📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

เถรีคาถาปาฬิ

๑. เอกกนิปาโต

๑. อฺตราเถรีคาถา

.

‘‘สุขํ สุปาหิ เถริเก, กตฺวา โจเฬน ปารุตา;

อุปสนฺโต หิ เต ราโค, สุกฺขฑากํ ว กุมฺภิย’’นฺติ.

อิตฺถํ สุทํ อฺตรา เถรี อปฺาตา ภิกฺขุนี คาถํ อภาสิตฺถาติ.

๒. มุตฺตาเถรีคาถา

.

‘‘มุตฺเต มุจฺจสฺสุ โยเคหิ, จนฺโท ราหุคฺคหา อิว;

วิปฺปมุตฺเตน จิตฺเตน, อนณา ภุฺช ปิณฺฑก’’นฺติ.

อิตฺถํ สุทํ ภควา มุตฺตํ สิกฺขมานํ อิมาย คาถาย อภิณฺหํ โอวทตีติ.

๓. ปุณฺณาเถรีคาถา

.

‘‘ปุณฺเณ ปูรสฺสุ ธมฺเมหิ, จนฺโท ปนฺนรเสริว;

ปริปุณฺณาย ปฺาย, ตโมขนฺธํ [ตโมกฺขนฺธํ (สี. สฺยา.)] ปทาลยา’’ติ.

อิตฺถํ สุทํ ปุณฺณา เถรี คาถํ อภาสิตฺถาติ.

๔. ติสฺสาเถรีคาถา

.

‘‘ติสฺเส สิกฺขสฺสุ สิกฺขาย, มา ตํ โยคา อุปจฺจคุํ;

สพฺพโยควิสํยุตฺตา, จร โลเก อนาสวา’’ติ.

… ติสฺสา เถรี….

๕. อฺตราติสฺสาเถรีคาถา

.

‘‘ติสฺเส ยุฺชสฺสุ ธมฺเมหิ, ขโณ ตํ มา อุปจฺจคา;

ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา’’ติ.

… อฺตรา ติสฺสา เถรี….

๖. ธีราเถรีคาถา

.

‘‘ธีเร นิโรธํ ผุเสหิ [ผุสฺเสหิ (สี.)], สฺาวูปสมํ สุขํ;

อาราธยาหิ นิพฺพานํ, โยคกฺเขมมนุตฺตร’’นฺติ [โยคกฺเขมํ อนุตฺตรนฺติ (สี. สฺยา.)].

… ธีรา เถรี….

๗. วีราเถรีคาถา

.

‘‘วีรา วีเรหิ [ธีรา ธีเรหิ (ก.)] ธมฺเมหิ, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;

ธาเรหิ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ [สวาหนนฺติ (ก.)].

… วีรา เถรี….

๘. มิตฺตาเถรีคาถา

.

‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, มิตฺเต มิตฺตรตา ภว;

ภาเวหิ กุสเล ธมฺเม, โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยา’’ติ.

… มิตฺตา เถรี….

๙. ภทฺราเถรีคาถา

.

‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, ภทฺเร ภทฺรรตา ภว;

ภาเวหิ กุสเล ธมฺเม, โยคกฺเขมมนุตฺตร’’นฺติ.

… ภทฺรา เถรี….

๑๐. อุปสมาเถรีคาถา

๑๐.

‘‘อุปสเม ตเร โอฆํ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ;

ธาเรหิ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหน’’นฺติ.

… อุปสมา เถรี….

๑๑. มุตฺตาเถรีคาถา

๑๑.

‘‘สุมุตฺตา สาธุมุตฺตามฺหิ, ตีหิ ขุชฺเชหิ มุตฺติยา;

อุทุกฺขเลน มุสเลน, ปตินา ขุชฺชเกน จ;

มุตฺตามฺหิ ชาติมรณา, ภวเนตฺติ สมูหตา’’ติ.

… มุตฺตา เถรี….

๑๒. ธมฺมทินฺนาเถรีคาถา

๑๒.

‘‘ฉนฺทชาตา อวสายี, มนสา จ ผุฏา [ผุฏฺา (สฺยา.), ผุา (สี. อฏฺ.)] สิยา;

กาเมสุ อปฺปฏิพทฺธจิตฺตา [อปฺปฏิพนฺธจิตฺตา (ก.)], อุทฺธํโสตาติ วุจฺจตี’’ติ [อุทฺธํโสตา วิมุจฺจตีติ (สี. ปี.)].

… ธมฺมทินฺนา เถรี….

๑๓.วิสาขาเถรีคาถา

๑๓.

‘‘กโรถ พุทฺธสาสนํ, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ;

ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺเต นิสีทถา’’ติ.

… วิสาขา เถรี….

๑๔.สุมนาเถรีคาถา

๑๔.

‘‘ธาตุโย ทุกฺขโต ทิสฺวา, มา ชาตึ ปุนราคมิ;

ภเว ฉนฺทํ วิราเชตฺวา, อุปสนฺตา จริสฺสสี’’ติ.

… สุมนา เถรี….

๑๕. อุตฺตราเถรีคาถา

๑๕.

‘‘กาเยน สํวุตา อาสึ, วาจาย อุท เจตสา;

สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ.

… อุตฺตรา เถรี….

๑๖. วุฑฺฒปพฺพชิตสุมนาเถรีคาถา

๑๖.

‘‘สุขํ ตฺวํ วุฑฺฒิเก เสหิ, กตฺวา โจเฬน ปารูตา;

อุปสนฺโต หิ เต ราโค, สีติภูตาสิ นิพฺพุตา’’ติ.

… สุมนา วุฑฺฒปพฺพชิตา เถรี….

๑๗. ธมฺมาเถรีคาถา

๑๗.

‘‘ปิณฺฑปาตํ จริตฺวาน, ทณฺฑโมลุพฺภ ทุพฺพลา;

เวธมาเนหิ คตฺเตหิ, ตตฺเถว นิปตึ ฉมา;

ทิสฺวา อาทีนวํ กาเย, อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม’’ติ.

… ธมฺมา เถรี….

๑๘. สงฺฆาเถรีคาถา

๑๘.

‘‘หิตฺวา ฆเร ปพฺพชิตฺวา [ปพฺพชิตา (สี. อฏฺ.)], หิตฺวา ปุตฺตํ ปสุํ ปิยํ;

หิตฺวา ราคฺจ โทสฺจ, อวิชฺชฺจ วิราชิย;

สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, อุปสนฺตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ.

… สงฺฆา เถรี….

เอกกนิปาโต นิฏฺิโต.

๒. ทุกนิปาโต

๑. อภิรูปนนฺทาเถรีคาถา

๑๙.

[อป. เถรี ๒.๔.๑๕๗ อปทาเนปิ] ‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;

อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.

๒๐.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺตา จริสฺสสี’’ติ.

อิตฺถํ สุทํ ภควา อภิรูปนนฺทํ สิกฺขมานํ อิมาหิ คาถาหิ อภิณฺหํ โอวทตีติ [อิตฺถํ สุทํ ภควา อภิรูปนนฺทํ สิกฺขมานํ อิมาหิ คาถาหิ อภิณฺหํ โอวทตีติ (ก.)].

๒. เชนฺตาเถรีคาถา

๒๑.

‘‘เย อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, มคฺคา นิพฺพานปตฺติยา;

ภาวิตา เต มยา สพฺเพ, ยถา พุทฺเธน เทสิตา.

๒๒.

‘‘ทิฏฺโ หิ เม โส ภควา, อนฺติโมยํ สมุสฺสโย;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

อิตฺถํ สุทํ เชนฺตา เถรี คาถาโย อภาสิตฺถาติ.

๓. สุมงฺคลมาตาเถรีคาถา

๒๓.

‘‘สุมุตฺติกา สุมุตฺติกา [สุมุตฺติเก สุมุตฺติเก (สี.), สุมุตฺติเก สุมุตฺติกา (สฺยา. ก.)], สาธุมุตฺติกามฺหิ มุสลสฺส;

อหิริโก เม ฉตฺตกํ วาปิ, อุกฺขลิกา เม เทฑฺฑุภํ วาติ.

๒๔.

‘‘ราคฺจ อหํ โทสฺจ, จิจฺจิฏิ จิจฺจิฏีติ วิหนามิ;

สา รุกฺขมูลมุปคมฺม, อโห สุขนฺติ สุขโต ฌายามี’’ติ.

… สุมงฺคลมาตา เถรี [อฺตรา เถรี ภิกฺขุนี อปฺาตา (สฺยา. ก.)].

๔. อฑฺฒกาสิเถรีคาถา

๒๕.

‘‘ยาว กาสิชนปโท, สุงฺโก เม ตตฺถโก อหุ;

ตํ กตฺวา เนคโม อคฺฆํ, อฑฺเฒนคฺฆํ เปสิ มํ.

๒๖.

‘‘อถ นิพฺพินฺทหํ รูเป, นิพฺพินฺทฺจ วิรชฺชหํ;

มา ปุน ชาติสํสารํ, สนฺธาเวยฺยํ ปุนปฺปุนํ;

ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

… อฑฺฒกาสิ เถรี….

๕. จิตฺตาเถรีคาถา

๒๗.

‘‘กิฺจาปิ โขมฺหิ กิสิกา, คิลานา พาฬฺหทุพฺพลา;

ทณฺฑโมลุพฺภ คจฺฉามิ, ปพฺพตํ อภิรูหิย.

๒๘.

‘‘สงฺฆาฏึ นิกฺขิปิตฺวาน, ปตฺตกฺจ นิกุชฺชิย;

เสเล ขมฺเภสิมตฺตานํ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ.

… จิตฺตา เถรี….

๖. เมตฺติกาเถรีคาถา

๒๙.

‘‘กิฺจาปิ โขมฺหิ ทุกฺขิตา, ทุพฺพลา คตโยพฺพนา;

ทณฺฑโมลุพฺภ คจฺฉามิ, ปพฺพตํ อภิรูหิย.

๓๐.

‘‘นิกฺขิปิตฺวาน สงฺฆาฏึ, ปตฺตกฺจ นิกุชฺชิย;

นิสินฺนา จมฺหิ เสลมฺหิ, อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

… เมตฺติกา เถรี….

๗. มิตฺตาเถรีคาถา

๓๑.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๓๒.

‘‘อุโปสถํ อุปาคจฺฉึ, เทวกายาภินนฺทินี;

สาชฺช เอเกน ภตฺเตน, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

เทวกายํ น ปตฺเถหํ, วิเนยฺย หทเย ทร’’นฺติ.

… มิตฺตา เถรี….

๘. อภยมาตุเถรีคาถา

๓๓.

‘‘อุทฺธํ ปาทตลา อมฺม, อโธ เว เกสมตฺถกา;

ปจฺจเวกฺขสฺสุมํ กายํ, อสุจึ ปูติคนฺธิกํ.

๓๔.

‘‘เอวํ วิหรมานาย, สพฺโพ ราโค สมูหโต;

ปริฬาโห สมุจฺฉินฺโน, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ.

… อภยมาตุ เถรี….

๙. อภยาเถรีคาถา

๓๕.

‘‘อภเย ภิทุโร กาโย, ยตฺถ สตา ปุถุชฺชนา;

นิกฺขิปิสฺสามิมํ เทหํ, สมฺปชานา สตีมตี.

๓๖.

‘‘พหูหิ ทุกฺขธมฺเมหิ, อปฺปมาทรตาย เม;

ตณฺหกฺขโย อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

… อภยา เถรี….

๑๐. สามาเถรีคาถา

๓๗.

‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;

อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี;

ตสฺสา เม อฏฺมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา สมูหตา.

๓๘.

‘‘พหูหิ ทุกฺขธมฺเมหิ, อปฺปมาทรตาย เม;

ตณฺหกฺขโย อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

… สามา เถรี….

ทุกนิปาโต นิฏฺิโต.

๓. ติกนิปาโต

๑. อปราสามาเถรีคาถา

๓๙.

‘‘ปณฺณวีสติวสฺสานิ, ยโต ปพฺพชิตาย เม;

นาภิชานามิ จิตฺตสฺส, สมํ ลทฺธํ กุทาจนํ.

๔๐.

‘‘อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี;

ตโต สํเวคมาปาทึ, สริตฺวา ชินสาสนํ.

๔๑.

‘‘พหูหิ ทุกฺขธมฺเมหิ, อปฺปมาทรตาย เม;

ตณฺหกฺขโย อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

อชฺช เม สตฺตมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา วิโสสิตา’’ติ.

… อปรา สามา เถรี….

๒. อุตฺตมาเถรีคาถา

๔๒.

‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;

อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.

๔๓.

‘‘สา ภิกฺขุนึ อุปคจฺฉึ, ยา เม สทฺธายิกา อหุ;

สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย.

๔๔.

‘‘ตสฺสา ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ยถา มํ อนุสาสิ สา;

สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน, นิสีทึ ปีติสุขสมปฺปิตา [นิสีทึ สุขสมปฺปิตา (สี.)];

อฏฺมิยา ปาเท ปสาเรสึ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ.

… อุตฺตมา เถรี….

๓. อปราอุตฺตมาเถรีคาถา

๔๕.

‘‘เย อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, มคฺคา นิพฺพานปตฺติยา;

ภาวิตา เต มยา สพฺเพ, ยถา พุทฺเธน เทสิตา.

๔๖.

‘‘สุฺตสฺสานิมิตฺตสฺส, ลาภินีหํ ยทิจฺฉกํ;

โอรสา ธีตา พุทฺธสฺส, นิพฺพานาภิรตา สทา.

๔๗.

‘‘สพฺเพ กามา สมุจฺฉินฺนา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

… อปรา อุตฺตมา เถรี….

๔. ทนฺติกาเถรีคาถา

๔๘.

‘‘ทิวาวิหารา นิกฺขมฺม, คิชฺฌกูฏมฺหิ ปพฺพเต;

นาคํ โอคาหมุตฺติณฺณํ, นทีตีรมฺหิ อทฺทสํ.

๔๙.

‘‘ปุริโส องฺกุสมาทาย, ‘เทหิ ปาท’นฺติ ยาจติ;

นาโค ปสารยี ปาทํ, ปุริโส นาคมารุหิ.

๕๐.

‘‘ทิสฺวา อทนฺตํ ทมิตํ, มนุสฺสานํ วสํ คตํ;

ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ, ขลุ ตาย วนํ คตา’’ติ.

… ทนฺติกา เถรี….

๕. อุพฺพิริเถรีคาถา

๕๑.

‘‘อมฺม ชีวาติ วนมฺหิ กนฺทสิ, อตฺตานํ อธิคจฺฉ อุพฺพิริ;

จุลฺลาสีติสหสฺสานิ [จูฬาสีติสหสฺสานิ (สี.)], สพฺพา ชีวสนามิกา;

เอตมฺหาฬาหเน ทฑฺฒา, ตาสํ กมนุโสจสิ.

๕๒.

‘‘อพฺพหี [อพฺพุตี (สฺยา.), อพฺพุฬฺหํ (ก.)] วต เม สลฺลํ, ทุทฺทสํ หทยสฺสิตํ [หทยนิสฺสิตํ (สี. สฺยา.)];

ยํ เม โสกปเรตาย, ธีตุโสกํ พฺยปานุทิ.

๕๓.

‘‘สาชฺช อพฺพูฬฺหสลฺลาหํ, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา;

พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ, อุเปมิ สรณํ มุนิ’’นฺติ.

… อุพฺพิรี เถรี….

