📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
จริยาปิฏกปาฬิ
๑. อกิตฺติวคฺโค
๑. อกิตฺติจริยา
‘‘กปฺเป ¶ ¶ ¶ ¶ จ สตสหสฺเส, จตุโร จ อสงฺขิเย;
เอตฺถนฺตเร ยํ จริตํ, สพฺพํ ตํ โพธิปาจนํ.
‘‘อตีตกปฺเป จริตํ, ปยิตฺวา ภวาภเว;
อิมมฺหิ กปฺเป จริตํ, ปวกฺขิสฺสํ สุโณหิ เม.
‘‘ยทา อหํ พฺรหารฺเ, สฺุเ วิปินกานเน;
อชฺโฌคาเหตฺวา [อชฺโฌคเหตฺวา (สี. สฺยา.)] วิหรามิ, อกิตฺติ นาม ตาปโส.
‘‘ตทา ¶ มํ ตปเตเชน, สนฺตตฺโต ติทิวาภิภู;
ธาเรนฺโต พฺราหฺมณวณฺณํ, ภิกฺขาย มํ อุปาคมิ.
‘‘ปวนา อาภตํ ปณฺณํ, อเตลฺจ อโลณิกํ;
มม ทฺวาเร ิตํ ทิสฺวา, สกฏาเหน อากิรึ.
‘‘ตสฺส ทตฺวานหํ ปณฺณํ, นิกฺกุชฺชิตฺวาน ภาชนํ;
ปุเนสนํ ชหิตฺวาน, ปาวิสึ ปณฺณสาลกํ.
‘‘ทุติยมฺปิ ¶ ตติยมฺปิ, อุปคฺฉิ มมนฺติกํ;
อกมฺปิโต อโนลคฺโค, เอวเมวมทาสหํ.
‘‘น ¶ เม ตปฺปจฺจยา อตฺถิ, สรีรสฺมึ วิวณฺณิยํ;
ปีติสุเขน รติยา, วีตินาเมมิ ตํ ทิวํ.
‘‘ยทิ มาสมฺปิ ทฺเวมาสํ, ทกฺขิเณยฺยํ วรํ ลเภ;
อกมฺปิโต อโนลีโน, ทเทยฺยํ ทานมุตฺตมํ.
‘‘น ตสฺส ทานํ ททมาโน, ยสํ ลาภฺจ ปตฺถยึ;
สพฺพฺุตํ ปตฺถยาโน, ตานิ กมฺมานิ อาจริ’’นฺติ.
อกิตฺติจริยํ ปมํ.
๒. สงฺขจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, พฺราหฺมโณ สงฺขสวฺหโย;
มหาสมุทฺทํ ตริตุกาโม, อุปคจฺฉามิ ปฏฺฏนํ.
‘‘ตตฺถทฺทสํ ปฏิปเถ, สยมฺภุํ อปราชิตํ;
กนฺตารทฺธานํ ปฏิปนฺนํ [กนฺตารทฺธานปฏิปนฺนํ (สี. สฺยา.)], ตตฺตาย กินภูมิยา.
‘‘ตมหํ ปฏิปเถ ทิสฺวา, อิมมตฺถํ วิจินฺตยึ;
‘อิทํ เขตฺตํ อนุปฺปตฺตํ, ปฺุกามสฺส ชนฺตุโน.
‘‘‘ยถา กสฺสโก ปุริโส, เขตฺตํ ทิสฺวา มหาคมํ;
ตตฺถ พีชํ น โรเปติ, น โส ธฺเน อตฺถิโก.
‘‘‘เอวเมวาหํ ¶ ¶ ปฺุกาโม, ทิสฺวา เขตฺตวรุตฺตมํ;
ยทิ ตตฺถ การํ น กโรมิ, นาหํ ปฺุเน อตฺถิโก.
‘‘‘ยถา อมจฺโจ มุทฺทิกาโม, รฺโ อนฺเตปุเร ชเน;
น เทติ เตสํ ธนธฺํ, มุทฺทิโต ปริหายติ.
‘‘‘เอวเมวาหํ ปฺุกาโม, วิปุลํ ทิสฺวาน ทกฺขิณํ;
ยทิ ตสฺส ทานํ น ททามิ, ปริหายิสฺสามิ ปฺุโต’.
‘‘เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, โอโรหิตฺวา อุปาหนา;
ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, อทาสึ ฉตฺตุปาหนํ.
‘‘เตเนวาหํ ¶ สตคุณโต, สุขุมาโล สุเขธิโต;
อปิ จ ทานํ ปริปูเรนฺโต, เอวํ ตสฺส อทาสห’’นฺติ.
สงฺขจริยํ ทุติยํ.
๓. กุรุราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, อินฺทปตฺเถ [อินฺทปตฺเต (สี. ก.)] ปุรุตฺตเม;
ราชา ธนฺจโย นาม, กุสเล ทสหุปาคโต.
‘‘กลิงฺครฏฺวิสยา, พฺราหฺมณา อุปคฺฉุ มํ;
อายาจุํ มํ หตฺถินาคํ, ธฺํ มงฺคลสมฺมตํ.
‘‘‘อวุฏฺิโก ชนปโท, ทุพฺภิกฺโข ฉาตโก มหา;
ททาหิ ปวรํ นาคํ, นีลํ อฺชนสวฺหยํ.
‘‘‘น ¶ ¶ เม ยาจกมนุปฺปตฺเต, ปฏิกฺเขโป อนุจฺฉโว;
มา เม ภิชฺชิ สมาทานํ, ทสฺสามิ วิปุลํ คชํ’.
‘‘นาคํ คเหตฺวา โสณฺฑาย, ภิงฺคาเร [ภิงฺกาเร (สี.)] รตนามเย;
ชลํ หตฺเถ อากิริตฺวา, พฺราหฺมณานํ อทํ คชํ.
‘‘ตสฺส นาเค ปทินฺนมฺหิ, อมจฺจา เอตทพฺรวุํ;
‘กึ นุ ตุยฺหํ วรํ นาคํ, ยาจกานํ ปทสฺสสิ.
‘‘‘ธฺํ ¶ มงฺคลสมฺปนฺนํ, สงฺคามวิชยุตฺตมํ;
ตสฺมึ นาเค ปทินฺนมฺหิ, กึ เต รชฺชํ กริสฺสติ.
‘‘‘รชฺชมฺปิ เม ทเท สพฺพํ, สรีรํ ทชฺชมตฺตโน;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา นาคํ อทาสห’’’นฺติ.
กุรุราชจริยํ ตติยํ.
๔. มหาสุทสฺสนจริยา
‘‘กุสาวติมฺหิ นคเร, ยทา อาสึ มหีปติ;
มหาสุทสฺสโน นาม, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.
‘‘ตตฺถาหํ ¶ ทิวเส ติกฺขตฺตุํ, โฆสาเปมิ ตหึ ตหึ;
‘โก กึ อิจฺฉติ ปตฺเถติ, กสฺส กึ ทียตู ธนํ.
‘‘‘โก ฉาตโก โก ตสิโต, โก มาลํ โก วิเลปนํ;
นานารตฺตานิ วตฺถานิ, โก นคฺโค ปริทหิสฺสติ.
‘‘‘โก ปเถ ฉตฺตมาเทติ, โกปาหนา มุทู สุภา’;
อิติ ¶ สายฺจ ปาโต จ, โฆสาเปมิ ตหึ ตหึ.
‘‘น ตํ ทสสุ าเนสุ, นปิ านสเตสุ วา;
อเนกสตาเนสุ, ปฏิยตฺตํ ยาจเก ธนํ.
‘‘ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, ยทิ เอติ วนิพฺพโก;
ลทฺธา ยทิจฺฉกํ โภคํ, ปูรหตฺโถว คจฺฉติ.
‘‘เอวรูปํ มหาทานํ, อทาสึ ยาวชีวิกํ;
นปาหํ เทสฺสํ ธนํ ทมฺมิ, นปิ นตฺถิ นิจโย มยิ.
‘‘ยถาปิ อาตุโร นาม, โรคโต ปริมุตฺติยา;
ธเนน เวชฺชํ ตปฺเปตฺวา, โรคโต ปริมุจฺจติ.
‘‘ตเถวาหํ ชานมาโน, ปริปูเรตุมเสสโต;
อูนมนํ ปูรยิตุํ, เทมิ ทานํ วนิพฺพเก;
นิราลโย อปจฺจาโส, สมฺโพธิมนุปตฺติยา’’ติ.
มหาสุทสฺสนจริยํ จตุตฺถํ.
๕. มหาโควินฺทจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, สตฺตราชปุโรหิโต;
ปูชิโต นรเทเวหิ, มหาโควินฺทพฺราหฺมโณ.
‘‘ตทาหํ สตฺตรชฺเชสุ, ยํ เม อาสิ อุปายนํ;
เตน เทมิ มหาทานํ, อกฺโขพฺภํ [อกฺโขภํ (สฺยา. กํ.)] สาครูปมํ.
‘‘น ¶ ¶ เม เทสฺสํ ธนํ ธฺํ, นปิ นตฺถิ นิจโย มยิ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา เทมิ วรํ ธน’’นฺติ.
มหาโควินฺทจริยํ ปฺจมํ.
๖. นิมิราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, มิถิลายํ ปุรุตฺตเม;
นิมิ นาม มหาราชา, ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโก.
‘‘ตทาหํ มาปยิตฺวาน, จตุสฺสาลํ จตุมฺมุขํ;
ตตฺถ ทานํ ปวตฺเตสึ, มิคปกฺขินราทินํ.
‘‘อจฺฉาทนฺจ สยนํ, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ กริตฺวาน, มหาทานํ ปวตฺตยึ.
‘‘ยถาปิ เสวโก สามึ, ธนเหตุมุปาคโต;
กาเยน วาจา มนสา, อาราธนียเมสติ.
‘‘ตเถวาหํ สพฺพภเว, ปริเยสิสฺสามิ โพธิชํ;
ทาเนน สตฺเต ตปฺเปตฺวา, อิจฺฉามิ โพธิมุตฺตม’’นฺติ.
นิมิราชจริยํ ฉฏฺํ.
๗. จนฺทกุมารจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, เอกราชสฺส อตฺรโช;
นคเร ปุปฺผวติยา, กุมาโร จนฺทสวฺหโย.
