📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
ชาตก-อฏฺกถา
จตุตฺโถ ภาโค
๑๐. ทสกนิปาโต
[๔๓๙] ๑. จตุทฺวารชาตกวณฺณนา
จตุทฺวารมิทํ ¶ ¶ ¶ นครนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทุพฺพจภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ นวกนิปาตสฺส ปมชาตเก วิตฺถาริตเมว. อิธ ปน สตฺถา ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ ทุพฺพโจ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุพฺเพปิ ตฺวํ ภิกฺขุ ทุพฺพจตาย ปณฺฑิตานํ วจนํ อกตฺวา ขุรจกฺกํ อาปาเทสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ กสฺสปทสพลสฺส กาเล พาราณสิยํ อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน เอโก ปุตฺโต มิตฺตวินฺทโก นาม อโหสิ. ตสฺส มาตาปิตโร โสตาปนฺนา อเหสุํ, โส ปน ทุสฺสีโล อสฺสทฺโธ. อถ นํ อปรภาเค ปิตริ กาลกเต มาตา กุฏุมฺพํ วิจาเรนฺตี อาห – ‘‘ตาต, ตยา ทุลฺลภํ มนุสฺสตฺตํ ลทฺธํ, ทานํ เทหิ, สีลํ รกฺขาหิ, อุโปสถกมฺมํ กโรหิ, ธมฺมํ สุณาหี’’ติ. อมฺม, น มยฺหํ ทานาทีหิ อตฺโถ, มา มํ กิฺจิ อวจุตฺถ, อหํ ยถากมฺมํ คมิสฺสามีติ. เอวํ วทนฺตมฺปิ นํ เอกทิวสํ ¶ ปุณฺณมุโปสถทิวเส มาตา อาห – ‘‘ตาต, อชฺช อภิลกฺขิโต มหาอุโปสถทิวโส, อชฺช อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สพฺพรตฺตึ ธมฺมํ สุตฺวา เอหิ, อหํ เต สหสฺสํ ทสฺสามี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ธนโลเภน อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา ภุตฺตปาตราโส วิหารํ คนฺตฺวา ทิวสํ วีตินาเมตฺวา รตฺตึ ยถา เอกมฺปิ ธมฺมปทํ กณฺณํ น ปหรติ, ตถา เอกสฺมึ ¶ ปเทเส นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว มุขํ โธวิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา นิสีทิ.
มาตา ปนสฺส ‘‘อชฺช เม ปุตฺโต ธมฺมํ สุตฺวา ปาโตว ธมฺมกถิกตฺเถรํ อาทาย อาคมิสฺสตี’’ติ ยาคุํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาเทตฺวา อาสนํ ปฺเปตฺวา ตสฺสาคมนํ ปฏิมาเนนฺตี ตํ เอกกํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, ธมฺมกถิโก เกน น อานีโต’’ติ วตฺวา ‘‘น มยฺหํ ธมฺมกถิเกน อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ ยาคุํ ปิวา’’ติ อาห. โส ‘‘ตุมฺเหหิ มยฺหํ สหสฺสํ ปฏิสฺสุตํ, ตํ ตาว เม เทถ, ปจฺฉา ปิวิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ปิว, ตาต, ปจฺฉา ทสฺสามี’’ติ. ‘‘คเหตฺวาว ปิวิสฺสามี’’ติ. อถสฺส มาตา สหสฺสภณฺฑิกํ ปุรโต เปสิ. โส ยาคุํ ปิวิตฺวา สหสฺสภณฺฑิกํ คเหตฺวา โวหารํ กโรนฺโต น จิรสฺเสว วีสสตสหสฺสํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นาวํ อุปฏฺเปตฺวา โวหารํ กริสฺสามี’’ติ. โส นาวํ อุปฏฺเปตฺวา ‘‘อมฺม, อหํ นาวาย โวหารํ กริสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ มาตา ‘‘ตฺวํ ตาต, เอกปุตฺตโก, อิมสฺมึ ฆเร ธนมฺปิ พหุ, สมุทฺโท อเนกาทีนโว, มา คมี’’ติ นิวาเรสิ. โส ‘‘อหํ คมิสฺสาเมว, น สกฺกา มํ นิวาเรตุ’’นฺติ วตฺวา ‘‘อหํ ตํ, ตาต, วาเรสฺสามี’’ติ มาตรา หตฺเถ คหิโต หตฺถํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา มาตรํ ปหริตฺวา ปาเตตฺวา อนฺตรํ กตฺวา คนฺตฺวา นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิ.
นาวา สตฺตเม ทิวเส มิตฺตวินฺทกํ นิสฺสาย สมุทฺทปิฏฺเ นิจฺจลา อฏฺาสิ. กาฬกณฺณิสลากา กริยมานา มิตฺตวินฺทกสฺเสว หตฺเถ ติกฺขตฺตุํ ปติ. อถสฺส อุฬุมฺปํ ทตฺวา ‘‘อิมํ เอกํ นิสฺสาย พหู มา นสฺสนฺตู’’ติ ตํ สมุทฺทปิฏฺเ ขิปึสุ. ตาวเทว นาวา ชเวน มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทิ. โสปิ อุฬุมฺเป นิปชฺชิตฺวา เอกํ ทีปกํ ปาปุณิ. ตตฺถ ผลิกวิมาเน จตสฺโส ¶ เวมานิกเปติโย อทฺทส. ตา สตฺตาหํ ทุกฺขํ ¶ อนุภวนฺติ, สตฺตาหํ สุขํ ¶ . โส ตาหิ สทฺธึ สตฺตาหํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิ. อถ นํ ตา ทุกฺขานุภวนตฺถาย คจฺฉมานา ‘‘สามิ, มยํ สตฺตเม ทิวเส อาคมิสฺสาม, ยาว มยํ อาคจฺฉาม, ตาว อนุกฺกณฺมาโน อิเธว วสา’’ติ วตฺวา อคมํสุ. โส ตณฺหาวสิโก หุตฺวา ตสฺมึเยว ผลเก นิปชฺชิตฺวา ปุน สมุทฺทปิฏฺเน คจฺฉนฺโต อปรํ ทีปกํ ปตฺวา ตตฺถ รชตวิมาเน อฏฺ เวมานิกเปติโย ทิสฺวา เอเตเนว อุปาเยน อปรสฺมึ ทีปเก มณิวิมาเน โสฬส, อปรสฺมึ ทีปเก กนกวิมาเน ทฺวตฺตึส เวมานิกเปติโย ทิสฺวา ตาหิ สทฺธึ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ตาสมฺปิ ทุกฺขํ อนุภวิตุํ คตกาเล ปุน สมุทฺทปิฏฺเน คจฺฉนฺโต เอกํ ปาการปริกฺขิตฺตํ จตุทฺวารํ นครํ อทฺทส. อุสฺสทนิรโย กิเรส, พหูนํ เนรยิกสตฺตานํ กมฺมกรณานุภวนฏฺานํ มิตฺตวินฺทกสฺส อลงฺกตปฏิยตฺตนครํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาสิ.
โส ‘‘อิมํ นครํ ปวิสิตฺวา ราชา ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ขุรจกฺกํ อุกฺขิปิตฺวา สีเส ปจฺจมานํ เนรยิกสตฺตํ อทฺทส. อถสฺส ตํ ตสฺส สีเส ขุรจกฺกํ ปทุมํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาสิ. อุเร ปฺจงฺคิกพนฺธนํ อุรจฺฉทปสาธนํ หุตฺวา สีสโต คลนฺตํ โลหิตํ โลหิตจนฺทนวิเลปนํ วิย หุตฺวา ปริเทวนสทฺโท มธุรสโร คีตสทฺโท วิย หุตฺวา อุปฏฺาสิ. โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘โภ ปุริส, จิรํ ตยา ปทุมํ ธาริตํ, เทหิ เม เอต’’นฺติ อาห. ‘‘สมฺม, นยิทํ ปทุมํ, ขุรจกฺกํ เอต’’นฺติ. ‘‘ตฺวํ มยฺหํ อทาตุกามตาย เอวํ วทสี’’ติ. เนรยิกสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ กมฺมํ ขีณํ ภวิสฺสติ, อิมินาปิ มยา วิย มาตรํ ปหริตฺวา อาคเตน ภวิตพฺพํ, ทสฺสามิสฺส ขุรจกฺก’’นฺติ. อถ นํ ‘‘เอหิ โภ, คณฺห อิม’’นฺติ วตฺวา ขุรจกฺกํ ตสฺส สีเส ขิปิ, ตํ ตสฺส มตฺถกํ ปิสมานํ ภสฺสิ. ตสฺมึ ขเณ มิตฺตวินฺทโก ¶ ตสฺส ขุรจกฺกภาวํ ตฺวา ‘‘ตว ขุรจกฺกํ คณฺห, ตว ขุรจกฺกํ คณฺหา’’ติ เวทนาปฺปตฺโต ปริเทวิ, อิตโร อนฺตรธายิ. ตทา โพธิสตฺโต รุกฺขเทวตา หุตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน อุสฺสทจาริกํ จรมาโน ตํ านํ ปาปุณิ. มิตฺตวินฺทโก ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สามิ เทวราช, อิทํ มํ จกฺกํ สณฺหกรณิยํ วิย ติลานิ ปิสมานํ โอตรติ, กึ นุ โข มยา ปาปํ ปกต’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘จตุทฺวารมิทํ ¶ นครํ, อายสํ ทฬฺหปาการํ;
โอรุทฺธปฏิรุทฺโธสฺมิ, กึ ปาปํ ปกตํ มยา.
‘‘สพฺเพ ¶ อปิหิตา ทฺวารา, โอรุทฺโธสฺมิ ยถา ทิโช;
กิมาธิกรณํ ยกฺข, จกฺกาภินิหโต อห’’นฺติ.
ตตฺถ ทฬฺหปาการนฺติ ถิรปาการํ. ‘‘ทฬฺหโตรณ’’นฺติปิ ปาโ, ถิรทฺวารนฺติ อตฺโถ. โอรุทฺธปฏิรุทฺโธสฺมีติ อนฺโต กตฺวา สมนฺตา ปากาเรน รุทฺโธ, ปลายนฏฺานํ น ปฺายติ. กึ ปาปํ ปกตนฺติ กึ นุ โข มยา ปาปกมฺมํ กตํ. อปิหิตาติ ถกิตา. ยถา ทิโชติ ปฺชเร ปกฺขิตฺโต สกุโณ วิย. กิมาธิกรณนฺติ กึ การณํ. จกฺกาภินิหโตติ จกฺเกน อภินิหโต.
อถสฺส เทวราชา การณํ กเถตุํ ฉ คาถา อภาสิ –
‘‘ลทฺธา สตสหสฺสานิ, อติเรกานิ วีสติ;
อนุกมฺปกานํ าตีนํ, วจนํ สมฺม นากริ.
‘‘ลงฺฆึ สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิ, สาครํ อปฺปสิทฺธิกํ;
จตุพฺภิ อฏฺชฺฌคมา, อฏฺาหิปิ จ โสฬส.
‘‘โสฬสาหิ จ พาตฺตึส, อติจฺฉํ จกฺกมาสโท;
อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก.
‘‘อุปริวิสาลา ทุปฺปูรา, อิจฺฉา วิสฏคามินี;
เย จ ตํ อนุคิชฺฌนฺติ, เต โหนฺติ จกฺกธาริโน.
‘‘พหุภณฺฑํ อวหาย, มคฺคํ อปฺปฏิเวกฺขิย;
เยสฺเจตํ อสงฺขาตํ, เต โหนฺติ จกฺกธาริโน.
‘‘กมฺมํ ¶ สเมกฺเข วิปุลฺจ โภคํ, อิจฺฉํ น เสเวยฺย อนตฺถสํหิตํ;
กเรยฺย วากฺยํ อนุกมฺปกานํ, ตํ ตาทิสํ นาติวตฺเตยฺย จกฺก’’นฺติ.
ตตฺถ ลทฺธา สตสหสฺสานิ, อติเรกานิ วีสตีติ ตฺวํ อุโปสถํ กตฺวา มาตุ สนฺติกา สหสฺสํ ¶ คเหตฺวา โวหารํ กโรนฺโต สตสหสฺสานิ ¶ จ อติเรกานิ วีสติสหสฺสานิ ลภิตฺวา. นากรีติ เตน ธเนน อสนฺตุฏฺโ นาวาย สมุทฺทํ ปวิสนฺโต สมุทฺเท อาทีนวฺจ กเถตฺวา มาตุยา วาริยมาโนปิ อนุกมฺปกานํ าตีนํ วจนํ น กโรสิ, โสตาปนฺนํ มาตรํ ปหริตฺวา อนฺตรํ กตฺวา นิกฺขนฺโตเยวาสีติ ทีเปติ.
ลงฺฆินฺติ นาวํ อุลฺลงฺฆนสมตฺถํ. ปกฺขนฺทีติ ปกฺขนฺโทสิ. อปฺปสิทฺธิกนฺติ มนฺทสิทฺธึ วินาสพหุลํ. จตุพฺภิ อฏฺาติ อถ นํ นิสฺสาย ิตาย นาวาย ผลกํ ทตฺวา สมุทฺเท ขิตฺโตปิ ตฺวํ มาตรํ นิสฺสาย เอกทิวสํ กตสฺส อุโปสถกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน ผลิกวิมาเน จตสฺโส อิตฺถิโย ลภิตฺวา ตโต รชตวิมาเน อฏฺ, มณิวิมาเน โสฬส, กนกวิมาเน ทฺวตฺตึส อธิคโตสีติ. อติจฺฉํ จกฺกมาสโทติ อถ ตฺวํ ยถาลทฺเธน อสนฺตุฏฺโ ‘‘อตฺร อุตฺตริตรํ ลภิสฺสามี’’ติ เอวํ ลทฺธํ ลทฺธํ อติกฺกมนโลภสงฺขาตาย อติจฺฉาย สมนฺนาคตตฺตา อติจฺโฉ ปาปปุคฺคโล ตสฺส อุโปสถกมฺมสฺส ขีณตฺตา ทฺวตฺตึส อิตฺถิโย อติกฺกมิตฺวา อิมํ เปตนครํ อาคนฺตฺวา ตสฺส มาตุปหารทานอกุสลสฺส นิสฺสนฺเทน อิทํ ขุรจกฺกํ สมฺปตฺโตสิ. ‘‘อตฺริจฺฉ’’นฺติปิ ปาโ, อตฺร อตฺร อิจฺฉมาโนติ อตฺโถ. ‘‘อตฺริจฺฉา’’ติปิ ปาโ, อตฺริจฺฉายาติ อตฺโถ. ภมตีติ ตสฺส เต อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส อิทํ จกฺกํ มตฺถกํ ปิสมานํ อิทานิ กุมฺภการจกฺกํ วิย มตฺถเก ภมตีติ อตฺโถ.
เย จ ตํ อนุคิชฺฌนฺตีติ ตณฺหา นาเมสา คจฺฉนฺตี อุปรูปริ วิสาลา โหติ, สมุทฺโท วิย จ ทุปฺปูรา, รูปาทีสุ ตสฺส ตสฺส อิจฺฉนอิจฺฉาย วิสฏคามินี, ตํ เอวรูปํ ตณฺหํ เย จ อนุคิชฺฌนฺติ คิทฺธา คธิตา หุตฺวา ปุนปฺปุนํ อลฺลียนฺติ. เต โหนฺติ จกฺกธาริโนติ เต เอวํ ปจฺจนฺตา ขุรจกฺกํ ธาเรนฺติ. พหุภณฺฑนฺติ มาตาปิตูนํ สนฺตกํ พหุธนํ โอหาย. มคฺคนฺติ คนฺตพฺพํ อปฺปสิทฺธิกํ สมุทฺทมคฺคํ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ยถา ตฺวํ ปฏิปนฺโน, เอวเมว อฺเสมฺปิ เยสฺเจตํ อสงฺขาตํ อวีมํสิตํ, เต ยถา ตฺวํ ตเถว ตณฺหาวสิกา หุตฺวา ธนํ ปหาย คมนมคฺคํ อนเปกฺขิตฺวา ปฏิปนฺนา จกฺกธาริโน โหนฺติ. กมฺมํ สเมกฺเขติ ตสฺมา ปณฺฑิโต ปุริโส อตฺตนา กตฺตพฺพกมฺมํ ‘‘สโทสํ นุ โข, นิทฺโทส’’นฺติ สเมกฺเขยฺย ¶ ปจฺจเวกฺเขยฺย. วิปุลฺจ ¶ โภคนฺติ อตฺตโน ธมฺมลทฺธํ ธนราสิมฺปิ สเมกฺเขยฺย. นาติวตฺเตยฺยาติ ตํ ตาทิสํ ปุคฺคลํ อิทํ จกฺกํ น อติวตฺเตยฺย นาวตฺถเรยฺย. ‘‘นาติวตฺเตตี’’ติปิ ปาโ, นาวตฺถรตีติ อตฺโถ.
ตํ ¶ สุตฺวา มิตฺตวินฺทโก ‘‘อิมินา เทวปุตฺเตน มยา กตกมฺมํ ตถโต าตํ, อยํ มยฺหํ ปจฺจนปมาณมฺปิ ชานิสฺสติ, ปุจฺฉามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –
‘‘กีวจิรํ นุ เม ยกฺข, จกฺกํ สิรสิ สฺสติ;
กติ วสฺสสหสฺสานิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
อถสฺส กเถนฺโต มหาสตฺโต ทสมํ คาถมาห –
‘‘อติสโร ปจฺจสโร, มิตฺตวินฺท สุโณหิ เม;
จกฺกํ เต สิรสิ มาวิทฺธํ, น ตํ ชีวํ ปโมกฺขสี’’ติ.
ตตฺถ อติสโรติ อติสรีติปิ อติสโร, อติสริสฺสตีติปิ อติสโร. ปจฺจสโรติ ตสฺเสว เววจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม มิตฺตวินฺทก, สุโณหิ เม วจนํ, ตฺวฺหิ อติทารุณสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อติสโร, ตสฺส ปน น สกฺกา วสฺสคณนาย วิปาโก ปฺาเปตุนฺติ อปริมาณํ อติมหนฺตํ วิปากทุกฺขํ สริสฺสสิ ปฏิปชฺชิสฺสสีติ อติสโร. เตน เต ‘‘เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานี’’ติ วตฺตุํ น สกฺโกมิ. สิรสิมาวิทฺธนฺติ ยํ ปน เต อิทํ จกฺกํ สิรสฺมึ อาวิทฺธํ กุมฺภการจกฺกมิว ภมติ. น ตํ ชีวํ ปโมกฺขสีติ ตํ ตฺวํ ยาว เต กมฺมวิปาโก น ขียติ, ตาว ชีวมาโน น ปโมกฺขสิ, กมฺมวิปาเก ปน ขีเณ อิทํ จกฺกํ ปหาย ยถากมฺมํ คมิสฺสสีติ.
อิทํ วตฺวา เทวปุตฺโต อตฺตโน เทวฏฺานเมว คโต, อิตโรปิ มหาทุกฺขํ ปฏิปชฺชิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มิตฺตวินฺทโก อยํ ทุพฺพจภิกฺขุ อโหสิ, เทวราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
จตุทฺวารชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๔๐] ๒. กณฺหชาตกวณฺณนา
กณฺโห ¶ ¶ วตายํ ปุริโสติ อิทํ สตฺถา กปิลวตฺถุํ อุปนิสฺสาย นิคฺโรธาราเม วิหรนฺโต สิตปาตุกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา กิร สตฺถา สายนฺหสมเย ¶ นิคฺโรธาราเม ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ชงฺฆวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อฺตรสฺมึ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย, น อเหตุ ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺติ, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาวา’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห สิตการณํ ปุจฺฉิ. อถสฺส สตฺถา ‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, กณฺโห นาม อิสิ อโหสิ, โส อิมสฺมึ ภูมิปฺปเทเส วิหาสิ ฌายี ฌานรโต, ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปี’’ติ สิตการณํ วตฺวา ตสฺส วตฺถุโน อปากฏตฺตา เถเรน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พาราณสิยํ เอเกน อสีติโกฏิวิภเวน อปุตฺตเกน พฺราหฺมเณน สีลํ สมาทิยิตฺวา ปุตฺเต ปตฺถิเต โพธิสตฺโต ตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. กาฬวณฺณตฺตา ปนสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘กณฺหกุมาโร’’ติ นามํ อกํสุ. โส โสฬสวสฺสกาเล มณิปฏิมา วิย โสภคฺคปฺปตฺโต หุตฺวา ปิตรา สิปฺปุคฺคหณตฺถาย เปสิโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคเหตฺวา ปจฺจาคจฺฉิ. อถ นํ ปิตา อนุรูเปน ทาเรน สํโยเชสิ. โส อปรภาเค มาตาปิตูนํ อจฺจเยน สพฺพิสฺสริยํ ปฏิปชฺชิ. อเถกทิวสํ รตนโกฏฺาคารานิ วิโลเกตฺวา วรปลฺลงฺกมชฺฌคโต สุวณฺณปฏฺฏํ อาหราเปตฺวา ‘‘เอตฺตกํ ธนํ อสุเกน อุปฺปาทิตํ, เอตฺตกํ อสุเกนา’’ติ ปุพฺพาตีหิ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขิตานิ อกฺขรานิ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘เยหิ อิมํ ธนํ อุปฺปาทิตํ, เต น ปฺายนฺติ, ธนเมว ปฺายติ, เอโกปิ อิทํ ธนํ คเหตฺวา คโต นาม นตฺถิ, น โข ปน สกฺกา ธนภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา ปรโลกํ คนฺตุํ. ปฺจนฺนํ เวรานํ สาธารณภาเวน หิ อสารสฺส ธนสฺส ทานํ สาโร, พหุโรคสาธารณภาเวน อสารสฺส สรีรสฺส สีลวนฺเตสุ อภิวาทนาทิกมฺมํ สาโร, อนิจฺจาภิภูตภาเวน อสารสฺส ¶ ชีวิตสฺส อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนาโยโค สาโร, ตสฺมา อสาเรหิ โภเคหิ สารคฺคหณตฺถํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ.
โส อาสนา วุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตสิ. ยาว สตฺตมา ทิวสา ธนํ อปริกฺขียมานํ ¶ ทิสฺวา ‘‘กึ เม ธเนน, ยาว มํ ชรา นาภิภวติ, ตาวเทว ปพฺพชิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เคเห สพฺพทฺวารานิ วิวราเปตฺวา ‘‘ทินฺนํ เม, หรนฺตู’’ติ อสุจึ วิย ชิคุจฺฉนฺโต ¶ วตฺถุกาเม ปหาย มหาชนสฺส โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส นครา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อตฺตโน วสนตฺถาย รมณียํ ภูมิภาคํ โอโลเกนฺโต อิมํ านํ ปตฺวา ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ เอกํ อินฺทวารุณีรุกฺขํ โคจรคามํ อธิฏฺาย ตสฺเสว รุกฺขสฺส มูเล วิหาสิ. คามนฺตเสนาสนํ ปหาย อารฺิโก อโหสิ, ปณฺณสาลํ อกตฺวา รุกฺขมูลิโก อโหสิ, อพฺโภกาสิโก เนสชฺชิโก. สเจ นิปชฺชิตุกาโม, ภูมิยํเยว นิปชฺชติ, ทนฺตมูสลิโก หุตฺวา อนคฺคิปกฺกเมว ขาทติ, ถุสปริกฺขิตฺตํ กิฺจิ น ขาทติ, เอกทิวสํ เอกวารเมว ขาทติ, เอกาสนิโก อโหสิ. ขมาย ปถวีอาปเตชวายุสโม หุตฺวา เอเต เอตฺตเก ธุตงฺคคุเณ สมาทาย วตฺตติ, อิมสฺมึ กิร ชาตเก โพธิสตฺโต ปรมปฺปิจฺโฉ อโหสิ. โส น จิรสฺเสว อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานกีฬํ กีฬนฺโต ตตฺเถว วสติ, ผลาผลตฺถมฺปิ อฺตฺถ น คจฺฉติ, รุกฺขสฺส ผลิตกาเล ผลํ ขาทติ, ปุปฺผิตกาเล ปุปฺผํ ขาทติ, สปตฺตกาเล ปตฺตานิ ขาทติ, นิปฺปตฺตกาเล ปปฏิกํ ขาทติ. เอวํ ปรมสนฺตุฏฺโ หุตฺวา อิมสฺมึ าเน จิรํ วสติ.
โส เอกทิวสํ ปุพฺพณฺหสมเย ตสฺส รุกฺขสฺส ปกฺกานิ ผลานิ คณฺหิ, คณฺหนฺโต ปน โลลุปฺปจาเรน อุฏฺาย อฺสฺมึ ปเทเส น คณฺหาติ, ยถานิสินฺโนว หตฺถํ ปสาเรตฺวา หตฺถปฺปสารณฏฺาเน ิตานิ ผลานิ สํหรติ, เตสุปิ มนาปามนาปํ อวิจินิตฺวา สมฺปตฺตสมฺปตฺตเมว คณฺหาติ. เอวํ ปรมสนฺตุฏฺสฺส ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. ตํ กิร สกฺกสฺส อายุกฺขเยน วา อุณฺหํ โหติ ปฺุกฺขเยน ¶ วา, อฺสฺมึ ¶ วา มหานุภาวสตฺเต ตํ านํ ปตฺเถนฺเต, ธมฺมิกานํ วา มหิทฺธิกสมณพฺราหฺมณานํ สีลเตเชน อุณฺหํ โหติ. สกฺโก ‘‘โก นุ โข มํ านา จาเวตุกาโม’’ติ อาวชฺเชตฺวา อิมสฺมึ ปเทเส วสนฺตํ กณฺหํ อิสึ รุกฺขผลานิ อุจฺจินนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ อิสิ โฆรตโป ปรมชิตินฺทฺริโย, อิมํ ธมฺมกถาย สีหนาทํ นทาเปตฺวา สุการณํ สุตฺวา วเรน สนฺตปฺเปตฺวา อิมมสฺส รุกฺขํ ธุวผลํ กตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ. โส มหนฺเตนานุภาเวน สีฆํ โอตริตฺวา ตสฺมึ รุกฺขมูเล ตสฺส ปิฏฺิปสฺเส ตฺวา ‘‘อตฺตโน อวณฺเณ กถิเต กุชฺฌิสฺสติ นุ โข, โน’’ติ วีมํสนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กณฺโห วตายํ ปุริโส, กณฺหํ ภฺุชติ โภชนํ;
กณฺเห ภูมิปเทสสฺมึ, น มยฺหํ มนโส ปิโย’’ติ.
ตตฺถ กณฺโหติ กาฬวณฺโณ. โภชนนฺติ รุกฺขผลโภชนํ.
กณฺโห ¶ อิสิ สกฺกสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘โก นุ โข มยา สทฺธึ กเถตี’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา อุปธาเรนฺโต ‘‘สกฺโก’’ติ ตฺวา อนิวตฺติตฺวา อโนโลเกตฺวาว ทุติยํ คาถมาห –
‘‘น กณฺโห ตจสา โหติ, อนฺโตสาโร หิ พฺราหฺมโณ;
ยสฺมึ ปาปานิ กมฺมานิ, ส เว กณฺโห สุชมฺปตี’’ติ.
ตตฺถ ตจสาติ ตเจน กณฺโห นาม น โหตีติ อตฺโถ. อนฺโตสาโรติ อพฺภนฺตเร สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสาเรหิ สมนฺนาคโต. เอวรูโป หิ พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ นาม โหติ. ส เวติ ยสฺมึ ปน ปาปานิ กมฺมานิ อตฺถิ, โส ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโตปิ เยน เกนจิ สรีรวณฺเณน สมนฺนาคโตปิ กาฬโกว.
เอวฺจ ปน วตฺวา อิเมสํ สตฺตานํ กณฺหภาวกรานิ ปาปกมฺมานิ เอกวิธาทิเภเทหิ วิตฺถาเรตฺวา สพฺพานิปิ ตานิ ครหิตฺวา สีลาทโย คุเณ ปสํสิตฺวา อากาเส จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ¶ สกฺกสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. สกฺโก ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปมุทิโต โสมนสฺสชาโต มหาสตฺตํ วเรน นิมนฺเตนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘เอตสฺมึ ¶ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ พฺราหฺมณ เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ เอตสฺมินฺติ ยํ อิทํ ตยา สพฺพฺุพุทฺเธน วิย สุลปิตํ, ตสฺมึ สุลปิเต ตุมฺหากเมว อนุจฺฉวิกตฺตา ปติรูเป สุภาสิเต ยํ กิฺจิ มนสา อิจฺฉสิ, สพฺพํ เต ยํ วรํ อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ, ตํ ทมฺมีติ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ กึ นุ โข อตฺตโน อวณฺเณ กถิเต กุชฺฌิสฺสติ, โนติ มํ วีมํสนฺโต มยฺหํ ฉวิวณฺณฺจ โภชนฺจ วสนฏฺานฺจ ครหิตฺวา อิทานิ มยฺหํ อกุทฺธภาวํ ตฺวา ปสนฺนจิตฺโต วรํ เทติ, มํ โข ปเนส ‘สกฺกิสฺสริยพฺรหฺมิสฺสริยานํ อตฺถาย พฺรหฺมจริยํ จรตี’ติปิ มฺเยฺย, ตตฺรสฺส นิกฺกงฺขภาวตฺถํ มยฺหํ ปเรสุ โกโธ วา โทโส วา มา อุปฺปชฺชตุ, ปรสมฺปตฺติยํ โลโภ วา ปเรสุ สิเนโห วา มา อุปฺปชฺชตุ, มชฺฌตฺโตว ภเวยฺยนฺติ อิเม มยา จตฺตาโร วเร คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตสฺส นิกฺกงฺขภาวตฺถาย จตฺตาโร วเร คณฺหนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘วรฺเจ ¶ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
สุนิกฺโกธํ สุนิทฺโทสํ, นิลฺโลภํ วุตฺติมตฺตโน;
นิสฺเนหมภิกงฺขามิ, เอเต เม จตุโร วเร’’ติ.
ตตฺถ วรฺเจ เม อโท สกฺกาติ สเจ ตฺวํ มยฺหํ วรํ อทาสิ. สุนิกฺโกธนฺติ อกุชฺฌนวเสน สุฏฺุ นิกฺโกธํ. สุนิทฺโทสนฺติ อทุสฺสนวเสน สุฏฺุ นิทฺโทสํ. นิลฺโลภนฺติ ปรสมฺปตฺตีสุ นิลฺโลภํ. วุตฺติมตฺตโนติ เอวรูปํ อตฺตโน วุตฺตึ. นิสฺเนหนฺติ ปุตฺตธีตาทีสุ วา สวิฺาณเกสุ ธนธฺาทีสุ วา อวิฺาณเกสุ อตฺตโน สนฺตเกสุปิ นิสฺเนหํ อปคตโลภํ. อภิกงฺขามีติ เอวรูปํ อิเมหิ จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ อตฺตโน วุตฺตึ อภิกงฺขามิ. เอเต เม จตุโร วเรติ เอเต นิกฺโกธาทิเก จตุโร มยฺหํ วเร เทหีติ.
กึ ปเนส น ชานาติ ‘‘ยถา น สกฺกา สกฺกสฺส สนฺติเก วรํ คเหตฺวา วเรน โกธาทโย หนิตุ’’นฺติ. โน น ชานาติ, สกฺเก โข ปน วรํ ¶ เทนฺเต น คณฺหามีติ วจนํ น ยุตฺตนฺติ ตสฺส จ นิกฺกงฺขภาวตฺถาย คณฺหิ ¶ . ตโต สกฺโก จินฺเตสิ ‘‘กณฺหปณฺฑิโต วรํ คณฺหนฺโต อติวิย อนวชฺเช วเร คณฺหิ, เอเตสุ วเรสุ คุณโทสํ เอตเมว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. อถ นํ ปุจฺฉนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘กึนุ โกเธ วา โทเส วา, โลเภ สฺเนเห จ พฺราหฺมณ;
อาทีนวํ ตฺวํ ปสฺสสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – พฺราหฺมณ กึ นุ โข ตฺวํ โกเธ โทเส โลเภ สฺเนเห จ อาทีนวํ ปสฺสสิ, ตํ ตาว เม ปุจฺฉิโต อกฺขาหิ, น หิ มยํ เอตฺถ อาทีนวํ ชานามาติ.
อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ วตฺวา จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อปฺโป หุตฺวา พหุ โหติ, วฑฺฒเต โส อขนฺติโช;
อาสงฺคี พหุปายาโส, ตสฺมา โกธํ น โรจเย.
‘‘ทุฏฺสฺส ¶ ผรุสา วาจา, ปรามาโส อนนฺตรา;
ตโต ปาณิ ตโต ทณฺโฑ, สตฺถสฺส ปรมา คติ;
โทโส โกธสมุฏฺาโน, ตสฺมา โทสํ น โรจเย.
‘‘อาโลปสาหสาการา, นิกตี วฺจนานิ จ;
ทิสฺสนฺติ โลภธมฺเมสุ, ตสฺมา โลภํ น โรจเย.
‘‘สฺเนหสงฺคถิตา คนฺถา, เสนฺติ มโนมยา ปุถู;
เต ภุสํ อุปตาเปนฺติ, ตสฺมา สฺเนหํ น โรจเย’’ติ.
ตตฺถ อขนฺติโชติ โส อนธิวาสกชาติกสฺส อขนฺติโต ชาโต โกโธ ปมํ ปริตฺโต หุตฺวา ปจฺฉา พหุ โหติ อปราปรํ วฑฺฒติ. ตสฺส วฑฺฒนภาโว ขนฺติวาทีชาตเกน (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) เจว จูฬธมฺมปาลชาตเกน (ชา. ๑.๕.๔๔ อาทโย) จ วณฺเณตพฺโพ. อปิจ ติสฺสามจฺจสฺสเปตฺถ ภริยํ อาทึ กตฺวา สพฺพํ สปริชนํ มาเรตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน มาริตวตฺถุ กเถตพฺพํ. อาสงฺคีติ อาสงฺคกรโณ. ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ อาสตฺตํ ลคฺคิตํ กโรติ, ตํ วตฺถุํ วิสฺสชฺเชตฺวา ¶ คนฺตุํ น เทติ, นิวตฺติตฺวา อกฺโกสนาทีนิ กาเรติ. พหุปายาโสติ พหุนา กายิกเจตสิกทุกฺขสงฺขาเตน อุปายาเสน กิลมเถน สมนฺนาคโต. โกธํ นิสฺสาย หิ โกธวเสน อริยาทีสุ กตวีติกฺกมา ทิฏฺธมฺเม เจว สมฺปราเย จ วธพนฺธวิปฺปฏิสาราทีนิ ¶ เจว ปฺจวิธพนฺธนกมฺมกรณาทีนิ จ พหูนิ ทุกฺขานิ อนุภวนฺตีติ โกโธ พหุปายาโส นาม. ตสฺมาติ ยสฺมา เอส เอวํ อเนกาทีนโว, ตสฺมา โกธํ น โรเจมิ.
ทุฏฺสฺสาติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน กุชฺฌิตฺวา อปรภาเค ทุสฺสนลกฺขเณน โทเสน ทุฏฺสฺส ปมํ ตาว ‘‘อเร, ทาส, เปสฺสา’’ติ ผรุสวาจา นิจฺฉรติ, วาจาย อนนฺตรา อากฑฺฒนวิกฑฺฒนวเสน หตฺถปรามาโส, ตโต อนนฺตรา อุปกฺกมนวเสน ปาณิ ปวตฺตติ, ตโต ทณฺโฑ, ทณฺฑปฺปหาเร อติกฺกมิตฺวา ปน เอกโตธารอุภโตธารสฺส สตฺถสฺส ปรมา คติ, สพฺพปริยนฺตา สตฺถนิปฺผตฺติ โหติ. ยทา หิ สตฺเถน ปรํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา ปจฺฉา เตเนว สตฺเถน อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปติ, ตทา โทโส มตฺถกปฺปตฺโต โหติ. โทโส โกธสมุฏฺาโนติ ยถา อนมฺพิลํ ตกฺกํ วา กฺชิกํ วา ปริณามวเสน ปริวตฺติตฺวา อมฺพิลํ โหติ, ตํ เอกชาติกมฺปิ สมานํ อมฺพิลํ อนมฺพิลนฺติ นานา วุจฺจติ, ตถา ปุพฺพกาเล โกโธ ปริณมิตฺวา ¶ อปรภาเค โทโส โหติ. โส อกุสลมูลตฺเตน เอกชาติโกปิ สมาโน โกโธ โทโสติ นานา วุจฺจติ. ยถา อนมฺพิลโต อมฺพิลํ, เอวํ โสปิ โกธโต สมุฏฺาตีติ โกธสมุฏฺาโน. ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ อเนกาทีนโว โทโส, ตสฺมา โทสมฺปิ น โรเจมิ.
อาโลปสาหสาการาติ ทิวา ทิวสฺเสว คามํ ปหริตฺวา วิลุมฺปนานิ จ อาวุธํ สรีเร เปตฺวา ‘‘อิทํ นาม เม เทหี’’ติ สาหสาการา จ. นิกตี วฺจนานิ จาติ ปติรูปกํ ทสฺเสตฺวา ปรสฺส หรณํ นิกติ นาม, สา อสุวณฺณเมว ‘‘สุวณฺณ’’นฺติ กูฏกหาปณํ ‘‘กหาปโณ’’ติ ทตฺวา ปรสนฺตกคฺคหเณ ทฏฺพฺพา. ปฏิภานวเสน ปน อุปายกุสลตาย ปรสนฺตกคฺคหณํ วฺจนํ นาม. ตสฺเสวํ ปวตฺติ ทฏฺพฺพา – เอโก กิร อุชุชาติโก คามิกปุริโส อรฺโต สสกํ อาเนตฺวา นทีตีเร เปตฺวา นฺหายิตุํ โอตริ. อเถโก ธุตฺโต ตํ สสกํ สีเส กตฺวา นฺหายิตุํ โอติณฺโณ. อิตโร อุตฺตริตฺวา สสกํ อปสฺสนฺโต อิโต จิโต จ วิโลเกสิ. ตเมนํ ธุตฺโต ‘‘กึ โภ วิโลเกสี’’ติ วตฺวา ‘‘อิมสฺมึ เม าเน สสโก ปิโต, ตํ น ปสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘อนฺธพาล, ตฺวํ น ชานาสิ, สสกา นาม นทีตีเร ปิตา ปลายนฺติ, ปสฺส อหํ อตฺตโน สสกํ ¶ สีเส เปตฺวาว นฺหายามี’’ติ อาห. โส อปฺปฏิภานตาย ‘‘เอวํ ภวิสฺสตี’’ติ ปกฺกามิ. เอกกหาปเณน มิคโปตกํ คเหตฺวา ปุน ตํ ทตฺวา ทฺวิกหาปณคฺฆนกสฺส มิคสฺส คหิตวตฺถุเปตฺถ กเถตพฺพํ. ทิสฺสนฺติ โลภธมฺเมสูติ สกฺก, อิเม อาโลปาทโย ปาปธมฺมา โลภสภาเวสุ โลภาภิภูเตสุ สตฺเตสุ ทิสฺสนฺติ. น หิ อลุทฺธา เอวรูปานิ กมฺมานิ กโรนฺติ. เอวํ โลโภ อเนกาทีนโว, ตสฺมา โลภมฺปิ น โรเจมิ.
สฺเนหสงฺคถิตา คนฺถาติ อารมฺมเณสุ อลฺลียนลกฺขเณน สฺเนเหน สงฺคถิตา ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทวเสน ฆฏิตา สุตฺเตน ปุปฺผานิ ¶ วิย พทฺธา นานปฺปกาเรสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตมานา อภิชฺฌากายคนฺถา. เสนฺติ มโนมยา ปุถูติ เต ปุถูสุ อารมฺมเณสุ อุปฺปนฺนา สุวณฺณาทีหิ นิพฺพตฺตานิ สุวณฺณาทิมยานิ อาภรณาทีนิ วิย มเนน นิพฺพตฺตตฺตา มโนมยา อภิชฺฌากายคนฺถา เตสุ อารมฺมเณสุ เสนฺติ อนุเสนฺติ. เต ภุสํ อุปตาเปนฺตีติ เต เอวํ อนุสยิตา พลวตาปํ ชเนนฺตา ภุสํ อุปตาเปนฺติ อติกิลเมนฺติ. เตสํ ปน ภุสํ อุปตาปเน ‘‘สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ (สุ. นิ. ๗๗๓) คาถาย วตฺถุ, ‘‘ปิยชาติกา หิ คหปติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา ปิยปฺปภุติกา’’ (ม. นิ. ๒.๓๕๓), ‘‘ปิยโต ชายตี โสโก’’ติอาทีนิ (ธ. ป. ๒๑๒) สุตฺตานิ จ อาหริตพฺพานิ. อปิจ มงฺคลโพธิสตฺตสฺส ทารเก ทตฺวา พลวโสเกน หทยํ ผลิ, เวสฺสนฺตรโพธิสตฺตสฺส มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุทปาทิ. เอวํ ปูริตปารมีนํ ¶ มหาสตฺตานํ เปมํ อุปตาปํ กโรติเยว. อยํ สฺเนเห อาทีนโว, ตสฺมา สฺเนหมฺปิ น โรเจมีติ.
สกฺโก ปฺหวิสฺสชฺชนํ สุตฺวา ‘‘กณฺหปณฺฑิต ตยา อิเม ปฺหา พุทฺธลีฬาย สาธุกํ กถิตา, อติวิย ตุฏฺโสฺมิ เต, อปรมฺปิ วรํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา ทสมํ คาถมาห –
‘‘เอตสฺมึ ¶ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ พฺราหฺมณ เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.
ตโต โพธิสตฺโต อนนฺตรคาถมาห –
‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
อรฺเ เม วิหรโต, นิจฺจํ เอกวิหาริโน;
อาพาธา มา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อนฺตรายกรา ภุสา’’ติ.
ตตฺถ อนฺตรายกรา ภุสาติ อิมสฺส เม ตโปกมฺมสฺส อนฺตรายกรา.
ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘กณฺหปณฺฑิโต วรํ คณฺหนฺโต น อามิสสนฺนิสฺสิตํ คณฺหาติ, ตโปกมฺมนิสฺสิตเมว คณฺหาตี’’ติ จินฺเตตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสนฺโน อปรมฺปิ วรํ ททมาโน อิตรํ คาถมาห –
‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ พฺราหฺมณ เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.
โพธิสตฺโตปิ วรคฺคหณาปเทเสน ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘วรฺเจ ¶ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
น มโน วา สรีรํ วา, มํ-กเต สกฺก กสฺสจิ;
กทาจิ อุปหฺเถ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’ติ.
ตตฺถ ¶ มโน วาติ มโนทฺวารํ วา. สรีรํ วาติ กายทฺวารํ วา, วจีทฺวารมฺปิ เอเตสํ คหเณน คหิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. มํ-กเตติ มม การณา. อุปหฺเถาติ อุปฆาตํ อาปชฺเชยฺย อปริสุทฺธํ อสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สกฺก เทวราช, มม การณา มํ นิสฺสาย มม อนตฺถกามตาย กสฺสจิ สตฺตสฺส กิสฺมิฺจิ กาเล อิทํ ติวิธมฺปิ กมฺมทฺวารํ น อุปหฺเถ, ปาณาติปาตาทีหิ ทสหิ อกุสลกมฺมปเถหิ วิมุตฺตํ ปริสุทฺธเมว ภเวยฺยาติ.
อิติ ¶ มหาสตฺโต ฉสุปิ าเนสุ วรํ คณฺหนฺโต เนกฺขมฺมนิสฺสิตเมว คณฺหิ, ชานาติ เจส ‘‘สรีรํ นาม พฺยาธิธมฺมํ, น ตํ สกฺกา สกฺเกน อพฺยาธิธมฺมํ กาตุ’’นฺติ. สตฺตานฺหิ ตีสุ ทฺวาเรสุ ปริสุทฺธภาโว อสกฺกายตฺโตว, เอวํ สนฺเตปิ ตสฺส ธมฺมเทสนตฺถํ อิเม วเร คณฺหิ. สกฺโกปิ ตํ รุกฺขํ ธุวผลํ กตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปติฏฺเปตฺวา ‘‘อโรคา อิเธว วสถา’’ติ วตฺวา สกฏฺานเมว คโต. โพธิสตฺโตปิ อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อานนฺท, ปุพฺเพ มยา นิวุตฺถภูมิปฺปเทโส เจโส’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, กณฺหปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
กณฺหชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๔๔๑] ๓. จตุโปสถิกชาตกวณฺณนา
๒๔-๓๘. โย โกปเนยฺโยติ อิทํ จตุโปสถิกชาตกํ ปุณฺณกชาตเก อาวิ ภวิสฺสติ.
จตุโปสถิกชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๔๔๒] ๔. สงฺขชาตกวณฺณนา
พหุสฺสุโตติ ¶ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สพฺพปริกฺขารทานํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิเรโก อุปาสโก ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา อตฺตโน ฆรทฺวาเร มณฺฑปํ กาเรตฺวา อลงฺกริตฺวา ปุนทิวเส ตถาคตสฺส กาลํ อาโรจาเปสิ. สตฺถา ¶ ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร ตตฺถ คนฺตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อุปาสโก สปุตฺตทาโร สปริชโน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ปุน สฺวาตนายาติ เอวํ สตฺตาหํ นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขารํ อทาสิ. ตํ ปน ททมาโน อุปาหนทานํ อุสฺสนฺนํ กตฺวา อทาสิ. ทสพลสฺส ทินฺโน อุปาหนสงฺฆาโฏ สหสฺสคฺฆนโก ¶ อโหสิ, ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ปฺจสตคฺฆนโก, เสสานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ สตคฺฆนโก. อิติ โส สพฺพปริกฺขารทานํ ทตฺวา อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ ภควโต สนฺติเก นิสีทิ. อถสฺส สตฺถา มธุเรน สเรน อนุโมทนํ กโรนฺโต ‘‘อุปาสก, อุฬารํ เต สพฺพปริกฺขารทานํ, อตฺตมโน โหหิ, ปุพฺเพ อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธสฺส เอกํ อุปาหนสงฺฆาฏํ ทตฺวา นาวาย ภินฺนาย อปฺปติฏฺเ มหาสมุทฺเทปิ อุปาหนทานนิสฺสนฺเทน ปติฏฺํ ลภึสุ, ตฺวํ ปน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สพฺพปริกฺขารทานํ อทาสิ, ตสฺส เต อุปาหนทานสฺส ผลํ กสฺมา น ปติฏฺา ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต อยํ พาราณสี โมฬินี นาม อโหสิ. โมฬินินคเร พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต สงฺโข นาม พฺราหฺมโณ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตวิตฺตุปกรโณ ปหูตธนธฺสุวณฺณรชโต จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉสุ าเนสุ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสานิ วิสฺสชฺเชนฺโต กปณทฺธิกานํ มหาทานํ ปวตฺเตสิ. โส เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘อหํ เคเห ธเน ขีเณ ทาตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อปริกฺขีเณเยว ธเน นาวาย สุวณฺณภูมึ คนฺตฺวา ธนํ อาหริสฺสามี’’ติ. โส นาวํ พนฺธาเปตฺวา ภณฺฑสฺส ปูราเปตฺวา ปุตฺตทารํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ยาวาหํ อาคจฺฉามิ ¶ , ตาว เม ทานํ อนุปจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺเตยฺยาถา’’ติ วตฺวา ทาสกมฺมกรปริวุโต ฉตฺตํ อาทาย อุปาหนํ อารุยฺห มชฺฌนฺหิกสมเย ปฏฺฏนคามาภิมุโข ปายาสิ. ตสฺมึ ขเณ คนฺธมาทเน เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ อาวชฺเชตฺวา ตํ ธนาหรณตฺถาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มหาปุริโส ธนํ อาหริตุํ คจฺฉติ, ภวิสฺสติ นุ โข อสฺส สมุทฺเท อนฺตราโย, โน’’ติ อาวชฺเชตฺวา ‘‘ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘เอส มํ ทิสฺวา ฉตฺตฺจ อุปาหนฺจ มยฺหํ ทตฺวา อุปาหนทานนิสฺสนฺเทน สมุทฺเท ภินฺนาย นาวาย ปติฏฺํ ลภิสฺสติ, กริสฺสามิสฺส อนุคฺคห’’นฺติ อากาเสนาคนฺตฺวา ตสฺสาวิทูเร โอตริตฺวา จณฺฑวาตาตเป องฺคารสนฺถรสทิสํ อุณฺหวาลุกํ มทฺทนฺโต ตสฺส อภิมุโข อาคจฺฉิ.
โส ตํ ทิสฺวาว ‘‘ปฺุกฺเขตฺตํ เม อาคตํ, อชฺช มยา เอตฺถ ทานพีชํ โรเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตุฏฺจิตฺโต เวเคน ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ อนุคฺคหตฺถาย โถกํ มคฺคา โอกฺกมฺม อิมํ รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมถา’’ติ วตฺวา ¶ ตสฺมึ รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมนฺเต รุกฺขมูเล ¶ วาลุกํ อุสฺสาเปตฺวา อุตฺตราสงฺคํ ปฺเปตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ นิสีทาเปตฺวา วนฺทิตฺวา วาสิตปริสฺสาวิเตน อุทเกน ปาเท โธวิตฺวา คนฺธเตเลน มกฺเขตฺวา อตฺตโน อุปาหนา โอมฺุจิตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา คนฺธเตเลน มกฺเขตฺวา ตสฺส ปาเทสุ ปฏิมฺุจิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมา อุปาหนา อารุยฺห ฉตฺตํ มตฺถเก กตฺวา คจฺฉถา’’ติ ฉตฺตุปาหนํ อทาสิ. โส อสฺส อนุคฺคหตฺถาย ตํ คเหตฺวา ปสาทสํวฑฺฒนตฺถํ ปสฺสนฺตสฺเสวสฺส อุปฺปติตฺวา คนฺธมาทนเมว อคมาสิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ทิสฺวา อติวิย ปสนฺนจิตฺโต ปฏฺฏนํ คนฺตฺวา นาวํ อภิรุหิ. อถสฺส มหาสมุทฺทํ ปฏิปนฺนสฺส สตฺตเม ทิวเส นาวา วิวรํ อทาสิ, อุทกํ อุสฺสิฺจิตุํ นาสกฺขึสุ. มหาชโน มรณภยภีโต อตฺตโน อตฺตโน เทวตา นมสฺสิตฺวา มหาวิรวํ วิรวิ. มหาสตฺโต เอกํ อุปฏฺากํ ¶ คเหตฺวา สกลสรีรํ เตเลน มกฺเขตฺวา สปฺปินา สทฺธึ สกฺขรจุณฺณํ ยาวทตฺถํ ขาทิตฺวา ตมฺปิ ขาทาเปตฺวา เตน สทฺธึ กูปกยฏฺิมตฺถกํ อารุยฺห ‘‘อิมาย ทิสาย อมฺหากํ นคร’’นฺติ ทิสํ ววตฺถเปตฺวา มจฺฉกจฺฉปปริปนฺถโต อตฺตานํ โมเจนฺโต เตน สทฺธึ อุสภมตฺตํ อติกฺกมิตฺวา ปติ. มหาชโน วินาสํ ปาปุณิ. มหาสตฺโต ปน อุปฏฺาเกน สทฺธึ สมุทฺทํ ตริตุํ อารภิ. ตสฺส ตรนฺตสฺเสว สตฺตโม ทิวโส ชาโต. โส ตสฺมิมฺปิ กาเล โลโณทเกน มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก อโหสิเยว.
ตทา ปน จตูหิ โลกปาเลหิ มณิเมขลา นาม เทวธีตา ‘‘สเจ สมุทฺเท นาวาย ภินฺนาย ติสรณคตา วา สีลสมฺปนฺนา วา มาตาปิตุปฏฺากา วา มนุสฺสา ทุกฺขปฺปตฺตา โหนฺติ, เต รกฺเขยฺยาสี’’ติ สมุทฺเท อารกฺขณตฺถาย ปิตา โหติ. สา อตฺตโน อิสฺสริเยน สตฺตาหมนุภวิตฺวา ปมชฺชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส สมุทฺทํ โอโลเกนฺตี สีลาจารสํยุตฺตํ สงฺขพฺราหฺมณํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส สตฺตโม ทิวโส สมุทฺเท ปติตสฺส, สเจ โส มริสฺสติ อติวิย คารยฺหา เม ภวิสฺสตี’’ติ สํวิคฺคมานหทยา หุตฺวา เอกํ สุวณฺณปาตึ นานคฺครสโภชนสฺส ปูเรตฺวา วาตเวเคน ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อากาเส ตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, ตฺวํ สตฺตาหํ นิราหาโร, อิทํ ทิพฺพโภชนํ ภฺุชา’’ติ อาห. โส ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อปเนหิ ตว ภตฺตํ, อหํ อุโปสถิโก’’ติ อาห. อถสฺส ¶ อุปฏฺาโก ปจฺฉโต อาคโต เทวตํ อทิสฺวา สทฺทเมว สุตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปกติสุขุมาโล สตฺตาหํ นิราหารตาย ทุกฺขิโต มรณภเยน วิลปติ มฺเ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘พหุสฺสุโต สุตธมฺโมสิ สงฺข, ทิฏฺา ตยา สมณพฺราหฺมณา จ;
อถกฺขเณ ¶ ทสฺสยเส วิลาปํ, อฺโ นุ โก เต ปฏิมนฺตโก มยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ สุตธมฺโมสีติ ธมฺโมปิ ตยา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ สนฺติเก สุโต อสิ. ทิฏฺา ตยาติ เตสํ ปจฺจเย เทนฺเตน เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺเตน ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา จ ตยา ทิฏฺา. เอวํ อกโรนฺโต หิ ปสฺสนฺโตปิ เต น ปสฺสติเยว. อถกฺขเณติ อถ อกฺขเณ สลฺลปนฺตสฺส กสฺสจิ อภาเวน วจนสฺส อโนกาเส. ทสฺสยเสติ ‘‘อหํ อุโปสถิโก’’ติ วทนฺโต วิลาปํ ทสฺเสสิ. ปฏิมนฺตโกติ มยา อฺโ โก ตว ปฏิมนฺตโก ปฏิวจนทายโก, กึการณา เอวํ วิปฺปลปสีติ?
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อิมสฺส เทวตา น ปฺายติ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, นาหํ มรณสฺส ภายามิ, อตฺถิ ปน เม อฺโ ปฏิมนฺตโก’’ติ วตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘สุพฺภู สุภา สุปฺปฏิมุกฺกกมฺพุ, ปคฺคยฺห โสวณฺณมยาย ปาติยา;
‘ภฺุชสฺสุ ภตฺตํ’ อิติ มํ วเทติ, สทฺธาวิตฺตา, ตมหํ โนติ พฺรูมี’’ติ.
ตตฺถ สุพฺภูติ สุภมุขา. สุภาติ ปาสาทิกา อุตฺตมรูปธรา. สุปฺปฏิมุกฺกกมฺพูติ ปฏิมุกฺกสุวณฺณาลงฺการา. ปคฺคยฺหาติ สุวณฺณปาติยา ภตฺตํ คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา. สทฺธาวิตฺตาติ สทฺธา เจว ตุฏฺจิตฺตา จ. ‘‘สทฺธํ จิตฺต’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ สทฺธนฺติ สทฺทหนฺตํ, จิตฺตนฺติ ตุฏฺจิตฺตํ. ตมหํ ¶ โนตีติ ตมหํ เทวตํ อุโปสถิกตฺตา ปฏิกฺขิปนฺโต โนติ พฺรูมิ, น วิปฺปลปามิ สมฺมาติ.
อถสฺส โส ตติยํ คาถมาห –
‘‘เอตาทิสํ พฺราหฺมณ ทิสฺวาน ยกฺขํ, ปุจฺเฉยฺย โปโส สุขมาสิสาโน;
อุฏฺเหิ นํ ปฺชลิกาภิปุจฺฉ, เทวี นุสิ ตฺวํ อุท มานุสี นู’’ติ.
ตตฺถ สุขมาสิสาโนติ เอตาทิสํ ยกฺขํ ทิสฺวา อตฺตโน สุขํ อาสีสนฺโต ปณฺฑิโต ปุริโส ‘‘อมฺหากํ สุขํ ภวิสฺสติ, น ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺเฉยฺย. อุฏฺเหีติ อุทกโต อุฏฺานาการํ ทสฺเสนฺโต อุฏฺห. ปฺชลิกาภิปุจฺฉาติ อฺชลิโก ¶ หุตฺวา อภิปุจฺฉ. อุท มานุสีติ อุทาหุ มหิทฺธิกา มานุสี ตฺวนฺติ.
โพธิสตฺโต ‘‘ยุตฺตํ กเถสี’’ติ ตํ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘ยํ ¶ ตฺวํ สุเขนาภิสเมกฺขเส มํ, ภฺุชสฺสุ ภตฺตํ อิติ มํ วเทสิ;
ปุจฺฉามิ ตํ นาริ มหานุภาเว, เทวี นุสิ ตฺวํ อุท มานุสี นู’’ติ.
ตตฺถ ยํ ตฺวนฺติ ยสฺมา ตฺวํ สุเขน มํ อภิสเมกฺขเส, ปิยจกฺขูหิ โอโลเกสิ. ปุจฺฉามิ ตนฺติ เตน การเณน ตํ ปุจฺฉามิ.
ตโต เทวธีตา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘เทวี อหํ สงฺข มหานุภาวา, อิธาคตา สาครวาริมชฺเฌ;
อนุกมฺปิกา โน จ ปทุฏฺจิตฺตา, ตเวว อตฺถาย อิธาคตาสฺมิ.
‘‘อิธนฺนปานํ สยนาสนฺจ, ยานานิ นานาวิวิธานิ สงฺข;
สพฺพสฺส ตฺยาหํ ปฏิปาทยามิ, ยํ กิฺจิ ตุยฺหํ มนสาภิปตฺถิต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อิธาติ อิมสฺมึ มหาสมุทฺเท. นานาวิวิธานีติ พหูนิ จ อเนกปฺปการานิ จ หตฺถิยานอสฺสยานาทีนิ อตฺถิ. สพฺพสฺส ตฺยาหนฺติ ตสฺส อนฺนปานาทิโน สพฺพสฺส สามิกํ กตฺวา ตํ เต อนฺนปานาทึ ปฏิปาทยามิ ททามิ. ยํ กิฺจีติ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ มนสา อิจฺฉิตํ, ตํ สพฺพํ เต ทมฺมีติ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ เทวธีตา สมุทฺทปิฏฺเ มยฺหํ ‘อิทฺจิทฺจ ทมฺมี’ติ วทติ, กึ นุ โข เอสา มยา กเตน ปฺุกมฺเมน ทาตุกามา, อุทาหุ อตฺตโน พเลน, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘ยํ กิฺจิ ยิฏฺฺจ หุตฺจ มยฺหํ, สพฺพสฺส โน อิสฺสรา ตฺวํ สุคตฺเต;
สุสฺโสณิ สุพฺภมุ สุวิลคฺคมชฺเฌ, กิสฺส เม กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
ตตฺถ ¶ ยิฏฺนฺติ ทานวเสน ยชิตํ. หุตนฺติ อาหุนปาหุนวเสน ทินฺนํ. สพฺพสฺส โน อิสฺสรา ตฺวนฺติ ตสฺส อมฺหากํ ปฺุกมฺมสฺส ตฺวํ อิสฺสรา, ‘‘อิมสฺส อยํ วิปาโก, อิมสฺส อย’’นฺติ พฺยากริตุํ สมตฺถาติ อตฺโถ. สุสฺโสณีติ สุนฺทรอูรุลกฺขเณ. สุพฺภมูติ สุนฺทรภมุเก ¶ . สุวิลคฺคมชฺเฌติ สุฏฺุวิลคฺคิตตนุมชฺเฌ. กิสฺส เมติ มยา กตกมฺเมสุ กตรกมฺมสฺส อยํ วิปาโก, เยนาหํ อปฺปติฏฺเ สมุทฺเท ปติฏฺํ ลภามีติ.