๖. สุกฺกาเถรีคาถา

๕๔.

‘‘กึเม กตา ราชคเห มนุสฺสา, มธุํ ปีตาว [มธุปีตาว (สี.)] อจฺฉเร;

เย สุกฺกํ น อุปาสนฺติ, เทเสนฺตึ พุทฺธสาสนํ.

๕๕.

‘‘ตฺจ อปฺปฏิวานียํ, อเสจนกโมชวํ;

ปิวนฺติ มฺเ สปฺปฺา, วลาหกมิวทฺธคู.

๕๖.

‘‘สุกฺกา สุกฺเกหิ ธมฺเมหิ, วีตราคา สมาหิตา;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหน’’นฺติ.

… สุกฺกา เถรี….

๗. เสลาเถรีคาถา

๕๗.

‘‘นตฺถิ นิสฺสรณํ โลเก, กึ วิเวเกน กาหสิ;

ภุฺชาหิ กามรติโย, มาหุ ปจฺฉานุตาปินี’’.

๕๘.

‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;

ยํ ตฺวํ ‘กามรตึ’ พฺรูสิ, ‘อรตี’ ทานิ สา มม.

๕๙.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที [นนฺทิ (สี. สฺยา.)], ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.

… เสลา เถรี….

๘. โสมาเถรีคาถา

๖๐.

‘‘ยํ ตํ อิสีหิ ปตฺตพฺพํ, านํ ทุรภิสมฺภวํ;

น ตํ ทฺวงฺคุลปฺาย, สกฺกา ปปฺโปตุมิตฺถิยา’’.

๖๑.

‘‘อิตฺถิภาโว โน กึ กยิรา, จิตฺตมฺหิ สุสมาหิเต;

าณมฺหิ วตฺตมานมฺหิ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.

๖๒.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.

… โสมา เถรี….

ติกนิปาโต นิฏฺิโต.

๔. จตุกฺกนิปาโต

๑. ภทฺทากาปิลานีเถรีคาถา

๖๓.

‘‘ปุตฺโต พุทฺธสฺส ทายาโท, กสฺสโป สุสมาหิโต;

ปุพฺเพนิวาสํ โยเวทิ, สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ.

๖๔.

‘‘อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺาโวสิโต มุนิ;

เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิชฺโช โหติ พฺราหฺมโณ.

๖๕.

‘‘ตเถว ภทฺทา กาปิลานี, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนํ.

๖๖.

‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก, อุโภ ปพฺพชิตา มยํ;

ตฺยมฺห ขีณาสวา ทนฺตา, สีติภูตมฺห นิพฺพุตา’’ติ.

… ภทฺทา กาปิลานี เถรี….

จตุกฺกนิปาโต นิฏฺิโต.

๕. ปฺจกนิปาโต

๑. อฺตราเถรีคาถา

๖๗.

‘‘ปณฺณวีสติวสฺสานิ, ยโต ปพฺพชิตา อหํ;

นาจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ, จิตฺตสฺสูปสมชฺฌคํ.

๖๘.

‘‘อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, กามราเคนวสฺสุตา;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺตี, วิหารํ ปาวิสึ อหํ.

๖๙.

‘‘สา ภิกฺขุนึ อุปาคจฺฉึ, ยา เม สทฺธายิกา อหุ;

สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย.

๗๐.

‘‘ตสฺสา ธมฺมํ สุณิตฺวาน, เอกมนฺเต อุปาวิสึ;

ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ.

๗๑.

‘‘เจโตปริจฺจาณฺจ [เจโตปริยาณฺจ (ก.)], โสตธาตุ วิโสธิตา;

อิทฺธีปิ เม สจฺฉิกตา, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย;

ฉฬภิฺา [ฉ เมภิฺา (สฺยา. ก.)] สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

… อฺตรา เถรี ….

๒. วิมลาเถรีคาถา

๗๒.

‘‘มตฺตา วณฺเณน รูเปน, โสภคฺเคน ยเสน จ;

โยพฺพเนน จุปตฺถทฺธา, อฺาสมติมฺิหํ.

๗๓.

‘‘วิภูเสตฺวา อิมํ กายํ, สุจิตฺตํ พาลลาปนํ;

อฏฺาสึ เวสิทฺวารมฺหิ, ลุทฺโท ปาสมิโวฑฺฑิย.

๗๔.

‘‘ปิลนฺธนํ วิทํเสนฺตี, คุยฺหํ ปกาสิกํ พหุํ;

อกาสึ วิวิธํ มายํ, อุชฺชคฺฆนฺตี พหุํ ชนํ.

๗๕.

‘‘สาชฺช ปิณฺฑํ จริตฺวาน, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

นิสินฺนา รุกฺขมูลมฺหิ, อวิตกฺกสฺส ลาภินี.

๗๖.

‘‘สพฺเพ โยคา สมุจฺฉินฺนา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ.

… วิมลา ปุราณคณิกา เถรี….

๓. สีหาเถรีคาถา

๗๗.

‘‘อโยนิโส มนสิการา, กามราเคน อฏฺฏิตา;

อโหสึ อุทฺธตา ปุพฺเพ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.

๗๘.

‘‘ปริยุฏฺิตา กฺเลเสหิ, สุภสฺานุวตฺตินี;

สมํ จิตฺตสฺส น ลภึ, ราคจิตฺตวสานุคา.

๗๙.

‘‘กิสา ปณฺฑุ วิวณฺณา จ, สตฺต วสฺสานิ จาริหํ;

นาหํ ทิวา วา รตฺตึ วา, สุขํ วินฺทึ สุทุกฺขิตา.

๘๐.

‘‘ตโต รชฺชุํ คเหตฺวาน, ปาวิสึ วนมนฺตรํ;

วรํ เม อิธ อุพฺพนฺธํ, ยฺจ หีนํ ปุนาจเร.

๘๑.

‘‘ทฬฺหปาสํ [ทฬฺหํ ปาสํ (สี.)] กริตฺวาน, รุกฺขสาขาย พนฺธิย;

ปกฺขิปึ ปาสํ คีวายํ, อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม’’ติ.

… สีหา เถรี….

๔. สุนฺทรีนนฺทาเถรีคาถา

๘๒.

‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;

อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.

๘๓.

‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;

ทุคฺคนฺธํ ปูติกํ วาติ, พาลานํ อภินนฺทิตํ.

๘๔.

‘‘เอวเมตํ อเวกฺขนฺตี, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา;

ตโต สกาย ปฺาย, อภินิพฺพิชฺฌ [อภินิพฺพิชฺช (สี. สฺยา.)] ทกฺขิสํ.

๘๕.

‘‘ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, วิจินนฺติยา โยนิโส;

ยถาภูตํ อยํ กาโย, ทิฏฺโ สนฺตรพาหิโร.

๘๖.

‘‘อถ นิพฺพินฺทหํ กาเย, อชฺฌตฺตฺจ วิรชฺชหํ;

อปฺปมตฺตา วิสํยุตฺตา, อุปสนฺตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ.

… สุนฺทรีนนฺทา เถรี….

๕. นนฺทุตฺตราเถรีคาถา

๘๗.

‘‘อคฺคึ จนฺทฺจ สูริยฺจ, เทวตา จ นมสฺสิหํ;

นทีติตฺถานิ คนฺตฺวาน, อุทกํ โอรุหามิหํ.

๘๘.

‘‘พหูวตสมาทานา, อฑฺฒํ สีสสฺส โอลิขึ;

ฉมาย เสยฺยํ กปฺเปมิ, รตฺตึ ภตฺตํ น ภุฺชหํ.

๘๙.

‘‘วิภูสามณฺฑนรตา, นฺหาปนุจฺฉาทเนหิ จ;

อุปกาสึ อิมํ กายํ, กามราเคน อฏฺฏิตา.

๙๐.

‘‘ตโต สทฺธํ ลภิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ทิสฺวา กายํ ยถาภูตํ, กามราโค สมูหโต.

๙๑.

‘‘สพฺเพ ภวา สมุจฺฉินฺนา, อิจฺฉา จ ปตฺถนาปิ จ;

สพฺพโยควิสํยุตฺตา, สนฺตึ ปาปุณิ เจตโส’’ติ.

… นนฺทุตฺตรา เถรี….

๖. มิตฺตากาฬีเถรีคาถา

๙๒.

‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, อคารสฺมานคาริยํ;

วิจรึหํ เตน เตน, ลาภสกฺการอุสฺสุกา.

๙๓.

‘‘ริฺจิตฺวา ปรมํ อตฺถํ, หีนมตฺถํ อเสวิหํ;

กิเลสานํ วสํ คนฺตฺวา, สามฺตฺถํ น พุชฺฌิหํ.

๙๔.

‘‘ตสฺสา เม อหุ สํเวโค, นิสินฺนาย วิหารเก;

อุมฺมคฺคปฏิปนฺนามฺหิ, ตณฺหาย วสมาคตา.

๙๕.

‘‘อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหํ, ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ;

ปุรายํ ภิชฺชติ [ชราย ภิชฺชเต (สี.)] กาโย, น เม กาโล ปมชฺชิตุํ.

๙๖.

‘‘ยถาภูตมเวกฺขนฺตี, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

วิมุตฺตจิตฺตา อุฏฺาสึ, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

… มิตฺตา กาฬี เถรี….

๗. สกุลาเถรีคาถา

๙๗.

‘‘อคารสฺมึ วสนฺตีหํ, ธมฺมํ สุตฺวาน ภิกฺขุโน;

อทฺทสํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตํ.

๙๘.

‘‘สาหํ ปุตฺตํ ธีตรฺจ, ธนธฺฺจ ฉฑฺฑิย;

เกเส เฉทาปยิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

๙๙.

‘‘สิกฺขมานา อหํ สนฺตี, ภาเวนฺตี มคฺคมฺชสํ;

ปหาสึ ราคโทสฺจ, ตเทกฏฺเ จ อาสเว.

๑๐๐.

‘‘ภิกฺขุนี อุปสมฺปชฺช, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ;

ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ [วิโสธิตํ ทิพฺพจกฺขุ (สี.)], วิมลํ สาธุภาวิตํ.

๑๐๑.

‘‘สงฺขาเร ปรโต ทิสฺวา, เหตุชาเต ปโลกิเต [ปโลกิเน (ก.)];

ปหาสึ อาสเว สพฺเพ, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ.

… สกุลา เถรี….

๘. โสณาเถรีคาถา

๑๐๒.

‘‘ทส ปุตฺเต วิชายิตฺวา, อสฺมึ รูปสมุสฺสเย;

ตโตหํ ทุพฺพลา ชิณฺณา, ภิกฺขุนึ อุปสงฺกมึ.

๑๐๓.

‘‘สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย;

ตสฺสา ธมฺมํ สุณิตฺวาน, เกเส เฉตฺวาน ปพฺพชึ.

๑๐๔.

‘‘ตสฺสา เม สิกฺขมานาย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.

๑๐๕.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวมิ, เอกคฺคา สุสมาหิตา;

อนนฺตราวิโมกฺขาสึ, อนุปาทาย นิพฺพุตา.

๑๐๖.

‘‘ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา, ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา;

ธิ ตวตฺถุ ชเร ชมฺเม, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

… โสณา เถรี….

๙. ภทฺทากุณฺฑลเกสาเถรีคาถา

๑๐๗.

‘‘ลูนเกสี ปงฺกธรี, เอกสาฏี ปุเร จรึ;

อวชฺเช วชฺชมตินี, วชฺเช จาวชฺชทสฺสินี.

๑๐๘.

‘‘ทิวาวิหารา นิกฺขมฺม, คิชฺฌกูฏมฺหิ ปพฺพเต;

อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ.

๑๐๙.

‘‘นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อฺชลึ อกํ;

‘เอหิ ภทฺเท’ติ มํ อวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา.

๑๑๐.

‘‘จิณฺณา องฺคา จ มคธา, วชฺชี กาสี จ โกสลา;

อนณา ปณฺณาสวสฺสานิ, รฏฺปิณฺฑํ อภุฺชหํ.

๑๑๑.

‘‘ปุฺํ วต ปสวิ พหุํ, สปฺปฺโ วตายํ อุปาสโก;

โย ภทฺทาย จีวรํ อทาสิ, วิปฺปมุตฺตาย สพฺพคนฺเถหี’’ติ.

… ภทฺทา กุณฺฑลเกสา เถรี….

๑๐. ปฏาจาราเถรีคาถา

๑๑๒.

‘‘นงฺคเลหิ กสํ เขตฺตํ, พีชานิ ปวปํ ฉมา;

ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.

๑๑๓.

‘‘กิมหํ สีลสมฺปนฺนา, สตฺถุสาสนการิกา;

นิพฺพานํ นาธิคจฺฉามิ, อกุสีตา อนุทฺธตา.

๑๑๔.

‘‘ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, อุทเกสุ กโรมหํ;

ปาโททกฺจ ทิสฺวาน, ถลโต นินฺนมาคตํ.

๑๑๕.

‘‘ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ, อสฺสํ ภทฺรํวชานิยํ;

ตโต ทีปํ คเหตฺวาน, วิหารํ ปาวิสึ อหํ;

เสยฺยํ โอโลกยิตฺวาน, มฺจกมฺหิ อุปาวิสึ.

๑๑๖.

‘‘ตโต สูจึ คเหตฺวาน, วฏฺฏึ โอกสฺสยามหํ;

ปทีปสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข อหุ เจตโส’’ติ.

… ปฏาจารา เถรี….

๑๑. ตึสมตฺตาเถรีคาถา

๑๑๗.

‘‘‘มุสลานิ คเหตฺวาน, ธฺํ โกฏฺเฏนฺติ มาณวา [มานวา (สี.)];

ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.

๑๑๘.

‘‘‘กโรถ พุทฺธสาสนํ, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ;

ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺเต นิสีทถ;

เจโตสมถมนุยุตฺตา, กโรถ พุทฺธสาสนํ’.

๑๑๙.

‘‘ตสฺสา ตา [ตํ (สี.)] วจนํ สุตฺวา, ปฏาจาราย สาสนํ;

ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, เอกมนฺตํ อุปาวิสุํ;

เจโตสมถมนุยุตฺตา, อกํสุ พุทฺธสาสนํ.

๑๒๐.

‘‘รตฺติยา ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรุํ;

รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยุํ;

รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยุํ.

๑๒๑.

‘‘อุฏฺาย ปาเท วนฺทึสุ, ‘กตา เต อนุสาสนี;

อินฺทํว เทวา ติทสา, สงฺคาเม อปราชิตํ;

ปุรกฺขตฺวา วิหสฺสาม [วิหราม (สี.), วิหริสฺสาม (สฺยา.)], เตวิชฺชามฺห อนาสวา’’’ติ.

อิตฺถํ สุทํ ตึสมตฺตา เถรี ภิกฺขุนิโย ปฏาจาราย สนฺติเก อฺํ พฺยากรึสูติ.

๑๒. จนฺทาเถรีคาถา

๑๒๒.

‘‘ทุคฺคตาหํ ปุเร อาสึ, วิธวา จ อปุตฺติกา;

วินา มิตฺเตหิ าตีหิ, ภตฺตโจฬสฺส นาธิคํ.

๑๒๓.

‘‘ปตฺตํ ทณฺฑฺจ คณฺหิตฺวา, ภิกฺขมานา กุลา กุลํ;

สีตุณฺเหน จ ฑยฺหนฺตี, สตฺต วสฺสานิ จาริหํ.

๑๒๔.