‘‘ตทาหํ ¶ ยชนา มุตฺโต, นิกฺขนฺโต ยฺวาฏโต;
สํเวคํ ชนยิตฺวาน, มหาทานํ ปวตฺตยึ.
‘‘นาหํ ปิวามิ ขาทามิ, นปิ ภฺุชามิ โภชนํ;
ทกฺขิเณยฺเย อทตฺวาน, อปิ ฉปฺปฺจรตฺติโย.
‘‘ยถาปิ ¶ วาณิโช นาม, กตฺวาน ภณฺฑสฺจยํ;
ยตฺถ ลาโภ มหา โหติ, ตตฺถ ตํ [ตตฺถ นํ (สี.), ตตฺถ (ก.)] หรติ ภณฺฑกํ.
‘‘ตเถว สกภุตฺตาปิ, ปเร ทินฺนํ มหปฺผลํ;
ตสฺมา ปรสฺส ทาตพฺพํ, สตภาโค ภวิสฺสติ.
‘‘เอตมตฺถวสํ ตฺวา, เทมิ ทานํ ภวาภเว;
น ปฏิกฺกมามิ ทานโต, สมฺโพธิมนุปตฺติยา’’ติ.
จนฺทกุมารจริยํ สตฺตมํ.
๘. สิวิราชจริยา
‘‘อริฏฺสวฺหเย นคเร, สิวินามาสิ ขตฺติโย;
นิสชฺช ปาสาทวเร, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.
‘‘‘ยํ กิฺจิ มานุสํ ทานํ, อทินฺนํ เม น วิชฺชติ;
โยปิ ยาเจยฺย มํ จกฺขุํ, ทเทยฺยํ อวิกมฺปิโต’.
‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สกฺโก เทวานมิสฺสโร;
นิสินฺโน เทวปริสาย, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘‘นิสชฺช ¶ ปาสาทวเร, สิวิราชา มหิทฺธิโก;
จินฺเตนฺโต วิวิธํ ทานํ, อเทยฺยํ โส น ปสฺสติ.
‘‘‘ตถํ ¶ นุ วิตถํ เนตํ, หนฺท วีมํสยามิ ตํ;
มุหุตฺตํ อาคเมยฺยาถ, ยาว ชานามิ ตํ มนํ’.
‘‘ปเวธมาโน ปลิตสิโร, วลิคตฺโต [วลิตคตฺโต (สี.)] ชราตุโร;
อนฺธวณฺโณว หุตฺวาน, ราชานํ อุปสงฺกมิ.
‘‘โส ¶ ตทา ปคฺคเหตฺวาน, วามํ ทกฺขิณพาหุ จ;
สิรสฺมึ อฺชลึ กตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘‘ยาจามิ ตํ มหาราช, ธมฺมิก รฏฺวฑฺฒน;
ตว ทานรตา กิตฺติ, อุคฺคตา เทวมานุเส.
‘‘‘อุโภปิ ¶ เนตฺตา นยนา, อนฺธา อุปหตา มม;
เอกํ เม นยนํ เทหิ, ตฺวมฺปิ เอเกน ยาปย’.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, หฏฺโ สํวิคฺคมานโส;
กตฺชลี เวทชาโต, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘‘อิทานาหํ จินฺตยิตฺวาน, ปาสาทโต อิธาคโต;
ตฺวํ มม จิตฺตมฺาย, เนตฺตํ ยาจิตุมาคโต.
‘‘‘อโห เม มานสํ สิทฺธํ, สงฺกปฺโป ปริปูริโต;
อทินฺนปุพฺพํ ทานวรํ, อชฺช ทสฺสามิ ยาจเก.
‘‘‘เอหิ สิวก อุฏฺเหิ, มา ทนฺธยิ มา ปเวธยิ;
อุโภปิ นยนํ เทหิ, อุปฺปาเฏตฺวา วณิพฺพเก’.
‘‘ตโต ¶ โส โจทิโต มยฺหํ, สิวโก วจนํ กโร;
อุทฺธริตฺวาน ปาทาสิ, ตาลมิฺชํว ยาจเก.
‘‘ททมานสฺส เทนฺตสฺส, ทินฺนทานสฺส เม สโต;
จิตฺตสฺส อฺถา นตฺถิ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘น เม เทสฺสา อุโภ จกฺขู, อตฺตา น เม น เทสฺสิโย;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา จกฺขุํ อทาสห’’นฺติ.
สิวิราชจริยํ อฏฺมํ.
๙. เวสฺสนฺตรจริยา
‘‘ยา ¶ เม อโหสิ ชนิกา, ผุสฺสตี [ผุสตี (สี.)] นาม ขตฺติยา;
สา อตีตาสุ ชาตีสุ, สกฺกสฺส มเหสี ปิยา.
‘‘ตสฺสา อายุกฺขยํ ตฺวา, เทวินฺโท เอตทพฺรวิ;
‘ททามิ เต ทส วเร, วรภทฺเท ยทิจฺฉสิ’.
‘‘เอวํ วุตฺตา จ สา เทวี, สกฺกํ ปุนิทมพฺรวิ;
‘กึ นุ เม อปราธตฺถิ, กึ นุ เทสฺสา อหํ ตว;
รมฺมา จาเวสิ มํ านา, วาโตว ธรณีรุหํ’.
‘‘เอวํ ¶ วุตฺโต จ โส สกฺโก, ปุน ตสฺสิทมพฺรวิ;
‘น เจว เต กตํ ปาปํ, น จ เม ตฺวํสิ อปฺปิยา.
‘‘‘เอตฺตกํเยว ¶ เต อายุ, จวนกาโล ภวิสฺสติ;
ปฏิคฺคณฺห มยา ทินฺเน, วเร ทส วรุตฺตเม’.
‘‘สกฺเกน ¶ สา ทินฺนวรา, ตุฏฺหฏฺา ปโมทิตา;
มมํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา, ผุสฺสตี ทส วเร วรี.
‘‘ตโต จุตา สา ผุสฺสตี, ขตฺติเย อุปปชฺชถ;
เชตุตฺตรมฺหิ นคเร, สฺชเยน สมาคมิ.
‘‘ยทาหํ ผุสฺสติยา กุจฺฉึ, โอกฺกนฺโต ปิยมาตุยา;
มม เตเชน เม มาตา, สทา ทานรตา อหุ.
‘‘อธเน อาตุเร ชิณฺเณ, ยาจเก อทฺธิเก [ปถิเก (ก.)] ชเน;
สมเณ พฺราหฺมเณ ขีเณ, เทติ ทานํ อกิฺจเน.
‘‘ทส มาเส ธารยิตฺวาน, กโรนฺเต ปุรํ ปทกฺขิณํ;
เวสฺสานํ วีถิยา มชฺเฌ, ชเนสิ ผุสฺสตี มมํ.
‘‘น มยฺหํ มตฺติกํ นามํ, นปิ เปตฺติกสมฺภวํ;
ชาเตตฺถ เวสฺสวีถิยา, ตสฺมา เวสฺสนฺตโร อหุ.
‘‘ยทาหํ ทารโก โหมิ, ชาติยา อฏฺวสฺสิโก;
ตทา นิสชฺช ปาสาเท, ทานํ ทาตุํ วิจินฺตยึ.
‘‘‘หทยํ ¶ ทเทยฺยํ จกฺขุํ, มํสมฺปิ รุธิรมฺปิ จ;
ทเทยฺยํ กายํ สาเวตฺวา, ยทิ โกจิ ยาจเย มมํ’.
‘‘สภาวํ จินฺตยนฺตสฺส, อกมฺปิตมสณฺิตํ;
อกมฺปิ ตตฺถ ปถวี, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘อนฺวทฺธมาเส ปนฺนรเส, ปุณฺณมาเส อุโปสเถ;
ปจฺจยํ นาคมารุยฺห, ทานํ ทาตุํ อุปาคมึ.
‘‘กลิงฺครฏฺวิสยา ¶ , พฺราหฺมณา อุปคฺฉุ มํ;
อยาจุํ มํ หตฺถินาคํ, ธฺํ มงฺคลสมฺมตํ.
‘‘อวุฏฺิโก ¶ ชนปโท, ทุพฺภิกฺโข ฉาตโก มหา;
ททาหิ ปวรํ นาคํ, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ.
‘‘ททามิ น วิกมฺปามิ, ยํ มํ ยาจนฺติ พฺราหฺมณา;
สนฺตํ นปฺปติคูหามิ [นปฺปติคุยฺหามิ (สี. ก.)], ทาเน เม รมเต มโน.
‘‘น เม ยาจกมนุปฺปตฺเต, ปฏิกฺเขโป อนุจฺฉโว;
‘มา เม ภิชฺชิ สมาทานํ, ทสฺสามิ วิปุลํ คชํ’.
‘‘นาคํ คเหตฺวา โสณฺฑาย, ภิงฺคาเร รตนามเย;
ชลํ หตฺเถ อากิริตฺวา, พฺราหฺมณานํ อทํ คชํ.
‘‘ปุนาปรํ ททนฺตสฺส, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ตสฺส นาคสฺส ทาเนน, สิวโย กุทฺธา สมาคตา;
ปพฺพาเชสุํ สกา รฏฺา, ‘วงฺกํ คจฺฉตุ ปพฺพตํ’.
‘‘เตสํ นิจฺฉุภมานานํ, อกมฺปิตฺถมสณฺิตํ;
มหาทานํ ปวตฺเตตุํ, เอกํ วรมยาจิสํ.
‘‘ยาจิตา ¶ สิวโย สพฺเพ, เอกํ วรมทํสุ เม;
สาวยิตฺวา กณฺณเภรึ, มหาทานํ ททามหํ.
‘‘อเถตฺถ วตฺตตี สทฺโท, ตุมุโล เภรโว มหา;
ทาเนนิมํ นีหรนฺติ, ปุน ทานํ ททาตยํ.
‘‘หตฺถึ ¶ อสฺเส รเถ ทตฺวา, ทาสึ ทาสํ ควํ ธนํ;
มหาทานํ ททิตฺวาน, นครา นิกฺขมึ ตทา.
‘‘นิกฺขมิตฺวาน ¶ นครา, นิวตฺติตฺวา วิโลกิเต;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘จตุวาหึ รถํ ทตฺวา, ตฺวา จาตุมฺมหาปเถ;
เอกากิโย อทุติโย, มทฺทิเทวึ อิทมพฺรวึ.