ตํ สุตฺวา เทวธีตา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ‘ยํ เตน กุสลํ กตํ, ตํ กมฺมํ น ชานาตี’ติ อฺาย ปุจฺฉติ มฺเ, กถยิสฺสามิ ทานิสฺสา’’ติ ตํ กเถนฺตี อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘ฆมฺเม ปเถ พฺราหฺมณ เอกภิกฺขุํ, อุคฺฆฏฺฏปาทํ ตสิตํ กิลนฺตํ;
ปฏิปาทยี สงฺข อุปาหนานิ, สา ทกฺขิณา กามทุหา ตวชฺชา’’ติ.
ตตฺถ เอกภิกฺขุนฺติ เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ สนฺธายาห. อุคฺฆฏฺฏปาทนฺติ อุณฺหวาลุกาย ฆฏฺฏิตปาทํ. ตสิตนฺติ ปิปาสิตํ. ปฏิปาทยีติ ปฏิปาเทสิ, โยเชสีติ อตฺโถ. กามทุหาติ สพฺพกามทายิกา.
ตํ ¶ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เอวรูเปปิ นาม อปฺปติฏฺเ มหาสมุทฺเท มยา ทินฺนอุปาหนทานํ มม สพฺพกามททํ ชาตํ, อโห สุทินฺนํ เม ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทาน’’นฺติ ตุฏฺจิตฺโต นวมํ คาถมาห –
‘‘สา โหตุ นาวา ผลกูปปนฺนา, อนวสฺสุตา เอรกวาตยุตฺตา;
อฺสฺส ยานสฺส น เหตฺถ ภูมิ, อชฺเชว มํ โมฬินึ ปาปยสฺสู’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – เทวเต, เอวํ สนฺเต มยฺหํ เอกํ นาวํ มาเปหิ, ขุทฺทกํ ปน เอกโทณิกนาวํ มาเปหิ, ยํ นาวํ มาเปสฺสสิ, สา โหตุ นาวา พหูหิ สุสิพฺพิเตหิ ผลเกหิ อุปปนฺนา, อุทกปเวสนสฺสาภาเวน อนวสฺสุตา, เอรเกน สมฺมา ¶ คเหตฺวา คจฺฉนฺเตน วาเตน ยุตฺตา, เปตฺวา ทิพฺพนาวํ อฺสฺส ยานสฺส เอตฺถ ภูมิ นตฺถิ, ตาย ปน ทิพฺพนาวาย อชฺเชว มํ โมฬินินครํ ปาปยสฺสูติ.
เทวธีตา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺจิตฺตา สตฺตรตนมยํ นาวํ มาเปสิ. สา ทีฆโต อฏฺอุสภา อโหสิ วิตฺถารโต จตุอุสภา, คมฺภีรโต วีสติยฏฺิกา. ตสฺสา อินฺทนีลมยา ตโย กูปกา, โสวณฺณมยานิ โยตฺตานิ รชตมยานิ ปตฺตานิ โสวณฺณมยานิ จ ผิยาริตฺตานิ อเหสุํ. เทวตา ตํ นาวํ สตฺตนฺนํ รตนานํ ปูเรตฺวา พฺราหฺมณํ อาลิงฺคิตฺวา อลงฺกตนาวาย ¶ อาโรเปสิ, อุปฏฺากํ ปนสฺส น โอโลเกสิ. พฺราหฺมโณ อตฺตนา กตกลฺยาณโต ตสฺส ปตฺตึ อทาสิ, โส อนุโมทิ. ตทา เทวตา ตมฺปิ อาลิงฺคิตฺวา นาวาย ปติฏฺาเปสิ. อถ นํ นาวํ โมฬินินครํ เนตฺวา พฺราหฺมณสฺส ฆเร ธนํ ปติฏฺาเปตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว อคมาสิ. สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา –
‘‘สา ตตฺถ วิตฺตา สุมนา ปตีตา, นาวํ สุจิตฺตํ อภินิมฺมินิตฺวา;
อาทาย สงฺขํ ปุริเสน สทฺธึ, อุปานยี นครํ สาธุรมฺม’’นฺติ. –
อิมํ โอสานคาถํ อภาสิ.
ตตฺถ ¶ สาติ ภิกฺขเว, สา เทวตา ตตฺถ สมุทฺทมชฺเฌ ตสฺส วจนํ สุตฺวา วิตฺติสงฺขาตาย ปีติยา สมนฺนาคตตฺตา วิตฺตา. สุมนาติ สุนฺทรมนา ปาโมชฺเชน ปตีตจิตฺตา หุตฺวา วิจิตฺรนาวํ นิมฺมินิตฺวา พฺราหฺมณํ ปริจารเกน สทฺธึ อาทาย สาธุรมฺมํ อติรมณียํ นครํ อุปานยีติ.
พฺราหฺมโณปิ ยาวชีวํ อปริมิตธนํ เคหํ อชฺฌาวสนฺโต ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา ชีวิตปริโยสาเน สปริโส เทวนครํ ปริปูเรสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุปาสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.
ตทา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, อุปฏฺากปุริโส อานนฺโท, สงฺขพฺราหฺมโณ ปน อหเมว อโหสินฺติ.
สงฺขชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๔๓] ๕. จูฬโพธิชาตกวณฺณนา
โย เต อิมํ วิสาลกฺขินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โกธนํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ภิกฺขุ นิยฺยานิเก พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ โกธํ นิคฺคเหตุํ นาสกฺขิ, โกธโน อโหสิ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชิ กุปฺปิ พฺยาปชฺชิ ¶ ปติฏฺยิ. สตฺถา ตสฺส โกธนภาวํ สุตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ โกธโน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ โกโธ นาม วาเรตพฺโพ, เอวรูโป หิ อิธโลเก จ ปรโลเก จ อนตฺถการโก, ตฺวํ นิกฺโกธสฺส พุทฺธสฺส สาสเน ปพฺพชิตฺวา กสฺมา กุชฺฌสิ, โปราณกปณฺฑิตา พาหิรสาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ โกธํ น กรึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต อฺตรสฺมึ กาสินิคเม เอโก พฺราหฺมโณ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค อปุตฺตโก อโหสิ, ตสฺส พฺราหฺมณี ปุตฺตํ ปตฺเถสิ. ตทา โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺติ, ตสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘โพธิกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส วยปฺปตฺตกาเล ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ¶ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคตสฺส อนิจฺฉนฺตสฺเสว มาตาปิตโร สมานชาติกา กุลา กุมาริกํ อาเนสุํ. สาปิ พฺรหฺมโลกา จุตาว อุตฺตมรูปธรา เทวจฺฉรปฏิภาคา. เตสํ อนิจฺฉมานานฺเว อฺมฺํ อาวาหวิวาหํ กรึสุ. อุภินฺนํ ปเนเตสํ กิเลสสมุทาจาโร นาม น ภูตปุพฺโพ, สํราควเสน อฺมฺสฺส โอโลกนํ นาม นาโหสิ, สุปิเนปิ เมถุนธมฺโม นาม น ทิฏฺปุพฺโพ, เอวํ ปริสุทฺธสีลา อเหสุํ.
อถาปรภาเค มหาสตฺโต มาตาปิตูสุ กาลกเตสุ เตสํ สรีรกิจฺจํ กตฺวา ตํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ อิมํ ¶ อสีติโกฏิธนํ คเหตฺวา สุเขน ชีวาหี’’ติ อาห. ‘‘กึ กริสฺสถ ตุมฺเห ปน, อยฺยปุตฺตา’’ติ? ‘‘มยฺหํ ธเนน กิจฺจํ นตฺถิ, หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อตฺตโน ปติฏฺํ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘กึ ปน อยฺยปุตฺต ปพฺพชฺชา นาม ปุริสานฺเว วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘อิตฺถีนมฺปิ วฏฺฏติ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เตน หิ อหํ ตุมฺเหหิ ฉฏฺฏิตเขฬํ น คณฺหิสฺสามิ, มยฺหมฺปิ ธเนน กิจฺจํ นตฺถิ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภทฺเท’’ติ. เต อุโภปิ มหาทานํ ทตฺวา นิกฺขมิตฺวา รมณีเย ภูมิภาเค อสฺสมํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา อฺุฉาจริยาย ผลาผเลหิ ยาเปนฺตา ตตฺถ ทสมตฺตานิ สํวจฺฉรานิ วสึสุ, ฌานํ ปน เนสํ น ตาว อุปฺปชฺชติ. เต ตตฺถ ปพฺพชฺชาสุเขเนว ทส สํวจฺฉเร วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ชนปทจาริกํ จรนฺตา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสึสุ.
อเถกทิวสํ ราชา อุยฺยานปาลํ ปณฺณาการํ อาทาย อาคตํ ทิสฺวา ‘‘อุยฺยานกีฬิกํ กีฬิสฺสาม, อุยฺยานํ โสเธหี’’ติ วตฺวา เตน โสธิตํ สชฺชิตํ อุยฺยานํ มหนฺเตน ปริวาเรน อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ เต อุโภปิ ชนา อุยฺยานสฺส เอกปสฺเส ปพฺพชฺชาสุเขน วีตินาเมตฺวา นิสินฺนา ¶ โหนฺติ. อถ ราชา อุยฺยาเน วิจรนฺโต เต อุโภปิ นิสินฺนเก ทิสฺวา ปรมปาสาทิกํ อุตฺตมรูปธรํ ปริพฺพาชิกํ โอโลเกนฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต อโหสิ. โส กิเลสวเสน กมฺปนฺโต ‘‘ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว, อยํ ปริพฺพาชิกา อิมสฺส กึ โหตี’’ติ โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปพฺพชิต อยํ เต ปริพฺพาชิกา กึ โหตี’’ติ ปุจฺฉิ. มหาราช, กิฺจิ น โหติ, เกวลํ เอกปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตา, อปิจ โข ปน เม คิหิกาเล ปาทปริจาริกา อโหสีติ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ กิเรตสฺส กิฺจิ น โหติ, อปิจ โข ปน คิหิกาเล ปาทปริจาริกา กิรสฺส อโหสิ ¶ , สเจ ปนาหํ อิสฺสริยพเลน คเหตฺวา คจฺเฉยฺยํ, กึ นุ โข เอส กริสฺสติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘โย ¶ เต อิมํ วิสาลกฺขึ, ปิยํ สํมฺหิตภาสินึ;
อาทาย พลา คจฺเฉยฺย, กึ นุ กยิราสิ พฺราหฺมณา’’ติ.
ตตฺถ สํมฺหิตภาสินินฺติ มนฺทหสิตภาสินึ. พลา คจฺเฉยฺยาติ พลกฺกาเรน อาทาย คจฺเฉยฺย. กึ นุ กยิราสีติ ตสฺส ตฺวํ พฺราหฺมณ กึ กเรยฺยาสีติ?
อถสฺส กถํ สุตฺวา มหาสตฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘อุปฺปชฺเช เม น มุจฺเจยฺย, น เม มุจฺเจยฺย ชีวโต;
รชํว วิปุลา วุฏฺิ, ขิปฺปเมว นิวารเย’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – มหาราช, สเจ อิมํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต กิสฺมิฺจิ มม อพฺภนฺตเร โกโป อุปฺปชฺเชยฺย, โส เม อนฺโต อุปฺปชฺชิตฺวา น มุจฺเจยฺย, ยาวาหํ ชีวามิ, ตาว เม น มุจฺเจยฺย. นาสฺส อนฺโต ฆนสนฺนิวาเสน ปติฏฺาตุํ ทสฺสามิ, อถ โข ยถา อุปฺปนฺนํ รชํ วิปุลา เมฆวุฏฺิ ขิปฺปํ นิวาเรติ, ตถา ขิปฺปเมว นํ เมตฺตาภาวนาย นิคฺคเหตฺวา วาเรสฺสามีติ.
เอวํ มหาสตฺโต สีหนาทํ นทิ. ราชา ปนสฺส กถํ สุตฺวาปิ อนฺธพาลตาย ปฏิพทฺธํ อตฺตโน จิตฺตํ นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อฺตรํ อมจฺจํ อาณาเปสิ ‘‘อิมํ ปริพฺพาชิกํ ราชนิเวสนํ เนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ‘‘อธมฺโม โลเก วตฺตติ, อยุตฺต’’นฺติอาทีนิ ¶ วตฺวา ปริเทวมานํเยว นํ อาทาย ปายาสิ. โพธิสตฺโต ตสฺสา ปริเทวนสทฺทํ สุตฺวา เอกวารํ โอโลเกตฺวา ปุน น โอโลเกสิ. ตํ โรทนฺตึ ปริเทวนฺตึ ราชนิเวสนเมว นยึสุ. โสปิ พาราณสิราชา อุยฺยาเน ปปฺจํ อกตฺวาว สีฆตรํ คนฺตฺวา ตํ ปริพฺพาชิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา มหนฺเตน ยเสน นิมนฺเตสิ. สา ยสสฺส อคุณํ ปพฺพชาย เอว คุณํ กเถสิ. ราชา เกนจิ ปริยาเยน ตสฺสา มนํ อลภนฺโต ตํ เอกสฺมึ คพฺเภ กาเรตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ ปริพฺพาชิกา เอวรูปํ ยสํ น อิจฺฉติ, โสปิ ตาปโส เอวรูปํ มาตุคามํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต กุชฺฌิตฺวา โอโลกิตมตฺตมฺปิ ¶ น อกาสิ, ปพฺพชิตา โข ปน พหุมายา โหนฺติ, กิฺจิ ปโยเชตฺวา อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺย, คจฺฉามิ ¶ ตาว ชานามิ กึ กโรนฺโต นิสินฺโน’’ติ สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อุยฺยานํ อคมาสิ. โพธิสตฺโตปิ จีวรํ สิพฺพนฺโต นิสีทิ. ราชา มนฺทปริวาโรว ปทสทฺทํ อกโรนฺโต สณิกํ อุปสงฺกมิ. โพธิสตฺโต ราชานํ อโนโลเกตฺวา จีวรเมว สิพฺพิ. ราชา ‘‘อยํ กุชฺฌิตฺวา มยา สทฺธึ น สลฺลปตี’’ติ มฺมาโน ‘‘อยํ กูฏตาปโส ‘โกธสฺส อุปฺปชฺชิตุํ น ทสฺสามิ, อุปฺปนฺนมฺปิ นํ ขิปฺปเมว นิคฺคณฺหิสฺสามี’ติ ปมเมว คชฺชิตฺวา อิทานิ โกเธน ถทฺโธ หุตฺวา มยา สทฺธึ น สลฺลปตี’’ติ สฺาย ตติยํ คาถมาห –
‘‘ยํ นุ ปุพฺเพ วิกตฺถิตฺโถ, พลมฺหิว อปสฺสิโต;
สฺวชฺช ตุณฺหิกโต ทานิ, สงฺฆาฏึ สิพฺพมจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ พลมฺหิว อปสฺสิโตติ พลนิสฺสิโต วิย หุตฺวา. ตุณฺหิกโตติ กิฺจิ อวทนฺโต. สิพฺพมจฺฉสีติ สิพฺพนฺโต อจฺฉสิ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ ราชา โกธวเสน มํ นาลปตีติ มฺติ, กเถสฺสามิ ทานิสฺส อุปฺปนฺนสฺส โกธสฺส วสํ อคตภาว’’นฺติ จินฺเตตฺวา จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘อุปฺปชฺชิ เม น มุจฺจิตฺถ, น เม มุจฺจิตฺถ ชีวโต;
รชํว วิปุลา วุฏฺิ, ขิปฺปเมว นิวารยิ’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – มหาราช, อุปฺปชฺชิ เม, น น อุปฺปชฺชิ, น ปน เม มุจฺจิตฺถ, นาสฺส ปวิสิตฺวา หทเย าตุํ อทาสึ, อิติ โส มม ชีวโต น มุจฺจิตฺเถว, รชํ วิปุลา วุฏฺิ วิย ขิปฺปเมว นํ นิวาเรสินฺติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา ‘‘กึ นุ โข เอส โกปเมว สนฺธาย วทติ, อุทาหุ อฺํ กิฺจิ สิปฺปํ สนฺธาย กเถสิ, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘กึ เต อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, กึ เต น มุจฺจิ ชีวโต;
รชํว วิปุลา วุฏฺิ, กตมํ ตํ นิวารยี’’ติ.
ตตฺถ ¶ กึ เต อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจีติ กึ ตว อุปฺปชฺชิ เจว น มุจฺจิ จ.
ตํ ¶ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘มหาราช, เอวํ โกโธ พหุอาทีนโว มหาวินาสทายโก, เอโส มม อุปฺปชฺชิ, อุปฺปนฺนฺจ นํ เมตฺตาภาวนาย นิวาเรสิ’’นฺติ โกเธ อาทีนวํ ปกาเสนฺโต –
‘‘ยมฺหิ ชาเต น ปสฺสติ, อชาเต สาธุ ปสฺสติ;
โส เม อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, โกโธ ทุมฺเมธโคจโร.
‘‘เยน ชาเตน นนฺทนฺติ, อมิตฺตา ทุกฺขเมสิโน;
โส เม อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, โกโธ ทุมฺเมธโคจโร.
‘‘ยสฺมิฺจ ชายมานมฺหิ, สทตฺถํ นาวพุชฺฌติ;
โส เม อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, โกโธ ทุมฺเมธโคจโร.
‘‘เยนาภิภูโต กุสลํ ชหาติ, ปรกฺกเร วิปุลฺจาปิ อตฺถํ;
ส ภีมเสโน พลวา ปมทฺที, โกโธ มหาราช น เม อมุจฺจถ.
‘‘กฏฺสฺมึ มตฺถมานสฺมึ, ปาวโก นาม ชายติ;
ตเมว กฏฺํ ฑหติ, ยสฺมา โส ชายเต คินิ.
‘‘เอวํ มนฺทสฺส โปสสฺส, พาลสฺส อวิชานโต;
สารมฺภา ชายเต โกโธ, โสปิ เตเนว ฑยฺหติ.
‘‘อคฺคีว ¶ ติณกฏฺสฺมึ, โกโธ ยสฺส ปวฑฺฒติ;
นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา.
‘‘อเนโธ ธูมเกตูว, โกโธ ยสฺสูปสมฺมติ;
อาปูรติ ตสฺส ยโส, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. – อิมา คาถา อาห;
ตตฺถ น ปสฺสตีติ อตฺตตฺถมฺปิ น ปสฺสติ, ปเคว ปรตฺถํ. สาธุ ปสฺสตีติ อตฺตตฺถํ ปรตฺถํ อุภยตฺถมฺปิ สาธุ ปสฺสติ. ทุมฺเมธโคจโรติ นิปฺปฺานํ อาธารภูโต โคจโร. ทุกฺขเมสิโนติ ทุกฺขํ อิจฺฉนฺตา. สทตฺถนฺติ อตฺตโน ¶ อตฺถภูตํ อตฺถโต เจว ธมฺมโต จ วุทฺธึ. ปรกฺกเรติ วิปุลมฺปิ อตฺถํ อุปฺปนฺนํ ปรโต กาเรติ, อปเนถ, น เม อิมินา อตฺโถติ วทติ. ส ภีมเสโนติ โส โกโธ ภีมาย ภยชนนิยา มหติยา กิเลสเสนาย ¶ สมนฺนาคโต. ปมทฺทีติ อตฺตโน พลวภาเวน อุฬาเรปิ สตฺเต คเหตฺวา อตฺตโน วเส กรเณน มทฺทนสมตฺโถ. น เม อมุจฺจถาติ มม สนฺติกา โมกฺขํ น ลภติ, หทเย วา ปน เม ขีรํ วิย มุหุตฺตํ ทธิภาเวน น ปติฏฺหิตฺถาติปิ อตฺโถ.
กฏฺสฺมึ มตฺถมานสฺมินฺติ อรณีสหิเตน มตฺถิยมาเน, ‘‘มทฺทมานสฺมิ’’นฺติปิ ปาโ. ยสฺมาติ ยโต กฏฺา ชายติ, ตเมว ฑหติ. คินีติ อคฺคิ. พาลสฺส อวิชานโตติ พาลสฺส อวิชานนฺตสฺส. สารมฺภา ชายเตติ อหํ ตฺวนฺติ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนํ กโรนฺตสฺส กรณุตฺตริยลกฺขณา สารมฺภา อรณีมตฺถนา วิย ปาวโก โกโธ ชายติ. โสปิ เตเนวาติ โสปิ พาโล เตเนว โกเธน กฏฺํ วิย อคฺคินา ฑยฺหติ. อเนโธ ธูมเกตูวาติ อนินฺธโน อคฺคิ วิย. ตสฺสาติ ตสฺส อธิวาสนขนฺติยา สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส สุกฺกปกฺเข จนฺโท วิย ลทฺโธ ยโส อปราปรํ อาปูรตีติ.
ราชา มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตุฏฺโ เอกํ อมจฺจํ อาณาเปตฺวา ปริพฺพาชิกํ อาหราเปตฺวา ‘‘ภนฺเต นิกฺโกธตาปส, อุโภปิ ตุมฺเห ปพฺพชฺชาสุเขน วีตินาเมนฺตา อิเธว อุยฺยาเน วสถ, อหํ โว ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ขมาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. เต อุโภปิ ตตฺเถว วสึสุ. อปรภาเค ปริพฺพาชิกา กาลมกาสิ. โพธิสตฺโต ตสฺสา กาลกตาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โกธโน ภิกฺขุ อนาคามิผเล ปติฏฺหิ.
ตทา ปริพฺพาชิกา ราหุลมาตา อโหสิ, ราชา อานนฺโท, ปริพฺพาชโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.
จูฬโพธิชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๔๔] ๖. กณฺหทีปายนชาตกวณฺณนา
สตฺตาหเมวาหนฺติ ¶ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ ภนฺเต’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาหิรกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อติเรกปฺาสวสฺสานิ อนภิรตา พฺรหฺมจริยํ จรนฺตา หิโรตฺตปฺปเภทภเยน อตฺตโน อุกฺกณฺิตภาวํ น กสฺสจิ กเถสุํ, ตฺวํ กสฺมา เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา มาทิสสฺส ครุโน พุทฺธสฺส สมฺมุเข ตฺวา จตุปริสมชฺเฌ อุกฺกณฺิตภาวํ อาวิ กโรสิ, กิมตฺถํ อตฺตโน หิโรตฺตปฺปํ น รกฺขสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต วํสรฏฺเ โกสมฺพิยํ นาม นคเร โกสมฺพโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา อฺตรสฺมึ นิคเม ทฺเว พฺราหฺมณา อสีติโกฏิธนวิภวา อฺมฺํ ปิยสหายกา กาเมสุ โทสํ ทิสฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา อุโภปิ กาเม ปหาย มหาชนสฺส โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตปเทเส อสฺสมปทํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา อฺุฉาจริยาย วนมูลผลาผเลน ยาเปนฺตา ปณฺณาส วสฺสานิ วสึสุ, ฌานํ อุปฺปาเทตุํ นาสกฺขึสุ. เต ปณฺณาสวสฺสจฺจเยน โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ชนปทํ จรนฺตา กาสิรฏฺํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺร อฺตรสฺมึ นิคมคาเม ทีปายนตาปสสฺส คิหิสหาโย มณฺฑพฺโย นาม อตฺถิ, เต อุโภปิ ตสฺส สนฺติกํ อคมํสุ. โส เต ทิสฺวาว อตฺตมโน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา อุโภปิ เต จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิ. เต ตตฺถ ตีณิ จตฺตาริ วสฺสานิ วสิตฺวา ตํ อาปุจฺฉิตฺวา จาริกํ จรนฺตา พาราณสึ ปตฺวา อติมุตฺตกสุสาเน วสึสุ. ตตฺถ ทีปายโน ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ปุน ตสฺเสว สหายสฺส สนฺติกํ คโต. มณฺฑพฺยตาปโส ตตฺเถว วสิ.
อเถกทิวสํ ¶ เอโก โจโร อนฺโตนคเร โจริกํ กตฺวา ธนสารํ อาทาย นิกฺขนฺโต ‘‘โจโร’’ติ ตฺวา ปฏิพุทฺเธหิ ฆรสฺสามิเกหิ เจว อารกฺขมนุสฺเสหิ จ อนุพทฺโธ นิทฺธมเนน นิกฺขมิตฺวา เวเคน สุสานํ ปวิสิตฺวา ตาปสสฺส ปณฺณสาลทฺวาเร ภณฺฑิกํ ฉฏฺเฏตฺวา ปลายิ ¶ . มนุสฺสา ภณฺฑิกํ ทิสฺวา ‘‘อเร ทุฏฺชฏิล, ตฺวํ รตฺตึ โจริกํ กตฺวา ¶ ทิวา ตาปสรูเปน จรสี’’ติ ตชฺเชตฺวา โปเถตฺวา ตํ อาทาย เนตฺวา รฺโ ทสฺสยึสุ. ราชา อนุปปริกฺขิตฺวาว ‘‘คจฺฉถ, นํ สูเล อุตฺตาเสถา’’ติ อาห. เต ตํ สุสานํ เนตฺวา ขทิรสูลํ อาโรปยึสุ, ตาปสสฺส สรีเร สูลํ น ปวิสติ. ตโต นิมฺพสูลํ อาหรึสุ, ตมฺปิ น ปวิสติ. อยสูลํ อาหรึสุ, ตมฺปิ น ปวิสติ. ตาปโส ‘‘กึ นุ โข เม ปุพฺพกมฺม’’นฺติ โอโลเกสิ, อถสฺส ชาติสฺสราณํ อุปฺปชฺชิ, เตน ปุพฺพกมฺมํ โอโลเกตฺวา อทฺทส. กึ ปนสฺส ปุพฺพกมฺมนฺติ? โกวิฬารสูเล มกฺขิกาเวธนํ. โส กิร ปุริมภเว วฑฺฒกิปุตฺโต หุตฺวา ปิตุ รุกฺขตจฺฉนฏฺานํ คนฺตฺวา เอกํ มกฺขิกํ คเหตฺวา โกวิฬารสลากาย สูเล วิย วิชฺฌิ. ตเมนํ ปาปกมฺมํ อิมํ านํ ปตฺวา คณฺหิ. โส ‘‘น สกฺกา อิโต ปาปา มยา มุจฺจิตุ’’นฺติ ตฺวา ราชปุริเส อาห ‘‘สเจ มํ สูเล อุตฺตาเสตุกามตฺถ, โกวิฬารสูลํ อาหรถา’’ติ. เต ตถา กตฺวา ตํ สูเล อุตฺตาเสตฺวา อารกฺขํ ทตฺวา ปกฺกมึสุ.
อารกฺขกา ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺเต โอโลเกนฺติ. ตทา ทีปายโน ‘‘จิรทิฏฺโ เม สหาโย’’ติ มณฺฑพฺยสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺโต ‘‘สูเล อุตฺตาสิโต’’ติ ตํ ทิวสฺเว อนฺตรามคฺเค สุตฺวา ตํ านํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ‘‘กึ สมฺม การโกสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อการโกมฺหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อตฺตโน มโนปโทสํ รกฺขิตุํ สกฺขิ, นาสกฺขี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สมฺม, เยหิ อหํ คหิโต, เนว เตสํ, น รฺโ อุปริ มยฺหํ มโนปโทโส อตฺถี’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต ตาทิสสฺส สีลวโต ฉายา มยฺหํ สุขา’’ติ วตฺวา ทีปายโน สูลํ นิสฺสาย นิสีทิ. อถสฺส สรีเร มณฺฑพฺยสฺส สรีรโต โลหิตพินฺทูนิ ปตึสุ. ตานิ สุวณฺณวณฺณสรีเร ปติตปติตานิ สุสฺสิตฺวา กาฬกานิ อุปฺปชฺชึสุ. ตโต ปฏฺาเยว โส กณฺหทีปายโน นาม อโหสิ. โส สพฺพรตฺตึ ตตฺเถว นิสีทิ.
ปุนทิวเส อารกฺขปุริสา อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘อนิสาเมตฺวาว เม กต’’นฺติ เวเคน ตตฺถ คนฺตฺวา ¶ ‘‘ปพฺพชิต, กสฺมา สูลํ นิสฺสาย นิสินฺโนสี’’ติ ทีปายนํ ปุจฺฉิ. มหาราช, อิมํ ตาปสํ รกฺขนฺโต นิสินฺโนมฺหิ. กึ ปน ตฺวํ มหาราช, อิมสฺส การกภาวํ วา อการกภาวํ วา ตฺวา เอวํ กาเรสีติ? โส กมฺมสฺส อโสธิตภาวํ อาจิกฺขิ. อถสฺส ¶ โส ‘‘มหาราช, รฺา นาม นิสมฺมการินา ภวิตพฺพํ ¶ , อลโส คิหี กามโภคี น สาธู’’ติอาทีนิ วตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ราชา มณฺฑพฺยสฺส นิทฺโทสภาวํ ตฺวา ‘‘สูลํ หรถา’’ติ อาณาเปสิ. สูลํ หรนฺตา หริตุํ น สกฺขึสุ. มณฺฑพฺโย อาห – ‘‘มหาราช, อหํ ปุพฺเพ กตกมฺมโทเสน เอวรูปํ ภยํ สมฺปตฺโต, มม สรีรโต สูลํ หริตุํ น สกฺกา, สเจ มยฺหํ ชีวิตํ ทาตุกาโม, กกจํ อาหราเปตฺวา อิมํ สูลํ จมฺมสมํ ฉินฺทาเปหี’’ติ. ราชา ตถา กาเรสิ. อนฺโตสรีเร สูโล อนฺโตเยว อโหสิ. ตทา กิร โส สุขุมํ โกวิฬารสลากํ คเหตฺวา มกฺขิกาย วจฺจมคฺคํ ปเวเสสิ, ตํ ตสฺส อนฺโตสรีเรเยว อโหสิ. โส เตน การเณน อมริตฺวา อตฺตโน อายุกฺขเยเนว มริ, ตสฺมา อยมฺปิ น มโต. ราชา ตาปเส วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา อุโภปิ อุยฺยาเน วสาเปนฺโต ปฏิชคฺคิ, ตโต ปฏฺาย มณฺฑพฺโย อาณิมณฺฑพฺโย นาม ชาโต. โส ราชานํ อุปนิสฺสาย ตตฺเถว วสิ, ทีปายโน ปน ตสฺส วณํ ผาสุกํ กตฺวา อตฺตโน คิหิสหายมณฺฑพฺยสฺส สนฺติกเมว คโต.
ตํ ปณฺณสาลํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา เอโก ปุริโส สหายสฺส อาโรเจสิ. โส สุตฺวาว ตุฏฺจิตฺโต สปุตฺตทาโร พหู คนฺธมาลเตลผาณิตาทีนิ อาทาย ตํ ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา ทีปายนํ วนฺทิตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา ปานกํ ปาเยตฺวา อาณิมณฺฑพฺยสฺส ปวตฺตึ สุณนฺโต นิสีทิ. อถสฺส ปุตฺโต ยฺทตฺตกุมาโร นาม จงฺกมนโกฏิยํ เคณฺฑุเกน กีฬิ, ตตฺร เจกสฺมึ วมฺมิเก อาสีวิโส วสติ. กุมารสฺส ภูมิยํ ปหฏเคณฺฑุโก คนฺตฺวา วมฺมิกพิเล อาสีวิสสฺส มตฺถเก ปติ. โส อชานนฺโต พิเล หตฺถํ ปเวเสสิ. อถ นํ กุทฺโธ อาสีวิโส หตฺเถ ฑํสิ. โส วิสเวเคน มุจฺฉิโต ตตฺเถว ปติ. อถสฺส มาตาปิตโร ¶ สปฺเปน ฑฏฺภาวํ ตฺวา กุมารกํ อุกฺขิปิตฺวา ตาปสสฺส สนฺติกํ อาเนตฺวา ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปพฺพชิตา นาม โอสธํ วา ปริตฺตํ วา ชานนฺติ, ปุตฺตกํ โน อาโรคํ กโรถา’’ติ อาหํสุ. อหํ โอสธํ น ชานามิ, นาหํ เวชฺชกมฺมํ กริสฺสามีติ. ‘‘เตน หิ ภนฺเต, อิมสฺมึ กุมารเก เมตฺตํ กตฺวา สจฺจกิริยํ กโรถา’’ติ ¶ วุตฺเต ตาปโส ‘‘สาธุ, สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ยฺทตฺตสฺส สีเส หตฺถํ เปตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘สตฺตาหเมวาหํ ปสนฺนจิตฺโต, ปฺุตฺถิโก อาจรึ พฺรหฺมจริยํ;
อถาปรํ ยํ จริตํ มเมทํ, วสฺสานิ ปฺาส สมาธิกานิ;
อกามโกวาปิ อหํ จรามิ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ;
หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’’ติ.
ตตฺถ ¶ อถาปรํ ยํ จริตนฺติ ตสฺมา สตฺตาหา อุตฺตริ ยํ มม พฺรหฺมจริยํ. อกามโกวาปีติ ปพฺพชฺชํ อนิจฺฉนฺโตเยว. เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตูติ สเจ อติเรกปณฺณาสวสฺสานิ อนภิรติวาสํ วสนฺเตน มยา กสฺสจิ อนาโรจิตภาโว สจฺจํ, เอเตน สจฺเจน ยฺทตฺตกุมารสฺส โสตฺถิภาโว โหตุ, ชีวิตํ ปฏิลภตูติ.
อถสฺส สห สจฺจกิริยาย ยฺทตฺตสฺส ถนปฺปเทสโต อุทฺธํ วิสํ ภสฺสิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. กุมาโร อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา มาตาปิตโร โอโลเกตฺวา ‘‘อมฺมตาตา’’ติ วตฺวา ปริวตฺติตฺวา นิปชฺชิ. อถสฺส ปิตรํ กณฺหทีปายโน อาห – ‘‘มยา ตาว มม พลํ กตํ, ตฺวมฺปิ อตฺตโน พลํ กโรหี’’ติ. โส ‘‘อหมฺปิ สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ ปุตฺตสฺส อุเร หตฺถํ เปตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ยสฺมา ทานํ นาภินนฺทึ กทาจิ, ทิสฺวานหํ อติถึ วาสกาเล;
น ¶ จาปิ เม อปฺปิยตํ อเวทุํ, พหุสฺสุตา สมณพฺราหฺมณา จ;
อกามโกวาปิ อหํ ททามิ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ;
หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’’ติ.
ตตฺถ วาสกาเลติ วสนตฺถาย เคหํ อาคตกาเล. น จาปิ เม อปฺปิยตํ อเวทุนฺติ พหุสฺสุตาปิ สมณพฺราหฺมณา ‘‘อยํ เนว ทานํ อภินนฺทติ ¶ น อมฺเห’’ติ อิมํ มม อปฺปิยภาวํ เนว ชานึสุ. อหฺหิ เต ปิยจกฺขูหิเยว โอโลเกมีติ ทีเปติ. เอเตน สจฺเจนาติ สเจ อหํ ทานํ ททมาโน วิปากํ อสทฺทหิตฺวา อตฺตโน อนิจฺฉาย ทมฺมิ, อนิจฺฉนภาวํ มม ปเร น ชานนฺติ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตูติ อตฺโถ.
เอวํ ตสฺส สจฺจกิริยาย สห กฏิโต อุทฺธํ วิสํ ภสฺสิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. กุมาโร อุฏฺาย นิสีทิ, าตุํ ปน น สกฺโกติ. อถสฺส ปิตา มาตรํ อาห ‘‘ภทฺเท, มยา อตฺตโน พลํ กตํ, ตฺวํ อิทานิ สจฺจกิริยํ กตฺวา ปุตฺตสฺส อุฏฺาย คมนภาวํ กโรหี’’ติ. ‘‘สามิ, อตฺถิ มยฺหํ เอกํ สจฺจํ, ตว ปน สนฺติเก กเถตุํ น สกฺโกมี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ยถา ตถา เม ปุตฺตํ อโรคํ กโรหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สจฺจํ กโรนฺตี ตติยํ คาถมาห –
‘‘อาสีวิโส ¶ ตาต ปหูตเตโช, โย ตํ อฑํสี พิลรา อุทิจฺจ;
ตสฺมิฺจ เม อปฺปิยตาย อชฺช, ปิตรฺจ เต นตฺถิ โกจิ วิเสโส;
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ, หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’’ติ.
ตตฺถ ตาตาติ ปุตฺตํ อาลปติ. ปหูตเตโชติ พลววิโส. พิลราติ วิวรา, อยเมว วา ปาโ. อุทิจฺจาติ อุฏฺหิตฺวา, วมฺมิกพิลโต อุฏฺายาติ อตฺโถ. ปิตรฺจ เตติ ปิตริ จ เต. อฏฺกถายํ ปน อยเมว ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตาต, ยฺทตฺต ตสฺมิฺจ อาสีวิเส ตว ปิตริ ¶ จ อปฺปิยภาเวน มยฺหํ โกจิ วิเสโส นตฺถิ. ตฺจ ปน อปฺปิยภาวํ เปตฺวา อชฺช มยา โกจิ ชานาปิตปุพฺโพ นาม นตฺถิ, สเจ เอตํ สจฺจํ, เอเตน สจฺเจน ตว โสตฺถิ โหตู’’ติ.
สห จ สจฺจกิริยาย สพฺพํ วิสํ ภสฺสิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. ยฺทตฺโต นิพฺพิเสน สรีเรน อุฏฺาย กีฬิตุํ อารทฺโธ. เอวํ ปุตฺเต อุฏฺิเต มณฺฑพฺโย ทีปายนสฺส อชฺฌาสยํ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘สนฺตา ¶ ทนฺตาเยว ปริพฺพชนฺติ, อฺตฺร กณฺหา นตฺถากามรูปา;
ทีปายน กิสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก จรสิ พฺรหฺมจริย’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – เย เกจิ ขตฺติยาทโย กาเม ปหาย อิธ โลเก ปพฺพชนฺติ, เต อฺตฺร กณฺหา ภวนฺตํ กณฺหํ เปตฺวา อฺเ อกามรูปา นาม นตฺถิ, สพฺเพ ฌานภาวนาย กิเลสานํ สมิตตฺตา สนฺตา, จกฺขาทีนิ ทฺวารานิ ยถา นิพฺพิเสวนานิ โหนฺติ, ตถา เตสํ ทมิตตฺตา ทนฺตา หุตฺวา อภิรตาว พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ตฺวํ ปน ภนฺเต ทีปายน, กึการณา ตปํ ชิคุจฺฉมาโน อกามโก หุตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรสิ, กสฺมา ปุน น อคารเมว อชฺฌาวสสีติ.
อถสฺส โส การณํ กเถนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘สทฺธาย นิกฺขมฺม ปุนํ นิวตฺโต, โส เอฬมูโคว พาโล วตายํ;
เอตสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก จรามิ พฺรหฺมจริยํ;
วิฺุปฺปสตฺถฺจ สตฺจ านํ, เอวมฺปหํ ปฺุกโร ภวามี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – กณฺโห กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา ตาว มหนฺตํ วิภวํ ปหาย อคารา นิกฺขมิตฺวา ยํ ชหิ, ปุน ตทตฺถเมว นิวตฺโต. โส อยํ เอฬมูโค คามทารโก วิย พาโล วตาติ อิมํ วาทํ ชิคุจฺฉมาโน อหํ อตฺตโน หิโรตฺตปฺปเภทภเยน อนิจฺฉมาโนปิ พฺรหฺมจริยํ จรามิ. กิฺจ ภิยฺโย ปพฺพชฺชาปฺฺุจ นาเมตํ วิฺูหิ พุทฺธาทีหิ ปสตฺถํ, เตสํเยว จ สตํ นิวาสฏฺานํ. เอวํ อิมินาปิ การเณน อหํ ปฺุกโร ภวามิ, อสฺสุมุโขปิ รุทมาโน พฺรหฺมจริยํ จรามิเยวาติ.
เอวํ ¶ โส อตฺตโน อชฺฌาสยํ กเถตฺวา ปุน มณฺฑพฺยํ ปุจฺฉนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘สมเณ ¶ ตุวํ พฺราหฺมเณ อทฺธิเก จ, สนฺตปฺปยาสิ อนฺนปาเนน ภิกฺขํ;
โอปานภูตํว ฆรํ ตว ยิทํ, อนฺเนน ปาเนน อุเปตรูปํ;
อถ กิสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก ทานมิมํ ททาสี’’ติ.
ตตฺถ ภิกฺขนฺติ ภิกฺขาย จรนฺตานํ ภิกฺขฺจ สมฺปาเทตฺวา ททาสิ. โอปานภูตํวาติ จตุมหาปเถ ขตสาธารณโปกฺขรณี วิย.
ตโต มณฺฑพฺโย อตฺตโน อชฺฌาสยํ กเถนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘ปิตโร จ เม อาสุํ ปิตามหา จ, สทฺธา อหุํ ทานปตี วทฺู;
ตํ กุลฺลวตฺตํ อนุวตฺตมาโน, มาหํ กุเล อนฺติมคนฺธโน อหุํ;
เอตสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก ทานมิมํ ททามี’’ติ.
ตตฺถ ‘‘อาสุ’’นฺติ ปทสฺส ‘‘สทฺธา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, สทฺธา อเหสุนฺติ อตฺโถ. อหุนฺติ สทฺธา หุตฺวา ตโต อุตฺตริ ทานเชฏฺกา เจว ‘‘เทถ กโรถา’’ติ วุตฺตวจนสฺส อตฺถชานนกา จ อเหสุํ. ตํ กุลฺลวตฺตนฺติ ตํ กุลวตฺตํ, อฏฺกถายํ ปน อยเมว ปาโ. มาหํ กุเล อนฺติมคนฺธโน อหุนฺติ ‘‘อหํ อตฺตโน กุเล สพฺพปจฺฉิมโก เจว กุลปลาโป จ มา อหุ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา เอตํ ‘‘กุลอนฺติโม กุลปลาโป’’ติ วาทํ ชิคุจฺฉมาโน ทานํ อนิจฺฉนฺโตปิ อิทํ ทานํ ททามีติ ทีเปติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มณฺฑพฺโย อตฺตโน ภริยํ ปุจฺฉมาโน อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘ทหรึ ¶ ¶ ¶ กุมารึ อสมตฺถปฺํ, ยํ ตานยึ าติกุลา สุคตฺเต;
น จาปิ เม อปฺปิยตํ อเวทิ, อฺตฺร กามา ปริจารยนฺตา;
อถ เกน วณฺเณน มยา เต โภติ, สํวาสธมฺโม อหุ เอวรูโป’’ติ.
ตตฺถ อสมตฺถปฺนฺติ กุฏุมฺพํ วิจาเรตุํ อปฺปฏิพลปฺํ อติตรุณิฺเว สมานํ. ยํ ตานยินฺติ ยํ ตํ อานยึ, อหํ ทหริเมว สมานํ ตํ าติกุลโต อาเนสินฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร กามา ปริจารยนฺตาติ เอตฺตกํ กาลํ วินา กาเมน อนิจฺฉาย มํ ปริจารยนฺตาปิ อตฺตโน อปฺปิยตํ มํ น ชานาเปสิ, สมฺปิยายมานรูปาว ปริจริ. เกน วณฺเณนาติ เกน การเณน. โภตีติ ตํ อาลปติ. เอวรูโปติ อาสีวิสสมานปฏิกูลภาเวน มยา สทฺธึ ตว สํวาสธมฺโม เอวรูโป ปิยสํวาโส วิย กถํ ชาโตติ.
อถสฺส สา กเถนฺตี นวมํ คาถมาห –
‘‘อารา ทูเร นยิธ กทาจิ อตฺถิ, ปรมฺปรา นาม กุเล อิมสฺมึ;
ตํ กุลฺลวตฺตํ อนุวตฺตมานา, มาหํ กุเล อนฺติมคนฺธินี อหุํ;
เอตสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมานา, อกามิกา ปทฺธจรามฺหิ ตุยฺห’’นฺติ.
ตตฺถ อารา ทูเรติ อฺมฺเววจนํ. อติทูเรติ วา ทสฺเสนฺตี เอวมาห. อิธาติ นิปาตมตฺตํ, น กทาจีติ อตฺโถ. ปรมฺปราติ ปุริสปรมฺปรา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สามิ, อิมสฺมึ อมฺหากํ าติกุเล ทูรโต ปฏฺาย ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ปุริสปรมฺปรา นาม น กทาจิ อตฺถิ, เอกิตฺถิยาปิ สามิกํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺโ ปุริโส คหิตปุพฺโพ นาม นตฺถีติ. ตํ กุลฺลวตฺตนฺติ อหมฺปิ ตํ กุลวตฺตํ กุลปเวณึ อนุวตฺตมานา อตฺตโน กุเล ปจฺฉิมิกา ปลาลภูตา มา อหุนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา เอตํ กุลอนฺติมา ¶ กุลคนฺธินีติ วาทํ ชิคุจฺฉมานา อกามิกาปิ ตุยฺหํ ปทฺธจรามฺหิ เวยฺยาวจฺจการิกา ปาทปริจาริกา ชาตามฺหีติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ‘‘มยา สามิกสฺส สนฺติเก อภาสิตปุพฺพํ คุยฺหํ ภาสิตํ, กุชฺเฌยฺยปิ เม อยํ, อมฺหากํ กุลูปกตาปสสฺส สมฺมุเขเยว ขมาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ขมาเปนฺตี ทสมํ คาถมาห –
‘‘มณฺฑพฺย ¶ ภาสึ ยมภาสเนยฺยํ, ตํ ขมฺยตํ ปุตฺตกเหตุ มชฺช;
ปุตฺตเปมา น อิธ ปรตฺถิ กิฺจิ, โส โน อยํ ชีวติ ยฺทตฺโต’’ติ.
ตตฺถ ตํ ขมฺยตนฺติ ตํ ขมยตุ. ปุตฺตกเหตุ มชฺชาติ ตํ มม ภาสิตํ อชฺช อิมสฺส ปุตฺตสฺส เหตุ ขมยตุ. โส โน อยนฺติ ยสฺส ปุตฺตสฺส การณา มยา เอตํ ภาสิตํ, โส โน ปุตฺโต ชีวติ, อิมสฺส ชีวิตลาภภาเวน เม ขม สามิ, อชฺชโต ปฏฺาย ตว วสวตฺตินี ภวิสฺสามีติ.
อถ นํ มณฺฑพฺโย ‘‘อุฏฺเหิ ภทฺเท, ขมามิ เต, อิโต ปน ปฏฺาย มา ผรุสจิตฺตา อโหสิ, อหมฺปิ เต อปฺปิยํ น กริสฺสามี’’ติ อาห. โพธิสตฺโต มณฺฑพฺยํ อาห – ‘‘อาวุโส, ตยา ทุสฺสงฺฆรํ ธนํ สงฺฆริตฺวา กมฺมฺจ ผลฺจ อสทฺทหิตฺวา ทานํ ททนฺเตน อยุตฺตํ กตํ, อิโต ปฏฺาย ทานํ สทฺทหิตฺวา เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โพธิสตฺตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, ตยา อมฺหากํ ทกฺขิเณยฺยภาเว ตฺวา อนภิรเตน พฺรหฺมจริยํ จรนฺเตน อยุตฺตํ กตํ, อิโต ปฏฺาย อิทานิ ยถา ตยิ กตการา มหปฺผลา โหนฺติ, เอวํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา สุทฺธจิตฺโต อภิรโต หุตฺวา พฺรหฺมจริยํ จราหี’’ติ. เต มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา อุฏฺาย อคมํสุ. ตโต ปฏฺาย ภริยา สามิเก สสฺเนหา อโหสิ, มณฺฑพฺโย ปสนฺนจิตฺโต สทฺธาย ทานํ อทาสิ. โพธิสตฺโต อนภิรตึ วิโนเทตฺวา ฌานาภิฺํ อุปฺปาเทตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิโต ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ ¶ . ตทา มณฺฑพฺโย อานนฺโท อโหสิ, ภริยา ¶ วิสาขา, ปุตฺโต ราหุโล, อาณิมณฺฑพฺโย สาริปุตฺโต, กณฺหทีปายโน ปน อหเมว อโหสินฺติ.
กณฺหทีปายนชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๔๔๕] ๗. นิคฺโรธชาตกวณฺณนา
น วาหเมตํ ชานามีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู เตน ‘‘อาวุโส เทวทตฺต, สตฺถา ตว พหูปกาโร, ตฺวฺหิ สตฺถารํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชํ ลภิ อุปสมฺปทํ ลภิ, เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิ, ฌานํ อุปฺปาเทสิ, ลาภสกฺกาโรปิ ¶ เต ทสพลสฺเสว สนฺตโก’’ติ ภิกฺขูหิ วุตฺเต ติณสลากํ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘เอตฺตกมฺปิ สมเณน โคตเมน มยฺหํ กตํ คุณํ น ปสฺสามี’’ติ วุตฺเต ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อกตฺู มิตฺตทุพฺภี’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ราชคเห มคธมหาราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา ราชคหเสฏฺิ อตฺตโน ปุตฺตสฺส ชนปทเสฏฺิโน ธีตรํ อาเนสิ, สา วฺฌา อโหสิ. อถสฺสา อปรภาเค สกฺกาโร ปริหายิ. ‘‘อมฺหากํ ปุตฺตสฺส เคเห วฺฌิตฺถิยา วสนฺติยา กถํ กุลวํโส วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ยถา สา สุณาติ, เอวมฺปิ กถํ สมุฏฺาเปนฺติ. สา ตํ สุตฺวา ‘‘โหตุ คพฺภินิอาลยํ กตฺวา เอเต วฺเจสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน อตฺถจาริกํ ธาตึ อาห ‘‘อมฺม, คพฺภินิโย นาม กิฺจ กิฺจ กโรนฺตี’’ติ คพฺภินิปริหารํ ปุจฺฉิตฺวา อุตุนิกาเล ปฏิจฺฉาเทตฺวา อมฺพิลาทิรุจิกา หุตฺวา หตฺถปาทานํ อุทฺธุมายนกาเล หตฺถปาทปิฏฺิโย โกฏฺฏาเปตฺวา พหลํ กาเรสิ, ทิวเส ทิวเสปิ ปิโลติกาเวเนน จ อุทรวฑฺฒนํ วฑฺเฒสิ, ถนมุขานิ กาฬานิ กาเรสิ, สรีรกิจฺจํ กโรนฺตีปิ อฺตฺร ตสฺสา ธาติยา อฺเสํ สมฺมุขฏฺาเน น กโรติ. สามิโกปิสฺสา คพฺภปริหารํ อทาสิ. เอวํ นว มาเส วสิตฺวา ‘‘อิทานิ ชนปเท ปิตุ ฆรํ คนฺตฺวา วิชายิสฺสามี’’ติ สสุเร อาปุจฺฉิตฺวา รถมารุหิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ¶ ราชคหา นิกฺขมิตฺวา ¶ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตสฺสา ปน ปุรโต เอโก สตฺโถ คจฺฉติ. สตฺเถน วสิตฺวา คตฏฺานํ เอสา ปาตราสกาเล ปาปุณาติ.
อเถกทิวสํ ตสฺมึ สตฺเถ เอกา ทุคฺคติตฺถี รตฺติยา เอกสฺมึ นิคฺโรธมูเล ปุตฺตํ วิชายิตฺวา ปาโตว สตฺเถ คจฺฉนฺเต ‘‘อหํ วินา สตฺเถน คนฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ, สกฺกา โข ปน ชีวนฺติยา ปุตฺตํ ลภิตุ’’นฺติ นิคฺโรธมูลชาเล ชลาพฺุเจว คพฺภมลฺจ อตฺถริตฺวา ปุตฺตํ ฉฏฺเฏตฺวา อคมาสิ. ทารกสฺสปิ เทวตา อารกฺขํ คณฺหึสุ. โส หิ น โย วา โส วา, โพธิสตฺโตเยว. โส ปน ตทา ตาทิสํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. อิตรา ปาตราสกาเล ตํ านํ ปตฺวา ‘‘สรีรกิจฺจํ กริสฺสามี’’ติ ตาย ธาติยา สทฺธึ นิคฺโรธมูลํ คตา สุวณฺณวณฺณํ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺม, นิปฺผนฺนํ โน กิจฺจ’’นฺติ ปิโลติกาโย อปเนตฺวา อุจฺฉงฺคปเทสํ โลหิเตน จ คพฺภมเลน จ มกฺเขตฺวา อตฺตโน คพฺภวุฏฺานํ อาโรเจสิ. ตาวเทว นํ สาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา หฏฺตุฏฺโ สปริชโน ราชคหํ ปณฺณํ เปเสสิ. อถสฺสา สสฺสุสสุรา วิชาตกาลโต ปฏฺาย ‘‘ปิตุ กุเล กึ กริสฺสติ, อิเธว อาคจฺฉตู’’ติ เปสยึสุ. สา ปฏินิวตฺติตฺวา ¶ ราชคหเมว ปาวิสิ. ตตฺถ ตํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทารกสฺส นามํ กโรนฺตา นิคฺโรธมูเล ชาตตฺตา ‘‘นิคฺโรธกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตํ ทิวสฺเว อนุเสฏฺิสุณิสาปิ วิชายนตฺถาย กุลฆรํ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเค เอกิสฺสา รุกฺขสาขาย เหฏฺา ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘สาขกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตํ ทิวสฺเว เสฏฺึ นิสฺสาย วสนฺตสฺส ตุนฺนการสฺส ภริยาปิ ปิโลติกนฺตเร ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘โปตฺติโก’’ติ นามํ กรึสุ.
มหาเสฏฺิ อุโภปิ เต ทารเก ‘‘นิคฺโรธกุมารสฺส ชาตทิวสฺเว ชาตา’’ติ อาณาเปตฺวา เตเนว สทฺธึ สํวฑฺเฒสิ. เต เอกโต วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺตา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหึสุ. อุโภปิ เสฏฺิปุตฺตา อาจริยสฺส ทฺเว สหสฺสานิ อทํสุ. นิคฺโรธกุมาโร ¶ โปตฺติกสฺส อตฺตโน สนฺติเก สิปฺปํ ปฏฺเปสิ. เต นิปฺผนฺนสิปฺปา อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา นิกฺขนฺตา ‘‘ชนปทจาริกํ จริสฺสามา’’ติ อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา เอกสฺมึ รุกฺขมูเล นิปชฺชึสุ. ตทา พาราณสิรฺโ กาลกตสฺส สตฺตโม ทิวโส, ‘‘สฺเว ผุสฺสรถํ โยเชสฺสามา’’ติ นคเร เภรึ จราเปสุํ. เตสุปิ สหาเยสุ รุกฺขมูเล นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตสุ โปตฺติโก ¶ ปจฺจูสกาเล อุฏฺาย นิคฺโรธกุมารสฺส ปาเท ปริมชฺชนฺโต นิสีทิ. ตสฺมึ รุกฺเข วุตฺถกุกฺกุเฏสุ อุปริกุกฺกุโฏ เหฏฺากุกฺกุฏสฺส สรีเร วจฺจํ ปาเตสิ. อถ นํ โส ‘‘เกเนตํ ปาติต’’นฺติ อาห. ‘‘สมฺม, มา กุชฺฌิ, มยา อชานนฺเตน ปาติต’’นฺติ อาห. ‘‘อเร, ตฺวํ มม สรีรํ อตฺตโน วจฺจฏฺานํ มฺสิ, กึ มม ปมาณํ น ชานาสี’’ติ. อถ นํ อิตโร ‘‘อเร ตฺวํ ‘อชานนฺเตน เม กต’นฺติ วุตฺเตปิ กุชฺฌสิเยว, กึ ปน เต ปมาณ’’นฺติ อาห. ‘‘โย มํ มาเรตฺวา มํสํ ขาทติ, โส ปาโตว สหสฺสํ ลภติ, ตสฺมา อหํ มานํ กโรมี’’ติ. อถ นํ อิตโร ‘‘อเร เอตฺตกมตฺเตน ตฺวํ มานํ กโรสิ, มํ ปน มาเรตฺวา โย ถูลมํสํ ขาทติ, โส ปาโตว ราชา โหติ, โย มชฺฌิมมํสํ ขาทติ, โส เสนาปติ, โย อฏฺินิสฺสิตํ ขาทติ, โส ภณฺฑาคาริโก โหตี’’ติ อาห.
โปตฺติโก เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘กึ โน สหสฺเสน, รชฺชเมว วร’’นฺติ สณิกํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา อุปริสยิตกุกฺกุฏํ คเหตฺวา มาเรตฺวา องฺคาเร ปจิตฺวา ถูลมํสํ นิคฺโรธสฺส อทาสิ, มชฺฌิมมํสํ สาขสฺส อทาสิ, อฏฺิมํสํ อตฺตนา ขาทิ. ขาทิตฺวา ปน ‘‘สมฺม นิคฺโรธ, ตฺวํ อชฺช ราชา ภวิสฺสสิ, สมฺม สาข, ตฺวํ เสนาปติ ภวิสฺสสิ, อหํ ปน ภณฺฑาคาริโก ภวิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กถํ ชานาสี’’ติ ปุฏฺโ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. เต ตโยปิ ชนา ปาตราสเวลาย พาราณสึ ปวิสิตฺวา เอกสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห สปฺปิสกฺกรยุตฺตํ ปายาสํ ภฺุชิตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานํ ¶ ปวิสึสุ. นิคฺโรธกุมาโร สิลาปฏฺเฏ นิปชฺชิ ¶ , อิตเร ทฺเว พหิ นิปชฺชึสุ. ตสฺมึ สมเย ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ อนฺโต เปตฺวา ผุสฺสรถํ วิสฺสชฺเชสุํ. ตตฺถ วิตฺถารกถา มหาชนกชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๒๓ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ผุสฺสรโถ อุยฺยานํ คนฺตฺวา นิวตฺติตฺวา อาโรหนสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. ปุโรหิโต ‘‘อุยฺยาเน ปฺุวตา สตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา กุมารํ ทิสฺวา ปาทนฺตโต สาฏกํ อปเนตฺวา ปาเทสุ ลกฺขณานิ อุปธาเรตฺวา ‘‘ติฏฺตุ พาราณสิยํ รชฺชํ, สกลชมฺพุทีปสฺส อธิปติราชา ภวิตุํ ยุตฺโต’’ติ สพฺพตาลาวจเร ปคฺคณฺหาเปสิ. นิคฺโรธกุมาโร ปพุชฺฌิตฺวา มุขโต สาฏกํ อปเนตฺวา มหาชนํ โอโลเกตฺวา ปริวตฺติตฺวา นิปนฺโน โถกํ วีตินาเมตฺวา สิลาปฏฺเฏ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อถ ¶ นํ ปุโรหิโต ชณฺณุนา ปติฏฺาย ‘‘รชฺชํ เต เทว ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ‘‘‘สาธู’’ติ วุตฺเต ตตฺเถว รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิฺจิ. โส รชฺชํ ปตฺวา สาขสฺส เสนาปติฏฺานํ ทตฺวา มหนฺเตน สกฺกาเรน นครํ ปาวิสิ, โปตฺติโกปิ เตหิ สทฺธิฺเว อคมาสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺโต พาราณสิยํ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ.