‘‘ภิกฺขุนึ ปุน ทิสฺวาน, อนฺนปานสฺส ลาภินึ;

อุปสงฺกมฺม อโวจํ [อโวจึ (ก.)], ‘ปพฺพชฺชํ อนคาริยํ’.

๑๒๕.

‘‘สา จ มํ อนุกมฺปาย, ปพฺพาเชสิ ปฏาจารา;

ตโต มํ โอวทิตฺวาน, ปรมตฺเถ นิโยชยิ.

๑๒๖.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, อกาสึ อนุสาสนึ;

อโมโฆ อยฺยาโยวาโท, เตวิชฺชามฺหิ อนาสวา’’ติ.

… จนฺทา เถรี….

ปฺจกนิปาโต นิฏฺิโต.

๖. ฉกฺกนิปาโต

๑. ปฺจสตมตฺตาเถรีคาถา

๑๒๗.

‘‘ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;

ตํ กุโต จาคตํ สตฺตํ [สนฺตํ (สี.), ปุตฺตํ (สฺยา.)], ‘มม ปุตฺโต’ติ โรทสิ.

๑๒๘.

‘‘มคฺคฺจ โขสฺส [โข’ถ (สฺยา. ก.)] ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;

น นํ สมนุโสเจสิ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน.

๑๒๙.

‘‘อยาจิโต ตตาคจฺฉิ, นานุฺาโต [อนนุฺาโต (สี. สฺยา.)] อิโต คโต;

กุโตจิ นูน อาคนฺตฺวา, วสิตฺวา กติปาหกํ;

อิโตปิ อฺเน คโต, ตโตปฺเน คจฺฉติ.

๑๓๐.

‘‘เปโต มนุสฺสรูเปน, สํสรนฺโต คมิสฺสติ;

ยถาคโต ตถา คโต, กา ตตฺถ ปริเทวนา’’.

๑๓๑.

‘‘อพฺพหี [อพฺพุยฺหํ (สฺยา.)] วต เม สลฺลํ, ทุทฺทสํ หทยสฺสิตํ;

ยา เม โสกปเรตาย, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทิ.

๑๓๒.

‘‘สาชฺช อพฺพูฬฺหสลฺลาหํ, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา;

พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ, อุเปมิ สรณํ มุนึ’’.

อิตฺถํ สุทํ ปฺจสตมตฺตา เถรี ภิกฺขุนิโย…เป….

๒. วาเสฏฺีเถรีคาถา

๑๓๓.

‘‘ปุตฺตโสเกนหํ อฏฺฏา, ขิตฺตจิตฺตา วิสฺินี;

นคฺคา ปกิณฺณเกสี จ, เตน เตน วิจาริหํ.

๑๓๔.

‘‘วีถิ [วสึ (สี.)] สงฺการกูเฏสุ, สุสาเน รถิยาสุ จ;

อจรึ ตีณิ วสฺสานิ, ขุปฺปิปาสาสมปฺปิตา.

๑๓๕.

‘‘อถทฺทสาสึ สุคตํ, นครํ มิถิลํ ปติ [คตํ (ก.)];

อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ.

๑๓๖.

‘‘สจิตฺตํ ปฏิลทฺธาน, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม.

๑๓๗.

‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ยุฺชนฺตี สตฺถุวจเน, สจฺฉากาสึ ปทํ สิวํ.

๑๓๘.

‘‘สพฺเพ โสกา สมุจฺฉินฺนา, ปหีนา เอตทนฺติกา;

ปริฺาตา หิ เม วตฺถู, ยโต โสกาน สมฺภโว’’ติ.

… วาเสฏฺี เถรี….

๓. เขมาเถรีคาถา

๑๓๙.

‘‘ทหรา ตฺวํ รูปวตี, อหมฺปิ ทหโร ยุวา;

ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน [ตูเรน (ก.)], เอหิ เขเม รมามเส’’.

๑๔๐.

‘‘อิมินา ปูติกาเยน, อาตุเรน ปภงฺคุนา;

อฏฺฏิยามิ หรายามิ, กามตณฺหา สมูหตา.

๑๔๑.

‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;

ยํ ‘ตฺวํ กามรตึ’ พฺรูสิ, ‘อรตี’ ทานิ สา มม.

๑๔๒.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก.

๑๔๓.

‘‘นกฺขตฺตานิ นมสฺสนฺตา, อคฺคึ ปริจรํ วเน;

ยถาภุจฺจมชานนฺตา, พาลา สุทฺธิมมฺถ.

๑๔๔.

‘‘อหฺจ โข นมสฺสนฺตี, สมฺพุทฺธํ ปุริสุตฺตมํ;

ปมุตฺตา [ปริมุตฺตา (สี. สฺยา.)] สพฺพทุกฺเขหิ, สตฺถุสาสนการิกา’’ติ.

… เขมา เถรี….

๔. สุชาตาเถรีคาถา

๑๔๕.

‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทโนกฺขิตา;

สพฺพาภรณสฺฉนฺนา, ทาสีคณปุรกฺขตา.

๑๔๖.

‘‘อนฺนํ ปานฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกํ;

เคหโต นิกฺขมิตฺวาน, อุยฺยานมภิหารยึ.

๑๔๗.

‘‘ตตฺถ รมิตฺวา กีฬิตฺวา, อาคจฺฉนฺตี สกํ ฆรํ;

วิหารํ ทฏฺุํ ปาวิสึ, สาเกเต อฺชนํ วนํ.

๑๔๘.

‘‘ทิสฺวาน โลกปชฺโชตํ, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย จกฺขุมา.

๑๔๙.

‘‘สุตฺวา จ โข มเหสิสฺส, สจฺจํ สมฺปฏิวิชฺฌหํ;

ตตฺเถว วิรชํ ธมฺมํ, ผุสยึ อมตํ ปทํ.

๑๕๐.

‘‘ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, อโมฆํ พุทฺธสาสน’’นฺติ.

… สุชาตา เถรี….

๕. อโนปมาเถรีคาถา

๑๕๑.

‘‘อุจฺเจ กุเล อหํ ชาตา, พหุวิตฺเต มหทฺธเน;

วณฺณรูเปน สมฺปนฺนา, ธีตา มชฺฌสฺส [เมฆสฺส (สี.), เมฆิสฺส (สฺยา.)] อตฺรชา.

๑๕๒.

‘‘ปตฺถิตา ราชปุตฺเตหิ, เสฏฺิปุตฺเตหิ คิชฺฌิตา [เสฏฺิปุตฺเตหิ ภิชฺฌิตา (สี.)];

ปิตุ เม เปสยี ทูตํ, เทถ มยฺหํ อโนปมํ.

๑๕๓.

‘‘ยตฺตกํ ตุลิตา เอสา, ตุยฺหํ ธีตา อโนปมา;

ตโต อฏฺคุณํ ทสฺสํ, หิรฺํ รตนานิ จ.

๑๕๔.

‘‘สาหํ ทิสฺวาน สมฺพุทฺธํ, โลกเชฏฺํ อนุตฺตรํ;

ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, เอกมนฺตํ อุปาวิสึ.

๑๕๕.

‘‘โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม;

นิสินฺนา อาสเน ตสฺมึ, ผุสยึ ตติยํ ผลํ.

๑๕๖.

‘‘ตโต เกสานิ เฉตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

อชฺช เม สตฺตมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา วิโสสิตา’’ติ.

… อโนปมา เถรี….

๖. มหาปชาปติโคตมีเถรีคาถา

๑๕๗.

‘‘พุทฺธ วีร นโม ตฺยตฺถุ, สพฺพสตฺตานมุตฺตม;

โย มํ ทุกฺขา ปโมเจสิ, อฺฺจ พหุกํ ชนํ.

๑๕๘.

‘‘สพฺพทุกฺขํ ปริฺาตํ, เหตุตณฺหา วิโสสิตา;

ภาวิโต อฏฺงฺคิโก [อริยฏฺงฺคิโก (สี. ก.), ภาวิตฏฺงฺคิโก (สฺยา.)] มคฺโค, นิโรโธ ผุสิโต มยา.

๑๕๙.

‘‘มาตา ปุตฺโต ปิตา ภาตา, อยฺยกา จ ปุเร อหุํ;

ยถาภุจฺจมชานนฺตี, สํสรึหํ อนิพฺพิสํ.

๑๖๐.

‘‘ทิฏฺโ หิ เม โส ภควา, อนฺติโมยํ สมุสฺสโย;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

๑๖๑.

‘‘อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเม;

สมคฺเค สาวเก ปสฺเส, เอสา พุทฺธาน วนฺทนา.

๑๖๒.

‘‘พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. สฺยา.)] วต อตฺถาย, มายา ชนยิ โคตมํ;

พฺยาธิมรณตุนฺนานํ, ทุกฺขกฺขนฺธํ พฺยปานุที’’ติ.

… มหาปชาปติโคตมี เถรี….

๗. คุตฺตาเถรีคาถา

๑๖๓.

‘‘คุตฺเต ยทตฺถํ ปพฺพชฺชา, หิตฺวา ปุตฺตํ วสุํ ปิยํ;

ตเมว อนุพฺรูเหหิ, มา จิตฺตสฺส วสํ คมิ.

๑๖๔.

‘‘จิตฺเตน วฺจิตา สตฺตา, มารสฺส วิสเย รตา;

อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวนฺติ อวิทฺทสู.

๑๖๕.

‘‘กามจฺฉนฺทฺจ พฺยาปาทํ, สกฺกายทิฏฺิเมว จ;

สีลพฺพตปรามาสํ, วิจิกิจฺฉฺจ ปฺจมํ.

๑๖๖.

‘‘สํโยชนานิ เอตานิ, ปชหิตฺวาน ภิกฺขุนี;

โอรมฺภาคมนียานิ, นยิทํ ปุนเรหิสิ.

๑๖๗.

‘‘ราคํ มานํ อวิชฺชฺจ, อุทฺธจฺจฺจ วิวชฺชิย;

สํโยชนานิ เฉตฺวาน, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสสิ.

๑๖๘.

‘‘เขเปตฺวา ชาติสํสารํ, ปริฺาย ปุนพฺภวํ;

ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาตา, อุปสนฺตา จริสฺสตี’’ติ.

… คุตฺตา เถรี….

๘. วิชยาเถรีคาถา

๑๖๙.

‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;

อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.

๑๗๐.

‘‘ภิกฺขุนึ อุปสงฺกมฺม, สกฺกจฺจํ ปริปุจฺฉหํ;

สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ธาตุอายตนานิ จ.

๑๗๑.

‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;

โพชฺฌงฺคฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา.

๑๗๒.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, กโรนฺตี อนุสาสนึ;

รตฺติยา ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ.

๑๗๓.

‘‘รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ;

รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยึ.

๑๗๔.

‘‘ปีติสุเขน จ กายํ, ผริตฺวา วิหรึ ตทา;

สตฺตมิยา ปาเท ปสาเรสึ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ.

… วิชยา เถรี….

ฉกฺกนิปาโต นิฏฺิโต.

๗. สตฺตกนิปาโต

๑. อุตฺตราเถรีคาถา

๑๗๕.

‘‘‘มุสลานิ คเหตฺวาน, ธฺํ โกฏฺเฏนฺติ มาณวา;

ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.

๑๗๖.

‘‘‘ฆเฏถ พุทฺธสาสเน, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ;

ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺตํ นิสีทถ.

๑๗๗.

‘‘‘จิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวาน, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ;

ปจฺจเวกฺขถ สงฺขาเร, ปรโต โน จ อตฺตโต’.

๑๗๘.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ปฏาจารานุสาสนึ;

ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, เอกมนฺเต อุปาวิสึ.

๑๗๙.

‘‘รตฺติยา ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ;

รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ.

๑๘๐.

‘‘รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมกฺขนฺธํ ปทาลยึ;

เตวิชฺชา อถ วุฏฺาสึ, กตา เต อนุสาสนี.

๑๘๑.

‘‘สกฺกํว เทวา ติทสา, สงฺคาเม อปราชิตํ;

ปุรกฺขตฺวา วิหสฺสามิ, เตวิชฺชามฺหิ อนาสวา’’.

… อุตฺตรา เถรี….

๒. จาลาเถรีคาถา

๑๘๒.

‘‘สตึ อุปฏฺเปตฺวาน, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;

ปฏิวิชฺฌิ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุขํ’’.

๑๘๓.

‘‘กํ นุ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสิ, สมณี วิย ทิสฺสสิ;

น จ โรเจสิ ปาสณฺเฑ, กิมิทํ จรสิ โมมุหา’’.

๑๘๔.

‘‘อิโต พหิทฺธา ปาสณฺฑา, ทิฏฺิโย อุปนิสฺสิตา;

น เต ธมฺมํ วิชานนฺติ, น เต ธมฺมสฺส โกวิทา.

๑๘๕.

‘‘อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโต, พุทฺโธ อปฺปฏิปุคฺคโล;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, ทิฏฺีนํ สมติกฺกมํ.

๑๘๖.

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๑๘๗.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหรึ สาสเน รตา;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๑๘๘.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก’’.

… จาลา เถรี….

๓. อุปจาลาเถรีคาถา

๑๘๙.

‘‘สติมตี จกฺขุมตี, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;

ปฏิวิชฺฌึ ปทํ สนฺตํ, อกาปุริสเสวิตํ’’.

๑๙๐.

‘‘กึ นุ ชาตึ น โรเจสิ, ชาโต กามานิ ภุฺชติ;

ภุฺชาหิ กามรติโย, มาหุ ปจฺฉานุตาปินี’’.

๑๙๑.

‘‘ชาตสฺส มรณํ โหติ, หตฺถปาทาน เฉทนํ;

วธพนฺธปริกฺเลสํ, ชาโต ทุกฺขํ นิคจฺฉติ.

๑๙๒.

‘‘อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโต, สมฺพุทฺโธ อปราชิโต;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, ชาติยา สมติกฺกมํ.

๑๙๓.

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๑๙๔.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหรึ สาสเน รตา;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๑๙๕.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก’’.

… อุปจาลา เถรี….

สตฺตกนิปาโต นิฏฺิโต.

๘. อฏฺกนิปาโต

๑. สีสูปจาลาเถรีคาถา

๑๙๖.

‘‘ภิกฺขุนี สีลสมฺปนฺนา, อินฺทฺริเยสุ สุสํวุตา;

อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, อเสจนกโมชวํ’’.

๑๙๗.

‘‘ตาวตึสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;

นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน;

ตตฺถ จิตฺตํ ปณีเธหิ, ยตฺถ เต วุสิตํ ปุเร’’.

๑๙๘.

‘‘ตาวตึสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;

นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน.

๑๙๙.

‘‘กาลํ กาลํ ภวาภวํ, สกฺกายสฺมึ ปุรกฺขตา;

อวีติวตฺตา สกฺกายํ, ชาติมรณสาริโน.

๒๐๐.

‘‘สพฺโพ อาทีปิโต โลโก, สพฺโพ โลโก ปทีปิโต;

สพฺโพ ปชฺชลิโต โลโก, สพฺโพ โลโก ปกมฺปิโต.

๒๐๑.

‘‘อกมฺปิยํ อตุลิยํ, อปุถุชฺชนเสวิตํ;

พุทฺโธ ธมฺมมเทเสสิ, ตตฺถ เม นิรโต มโน.

๒๐๒.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหรึ สาสเน รตา;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๒๐๓.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก’’.

… สีสูปจาลา เถรี….

อฏฺกนิปาโต นิฏฺิโต.