‘‘‘ตฺวํ มทฺทิ กณฺหํ คณฺหาหิ, ลหุกา เอสา กนิฏฺิกา;
อหํ ชาลึ คเหสฺสามิ, ครุโก ภาติโก หิ โส’.
‘‘ปทุมํ ¶ ปุณฺฑรีกํว, มทฺที กณฺหาชินคฺคหี;
อหํ สุวณฺณพิมฺพํว, ชาลึ ขตฺติยมคฺคหึ.
‘‘อภิชาตา สุขุมาลา, ขตฺติยา จตุโร ชนา;
วิสมํ สมํ อกฺกมนฺตา, วงฺกํ คจฺฉาม ปพฺพตํ.
‘‘เย เกจิ มนุชา เอนฺติ, อนุมคฺเค ปฏิปฺปเถ;
มคฺคนฺเต ปฏิปุจฺฉาม, ‘กุหึ วงฺกนฺต [วงฺกต (สี.)] ปพฺพโต’.
‘‘เต ตตฺถ อมฺเห ปสฺสิตฺวา, กรุณํ คิรมุทีรยุํ;
ทุกฺขํ เต ปฏิเวเทนฺติ, ทูเร วงฺกนฺตปพฺพโต.
‘‘ยทิ ปสฺสนฺติ ปวเน, ทารกา ผลิเน ทุเม;
เตสํ ผลานํ เหตุมฺหิ, อุปโรทนฺติ ทารกา.
‘‘โรทนฺเต ทารเก ทิสฺวา, อุพฺพิทฺธา [อุพฺพิคฺคา (สฺยา. กํ.)] วิปุลา ทุมา;
สยเมโวณมิตฺวาน, อุปคจฺฉนฺติ ทารเก.
‘‘อิทํ ¶ อจฺฉริยํ ทิสฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
สาหุการํ [สาธุการํ (สพฺพตฺถ)] ปวตฺเตสิ, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา.
‘‘อจฺเฉรํ วต โลกสฺมึ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน, สยเมโวณตา ทุมา.
‘‘สงฺขิปึสุ ปถํ ยกฺขา, อนุกมฺปาย ทารเก;
นิกฺขนฺตทิวเสเนว [นิกฺขนฺตทิวเสเยว (สี.)], เจตรฏฺมุปาคมุํ.
‘‘สฏฺิราชสหสฺสานิ, ตทา วสนฺติ มาตุเล;
สพฺเพ ปฺชลิกา หุตฺวา, โรทมานา อุปาคมุํ.
‘‘ตตฺถ วตฺเตตฺวา สลฺลาปํ, เจเตหิ เจตปุตฺเตหิ;
เต ตโต นิกฺขมิตฺวาน, วงฺกํ อคมุ ปพฺพตํ.
‘‘อามนฺตยิตฺวา ¶ เทวินฺโท, วิสฺสกมฺมํ [วิสุกมฺมํ (ก.)] มหิทฺธิกํ;
อสฺสมํ สุกตํ รมฺมํ, ปณฺณสาลํ สุมาปย.
‘‘สกฺกสฺส วจนํ สุตฺวา, วิสฺสกมฺโม มหิทฺธิโก;
อสฺสมํ ¶ สุกตํ รมฺมํ, ปณฺณสาลํ สุมาปยิ.
‘‘อชฺโฌคาเหตฺวา ¶ ปวนํ, อปฺปสทฺทํ นิรากุลํ;
จตุโร ชนา มยํ ตตฺถ, วสาม ปพฺพตนฺตเร.
‘‘อหฺจ มทฺทิเทวี จ, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ;
อฺมฺํ โสกนุทา, วสาม อสฺสเม ตทา.
‘‘ทารเก อนุรกฺขนฺโต, อสฺุโ โหมิ อสฺสเม;
มทฺที ผลํ อาหริตฺวา, โปเสติ สา ตโย ชเน.
‘‘ปวเน ¶ วสมานสฺส, อทฺธิโก มํ อุปาคมิ;
อายาจิ ปุตฺตเก มยฺหํ, ชาลึ กณฺหาชินํ จุโภ.
‘‘ยาจกํ อุปคตํ ทิสฺวา, หาโส เม อุปปชฺชถ;
อุโภ ปุตฺเต คเหตฺวาน, อทาสึ พฺราหฺมเณ ตทา.
‘‘สเก ปุตฺเต จชนฺตสฺส, ชูชเก พฺราหฺมเณ ยทา;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ปุนเทว สกฺโก โอรุยฺห, หุตฺวา พฺราหฺมณสนฺนิโภ;
อายาจิ มํ มทฺทิเทวึ, สีลวนฺตึ ปติพฺพตํ.
‘‘มทฺทึ หตฺเถ คเหตฺวาน, อุทกฺชลิ ปูริย;
ปสนฺนมนสงฺกปฺโป, ตสฺส มทฺทึ อทาสหํ.
‘‘มทฺทิยา ทียมานาย, คคเน เทวา ปโมทิตา;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ชาลึ กณฺหาชินํ ธีตํ, มทฺทิเทวึ ปติพฺพตํ;
จชมาโน น จินฺเตสึ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘น เม เทสฺสา อุโภ ปุตฺตา, มทฺทิเทวี น เทสฺสิยา;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา ปิเย อทาสหํ.
‘‘ปุนาปรํ พฺรหารฺเ, มาตาปิตุสมาคเม;
กรุณํ ปริเทวนฺเต, สลฺลปนฺเต สุขํ ทุขํ.
‘‘หิโรตฺตปฺเปน ¶ ครุนา [ครุนํ (สฺยา. ก.)], อุภินฺนํ อุปสงฺกมิ;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ พฺรหารฺา, นิกฺขมิตฺวา สาติภิ;
ปวิสามิ ปุรํ รมฺมํ, เชตุตฺตรํ ปุรุตฺตมํ.
‘‘รตนานิ สตฺต วสฺสึสุ, มหาเมโฆ ปวสฺสถ;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘อเจตนายํ ปถวี, อวิฺาย สุขํ ทุขํ;
สาปิ ทานพลา มยฺหํ, สตฺตกฺขตฺตุํ ปกมฺปถา’’ติ.
เวสฺสนฺตรจริยํ นวมํ.
๑๐. สสปณฺฑิตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, สสโก ปวนจารโก;
ติณปณฺณสากผลภกฺโข, ปรเหนวิวชฺชิโต.
‘‘มกฺกโฏ จ สิงฺคาโล จ, สุตฺตโปโต จหํ ตทา;
วสาม เอกสามนฺตา, สายํ ปาโต จ ทิสฺสเร [สายํ ปาโต ปทิสฺสเร (ก.)].
‘‘อหํ เต อนุสาสามิ, กิริเย กลฺยาณปาปเก;
‘ปาปานิ ปริวชฺเชถ, กลฺยาเณ อภินิวิสฺสถ’.
‘‘อุโปสถมฺหิ ทิวเส, จนฺทํ ทิสฺวาน ปูริตํ;
เอเตสํ ตตฺถ อาจิกฺขึ, ทิวโส อชฺชุโปสโถ.
‘‘ทานานิ ปฏิยาเทถ, ทกฺขิเณยฺยสฺส ทาตเว;
ทตฺวา ทานํ ทกฺขิเณยฺเย, อุปวสฺสถุโปสถํ.
‘‘เต ¶ เม สาธูติ วตฺวาน, ยถาสตฺติ ยถาพลํ;
ทานานิ ปฏิยาเทตฺวา, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสิสุํ [คเวสยฺยุํ (ก.)].
‘‘อหํ นิสชฺช จินฺเตสึ, ทานํ ทกฺขิณนุจฺฉวํ;
‘ยทิหํ ลเภ ทกฺขิเณยฺยํ, กึ เม ทานํ ภวิสฺสติ.
‘‘‘น ¶ เม อตฺถิ ติลา มุคฺคา, มาสา วา ตณฺฑุลา ฆตํ;
อหํ ติเณน ยาเปมิ, น สกฺกา ติณ ทาตเว.
‘‘‘ยทิ ¶ โกจิ เอติ ทกฺขิเณยฺโย, ภิกฺขาย มม สนฺติเก;
ทชฺชาหํ สกมตฺตานํ, น โส ตุจฺโฉ คมิสฺสติ’.
‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สกฺโก พฺราหฺมณวณฺณินา;
อาสยํ เม อุปาคจฺฉิ, ทานวีมํสนาย เม.
‘‘ตมหํ ทิสฺวาน สนฺตุฏฺโ, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘สาธุ โขสิ อนุปฺปตฺโต, ฆาสเหตุ มมนฺติเก.
‘‘‘อทินฺนปุพฺพํ ทานวรํ, อชฺช ทสฺสามิ เต อหํ;
ตุวํ สีลคุณูเปโต, อยุตฺตํ เต ปรเหนํ.
‘‘‘เอหิ อคฺคึ ปทีเปหิ, นานากฏฺเ สมานย;
อหํ ปจิสฺสมตฺตานํ, ปกฺกํ ตฺวํ ภกฺขยิสฺสสิ’.
‘‘‘สาธู’ติ โส หฏฺมโน, นานากฏฺเ สมานยิ;
มหนฺตํ อกาสิ จิตกํ, กตฺวา องฺคารคพฺภกํ.
‘‘อคฺคึ ตตฺถ ปทีเปสิ, ยถา โส ขิปฺปํ มหา ภเว;
โผเฏตฺวา รชคเต คตฺเต, เอกมนฺตํ อุปาวิสึ.
‘‘ยทา ¶ มหากฏฺปฺุโช, อาทิตฺโต ธมธมายติ [ธุมธุมายติ (สี.), ธมมายติ (ก.)];
ตทุปฺปติตฺวา ปปตึ, มชฺเฌ ชาลสิขนฺตเร.
‘‘ยถา ¶ สีโตทกํ นาม, ปวิฏฺํ ยสฺส กสฺสจิ;
สเมติ ทรถปริฬาหํ, อสฺสาทํ เทติ ปีติ จ.
‘‘ตเถว ชลิตํ อคฺคึ, ปวิฏฺสฺส มมํ ตทา;
สพฺพํ สเมติ ทรถํ, ยถา สีโตทกํ วิย.
‘‘ฉวึ จมฺมํ มํสํ นฺหารุํ, อฏฺึ หทยพนฺธนํ;
เกวลํ สกลํ กายํ, พฺราหฺมณสฺส อทาสห’’นฺติ.