โส เอกทิวสํ มาตาปิตูนํ สริตฺวา สาขํ อาห – ‘‘สมฺม, น สกฺกา มาตาปิตูหิ วินา วตฺติตุํ, มหนฺเตน ปริวาเรน คนฺตฺวา มาตาปิตโร โน อาเนหี’’ติ. สาโข ‘‘น เม ตตฺถ คมนกมฺมํ อตฺถี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. ตโต โปตฺติกํ อาณาเปสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา นิคฺโรธสฺส มาตาปิตโร ‘‘ปุตฺโต โว รชฺเช ปติฏฺิโต, เอถ คจฺฉามา’’ติ อาห. เต ‘‘อตฺถิ โน ตาว วิภวมตฺตํ, อลํ ตตฺถ คมเนนา’’ติ ปฏิกฺขิปึสุ. สาขสฺสปิ มาตาปิตโร อโวจ, เตปิ น อิจฺฉึสุ. อตฺตโน มาตาปิตโร อโวจ, ‘‘มยํ ตาต ตุนฺนการกมฺเมน ชีวิสฺสาม อล’’นฺติ ปฏิกฺขิปึสุ. โส เตสํ มนํ อลภิตฺวา พาราณสิเมว ปจฺจาคนฺตฺวา ‘‘เสนาปติสฺส ฆเร มคฺคกิลมถํ วิโนเทตฺวา ปจฺฉา นิคฺโรธสหายํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส นิเวสนทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘สหาโย กิร ¶ เต โปตฺติโก นาม อาคโตติ เสนาปติสฺส อาโรเจหี’’ติ โทวาริกํ อาห, โส ตถา อกาสิ. สาโข ปน ‘‘อยํ มยฺหํ รชฺชํ อทตฺวา สหายนิคฺโรธสฺส อทาสี’’ติ ตสฺมึ เวรํ พนฺธิ. โส ตํ กถํ สุตฺวาว กุทฺโธ อาคนฺตฺวา ‘‘โก อิมสฺส สหาโย อุมฺมตฺตโก ทาสิปุตฺโต, คณฺหถ น’’นฺติ วตฺวา หตฺถปาทชณฺณุกปฺปเรหิ โกฏฺฏาเปตฺวา คีวายํ คาหาเปตฺวา นีหราเปสิ.
โส จินฺเตสิ ‘‘สาโข มม สนฺติกา เสนาปติฏฺานํ ลภิตฺวา อกตฺู มิตฺตทุพฺภี, มํ โกฏฺฏาเปตฺวา นีหราเปสิ, นิคฺโรโธ ปน ปณฺฑิโต กตฺู สปฺปุริโส, ตสฺเสว สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ. โส ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, โปตฺติโก กิร นาม เต สหาโย ทฺวาเร ิโต’’ติ ¶ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา ปกฺโกสาเปตฺวา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาย ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา มสฺสุกมฺมาทีนิ การาเปตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเตน ปริภุตฺตนานคฺครสโภชเนน เตน สทฺธึ สุขนิสินฺโน มาตาปิตูนํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา อนาคมนภาวํ สุณิ. สาโขปิ ‘‘โปตฺติโก มํ รฺโ สนฺติเก ปริภินฺเทยฺย ¶ , มยิ ปน คเต กิฺจิ วตฺตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ ตตฺเถว อคมาสิ. โปตฺติโก ตสฺส สนฺติเกเยว ราชานํ อามนฺเตตฺวา ‘‘เทว, อหํ มคฺคกิลนฺโต ‘สาขสฺส เคหํ คนฺตฺวา วิสฺสมิตฺวา อิธาคมิสฺสามี’ติ อคมึ. อถ มํ สาโข ‘นาหํ ตํ ชานามี’ติ วตฺวา โกฏฺฏาเปตฺวา คีวายํ คาหาเปตฺวา นีหราเปสีติ สทฺทเหยฺยาสิ ตฺวํ เอต’’นฺติ วตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘น วาหเมตํ ชานามิ, โก วายํ กสฺส วาติ วา;
ยถา สาโข วทิ เอว, นิคฺโรธ กินฺติ มฺสิ.
‘‘ตโต คลวินีเตน, ปุริสา นีหรึสุ มํ;
ทตฺวา มุขปหารานิ, สาขสฺส วจนํกรา.
‘‘เอตาทิสํ ทุมฺมตินา, อกตฺุน ทุพฺภินา;
กตํ อนริยํ สาเขน, สขินา เต ชนาธิปา’’ติ.
ตตฺถ ¶ กินฺติ มฺสีติ ยถา มํ สาโข อจริ, กึ ตฺวมฺปิ เอวเมว มฺสิ, อุทาหุ อฺถา มฺสิ, มํ สาโข เอวํ วเทยฺยาติ สทฺทหสิ, ตํ น สทฺทหสีติ อธิปฺปาโย. คลวินีเตนาติ คลคฺคาเหน. ทุพฺภินาติ มิตฺตทุพฺภินา.
ตํ สุตฺวา นิคฺโรโธ จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘น วาหเมตํ ชานามิ, นปิ เม โกจิ สํสติ;
ยํ เม ตฺวํ สมฺม อกฺขาสิ, สาเขน การณํ กตํ.
‘‘สขีนํ สาชีวกโร, มม สาขสฺส จูภยํ;
ตฺวํ โนสิสฺสริยํ ทาตา, มนุสฺเสสุ มหนฺตตํ;
ตยามา ลพฺภิตา อิทฺธี, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย.
‘‘ยถาปิ ¶ พีชมคฺคิมฺหิ, ฑยฺหติ น วิรูหติ;
เอวํ กตํ อสปฺปุริเส, นสฺสติ น วิรูหติ.
‘‘กตฺุมฺหิ จ โปสมฺหิ, สีลวนฺเต อริยวุตฺติเน;
สุเขตฺเต วิย พีชานิ, กตํ ตมฺหิ น นสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ สํสตีติ อาจิกฺขติ. การณํ กตนฺติ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนโปถนโกฏฺฏนสงฺขาตํ การณํ กตนฺติ อตฺโถ. สขีนํ สาชีวกโรติ สมฺม, โปตฺติก ตฺวํ สหายกานํ สุอาชีวกโร ชีวิกาย อุปฺปาเทตา. มม สาขสฺส จูภยนฺติ มยฺหฺจ สาขสฺส จ อุภินฺนมฺปิ สขีนนฺติ อตฺโถ. ตฺวํ โนสิสฺสริยนฺติ ตฺวํ โน อสิ อิสฺสริยํ ทาตา, ตว สนฺติกา อิมา สมฺปตฺตี อมฺเหหิ ลทฺธา. มหนฺตตนฺติ มหนฺตภาวํ.
เอวฺจ ปน วตฺวา เอตฺตกํ กเถนฺเต นิคฺโรเธ สาโข ตตฺเถว อฏฺาสิ. อถ นํ ราชา ‘‘สาข อิมํ โปตฺติกํ สฺชานาสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตุณฺหี อโหสิ. อถสฺส ราชา ทณฺฑํ อาณาเปนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘อิมํ ชมฺมํ เนกติกํ, อสปฺปุริสจินฺตกํ;
หนนฺตุ สาขํ สตฺตีหิ, นาสฺส อิจฺฉามิ ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ ชมฺมนฺติ ลามกํ. เนกติกนฺติ วฺจกํ.
ตํ สุตฺวา โปตฺติโก ‘‘มา เอส พาโล มํ นิสฺสาย นสฺสตู’’ติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –
‘‘ขมตสฺส ¶ มหาราช, ปาณา น ปฏิอานยา;
ขม เทว อสปฺปุริสสฺส, นาสฺส อิจฺฉามหํ วธ’’นฺติ.
ตตฺถ ขมตสฺสาติ ขมตํ อสฺส, เอตสฺส อสปฺปุริสสฺส ขมถาติ อตฺโถ. น ปฏิอานยาติ มตสฺส นาม ปาณา ปฏิอาเนตุํ น สกฺกา.
ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา สาขสฺส ขมิ, เสนาปติฏฺานมฺปิ โปตฺติกสฺเสว ทาตุกาโม อโหสิ ¶ , โส ปน น อิจฺฉิ. อถสฺส สพฺพเสนานีนํ วิจารณารหํ ภณฺฑาคาริกฏฺานํ นาม อทาสิ. ปุพฺเพ กิเรตํ านนฺตรํ นาโหสิ, ตโต ปฏฺาย ชาตํ. อปรภาเค โปตฺติโก ภณฺฑาคาริโก ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒมาโน อตฺตโน ปุตฺตธีตานํ โอวาทวเสน โอสานคาถมาห –
‘‘นิคฺโรธเมว เสเวยฺย, น สาขมุปสํวเส;
นิคฺโรธสฺมึ มตํ เสยฺโย, ยฺเจ สาขสฺมิ ชีวิต’’นฺติ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, เทวทตฺโต ปุพฺเพปิ อกตฺูเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สาโข เทวทตฺโต อโหสิ, โปตฺติโก อานนฺโท, นิคฺโรโธ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
นิคฺโรธชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๔๔๖] ๘. ตกฺกลชาตกวณฺณนา
น ตกฺกลา สนฺติ น อาลุวานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ปิตุโปสกํ อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ทลิทฺทกุเล ปจฺจาชาโต มาตริ กาลกตาย ปาโตว อุฏฺาย ทนฺตกฏฺมุโขทกทานาทีนิ กโรนฺโต ภตึ วา กสึ วา กตฺวา ลทฺธวิภวานุรูเปน ยาคุภตฺตาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ปิตรํ โปเสสิ. อถ นํ ปิตา อาห – ‘‘ตาต, ตฺวํ เอกโกว อนฺโต จ พหิ จ กตฺตพฺพํ กโรสิ, เอกํ เต กุลทาริกํ อาเนสฺสามิ, สา เต เคเห กตฺตพฺพํ กริสฺสตี’’ติ. ‘‘ตาต, อิตฺถิโย นาม ฆรํ อาคตา เนว มยฺหํ, น ตุมฺหากํ จิตฺตสุขํ กริสฺสนฺติ, มา เอวรูปํ จินฺตยิตฺถ, อหํ ยาวชีวํ ตุมฺเห โปเสตฺวา ตุมฺหากํ ¶ อจฺจเยน ชานิสฺสามี’’ติ. อถสฺส ปิตา อนิจฺฉมานสฺเสว เอกํ กุมาริกํ อาเนสิ. สา สสุรสฺส จ สามิกสฺส จ อุปการิกา อโหสิ นีจวุตฺติ. สามิโกปิสฺสา ‘‘มม ปิตุ อุปการิกา’’ติ ตุสฺสิตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ มนาปํ อาหริตฺวา เทติ, สาปิ ตํ สสุรสฺเสว อุปนาเมสิ. สา อปรภาเค จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ สามิโก ลทฺธํ ลทฺธํ ปิตุ อทตฺวา มยฺหเมว เทติ, อทฺธา ปิตริ นิสฺเนโห ชาโต, อิมํ มหลฺลกํ เอเกนุปาเยน มม สามิกสฺส ปฏิกฺกูลํ กตฺวา เคหา นิกฺกฑฺฒาเปสฺสามี’’ติ.
สา ตโต ปฏฺาย อุทกํ อติสีตํ วา อจฺจุณฺหํ วา, อาหารํ อติโลณํ วา อโลณํ วา ¶ , ภตฺตํ อุตฺตณฺฑุลํ วา อติกิลินฺนํ วาติ เอวมาทีนิ ตสฺส โกธุปฺปตฺติการณานิ กตฺวา ตสฺมึ กุชฺฌนฺเต ‘‘โก อิมํ มหลฺลกํ อุปฏฺาตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ ผรุสานิ วตฺวา กลหํ วฑฺเฒสิ. ตตฺถ ตตฺถ เขฬปิณฺฑาทีนิ ฉฑฺเฑตฺวาปิ สามิกํ อุชฺฌาเปสิ ‘‘ปสฺส ปิตุ กมฺมํ, ‘อิทฺจิทฺจ มา กรี’ติ วุตฺเต กุชฺฌติ, อิมสฺมึ เคเห ปิตรํ วา วสาเปหิ มํ วา’’ติ. อถ นํ โส ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ ทหรา ยตฺถ กตฺถจิ ชีวิตุํ สกฺขิสฺสสิ, มยฺหํ ¶ ปิตา มหลฺลโก, ตฺวํ ตสฺส อสหนฺตี อิมมฺหา เคหา นิกฺขมา’’ติ อาห. สา ภีตา ‘‘อิโต ปฏฺาย เอวํ น กริสฺสามี’’ติ สสุรสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา ขมาเปตฺวา ปกตินิยาเมเนว ปฏิชคฺคิตุํ อารภิ. อถ โส อุปาสโก ปุริมทิวเสสุ ตาย อุพฺพาฬฺโห สตฺถุ สนฺติกํ ธมฺมสฺสวนาย อคนฺตฺวา ตสฺสา ปกติยา ปติฏฺิตกาเล อคมาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ, อุปาสก, สตฺตฏฺ ทิวสานิ ธมฺมสฺสวนาย นาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตํ การณํ กเถสิ. สตฺถา ‘‘อิทานิ ตาว ตสฺสา กถํ อคฺคเหตฺวา ปิตรํ น นีหราเปสิ, ปุพฺเพ ปน เอติสฺสา กถํ คเหตฺวา ปิตรํ อามกสุสานํ เนตฺวา อาวาฏํ ขณิตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา มารณกาเล อหํ สตฺตวสฺสิโก หุตฺวา มาตาปิตูนํ คุณํ กเถตฺวา ปิตุฆาตกกมฺมา นิวาเรสึ, ตทา ตฺวํ มม กถํ สุตฺวา ตว ปิตรํ ยาวชีวํ ปฏิชคฺคิตฺวา สคฺคปรายโณ ชาโต, สฺวายํ มยา ทินฺโน โอวาโท ภวนฺตรคตมฺปิ น วิชหติ, อิมินา การเณน ตสฺสา กถํ อคฺคเหตฺวา อิทานิ ตยา ปิตา น นีหโฏ’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต อฺตรสฺมึ กาสิคาเม เอกสฺส กุลสฺส ฆเร เอกปุตฺตโก อโหสิ นาเมน สวิฏฺโก นาม. โส มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺโต ¶ อปรภาเค มาตริ กาลกตาย ปิตรํ โปเสสีติ สพฺพํ วตฺถุ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุนิยาเมเนว กเถตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส. ตทา สา อิตฺถี ‘‘ปสฺส ปิตุ กมฺมํ, ‘อิทฺจิทฺจ มา กรี’ติ วุตฺเต กุชฺฌตี’’ติ วตฺวา ‘‘สามิ, ปิตา เต จณฺโฑ ผรุโส นิจฺจํ กลหํ กโรติ, ชราชิณฺโณ พฺยาธิปีฬิโต น จิรสฺเสว มริสฺสติ, อหฺจ เอเตน สทฺธึ เอกเคเห วสิตุํ น สกฺโกมิ, สยมฺเปส กติปาเหน มริสฺสติเยว, ตฺวํ เอตํ อามกสุสานํ เนตฺวา อาวาฏํ ขณิตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา กุทฺทาเลน สีสํ ฉินฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อุปริ ปํสุนา ฉาเทตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ อาห. โส ตาย ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโน ‘‘ภทฺเท, ปุริสมารณํ นาม ภาริยํ, กถํ นํ มาเรสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘อหํ เต อุปายํ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘อาจิกฺข ตาวา’’ติ. ‘‘สามิ, ตฺวํ ปจฺจูสกาเล ปิตุ นิสินฺนฏฺานํ คนฺตฺวา ยถา สพฺเพ สุณนฺติ, เอวํ มหาสทฺทํ กตฺวา ‘ตาต, อสุกคาเม ตุมฺหากํ อุทฺธารณโก ¶ อตฺถิ, มยิ คเต น เทติ, ตุมฺหากํ อจฺจเยน น ทสฺสเตว, สฺเว ยานเก นิสีทิตฺวา ปาโตว คจฺฉิสฺสามา’ติ วตฺวา เตน วุตฺตเวลายเมว ¶ อุฏฺาย ยานกํ โยเชตฺวา ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา อามกสุสานํ เนตฺวา อาวาฏํ ขณิตฺวา โจเรหิ อจฺฉินฺนสทฺทํ กตฺวา มาเรตฺวา อาวาเฏ ปกฺขิปิตฺวา สีสํ ฉินฺทิตฺวา นฺหายิตฺวา อาคจฺฉา’’ติ.
สวิฏฺโก ‘‘อตฺเถส อุปาโย’’ติ ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ยานกํ คมนสชฺชํ อกาสิ. ตสฺส ปเนโก สตฺตวสฺสิโก ปุตฺโต อตฺถิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต. โส มาตุ วจนํ สุตฺวา ‘‘มยฺหํ มาตา ปาปธมฺมา ปิตรํ เม ปิตุฆาตกมฺมํ กาเรติ, อหํ อิมสฺส ปิตุฆาตกมฺมํ กาตุํ น ทสฺสามี’’ติ สณิกํ คนฺตฺวา อยฺยเกน สทฺธึ นิปชฺชิ. สวิฏฺโกปิ อิตราย วุตฺตเวลาย ยานกํ โยเชตฺวา ‘‘เอหิ, ตาต, อุทฺธารํ โสเธสฺสามา’’ติ ปิตรํ ยานเก นิสีทาเปสิ. กุมาโรปิ ปมตรํ ยานกํ อภิรุหิ. สวิฏฺโก ตํ ¶ นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต เตเนว สทฺธึ อามกสุสานํ คนฺตฺวา ปิตรฺจ กุมารเกน สทฺธึ เอกมนฺเต เปตฺวา สยํ โอตริตฺวา กุทฺทาลปิฏกํ อาทาย เอกสฺมึ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน จตุรสฺสาวาฏํ ขณิตุํ อารภิ. กุมารโก โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อชานนฺโต วิย กถํ สมุฏฺาเปตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘น ตกฺกลา สนฺติ น อาลุวานิ, น พิฬาลิโย น กฬมฺพานิ ตาต;
เอโก อรฺมฺหิ สุสานมชฺเฌ, กิมตฺถิโก ตาต ขณาสิ กาสุ’’นฺติ.
ตตฺถ น ตกฺกลา สนฺตีติ ปิณฺฑาลุกนฺทา น สนฺติ. อาลุวานีติ อาลุวกนฺทา. พิฬาลิโยติ พิฬาริวลฺลิกนฺทา. กฬมฺพานีติ ตาลกนฺทา.
อถสฺส ปิตา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ปิตามโห ตาต สุทุพฺพโล เต, อเนกพฺยาธีหิ ทุเขน ผุฏฺโ;
ตมชฺชหํ นิขณิสฺสามิ โสพฺเภ, น หิสฺส ตํ ชีวิตํ โรจยามี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อเนกพฺยาธีหีติ อเนเกหิ พฺยาธีหิ อุปฺปนฺเนน ทุกฺเขน ผุฏฺโ. น หิสฺส ตนฺติ อหฺหิ ตสฺส ตว ปิตามหสฺส ตํ ทุชฺชีวิตํ น อิจฺฉามิ, ‘‘เอวรูปา ชีวิตา มรณเมวสฺส วร’’นฺติ มฺมาโน ตํ โสพฺเภ นิขณิสฺสามีติ.
ตํ สุตฺวา กุมาโร อุปฑฺฒํ คาถมาห –
‘‘สงฺกปฺปเมตํ ¶ ปฏิลทฺธ ปาปกํ, อจฺจาหิตํ กมฺม กโรสิ ลุทฺท’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – ตาต, ตฺวํ ‘‘ปีตรํ ทุกฺขา ปโมเจสฺสามี’’ติ มรณทุกฺเขน โยเชนฺโต เอตํ ปาปกํ สงฺกปฺปํ ปฏิลทฺธา ตสฺส จ สงฺกปฺปวเสน หิตํ อติกฺกมฺม ิตตฺตา อจฺจาหิตํ กมฺมํ กโรสิ ลุทฺทนฺติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา กุมาโร ปิตุ หตฺถโต กุทฺทาลํ คเหตฺวา อวิทูเร อฺตรํ อาวาฏํ ขณิตุํ อารภิ. อถ นํ ปิตา อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ‘‘กสฺมา, ตาต, อาวาฏํ ขณสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตสฺส กเถนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘มยาปิ ตาต ปฏิลจฺฉเส ตุวํ, เอตาทิสํ กมฺม ชรูปนีโต;
ตํ กุลฺลวตฺตํ อนุวตฺตมาโน, อหมฺปิ ตํ นิขณิสฺสามิ โสพฺเภ’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ตาต, อหมฺปิ เอตสฺมึ โสพฺเภ ตํ มหลฺลกกาเล นิขณิสฺสามิ, อิติ โข ตาต, มยาปิ กเต อิมสฺมึ โสพฺเภ ตุวํ ชรูปนีโต เอตาทิสํ กมฺมํ ปฏิลจฺฉเส, ยํ เอตํ ตยา ปวตฺติตํ กุลวตฺตํ, ตํ อนุวตฺตมาโน วยปฺปตฺโต ภริยาย สทฺธึ วสนฺโต อหมฺปิ ตํ นิขณิสฺสามิ โสพฺเภติ.
อถสฺส ปิตา จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘ผรุสาหิ วาจาหิ ปกุพฺพมาโน, อาสชฺช มํ ตฺวํ วทเส กุมาร;
ปุตฺโต มมํ โอรสโก สมาโน, อหีตานุกมฺปี มม ตฺวํสิ ปุตฺตา’’ติ.
ตตฺถ ปกุพฺพมาโนติ อภิภวนฺโต. อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา.
เอวํ ¶ วุตฺเต ปณฺฑิตกุมารโก เอกํ ปฏิวจนคาถํ, ทฺเว อุทานคาถาติ ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘น ตาหํ ตาต อหิตานุกมฺปี, หิตานุกมฺปี เต อหมฺปิ ตาต;
ปาปฺจ ตํ กมฺม ปกุพฺพมานํ, อรหามิ โน วารยิตุํ ตโต.
‘‘โย ¶ มาตรํ วา ปิตรํ สวิฏฺ, อทูสเก หึสติ ปาปธมฺโม;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ โส นิรยํ อุเปติ.
‘‘โย มาตรํ วา ปิตรํ สวิฏฺ, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหาติ;
กายสฺส ¶ เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ โส สุคตึ อุเปตี’’ติ. –
อิมํ ปน ปุตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปิตา อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘น เม ตฺวํ ปุตฺต อหิตานุกมฺปี, หิตานุกมฺปี เม ตฺวํสิ ปุตฺต;
อหฺจ ตํ มาตรา วุจฺจมาโน, เอตาทิสํ กมฺม กโรมิ ลุทฺท’’นฺติ.
ตตฺถ อหฺจ ตํ มาตราติ อหฺจ เต มาตรา, อยเมว วา ปาโ.
ตํ สุตฺวา กุมาโร ‘‘ตาต, อิตฺถิโย นาม อุปฺปนฺเน โทเส อนิคฺคยฺหมานา ปุนปฺปุนํ ปาปํ กโรนฺติ, มม มาตา ยถา ปุน เอวรูปํ น กโรติ, ตถา นํ ปณาเมตุํ วฏฺฏตี’’ติ นวมํ คาถมาห –
‘‘ยา เต สา ภริยา อนริยรูปา, มาตา มเมสา สกิยา ชเนตฺติ;
นิทฺธาปเย ตฺจ สกา อคารา, อฺมฺปิ เต สา ทุขมาวเหยฺยา’’ติ.
สวิฏฺโก ¶ ปณฺฑิตปุตฺตสฺส กถํ สุตฺวา โสมนสฺสชาโต หุตฺวา ‘‘คจฺฉาม, ตาตา’’ติ สทฺธึ ปุตฺเตน จ ปิตรา จ ยานเก นิสีทิตฺวา ปายาสิ. สาปิ โข อนาจารา ‘‘นิกฺขนฺตา โน เคหา กาฬกณฺณี’’ติ หฏฺตุฏฺา อลฺลโคมเยน เคหํ อุปลิมฺเปตฺวา ปายาสํ ปจิตฺวา อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี เต อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘นิกฺขนฺตํ กาฬกณฺณึ ปุน คเหตฺวา อาคโต’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘อเร นิกติก, นิกฺขนฺตํ กาฬกณฺณึ ปุน อาทาย อาคโตสี’’ติ ปริภาสิ. สวิฏฺโก กิฺจิ อวตฺวา ยานกํ โมเจตฺวา ‘‘อนาจาเร กึ วเทสี’’ติ ตํ สุโกฏฺฏิตํ โกฏฺเฏตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย มา อิมํ เคหํ ปาวิสี’’ติ ปาเท คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒิ. ตโต ปิตรฺจ ปุตฺตฺจ นฺหาเปตฺวา สยมฺปิ นฺหายิตฺวา ตโยปิ ¶ ปายาสํ ปริภฺุชึสุ. สาปิ ปาปธมฺมา กติปาหํ อฺสฺมึ เคเห วสิ. ตสฺมึ กาเล ปุตฺโต ปิตรํ อาห – ‘‘ตาต, มม มาตา เอตฺตเกน น พุชฺฌติ, ตุมฺเห มม มาตุ มงฺกุภาวกรณตฺถํ ‘อสุกคามเก มม มาตุลธีตา อตฺถิ ¶ , สา มยฺหํ ปิตรฺจ ปุตฺตฺจ มฺจ ปฏิชคฺคิสฺสติ, ตํ อาเนสฺสามี’ติ วตฺวา มาลาคนฺธาทีนิ อาทาย ยานเกน นิกฺขมิตฺวา เขตฺตํ อนุวิจริตฺวา สายํ อาคจฺฉถา’’ติ. โส ตถา อกาสิ.
ปฏิวิสฺสกกุเล อิตฺถิโย ‘‘สามิโก กิร เต อฺํ ภริยํ อาเนตุํ อสุกคามํ นาม คโต’’ติ ตสฺสา อาจิกฺขึสุ. สา ‘‘ทานิมฺหิ นฏฺา, นตฺถิ เม ปุน โอกาโส’’ติ ภีตา ตสิตา หุตฺวา ‘‘ปุตฺตเมว ยาจิสฺสามี’’ติ ปณฺฑิตปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘ตาต, ตํ เปตฺวา อฺโ มม ปฏิสรณํ นตฺถิ, อิโต ปฏฺาย ตว ปิตรฺจ ปิตามหฺจ อลงฺกตเจติยํ วิย ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ปุน มยฺหํ อิมสฺมึ ฆเร ปเวสนํ กโรหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, อมฺม, สเจ ปุน เอวรูปํ น กริสฺสถ, กริสฺสามิ, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ วตฺวา ปิตุ อาคตกาเล ทสมํ คาถมาห –
‘‘ยา เต สา ภริยา อนริยรูปา, มาตา มเมสา สกิยา ชเนตฺติ;
ทนฺตา กเรณูว วสูปนีตา, สา ปาปธมฺมา ปุนราวชาตู’’ติ.
ตตฺถ ¶ กเรณูวาติ ตาต, อิทานิ สา อาเนฺชการณํ การิกา หตฺถินี วิย ทนฺตา วสํ อุปนีตา นิพฺพิเสวนา ชาตา. ปุนราคชาตูติ ปุน อิมํ เคหํ อาคจฺฉตูติ.
เอวํ โส ปิตุ ธมฺมํ กเถตฺวา คนฺตฺวา มาตรํ อาเนสิ. สา สามิกฺจ สสุรฺจ ขมาเปตฺวา ตโต ปฏฺาย ทนฺตา ธมฺเมน สมนฺนาคตา หุตฺวา สามิกฺจ สสุรฺจ ปุตฺตฺจ ปฏิชคฺคิ. อุโภปิ จ ปุตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กริตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ปิตุโปสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ปิตา จ ปุตฺโต จ สุณิสา จ เตเยว อเหสุํ, ปณฺฑิตกุมาโร ปน อหเมว อโหสินฺติ.
ตกฺกลชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๔๔๗] ๙. มหาธมฺมปาลชาตกวณฺณนา
กึ ¶ เต วตนฺติ อิทํ สตฺถา ปมคมเนน กปิลปุรํ คนฺตฺวา นิคฺโรธาราเม วิหรนฺโต ปิตุ นิเวสเน รฺโ อสทฺทหนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สุทฺโธทนมหาราชา วีสติสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส ภควโต อตฺตโน นิเวสเน ยาคุขชฺชกํ ทตฺวา อนฺตราภตฺเต สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺโต ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปธานกาเล เทวตา อาคนฺตฺวา อากาเส ตฺวา ‘ปุตฺโต เต สิทฺธตฺถกุมาโร อปฺปาหารตาย มโต’ติ มยฺหํ อาโรเจสุ’’นฺติ อาห. สตฺถารา จ ‘‘สทฺทหิ, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘น สทฺทหึ, ภนฺเต, อากาเส ตฺวา กเถนฺติโยปิ เทวตา, ‘มม ปุตฺตสฺส โพธิตเล พุทฺธตฺตํ อปฺปตฺวา ปรินิพฺพานํ นาม นตฺถี’ติ ปฏิกฺขิปิ’’นฺติ อาห. ‘‘มหาราช, ปุพฺเพปิ ตฺวํ มหาธมฺมปาลกาเลปิ ‘ปุตฺโต เต มโต อิมานิสฺส อฏฺีนี’ติ ทสฺเสตฺวา วทนฺตสฺสปิ ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส ‘อมฺหากํ กุเล ตรุณกาเล กาลกิริยา นาม นตฺถี’ติ น สทฺทหิ, อิทานิ ปน กสฺมา สทฺทหิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต กาสิรฏฺเ ธมฺมปาลคาโม นาม อโหสิ. โส ธมฺมปาลกุลสฺส วสนตาย เอตํ นามํ ลภิ. ตตฺถ ทสนฺนํ กุสลกมฺมปถานํ ปาลนโต ‘‘ธมฺมปาโล’’ตฺเวว ปฺาโต พฺราหฺมโณ ปฏิวสติ, ตสฺส กุเล อนฺตมโส ทาสกมฺมกราปิ ทานํ เทนฺติ, สีลํ รกฺขนฺติ, อุโปสถกมฺมํ กโรนฺติ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺมึ กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘ธมฺมปาลกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. อถ นํ วยปฺปตฺตํ ปิตา สหสฺสํ ทตฺวา สิปฺปุคฺคหณตฺถาย ตกฺกสิลํ เปเสสิ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหิ, ปฺจนฺนํ มาณวกสตานํ เชฏฺนฺเตวาสิโก อโหสิ. ตทา อาจริยสฺส เชฏฺปุตฺโต กาลมกาสิ. อาจริโย มาณวกปริวุโต ¶ าติคเณน สทฺธึ โรทนฺโต กนฺทนฺโต สุสาเน ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรติ. ตตฺถ อาจริโย จ าติวคฺโค จสฺส อนฺเตวาสิกา จ โรทนฺติ ปริเทวนฺติ, ธมฺมปาโลเยเวโก น โรทติ น ปริเทวติ. อปิจ โข ปน เตสุ ปฺจสเตสุ มาณเวสุ สุสานา อาคมฺม อาจริยสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ‘‘อโห เอวรูโป นาม อาจารสมฺปนฺโน ตรุณมาณโว ตรุณกาเลเยว มาตาปิตูหิ วิปฺปยุตฺโต มรณปฺปตฺโต’’ติ วทนฺเตสุ ‘‘สมฺมา, ตุมฺเห ‘ตรุโณ’ติ ภณถ, อถ กสฺมา ตรุณกาเลเยว มรติ, นนุ อยุตฺตํ ตรุณกาเล มริตุ’’นฺติ อาห.
อถ นํ เต อาหํสุ ‘‘กึ ปน สมฺม, ตฺวํ อิเมสํ สตฺตานํ มรณภาวํ น ชานาสี’’ติ? ชานามิ, ตรุณกาเล ปน น มรนฺติ, มหลฺลกกาเลเยว มรนฺตีติ. นนุ อนิจฺจา สพฺเพ สงฺขารา ¶ หุตฺวา อภาวิโนติ? ‘‘สจฺจํ อนิจฺจา, ทหรกาเล ปน สตฺตา น มรนฺติ, มหลฺลกกาเล มรนฺติ, อนิจฺจตํ ปาปุณนฺตี’’ติ. ‘‘กึ สมฺม, ธมฺมปาล, ตุมฺหากํ เคเห น เกจิ มรนฺตี’’ติ? ‘‘ทหรกาเล ปน น มรนฺติ, มหลฺลกกาเลเยว มรนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปเนสา ตุมฺหากํ กุลปเวณี’’ติ? ‘‘อาม กุลปเวณี’’ติ. มาณวา ตํ ตสฺส กถํ อาจริยสฺส อาโรเจสุํ. อถ นํ โส ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘สจฺจํ กิร ตาต ธมฺมปาล, ตุมฺหากํ กุเล ทหรกาเล น มียนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ อาจริยา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ อติวิย อจฺฉริยํ วทติ, อิมสฺส ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา สเจ เอตํ สจฺจํ, อหมฺปิ ตเมว ¶ ธมฺมํ ปูเรสฺสามี’’ติ. โส ปุตฺตสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา สตฺตฏฺทิวสจฺจเยน ธมฺมปาลํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, อหํ ขิปฺปํ อาคมิสฺสามิ, ยาว มมาคมนา อิเม มาณเว สิปฺปํ วาเจหี’’ติ วตฺวา เอกสฺส เอฬกสฺส ¶ อฏฺีนิ คเหตฺวา โธวิตฺวา ปสิพฺพเก กตฺวา เอกํ จูฬุปฏฺากํ อาทาย ตกฺกสิลโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ตํ คามํ ปตฺวา ‘‘กตรํ มหาธมฺมปาลสฺส เคห’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา ทฺวาเร อฏฺาสิ. พฺราหฺมณสฺส ทาสมนุสฺเสสุ โย โย ปมํ อทฺทส, โส โส อาจริยสฺส หตฺถโต ฉตฺตํ คณฺหิ, อุปาหนํ คณฺหิ, อุปฏฺากสฺสปิ หตฺถโต ปสิพฺพกํ คณฺหิ. ‘‘ปุตฺตสฺส โว ธมฺมปาลกุมารสฺส อาจริโย ทฺวาเร ิโตติ กุมารสฺส ปิตุ อาโรเจถา’’ติ จ วุตฺตา ‘‘สาธู’’ติ คนฺตฺวา อาโรจยึสุ. โส เวเคน ทฺวารมูลํ คนฺตฺวา ‘‘อิโต เอถา’’ติ ตํ ฆรํ อภิเนตฺวา ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา สพฺพํ ปาทโธวนาทิกิจฺจํ อกาสิ.
อาจริโย ภุตฺตโภชโน สุขกถาย นิสินฺนกาเล ‘‘พฺราหฺมณ, ปุตฺโต เต ธมฺมปาลกุมาโร ปฺวา ติณฺณํ เวทานํ อฏฺารสนฺนฺจ สิปฺปานํ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต, อปิจ โข ปเนเกน อผาสุเกน ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต, สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, มา โสจิตฺถา’’ติ อาห. พฺราหฺมโณ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสิ. ‘‘กึ นุ พฺราหฺมณ, หสสี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต น มรติ, อฺโ โกจิ มโต ภวิสฺสตี’’ติ อาห. ‘‘พฺราหฺมณ, ปุตฺโตเยว เต มโต, ปุตฺตสฺเสว เต อฏฺีนิ ทิสฺวา สทฺทหา’’ติ อฏฺีนิ นีหริตฺวา ‘‘อิมานิ เต ปุตฺตสฺส อฏฺีนี’’ติ อาห. เอตานิ เอฬกสฺส วา สุนขสฺส วา ภวิสฺสนฺติ, มยฺหํ ปน ปุตฺโต น มรติ, อมฺหากาฺหิ กุเล ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ตรุณกาเล มตปุพฺพา นาม นตฺถิ, ตฺวํ มุสา ภณสีติ. ตสฺมึ ขเณ สพฺเพปิ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสึสุ. อาจริโย ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, ตุมฺหากํ กุลปเวณิยํ ทหรานํ อมรเณน น สกฺกา อเหตุเกน ภวิตุํ, เกน โว การเณน ทหรา น มียนฺตี’’ติ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กึ ¶ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
อกฺขาหิ เม พฺราหฺมณ เอตมตฺถํ, กสฺมา นุ ตุมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ วตนฺติ วตสมาทานํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. กิสฺส สุจิณฺณสฺสาติ ตุมฺหากํ กุเล ทหรานํ อมรณํ นาม กตรสุจริตสฺส วิปาโกติ.
ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ เยสํ คุณานํ อานุภาเวน ตสฺมึ กุเล ทหรา น มียนฺติ, เต วณฺณยนฺโต –
‘‘ธมฺมํ จราม น มุสา ภณาม, ปาปานิ กมฺมานิ ปริวชฺชยาม;
อนริยํ ปริวชฺเชมุ สพฺพํ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘สุโณม ธมฺมํ อสตํ สตฺจ, น จาปิ ธมฺมํ อสตํ โรจยาม;
หิตฺวา อสนฺเต น ชหาม สนฺเต, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมนา ภวาม, ททมฺปิ เว อตฺตมนา ภวาม;
ทตฺวาปิ เว นานุตปฺปาม ปจฺฉา, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘สมเณ มยํ พฺราหฺมเณ อทฺธิเก จ, วนิพฺพเก ยาจนเก ทลิทฺเท;
อนฺเนน ปาเนน อภิตปฺปยาม, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘มยฺจ ภริยํ นาติกฺกมาม, อมฺเห จ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;
อฺตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘ปาณาติปาตา ¶ วิรมาม สพฺเพ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยาม;
อมชฺชปา โนปิ มุสา ภณาม, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘เอตาสุ เว ชายเร สุตฺตมาสุ, เมธาวิโน โหนฺติ ปหูตปฺา;
พหุสฺสุตา เวทคุโน จ โหนฺติ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘มาตา ¶ ปิตา จ ภคินี ภาตโร จ, ปุตฺตา จ ทารา จ มยฺจ สพฺเพ;
ธมฺมํ จราม ปรโลกเหตุ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.
‘‘ทาสา จ ทาสฺโย อนุชีวิโน จ, ปริจารกา กมฺมกรา จ สพฺเพ;
ธมฺมํ ¶ จรนฺติ ปรโลกเหตุ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ. –
อิมา คาถา อาห.
ตตฺถ ธมฺมํ จรามาติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จราม, อตฺตโน ชีวิตเหตุ อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกมฺปิ ชีวิตา น โวโรเปม, ปรภณฺฑํ โลภจิตฺเตน น โอโลเกมาติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. มุสาวาโท เจตฺถ มุสาวาทิสฺส อกรณปาปํ นาม นตฺถีติ อุสฺสนฺนวเสน ปุน วุตฺโต. เต กิร หสาธิปฺปาเยนปิ มุสา น ภณนฺติ. ปาปานีติ สพฺพานิ นิรยคามิกมฺมานิ. อนริยนฺติ อริยครหิตํ สพฺพํ อสุนฺทรํ อปริสุทฺธํ กมฺมํ ปริวชฺชยาม. ตสฺมา หิ อมฺหนฺติ เอตฺถ หิ-กาโร นิปาตมตฺโต, เตน การเณน อมฺหากํ ทหรา น มียนฺติ, อนฺตรา อกาลมรณํ นาม โน นตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘ตสฺมา อมฺห’’นฺติปิ ปาโ. สุโณมาติ มยํ กิริยวาทานํ สปฺปุริสานํ กุสลทีปนมฺปิ อสปฺปุริสานํ อกุสลทีปนมฺปิ ธมฺมํ สุโณม ¶ , โส ปน โน สุตมตฺตโกว โหติ, ตํ น โรจยาม. เตหิ ปน โน สทฺธึ วิคฺคโห วา วิวาโท วา มา โหตูติ ธมฺมํ สุณาม, สุตฺวาปิ หิตฺวา อสนฺเต สนฺเต วตฺตาม, เอกมฺปิ ขณํ น ชหาม สนฺเต, ปาปมิตฺเต ปหาย กลฺยาณมิตฺตเสวิโนว โหมาติ.
สมเณ มยํ พฺราหฺมเณติ มยํ สมิตปาเป พาหิตปาเป ปจฺเจกพุทฺธสมณพฺราหฺมเณปิ อวเสสธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณปิ อทฺธิกยาจเก เสสชเนปิ อนฺนปาเนน อภิตปฺเปมาติ อตฺโถ. ปาฬิยํ ปน อยํ คาถา ‘‘ปุพฺเพว ทานา’’ติ คาถาย ปจฺฉโต อาคตา. นาติกฺกมามาติ อตฺตโน ภริยํ อติกฺกมิตฺวา พหิ อฺํ มิจฺฉาจารํ น กโรม. อฺตฺร ตาหีติ ตา อตฺตโน ภริยา เปตฺวา เสสอิตฺถีสุ พฺรหฺมจริยํ จราม, อมฺหากํ ภริยาปิ เสสปุริเสสุ เอวเมว วตฺตนฺติ. ชายเรติ ชายนฺติ. สุตฺตมาสูติ สุสีลาสุ อุตฺตมิตฺถีสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย เอตาสุ สมฺปนฺนสีลาสุ อุตฺตมิตฺถีสุ อมฺหากํ ปุตฺตา ชายนฺติ, เต เมธาวิโนติ เอวํปการา โหนฺติ, กุโต เตสํ อนฺตรา มรณํ, ตสฺมาปิ อมฺหากํ กุเล ทหรา น มรนฺตีติ. ธมฺมํ จรามาติ ปรโลกตฺถาย ติวิธสุจริตธมฺมํ จราม. ทาสฺโยติ ทาสิโย.
อวสาเน ¶ –
‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหติ;
เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.
‘‘ธมฺโม ¶ หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ วิย วสฺสกาเล;
ธมฺเมน คุตฺโต มม ธมฺมปาโล, อฺสฺส อฏฺีนิ สุขี กุมาโร’’ติ. –
อิมาหิ ทฺวีหิ คาถาหิ ธมฺมจารีนํ คุณํ กเถสิ.
ตตฺถ รกฺขตีติ ธมฺโม นาเมโส รกฺขิโต อตฺตโน รกฺขิตํ ปฏิรกฺขติ. สุขมาวหตีติ เทวมนุสฺสสุขฺเจว นิพฺพานสุขฺจ อาวหติ. น ¶ ทุคฺคตินฺติ นิรยาทิเภทํ ทุคฺคตึ น คจฺฉติ. เอวํ พฺราหฺมณ, มยํ ธมฺมํ รกฺขาม, ธมฺโมปิ อมฺเห รกฺขตีติ ทสฺเสติ. ธมฺเมน คุตฺโตติ มหาฉตฺตสทิเสน อตฺตนา โคปิตธมฺเมน คุตฺโต. อฺสฺส อฏฺีนีติ ตยา อานีตานิ อฏฺีนิ อฺสฺส เอฬกสฺส วา สุนขสฺส วา อฏฺีนิ ภวิสฺสนฺติ, ฉฑฺเฑเถตานิ, มม ปุตฺโต สุขี กุมาโรติ.
ตํ สุตฺวา อาจริโย ‘‘มยฺหํ อาคมนํ สุอาคมนํ, สผลํ, โน นิปฺผล’’นฺติ สฺชาตโสมนสฺโส ธมฺมปาลสฺส ปิตรํ ขมาเปตฺวา ‘‘มยา อาคจฺฉนฺเตน ตุมฺหากํ วีมํสนตฺถาย อิมานิ เอฬกอฏฺีนิ อาภตานิ, ปุตฺโต เต อโรโคเยว, ตุมฺหากํ รกฺขิตธมฺมํ มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ ปณฺเณ ลิขิตฺวา กติปาหํ ตตฺถ วสิตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ธมฺมปาลํ สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขาเปตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน เปเสสิ.
สตฺถา สุทฺโธทนมหาราชสฺส อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ราชา อนาคามิผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, อาจริโย สาริปุตฺโต, ปริสา พุทฺธปริสา, ธมฺมปาลกุมาโร ปน อหเมว อโหสินฺติ.
มหาธมฺมปาลชาตกวณฺณนา นวมา.
[๔๔๘] ๑๐. กุกฺกุฏชาตกวณฺณนา
นาสฺมเส ¶ กตปาปมฺหีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส วธาย ปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิ. ธมฺมสภายฺหิ ภิกฺขู เทวทตฺตสฺส อคุณกถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ธนุคฺคหาทิปโยชเนน ทสพลสฺส วธตฺถเมว อุปายํ กโรตี’’ติ. สตฺถา ¶ อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอส มยฺหํ วธาย ปริสกฺกิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต โกสมฺพิยํ โกสมฺพโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต เอกสฺมึ เวฬุวเน กุกฺกุฏโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อเนกสตกุกฺกุฏปริวาโร อรฺเ วสติ, ตสฺสาวิทูเร เอโก เสโน วสติ ¶ . โส อุปาเยน เอเกกํ กุกฺกุฏํ คเหตฺวา ขาทนฺโต เปตฺวา โพธิสตฺตํ เสเส ขาทิ, โพธิสตฺโต เอกโกว อโหสิ. โส อปฺปมตฺโต เวลาย โคจรํ คเหตฺวา เวฬุวนํ ปวิสิตฺวา วสติ. โส เสโน ตํ คณฺหิตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เอเกน นํ อุปาเยน อุปลาเปตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺสาวิทูเร สาขาย นิลียิตฺวา ‘‘สมฺม กุกฺกุฏราช, ตฺวํ มยฺหํ กสฺมา ภายสิ, อหํ ตยา สทฺธึ วิสฺสาสํ กตฺตุกาโม, อสุกสฺมึ นาม ปเทเส สมฺปนฺนโคจโร, ตตฺถ อุโภปิ โคจรํ คเหตฺวา อฺมฺํ ปิยสํวาสํ วสิสฺสามา’’ติ อาห. อถ นํ โพธิสตฺโต อาห ‘‘สมฺม, มยฺหํ ตยา สทฺธึ วิสฺสาโส นาม นตฺถิ, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ. ‘‘สมฺม, ตฺวํ มยา ปุพฺเพ กตปาปตาย น สทฺทหสิ, อิโต ปฏฺาย เอวรูปํ น กริสฺสามี’’ติ. ‘‘น มยฺหํ ตาทิเสน สหาเยนตฺโถ, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ. อิติ นํ ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘เอเตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ปุคฺคเลน สทฺธึ วิสฺสาโส นาม กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วนฆฏํ อุนฺนาเทนฺโต เทวตาสุ สาธุการํ ททมานาสุ ธมฺมกถํ สมุฏฺาเปนฺโต –
‘‘นาสฺมเส กตปาปมฺหิ, นาสฺมเส อลิกวาทิเน;
นาสฺมเส อตฺตตฺถปฺมฺหิ, อติสนฺเตปิ นาสฺมเส.
‘‘ภวนฺติ เหเก ปุริสา, โคปิปาสิกชาติกา;
ฆสนฺติ มฺเ มิตฺตานิ, วาจาย น จ กมฺมุนา.
‘‘สุกฺขฺชลิปคฺคหิตา ¶ , วาจาย ปลิคุณฺิตา;
มนุสฺสเผคฺคู นาสีเท, ยสฺมึ นตฺถิ กตฺุตา.
‘‘น ¶ หิ อฺฺจิตฺตานํ, อิตฺถีนํ ปุริสาน วา;
นานาวิกตฺวา สํสคฺคํ, ตาทิสมฺปิ จ นาสฺมเส.
‘‘อนริยกมฺมโมกฺกนฺตํ, อเถตํ สพฺพฆาตินํ;
นิสิตํว ปฏิจฺฉนฺนํ, ตาทิสมฺปิ จ นาสฺมเส.
‘‘มิตฺตรูเปนิเธกจฺเจ, สาขลฺเยน อเจตสา;
วิวิเธหิ อุปายนฺติ, ตาทิสมฺปิ จ นาสฺมเส.
‘‘อามิสํ ¶ วา ธนํ วาปิ, ยตฺถ ปสฺสติ ตาทิโส;
ทุพฺภึ กโรติ ทุมฺเมโธ, ตฺจ หนฺตฺวาน คจฺฉตี’’ติ. – อิมา คาถา อาห;
ตตฺถ นาสฺมเสติ นาสฺสเส. อยเมว วา ปาโ, น วิสฺสเสติ วุตฺตํ โหติ. กตปาปมฺหีติ ปมํ กตปาเป ปุคฺคเล. อลิกวาทิเนติ มุสาวาทิมฺหิปิ น วิสฺสเส. ตสฺส หิ อกตฺตพฺพํ นาม ปาปํ นตฺถิ. นาสฺมเส อตฺตตฺถปฺมฺหีติ อตฺตโน อตฺถาย เอว ยสฺส ปฺา สฺเนหวเสน น ภชติ, ธนตฺถิโกว ภชติ, ตสฺมึ อตฺตตฺถปฺเปิ น วิสฺสเส. อติสนฺเตติ อนฺโต อุปสเม อวิชฺชมาเนเยว จ พหิ อุปสมทสฺสเนน อติสนฺเต วิย ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺเตปิ พิลปฏิจฺฉนฺนอาสีวิสสทิเส กุหกปุคฺคเล. โคปิปาสิกชาติกาติ คุนฺนํ ปิปาสกชาติกา วิย, ปิปาสิตโคสทิสาติ วุตฺตํ โหติ. ยถา ปิปาสิตคาโว ติตฺถํ โอตริตฺวา มุขปูรํ อุทกํ ปิวนฺติ, น ปน อุทกสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ กโรนฺติ, เอวเมว เอกจฺเจ ‘‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’’ติ มธุรวจเนน มิตฺตานิ ฆสนฺติ, ปิยวจนานุจฺฉวิกํ ปน น กโรนฺติ, ตาทิเสสุ วิสฺสาโส มหโต อนตฺถาย โหตีติ ทีเปติ.
สุกฺขฺชลิปคฺคหิตาติ ปคฺคหิตตุจฺฉอฺชลิโน. วาจาย ปลิคุณฺิตาติ ‘‘อิทํ ทสฺสาม, อิทํ กริสฺสามา’’ติ วจเนน ปฏิจฺฉาทิกา. มนุสฺสเผคฺคูติ เอวรูปา อสารกา มนุสฺสา มนุสฺสเผคฺคู นาม. นาสีเทติ น อาสีเท เอวรูเป น อุปคจฺเฉยฺย. ยสฺมึ นตฺถีติ ยสฺมิฺจ ปุคฺคเล กตฺุตา นตฺถิ, ตมฺปิ นาสีเทติ อตฺโถ. อฺฺจิตฺตานนฺติ อฺเนฺเน จิตฺเตน สมนฺนาคตานํ ¶ , ลหุจิตฺตานนฺติ อตฺโถ. เอวรูปานํ อิตฺถีนํ วา ปุริสานํ วา น วิสฺสเสติ ทีเปติ. นานาวิกตฺวา สํสคฺคนฺติ โยปิ น สกฺกา อนุปคนฺตฺวา เอตสฺส อนฺตรายํ กาตุนฺติ อนฺตรายกรณตฺถํ นานาการเณหิ สํสคฺคมาวิกตฺวา ทฬฺหํ กริตฺวา ปจฺฉา อนฺตรายํ กโรติ, ตาทิสมฺปิ ปุคฺคลํ นาสฺมเส น วิสฺสเสยฺยาติ ทีเปติ.
อนริยกมฺมโมกฺกนฺตติ อนริยานํ ทุสฺสีลานํ กมฺมํ โอตริตฺวา ิตํ. อเถตนฺติ อถิรํ อปฺปติฏฺิตวจนํ. สพฺพฆาตินนฺติ โอกาสํ ลภิตฺวา สพฺเพสํ ¶ อุปฆาตกรํ. นิสิตํว ¶ ปฏิจฺฉนฺนนฺติ โกสิยา วา ปิโลติกาย วา ปฏิจฺฉนฺนํ นิสิตขคฺคมิว. ตาทิสมฺปีติ เอวรูปมฺปิ อมิตฺตํ มิตฺตปติรูปกํ น วิสฺสเสยฺย. สาขลฺเยนาติ มฏฺวจเนน. อเจตสาติ อจิตฺตเกน. วจนเมว หิ เนสํ มฏฺํ, จิตฺตํ ปน ถทฺธํ ผรุสํ. วิวิเธหีติ วิวิเธหิ อุปาเยหิ โอตาราเปกฺขา อุปคจฺฉนฺติ. ตาทิสมฺปีติ โย เอเตหิ อมิตฺเตหิ มิตฺตปติรูปเกหิ สทิโส โหติ, ตมฺปิ น วิสฺสเสติ อตฺโถ. อามิสนฺติ ขาทนียโภชนียํ. ธนนฺติ มฺจปฏิปาทกํ อาทึ กตฺวา อวเสสํ. ยตฺถ ปสฺสตีติ สหายกเคเห ยสฺมึ าเน ปสฺสติ. ทุพฺภึ กโรตีติ ทุพฺภิจิตฺตํ อุปฺปาเทติ, ตํ ธนํ หรติ. ตฺจ หนฺตฺวานาติ ตฺจ สหายกมฺปิ เฉตฺวา คจฺฉติ. อิติ อิมา สตฺต คาถา กุกฺกุฏราชา กเถสิ.
‘‘มิตฺตรูเปน พหโว, ฉนฺนา เสวนฺติ สตฺตโว;
ชเห กาปุริเส เหเต, กุกฺกุโฏ วิย เสนกํ.
‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, น ขิปฺปมนุพุชฺฌติ;
อมิตฺตวสมนฺเวติ, ปจฺฉา จ มนุตปฺปติ.
‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, ขิปฺปเมว นิโพธติ;
มุจฺจเต สตฺตุสมฺพาธา, กุกฺกุโฏ วิย เสนกา.
‘‘ตํ ตาทิสํ กูฏมิโวฑฺฑิตํ วเน, อธมฺมิกํ นิจฺจวิธํสการินํ;
อารา วิวชฺเชยฺย นโร วิจกฺขโณ, เสนํ ยถา กุกฺกุโฏ วํสกานเน’’ติ. –
อิมา จตสฺโส ธมฺมราเชน ภาสิตา อภิสมฺพุทฺธคาถา.
ตตฺถ ¶ ชเห กาปุริเส เหเตติ ภิกฺขเว, เอเต กาปุริเส ปณฺฑิโต ชเหยฺย. ห-กาโร ปเนตฺถ นิปาตมตฺตํ. ปจฺฉา จ มนุตปฺปตีติ ปจฺฉา จ อนุตปฺปติ. กูฏมิโวฑฺฑิตนฺติ วเน มิคานํ พนฺธนตฺถาย กูฏปาสํ วิย โอฑฺฑิตํ. นิจฺจวิธํสการินนฺติ นิจฺจํ วิทฺธํสนกรํ. วํสกานเนติ ยถา วํสวเน กุกฺกุโฏ เสนํ วิวชฺเชติ, เอวํ วิจกฺขโณ ปาปมิตฺเต วิวชฺเชยฺย.
โสปิ ¶ ตา คาถา วตฺวา เสนํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สเจ อิมสฺมึ าเน วสิสฺสสิ, ชานิสฺสามิ เต กตฺตพฺพ’’นฺติ ตชฺเชสิ. เสโน ตโต ปลายิตฺวา อฺตฺร คโต.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขเว เทวทตฺโต ปุพฺเพปิ มยฺหํ วธาย ปริสกฺกี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เสโน เทวทตฺโต อโหสิ, กุกฺกุโฏ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
กุกฺกุฏชาตกวณฺณนา ทสมา.
[๔๔๙] ๑๑. มฏฺกุณฺฑลีชาตกวณฺณนา
อลงฺกโต มฏฺกุณฺฑลีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มตปุตฺตํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิเรกสฺส พุทฺธุปฏฺากสฺส กุฏุมฺพิกสฺส ปิยปุตฺโต กาลมกาสิ. โส ปุตฺตโสกสมปฺปิโต น นฺหายติ น ภฺุชติ น กมฺมนฺเต วิจาเรติ, น พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉติ, เกวลํ ‘‘ปิยปุตฺตก, มํ โอหาย ปมตรํ คโตสี’’ติอาทีนิ วตฺวา วิปฺปลปติ. สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต ตสฺส โสตาปตฺติผลูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา อานนฺทตฺเถเรน ปจฺฉาสมเณน ตสฺส ฆรทฺวารํ อคมาสิ. สตฺถุ อาคตภาวํ กุฏุมฺพิกสฺส อาโรเจสุํ. อถสฺส เคหชโน อาสนํ ปฺเปตฺวา สตฺถารํ นิสีทาเปตฺวา กุฏุมฺพิกํ ปริคฺคเหตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อาเนสิ. ตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนํ สตฺถา กรุณาสีตเลน วจเนน อามนฺเตตฺวา ‘‘กึ, อุปาสก, ปุตฺตกํ อนุโสจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, โปราณกปณฺฑิตา ปุตฺเต กาลกเต โสกสมปฺปิตา วิจรนฺตาปิ ปณฺฑิตานํ กถํ สุตฺวา ‘อลพฺภนียฏฺาน’นฺติ ตถโต ตฺวา อปฺปมตฺตกมฺปิ โสกํ น กรึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอกสฺส มหาวิภวสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต ปฺจทสโสฬสวสฺสกาเล เอเกน พฺยาธินา ผุฏฺโ กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. พฺราหฺมโณ ตสฺส กาลกิริยโต ปฏฺาย สุสานํ คนฺตฺวา ฉาริกปฺุชํ อาวิชฺฌนฺโต ปริเทวติ, สพฺพกมฺมนฺเต ปริจฺจชิตฺวา โสกสมปฺปิโต วิจรติ. ตทา เทวปุตฺโต อนุวิจรนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘เอกํ อุปมํ กตฺวา โสกํ หริสฺสามี’’ติ ตสฺส สุสานํ คนฺตฺวา ปริเทวนกาเล ตสฺเสว ปุตฺตวณฺณี หุตฺวา สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิโต เอกสฺมึ ปเทเส ตฺวา อุโภ หตฺเถ สีเส เปตฺวา ¶ มหาสทฺเทน ปริเทวิ. พฺราหฺมโณ สทฺทํ สุตฺวา ตํ โอโลเกตฺวา ปุตฺตเปมํ ปฏิลภิตฺวา ตสฺส สนฺติเก ตฺวา ‘‘ตาต มาณว, อิมสฺมึ สุสานมชฺเฌ กสฺมา ปริเทวสี’’ติ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘อลงฺกโต มฏฺกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.
ตตฺถ อลงฺกโตติ นานาภรณวิภูสิโต. มฏฺกุณฺฑลีติ กรณปรินิฏฺิเตหิ มฏฺเหิ กุณฺฑเลหิ สมนฺนาคโต. มาลธารีติ วิจิตฺรกุสุมมาลธโร. หริจนฺทนุสฺสโทติ สุวณฺณวณฺเณน จนฺทเนน อนุลิตฺโต. วนมชฺเฌติ สุสานมชฺเฌ. กึ ทุกฺขิโต ตุวนฺติ กึการณา ทุกฺขิโต ตฺวํ, อาจิกฺข, อหํ เต ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทสฺสามีติ อาห.
อถสฺส กเถนฺโต มาณโว ทุติยํ คาถมาห –
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;
ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติ.
พฺราหฺมโณ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘โสวณฺณมยํ มณีมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยามยํ;
ปาวท รถํ กริสฺสามิ เต, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ ต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ปาวทาติ ยาทิเสน เต อตฺโถ ยาทิสํ โรเจสิ, ตาทิสํ วท, อหํ เต รถ กริสฺสามิ. ปฏิปาทยามิ ตนฺติ ตํ ปฺชรานุรูปํ จกฺกยุคํ อธิคจฺฉาเปมิ.