๙. นวกนิปาโต

๑. วฑฺฒมาตุเถรีคาถา

๒๐๔.

‘‘มา สุ เต วฑฺฒ โลกมฺหิ, วนโถ อาหุ กุทาจนํ;

มา ปุตฺตก ปุนปฺปุนํ, อหุ ทุกฺขสฺส ภาคิมา.

๒๐๕.

‘‘สุขฺหิ วฑฺฒ มุนโย, อเนชา ฉินฺนสํสยา;

สีติภูตา ทมปฺปตฺตา, วิหรนฺติ อนาสวา.

๒๐๖.

‘‘เตหานุจิณฺณํ อิสีภิ, มคฺคํ ทสฺสนปตฺติยา;

ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, ตฺวํ วฑฺฒ อนุพฺรูหย’’.

๒๐๗.

‘‘วิสารทาว ภณสิ, เอตมตฺถํ ชเนตฺติ เม;

มฺามิ นูน มามิเก, วนโถ เต น วิชฺชติ’’.

๒๐๘.

‘‘เย เกจิ วฑฺฒ สงฺขารา, หีนา อุกฺกฏฺมชฺฌิมา;

อณูปิ อณุมตฺโตปิ, วนโถ เม น วิชฺชติ.

๒๐๙.

‘‘สพฺเพ เม อาสวา ขีณา, อปฺปมตฺตสฺส ฌายโต;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.

๒๑๐.

‘‘อุฬารํ วต เม มาตา, ปโตทํ สมวสฺสริ;

ปรมตฺถสฺหิตา คาถา, ยถาปิ อนุกมฺปิกา.

๒๑๑.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, อนุสิฏฺึ ชเนตฺติยา;

ธมฺมสํเวคมาปาทึ, โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยา.

๒๑๒.

‘‘โสหํ ปธานปหิตตฺโต, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต;

มาตรา โจทิโต สนฺโต, อผุสึ สนฺติมุตฺตมํ’’.

… วฑฺฒมาตา เถรี….

นวกนิปาโต นิฏฺิโต.

๑๐. เอกาทสนิปาโต

๑. กิสาโคตมีเถรีคาถา

๒๑๓.

‘‘กลฺยาณมิตฺตตา มุนินา, โลกํ อาทิสฺส วณฺณิตา;

กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน, อปิ พาโล ปณฺฑิโต อสฺส.

๒๑๔.

‘‘ภชิตพฺพา สปฺปุริสา, ปฺา ตถา วฑฺฒติ ภชนฺตานํ;

ภชมาโน สปฺปุริเส, สพฺเพหิปิ ทุกฺเขหิ ปมุจฺเจยฺย.

๒๑๕.

‘‘ทุกฺขฺจ วิชาเนยฺย, ทุกฺขสฺส จ สมุทยํ นิโรธํ;

อฏฺงฺคิกฺจ มคฺคํ, จตฺตาริปิ อริยสจฺจานิ.

๒๑๖.

‘‘ทุกฺโข อิตฺถิภาโว, อกฺขาโต ปุริสทมฺมสารถินา;

สปตฺติกมฺปิ หิ ทุกฺขํ, อปฺเปกจฺจา สกึ วิชาตาโย.

๒๑๗.

‘‘คลเก อปิ กนฺตนฺติ, สุขุมาลินิโย วิสานิ ขาทนฺติ;

ชนมารกมชฺฌคตา, อุโภปิ พฺยสนานิ อนุโภนฺติ.

๒๑๘.

‘‘อุปวิชฺา คจฺฉนฺตี, อทฺทสาหํ ปตึ มตํ;

ปนฺถมฺหิ วิชายิตฺวาน, อปฺปตฺตาว สกํ ฆรํ.

๒๑๙.

‘‘ทฺเว ปุตฺตา กาลกตา, ปตี จ ปนฺเถ มโต กปณิกาย;

มาตา ปิตา จ ภาตา, ฑยฺหนฺติ จ เอกจิตกายํ.

๒๒๐.

‘‘ขีณกุลีเน กปเณ, อนุภูตํ เต ทุขํ อปริมาณํ;

อสฺสู จ เต ปวตฺตํ, พหูนิ จ ชาติสหสฺสานิ.

๒๒๑.

‘‘วสิตา สุสานมชฺเฌ, อโถปิ ขาทิตานิ ปุตฺตมํสานิ;

หตกุลิกา สพฺพครหิตา, มตปติกา อมตมธิคจฺฉึ.

๒๒๒.

‘‘ภาวิโต เม มคฺโค, อริโย อฏฺงฺคิโก อมตคามี;

นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ, ธมฺมาทาสํ อเวกฺขึหํ [อเปกฺขิหํ (สี.)].

๒๒๓.

‘‘อหมมฺหิ กนฺตสลฺลา, โอหิตภารา กตฺหิ กรณียํ;

กิสา โคตมี เถรี, วิมุตฺตจิตฺตา อิมํ ภณี’’ติ.

… กิสา โคตมี เถรี….

เอกาทสนิปาโต นิฏฺิโต.

๑๑. ทฺวาทสกนิปาโต

๑. อุปฺปลวณฺณาเถรีคาถา

๒๒๔.

‘‘อุโภ มาตา จ ธีตา จ, มยํ อาสุํ [อาภุํ (สี.)] สปตฺติโย;

ตสฺสา เม อหุ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน.

๒๒๕.

‘‘ธิรตฺถุ กามา อสุจี, ทุคฺคนฺธา พหุกณฺฏกา;

ยตฺถ มาตา จ ธีตา จ, สภริยา มยํ อหุํ.

๒๒๖.

‘‘กาเมสฺวาทีนวํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;

สา ปพฺพชฺชึ ราชคเห, อคารสฺมานคาริยํ.

๒๒๗.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธิตํ;

เจโตปริจฺจาณฺจ, โสตธาตุ วิโสธิตา.

๒๒๘.

‘‘อิทฺธีปิ เม สจฺฉิกตา, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๒๒๙.

‘‘อิทฺธิยา อภินิมฺมิตฺวา, จตุรสฺสํ รถํ อหํ;

พุทฺธสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา, โลกนาถสฺส ตาทิโน’’ [สิรีมโต (สฺยา. ก.)].

๒๓๐.

‘‘สุปุปฺผิตคฺคํ อุปคมฺม ปาทปํ, เอกา ตุวํ ติฏฺสิ สาลมูเล [รุกฺขมูเล (สฺยา. ก.)];

น จาปิ เต ทุติโย อตฺถิ โกจิ, น ตฺวํ พาเล ภายสิ ธุตฺตกานํ’’.

๒๓๑.

‘‘สตํ สหสฺสานิปิ ธุตฺตกานํ, สมาคตา เอทิสกา ภเวยฺยุํ;

โลมํ น อิฺเช นปิ สมฺปเวเธ, กึ เม ตุวํ มาร กริสฺสเสโก.

๒๓๒.

‘‘เอสา อนฺตรธายามิ, กุจฺฉึ วา ปวิสามิ เต;

ภมุกนฺตเร ติฏฺามิ, ติฏฺนฺตึ มํ น ทกฺขสิ.

๒๓๓.

‘‘จิตฺตมฺหิ วสีภูตาหํ, อิทฺธิปาทา สุภาวิตา;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๒๓๔.

‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;

ยํ ตฺวํ ‘กามรตึ’ พฺรูสิ, ‘อรตี’ ทานิ สา มม.

๒๓๕.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.

… อุปฺปลวณฺณา เถรี….

ทฺวาทสนิปาโต นิฏฺิโต.

๑๒. โสฬสนิปาโต

๑. ปุณฺณาเถรีคาถา

๒๓๖.

‘‘อุทหารี อหํ สีเต [อุทกมาหรึ สีเต (สี.)], สทา อุทกโมตรึ;

อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตา, วาจาโทสภยฏฺฏิตา.

๒๓๗.

‘‘กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;

เวธมาเนหิ คตฺเตหิ, สีตํ เวทยเส ภุสํ’’.

๒๓๘.

ชานนฺตี วต มํ [ชานนฺตี จ ตุวํ (ก.)] โภติ, ปุณฺณิเก ปริปุจฺฉสิ;

กโรนฺตํ กุสลํ กมฺมํ, รุนฺธนฺตํ กตปาปกํ.

๒๓๙.

‘‘โย จ วุฑฺโฒ ทหโร วา, ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ;

ทกาภิเสจนา โสปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ’’.

๒๔๐.

‘‘โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, อชานนฺตสฺส อชานโก;

ทกาภิเสจนา นาม, ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ.

๒๔๑.

‘‘สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺติ, สพฺเพ มณฺฑูกกจฺฉปา;

นาคา [นกฺกา (สี.)] จ สุสุมารา จ, เย จฺเ อุทเก จรา.

๒๔๒.

‘‘โอรพฺภิกา สูกริกา, มจฺฉิกา มิคพนฺธกา;

โจรา จ วชฺฌฆาตา จ, เย จฺเ ปาปกมฺมิโน;

ทกาภิเสจนา เตปิ, ปาปกมฺมา ปมุจฺจเร.

๒๔๓.

‘‘สเจ อิมา นทิโย เต, ปาปํ ปุพฺเพ กตํ วหุํ;

ปุฺมฺปิมา วเหยฺยุํ เต, เตน ตฺวํ ปริพาหิโร.

๒๔๔.

‘‘ยสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต, สทา อุทกโมตริ;

ตเมว พฺรหฺเม มา กาสิ, มา เต สีตํ ฉวึ หเน’’.

๒๔๕.

‘‘กุมฺมคฺคปฏิปนฺนํ มํ, อริยมคฺคํ สมานยิ;

ทกาภิเสจนา โภติ, อิมํ สาฏํ ททามิ เต’’.

๒๔๖.

‘‘ตุยฺเหว สาฏโก โหตุ, นาหมิจฺฉามิ สาฏกํ;

สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.

๒๔๗.

‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;

สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสสิ กโรสิ วา.

๒๔๘.

‘‘น เต ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุเปจฺจาปิ [อุปฺปจฺจาปิ (อฏฺ. ปานฺตรํ)] ปลายโต;

สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.

๒๔๙.

‘‘อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;

สมาทิยาหิ สีลานิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ’’.

๒๕๐.

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;

สมาทิยามิ สีลานิ, ตํ เม อตฺถาย เหหิติ.

๒๕๑.

‘‘พฺรหฺมพนฺธุ ปุเร อาสึ, อชฺชมฺหิ สจฺจพฺราหฺมโณ;

เตวิชฺโช เวทสมฺปนฺโน, โสตฺติโย จมฺหิ นฺหาตโก’’ติ.

… ปุณฺณา เถรี….

โสฬสนิปาโต นิฏฺิโต.

๑๓. วีสตินิปาโต

๑. อมฺพปาลีเถรีคาถา

๒๕๒.

‘‘กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสา, เวลฺลิตคฺคา มม มุทฺธชา อหุํ;

เต ชราย สาณวากสาทิสา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๓.

‘‘วาสิโตว สุรภี กรณฺฑโก, ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโช [อุตฺตมงฺคภูโต (ก.)].

ตํ ชรายถ สโลมคนฺธิกํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๔.

‘‘กานนํว สหิตํ สุโรปิตํ, โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตํ;

ตํ ชราย วิรลํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๕.

‘‘กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตํ, โสภเต สุเวณีหิลงฺกตํ;

ตํ ชราย ขลิตํ สิรํ กตํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๖.

‘‘จิตฺตการสุกตาว เลขิกา, โสภเร สุ ภมุกา ปุเร มม;

ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๗.

‘‘ภสฺสรา สุรุจิรา ยถา มณี, เนตฺตเหสุมภินีลมายตา;

เต ชรายภิหตา น โสภเร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๘.

‘‘สณฺหตุงฺคสทิสี จ นาสิกา, โสภเต สุ อภิโยพฺพนํ ปติ;

สา ชราย อุปกูลิตา วิย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๙.

‘‘กงฺกณํ ว สุกตํ สุนิฏฺิตํ, โสภเร สุ มม กณฺณปาฬิโย;

ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๐.

‘‘ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสา, โสภเร สุ ทนฺตา ปุเร มม;

เต ชราย ขณฺฑิตา จาสิตา [ปีตกา (สี.)], สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๑.

‘‘กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว มธุรํ นิกูชิหํ;

ตํ ชราย ขลิตํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๒.

‘‘สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตา, โสภเต สุ คีวา ปุเร มม;

สา ชราย ภคฺคา [ภฺชิตา (?)] วินามิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๓.

‘‘วฏฺฏปลิฆสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ พาหา ปุเร มม;

ตา ชราย ยถ ปาฏลิพฺพลิตา [ยถา ปาฏลิปฺปลิตา (สี. สฺยา. ก.)], สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๔.

‘‘สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตา, โสภเร สุ หตฺถา ปุเร มม;

เต ชราย ยถา มูลมูลิกา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๕.

‘‘ปีนวฏฺฏสหิตุคฺคตา อุโภ, โสภเร [โสภเต (อฏฺ.)] สุ ถนกา ปุเร มม;

เถวิกีว ลมฺพนฺติ โนทกา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๖.

‘‘กฺจนสฺสผลกํว สมฺมฏฺํ, โสภเต สุ กาโย ปุเร มม;

โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโต, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๗.

‘‘นาคโภคสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ อูรู ปุเร มม;

เต ชราย ยถา เวฬุนาฬิโย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๘.

‘‘สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตา, โสภเร สุ ชงฺฆา ปุเร มม;

ตา ชราย ติลทณฺฑการิว, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๙.

‘‘ตูลปุณฺณสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ ปาทา ปุเร มม;

เต ชราย ผุฏิตา วลีมตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๗๐.

‘‘เอทิโส อหุ อยํ สมุสฺสโย, ชชฺชโร พหุทุกฺขานมาลโย;

โสปเลปปติโต ชราฆโร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา’’.

… อมฺพปาลี เถรี….

๒. โรหินีเถรีคาถา

๒๗๑.

‘‘‘สมณา’ติ โภติ สุปิ [โภติ ตฺวํ สยสิ (สี.), โภติ มํ วิปสฺสิ (สฺยา.)], ‘สมณา’ติ ปพุชฺฌสิ [ปฏิพุชฺฌสิ (สี. สฺยา.)];

สมณาเนว [สมณานเมว (สี. สฺยา.)] กิตฺเตสิ, สมณี นูน [สมณี นุ (ก.)] ภวิสฺสสิ.

๒๗๒.

‘‘วิปุลํ อนฺนฺจ ปานฺจ, สมณานํ ปเวจฺจสิ [ปยจฺฉสิ (สี.)];

โรหินี ทานิ ปุจฺฉามิ, เกน เต สมณา ปิยา.

๒๗๓.

‘‘อกมฺมกามา อลสา, ปรทตฺตูปชีวิโน;

อาสํสุกา สาทุกามา, เกน เต สมณา ปิยา’’.

๒๗๔.

‘‘จิรสฺสํ วต มํ ตาต, สมณานํ ปริปุจฺฉสิ;

เตสํ เต กิตฺตยิสฺสามิ, ปฺาสีลปรกฺกมํ.

๒๗๕.

‘‘กมฺมกามา อนลสา, กมฺมเสฏฺสฺส การกา;

ราคํ โทสํ ปชหนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๖.

‘‘ตีณิ ปาปสฺส มูลานิ, ธุนนฺติ สุจิการิโน;

สพฺพํ ปาปํ ปหีเนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๗.

‘‘กายกมฺมํ สุจิ เนสํ, วจีกมฺมฺจ ตาทิสํ;

มโนกมฺมํ สุจิ เนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๘.

‘‘วิมลา สงฺขมุตฺตาว, สุทฺธา สนฺตรพาหิรา;

ปุณฺณา สุกฺกาน ธมฺมานํ [สุกฺเกหิ ธมฺเมหิ (สี. สฺยา. อฏฺ.)], เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๙.

‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;

อตฺถํ ธมฺมฺจ เทเสนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๐.

‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;

เอกคฺคจิตฺตา สติมนฺโต, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๑.

‘‘ทูรงฺคมา สติมนฺโต, มนฺตภาณี อนุทฺธตา;

ทุกฺขสฺสนฺตํ ปชานนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๒.

‘‘ยสฺมา คามา ปกฺกมนฺติ, น วิโลเกนฺติ กิฺจนํ;

อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๓.

‘‘น เตสํ โกฏฺเ โอเปนฺติ, น กุมฺภึ น ขโฬปิยํ;

ปรินิฏฺิตเมสานา, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๔.

‘‘น เต หิรฺํ คณฺหนฺติ, น สุวณฺณํ น รูปิยํ;

ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๕.

‘‘นานากุลา ปพฺพชิตา, นานาชนปเทหิ จ;

อฺมฺํ ปิยายนฺติ [ปิหยนฺติ (ก.)], เตน เม สมณา ปิยา’’.

๒๘๖.

‘‘อตฺถาย วต โน โภติ, กุเล ชาตาสิ โรหินี;

สทฺธา พุทฺเธ จ ธมฺเม จ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารวา.

๒๘๗.

‘‘ตุวํ เหตํ ปชานาสิ, ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ;

อมฺหมฺปิ เอเต สมณา, ปฏิคณฺหนฺติ ทกฺขิณํ’’.

๒๘๘.

‘‘ปติฏฺิโต เหตฺถ ยฺโ, วิปุโล โน ภวิสฺสติ;

สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.

๒๘๙.

‘‘อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;

สมาทิยาหิ สีลานิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ’’.

๒๙๐.

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;

สมาทิยามิ สีลานิ, ตํ เม อตฺถาย เหหิติ.

๒๙๑.

‘‘พฺรหฺมพนฺธุ ปุเร อาสึ, โส อิทานิมฺหิ พฺราหฺมโณ;

เตวิชฺโช โสตฺติโย จมฺหิ, เวทคู จมฺหิ นฺหาตโก’’.

… โรหินี เถรี….

๓. จาปาเถรีคาถา

๒๙๒.

‘‘ลฏฺิหตฺโถ ปุเร อาสิ, โส ทานิ มิคลุทฺทโก;

อาสาย ปลิปา โฆรา, นาสกฺขิ ปารเมตเว.

๒๙๓.

‘‘สุมตฺตํ มํ มฺมานา, จาปา ปุตฺตมโตสยิ;

จาปาย พนฺธนํ เฉตฺวา, ปพฺพชิสฺสํ ปุโนปหํ.

๒๙๔.

‘‘มา เม กุชฺฌิ มหาวีร, มา เม กุชฺฌิ มหามุนิ;

น หิ โกธปเรตสฺส, สุทฺธิ อตฺถิ กุโต ตโป.

๒๙๕.

‘‘ปกฺกมิสฺสฺจ นาฬาโต, โกธ นาฬาย วจฺฉติ;

พนฺธนฺตี อิตฺถิรูเปน, สมเณ ธมฺมชีวิโน’’ [ธมฺมชีวิเน (ก.)].

๒๙๖.

‘‘เอหิ กาฬ นิวตฺตสฺสุ, ภุฺช กาเม ยถา ปุเร;

อหฺจ เต วสีกตา, เย จ เม สนฺติ าตกา’’.

๒๙๗.

‘‘เอตฺโต จาเป จตุพฺภาคํ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;

ตยิ รตฺตสฺส โปสสฺส, อุฬารํ วต ตํ สิยา’’.

๒๙๘.

‘‘กาฬงฺคินึว ตกฺการึ, ปุปฺผิตํ คิริมุทฺธนิ;

ผุลฺลํ ทาลิมลฏฺึว, อนฺโตทีเปว ปาฏลึ.

๒๙๙.

‘‘หริจนฺทนลิตฺตงฺคึ, กาสิกุตฺตมธารินึ;

ตํ มํ รูปวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ’’.

๓๐๐.

‘‘สากุนฺติโกว สกุณึ [สกุณํ (สฺยา.)], ยถา พนฺธิตุมิจฺฉติ;

อาหริเมน รูเปน, น มํ ตฺวํ พาธยิสฺสสิ’’.

๓๐๑.

‘‘อิมฺจ เม ปุตฺตผลํ, กาฬ อุปฺปาทิตํ ตยา;

ตํ มํ ปุตฺตวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ’’.

๓๐๒.

‘‘ชหนฺติ ปุตฺเต สปฺปฺา, ตโต าตี ตโต ธนํ;

ปพฺพชนฺติ มหาวีรา, นาโค เฉตฺวาว พนฺธนํ’’.

๓๐๓.

‘‘อิทานิ เต อิมํ ปุตฺตํ, ทณฺเฑน ฉุริกาย วา;

ภูมิยํ วา นิสุมฺภิสฺสํ [นิสุมฺเภยฺยํ (สี.)], ปุตฺตโสกา น คจฺฉสิ’’.

๓๐๔.

‘‘สเจ ปุตฺตํ สิงฺคาลานํ, กุกฺกุรานํ ปทาหิสิ;

น มํ ปุตฺตกตฺเต ชมฺมิ, ปุนราวตฺตยิสฺสสิ’’.

๓๐๕.

‘‘หนฺท โข ทานิ ภทฺทนฺเต, กุหึ กาฬ คมิสฺสสิ;

กตมํ คามนิคมํ, นครํ ราชธานิโย’’.

๓๐๖.

‘‘อหุมฺห ปุพฺเพ คณิโน, อสฺสมณา สมณมานิโน;

คาเมน คามํ วิจริมฺห, นคเร ราชธานิโย.

๓๐๗.

‘‘เอโส หิ ภควา พุทฺโธ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;

สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสติ ปาณินํ;

ตสฺสาหํ สนฺติกํ คจฺฉํ, โส เม สตฺถา ภวิสฺสติ’’.

๓๐๘.

‘‘วนฺทนํ ทานิ วชฺชาสิ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;

ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิเสยฺยาสิ ทกฺขิณํ’’.

๓๐๙.

‘‘เอตํ โข ลพฺภมมฺเหหิ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;

วนฺทนํ ทานิ เต วชฺชํ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;

ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิสิสฺสามิ ทกฺขิณํ’’.

๓๑๐.

ตโต จ กาโฬ ปกฺกามิ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;

โส อทฺทสาสิ สมฺพุทฺธํ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.

๓๑๑.

ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๓๑๒.

ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, กตฺวาน นํ [กตฺวานหํ (สี.)] ปทกฺขิณํ;

จาปาย อาทิสิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

… จาปา เถรี….

๔. สุนฺทรีเถรีคาถา

๓๑๓.

‘‘เปตานิ โภติ ปุตฺตานิ, ขาทมานา ตุวํ ปุเร;

ตุวํ ทิวา จ รตฺโต จ, อตีว ปริตปฺปสิ.

๓๑๔.

‘‘สาชฺช สพฺพานิ ขาทิตฺวา, สตปุตฺตานิ [สตฺต ปุตฺตานิ (สฺยา.)] พฺราหฺมณี;

วาเสฏฺิ เกน วณฺเณน, น พาฬฺหํ ปริตปฺปสิ’’.

๓๑๕.

‘‘พหูนิ ปุตฺตสตานิ, าติสงฺฆสตานิ จ;

ขาทิตานิ อตีตํเส, มม ตุยฺหฺจ พฺราหฺมณ.

๓๑๖.

‘‘สาหํ นิสฺสรณํ ตฺวา, ชาติยา มรณสฺส จ;

โสจามิ น โรทามิ, น จาปิ ปริตปฺปยึ’’.

๓๑๗.

‘‘อพฺภุตํ วต วาเสฏฺิ, วาจํ ภาสสิ เอทิสึ;

กสฺส ตฺวํ ธมฺมมฺาย, คิรํ [ถิรํ (สี.)] ภาสสิ เอทิสึ’’.

๓๑๘.

‘‘เอส พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, นครํ มิถิลํ ปติ;

สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสสิ ปาณินํ.

๓๑๙.

‘‘ตสฺส พฺรหฺเม [พฺราหฺมณ (สี. สฺยา.)] อรหโต, ธมฺมํ สุตฺวา นิรูปธึ;

ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺมา, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทึ’’.

๓๒๐.

‘‘โส อหมฺปิ คมิสฺสามิ, นครํ มิถิลํ ปติ;

อปฺเปว มํ โส ภควา, สพฺพทุกฺขา ปโมจเย’’.

๓๒๑.

อทฺทส พฺราหฺมโณ พุทฺธํ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;

สฺวสฺส ธมฺมมเทเสสิ, มุนิ ทุกฺขสฺส ปารคู.

๓๒๒.

ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๓๒๓.

ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺโม, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ;

สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.

๓๒๔.

‘‘เอหิ สารถิ คจฺฉาหิ, รถํ นิยฺยาทยาหิมํ;

อาโรคฺยํ พฺราหฺมณึ วชฺช [วชฺชา (สี.)], ‘ปพฺพชิ [ปพฺพชิโต (สี.)] ทานิ พฺราหฺมโณ;

สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ’’’.

๓๒๕.

ตโต จ รถมาทาย, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;

อาโรคฺยํ พฺราหฺมณิโวจ, ‘‘ปพฺพชิ ทานิ พฺราหฺมโณ;

สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ’’.

๓๒๖.

‘‘เอตฺจาหํ อสฺสรถํ, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;

เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ สุตฺวา [ตฺวา (สี.)], ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต’’.

๓๒๗.

‘‘ตุยฺเหว โหตฺวสฺสรโถ, สหสฺสฺจาปิ พฺราหฺมณิ;

อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก’’.

๓๒๘.

‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, ผีตฺจิมํ คหวิภวํ ปหาย;

ปิตา ปพฺพชิโต ตุยฺหํ, ภุฺช โภคานิ สุนฺทริ; ตุวํ ทายาทิกา กุเล’’.

๓๒๙.

‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, รมฺมํ จิมํ คหวิภวํ ปหาย;

ปิตา ปพฺพชิโต มยฺหํ, ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิโต;

อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิตา’’.

๓๓๐.

‘‘โส เต อิชฺฌตุ สงฺกปฺโป, ยํ ตฺวํ ปตฺเถสิ สุนฺทรี;

อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อุฺโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;

เอตานิ อภิสมฺโภนฺตี, ปรโลเก อนาสวา’’.

๓๓๑.

‘‘สิกฺขมานาย เม อยฺเย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.

๓๓๒.

‘‘ตุวํ นิสฺสาย กลฺยาณี, เถรี สงฺฆสฺส โสภเน;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๓๓๓.

‘‘อนุชานาหิ เม อยฺเย, อิจฺเฉ สาวตฺถิ คนฺตเว;

สีหนาทํ นทิสฺสามิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก’’.

๓๓๔.

‘‘ปสฺส สุนฺทริ สตฺถารํ, เหมวณฺณํ หริตฺตจํ;

อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ’’.

๓๓๕.

‘‘ปสฺส สุนฺทริมายนฺตึ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;

วีตราคํ วิสํยุตฺตํ, กตกิจฺจมนาสวํ.

๓๓๖.

‘‘พาราณสีโต นิกฺขมฺม, ตว สนฺติกมาคตา;

สาวิกา เต มหาวีร, ปาเท วนฺทติ สุนฺทรี’’.

๓๓๗.

‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุยฺหํ ธีตามฺหิ พฺราหฺมณ;

โอรสา มุขโต ชาตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’.

๓๓๘.

‘‘ตสฺสา เต สฺวาคตํ ภทฺเท, ตโต [อโถ (ก.)] เต อทุราคตํ;

เอวฺหิ ทนฺตา อายนฺติ, สตฺถุ ปาทานิ วนฺทิกา;

วีตราคา วิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’.

… สุนฺทรี เถรี….

๕. สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถา

๓๓๙.

‘‘ทหราหํ สุทฺธวสนา, ยํ ปุเร ธมฺมมสฺสุณึ;

ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, สจฺจาภิสมโย อหุ.

๓๔๐.

‘‘ตโตหํ สพฺพกาเมสุ, ภุสํ อรติมชฺฌคํ;

สกฺกายสฺมึ ภยํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมเมว [เนกฺขมฺมฺเว (สี.), เนกฺขมฺมสฺเสว (สฺยา.)] ปีหเย.

๓๔๑.

‘‘หิตฺวานหํ าติคณํ, ทาสกมฺมกรานิ จ;

คามเขตฺตานิ ผีตานิ, รมณีเย ปโมทิเต.

๓๔๒.

‘‘ปหายหํ ปพฺพชิตา, สาปเตยฺยมนปฺปกํ;

เอวํ สทฺธาย นิกฺขมฺม, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต.

๓๔๓.

‘‘เนตํ [น เมตํ (สี. สฺยา.)] อสฺส ปติรูปํ, อากิฺจฺฺหิ ปตฺถเย;

โย [ยา (สฺยา.)] ชาตรูปํ รชตํ, ฉฑฺเฑตฺวา [ถเปตฺวา (ก.)] ปุนราคเม [ปุนราคเห (ก.)].

๓๔๔.

‘‘รชตํ ชาตรูปํ วา, น โพธาย น สนฺติยา;

เนตํ สมณสารุปฺปํ, น เอตํ อริยทฺธนํ.

๓๔๕.

‘‘โลภนํ มทนฺเจตํ, โมหนํ รชวฑฺฒนํ;

สาสงฺกํ พหุอายาสํ, นตฺถิ เจตฺถ ธุวํ ิติ.

๓๔๖.

‘‘เอตฺถ รตฺตา ปมตฺตา จ, สงฺกิลิฏฺมนา นรา;

อฺมฺเน พฺยารุทฺธา, ปุถุ กุพฺพนฺติ เมธคํ.

๓๔๗.

‘‘วโธ พนฺโธ ปริกฺเลโส, ชานิ โสกปริทฺทโว;

กาเมสุ อธิปนฺนานํ, ทิสฺสเต พฺยสนํ พหุํ.

๓๔๘.

‘‘ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยุฺชถ;

ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, กาเมสุ ภยทสฺสินึ.

๓๔๙.

‘‘น หิรฺสุวณฺเณน, ปริกฺขียนฺติ อาสวา;

อมิตฺตา วธกา กามา, สปตฺตา สลฺลพนฺธนา.

๓๕๐.

‘‘ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยุฺชถ;

ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, มุณฺฑํ สงฺฆาฏิปารุตํ.

๓๕๑.

‘‘อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อุฺโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;

เอตํ โข มม สารุปฺปํ, อนคารูปนิสฺสโย.

๓๕๒.

‘‘วนฺตา มเหสีหิ กามา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

เขมฏฺาเน วิมุตฺตา เต, ปตฺตา เต อจลํ สุขํ.

๓๕๓.

‘‘มาหํ กาเมหิ สงฺคจฺฉึ, เยสุ ตาณํ น วิชฺชติ;

อมิตฺตา วธกา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา ทุขา.

๓๕๔.

‘‘ปริปนฺโถ เอส ภโย, สวิฆาโต สกณฺฏโก;

เคโธ สุวิสโม เจโส [เลโป (สี.)], มหนฺโต โมหนามุโข.

๓๕๕.

‘‘อุปสคฺโค ภีมรูโป, กามา สปฺปสิรูปมา;

เย พาลา อภินนฺทนฺติ, อนฺธภูตา ปุถุชฺชนา.

๓๕๖.

‘‘กามปงฺเกน สตฺตา หิ, พหู โลเก อวิทฺทสู;

ปริยนฺตํ น ชานนฺติ, ชาติยา มรณสฺส จ.

๓๕๗.

‘‘ทุคฺคติคมนํ มคฺคํ, มนุสฺสา กามเหตุกํ;

พหุํ เว ปฏิปชฺชนฺติ, อตฺตโน โรคมาวหํ.

๓๕๘.

‘‘เอวํ อมิตฺตชนนา, ตาปนา สํกิเลสิกา;

โลกามิสา พนฺธนียา, กามา มรณพนฺธนา [จรณพนฺธนา (สี.)].

๓๕๙.

‘‘อุมฺมาทนา อุลฺลปนา, กามา จิตฺตปฺปมทฺทิโน;

สตฺตานํ สงฺกิเลสาย, ขิปฺปํ [ขิปํ (สี.)] มาเรน โอฑฺฑิตํ.

๓๖๐.

‘‘อนนฺตาทีนวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;

อปฺปสฺสาทา รณกรา, สุกฺกปกฺขวิโสสนา [วิโสสกา (สี.)].

๓๖๑.

‘‘สาหํ เอตาทิสํ กตฺวา, พฺยสนํ กามเหตุกํ;

น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามิ, นิพฺพานาภิรตา สทา.

๓๖๒.

‘‘รณํ กริตฺวา [ตริตฺวา (สี.)] กามานํ, สีติภาวาภิกงฺขินี;

อปฺปมตฺตา วิหสฺสามิ, สพฺพสํโยชนกฺขเย.

๓๖๓.

‘‘อโสกํ วิรชํ เขมํ, อริยฏฺงฺคิกํ อุชุํ;

ตํ มคฺคํ อนุคจฺฉามิ, เยน ติณฺณา มเหสิโน’’.

๓๖๔.

อิมํ ปสฺสถ ธมฺมฏฺํ, สุภํ กมฺมารธีตรํ;

อเนชํ อุปสมฺปชฺช, รุกฺขมูลมฺหิ ฌายติ.

๓๖๕.

อชฺชฏฺมี ปพฺพชิตา, สทฺธา สทฺธมฺมโสภนา;

วินีตุปฺปลวณฺณาย, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี.

๓๖๖.

สายํ ภุชิสฺสา อนณา, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;

สพฺพโยควิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา.

๓๖๗.

ตํ สกฺโก เทวสงฺเฆน, อุปสงฺกมฺม อิทฺธิยา;

นมสฺสติ ภูตปติ, สุภํ กมฺมารธีตรนฺติ.

… สุภา กมฺมารธีตา เถรี….

วีสตินิปาโต นิฏฺิโต.

๑๔. ตึสนิปาโต

๑. สุภาชีวกมฺพวนิกาเถรีคาถา

๓๖๘.

ชีวกมฺพวนํ รมฺมํ, คจฺฉนฺตึ ภิกฺขุนึ สุภํ;

ธุตฺตโก สนฺนิวาเรสิ [ตํ นิวาเรสิ (ก.)], ตเมนํ อพฺรวี สุภา.

๓๖๙.

‘‘กึ เต อปราธิตํ มยา, ยํ มํ โอวริยาน ติฏฺสิ;

น หิ ปพฺพชิตาย อาวุโส, ปุริโส สมฺผุสนาย กปฺปติ.

๓๗๐.

‘‘ครุเก มม สตฺถุสาสเน, ยา สิกฺขา สุคเตน เทสิตา;

ปริสุทฺธปทํ อนงฺคณํ, กึ มํ โอวริยาน ติฏฺสิ.

๓๗๑.

‘‘อาวิลจิตฺโต อนาวิลํ, สรโช วีตรชํ อนงฺคณํ;

สพฺพตฺถ วิมุตฺตมานสํ, กึ มํ โอวริยาน ติฏฺสิ’’.

๓๗๒.

‘‘ทหรา จ อปาปิกา จสิ, กึ เต ปพฺพชฺชา กริสฺสติ;

นิกฺขิป กาสายจีวรํ, เอหิ รมาม สุปุปฺผิเต [รมามเส ปุปฺผิเต (สี. สฺยา.)] วเน.

๓๗๓.

‘‘มธุรฺจ ปวนฺติ สพฺพโส, กุสุมรเชน สมุฏฺิตา ทุมา;

ปมวสนฺโต สุโข อุตุ, เอหิ รมาม สุปุปฺผิเต วเน.

๓๗๔.

‘‘กุสุมิตสิขรา จ ปาทปา, อภิคชฺชนฺติว มาลุเตริตา;

กา ตุยฺหํ รติ ภวิสฺสติ, ยทิ เอกา วนโมคหิสฺสสิ [วนโมตริสฺสสิ (สี.), วนโมคาหิสฺสสิ (สฺยา. ก.)].

๓๗๕.

‘‘วาฬมิคสงฺฆเสวิตํ, กุฺชรมตฺตกเรณุโลฬิตํ;

อสหายิกา คนฺตุมิจฺฉสิ, รหิตํ ภึสนกํ มหาวนํ.

๓๗๖.

‘‘ตปนียกตาว ธีติกา, วิจรสิ จิตฺตลเตว อจฺฉรา;

กาสิกสุขุเมหิ วคฺคุภิ, โสภสี สุวสเนหิ นูปเม.

๓๗๗.

‘‘อหํ ตว วสานุโค สิยํ, ยทิ วิหเรมเส [ยทิปิ วิหเรสิ (ก.)] กานนนฺตเร;

น หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตโร, ปาโณ กินฺนริมนฺทโลจเน.

๓๗๘.

‘‘ยทิ เม วจนํ กริสฺสสิ, สุขิตา เอหิ อคารมาวส;

ปาสาทนิวาตวาสินี, ปริกมฺมํ เต กโรนฺตุ นาริโย.

๓๗๙.

‘‘กาสิกสุขุมานิ ธารย, อภิโรเปหิ [อภิโรเหหิ (สี.)] จ มาลวณฺณกํ;

กฺจนมณิมุตฺตกํ พหุํ, วิวิธํ อาภรณํ กโรมิ เต.

๓๘๐.

‘‘สุโธตรชปจฺฉทํ สุภํ, โคณกตูลิกสนฺถตํ นวํ;

อภิรุห สยนํ มหารหํ, จนฺทนมณฺฑิตสารคนฺธิกํ;

๓๘๑.

‘‘อุปฺปลํ จุทกา สมุคฺคตํ, ยถา ตํ อมนุสฺสเสวิตํ;

เอวํ ตฺวํ พฺรหฺมจารินี, สเกสงฺเคสุ ชรํ คมิสฺสสิ’’.

๓๘๒.

‘‘กึ เต อิธ สารสมฺมตํ, กุณปปูรมฺหิ สุสานวฑฺฒเน;

เภทนธมฺเม กเฬวเร [กเลวเร (สี. ก.)], ยํ ทิสฺวา วิมโน อุทิกฺขสิ’’.

๓๘๓.

‘‘อกฺขีนิ จ ตุริยาริว, กินฺนริยาริว ปพฺพตนฺตเร;

ตว เม นยนานิ ทกฺขิย, ภิยฺโย กามรตี ปวฑฺฒติ.

๓๘๔.

‘‘อุปฺปลสิขโรปมานิ เต, วิมเล หาฏกสนฺนิเภ มุเข;

ตว เม นยนานิ ทกฺขิย [นยนานุทิกฺขิย (สี.)], ภิยฺโย กามคุโณ ปวฑฺฒติ.

๓๘๕.

‘‘อปิ ทูรคตา สรมฺหเส, อายตปมฺเห วิสุทฺธทสฺสเน;

หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตรา, นยนา กินฺนริมนฺทโลจเน’’.

๓๘๖.

‘‘อปเถน ปยาตุมิจฺฉสิ, จนฺทํ กีฬนกํ คเวสสิ;

เมรุํ ลงฺเฆตุมิจฺฉสิ, โย ตฺวํ พุทฺธสุตํ มคฺคยสิ.

๓๘๗.

‘‘นตฺถิ หิ โลเก สเทวเก, ราโค ยตฺถปิ ทานิ เม สิยา;

นปิ นํ ชานามิ กีริโส, อถ มคฺเคน หโต สมูลโก.

๓๘๘.

‘‘อิงฺคาลกุยาว [อิงฺฆาฬขุยาว (สฺยา.)] อุชฺฌิโต, วิสปตฺโตริว อคฺคิโต กโต [อคฺฆโต หโต (สี.)];

นปิ นํ ปสฺสามิ กีริโส, อถ มคฺเคน หโต สมูลโก.

๓๘๙.

‘‘ยสฺสา สิยา อปจฺจเวกฺขิตํ, สตฺถา วา อนุปาสิโต สิยา;

ตฺวํ ตาทิสิกํ ปโลภย, ชานนฺตึ โส อิมํ วิหฺสิ.

๓๙๐.

‘‘มยฺหฺหิ อกฺกุฏฺวนฺทิเต, สุขทุกฺเข จ สตี อุปฏฺิตา;

สงฺขตมสุภนฺติ ชานิย, สพฺพตฺเถว มโน น ลิมฺปติ.

๓๙๑.

‘‘สาหํ สุคตสฺส สาวิกา, มคฺคฏฺงฺคิกยานยายินี;

อุทฺธฏสลฺลา อนาสวา, สุฺาคารคตา รมามหํ.

๓๙๒.

‘‘ทิฏฺา หิ มยา สุจิตฺติตา, โสมฺภา ทารุกปิลฺลกานิ วา;

ตนฺตีหิ จ ขีลเกหิ จ, วินิพทฺธา วิวิธํ ปนจฺจกา.

๓๙๓.

‘‘ตมฺหุทฺธเฏ ตนฺติขีลเก, วิสฺสฏฺเ วิกเล ปริกฺริเต [ปริปกฺขีเต (สี.), ปริปกฺกเต (สฺยา.)];

น วินฺเทยฺย ขณฺฑโส กเต, กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเย.

๓๙๔.

‘‘ตถูปมา เทหกานิ มํ, เตหิ ธมฺเมหิ วินา น วตฺตนฺติ;

ธมฺเมหิ วินา น วตฺตติ, กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเย.

๓๙๕.

‘‘ยถา หริตาเลน มกฺขิตํ, อทฺทส จิตฺติกํ ภิตฺติยา กตํ;

ตมฺหิ เต วิปรีตทสฺสนํ, สฺา มานุสิกา นิรตฺถิกา.

๓๙๖.

‘‘มายํ วิย อคฺคโต กตํ, สุปินนฺเตว สุวณฺณปาทปํ;

อุปคจฺฉสิ อนฺธ ริตฺตกํ, ชนมชฺเฌริว รุปฺปรูปกํ [รูปรูปกํ (ก.)].

๓๙๗.

‘‘วฏฺฏนิริว โกฏโรหิตา, มชฺเฌ ปุพฺพุฬกา สอสฺสุกา;

ปีฬโกฬิกา เจตฺถ ชายติ, วิวิธา จกฺขุวิธา จ ปิณฺฑิตา’’.

๓๙๘.

อุปฺปาฏิย จารุทสฺสนา, น จ ปชฺชิตฺถ อสงฺคมานสา;

‘‘หนฺท เต จกฺขุํ หรสฺสุ ตํ’’, ตสฺส นรสฺส อทาสิ ตาวเท.

๓๙๙.

ตสฺส จ วิรมาสิ ตาวเท, ราโค ตตฺถ ขมาปยี จ นํ;

‘‘โสตฺถิ สิยา พฺรหฺมจารินี, น ปุโน เอทิสกํ ภวิสฺสติ’’.

๔๐๐.

‘‘อาสาทิย [อาหนิย (สฺยา. ก.)] เอทิสํ ชนํ, อคฺคึ ปชฺชลิตํ ว ลิงฺคิย;

คณฺหิย อาสีวิสํ วิย, อปิ นุ โสตฺถิ สิยา ขเมหิ โน’’.

๔๐๑.

มุตฺตา จ ตโต สา ภิกฺขุนี, อคมี พุทฺธวรสฺส สนฺติกํ;

ปสฺสิย วรปุฺลกฺขณํ, จกฺขุ อาสิ ยถา ปุราณกนฺติ.

… สุภา ชีวกมฺพวนิกา เถรี….

ตึสนิปาโต นิฏฺิโต.

๑๕. จตฺตาลีสนิปาโต

๑. อิสิทาสีเถรีคาถา

๔๐๒.

นครมฺหิ กุสุมนาเม, ปาฏลิปุตฺตมฺหิ ปถวิยา มณฺเฑ;

สกฺยกุลกุลีนาโย, ทฺเว ภิกฺขุนิโย หิ คุณวติโย.

๔๐๓.

อิสิทาสี ตตฺถ เอกา, ทุติยา โพธีติ สีลสมฺปนฺนา จ;

ฌานชฺฌายนรตาโย, พหุสฺสุตาโย ธุตกิเลสาโย.

๔๐๔.

ตา ปิณฺฑาย จริตฺวา, ภตฺตตฺถํ [ภตฺตตฺตํ (สี.)] กริย โธตปตฺตาโย;

รหิตมฺหิ สุขนิสินฺนา, อิมา คิรา อพฺภุทีเรสุํ.

๔๐๕.

‘‘ปาสาทิกาสิ อยฺเย, อิสิทาสิ วโยปิ เต อปริหีโน;

กึ ทิสฺวาน พฺยาลิกํ, อถาสิ เนกฺขมฺมมนุยุตฺตา’’.

๔๐๖.

เอวมนุยุฺชิยมานา สา, รหิเต ธมฺมเทสนากุสลา;

อิสิทาสี วจนมพฺรวิ, ‘‘สุณ โพธิ ยถามฺหิ ปพฺพชิตา.

๔๐๗.

‘‘อุชฺเชนิยา ปุรวเร, มยฺหํ ปิตา สีลสํวุโต เสฏฺิ;

ตสฺสมฺหิ เอกธีตา, ปิยา มนาปา จ ทยิตา จ.

๔๐๘.

‘‘อถ เม สาเกตโต วรกา, อาคจฺฉุมุตฺตมกุลีนา;

เสฏฺี ปหูตรตโน, ตสฺส มมํ สุณฺหมทาสิ ตาโต.

๔๐๙.

‘‘สสฺสุยา สสฺสุรสฺส จ, สายํ ปาตํ ปณามมุปคมฺม;

สิรสา กโรมิ ปาเท, วนฺทามิ ยถามฺหิ อนุสิฏฺา.

๔๑๐.

‘‘ยา มยฺหํ สามิกสฺส, ภคินิโย ภาตุโน ปริชโน วา;

ตเมกวรกมฺปิ ทิสฺวา, อุพฺพิคฺคา อาสนํ เทมิ.

๔๑๑.

‘‘อนฺเนน จ ปาเนน จ, ขชฺเชน จ ยฺจ ตตฺถ สนฺนิหิตํ;

ฉาเทมิ อุปนยามิ จ, เทมิ จ ยํ ยสฺส ปติรูปํ.

๔๑๒.

‘‘กาเลน อุปฏฺหิตฺวา [อุฏฺหิตฺวา (สฺยา. ก.), อุปฏฺหิตุํ (?)], ฆรํ สมุปคมามิ อุมฺมาเร;

โธวนฺตี หตฺถปาเท, ปฺชลิกา สามิกมุเปมิ.

๔๑๓.

‘‘โกจฺฉํ ปสาทํ อฺชนิฺจ, อาทาสกฺจ คณฺหิตฺวา;

ปริกมฺมการิกา วิย, สยเมว ปตึ วิภูเสมิ.

๔๑๔.

‘‘สยเมว โอทนํ สาธยามิ, สยเมว ภาชนํ โธวนฺตี;

มาตาว เอกปุตฺตกํ, ตถา [ตทา (สี.)] ภตฺตารํ ปริจรามิ.

๔๑๕.

‘‘เอวํ มํ ภตฺติกตํ, อนุรตฺตํ การิกํ นิหตมานํ;

อุฏฺายิกํ [อุฏฺาหิกํ (ก.)] อนลสํ, สีลวตึ ทุสฺสเต ภตฺตา.

๔๑๖.

‘‘โส มาตรฺจ ปิตรฺจ, ภณติ ‘อาปุจฺฉหํ คมิสฺสามิ;

อิสิทาสิยา น สห วจฺฉํ, เอกาคาเรหํ [เอกฆเรป’หํ (?)] สห วตฺถุํ’.

๔๑๗.

‘‘‘มา เอวํ ปุตฺต อวจ, อิสิทาสี ปณฺฑิตา ปริพฺยตฺตา;

อุฏฺายิกา อนลสา, กึ ตุยฺหํ น โรจเต ปุตฺต’.

๔๑๘.

‘‘‘น จ เม หึสติ กิฺจิ, น จหํ อิสิทาสิยา สห วจฺฉํ;

เทสฺสาว เม อลํ เม, อปุจฺฉาหํ [อาปุจฺฉาหํ (สฺยา.), อาปุจฺฉหํ-นาปุจฺฉหํ (?)] คมิสฺสามิ’.

๔๑๙.

‘‘ตสฺส วจนํ สุณิตฺวา, สสฺสุ สสุโร จ มํ อปุจฺฉึสุ;

‘กิสฺส [กึส (?)] ตยา อปรทฺธํ, ภณ วิสฺสฏฺา ยถาภูตํ’.

๔๒๐.

‘‘‘นปิหํ อปรชฺฌํ กิฺจิ, นปิ หึเสมิ น ภณามิ ทุพฺพจนํ;

กึ สกฺกา กาตุยฺเย, ยํ มํ วิทฺเทสฺสเต ภตฺตา’.

๔๒๑.

‘‘เต มํ ปิตุฆรํ ปฏินยึสุ, วิมนา ทุเขน อธิภูตา;

‘ปุตฺตมนุรกฺขมานา, ชิตามฺหเส รูปินึ ลกฺขึ’.

๔๒๒.

‘‘อถ มํ อทาสิ ตาโต, อฑฺฒสฺส ฆรมฺหิ ทุติยกุลิกสฺส;

ตโต อุปฑฺฒสุงฺเกน, เยน มํ วินฺทถ เสฏฺิ.

๔๒๓.

‘‘ตสฺสปิ ฆรมฺหิ มาสํ, อวสึ อถ โสปิ มํ ปฏิจฺฉรยิ [ปฏิจฺฉสิ (สี. ก.), ปฏิจฺฉติ (สฺยา.), ปฏิจฺฉรติ (ก.)];

ทาสีว อุปฏฺหนฺตึ, อทูสิกํ สีลสมฺปนฺนํ.

๔๒๔.

‘‘ภิกฺขาย จ วิจรนฺตํ, ทมกํ ทนฺตํ เม ปิตา ภณติ;

‘โหหิสิ [โสหิสิ (สพฺพตฺถ)] เม ชามาตา, นิกฺขิป โปฏฺิฺจ [โปนฺตึ (สี. สฺยา.)] ฆฏิกฺจ’.

๔๒๕.

‘‘โสปิ วสิตฺวา ปกฺขํ [ปกฺกมถ (สี.)], อถ ตาตํ ภณติ ‘เทหิ เม โปฏฺึ;

ฆฏิกฺจ มลฺลกฺจ, ปุนปิ ภิกฺขํ จริสฺสามิ’.

๔๒๖.

‘‘อถ นํ ภณตี ตาโต, อมฺมา สพฺโพ จ เม าติคณวคฺโค;

‘กึ เต น กีรติ อิธ, ภณ ขิปฺปํ ตํ เต กริหิ’ติ.

๔๒๗.

‘‘เอวํ ภณิโต ภณติ, ‘ยทิ เม อตฺตา สกฺโกติ อลํ มยฺหํ;

อิสิทาสิยา น สห วจฺฉํ, เอกฆเรหํ สห วตฺถุํ’.

๔๒๘.

‘‘วิสฺสชฺชิโต คโต โส, อหมฺปิ เอกากินี วิจินฺเตมิ;

‘อาปุจฺฉิตูน คจฺฉํ, มริตุเย [มริตาเย (สี.), มริตุํ (สฺยา.)] วา ปพฺพชิสฺสํ วา’.

๔๒๙.

‘‘อถ อยฺยา ชินทตฺตา, อาคจฺฉี โคจราย จรมานา;

ตาตกุลํ วินยธรี, พหุสฺสุตา สีลสมฺปนฺนา.

๔๓๐.

‘‘ตํ ทิสฺวาน อมฺหากํ, อุฏฺายาสนํ ตสฺสา ปฺาปยึ;

นิสินฺนาย จ ปาเท, วนฺทิตฺวา โภชนมทาสึ.

๔๓๑.

‘‘อนฺเนน จ ปาเนน จ, ขชฺเชน จ ยฺจ ตตฺถ สนฺนิหิตํ;

สนฺตปฺปยิตฺวา อวจํ, ‘อยฺเย อิจฺฉามิ ปพฺพชิตุํ’.

๔๓๒.

‘‘อถ มํ ภณตี ตาโต, ‘อิเธว ปุตฺตก [ปุตฺติเก (สฺยา. ก.)] จราหิ ตฺวํ ธมฺมํ;

อนฺเนน จ ปาเนน จ, ตปฺปย สมเณ ทฺวิชาตี จ’.

๔๓๓.

‘‘อถหํ ภณามิ ตาตํ, โรทนฺตี อฺชลึ ปณาเมตฺวา;

‘ปาปฺหิ มยา ปกตํ, กมฺมํ ตํ นิชฺชเรสฺสามิ’.

๔๓๔.

‘‘อถ มํ ภณตี ตาโต, ‘ปาปุณ โพธิฺจ อคฺคธมฺมฺจ;

นิพฺพานฺจ ลภสฺสุ, ยํ สจฺฉิกรี ทฺวิปทเสฏฺโ’.

๔๓๕.

‘‘มาตาปิตู อภิวาทยิตฺวา, สพฺพฺจ าติคณวคฺคํ;

สตฺตาหํ ปพฺพชิตา, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยึ.

๔๓๖.

‘‘ชานามิ อตฺตโน สตฺต, ชาติโย ยสฺสยํ ผลวิปาโก;

ตํ ตว อาจิกฺขิสฺสํ, ตํ เอกมนา นิสาเมหิ.

๔๓๗.

‘‘นครมฺหิ เอรกจฺเฉ [เอรกกจฺเฉ (สฺยา. ก.)], สุวณฺณกาโร อหํ ปหูตธโน;

โยพฺพนมเทน มตฺโต โส, ปรทารํ อเสวิหํ.

๔๓๘.

‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, นิรยมฺหิ อปจฺจิสํ จิรํ;

ปกฺโก ตโต จ อุฏฺหิตฺวา, มกฺกฏิยา กุจฺฉิโมกฺกมึ.

๔๓๙.

‘‘สตฺตาหชาตกํ มํ, มหากปิ ยูถโป นิลฺลจฺเฉสิ;

ตสฺเสตํ กมฺมผลํ, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.

๔๔๐.

‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, กาลํ กริตฺวา สินฺธวารฺเ;

กาณาย จ ขฺชาย จ, เอฬกิยา กุจฺฉิโมกฺกมึ.

๔๔๑.

‘‘ทฺวาทส วสฺสานิ อหํ, นิลฺลจฺฉิโต ทารเก ปริวหิตฺวา;

กิมินาวฏฺโฏ อกลฺโล, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.

๔๔๒.

‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, โควาณิชกสฺส คาวิยา ชาโต;

วจฺโฉ ลาขาตมฺโพ, นิลฺลจฺฉิโต ทฺวาทเส มาเส.

๔๔๓.

‘‘โวฒูน [เต ปุน (สฺยา. ก.), โวธุน (ก. อฏฺ.)] นงฺคลมหํ, สกฏฺจ ธารยามิ;

อนฺโธวฏฺโฏ อกลฺโล, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.

๔๔๔.

‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, วีถิยา ทาสิยา ฆเร ชาโต;

เนว มหิลา น ปุริโส, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.

๔๔๕.

‘‘ตึสติวสฺสมฺหิ มโต, สากฏิกกุลมฺหิ ทาริกา ชาตา;

กปณมฺหิ อปฺปโภเค, ธนิก [อณิก (อฏฺ.), ตํสํวณฺณนายมฺปิ อตฺถยุตฺติ คเวสิตพฺพา] ปุริสปาตพหุลมฺหิ.

๔๔๖.

‘‘ตํ มํ ตโต สตฺถวาโห, อุสฺสนฺนาย วิปุลาย วฑฺฒิยา;

โอกฑฺฒติ วิลปนฺตึ, อจฺฉินฺทิตฺวา กุลฆรสฺมา.

๔๔๗.

‘‘อถ โสฬสเม วสฺเส, ทิสฺวา มํ ปตฺตโยพฺพนํ กฺํ;

โอรุนฺธตสฺส ปุตฺโต, คิริทาโส นาม นาเมน.

๔๔๘.

‘‘ตสฺสปิ อฺา ภริยา, สีลวตี คุณวตี ยสวตี จ;

อนุรตฺตา [อนุวตฺตา (ก.)] ภตฺตารํ, ตสฺสาหํ [ตสฺส ตํ (?)] วิทฺเทสนมกาสึ.

๔๔๙.

‘‘ตสฺเสตํ กมฺมผลํ, ยํ มํ อปกีริตูน คจฺฉนฺติ;

ทาสีว อุปฏฺหนฺตึ, ตสฺสปิ อนฺโต กโต มยา’’ติ.

… อิสิทาสี เถรี….

จตฺตาลีสนิปาโต นิฏฺิโต.

๑๖. มหานิปาโต

๑. สุเมธาเถรีคาถา

๔๕๐.

มนฺตาวติยา นคเร, รฺโ โกฺจสฺส อคฺคมเหสิยา;

ธีตา อาสึ สุเมธา, ปสาทิตา สาสนกเรหิ.

๔๕๑.

สีลวตี จิตฺตกถา, พหุสฺสุตา พุทฺธสาสเน วินีตา;

มาตาปิตโร อุปคมฺม, ภณติ ‘‘อุภโย นิสาเมถ.

๔๕๒.

‘‘นิพฺพานาภิรตาหํ, อสสฺสตํ ภวคตํ ยทิปิ ทิพฺพํ;

กิมงฺคํ ปน [กิมงฺค ปน (สี. สฺยา.), กึ ปน (?)] ตุจฺฉา กามา, อปฺปสฺสาทา พหุวิฆาตา.

๔๕๓.

‘‘กามา กฏุกา อาสีวิสูปมา, เยสุ มุจฺฉิตา พาลา;

เต ทีฆรตฺตํ นิรเย, สมปฺปิตา หฺนฺเต ทุกฺขิตา [หฺเร ทุขิตา (?)].

๔๕๔.

‘‘โสจนฺติ ปาปกมฺมา, วินิปาเต ปาปวทฺธิโน สทา;

กาเยน จ วาจาย จ, มนสา จ อสํวุตา พาลา.

๔๕๕.

‘‘พาลา เต ทุปฺปฺา, อเจตนา ทุกฺขสมุทโยรุทฺธา;

เทสนฺเต อชานนฺตา, น พุชฺฌเร อริยสจฺจานิ.

๔๕๖.

‘‘สจฺจานิ อมฺม พุทฺธวรเทสิตานิ, เต พหุตรา อชานนฺตา เย;

อภินนฺทนฺติ ภวคตํ, ปิเหนฺติ เทเวสุ อุปปตฺตึ.

๔๕๗.

‘‘เทเวสุปิ อุปปตฺติ, อสสฺสตา ภวคเต อนิจฺจมฺหิ;

น จ สนฺตสนฺติ พาลา, ปุนปฺปุนํ ชายิตพฺพสฺส.

๔๕๘.

‘‘จตฺตาโร วินิปาตา, ทุเว [ทฺเว (สพฺพตฺถ)] จ คติโย กถฺจิ ลพฺภนฺติ;

น จ วินิปาตคตานํ, ปพฺพชฺชา อตฺถิ นิรเยสุ.

๔๕๙.

‘‘อนุชานาถ มํ อุภโย, ปพฺพชิตุํ ทสพลสฺส ปาวจเน;

อปฺโปสฺสุกฺกา ฆฏิสฺสํ, ชาติมรณปฺปหานาย.

๔๖๐.

‘‘กึ ภวคเต [ภวคเตน (สฺยา.)] อภินนฺทิเตน, กายกลินา อสาเรน;

ภวตณฺหาย นิโรธา, อนุชานาถ ปพฺพชิสฺสามิ.

๔๖๑.

‘‘พุทฺธานํ อุปฺปาโท วิวชฺชิโต, อกฺขโณ ขโณ ลทฺโธ;

สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ยาวชีวํ น ทูเสยฺยํ’’.

๔๖๒.

เอวํ ภณติ สุเมธา, มาตาปิตโร ‘‘น ตาว อาหารํ;

อาหริสฺสํ [อาหริยามิ (สี.), อาหาริสํ (?)] คหฏฺา, มรณวสํ คตาว เหสฺสามิ’’.

๔๖๓.

มาตา ทุกฺขิตา โรทติ ปิตา จ, อสฺสา สพฺพโส สมภิหโต;

ฆเฏนฺติ สฺาเปตุํ, ปาสาทตเล ฉมาปติตํ.

๔๖๔.

‘‘อุฏฺเหิ ปุตฺตก กึ โสจิเตน, ทินฺนาสิ วารณวติมฺหิ;

ราชา อนีกรตฺโต [อณีกทตฺโต (สี. สฺยา.)], อภิรูโป ตสฺส ตฺวํ ทินฺนา.

๔๖๕.

‘‘อคฺคมเหสี ภวิสฺสสิ, อนิกรตฺตสฺส ราชิโน ภริยา;

สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ปพฺพชฺชา ทุกฺกรา ปุตฺตก.

๔๖๖.

‘‘รชฺเช อาณาธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;

ภุฺชาหิ กามโภเค, วาเรยฺยํ โหตุ เต ปุตฺต’’.

๔๖๗.

อถ เน ภณติ สุเมธา, ‘‘มา เอทิสิกานิ ภวคตมสารํ;

ปพฺพชฺชา วา โหหิติ, มรณํ วา เม น เจว วาเรยฺยํ.

๔๖๘.

‘‘กิมิว ปูติกายมสุจึ, สวนคนฺธํ ภยานกํ กุณปํ;

อภิสํวิเสยฺยํ ภสฺตํ, อสกึ ปคฺฆริตํ อสุจิปุณฺณํ.

๔๖๙.

‘‘กิมิว ตาหํ ชานนฺตี, วิกุลกํ มํสโสณิตุปลิตฺตํ;

กิมิกุลาลยํ สกุณภตฺตํ, กเฬวรํ กิสฺส ทิยฺยติ.

๔๗๐.

‘‘นิพฺพุยฺหติ สุสานํ, อจิรํ กาโย อเปตวิฺาโณ;

ฉุทฺโธ [ฉฑฺฑิโต (สฺยา.), ฉุฏฺโ (ก.)] กฬิงฺครํ วิย, ชิคุจฺฉมาเนหิ าตีหิ.

๔๗๑.

‘‘ฉุทฺธูน [ฉฑฺฑูน (สฺยา.), ฉุฏฺูน (ก.)] นํ สุสาเน, ปรภตฺตํ นฺหายนฺติ [นฺหายเร (?)] ชิคุจฺฉนฺตา;

นิยกา มาตาปิตโร, กึ ปน สาธารณา ชนตา.

๔๗๒.

‘‘อชฺโฌสิตา อสาเร, กเฬวเร อฏฺินฺหารุสงฺฆาเต;

เขฬสฺสุจฺจารสฺสว, ปริปุณฺเณ [เขฬสฺสุจฺจารปสฺสวปริปุณฺเณ (สี.)] ปูติกายมฺหิ.

๔๗๓.

‘‘โย นํ วินิพฺภุชิตฺวา, อพฺภนฺตรมสฺส พาหิรํ กยิรา;

คนฺธสฺส อสหมานา, สกาปิ มาตา ชิคุจฺเฉยฺย.

๔๗๔.

‘‘ขนฺธธาตุอายตนํ, สงฺขตํ ชาติมูลกํ ทุกฺขํ;

โยนิโส อนุวิจินนฺตี, วาเรยฺยํ กิสฺส อิจฺเฉยฺยํ.

๔๗๕.

‘‘ทิวเส ทิวเส ติสตฺติ, สตานิ นวนวา ปเตยฺยุํ กายมฺหิ;

วสฺสสตมฺปิ จ ฆาโต, เสยฺโย ทุกฺขสฺส เจวํ ขโย.

๔๗๖.

‘‘อชฺฌุปคจฺเฉ ฆาตํ, โย วิฺาเยวํ สตฺถุโน วจนํ;

‘ทีโฆ เตสํ [โว (ก.)] สํสาโร, ปุนปฺปุนํ หฺมานานํ’.

๔๗๗.

‘‘เทเวสุ มนุสฺเสสุ จ, ติรจฺฉานโยนิยา อสุรกาเย;

เปเตสุ จ นิรเยสุ จ, อปริมิตา ทิสฺสเร ฆาตา.

๔๗๘.

‘‘ฆาตา นิรเยสุ พหู, วินิปาตคตสฺส ปีฬิยมานสฺส [กิลิสฺสมานสฺส (สฺยา. ก.)];

เทเวสุปิ อตฺตาณํ, นิพฺพานสุขา ปรํ นตฺถิ.

๔๗๙.

‘‘ปตฺตา เต นิพฺพานํ, เย ยุตฺตา ทสพลสฺส ปาวจเน;

อปฺโปสฺสุกฺกา ฆเฏนฺติ, ชาติมรณปฺปหานาย.

๔๘๐.

‘‘อชฺเชว ตาตภินิกฺขมิสฺสํ, โภเคหิ กึ อสาเรหิ;

นิพฺพินฺนา เม กามา, วนฺตสมา ตาลวตฺถุกตา’’.

๔๘๑.

สา เจวํ ภณติ ปิตรมนีกรตฺโต จ ยสฺส สา ทินฺนา;

อุปยาสิ วารณวเต, วาเรยฺยมุปฏฺิเต กาเล.

๔๘๒.

อถ อสิตนิจิตมุทุเก, เกเส ขคฺเคน ฉินฺทิย สุเมธา;

ปาสาทํ ปิทหิตฺวา [ปิเธตฺวา (สี. สฺยา.), ปิธิตฺวา (ก.)], ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ.

๔๘๓.

สา จ ตหึ สมาปนฺนา, อนีกรตฺโต จ อาคโต นครํ;

ปาสาเท จ [ปาสาเทว (สี. สฺยา.)] สุเมธา, อนิจฺจสฺํ [อนิจฺจสฺา (สพฺพตฺถ)] สุภาเวติ.

๔๘๔.

สา จ มนสิ กโรติ, อนีกรตฺโต จ อารุหี ตุริตํ;

มณิกนกภูสิตงฺโค, กตฺชลี ยาจติ สุเมธํ.

๔๘๕.

‘‘รชฺเช อาณาธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;

ภุฺชาหิ กามโภเค, กามสุขา ทุลฺลภา โลเก.

๔๘๖.

‘‘นิสฺสฏฺํ เต รชฺชํ, โภเค ภุฺชสฺสุ เทหิ ทานานิ;

มา ทุมฺมนา อโหสิ, มาตาปิตโร เต ทุกฺขิตา’’ [มาตาปิตโร จ เต ทุขิตา (?)].

๔๘๗.

ตํ ตํ ภณติ สุเมธา, กาเมหิ อนตฺถิกา วิคตโมหา;

‘‘มา กาเม อภินนฺทิ, กาเมสฺวาทีนวํ ปสฺส.

๔๘๘.

‘‘จาตุทฺทีโป ราชา มนฺธาตา, อาสิ กามโภคิน มคฺโค;

อติตฺโต กาลงฺกโต, น จสฺส ปริปูริตา อิจฺฉา.

๔๘๙.

‘‘สตฺต รตนานิ วสฺเสยฺย, วุฏฺิมา ทสทิสา สมนฺเตน;

น จตฺถิ ติตฺติ กามานํ, อติตฺตาว มรนฺติ นรา.

๔๙๐.

‘‘อสิสูนูปมา กามา, กามา สปฺปสิโรปมา;

อุกฺโกปมา อนุทหนฺติ, อฏฺิกงฺกล [กงฺขล (สี.)] สนฺนิภา.

๔๙๑.

‘‘อนิจฺจา อทฺธุวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;

อโยคุโฬว สนฺตตฺโต, อฆมูลา ทุขปฺผลา.

๔๙๒.

‘‘รุกฺขปฺผลูปมา กามา, มํสเปสูปมา ทุขา;

สุปิโนปมา วฺจนิยา, กามา ยาจิตกูปมา.

๔๙๓.

‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, โรโค คณฺโฑ อฆํ นิฆํ;

องฺคารกาสุสทิสา, อฆมูลํ ภยํ วโธ.

๔๙๔.

‘‘เอวํ พหุทุกฺขา กามา, อกฺขาตา อนฺตรายิกา;

คจฺฉถ น เม ภควเต, วิสฺสาโส อตฺถิ อตฺตโน.

๔๙๕.

‘‘กึ มม ปโร กริสฺสติ, อตฺตโน สีสมฺหิ ฑยฺหมานมฺหิ;

อนุพนฺเธ ชรามรเณ, ตสฺส ฆาตาย ฆฏิตพฺพํ’’.

๔๙๖.

ทฺวารํ อปาปุริตฺวานหํ [อวาปุริตฺวาหํ (สี.)], มาตาปิตโร อนีกรตฺตฺจ;

ทิสฺวาน ฉมํ นิสินฺเน, โรทนฺเต อิทมโวจํ.

๔๙๗.

‘‘ทีโฆ พาลานํ สํสาโร, ปุนปฺปุนฺจ โรทตํ;

อนมตคฺเค ปิตุ มรเณ, ภาตุ วเธ อตฺตโน จ วเธ.

๔๙๘.

‘‘อสฺสุ ถฺํ รุธิรํ, สํสารํ อนมตคฺคโต สรถ;

สตฺตานํ สํสรตํ, สราหิ อฏฺีนฺจ สนฺนิจยํ.

๔๙๙.

‘‘สร จตุโรทธี [สรสฺสุ จตุโร อุทธี (?)], อุปนีเต อสฺสุถฺรุธิรมฺหิ;

สร เอกกปฺปมฏฺีนํ, สฺจยํ วิปุเลน สมํ.

๕๐๐.

‘‘อนมตคฺเค สํสรโต, มหึ [มหามหึ (?)] ชมฺพุทีปมุปนีตํ;

โกลฏฺิมตฺตคุฬิกา, มาตา มาตุสฺเวว นปฺปโหนฺติ.

๕๐๑.

‘‘ติณกฏฺสาขาปลาสํ [สร ติณกฏฺสาขาปลาสํ (สี.)], อุปนีตํ อนมตคฺคโต สร;

จตุรงฺคุลิกา ฆฏิกา, ปิตุปิตุสฺเวว นปฺปโหนฺติ.

๕๐๒.

‘‘สร กาณกจฺฉปํ ปุพฺพสมุทฺเท, อปรโต จ ยุคฉิทฺทํ;

สิรํ [สร (สี.)] ตสฺส จ ปฏิมุกฺกํ, มนุสฺสลาภมฺหิ โอปมฺมํ.

๕๐๓.

‘‘สร รูปํ เผณปิณฺโฑปมสฺส, กายกลิโน อสารสฺส;

ขนฺเธ ปสฺส อนิจฺเจ, สราหิ นิรเย พหุวิฆาเต.

๕๐๔.

‘‘สร กฏสึ วฑฺเฒนฺเต, ปุนปฺปุนํ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ;

สร กุมฺภีลภยานิ จ, สราหิ จตฺตาริ สจฺจานิ.

๕๐๕.

‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว ปฺจกฏุเกน ปีเตน;

สพฺพา หิ กามรติโย, กฏุกตรา ปฺจกฏุเกน.

๕๐๖.

‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ เย ปริฬาหา [สปริฬาหา (สี. อฏฺ.)];

สพฺพา หิ กามรติโย, ชลิตา กุถิตา กมฺปิตา สนฺตาปิตา.

๕๐๗.

‘‘อสปตฺตมฺหิ สมาเน, กึ ตว กาเมหิ เย พหุสปตฺตา;

ราชคฺคิโจรอุทกปฺปิเยหิ, สาธารณา กามา พหุสปตฺตา.

๕๐๘.

‘‘โมกฺขมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ เยสุ วธพนฺโธ;

กาเมสุ หิ อสกามา, วธพนฺธทุขานิ อนุโภนฺติ.

๕๐๙.

‘‘อาทีปิตา ติณุกฺกา, คณฺหนฺตํ ทหนฺติ เนว มุฺจนฺตํ;

อุกฺโกปมา หิ กามา, ทหนฺติ เย เต น มุฺจนฺติ.

๕๑๐.

‘‘มา อปฺปกสฺส เหตุ, กามสุขสฺส วิปุลํ ชหี สุขํ;

มา ปุถุโลโมว พฬิสํ, คิลิตฺวา ปจฺฉา วิหฺสิ.

๕๑๑.

‘‘กามํ กาเมสุ ทมสฺสุ, ตาว สุนโขว สงฺขลาพทฺโธ;

กาหินฺติ ขุ ตํ กามา, ฉาตา สุนขํว จณฺฑาลา.

๕๑๒.

‘‘อปริมิตฺจ ทุกฺขํ, พหูนิ จ จิตฺตโทมนสฺสานิ;

อนุโภหิสิ กามยุตฺโต, ปฏินิสฺสช [ปฏินิสฺสร (สี.)] อทฺธุเว กาเม.

๕๑๓.

‘‘อชรมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ [เยสุ ชราย จ; มรณพฺยาธิหิ คหิตา (?)] เยสุ ชรา;

มรณพฺยาธิคหิตา [เยสุ ชราย จ; มรณพฺยาธิหิ คหิตา (?)], สพฺพา สพฺพตฺถ ชาติโย.

๕๑๔.

‘‘อิทมชรมิทมมรํ [อิทํ อชรํ อิทํ อมรํ (?)], อิทมชรามรํ ปทมโสกํ;

อสปตฺตมสมฺพาธํ, อขลิตมภยํ นิรุปตาปํ.

๕๑๕.

‘‘อธิคตมิทํ พหูหิ, อมตํ อชฺชาปิ จ ลภนียมิทํ;

โย โยนิโส ปยุฺชติ, น จ สกฺกา อฆฏมาเนน’’.

๕๑๖.

เอวํ ภณติ สุเมธา, สงฺขารคเต รตึ อลภมานา;

อนุเนนฺตี อนิกรตฺตํ, เกเส จ ฉมํ ขิปิ สุเมธา.

๕๑๗.

อุฏฺาย อนิกรตฺโต, ปฺชลิโก ยาจิตสฺสา ปิตรํ โส;

‘‘วิสฺสชฺเชถ สุเมธํ, ปพฺพชิตุํ วิโมกฺขสจฺจทสฺสา’’.

๕๑๘.

วิสฺสชฺชิตา มาตาปิตูหิ, ปพฺพชิ โสกภยภีตา;

ฉ อภิฺา สจฺฉิกตา, อคฺคผลํ สิกฺขมานาย.

๕๑๙.

อจฺฉริยมพฺภุตํ ตํ, นิพฺพานํ อาสิ ราชกฺาย;

ปุพฺเพนิวาสจริตํ, ยถา พฺยากริ ปจฺฉิเม กาเล.

๕๒๐.

‘‘ภควติ โกณาคมเน, สงฺฆารามมฺหิ นวนิเวสมฺหิ;

สขิโย ติสฺโส ชนิโย, วิหารทานํ อทาสิมฺห.

๕๒๑.

‘‘ทสกฺขตฺตุํ สตกฺขตฺตุํ, ทสสตกฺขตฺตุํ สตานิ จ สตกฺขตฺตุํ;

เทเวสุ อุปฺปชฺชิมฺห, โก ปน วาโท มนุสฺเสสุ.

๕๒๒.

‘‘เทเวสุ มหิทฺธิกา อหุมฺห, มานุสกมฺหิ โก ปน วาโท;

สตฺตรตนสฺส มเหสี, อิตฺถิรตนํ อหํ อาสึ.

๕๒๓.

‘‘โส เหตุ โส ปภโว, ตํ มูลํ สาว สาสเน ขนฺตี;

ตํ ปมสโมธานํ, ตํ ธมฺมรตาย นิพฺพานํ’’.

๕๒๔.

เอวํ กโรนฺติ เย สทฺทหนฺติ, วจนํ อโนมปฺสฺส;

นิพฺพินฺทนฺติ ภวคเต, นิพฺพินฺทิตฺวา วิรชฺชนฺตีติ.

อิตฺถํ สุทํ สุเมธา เถรี คาถาโย อภาสิตฺถาติ.

มหานิปาโต นิฏฺิโต.

สมตฺตา เถรีคาถาโย.

คาถาสตานิ จตฺตาริ, อสีติ ปุน จุทฺทส [คาถาสงฺขฺยา อิธ อนุกฺกมณิกคณนาวเสน ปากฏา];

เถริเยกุตฺตรสตา [เถรีเยกุตฺตรฉสตา (?) ตึสมตฺตาปิ ปฺจสตมตฺตาปิ เถริโย เอกโต อาคตา มนสิกาตพฺพา], สพฺพา ตา อาสวกฺขยาติ.

เถรีคาถาปาฬิ นิฏฺิตา.