สสปณฺฑิตจริยํ ทสมํ.
อกิตฺติวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
อกิตฺติพฺราหฺมโณ ¶ สงฺโข, กุรุราชา ธนฺจโย;
มหาสุทสฺสโน ราชา, มหาโควินฺทพฺราหฺมโณ.
นิมิ จนฺทกุมาโร จ, สิวิ เวสฺสนฺตโร สโส;
อหเมว ตทา อาสึ, โย เต ทานวเร อทา.
เอเต ทานปริกฺขารา, เอเต ทานสฺส ปารมี;
ชีวิตํ ยาจเก ทตฺวา, อิมํ ปารมิ ปูรยึ.
ภิกฺขาย อุปคตํ ทิสฺวา, สกตฺตานํ ปริจฺจชึ;
ทาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ทานปารมีติ.
ทานปารมินิทฺเทโส นิฏฺิโต.
๒. หตฺถินาควคฺโค
๑. มาตุโปสกจริยา
‘‘ยทา ¶ ¶ ¶ ¶ อโหสึ ปวเน, กฺุชโร มาตุโปสโก;
น ตทา อตฺถิ มหิยา, คุเณน มม สาทิโส.
‘‘ปวเน ทิสฺวา วนจโร, รฺโ มํ ปฏิเวทยิ;
‘ตวานุจฺฉโว มหาราช, คโช วสติ กานเน.
‘‘‘น ตสฺส ปริกฺขายตฺโถ, นปิ อาฬกกาสุยา;
สห คหิเต [สมํ คหิเต (สี.)] โสณฺฑาย, สยเมว อิเธหิ’ติ.
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ราชาปิ ตุฏฺมานโส;
เปเสสิ หตฺถิทมกํ, เฉกาจริยํ สุสิกฺขิตํ.
‘‘คนฺตฺวา โส หตฺถิทมโก, อทฺทส ปทุมสฺสเร;
ภิสมุฬาลํ [ภิสมูลํ (ก.)] อุทฺธรนฺตํ, ยาปนตฺถาย มาตุยา.
‘‘วิฺาย เม สีลคุณํ, ลกฺขณํ อุปธารยิ;
‘เอหิ ปุตฺตา’ติ ปตฺวาน, มม โสณฺฑาย อคฺคหิ.
‘‘ยํ เม ตทา ปากติกํ, สรีรานุคตํ พลํ;
อชฺช นาคสหสฺสานํ, พเลน สมสาทิสํ.
‘‘ยทิหํ เตสํ ปกุปฺเปยฺยํ, อุเปตานํ คหณาย มํ;
ปฏิพโล ภเว เตสํ, ยาว รชฺชมฺปิ มานุสํ.
‘‘อปิ ¶ จาหํ สีลรกฺขาย, สีลปารมิปูริยา;
น กโรมิ จิตฺเต อฺถตฺตํ, ปกฺขิปนฺตํ มมาฬเก.
‘‘ยทิ เต มํ ตตฺถ โกฏฺเฏยฺยุํ, ผรสูหิ โตมเรหิ จ;
เนว เตสํ ปกุปฺเปยฺยํ, สีลขณฺฑภยา มมา’’ติ.
มาตุโปสกจริยํ ปมํ.
๒. ภูริทตฺตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, ภูริทตฺโต มหิทฺธิโก;
วิรูปกฺเขน มหารฺา, เทวโลกมคฺฉหํ.
‘‘ตตฺถ ปสฺสิตฺวาหํ เทเว, เอกนฺตํ สุขสมปฺปิเต;
ตํ สคฺคคมนตฺถาย, สีลพฺพตํ สมาทิยึ.
‘‘สรีรกิจฺจํ กตฺวาน, ภุตฺวา ยาปนมตฺตกํ;
จตุโร องฺเค อธิฏฺาย, เสมิ วมฺมิกมุทฺธนิ.
‘‘ฉวิยา จมฺเมน มํเสน, นหารุอฏฺิเกหิ วา;
ยสฺส เอเตน กรณียํ, ทินฺนํเยว หราตุ โส.
‘‘สํสิโต อกตฺุนา, อาลมฺปายโน [อาลมฺพโณ (สี.)] มมคฺคหิ;
เปฬาย ปกฺขิปิตฺวาน, กีเฬติ มํ ตหึ ตหึ.
‘‘เปฬาย ปกฺขิปนฺเตปิ, สมฺมทฺทนฺเตปิ ปาณินา;
อาลมฺปายเน [อาลมฺพเณ (สี.)] น กุปฺปามิ, สีลขณฺฑภยา มม.
‘‘สกชีวิตปริจฺจาโค ¶ , ติณโต ลหุโก มม;
สีลวีติกฺกโม มยฺหํ, ปถวีอุปฺปตนํ วิย.
‘‘นิรนฺตรํ ชาติสตํ, จเชยฺยํ มม ชีวิตํ;
เนว สีลํ ปภินฺเทยฺยํ, จตุทฺทีปาน เหตุปิ.
‘‘อปิ จาหํ สีลรกฺขาย, สีลปารมิปูริยา;
น กโรมิ จิตฺเต อฺถตฺตํ, ปกฺขิปนฺตมฺปิ เปฬเก’’ติ.
ภูริทตฺตจริยํ ทุติยํ.
๓. จมฺเปยฺยนาคจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, จมฺเปยฺยโก มหิทฺธิโก;
ตทาปิ ธมฺมิโก อาสึ, สีลพฺพตสมปฺปิโต.
‘‘ตทาปิ ¶ มํ ธมฺมจารึ, อุปวุตฺถํ อุโปสถํ;
อหิตุณฺฑิโก คเหตฺวาน, ราชทฺวารมฺหิ กีฬติ.
‘‘ยํ ¶ ยํ โส วณฺณํ จินฺตยิ, นีลํว ปีตโลหิตํ;
ตสฺส จิตฺตานุวตฺตนฺโต, โหมิ จินฺติตสนฺนิโภ.
‘‘ถลํ ¶ กเรยฺยมุทกํ, อุทกมฺปิ ถลํ กเร;
ยทิหํ ตสฺส ปกุปฺเปยฺยํ, ขเณน ฉาริกํ กเร.
‘‘ยทิ จิตฺตวสี เหสฺสํ, ปริหายิสฺสามิ สีลโต;
สีเลน ปริหีนสฺส, อุตฺตมตฺโถ น สิชฺฌติ.
‘‘กามํ ¶ ภิชฺชตุยํ กาโย, อิเธว วิกิรียตุ;
เนว สีลํ ปภินฺเทยฺยํ, วิกิรนฺเต ภุสํ วิยา’’ติ.
จมฺเปยฺยนาคจริยํ ตติยํ.
๔. จูฬโพธิจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, จูฬโพธิ สุสีลวา;
ภวํ ทิสฺวาน ภยโต, เนกฺขมฺมํ อภินิกฺขมึ.
‘‘ยา เม ทุติยิกา อาสิ, พฺราหฺมณี กนกสนฺนิภา;
สาปิ วฏฺเฏ อนเปกฺขา, เนกฺขมฺมํ อภินิกฺขมิ.
‘‘นิราลยา ฉินฺนพนฺธู, อนเปกฺขา กุเล คเณ;
จรนฺตา คามนิคมํ, พาราณสิมุปาคมุํ.
‘‘ตตฺถ วสาม นิปกา, อสํสฏฺา กุเล คเณ;
นิรากุเล อปฺปสทฺเท, ราชุยฺยาเน วสามุโภ.
‘‘อุยฺยานทสฺสนํ คนฺตฺวา, ราชา อทฺทส พฺราหฺมณึ;
อุปคมฺม มมํ ปุจฺฉิ, ‘ตุยฺเหสา กา กสฺส ภริยา’.
‘‘เอวํ วุตฺเต อหํ ตสฺส, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘น มยฺหํ ภริยา เอสา, สหธมฺมา เอกสาสนี’.
‘‘ติสฺสา ¶ [ตสฺสา (สี.)] สารตฺตคธิโต, คาหาเปตฺวาน เจฏเก;
นิปฺปีฬยนฺโต พลสา, อนฺเตปุรํ ปเวสยิ.
‘‘โอทปตฺตกิยา ¶ มยฺหํ, สหชา เอกสาสนี;
อากฑฺฒิตฺวา นยนฺติยา, โกโป เม อุปปชฺชถ.
‘‘สห ¶ โกเป สมุปฺปนฺเน, สีลพฺพตมนุสฺสรึ;
ตตฺเถว โกปํ นิคฺคณฺหึ, นาทาสึ วฑฺฒิตูปริ.
‘‘ยทิ นํ พฺราหฺมณึ โกจิ, โกฏฺเฏยฺย ติณฺหสตฺติยา;
เนว สีลํ ปภินฺเทยฺยํ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘น เมสา พฺราหฺมณี เทสฺสา, นปิ เม พลํ น วิชฺชติ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา สีลานุรกฺขิส’’นฺติ.
จูฬโพธิจริยํ จตุตฺถํ.
๕. มหึสราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, มหึโส ปวนจารโก;
ปวฑฺฒกาโย พลวา, มหนฺโต ภีมทสฺสโน.
‘‘ปพฺภาเร คิริทุคฺเค [วนทุคฺเค (สี.)] จ, รุกฺขมูเล ทกาสเย;
โหเตตฺถ านํ มหึสานํ, โกจิ โกจิ ตหึ ตหึ.
‘‘วิจรนฺโต พฺรหารฺเ, านํ อทฺทส ภทฺทกํ;
ตํ านํ อุปคนฺตฺวาน, ติฏฺามิ จ สยามิ จ.
‘‘อเถตฺถ กปิมาคนฺตฺวา, ปาโป อนริโย ลหุ;
ขนฺเธ นลาเฏ ภมุเก, มุตฺเตติ โอหเนติตํ.
‘‘สกิมฺปิ ทิวสํ ทุติยํ, ตติยํ จตุตฺถมฺปิ จ;
ทูเสติ มํ สพฺพกาลํ, เตน โหมิ อุปทฺทุโต.
‘‘มมํ ¶ อุปทฺทุตํ ทิสฺวา, ยกฺโข มํ อิทมพฺรวิ;
‘นาเสเหตํ ฉวํ ปาปํ, สิงฺเคหิ จ ขุเรหิ จ’.
‘‘เอวํ ¶ วุตฺเต ตทา ยกฺเข, อหํ ตํ อิทมพฺรวึ;
‘กึ ตฺวํ มกฺเขสิ กุณเปน, ปาเปน อนริเยน มํ.
‘‘‘ยทิหํ ¶ ตสฺส ปกุปฺเปยฺยํ, ตโต หีนตโร ภเว;
สีลฺจ เม ปภิชฺเชยฺย, วิฺู จ ครเหยฺยุ มํ.
‘‘‘หีฬิตา ชีวิตา วาปิ, ปริสุทฺเธน มตํ วรํ;
กฺยาหํ ชีวิตเหตูปิ, กาหามึ ปรเหนํ’.
‘‘มเมวายํ มฺมาโน, อฺเเปวํ กริสฺสติ;
เตว ตสฺส วธิสฺสนฺติ, สา เม มุตฺติ ภวิสฺสติ.
‘‘หีนมชฺฌิมอุกฺกฏฺเ, สหนฺโต อวมานิตํ;
เอวํ ลภติ สปฺปฺโ, มนสา ยถา ปตฺถิต’’นฺติ.
มหึสราชจริยํ ปฺจมํ.
๖. รุรุราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, สุตตฺตกนกสนฺนิโภ;
มิคราชา รุรุนาม, ปรมสีลสมาหิโต.
‘‘รมฺเม ปเทเส รมณีเย, วิวิตฺเต อมนุสฺสเก;
ตตฺถ วาสํ อุปคฺฉึ, คงฺคากูเล มโนรเม.
‘‘อถ ¶ อุปริ คงฺคาย, ธนิเกหิ ปริปีฬิโต;
ปุริโส คงฺคาย ปปติ, ‘ชีวามิ วา มรามิ วา’.
‘‘รตฺตินฺทิวํ ¶ โส คงฺคาย, วุยฺหมาโน มโหทเก;
รวนฺโต กรุณํ รวํ, มชฺเฌ คงฺคาย คจฺฉติ.
‘‘ตสฺสาหํ สทฺทํ สุตฺวาน, กรุณํ ปริเทวโต;
คงฺคาย ตีเร ตฺวาน, อปุจฺฉึ ‘โกสิ ตฺวํ นโร’.
‘‘โส เม ปุฏฺโ จ พฺยากาสิ, อตฺตโน กรณํ ตทา;
‘ธนิเกหิ ภีโต ตสิโต, ปกฺขนฺโทหํ มหานทึ’.
‘‘ตสฺส ¶ กตฺวาน การฺุํ, จชิตฺวา มม ชีวิตํ;
ปวิสิตฺวา นีหรึ ตสฺส, อนฺธการมฺหิ รตฺติยา.
‘‘อสฺสตฺถกาลมฺาย, ตสฺสาหํ อิทมพฺรวึ;
‘เอกํ ตํ วรํ ยาจามิ, มา มํ กสฺสจิ ปาวท’.
‘‘นครํ ¶ คนฺตฺวาน อาจิกฺขิ, ปุจฺฉิโต ธนเหตุโก;
ราชานํ โส คเหตฺวาน, อุปคฺฉิ มมนฺติกํ.
‘‘ยาวตา กรณํ สพฺพํ, รฺโ อาโรจิตํ มยา;
ราชา สุตฺวาน วจนํ, อุสุํ ตสฺส ปกปฺปยิ;
‘อิเธว ฆาตยิสฺสามิ, มิตฺตทุพฺภึ [มิตฺตทูภึ (สี.)] อนาริยํ’.
‘‘ตมหํ อนุรกฺขนฺโต, นิมฺมินึ มม อตฺตนา;
‘ติฏฺเตโส มหาราช, กามกาโร ภวามิ เต’.
‘‘อนุรกฺขึ มม สีลํ, นารกฺขึ มม ชีวิตํ;
สีลวา หิ ตทา อาสึ, โพธิยาเยว การณา’’ติ.
รุรุราชจริยํ ฉฏฺํ.
๗. มาตงฺคจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, ชฏิโล อุคฺคตาปโน;
มาตงฺโค นาม นาเมน, สีลวา สุสมาหิโต.
‘‘อหฺจ พฺราหฺมโณ เอโก, คงฺคากูเล วสามุโภ;
อหํ วสามิ อุปริ, เหฏฺา วสติ พฺราหฺมโณ.
‘‘วิจรนฺโต อนุกูลมฺหิ, อุทฺธํ เม อสฺสมทฺทส;
ตตฺถ มํ ปริภาเสตฺวา, อภิสปิ มุทฺธผาลนํ.
‘‘ยทิหํ ตสฺส ปกุปฺเปยฺยํ, ยทิ สีลํ น โคปเย;
โอโลเกตฺวานหํ ตสฺส, กเรยฺยํ ฉาริกํ วิย.
‘‘ยํ ¶ โส ตทา มํ อภิสปิ, กุปิโต ทุฏฺมานโส;
ตสฺเสว มตฺถเก นิปติ, โยเคน ตํ ปโมจยึ.
‘‘อนุรกฺขึ ¶ มม สีลํ, นารกฺขึ มม ชีวิตํ;
สีลวา หิ ตทา อาสึ, โพธิยาเยว การณา’’ติ.
มาตงฺคจริยํ สตฺตมํ.
๘. ธมฺมเทวปุตฺตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, มหาปกฺโข มหิทฺธิโก;
ธมฺโม นาม มหายกฺโข, สพฺพโลกานุกมฺปโก.
‘‘ทสกุสลกมฺมปเถ ¶ , สมาทเปนฺโต มหาชนํ;
จรามิ คามนิคมํ, สมิตฺโต สปริชฺชโน.
‘‘ปาโป กทริโย ยกฺโข, ทีเปนฺโต ทส ปาปเก;
โสเปตฺถ มหิยา จรติ, สมิตฺโต สปริชฺชโน.
‘‘ธมฺมวาที อธมฺโม จ, อุโภ ปจฺจนิกา มยํ;
ธุเร ธุรํ ฆฏฺฏยนฺตา, สมิมฺหา ปฏิปเถ อุโภ.
‘‘กลโห วตฺตตี เภสฺมา, กลฺยาณปาปกสฺส จ;
มคฺคา โอกฺกมนตฺถาย, มหายุทฺโธ อุปฏฺิโต.
‘‘ยทิหํ ตสฺส กุปฺเปยฺยํ, ยทิ ภินฺเท ตโปคุณํ;
สหปริชนํ ตสฺส, รชภูตํ กเรยฺยหํ.
‘‘อปิจาหํ สีลรกฺขาย, นิพฺพาเปตฺวาน มานสํ;
สห ชเนโนกฺกมิตฺวา, ปถํ ปาปสฺส ทาสหํ.
‘‘สห ปถโต โอกฺกนฺเต, กตฺวา จิตฺตสฺส นิพฺพุตึ;
วิวรํ อทาสิ ปถวี, ปาปยกฺขสฺส ตาวเท’’ติ.
ธมฺมเทวปุตฺตจริยํ อฏฺมํ.
๙. อลีนสตฺตุจริยา
‘‘ปฺจาลรฏฺเ ¶ ¶ นครวเร, กปิลายํ [กมฺปิลายํ (สี.), กปฺปิลายํ (สฺยา.)] ปุรุตฺตเม;
ราชา ชยทฺทิโส นาม, สีลคุณมุปาคโต.
‘‘ตสฺส ¶ รฺโ อหํ ปุตฺโต, สุตธมฺโม สุสีลวา;
อลีนสตฺโต คุณวา, อนุรกฺขปริชโน สทา.
‘‘ปิตา เม มิควํ คนฺตฺวา, โปริสาทํ อุปาคมิ;
โส เม ปิตุมคฺคเหสิ, ‘ภกฺโขสิ มม มา จลิ’.
‘‘ตสฺส ¶ ตํ วจนํ สุตฺวา, ภีโต ตสิตเวธิโต;
อูรุกฺขมฺโภ อหุ ตสฺส, ทิสฺวาน โปริสาทกํ.
‘‘มิควํ คเหตฺวา มฺุจสฺสุ, กตฺวา อาคมนํ ปุน;
พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา, ปิตา อามนฺตยี มมํ.
‘‘‘รชฺชํ ปุตฺต ปฏิปชฺช, มา ปมชฺชิ ปุรํ อิทํ;
กตํ เม โปริสาเทน, มม อาคมนํ ปุน’.
‘‘มาตาปิตู จ วนฺทิตฺวา, นิมฺมินิตฺวาน อตฺตนา;
นิกฺขิปิตฺวา ธนุํ ขคฺคํ, โปริสาทํ อุปาคมึ.
‘‘สสตฺถหตฺถูปคตํ, กทาจิ โส ตสิสฺสติ;
เตน ภิชฺชิสฺสติ สีลํ, ปริตฺตาสํ [ปริตาสํ (สี.)] กเต มยิ.
‘‘สีลขณฺฑภยา มยฺหํ, ตสฺส เทสฺสํ น พฺยาหรึ;
เมตฺตจิตฺโต หิตวาที, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘‘อุชฺชาเลหิ มหาอคฺคึ, ปปติสฺสามิ รุกฺขโต;
ตฺวํ ปกฺกกาลมฺาย [สุปกฺกกาลมฺาย (ปี.)], ภกฺขย มํ ปิตามห’.
‘‘อิติ สีลวตํ เหตุ, นารกฺขึ มม ชีวิตํ;
ปพฺพาเชสึ จหํ ตสฺส, สทา ปาณาติปาติก’’นฺติ.
อลีนสตฺตุจริยํ นวมํ.
๑๐. สงฺขปาลจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, สงฺขปาโล มหิทฺธิโก;
ทาาวุโธ โฆรวิโส, ทฺวิชิวฺโห อุรคาธิภู.
‘‘จตุปฺปเถ มหามคฺเค, นานาชนสมากุเล;
จตุโร องฺเค อธิฏฺาย, ตตฺถ วาสมกปฺปยึ.
‘‘ฉวิยา จมฺเมน มํเสน, นหารุอฏฺิเกหิ วา;
ยสฺส เอเตน กรณียํ, ทินฺนํเยว หราตุ โส.
‘‘อทฺทสํสุ ¶ โภชปุตฺตา, ขรา ลุทฺทา อการุณา;
อุปคฺฉุํ มมํ ตตฺถ, ทณฺฑมุคฺครปาณิโน.
‘‘นาสาย วินิวิชฺฌิตฺวา, นงฺคุฏฺเ ปิฏฺิกณฺฏเก;
กาเช อาโรปยิตฺวาน, โภชปุตฺตา หรึสุ มํ.
‘‘สสาครนฺตํ ปถวึ, สกานนํ สปพฺพตํ;
อิจฺฉมาโน จหํ ตตฺถ, นาสาวาเตน ฌาปเย.
‘‘สูเลหิ วินิวิชฺฌนฺเต, โกฏฺฏยนฺเตปิ สตฺติภิ;
โภชปุตฺเต น กุปฺปามิ, เอสา เม สีลปารมี’’ติ.
สงฺขปาลจริยํ ทสมํ.
หตฺถินาควคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
หตฺถินาโค ¶ ภูริทตฺโต, จมฺเปยฺโย โพธิ มหึโส;
รุรุ มาตงฺโค ธมฺโม จ, อตฺรโช จ ชยทฺทิโส.
เอเต นว สีลพลา, ปริกฺขารา ปเทสิกา;
ชีวิตํ ปริรกฺขิตฺวา, สีลานิ อนุรกฺขิสํ.
สงฺขปาลสฺส เม สโต, สพฺพกาลมฺปิ ชีวิตํ;
ยสฺส กสฺสจิ นิยฺยตฺตํ, ตสฺมา สา สีลปารมีติ.
สีลปารมินิทฺเทโส นิฏฺิโต.
๓. ยุธฺชยวคฺโค
๑. ยุธฺชยจริยา
‘‘ยทาหํ ¶ ¶ ¶ อมิตยโส, ราชปุตฺโต ยุธฺชโย;
อุสฺสาวพินฺทุํ สูริยาตเป, ปติตํ ทิสฺวาน สํวิชึ.
‘‘ตฺเวาธิปตึ กตฺวา, สํเวคมนุพฺรูหยึ;
มาตาปิตู จ วนฺทิตฺวา, ปพฺพชฺชมนุยาจหํ.
‘‘ยาจนฺติ มํ ปฺชลิกา, สเนคมา สรฏฺกา;
‘อชฺเชว ปุตฺต ปฏิปชฺช, อิทฺธํ ผีตํ มหามหึ’.
‘‘สราชเก สโหโรเธ, สเนคเม สรฏฺเก;
กรุณํ ปริเทวนฺเต, อนเปกฺโขว ปริจฺจชึ.
‘‘เกวลํ ปถวึ รชฺชํ, าติปริชนํ ยสํ;
จชมาโน น จินฺเตสึ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘มาตาปิตา น เม เทสฺสา, นปิ เม เทสฺสํ มหายสํ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา รชฺชํ ปริจฺจชิ’’นฺติ.
ยุธฺชยจริยํ ปมํ.
๒. โสมนสฺสจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, อินฺทปตฺเถ ปุรุตฺตเม;
กามิโต ทยิโต ปุตฺโต, โสมนสฺโสติ วิสฺสุโต.
‘‘สีลวา คุณสมฺปนฺโน, กลฺยาณปฏิภานวา;
วุฑฺฒาปจายี หิรีมา, สงฺคเหสุ จ โกวิโท.
‘‘ตสฺส ¶ รฺโ ปติกโร, อโหสิ กุหกตาปโส;
อารามํ มาลาวจฺฉฺจ, โรปยิตฺวาน ชีวติ.
‘‘ตมหํ ¶ ทิสฺวาน กุหกํ, ถุสราสึว อตณฺฑุลํ;
ทุมํว อนฺโต สุสิรํ, กทลึว อสารกํ.
‘‘นตฺถิมสฺส ¶ สตํ ธมฺโม, สามฺาปคโต อยํ;
หิรีสุกฺกธมฺมชหิโต, ชีวิตวุตฺติการณา.
‘‘กุปิโต อหุ [อโหสิ (สี.), อาสิ (สฺยา.)] ปจฺจนฺโต, อฏวีหิ ปรนฺติหิ;
ตํ นิเสเธตุํ คจฺฉนฺโต, อนุสาสิ ปิตา มมํ.
‘‘‘มา ปมชฺชิ ตุวํ ตาต, ชฏิลํ อุคฺคตาปนํ;
ยทิจฺฉกํ ปวตฺเตหิ, สพฺพกามทโท หิ โส’.
‘‘ตมหํ คนฺตฺวานุปฏฺานํ, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘กจฺจิ เต คหปติ กุสลํ, กึ วา เต อาหรียตุ’.
‘‘เตน โส กุปิโต อาสิ, กุหโก มานนิสฺสิโต;
‘ฆาตาเปมิ ตุวํ อชฺช, รฏฺา ปพฺพาชยามิ วา’.
‘‘นิเสธยิตฺวา ¶ ปจฺจนฺตํ, ราชา กุหกมพฺรวิ;
‘กจฺจิ เต ภนฺเต ขมนียํ, สมฺมาโน เต ปวตฺติโต’.
‘‘ตสฺส อาจิกฺขตี ปาโป, กุมาโร ยถา นาสิโย;
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, อาณาเปสิ มหีปติ.
‘‘‘สีสํ ตตฺเถว ฉินฺทิตฺวา, กตฺวาน จตุขณฺฑิกํ;
รถิยา รถิยํ ทสฺเสถ, สา คติ ชฏิลหีฬิตา’.
‘‘ตตฺถ การณิกา คนฺตฺวา, จณฺฑา ลุทฺทา อการุณา;
มาตุองฺเก นิสินฺนสฺส, อากฑฺฒิตฺวา นยนฺติ มํ.
‘‘เตสาหํ เอวมวจํ, พนฺธตํ คาฬฺหพนฺธนํ;
‘รฺโ ทสฺเสถ มํ ขิปฺปํ, ราชกิริยานิ อตฺถิ เม’.
‘‘เต มํ รฺโ ทสฺสยึสุ, ปาปสฺส ปาปเสวิโน;
ทิสฺวาน ตํ สฺาเปสึ, มมฺจ วสมานยึ.
‘‘โส มํ ตตฺถ ขมาเปสิ, มหารชฺชมทาสิ เม;
โสหํ ตมํ ทาลยิตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘น ¶ เม เทสฺสํ มหารชฺชํ, กามโภโค น เทสฺสิโย;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา รชฺชํ ปริจฺจชิ’’นฺติ.
โสมนสฺสจริยํ ทุติยํ.
๓. อโยฆรจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, กาสิราชสฺส อตฺรโช;
อโยฆรมฺหิ สํวฑฺโฒ, นาเมนาสิ อโยฆโร.
‘‘ทุกฺเขน ชีวิโต ลทฺโธ, สํปีเฬ ปติโปสิโต;
อชฺเชว ปุตฺต ปฏิปชฺช, เกวลํ วสุธํ อิมํ.
‘‘สรฏฺกํ สนิคมํ, สชนํ วนฺทิตฺว ขตฺติยํ;
อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘‘เย เกจิ มหิยา สตฺตา, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิมา;
นิรารกฺขา สเก เคเห, วฑฺฒนฺติ สกาติภิ.
‘‘‘อิทํ โลเก อุตฺตริยํ, สํปีเฬ มม โปสนํ;
อโยฆรมฺหิ สํวฑฺโฒ, อปฺปเภ จนฺทสูริเย.
‘‘‘ปูติกุณปสมฺปุณฺณา, มุจฺจิตฺวา มาตุ กุจฺฉิโต;
ตโต โฆรตเร ทุกฺเข, ปุน ปกฺขิตฺตโยฆเร.
‘‘‘ยทิหํ ตาทิสํ ปตฺวา, ทุกฺขํ ปรมทารุณํ;
รชฺเชสุ ยทิ รชฺชามิ [รฺชามิ (สี.)], ปาปานํ อุตฺตโม สิยํ.
‘‘‘อุกฺกณฺิโตมฺหิ กาเยน, รชฺเชนมฺหิ อนตฺถิโก;
นิพฺพุตึ ปริเยสิสฺสํ, ยตฺถ มํ มจฺจุ น มทฺทิเย’.
‘‘เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, วิรวนฺเต มหาชเน;
นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, ปาวิสึ กานนํ วนํ.
‘‘มาตาปิตา ¶ ¶ น เม เทสฺสา, นปิ เม เทสฺสํ มหายสํ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา รชฺชํ ปริจฺจชิ’’นฺติ.
อโยฆรจริยํ ตติยํ.
๔. ภิสจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, กาสีนํ ปุรวรุตฺตเม;
ภคินี จ ภาตโร สตฺต, นิพฺพตฺตา โสตฺถิเย กุเล.
‘‘เอเตสํ ¶ ปุพฺพโช อาสึ, หิรีสุกฺกมุปาคโต;
ภวํ ทิสฺวาน ภยโต, เนกฺขมฺมาภิรโต อหํ.
‘‘มาตาปิตูหิ ¶ ปหิตา, สหายา เอกมานสา;
กาเมหิ มํ นิมนฺเตนฺติ, ‘กุลวํสํ ธเรหิ’ติ.
‘‘ยํ เตสํ วจนํ วุตฺตํ, คิหีธมฺเม สุขาวหํ;
ตํ เม อโหสิ กินํ, ตตฺต [สนฺตตฺต (ก.)] ผาลสมํ วิย.
‘‘เต มํ ตทา อุกฺขิปนฺตํ, ปุจฺฉึสุ ปตฺถิตํ มม;
‘กึ ตฺวํ ปตฺถยเส สมฺม, ยทิ กาเม น ภฺุชสิ’.
‘‘เตสาหํ เอวมวจํ, อตฺถกาโม หิเตสินํ;
‘นาหํ ปตฺเถมิ คิหีภาวํ, เนกฺขมฺมาภิรโต อหํ’.
‘‘เต มยฺหํ วจนํ สุตฺวา, ปิตุมาตุ จ สาวยุํ;
มาตาปิตา เอวมาหุ, ‘สพฺเพว ปพฺพชาม โภ’.
‘‘อุโภ ¶ มาตาปิตา มยฺหํ, ภคินี จ สตฺต ภาตโร;
อมิตธนํ ฉฑฺฑยิตฺวา, ปาวิสิมฺหา มหาวน’’นฺติ.
ภิสจริยํ จตุตฺถํ.
๕. โสณปณฺฑิตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, นคเร พฺรหฺมวฑฺฒเน;
ตตฺถ กุลวเร เสฏฺเ, มหาสาเล อชายหํ.
‘‘ตทาปิ โลกํ ทิสฺวาน, อนฺธีภูตํ ตโมตฺถฏํ;
จิตฺตํ ภวโต ปติกุฏติ, ตุตฺตเวคหตํ วิย.
‘‘ทิสฺวาน วิวิธํ ปาปํ, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;
‘กทาหํ เคหา นิกฺขมฺม, ปวิสิสฺสามิ กานนํ’.
‘‘ตทาปิ มํ นิมนฺเตสุํ, กามโภเคหิ าตโย;
เตสมฺปิ ฉนฺทมาจิกฺขึ, ‘มา นิมนฺเตถ เตหิ มํ’.
‘‘โย ¶ เม กนิฏฺโก ภาตา, นนฺโท นามาสิ ปณฺฑิโต;
โสปิ มํ อนุสิกฺขนฺโต, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ.
‘‘อหํ โสโณ จ นนฺโท จ, อุโภ มาตาปิตา มม;
ตทาปิ โภเค ฉฑฺเฑตฺวา, ปาวิสิมฺหา มหาวน’’นฺติ.
โสณปณฺฑิตจริยํ ปฺจมํ.
๖. เตมิยจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, กาสิราชสฺส อตฺรโช;
มูคปกฺโขติ นาเมน, เตมิโยติ วทนฺติ มํ.
‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานํ, น วิชฺชติ ปุโม ตทา [สทา (สี.)];
อโหรตฺตานํ อจฺจเยน, นิพฺพตฺโต อหเมกโก.
‘‘กิจฺฉา ลทฺธํ ปิยํ ปุตฺตํ, อภิชาตํ ชุตินฺธรํ;
เสตจฺฉตฺตํ ธารยิตฺวาน, สยเน โปเสติ มํ ปิตา.
‘‘นิทฺทายมาโน สยนวเร, ปพุชฺฌิตฺวานหํ ตทา;
อทฺทสํ ปณฺฑรํ ฉตฺตํ, เยนาหํ นิรยํ คโต.
‘‘สห ¶ ทิฏฺสฺส เม ฉตฺตํ, ตาโส อุปฺปชฺชิ เภรโว;
วินิจฺฉยํ สมาปนฺโน, ‘กถาหํ อิมํ มฺุจิสฺสํ’.
‘‘ปุพฺพสาโลหิตา มยฺหํ, เทวตา อตฺถกามินี;
สา มํ ทิสฺวาน ทุกฺขิตํ, ตีสุ าเนสุ โยชยิ.
‘‘‘มา ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวย, พาลมโต ภว สพฺพปาณินํ;
สพฺโพ ตํ ชโน โอจินายตุ, เอวํ ตว อตฺโถ ภวิสฺสติ’.
‘‘เอวํ วุตฺตายหํ ตสฺสา, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ ตฺวํ ภณสิ เทวเต;
อตฺถกามาสิ เม อมฺม, หิตกามาสิ เทวเต’.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สาคเรว ถลํ ลภึ;
หฏฺโ ¶ สํวิคฺคมานโส, ตโย องฺเค อธิฏฺหึ.
‘‘มูโค ¶ อโหสึ พธิโร, ปกฺโข คติวิวชฺชิโต;
เอเต องฺเค อธิฏฺาย, วสฺสานิ โสฬสํ วสึ.
‘‘ตโต เม หตฺถปาเท จ, ชิวฺหํ โสตฺจ มทฺทิย;
อนูนตํ เม ปสฺสิตฺวา, ‘กาฬกณฺณี’ติ นินฺทิสุํ.
‘‘ตโต ชานปทา สพฺเพ, เสนาปติปุโรหิตา;
สพฺเพ เอกมนา หุตฺวา, ฉฑฺฑนํ อนุโมทิสุํ.
‘‘โสหํ เตสํ มตึ สุตฺวา, หฏฺโ สํวิคฺคมานโส;
ยสฺสตฺถาย ตโปจิณฺโณ, โส เม อตฺโถ สมิชฺฌถ.
‘‘นฺหาเปตฺวา อนุลิมฺปิตฺวา, เวเตฺวา ราชเวนํ;
ฉตฺเตน อภิสิฺจิตฺวา, กาเรสุํ ปุรํ ปทกฺขิณํ.
‘‘สตฺตาหํ ธารยิตฺวาน, อุคฺคเต รวิมณฺฑเล;
รเถน มํ นีหริตฺวา, สารถี วนมุปาคมิ.
‘‘เอโกกาเส ¶ รถํ กตฺวา, สชฺชสฺสํ หตฺถมุจฺจิโต [หตฺถมฺุจิโต (สี. สฺยา.)];
สารถี ขณตี กาสุํ, นิขาตุํ ปถวิยา มมํ.
‘‘อธิฏฺิตมธิฏฺานํ, ตชฺเชนฺโต วิวิธการณา;
น ภินฺทึ ตมธิฏฺานํ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘มาตาปิตา น เม เทสฺสา, อตฺตา เม น จ เทสฺสิโย;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา วตมธิฏฺหึ.
‘‘เอเต ¶ ¶ องฺเค อธิฏฺาย, วสฺสานิ โสฬสํ วสึ;
อธิฏฺาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม อธิฏฺานปารมี’’ติ.
เตมิยจริยํ ฉฏฺํ.
๗. กปิราชจริยา
‘‘ยทา อหํ กปิ อาสึ, นทีกูเล ทรีสเย;
ปีฬิโต สุสุมาเรน, คมนํ น ลภามหํ.
‘‘ยมฺโหกาเส ¶ อหํ ตฺวา, โอรา ปารํ ปตามหํ;
ตตฺถจฺฉิ สตฺตุ วธโก, กุมฺภีโล ลุทฺททสฺสโน.
‘‘โส มํ อสํสิ ‘เอหี’ติ, ‘อหํเปมี’ติ ตํ วตึ;
ตสฺส มตฺถกมกฺกมฺม, ปรกูเล ปติฏฺหึ.
‘‘น ตสฺส อลิกํ ภณิตํ, ยถา วาจํ อกาสหํ;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
กปิราชจริยํ สตฺตมํ.
๘. สจฺจตาปสจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, ตาปโส สจฺจสวฺหโย;
สจฺเจน โลกํ ปาเลสึ, สมคฺคํ ชนมกาสห’’นฺติ.
สจฺจตาปสจริยํ อฏฺมํ.
๙. วฏฺฏโปตกจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, มคเธ วฏฺฏโปตโก;
อชาตปกฺโข ตรุโณ, มํสเปสิ กุลาวเก.
‘‘มุขตุณฺฑเกนาหริตฺวา [มุขตุณฺเฑนาหริตฺวา (สี.)], มาตา โปสยตี มมํ;
ตสฺสา ผสฺเสน ชีวามิ, นตฺถิ เม กายิกํ พลํ.
‘‘สํวจฺฉเร คิมฺหสมเย, ทวฑาโห [วนทาโห (ก.)] ปทิปฺปติ;
อุปคจฺฉติ อมฺหากํ, ปาวโก กณฺหวตฺตนี.
‘‘ธมธมา อิติเอวํ, สทฺทายนฺโต มหาสิขี;
อนุปุพฺเพน ฌาเปนฺโต, อคฺคิ มมมุปาคมิ.
‘‘อคฺคิเวคภยาตีตา, ตสิตา มาตาปิตา มม;
กุลาวเก มํ ฉฑฺเฑตฺวา, อตฺตานํ ปริโมจยุํ.
‘‘ปาเท ¶ ปกฺเข ปชหามิ, นตฺถิ เม กายิกํ พลํ;
โสหํ อคติโก ตตฺถ, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.
‘‘‘เยสาหํ อุปธาเวยฺยํ, ภีโต ตสิตเวธิโต;
เต มํ โอหาย ปกฺกนฺตา, กถํ เม อชฺช กาตเว.
‘‘‘อตฺถิ โลเก สีลคุโณ, สจฺจํ โสเจยฺยนุทฺทยา;
เตน สจฺเจน กาหามิ, สจฺจกิริยมุตฺตมํ.
‘‘‘อาเวชฺเชตฺวา ธมฺมพลํ, สริตฺวา ปุพฺพเก ชิเน;
สจฺจพลมวสฺสาย, สจฺจกิริยมกาสหํ.
‘‘‘สนฺติ ¶ ปกฺขา อปตนา, สนฺติ ปาทา อวฺจนา;
มาตาปิตา จ นิกฺขนฺตา, ชาตเวท ปฏิกฺกม’.
‘‘สหสจฺเจ กเต มยฺหํ, มหาปชฺชลิโต สิขี;
วชฺเชสิ โสฬสกรีสานิ, อุทกํ ปตฺวา ยถา สิขี;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
วฏฺฏโปตกจริยํ นวมํ.
๑๐. มจฺฉราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, มจฺฉราชา มหาสเร;
อุณฺเห สูริยสนฺตาเป, สเร อุทก ขียถ.
‘‘ตโต กากา จ คิชฺฌา จ, กงฺกา [พกา (สี.)] กุลลเสนกา;
ภกฺขยนฺติ ทิวารตฺตึ, มจฺเฉ อุปนิสีทิย.
‘‘เอวํ จินฺเตสหํ ตตฺถ, สห าตีหิ ปีฬิโต;
‘เกน นุ โข อุปาเยน, าตี ทุกฺขา ปโมจเย’.
‘‘วิจินฺตยิตฺวา ธมฺมตฺถํ, สจฺจํ อทฺทส ปสฺสยํ;
สจฺเจ ตฺวา ปโมเจสึ, าตีนํ ตํ อติกฺขยํ.
‘‘อนุสฺสริตฺวา สตํ ธมฺมํ, ปรมตฺถํ วิจินฺตยํ;
อกาสิ สจฺจกิริยํ, ยํ โลเก ธุวสสฺสตํ.
‘‘‘ยโต ¶ สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;
นาภิชานามิ สฺจิจฺจ, เอกปาณมฺปิ หึสิตํ.
‘‘‘เอเตน ¶ สจฺจวชฺเชน, ปชฺชุนฺโน อภิวสฺสตุ;
อภิตฺถนย ปชฺชุนฺน, นิธึ กากสฺส นาสย;
กากํ โสกาย รนฺเธหิ, มจฺเฉ โสกา ปโมจย’.
‘‘สหกเต สจฺจวเร, ปชฺชุนฺโน อภิคชฺชิย;
ถลํ นินฺนฺจ ปูเรนฺโต, ขเณน อภิวสฺสถ.
‘‘เอวรูปํ สจฺจวรํ, กตฺวา วีริยมุตฺตมํ;
วสฺสาเปสึ มหาเมฆํ, สจฺจเตชพลสฺสิโต;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
มจฺฉราชจริยํ ทสมํ.
๑๑. กณฺหทีปายนจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, กณฺหทีปายโน อิสิ;
ปโรปฺาสวสฺสานิ, อนภิรโตจรึ อหํ.
‘‘น โกจิ เอตํ ชานาติ, อนภิรติมนํ มม;
อหฺหิ กสฺสจิ นาจิกฺขึ, อรติ เม จรติ มานเส.
‘‘สพฺรหฺมจารี ¶ มณฺฑพฺโย, สหาโย เม มหาอิสิ;
ปุพฺพกมฺมสมายุตฺโต, สูลมาโรปนํ ลภิ.
‘‘ตมหํ อุปฏฺหิตฺวาน, อาโรคฺยมนุปาปยึ;
อาปุจฺฉิตฺวาน อาคฺฉึ, ยํ มยฺหํ สกมสฺสมํ.
‘‘สหาโย ¶ พฺราหฺมโณ มยฺหํ, ภริยํ อาทาย ปุตฺตกํ;
ตโย ชนา สมาคนฺตฺวา, อาคฺฉุํ ปาหุนาคตํ.
‘‘สมฺโมทมาโน เตหิ สห, นิสินฺโน สกมสฺสเม;
ทารโก วฏฺฏมนุกฺขิปํ, อาสีวิสมโกปยิ.
‘‘ตโต โส วฏฺฏคตํ มคฺคํ, อนฺเวสนฺโต กุมารโก;
อาสีวิสสฺส หตฺเถน, อุตฺตมงฺคํ ปรามสิ.
‘‘ตสฺส ¶ อามสเน กุทฺโธ, สปฺโป วิสพลสฺสิโต;
กุปิโต ปรมโกเปน, อฑํสิ ทารกํ ขเณ.
‘‘สหทฏฺโ อาสีวิเสน [อติวิเสน (ปี. ก.)], ทารโก ปปติ [ปตติ (ก.)] ภูมิยํ;
เตนาหํ ทุกฺขิโต อาสึ, มม วาหสิ ตํ ทุกฺขํ.
‘‘ตฺยาหํ อสฺสาสยิตฺวาน, ทุกฺขิเต โสกสลฺลิเต;
ปมํ อกาสึ กิริยํ, อคฺคํ สจฺจํ วรุตฺตมํ.
‘‘‘สตฺตาหเมวาหํ ปสนฺนจิตฺโต, ปฺุตฺถิโก อจรึ พฺรหฺมจริยํ;
อถาปรํ ยํ จริตํ มเมทํ, วสฺสานิ ปฺาสสมาธิกานิ.
‘‘‘อกามโก วาหิ อหํ จรามิ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ;
หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’.
‘‘สห ¶ ¶ สจฺเจ กเต มยฺหํ, วิสเวเคน เวธิโต;
อพุชฺฌิตฺวาน วุฏฺาสิ, อโรโค จาสิ มาณโว;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
กณฺหทีปายนจริยํ เอกาทสมํ.
๑๒. สุตโสมจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, สุตโสโม มหีปติ;
คหิโต โปริสาเทน, พฺราหฺมเณ สงฺครํ สรึ.
‘‘ขตฺติยานํ เอกสตํ, อาวุณิตฺวา กรตฺตเล;
เอเตสํ ปมิลาเปตฺวา, ยฺตฺเถ อุปนยี มมํ.
‘‘อปุจฺฉิ ¶ มํ โปริสาโท, ‘กึ ตฺวํ อิจฺฉสิ นิสฺสชํ;
ยถามติ เต กาหามิ, ยทิ เม ตฺวํ ปุเนหิสิ’.
‘‘ตสฺส ¶ ปฏิสฺสุณิตฺวาน, ปณฺเห อาคมนํ มม;
อุปคนฺตฺวา ปุรํ รมฺมํ, รชฺชํ นิยฺยาทยึ ตทา.
‘‘อนุสฺสริตฺวา สตํ ธมฺมํ, ปุพฺพกํ ชินเสวิตํ;
พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา, โปริสาทํ อุปาคมึ.
‘‘นตฺถิ เม สํสโย ตตฺถ, ฆาตยิสฺสติ วา น วา;
สจฺจวาจานุรกฺขนฺโต, ชีวิตํ จชิตุมุปาคมึ;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
สุตโสมจริยํ ทฺวาทสมํ.
๑๓. สุวณฺณสามจริยา
‘‘สาโม ¶ ¶ ยทา วเน อาสึ, สกฺเกน อภินิมฺมิโต;
ปวเน สีหพฺยคฺเฆ จ, เมตฺตายมุปนามยึ.
‘‘สีหพฺยคฺเฆหิ ทีปีหิ, อจฺเฉหิ มหิเสหิ จ;
ปสทมิควราเหหิ, ปริวาเรตฺวา วเน วสึ.
‘‘น มํ โกจิ อุตฺตสติ, นปิ ภายามิ กสฺสจิ;
เมตฺตาพเลนุปตฺถทฺโธ, รมามิ ปวเน ตทา’’ติ.
สุวณฺณสามจริยํ เตรสมํ.
๑๔. เอกราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, เอกราชาติ วิสฺสุโต;
ปรมํ สีลํ อธิฏฺาย, ปสาสามิ มหามหึ.
‘‘ทส กุสลกมฺมปเถ, วตฺตามิ อนวเสสโต;
จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ, สงฺคณฺหามิ [สงฺคหามิ (ก.)] มหาชนํ.
‘‘เอวํ เม อปฺปมตฺตสฺส, อิธ โลเก ปรตฺถ จ;
ทพฺพเสโน ¶ อุปคนฺตฺวา, อจฺฉินฺทนฺโต ปุรํ มม.
‘‘ราชูปชีเว ¶ นิคเม, สพลฏฺเ สรฏฺเก;
สพฺพํ หตฺถคตํ กตฺวา, กาสุยา นิขณี มมํ.
‘‘อมจฺจมณฺฑลํ รชฺชํ, ผีตํ อนฺเตปุรํ มม;
อจฺฉินฺทิตฺวาน คหิตํ, ปิยํ ปุตฺตํว ปสฺสหํ;
เมตฺตาย เม สโม นตฺถิ, เอสา เม เมตฺตาปารมี’’ติ.
เอกราชจริยํ จุทฺทสมํ.
๑๕. มหาโลมหํสจริยา
‘‘สุสาเน ¶ ¶ เสยฺยํ กปฺเปมิ, ฉวฏฺิกํ อุปนิธายหํ;
คามณฺฑลา [โคมณฺฑลา (สี.), คามมณฺฑลา (สฺยา.)] อุปาคนฺตฺวา, รูปํ ทสฺเสนฺตินปฺปกํ.
‘‘อปเร คนฺธมาลฺจ, โภชนํ วิวิธํ พหุํ;
อุปายนานูปเนนฺติ, หฏฺา สํวิคฺคมานสา.
‘‘เย เม ทุกฺขํ อุปหรนฺติ, เย จ เทนฺติ สุขํ มม;
สพฺเพสํ สมโก โหมิ, ทยา โกโป น วิชฺชติ.
‘‘สุขทุกฺเข ตุลาภูโต, ยเสสุ อยเสสุ จ;
สพฺพตฺถ สมโก โหมิ, เอสา เม อุเปกฺขาปารมี’’ติ.
มหาโลมหํสจริยํ ปนฺนรสมํ.
ยุธฺชยวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ยุธฺชโย โสมนสฺโส, อโยฆรภิเสน จ;
โสณนนฺโท มูคปกฺโข, กปิราชา สจฺจสวฺหโย.
วฏฺฏโก มจฺฉราชา จ, กณฺหทีปายโน อิสิ;
สุตโสโม ปุน อาสึ [อาสิ (สฺยา.)], สาโม จ เอกราชหุ;
อุเปกฺขาปารมี อาสิ, อิติ วุตฺถํ [วุตฺตํ (สพฺพตฺถ) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา] มเหสินา.
เอวํ ¶ พหุพฺพิธํ ทุกฺขํ, สมฺปตฺตี จ พหุพฺพิธา [สมฺปตฺติ จ พหุวิธา (สี.), สมฺปตฺตึ จ พหุวิธํ (ก.)];
ภวาภเว อนุภวิตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
ทตฺวา ทาตพฺพกํ ทานํ, สีลํ ปูเรตฺวา อเสสโต;
เนกฺขมฺเม ปารมึ คนฺตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
ปณฺฑิเต ¶ ปริปุจฺฉิตฺวา, วีริยํ กตฺวาน มุตฺตมํ;
ขนฺติยา ปารมึ คนฺตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
กตฺวา ทฬฺหมธิฏฺานํ, สจฺจวาจานุรกฺขิย;
เมตฺตาย ¶ ปารมึ คนฺตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
ลาภาลาเภ ¶ ยสายเส, สมฺมานนาวมานเน;
สพฺพตฺถ สมโก หุตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
โกสชฺชํ ภยโต ทิสฺวา, วีริยารมฺภฺจ เขมโต;
อารทฺธวีริยา โหถ, เอสา พุทฺธานุสาสนี.
วิวาทํ ภยโต ทิสฺวา, อวิวาทฺจ เขมโต;
สมคฺคา สขิลา โหถ, เอสา พุทฺธานุสาสนี.
ปมาทํ ภยโต ทิสฺวา, อปฺปมาทฺจ เขมโต;
ภาเวถฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, เอสา พุทฺธานุสาสนี.
อิตฺถํ สุทํ ภควา อตฺตโน ปุพฺพจริยํ สมฺภาวยมาโน พุทฺธาปทานิยํ นาม ธมฺมปริยายํ อภาสิตฺถาติ.
จริยาปิฏกํ นิฏฺิตํ.