ตํ ¶ สุตฺวา มาณเวน กถิตาย คาถาย ปมปาทํ สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา กเถสิ, เสสํ มาณโว.
‘‘โส มาณโว ตสฺส ปาวทิ, จนฺทสูริยา ¶ อุภเยตฺถ ภาตโร;
โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.
พฺราหฺมโณ ตทนนฺตรํ อาห –
‘‘พาโล โข ตฺวํสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยสิ อปตฺถิยํ;
มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย’’ติ. –
พฺราหฺมเณน วุตฺตคาถาย อปตฺถิยนฺติ อปตฺเถตพฺพํ.
ตโต มาณโว อาห –
‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภเยตฺถ วีถิโย;
เปโต ปน เนว ทิสฺสติ, โก นุ โข กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.
มาณเวน วุตฺตคาถาย คมนาคมนนฺติ อุคฺคมนฺจ อตฺถคมนฺจ. วณฺโณเยว วณฺณธาตุ. อุภเยตฺถ วีถิโยติ เอตฺถ อากาเส ‘‘อยํ จนฺทสฺส วีถิ, อยํ สูริยสฺส วีถี’’ติ เอวํ อุภยคมนาคมนภูมิโยปิ ปฺายนฺติ. เปโต ปนาติ ปรโลกํ คตสตฺโต ปน น ทิสฺสเตว. โก นุ โขติ เอวํ สนฺเต อมฺหากํ ทฺวินฺนํ กนฺทนฺตานํ โก นุ โข พาลฺยตโรติ.
เอวํ ¶ มาณเว กเถนฺเต พฺราหฺมโณ สลฺลกฺเขตฺวา คาถมาห –
‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;
จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถเย’’ติ.
ตตฺถ จนฺทํ วิย ทารโกติ ยถา ทหโร คามทารโก ‘‘จนฺทํ เทถา’’ติ จนฺทสฺสตฺถาย โรเทยฺย, เอวํ อหมฺปิ เปตํ กาลกตํ อภิปตฺเถมีติ.
อิติ ¶ พฺราหฺมโณ มาณวสฺส กถาย นิสฺโสโก หุตฺวา ตสฺส ถุตึ กโรนฺโต เสสคาถา อภาสิ –
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี ¶ วต เม สลฺลํ, ยมาสิ หทยสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘โสหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, วีตโสโก อนาวิโล;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.
อถ นํ มาณโว ‘‘พฺราหฺมณ, ยสฺสตฺถาย ตฺวํ โรทสิ, อหํ เต ปุตฺโต, อหํ เทวโลเก นิพฺพตฺโต, อิโต ปฏฺาย มา มํ อนุโสจิ, ทานํ เทหิ, สีลํ รกฺขาหิ, อุโปสถํ กโรหี’’ติ โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. พฺราหฺมโณปิ ตสฺโสวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา กาลกโต เทวโลเก นิพฺพตฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนหิ, สจฺจปริโยสาเน กุฏุมฺพิโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.ตทา ธมฺมเทสกเทวปุตฺโต อหเมว อโหสินฺติ.
มฏฺกุณฺฑลีชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.
[๔๕๐] ๑๒. พิลารโกสิยชาตกวณฺณนา
อปจนฺตาปีติ ¶ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทานวิตฺตํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย ทานวิตฺโต อโหสิ ทานชฺฌาสโย, ปตฺตปริยาปนฺนมฺปิ ปิณฺฑปาตํ อฺสฺส อทตฺวา น ภฺุชิ, อนฺตมโส ปานียมฺปิ ลภิตฺวา อฺสฺส อทตฺวา น ปิวิ, เอวํ ทานาภิรโต อโหสิ. อถสฺส ธมฺมสภายํ ภิกฺขู คุณกถํ กเถสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ¶ ภิกฺขุ ทานวิตฺโต ทานชฺฌาสโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว อยํ ปุพฺเพ อสฺสทฺโธ อโหสิ อปฺปสนฺโน, ติณคฺเคน เตลพินฺทุมฺปิ อุทฺธริตฺวา กสฺสจิ น อทาสิ, อถ นํ อหํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทานผลํ าเปสึ, ตเมว ทานนินฺนํ จิตฺตํ ภวนฺตเรปิ น ปชหตี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต กุฏุมฺพํ สณฺเปตฺวา ปิตุ อจฺจเยน เสฏฺิฏฺานํ ปตฺวา เอกทิวสํ ธนวิโลกนํ กตฺวา ‘‘ธนํ ปฺายติ, เอตสฺส ¶ อุปฺปาทกา น ปฺายนฺติ, อิมํ ธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา มหาทานํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทานสาลํ กาเรตฺวา ยาวชีวํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา อายุปริโยสาเน ‘‘อิทํ ทานวตฺตํ มา อุปจฺฉินฺที’’ติ ปุตฺตสฺส โอวาทํ ทตฺวา ตาวตึสภวเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ปุตฺโตปิสฺส ตเถว ทานํ ทตฺวา ปุตฺตํ โอวทิตฺวา อายุปริโยสาเน จนฺโท เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺสปิ ปุตฺโต มาตลิสงฺคาหโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ฉฏฺโ ปน อสฺสทฺโธ อโหสิ ถทฺธจิตฺโต นิสฺเนโห มจฺฉรี, ทานสาลํ วิทฺธํเสตฺวา ฌาเปตฺวา ยาจเก โปเถตฺวา นีหราเปสิ, กสฺสจิ ติณคฺเคน อุทฺธริตฺวา เตลพินฺทุมฺปิ น เทติ. ตทา สกฺโก เทวราชา อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปวตฺตติ นุ โข เม ทานวํโส, อุทาหุ โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘ปุตฺโต เม ทานํ ปวตฺเตตฺวา ¶ จนฺโท หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย, ตสฺส ปุตฺโต มาตลิ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ฉฏฺโ ปน ตํ วํสํ อุปจฺฉินฺที’’ติ ปสฺสิ.
อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘อิมํ ปาปธมฺมํ ทเมตฺวา ทานผลํ ชานาเปตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ. โส จนฺทสูริยมาตลิปฺจสิเข ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺมา, อมฺหากํ วํเส ฉฏฺโ กุลวํสํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา ทานสาลํ ฌาเปตฺวา ยาจเก นีหราเปสิ, น กสฺสจิ กิฺจิ เทติ, เอถ นํ ทเมสฺสามา’’ติ เตหิ สทฺธึ พาราณสึ อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ เสฏฺิ ราชุปฏฺานํ กตฺวา อาคนฺตฺวา สตฺตเม ทฺวารโกฏฺเก อนฺตรวีถึ โอโลเกนฺโต จงฺกมติ. สกฺโก ‘‘ตุมฺเห มม ปวิฏฺกาเล ปจฺฉโต ปฏิปาฏิยา อาคจฺฉถา’’ติ วตฺวา คนฺตฺวา เสฏฺิสฺส สนฺติเก ตฺวา ‘‘โภ มหาเสฏฺิ, โภชนํ เม เทหี’’ติ อาห. ‘‘พฺราหฺมณ นตฺถิ ตว อิธ ภตฺตํ, อฺตฺถ คจฺฉา’’ติ. ‘‘โภ มหาเสฏฺิ, พฺราหฺมเณหิ ภตฺเต ยาจิเต ¶ น ทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ. ‘‘พฺราหฺมณ, มม เคเห ปกฺกมฺปิ ปจิตพฺพมฺปิ ภตฺตํ นตฺถิ, อฺตฺถ คจฺฉา’’ติ. ‘‘มหาเสฏฺิ, เอกํ เต สิโลกํ กเถสฺสามิ, ตํ สุณาหี’’ติ. ‘‘นตฺถิ มยฺหํ ตว สิโลเกนตฺโถ, มา อิธ ติฏฺา’’ติ. สกฺโก ตสฺส กถํ อสุณนฺโต วิย ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อปจนฺตาปิ ¶ ทิจฺฉนฺติ, สนฺโต ลทฺธาน โภชนํ;
กิเมว ตฺวํ ปจมาโน, ยํ น ทชฺชา น ตํ สมํ.
‘‘มจฺเฉรา จ ปมาทา จ, เอวํ ทานํ น ทียติ;
ปฺุํ อากงฺขมาเนน, เทยฺยํ โหติ วิชานตา’’ติ.
ตาสํ อตฺโถ – มหาเสฏฺิ อปจนฺตาปิ สนฺโต สปฺปุริสา ภิกฺขาจริยาย ลทฺธมฺปิ โภชนํ ทาตุํ อิจฺฉนฺติ, น เอกกา ปริภฺุชนฺติ. กิเมว ตฺวํ ปจมาโน ยํ น ทเทยฺยาสิ, น ตํ สมํ, ตํ ตว อนุรูปํ อนุจฺฉวิกํ น โหติ. ทานฺหิ มจฺเฉเรน จ ปมาเทน จาติ ทฺวีหิ โทเสหิ น ทียติ, ปฺุํ อากงฺขมาเนน วิชานตา ปณฺฑิตมนุสฺเสน ทาตพฺพเมว โหตีติ.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ เคหํ ปวิสิตฺวา นิสีท, โถกํ ลจฺฉสี’’ติ อาห. สกฺโก ปวิสิตฺวา เต สิโลเก สชฺฌายนฺโต นิสีทิ. อถ นํ จนฺโท อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจิ. ‘‘นตฺถิ เต ภตฺตํ, คจฺฉา’’ติ จ ¶ วุตฺโต ‘‘มหาเสฏฺิ อนฺโต เอโก พฺราหฺมโณ นิสินฺโน, พฺราหฺมณวาจนกํ มฺเ ภวิสฺสติ, อหมฺปิ ภวิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘นตฺถิ พฺราหฺมณวาจนกํ, นิกฺขมา’’ติ วุจฺจมาโนปิ ‘‘มหาเสฏฺิ อิงฺฆ ตาว สิโลกํ สุณาหี’’ติ ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ยสฺเสว ภีโต น ททาติ มจฺฉรี, ตเทวาททโต ภยํ;
ชิฆจฺฉา จ ปิปาสา จ, ยสฺส ภายติ มจฺฉรี;
ตเมว พาลํ ผุสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ.
‘‘ตสฺมา วิเนยฺย มจฺเฉรํ, ทชฺชา ทานํ มลาภิภู;
ปฺุานิ ปรโลกสฺมึ, ปติฏฺา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติ.
ตตฺถ ยสฺส ภายตีติ ‘‘อหํ อฺเสํ ทตฺวา สยํ ชิฆจฺฉิโต จ ปิปาสิโต จ ภวิสฺสามี’’ติ ยสฺสา ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ภายติ. ตเมวาติ ¶ ตฺเว ชิฆจฺฉาปิปาสาสงฺขาตํ ภยํ เอตํ พาลํ นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน อิธโลเก ปรโลเก จ ผุสติ ปีเฬติ, อจฺจนฺตทาลิทฺทิยํ ปาปุณาติ. มลาภิภูติ มจฺฉริยมลํ อภิภวนฺโต.
ตสฺสปิ วจนํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ ปวิส, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โสปิ ปวิสิตฺวา ¶ สกฺกสฺส สนฺติเก นิสีทิ. ตโต โถกํ วีตินาเมตฺวา สูริโย อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ทุทฺททํ ททมานานํ, ทุกฺกรํ กมฺม กุพฺพตํ;
อสนฺโต นานุกุพฺพนฺติ, สตํ ธมฺโม ทุรนฺนโย.
‘‘ตสฺมา สตฺจ อสตํ, นานา โหติ อิโต คติ;
อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ, สนฺโต สคฺคปรายณา’’ติ.
ตตฺถ ทุทฺททนฺติ ทานํ นาม ทุทฺททํ มจฺเฉรํ อภิภวิตฺวา ทาตพฺพโต, ตํ ททมานานํ. ทุกฺกรนฺติ ตเทว ทานกมฺมํ ทุกฺกรํ ยุทฺธสทิสํ, ตํ กุพฺพตํ. นานุกุพฺพนฺตีติ อสปฺปุริสา ทานผลํ อชานนฺตา เตสํ คตมคฺคํ นานุคจฺฉนฺติ. สตํ ธมฺโมติ สปฺปุริสานํ โพธิสตฺตานํ ธมฺโม อฺเหิ ทุรนุคโม. อสนฺโตติ มจฺฉริยวเสน ทานํ อทตฺวา อสปฺปุริสา นิรยํ ยนฺติ.
เสฏฺิ ¶ คเหตพฺพคหณํ อปสฺสนฺโต ‘‘เตน หิ ปวิสิตฺวา พฺราหฺมณานํ สนฺติเก นิสีท, โถกํ ลจฺฉสี’’ติ อาห. ตโต โถกํ วีตินาเมตฺวา มาตลิ อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘นตฺถี’’ติ วจนมตฺตกาลเมว สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘อปฺปสฺเมเก ปเวจฺฉนฺติ, พหุเนเก น ทิจฺฉเร;
อปฺปสฺมา ทกฺขิณา ทินฺนา, สหสฺเสน สมํ มิตา’’ติ.
ตตฺถ อปฺปสฺเมเก ปเวจฺฉนฺตีติ มหาเสฏฺิ เอกจฺเจ ปณฺฑิตปุริสา อปฺปสฺมิมฺปิ เทยฺยธมฺเม ปเวจฺฉนฺติ, ททนฺติเยวาติ อตฺโถ. พหุนาปิ เทยฺยธมฺเมน สมนฺนาคตา เอเก สตฺตา น ทิจฺฉเร น ททนฺติ. ทกฺขิณาติ กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา ทินฺนทานํ. สหสฺเสน สมํ มิตาติ เอวํ ทินฺนา กฏจฺฉุภตฺตมตฺตาปิ ทกฺขิณา สหสฺสทาเนน สทฺธึ มิตา, มหาผลตฺตา สหสฺสทานสทิสาว โหตีติ อตฺโถ.
ตมฺปิ ¶ โส ‘‘เตน หิ ปวิสิตฺวา นิสีทา’’ติ อาห. ตโต โถกํ วีตินาเมตฺวา ปฺจสิโข อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘นตฺถิ คจฺฉา’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ น คตปุพฺโพ, อิมสฺมึ เคเห พฺราหฺมณวาจนกํ ภวิสฺสติ มฺเ’’ติ ตสฺส ธมฺมกถํ อารภนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘ธมฺมํ ¶ จเร โยปิ สมฺุฉกํ จเร, ทารฺจ โปสํ ททมปฺปกสฺมึ;
สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติ.
ตตฺถ ธมฺมนฺติ ติวิธสุจริตธมฺมํ. สมฺุฉกนฺติ คาเม วา อามกปกฺกภิกฺขาจริยํ อรฺเ วา ผลาผลหรณสงฺขาตํ อฺุฉํ โย จเรยฺย, โสปิ ธมฺมเมว จเร. ทารฺจ โปสนฺติ อตฺตโน จ ปุตฺตทารํ โปเสนฺโตเยว. ททมปฺปกสฺมินฺติ ปริตฺเต วา เทยฺยธมฺเม ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ททมาโน ธมฺมํ จเรติ อตฺโถ. สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินนฺติ ปรํ โปเถตฺวา วิเหเตฺวา สหสฺเสน ยาคํ ยชนฺตานํ สหสฺสยาคีนํ อิสฺสรานํ สตสหสฺสมฺปิ. กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เตติ เตสํ สตสหสฺสสงฺขาตานํ สหสฺสยาคีนํ ยาคา ตถาวิธสฺส ธมฺเมน สเมน ¶ เทยฺยธมฺมํ อุปฺปาเทตฺวา เทนฺตสฺส ทุคฺคตมนุสฺสสฺส โสฬสึ กลํ น อคฺฆนฺตีติ.
เสฏฺิ ปฺจสิขสฺส กถํ สุตฺวา สลฺลกฺเขสิ. อถ นํ อนคฺฆการณํ ปุจฺฉนฺโต นวมํ คาถมาห –
‘‘เกเนส ยฺโ วิปุโล มหคฺฆโต, สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติ;
กถํ สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติ.
ตตฺถ ยฺโติ ทานยาโค สตสหสฺสปริจฺจาควเสน วิปุโล, วิปุลตฺตาว มหคฺฆโต. สเมน ทินฺนสฺสาติ ธมฺเมน ทินฺนสฺส เกน การเณน อคฺฆํ น อุเปติ. กถํ สตํ สหสฺสานนฺติ พฺราหฺมณ, กถํ ¶ สหสฺสยาคีนํ ปุริสานํ พหูนํ สหสฺสานํ สตสหสฺสสงฺขาตา อิสฺสรา ตถาวิธสฺส ธมฺเมน อุปฺปาเทตฺวา ทายกสฺส เอกสฺส ทุคฺคตมนุสฺสสฺส กลํ นาคฺฆนฺตีติ.
อถสฺส กเถนฺโต ปฺจสิโข โอสานคาถมาห –
‘‘ททนฺติ เหเก วิสเม นิวิฏฺา, เฉตฺวา วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา;
สา ทกฺขิณา อสฺสุมุขา สทณฺฑา, สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติ;
เอวํ สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติ.
ตตฺถ วิสเมติ วิสเม กายกมฺมาทิมฺหิ นิวิฏฺา. เฉตฺวาติ กิลเมตฺวา. วธิตฺวาติ มาเรตฺวา. โสจยิตฺวาติ สโสเก กตฺวา.
โส ¶ ปฺจสิขสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ คจฺฉ, เคหํ ปวิสิตฺวา นิสีท, โถกํ ลจฺฉสี’’ติ อาห. โสปิ คนฺตฺวา เตสํ สนฺติเก นิสีทิ. ตโต พิลารโกสิโย เสฏฺิ เอกํ ทาสึ อามนฺเตตฺวา ‘‘เอเตสํ พฺราหฺมณานํ ปลาปวีหีนํ นาฬึ นาฬึ เทหี’’ติ อาห. สา วีหี คเหตฺวา พฺราหฺมเณ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิเม อาทาย ยตฺถ กตฺถจิ ปจาเปตฺวา ภฺุชถา’’ติ อาห. ‘‘น อมฺหากํ วีหินา อตฺโถ, น มยํ วีหึ อามสามา’’ติ. ‘‘อยฺย, วีหึ กิเรเต นามสนฺตี’’ติ? ‘‘เตน หิ เตสํ ตณฺฑุเล เทหี’’ติ. สา ตณฺฑุเล อาทาย คนฺตฺวา ‘‘พฺราหฺมณา ตณฺฑุเล คณฺหถา’’ติ อาห. ‘‘มยํ อามกํ น ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ. ‘‘อยฺย, อามกํ กิร น คณฺหนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ เตสํ กโรฏิยํ วฑฺเฒตฺวา โคภตฺตํ เทหี’’ติ. สา เตสํ กโรฏิยํ วฑฺเฒตฺวา มหาโคณานํ ปกฺกภตฺตํ อาหริตฺวา อทาสิ. ปฺจปิ ชนา กพเฬ วฑฺเฒตฺวา มุเข ปกฺขิปิตฺวา คเล ลคฺคาเปตฺวา อกฺขีนิ ปริวตฺเตตฺวา วิสฺสฏฺสฺา มตา วิย นิปชฺชึสุ. ทาสี เต ทิสฺวา ‘‘มตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ภีตา คนฺตฺวา เสฏฺิโน อาโรเจสิ ‘‘อยฺย, เต พฺราหฺมณา โคภตฺตํ คิลิตุํ อสกฺโกนฺตา ¶ มตา’’ติ.
โส จินฺเตสิ ‘‘อิทานิ อยํ ปาปธมฺโม สุขุมาลพฺราหฺมณานํ โคภตฺตํ ทาเปสิ, เต ตํ คิลิตุํ อสกฺโกนฺตา มตาติ มํ ครหิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต ทาสึ อาห – ‘‘ขิปฺปํ คนฺตฺวา เอเตสํ กโรฏิเกสุ ภตฺตํ หริตฺวา นานคฺครสํ สาลิภตฺตํ วฑฺเฒหี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. เสฏฺิ อนฺตรปีถึ ปฏิปนฺนมนุสฺเส ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อหํ มม ภฺุชนนิยาเมน เอเตสํ พฺราหฺมณานํ ภตฺตํ ทาเปสึ, เอเต โลเภน มหนฺเต ปิณฺเฑ กตฺวา ภฺุชมานา คเล ลคฺคาเปตฺวา มตา, มม นิทฺโทสภาวํ ชานาถา’’ติ วตฺวา ปริสํ สนฺนิปาเตสิ. มหาชเน สนฺนิปติเต พฺราหฺมณา อุฏฺาย มหาชนํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปสฺสถิมสฺส เสฏฺิสฺส มุสาวาทิตํ, ‘อมฺหากํ อตฺตโน ภฺุชนภตฺตํ ทาเปสิ’นฺติ วทติ, ปมํ โคภตฺตํ อมฺหากํ ทตฺวา อมฺเหสุ มเตสุ วิย นิปนฺเนสุ อิมํ ภตฺตํ วฑฺฒาเปสี’’ติ วตฺวา อตฺตโน มุเขหิ คหิตภตฺตํ ภูมิยํ ปาเตตฺวา ทสฺเสสุํ. มหาชโน เสฏฺึ ครหิ ‘‘อนฺธพาล, อตฺตโน กุลวํสํ นาเสสิ, ทานสาลํ ฌาเปสิ, ยาจเก คีวายํ คเหตฺวา นีหราเปสิ, อิทานิ อิเมสํ สุขุมาลพฺราหฺมณานํ ภตฺตํ เทนฺโต โคภตฺตํ ทาเปสิ, ปรโลกํ คจฺฉนฺโต ตว ฆเร วิภวํ คีวายํ พนฺธิตฺวา คมิสฺสสิ มฺเ’’ติ.
ตสฺมึ ขเณ สกฺโก มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘ชานาถ, ตุมฺเห อิมสฺมึ เคเห ธนํ กสฺส สนฺตก’’นฺติ? ‘‘น ชานามา’’ติ. ‘‘อิมสฺมึ นคเร อสุกกาเล พาราณสิยํ ¶ มหาเสฏฺิ นาม ทานสาลํ กาเรตฺวา มหาทานํ ปวตฺตยี’’ติ สุตปุพฺพํ ตุมฺเหหีติ. ‘‘อาม สุณามา’’ติ. ‘‘อหํ โส เสฏฺิ, ทานํ ทตฺวา สกฺโก เทวราชา หุตฺวา ปุตฺโตปิ เม ตํ วํสํ อวินาเสตฺวา ทานํ ทตฺวา จนฺโท ¶ เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย, ตสฺส ปุตฺโต มาตลิ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺโต. เตสุ อยํ จนฺโท, อยํ สูริโย, อยํ มาตลิสงฺคาหโก, อยํ อิมสฺส ¶ ปาปธมฺมสฺส ปิตา ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต, เอวํ พหุคุณํ เอตํ ทานํ นาม, กตฺตพฺพเมว กุสลํ ปณฺฑิเตหี’’ติ กเถนฺตา มหาชนสฺส กงฺขจฺเฉทนตฺถํ อากาเส อุปฺปติตฺวา มหนฺเตนานุภาเวน มหนฺเตน ปริวาเรน ชลมานสรีรา อฏฺํสุ, สกลนครํ ปชฺชลนฺตํ วิย อโหสิ. สกฺโก มหาชนํ อามนฺเตตฺวา ‘‘มยํ อตฺตโน ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปหาย อาคจฺฉนฺตา อิมํ กุลวํสนาสกรํ ปาปธมฺมพิลารโกสิยํ นิสฺสาย อาคตา, อยํ ปาปธมฺโม อตฺตโน กุลวํสํ นาเสตฺวา ทานสาลํ ฌาเปตฺวา ยาจเก คีวายํ คเหตฺวา นีหราเปตฺวา อมฺหากํ วํสํ สมุจฺฉินฺทิ, ‘อยํ อทานสีโล หุตฺวา นิรเย นิพฺพตฺเตยฺยา’ติ อิมสฺส อนุกมฺปาย อาคตามฺหา’’ติ วตฺวา ทานคุณํ ปกาเสนฺโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. พิลารโกสิโย สิรสฺมึ อฺชลึ ปติฏฺเปตฺวา ‘‘เทว, อหํ อิโต ปฏฺาย โปราณกุลวํสํ อนาสาเปตฺวา ทานํ ปวตฺเตสฺสามิ, อชฺช อาทึ กตฺวา อนฺตมโส อุทกทนฺตโปนํ อุปาทาย อตฺตโน ลทฺธาหารํ ปรสฺส อทตฺวา น ขาทิสฺสามี’’ติ สกฺกสฺส ปฏิฺํ อทาสิ. สกฺโก ตํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺเปตฺวา จตฺตาโร เทวปุตฺเต อาทาย สกฏฺานเมว คโต. โสปิ เสฏฺิ ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, อยํ ภิกฺขุ ปุพฺเพ อสฺสทฺโธ อโหสิ กสฺสจิ กิฺจิ อทาตา, อหํ ปน นํ ทเมตฺวา ทานผลํ ชานาเปสึ, ตเมว จิตฺตํ ภวนฺตรคตมฺปิ น ชหาตี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เสฏฺิ อยํ ทานปติโก ภิกฺขุ อโหสิ, จนฺโท สาริปุตฺโต, สูริโย โมคฺคลฺลาโน, มาตลิ กสฺสโป, ปฺจสิโข อานนฺโท, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
พิลารโกสิยชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมา.
[๔๕๑] ๑๓. จกฺกวากชาตกวณฺณนา
วณฺณวา ¶ ¶ อภิรูโปสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โลลภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร จีวราทีหิ อติตฺโต ‘‘กหํ สงฺฆภตฺตํ, กหํ นิมนฺตน’’นฺติ ปริเยสนฺโต วิจรติ, อามิสกถายเมว อภิรมติ. อถฺเ เปสลา ภิกฺขู ตสฺสานุคฺคเหน สตฺถุ อาโรเจสุํ. สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ โลโล’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ กสฺมา เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา โลโล อโหสิ, โลลภาโว จ นาม ปาปโก, ปุพฺเพปิ ตฺวํ โลลภาวํ นิสฺสาย พาราณสิยํ หตฺถิกุณปาทีหิ อติตฺโต มหาอรฺํ ปวิฏฺโ’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก โลลกาโก พาราณสิยํ หตฺถิกุณปาทีหิ อติตฺโต ‘‘อรฺํ นุ โข กีทิส’’นฺติ อรฺํ คนฺตฺวา ตตฺถปิ ผลาผเลหิ อสนฺตุฏฺโ คงฺคาย ตีรํ คนฺตฺวา วิจรนฺโต ชยมฺปติเก จกฺกวาเก ทิสฺวา ‘‘อิเม สกุณา อติวิย โสภนฺติ, อิเม อิมสฺมึ คงฺคาตีเร พหุํ มจฺฉมํสํ ขาทนฺติ มฺเ, อิเม ปฏิปุจฺฉิตฺวา มยาปิ อิเมสํ โภชนํ โคจรํ ขาทิตฺวา วณฺณวนฺเตน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เตสํ อวิทูเร นิสีทิตฺวา จกฺกวากํ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘วณฺณวา อภิรูโปสิ, ฆโน สฺชาตโรหิโต;
จกฺกวาก สุรูโปสิ, วิปฺปสนฺนมุขินฺทฺริโย.
‘‘ปาีนํ ปาวุสํ มจฺฉํ, พลชํ มฺุชโรหิตํ;
คงฺคาย ตีเร นิสินฺโน, เอวํ ภฺุชสิ โภชน’’นฺติ.
ตตฺถ ฆโนติ ฆนสรีโร. สฺชาตโรหิโตติ อุตฺตตฺตสุวณฺณํ วิย สุฏฺุชาตโรหิตวณฺโณ. ปาีนนฺติ ปาีนนามกํ ปาสาณมจฺฉํ. ปาวุสนฺติ มหามุขมจฺฉํ, ‘‘ปาหุส’’นฺติปิ ปาโ. พลชนฺติ พลชมจฺฉํ. มฺุชโรหิตนฺติ มฺุชมจฺฉฺจ โรหิตมจฺฉฺจ. เอวํ ภฺุชสีติ เอวรูปํ โภชนํ มฺเ ภฺุชสีติ ปุจฺฉติ.
จกฺกวาโก ¶ ตสฺส วจนํ ปฏิกฺขิปนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘น ¶ วาหเมตํ ภฺุชามิ, ชงฺคลาโนทกานิ วา;
อฺตฺร เสวาลปณกา, เอตํ เม สมฺม โภชน’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – อหํ สมฺม, อฺตฺร เสวาลา จ ปณกา จ เสสานิ ชงฺคลานิ วา โอทกานิ วา มํสานิ อาทาย เอตํ โภชนํ น ภฺุชามิ, ยํ ปเนตํ เสวาลปณกํ, เอตํ เม สมฺม, โภชนนฺติ.
ตโต ¶ กาโก ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘น วาหเมตํ สทฺทหามิ, จกฺกวากสฺส โภชนํ;
อหมฺปิ สมฺม ภฺุชามิ, คาเม โลณิยเตลิยํ.
‘‘มนุสฺเสสุ กตํ ภตฺตํ, สุจึ มํสูปเสจนํ;
น จ เม ตาทิโส วณฺโณ, จกฺกวาก ยถา ตุว’’นฺติ.
ตตฺถ ยถา ตุวนฺติ ยถา ตุวํ โสภคฺคปฺปตฺโต สรีรวณฺโณ, ตาทิโส มยฺหํ วณฺโณ นตฺถิ, เอเตน การเณน อหํ ตว ‘‘เสวาลปณกํ มม โภชน’’นฺติ วทนฺตสฺส วจนํ น สทฺทหามีติ.
อถสฺส จกฺกวาโก ทุพฺพณฺณการณํ กเถตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต เสสคาถา อภาสิ –
‘‘สมฺปสฺสํ อตฺตนิ เวรํ, หึสยํ มานุสึ ปชํ;
อุตฺรสฺโต ฆสสี ภีโต, เตน วณฺโณ ตเวทิโส.
‘‘สพฺพโลกวิรุทฺโธสิ, ธงฺก ปาเปน กมฺมุนา;
ลทฺโธ ปิณฺโฑ น ปีเณติ, เตน วณฺโณ ตเวทิโส.
‘‘อหมฺปิ สมฺม ภฺุชามิ, อหึสํ สพฺพปาณินํ;
อปฺโปสฺสุกฺโก นิราสงฺกี, อโสโก อกุโตภโย.
‘‘โส กรสฺสุ อานุภาวํ, วีติวตฺตสฺสุ สีลิยํ;
อหึสาย จร โลเก, ปิโย โหหิสิ มํมิว.
‘‘โย ¶ น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;
เมตฺตํโส สพฺพภูเตสุ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’ติ.
ตตฺถ สมฺปสฺสนฺติ สมฺม กาก ตฺวํ ปเรสุ อุปฺปนฺนํ อตฺตนิ เวรจิตฺตํ สมฺปสฺสมาโน มานุสึ ปชํ หึสนฺโต วิเหเนฺโต. อุตฺรสฺโตติ ภีโต. ฆสสีติ ภฺุชสิ. เตน เต เอทิโส พีภจฺฉวณฺโณ ¶ ชาโต. ธงฺกาติ กากํ อาลปติ. ปิณฺโฑติ โภชนํ. อหึสํ สพฺพปาณินนฺติ อหํ ปน สพฺพสตฺเต อหึสนฺโต ¶ ภฺุชามีติ วทติ. โส กรสฺสุ อานุภาวนฺติ โส ตฺวมฺปิ วีริยํ กโรหิ, อตฺตโน สีลิยสงฺขาตํ ทุสฺสีลภาวํ วีติวตฺตสฺสุ. อหึสายาติ อหึสาย สมนฺนาคโต หุตฺวา โลเก จร. ปิโย โหหิสิ มํมิวาติ เอวํ สนฺเต มยา สทิโสว โลกสฺส ปิโย โหหิสิ. น ชินาตีติ ธนชานึ น กโรติ. น ชาปเยติ อฺเปิ น กาเรติ. เมตฺตํโสติ เมตฺตโกฏฺาโส เมตฺตจิตฺโต. น เกนจีติ เกนจิ เอกสตฺเตนปิ สทฺธึ ตสฺส เวรํ นาม นตฺถีติ.
ตสฺมา สเจ โลกสฺส ปิโย ภวิตุํ อิจฺฉสิ, สพฺพเวเรหิ วิรมาหีติ เอวํ จกฺกวาโก กากสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. กาโก ‘‘ตุมฺเห อตฺตโน โคจรํ มยฺหํ น กเถถ, กา กา’’ติ วสฺสนฺโต อุปฺปติตฺวา พาราณสิยํ อุกฺการภูมิยฺเว โอตริ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โลลภิกฺขุ อนาคามิผเล ปติฏฺหิ. ตทา กาโก โลลภิกฺขุ อโหสิ, จกฺกวากี ราหุลมาตา, จกฺกวาโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.
จกฺกวากชาตกวณฺณนา เตรสมา.
[๔๕๒] ๑๔. ภูริปฺชาตกวณฺณนา
๑๔๕-๑๕๔. สจฺจํ กิราติ อิทํ ภูริปฺชาตกํ มหาอุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
ภูริปฺชาตกวณฺณนา จุทฺทสมา.
[๔๕๓] ๑๕. มหามงฺคลชาตกวณฺณนา
กึสุ ¶ นโรติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหามงฺคลสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย) อารพฺภ กเถสิ. ราชคหนครสฺมิฺหิ เกนจิเทว กรณีเยน สนฺถาคาเร สนฺนิปติตสฺส มหาชนสฺส มชฺเฌ เอโก ปุริโส ‘‘อชฺช เม มงฺคลกิริยา อตฺถี’’ติ อุฏฺาย อคมาสิ. อปโร ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ ‘มงฺคล’นฺติ วตฺวาว คโต, กึ เอตํ มงฺคลํ นามา’’ติ อาห ¶ . ตมฺโ ‘‘อภิมงฺคลรูปทสฺสนํ มงฺคลํ นาม. เอกจฺโจ หิ กาลสฺเสว อุฏฺาย สพฺพเสตํ อุสภํ วา ปสฺสติ, คพฺภินิตฺถึ วา โรหิตมจฺฉํ วา ปุณฺณฆฏํ วา นวนีตํ วา โคสปฺปึ วา อหตวตฺถํ วา ปายาสํ วา ปสฺสติ, อิโต อุตฺตริ มงฺคลํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เตน กถิตํ เอกจฺเจ ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทึสุ. อปโร ‘‘เนตํ ¶ มงฺคลํ, สุตํ นาม มงฺคลํ. เอกจฺโจ หิ ‘ปุณฺณา’ติ วทนฺตานํ สุณาติ, ตถา ‘วฑฺฒา’ติ ‘วฑฺฒมานา’ติ สุณาติ, ‘ภฺุชา’ติ ‘ขาทา’ติ วทนฺตานํ สุณาติ, อิโต อุตฺตริ มงฺคลํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เตน กถิตมฺปิ เอกจฺเจ ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทึสุ. อปโร ‘‘น เอตํ มงฺคลํ, มุตํ นาม มงฺคลํ. เอกจฺโจ หิ กาลสฺเสว อุฏฺาย ปถวึ อามสติ, หริตติณํ อลฺลโคมยํ ปริสุทฺธสาฏกํ โรหิตมจฺฉํ สุวณฺณรชตภาชนํ อามสติ, อิโต อุตฺตริ มงฺคลํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เตน กถิตมฺปิ เอกจฺเจ ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทึสุ. เอวํ ทิฏฺมงฺคลิกา สุตมงฺคลิกา มุตมงฺคลิกาติ ติสฺโสปิ ปริสา หุตฺวา อฺมฺํ สฺาเปตุํ นาสกฺขึสุ, ภุมฺมเทวตา อาทึ กตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา ‘‘อิทํ มงฺคล’’นฺติ ตถโต น ชานึสุ.
สกฺโก จินฺเตสิ ‘‘อิมํ มงฺคลปฺหํ สเทวเก โลเก อฺตฺร ภควตา อฺโ กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส รตฺติภาเค สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘พหู เทวา มนุสฺสา จา’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉิ. อถสฺส สตฺถา ทฺวาทสหิ คาถาหิ อฏฺตึส มหามงฺคลานิ กเถสิ. มงฺคลสุตฺเต วินิวฏฺฏนฺเตเยว โกฏิสตสหสฺสมตฺตา เทวตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, โสตาปนฺนาทีนํ คณนปโถ นตฺถิ. สกฺโก มงฺคลํ สุตฺวา สกฏฺานเมว คโต. สตฺถารา มงฺคเล กถิเต สเทวโก โลโก ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทิ. ตทา ¶ ธมฺมสภายํ ตถาคตสฺส คุณกถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถา อฺเสํ อวิสยํ มงฺคลปฺหํ สเทวกสฺส โลกสฺส จิตฺตํ คเหตฺวา กุกฺกุจฺจํ ฉินฺทิตฺวา คคนตเล จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย กเถสิ, เอวํ มหาปฺโ, อาวุโส, ตถาคโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, อิทาเนว สมฺโพธิปฺปตฺตสฺส มม มงฺคลปฺหกถนํ, สฺวาหํ โพธิสตฺตจริยํ จรนฺโตปิ เทวมนุสฺสานํ กงฺขํ ฉินฺทิตฺวา มงฺคลปฺหํ กเถสิ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เอกสฺมึ คาเม วิภวสมฺปนฺนสฺส พฺราหฺมณสฺส กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘รกฺขิตกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ อุคฺคหิตสิปฺโป กตทารปริคฺคโห มาตาปิตูนํ อจฺจเยน รตนวิโลกนํ กตฺวา สํวิคฺคมานโส มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา กาเม ปหาย หิมวนฺตปเทเส ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา ¶ วนมูลผลาหาโร เอกสฺมึ ปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. อนุปุพฺเพนสฺส ปริวาโร มหา อโหสิ, ปฺจ อนฺเตวาสิกสตานิ อเหสุํ. อเถกทิวสํ เต ตาปสา โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘อาจริย, วสฺสารตฺตสมเย หิมวนฺตโต โอตริตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ชนปทจาริกํ คจฺฉาม, เอวํ โน สรีรฺจ ถิรํ ภวิสฺสติ, ชงฺฆวิหาโร จ กโต ภวิสฺสตี’’ติ อาหํสุ. เต ‘‘เตน หิ ตุมฺเห คจฺฉถ, อหํ อิเธว วสิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ตํ วนฺทิตฺวา หิมวนฺตา โอตริตฺวา จาริกํ จรมานา พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสึสุ. เตสํ มหาสกฺการสมฺมาโน อโหสิ. อเถกทิวสํ พาราณสิยํ สนฺถาคาเร สนฺนิปติเต มหาชนกาเย มงฺคลปฺโห สมุฏฺาติ. สพฺพํ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุนเยเนว เวทิตพฺพํ.
ตทา ปน มนุสฺสานํ กงฺขํ ฉินฺทิตฺวา มงฺคลปฺหํ กเถตุํ สมตฺถํ อปสฺสนฺโต มหาชโน อุยฺยานํ คนฺตฺวา อิสิคณํ มงฺคลปฺหํ ปุจฺฉิ. อิสโย ราชานํ อามนฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, มยํ เอตํ กเถตุํ น สกฺขิสฺสาม, อปิจ โข อมฺหากํ อาจริโย รกฺขิตตาปโส นาม มหาปฺโ หิมวนฺเต วสติ, โส สเทวกสฺส โลกสฺส จิตฺตํ คเหตฺวา เอตํ มงฺคลปฺหํ กเถสฺสตี’’ติ วทึสุ. ราชา ‘‘ภนฺเต, หิมวนฺโต ¶ นาม ทูเร ทุคฺคโมว, น สกฺขิสฺสาม มยํ ตตฺถ คนฺตุํ, สาธุ วต ตุมฺเหเยว อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา อุคฺคณฺหิตฺวา ปุนาคนฺตฺวา อมฺหากํ กเถถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา กตปฏิสนฺถารา อาจริเยน รฺโ ธมฺมิกภาเว ชนปทจาริตฺเต จ ปุจฺฉิเต ตํ ทิฏฺมงฺคลาทีนํ อุปฺปตฺตึ อาทิโต ปฏฺาย กเถตฺวา ¶ รฺโ ยาจนาย จ อตฺตโน ปฺหสวนตฺถํ อาคตภาวํ ปกาเสตฺวา ‘‘สาธุ โน ภนฺเต, มงฺคลปฺหํ ปากฏํ กตฺวา กเถถา’’ติ ยาจึสุ. ตโต เชฏฺนฺเตวาสิโก อาจริยํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กึสุ นโร ชปฺปมธิจฺจ กาเล, กํ วา วิชฺชํ กตมํ วา สุตานํ;
โส มจฺโจ อสฺมิฺจ ปรมฺหิ โลเก, กถํ กโร โสตฺถาเนน คุตฺโต’’ติ.
ตตฺถ กาเลติ มงฺคลปตฺถนกาเล. วิชฺชนฺติ เวทํ. สุตานนฺติ สิกฺขิตพฺพยุตฺตกปริยตฺตีนํ. อสฺมิฺจาติ เอตฺถ จาติ นิปาตมตฺตํ. โสตฺถาเนนาติ โสตฺถิภาวาวเหน มงฺคเลน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อาจริย, ปุริโส มงฺคลํ อิจฺฉนฺโต มงฺคลกาเล กึสุ นาม ชปฺปนฺโต ตีสุ เวเทสุ กตรํ วา เวทํ กตรํ วา สุตานํ อนฺตเร สุตปริยตฺตึ อธียิตฺวา โส มจฺโจ อิมสฺมิฺจ โลเก ปรมฺหิ จ กถํ กโร เอเตสุ ชปฺปาทีสุ กึ เกน นิยาเมน กโรนฺโต โสตฺถาเนน นิรปราธมงฺคเลน คุตฺโต รกฺขิโต โหติ, ตํ อุภยโลกหิตํ คเหตฺวา ิตมงฺคลํ อมฺหากํ กเถหี’’ติ.
เอวํ ¶ เชฏฺนฺเตวาสิเกน มงฺคลปฺหํ ปุฏฺโ มหาสตฺโต เทวมนุสฺสานํ กงฺขํ ฉินฺทนฺโต ‘‘อิทฺจิทฺจ มงฺคล’’นฺติ พุทฺธลีฬาย มงฺคลํ กเถนฺโต อาห –
‘‘ยสฺส ¶ เทวา ปิตโร จ สพฺเพ, สรีสปา สพฺพภูตานิ จาปิ;
เมตฺตาย นิจฺจํ อปจิตานิ โหนฺติ, ภูเตสุ เว โสตฺถานํ ตทาหู’’ติ.
ตตฺถ ยสฺสาติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส. เทวาติ ภุมฺมเทเว อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ กามาวจรเทวา. ปิตโร จาติ ตตุตฺตริ รูปาวจรพฺรหฺมาโน. สรีสปาติ ทีฆชาติกา. สพฺพภูตานิ จาปีติ วุตฺตาวเสสานิ จ สพฺพานิปิ ภูตานิ. เมตฺตาย นิจฺจํ อปจิตานิ โหนฺตีติ เอเต สพฺเพ สตฺตา ทสทิสาผรณวเสน ปวตฺตาย อปฺปนาปฺปตฺตาย เมตฺตาภาวนาย อปจิตา โหนฺติ. ภูเตสุ เวติ ตํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส สพฺพสตฺเตสุ โสตฺถานํ นิรนฺตรํ ปวตฺตํ นิรปราธมงฺคลํ ¶ อาหุ. เมตฺตาวิหารี หิ ปุคฺคโล สพฺเพสํ ปิโย โหติ ปรูปกฺกเมน อวิโกปิโย. อิติ โส อิมินา มงฺคเลน รกฺขิโต โคปิโต โหตีติ.
อิติ มหาสตฺโต ปมํ มงฺคลํ กเถตฺวา ทุติยาทีนิ กเถนฺโต –
‘‘โย สพฺพโลกสฺส นิวาตวุตฺติ, อิตฺถีปุมานํ สหทารกานํ;
ขนฺตา ทุรุตฺตานมปฺปฏิกูลวาที, อธิวาสนํ โสตฺถานํ ตทาหุ.
‘‘โย นาวชานาติ สหายมตฺเต, สิปฺเปน กุลฺยาหิ ธเนน ชจฺจา;
รุจิปฺโ อตฺถกาเล มตีมา, สหาเยสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.
‘‘มิตฺตานิ เว ยสฺส ภวนฺติ สนฺโต, สํวิสฺสตฺถา อวิสํวาทกสฺส;
น มิตฺตทุพฺภี สํวิภาคี ธเนน, มิตฺเตสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.
‘‘ยสฺส ¶ ภริยา ตุลฺยวยา สมคฺคา, อนุพฺพตา ธมฺมกามา ปชาตา;
โกลินิยา สีลวตี ปติพฺพตา, ทาเรสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.
‘‘ยสฺส ราชา ภูตปติ ยสสฺสี, ชานาติ โสเจยฺยํ ปรกฺกมฺจ;
อทฺเวชฺฌตา สุหทยํ มมนฺติ, ราชูสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.
‘‘อนฺนฺจ ¶ ปานฺจ ททาติ สทฺโธ, มาลฺจ คนฺธฺจ วิเลปนฺจ;
ปสนฺนจิตฺโต อนุโมทมาโน, สคฺเคสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.
‘‘ยมริยธมฺเมน ปุนนฺติ วุทฺธา, อาราธิตา สมจริยาย สนฺโต;
พหุสฺสุตา ¶ อิสโย สีลวนฺโต, อรหนฺตมชฺเฌ โสตฺถานํ ตทาหู’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ นิวาตวุตฺตีติ มุทุจิตฺตตาย สพฺพโลกสฺส นีจวุตฺติ โหติ. ขนฺตา ทุรุตฺตานนฺติ ปเรหิ วุตฺตานํ ทุฏฺวจนานํ อธิวาสโก โหติ. อปฺปฏิกูลวาทีติ ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ, อวธิ ม’’นฺติ ยุคคฺคาหํ อกโรนฺโต อนุกูลเมว วทติ. อธิวาสนนฺติ อิทํ อธิวาสนํ ตสฺส โสตฺถานํ นิรปราธมงฺคลํ ปณฺฑิตา วทนฺติ.
สหายมตฺเตติ สหาเย จ สหายมตฺเต จ. ตตฺถ สหปํสุกีฬิตา สหายา นาม, ทส ทฺวาทส วสฺสานิ เอกโต วุตฺถา สหายมตฺตา นาม, เต สพฺเพปิ ‘‘อหํ สิปฺปวา, อิเม นิสิปฺปา’’ติ เอวํ สิปฺเปน วา ‘‘อหํ กุลีโน, อิเม น กุลีนา’’ติ เอวํ กุลสมฺปตฺติสงฺขาตาหิ กุลฺยาหิ วา, ‘‘อหํ อฑฺโฒ, อิเม ทุคฺคตา’’ติ เอวํ ธเนน วา, ‘‘อหํ ชาติสมฺปนฺโน, อิเม ทุชฺชาตา’’ติ เอวํ ชจฺจา วา นาวชานาติ. รุจิปฺโติ สาธุปฺโ สุนฺทรปฺโ ¶ . อตฺถกาเลติ กสฺสจิเทว อตฺถสฺส การณสฺส อุปฺปนฺนกาเล. มตีมาติ ตํ ตํ อตฺถํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิจารณสมตฺถตาย มติมา หุตฺวา เต สหาเย นาวชานาติ. สหาเยสูติ ตํ ตสฺส อนวชานนํ สหาเยสุ โสตฺถานํ นามาติ โปราณกปณฺฑิตา อาหุ. เตน หิ โส นิรปราธมงฺคเลน อิธโลเก จ ปรโลเก จ คุตฺโต โหติ. ตตฺถ ปณฺฑิเต สหาเย นิสฺสาย โสตฺถิภาโว กุสนาฬิชาตเกน (ชา. ๑.๑.๑๒๑ อาทโย) กเถตพฺโพ.
สนฺโตติ ปณฺฑิตา สปฺปุริสา ยสฺส มิตฺตานิ ภวนฺติ. สํวิสฺสตฺถาติ ฆรํ ปวิสิตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตสฺเสว คหณวเสน วิสฺสาสมาปนฺนา. อวิสํวาทกสฺสาติ อวิสํวาทนสีลสฺส. น มิตฺตทุพฺภีติ โย จ มิตฺตทุพฺภี น โหติ. สํวิภาคี ธเนนาติ อตฺตโน ธเนน มิตฺตานํ สํวิภาคํ กโรติ. มิตฺเตสูติ มิตฺเต นิสฺสาย ลทฺธพฺพํ ตสฺส ตํ มิตฺเตสุ โสตฺถานํ นาม โหติ. โส หิ เอวรูเปหิ มิตฺเตหิ รกฺขิโต โสตฺถึ ปาปุณาติ. ตตฺถ มิตฺเต นิสฺสาย โสตฺถิภาโว มหาอุกฺกุสชาตกาทีหิ (ชา. ๑.๑๔.๔๔ อาทโย) กเถตพฺโพ.
ตุลฺยวยาติ ¶ สมานวยา. สมคฺคาติ สมคฺควาสา. อนุพฺพตาติ อนุวตฺติตา. ธมฺมกามาติ ติวิธสุจริตธมฺมํ โรเจติ. ปชาตาติ วิชายินี, น วฺฌา. ทาเรสูติ เอเตหิ สีลคุเณหิ สมนฺนาคเต มาตุคาเม เคเห วสนฺเต สามิกสฺส โสตฺถิ โหตีติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ. ตตฺถ สีลวนฺตํ มาตุคามํ นิสฺสาย โสตฺถิภาโว มณิโจรชาตก- (ชา. ๑.๒.๘๗ อาทโย) สมฺพูลชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๒๙๗ อาทโย) ขณฺฑหาลชาตเกหิ (ชา. ๒.๒๒.๙๘๒ อาทโย) กเถตพฺโพ.
โสเจยฺยนฺติ สุจิภาวํ. อทฺเวชฺฌตาติ อทฺเวชฺฌตาย น เอส มยา สทฺธึ ภิชฺชิตฺวา ทฺวิธา ภวิสฺสตีติ เอวํ อทฺเวชฺฌภาเวน ยํ ชานาติ. สุหทยํ มมนฺติ สุหโท อยํ มมนฺติ จ ยํ ชานาติ. ราชูสุ เวติ เอวํ ราชูสุ เสวกานํ โสตฺถานํ นามาติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ. ททาติ ¶ สทฺโธติ กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา ททาติ. สคฺเคสุ เวติ เอวํ สคฺเค เทวโลเก โสตฺถานํ นิรปราธมงฺคลนฺติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ, ตํ เปตวตฺถุวิมานวตฺถูหิ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพํ.
ปุนนฺติ ¶ วุทฺธาติ ยํ ปุคฺคลํ าณวุทฺธา อริยธมฺเมน ปุนนฺติ ปริโสเธนฺติ. สมจริยายาติ สมฺมาปฏิปตฺติยา. พหุสฺสุตาติ ปฏิเวธพหุสฺสุตา. อิสโยติ เอสิตคุณา. สีลวนฺโตติ อริยสีเลน สมนฺนาคตา. อรหนฺตมชฺเฌติ อรหนฺตานํ มชฺเฌ ปฏิลภิตพฺพํ ตํ โสตฺถานนฺติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ. อรหนฺโต หิ อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา ปฏิปาเทนฺตา อาราธกํ ปุคฺคลํ อริยมคฺเคน ปุนนฺติ, โสปิ อรหาว โหติ.
เอวํ มหาสตฺโต อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหนฺโต อฏฺหิ คาถาหิ อฏฺ มหามงฺคลานิ กเถตฺวา เตสฺเว มงฺคลานํ ถุตึ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘เอตานิ โข โสตฺถานานิ โลเก, วิฺุปฺปสตฺถานิ สุขุทฺรยานิ;
ตานีธ เสเวถ นโร สปฺโ, น หิ มงฺคเล กิฺจนมตฺถิ สจฺจ’’นฺติ.
ตตฺถ น หิ มงฺคเลติ ตสฺมึ ปน ทิฏฺสุตมุตปฺปเภเท มงฺคเล กิฺจนํ เอกมงฺคลมฺปิ สจฺจํ นาม นตฺถิ, นิพฺพานเมว ปเนกํ ปรมตฺถสจฺจนฺติ.
อิสโย ตานิ มงฺคลานิ สุตฺวา สตฺตฏฺทิวสจฺจเยน อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา ตตฺเถว อคมํสุ. ราชา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ. เต ตสฺส อาจริเยน กถิตนิยาเมน มงฺคลปฺหํ ¶ กเถตฺวา หิมวนฺตเมว อาคมํสุ. ตโต ปฏฺาย โลเก มงฺคลํ ปากฏํ อโหสิ. มงฺคเลสุ วตฺติตฺวา มตมตา สคฺคปถํ ปูเรสุํ. โพธิสตฺโต จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา อิสิคณํ อาทาย พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ มงฺคลปฺหํ กเถสิ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อิสิคโณ พุทฺธปริสา อโหสิ ¶ , มงฺคลปฺหปุจฺฉโก เชฏฺนฺเตวาสิโก สาริปุตฺโต, อาจริโย ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
มหามงฺคลชาตกวณฺณนา ปนฺนรสมา.
[๔๕๔] ๑๖. ฆฏปณฺฑิตชาตกวณฺณนา
อุฏฺเหิ ¶ กณฺหาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มตปุตฺตํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ มฏฺกุณฺฑลิสทิสเมว. อิธ ปน สตฺถา ตํ อุปาสกํ ‘‘กึ, อุปาสก, โสจสี’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, โปราณกปณฺฑิตา ปณฺฑิตานํ กถํ สุตฺวา มตปุตฺตํ นานุโสจึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต อุตฺตรปเถ กํสโภเค อสิตฺชนนคเร มหากํโส นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส กํโส จ, อุปกํโส จาติ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ, เทวคพฺภา นาม เอกา ธีตา. ตสฺสา ชาตทิวเส เนมิตฺตกา พฺราหฺมณา ‘‘เอติสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตปุตฺตา กํสโคตฺตํ กํสวํสํ นาเสสฺสนฺตี’’ติ พฺยากรึสุ. ราชา พลวสิเนเหน ธีตรํ วินาเสตุํ นาสกฺขิ, ‘‘ภาตโร ชานิสฺสนฺตี’’ติ ยาวตายุกํ ตฺวา กาลมกาสิ. ตสฺมึ กาลกเต กํโส ราชา อโหสิ, อุปกํโส อุปราชา. เต จินฺตยึสุ ‘‘สเจ มยํ ภคินึ นาเสสฺสาม, คารยฺหา ภวิสฺสาม, เอตํ กสฺสจิ อทตฺวา นิสฺสามิกํ กตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามา’’ติ. เต เอกถูณกํ ปาสาทํ กาเรตฺวา ตํ ตตฺถ วสาเปสุํ. นนฺทิโคปา นาม ตสฺสา ปริจาริกา อโหสิ. อนฺธกเวณฺโฑ นาม ทาโส ตสฺสา สามิโก อารกฺขมกาสิ.
ตทา อุตฺตรมธุราย มหาสาคโร นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส สาคโร, อุปสาคโร จาติ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เตสุ ปิตุ อจฺจเยน สาคโร ราชา อโหสิ, อุปสาคโร อุปราชา. โส อุปกํสสฺส สหายโก เอกาจริยกุเล เอกโต อุคฺคหิตสิปฺโป. โส สาครสฺส ภาตุ อนฺเตปุเร ¶ ทุพฺภิตฺวา ภายมาโน ปลายิตฺวา กํสโภเค อุปกํสสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. อุปกํโส ตํ รฺโ ทสฺเสสิ, ราชา ตสฺส ¶ มหนฺตํ ยสํ อทาสิ. โส ราชุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต เทวคพฺภาย นิวาสํ เอกถมฺภํ ปาสาทํ ทิสฺวา ‘‘กสฺเสโส นิวาโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ การณํ สุตฺวา เทวคพฺภาย ปฏิพทฺธจิตฺโต อโหสิ. เทวคพฺภาปิ เอกทิวสํ ตํ อุปกํเสน สทฺธึ ราชุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มหาสาครสฺส ปุตฺโต อุปสาคโร นามา’’ติ นนฺทิโคปาย ¶ สนฺติกา สุตฺวา ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา อโหสิ. อุปสาคโร นนฺทิโคปาย ลฺชํ ทตฺวา ‘‘ภคินิ, สกฺขิสฺสสิ เม เทวคพฺภํ ทสฺเสตุ’’นฺติ อาห. สา ‘‘น เอตํ สามิ, ครุก’’นฺติ วตฺวา ตํ การณํ เทวคพฺภาย อาโรเจสิ. สา ปกติยาว ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นนฺทิโคปา อุปสาครสฺส สฺํ ทตฺวา รตฺติภาเค ตํ ปาสาทํ อาโรเปสิ. โส เทวคพฺภาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ. อถ เนสํ ปุนปฺปุนํ สํวาเสน เทวคพฺภา คพฺภํ ปฏิลภิ.
อปรภาเค ตสฺสา คพฺภปติฏฺานํ ปากฏํ อโหสิ. ภาตโร นนฺทิโคปํ ปุจฺฉึสุ, สา อภยํ ยาจิตฺวา ตํ อนฺตรํ กเถสิ. เต สุตฺวา ‘‘ภคินึ นาเสตุํ น สกฺกา, สเจ ธีตรํ วิชายิสฺสติ, ตมฺปิ น นาเสสฺสาม, สเจ ปน ปุตฺโต ภวิสฺสติ, นาเสสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา เทวคพฺภํ อุปสาครสฺเสว อทํสุ. สา ปริปุณฺณคพฺภา ธีตรํ วิชายิ. ภาตโร สุตฺวา หฏฺตุฏฺา ตสฺสา ‘‘อฺชนเทวี’’ติ นามํ กรึสุ. เตสํ โภควฑฺฒมานํ นาม โภคคามํ อทํสุ. อุปสาคโร เทวคพฺภํ คเหตฺวา โภควฑฺฒมานคาเม วสิ. เทวคพฺภาย ปุนปิ คพฺโภ ปติฏฺาสิ, นนฺทิโคปาปิ ตํ ทิวสเมว คพฺภํ ปฏิลภิ. ตาสุ ปริปุณฺณคพฺภาสุ เอกทิวสเมว เทวคพฺภา ปุตฺตํ วิชายิ, นนฺทิโคปา ธีตรํ วิชายิ. เทวคพฺภา ปุตฺตสฺส วินาสนภเยน ปุตฺตํ นนฺทิโคปาย รหสฺเสน เปเสตฺวา ตสฺสา ธีตรํ อาหราเปสิ. ตสฺสา วิชาตภาวํ ภาติกานํ อาโรเจสุํ. เต ‘‘ปุตฺตํ วิชาตา, ธีตร’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธีตร’’นฺติ ¶ วุตฺเต ‘‘เตน หิ โปเสถา’’ติ อาหํสุ. เอเตนุปาเยน เทวคพฺภา ทส ปุตฺเต วิชายิ, ทส ธีตโร นนฺทิโคปา วิชายิ. ทส ปุตฺตา นนฺทิโคปาย สนฺติเก วฑฺฒนฺติ, ธีตโร เทวคพฺภาย. ตํ อนฺตรํ โกจิ น ชานาติ. เทวคพฺภาย เชฏฺปุตฺโต วาสุเทโว นาม อโหสิ, ทุติโย พลเทโว, ตติโย จนฺทเทโว, จตุตฺโถ สูริยเทโว, ปฺจโม อคฺคิเทโว, ฉฏฺโ วรุณเทโว, สตฺตโม อชฺชุโน, อฏฺโม ปชฺชุโน, นวโม ฆฏปณฺฑิโต, ทสโม องฺกุโร นาม อโหสิ. เต อนฺธกเวณฺฑทาสปุตฺตา ทส ภาติกา เจฏกาติ ปากฏา อเหสุํ.
เต อปรภาเค วุทฺธิมนฺวาย ถามพลสมฺปนฺนา กกฺขฬา ผรุสา หุตฺวา วิโลปํ กโรนฺตา วิจรนฺติ ¶ , รฺโ คจฺฉนฺเต ปณฺณากาเรปิ วิลุมฺปนฺเตว. มนุสฺสา ¶ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อนฺธกเวณฺฑทาสปุตฺตา ทส ภาติกา รฏฺํ วิลุมฺปนฺตี’’ติ ราชงฺคเณ อุปกฺโกสึสุ. ราชา อนฺธกเวณฺฑํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กสฺมา ปุตฺเตหิ วิโลปํ การาเปสี’’ติ ตชฺเชสิ. เอวํ ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ มนุสฺเสหิ อุปกฺโกเส กเต ราชา ตํ สนฺตชฺเชสิ. โส มรณภยภีโต ราชานํ อภยํ ยาจิตฺวา ‘‘เทว, เอเต น มยฺหํ ปุตฺตา, อุปสาครสฺส ปุตฺตา’’ติ ตํ อนฺตรํ อาโรเจสิ. ราชา ภีโต ‘‘เกน เต อุปาเยน คณฺหามา’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอเต, เทว, มลฺลยุทฺธวิตฺตกา, นคเร ยุทฺธํ กาเรตฺวา ตตฺถ เน ยุทฺธมณฺฑลํ อาคเต คาหาเปตฺวา มาเรสฺสามา’’ติ วุตฺเต จารุรฺจ, มุฏฺิกฺจาติ ทฺเว มลฺเล โปเสตฺวา ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส ยุทฺธํ ภวิสฺสตี’’ติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา ราชงฺคเณ ยุทฺธมณฺฑลํ สชฺชาเปตฺวา อกฺขวาฏํ กาเรตฺวา ยุทฺธมณฺฑลํ อลงฺการาเปตฺวา ธชปฏากํ พนฺธาเปสิ. สกลนครํ สงฺขุภิ. จกฺกาติจกฺกํ มฺจาติมฺจํ พนฺธิตฺวา จารุรมุฏฺิกา ยุทฺธมณฺฑลํ อาคนฺตฺวา วคฺคนฺตา คชฺชนฺตา อปฺโผเฏนฺตา วิจรึสุ. ทส ภาติกาปิ อาคนฺตฺวา รชกวีถึ วิลุมฺปิตฺวา วณฺณสาฏเก นิวาเสตฺวา คนฺธาปเณสุ คนฺธํ ¶ , มาลาการาปเณสุ มาลํ วิลุมฺปิตฺวา วิลิตฺตคตฺตา มาลธาริโน กตกณฺณปูรา วคฺคนฺตา คชฺชนฺตา อปฺโผเฏนฺตา ยุทฺธมณฺฑลํ ปวิสึสุ.
ตสฺมึ ขเณ จารุโร อปฺโผเฏนฺโต วิจรติ. พลเทโว ตํ ทิสฺวา ‘‘น นํ หตฺเถน ฉุปิสฺสามี’’ติ หตฺถิสาลโต มหนฺตํ หตฺถิโยตฺตํ อาหริตฺวา วคฺคิตฺวา คชฺชิตฺวา โยตฺตํ ขิปิตฺวา จารุรํ อุทเร เวเตฺวา ทฺเว โยตฺตโกฏิโย เอกโต กตฺวา วตฺเตตฺวา อุกฺขิปิตฺวา สีสมตฺถเก ภเมตฺวา ภูมิยํ โปเถตฺวา พหิ อกฺขวาเฏ ขิปิ. จารุเร มเต ราชา มุฏฺิกมลฺลํ อาณาเปสิ. โส อุฏฺาย วคฺคิตฺวา คชฺชิตฺวา อปฺโผเฏสิ. พลเทโว ตํ โปเถตฺวา อฏฺีนิ สฺจุณฺเณตฺวา ‘‘อมลฺโลมฺหิ, อมลฺโลมฺหี’’ติ วทนฺตเมว ‘‘นาหํ ตว มลฺลภาวํ วา อมลฺลภาวํ วา ชานามี’’ติ หตฺเถ คเหตฺวา ภูมิยํ โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา พหิ อกฺขวาเฏ ขิปิ. มุฏฺิโก มรนฺโต ‘‘ยกฺโข หุตฺวา ตํ ขาทิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. โส กาลมตฺติกอฏวิยํ นาม ยกฺโข หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ราชา ‘‘คณฺหถ ทส ภาติเก เจฏเก’’ติ อุฏฺหิ ¶ . ตสฺมึ ขเณ วาสุเทโว จกฺกํ ขิปิ. ตํ ทฺวินฺนมฺปิ ภาติกานํ สีสานิ ปาเตสิ. มหาชโน ภีตตสิโต ‘‘อวสฺสยา โน โหถา’’ติ เตสํ ปาเทสุ ปติตฺวา นิปชฺชิ. เต ทฺเวปิ มาตุเล มาเรตฺวา อสิตฺชนนคเร รชฺชํ คเหตฺวา มาตาปิตโร ตตฺถ กตฺวา ‘‘สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คณฺหิสฺสามา’’ติ นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน กาลโยนกรฺโ นิวาสํ อยุชฺฌนครํ คนฺตฺวา ตํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ ปริขารุกฺขคหนํ วิทฺธํเสตฺวา ปาการํ ภินฺทิตฺวา ราชานํ ¶ คเหตฺวา ตํ รชฺชํ อตฺตโน หตฺถคตํ กตฺวา ทฺวารวตึ ปาปุณึสุ. ตสฺส ปน นครสฺส เอกโต สมุทฺโท เอกโต ปพฺพโต, อมนุสฺสปริคฺคหิตํ กิร ตํ อโหสิ.
ตสฺส อารกฺขํ คเหตฺวา ิตยกฺโข ปจฺจามิตฺเต ทิสฺวา คทฺรภเวเสน คทฺรภรวํ รวติ. ตสฺมึ ขเณ ยกฺขานุภาเวน ¶ สกลนครํ อุปฺปติตฺวา มหาสมุทฺเท เอกสฺมึ ทีปเก ติฏฺติ. ปจฺจามิตฺเตสุ คเตสุ ปุนาคนฺตฺวา สกฏฺาเนเยว ปติฏฺาติ. ตทาปิ โส คทฺรโภ เตสํ ทสนฺนํ ภาติกานํ อาคมนํ ตฺวา คทฺรภรวํ รวิ. นครํ อุปฺปติตฺวา ทีปเก ปติฏฺาย เตสุ นครํ อทิสฺวา นิวตฺตนฺเตสุ ปุนาคนฺตฺวา สกฏฺาเน ปติฏฺาสิ. เต ปุน นิวตฺตึสุ, ปุนปิ คทฺรโภ ตเถว อกาสิ. เต ทฺวารวตินคเร รชฺชํ คณฺหิตุํ อสกฺโกนฺตา กณฺหทีปายนสฺส อิสิโน สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยํ ทฺวารวติยํ รชฺชํ คเหตุํ น สกฺโกม, เอกํ โน อุปายํ กโรถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปริขาปิฏฺเ อสุกสฺมึ นาม าเน เอโก คทฺรโภ จรติ. โส หิ อมิตฺเต ทิสฺวา วิรวติ, ตสฺมึ ขเณ นครํ อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ, ตุมฺเห ตสฺส ปาเท คณฺหถ, อยํ โว นิปฺผชฺชนูปาโย’’ติ วุตฺเต ตาปสํ วนฺทิตฺวา คนฺตฺวา คทฺรภสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา นิปติตฺวา ‘‘สามิ, เปตฺวา ตุมฺเห อฺโ อมฺหากํ อวสฺสโย นตฺถิ, อมฺหากํ นครํ คณฺหนกาเล มา รวิตฺถา’’ติ ยาจึสุ. คทฺรโภ ‘‘น สกฺกา น วิรวิตุํ, ตุมฺเห ปน ปมตรํ อาคนฺตฺวา จตฺตาโร ชนา มหนฺตานิ อยนงฺคลานิ คเหตฺวา จตูสุ นครทฺวาเรสุ มหนฺเต อยขาณุเก ภูมิยํ อาโกเฏตฺวา นครสฺส อุปฺปตนกาเล นงฺคลานิ คเหตฺวา นงฺคลพทฺธํ อยสงฺขลิกํ อยขาณุเก พนฺเธยฺยาถ, นครํ อุปฺปติตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ อาห.
เต ¶ ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ตสฺมึ อวิรวนฺเตเยว นงฺคลานิ อาทาย จตูสุ นครทฺวาเรสุ ขาณุเก ภูมิยํ อาโกเฏตฺวา อฏฺํสุ. ตสฺมึ ขเณ คทฺรโภ วิรวิ, นครํ อุปฺปติตุมารภิ. จตูสุ ทฺวาเรสุ ิตา จตูหิ อยนงฺคเลหิ คเหตฺวา นงฺคลพทฺธา อยสงฺขลิกา ขาณุเกสุ พนฺธึสุ, นครํ อุปฺปติตุํ นาสกฺขิ. ทส ภาติกา ตโต นครํ ปวิสิตฺวา ราชานํ มาเรตฺวา รชฺชํ คณฺหึสุ. เอวํ เต สกลชมฺพุทีเป เตสฏฺิยา ¶ นครสหสฺเสสุ สพฺพราชาโน จกฺเกน ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ทฺวารวติยํ วสมานา รชฺชํ ทส โกฏฺาเส กตฺวา วิภชึสุ, ภคินึ ปน อฺชนเทวึ น สรึสุ. ตโต ปุน ‘‘เอกาทส โกฏฺาเส กโรมา’’ติ วุตฺเต องฺกุโร ‘‘มม โกฏฺาสํ ตสฺสา เทถ, อหํ โวหารํ กตฺวา ชีวิสฺสามิ, เกวลํ ตุมฺเห อตฺตโน ชนปเท มยฺหํ สุงฺกํ วิสฺสชฺเชถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส โกฏฺาสํ ภคินิยา ทตฺวา สทฺธึ ตาย นว ราชาโน ทฺวารวติยํ วสึสุ. องฺกุโร ปน วณิชฺชมกาสิ. เอวํ เตสุ อปราปรํ ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒมาเนสุ อทฺธาเน คเต มาตาปิตโร กาลมกํสุ.
ตทา ¶ กิร มนุสฺสานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกกาโล อโหสิ. ตทา วาสุเทวมหาราชสฺส เอโก ปุตฺโต กาลมกาสิ. ราชา โสกปเรโต สพฺพกิจฺจานิ ปหาย มฺจสฺส อฏนึ ปริคฺคเหตฺวา วิลปนฺโต นิปชฺชิ. ตสฺมึ กาเล ฆฏปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ โกจิ มม ภาตุ โสกํ หริตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อุปาเยนสฺส โสกํ หริสฺสามี’’ติ. โส อุมฺมตฺตกเวสํ คเหตฺวา ‘‘สสํ เม เทถ, สสํ เม เทถา’’ติ อากาสํ อุลฺโลเกนฺโต สกลนครํ วิจริ. ‘‘ฆฏปณฺฑิโต อุมฺมตฺตโก ชาโต’’ติ สกลนครํ สงฺขุภิ. ตสฺมึ กาเล โรหิเณยฺโย นาม อมจฺโจ วาสุเทวรฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ กถํ สมุฏฺาเปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘อุฏฺเหิ กณฺห กึ เสสิ, โก อตฺโถ สุปเนน เต;
โยปิ ตุยฺหํ สโก ภาตา, หทยํ จกฺขุ จ ทกฺขิณํ;
ตสฺส วาตา พลียนฺติ, ฆโฏ ชปฺปติ เกสวา’’ติ.
ตตฺถ ¶ กณฺหาติ โคตฺเตนาลปติ, กณฺหายนโคตฺโต กิเรส. โก อตฺโถติ กตรา นาม วฑฺฒิ. หทยํ จกฺขุ จ ทกฺขิณนฺติ หทเยน เจว ทกฺขิณจกฺขุนา จ สมาโนติ อตฺโถ. ตสฺส วาตา พลียนฺตีติ ตสฺส หทยํ อปสฺมารวาตา อวตฺถรนฺตีติ อตฺโถ. ชปฺปตีติ ‘‘สสํ เม เทถา’’ติ วิปฺปลปติ. เกสวาติ โส กิร เกสโสภนตาย ‘‘เกสวา’’ติ ปฺายิตฺถ, เตน ตํ นาเมนาลปติ.
เอวํ ¶ อมจฺเจน วุตฺเต ตสฺส อุมฺมตฺตกภาวํ ตฺวา สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;
ตรมานรูโป วุฏฺาสิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิโต’’ติ.
ราชา อุฏฺาย สีฆํ ปาสาทา โอตริตฺวา ฆฏปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อุโภสุ หตฺเถสุ ทฬฺหํ คเหตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;
สโส สโสติ ลปสิ, โก นุ เต สสมาหรี’’ติ.
ตตฺถ ¶ เกวลํ ทฺวารกํ อิมนฺติ กสฺมา อุมฺมตฺตโก วิย หุตฺวา สกลํ อิมํ ทฺวารวตินครํ วิจรนฺโต ‘‘สโส สโส’’ติ ลปสิ. โก ตว สสํ หริ, เกน เต สโส คหิโตติ ปุจฺฉติ.
โส รฺา เอวํ วุตฺเตปิ ปุนปฺปุนํ ตเทว วจนํ วทติ. ราชา ปุน ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘โสวณฺณมยํ มณีมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยามยํ;
สงฺขสิลาปวาฬมยํ, การยิสฺสามิ เต สสํ.
‘‘สนฺติ อฺเปิ สสกา, อรฺเ วนโคจรา;
เตปิ เต อานยิสฺสามิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – เตสุ สุวณฺณมยาทีสุ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ วท, อหํ เต กาเรตฺวา ทสฺสามิ, อถาปิ เต น โรเจสิ, อฺเปิ อรฺเ ¶ วนโคจรา สสกา อตฺถิ, เตปิ เต อานยิสฺสามิ, วท ภทฺรมุข, กีทิสํ สสมิจฺฉสีติ.
รฺโ กถํ สุตฺวา ฆฏปณฺฑิโต ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘น จาหเมเต อิจฺฉามิ, เย สสา ปถวิสฺสิตา;
จนฺทโต สสมิจฺฉามิ, ตํ เม โอหร เกสวา’’ติ.
ตตฺถ โอหราติ โอตาเรหิ.
ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ เม ภาตา อุมฺมตฺตโกว ชาโต’’ติ โทมนสฺสปฺปตฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘โส ¶ นูน มธุรํ าติ, ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;
อปตฺถิยํ โย ปตฺถยสิ, จนฺทโต สสมิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ าตีติ กนิฏฺํ อาลปนฺโต อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตาต, มยฺหํ ปิยาติ โส ตฺวํ นูน อติมธุรํ อตฺตโน ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ, โย อปตฺเถตพฺพํ ปตฺถยสี’’ติ.
ฆฏปณฺฑิโต รฺโ วจนํ สุตฺวา นิจฺจโล ตฺวา ‘‘ภาติก, ตฺวํ จนฺทโต สสกํ ปตฺเถนฺตสฺส ตํ อลภิตฺวา ชีวิตกฺขยภาวํ ชานนฺโต กึ การณา มตปุตฺตํ อนุโสจสี’’ติ วตฺวา อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘เอวํ เจ กณฺห ชานาสิ, ยทฺมนุสาสสิ;
กสฺมา ปุเร มตํ ปุตฺตํ, อชฺชาปิ มนุโสจสี’’ติ.
ตตฺถ เอวนฺติ อิทํ อลพฺภเนยฺยฏฺานํ นาม น ปตฺเถตพฺพนฺติ ยทิ เอวํ ชานาสิ. ยทฺมนุสาสสีติ เอวํ ชานนฺโตว ยทิ อฺํ อนุสาสสีติ อตฺโถ. ปุเรติ อถ กสฺมา อิโต จตุมาสมตฺถเก มตปุตฺตํ อชฺชาปิ อนุโสจสีติ วทติ.
เอวํ โส อนฺตรวีถิยํ ิตโกว ‘‘ภาติก, อหํ ตาว ปฺายมานํ ปตฺเถมิ, ตฺวํ ปน อปฺายมานสฺส โสจสี’’ติ วตฺวา ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต ปุน ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ยํ ¶ น ลพฺภา มนุสฺเสน, อมนุสฺเสน วา ปุน;
ชาโต เม มา มรี ปุตฺโต, กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํ.
‘‘น มนฺตา มูลเภสชฺชา, โอสเธหิ ธเนน วา;
สกฺกา อานยิตุํ กณฺห, ยํ เปตมนุโสจสี’’ติ.
ตตฺถ ยนฺติ ภาติก ยํ เอวํ ชาโต เม ปุตฺโต มา มรีติ มนุสฺเสน วา เทเวน วา ปุน น ลพฺภา น สกฺกา ลทฺธุํ, ตํ ตฺวํ ปตฺเถสิ, ตเทตํ กุโต ลพฺภา เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุํ, น สกฺกาติ ทีเปติ. กสฺมา? ยสฺมา อลพฺภิยํ, อลพฺภเนยฺยฏฺานฺหิ นาเมตนฺติ อตฺโถ. มนฺตาติ มนฺตปโยเคน. มูลเภสชฺชาติ มูลเภสชฺเชน. โอสเธหีติ นานาวิโธสเธหิ. ธเนน วาติ โกฏิสตสงฺขฺเยนปิ ธเนน วา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยํ ตฺวํ เปตมนุโสจสิ, ตํ เอเตหิ มนฺตปโยคาทีหิ อาเนตุํ น สกฺกา’’ติ.
ราชา ¶ ตํ สุตฺวา ‘‘ยุตฺตํ, ตาต, สลฺลกฺขิตํ เม, มม โสกหรณตฺถาย ตยา อิทํ กต’’นฺติ ฆฏปณฺฑิตํ วณฺเณนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ยสฺส ¶ เอตาทิสา อสฺสุ, อมจฺจา ปุริสปณฺฑิตา;
ยถา นิชฺฌาปเย อชฺช, ฆโฏ ปุริสปณฺฑิโต.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, ยมาสิ หทยสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘โสหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, วีตโสโก อนาวิโล;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.
ตตฺถ ปมคาถาย สงฺเขปตฺโถ – ยถา เยน การเณน อชฺช มํ ปุตฺตโสกปเรตํ ฆโฏ ปุริสปณฺฑิโต โสกหรณตฺถาย นิชฺฌาปเย นิชฺฌาเปสิ โพเธสิ. ยสฺส อฺสฺสปิ เอตาทิสา ปุริสปณฺฑิตา อมจฺจา อสฺสุ, ตสฺส กุโต โสโกติ. เสสคาถา วุตฺตตฺถาเยว.
อวสาเน ¶ –
‘‘เอวํ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตร’’นฺติ. –
อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา อุตฺตานตฺถาเยว.
เอวํ ฆฏกุมาเรน วีตโสเก กเต วาสุเทเว รชฺชํ อนุสาสนฺเต ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ทสภาติกปุตฺตา กุมารา จินฺตยึสุ ‘‘กณฺหทีปายนํ ‘ทิพฺพจกฺขุโก’ติ วทนฺติ, วีมํสิสฺสาม ตาว น’’นฺติ. เต เอกํ ทหรกุมารํ อลงฺกริตฺวา คพฺภินิอากาเรน ทสฺเสตฺวา อุทเร มสูรกํ พนฺธิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ กุมาริกา กึ วิชายิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉึสุ. ตาปโส ‘‘ทสภาติกราชูนํ วินาสกาโล ปตฺโต, มยฺหํ นุ โข อายุสงฺขาโร กีทิโส ¶ โหตี’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘อชฺเชว มรณํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘กุมารา อิมินา ตุมฺหากํ โก อตฺโถ’’ติ วตฺวา ‘‘กเถเถว โน, ภนฺเต’’ติ นิพทฺโธ ‘‘อยํ อิโต สตฺตเม ทิวเส ขทิรฆฏิกํ วิชายิสฺสติ, ตาย วาสุเทวกุลํ นสฺสิสฺสติ, อปิจ โข ปน ตุมฺเห ตํ ขทิรฆฏิกํ คเหตฺวา ฌาเปตฺวา ฉาริกํ นทิยํ ปกฺขิเปยฺยาถา’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘กูฏชฏิล, ปุริโส วิชายนโก นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา ตนฺตรชฺชุกํ นาม กมฺมกรณํ กตฺวา ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปยึสุ. ราชาโน กุมาเร ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กึ การณา ตาปสํ มารยิตฺถา’’ติ ¶ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพํ สุตฺวา ภีตา ตสฺส อารกฺขํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตสฺส กุจฺฉิโต นิกฺขนฺตํ ขทิรฆฏิกํ ฌาเปตฺวา ฉาริกํ นทิยํ ขิปึสุ. สา นทิยา วุยฺหมานา มุขทฺวาเร เอกปสฺเส ลคฺคิ, ตโต เอรกํ นิพฺพตฺติ.
อเถกทิวสํ เต ราชาโน ‘‘สมุทฺทกีฬํ กีฬิสฺสามา’’ติ มุขทฺวารํ คนฺตฺวา มหามณฺฑปํ การาเปตฺวา อลงฺกตมณฺฑเป ขาทนฺตา ปิวนฺตา กีฬาวเสเนว ปวตฺตหตฺถปาทปรามาสา ทฺวิธา ภิชฺชิตฺวา มหากลหํ กรึสุ. อเถโก อฺํ มุคฺครํ อลภนฺโต เอรกวนโต เอกํ เอรกปตฺตํ คณฺหิ. ตํ คหิตมตฺตเมว ขทิรมุสลํ อโหสิ. โส เตน มหาชนํ โปเถสิ ¶ . อถฺเหิ สพฺเพหิ คหิตคหิตํ ขทิรมุสลเมว อโหสิ. เต อฺมฺํ ปหริตฺวา มหาวินาสํ ปาปุณึสุ. เตสุ มหาวินาสํ วินสฺสนฺเตสุ วาสุเทโว จ พลเทโว จ ภคินี อฺชนเทวี จ ปุโรหิโต จาติ จตฺตาโร ชนา รถํ อภิรุหิตฺวา ปลายึสุ, เสสา สพฺเพปิ วินฏฺา. เตปิ จตฺตาโร รเถน ปลายนฺตา กาฬมตฺติกอฏวึ ปาปุณึสุ. โส หิ มุฏฺิกมลฺโล ปตฺถนํ กตฺวา ยกฺโข หุตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺโต พลเทวสฺส อาคตภาวํ ตฺวา ตตฺถ คามํ มาเปตฺวา มลฺลเวสํ คเหตฺวา ‘‘โก ยุชฺฌิตุกาโม’’ติ วคฺคนฺโต คชฺชนฺโต อปฺโผเฏนฺโต วิจริ. พลเทโว ตํ ทิสฺวาว ‘‘ภาติก, อหํ อิมินา สทฺธึ ยุชฺฌิสฺสามี’’ติ วตฺวา วาสุเทเว วาเรนฺเตเยว รถา โอรุยฺห ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วคฺคนฺโต คชฺชนฺโต อปฺโผเฏสิ. อถ นํ โส ปสาริตหตฺเถเยว คเหตฺวา มูลกนฺทํ วิย ขาทิ. วาสุเทโว ตสฺส มตภาวํ ตฺวา ภคินิฺจ ปุโรหิตฺจ อาทาย สพฺพรตฺตึ คนฺตฺวา สูริโยทเย เอกํ ปจฺจนฺตคามํ ปตฺวา ‘‘อาหารํ ปจิตฺวา อาหรถา’’ติ ภคินิฺจ ปุโรหิตฺจ คามํ ปหิณิตฺวา สยํ เอกสฺมึ คจฺฉนฺตเร ปฏิจฺฉนฺโน นิปชฺชิ.
อถ นํ ชรา นาม เอโก ลุทฺทโก คจฺฉํ จลนฺตํ ทิสฺวา ‘‘สูกโร เอตฺถ ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย สตฺตึ ขิปิตฺวา ปาเท วิชฺฌิตฺวา ‘‘โก มํ วิชฺฌี’’ติ วุตฺเต มนุสฺสสฺส วิทฺธภาวํ ตฺวา ภีโต ปลายิตุํ อารภิ ¶ . ราชา สตึ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อุฏฺาย ‘‘มาตุล, มา ภายิ, เอหี’’ติ ปกฺโกสิตฺวา อาคตํ ‘‘โกสิ นาม ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ สามิ, ชรา นามา’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘ชราย วิทฺโธ มริสฺสตีติ กิร มํ โปราณา พฺยากรึสุ, นิสฺสํสยํ อชฺช มยา มริตพฺพ’’นฺติ ตฺวา ‘‘มาตุล, มา ภายิ, เอหิ ปหารํ เม พนฺธา’’ติ เตน ปหารมุขํ พนฺธาเปตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. พลวเวทนา ปวตฺตึสุ, อิตเรหิ อาภตํ อาหารํ ปริภฺุชิตุํ นาสกฺขิ. อถ เต อามนฺเตตฺวา ‘‘อชฺช อหํ มริสฺสามิ, ตุมฺเห ปน สุขุมาลา อฺํ กมฺมํ กตฺวา ชีวิตุํ น สกฺขิสฺสถ, อิมํ วิชฺชํ สิกฺขถา’’ติ เอกํ วิชฺชํ สิกฺขาเปตฺวา เต อุยฺโยเชตฺวา ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. เอวํ อฺชนเทวึ เปตฺวา สพฺเพว วินาสํ ปาปุณึสูติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อุปาสก, เอวํ โปราณกปณฺฑิตา ปณฺฑิตานํ กถํ สุตฺวา อตฺตโน ปุตฺตโสกํ หรึสุ, มา จินฺตยี’’ติ วตฺวา ¶ สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุปาสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา โรหิเณยฺโย อานนฺโท อโหสิ, วาสุเทโว สาริปุตฺโต, อวเสสา พุทฺธปริสา, ฆฏปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.
ฆฏปณฺฑิตชาตกวณฺณนา โสฬสมา.
อิติ โสฬสชาตกปฏิมณฺฑิตสฺส
ทสกนิปาตชาตกสฺส อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชาตกุทฺทานํ –
จตุทฺวาโร กณฺหุโปโส, สงฺข โพธิ ทีปายโน;
นิคฺโรธ ตกฺกล ธมฺม-ปาโล กุกฺกุฏ กุณฺฑลี;
พิลาร จกฺก ภูริ จ, มงฺคล ฆฏ โสฬส.
ทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. เอกาทสกนิปาโต
[๔๕๕] ๑. มาตุโปสกชาตกวณฺณนา
ตสฺส ¶ ¶ ¶ นาคสฺส วิปฺปวาเสนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ สามชาตกวตฺถุสทิสเมว. สตฺถา ปน ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘มา ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ อุชฺฌายิตฺถ, โปราณกปณฺฑิตา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาปิ มาตรา วิยุตฺตา สตฺตาหํ นิราหารตาย สุสฺสมานา ราชารหํ โภชนํ ลภิตฺวาปิ ‘มาตรา วินา น ภฺุชิสฺสามา’ติ มาตรํ ทิสฺวาว โคจรํ คณฺหึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตมาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต หิมวนฺตปเทเส หตฺถิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา สพฺพเสโต อโหสิ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ลกฺขณสมฺปนฺโน อสีติหตฺถิสหสฺสปริวาโร. โส ชราชิณฺณํ มาตรํ โปเสสิ, มาตา ปนสฺส อนฺธา. โส มธุรมธุรานิ ผลาผลานิ หตฺถีนํ ทตฺวา มาตุ สนฺติกํ เปเสสิ. หตฺถี ตสฺสา อทตฺวา อตฺตนาว ขาทนฺติ. โส ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘ยูถํ ฉฑฺเฑตฺวา มาตรเมว โปเสสฺสามี’’ติ รตฺติภาเค อฺเสํ หตฺถีนํ อชานนฺตานํ มาตรํ คเหตฺวา จณฺโฑรณปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา เอกํ นฬินึ อุปนิสฺสาย ิตาย ปพฺพตคุหายํ มาตรํ เปตฺวา โปเสสิ. อเถโก พาราณสิวาสี วนจรโก มคฺคมูฬฺโห ทิสํ ววตฺถเปตุํ อสกฺโกนฺโต มหนฺเตน ¶ สทฺเทน ปริเทวิ. โพธิสตฺโต ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ ปุริโส อนาโถ, น โข ปน เมตํ ปติรูปํ, ยํ เอส มยิ ิเต อิธ วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ ภเยน ปลายนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อมฺโภ ปุริส, นตฺถิ เต มํ นิสฺสาย ภยํ, มา ปลายิ, กสฺมา ตฺวํ ปริเทวนฺโต วิจรสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สามิ, อหํ มคฺคมูฬฺโห, อชฺช เม สตฺตโม ทิวโส’’ติ วุตฺเต ‘‘โภ ปุริส, มา ภายิ, อหํ ตํ มนุสฺสปเถ เปสฺสามี’’ติ ตํ อตฺตโน ปิฏฺิยํ นิสีทาเปตฺวา อรฺา นีหริตฺวา นิวตฺติ. โสปิ ปาโป ‘‘นครํ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ รุกฺขสฺํ ปพฺพตสฺํ กโรนฺโตว นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ อคมาสิ.
ตสฺมึ ¶ ¶ กาเล รฺโ มงฺคลหตฺถี กาลมกาสิ. ราชา ‘‘สเจ เกนจิ กตฺถจิ โอปวยฺหํ กาตุํ ยุตฺตรูโป หตฺถี ทิฏฺโ อตฺถิ, โส อาจิกฺขตู’’ติ เภรึ จราเปสิ. โส ปุริโส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มยา, เทว, ตุมฺหากํ โอปวยฺโห ภวิตุํ ยุตฺตรูโป สพฺพเสโต สีลวา หตฺถิราชา ทิฏฺโ, อหํ มคฺคํ ทสฺเสสฺสามิ, มยา สทฺธึ หตฺถาจริเย เปเสตฺวา ตํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ ‘‘อิมํ มคฺคเทสกํ กตฺวา อรฺํ คนฺตฺวา อิมินา วุตฺตํ หตฺถินาคํ อาเนถา’’ติ เตน สทฺธึ มหนฺเตน ปริวาเรน หตฺถาจริยํ เปเสสิ. โส เตน สทฺธึ คนฺตฺวา โพธิสตฺตํ นฬินึ ปวิสิตฺวา โคจรํ คณฺหนฺตํ ปสฺสิ. โพธิสตฺโตปิ หตฺถาจริยํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ภยํ น อฺโต อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ปุริสสฺส สนฺติกา อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสติ, อหํ โข ปน มหาพโล หตฺถิสหสฺสมฺปิ วิทฺธํเสตุํ สมตฺโถ โหมิ, กุชฺฌิตฺวา สรฏฺกํ เสนาวาหนํ นาเสตุํ, สเจ ปน กุชฺฌิสฺสามิ, สีลํ เม ภิชฺชิสฺสติ, ตสฺมา อชฺช สตฺตีหิ โกฏฺฏิยมาโนปิ น กุชฺฌิสฺสามี’’ติ อธิฏฺาย สีสํ นาเมตฺวา นิจฺจโลว อฏฺาสิ. หตฺถาจริโย ปทุมสรํ โอตริตฺวา ตสฺส ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘เอหิ ปุตฺตา’’ติ รชตทามสทิสาย โสณฺฑาย คเหตฺวา สตฺตเม ทิวเส พาราณสึ ปาปุณิ. โพธิสตฺตมาตา ปน ปุตฺเต อนาคจฺฉนฺเต ‘‘ปุตฺโต เม ราชราชมหามตฺตาทีหิ นีโต ¶ ภวิสฺสติ, อิทานิ ตสฺส วิปฺปวาเสน อยํ วนสณฺโฑ วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ปริเทวมานา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ตสฺส นาคสฺส วิปฺปวาเสน, วิรูฬฺโห สลฺลกี จ กุฏชา จ;
กุรุวินฺทกรวีรา ภิสสามา จ, นิวาเต ปุปฺผิตา จ กณิการา.
‘‘โกจิเทว สุวณฺณกายุรา, นาคราชํ ภรนฺติ ปิณฺเฑน;
ยตฺถ ราชา ราชกุมาโร วา, กวจมภิเหสฺสติ อฉมฺภิโต’’ติ.
ตตฺถ ¶ วิรูฬฺหาติ วฑฺฒิตา นาม, นตฺเถตฺถ สํสโยติ อสํสยวเสเนวมาห. สลฺลกี จ กุฏชา จาติ อินฺทสาลรุกฺขา จ กุฏชรุกฺขา จ. กุรุวินฺทกรวีรา ภิสสามา จาติ กุรุวินฺทรุกฺขา จ กรวีรนามกานิ มหาติณานิ จ ภิสานิ จ สามากานิ จาติ อตฺโถ. เอเต จ สพฺเพ อิทานิ วฑฺฒิสฺสนฺตีติ ปริเทวติ. นิวาเตติ ปพฺพตปาเท. ปุปฺผิตาติ มม ปุตฺเตน สาขํ ภฺชิตฺวา อขาทิยมานา กณิการาปิ ปุปฺผิตา ภวิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. โกจิเทวาติ กตฺถจิเทว คาเม วา นคเร วา. สุวณฺณกายุราติ สุวณฺณาภรณา ราชราชมหามตฺตา. ภรนฺติ ปิณฺเฑนาติ อชฺช มาตุโปสกํ นาคราชํ ราชารหสฺส โภชนสฺส สุวฑฺฒิเตน ปิณฺเฑน โปเสนฺติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ นาคราเช ราชา นิสีทิตฺวา. กวจมภิเหสฺสตีติ ¶ สงฺคามํ ปวิสิตฺวา ปจฺจามิตฺตานํ กวจํ อภิหนิสฺสติ ภินฺทิสฺสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยตฺถ มม ปุตฺเต นิสินฺโน ราชา วา ราชกุมาโร วา อฉมฺภิโต หุตฺวา สปตฺตานํ กวจํ หนิสฺสติ, ตํ เม ปุตฺตํ นาคราชานํ สุวณฺณาภรณา อชฺช ปิณฺเฑน ภรนฺตี’’ติ.
หตฺถาจริโยปิ อนฺตรามคฺเคว รฺโ สาสนํ เปเสสิ. ตํ สุตฺวา ราชา นครํ อลงฺการาเปสิ. หตฺถาจริโย โพธิสตฺตํ กตคนฺธปริภณฺฑํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ หตฺถิสาลํ เนตฺวา วิจิตฺรสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา นานคฺครสโภชนํ อาทาย คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทาเปสิ. โส ‘‘มาตรํ วินา โคจรํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปิณฺฑํ น คณฺหิ. อถ นํ ยาจนฺโต ราชา ตติยํ คาถมาห –
‘‘คณฺหาหิ ¶ นาค กพฬํ, มา นาค กิสโก ภว;
พหูนิ ราชกิจฺจานิ, ตานิ นาค กริสฺสสี’’ติ.
ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘สา นูนสา กปณิกา, อนฺธา อปริณายิกา;
ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.
ตตฺถ สา นูนสาติ มหาราช, นูน สา เอสา. กปณิกาติ ปุตฺตวิโยเคน กปณา. ขาณุนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ รุกฺขกลิงฺครํ. ฆฏฺเฏตีติ ปริเทวมานา ตตฺถ ตตฺถ ปาเทน โปเถนฺตี นูน ปาเทน หนติ ¶ . คิรึ จณฺโฑรณํ ปตีติ จณฺโฑรณปพฺพตาภิมุขี, ปพฺพตปาเท ปริปฺผนฺทมานาติ อตฺโถ.
อถ นํ ปุจฺฉนฺโต ราชา ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘กา นุ เต สา มหานาค, อนฺธา อปริณายิกา;
ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.
โพธิสตฺโต ¶ ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘มาตา เม สา มหาราช, อนฺธา อปริณายิกา;
ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.
ราชา ฉฏฺคาถาย ตมตฺถํ สุตฺวา มฺุจาเปนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘มฺุจเถตํ มหานาคํ, โยยํ ภรติ มาตรํ;
สเมตุ มาตรา นาโค, สห สพฺเพหิ าติภี’’ติ.
ตตฺถ โยยํ ภรตีติ อยํ นาโค ‘‘อหํ, มหาราช, อนฺธํ มาตรํ โปเสมิ, มยา วินา มยฺหํ มาตา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิสฺสติ, ตาย วินา มยฺหํ อิสฺสริเยน อตฺโถ นตฺถิ, อชฺช เม มาตุ โคจรํ อลภนฺติยา สตฺตโม ทิวโส’’ติ วทติ, ตสฺมา โย อยํ มาตรํ ภรติ, เอตํ มหานาคํ ขิปฺปํ มฺุจถ. สพฺเพหิ าติภีติ สทฺธึ เอส มาตรา สเมตุ สมาคจฺฉตูติ.
อฏฺมนวมา อภิสมฺพุทฺธคาถา โหนฺติ –
‘‘มุตฺโต จ พนฺธนา นาโค, มุตฺตมาทาย กฺุชโร;
มุหุตฺตํ อสฺสาสยิตฺวา, อคมา เยน ปพฺพโต.
‘‘ตโต ¶ โส นฬินึ คนฺตฺวา, สีตํ กฺุชรเสวิตํ;
โสณฺฑายูทกมาหตฺวา, มาตรํ อภิสิฺจถา’’ติ.
โส กิร นาโค พนฺธนา มุตฺโต โถกํ วิสฺสมิตฺวา รฺโ ทสราชธมฺมคาถาย ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ โอวาทํ ¶ ทตฺวา มหาชเนน คนฺธมาลาทีหิ ปูชิยมาโน นครา นิกฺขมิตฺวา ตทเหว ตํ ปทุมสรํ ปตฺวา ‘‘มม มาตรํ โคจรํ คาหาเปตฺวาว สยํ คณฺหิสฺสามี’’ติ พหุํ ภิสมุฬาลํ อาทาย โสณฺฑปูรํ อุทกํ คเหตฺวา คุหาเลณโต นิกฺขมิตฺวา คุหาทฺวาเร นิสินฺนาย มาตุยา สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺตาหํ นิราหารตาย มาตุ สรีรสฺส ผสฺสปฏิลาภตฺถํ ¶ อุปริ อุทกํ สิฺจิ, ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ. โพธิสตฺตสฺส มาตาปิ ‘‘เทโว วสฺสตี’’ติ สฺาย ตํ อกฺโกสนฺตี ทสมํ คาถมาห –
‘‘โกยํ อนริโย เทโว, อกาเลนปิ วสฺสติ;
คโต เม อตฺรโช ปุตฺโต, โย มยฺหํ ปริจารโก’’ติ.
ตตฺถ อตฺรโชติ อตฺตโต ชาโต.
อถ นํ สมสฺสาเสนฺโต โพธิสตฺโต เอกาทสมํ คาถมาห –
‘‘อุฏฺเหิ อมฺม กึ เสสิ, อาคโต ตฺยาหมตฺรโช;
มุตฺโตมฺหิ กาสิราเชน, เวเทเหน ยสสฺสินา’’ติ.
ตตฺถ อาคโต ตฺยาหนฺติ อาคโต เต อหํ. เวเทเหนาติ าณสมฺปนฺเนน. ยสสฺสินาติ มหาปริวาเรน เตน รฺา มงฺคลหตฺถิภาวาย คหิโตปิ อหํ มุตฺโต, อิทานิ ตว สนฺติกํ อาคโต อุฏฺเหิ โคจรํ คณฺหาหีติ.
สา ตุฏฺมานสา รฺโ อนุโมทนํ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –
‘‘จิรํ ชีวตุ โส ราชา, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;
โย เม ปุตฺตํ ปโมเจสิ, สทา วุทฺธาปจายิก’’นฺติ.
ตทา ราชา โพธิสตฺตสฺส คุเณ ปสีทิตฺวา นฬินิยา อวิทูเร คามํ มาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส จ มาตุ จสฺส นิพทฺธํ วตฺตํ ปฏฺเปสิ. อปรภาเค โพธิสตฺโต มาตริ กาลกตาย ตสฺสา สรีรปริหารํ กตฺวา ¶ การณฺฑกอสฺสมปทํ นาม คโต. ตสฺมึ ปน าเน หิมวนฺตโต โอตริตฺวา ปฺจสตา อิสโย วสึสุ, ตํ วตฺตํ เตสํ อทาสิ. ราชา โพธิสตฺตสฺส สมานรูปํ สิลาปฏิมํ กาเรตฺวา มหาสกฺการํ ปวตฺเตสิ ¶ . สกลชมฺพุทีปวาสิโน อนุสํวจฺฉรํ สนฺนิปติตฺวา หตฺถิมหํ นาม กรึสุ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ¶ มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปาปปุริโส เทวทตฺโต, หตฺถาจริโย สาริปุตฺโต, มาตา หตฺถินี มหามายา, มาตุโปสกนาโค ปน อหเมว อโหสินฺติ.
มาตุโปสกชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๕๖] ๒. ชุณฺหชาตกวณฺณนา
สุโณหิ มยฺหํ วจนํ ชนินฺทาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถเรน ลทฺธวเร อารพฺภ กเถสิ. ปมโพธิยฺหิ วีสติ วสฺสานิ ภควโต อนิพทฺธุปฏฺากา อเหสุํ. เอกทา เถโร นาคสมาโล, เอกทา นาคิโต, เอกทา อุปวาโณ, เอกทา สุนกฺขตฺโต, เอกทา จุนฺโท, เอกทา นนฺโท, เอกทา สาคโต, เอกทา เมฆิโย ภควนฺตํ อุปฏฺหิ. อเถกทิวสํ ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘‘ภิกฺขเว, อิทานิมฺหิ มหลฺลโก, เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’ติ วุตฺเต อฺเน คจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ มยฺหํ ปตฺตจีวรํ ภูมิยํ นิกฺขิปนฺติ, นิพทฺธุปฏฺากํ เม เอกํ ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, อหํ อุปฏฺหิสฺสามิ, อหํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ สิรสิ อฺชลึ กตฺวา อุฏฺิเต สาริปุตฺตตฺเถราทโย ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺถนา มตฺถกํ ปตฺตา, อล’’นฺติ ปฏิกฺขิปิ. ตโต ภิกฺขู อานนฺทตฺเถรํ ‘‘ตฺวํ อาวุโส, อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘สเจ เม ภนฺเต, ภควา อตฺตนา ลทฺธจีวรํ น ทสฺสติ, ปิณฺฑปาตํ น ทสฺสติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตุํ น ทสฺสติ, มํ คเหตฺวา นิมนฺตนํ น คมิสฺสติ, สเจ ปน ภควา มยา คหิตํ นิมนฺตนํ คมิสฺสติ, สเจ อหํ ติโรรฏฺา ติโรชนปทา ภควนฺตํ ทฏฺุํ อาคตํ ปริสํ อาคตกฺขเณเยว ทสฺเสตุํ ลภิสฺสามิ ¶ , ยทา เม กงฺขา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ ขเณเยว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ลภิสฺสามิ, สเจ ยํ ภควา มม ปรมฺมุขา ธมฺมํ กเถติ, ตํ อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถสฺสติ, เอวาหํ ¶ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อิเม จตฺตาโร ปฏิกฺเขเป จตสฺโส จ อายาจนาติ อฏฺ วเร ยาจิ, ภควาปิสฺส อทาสิ.
โส ตโต ปฏฺาย ปฺจวีสติ วสฺสานิ นิพทฺธุปฏฺาโก อโหสิ. โส ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺเค ปนํ ปตฺวา อาคมสมฺปทา, อธิคมสมฺปทา, ปุพฺพเหตุสมฺปทา, อตฺตตฺถปริปุจฺฉาสมฺปทา, ติตฺถวาสสมฺปทา, โยนิโสมนสิการสมฺปทา, พุทฺธูปนิสฺสยสมฺปทาติ อิมาหิ สตฺตหิ สมฺปทาหิ สมนฺนาคโต พุทฺธสฺส สนฺติเก อฏฺวรทายชฺชํ ลภิตฺวา พุทฺธสาสเน ปฺาโต คคนมชฺเฌ จนฺโท วิย ปากโฏ อโหสิ. อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, ตถาคโต อานนฺทตฺเถรํ ¶ วรทาเนน สนฺตปฺเปสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ อานนฺทํ วเรน สนฺตปฺเปสึ, ปุพฺเพปาหํ ยํ ยํ เอส ยาจิ, ตํ ตํ อทาสึเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม หุตฺวา ตกฺกสิลายํ สิปฺปํ อุคฺคเหตฺวา อาจริยสฺส อนุโยคํ ทตฺวา รตฺติภาเค อนฺธกาเร อาจริยสฺส ฆรา นิกฺขมิตฺวา อตฺตโน นิวาสฏฺานํ เวเคน คจฺฉนฺโต อฺตรํ พฺราหฺมณํ ภิกฺขํ จริตฺวา อตฺตโน นิวาสฏฺานํ คจฺฉนฺตํ อปสฺสนฺโต พาหุนา ปหริตฺวา ตสฺส ภตฺตปาตึ ภินฺทึ, พฺราหฺมโณ ปติตฺวา วิรวิ. กุมาโร การฺุเน นิวตฺติตฺวา ตํ หตฺเถ คเหตฺวา อุฏฺาเปสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ตยา, ตาต, มม ภิกฺขาภาชนํ ภินฺนํ, ภตฺตมูลํ เม เทหี’’ติ อาห. กุมาโร ‘‘พฺราหฺมณ, น ทานาหํ ตว ภตฺตมูลํ ทาตุํ สกฺโกมิ, อหํ โข ปน กาสิกรฺโ ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม, มยิ รชฺเช ปติฏฺิเต อาคนฺตฺวา มํ ธนํ ยาเจยฺยาสี’’ติ วตฺวา นิฏฺิตสิปฺโป อาจริยํ วนฺทิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสสิ. ปิตา ‘‘ชีวนฺเตน เม ปุตฺโต ทิฏฺโ, ราชภูตมฺปิ นํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ รชฺเช อภิสิฺจิ. โส ¶ ชุณฺหราชา นาม หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. พฺราหฺมโณ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อิทานิ มม ภตฺตมูลํ อาหริสฺสามี’’ติ พาราณสึ คนฺตฺวา ราชานํ อลงฺกตนครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺตเมว ทิสฺวา เอกสฺมึ อุนฺนตปฺปเทเส ิโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ชยาเปสิ. อถ นํ ราชา อโนโลเกตฺวาว อติกฺกมิ. พฺราหฺมโณ เตน อทิฏฺภาวํ ตฺวา กถํ สมุฏฺาเปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘สุโณหิ ¶ มยฺหํ วจนํ ชนินฺท, อตฺเถน ชุณฺหมฺหิ อิธานุปตฺโต;
น พฺราหฺมเณ อทฺธิเก ติฏฺมาเน, คนฺตพฺพมาหุ ทฺวิปทินฺท เสฏฺา’’ติ.
ตตฺถ ชุณฺหมฺหีติ มหาราช, ตยิ ชุณฺหมฺหิ อหํ เอเกน อตฺเถน อิธานุปฺปตฺโต, น นิกฺการณา อิธาคโตมฺหีติ ทีเปติ. อทฺธิเกติ อทฺธานํ อาคเต. คนฺตพฺพนฺติ ตํ อทฺธิกํ อทฺธานมาคตํ ยาจมานํ พฺราหฺมณํ อโนโลเกตฺวาว คนฺตพฺพนฺติ ปณฺฑิตา น อาหุ น กเถนฺตีติ.
ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา หตฺถึ วชิรงฺกุเสน นิคฺคเหตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘สุโณมิ ¶ ติฏฺามิ วเทหิ พฺรหฺเม, เยนาสิ อตฺเถน อิธานุปตฺโต;
กํ วา ตฺวมตฺถํ มยิ ปตฺถยาโน, อิธาคโม พฺรหฺเม ตทิงฺฆ พฺรูหี’’ติ.
ตตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต.
ตโต ปรํ พฺราหฺมณสฺส จ รฺโ จ วจนปฏิวจนวเสน เสสคาถา กถิตา –
‘‘ททาหิ เม คามวรานิ ปฺจ, ทาสีสตํ สตฺต ควํสตานิ;
ปโรสหสฺสฺจ สุวณฺณนิกฺเข, ภริยา จ เม สาทิสี ทฺเว ททาหิ.
‘‘ตโป ¶ นุ เต พฺราหฺมณ ภึสรูโป, มนฺตา นุ เต พฺราหฺมณ จิตฺตรูปา;
ยกฺขา นุ เต อสฺสวา สนฺติ เกจิ, อตฺถํ วา เม อภิชานาสิ กตฺตํ.
‘‘น ¶ เม ตโป อตฺถิ น จาปิ มนฺตา, ยกฺขาปิ เม อสฺสวา นตฺถิ เกจิ;
อตฺถมฺปิ เต นาภิชานามิ กตฺตํ, ปุพฺเพ จ โข สงฺคติมตฺตมาสิ.
‘‘ปมํ อิทํ ทสฺสนํ ชานโต เม, น ตาภิชานามิ อิโต ปุรตฺถา;
อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, กทา กุหึ วา อหุ สงฺคโม โน.
‘‘คนฺธารราชสฺส ปุรมฺหิ รมฺเม, อวสิมฺหเส ตกฺกสีลายํ เทว;
ตตฺถนฺธการมฺหิ ติมีสิกายํ, อํเสน อํสํ สมฆฏฺฏยิมฺห.
‘‘เต ตตฺถ ตฺวาน อุโภ ชนินฺท, สาราณิยํ วีติสารยิมฺห ตตฺถ;
สาเยว โน สงฺคติมตฺตมาสิ, ตโต น ปจฺฉา น ปุเร อโหสิ.
‘‘ยทา กทาจิ มนุเชสุ พฺรหฺเม, สมาคโม สปฺปุริเสน โหติ;
น ปณฺฑิตา สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ วินาสยนฺติ.
‘‘พาลาว โข สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ วินาสยนฺติ;
พหุมฺปิ พาเลสุ กตํ วินสฺสติ, ตถา หิ พาลา อกตฺุรูปา.
‘‘ธีรา ¶ จ โข สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ น นาสยนฺติ;
อปฺปมฺปิ ¶ ธีเรสุ กตํ น นสฺสติ, ตถา หิ ธีรา สุกตฺุรูปา.
‘‘ททามิ ¶ เต คามวรานิ ปฺจ, ทาสีสตํ สตฺต ควํสตานิ;
ปโรสหสฺสฺจ สุวณฺณนิกฺเข, ภริยา จ เต สาทิสี ทฺเว ททามิ.
‘‘เอวํ สตํ โหติ สเมจฺจ ราช, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;
อาปูรตี กาสิปตี ตถาหํ, ตยาปิ เม สงฺคโม อชฺช ลทฺโธ’’ติ.
ตตฺถ สาทิสีติ รูปวณฺณชาติกุลปเทเสน มยา สาทิสี เอกสทิสา ทฺเว มหายสา ภริยา จ เม เทหีติ อตฺโถ. ภึสรูโปติ กึ นุ เต พฺราหฺมณ พลวรูปสีลาจารคุณสงฺขาตํ ตโปกมฺมํ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. มนฺตา นุ เตติ อุทาหุ วิจิตฺรรูปา สพฺพตฺถสาธกา มนฺตา เต อตฺถิ. อสฺสวาติ วจนการกา อิจฺฉิติจฺฉิตทายกา ยกฺขา วา เต เกจิ สนฺติ. กตฺตนฺติ กตํ, อุทาหุ ตยา กตํ กิฺจิ มม อตฺถํ อภิชานาสีติ ปุจฺฉติ. สงฺคติมตฺตนฺติ สมาคมมตฺตํ ตยา สทฺธึ ปุพฺเพ มม อาสีติ วทติ. ชานโต เมติ ชานนฺตสฺส มม อิทํ ปมํ ตว ทสฺสนํ. น ตาภิชานามีติ น ตํ อภิชานามิ. ติมีสิกายนฺติ พหลติมิรายํ รตฺติยํ. เต ตตฺถ ตฺวานาติ เต มยํ ตสฺมึ อํเสน อํสํ ฆฏฺฏิตฏฺาเน ตฺวา วีติสารยิมฺห ตตฺถาติ ตสฺมึเยว าเน สริตพฺพยุตฺตกํ กถํ วีติสารยิมฺห, อหํ ‘‘ภิกฺขาภาชนํ เม ตยา ภินฺนํ, ภตฺตมูลํ เม เทหี’’ติ อวจํ, ตฺวํ ‘‘อิทานาหํ ตว ภตฺตมูลํ ทาตุํ น สกฺโกมิ, อหํ โข ปน กาสิกรฺโ ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม, มยิ รชฺเช ปติฏฺิเต อาคนฺตฺวา มํ ธนํ ยาเจยฺยาสี’’ติ อวจาติ อิมํ สารณียกถํ กริมฺหาติ อาห. สาเยว โน สงฺคติมตฺตมาสีติ เทว, อมฺหากํ สาเยว อฺมฺํ สงฺคติมตฺตมาสิ, เอกมุหุตฺติกมโหสีติ ทีเปติ. ตโตติ ตโต ปน ตํมุหุตฺติกมิตฺตธมฺมโต ปจฺฉา วา ปุเร วา กทาจิ อมฺหากํ สงฺคติ นาม น ภูตปุพฺพา.
น ปณฺฑิตาติ พฺราหฺมณ ปณฺฑิตา นาม ตํมุหุตฺติกํ สงฺคตึ วา จิรกาลสนฺถวานิ วา ยํ กิฺจิ ปุพฺเพ กตคุณํ วา น นาเสนฺติ. พหุมฺปีติ พหุกมฺปิ ¶ . อกตฺุรูปาติ ยสฺมา พาลา อกตฺุสภาวา, ตสฺมา เตสุ พหุมฺปิ กตํ นสฺสตีติ อตฺโถ. สุกตฺุรูปาติ สุฏฺุ กตฺุสภาวา. เอตฺถาปิ ตตฺถาปิ ตถา หีติ หิ-กาโร การณตฺโถ. ททามิ เตติ พฺราหฺมเณน ยาจิตยาจิตํ ททนฺโต เอวมาห. เอวํ สตนฺติ พฺราหฺมโณ รฺโ ¶ อนุโมทนํ กโรนฺโต วทติ, สตํ ¶ สปฺปุริสานํ เอกวารมฺปิ สเมจฺจ สงฺคติ นาม เอวํ โหติ. นกฺขตฺตราชาริวาติ เอตฺถ ร-กาโร นิปาตมตฺตํ. ตารกานนฺติ ตารกคณมชฺเฌ. กาสิปตีติ ราชานมาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เทว, กาสิรฏฺาธิปติ ยถา จนฺโท ตารกานํ มชฺเฌ ิโต ตารกคณปริวุโต ปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว ปุณฺณมา อาปูรติ, ตถา อหมฺปิ อชฺช ตยา ทินฺเนหิ คามวราทีหิ อาปูรามี’’ติ. ตยาปิ เมติ มยา ปุพฺเพ ตยา สทฺธึ ลทฺโธปิ สงฺคโม อลทฺโธว, อชฺช ปน มม มโนรถสฺส นิปฺผนฺนตฺตา มยา ตยา สห สงฺคโม ลทฺโธ นามาติ นิปฺผนฺนํ เม ตยา สทฺธึ มิตฺตผลนฺติ วทติ. โพธิสตฺโต ตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ อานนฺทํ วเรน สนฺตปฺเปสึ เยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พฺราหฺมโณ อานนฺโท อโหสิ, ราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ชุณฺหชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๔๕๗] ๓. ธมฺมเทวปุตฺตชาตกวณฺณนา
ยโสกโร ปฺุกโรหมสฺมีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส ปถวิปเวสนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ตถาคเตน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น อิทาเนเวส, ภิกฺขเว, มม ชินจกฺเก ปหารํ ทตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ, ปุพฺเพปิ ธมฺมจกฺเก ¶ ปหารํ ทตฺวา ปถวึ ปวิสิตฺวา อวีจิปรายโณ ชาโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กามาวจรเทวโลเก ธมฺโม นาม เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เทวทตฺโต อธมฺโม นาม. เตสุ ธมฺโม ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต ทิพฺพรถวรมภิรุยฺห อจฺฉราคณปริวุโต มนุสฺเสสุ สายมาสํ ภฺุชิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ฆรทฺวาเร สุขกถาย นิสินฺเนสุ ปุณฺณมุโปสถทิวเส คามนิคมชนปทราชธานีสุ อากาเส ตฺวา ‘‘ปาณาติปาตาทีหิ ทสหิ อกุสลกมฺมปเถหิ วิรมิตฺวา มาตุปฏฺานธมฺมํ ปิตุปฏฺานธมฺมํ ติวิธสุจริตธมฺมฺจ ปูเรถ ¶ , เอวํ สคฺคปรายณา หุตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิสฺสถา’’ติ มนุสฺเส ทส กุสลกมฺมปเถ สมาทเปนฺโต ชมฺพุทีปํ ปทกฺขิณํ กโรติ. อธมฺโม ปน เทวปุตฺโต ‘‘ปาณํ หนถา’’ติอาทินา นเยน ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทเปนฺโต ชมฺพุทีปํ วามํ กโรติ. อถ เตสํ ¶ อากาเส รถา สมฺมุขา อเหสุํ. อถ เนสํ ปริสา ‘‘ตุมฺเห กสฺส, ตุมฺเห กสฺสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มยํ ธมฺมสฺส, มยํ อธมฺมสฺสา’’ติ วตฺวา มคฺคา โอกฺกมิตฺวา ทฺวิธา ชาตา. ธมฺโมปิ อธมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ อธมฺโม, อหํ ธมฺโม, มคฺโค มยฺหํ อนุจฺฉวิโก, ตว รถํ โอกฺกาเมตฺวา มยฺหํ มคฺคํ เทหี’’ติ ปมํ คาถมาห –
‘‘ยโสกโร ปฺุกโรหมสฺมิ, สทาตฺถุโต สมณพฺราหฺมณานํ;
มคฺคารโห เทวมนุสฺสปูชิโต, ธมฺโม อหํ เทหิ อธมฺม มคฺค’’นฺติ.
ตตฺถ ยโสกโรติ อหํ เทวมนุสฺสานํ ยสทายโก. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. สทาตฺถุโตติ สทา ถุโต นิจฺจปสตฺโถ. ตโต ปรา –
‘‘อธมฺมยานํ ทฬฺหมารุหิตฺวา, อสนฺตสนฺโต พลวาหมสฺมิ;
ส กิสฺส เหตุมฺหิ ตวชฺช ทชฺชํ, มคฺคํ อหํ ธมฺม อทินฺนปุพฺพํ.
‘‘ธมฺโม ¶ หเว ปาตุรโหสิ ปุพฺเพ, ปจฺฉา อธมฺโม อุทปาทิ โลเก;
เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ สนนฺตโน จ, อุยฺยาหิ เชฏฺสฺส กนิฏฺ มคฺคา.
‘‘น ยาจนาย นปิ ปาติรูปา, น อรหตา เตหํ ทเทยฺยํ มคฺคํ;
ยุทฺธฺจ ¶ โน โหตุ อุภินฺนมชฺช, ยุทฺธมฺหิ โย เชสฺสติ ตสฺส มคฺโค.
‘‘สพฺพา ทิสา อนุวิสโฏหมสฺมิ, มหพฺพโล อมิตยโส อตุลฺโย;
คุเณหิ สพฺเพหิ อุเปตรูโป, ธมฺโม อธมฺม ตฺวํ กถํ วิเชสฺสสิ.
‘‘โลเหน เว หฺติ ชาตรูปํ, น ชาตรูเปน หนนฺติ โลหํ;
สเจ อธมฺโม หฺฉติ ธมฺมมชฺช, อโย สุวณฺณํ วิย ทสฺสเนยฺยํ.
‘‘สเจ ตุวํ ยุทฺธพโล อธมฺม, น ตุยฺห วุฑฺฒา จ ครู จ อตฺถิ;
มคฺคฺจ เต ทมฺมิ ปิยาปฺปิเยน, วาจาทุรุตฺตานิปิ เต ขมามี’’ติ. –
อิมา ฉ คาถา เตสฺเว วจนปฏิวจนวเสน กถิตา.
ตตฺถ ¶ ส กิสฺส เหตุมฺหิ ตวชฺช ทชฺชนฺติ โสมฺหิ อหํ อธมฺโม อธมฺมยานํ รถํ อารุฬฺโห อภีโต พลวา. กึการณา อชฺช โภ ธมฺม, กสฺสจิ อทินฺนปุพฺพํ มคฺคํ ตุยฺหํ ทมฺมีติ. ปุพฺเพติ ปมกปฺปิกกาเล อิมสฺมึ โลเก ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม จ ปุพฺเพ ปาตุรโหสิ, ปจฺฉา อธมฺโม. เชฏฺโ จาติ ปุเร นิพฺพตฺตภาเวน อหํ เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ โปราณโก จ, ตฺวํ ปน กนิฏฺโ, ตสฺมา มคฺคา อุยฺยาหีติ วทติ. นปิ ¶ ปาติรูปาติ อหฺหิ เต เนว ยาจนาย น ปติรูปวจเนน มคฺคารหตาย มคฺคํ ทเทยฺยํ. อนุวิสโฏติ อหํ จตสฺโส ทิสา จตสฺโส อนุทิสาติ สพฺพา ทิสา อตฺตโน คุเณน ปตฺถโฏ ปฺาโต ปากโฏ. โลเหนาติ อยมุฏฺิเกน. หฺฉตีติ หนิสฺสติ. ตุวํ ยุทฺธพโล อธมฺมาติ สเจ ตฺวํ ยุทฺธพโลสิ อธมฺม. วุฑฺฒา จ ครู จาติ ยทิ ตุยฺหํ ‘‘อิเม วุฑฺฒา, อิเม ครู ปณฺฑิตา’’ติ เอวํ นตฺถิ. ปิยาปฺปิเยนาติ ปิเยนาปิ อปฺปิเยนาปิ ททนฺโต ปิเยน วิย เต มคฺคํ ททามีติ อตฺโถ.
โพธิสตฺเตน ¶ ปน อิมาย คาถาย กถิตกฺขเณเยว อธมฺโม รเถ าตุํ อสกฺโกนฺโต อวํสิโร ปถวิยํ ปติตฺวา ปถวิยา วิวเร ทินฺเน คนฺตฺวา อวีจิมฺหิเยว นิพฺพตฺติ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ภควา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา เสสคาถา อภาสิ –
‘‘อิทฺจ สุตฺวา วจนํ อธมฺโม, อวํสิโร ปติโต อุทฺธปาโท;
ยุทฺธตฺถิโก เจ น ลภามิ ยุทฺธํ, เอตฺตาวตา โหติ หโต อธมฺโม.
‘‘ขนฺตีพโล ยุทฺธพลํ วิเชตฺวา, หนฺตฺวา อธมฺมํ นิหนิตฺว ภูมฺยา;
ปายาสิ วิตฺโต อภิรุยฺห สนฺทนํ, มคฺเคเนว อติพโล สจฺจนิกฺกโม.
‘‘มาตา ปิตา สมณพฺราหฺมณา จ, อสมฺมานิตา ยสฺส สเก อคาเร;
อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺติ เต;
ยถา อธมฺโม ปติโต อวํสิโร.
‘‘มาตา ปิตา สมณพฺราหฺมณา จ, สุสมฺมานิตา ยสฺส สเก อคาเร;
อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺติ เต;
ยถาปิ ธมฺโม อภิรุยฺห สนฺทน’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ยุทฺธตฺถิโก เจติ อยํ ตสฺส วิลาโป, โส กิเรวํ วิลปนฺโตเยว ปติตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ ¶ . เอตฺตาวตาติ ภิกฺขเว, ยาวตา ปถวึ ปวิฏฺโ, ตาวตา อธมฺโม หโต นาม โหติ. ขนฺตีพโลติ ภิกฺขเว, เอวํ อธมฺโม ปถวึ ปวิฏฺโ อธิวาสนขนฺตีพโล ตํ ยุทฺธพลํ วิเชตฺวา วธิตฺวา ภูมิยํ นิหนิตฺวา ปาเตตฺวา วิตฺตชาตตาย วิตฺโต อตฺตโน รถํ อารุยฺห มคฺเคเนว สจฺจนิกฺกโม ตถปรกฺกโม ธมฺมเทวปุตฺโต ปายาสิ. อสมฺมานิตาติ อสกฺกตา. สรีรเทหนฺติ อิมสฺมึเยว โลเก สรีรสงฺขาตํ เทหํ นิกฺขิปิตฺวา. นิรยํ วชนฺตีติ ยสฺส ปาปปุคฺคลสฺส เอเต สกฺการารหา เคเห อสกฺกตา, ตถารูปา ยถา อธมฺโม ปติโต อวํสิโร, เอวํ อวํสิรา ¶ นิรยํ วชนฺตีติ อตฺโถ. สุคตึ วชนฺตีติ ยสฺส ปเนเต สกฺกตา, ตาทิสา ปณฺฑิตา ยถาปิ ธมฺโม สนฺทนํ อภิรุยฺห เทวโลกํ คโต, เอวํ สุคตึ วชนฺตีติ.
สตฺถา เอวํ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มยา สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อธมฺโม เทวปุตฺโต เทวทตฺโต อโหสิ, ปริสาปิสฺส เทวทตฺตปริสา, ธมฺโม ปน อหเมว, ปริสา พุทฺธปริสาเยวา’’ติ.
ธมฺมเทวปุตฺตชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๔๕๘] ๔. อุทยชาตกวณฺณนา
เอกา นิสินฺนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ กสฺมา กิเลสวเสน เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา อุกฺกณฺิโตสิ? โปราณกปณฺฑิตา สมิทฺเธ ทฺวาทสโยชนิเก สุรุนฺธนนคเร รชฺชํ กาเรนฺตา เทวจฺฉรปฏิภาคาย อิตฺถิยา สทฺธึ สตฺต วสฺสสตานิ เอกคพฺเภ วสนฺตาปิ อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา โลภวเสน น โอโลเกสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ กาสิรฏฺเ สุรุนฺธนนคเร กาสิราชา รชฺชํ กาเรสิ, ตสฺส เนว ปุตฺโต, น ธีตา อโหสิ. โส อตฺตโน เทวิโย ‘‘ปุตฺเต ปตฺเถถา’’ติ อาห. อคฺคมเหสีปิ รฺโ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา อกาสิ. ตทา โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺเสว รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. อถสฺส มหาชนสฺส หทยํ วฑฺเฒตฺวา ชาตภาเวน ‘‘อุทยภทฺโท’’ติ ¶ นามํ กรึสุ. กุมารสฺส ปทสา จรณกาเล อฺโปิ สตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺเสว รฺโ อฺตราย เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ กุมาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺสาปิ ‘‘อุทยภทฺทา’’ติ นามํ กรึสุ. กุมาโร วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺปนิปฺผตฺตึ ปาปุณิ ¶ , ชาตพฺรหฺมจารี ปน อโหสิ, สุปินนฺเตนปิ เมถุนธมฺมํ น ชานาติ, น ตสฺส กิเลเสสุ จิตฺตํ อลฺลียิ. ราชา ปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจิตุกาโม ‘‘กุมารสฺส อิทานิ รชฺชสุขเสวนกาโล, นาฏกาปิสฺส ปจฺจุปฏฺาเปสฺสามี’’ติ สาสนํ เปเสสิ. โพธิสตฺโต ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, กิเลเสสุ เม จิตฺตํ น อลฺลียตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโน รตฺตชมฺพุนทมยํ อิตฺถิรูปํ กาเรตฺวา ‘‘เอวรูปํ อิตฺถึ ลภมาโน รชฺชํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามี’’ติ มาตาปิตูนํ เปเสสิ. เต ตํ สุวณฺณรูปกํ สกลชมฺพุทีปํ ปริหาราเปตฺวา ตถารูปํ อิตฺถึ อลภนฺตา อุทยภทฺทํ อลงฺกาเรตฺวา ตสฺส สนฺติเก เปสุํ. สา ตํ สุวณฺณรูปกํ อภิภวิตฺวา อฏฺาสิ. อถ เนสํ อนิจฺฉมานานฺเว เวมาติกํ ภคินึ อุทยภทฺทกุมารึ อคฺคมเหสึ กตฺวา โพธิสตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. เต ปน ทฺเวปิ พฺรหฺมจริยวาสเมว วสึสุ.
อปรภาเค มาตาปิตูนํ อจฺจเยน โพธิสตฺโต รชฺชํ กาเรสิ. อุโภ เอกคพฺเภ วสมานาปิ โลภวเสน อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา อฺมฺํ น โอโลเกสุํ, อปิจ โข ปน ‘‘โย อมฺเหสุ ปมตรํ กาลํ กโรติ, โส นิพฺพตฺตฏฺานโต อาคนฺตฺวา ‘อสุกฏฺาเน นิพฺพตฺโตสฺมี’ติ อาโรเจตู’’ติ สงฺครมกํสุ. อถ โข โพธิสตฺโต อภิเสกโต สตฺตวสฺสสตจฺจเยน กาลมกาสิ. อฺโ ราชา นาโหสิ, อุทยภทฺทายเยว อาณา ปวตฺติ. อมจฺจา รชฺชํ อนุสาสึสุ. โพธิสตฺโตปิ จุติกฺขเณ ตาวตึสภวเน สกฺกตฺตํ ปตฺวา ยสมหนฺตตาย สตฺตาหํ อนุสฺสริตุํ นาสกฺขิ. อิติ โส มนุสฺสคณนาย สตฺตวสฺสสตจฺจเยน อาวชฺเชตฺวา ‘‘อุทยภทฺทํ ราชธีตรํ ธเนน วีมํสิตฺวา สีหนาทํ นทาเปตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา สงฺครํ โมเจตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตทา ¶ กิร มนุสฺสานํ ทสวสฺสสหสฺสายุกกาโล โหติ. ราชธีตาปิ ตํ ทิวสํ รตฺติภาเค ปิหิเตสุ ทฺวาเรสุ ปิตอารกฺเข สตฺตภูมิกปาสาทวรตเล อลงฺกตสิริคพฺเภ เอกิกาว นิจฺจลา อตฺตโน ¶ สีลํ อาวชฺชมานา นิสีทิ. อถ สกฺโก สุวณฺณมาสกปูรํ เอกํ สุวณฺณปาตึ อาทาย อาคนฺตฺวา สยนคพฺเภเยว ปาตุภวิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ตาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘เอกา นิสินฺนา สุจิ สฺตูรู, ปาสาทมารุยฺห อนินฺทิตงฺคี;
ยาจามิ ตํ กินฺนรเนตฺตจกฺขุ, อิเมกรตฺตึ อุภโย วเสมา’’ติ.
ตตฺถ ¶ สุจีติ สุจิวตฺถนิวตฺถา. สฺตูรูติ สุฏฺุ ปิตอูรู, อิริยาปถํ สณฺเปตฺวา สุจิวตฺถา เอกิกาว นิสินฺนาสีติ วุตฺตํ โหติ. อนินฺทิตงฺคีติ ปาทนฺตโต ยาว เกสคฺคา อนินฺทิตสรีรา ปรมโสภคฺคปฺปตฺตสรีรา. กินฺนรเนตฺตจกฺขูติ ตีหิ มณฺฑเลหิ ปฺจหิ จ ปสาเทหิ อุปโสภิตตฺตา กินฺนรานํ เนตฺตสทิเสหิ จกฺขูหิ สมนฺนาคเต. อิเมกรตฺตินฺติ อิมํ เอกรตฺตํ อชฺช อิมสฺมึ อลงฺกตสยนคพฺเภ เอกโต วเสยฺยามาติ ยาจติ.
ตโต ราชธีตา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘โอกิณฺณนฺตรปริขํ, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ;
รกฺขิตํ ขคฺคหตฺเถหิ, ทุปฺปเวสมิทํ ปุรํ.
‘‘ทหรสฺส ยุวิโน จาปิ, อาคโม จ น วิชฺชติ;
อถ เกน นุ วณฺเณน, สงฺคมํ อิจฺฉเส มยา’’ติ.
ตตฺถ โอกิณฺณนฺตรปริขนฺติ อิทํ ทฺวาทสโยชนิกํ สุรุนฺธนปุรํ อนฺตรนฺตรา อุทกปริขานํ กทฺทมปริขานํ สุกฺขปริขานํ โอกิณฺณตฺตา โอกิณฺณนฺตรปริขํ. ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกนฺติ ถิรตเรหิ อฏฺฏาลเกหิ ทฺวารโกฏฺเกหิ จ สมนฺนาคตํ. ขคฺคหตฺเถหีติ อาวุธหตฺเถหิ ทสหิ โยธสหสฺเสหิ รกฺขิตํ. ทุปฺปเวสมิทํ ปุรนฺติ อิทํ สกลปุรมฺปิ ตสฺส อนฺโต มาปิตํ มยฺหํ นิวาสปุรมฺปิ อุภยํ กสฺสจิ ปวิสิตุํ น สกฺกา. อาคโม จาติ อิธ อิมาย ¶ เวลาย ตรุณสฺส วา โยพฺพนปฺปตฺตสฺส วา ถามสมฺปนฺนโยธสฺส วา อฺสฺส วา มหนฺตมฺปิ ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อาคโม นาม นตฺถิ. สงฺคมนฺติ อถ ตฺวํ เกน การเณน อิมาย เวลาย มยา สห สมาคมํ อิจฺฉสีติ.
อถ สกฺโก จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ¶ กลฺยาณิ, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;
ตฺวํ มํ นนฺทย ภทฺทนฺเต, ปุณฺณกํสํ ททามิ เต’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – กลฺยาณิ, สุนฺทรทสฺสเน อหเมโก เทวปุตฺโต เทวตานุภาเวน อิธาคโต, ตฺวํ อชฺช มํ นนฺทย โตเสหิ, อหํ เต อิมํ สุวณฺณมาสกปุณฺณํ สุวณฺณปาตึ ททามีติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชธีตา ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘เทวํว ยกฺขํ อถ วา มนุสฺสํ, น ปตฺถเย อุทยมติจฺจ อฺํ;
คจฺเฉว ตฺวํ ยกฺข มหานุภาว, มา จสฺสุ คนฺตฺวา ปุนราวชิตฺถา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – อหํ เทวราช, เทวํ วา ยกฺขํ วา อุทยํ อติกฺกมิตฺวา อฺํ น ปตฺเถมิ, โส ตฺวํ คจฺเฉว, มา อิธ อฏฺาสิ, น เม ตยา อาภเตน ปณฺณากาเรน อตฺโถ, คนฺตฺวา จ มา อิมํ านํ ปุนราวชิตฺถาติ.
โส ตสฺสา สีหนาทํ สุตฺวา อฏฺตฺวา คตสทิโส หุตฺวา ตตฺเถว อนฺตรหิโต อฏฺาสิ. โส ปุนทิวเส ตาย เวลายเมว สุวณฺณมาสกปูรํ รชตปาตึ อาทาย ตาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘ยา สา รติ อุตฺตมา กามโภคินํ, ยํเหตุ สตฺตา วิสมํ จรนฺติ;
มา ตํ รตึ ชียิ ตุวํ สุจิมฺหิเต, ททามิ เต รูปิยํ กํสปูร’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – ภทฺเท, ราชธีเต ยา เอสา กามโภคิสตฺตานํ รตีสุ เมถุนกามรติ นาม อุตฺตมา รติ, ยสฺสา รติยา การณา สตฺตา กายทุจฺจริตาทิวิสมํ จรนฺติ, ตํ รตึ ตฺวํ ภทฺเท, สุจิมฺหิเต มนาปหสิเต มา ชียิ, อหมฺปิ อาคจฺฉนฺโต น ตุจฺฉหตฺโถ อาคโต, หิยฺโย สุวณฺณมาสกปูรํ สุวณฺณปาตึ อาหรึ, อชฺช รูปิยปาตึ, อิมํ เต อหํ รูปิยปาตึ สุวณฺณปูรํ ททามีติ.
ราชธีตา จินฺเตสิ ‘‘อยํ กถาสลฺลาปํ ลภนฺโต ปุนปฺปุนํ อาคมิสฺสติ, น ทานิ เตน สทฺธึ กเถสฺสามี’’ติ. สา กิฺจิ น ¶ กเถสิ.
สกฺโก ตสฺสา อกถิตภาวํ ตฺวา ตตฺเถว อนฺตรหิโต หุตฺวา ปุนทิวเส ตายเมว เวลาย โลหปาตึ กหาปณปูรํ อาทาย ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ มํ กามรติยา สนฺตปฺเปหิ, อิมํ เต กหาปณปูรํ โลหปาตึ ทสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ทิสฺวา ราชธีตา สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘นารึ ¶ นโร นิชฺฌปยํ ธเนน, อุกฺกํสตี ยตฺถ กโรติ ฉนฺทํ;
วิปจฺจนีโก ตว เทวธมฺโม, ปจฺจกฺขโต โถกตเรน เอสี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – โภ ปุริส, ตฺวํ ชโฬ. นโร หิ นาม นารึ กิเลสรติการณา ธเนน นิชฺฌาเปนฺโต สฺาเปนฺโต ยตฺถ นาริยา ฉนฺทํ กโรติ, ตํ อุกฺกํสติ วณฺเณตฺวา โถเมตฺวา พหุตเรน ธเนน ปโลเภติ, ตุยฺหํ ปเนโส เทวสภาโว วิปจฺจนีโก, ตฺวฺหิ มยา ปจฺจกฺขโต โถกตเรน เอสิ, ปมทิวเส สุวณฺณปูรํ สุวณฺณปาตึ อาหริตฺวา, ทุติยทิวเส สุวณฺณปูรํ รูปิยปาตึ, ตติยทิวเส กหาปณปูรํ โลหปาตึ อาหรสีติ.
ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘ภทฺเท ราชกุมาริ, อหํ เฉกวาณิโช น นิรตฺถเกน อตฺถํ นาเสมิ, สเจ ตฺวํ อายุนา วา วณฺเณน วา วฑฺเฒยฺยาสิ, อหํ เต ปณฺณาการํ วฑฺเฒตฺวา อาหเรยฺยํ, ตฺวํ ปน ปริหายเสว, เตนาหมฺปิ ธนํ ปริหาเปมี’’ติ วตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อายุ ¶ จ วณฺโณ จ มนุสฺสโลเก, นิหียติ มนุชานํ สุคตฺเต;
เตเนว วณฺเณน ธนมฺปิ ตุยฺหํ, นิหียติ ชิณฺณตราสิ อชฺช.
‘‘เอวํ เม เปกฺขมานสฺส, ราชปุตฺติ ยสสฺสินิ;
หายเตว ตว วณฺโณ, อโหรตฺตานมจฺจเย.
‘‘อิมินาว ตฺวํ วยสา, ราชปุตฺติ สุเมธเส;
พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยาสิ, ภิยฺโย วณฺณวตี สิยา’’ติ.
ตตฺถ นิหียตีติ ปริสฺสาวเน อาสิตฺตอุทกํ วิย ปริหายติ. มนุสฺสโลกสฺมิฺหิ สตฺตา ชีวิเตน วณฺเณน จกฺขุปสาทาทีหิ จ ทิเน ทิเน ปริหายนฺเตว. ชิณฺณตราสีติ ¶ มม ปมํ อาคตทิวเส ปวตฺตฺหิ เต อายุ หิยฺโย ทิวสํ น ปาปุณิ, กุาริยา ฉินฺนํ วิย ตตฺเถว นิรุชฺฌิ, หิยฺโย ปวตฺตมฺปิ อชฺชทิวสํ น ปาปุณิ, หิยฺโยว กุาริยา ฉินฺนํ วิย นิรุชฺฌิ, ตสฺมา อชฺช ชิณฺณตราสิ ชาตา. เอวํ เมติ ติฏฺตุ หิยฺโย จ ปรหิยฺโย จ, อชฺเชว ปน มยฺหํ เอวํ เปกฺขมานสฺเสว หายเตว ตว วณฺโณ. อโหรตฺตานมจฺจเยติ อิโต ปฏฺาย รตฺตินฺทิเวสุ วีติวตฺเตสุ อโหรตฺตานํ อจฺจเยน อปณฺณตฺติกภาวเมว คมิสฺสสีติ ทสฺเสติ. อิมินาวาติ ตสฺมา ภทฺเท, สเจ ตฺวํ อิมินา วเยเนว อิมสฺมึ สุวณฺณวณฺเณ สรีเร รชาย ¶ อวิลุตฺเตเยว เสฏฺจริยํ จเรยฺยาสิ, ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กเรยฺยาสิ. ภิยฺโย วณฺณวตี สิยาติ อติเรกตรวณฺณา ภเวยฺยาสีติ.
ตโต ราชธีตา อิตรํ คาถมาห –
‘‘เทวา น ชีรนฺติ ยถา มนุสฺสา, คตฺเตสุ เตสํ วลิโย น โหนฺติ;
ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กถํ นุ เทวาน สรีรเทโห’’ติ.
ตตฺถ ¶ สรีรเทโหติ สรีรสงฺขาโต เทโห, เทวานํ สรีรํ กถํ น ชีรติ, อิทํ อหํ ตํ ปุจฺฉามีติ วทติ.
อถสฺสา กเถนฺโต สกฺโก อิตรํ คาถมาห –
‘‘เทวา น ชีรนฺติ ยถา มนุสฺสา, คตฺเตสุ เตสํ วลิโย น โหนฺติ;
สุเว สุเว ภิยฺยตโรว เตสํ, ทิพฺโพ จ วณฺโณ วิปุลา จ โภคา’’ติ.
ตตฺถ ยถา มนุสฺสาติ ยถา มนุสฺสา ชีรนฺตา รูเปน วณฺเณน โภเคน จกฺขุปสาทาทีหิ จ ชีรนฺติ, น เอวํ เทวา. เตสฺหิ คตฺเตสุ วลิโยปิ น สนฺติ, มฏฺกฺจนปฏฺฏมิว สรีรํ โหติ. สุเว สุเวติ ทิวเส ทิวเส. ภิยฺยตโรวาติ อติเรกตโรว เตสํ ทิพฺโพ จ วณฺโณ วิปุลา จ โภคา โหนฺติ, มนุสฺเสสุ หิ รูปปริหานิ จิรชาตภาวสฺส สกฺขิ, เทเวสุ อติเรกรูปสมฺปตฺติ จ อติเรกปริวารสมฺปตฺติ จ. เอวํ อปริหานธมฺโม นาเมส เทวโลโก ¶ . ตสฺมา ตฺวํ ชรํ อปฺปตฺวาว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพช, เอวํ ปริหานิยสภาวา มนุสฺสโลกา จวิตฺวา อปริหานิยสภาวํ เอวรูปํ เทวโลกํ คมิสฺสสีติ.
สา เทวโลกสฺส วณฺณํ สุตฺวา ตสฺส คมนมคฺคํ ปุจฺฉนฺตี อิตรํ คาถมาห –
‘‘กึสูธ ภีตา ชนตา อเนกา, มคฺโค จ เนกายตนํ ปวุตฺโต;
ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กตฺถฏฺิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ.
ตตฺถ กึสูธ ภีตาติ เทวราช, อยํ ขตฺติยาทิเภทา อเนกา ชนตา กึภีตา กสฺส ภเยน ¶ ปริหานิยสภาวา มนุสฺสโลกา เทวโลกํ น คจฺฉตีติ ปุจฺฉติ. มคฺโคติ เทวโลกคามิมคฺโค. อิธ ปน ‘‘กิ’’นฺติ อาหริตฺวา ‘‘โก’’ติ ปุจฺฉา กาตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ‘‘อเนกติตฺถายตนวเสน ปณฺฑิเตหิ ปวุตฺโต เทวโลกมคฺโค โก กตโร’’ติ วุตฺโต. กตฺถฏฺิโตติ ปรโลกํ คจฺฉนฺโต กตรสฺมึ มคฺเค ิโต น ภายตีติ.
อถสฺสา ¶ กเถนฺโต สกฺโก อิตรํ คาถมาห –
‘‘วาจํ มนฺจ ปณิธาย สมฺมา, กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน;
พหุนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู;
สงฺคาหโก สขิโล สณฺหวาโจ, เอตฺถฏฺิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท, อุทเย วาจํ มนฺจ สมฺมา เปตฺวา กาเยน ปาปานิ อกโรนฺโต อิเม ทส กุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตนฺโต พหุอนฺนปาเน ปหูตเทยฺยธมฺเม ฆเร วสนฺโต ‘‘ทานสฺส วิปาโก อตฺถี’’ติ สทฺธาย สมนฺนาคโต มุทุจิตฺโต ทานสํวิภาคตาย สํวิภาคี ปพฺพชิตา ภิกฺขาย จรมานา วทนฺติ นาม, เตสํ ปจฺจยทาเนน ตสฺส วาทสฺส ชานนโต วทฺู จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหตาย สงฺคาหโก ปิยวาทิตาย สขิโล มฏฺวจนตาย สณฺหวาโจ เอตฺถ เอตฺตเก คุณราสิมฺหิ ิโต ปรโลกํ คจฺฉนฺโต น ภายตีติ.
ตโต ¶ ราชธีตา ตํ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ถุตึ กโรนฺตี อิตรํ คาถมาห –
‘‘อนุสาสสิ มํ ยกฺข, ยถา มาตา ยถา ปิตา;
อุฬารวณฺณ ปุจฺฉามิ, โก นุ ตฺวมสิ สุพฺรหา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ยถา มาตาปิตโร ปุตฺตเก อนุสาสนฺติ, ตถา มํ อนุสาสสิ. อุฬารวณฺณ โสภคฺคปฺปตฺตรูปทารก โก นุ อสิ ตฺวํ เอวํ อจฺจุคฺคตสรีโรติ.
ตโต โพธิสตฺโต อิตรํ คาถมาห –
‘‘อุทโยหมสฺมิ กลฺยาณิ, สงฺครตฺตา อิธาคโต;
อามนฺต โข ตํ คจฺฉามิ, มุตฺโตสฺมิ ตว สงฺครา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ ¶ – กลฺยาณทสฺสเน อหํ ปุริมภเว ตว สามิโก อุทโย นาม ตาวตึสภวเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺโต, อิธาคจฺฉนฺโต น กิเลสวเสนาคโต, ตํ วีมํสิตฺวา ปน สงฺครํ โมเจสฺสามีติ สงฺครตฺตา ปุพฺเพ สงฺครสฺส กตตฺตา อาคโตสฺมิ, อิทานิ ตํ อามนฺเตตฺวา คจฺฉามิ, มุตฺโตสฺมิ ตว สงฺคราติ.
ราชธีตา อสฺสสิตฺวา ‘‘สามิ, ตฺวํ อุทยภทฺทราชา’’ติ อสฺสุธารา ปวตฺตยมานา ‘‘อหํ ตุมฺเหหิ วินา วสิตุํ น สกฺโกมิ, ยถา ตุมฺหากํ สนฺติเก วสามิ, ตถา มํ อนุสาสถา’’ติ วตฺวา อิตรํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สเจ โข ตฺวํ อุทโยสิ, สงฺครตฺตา อิธาคโต;
อนุสาส มํ ราชปุตฺต, ยถาสฺส ปุน สงฺคโม’’ติ.
อถ นํ อนุสาสนฺโต มหาสตฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อติปตติ วโย ขโณ ตเถว, านํ นตฺถิ ธุวํ จวนฺติ สตฺตา;
ปริชียติ อทฺธุวํ สรีรํ, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.
‘‘กสิณา ปถวี ธนสฺส ปูรา, เอกสฺเสว สิยา อนฺเธยฺยา;
ตํ จาปิ ชหติ อวีตราโค, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.
‘‘มาตา ¶ จ ปิตา จ ภาตโร จ, ภริยา ยาปิ ธเนน โหติ กีตา;
เต จาปิ ชหนฺติ อฺมฺํ, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.
‘‘กาโย ¶ ปรโภชนนฺติ ตฺวา, สํสาเร สุคติฺจ ทุคฺคติฺจ;
อิตฺตรวาโสติ ชานิยาน, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺม’’นฺติ.
ตตฺถ อติปตตีติ อติวิย ปตติ, สีฆํ อติกฺกมติ. วโยติ ปมวยาทิติวิโธปิ วโย. ขโณ ตเถวาติ อุปฺปาทฏฺิติภงฺคกฺขโณปิ ตเถว อติปตติ. อุภเยนปิ ภินฺโน อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขาโร นาม สีฆโสตา นที วิย อนิวตฺตนฺโต สีฆํ อติกฺกมตีติ ทสฺเสติ. านํ นตฺถีติ ‘‘อุปฺปนฺนา สงฺขารา อภิชฺชิตฺวา ติฏฺนฺตู’’ติ ปตฺถนายปิ ¶ เตสํ านํ นาม นตฺถิ, ธุวํ เอกํเสเนว พุทฺธํ ภควนฺตํ อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ สตฺตา จวนฺติ, ‘‘ธุวํ มรณํ, อทฺธุวํ ชีวิต’’นฺติ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวหีติ ทีเปติ. ปริชียตีติ อิทํ สุวณฺณวณฺณมฺปิ สรีรํ ชีรเตว, เอวํ ชานาหิ. มา ปมาทนฺติ ตสฺมา ตฺวํ อุทยภทฺเท มา ปมาทํ อาปชฺชิ, อปฺปมตฺตา หุตฺวา ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จราหีติ.
กสิณาติ สกลา. เอกสฺเสวาติ ยทิ เอกสฺเสว รฺโ, ตสฺมึ เอกสฺมึเยว อนฺาธีนา อสฺส. ตํ จาปิ ชหติ อวีตราโคติ ตณฺหาวสิโก ปุคฺคโล เอตฺตเกนปิ ยเสน อติตฺโต มรณกาเล อวีตราโคว ตํ วิชหติ. เอวํ ตณฺหาย อปูรณียภาวํ ชานาหีติ ทีเปติ. เต จาปีติ มาตา ปุตฺตํ, ปุตฺโต มาตรํ, ปิตา ปุตฺตํ, ปุตฺโต ปิตรํ, ภาตา ภคินึ, ภคินี ภาตรํ, ภริยา สามิกํ, สามิโก ภริยนฺติ เอเต อฺมฺํ ชหนฺติ, นานา โหนฺติ. เอวํ สตฺตานํ นานาภาววินาภาวํ ชานาหีติ ทีเปติ.
ปรโภชนนฺติ วิวิธานํ กากาทีนํ ปรสตฺตานํ โภชนํ. อิตฺตรวาโสติ ยา เอสา อิมสฺมึ สํสาเร มนุสฺสภูตา สุคฺคติ จ ติรจฺฉานภูตา ทุคฺคติ จ, เอตํ อุภยมฺปิ ‘‘อิตฺตรวาโส’’ติ ชานิตฺวา มา ปมาทํ, จรสฺสุ ธมฺมํ. อิเมสํ สตฺตานํ นานาานโต อาคนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน สมาคโม ปริตฺโต, อิเม สตฺตา อปฺปกสฺมึเยว กาเล เอกโต วสนฺติ, ตสฺมา อปฺปมตฺตา โหหีติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต ตสฺสา โอวาทมทาสิ. สาปิ ตสฺส ธมฺมกถาย ปสีทิตฺวา ถุตึ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –
‘‘สาธุ ¶ ภาสติยํ ยกฺโข, อปฺปํ มจฺจาน ชีวิตํ;
กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ;
สาหํ เอกา ปพฺพชิสฺสามิ, หิตฺวา กาสึ สุรุนฺธน’’นฺติ.
ตตฺถ สาธูติ ‘‘อปฺปํ มจฺจาน ชีวิต’’นฺติ ภาสมาโน อยํ เทวราชา สาธุ ภาสติ. กึการณา? อิทฺหิ กสิรฺจ ทุกฺขํ อสฺสาทรหิตํ, ปริตฺตฺจ น พหุกํ อิตฺตรกาลํ. สเจ หิ กสิรมฺปิ สมานํ ทีฆกาลํ ปวตฺเตยฺย, ปริตฺตกมฺปิ สมานํ สุขํ ภเวยฺย, อิทํ ปน กสิรฺเจว ปริตฺตฺจ สกเลน วฏฺฏทุกฺเขน สํยุตํ สนฺนิหิตํ. สาหนฺติ สา อหํ. สุรุนฺธนนฺติ สุรุนฺธนนครฺจ กาสิรฏฺฺจ ฉฑฺเฑตฺวา เอกิกาว ปพฺพชิสฺสามีติ อาห.
โพธิสตฺโต ¶ ตสฺสา โอวาทํ ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. สาปิ ปุนทิวเส อมจฺเจ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา อนฺโตนคเรเยว รมณีเย อุยฺยาเน อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ธมฺมํ จริตฺวา อายุปริโยสาเน ตาวตึสภวเน โพธิสตฺตสฺส ปาทปริจาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ราชธีตา ราหุลมาตา อโหสิ, สกฺโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.
อุทยชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๕๙] ๕. ปานียชาตกวณฺณนา
มิตฺโต มิตฺตสฺสาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กิเลสนิคฺคหํ อารพฺภ กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ สมเย สาวตฺถิวาสิโน ปฺจสตา คิหิสหายกา ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนา อนฺโตโกฏิสนฺถาเร วสนฺตา อฑฺฒรตฺตสมเย กามวิตกฺกํ วิตกฺเกสุํ. สพฺพํ ¶ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ภควโต อาณตฺติยา ปนายสฺมตา อานนฺเทน ภิกฺขุสงฺเฆ สนฺนิปาติเต สตฺถา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา อโนทิสฺสกํ กตฺวา ‘‘กามวิตกฺกํ วิตกฺกยิตฺถา’’ติ อวตฺวา สพฺพสงฺคาหิกวเสเนว ‘‘ภิกฺขเว, กิเลโส ขุทฺทโก นาม นตฺถิ, ภิกฺขุนา นาม อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา กิเลสา นิคฺคเหตพฺพา, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ กิเลเส นิคฺคเหตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต กาสิรฏฺเ เอกสฺมึ คามเก ทฺเว สหายกา ปานียตุมฺพานิ อาทาย เขตฺตํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ เปตฺวา เขตฺตํ โกฏฺเฏตฺวา ปิปาสิตกาเล อาคนฺตฺวา ปานียํ ปิวนฺติ. เตสุ เอโก ปานียตฺถาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปานียํ รกฺขนฺโต อิตรสฺส ตุมฺพโต ปิวิตฺวา สายํ อรฺา นิกฺขมิตฺวา นฺหายิตฺวา ิโต ‘‘อตฺถิ นุ โข เม กายทฺวาราทีหิ อชฺช กิฺจิ ปาปํ กต’’นฺติ อุปธาเรนฺโต เถเนตฺวา ปานียสฺส ปิวิตภาวํ ทิสฺวา สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อยํ ตณฺหา วฑฺฒมานา มํ อปาเยสุ ขิปิสฺสติ, อิมํ กิเลสํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ปานียสฺส เถเนตฺวา ปิวิตภาวํ อารมฺมณํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฏิลทฺธคุณํ อาวชฺเชนฺโต อฏฺาสิ. อถ นํ อิตโร นฺหายิตฺวา อุฏฺิโต ‘‘เอหิ, สมฺม, ฆรํ คจฺฉามา’’ติ อาห. ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, มม ฆเรน กิจฺจํ นตฺถิ, ปจฺเจกพุทฺธา ¶ นาม มย’’นฺติ. ‘‘ปจฺเจกพุทฺธา นาม ตุมฺหาทิสา น โหนฺตี’’ติ. ‘‘อถ กีทิสา ปจฺเจกพุทฺธา โหนฺตี’’ติ? ‘‘ทฺวงฺคุลเกสา กาสายวตฺถวสนา อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภาเร วสนฺตี’’ติ. โส สีสํ ปรามสิ, ตํ ขณฺเวสฺส คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวตฺถเมว, วิชฺชุลตาสทิสํ กายพนฺธนํ พทฺธเมว, อลตฺตกปาฏลวณฺณํ อุตฺตราสงฺคจีวรํ เอกํสํ กตเมว, เมฆวณฺณํ ปํสุกูลจีวรํ ทกฺขิณอํสกูเฏ ปิตเมว, ภมรวณฺโณ มตฺติกาปตฺโต วามอํสกูเฏ ลคฺคิโตว อโหสิ. โส อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา อุปฺปติตฺวา นนฺทมูลกปพฺภาเรเยว โอตริ.
อปโรปิ กาสิคาเมเยว กุฏุมฺพิโก อาปเณ นิสินฺโน เอกํ ปุริสํ อตฺตโน ภริยํ อาทาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ตํ อุตฺตมรูปธรํ อิตฺถึ อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา โอโลเกตฺวา ปุน จินฺเตสิ ‘‘อยํ โลโภ วฑฺฒมาโน มํ ¶ อปาเยสุ ขิปิสฺสตี’’ติ สํวิคฺคมานโส วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว ¶ คโต.
อปเรปิ กาสิคามวาสิโนเยว ทฺเว ปิตาปุตฺตา เอกโต มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ. อฏวีมุเข ปน โจรา อุฏฺิตา โหนฺติ. เต ปิตาปุตฺเต ลภิตฺวา ปุตฺตํ คเหตฺวา ‘‘ธนํ อาหริตฺวา ตว ปุตฺตํ คณฺหา’’ติ ปิตรํ วิสฺสชฺเชนฺติ, ทฺเว ภาตโร ลภิตฺวา กนิฏฺํ คเหตฺวา เชฏฺํ วิสฺสชฺเชนฺติ, อาจริยนฺเตวาสิเก ลภิตฺวา อาจริยํ คเหตฺวา อนฺเตวาสิกํ วิสฺสชฺเชนฺติ, อนฺเตวาสิโก สิปฺปโลเภน ธนํ อาหริตฺวา อาจริยํ คณฺหิตฺวา คจฺฉติ. อถ เต ปิตาปุตฺตาปิ ตตฺถ โจรานํ อุฏฺิตภาวํ ตฺวา ‘‘ตฺวํ มํ ‘ปิตา’ติ มา วท, อหมฺปิ ตํ ‘ปุตฺโต’ติ น วกฺขามี’’ติ กติกํ กตฺวา โจเรหิ คหิตกาเล ‘‘ตุมฺเห อฺมฺํ กึ โหถา’’ติ ปุฏฺา ‘‘น กิฺจิ โหมา’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ กรึสุ. เตสุ อฏวิโต นิกฺขมิตฺวา สายํ นฺหายิตฺวา ิเตสุ ปุตฺโต อตฺตโน สีลํ โสเธนฺโต ตํ มุสาวาทํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ปาปํ วฑฺฒมานํ มํ อปาเยสุ ขิปิสฺสติ, อิมํ กิเลสํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต ปิตุ ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.
อปโรปิ กาสิคาเมเยว ปน เอโก คามโภชโก มาฆาตํ การาเปสิ. อถ นํ พลิกมฺมกาเล มหาชโน สนฺนิปติตฺวา อาห ‘‘สามิ, มยํ มิคสูกราทโย มาเรตฺวา ยกฺขานํ พลิกมฺมํ กริสฺสาม, พลิกมฺมกาโล เอโส’’ติ. ตุมฺหากํ ปุพฺเพ กรณนิยาเมเนว กโรถาติ มนุสฺสา พหุํ ปาณาติปาตมกํสุ. โส พหุํ มจฺฉมํสํ ทิสฺวา ‘‘อิเม มนุสฺสา เอตฺตเก ปาเณ มาเรนฺตา มเมเวกสฺส วจเนน มารยึสู’’ติ กุกฺกุจฺจํ กตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย ิตโกว วิปสฺสนํ ¶ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.
อปโรปิ กาสิรฏฺเเยว คามโภชโก มชฺชวิกฺกยํ วาเรตฺวา ‘‘สามิ, ปุพฺเพ อิมสฺมึ กาเล สุราฉโณ นาม โหติ, กึ กโรมา’’ติ มหาชเนน วุตฺโต ‘‘ตุมฺหากํ โปราณกนิยาเมเนว กโรถา’’ติ ¶ ¶ อาห. มนุสฺสา ฉณํ กตฺวา สุรํ ปิวิตฺวา กลหํ กโรนฺตา หตฺถปาเท ภฺชิตฺวา สีสํ ภินฺทิตฺวา กณฺเณ ฉินฺทิตฺวา พหุทณฺเฑน พชฺฌึสุ. คามโภชโก เต ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยิ อนนุชานนฺเต อิเม อิมํ ทุกฺขํ น วินฺเทยฺยุ’’นฺติ. โส เอตฺตเกน กุกฺกุจฺจํ กตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย ิตโกว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.
อปรภาเค เต ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธา ภิกฺขาจารตฺถาย พาราณสิทฺวาเร โอตริตฺวา สุนิวตฺถา สุปารุตา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย จรนฺตา ราชทฺวารํ สมฺปาปุณึสุ. ราชา เต ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ราชนิเวสนํ ปเวเสตฺวา ปาเท โธวิตฺวา คนฺธเตเลน มกฺเขตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปมวเย ปพฺพชฺชา โสภติ, อิมสฺมึ วเย ปพฺพชนฺตา กถํ กาเมสุ อาทีนวํ ปสฺสิตฺถ, กึ โว อารมฺมณํ อโหสี’’ติ ปุจฺฉิ. เต ตสฺส กเถนฺตา –
‘‘มิตฺโต มิตฺตสฺส ปานียํ, อทินฺนํ ปริภฺุชิสํ;
เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘ปรทารฺจ ทิสฺวาน, ฉนฺโท เม อุทปชฺชถ;
เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘ปิตรํ เม มหาราช, โจรา อคณฺหุ กานเน;
เตสาหํ ปุจฺฉิโต ชานํ, อฺถา นํ วิยากรึ.
‘‘เตน ¶ ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘ปาณาติปาตมกรุํ, โสมยาเค อุปฏฺิเต;
เตสาหํ สมนฺุาสึ.
‘‘เตน ¶ ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘สุราเมรยมาธุกา, เย ชนา ปมาสุ โน;
พหูนํ เต อนตฺถาย, มชฺชปานมกปฺปยุํ;
เตสาหํ ¶ สมนฺุาสึ.
‘‘เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อห’’นฺติ. –
อิมา ปฏิปาฏิยา ปฺจ คาถา อภาสึสุ. ราชาปิ เอกเมกสฺส พฺยากรณํ สุตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ ปพฺพชฺชา ตุมฺหากํ เยวานุจฺฉวิกา’’ติ ถุติมกาสิ.
ตตฺถ มิตฺโต มิตฺตสฺสาติ มหาราช, อหํ เอกสฺส มิตฺโต หุตฺวา ตสฺส มิตฺตสฺส สนฺตกํ ปานียํ อิมินา นิยาเมเนว ปริภฺุชึ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปุถุชฺชนา นาม ปาปกมฺมํ กโรนฺติ, ตสฺมา อหํ มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตํ ปาปํ อารมฺมณํ กตฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ. ฉนฺโทติ มหาราช, อิมินาว นิยาเมน มม ปรทารํ ทิสฺวา กาเม ฉนฺโท อุปฺปชฺชิ. อคณฺหูติ อคณฺหึสุ. ชานนฺติ เตสํ โจรานํ ‘‘อยํ กึ เต โหตี’’ติ ปุจฺฉิโต ชานนฺโตเยว ‘‘น กิฺจิ โหตี’’ติ อฺถา พฺยากาสึ. โสมยาเคติ นวจนฺเท อุฏฺิเต โสมยาคํ นาม ยกฺขพลึ กรึสุ, ตสฺมึ อุปฏฺิเต. สมนฺุาสินฺติ สมนฺุโ อาสึ. สุราเมรยมาธุกาติ ปิฏฺสุราทิสุรฺจ ปุปฺผาสวาทิเมรยฺจ ปกฺกมธุ วิย มธุรํ มฺมานา. เย ชนา ปมาสุ โนติ เย โน คาเม ชนา ปมํ เอวรูปา อาสุํ อเหสุํ. พหูนํ เตติ เต เอกทิวสํ เอกสฺมึ ฉเณ ปตฺเต พหูนํ อนตฺถาย มชฺชปานํ อกปฺปยึสุ.
ราชา ¶ เตสํ ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต จีวรสาฏเก จ เภสชฺชานิ จ ทตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ อุยฺโยเชสิ. เตปิ ตสฺส อนุโมทนํ กตฺวา ตตฺเถว อคมํสุ. ตโต ปฏฺาย ราชา วตฺถุกาเมสุ วิรตฺโต อนเปกฺโข หุตฺวา ¶ นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา อิตฺถิโย อนาลปิตฺวา อโนโลเกตฺวา วิรตฺตจิตฺโต อุฏฺาย สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน เสตภิตฺติยํ กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตสิ. โส ฌานปฺปตฺโต กาเม ครหนฺโต –
‘‘ธิรตฺถุ สุพหู กาเม, ทุคฺคนฺเธ พหุกณฺฏเก;
เย อหํ ปฏิเสวนฺโต, นาลภึ ตาทิสํ สุข’’นฺติ. – คาถมาห;
ตตฺถ พหุกณฺฏเกติ พหู ปจฺจามิตฺเต. เย อหนฺติ โย อหํ, อยเมว วา ปาโ. ตาทิสนฺติ เอตาทิสํ กิเลสรหิตํ ฌานสุขํ.
อถสฺส ¶ อคฺคมเหสี ‘‘อยํ ราชา ปจฺเจกพุทฺธานํ ธมฺมกถํ สุตฺวา อุกฺกณฺิตรูโป อโหสิ, อมฺเหหิ สทฺธึ อกเถตฺวาว สิริคพฺภํ ปวิฏฺโ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา สิริคพฺภทฺวาเร ิตา รฺโ กาเมสุ ครหนฺตสฺส อุทานํ สุตฺวา ‘‘มหาราช, ตฺวํ กาเม ครหสิ, กามสุขสทิสํ นาม สุขํ นตฺถี’’ติ กาเม วณฺเณนฺตี อิตรํ คาถมาห –
‘‘มหสฺสาทา สุขา กามา, นตฺถิ กามา ปรํ สุขํ;
เย กาเม ปฏิเสวนฺติ, สคฺคํ เต อุปปชฺชเร’’ติ.
ตตฺถ มหสฺสาทาติ มหาราช, เอเต กามา นาม มหาอสฺสาทา, อิโต อุตฺตรึ อฺํ สุขํ นตฺถิ. กามเสวิโน หิ อปาเย อนุปคมฺม สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ตสฺสา ‘‘นสฺส วสลิ, กึ กเถสิ, กาเมสุ สุขํ นาม กุโต อตฺถิ, วิปริณามทุกฺขา เอเต’’ติ ครหนฺโต เสสคาถา อภาสิ –
‘‘อปฺปสฺสาทา ทุขา กามา, นตฺถิ กามา ปรํ ทุขํ;
เย กาเม ปฏิเสวนฺติ, นิรยํ เต อุปปชฺชเร.
‘‘อสี ¶ ยถา สุนิสิโต, เนตฺตึโสว สุปายิโก;
สตฺตีว อุรสิ ขิตฺตา, กามา ทุกฺขตรา ตโต.
‘‘องฺคารานํว ¶ ชลิตํ, กาสุํ สาธิกโปริสํ;
ผาลํว ทิวสํตตฺตํ, กามา ทุกฺขตรา ตโต.
‘‘วิสํ ยถา หลาหลํ, เตลํ ปกฺกุถิตํ ยถา;
ตมฺพโลหวิลีนํว, กามา ทุกฺขตรา ตโต’’ติ.
ตตฺถ เนตฺตึโสติ นิกฺกรุโณ, อิทมฺปิ เอกสฺส ขคฺคสฺส นามํ. ทุกฺขตราติ เอวํ ชลิตงฺคารกาสุํ วา ทิวสํ ตตฺตํ ผาลํ วา ปฏิจฺจ ยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตโตปิ กามาเยว ทุกฺขตราติ อตฺโถ. อนนฺตรคาถาย ยถา เอตานิ วิสาทีนิ ทุกฺขาวหนโต ทุกฺขานิ, เอวํ กามาปิ ทุกฺขา, ตํ ปน กามทุกฺขํ อิตเรหิ ทุกฺเขหิ ทุกฺขตรนฺติ อตฺโถ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต เทวิยา ธมฺมํ เทเสตฺวา อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘โภนฺโต อมจฺจา, ตุมฺเห รชฺชํ ปฏิปชฺชถ, อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา มหาชนสฺส โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส อุฏฺาย อากาเส ตฺวา โอวาทํ ทตฺวา อนิลปเถเนว อุตฺตรหิมวนฺตํ คนฺตฺวา รมณีเย ปเทเส อสฺสมํ มาเปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อายุปริโยสาเน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, กิเลโส ขุทฺทโก นาม นตฺถิ, อปฺปมตฺตโกปิ ปณฺฑิเตหิ นิคฺคหิตพฺโพเยวา’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. ตทา ปจฺเจกพุทฺธา ปรินิพฺพายึสุ, เทวี ราหุลมาตา อโหสิ, ราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.
ปานียชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๖๐] ๖. ยุธฺจยชาตกวณฺณนา
มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺหนฺติ ¶ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตา ภิกฺขู ‘‘อาวุโส, สเจ ทสพโล อคารํ อชฺฌาวสิสฺส, สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติราชา อภวิสฺส สตฺตรตนสมนฺนาคโต จตุริทฺธีหิ สมิทฺโธ ปโรสหสฺสปุตฺตปริวาโร ¶ , โส เอวรูปํ สิริวิภวํ ปหาย กาเมสุ โทสํ ทิสฺวา อฑฺฒรตฺตสมเย ฉนฺนสหาโยว กณฺฏกมารุยฺห นิกฺขมิตฺวา อโนมนทีตีเร ปพฺพชิตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺโต’’ติ สตฺถุ คุณกถํ กถยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, ปุพฺเพปิ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร รชฺชํ ปหาย นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต รมฺมนคเร สพฺพทตฺโต นาม ราชา อโหสิ. อยฺหิ พาราณสี อุทยชาตเก (ชา. ๑.๑๑.๓๗ อาทโย) สุรุนฺธนนครํ นาม ชาตา, จูฬสุตโสมชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑๙๕ อาทโย) สุทสฺสนํ นาม, โสณนนฺทชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๙๒ อาทโย) พฺรหฺมวฑฺฒนํ นาม, ขณฺฑหาลชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๙๘๒ อาทโย) ปุปฺผวตี ¶ นาม, สงฺขพฺราหฺมณชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๓๙ อาทโย) โมฬินี นาม, อิมสฺมึ ปน ยุธฺจยชาตเก รมฺมนครํ นาม อโหสิ. เอวมสฺสา กทาจิ นามํ ปริวตฺตติ. ตตฺถ สพฺพทตฺตรฺโ ปุตฺตสหสฺสํ อโหสิ. ยุธฺจยสฺส นาม เชฏฺปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. โส ทิวเส ทิวเส มหาทานํ ปวตฺเตสิ. เอวํ คจฺฉนฺเต กาเล โพธิสตฺโต เอกทิวสํ ปาโตว รถวรมารุยฺห มหนฺเตน สิริวิภเวน อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺโต รุกฺขคฺคติณคฺคสาขคฺคมกฺกฏกสุตฺตชาลาทีสุ มุตฺตาชาลากาเรน ลคฺคิตอุสฺสวพินฺทูนิ ทิสฺวา ‘‘สมฺม สารถิ, กึ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอเต เทว, หิมสมเย ปตนกอุสฺสวพินฺทูนิ นามา’’ติ สุตฺวา ทิวสภาคํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา สายนฺหกาเล ปจฺจาคจฺฉนฺโต เต อทิสฺวาว ‘‘สมฺม สารถิ, กหํ นุ โข เอเต อุสฺสวพินฺทู, น เต อิทานิ ปสฺสามี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, เต สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต สพฺเพว ภิชฺชิตฺวา ปถวิยํ ปตนฺตี’’ติ สุตฺวา สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตสงฺขาราปิ ติณคฺเค อุสฺสวพินฺทุสทิสาว, มยา พฺยาธิชรามรเณหิ อปีฬิเตเยว มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุสฺสวพินฺทุเมว อารมฺมณํ กตฺวา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสนฺโต อตฺตโน เคหํ อคนฺตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตาย วินิจฺฉยสาลาย นิสินฺนสฺส ปิตุ สนฺติกํเยว คนฺตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺหํ ¶ ¶ , อหํ วนฺเท รเถสภํ;
ปพฺพชิสฺสามหํ ราช, ตํ เทโว อนุมฺตู’’ติ.
ตตฺถ ปริพฺยูฬฺหนฺติ ปริวาริตํ. ตํ เทโวติ ตํ มม ปพฺพชฺชํ เทโว อนุชานาตูติ อตฺโถ.
อถ นํ ราชา นิวาเรนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘สเจ เต อูนํ กาเมหิ, อหํ ปริปูรยามิ เต;
โย ตํ หึ สติ วาเรมิ, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.
ตํ ¶ สุตฺวา กุมาโร ตติยํ คาถมาห –
‘‘น มตฺถิ อูนํ กาเมหิ, หึสิตา เม น วิชฺชติ;
ทีปฺจ กาตุมิจฺฉามิ, ยํ ชรา นาภิกีรตี’’ติ.
ตตฺถ ทีปฺจาติ ตาต เนว มยฺหํ กาเมหิ อูนํ อตฺถิ, น มํ หึสนฺโต โกจิ วิชฺชติ, อหํ ปน ปรโลกคมนาย อตฺตโน ปติฏฺํ กาตุมิจฺฉามิ. กีทิสํ? ยํ ชรา นาภิกีรติ น วิทฺธํเสติ, ตมหํ กาตุมิจฺฉามิ, อมตมหานิพฺพานํ คเวสิสฺสามิ, น เม กาเมหิ อตฺโถ, อนุชานาถ มํ, มหาราชาติ วทติ.
อิติ ปุนปฺปุนํ กุมาโร ปพฺพชฺชํ ยาจิ, ราชา ‘‘มา ปพฺพชา’’ติ วาเรติ. ตมตฺถมาวิกโรนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒํ คาถมาห –
‘‘ปุตฺโต วา ปิตรํ ยาเจ, ปิตา วา ปุตฺตโมรส’’นฺติ.
ตตฺถ วา-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุตฺโต จ ปิตรํ ยาจติ, ปิตา จ โอรสํ ปุตฺตํ ยาจตี’’ติ.
เสสํ อุปฑฺฒคาถํ ราชา อาห –
‘‘เนคโม ¶ ตํ ยาเจ ตาต, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – อยํ เต ตาต นิคมวาสิมหาชโน ยาจติ, นครชโนปิ มา ตฺวํ ปพฺพชาติ.
กุมาโร ปุนปิ ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘มา ¶ มํ เทว นิวาเรหิ, ปพฺพชนฺตํ รเถสภ;
มาหํ กาเมหิ สมฺมตฺโต, ชราย วสมนฺวคู’’ติ.
ตตฺถ วสมนฺวคูติ มา อหํ กาเมหิ สมฺมตฺโต ปมตฺโต ชราย วสคามี นาม โหมิ, วฏฺฏทุกฺขํ ปน เขเปตฺวา ยถา จ สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิวิชฺฌนโก โหมิ,. ตถา มํ โอโลเกหีติ อธิปฺปาโย.
เอวํ วุตฺเต ราชา อปฺปฏิภาโณ อโหสิ. มาตา ปนสฺส ‘‘ปุตฺโต เต, เทวิ, ปิตรํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตี’’ติ สุตฺวา ‘‘กึ ตุมฺเห กเถถา’’ติ นิรสฺสาเสน มุเขน สุวณฺณสิวิกาย นิสีทิตฺวา สีฆํ วินิจฺฉยฏฺานํ คนฺตฺวา ยาจมานา ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘อหํ ตํ ตาต ยาจามิ, อหํ ปุตฺต นิวารเย;
จิรํ ตํ ทฏฺุมิจฺฉามิ, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.
ตํ ¶ สุตฺวา กุมาโร สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘อุสฺสาโวว ติณคฺคมฺหิ, สูริยุคฺคมนํ ปติ;
เอวมายุ มนุสฺสานํ, มา มํ อมฺม นิวารยา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – อมฺม, ยถา ติณคฺเค อุสฺสวพินฺทุ สูริยสฺส อุคฺคมนํ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, ปถวิยํ ปตติ, เอวํ อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตํ ปริตฺตํ ตาวกาลิกํ อจิรฏฺิติกํ, เอวรูเป โลกสนฺนิวาเส กถํ ตฺวํ จิรํ มํ ปสฺสสิ, มา มํ นิวาเรหีติ.
เอวํ ¶ วุตฺเตปิ สา ปุนปฺปุนํ ยาจิเยว. ตโต มหาสตฺโต ปิตรํ อามนฺเตตฺวา อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘ตรมาโน อิมํ ยานํ, อาโรเปตุ รเถสภ;
มา เม มาตา ตรนฺตสฺส, อนฺตรายกรา อหู’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ตาต รเถสภ, อิมํ มม มาตรํ ตรมาโน ปุริโส สุวณฺณสิวิกายานํ อาโรเปตุ, มา เม ชาติชราพฺยาธิมรณกนฺตารํ ตรนฺตสฺส อติกฺกมนฺตสฺส มาตา อนฺตรายกรา อหูติ.
ราชา ¶ ปุตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘คจฺฉ, ภทฺเท, ตว สิวิกาย นิสีทิตฺวา รติวฑฺฒนปาสาทํ อภิรุหา’’ติ อาห. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา าตุํ อสกฺโกนฺตี นารีคณปริวุตา คนฺตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘กา นุ โข ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ วินิจฺฉยฏฺานํ โอโลเกนฺตี อฏฺาสิ. โพธิสตฺโต มาตุ คตกาเล ปุน ปิตรํ ยาจิ. ราชา ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เตน หิ ตาต, ตว มนํ มตฺถกํ ปาเปหิ, ปพฺพชาหี’’ติ อนุชานิ. รฺโ อนฺุาตกาเล โพธิสตฺตสฺส กนิฏฺโ ยุธิฏฺิลกุมาโร นาม ปิตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, มยฺหํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาถา’’ติ อนุชานาเปสิ. อุโภปิ ภาตโร ปิตรํ วนฺทิตฺวา กาเม ปหาย มหาชนปริวุตา วินิจฺฉยโต นิกฺขมึสุ. เทวีปิ มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘มม ปุตฺเต ปพฺพชิเต รมฺมนครํ ตุจฺฉํ ภวิสฺสตี’’ติ ปริเทวมานา คาถาทฺวยมาห –
‘‘อภิธาวถ ภทฺทนฺเต, สฺุํ เหสฺสติ รมฺมกํ;
ยุธฺจโย อนฺุาโต, สพฺพทตฺเตน ราชินา.
‘‘โยหุ ¶ เสฏฺโ สหสฺสสฺส, ยุวา กฺจนสนฺนิโภ;
โสยํ กุมาโร ปพฺพชิโต, กาสายวสโน พลี’’ติ.
ตตฺถ อภิธาวถาติ ปริวาเรตฺวา ิตา นาริโย สพฺพา เวเคน ธาวถาติ อาณาเปติ. ภทฺทนฺเตติ เอวํ คนฺตฺวา ‘‘ภทฺทํ ตว โหตู’’ติ วทถ. รมฺมกนฺติ รมฺมนครํ สนฺธายาห. โยหุ เสฏฺโติ โย รฺโ ปุตฺโต สหสฺสสฺส เสฏฺโ อโหสิ, โส ปพฺพชิโตติ ปพฺพชฺชาย คจฺฉนฺตํ สนฺธาเยวมาห.
โพธิสตฺโตปิ ¶ น ตาว ปพฺพชติ. โส หิ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา กนิฏฺํ ยุธิฏฺิลกุมารํ คเหตฺวา นครา นิกฺขมฺม มหาชนํ นิวตฺเตตฺวา อุโภปิ ภาตโร หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา มโนรเม าเน อสฺสมปทํ กริตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาทีหิ ยาวชีวํ ยาเปตฺวา พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ. ตมตฺถํ โอสาเน อภิสมฺพุทฺธคาถาย ทีเปติ –
‘‘อุโภ กุมารา ปพฺพชิตา, ยุธฺจโย ยุธิฏฺิโล;
ปหาย มาตาปิตโร, สงฺคํ เฉตฺวาน มจฺจุโน’’ติ.
ตตฺถ ¶ มจฺจุโนติ มารสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, ยุธฺจโย จ ยุธิฏฺิโล จ เต อุโภปิ กุมารา มาตาปิตโร ปหาย มารสฺส สนฺตกํ ราคโทสโมหสงฺคํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิตาติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ‘‘น ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, ยุธิฏฺิลกุมาโร อานนฺโท, ยุธฺจโย ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ยุธฺจยชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๔๖๑] ๗. ทสรถชาตกวณฺณนา
เอถ ลกฺขณ สีตา จาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มตปิติกํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ ปิตริ กาลกเต โสกาภิภูโต สพฺพกิจฺจานิ ปหาย โสกานุวตฺตโกว อโหสิ. สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต ตสฺส โสตาปตฺติผลูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปุนทิวเส สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา เอกํ ปจฺฉาสมณํ ¶ คเหตฺวา ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ มธุรวจเนน อาลปนฺโต ‘‘กึ โสจสิ อุปาสกา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต, ปิตุโสโก มํ พาธตี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, โปราณกปณฺฑิตา อฏฺวิเธ โลกธมฺเม ตถโต ชานนฺตา ปิตริ กาลกเต อปฺปมตฺตกมฺปิ โสกํ น กรึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ ทสรถมหาราชา นาม อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส ¶ โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา อคฺคมเหสี ทฺเว ปุตฺเต เอกฺจ ธีตรํ วิชายิ. เชฏฺปุตฺโต รามปณฺฑิโต นาม อโหสิ, ทุติโย ลกฺขณกุมาโร นาม, ธีตา สีตา เทวี นาม. อปรภาเค มเหสี กาลมกาสิ. ราชา ตสฺสา กาลกตาย จิรตรํ โสกวสํ คนฺตฺวา อมจฺเจหิ สฺาปิโต ตสฺสา กตฺตพฺพปริหารํ ¶ กตฺวา อฺํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา รฺโ ปิยา อโหสิ มนาปา. สาปิ อปรภาเค คพฺภํ คณฺหิตฺวา ลทฺธคพฺภปริหารา ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘ภรตกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกํสุ. ราชา ปุตฺตสิเนเหน ‘‘ภทฺเท, วรํ เต ทมฺมิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. สา คหิตกํ กตฺวา เปตฺวา กุมารสฺส สตฺตฏฺวสฺสกาเล ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ มยฺหํ ปุตฺตสฺส วโร ทินฺโน, อิทานิสฺส วรํ เทถา’’ติ อาห. คณฺห, ภทฺเทติ. ‘‘เทว, ปุตฺตสฺส เม รชฺชํ เทถา’’ติ วุตฺเต ราชา อจฺฉรํ ปหริตฺวา ‘‘นสฺส, วสลิ, มยฺหํ ทฺเว ปุตฺตา อคฺคิกฺขนฺธา วิย ชลนฺติ, เต มาราเปตฺวา ตว ปุตฺตสฺส รชฺชํ ยาจสี’’ติ ตชฺเชสิ. สา ภีตา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฺเสุปิ ทิวเสสุ ราชานํ ปุนปฺปุนํ รชฺชเมว ยาจิ.
ราชา ตสฺสา ตํ วรํ อทตฺวาว จินฺเตสิ ‘‘มาตุคาโม นาม อกตฺู มิตฺตทุพฺภี, อยํ เม กูฏปณฺณํ วา กูฏลฺชํ วา กตฺวา ปุตฺเต ฆาตาเปยฺยา’’ติ. โส ปุตฺเต ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตาตา, ตุมฺหากํ อิธ วสนฺตานํ อนฺตราโยปิ ภเวยฺย, ตุมฺเห สามนฺตรชฺชํ วา อรฺํ วา คนฺตฺวา มม มรณกาเล อาคนฺตฺวา กุลสนฺตกํ รชฺชํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา ปุน เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา อตฺตโน อายุปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อฺานิ ทฺวาทส วสฺสานิ ¶ ปวตฺติสฺสตี’’ติ สุตฺวา ‘‘ตาตา, อิโต ทฺวาทสวสฺสจฺจเยน อาคนฺตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปยฺยาถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา โรทนฺตา ปาสาทา โอตรึสุ. สีตา เทวี ‘‘อหมฺปิ ภาติเกหิ สทฺธึ คมิสฺสามี’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา โรทนฺตี นิกฺขมิ. ตโยปิ ชนา มหาปริวารา นิกฺขมิตฺวา มหาชนํ นิวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา สมฺปนฺโนทเก สุลภผลาผเล ปเทเส อสฺสมํ มาเปตฺวา ผลาผเลน ยาเปนฺตา วสึสุ.
ลกฺขณปณฺฑิโต จ สีตา จ รามปณฺฑิตํ ยาจิตฺวา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ ปิตุฏฺาเน ิตา, ตสฺมา อสฺสเมเยว โหถ, มยํ ผลาผลํ อาหริตฺวา ตุมฺเห โปเสสฺสามา’’ติ ปฏิฺํ คณฺหึสุ. ตโต ปฏฺาย รามปณฺฑิโต ตตฺเถว โหติ. อิตเร ทฺเว ผลาผลํ อาหริตฺวา ตํ ปฏิชคฺคึสุ. เอวํ เตสํ ผลาผเลน ยาเปตฺวา วสนฺตานํ ทสรถมหาราชา ปุตฺตโสเกน นวเม สํวจฺฉเร กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ¶ เทวี ‘‘อตฺตโน ปุตฺตสฺส ภรตกุมารสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปถา’’ติ อาห. อมจฺจา ปน ‘‘ฉตฺตสฺสามิกา อรฺเ วสนฺตี’’ติ น อทํสุ. ภรตกุมาโร ¶ ‘‘มม ภาตรํ รามปณฺฑิตํ อรฺโต อาเนตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสามี’’ติ ปฺจราชกกุธภณฺฑานิ คเหตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ตสฺส วสนฏฺานํ ปตฺวา อวิทูเร ขนฺธาวารํ กตฺวา ตตฺถ นิวาเสตฺวา กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ ลกฺขณปณฺฑิตสฺส จ สีตาย จ อรฺํ คตกาเล อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อสฺสมปททฺวาเร ปิตกฺจนรูปกํ วิย รามปณฺฑิตํ นิราสงฺกํ สุขนิสินฺนํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต รฺโ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา สทฺธึ อมจฺเจหิ ปาเทสุ ปติตฺวา โรทติ. รามปณฺฑิโต ปน เนว โสจิ, น ปริเทวิ, อินฺทฺริยวิการมตฺตมฺปิสฺส นาโหสิ. ภรตสฺส ปน โรทิตฺวา นิสินฺนกาเล สายนฺหสมเย อิตเร ทฺเว ผลาผลํ อาทาย อาคมึสุ. รามปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘อิเม ทหรา มยฺหํ วิย ปริคฺคณฺหนปฺา เอเตสํ นตฺถิ, สหสา ¶ ‘ปิตา โว มโต’ติ วุตฺเต โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตานํ หทยมฺปิ เตสํ ผเลยฺย, อุปาเยน เต อุทกํ โอตาเรตฺวา เอตํ ปวตฺตึ อาโรเจสฺสามี’’ติ. อถ เนสํ ปุรโต เอกํ อุทกฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตุมฺเห อติจิเรน อาคตา, อิทํ โว ทณฺฑกมฺมํ โหตุ, อิมํ อุทกํ โอตริตฺวา ติฏฺถา’’ติ อุปฑฺฒคาถํ ตาว อาห –
‘‘เอถ ลกฺขณ สีตา จ, อุโภ โอตรโถทก’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – เอถ ลกฺขณ สีตา จ อาคจฺฉถ, อุโภปิ โอตรถ อุทกนฺติ;
เต เอกวจเนเนว โอตริตฺวา อฏฺํสุ. อถ เนสํ ปิตุ ปวตฺตึ อาโรเจนฺโต เสสํ อุปฑฺฒคาถมาห –
‘‘เอวายํ ภรโต อาห, ราชา ทสรโถ มโต’’ติ.
เต ปิตุ มตสาสนํ สุตฺวาว วิสฺา อเหสุํ. ปุนปิ เนสํ กเถสิ, ปุนปิ เต วิสฺา อเหสุนฺติ เอวํ ยาวตติยํ วิสฺิตํ ปตฺเต เต อมจฺจา อุกฺขิปิตฺวา อุทกา นีหริตฺวา ถเล นิสีทาเปตฺวา ลทฺธสฺสาเสสุ เตสุ ¶ สพฺเพ อฺมฺํ โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา นิสีทึสุ. ตทา ภรตกุมาโร จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ภาตา ลกฺขณกุมาโร จ ภคินี จ สีตา เทวี ปิตุ มตสาสนํ สุตฺวาว โสกํ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกนฺติ, รามปณฺฑิโต ปน เนว โสจติ, น ปริเทวติ, กึ นุ โข ตสฺส อโสจนการณํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ. โส ตํ ปุจฺฉนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘เกน ¶ รามปฺปภาเวน, โสจิตพฺพํ น โสจสิ;
ปิตรํ กาลกตํ สุตฺวา, น ตํ ปสหเต ทุข’’นฺติ.
ตตฺถ ปภาเวนาติ อานุภาเวน. น ตํ ปสหเต ทุขนฺติ เอวรูปํ ทุกฺขํ เกน การเณน ตํ น ปีเฬติ, กึ เต อโสจนการณํ, กเถหิ ตาว นนฺติ.
อถสฺส รามปณฺฑิโต อตฺตโน อโสจนการณํ กเถนฺโต –
‘‘ยํ น สกฺกา นิปาเลตุํ, โปเสน ลปตํ พหุํ;
ส กิสฺส วิฺู เมธาวี, อตฺตานมุปตาปเย.
‘‘ทหรา ¶ จ หิ วุทฺธา จ, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;
อฑฺฒา เจว ทลิทฺทา จ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา.
‘‘ผลานมิว ปกฺกานํ, นิจฺจํ ปตนโต ภยํ;
เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.
‘‘สายเมเก น ทิสฺสนฺติ, ปาโต ทิฏฺา พหุชฺชนา;
ปาโต เอเก น ทิสฺสนฺติ, สายํ ทิฏฺา พหุชฺชนา.
‘‘ปริเทวยมาโน เจ, กิฺจิทตฺถํ อุทพฺพเห;
สมฺมูฬฺโห หึสมตฺตานํ, กยิรา ตํ วิจกฺขโณ.
‘‘กิโส วิวณฺโณ ภวติ, หึสมตฺตานมตฺตโน;
น เตน เปตา ปาเลนฺติ, นิรตฺถา ปริเทวนา.
‘‘ยถา สรณมาทิตฺตํ, วารินา ปรินิพฺพเย;
เอวมฺปิ ธีโร สุตวา, เมธาวี ปณฺฑิโต นโร;
ขิปฺปมุปฺปติตํ โสกํ, วาโต ตูลํว ธํสเย.
‘‘มจฺโจ ¶ ¶ เอโกว อจฺเจติ, เอโกว ชายเต กุเล;
สํโยคปรมาตฺเวว, สมฺโภคา สพฺพปาณินํ.
‘‘ตสฺมา หิ ธีรสฺส พหุสฺสุตสฺส, สมฺปสฺสโต โลกมิมํ ปรฺจ;
อฺาย ธมฺมํ หทยํ มนฺจ, โสกา มหนฺตาปิ น ตาปยนฺติ.
‘‘โสหํ ทสฺสฺจ โภกฺขฺจ, ภริสฺสามิ จ าตเก;
เสสฺจ ปาลยิสฺสามิ, กิจฺจเมตํ วิชานโต’’ติ. –
อิมาหิ ทสหิ คาถาหิ อนิจฺจตํ ปกาเสติ.
ตตฺถ นิปาเลตุนฺติ รกฺขิตุํ. ลปตนฺติ ลปนฺตานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตาต ภรต, ยํ สตฺตานํ ชีวิตํ พหุมฺปิ วิลปนฺตานํ ปุริสานํ เอเกนาปิ มา อุจฺฉิชฺชีติ น สกฺกา รกฺขิตุํ, โส ทานิ มาทิโส อฏฺ โลกธมฺเม ตถโต ชานนฺโต วิฺู เมธาวี ปณฺฑิโต มรณปริโยสานชีวิเตสุ สตฺเตสุ กิสฺส อตฺตานมุปตาปเย, กึการณา อนุปกาเรน โสกทุกฺเขน อตฺตานํ สนฺตาเปยฺยา’’ติ.
ทหรา จาติ คาถา ‘‘มจฺจุ นาเมส ตาต ภรต, เนว ¶ สุวณฺณรูปกสทิสานํ ทหรานํ ขตฺติยกุมารกาทีนํ, น วุทฺธิปฺปตฺตานํ มหาโยธานํ, น พาลานํ ปุถุชฺชนสตฺตานํ, น พุทฺธาทีนํ ปณฺฑิตานํ, น จกฺกวตฺติอาทีนํ อิสฺสรานํ, น นิทฺธนานํ ทลิทฺทาทีนํ ลชฺชติ, สพฺเพปิเม สตฺตา มจฺจุปรายณา มรณมุเข สํภคฺควิภคฺคา ภวนฺติเยวา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตา.
นิจฺจํ ปตนโตติ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา หิ ตาต ภรต, ปกฺกานํ ผลานํ ปกฺกกาลโต ปฏฺาย ‘‘อิทานิ วณฺฏา ฉิชฺชิตฺวา ปติสฺสนฺติ, อิทานิ ปติสฺสนฺตี’’ติ ปตนโต ภยํ นิจฺจํ ธุวํ เอกํสิกเมว ภวติ, เอวํ อาสงฺกนียโต เอวํ ชาตานํ มจฺจานมฺปิ เอกํสิกํเยว มรณโต ภยํ, นตฺถิ โส ขโณ วา ลโย วา ยตฺถ เตสํ มรณํ น อาสงฺกิตพฺพํ ภเวยฺยาติ.
สายนฺติ ¶ วิกาเล. อิมินา รตฺติภาเค จ ทิฏฺานํ ทิวสภาเค อทสฺสนํ, ทิวสภาเค จ ทิฏฺานํ รตฺติภาเค อทสฺสนํ ทีเปติ. กิฺจิทตฺถนฺติ ‘‘ปิตา เม, ปุตฺโต เม’’ติอาทีหิ ปริเทวมาโนว โปโส สมฺมูฬฺโห อตฺตานํ หึสนฺโต กิลเมนฺโต อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺถํ อาหเรยฺย. กยิรา ¶ ตํ วิจกฺขโณติ อถ ปณฺฑิโต ปุริโส เอวํ ปริเทวํ กเรยฺย, ยสฺมา ปน ปริเทวนฺโต มตํ วา อาเนตุํ อฺํ วา ตสฺส วฑฺฒึ กาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา นิรตฺถกตฺตา ปริเทวิตสฺส ปณฺฑิตา น ปริเทวนฺติ.
อตฺตานมตฺตโนติ อตฺตโน อตฺตภาวํ โสกปริเทวทุกฺเขน หึสนฺโต. น เตนาติ เตน ปริเทเวน ปรโลกํ คตา สตฺตา น ปาเลนฺติ น ยาเปนฺติ. นิรตฺถาติ ตสฺมา เตสํ มตสตฺตานํ อยํ ปริเทวนา นิรตฺถกา. สรณนฺติ นิวาสเคหํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปณฺฑิโต ปุริโส อตฺตโน วสนาคาเร อาทิตฺเต มุหุตฺตมฺปิ โวสานํ อนาปชฺชิตฺวา ฆฏสเตน ฆฏสหสฺเสน วารินา นิพฺพาปยเตว, เอวํ ธีโร อุปฺปติตํ โสกํ ขิปฺปเมว นิพฺพาปเย. ตูลํ วิย จ วาโต ยถา สณฺาตุํ น สกฺโกติ, เอวํ ธํสเย วิทฺธํเสยฺยาติ อตฺโถ.
มจฺโจ เอโกว อจฺเจตีติ เอตฺถ ตาต ภรต, อิเม สตฺตา กมฺมสฺสกา นาม, ตถา หิ อิโต ปรโลกํ คจฺฉนฺโต สตฺโต เอโกว อจฺเจติ อติกฺกมติ, ขตฺติยาทิกุเล ชายมาโนปิ เอโกว คนฺตฺวา ชายติ. ตตฺถ ตตฺถ ปน าติมิตฺตสํโยเคน ‘‘อยํ เม ปิตา, อยํ เม มาตา, อยํ เม มิตฺโต’’ติ สํโยคปรมาตฺเวว สมฺโภคา สพฺพปาณีนํ, ปรมตฺเถน ปน ตีสุปิ ภเวสุ กมฺมสฺสกาเวเต สตฺตาติ อตฺโถ.
ตสฺมาติ ยสฺมา เอเตสํ สตฺตานํ าติมิตฺตสํโยคํ าติมิตฺตปริโภคมตฺตํ เปตฺวา อิโต ปรํ อฺํ นตฺถิ, ตสฺมา. สมฺปสฺสโตติ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ นานาภาววินาภาวเมว สมฺมา ปสฺสโต. อฺาย ธมฺมนฺติ อฏฺวิธโลกธมฺมํ ชานิตฺวา. หทยํ มนฺจาติ ¶ อิทํ อุภยมฺปิ จิตฺตสฺเสว นามํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ –
‘‘ลาโภ ¶ อลาโภ ยโส อยโส จ, นินฺทา ปสํสา จ สุขฺจ ทุกฺขํ;
เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา, มา โสจ กึ โสจสิ โปฏฺปาทา’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๑๔) –
อิเมสํ อฏฺนฺนํ โลกธมฺมานํ เยน เกนจิ จิตฺตํ ปริยาทียติ, ตสฺส จ อนิจฺจตํ ตฺวา ิตสฺส ธีรสฺส ปิตุปุตฺตมรณาทิวตฺถุกา มหนฺตาปิ โสกา หทยํ น ตาปยนฺตีติ. เอตํ วา อฏฺวิธํ โลกธมฺมํ ตฺวา ิตสฺส หทยวตฺถฺุจ มนฺจ มหนฺตาปิ โสกา น ตาปยนฺตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
โสหํ ¶ ทสฺสฺจ โภกฺขฺจาติ คาถาย – ตาต ภรต, อนฺธพาลานํ สตฺตานํ วิย มม โรทนปริเทวนํ นาม น อนุจฺฉวิกํ, อหํ ปน ปิตุ อจฺจเยน ตสฺส าเน ตฺวา กปณาทีนํ ทานารหานํ ทานํ, านนฺตรารหานํ านนฺตรํ, ยสารหานํ ยสํ ทสฺสามิ, ปิตรา เม ปริภุตฺตนเยน อิสฺสริยํ ปริภฺุชิสฺสามิ, าตเก จ โปเสสฺสามิ, อวเสสฺจ อนฺโตปริชนาทิกํ ชนํ ปาเลสฺสามิ, ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ กริสฺสามีติ เอวฺหิ ชานโต ปณฺฑิตปุริสสฺส อนุรูปํ กิจฺจนฺติ อตฺโถ.
ปริสา อิมํ รามปณฺฑิตสฺส อนิจฺจตาปกาสนํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา นิสฺโสกา อเหสุํ. ตโต ภรตกุมาโร รามปณฺฑิตํ วนฺทิตฺวา ‘‘พาราณสิรชฺชํ สมฺปฏิจฺฉถา’’ติ อาห. ตาต ลกฺขณฺจ, สีตาเทวิฺจ คเหตฺวา คนฺตฺวา รชฺชํ อนุสาสถาติ. ตุมฺเห ปน, เทวาติ. ตาต, มม ปิตา ‘‘ทฺวาทสวสฺสจฺจเยน อาคนฺตฺวา รชฺชํ กาเรยฺยาสี’’ติ มํ อโวจ, อหํ อิทาเนว คจฺฉนฺโต ตสฺส วจนกโร นาม น โหมิ, อฺานิปิ ตีณิ วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา อาคมิสฺสามีติ. ‘‘เอตฺตกํ กาลํ โก รชฺชํ กาเรสฺสตี’’ติ? ‘‘ตุมฺเห กาเรถา’’ติ. ‘‘น มยํ กาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เตน หิ ยาว มมาคมนา อิมา ปาทุกา กาเรสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน ติณปาทุกา โอมฺุจิตฺวา อทาสิ. เต ตโยปิ ชนา ปาทุกา คเหตฺวา รามปณฺฑิตํ วนฺทิตฺวา มหาชนปริวุตา พาราณสึ อคมํสุ. ตีณิ สํวจฺฉรานิ ปาทุกา รชฺชํ กาเรสุํ. อมจฺจา ติณปาทุกา ราชปลฺลงฺเก เปตฺวา ¶ อฑฺฑํ วินิจฺฉินนฺติ. สเจ ทุพฺพินิจฺฉิโต โหติ, ปาทุกา อฺมฺํ ¶ ปฏิหฺนฺติ. ตาย สฺาย ปุน วินิจฺฉินนฺติ. สมฺมา วินิจฺฉิตกาเล ปาทุกา นิสฺสทฺทา สนฺนิสีทนฺติ. รามปณฺฑิโต ติณฺณํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน อรฺา นิกฺขมิตฺวา พาราณสินครํ ปตฺวา อุยฺยานํ ปาวิสิ. ตสฺส อาคมนภาวํ ตฺวา กุมารา อมจฺจคณปริวุตา อุยฺยานํ คนฺตฺวา สีตํ อคฺคมเหสึ กตฺวา อุภินฺนมฺปิ อภิเสกํ อกํสุ. เอวํ อภิเสกปฺปตฺโต มหาสตฺโต อลงฺกตรเถ ตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา จนฺทกปาสาทวรสฺส มหาตลํ อภิรุหิ. ตโต ปฏฺาย โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อายุปริโยสาเน สคฺคปุรํ ปูเรสิ.
‘‘ทส วสฺสสหสฺสานิ, สฏฺิ วสฺสสตานิ จ;
กมฺพุคีโว มหาพาหุ, ราโม รชฺชมการยี’’ติ. –
อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา ตมตฺถํ ทีเปติ.
ตตฺถ ¶ กมฺพุคีโวติ สุวณฺณาฬิงฺคสทิสคีโว. สุวณฺณฺหิ กมฺพูติ วุจฺจติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน กุฏุมฺพิโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ทสรถมหาราชา สุทฺโธทนมหาราชา อโหสิ, มาตา มหามายาเทวี, สีตา ราหุลมาตา, ภรโต อานนฺโท, ลกฺขโณ สาริปุตฺโต, ปริสา พุทฺธปริสา, รามปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.
ทสรถชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๔๖๒] ๘. สํวรชาตกวณฺณนา
ชานนฺโต โน มหาราชาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โอสฺสฏฺวีริยํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุตฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ปูเรนฺโต อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ ปคุณานิ กตฺวา ปริปุณฺณปฺจวสฺโส ¶ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ อาจริยุปชฺฌาเย อาปุจฺฉิตฺวา โกสลรฏฺเ เอกํ ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ตตฺถ อิริยาปเถ ปสนฺนมนุสฺเสหิ ¶ ปณฺณสาลํ กตฺวา อุปฏฺิยมาโน วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยฺุชนฺโต ฆเฏนฺโต วายมนฺโต อจฺจารทฺเธน วีริเยน เตมาสํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา โอภาสมตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อทฺธา อหํ สตฺถารา เทสิเตสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ปทปรโม, กึ เม อรฺวาเสน, เชตวนํ คนฺตฺวา ตถาคตสฺส รูปสิรึ ปสฺสนฺโต มธุรธมฺมเทสนํ สุณนฺโต วีตินาเมสฺสามี’’ติ. โส วีริยํ โอสฺสชิตฺวา ตโต นิกฺขนฺโต อนุปุพฺเพน เชตวนํ คนฺตฺวา อาจริยุปชฺฌาเยหิ เจว สนฺทิฏฺสมฺภตฺเตหิ จ อาคมนการณํ ปุฏฺโ ตมตฺถํ กเถตฺวา เตหิ ‘‘กสฺมา เอวมกาสี’’ติ ครหิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, อนิจฺฉมานํ ภิกฺขุํ อานยิตฺถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ, ภนฺเต, วีริยํ โอสฺสชิตฺวา อาคโต’’ติ อาโรจิเต สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา ภิกฺขุ วีริยํ โอสฺสชิ, อิมสฺมิฺหิ สาสเน นิพฺพีริยสฺส กุสีตปุคฺคลสฺส อคฺคผลํ อรหตฺตํ นาม นตฺถิ, อารทฺธวีริยา อิมํ ธมฺมํ อาราเธนฺติ, ตฺวํ โข ปน ปุพฺเพ วีริยวา โอวาทกฺขโม, เตเนว การเณน พาราณสิรฺโ ปุตฺตสตสฺส สพฺพกนิฏฺโ หุตฺวาปิ ปณฺฑิตานํ โอวาเท ตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ปตฺโตสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต สํวรกุมาโร นาม ปุตฺตสตสฺส สพฺพกนิฏฺโ อโหสิ. ราชา เอเกกํ ปุตฺตํ ‘‘สิกฺขิตพฺพยุตฺตกํ สิกฺขาเปถา’’ติ เอเกกสฺส อมจฺจสฺส อทาสิ. สํวรกุมารสฺส อาจริโย อมจฺโจ โพธิสตฺโต อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ราชปุตฺตสฺส ปิตุฏฺาเน ิโต. อมจฺจา สิกฺขิตสิปฺเป ราชปุตฺเต รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา เตสํ ชนปทํ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ. สํวรกุมาโร สพฺพสิปฺปสฺส นิปฺผตฺตึ ปตฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, สเจ มํ ปิตา ชนปทํ เปเสติ, กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ตาต, ตฺวํ ชนปเท ทียมาเน ตํ อคฺคเหตฺวา ‘เทว อหํ สพฺพกนิฏฺโ, มยิปิ คเต ตุมฺหากํ ปาทมูลํ ตุจฺฉํ ภวิสฺสติ, อหํ ตุมฺหากํ ปาทมูเลเยว วสิสฺสามี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ. อเถกทิวสํ ราชา สํวรกุมารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺนํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ ตาต, สิปฺปํ เต นิฏฺิต’’นฺติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘ตุยฺหมฺปิ ชนปทํ เทมี’’ติ. ‘‘เทว ตุมฺหากํ ปาทมูลํ ¶ ตุจฺฉํ ภวิสฺสติ, ปาทมูเลเยว วสิสฺสามี’’ติ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺโ ปาทมูเลเยว หุตฺวา ปุนปิ โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต อฺํ กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ตาต ราชานํ เอกํ ปุราณุยฺยานํ ยาจาหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ อุยฺยานํ ยาจิตฺวา ตตฺถ ชาตเกหิ ปุปฺผผเลหิ นคเร อิสฺสรชนํ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน ‘‘กึ กโรมี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตาต, ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา อนฺโตนคเร ภตฺตเวตนํ ตฺวเมว เทหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา อนฺโตนคเร กสฺสจิ กิฺจิ อหาเปตฺวา ภตฺตเวตนํ ทตฺวา ปุน โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา ราชานํ วิฺาเปตฺวา อนฺโตนิเวสเน ทาสโปริสานมฺปิ หตฺถีนมฺปิ อสฺสานมฺปิ พลกายสฺสปิ วตฺตํ อปริหาเปตฺวา อทาสิ, ติโรชนปเทหิ อาคตานํ ทูตาทีนํ นิวาสฏฺานาทีนิ วาณิชานํ สุงฺกนฺติ สพฺพกรณียานิ อตฺตนาว อกาสิ. เอวํ โส มหาสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา สพฺพํ อนฺโตชนฺจ พหิชนฺจ นาคเร จ รฏฺวาสิโน จ อาคนฺตุเก จ อายวตฺตเน จ เตน เตน สงฺคหวตฺถุนา อาพนฺธิตฺวา สงฺคณฺหิ, สพฺเพสํ ปิโย อโหสิ มนาโป.
อปรภาเค ราชานํ มรณมฺเจ นิปนฺนํ อมจฺจา ปุจฺฉึสุ ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อจฺจเยน เสตจฺฉตฺตํ กสฺส เทมา’’ติ? ‘‘ตาต, มม ปุตฺตา สพฺเพปิ เสตจฺฉตฺตสฺส สามิโนว. โย ปน ตุมฺหากํ มนํ คณฺหาติ, ตสฺเสว เสตจฺฉตฺถํ ทเทยฺยาถา’’ติ. เต ตสฺมึ กาลกเต ตสฺส สรีรปริหารํ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส สนฺนิปติตฺวา ‘‘รฺา ‘โย ตุมฺหากํ มนํ คณฺหาติ, ตสฺส เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปยฺยาถา’ติ วุตฺตํ, อมฺหากฺจ อยํ สํวรกุมาโร มนํ คณฺหาตี’’ติ าตเกหิ ปริวาริตา ตสฺส กฺจนมาลํ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาปยึสุ. สํวรมหาราชา โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. อิตเร เอกูนสตกุมารา ‘‘ปิตา กิร โน กาลกโต, สํวรกุมารสฺส กิร เสตจฺฉตฺตํ ¶ อุสฺสาเปสุํ, โส สพฺพกนิฏฺโ, ตสฺส ฉตฺตํ น ปาปุณาติ, สพฺพเชฏฺกสฺส ¶ ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสามา’’ติ เอกโต อาคนฺตฺวา ‘‘ฉตฺตํ วา โน เทตุ, ยุทฺธํ วา’’ติ สํวรมหาราชสฺส ปณฺณํ เปเสตฺวา นครํ อุปรุนฺธึสุ. ราชา โพธิสตฺตสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. มหาราช, ตว ภาติเกหิ ¶ สทฺธึ ยุชฺฌนกิจฺจํ นตฺถิ, ตฺวํ ปิตุ สนฺตกํ ธนํ สตโกฏฺาเส กาเรตฺวา เอกูนสตํ ภาติกานํ เปเสตฺวา ‘‘อิมํ ตุมฺหากํ โกฏฺาสํ ปิตุ สนฺตกํ คณฺหถ, นาหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌามี’’ติ สาสนํ ปหิณาหีติ. โส ตถา อกาสิ. อถสฺส สพฺพเชฏฺภาติโก อุโปสถกุมาโร นาม เสเส อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาตา, ราชานํ นาม อภิภวิตุํ สมตฺถา นาม นตฺถิ, อยฺจ โน กนิฏฺภาติโก ปฏิสตฺตุปิ หุตฺวา น ติฏฺติ, อมฺหากํ ปิตุ สนฺตกํ ธนํ เปเสตฺวา ‘นาหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌามี’ติ เปเสสิ, น โข ปน มยํ สพฺเพปิ เอกกฺขเณ ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสาม, เอกสฺเสว ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสาม, อยเมว ราชา โหตุ, เอถ ตํ ปสฺสิตฺวา ราชกุฏุมฺพํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อมฺหากํ ชนปทเมว คจฺฉามา’’ติ อาห. อถ เต สพฺเพปิ กุมารา นครทฺวารํ วิวราเปตฺวา ปฏิสตฺตุโน อหุตฺวา นครํ ปวิสึสุ.
ราชาปิ เตสํ อมจฺเจหิ ปณฺณาการํ คาหาเปตฺวา ปฏิมคฺคํ เปเสติ. กุมารา นาติมหนฺเตน ปริวาเรน ปตฺติกาว อาคนฺตฺวา ราชนิเวสนํ อภิรุหิตฺวา สํวรมหาราชสฺส นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา นีจาสเน นิสีทึสุ. สํวรมหาราชา เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา สีหาสเน นิสีทิ, มหนฺโต ยโส มหนฺตํ สิริโสภคฺคํ อโหสิ, โอโลกิโตโลกิตฏฺานํ กมฺปิ. อุโปสถกุมาโร สํวรมหาราชสฺส สิริวิภวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปิตา อตฺตโน อจฺจเยน สํวรกุมารสฺส ราชภาวํ ตฺวา มฺเ อมฺหากํ ชนปเท ทตฺวา อิมสฺส น อทาสี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ชานนฺโต ¶ โน มหาราช, ตว สีลํ ชนาธิโป;
อิเม กุมาเร ปูเชนฺโต, น ตํ เกนจิ มฺถ.
‘‘ติฏฺนฺเต โน มหาราเช, อทุ เทเว ทิวงฺคเต;
าตี ตํ สมนฺุึสุ, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน.
‘‘เกน สํวร วตฺเตน, สฺชาเต อภิติฏฺสิ;
เกน ตํ นาติวตฺตนฺติ, าติสงฺฆา สมาคตา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ชานนฺโต โนติ ชานนฺโต นุ. ชนาธิโปติ อมฺหากํ ปิตา นรินฺโท. อิเมติ อิเม เอกูนสเต กุมาเร. ปาฬิโปตฺถเกสุ ปน ‘‘อฺเ กุมาเร’’ติ ลิขิตํ. ปูเชนฺโตติ เตน เตน ชนปเทน มาเนนฺโต. น ตํ เกนจีติ ขุทฺทเกนาปิ เกนจิ ชนปเทน ตํ ปูเชตพฺพํ น มฺิตฺถ, ‘‘อยํ มม อจฺจเยน ราชา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา มฺเ อตฺตโน ปาทมูเลเยว วาเสสีติ. ติฏฺนฺเต โนติ ติฏฺนฺเต นุ, ธรมาเนเยว นูติ ปุจฺฉติ, อทุ เทเวติ อุทาหุ อมฺหากํ ปิตริ ทิวงฺคเต อตฺตโน อตฺถํ วุฑฺฒึ ปสฺสนฺตา สทฺธึ ราชการเกหิ เนคมชานปเทหิ าตโย ตํ ‘‘ราชา โหหี’’ติ สมนฺุึสุ. วตฺเตนาติ สีลาจาเรน. สฺชาเต อภิติฏฺสีติ สมานชาติเก เอกูนสตภาตโร อภิภวิตฺวา ติฏฺสิ. นาติวตฺตนฺตีติ น อภิภวนฺติ.
ตํ สุตฺวา สํวรมหาราชา อตฺตโน คุณํ กเถนฺโต ฉ คาถา อภาสิ –
‘‘น ราชปุตฺต อุสูยามิ, สมณานํ มเหสินํ;
สกฺกจฺจํ เต นมสฺสามิ, ปาเท วนฺทามิ ตาทินํ.
‘‘เต มํ ธมฺมคุเณ ยุตฺตํ, สุสฺสูสมนุสูยกํ;
สมณา มนุสาสนฺติ, อิสี ธมฺมคุเณ รตา.
‘‘เตสาหํ วจนํ สุตฺวา, สมณานํ มเหสินํ;
น กิฺจิ อติมฺามิ, ธมฺเม เม นิรโต มโน.
‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;
เตสํ นปฺปฏิพนฺธามิ, นิวิฏฺํ ภตฺตเวตนํ.
‘‘มหามตฺตา จ เม อตฺถิ, มนฺติโน ปริจารกา;
พาราณสึ โวหรนฺติ, พหุมํสสุโรทนํ.
‘‘อโถปิ ¶ วาณิชา ผีตา, นานารฏฺเหิ อาคตา;
เตสุ เม วิหิตา รกฺขา, เอวํ ชานาหุโปสถา’’ติ.
ตตฺถ ¶ น ราชปุตฺตาติ อหํ ราชปุตฺต, กฺจิ สตฺตํ ‘‘อยํ สมฺปตฺติ อิมสฺส มา ¶ โหตู’’ติ น อุสูยามิ. ตาทินนฺติ ตาทิลกฺขณยุตฺตานํ สมิตปาปตาย สมณานํ มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ คุณานํ เอสิตตาย มเหสีนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ปฺจปติฏฺิเตน ปาเท วนฺทามิ, ทานํ ททนฺโต ธมฺมิกฺจ เนสํ รกฺขาวรณคุตฺตึ ปจฺจุปฏฺเปนฺโต สกฺกจฺจํ เต นมสฺสามิ, มเนน สมฺปิยายนฺโต จ ปูเชมีติ อตฺโถ. เต มนฺติ เต สมณา มํ ‘‘อยํ ธมฺมโกฏฺาเส ยุตฺตปยุตฺโต สุสฺสูสํ อนุสูยโก’’ติ ตถโต ตฺวา มํ ธมฺมคุเณ ยุตฺตํ สุสฺสูสํ อนุสูยกํ อนุสาสนฺติ, ‘‘อิทํ กร, อิทํ มา กรี’’ติ โอวทนฺตีติ อตฺโถ. เตสาหนฺติ เตสํ อหํ. หตฺถาโรหาติ หตฺถึ อารุยฺห ยุชฺฌนกา โยธา. อนีกฏฺาติ หตฺถานีกาทีสุ ิตา. รถิกาติ รถโยธา. ปตฺติการกาติ ปตฺติโนว. นิวิฏฺนฺติ ยํ เตหิ สชฺชิตํ ภตฺตฺจ เวตนฺจ, อหํ ตํ นปฺปฏิพนฺธามิ, อปริหาเปตฺวา ททามีติ อตฺโถ.
มหามตฺตาติ ภาติก, มยฺหํ มหาปฺา มนฺเตสุ กุสลา มหาอมจฺจา เจว อวเสสมนฺติโน จ ปริจารกา อตฺถิ. อิมินา อิมํ ทสฺเสติ ‘‘ตุมฺเห มนฺตสมฺปนฺเน ปณฺฑิเต อาจริเย น ลภิตฺถ, อมฺหากํ ปน อาจริยา ปณฺฑิตา อุปายกุสลา, เต โน เสตจฺฉตฺเตน โยเชสุ’’นฺติ. พาราณสินฺติ ภาติก, มม ฉตฺตํ อุสฺสาปิตกาลโต ปฏฺาย ‘‘อมฺหากํ ราชา ธมฺมิโก อนฺวทฺธมาสํ เทโว วสฺสติ, เตน สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺติ, พาราณสิยํ พหุํ ขาทิตพฺพยุตฺตกํ มจฺฉมํสํ ปายิตพฺพยุตฺตกํ สุโรทกฺจ ชาต’’นฺติ เอวํ รฏฺวาสิโน พหุมํสสุโรทกํ กตฺวา พาราณสึ โวหรนฺติ. ผีตาติ หตฺถิรตนอสฺสรตนมุตฺตรตนาทีนิ อาหริตฺวา นิรุปทฺทวา โวหารํ กโรนฺตา ผีตา สมิทฺธา. เอวํ ชานาหีติ ภาติก อุโปสถ อหํ อิเมหิ เอตฺตเกหิ การเณหิ สพฺพกนิฏฺโปิ หุตฺวา มม ภาติเก อภิภวิตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ปตฺโต, เอวํ ชานาหีติ.
อถสฺส คุณํ สุตฺวา อุโปสถกุมาโร ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ธมฺเมน กิร าตีนํ, รชฺชํ กาเรหิ สํวร;
เมธาวี ปณฺฑิโต จาสิ, อโถปิ าตินํ หิโต.
‘‘ตํ ¶ ตํ าติปริพฺยูฬฺหํ, นานารตนโมจิตํ;
อมิตฺตา นปฺปสหนฺติ, อินฺทํว อสุราธิโป’’ติ.
ตตฺถ ¶ ธมฺเมน กิร าตีนนฺติ ตาต สํวร มหาราช, ธมฺเมน กิร ตฺวํ เอกูนสตานํ าตีนํ ¶ อตฺตโน เชฏฺภาติกานํ อานุภาวํ อภิภวสิ, อิโต ปฏฺาย ตฺวเมว รชฺชํ กาเรหิ, ตฺวเมว เมธาวี เจว ปณฺฑิโต จ าตีนฺจ หิโตติ อตฺโถ. ตํ ตนฺติ เอวํ วิวิธคุณสมฺปนฺนํ ตํ. าติปริพฺยูฬฺหนฺติ อมฺเหหิ เอกูนสเตหิ าตเกหิ ปริวาริตํ. นานารตนโมจิตนฺติ นานารตเนหิ โอจิตํ สฺจิตํ พหุรตนสฺจยํ. อสุราธิโปติ ยถา ตาวตึเสหิ ปริวาริตํ อินฺทํ อสุรราชา นปฺปสหติ, เอวํ อมฺเหหิ อารกฺขํ กโรนฺเตหิ ปริวาริตํ ตํ ติโยชนสติเก กาสิรฏฺเ ทฺวาทสโยชนิกาย พาราณสิยา รชฺชํ กาเรนฺตํ อมิตฺตา นปฺปสหนฺตีติ ทีเปติ.
สํวรมหาราชา สพฺเพสมฺปิ ภาติกานํ มหนฺตํ ยสํ อทาสิ. เต ตสฺส สนฺติเก มาสฑฺฒมาสํ วสิตฺวา ‘‘มหาราช ชนปเทสุ โจเรสุ อุฏฺหนฺเตสุ มยํ ชานิสฺสาม, ตฺวํ รชฺชสุขํ อนุภวา’’ติ วตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ชนปทํ คตา. ราชาปิ โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา อายุปริโยสาเน เทวนครํ ปูเรนฺโต อคมาสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขุ เอวํ ตฺวํ ปุพฺเพ โอวาทกฺขโม, อิทานิ กสฺมา วีริยํ น อกาสี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.
ตทา สํวรมหาราชา อยํ ภิกฺขุ อโหสิ, อุโปสถกุมาโร สาริปุตฺโต, เสสภาติกา เถรานุเถรา, ปริสา พุทฺธปริสา, โอวาททายโก อมจฺโจ ปน อหเมว อโหสินฺติ.
สํวรชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๔๖๓] ๙. สุปฺปารกชาตกวณฺณนา
อุมฺมุชฺชนฺติ นิมุชฺชนฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ สายนฺหสมเย ตถาคตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ นิกฺขมนํ อาคมยมานา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ‘‘อาวุโส, อโห ¶ สตฺถา มหาปฺโ ปุถุปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ตตฺร ตตฺร อุปายปฺาย สมนฺนาคโต วิปุลาย ปถวีสมาย, มหาสมุทฺโท วิย คมฺภีราย, อากาโส วิย วิตฺถิณฺณาย, สกลชมฺพุทีปสฺมิฺหิ อุฏฺิตปฺโห ทสพลํ อติกฺกมิตฺวา คนฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ยถา มหาสมุทฺเท อุฏฺิตอูมิโย เวลํ นาติกฺกมนฺติ, เวลํ ปตฺวาว ภิชฺชนฺติ, เอวํ ¶ น โกจิ ปฺโห ทสพลํ อติกฺกมติ, สตฺถุ ปาทมูลํ ¶ ปตฺวา ภิชฺชเตวา’’ติ ทสพลสฺส มหาปฺาปารมึ วณฺเณสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ปฺวา, ปุพฺเพปิ อปริปกฺเก าเณ ปฺวาว, อนฺโธ หุตฺวาปิ มหาสมุทฺเท อุทกสฺาย ‘อิมสฺมึ อิมสฺมึ สมุทฺเท อิทํ นาม อิทํ นาม รตน’นฺติ อฺาสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต กุรุรฏฺเ กุรุราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ, กุรุกจฺฉํ นาม ปฏฺฏนคาโม อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต กุรุกจฺเฉ นิยามกเชฏฺกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ, ‘‘สุปฺปารกกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒนฺโต โสฬสวสฺสกาเลเยว นิยามกสิปฺเป นิปฺผตฺตึ ปตฺวา อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน นิยามกเชฏฺโก หุตฺวา นิยามกกมฺมํ อกาสิ, ปณฺฑิโต าณสมฺปนฺโน อโหสิ. เตน อารุฬฺหนาวาย พฺยาปตฺติ นาม นตฺถิ. ตสฺส อปรภาเค โลณชลปหฏานิ ทฺเวปิ จกฺขูนิ นสฺสึสุ. โส ตโต ปฏฺาย นิยามกเชฏฺโก หุตฺวาปิ นิยามกกมฺมํ อกตฺวา ‘‘ราชานํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามี’’ติ ราชานํ อุปสงฺกมิ. อถ นํ ราชา อคฺฆาปนิยกมฺเม เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺโ หตฺถิรตนอสฺสรตนมุตฺตสารมณิสาราทีนิ อคฺฆาเปสิ.
อเถกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลหตฺถี ภวิสฺสตี’’ติ กาฬปาสาณกูฏวณฺณํ เอกํ วารณํ อาเนสุํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ‘‘ปณฺฑิตสฺส ทสฺเสถา’’ติ อาห. อถ นํ ตสฺส สนฺติกํ นยึสุ. โส หตฺเถน ตสฺส สรีรํ ปริมชฺชิตฺวา ‘‘นายํ มงฺคลหตฺถี ภวิตุํ อนุจฺฉวิโก, ปาเทหิ วามนธาตุโก เอส, เอตฺหิ มาตา วิชายมานา องฺเกน สมฺปฏิจฺฉิตุํ นาสกฺขิ, ตสฺมา ภูมิยํ ปติตฺวา ปจฺฉิมปาเทหิ วามนธาตุโก โหตี’’ติ ¶ อาห. หตฺถึ คเหตฺวา อาคเต ปุจฺฉึสุ. เต ‘‘สจฺจํ ปณฺฑิโต กเถตี’’ติ วทึสุ. ตํ การณํ ¶ ราชา สุตฺวา ตุฏฺโ ตสฺส อฏฺ กหาปเณ ทาเปสิ.
ปุเนกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลอสฺโส ภวิสฺสตี’’ติ เอกํ อสฺสํ อานยึสุ. ตมฺปิ ราชา ปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อยํ มงฺคลอสฺโส ภวิตุํ น ยุตฺโต, เอตสฺส หิ ชาตทิวเสเยว มาตา มริ, ตสฺมา มาตุ ขีรํ อลภนฺโต น สมฺมา วฑฺฒิโต’’ติ อาห. สาปิสฺส กถา สจฺจาว อโหสิ. ตมฺปิ สุตฺวา ราชา ตุสฺสิตฺวา อฏฺ กหาปเณ ทาเปสิ. อเถกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลรโถ ภวิสฺสตี’’ติ รถํ อาหรึสุ. ตมฺปิ ราชา ตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อยํ รโถ สุสิรรุกฺเขน กโต, ตสฺมา รฺโ นานุจฺฉวิโก’’ติ อาห. สาปิสฺส กถา สจฺจาว อโหสิ. ราชา ตมฺปิ สุตฺวา อฏฺเว ¶ กหาปเณ ทาเปสิ. อถสฺส มหคฺฆํ กมฺพลรตนํ อาหรึสุ. ตมฺปิ ตสฺเสว เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิมสฺส มูสิกจฺฉินฺนํ เอกฏฺานํ อตฺถี’’ติ อาห. โสเธนฺตา ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา อฏฺเว กหาปเณ ทาเปสิ.
โส จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราชา เอวรูปานิปิ อจฺฉริยานิ ทิสฺวา อฏฺเว กหาปเณ ทาเปสิ, อิมสฺส ทาโย นฺหาปิตทาโย, นฺหาปิตชาติโก ภวิสฺสติ, กึ เม เอวรูเปน ราชุปฏฺาเนน, อตฺตโน วสนฏฺานเมว คมิสฺสามี’’ติ. โส กุรุกจฺฉปฏฺฏนเมว ปจฺจาคมิ. ตสฺมึ ตตฺถ วสนฺเต วาณิชา นาวํ สชฺเชตฺวา ‘‘กํ นิยามกํ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตสุํ. ‘‘สุปฺปารกปณฺฑิเตน อารุฬฺหนาวา น พฺยาปชฺชติ, เอส ปณฺฑิโต อุปายกุสโล, อนฺโธ สมาโนปิ สุปฺปารกปณฺฑิโตว อุตฺตโม’’ติ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘นิยามโก โน โหหี’’ติ วตฺวา ‘‘ตาตา, อหํ อนฺโธ, กถํ นิยามกกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘สามิ, อนฺธาปิ ตุมฺเหเยว อมฺหากํ อุตฺตมา’’ติ ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน ‘‘สาธุ ตาตา, ตุมฺเหหิ อาโรจิตสฺาย นิยามโก ภวิสฺสามี’’ติ เตสํ ¶ นาวํ อภิรุหิ. เต นาวาย มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทึสุ. นาวา สตฺต ทิวสานิ นิรุปทฺทวา อคมาสิ, ตโต อกาลวาตํ อุปฺปาติตํ อุปฺปชฺชิ, นาวา จตฺตาโร มาเส ปกติสมุทฺทปิฏฺเ วิจริตฺวา ขุรมาลีสมุทฺทํ นาม ปตฺตา. ตตฺถ ¶ มจฺฉา มนุสฺสสมานสรีรา ขุรนาสา อุทเก อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ. วาณิชา เต ทิสฺวา มหาสตฺตํ ตสฺส สมุทฺทสฺส นามํ ปุจฺฉนฺตา ปมํ คาถมาหํสุ –
‘‘อุมฺมุชฺชนฺติ นิมุชฺชนฺติ, มนุสฺสา ขุรนาสิกา;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ.
เอวํ เตหิ ปุฏฺโ มหาสตฺโต อตฺตโน นิยามกสุตฺเตน สํสนฺทิตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, ขุรมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตตฺถ ปยาตานนฺติ กุรุกจฺฉปฏฺฏนา นิกฺขมิตฺวา คจฺฉนฺตานํ. ธเนสินนฺติ ตุมฺหากํ วาณิชานํ ธนํ ปริเยสนฺตานํ. นาวาย วิปฺปนฏฺายาติ ตาต ตุมฺหากํ อิมาย วิเทสํ ปกฺขนฺทนาวาย กมฺมการกํ ปกติสมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา สมฺปตฺโต อยํ สมุทฺโท ‘‘ขุรมาลี’’ติ วุจฺจติ, เอวเมตํ ปณฺฑิตา กเถนฺตีติ.
ตสฺมึ ¶ ปน สมุทฺเท วชิรํ อุสฺสนฺนํ โหติ. มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ‘อยํ วชิรสมุทฺโท’ติ เอวํ เอเตสํ กเถสฺสามิ, โลเภน พหุํ วชิรํ คณฺหิตฺวา นาวํ โอสีทาเปสฺสนฺตี’’ติ เตสํ อนาจิกฺขิตฺวาว นาวํ ลคฺคาเปตฺวา อุปาเยเนกํ โยตฺตํ คเหตฺวา มจฺฉคหณนิยาเมน ชาลํ ขิปาเปตฺวา วชิรสารํ อุทฺธริตฺวา นาวายํ ปกฺขิปิตฺวา อฺํ อปฺปคฺฆภณฺฑํ ฉฑฺฑาเปสิ. นาวา ตํ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ปุรโต อคฺคิมาลึ นาม คตา. โส ปชฺชลิตอคฺคิกฺขนฺโธ วิย มชฺฌนฺหิกสูริโย วิย จ โอภาสํ มฺุจนฺโต อฏฺาสิ. วาณิชา –
‘‘ยถา อคฺคีว สูริโยว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. – คาถาย ตํ ปุจฺฉึสุ;
มหาสตฺโตปิ ¶ เตสํ อนนฺตรคาถาย กเถสิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ¶ ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, อคฺคิมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท สุวณฺณํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. มหาสตฺโต ปุริมนเยเนว ตโตปิ สุวณฺณํ คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ขีรํ วิย ทธึ วิย จ โอภาสนฺตํ ทธิมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –
‘‘ยถา ทธีว ขีรํว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
มหาสตฺโต อนนฺตรคาถาย อาจิกฺขิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, ทธิมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท รชตํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยน คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ ¶ . นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา นีลกุสติณํ วิย สมฺปนฺนสสฺสํ วิย จ โอภาสมานํ นีลวณฺณํ กุสมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –
‘‘ยถา กุโสว สสฺโสว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
โส อนนฺตรคาถาย อาจิกฺขิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, กุสมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท นีลมณิรตนํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยเนว คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ¶ นฬวนํ วิย เวฬุวนํ วิย จ ขายมานํ นฬมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –
‘‘ยถา ¶ นโฬว เวฬูว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
มหาสตฺโต อนนฺตรคาถาย กเถสิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, นฬมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท มสารคลฺลํ เวฬุริยํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยน คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. อปโร นโย – นโฬติ วิจฺฉิกนโฬปิ กกฺกฏกนโฬปิ, โส ¶ รตฺตวณฺโณ โหติ. เวฬูติ ปน ปวาฬสฺเสตํ นามํ, โส จ สมุทฺโท ปวาฬุสฺสนฺโน รตฺโตภาโส อโหสิ, ตสฺมา ‘‘ยถา นโฬว เวฬุวา’’ติ ปุจฺฉึสุ. มหาสตฺโต ตโต ปวาฬํ คาหาเปสีติ.
วาณิชา นฬมาลึ อติกฺกนฺตา พลวามุขสมุทฺทํ นาม ปสฺสึสุ. ตตฺถ อุทกํ กฑฺฒิตฺวา กฑฺฒิตฺวา สพฺพโต ภาเคน อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สพฺพโต ภาเคน อุคฺคเต อุทกํ สพฺพโต ภาเคน ฉินฺนปปาตมหาโสพฺโภ วิย ปฺายติ, อูมิยา อุคฺคตาย เอกโต ปปาตสทิสํ โหติ, ภยชนโน สทฺโท อุปฺปชฺชติ โสตานิ ภินฺทนฺโต วิย หทยํ ผาเลนฺโต วิย จ. ตํ ทิสฺวา วาณิชา ภีตตสิตา –
‘‘มหพฺภโย ภึสนโก, สทฺโท สุยฺยติมานุโส;
ยถา โสพฺโภ ปปาโตว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
ตตฺถ ¶ สุยฺยติมานุโสติ สุยฺยติ อมานุโส สทฺโท.
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, พลวามุขีติ วุจฺจตี’’ติ. –
โพธิสตฺโต อนนฺตรคาถาย ตสฺส นามํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ตาตา, อิมํ พลวามุขสมุทฺทํ ¶ ปตฺวา นิวตฺติตุํ สมตฺถา นาวา นาม นตฺถิ, อยํ สมฺปตฺตนาวํ นิมุชฺชาเปตฺวา วินาสํ ปาเปตี’’ติ อาห. ตฺจ นาวํ สตฺต มนุสฺสสตานิ อภิรุหึสุ. เต สพฺเพ มรณภยภีตา เอกปฺปหาเรเนว อวีจิมฺหิ ปจฺจมานสตฺตา วิย อติการฺุํ รวํ มฺุจึสุ. มหาสตฺโต ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ เอเตสํ โสตฺถิภาวํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สจฺจกิริยาย เตสํ โสตฺถึ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เต อามนฺเตตฺวา อาห – ‘‘ตาตา, ขิปฺปํ มํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา อหตวตฺถานิ นิวาสาเปตฺวา ปุณฺณปาตึ สชฺเชตฺวา นาวาย ธุเร เปถา’’ติ. เต เวเคน ตถา กรึสุ. มหาสตฺโต อุโภหิ หตฺเถหิ ปุณฺณปาตึ คเหตฺวา นาวาย ธุเร ิโต สจฺจกิริยํ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘ยโต ¶ สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;
นาภิชานามิ สฺจิจฺจ, เอกปาณมฺปิ หึสิตํ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, โสตฺถึ นาวา นิวตฺตตู’’ติ.
ตตฺถ ยโตติ ยโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, ยโต ปฏฺาย จมฺหิ วิฺุตํ ปตฺโตติ อตฺโถ. เอกปาณมฺปิ หึสิตนฺติ เอตฺถนฺตเร สฺจิจฺจ เอกํ กุนฺถกิปิลฺลิกปาณมฺปิ หึสิตํ นาภิชานามิ. เทสนามตฺตเมเวตํ, โพธิสตฺโต ปน ติณสลากมฺปิ อุปาทาย มยา ปรสนฺตกํ น คหิตปุพฺพํ, โลภวเสน ปรทารํ น โอโลกิตปุพฺพํ, มุสา น ภาสิตปุพฺพา, ติณคฺเคนาปิ มชฺชํ น ปิวิตปุพฺพนฺติ เอวํ ปฺจสีลวเสน ปน สจฺจกิริยํ อกาสิ, กตฺวา จ ปน ปุณฺณปาติยา อุทกํ นาวาย ธุเร อภิสิฺจิ.
จตฺตาโร มาเส วิเทสํ ปกฺขนฺทนาวา นิวตฺติตฺวา อิทฺธิมา วิย สจฺจานุภาเวน เอกทิวเสเนว กุรุกจฺฉปฏฺฏนํ อคมาสิ. คนฺตฺวา จ ปน ถเลปิ อฏฺุสภมตฺตํ านํ ปกฺขนฺทิตฺวา นาวิกสฺส ฆรทฺวาเรเยว อฏฺาสิ. มหาสตฺโต เตสํ วาณิชานํ สุวณฺณรชตมณิปวาฬมุตฺตวชิรานิ ภาเชตฺวา ¶ อทาสิ. ‘‘เอตฺตเกหิ ¶ โว รตเนหิ อลํ, มา ปุน สมุทฺทํ ปวิสถา’’ติ เตสํ โอวาทํ ทตฺวา ยาวชีวํ ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา เทวปุรํ ปูเรสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาปฺโเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปริสา พุทฺธปริสา อเหสุํ, สุปฺปารกปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
สุปฺปารกชาตกวณฺณนา นวมา.
ชาตกุทฺทานํ –
มาตุโปสก ชุณฺโห จ, ธมฺม อุทย ปานีโย;
ยุธฺจโย ทสรโถ, สํวโร จ สุปฺปารโก;
เอกาทสนิปาตมฺหิ, สงฺคีตา นว ชาตกา.
เอกาทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทฺวาทสกนิปาโต
[๔๖๔] ๑. จูฬกุณาลชาตกวณฺณนา
ลุทฺธานํ ¶ ¶ ¶ ลหุจิตฺตานนฺติ อิทํ ชาตกํ กุณาลชาตเก (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) อาวิ ภวิสฺสติ;
จูฬกุณาลชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๖๕] ๒. ภทฺทสาลชาตกวณฺณนา
กา ตฺวํ สุทฺเธหิ วตฺเถหีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต าตตฺถจริยํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยฺหิ อนาถปิณฺฑิกสฺส นิเวสเน ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ นิพทฺธโภชนํ ปวตฺตติ, ตถา วิสาขาย จ โกสลรฺโ จ. ตตฺถ ปน กิฺจาปิ นานคฺครสโภชนํ ทียติ, ภิกฺขูนํ ปเนตฺถ โกจิ วิสฺสาสิโก นตฺถิ, ตสฺมา ภิกฺขู ราชนิเวสเน น ภฺุชนฺติ, ภตฺตํ คเหตฺวา อนาถปิณฺฑิกสฺส วา วิสาขาย วา อฺเสํ วา วิสฺสาสิกานํ ฆรํ คนฺตฺวา ภฺุชนฺติ. ราชา เอกทิวสํ ปณฺณาการํ อาหฏํ ‘‘ภิกฺขูนํ เทถา’’ติ ภตฺตคฺคํ เปเสตฺวา ‘‘ภตฺตคฺเค ภิกฺขู นตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘กหํ คตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อตฺตโน วิสฺสาสิกเคเหสุ นิสีทิตฺวา ภฺุชนฺตี’’ติ สุตฺวา ภุตฺตปาตราโส สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, โภชนํ นาม กึ ปรม’’นฺติ ปุจฺฉิ. วิสฺสาสปรมํ มหาราช, กฺชิกมตฺตกมฺปิ วิสฺสาสิเกน ทินฺนํ มธุรํ โหตีติ. ภนฺเต, เกน ปน สทฺธึ ภิกฺขูนํ วิสฺสาโส โหตีติ? ‘‘าตีหิ วา เสกฺขกุเลหิ วา, มหาราชา’’ติ. ตโต ราชา จินฺเตสิ ‘‘เอกํ สกฺยธีตรํ อาเนตฺวา อคฺคมเหสึ กริสฺสามิ, เอวํ มยา สทฺธึ ภิกฺขูนํ าตเก วิย ¶ วิสฺสาโส ภวิสฺสตี’’ติ. โส อุฏฺายาสนา อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา กปิลวตฺถุํ ทูตํ เปเสสิ ‘‘ธีตรํ เม เทถ, อหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ าติภาวํ อิจฺฉามี’’ติ.
สากิยา ¶ ¶ ทูตวจนํ สุตฺวา สนฺนิปติตฺวา มนฺตยึสุ ‘‘มยํ โกสลรฺโ อาณาปวตฺติฏฺาเน วสาม, สเจ ทาริกํ น ทสฺสาม, มหนฺตํ เวรํ ภวิสฺสติ, สเจ ทสฺสาม, กุลวํโส โน ภิชฺชิสฺสติ, กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ. อถ เน มหานาโม อาห – ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มม ธีตา วาสภขตฺติยา นาม นาคมุณฺฑาย นาม ทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ. สา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา ปิตุ วํเสน ขตฺติยชาติกา, ตมสฺส ‘ขตฺติยกฺา’ติ เปเสสฺสามา’’ติ. สากิยา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทูเต ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สาธุ, ทาริกํ ทสฺสาม, อิทาเนว นํ คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ อาหํสุ. ทูตา จินฺเตสุํ ‘‘อิเม สากิยา นาม ชาตึ นิสฺสาย อติมานิโน, ‘สทิสี โน’ติ วตฺวา อสทิสิมฺปิ ทเทยฺยุํ, เอเตหิ สทฺธึ เอกโต ภฺุชมานเมว คณฺหิสฺสามา’’ติ. เต เอวมาหํสุ ‘‘มยํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตา ยา ตุมฺเหหิ สทฺธึ เอกโต ภฺุชติ, ตํ คเหตฺวา คมิสฺสามา’’ติ. สากิยา เตสํ นิวาสฏฺานํ ทาเปตฺวา ‘‘กึ กริสฺสามา’’ติ จินฺตยึสุ. มหานาโม อาห – ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, อหํ อุปายํ กริสฺสามิ, ตุมฺเห มม โภชนกาเล วาสภขตฺติยํ อลงฺกริตฺวา อาเนตฺวา มยา เอกสฺมึ กพเฬ คหิตมตฺเต ‘เทว, อสุกราชา ปณฺณํ ปหิณิ, อิมํ ตาว สาสนํ สุณาถา’ติ ปณฺณํ ทสฺเสยฺยาถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺมึ ภฺุชมาเน กุมาริกํ อลงฺกรึสุ.
มหานาโม ‘‘ธีตรํ เม อาเนถ, มยา สทฺธึ ภฺุชตู’’ติ อาห. อถ นํ อลงฺกริตฺวา ตาวเทว โถกํ ปปฺจํ กตฺวา อานยึสุ. สา ‘‘ปิตรา สทฺธึ ภฺุชิสฺสามี’’ติ เอกปาติยํ หตฺถํ โอตาเรสิ. มหานาโมปิ ตาย สทฺธึ เอกปิณฺฑํ คเหตฺวา มุเข เปสิ. ทุติยปิณฺฑาย หตฺเถ ปสาริเต ‘‘เทว, อสุกรฺา ปณฺณํ ปหิตํ, อิมํ ตาว สาสนํ สุณาถา’’ติ ปณฺณํ อุปนาเมสุํ. มหานาโม ‘‘อมฺม, ตฺวํ ภฺุชาหี’’ติ ทกฺขิณหตฺถํ ¶ ปาติยาเยว กตฺวา วามหตฺเถน คเหตฺวา ปณฺณํ โอโลเกสิ. ตสฺส ตํ สาสนํ อุปธาเรนฺตสฺเสว อิตรา ภฺุชิ. โส ตสฺสา ภุตฺตกาเล หตฺถํ โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลสิ. ตํ ทิสฺวา ทูตา ‘‘นิจฺฉเยเนสา เอตสฺส ธีตา’’ติ นิฏฺมกํสุ, น ตํ อนฺตรํ ชานิตุํ สกฺขึสุ. มหานาโม มหนฺเตน ปริวาเรน ¶ ธีตรํ เปเสสิ. ทูตาปิ นํ สาวตฺถึ เนตฺวา ‘‘อยํ กุมาริกา ชาติสมฺปนฺนา มหานามสฺส ธีตา’’ติ วทึสุ. ราชา ตุสฺสิตฺวา สกลนครํ อลงฺการาเปตฺวา ตํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน อภิสิฺจาเปสิ. สา รฺโ ปิยา อโหสิ มนาปา.
อถสฺสา น จิรสฺเสว คพฺโภ ปติฏฺหิ. ราชา คพฺภปริหารมทาสิ. สา ทสมาสจฺจเยน สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส ราชา อตฺตโน อยฺยกสฺส สนฺติกํ เปเสสิ ‘‘สกฺยราชธีตา วาสภขตฺติยา ปุตฺตํ วิชายิ, กิมสฺส นามํ กโรมา’’ติ. ตํ ปน สาสนํ ¶ คเหตฺวา คโต อมจฺโจ โถกํ พธิรธาตุโก, โส คนฺตฺวา รฺโ อยฺยกสฺสาโรเจสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘วาสภขตฺติยา ปุตฺตํ อวิชายิตฺวาปิ สพฺพํ ชนํ อภิภวติ, อิทานิ ปน อติวิย รฺโ วลฺลภา ภวิสฺสตี’’ติ อาห. โส พธิรอมจฺโจ ‘‘วลฺลภา’’ติ วจนํ ทุสฺสุตํ สุตฺวา ‘‘วิฏฏูโภ’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ราชานํ อุปคนฺตฺวา ‘‘เทว, กุมารสฺส กิร ‘วิฏฏูโภ’ติ นามํ กโรถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘โปราณกํ โน กุลทตฺติกํ นามํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘วิฏฏูโภ’’ติ นามํ อกาสิ. ตโต ปฏฺาย กุมาโร กุมารปริหาเรน วฑฺฒนฺโต สตฺตวสฺสิกกาเล อฺเสํ กุมารานํ มาตามหกุลโต หตฺถิรูปกอสฺสรูปกาทีนิ อาหริยมานานิ ทิสฺวา มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, อฺเสํ มาตามหกุลโต ปณฺณากาโร อาหริยติ, มยฺหํ โกจิ กิฺจิ น เปเสสิ, กึ ตฺวํ นิมฺมาตา นิปฺปิตาสี’’ติ? อถ นํ สา ‘‘ตาต, สกฺยราชาโน มาตามหา ทูเร ปน วสนฺติ, เตน เต กิฺจิ น เปเสนฺตี’’ติ วตฺวา วฺเจสิ.
ปุน โสฬสวสฺสิกกาเล ‘‘อมฺม, มาตามหกุลํ ปสฺสิตุกาโมมฺหี’’ติ วตฺวา ‘‘อลํ ตาต, กึ ตตฺถ คนฺตฺวา กริสฺสสี’’ติ วาริยมาโนปิ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. อถสฺส มาตา ‘‘เตน หิ ¶ คจฺฉาหี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. โส ปิตุ อาโรเจตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิ. วาสภขตฺติยา ปุเรตรํ ปณฺณํ เปเสสิ ‘‘อหํ อิธ สุขํ วสามิ, สามิโน กิฺจิ อนฺตรํ มา ทสฺสยึสู’’ติ. สากิยา วิฏฏูภสฺส อาคมนํ ตฺวา ‘‘วนฺทิตุํ น สกฺกา’’ติ ตสฺส ทหรทหเร กุมารเก ชนปทํ ปหิณึสุ. กุมาเร กปิลวตฺถุํ สมฺปตฺเต สากิยา สนฺถาคาเร สนฺนิปตึสุ. กุมาโร สนฺถาคารํ ¶ คนฺตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ ‘‘อยํ เต, ตาต, มาตามโห, อยํ มาตุโล’’ติ วทึสุ โส สพฺเพ วนฺทมาโน วิจริ. โส ยาวปิฏฺิยา รุชนปฺปมาณา วนฺทิตฺวา เอกมฺปิ อตฺตานํ วนฺทมานํ อทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข มํ วนฺทนฺตา นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. สากิยา ‘‘ตาต, ตว กนิฏฺกุมารา ชนปทํ คตา’’ติ วตฺวา ตสฺส มหนฺตํ สกฺการํ กรึสุ. โส กติปาหํ วสิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิ. อเถกา ทาสี สนฺถาคาเร เตน นิสินฺนผลกํ ‘‘อิทํ วาสภขตฺติยาย ทาสิยา ปุตฺตสฺส นิสินฺนผลก’’นฺติ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา ขีโรทเกน โธวิ. เอโก ปุริโส อตฺตโน อาวุธํ ปมุสฺสิตฺวา นิวตฺโต ตํ คณฺหนฺโต วิฏฏูภกุมารสฺส อกฺโกสนสทฺทํ สุตฺวา ตํ อนฺตรํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วาสภขตฺติยา ทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ มหานามสกฺกสฺส ชาตา’’ติ ตฺวา คนฺตฺวา พลกายสฺส กเถสิ. ‘‘วาสภขตฺติยา กิร ทาสิยา ธีตา’’ติ มหาโกลาหลํ อโหสิ.
กุมาโร ตํ สุตฺวา ‘‘เอเต ตาว มม นิสินฺนผลกํ ขีโรทเกน โธวนฺตุ, อหํ ปน รชฺเช ปติฏฺิตกาเล ¶ เอเตสํ คลโลหิตํ คเหตฺวา มม นิสินฺนผลกํ โธวิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ ปฏฺเปสิ. ตสฺมึ สาวตฺถึ คเต อมจฺจา สพฺพํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘สพฺเพ มยฺหํ ทาสิธีตรํ อทํสู’’ติ สากิยานํ กุชฺฌิตฺวา วาสภขตฺติยาย จ ปุตฺตสฺส จ ทินฺนปริหารํ อจฺฉินฺทิตฺวา ทาสทาสีหิ ลทฺธพฺพปริหารมตฺตเมว ทาเปสิ. ตโต กติปาหจฺจเยน สตฺถา ราชนิเวสนํ อาคนฺตฺวา นิสีทิ. ราชา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ กิร าตเกหิ ทาสิธีตา มยฺหํ ทินฺนา, เตนสฺสา อหํ สปุตฺตาย ปริหารํ อจฺฉินฺทิตฺวา ทาสทาสีหิ ลทฺธพฺพปริหารมตฺตเมว ทาเปสิ’’นฺติ อาห. สตฺถา ‘‘อยุตฺตํ, มหาราช, สากิเยหิ ¶ กตํ, ททนฺเตหิ นาม สมานชาติกา ทาตพฺพา อสฺส. ตํ ปน มหาราช, วทามิ วาสภขตฺติยา ขตฺติยราชธีตา ขตฺติยสฺส รฺโ เคเห อภิเสกํ ลภิ, วิฏฏูโภปิ ขตฺติยราชานเมว ปฏิจฺจ ชาโต, มาตุโคตฺตํ นาม กึ กริสฺสติ, ปิตุโคตฺตเมว ปมาณนฺติ โปราณกปณฺฑิตา ทลิทฺทิตฺถิยา กฏฺหาริกายปิ อคฺคมเหสิฏฺานํ อทํสุ, ตสฺสา จ กุจฺฉิมฺหิ ชาตกุมาโร ทฺวาทสโยชนิกาย พาราณสิยา รชฺชํ กตฺวา กฏฺวาหนราชา นาม ชาโต’’ติ กฏฺวาหนชาตกํ (ชา. ๑.๑.๗) กเถสิ ¶ . ราชา สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘ปิตุโคตฺตเมว กิร ปมาณ’’นฺติ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา มาตาปุตฺตานํ ปกติปริหารเมว ทาเปสิ.
รฺโ ปน พนฺธุโล นาม เสนาปติ มลฺลิกํ นาม อตฺตโน ภริยํ วฺฌํ ‘‘ตว กุลฆรเมว คจฺฉาหี’’ติ กุสินารเมว เปเสสิ. สา ‘‘สตฺถารํ ทิสฺวาว คมิสฺสามี’’ติ เชตวนํ ปวิสิตฺวา ตถาคตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ‘‘กหํ คจฺฉสี’’ติ จ ปุฏฺา ‘‘สามิโก เม, ภนฺเต, กุลฆรํ เปเสสี’’ติ วตฺวา ‘‘กสฺมา’’ติ วุตฺตา ‘‘วฺฌา อปุตฺติกา, ภนฺเต’’ติ วตฺวา สตฺถารา ‘‘ยทิ เอวํ คมนกิจฺจํ นตฺถิ, นิวตฺตาหี’’ติ วุตฺตา ตุฏฺา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิเวสนเมว ปุน อคมาสิ. ‘‘กสฺมา นิวตฺตสี’’ติ ปุฏฺา ‘‘ทสพเลน นิวตฺติตามฺหี’’ติ อาห. เสนาปติ ‘‘ทิฏฺํ ภวิสฺสติ ตถาคเตน การณ’’นฺติ อาห. สา น จิรสฺเสว คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา อุปฺปนฺนโทหฬา ‘‘โทหโฬ เม อุปฺปนฺโน’’ติ อาโรเจสิ. ‘‘กึ โทหโฬ’’ติ? ‘‘เวสาลิยา นคเร ลิจฺฉวิราชานํ อภิเสกมงฺคลโปกฺขรณึ โอตริตฺวา นฺหตฺวา ปานียํ ปิวิตุกามามฺหิ, สามี’’ติ. เสนาปติ ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา สหสฺสถามธนุํ คเหตฺวา ตํ รถํ อาโรเปตฺวา สาวตฺถิโต นิกฺขมิตฺวา รถํ ปาเชนฺโต เวสาลึ ปาวิสิ.
ตสฺมิฺจ กาเล โกสลรฺโ พนฺธุลเสนาปตินา สทฺธึ เอกาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺโป มหาลิ นาม ลิจฺฉวี อนฺโธ ลิจฺฉวีนํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสนฺโต ทฺวารสมีเป วสติ. โส รถสฺส อุมฺมาเร ปฏิฆฏฺฏนสทฺทํ สุตฺวา ‘‘พนฺธุลมลฺลสฺส รถปตนสทฺโท ¶ เอโส, อชฺช ลิจฺฉวีนํ ¶ ภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อาห. โปกฺขรณิยา อนฺโต จ พหิ จ อารกฺขา พลวา, อุปริ โลหชาลํ ปตฺถฏํ, สกุณานมฺปิ โอกาโส นตฺถิ. เสนาปติ ปน รถา โอตริตฺวา อารกฺขเก ขคฺเคน ปหรนฺโต ปลาเปตฺวา โลหชาลํ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตโปกฺขรณิยํ ภริยํ โอตาเรตฺวา นฺหาเปตฺวา ปาเยตฺวา สยมฺปิ นฺหตฺวา มลฺลิกํ รถํ อาโรเปตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อาคตมคฺเคเนว ปายาสิ. อารกฺขกา คนฺตฺวา ลิจฺฉวีนํ อาโรเจสุํ. ลิจฺฉวิราชาโน กุชฺฌิตฺวา ปฺจ รถสตานิ อารุยฺห ‘‘พนฺธุลมลฺลํ คณฺหิสฺสามา’’ติ นิกฺขมึสุ. ตํ ปวตฺตึ มหาลิสฺส อาโรเจสุํ. มหาลิ ‘‘มา คมิตฺถ, โส หิ โว สพฺเพ ฆาตยิสฺสตี’’ติ อาห. เตปิ ‘‘มยํ คมิสฺสามเยวา’’ติ วทึสุ. เตน หิ จกฺกสฺส ยาว นาภิโต ปถวึ ปวิฏฺฏฺานํ ¶ ทิสฺวา นิวตฺเตยฺยาถ, ตโต อนิวตฺตนฺตา ปุรโต อสนิสทฺทํ วิย สุณิสฺสถ, ตมฺหา านา นิวตฺเตยฺยาถ, ตโต อนิวตฺตนฺตา ตุมฺหากํ รถธุเรสุ ฉิทฺทํ ปสฺสิสฺสถ, ตมฺหา านา นิวตฺเตยฺยาถ, ปุรโต มาคมิตฺถาติ. เต ตสฺส วจเนน อนิวตฺติตฺวา ตํ อนุพนฺธึสุเยว.
มลฺลิกา ทิสฺวา ‘‘รถา, สามิ, ปฺายนฺตี’’ติ อาห. เตน หิ เอกสฺส รถสฺส วิย ปฺายนกาเล มม อาโรเจยฺยาสีติ. สา ยทา สพฺเพ เอโก วิย หุตฺวา ปฺายึสุ, ตทา ‘‘เอกเมว สามิ รถสีสํ ปฺายตี’’ติ อาห. พนฺธุโล ‘‘เตน หิ อิมา รสฺมิโย คณฺหาหี’’ติ ตสฺสา รสฺมิโย ทตฺวา รเถ ิโตว ธนุํ อาโรเปติ, รถจกฺกํ ยาว นาภิโต ปถวึ ปาวิสิ, ลิจฺฉวิโน ตํ านํ ทิสฺวาปิ น นิวตฺตึสุ. อิตโร โถกํ คนฺตฺวา ชิยํ โปเถสิ, อสนิสทฺโท วิย อโหสิ. เต ตโตปิ น นิวตฺตึสุ, อนุพนฺธนฺตา คจฺฉนฺเตว. พนฺธุโล รเถ ิตโกว เอกํ สรํ ขิปิ. โส ปฺจนฺนํ รถสตานํ รถสีสํ ฉิทฺทํ กตฺวา ปฺจ ราชสตานิ ปริกรพนฺธนฏฺาเน วิชฺฌิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. เต อตฺตโน วิทฺธภาวํ อชานิตฺวา ‘‘ติฏฺ เร, ติฏฺ เร’’ติ วทนฺตา อนุพนฺธึสุเยว. พนฺธุโล รถํ เปตฺวา ‘‘ตุมฺเห มตกา, มตเกหิ สทฺธึ มยฺหํ ยุทฺธํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เต ‘‘มตกา นาม อมฺหาทิสา เนว โหนฺตี’’ติ วทึสุ. ‘‘เตน หิ สพฺพปจฺฉิมสฺส ปริกรํ โมเจถา’’ติ. เต ¶ โมจยึสุ. โส มุตฺตมตฺเตเยว มริตฺวา ปติโต. อถ เน ‘‘สพฺเพปิ ตุมฺเห เอวรูปา, อตฺตโน ฆรานิ คนฺตฺวา สํวิธาตพฺพํ สํวิทหิตฺวา ปุตฺตทาเร อนุสาสิตฺวา สนฺนาหํ โมเจถา’’ติ อาห. เต ตถา กตฺวา สพฺเพ ชีวิตกฺขยํ ปตฺตา.
พนฺธุโลปิ มลฺลิกํ สาวตฺถึ อาเนสิ. สา โสฬสกฺขตฺตุํ ยมเก ปุตฺเต วิชายิ, สพฺเพปิ สูรา ถามสมฺปนฺนา อเหสุํ, สพฺพสิปฺเป นิปฺผตฺตึ ปาปุณึสุ. เอเกกสฺสปิ ปุริสสหสฺสปริวาโร อโหสิ ¶ . ปิตรา สทฺธึ ราชนิเวสนํ คจฺฉนฺเตหิ เตเหว ราชงฺคณํ ปริปูริ. อเถกทิวสํ วินิจฺฉเย กูฏฑฺฑปราชิตา มนุสฺสา พนฺธุลํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มหารวํ วิรวนฺตา วินิจฺฉยอมจฺจานํ กูฏฑฺฑการณํ ตสฺส อาโรเจสุํ. โสปิ วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา ตํ อฑฺฑํ ตีเรตฺวา สามิกเมว สามิกํ, อสฺสามิกเมว อสฺสามิกํ ¶ อกาสิ. มหาชโน มหาสทฺเทน สาธุการํ ปวตฺเตสิ. ราชา ‘‘กิมิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา สพฺเพปิ เต อมจฺเจ หาเรตฺวา พนฺธุลสฺเสว วินิจฺฉยํ นิยฺยาเทสิ. โส ตโต ปฏฺาย สมฺมา วินิจฺฉินิ. ตโต โปราณกวินิจฺฉยิกา ลฺชํ อลภนฺตา อปฺปลาภา หุตฺวา ‘‘พนฺธุโล รชฺชํ ปตฺเถตี’’ติ ราชกุเล ปริภินฺทึสุ. ราชา ตํ กถํ คเหตฺวา จิตฺตํ นิคฺคเหตุํ นาสกฺขิ, ‘‘อิมสฺมึ อิเธว ฆาติยมาเน ครหา เม อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปุน จินฺเตตฺวา ‘‘ปยุตฺตปุริเสหิ ปจฺจนฺตํ ปหราเปตฺวา เต ปลาเปตฺวา นิวตฺตกาเล อนฺตรามคฺเค ปุตฺเตหิ สทฺธึ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ พนฺธุลํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ปจฺจนฺโต กิร กุปิโต, ตว ปุตฺเตหิ สทฺธึ คนฺตฺวา โจเร คณฺหาหี’’ติ ปหิณิตฺวา ‘‘เอตฺเถวสฺส ทฺวตฺตึสาย ปุตฺเตหิ สทฺธึ สีสํ ฉินฺทิตฺวา อาหรถา’’ติ เตหิ สทฺธึ อฺเปิ สมตฺเถ มหาโยเธ เปเสสิ. ตสฺมึ ปจฺจนฺตํ คจฺฉนฺเตเยว ‘‘เสนาปติ กิร อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวาว ปยุตฺตกโจรา ปลายึสุ. โส ตํ ปเทสํ อาวาสาเปตฺวา ชนปทํ สณฺเปตฺวา นิวตฺติ.
อถสฺส นครโต อวิทูเร าเน เต โยธา ปุตฺเตหิ สทฺธึ สีสํ ฉินฺทึสุ. ตํ ทิวสํ มลฺลิกาย ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ทฺเว อคฺคสาวกา นิมนฺติตา โหนฺติ. อถสฺสา ปุพฺพณฺหสมเย ‘‘สามิกสฺส เต สทฺธึ ปุตฺเตหิ สีสํ ฉินฺทึสู’’ติ ปณฺณํ อาหริตฺวา อทํสุ. สา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ¶ กสฺสจิ กิฺจิ อวตฺวา ปณฺณํ อุจฺฉงฺเค กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆเมว ปริวิสิ. อถสฺสา ปริจาริกา ภิกฺขูนํ ภตฺตํ ทตฺวา สปฺปิจาฏึ อาหรนฺติโย เถรานํ ปุรโต จาฏึ ภินฺทึสุ. ธมฺมเสนาปติ ‘‘อุปาสิเก, เภทนธมฺมํ ภินฺนํ, น จินฺเตตพฺพ’’นฺติ อาห. สา อุจฺฉงฺคโต ปณฺณํ นีหริตฺวา ‘‘ทฺวตฺตึสปุตฺเตหิ สทฺธึ ปิตุ สีสํ ฉินฺนนฺติ เม อิมํ ปณฺณํ อาหรึสุ, อหํ อิทํ สุตฺวาปิ น จินฺเตมิ, สปฺปิจาฏิยา ภินฺนาย กึ จินฺเตมิ, ภนฺเต’’ติ อาห. ธมฺมเสนาปติ ‘‘อนิมิตฺตมนฺาต’’นฺติอาทีนิ (สุ. นิ. ๕๗๙) วตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ อคมาสิ. สาปิ ทฺวตฺตึส สุณิสาโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ สามิกา อตฺตโน ปุริมกมฺมผลํ ลภึสุ, ตุมฺเห มา โสจิตฺถ มา ปริเทวิตฺถ, รฺโ อุปริ มโนปโทสํ มา กริตฺถา’’ติ โอวทิ.
รฺโ จรปุริสา ตํ กถํ สุตฺวา เตสํ นิทฺโทสภาวํ รฺโ กถยึสุ. ราชา สํเวคปฺปตฺโต ตสฺสา นิเวสนํ คนฺตฺวา มลฺลิกฺจ สุณิสาโย ¶ จสฺสา ขมาเปตฺวา มลฺลิกาย วรํ อทาสิ. สา ¶ ‘‘คหิโต เม โหตู’’ติ วตฺวา ตสฺมึ คเต มตกภตฺตํ ทตฺวา นฺหตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ เม วโร ทินฺโน, มยฺหฺจ อฺเน อตฺโถ นตฺถิ, ทฺวตฺตึสาย เม สุณิสานํ มม จ กุลฆรคมนํ อนุชานาถา’’ติ อาห. ราชา สมฺปฏิจฺฉิ. สา ทฺวตฺตึสาย สุณิสานํ สกกุลํ เปเสตฺวา สยํ กุสินารนคเร อตฺตโน กุลฆรํ อคมาสิ. ราชา พนฺธุลเสนาปติโน ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆการายนสฺส นาม เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. โส ปน ‘‘มาตุโล เม อิมินา มาริโต’’ติ รฺโ โอตารํ คเวสนฺโต วิจรติ. ราชาปิ นิปฺปราธสฺส พนฺธุลสฺส มาริตกาลโต ปฏฺาย วิปฺปฏิสารี จิตฺตสฺสาทํ น ลภติ, รชฺชสุขํ นานุโภติ.
ตทา สตฺถา สากิยานํ เวฬุํ นาม นิคมํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. ราชา ตตฺถ คนฺตฺวา อารามโต อวิทูเร ขนฺธาวารํ นิวาเสตฺวา ‘‘มหนฺเตน ปริวาเรน สตฺถารํ วนฺทิสฺสามา’’ติ วิหารํ คนฺตฺวา ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ ทีฆการายนสฺส ทตฺวา เอกโกว คนฺธกุฏึ ปาวิสิ. สพฺพํ ธมฺมเจติยสุตฺตนิยาเมเนว (ม. นิ. ๒.๓๖๔ อาทโย) เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ทีฆการายโน ตานิ ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ คเหตฺวา วิฏฏูภํ ¶ ราชานํ กตฺวา รฺโ เอกํ อสฺสํ เอกฺจ อุปฏฺานการิกํ มาตุคามํ นิวตฺเตตฺวา สาวตฺถึ อคมาสิ. ราชา สตฺถารา สทฺธึ ปิยกถํ กเถตฺวา นิกฺขนฺโต เสนํ อทิสฺวา ตํ มาตุคามํ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อหํ ภาคิเนยฺยํ อชาตสตฺตุํ อาทาย อาคนฺตฺวา วิฏฏูภํ คเหสฺสามี’’ติ ราชคหนครํ คจฺฉนฺโต วิกาเล ทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ นครํ ปวิสิตุมสกฺโกนฺโต เอกิสฺสาย สาลาย นิปชฺชิตฺวา วาตาตเปน กิลนฺโต รตฺติภาเค ตตฺเถว กาลมกาสิ. วิภาตาย รตฺติยา ‘‘เทว โกสลนรินฺท, อิทานิ อนาโถสิ ชาโต’’ติ วิลปนฺติยา ตสฺสา อิตฺถิยา สทฺทํ สุตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. โส มาตุลสฺส มหนฺเตน สกฺกาเรน สรีรกิจฺจํ กาเรสิ.
วิฏฏูโภปิ รชฺชํ ลภิตฺวา ตํ เวรํ สริตฺวา ‘‘สพฺเพปิ สากิเย มาเรสฺสามี’’ติ มหติยา เสนาย นิกฺขมิ. ตํ ทิวสํ สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต าติสงฺฆสฺส วินาสํ ทิสฺวา ‘‘าติสงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย ปิณฺฑาย จริตฺวา ¶ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต คนฺธกุฏิยํ สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมเย อากาเสน คนฺตฺวา กปิลวตฺถุสามนฺเต เอกสฺมึ กพรจฺฉาเย รุกฺขมูเล นิสีทิ. ตโต อวิทูเร วิฏฏูภสฺส รชฺชสีมาย อนฺโต สนฺทจฺฉาโย นิคฺโรธรุกฺโข อตฺถิ, วิฏฏูโภ สตฺถารํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, กึการณา เอวรูปาย อุณฺหเวลาย อิมสฺมึ กพรจฺฉาเย รุกฺขมูเล นิสีทถ, เอตสฺมึ สนฺทจฺฉาเย นิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสีทถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา ‘‘โหตุ, มหาราช, าตกานํ ฉายา ¶ นาม สีตลา’’ติ วุตฺเต ‘‘าตกานํ รกฺขณตฺถาย สตฺถา อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา สาวตฺถิเมว ปจฺจาคมิ. สตฺถาปิ อุปฺปติตฺวา เชตวนเมว คโต.
ราชา สากิยานํ โทสํ สริตฺวา ทุติยํ นิกฺขมิตฺวา ตเถว สตฺถารํ ปสฺสิตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา ตติยวาเร นิกฺขมิตฺวา ตตฺเถว สตฺถารํ ปสฺสิตฺวา นิวตฺติ. จตุตฺถวาเร ปน ตสฺมึ นิกฺขนฺเต สตฺถา สากิยานํ ปุพฺพกมฺมํ โอโลเกตฺวา เตสํ นทิยํ วิสปกฺขิปนปาปกมฺมสฺส อปฺปฏิพาหิรภาวํ ตฺวา จตุตฺถวาเร น อคมาสิ. วิฏฏูภราชา ขีรปายเก ทารเก อาทึ กตฺวา สพฺเพ สากิเย ฆาเตตฺวา คลโลหิเตน นิสินฺนผลกํ โธวิตฺวา ปจฺจาคมิ. สตฺถริ ตติยวาเร คมนโต ปจฺจาคนฺตฺวา ปุนทิวเส ปิณฺฑาย จริตฺวา ¶ นิฏฺาปิตภตฺตกิจฺเจ คนฺธกุฏิยํ ปวิสนฺเต ทิสาหิ สนฺนิปติตา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ‘‘อาวุโส, สตฺถา อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ราชานํ นิวตฺตาเปตฺวา าตเก มรณภยา โมเจสิ, เอวํ าตกานํ อตฺถจโร สตฺถา’’ติ ภควโต คุณกถํ กถยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว ตถาคโต าตกานํ อตฺถํ จรติ, ปุพฺเพปิ จริเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘ชมฺพุทีปตเล ราชาโน พหุถมฺเภสุ ปาสาเทสุ วสนฺติ, ตสฺมา พหูหิ ถมฺเภหิ ปาสาทกรณํ นาม อนจฺฉริยํ, ยํนูนาหํ เอกถมฺภกํ ปาสาทํ กาเรยฺยํ, เอวํ สพฺพราชูนํ อคฺคราชา ภวิสฺสามี’’ติ. โส วฑฺฒกี ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มยฺหํ โสภคฺคปฺปตฺตํ เอกถมฺภกํ ปาสาทํ กโรถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ ¶ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา อุชู มหนฺเต เอกถมฺภกปาสาทารเห พหู รุกฺเข ทิสฺวา ‘‘อิเม รุกฺขา สนฺติ, มคฺโค ปน วิสโม, น สกฺกา โอตาเรตุํ, รฺโ อาจิกฺขิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ตถา อกํสุ. ราชา ‘‘เกนจิ อุปาเยน สณิกํ โอตาเรถา’’ติ วตฺวา ‘‘เทว, เยน เกนจิ อุปาเยน น สกฺกา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มม อุยฺยาเน เอกํ รุกฺขํ อุปธาเรถา’’ติ อาห. วฑฺฒกี อุยฺยานํ คนฺตฺวา เอกํ สุชาตํ อุชุกํ คามนิคมปูชิตํ ราชกุลโตปิ ลทฺธพลิกมฺมํ มงฺคลสาลรุกฺขํ ทิสฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘อุยฺยาเน รุกฺโข นาม มม ปฏิพทฺโธ, คจฺฉถ โภ ตํ ฉินฺทถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา อุยฺยานํ คนฺตฺวา รุกฺเข คนฺธปฺจงฺคุลิกํ ทตฺวา สุตฺเตน ปริกฺขิปิตฺวา ปุปฺผกณฺณิกํ พนฺธิตฺวา ทีปํ ชาเลตฺวา พลิกมฺมํ กตฺวา ‘‘อิโต ¶ สตฺตเม ทิวเส อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสาม, ราชา ฉินฺทาเปติ, อิมสฺมึ รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา อฺตฺถ คจฺฉตุ, อมฺหากํ โทโส นตฺถี’’ติ สาเวสุํ.
อถ ¶ ตสฺมึ นิพฺพตฺโต เทวปุตฺโต ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ อิเม วฑฺฒกี อิมํ รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสนฺติ, วิมานํ เม นสฺสิสฺสติ, วิมานปริยนฺติกเมว โข ปน มยฺหํ ชีวิตํ, อิมฺจ รกฺขํ ปริวาเรตฺวา ิเตสุ ตรุณสาลรุกฺเขสุ นิพฺพตฺตานํ มม าติเทวตานมฺปิ พหูนิ วิมานานิ นสฺสิสฺสนฺติ. วิมานปริยนฺติกเมว มม าตีนํ เทวตานมฺปิ ชีวิตํ, น โข ปน มํ ตถา อตฺตโน วินาโส พาธติ, ยถา าตีนํ, ตสฺมา เนสํ มยา ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อฑฺฒรตฺตสมเย ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต รฺโ สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สกลคพฺภํ เอโกภาสํ กตฺวา อุสฺสิสกปสฺเส โรทมาโน อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา ภีตตสิโต เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กา ตฺวํ สุทฺเธหิ วตฺเถหิ, อเฆ เวหายสํ ิตา;
เกน ตฺยาสฺสูนิ วตฺตนฺติ, กุโต ตํ ภยมาคต’’นฺติ.
ตตฺถ กา ตฺวนฺติ นาคยกฺขสุปณฺณสกฺกาทีสุ กา นาม ตฺวนฺติ ปุจฺฉติ. วตฺเถหีติ วจนมตฺตเมเวตํ, สพฺเพปิ ปน ทิพฺพาลงฺกาเร สนฺธาเยวมาห. อเฆติ อปฺปฏิเฆ อากาเส. เวหายสนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. เกน ตฺยาสฺสูนิ วตฺตนฺตีติ เกน การเณน ตว อสฺสูนิ วตฺตนฺติ. กุโตติ าติวิโยคธนวินาสาทีนํ กึ นิสฺสาย ตํ ภยมาคตนฺติ ปุจฺฉติ.
ตโต ¶ เทวราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ตเวว เทว วิชิเต, ภทฺทสาโลติ มํ วิทู;
สฏฺิ วสฺสสหสฺสานิ, ติฏฺโต ปูชิตสฺส เม.
‘‘การยนฺตา นครานิ, อคาเร จ ทิสมฺปติ;
วิวิเธ จาปิ ปาสาเท, น มํ เต อจฺจมฺิสุํ;
ยเถว มํ เต ปูเชสุํ, ตเถว ตฺวมฺปิ ปูชยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ติฏฺโตติ สกลพาราณสินคเรหิ เจว คามนิคเมหิ จ ตยา จ ปูชิตสฺส นิจฺจํ พลิกมฺมฺจ สกฺการฺจ ลภนฺตสฺส มยฺหํ อิมสฺมึ อุยฺยาเน ติฏฺนฺตสฺส เอตฺตโก กาโล คโตติ ทสฺเสติ. นครานีติ นครปฏิสงฺขรณกมฺมานิ. อคาเรจาติ ภูมิเคหานิ. ทิสมฺปตีติ ทิสานํ ¶ ปติ, มหาราช. น มํ เตติ เต นครปฏิสงฺขรณาทีนิ กโรนฺตา อิมสฺมึ นคเร โปราณกราชาโน มํ นาติมฺิสุํ นาติกฺกมึสุ น วิเหยึสุ, มม นิวาสรุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา อตฺตโน กมฺมํ น กรึสุ, มยฺหํ ปน สกฺการเมว กรึสูติ อวจ. ยเถวาติ ตสฺมา ยเถว เต โปราณกราชาโน มํ ปูชยึสุ, เอโกปิ อิมํ รุกฺขํ น ฉินฺทาเปสิ, ตฺวฺจาปิ มํ ตเถว ปูชย, มา เม รุกฺขํ เฉทยีติ.
ตโต ราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ตํ อิวาหํ น ปสฺสามิ, ถูลํ กาเยน เต ทุมํ;
อาโรหปริณาเหน, อภิรูโปสิ ชาติยา.
‘‘ปาสาทํ การยิสฺสามิ, เอกตฺถมฺภํ มโนรมํ;
ตตฺถ ตํ อุปเนสฺสามิ, จิรํ เต ยกฺข ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ กาเยนาติ ปมาเณน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตว ปมาเณน ตํ วิย ถูลํ มหนฺตํ อฺํ ทุมํ น ปสฺสามิ, ตฺวฺเว ปน อาโรหปริณาเหน สุชาตสงฺขาตาย สมสณฺานอุชุภาวปฺปการาย ชาติยา จ อภิรูโป โสภคฺคปฺปตฺโต เอกถมฺภปาสาทารโหติ. ปาสาทนฺติ ตสฺมา ตํ เฉทาเปตฺวา อหํ ปาสาทํ การาเปสฺสาเมว. ตตฺถ ตนฺติ ตํ ¶ ปนาหํ สมฺม เทวราช, ตตฺถ ปาสาเท อุปเนสฺสามิ, โส ตฺวํ มยา สทฺธึ เอกโต วสนฺโต อคฺคคนฺธมาลาทีนิ ลภนฺโต สกฺการปฺปตฺโต สุขํ ชีวิสฺสสิ, นิวาสฏฺานาภาเวน เม วินาโส ภวิสฺสตีติ มา จินฺตยิ, จิรํ เต ยกฺข ชีวิตํ ภวิสฺสตีติ.
ตํ สุตฺวา เทวราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘เอวํ จิตฺตํ อุทปาทิ, สรีเรน วินาภาโว;
ปุถุโส มํ วิกนฺติตฺวา, ขณฺฑโส อวกนฺตถ.
‘‘อคฺเค ¶ จ เฉตฺวา มชฺเฌ จ, ปจฺฉา มูลมฺหิ ฉินฺทถ;
เอวํ เม ฉิชฺชมานสฺส, น ทุกฺขํ มรณํ สิยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ เอวํ จิตฺตํ อุทปาทีติ ยทิ เอวํ จิตฺตํ ตว อุปฺปนฺนํ. สรีเรน วินาภาโวติ ยทิ เต มม สรีเรน ภทฺทสาลรุกฺเขน สทฺธึ มม วินาภาโว ปตฺถิโต. ปุถุโสติ พหุธา. วิกนฺติตฺวาติ ฉินฺทิตฺวา. ขณฺฑโสติ ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา อวกนฺตถ. อคฺเค จาติ อวกนฺตนฺตา ปน ปมํ อคฺเค, ตโต มชฺเฌ เฉตฺวา สพฺพปจฺฉา มูเล ฉินฺทถ. เอวฺหิ เม ฉิชฺชมานสฺส น ทุกฺขํ มรณํ สิยา, สุขํ นุ ขณฺฑโส ภเวยฺยาติ ยาจติ.
ตโต ราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘หตฺถปาทํ ยถา ฉินฺเท, กณฺณนาสฺจ ชีวโต;
ตโต ปจฺฉา สิโร ฉินฺเท, ตํ ทุกฺขํ มรณํ สิยา.
‘‘สุขํ นุ ขณฺฑโส ฉินฺนํ, ภทฺทสาล วนปฺปติ;
กึเหตุ กึ อุปาทาย, ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ หตฺถปาทนฺติ หตฺเถ จ ปาเท จ. ตํ ทุกฺขนฺติ เอวํ ปฏิปาฏิยา ฉิชฺชนฺตสฺส โจรสฺส ตํ มรณํ ทุกฺขํ สิยา. สุขํ นูติ สมฺม ภทฺทสาล, วชฺฌปฺปตฺตา โจรา สุเขน มริตุกามา สีสจฺเฉทํ ยาจนฺติ, น ขณฺฑโส เฉทนํ, ตฺวํ ปน เอวํ ยาจสิ, เตน ตํ ปุจฺฉามิ ‘‘สุขํ นุ ขณฺฑโส ฉินฺน’’นฺติ. กึเหตูติ ขณฺฑโส ฉินฺนํ นาม น สุขํ, การเณน ปเนตฺถ ภวิตพฺพนฺติ ตํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห.
อถสฺส ¶ อาจิกฺขนฺโต ภทฺทสาโล ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ยฺจ เหตุมุปาทาย, เหตุํ ธมฺมูปสํหิตํ;
ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉามิ, มหาราช สุโณหิ เม.
‘‘าตี เม สุขสํวทฺธา, มม ปสฺเส นิวาตชา;
เตปิหํ อุปหึเสยฺย, ปเรสํ อสุโขจิต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ เหตุํ ธมฺมูปสํหิตนฺติ มหาราช, ยํ เหตุสภาวยุตฺตเมว, น เหตุปติรูปกํ, เหตุํ อุปาทาย อารพฺภ สนฺธายาหํ ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉามิ, ตํ โอหิตโสโต สุโณหีติ อตฺโถ. าตี ¶ เมติ มม ภทฺทสาลรุกฺขสฺส ฉายาย สุขสํวทฺธา มม ปสฺเส ตรุณสาลรุกฺเขสุ นิพฺพตฺตา มยา กตวาตปริตฺตาณตฺตา นิวาตชา มม าตกา เทวสงฺฆา อตฺถิ, เต อหํ วิสาลสาขวิฏโป มูเล ฉินฺทิตฺวา ปตนฺโต อุปหึเสยฺยํ, สํภคฺควิมาเน กโรนฺโต วินาเสยฺยนฺติ อตฺโถ. ปเรสํ อสุโขจิตนฺติ เอวํ สนฺเต มยา เตสํ ปเรสํ าติเทวสงฺฆานํ อสุขํ ทุกฺขํ โอจิตํ วฑฺฒิตํ, น จาหํ เตสํ ทุกฺขกาโม, ตสฺมา ภทฺทสาลํ ขณฺฑโส ขณฺฑโส ฉินฺทาเปมีติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ธมฺมิโก วตายํ, เทวปุตฺโต, อตฺตโน วิมานวินาสโตปิ าตีนํ วิมานวินาสํ น อิจฺฉติ, าตีนํ อตฺถจริยํ จรติ, อภยมสฺส ทสฺสามี’’ติ ตุสฺสิตฺวา โอสานคาถมาห –
‘‘เจเตยฺยรูปํ เจเตสิ, ภทฺทสาล วนปฺปติ;
หิตกาโมสิ าตีนํ, อภยํ สมฺม ทมฺมิ เต’’ติ.
ตตฺถ เจเตยฺยรูปํ เจเตสีติ าตีสุ มุทุจิตฺตตาย จินฺเตนฺโต จินฺเตตพฺพยุตฺตกเมว จินฺเตสิ. เฉเทยฺยรูปํ เฉเทสีติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉนฺโต เฉเทตพฺพยุตฺตกเมว เฉเทสีติ. อภยนฺติ เอตสฺมึ เต สมฺม, คุเณ ปสีทิตฺวา อภยํ ททามิ, น เม ปาสาเทนตฺโถ, นาหํ ตํ เฉทาเปสฺสามิ, คจฺฉ าติสงฺฆปริวุโต สกฺกตครุกโต สุขํ ชีวาติ อาห.
เทวราชา ¶ รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา อคมาสิ. ราชา ตสฺโสวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต าตตฺถจริยํ อจริเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ตรุณสาเลสุ นิพฺพตฺตเทวตา พุทฺธปริสา, ภทฺทสาลเทวราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ภทฺทสาลชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๔๖๖] ๓. สมุทฺทวาณิชชาตกวณฺณนา
กสนฺติ ¶ ¶ วปนฺติ เต ชนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส ปฺจ กุลสตานิ คเหตฺวา นิรเย ปติตภาวํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ อคฺคสาวเกสุ ปริสํ คเหตฺวา ปกฺกนฺเตสุ โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุณฺหโลหิเต มุขโต นิกฺขนฺเต พลวเวทนาปีฬิโต ตถาคตสฺส คุณํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘อหเมว นว มาเส ตถาคตสฺส อนตฺถํ จินฺเตสึ, สตฺถุ ปน มยิ ปาปจิตฺตํ นาม นตฺถิ, อสีติมหาเถรานมฺปิ มยิ อาฆาโต นาม นตฺถิ, มยา กตกมฺเมน อหเมว อิทานิ อนาโถ ชาโต, สตฺถาราปิมฺหิ วิสฺสฏฺโ มหาเถเรหิปิ าติเสฏฺเน ราหุลตฺเถเรนปิ สกฺยราชกุเลหิปิ, คนฺตฺวา สตฺถารํ ขมาเปสฺสามี’’ติ ปริสาย สฺํ ทตฺวา อตฺตานํ ปฺจเกน คาหาเปตฺวา รตฺตึ รตฺตึ คจฺฉนฺโต โกสลรฏฺํ สมฺปาปุณิ. อานนฺทตฺเถโร สตฺถุ อาโรเจสิ ‘‘เทวทตฺโต กิร, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ขมาเปตุํ อาคจฺฉตี’’ติ. ‘‘อานนฺท, เทวทตฺโต มม ทสฺสนํ น ลภิสฺสตี’’ติ.
อถ ตสฺมึ สาวตฺถินครทฺวารํ สมฺปตฺเต ปุน เถโร อาโรเจสิ, ภควาปิ ตเถว อวจ. ตสฺส เชตวเน โปกฺขรณิยา สมีปํ อาคตสฺส ปาปํ มตฺถกํ ปาปุณิ, สรีเร ฑาโห อุปฺปชฺชิ, นฺหตฺวา ปานียํ ปิวิตุกาโม หุตฺวา ‘‘มฺจกโต มํ อาวุโส โอตาเรถ, ปานียํ ปิวิสฺสามี’’ติ อาห. ตสฺส โอตาเรตฺวา ภูมิยํ ปิตมตฺตสฺส จิตฺตสฺสาเท อลทฺเธเยว มหาปถวี วิวรมทาสิ. ตาวเทว ตํ อวีจิโต ¶ อคฺคิชาลา อุฏฺาย ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหิ. โส ‘‘ปาปกมฺมํ เม มตฺถกํ ปตฺต’’นฺติ ตถาคตสฺส คุเณ อนุสฺสริตฺวา –
‘‘อิเมหิ อฏฺีหิ ตมคฺคปุคฺคลํ, เทวาติเทวํ นรทมฺมสารถึ;
สมนฺตจกฺขุํ สตปฺุลกฺขณํ, ปาเณหิ พุทฺธํ สรณํ อุเปมี’’ติ. (มิ. ป. ๔.๑.๓) –
อิมาย คาถาย สรเณ ปติฏฺหนฺโต อวีจิปรายโณ อโหสิ. ตสฺส ปน ปฺจ อุปฏฺากกุลสตานิ อเหสุํ. ตานิปิ ตปฺปกฺขิกานิ หุตฺวา ทสพลํ อกฺโกสิตฺวา อวีจิมฺหิเยว นิพฺพตฺตึสุ. เอวํ โส ตานิ ปฺจ กุลสตานิ คณฺหิตฺวา อวีจิมฺหิ ปติฏฺิโต.
อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ปาโป ลาภสกฺการคิทฺธตาย ¶ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺเธ อฏฺาเน โกปํ พนฺธิตฺวา อนาคตภยมโนโลเกตฺวา ปฺจหิ กุลสเตหิ สทฺธึ อวีจิปรายโณ ชาโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น ภิกฺขเว, อิทาเนว เทวทตฺโต ลาภสกฺการคิทฺโธ หุตฺวา อนาคตภยํ น โอโลเกสิ, ปุพฺเพปิ อนาคตภยํ อโนโลเกตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนสุขคิทฺเธน สทฺธึ ปริสาย มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พาราณสิโต อวิทูเร กุลสหสฺสนิวาโส มหาวฑฺฒกีคาโม อโหสิ. ตตฺถ วฑฺฒกี ‘‘ตุมฺหากํ มฺจํ กริสฺสาม, ปีํ กริสฺสาม, เคหํ กริสฺสามา’’ติ วตฺวา มนุสฺสานํ หตฺถโต พหุํ อิณํ คเหตฺวา กิฺจิ กาตุํ น สกฺขึสุ. มนุสฺสา ทิฏฺทิฏฺเ วฑฺฒกี โจเทนฺติ ปลิพุทฺธนฺติ. เต อิณายิเกหิ อุปทฺทุตา สุขํ วสิตุํ อสกฺโกนฺตา ‘‘วิเทสํ คนฺตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสิสฺสามา’’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา มหตึ นาวํ พนฺธิตฺวา นทึ โอตาเรตฺวา อาหริตฺวา คามโต คาวุตฑฺฒโยชนมตฺเต าเน เปตฺวา อฑฺฒรตฺตสมเย คามํ อาคนฺตฺวา ปุตฺตทารมาทาย นาวฏฺานํ คนฺตฺวา นาวํ ¶ อารุยฺห อนุกฺกเมน มหาสมุทฺทํ ปวิสิตฺวา วาตเวเคน วิจรนฺตา สมุทฺทมชฺเฌ เอกํ ทีปกํ ปาปุณึสุ. ตสฺมึ ปน ทีปเก สยํชาตสาลิอุจฺฉุกทลิอมฺพชมฺพุปนสตาลนาฬิเกราทีนิ วิวิธผลานิ อตฺถิ, อฺตโร ปภินฺนนาโว ปุริโส ปมตรํ ตํ ทีปกํ ปตฺวา สาลิภตฺตํ ภฺุชมาโน อุจฺฉุอาทีนิ ขาทมาโน ถูลสรีโร นคฺโค ปรูฬฺหเกสมสฺสุ ตสฺมึ ทีปเก ปฏิวสติ.
วฑฺฒกี จินฺตยึสุ ‘‘สเจ อยํ ทีปโก รกฺขสปริคฺคหิโต ภวิสฺสติ, สพฺเพปิ อมฺเห วินาสํ ปาปุณิสฺสาม, ปริคฺคณฺหิสฺสาม ตาว น’’นฺติ. อถ สตฺตฏฺ ปุริสา สูรา พลวนฺโต ¶ สนฺนทฺธปฺจาวุธา หุตฺวา โอตริตฺวา ทีปกํ ปริคฺคณฺหึสุ. ตสฺมึ ขเณ โส ปุริโส ภุตฺตปาตราโส อุจฺฉุรสํ ปิวิตฺวา สุขปฺปตฺโต รมณีเย ปเทเส รชตปฏฺฏสทิเส วาลุกตเล สีตจฺฉายาย อุตฺตานโก นิปชฺชิตฺวา ‘‘ชมฺพุทีปวาสิโน กสนฺตา วปนฺตา เอวรูปํ สุขํ น ลภนฺติ, ชมฺพุทีปโต มยฺหํ อยเมว ทีปโก วร’’นฺติ คายมาโน อุทานํ อุทาเนสิ. อถ สตฺถา ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘โส ภิกฺขเว ปุริโส อิมํ อุทานํ อุทาเนสี’’ติ ทสฺเสนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กสนฺติ วปนฺติ เต ชนา, มนุชา กมฺมผลูปชีวิโน;
นยิมสฺส ทีปกสฺส ภาคิโน, ชมฺพุทีปา อิทเมว โน วร’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ เต ชนาติ เต ชมฺพุทีปวาสิโน ชนา. กมฺมผลูปชีวิโนติ นานากมฺมานํ ผลูปชีวิโน สตฺตา.
อถ เต ทีปกํ ปริคฺคณฺหนฺตา ปุริสา ตสฺส คีตสทฺทํ สุตฺวา ‘‘มนุสฺสสทฺโท วิย สุยฺยติ, ชานิสฺสาม น’’นฺติ สทฺทานุสาเรน คนฺตฺวา ตํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘ยกฺโข ภวิสฺสตี’’ติ ภีตตสิตา สเร สนฺนหึสุ. โสปิ เต ทิสฺวา อตฺตโน วธภเยน ‘‘นาหํ, สามิ, ยกฺโข, ปุริโสมฺหิ, ชีวิตํ เม เทถา’’ติ ยาจนฺโต ‘‘ปุริสา นาม ตุมฺหาทิสา นคฺคา น โหนฺตี’’ติ วุตฺเต ปุนปฺปุนํ ยาจิตฺวา มนุสฺสภาวํ วิฺาเปสิ. เต ตํ ปุริสํ อุปสงฺกมิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ สุตฺวา ตสฺส ตตฺถ อาคตนิยามํ ปุจฺฉึสุ. โสปิ สพฺพํ เตสํ กเถตฺวา ‘‘ตุมฺเห อตฺตโน ปฺุสมฺปตฺติยา อิธาคตา ¶ , อยํ อุตฺตมทีโป, น เอตฺถ สหตฺเถน กมฺมํ กตฺวา ชีวนฺติ, สยํชาตสาลีนฺเจว อุจฺฉุอาทีนฺเจตฺถ อนฺโต นตฺถีติ อนุกฺกณฺนฺตา วสถา’’ติ อาห. อิธ ปน วสนฺตานํ อมฺหากํ อฺโ ปริปนฺโถ ¶ นตฺถิ, อฺํ ภยํ เอตฺถ นตฺถิ, อยํ ปน อมนุสฺสปริคฺคหิโต, อมนุสฺสา ตุมฺหากํ อุจฺจารปสฺสาวํ ทิสฺวา กุชฺเฌยฺยุํ, ตสฺมา ตํ กโรนฺตา วาลุกํ วิยูหิตฺวา วาลุกาย ปฏิจฺฉาเทยฺยาถ, เอตฺตกํ อิธ ภยํ, อฺํ นตฺถิ, นิจฺจํ อปฺปมตฺตา ภเวยฺยาถาติ. เต ตตฺถ วาสํ อุปคจฺฉึสุ. ตสฺมึ ปน กุลสหสฺเส ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ กุลสตานํ เชฏฺกา ทฺเว วฑฺฒกี อเหสุํ. เตสุ เอโก พาโล อโหสิ รสคิทฺโธ, เอโก ปณฺฑิโต รเสสุ อนลฺลีโน.
อปรภาเค สพฺเพปิ เต ตตฺถ สุขํ วสนฺตา ถูลสรีรา หุตฺวา จินฺตยึสุ ‘‘จิรํ ปีตา โน สุรา, อุจฺฉุรเสน เมรยํ กตฺวา ปิวิสฺสามา’’ติ. เต เมรยํ กาเรตฺวา ปิวิตฺวา มทวเสน คายนฺตา นจฺจนฺตา กีฬนฺตา ปมตฺตา ตตฺถ ตตฺถ อุจฺจารปสฺสาวํ กตฺวา อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา ทีปกํ เชคุจฺฉํ ปฏิกูลํ กรึสุ. เทวตา ‘‘อิเม อมฺหากํ กีฬามณฺฑลํ ปฏิกูลํ กโรนฺตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘มหาสมุทฺทํ อุตฺตราเปตฺวา ทีปกโธวนํ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา ‘‘อยํ กาฬปกฺโข, อชฺช อมฺหากํ สมาคโม จ ภินฺโน, อิโต ทานิ ปนฺนรสเม ทิวเส ปุณฺณมีอุโปสถทิวเส จนฺทสฺสุคฺคมนเวลาย สมุทฺทํ อุพฺพตฺเตตฺวา สพฺเพปิเม ฆาเตสฺสามา’’ติ ทิวสํ ปยึสุ. อถ เนสํ อนฺตเร เอโก ธมฺมิโก เทวปุตฺโต ‘‘มา อิเม มม ปสฺสนฺตสฺส นสฺสึสู’’ติ อนุกมฺปาย เตสุ สายมาสํ ภฺุชิตฺวา ฆรทฺวาเร สุขกถาย นิสินฺเนสุ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สกลทีปํ เอโกภาสํ กตฺวา อุตฺตราย ทิสาย อากาเส ตฺวา ‘‘อมฺโภ วฑฺฒกี, เทวตา ตุมฺหากํ กุทฺธา. อิมสฺมึ าเน มา วสิตฺถ, อิโต อฑฺฒมาสจฺจเยน หิ เทวตา สมุทฺทํ อุพฺพตฺเตตฺวา ¶ สพฺเพว ตุมฺเห ฆาเตสฺสนฺติ, อิโต นิกฺขมิตฺวา ปลายถา’’ติ วตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ติปฺจรตฺตูปคตมฺหิ ¶ จนฺเท, เวโค มหา เหหิติ สาครสฺส;
อุปฺลวิสฺสํ ทีปมิมํ อุฬารํ, มา โว วธี คจฺฉถ เลณมฺ’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อุปฺลวิสฺสนฺติ อิมํ ทีปกํ อุปฺลวนฺโต อชฺโฌตฺถรนฺโต อภิภวิสฺสติ. มา โว วธีติ โส สาครเวโค ตุมฺเห มา วธิ.
อิติ โส เตสํ โอวาทํ ทตฺวา อตฺตโน านเมว คโต. ตสฺมึ คเต อปโร สาหสิโก กกฺขโฬ เทวปุตฺโต ‘‘อิเม อิมสฺส วจนํ คเหตฺวา ปลาเยยฺยุํ, อหํ เนสํ คมนํ นิวาเรตฺวา สพฺเพปิเม มหาวินาสํ ปาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สกลทีปํ เอโกภาสํ กโรนฺโต อาคนฺตฺวา ทกฺขิณาย ทิสาย อากาเส ตฺวา ‘‘เอโก เทวปุตฺโต อิธาคโต, โน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาคโต’’ติ วุตฺเต ‘‘โส โว กึ กเถสี’’ติ วตฺวา ‘‘อิมํ นาม, สามี’’ติ วุตฺเต ‘‘โส ตุมฺหากํ อิธ นิวาสํ น อิจฺฉติ, โทเสน กเถติ, ตุมฺเห อฺตฺถ อคนฺตฺวา อิเธว วสถา’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘น ชาตุยํ สาครวาริเวโค, อุปฺลวิสฺสํ ทีปมิมํ อุฬารํ;
ตํ เม นิมิตