลฺลสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๔๖๐) อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา ตํ ธมฺมกถิกานํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. ยทา ปน สา ตสฺมึ คามกาวาเส วสนฺตี เหฏฺิมมคฺเค อธิคนฺตฺวา อคฺคมคฺคตฺถาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ, ตทา –
‘‘ฉนฺทชาตา อวสายี, มนสา จ ผุฏา สิยา;
กาเมสุ อปฺปฏิพทฺธจิตฺตา, อุทฺธํโสตาติ วุจฺจตี’’ติ. –
อิมํ ¶ คาถํ อภาสิ.
ตตฺถ ฉนฺทชาตาติ อคฺคผลตฺถํ ชาตจฺฉนฺทา. อวสายีติ อวสาโย วุจฺจติ อวสานํ นิฏฺานํ, ตมฺปิ กาเมสุ อปฺปฏิพทฺธจิตฺตตาย ‘‘อุทฺธํโสตา’’ติ วกฺขมานตฺตา สมณกิจฺจสฺส นิฏฺานํ เวทิตพฺพํ, น ยสฺส กสฺสจิ, ตสฺมา ปททฺวเยนาปิ อปฺปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานาติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ. มนสา จ ผุฏา สิยาติ เหฏฺิเมหิ ตีหิ มคฺคจิตฺเตหิ นิพฺพานํ ผุฏา ผุสิตา ภเวยฺย. กาเมสุ อปฺปฏิพทฺธจิตฺตาติ อนาคามิมคฺควเสน กาเมสุ น ปฏิพทฺธจิตฺตา. อุทฺธํโสตาติ อุทฺธเมว มคฺคโสโต สํสารโสโต จ เอติสฺสาติ ¶ อุทฺธํโสตา. อนาคามิโน หิ ยถา อคฺคมคฺโค อุปฺปชฺชติ, น อฺโ, เอวํ อวิหาทีสุ อุปฺปนฺนสฺส ยาว อกนิฏฺา อุทฺธเมว อุปฺปตฺติ โหตีติ.
ธมฺมทินฺนาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. วิสาขาเถรีคาถาวณฺณนา
กโรถ ¶ พุทฺธสาสนนฺติ วิสาขาย เถริยา คาถา. ตสฺสา วตฺถุ ธีราเถริยาวตฺถุสทิสเมว. สา อรหตฺตํ ปตฺวา วิมุตฺติสุเขน วีตินาเมนฺตี –
‘‘กโรถ พุทฺธสาสนํ, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ;
ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺเต นิสีทถา’’ติ. –
อิมาย คาถาย อฺํ พฺยากาสิ.
ตตฺถ กโรถ พุทฺธสาสนนฺติ พุทฺธสาสนํ โอวาทอนุสิฏฺึ กโรถ, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชถาติ อตฺโถ. ยํ กตฺวา นานุตปฺปตีติ อนุสิฏฺึ กตฺวา กรณเหตุ น อนุตปฺปติ ตกฺกรสฺส สมฺมเทว อธิปฺปายานํ สมิชฺฌนโต. ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺเต นิสีทถาติ อิทํ ยสฺมา สยํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อาจริยุปชฺฌายานํ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน ทิวาฏฺาเน ปาเท โธวิตฺวา รโห นิสินฺนา สทตฺถํ มตฺถกํ ปาเปสิ, ตสฺมา ตตฺถ อฺเปิ นิโยเชนฺตี อโวจ.
วิสาขาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. สุมนาเถรีคาถาวณฺณนา
ธาตุโย ¶ ทุกฺขโต ทิสฺวาติ สุมนาย เถริยา คาถา. ตสฺสา วตฺถุ ติสฺสาเถริยา วตฺถุสทิสํ. อิมิสฺสาปิ หิ สตฺถา โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุรโต นิสินฺโน วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘ธาตุโย ทุกฺขโต ทิสฺวา, มา ชาตึ ปุนราคมิ;
ภเว ฉนฺทํ วิราเชตฺวา, อุปสนฺตา จริสฺสสี’’ติ. –
อิมํ คาถมาห. สา คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ ¶ .
ตตฺถ ธาตุโย ทุกฺขโต ทิสฺวาติ สสนฺตติปริยาปนฺนา จกฺขาทิธาตุโย อิตราปิ จ อุทยพฺพยปฏิปีฬนาทินา ‘‘ทุกฺขา’’ติ าณจกฺขุนา ทิสฺวา. มา ชาตึ ปุนราคมีติ ปุน ชาตึ อายตึ ปุนพฺภวํ มา อุปคจฺฉิ ¶ . ภเว ฉนฺทํ วิราเชตฺวาติ กามภวาทิเก สพฺพสฺมึ ภเว ตณฺหาฉนฺทํ วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน ปชหิตฺวา. อุปสนฺตา จริสฺสสีติ สพฺพโส ปหีนกิเลสตาย นิพฺพุตา วิหริสฺสสิ.
เอตฺถ จ ‘‘ธาตุโย ทุกฺขโต ทิสฺวา’’ติ อิมินา ทุกฺขานุปสฺสนามุเขน วิปสฺสนา ทสฺสิตา. ‘‘ภเว ฉนฺทํ วิราเชตฺวา’’ติ อิมินา มคฺโค, ‘‘อุปสนฺตา จริสฺสสี’’ติ อิมินา สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ, ‘‘มา ชาตึ ปุนราคมี’’ติ อิมินา อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
สุมนาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. อุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา
กาเยน สํวุตา อาสินฺติ อุตฺตราย เถริยา คาถา. ตสฺสาปิ วตฺถุ ติสฺสาเถริยา วตฺถุสทิสํ. สาปิ หิ สกฺยกุลปฺปสุตา โพธิสตฺตสฺส โอโรธภูตา มหาปชาปติโคตมิยา สทฺธึ นิกฺขนฺตา โอภาสคาถาย อรหตฺตํ ปตฺวา ปน –
‘‘กาเยน ¶ สํวุตา อาสึ, วาจาย อุท เจตสา;
สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –
อุทานวเสน ตเมว คาถํ อภาสิ.
ตตฺถ กาเยน สํวุตา อาสินฺติ กายิเกน สํวเรน สํวุตา อโหสึ. วาจายาติ วาจสิเกน สํวเรน สํวุตา อาสินฺติ โยชนา, ปททฺวเยนาปิ สีลสํวรมาห. อุทาติ อถ. เจตสาติ สมาธิจิตฺเตน, เอเตน วิปสฺสนาภาวนมาห. สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺหาติ สานุสยํ, สห วา อวิชฺชาย ตณฺหํ อุทฺธริตฺวา. อวิชฺชาย หิ ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ภวตฺตเย ตณฺหา อุปฺปชฺชติ.
อปโร นโย – กาเยน สํวุตาติ สมฺมากมฺมนฺเตน สพฺพโส ¶ มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส ปหานา มคฺคสํวเรเนว กาเยน สํวุตา อาสึ. วาจายาติ สมฺมาวาจาย สพฺพโส มิจฺฉาวาจาย ปหานา มคฺคสํวเรเนว วาจาย สํวุตา อาสินฺติ อตฺโถ. เจตสาติ สมาธินา. เจโตสีเสน ¶ เหตฺถ สมฺมาสมาธิ วุตฺโต, สมฺมาสมาธิคฺคหเณเนว มคฺคลกฺขเณน เอกลกฺขณา สมฺมาทิฏฺิอาทโย มคฺคธมฺมา คหิตาว โหนฺตีติ, มคฺคสํวเรน อภิชฺฌาทิกสฺส อสํวรสฺส อนวเสสโต ปหานํ ทสฺสิตํ โหติ. เตเนวาห ‘‘สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺหา’’ติ. สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตาติ สพฺพโส กิเลสปริฬาหาภาเวน สีติภาวปฺปตฺตา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพุตา อมฺหีติ.
อุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. วุฑฺฒปพฺพชิตสุมนาเถรีคาถาวณฺณนา
สุขํ ตฺวํ วุฑฺฒิเก เสหีติ สุมนาย วุฑฺฒปพฺพชิตาย คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ มหาโกสลรฺโ ภคินี หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สา สตฺถารา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ‘‘จตฺตาโร โข เม, มหาราช, ทหราติ น อฺุาตพฺพา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๑๑๒) เทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา ลทฺธปฺปสาทา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาย ปพฺพชิตุกามาปิ ‘‘อยฺยิกํ ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ จิรกาลํ วีตินาเมตฺวา อปรภาเค อยฺยิกาย กาลงฺกตาย รฺา สทฺธึ มหคฺฆานิ อตฺถรณปาวุรณานิ คาหาเปตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สงฺฆสฺส ทาเปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺิตา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ตสฺสา าณปริปากํ ทิสฺวา –
‘‘สุขํ ¶ ตฺวํ วุฑฺฒิเก เสหิ, กตฺวา โจเฬน ปารุตา;
อุปสนฺโต หิ เต ราโค, สีติภูตาสิ นิพฺพุตา’’ติ. –
อิมํ คาถํ อภาสิ. สา คาถาปริโยสาเน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ¶ ปตฺวา อุทานวเสน ตเมว คาถํ อภาสิ. อิทเมว จสฺสา อฺาพฺยากรณํ อโหสิ, สา ตาวเทว ปพฺพชิ. คาถาย ปน วุฑฺฒิเกติ วุฑฺเฒ, วโยวุฑฺเฒติ อตฺโถ. อยํ ปน สีลาทิคุเณหิปิ วุฑฺฒา, เถริยา วุตฺตคาถาย จตุตฺถปาเท สีติภูตาสิ นิพฺพุตาติ โยเชตพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
วุฑฺฒปพฺพชิตสุมนาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. ธมฺมาเถรีคาถาวณฺณนา
ปิณฺฑปาตํ ¶ จริตฺวานาติ ธมฺมาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สมฺภตปฺุสมฺภารา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา ปติรูปสฺส สามิกสฺส เคหํ คนฺตฺวา สาสเน ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตุกามา หุตฺวา สามิเกน อนนฺุาตา ปจฺฉา สามิเก กาลงฺกเต ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี เอกทิวสํ ภิกฺขาย จริตฺวา วิหารํ อาคจฺฉนฺตี ปริปติตฺวา ตเมว อารมฺมณํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา –
‘‘ปิณฺฑปาตํ จริตฺวาน, ทณฺฑโมลุพฺภ ทุพฺพลา;
เวธมาเนหิ คตฺเตหิ, ตตฺเถว นิปตึ ฉมา;
ทิสฺวา อาทีนวํ กาเย, อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม’’ติ. –
อุทานวเสน อิมํ คาถํ อภาสิ.
ตตฺถ ปิณฺฑปาตํ จริตฺวาน, ทณฺฑโมลุพฺภาติ ปิณฺฑปาตตฺถาย ยฏฺึ อุปตฺถมฺเภน นคเร วิจริตฺวา ภิกฺขาย อาหิณฺฑิตฺวา. ฉมาติ ฉมายํ ภูมิยํ, ปาทานํ อวเสน ภูมิยํ นิปตินฺติ อตฺโถ. ทิสฺวา อาทีนวํ กาเยติ อสุภานิจฺจทุกฺขานตฺตตาทีหิ นานปฺปกาเรหิ สรีเร โทสํ ปฺาจกฺขุนา ทิสฺวา. อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ อาทีนวานุปสฺสนาย ปรโต ปวตฺเตหิ นิพฺพิทานุปสฺสนาทีหิ วิกฺขมฺภนวเสน มม ¶ จิตฺตํ กิเลเสหิ วิมุจฺจิตฺวา ปุน มคฺคผเลหิ ¶ ยถากฺกมํ สมุจฺเฉทวเสน เจว ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน จ สพฺพโส วิมุจฺจิ วิมุตฺตํ, น ทานิสฺสา วิโมเจตพฺพํ อตฺถีติ. อิทเมว จสฺสา อฺาพฺยากรณํ อโหสีติ.
ธมฺมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. สงฺฆาเถรีคาถาวณฺณนา
หิตฺวา ฆเร ปพฺพชิตฺวาติ สงฺฆาย เถริยา คาถา. ตสฺสา วตฺถุ ธีราเถริยา วตฺถุสทิสํ. คาถา ปน –
‘‘หิตฺวา ¶ ฆเร ปพฺพชิตฺวา, หิตฺวา ปุตฺตํ ปสุํ ปิยํ;
หิตฺวา ราคฺจ โทสฺจ, อวิชฺชฺจ วิราชิย;
สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, อุปสนฺตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. – คาถํ อภาสิ;
ตตฺถ หิตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. ฆเรติ เคหํ. ฆรสทฺโท หิ เอกสฺมิมฺปิ อภิเธยฺเย กทาจิ พหูสุ พีชํ วิย รูฬฺหิวเสน โวหรียติ. หิตฺวา ปุตฺตํ ปสุํ ปิยนฺติ ปิยายิตพฺเพ ปุตฺเต เจว โคมหึสาทิเก ปสู จ ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน ปหาย. หิตฺวา ราคฺจ โทสฺจาติ รชฺชนสภาวํ ราคํ, ทุสฺสนสภาวํ โทสฺจ อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา. อวิชฺชฺจ วิราชิยาติ สพฺพากุสเลสุ ปุพฺพงฺคมํ โมหฺจ วิราเชตฺวา มคฺเคน สมุคฺฆาเฏตฺวา อิจฺเจว อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สงฺฆาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุกนิปาโต
๑. อภิรูปนนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา
ทุกนิปาเต ¶ ¶ อาตุรํ อสุจึ ปูตินฺติอาทิกา อภิรูปนนฺทาย สิกฺขมานาย คาถา. อยํ กิร วิปสฺสิสฺส ภควโต ¶ กาเล พนฺธุมตีนคเร คหปติมหาสาลสฺส ธีตา หุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺิตา สตฺถริ ปรินิพฺพุเต ธาตุเจติยํ รตนปฏิมณฺฑิเตน สุวณฺณจฺฉตฺเตน ปูชํ กตฺวา, กาลงฺกตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุนคเร เขมกสฺส สกฺกสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ. นนฺทาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา อตฺตภาวสฺส อติวิย รูปโสภคฺคปฺปตฺติยา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา อภิรูปนนฺทาตฺเวว ปฺายิตฺถ. ตสฺสา วยปฺปตฺตาย วาเรยฺยทิวเสเยว วรภูโต สกฺยกุมาโร กาลมกาสิ. อถ นํ มาตาปิตโร อกามํ ปพฺพาเชสุํ.
สา ปพฺพชิตฺวาปิ รูปํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนมทา ‘‘สตฺถา รูปํ วิวณฺเณติ ครหติ อเนกปริยาเยน รูเป อาทีนวํ ทสฺเสตี’’ติ พุทฺธุปฏฺานํ น คจฺฉติ. ภควา ตสฺสา าณปริปากํ ตฺวา มหาปชาปตึ อาณาเปสิ ‘‘สพฺพาปิ ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา โอวาทํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ. สา อตฺตโน วาเร สมฺปตฺเต อฺํ เปเสสิ. ภควา ‘‘วาเร สมฺปตฺเต อตฺตนาว อาคนฺตพฺพํ, น อฺา เปเสตพฺพา’’ติ อาห. สา สตฺถุ อาณํ ลงฺฆิตุํ อสกฺโกนฺตี ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ พุทฺธุปฏฺานํ อคมาสิ. ภควา อิทฺธิยา เอกํ อภิรูปํ อิตฺถิรูปํ มาเปตฺวา ปุน ชราชิณฺณํ ทสฺเสตฺวา สํเวคํ อุปฺปาเทตฺวา –
‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;
อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.
‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;
ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺตา จริสฺสสี’’ติ. –
อิมา ¶ ¶ ทฺเว คาถา อภาสิ. ตาสํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนโย เอว. คาถาปริโยสาเน อภิรูปนนฺทา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน –
‘‘นคเร พนฺธุมติยา, พนฺธุมา นาม ขตฺติโย;
ตสฺส รฺโ อหุํ ภริยา, เอกชฺฌํ จารยามหํ.
‘‘รโหคตา ¶ นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;
อาทาย คมนียฺหิ, กุสลํ นตฺถิ เม กตํ.
‘‘มหาภิตาปํ กฏุกํ, โฆรรูปํ สุทารุณํ;
นิรยํ นูน คจฺฉามิ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย.
‘‘เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, ปหํเสตฺวาน มานสํ;
ราชานํ อุปคนฺตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘อิตฺถี นาม มยํ เทว, ปุริสานุคตา สทา;
เอกํ เม สมณํ เทหิ, โภชยิสฺสามิ ขตฺติย.
‘‘อทาสิ เม มหาราชา, สมณํ ภาวิตินฺทฺริยํ;
ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, ปรมนฺเนน ปูรยึ.
‘‘ปูรยิตฺวา ปรมนฺนํ, สหสฺสคฺฆนเกนหํ;
วตฺถยุเคน ฉาเทตฺวา, อทาสึ ตุฏฺมานสา.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘สหสฺสํ เทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
สหสฺสํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘ปเทสรชฺชํ ¶ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;
นานาวิธํ พหุํ ปฺุํ, ตสฺส กมฺมผลา ตโต.
‘‘อุปฺปลสฺเสว เม วณฺณา, อภิรูปา สุทสฺสนา;
อิตฺถี สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, อภิชาตา ชุตินฺธรา.
‘‘ปจฺฉิเม ¶ ภวสมฺปตฺเต, อชายึ สากิเย กุเล;
นารีสหสฺสปาโมกฺขา, สุทฺโธทนสุตสฺสหํ.
‘‘นิพฺพินฺทิตฺวา อคาเรหํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
สตฺตมึ รตฺตึ สมฺปตฺวา, จตุสจฺจํ อปาปุณึ.
‘‘จีวรปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยฺจ เสนาสนํ;
ปริเมตุํ น สกฺโกมิ, ปิณฺฑปาตสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ยํ มยฺหํ ปุริมํ กมฺมํ, กุสลํ ชนิตํ มุนิ;
ตุยฺหตฺถาย มหาวีร, ปริจิณฺณํ พหุํ มยา.
‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปิณฺฑปาตสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ทุเว คตี ปชานามิ, เทวตฺตํ อถ มานุสํ;
อฺํ คตึ น ชานามิ, ปิณฺฑปาตสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อุจฺเจ ¶ กุเล ปชานามิ, ตโย สาเล มหาธเน;
อฺํ กุลํ น ชานามิ, ปิณฺฑปาตสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ภวาภเว สํสริตฺวา, สุกฺกมูเลน โจทิตา;
อมนาปํ น ปสฺสามิ, โสมนสฺสกตํ ผลํ.
‘‘อิทฺธีสุ ¶ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี โหมิ มหามุเน.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ มม มหาวีร, อุปฺปนฺนํ ตว สนฺติเก.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปตฺวา ปน สา สยมฺปิ อุทานวเสน ตาเยว คาถา อภาสิ, อิทเมว จสฺสา อฺาพฺยากรณํ อโหสีติ.
อภิรูปนนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เชนฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
เย ¶ อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคาติอาทิกา เชนฺตาย เถริยา คาถา. ตสฺสา อตีตํ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ วตฺถุ อภิรูปนนฺทาวตฺถุสทิสํ. อยํ ปน เวสาลิยํ ลิจฺฉวิราชกุเล นิพฺพตฺตีติ อยเมว วิเสโส. สตฺถารา เทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา เทสนาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตนา อธิคตํ วิเสสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติวเสน –
‘‘เย อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, มคฺคา นิพฺพานปตฺติยา;
ภาวิตา เต มยา สพฺเพ, ยถา พุทฺเธน เทสิตา.
‘‘ทิฏฺโ หิ เม โส ภควา, อนฺติโมยํ สมุสฺสโย;
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ เย อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคาติ เย อิเม สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตา โพธิยา ยถาวุตฺตาย ธมฺมสามคฺคิยา ¶ , โพธิสฺส วา พุชฺฌนกสฺส ตํสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส องฺคภูตตฺตา ‘‘โพชฺฌงฺคา’’ติ ลทฺธนามา สตฺต ธมฺมา. มคฺคา นิพฺพานปตฺติยาติ นิพฺพานาธิคมสฺส อุปายภูตา. ภาวิตา เต มยา สพฺเพ, ยถา พุทฺเธน เทสิตาติ เต สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา สพฺเพปิ มยา ยถา พุทฺเธน ภควตา เทสิตา, ตถา มยา อุปฺปาทิตา จ วฑฺฒิตา จ.
ทิฏฺโ หิ เม โส ภควาติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา โส ภควา ธมฺมกาโย สมฺมาสมฺพุทฺโธ อตฺตนา อธิคตอริยธมฺมทสฺสเนน ทิฏฺโ, ตสฺมา อนฺติโมยํ สมุสฺสโยติ โยชนา. อริยธมฺมทสฺสเนน หิ พุทฺธา ภควนฺโต อฺเ จ อริยา ทิฏฺา นาม โหนฺติ, น รูปกายทสฺสนมตฺเตน. ยถาห – ‘‘โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗) จ ‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐; สํ. นิ. ๓.๑) จ อาทิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เชนฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สุมงฺคลมาตุเถรีคาถาวณฺณนา
สุมุตฺติกาติอาทิกา ¶ สุมงฺคลมาตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา อฺตรสฺส นฬการสฺส ทินฺนา ปมคพฺเภเยว ปจฺฉิมภวิกํ ปุตฺตํ ลภิ. ตสฺส สุมงฺคโลติ นามํ อโหสิ. ตโต ปฏฺาย สา สุมงฺคลมาตาติ ปฺายิตฺถ. ยสฺมา ปนสฺสา นามโคตฺตํ น ปากฏํ, ตสฺมา ‘‘อฺตรา เถรี ภิกฺขุนี อปฺาตา’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ. โสปิสฺสา ปุตฺโต วิฺุตํ ปตฺโต ปพฺพชิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา สุมงฺคลตฺเถโรติ ปากโฏ อโหสิ. ตสฺส มาตา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี เอกทิวสํ คิหิกาเล อตฺตนา ลทฺธทุกฺขํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สํเวคชาตา วิปสฺสนํ ¶ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อุทาเนนฺตี –
‘‘สุมุตฺติกา ¶ สุมุตฺติกา, สาธุมุตฺติกามฺหิ มุสลสฺส;
อหิริโก เม ฉตฺตกํ วาปิ, อุกฺขลิกา เม เทฑฺฑุภํ วาติ.
‘‘ราคฺจ อหํ โทสฺจ, จิจฺจิฏิ จิจฺจิฏีติ วิหนามิ;
สา รุกฺขมูลมุปคมฺม, ‘อโห สุข’นฺติ สุขโต ฌายามี’’ติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ สุมุตฺติกาติ สุมุตฺตา. ก-กาโร ปทปูรณมตฺตํ, สุฏฺุ มุตฺตา วตาติ อตฺโถ. สา สาสเน อตฺตนา ปฏิลทฺธสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ปสาทวเสน, ตสฺสา วา ปสํสาวเสน อามนฺเตตฺวา วุตฺตํ ‘‘สุมุตฺติกา สุมุตฺติกา’’ติ. ยํ ปน คิหิกาเล วิเสสโต ชิคุจฺฉติ, ตโต วิมุตฺตึ ทสฺเสนฺตี ‘‘สาธุมุตฺติกามฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สาธุมุตฺติกามฺหีติ สมฺมเทว มุตฺตา วต อมฺหิ. มุสลสฺสาติ มุสลโต. อยํ กิร ทลิทฺทภาเวน คิหิกาเล สยเมว มุสลกมฺมํ กโรติ, ตสฺมา เอวมาห. อหิริโก เมติ มม สามิโก อหิริโก นิลฺลชฺโช, โส มม น รุจฺจตีติ วจนเสโส. ปกติยาว กาเมสุ วิรตฺตจิตฺตตาย กามาธิมุตฺตานํ ปวตฺตึ ชิคุจฺฉนฺตี วทติ. ฉตฺตกํ วาปีติ ชีวิตเหตุเกน กรียมานํ ฉตฺตกมฺปิ เม น รุจฺจตีติ อตฺโถ. วา-สทฺโท อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ, เตน ¶ เปฬาจงฺโกฏกาทึ สงฺคณฺหาติ. เวฬุทณฺฑาทีนิ คเหตฺวา ทิวเส ทิวเส ฉตฺตาทีนํ กรณวเสน ทุกฺขชีวิตํ ชิคุจฺฉนฺตี วทติ. ‘‘อหิตโก เม วาโต วาตี’’ติ เกจิ วตฺวา อหิตโก ชราวโห คิหิกาเล มม สรีเร วาโต วายตีติ อตฺถํ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘อหิตโก ปเรสํ ทุคฺคนฺธตโร จ มม สรีรโต วาโต วายตี’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. อุกฺขลิกา เม เทฑฺฑุภํ วาตีติ เม มม ภตฺตปจนภาชนํ จิรปาริวาสิกภาเวน อปริสุทฺธตาย ¶ อุทกสปฺปคนฺธํ วายติ, ตโต อหํ สาธุมุตฺติกามฺหีติ โยชนา.
ราคฺจ อหํ โทสฺจ, จิจฺจิฏิ จิจฺจิฏีติ วิหนามีติ อหํ กิเลสเชฏฺกํ ราคฺจ โทสฺจ จิจฺจิฏิ จิจฺจิฏีติ อิมินา สทฺเทน สทฺธึ วิหนามิ วินาเสมิ, ปชหามีติ อตฺโถ. สา กิร อตฺตโน สามิกํ ชิคุจฺฉนฺตี เตน ทิวเส ทิวเส ผาลิยมานานํ สุกฺขานํ เวฬุทณฺฑาทีนํ สทฺทํ ครหนฺตี ตสฺส ปหานํ ราคโทสปหาเนน สมํ กตฺวา อโวจ. สา รุกฺขมูลมุปคมฺมาติ สา อหํ สุมงฺคลมาตา วิวิตฺตํ รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมิตฺวา. สุขโต ฌายามีติ สุขนฺติ ฌายามิ, กาเลน กาลํ สมาปชฺชนฺตี ผลสุขํ นิพฺพานสุขฺจ ปฏิสํเวทิยมานา ¶ ผลชฺฌาเนน ฌายามีติ อตฺโถ. อโห สุขนฺติ อิทํ ปนสฺสา สมาปตฺติโต ปจฺฉา ปวตฺตมนสิการวเสน วุตฺตํ, ปุพฺพาโภควเสนาติปิ ยุชฺชเตว.
สุมงฺคลมาตุเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อฑฺฒกาสิเถรีคาถาวณฺณนา
ยาว กาสิชนปโทติอาทิกา อฑฺฒกาสิยา เถริยา คาถา. อยํ กิร กสฺสปสฺส ทสพลสฺส กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขุนิสีเล ิตํ อฺตรํ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตํ ขีณาสวตฺเถรึ คณิกาวาเทน อกฺโกสิตฺวา, ตโต จุตา นิรเย ปจฺจิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กาสิกรฏฺเ อุฬารวิภเว เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วุทฺธิปฺปตฺตา ปุพฺเพ กตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส นิสฺสนฺเทน านโต ปริภฏฺา คณิกา อโหสิ. นาเมน อฑฺฒกาสี ¶ นาม. ตสฺสา ปพฺพชฺชา จ ทูเตน อุปสมฺปทา จ ขนฺธเก อาคตาเยว. วุตฺตฺเหตํ –
เตน โข ปน สมเยน อฑฺฒกาสี คณิกา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตา โหติ. สา จ สาวตฺถึ คนฺตุกามา โหติ ‘‘ภควโต สนฺติเก อุปสมฺปชฺชิสฺสามี’’ติ. อสฺโสสุํ โข ธุตฺตา – ‘‘อฑฺฒกาสี กิร คณิกา ¶ สาวตฺถึ คนฺตุกามา’’ติ. เต มคฺเค ปริยุฏฺึสุ. อสฺโสสิ โข อฑฺฒกาสี คณิกา ‘‘ธุตฺตา กิร มคฺเค ปริยุฏฺิตา’’ติ. ภควโต สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อหฺหิ อุปสมฺปชฺชิตุกามา, กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทูเตนปิ อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๐).
เอวํ ลทฺธูปสมฺปทา ปน วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๔.๑๖๘-๑๘๓) –
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘ตทาหํ ¶ ปพฺพชิตฺวาน, ตสฺส พุทฺธสฺส สาสเน;
สํวุตา ปาติโมกฺขมฺหิ, อินฺทฺริเยสุ จ ปฺจสุ.
‘‘มตฺตฺุนี จ อสเน, ยุตฺตา ชาคริเยปิ จ;
วสนฺตี ยุตฺตโยคาหํ, ภิกฺขุนึ วิคตาสวํ.
‘‘อกฺโกสึ ทุฏฺจิตฺตาหํ, คณิเกติ ภณึ ตทา;
เตน ปาเปน กมฺเมน, นิรยมฺหิ อปจฺจิสํ.
‘‘เตน กมฺมาวเสเสน, อชายึ คณิกากุเล;
พหุโสว ปราธีนา, ปจฺฉิมาย จ ชาติยํ.
‘‘กาสีสุ เสฏฺิกุลชา, พฺรหฺมจารีพเลนหํ;
อจฺฉรา วิย เทเวสุ, อโหสึ รูปสมฺปทา.
‘‘ทิสฺวาน ทสฺสนียํ มํ, คิริพฺพชปุรุตฺตเม;
คณิกตฺเต นิเวเสสุํ, อกฺโกสนพเลน เม.
‘‘สาหํ ¶ สุตฺวาน สทฺธมฺมํ, พุทฺธเสฏฺเน เทสิตํ;
ปุพฺพวาสนสมฺปนฺนา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘ตทูปสมฺปทตฺถาย, คจฺฉนฺตี ชินสนฺติกํ;
มคฺเค ธุตฺเต ิเต สุตฺวา, ลภึ ทูโตปสมฺปทํ.
‘‘สพฺพกมฺมํ ปริกฺขีณํ, ปฺุํ ปาปํ ตเถว จ;
สพฺพสํสารมุตฺติณฺณา ¶ , คณิกตฺตฺจ เขปิตํ.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี โหมิ มหามุเน.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ¶ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ มม มหาวีร, อุปฺปนฺนํ ตว สนฺติเก.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๔.๑๖๘-๑๘๓);
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อุทานวเสน –
‘‘ยาว กาสิชนปโท, สุงฺโก เม ตตฺตโก อหุ;
ตํ กตฺวา เนคโม อคฺฆํ, อฑฺเฒนคฺฆํ เปสิ มํ.
‘‘อถ นิพฺพินฺทหํ รูเป, นิพฺพินฺทฺจ วิรชฺชหํ;
มา ปุน ชาติสํสารํ, สนฺธาเวยฺยํ ปุนปฺปุนํ;
ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ยาว กาสิชนปโท, สุงฺโก เม ตตฺตโก อหูติ กาสีสุ ชนปเทสุ ภโว สุงฺโก กาสิชนปโท, โส ยาว ยตฺตโก, ตตฺตโก มยฺหํ สุงฺโก อหุ อโหสิ. กิตฺตโก ปน โสติ? สหสฺสมตฺโต. กาสิรฏฺเ กิร ตทา สุงฺกวเสน เอกทิวสํ รฺโ อุปฺปชฺชนกอาโย อโหสิ สหสฺสมตฺโต, อิมายปิ ปุริสานํ หตฺถโต เอกทิวสํ ลทฺธธนํ ตตฺตกํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยาว กาสิชนปโท, สุงฺโก ¶ เม ตตฺตโก อหู’’ติ. สา ปน กาสิสุงฺกปริมาณตาย กาสีติ สมฺํ ลภิ. ตตฺถ เยภุยฺเยน มนุสฺสา สหสฺสํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตา ตโต อุปฑฺฒํ ทตฺวา ทิวสภาคเมว รมิตฺวา คจฺฉนฺติ, เตสํ วเสนายํ อฑฺฒกาสีติ ปฺายิตฺถ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ กตฺวา เนคโม อคฺฆํ, อฑฺเฒนคฺฆํ เปสิ ม’’นฺติ. ตํ ปฺจสตมตฺตํ ธนํ อคฺฆํ ¶ กตฺวา เนคโม นิคมวาสิชโน อิตฺถิรตนภาเวน อนคฺฆมฺปิ ¶ สมานํ อฑฺเฒน อคฺฆํ นิมิตฺตํ อฑฺฒกาสีติ สมฺาวเสน มํ เปสิ, ตถา มํ โวหรีติ อตฺโถ.
อถ นิพฺพินฺทหํ รูเปติ เอวํ รูปูปชีวินี หุตฺวา ิตา. อถ ปจฺฉา สาสนํ นิสฺสาย รูเป อหํ นิพฺพินฺทึ ‘‘อิติปิ รูปํ อนิจฺจํ, อิติปิทํ รูปํ ทุกฺขํ, อสุภ’’นฺติ ปสฺสนฺตี ตตฺถ อุกฺกณฺึ. นิพฺพินฺทฺจ วิรชฺชหนฺติ นิพฺพินฺทนฺตี จาหํ ตโต ปรํ วิราคํ อาปชฺชึ. นิพฺพินฺทคฺคหเณน เจตฺถ ตรุณวิปสฺสนํ ทสฺเสติ, วิราคคฺคหเณน พลววิปสฺสนํ. ‘‘นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชติ วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ หิ วุตฺตํ. มา ปุน ชาติสํสารํ, สนฺธาเวยฺยํ ปุนปฺปุนนฺติ อิมินา นิพฺพินฺทนวิรชฺชนากาเร นิทสฺเสติ. ติสฺโส วิชฺชาติอาทินา เตสํ มตฺถกปฺปตฺตึ, ตํ วุตฺตนยเมว.
อฑฺฒกาสิเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
กิฺจาปิ โขมฺหิ กิสิกาติอาทิกา จิตฺตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิโต จตุนฺนวุติกปฺเป จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติ. สา เอกทิวสํ เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา นฬปุปฺเผหิ ปูชํ กตฺวา วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา สตฺถุ ราชคหปฺปเวสเน ปฏิลทฺธสทฺธา ปจฺฉา มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา มหลฺลิกากาเล คิชฺฌกูฏปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน –
‘‘จนฺทภาคานทีตีเร ¶ , อโหสึ กินฺนรี ตทา;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, สยมฺภุํ อปราชิตํ.
‘‘ปสนฺนจิตฺตา ¶ สุมนา, เวทชาตา กตฺชลี;
นฬมาลํ คเหตฺวาน, สยมฺภุํ อภิปูชยึ.
‘‘เตน ¶ กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา กินฺนรีเทหํ, อคจฺฉึ ติทสํ คตึ.
‘‘ฉตฺตึสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
ทสนฺนํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
สํเวเชตฺวาน เม จิตฺตํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิปูชยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปุปฺผปูชายิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
สา ปน อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา –
‘‘กิฺจาปิ โขมฺหิ กิสิกา, คิลานา พาฬฺหทุพฺพลา;
ทณฺฑโมลุพฺภ คจฺฉามิ, ปพฺพตํ อภิรูหิย.
‘‘สงฺฆาฏึ นิกฺขิปิตฺวาน, ปตฺตกฺจ นิกุชฺชิย;
เสเล ขมฺเภสิมตฺตานํ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ กิฺจาปิ โขมฺหิ กิสิกาติ ยทิปิ อหํ ชราชิณฺณา อปฺปมํสโลหิตภาเวน กิสสรีรา อมฺหิ. คิลานา พาฬฺหทุพฺพลาติ ธาตฺวาทิวิกาเรน คิลานา, เตเนว เคลฺเน อติวิย ทุพฺพลา. ทณฺฑโมลุพฺภ คจฺฉามีติ ยตฺถ กตฺถจิ คจฺฉนฺตี กตฺตรยฏฺึ อาลมฺพิตฺวาว คจฺฉามิ. ปพฺพตํ อภิรูหิยาติ เอวํ ภูตาปิ วิเวกกามตาย คิชฺฌกูฏปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา.
สงฺฆาฏึ ¶ นิกฺขิปิตฺวานาติ สนฺตรุตฺตรา เอว หุตฺวา ยถาสํหตํ อํเส ปิตํ สงฺฆาฏึ หตฺถปาเส ¶ เปตฺวา. ปตฺตกฺจ นิกุชฺชิยาติ มยฺหํ วลฺชนมตฺติกาปตฺตํ อโธมุขํ กตฺวา เอกมนฺเต เปตฺวา. เสเล ขมฺเภสิมตฺตานํ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยาติ ปพฺพเต นิสินฺนา อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อปทาลิตปุพฺพํ โมหกฺขนฺธํ ปทาเลตฺวา, เตเนว จ โมหกฺขนฺธปทาลเนน อตฺตานํ ¶ อตฺตภาวํ ขมฺเภสึ, มม สนฺตานํ อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน วิกฺขมฺเภสินฺติ อตฺโถ.
จิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เมตฺติกาเถรีคาถาวณฺณนา
กิฺจาปิ โขมฺหิ ทุกฺขิตาติอาทิกา เมตฺติกาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปฺุํ อุปจินนฺตี สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา สตฺถุ เจติเย รตเนน ปฏิมณฺฑิตาย เมขลาย ปูชํ อกาสิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ. เสสํ อนนฺตเร วุตฺตสทิสํ. อยํ ปน ปฏิภาคกูฏํ อภิรุหิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๒๐-๒๕) –
‘‘สิทฺธตฺถสฺส ภควโต, ถูปการาปิกา อหุํ;
เมขลิกา มยา ทินฺนา, นวกมฺมาย สตฺถุโน.
‘‘นิฏฺิเต จ มหาถูเป, เมขลํ ปุนทาสหํ;
โลกนาถสฺส มุนิโน, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ เมขลมทํ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ถูปการสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘กิฺจาปิ ¶ โขมฺหิ ทุกฺขิตา, ทุพฺพลา คตโยพฺพนา;
ทณฺฑโมลุพฺภ คจฺฉามิ, ปพฺพตํ อภิรูหิย.
‘‘นิกฺขิปิตฺวาน สงฺฆาฏึ, ปตฺตกฺจ นิกุชฺชิย;
นิสินฺนา ¶ จมฺหิ เสลมฺหิ, อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ทุกฺขิตาติ โรคาภิภเวน ทุกฺขิตา สฺชาตทุกฺขา ทุกฺขปฺปตฺตา. ทุพฺพลาติ ตาย เจว ทุกฺขปฺปตฺติยา, ชราชิณฺณตาย จ พลวิรหิตา. เตนาห ‘‘คตโยพฺพนา’’ติ, อทฺธคตาติ อตฺโถ.
อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ เสลมฺหิ ปาสาเณ นิสินฺนา จมฺหิ, อถ ตทนนฺตรํ วีริยสมตาย สมฺมเทว โยชิตตฺตา มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺเพหิปิ อาสเวหิ มม จิตฺตํ วิมุจฺจิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เมตฺติกาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
จาตุทฺทสึ ปฺจทสินฺติอาทิกา อปราย มิตฺตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา พนฺธุมสฺส รฺโ อนฺเตปุริกา หุตฺวา วิปสฺสิสฺส ภควโต สาวิกํ เอกํ ขีณาสวตฺเถรึ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา หุตฺวา ตสฺสา หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ปณีตสฺส ขาทนียโภชนียสฺส ปูเรตฺวา มหคฺเฆน สาฏกยุเคน สทฺธึ อทาสิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมึ สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา อโหสิ. สา อปรภาเค มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ¶ กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี ¶ น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๔๖-๕๙) –
‘‘นคเร พนฺธุมติยา, พนฺธุมา นาม ขตฺติโย;
ตสฺส รฺโ อหุํ ภริยา, เอกชฺฌํ จารยามหํ.
‘‘รโหคตา นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;
อาทาย ¶ คมนียฺหิ, กุสลํ นตฺถิ เม กตํ.
‘‘มหาภิตาปํ กฏุกํ, โฆรรูปํ สุทารุณํ;
นิรยํ นูน คจฺฉามิ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย.
‘‘ราชานํ อุปสงฺกมฺม, อิทํ วจนมพฺรวึ;
เอกํ เม สมณํ เทหิ, โภชยิสฺสามิ ขตฺติย.
‘‘อทาสิ เม มหาราชา, สมณํ ภาวิตินฺทฺริยํ;
ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, ปรมนฺเนน ปูรยึ.
‘‘ปูรยิตฺวา ปรมนฺนํ, คนฺธาเลปํ อกาสหํ;
ชาเลน ปิทหิตฺวาน, วตฺถยุเคน ฉาทยึ.
‘‘อารมฺมณํ มมํ เอตํ, สรามิ ยาวชีวิตํ;
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตึสานํ เทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
มนสา ปตฺถิตํ มยฺหํ, นิพฺพตฺตติ ยถิจฺฉิตํ.
‘‘วีสานํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
โอจิตตฺตาว หุตฺวาน, สํสรามิ ภเวสฺวหํ.
‘‘สพฺพพนฺธนมุตฺตาหํ ¶ , อเปตา เม อุปาทิกา;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปิณฺฑปาตสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๑.๔๖-๕๙);
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา อุทานวเสน –
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปาคจฺฉึ, เทวกายาภินนฺทินี;
สาชฺช เอเกน ภตฺเตน, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;
เทวกายํ น ปตฺเถหํ, วิเนยฺย หทเย ทร’’นฺติ. – อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ;
ตตฺถ จาตุทฺทสึ ปฺจทสินฺติ ¶ จตุทฺทสนฺนํ ปูรณี จาตุทฺทสี, ปฺจทสนฺนํ ปูรณี ปฺจทสี, ตํ จาตุทฺทสึ ปฺจทสิฺจ, ปกฺขสฺสาติ สมฺพนฺโธ. อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ. ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี, ตฺจาติ โยชนา. ปาฏิหาริยปกฺขฺจาติ ปริหรณกปกฺขฺจ จาตุทฺทสีปฺจทสีอฏฺมีนํ ยถากฺกมํ อาทิโต อนฺตโต วา ปเวสนิคฺคมวเสน อุโปสถสีลสฺส ปริหริตพฺพปกฺขฺจ เตรสีปาฏิปทสตฺตมีนวมีสุ จาติ อตฺโถ. อฏฺงฺคสุสมาคตนฺติ ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สุฏฺุ สมนฺนาคตํ. อุโปสถํ อุปาคจฺฉินฺติ อุปวาสํ อุปคมึ, อุปวสินฺติ อตฺโถ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘ปาณํ น หเน น จาทินฺนมาทิเย, มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;
อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา, รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนํ.
‘‘มาลํ ¶ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร, มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;
เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ, พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิต’’นฺติ. (สุ. นิ. ๔๐๒-๔๐๓);
เทวกายาภินนฺทินีติ ตตฺรูปปตฺติอากงฺขาวเสน จาตุมหาราชิกาทึ เทวกายํ อภิปตฺเถนฺตี อุโปสถํ อุปาคจฺฉินฺติ โยชนา. สาชฺช เอเกน ¶ ภตฺเตนาติ สา อหํ อชฺช อิมสฺมึเยว ทิวเส เอเกน ภตฺตโภชนกฺขเณน. มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตาติ มุณฺฑิตเกสา สงฺฆาฏิปารุตสรีรา จ หุตฺวา ปพฺพชิตาติ อตฺโถ. เทวกายํ น ปตฺเถหนฺติ อคฺคมคฺคสฺส อธิคตตฺตา กฺจิ เทวนิกายํ อหํ น ปตฺถเย. เตเนวาห – ‘‘วิเนยฺย หทเย ทร’’นฺติ, จิตฺตคตํ กิเลสทรถํ สมุจฺเฉทวเสน วิเนตฺวาติ อตฺโถ. อิทเมว จสฺสา อฺาพฺยากรณํ อโหสิ.
มิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อภยมาตุเถรีคาถาวณฺณนา
อุทฺธํ ¶ ปาทตลาติอาทิกา อภยมาตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปฺุานิ อุปจินนฺตี ติสฺสสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ปตฺตํ คเหตฺวา กฏจฺฉุมตฺตํ ภิกฺขํ อทาสิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ตาทิเสน กมฺมนิสฺสนฺเทน อุชฺเชนิยํ ปทุมวตี นาม นครโสภิณี อโหสิ. ราชา พิมฺพิสาโร ตสฺสา รูปสมฺปตฺติอาทิเก คุเณ สุตฺวา ปุโรหิตสฺส อาจิกฺขิ – ‘‘อุชฺเชนิยํ กิร ปทุมวตี นาม คณิกา อโหสิ, ตมหํ ทฏฺุกาโมมฺหี’’ติ. ปุโรหิโต ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ มนฺตพเลน กุมฺภีรํ นาม ยกฺขํ อาวเหตฺวา ยกฺขานุภาเวน ราชานํ ตาวเทว อุชฺเชนีนครํ เนสิ. ราชา ตาย สทฺธึ เอกรตฺตึ สํวาสํ กปฺเปสิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิ. รฺโ จ อาโรเจสิ – ‘‘มม กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺหี’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา นํ ‘‘สเจ ปุตฺโต ภเวยฺย, วฑฺเฒตฺวา มมํ ทสฺเสหี’’ติ วตฺวา นามมุทฺทิกํ ทตฺวา อคมาสิ. สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิตฺวา นามคฺคหณทิวเส อภโยติ นามํ อกาสิ. ปุตฺตฺจ สตฺตวสฺสิกกาเล ‘‘ตว ปิตา พิมฺพิสารมหาราชา’’ติ รฺโ สนฺติกํ ปหิณิ. ราชา ตํ ปุตฺตํ ปสฺสิตฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา กุมารกปริหาเรน วฑฺเฒสิ. ตสฺส สทฺธาปฏิลาโภ ปพฺพชฺชา วิเสสาธิคโม จ เหฏฺา อาคโตเยว. ตสฺส มาตา อปรภาเค ปุตฺตสฺส อภยตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ¶ ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย ¶ กมฺมํ กโรนฺตี นจิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๖๐-๗๐) –
‘‘ปิณฺฑจารํ จรนฺตสฺส, ติสฺสนามสฺส สตฺถุโน;
กฏจฺฉุภิกฺขํ ปคฺคยฺห, พุทฺธเสฏฺสฺสทาสหํ.
‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา สมฺพุทฺโธ, ติสฺโส โลกคฺคนายโก;
วีถิยา สณฺิโต สตฺถา, อกา เม อนุโมทนํ.
‘‘กฏจฺฉุภิกฺขํ ¶ ทตฺวาน, ตาวตึสํ คมิสฺสสิ;
ฉตฺตึสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิ.
‘‘ปฺาสํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิ;
มนสา ปตฺถิตํ สพฺพํ, ปฏิลจฺฉสิ สพฺพทา.
‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, ปพฺพชิสฺสสิ กิฺจนา;
สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสสินาสวา.
‘‘อิทํ วตฺวาน สมฺพุทฺโธ, ติสฺโส โลกคฺคนายโก;
นภํ อพฺภุคฺคมี วีโร, หํสราชาว อมฺพเร.
‘‘สุทินฺนํ เม ทานวรํ, สุยิฏฺา ยาคสมฺปทา;
กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, ปตฺตาหํ อจลํ ปทํ.
‘‘ทฺเวนวุเต อิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ภิกฺขาทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปุตฺเตน อภยตฺเถเรน ธมฺมํ กเถนฺเตน โอวาทวเสน ยา คาถา ภาสิตา, อุทานวเสน สยมฺปิ ตา เอว ปจฺจุทาหรนฺตี –
‘‘อุทฺธํ ปาทตลา อมฺม, อโธ เว เกสมตฺถกา;
ปจฺจเวกฺขสฺสุมํ กายํ, อสุจึ ปูติคนฺธิกํ.
‘‘เอวํ วิหรมานาย, สพฺโพ ราโค สมูหโต;
ปริฬาโห สมุจฺฉินฺโน, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. – อาห;
ตตฺถ ¶ ปมคาถาย ตาว อยํ สงฺเขปตฺโถ – อมฺม ปทุมวติ, ปาทตลโต อุทฺธํ เกสมตฺถกโต อโธ นานปฺปการอสุจิปูริตาย อสุจึ สพฺพกาลํ ปูติคนฺธวายนโต ปูติคนฺธิกํ, อิมํ กุจฺฉิตานํ อายตนตาย กายํ สรีรํ าณจกฺขุนา ปจฺจเวกฺขสฺสูติ. อยฺหิ ตสฺสา ปุตฺเตน โอวาททานวเสน ภาสิตา คาถา.
สา ตํ สุตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา อุทาเนนฺตี อาจริยปูชาวเสน ตเมว คาถํ ปมํ วตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ กเถนฺตี ‘‘เอวํ วิหรมานายา’’ติ ทุติยํ คาถมาห.
ตตฺถ เอวํ วิหรมานายาติ เอวํ มม ปุตฺเตน อภยตฺเถเรน ‘‘อุทฺธํ ปาทตลา’’ติอาทินา ทินฺเน โอวาเท ตฺวา สพฺพกายํ ¶ อสุภโต ทิสฺวา เอกคฺคจิตฺตา ตตฺถ ภูตุปาทายเภเท รูปธมฺเม ตปฺปฏิพทฺเธ เวทนาทิเก อรูปธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา ตตฺถ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสน วิหรมานาย. สพฺโพ ราโค สมูหโตติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย มคฺเคน ฆฏิตาย มคฺคปฏิปาฏิยา อคฺคมคฺเคน สพฺโพ ราโค มยา สมูหโต สมุคฺฆาฏิโต. ปริฬาโห สมุจฺฉินฺโนติ ตโต เอว สพฺโพ กิเลสปริฬาโห สมฺมเทว อุจฺฉินฺโน, ตสฺส จ สมุจฺฉินฺนตฺตา เอว สีติภูตา สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพุตา อมฺหีติ.
อภยมาตุเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อภยาเถรีคาถาวณฺณนา
อภเย ภิทุโร กาโยติอาทิกา อภยตฺเถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ¶ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปฺุํ อุปจินนฺตี สิขิสฺส ภควโต กาเล ขตฺติยมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา อรุณรฺโ อคฺคมเหสี อโหสิ. ราชา ตสฺสา เอกทิวสํ คนฺธสมฺปนฺนานิ สตฺต อุปฺปลานิ อทาสิ. สา ตานิ คเหตฺวา ‘‘กึ เม อิเมหิ ปิฬนฺธนฺเตหิ. ยํนูนาหํ อิเมหิ ภควนฺตํ ปูเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิสีทิ. ภควา จ ภิกฺขาจารเวลายํ ราชนิเวสนํ ปาวิสิ ¶ . สา ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เตหิ ปุปฺเผหิ ปูเชตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อุชฺเชนิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา อภยมาตุสหายิกา หุตฺวา ตาย ปพฺพชิตาย ตสฺสา สิเนเหน สยมฺปิ ปพฺพชิตฺวา ตาย สทฺธึ ราชคเห วสมานา เอกทิวสํ อสุภทสฺสนตฺถํ สีตวนํ อคมาสิ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว ตสฺสา อนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ปุรโต กตฺวา ตสฺสา อุทฺธุมาตกาทิภาวํ ปกาเสสิ. ตํ ทิสฺวา สํเวคมานสา อฏฺาสิ. สตฺถา โอภาสํ ผริตฺวา ปุรโต นิสินฺนํ วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘อภเย ภิทุโร กาโย, ยตฺถ สตฺตา ปุถุชฺชนา;
นิกฺขิปิสฺสามิมํ เทหํ, สมฺปชานา สตีมตี.
‘‘พหูหิ ¶ ทุกฺขธมฺเมหิ, อปฺปมาทรตาย เม;
ตณฺหกฺขโย อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
อิมา คาถา อภาสิ. สา คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๗๑-๙๐) –
‘‘นคเร อรุณวติยา, อรุโณ นาม ขตฺติโย;
ตสฺส รฺโ อหุํ ภริยา, วาริตํ วารยามหํ.
‘‘สตฺตมาลํ คเหตฺวาน, อุปฺปลา เทวคนฺธิกา;
นิสชฺช ปาสาทวเร, เอวํ จินฺเตสิ ตาวเท.
‘‘กึ เม อิมาหิ มาลาหิ, สิรสาโรปิตาหิ เม;
วรํ เม พุทฺธเสฏฺสฺส, าณมฺหิ อภิโรปิตํ.
‘‘สมฺพุทฺธํ ¶ ปฏิมาเนนฺตี, ทฺวาราสนฺเน นิสีทหํ;
ยทา เอหิติ สมฺพุทฺโธ, ปูชยิสฺสํ มหามุนึ.
‘‘กกุโธ วิลสนฺโตว, มิคราชาว เกสรี;
ภิกฺขุสงฺเฆน สหิโต, อาคจฺฉิ วีถิยา ชิโน.
‘‘พุทฺธสฺส รํสึ ทิสฺวาน, หฏฺา สํวิคฺคมานสา;
ทฺวารํ อวาปุริตฺวาน, พุทฺธเสฏฺมปูชยึ.
‘‘สตฺต ¶ อุปฺปลปุปฺผานิ, ปริกิณฺณานิ อมฺพเร;
ฉทึ กโรนฺโต พุทฺธสฺส, มตฺถเก ธารยนฺติ เต.
‘‘อุทคฺคจิตฺตา สุมนา, เวทชาตา กตฺชลี;
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘มหาเนลสฺส ฉาทนํ, ธาเรนฺติ มม มุทฺธนิ;
ทิพฺพคนฺธํ ปวายามิ, สตฺตุปฺปลสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กทาจิ นียมานาย, าติสงฺเฆน เม ตทา;
ยาวตา ปริสา มยฺหํ, มหาเนลํ ธรียติ.
‘‘สตฺตติ เทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
สพฺพตฺถ อิสฺสรา หุตฺวา, สํสรามิ ภวาภเว.
‘‘เตสฏฺิ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
สพฺเพ มมนุวตฺตนฺติ, อาเทยฺยวจนา อหุํ.
‘‘อุปฺปลสฺเสว ¶ เม วณฺโณ, คนฺโธ เจว ปวายติ;
ทุพฺพณฺณิยํ น ชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘อิทฺธิปาเทสุ ¶ กุสลา, โพชฺฌงฺคภาวนารตา;
อภิฺาปารมิปฺปตฺตา, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘สติปฏฺานกุสลา, สมาธิฌานโคจรา;
สมฺมปฺปธานมนุยุตฺตา, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘วีริยํ เม ธุรโธรยฺหํ, โยคกฺเขมาธิวาหนํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิปูชยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๑.๗๑-๙๐);
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อุทาเนนฺตี ตา เอว คาถา ปริวตฺติตฺวา อภาสิ.
ตตฺถ อภเยติ อตฺตานเมว อาลปติ. ภิทุโรติ ภิชฺชนสภาโว, อนิจฺโจติ อตฺโถ. ยตฺถ สตฺตา ปุถุชฺชนาติ ยสฺมึ ขเณน ภิชฺชนสีเล อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลสภาเว ¶ กาเย อิเม อนฺธปุถุชฺชนา สตฺตา ลคฺคา ลคฺคิตา. นิกฺขิปิสฺสามิมํ เทหนฺติ อหํ ปน อิมํ เทหํ ปูติกายํ ปุน อนาทาเนน นิรเปกฺขา ขิปิสฺสามิ ฉฑฺเฑสฺสามิ. ตตฺถ การณมาห ‘‘สมฺปชานา สตีมตี’’ติ.
พหูหิ ทุกฺขธมฺเมหีติ ชาติชราทีหิ อเนเกหิ ทุกฺขธมฺเมหิ ผุฏฺายาติ อธิปฺปาโย. อปฺปมาทรตายาติ ตาย เอว ทุกฺโขติณฺณตาย ปฏิลทฺธสํเวคตฺตา สติอวิปฺปวาสสงฺขาเต อปฺปมาเท รตาย. เสสํ วุตฺตนยเมว. เอตฺถ จ สตฺถารา เทสิตนิยาเมน –
‘‘นิกฺขิปาหิ อิมํ เทหํ, อปฺปมาทรตาย เต;
ตณฺหกฺขยํ ปาปุณาหิ, กโรหิ พุทฺธสาสน’’นฺติ. –
ปาโ ¶ , เถริยา วุตฺตนิยาเมเนว ปน สํคีตึ อาโรปิตตฺตา. อปฺปมาทรตาย เตติ อปฺปมาทรตาย ตยา ภวิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
อภยาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สามาเถรีคาถาวณฺณนา
จตุกฺขตฺตุํ ¶ ปฺจกฺขตฺตุนฺติอาทิกา สามาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสมฺพิยํ คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สามาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วิฺุตํ ปตฺตา สามาวติยา อุปาสิกาย ปิยสหายิกา หุตฺวา ตาย กาลงฺกตาย สฺชาตสํเวคา ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ สามาวติกํ อารพฺภ อุปฺปนฺนโสกํ วิโนเทตุํ อสกฺโกนฺตี อริยมคฺคํ คณฺหิตุํ นาสกฺขิ. อปรภาเค อาสนสาลาย นิสินฺนสฺส อานนฺทตฺเถรสฺส โอวาทํ สุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ตโต สตฺตเม ทิวเส สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ.
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตํ ปกาเสนฺตี –
‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;
อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี;
ตสฺสา เม อฏฺมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา สมูหตา.
‘‘พหูหิ ทุกฺขธมฺเมหิ, อปฺปมาทรตาย เม;
ตณฺหกฺขโย อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
อุทานวเสน อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมินฺติ ‘‘มม วสนกวิหาเร วิปสฺสนามนสิกาเรน นิสินฺนา สมณกิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปตุํ อสกฺโกนฺตี อุตุสปฺปายาภาเวน นนุ โข มยฺหํ วิปสฺสนา มคฺเคน ฆฏฺเฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา จตฺตาโร ปฺจ จาติ นว วาเร วิหารา ¶ อุปสฺสยโต พหิ นิกฺขมึ. เตนาห ‘‘อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี’’ติ. ตตฺถ เจตโส สนฺตินฺติ อริยมคฺคสมาธึ สนฺธายาห. จิตฺเต อวสวตฺตินีติ วีริยสมตาย อภาเวน มม ภาวนาจิตฺเต น วสวตฺตินี. สา กิร อติวิย ปคฺคหิตวีริยา อโหสิ. ตสฺสา เม อฏฺมี รตฺตีติ ยโต ปฏฺาย อานนฺทตฺเถรสฺส สนฺติเก โอวาทํ ปฏิลภึ, ตโต ปฏฺาย รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา วิปสฺสนาย ¶ กมฺมํ กโรนฺตี รตฺติยํ จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ วิหารโต นิกฺขมิตฺวา มนสิการํ ปวตฺเตนฺตี วิเสสํ อนธิคนฺตฺวา อฏฺมิยํ รตฺติยํ วีริยสมตํ ลภิตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา กิเลเส เขเปสินฺติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺสา เม อฏฺมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา สมูหตา’’ติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สามาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ติกนิปาโต
๑. อปราสามาเถรีคาถาวณฺณนา
ติกนิปาเต ¶ ¶ ปณฺณวีสติวสฺสานีติอาทิกา อปราย สามาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติ. สา ตตฺถ กินฺนเรหิ สทฺธึ กีฬาปสุตา วิจรติ. อเถกทิวสํ สตฺถา ตสฺสา กุสลพีชโรปนตฺถํ ตตฺถ คนฺตฺวา นทีตีเร จงฺกมิ. สา ภควนฺตํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺา สฬลปุปฺผานิ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เตหิ ปุปฺเผหิ ภควนฺตํ ปูเชสิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสมฺพิยํ กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา สามาวติยา สหายิกา หุตฺวา ตสฺสา มตกาเล สํเวคชาตา ปพฺพชิตฺวา ปฺจวีสติ วสฺสานิ จิตฺตสมาธานํ อลภิตฺวา มหลฺลิกากาเล สุคโตวาทํ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๒๒-๒๙) –
‘‘จนฺทภาคานทีตีเร, อโหสึ กินฺนรี ตทา;
อทฺทสาหํ เทวเทวํ, จงฺกมนฺตํ นราสภํ.
‘‘โอจินิตฺวาน สฬลํ, พุทฺธเสฏฺสฺสทาสหํ;
อุปสิงฺฆิ มหาวีโร, สฬลํ เทวคนฺธิกํ.
‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา สมฺพุทฺโธ, วิปสฺสี โลกนายโก;
อุปสิงฺฆิ มหาวีโร, เปกฺขมานาย เม ตทา.
‘‘อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, วนฺทิตฺวา ทฺวิปทุตฺตมํ;
สกํ ¶ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตโต ปพฺพตมารุหึ.
‘‘เอกนวุติโต ¶ กปฺเป, ยํ ปุปฺผมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ยโต ปพฺพชิตาย เม;
นาภิชานามิ จิตฺตสฺส, สมํ ลทฺธํ กุทาจนํ.
‘‘อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี;
ตโต สํเวคมาปาทึ, สริตฺวา ชินสาสนํ.
‘‘พหูหิ ทุกฺขธมฺเมหิ, อปฺปมาทรตาย เม;
ตณฺหกฺขโย อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
อชฺช เม สตฺตมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา วิโสสิตา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ จิตฺตสฺส สมนฺติ จิตฺตสฺส วูปสมํ, เจโตสมถมคฺคผลสมาธีติ อตฺโถ.
ตโตติ ตสฺมา จิตฺตวสํ วตฺเตตุํ อสมตฺถภาวโต. สํเวคมาปาทินฺติ สตฺถริ ธรนฺเตปิ ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปตุํ อสกฺโกนฺตี ปจฺฉา กถํ ปาปยิสฺสามีติ สํเวคํ าณุตฺราสํ อาปชฺชึ. สริตฺวา ชินสาสนนฺติ กาณกจฺฉโปปมาทิสตฺถุโอวาทํ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๗; ม. นิ. ๓.๒๕๒) อนุสฺสริตฺวา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อปราสามาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุตฺตมาเถรีคาถาวณฺณนา
จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุนฺติอาทิกา อุตฺตมาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล พนฺธุมตีนคเร อฺตรสฺส ¶ กุฏุมฺพิกสฺส เคเห ฆรทาสี หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สา วยปฺปตฺตา อตฺตโน อยฺยกานํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตี ชีวติ. เตน จ สมเยน พนฺธุมราชา ปุณฺณมีทิวเส อุโปสถิโก ¶ หุตฺวา ปุเรภตฺตํ ทานานิ ทตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณาติ. อถ มหาชนา ยถา ราชา ปฏิปชฺชติ, ตเถว ปุณฺณมีทิวเส ¶ อุโปสถงฺคานิ สมาทาย วตฺตนฺติ. อถสฺสา ทาสิยา เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข มหาราชา มหาชนา จ อุโปสถงฺคานิ สมาทาย วตฺตนฺติ, ยํนูนาหํ อุโปสถทิวเสสุ อุโปสถสีลํ สมาทาย วตฺเตยฺย’’นฺติ. สา ตถา กโรนฺตี สุปริสุทฺธํ อุโปสถสีลํ รกฺขิตฺวา ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺตา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา ปฏาจาราย เถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ตํ มตฺถกํ ปาเปตุํ นาสกฺขิ. ปฏาจารา เถรี ตสฺสา จิตฺตาจารํ ตฺวา โอวาทมทาสิ. สา ตสฺสา โอวาเท ตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๑-๒๑) –
‘‘นคเร พนฺธุมติยา, พนฺธุมา นาม ขตฺติโย;
ทิวเส ปุณฺณมาย โส, อุปวสิ อุโปสถํ.
‘‘อหํ เตน สมเยน, กุมฺภทาสี อหํ ตหึ;
ทิสฺวา สราชกํ เสนํ, เอวาหํ จินฺตยึ ตทา.
‘‘ราชาปิ รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา, อุปวสิ อุโปสถํ;
สผลํ นูน ตํ กมฺมํ, ชนกาโย ปโมทิโต.
‘‘โยนิโส ปจฺจเวกฺขิตฺวา, ทุคฺคจฺจฺจ ทลิทฺทตํ;
มานสํ สมฺปหํสิตฺวา, อุปวสึ อุโปสถํ.
‘‘อหํ อุโปสถํ กตฺวา, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน;
เตน กมฺเมน สุกเตน, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตตฺถ เม สุกตํ พฺยมฺหํ, อุพฺภโยชนมุคฺคตํ;
กูฏาคารวรูเปตํ, มหาสนสุภูสิตํ.
‘‘อจฺฉรา ¶ สตสหสฺสา, อุปติฏฺนฺติ มํ สทา;
อฺเ เทเว อติกฺกมฺม, อติโรจามิ สพฺพทา.
‘‘จตุสฏฺิเทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
เตสฏฺิจกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘สุวณฺณวณฺณา หุตฺวาน, ภเวสุ สํสรามหํ;
สพฺพตฺถ ปวรา โหมิ, อุโปสถสฺสิทํ ผลํ.
‘‘หตฺถิยานํ ¶ ¶ อสฺสยานํ, รถยานฺจ สีวิกํ;
ลภามิ สพฺพเมเวตํ, อุโปสถสฺสิทํ ผลํ.
‘‘โสณฺณมยํ รูปิมยํ, อโถปิ ผลิกามยํ;
โลหิตงฺคมยฺเจว, สพฺพํ ปฏิลภามหํ.
‘‘โกเสยฺยกมฺพลิยานิ, โขมกปฺปาสิกานิ จ;
มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ, สพฺพํ ปฏิลภามหํ.
‘‘อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
สพฺพเมตํ ปฏิลเภ, อุโปสถสฺสิทํ ผลํ.
‘‘วรคนฺธฺจ มาลฺจ, จุณฺณกฺจ วิเลปนํ;
สพฺพเมตํ ปฏิลเภ, อุโปสถสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กูฏาคารฺจ ปาสาทํ, มณฺฑปํ หมฺมิยํ คุหํ;
สพฺพเมตํ ปฏิลเภ, อุโปสถสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ชาติยา สตฺตวสฺสาหํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
อฑฺฒมาเส อสมฺปตฺเต, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘กิเลสา ¶ ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อุโปสถสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;
อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.
‘‘สา ภิกฺขุนึ อุปาคจฺฉึ, ยา เม สทฺธายิกา อหุ;
สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย.
‘‘ตสฺสา ¶ ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ยถา มํ อนุสาสิ สา;
สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน, นิสีทึ ปีติสุขสมปฺปิตา;
อฏฺมิยา ปาเท ปสาเรสึ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ สา ภิกฺขุนึ อุปาคจฺฉึ ¶ , ยา เม สทฺธายิกา อหูติ ยา มยา สทฺธาตพฺพา สทฺเธยฺยวจนา อโหสิ, ตํ ภิกฺขุนึ สาหํ อุปคจฺฉึ อุปสงฺกมึ, ปฏาจาราเถรึ สทฺธาย วทติ. ‘‘สา ภิกฺขุนี อุปคจฺฉิ, ยา เม สาธยิกา’’ติปิ ปาโ. สา ปฏาจารา ภิกฺขุนี อนุกมฺปาย มํ อุปคจฺฉิ, ยา มยฺหํ สทตฺถสฺส สาธิกาติ อตฺโถ. สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโยติ สา ปฏาจารา เถรี ‘‘อิเม ปฺจกฺขนฺธา, อิมานิ ทฺวาทสายตนานิ, อิมา อฏฺารส ธาตุโย’’ติ ขนฺธาทิเก วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺตี มยฺหํ ธมฺมํ เทเสสิ.
ตสฺสา ¶ ธมฺมํ สุณิตฺวานาติ ตสฺสา ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตาย เถริยา สนฺติเก ขนฺธาทิวิภาคปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ปาเปตฺวา เทสิตสณฺหสุขุมวิปสฺสนาธมฺมํ สุตฺวา. ยถา มํ อนุสาสิ สาติ สา เถรี ยถา มํ อนุสาสิ โอวทิ, ตถา ปฏิปชฺชนฺตี ปฏิปตฺตึ มตฺถกํ ปาเปตฺวาปิ สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทึ. กถํ? ปีติสุขสมปฺปิตาติ ฌานมเยน ปีติสุเขน สมงฺคีภูตา. อฏฺมิยา ปาเท ปสาเรสึ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยาติ อนวเสสํ โมหกฺขนฺธํ อคฺคมคฺเคน ปทาเลตฺวา อฏฺเม ทิวเส ปลฺลงฺกํ ภินฺทนฺตี ปาเท ปสาเรสึ. อิทเมว จสฺสา อฺาพฺยากรณํ อโหสิ.
อุตฺตมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อปรา อุตฺตมาเถรีคาถาวณฺณนา
เย อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคาติอาทิกา อปราย อุตฺตมาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล พนฺธุมตีนคเร กุลทาสี หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สา เอกทิวสํ สตฺถุ สาวกํ เอกํ ขีณาสวตฺเถรํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ตีณิ โมทกานิ อทาสิ. สา ¶ เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ ¶ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท โกสลชนปเท อฺตรสฺมึ พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺตา ชนปทจาริกํ จรนฺตสฺส สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๓๐-๓๖) –
‘‘นคเร พนฺธุมติยา, กุมฺภทาสี อโหสหํ;
มม ภาคํ คเหตฺวาน, คจฺฉํ อุทกหาริกา.
‘‘ปนฺถมฺหิ สมณํ ทิสฺวา, สนฺตจิตฺตํ สมาหิตํ;
ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, โมทเก ตีณิทาสหํ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
เอกนวุติกปฺปานิ, วินิปาตํ น คจฺฉหํ.
‘‘สมฺปตฺติ ¶ ตํ กริตฺวาน, สพฺพํ อนุภวึ อหํ;
โมทเก ตีณิ ทตฺวาน, ปตฺตาหํ อจลํ ปทํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘เย อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, มคฺคา นิพฺพานปตฺติยา;
ภาวิตา เต มยา สพฺเพ, ยถา พุทฺเธน เทสิตา.
‘‘สฺุตสฺสานิมิตฺตสฺส, ลาภินีหํ ยทิจฺฉกํ;
โอรสา ธีตา พุทฺธสฺส, นิพฺพานาภิรตา สทา.
‘‘สพฺเพ กามา สมุจฺฉินฺนา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ สฺุตสฺสานิมิตฺตสฺส, ลาภินีหํ ยทิจฺฉกนฺติ สฺุตสมาปตฺติยา จ อนิมิตฺตสมาปตฺติยา จ อหํ ยทิจฺฉกํ ลาภินี, ตตฺถ ยํ ยํ สมาปชฺชิตุํ อิจฺฉามิ ยตฺถ ยตฺถ ยทา ยทา, ตํ ตํ ตตฺถ ตตฺถ ตทา ตทา สมาปชฺชิตฺวา ¶ วิหรามีติ อตฺโถ. ยทิปิ หิ สฺุตาปฺปณิหิตาทินามกสฺส ยสฺส กสฺสจิปิ มคฺคสฺส สฺุตาทิเภทํ ติวิธมฺปิ ผลํ ¶ สมฺภวติ. อยํ ปน เถรี สฺุตานิมิตฺตสมาปตฺติโยว สมาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สฺุตสฺสานิมิตฺตสฺส, ลาภินีหํ ยทิจฺฉก’’นฺติ. เยภุยฺยวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. นิทสฺสนมตฺตเมตนฺติ อปเร.
เย ทิพฺพา เย จ มานุสาติ เย เทวโลกปริยาปนฺนา เย จ มนุสฺสโลกปริยาปนฺนา วตฺถุกามา, เต สพฺเพปิ ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน มยา สมฺมเทว อุจฺฉินฺนา, อปริโภคารหา กตา ¶ . วุตฺตฺหิ – ‘‘อภพฺโพ, อาวุโส, ขีณาสโว ภิกฺขุ กาเม ปริภฺุชิตุํ. เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริยภูโต’’ติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อปรา อุตฺตมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทนฺติกาเถรีคาถาวณฺณนา
ทิวาวิหารา นิกฺขมฺมาติอาทิกา ทนฺติกาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี พุทฺธสฺุกาเล จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติ. สา เอกทิวสํ กินฺนเรหิ สทฺธึ กีฬนฺตี วิจรมานา อทฺทส อฺตรํ ปจฺเจกพุทฺธํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสินฺนํ. ทิสฺวาน ปสนฺนมานสา อุปสงฺกมิตฺวา สาลปุปฺเผหิ ปูชํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ โกสลรฺโ ปุโรหิตพฺราหฺมณสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เชตวนปฏิคฺคหเณ ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา ปจฺฉา มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ราชคเห วสมานา เอกทิวสํ ปจฺฉาภตฺตํ คิชฺฌกูฏํ อภิรุหิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสินฺนา หตฺถาโรหกสฺส อภิรุหนตฺถาย ปาทํ ปสาเรนฺตํ หตฺถึ ทิสฺวา ตเทว อารมฺมณํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๘๖-๙๖) –
‘‘จนฺทภาคานทีตีเร ¶ , อโหสึ กินฺนรี ตทา;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, สยมฺภุํ อปราชิตํ.
‘‘ปสนฺนจิตฺตา ¶ สุมนา, เวทชาตา กตฺชลี;
สาลมาลํ คเหตฺวาน, สยมฺภุํ อภิปูชยึ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา กินฺนรีเทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ฉตฺตึสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
มนสา ปตฺถิตํ มยฺหํ, นิพฺพตฺตติ ยถิจฺฉิตํ.
‘‘ทสนฺนํ ¶ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
โอจิตตฺตาว หุตฺวาน, สํสรามิ ภเวสฺวหํ.
‘‘กุสลํ วิชฺชเต มยฺหํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
ปูชารหา อหํ อชฺช, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.
‘‘วิสุทฺธมนสา อชฺช, อเปตมนปาปิกา;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ พุทฺธมภิปูชยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, สาลมาลายิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา อุทานวเสน –
‘‘ทิวาวิหารา นิกฺขมฺม, คิชฺฌกูฏมฺหิ ปพฺพเต;
นาคํ โอคาหมุตฺติณฺณํ, นทีตีรมฺหิ อทฺทสํ.
‘‘ปุริโส องฺกุสมาทาย, ‘เทหิ ปาท’นฺติ ยาจติ;
นาโค ปสารยี ปาทํ, ปุริโส นาคมารุหิ.
‘‘ทิสฺวา อทนฺตํ ทมิตํ, มนุสฺสานํ วสํ คตํ;
ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ, ขลุ ตาย วนํ คตา’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ ¶ นาคํ โอคาหมุตฺติณฺณนฺติ หตฺถินาคํ นทิยํ โอคาหํ กตฺวา โอคยฺห ตโต อุตฺติณฺณํ. ‘‘โอคยฺห มุตฺติณฺณ’’นฺติ วา ปาโ. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. นทีตีรมฺหิ อทฺทสนฺติ จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร อปสฺสึ.
กึ กโรนฺตนฺติ เจตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘ปุริโส’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘เทหิ ปาท’นฺติ ยาจตีติ ‘‘ปาทํ ¶ เทหิ’’อิติ ปิฏฺิอาโรหนตฺถํ ปาทํ ปสาเรตุํ สฺํ เทติ, ยถาปริจิตฺหิ สฺํ เทนฺโต อิธ ยาจตีติ วุตฺโต.
ทิสฺวา อทนฺตํ ทมิตนฺติ ปกติยา ปุพฺเพ อทนฺตํ อิทานิ หตฺถาจริเยน หตฺถิสิกฺขาย ทมิตทมถํ อุปคมิตํ. กีทิสํ ทมิตํ? มนุสฺสานํ วสํ คตํ ยํ ยํ มนุสฺสา อาณาเปนฺติ, ตํ ตํ ทิสฺวาติ โยชนา. ตโต ¶ จิตฺตํ สมาเธสึ, ขลุ ตาย วนํ คตาติ ขลูติ อวธารณตฺเถ นิปาโต. ตโต หตฺถิทสฺสนโต ปจฺฉา, ตาย หตฺถิโน กิริยาย เหตุภูตาย, วนํ อรฺํ คตา จิตฺตํ สมาเธสึเยว. กถํ? ‘‘อยมฺปิ นาม ติรจฺฉานคโต หตฺถี หตฺถิทมกสฺส วเสน ทมถํ คโต, กสฺมา มนุสฺสภูตาย จิตฺตํ ปุริสทมกสฺส สตฺถุ วเสน ทมถํ น คมิสฺสตี’’ติ สํเวคชาตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อคฺคมคฺคสมาธินา มม จิตฺตํ สมาเธสึ อจฺจนฺตสมาธาเนน สพฺพโส กิเลเส เขเปสินฺติ อตฺโถ.
ทนฺติกาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อุพฺพิริเถรีคาถาวณฺณนา
อมฺม, ชีวาติอาทิกา อุพฺพิริยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺตา เอกทิวสํ มาตาปิตูสุ มงฺคลํ อนุภวิตุํ เคหนฺตรคเตสุ อทุติยา สยํ เคเห โอหีนา อุปกฏฺาย เวลาย ภควโต สาวกํ เอกํ ขีณาสวตฺเถรํ เคหทฺวารสมีเปน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ภิกฺขํ ทาตุกามา, ‘‘ภนฺเต, อิธ ปวิสถา’’ติ วตฺวา เถเร เคหํ ปวิฏฺเ ปฺจปติฏฺิเตน เถรํ วนฺทิตฺวา โคนกาทีหิ อาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. นิสีทิ เถโร ปฺตฺเต ¶ อาสเน. สา ปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา เถรสฺส หตฺเถ เปสิ. เถโร อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ อุฬารทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ตโต จุตา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุพฺพิรีติ ลทฺธนามา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา อโหสิ. สา วยปฺปตฺตกาเล โกสลรฺา อตฺตโน เคหํ นีตา, กติปยสํวจฺฉราติกฺกเมน เอกํ ธีตรํ ลภิ. ตสฺสา ชีวนฺตีติ นามํ อกํสุ ¶ . ราชา ตสฺสา ธีตรํ ทิสฺวา ตุฏฺมานโส อุพฺพิริยา อภิเสกํ อทาสิ. ธีตา ปนสฺสา อาธาวิตฺวา ปริธาวิตฺวา วิจรณกาเล กาลมกาสิ. มาตา ยตฺถ ตสฺสา สรีรนิกฺเขโป กโต, ตํ สุสานํ คนฺตฺวา ¶ ทิวเส ทิวเส ปริเทวติ. เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา โถกํ นิสีทิตฺวา คตา อจิรวตีนทิยา ตีเร ตฺวา ธีตรํ อารพฺภ ปริเทวติ. ตํ ทิสฺวา สตฺถา คนฺธกุฏิยํ ยถานิสินฺโนว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กสฺมา วิปฺปลปสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มม ธีตรํ อารพฺภ วิปฺปลปามิ, ภควา’’ติ. ‘‘อิมสฺมึ สุสาเน ฌาปิตา ตว ธีตโร จตุราสีติสหสฺสมตฺตา, ตาสํ กตร สนฺธาย วิปฺปลปสี’’ติ. ตาสํ ตํ ตํ อาฬาหนฏฺานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘อมฺม ชีวาติ วนมฺหิ กนฺทสิ, อตฺตานํ อธิคจฺฉ อุพฺพิริ;
จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, สพฺพา ชีวสนามิกา;
เอตมฺหาฬาหเน ทฑฺฒา, ตาสํ กมนุโสจสี’’ติ. – สอุปฑฺฒคาถมาห;
ตตฺถ, อมฺม, ชีวาติ มาตุปจารนาเมน ธีตุยา อาลปนํ, อิทฺจสฺสา วิปฺปลปนาการทสฺสนํ. วนมฺหิ กนฺทสีติ วนมชฺเฌ ปริเทวสิ. อตฺตานํ อธิคจฺฉ อุพฺพิรีติ อุพฺพิริ ตว อตฺตานเมว ตาว พุชฺฌสฺสุ ยาถาวโต ชานาหิ. จุลฺลาสีติสหสฺสานีติ จตุราสีติสหสฺสานิ. สพฺพา ชีวสนามิกาติ ตา สพฺพาปิ ชีวนฺติ, ยา สมานนามิกา. เอตมฺหาฬาหเน ทฑฺฒาติ เอตมฺหิ สุสาเน ฌาปิตา. ตาสํ กมนุโสจสีติ ตาสุ ชีวนฺตีนามาสุ จตุราสีติสหสฺสมตฺตาสุ กํ สนฺธาย ตฺวํ อนุโสจสิ อนุโสกํ อาปชฺชสีติ เอวํ สตฺถารา ธมฺเม เทสิเต เทสนานุสาเรน าณํ ¶ เปเสตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา สตฺถุ เทสนาวิลาเสน อตฺตโน จ เหตุสมฺปตฺติยา ยถาาตาว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อคฺคผเล อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๓๗-๖๐) –
‘‘นคเร หํสวติยา, อโหสึ พาลิกา ตทา;
มาตา จ เม ปิตา เจว, กมฺมนฺตํ อคมํสุ เต.
‘‘มชฺฌนฺหิกมฺหิ ¶ สูริเย, อทฺทสํ สมณํ อหํ;
วีถิยา อนุคจฺฉนฺตํ, อาสนํ ปฺเปสหํ.
‘‘โคนกาวิกติกาหิ, ปฺเปตฺวา มมาสนํ;
ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘สนฺตตฺตา ¶ กุถิตา ภูมิ, สูโร มชฺฌนฺหิเก ิโต;
มาลุตา จ น วายนฺติ, กาโล เจเวตฺถ เมหิติ.
‘‘ปฺตฺตมาสนมิทํ, ตวตฺถาย มหามุนิ;
อนุกมฺปํ อุปาทาย, นิสีท มม อาสเน.
‘‘นิสีทิ ตตฺถ สมโณ, สุทนฺโต สุทฺธมานโส;
ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, ยถารนฺธํ อทาสหํ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตตฺถ เม สุกตํ พฺยมฺหํ, อาสเนน สุนิมฺมิตํ;
สฏฺิโยชนมุพฺเพธํ, ตึสโยชนวิตฺถตํ.
‘‘โสณฺณมยา มณิมยา, อโถปิ ผลิกามยา;
โลหิตงฺคมยา เจว, ปลฺลงฺกา วิวิธา มม.
‘‘ตูลิกาวิกติกาหิ, กฏฺฏิสฺสจิตฺตกาหิ จ;
อุทฺธเอกนฺตโลมี จ, ปลฺลงฺกา เม สุสณฺิตา.
‘‘ยทา อิจฺฉามิ คมนํ, หาสขิฑฺฑสมปฺปิตา;
สห ปลฺลงฺกเสฏฺเน, คจฺฉามิ มม ปตฺถิตํ.
‘‘อสีติเทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
สตฺตติจกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘ภวาภเว ¶ สํสรนฺตี, มหาโภคํ ลภามหํ;
โภเค เม อูนตา นตฺถิ, เอกาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ทุเว ภเว สํสรามิ, เทวตฺเต อถ มานุเส;
อฺเ ภเว น ชานามิ, เอกาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ทุเว ¶ ¶ กุเล ปชายามิ, ขตฺติเย จาปิ พฺราหฺมเณ;
อุจฺจากุลีนา สพฺพตฺถ, เอกาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘โทมนสฺสํ น ชานามิ, จิตฺตสนฺตาปนํ มม;
เววณฺณิยํ น ชานามิ, เอกาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ธาติโย มํ อุปฏฺนฺติ, ขุชฺชา เจลาปิกา พหู;
องฺเกน องฺกํ คจฺฉามิ, เอกาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อฺา นฺหาเปนฺติ โภเชนฺติ, อฺา รเมนฺติ มํ สทา;
อฺา คนฺธํ วิลิมฺปนฺติ, เอกาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘มณฺฑเป รุกฺขมูเล วา, สฺุาคาเร วสนฺติยา;
มม สงฺกปฺปมฺาย, ปลฺลงฺโก อุปติฏฺติ.
‘‘อยํ ปจฺฉิมโก มยฺหํ, จริโม วตฺตเต ภโว;
อชฺชาปิ รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, เอกาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺเต ปน ปติฏฺาย อตฺตนา อธิคตวิเสสํ ปกาเสนฺตี –
‘‘อพฺพหี ตว เม สลฺลํ, ทุทฺทสํ หทยสฺสิตํ;
ยํ เม โสกปเรตาย, ธีตุโสกํ พฺยปานุทิ.
‘‘สาชฺช ¶ อพฺพูฬฺหสลฺลาหํ, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา;
พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ, อุเปมิ สรณํ มุนิ’’นฺติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ อพฺพหี วต เม สลฺลํ, ทุทฺทสํ หทยสฺสิตนฺติ อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ ยาถาวโต ทุทฺทสํ มม จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ ปีฬาชนนโต ทุนฺนีหรณโต อนฺโต ตุทนโต จ ‘‘สลฺล’’นฺติ ¶ ลทฺธนามํ โสกํ ตณฺหฺจ อพฺพหี วต นีหริ วต. ยํ เม โสกปเรตายาติ ยสฺมา โสเกน อภิภูตาย มยฺหํ ธีตุโสกํ พฺยปานุทิ อนวเสสโต นีหริ, ตสฺมา อพฺพหี วต เม สลฺลนฺติ โยชนา.
สาชฺช อพฺพูฬฺหสลฺลาหนฺติ สา อหํ อชฺช สพฺพโส อุทฺธฏตณฺหาสลฺลา ตโต เอว นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา. มุนินฺติ สพฺพฺุพุทฺธํ ตทุปเทสิตมคฺคผลนิพฺพานปเภทํ นววิธโลกุตฺตรธมฺมฺจ, ตตฺถ ปติฏฺิตํ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหสงฺขาตํ สงฺฆฺจ, อนุตฺตเรหิ เตหิ โยชนโต สกลวฏฺฏทุกฺขวินาสนโต จ สรณํ ตาณํ เลณํ ปรายณนฺติ, อุเปมิ อุปคจฺฉามิ พุชฺฌามิ เสวามิ จาติ อตฺโถ.
อุพฺพิริเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สุกฺกาเถรีคาถาวณฺณนา
กึเม กตา ราชคเหติอาทิกา สุกฺกาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล พนฺธุมตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺตา อุปาสิกาหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ปฏิภานวตี อโหสิ. สา ตตฺถ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา ปุถุชฺชนกาลกิริยเมว กตฺวา ตุสิเต นิพฺพตฺติ. ตถา สิขิสฺส ภควโต, เวสฺสภุสฺส ภควโต กาเลติ เอวํ ติณฺณํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ สาสเน สีลํ รกฺขิตฺวา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา อโหสิ, ตถา กกุสนฺธสฺส, โกณาคมนสฺส, กสฺสปสฺส จ ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา วิสุทฺธสีลา พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา อโหสิ.
เอวํ ¶ สา ตตฺถ ตตฺถ พหุํ ปฺุํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคหนคเร คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, สุกฺกาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วิฺุตํ ปตฺตา สตฺถุ ราชคหปเวสเน ลทฺธปฺปสาทา ¶ ¶ อุปาสิกา หุตฺวา อปรภาเค ธมฺมทินฺนาย เถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา สฺชาตสํเวคา ตสฺสา เอว สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี นจิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๔.๑๑๑-๑๔๒) –
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, วิปสฺสี นาม นายโก;
อุปฺปชฺชิ จารุทสฺสโน, สพฺพธมฺมวิปสฺสโก.
‘‘ตทาหํ พนฺธุมติยํ, ชาตา อฺตเร กุเล;
ธมฺมํ สุตฺวาน มุนิโน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, ปฏิภานวตี ตถา;
วิจิตฺตกถิกา จาปิ, ชินสาสนการิกา.
‘‘ตทา ธมฺมกถํ กตฺวา, หิตาย ชนตํ พหุํ;
ตโต จุตาหํ ตุสิตํ, อุปปนฺนา ยสสฺสินี.
‘‘เอกตฺตึเส อิโต กปฺเป, สิขี วิย สิขี ชิโน;
ตปนฺโต ยสสา โลเก, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘ตทาปิ ปพฺพชิตฺวาน, พุทฺธสาสนโกวิทา;
โชเตตฺวา ชินวากฺยานิ, ตโตปิ ติทิวํ คตา.
‘‘เอกตฺตึเสว กปฺปมฺหิ, เวสฺสภู นาม นายโก;
อุปฺปชฺชิตฺถ มหาาณี, ตทาปิ จ ตเถวหํ.
‘‘ปพฺพชิตฺวา ¶ ธมฺมธรา, โชตยึ ชินสาสนํ;
คนฺตฺวา มรุปุรํ รมฺมํ, อนุโภสึ มหาสุขํ.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, กกุสนฺโธ ชินุตฺตโม;
อุปฺปชฺชิ นรสรโณ, ตทาปิ จ ตเถวหํ.
‘‘ปพฺพชิตฺวา มุนิมตํ, โชตยิตฺวา ยถายุกํ;
ตโต จุตาหํ ติทิวํ, อคํ สภวนํ ยถา.
‘‘อิมสฺมึเยว กปฺปมฺหิ, โกณาคมนนายโก;
อุปฺปชฺชิ โลกสรโณ, อรโณ อมตงฺคโต.
‘‘ตทาปิ ¶ ปพฺพชิตฺวาน, สาสเน ตสฺส ตาทิโน;
พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, โชตยึ ชินสาสนํ.
‘‘อิมสฺมึเยว กปฺปมฺหิ, กสฺสโป มุนิมุตฺตโม;
อุปฺปชฺชิ ¶ โลกสรโณ, อรโณ มรณนฺตคู.
‘‘ตสฺสาปิ นรวีรสฺส, ปพฺพชิตฺวาน สาสเน;
ปริยาปุฏสทฺธมฺมา, ปริปุจฺฉา วิสารทา.
‘‘สุสีลา ลชฺชินี เจว, ตีสุ สิกฺขาสุ โกวิทา;
พหุํ ธมฺมกถํ กตฺวา, ยาวชีวํ มหามุเน.
‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, คิริพฺพชปุรุตฺตเม;
ชาตา เสฏฺิกุเล ผีเต, มหารตนสฺจเย.
‘‘ยทา ¶ ภิกฺขุสหสฺเสน, ปริวุโต โลกนายโก;
อุปาคมิ ราชคหํ, สหสฺสกฺเขน วณฺณิโต.
‘‘ทนฺโต ทนฺเตหิ สห ปุราณชฏิเลหิ, วิปฺปมุตฺโต วิปฺปมุตฺเตหิ;
สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณ, ราชคหํ ปาวิสิ ภควา.
‘‘ทิสฺวา พุทฺธานุภาวํ ตํ, สุตฺวาว คุณสฺจยํ;
พุทฺเธ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ปูชยึ ตํ ยถาพลํ.
‘‘อปเรน จ กาเลน, ธมฺมทินฺนาย สนฺติเก;
อคารา นิกฺขมิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘เกเสสุ ฉิชฺชมาเนสุ, กิเลเส ฌาปยึ อหํ;
อุคฺคหึ สาสนํ สพฺพํ, ปพฺพชิตฺวา จิเรนหํ.
‘‘ตโต ธมฺมมเทเสสึ, มหาชนสมาคเม;
ธมฺเม เทสิยมานมฺหิ, ธมฺมาภิสมโย อหุ.
‘‘เนกปาณสหสฺสานํ, ตํ วิทิตฺวาติวิมฺหิโต;
อภิปฺปสนฺโน เม ยกฺโข, ภมิตฺวาน คิริพฺพชํ.
‘‘กึเม ¶ กตา ราชคเห มนุสฺสา, มธุํ ปีตาว อจฺฉเร;
เย สุกฺกํ น อุปาสนฺติ, เทเสนฺตึ อมตํ ปทํ.
‘‘ตฺจ อปฺปฏิวานียํ, อเสจนกโมชวํ;
ปิวนฺติ มฺเ สปฺปฺา, วลาหกมิวทฺธคู.
‘‘อิทฺธีสุ ¶ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี โหมิ มหามุเน.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ¶ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ มม มหาวีร, อุปฺปนฺนํ ตว สนฺติเก.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ปฺจสตภิกฺขุนิปริวารา มหาธมฺมกถิกา อโหสิ. สา เอกทิวสํ ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺจา ภิกฺขุนุปสฺสยํ ปวิสิตฺวา สนฺนิสินฺนาย มหติยา ปริสาย มธุภณฺฑํ ปีเฬตฺวา สุมธุรํ ปาเยนฺตี วิย อมเตน อภิสิฺจนฺตี วิย ธมฺมํ เทเสติ. ปริสา จสฺสา ธมฺมกถํ โอหิตโสตา อวิกฺขิตฺตจิตฺตา สกฺกจฺจํ สุณาติ. ตสฺมึ ขเณ เถริยา จงฺกมนโกฏิยํ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา ธมฺมเทสนาย ปสนฺนา ราชคหํ ปวิสิตฺวา รถิยาย รถิยํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ วิจริตฺวา ตสฺสา คุณํ วิภาเวนฺตี –
‘‘กึเม กตา ราชคเห มนุสฺสา, มธุํ ปีตาว อจฺฉเร;
เย สุกฺกํ น อุปาสนฺติ, เทเสนฺตึ พุทฺธสาสนํ.
‘‘ตฺจ อปฺปฏิวานียํ, อเสจนกโมชวํ;
ปิวนฺติ มฺเ สปฺปฺา, วลาหกมิวทฺธคู’’ติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ กึเม กตา ราชคเห มนุสฺสาติ อิเม ราชคเห มนุสฺสา กึ กตา, กิสฺมึ นาม กิจฺเจ พฺยาวฏา. มธุํ ปีตาว อจฺฉเรติ ยถา ภณฺฑมธุํ คเหตฺวา มธุํ ปีตวนฺโต วิสฺิโน หุตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ ¶ , เอวํ อิเมปิ ธมฺมสฺาย วิสฺิโน หุตฺวา มฺเ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ, เกวลํ อจฺฉนฺติเยวาติ อตฺโถ. เย สุกฺกํ น ¶ อุปาสนฺติ, เทเสนฺตึ พุทฺธสาสนนฺติ พุทฺธสฺส ภควโต สาสนํ ยาถาวโต เทเสนฺตึ ปกาเสนฺตึ สุกฺกํ เถรึ เย น อุปาสนฺติ น ปยิรุปาสนฺติ. เต อิเม ราชคเห มนุสฺสา กึ กตาติ โยชนา.
ตฺจ ¶ อปฺปฏิวานียนฺติ ตฺจ ปน ธมฺมํ อนิวตฺติตภาวาวหํ นิยฺยานิกํ, อภิกฺกนฺตตาย วา ยถา โสตุชนสวนมโนหรภาเวน อนปนียํ, อเสจนกํ อนาสิตฺตกํ ปกติยาว มหารสํ ตโต เอว โอชวนฺตํ. ‘‘โอสธ’’นฺติปิ ปาฬิ. วฏฺฏทุกฺขพฺยาธิติกิจฺฉาย โอสธภูตํ. ปิวนฺติ มฺเ สปฺปฺา, วลาหกมิวทฺธคูติ วลาหกนฺตรโต นิกฺขนฺตํ อุทกํ นิรุทกกนฺตาเร ปถคา วิย ตํ ธมฺมํ สปฺปฺา ปณฺฑิตปุริสา ปิวนฺติ มฺเ ปิวนฺตา วิย สุณนฺติ.
มนุสฺสา ตํ สุตฺวา ปสนฺนมานสา เถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณึสุ. อปรภาเค เถริยา อายุปริโยสาเน ปรินิพฺพานกาเล สาสนสฺส นิยฺยานิกภาววิภาวนตฺถํ อฺํ พฺยากโรนฺตี –
‘‘สุกฺกา สุกฺเกหิ ธมฺเมหิ, วีตราคา สมาหิตา;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหน’’นฺติ. – อิมํ คาถํ อภาสิ;
ตตฺถ สุกฺกาติ สุกฺกาเถรี อตฺตานเมว ปรํ วิย ทสฺเสติ. สุกฺเกหิ ธมฺเมหีติ สุปริสุทฺเธหิ โลกุตฺตรธมฺเมหิ. วีตราคา สมาหิตาติ อคฺคมคฺเคน สพฺพโส วีตราคา อรหตฺตผลสมาธินา สมาหิตา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สุกฺกาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เสลาเถรีคาถาวณฺณนา
นตฺถิ ¶ นิสฺสรณํ โลเกติอาทิกา เสลาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺตา มาตาปิตูหิ สมานชาติกสฺส กุลปุตฺตสฺส ¶ ทินฺนา, เตน สทฺธึ พหูนิ วสฺสสตานิ สุขสํวาสํ วสิตฺวา ตสฺมึ กาลงฺกเต สยมฺปิ อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา สํเวคชาตา กึกุสลคเวสินี กาเลน กาลํ อาราเมน อารามํ วิหาเรน วิหารํ อนุวิจรติ ‘‘สมณพฺราหฺมณานํ สนฺติเก ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ. สา เอกทิวสํ สตฺถุ โพธิรุกฺขํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ยทิ พุทฺโธ ภควา อสโม อสมสโม อปฺปฏิปุคฺคโล, ทสฺเสตุ เม อยํ โพธิ ปาฏิหาริย’’นฺติ นิสีทิ. ตสฺสา ตถา จิตฺตุปฺปาทสมนนฺตรเมว โพธิ ปชฺชลิ, สพฺพโสวณฺณมยา ¶ สาขา อุฏฺหึสุ, สพฺพา ทิสา วิโรจึสุ. สา ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ครุจิตฺตีการํ อุปฏฺเปตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปคฺคยฺห สตฺตรตฺตินฺทิวํ ตตฺเถว นิสีทิ. สตฺตเม ทิวเส อุฬารํ ปูชาสกฺการํ อกาสิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อาฬวีรฏฺเ อาฬวิกสฺส รฺโ ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เสลาติสฺสา นามํ อโหสิ. อาฬวิกสฺส ปน รฺโ ธีตาติ กตฺวา อาฬวิกาติปิ นํ โวหรนฺติ. สา วิฺุตํ ปตฺตา สตฺถริ อาฬวกํ ทเมตฺวา ตสฺส หตฺเถ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา เตน สทฺธึ อาฬวีนครํ อุปคเต ทาริกา หุตฺวา รฺา สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา อโหสิ. สา อปรภาเค สฺชาตสํเวคา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตี อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตฺตา ปริปกฺกาณา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๖๑-๘๕) –
‘‘นคเร หํสวติยา, จาริกี อาสหํ ตทา;
อาราเมน จ อารามํ, จรามิ กุสลตฺถิกา.
‘‘กาฬปกฺขมฺหิ ทิวเส, อทฺทสํ โพธิมุตฺตมํ;
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, โพธิมูเล นิสีทหํ.
‘‘ครุจิตฺตํ ¶ อุปฏฺเตฺวา, สิเร กตฺวาน อฺชลึ;
โสมนสฺสํ ปเวเทตฺวา, เอวํ จินฺเตสิ ตาวเท.
‘‘ยทิ พุทฺโธ อมิตคุโณ, อสมปฺปฏิปุคฺคโล;
ทสฺเสตุ ปาฏิหีรํ เม, โพธิ โอภาสตุ อยํ.
‘‘สห ¶ อาวชฺชิเต มยฺหํ, โพธิ ปชฺชลิ ตาวเท;
สพฺพโสณฺณมยา อาสิ, ทิสา สพฺพา วิโรจติ.
‘‘สตฺตรตฺตินฺทิวํ ตตฺถ, โพธิมูเล นิสีทหํ;
สตฺตเม ทิวเส ปตฺเต, ทีปปูชํ อกาสหํ.
‘‘อาสนํ ¶ ปริวาเรตฺวา, ปฺจทีปานิ ปชฺชลุํ;
ยาว อุเทติ สูริโย, ทีปา เม ปชฺชลุํ ตทา.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตตฺถ เม สุกตํ พฺยมฺหํ, ปฺจทีปาติ วุจฺจติ;
สฏฺิโยชนมุพฺเพธํ, ตึสโยชนวิตฺถตํ.
‘‘อสงฺขิยานิ ทีปานิ, ปริวาเร ชลึสุ เม;
ยาวตา เทวภวนํ, ทีปาโลเกน โชตติ.
‘‘ปรมฺมุขา นิสีทิตฺวา, ยทิ อิจฺฉามิ ปสฺสิตุํ;
อุทฺธํ อโธ จ ติริยํ, สพฺพํ ปสฺสามิ จกฺขุนา.
‘‘ยาวตา อภิกงฺขามิ, ทฏฺุํ สุคตทุคฺคเต;
ตตฺถ อาวรณํ นตฺถิ, รุกฺเขสุ ปพฺพเตสุ วา.
‘‘อสีติเทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ;
สตานํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, เทวตฺตํ อถ มานุสํ;
ทีปสตสหสฺสานิ, ปริวาเร ชลนฺติ เม.
‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, อุปฺปชฺชึ มาตุกุจฺฉิยํ;
มาตุกุจฺฉิคตา สนฺตี, อกฺขิ เม น นิมีลติ.
‘‘ทีปสตสหสฺสานิ, ปฺุกมฺมสมงฺคิตา;
ชลนฺติ สูติกาเคเห, ปฺจทีปานิทํ ผลํ.
‘‘ปจฺฉิเม ¶ ภเว สมฺปตฺเต, มานสํ วินิวตฺตยึ;
อชรามตํ สีติภาวํ, นิพฺพานํ ผสฺสยึ อหํ.
‘‘ชาติยา ¶ ¶ สตฺตวสฺสาหํ, อรหตฺตมปาปุณึ;
อุปสมฺปาทยี พุทฺโธ, คุณมฺาย โคตโม.
‘‘มณฺฑเป รุกฺขมูเล วา, สฺุาคาเร วสนฺติยา;
ตทา ปชฺชลเต ทีปํ, ปฺจทีปานิทํ ผลํ.
‘‘ทิพฺพจกฺขุวิสุทฺธํ เม, สมาธิกุสลา อหํ;
อภิฺาปารมิปฺปตฺตา, ปฺจทีปานิทํ ผลํ.
‘‘สพฺพโวสิตโวสานา, กตกิจฺจา อนาสวา;
ปฺจทีปา มหาวีร, ปาเท วนฺทามิ จกฺขุม.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ ทีปมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปฺจทีปานิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เถรี สาวตฺถิยํ วิหรนฺตี เอกทิวสํ ปจฺฉาภตฺตํ สาวตฺถิโต นิกฺขมิตฺวา ทิวาวิหารตฺถาย อนฺธวนํ ปวิสิตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. อถ นํ มาโร วิเวกโต วิจฺเฉเทตุกาโม อฺาตกรูเปน อุปคนฺตฺวา –
‘‘นตฺถิ นิสฺสรณํ โลเก, กึ วิเวเกน กาหสิ;
ภฺุชาหิ กามรติโย, มาหุ ปจฺฉานุตาปินี’’ติ. – คาถมาห;
ตสฺสตฺโถ – อิมสฺมึ โลเก สพฺพสมเยสุปิ อุปปริกฺขียมาเนสุ นิสฺสรณํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ เตสํ เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ฉนฺทโส ปฏิฺายมานํ โวหารมตฺตเมเวตํ, ตสฺมา กึ วิเวเกน กาหสิ เอวรูเป สมฺปนฺนปมวเย ิตา อิมินา กายวิเวเกน กึ กริสฺสสิ? อถ โข ภฺุชาหิ กามรติโย วตฺถุกามกิเลสกามสนฺนิสฺสิตา ขิฑฺฑารติโย ¶ ปจฺจนุโภหิ. กสฺมา? มาหุ ปจฺฉานุตาปินี ‘‘ยทตฺถํ พฺรหฺมจริยํ ¶ จรามิ, ตเทว นิพฺพานํ นตฺถิ, เตเนเวตํ นาธิคตํ, กามโภคา ¶ จ ปริหีนา, อนตฺโถ วต มยฺห’’นฺติ ปจฺฉา วิปฺปฏิสารินี มา อโหสีติ อธิปฺปาโย.
ตํ สุตฺวา เถรี ‘‘พาโล วตายํ มาโร, โย มม ปจฺจกฺขภูตํ นิพฺพานํ ปฏิกฺขิปติ. กาเมสุ จ มํ ปวาเรติ, มม ขีณาสวภาวํ น ชานาติ. หนฺท นํ ตํ ชานาเปตฺวา ตชฺเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา –
‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;
ยํ ตฺวํ กามรตึ พฺรูสิ, อรตี ทานิ สา มม.
‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมกฺขนฺโธ ปทาลิโต;
เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ. – อิมํ คาถาทฺวยมาห;
ตตฺถ สตฺติสูลูปมา กามาติ กามา นาม เยน อธิฏฺิตา, ตสฺส สตฺตสฺส วินิวิชฺฌนโต นิสิตสตฺติ วิย สูลํ วิย จ ทฏฺพฺพา. ขนฺธาติ อุปาทานกฺขนฺธา. อาสนฺติ เตสํ. อธิกุฏฺฏนาติ ฉินฺทนาธิฏฺานา, อจฺจาทานฏฺานนฺติ อตฺโถ. ยโต ขนฺเธ อจฺจาทาย สตฺตา กาเมหิ เฉชฺชเภชฺชํ ปาปุณนฺติ. ยํ ตฺวํ กามรตึ พฺรูสิ, อรติ ทานิ สา มมาติ, ปาปิม, ตฺวํ ยํ กามรตึ รมิตพฺพํ เสวิตพฺพํ กตฺวา วทสิ, สา ทานิ มม นิรติชาติกตฺตา มีฬฺหสทิสา, น ตาย มม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ.
ตตฺถ การณมาห ‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที’’ติอาทินา. ตตฺถ เอวํ ชานาหีติ ‘‘สพฺพโส ปหีนตณฺหาวิชฺชา’’ติ มํ ชานาหิ, ตโต เอว พลวิธมนวิสยาติกฺกมเนหิ อนฺตก ลามกาจาร, มาร, ตฺวํ มยา นิหโต พาธิโต อสิ, น ปนาหํ ตยา พาธิตพฺพาติ อตฺโถ.
เอวํ เถริยา มาโร สนฺตชฺชิโต ตตฺเถวนฺตรธายิ. เถรีปิ ผลสมาปตฺติสุเขน อนฺธวเน ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา สายนฺเห วสนฏฺานเมว คตา.
เสลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. โสมาเถรีคาถาวณฺณนา
ยํ ¶ ¶ ¶ ตํ อิสีหิ ปตฺตพฺพนฺติอาทิกา โสมาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี สิขิสฺส ภควโต กาเล ขตฺติยมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา อรุณรฺโ อคฺคมเหสี อโหสีติ สพฺพํ อตีตวตฺถุ อภยตฺเถริยา วตฺถุสทิสํ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ ปน อยํ เถรี ตตฺถ ตตฺถ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พิมฺพิสารสฺส รฺโ ปุโรหิตสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา โสมาติ นามํ อโหสิ. สา วิฺุตํ ปตฺตา สตฺถุ ราชคหปเวสเน ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา อปรภาเค สฺชาตสํเวคา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๗๑, ๘๐-๙๐) –
‘‘นคเร อรุณวติยา, อรุโณ นาม ขตฺติโย;
ตสฺส รฺโ อหุํ ภริยา, วาริตํ วารยามหํ.
‘‘ยาวตา…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
สพฺพํ อภยตฺเถริยา อปทานสทิสํ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิมุตฺติสุเขน สาวตฺถิยํ วิหรนฺตี เอกทิวสํ ทิวาวิหารตฺถาย อนฺธวนํ ปวิสิตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. อถ นํ มาโร วิเวกโต วิจฺเฉเทตุกาโม อทิสฺสมานุรูโป อุปคนฺตฺวา อากาเส ตฺวา –
‘‘ยํ ตํ อิสีหิ ปตฺตพฺพํ, านํ ทุรภิสมฺภวํ;
น ตํ ทฺวงฺคุลปฺาย, สกฺกา ปปฺโปตุมิตฺถิยา’’ติ. – อิมํ คาถมาห;
ตสฺสตฺโถ – สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสนฏฺเน ‘‘อิสี’’ติ ลทฺธนาเมหิ พุทฺธาทีหิ มหาปฺเหิ ปตฺตพฺพํ, ตํ อฺเหิ ปน ทุรภิสมฺภวํ ทุนฺนิปฺผาทนียํ. ยํ ตํ อรหตฺตสงฺขาตํ ปรมสฺสาสฏฺานํ, น ตํ ทฺวงฺคุลปฺาย นิหีนปฺาย อิตฺถิยา ¶ ปาปุณิตุํ สกฺกา. อิตฺถิโย หิ สตฺตฏฺวสฺสกาลโต ¶ ปฏฺาย สพฺพกาลํ โอทนํ ปจนฺติโย ปกฺกุถิเต อุทเก ตณฺฑุเล ปกฺขิปิตฺวา ‘‘เอตฺตาวตา ¶ โอทนํ ปกฺก’’นฺติ น ชานนฺติ, ปกฺกุถิยมาเน ปน ตณฺฑุเล ทพฺพิยา อุทฺธริตฺวา ทฺวีหิ องฺคุลีหิ ปีเฬตฺวา ชานนฺติ, ตสฺมา ทฺวงฺคุลิปฺายาติ วุตฺตา.
ตํ สุตฺวา เถรี มารํ อปสาเทนฺตี –
‘‘อิตฺถิภาโว โน กึ กยิรา, จิตฺตมฺหิ สุสมาหิเต;
าณมฺหิ วตฺตมานมฺหิ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.
‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมกฺขนฺโธ ปทาลิโต;
เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ. –
อิตรา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อิตฺถิภาโว โน กึ กยิราติ มาตุคามภาโว อมฺหากํ กึ กเรยฺย, อรหตฺตปฺปตฺติยา กีทิสํ วิพนฺธํ อุปฺปาเทยฺย. จิตฺตมฺหิ สุสมาหิเตติ จิตฺเต อคฺคมคฺคสมาธินา สุฏฺุ สมาหิเต. าณมฺหิ วตฺตมานมฺหีติ ตโต อรหตฺตมคฺคาเณ ปวตฺตมาเน. สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโตติ จตุสจฺจธมฺมํ ปริฺาทิวิธินา สมฺมเทว ปสฺสโต. อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – ปาปิม, อิตฺถี วา โหตุ ปุริโส วา, อคฺคมคฺเค อธิคเต อรหตฺตํ หตฺถคตเมวาติ.
อิทานิ ตสฺส อตฺตนา อธิคตภาวํ อุชุกเมว ทสฺเสนฺตี ‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที’’ติ คาถมาห. สา วุตฺตตฺถาเยว.
โสมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ติกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุกฺกนิปาโต
๑. ภทฺทากาปิลานีเถรีคาถาวณฺณนา
จตุกฺกนิปาเต ¶ ¶ ปุตฺโต พุทฺธสฺส ทายาโทติอาทิกา ภทฺทาย กาปิลานิยา เถริยา คาถา. สา กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตีนํ ¶ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ปฺุานิ กตฺวา ตโต จุตา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาราณสิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา ปติกุลํ คนฺตฺวา, เอกทิวสํ อตฺตโน นนนฺทาย สทฺธึ กลหํ กโรนฺตี ตาย ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาเต ทินฺเน ‘‘อยํ อิมสฺส ทานํ ทตฺวา อุฬารสมฺปตฺตึ ลภิสฺสตี’’ติ ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ภตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ. มหาชโน ครหิ – ‘‘พาเล, ปจฺเจกพุทฺโธ เต กึ อปรชฺฌี’’ติ? สา เตสํ วจเนน ลชฺชมานา ปุน ปตฺตํ คเหตฺวา กลลํ นีหริตฺวา โธวิตฺวา คนฺธจุณฺเณน อุพฺพฏฺเฏตฺวา จตุมธุรสฺส ปูเรตฺวา อุปริ อาสิตฺเตน ปทุมคพฺภวณฺเณน สปฺปินา วิชฺโชตมานํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ยถา อยํ ปิณฺฑปาโต โอภาสชาโต, เอวํ โอภาสชาตํ เม สรีรํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. สา ตโต จวิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี กสฺสปพุทฺธกาเล พาราณสิยํ มหาวิภวสฺส เสฏฺิโน ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ปุพฺพกมฺมผเลน ทุคฺคนฺธสรีรา มนุสฺเสหิ ชิคุจฺฉิตพฺพา หุตฺวา สํเวคชาตา อตฺตโน อาภรเณหิ สุวณฺณิฏฺกํ กาเรตฺวา ภควโต เจติเย ปติฏฺเปสิ, อุปฺปลหตฺเถน จ ปูชํ อกาสิ. เตนสฺสา สรีรํ ตสฺมึเยว ภเว สุคนฺธํ มโนหรํ ชาตํ. สา ปติโน ปิยา มนาปา หุตฺวา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา ตโต จุตา สคฺเค นิพฺพตฺติ. ตตฺถาปิ ยาวชีวํ ทิพฺพสุขํ อนุภวิตฺวา, ตโต จุตา พาราณสิรฺโ ธีตา หุตฺวา ตตฺถ เทวสมฺปตฺติสทิสํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี จิรกาลํ ปจฺเจกพุทฺเธ อุปฏฺหิตฺวา, เตสุ ปรินิพฺพุเตสุ สํเวคชาตา ตาปสปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตฺวา อุยฺยาเน วสนฺตี ฌานานิ ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุตา สาคลนคเร โกสิยโคตฺตสฺส ¶ พฺราหฺมณกุลสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา มหตา ปริหาเรน วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺตา มหาติตฺถคาเม ปิปฺผลิกุมารสฺส เคหํ นีตา. ตสฺมึ ปพฺพชิตุํ นิกฺขนฺเต มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ มหนฺตฺจ าติปริวฏฺฏํ ปหาย ปพฺพชฺชตฺถาย นิกฺขมิตฺวา ปฺจ วสฺสานิ ติตฺถิยาราเม ปวิสิตฺวา อปรภาเค ¶ มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ ¶ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา น จิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๒๔๔-๓๑๓) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหุ หํสวติยํ, วิเทโห นาม นามโต;
เสฏฺี ปหูตรตโน, ตสฺส ชายา อโหสหํ.
‘‘กทาจิ โส นราทิจฺจํ, อุเปจฺจ สปริชฺชโน;
ธมฺมมสฺโสสิ พุทฺธสฺส, สพฺพทุกฺขภยปฺปหํ.
‘‘สาวกํ ธุตวาทานํ, อคฺคํ กิตฺเตสิ นายโก;
สุตฺวา สตฺตาหิกํ ทานํ, ทตฺวา พุทฺธสฺส ตาทิโน.
‘‘นิปจฺจ สิรสา ปาเท, ตํ านมภิปตฺถยึ;
ส หาสยนฺโต ปริสํ, ตทา หิ นรปุงฺคโว.
‘‘เสฏฺิโน อนุกมฺปาย, อิมา คาถา อภาสถ;
ลจฺฉเส ปตฺถิตํ านํ, นิพฺพุโต โหหิ ปุตฺตก.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.
‘‘ตํ ¶ สุตฺวา มุทิโต หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
เมตฺตจิตฺโต ปริจริ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.
‘‘สาสนํ โชตยิตฺวาน, โส มทฺทิตฺวา กุติตฺถิเย;
เวเนยฺยํ วินยิตฺวา จ, นิพฺพุโต โส สสาวโก.
‘‘นิพฺพุเต ¶ ตมฺหิ โลกคฺเค, ปูชนตฺถาย สตฺถุโน;
าติมิตฺเต สมาเนตฺวา, สห เตหิ อการยิ.
‘‘สตฺตโยชนิกํ ถูปํ, อุพฺพิทฺธํ รตนามยํ;
ชลนฺตํ สตรํสึว, สาลราชํว ผุลฺลิตํ.
‘‘สตฺตสตสหสฺสานิ, ปาติโย ตตฺถ การยิ;
นฬคฺคี วิย โชตนฺตี, รตเนเหว สตฺตหิ.
‘‘คนฺธเตเลน ปูเรตฺวา, ทีปานุชฺชลยี ตหึ;
ปูชนตฺถาย ¶ มเหสิสฺส, สพฺพภูตานุกมฺปิโน.
‘‘สตฺตสตสหสฺสานิ, ปุณฺณกุมฺภานิ การยิ;
รตเนเหว ปุณฺณานิ, ปูชนตฺถาย มเหสิโน.
‘‘มชฺเฌ อฏฺฏฺกุมฺภีนํ, อุสฺสิตา กฺจนคฺฆิโย;
อติโรจนฺติ วณฺเณน, สรเทว ทิวากโร.
‘‘จตุทฺวาเรสุ โสภนฺติ, โตรณา รตนามยา;
อุสฺสิตา ผลกา รมฺมา, โสภนฺติ รตนามยา.
‘‘วิโรจนฺติ ปริกฺขิตฺตา, อวฏํสา สุนิมฺมิตา;
อุสฺสิตานิ ปฏากานิ, รตนานิ วิโรจเร.
‘‘สุรตฺตํ ¶ สุกตํ จิตฺตํ, เจติยํ รตนามยํ;
อติโรจติ วณฺเณน, สสฺโฌว ทิวากโร.
‘‘ถูปสฺส เวทิโย ติสฺโส, หริตาเลน ปูรยิ;
เอกํ มโนสิลาเยกํ, อฺชเนน จ เอกิกํ.
‘‘ปูชํ เอตาทิสํ รมฺมํ, กาเรตฺวา วรวาทิโน;
อทาสิ ทานํ สงฺฆสฺส, ยาวชีวํ ยถาพลํ.
‘‘สหาว เสฏฺินา เตน, ตานิ ปฺุานิ สพฺพโส;
ยาวชีวํ กริตฺวาน, สหาว สุคตึ คตา.
‘‘สมฺปตฺติโยนุโภตฺวาน, เทวตฺเต อถ มานุเส;
ฉายา วิย สรีเรน, สห เตเนว สํสรึ.
‘‘เอกนวุติโต ¶ กปฺเป, วิปสฺสี นาม นายโก;
อุปฺปชฺชิ จารุทสฺสโน, สพฺพธมฺมวิปสฺสโก.
‘‘ตทายํ พนฺธุปติยํ, พฺราหฺมโณ สาธุสมฺมโต;
อฑฺโฒ สนฺโต คุเณนาปิ, ธเนน จ สุทุคฺคโต.
‘‘ตทาปิ ตสฺสาหํ อาสึ, พฺราหฺมณี สมเจตสา;
กทาจิ โส ทิชวโร, สงฺคเมสิ มหามุนึ.
‘‘นิสินฺนํ ¶ ชนกายมฺหิ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ;
สุตฺวา ธมฺมํ ปมุทิโต, อทาสิ เอกสาฏกํ.
‘‘ฆรเมเกน วตฺเถน, คนฺตฺวาเนตํ ส มพฺรวิ;
อนุโมท มหาปฺุํ, ทินฺนํ พุทฺธสฺส สาฏกํ.
‘‘ตทาหํ ¶ อฺชลึ กตฺวา, อนุโมทึ สุปีณิตา;
สุทินฺโน สาฏโก สามิ, พุทฺธเสฏฺสฺส ตาทิโน.
‘‘สุขิโต สชฺชิโต หุตฺวา, สํสรนฺโต ภวาภเว;
พาราณสิปุเร รมฺเม, ราชา อาสิ มหีปติ.
‘‘ตทา ตสฺส มเหสีหํ, อิตฺถิคุมฺพสฺส อุตฺตมา;
ตสฺสาติ ทยิตา อาสึ, ปุพฺพสฺเนเหน ภตฺตุโน.
‘‘ปิณฺฑาย วิจรนฺเต เต, อฏฺ ปจฺเจกนายเก;
ทิสฺวา ปมุทิโต หุตฺวา, ทตฺวา ปิณฺฑํ มหารหํ.
‘‘ปุโน นิมนฺตยิตฺวาน, กตฺวา รตนมณฺฑปํ;
กมฺมาเรหิ กตํ ปตฺตํ, โสวณฺณํ วต ตตฺตกํ.
‘‘สมาเนตฺวาน เต สพฺเพ, เตสํ ทานมทาสิ โส;
โสณฺณาสเน ปวิฏฺานํ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘ตมฺปิ ทานํ สหาทาสึ, กาสิราเชนหํ ตทา;
ปุนาหํ พาราณสิยํ, ชาตา กาสิกคามเก.
‘‘กุฏุมฺพิกกุเล ผีเต, สุขิโต โส สภาตุโก;
เชฏฺสฺส ภาตุโน ชายา, อโหสึ สุปติพฺพตา.
‘‘ปจฺเจกพุทฺธํ ¶ ทิสฺวาน, กนิยสฺส มม ภตฺตุโน;
ภาคนฺนํ ตสฺส ทตฺวาน, อาคเต ตมฺหิ ปาวทึ.
‘‘นาภินนฺทิตฺถ โส ทานํ, ตโต ตสฺส อทาสหํ;
อุขา อานิย ตํ อนฺนํ, ปุโน ตสฺเสว โส อทา.
‘‘ตทนฺนํ ¶ ฉฑฺฑยิตฺวาน, ทุฏฺา พุทฺธสฺสหํ ตทา;
ปตฺตํ กลลปุณฺณํ ตํ, อทาสึ ตสฺส ตาทิโน.
‘‘ทาเน ¶ จ คหเณ เจว, อปเจ ปทุเสปิ จ;
สมจิตฺตมุขํ ทิสฺวา, ตทาหํ สํวิชึ ภุสํ.
‘‘ปุโน ปตฺตํ คเหตฺวาน, โสธยิตฺวา สุคนฺธินา,
ปสนฺนจิตฺตา ปูเรตฺวา, สฆตํ สกฺกรํ อทํ.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, สุรูปา โหมิ ทานโต;
พุทฺธสฺส อปกาเรน, ทุคฺคนฺธา วทเนน จ.
‘‘ปุน กสฺสปวีรสฺส, นิธายนฺตมฺหิ เจติเย;
โสวณฺณํ อิฏฺกํ วรํ, อทาสึ มุทิตา อหํ.
‘‘จตุชฺชาเตน คนฺเธน, นิจยิตฺวา ตมิฏฺกํ;
มุตฺตา ทุคฺคนฺธโทสมฺหา, สพฺพงฺคสุสมาคตา.
‘‘สตฺต ปาติสหสฺสานิ, รตเนเหว สตฺตหิ;
กาเรตฺวา ฆตปูรานิ, วฏฺฏีนิ จ สหสฺสโส.
‘‘ปกฺขิปิตฺวา ปทีเปตฺวา, ปยึ สตฺตปนฺติโย;
ปูชนตฺถํ โลกนาถสฺส, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘ตทาปิ ตมฺหิ ปฺุมฺหิ, ภาคินียิ วิเสสโต;
ปุน กาสีสุ สฺชาโต, สุมิตฺตา อิติ วิสฺสุโต.
‘‘ตสฺสาหํ ภริยา อาสึ, สุขิตา สชฺชิตา ปิยา;
ตทา ปจฺเจกมุนิโน, อทาสึ ฆนเวนํ.
‘‘ตสฺสาปิ ¶ ภาคินี อาสึ, โมทิตฺวา ทานมุตฺตมํ;
ปุนาปิ กาสิรฏฺมฺหิ, ชาโต โกลิยชาติยา.
‘‘ตทา ¶ โกลิยปุตฺตานํ, สเตหิ สห ปฺจหิ;
ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธานํ, สตานิ สมุปฏฺหิ.
‘‘เตมาสํ ตปฺปยิตฺวาน, อทาสิ จ ติจีวเร;
ชายา ตสฺส ตทา อาสึ, ปฺุกมฺมปถานุคา.
‘‘ตโต จุโต อหุ ราชา, นนฺโท นาม มหายโส;
ตสฺสาปิ มเหสี อาสึ, สพฺพกามสมิทฺธินี.
‘‘ตทา ¶ ราชา ภวิตฺวาน, พฺรหฺมทตฺโต มหีปติ;
ปทุมวตีปุตฺตานํ, ปจฺเจกมุนินํ ตทา.
‘‘สตานิ ปฺจนูนานิ, ยาวชีวํ อุปฏฺหึ;
ราชุยฺยาเน นิวาเสตฺวา, นิพฺพุตานิ จ ปูชยึ.
‘‘เจติยานิ จ กาเรตฺวา, ปพฺพชิตฺวา อุโภ มยํ;
ภาเวตฺวา อปฺปมฺาโย, พฺรหฺมโลกํ อคมฺหเส.
‘‘ตโต จุโต มหาติตฺเถ, สุชาโต ปิปฺผลายโน;
มาตา สุมนเทวีติ, โกสิโคตฺโต ทิโช ปิตา.
‘‘อหํ มทฺเท ชนปเท, สากลาย ปุรุตฺตเม;
กปฺปิลสฺส ทิชสฺสาสึ, ธีตา มาตา สุจีมติ.
‘‘ฆรกฺจนพิมฺเพน, นิมฺมินิตฺวาน มํ ปิตา;
อทา กสฺสปธีรสฺส, กาเมหิ วชฺชิตสฺสมํ.
‘‘กทาจิ ¶ โส การุณิโก, คนฺตฺวา กมฺมนฺตเปกฺขโก;
กากาทิเกหิ ขชฺชนฺเต, ปาเณ ทิสฺวาน สํวิชิ.
‘‘ฆเรวาหํ ติเล ชาเต, ทิสฺวานาตปตาปเน;
กิมี กาเกหิ ขชฺชนฺเต, สํเวคมลภึ ตทา.
‘‘ตทา โส ปพฺพชี ธีโร, อหํ ตมนุปพฺพชึ;
ปฺจ วสฺสานิ นิวสึ, ปริพฺพาชวเต อหํ.
‘‘ยทา ปพฺพชิตา อาสิ, โคตมี ชินโปสิกา;
ตทาหํ ตมุปคนฺตฺวา, พุทฺเธน อนุสาสิตา.
‘‘น ¶ จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณึ;
อโห กลฺยาณมิตฺตตฺตํ, กสฺสปสฺส สิรีมโต.
‘‘สุโต พุทฺธสฺส ทายาโท, กสฺสโป สุสมาหิโต;
ปุพฺเพนิวาสํ โย เวทิ, สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ.
‘‘อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺาโวสิโต มุนิ;
เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิชฺโช โหติ พฺราหฺมโณ.
‘‘ตเถว ภทฺทากาปิลานี, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, ชิตฺวา มารํ สวาหนํ.
‘‘ทิสฺวา ¶ อาทีนวํ โลเก, อุโภ ปพฺพชิตา มยํ;
ตฺยมฺห ขีณาสวา ทนฺตา, สีติภูตามฺห นิพฺพุตา.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๓.๒๔๔-๓๑๓);
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา ปุพฺเพนิวาสาเณ จิณฺณวสี อโหสิ. ตตฺถ สาติสยํ กตาธิการตฺตา อปรภาเค ตํ สตฺถา เชตวเน อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา านนฺตเรสุ เปนฺโต ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา เอกทิวสํ มหากสฺสปตฺเถรสฺส คุณาภิตฺถวนปุพฺพกํ อตฺตโน กตกิจฺจตาทิวิภาวนมุเขน อุทานํ อุทาเนนฺตี –
‘‘ปุตฺโต พุทฺธสฺส ทายาโท, กสฺสโป สุสมาหิโต;
ปุพฺเพนิวาสํ โยเวทิ, สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ.
‘‘อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺาโวสิโต มุนิ;
เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิชฺโช โหติ พฺราหฺมโณ.
‘‘ตเถว ภทฺทากาปิลานี, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนํ.
‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก, อุโภ ปพฺพชิตา มยํ;
ตฺยมฺห ขีณาสวา ทนฺตา, สีติภูตามฺห นิพฺพุตา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ ปุตฺโต พุทฺธสฺส ทายาโทติ พุทฺธานุพุทฺธภาวโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อนุชาตสุโต ตโต เอว ตสฺส ทายภูตสฺส นวโลกุตฺตรธมฺมสฺส อาทาเนน ทายาโท กสฺสโป โลกิยโลกุตฺตเรหิ สมาธีหิ สุฏฺุ สมาหิตจิตฺตตาย สุสมาหิโต. ปุพฺเพนิวาสํ โยเวทีติ โย มหากสฺสปตฺเถโร ปุพฺเพนิวาสํ อตฺตโน ปเรสฺจ นิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตานํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปากฏํ กตฺวา อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. สคฺคาปายฺจ ปสฺสตีติ ฉพฺพีสติเทวโลกเภทํ สคฺคํ จตุพฺพิธํ อปายฺจ ทิพฺพจกฺขุนา หตฺถตเล อามลกํ วิย ปสฺสติ.
อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโตติ ตโต ปรํ ชาติกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปตฺโต. อภิฺาย อภิวิสิฏฺเน าเณน อภิฺเยฺยํ ธมฺมํ อภิชานิตฺวา ปริฺเยฺยํ ปริชานิตฺวา ¶ , ปหาตพฺพํ ปหาย ¶ , สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตฺวา โวสิโต นิฏฺํ ปตฺโต กตกิจฺโจ. อาสวกฺขยปฺาสงฺขาตํ โมนํ ปตฺตตฺตา มุนิ.
ตเถว ภทฺทากาปิลานีติ ยถา มหากสฺสโป เอตาหิ ยถาวุตฺตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ เตวิชฺโช มจฺจุหายี จ, ตเถว ภทฺทากาปิลานี เตวิชฺชา มจฺจุหายินีติ. ตโต เอว ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนนฺติ อตฺตานเมว ปรํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ.
อิทานิ ยถา เถรสฺส ปฏิปตฺติ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา, เอวํ มมปีติ ทสฺเสนฺตี ‘‘ทิสฺวา อาทีนว’’นฺติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ตฺยมฺห ขีณาสวา ทนฺตาติ เต มยํ มหากสฺสปตฺเถโร อหฺจ อุตฺตเมน ทเมน ทนฺตา สพฺพโส ขีณาสวา จ อมฺห. สีติภูตามฺห นิพฺพุตาติ ตโต เอว กิเลสปริฬาหาภาวโต สีติภูตา สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพุตา จ อมฺห ภวามาติ อตฺโถ.
ภทฺทากาปิลานีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุกฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฺจกนิปาโต
๑. อฺตราเถรีคาถาวณฺณนา
ปฺจกนิปาเต ¶ ¶ ปณฺณวีสติ วสฺสานีติอาทิกา อฺตราย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เทวทหนคเร มหาปชาปติโคตมิยา ธาตี หุตฺวา วฑฺเฒสิ. นามโคตฺตโต ปน อปฺาตา อโหสิ. สา มหาปชาปติโคตมิยา ปพฺพชิตกาเล สยมฺปิ ปพฺพชิตฺวา ปฺจวีสติ สํวจฺฉรานิ กามราเคน อุปทฺทุตา อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ กาลํ จิตฺเตกคฺคตํ อลภนฺตี พาหา ปคฺคยฺห กนฺทมานา ธมฺมทินฺนาเถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา กาเมหิ วินิวตฺติตมานสา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนมนุยฺชนฺตี น จิรสฺเสว ฉฬภิฺา หุตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘ปณฺณวีสติ ¶ วสฺสานิ, ยโต ปพฺพชิตา อหํ;
นาจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ, จิตฺตสฺสูปสมชฺฌคํ.
‘‘อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, กามราเคนวสฺสุตา;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺตี, วิหารํ ปาวิสึ อหํ.
‘‘สา ภิกฺขุนึ อุปาคจฺฉึ, ยา เม สทฺธายิกา อหุ;
สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย.
‘‘ตสฺสา ธมฺมํ สุณิตฺวาน, เอกมนฺเต อุปาวิสึ;
ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ.
‘‘เจโตปริจฺจาณฺจ ¶ , โสตธาตุ วิโสธิตา;
อิทฺธีปิ เม สจฺฉิกตา, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ นาจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปีติ อจฺฉราฆฏิตมตฺตมฺปิ ขณํ องฺคุลิโผฏนมตฺตมฺปิ กาลนฺติ อตฺโถ. จิตฺตสฺสูปสมชฺฌคนฺติ จิตฺตสฺส อุปสมํ จิตฺเตกคฺคํ น อชฺฌคนฺติ โยชนา, น ปฏิลภินฺติ อตฺโถ.
กามราเคนวสฺสุตาติ กามคุณสงฺขาเตสุ วตฺถุกาเมสุ ทฬฺหตราภินิเวสิตาย พหเลน ฉนฺทราเคน ตินฺตจิตฺตา.
ภิกฺขุนินฺติ ธมฺมทินฺนตฺเถรึ สนฺธาย วทติ.
เจโตปริจฺจาณฺจาติ เจโตปริยาณฺจ วิโสธิตนฺติ สมฺพนฺโธ, อธิคตนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อฺตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วิมลาเถรีคาถาวณฺณนา
มตฺตา วณฺเณน รูเปนาติอาทิกา วิมลาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ อฺตราย รูปูปชีวินิยา อิตฺถิยา ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. วิมลาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วยปฺปตฺตา ตเถว ชีวิกํ กปฺเปนฺตี เอกทิวสํ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เวสาลิยํ ¶ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา เถรสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา เถรํ อุทฺทิสฺส ปโลภนกมฺมํ กาตุํ อารภิ. ‘‘ติตฺถิเยหิ อุยฺโยชิตา ตถา อกาสี’’ติ เกจิ วทนฺติ. เถโร ตสฺสา อสุภวิภาวนมุเขน สนฺตชฺชนํ กตฺวา โอวาทมทาสิ. ตํ เหฏฺา เถรคาถาย อาคตเมว, ตถา ปน เถเรน โอวาเท ทินฺเน สา สํเวคชาตา หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สาสเน ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา ¶ หุตฺวา อปรภาเค ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี เหตุสมฺปนฺนตาย น จิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘มตฺตา วณฺเณน รูเปน, โสภคฺเคน ยเสน จ;
โยพฺพเนน จุปตฺถทฺธา, อฺาสมติมฺิหํ.
‘‘วิภูเสตฺวา ¶ อิมํ กายํ, สุจิตฺตํ พาลลาปนํ;
อฏฺาสึ เวสิทฺวารมฺหิ, ลุทฺโท ปาสมิโวฑฺฑิย.
‘‘ปิฬนฺธนํ วิทํเสนฺตี, คุยฺหํ ปกาสิกํ พหุํ;
อกาสึ วิวิธํ มายํ, อุชฺฌคฺฆนฺตี พหุํ ชนํ.
‘‘สาชฺช ปิณฺฑํ จริตฺวาน, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;
นิสินฺนา รุกฺขมูลมฺหิ, อวิตกฺกสฺส ลาภินี.
‘‘สพฺเพ โยคา สมุจฺฉินฺนา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ มตฺตา วณฺเณน รูเปนาติ คุณวณฺเณน เจว รูปสมฺปตฺติยา จ. โสภคฺเคนาติ สุภคภาเวน. ยเสนาติ ปริวารสมฺปตฺติยา. มตฺตา วณฺณมทรูปมทโสภคฺคมทปริวารมทวเสน มทํ อาปนฺนาติ อตฺโถ. โยพฺพเนน จุปตฺถทฺธาติ โยพฺพนมเทน อุปรูปริ ถทฺธา โยพฺพนนิมิตฺเตน อหงฺกาเรน อุปตฺถทฺธจิตฺตา อนุปสนฺตมานสา. อฺาสมติมฺิหนฺติ อฺา อิตฺถิโย อตฺตโน วณฺณาทิคุเณหิ สพฺพถาปิ อติกฺกมิตฺวา มฺึ อหํ. อฺาสํ วา อิตฺถีนํ วณฺณาทิคุเณ อติมฺึ อติกฺกมิตฺวา อมฺึ อวมานํ อกาสึ.
วิภูสิตฺวา ¶ อิมํ กายํ, สุจิตฺตํ พาลลาปนนฺติ อิมํ นานาวิธอสุจิภริตํ เชคุจฺฉํ อหํ มมาติ พาลานํ ลาปนโต วาจนโต พาลลาปนํ มม กายํ ฉวิราคกรณเกสฏฺปนาทินา สุจิตฺตํ ¶ วตฺถาภรเณหิ วิภูสิตฺวา สุมณฺฑิตปสาทิตํ กตฺวา. อฏฺาสึ เวสิทฺวารมฺหิ, ลุทฺโท ปาสมิโวฑฺฑิยาติ มิคลุทฺโท วิย มิคานํ พนฺธนตฺถาย ทณฺฑวากุราทิมิคปาสํ, มารสฺส ปาสภูตํ ยถาวุตฺตํ มม กายํ เวสิทฺวารมฺหิ เวสิยา ฆรทฺวาเร โอฑฺฑิยิตฺวา อฏฺาสึ.
ปิฬนฺธนํ วิทํเสนฺตี, คุยฺหํ ปกาสิกํ พหุนฺติ อูรุชฆนถนทสฺสนาทิกํ คุยฺหฺเจว ปาทชาณุสิราทิกํ ปกาสฺจาติ คุยฺหํ ปกาสิกฺจ พหุํ นานปฺปการํ ปิฬนฺธนํ อาภรณํ ทสฺเสนฺตี. อกาสึ วิวิธํ มายํ, อุชฺฌคฺฆนฺตี พหุํ ¶ ชนนฺติ โยพฺพนมทมตฺตํ พหุํ พาลชนํ วิปฺปลมฺเภตุํ หสนฺตี คนฺธมาลาวตฺถาภรณาทีหิ สรีรสภาวปฏิจฺฉาทเนน หสวิลาสภาวาทีหิ เตหิ จ วิวิธํ นานปฺปการํ วฺจนํ อกาสึ.
สาชฺช ปิณฺฑํ จริตฺวาน…เป… อวิตกฺกสฺส ลาภินีติ สา อหํ เอวํ ปมาทวิหารินี สมานา อชฺช อิทานิ อยฺยสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส โอวาเท ตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา หุตฺวา ปิณฺฑํ จริตฺวาน ภิกฺขาหารํ ภฺุชิตฺวา นิสินฺนา รุกฺขมูลมฺหิ รุกฺขมูเล วิวิตฺตาสเน นิสินฺนา ทุติยชฺฌานปาทกสฺส อคฺคผลสฺส อธิคเมน อวิตกฺกสฺส ลาภินี อมฺหีติ โยชนา.
สพฺเพ โยคาติ กามโยคาทโย จตฺตาโรปิ โยคา. สมุจฺฉินฺนาติ ปมมคฺคาทินา ยถารหํ สมฺมเทว อุจฺฉินฺนา ปหีนา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
วิมลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สีหาเถรีคาถาวณฺณนา
อโยนิโส มนสิการาติอาทิกา สีหาย เถริยา คาถา ¶ . อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ สีหเสนาปติโน ภคินิยา ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา ‘‘มาตุลสฺส นามํ กโรมา’’ติ สีหาติ นามํ อกํสุ. สา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารา สีหสฺส เสนาปติโน ธมฺเม เทสิยมาเน ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ วิปสฺสนํ อารภิตฺวาปิ พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ วิธาวนฺตํ จิตฺตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี สตฺต สํวจฺฉรานิ มิจฺฉาวิตกฺเกหิ พาธียมานา จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺตี ‘‘กึ เม อิมินา ปาปชีวิเตน ¶ , อุพฺพนฺธิตฺวา มริสฺสามี’’ติ ปาสํ คเหตฺวา รุกฺขสาขายํ ลคฺคิตฺวา ตํ อตฺตโน กณฺเ ปฏิมฺุจนฺตี ปุพฺพาจิณฺณวเสน วิปสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหริ, อนฺติมภวิกตาย ปาสสฺส พนฺธนํ คีวฏฺาเน อโหสิ, าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา สา ตาวเทว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ¶ ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปตฺตสมกาลเมว จ ปาสพนฺโธ คีวโต มุจฺจิตฺวา วินิวตฺติ. สา อรหตฺเต ปติฏฺิตา อุทานวเสน –
‘‘อโยนิโส มนสิการา, กามราเคน อฏฺฏิตา;
อโหสึ อุทฺธตา ปุพฺเพ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.
‘‘ปริยุฏฺิตา กฺเลเสหิ, สุภสฺานุวตฺตินี;
สมํ จิตฺตสฺส น ลภึ, ราคจิตฺตวสานุคา.
‘‘กิสา ปณฺฑุ วิวณฺณา จ, สตฺต วสฺสานิ จาริหํ;
นาหํ ทิวา วา รตฺตึ วา, สุขํ วินฺทึ สุทุกฺขิตา.
‘‘ตโต รชฺชุํ คเหตฺวาน, ปาวิสึ วนมนฺตรํ;
วรํ เม อิธ อุพฺพนฺธํ, ยฺจ หีนํ ปุนาจเร.
‘‘ทฬฺหปาสํ กริตฺวาน, รุกฺขสาขาย พนฺธิย;
ปกฺขิปึ ปาสํ คีวายํ, อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อโยนิโส มนสิการาติ อนุปายมนสิกาเรน, อสุเภ สุภนฺติ วิปลฺลาสคฺคาเหน. กามราเคน อฏฺฏิตาติ กามคุเณสุ ฉนฺทราเคน ปีฬิตา. อโหสึ อุทฺธตา ปุพฺเพ, จิตฺเต อวสวตฺตินีติ ปุพฺเพ มม จิตฺเต มยฺหํ วเส อวตฺตมาเน ¶ อุทฺธตา นานารมฺมเณ วิกฺขิตฺตจิตฺตา อสมาหิตา อโหสึ.
ปริยุฏฺิตา กฺเลเสหิ, สุภสฺานุวตฺตินีติ ปริยุฏฺานปตฺเตหิ กามราคาทิกิเลเสหิ อภิภูตา ¶ รูปาทีสุ สุภนฺติ ปวตฺตาย กามสฺาย อนุวตฺตนสีลา. สมํ จิตฺตสฺส น ลภึ, ราคจิตฺตวสานุคาติ กามราคสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส วสํ อนุคจฺฉนฺตี อีสกมฺปิ จิตฺตสฺส สมํ เจโตสมถํ จิตฺเตกคฺคตํ น ลภึ.
กิสา ปณฺฑุ วิวณฺณา จาติ เอวํ อุกฺกณฺิตภาเวน กิสา ธมนิสนฺถตคตฺตา อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา ตโต เอว วิวณฺณา วิคตฉวิวณฺณา จ หุตฺวา. สตฺต วสฺสานีติ สตฺต สํวจฺฉรานิ. จาริหนฺติ จรึ อหํ. นาหํ ทิวา วา ¶ รตฺตึ วา, สุขํ วินฺทึ สุทุกฺขิตาติ เอวมหํ สตฺตสุ สํวจฺฉเรสุ กิเลสทุกฺเขน ทุกฺขิตา เอกทาปิ ทิวา วา รตฺตึ วา สมณสุขํ น ปฏิลภึ.
ตโตติ กิเลสปริยุฏฺาเนน สมณสุขาลาภภาวโต. รชฺชุํ คเหตฺวาน ปาวิสึ, วนมนฺตรนฺติ ปาสรชฺชุํ อาทาย วนนฺตรํ ปาวิสึ. กิมตฺถํ ปาวิสีติ เจ อาห – ‘‘วรํ เม อิธ อุพฺพนฺธํ, ยฺจ หีนํ ปุนาจเร’’ติ ยทหํ สมณธมฺมํ กาตุํ อสกฺโกนฺตี หีนํ คิหิภาวํ ปุน อาจเร อาจเรยฺยํ อนุติฏฺเยฺยํ, ตโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน อิมสฺมึ วนนฺตเร อุพฺพนฺธํ พนฺธิตฺวา มรณํ เม วรํ เสฏฺนฺติ อตฺโถ. อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ ยทา รุกฺขสาขาย พนฺธปาสํ คีวายํ ปกฺขิปิ, อถ ตทนนฺตรเมว วุฏฺานคามินิวิปสฺสนามคฺเคน ฆฏิตตฺตา มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพาสเวหิ มม จิตฺตํ วิมุจฺจิ วิมุตฺตํ อโหสีติ.
สีหาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สุนฺทรีนนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา
อาตุรํ อสุจินฺติอาทิกา สุนฺทรีนนฺทาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร ¶ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ ฌายินีนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา กุสลํ อุปจินนฺตี กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติ. นนฺทาติสฺสา นามํ อกํสุ. อปรภาเค รูปสมฺปตฺติยา สุนฺทรีนนฺทา, ชนปทกลฺยาณีติ จ ปฺายิตฺถ. สา อมฺหากํ ภควติ สพฺพฺุตํ ปตฺวา อนุปุพฺเพน กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา นนฺทกุมารฺจ ราหุลกุมารฺจ ปพฺพาเชตฺวา คเต สุทฺโธทนมหาราเช จ ปรินิพฺพุเต มหาปชาปติโคตมิยา ราหุลมาตาย จ ปพฺพชิตาย จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ เชฏฺภาตา จกฺกวตฺติรชฺชํ ¶ ปหาย ปพฺพชิตฺวา โลเก อคฺคปุคฺคโล พุทฺโธ ชาโต, ปุตฺโตปิสฺส ราหุลกุมาโร ปพฺพชิ, ภตฺตาปิ เม นนฺทราชา, มาตาปิ ¶ มหาปชาปติโคตมี, ภคินีปิ ราหุลมาตา ปพฺพชิตา, อิทานาหํ เคเห กึ กริสฺสามิ, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา าติสิเนเหน ปพฺพชิ, โน สทฺธาย. ตสฺมา ปพฺพชิตฺวาปิ รูปํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนมทา. ‘‘สตฺถา รูปํ วิวณฺเณติ ครหติ, อเนกปริยาเยน รูเป อาทีนวํ ทสฺเสตี’’ติ พุทฺธุปฏฺานํ น คจฺฉตีติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา อภิรูปนนฺทาย วตฺถุสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – สตฺถารา นิมฺมิตํ อิตฺถิรูปํ อนุกฺกเมน ชราภิภูตํ ทิสฺวา อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต มนสิกโรนฺติยา เถริยา กมฺมฏฺานาภิมุขํ จิตฺตํ อโหสิ. ตํ ทิสฺวา สตฺถา ตสฺสา สปฺปายวเสน ธมฺมํ เทเสนฺโต –
‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;
อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.
‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;
ทุคฺคนฺธํ ปูติกํ วาติ, พาลานํ อภินนฺทิตํ.
‘‘เอวเมตํ อเวกฺขนฺตี, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา;
ตโต สกาย ปฺาย, อภินิพฺพิชฺฌ ทกฺขิส’’นฺติ. –
อิมา ติสฺโส คาถา อภาสิ.
สา เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา ¶ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตสฺสา อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘นนฺเท, อิมสฺมึ สรีเร อปฺปมตฺตโกปิ สาโร นตฺถิ, มํสโลหิตเลปโน ชราทีนํ วาสภูโต, อฏฺิปฺุชมตฺโต เอวาย’’นฺติ ทสฺเสตุํ –
‘‘อฏฺินํ นครํ กตํ, มํสโลหิตเลปนํ;
ยตฺถ ชรา จ มจฺจุ จ, มาโน มกฺโข จ โอหิโต’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๐) –
ธมฺมปเท อิมํ คาถมาห.
สา ¶ เทสนาวสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๑๖๖-๒๑๙) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘โอวาทโก ¶ วิฺาปโก, ตารโก สพฺพปาณินํ;
เทสนากุสโล พุทฺโธ, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.
‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, หิเตสี สพฺพปาณินํ;
สมฺปตฺเต ติตฺถิเย สพฺเพ, ปฺจสีเล ปติฏฺปิ.
‘‘เอวํ นิรากุลํ อาสิ, สฺุตํ ติตฺถิเยหิ จ;
วิจิตฺตํ อรหนฺเตหิ, วสีภูเตหิ ตาทิภิ.
‘‘รตนานฏฺปฺาสํ, อุคฺคโตว มหามุนิ;
กฺจนคฺฆิยสงฺกาโส, พาตฺตึสวรลกฺขโณ.
‘‘วสฺสสตสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;
ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;
นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.
‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;
อมตํ ปรมสฺสาทํ, ปรมตฺถนิเวทกํ.
‘‘ตทา นิมนฺตยิตฺวาน, สสงฺฆํ โลกนายกํ;
ทตฺวา ตสฺส มหาทานํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ.
‘‘ฌายินีนํ ภิกฺขุนีนํ, อคฺคฏฺานมปตฺถยึ;
นิปจฺจ สิรสา ธีรํ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.
‘‘ตทา ¶ ¶ อทนฺตทมโก, ติโลกสรโณ ปภู;
พฺยากาสิ นรสารถิ, ลจฺฉเส ตํ สุปตฺถิตํ.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
นนฺทาติ นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.
‘‘เตน ¶ กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตโต จุตา ยามมคํ, ตโตหํ ตุสิตํ คตา;
ตโต จ นิมฺมานรตึ, วสวตฺติปุรํ ตโต.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;
ตตฺถ ตตฺเถว ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘ตโต จุตา มนุสฺสตฺเต, ราชานํ จกฺกวตฺตินํ;
มณฺฑลีนฺจ ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มนุเชสุ จ;
สพฺพตฺถ สุขิตา หุตฺวา, เนกกปฺเปสุ สํสรึ.
‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, สุรมฺเม กปิลวฺหเย;
รฺโ สุทฺโธทนสฺสาหํ, ธีตา อาสึ อนินฺทิตา.
‘‘สิริยา ¶ รูปินึ ทิสฺวา, นนฺทิตํ อาสิ ตํ กุลํ;
เตน นนฺทาติ เม นามํ, สุนฺทรํ ปวรํ อหุ.
‘‘ยุวตีนฺจ สพฺพาสํ, กลฺยาณีติ จ วิสฺสุตา;
ตสฺมิมฺปิ นคเร รมฺเม, เปตฺวา ตํ ยโสธรํ.
‘‘เชฏฺโ ภาตา ติโลกคฺโค, ปจฺฉิโม อรหา ตถา;
เอกากินี คหฏฺาหํ, มาตรา ปริโจทิตา.
‘‘สากิยมฺหิ กุเล ชาตา, ปุตฺเต พุทฺธานุชา ตุวํ;
นนฺเทนปิ วินา ภูตา, อคาเร กินฺนุ อจฺฉสิ.
‘‘ชราวสานํ ¶ โยพฺพฺํ, รูปํ อสุจิสมฺมตํ;
โรคนฺตมปิจาโรคฺยํ, ชีวิตํ มรณนฺติกํ.
‘‘อิทมฺปิ เต สุภํ รูปํ, สสีกนฺตํ มโนหรํ;
ภูสนานํ อลงฺการํ, สิริสงฺฆาฏสํนิภํ.
‘‘ปฺุชิตํ โลกสารํว, นยนานํ รสายนํ;
ปฺุานํ กิตฺติชนนํ, อุกฺกากกุลนนฺทนํ.
‘‘น ¶ จิเรเนว กาเลน, ชรา สมธิเสสฺสติ;
วิหาย เคหํ การฺุเ, จร ธมฺมมนินฺทิเต.
‘‘สุตฺวาหํ มาตุ วจนํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
เทเหน นตุ จิตฺเตน, รูปโยพฺพนลาฬิตา.
‘‘มหตา จ ปยตฺเตน, ฌานชฺเฌน ปรํ มม;
กาตฺุจ วทเต มาตา, น จาหํ ตตฺถ อุสฺสุกา.
‘‘ตโต ¶ มหาการุณิโก, ทิสฺวา มํ กามลาลสํ;
นิพฺพนฺทนตฺถํ รูปสฺมึ, มม จกฺขุปเถ ชิโน.
‘‘สเกน อานุภาเวน, อิตฺถึ มาเปสิ โสภินึ;
ทสฺสนียํ สุรุจิรํ, มมโตปิ สุรูปินึ.
‘‘ตมหํ วิมฺหิตา ทิสฺวา, อติวิมฺหิตเทหินึ;
จินฺตยึ สผลํ เมติ, เนตฺตลาภฺจ มานุสํ.
‘‘ตมหํ เอหิ สุภเค, เยนตฺโถ ตํ วเทหิ เม;
กุลํ เต นามโคตฺตฺจ, วท เม ยทิ เต ปิยํ.
‘‘น วฺจกาโล สุภเค, อุจฺฉงฺเค มํ นิวาสย;
สีทนฺตีว มมงฺคานิ, ปสุปฺปยมุหุตฺตกํ.
‘‘ตโต สีสํ มมงฺเค สา, กตฺวา สยิ สุโลจนา;
ตสฺสา นลาเฏ ปติตา, ลุทฺธา ปรมทารุณา.
‘‘สห ¶ ตสฺสา นิปาเตน, ปิฬกา อุปปชฺชถ;
ปคฺฆรึสุ ปภินฺนา จ, กุณปา ปุพฺพโลหิตา.
‘‘ปภินฺนํ วทนฺจาปิ, กุณปํ ปูติคนฺธนํ;
อุทฺธุมาตํ วินิลฺจ, ปุพฺพฺจาปิ สรีรกํ.
‘‘สา ปเวทิตสพฺพงฺคี, นิสฺสสนฺตี มุหุํ มุหุํ;
เวทยนฺตี สกํ ทุกฺขํ, กรุณํ ปริเทวยิ.
‘‘ทุกฺเขน ทุกฺขิตา โหมิ, ผุสยนฺติ จ เวทนา;
มหาทุกฺเข นิมุคฺคมฺหิ, สรณํ โหหิ เม สขี.
‘‘กุหึ ¶ ¶ วทนโสตํ เต, กุหึ เต ตุงฺคนาสิกา;
ตมฺพพิมฺพวโรฏฺนฺเต, วทนํ เต กุหึ คตํ.
‘‘กุหึ สสีนิภํ วณฺณํ, กมฺพุคีวา กุหึ คตา;
โทฬา โลลาว เต กณฺณา, เววณฺณํ สมุปาคตา.
‘‘มกุฬขารกาการา, กลิกาว ปโยธรา;
ปภินฺนา ปูติกุณปา, ทุฏฺคนฺธิตฺตมาคตา.
‘‘เวทิมชฺฌาว สุสฺโสณี, สูนาว นีตกิพฺพิสา;
ชาตา อมชฺฌภริตา, อโห รูปมสสฺสตํ.
‘‘สพฺพํ สรีรสฺชาตํ, ปูติคนฺธํ ภยานกํ;
สุสานมิว พีภจฺฉํ, รมนฺเต ยตฺถ พาลิสา.
‘‘ตทา มหาการุณิโก, ภาตา เม โลกนายโก;
ทิสฺวา สํวิคฺคจิตฺตํ มํ, อิมา คาถา อภาสถ.
‘‘อาตุรํ กุณปํ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;
อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.
‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;
ทุคฺคนฺธํ ปูติกํ วาติ, พาลานํ อภินนฺทิตํ.
‘‘เอวเมตํ อเวกฺขนฺตี, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา;
ตโต สกาย ปฺาย, อภินิพฺพิชฺฌ ทกฺขิสํ.
‘‘ตโตหํ อติสํวิคฺคา, สุตฺวา คาถา สุภาสิตา;
ตตฺรฏฺิตาวหํ สนฺตี, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘ยตฺถ ¶ ¶ ยตฺถ นิสินฺนาหํ, สทา ฌานปรายณา;
ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน ‘‘อาตุรํ อสุจิ’’นฺติอาทินา สตฺถารา เทสิตาหิ ตีหิ คาถาหิ สทฺธึ –
‘‘ตสฺสา ¶ เม อปฺปมตฺตาย, วิจินนฺติยา โยนิโส;
ยถาภูตํ อยํ กาโย, ทิฏฺโ สนฺตรพาหิโร.
‘‘อถ นิพฺพินฺทหํ กาเย, อชฺฌตฺตฺจ วิรชฺชหํ;
อปฺปมตฺตา วิสํยุตฺตา, อุปสนฺตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตตฺถ เอวเมตํ อเวกฺขนฺตี…เป… ทกฺขิสนฺติ เอตํ อาตุราทิสภาวํ กายํ เอวํ ‘‘ยถา อิทํ ตถา เอต’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน รตฺตินฺทิวํ สพฺพกาลํ อตนฺทิตา หุตฺวา ปรโต โฆสเหตุกํ สุตมยาณํ มฺุจิตฺวา, ตโต ตํนิมิตฺตํ อตฺตนิ สมฺภูตตฺตา สกายภาวนามยาย ปฺาย ยาถาวโต ฆนวินิพฺโภคกรเณน อภินิพฺพิชฺฌ, กถํ นุ โข ทกฺขิสํ ปสฺสิสฺสนฺติ อาโภคปุเรจาริเกน ปุพฺพภาคาณจกฺขุนา อเวกฺขนฺตี วิจินนฺตีติ อตฺโถ.
เตนาห ‘‘ตสฺสา เม อปฺปมตฺตายา’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ตสฺสา เม สติอวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺตาย โยนิโส อุปาเยน อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนาปฺาย วิจินนฺติยา วีมํสนฺติยา, อยํ ขนฺธปฺจกสงฺขาโต กาโย สสนฺตานปรสนฺตานวิภาคโต สนฺตรพาหิโร ยถาภูตํ ทิฏฺโ.
อถ ตถา ทสฺสนโต ปจฺฉา นิพฺพินฺทหํ กาเย วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย อตฺตภาเว นิพฺพินฺทึ, วิเสสโตว อชฺฌตฺตสนฺตาเน วิรชฺชิ วิราคํ อาปชฺชึ, อหํ ยถาภูตาย อปฺปมาทปฏิปตฺติยา ¶ มตฺถกปฺปตฺติยา อปฺปมตฺตา สพฺพโส สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา วิสํยุตฺตา อุปสนฺตา จ นิพฺพุตา จ อมฺหีติ.
สุนฺทรีนนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นนฺทุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา
อคฺคึ ¶ จนฺทฺจาติอาทิกา นนฺทุตฺตราย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ กมฺมาสธมฺมนิคเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ¶ , เอกจฺจานิ วิชฺชาฏฺานานิ สิปฺปายตนานิ จ อุคฺคเหตฺวา นิคณฺปพฺพชฺชํ อุปคนฺตฺวา, วาทปฺปสุตา ชมฺพุสาขํ คเหตฺวา ภทฺทากุณฺฑลเกสา วิย ชมฺพุทีปตเล วิจรนฺตี มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ปราชยํ ปตฺตา เถรสฺส โอวาเท ตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘อคฺคึ จนฺทฺจ สูริยฺจ, เทวตา จ นมสฺสิหํ;
นทีติตฺถานิ คนฺตฺวาน, อุทกํ โอรุหามิหํ.
‘‘พหูวตสมาทานา, อฑฺฒํ สีสสฺส โอลิขึ;
ฉมาย เสยฺยํ กปฺเปมิ, รตฺตึ ภตฺตํ น ภฺุชหํ.
‘‘วิภูสามณฺฑนรตา, นฺหาปนุจฺฉาทเนหิ จ;
อุปกาสึ อิมํ กายํ, กามราเคน อฏฺฏิตา.
‘‘ตโต สทฺธํ ลภิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
ทิสฺวา กายํ ยถาภูตํ, กามราโค สมูหโต.
‘‘สพฺเพ ภวา สมุจฺฉินฺนา, อิจฺฉา จ ปตฺถนาปิ จ;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, สนฺตึ ปาปุณิ เจตโส’’ติ. –
อิมา ¶ ปฺจ คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อคฺคึ จนฺทฺจ สูริยฺจ, เทวตา จ นมสฺสิหนฺติ อคฺคิปฺปมุขา เทวาติ อินฺทานํ เทวานํ อาราธนตฺถํ อาหุตึ ปคฺคเหตฺวา อคฺคิฺจ, มาเส มาเส สุกฺกปกฺขสฺส ทุติยาย จนฺทฺจ, ทิวเส ทิวเส สายํ ปาตํ สูริยฺจ, อฺา จ พาหิรา หิรฺคพฺภาทโย เทวตา จ, วิสุทฺธิมคฺคํ คเวสนฺตี นมสฺสิหํ นมกฺการํ อหํ อกาสึ. นทีติตฺถานิ ¶ คนฺตฺวาน, อุทกํ โอรุหามิหนฺติ คงฺคาทีนํ นทีนํ ปูชาติตฺถานิ อุปคนฺตฺวา สายํ ปาตํ อุทกํ โอตรามิ อุทเก นิมุชฺชิตฺวา องฺคสิฺจนํ กโรมิ.
พหูวตสมาทานาติ ปฺจาตปตปฺปนาทิ พหุวิธวตสมาทานา. คาถาสุขตฺถํ พหูติ ทีฆกรณํ. อฑฺฒํ สีสสฺส โอลิขินฺติ มยฺหํ สีสสฺส อฑฺฒเมว ¶ มุณฺเฑมิ. เกจิ ‘‘อฑฺฒํ สีสสฺส โอลิขินฺติ เกสกลาปสฺส อฑฺฒํ ชฏาพนฺธนวเสน พนฺธิตฺวา อฑฺฒํ วิสฺสชฺเชสิ’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ. ฉมาย เสยฺยํ กปฺเปมีติ ถณฺฑิลสายินี หุตฺวา อนนฺตรหิตาย ภูมิยา สยามิ. รตฺตึ ภตฺตํ น ภฺุชหนฺติ รตฺตูปรตา หุตฺวา รตฺติยํ โภชนํ น ภฺุชึ.
วิภูสามณฺฑนรตาติ จิรกาลํ อตฺตกิลมถานุโยเคน กิลนฺตกายา ‘‘เอวํ สรีรสฺส กิลมเนน นตฺถิ ปฺาสุทฺธิ. สเจ ปน อินฺทฺริยานํ โตสนวเสน สรีรสฺส ตปฺปเนน สุทฺธิ สิยา’’ติ มนฺตฺวา อิมํ กายํ อนุคฺคณฺหนฺตี วิภูสายํ มณฺฑเน จ รตา วตฺถาลงฺกาเรหิ อลงฺกรเณ คนฺธมาลาทีหิ มณฺฑเน จ อภิรตา. นฺหาปนุจฺฉาทเนหิ จาติ สมฺพาหนาทีนิ กาเรตฺวา นฺหาปเนน อุจฺฉาทเนน จ. อุปกาสึ อิมํ กายนฺติ อิมํ มม กายํ อนุคฺคณฺหึ สนฺตปฺเปสึ. กามราเคน อฏฺฏิตาติ เอวํ กายทฬฺหีพหุลา หุตฺวา อโยนิโสมนสิการปจฺจยา ปริยุฏฺิเตน กามราเคน อฏฺฏิตา อภิณฺหํ อุปทฺทุตา อโหสึ.
ตโต สทฺธํ ลภิตฺวานาติ เอวํ สมาทินฺนวตานิ ภินฺทิตฺวา กายทฬฺหีพหุลา วาทปฺปสุตา หุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วิจรนฺตี ตโต ปจฺฉา อปรภาเค มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส สนฺติเก ลทฺโธวาทานุสาสนา สทฺธํ ปฏิลภิตฺวา. ทิสฺวา กายํ ยถาภูตนฺติ สห วิปสฺสนาย มคฺคปฺาย อิมํ มม กายํ ยถาภูตํ ทิสฺวา อนาคามิมคฺเคน สพฺพโส กามราโค สมูหโต. ตโต ปรํ อคฺคมคฺเคน สพฺเพ ภวา สมุจฺฉินฺนา, อิจฺฉา จ ปตฺถนาปิ จาติ ปจฺจุปฺปนฺนวิสยาภิลาสสงฺขาตา อิจฺฉา จ อายติภวาภิลาสสงฺขาตา ปตฺถนาปิ สพฺเพ ภวาปิ สมุจฺฉินฺนาติ ¶ โยชนา ¶ . สนฺตึ ปาปุณิ เจตโสติ อจฺจนฺตํ สนฺตึ อรหตฺตผลํ ปาปุณึ อธิคจฺฉินฺติ อตฺโถ.
นนฺทุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. มิตฺตากาฬีเถรีคาถาวณฺณนา
สทฺธาย ¶ ปพฺพชิตฺวานาติอาทิกา มิตฺตากาฬิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ กมฺมาสธมฺมนิคเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺตา มหาสติปฏฺานเทสนาย ปฏิลทฺธสทฺธา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา สตฺต สํวจฺฉรานิ ลาภสกฺการคิทฺธิกา หุตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี ตตฺถ ตตฺถ วิจริตฺวา อปรภาเค โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตี สํเวคชาตา หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, อคารสฺมานคาริยํ;
วิจรึหํ เตน เตน, ลาภสกฺการอุสฺสุกา.
‘‘ริฺจิตฺวา ปรมํ อตฺถํ, หีนมตฺถํ อเสวิหํ;
กิเลสานํ วสํ คนฺตฺวา, สามฺตฺถํ น พุชฺฌิหํ.
‘‘ตสฺสา เม อหุ สํเวโค, นิสินฺนาย วิหารเก;
อุมฺมคฺคปฏิปนฺนามฺหิ, ตณฺหาย วสมาคตา.
‘‘อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหํ, ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ;
ปุรายํ ภิชฺชติ กาโย, น เม กาโล ปมชฺชิตุํ.
‘‘ยถาภูตมเวกฺขนฺตี, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
วิมุตฺตจิตฺตา อุฏฺาสึ, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ ¶ วิจรึหํ เตน เตน, ลาภสกฺการอุสฺสุกาติ ลาเภ จ สกฺกาเร จ อุสฺสุกา ยุตฺตปฺปยุตฺตา หุตฺวา เตน เตน พาหุสจฺจธมฺมกถาทินา ลาภุปฺปาทเหตุนา วิจรึ อหํ.
ริฺจิตฺวา ปรมํ อตฺถนฺติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลาทึ อุตฺตมํ อตฺถํ ชหิตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา. หีนมตฺถํ อเสวิหนฺติ จตุปจฺจยสงฺขาตอามิสภาวโต ¶ หีนํ ลามกํ อตฺถํ อโยนิโส ปริเยสนาย ปฏิเสวึ อหํ. กิเลสานํ วสํ คนฺตฺวาติ มานมทตณฺหาทีนํ กิเลสานํ วสํ อุปคนฺตฺวา สามฺตฺถํ สมณกิจฺจํ น พุชฺฌึ น ชานึ อหํ.
นิสินฺนาย ¶ วิหารเกติ มม วสนกโอวรเก นิสินฺนาย อหุ สํเวโค. กถนฺติ เจ, อาห ‘‘อุมฺมคฺคปฏิปนฺนามฺหี’’ติ. ตตฺถ อุมฺมคฺคปฏิปนฺนามฺหีติ ยาวเทว อนุปาทาย ปรินิพฺพานตฺถมิทํ สาสนํ, ตตฺถ สาสเน ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ อมนสิกโรนฺตี ตสฺส อุมฺมคฺคปฏิปนฺนา อมฺหีติ. ตณฺหาย วสมาคตาติ ปจฺจยุปฺปาทนตณฺหาย วสํ อุปคตา.
อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหนฺติ ปริจฺฉินฺนกาลา วชฺชิตโต พหูปทฺทวโต จ มม ชีวิตํ อปฺปกํ ปริตฺตํ ลหุกํ. ชรา พฺยาธิ จ มทฺทตีติ ตฺจ สมนฺตโต อาปติตฺวา นิปฺโปเถนฺตา ปพฺพตา วิย ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ นิมฺมถติ. ‘‘มทฺทเร’’ติปิ ปาโ. ปุรายํ ภิชฺชติ กาโยติ อยํ กาโย ภิชฺชติ ปุรา. ยสฺมา ตสฺส เอกํสิโก เภโท, ตสฺมา น เม กาโล ปมชฺชิตุํ อยํ กาโล อฏฺกฺขณวชฺชิโต นวโม ขโณ, โส ปมชฺชิตุํ น ยุตฺโตติ ตสฺสาหุํ สํเวโคติ โยชนา.
ยถาภูตมเวกฺขนฺตีติ เอวํ ชาตสํเวคา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อนิจฺจาทิมนสิกาเรน ยถาภูตมเวกฺขนฺตี. กึ อเวกฺขนฺตีติ อาห ‘‘ขนฺธานํ อุทยพฺพย’’นฺติ. ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) สมปฺาสปฺปเภทานํ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุปฺปาทนิโรธฺจ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย อเวกฺขนฺตี วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพโส กิเลเสหิ จ ภเวหิ จ วิมุตฺตจิตฺตา อุฏฺาสึ, อุภโต อุฏฺาเนน มคฺเคน ภวตฺตยโต จาติ วุฏฺิตา อโหสึ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
มิตฺตากาฬีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สกุลาเถรีคาถาวณฺณนา
อคารสฺมึ ¶ ¶ วสนฺตีติอาทิกา สกุลาย เถริยา คาถา. อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร อานนฺทสฺส รฺโ ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺตา, สตฺถุ เวมาติกภคินี นนฺทาติ นาเมน. สา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารา เอกํ ภิกฺขุนึ ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา อุสฺสาหชาตา อธิการกมฺมํ กตฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺตี ปณิธานมกาสิ. สา ตตฺถ ยาวชีวํ ¶ พหุํ อุฬารํ กุสลกมฺมํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี กสฺสปสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกจารินี วิจรนฺตี เอกทิวสํ เตลภิกฺขาย อาหิณฺฑิตฺวา เตลํ ลภิตฺวา เตน เตเลน สตฺถุ เจติเย สพฺพรตฺตึ ทีปปูชํ อกาสิ. สา ตโต จุตา ตาวตึเส นิพฺพตฺติตฺวา สุวิสุทฺธทิพฺพจกฺขุกา หุตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทเวสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ. สกุลาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วิฺุตํ ปตฺตา สตฺถุ เชตวนปฏิคฺคหเณ ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา อปรภาเค อฺตรสฺส ขีณาสวตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา สฺชาตสํเวคา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี น จิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๑๓๑-๑๖๕) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘หิตาย สพฺพสตฺตานํ, สุขาย วทตํ วโร;
อตฺถาย ปุริสาชฺโ, ปฏิปนฺโน สเทวเก.
‘‘ยสคฺคปตฺโต สิริมา, กิตฺติวณฺณคโต ชิโน;
ปูชิโต สพฺพโลกสฺส, ทิสา สพฺพาสุ วิสฺสุโต.
‘‘อุตฺติณฺณวิจิกิจฺโฉ โส, วีติวตฺตกถํกโถ;
สมฺปุณฺณมนสงฺกปฺโป, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘อนุปฺปนฺนสฺส ¶ มคฺคสฺส, อุปฺปาเทตา นรุตฺตโม;
อนกฺขาตฺจ อกฺขาสิ, อสฺชาตฺจ สฺชนี.
‘‘มคฺคฺู ¶ จ มคฺควิทู, มคฺคกฺขายี นราสโภ;
มคฺคสฺส กุสโล สตฺถา, สารถีนํ วรุตฺตโม.
‘‘มหาการุณิโก สตฺถา, ธมฺมํ เทเสติ นายโก;
นิมุคฺเค กามปงฺกมฺหิ, สมุทฺธรติ ปาณิเน.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา ขตฺติยนนฺทนา;
สุรูปา สธนา จาปิ, ทยิตา จ สิรีมตี.
‘‘อานนฺทสฺส ¶ มหารฺโ, ธีตา ปรมโสภนา;
เวมาตา ภคินี จาปิ, ปทุมุตฺตรนามิโน.
‘‘ราชกฺาหิ สหิตา, สพฺพาภรณภูสิตา;
อุปาคมฺม มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ.
‘‘ตทา หิ โส โลกครุ, ภิกฺขุนึ ทิพฺพจกฺขุกํ;
กิตฺตยํ ปริสามชฺเฌ, อคฺคฏฺาเน เปสิ ตํ.
‘‘สุณิตฺวา ตมหํ หฏฺา, ทานํ ทตฺวาน สตฺถุโน;
ปูชิตฺวาน จ สมฺพุทฺธํ, ทิพฺพจกฺขุํ อปตฺถยึ.
‘‘ตโต อโวจ มํ สตฺถา, นนฺเท ลจฺฉสิ ปตฺถิตํ;
ปทีปธมฺมทานานํ, ผลเมตํ สุนิจฺฉิตํ.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ¶ ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
สกุลา นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘ปริพฺพาชกินี อาสึ, ตทาหํ เอกจารินี;
ภิกฺขาย วิจริตฺวาน, อลภึ เตลมตฺตกํ.
‘‘เตน ทีปํ ปทีเปตฺวา, อุปฏฺึ สพฺพสํวรึ;
เจติยํ ทฺวิปทคฺคสฺส, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ยตฺถ ¶ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;
ปชฺชลนฺติ มหาทีปา, ตตฺถ ตตฺถ คตาย เม.
‘‘ติโรกุฏฺฏํ ¶ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;
ปสฺสามหํ ยทิจฺฉามิ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘วิสุทฺธนยนา โหมิ, ยสสา จ ชลามหํ;
สทฺธาปฺาวตี เจว, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา วิปฺปกุเล อหํ;
ปหูตธนธฺมฺหิ, มุทิเต ราชปูชิเต.
‘‘อหํ ¶ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, สพฺพาภรณภูสิตา;
ปุรปฺปเวเส สุคตํ, วาตปาเน ิตา อหํ.
‘‘ทิสฺวา ชลนฺตํ ยสสา, เทวมนุสฺสสกฺกตํ;
อนุพฺยฺชนสมฺปนฺนํ, ลกฺขเณหิ วิภูสิตํ.
‘‘อุทคฺคจิตฺตา สุมนา, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ;
น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.
‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติสมูหตา.
‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.
‘‘ตโต มหาการุณิโก, เอตทคฺเค เปสิ มํ;
ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคา, สกุลาติ นรุตฺตโม.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา กตาธิการตาย ทิพฺพจกฺขุาเณ จิณฺณวสี อโหสิ. เตน นํ สตฺถา ทิพฺพจกฺขุกานํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา อุทานวเสน –
‘‘อคารสฺมึ ¶ ¶ ¶ วสนฺตีหํ, ธมฺมํ สุตฺวาน ภิกฺขุโน;
อทฺทสํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตํ.
‘‘สาหํ ปุตฺตํ ธีตรฺจ, ธนธฺฺจ ฉฑฺฑิย;
เกเส เฉทาปยิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘สิกฺขมานา อหํ สนฺตี, ภาเวนฺตี มคฺคมฺชสํ;
ปหาสึ ราคโทสฺจ, ตเทกฏฺเ จ อาสเว.
‘‘ภิกฺขุนี อุปสมฺปชฺช, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ;
ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ, วิมลํ สาธุภาวิตํ.
‘‘สงฺขาเร ปรโต ทิสฺวา, เหตุชาเต ปโลกิเต;
ปหาสึ อาสเว สพฺเพ, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อคารสฺมึ วสนฺตีหํ, ธมฺมํ สุตฺวาน ภิกฺขุโนติ อหํ ปุพฺเพ อคารมชฺเฌ วสมานา อฺตรสฺส ภินฺนกิเลสสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก จตุสจฺจคพฺภํ ธมฺมกถํ สุตฺวา. อทฺทสํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตนฺติ ราครชาทีนํ อภาเวน วิรชํ, วานโต นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ, จวนาภาวโต อธิคตานํ อจฺจุติเหตุตาย จ นิพฺพานํ อจฺจุตํ, ปทนฺติ จ ลทฺธนามํ อสงฺขตธมฺมํ, สหสฺสนยปฏิมณฺฑิเตน ทสฺสนสงฺขาเตน ธมฺมจกฺขุนา อทฺทสํ ปสฺสึ.
สาหนฺติ สา อหํ วุตฺตปฺปกาเรน โสตาปนฺนา โหมิ.
สิกฺขมานา อหํ สนฺตีติ อหํ สิกฺขมานาว สมานา ปพฺพชิตฺวา วสฺเส อปริปุณฺเณ เอว. ภาเวนฺตี มคฺคมฺชสนฺติ มชฺฌิมปฏิปตฺติภาวโต อฺชสํ อุปริมคฺคํ อุปฺปาเทนฺตี. ตเทกฏฺเ จ อาสเวติ ราคโทเสหิ สหเชกฏฺเ ปหาเนกฏฺเ จ ตติยมคฺควชฺเฌ อาสเว ปหาสึ สมุจฺฉินฺทึ.
ภิกฺขุนี ¶ อุปสมฺปชฺชาติ วสฺเส ปริปุณฺเณ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ภิกฺขุนี หุตฺวา. วิมลนฺติ อวิชฺชาทีหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺตตาย วิคตมลํ, สาธุ สกฺกจฺจ สมฺมเทว ¶ ภาวิตํ, สาธูหิ วา พุทฺธาทีหิ ภาวิตํ อุปฺปาทิตํ ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตนฺติ สมฺพนฺโธ.
สงฺขาเรติ เตภูมกสงฺขาเร. ปรโตติ อนตฺตโต. เหตุชาเตติ ปจฺจยุปฺปนฺเน. ปโลกิเตติ ปลุชฺชนสภาเว ¶ ปภงฺคุเน ปฺาจกฺขุนา ทิสฺวา. ปหาสึ อาสเว สพฺเพติ อคฺคมคฺเคน อวสิฏฺเ สพฺเพปิ อาสเว ปชหึ, เขเปสินฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สกุลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. โสณาเถรีคาถาวณฺณนา
ทส ปุตฺเต วิชายิตฺวาติอาทิกา โสณาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ อารทฺธวีริยานํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ปฺุานิ กตฺวา, ตโต จุตา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา ปติกุลํ คตา ทส ปุตฺตธีตโร ลภิตฺวา พหุปุตฺติกาติ ปฺายิตฺถ. สา สามิเก ปพฺพชิเต วยปฺปตฺเต ปุตฺตธีตโร ฆราวาเส ปติฏฺาเปตฺวา สพฺพํ ธนํ ปุตฺตานํ วิภชิตฺวา อทาสิ, น กิฺจิ อตฺตโน เปสิ. ตํ ปุตฺตา จ ธีตโร จ กติปาหเมว อุปฏฺหิตฺวา ปริภวํ อกํสุ. สา ‘‘กึ มยฺหํ อิเมหิ ปริภวาย ฆเร วสนฺติยา’’ติ ภิกฺขุนิโย อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตํ ภิกฺขุนิโย ปพฺพาเชสุํ. สา ลทฺธูปสมฺปทา ‘‘อหํ มหลฺลิกากาเล ปพฺพชิตฺวา อปฺปมตฺตาย ภวิตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขุนีนํ วตฺตปฏิวตฺตํ กโรนฺตี ‘‘สพฺพรตฺตึ สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ เหฏฺาปาสาเท เอกถมฺภํ หตฺเถน คเหตฺวา ตํ อวิชหมานา สมณธมฺมํ กโรนฺตี จงฺกมมานาปิ ‘‘อนฺธกาเร าเน รุกฺขาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ เม สีสํ ปฏิหฺเยฺยา’’ติ รุกฺขํ หตฺเถน คเหตฺวา ตํ อวิชหมานาว สมณธมฺมํ กโรติ. ตโต ปฏฺาย สา อารทฺธวีริยตาย ปากฏา อโหสิ. สตฺถา ตสฺสา าณปริปากํ ทิสฺวา ¶ ¶ คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา สมฺมุเข นิสินฺโน วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘โย ¶ จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ ธมฺมมุตฺตมํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต ธมฺมมุตฺตม’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๕) –
คาถํ อภาสิ. สา คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๒๒๐-๒๔๓) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทา เสฏฺิกุเล ชาตา, สุขิตา ปูชิตา ปิยา;
อุเปตฺวา ตํ มุนิวรํ, อสฺโสสึ มธุรํ วจํ.
‘‘อารทฺธวีริยานคฺคํ, วณฺเณสิ ภิกฺขุนึ ชิโน;
ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, การํ กตฺวาน สตฺถุโน.
‘‘อภิวาทิย สมฺพุทฺธํ, านํ ตํ ปตฺถยึ ตทา;
อนุโมทิ มหาวีโร, สิชฺฌตํ ปณิธี ตว.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
โสณาติ นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหํ;
สาวตฺถิยํ ปุรวเร, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน.
‘‘ยทา ¶ จ โยพฺพนปฺปตฺตา, คนฺตฺวา ปติกุลํ อหํ;
ทส ปุตฺตานิ อชนึ, สุรูปานิ วิเสสโต.
‘‘สุเขธิตา ¶ จ เต สพฺเพ, ชนเนตฺตมโนหรา;
อมิตฺตานมฺปิ รุจิตา, มม ปเคว เต สิยา.
‘‘ตโต มยฺหํ อกามาย, ทสปุตฺตปุรกฺขโต;
ปพฺพชิตฺถ ส เม ภตฺตา, เทวเทวสฺส สาสเน.
‘‘ตเทกิกา ¶ วิจินฺเตสึ, ชีวิเตนาลมตฺถุ เม;
จตฺตาย ปติปุตฺเตหิ, วุฑฺฒาย จ วรากิยา.
‘‘อหมฺปิ ตตฺถ คจฺฉิสฺสํ, สมฺปตฺโต ยตฺถ เม ปติ;
เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘ตโต จ มํ ภิกฺขุนิโย, เอกํ ภิกฺขุนุปสฺสเย;
วิหาย คจฺฉุโมวาทํ, ตาเปหิ อุทกํ อิติ.
‘‘ตทา อุทกมาหิตฺวา, โอกิริตฺวาน กุมฺภิยา;
จุลฺเล เปตฺวา อาสีนา, ตโต จิตฺตํ สมาทหึ.
‘‘ขนฺเธ อนิจฺจโต ทิสฺวา, ทุกฺขโต จ อนตฺตโต;
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘ตทาคนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย, อุณฺโหทกมปุจฺฉิสุํ;
เตโชธาตุมธิฏฺาย, ขิปฺปํ สนฺตาปยึ ชลํ.
‘‘วิมฺหิตา ตา ชินวรํ, เอตมตฺถมสาวยุํ;
ตํ สุตฺวา มุทิโต นาโถ, อิมํ คาถํ อภาสถ.
‘‘โย ¶ จ วสฺสสตํ ชีเว, กุสีโต หีนวีริโย;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, วีริยมารภโต ทฬฺหํ.
‘‘อาราธิโต มหาวีโร, มยา สุปฺปฏิปตฺติยา;
อารทฺธวีริยานคฺคํ, มมาห ส มหามุนิ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อถ นํ ภควา ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา านนฺตเร เปนฺโต อารทฺธวีริยานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา เอกทิวสํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘ทส ¶ ปุตฺเต วิชายิตฺวา, อสฺมึ รูปสมุสฺสเย;
ตโตหํ ทุพฺพลา ชิณฺณา, ภิกฺขุนึ อุปสงฺกมึ.
‘‘สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย;
ตสฺสา ธมฺมํ สุณิตฺวาน, เกเส เฉตฺวาน ปพฺพชึ.
‘‘ตสฺสา ¶ เม สิกฺขมานาย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.
‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวมิ, เอกคฺคา สุสมาหิตา;
อนนฺตราวิโมกฺขาสึ, อนุปาทาย นิพฺพุตา.
‘‘ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา, ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา;
ธิ ตวตฺถุ ชเร ชมฺเม, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ รูปสมุสฺสเยติ รูปสงฺขาเต สมุสฺสเย. อยฺหิ รูปสทฺโท ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๖๐) รูปายตเน อาคโต. ‘‘ยํกิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๘๑) รูปกฺขนฺเธ. ‘‘ปิยรูเป สาตรูเป ¶ รชฺชตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๐๙) สภาเว. ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๓๘; อ. นิ. ๑.๔๒๗-๔๓๔) กสิณายตเน. ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๓๙; อ. นิ. ๑.๔๓๕-๔๔๒) รูปฌาเน. ‘‘อฏฺิฺจ ปฏิจฺจ นฺหารฺุจ ปฏิจฺจ มํสฺจ ปฏิจฺจ จมฺมฺจ ปฏิจฺจ อากาโส ปริวาริโต รูปนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๖) รูปกาเย. อิธาปิ รูปกาเยว ทฏฺพฺโพ. สมุสฺสยสทฺโทปิ อฏฺีนํ สรีรสฺส ปริยาโย. ‘‘สตนฺติ สมุสฺสยา’’ติอาทีสุ อฏฺิสรีรปริยาเย. ‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสย’’นฺติอาทีสุ (เถรคา. ๑๙) สรีเร. อิธาปิ สรีเร เอว ทฏฺพฺโพ. เตน วุตฺตํ – ‘‘รูปสมุสฺสเย’’ติ, รูปสงฺขาเต สมุสฺสเย สรีเรติ อตฺโถ. ตฺวาติ วจนเสโส. อสฺมึ รูปสมุสฺสเยติ หิ อิมสฺมึ รูปสมุสฺสเย ตฺวา อิมํ รูปกายํ นิสฺสาย ทส ปุตฺเต วิชายิตฺวาติ โยชนา. ตโตติ ตสฺมา ทสปุตฺตวิชายนเหตุ. สา หิ ปมวยํ อติกฺกมิตฺวา ปุตฺตเก ¶ วิชายนฺตี อนุกฺกเมน ทุพฺพลสรีรา ชราชิณฺณา จ อโหสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตโตหํ ทุพฺพลา ชิณฺณา’’ติ.
ตสฺสาติ ตโต, ตสฺสาติ วา ตสฺสา สนฺติเก. ปุน ตสฺสาติ กรเณ สามิวจนํ, ตายาติ อตฺโถ. สิกฺขมานายาติ ติสฺโสปิ สิกฺขา สิกฺขมานา.
อนนฺตราวิโมกฺขาสินฺติ อคฺคมคฺคสฺส อนนฺตรา อุปฺปนฺนวิโมกฺขา อาสึ. รูปี รูปานิ ปสฺสตีติอาทโย หิ อฏฺปิ วิโมกฺขา อนนฺตรวิโมกฺขา นาม น โหนฺติ. มคฺคานนฺตรํ อนุปฺปตฺตา หิ ผลวิโมกฺขา ผลสมาปตฺติกาเล ปวตฺตมานาปิ ปมมคฺคานนฺตรเมว สมุปฺปตฺติโต ¶ ตํ อุปาทาย อนนฺตรวิโมกฺขา นาม, ยถา มคฺคสมาธิ อานนฺตริกสมาธีติ วุจฺจติ. อนุปาทาย นิพฺพุตาติ รูปาทีสุ กิฺจิปิ อคฺคเหตฺวา กิเลสปรินิพฺพาเนน นิพฺพุตา อาสึ.
เอวํ วิชฺชาตฺตยํ วิภาเวตฺวา อรหตฺตผเลน กูฏํ คณฺหนฺตี อุทาเนตฺวา, อิทานิ ชราย จิรกาลํ อุปทฺทุตสรีรํ วิครหนฺตี สห วตฺถุนา ตสฺส สมติกฺกนฺตภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา’’ติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ธิ ตวตฺถุ ชเร ชมฺเมติ องฺคานํ สิถิลภาวกรณาทินา ชเร ชมฺเม ลามเก หีเน ตว ตุยฺหํ ธิ อตฺถุ ธิกาโร โหตุ. นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ ตสฺมา ตฺวํ มยา อติกฺกนฺตา อภิภูตาสีติ อธิปฺปาโย.
โสณาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ภทฺทากุณฺฑลเกสาเถรีคาถาวณฺณนา
ลูนเกสีติอาทิกา ¶ ภทฺทาย กุณฺฑลเกสาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ ขิปฺปาภิฺานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ปฺุานิ กตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา กสฺสปพุทฺธกาเล กิกิสฺส กาสิรฺโ เคเห สตฺตนฺนํ ¶ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ ทส สีลานิ สมาทาย โกมาริพฺรหฺมจริยํ จรนฺตี สงฺฆสฺส วสนปริเวณํ กาเรตฺวา, เอกํ พุทฺธนฺตรํ สุคตีสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ. ภทฺทาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา มหตา ปริวาเรน วฑฺฒมานา วยปฺปตฺตา, ตสฺมึเยว นคเร ปุโรหิตสฺส ปุตฺตํ สตฺตุกํ นาม โจรํ สโหฑฺฒํ คเหตฺวา ราชาณาย นครคุตฺติเกน มาเรตุํ อาฆาตนํ นิยฺยมานํ, สีหปฺชเรน โอโลเกนฺตี ทิสฺวา ¶ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา สเจ ตํ ลภามิ, ชีวิสฺสามิ; โน เจ, มริสฺสามีติ สยเน อโธมุขี นิปชฺชิ.
อถสฺสา ปิตา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เอกธีตุตาย พลวสิเนโห สหสฺสลฺชํ ทตฺวา อุปาเยเนว โจรํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตํ กาเรตฺวา ปาสาทํ เปเสสิ. ภทฺทาปิ ปริปุณฺณมโนรถา อติเรกาลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา ตํ ปริจรติ. สตฺตุโก กติปาหํ วีตินาเมตฺวา ตสฺสา อาภรเณสุ อุปฺปนฺนโลโภ ภทฺเท, อหํ นครคุตฺติเกน คหิตมตฺโตว โจรปปาเต อธิวตฺถาย เทวตาย ‘‘สจาหํ ชีวิตํ ลภามิ, ตุยฺหํ พลิกมฺมํ อุปสํหริสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ อายาจึ, ตสฺมา พลิกมฺมํ สชฺชาเปหีติ. สา ‘‘ตสฺส มนํ ปูเรสฺสามี’’ติ พลิกมฺมํ สชฺชาเปตฺวา สพฺพาภรณวิภูสิตา สามิเกน สทฺธึ เอกํ ยานํ อภิรุยฺห ‘‘เทวตาย พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ โจรปปาตํ อภิรุหิตุํ อารทฺธา.
สตฺตุโก จินฺเตสิ – ‘‘สพฺเพสุ อภิรุหนฺเตสุ อิมิสฺสา อาภรณํ คเหตุํ น สกฺกา’’ติ ปริวารชนํ ตตฺเถว เปตฺวา ตเมว พลิภาชนํ คาหาเปตฺวา ปพฺพตํ อภิรุหนฺโต ตาย สทฺธึ ปิยกถํ น กเถสิ. สา อิงฺคิเตเนว ตสฺสาธิปฺปายํ อฺาสิ. สตฺตุโก, ‘‘ภทฺเท, ตว อุตฺตรสาฏกํ โอมฺุจิตฺวา กายารูฬฺหปสาธนํ ภณฺฑิกํ กโรหี’’ติ. สา, ‘‘สามิ, มยฺหํ โก อปราโธ’’ติ? ‘‘กึ นุ มํ, พาเล,‘พลิกมฺมตฺถํ อาคโต’ติ สฺํ กโรสิ? พลิกมฺมาปเทเสน ปน ตว อาภรณํ คเหตุํ อาคโต’’ติ. ‘‘กสฺส ปน, อยฺย, ปสาธนํ, กสฺส อห’’นฺติ? ‘‘นาหํ เอตํ วิภาคํ ชานามี’’ติ ¶ . ‘‘โหตุ, อยฺย, เอกํ ปน เม อธิปฺปายํ ปูเรหิ, อลงฺกตนิยาเมน ¶ จ อาลิงฺคิตุํ เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. สา เตน สมฺปฏิจฺฉิตภาวํ ตฺวา ปุรโต อาลิงฺคิตฺวา ปจฺฉโต อาลิงฺคนฺตี วิย ปพฺพตปปาเต ปาเตสิ. โส ปติตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ อโหสิ. ตาย กตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา ปพฺพเต อธิวตฺถา เทวตา โกสลฺลํ วิภาเวนฺตี อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณา.
‘‘น ¶ หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ลหุํ อตฺถวิจินฺติกา’’ติ. (อป. เถรี. ๒.๓.๓๑-๓๒);
ตโต ภทฺทา จินฺเตสิ – ‘‘น สกฺกา มยา อิมินา นิยาเมน เคหํ คนฺตุํ, อิโตว คนฺตฺวา เอกํ ปพฺพชฺชํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ นิคณฺารามํ คนฺตฺวา นิคณฺเ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. อถ นํ เต อาหํสุ – ‘‘เกน นิยาเมน ปพฺพชฺชา โหตู’’ติ? ‘‘ยํ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุตฺตมํ, ตเทว กโรถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺสา ตาลฏฺินา เกเส ลฺุจิตฺวา ปพฺพาเชสุํ. ปุน เกสา วฑฺฒนฺตา กุณฺฑลาวฏฺฏา หุตฺวา วฑฺเฒสุํ. ตโต ปฏฺาย สา กุณฺฑลเกสาติ นาม ชาตา. สา ตตฺถ อุคฺคเหตพฺพํ สมยํ วาทมคฺคฺจ อุคฺคเหตฺวา ‘‘เอตฺตกํ นาม อิเม ชานนฺติ, อิโต อุตฺตริ วิเสโส นตฺถี’’ติ ตฺวา ตโต อปกฺกมิตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ปณฺฑิตา อตฺถิ, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา เตสํ ชานนสิปฺปํ อุคฺคเหตฺวา อตฺตนา สทฺธึ กเถตุํ สมตฺถํ อทิสฺวา ยํ ยํ คามํ วา นิคมํ วา ปวิสติ, ตสฺส ทฺวาเร วาลุการาสึ กตฺวา ตตฺถ ชมฺพุสาขํ เปตฺวา ‘‘โย มม วาทํ อาโรเปตุํ สกฺโกติ, โส อิมํ สาขํ มทฺทตู’’ติ สมีเป ิตทารกานํ สฺํ ทตฺวา วสนฏฺานํ คจฺฉติ. สตฺตาหมฺปิ ชมฺพุสาขาย ตเถว ิตาย ตํ คเหตฺวา ปกฺกมติ.
เตน จ สมเยน อมฺหากํ ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย เชตวเน วิหรติ. กุณฺฑลเกสาปิ วุตฺตนเยน คามนิคมราชธานีสุ วิจรนฺตี สาวตฺถึ ปตฺวา นครทฺวาเร วาลุการาสิมฺหิ ชมฺพุสาขํ เปตฺวา ทารกานํ สฺํ ทตฺวา สาวตฺถึ ปาวิสิ.
อถายสฺมา ¶ ¶ ธมฺมเสนาปติ เอกโกว นครํ ปวิสนฺโต ตํ สาขํ ทิสฺวา ตํ ทเมตุกาโม ทารเก ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมายํ สาขา เอวํ ปิตา’’ติ? ทารกา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. เถโร ‘‘ยทิ เอวํ อิมํ สาขํ มทฺทถา’’ติ อาห. ทารกา ตํ มทฺทึสุ. กุณฺฑลเกสา กตภตฺตกิจฺจา นครโต นิกฺขมนฺตี ตํ สาขํ มทฺทิตํ ทิสฺวา ‘‘เกนิทํ มทฺทิต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา เถเรน มทฺทาปิตภาวํ ตฺวา ‘‘อปกฺขิโก วาโท น โสภตี’’ติ สาวตฺถึ ปวิสิตฺวา วีถิโต วีถึ วิจรนฺตี ‘‘ปสฺเสยฺยาถ สมเณหิ ¶ สกฺยปุตฺติเยหิ สทฺธึ มยฺหํ วาท’’นฺติ อุคฺโฆเสตฺวา มหาชนปริวุตา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ธมฺมเสนาปตึ อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ‘‘กึ ตุมฺเหหิ มม ชมฺพุสาขา มทฺทาปิตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, มยา มทฺทาปิตา’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต ตุมฺเหหิ สทฺธึ มยฺหํ วาโท โหตู’’ติ. ‘‘โหตุ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘กสฺส ปุจฺฉา, กสฺส วิสฺสชฺชนา’’ติ? ‘‘ปุจฺฉา นาม อมฺหากํ ปตฺตา, ตฺวํ ยํ อตฺตโน ชานนกํ ปุจฺฉา’’ติ. สา สพฺพเมว อตฺตโน ชานนกํ วาทํ ปุจฺฉิ. เถโร ตํ สพฺพํ วิสฺสชฺเชสิ. สา อุปริ ปุจฺฉิตพฺพํ อชานนฺตี ตุณฺหี อโหสิ. อถ นํ เถโร อาห – ‘‘ตยา พหุํ ปุจฺฉิตํ, มยมฺปิ ตํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉามา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ. เถโร ‘‘เอกํ นาม กิ’’นฺติ อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. กุณฺฑลเกสา เนว อนฺตํ น โกฏึ ปสฺสนฺตี อนฺธการํ ปวิฏฺา วิย หุตฺวา ‘‘น ชานามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. ‘‘ตฺวํ เอตฺตกมฺปิ อชานนฺตี อฺํ กึ ชานิสฺสสี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. สา เถรสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห สรณํ คจฺฉามี’’ติ อาห. ‘‘มา มํ ตฺวํ, ภทฺเท, สรณํ คจฺฉ, สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลํ ภควนฺตเมว สรณํ คจฺฉา’’ติ. ‘‘เอวํ กริสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ สา สายนฺหสมเย ธมฺมเทสนาเวลายํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺสา าณปริปากํ ตฺวา –
‘‘สหสฺสมปิ เจ คาถา, อนตฺถปทสํหิตา;
เอกํ คาถาปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา สุปสมฺมตี’’ติ. –
อิมํ คาถมาห. คาถาปริโยสาเน ยถาิตาว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๑-๕๔) –
‘‘ปทุมุตฺตโร ¶ นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหํ ¶ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;
นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.
‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;
ตโต ¶ ชาตปฺปสาทาหํ, อุเปสึ สรณํ ชินํ.
‘‘ตทา มหาการุณิโก, ปทุมุตฺตรนามโก;
ขิปฺปาภิฺานมคฺคนฺติ, เปสิ ภิกฺขุนึ สุภํ.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ทานํ ทตฺวา มเหสิโน;
นิปจฺจ สิรสา ปาเท, ตํ านมภิปตฺถยึ.
‘‘อนุโมทิ มหาวีโร, ภทฺเท ยํ เตภิปตฺถิตํ;
สมิชฺฌิสฺสติ ตํ สพฺพํ, สุขินี โหหิ นิพฺพุตา.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
ภทฺทากุณฺฑลเกสาติ, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตโต จุตา ยามมคํ, ตโตหํ ตุสิตํ คตา;
ตโต จ นิมฺมานรตึ, วสวตฺติปุรํ ตโต.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;
ตตฺถ ตตฺเถว ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘ตโต ¶ จุตา มนุสฺเสสุ, ราชูนํ จกฺกวตฺตินํ;
มณฺฑลีนฺจ ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มานุเสสุ จ;
สพฺพตฺถ สุขิตา หุตฺวา, เนกกปฺเปสุ สํสรึ.
‘‘อิมมฺหิ ¶ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;
กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.
‘‘ตสฺส ธีตา จตุตฺถาสึ, ภิกฺขุทายีติ วิสฺสุตา;
ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.
‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;
วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.
‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;
พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺต ธีตโร.
‘‘สมณี ¶ สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;
ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.
‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, ปฏาจารา อหํ ตทา;
กิสาโคตมี ธมฺมทินฺนา, วิสาขา โหติ สตฺตมี.
‘‘เตหิ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ปจฺฉิเม ¶ จ ภเว ทานิ, คิริพฺพชปุรุตฺตเม;
ชาตา เสฏฺิกุเล ผีเต, ยทาหํ โยพฺพเน ิตา.
‘‘โจรํ วธตฺถํ นียนฺตํ, ทิสฺวา รตฺตา ตหึ อหํ;
ปิตา เม ตํ สหสฺเสน, โมจยิตฺวา วธา ตโต.
‘‘อทาสิ ตสฺส มํ ตาโต, วิทิตฺวาน มนํ มม;
ตสฺสาหมาสึ วิสฏฺา, อตีว ทยิตา หิตา.
‘‘โส เม ภูสนโลเภน, พลิมชฺฌาสโย ทิโส;
โจรปฺปปาตํ เนตฺวาน, ปพฺพตํ เจตยี วธํ.
‘‘ตทาหํ ปณมิตฺวาน, สตฺตุกํ สุกตฺชลี;
รกฺขนฺตี อตฺตโน ปาณํ, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘อิทํ ¶ สุวณฺณเกยูรํ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู;
สพฺพํ หรสฺสุ ภทฺทนฺเต, มฺจ ทาสีติ สาวย.
‘‘โอโรปยสฺสุ กลฺยาณี, มา พาฬฺหํ ปริเทวสิ;
น จาหํ อภิชานามิ, อหนฺตฺวา ธนมาภตํ.
‘‘ยโต สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;
น จาหํ อภิชานามิ, อฺํ ปิยตรํ ตยา.
‘‘เอหิ ตํ อุปคูหิสฺสํ, กตฺวาน ตํ ปทกฺขิณํ;
น จ ทานิ ปุโน อตฺถิ, มม ตุยฺหฺจ สงฺคโม.
‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณา.
‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ลหุํ อตฺถวิจินฺติกา.
‘‘ลหฺุจ ¶ ¶ วต ขิปฺปฺจ, นิกฏฺเ สมเจตยึ;
มิคํ อุณฺณา ยถา เอวํ, ตทาหํ สตฺตุกํ วธึ.
‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, น ขิปฺปมนุพุชฺฌติ;
โส หฺเต มนฺทมติ, โจโรว คิริคพฺภเร.
‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, ขิปฺปเมว นิโพธติ;
มุจฺจเต สตฺตุสมฺพาธา, ตทาหํ สตฺตุกา ยถา.
‘‘ตทาหํ ปาตยิตฺวาน, คิริทุคฺคมฺหิ สตฺตุกํ;
สนฺติกํ เสตวตฺถานํ, อุเปตฺวา ปพฺพชึ อหํ.
‘‘สณฺฑาเสน จ เกเส เม, ลฺุจิตฺวา สพฺพโส ตทา;
ปพฺพชิตฺวาน สมยํ, อาจิกฺขึสุ นิรนฺตรํ.
‘‘ตโต ¶ ตํ อุคฺคเหตฺวาหํ, นิสีทิตฺวาน เอกิกา;
สมยํ ตํ วิจินฺเตสึ, สุวาโน มานุสํ กรํ.
‘‘ฉินฺนํ คยฺห สมีเป เม, ปาตยิตฺวา อปกฺกมิ;
ทิสฺวา นิมิตฺตมลภึ, หตฺถํ ตํ ปุฬวากุลํ.
‘‘ตโต อุฏฺาย สํวิคฺคา, อปุจฺฉึ สหธมฺมิเก;
เต อโวจุํ วิชานนฺติ, ตํ อตฺถํ สกฺยภิกฺขโว.
‘‘สาหํ ตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสํ, อุเปตฺวา พุทฺธสาวเก;
เต มมาทาย คจฺฉึสุ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติกํ.
‘‘โส เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย;
อสุภานิจฺจทุกฺขาติ, อนตฺตาติ จ นายโก.
‘‘ตสฺส ¶ ธมฺมํ สุณิตฺวาหํ, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยึ;
ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทํ.
‘‘อายาจิโต ตทา อาห, เอหิ ภทฺเทติ นายโก;
ตทาหํ อุปสมฺปนฺนา, ปริตฺตํ โตยมทฺทสํ.
‘‘ปาทปกฺขาลเนนาหํ, ตฺวา สอุทยพฺพยํ;
ตถา สพฺเพปิ สงฺขาเร, อีทิสํ จินฺตยึ ตทา.
‘‘ตโต ¶ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, อนุปาทาย สพฺพโส;
ขิปฺปาภิฺานมคฺคํ เม, ตทา ปฺาปยี ชิโน.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.
‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.
‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺสฺส สาสเน.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ¶ ปน ปตฺวา ตาวเทว ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ตสฺสา ปพฺพชฺชํ อนุชานิ. สา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวาน ปพฺพชิตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺตี อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘ลูนเกสี ¶ ปงฺกธรี, เอกสาฏี ปุเร จรึ;
อวชฺเช วชฺชมตินี, วชฺเช จาวชฺชทสฺสินี.
‘‘ทิวาวิหารา นิกฺขมฺม, คิชฺฌกูฏมฺหิ ปพฺพเต;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ.
‘‘นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อฺชลึ อกํ;
เอหิ ภทฺเทติ มํ อวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา.
‘‘จิณฺณา องฺคา จ มคธา, วชฺชี กาสี จ โกสลา;
อนกา ปณฺณาส วสฺสานิ, รฏฺปิณฺฑํ อภฺุชหํ.
‘‘ปฺุํ วต ปสวิ พหุํ, สปฺปฺโ วตายํ อุปาสโก;
โย ภทฺทาย จีวรํ อทาสิ, วิปฺปมุตฺตาย สพฺพคนฺเถหี’’ติ. –
อิมา ¶ คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ลูนเกสีติ ลูนา ลฺุจิตา เกสา มยฺหนฺติ ลูนเกสี, นิคณฺเสุ ปพฺพชฺชาย ตาลฏฺินา ลฺุจิตเกสา, ตํ สนฺธาย วทติ. ปงฺกธรีติ ทนฺตกฏฺสฺส อขาทเนน ทนฺเตสุ มลปงฺกธารณโต ปงฺกธรี. เอกสาฏีติ นิคณฺจาริตฺตวเสน เอกสาฏิกา. ปุเร จรินฺติ ปุพฺเพ นิคณฺี หุตฺวา เอวํ วิจรึ. อวชฺเช วชฺชมตินีติ นฺหานุจฺฉาทนทนฺตกฏฺขาทนาทิเก อนวชฺเช สาวชฺชสฺี. วชฺเช จาวชฺชทสฺสินีติ มานมกฺขปลาสวิปลฺลาสาทิเก สาวชฺเช อนวชฺชทิฏฺี.
ทิวาวิหารา นิกฺขมฺมาติ อตฺตโน ทิวาวิหารฏฺานโต นิกฺขมิตฺวา. อยมฺปิ ิตมชฺฌนฺหิกเวลายํ ¶ เถเรน สมาคตา ตสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเนน ธมฺมเทสนาย จ นิหตมานทพฺพา ปสนฺนมานสา หุตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตุกามาว อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สายนฺหสมเย สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา.
นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวาติ ชาณุทฺวยํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา ปติฏฺเปตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา. สมฺมุขา อฺชลึ อกนฺติ สตฺถุ สมฺมุขา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ อกาสึ. เอหิ, ภทฺเทติ มํ อวจ, สา เม อาสูปสมฺปทาติ ยํ มํ ภควา อรหตฺตํ ปตฺวา ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ยาจิตฺวา ิตํ ¶ ‘‘เอหิ, ภทฺเท, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพช อุปสมฺปชฺชสฺสู’’ติ อวจ อาณาเปสิ. สา สตฺถุ อาณา มยฺหํ อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อาสิ อโหสิ.
จิณฺณาติอาทิกา ทฺเว คาถา อฺาพฺยากรณคาถา. ตตฺถ จิณฺณา องฺคา จ มคธาติ เย อิเม องฺคา จ มคธา จ วชฺชี จ กาสี จ โกสลา จ ชนปทา ปุพฺเพ สาณาย มยา รฏฺปิณฺฑํ ภฺุชนฺติยา จิณฺณา จริตา, เตสุเยว สตฺถารา สมาคมโต ปฏฺาย อนณา นิทฺโทสา อปคตกิเลสา หุตฺวา ปฺาส สํวจฺฉรานิ รฏฺปิณฺฑํ อภฺุชึ ¶ อหํ.
เยน อภิปฺปสนฺนมานเสน อุปาสเกน อตฺตโน จีวรํ ทินฺนํ, ตสฺส ปฺุวิเสสกิตฺตนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺตี ‘‘ปฺุํ วต ปสวี พหุ’’นฺติ โอสานคาถมาห. สา สุวิฺเยฺยาว.
ภทฺทากุณฺฑลเกสาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปฏาจาราเถรีคาถาวณฺณนา
นงฺคเลหิ กสํ เขตฺตนฺติอาทิกา ปฏาจาราย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ วินยธรานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ. สา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี กสฺสปพุทฺธกาเล กิกิสฺส กาสิรฺโ เคเห ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา สตฺตนฺนํ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปริเวณํ อกาสิ. สา ตโต จุตา เทวโลเก ¶ นิพฺพตฺตา, เอกํ พุทฺธนฺตรํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ เสฏฺิเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา อตฺตโน เคเห เอเกน กมฺมกาเรน สทฺธึ กิเลสสนฺถวํ อกาสิ. ตํ มาตาปิตโร สมชาติกสฺส กุมารสฺส ทาตุํ ทิวสํ สณฺเปสุํ. ตํ ตฺวา สา หตฺถสารํ คเหตฺวา เตน กตสนฺถเวน ปุริเสน สทฺธึ อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เอกสฺมึ คามเก วสนฺตี คพฺภินี อโหสิ. สา ¶ ปริปกฺเก คพฺเภ ‘‘กึ อิธ อนาถวาเสน, กุลเคหํ คจฺฉาม, สามี’’ติ วตฺวา ตสฺมึ ‘‘อชฺช คจฺฉาม, สฺเว คจฺฉามา’’ติ กาลกฺเขปํ กโรนฺเต ‘‘นายํ พาโล มํ เนสฺสตี’’ติ ตสฺมึ พหิ คเต เคเห ปฏิสาเมตพฺพํ ปฏิสาเมตฺวา ‘‘กุลฆรํ คตาติ มยฺหํ สามิกสฺส กเถถา’’ติ ปฏิวิสฺสกฆรวาสีนํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘เอกิกาว กุลฆรํ คมิสฺสามี’’ติ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ ¶ . โส อาคนฺตฺวา เคเห ตํ อปสฺสนฺโต ปฏิวิสฺสเก ปุจฺฉิตฺวา ‘‘กุลฆรํ คตา’’ติ สุตฺวา ‘‘มํ นิสฺสาย กุลธีตา อนาถา ชาตา’’ติ ปทานุปทํ คนฺตฺวา สมฺปาปุณิ. ตสฺสา อนฺตรามคฺเค เอว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. สา ปสุตกาลโต ปฏฺาย ปฏิปฺปสฺสทฺธคมนุสฺสุกฺกา สามิกํ คเหตฺวา นิวตฺติ. ทุติยวารมฺปิ คพฺภินี อโหสีติอาทิ สพฺพํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
อยํ ปน วิเสโส – ยทา ตสฺสา อนฺตรามคฺเค กมฺมชวาตา จลึสุ, ตทา มหาอกาลเมโฆ อุทปาทิ. สมนฺตโต วิชฺชุลตาหิ อาทิตฺตํ วิย เมฆถนิเตหิ ภิชฺชมานํ วิย จ อุทกธารานิปาตนิรนฺตรํ นภํ อโหสิ. สา ตํ ทิสฺวา, ‘‘สามิ, เม อโนวสฺสกํ านํ ชานาหี’’ติ อาห. โส อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต เอกํ ติณสฺฉนฺนํ คุมฺพํ ทิสฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา หตฺถคตาย วาสิยา ตสฺมึ คุมฺเพ ทณฺฑเก ฉินฺทิตุกาโม ติเณหิ สฺฉาทิตวมฺมิกสีสนฺเต อุฏฺิตรุกฺขทณฺฑกํ ฉินฺทิ. ตาวเทว จ นํ ตโต วมฺมิกโต นิกฺขมิตฺวา โฆรวิโส อาสีวิโส ฑํสิ. โส ตตฺเถว ปติตฺวา กาลมกาสิ. สา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺตี ตสฺส อาคมนํ โอโลเกนฺตี ทฺเวปิ ทารเก วาตวุฏฺึ อสหมาเน วิรวนฺเต อุรนฺตเร กตฺวา, ทฺวีหิ ชาณุเกหิ ทฺวีหิ หตฺเถหิ จ ภูมึ อุปฺปีเฬตฺวา ยถาิตาว รตฺตึ วีตินาเมตฺวา วิภาตาย รตฺติยา มํสเปสิวณฺณํ เอกํ ปุตฺตํ ปิโลติกจุมฺพฏเก นิปชฺชาเปตฺวา หตฺเถหิ อุเรหิ จ ปริคฺคเหตฺวา, อิตรํ ‘‘เอหิ, ตาต, ปิตา เต อิโต คโต’’ติ วตฺวา สามิเกน คตมคฺเคน คจฺฉนฺตี ตํ วมฺมิกสมีเป กาลงฺกตํ นิสินฺนํ ทิสฺวา ‘‘มํ นิสฺสาย มม สามิโก มโต’’ติ โรทนฺตี ปริเทวนฺตี สกลรตฺตึ เทเวน วุฏฺตฺตา ชณฺณุกปฺปมาณํ ถนปฺปมาณํ อุทกํ สวนฺตึ อนฺตรามคฺเค นทึ ปตฺวา, อตฺตโน มนฺทพุทฺธิตาย ทุพฺพลตาย จ ทฺวีหิ ทารเกหิ สทฺธึ อุทกํ โอตริตุํ อวิสหนฺตี เชฏฺปุตฺตํ โอริมตีเร เปตฺวา อิตรํ ¶ อาทาย ปรตีรํ คนฺตฺวา สาขาภงฺคํ อตฺถริตฺวา ¶ ตตฺถ ปิโลติกจุมฺพฏเก นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘อิตรสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ พาลปุตฺตกํ ปหาตุํ อสกฺโกนฺตี ปุนปฺปุนํ นิวตฺติตฺวา โอโลกยมานา นทึ โอตรติ.
อถสฺสา ¶ นทีมชฺฌํ คตกาเล เอโก เสโน ตํ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘มํสเปสี’’ติ สฺาย อากาสโต ภสฺสิ. สา ตํ ทิสฺวา อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘สูสู’’ติ ติกฺขตฺตุํ มหาสทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. เสโน ทูรภาเวน ตํ อนาทิยนฺโต กุมารํ คเหตฺวา เวหาสํ อุปฺปติ. โอริมตีเร ิโต ปุตฺโต อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา มหาสทฺทํ นิจฺฉารยมานํ ทิสฺวา ‘‘มํ สนฺธาย วทตี’’ติ สฺาย เวเคน อุทเก ปติ. อิติ พาลปุตฺตโก เสเนน, เชฏฺปุตฺตโก อุทเกน หโต. สา ‘‘เอโก เม ปุตฺโต เสเนน คหิโต, เอโก อุทเกน วูฬฺโห, ปนฺเถ เม ปติ มโต’’ติ โรทนฺตี ปริเทวนฺตี คจฺฉนฺตี สาวตฺถิโต อาคจฺฉนฺตํ เอกํ ปุริสํ ทิสฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กตฺถ วาสิโกสิ, ตาตา’’ติ? ‘‘สาวตฺถิวาสิโกมฺหิ, อมฺมา’’ติ. ‘‘สาวตฺถิยํ อสุกวีถิยํ อสุกกุลํ นาม อตฺถิ, ตํ ชานาสิ, ตาตา’’ติ? ‘‘ชานามิ, อมฺม, ตํ ปน มา ปุจฺฉิ, อฺํ ปุจฺฉา’’ติ. ‘‘อฺเน เม ปโยชนํ นตฺถิ, ตเทว ปุจฺฉามิ, ตาตา’’ติ. ‘‘อมฺม, ตฺวํ อตฺตโน อนาจิกฺขิตุํ น เทสิ, อชฺช เต สพฺพรตฺตึ เทโว วสฺสนฺโต ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘ทิฏฺโ เม, ตาต, มยฺหเมว โส สพฺพรตฺตึ วุฏฺโ, ตํ การณํ ปจฺฉา กเถสฺสามิ, เอตสฺมึ ตาว เม เสฏฺิเคเห ปวตฺตึ กเถหี’’ติ. ‘‘อมฺม, อชฺช รตฺติยํ เสฏฺิ จ ภริยา จ เสฏฺิปุตฺโต จาติ ตโยปิ ชเน อวตฺถรมานํ เคหํ ปติ, เต เอกจิตกายํ ฌายนฺติ, สฺวายํ ธูโม ปฺายติ, อมฺมา’’ติ. สา ตสฺมึ ขเณ นิวตฺถวตฺถมฺปิ ปตมานํ น สฺชานิ. โสกุมฺมตฺตตฺตํ ปตฺวา ชาตรูเปเนว –
‘‘อุโภ ปุตฺตา กาลงฺกตา, ปนฺเถ มยฺหํ ปตี มโต;
มาตา ปิตา จ ภาตา จ, เอกจิตมฺหิ ฑยฺหเร’’ติ. (อป. เถรี ๒.๒.๔๙๘) –
วิลปนฺตี ปริพฺภมติ.
ตโต ¶ ปฏฺาย ตสฺสา นิวาสนมตฺเตนปิ ปเฏน อจรณโต ปติตาจารตฺตา ปฏาจาราตฺเวว สมฺา อโหสิ. ตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘คจฺฉ, อุมฺมตฺติเก’’ติ เกจิ ¶ กจวรํ มตฺถเก ขิปนฺติ, อฺเ ปํสุํ โอกิรนฺติ, อปเร เลฑฺฑุํ ขิปนฺติ. สตฺถา เชตวเน มหาปริสามชฺเฌ นิสีทิตฺวา ¶ ธมฺมํ เทเสนฺโต ตํ ตถา ปริพฺภมนฺตึ ทิสฺวา าณปริปากฺจ โอโลเกตฺวา ยถา วิหาราภิมุขี อาคจฺฉติ, ตถา อกาสิ. ปริสา ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมิสฺสา อุมฺมตฺติกาย อิโต อาคนฺตุํ มาทตฺถา’’ติ อาห. ‘‘ภควา มา นํ วารยิตฺถา’’ติ วตฺวา อวิทูรฏฺานํ อาคตกาเล ‘‘สตึ ปฏิลภ ภคินี’’ติ อาห. สา ตาวเทว พุทฺธานุภาเวน สตึ ปฏิลภิตฺวา นิวตฺถวตฺถสฺส ปติตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ อุปนิสชฺชาย นิสีทิ. เอโก ปุริโส อุตฺตรสาฏกํ ขิปิ. สา ตํ นิวาเสตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อวสฺสโย เม โหถ, เอกํ เม ปุตฺตํ เสโน คณฺหิ, เอโก อุทเกน วูฬฺโห, ปนฺเถ ปติ มโต, มาตาปิตโร ภาตา จ เคเหน อวตฺถฏา มตา เอกจิตกสฺมึ ฌายนฺตี’’ติ สา โสกการณํ อาจิกฺขิ. สตฺถา ‘‘ปฏาจาเร, มา จินฺตยิ, ตว อวสฺสโย ภวิตุํ สมตฺถสฺเสว สนฺติกํ อาคตาสิ. ยถา หิ ตฺวํ อิทานิ ปุตฺตาทีนํ มรณนิมิตฺตํ อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ, เอวํ อนมตคฺเค สํสาเร ปุตฺตาทีนํ มรณเหตุ ปวตฺติตํ อสฺสุ จตุนฺนํ มหาสมุทฺทานํ อุทกโต พหุตร’’นฺติ ทสฺเสนฺโต –
‘‘จตูสุ สมุทฺเทสุ ชลํ ปริตฺตกํ, ตโต พหุํ อสฺสุชลํ อนปฺปกํ;
ทุกฺเขน ผุฏฺสฺส นรสฺส โสจนา, กึ การณา อมฺม ตุวํ ปมชฺชสี’’ติ. (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๑๒ ปฏาจาราเถรีวตฺถุ) –
คาถํ อภาสิ.
เอวํ สตฺถริ อนมตคฺคปริยายกถํ (สํ. นิ. ๒.๑๒๕-๑๒๖) กเถนฺเต ตสฺสา โสโก ตนุตรภาวํ อคมาสิ. อถ นํ ตนุภูตโสกํ ตฺวา ‘‘ปฏาจาเร, ปุตฺตาทโย ¶ นาม ปรโลกํ คจฺฉนฺตสฺส ตาณํ วา เลณํ วา สรณํ วา ภวิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วิชฺชมานาปิ เต น สนฺติ เอว, ตสฺมา ¶ ปณฺฑิเตน อตฺตโน สีลํ วิโสเธตฺวา นิพฺพานคามิมคฺโคเยว สาเธตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต –
‘‘น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย, น ปิตา นาปิ พนฺธวา;
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, นตฺถิ าตีสุ ตาณตา.
‘‘เอตมตฺถวสํ ¶ ตฺวา, ปณฺฑิโต สีลสํวุโต;
นิพฺพานคมนํ มคฺคํ, ขิปฺปเมว วิโสธเย’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๘-๒๘๙) –
อิมาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาวสาเน ปฏาจารา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ เนตฺวา ปพฺพาเชสิ. สา ลทฺธูปสมฺปทา อุปริมคฺคตฺถาย วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี เอกทิวสํ ฆเฏน อุทกํ อาทาย ปาเท โธวนฺตี อุทกํ อาสิฺจิ. ตํ โถกํ านํ คนฺตฺวา ปจฺฉิชฺชิ, ทุติยวารํ อาสิตฺตํ ตโต ทูรํ อคมาสิ, ตติยวารํ อาสิตฺตํ ตโตปิ ทูรตรํ อคมาสิ. สา ตเทว อารมฺมณํ คเหตฺวา ตโย วเย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มยา ปมํ อาสิตฺตอุทกํ วิย อิเม สตฺตา ปมวเยปิ มรนฺติ, ตโต ทูรํ คตํ ทุติยวารํ อาสิตฺตํ อุทกํ วิย มชฺฌิมวเยปิ, ตโต ทูรตรํ คตํ ตติยวารํ อาสิตฺตํ อุทกํ วิย ปจฺฉิมวเยปิ มรนฺติเยวา’’ติ จินฺเตสิ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา ตสฺสา สมฺมุเข ตฺวา กเถนฺโต วิย ‘‘เอวเมตํ, ปฏาจาเร, สพฺเพปิเม สตฺตา มรณธมฺมา, ตสฺมา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ อปสฺสนฺตสฺส วสฺสสตํ ชีวโต ตํ ปสฺสนฺตสฺส เอกาหมฺปิ เอกกฺขณมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อุทยพฺพยํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อุทยพฺพย’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๓) –
คาถมาห. คาถาปริโยสาเน ปฏาจารา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๔๖๘-๕๑๑) –
‘‘ปทุมุตฺตโร ¶ นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหํ ¶ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;
นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.
‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;
ตโต ชาตปสาทาหํ, อุเปสึ สรณํ ชินํ.
‘‘ตโต ¶ วินยธารีนํ, อคฺคํ วณฺเณสิ นายโก;
ภิกฺขุนึ ลชฺชินึ ตาทึ, กปฺปากปฺปวิสารทํ.
‘‘ตทา มุทิตจิตฺตาหํ, ตํ านมภิกงฺขินี;
นิมนฺเตตฺวา ทสพลํ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.
‘‘โภชยิตฺวาน สตฺตาหํ, ททิตฺวาว ติจีวรํ;
นิปจฺจ สิรสา ปาเท, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘ยา ตยา วณฺณิตา วีร, อิโต อฏฺมเก มุนิ;
ตาทิสาหํ ภวิสฺสามิ, ยทิ สิชฺฌติ นายก.
‘‘ตทา อโวจ มํ สตฺถา, ภทฺเท มา ภายิ อสฺสส;
อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, ลจฺฉเส ตํ มโนรถํ.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
ปฏาจาราติ นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘ตทาหํ มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘อุปฏฺาโก ¶ ¶ มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;
กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.
‘‘ตสฺสาสึ ตติยา ธีตา, ภิกฺขุนี อิติ วิสฺสุตา;
ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.
‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;
วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.
‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;
พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺตธีตโร.
‘‘สมณี ¶ สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;
ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.
‘‘อหํ อุปฺปลวณฺณา จ, เขมา ภทฺทา จ ภิกฺขุนี;
กิสาโคตมี ธมฺมทินฺนา, วิสาขา โหติ สตฺตมี.
‘‘เตหิ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหํ;
สาวตฺถิยํ ปุรวเร, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน.
‘‘ยทา จ โยพฺพนูเปตา, วิตกฺกวสคา อหํ;
นรํ ชารปตึ ทิสฺวา, เตน สทฺธึ อคจฺฉหํ.
‘‘เอกปุตฺตปสูตาหํ, ทุติโย กุจฺฉิยา มม;
ตทาหํ มาตาปิตโร, โอกฺขามีติ สุนิจฺฉิตา.
‘‘นาโรเจสึ ¶ ปตึ มยฺหํ, ตทา ตมฺหิ ปวาสิเต;
เอกิกา นิคฺคตา เคหา, คนฺตุํ สาวตฺถิมุตฺตมํ.
‘‘ตโต เม สามิ อาคนฺตฺวา, สมฺภาเวสิ ปเถ มมํ;
ตทา เม กมฺมชา วาตา, อุปฺปนฺนา อติทารุณา.
‘‘อุฏฺิโต จ มหาเมโฆ, ปสูติสมเย มม;
ทพฺพตฺถาย ตทา คนฺตฺวา, สามิ สปฺเปน มาริโต.
‘‘ตทา ¶ วิชาตทุกฺเขน, อนาถา กปณา อหํ;
กุนฺนทึ ปูริตํ ทิสฺวา, คจฺฉนฺตี สกุลาลยํ.
‘‘พาลํ อาทาย อตรึ, ปารกูเล จ เอกกํ;
สาเยตฺวา พาลกํ ปุตฺตํ, อิตรํ ตรณายหํ.
‘‘นิวตฺตา อุกฺกุโส หาสิ, ตรุณํ วิลปนฺตกํ;
อิตรฺจ วหี โสโต, สาหํ โสกสมปฺปิตา.
‘‘สาวตฺถินครํ คนฺตฺวา, อสฺโสสึ สชเน มเต;
ตทา อโวจํ โสกฏฺฏา, มหาโสกสมปฺปิตา.
‘‘อุโภ ¶ ปุตฺตา กาลงฺกตา, ปนฺเถ มยฺหํ ปตี มโต;
มาตา ปิตา จ ภาตา จ, เอกจิตมฺหิ ฑยฺหเร.
‘‘ตทา กิสา จ ปณฺฑุ จ, อนาถา ทีนมานสา;
อิโต ตโต ภมนฺตีหํ, อทฺทสํ นรสารถึ.
‘‘ตโต อโวจ มํ สตฺถา, ปุตฺเต มา โสจิ อสฺสส;
อตฺตานํ เต คเวสสฺสุ, กึ นิรตฺถํ วิหฺสิ.
‘‘น ¶ สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย, น าตี นาปิ พนฺธวา;
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, นตฺถิ าตีสุ ตาณตา.
‘‘ตํ สุตฺวา มุนิโน วากฺยํ, ปมํ ผลมชฺฌคํ;
ปพฺพชิตฺวาน นจิรํ, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.
‘‘ตโตหํ วินยํ สพฺพํ, สนฺติเก สพฺพทสฺสิโน;
อุคฺคหึ สพฺพวิตฺถารํ, พฺยาหริฺจ ยถาตถํ.
‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;
อคฺคา วินยธารีนํ, ปฏาจาราว เอกิกา.
‘‘ปริจิณฺโณ ¶ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.
‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เสกฺขกาเล อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุปริวิเสสสฺส นิพฺพตฺติตาการํ วิภาเวนฺตี อุทานวเสน –
‘‘นงฺคเลหิ กสํ เขตฺตํ, พีชานิ ปวปํ ฉมา;
ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.
‘‘กิมหํ ¶ ¶ สีลสมฺปนฺนา, สตฺถุสาสนการิกา;
นิพฺพานํ นาธิคจฺฉามิ, อกุสีตา อนุทฺธตา.
‘‘ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, อุทเกสุ กโรมหํ;
ปาโททกฺจ ทิสฺวาน, ถลโต นินฺนมาคตํ.
‘‘ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ, อสฺสํ ภทฺรํวชานิยํ;
ตโต ทีปํ คเหตฺวาน, วิหารํ ปาวิสึ อหํ;
เสยฺยํ โอโลกยิตฺวาน, มฺจกมฺหิ อุปาวิสึ.
‘‘ตโต สูจึ คเหตฺวาน, วฏฺฏึ โอกสฺสยามหํ;
ปทีปสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข อหุ เจตโส’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ กสนฺติ กสนฺตา กสิกมฺมํ กโรนฺตา. พหุตฺเถ หิ อิทํ เอกวจนํ. ปวปนฺติ พีชานิ วปนฺตา. ฉมาติ ฉมายํ. ภุมฺมตฺเถ หิ อิทํ ปจฺจตฺตวจนํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – อิเม มาณวา สตฺตา นงฺคเลหิ ผาเลหิ เขตฺตํ กสนฺตา ยถาธิปฺปายํ เขตฺตภูมิยํ ปุพฺพณฺณาปรณฺณเภทานิ พีชานิ วปนฺตา ตํเหตุ ตํนิมิตฺตํ อตฺตานํ ปุตฺตทาราทีนิ โปเสนฺตา หุตฺวา ธนํ ¶ ปฏิลภนฺติ. เอวํ อิมสฺมึ โลเก โยนิโส ปยุตฺโต ปจฺจตฺตปุริสกาโร นาม สผโล สอุทโย.
ตตฺถ กิมหํ สีลสมฺปนฺนา, สตฺถุสาสนการิกา. นิพฺพานํ นาธิคจฺฉามิ, อกุสีตา อนุทฺธตาติ อหํ สุวิสุทฺธสีลา อารทฺธวีริยตาย อกุสีตา อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตจิตฺตตาย อนุทฺธตา จ หุตฺวา จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาสงฺขาตํ สตฺถุ สาสนํ กโรนฺตี กสฺมา นิพฺพานํ นาธิคจฺฉามิ, อธิคมิสฺสามิ เอวาติ.
เอวํ ปน จินฺเตตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี เอกทิวสํ ปาทโธวนอุทเก นิมิตฺตํ คณฺหิ. เตนาห ‘‘ปาเท ปกฺขาลยิตฺวานา’’ติอาทิ ¶ . ตสฺสตฺโถ – อหํ ปาเท โธวนฺตี ปาทปกฺขาลนเหตุ ติกฺขตฺตุํ อาสิตฺเตสุ อุทเกสุ ถลโต นินฺนมาคตํ ปาโททกํ ทิสฺวา นิมิตฺตํ กโรมิ.
‘‘ยถา ¶ อิทํ อุทกํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ, เอวํ สตฺตานํ อายุสงฺขารา’’ติ เอวํ อนิจฺจลกฺขณํ, ตทนุสาเรน ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตลกฺขณฺจ อุปธาเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตี ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ, อสฺสํ ภทฺรํวชานิยนฺติ ยถา อสฺสํ ภทฺรํ อาชานิยํ กุสโล สารถิ สุเขน สาเรติ, เอวํ มยฺหํ จิตฺตํ สุเขเนว สมาเธสึ, วิปสฺสนาสมาธินา สมาหิตํ อกาสึ. เอวํ ปน วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตี อุตุสปฺปายนิชิคิสาย โอวรกํ ปวิสนฺตี อนฺธการวิธมนตฺถํ ทีปํ คเหตฺวา คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทีปํ เปตฺวา มฺจเก นิสินฺนมตฺตาว ทีปํ วิชฺฌาเปตุํ อคฺคฬสูจิยา ทีปวฏฺฏึ อากฑฺฒึ, ตาวเทว อุตุสปฺปายลาเภน ตสฺสา จิตฺตํ สมาหิตํ อโหสิ, วิปสฺสนาวีถึ โอตริ, มคฺเคน ฆฏฺเฏสิ. ตโต มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพโส อาสวานํ ขโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตโต ทีปํ คเหตฺวาน…เป… วิโมกฺโข อหุ เจตโส’’ติ. ตตฺถ เสยฺยํ โอโลกยิตฺวานาติ ทีปาโลเกน เสยฺยํ ปสฺสิตฺวา.
สูจินฺติ อคฺคฬสูจึ. วฏฺฏึ โอกสฺสยามีติ ทีปํ วิชฺฌาเปตุํ เตลาภิมุขํ ทีปวฏฺฏึ อากฑฺเฒมิ. วิโมกฺโขติ กิเลเสหิ วิโมกฺโข. โส ปน ยสฺมา ปรมตฺถโต จิตฺตสฺส สนฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เจตโส’’ติ. ยถา ปน วฏฺฏิเตลาทิเก ปจฺจเย สติ อุปฺปชฺชนารโห ปทีโป ตทภาเว อนุปฺปชฺชนโต ¶ นิพฺพุโตติ วุจฺจติ, เอวํ กิเลสาทิปจฺจเย สติ อุปฺปชฺชนารหํ จิตฺตํ ตทภาเว อนุปฺปชฺชนโต วิมุตฺตนฺติ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘ปทีปสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข อหุ เจตโส’’ติ.
ปฏาจาราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ตึสมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
มุสลานิ ¶ คเหตฺวานาติอาทิกา ตึสมตฺตานํ เถรีนํ คาถา. ตาปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺติโย อนุกฺกเมน อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สกกมฺมสฺโจทิตา ตตฺถ ตตฺถ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา ปฏาจาราย เถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา ปริสุทฺธสีลา วตฺตปฏิวตฺตํ ปริปูเรนฺติโย วิหรนฺติ. อเถกทิวสํ ปฏาจาราเถรี ตาสํ โอวาทํ เทนฺตี –
‘‘มุสลานิ ¶ คเหตฺวาน, ธฺํ โกฏฺเฏนฺติ มาณวา;
ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.
‘‘กโรถ พุทฺธสาสนํ, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ;
ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺเต นิสีทถ;
เจโตสมถมนุยุตฺตา, กโรถ พุทฺธสาสน’’นฺติ. – อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ;
ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – อิเม สตฺตา ชีวิตเหตุ มุสลานิ คเหตฺวา ปเรสํ ธฺํ โกฏฺเฏนฺติ, อุทุกฺขลกมฺมํ กโรนฺติ. อฺมฺปิ เอทิสํ นิหีนกมฺมํ กตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสนฺตา ยถารหํ ธนมฺปิ สํหรนฺติ. ตํ ปน เนสํ กมฺมํ นิหีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ ทุกฺขํ อนตฺถสฺหิตฺจ. ตสฺมา เอทิสํ สํกิเลสิกปปฺจํ วชฺเชตฺวา กโรถ พุทฺธสาสนํ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ กโรถ สมฺปาเทถ อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺเตถ. ตตฺถ การณมาห – ‘‘ยํ กตฺวา นานุตปฺปตี’’ติ, ยสฺส กรณเหตุ เอตรหิ อายติฺจ ¶ อนุตาปํ นาปชฺชติ. อิทานิ ตสฺส กรเณ ปุพฺพกิจฺจํ อนุโยควิธิฺจ ทสฺเสตุํ, ‘‘ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา อโธวิตปาทสฺส อวิกฺขาลิตมุขสฺส จ นิสชฺชสุขํ อุตุสปฺปายลาโภ จ น โหติ, ปาเท ปน โธวิตฺวา มุขฺจ วิกฺขาเลตฺวา เอกมนฺเต นิสินฺนสฺส ตทุภยํ ลภติ, ตสฺมา ขิปฺปํ อิมํ ยถาลทฺธํ ขณํ อวิราเธนฺติโย ¶ ปาทานิ อตฺตโน ปาเท โธวิตฺวา เอกมนฺเต วิวิตฺเต โอกาเส นิสีทถ นิสชฺชถ. อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ ยตฺถ กตฺถจิ จิตฺตรุจิเก อารมฺมเณ อตฺตโน จิตฺตํ อุปนิพนฺธิตฺวา เจโตสมถมนุยุตฺตา สมาหิเตน จิตฺเตน จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาวเสน พุทฺธสฺส ภควโต สาสนํ โอวาทํ อนุสิฏฺึ กโรถ สมฺปาเทถาติ.
อถ ตา ภิกฺขุนิโย ตสฺสา เถริยา โอวาเท ตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ภาวนาย กมฺมํ กโรนฺติโย าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา เหตุสมฺปนฺนตาย จ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โอวาทคาถาหิ สทฺธึ –
‘‘ตสฺสา ตา วจนํ สุตฺวา, ปฏาจาราย สาสนํ;
ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, เอกมนฺตํ อุปาวิสุํ;
เจโตสมถมนุยุตฺตา, อกํสุ พุทฺธสาสนํ.
‘‘รตฺติยา ¶ ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรุํ;
รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยุํ;
รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยุํ.
‘‘อุฏฺาย ปาเท วนฺทึสุ, กตา เต อนุสาสนี;
อินฺทํว เทวา ติทสา, สงฺคาเม อปราชิตํ;
ปุรกฺขตฺวา วิหสฺสาม, เตวิชฺชามฺห อนาสวา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสึสุ.
ตตฺถ ตสฺสา ตา วจนํ สุตฺวา, ปฏาจาราย สาสนนฺติ ตสฺสา ปฏาจาราย เถริยา กิเลสปฏิสตฺตุสาสนฏฺเน สาสนภูตํ โอวาทวจนํ, ตา ตึสมตฺตา ภิกฺขุนิโย สุตฺวา ปฏิสฺสุตฺวา สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา.
อุฏฺาย ¶ ปาเท วนฺทึสุ, กตา เต อนุสาสนีติ ยถาสมฺปฏิจฺฉิตํ ตสฺสา สาสนํ อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา ยถาผาสุกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ภาเวนฺติโย ภาวนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อตฺตนา อธิคตวิเสสํ อาโรเจตุํ นิสินฺนาสนโต อุฏฺาย ตสฺสา สนฺติกํ ¶ คนฺตฺวา ‘‘มหาเถริ ตวานุสาสนี ยถานุสิฏฺํ อมฺเหหิ กตา’’ติ วตฺวา ตสฺสา ปาเท ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทึสุ. อินฺทํว เทวา ติทสา, สงฺคาเม อปราชิตนฺติ เทวาสุรสงฺคาเม อปราชิตํ วิชิตาวึ อินฺทํ ตาวตึสา เทวา วิย มหาเถริ, มยํ ตํ ปุรกฺขตฺวา วิหริสฺสาม อฺสฺส กตฺตพฺพสฺส อภาวโต. ตสฺมา ‘‘เตวิชฺชามฺห อนาสวา’’ติ อตฺตโน กตฺุภาวํ ปเวเทนฺตี อิทเมว ตาสํ อฺาพฺยากรณํ อโหสิ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
ตึสมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. จนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา
ทุคฺคตาหํ ปุเร อาสินฺติอาทิกา จนฺทาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา ปริปกฺกาณา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อฺตรสฺมึ พฺราหฺมณคาเม อปฺาตสฺส ¶ พฺราหฺมณสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺสา นิพฺพตฺติโต ปฏฺายํ ตํ กุลํ โภเคหิ ปริกฺขยํ คตํ. สา อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺวา ทุกฺเขน ชีวติ. อถ ตสฺมึ เคเห อหิวาตโรโค อุปฺปชฺชิ. เตนสฺสา สพฺเพปิ าตกา มรณพฺยสนํ ปาปุณึสุ. สา าติกฺขเย ชาเต อฺตฺถ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตี กปาลหตฺถา กุเล กุเล วิจริตฺวา ลทฺธลทฺเธน ภิกฺขาหาเรน ยาเปนฺตี เอกทิวสํ ปฏาจาราย เถริยา ภตฺตวิสฺสคฺคฏฺานํ อคมาสิ. ภิกฺขุนิโย ตํ ทุกฺขิตํ ขุทฺทาภิภูตํ ทิสฺวาน สฺชาตการฺุา ปิยสมุทาจาเรน สงฺคเหตฺวา ตตฺถ วิชฺชมาเนน อุปจารมโนหเรน อาหาเรน สนฺตปฺเปสุํ. สา ตาสํ อาจารสีเล ปสีทิตฺวา เถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตสฺสา เถรี ธมฺมํ กเถสิ. สา ตํ ธมฺมํ สุตฺวา สาสเน อภิปฺปสนฺนา สํสาเร จ สฺชาตสํเวคา ¶ ปพฺพชิ ¶ . ปพฺพชิตฺวา จ เถริยา โอวาเท ตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ภาวนํ อนุยฺุชนฺตี กตาธิการตาย าณสฺส จ ปริปากํ คตตฺตา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา –
‘‘ทุคฺคตาหํ ปุเร อาสึ, วิธวา จ อปุตฺติกา;
วินา มิตฺเตหิ าตีหิ, ภตฺตโจฬสฺส นาธิคํ.
‘‘ปตฺตํ ทณฺฑฺจ คณฺหิตฺวา, ภิกฺขมานา กุลา กุลํ;
สีตุณฺเหน จ ฑยฺหนฺตี, สตฺต วสฺสานิ จาริหํ.
‘‘ภิกฺขุนึ ปุน ทิสฺวาน, อนฺนปานสฺส ลาภินึ;
อุปสงฺกมฺมํ อโวจํ, ปพฺพชฺชํ อนคาริยํ.
‘‘สา จ มํ อนุกมฺปาย, ปพฺพาเชสิ ปฏาจารา;
ตโต มํ โอวทิตฺวาน, ปรมตฺเถ นิโยชยิ.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, อกาสึ อนุสาสนึ;
อโมโฆ อยฺยาโยวาโท, เตวิชฺชามฺหิ อนาสวา’’ติ. –
อุทานวเสน อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ ทุคฺคตาติ ทลิทฺทา. ปุเรติ ปพฺพชิตโต ปุพฺเพ. ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย หิ อิธ ปุคฺคโล โภเคหิ อฑฺโฒ วา ทลิทฺโท วาติ น วตฺตพฺโพ. คุเณหิ ปน อยํ เถรี อฑฺฒาเยว. เตนาห ‘‘ทุคฺคตาหํ ปุเร อาสิ’’นฺติ. วิธวาติ ธโว วุจฺจติ สามิโก, ตทภาวา วิธวา, มตปติกาติ อตฺโถ. อปุตฺติกาติ ปุตฺตรหิตา. วินา มิตฺเตหีติ มิตฺเตหิ พนฺธเวหิ จ ปริหีนา รหิตา. ภตฺตโจฬสฺส นาธิคนฺติ ภตฺตสฺส โจฬสฺส จ ปาริปูรึ นาธิคจฺฉึ, เกวลํ ปน ภิกฺขาปิณฺฑสฺส ปิโลติกาขณฺฑสฺส จ วเสน ฆาสจฺฉาทนมตฺตเมว อลตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ปตฺตํ ทณฺฑฺจ คณฺหิตฺวา’’ติอาทิ.
ตตฺถ ¶ ปตฺตนฺติ มตฺติกาภาชนํ. ทณฺฑนฺติ โคณสุนขาทิปริหรณทณฺฑกํ. กุลา กุลนฺติ กุลโต กุลํ. สีตุณฺเหน จ ฑยฺหนฺตีติ วสนเคหาภาวโต สีเตน จ อุณฺเหน จ ปีฬิยมานา.
ภิกฺขุนินฺติ ¶ ปฏาจาราเถรึ สนฺธาย วทติ. ปุนาติ ปจฺฉา, สตฺตสํวจฺฉรโต อปรภาเค.
ปรมตฺเถติ ปรเม อุตฺตเม อตฺเถ, นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย นิพฺพาเน จ. นิโยชยีติ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขนฺตี นิโยเชสิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
จนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ฉกฺกนิปาโต
๑. ปฺจสตมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
ฉกฺกนิปาเต ¶ ¶ ยสฺส มคฺคํ น ชานาสีติอาทิกา ปฺจสตมตฺตานํ เถรีนํ คาถา. อิมาปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺติโย อนุกฺกเมน อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ตตฺถ ตตฺถ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา มาตาปิตูหิ ปติกุลํ อานีตา ตตฺถ ตตฺถ ปุตฺเต ลภิตฺวา ฆราวาสํ วสนฺติโย สมานชาติกสฺส ตาทิสสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา สพฺพาว มตปุตฺตา หุตฺวา, ปุตฺตโสเกน อภิภูตา ปฏาจาราย เถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนา อตฺตโน โสกการณํ อาโรเจสุํ. เถรี ตาสํ โสกํ วิโนเทนฺตี –
‘‘ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;
ตํ กุโต จาคตํ สตฺตํ, มม ปุตฺโตติ โรทสิ.
‘‘มคฺคฺจ โขสฺส ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;
น นํ สมนุโสเจสิ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน.
‘‘อยาจิโต ตตาคจฺฉิ, นานฺุาโต อิโต คโต;
กุโตจิ นูน อาคนฺตฺวา, วสิตฺวา กติปาหกํ;
อิโตปิ อฺเน คโต, ตโตปฺเน คจฺฉติ.
‘‘เปโต มนุสฺสรูเปน, สํสรนฺโต คมิสฺสติ;
ยถาคโต ตถา คโต, กา ตตฺถ ปริเทวนา’’ติ. –
อิมาหิ ¶ จตูหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ.
ตา ¶ ตสฺสา ธมฺมํ สุตฺวา สฺชาตสํเวคา เถริยา สนฺติเก ปพฺพชึสุ. ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺติโย วิมุตฺติปริปาจนียานํ ธมฺมานํ ปริปากํ คตตฺตา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. อถ ตา อธิคตารหตฺตา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน ‘‘ยสฺส มคฺคํ น ชานาสี’’ติอาทิกาหิ โอวาทคาถาหิ สทฺธึ –
‘‘อพฺพหี ¶ วต เม สลฺลํ, ทุทฺทสํ หทยสฺสิตํ;
ยา เม โสกปเรตาย, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทิ.
‘‘สาชฺช อพฺพูฬฺหสลฺลาหํ, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา;
พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ, อุเปมิ สรณํ มุนิ’’นฺติ. –
อิมา คาถา วิสุํ วิสุํ อภาสึสุ.
ตตฺถ ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วาติ ยสฺส สตฺตสฺส อิธ อาคตสฺส อาคตมคฺคํ วา อิโต คตสฺส คตมคฺคํ วา ตฺวํ น ชานาสิ. อนนฺตรา อตีตานาคตภวูปปตฺติโย สนฺธาย วทติ. ตํ กุโต จาคตํ สตฺตนฺติ ตํ เอวํ อวิฺาตาคตคตมคฺคํ กุโตจิ คติโต อาคตมคฺคํ อาคจฺฉนฺเตน อนฺตรามคฺเค สพฺเพน สพฺพํ อกตปริจยสมาคตปุริสสทิสํ สตฺตํ เกวลํ มมตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา มม ปุตฺโตติ กุโต เกน การเณน โรทสิ. อปฺปฏิการโต มม ปุตฺตสฺส จ อกาตพฺพโต น เอตฺถ โรทนการณํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย.
มคฺคฺจ โขสฺส ชานาสีติ อสฺส ตว ปุตฺตาภิมตสฺส สตฺตสฺส อาคตสฺส อาคตมคฺคฺจ คตสฺส คตมคฺคฺจ อถ ชาเนยฺยาสิ. น นํ สมนุโสเจสีติ เอวมฺปิ นํ น สมนุโสเจยฺยาสิ. กสฺมา? เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน, ทิฏฺธมฺเมปิ หิ สตฺตานํ สพฺเพหิ ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาวา วินาภาวา ตตฺถ วสวตฺติตาย อภาวโต, ปเคว อภิสมฺปรายํ.
อยาจิโต ตตาคจฺฉีติ ¶ ตโต ปรโลกโต เกนจิ อยาจิโต อิธ อาคจฺฉิ. ‘‘อาคโต’’ติปิ ปาฬิ, โส เอวตฺโถ. นานฺุาโต อิโต คโตติ อิธโลกโต เกนจิ อนนฺุาโต ปรโลกํ คโต. กุโตจีติ นิรยาทิโต ยโต กุโตจิ คติโต. นูนาติ ปริสงฺกายํ ¶ . วสิตฺวา กติปาหกนฺติ กติปยทิวสมตฺตํ อิธ วสิตฺวา. อิโตปิ อฺเน คโตติ อิโตปิ ภวโต อฺเน คโต, อิโต อฺมฺปิ ภวํ ปฏิสนฺธิวเสน อุปคโต. ตโตปฺเน คจฺฉตีติ ตโตปิ ภวโต อฺเน คมิสฺสติ, อฺเมว ภวํ อุปคมิสฺสติ.
เปโตติ ¶ อเปโต ตํ ตํ ภวํ อุปปชฺชิตฺวา ตโต อปคโต. มนุสฺสรูเปนาติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, มนุสฺสภาเวน ติรจฺฉานาทิภาเวน จาติ อตฺโถ. สํสรนฺโตติ อปราปรํ อุปปตฺติวเสน สํสรนฺโต. ยถาคโต ตถา คโตติ ยถา อวิฺาตคติโต จ อนามนฺเตตฺวา อาคโต ตถา อวิฺาตคติโก อนนฺุาโตว คโต. กา ตตฺถ ปริเทวนาติ ตตฺถ ตาทิเส อวสวตฺตินิ ยถากามาวจเร กา นาม ปริเทวนา, กึ ปริเทวิเตน ปโยชนนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอตฺถ จ อาทิโต จตสฺโส คาถา ปฏาจาราย เถริยา เตสํ ปฺจมตฺตานํ อิตฺถิสตานํ โสกวิโนทนวเสน วิสุํ วิสุํ ภาสิตา. ตสฺสา โอวาเท ตฺวา ปพฺพชิตฺวา อธิคตวิเสสาหิ ตาหิ ปฺจสตมตฺตาหิ ภิกฺขุนีหิ ฉปิ คาถา ปจฺเจกํ ภาสิตาติ ทฏฺพฺพา.
ปฺจสตา ปฏาจาราติ ปฏาจาราย เถริยา สนฺติเก ลทฺธโอวาทตาย ปฏาจาราย วุตฺตํ อเวทิสุนฺติ กตฺวา ‘‘ปฏาจารา’’ติ ลทฺธนามา ปฺจสตา ภิกฺขุนิโย.
ปฺจสตมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วาเสฏฺีเถรีคาถาวณฺณนา
ปุตฺตโสเกนหํ อฏฺฏาติอาทิกา วาเสฏฺิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน ¶ สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา มาตาปิตูหิ สมานชาติกสฺส กุลปุตฺตสฺส ทินฺนา ปติกุลํ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ สุขสํวาสํ วสนฺตี เอกํ ปุตฺตํ ลภิตฺวา ตสฺมึ อาธาวิตฺวา ปริธาวิตฺวา วิจรณกาเล กาลํ กเต ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิตา อุมฺมตฺติกา อโหสิ. สา าตเกสุ สามิเก จ ติกิจฺฉํ กโรนฺเตสุ เตสํ อชานนฺตานํเยว ปลายิตฺวา ยโต ตโต ปริพฺภมนฺตี มิถิลานครํ สมฺปตฺตา ตตฺถทฺทส ภควนฺตํ อนฺตรวีถิยํ คจฺฉนฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ สํยตินฺทฺริยํ ¶ นาคํ. ทิสฺวาน สห ทสฺสเนน พุทฺธานุภาวโต ¶ อปคตุมฺมาทา ปกติจิตฺตํ ปฏิลภิ. อถสฺสา สตฺถา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสสิ. สา ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวคา สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุ อาณาย ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี ปริปกฺกาณตาย น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘ปุตฺตโสเกนหํ อฏฺฏา, ขิตฺตจิตฺตา วิสฺินี;
นคฺคา ปกิณฺณเกสี จ, เตน เตน วิจาริหํ.
‘‘วีถิสงฺการกูเฏสุ, สุสาเน รถิยาสุ จ;
อจรึ ตีณิ วสฺสานิ, ขุปฺปิปาสา สมปฺปิตา.
‘‘อถทฺทสาสึ สุคตํ, นครํ มิถิลํ ปติ;
อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ.
‘‘สจิตฺตํ ปฏิลทฺธาน, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;
โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม.
‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
ยฺุชนฺตี สตฺถุวจเน, สจฺฉากาสึ ปทํ สิวํ.
‘‘สพฺเพ โสกา สมุจฺฉินฺนา, ปหีนา เอตทนฺติกา;
ปริฺาตา หิ เม วตฺถู, ยโต โสกาน สมฺภโว’’ติ. –
อิมา ¶ คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อฏฺฏาติ อฏฺฏิตา. อยเมว วา ปาโ, อฏฺฏิตา ปีฬิตาติ อตฺโถ. ขิตฺตจิตฺตาติ โสกุมฺมาเทน ขิตฺตหทยา. ตโต เอว ปกติสฺาย วิคเมน วิสฺินี. หิโรตฺตปฺปาภาวโต อปคตวตฺถตาย นคฺคา. วิธุตเกสตาย ปกิณฺณเกสี. เตน เตนาติ คาเมน คามํ นคเรน นครํ วีถิยา วีถึ วิจรึ อหํ.
อถาติ ¶ ปจฺฉา อุมฺมาทสํวตฺตนิยสฺส กมฺมสฺส ปริกฺขเย. สุคตนฺติ โสภนคมนตฺตา สุนฺทรํ านํ คตตฺตา สมฺมา คทตฺตา สมฺมา จ คตตฺตา สุคตํ ¶ ภควนฺตํ. มิถิลํ ปตีติ มิถิลาภิมุขํ, มิถิลานคราภิมุขํ คจฺฉนฺตนฺติ อตฺโถ.
สจิตฺตํ ปฏิลทฺธานาติ พุทฺธานุภาเวน อุมฺมาทํ ปหาย อตฺตโน ปกติจิตฺตํ ปฏิลภิตฺวา.
ยฺุชนฺตี สตฺถุวจเนติ สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน โยคํ กโรนฺตี ภาวนํ อนุยฺุชนฺตี. สจฺฉากาสึ ปทํ สิวนฺติ สิวํ เขมํ จตูหิ โยเคหิ อนุปทฺทุตํ นิพฺพานํ ปทํ สจฺฉิอกาสึ.
เอตทนฺติกาติ เอตํ อิทานิ มยา อธิคตํ อรหตฺตํ อนฺโต ปริโยสานํ เอเตสนฺติ เอตทนฺติกา, โสกา. น ทานิ เตสํ สมฺภโว อตฺถีติ อตฺโถ. ยโต โสกาน สมฺภโวติ ยโต อนฺโตนิชฺฌานลกฺขณานํ โสกานํ สมฺภโว, เตสํ โสกานํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตา วตฺถู อธิฏฺานานิ าตตีรณปหานปริฺาหิ ปริฺาตา. ตสฺมา โสกา เอตทนฺติกาติ โยชนา.
วาเสฏฺีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เขมาเถรีคาถาวณฺณนา
ทหรา ตฺวํ รูปวตีติอาทิกา เขมาย เถริยา คาถา. อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล ¶ หํสวตีนคเร ปราธีนวุตฺติกา ปเรสํ ทาสี อโหสิ. สา ปเรสํ เวยฺยาวจฺจกรเณน ชีวิกํ กปฺเปนฺตี เอกทิวสํ ปทุมุตฺตรสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคสาวกํ สุชาตตฺเถรํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ตโย โมทเก ทตฺวา ตํทิวสเมว อตฺตโน เกเส วิสฺสชฺเชตฺวา เถรสฺส ทานํ ทตฺวา ‘‘อนาคเต มหาปฺา พุทฺธสฺส สาวิกา ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ กตฺวา ยาวชีวํ กุสลกมฺเม อปฺปมตฺตา หุตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อนุกฺกเมน ฉกามสคฺเค, เตสํ เตสํ เทวราชูนํ มเหสิภาเวน อุปปนฺนา, มนุสฺสโลเกปิ อเนกวารํ จกฺกวตฺตีนํ มณฺฑลราชูนฺจ มเหสิภาวํ อุปคตา มหาสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล มนุสฺสโลเก อุปฺปชฺชิตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวคา ปพฺพชิตฺวา ทสวสฺสสหสฺสานิ ¶ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา หุตฺวา พหุชนสฺส ธมฺมกถนาทินา ปฺาสํวตฺตนิยกมฺมํ กตฺวา ตโต จวิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ กปฺเป ภควโต จ กกุสนฺธสฺส ¶ ภควโต จ โกณาคมนสฺส กาเล วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา มหนฺตํ สงฺฆารามํ กาเรตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิ.
ภควโต ปน กสฺสปทสพลสฺส กาเล กิกิสฺส กาสิรฺโ สพฺพเชฏฺิกา สมณี นาม ธีตา หุตฺวา, สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวคา อคาเรเยว ิตา, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ โกมาริพฺรหฺมจริยํ จรนฺตี สมณคุตฺตาทีหิ อตฺตโน ภคินีหิ สทฺธึ รมณียํ ปริเวณํ กาเรตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิ. เอวเมว ตตฺถ ตตฺถ ภเว อายตนคตํ อุฬารํ ปฺุกมฺมํ กตฺวา สุคตีสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มทฺทรฏฺเ สากลนคเร ราชกุเล นิพฺพตฺติ. เขมาติสฺสา นามํ อโหสิ, สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา. สา วยปฺปตฺตา พิมฺพิสารรฺโ เคหํ คตา. สตฺถริ เวฬุวเน วิหรนฺเต รูปมตฺตา หุตฺวา ‘‘รูเป โทสํ ทสฺเสตี’’ติ สตฺถุ ทสฺสนาย น คจฺฉติ.
ราชา มนุสฺเสหิ เวฬุวนสฺส วณฺเณ ปกาสาเปตฺวา เทวิยา วิหารทสฺสนาย จิตฺตํ ¶ อุปฺปาเทสิ. อถ เทวี ‘‘วิหารํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ราชานํ ปฏิปุจฺฉิ. ราชา ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อทิสฺวา อาคนฺตุํ น ลภิสฺสสี’’ติ วตฺวา ปุริสานํ สฺํ อทาสิ – ‘‘พลกฺกาเรนปิ เทวึ ทสพลํ ทสฺเสถา’’ติ. เทวี วิหารํ คนฺตฺวา ทิวสภาคํ เขเปตฺวา นิวตฺเตนฺตี สตฺถารํ อทิสฺวาว คนฺตุํ อารทฺธา. อถ นํ ราชปุริสา อนิจฺฉนฺติมฺปิ สตฺถุ สนฺติกํ นยึสุ. สตฺถา ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา อิทฺธิยา เทวจฺฉราสทิสํ อิตฺถึ นิมฺมินิตฺวา ตาลปณฺณํ คเหตฺวา พีชยมานํ อกาสิ. เขมา เทวี ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เอวรูปา นาม เทวจฺฉรปฏิภาคา อิตฺถิโย ภควโต อวิทูเร ติฏฺนฺติ, อหํ เอตาสํ ปริจาริกตายปิ นปฺปโหมิ, มนมฺปิ นิกฺการณา ปาปจิตฺตสฺส วเสน นฏฺา’’ติ นิมิตฺตํ คเหตฺวา ตเมว อิตฺถึ โอโลกยมานา อฏฺาสิ. อถสฺสา ปสฺสนฺติยาว สตฺถุ อธิฏฺานพเลน สา อิตฺถี ปมวยํ อติกฺกมฺม มชฺฌิมวยมฺปิ อติกฺกมฺม ปจฺฉิมวยํ ปตฺวา ขณฺฑทนฺตา ปลิตเกสา วลิตฺตจา หุตฺวา สทฺธึ ตาลปณฺเณน ปริวตฺติตฺวา ปติ ¶ . ตโต เขมา กตาธิการตฺตา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘เอวํวิธมฺปิ สรีรํ อีทิสํ วิปตฺตึ ปาปุณิ, มยฺหมฺปิ สรีรํ เอวํคติกเมว ภวิสฺสตี’’ติ. อถสฺสา จิตฺตาจารํ ตฺวา สตฺถา –
‘‘เย ราครตฺตานุปตนฺติ โสตํ, สยํ กตํ มกฺกฏโกว ชาลํ;
เอตมฺปิ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา’’ติ. –
คาถมาห ¶ . สา คาถาปริโยสาเน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณีติ อฏฺกถาสุ อาคตํ. อปทาเน ปน ‘‘อิมํ คาถํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา ราชานํ อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณี’’ติ อาคตํ. ตตฺถายํ อปทานปาฬิ (อป. เถรี ๒.๒.๒๘๙-๓๘๓) –
‘‘ปทุมุตฺตโร ¶ นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;
นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.
‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;
ตโต ชาตปฺปสาทาหํ, อุเปมิ สรณํ ชินํ.
‘‘มาตรํ ปิตรํ จาหํ, อายาจิตฺวา วินายกํ;
นิมนฺตยิตฺวา สตฺตาหํ, โภชยึ สหสาวกํ.
‘‘อติกฺกนฺเต จ สตฺตาเห, มหาปฺานมุตฺตมํ;
ภิกฺขุนึ เอตทคฺคมฺหิ, เปสิ นรสารถิ.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ปุโน ตสฺส มเหสิโน;
การํ กตฺวาน ตํ านํ, ปณิปจฺจ ปณีทหึ.
‘‘ตโต มม ชิโน อาห, สิชฺฌตํ ปณิธี ตว;
สสงฺเฆ เม กตํ การํ, อปฺปเมยฺยผลํ ตยา.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ¶ ¶ ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
เอตทคฺคมนุปฺปตฺตา, เขมา นาม ภวิสฺสติ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปคา อหํ.
‘‘ตโต จุตา ยามมคํ, ตโตหํ ตุสิตํ คตา;
ตโต จ นิมฺมานรตึ, วสวตฺติปุรํ ตโต.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;
ตตฺถ ตตฺเถว ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘ตโต จุตา มนุสฺสตฺเต, ราชูนํ จกฺกวตฺตินํ;
มณฺฑลีนฺจ ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มนุเชสุ จ;
สพฺพตฺถ สุขิตา หุตฺวา, เนกกปฺเปสุ สํสรึ.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, วิปสฺสี โลกนายโก;
อุปฺปชฺชิ จารุทสฺสโน, สพฺพธมฺมวิปสฺสโก.
‘‘ตมหํ ¶ โลกนายกํ, อุเปตฺวา นรสารถึ;
ธมฺมํ ภณิตํ สุตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘ทสวสฺสสหสฺสานิ, ตสฺส วีรสฺส สาสเน;
พฺรหฺมจริยํ จริตฺวาน, ยุตฺตโยคา พหุสฺสุตา.
‘‘ปจฺจยาการกุสลา, จตุสจฺจวิสารทา;
นิปุณา จิตฺตกถิกา, สตฺถุสาสนการิกา.
‘‘ตโต ¶ จุตาหํ ตุสิตํ, อุปปนฺนา ยสสฺสินี;
อภิโภมิ ตหึ อฺเ, พฺรหฺมจารีผเลนหํ.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปนฺนาหํ, มหาโภคา มหทฺธนา;
เมธาวินี สีลวตี, วินีตปริสาปิ จ.
‘‘ภวามิ เตน กมฺเมน, โยเคน ชินสาสเน;
สพฺพา สมฺปตฺติโย มยฺหํ, สุลภา มนโส ปิยา.
‘‘โยปิ ¶ เม ภวเต ภตฺตา, ยตฺถ ยตฺถ คตายปิ;
วิมาเนติ น มํ โกจิ, ปฏิปตฺติพเลน เม.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
นาเมน โกณาคมโน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘ตทา หิ พาราณสิยํ, สุสมิทฺธกุลปฺปชา;
ธนฺชานี สุเมธา จ, อหมฺปิ จ ตโย ชนา.
‘‘สงฺฆารามมทาสิมฺห, ทานสหายิกา ปุเร;
สงฺฆสฺส จ วิหารมฺปิ, อุทฺทิสฺส การิกา มยํ.
‘‘ตโต จุตา มยํ สพฺพา, ตาวตึสูปคา อหุํ;
ยสสา อคฺคตํ ปตฺตา, มนุสฺเสสุ ตเถว จ.
‘‘อิมสฺมึเยว กปฺปมฺหิ, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;
กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.
‘‘ตสฺสาสึ ¶ ¶ เชฏฺิกา ธีตา, สมณี อิติ วิสฺสุตา;
ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.
‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;
วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.
‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;
พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺต ธีตโร.
‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;
ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.
‘‘อหํ อุปฺปลวณฺณา จ, ปฏาจารา จ กุณฺฑลา;
กิสาโคตมี ธมฺมทินฺนา, วิสาขา โหติ สตฺตมี.
‘‘กทาจิ โส นราทิจฺโจ, ธมฺมํ เทเสสิ อพฺภุตํ;
มหานิทานสุตฺตนฺตํ, สุตฺวา ตํ ปริยาปุณึ.
‘‘เตหิ ¶ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, สากลาย ปุรุตฺตเม;
รฺโ มทฺทสฺส ธีตามฺหิ, มนาปา ทยิตา ปิยา.
‘‘สห เม ชาตมตฺตมฺหิ, เขมํ ตมฺหิ ปุเร อหุ;
ตโต เขมาติ นามํ เม, คุณโต อุปปชฺชถ.
‘‘ยทาหํ โยพฺพนํ ปตฺตา, รูปลาวฺภูสิตา;
ตทา อทาสิ มํ ตาโต, พิมฺพิสารสฺส ราชิโน.
‘‘ตสฺสาหํ ¶ สุปฺปิยา อาสึ, รูปเกลายเน รตา;
รูปานํ โทสวาทีติ, น อุเปสึ มหาทยํ.
‘‘พิมฺพิสาโร ตทา ราชา, มมานุคฺคหพุทฺธิยา;
วณฺณยิตฺวา เวฬุวนํ, คายเก คาปยี มมํ.
‘‘รมฺมํ เวฬุวนํ เยน, น ทิฏฺํ สุคตาลยํ;
น เตน นนฺทนํ ทิฏฺํ, อิติ มฺามเส มยํ.
‘‘เยน เวฬุวนํ ทิฏฺํ, นรนนฺทนนนฺทนํ;
สุทิฏฺํ นนฺทนํ เตน, อมรินฺทสุนนฺทนํ.
‘‘วิหาย ¶ นนฺทนํ เทวา, โอตริตฺวา มหีตลํ;
รมฺมํ เวฬุวนํ ทิสฺวา, น ตปฺปนฺติ สุวิมฺหิตา.
‘‘ราชปฺุเน นิพฺพตฺตํ, พุทฺธปฺุเน ภูสิตํ;
โก วตฺตา ตสฺส นิสฺเสสํ, วนสฺส คุณสฺจยํ.
‘‘ตํ สุตฺวา วนสมิทฺธํ, มม โสตมโนหรํ;
ทฏฺุกามา ตมุยฺยานํ, รฺโ อาโรจยึ ตทา.
‘‘มหตา ปริวาเรน, ตทา จ โส มหีปติ;
มํ เปเสสิ ตมุยฺยานํ, ทสฺสนาย สมุสฺสุกํ.
‘‘คจฺฉ ปสฺส มหาโภเค, วนํ เนตฺตรสายนํ;
ยํ สทา ภาติ สิริยา, สุคตาภานุรฺชิตํ.
‘‘ยทา ¶ จ ปิณฺฑาย มุนิ, คิริพฺพชปุรุตฺตมํ;
ปวิฏฺโหํ ตทาเยว, วนํ ทฏฺุมุปาคมึ.
‘‘ตทา ¶ ตํ ผุลฺลวิปินํ, นานาภมรกูชิตํ;
โกกิลาคีตสหิตํ, มยูรคณนจฺจิตํ.
‘‘อปฺปสทฺทมนากิณฺณํ, นานาจงฺกมภูสิตํ;
กุฏิมณฺฑปสํกิณฺณํ, โยคีวรวิราชิตํ.
‘‘วิจรนฺตี อมฺิสฺสํ, สผลํ นยนํ มม;
ตตฺถาปิ ตรุณํ ภิกฺขุํ, ยุตฺตํ ทิสฺวา วิจินฺตยึ.
‘‘อีทิเส วิปิเน รมฺเม, ิโตยํ นวโยพฺพเน;
วสนฺตมิว กนฺเตน, รูเปน จ สมนฺวิโต.
‘‘นิสินฺโน รุกฺขมูลมฺหิ, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;
ฌายเต วตยํ ภิกฺขุ, หิตฺวา วิสยชํ รตึ.
‘‘นนุ นาม คหฏฺเน, กามํ ภุตฺวา ยถาสุขํ;
ปจฺฉา ชิณฺเณน ธมฺโมยํ, จริตพฺโพ สุภทฺทโก.
‘‘สฺุกนฺติ วิทิตฺวาน, คนฺธเคหํ ชินาลยํ;
อุเปตฺวา ชินมทฺทกฺขํ, อุทยนฺตํ ว ภากรํ.
‘‘เอกกํ สุขมาสีนํ, พีชมานํ วริตฺถิยา;
ทิสฺวาเนวํ วิจินฺเตสึ, นายํ ลูโข นราสโภ.
‘‘สา ¶ กฺา กนกาภาสา, ปทุมานนโลจนา;
พิมฺโพฏฺี กุนฺททสนา, มโนเนตฺตรสายนา.
‘‘เหมโทลาภสวนา, กลิกาการสุตฺถนี;
เวทิมชฺฌาว สุสฺโสณี, รมฺโภรุ จารุภูสนา.
‘‘รตฺตํสกุปสํพฺยานา ¶ , นีลมฏฺนิวาสนา;
อตปฺปเนยฺยรูเปน, หาสภาวสมนฺวิตา.
‘‘ทิสฺวา ตเมวํ จินฺเตสึ, อโหยมภิรูปินี;
น มยาเนน เนตฺเตน, ทิฏฺปุพฺพา กุทาจนํ.
‘‘ตโต ¶ ชราภิภูตา สา, วิวณฺณา วิกตานนา;
ภินฺนทนฺตา เสตสิรา, สลาลา วทนาสุจิ.
‘‘สํขิตฺตกณฺณา เสตกฺขี, ลมฺพาสุภปโยธรา;
วลิวิตตสพฺพงฺคี, สิราวิตตเทหินี.
‘‘นตงฺคา ทณฺฑทุติยา, อุปฺผาสุลิกตา กิสา;
ปเวธมานา ปติตา, นิสฺสสนฺตี มุหุํ มุหุํ.
‘‘ตโต เม อาสิ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน;
ธิรตฺถุ รูปํ อสุจึ, รมนฺเต ยตฺถ พาลิสา.
‘‘ตทา มหาการุณิโก, ทิสฺวา สํวิคฺคมานสํ;
อุทคฺคจิตฺโต สุคโต, อิมา คาถา อภาสถ.
‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส เขเม สมุสฺสยํ;
อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ, พาลานํ อภินนฺทิตํ.
‘‘อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ;
สติ กายคตา ตฺยตฺถุ, นิพฺพิทา พหุลา ภว.
‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;
อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, กาเย ฉนฺทํ วิราชย.
‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;
ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺตา จริสฺสสิ.
‘‘เย ¶ ราครตฺตานุปตนฺติ โสตํ, สยํ กตํ มกฺกฏโกว ชาลํ;
เอตมฺปิ ¶ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหาย.
‘‘ตโต กลฺลิตจิตฺตํ มํ, ตฺวาน นรสารถิ;
มหานิทานํ เทเสสิ, สุตฺตนฺตํ วินยาย เม.
‘‘สุตฺวา สุตฺตนฺตเสฏฺํ ตํ, ปุพฺพสฺมนุสฺสรึ;
ตตฺถ ิตาวหํ สนฺตี, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยึ.
‘‘นิปติตฺวา มเหสิสฺส, ปาทมูลมฺหิ ตาวเท;
อจฺจยํ เทสนตฺถาย, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘นโม ¶ เต สพฺพทสฺสาวิ, นโม เต กรุณากร;
นโม เต ติณฺณสํสาร, นโม เต อมตํ ทท.
‘‘ทิฏฺิคหนปกฺขนฺทา, กามราควิโมหิตา;
ตยา สมฺมา อุปาเยน, วินีตา วินเย รตา.
‘‘อทสฺสเนน วิโภคา, ตาทิสานํ มเหสินํ;
อนุโภนฺติ มหาทุกฺขํ, สตฺตา สํสารสาคเร.
‘‘ยทาหํ โลกสรณํ, อรณํ อรณนฺตคุํ;
นาทฺทสามิ อทูรฏฺํ, เทสยามิ ตมจฺจยํ.
‘‘มหาหิตํ วรททํ, อหิโตติ วิสงฺกิตา;
โนเปสึ รูปนิรตา, เทสยามิ ตมจฺจยํ.
‘‘ตทา มธุรนิคฺโฆโส, มหาการุณิโก ชิโน;
อโวจ ติฏฺ เขเมติ, สิฺจนฺโต อมเตน มํ.
‘‘ตทา ¶ ปกมฺย สิรสา, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;
คนฺตฺวา ทิสฺวา นรปตึ, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘อโห สมฺมา อุปาโย เต, จินฺติโตยมรินฺทม;
วนทสฺสนกามาย, ทิฏฺโ นิพฺพานโต มุนิ.
‘‘ยทิ เต รุจฺจเต ราช, สาสเน ตสฺส ตาทิโน;
ปพฺพชิสฺสามิ รูเปหํ, นิพฺพินฺนา มุนิวาณินา.
‘‘อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, ตทาห ส มหีปติ;
อนุชานามิ เต ภทฺเท, ปพฺพชฺชา ตว สิชฺฌตุ.
‘‘ปพฺพชิตฺวา ¶ ตทา จาหํ, อทฺธมาเส อุปฏฺิเต;
ทีโปทยฺจ เภทฺจ, ทิสฺวา สํวิคฺคมานสา.
‘‘นิพฺพินฺนา สพฺพสงฺขาเร, ปจฺจยาการโกวิทา;
จตุโรเฆ อติกฺกมฺม, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี อาสึ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี จาปิ ภวามหํ.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ¶ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีส, ปฏิภาเน ตเถว จ;
ปริสุทฺธํ มม าณํ, อุปฺปนฺนํ พุทฺธสาสเน.
‘‘กุสลาหํ วิสุทฺธีสุ, กถาวตฺถุวิสารทา;
อภิธมฺมนยฺู จ, วสิปฺปตฺตามฺหิ สาสเน.
‘‘ตโต ¶ โตรณวตฺถุสฺมึ, รฺา โกสลสามินา;
ปุจฺฉิตา นิปุเณ ปฺเห, พฺยากโรนฺตี ยถาตถํ.
‘‘ตทา ส ราชา สุคตํ, อุปสงฺกมฺม ปุจฺฉถ;
ตเถว พุทฺโธ พฺยากาสิ, ยถา เต พฺยากตา มยา.
‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;
มหาปฺานมคฺคาติ, ภิกฺขุนีนํ นรุตฺตโม.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๒.๒๘๙-๓๘๓);
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วิหรนฺติยา อิมิสฺสา เถริยา สติปิ อฺาสํ ขีณาสวตฺเถรีนํ ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺติยํ ตตฺถ ปน กตาธิการตาย มหาปฺาภาโว ปากโฏ อโหสิ. ตถา หิ นํ ภควา เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ปฏิปาฏิยา ภิกฺขุนิโย านนฺตเร เปนฺโต ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวิกานํ ภิกฺขุนีนํ มหาปฺานํ ยทิทํ เขมา’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๓๕-๒๓๖) มหาปฺตาย อคฺคฏฺาเน เปสิ. ตํ เอกทิวสํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสินฺนํ มาโร ปาปิมา ตรุณรูเปน อุปสงฺกมิตฺวา กาเมหิ ปโลเภนฺโต –
‘‘ทหรา ตฺวํ รูปวตี, อหมฺปิ ทหโร ยุวา;
ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน, เอหิ เขเม รมามเส’’ติ. – คาถมาห ¶ ;
ตสฺสตฺโถ – เขเม, ตฺวํ ตรุณปฺปตฺตา, โยพฺพเน ิตา รูปสมฺปนฺนา, อหมฺปิ ตรุโณ ยุวา, ตสฺมา มยํ โยพฺพฺํ อเขเปตฺวา ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน วชฺชมาเนน เอหิ กามขิฑฺฑารติยา รมาม กีฬามาติ.
ตํ ¶ สุตฺวา สา กาเมสุ สพฺพธมฺเมสุ จ อตฺตโน วิรตฺตภาวํ ตสฺส จ มารภาวํ อตฺตาภินิเวเสสุ สตฺเตสุ อตฺตโน ถามคตํ อปฺปสาทํ กตกิจฺจตฺจ ปกาเสนฺตี –
‘‘อิมินา ¶ ปูติกาเยน, อาตุเรน ปภงฺคุนา;
อฏฺฏิยามิ หรายามิ, กามตณฺหา สมูหตา.
‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;
ยํ ตฺวํ กามรตึ พฺรูสิ, อรตี ทานิ สา มม.
‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;
เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก.
‘‘นกฺขตฺตานิ นมสฺสนฺตา, อคฺคึ ปริจรํ วเน;
ยถาภุจฺจมชานนฺตา, พาลา สุทฺธิมมฺถ.
‘‘อหฺจ โข นมสฺสนฺตี, สมฺพุทฺธํ ปุริสุตฺตมํ;
ปมุตฺตา สพฺพทุกฺเขหิ, สตฺถุสาสนการิกา’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ อคฺคึ ปริจรํ วเนติ ตโปวเน อคฺคิหุตฺตํ ปริจรนฺโต. ยถาภุจฺจมชานนฺตาติ ปวตฺติโย ยถาภูตํ อปริชานนฺตา. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
เขมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สุชาตาเถรีคาถาวณฺณนา
อลงฺกตา สุวสนาติอาทิกา สุชาตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ¶ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาเกตนคเร เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา มาตาปิตูหิ สมานชาติกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส ทินฺนา หุตฺวา ปติกุลํ คตา. ตตฺถ เตน สทฺธึ สุขสํวาสํ วสนฺตี เอกทิวสํ อุยฺยานํ คนฺตฺวา นกฺขตฺตกีฬํ กีฬิตฺวา ปริชเนน ¶ สทฺธึ นครํ อาคจฺฉนฺตี อฺชนวเน สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. สตฺถา ตสฺสา อนุปุพฺพึ กถํ กเถตฺวา กลฺลจิตฺตตํ ตฺวา อุปริ สามุกฺกํสิกํ ธมฺมเทสนํ ปกาเสสิ. สา เทสนาวสาเน อตฺตโน กตาธิการตาย าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา จ ¶ , สตฺถุ จ เทสนาวิลาเสน ยถานิสินฺนาว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา สามิกฺจ มาตาปิตโร จ อนุชานาเปตฺวา สตฺถุอาณาย ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทโนกฺขิตา;
สพฺพาภรณสฺฉนฺนา, ทาสีคณปุรกฺขตา.
‘‘อนฺนํ ปานฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกํ;
เคหโต นิกฺขมิตฺวาน, อุยฺยานมภิหารยึ.
‘‘ตตฺถ รมิตฺวา กีฬิตฺวา, อาคจฺฉนฺตี สกํ ฆรํ;
วิหารํ ทฏฺุํ ปาวิสึ, สาเกเต อฺชนํ วนํ.
‘‘ทิสฺวาน โลกปชฺโชตํ, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;
โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย จกฺขุมา.
‘‘สุตฺวา จ โข มเหสิสฺส, สจฺจํ สมฺปฏิวิชฺฌหํ;
ตตฺเถว วิรชํ ธมฺมํ, ผุสยึ อมตํ ปทํ.
‘‘ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, อโมฆํ พุทฺธสาสน’’นฺติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อลงฺกตาติ วิภูสิตา. ตํ ปน อลงฺกตาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุวสนา มาลินี จนฺทโนกฺขิตา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ มาลินีติ มาลาธารินี. จนฺทโนกฺขิตาติ จนฺทนานุลิตฺตา. สพฺพาภรณสฺฉนฺนาติ ¶ หตฺถูปคาทีหิ สพฺเพหิ อาภรเณหิ อลงฺการวเสน สฺฉาทิตสรีรา.
อนฺนํ ¶ ¶ ปานฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกนฺติ สาลิโอทนาทิอนฺนํ, อมฺพปานาทิปานํ, ปิฏฺขาทนียาทิขชฺชํ, อวสิฏฺํ อาหารสงฺขาตํ โภชฺชฺจ ปหูตํ คเหตฺวา. อุยฺยานมภิหารยินฺติ นกฺขตฺตกีฬาวเสน อุยฺยานํ อุปเนสึ. อนฺนปานาทึ ตตฺถ อาเนตฺวา สห ปริชเนน กีฬนฺตี รมนฺตี ปริจาเรสินฺติ อธิปฺปาโย.
สาเกเต อฺชนํ วนนฺติ สาเกตสมีเป อฺชนวเน วิหารํ ปาวิสึ.
โลกปชฺโชตนฺติ าณปชฺโชเตน โลกสฺส ปชฺโชตภูตํ.
ผุสยินฺติ ผุสึ, อธิคจฺฉินฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สุชาตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อโนปมาเถรีคาถาวณฺณนา
อุจฺเจ กุเลติอาทิกา อโนปมาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน วิมุตฺติปริปาจนีเย ธมฺเม ปริพฺรูหิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาเกตนคเร มชฺฌสฺส นาม เสฏฺิโน ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา รูปสมฺปตฺติยา อโนปมาติ นามํ อโหสิ. ตสฺสา วยปฺปตฺตกาเล พหู เสฏฺิปุตฺตา ราชมหามตฺตา ราชาโน จ ปิตุ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘อตฺตโน ธีตรํ อโนปมํ เทหิ, อิทฺจิทฺจ เต ทสฺสามา’’ติ. สา ตํ สุตฺวา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย ‘‘ฆราวาเสน มยฺหํ อตฺโถ นตฺถี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา เทสนานุสาเรน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ตํ อุสฺสุกฺกาเปนฺตี มคฺคปฏิปาฏิยา ตติยผเล ปติฏฺาสิ. สา สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุอาณาย ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปคนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส อรหตฺตํ สจฺฉิกตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘อุจฺเจ ¶ กุเล อหํ ชาตา, พหุวิตฺเต มหทฺธเน;
วณฺณรูเปน สมฺปนฺนา, ธีตา มชฺฌสฺส อตฺรชา.
‘‘ปตฺถิตา ¶ ¶ ราชปุตฺเตหิ, เสฏฺิปุตฺเตหิ คิชฺฌิตา;
ปิตุ เม เปสยี ทูตํ, เทถ มยฺหํ อโนปมํ.
‘‘ยตฺตกํ ตุลิตา เอสา, ตุยฺหํ ธีตา อโนปมา;
ตโต อฏฺคุณํ ทสฺสํ, หิรฺํ รตนานิ จ.
‘‘สาหํ ทิสฺวาน สมฺพุทฺธํ, โลกเชฏฺํ อนุตฺตรํ;
ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, เอกมนฺตํ อุปาวิสึ.
‘‘โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม;
นิสินฺนา อาสเน ตสฺมึ, ผุสยึ ตติยํ ผลํ.
‘‘ตโต เกสานิ เฉตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
อชฺช เม สตฺตมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา วิเสสิตา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อุจฺเจ กุเลติ อุฬารตเม เวสฺสกุเล. พหุวิตฺเตติ อลงฺการาทิปหูตวิตฺตูปกรเณ. มหทฺธเนติ นิธานคตสฺเสว จตฺตารีสโกฏิปริมาณสฺส มหโต ธนสฺส อตฺถิภาเวน มหทฺธเน อหํ ชาตาติ โยชนา. วณฺณรูเปน สมฺปนฺนาติ วณฺณสมฺปนฺนา เจว รูปสมฺปนฺนา จ, สินิทฺธภาสุราย ฉวิสมฺปตฺติยา วตฺถาภรณาทิสรีราวยวสมฺปตฺติยา จ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ธีตา มชฺฌสฺส อตฺรชาติ มชฺฌนามสฺส เสฏฺิโน โอรสา ธีตา.
ปตฺถิตา ราชปุตฺเตหีติ ‘‘กถํ นุ โข ตํ ลเภยฺยามา’’ติ ราชกุมาเรหิ อภิปตฺถิตา. เสฏฺิปุตฺเตหิ คิชฺฌิตาติ ตถา เสฏฺิกุมาเรหิปิ อภิคิชฺฌิตา ปจฺจาสีสิตา. เทถ มยฺหํ อโนปมนฺติ ราชปุตฺตาทโย ‘‘เทถ มยฺหํ อโนปมํ เทถ มยฺห’’นฺติ ปิตุ สนฺติเก ทูตํ เปสยึสุ.
ยตฺตกํ ตุลิตา เอสาติ ‘‘ตุยฺหํ ธีตา อโนปมา ยตฺตกํ ธนํ อคฺฆตี’’ติ ตุลิตา ลกฺขณฺูหิ ปริจฺฉินฺนา, ‘‘ตโต อฏฺคุณํ ทสฺสามี’’ติ ปิตุ เม เปสยิ ทูตนฺติ โยชนา. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
อโนปมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. มหาปชาปติโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา
พุทฺธ ¶ ¶ ¶ วีร นโม ตฺยตฺถูติอาทิกา มหาปชาปติโคตมิยา คาถา. อยมฺปิ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ รตฺตฺูนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา, กสฺสปสฺส จ ภควโต อนฺตเร อมฺหากฺจ ภควโต พุทฺธสฺุเ โลเก พาราณสิยํ ปฺจนฺนํ ทาสิสตานํ เชฏฺิกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อถ สา วสฺสูปนายิกสมเย ปฺจ ปจฺเจกพุทฺเธ นนฺทมูลกปพฺภารโต อิสิปตเน โอตริตฺวา, นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา อิสิปตนเมว คนฺตฺวา, วสฺสูปนายิกสมเย กุฏิยา อตฺถาย หตฺถกมฺมํ ปริเยสนฺเต ทิสฺวา, ตา ทาสิโย ตาสํ อตฺตโน จ สามิเก สมาทเปตฺวา จงฺกมาทิปริวารสมฺปนฺนา ปฺจ กุฏิโย กาเรตฺวา, มฺจปีปานียปริโภชนียภาชนาทีนิ อุปฏฺเปตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ เตมาสํ ตตฺเถว วสนตฺถาย ปฏิฺํ กาเรตฺวา วารภิกฺขํ ปฏฺเปสุํ. ยา อตฺตโน วารทิวเส ภิกฺขํ ทาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺสา สยํ สกเคหโต นีหริตฺวา เทติ. เอวํ เตมาสํ ปฏิชคฺคิตฺวา ปวารณาย สมฺปตฺตาย เอเกกํ ทาสึ เอเกกํ สาฏกํ วิสฺสชฺชาเปสิ. ปฺจถูลสาฏกสตานิ อเหสุํ. ตานิ ปริวตฺตาเปตฺวา ปฺจนฺนํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ติจีวรานิ กตฺวา อทาสิ. ปจฺเจกพุทฺธา ตาสํ ปสฺสนฺตีนํเยว อากาเสน คนฺธมาทนปพฺพตํ อคมํสุ.
ตาปิ สพฺพา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. ตาสํ เชฏฺิกา ตโต จวิตฺวา พาราณสิยา อวิทูเร เปสการคาเม เปสการเชฏฺกสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, ปทุมวติยา ปุตฺเต ปฺจสเต ปจฺเจกพุทฺเธ ทิสฺวา สมฺปิยายมานา สพฺเพ วนฺทิตฺวา ภิกฺขํ อทาสิ. เต ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา คนฺธมาทนเมว อคมํสุ. สาปิ ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อมฺหากํ สตฺถุ นิพฺพตฺติโต ปุเรตรเมว เทวทหนคเร มหาสุปฺปพุทฺธสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ¶ โคตมีติสฺสา โคตฺตาคตเมว นามํ อโหสิ; มหามายาย กนิฏฺภคินี. ลกฺขณปากาปิ ‘‘อิมาสํ ทฺวินฺนมฺปิ กุจฺฉิยํ วสิตา ทารกา จกฺกวตฺติโน ¶ ภวิสฺสนฺตี’’ติ พฺยากรึสุ. สุทฺโธทนมหาราชา วยปฺปตฺตกาเล ทฺเวปิ มงฺคลํ กตฺวา อตฺตโน ฆรํ อภิเนสิ.
อปรภาเค อมฺหากํ สตฺถริ อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก อนุปุพฺเพน ตตฺถ ตตฺถ เวเนยฺยานํ อนุคฺคหํ กโรนฺเต เวสาลึ อุปนิสฺสาย กูฏาคารสาลายํ วิหรนฺเต สุทฺโธทนมหาราชา เสตจฺฉตฺตสฺส ¶ เหฏฺา อรหตฺตํ สจฺฉิกตฺวา ปรินิพฺพายิ. อถ มหาปชาปติโคตมี ปพฺพชิตุกามา หุตฺวา สตฺถารํ เอกวารํ ปพฺพชฺชํ ยาจมานา อลภิตฺวา ทุติยวารํ เกเส ฉินฺทาเปตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา กลหวิวาทสุตฺตนฺตเทสนาปริโยสาเน (สุ. นิ. ๘๖๘ อาทโย) นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตานํ ปฺจนฺนํ สกฺยกุมารสตานํ ปาทปริจาริกาหิ สทฺธึ เวสาลึ คนฺตฺวา อานนฺทตฺเถรํ สตฺถารํ ยาจาเปตฺวา อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ (อ. นิ. ๘.๕๑; จูฬว. ๔๐๓) ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ปฏิลภิ. อิตรา ปน สพฺพาปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนา อเหสุํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตํ วตฺถุ ปาฬิยํ อาคตเมว.
เอวํ อุปสมฺปนฺนา ปน มหาปชาปติโคตมี สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถสฺสา สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. สา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนมนุยฺุชนฺตี น จิรสฺเสว อภิฺาปฏิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เสสา ปน ปฺจสตา ภิกฺขุนิโย นนฺทโกวาทปริโยสาเน (ม. นิ. ๓.๓๙๘ อาทโย) ฉฬภิฺา อเหสุํ. อเถกทิวสํ สตฺถา เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ภิกฺขุนิโย านนฺตเร เปนฺโต มหาปชาปติโคตมึ รตฺตฺูนํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺตี กตฺุตาย ตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ คุณาภิตฺถวนปุพฺพกอุปการกวิภาวนามุเขน อฺํ พฺยากโรนฺตี –
‘‘พุทฺธวีร นโม ตฺยตฺถุ, สพฺพสตฺตานมุตฺตม;
โย มํ ทุกฺขา ปโมเจสิ, อฺฺจ พหุกํ ชนํ.
‘‘สพฺพทุกฺขํ ¶ ปริฺาตํ, เหตุตณฺหา วิโสสิตา;
ภาวิโต อฏฺงฺคิโก มคฺโค, นิโรโธ ผุสิโต มยา.
‘‘มาตา ¶ ปุตฺโต ปิตา ภาตา, อยฺยกา จ ปุเร อหุํ;
ยถาภุจฺจมชานนฺตี, สํสรึหํ อนิพฺพิสํ.
‘‘ทิฏฺโ หิ เม โส ภควา, อนฺติโมยํ สมุสฺสโย;
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อารทฺธวีริเย ¶ ปหิตตฺเต, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเม;
สมคฺเค สาวเก ปสฺเส, เอสา พุทฺธาน วนฺทนา.
‘‘พหูนํ วต อตฺถาย, มายา ชนยิ โคตมํ;
พฺยาธิมรณตุนฺนานํ, ทุกฺขกฺขนฺธํ พฺยปานุที’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ พุทฺธวีราติ จตุสจฺจพุทฺเธสุ วีร, สพฺพพุทฺธา หิ อุตฺตมวีริเยหิ จตุสจฺจพุทฺเธหิ วา จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยนิปฺผตฺติยา วิชิตวิชยตฺตา วีรา นาม. ภควา ปน วีริยปารมิปาริปูริยา จตุรงฺคสมนฺนาคตวีริยาธิฏฺาเนน สาติสยจตุพฺพิธสมฺมปฺปธานกิจฺจนิปฺผตฺติยา ตสฺสา จ เวเนยฺยสนฺตาเน สมฺมเทว ปติฏฺาปิตตฺตา วิเสสโต วีริยยุตฺตตาย วีโรติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. นโม ตฺยตฺถูติ นโม นมกฺกาโร เต โหตุ. สพฺพสตฺตานมุตฺตมาติ อปทาทิเภเทสุ สตฺเตสุ สีลาทิคุเณหิ อุตฺตโม ภควา. ตเทกเทสํ สตฺถุปการคุณํ ทสฺเสตุํ, ‘‘โย มํ ทุกฺขา ปโมเจสิ, อฺฺจ พหุกํ ชน’’นฺติ วตฺวา อตฺตโน ทุกฺขา ปมุตฺตภาวํ วิภาเวนฺตี ‘‘สพฺพทุกฺข’’นฺติ คาถมาห.
ปุน ยโต ปโมเจสิ, ตํ วฏฺฏทุกฺขํ เอกเทเสน ทสฺเสนฺตี ‘‘มาตา ปุตฺโต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยถาภุจฺจมชานนฺตีติ ปวตฺติเหตุอาทึ ยถาภูตํ อนวพุชฺฌนฺตี. สํสรึหํ อนิพฺพิสนฺติ สํสารสมุทฺเท ปติฏฺํ อวินฺทนฺตี อลภนฺตี ภวาทีสุ อปราปรุปฺปตฺติวเสน สํสรึ อหนฺติ กเถนฺตี อาห ‘‘มาตา ปุตฺโต’’ติอาทิ. ยสฺมึ ¶ ภเว เอตสฺส มาตา อโหสิ, ตโต อฺสฺมึ ภเว ตสฺเสว ปุตฺโต, ตโต อฺสฺมึ ภเว ปิตา ภาตา อหูติ อตฺโถ.
‘‘ทิฏฺโ ¶ หิ เม’’ติ คาถายปิ อตฺตโน ทุกฺขโต ปมุตฺตภาวเมว วิภาเวติ. ตตฺถ ทิฏฺโ หิ เม โส ภควาติ โส ภควา สมฺมาสมฺพุทฺโธ อตฺตนา ทิฏฺโลกุตฺตรธมฺมทสฺสเนน าณจกฺขุนา มยา ปจฺจกฺขโต ทิฏฺโ. โย หิ ธมฺมํ ปสฺสติ, โส ภควนฺตํ ปสฺสติ นาม. ยถาห – ‘‘โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๘๗).
อารทฺธวีริเยติ ปคฺคหิตวีริเย. ปหิตตฺเตติ นิพฺพานํ เปสิตจิตฺเต. นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเมติ อปตฺตสฺส ปตฺติยา ปตฺตสฺส เวปุลฺลตฺถาย สพฺพกาลํ ถิรปรกฺกเม. สมคฺเคติ สีลทิฏฺิสามฺเน สํหตภาเวน สมคฺเค. สตฺถุเทสนาย สวนนฺเต ชาตตฺตา สาวเก, ‘‘อิเม มคฺคฏฺา ¶ อิเม ผลฏฺา’’ติ ยาถาวโต ปสฺสติ. เอสา พุทฺธาน วนฺทนาติ ยา สตฺถุ ธมฺมสรีรภูตสฺส อริยสาวกานํ อริยภาวภูตสฺส จ โลกุตฺตรธมฺมสฺส อตฺตปจฺจกฺขกิริยา, เอสา สมฺมาสมฺพุทฺธานํ สาวกพุทฺธานฺจ วนฺทนา ยาถาวโต คุณนินฺนตา.
‘‘พหูนํ วต อตฺถายา’’ติ โอสานคาถายปิ สตฺถุ โลกสฺส พหูปการตํเยว วิภาเวติ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
อเถกทา มหาปชาปติโคตมี สตฺถริ เวสาลิยํ วิหรนฺเต มหาวเน กูฏาคารสาลายํ สยํ เวสาลิยํ ภิกฺขุนุปสฺสเย วิหรนฺตี ปุพฺพณฺหสมยํ เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา อตฺตโน ทิวาฏฺาเน ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมตฺวา ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โสมนสฺสชาตา อตฺตโน อายุสงฺขาเร อาวชฺเชนฺตี เตสํ ขีณภาวํ ตฺวา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘ยํนูนาหํ วิหารํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ อนุชานาเปตฺวา มโนภาวนีเย จ เถเร สพฺเพว สพฺรหฺมจริเย อาปุจฺฉิตฺวา อิเธว อาคนฺตฺวา ปรินิพฺพาเยยฺย’’นฺติ. ยถา จ เถริยา, เอวํ ตสฺสา ปริวารภูตานํ ¶ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุนิสตานํ ปริวิตกฺโก อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๙๗-๒๘๘) –
‘‘เอกทา โลกปชฺโชโต, เวสาลิยํ มหาวเน;
กูฏาคาเร กุสาลายํ, วสเต นรสารถิ.
‘‘ตทา ¶ ชินสฺส มาตุจฺฉา, มหาโคตมิ ภิกฺขุนี;
ตหึ กเต ปุเร รมฺเม, วสี ภิกฺขุนุปสฺสเย.
‘‘ภิกฺขุนีหิ วิมุตฺตาหิ, สเตหิ สห ปฺจหิ;
รโหคตาย ตสฺเสวํ, จิตสฺสาสิ วิตกฺกิตํ.
‘‘พุทฺธสฺส ปรินิพฺพานํ, สาวกคฺคยุคสฺส วา;
ราหุลานนฺทนนฺทานํ, นาหํ ลจฺฉามิ ปสฺสิตุํ.
‘‘พุทฺธสฺส ¶ ปรินิพฺพานา, สาวกคฺคยุคสฺส วา;
มหากสฺสปนนฺทานํ, อานนฺทราหุลาน จ.
‘‘ปฏิกจฺจายุสงฺขารํ, โอสชฺชิตฺวาน นิพฺพุตึ;
คจฺเฉยฺยํ โลกนาเถน, อนฺุาตา มเหสินา.
‘‘ตถา ปฺจสตานมฺปิ, ภิกฺขุนีนํ วิตกฺกิตํ;
อาสิ เขมาทิกานมฺปิ, เอตเทว วิตกฺกิตํ.
‘‘ภูมิจาโล ตทา อสิ, นาทิตา เทวทุนฺทุภี;
อุปสฺสยาธิวตฺถาโย, เทวตา โสกปีฬิตา.
‘‘วิลปนฺตา สุกรุณํ, ตตฺถสฺสูนิ ปวตฺตยุํ;
มิตฺตา ภิกฺขุนิโย ตาหิ, อุปคนฺตฺวาน โคตมึ.
‘‘นิปจฺจ สิรสา ปาเท, อิทํ วจนมพฺรวุํ;
ตตฺถ โตยลวาสิตฺตา, มยมยฺเย รโหคตา.
‘‘สา จลา จลิตา ภูมิ, นาทิตา เทวทุนฺทุภี;
ปริเทวา จ สุยฺยนฺเต, กิมตฺถํ นูน โคตมี.
‘‘ตทา อโวจ สา สพฺพํ, ยถาปริวิตกฺกิตํ;
ตาโยปิ สพฺพา อาหํสุ, ยถาปริวิตกฺกิตํ.
‘‘ยทิ เต รุจิตํ อยฺเย, นิพฺพานํ ปรมํ สิวํ;
นิพฺพายิสฺสาม สพฺพาปิ, พุทฺธานฺุาย สุพฺพเต.
‘‘มยํ ¶ สหาว นิกฺขนฺตา, ฆราปิ จ ภวาปิ จ;
สหาเยว คมิสฺสาม, นิพฺพานํ ปทมุตฺตมํ.
‘‘นิพฺพานาย ¶ ¶ วชนฺตีนํ, กึ วกฺขามีติ สา วทํ;
สห สพฺพาหิ นิคฺคฺฉิ, ภิกฺขุนีนิลยา ตทา.
‘‘อุปสฺสเย ยาธิวตฺถา, เทวตา ตา ขมนฺตุ เม;
ภิกฺขุนีนิลยสฺเสทํ, ปจฺฉิมํ ทสฺสนํ มม.
‘‘น ชรา มจฺจุ วา ยตฺถ, อปฺปิเยหิ สมาคโม;
ปิเยหิ น วิโยโคตฺถิ, ตํ วชิสฺสํ อสงฺขตํ.
‘‘อวีตราคา ตํ สุตฺวา, วจนํ สุคโตรสา;
โสกฏฺฏา ปริเทวึสุ, อโห โน อปฺปปฺุตา.
‘‘ภิกฺขุนีนิลโย สฺุโ, ภูโต ตาหิ วินา อยํ;
ปภาเต วิย ตาราโย, น ทิสฺสนฺติ ชิโนรสา.
‘‘นิพฺพานํ โคตมี ยาติ, สเตหิ สห ปฺจหิ;
นทีสเตหิว สห, คงฺคา ปฺจหิ สาครํ.
‘‘รถิยาย วชนฺติโย, ทิสฺวา สทฺธา อุปาสิกา;
ฆรา นิกฺขมฺม ปาเทสุ, นิปจฺจ อิทมพฺรวุํ.
‘‘ปสีทสฺสุ มหาโภเค, อนาถาโย วิหาย โน;
ตยา น ยุตฺตา นิพฺพาตุํ, อิจฺฉฏฺฏา วิลปึสุ ตา.
‘‘ตาสํ โสกปหานตฺถํ, อโวจ มธุรํ คิรํ;
รุทิเตน อลํ ปุตฺตา, หาสกาโลยมชฺช โว.
‘‘ปริฺาตํ มยา ทุกฺขํ, ทุกฺขเหตุ วิวชฺชิโต;
นิโรโธ เม สจฺฉิกโต, มคฺโค จาปิ สุภาวิโต.
‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.
‘‘ยสฺสตฺถาย ¶ ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.
‘‘พุทฺโธ ตสฺส จ สทฺธมฺโม, อนูโน ยาว ติฏฺติ;
นิพฺพาตุํ ตาว กาโล เม, มา มํ โสจถ ปุตฺติกา.
‘‘โกณฺฑฺานนฺทนนฺทาที ¶ , ติฏฺนฺติ ราหุโล ชิโน;
สุขิโต สหิโต สงฺโฆ, หตทพฺพา จ ติตฺถิยา.
‘‘โอกฺกากวํสสฺส ยโส, อุสฺสิโต มารมทฺทโน;
นนุ สมฺปติ กาโล เม, นิพฺพานตฺถาย ปุตฺติกา.
‘‘จิรปฺปภุติ ¶ ยํ มยฺหํ, ปตฺถิตํ อชฺช สิชฺฌเต;
อานนฺทเภริกาโลยํ, กึ โว อสฺสูหิ ปุตฺติกา.
‘‘สเจ มยิ ทยา อตฺถิ, ยทิ จตฺถิ กตฺุตา;
สทฺธมฺมฏฺิติยา สพฺพา, กโรถ วีริยํ ทฬฺหํ.
‘‘ถีนํ อทาสิ ปพฺพชฺชํ, สมฺพุทฺโธ ยาจิโต มยา;
ตสฺมา ยถาหํ นนฺทิสฺสํ, ตถา ตมนุติฏฺถ.
‘‘ตา เอวมนุสาสิตฺวา, ภิกฺขุนีหิ ปุรกฺขตา;
อุเปจฺจ พุทฺธํ วนฺทิตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘อหํ สุคต เต มาตา, ตฺวฺจ วีร ปิตา มม;
สทฺธมฺมสุขท นาถ, ตยิ ชาตามฺหิ โคตม.
‘‘สํวทฺธิโตยํ สุคต, รูปกาโย มยา ตว;
อนินฺทิโต ธมฺมกาโย, มม สํวทฺธิโต ตยา.
‘‘มุหุตฺตํ ¶ ตณฺหาสมณํ, ขีรํ ตฺวํ ปายิโต มยา;
ตยาหํ สนฺตมจฺจนฺตํ, ธมฺมขีรฺหิ ปายิตา.
‘‘พนฺธนารกฺขเณ มยฺหํ, อณโณ ตฺวํ มหามุเน;
ปุตฺตกามา ถิโย ยาจํ, ลภนฺติ ตาทิสํ สุตํ.
‘‘มนฺธาตาทินรินฺทานํ, ยา มาตา สา ภวณฺณเว;
นิมุคฺคาหํ ตยา ปุตฺต, ตาริตา ภวสาครา.
‘‘รฺโ มาตา มเหสีติ, สุลภํ นามมิตฺถินํ;
พุทฺธมาตาติ ยํ นามํ, เอตํ ปรมทุลฺลภํ.
‘‘ตฺจ ลทฺธํ มหาวีร, ปณิธานํ มมํ ตยา;
อณุกํ วา มหนฺตํ วา, ตํ สพฺพํ ปูริตํ มยา.
‘‘ปรินิพฺพาตุมิจฺฉามิ ¶ , วิหาเยมํ กเฬวรํ;
อนุชานาหิ เม วีร, ทุกฺขนฺตกร นายก.
‘‘จกฺกงฺกุสธชากิณฺเณ, ปาเท กมลโกมเล;
ปสาเรหิ ปณามํ เต, กริสฺสํ ปุตฺตอุตฺตเม.
‘‘สุวณฺณราสิสงฺกาสํ, สรีรํ กุรุ ปากฏํ;
กตฺวา เทหํ สุทิฏฺํ เต, สนฺตึ คจฺฉามิ นายก.
‘‘ทฺวตฺตึสลกฺขณูเปตํ, สุปฺปภาลงฺกตํ ตนุํ;
สฺฌาฆนาว พาลกฺกํ, มาตุจฺฉํ ทสฺสยี ชิโน.
‘‘ผุลฺลารวินฺทสํกาเส ¶ , ตรุณาทิจฺจสปฺปเภ;
จกฺกงฺกิเต ปาทตเล, ตโต สา สิรสา ปติ.
‘‘ปณมามิ ¶ นราทิจฺจ, อาทิจฺจกุลเกตุกํ;
ปจฺฉิเม มรเณ มยฺหํ, น ตํ อิกฺขามหํ ปุโน.
‘‘อิตฺถิโย นาม โลกคฺค, สพฺพโทสากรา มตา;
ยทิ โก จตฺถิ โทโส เม, ขมสฺสุ กรุณากร.
‘‘อิตฺถิกานฺจ ปพฺพชฺชํ, หํ ตํ ยาจึ ปุนปฺปุนํ;
ตตฺถ เจ อตฺถิ โทโส เม, ตํ ขมสฺสุ นราสภ.
‘‘มยา ภิกฺขุนิโย วีร, ตวานฺุาย สาสิตา;
ตตฺร เจ อตฺถิ ทุนฺนีตํ, ตํ ขมสฺสุ ขมาธิป.
‘‘อกฺขนฺเต นาม ขนฺตพฺพํ, กึ ภเว คุณภูสเน;
กิมุตฺตรํ เต วตฺถามิ, นิพฺพานาย วชนฺติยา.
‘‘สุทฺเธ อนูเน มม ภิกฺขุสงฺเฆ, โลกา อิโต นิสฺสริตุํ ขมนฺเต;
ปภาตกาเล พฺยสนงฺคตานํ, ทิสฺวาน นิยฺยาติว จนฺทเลขา.
‘‘ตเทตรา ภิกฺขุนิโย ชินคฺคํ, ตาราว จนฺทานุคตา สุเมรุํ;
ปทกฺขิณํ กจฺจ นิปจฺจ ปาเท, ิตา มุขนฺตํ สมุทิกฺขมานา.
‘‘น ติตฺติปุพฺพํ ตว ทสฺสเนน, จกฺขุํ น โสตํ ตว ภาสิเตน;
จิตฺตํ มมํ เกวลเมกเมว, ปปฺปุยฺย ตํ ธมฺมรเสน ติตฺติ.
‘‘นทโต ¶ ปริสายํ เต, วาทิตพฺพปหาริโน;
เย เต ทกฺขนฺติ วทนํ, ธฺา เต นรปุงฺคว.
‘‘ทีฆงฺคุลี ตมฺพนเข, สุเภ อายตปณฺหิเก;
เย ปาเท ปณมิสฺสนฺติ, เตปิ ธฺา คุณนฺธร.
‘‘มธุรานิ ปหฏฺานิ, โทสคฺฆานิ หิตานิ จ;
เย เต วากฺยานิ สุยฺยนฺติ, เตปิ ธฺา นรุตฺตม.
‘‘ธฺาหํ ¶ ¶ เต มหาวีร, ปาทปูชนตปฺปรา;
ติณฺณสํสารกนฺตารา, สุวากฺเยน สิรีมโต.
‘‘ตโต สา อนุสาเวตฺวา, ภิกฺขุสงฺฆมฺปิ สุพฺพตา;
ราหุลานนฺทนนฺเท จ, วนฺทิตฺวา อิทมพฺรวิ.
‘‘อาสีวิสาลยสเม, โรคาวาเส กเฬวเร;
นิพฺพินฺทา ทุกฺขสงฺฆาเฏ, ชรามรณโคจเร.
‘‘นานากลิมลากิณฺเณ, ปรายตฺเต นิรีหเก;
เตน นิพฺพาตุมิจฺฉามิ, อนุมฺถ ปุตฺตกา.
‘‘นนฺโท ราหุลภทฺโท จ, วีตโสกา นิราสวา;
ิตาจลฏฺิติ ถิรา, ธมฺมตมนุจินฺตยุํ.
‘‘ธิรตฺถุ สงฺขตํ โลลํ, อสารํ กทลูปมํ;
มายามรีจิสทิสํ, อิตฺตรํ อนวฏฺิตํ.
‘‘ยตฺถ นาม ชินสฺสายํ, มาตุจฺฉา พุทฺธโปสิกา;
โคตมี นิธนํ ยาติ, อนิจฺจํ สพฺพสงฺขตํ.
‘‘อานนฺโท จ ตทา เสโข, โสกฏฺโฏ ชินวจฺฉโล;
ตตฺถสฺสูนิ กโรนฺโต โส, กรุณํ ปริเทวติ.
‘‘หา สนฺตึ โคตมี ยาติ, นูน พุทฺโธปิ นิพฺพุตึ;
คจฺฉติ น จิเรเนว, อคฺคิริว นิรินฺธโน.
‘‘เอวํ วิลาปมานํ ตํ, อานนฺทํ อาห โคตมี;
สุตสาครคมฺภีร, พุทฺโธปฏฺาน ตปฺปร.
‘‘น ¶ ¶ ยุตฺตํ โสจิตุํ ปุตฺต, หาสกาเล อุปฏฺิเต;
ตยา เม สรณํ ปุตฺต, นิพฺพานํ ตมุปาคตํ.
‘‘ตยา ตาต สมชฺฌิฏฺโ, ปพฺพชฺชํ อนุชานิ โน;
มา ปุตฺต วิมโน โหหิ, สผโล เต ปริสฺสโม.
‘‘ยํ น ทิฏฺํ ปุราเณหิ, ติตฺถิกาจริเยหิปิ;
ตํ ปทํ สุกุมารีหิ, สตฺตวสฺสาหิ เวทิตํ.
‘‘พุทฺธสาสนปาเลต, ปจฺฉิมํ ทสฺสนํ ตว;
ตตฺถ คจฺฉามหํ ปุตฺต, คโต ยตฺถ น ทิสฺสเต.
‘‘กทาจิ ¶ ธมฺมํ เทเสนฺโต, ขิปี โลกคฺคนายโก;
ตทาหํ อาสีสวาจํ, อโวจํ อนุกมฺปิกา.
‘‘จิรํ ชีว มหาวีร, กปฺปํ ติฏฺ มหามุเน;
สพฺพโลกสฺส อตฺถาย, ภวสฺสุ อชรามโร.
‘‘ตํ ตถาวาทินึ พุทฺโธ, มมํ โส เอตทพฺรวิ;
น เหวํ วนฺทิยา พุทฺธา, ยถา วนฺทสิ โคตมี.
‘‘กถํ จรหิ สพฺพฺู, วนฺทิตพฺพา ตถาคตา;
กถํ อวนฺทิยา พุทฺธา, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต.
‘‘อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเม;
สมคฺเค สาวเก ปสฺส, เอตํ พุทฺธานวนฺทนํ.
‘‘ตโต อุปสฺสยํ คนฺตฺวา, เอกิกาหํ วิจินฺตยึ;
สมคฺคปริสํ นาโถ, โรเธสิ ติภวนฺตโค.
‘‘หนฺทาหํ ¶ ปรินิพฺพิสฺสํ, มา วิปตฺติตมทฺทสํ;
เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, ทิสฺวาน อิสิสตฺตมํ.
‘‘ปรินิพฺพานกาลํ เม, อาโรเจสึ วินายกํ;
ตโต โส สมนฺุาสิ, กาลํ ชานาหิ โคตมี.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวา.
‘‘สฺวาคตํ ¶ วต เม อาสิ, มม พุทฺธสฺส สนฺติเก;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘ถีนํ ธมฺมาภิสมเย, เย พาลา วิมตึ คตา;
เตสํ ทิฏฺิปฺปหานตฺถํ, อิทฺธึ ทสฺเสหิ โคตมี.
‘‘ตทา นิปจฺจ สมฺพุทฺธํ, อุปฺปติตฺวาน อมฺพรํ;
อิทฺธี อเนกา ทสฺเสสิ, พุทฺธานฺุาย โคตมี.
‘‘เอกิกา พหุธา อาสิ, พหุธา เจกิกา ตถา;
อาวิภาวํ ติโรภาวํ, ติโรกุฏฺฏํ ติโรนคํ.
‘‘อสชฺชมานา อคมา, ภูมิยมฺปิ นิมุชฺชถ;
อภิชฺชมาเน อุทเก, อคฺฉิ มหิยา ยถา.
‘‘สกุณีว ตถากาเส, ปลฺลงฺเกน กมี ตทา;
วสํ วตฺเตสิ กาเยน, ยาว พฺรหฺมนิเวสนํ.
‘‘สิเนรุํ ¶ ¶ ทณฺฑํ กตฺวาน, ฉตฺตํ กตฺวา มหามหึ;
สมูลํ ปริวตฺเตตฺวา, ธารยํ จงฺกมี นเภ.
‘‘ฉสฺสูโรทยกาเลว, โลกฺจากาสิ ธูมิกํ;
ยุคนฺเต วิย โลกํ สา, ชาลามาลากุลํ อกา.
‘‘มุจลินฺทํ มหาเสลํ, เมรุมูลนทนฺตเร;
สาสปาริว สพฺพานิ, เอเกนคฺคหิ มุฏฺินา.
‘‘องฺคุลคฺเคน ฉาเทสิ, ภากรํ สนิสากรํ;
จนฺทสูรสหสฺสานิ, อาเวฬมิว ธารยิ.
‘‘จตุสาครโตยานิ, ธารยี เอกปาณินา;
ยุคนฺตชลทาการํ, มหาวสฺสํ ปวสฺสถ.
‘‘จกฺกวตฺตึ สปริสํ, มาปยี สา นภตฺตเล;
ครุฬํ ทฺวิรทํ สีหํ, วินทนฺตํ ปทสฺสยิ.
‘‘เอกิกา ¶ อภินิมฺมิตฺวา, อปฺปเมยฺยํ ภิกฺขุนีคณํ;
ปุน อนฺตรธาเปตฺวา, เอกิกา มุนิมพฺรวิ.
‘‘มาตุจฺฉา เต มหาวีร, ตว สาสนการิกา;
อนุปฺปตฺตา สกํ อตฺถํ, ปาเท วนฺทามิ จกฺขุม.
‘‘ทสฺเสตฺวา วิวิธา อิทฺธี, โอโรหิตฺวา นภตฺตลา;
วนฺทิตฺวา โลกปชฺโชตํ, เอกมนฺตํ นิสีทิ สา.
‘‘สา วีสวสฺสสติกา, ชาติยาหํ มหามุเน;
อลเมตฺตาวตา วีร, นิพฺพายิสฺสามิ นายก.
‘‘ตทาติวิมฺหิตา ¶ สพฺพา, ปริสา สา กตฺชลี;
อโวจยฺเย กถํ อาสิ, อตุลิทฺธิปรกฺกมา.
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตามจฺจกุเล อหุํ;
สพฺโพปการสมฺปนฺเน, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน.
‘‘กทาจิ ปิตุนา สทฺธึ, ทาสีคณปุรกฺขตา;
มหตา ปริวาเรน, ตํ อุเปจฺจ นราสภํ.
‘‘วาสวํ ¶ วิย วสฺสนฺตํ, ธมฺมเมฆํ อนาสวํ;
สรทาทิจฺจสทิสํ, รํสิชาลสมุชฺชลํ.
‘‘ทิสฺวา จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, สุตฺวา จสฺส สุภาสิตํ;
มาตุจฺฉํ ภิกฺขุนึ อคฺเค, เปนฺตํ นรนายกํ.
‘‘สุตฺวา ทตฺวา มหาทานํ, สตฺตาหํ ตสฺส ตาทิโน;
สสงฺฆสฺส นรคฺคสฺส, ปจฺจยานิ พหูนิ จ.
‘‘นิปจฺจ ปาทมูลมฺหิ, ตํ านมภิปตฺถยึ;
ตโต มหาปริสตึ, อโวจ อิสิสตฺตโม.
‘‘ยา สสงฺฆํ อโภเชสิ, สตฺตาหํ โลกนายกํ;
ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.
‘‘สตสหสฺสิโต ¶ กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
ตสฺส ¶ ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
โคตมี นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘ตสฺส พุทฺธสฺส มาตุจฺฉา, ชีวิตาปาทิกา อยํ;
รตฺตฺูนฺจ อคฺคตฺตํ, ภิกฺขุนีนํ ลภิสฺสติ.
‘‘ตํ สุตฺวาน ปโมทิตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
ปจฺจเยหิ อุปฏฺิตฺวา, ตโต กาลงฺกตา อหํ.
‘‘ตาวตึเสสุ เทเวสุ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ;
นิพฺพตฺตา ทสหงฺเคหิ, อฺเ อภิภวึ อหํ.
‘‘รูปสทฺเทหิ คนฺเธหิ, รเสหิ ผุสเนหิ จ;
อายุนาปิ จ วณฺเณน, สุเขน ยสสาปิ จ.
‘‘ตเถวาธิปเตยฺเยน, อธิคยฺห วิโรจหํ;
อโหสึ อมรินฺทสฺส, มเหสี ทยิตา ตหึ.
‘‘สํสาเร สํสรนฺตีหํ, กมฺมวายุสเมริตา;
กาสิสฺส รฺโ วิสเย, อชายึ ทาสคามเก.
‘‘ปฺจทาสสตานูนา, นิวสนฺติ ตหึ ตทา;
สพฺเพสํ ตตฺถ โย เชฏฺโ, ตสฺส ชายา อโหสหํ.
‘‘สยมฺภุโน ปฺจสตา, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสุํ;
เต ทิสฺวาน อหํ ตุฏฺา, สห สพฺพาหิ อิตฺถิภิ.
‘‘ปูคา ¶ หุตฺวาว สพฺพาโย, จตุมาเส อุปฏฺหุํ;
ติจีวรานิ ทตฺวาน, สํสริมฺห สสามิกา.
‘‘ตโต ¶ จุตา สพฺพาปิ ตา, ตาวตึสคตา มยํ;
ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เทวทเห ปุเร.
‘‘ปิตา อฺชนสกฺโก เม, มาตา มม สุลกฺขณา;
ตโต กปิลวตฺถุสฺมึ, สุทฺโธทนฆรํ คตา.
‘‘เสสา ¶ สกฺยกุเล ชาตา, สกฺยานํ ฆรมาคมุํ;
อหํ วิสิฏฺา สพฺพาสํ, ชินสฺสาปาทิกา อหุํ.
‘‘มม ปุตฺโตภินิกฺขมฺม, พุทฺโธ อาสิ วินายโก;
ปจฺฉาหํ ปพฺพชิตฺวาน, สเตหิ สห ปฺจหิ.
‘‘สากิยานีหิ ธีราหิ, สห สนฺติสุขํ ผุสึ;
เย ตทา ปุพฺพชาติยํ, อมฺหากํ อาสุ สามิโน.
‘‘สหปฺุสฺส กตฺตาโร, มหาสมยการกา;
ผุสึสุ อรหตฺตํ เต, สุคเตนานุกมฺปิตา.
‘‘ตเทตรา ภิกฺขุนิโย, อารุหึสุ นภตฺตลํ;
สํคตา วิย ตาราโย, วิโรจึสุ มหิทฺธิกา.
‘‘อิทฺธี อเนกา ทสฺเสสุํ, ปิฬนฺธวิกตึ ยถา;
กมฺมาโร กนกสฺเสว, กมฺมฺสฺส สุสิกฺขิโต.
‘‘ทสฺเสตฺวา ปาฏิหีรานิ, วิจิตฺตานิ พหูนิ จ;
โตเสตฺวา วาทิปวรํ, มุนึ สปริสํ ตทา.
‘‘โอโรหิตฺวาน คคนา, วนฺทิตฺวา อิสิสตฺตมํ;
อนฺุาตา นรคฺเคน, ยถาาเน นิสีทิสุํ.
‘‘อโหนุกมฺปิกา อมฺหํ, สพฺพาสํ จิร โคตมี;
วาสิตา ตว ปฺุเหิ, ปตฺตา โน อาสวกฺขยํ.
‘‘กิเลสา ¶ ฌาปิตา อมฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหราม อนาสวา.
‘‘สฺวาคตํ วต โน อาสิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหม, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี โหม มหามุเน.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ¶ ชานาม, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภวา.
‘‘อตฺเถ ¶ ธมฺเม จ เนรุตฺเต, ปฏิภาเน จ วิชฺชติ;
าณํ อมฺหํ มหาวีร, อุปฺปนฺนํ ตว สนฺติเก.
‘‘อสฺมาภิ ปริจิณฺโณสิ, เมตฺตจิตฺตา หิ นายก;
อนุชานาหิ สพฺพาสํ, นิพฺพานาย มหามุเน.
‘‘นิพฺพายิสฺสาม อิจฺเจวํ, กึ วกฺขามิ วทนฺติโย;
ยสฺส ทานิ จ โว กาลํ, มฺถาติ ชิโนพฺรวิ.
‘‘โคตมีอาทิกา ตาโย, ตทา ภิกฺขุนิโย ชินํ;
วนฺทิตฺวา อาสนา ตมฺหา, วุฏฺาย อาคมึสุ ตา.
‘‘มหตา ชนกาเยน, สห โลกคฺคนายโก;
อนุสํยายี โส วีโร, มาตุจฺฉํ ยาวโกฏฺกํ.
‘‘ตทา ¶ นิปติ ปาเทสุ, โคตมี โลกพนฺธุโน;
สเหว ตาหิ สพฺพาหิ, ปจฺฉิมํ ปาทวนฺทนํ.
‘‘อิทํ ปจฺฉิมกํ มยฺหํ, โลกนาถสฺส ทสฺสนํ;
น ปุโน อมตาการํ, ปสฺสิสฺสามิ มุขํ ตว.
‘‘น จ เม วนฺทนํ วีร, ตว ปาเท สุโกมเล;
สมฺผุสิสฺสติ โลกคฺค, อชฺช คจฺฉามิ นิพฺพุตึ.
‘‘รูเปน กึ ตวาเนน, ทิฏฺเ ธมฺเม ยถาตเถ;
สพฺพํ สงฺขตเมเวตํ, อนสฺสาสิกมิตฺตรํ.
‘‘สา สห ตาหิ คนฺตฺวาน, ภิกฺขุนุปสฺสยํ สกํ;
อฑฺฒปลฺลงฺกมาภุชฺช, นิสีทิ ปรมาสเน.
‘‘ตทา อุปาสิกา ตตฺถ, พุทฺธสาสนวจฺฉลา;
ตสฺสา ปวตฺตึ สุตฺวาน, อุเปสุํ ปาทวนฺทิกา.
‘‘กเรหิ อุรํ ปหนฺตา, ฉินฺนมูลา ยถา ลตา;
โรทนฺตา กรุณํ รวํ, โสกฏฺฏา ภูมิปาติตา.
‘‘มา ¶ โน สรณเท นาเถ, วิหาย คมิ นิพฺพุตึ;
นิปติตฺวาน ยาจาม, สพฺพาโย สิรสา มยํ.
‘‘ยา ปธานตมา ตาสํ, สทฺธา ปฺา อุปาสิกา;
ตสฺสา สีสํ ปมชฺชนฺตี, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘อลํ ปุตฺตา วิสาเทน, มารปาสานุวตฺตินา;
อนิจฺจํ สงฺขตํ สพฺพํ, วิโยคนฺตํ จลาจลํ.
‘‘ตโต ¶ ¶ สา ตา วิสชฺชิตฺวา, ปมํ ฌานมุตฺตมํ;
ทุติยฺจ ตติยฺจ, สมาปชฺชิ จตุตฺถกํ.
‘‘อากาสายตนฺเจว, วิฺาณายตนํ ตถา;
อากิฺจํ เนวสฺฺจ, สมาปชฺชิ ยถากฺกมํ.
‘‘ปฏิโลเมน ฌานานิ, สมาปชฺชิตฺถ โคตมี;
ยาวตา ปมํ ฌานํ, ตโต ยาวจตุตฺถกํ.
‘‘ตโต วุฏฺาย นิพฺพายิ, ทีปจฺจีว นิราสวา;
ภูมิจาโล มหา อาสิ, นภสา วิชฺชุตา ปติ.
‘‘ปนาทิตา ทุนฺทุภิโย, ปริเทวึสุ เทวตา;
ปุปฺผวุฏฺี จ คคนา, อภิวสฺสถ เมทนึ.
‘‘กมฺปิโต เมรุราชาปิ, รงฺคมชฺเฌ ยถา นโฏ;
โสเกน จาติทีโนว, วิรโว อาสิ สาคโร.
‘‘เทวา นาคาสุรา พฺรหฺมา, สํวิคฺคาหึสุ ตงฺขเณ;
อนิจฺจา วต สงฺขารา, ยถายํ วิลยํ คตา.
‘‘ยา เจ มํ ปริวารึสุ, สตฺถุ สาสนการิกา;
ตโยปิ อนุปาทานา, ทีปจฺจิ วิย นิพฺพุตา.
‘‘หา โยคา วิปฺปโยคนฺตา, หานิจฺจํ สพฺพสงฺขตํ;
หา ชีวิตํ วินาสนฺตํ, อิจฺจาสิ ปริเทวนา.
‘‘ตโต เทวา จ พฺรหฺมา จ, โลกธมฺมานุวตฺตนํ;
กาลานุรูปํ กุพฺพนฺติ, อุเปตฺวา อิสิสตฺตมํ.
‘‘ตทา ¶ ¶ อามนฺตยี สตฺถา, อานนฺทํ สุตสาครํ;
คจฺฉานนฺท นิเวเทหิ, ภิกฺขูนํ มาตุ นิพฺพุตึ.
‘‘ตทานนฺโท นิรานนฺโท, อสฺสุนา ปุณฺณโลจโน;
คคฺคเรน สเรนาห, สมาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขโว.
‘‘ปุพฺพทกฺขิณปจฺฉาสุ, อุตฺตราย จ สนฺติเก;
สุณนฺตุ ภาสิตํ มยฺหํ, ภิกฺขโว สุคโตรสา.
‘‘ยา วฑฺฒยิ ปยตฺเตน, สรีรํ ปจฺฉิมํ มุเน;
สา โคตมี คตา สนฺตึ, ตาราว สูริโยทเย.
‘‘พุทฺธมาตาปิ ¶ ปฺตฺตึ, ปยิตฺวา คตาสมํ;
น ยตฺถ ปฺจเนตฺโตปิ, คตึ ทกฺขติ นายโก.
‘‘ยสฺสตฺถิ สุคเต สทฺธา, โย จ ปิโย มหามุเน;
พุทฺธมาตุสฺส สกฺการํ, กโรตุ สุคโตรโส.
‘‘สุทูรฏฺาปิ ตํ สุตฺวา, สีฆมาคจฺฉุ ภิกฺขโว;
เกจิ พุทฺธานุภาเวน, เกจิ อิทฺธีสุ โกวิทา.
‘‘กูฏาคารวเร รมฺเม, สพฺพโสณฺณมเย สุเภ;
มฺจกํ สมาโรเปสุํ, ยตฺถ สุตฺตาสิ โคตมี.
‘‘จตฺตาโร โลกปาลา เต, อํเสหิ สมธารยุํ;
เสสา สกฺกาทิกา เทวา, กูฏาคาเร สมคฺคหุํ.
‘‘กูฏาคารานิ สพฺพานิ, อาสุํ ปฺจสตานิปิ;
สรทาทิจฺจวณฺณานิ, วิสฺสกมฺมกตานิ หิ.
‘‘สพฺพา ¶ ตาปิ ภิกฺขุนิโย, อาสุํ มฺเจสุ สายิตา;
เทวานํ ขนฺธมารุฬฺหา, นิยฺยนฺติ อนุปุพฺพโส.
‘‘สพฺพโส ฉาทิตํ อาสิ, วิตาเนน นภตฺตลํ;
สตารา จนฺทสูรา จ, ลฺฉิตา กนกามยา.
‘‘ปฏากา อุสฺสิตาเนกา, วิตตา ปุปฺผกฺจุกา;
โอคตากาสปทุมา, มหิยา ปุปฺผมุคฺคตํ.
‘‘ทิสฺสนฺติ ¶ จนฺทสูริยา, ปชฺชลนฺติ จ ตารกา;
มชฺฌํ คโตปิ จาทิจฺโจ, น ตาเปสิ สสี ยถา.
‘‘เทวา ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ, มาเลหิ สุรภีหิ จ;
วาทิเตหิ จ นจฺเจหิ, สงฺคีตีหิ จ ปูชยุํ.
‘‘นาคาสุรา จ พฺรหฺมาโน, ยถาสตฺติ ยถาพลํ;
ปูชยึสุ จ นิยฺยนฺตึ, นิพฺพุตํ พุทฺธมาตรํ.
‘‘สพฺพาโย ปุรโต นีตา, นิพฺพุตา สุคโตรสา;
โคตมี นิยฺยเต ปจฺฉา, สกฺกตา พุทฺธโปสิกา.
‘‘ปุรโต ¶ เทวมนุชา, สนาคาสุรพฺรหฺมกา;
ปจฺฉา สสาวโก พุทฺโธ, ปูชตฺถํ ยาติ มาตุยา.
‘‘พุทฺธสฺส ปรินิพฺพานํ, เนทิสํ อาสิ ยาทิสํ;
โคตมีปรินิพฺพานํ, อเตวจฺฉริยํ อหุ.
‘‘พุทฺโธ พุทฺธสฺส นิพฺพาเน, โนปฏิยาทิ ภิกฺขโว;
พุทฺโธ โคตมินิพฺพาเน, สาริปุตฺตาทิกา ตถา.
‘‘จิตกานิ ¶ กริตฺวาน, สพฺพคนฺธมยานิ เต;
คนฺธจุณฺณปกิณฺณานิ, ฌาปยึสุ จ ตา ตหึ.
‘‘เสสภาคานิ ฑยฺหึสุ, อฏฺี เสสานิ สพฺพโส;
อานนฺโท จ ตทาโวจ, สํเวคชนกํ วโจ.
‘‘โคตมี นิธนํ ยาตา, ฑยฺหฺจสฺส สรีรกํ;
สงฺเกตํ พุทฺธนิพฺพานํ, น จิเรน ภวิสฺสติ.
‘‘ตโต โคตมิธาตูนิ, ตสฺสา ปตฺตคตานิ โส;
อุปนาเมสิ นาถสฺส, อานนฺโท พุทฺธโจทิโต.
‘‘ปาณินา ตานิ ปคฺคยฺห, อโวจ อิสิสตฺตโม;
มหโต สารวนฺตสฺส, ยถา รุกฺขสฺส ติฏฺโต.
‘‘โย โส มหตฺตโร ขนฺโธ, ปลุชฺเชยฺย อนิจฺจตา;
ตถา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส, โคตมี ปรินิพฺพุตา.
‘‘อโห ¶ อจฺฉริยํ มยฺหํ, นิพฺพุตายปิ มาตุยา;
สารีรมตฺตเสสาย, นตฺถิ โสกปริทฺทโว.
‘‘น โสจิยา ปเรสํ สา, ติณฺณสํสารสาครา;
ปริวชฺชิตสนฺตาปา, สีติภูตา สุนิพฺพุตา.
‘‘ปณฺฑิตาสิ มหาปฺา, ปุถุปฺา ตเถว จ;
รตฺตฺู ภิกฺขุนีนํ สา, เอวํ ธาเรถ ภิกฺขโว.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี อาสิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี อาสิ จ โคตมี.
‘‘ปุพฺเพนิวาสมฺาสิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ตสฺสา ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ ¶ , ปฏิภาเน ตเถว จ;
ปริสุทฺธํ อหุ าณํ, ตสฺมา โสจนิยา น สา.
‘‘อโยฆนหตสฺเสว ¶ , ชลโต ชาตเวทสฺส;
อนุปุพฺพูปสนฺตสฺส, ยถา น ายเต คติ.
‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตานํ, กามพนฺโธฆตารินํ;
ปฺาเปตุํ คติ นตฺถิ, ปตฺตานํ อจลํ สุขํ.
‘‘อตฺตทีปา ตโต โหถ, สติปฏฺานโคจรา;
ภาเวตฺวา สตฺตโพชฺฌงฺเค, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’ติ. (อป. เถรี ๒.๒.๙๗-๒๘๘);
มหาปชาปติโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. คุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
คุตฺเต ยทตฺถํ ปพฺพชฺชาติอาทิกา คุตฺตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา, ปริปกฺกกุสลมูลา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺตา, คุตฺตาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วิฺุตํ ปตฺวา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา โจทิยมานา ฆราวาสํ ชิคุจฺฉนฺตี มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา ¶ จ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ภาวนํ อนุยฺุชนฺติยา ตสฺสา จิตฺตํ จิรกาลปริจเยน พหิทฺธารมฺมเณ วิธาวติ, เอกคฺคํ นาโหสิ. สตฺถา ทิสฺวา ตํ อนุคฺคณฺหนฺโต, คนฺธกุฏิยํ ยถานิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา ตสฺสา อาสนฺเน อากาเส นิสินฺนํ วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา โอวทนฺโต –
‘‘คุตฺเต ยทตฺถํ ปพฺพชฺชา, หิตฺวา ปุตฺตํ วสุํ ปิยํ;
ตเมว อนุพฺรูเหหิ, มา จิตฺตสฺส วสํ คมิ.
‘‘จิตฺเตน ¶ วฺจิตา สตฺตา, มารสฺส วิสเย รตา;
อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวนฺติ อวิทฺทสู.
‘‘กามาจฺฉนฺทฺจ ¶ พฺยาปาทํ, สกฺกายทิฏฺิเมว จ;
สีลพฺพตปรามาสํ, วิจิกิจฺฉํ จ ปฺจมํ.
‘‘สํโยชนานิ เอตานิ, ปชหิตฺวาน ภิกฺขุนี;
โอรมฺภาคมนียานิ, นยิทํ ปุนเรหิสิ.
‘‘ราคํ มานํ อวิชฺชฺจ, อุทฺธจฺจฺจ วิวชฺชิย;
สํโยชนานิ เฉตฺวาน, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสสิ.
‘‘เขเปตฺวา ชาติสํสารํ, ปริฺาย ปุนพฺภวํ;
ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาตา, อุปสนฺตา จริสฺสสี’’ติ. – อิมา คาถา อาภาสิ;
ตตฺถ ตเมว อนุพฺรูเหหีติ ยทตฺถํ ยสฺส กิเลสปรินิพฺพานสฺส ขนฺธปรินิพฺพานสฺส จ อตฺถาย. หิตฺวา ปุตฺตํ วสุํ ปิยนฺติ ปิยายิตพฺพํ าติปริวฏฺฏํ โภคกฺขนฺธฺจ หิตฺวา มม สาสเน ปพฺพชฺชา พฺรหฺมจริยวาโส อิจฺฉิโต, ตเมว วฑฺเฒยฺยาสิ สมฺปาเทยฺยาสิ. มา จิตฺตสฺส วสํ คมีติ ทีฆรตฺตํ รูปาทิอารมฺมณวเสน วฑฺฒิตสฺส กูฏจิตฺตสฺส วสํ มา คจฺฉิ.
ยสฺมา จิตฺตํ นาเมตํ มายูปมํ, เยน วฺจิตา อนฺธปุถุชฺชนา มารวสานุคา สํสารํ นาติวตฺตนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺเตน วฺจิตา’’ติอาทิ.
สํโยชนานิ ¶ เอตานีติ เอตานิ ‘‘กามจฺฉนฺทฺจ พฺยาปาท’’นฺติอาทินา ยถาวุตฺตานิ ปฺจ พนฺธนฏฺเน สํโยชนานิ. ปชหิตฺวานาติ อนาคามิมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา. ภิกฺขุนีติ ตสฺสา อาลปนํ. โอรมฺภาคมนียานีติ รูปารูปธาตุโต เหฏฺาภาเค กามธาตุยํ มนุสฺสชีวสฺส หิตานิ อุปการานิ ตตฺถ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภาวโต. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. ‘‘โอรมาคมนียานี’’ติ ปาฬิ, โส เอวตฺโถ. นยิทํ ปุนเรหิสีติ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหาเนน อิทํ กามฏฺานํ กามภวํ ¶ ปฏิสนฺธิวเสน ปุน นาคมิสฺสสิ. ร-กาโร ปทสนฺธิกโร. ‘‘อิตฺถ’’นฺติ วา ปาฬิ, อิตฺถตฺตํ กามภวมิจฺเจว อตฺโถ.
ราคนฺติ รูปราคฺจ อรูปราคฺจ. มานนฺติ อคฺคมคฺควชฺฌํ มานํ. อวิชฺชฺจ อุทฺธจฺจฺจาติ เอตฺถาปิ ¶ เอเสว นโย. วิวชฺชิยาติ วิปสฺสนาย วิกฺขมฺเภตฺวา. สํโยชนานิ เฉตฺวานาติ เอตานิ รูปราคาทีนิ ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อรหตฺตมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา. ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสสีติ สพฺพสฺสาปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตํ ปริโยสานํ ปาปุณิสฺสสิ.
เขเปตฺวา ชาติสํสารนฺติ ชาติ สมูลิกสํสารปวตฺตึ ปริโยสาเปตฺวา. นิจฺฉาตาติ นิตฺตณฺหา. อุปสนฺตาติ สพฺพโส กิเลสานํ วูปสเมน อุปสนฺตา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ สตฺถารา อิมาสุ คาถาสุ ภาสิตาสุ คาถาปริโยสาเน เถรี สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อุทานวเสน ภควตา ภาสิตนิยาเมเนว อิมา คาถา อภาสิ. เตเนว ตา เถริยา คาถา นาม ชาตา.
คุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. วิชยาเถรีคาถาวณฺณนา
จตุกฺขตฺตุนฺติอาทิกา วิชยาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, อนุกฺกเมน ปริพฺรูหิตกุสลมูลา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี, อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เขมาย ¶ เถริยา คิหิกาเล สหายิกา อโหสิ. สา ตสฺสา ปพฺพชิตภาวํ สุตฺวา ‘‘สาปิ นาม ราชมเหสี ปพฺพชิสฺสติ กิมงฺคํ ปนาห’’นฺติ ปพฺพชิตุกามาเยว หุตฺวา เขมาเถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิ. เถรี ตสฺสา อชฺฌาสยํ ตฺวา ตถา ธมฺมํ เทเสสิ, ยถา สํสาเร สํวิคฺคมานสา สาสเน สา อภิปฺปสนฺนา ภวิสฺสติ. สา ตํ ธมฺมํ สุตฺวา สํเวคชาตา ปฏิลทฺธสทฺธา จ หุตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เถรี ตํ ปพฺพาเชสิ. สา ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา เหตุสมฺปนฺนตาย, น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘จตุกฺขตฺตุํ ¶ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;
อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.
‘‘ภิกฺขุนึ ¶ อุปสงฺกมฺม, สกฺกจฺจํ ปริปุจฺฉหํ;
สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ธาตุอายตนานิ จ.
‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;
โพชฺฌงฺคฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, กโรนฺตี อนุสาสนึ;
รตฺติยา ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ.
‘‘รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ;
รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยึ.
‘‘ปีติสุเขน จ กายํ, ผริตฺวา วิหรึ ตทา;
สตฺตมิยา ปาเท ปสาเรสึ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ภิกฺขุนินฺติ เขมาเถรึ สนฺธาย วทติ.
โพชฺฌงฺคฏฺงฺคิกํ มคฺคนฺติ สตฺตโพชฺฌงฺคฺจ อฏฺงฺคิกฺจ อริยมคฺคํ. อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตสฺส นิพฺพานสฺเสว วา ปตฺติยา อธิคมาย.
ปีติสุเขนาติ ¶ ผลสมาปตฺติปริยาปนฺนาย ปีติยา สุเขน จ. กายนฺติ ตํสมฺปยุตฺตํ นามกายํ ตทนุสาเรน รูปกายฺจ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา พฺยาเปตฺวา วา. สตฺตมิยา ปาเท ปสาเรสินฺติ วิปสฺสนาย อารทฺธทิวสโต สตฺตมิยํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิตฺวา ปาเท ปสาเรสึ. กถํ? ตโมขนฺธํ ปทาลิย, อปฺปทาลิตปุพฺพํ โมหกฺขนฺธํ อคฺคมคฺคาณาสินา ปทาเลตฺวา. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
วิชยาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉกฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สตฺตกนิปาโต
๑. อุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา
สตฺตกนิปาเต ¶ ¶ ¶ มุสลานิ คเหตฺวานาติ อุตฺตราย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, อนุกฺกเมน สมฺภาวิตกุสลมูลา สมุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา ปริปกฺกวิมุตฺติปริปาจนียธมฺมา หุตฺวา, อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อฺตรสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา อุตฺตราติ ลทฺธนามา อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺวา ปฏาจาราย เถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิ. เถรี ตสฺสา ธมฺมํ กเถสิ. สา ธมฺมํ สุตฺวา สํสาเร ชาตสํเวคา สาสเน อภิปฺปสนฺนา หุตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ กตปุพฺพกิจฺจา ปฏาจาราย เถริยา สนฺติเก วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ภาวนมนุยฺุชนฺตี อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย อินฺทฺริยานํ ปริปากํ คตตฺตา จ น จิรสฺเสว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘มุสลานิ คเหตฺวาน, ธฺํ โกฏฺเฏนฺติ มาณวา;
ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.
‘‘ฆเฏถ พุทฺธสาสเน, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ;
ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺตํ นิสีทถ.
‘‘จิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวาน, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ;
ปจฺจเวกฺขถ สงฺขาเร, ปรโต โน จ อตฺตโต.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ปฏาจารานุสาสนึ;
ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, เอกมนฺเต อุปาวิสึ.
‘‘รตฺติยา ¶ ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ;
รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ.
‘‘รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมกฺขนฺธํ ปทาลยึ;
เตวิชฺชา อถ วุฏฺาสึ, กตา เต อนุสาสนี.
‘‘สกฺกํว ¶ เทวา ติทสา, สงฺคาเม อปราชิตํ;
ปุรกฺขตฺวา วิหสฺสามิ, เตวิชฺชามฺหิ อนาสวา’’ติ. –
อิมา ¶ คาถา อภาสิ.
ตตฺถ จิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวานาติ ภาวนาจิตฺตํ กมฺมฏฺาเน อุปฏฺเปตฺวา. กถํ? เอกคฺคํ สุสมาหิตํ ปจฺจเวกฺขถาติ ปฏิปตฺตึ อเวกฺขถ, สงฺขาเร อนิจฺจาติปิ, ทุกฺขาติปิ, อนตฺตาติปิ ลกฺขณตฺตยํ วิปสฺสถาติ อตฺโถ. อิทฺจ โอวาทกาเล อตฺตโน อฺเสฺจ ภิกฺขุนีนํ เถริยาทีนํ โอวาทสฺส อนุวาทวเสน วุตฺตํ. ปฏาจารานุสาสนินฺติ ปฏาจาราย เถริยา อนุสิฏฺึ. ‘‘ปฏาจาราย สาสน’’นฺติปิ วา ปาโ.
อถ วุฏฺาสินฺติ เตวิชฺชาภาวปฺปตฺติโต ปจฺฉา อาสนโต วุฏฺาสึ. อยมฺปิ เถรี เอกทิวสํ ปฏาจาราย เถริยา สนฺติเก กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทิ. ‘‘น ตาวิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ, ยาว เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจตี’’ติ นิจฺฉยํ กตฺวา สมฺมสนํ อารภิตฺวา, อนุกฺกเมน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อภิฺาปฏิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ ปตฺวา เอกูนวีสติยา ปจฺจเวกฺขณาาณาย ปวตฺตาย ‘‘อิทานิมฺหิ กตกิจฺจา’’ติ โสมนสฺสชาตา อิมา คาถา อุทาเนตฺวา ปาเท ปสาเรสิ อรุณุคฺคมนเวลายํ. ตโต สมฺมเทว วิภาตาย รตฺติยา เถริยา สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา อิมา คาถา ปจฺจุทาหาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘กตา เต อนุสาสนี’’ติอาทิ. เสสํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
อุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. จาลาเถรีคาถาวณฺณนา
สตึ ¶ อุปฏฺเปตฺวานาติอาทิกา จาลาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มคเธสุ นาลกคาเม รูปสาริพฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. ตสฺสา นามคฺคหณทิวเส จาลาติ นามํ อกํสุ, ตสฺสา กนิฏฺาย อุปจาลาติ, อถ ตสฺสา กนิฏฺาย สีสูปจาลาติ ¶ . อิมา ติสฺโสปิ ¶ ธมฺมเสนาปติสฺส กนิฏฺภคินิโย, อิมาสํ ปุตฺตานมฺปิ ติณฺณํ อิทเมว นามํ. เย สนฺธาย เถรคาถาย ‘‘จาเล อุปจาเล สีสูปจาเล’’ติ (เถรคา. ๔๒) อาคตํ.
อิมา ปน ติสฺโสปิ ภคินิโย ‘‘ธมฺมเสนาปติ ปพฺพชี’’ติ สุตฺวา ‘‘น หิ นูน โส โอรโก ธมฺมวินโย, น สา โอริกา ปพฺพชฺชา, ยตฺถ อมฺหากํ อยฺโย ปพฺพชิโต’’ติ อุสฺสาหชาตา ติพฺพจฺฉนฺทา อสฺสุมุขํ รุทมานํ าติปริชนํ ปหาย ปพฺพชึสุ. ปพฺพชิตฺวา จ ฆเฏนฺติโย วายมนฺติโย นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา นิพฺพานสุเขน ผลสุเขน วิหรนฺติ.
ตาสุ จาลา ภิกฺขุนี เอกทิวสํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อนฺธวนํ ปวิสิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ นํ มาโร อุปสงฺกมิตฺวา กาเมหิ อุปเนสิ. ยํ สนฺธาย สุตฺเต วุตฺตํ –
‘‘อถ โข จาลา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน อนฺธวนํ, เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อนฺธวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน จาลา ภิกฺขุนี, เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา จาลํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๖๗).
อนฺธวนมฺหิ ทิวาวิหารํ นิสินฺนํ มาโร อุปสงฺกมิตฺวา พฺรหฺมจริยวาสโต วิจฺฉินฺทิตุกาโม ‘‘กํ นุ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสี’’ติอาทึ ปุจฺฉิ. อถสฺส สตฺถุ คุเณ ธมฺมสฺส จ นิยฺยานิกภาวํ ปกาเสตฺวา อตฺตโน กตกิจฺจภาววิภาวเนน ตสฺส วิสยาติกฺกมํ ปเวเทสิ. ตํ ¶ สุตฺวา มาโร ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายิ. อถ สา อตฺตนา มาเรน จ ภาสิตา คาถา อุทานวเสน กเถนฺตี –
‘‘สตึ อุปฏฺเปตฺวาน, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;
ปฏิวิชฺฌิ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุขํ.
‘‘กํ ¶ นุ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสิ, สมณี วิย ทิสฺสติ;
น ¶ จ โรเจสิ ปาสณฺเฑ, กิมิทํ จรสิ โมมุหา.
‘‘อิโต พหิทฺธา ปาสณฺฑา, ทิฏฺิโย อุปนิสฺสิตา;
น เต ธมฺมํ วิชานนฺติ, น เต ธมฺมสฺส โกวิทา.
‘‘อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโต, พุทฺโธ อปฺปฏิปุคฺคโล;
โส เม ธมฺมมเทเสสิ, ทิฏฺีนํ สมติกฺกมํ.
‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหรึ สาสเน รตา;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมกฺขนฺโธ ปทาลิโต;
เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ สตึ อุปฏฺเปตฺวานาติ สติปฏฺานภาวนาวเสน กายาทีสุ อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตวเสน สตึ สุฏฺุ อุปฏฺิตํ กตฺวา. ภิกฺขุนีติ อตฺตานํ สนฺธาย วทติ. ภาวิตินฺทฺริยาติ อริยมคฺคภาวนาย ภาวิตสทฺธาทิปฺจินฺทฺริยา. ปฏิวิชฺฌิ ปทํ สนฺตนฺติ สนฺตํ ปทํ ¶ นิพฺพานํ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌิ สจฺฉากาสิ. สงฺขารูปสมนฺติ สพฺพสงฺขารานํ อุปสมเหตุภูตํ. สุขนฺติ อจฺจนฺตสุขํ.
‘‘กํ นุ อุทฺทิสฺสา’’ติ คาถา มาเรน วุตฺตา. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อิมสฺมึ โลเก พหู สมยา เตสฺจ เทเสตาโร พหู เอว ติตฺถกรา, เตสุ กํ นุ โข ตฺวํ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสิ มุณฺฑิตเกสา อสิ. น เกวลํ มุณฺฑาว, อถ โข กาสาวธารเณน จ สมณี วิย ทิสฺสติ. น จ โรเจสิ ปาสณฺเฑติ ตาปสปริพฺพาชกาทีนํ อาทาสภูเต ปาสณฺเฑ เต เต สมยนฺตเร เนว โรเจสิ. กิมิทํ จรสิ โมมุหาติ กึ นามิทํ, ยํ ปาสณฺฑวิหิตํ อุชุํ นิพฺพานมคฺคํ ปหาย ¶ อชฺช กาลิกํ กุมคฺคํ ปฏิปชฺชนฺตี อติวิย มูฬฺหา จรสิ ปริพฺภมสีติ.
ตํ ¶ สุตฺวา เถรี ปฏิวจนทานมุเขน ตํ ตชฺเชนฺตี ‘‘อิโต พหิทฺธา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิโต พหิทฺธา ปาสณฺฑา นาม อิโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสนโต พหิทฺธา กุฏีสกพหุการาทิกา. เต หิ สตฺตานํ ตณฺหาปาสํ ทิฏฺิปาสฺจ เฑนฺติ โอฑฺเฑนฺตีติ ปาสณฺฑาติ วุจฺจติ. เตนาห – ‘‘ทิฏฺิโย อุปนิสฺสิตา’’ติ สสฺสตทิฏฺิคตานิ อุเปจฺจ นิสฺสิตา, ทิฏฺิคตานิ อาทิยึสูติ อตฺโถ. ยทคฺเคน จ ทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา, ตทคฺเคน ปาสณฺฑสนฺนิสฺสิตา. น เต ธมฺมํ วิชานนฺตีติ เย ปาสณฺฑิโน สสฺสตทิฏฺิคตสนฺนิสฺสิตา ‘‘อยํ ปวตฺติ เอวํ ปวตฺตตี’’ติ ปวตฺติธมฺมมฺปิ ยถาภูตํ น วิชานนฺติ. น เต ธมฺมสฺส โกวิทาติ ‘‘อยํ นิวตฺติ เอวํ นิวตฺตตี’’ติ นิวตฺติธมฺมสฺสาปิ อกุสลา, ปวตฺติธมฺมมคฺเคปิ หิ เต สํมูฬฺหา, กิมงฺคํ ปน นิวตฺติธมฺเมติ.
เอวํ ปาสณฺฑวาทานํ อนิยฺยานิกตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กํ นุ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสีติ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตุํ ‘‘อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทิฏฺีนํ สมติกฺกมนฺติ สพฺพาสํ ทิฏฺีนํ สมติกฺกมนุปายํ ทิฏฺิชาลวินิเวนํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
จาลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุปจาลาเถรีคาถาวณฺณนา
สติมตีติอาทิกา อุปจาลาย เถริยา คาถา. ตสฺสา วตฺถุ จาลาย เถริยา วตฺถุมฺหิ วุตฺตเมว. อยมฺปิ หิ จาลา วิย ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา อุทาเนนฺตี –
‘‘สติมตี ¶ จกฺขุมตี, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;
ปฏิวิชฺฌิ ปทํ สนฺตํ, อกาปุริสเสวิต’’นฺติ. –
อิมํ คาถํ อภาสิ.
ตตฺถ สติมตีติ สติสมฺปนฺนา, ปุพฺพภาเค ¶ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคตา หุตฺวา ปจฺฉา อริยมคฺคสฺส ภาวิตตฺตา สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา อุตฺตมาย สติยา สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. จกฺขุมตีติ ปฺาจกฺขุนา สมนฺนาคตา, อาทิโต อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย อริยาย นิพฺเพธิกาย สมนฺนาคตา ¶ หุตฺวา ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺติยา ปรเมน ปฺาจกฺขุนา สมนฺนาคตาติ วุตฺตํ โหติ. อกาปุริสเสวิตนฺติ อลามกปุริเสหิ อุตฺตมปุริเสหิ อริเยหิ พุทฺธาทีหิ เสวิตํ.
‘‘กินฺนุ ชาตึ น โรเจสี’’ติ คาถา เถรึ กาเมสุ อุปหาเรตุกาเมน มาเรน วุตฺตา. ‘‘กึ นุ ตฺวํ ภิกฺขุนิ น โรเจสี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๖๗) หิ มาเรน ปุฏฺา เถรี อาห – ‘‘ชาตึ ขฺวาหํ, อาวุโส, น โรเจมี’’ติ. อถ นํ มาโร ชาตสฺส กามา ปริโภคา, ตสฺมา ชาติปิ อิจฺฉิตพฺพา, กามาปิ ปริภฺุชิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต –
‘‘กินฺนุ ชาตึ น โรเจสิ, ชาโต กามานิ ภฺุชติ;
ภฺุชาหิ กามรติโย, มาหุ ปจฺฉานุตาปินี’’ติ. –
คาถมาห.
ตสฺสตฺโถ – กึ นุ ตํ การณํ, เยน ตฺวํ อุปจาเล ชาตึ น โรเจสิ น โรเจยฺยาสิ, น ตํ การณํ อตฺถิ. ยสฺมา ชาโต กามานิ ภฺุชติ อิธ ชาโต กามคุณสํหิตานิ รูปาทีนิ ปฏิเสวนฺโต กามสุขํ ปริภฺุชติ. น หิ อชาตสฺส ตํ อตฺถิ, ตสฺมา ภฺุชาหิ กามรติโย กามขิฑฺฑารติโย อนุภว. มาหุ ปจฺฉานุตาปินี ‘‘โยพฺพฺเ สติ วิชฺชมาเนสุ โภเคสุ น มยา กามสุขมนุภูต’’นฺติ ปจฺฉานุตาปินี มา อโหสิ. อิมสฺมึ โลเก ธมฺมา นาม ยาวเทว อตฺถาธิคมตฺโถ อตฺโถ จ กามสุขตฺโถติ ปากโฏยมตฺโถติ อธิปฺปาโย.
ตํ ¶ สุตฺวา เถรี ชาติยา ทุกฺขนิมิตฺตตํ อตฺตโน จ ตสฺส วิสยาติกฺกมํ วิภาเวตฺวา ตชฺเชนฺตี –
‘‘ชาตสฺส ¶ มรณํ โหติ, หตฺถปาทาน เฉทนํ;
วธพนฺธปริกฺเลสํ, ชาโต ทุกฺขํ นิคจฺฉติ.
‘‘อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโต, สมฺพุทฺโธ อปราชิโต;
โส เม ธมฺมมเทเสสิ, ชาติยา สมติกฺกมํ.
‘‘ทุกฺขํ ¶ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหรึ สาสเน รตา;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมกฺขนฺโธ ปทาลิโต;
เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ชาตสฺส มรณํ โหตีติ ยสฺมา ชาตสฺส สตฺตสฺส มรณํ โหติ, น อชาตสฺส. น เกวลํ มรณเมว, อถ โข ชราโรคาทโย ยตฺตกานตฺถา, สพฺเพปิ เต ชาตสฺส โหนฺติ ชาติเหตุกา. เตนาห ภควา – ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺตี’’ติ (มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑). เตเนวาห – ‘‘หตฺถปาทาน เฉทน’’นฺติ หตฺถปาทานํ เฉทนํ ชาตสฺเสว โหติ, น อชาตสฺส. หตฺถปาทเฉทนาปเทเสน เจตฺถ พาตฺตึส กมฺมการณาปิ ทสฺสิตา เอวาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห – ‘‘วธพนฺธปริกฺเลสํ, ชาโต ทุกฺขํ นิคจฺฉตี’’ติ. ชีวิตวิโยชนมุฏฺิปฺปหาราทิสงฺขาตํ วธปริกฺเลสฺเจว อนฺทุพนฺธนาทิสงฺขาตํ พนฺธปริกฺเลสํ อฺฺจ ยํกิฺจิ ทุกฺขํ นาม ตํ สพฺพํ ชาโต เอว นิคจฺฉติ, น อชาโต, ตสฺมา ชาตึ น โรเจมีติ.
อิทานิ ¶ ชาติยา กามานฺจ อจฺจนฺตเมว อตฺตนา สมติกฺกนฺตภาวํ มูลโต ปฏฺาย ทสฺเสนฺตี – ‘‘อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อปราชิโตติ กิเลสมาราทินา เกนจิ น ปราชิโต. สตฺถา หิ สพฺพาภิภู สเทวกํ โลกํ อฺทตฺถุ อภิภวิตฺวา ิโต ¶ , ตสฺมา อปราชิโต. เสสํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
อุปจาลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อฏฺกนิปาโต
๑. สีสูปจาลาเถรีคาถาวณฺณนา
อฏฺกนิปาเต ¶ ¶ ภิกฺขุนี สีลสมฺปนฺนาติอาทิกา สีสูปจาลาย เถริยา คาถา. อิมิสฺสาปิ วตฺถุ จาลาย เถริยา วตฺถุมฺหิ วุตฺตนยเมว. อยมฺปิ หิ อายสฺมโต ธมฺมเสนาปติสฺส ปพฺพชิตภาวํ สุตฺวา สยมฺปิ อุสฺสาหชาตา ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา, ฆเฏนฺตี วายมนฺตี นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน วิหรนฺตี เอกทิวสํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา กตกิจฺจาติ โสมนสฺสชาตา อุทานวเสน –
‘‘ภิกฺขุนี สีลสมฺปนฺนา, อินฺทฺริเยสุ สุสํวุตา;
อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, อเสจนกโมชว’’นฺติ. – คาถมาห;
ตตฺถ สีลสมฺปนฺนาติ ปริสุทฺเธน ภิกฺขุนิสีเลน สมนฺนาคตา ปริปุณฺณา. อินฺทฺริเยสุ สุสํวุตาติ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ สุฏฺุ สํวุตา, รูปาทิอารมฺมเณ อิฏฺเ ราคํ, อนิฏฺเ โทสํ, อสมเปกฺขเน โมหฺจ ปหาย สุฏฺุ ปิหิตินฺทฺริยา. อเสจนกโมชวนฺติ เกนจิ อนาสิตฺตกํ โอชวนฺตํ สภาวมธุรํ สพฺพสฺสาปิ กิเลสโรคสฺส วูปสมโนสธภูตํ อริยมคฺคํ, นิพฺพานเมว วา. อริยมคฺคมฺปิ หิ นิพฺพานตฺถิเกหิ ปฏิปชฺชิตพฺพโต กิเลสปริฬาหาภาวโต จ ปทํ สนฺตนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
‘‘ตาวตึสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;
นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน;
ตตฺถ จิตฺตํ ปณีเธหิ, ยตฺถ เต วุสิตํ ปุเร’’ติ. –
อยํ ¶ คาถา กามสคฺเคสุ นิกนฺตึ อุปฺปาเทหีติ ตตฺถ อุยฺโยชนวเสน เถรึ สมาปตฺติยา จาเวตุกาเมน มาเรน วุตฺตา.
ตตฺถ ¶ สหปฺุการิโน เตตฺตึส ชนา ยตฺถ อุปปนฺนา, ตํ านํ ตาวตึสนฺติ. ตตฺถ นิพฺพตฺตา สพฺเพปิ เทวปุตฺตา ตาวตึสา. เกจิ ปน ‘‘ตาวตึสาติ ¶ เตสํ เทวานํ นามเมวา’’ติ วทนฺติ. ทฺวีหิ เทวโลเกหิ วิสิฏฺํ ทิพฺพํ สุขํ ยาตา อุปยาตา สมฺปนฺนาติ ยามา. ทิพฺพาย สมฺปตฺติยา ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามตากาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรติโน. จิตฺตรุจึ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ วสวตฺติโน. ตตฺถ จิตฺตํ ปณีเธหีติ ตสฺมึ ตาวตึสาทิเก เทวนิกาเย ตว จิตฺตํ เปหิ, อุปปชฺชนาย นิกนฺตึ กโรหิ. จาตุมหาราชิกานํ โภคา อิตเรหิ นิหีนาติ อธิปฺปาเยน ตาวตึสาทโยว วุตฺตา. ยตฺถ เต วุสิตํ ปุเรติ เยสุ เทวนิกาเยสุ ตยา ปุพฺเพ วุตฺถํ. อยํ กิร ปุพฺเพ เทเวสุ อุปฺปชฺชนฺตี, ตาวตึสโต ปฏฺาย ปฺจกามสคฺเค โสเธตฺวา ปุน เหฏฺโต โอตรนฺตี, ตุสิเตสุ ตฺวา ตโต จวิตฺวา อิทานิ มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตา.
ตํ สุตฺวา เถรี – ‘‘ติฏฺตุ, มาร, ตยา วุตฺตกามโลโก. อฺโปิ สพฺโพ โลโก ราคคฺคิอาทีหิ อาทิตฺโต สมฺปชฺชลิโต. น ตตฺถ วิฺูนํ จิตฺตํ รมตี’’ติ กามโต จ โลกโต จ อตฺตโน วินิวตฺติตมานสตํ ทสฺเสตฺวา มารํ ตชฺเชนฺตี –
ยามา จ‘‘ตาวตึสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;
นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน.
‘‘กาลํ กาลํ ภวา ภวํ, สกฺกายสฺมึ ปุรกฺขตา;
อวีติวตฺตา สกฺกายํ, ชาติมรณสาริโน.
‘‘สพฺโพ อาทีปิโต โลโก, สพฺโพ โลโก ปทีปิโต;
สพฺโพ ปชฺชลิโต โลโก, สพฺโพ โลโก ปกมฺปิโต.
‘‘อกมฺปิยํ อตุลิยํ, อปุถุชฺชนเสวิตํ;
พุทฺโธ ธมฺมมเทเสสิ, ตตฺถ เม นิรโต มโน.
‘‘ตสฺสาหํ ¶ วจนํ สุตฺวา, วิหรึ สาสเน รตา;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘สพฺพตฺถ ¶ ¶ วิหตา นนฺที, ตโมกฺขนฺโธ ปทาลิโต;
เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ กาลํ กาลนฺติ ตํ ตํ กาลํ. ภวา ภวนฺติ ภวโต ภวํ. สกฺกายสฺมินฺติ ขนฺธปฺจเก. ปุรกฺขตาติ ปุรกฺขารการิโน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มาร, ตยา วุตฺตา ตาวตึสาทโย เทวา ภวโต ภวํ อุปคจฺฉนฺตา อนิจฺจตาทิอเนกาทีนวากุเล สกฺกาเย ปติฏฺิตา, ตสฺมา ตสฺมึ ภเว อุปฺปตฺติกาเล, เวมชฺฌกาเล, ปริโยสานกาเลติ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล สกฺกายเมว ปุรกฺขตฺวา ิตา. ตโต เอว อวีติวตฺตา สกฺกายํ นิสฺสรณาภิมุขา อหุตฺวา สกฺกายตีรเมว อนุปริธาวนฺตา ชาติมรณสาริโน ราคาทีหิ อนุคตตฺตา ปุนปฺปุนํ ชาติมรณเมว อนุสฺสรนฺติ, ตโต น วิมุจฺจนฺตีติ.
สพฺโพ อาทีปิโต โลโกติ, มาร, น เกวลํ ตยา วุตฺตกามโลโกเยว ธาตุตฺตยสฺิโต, สพฺโพปิ โลโก ราคคฺคิอาทีหิ เอกาทสหิ อาทิตฺโต. เตหิเยว ปุนปฺปุนํ อาทีปิตตาย ปทีปิโต. นิรนฺตรํ เอกชาลีภูตตาย ปชฺชลิโต. ตณฺหาย สพฺพกิเลเสหิ จ อิโต จิโต จ กมฺปิตตาย จลิตตาย ปกมฺปิโต.
เอวํ อาทิตฺเต ปชฺชลิเต ปกมฺปิเต จ โลเก เกนจิปิ กมฺเปตุํ จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อกมฺปิยํ, คุณโต ‘‘เอตฺตโก’’ติ ตุเลตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺตนา สทิสสฺส อภาวโต จ อตุลิยํ. พุทฺธาทีหิ อริเยหิ เอว โคจรภาวนาภิคมโต เสวิตตฺตา อปุถุชฺชนเสวิตํ. พุทฺโธ ภควา มคฺคผลนิพฺพานปฺปเภทํ นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ มหากรุณาย สฺโจทิตมานโส อเทเสสิ สเทวกสฺส โลกสฺส กเถสิ ปเวเทสิ. ตตฺถ ตสฺมึ อริยธมฺเม มยฺหํ มโน นิรโต อภิรโต, น ตโต วินิวตฺตตีติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
สีสูปจาลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. นวกนิปาโต
๑. วฑฺฒมาตุเถรีคาถาวณฺณนา
นวกนิปาเต ¶ ¶ ¶ มา สุ เต วฑฺฒ โลกมฺหีติอาทิกา วฑฺฒมาตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ภารุกจฺฉกนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา ปติกุลํ คตา เอกํ ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺส วฑฺโฒติ นามํ อโหสิ. ตโต ปฏฺาย สา วฑฺฒมาตาติ โวหรียิตฺถ. สา ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปุตฺตํ าตีนํ นิยฺยาเทตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิ. อิโต ปรํ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วฑฺฒตฺเถรสฺส วตฺถุมฺหิ (เถรคา. อฏฺ. ๒.วฑฺฒตฺเถรคาถาวณฺณนา) อาคตเมว. วฑฺฒตฺเถรฺหิ อตฺตโน ปุตฺตํ สนฺตรุตฺตรํ เอกกํ ภิกฺขุนุปสฺสเย อตฺตโน ทสฺสนตฺถาย อุปคตํ อยํ เถรี ‘‘กสฺมา ตฺวํ เอกโก สนฺตรุตฺตโรว อิธาคโต’’ติ โจเทตฺวา โอวทนฺตี –
‘‘มา สุ เต วฑฺฒ โลกมฺหิ, วนโถ อหุ กุทาจนํ;
มา ปุตฺตก ปุนปฺปุนํ, อหุ ทุกฺขสฺส ภาคิมา.
‘‘สุขฺหิ วฑฺฒ มุนโย, อเนชา ฉินฺนสํสยา;
สีติภูตา ทมปฺปตฺตา, วิหรนฺติ อนาสวา.
‘‘เตหานุจิณฺณํ อิสีหิ, มคฺคํ ทสฺสนปตฺติยา;
ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, ตฺวํ วฑฺฒ อนุพฺรูหยา’’ติ. –
อิมา ติสฺโส คาถา อภาสิ.
ตตฺถ มา สุ เต วฑฺฒ โลกมฺหิ, วนโถ อหุ กุทาจนนฺติ สูติ นิปาตมตฺตํ. วฑฺฒ, ปุตฺตก, สพฺพสฺมิมฺปิ สตฺตโลเก, สงฺขารโลเก จ กิเลสวนโถ ตุยฺหํ กทาจิปิ มา อหุ มา อโหสิ ¶ . ตตฺถ การณมาห – ‘‘มา, ปุตฺตก, ปุนปฺปุนํ, อหุ ทุกฺขสฺส ภาคิมา’’ติ วนถํ อนุจฺฉินฺทนฺโต ตํ นิมิตฺตสฺส ปุนปฺปุนํ อปราปรํ ชาติอาทิทุกฺขสฺส ภาคี มา อโหสิ.
เอวํ ¶ วนถสฺส อสมุจฺเฉเท อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมุจฺเฉเท อานิสํสํ ทสฺเสนฺตี ‘‘สุขฺหิ ¶ วฑฺฒา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ปุตฺตก, วฑฺฒ โมเนยฺยธมฺมสมนฺนาคเตน มุนโย, เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อภาเวน อเนชา, ทสฺสนมคฺเคเนว ปหีนวิจิกิจฺฉตาย ฉินฺนสํสยา, สพฺพกิเลสปริฬาหาภาเวน สีติภูตา, อุตฺตมสฺส ทมถสฺส อธิคตตฺตา ทมปฺปตฺตา อนาสวา ขีณาสวา สุขํ วิหรนฺติ, น เตสํ เอตรหิ เจโตทุกฺขํ อตฺถิ, อายตึ ปน สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ น ภวิสฺสเตว.
ยสฺมา เจเตวํ, ตสฺมา เตหานุจิณฺณํ อิสีหิ…เป… อนุพฺรูหยาติ เตหิ ขีณาสเวหิ อิสีหิ อนุจิณฺณํ ปฏิปนฺนํ สมถวิปสฺสนามคฺคํ าณทสฺสนสฺส อธิคมาย สกลสฺสาปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย วฑฺฒ, ตฺวํ อนุพฺรูหย วฑฺเฒยฺยาสีติ.
ตํ สุตฺวา วฑฺฒตฺเถโร ‘‘อทฺธา มม มาตา อรหตฺเต ปติฏฺิตา’’ติ จินฺเตตฺวา ตมตฺถํ ปเวเทนฺโต –
‘‘วิสารทาว ภณสิ, เอตมตฺถํ ชเนตฺติ เม;
มฺามิ นูน มามิเก, วนโถ เต น วิชฺชตี’’ติ. – คาถมาห;
ตตฺถ วิสารทาว ภณสิ, เอตมตฺถํ ชเนตฺติ เมติ ‘‘มา สุ เต วฑฺฒ โลกมฺหิ, วนโถ อหุ กุทาจน’’นฺติ เอตมตฺถํ เอตํ โอวาทํ, อมฺม, วิคตสารชฺชา กตฺถจิ อลคฺคา อนลฺลีนาว หุตฺวา มยฺหํ วทสิ. ตสฺมา มฺามิ นูน มามิเก, วนโถ เต น วิชฺชตีติ, นูน มามิเก มยฺหํ, อมฺม, เคหสิตเปมมตฺโตปิ วนโถ ตุยฺหํ มยิ น วิชฺชตีติ มฺามิ, น มามิกาติ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา เถรี ‘‘อณุมตฺโตปิ กิเลโส กตฺถจิปิ วิสเย มม น วิชฺชตี’’ติ วตฺวา อตฺตโน กตกิจฺจตํ ปกาเสนฺตี –
‘‘เย ¶ เกจิ วฑฺฒ สงฺขารา, หีนา อุกฺกฏฺมชฺฌิมา;
อณูปิ อณุมตฺโตปิ, วนโถ เม น วิชฺชติ.
‘‘สพฺเพ ¶ เม อาสวา ขีณา, อปฺปมตฺตสฺส ฌายโต;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
อิมํ ¶ คาถาทฺวยมาห.
ตตฺถ เย เกจีติ อนิยมวจนํ. สงฺขาราติ สงฺขตธมฺมา. หีนาติ ลามกา ปติกุฏฺา. อุกฺกฏฺมชฺฌิมาติ ปณีตา เจว มชฺฌิมา จ. เตสุ วา อสงฺขตา หีนา ชาติสงฺขตา อุกฺกฏฺา, อุภยวิมิสฺสิตา มชฺฌิมา. หีเนหิ วา ฉนฺทาทีหิ นิพฺพตฺติตา หีนา, มชฺฌิเมหิ มชฺฌิมา, ปณีเตหิ อุกฺกฏฺา. อกุสลา ธมฺมา วา หีนา, โลกุตฺตรา ธมฺมา อุกฺกฏฺา, อิตรา มชฺฌิมา. อณูปิ อณุมตฺโตปีติ น เกวลํ ตยิ เอว, อถ โข เย เกจิ หีนาทิเภทภินฺนา สงฺขารา. เตสุ สพฺเพสุ อณูปิ อณุมตฺโตปิ อติปริตฺตโกปิ วนโถ มยฺหํ น วิชฺชติ.
ตตฺถ การณมาห – ‘‘สพฺเพ เม อาสวา ขีณา, อปฺปมตฺตสฺส ฌายโต’’ติ. ตตฺถ อปฺปมตฺตสฺส ฌายโตติ อปฺปมตฺตาย ฌายนฺติยา, ลิงฺควิปลฺลาเสน เหตํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ยสฺมา ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, ตสฺมา กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ. ยสฺมา อปฺปมตฺตา ฌายินี, ตสฺมา สพฺเพ เม อาสวา ขีณา, อณูปิ อณุมตฺโตปิ วนโถ เม น วิชฺชตีติ โยชนา.
เอวํ วุตฺตโอวาทํ องฺกุสํ กตฺวา สฺชาตสํเวโค เถโร วิหารํ คนฺตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺโน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สฺชาตโสมนสฺโส มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต –
‘‘อุฬารํ วต เม มาตา, ปโตทํ สมวสฺสริ;
ปรมตฺถสฺหิตา คาถา, ยถาปิ อนุกมฺปิกา.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, อนุสิฏฺึ ชเนตฺติยา;
ธมฺมสํเวคมาปาทึ, โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยา.
‘‘โสหํ ¶ ปธานปหิตตฺโต, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต;
มาตรา โจทิโต สนฺเต, อผุสึ สนฺติมุตฺตม’’นฺติ. –
อิมา ติสฺโส คาถา อภาสิ.
อถ ¶ เถรี อตฺตโน วจนํ องฺกุสํ กตฺวา ปุตฺตสฺส อรหตฺตปฺปตฺติยา อาราธิตจิตฺตา เตน ภาสิตคาถา สยํ ปจฺจนุภาสิ. เอวํ ตาปิ เถริยา คาถา นาม ชาตา.
ตตฺถ อุฬารนฺติ วิปุลํ มหนฺตํ. ปโตทนฺติ ¶ โอวาทปโตทํ. สมวสฺสรีติ สมฺมา ปวตฺเตสิ วตาติ โยชนา. โก ปน โส ปโตโทติ อาห ‘‘ปรมตฺถสฺหิตา คาถา’’ติ. ตํ ‘‘มา สุ เต, วฑฺฒ, โลกมฺหี’’ติอาทิกา คาถา สนฺธาย วทติ. ยถาปิ อนุกมฺปิกาติ ยถา อฺาปิ อนุคฺคาหิกา, เอวํ มยฺหํ มาตา ปวตฺตินิวตฺติวิภาวนคาถาสงฺขาตํ อุฬารํ ปโตทํ ปาชนทณฺฑกํ มม าณเวคสมุตฺเตชํ ปวตฺเตสีติ อตฺโถ.
ธมฺมสํเวคมาปาทินฺติ าณภยาวหตฺตา อติวิย มหนฺตํ ภึสนํ สํเวคํ อาปชฺชึ.
ปธานปหิตตฺโตติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานโยเคน ทิพฺพานํ ปฏิเปสิตจิตฺโต. อผุสึ สนฺติมุตฺตมนฺติ อนุตฺตรํ สนฺตึ นิพฺพานํ ผุสึ อธิคจฺฉินฺติ อตฺโถ.
วฑฺฒมาตุเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นวกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. เอกาทสกนิปาโต
๑. กิสาโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา
เอกาทสกนิปาเต ¶ ¶ กลฺยาณมิตฺตตาติอาทิกา กิสาโคตมิยา เถริยา คาถา. อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ ลูขจีวรธารีนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ. สา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ ทุคฺคตกุเล นิพฺพตฺติ. โคตมีติสฺสา นามํ อโหสิ. กิสสรีรตาย ปน ‘‘กิสาโคตมี’’ติ โวหรียิตฺถ. ตํ ปติกุลํ คตํ ทุคฺคตกุลสฺส ธีตาติ ปริภวึสุ. สา เอกํ ปุตฺตํ วิชายิ. ปุตฺตลาเภน จสฺสา สมฺมานํ อกํสุ. โส ปนสฺสา ปุตฺโต อาธาวิตฺวา ปริธาวิตฺวา กีฬนกาเล กาลมกาสิ. เตนสฺสา โสกุมฺมาโท อุปฺปชฺชิ.
สา ‘‘อหํ ปุพฺเพ ปริภวปตฺตา หุตฺวา ปุตฺตสฺส ชาตกาลโต ปฏฺาย สกฺการํ ปาปุณึ ¶ , อิเม มยฺหํ ปุตฺตํ พหิ ฉฑฺเฑตุมฺปิ วายมนฺตี’’ติ โสกุมฺมาทวเสน มตกเฬวรํ องฺเกนาทาย ‘‘ปุตฺตสฺส เม เภสชฺชํ เทถา’’ติ เคหทฺวารปฏิปาฏิยา นคเร วิจรติ. มนุสฺสา ‘‘เภสชฺชํ กุโต’’ติ ปริภาสนฺติ. สา เตสํ กถํ น คณฺหาติ. อถ นํ เอโก ปณฺฑิตปุริโส ‘‘อยํ ปุตฺตโสเกน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺตา, เอติสฺสา เภสชฺชํ ทสพโลเยว ชานิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘อมฺม, ตว ปุตฺตสฺส เภสชฺชํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉา’’ติ อาห. สา สตฺถุ ธมฺมเทสนาเวลายํ วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส เม เภสชฺชํ เทถ ภควา’’ติ อาห. สตฺถา ตสฺสา อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ‘‘คจฺฉ นครํ ปวิสิตฺวา ยสฺมึ เคเห โกจิ มตปุพฺโพ นตฺถิ, ตโต สิทฺธตฺถกํ อาหรา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ตุฏฺมานสา นครํ ปวิสิตฺวา ปมเคเหเยว ‘‘สตฺถา มม ปุตฺตสฺส เภสชฺชตฺถาย สิทฺธตฺถกํ อาหราเปติ. สเจ เอตสฺมึ เคเห โกจิ มตปุพฺโพ นตฺถิ, สิทฺธตฺถกํ เม เทถา’’ติ อาห. โก อิธ มเต คเณตุํ สกฺโกตีติ. กึ เตน หิ อลํ สิทฺธตฺถเกหีติ ทุติยํ ตติยํ ฆรํ คนฺตฺวา พุทฺธานุภาเวน วิคตุมฺมาทา ปกติจิตฺเต ิตา จินฺเตสิ – ‘‘สกลนคเร ¶ อยเมว นิยโม ภวิสฺสติ, อิทํ หิตานุกมฺปินา ภควตา ¶ ทิฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา ตโตว พหิ นิกฺขมิตฺวา ปุตฺตํ อามกสุสาเน ฉฑฺเฑตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘น คามธมฺโม นิคมสฺส ธมฺโม, น จาปิยํ เอกกุลสฺส ธมฺโม;
สพฺพสฺส โลกสฺส สเทวกสฺส, เอเสว ธมฺโม ยทิทํ อนิจฺจตา’’ติ. (อป. เถรี ๒.๓.๘๒);
เอวฺจ ปน วตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ลทฺโธ เต, โคตมิ, สิทฺธตฺถโก’’ติ อาห. ‘‘นิฏฺิตํ, ภนฺเต, สิทฺธตฺถเกน กมฺมํ, ปติฏฺา ปน เม โหถา’’ติ อาห. อถสฺสา สตฺถา –
‘‘ตํ ปุตฺตปสุสมฺมตฺตํ, พฺยาสตฺตมนสํ นรํ;
สุตฺตํ คามํ มโหโฆว, มจฺจุ อาทาย คจฺฉตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๗) –
คาถมาห ¶ .
คาถาปริโยสาเน ยถาิตาว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ปพฺพชฺชํ อนุชานิ. สา สตฺถารํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา นจิรสฺเสว โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺตี วิปสฺสนํ วฑฺเฒสิ. อถสฺสา สตฺถา –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อมตํ ปทํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อมตํ ปท’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๔) –
อิมํ โอภาสคาถมาห.
สา คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา ปริกฺขารวลฺเช ปรมุกฺกฏฺา หุตฺวา ตีหิ ลูเขหิ สมนฺนาคตํ จีวรํ ปารุปิตฺวา วิจริ. อถ นํ สตฺถา เชตวเน นิสินฺโน ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา านนฺตเร เปนฺโต ลูขจีวรธารีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ¶ ‘‘สตฺถารํ นิสฺสาย มยา อยํ วิเสโส ลทฺโธ’’ติ กลฺยาณมิตฺตตาย ปสํสามุเขน อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘กลฺยาณมิตฺตตา ¶ มุนินา, โลกํ อาทิสฺส วณฺณิตา;
กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน, อปิ พาโล ปณฺฑิโต อสฺส.
‘‘ภชิตพฺพา สปฺปุริสา, ปฺา ตถา วฑฺฒติ ภชนฺตานํ;
ภชมาโน สปฺปุริเส, สพฺเพหิปิ ทุกฺเขหิ ปมุจฺเจยฺย.
‘‘ทุกฺขฺจ วิชาเนยฺย, ทุกฺขสฺส จ สมุทยํ นิโรธํ;
อฏฺงฺคิกฺจ มคฺคํ, จตฺตาริปิ อริยสจฺจานิ.
‘‘ทุกฺโข อิตฺถิภาโว, อกฺขาโต ปุริสทมฺมสารถินา;
สปตฺติกมฺปิ หิ ทุกฺขํ, อปฺเปกจฺจา สกึ วิชาตาโย.
‘‘คลเก อปิ กนฺตนฺติ, สุขุมาลินิโย วิสานิ ขาทนฺติ;
ชนมารกมชฺฌคตา, อุโภปิ พฺยสนานิ อนุโภนฺติ.
‘‘อุปวิชฺา คจฺฉนฺตี, อทฺทสาหํ ปตึ มตํ;
ปนฺถมฺหิ วิชายิตฺวาน, อปฺปตฺตาว สกํ ฆรํ.
‘‘ทฺเว ปุตฺตา กาลกตา, ปตี จ ปนฺเถ มโต กปณิกาย;
มาตา ปิตา จ ภาตา, ฑยฺหนฺติ จ เอกจิตกายํ.
‘‘ขีณกุลีเน ¶ กปเณ, อนุภูตํ เต ทุขํ อปริมาณํ;
อสฺสู จ เต ปวตฺตํ, พหูนิ จ ชาติสหสฺสานิ.
‘‘วสิตา สุสานมชฺเฌ, อโถปิ ขาทิตานิ ปุตฺตมํสานิ;
หตกุลิกา สพฺพครหิตา, มตปติกา อมตมธิคจฺฉึ.
‘‘ภาวิโต ¶ เม มคฺโค, อริโย อฏฺงฺคิโก อมตคามี;
นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ, ธมฺมาทาสํ อเวกฺขึหํ.
‘‘อหมมฺหิ กนฺตสลฺลา, โอหิตภารา กตฺหิ กรณียํ;
กิสาโคตมี เถรี, วิมุตฺตจิตฺตา อิมํ ภณี’’ติ.
ตตฺถ กลฺยาณมิตฺตตาติ กลฺยาโณ ภทฺโท สุนฺทโร มิตฺโต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิตฺโต. โย ยสฺส สีลาทิคุณสมาทเปตา, อฆสฺส ฆาตา, หิตสฺส วิธาตา, เอวํ สพฺพากาเรน อุปกาโร มิตฺโต ¶ โหติ, โส ปุคฺคโล กลฺยาณมิตฺโต, ตสฺส ภาโว กลฺยาณมิตฺตตา, กลฺยาณมิตฺตวนฺตตา. มุนินาติ สตฺถารา. โลกํ อาทิสฺส วณฺณิตาติ กลฺยาณมิตฺเต อนุคนฺตพฺพนฺติ สตฺตโลกํ อุทฺทิสฺส –
‘‘สกลเมวิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา’’ (สํ. นิ. ๕.๒). ‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ สีลวา ภวิสฺสติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหริสฺสตี’’ติ (อุทา. ๓๑) จ เอวมาทินา ปสํสิตา.
กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโนติอาทิ กลฺยาณมิตฺตตาย อานิสํสทสฺสนํ. ตตฺถ อปิ พาโล ปณฺฑิโต อสฺสาติ กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน ปุคฺคโล ปุพฺเพ สุตาทิวิรเหน พาโลปิ สมาโน อสฺสุตสวนาทินา ปณฺฑิโต ภเวยฺย.
ภชิตพฺพา สปฺปุริสาติ พาลสฺสาปิ ปณฺฑิตภาวเหตุโต พุทฺธาทโย สปฺปุริสา กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนาทินา เสวิตพฺพา. ปฺา ตถา ปวฑฺฒติ ภชนฺตานนฺติ กลฺยาณมิตฺเต ภชนฺตานํ ตถา ปฺา วฑฺฒติ พฺรูหติ ปาริปูรึ คจฺฉติ. ยถา เตสุ โย โกจิ ขตฺติยาทิโก ภชมาโน สปฺปุริเส สพฺเพหิปิ ชาติอาทิทุกฺเขหิ ปมุจฺเจยฺยาติ โยชนา.
มุจฺจนวิธึ ปน กลฺยาณมิตฺตวิธินา ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขฺจ วิชาเนยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ¶ จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ ทุกฺขฺจ ทุกฺขสมุทยฺจ นิโรธฺจ อฏฺงฺคิกํ มคฺคฺจาติ อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ วิชาเนยฺย ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ โยชนา.
‘‘ทุกฺโข ¶ อิตฺถิภาโว’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อฺตราย ยกฺขินิยา อิตฺถิภาวํ ครหนฺติยา ภาสิตา. ตตฺถ ทุกฺโข อิตฺถิภาโว อกฺขาโตติ จปลตา, คพฺภธารณํ, สพฺพกาลํ ปรปฏิพทฺธวุตฺติตาติ เอวมาทีหิ อาทีนเวหิ อิตฺถิภาโว ทุกฺโขติ, ปุริสทมฺมสารถินา ภควตา กถิโต. สปตฺติกมฺปิ ทุกฺขนฺติ สปตฺตวาโส สปตฺติยา สทฺธึ สํวาโสปิ ¶ ทุกฺโข, อยมฺปิ อิตฺถิภาเว อาทีนโวติ อธิปฺปาโย. อปฺเปกจฺจา สกึ วิชาตาโยติ เอกจฺจา อิตฺถิโย เอกวารเมว วิชาตา, ปมคพฺเภ วิชายนทุกฺขํ อสหนฺติโย. คลเก อปิ กนฺตนฺตีติ อตฺตโน คีวมฺปิ ฉินฺทนฺติ. สุขุมาลินิโย วิสานิ ขาทนฺตีติ สุขุมาลสรีรา อตฺตโน สุขุมาลภาเวน เขทํ อวิสหนฺติโย วิสานิปิ ขาทนฺติ. ชนมารกมชฺฌคตาติ ชนมารโก วุจฺจติ มูฬฺหคพฺโภ. มาตุคามชนสฺส มารโก, มชฺฌคตา ชนมารกา กุจฺฉิคตา, มูฬฺหคพฺภาติ อตฺโถ. อุโภปิ พฺยสนานิ อนุโภนฺตีติ คพฺโภ คพฺภินี จาติ ทฺเวปิ ชนา มรณฺจ มารณนฺติกพฺยสนานิ จ ปาปุณนฺติ. อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘ชนมารกา นาม กิเลสา, เตสํ มชฺฌคตา กิเลสสนฺตานปติตา อุโภปิ ชายาปติกา อิธ กิเลสปริฬาหวเสน, อายตึ ทุคฺคติปริกฺกิเลสวเสน พฺยสนานิ ปาปุณนฺตี’’ติ. อิมา กิร ทฺเว คาถา สา ยกฺขินี ปุริมตฺตภาเว อตฺตโน อนุภูตทุกฺขํ อนุสฺสริตฺวา อาห. เถรี ปน อิตฺถิภาเว อาทีนววิภาวนาย ปจฺจนุภาสนฺตี อโวจ.
‘‘อุปวิชฺา คจฺฉนฺตี’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา ปฏาจาราย เถริยา ปวตฺตึ อารพฺภ ภาสิตา. ตตฺถ อุปวิชฺา คจฺฉนฺตีติ อุปคตวิชายนกาลา มคฺคํ คจฺฉนฺตี, อปตฺตาว สกํ เคหํ ปนฺเถ วิชายิตฺวาน ปตึ มตํ อทฺทสํ อหนฺติ โยชนา.
กปณิกายาติ วรากาย. อิมา กิร ทฺเว คาถา ปฏาจาราย ตทา ¶ โสกุมฺมาทปตฺตาย วุตฺตาการสฺส อนุกรณวเสน อิตฺถิภาเว อาทีนววิภาวนตฺถเมว เถริยา วุตฺตา.
อุภยมฺเปตํ อุทาหรณภาเวน อาเนตฺวา อิทานิ อตฺตโน อนุภูตํ ทุกฺขํ วิภาเวนฺตี ‘‘ขีณกุลิเน’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขีณกุลิเนติ โภคาทีหิ ปาริชฺุปตฺตกุลิเก. กปเณติ ปรมอวฺาตํ ปตฺเต. อุภยฺเจตํ อตฺตโน เอว อามนฺตนวจนํ. อนุภูตํ เต ทุขํ อปริมาณนฺติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว, อิโต ปุริมตฺตภาเวสุ วา อนปฺปกํ ทุกฺขํ ตยา อนุภวิตํ. อิทานิ ตํ ทุกฺขํ เอกเทเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อสฺสู จ เต ปวตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.ตสฺสตฺโถ – อิมสฺมึ อนมตคฺเค สํสาเร ¶ ปริพฺภมนฺติยา พหุกานิ ชาติสหสฺสานิ โสกาภิภูตาย ¶ อสฺสุ จ ปวตฺตํ, อวิเสสิตํ กตฺวา วุตฺตฺเจตํ, มหาสมุทฺทสฺส อุทกโตปิ พหุกเมว สิยา.
วสิตา สุสานมชฺเฌติ มนุสฺสมํสขาทิกา สุนขี สิงฺคาลี จ หุตฺวา สุสานมชฺเฌ วุสิตา. ขาทิตานิ ปุตฺตมํสานีติ พฺยคฺฆทีปิพิฬาราทิกาเล ปุตฺตมํสานิ ขาทิตานิ. หตกุลิกาติ วินฏฺกุลวํสา. สพฺพครหิตาติ สพฺเพหิ ฆรวาสีหิ ครหิตา ครหปฺปตฺตา. มตปติกาติ วิธวา. อิเม ปน ตโย ปกาเร ปุริมตฺตภาเว อตฺตโน อนุปฺปตฺเต คเหตฺวา วทติ. เอวํภูตาปิ หุตฺวา อธิจฺจ ลทฺธาย กลฺยาณมิตฺตเสวาย อมตมธิคจฺฉิ,นิพฺพานํ อนุปฺปตฺตา.
อิทานิ ตเมว อมตาธิคมํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ภาวิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ภาวิโตติ วิภาวิโต อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต ภาวนาภิสมยวเสน ปฏิวิทฺโธ. ธมฺมาทาสํ อเวกฺขึหนฺติ ธมฺมมยํ อาทาสํ อทฺทกฺขึ อปสฺสึ อหํ.
อหมมฺหิ กนฺตสลฺลาติ อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺนคาราทิสลฺลา อหํ อมฺหิ. โอหิตภาราติ โอโรปิตกามขนฺธกิเลสาภิสงฺขารภารา. กตฺหิ กรณียนฺติ ปริฺาทิเภทํ โสฬสวิธมฺปิ ¶ กิจฺจํ กตํ ปริโยสิตํ. สุวิมุตฺตจิตฺตา อิมํ ภณีติ สพฺพโส วิมุตฺตจิตฺตา กิสาโคตมี เถรี อิมมตฺถํ ‘‘กลฺยาณมิตฺตตา’’ติอาทินา คาถาพนฺธวเสน อภณีติ อตฺตานํ ปรํ วิย เถรี วทติ. ตตฺริทํ อิมิสฺสา เถริยา อปทานํ (อป. เถรี ๒.๓.๕๕-๙๔) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา อฺตเร กุเล;
อุเปตฺวา ตํ นรวรํ, สรณํ สมุปาคมึ.
‘‘ธมฺมฺจ ตสฺส อสฺโสสึ, จตุสจฺจูปสฺหิตํ;
มธุรํ ปรมสฺสาทํ, วฏฺฏสนฺติสุขาวหํ.
‘‘ตทา ¶ จ ภิกฺขุนึ วีโร, ลูขจีวรธารินึ;
เปนฺโต เอตทคฺคมฺหิ, วณฺณยี ปุริสุตฺตโม.
‘‘ชเนตฺวานปฺปกํ ¶ ปีตึ, สุตฺวา ภิกฺขุนิยา คุเณ;
การํ กตฺวาน พุทฺธสฺส, ยถาสตฺติ ยถาพลํ.
‘‘นิปจฺจ มุนิวรํ ตํ, ตํ านมภิปตฺถยึ;
ตทานุโมทิ สมฺพุทฺโธ, านลาภาย นายโก.
‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
กิสาโคตมี นาเมน, เหสฺสสิ สตฺถุ สาวิกา.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;
กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.
‘‘ปฺจมี ตสฺส ธีตาสึ, ธมฺมา นาเมน วิสฺสุตา;
ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.
‘‘อนุชานิ ¶ ¶ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;
วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.
‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;
พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺต ธีตโร.
‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;
ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.
‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, ปฏาจารา จ กุณฺฑลา;
อหฺจ ธมฺมทินฺนา จ, วิสาขา โหติ สตฺตมี.
‘‘เตหิ ¶ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหํ;
ทุคฺคเต อธเน นฏฺเ, คตา จ สธนํ กุลํ.
‘‘ปตึ เปตฺวา เสสา เม, เทสฺสนฺติ อธนา อิติ;
ยทา จ ปสฺสูตา อาสึ, สพฺเพสํ ทยิตา ตทา.
‘‘ยทา โส ตรุโณ ภทฺโท, โกมลโก สุเขธิโต;
สปาณมิว กนฺโต เม, ตทา ยมวสํ คโต.
‘‘โสกฏฺฏาทีนวทนา, อสฺสุเนตฺตา รุทมฺมุขา;
มตํ กุณปมาทาย, วิลปนฺตี คมามหํ.
‘‘ตทา เอเกน สนฺทิฏฺา, อุเปตฺวาภิสกฺกุตฺตมํ;
อโวจํ เทหิ เภสชฺชํ, ปุตฺตสฺชีวนนฺติ โภ.
‘‘น ¶ วิชฺชนฺเต มตา ยสฺมึ, เคเห สิทฺธตฺถกํ ตโต;
อาหราติ ชิโน อาห, วินโยปายโกวิโท.
‘‘ตทา คมิตฺวา สาวตฺถึ, น ลภึ ตาทิสํ ฆรํ;
กุโต สิทฺธตฺถกํ ตสฺมา, ตโต ลทฺธา สตึ อหํ.
‘‘กุณปํ ฉฑฺฑยิตฺวาน, อุเปสึ โลกนายกํ;
ทูรโตว มมํ ทิสฺวา, อโวจ มธุรสฺสโร.
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อุทยพฺพยํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อุทยพฺพยํ.
‘‘น ¶ คามธมฺโม นิคมสฺส ธมฺโม, น จาปิยํ เอกกุลสฺส ธมฺโม;
สพฺพสฺส โลกสฺส สเทวกสฺส, เอเสว ธมฺโม ยทิทํ อนิจฺจตา.
‘‘สาหํ สุตฺวานิมา คาถา, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยึ;
ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘ตถา ปพฺพชิตา สนฺตี, ยฺุชนฺตี ชินสาสเน;
น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘อิทฺธีสุ ¶ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.
‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.
‘‘ยสฺสตฺถาย ¶ ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺสฺส วาหสา.
‘‘สงฺการกูฏา อาหิตฺวา, สุสานา รถิยาปิ จ;
ตโต สงฺฆาฏิกํ กตฺวา, ลูขํ ธาเรมิ จีวรํ.
‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, ลูขจีวรธารเณ;
เปสิ เอตทคฺคมฺหิ, ปริสาสุ วินายโก.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
กิสาโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกาทสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทฺวาทสกนิปาโต
๑. อุปฺปลวณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา
ทฺวาทสกนิปาเต ¶ ¶ อุโภ มาตา จ ธีตา จาติอาทิกา อุปฺปลวณฺณาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, มหาชเนน สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ธมฺมํ ¶ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ อิทฺธิมนฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ. สา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุํ สํสรนฺตี กสฺสปพุทฺธกาเล พาราณสินคเร กิกิสฺส กาสิรฺโ เคเห ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา สตฺตนฺนํ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา วีสติวสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปริเวณํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตา.
ตโต จวิตฺวา ปุน มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉนฺตี เอกสฺมึ คามเก สหตฺถา กมฺมํ กตฺวา ชีวนกฏฺาเน นิพฺพตฺตา. สา เอกทิวสํ เขตฺตกุฏึ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเค เอกสฺมึ สเร ปาโตว ปุปฺผิตํ ปทุมปุปฺผํ ทิสฺวา ตํ สรํ โอรุยฺห ตฺเจว ปุปฺผํ ลาชปกฺขิปนตฺถาย ปทุมินิปตฺตฺจ คเหตฺวา เกทาเร สาลิสีสานิ ฉินฺทิตฺวา กุฏิกาย นิสินฺนา ลาเช ภชฺชิตฺวา ปฺจ ลาชสตานิ กตฺวา เปสิ. ตสฺมึ ขเณ คนฺธมาทนปพฺพเต นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺิโต เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ อาคนฺตฺวา ตสฺสา อวิทูเร าเน อฏฺาสิ. สา ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา ลาเชหิ สทฺธึ ปทุมปุปฺผํ คเหตฺวา, กุฏิโต โอรุยฺห ลาเช ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปทุมปุปฺเผน ปตฺตํ ปิธาย อทาสิ. อถสฺสา ปจฺเจกพุทฺเธ โถกํ คเต เอตทโหสิ – ‘‘ปพฺพชิตา นาม ปุปฺเผน อนตฺถิกา, อหํ ปุปฺผํ คเหตฺวา ปิฬนฺธิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺถโต ปุปฺผํ คเหตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘สเจ, อยฺโย, ปุปฺเผน อนตฺถิโก อภวิสฺสา, ปตฺตมตฺถเก เปตุํ นาทสฺส, อทฺธา อยฺยสฺส อตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ ปุน คนฺตฺวา ปตฺตมตฺถเก เปตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ ขมาเปตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิเมสํ เม ลาชานํ นิสฺสนฺเทน ลาชคณนาย ปุตฺตา อสฺสุ, ปทุมปุปฺผสฺส นิสฺสนฺเทน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน ปเท ปเท ปทุมปุปฺผํ อุฏฺหตู’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. ปจฺเจกุพุทฺโธ ตสฺสา ปสฺสนฺติยาว อากาเสน ¶ คนฺธมาทนปพฺพตํ คนฺตฺวา ตํ ปทุมํ นนฺทมูลกปพฺภาเร ปจฺเจกพุทฺธานํ อกฺกมนโสปานสมีเป ปาทปฺุฉนํ กตฺวา เปสิ.
สาปิ ¶ ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน เทวโลเก ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย จสฺสา ปเท ปเท มหาปทุมปุปฺผํ อุฏฺาสิ. สา ตโต จวิตฺวา ปพฺพตปาเท เอกสฺมึ ¶ ปทุมสเร ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺติ. ตํ นิสฺสาย เอโก ตาปโส วสติ. โส ปาโตว มุขโธวนตฺถาย สรํ คนฺตฺวา ตํ ปุปฺผํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ ปุปฺผํ เสเสหิ มหนฺตตรํ, เสสานิ จ ปุปฺผิตานิ อิทํ มกุลิตเมว, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณนา’’ติ อุทกํ โอตริตฺวา ตํ ปุปฺผํ คณฺหิ. ตํ เตน คหิตมตฺตเมว ปุปฺผิตํ. ตาปโส อนฺโตปทุมคพฺเภ นิปนฺนทาริกํ อทฺทส. ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย จ ธีตุสิเนหํ ลภิตฺวา ปทุเมเนว สทฺธึ ปณฺณสาลํ เนตฺวา มฺจเก นิปชฺชาเปสิ. อถสฺสา ปฺุานุภาเวน องฺคุฏฺเก ขีรํ นิพฺพตฺติ. โส ตสฺมึ ปุปฺเผ มิลาเต อฺํ นวํ ปุปฺผํ อาหริตฺวา ตํ นิปชฺชาเปสิ. อถสฺสา อาธาวนวิธาวเนน กีฬิตุํ สมตฺถกาลโต ปฏฺาย ปทวาเร ปทวาเร ปทุมปุปฺผํ อุฏฺาติ, กุงฺกุมราสิสฺส วิย อสฺสา สรีรวณฺโณ โหติ. สา อปตฺตา เทววณฺณํ, อติกฺกนฺตา มานุสวณฺณํ อโหสิ. สา ปิตริ ผลาผลตฺถาย คเต ปณฺณสาลายํ โอหิยติ.
อเถกทิวสํ ตสฺสา วยปฺปตฺตกาเล ปิตริ ผลาผลตฺถาย คเต เอโก วนจรโก ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มนุสฺสานํ นาม เอวํวิธํ รูปํ นตฺถิ, วีมํสิสฺสามิ น’’นฺติ ตาปสสฺส อาคมนํ อุทิกฺขนฺโต นิสีทิ. สา ปิตริ อาคจฺฉนฺเต ปฏิปถํ คนฺตฺวา ตสฺส หตฺถโต กาชกมณฺฑลุํ อคฺคเหสิ, อาคนฺตฺวา นิสินฺนสฺส จสฺส อตฺตโน กรณวตฺตํ ทสฺเสสิ. ตทา โส วนจรโก มนุสฺสภาวํ ตฺวา ตาปสํ อภิวาเทตฺวา นิสีทิ. ตาปโส ตํ วนจรกํ วนมูลผเลหิ จ ปานีเยน จ นิมนฺเตตฺวา, ‘‘โภ ปุริส, อิมสฺมึเยว าเน วสิสฺสสิ, อุทาหุ คมิสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘คมิสฺสามิ, ภนฺเต, อิธ กึ กริสฺสามี’’ติ? ‘‘อิทํ ตยา ทิฏฺการณํ เอตฺโต คนฺตฺวา อกเถตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ? ‘‘สเจ, อยฺโย, น อิจฺฉติ, กึการณา กเถสฺสามี’’ติ ตาปสํ วนฺทิตฺวา ปุน อาคมนกาเล มคฺคสฺชานนตฺถํ สาขาสฺฺจ รุกฺขสฺฺจ กโรนฺโต ปกฺกามิ.
โส ¶ พาราณสึ คนฺตฺวา ราชานํ อทฺทส. ราชา ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ, เทว, ตุมฺหากํ วนจรโก ปพฺพตปาเท อจฺฉริยํ อิตฺถิรตนํ ทิสฺวา อาคโตมฺหี’’ติ สพฺพํ ปวตฺตึ กเถสิ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา เวเคน ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา อวิทูเร าเน ขนฺธาวารํ นิวาเสตฺวา วนจรเกน เจว ¶ อฺเหิ จ ปุริเสหิ สทฺธึ ตาปสสฺส ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา นิสินฺนเวลาย ตตฺถ คนฺตฺวา อภิวาเทตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ราชา ตาปสสฺส ¶ ปพฺพชิตปริกฺขารภณฺฑํ ปาทมูเล เปตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมึ าเน กึ กโรม, คมิสฺสามา’’ติ อาห. ‘‘คจฺฉ, มหาราชา’’ติ. ‘‘อาม, คจฺฉามิ, ภนฺเต, อยฺยสฺส ปน สมีเป วิสภาคปริสา อตฺถี’’ติ อสฺสุมฺหา, อสารุปฺปา เอสา ปพฺพชิตานํ, มยา สทฺธึ คจฺฉตุ, ภนฺเตติ. มนุสฺสานํ นาม จิตฺตํ ทุตฺโตสยํ, กถํ พหูนํ มชฺเฌ วสิสฺสตีติ? อมฺหากํ รุจิตกาลโต ปฏฺาย เสสานํ เชฏฺกฏฺาเน เปตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสาม, ภนฺเตติ.
โส รฺโ กถํ สุตฺวา ทหรกาเล คหิตนามวเสเนว, ‘‘อมฺม, ปทุมวตี’’ติ ธีตรํ ปกฺโกสิ. สา เอกวจเนเนว ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปิตรํ อภิวาเทตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ ปิตา อาห – ‘‘ตฺวํ, อมฺม, วยปฺปตฺตา, อิมสฺมึ าเน รฺา ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย วสิตุํ อยุตฺตา, รฺา สทฺธึ คจฺฉ, อมฺมา’’ติ. สา ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ปิตุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อภิวาเทตฺวา โรทมานา อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อิมิสฺสา ปิตุ จิตฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ตสฺมึเยว าเน กหาปณราสิมฺหิ เปตฺวา อภิเสกํ อกาสิ. อถ นํ คเหตฺวา อตฺตโน นครํ อาเนตฺวา อาคตกาลโต ปฏฺาย เสสิตฺถิโย อโนโลเกตฺวา ตาย สทฺธึเยว รมติ. ตา อิตฺถิโย อิสฺสาปกตา ตํ รฺโ อนฺตเร ปริภินฺทิตุกามา เอวมาหํสุ – ‘‘นายํ, มหาราช, มนุสฺสชาติกา, กหํ นาม ตุมฺเหหิ มนุสฺสานํ วิจรณฏฺาเน ปทุมานิ อุฏฺหนฺตานิ ทิฏฺปุพฺพานิ, อทฺธา อยํ ยกฺขินี, นีหรถ นํ, มหาราชา’’ติ. ราชา ตาสํ กถํ สุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ.
อถสฺสาปเรน สมเยน ปจฺจนฺโต กุปิโต. โส ‘‘ครุคพฺภา ปทุมวตี’’ติ นคเร เปตฺวา ปจฺจนฺตํ อคมาสิ. อถ ตา อิตฺถิโย ตสฺสา อุปฏฺายิกาย ลฺชํ ทตฺวา ‘‘อิมิสฺสา ทารกํ ชาตมตฺตเมว อปเนตฺวา ¶ เอกํ ทารุฆฏิกํ โลหิเตน มกฺขิตฺวา สนฺติเก เปหี’’ติ อาหํสุ. ปทุมวติยาปิ นจิรสฺเสว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. มหาปทุมกุมาโร เอกโกว กุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. อวเสสา เอกูนปฺจสตา ทารกา มหาปทุมกุมารสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิตฺวา นิปนฺนกาเล สํเสทชา หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ. อถสฺสา ‘‘น ตาว อยํ สตึ ¶ ปฏิลภตี’’ติ ตฺวา สา อุปฏฺายิกา เอกํ ทารุฆฏิกํ โลหิเตน มกฺขิตฺวา สมีเป เปตฺวา ตาสํ อิตฺถีนํ สฺํ อทาสิ. ตาปิ ปฺจสตา อิตฺถิโย เอเกกา เอเกกํ ทารกํ คเหตฺวา จุนฺทการกานํ สนฺติกํ เปเสตฺวา กรณฺฑเก อาหราเปตฺวา อตฺตนา อตฺตนา คหิตทารเก ตตฺถ นิปชฺชาเปตฺวา พหิ ลฺฉนํ กตฺวา ปยึสุ.
ปทุมวตีปิ โข สฺํ ลภิตฺวา ตํ อุปฏฺายิกํ ‘‘กึ วิชาตมฺหิ, อมฺมา’’ติ ปุจฺฉิ. สา ¶ ตํ สนฺตชฺเชตฺวา ‘‘กุโต ตฺวํ ทารกํ ลภิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘อยํ ตว กุจฺฉิโต นิกฺขนฺตทารโก’’ติ โลหิตมกฺขิตํ ทารุฆฏิกํ ปุรโต เปสิ. สา ตํ ทิสฺวา โทมนสฺสปฺปตฺตา ‘‘สีฆํ ตํ ผาเลตฺวา อปเนหิ, สเจ โกจิ ปสฺเสยฺย, ลชฺชิตพฺพํ ภเวยฺยา’’ติ อาห. สา ตสฺสา กถํ สุตฺวา อตฺถกามา วิย ทารุฆฏิกํ ผาเลตฺวา อุทฺธเน ปกฺขิปิ.
ราชาปิ ปจฺจนฺตโต อาคนฺตฺวา นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺโต พหินคเร ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา นิสีทิ. อถ ตา ปฺจสตา อิตฺถิโย รฺโ ปจฺจุคฺคมนํ อาคนฺตฺวา อาหํสุ – ‘‘ตฺวํ, มหาราช, น อมฺหากํ สทฺทหสิ, อมฺเหหิ วุตฺตํ อการณํ วิย โหติ, ตฺวํ มเหสิยา อุปฏฺายิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปฏิปุจฺฉ, ทารุฆฏิกํ เต เทวี วิชาตา’’ติ. ราชา ตํ การณํ อนุปปริกฺขิตฺวาว ‘‘อมนุสฺสชาติกา ภวิสฺสตี’’ติ ตํ เคหโต นิกฺกฑฺฒิ. ตสฺสา ราชเคหโต สห นิกฺขมเนเนว ปทุมปุปฺผานิ อนฺตรธายึสุ, สรีรจฺฉวีปิ วิวณฺณา อโหสิ. สา เอกิกาว อนฺตรวีถิยา ปายาสิ. อถ นํ เอกา วยปฺปตฺตา มหลฺลิกา อิตฺถี ทิสฺวา ธีตุสิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘กหํ คจฺฉสิ, อมฺมา’’ติ อาห. ‘‘อาคนฺตุกมฺหิ, วสนฏฺานํ โอโลเกนฺตี วิจรามี’’ติ. ‘‘อิธาคจฺฉ, อมฺมา’’ติ วสนฏฺานํ ทตฺวา โภชนํ ปฏิยาเทสิ.
ตสฺสา อิมินาว นิยาเมน ตตฺถ วสมานาย ตา ปฺจสตา อิตฺถิโย เอกจิตฺตา หุตฺวา ราชานํ อาหํสุ – ‘‘มหาราช, ตุมฺเหสุ ยุทฺธํ ¶ คเตสุ อมฺเหหิ คงฺคาเทวตาย ‘อมฺหากํ เทเว วิชิตสงฺคาเม อาคเต พลิกมฺมํ กตฺวา อุทกกีฬํ กริสฺสามา’ติ ปตฺถิตํ อตฺถิ, เอตมตฺถํ, เทว, ชานาเปมา’’ติ. ราชา ตาสํ วจเนน ตุฏฺโ คงฺคาย อุทกกีฬํ กาตุํ อคมาสิ. ตาปิ อตฺตนา อตฺตนา คหิตกรณฺฑกํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา อาทาย นทึ คนฺตฺวา เตสํ กรณฺฑกานํ ปฏิจฺฉาทนตฺถํ ปารุปิตฺวา ปารุปิตฺวา อุทเก ปติตฺวา กรณฺฑเก วิสฺสชฺเชสุํ ¶ . เตปิ โข กรณฺฑกา สพฺเพ สห คนฺตฺวา เหฏฺาโสเต ปสาริตชาลมฺหิ ลคฺคึสุ. ตโต อุทกกีฬํ กีฬิตฺวา รฺโ อุตฺติณฺณกาเล ชาลํ อุกฺขิปนฺตา เต กรณฺฑเก ทิสฺวา รฺโ สนฺติกํ อานยึสุ.
ราชา กรณฺฑเก โอโลเกตฺวา ‘‘กึ, ตาตา, กรณฺฑเกสู’’ติ อาห. ‘‘น ชานาม, เทวา’’ติ. โส เต กรณฺฑเก วิวราเปตฺวา โอโลเกนฺโต ปมํ มหาปทุมกุมารสฺส กรณฺฑกํ วิวราเปสิ. เตสํ ปน สพฺเพสมฺปิ กรณฺฑเกสุ นิปชฺชาปิตทิวเสสุเยว ปฺุิทฺธิยา องฺคุฏฺโต ขีรํ นิพฺพตฺติ. สกฺโก เทวราชา ตสฺส รฺโ นิกฺกงฺขภาวตฺถํ อนฺโตกรณฺฑเก อกฺขรานิ ลิขาเปสิ – ‘‘อิเม กุมารา ปทุมวติยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตา พาราณสิรฺโ ปุตฺตา, อถ เน ปทุมวติยา ¶ สปตฺติโย ปฺจสตา อิตฺถิโย กรณฺฑเกสุ ปกฺขิปิตฺวา อุทเก ขิปึสุ, ราชา อิมํ การณํ ชานาตู’’ติ. กรณฺฑเก วิวฏมตฺเต ราชา อกฺขรานิ วาเจตฺวา ทารเก ทิสฺวา มหาปทุมกุมารํ อุกฺขิปิตฺวา เวเคน รเถ โยเชตฺวา ‘‘อสฺเส กปฺเปถ, อหํ อชฺช อนฺโตนครํ ปวิสิตฺวา เอกจฺจานํ มาตุคามานํ ปิยํ กริสฺสามี’’ติ ปาสาทวรํ อารุยฺห หตฺถิคีวาย สหสฺสภณฺฑิกํ เปตฺวา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘โย ปทุมวตึ ปสฺสติ, โส อิมํ สหสฺสํ คณฺหาตู’’ติ.
ตํ กถํ สุตฺวา ปทุมวตี มาตุ สฺํ อทาสิ – ‘‘หตฺถิคีวโต สหสฺสํ คณฺห, อมฺมา’’ติ. ‘‘นาหํ เอวรูปํ คณฺหิตุํ วิสหามี’’ติ อาห. สา ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ วุตฺเต ‘‘กึ วตฺวา คณฺหามิ, อมฺมา’’ติ อาห. ‘‘‘มม ธีตา ปทุมวตึ เทวึ ปสฺสตี’ติ วตฺวา คณฺหาหี’’ติ. สา ‘‘ยํ วา ตํ วา โหตู’’ติ คนฺตฺวา สหสฺสจงฺโกฏกํ คณฺหิ. อถ นํ มนุสฺสา ปุจฺฉึสุ – ‘‘ปทุมวตึ เทวึ ปสฺสสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘อหํ น ปสฺสามิ, ธีตา กิร เม ปสฺสตี’’ติ อาห. เต ‘‘กหํ ปน สา, อมฺมา’’ติ วตฺวา ตาย สทฺธึ คนฺตฺวา ¶ ปทุมวตึ สฺชานิตฺวา ปาเทสุ นิปตึสุ. ตสฺมึ กาเล สา ‘‘ปทุมวตี เทวี อย’’นฺติ ตฺวา ‘‘ภาริยํ วต อิตฺถิยา กมฺมํ กตํ, ยา เอวํวิธสฺส รฺโ มเหสี สมานา เอวรูเป าเน นิรารกฺขา วสี’’ติ อาห.
เตปิ ราชปุริสา ปทุมวติยา นิเวสนํ เสตสาณีหิ ปริกฺขิปาเปตฺวา ทฺวาเร ¶ อารกฺขํ เปตฺวา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา สุวณฺณสิวิกํ เปเสสิ. สา ‘‘อหํ เอวํ น คมิสฺสามิ, มม วสนฏฺานโต ปฏฺาย ยาว ราชเคหํ เอตฺถนฺตเร วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรเณ อตฺถราเปตฺวา อุปริ สุวณฺณตารกวิจิตฺตํ เจลวิตานํ พนฺธาเปตฺวา ปสาธนตฺถาย สพฺพาลงฺกาเรสุ ปหิเตสุ ปทสาว คมิสฺสามิ, เอวํ เม นาครา สมฺปตฺตึ ปสฺสิสฺสนฺตี’’ติ อาห. ราชา ‘‘ปทุมวติยา ยถารุจึ กโรถา’’ติ อาห. ตโต ปทุมวตี สพฺพปสาธนํ ปสาเธตฺวา ‘‘ราชเคหํ คมิสฺสามี’’ติ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. อถสฺสา อกฺกนฺตอกฺกนฺตฏฺาเน วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณานิ ภินฺทิตฺวา ปทุมปุปฺผานิ อุฏฺหึสุ. สา มหาชนสฺส อตฺตโน สมฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห สพฺเพปิ เต เจลจิตฺตตฺถรเณ ตสฺสา มหลฺลิกาย โปสาวนิกมูลํ กตฺวา ทาเปสิ.
ราชาปิ โข ตา ปฺจสตา อิตฺถิโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมาโย เต, เทวิ, ทาสิโย กตฺวา เทมี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, มหาราช, เอตาสํ มยฺหํ ทินฺนภาวํ สกลนคเร ชานาเปหี’’ติ. ราชา นคเร ¶ เภรึ จราเปสิ ‘‘ปทุมวติยา ทุพฺภิกา ปฺจสตา อิตฺถิโย เอติสฺสาว ทาสิโย กตฺวา ทินฺนา’’ติ. สา ‘‘ตาสํ สกลนาคเรน ทาสิภาโว สลฺลกฺขิโต’’ติ ตฺวา ‘‘อหํ มม ทาสิโย ภุชิสฺสา กาตุํ ลภามิ, เทวา’’ติ ราชานํ ปุจฺฉิ. ‘‘ตว อิจฺฉา, เทวี’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต ตเมว เภริจาริกํ ปกฺโกสาเปตฺวา – ‘ปทุมวติเทวิยา อตฺตโน ทาสิโย กตฺวา ทินฺนา ปฺจสตา อิตฺถิโย สพฺพาว ภุชิสฺสา กตา’ติ ปุน เภรึ จราเปถา’’ติ อาห. สา ตาสํ ภุชิสฺสภาเว กเต เอกูนานิ ปฺจปุตฺตสตานิ ตาสํเยว หตฺเถ โปสนตฺถาย ทตฺวา สยํ มหาปทุมกุมารํเยว คณฺหิ.
อถาปรภาเค เตสํ กุมารานํ กีฬนวเย สมฺปตฺเต ราชา อุยฺยาเน นานาวิธํ กีฬนฏฺานํ กาเรสิ. เต อตฺตโน โสฬสวสฺสุทฺเทสิกกาเล สพฺเพว เอกโต หุตฺวา อุยฺยาเน ปทุมสฺฉนฺนาย มงฺคลโปกฺขรณิยา ¶ กีฬนฺตา นวปทุมานิ ปุปฺผิตานิ ปุราณปทุมานิ จ วณฺฏโต ปตนฺตานิ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส ตาว อนุปาทินฺนกสฺส เอวรูปา ชรา ปาปุณาติ, กิมงฺคํ ปน อมฺหากํ สรีรสฺส. อิทมฺปิ หิ เอวํคติกเมว ภวิสฺสตี’’ติ อารมฺมณํ คเหตฺวา สพฺเพว ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อุฏฺายุฏฺาย ปทุมกณฺณิกาสุ ปลฺลงฺเกน นิสีทึสุ.
อถ เตหิ ¶ สทฺธึ คตราชปุริสา พหุคตํ ทิวสํ ตฺวา ‘‘อยฺยปุตฺตา, ตุมฺหากํ เวลํ ชานาถา’’ติ อาหํสุ. เต ตุณฺหี อเหสุํ. ปุริสา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ – ‘‘กุมารา, เทว, ปทุมกณฺณิกาสุ นิสินฺนา, อมฺเหสุ กเถนฺเตสุปิ วจีเภทํ น กโรนฺตี’’ติ. ‘‘ยถารุจิยา เนสํ นิสีทิตุํ เทถา’’ติ. เต สพฺพรตฺตึ คหิตารกฺขา ปทุมกณฺณิกาสุ นิสินฺนนิยาเมเนว อรุณํ อุฏฺาเปสุํ. ปุริสา ปุนทิวเส อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทวา, เวลํ ชานาถา’’ติ อาหํสุ. ‘‘น มยํ เทวา, ปจฺเจกพุทฺธา นาม มยํ อมฺหา’’ติ. ‘‘อยฺยา, ตุมฺเห ภาริยํ กถํ กเถถ, ปจฺเจกพุทฺธา นาม ตุมฺหาทิสา น โหนฺติ, ทฺวงฺคุลเกสมสฺสุธรา กาเย ปฏิมุกฺกอฏฺปริกฺขารา โหนฺตี’’ติ. เต ทกฺขิณหตฺเถน สีสํ ปรามสึสุ, ตาวเทว คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ. อฏฺ ปริกฺขารา กาเย ปฏิมุกฺกา จ อเหสุํ. ตโต ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส อากาเสน นนฺทมูลกปพฺภารํ อคมํสุ.
สาปิ โข ปทุมวตี เทวี ‘‘อหํ พหุปุตฺตา หุตฺวา นิปุตฺตา ชาตา’’ติ หทยโสกํ ปตฺวา เตเนว โสเกน กาลงฺกตฺวา ราชคหนคเร ทฺวารคามเก สหตฺเถน กมฺมํ กตฺวา ชีวนฏฺาเน นิพฺพตฺติ. อถาปรภาเค กุลฆรํ คตา เอกทิวสํ สามิกสฺส เขตฺตํ ยาคุํ หรมานา เตสํ อตฺตโน ปุตฺตานํ อนฺตเร อฏฺ ปจฺเจกพุทฺเธ ภิกฺขาจารเวลาย อากาเสน คจฺฉนฺเต ทิสฺวา สีฆํ สีฆํ คนฺตฺวา สามิกสฺส อาโรเจสิ – ‘‘ปสฺส, อยฺย, ปจฺเจกพุทฺเธ, เอเต นิมนฺเตตฺวา โภเชสฺสามา’’ติ ¶ . โส อาห – ‘‘สมณสกุณา นาเมเต อฺตฺถาปิ เอวํ จรนฺติ, น เอเต ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ เต เตสํ กเถนฺตานํเยว อวิทูเร าเน โอตรึสุ. สา อิตฺถี ตํ ทิวสํ อตฺตโน ภตฺตขชฺชโภชนํ เตสํ ทตฺวา ‘‘สฺเวปิ อฏฺ ชนา มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, อุปาสิเก, ตว สกฺกาโร เอตฺตโกว โหตุ, อาสนานิ จ อฏฺเว โหนฺตุ, อฺเปิ พหู ปจฺเจกพุทฺเธ ¶ ทิสฺวา ตว จิตฺตํ ปสีเทยฺยาสี’’ติ. สา ปุนทิวเส อฏฺ อาสนานิ ปฺาเปตฺวา อฏฺนฺนํ สกฺการสมฺมานํ ปฏิยาเทตฺวา นิสีทิ.
นิมนฺติตปจฺเจกพุทฺธา เสสานํ สฺํ อทํสุ – ‘‘มาริสา อชฺช อฺตฺถ อคนฺตฺวา สพฺเพว ตุมฺหากํ มาตุ สงฺคหํ กโรถา’’ติ. เต เตสํ วจนํ สุตฺวา ¶ สพฺเพว เอกโต อากาเสน อาคนฺตฺวา มาตุฆรทฺวาเร ปาตุรเหสุํ. สาปิ ปมํ ลทฺธสฺตาย พหูปิ ทิสฺวา น กมฺปิตฺถ. สพฺเพปิ เต เคหํ ปเวเสตฺวา อาสเนสุ นิสีทาเปสิ. เตสุ ปฏิปาฏิยา นิสีทนฺเตสุ นวโม อฺานิ อฏฺ อาสนานิ มาเปตฺวา สยํ ธุราสเน นิสีทติ, ยาว อาสนานิ วฑฺฒนฺติ, ตาว เคหํ วฑฺฒติ. เอวํ เตสุ สพฺเพสุปิ นิสินฺเนสุ สา อิตฺถี อฏฺนฺนํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ปฏิยาทิตํ สกฺการํ ปฺจสตานมฺปิ ยาวทตฺถํ ทตฺวา อฏฺ นีลุปฺปลหตฺถเก อาหริตฺวา นิมนฺติตปจฺเจกพุทฺธานํเยว ปาทมูเล เปตฺวา อาห – ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน สรีรวณฺโณ อิเมสํ นีลุปฺปลานํ อนฺโตคพฺภวณฺโณ วิย โหตู’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. ปจฺเจกพุทฺธา มาตุ อนุโมทนํ กตฺวา คนฺธมาทนํเยว อคมํสุ.
สาปิ ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา ตโต จุตา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ เสฏฺิกุเล ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. นีลุปฺปลคพฺภสมานวณฺณตาย จสฺสา อุปฺปลวณฺณาตฺเวว นามํ อกํสุ. อถสฺสา วยปฺปตฺตกาเล สกลชมฺพุทีเป ราชาโน จ เสฏฺิโน จ เสฏฺิสฺส สนฺติกํ ทูตํ ปหิณึสุ ‘‘ธีตรํ อมฺหากํ เทตู’’ติ. อปหิณนฺโต นาม นาโหสิ. ตโต เสฏฺิ จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สพฺเพสํ มนํ คเหตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อุปายํ ปเนกํ กริสฺสามี’’ติ ธีตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ปพฺพชิตุํ, อมฺม, สกฺขิสฺสสี’’ติ อาห. ตสฺสา ปจฺฉิมภวิกตฺตา ปิตุ วจนํ สีเส อาสิตฺตสตปากเตลํ วิย อโหสิ. ตสฺมา ปิตรํ ‘‘ปพฺพชิสฺสามิ, ตาตา’’ติ อาห. โส ตสฺสา สกฺการํ กตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ เนตฺวา ปพฺพาเชสิ. ตสฺสา อจิรปพฺพชิตาย เอว อุโปสถาคาเร กาลวาโร ปาปุณิ. สา ปทีปํ ชาเลตฺวา อุโปสถาคารํ สมฺมชฺชิตฺวา ทีปสิขาย นิมิตฺตํ คณฺหิตฺวา ิตาว ปุนปฺปุนํ โอโลกยมานา เตโชกสิณารมฺมณํ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตผเลน สทฺธึเยว จ ¶ อภิฺาปฏิสมฺภิทาปิ อิชฺฌึสุ. วิเสสโต ปน อิทฺธิวิกุพฺพเน จิณฺณวสี ¶ อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.อุปฺปลวณฺณาเถรีอปทาน, อฺมฺวิสทิสํ) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;
นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.
‘‘อุเปตฺวา ¶ ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;
ตโต ชาตปฺปสาทาหํ, อุเปมิ สรณํ ชินํ.
‘‘ภควา อิทฺธิมนฺตีนํ, อคฺคํ วณฺเณสิ นายโก;
ภิกฺขุนึ ลชฺชินึ ตาทึ, สมาธิฌานโกวิทํ.
‘‘ตทา มุทิตจิตฺตาหํ, ตํ านํ อภิกงฺขินี;
นิมนฺติตฺวา ทสพลํ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.
‘‘โภชยิตฺวาน สตฺตาหํ, ทตฺวาน จ ติจีวรํ;
สตฺตมาลํ คเหตฺวาน, อุปฺปลาเทวคนฺธิกํ.
‘‘สตฺถุ ปาเท เปตฺวาน, าณมฺหิ อภิปูชยึ;
นิปจฺจ สิรสา ปาเท, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘ยาทิสา วณฺณิตา วีร, อิโต อฏฺมเก มุนิ;
ตาทิสาหํ ภวิสฺสามิ, ยทิ สิชฺฌติ นายก.
‘‘ตทา อโวจ มํ สตฺถา, วิสฺสฏฺา โหติ ทาริเก;
อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, ลจฺฉเส ตํ มโนรถํ.
‘‘สตสหสฺสิโต ¶ กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;
นาเมนุปฺปลวณฺณาติ, รูเปน จ ยสสฺสินี.
‘‘อภิฺาสุ วสิปฺปตฺตา, สตฺถุสาสนการิกา;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, เหสฺสสี สตฺถุ สาวิกา.
‘‘ตทาหํ ¶ มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตโต จุตาหํ มนุเช, อุปปนฺนา สยมฺภุโน;
อุปฺปเลหิ ปฏิจฺฉนฺนํ, ปิณฺฑปาตมทาสหํ.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, วิปสฺสี นาม นายโก;
อุปฺปชฺชิ จารุทสฺสโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา.
‘‘เสฏฺิธีตา ตทา หุตฺวา, พาราณสิปุรุตฺตเม;
นิมนฺเตตฺวาน สมฺพุทฺธํ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.
‘‘มหาทานํ ททิตฺวาน, อุปฺปเลหิ วินายกํ;
ปูชยิตฺวา เจตสาว, วณฺณโสภํ อปตฺถยึ.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘อุปฏฺาโก ¶ ¶ มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;
กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.
‘‘ตสฺสาสึ ทุติยา ธีตา, สมณคุตฺตสวฺหยา;
ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.
‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;
วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.
‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;
พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺตธีตโร.
‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;
ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.
‘‘อหํ เขมา จ สปฺปฺา, ปฏาจารา จ กุณฺฑลา;
กิสาโคตมี ธมฺมทินฺนา, วิสาขา โหติ สตฺตมี.
‘‘เตหิ ¶ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ตโต จุตา มนุสฺเสสุ, อุปปนฺนา มหากุเล;
ปีตํ มฏฺํ วรํ ทุสฺสํ, อทํ อรหโต อหํ.
‘‘ตโต จุตาริฏฺปุเร, ชาตา วิปฺปกุเล อหํ;
ธีตา ติริฏิวจฺฉสฺส, อุมฺมาทนฺตี มโนหรา.
‘‘ตโต จุตา ชนปเท, กุเล อฺตเร อหํ;
ปสูตา นาติผีตมฺหิ, สาลึ โคเปมหํ ตทา.
‘‘ทิสฺวา ¶ ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ, ปฺจลาชสตานิหํ;
ทตฺวา ปทุมจฺฉนฺนานิ, ปฺจ ปุตฺตสตานิหํ.
‘‘ปตฺถยึ เตปิ ปตฺเถสุํ, มธุํ ทตฺวา สยมฺภุโน;
ตโต จุตา อรฺเหํ, อชายึ ปทุโมทเร.
‘‘กาสิรฺโ มเหสีหํ, หุตฺวา สกฺกตปูชิตา;
อชนึ ราชปุตฺตานํ, อนูนํ สตปฺจกํ.
‘‘ยทา เต โยพฺพนปฺปตฺตา, กีฬนฺตา ชลกีฬิตํ;
ทิสฺวา โอปตฺตปทุมํ, อาสุํ ปจฺเจกนายกา.
‘‘สาหํ เตหิ วินาภูตา, สุตวีเรหิ โสกินี;
จุตา อิสิคิลิปสฺเส, คามกมฺหิ อชายิหํ.
‘‘ยทา ¶ พุทฺโธ สุตมตี, สุตานํ ภตฺตุโนปิ จ;
ยาคุํ อาทาย คจฺฉนฺตี, อฏฺ ปจฺเจกนายเก.
‘‘ภิกฺขาย คามํ คจฺฉนฺเต, ทิสฺวา ปุตฺเต อนุสฺสรึ;
ขีรธารา วินิคฺคจฺฉิ, ตทา เม ปุตฺตเปมสา.
‘‘ตโต เตสํ อทํ ยาคุํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ;
ตโต จุตาหํ ติทสํ, นนฺทนํ อุปปชฺชหํ.
‘‘อนุโภตฺวา สุขํ ทุกฺขํ, สํสริตฺวา ภวาภเว;
ตวตฺถาย มหาวีร, ปริจฺจตฺตฺจ ชีวิตํ.
‘‘ธีตา ¶ ตุยฺหํ มหาวีร, ปฺวนฺต ชุตินฺธร;
พหฺุจ ทุกฺกรํ กมฺมํ, กตํ เม อติทุกฺกรํ.
‘‘ราหุโล ¶ จ อหฺเจว, เนกชาติสเต พหู;
เอกสฺมึ สมฺภเว ชาตา, สมานจฺฉนฺทมานสา.
‘‘นิพฺพตฺติ เอกโต โหติ, ชาติยาปิ จ เอกโต;
ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, อุโภปิ นานาสมฺภวา.
‘‘ปุริมานํ ชินคฺคานํ, สงฺคมํ เต นิทสฺสิตํ;
อธิการํ พหุํ มยฺหํ, ตุยฺหตฺถาย มหามุนิ.
‘‘ยํ มยา ปูริตํ กมฺมํ, กุสลํ สร เม มุนิ;
ตวตฺถาย มหาวีร, ปฺุํ อุปจิตํ มยา.
‘‘อภพฺพฏฺาเน วชฺเชตฺวา, วารยนฺติ อนาจารํ;
ตวตฺถาย มหาวีร, จตฺตํ เม ชีวิตํ พหุํ.
‘‘เอวํ พหุวิธํ ทุกฺขํ, สมฺปตฺติ จ พหุพฺพิธา;
ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, ชาตา สาวตฺถิยํ ปุเร.
‘‘มหาธนเสฏฺิกุเล, สุขิเต สชฺชิเต ตถา;
นานารตนปชฺโชเต, สพฺพกามสมิทฺธิเน.
‘‘สกฺกตา ปูชิตา เจว, มานิตาปจิตา ตถา;
รูปสีริมนุปฺปตฺตา, กุเลสุ อภิสกฺกตา.
‘‘อตีว ปตฺถิตา จาสึ, รูปโสภสิรีหิ จ;
ปตฺถิตา ¶ เสฏฺิปุตฺเตหิ, อเนเกหิ สเตหิปิ.
‘‘อคารํ ปชหิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
อฑฺฒมาเส อสมฺปตฺเต, จตุสจฺจมปาปุณึ.
‘‘อิทฺธิยา ¶ อภินิมฺมิตฺวา, จตุรสฺสํ รถํ อหํ;
พุทฺธสฺส ปาเท วนฺทิสฺสํ, โลกนาถสฺส ตาทิโน.
‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี โหมิ มหามุเน.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ¶ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, ปภาเวน มเหสิโน.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
ขเณน อุปนาเมนฺติ, สหสฺสานิ สมนฺตโต.
‘‘ชิโน ตมฺหิ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;
อคฺคา อิทฺธิมตีนนฺติ ¶ , ปริสาสุ วินายโก.
‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติสมูหตา.
‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;
โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อยํ ปน เถรี ยทา ภควา สาวตฺถินครทฺวาเร ยมกปาฏิหาริยํ กาตุํ กณฺฑมฺพรุกฺขมูลํ อุปคฺฉิ, ตทา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอวมาห – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปาฏิหาริยํ กริสฺสามิ, ยทิ ภควา อนุชานาตี’’ติ สีหนาทํ นทิ. สตฺถา อิทํ การณํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา ¶ เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ปฏิปาฏิยา ภิกฺขุนิโย านนฺตเร เปนฺโต อิมํ เถรึ อิทฺธิมนฺตีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา ฌานสุเขน ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺตี เอกทิวสํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสฺจ ปจฺจเวกฺขมานา คงฺคาตีริยตฺเถรสฺส มาตุยา ธีตาย สทฺธึ สปตฺติวาสํ อุทฺทิสฺส สํเวคชาตาย วุตฺตคาถา ปจฺจนุภาสนฺตี –
‘‘อุโภ มาตา จ ธีตา จ, มยํ อาสุํ สปตฺติโย;
ตสฺสา เม อหุ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน.
‘‘ธิรตฺถุ กามา อสุจี, ทุคฺคนฺธา พหุกณฺฏกา;
ยตฺถ มาตา จ ธีตา จ, สภริยา มยํ อหุํ.
‘‘กาเมสฺวาทีนวํ ¶ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;
สา ปพฺพชึ ราชคเห, อคารสฺมานคาริย’’นฺติ. –
อิมา ติสฺโส คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อุโภ มาตา จ ธีตา จ, มยํ อาสุํ สปตฺติโยติ มาตา จ ธีตา จาติ อุโภ มยํ อฺมฺํ สปตฺติโย อหุมฺห.
สาวตฺถิยํ กิร อฺตรสฺส วาณิชสฺส ภริยาย ปจฺจูสเวลายํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ สณฺาสิ, สา ตํ น อฺาสิ. วาณิโช ¶ วิภาตาย รตฺติยา สกเฏสุ ภณฺฑํ อาโรเปตฺวา ราชคหํ อุทฺทิสฺส คโต. ตสฺสา คจฺฉนฺเต กาเล คพฺโภ วฑฺเฒตฺวา ปริปากํ อคมาสิ. อถ นํ สสฺสุ เอวมาห – ‘‘มม ปุตฺโต จิรปฺปวุตฺโถ ตฺวฺจ คพฺภินี, ปาปกํ ตยา กต’’นฺติ. สา ‘‘ตว ปุตฺตโต อฺํ ปุริสํ น ชานามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวาปิ สสฺสุ อสทฺทหนฺตี ตํ ฆรโต นิกฺกฑฺฒิ. สา สามิกํ คเวสนฺตี อนุกฺกเมน ราชคหํ สมฺปตฺตา. ตาวเทว จสฺสา กมฺมชวาเตสุ จลนฺเตสุ มคฺคสมีเป อฺตรํ สาลํ ปวิฏฺาย คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. สา สุวณฺณพิมฺพสทิสํ ปุตฺตํ วิชายิตฺวา อนาถสาลายํ สยาเปตฺวา อุทกกิจฺจตฺถํ พหิ นิกฺขนฺตา. อถฺตโร อปุตฺตโก สตฺถวาโห เตน มคฺเคน คจฺฉนฺโต ‘‘อสฺสามิกาย ทารโก, มม ปุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ ¶ ตํ ธาติยา หตฺเถ อทาสิ. อถสฺส มาตา อุทกกิจฺจํ กตฺวา อุทกํ คเหตฺวา ปฏินิวตฺติตฺวา ปุตฺตํ อปสฺสนฺตี โสกาภิภูตา ปริเทวิตฺวา ราชคหํ อปฺปวิสิตฺวาว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตํ อฺตโร โจรเชฏฺโก อนฺตรามคฺเค ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต อตฺตโน ปชาปตึ อกาสิ. สา ตสฺส เคเห วสนฺตี เอกํ ธีตรํ วิชายิ. อถ สา เอกทิวสํ ธีตรํ คเหตฺวา ิตา สามิเกน ภณฺฑิตฺวา ธีตรํ มฺจเก ขิปิ. ทาริกาย สีสํ โถกํ ภินฺทิ. ตโต สาปิ สามิกํ ภายิตฺวา ราชคหเมว ปจฺจาคนฺตฺวา เสริวิจาเรน วิจรติ. ตสฺสา ปุตฺโต ปมโยพฺพเน ิโต ‘‘มาตา’’ติ อชานนฺโต อตฺตโน ปชาปตึ อกาสิ. อปรภาเค ตํ โจรเชฏฺกธีตรํ ภคินิภาวํ อชานนฺโต วิวาหํ กตฺวา อตฺตโน เคหํ อาเนสิ. เอวํ โส อตฺตโน มาตรํ ภคินิฺจ ปชาปตี กตฺวา วาเสสิ. เตน ตา อุโภปิ สปตฺติวาสํ วสึสุ. อเถกทิวสํ มาตา ¶ ธีตุ เกสวฏฺฏึ โมเจตฺวา อูกํ โอโลเกนฺตี สีเส วณํ ทิสฺวา ‘‘อปฺเปวนามายํ มม ธีตา ภเวยฺยา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา สํเวคชาตา หุตฺวา ราชคเห ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิเวกวาสํ วสนฺตี อตฺตโน จ ปุพฺพปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘อุโภ มาตา’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตา ปน ตาย วุตฺตคาถาว กาเมสุ อาทีนวทสฺสนวเสน ปจฺจนุภาสนฺตี อยํ ¶ เถรี ‘‘อุโภ มาตา จ ธีตา จา’’ติอาทิมาห. เตน วุตฺตํ – ‘‘สา ฌานสุเขน ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺตี อิมา ติสฺโส คาถา อภาสี’’ติ.
ตตฺถ อสุจีติ กิเลสาสุจิปคฺฆรเณน อสุจี. ทุคฺคนฺธาติ วิสคนฺธวายเนน ปูติคนฺธา. พหุกณฺฏกาติ วิสูยิกปฺปวตฺติยา สุจริตวินิวิชฺฌนฏฺเน พหุวิธกิเลสกณฺฏกา. ตถา หิ เต สตฺติสูลูปมา กามาติ วุตฺตา. ยตฺถาติ เยสุ กาเมสุ ปริภฺุชิตพฺเพสุ. สภริยาติ สมานภริยา, สปตฺติโยติ อตฺโถ.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธิตํ;
เจโตปริจฺจาณฺจ, โสตธาตุ วิโสธิตา.
‘‘อิทฺธีปิ เม สจฺฉิกตา, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
‘‘ปุพฺเพนิวาส’’นฺติอาทิกา ทฺเว คาถา อตฺตโน อธิคตวิเสสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตาย ¶ เถริยา วุตฺตา. ตตฺถ เจโตปริจฺจาณนฺติ เจโตปริยาณํ, สจฺฉิกตํ, ปตฺตนฺติ วา สมฺพนฺโธ.
‘‘อิทฺธิยา อภินิมฺมิตฺวา, จตุรสฺสํ รถํ อหํ;
พุทฺธสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา, โลกนาถสฺส ตาทิโน’’ติ. –
อยํ คาถา ยทา ภควา ยมกปาฏิหาริยํ กาตุํ กณฺฑมฺพรุกฺขมูลํ อุปสงฺกมิ, ตทา อยํ เถรี เอวรูปํ รถํ นิมฺมินิตฺวา เตน สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควา ‘‘อหํ ปาฏิหาริยํ กริสฺสามิ ติตฺถิยมทนิมฺมถนาย, อนุชานาถา’’ติ วตฺวา สตฺถุ สนฺติเก อฏฺาสิ, ตํ สทฺธาย วุตฺตา. ตตฺถ อิทฺธิยา อภินิมฺมิตฺวา, จตุรสฺสํ รถํ อหนฺติ จตูหิ อสฺเสหิ โยชิตํ รถํ อิทฺธิยา อภินิมฺมินิตฺวา พุทฺธสฺส ภควโต ปาเท วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสินฺติ อธิปฺปาโย.
‘‘สุปุปฺผิตคฺคํ ¶ อุปคมฺม ปาทปํ, เอกา ตุวํ ติฏฺสิ สาลมูเล;
น ¶ จาปิ เต ทุติโย อตฺถิ โกจิ, พาเล น ตฺวํ ภายสิ ธุตฺตกานํ’’.
ตตฺถ สุปุปฺผิตคฺคนฺติ สุฏฺุ ปุปฺผิตอคฺคํ, อคฺคโต ปฏฺาย สพฺพผาลิปุลฺลนฺตี อตฺโถ. ปาทปนฺติ รุกฺขํ, อิธ ปน สาลรุกฺโข อธิปฺเปโต. เอกา ตุวนฺติ เอกิกา ตฺวํ อิธ ติฏฺสิ. น จาปิ เต ทุติโย อตฺถิ โกจีติ ตว สหายภูโต อารกฺขโก โกจิปิ นตฺถิ, รูปสมฺปตฺติยา วา ตุยฺหํ ทุติโย โกจิปิ นตฺถิ, อสทิสรูปา เอกิกาว อิมสฺมึ ชนวิวิตฺเต าเน ติฏฺสิ. พาเล น ตฺวํ ภายสิ ธุตฺตกานนฺติ ตรุณิเก ตฺวํ ธุตฺตปุริสานํ กถํ น ภายสิ, สกิฺจนการิโน ธุตฺตาติ อธิปฺปาโย. อิมํ กิร คาถํ มาโร เอกทิวสํ เถรึ สุปุปฺผิเต สาลวเน ทิวาวิหารํ นิสินฺนํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วิเวกโต วิจฺฉินฺทิตุกาโม วีมํสนฺโต อาห. อถ นํ เถรี สนฺตชฺเชนฺตี อตฺตโน อานุภาววเสน –
‘‘สตํ สหสฺสานิปิ ธุตฺตกานํ, สมาคตา เอทิสกา ภเวยฺยุํ;
โลมํ น อิฺเช นปิ สมฺปเวเธ, กึ เม ตุวํ มาร กริสฺสเสโก.
‘‘เอสา อนฺตรธายามิ, กุจฺฉึ วา ปวิสามิ เต;
ภมุกนฺตเร ติฏฺามิ, ติฏฺนฺตึ มํ น ทกฺขสิ.
‘‘จิตฺตมฺหิ ¶ วสีภูตาหํ, อิทฺธิปาทา สุภาวิตา;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;
ยํ ตฺวํ กามรตึ พฺรูสิ, อรตี ทานิ สา มม.
‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;
เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ สตํ สหสฺสานิปิ ธุตฺตกานํ ¶ , สมาคตา เอทิสกา ภเวยฺยุนฺติ ยาทิสโก ตฺวํ เอทิสกา เอวรูปา อเนกสตสหสฺสมตฺตาปิ ธุตฺตกา สมาคตา ยทิ ภเวยฺยุํ. โลมํ น อิฺเช นปิ สมฺปเวเธติ โลมมตฺตมฺปิ น อิฺเชยฺย น สมฺปเวเธยฺย. กึ เม ตุวํ มาร กริสฺสเสโกติ มาร, ตฺวํ เอกโกว มยฺหํ กึ กริสฺสสิ?
อิทานิ มารสฺส อตฺตโน กิฺจิปิ กาตุํ อสมตฺถตํเยว วิภาเวนฺตี ‘‘เอสา อนฺตรธายามี’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – มาร, เอสาหํ ตว ปุรโต ิตาว อนฺตรธายามิ อทสฺสนํ คจฺฉามิ, อชานนฺตสฺเสว เต กุจฺฉึ วา ปวิสามิ, ภมุกนฺตเร วา ติฏฺามิ, เอวํ ติฏฺนฺติฺจ มํ ตฺวํ น ปสฺสสิ.
กสฺมาติ เจ? จิตฺตมฺหิ วสีภูตาหํ, อิทฺธิปาทา สุภาวิตา, อหํ จมฺหิ มาร, มยฺหํ จิตฺตํ วสีภาวปฺปตฺตํ, จตฺตาโรปิ อิทฺธิปาทา มยา สุฏฺุ ภาวิตา พหุลีกตา, ตสฺมา อหํ ยถาวุตฺตาย อิทฺธิวิสยตาย ปโหมีติ. เสสํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
อุปฺปลวณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทฺวาทสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. โสฬสนิปาโต
๑. ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา
โสฬสนิปาเต ¶ ¶ อุทหารี อหํ สีเตติอาทิกา ปุณฺณาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เหตุสมฺปนฺนตาย สฺชาตสํเวคา ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ลทฺธปฺปสาทา ปพฺพชิตฺวา ปริสุทฺธสีลา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมกถิกา จ อโหสิ. ยถา จ วิปสฺสิสฺส ภควโต สาสเน, เอวํ สิขิสฺส เวสฺสภุสฺส กกุสนฺธสฺส โกณาคมนสฺส กสฺสปสฺส ¶ จ ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา สีลสมฺปนฺนา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมกถิกา จ อโหสิ. มานธาตุกตฺตา ปน กิเลเส สมุจฺฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ. มาโนปนิสฺสยวเสน กมฺมสฺส กตตฺตา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อนาถปิณฺฑิกสฺส เสฏฺิโน ฆรทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ปุณฺณาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา สีหนาทสุตฺตนฺตเทสนาย (ม. นิ. ๑.๑๔๖ อาทโย) โสตาปนฺนา หุตฺวา ปจฺฉา อุทกสุทฺธิกํ พฺราหฺมณํ ทเมตฺวา เสฏฺินา สมฺภาวิตา หุตฺวา เตน ภุชิสฺสภาวํ ปาปิตา ตํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๔.๑๘๔-๒๐๓) –
‘‘วิปสฺสิโน ภควโต, สิขิโน เวสฺสภุสฺส จ;
กกุสนฺธสฺส มุนิโน, โกณาคมนตาทิโน.
‘‘กสฺสปสฺส จ พุทฺธสฺส, ปพฺพชิตฺวาน สาสเน;
ภิกฺขุนี สีลสมฺปนฺนา, นิปกา สํวุตินฺทฺริยา.
‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, ธมฺมตฺถปฏิปุจฺฉิกา;
อุคฺคเหตา จ ธมฺมานํ, โสตา ปยิรุปาสิตา.
‘‘เทเสนฺตี ¶ ชนมชฺเฌหํ, อโหสึ ชินสาสเน;
พาหุสจฺเจน เตนาหํ, เปสลา อภิมฺิสํ.
‘‘ปจฺฉิเม ¶ จ ภเว ทานิ, สาวตฺถิยํ ปุรุตฺตเม;
อนาถปิณฺฑิโน เคเห, ชาตาหํ กุมฺภทาสิยา.
‘‘คตา อุทกหาริยํ, โสตฺถิยํ ทิชมทฺทสํ;
สีตฏฺฏํ โตยมชฺฌมฺหิ, ตํ ทิสฺวา อิทมพฺรวึ.
‘‘อุทหารี อหํ สีเต, สทา อุทกโมตรึ;
อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตา, วาจาโทสภยฏฺฏิตา.
‘‘กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;
เวธมาเนหิ คตฺเตหิ, สีตํ เวทยเส ภุสํ.
‘‘ชานนฺตี วต มํ โภติ, ปุณฺณิเก ปริปุจฺฉสิ;
กโรนฺตํ ¶ กุสลํ กมฺมํ, รุนฺธนฺตํ กตปาปกํ.
‘‘โย จ วุฑฺโฒ ทหโร วา, ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ;
ทกาภิเสจนา โสปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ.
‘‘อุตฺตรนฺตสฺส อกฺขาสึ, ธมฺมตฺถสํหิตํ ปทํ;
ตฺจ สุตฺวา ส สํวิคฺโค, ปพฺพชิตฺวารหา อหุ.
‘‘ปูเรนฺตี อูนกสตํ, ชาตา ทาสิกุเล ยโต;
ตโต ปุณฺณาติ นามํ เม, ภุชิสฺสํ มํ อกํสุ เต.
‘‘เสฏฺึ ตโตนุชาเนตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘อิทฺธีสุ ¶ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี โหมิ มหามุเน.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺสฺส วาหสา.
‘‘ภาวนาย ¶ มหาปฺา, สุเตเนว สุตาวินี;
มาเนน นีจกุลชา, น หิ กมฺมํ วินสฺสติ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘อุทหารี อหํ สีเต, สทา อุทกโมตรึ;
อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตา, วาจาโทสภยฏฺฏิตา.
‘‘กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;
เวธมาเนหิ คตฺเตหิ, สีตํ เวทยเส ภุสํ.
‘‘ชานนฺตี วต มํ โภติ, ปุณฺณิเก ปริปุจฺฉสิ;
กโรนฺตํ กุสลํ กมฺมํ, รุนฺธนฺตํ กตปาปกํ.
‘‘โย ¶ จ วุฑฺโฒ ทหโร วา, ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ;
ทกาภิเสจนา โสปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ.
‘‘โก ¶ นุ เต อิทมกฺขาสิ, อชานนฺตสฺส อชานโก;
‘ทกาภิเสจนา นาม, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ’.
‘‘สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺติ, สพฺเพ มณฺฑูกกจฺฉปา;
นาคา จ สุสุมารา จ, เย จฺเ อุทเก จรา.
‘‘โอรพฺภิกา สูกริกา, มจฺฉิกา มิคพนฺธกา;
โจรา จ วชฺฌฆาตา จ, เย จฺเ ปาปกมฺมิโน;
ทกาภิเสจนา เตปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจเร.
‘‘สเจ อิมา นทิโย เต, ปาปํ ปุพฺเพ กตํ วหุํ;
ปฺุมฺปิ มา วเหยฺยุํ เต, เตน ตฺวํ ปริพาหิโร.
‘‘ยสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;
ตเมว พฺรหฺเม มากาสิ, มา เต สีตํ ฉวึ หเน.
‘‘กุมฺมคฺคปฏิปนฺนํ มํ, อริยมคฺคํ สมานยิ;
ทกาภิเสจนา โภติ, อิมํ สาฏํ ททามิ เต.
‘‘ตุยฺเหว ¶ สาฏโก โหตุ, นาหมิจฺฉามิ สาฏกํ;
สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.
‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;
สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสสิ กโรสิ วา.
‘‘น เต ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุเปจฺจาปิ ปลายโต;
สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.
‘‘อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;
สมาทิยาหิ สีลานิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ.
‘‘อุเปมิ ¶ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;
สมาทิยามิ สีลานิ, ตํ เม อตฺถาย เหหิติ.
‘‘พฺรหฺมพนฺธุ ปุเร อาสึ, อชฺชมฺหิ สจฺจพฺราหฺมโณ;
เตวิชฺโช เวทสมฺปนฺโน, โสตฺติโย จมฺหิ นฺหาตโก’’ติ. –
อิมา ¶ คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อุทหารีติ ฆเฏน อุทกํ วาหิกา. สีเต ตทา อุทกโมตรินฺติ สีตกาเลปิ สพฺพทา รตฺตินฺทิวํ อุทกํ โอตรึ. ยทา ยทา อยฺยกานํ อุทเกน อตฺโถ, ตทา ตทา อุทกํ ปาวิสึ, อุทกโมตริตฺวา อุทกํ อุปเนสินฺติ อธิปฺปาโย. อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตาติ อยฺยกานํ ทณฺฑภเยน ภีตา. วาจาโทสภยฏฺฏิตาติ วจีทณฺฑภเยน เจว โทสภเยน จ อฏฺฏิตา ปีฬิตา, สีเตปิ อุทกโมตรินฺติ โยชนา.
อเถกทิวสํ ปุณฺณา ทาสี ฆเฏน อุทกํ อาเนตุํ อุทกติตฺถํ คตา. ตตฺถ อทฺทส อฺตรํ พฺราหฺมณํ อุทกสุทฺธิกํ หิมปาตสมเย มหติ สีเต วตฺตมาเน ปาโตว อุทกํ โอตริตฺวา สสีสํ นิมุชฺชิตฺวา มนฺเต ชปฺปิตฺวา อุทกโต อุฏฺหิตฺวา อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ ปเวธนฺตํ ทนฺตวีณํ วาทยมานํ. ตํ ทิสฺวา กรุณาย สฺโจทิตมานสา ตโต นํ ทิฏฺิคตา วิเวเจตุกามา ‘‘กสฺส, พฺราหฺมณ, ตฺวํ ภีโต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กสฺส, พฺราหฺมณ, ตฺวํ กุโต จ นาม ภยเหตุโต ภีโต หุตฺวา สทา ¶ อุทกโมตริ สพฺพกาลํ สายํ ปาตํ อุทกํ โอตริ. โอตริตฺวา จ เวธมาเนหิ กมฺปมาเนหิ คตฺเตหิ สรีราวยเวหิ สีตํ เวทยเส ภุสํ สีตทุกฺขํ อติวิย ทุสฺสหํ ปฏิสํเวทยสิ ปจฺจนุภวสิ.
ชานนฺตี วต มํ โภตีติ, โภติ ปุณฺณิเก, ตฺวํ ตํ อุปจิตํ ปาปกมฺมํ รุนฺธนฺตํ นิวารณสมตฺถํ กุสลํ กมฺมํ อิมินา อุทโกโรหเนน กโรนฺตํ มํ ชานนฺตี วต ปริปุจฺฉสิ.
นนุ อยมตฺโถ โลเก ปากโฏ เอว. กถาปิ มยํ ตุยฺหํ วทามาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย จ วุฑฺโฒ’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – วุฑฺโฒ วา ทหโร วา มชฺฌิโม วา โย โกจิ หึสาทิเภทํ ปาปกมฺมํ ¶ ปกุพฺพติ อติวิย กโรติ, โสปิ ภุสํ ปาปกมฺมนิรโต ทกาภิเสจนา สินาเนน ตโต ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ อจฺจนฺตเมว วิมุจฺจตีติ.
ตํ สุตฺวา ปุณฺณิกา ตสฺส ปฏิวจนํ เทนฺตี ‘‘โก นุ เต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, อชานนฺตสฺส ¶ อชานโกติ กมฺมวิปากํ อชานนฺตสฺส เต สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวิปากํ อชานโต อชานโก อวิทฺทสุ พาโล อุทกาภิเสจนเหตุ ปาปกมฺมโต ปมุจฺจตีติ, อิทํ อตฺถชาตํ โก นุ นาม อกฺขาสิ, น โส สทฺเธยฺยวจโน, นาปิ เจตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
อิทานิสฺส ตเมว ยุตฺติอภาวํ วิภาเวนฺตี ‘‘สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นาคาติ วิชฺฌสา. สุสุมาราติ กุมฺภีลา. เย จฺเ อุทเก จราติ เย จฺเปิ วาริโคจรา มจฺฉมกรนนฺทิยาวตฺตาทโย จ, เตปิ สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺติ เทวโลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ มฺเ, อุทกาภิเสจนา ปาปกมฺมโต มุตฺติ โหติ เจติ อตฺโถ.
โอรพฺภิกาติ อุรพฺภฆาตกา. สูกริกาติ สูกรฆาตกา. มจฺฉิกาติ เกวฏฺฏา. มิคพนฺธกาติ มาควิกา. วชฺฌฆาตาติ วชฺฌฆาตกมฺเม นิยุตฺตา.
ปฺุมฺปิ มา วเหยฺยุนฺติ อิมา อจิรวติอาทโย นทิโย ยถา ตยา ปุพฺเพ กตํ ปาปํ ตตฺถ อุทกาภิเสจเนน สเจ วหุํ นีหเรยฺยุํ, ตถา ตยา กตํ ปฺุมฺปิ อิมา นทิโย วเหยฺยุํ ปวาเหยฺยุํ. เตน ตฺวํ ปริพาหิโร ¶ อสฺส ตถา สติ เตน ปฺุกมฺเมน ตฺวํ ปริพาหิโร วิรหิโตว ภเวยฺยาติ น เจตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา วา อุทเกน อุทโกโรหกสฺส ปฺุปวาหนํ น โหติ, เอวํ ปาปปวาหนมฺปิ น โหติ เอว. กสฺมา? นฺหานสฺส ปาปเหตูนํ อปฺปฏิปกฺขภาวโต. โย ยํ วินาเสติ, โส ตสฺส ปฏิปกฺโข. ยถา อาโลโก อนฺธการสฺส, วิชฺชา จ อวิชฺชาย, น เอวํ นฺหานํ ปาปสฺส. ตสฺมา นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ ‘‘น อุทกาภิเสจนา ปาปโต ปริมุตฺตี’’ติ. เตนาห ภควา –
‘‘น อุทเกน สุจี โหติ, พหฺเวตฺถ นฺหายตี ชโน;
ยมฺหิ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, โส สุจี โส จ พฺราหฺมโณ’’ติ. (อุทา. ๙; เนตฺติ. ๑๐๔);
อิทานิ ¶ ยทิ ปาปํ ปวาเหตุกาโมสิ, สพฺเพน สพฺพํ ปาปํ มา กโรหีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส, พฺราหฺมณา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ตเมว พฺรหฺเม มากาสีติ ยโต ปาปโต ตฺวํ ภีโต, ตเมว ปาปํ พฺรหฺเม, พฺราหฺมณ, ตฺวํ มา อกาสิ. อุทโกโรหนํ ปน อีทิเส สีตกาเล เกวลํ สรีรเมว พาธติ ¶ . เตนาห – ‘‘มา เต สีตํ ฉวึ หเน’’ติ, อีทิเส สีตกาเล อุทกาภิเสจเนน ชาตสีตํ ตว สรีรจฺฉวึ มา หเนยฺย มา พาเธสีติ อตฺโถ.
กุมฺมคฺคปฏิปนฺนํ มนฺติ ‘‘อุทกาภิเสจเนน สุทฺธิ โหตี’’ติ อิมํ กุมฺมคฺคํ มิจฺฉาคาหํ ปฏิปนฺนํ ปคฺคยฺห ิตํ มํ. อริยมคฺคํ สมานยีติ ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๑๑๖, ๑๒๔; เปฏโก. ๒๙) อิมํ พุทฺธาทีหิ อริเยหิ คตมคฺคํ สมานยิ, สมฺมเทว อุปเนสิ, ตสฺมา โภติ อิมํ สาฏกํ ตุฏฺิทานํ อาจริยภาคํ ตุยฺหํ ททามิ, ตํ ปฏิคฺคณฺหาติ อตฺโถ.
สา ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปตุํ ‘‘ตุยฺเหว สาฏโก โหตุ, นาหมิจฺฉามิ สาฏก’’นฺติ วตฺวา ‘‘สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺสา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยทิ ตุวํ สกลาปายิเก สุคติยฺจ อผาสุกตาโทภคฺคตาทิเภทา ทุกฺขา ภายสิ. ยทิ เต ตํ อปฺปิยํ น อิฏฺํ. อาวิ วา ปเรสํ ปากฏภาเวน อปฺปฏิจฺฉนฺนํ ¶ กตฺวา กาเยน วาจาย ปาณาติปาตาทิวเสน วา ยทิ วา รโห อปากฏภาเวน ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา มโนทฺวาเรเยว อภิชฺฌาทิวเสน วา อณุมตฺตมฺปิ ปาปกํ ลามกํ กมฺมํ มากาสิ มา กริ. อถ ปน ตํ ปาปกมฺมํ อายตึ กริสฺสสิ, เอตรหิ กโรสิ วา, ‘‘นิรยาทีสุ จตูสุ อปาเยสุ มนุสฺเสสุ จ ตสฺส ผลภูตํ ทุกฺขํ อิโต เอตฺโต วา ปลายนฺเต มยิ นานุพนฺธิสฺสตี’’ติ อธิปฺปาเยน อุเปจฺจ สฺจิจฺจ ปลายโตปิ เต ตโต ปาปโต มุตฺติ โมกฺขา นตฺถิ, คติกาลาทิปจฺจยนฺตรสมวาเย สติ วิปจฺจเต เอวาติ อตฺโถ. ‘‘อุปฺปจฺจา’’ติ วา ปาโ, อุปฺปติตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ ปาปสฺส อกรเณน ทุกฺขาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฺุสฺส กรเณนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ภายสี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตาทินนฺติ ทิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺตํ. ยถา วา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา ปสฺสิตพฺพา, ตถา ปสฺสิตพฺพโต ตาทิ, ตํ ¶ พุทฺธํ สรณํ อุเปหีติ โยชนา. ธมฺมสงฺเฆสุปิ เอเสว นโย. ตาทีนํ วรพุทฺธานํ ธมฺมํ, อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สงฺฆํ สมูหนฺติ โยชนา. ตนฺติ สรณคมนํ สีลานํ สมาทานฺจ. เหหิตีติ ภวิสฺสติ.
โส ¶ พฺราหฺมโณ สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺาย อปรภาเค สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต น จิรสฺเสว เตวิชฺโช หุตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทาเนนฺโต ‘‘พฺรหฺมพนฺธู’’ติ คาถมาห.
ตสฺสตฺโถ – อหํ ปุพฺเพ พฺราหฺมณกุเล อุปฺปตฺติมตฺเตน พฺรหฺมพนฺธุ นามาสึ. ตถา อิรุพฺเพทาทีนํ อชฺเฌนาทิมตฺเตน เตวิชฺโช เวทสมฺปนฺโน โสตฺติโย นฺหาตโก จ นามาสึ. อิทานิ สพฺพโส พาหิตปาปตาย สจฺจพฺราหฺมโณ ปรมตฺถพฺราหฺมโณ, วิชฺชตฺตยาธิคเมน เตวิชฺโช, มคฺคาณสงฺขาเตน เวเทน สมนฺนาคตตฺตา เวทสมฺปนฺโน, นิตฺถรสพฺพปาปตาย นฺหาตโก จ อมฺหีติ. เอตฺถ จ พฺราหฺมเณน วุตฺตคาถาปิ อตฺตนา วุตฺตคาถาปิ ปจฺฉา เถริยา ปจฺเจกํ ภาสิตาติ สพฺพา เถริยา คาถา เอว ชาตาติ.
ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โสฬสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. วีสตินิปาโต
๑. อมฺพปาลีเถรีคาถาวณฺณนา
วีสตินิปาเต ¶ ¶ กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสาติอาทิกา อมฺพปาลิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี สิขิสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนา หุตฺวา ภิกฺขุนิสิกฺขาปทํ สมาทาย วิหรนฺตี, เอกทิวสํ สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ เจติยํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กโรนฺตี ปุเรตรํ คจฺฉนฺติยา ขีณาสวตฺเถริยา ขิปนฺติยา สหสา เขฬปิณฺฑํ เจติยงฺคเณ ปติตํ, ขีณาสวตฺเถริยา อปสฺสิตฺวา คตาย อยํ ปจฺฉโต ¶ คจฺฉนฺตี ตํ เขฬปิณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘กา นาม คณิกา อิมสฺมึ าเน เขฬปิณฺฑํ ปาเตสี’’ติ อกฺโกสิ. สา ภิกฺขุนิกาเล สีลํ รกฺขนฺตี คพฺภวาสํ ชิคุจฺฉิตฺวา โอปปาติกตฺตภาเว จิตฺตํ เปสิ. เตน จริมตฺตภาเว เวสาลิยํ ราชุยฺยาเน อมฺพรุกฺขมูเล โอปปาติกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตํ ทิสฺวา อุยฺยานปาโล นครํ อุปเนสิ. อมฺพรุกฺขมูเล นิพฺพตฺตตาย สา อมฺพปาลีตฺเวว โวหรียิตฺถ. อถ นํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ วิลาสกนฺตตาทิคุณวิเสสสมุทิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา ราชกุมารา อตฺตโน อตฺตโน ปริคฺคหํ กาตุกามา อฺมฺํ กลหํ อกํสุ. เตสํ กลหวูปสมตฺถํ ตสฺสา กมฺมสฺโจทิตา โวหาริกา ‘‘สพฺเพสํ โหตู’’ติ คณิกาฏฺาเน เปสุํ. สา สตฺถริ ปฏิลทฺธสทฺธา อตฺตโน อุยฺยาเน วิหารํ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน ปุตฺตสฺส วิมลโกณฺฑฺตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อตฺตโน สรีรสฺส ชราชิณฺณภาวํ นิสฺสาย สํเวคชาตา สงฺขารานํ อนิจฺจตํ วิภาเวนฺตี –
‘‘กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสา, เวลฺลิตคฺคา มม มุทฺธชา อหุํ;
เต ชราย สาณวากสาทิสา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘วาสิโตว ¶ สุรภี กรณฺฑโก, ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโช;
ตํ ชรายถ สโลมคนฺธิกํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กานนํว ¶ สหิตํ สุโรปิตํ, โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตํ;
ตํ ชราย วิรลํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตํ, โสภเต สุเวณีหิลงฺกตํ;
ตํ ชราย ขลิตํ สิรํ กตํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘จิตฺตการสุกตาว เลขิกา, โสภเร สุ ภมุกา ปุเร มม;
ตา ¶ ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ภสฺสรา สุรุจิรา ยถา มณี, เนตฺตเหสุมภินีลมายตา;
เต ชรายภิหตา น โสภเร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหตุงฺคสทิสี จ นาสิกา, โสภเต สุ อภิโยพฺพนํ ปติ;
สา ชราย อุปกูลิตา วิย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กงฺกณํว สุกตํ สุนิฏฺิตํ, โสภเร สุ มม กณฺณปาฬิโย;
ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสา ¶ , โสภเร สุ ทนฺตา ปุเร มม;
เต ชราย ขณฺฑิตา จาสิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว มธุรํ นิกูชิหํ;
ตํ ชราย ขลิตํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตา, โสภเต สุ คีวา ปุเร มม;
สา ชราย ภคฺคา วินามิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘วฏฺฏปลิฆสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ พาหา ปุเร มม;
ตา ชราย ยถา ปาฏลิพฺพลิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตา ¶ , โสภเร สุ หตฺถา ปุเร มม;
เต ชราย ยถา มูลมูลิกา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ปีนวฏฺฏสหิภุคฺคตา อุโภ, โสภเร สุ ถนกา ปุเร มม;
เถวิกีว ¶ ลมฺพนฺติ โนทกา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กฺจนสฺส ผลกํว สมฺมฏฺํ, โสภเต สุ กาโย ปุเร มม;
โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโต, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘นาคโภคสทิโสปมา ¶ อุโภ, โสภเร สุ อูรู ปุเร มม;
เต ชราย ยถา เวฬุนาฬิโย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตา, โสภเร สุ ชงฺฆา ปุเร มม;
ตา ชราย ติลทณฺฑการิว, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ตูลปุณฺณสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ ปาทา ปุเร มม;
เต ชราย ผุฏิตา วลีมตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘เอทิโส อหุ อยํ สมุสฺสโย, ชชฺชโร พหุทุขานมาลโย;
โสปเลปปติโต ชราฆโร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา’’ติ. –
อิมา คาถาโย อภาสิ.
ตตฺถ กาฬกาติ กาฬกวณฺณา. ภมรวณฺณสาทิสาติ กาฬกา โหนฺตาปิ ภมรสทิสวณฺณา, สินิทฺธนีลาติ อตฺโถ. เวลฺลิตคฺคาติ กฺุจิตคฺคา, มูลโต ปฏฺาย ยาว อคฺคา กฺุจิตา เวลฺลิตาติ อตฺโถ. มุทฺธชาติ เกสา. ชรายาติ ชราเหตุ ชราย อุปหตโสภา. สาณวากสาทิสาติ สาณสทิสา วากสทิสา จ, สาณวากสทิสา เจว มกจิวากสทิสา จาติปิ อตฺโถ. สจฺจวาทิวจนํ อนฺถาติ สจฺจวาทิโน อวิตถวาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ¶ ‘‘สพฺพํ รูปํ อนิจฺจํ ชราภิภูต’’นฺติอาทิวจนํ อนฺถา ยถาภูตเมว, น ตตฺถ วิตถํ อตฺถีติ.
วาสิโตว สุรภี กรณฺฑโกติ ปุปฺผคนฺธวาสจุณฺณาทีหิ วาสิโต วาสํ คาหาปิโต ปสาธนสมุคฺโค วิย สุคนฺธิ. ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโชติ จมฺปกสุมนมลฺลิกาทีหิ ปุปฺเผหิ ปูริโต ¶ ปุพฺเพ มม เกสกลาโป นิมฺมโลติ ¶ อตฺโถ. ตนฺติ อุตฺตมงฺคชํ. อถ ปจฺฉา เอตรหิ สโลมคนฺธิกํ ปากติกโลมคนฺธเมว ชาตํ. อถ วา สโลมคนฺธิกนฺติ เมณฺฑกโลเมหิ สมานคนฺธํ. ‘‘เอฬกโลมคนฺธ’’นฺติปิ วทนฺติ.
กานนํว สหิตํ สุโรปิตนฺติ สุฏฺุ โรปิตํ สหิตํ ฆนสนฺนิเวสํ อุทฺธเมว อุฏฺิตํ อุชุกทีฆสาขํ อุปวนํ วิย. โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตนฺติ ปุพฺเพ โกจฺเฉน สุวณฺณสูจิยา จ เกสชฏาวิชฏเนน วิจิตคฺคํ หุตฺวา โสภิตํ, ฆนภาเวน วา โกจฺฉสทิสํ หุตฺวา ปณทนฺตสูจีหิ วิจิตคฺคตาย โสภิตํ. ตนฺติ อุตฺตมงฺคชํ. วิรลํ ตหึ ตหินฺติ ตตฺถ ตตฺถ วิรลํ วิลูนเกสํ.
กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตนฺติ สุวณฺณวชิราทีหิ วิภูสิตํ กณฺหเกสปฺุชกํ. เย ปน ‘‘สณฺหกณฺฑกสุวณฺณมณฺฑิต’’นฺติ ปนฺติ, เตสํ สณฺหาหิ สุวณฺณสูจีหิ ชฏาวิชฏเนน มณฺฑิตนฺติ อตฺโถ. โสภเต สุเวณีหิลงฺกตนฺติ สุนฺทเรหิ ราชรุกฺขมาลา สทิเสหิ เกสเวณีหิ อลงฺกตํ หุตฺวา ปุพฺเพ วิราชเต. ตํ ชราย ขลิตํ สิรํ กตนฺติ ตํ ตถา โสภิตํ สิรํ อิทานิ ชราย ขลิตํ ขณฺฑิตาขณฺฑิตํ วิลูนเกสํ กตํ.
จิตฺตการสุกตาว เลขิกาติ จิตฺตกาเรน สิปฺปินา นีลาย วณฺณธาตุยา สุฏฺุ กตา เลขา วิย โสภเต. สุ ภมุกา ปุเร มมาติ สุนฺทรา ภมุกา ปุพฺเพ มม โสภนํ คตา. วลิภิปฺปลมฺพิตาติ นลาฏนฺเต อุปฺปนฺนาหิ วลีหิ ปลมฺพนฺตา ิตา.
ภสฺสราติ ภาสุรา. สุรุจิราติ สุฏฺุ รุจิรา. ยถา มณีติ มณิมุทฺทิกา วิย. เนตฺตเหสุนฺติ สุเนตฺตา อเหสุํ. อภินีลมายตาติ อภินีลา หุตฺวา อายตา. เตติ เนตฺตา. ชรายภิหตาติ ชราย อภิหตา.
สณฺหตุงฺคสทิสี ¶ ¶ จาติ สณฺหา ตุงฺคา เสสมุขาวยวานํ อนุรูปา จ. โสภเตติ วฏฺเฏตฺวา ปิตหริตาลวฏฺฏิ วิย มม นาสิกา โสภเต. สุ อภิโยพฺพนํ ปตีติ สุนฺทเร อภินวโยพฺพนกาเล สา นาสิกา อิทานิ ชราย นิวาริตโสภตาย ปริเสทิตา วิย วรตฺตา วิย จ ชาตา.
กงฺกณํว ¶ สุกตํ สุนิฏฺิตนฺติ สุปริกมฺมกตํ สุวณฺณกงฺกณํ วิย วฏฺฏุลภาวํ สนฺธาย วทติ. โสภเรติ โสภนฺเต. ‘‘โสภนฺเต’’ติ วา ปาโ. สุอิติ นิปาตมตฺตํ. กณฺณปาฬิโยติ กณฺณคนฺธา. วลิภิปฺปลมฺพิตาติ ตหึ ตหึ อุปฺปนฺนวลีหิ วลิตา หุตฺวา วฏฺฏนิยา ปณามิตวตฺถขนฺธา วิย ภสฺสนฺตา โอลมฺพนฺติ.
ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสาติ กทลิมกุลสทิสวณฺณสณฺานา. ขณฺฑิตาติ เภทนปตเนหิ ขณฺฑิตา ขณฺฑภาวํ คตา. อสิตาติ วณฺณเภเทน อสิตภาวํ คตา.
กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว มธุรํ นิกูชิหนฺติ วนสณฺเฑ โคจรจรเณน วนสณฺฑจารินี กานเน อนุสํคีตนิวาสินี โกกิลา วิย มธุราลาปํ นิกูชิหํ. ตนฺติ นิกูชิตํ อาลาปํ. ขลิตํ ตหึ ตหินฺติ ขณฺฑทนฺตาทิภาเวน ตตฺถ ตตฺถ ปกฺขลิตํ ชาตํ.
สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตาติ สุฏฺุ ปมชฺชิตา สณฺหา สุวณฺณสงฺขา วิย. ภคฺคา วินามิตาติ มํสปริกฺขเยน วิภูตสิราชาลตาย ภคฺคา หุตฺวา วินตา.
วฏฺฏปลิฆสทิโสปมาติ วฏฺเฏน ปลิฆทณฺเฑน สมสมา. ตาติ ตา อุโภปิ พาหาโย. ยถา ปาฏลิพฺพลิตาติ ชชฺชรภาเวน ปลิตปาฏลิสาขาสทิสา.
สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตาติ ¶ สุวณฺณมยาหิ มฏฺภาสุราหิ มุทฺทิกาหิ วิภูสิตา. ยถา มูลมูลิกาติ มูลกกณฺฑสทิสา.
ปีนวฏฺฏสหิตุคฺคตาติ ปีนา วฏฺฏา อฺมฺํ สหิตาว หุตฺวา อุคฺคตา อุทฺธมุขา. โสภเต สุ ถนกา ปุเร มมาติ มม อุโภปิ ถนา ยถาวุตฺตรูปา หุตฺวา สุวณฺณกลสิโย วิย โสภึสุ. ปุถุตฺเต หิ อิทํ เอกวจนํ, อตีตตฺเถ จ วตฺตมานวจนํ. เถวิกีว ลมฺพนฺติ โนทกาติ ¶ เต อุโภปิ เม ถนา โนทกา คลิตชลา เวณุทณฺฑเก ปิตอุทกภสฺมา วิย ลมฺพนฺติ.
กฺจนผลกํว ¶ สมฺมฏฺนฺติ ชาติหิงฺคุลเกน มกฺขิตฺวา จิรปริมชฺชิตโสวณฺณผลกํ วิย โสภเต. โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโตติ โส มม กาโย อิทานิ สุขุมาหิ วลีหิ ตหึ ตหึ วิตโต วลิตฺตจตํ อาปนฺโน.
นาคโภคสทิโสปมาติ หตฺถินาคสฺส หตฺเถน สมสมา. หตฺโถ หิ อิธ ภฺุชติ เอเตนาติ โภโคติ วุตฺโต. เตติ อูรุโย. ยถา เวฬุนาฬิโยติ อิทานิ เวฬุปพฺพสทิสา อเหสุํ.
สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตาติ สินิทฺธมฏฺเหิ สุวณฺณนูปุเรหิ วิภูสิตา. ชงฺฆาติ อฏฺิชงฺฆาโย. ตาติ ตา ชงฺฆาโย. ติลทณฺฑการิวาติ อปฺปมํสโลหิตตฺตา กิสภาเวน ลูนาวสิฏฺวิสุกฺขติลทณฺฑกา วิย อเหสุํ. ร-กาโร ปทสนฺธิกโร.
ตูลปุณฺณสทิโสปมาติ มุทุสินิทฺธภาเวน สิมฺพลิตูลปุณฺณปลิคุณฺิตอุปาหนสทิสา. เต มม ปาทา อิทานิ ผุฏิตา ผลิตา, วลีมตา วลิมนฺโต ชาตา.
เอทิโสติ เอวรูโป. อหุ อโหสิ ยถาวุตฺตปฺปกาโร. อยํ สมุสฺสโยติ อยํ มม กาโย. ชชฺชโรติ สิถิลาพนฺโธ ¶ . พหุทุขานมาลโยติ ชราทิเหตุกานํ พหูนํ ทุกฺขานํ อาลยภูโต. โสปเลปปติโตติ โส อยํ สมุสฺสโย อปเลปปติโต อภิสงฺขาราเลปปริกฺขเยน ปติโต ปาตาภิมุโขติ อตฺโถ. โสปิ อเลปปติโตติ วา ปทวิภาโค, โส เอวตฺโถ. ชราฆโรติ ชิณฺณฆรสทิโส. ชราย วา ฆรภูโต อโหสิ. ตสฺมา สจฺจวาทิโน ธมฺมานํ ยถาภูตํ สภาวํ สมฺมเทว ตฺวา กถนโต อวิตถวาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส มม สตฺถุวจนํ อนฺถา.
เอวํ อยํ เถรี อตฺตโน อตฺตภาเว อนิจฺจตาย สลฺลกฺขณมุเขน สพฺเพสุปิ เตภูมกธมฺเมสุ อนิจฺจตํ อุปธาเรตฺวา ตทนุสาเรน ตตฺถ ทุกฺขลกฺขณํ อนตฺตลกฺขณฺจ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺตี มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๔.๒๐๔-๒๑๙) –
‘‘โย ¶ รํสิผุสิตาเวโฬ, ผุสฺโส นาม มหามุนิ;
ตสฺสาหํ ภคินี อาสึ, อชายึ ขตฺติเย กุเล.
‘‘ตสฺส ¶ ธมฺมํ สุณิตฺวาหํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;
มหาทานํ ททิตฺวาน, ปตฺถยึ รูปสมฺปทํ.
‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, สิขี โลกคฺคนายโก;
อุปฺปนฺโน โลกปชฺโชโต, ติโลกสรโณ ชิโน.
‘‘ตทารุณปุเร รมฺเม, พฺรหฺมฺกุลสมฺภวา;
วิมุตฺตจิตฺตํ กุปิตา, ภิกฺขุนึ อภิสาปยึ.
‘‘เวสิกาว อนาจารา, ชินสาสนทูสิกา;
เอวํ อกฺโกสยิตฺวาน, เตน ปาเปน กมฺมุนา.
‘‘ทารุณํ นิรยํ คนฺตฺวา, มหาทุกฺขสมปฺปิตา;
ตโต จุตา มนุสฺเสสุ, อุปปนฺนา ตปสฺสินี.
‘‘ทสชาติสหสฺสานิ, คณิกตฺตมการยึ;
ตมฺหา ปาปา น มุจฺจิสฺสํ, ภุตฺวา ทุฏฺวิสํ ยถา.
‘‘พฺรหฺมจริยมเสวิสฺสํ, กสฺสเป ชินสาสเน;
เตน กมฺมวิปาเกน, อชายึ ติทเส ปุเร.
‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, อโหสึ โอปปาติกา;
อมฺพสาขนฺตเร ชาตา, อมฺพปาลีติ เตนหํ.
‘‘ปริวุตา ปาณโกฏีหิ, ปพฺพชึ ชินสาสเน;
ปตฺตาหํ ¶ อจลํ านํ, ธีตา พุทฺธสฺส โอรสา.
‘‘อิทฺธีสุ ¶ จ วสี โหมิ, โสตธาตุวิสุทฺธิยา;
เจโตปริยาณสฺส, วสี โหมิ มหามุนิ.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;
าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺสฺส วาหสา.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวา.
‘‘สฺวาคตํ ¶ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน ตา เอว คาถา ปจฺจุทาหาสีติ.
อมฺพปาลีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. โรหินีเถรีคาถาวณฺณนา
สมณาติ โภติ สุปีติอาทิกา โรหินิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิโต เอกนวุติกปฺเป วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, เอกทิวสํ พนฺธุมตีนคเร ภควนฺตํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา ปูวสฺส ปูเรตฺวา ภควโต ทตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อนุกฺกเมน อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ มหาวิภวสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา โรหินีติ ลทฺธนามา วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถริ เวสาลิยํ วิหรนฺเต วิหารํ คนฺตวา ธมฺมํ สุตฺวา โสตาปนฺนา หุตฺวา มาตาปิตูนํ ธมฺมํ เทเสตฺวา สาสเน ปสาทํ อุปฺปาเทตฺวา ¶ เต อนุชานาเปตฺวา สยํ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘นคเร พนฺธุมติยา, วิปสฺสิสฺส มเหสิโน;
ปิณฺฑาย วิจรนฺตสฺส, ปูเวทาสิมหํ ตทา.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘ฉตฺตึสเทวราชูนํ ¶ ¶ , มเหสิตฺตมการยึ;
ปฺาสจกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘มนสา ปตฺถิตา นาม, สพฺพา มยฺหํ สมิชฺฌถ;
สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มนุเชสุ จ.
‘‘ปจฺฉิเม ภวสมฺปตฺเต, ชาโต วิปฺปกุเล อหํ;
โรหินี นาม นาเมน, าตเกหิ ปิยายิตา.
‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ธมฺมํ สุตฺวา ยถาตถํ;
สํวิคฺคมานสา หุตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘โยนิโส ปทหนฺตีนํ, อรหตฺตมปาปุณึ;
เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปูวทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปุพฺเพ โสตาปนฺนกาเล ปิตรา อตฺตนา จ วจนปฏิวจนวเสน วุตฺตคาถา อุทานวเสน ภาสนฺตี –
‘‘สมณาติ ¶ โภติ สุปิ, สมณาติ ปพุชฺฌสิ;
สมณาเนว กิตฺเตสิ, สมณี นูน ภวิสฺสสิ.
‘‘วิปุลํ อนฺนฺจ ปานฺจ, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;
โรหินี ทานิ ปุจฺฉามิ, เกน เต สมณา ปิยา.
‘‘อกมฺมกามา อลสา, ปรทตฺตูปชีวิโน;
อาสํสุกา สาทุกามา, เกน เต สมณา ปิยา.
‘‘จิรสฺสํ วต มํ ตาต, สมณานํ ปริปุจฺฉสิ;
เตสํ เต กิตฺตยิสฺสามิ, ปฺาสีลปรกฺกมํ.
‘‘กมฺมกามา อนลสา, กมฺมเสฏฺสฺส การกา;
ราคํ โทสํ ปชหนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘ตีณิ ปาปสฺส มูลานิ, ธุนนฺติ สุจิการิโน;
สพฺพํ ปาปํ ปหีเนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘กายกมฺมํ ¶ สุจิ เนสํ, วจีกมฺมฺจ ตาทิสํ;
มโนกมฺมํ สุจิ เนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘วิมลา ¶ สงฺขมุตฺตาว, สุทฺธา สนฺตรพาหิรา;
ปุณฺณา สุกฺกาน ธมฺมานํ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;
อตฺถํ ธมฺมฺจ เทเสนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;
เอกคฺคจิตฺตา สติมนฺโต, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘ทูรงฺคมา ¶ สติมนฺโต, มนฺตภาณี อนุทฺธตา;
ทุกฺขสฺสนฺตํ ปชานนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘ยสฺมา คามา ปกฺกมนฺติ, น วิโลเกนฺติ กิฺจนํ;
อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘น เต สํ โกฏฺเ โอเปนฺติ, น กุมฺภึ น ขโฬปิยํ;
ปรินิฏฺิตเมสานา, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘น เต หิรฺํ คณฺหนฺติ, น สุวณฺณํ น รูปิยํ;
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘นานากุลา ปพฺพชิตา, นานาชนปเทหิ จ;
อฺมฺํ ปิหยนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘อตฺถาย วต โน โภติ, กุเล ชาตาสิ โรหินี;
สทฺธา พุทฺเธ จ ธมฺเม จ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารวา.
‘‘ตุวฺเหตํ ปชานาสิ, ปฺุกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ;
อมฺหมฺปิ เอเต สมณา, ปฏิคฺคณฺหนฺติ ทกฺขิณํ.
‘‘ปติฏฺิโต เหตฺถ ยฺโ, วิปุโล โน ภวิสฺสติ;
สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.
‘‘อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;
สมาทิยาหิ สีลานิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ.
‘‘อุเปมิ ¶ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;
สมาทิยามิ สีลานิ, ตํ เม อตฺถาย เหหิติ.
‘‘พฺรหฺมพนฺธุ ¶ ปุเร อาสึ, โส อิทานิมฺหิ พฺราหฺมโณ;
เตวิชฺโช โสตฺติโย จมฺหิ, เวทคู จมฺหิ นฺหาตโก’’ติ. –
อิมา คาถา ปจฺจุทาหาสิ.
ตตฺถ อาทิโต ติสฺโส คาถา อตฺตโน ธีตุ ภิกฺขูสุ สมฺมุตึ อนิจฺฉนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ สมณาติ โภติ สุปีติ โภติ ตฺวํ สุปนกาเลปิ ¶ ‘‘สมณา สมณา’’ติ กิตฺเตนฺตี สมณปฏิพทฺธํเยว กถํ กเถนฺตี สุปสิ. สมณาติ ปพุชฺฌสีติ สุปนโต อุฏฺหนฺตีปิ ‘‘สมณา’’อิจฺเจวํ วตฺวา ปพุชฺฌสิ นิทฺทาย วุฏฺาสิ. สมณาเนว กิตฺเตสีติ สพฺพกาลมฺปิ สมเณ เอว สมณานเมว วา คุเณ กิตฺเตสิ อภิตฺถวสิ. สมณี นูน ภวิสฺสสีติ คิหิรูเปน ิตาปิ จิตฺเตน สมณี เอว มฺเ ภวิสฺสสิ. อถ วา สมณี นูน ภวิสฺสสีติ อิทานิ คิหิรูเปน ิตาปิ น จิเรเนว สมณี เอว มฺเ ภวิสฺสสิ สมเณสุ เอว นินฺนโปณภาวโต.
ปเวจฺฉสีติ เทสิ. โรหินี ทานิ ปุจฺฉามีติ, อมฺม โรหินิ, ตํ อหํ อิทานิ ปุจฺฉามีติ พฺราหฺมโณ อตฺตโน ธีตรํ ปุจฺฉนฺโต อาห. เกน เต สมณา ปิยาติ, อมฺม โรหินิ, ตฺวํ สยนฺตีปิ ปพุชฺฌนฺตีปิ อฺทาปิ สมณานเมว คุเณ กิตฺตยสิ, เกน นาม การเณน ตุยฺหํ สมณา ปิยายิตพฺพา ชาตาติ อตฺโถ.
อิทานิ พฺราหฺมโณ สมเณสุ โทสํ ธีตุ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อกมฺมกามา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อกมฺมกามาติ น กมฺมกามา, อตฺตโน ปเรสฺจ อตฺถาวหํ กิฺจิ กมฺมํ น กาตุกามา. อลสาติ กุสีตา. ปรทตฺตูปชีวิโนติ ปเรหิ ทินฺเนเนว อุปชีวนสีลา. อาสํสุกาติ ตโต เอว ฆาสจฺฉาทนาทีนํ อาสีสนกา. สาทุกามาติ สาทุํ มธุรเมว อาหารํ อิจฺฉนกา. สพฺพเมตํ พฺราหฺมโณ สมณานํ คุเณ อชานนฺโต อตฺตนาว ปริกปฺปิตํ โทสมาห.
ตํ ¶ สุตฺวา โรหินี ‘‘ลทฺโธ ทานิ เม โอกาโส อยฺยานํ คุเณ กเถตุ’’นฺติ ตุฏฺมานสา ภิกฺขูนํ คุเณ กิตฺเตตุกามา ปมํ ตาว เตสํ กิตฺตเน โสมนสฺสํ ปเวเทนฺตี ‘‘จีรสฺสํ วต มํ, ตาตา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ จิรสฺสํ วตาติ จิเรน วต. ตาตาติ ปิตรํ อาลปติ. สมณานนฺติ สมเณ สมณานํ วา มยฺหํ ปิยายิตพฺพํ ปริปุจฺฉสิ. เตสนฺติ สมณานํ. ปฺาสีลปรกฺกมนฺติ ¶ ปฺฺจ สีลฺจ อุสฺสาหฺจ.
กิตฺตยิสฺสามีติ ¶ กถยิสฺสามิ. ปฏิชาเนตฺวา เต กิตฺเตนฺตี ‘‘อกมฺมกามา อลสา’’ติ เตน วุตฺตํ โทสํ ตาว นิพฺเพเตฺวา ตปฺปฏิปกฺขภูตํ คุณํ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺมกามาติ วตฺตปฏิวตฺตาทิเภทํ กมฺมํ สมณกิจฺจํ ปริปูรณวเสน กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ กมฺมกามา. ตตฺถ ยุตฺตปฺปยุตฺตา หุตฺวา อุฏฺาย สมุฏฺาย วายมนโต น อลสาติ อนลสา. ตํ ปน กมฺมํ เสฏฺํ อุตฺตมํ นิพฺพานาวหเมว กโรนฺตีติ กมฺมเสฏฺสฺส การกา. กโรนฺตา ปน ตํ ปฏิปตฺติยา อนวชฺชภาวโต ราคํ โทสํ ปชหนฺติ, ยถา ราคโทสา ปหียนฺติ, เอวํ สมณา กมฺมํ กโรนฺติ. เตน เม สมณา ปิยาติ เตน ยถาวุตฺเตน สมฺมาปฏิปชฺชเนน มยฺหํ สมณา ปิยายิตพฺพาติ อตฺโถ.
ตีณิ ปาปสฺส มูลานีติ โลภโทสโมหสงฺขาตานิ อกุสลสฺส ตีณิ มูลานิ. ธุนนฺตีติ นิคฺฆาเตนฺติ, ปชหนฺตีติ อตฺโถ. สุจิการิโนติ อนวชฺชกมฺมการิโน. สพฺพํ ปาปํ ปหีเนสนฺติ อคฺคมคฺคาธิคเมน เอสํ สพฺพมฺปิ ปาปํ ปหีนํ.
เอวํ ‘‘สมณา สุจิการิโน’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กายกมฺม’’นฺติ คาถมาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
วิมลา สงฺขมุตฺตาวาติ สุโธตสงฺขา วิย มุตฺตา วิย จ วิคตมลา ราคาทิมลรหิตา. สุทฺธา สนฺตรพาหิราติ สนฺตรฺจ พาหิรฺจ สนฺตรพาหิรํ. ตโต สนฺตรพาหิรโต สุทฺธา, สุทฺธาสยปโยคาติ อตฺโถ. ปุณฺณา สุกฺกาน ธมฺมานนฺติ เอกนฺตสุกฺเกหิ อนวชฺชธมฺเมหิ ปริปุณฺณา, อเสเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ.
สุตฺตเคยฺยาทิพหุํ ¶ สุตํ เอเตสํ, สุเตน วา อุปฺปนฺนาติ พหุสฺสุตา, ปริยตฺติพาหุสจฺเจน ปฏิเวธพาหุสจฺเจน จ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ตเมว ทุวิธมฺปิ ธมฺมํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมธรา. สตฺตานํ อาจารสมาจารสิกฺขาปเทน อรียนฺตีติ อริยา. ธมฺเมน าเยน ชีวนฺตีติ ธมฺมชีวิโน. อตฺถํ ธมฺมฺจ เทเสนฺตีติ ¶ ภาสิตตฺถฺจ เทสนาธมฺมฺจ กเถนฺติ ปกาเสนฺติ. อถ วา อตฺถโต อนเปตํ ธมฺมโต อนเปตฺจ เทเสนฺติ อาจิกฺขนฺติ.
เอกคฺคจิตฺตาติ สมาหิตจิตฺตา. สติมนฺโตติ อุปฏฺิตสติโน.
ทูรงฺคมาติ ¶ อรฺคตา, มนุสฺสูปจารํ มฺุจิตฺวา ทูรํ คจฺฉนฺตา, อิทฺธานุภาเวน วา ยถารุจิตํ ทูรํ านํ คจฺฉนฺตีติ ทูรงฺคมา. มนฺตา วุจฺจติ ปฺา, ตาย ภณนสีลตาย มนฺตภาณี. น อุทฺธตาติ อนุทฺธตา, อุทฺธจฺจรหิตา วูปสนฺตจิตฺตา. ทุกฺขสฺสนฺตํ ปชานนฺตีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตภูตํ นิพฺพานํ ปฏิวิชฺฌนฺติ.
น วิโลเกนฺติ กิฺจนนฺติ ยโต คามโต ปกฺกมนฺติ, ตสฺมึ คาเม กฺจิ สตฺตํ วา สงฺขารํ วา อเปกฺขาวเสน น โอโลเกนฺติ, อถ โข ปน อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ ปกฺกมนฺติ.
น เต สํ โกฏฺเ โอเปนฺตีติ เต สมณา สํ อตฺตโน สนฺตกํ สาปเตยฺยํ โกฏฺเ น โอเปนฺติ น ปฏิสาเมตฺวา เปนฺติ ตาทิสสฺส ปริคฺคหสฺส อภาวโต. กุมฺภินฺติ กุมฺภิยํ. ขโฬปิยนฺติ ปจฺฉิยํ. ปรินิฏฺิตเมสานาติ ปรกุเลสุ ปเรสํ อตฺถาย สิทฺธเมว ฆาสํ ปริเยสนฺตา.
หิรฺนฺติ กหาปณํ. รูปิยนฺติ รชตํ. ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺตีติ อตีตํ อนนุโสจนฺตา อนาคตฺจ อปจฺจาสีสนฺตา ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตนฺติ.
อฺมฺํ ปิหยนฺตีติ อฺมฺสฺมึ เมตฺตึ กโรนฺติ. ‘‘ปิหายนฺติ’’ปิ ปาโ, โส เอว อตฺโถ.
เอวํ โส พฺราหฺมโณ ธีตุยา สนฺติเก ภิกฺขูนํ คุเณ สุตฺวา ปสนฺนมานโส ธีตรํ ปสํสนฺโต ‘‘อตฺถาย วตา’’ติอาทิมาห.
อมฺหมฺปีติ อมฺหากมฺปิ. ทกฺขิณนฺติ เทยฺยธมฺมํ.
เอตฺถาติ ¶ เอเตสุ สมเณสุ. ยฺโติ ทานธมฺโม. วิปุโลติ วิปุลผโล. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ พฺราหฺมโณ สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺิโต อปรภาเค สฺชาตสํเวโค ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ¶ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺเต ¶ ปติฏฺาย อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทาเนนฺโต ‘‘พฺรหฺมพนฺธู’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตเยว.
โรหินีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. จาปาเถรีคาถาวณฺณนา
ลฏฺิหตฺโถ ปุเร อาสีติอาทิกา จาปาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, อนุกฺกเมน อุปจิตกุสลมูลา สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท วงฺคหารชนปเท อฺตรสฺมึ มิคลุทฺทกคาเม เชฏฺกมิคลุทฺทกสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, จาปาติสฺสา นามํ อโหสิ. เตน จ สมเยน อุปโก อาชีวโก โพธิมณฺฑโต ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ พาราณสึ อุทฺทิสฺส คจฺฉนฺเตน สตฺถารา สมาคโต ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต, กํสิ ตฺวํ, อาวุโส, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕) ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘สพฺพาภิภู สพฺพวิทูหมสฺมิ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโต;
สพฺพฺชโห ตณฺหากฺขเย วิมุตฺโต, สยํ อภิฺาย กมุทฺทิเสยฺยํ. (ธ. ป. ๓๕๓; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; ม. นิ. ๑.๒๘๕);
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล.
‘‘อหฺหิ ¶ อรหา โลเก, อหํ สตฺถา อนุตฺตโร;
เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สีติภูโตมฺหิ นิพฺพุโต.
‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ, คจฺฉามิ กาสินํ ปุรํ;
อนฺธีภูตสฺมึ โลกสฺมึ, อาหฺฉํ อมตทุนฺทุภิ’’นฺติ. (มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; ม. นิ. ๑.๒๘๕) –
สตฺถารา ¶ อตฺตโน สพฺพฺุพุทฺธภาเว ธมฺมจกฺกปวตฺตเน จ ปเวทิเต ปสนฺนจิตฺโต โส ‘‘หุเปยฺยปาวุโส, อรหสิ อนนฺตชิโน’’ติ (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕) วตฺวา อุมฺมคฺคํ คเหตฺวา ปกฺกนฺโต วงฺคหารชนปทํ ¶ อคมาสิ. โส ตตฺถ เอกํ มิคลุทฺทกคามกํ อุปนิสฺสาย วาสํ กปฺเปสิ. ตํ ตตฺถ เชฏฺกมิคลุทฺทโก อุปฏฺาสิ. โส เอกทิวสํ ทูรํ มิควํ คจฺฉนฺโต ‘‘มยฺหํ อรหนฺเต มา ปมชฺชี’’ติ อตฺตโน ธีตรํ จาปํ อาณาเปตฺวา อคมาสิ สทฺธึ ปุตฺตภาตุเกหิ. สา จสฺส ธีตา อภิรูปา โหติ ทสฺสนียา.
อถ โข อุปโก อาชีวโก ภิกฺขาจารเวลายํ มิคลุทฺทกสฺส ฆรํ คโต ปริวิสิตุํ อุปคตํ จาปํ ทิสฺวา ราเคน อภิภูโต ภฺุชิตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต ภาชเนน ภตฺตํ อาทาย วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ภตฺตํ เอกมนฺเต นิกฺขิปิตฺวา ‘‘สเจ จาปํ ลภิสฺสามิ, ชีวามิ, โน เจ, มริสฺสามี’’ติ นิราหาโร นิปชฺชิ. สตฺตเม ทิวเส มิคลุทฺทโก อาคนฺตฺวา ธีตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ มยฺหํ อรหนฺเต น ปมชฺชี’’ติ? สา ‘‘เอกทิวสเมว อาคนฺตฺวา ปุน นาคตปุพฺโพ’’ติ อาห. มิคลุทฺทโก จ ตาวเทวสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, อผาสุก’’นฺติ ปาเท ปริมชฺชนฺโต ปุจฺฉิ. อุปโก นิตฺถุนนฺโต ปริวตฺตติเยว. โส ‘‘วทถ, ภนฺเต, ยํ มยา สกฺกา กาตุํ, สพฺพํ ตํ กริสฺสามี’’ติ อาห. อุปโก เอเกน ปริยาเยน อตฺตโน อชฺฌาสยํ อาโรเจสิ. ‘‘อิตโร ชานาสิ ปน, ภนฺเต, กิฺจิ สิปฺป’’นฺติ. ‘‘น ชานามี’’ติ. ‘‘น, ภนฺเต, กิฺจิ สิปฺปํ อชานนฺเตน สกฺกา ฆรํ อาวสิตุ’’นฺติ. โส อาห – ‘‘นาหํ กิฺจิ สิปฺปํ ชานามิ, อปิจ ตุมฺหากํ มํสหารโก ภวิสฺสามิ, มํสฺจ วิกฺกิณิสฺสามี’’ติ. มาควิโก ‘‘อมฺหากมฺปิ เอตเทว รุจฺจตี’’ติ อุตฺตรสาฏกํ ทตฺวา อตฺตโน สหายกสฺส เคเห กติปาหํ วสาเปตฺวา ตาทิเส ทิวเส ฆรํ อาเนตฺวา ธีตรํ อทาสิ.
อถ ¶ กาเล คจฺฉนฺเต เตสํ สํวาสมนฺวาย ปุตฺโต นิพฺพตฺติ, สุภทฺโทติสฺส นามํ อกํสุ. จาปา ตสฺส โรทนกาเล ‘‘อุปกสฺส ปุตฺต, อาชีวกสฺส ปุตฺต, มํสหารกสฺส ปุตฺต, มา โรทิ มา โรที’’ติอาทินา ปุตฺตโตสนคีเตน อุปกํ อุปฺปณฺเฑสิ. โส ‘‘มา ตฺวํ จาเป มํ ‘อนาโถ’ติ มฺิ, อตฺถิ เม สหาโย อนนฺตชิโน นาม, ตสฺสาหํ สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ อาห. จาปา ‘‘เอวมยํ อฏฺฏียตี’’ติ ตฺวา ปุนปฺปุนํ ตถา กเถสิเยว. โส เอกทิวสํ ตาย ตถา วุตฺโต กุชฺฌิตฺวา คนฺตุมารทฺโธ. ตาย ตํ ตํ วตฺวา อนุนียมาโนปิ สฺตฺตึ อนาคจฺฉนฺโต ปจฺฉิมทิสาภิมุโข ปกฺกามิ.
ภควา ¶ ¶ จ เตน สมเยน สาวตฺถิยํ เชตวเน วิหรนฺโต ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิ – ‘‘โย, ภิกฺขเว, อชฺช ‘กุหึ อนนฺตชิโน’ติ อิธาคนฺตฺวา ปุจฺฉติ, ตํ มม สนฺติกํ เปเสถา’’ติ. อุปโกปิ ‘‘กุหึ อนนฺตชิโน วสตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปุจฺฉนฺโต อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ คนฺตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา วิหารมชฺเฌ ตฺวา ‘‘กุหึ อนนฺตชิโน’’ติ ปุจฺฉิ. ตํ ภิกฺขู ภควโต สนฺติกํ นยึสุ. โส ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ชานาถ มํ ภควา’’ติ อาห. ‘‘อาม, ชานามิ, กุหึ ปน ตฺวํ เอตฺตกํ กาลํ วสี’’ติ? ‘‘วงฺคหารชนปเท, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อุปก, อิทานิ มหลฺลโก ชาโต ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ? ‘‘ปพฺพชิสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. สตฺถา อฺตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมํ ปพฺพาเชหี’’ติ. โส ตํ ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิโต สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนํ อนุยฺุชนฺโต น จิรสฺเสว อนาคามิผเล ปติฏฺาย กาลํ กตฺวา อวิเหสุ นิพฺพตฺโต, นิพฺพตฺตกฺขเณเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อวิเหสุ นิพฺพตฺตมตฺตา สตฺต ชนา อรหตฺตํ ปตฺตา, เตสํ อยํ อฺตโร. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อวิหํ อุปปนฺนาเส, วิมุตฺตา สตฺต ภิกฺขโว;
ราคโทสปริกฺขีณา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติกํ.
‘‘อุปโกปลคณฺโฑ จ, ปกฺกุสาติ จ เต ตโย;
ภทฺทิโย ขณฺฑเทโว จ, พาหุรคฺคิ จ สิงฺคิโย;
เต หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ทิพฺพโยคํ อุปจฺจคุ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๐๕);
อุปเก ¶ ปน ปกฺกนฺเต นิพฺพินฺทหทยา จาปา ทารกํ อยฺยกสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปุพฺเพ อุปเกน คตมคฺคํ คจฺฉนฺตี สาวตฺถึ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺเต ปติฏฺิตา, อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปุพฺเพ อุปเกน อตฺตนา จ กถิตคาถาโย อุทานวเสน เอกชฺฌํ กตฺวา –
‘‘ลฏฺิหตฺโถ ¶ ปุเร อาสิ, โส ทานิ มิคลุทฺทโก;
อาสาย ปลิปา โฆรา, นาสกฺขิ ปารเมตเว.
‘‘สุมตฺตํ ¶ มํ มฺมานา, จาปิ ปุตฺตมโตสยิ;
จาปาย พนฺธนํ เฉตฺวา, ปพฺพชิสฺสํ ปุโนปหํ.
‘‘มา เม กุชฺฌิ มหาวีร, มา เม กุชฺฌิ มหามุนิ;
น หิ โกธปเรตสฺส, สุทฺธิ อตฺถิ กุโต ตโป.
‘‘ปกฺกมิสฺสฺจ นาฬาโต, โกธ นาฬาย วจฺฉติ;
พนฺธนฺตี อิตฺถิรูเปน, สมเณ ธมฺมชีวิโน.
‘‘เอหิ กาฬ นิวตฺตสฺสุ, ภฺุช กาเม ยถา ปุเร;
อหฺจ เต วสีกตา, เย จ เม สนฺติ าตกา.
‘‘เอตฺโต จาเป จตุพฺภาคํ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;
ตยิ รตฺตสฺส โปสสฺส, อุฬารํ วต ตํ สิยา.
‘‘กาฬงฺคินึว ตกฺการึ, ปุปฺผิตํ คิริมุทฺธนิ;
ผุลฺลํ ทาลิมลฏฺึว, อนฺโตทีเปว ปาฏลึ.
‘‘หริจนฺทนลิตฺตงฺคึ, กาสิกุตฺตมธารินึ;
ตํ มํ รูปวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหายํ คจฺฉสิ.
‘‘สากุนฺติโกว สกุณึ, ยถา พนฺธิตุมิจฺฉติ;
อาหริเมน รูเปน, น มํ ตฺวํ พาธยิสฺสสิ.
‘‘อิมฺจ เม ปุตฺตผลํ, กาฬ อุปฺปาทิตํ ตยา;
ตํ มํ ปุตฺตวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ.
‘‘ชหนฺติ ¶ ปุตฺเต สปฺปฺา, ตโต าตี ตโต ธนํ;
ปพฺพชนฺติ มหาวีรา, นาโค เฉตฺวาว พนฺธนํ.
‘‘อิทานิ เต อิมํ ปุตฺตํ, ทณฺเฑน ฉุริกาย วา;
ภูมิยํ วา นิสุมฺภิสฺสํ, ปุตฺตโสกา น คจฺฉสิ.
‘‘สเจ ¶ ปุตฺตํ สิงฺคาลานํ, กุกฺกุรานํ ปทาหิสิ;
น มํ ปุตฺตกตฺเต ชมฺมิ, ปุนราวตฺตยิสฺสสิ.
‘‘หนฺท โข ¶ ทานิ ภทฺทนฺเต, กุหึ กาฬ คมิสฺสสิ;
กตมํ คามนิคมํ, นครํ ราชธานิโย.
‘‘อหุมฺห ปุพฺเพ คณิโน, อสฺสมณา สมณมานิโน;
คาเมน คามํ วิจริมฺห, นคเร ราชธานิโย.
‘‘เอโส หิ ภควา พุทฺโธ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;
สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสติ ปาณินํ;
ตสฺสาหํ สนฺติกํ คจฺฉํ, โส เม สตฺถา ภวิสฺสติ.
‘‘วนฺทนํ ทานิ เม วชฺชาสิ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;
ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิเสยฺยาสิ ทกฺขิณํ.
‘‘เอตํ โข ลพฺภมมฺเหหิ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;
วนฺทนํ ทานิ เต วชฺชํ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;
ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิสิสฺสามิ ทกฺขิณํ.
‘‘ตโต จ กาโฬ ปกฺกามิ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;
โส อทฺทสาสิ สมฺพุทฺธํ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.
‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, กตฺวาน นํ ปทกฺขิณํ;
จาปาย อาทิสิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –
อิมา ¶ คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ ลฏฺิหตฺโถติ ทณฺฑหตฺโถ. ปุเรติ ปุพฺเพ ปริพฺพาชกกาเล จณฺฑโคณกุกฺกุราทีนํ ปริหรณตฺถํ ทณฺฑํ หตฺเถน คเหตฺวา วิจรณโก อโหสิ. โส ทานิ มิคลุทฺทโกติ โส อิทานิ มิคลุทฺเทหิ สทฺธึ สมฺโภคสํวาเสหิ มิคลุทฺโท มาควิโก ชาโต. อาสายาติ ตณฺหาย. ‘‘อาสยา’’ติปิ ปาโ, อชฺฌาสยเหตูติ อตฺโถ. ปลิปาติ กามปงฺกโต ทิฏฺิปงฺกโต จ. โฆราติ อวิทิตวิปุลานตฺถาวหตฺตา ทารุณโต โฆรา. นาสกฺขิ ปารเมตเวติ ตสฺเสว ปลิปสฺส ปารภูตํ นิพฺพานํ เอตุํ คนฺตุํ น อสกฺขิ, น ¶ อภิสมฺภุนีติ อตฺตานเมว สนฺธาย อุปโก วทติ.
สุมตฺตํ มํ มฺมานาติ อตฺตนิ สุฏฺุ มตฺตํ มทปฺปตฺตํ กามเคธวเสน ลคฺคํ ปมตฺตํ วา กตฺวา มํ สลฺลกฺขนฺตี. จาปา ปุตฺตมโตสยีติ มิคลุทฺทสฺส ธีตา จาปา ‘‘อาชีวกสฺส ปุตฺตา’’ติอาทินา มํ ฆฏฺเฏนฺตี ปุตฺตํ โตเสสิ เกฬายสิ. ‘‘สุปติ มํ มฺมานา’’ติ จ ปนฺติ, สุปตีติ มํ มฺมานาติ อตฺโถ. จาปาย พนฺธนํ เฉตฺวาติ จาปาย ตยิ อุปฺปนฺนํ กิเลสพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา. ปพฺพชิสฺสํ ปุโนปหนฺติ ปุน ทุติยวารมฺปิ อหํ ปพฺพชิสฺสามิ.
อิทานิ ตสฺสา ‘‘มยฺหํ อตฺโถ นตฺถี’’ติ วทติ, ตํ สุตฺวา จาปา ขมาเปนฺตี ‘‘มา เม กุชฺฌี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ มา เม กุชฺฌีติ เกฬิกรณมตฺเตน มา มยฺหํ กุชฺฌิ. มหาวีร, มหามุนีติ อุปกํ อาลปติ. ตฺหิ สา ปุพฺเพปิ ปพฺพชิโต, อิทานิปิ ปพฺพชิตุกาโมติ กตฺวา ขนฺติฺจ ปจฺจาสีสนฺตี ‘‘มหามุนี’’ติ อาห. เตเนวาห – ‘‘น หิ โกธปเรตสฺส, สุทฺธิ อตฺถิ กุโต ตโป’’ติ, ตฺวํ เอตฺตกมฺปิ อสหนฺโต กถํ จิตฺตํ ทเมสฺสสิ, กถํ วา ตปํ จริสฺสสีติ อธิปฺปาโย.
อถ นาฬํ คนฺตฺวา ชีวิตุกาโมสีติ จาปาย วุตฺโต อาห – ‘‘ปกฺกมิสฺสฺจ นาฬาโต, โกธ นาฬาย วจฺฉตี’’ติ โก อิธ นาฬาย วสิสฺสติ, นาฬาโตว อหํ ปกฺกมิสฺสาเมว. โส หิ ตสฺส ชาตคาโม, ตโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. โส จ มคธรฏฺเ โพธิมณฺฑสฺส อาสนฺนปเทเส, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. พนฺธนฺตี อิตฺถิรูเปน, สมเณ ธมฺมชีวิโนติ จาเป ตฺวํ ธมฺเมน ชีวนฺเต ธมฺมิเก ปพฺพชิเต อตฺตโน อิตฺถิรูเปน อิตฺถิกุตฺตากปฺเปหิ พนฺธนฺตี ติฏฺสิ. เยนาหํ อิทานิ เอทิโส ชาโต, ตสฺมา ตํ ปริจฺจชามีติ อธิปฺปาโย.
เอวํ ¶ ¶ ¶ วุตฺเต จาปา ตํ นิวตฺเตตุกามา ‘‘เอหิ, กาฬา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – กาฬวณฺณตาย, กาฬ, อุปก, เอหิ นิวตฺตสฺสุ มา ปกฺกมิ, ปุพฺเพ วิย กาเม ปริภฺุช, อหฺจ เย จ เม สนฺติ าตกา, เต สพฺเพว ตุยฺหํ มา ปกฺกมิตุกามตาย วสีกตา วสวตฺติโน กตาติ.
ตํ สุตฺวา อุปโก ‘‘เอตฺโต จาเป’’ติ คาถมาห. ตตฺถ จาเปติ จาเป. จาปสทิสองฺคลฏฺิตาย หิ สา, จาปาติ นามํ ลภิ, ตสฺมา, จาปาติ วุจฺจติ. ตฺวํ จาเป, ยถา ภาสสิ, อิทานิ ยาทิสํ กเถสิ, อิโต จตุพฺภาคเมว ปิยสมุทาจารํ กเรยฺยาสิ. ตยิ รตฺตสฺส ราคาภิภูตสฺส ปุริสสฺส อุฬารํ วต ตํ สิยา, อหํ ปเนตรหิ ตยิ กาเมสุ จ วิรตฺโต, ตสฺมา จาปาย วจเน น ติฏฺามีติ อธิปฺปาโย.
ปุน, จาปา, อตฺตนิ ตสฺส อาสตฺตึ อุปฺปาเทตุกามา ‘‘กาฬงฺคินิ’’นฺติ อาห. ตตฺถ, กาฬาติ ตสฺสาลปนํ. องฺคินินฺติ องฺคลฏฺิสมฺปนฺนํ. อิวาติ อุปมาย นิปาโต. ตกฺการึ ปุปฺผิตํ คิริมุทฺธนีติ ปพฺพตมุทฺธนิ ิตํ สุปุปฺผิตทาลิมลฏฺึ วิย. ‘‘อุกฺกาคาริ’’นฺติ จ เกจิ ปนฺติ, องฺคตฺถิลฏฺึ วิยาติ อตฺโถ. คิริมุทฺธนีติ จ อิทํ เกนจิ อนุปหตโสภตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เกจิ ‘‘กาลิงฺคินิ’’นฺติ ปาํ วตฺวา ตสฺส กุมฺภณฺฑลตาสทิสนฺติ อตฺถํ วทนฺติ. ผุลฺลํ ทาลิมลฏฺึวาติ ปุปฺผิตํ พีชปูรลตํ วิย. อนฺโตทีเปว ปาฏลินฺติ ทีปกพฺภนฺตเร ปุปฺผิตปาฏลิรุกฺขํ วิย, ทีปคฺคหณฺเจตฺถ โสภาปาฏิหาริยทสฺสนตฺถเมว.
หริจนฺทนลิตฺตงฺคินฺติ โลหิตจนฺทเนน อนุลิตฺตสพฺพงฺคึ. กาสิกุตฺตมธารินินฺติ อุตฺตมกาสิกวตฺถธรํ. ตํ มนฺติ ตาทิสํ มํ. รูปวตึ สนฺตินฺติ รูปสมฺปนฺนํ สมานํ. กสฺส ¶ โอหาย คจฺฉสีติ กสฺส นาม สตฺตสฺส, กสฺส วา เหตุโน, เกน การเณน, โอหาย ปหาย ปริจฺจชิตฺวา คจฺฉสิ.
อิโต ปรมฺปิ เตสํ วจนปฏิวจนคาถาว เปตฺวา ปริโยสาเน ติสฺโส คาถา. ตตฺถ สากุนฺติโกวาติ สกุณลุทฺโท วิย. อาหริเมน รูเปนาติ เกสมณฺฑนาทินา สรีรชคฺคเนน เจว วตฺถาภรณาทินา ¶ จ อภิสงฺขาริเกน รูเปน วณฺเณน กิตฺติเมน จาตุริเยนาติ อตฺโถ. น มํ ตฺวํ พาธยิสฺสสีติ ปุพฺเพ วิย อิทานิ มํ ตฺวํ น พาธิตุํ สกฺขิสฺสสิ.
ปุตฺตผลนฺติ ¶ ปุตฺตสงฺขาตํ ผลํ ปุตฺตปสโว.
สปฺปฺาติ ปฺวนฺโต, สํสาเร อาทีนววิภาวินิยา ปฺาย สมนฺนาคตาติ อธิปฺปาโย. เต หิ อปฺปํ วา มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ โภคกฺขนฺธํ วา ปหาย ปพฺพชนฺติ. เตนาห – ‘‘ปพฺพชนฺติ มหาวีรา, นาโค เฉตฺวาว พนฺธน’’นฺติ, อยพนฺธนํ วิย หตฺถินาโค คิหิพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา มหาวีริยาว ปพฺพชนฺติ, น นิหีนวีริยาติ อตฺโถ.
ทณฺเฑนาติ เยน เกนจิ ทณฺเฑน. ฉุริกายาติ ขุเรน. ภูมิยํ วา นิสุมฺภิสฺสนฺติ ปถวิยํ ปาเตตฺวา โปถนวิชฺฌนาทินา วิพาธิสฺสามิ. ปุตฺตโสกา น คจฺฉสีติ ปุตฺตโสกนิมิตฺตํ น คจฺฉิสฺสสิ.
ปทาหิสีติ ทสฺสสิ. ปุตฺตกตฺเตติ ปุตฺตการณา. ชมฺมีติ ตสฺสา อาลปนํ, ลามเกติ อตฺโถ.
อิทานิ ตสฺส คมนํ อนุชานิตฺวา คมนฏฺานํ ชานิตุํ ‘‘หนฺท โข’’ติ คาถมาห.
อิตโร ปุพฺเพ อหํ อนิยฺยานิกํ สาสนํ ปคฺคยฺห อฏฺาสึ, อิทานิ ปน นิยฺยานิเก อนนฺตชินสฺส สาสเน าตุกาโม, ตสฺมา ตสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อหุมฺหา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คณิโนติ คณธรา. อสฺสมณาติ น สมิตปาปา. สมณมานิโนติ สมิตปาปาติ เอวํ สฺิโน. วิจริมฺหาติ ปูรณาทีสุ อตฺตานํ ปกฺขิปิตฺวา วทติ.
เนรฺชรํ ¶ ปตีติ เนรฺชราย นทิยา สมีเป ตสฺสา ตีเร. พุทฺโธติ อภิสมฺโพธึ ปตฺโต, อภิสมฺโพธึ ปตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต สพฺพกาลํ ภควา ตตฺเถว วสีติ อธิปฺปาเยน วทติ.
วนฺทนํ ทานิ เม วชฺชาสีติ มม วนฺทนํ วเทยฺยาสิ, มม วจเนน โลกนาถํ อนุตฺตรํ วเทยฺยาสีติ อตฺโถ. ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิเสยฺยาสิ ทกฺขิณนฺติ พุทฺธํ ภควนฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวาปิ จตูสุ าเนสุ ¶ วนฺทิตฺวา, ตโต ปฺุโต มยฺหํ ปตฺติทานํ เทนฺโต ปทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิ พุทฺธคุณานํ สุตปุพฺพตฺตา เหตุสมฺปนฺนตาย จ เอวํ วทติ.
เอตํ ¶ โข ลพฺภมมฺเหหีติ เอตํ ปทกฺขิณกรณํ ปฺุํ อมฺเหหิ ตว ทาตุํ สกฺกา, น นิวตฺตนํ, ปุพฺเพ วิย กามูปโภโค จ น สกฺกาติ อธิปฺปาโย. เต วชฺชนฺติ ตว วนฺทนํ วชฺชํ วกฺขามิ.
โสติ กาโฬ, อทฺทสาสีติ อทฺทกฺขิ.
สตฺถุเทสนายํ สจฺจกถาย ปธานตฺตา ตพฺพินิมุตฺตาย อภาวโต ‘‘ทุกฺข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, เสสํ วุตฺตนยเมว.
จาปาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สุนฺทรีเถรีคาถาวณฺณนา
เปตานิ โภติ ปุตฺตานีติอาทิกา สุนฺทริยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิโต เอกตึสกปฺเป เวสฺสภุสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ภิกฺขํ ทตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิ. สตฺถา ตสฺสา จิตฺตปฺปสาทํ ตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ¶ ยาวตายุกํ ตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ตโต จุตา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี ปริปกฺกาณา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท พาราณสิยํ สุชาตสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา รูปสมฺปตฺติยา สุนฺทรีติ นามํ อโหสิ. วยปฺปตฺตกาเล จสฺสา กนิฏฺภาตา กาลมกาสิ. อถสฺสา ปิตา ปุตฺตโสเกน อภิภูโต ตตฺถ ตตฺถ วิจรนฺโต วาสิฏฺิตฺเถริยา สมาคนฺตฺวา ตํ โสกวิโนทนการณํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘เปตานิ โภติ ปุตฺตานี’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. เถรี ตํ โสกาภิภูตํ ตฺวา โสกํ วิโนเทตุกามา ‘‘พหูนิ ปุตฺตสตานี’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา วตฺวา อตฺตโน อโสกภาวํ กเถสิ. ตํ ¶ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ‘‘กถํ ตฺวํ, อยฺเย, เอวํ อโสกา ชาตา’’ติ อาห. ตสฺส เถรี รตนตฺตยคุณํ กเถสิ.
อถ พฺราหฺมโณ ‘‘กุหึ สตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิทานิ มิถิลายํ วิหรตี’’ติ ตํ สุตฺวา ตาวเทว รถํ โยเชตฺวา รเถน มิถิลํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. โส ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ¶ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ตติเย ทิวเส อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถ สารถิ รถํ อาทาย พาราณสึ คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. สุนฺทรี อตฺตโน ปิตุ ปพฺพชิตภาวํ สุตฺวา, ‘‘อมฺม, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ มาตรํ อาปุจฺฉิ. มาตา ‘‘ยํ อิมสฺมึ เคเห โภคชาตํ, สพฺพํ ตํ ตุยฺหํ สนฺตกํ, ตฺวํ อิมสฺส กุลสฺส ทายาทิกา ปฏิปชฺช, อิมํ สพฺพโภคํ ปริภฺุช, มา ปพฺพชี’’ติ อาห. สา ‘‘น มยฺหํ โภเคหิ อตฺโถ, ปพฺพชิสฺสาเมวาหํ, อมฺมา’’ติ มาตรํ อนุชานาเปตฺวา มหตึ สมฺปตฺตึ เขฬปิณฺฑํ วิย ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ สิกฺขมานาเยว หุตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี เหตุสมฺปนฺนตาย าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน –
‘‘ปิณฺฑปาตํ ¶ จรนฺตสฺส, เวสฺสภุสฺส มเหสิโน;
กฏจฺฉุภิกฺขมุคฺคยฺห, พุทฺธเสฏฺสฺสทาสหํ.
‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา สมฺพุทฺโธ, เวสฺสภู โลกนายโก;
วีถิยา สณฺิโต สตฺถา, อกา เม อนุโมทนํ.
‘‘กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, ตาวตึสํ คมิสฺสสิ;
ฉตฺตึสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิ.
‘‘ปฺาสํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิ;
มนสา ปตฺถิตํ สพฺพํ, ปฏิลจฺฉสิ สพฺพทา.
‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, ปพฺพชิสฺสสิ กิฺจนา;
สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสสินาสวา.
‘‘อิทํ ¶ วตฺวาน สมฺพุทฺโธ, เวสฺสภู โลกนายโก;
นภํ อพฺภุคฺคมี วีโร, หํสราชาว อมฺพเร.
‘‘สุทินฺนํ ¶ เม ทานวรํ, สุยิฏฺา ยาคสมฺปทา;
กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, ปตฺตาหํ อจลํ ปทํ.
‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ภิกฺขาทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วิหรนฺตี อปรภาเค ‘‘สตฺถุ ปุรโต สีหนาทํ นทิสฺสามี’’ติ อุปชฺฌายํ อาปุจฺฉิตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมิตฺวา สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ อนุกฺกเมน สาวตฺถึ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา สตฺถารา กตปฏิสนฺถารา สตฺถุ โอรสธีตุภาวาทิวิภาวเนน อฺํ พฺยากาสิ. อถสฺสา มาตรํ อาทึ กตฺวา สพฺโพ าติคโณ ปริชโน จ ปพฺพชิ. สา อปรภาเค อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิตรา วุตฺตคาถํ อาทึ กตฺวา อุทานวเสน –
‘‘เปตานิ โภติ ปุตฺตานิ, ขาทมานา ตุวํ ปุเร;
ตุวํ ทิวา จ รตฺโต จ, อตีว ปริตปฺปสิ.
‘‘สาชฺช สพฺพานิ ขาทิตฺวา, สตปุตฺตานิ พฺราหฺมณี;
วาเสฏฺิ ¶ เกน วณฺเณน, น พาฬฺหํ ปริตปฺปสิ.
‘‘พหูนิ ปุตฺตสตานิ, าติสงฺฆสตานิ จ;
ขาทิตานิ อตีตํเส, มม ตฺุหฺจ พฺราหฺมณ.
‘‘สาหํ นิสฺสรณํ ตฺวา, ชาติยา มรณสฺส จ;
น โสจามิ น โรทามิ, น จาปิ ปริตปฺปยึ.
‘‘อพฺภุตํ วต วาเสฏฺิ, วาจํ ภาสสิ เอทิสึ;
กสฺส ตฺวํ ธมฺมมฺาย, คิรํ ภาสสิ เอทิสึ.
‘‘เอส ¶ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, นครํ มิถิลํ ปติ;
สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสสิ ปาณินํ.
‘‘ตสฺส ¶ พฺรหฺเม อรหโต, ธมฺมํ สุตฺวา นิรูปธึ;
ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺมา, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทึ.
‘‘โส อหมฺปิ คมิสฺสามิ, นครํ มิถิลํ ปติ;
อปฺเปว มํ โส ภควา, สพฺพทุกฺขา ปโมจเย.
‘‘อทฺทส พฺราหฺมโณ พุทฺธํ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;
สฺวสฺส ธมฺมมเทเสสิ, มุนิ ทุกฺขสฺส ปารคู.
‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺโม, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ;
สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.
‘‘เอหิ สารถิ คจฺฉาหิ, รถํ นิยฺยาทยาหิมํ;
อาโรคฺยํ พฺราหฺมณึ วชฺช, ปพฺพชิ ทานิ พฺราหฺมโณ;
สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.
‘‘ตโต จ รถมาทาย, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;
อาโรคฺยํ พฺราหฺมณึโวจ, ‘ปพฺพชิ ทานิ พฺราหฺมโณ;
สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.
‘‘เอตฺจาหํ อสฺสรถํ, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;
เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ สุตฺวา, ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต.
‘‘ตุยฺเหว ¶ ¶ โหตฺวสฺสรโถ, สหสฺสฺจาปิ พฺราหฺมณิ;
อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก.
‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, ผีตฺจิมํ คหวิภวํ ปหาย;
ปิตา ปพฺพชิโต ตุยฺหํ, ภฺุช โภคานิ สุนฺทรี;
ตุวํ ทายาทิกา กุเล.
‘‘หตฺถี ¶ ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, รมฺมํ จิมํ คหวิภวํ ปหาย;
ปิตา ปพฺพชิโต มยฺหํ, ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิโต;
อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิตา.
‘‘โส เต อิชฺฌตุ สงฺกปฺโป, ยํ ตฺวํ ปตฺเถสิ สุนฺทรี;
อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อฺุโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;
เอตานิ อภิสมฺโภนฺตี, ปรโลเก อนาสวา.
‘‘สิกฺขมานาย เม อยฺเย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.
‘‘ตุวํ นิสฺสาย กลฺยาณิ, เถริ สงฺฆสฺส โสภเน;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘อนุชานาหิ เม อยฺเย, อิจฺเฉ สาวตฺถิ คนฺตเว;
สีหนาทํ นทิสฺสามิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก.
‘‘ปสฺส สุนฺทริ สตฺถารํ, เหมวณฺณํ หริตฺตจํ;
อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ.
‘‘ปสฺส สุนฺทริมายนฺตึ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;
วีตราคํ วิสํยุตฺตํ, กตกิจฺจมนาสวํ.
‘‘พาราณสิโต ¶ นิกฺขมฺม, ตว สนฺติกมาคตา;
สาวิกา เต มหาวีร, ปาเท วนฺทติ สุนฺทรี.
‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุยฺหํ ธีตามฺหิ พฺราหฺมณ;
โอรสา มุขโต ชาตา, กตกิจฺจา อนาสวา.
‘‘ตสฺสา เต สฺวาคตํ ภทฺเท, ตโต เต อทุราคตํ;
เอวฺหิ ทนฺตา อายนฺติ, สตฺถุ ปาทานิ วนฺทิกา;
วีตราคา วิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’ติ. –
อิมา คาถา ปจฺจุทาหาสิ.
ตตฺถ ¶ เปตานีติ มตานิ. โภตีติ ¶ ตํ อาลปติ. ปุตฺตานีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, เปเต ปุตฺเตติ อตฺโถ. เอโก เอว จ ตสฺสา ปุตฺโต มโต, พฺราหฺมโณ ปน ‘‘จิรกาลํ อยํ โสเกน อฏฺฏา หุตฺวา วิจริ, พหู มฺเ อิมิสฺสา ปุตฺตา มตา’’ติ เอวํสฺี หุตฺวา พหุวจเนนาห. ตถา จ ‘‘สาชฺช สพฺพานิ ขาทิตฺวา สตปุตฺตานี’’ติ. ขาทมานาติ โลกโวหารวเสน ขุํสนวจนเมตํ. โลเก หิ ยสฺสา อิตฺถิยา ชาตชาตา ปุตฺตา มรนฺติ, ตํ ครหนฺตา ‘‘ปุตฺตขาทินี’’ติอาทึ วทนฺติ. อตีวาติ อติวิย ภุสํ. ปริตปฺปสีติ สนฺตปฺปสิ, ปุเรติ โยชนา. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โภติ วาเสฏฺิ, ปุพฺเพ ตฺวํ มตปุตฺตา หุตฺวา โสจนฺตี ปริเทวนฺตี อติวิย โสกาย สมปฺปิตา คามนิคมราชธานิโย อาหิณฺฑสิ.
สาชฺชาติ สา อชฺช, สา ตฺวํ เอตรหีติ อตฺโถ. ‘‘สชฺชา’’ติ วา ปาโ. เกน วณฺเณนาติ เกน การเณน.
ขาทิตานีติ เถรีปิ พฺราหฺมเณน วุตฺตปริยาเยเนว วทติ. ขาทิตานิ วา พฺยคฺฆทีปิพิฬาราทิชาติโย สนฺธาเยวมาห. อตีตํเสติ อตีตโกฏฺาเส, อติกฺกนฺตภเวสูติ อตฺโถ. มม ตุยฺหฺจาติ มยา จ ตยา จ.
นิสฺสรณํ ตฺวา ชาติยา มรณสฺส จาติ ชาติชรามรณานํ นิสฺสรณภูตํ นิพฺพานํ มคฺคาเณน ¶ ปฏิวิชฺฌิตฺวา. น จาปิ ปริตปฺปยินฺติ น จาปิ อุปายาสาสึ, อหํ อุปายาสํ น อาปชฺชินฺติ อตฺโถ.
อพฺภุตํ วตาติ อจฺฉริยํ วต. ตฺหิ อพฺภุตํ ปุพฺเพ อภูตํ อพฺภุตนฺติ วุจฺจติ. เอทิสินฺติ เอวรูปึ, ‘‘น โสจามิ น โรทามิ, น จาปิ ปริตปฺปยิ’’นฺติ เอวํ โสจนาทีนํ อภาวทีปนึ วาจํ. กสฺส ตฺวํ ธมฺมมฺายาติ เกวลํ ยถา เอทิโส ธมฺโม ลทฺธุํ น สกฺกา, ตสฺมา กสฺส นาม สตฺถุโน ธมฺมมฺาย คิรํ ภาสสิ เอทิสนฺติ สตฺถารํ สาสนฺจ ปุจฺฉติ.
นิรูปธินฺติ นิทฺทุกฺขํ. วิฺาตสทฺธมฺมาติ ¶ ปฏิวิทฺธอริยสจฺจธมฺมา. พฺยปานุทินฺติ นีหรึ ปชหึ.
วิปฺปมุตฺตนฺติ ¶ สพฺพโส วิมุตฺตํ, สพฺพกิเลเสหิ สพฺพภเวหิ จ วิสํยุตฺตํ. สฺวสฺสาติ โส สมฺมาสมฺพุทฺโธ อสฺส พฺราหฺมณสฺส.
ตตฺถาติ ตสฺสํ จตุสจฺจธมฺมเทสนายํ.
รถํ นิยฺยาทยาหิมนฺติ อิมํ รถํ พฺราหฺมณิยา นิยฺยาเทหิ.
สหสฺสฺจาปีติ มคฺคปริพฺพยตฺถํ นีตํ กหาปณสหสฺสฺจาปิ อาทาย นิยฺยาเทหีติ โยชนา.
อสฺสรถนฺติ อสฺสยุตฺตรถํ. ปุณฺณปตฺตนฺติ ตุฏฺิทานํ.
เอวํ พฺราหฺมณิยา ตุฏฺิทาเน ทิยฺยมาเน ตํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต สารถิ ‘‘ตุยฺเหว โหตู’’ติ คาถํ วตฺวา สตฺถุ สนฺติกเมว คนฺตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิเต ปน สารถิมฺหิ พฺราหฺมณี อตฺตโน ธีตรํ สุนฺทรึ อามนฺเตตฺวา ฆราวาเส นิโยเชนฺตี ‘‘หตฺถี ควสฺส’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ หตฺถีติ หตฺถิโน. ควสฺสนฺติ คาโว จ อสฺสา จ. มณิกุณฺฑลฺจาติ มณิ จ กุณฺฑลานิ จ. ผีตฺจิมํ คหวิภวํ ปหายาติ อิมํ หตฺถิอาทิปฺปเภทํ ยถาวุตฺตํ อวุตฺตฺจ เขตฺตวตฺถุหิรฺสุวณฺณาทิเภทํ ผีตํ ปหูตฺจ คหวิภวํ เคหูปกรณํ อฺฺจ ทาสิทาสาทิกํ สพฺพํ ¶ ปหาย ตว ปิตา ปพฺพชิโต. ภฺุช โภคานิ สุนฺทรีติ สุนฺทริ, ตฺวํ อิเม โภเค ภฺุชสฺสุ. ตุวํ ทายาทิกา กุเลติ ตุวฺหิ อิมสฺมึ กุเล ทายชฺชารหาติ.
ตํ สุตฺวา สุนฺทรี อตฺตโน เนกฺขมฺมชฺฌาสยํ ปกาเสนฺตี ‘‘หตฺถีควสฺส’’นฺติอาทิมาห.
อถ นํ มาตา เนกฺขมฺเมเยว นิโยเชนฺตี ‘‘โส เต อิชฺฌตู’’ติอาทินา ทิยฑฺฒคาถมาห. ตตฺถ ยํ ตฺวํ ปตฺเถสิ สุนฺทรีติ สุนฺทริ ตฺวํ อิทานิ ยํ ปตฺเถสิ อากงฺขสิ. โส ตว ปพฺพชฺชาย สงฺกปฺโป ปพฺพชฺชาย ฉนฺโท อิชฺฌตุ อนนฺตราเยน สิชฺฌตุ. อุตฺติฏฺปิณฺโฑติ ¶ ฆเร ฆเร ปติฏฺิตฺวา ลทฺธพฺพภิกฺขาปิณฺโฑ. อฺุโฉติ ตทตฺถํ ฆรปฏิปาฏิยา อาหิณฺฑนํ อุทฺทิสฺส านฺจ. เอตานีติ อุตฺติฏฺปิณฺฑาทีนิ. อภิสมฺโภนฺตีติ อนิพฺพินฺนรูปา ชงฺฆพลํ นิสฺสาย อภิสมฺภวนฺตี, สาเธนฺตีติ อตฺโถ.
อถ สุนฺทรี ‘‘สาธุ, อมฺมา’’ติ มาตุยา ปฏิสฺสุณิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา สิกฺขมานาเยว สมานา ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตฺวา ‘‘สตฺถุ ¶ สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ อุปชฺฌายํ อาโรเจตฺวา ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สาวตฺถึ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สิกฺขมานาย เม, อยฺเย’’ติอาทิ. ตตฺถ สิกฺขมานาย เมติ สิกฺขมานาย สมานาย มยา. อยฺเยติ อตฺตโน อุปชฺฌายํ อาลปติ.
ตุวํ นิสฺสาย กลฺยาณิ, เถริ สงฺฆสฺส โสภเนติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ วุทฺธตรภาเวน ถิรคุณโยเคน จ สงฺฆตฺเถริ โสภเนหิ สีลาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา โสภเน กลฺยาณิ กลฺยาณมิตฺเต, อยฺเย, ตํ นิสฺสาย มยา ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺติ โยชนา.
อิจฺเฉติ อิจฺฉามิ. สาวตฺถิ คนฺตเวติ สาวตฺถึ คนฺตุํ. สีหนาทํ นทิสฺสามีติ อฺาพฺยากรณเมว สนฺธายาห.
อถ สุนฺทรี อนุกฺกเมน สาวตฺถึ คนฺตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา สตฺถารํ ธมฺมาสเน นิสินฺนํ ทิสฺวา อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวทยมานา อตฺตานเมว อาลปนฺตี อาห ‘‘ปสฺส สุนฺทรี’’ติ. เหมวณฺณนฺติ สุวณฺณวณฺณํ. หริตฺตจนฺติ กฺจนสนฺนิภตฺตจํ. เอตฺถ จ ภควา ปีตวณฺเณน ‘‘สุวณฺณวณฺโณ’’ติ วุจฺจติ. อถ โข สมฺมเทว ฆํสิตฺวา ชาติหิงฺคุลเกน อนุลิมฺปิตฺวา ¶ สุปริมชฺชิตกฺจนาทาสสนฺนิโภติ ทสฺเสตุํ ‘‘เหมวณฺณ’’นฺติ วตฺวา ‘‘หริตฺตจ’’นฺติ วุตฺตํ.
ปสฺส สุนฺทริมายนฺตินฺติ ตํ สุนฺทรินามิกํ มํ ภควา อาคจฺฉนฺติ ปสฺส. ‘‘วิปฺปมุตฺต’’นฺติอาทินา อฺํ พฺยากโรนฺตี ปีติวิปฺผารวเสน วทติ.
กุโต ปน อาคตา, กตฺถ จ อาคตา, กีทิสา จายํ สุนฺทรีติ อาสงฺกนฺตานํ ¶ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุํ ‘‘พาราณสิโต’’ติ คาถํ วตฺวา ตตฺถ ‘‘สาวิกา จา’’ติ วุตฺตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ตุวํ พุทฺโธ’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อิมสฺมึ สเทวเก โลเก ตุวเมเวโก สพฺพฺุพุทฺโธ, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสนโต ตุวํ เม สตฺถา, อหฺจ ขีณาสวพฺราหฺมณี ภควา ตุยฺหํ อุเร วายาม ชนิตาภิชาติตาย โอรสา, มุขโต ปวตฺตธมฺมโฆเสน สาสนสฺส จ มุขภูเตน อริยมคฺเคน ชาตตฺตา มุขโต ชาตา, นิฏฺิตปริฺาตาทิกรณียตาย กตกิจฺจา, สพฺพโส อาสวานํ เขปิตตฺตา อนาสวาติ.
อถสฺสา ¶ สตฺถา อาคมนํ อภินนฺทนฺโต ‘‘ตสฺสา เต สฺวาคต’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยา ตฺวํ มยา อธิคตํ ธมฺมํ ยาถาวโต อธิคจฺฉิ. ตสฺสา เต, ภทฺเท สุนฺทริ, อิธ มม สนฺติเก อาคตํ อาคมนํ สุอาคตํ. ตโต เอว ตํ อทุราคตํ น ทุราคตํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา เอวฺหิ ทนฺตา อายนฺตีติ, ยถา ตฺวํ สุนฺทริ, เอวฺหิ อุตฺตเมน อริยมคฺคทมเถน ทนฺตา ตโต เอว สพฺพธิ วีตราคา, สพฺเพสํ สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา วิสํยุตฺตา กตกิจฺจา อนาสวา สตฺถุ ปาทานํ วนฺทิกา อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตสฺสา เต สฺวาคตํ อทุราคตนฺติ โยชนา.
สุนฺทรีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถาวณฺณนา
ทหราหนฺติอาทิกา สุภาย กมฺมารธีตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภาวิตกุสลมูลา อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี ปริปกฺกาณา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺส สุวณฺณการสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, รูปสมฺปตฺติโสภาย ¶ สุภาติ ตสฺสา นามํ อโหสิ. สา อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถุ ราชคหปฺปเวสเน ¶ สตฺถริ สฺชาตปฺปสาทา เอกทิวสํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. สตฺถา ตสฺสา อินฺทฺริยปริปากํ ทิสฺวา อชฺฌาสยานุรูปํ จตุสจฺจคพฺภธมฺมํ เทเสสิ. สา ตาวเทว สหสฺสนยปฏิมณฺฑิเต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. สา อปรภาเค ฆราวาเส โทสํ ทิสฺวา มหาปชาปติยา โคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขุนิสีเล ปติฏฺิตา อุปริมคฺคตฺถาย ภาวนมนุยฺุชิ. ตํ าตกา กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา กาเมหิ นิมนฺเตนฺตา ปหูตธนํ วิภวชาตฺจ ทสฺเสตฺวา ปโลเภนฺติ. สา เอกทิวสํ อตฺตโน สนฺติกํ อุปคตานํ ฆราวาเสสุ กาเมสุ จ อาทีนวํ ปกาเสนฺตี ‘‘ทหราห’’นฺติอาทีหิ จตุวีสติยา คาถาหิ ธมฺมํ กเถตฺวา เต นิราเส กตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อินฺทฺริยานิ ปริโยทเปนฺตี ¶ ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา –
‘‘ทหราหํ สุทฺธวสนา, ยํ ปุเร ธมฺมมสฺสุณึ;
ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, สจฺจาภิสมโย อหุ.
‘‘ตโตหํ สพฺพกาเมสุ, ภุสํ อรติมชฺฌคํ;
สกฺกายสฺมึ ภยํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมเมว ปีหเย.
‘‘หิตฺวานหํ าติคณํ, ทาสกมฺมกรานิ จ;
คามเขตฺตานิ ผีตานิ, รมณีเย ปโมทิเต.
‘‘ปหายหํ ปพฺพชิตา, สาปเตยฺยมนปฺปกํ;
เอวํ สทฺธาย นิกฺขมฺม, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต.
‘‘เนตํ อสฺส ปติรูปํ, อากิฺจฺฺหิ ปตฺถเย;
โย ชาตรูปํ รชตํ, ฉฑฺเฑตฺวา ปุนราคเม.
‘‘รชตํ ชาตรูปํ วา, น โพธาย น สนฺติยา;
เนตํ สมณสารุปฺปํ, น เอตํ อริยทฺธนํ.
‘‘โลภนํ ¶ มทนฺเจตํ, โมหนํ รชวฑฺฒนํ;
สาสงฺกํ พหุอายาสํ, นตฺถิ เจตฺถ ธุวํ ิติ.
‘‘เอตฺถ รตฺตา ปมตฺตา จ, สํกิลิฏฺมนา นรา;
อฺมฺเน พฺยารุทฺธา, ปุถู กุพฺพนฺติ เมธคํ.
‘‘วโธ ¶ พนฺโธ ปริกฺเลโส, ชานิ โสกปริทฺทโว;
กาเมสุ อธิปนฺนานํ, ทิสฺสเต พฺยสนํ พหุํ.
‘‘ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยฺุชถ;
ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, กาเมสุ ภยทสฺสินึ.
‘‘น หิรฺสุวณฺเณน, ปริกฺขียนฺติ อาสวา;
อมิตฺตา วธกา กามา, สปตฺตา สลฺลพนฺธนา.
‘‘ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยฺุชถ;
ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, มุณฺฑํ สงฺฆาฏิปารุตํ.
‘‘อุตฺติฏฺปิณฺโฑ ¶ อฺุโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;
เอตํ โข มม สารุปฺปํ, อนคารูปนิสฺสโย.
‘‘วนฺตา มเหสีหิ กามา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
เขมฏฺาเน วิมุตฺตา เต, ปตฺตา เต อจลํ สุขํ.
‘‘มาหํ กาเมหิ สํคจฺฉึ, เยสุ ตาณํ น วิชฺชติ;
อมิตฺตา วธกา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา ทุขา.
‘‘ปริปนฺโถ เอส ภโย, สวิฆาโต สกณฺฏโก;
เคโธ สุวิสโม เจโส, มหนฺโต โมหนามุโข.
‘‘อุปสคฺโค ¶ ภีมรูโป, กามา สปฺปสิรูปมา;
เย พาลา อภินนฺทนฺติ, อนฺธภูตา ปุถุชฺชนา.
‘‘กามปงฺเกน สตฺตา หิ, พหู โลเก อวิทฺทสู;
ปริยนฺตํ น ชานนฺติ, ชาติยา มรณสฺส จ.
‘‘ทุคฺคติคมนํ มคฺคํ, มนุสฺสา กามเหตุกํ;
พหุํ เว ปฏิปชฺชนฺติ, อตฺตโน โรคมาวหํ.
‘‘เอวํ อมิตฺตชนนา, ตาปนา สํกิเลสิกา;
โลกามิสา พนฺธนียา, กามา มรณพนฺธนา.
‘‘อุมฺมาทนา อุลฺลปนา, กามา จิตฺตปฺปมาถิโน;
สตฺตานํ สํกิเลสาย, ขิปฺปํ มาเรน โอฑฺฑิตํ.
‘‘อนนฺตาทีนวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;
อปฺปสฺสาทา รณกรา, สุกฺกปกฺขวิโสสนา.
‘‘สาหํ เอตาทิสํ กตฺวา, พฺยสนํ กามเหตุกํ;
น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามิ, นิพฺพานาภิรตา สทา.
‘‘รณํ ¶ ตริตฺวา กามานํ, สีติภาวาภิกงฺขินี;
อปฺปมตฺตา วิหสฺสามิ, สพฺพสํโยชนกฺขเย.
‘‘อโสกํ วิรชํ เขมํ, อริยฏฺงฺคิกํ อุชุํ;
ตํ มคฺคํ อนุคจฺฉามิ, เยน ติณฺณา มเหสิโน.
‘‘อิมํ ¶ ปสฺสถ ธมฺมฏฺํ, สุภํ กมฺมารธีตรํ;
อเนชํ อุปสมฺปชฺช, รุกฺขมูลมฺหิ ฌายติ.
‘‘อชฺชฏฺมี ¶ ปพฺพชิตา, สทฺธา สทฺธมฺมโสภนา;
วินีตุปฺปลวณฺณาย, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี.
‘‘สายํ ภุชิสฺสา อณณา, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา.
‘‘ตํ สกฺโก เทวสงฺเฆน, อุปสงฺกมฺม อิทฺธิยา;
นมสฺสติ ภูตปติ, สุภํ กมฺมารธีตร’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ ทหราหํ สุทฺธวสนา, ยํ ปุเร ธมฺมมสฺสุณินฺติ ยสฺมา อหํ ปุพฺเพ ทหรา ตรุณี เอว สุทฺธวสนา สุทฺธวตฺถนิวตฺถา อลงฺกตปฺปฏิยตฺตา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ อสฺโสสึ. ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, สจฺจาภิสมโย อหูติ ยสฺมา จ ตสฺสา เม มยฺหํ ยถาสุตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อปฺปมตฺตาย อุปฏฺิตสฺสติยา สีลํ อธิฏฺหิตฺวา ภาวนํ อนุยฺุชนฺติยาว จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อภิสมโย ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๓๒) ปฏิเวโธ อโหสิ.
ตโตหํ สพฺพกาเมสุ, ภุสํ อรติมชฺฌคนฺติ ตโต เตน การเณน สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมสฺส สุตตฺตา สจฺจานฺจ อภิสมิตตฺตา มนุสฺเสสุ ทิพฺเพสุ จาติ สพฺเพสุปิ กาเมสุ ภุสํ อติวิย อรตึ อุกฺกณฺึ อธิคจฺฉึ. สกฺกายสฺมึ อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก, ภยํ สปฺปฏิภยภาวํ าณจกฺขุนา ทิสฺวา, เนกฺขมฺมเมว ปพฺพชฺชํ นิพฺพานเมว, ปีหเย ปิหยามิ ปตฺถยามิ.
ทาสกมฺมกรานิ จาติ ทาเส จ กมฺมกาเร จ, ลิงฺควิปลฺลาเสน ¶ เหตํ วุตฺตํ. คามเขตฺตานีติ คาเม จ ปุพฺพณฺณาปรณฺณวิรุหนกฺเขตฺตานิ จ, คามปริยาปนฺนานิ วา เขตฺตานิ. ผีตานีติ สมิทฺธานิ. รมณีเยติ มนฺุเ. ปโมทิเตติ ปมุทิเต, โภคกฺขนฺเธ หิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. สาปเตยฺยนฺติ สนฺตกํ ธนํ, มณิกนกรชตาทิปริคฺคหวตฺถุํ. อนปฺปกนฺติ มหนฺตํ, ปหายาติ โยชนา. เอวํ สทฺธาย นิกฺขมฺมาติ ‘‘หิตฺวานหํ าติคณ’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน ¶ มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย กมฺมกมฺมผลานิ รตนตฺตยฺจาติ สทฺเธยฺยวตฺถุํ ¶ สทฺธาย สทฺทหิตฺวา ฆรโต นิกฺขมฺม, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต สมฺมาสมฺพุทฺเธน สุฏฺุ ปเวทิเต อริยวินเย อหํ ปพฺพชิตา.
เอวํ ปพฺพชิตาย ปน เนตํ อสฺส ปติรูปํ, ยทิทํ ฉฑฺฑิตานํ กามานํ ปจฺจาคมนํ. อากิฺจฺฺหิ ปตฺถเยติ อหํ อกิฺจนภาวํ อปริคฺคหภาวเมว ปตฺถยามิ. โย ชาตรูปรชตํ, ฉฑฺเฑตฺวา ปุนราคเมติ โย ปุคฺคโล สุวณฺณํ รชตํ อฺมฺปิ วา กิฺจิ ธนชาตํ ฉฑฺเฑตฺวา ปุน ตํ คณฺเหยฺย, โส ปณฺฑิตานํ อนฺตเร กถํ สีสํ อุกฺขิเปยฺย?
ยสฺมา รชตํ ชาตรูปํ วา, น โพธาย น สนฺติยา น มคฺคาณาย น นิพฺพานาย โหตีติ อตฺโถ. เนตํ สมณสารุปฺปนฺติ เอตํ ชาตรูปรชตาทิปริคฺคหวตฺถุ, ตสฺส วา ปริคฺคณฺหนํ สมณานํ สารุปฺปํ น โหติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น กปฺปติ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ชาตรูปรชต’’นฺติอาทิ (จูฬว. ๔๔๖). น เอตํ อริยทฺธนนฺติ เอตํ ยถาวุตฺตปริคฺคหวตฺถุ สทฺธาทิธนํ วิย อริยธมฺมมยมฺปิ ธนํ น โหติ, น อริยภาวาวหโต. เตนาห ‘‘โลภน’’นฺติอาทิ.
ตตฺถ โลภนนฺติ โลภุปฺปาทนํ. มทนนฺติ มทาวหํ. โมหนนฺติ สมฺโมหชนนํ. รชวฑฺฒนนฺติ ราครชาทิสํวฑฺฒนํ. เยน ปริคฺคหิตํ, ตสฺส อาสงฺกาวหตฺตา สห ¶ อาสงฺกาย วตฺตตีติ สาสงฺกํ, เยน ปริคฺคหิตํ, ตสฺส ยโต กุโต อาสงฺกาวหนฺติ อตฺโถ. พหุอายาสนฺติ สชฺชนรกฺขณาทิวเสน พหุปริสฺสมํ. นตฺถิ เจตฺถ ธุวํ ิตีติ เอตสฺมึ ธเน ธุวภาโว จ ิติภาโว จ นตฺถิ, จฺจลมนวฏฺิตเมวาติ อตฺโถ.
เอตฺถ รตฺตา ปมตฺตา จาติ เอตสฺมึ ธเน รตฺตา สฺชาตราคา ทสกุสลธมฺเมสุ สติยา วิปฺปวาเสน ปมตฺตา. สํกิลิฏฺมนา โลภาทิสํกิเลเสน สํกิลิฏฺจิตฺตาว นาม โหนฺติ. ตโต จ อฺมฺมฺหิ พฺยารุทฺธา, ปุถู กุพฺพนฺติ เมธคํ อนฺตมโส มาตาปิ ปุตฺเตน, ปุตฺโตปิ มาตราติ เอวํ อฺมฺํ ปฏิรุทฺธา หุตฺวา ปุถู สตฺตา เมธคํ กลหํ ¶ กโรนฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณํ…เป… มาตาปิ ปุตฺเตน วิวทติ ปุตฺโตปิ มาตรา วิวทตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๑๖๘, ๑๗๘).
วโธติ มรณํ. พนฺโธติ อทฺทุพนฺธนาทิพนฺธนํ. ปริกฺเลโสติ หตฺถจฺเฉทาทิปริกิเลสาปตฺติ. ชานีติ ¶ ธนชานิ เจว ปริวารชานิ จ. โสกปริทฺทโวติ โสโก จ ปริเทโว จ. อธิปนฺนานนฺติ อชฺโฌสิตานํ. ทิสฺสเต พฺยสนํ พหุนฺติ ยถาวุตฺตวธพนฺธนาทิเภทํ อวุตฺตฺจ โทมนสฺสุปายาสาทึ ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ พหุํ พหุวิธํ พฺยสนํ อนตฺโถ กาเมสุ ทิสฺสเตว.
ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยฺุชถาติ ตาทิสํ มํ ยถา กาเมสุ วิรตฺตํ ตุมฺเห าตี าตกา สมานา อนตฺถกามา อมิตฺตา วิย กึ เกน การเณน กาเมสุ ยฺุชถ นิโยเชถ. ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, กาเมสุ ภยทสฺสินินฺติ กาเม ภยโต ปสฺสนฺตึ ปพฺพชิตํ มํ อาชานาถ, กึ เอตฺตกํ ตุมฺเหหิ อนฺาตนฺติ อธิปฺปาโย.
น หิรฺสุวณฺเณน, ปริกฺขียนฺติ อาสวาติ ¶ กามาสวาทโย หิรฺสุวณฺเณน น กทาจิ ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อถ โข เตหิ เอว ปริวฑฺฒนฺเตว. เตนาห – ‘‘อมิตฺตา วธกา กามา, สปตฺตา สลฺลพนฺธนา’’ติ. กามา หิ อหิตาวหตฺตา เมตฺติยา อภาเวน อมิตฺตา, มรณเหตุตาย อุกฺขิตฺตาสิกวธกสทิสตฺตา วธกา, อนุพนฺธิตฺวาปิ อนตฺถาวหนตาย เวรานุพนฺธสปตฺตสทิสตฺตา สปตฺตา, ราคาทีนํ สลฺลานํ พนฺธนโต สลฺลพนฺธนา.
มุณฺฑนฺติ มุณฺฑิตเกสํ. ตตฺถ ตตฺถ นนฺตกานิ คเหตฺวา สงฺฆาฏิจีวรปารุปเนน สงฺฆาฏิปารุตํ.
อุตฺติฏฺปิณฺโฑติ วิวฏทฺวาเร ฆเร ฆเร ปติฏฺิตฺวา ลภนกปิณฺโฑ. อฺุโฉติ ตทตฺถํ อฺุฉาจริยา. อนคารูปนิสฺสโยติ อนคารานํ ปพฺพชิตานํ อุปคนฺตฺวา นิสฺสิตพฺพโต อุปนิสฺสยภูโต ชีวิตปริกฺขาโร. ตฺหิ นิสฺสาย ปพฺพชิตา ชีวนฺติ.
วนฺตาติ ¶ ฉฑฺฑิตา. มเหสีหีติ พุทฺธาทีหิ มเหสีหิ. เขมฏฺาเนติ กามโยคาทีหิ อนุปทฺทวฏฺานภูเต นิพฺพาเน. เตติ มเหสโย. อจลํ สุขนฺติ นิพฺพานสุขํ ปตฺตา. ตสฺมา ตํ ปตฺเถนฺเตน กามา ปริจฺจชิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
มาหํ กาเมหิ สํคจฺฉินฺติ อหํ กทาจิปิ กาเมหิ น สมาคจฺเฉยฺยํ. กสฺมาติ เจ อาห ¶ – ‘‘เยสุ ตาณํ น วิชฺชตี’’ติอาทิ, เยสุ กาเมสุ อุปปริกฺขิยมาเนสุ เอกสฺมิมฺปิ อนตฺถปริตฺตาณํ นาม นตฺถิ. อคฺคิกฺขนฺธูปมา มหาภิตาปฏฺเน. ทุขา ทุกฺขมฏฺเน.
ปริปนฺโถ เอส ภโย ยทิทํ กามา นาม อวิทิตวิปุลานตฺถาวหตฺตา. สวิฆาโต จิตฺตวิฆาตกรตฺตา. สกณฺฏโก วินิวิชฺฌนตฺตา. เคโธ สุวิสโม เจโสติ คิทฺธิเหตุตาย เคโธ. สุฏฺุ วิสโม มหาปลิโพโธ โส. ทุรติกฺกมนฏฺเน มหนฺโต. โมหนามุโข มุจฺฉาปตฺติเหตุโต.
อุปสคฺโค ภีมรูโปติ อติภึสนกสภาโว, มหนฺโต ¶ เทวตูปสคฺโค วิย อนตฺถกาทิทุกฺขาวหนโต. สปฺปสิรูปมา กามา สปฺปฏิภยฏฺเน.
กามปงฺเกน สตฺตาติ กามสงฺขาเตน ปงฺเกน สตฺตา ลคฺคา.
ทุคฺคติคมนํ มคฺคนฺติ นิรยาทิอปายคามินํ มคฺคํ. กามเหตุกนฺติ กาโมปโภคเหตุกํ. พหุนฺติ ปาณาติปาตาทิเภเทน พหุวิธํ. โรคมาวหนฺติ รุชฺชนฏฺเน โรคสงฺขาตสฺส ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทสฺส ทุกฺขสฺส อาวหนกํ.
เอวนฺติ ‘‘อมิตฺตา วธกา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. อมิตฺตชนนาติ อมิตฺตภาวสฺส นิพฺพตฺตนกา. ตาปนาติ สนฺตาปนกา, ตปนียาติ อตฺโถ. สํกิเลสิกาติ สํกิเลสาวหา. โลกามิสาติ โลเก อามิสภูตา. พนฺธนิยาติ พนฺธภูเตหิ สํโยชเนหิ วฑฺฒิตพฺพา, สํโยชนิยาติ อตฺโถ. มรณพนฺธนาติ ภวาทีสุ นิพฺพตฺตินิมิตฺตตาย ปวตฺตการณโต จ มรณวิพนฺธนา.
อุมฺมาทนาติ ¶ วิปริณามธมฺมานํ วิโยควเสน โสกุมฺมาทกรา, วฑฺฒิยา วา อุปรูปริมทาวหา. อุลฺลปนาติ ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ อุทฺธํ อุทฺธํ ลปาปนกา. ‘‘อุลฺโลลนา’’ติปิ ปาโ, ภตฺตปิณฺฑนิมิตฺตํ นงฺคุฏฺํ อุลฺโลเลนฺโต สุนโข วิย อามิสเหตุ สตฺเต อุปรูปริลาลนา, ปราภวาวฺาตปาปนกาติ อตฺโถ. จิตฺตปฺปมาถิโนติ ปริฬาหุปฺปาทนาทินา สมฺปติ อายติฺจ จิตฺตสฺส ปมถนสีลา. ‘‘จิตฺตปฺปมทฺทิโน’’ติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. เย ปน ‘‘จิตฺตปฺปมาทิโน’’ติ วทนฺติ, เตสํ จิตฺตสฺส ปมาทาวหาติ อตฺโถ. สํกิเลสายาติ วิพาธนาย ¶ อุปตาปนาย วา. ขิปฺปํ มาเรน โอฑฺฑิตนฺติ กามา นาเมเต มาเรน โอฑฺฑิตํ กุมินนฺติ ทฏฺพฺพา สตฺตานํ อนตฺถาวหนโต.
อนนฺตาทีนวาติ ‘‘โลภนํ มทนฺเจต’’นฺติอาทินา, ‘‘อิธ สีตสฺส ปุรกฺขโต อุณฺหสฺส ปุรกฺขโต’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๖๗) จ ทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตาทีสุ วุตฺตนเยน อปริยนฺตาทีนวา พหุโทสา. พหุทุกฺขาติ อาปายิกาทิพหุวิธทุกฺขานุพนฺธา. มหาวิสาติ กฏุกาสยฺหผลตาย หลาหลาทิมหาวิสสทิสา ¶ . อปฺปสฺสาทาติ สตฺถธาราคตมธุพินฺทุ วิย ปริตฺตสฺสาทา. รณกราติ สาราคาทิสํวฑฺฒกา. สุกฺกปกฺขวิโสสนาติ สตฺตานํ อนวชฺชโกฏฺาสสฺส วินาสกา.
สาหนฺติ สา อหํ, เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา กาเม ปหาย ปพฺพชิตฺวา ิตาติ อตฺโถ. เอตาทิสนฺติ เอวรูปํ วุตฺตปฺปการํ. กตฺวาติ อิติ กตฺวา, ยถาวุตฺตการเณนาติ อตฺโถ. น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามีติ ตํ มยา ปุพฺเพ วนฺตกาเม ปุน น ปริภฺุชิสฺสามิ. นิพฺพานาภิรตา สทาติ ยสฺมา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย สพฺพกาลํ นิพฺพานาภิรตา, ตสฺมา น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามีติ โยชนา.
รณํ ตริตฺวา กามานนฺติ กามานํ รณํ ตริตฺวา, ตฺจ มยา กาตพฺพํ อริยมคฺคสํปหารํ กตฺวา. สีติภาวาภิกงฺขินีติ สพฺพกิเลสทรถปริฬาหวูปสเมน สีติภาวสงฺขาตํ อรหตฺตํ อภิกงฺขนฺตี. สพฺพสํโยชนกฺขเยติ สพฺเพสํ สํโยชนานํ ขยภูเต นิพฺพาเน อภิรตา.
เยน ¶ ติณฺณา มเหสิโนติ เยน อริยมคฺเคน พุทฺธาทโย มเหสิโน สํสารมโหฆํ ติณฺณา, อหมฺปิ เตหิ คตมคฺคํ อนุคจฺฉามิ, สีลาทิปฏิปตฺติยา อนุปาปุณามีติ อตฺโถ.
ธมฺมฏฺนฺติ อริยผลธมฺเม ิตํ. อเนชนฺติ ปฏิปฺปสฺสทฺธ เอชตาย อเนชนฺติ ลทฺธนามํ อคฺคผลํ. อุปสมฺปชฺชาติ สมฺปาเทตฺวา อคฺคมคฺคาธิคเมน อธิคนฺตฺวา. ฌายตีติ ตเมว ผลชฺฌานํ อุปนิชฺฌายติ.
อชฺชฏฺมี ปพฺพชิตาติ ปพฺพชิตา หุตฺวา ปพฺพชิตโต ปฏฺาย อชฺช อฏฺมทิวโส, อิโต อตีเต ¶ อฏฺมิยํ ปพฺพชิตาติ อตฺโถ. สทฺธาติ สทฺธาสมฺปนฺนา. สทฺธมฺมโสภนาติ สทฺธมฺมาธิคเมน โสภนา.
ภุชิสฺสาติ ¶ ทาสภาวสทิสานํ กิเลสานํ ปหาเนน ภุชิสฺสา. กามจฺฉนฺทาทิอิณาปคเมน อณณา.
อิมา กิร ติสฺโส คาถา ปพฺพชิตฺวา อฏฺเม ทิวเส อรหตฺตํ ปตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺนํ เถรึ ภิกฺขูนํ ทสฺเสตฺวา ปสํสนฺเตน ภควตา วุตฺตา.
อถ สกฺโก เทวานมินฺโท ตํ ปวตฺตึ ทิพฺเพน จกฺขุนา ทิสฺวา ‘‘เอวํ สตฺถารา ปสํสียมานา อยํ เถรี ยสฺมา เทเวหิ จ ปยิรุปาสิตพฺพา’’ติ ตาวเทว ตาวตึเสหิ เทเวหิ สทฺธึ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. ตํ สนฺธาย สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตํ –
‘‘ตํ สกฺโก เทวสงฺเฆน, อุปสงฺกมฺม อิทฺธิยา;
นมสฺสติ ภูตปติ, สุภํ กมฺมารธีตร’’นฺติ.
ตตฺถ ตีสุ กามภเวสุ ภูตานํ สตฺตานํ ปติ อิสฺสโรติ กตฺวา ภูตปตีติ ลทฺธนาโม สกฺโก เทวราชา เทวสงฺเฆน สทฺธึ ตํ สุภํ กมฺมารธีตรํ อตฺตโน เทวิทฺธิยา อุปสงฺกมฺม นมสฺสติ, ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทตีติ อตฺโถ.
สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วีสตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. ตึสนิปาโต
๑. สุภาชีวกมฺพวนิกาเถรีคาถาวณฺณนา
ตึสนิปาเต ¶ ¶ ชีวกมฺพวนํ รมฺมนฺติอาทิกา สุภาย ชีวกมฺพวนิกาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, สมฺภาวิตกุสลมูลา อนุกฺกเมน ปริพฺรูหิตวิโมกฺขสมฺภารา ปริปกฺกาณา หุตฺวา, อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, สุภาติสฺสา นามมโหสิ. ตสฺสา กิร สรีราวยวา โสภนวณฺณยุตฺตา อเหสุํ, ตสฺมา สุภาติ อนฺวตฺถเมว นามํ ชาตํ. สา สตฺถุ ราชคหปฺปเวสเน ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา อปรภาเค สํสาเร ชาตสํเวคา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา เนกฺขมฺมฺจ เขมโต ¶ สลฺลกฺขนฺตี มหาปชาปติยา โคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี กติปาเหเนว อนาคามิผเล ปติฏฺาสิ.
อถ นํ เอกทิวสํ อฺตโร ราชคหวาสี ธุตฺตปุริโส ตรุโณ ปมโยพฺพเน ิโต ชีวกมฺพวเน ทิวาวิหาราย คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา มคฺคํ โอวรนฺโต กาเมหิ นิมนฺเตสิ. สา ตสฺส นานปฺปกาเรหิ กามานํ อาทีนวํ อตฺตโน จ เนกฺขมฺมชฺฌาสยํ ปเวเทนฺตี ธมฺมํ กเถสิ. โส ธมฺมกถํ สุตฺวาปิ น ปฏิกฺกมติ, นิพนฺธติเยว. เถรี นํ อตฺตโน วจเน อติฏฺนฺตํ อกฺขิมฺหิ จ อภิรตฺตํ ทิสฺวา, ‘‘หนฺท, ตยา สมฺภาวิตํ อกฺขิ’’นฺติ อตฺตโน เอกํ อกฺขึ อุปฺปาเฏตฺวา ตสฺส อุปเนสิ. ตโต โส ปุริโส สนฺตาโส สํเวคชาโต ตตฺถ วิคตราโคว หุตฺวา เถรึ ขมาเปตฺวา คโต. เถรี สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. สตฺถุโน สห ทสฺสเนเนวสฺสา อกฺขิ ปฏิปากติกํ อโหสิ. ตโต สา พุทฺธคตาย ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏา หุตฺวา อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺสา จิตฺตาจารํ ตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา อคฺคมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ. สา ปีตึ วิกฺขมฺเภตฺวา ตาวเทว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน วิหรนฺตี อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อตฺตนา เตน จ ธุตฺตปุริเสน วุตฺตคาถา อุทานวเสน –
‘‘ชีวกมฺพวนํ ¶ ¶ รมฺมํ, คจฺฉนฺตึ ภิกฺขุนึ สุภํ;
ธุตฺตโก สนฺนิวาเรสิ, ตเมนํ อพฺรวี สุภา.
‘‘กึ เต อปราธิตํ มยา, ยํ มํ โอวริยาน ติฏฺสิ;
น หิ ปพฺพชิตาย อาวุโส, ปุริโส สมฺผุสนาย กปฺปติ.
‘‘ครุเก มม สตฺถุสาสเน, ยา สิกฺขา สุคเตน เทสิตา;
ปริสุทฺธปทํ อนงฺคณํ, กึ มํ โอวริยาน ติฏฺสิ.
‘‘อาวิลจิตฺโต อนาวิลํ, สรโช วีตรชํ อนงฺคณํ;
สพฺพตฺถ วิมุตฺตมานสํ, กึ มํ โอวริยาน ติฏฺสิ.
‘‘ทหรา ¶ จ อปาปิกา จสิ, กึ เต ปพฺพชฺชา กริสฺสติ;
นิกฺขิป กาสายจีวรํ, เอหิ รมาม สุปุปฺผิเต วเน.
‘‘มธุรฺจ ปวนฺติ สพฺพโส, กุสุมรเชน สมุฏฺิตา ทุมา;
ปมวสนฺโต สุโข อุตุ, เอหิ รมาม สุปุปฺผิเต วเน.
‘‘กุสุมิตสิขรา จ ปาทปา, อภิคชฺชนฺติว มาลุเตริตา;
กา ตุยฺหํ รติ ภวิสฺสติ, ยทิ เอกา วนโมคหิสฺสสิ.
‘‘วาฬมิคสงฺฆเสวิตํ, กฺุชรมตฺตกเรณุโลฬิตํ;
อสหายิกา คนฺตุมิจฺฉสิ, รหิตํ ภึสนกํ มหาวนํ.
‘‘ตปนียกตาว ¶ ธีติกา, วิจรสิ จิตฺตลเตว อจฺฉรา;
กาสิกสุขุเมหิ วคฺคุภิ, โสภสี สุวสเนหิ นูปเม.
‘‘อหํ ตว วสานุโค สิยํ, ยทิ วิหเรมเส กานนนฺตเร;
น หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตโร, ปาโณ กินฺนริมนฺทโลจเน.
‘‘ยทิ ¶ เม วจนํ กริสฺสสิ, สุขิตา เอหิ อคารมาวส;
ปาสาทนิวาตวาสินี, ปริกมฺมํ เต กโรนฺตุ นาริโย.
‘‘กาสิกสุขุมานิ ธารย, อภิโรเปหิ จ มาลวณฺณกํ;
กฺจนมณิมุตฺตกํ พหุํ, วิวิธํ อาภรณํ กโรมิ เต.
‘‘สุโธตรชปจฺฉทํ สุภํ, โคนกตูลิกสนฺถตํ นวํ;
อภิรุห สยนํ มหารหํ, จนฺทนมณฺฑิตสารคนฺธิกํ.
‘‘อุปฺปลํ จุทกา สมุคฺคตํ, ยถา ตํ อมนุสฺสเสวิตํ;
เอวํ ¶ ตฺวํ พฺรหฺมจารินี, สเกสงฺเคสุ ชรํ คมิสฺสสิ.
‘‘กึ เต อิธ สารสมฺมตํ, กุณปปูรมฺหิ สุสานวฑฺฒเน;
เภทนธมฺเม กเฬวเร, ยํ ทิสฺวา วิมโน อุทิกฺขสิ.
‘‘อกฺขีนิ ¶ จ ตูริยาริว, กินฺนริยาริว ปพฺพตนฺตเร;
ตว เม นยนานิ ทกฺขิย, ภิยฺโย กามรตี ปวฑฺฒติ.
‘‘อุปฺปลสิขโรปมานิ เต, วิมเล หาฏกสนฺนิเภ มุเข;
ตว เม นยนานิ ทกฺขิย, ภิยฺโย กามคุโณ ปวฑฺฒติ.
‘‘อปิ ทูรคตา สรมฺหเส, อายตปมฺเห วิสุทฺธทสฺสเน;
น หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตโร, นยนา กินฺนริมนฺทโลจเน.
‘‘อปเถน ปยาตุมิจฺฉสิ, จนฺทํ กีฬนกํ คเวสสิ;
เมรุํ ลงฺเฆตุมิจฺฉสิ, โย ตฺวํ พุทฺธสุตํ มคฺคยสิ.
‘‘นตฺถิ หิ โลเก สเทวเก, ราโค ยตฺถปิ ทานิ เม สิยา;
นปิ นํ ชานามิ กีริโส, อถ มคฺเคน หโต สมูลโก.
‘‘อิงฺคาลกุยาว ¶ อุชฺฌิโต, วิสปตฺโตริว อคฺคิโต กโต;
นปิ นํ ปสฺสามิ กีริโส, อถ มคฺเคน หโต สมูลโก.
‘‘ยสฺสา สิยา อปจฺจเวกฺขิตํ, สตฺถา วา อนุปาสิโต สิยา;
ตฺวํ ตาทิสิกํ ปโลภย, ชานนฺตึ โส อิมํ วิหฺสิ.
‘‘มยฺหฺหิ ¶ อกฺกุฏฺวนฺทิเต, สุขทุกฺเข จ สตี อุปฏฺิตา;
สงฺขตมสุภนฺติ ¶ ชานิย, สพฺพตฺเถว มโน น ลิมฺปติ.
‘‘สาหํ สุคตสฺส สาวิกา, มคฺคฏฺงฺคิกยานยายินี;
อุทฺธฏสลฺลา อนาสวา, สฺุาคารคตา รมามหํ.
‘‘ทิฏฺา หิ มยา สุจิตฺติตา, โสมฺภา ทารุกปิลฺลกานิ วา;
ตนฺตีหิ จ ขีลเกหิ จ, วินิพทฺธา วิวิธํ ปนจฺจกา.
‘‘ตมฺหุทฺธเฏ ตนฺติขีลเก, วิสฺสฏฺเ วิกเล ปริกฺริเต;
น วินฺเทยฺย ขณฺฑโส กเต, กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเย.
‘‘ตถูปมา เทหกานิ มํ, เตหิ ธมฺเมหิ วินา น วตฺตนฺติ;
ธมฺเมหิ วินา น วตฺตติ, กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเย.
‘‘ยถา หริตาเลน มกฺขิตํ, อทฺทส จิตฺติกํ ภิตฺติยา กตํ;
ตมฺหิ เต วิปรีตทสฺสนํ, สฺา มานุสิกา นิรตฺถิกา.
‘‘มายํ วิย อคฺคโต กตํ, สุปินนฺเตว สุวณฺณปาทปํ;
อุปคจฺฉสิ อนฺธ ริตฺตกํ, ชนมชฺเฌริว รุปฺปรูปกํ.
‘‘วฏฺฏนิริว ¶ โกฏโรหิตา, มชฺเฌ ปุพฺพุฬกา สอสฺสุกา;
ปีฬโกฬิกา เจตฺถ ชายติ, วิวิธา จกฺขุวิธา จ ปิณฺฑิตา.
‘‘อุปฺปาฏิย ¶ จารุทสฺสนา, น จ ปชฺชิตฺถ อสงฺคมานสา;
หนฺท เต จกฺขุํ หรสฺสุ ตํ, ตสฺส นรสฺส อทาสิ ตาวเท.
‘‘ตสฺส จ วิรมาสิ ตาวเท, ราโค ตตฺถ ขมาปยี จ นํ;
โสตฺถิ สิยา พฺรหฺมจารินี, น ปุโน เอทิสกํ ภวิสฺสติ.
‘‘อาสาทิย เอทิสํ ชนํ, อคฺคึ ปชฺชลิตํว ลิงฺคิย;
คณฺหิย ¶ อาสีวิสํ วิย, อปิ นุ โสตฺถิ สิยา ขเมหิ โน.
‘‘มุตฺตา จ ตโต สา ภิกฺขุนี, อคมี พุทฺธวรสฺส สนฺติกํ;
ปสฺสิย วรปฺุลกฺขณํ, จกฺขุ อาสิ ยถา ปุราณก’’นฺติ. –
อิมา คาถา ปจฺจุทาหาสิ.
ตตฺถ ชีวกมฺพวนนฺติ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวนํ. รมฺมนฺติ รมณียํ. ตํ กิร ภูมิภาคสมฺปตฺติยา ฉายูทกสมฺปตฺติยา จ รุกฺขานํ โรปิตากาเรน อติวิย มนฺุํ มโนรมํ. คจฺฉนฺตินฺติ อมฺพวนํ อุทฺทิสฺส คตํ, ทิวาวิหาราย อุปคจฺฉนฺตึ. สุภนฺติ เอวํนามิกํ. ธุตฺตโกติ อิตฺถิธุตฺโต. ราชคหวาสี กิเรโก มหาวิภวสฺส สุวณฺณการสฺส ปุตฺโต ยุวา อภิรูโป อิตฺถิธุตฺโต ปุริโส มตฺโต วิจรติ. โส ตํ ปฏิปเถ ¶ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต มคฺคํ อุปรุนฺธิตฺวา อฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ธุตฺตโก สนฺนิวาเรสี’’ติ, มม คมนํ นิเสเธสีติ อตฺโถ. ตเมนํ อพฺรวี สุภาติ ตเมนํ นิวาเรตฺวา ิตํ ธุตฺตํ สุภา ภิกฺขุนี กเถสิ. เอตฺถ จ ‘‘คจฺฉนฺตึ ภิกฺขุนึ สุภํ, อพฺรวิ สุภา’’ติ จ อตฺตานเมว เถรี อฺํ วิย กตฺวา วทติ. เถริยา วุตฺตคาถานํ สมฺพนฺธทสฺสนวเสน สงฺคีติกาเรหิ อยํ คาถา วุตฺตา.
‘‘อพฺรวี สุภา’’ติ วตฺวา ตสฺสา วุตฺตาการทสฺสนตฺถํ อาห ‘‘กึ เต อปราธิต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ กึ เต อปราธิตํ มยาติ กึ ตุยฺหํ, อาวุโส, มยา อปรทฺธํ. ยํ มํ โอวริยาน ติฏฺสีติ เยน อปราเธน มํ คจฺฉนฺตึ โอวริตฺวา คมนํ นิเสเธตฺวา ติฏฺสิ, โส นตฺเถวาติ อธิปฺปาโย. อถ อิตฺถีติสฺาย เอวํ ปฏิปชฺชสิ, เอวมฺปิ น ยุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺตี อาห – ‘‘น หิ ปพฺพชิตาย, อาวุโส, ปุริโส สมฺผุสนาย กปฺปตี’’ติ, อาวุโส สุวณฺณการปุตฺต ¶ , โลกิยจาริตฺเตนปิ ปุริสสฺส ปพฺพชิตานํ ¶ สมฺผุสนาย น กปฺปติ, ปพฺพชิตาย ปน ปุริโส ติรจฺฉานคโตปิ สมฺผุสนาย น กปฺปติ, ติฏฺตุ ตาว ปุริสผุสนา, ราควเสนสฺสา นิสฺสคฺคิเยน ปุริสสฺส นิสฺสคฺคิยสฺสาปิ ผุสนา น กปฺปเตว.
เตนาห ‘‘ครุเก มม สตฺถุสาสเน’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ครุเก ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุกาตพฺเพ มยฺหํ สตฺถุ สาสเน ยา สิกฺขา ภิกฺขุนิโย อุทฺทิสฺส สุคเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธน เทสิตา ปฺตฺตา. ตาหิ ปริสุทฺธปทํ ปริสุทฺธกุสลโกฏฺาสํ, ราคาทิองฺคณานํ สพฺพโส อภาเวน อนงฺคณํ, เอวํภูตํ มํ คจฺฉนฺตึ เกน การเณน อาวริตฺวา ติฏฺสีติ.
อาวิลจิตฺโตติ จิตฺตสฺส อาวิลภาวกรานํ กามวิตกฺกาทีนํ วเสน อาวิลจิตฺโต, ตฺวํ ตทภาวโต อนาวิลํ, ราครชาทีนํ วเสน สรโช, สางฺคโณ ตทภาวโต วีตรชํ อนงฺคณํ สพฺพตฺถ ขนฺธปฺจเก สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุตฺตมานสํ, มํ กสฺมา โอวริตฺวา ติฏฺสีติ?
เอวํ เถริยา วุตฺเต ธุตฺตโก อตฺตโน อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘ทหรา จา’’ติอาทินา ทส คาถา อภาสิ. ตตฺถ ทหราติ ตรุณี ปเม โยพฺพเน ิตา. อปาปิกา จสีติ รูเปน อลามิกา จ อสิ ¶ , อุตฺตมรูปธรา จาโหสีติ อธิปฺปาโย. กึ เต ปพฺพชฺชา กริสฺสตีติ ตุยฺหํ เอวํ ปมวเย ิตาย รูปสมฺปนฺนาย ปพฺพชฺชา กึ กริสฺสติ, วุฑฺฒาย พีภจฺฉรูปาย วา ปพฺพชิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน วทติ. นิกฺขิปาติ ฉฑฺเฑหิ. ‘‘อุกฺขิปา’’ติ วา ปาโ, อปเนหีติ อตฺโถ.
มธุรนฺติ สุภํ, สุคนฺธนฺติ อตฺโถ. ปวนฺตีติ วายนฺติ. สพฺพโสติ สมนฺตโต. กุสุมรเชน สมุฏฺิตา ทุมาติ อิเม รุกฺขา มนฺทวาเตน สมุฏฺหมานกุสุมเรณุชาเตน อตฺตโน กุสุมรเชน สยํ สมุฏฺิตา วิย หุตฺวา สมนฺตโต สุรภี วายนฺติ. ปมวสนฺโต สุโข ¶ อุตูติ อยํ ปโม วสนฺตมาโส สุขสมฺผสฺโส จ อุตุ วตฺตตีติ อตฺโถ.
กุสุมิตสิขราติ สุปุปฺผิตคฺคา. อภิคชฺชนฺติว มาลุเตริตาติ วาเตน สฺจลิตา อภิคชฺชนฺติว อภิตฺถนิตา วิย ติฏฺนฺติ. ยทิ เอกา วนโมคหิสฺสสีติ สเจ ตฺวํ เอกิกา วนโมคาหิสฺสสิ, กา นาม เต ตตฺถ รติ ภวิสฺสตีติ อตฺตนา พทฺธสุขาภิรตฺตตฺตา เอวมาห.
วาฬมิคสงฺฆเสวิตนฺติ สีหพฺยคฺฆาทิวาฬมิคสมูเหหิ ตตฺถ ตตฺถ อุปเสวิตํ. กฺุชรมตฺตกเรณุโลฬิตนฺติ ¶ มตฺตกฺุชเรหิ หตฺถินีหิ จ มิคานํ จิตฺตตาปเนน รุกฺขคจฺฉาทีนํ สาขาภฺชเนน จ อาโลฬิตปเทสํ. กิฺจาปิ ตสฺมึ วเน อีทิสํ ตทา นตฺถิ, วนํ นาม เอวรูปนฺติ ตํ ภึสาเปตุกาโม เอวมาห. รหิตนฺติ ชนรหิตํ วิชนํ. ภึสนกนฺติ ภยชนกํ.
ตปนียกตาว ธีติกาติ รตฺตสุวณฺเณน วิจริตา ธีตลิกา วิย สุกุสเลน ยนฺตาจริเยน ยนฺตโยควเสน สชฺชิตา สุวณฺณปฏิมา วิย วิจรสิ, อิทาเนว อิโต จิโต จ สฺจรสิ. จิตฺตลเตว อจฺฉราติ จิตฺตลตานามเก อุยฺยาเน เทวจฺฉรา วิย. กาสิกสุขุเมหีติ กาสิรฏฺเ อุปฺปนฺเนหิ อติวิย สุขุเมหิ. วคฺคุภีติ สินิทฺธมฏฺเหิ. โสภสี สุวสเนหิ นูปเมติ นิวาสนปารุปนวตฺเถหิ อนุปเม อุปมารหิเต ตฺวํ อิทานิ เม วสานุโค โสภสีติ ภาวินํ อตฺตโน อธิปฺปายวเสน เอกนฺติกํ วตฺตมานํ วิย กตฺวา วทติ.
อหํ ตว วสานุโค สิยนฺติ อหมฺปิ ตุยฺหํ วสานุโค กึการปฏิสฺสาวี ภเวยฺยํ. ยทิ วิหเรมเส กานนนฺตเรติ ยทิ มยํ อุโภปิ วนนฺตเร ¶ ¶ สห วสาม รมาม. น หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตโรติ วสานุคภาวสฺส การณมาห. ปาโณติ สตฺโต, อฺโ โกจิปิ สตฺโต ตยา ปิยตโร มยฺหํ น หิ อตฺถีติ อตฺโถ. อถ วา ปาโณติ อตฺตโน ชีวิตํ สนฺธาย วทติ, มยฺหํ ชีวิตํ ตยา ปิยตรํ น หิ อตฺถีติ อตฺโถ. กินฺนริมนฺทโลจเนติ กินฺนริยา วิย มนฺทปุถุวิโลจเน.
ยทิ เม วจนํ กริสฺสสิ, สุขิตา เอหิ อคารมาวสาติ สเจ ตฺวํ มม วจนํ กริสฺสสิ, เอกาสนํ เอกเสยฺยํ พฺรหฺมจริยทุกฺขํ ปหาย เอหิ กามโภเคหิ สุขิตา หุตฺวา อคารํ อชฺฌาวส. ‘‘สุขิตา เหติ อคารมาวสนฺตี’’ติ เกจิ ปนฺติ, เตสํ สุขิตา ภวิสฺสติ, อคารํ อชฺฌาวสนฺตีติ อตฺโถ. ปาสาทนิวาตวาสินีติ นิวาเตสุ ปาสาเทสุ วาสินี. ‘‘ปาสาทวิมานวาสินี’’ติ จ ปาโ, วิมานสทิเสสุ ปาสาเทสุ วาสินีติ อตฺโถ. ปริกมฺมนฺติ เวยฺยาวจฺจํ.
ธารยาติ ปริทห, นิวาเสหิ เจว อุตฺตริยฺจ กโรหิ. อภิโรเปหีติ มณฺฑนวิภูสนวเสน วา สรีรํ อาโรปย, อลงฺกโรหีติ อตฺโถ. มาลวณฺณกนฺติ มาลฺเจว คนฺธวิเลปนฺจ. กฺจนมณิมุตฺตกนฺติ กฺจเนน มณิมุตฺตาหิ จ ยุตฺตํ, สุวณฺณมยมณิมุตฺตาหิ ขจิตนฺติ อตฺโถ. พหุนฺติ หตฺถูปคาทิเภทโต พหุปฺปการํ. วิวิธนฺติ กรณวิกติยา นานาวิธํ.
สุโธตรชปจฺฉทนฺติ ¶ สุโธตตาย ปวาหิตรชํ อุตฺตรจฺฉทํ. สุภนฺติ โสภนํ. โคนกตูลิกสนฺถตนฺติ ทีฆโลมกาฬโกชเวน เจว หํสโลมาทิปุณฺณาย ตูลิกาย จ สนฺถตํ. นวนฺติ อภินวํ. มหารหนฺติ มหคฺฆํ. จนฺทนมณฺฑิตสารคนฺธิกนฺติ โคสีสกาทิสารจนฺทเนน มณฺฑิตตาย ¶ สุรภิคนฺธิกํ, เอวรูปํ สยนมารุห, ตํ อารุหิตฺวา ยถาสุขํ สยาหิ เจว นิสีท จาติ อตฺโถ.
อุปฺปลํ จุทกา สมุคฺคตนฺติ จ-กาโร นิปาตมตฺตํ, อุทกโต อุคฺคตํ อุฏฺิตํ อจฺจุคฺคมฺม ิตํ สุผุลฺลมุปฺปลํ. ยถา ตํ อมนุสฺสเสวิตนฺติ ตฺจ รกฺขสปริคฺคหิตาย โปกฺขรณิยา ชาตตฺตา นิมฺมนุสฺเสหิ เสวิตํ เกนจิ อปริภุตฺตเมว ภเวยฺย. เอวํ ตฺวํ พฺรหฺมจารินีติ เอวเมว ตํ สุฏฺุ ผุลฺลมุปฺปลํ วิย ตุวํ พฺรหฺมจารินี. สเกสงฺเคสุ อตฺตโน สรีราวยเวสุ เกนจิ อปริภุตฺเตสุเยว ชรํ คมิสฺสสิ, มุธาเยว ชราชิณฺณา ภวิสฺสสิ.
เอวํ ¶ ธุตฺตเกน อตฺตโน อธิปฺปาเย ปกาสิเต เถรี สรีรสภาววิภาวเนน ตํ ตตฺถ วิจฺฉินฺเทนฺตี ‘‘กึ เต อิธา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อาวุโส สุวณฺณการปุตฺต, เกสาทิกุณปปูเร เอกนฺเตน เภทนธมฺเม สุสานวฑฺฒเน, อิธ อิมสฺมึ กายสฺิเต อสุจิกเฬวเร กึ นาม ตว สารนฺติ สมฺมตํ สมฺภาวิตํ, ยํ ทิสฺวา วิมโน อฺตรสฺมึ อารมฺมเณ วิคตมนสงฺกปฺโป, เอตฺเถว วา อวิมโน โสมนสฺสิโก หุตฺวา อุทิกฺขสิ, ตํ มยฺหํ กเถหีติ.
ตํ สุตฺวา ธุตฺตโก กิฺจาปิ ตสฺสา รูปํ จาตุริยโสภิตํ, ปมทสฺสนโต ปน ปฏฺาย ยสฺมึ ทิฏฺิปาเต ปฏิพทฺธจิตฺโต, ตเมว อปทิสนฺโต ‘‘อกฺขีนิ จ ตูริยาริวา’’ติอาทิมาห. กามฺจายํ เถรี สุฏฺุ สํยตตาย สนฺตินฺทฺริยา, ตาย ถิรวิปฺปสนฺนโสมฺมสนฺตนยนนิปาเตสุ กมฺมานุภาวนิปฺผนฺเนสุ ปสนฺนปฺจปฺปสาทปฏิมณฺฑิเตสุ นยเนสุ ลพฺภมาเน ปภาวิสิฏฺจาตุริเย ทิฏฺิปาเต, ยสฺมา สยํ จริตหาวภาววิลาสาทิปริกปฺปวฺจิโต โส ธุตฺโต ชาโต, ตสฺมาสฺส ทิฏฺิราโค สวิเสสํ เวปุลฺลํ อคมาสิ. ตตฺถ อกฺขีนิ จ ตูริยาริวาติ ตูริ วุจฺจติ มิคี, จ-สทฺโท นิปาตมตฺตํ, มิคจฺฉาปาย วิย ¶ เต อกฺขีนีติ อตฺโถ. ‘‘โกริยาริวา’’ติ วา ปาฬิ, กฺุจการกุกฺกุฏิยาติ วุตฺตํ โหติ. กินฺนริยาริว ปพฺพตนฺตเรติ ปพฺพตกุจฺฉิยํ วิจรมานาย กินฺนริวนิตาย วิย จ เต อกฺขีนีติ อตฺโถ. ตว เม นยนานิ ทกฺขิยาติ ตว วุตฺตคุณวิเสสานิ นยนานิ ทิสฺวา, ภิยฺโย อุปรูปริ เม กามาภิรติ ปวฑฺฒติ.
อุปฺปลสิขโรปมานิ ¶ เตติ รตฺตุปฺปลอคฺคสทิสานิ ปมฺหานิ ตว. วิมเลติ นิมฺมเล. หาฏกสนฺนิเภติ กฺจนรูปกสฺส มุขสทิเส เต มุเข, นยนานิ ทกฺขิยาติ โยชนา.
อปิ ทูรคตาติ ทูรํ านํ คตาปิ. สรมฺหเสติ อฺํ กิฺจิ อจินฺเตตฺวา ตว นยนานิ เอว อนุสฺสรามิ. อายตปมฺเหติ ทีฆปขุเม. วิสุทฺธทสฺสเนติ นิมฺมลโลจเน. น หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตโร นยนาติ ตว นยนโต อฺโ โกจิ มยฺหํ ปิยตโร นตฺถิ. ตยาติ หิ สามิอตฺเถ เอว กรณวจนํ.
เอวํ ¶ จกฺขุสมฺปตฺติยา อุมฺมาทิตสฺส วิย ตํ ตํ วิปฺปลปโต ตสฺส ปุริสสฺส มโนรถํ วิปริวตฺเตนฺตี เถรี ‘‘อปเถนา’’ติอาทินา ทฺวาทส คาถา อภาสิ. ตตฺถ อปเถน ปยาตุมิจฺฉสีติ, อาวุโส สุวณฺณการปุตฺต, สนฺเต อฺสฺมึ อิตฺถิชเน โย ตฺวํ พุทฺธสุตํ พุทฺธสฺส ภควโต โอรสธีตรํ มํ มคฺคยสิ ปตฺเถสิ, โส ตฺวํ สนฺเต เขเม อุชุมคฺเค อปเถน กณฺฏกนิวุเตน สภเยน กุมฺมคฺเคน ปยาตุมิจฺฉสิ ปฏิปชฺชิตุกาโมสิ, จนฺทํ กีฬนกํ คเวสสิ จนฺทมณฺฑลํ กีฬาโคฬกํ กาตุกาโมสิ, เมรุํ ลงฺเฆตุมิจฺฉสิ จตุราสีติโยชนสหสฺสุพฺเพธํ สิเนรุปพฺพตราชํ ลงฺฆยิตฺวา อปรภาเค าตุกาโมสิ, โส ตฺวํ มํ พุทฺธสุตํ มคฺคยสีติ โยชนา.
อิทานิ ¶ ตสฺส อตฺตโน อวิสยภาวํ ปตฺถนาย จ วิฆาตาวหตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นตฺถี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ราโค ยตฺถปิ ทานิ เม สิยาติ ยตฺถ อิทานิ เม ราโค สิยา ภเวยฺย, ตํ อารมฺมณํ สเทวเก โลเก นตฺถิ เอว. นปิ นํ ชานามิ กีริโสติ นํ ราคํ กีริโสติปิ น ชานามิ. อถ มคฺเคน หโต สมูลโกติ อถาติ นิปาตมตฺตํ. อโยนิโสมนสิการสงฺขาเตน มูเลน สมูลโก ราโค อริยมคฺเคน หโต สมุคฺฆาติโต.
อิงฺคาลกุยาติ องฺคารกาสุยา. อุชฺฌิโตติ วาตุกฺขิตฺโต วิย โย โกจิ, ทหนิยา อินฺธนํ วิยาติ อตฺโถ. วิสปตฺโตริวาติ วิสคตภาชนํ วิย. อคฺคิโต กโตติ อคฺคิโต องฺคารโต อปคโต กโต, วิสสฺส เลสมฺปิ อเสเสตฺวา อปนีโต วินาสิโตติ อตฺโถ.
ยสฺสา สิยา อปจฺจเวกฺขิตนฺติ ยสฺสา อิตฺถิยา อิทํ ขนฺธปฺจกํ าเณน อปฺปฏิเวกฺขิตํ อปริฺาตํ สิยา. สตฺตา วา อนุสาสิโต สิยาติ สตฺตา วา ธมฺมสรีรสฺส อทสฺสเนน ยสฺสา อิตฺถิยา อนนุสาสิโต สิยา. ตฺวํ ตาทิสิกํ ปโลภยาติ, อาวุโส, ตฺวํ ตถารูปํ อปริมทฺทิตสงฺขารํ ¶ อปจฺจเวกฺขิตโลกุตฺตรธมฺมํ กาเมหิ ปโลภย อุปคจฺฉ. ชานนฺตึ โส อิมํ วิหฺสีติ โส ตฺวํ ปวตฺตึ นิวตฺติฺจ ¶ ยาถาวโต ชานนฺตึ ปฏิวิทฺธสจฺจํ อิมํ สุภํ ภิกฺขุนึ อาคมฺม วิหฺสิ, สมฺปติ อายติฺจ วิฆาตํ ทุกฺขํ อาปชฺชสิ.
อิทานิสฺส วิฆาตาปตฺติตํ การณวิภาวเนน ทสฺเสนฺตี ‘‘มยฺหํ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ หีติ เหตุอตฺเถ นิปาโต. อกฺกุฏฺวนฺทิเตติ อกฺโกเส วนฺทนาย จ. สุขทุกฺเขติ สุเข จ ทุกฺเข จ, อิฏฺานิฏฺวิสยสมาโยเค วา. สตี อุปฏฺิตาติ ปจฺจเวกฺขณยุตฺตา สติ ¶ สพฺพกาลํ อุปฏฺิตา. สงฺขตมสุภนฺติ ชานิยาติ เตภูมกํ สงฺขารคตํ กิเลสาสุจิปคฺฆรเณน อสุภนฺติ ตฺวา. สพฺพตฺเถวาติ สพฺพสฺมึเยว ภวตฺตเย มยฺหํ มโน ตณฺหาเลปาทินา น อุปลิมฺปติ.
มคฺคฏฺงฺคิกยานยายินีติ อฏฺงฺคิกมคฺคสงฺขาเตน อริยยาเนน นิพฺพานปุรํ ยายินี อุปคตา. อุทฺธฏสลฺลาติ อตฺตโน สนฺตานโต สมุทฺธฏราคาทิสลฺลา.
สุจิตฺติตาติ หตฺถปาทมุขาทิอากาเรน สุฏฺุ จิตฺติตา วิรจิตา. โสมฺภาติ สุมฺภกา. ทารุกปิลฺลกานิ วาติ ทารุทณฺฑาทีหิ อุปรจิตรูปกานิ. ตนฺตีหีติ นฺหารุสุตฺตเกหิ. ขีลเกหีติ หตฺถปาทปิฏฺิกณฺณาทิอตฺถาย ปิตทณฺเฑหิ. วินิพทฺธาติ วิวิเธนากาเรน พทฺธา. วิวิธํ ปนจฺจกาติ ยนฺตสุตฺตาทีนํ อฺฉนวิสฺสชฺชนาทินา ปฏฺปิตนจฺจกา, ปนจฺจนฺตา วิย ทิฏฺาติ โยชนา.
ตมฺหุทฺธเฏ ตนฺติขีลเกติ สนฺนิเวสวิสิฏฺรจนาวิเสสยุตฺตํ อุปาทาย รูปกสมฺา ตมฺหิ ตนฺติมฺหิ ขีลเก จ านโต อุทฺธเฏ พนฺธนฺโต วิสฺสฏฺเ, วิสุํ กรเณน อฺมฺํ วิกเล, ตหึ ตหึ ขิปเนน ปริกฺริเต วิกิริเต. น วินฺเทยฺย ขณฺฑโส กเตติ โปตฺถกรูปสฺส อวยเว ขณฺฑาขณฺฑิเต กเต โปตฺถกรูปํ น วินฺเทยฺย, น อุปลเภยฺย. เอวํ สนฺเต กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเย ตสฺมึ โปตฺถกรูปาวยเว กิมฺหิ กึ ขาณุเก, อุทาหุ รชฺชุเก, มตฺติกาปิณฺฑาทิเก วา มนํ มนสฺํ นิเวเสยฺย, วิสงฺขาเร อวยเว สา สฺา กทาจิปิ นปเตยฺยาติ อตฺโถ.
ตถูปมาติ ตํสทิสา เตน โปตฺถกรูเปน สทิสา. กินฺติ เจ อาห ‘‘เทหกานี’’ติอาทิ. ตตฺถ เทหกานีติ ¶ หตฺถปาทมุขาทิเทหาวยวา. มนฺติ เม ปฏิพทฺธา อุปฏฺหนฺติ. เตหิ ธมฺเมหีติ เตหิ ปถวิอาทีหิ ¶ จ จกฺขาทีหิ จ ธมฺเมหิ. วินา น วตฺตนฺตีติ ¶ น หิ ตถา ตถา สนฺนิวิฏฺเ ปถวิอาทิธมฺเม มฺุจิตฺวา เทหา นาม สนฺติ. ธมฺเมหิ วินา น วตฺตตีติ เทโห อวยเวหิ อวยวธมฺเมหิ วินา น วตฺตติ น อุปลพฺภติ. เอวํ สนฺเต กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเยติ กิมฺหิ กึ ปถวิยํ, อุทาหุ อาปาทิเก เทโหติ วา หตฺถปาทาทีนีติ วา มนํ มนสฺํ นิเวเสยฺย. ยสฺมา ปถวิอาทิปสาทธมฺมมตฺเต เอสา สมฺา, ยทิทํ เทโหติ วา หตฺถปาทาทีนีติ วา สตฺโตติ วา อิตฺถีติ วา ปุริโสติ วา, ตสฺมา น เอตฺถ ชานโต โกจิ อภินิเวโส โหตีติ.
ยถา หริตาเลน มกฺขิตํ, อทฺทส จิตฺติกํ ภิตฺติยา กตนฺติ ยถา กุสเลน จิตฺตกาเรน ภิตฺติยํ หริตาเลน มกฺขิตํ ลิตฺตํ เตน เลปํ ทตฺวา กตํ อาลิขิตํ จิตฺติกํ อิตฺถิรูปํ อทฺทส ปสฺเสยฺย. ตตฺถ ยา อุปถมฺภนเขปนาทิกิริยาสมฺปตฺติยา มานุสิกา นุ โข อยํ ภิตฺติ อปสฺสาย ิตาติ สฺา, สา นิรตฺถกา มนุสฺสภาวสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ตตฺถ อภาวโต, มานุสีติ ปน เกวลํ ตหึ ตสฺส จ วิปรีตทสฺสนํ, ยาถาวโต คหณํ น โหติ, ธมฺมปฺุชมตฺเต อิตฺถิปุริสาทิคหณมฺปิ เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
มายํ วิย อคฺคโต กตนฺติ มายากาเรน ปุรโต อุปฏฺาปิตํ มายาสทิสํ. สุปินนฺเตว สุวณฺณปาทปนฺติ สุปินเมว สุปินนฺตํ, ตตฺถ อุปฏฺิตสุวณฺณมยรุกฺขํ วิย. อุปคจฺฉสิ อนฺธ ริตฺตกนฺติ อนฺธพาล ริตฺตกํ ตุจฺฉกํ อนฺโตสารรหิตํ อิมํ อตฺตภาวํ ‘‘เอตํ มมา’’ติ สารวนฺตํ วิย อุปคจฺฉสิ อภินิวิสสิ. ชนมชฺเฌริว รุปฺปรูปกนฺติ มายากาเรน มหาชนมชฺเฌ ¶ ทสฺสิตํ รูปิยรูปสทิสํ สารํ วิย อุปฏฺหนฺตํ, อสารนฺติ อตฺโถ.
วฏฺฏนิริวาติ ลาขาย คุฬิกา วิย. โกฏโรหิตาติ โกฏเร รุกฺขสุสิเร ปิตา. มชฺเฌ ปุพฺพุฬกาติ อกฺขิทลมชฺเฌ ิตชลปุพฺพุฬสทิสา. สอสฺสุกาติ อสฺสุชลสหิตา. ปีฬโกฬิกาติ อกฺขิคูถโก. เอตฺถ ชายตีติ เอตสฺมึ อกฺขิมณฺฑเล อุโภสุ โกฏีสุ วิสคนฺธํ วายนฺโต นิพฺพตฺตติ. ปีฬโกฬิกาติ วา อกฺขิทเลสุ นิพฺพตฺตนกา ปีฬกา วุจฺจติ. วิวิธาติ เสตนีลมณฺฑลานฺเจว รตฺตปีตาทีนํ สตฺตนฺนํ ปฏลานฺจ วเสน อเนกวิธา. จกฺขุวิธาติ จกฺขุภาคา จกฺขุปฺปการา วา ตสฺส อเนกกลาปคตภาวโต. ปิณฺฑิตาติ สมุทิตา.
เอวํ ¶ จกฺขุสฺมึ สารชฺชนฺตสฺส จกฺขุโน อสุภตํ อนวฏฺิตตาย อนิจฺจตฺจ วิภาเวสิ ¶ . วิภาเวตฺวา จ ยถา นาม โกจิ โลภนียํ ภณฺฑํ คเหตฺวา โจรกนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺโต โจเรหิ ปลิพุทฺโธ ตํ โลภนียภณฺฑํ ทตฺวา คจฺฉติ, เอวเมว จกฺขุมฺหิ สารตฺเตน เตน ปุริเสน ปลิพุทฺธา เถรี อตฺตโน จกฺขุํ อุปฺปาเฏตฺวา ตสฺส อทาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปาฏิย จารุทสฺสนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุปฺปาฏิยาติ อุปฺปาเฏตฺวา จกฺขุกูปโต นีหริตฺวา. จารุทสฺสนาติ ปิยทสฺสนา มโนหรทสฺสนา. น จ ปชฺชิตฺถาติ ตสฺมึ จกฺขุสฺมึ สงฺคํ นาปชฺชิ. อสงฺคมานสาติ กตฺถจิปิ อารมฺมเณ อนาสตฺตจิตฺตา. หนฺท เต จกฺขุนฺติ ตยา กามิตํ ตโต เอว มยา ทินฺนตฺตา เต จกฺขุสฺิตํ อสุจิปิณฺฑํ คณฺห, คเหตฺวา หรสฺสุ ปสาทยุตฺตํ อิจฺฉิตํ านํ เนหิ.
ตสฺส จ วิรมาสิ ตาวเทติ ตสฺส ธุตฺตปุริสสฺส ตาวเทว อกฺขิมฺหิ อุปฺปาฏิตกฺขเณ เอว ราโค วิคจฺฉิ. ตตฺถาติ อกฺขิมฺหิ, ตสฺสํ วา เถริยํ. อถ วา ตตฺถาติ ตสฺมึเยว าเน. ขมาปยีติ ขมาเปสิ. โสตฺถิ สิยา พฺรหฺมจารินีติ เสฏฺจารินิ มเหสิเก ตุยฺหํ อาโรคฺยเมว ภเวยฺย. น ปุโน เอทิสกํ ¶ ภวิสฺสตีติ อิโต ปรํ เอวรูปํ อนาจารจรณํ น ภวิสฺสติ, น กริสฺสามีติ อตฺโถ.
อาสาทิยาติ ฆฏฺเฏตฺวา. เอทิสนฺติ เอวรูปํ สพฺพตฺถ วีตราคํ. อคฺคึ ปชฺชลิตํว ลิงฺคิยาติ ปชฺชลิตํ อคฺคึ อาลิงฺเคตฺวา วิย.
ตโตติ ตสฺมา ธุตฺตปุริสา. สา ภิกฺขุนีติ สา สุภา ภิกฺขุนี. อคมี พุทฺธวรสฺส สนฺติกนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติกํ อุปคจฺฉิ อุปสงฺกมิ. ปสฺสิย วรปฺุลกฺขณนฺติ อุตฺตเมหิ ปฺุสมฺภาเรหิ นิพฺพตฺตมหาปุริสลกฺขณํ ทิสฺวา. ยถา ปุราณกนฺติ โปราณํ วิย อุปฺปาฏนโต ปุพฺเพ วิย จกฺขุ ปฏิปากติกํ อโหสิ. ยเมตฺถ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.
สุภาชีวกมฺพวนิกาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตึสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. จตฺตาลีสนิปาโต
๑. อิสิทาสีเถรีคาถาวณฺณนา
จตฺตาลีสนิปาเต ¶ ¶ นครมฺหิ กุสุมนาเมติอาทิกา อิสิทาสิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุริสตฺตภาเว ตฺวา วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี จริมภวโต สตฺตเม ภเว อกลฺยาณสนฺนิสฺสเยน ปรทาริกกมฺมํ กตฺวา, กายสฺส เภทา นิรเย นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ พหูนิ วสฺสสตานิ นิรเย ปจฺจิตฺวา, ตโต จุตา ตีสุ ชาตีสุ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุตา ทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ นปุํสโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตโต ปน จุตา เอกสฺส ทลิทฺทสฺส สากฏิกสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตํ วยปฺปตฺตํ คิริทาโส นาม อฺตรสฺส สตฺถวาหสฺส ปุตฺโต อตฺตโน ภริยํ กตฺวา เคหํ อาเนสิ. ตสฺส จ ภริยา อตฺถิ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. ตสฺสํ อิสฺสาปกตา สามิโน ตสฺสา วิทฺเทสนกมฺมํ อกาสิ. สา ตตฺถ ยาวชีวํ ตฺวา กายสฺส เภทา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อุชฺเชนิยํ กุลปเทสสีลาจาราทิคุเณหิ อภิสมฺมตสฺส วิภวสมฺปนฺนสฺส ¶ เสฏฺิสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อิสิทาสีติสฺสา นามํ อโหสิ.
ตํ วยปฺปตฺตกาเล มาตาปิตโร กุลรูปวยวิภวาทิสทิสสฺส อฺตรสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส อทํสุ. สา ตสฺส เคเห ปติเทวตา หุตฺวา มาสมตฺตํ วสิ. อถสฺสา กมฺมพเลน สามิโก วิรตฺตรูโป หุตฺวา ตํ ฆรโต นีหริ. ตํ สพฺพํ ปาฬิโต เอว วิฺายติ. เตสํ เตสํ ปน สามิกานํ อรุจฺจเนยฺยตาย สํเวคชาตา ปิตรํ อนุชานาเปตฺวา, ชินทตฺตาย เถริยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี นจิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา, ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺตี เอกทิวสํ ปาฏลิปุตฺตนคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา มหาคงฺคายํ วาลุกปุลิเน นิสีทิตฺวา โพธิตฺเถริยา นาม อตฺตโน สหายตฺเถริยา ปุพฺพปฏิปตฺตึ ปุจฺฉิตา ตมตฺถํ คาถาพนฺธวเสน วิสฺสชฺเชสิ ‘‘อุชฺเชนิยา ปุรวเร’’ติอาทินา. เตสํ ปน ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานํ สมฺพนฺธํ ทสฺเสตุํ –
‘‘นครมฺหิ กุสุมนาเม, ปาฏลิปุตฺตมฺหิ ปถวิยา มณฺเฑ;
สกฺยกุลกุลีนาโย, ทฺเว ภิกฺขุนิโย หิ คุณวติโย.
‘‘อิสิทาสี ¶ ¶ ตตฺถ เอกา, ทุติยา โพธีติ สีลสมฺปนฺนา จ;
ฌานชฺฌายนรตาโย, พหุสฺสุตาโย ธุตกิเลสาโย.
‘‘ตา ปิณฺฑาย จริตฺวา, ภตฺตตฺถํ กริย โธตปตฺตาโย;
รหิตมฺหิ สุขนิสินฺนา, อิมา คิรา อพฺภุทีเรสุ’’นฺติ. –
อิมา ติสฺโส คาถา สงฺคีติกาเรหิ ปิตา.
‘‘ปาสาทิกาสิ อยฺเย, อิสิทาสิ วโยปิ เต อปริหีโน;
กึ ทิสฺวาน พฺยาลิกํ, อถาสิ เนกฺขมฺมมนุยุตฺตา.
‘‘เอวมนุยฺุชิยมานา สา, รหิเต ธมฺมเทสนากุสลา;
อิสิทาสี วจนมพฺรวิ, สุณ โพธิ ยถามฺหิ ปพฺพชิตา.
อิโต ปรํ วิสฺสชฺชนคาถา.
‘‘อุชฺเชนิยา ¶ ปุรวเร, มยฺหํ ปิตา สีลสํวุโต เสฏฺิ;
ตสฺสมฺหิ เอกธีตา, ปิยา มนาปา จ ทยิตา จ.
‘‘อถ เม สาเกตโต วรกา, อาคจฺฉุมุตฺตมกุลีนา;
เสฏฺี ปหูตรตโน, ตสฺส มมํ สุณุมทาสิ ตาโต.
‘‘สสฺสุยา สสุรสฺส จ, สายํ ปาตํ ปณามมุปคมฺม;
สิรสา กโรมิ ปาเท, วนฺทามิ ยถามฺหิ อนุสิฏฺา.
‘‘ยา มยฺหํ สามิกสฺส, ภคินิโย ภาตุโน ปริชโน วา;
ตเมกวรกมฺปิ ทิสฺวา, อุพฺพิคฺคา อาสนํ เทมิ.
‘‘อนฺเนน ¶ จ ปาเนน จ, ขชฺเชน จ ยฺจ ตตฺถ สนฺนิหิตํ;
ฉาเทมิ อุปนยามิ จ, เทมิ จ ยํ ยสฺส ปติรูปํ.
‘‘กาเลน อุปฏฺหิตฺวา, ฆรํ สมุปคมามิ อุมฺมาเร;
โธวนฺตี หตฺถปาเท, ปฺชลิกา สามิกมุเปมิ.
‘‘โกจฺฉํ ปสาทํ อฺชนิฺจ, อาทาสกฺจ คณฺหิตฺวา;
ปริกมฺมการิกา วิย, สยเมว ปตึ วิภูเสมิ.
‘‘สยเมว โอทนํ สาธยามิ, สยเมว ภาชนํ โธวนฺตี;
มาตาว เอกปุตฺตกํ, ตถา ภตฺตารํ ปริจรามิ.
‘‘เอวํ ¶ มํ ภตฺติกตํ, อนุรตฺตํ การิกํ นิหตมานํ;
อุฏฺายิกํ อนลสํ, สีลวตึ ทุสฺสเต ภตฺตา.
‘‘โส มาตรฺจ ปิตรฺจ, ภณติ อาปุจฺฉหํ คมิสฺสามิ;
อิสิทาสิยา น สห วจฺฉํ, เอกาคาเรหํ สห วตฺถุํ.
‘‘มา เอวํ ปุตฺต อวจ, อิสิทาสี ปณฺฑิตา ปริพฺยตฺตา;
อุฏฺายิกา อนลสา, กึ ตุยฺหํ น โรจเต ปุตฺต.
‘‘น จ เม หึสติ กิฺจิ, น จหํ อิสิทาสิยา สห วจฺฉํ;
เทสฺสาว เม อลํ เม, อปุจฺฉาหํ คมิสฺสามิ.
‘‘ตสฺส วจนํ สุณิตฺวา, สสฺสุ สสุโร จ มํ อปุจฺฉึสุ;
กิสฺส ¶ ตยา อปรทฺธํ, ภณ วิสฺสฏฺา ยถาภูตํ.
‘‘นปิหํ อปรชฺฌํ กิฺจิ, นปิ หึเสมิ น ภณามิ ทุพฺพจนํ;
กึ สกฺกา กาตุยฺเย, ยํ มํ วิทฺเทสฺสเต ภตฺตา.
‘‘เต ¶ มํ ปิตุฆรํ ปฏินยึสุ, วิมนา ทุเขน อธิภูตา;
ปุตฺตมนุรกฺขมานา, ชิตามฺหเส รูปินึ ลกฺขึ.
‘‘อถ มํ อทาสิ ตาโต, อฑฺฒสฺส ฆรมฺหิ ทุติยกุลิกสฺส;
ตโต อุปฑฺฒสุงฺเกน, เยน มํ วินฺทถ เสฏฺิ.
‘‘ตสฺสปิ ฆรมฺหิ มาสํ, อวสึ อถ โสปิ มํ ปฏิจฺฉรยิ;
ทาสีว อุปฏฺหนฺตึ, อทูสิกํ สีลสมฺปนฺนํ.
‘‘ภิกฺขาย จ วิจรนฺตํ, ทมกํ ทนฺตํ เม ปิตา ภณติ;
โหหิสิ เม ชามาตา, นิกฺขิป โปฏฺิฺจ ฆฏิกฺจ.
‘‘โสปิ วสิตฺวา ปกฺขํ, อถ ตาตํ ภณติ ‘เทหิ เม โปฏฺึ;
ฆฏิกฺจ มลฺลกฺจ, ปุนปิ ภิกฺขํ จริสฺสามิ’.
‘‘อถ นํ ภณตี ตาโต, อมฺมา สพฺโพ จ เม าติคณวคฺโค;
กึ เต น กีรติ อิธ, ภณ ขิปฺปํ ตํ เต กริหิติ.
‘‘เอวํ ภณิโต ภณติ, ยทิ เม อตฺตา สกฺโกติ อลํ มยฺหํ;
อิสิทาสิยา น สห วจฺฉํ, เอกฆเรหํ สห วตฺถุํ.
‘‘วิสฺสชฺชิโต ¶ คโต โส, อหมฺปิ เอกากินี วิจินฺเตมิ;
อาปุจฺฉิตูน คจฺฉํ, มริตุเย วา ปพฺพชิสฺสํ วา.
‘‘อถ ¶ อยฺยา ชินทตฺตา, อาคจฺฉี โคจราย จรมานา;
ตาต กุลํ วินยธรี, พหุสฺสุตา สีลสมฺปนฺนา.
‘‘ตํ ทิสฺวาน อมฺหากํ, อุฏฺายาสนํ ตสฺสา ปฺาปยึ;
นิสินฺนาย จ ปาเท, วนฺทิตฺวา โภชนมทาสึ.
‘‘อนฺเนน ¶ จ ปาเนน จ, ขชฺเชน จ ยฺจ ตตฺถ สนฺนิหิตํ;
สนฺตปฺปยิตฺวา อวจํ, อยฺเย อิจฺฉามิ ปพฺพชิตุํ.
‘‘อถ มํ ภณตี ตาโต, อิเธว ปุตฺตก จราหิ ตฺวํ ธมฺมํ;
อนฺเนน จ ปาเนน จ, ตปฺปย สมเณ ทฺวิชาตี จ.
‘‘อถหํ ภณามิ ตาตํ, โรทนฺตี อฺชลึ ปณาเมตฺวา;
ปาปฺหิ มยา ปกตํ, กมฺมํ ตํ นิชฺชเรสฺสามิ.
‘‘อถ มํ ภณตี ตาโต, ปาปุณ โพธิฺจ อคฺคธมฺมฺจ;
นิพฺพานฺจ ลภสฺสุ, ยํ สจฺฉิกรี ทฺวิปทเสฏฺโ.
‘‘มาตาปิตู อภิวาท, ยิตฺวา สพฺพฺจ าติคณวคฺคํ;
สตฺตาหํ ปพฺพชิตา, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยึ.
‘‘ชานามิ อตฺตโน สตฺต, ชาติโย ยสฺสยํ ผลวิปาโก;
ตํ ตว อาจิกฺขิสฺสํ, ตํ เอกมนา นิสาเมหิ.
‘‘นครมฺหิ เอรกจฺเฉ, สุวณฺณกาโร อหํ ปหูตธโน;
โยพฺพนมเทน มตฺโต, โส ปรทารํ อเสวิหํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, นิรยมฺหิ อปจฺจิสํ จิรํ;
ปกฺโก ตโต จ อุฏฺหิตฺวา, มกฺกฏิยา กุจฺฉิโมกฺกมึ.
‘‘สตฺตาหชาตกํ มํ, มหากปิ ยูถโป นิลฺลจฺเฉสิ;
ตสฺเสตํ กมฺมผลํ, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, กาลํ กริตฺวา สินฺธวารฺเ;
กาณาย ¶ จ ขฺชาย จ, เอฬกิยา กุจฺฉิโมกฺกมึ.
‘‘ทฺวาทส ¶ ¶ วสฺสานิ อหํ, นิลฺลจฺฉิโต ทารเก ปริวหิตฺวา;
กิมินาวฏฺโฏ อกลฺโล, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, โควาณิชกสฺส คาวิยา ชาโต;
วจฺโฉ ลาขาตมฺโพ, นิลฺลจฺฉิโต ทฺวาทเส มาเส.
‘‘โวฒูน นงฺคลมหํ, สกฏฺจ ธารยามิ;
อนฺโธวฏฺโฏ อกลฺโล, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, วีถิยา ทาสิยา ฆเร ชาโต;
เนว มหิลา น ปุริโส, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘ตึสติวสฺสมฺหิ มโต, สากฏิกกุลมฺหิ ทาริกา ชาตา;
กปณมฺหิ อปฺปโภเค, ธนิกปุริสปาตพหุลมฺหิ.
‘‘ตํ มํ ตโต สตฺถวาโห, อุสฺสนฺนาย วิปุลาย วฑฺฒิยา;
โอกฑฺฒติ วิลปนฺตึ, อจฺฉินฺทิตฺวา กุลฆรสฺมา.
‘‘อถ โสฬสเม วสฺเส, ทิสฺวา มํ ปตฺตโยพฺพนํ กฺํ;
โอรุนฺธตสฺส ปุตฺโต, คิริทาโส นาม นาเมน.
‘‘ตสฺสปิ อฺา ภริยา, สีลวตี คุณวตี ยสวตี จ;
อนุรตฺตา ภตฺตารํ, ตสฺสาหํ วิทฺเทสนมกาสึ.
‘‘ตสฺเสตํ กมฺมผลํ, ยํ มํ อปกีริตูน คจฺฉนฺติ;
ทาสีว อุปฏฺหนฺตึ, ตสฺสปิ อนฺโต กโต มยา’’ติ.
ตตฺถ นครมฺหิ กุสุมนาเมติ ‘‘กุสุมปุร’’นฺติ เอวํ กุสุมสทฺเทน คหิตนามเก นคเร, อิทานิ ตํ นครํ ปาฏลิปุตฺตมฺหีติ สรูปโต ทสฺเสติ. ปถวิยา มณฺเฑติ สกลาย ปถวิยา มณฺฑภูเต. สกฺยกุลกุลีนาโยติ สกฺยกุเล กุลธีตโร, สกฺยปุตฺตสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตตาย เอวํ วุตฺตํ.
ตตฺถาติ ¶ ตาสุ ทฺวีสุ ภิกฺขุนีสุ. โพธีติ เอวํนามิกา เถรี. ฌานชฺฌายนรตาโยติ โลกิยโลกุตฺตรสฺส ฌานสฺส ฌายเน อภิรตา. พหุสฺสุตาโยติ ปริยตฺติพาหุสจฺเจน ¶ พหุสฺสุตา. ธุตกิเลสาโยติ อคฺคมคฺเคน สพฺพโส สมุคฺฆาติตกิเลสา. ภตฺตตฺถํ กริยาติ ¶ ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา. รหิตมฺหีติ ชนรหิตมฺหิ วิวิตฺตฏฺาเน. สุขนิสินฺนาติ ปพฺพชฺชาสุเขน วิเวกสุเขน จ สุขนิสินฺนา. อิมา คิราติ อิทานิ วุจฺจมานา สุขา ลาปนา. อพฺภุทีเรสุนฺติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวเสน กถยึสุ.
‘‘ปาสาทิกาสี’’ติ คาถา โพธิตฺเถริยา ปุจฺฉาวเสน วุตฺตา. ‘‘เอวมนุยฺุชิยมานา’’ติ คาถา สงฺคีติกาเรเหว วุตฺตา. ‘‘อุชฺเชนิยา’’ติอาทิกา หิ สพฺพาปิ อิสิทาสิยาว วุตฺตา. ตตฺถ ปาสาทิกาสีติ รูปสมฺปตฺติยา ปสฺสนฺตานํ ปสาทาวหา อสิ. วโยปิ เต อปริหีโนติ ตุยฺหํ วโยปิ น ปริหีโน, ปมวเย ิตาสีติ อตฺโถ. กึ ทิสฺวาน พฺยาลิกนฺติ กีทิสํ พฺยาลิกํ โทสํ ฆราวาเส อาทีนวํ ทิสฺวา. อถาสิ เนกฺขมฺมมนุยุตฺตาติ อถาติ นิปาตมตฺตํ, เนกฺขมฺมํ ปพฺพชฺชํ อนุยุตฺตา อสิ.
อนุยฺุชิยมานาติ ปุจฺฉิยมานา, สา อิสิทาสีติ โยชนา. รหิเตติ สฺุฏฺาเน. สุณ โพธิ ยถามฺหิ ปพฺพชิตาติ โพธิตฺเถริ อหํ ยถา ปพฺพชิตา อมฺหิ, ตํ ตํ ปุราณํ สุณ สุณาหิ.
อุชฺเชนิยา ปุรวเรติ อุชฺเชนีนามเก อวนฺติรฏฺเ อุตฺตมนคเร. ปิยาติ เอกธีตุภาเวน ปิยายิตพฺพา. มนาปาติ สีลาจารคุเณน มนวฑฺฒนกา. ทยิตาติ อนุกมฺปิตพฺพา.
อถาติ ปจฺฉา มม วยปฺปตฺตกาเล. เม สาเกตโต วรกาติ สาเกตนครโต มม วรกา มํ วาเรนฺตา อาคจฺฉุํ. อุตฺตมกุลีนาติ ตสฺมึ นคเร อคฺคกุลิกา, เยน เต เปสิตา, โส เสฏฺิ ปหูตรตโน. ตสฺส มมํ สุณฺหมทาสิ ตาโตติ ตสฺส สาเกตเสฏฺิโน สุณิสํ ปุตฺตสฺส ภริยํ กตฺวา มยฺหํ ปิตา มํ อทาสิ.
สายํ ปาตนฺติ สายนฺเห ปุพฺพณฺเห จ. ปณามมุปคมฺม สิรสา กโรมีติ สสฺสุยา สสุรสฺส จ ¶ สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา สิรสา ปณามํ กโรมิ, เตสํ ปาเท วนฺทามิ. ยถามฺหิ อนุสิฏฺาติ เตหิ ยถา อนุสิฏฺา อมฺหิ, ตถา กโรมิ, เตสํ อนุสิฏฺึ น อติกฺกมามิ.
ตเมกวรกมฺปีติ ¶ เอกวลฺลภมฺปิ. อุพฺพิคฺคาติ ตสนฺตา. อาสนํ เทมีติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส ยํ อนุจฺฉวิกํ, ตํ ตสฺส เทมิ.
ตตฺถาติ ¶ ปริเวสนฏฺาเน. สนฺนิหิตนฺติ สชฺชิตํ หุตฺวา วิชฺชมานํ. ฉาเทมีติ อุปจฺฉาเทมิ, อุปจฺฉาเทตฺวา อุปนยามิ จ, อุปเนตฺวา เทมิ, เทนฺตีปิ ยํ ยสฺส ปติรูปํ, ตเทว เทมีติ อตฺโถ.
อุมฺมาเรติ ทฺวาเร. โธวนฺตี หตฺถปาเทติ หตฺถปาเท โธวินี อาสึ, โธวิตฺวา ฆรํ สมุปคมามีติ โยชนา.
โกจฺฉนฺติ มสฺสูนํ เกสานฺจ อุลฺลิขนโกจฺฉํ. ปสาทนฺติ คนฺธจุณฺณาทิมุขวิเลปนํ. ‘‘ปสาธน’’นฺติปิ ปาโ, ปสาธนภณฺฑํ. อฺชนินฺติ อฺชนนาฬึ. ปริกมฺมการิกา วิยาติ อคฺคกุลิกา วิภวสมฺปนฺนาปิ ปติปริจาริกา เจฏิกา วิย.
สาธยามีติ ปจามิ. ภาชนนฺติ โลหภาชนฺจ. โธวนฺตี ปริจรามีติ โยชนา.
ภตฺติกตนฺติ กตสามิภติกํ. อนุรตฺตนฺติ อนุรตฺตวนฺตึ. การิกนฺติ ตสฺส ตสฺเสว อิติ กตฺตพฺพสฺส การิกํ. นิหตมานนฺติ อปนีตมานํ. อุฏฺายิกนฺติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺนํ. อนลสนฺติ ตโต เอว อกุสีตํ. สีลวตินฺติ สีลาจารสมฺปนฺนํ. ทุสฺสเตติ ทุสฺสติ, กุชฺฌิตฺวา ภณติ.
ภณติ อาปุจฺฉหํ คมิสฺสามีติ ‘‘อหํ ตุมฺเห อาปุจฺฉิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ คมิสฺสามี’’ติ โส มม สามิโก อตฺตโน มาตรฺจ ปิตรฺจ ภณติ. กึ ภณตีติ เจ อาห – ‘‘อิสิทาสิยา น สห วจฺฉํ, เอกาคาเรหํ สห วตฺถุ’’นฺติ. ตตฺถ วจฺฉนฺติ วสิสฺสํ.
เทสฺสาติ อปฺปิยา. อลํ เมติ ปโยชนํ เม ตาย อิตฺถีติ อตฺโถ ¶ . อปุจฺฉาหํ คมิสฺสามีติ ยทิ เม ตุมฺเห ตาย สทฺธึ สํวาสํ อิจฺฉถ, อหํ ตุมฺเห อปุจฺฉิตฺวา วิเทสํ ปกฺกมิสฺสามิ.
ตสฺสาติ ¶ มม ภตฺตุโน. กิสฺสาติ กึ อสฺส ตว สามิกสฺส. ตยา อปรทฺธํ พฺยาลิกํ กตํ.
นปิหํ อปรชฺฌนฺติ นปิ อหํ ตสฺส กิฺจิ อปรชฺฌึ. อยเมว วา ปาโ. นปิ หึเสมีติ นปิ พาเธมิ. ทุพฺพจนนฺติ ทุรุตฺตวจนํ. กึ สกฺกา กาตุยฺเยติ กึ มยา กาตุํ อยฺเย สกฺกา. ยํ มํ วิทฺเทสฺสเต ภตฺตาติ ยสฺมา อการเณเนว ภตฺตา มยฺหํ วิทฺเทสฺสเต วิทฺเทสฺสํ จิตฺตปฺปโกปํ กโรติ.
วิมนาติ ¶ โทมนสฺสิกา. ปุตฺตมนุรกฺขมานาติ อตฺตโน ปุตฺตํ มยฺหํ สามิกํ จิตฺตมนุรกฺขเณน อนุรกฺขนฺตา. ชิตามฺหเส รูปินึ ลกฺขินฺติ ชิตา อมฺหเส ชิตา วตามฺห รูปวตึ สิรึ, มนุสฺสเวเสน จรนฺติยา สิริเทวตาย ปริหีนา วตาติ อตฺโถ.
อฑฺฒสฺส ฆรมฺหิ ทุติยกุลิกสฺสาติ ปมสามิกํ อุปาทาย ทุติยสฺส อฑฺฒสฺส กุลปุตฺตสฺส ฆรมฺหิ มํ อทาสิ, เทนฺโต จ ตโต ปมสุงฺกโต อุปฑฺฒสุงฺเกน อทาสิ. เยน มํ วินฺทถ เสฏฺีติ เยน สุงฺเกน มํ ปมํ เสฏฺิ วินฺทถ ปฏิลภิ, ตโต อุปฑฺฒสุงฺเกนาติ โยชนา.
โสปีติ ทุติยสามิโกปิ. มํ ปฏิจฺฉรยีติ มํ นีหริ, โส มํ เคหโต นิกฺกฑฺฒิ. อุปฏฺหนฺตินฺติ ทาสี วิย อุปฏฺหนฺตึ อุปฏฺานํ กโรนฺตึ. อทูสิกนฺติ อทุพฺภนกํ.
ทมกนฺติ การฺุาธิฏฺานตาย ปเรสํ จิตฺตสฺส ทมกํ. ยถา ปเร กิฺจิ ทสฺสนฺติ, เอวํ อตฺตโน กายํ วาจฺจ ¶ ทนฺตํ วูปสนฺตํ กตฺวา ปรทตฺตภิกฺขาย วิจรณกํ. ชามาตาติ ทุหิตุปติ. นิกฺขิป โปฏฺิฺจ ฆฏิกฺจาติ ตยา ปริทหิตํ ปิโลติกาขณฺฑฺจ ภิกฺขากปาลฺจ ฉฑฺเฑหิ.
โสปิ วสิตฺวา ปกฺขนฺติ โสปิ ภิกฺขโก ปุริโส มยา สทฺธึ อทฺธมาสมตฺตํ วสิตฺวา ปกฺกามิ.
อถ นํ ภณตี ตาโตติ ตํ ภิกฺขกํ มม ปิตา มาตา สพฺโพ จ เม าติคโณ วคฺควคฺโค ¶ หุตฺวา ภณติ. กถํ? กึ เต น กีรติ อิธ ตุยฺหํ กึ นาม น กิรติ น สาธิยติ, ภณ ขิปฺปํ. ตํ เต กริหิตีติ ตํ ตุยฺหํ กริสฺสติ.
ยทิ เม อตฺตา สกฺโกตีติ ยทิ มยฺหํ อตฺตา อตฺตาธีโน ภุชิสฺโส จ โหติ, อลํ มยฺหํ อิสิทาสิยา ตาย ปโยชนํ นตฺถิ, ตสฺมา น สห วจฺฉํ น สห วสิสฺสํ, เอกฆเร อหํ ตาย สห วตฺถุนฺติ โยชนา.
วิสฺสชฺชิโต คโต โสติ โส ภิกฺขโก ปิตรา วิสฺสชฺชิโต ยถารุจิ คโต. เอกากินีติ เอกิกาว. อาปุจฺฉิตูน คจฺฉนฺติ ¶ มยฺหํ ปิตรํ วิสฺสชฺเชตฺวา คจฺฉามิ. มริตุเยติ มริตุํ. วาติ วิกปฺปตฺเถ นิปาโต.
โคจรายาติ ภิกฺขาย, ตาต-กุลํ อาคจฺฉีติ โยชนา.
ตนฺติ ตํ ชินทตฺตตฺเถรึ. อุฏฺายาสนํ ตสฺสา ปฺาปยินฺติ อุฏฺหิตฺวา อาสนํ ตสฺสา เถริยา ปฺาเปสึ.
อิเธวาติ อิมสฺมึ เอว เคเห ิตา. ปุตฺตกาติ สามฺโวหาเรน ธีตรํ อนุกมฺเปนฺโต อาลปติ. จราหิ ตฺวํ ธมฺมนฺติ ตฺวํ ปพฺพชิตฺวา จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยาทิธมฺมํ จร. ทฺวิชาตีติ พฺราหฺมณชาตี.
นิชฺชเรสฺสามีติ ชีราเปสฺสามิ วินาเสสฺสามิ.
โพธินฺติ สจฺจาภิสมฺโพธึ, มคฺคาณนฺติ อตฺโถ. อคฺคธมฺมนฺติ ผลธมฺมํ, อรหตฺตํ. ยํ สจฺฉิกรี ¶ ทฺวิปทเสฏฺโติ ยํ มคฺคผลนิพฺพานสฺิตํ โลกุตฺตรธมฺมํ ทฺวิปทานํ เสฏฺโ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สจฺฉิ อกาสิ, ตํ ลภสฺสูติ โยชนา.
สตฺตาหํ ปพฺพชิตาติ ปพฺพชิตา หุตฺวา สตฺตาเหน. อผสฺสยินฺติ ผุสึ สจฺฉากาสึ.
ยสฺสยํ ผลวิปาโกติ ยสฺส ปาปกมฺมสฺส, อยํ สามิกสฺส อมนาปภาวสงฺขาโต นิสฺสนฺทผลภูโต ¶ วิปาโก. ตํ ตว อาจิกฺขิสฺสนฺติ ตํ กมฺมํ ตว กเถสฺสามิ. ตนฺติ อาจิกฺขิยมานํ ตเมว กมฺมํ, ตํ วา มม วจนํ. เอกมนาติ เอกคฺคมนา. อยเมว วา ปาโ.
นครมฺหิ เอรกจฺเฉติ เอวํนามเก นคเร. โส ปรทารํ อเสวิหนฺติ โส อหํ ปรสฺส ทารํ อเสวึ.
จิรํ ปกฺโกติ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ นิรยคฺคินา ทฑฺโฒ. ตโต จ อุฏฺหิตฺวาติ ตโต นิรยโต วุฏฺิโต จุโต. มกฺกฏิยา กุจฺฉิโมกฺกมินฺติ วานริยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหึ.
ยูถโปติ ยูถปติ. นิลฺลจฺเฉสีติ ปุริสภาวสฺส ลกฺขณภูตานิ พีชกานิ นิลฺลจฺเฉสิ นีหริ. ตสฺเสตํ กมฺมผลนฺติ ตสฺส มยฺหํ เอตํ อตีเต กตสฺส กมฺมสฺส ผลํ. ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารนฺติ ยถา ตํ ปรทารํ อติกฺกมิตฺวา.
ตโตติ ¶ มกฺกฏโยนิโต. สินฺธวารฺเติ สินฺธวรฏฺเ อรฺฏฺาเน. เอฬกิยาติ อชิยา.
ทารเก ปริวหิตฺวาติ ปิฏฺึ อารุยฺห กุมารเก วหิตฺวา. กิมินาวฏฺโฏติ อภิชาตฏฺาเน กิมิปริคโตว หุตฺวา อฏฺโฏ อฏฺฏิโต. อกลฺโลติ คิลาโน, อโหสีติ วจนเสโส.
โควาณิชกสฺสาติ คาวิโย วิกฺกิณิตฺวา ชีวกสฺส. ลาขาตมฺโพติ ลาขารสรตฺเตหิ วิย ตมฺเพหิ โลเมหิ สมนฺนาคโต.
โวฒูนาติ วหิตฺวา. นงฺคลนฺติ สีรํ, สกฏฺจ ธารยามีติ อตฺโถ ¶ . อนฺโธวฏฺโฏติ กาโณว หุตฺวา อฏฺโฏ ปีฬิโต.
วีถิยาติ นครวีถิยํ. ทาสิยา ฆเร ชาโตติ ฆรทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาโต. ‘‘วณฺณทาสิยา’’ติปิ วทนฺติ. เนว มหิลา น ปุริโสติ อิตฺถีปิ ปุริโสปิ น โหมิ, ชาตินปุํสโกติ อตฺโถ.
ตึสติวสฺสมฺหิ ¶ มโตติ นปุํสโก หุตฺวา ตึสวสฺสกาเล มโต. สากฏิกกุลมฺหีติ สูตกกุเล. ธนิกปุริสปาตพหุลมฺหีติ อิณายิกานํ ปุริสานํ อธิปตนพหุเล พหูหิ อิณายิเกหิ อภิภวิตพฺเพ.
อุสฺสนฺนายาติ อุปจิตาย. วิปุลายาติ มหติยา. วฑฺฒิยาติ อิณวฑฺฒิยา. โอกฑฺฒตีติ อวกฑฺฒติ. กุลฆรสฺมาติ มม ชาตกุลเคหโต.
โอรุนฺธตสฺส ปุตฺโตติ อสฺส สตฺถวาหสฺส ปุตฺโต, มยิ ปฏิพทฺธจิตฺโต นาเมน คิริทาโส นาม อวรุนฺธติ อตฺตโน ปริคฺคหภาเวน เคเห กโรติ.
อนุรตฺตา ภตฺตารนฺติ ภตฺตารํ อนุวตฺติกา. ตสฺสาหํ วิทฺเทสนมกาสินฺติ ตสฺส ภตฺตุโน ตํ ภริยํ สปตฺตึ วิทฺเทสนกมฺมํ อกาสึ. ยถา ตํ โส กุชฺฌติ, เอวํ ปฏิปชฺชึ.
ยํ ¶ มํ อปกีริตูน คจฺฉนฺตีติ ยํ ทาสี วิย สกฺกจฺจํ อุปฏฺหนฺตึ มํ ตตฺถ ตตฺถ ปติโน อปกิริตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺขา อปคจฺฉนฺติ. เอตํ ตสฺสา มยฺหํ ตทา กตสฺส ปรทาริกกมฺมสฺส สปตฺตึ วิทฺเทสนกมฺมสฺส จ นิสฺสนฺทผลํ. ตสฺสปิ อนฺโต กโต มยาติ ตสฺสปิ ตถา อนุนยปาปกกมฺมสฺส ทารุณสฺส ปริยนฺโต อิทานิ มยา อคฺคมคฺคํ อธิคจฺฉนฺติยา กโต, อิโต ปรํ กิฺจิ ทุกฺขํ นตฺถีติ. ยํ ปเนตฺถ อนฺตรนฺตรา น วิภตฺตํ, ตํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.
อิสิทาสีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตฺตาลีสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. มหานิปาโต
๑. สุเมธาเถรีคาถาวณฺณนา
มหานิปาเต ¶ ¶ ¶ มนฺตาวติยา นคเรติอาทิกา สุเมธาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, สกฺกจฺจํ วิโมกฺขสมฺภาเร สมฺภาเรนฺตี โกณาคมนสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, อตฺตโน สขีหิ กุลธีตาหิ สทฺธึ เอกชฺฌาสยา หุตฺวา มหนฺตํ อารามํ กาเรตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิ. สา เตน ปฺุกมฺเมน กายสฺส เภทา ตาวตึสํ อุปคจฺฉิ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ตโต จุตา ยาเมสุ อุปปชฺชิ. ตโต จุตา ตุสิเตสุ, ตโต จุตา นิมฺมานรตีสุ, ตโต จุตา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีสูติ อนุกฺกเมน ปฺจสุ กามสคฺเคสุ อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ เทวราชูนํ มเหสี หุตฺวา ตโต จุตา กสฺสปสฺส ภควโต กาเล มหาวิภวสฺส เสฏฺิโน ธีตา หุตฺวา อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺวา สาสเน อภิปฺปสนฺนา หุตฺวา รตนตฺตยํ อุทฺทิสฺส อุฬารปฺุกมฺมํ อกาสิ.
ตตฺถ ยาวชีวํ ธมฺมูปชีวินี กุสลธมฺมนิรตา หุตฺวา ตโต จุตา ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี, อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มนฺตาวตีนคเร โกฺจสฺส นาม รฺโ ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา มาตาปิตโร สุเมธาติ นามํ อกํสุ. ตํ อนุกฺกเมน วุทฺธิปฺปตฺตวยปฺปตฺตกาเล มาตาปิตโร ‘‘วารณวตีนคเร อนิกรตฺตสฺส นาม รฺโ ทสฺสามา’’ติ สมฺมนฺเตสุํ. สา ปน ทหรกาลโต ปฏฺาย อตฺตโน สมานวยาหิ ราชกฺาหิ ทาสิชเนหิ จ สทฺธึ ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา จิรกาลโต ปฏฺาย กตาธิการตาย สํสาเร ชาตสํเวคา สาสเน อภิปฺปสนฺนา หุตฺวา วยปฺปตฺตกาเล กาเมหิ วินิวตฺติตมานสา อโหสิ. เตน สา มาตาปิตูนํ าตีนํ สมฺมนฺตนํ สุตฺวา ‘‘น มยฺหํ ฆราวาเสน กิจฺจํ, ปพฺพชิสฺสามห’’นฺติ อาห. ตํ มาตาปิตโร ฆราวาเส นิโยเชนฺตา นานปฺปกาเรน ยาจนฺตาปิ สฺาเปตุํ นาสกฺขึสุ. สา ‘‘เอวํ เม ¶ ปพฺพชิตุํ ลพฺภตี’’ติ ขคฺคํ ¶ คเหตฺวา สยเมว อตฺตโน เกเส ฉินฺทิตฺวา เต เอว เกเส อารพฺภ ปฏิกฺกูลมนสิการํ ปวตฺเตนฺตี ตตฺถ กตาธิการตาย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก มนสิการวิธานสฺส สุตปุพฺพตฺตา จ อสุภนิมิตฺตํ ¶ อุปฺปาเทตฺวา ตตฺถ ปมชฺฌานํ อธิคจฺฉิ. อธิคตปมชฺฌานา จ อตฺตนา ฆราวาเส อุยฺโยเชตุํ อุปคเต มาตาปิตโร อาทึ กตฺวา อนฺโตชนปริชนํ สพฺพํ ราชกุลํ สาสเน อภิปฺปสนฺนํ กาเรตฺวา ฆรโต นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สมฺมเทว ปริปกฺกาณา วิมุตฺติปริปาจนียานํ ธมฺมานํ วิเสสิตาย น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๑.๑-๑๙) –
‘‘ภควติ โกณาคมเน, สงฺฆารามมฺหิ นวนิเวสมฺหิ;
สขิโย ติสฺโส ชนิโย, วิหารทานํ อทาสิมฺห.
‘‘ทสกฺขตฺตุํ สตกฺขตฺตุํ, ทสสตกฺขตฺตุํ สตานิ จ สตกฺขตฺตุํ;
เทเวสุ อุปปชฺชิมฺห, โก ปน วาโท มนุสฺเสสุ.
‘‘เทเวสุ มหิทฺธิกา อหุมฺห, มานุสกมฺหิ โก ปน วาโท;
สตฺตรตนสฺส มเหสี, อิตฺถิรตนํ อหํ อาสึ.
‘‘อิธ สฺจิตกุสลา, สุสมิทฺธกุลปฺปชา;
ธนฺชานี จ เขมา จ, อหมฺปิ จ ตโย ชนา.
‘‘อารามํ สุกตํ กตฺวา, สพฺพาวยวมณฺฑิตํ;
พุทฺธปฺปมุขสงฺฆสฺส, นิยฺยาเทตฺวา ปโมทิตา.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;
เทเวสุ อคฺคตํ ปตฺตา, มนุสฺเสสุ ตเถว จ.
‘‘อิมสฺมึเยว กปฺปมฺหิ, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.
‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;
กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.
‘‘ตสฺสาสุํ ¶ ¶ สตฺต ธีตโร, ราชกฺา สุเขธิตา;
พุทฺโธปฏฺานนิรตา, พฺรหฺมจริยํ จรึสุ ตา.
‘‘ตาสํ ¶ สหายิกา หุตฺวา, สีเลสุ สุสมาหิตา;
ทตฺวา ทานานิ สกฺกจฺจํ, อคาเรว วตํ จรึ.
‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปคา อหํ.
‘‘ตโต จุตา ยามมคํ, ตโตหํ ตุสิตํ คตา;
ตโต จ นิมฺมานรตึ, วสวตฺติปุรํ คตา.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ปฺุกมฺมสโมหิตา;
ตตฺถ ตตฺเถว ราชูนํ, มเหสิตฺตมหารยึ.
‘‘ตโต จุตา มนุสฺสตฺเต, ราชูนํ จกฺกวตฺตินํ;
มณฺฑลีนฺจ ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.
‘‘สมฺปตฺติมนุโภตฺวาน, เทเวสุ มานุเสสุ จ;
สพฺพตฺถ สุขิตา หุตฺวา, เนกชาตีสุ สํสรึ.
‘‘โส เหตุ โส ปภโว, ตมฺมูลํ สาว สาสเน ขนฺตี;
ตํ ปมสโมธานํ, ตํ ธมฺมรตาย นิพฺพานํ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวา.
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา ¶ จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
‘‘มนฺตาวติยา นคเร, รฺโ โกฺจสฺส อคฺคมเหสิยา;
ธีตา อาสึ สุเมธา, ปสาทิตา สาสนกเรหิ.
‘‘สีลวตี จิตฺตกถา, พหุสฺสุตา พุทฺธสาสเน วินิตา;
มาตาปิตโร อุปคมฺม, ภณติ อุภโย นิสาเมถ.
‘‘นิพฺพานาภิรตาหํ ¶ , อสสฺสตํ ภวคตํ ยทิปิ ทิพฺพํ;
กิมงฺคํ ปน ตุจฺฉา กามา, อปฺปสฺสาทา พหุวิฆาตา.
‘‘กามา ¶ กฏุกา อาสี, วิสูปมา เยสุ มุจฺฉิตา พาลา;
เต ทีฆรตฺตํ นิรเย, สมปฺปิตา หฺนฺเต ทุกฺขิตา.
‘‘โสจนฺติ ปาปกมฺมา, วินิปาเต ปาปวทฺธิโน สทา;
กาเยน จ วาจาย จ, มนสา จ อสํวุตา พาลา.
‘‘พาลา เต ทุปฺปฺา, อเจตนา ทุกฺขสมุทโยรุทฺธา;
เทเสนฺเต อชานนฺตา, น พุชฺฌเร อริยสจฺจานิ.
‘‘สจฺจานิ ‘อมฺม’พุทฺธวรเทสิ, ตานิ เต พหุตรา อชานนฺตา เย;
อภินนฺทนฺติ ภวคตํ, ปิเหนฺติ เทเวสุ อุปปตฺตึ.
‘‘เทเวสุปิ อุปปตฺติ, อสสฺสตา ภวคเต อนิจฺจมฺหิ;
น จ สนฺตสนฺติ พาลา, ปุนปฺปุนํ ชายิตพฺพสฺส.
‘‘จตฺตาโร ¶ วินิปาตา, ทุเว จ คติโย กถฺจิ ลพฺภนฺติ;
น จ วินิปาตคตานํ, ปพฺพชฺชา อตฺถิ นิรเยสุ.
‘‘อนุชานาถ มํ อุภโย, ปพฺพชิตุํ ทสพลสฺส ปาวจเน;
อปฺโปสฺสุกฺกา ฆฏิสฺสํ, ชาติมรณปฺปหานาย.
‘‘กึ ภวคเต อภินนฺทิ, เตน กายกลินา อสาเรน;
ภวตณฺหาย นิโรธา, อนุชานาถ ปพฺพชิสฺสามิ.
‘‘พุทฺธานํ อุปฺปาโท, วิวชฺชิโต อกฺขโณ ขโณ ลทฺโธ;
สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ยาวชีวํ น ทูเสยฺยํ.
‘‘เอวํ ภณติ สุเมธา, มาตาปิตโร ‘น ตาว อาหารํ;
อาหริสฺสํ คหฏฺา, มรณวสํ คตาว เหสฺสามิ’.
‘‘มาตา ทุกฺขิตา โรทติ ปิตา จ;
อสฺสา สพฺพโส สมภิหโต;
ฆเฏนฺติ สฺาเปตุํ, ปาสาทตเล ฉมาปติตํ.
‘‘อุฏฺเหิ ¶ ปุตฺตก กึ โสจิ, เตน ทินฺนาสิ วารณวติมฺหิ;
ราชา อนีกรตฺโต, อภิรูโป ตสฺส ตฺวํ ทินฺนา.
‘‘อคฺคมเหสี ภวิสฺสสิ, อนิกรตฺตสฺส ราชิโน ภริยา;
สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ปพฺพชฺชา ทุกฺกรา ปุตฺตก.
‘‘รชฺเช ¶ อาณา ธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;
ภฺุชาหิ กามโภเค, วาเรยฺยํ โหตุ เต ปุตฺต.
‘‘อถ ¶ เน ภณติ สุเมธา, มา เอทิสิกานิ ภวคตมสารํ;
ปพฺพชฺชา วา โหหิติ, มรณํ วา เม น เจว วาเรยฺยํ.
‘‘กิมิว ปูติกายมสุจึ, สวนคนฺธํ ภยานกํ กุณปํ;
อภิสํวิเสยฺยํ ภสฺตํ, อสกึ ปคฺฆริตํ อสุจิปุณฺณํ.
‘‘กิมิว ตหํ ชานนฺตี, วิกูลกํ มํสโสณิตุปลิตฺตํ;
กิมิกุลลยํ สกุณภตฺตํ, กเฬวรํ กิสฺส ทิยตีติ.
‘‘นิพฺพุยฺหติ สุสานํ, อจิรํ กาโย อเปตวิฺาโณ;
ฉุทฺโธ กฬิงฺครํ วิย, ชิคุจฺฉมาเนหิ าตีหิ.
‘‘ฉุทฺธูน นํ สุสาเน, ปรภตฺตํ นฺหายนฺติ ชิคุจฺฉนฺตา;
นิยกา มาตาปิตโร, กึ ปน สาธารณา ชนตา.
‘‘อชฺโฌสิตา อสาเร, กเฬวเร อฏฺินฺหารุสงฺฆาเต;
เขฬสฺสุจฺจารสฺสวปริปุณฺเณ ปูติกายมฺหิ.
‘‘โย นํ วินิพฺภุชิตฺวา, อพฺภนฺตรมสฺส พาหิรํ กยิรา;
คนฺธสฺส อสหมานา, สกาปิ มาตา ชิคุจฺเฉยฺย.
‘‘ขนฺธธาตุอายตนํ, สงฺขตํ ชาติมูลกํ ทุกฺขํ;
โยนิโส อนุวิจินนฺตี, วาเรยฺยํ กิสฺส อิจฺเฉยฺยํ.
‘‘ทิวเส ทิวเส ติสตฺติ, สตานิ นวนวา ปเตยฺยุํ กายมฺหิ;
วสฺสสตมฺปิ จ ฆาโต, เสยฺโย ทุกฺขสฺส เจวํ ขโย.
‘‘อชฺฌุปคจฺเฉ ¶ ¶ ฆาตํ, โย วิฺาเยวํ สตฺถุโน วจนํ;
ทีโฆ เตสํ สํสาโร, ปุนปฺปุนํ หฺมานานํ.
‘‘เทเวสุ ¶ มนุสฺเสสุ จ, ติรจฺฉานโยนิยา อสุรกาเย;
เปเตสุ จ นิรเยสุ จ, อปริมิตา ทิสฺสนฺเต ฆาตา.
‘‘ฆาตา นิรเยสุ พหู, วินิปาตคตสฺส ปีฬิยมานสฺส;
เทเวสุปิ อตฺตาณํ, นิพฺพานสุขา ปรํ นตฺถิ.
‘‘ปตฺตา เต นิพฺพานํ, เย ยุตฺตา ทสพลสฺส ปาวจเน;
อปฺโปสฺสุกฺกา ฆเฏนฺติ, ชาติมรณปฺปหานาย.
‘‘อชฺเชว ตาตภินิกฺขมิสฺสํ, โภเคหิ กึ อสาเรหิ;
นิพฺพินฺนา เม กามา, วนฺตสมา ตาลวตฺถุกตา.
‘‘สา เจวํ ภณติ ปิตรมนีกรตฺโต, จ ยสฺส สา ทินฺนา;
อุปยาสิ วารณวเต, วาเรยฺยมุปฏฺิเต กาเล.
‘‘อถ อสิตนิจิตมุทุเก, เกเส ขคฺเคน ฉินฺทิย สุเมธา;
ปาสาทํ ปิทหิตฺวา, ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ.
‘‘สา จ ตหึ สมาปนฺนา, อนีกรตฺโต จ อาคโต นครํ;
ปาสาเท จ สุเมธา, อนิจฺจสฺํ สุภาเวติ.
‘‘สา จ มนสิ กโรติ, อนีกรตฺโต จ อารุหี ตุริตํ;
มณิกนกภูสิตงฺโค, กตฺชลี ยาจติ สุเมธํ.
‘‘รชฺเช อาณา ธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;
ภฺุชาหิ กามโภเค, กามสุขา ทุลฺลภา โลเก.
‘‘นิสฺสฏฺํ เต รชฺชํ, โภเค ภฺุชสฺสุ เทหิ ทานานิ;
มา ทุมฺมนา อโหสิ, มาตาปิตโร เต ทุกฺขิตา.
‘‘ตํ ¶ ¶ ตํ ภณติ สุเมธา, กาเมหิ อนตฺถิกา วิคตโมหา;
มา กาเม อภินนฺทิ, กาเมสฺวาทีนวํ ปสฺส.
‘‘จาตุทฺทีโป ราชา, มนฺธาตา อาสิ กามโภคินมคฺโค;
อติตฺโต กาลงฺกโต, น จสฺส ปริปูริตา อิจฺฉา.
‘‘สตฺต ¶ รตนานิ วสฺเสยฺย, วุฏฺิมา ทสทิสา สมนฺเตน;
น จตฺถิ ติตฺติ กามานํ, อติตฺตาว มรนฺติ นรา.
‘‘อสิสูนูปมา กามา, กามา สปฺปสิโรปมา;
อุกฺโกปมา อนุทหนฺติ, อฏฺิกงฺกลสนฺนิภา.
‘‘อนิจฺจา อธุวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;
อโยคุโฬว สนฺตตฺโต, อฆมูลา ทุขปฺผลา.
‘‘รุกฺขผลูปมา กามา, มํสเปสูปมา ทุขา;
สุปิโนปมา วฺจนิยา, กามา ยาจิตกูปมา.
‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, โรโค คณฺโฑ อฆํ นิฆํ;
องฺคารกาสุสทิสา, อฆมูลํ ภยํ วโธ.
‘‘เอวํ พหุทุกฺขา กามา, อกฺขาตา อนฺตรายิกา;
คจฺฉถ น เม ภวคเต, วิสฺสาโส อตฺถิ อตฺตโน.
‘‘กึ มม ปโร กริสฺสติ, อตฺตโน สีสมฺหิ ฑยฺหมานมฺหิ;
อนุพนฺเธ ชรามรเณ, ตสฺส ฆาตาย ฆฏิตพฺพํ.
‘‘ทฺวารํ อปาปุริตฺวานหํ, มาตาปิตโร อนีกรตฺตฺจ;
ทิสฺวาน ฉมํ นิสินฺเน, โรทนฺเต อิทมโวจํ.
‘‘ทีโฆ ¶ พาลานํ สํสาโร, ปุนปฺปุนฺจ โรทตํ;
อนมตคฺเค ปิตุ มรเณ, ภาตุ วเธ อตฺตโน จ วเธ.
‘‘อสฺสุ ถฺํ รุธิรํ, สํสารํ อนมตคฺคโต สรถ;
สตฺตานํ สํสรตํ, สราหิ อฏฺีนฺจ สนฺนิจยํ.
‘‘สร จตุโรทธี, อุปนีเต อสฺสุถฺรุธิรมฺหิ;
สร เอกกปฺปมฏฺีนํ, สฺจยํ วิปุเลน สมํ.
‘‘อนมตคฺเค ¶ สํสรโต, มหึ ชมฺพุทีปมุปนีตํ;
โกลฏฺิมตฺตคุฬิกา, มาตา มาตุสฺเวว นปฺปโหนฺติ.
‘‘ติณกฏฺสาขาปลาสํ, อุปนีตํ อนมตคฺคโต สร;
จตุรงฺคุลิกา ฆฏิกา, ปิตุปิตุสฺเวว นปฺปโหนฺติ.
‘‘สร ¶ กาณกจฺฉปํ ปุพฺพสมุทฺเท, อปรโต จ ยุคฉิทฺทํ;
สิรํ ตสฺส จ ปฏิมุกฺกํ, มนุสฺสลาภมฺหิ โอปมฺมํ.
‘‘สร รูปํ เผณปิณฺโฑปมสฺส, กายกลิโน อสารสฺส;
ขนฺเธ ปสฺส อนิจฺเจ, สราหิ นิรเย พหุวิฆาเต.
‘‘สร กฏสึ วฑฺเฒนฺเต, ปุนปฺปุนํ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ;
สร กุมฺภีลภยานิ จ, สราหิ จตฺตาริ สจฺจานิ.
‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว ปฺจกฏุเกน ปีเตน;
สพฺพา หิ กามรติโย, กฏุกตรา ปฺจกฏุเกน.
‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ เย ปริฬาหา;
สพฺพา หิ กามรติโย, ชลิตา กุถิตา กมฺปิตา สนฺตาปิตา.
‘‘อสปตฺตมฺหิ ¶ สมาเน, กึ ตว กาเมหิ เย พหุสปตฺตา;
ราชคฺคิโจรอุทกปฺปิเยหิ, สาธารณา กามา พหุสปตฺตา.
‘‘โมกฺขมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ เยสุ วธพนฺโธ;
กาเมสุ หิ อสกามา, วธพนฺธทุขานิ อนุโภนฺติ.
‘‘อาทีปิตา ติณุกฺกา, คณฺหนฺตํ ทหนฺติ เนว มฺุจนฺตํ;
อุกฺโกปมา หิ กามา, ทหนฺติ เย เต น มฺุจนฺติ.
‘‘มา ¶ อปฺปกสฺส เหตุ, กามสุขสฺส วิปุลํ ชหี สุขํ;
มา ปุถุโลโมว พฬิสํ, คิลิตฺวา ปจฺฉา วิหฺสิ.
‘‘กามํ กาเมสุ ทมสฺสุ, ตาว สุนโขว สงฺขลาพทฺโธ;
กาหินฺติ ขุ ตํ กามา, ฉาตา สุนขํว จณฺฑาลา.
‘‘อปริมิตฺจ ทุกฺขํ, พหูนิ จ จิตฺตโทมนสฺสานิ;
อนุโภหิสิ กามยุตฺโต, ปฏินิสฺสช อทฺธุเว กาเม.
‘‘อชรมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ เยสุ ชรา;
มรณพฺยาธิคหิตา, สพฺพา สพฺพตฺถ ชาติโย.
‘‘อิทมชรมิทมมรํ, อิทมชรามรํ ปทมโสกํ;
อสปตฺตมสมฺพาธํ, อขลิตมภยํ นิรุปตาปํ.
‘‘อธิคตมิทํ ¶ พหูหิ, อมตํ อชฺชาปิ จ ลภนียมิทํ;
โย โยนิโส ปยฺุชติ, น จ สกฺกา อฆฏมาเนน.
‘‘เอวํ ภณติ สุเมธา, สงฺขารคเต รตึ อลภมานา;
อนุเนนฺตี อนิกรตฺตํ, เกเส จ ฉมํ ขิปิ สุเมธา.
‘‘อุฏฺาย ¶ อนิกรตฺโต, ปฺชลิโก ยาจตสฺสา ปิตรํ โส;
วิสฺสชฺเชถ สุเมธํ, ปพฺพชิตุํ วิโมกฺขสจฺจทสฺสา.
‘‘วิสฺสชฺชิตา มาตาปิตูหิ, ปพฺพชิ โสกภยภีตา;
ฉ อภิฺา สจฺฉิกตา, อคฺคผลํ สิกฺขมานาย.
‘‘อจฺฉริยมพฺภุตํ ตํ, นิพฺพานํ อาสิ ราชกฺาย;
ปุพฺเพนิวาสจริตํ, ยถา พฺยากริ ปจฺฉิเม กาเล.
‘‘ภควติ โกณาคมเน, สงฺฆารามมฺหิ นวนิเวสมฺหิ;
สขิโย ติสฺโส ชนิโย, วิหารทานํ อทาสิมฺห.
‘‘ทสกฺขตฺตุํ สตกฺขตฺตุํ, ทสสตกฺขตฺตุํ สตานิ จ สตกฺขตฺตุํ;
เทเวสุ อุปปชฺชิมฺห, โก ปน วาโท มนุสฺเสสุ.
‘‘เทเวสุ มหิทฺธิกา อหุมฺห, มานุสกมฺหิ โก ปน วาโท;
สตฺตรตนสฺส ¶ มเหสี, อิตฺถิรตนํ อหํ อาสึ.
‘‘โส เหตุ โส ปภโว, ตํ มูลํ สาว สาสเน ขนฺตี;
ตํ ปมสโมธานํ, ตํ ธมฺมรตาย นิพฺพานํ.
‘‘เอวํ กโรนฺติ เย สทฺทหนฺติ, วจนํ อโนมปฺสฺส;
นิพฺพินฺทนฺติ ภวคเต, นิพฺพินฺทิตฺวา วิรชฺชนฺตี’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ มนฺตวติยา นคเรติ มนฺตวตีติ เอวํนามเก นคเร. รฺโ โกฺจสฺสาติ โกฺจสฺส นาม รฺโ มเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาตา ธีตา อาสึ. สุเมธาติ นาเมน สุเมธา. ปสาทิตา สาสนกเรหีติ ¶ สตฺถุสาสนกเรหิ อริเยหิ ธมฺมเทสนาย สาสเน ปสาทิตา สฺชาตรตนตฺตยปฺปสาทา กตา.
สีลวตีติ ¶ อาจารสีลสมฺปนฺนา. จิตฺตกถาติ จิตฺตธมฺมกถา. พหุสฺสุตาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปริยตฺติธมฺมสฺสุติยุตา. พุทฺธสาสเน วินีตาติ เอวํ ปวตฺติ, เอวํ นิวตฺติ, อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺาติ สุตฺตานุคเตน (ที. นิ. ๒.๑๘๖) โยนิโสมนสิกาเรน ตทงฺคโต กิเลสานํ วินิวตฺตตฺตา พุทฺธานํ สาสเน วินีตา สํยตกายวาจาจิตฺตา. อุภโย นิสาเมถาติ ตุมฺเห ทฺเวปิ มม วจนํ นิสาเมถ, มาตาปิตโร อุปคนฺตฺวา ภณตีติ โยชนา.
ยทิปิ ทิพฺพนฺติ เทวโลกปริยาปนฺนมฺปิ ภวคตํ นาม สพฺพมฺปิ อสสฺสตํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ. กิมงฺคํ ปน ตุจฺฉา กามาติ กิมงฺคํ ปน มานุสกา กามา, เต สพฺเพปิ อสารกภาวโต ตุจฺฉา ริตฺตา, สตฺถธารายํ มธุพินฺทุ วิย อปฺปสฺสาทา, เอตรหิ อายติฺจ วิปุลทุกฺขตาย พหุวิฆาตา.
กฏุกาติ อนิฏฺา. สปฺปฏิภยฏฺเน อาสีวิสูปมา. เยสุ กาเมสุ. มุจฺฉิตาติ อชฺโฌสิตา. สมปฺปิตาติ สกมฺมุนา สพฺพโส อปฺปิตา ขิตฺตา, อุปปนฺนาติ อตฺโถ ¶ . หฺนฺเตติ พาธียนฺติ.
วินิปาเตติ อปาเย.
อเจตนาติ อตฺตหิตเจตนาย อภาเวน อเจตนา. ทุกฺขสมุทโยรุทฺธาติ ตณฺหานิมิตฺตสํสาเร อวรุทฺธา. เทเสนฺเตติ จตุสจฺจธมฺเม เทสิยมาเน. อชานนฺตาติ อตฺถํ อชานนฺตา. น พุชฺฌเร อริยสจฺจานีติ ทุกฺขาทีนิ อริยสจฺจานิ น ปฏิพุชฺฌนฺติ.
อมฺมาติ มาตรํ ปมุขํ กตฺวา อาลปติ. เต พหุตรา อชานนฺตาติ เย อภินนฺทนฺติ ภวคตํ ปิเหนฺติ เทเวสุ อุปปตฺตึ พุทฺธวรเทสิตานิ สจฺจานิ อชานนฺตา, เตเยว จ อิมสฺมึ โลเก พหุตราติ โยชนา.
ภวคเต อนิจฺจมฺหีติ สพฺพสฺมึ ภเว อนิจฺเจ เทเวสุ อุปปตฺติ น สสฺสตา, เอวํ สนฺเตปิ ¶ น จ สนฺตสนฺติ พาลา น อุตฺตสนฺติ น สํเวคํ อาปชฺชนฺติ. ปุนปฺปุนํ ชายิตพฺพสฺสาติ อปราปรํ อุปปชฺชมานสฺส.
จตฺตาโร วินิปาตาติ นิรโย ติรจฺฉานโยนิ เปตฺติวิสโย อสุรโยนีติ อิเม จตฺตาโร สุขสมุสฺสยโต วินิปาตคติโย. มนุสฺสเทวูปปตฺติสฺิตา ¶ ปน ทฺเวว คติโย กถฺจิ กิจฺเฉน กสิเรน ลพฺภนฺติ ปฺุกมฺมสฺส ทุกฺกรตฺตา. นิรเยสูติ สุขรหิเตสุ อปาเยสุ.
อปฺโปสฺสุกฺกาติ อฺกิจฺเจสุ นิรุสฺสุกฺกา. ฆฏิสฺสนฺติ วายมิสฺสํ ภาวนํ อนุยฺุชิสฺสามิ, กายกลินา อสาเรน ภวคเต กึ อภินนฺทิเตนาติ โยชนา.
ภวตณฺหาย นิโรธาติ ภวคตาย ตณฺหาย นิโรธเหตุ นิโรธตฺถํ.
พุทฺธานํ อุปฺปาโท ลทฺโธ, วิวชฺชิโต นิรยูปปตฺติอาทิโก อฏฺวิโธ อกฺขโณ, ขโณ นวโม ขโณ ลทฺโธติ โยชนา. สีลานีติ จตุปาริสุทฺธิสีลานิ. พฺรหฺมจริยนฺติ ¶ สาสนพฺรหฺมจริยํ. น ทูเสยฺยนฺติ น โกเปยฺยามิ.
น ตาว อาหารํ อาหริสฺสํ คหฏฺาติ ‘‘เนว ตาว อหํ คหฏฺา หุตฺวา อาหารํ อาหริสฺสามิ, สเจ ปพฺพชฺชํ น ลภิสฺสามิ, มรณวสเมว คตา ภวิสฺสามี’’ติ เอวํ สุเมธา มาตาปิตโร ภณตีติ โยชนา.
อสฺสาติ สุเมธาย. สพฺพโส สมภิหโตติ อสฺสูหิ สพฺพโส อภิหตมุโข. ฆเฏนฺติ สฺาเปตุนฺติ ปาสาทตเล ฉมาปติตํ สุเมธํ มาตา จ ปิตา จ คิหิภาวาย สฺาเปตุํ ฆเฏนฺติ วายมนฺติ. ‘‘ฆเฏนฺติ วายมนฺตี’’ติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ.
กึ โสจิเตนาติ ‘‘ปพฺพชฺชํ น ลภิสฺสามี’’ติ กึ โสจเนน. ทินฺนาสิ วารณวติมฺหีติ วารณวตีนคเร ทินฺนา อสิ. ‘‘ทินฺนาสี’’ติ วตฺวา ปุนปิ ‘‘ตฺวํ ทินฺนา’’ติ วจนํ ทฬฺหํ ทินฺนภาวทสฺสนตฺถํ.
รชฺเช อาณาติ อนิกรตฺตสฺส รชฺเช ตว อาณา ปวตฺตติ. ธนมิสฺสริยนฺติ อิมสฺมึ กุเล ¶ ปติกุเล จ ธนํ อิสฺสริยฺจ, โภคา สุขา อติวิย อิฏฺา โภคาติ สพฺพมิทํ ตุยฺหํ อุปฏฺิตํ หตฺถคตํ. ทหริกาสีติ ตรุณี จาสิ, ตสฺมา ภฺุชาหิ กามโภเค. เตน การเณน วาเรยฺยํ โหตุ เต ปุตฺตาติ โยชนา.
เนติ มาตาปิตโร. มา เอทิสิกานีติ เอวรูปานิ รชฺเช อาณาทีนิ มา ภวนฺตุ. กสฺมาติ เจ อาห ‘‘ภควตมสาร’’นฺติอาทิ.
กิมิวาติ ¶ กิมิ วิย. ปูติกายนฺติ อิมํ ปูติกเฬวรํ. สวนคนฺธนฺติ วิสฺสฏฺวิสฺสคนฺธํ. ภยานกนฺติ อวีตราคานํ ภยาวหํ. กุณปํ อภิสํวิเสยฺยํ ภสฺตนฺติ กุณปภริตํ จมฺมปสิพฺพกํ, อสกึ ปคฺฆริตํ อสุจิปุณฺณํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปุณฺณํ หุตฺวา ¶ อสกึ สพฺพกาลํ อธิปคฺฆรนฺตํ ‘‘มม อิท’’นฺติ อภินิเวเสยฺยํ.
กิมิว ตหํ ชานนฺตี, วิกูลกนฺติ อติวิย ปฏิกฺกูลํ อสุจีหิ มํสเปสีหิ โสณิเตหิ จ อุปลิตฺตํ อเนเกสํ กิมิกุลานํ อาลยํ สกุณานํ ภตฺตภูตํ. ‘‘กิมิกุลาลสกุณภตฺต’’นฺติปิ ปาโ, กิมีนํ อวสิฏฺสกุณานฺจ ภตฺตภูตนฺติ อตฺโถ. ตํ อหํ กเฬวรํ ชานนฺตี ิตา. ตํ มํ อิทานิ วาเรยฺยวเสน กิสฺส เกน นาม การเณน ทิยฺยตีติ ทสฺเสติ. ตสฺส ตฺจ ทานํ กิมิว กึ วิย โหตีติ โยชนา.
นิพฺพุยฺหติ สุสานํ, อจิรํ กาโย อเปตวิฺาโณติ อยํ กาโย อจิเรเนว อปคตวิฺาโณ สุสานํ นิพฺพุยฺหติ อุปนียติ. ฉุทฺโธติ ฉฑฺฑิโต. กฬิงฺครํ วิยาติ นิรตฺถกกฏฺขณฺฑสทิโส. ชิคุจฺฉมาเนหิ าตีหีติ าติชเนหิปิ ชิคุจฺฉมาเนหิ.
ฉุทฺธูน นํ สุสาเนติ นํ กเฬวรํ สุสาเน ฉฑฺเฑตฺวา. ปรภตฺตนฺติ ปเรสํ โสณสิงฺคาลาทีนํ ภตฺตภูตํ. นฺหายนฺติ ชิคุจฺฉนฺตาติ ‘‘อิมสฺส ปจฺฉโต อาคตา’’ติ เอตฺตเกนาปิ ชิคุจฺฉมานา สสีสํ นิมุชฺชนฺตา นฺหายนฺติ, ปเคว ผุฏฺวนฺโต. นิยกา มาตาปิตโรติ อตฺตโน มาตาปิตโรปิ. กึ ปน สาธารณา ชนตาติ อิตโร ปน สมูโห ชิคุจฺฉตีติ กิเมว วตฺตพฺพํ.
อชฺโฌสิตาติ ตณฺหาวเสน อภินิวิฏฺา. อสาเรติ นิจฺจสาราทิสารรหิเต.
วินิพฺภุชิตฺวาติ ¶ วิฺาณวินิพฺโภคํ กตฺวา. คนฺธสฺส อสหมานาติ คนฺธํ อสฺส กายสฺส อสหนฺตี. สกาปิ มาตาติ อตฺตโน มาตาปิ ชิคุจฺเฉยฺย โกฏฺาสานํ วินิพฺภุชฺชเนน ปฏิกฺกูลภาวาย สุฏฺุตรํ ¶ อุปฏฺหนโต.
ขนฺธธาตุอายตนนฺติ ¶ รูปกฺขนฺธาทโย อิเม ปฺจกฺขนฺธา, จกฺขุธาตุอาทโย อิมา อฏฺารสธาตุโย, จกฺขายตนาทีนิ อิมานิ ทฺวาทสายตนานีติ เอวํ ขนฺธา ธาตุโย อายตนานิ จาติ สพฺพํ อิทํ รูปารูปธมฺมชาตํ สเมจฺจ สมฺภุยฺย ปจฺจเยหิ กตตฺตา สงฺขตํ, ตยิทํ ตสฺมึ ภเว ปวตฺตมานํ ทุกฺขํ, ชาติปจฺจยตฺตา ชาติมูลกนฺติ. เอวํ โยนิโส อุปาเยน อนุวิจินนฺตี จินฺตยนฺตี, วาเรยฺยํ วิวาหํ, กิสฺส เกน การเณน อิจฺฉิสฺสามิ.
‘‘สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ปพฺพชฺชา ทุกฺกรา’’ติ ยเทตํ มาตาปิตูหิ วุตฺตํ ตสฺส ปฏิวจนํ ทาตุํ ‘‘ทิวเส ทิวเส’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทิวเส ทิวเส ติสตฺติสตานิ นวนวา ปเตยฺยุํ กายมฺหีติ ทิเน ทิเน ตีณิ สตฺติสตานิ ตาวเทว ปีตนิสิตภาเวน อภินวานิ กายสฺมึ สมฺปเตยฺยุํ. วสฺสสตมฺปิ จ ฆาโต เสยฺโยติ นิรนฺตรํ วสฺสสตมฺปิ ปตมาโน ยถาวุตฺโต สตฺติฆาโต เสยฺโย. ทุกฺขสฺส เจวํ ขโยติ เอวํ เจ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริกฺขโย ภเวยฺย, เอวํ มหนฺตมฺปิ ปวตฺติทุกฺขํ อธิวาเสตฺวา นิพฺพานาธิคมาย อุสฺสาโห กรณีโยติ อธิปฺปาโย.
อชฺฌุปคจฺเฉติ สมฺปฏิจฺเฉยฺย. เอวนฺติ วุตฺตนเยน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปุคฺคโล อนมตคฺคํ สํสารํ อปริมาณฺจ วฏฺฏทุกฺขํ ทีเปนฺตํ สตฺถุโน วจนํ วิฺาย ิโต ยถาวุตฺตํ สตฺติฆาตทุกฺขํ สมฺปฏิจฺเฉยฺย, เตน เจว วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริกฺขโย สิยาติ. เตนาห – ‘‘ทีโฆ เตสํ สํสาโร, ปุนปฺปุนฺจ หฺมานาน’’นฺติ, อปราปรํ ชาติชราพฺยาธิมรณาทีหิ พาธิยมานานนฺติ อตฺโถ.
อสุรกาเยติ กาลกฺจิกาทิ เปตาสุรนิกาเย. ฆาตาติ กายจิตฺตานํ อุปฆาตา วธา.
พหูติ ปฺจวิธพนฺธนาทิกมฺมการณวเสน ปวตฺติยมานา พหู อเนกฆาตา. วินิปาตคตสฺสาติ เสสาปายสงฺขาตํ วินิปาตํ อุปคตสฺสาปิ. ปีฬิยมานสฺสาติ ติรจฺฉานาทิอตฺตภาเว อภิฆาตาทีหิ อาพาธิยมานสฺส. เทเวสุปิ อตฺตาณนฺติ เทวตฺตภาเวสุปิ ตาณํ นตฺถิ ราคปริฬาหาทินา สทุกฺขสวิฆาตภาวโต. นิพฺพานสุขา ปรํ ¶ นตฺถีติ นิพฺพานสุขโต ¶ ปรํ อฺํ อุตฺตมํ สุขํ นาม นตฺถิ โลกิยสุขสฺส วิปริณามสงฺขารทุกฺขสภาวตฺตา ¶ . เตนาห ภควา – ‘‘นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติ (ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔).
ปตฺตา เต นิพฺพานนฺติ เต นิพฺพานํ ปตฺตาเยว นาม. อถ วา เตเยว นิพฺพานํ ปตฺตา. เย ยุตฺตา ทสพลสฺส ปาวจเนติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน เย ยุตฺตา ปยุตฺตา.
นิพฺพินฺนาติ วิรตฺตา. เมติ มยา. วนฺตสมาติ สุวานวมถุสทิสา. ตาลวตฺถุกตาติ ตาลสฺส ปติฏฺานสทิสา กตา.
อถาติ ปจฺฉา, มาตาปิตูนํ อตฺตโน อชฺฌาสยํ ปเวเทตฺวา อนิกรตฺตสฺส จ อาคตภาวํ สุตฺวา. อสิตนิจิตมุทุเกติ อินฺทนีลภมรสมานวณฺณตาย อสิเต, ฆนภาเวน นิจิเต, สิมฺพลิตูลสมสมฺผสฺสตาย มุทุเก. เกเส ขคฺเคน ฉินฺทิยาติ อตฺตโน เกเส สุนิสิเตน อสินา ฉินฺทิตฺวา. ปาสาทํ ปิทหิตฺวาติ อตฺตโน วสนปาสาเท สิริคพฺภํ ปิธาย, ตสฺส ทฺวารํ ถเกตฺวาติ อตฺโถ. ปมชฺฌานํ สมาปชฺชีติ ขคฺเคน ฉินฺเน อตฺตโน เกเส ปุรโต เปตฺวา ตตฺถ ปฏิกฺกูลมนสิการํ ปวตฺเตนฺตี ยถาอุปฏฺิเต นิมิตฺเต อุปฺปนฺนํ ปมํ ฌานํ วสีภาวํ อาปาเทตฺวา สมาปชฺชิ.
สา จ สุเมธา ตหึ ปาสาเท สมาปนฺนา ฌานนฺติ อธิปฺปาโย. อนิจฺจสฺํ สุภาเวตีติ ฌานโต วุฏฺหิตฺวา ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ‘‘ยํกิฺจิ รูป’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๔.๑๘๑; ม. นิ. ๑.๒๔๔; ปฏิ. ม. ๑.๔๘) อนิจฺจานุปสฺสนํ สุฏฺุ ภาเวติ, อนิจฺจสฺาคหเณเนว เจตฺถ ทุกฺขสฺาทีนมฺปิ คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
มณิกนกภูสิตงฺโคติ มณิวิจิตฺเตหิ เหมมาลาลงฺกาเรหิ วิภูสิตคตฺโต.
รชฺเช อาณาติอาทิ ยาจิตาการนิทสฺสนํ. ตตฺถ อาณาติ อาธิปจฺจํ. อิสฺสริยนฺติ ยโส วิภวสมฺปตฺติ. โภคา สุขาติ อิฏฺา มนาปิยา กามูปโภคา. ทหริกาสีติ ตฺวํ อิทานิ ทหรา ตรุณี อสิ.
นิสฺสฏฺํ ¶ เต รชฺชนฺติ มยฺหํ สพฺพมฺปิ ติโยชนิกํ รชฺชํ ตุยฺหํ ปริจฺจตฺตํ, ตํ ปฏิปชฺชิตฺวา โภเค ¶ จ ภฺุชสฺสุ, อยํ มํ กาเมหิเยว นิมนฺเตตีติ มา ¶ ทุมฺมนา อโหสิ. เทหิ ทานานีติ ยถารุจิยา มหนฺตานิ ทานานิ สมณพฺราหฺมเณสุ ปวตฺเตหิ, มาตาปิตโร เต ทุกฺขิตา โทมนสฺสปฺปตฺตา ตว ปพฺพชฺชาธิปฺปายํ สุตฺวา ตสฺมา กาเม ปริภฺุชนฺตี. เตปิ อุปฏฺหนฺตี เตสํ จิตฺตํ ทุกฺขา โมเจหีติ เอวเมตฺถ ปทตฺถโยชนา เวทิตพฺพา.
มา กาเม อภินนฺทีติ วตฺถุกาเม กิเลสกาเม มา อภินนฺทิ. อถ โข เตสุ กาเมสุ อาทีนวํ โทสํ มยฺหํ วจนานุสาเรน ปสฺส าณจกฺขุนา โอโลเกหิ.
จาตุทฺทีโปติ ชมฺพุทีปาทีนํ จตุนฺนํ มหาทีปานํ อิสฺสโร. มนฺธาตาติ เอวํนาโม ราชา, กามโภคีนํ อคฺโค อคฺคภูโต อาสิ. เตนาห ภควา – ‘‘ราหุคฺคํ อตฺตภาวีนํ, มนฺธาตา กามโภคิน’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๑๕). อติตฺโต กาลงฺกโตติ จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ กุมารกีฬาวเสน จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ โอปรชฺชวเสน จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ จกฺกวตฺตี ราชา หุตฺวา เทวโภคสทิเส โภเค ภฺุชิตฺวา ฉตฺตึสาย สกฺกานํ อายุปฺปมาณกาลํ ตาวตึสภวเน สคฺคสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวาปิ กาเมหิ อติตฺโตว กาลงฺกโต. น จสฺส ปริปูริตา อิจฺฉา อสฺส มนฺธาตุรฺโ กาเมสุ อาสา น จ ปริปุณฺณา อาสิ.
สตฺต รตนานิ วสฺเสยฺยาติ สตฺตปิ รตนานิ, วุฏฺิมา เทโว ทสทิสา พฺยาเปตฺวา, สมนฺเตน สมนฺตโต ปุริสสฺส รุจิวเสน ยทิปิ วสฺเสยฺย, ยถา ตํ มนฺธาตุมหาราชสฺส เอวํ สนฺเตปิ น จตฺถิ ติตฺติ กามานํ, อติตฺตาว มรนฺติ นรา. เตนาห ภควา – ‘‘น กหาปณวสฺเสน, ติตฺติ กาเมสุ วิชฺชตี’’ติ (ธ. ป. ๑๘๖; ชา. ๑.๓.๒๓).
อสิสูนูปมา กามา อธิกุฏฺฏนฏฺเน, สปฺปสิโรปมา สปฺปฏิภยฏฺเน, อุกฺโกปมา ติณุกฺกูปมา อนุทหนฏฺเน. เตนาห ‘‘อนุทหนฺตี’’ติ. อฏฺิกงฺกลสนฺนิภา อปฺปสฺสาทฏฺเน.
มหาวิสาติ หลาหลาทิมหาวิสสทิสา. อฆมูลาติ อฆสฺส ทุกฺขสฺส มูลา การณภูตา. เตนาห ‘‘ทุขปฺผลา’’ติ.
รุกฺขปฺผลูปมา ¶ องฺคปจฺจงฺคานํ ผลิภฺชนฏฺเน. มํสเปสูปมา พหุสาธารณฏฺเน. สุปิโนปมา ¶ อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน มายา วิย ปโลภนโต. เตนาห ¶ ‘‘วฺจนิยา’’ติ, วฺจกาติ อตฺโถ. ยาจิตกูปมาติ ยาจิตกภณฺฑสทิสา ตาวกาลิกฏฺเน.
สตฺติสูลูปมา วินิวิชฺฌนฏฺเน. รุชฺชนฏฺเน โรโค ทุกฺขตาสุลภตฺตา. คณฺโฑ กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต. ทุกฺขุปฺปาทนฏฺเน อฆํ. มรณสมฺปาปเนน นิฆํ. องฺคารกาสุสทิสา มหาภิตาปนฏฺเน. ภยเหตุตาย เจว วธกปหูตตาย จ ภยํ วโธ นาม, กามาติ โยชนา.
อกฺขาตา อนฺตรายิกาติ ‘‘สคฺคมคฺคาธิคมสฺส นิพฺพานคามิมคฺคสฺส จ อนฺตรายกรา’’ติ จกฺขุภูเตหิ พุทฺธาทีหิ วุตฺตา. คจฺฉถาติ อนิกรตฺตํ สปริสํ วิสฺสชฺเชติ.
กึ มม ปโร กริสฺสตีติ ปโร อฺโ มม กึ นาม หิตํ กริสฺสติ อตฺตโน สีสมฺหิ อุตฺตมงฺเค เอกาทสหิ อคฺคีหิ ฑยฺหมาเน. เตนาห ‘‘อนุพนฺเธ ชรามรเณ’’ติ. ตสฺส ชรามรณสฺส สีสฑาหสฺส, ฆาตาย สมุคฺฆาตาย, ฆฏิตพฺพํ วายมิตพฺพํ.
ฉมนฺติ ฉมายํ. อิทมโวจนฺติ อิทํ ‘‘ทีโฆ พาลานํ สํสาโร’’ติอาทิกํ สํเวคสํวตฺตนกํ วจนํ อโวจํ.
ทีโฆ พาลานํ สํสาโรติ กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏภูตานํ ขนฺธายตนาทีนํ ปฏิปาฏิปวตฺติสงฺขาโต สํสาโร อปริฺาตวตฺถุกานํ อนฺธพาลานํ ทีโฆ พุทฺธาเณนปิ อปริจฺฉินฺทนิโย. ยถา หิ อนุปจฺฉินฺนตฺตา อวิชฺชาตณฺหานํ อปริจฺฉินฺนตาเยว ภวปพนฺธสฺส ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ, เอวํ ปราปิ โกฏีติ. ปุนปฺปุนฺจ โรทตนฺติ อปราปรํ โสกวเสน รุทนฺตานํ. อิมินาปิ อวิชฺชาตณฺหานํ อนุปจฺฉินฺนตํเยว เตสํ วิภาเวติ.
อสฺสุ ถฺํ รุธิรนฺติ ยํ าติพฺยสนาทินา ผุฏฺานํ โรทนฺตานํ ¶ อสฺสุ จ ทารกกาเล มาตุถนโต ปีตํ ถฺฺจ ยฺจ ปจฺจตฺถิเกหิ ฆาติตานํ รุธิรํ. สํสารํ อนมตคฺคโต สํสารสฺส อนุ อมตคฺคตฺตา าเณน อนุคนฺตฺวาปิ อมตอคฺคตฺตา อวิทิตคฺคตฺตา อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา สตฺตานํ สํสรตํ, อปราปรํ สํสรนฺตานํ สํสริตํ สราหิ, ตํ ‘‘กีว พหุก’’นฺติ อนุสฺสราหิ, อฏฺีนํ สนฺนิจยํ สราหิ อนุสฺสร, อุปธาเรหีติ อตฺโถ.
อิทานิ ¶ ¶ อาทีนวสฺส พหุภาวฺจ อุปมาย ทสฺเสตุํ ‘‘สร จตุโรทธี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ สร จตุโรทธี อุปนีเต อสฺสุถฺรุธิรมฺหีติ อิเมสํ สตฺตานํ อนมตคฺคสํสาเร สํสรนฺตานํ เอเกกสฺสปิ อสฺสุมฺหิ ถฺเ รุธิรมฺหิ จ ปมาณโต อุปเมตพฺเพ จตุโรทธี จตฺตาโร มหาสมุทฺเท อุปมาวเสน พุทฺเธหิ อุปนีเต สร สราหิ. เอกกปฺปมฏฺีนํ, สฺจยํ วิปุเลน สมนฺติ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส เอกสฺมึ กปฺเป อฏฺีนํ สฺจยํ เวปุลฺลปพฺพเตน สมํ อุปนีตํ สร. วุตฺตมฺปิ เจสํ –
‘‘เอกสฺเสเกน กปฺเปน, ปุคฺคลสฺสฏฺิสฺจโย;
สิยา ปพฺพตสโม ราสิ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.
‘‘โส โข ปนายํ อกฺขาโต, เวปุลฺโล ปพฺพโต มหา;
อุตฺตโร คิชฺฌกูฏสฺส, มคธานํ คิริพฺพเช’’ติ. (สํ. นิ. ๒.๑๓๓);
มหึ ชมฺพุทีปมุปนีตํ. โกลฏฺิมตฺตคุฬิกา, มาตา มาตุสฺเวว นปฺปโหนฺตีติ ชมฺพุทีโปติสงฺขาตํ มหาปถวึ โกลฏฺิมตฺตา พทรฏฺิมตฺตา คุฬิกา กตฺวา ตตฺเถเกกา ‘‘อยํ เม มาตุ, อยํ เม มาตุมาตู’’ติ เอวํ วิภาชิยมาเน ตา คุฬิกา มาตา มาตูสฺเวว นปฺปโหนฺติ, มาตา มาตูสุ อขีณาสฺเวว ปริยนฺติกา ตา คุฬิกา ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺยุํ, น ตฺเวว อนมตคฺเค สํสาเร สํสรโต สตฺตสฺส มาตุมาตโรติ ¶ . เอวํ ชมฺพุทีปมหึ สํสารสฺส ทีฆภาเวน อุปมาภาเวน อุปนีตํ มนสิ กโรหีติ.
ติณกฏฺสาขาปลาสนฺติ ติณฺจ กฏฺฺจ สาขาปลาสฺจ. อุปนีตนฺติ อุปมาภาเวน อุปนีตํ. อนมตคฺคโตติ สํสารสฺส อนมตคฺคภาวโต. จตุรงฺคุลิกา ฆฏิกาติ จตุรงฺคุลปฺปมาณานิ ขณฺฑานิ. ปิตุปิตุสฺเวว นปฺปโหนฺตีติ ปิตุปิตามเหสุ เอว ตา ฆฏิกา นปฺปโหนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมสฺมึ โลเก สพฺพํ ติณฺจ กฏฺฺจ สาขาปลาสฺจ จตุรงฺคุลิกา กตฺวา ตตฺเถเกกา ‘‘อยํ เม ปิตุ, อยํ เม ปิตามหสฺสา’’ติ วิภาชิยมาเน ตา ฆฏิกาว ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺยุํ, น ตฺเวว อนมตคฺเค สํสาเร สํสรโต สตฺตสฺส ปิตุปิตามหาติ. เอวํ ติณฺจ กฏฺฺจ สาขาปลาสฺจ สํสารสฺส ทีฆภาเวน อุปนีตํ สราหีติ. อิมสฺมึ ปน าเน –
‘‘อนมตคฺโคยํ ¶ , ภิกฺขเว, สํสาโร, ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ¶ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรตํ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข พหุตรํ, ยํ วา โว อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา สนฺธาวตํ สํสรตํ อมนาปสมฺปโยคา มนาปวิปฺปโยคา กนฺทนฺตานํ โรทนฺตานํ อสฺสุปสฺสนฺนํ ปคฺฆริตํ, ยํ วา จตูสุ มหาสมุทฺเทสุ อุทก’’นฺติอาทิกา (สํ. นิ. ๒.๑๒๖) – ‘อนมตคฺคปาฬิ’ อาหริตพฺพา.
สร กาณกจฺฉปนฺติ อุภยกฺขิกาณํ กจฺฉปํ อนุสฺสร. ปุพฺพสมุทฺเท อปรโต จ ยุคฉิทฺทนฺติ ปุรตฺถิมสมุทฺเท อปรโต จ ปจฺฉิมุตฺตรทกฺขิณสมุทฺเท วาตเวเคน ปริพฺภมนฺตสฺส ยุคสฺส เอกจฺฉิทฺทํ. สิรํ ตสฺส จ ปฏิมุกฺกนฺติ กาณกจฺฉปสฺส สีสํ ตสฺส จ วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน คีวํ อุกฺขิปนฺตสฺส สีสสฺส ยุคจฺฉิทฺเท ปเวสนฺจ สร. มนุสฺสลาภมฺหิ โอปมฺมนฺติ ตยิทํ สพฺพมฺปิ พุทฺธุปฺปาทธมฺมเทสนาสุ วิย มนุสฺสตฺตลาเภ โอปมฺมํ ¶ กตฺวา ปฺาย สร, ตสฺส อตีว ทุลฺลภสภาวตฺตํ สารชฺชภยสฺสาปิ อติจฺจสภาวตฺตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหาสมุทฺเท เอกจฺฉิคฺคฬฺหํ ยุคํ ปกฺขิเปยฺยา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๒๕๒; สํ. นิ. ๕.๑๑๑๗).
สร รูปํ เผณปิณฺโฑปมสฺสาติ วิมทฺทาสหนโต เผณปิณฺฑสทิสสฺส อเนกานตฺถสนฺนิปาตโต กายสงฺขาตสฺส กลิโน, นิจฺจสาราทิวิรเหน อสารสฺส รูปํ อสุจิทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาวํ สร. ขนฺเธ ปสฺส อนิจฺเจติ ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺเธ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺเจ ปสฺส าณจกฺขุนา โอโลเกหิ. สราหิ นิรเย พหุวิฆาเตติ อฏฺ มหานิรเย โสฬสอุสฺสทนิรเย จ พหุวิฆาเต พหุทุกฺเข มหาทุกฺเข จ อนุสฺสร.
สร กฏสึ วฑฺเฒนฺเตติ ปุนปฺปุนํ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ อปราปรํ อุปฺปตฺติยา ปุนปฺปุนํ กฏสึ สุสานํ อาฬหนเมว วฑฺเฒนฺเต สตฺเต อนุสฺสร. ‘‘วฑฺฒนฺโต’’ติ วา ปาฬิ, ตฺวํ วฑฺฒนฺโตติ โยชนา. กุมฺภีลภยานีติ อุทรโปสนตฺถํ อกิจฺจการิตาวเสน โอทริกตฺตภยานิ. วุตฺตฺหิ ‘‘กุมฺภีลภยนฺติ โข, ภิกฺขเว, โอทริกตฺตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๑๒๒). สราหิ จตฺตาริ ¶ สจฺจานีติ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ยาถาวโต อนุสฺสร อุปธาเรหิ.
เอวํ ราชปุตฺตี อเนกาการโวการํ อนุสฺสรณวเสน กาเมสุ สํสาเร จ อาทีนวํ ปกาเสตฺวา อิทานิ พฺยติเรเกนปิ ตํ ปกาเสตุํ ‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อมตมฺหิ ¶ วิชฺชมาเนติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มหากรุณาย อุปนีเต สทฺธมฺมามเต อุปลพฺภมาเน. กึ ตว ปฺจกฏุเกน ปีเตนาติ ปริเยสนา ปริคฺคโห อารกฺขา ปริโภโค วิปาโก จาติ ปฺจสุปิ าเนสุ ติขิณตรทุกฺขานุพนฺธตาย สวิฆาตตฺตา สอุปายาสตฺตา กึ ตุยฺหํ ปฺจกฏุเกน ปฺจกามคุณรเสน ปีเตน? อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรนฺตี อาห – ‘‘สพฺพา หิ กามรติโย, กฏุกตรา ปฺจกฏุเกนา’’ติ ¶ , อติวิย กฏุกตราติ อตฺโถ.
เย ปริฬาหาติ เย กามา สมฺปติ กิเลสปริฬาเหน อายตึ วิปากปริฬาเหน จ สปริฬาหา มหาวิฆาตา. ชลิตา กุถิตา กมฺปิตา สนฺตาปิตาติ เอกาทสหิ อคฺคีหิ ปชฺชลิตา ปกฺกุถิตา จ หุตฺวา ตํสมงฺคีนํ กมฺปนกา สนฺตาปนกา จ.
อสปตฺตมฺหีติ สปตฺตรหิเต เนกฺขมฺเม. สมาเนติ สนฺเต วิชฺชมาเน. ‘‘พหุสปตฺตา’’ติ วตฺวา เยหิ พหู สปตฺตา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘ราชคฺคี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ราชูหิ จ อคฺคินา จ โจเรหิ จ อุทเกน จ ทายาทาทิอปฺปิเยหิ จ ราชคฺคิโจรอุทกปฺปิเยหิ สาธารณโต เตสฺเวโวปมา วุตฺตา.
เยสุ วธพนฺโธติ เยสุ กาเมสุ กามนิมิตฺตํ มรณโปถนาทิปริกฺกิเลโส อนฺทุพนฺธนาทิพนฺโธ จ โหตีติ อตฺโถ. กาเมสูติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ. ตตฺถ หีติ เหตุอตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา กาเมสุ กามเหตุ อิเม สตฺตา วธพนฺธนทุกฺขานิ อนุภวนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา อาห – ‘‘อสกามา’’ติ, กามา นาเมเต อสนฺโต หีนา ลามกาติ อตฺโถ. ‘‘อหกามา’’ติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. อหาติ หิ ลามกปริยาโย ‘‘อหโลกิตฺถิโย นามา’’ติอาทีสุ วิย.
อาทีปิตาติ ¶ ปชฺชลิตา. ติณุกฺกาติ ติเณหิ กตา อุกฺกา. ทหนฺติ เย เต มฺุจนฺตีติ เย สตฺตา เต กาเม น มฺุจนฺติ, อฺทตฺถุ คณฺหนฺติ, เต ทหนฺติเยว, สมฺปติ อายติฺจ ฌาเปนฺติ.
มา อปฺปกสฺส เหตูติ ปุปฺผสฺสาทสทิสสฺส ปริตฺตกสฺส กามสุขสฺส เหตุ วิปุลํ อุฬารํ ปณีตฺจ โลกุตฺตรํ สุขํ มา ชหิ มา ฉฑฺเฑหิ. มา ปุถุโลโมว พฬิสํ คิลิตฺวาติ อามิสโลเภน ¶ พฬิสํ คิลิตฺวา พฺยสนํ ปาปุณนฺโต ‘‘ปุถุโลโม’’ติ ลทฺธนาโม มจฺโฉ วิย กาเม อปริจฺจชิตฺวา มา ปจฺฉา วิหฺสิ ปจฺฉา วิฆาฏํ อาปชฺชสิ.
สุนโขว สงฺขลาพทฺโธติ ยถา คทฺทุเลน พทฺโธ ¶ สุนโข คทฺทุลพนฺเธน ถมฺเภ อุปนิพทฺโธ อฺโต คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ปริพฺภมติ, เอวํ ตฺวํ กามตณฺหาย พทฺโธ, อิทานิ กามํ ยทิปิ กาเมสุ ตาว ทมสฺสุ อินฺทฺริยานิ ทเมหิ. กาหินฺติ ขุ ตํ กามา, ฉาตา สุนขํว จณฺฑาลาติ ขูติ นิปาตมตฺตํ. เต ปน กามา ตํ ตถา กริสฺสนฺติ, ยถา ฉาตชฺฌตฺตา สปากา สุนขํ ลภิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺตีติ อตฺโถ.
อปริมิตฺจ ทุกฺขนฺติ อปริมาณํ ‘‘เอตฺตก’’นฺติ ปริจฺฉินฺทิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ นิรยาทีสุ กายิกํ ทุกฺขํ. พหูนิ จ จิตฺตโทมนสฺสานีติ จิตฺเต ลพฺภมานานิ พหูนิ อเนกานิ โทมนสฺสานิ เจโตทุกฺขานิ. อนุโภหิสีติ อนุภวิสฺสสิ. กามยุตฺโตติ กาเมหิ ยุตฺโต, เต อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต. ปฏินิสฺสช อทฺธุเว กาเมติ อทฺธุเวหิ อนิจฺเจหิ กาเมหิ วินิสฺสช อเปหีติ อตฺโถ.
ชรามรณพฺยาธิคหิตา, สพฺพา สพฺพตฺถ ชาติโยติ ยสฺมา หีนาทิเภทภินฺนา สพฺพตฺถ ภวาทีสุ ชาติโย ชรามรณพฺยาธินา จ คหิตา, เตหิ อปริมุตฺตา, ตสฺมา อชรมฺหิ นิพฺพาเน วิชฺชมาเน ชราทีหิ อปริมุตฺเตหิ กาเมหิ กึ ตว ปโยชนนฺติ โยชนา.
เอวํ นิพฺพานคุณทสฺสนมุเขน กาเมสุ ภเวสุ จ อาทีนวํ ปกาเสตฺวา อิทานิ นิพฺพตฺติตํ นิพฺพานคุณเมว ปกาเสนฺตี ‘‘อิทมชร’’นฺติอาทินา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตตฺถ อิทมชรนฺติ อิทเมเวกํ อตฺตนิ ชราภาวโต อธิคตสฺส จ ชราภาวเหตุโต อชรํ. อิทมมรนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว ¶ นโย. อิทมชรามรนฺติ ตทุภยเมกชฺฌํ กตฺวา โถมนาวเสน วทติ. ปทนฺติ วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจิตุกาเมหิ ปพฺพชิตพฺพโต ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปทํ. โสกเหตูนํ อภาวโต โสกาภาวโต จ อโสกํ. สปตฺตกรธมฺมาภาวโต อสปตฺตํ. กิเลสสมฺพาธาภาวโต อสมฺพาธํ. ขลิตสงฺขาตานํ ทุจฺจริตานํ อภาเวน อขลิตํ. อตฺตานุวาทาทิภยานํ วฏฺฏภยสฺส ¶ จ สพฺพโส อภาวา อภยํ. ทุกฺขูปตาปสฺส กิเลสสฺสาปิ อภาเวน นิรุปตาปํ. สพฺพเมตํ อมตมหานิพฺพานเมว สนฺธาย วทติ. ตฺหิ สา อนุสฺสวาทิสิทฺเธน อากาเรน อตฺตโน อุปฏฺหนฺตี เตสํ ปจฺจกฺขโต ทสฺเสนฺตี วิย ‘‘อิท’’นฺติ อโวจ.
อวิคตมิทํ ¶ พหูหิ อมตนฺติ อิทํ อมตํ นิพฺพานํ พหูหิ อนนฺตอปริมาเณหิ พุทฺธาทีหิ อริเยหิ อธิคตํ าตํ อตฺตโน ปจฺจกฺขํ กตํ. น เกวลํ เตหิ อธิคตเมว สนฺธาย วทติ, อถ โข อชฺชาปิ จ ลภนียํ อิทานิปิ อธิคมนียํ อธิคนฺตุํ สกฺกา. เกน ลภนียนฺติ อาห ‘‘โย โยนิโส ปยฺุชตี’’ติ, โย ปุคฺคโล โยนิโส อุปาเยน สตฺถารา ทินฺนโอวาเท ตฺวา ยฺุชติ สมฺมาปโยคฺจ กโรติ, เตน ลภนียนฺติ โยชนา. น จ สกฺกา อฆฏมาเนนาติ โย ปน โยนิโส น ปยฺุชติ, เตน อฆฏมาเนน น จ สกฺกา, กทาจิปิ ลทฺธุํ น สกฺกาเยวาติ อตฺโถ.
เอวํ ภณติ สุเมธาติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน สุเมธา ราชกฺา สํสาเร อตฺตโน สํเวคทีปนึ กาเมสุ นิพฺเพธภาคินึ ธมฺมกถํ กเถติ. สงฺขารคเต รตึ อลภมานาติ อณุมตฺเตปิ สงฺขารปวตฺเต อภิรตึ อวินฺทนฺตี. อนุเนนฺตี อนิกรตฺตนฺติ อนิกรตฺตํ ราชานํ สฺาเปนฺตี. เกเส จ ฉมํ ขิปีติ อตฺตโน ขคฺเคน ฉินฺเน เกเส จ ภูมิยํ ขิปิ ฉฑฺเฑสิ.
ยาจตสฺสา ปิตรํ โสติ โส อนิกรตฺโต อสฺสา สุเมธาย ปิตรํ โกฺจราชานํ ยาจติ. กินฺติ ยาจตีติ อาห ‘‘วิสฺสชฺเชถ สุเมธํ, ปพฺพชิตุํ วิโมกฺขสจฺจทสฺสา’’ติ, สุเมธํ ราชปุตฺตึ ปพฺพชิตุํ วิสฺสชฺเชถ, สา จ ปพฺพชิตฺวา วิโมกฺขสจฺจทสฺสา อวิปรีตนิพฺพานทสฺสาวินี โหตูติ อตฺโถ.
โสกภยภีตาติ ¶ าติวิโยคาทิเหตุโต สพฺพสฺมาปิ สํสารภยโต ภีตา าณุตฺตรวเสน อุตฺราสิตา. สิกฺขมานายาติ สิกฺขมานาย ¶ สมานาย ฉ อภิฺา สจฺฉิกตา, ตโต เอว อคฺคผลํ อรหตฺตํ สจฺฉิกตํ.
อจฺฉริยมพฺภุตํ ตํ, นิพฺพานํ อาสิ ราชกฺายาติ ราชปุตฺติยา สุเมธาย กิเลเสหิ ปรินิพฺพานํ อจฺฉริยํ อพฺภุตฺจ อาสิ. ฉฬภิฺาว สิทฺธิยา กถนฺติ เจ ปุพฺเพนิวาสจริตํ, ยถา พฺยากริ ปจฺฉิเม กาเลติ, ปจฺฉิเม ขนฺธปรินิพฺพานกาเล อตฺตโน ปุพฺเพนิวาสปริยาปนฺนจริตํ ยถา พฺยากาสิ, ตถา ตํ ชานิตพฺพนฺติ.
ปุพฺเพนิวาสํ ปน ตาย ยถา พฺยากตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควติ โกณาคมเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ภควติ โกณาคมเนติ โกณาคมเน สมฺมาสมฺพุทฺเธ โลเก อุปฺปนฺเน. สงฺฆารามมฺหิ นวนิเวสมฺหีติ ¶ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส อภินวนิเวสิเต อาราเม. สขิโย ติสฺโส ชนิโย, วิหารทานํ อทาสิมฺหาติ ธนฺชานี เขมา อหฺจาติ มยํ ติสฺโส สขิโย อารามํ สงฺฆสฺส วิหารทานํ อทมฺห.
ทสกฺขตฺตุํ สตกฺขตฺตุนฺติ ตสฺส วิหารทานสฺส อานุภาเวน ทสวาเร เทเวสุ อุปปชิมฺห, ตโต มนุสฺเสสุ อุปปชฺชิตฺวา ปุน สตกฺขตฺตุํ เทเวสุ อุปปชฺชิมฺห, ตโตปิ มนุสฺเสสุ อุปปชฺชิตฺวา ปุน ทสสตกฺขตฺตุํ สหสฺสวารํ เทเวสุ อุปปชฺชิมฺห, ตโตปิ มนุสฺเสสุ อุปปชฺชิตฺวา ปุน สตานิ สตกฺขตฺตุํ ทสสหสฺสวาเร เทเวสุ อุปปชฺชิมฺห, โก ปน วาโท มนุสฺเสสุ. เอวํ มนุสฺเสสุ อุปฺปนฺนวาเรสุ กถาว นตฺถิ, อเนกสหสฺสวารํ อุปปชฺชิมฺหาติ อตฺโถ.
เทเวสุ มหิทฺธิกา อหุมฺหาติ เทเวสุ อุปปนฺนกาเล ตสฺมึ ตสฺมึ เทวนิกาเย มหิทฺธิกา มหานุภาวา อหุมฺห. มานุสกมฺหิ โก ปน วาโทติ มนุสฺสตฺตลาเภ มหิทฺธิกตาย กถาว นตฺถิ. อิทานิ ตเมว มนุสฺสตฺตภาเว อุกฺกํสตํ มหิทฺธิกตํ ทสฺเสนฺตี ‘‘สตฺตรตนสฺส มเหสี, อิตฺถิรตนํ อหํ อาสิ’’นฺติ อาห. ตตฺถ จกฺกรตนาทีนิ สตฺต รตนานิ เอตสฺส สนฺตีติ สตฺตรตโน, จกฺกวตฺตี, ตสฺส สตฺตรตนสฺส. ฉโทสรหิตา ¶ ปฺจกลฺยาณา อติกฺกนฺตมนุสฺสวณฺณา อปตฺตทิพฺพวณฺณาติ เอวมาทิคุณสมนฺนาคเมน อิตฺถีสุ รตนภูตา ¶ อหํ อโหสึ.
โส เหตูติ ยํ ตํ โกณาคมนสฺส ภควโต กาเล สงฺฆสฺส วิหารทานํ กตํ, โส ยถาวุตฺตาย ทิพฺพสมฺปตฺติยา จ เหตุ. โส ปภโว ตํ มูลนฺติ ตสฺเสว ปริยายวจนํ. สาว สาสเน ขนฺตีติ สา เอว อิธ สตฺถุสาสเน ธมฺเม นิชฺฌานกฺขนฺตี. ตํ ปมสโมธานนฺติ ตเทว สตฺถุสาสนธมฺเมน ปมํ สโมธานํ ปโม สมาคโม, ตเทว สตฺถุสาสนธมฺเม อภิรตาย ปริโยสาเน นิพฺพานนฺติ ผลูปจาเรน การณํ วทติ. อิมา ปน จตสฺโส คาถา เถริยา อปทานสฺส วิภาวนวเสน ปวตฺตตฺตา อปทานปาฬิยมฺปิ สงฺคหํ อาโรปิตา.
โอสานคาถาย เอวํ กโรนฺตีติ ยถา มยา ปุริมตฺตภาเว เอตรหิ จ กตํ ปฏิปนฺนํ, เอวํ อฺเปิ กโรนฺติ ปฏิปชฺชนฺติ. เก เอวํ กโรนฺตีติ อาห – ‘‘เย สทฺทหนฺติ วจนํ อโนมปฺสฺสา’’ติ, เยฺยปริยนฺติกาณตาย ปริปุณฺณปฺสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนํ เย ปุคฺคลา สทฺทหนฺติ ‘‘เอวเมต’’นฺติ โอกปฺปนฺติ, เต เอวํ กโรนฺติ ปฏิปชฺชนฺติ. อิทานิ ตาย อุกฺกํสคตาย ¶ ปฏิปตฺติยา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิพฺพินฺทนฺติ ภวคเต, นิพฺพินฺทิตฺวา วิรชฺชนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – เย ภควโต วจนํ ยาถาวโต สทฺทหนฺติ, เต วิสุทฺธิปฏิปทํ ปฏิปชฺชนฺตา สพฺพสฺมึ ภวคเต เตภูมเก สงฺขาเร วิปสฺสนาปฺาย นิพฺพินฺทนฺติ, นิพฺพินฺทิตฺวา จ ปน อริยมคฺเคน สพฺพโส วิรชฺชนฺติ, สพฺพสฺมาปิ ภวคตา วิมุจฺจนฺตีติ อตฺโถ. วิราเค อริยมคฺเค อธิคเต วิมุตฺตาเยว โหนฺตีติ.
เอวเมตา เถริกาทโย สุเมธาปริโยสานา คาถาสภาเคน อิธ เอกชฺฌํ สงฺคหํ อารูฬฺหา ‘‘ติสตฺตติปริมาณา’’ติ. ภาณวารโต ปน ทฺวาธิกา ฉสตมตฺตา เถริโย คาถา จ. ตา สพฺพาปิ ยถา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวิกาภาเวน เอกวิธา, ตถา อเสขภาเวน อุกฺขิตฺตปลิฆตาย สํกิณฺณปริกฺขตาย อพฺพูฬฺเหสิกตาย นิรคฺคลตาย ปนฺนภารตาย วิสฺุตฺตตาย ทสสุ อริยวาเสสุ วุฏฺวาสตาย จ, ตถา หิ ตา ปฺจงฺควิปฺปหีนา ฉฬงฺคสมนฺนาคตา เอการกฺขา ¶ จตุราปสฺเสนา ¶ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺจา สมวยสฏฺเสนา อนาวิลสงฺกปฺปา ปสฺสทฺธกายสงฺขารา สุวิมุตฺตจิตฺตา สุวิมุตฺตปฺา จาติ เอวมาทินา (ที. นิ. ๓.๓๖๐) นเยน เอกวิธา.
สมฺมุขาปรมฺมุขาเภทโต ทุวิธา. ยา หิ สตฺถุธรมานกาเล อริยาย ชาติยา ชาตา มหาปชาปติโคตมิอาทโย, ตา สมฺมุขาสาวิกา นาม. ยา ปน ภควโต ขนฺธปรินิพฺพานโต ปจฺฉา อธิคตวิเสสา, ตา สติปิ สตฺถุธมฺมสรีรสฺส ปจฺจกฺขภาเว สตฺถุสรีรสฺส อปจฺจกฺขภาวโต ปรมฺมุขาสาวิกา นาม. ตถา อุภโตภาควิมุตฺติปฺาวิมุตฺติตาวเสน. อิธ ปาฬิยาคตา ปน อุภโตภาควิมุตฺตาเยว. ตถา สาปทานนาปทานเภทโต. ยาสฺหิ ปุริเมสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ ปจฺเจกพุทฺเธสุ สาวกพุทฺเธสุ วา ปฺุกิริยาวเสน กตาธิการตาสงฺขาตํ อตฺถิ อปทานํ, ตา สาปทานา. ยาสํ ตํ นตฺถิ, ตา นาปทานา. ตถา สตฺถุลทฺธูปสมฺปทา สงฺฆโต ลทฺธูปสมฺปทาติ ทุวิธา. ครุธมฺมปฏิคฺคหณมฺหิ ลทฺธูปสมฺปทา มหาปชาปติโคตมี สตฺถุสนฺติกาว ลทฺธูปสมฺปทตฺตา สตฺถุลทฺธูปสมฺปทา นาม. เสสา สพฺพาปิ สงฺฆโต ลทฺธูปสมฺปทา. ตาปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนา อุภโตอุปสมฺปนฺนาติ ทุวิธา. ตตฺถ ยา ตา มหาปชาปติโคตมิยา สทฺธึ นิกฺขนฺตา ปฺจสตา สากิยานิโย, ตา เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุสงฺฆโต เอว ลทฺธูปสมฺปทตฺตา มหาปชาปติโคตมึ เปตฺวา. อิตรา อุภโตอุปสมฺปนฺนา อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปทตฺตา.
เอหิภิกฺขุทุโก ¶ วิย เอหิภิกฺขุนิทุโก อิธ น ลพฺภติ. กสฺมา? ภิกฺขุนีนํ ตถา อุปสมฺปทาย อภาวโต. ยทิ เอวํ ยํ ตํ เถริคาถาย สุภทฺทาย กุณฺฑลเกสาย วุตฺตํ –
‘‘นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อฺชลึ อกํ;
เอหิ ภทฺเทติ มํ อวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา’’ติ. (เถรีคา. ๑๐๙);
ตถา อปทาเนปิ –
‘‘อายาจิโต ตทา อาห, เอหิ ภทฺเทติ นายโก;
ตทาหํ อุปสมฺปนฺนา, ปริตฺตํ โตยมทฺทส’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๓.๔๔);
ตํ ¶ กถนฺติ? นยิทํ เอหิภิกฺขุนิภาเวน ¶ อุปสมฺปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุปสมฺปทาย ปน เหตุภาวโต ยา สตฺถุ อาณตฺติ, สา เม อาสูปสมฺปทาติ วุตฺตํ.
ตถา หิ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘เอหิ, ภทฺเท, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชฺช อุปสมฺปชฺชสฺสูติ มํ อโวจ อาณาเปสิ. สา สตฺถุ อาณา มยฺหํ อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อโหสี’’ติ. เอเตเนว อปทานคาถายปิ อตฺโถ สํวณฺณิโตติ ทฏฺพฺโพ.
เอวมฺปิ ภิกฺขุนิวิภงฺเค เอหิ ภิกฺขุนีติ อิทํ กถนฺติ? เอหิภิกฺขุนิภาเวน ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปทาย อสภาวโชตนวจนํ ตถา อุปสมฺปทาย ภิกฺขุนีนํ อภาวโต. ยทิ เอวํ, กถํ เอหิภิกฺขุนีติ วิภงฺเค นิทฺเทโส กโตติ? เทสนานยโสตปติตภาเวน. อยฺหิ โสตปติตตา นาม กตฺถจิ ลพฺภมานสฺสาปิ อนาหฏํ โหติ.
ยถา อภิธมฺเม มโนธาตุนิทฺเทเส (ธ. ส. ๕๖๖-๕๖๗) ลพฺภมานมฺปิ ฌานงฺคํ ปฺจวิฺาณโสตปติตตาย น อุทฺธฏํ กตฺถจิ เทสนาย อสมฺภวโต. ยถา ตตฺเถว วตฺถุนิทฺเทเส หทยวตฺถุ, กตฺถจิ อลพฺภมานสฺสาปิ คหณวเสน. ตถา ิตกปฺปินิทฺเทเส. ยถาห –
‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ิตกปฺปี? อยฺจ ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ¶ อสฺส, กปฺปสฺส จ อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺส, เนว ตาว กปฺโป อุฑฺฑยฺเหยฺย, ยาวายํ ปุคฺคโล น โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกโรตี’’ติ (ปุ. ป. ๑๗).
เอวมิธาปิ อลพฺภมานคหณวเสน เวทิตพฺพํ, ปริกปฺปวจนฺเหตํ สเจ ภควา ภิกฺขุนิภาวโยคฺยํ กฺจิ มาตุคามํ เอหิ ภิกฺขุนีติ วเทยฺย, เอวมฺปิ ภิกฺขุนิภาโว สิยาติ. กสฺมา ปน ภควา เอวํ น กเถสีติ? ตถา กตาธิการานํ อภาวโต. เย ปน ‘‘อนาสนฺนสนฺนิหิตภาวโต’’ติ การณํ วตฺวา ‘‘ภิกฺขู เอว หิ สตฺถุ อาสนฺนจารี สทา สนฺนิหิตาว, ตสฺมา เต ‘เอหิภิกฺขู’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ, น ภิกฺขุนิโย’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. สตฺถุ อาสนฺนทูรภาวสฺส ภพฺพาภพฺพภาวาสิทฺธตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘สงฺฆาฏิกณฺเณ ¶ เจปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คเหตฺวา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺโธ อสฺส ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺโต, โส จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย ¶ , อถ โข โส อารกาว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปสฺสติ, ธมฺมํ อปสฺสนฺโต น มํ ปสฺสติ.
‘‘โยชนสเต เจปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย. โส จ โหติ อนภิชฺฌาลุ กาเมสุ น ติพฺพสาราโค อพฺยาปนฺนจิตฺโต อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป อุปฏฺิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย, อถ โข โส สนฺติเกว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสติ, ธมฺมํ ปสฺสนฺโต มํ ปสฺสตี’’ติ (อิติวุ. ๙๒).
ตสฺมา อการณํ เทสโต สตฺถุ อาสนฺนานาสนฺนตา. อกตาธิการตาย ปน ภิกฺขุนีนํ ตตฺถ อโยคฺยตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอหิภิกฺขุนิทุโก อิธ น ลพฺภตี’’ติ. เอวํ ทุวิธา.
อคฺคสาวิกา, มหาสาวิกา, ปกติสาวิกาติ ติวิธา. ตตฺถ เขมา, อุปฺปลวณฺณาติ อิมา ทฺเว เถริโย อคฺคสาวิกา นาม. กามํ สพฺพาปิ ขีณาสวตฺเถริโย สีลสุทฺธิอาทิเก สมฺปาเทนฺติโย จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฏฺิตจิตฺตา สตฺตโพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อนวเสสโต กิเลเส เขเปตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺหนฺติ. ตถาปิ ยถา สทฺธาวิมุตฺตโต ¶ ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปฺาวิมุตฺตโต จ อุภโตภาควิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคภาวนาวิเสสสิทฺโธ อิจฺฉิโต วิเสโส, เอวํ อภินีหารมหนฺตตาปุพฺพโยคมหนฺตตาหิสสนฺตาเน สาติสยคุณวิเสสสฺส นิปฺผาทิตตฺตา สีลาทีหิ คุเณหิ มหนฺตา สาวิกาติ มหาสาวิกา. เตสุเยว ปน โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ ปาโมกฺขภาเวน ธุรภูตานํ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสมาธีนํ สาติสยกิจฺจานุภาวนิพฺพตฺติยา การณภูตาย ตชฺชาภินีหารตาย สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ จิรกาลสมฺภูตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา ยถากฺกมํ ปฺาย สมาธิมฺหิ จ อุกฺกํสปารมิปฺปตฺติยา สวิเสสํ ¶ สพฺพคุเณหิ อคฺคภาเว ิตตฺตา ตา ทฺเวปิ อคฺคสาวิกา นาม. มหาปชาปติโคตมิอาทโย ปน อภินีหารมหนฺตตาย ปุพฺพโยคมหนฺตตาย จ ปฏิลทฺธคุณวิเสสวเสน มหติโย สาวิกาติ มหาสาวิกา นาม. อิตรา เถริกา ติสฺสา วีรา ธีราติ เอวมาทิกา อภินีหารมหนฺตตาทีนํ อภาเวน ปกติสาวิกา นาม. ตา ปน อคฺคสาวิกา วิย มหาสาวิกา วิย จ น ปริมิตา, อถ โข อเนกสตานิ อเนกสหสฺสานิ เวทิตพฺพานิ. เอวํ ¶ อคฺคสาวิกาทิเภทโต ติวิธา. ตถา สฺุตวิโมกฺขาทิเภทโต ติวิธา.
ปฏิปทาทิวิภาเคน จตุพฺพิธา. อินฺทฺริยาธิกวิภาเคน ปฺจวิธา. ตถา ปฏิปตฺติยาทิวิภาเคน ปฺจวิธา. อนิมิตฺตวิมุตฺตาทิวเสน ฉพฺพิธา. อธิมุตฺติเภเทน สตฺตวิธา. ธุรปฏิปทาทิวิภาเคน อฏฺวิธา. วิมุตฺติวิภาเคน นววิธา ทสวิธา จ. ตา ปเนตา ยถาวุตฺเตน ธุรเภเทน วิภชฺชมานา วีสติ โหนฺติ, ปฏิปทาวิภาเคน วิภชฺชมานา จตฺตาลีส โหนฺติ. ปุน ปฏิปทาเภเทน ธุรเภเทน วิภชฺชมานา อสีติ โหนฺติ. อถ วา สฺุตาวิมุตฺตาทิวิภาเคน วิภชฺชมานา จตฺตาลีสาธิกานิ ทฺเวสตานิ โหนฺติ. ปุน อินฺทฺริยาธิกวิภาเคน วิภชฺชมานา ทฺวิสตุตฺตรสหสฺสํ โหนฺตีติ. เอวเมตาสํ เถรีนํ อตฺตโน คุณวเสเนว อเนกเภทภินฺนตา เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน เหฏฺา เถรคาถาสํวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺโพติ.
สุเมธาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหานิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนคาถา
‘‘เย เต สมฺปนฺนสทฺธมฺมา, ธมฺมราชสฺส สตฺถุโน;
โอรสา มุขชา ปุตฺตา, ทายาทา ธมฺมนิมฺมิตา.
‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺนา, กตกิจฺจา อนาสวา;
สุภูติอาทโย เถรา, เถริโย เถริกาทโย.
‘‘เตหิ ยา ภาสิตา คาถา, อฺพฺยากรณาทินา;
ตา สพฺพา เอกโต กตฺวา, เถรคาถาติ สงฺคหํ.
‘‘อาโรเปสุํ มหาเถรา, เถรีคาถาติ ตาทิโน;
ตาสํ อตฺถํ ปกาเสตุํ, โปราณฏฺกถานยํ.
‘‘นิสฺสาย ยา สมารทฺธา, อตฺถสํวณฺณนา มยา;
สา ตตฺถ ปรมตฺถานํ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ.
‘‘ปกาสนา ปรมตฺถทีปนี, นาม นามโต;
สมฺปตฺตา ปรินิฏฺานํ, อนากุลวินิจฺฉยา;
ทฺวานวุติปริมาณา, ปาฬิยา ภาณวารโต.
‘‘อิติ ตํ สงฺขโรนฺเตน, ยํ ตํ อธิคตํ มยา;
ปฺุํ ตสฺสานุภาเวน, โลกนาถสฺส สาสนํ.
‘‘โอคาเหตฺวา วิสุทฺธาย, สีลาทิปฏิปตฺติยา;
สพฺเพปิ เทหิโน โหนฺตุ, วิมุตฺติรสภาคิโน.
‘‘จิรํ ¶ ติฏฺตุ โลกสฺมึ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ;
ตสฺมึ สคารวา นิจฺจํ, โหนฺตุ สพฺเพปิ ปาณิโน.
‘‘สมฺมา ¶ วสฺสตุ กาเลน, เทโวปิ ชคตีปติ;
สทฺธมฺมนิรโต โลกํ, ธมฺเมเนว ปสาสตู’’ติ.
พทรติตฺถวิหารวาสินา อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน
กตา
เถรีคาถานํ อตฺถสํวณฺณนา นิฏฺิตา.
เถรีคาถา-อฏฺกถา นิฏฺิตา.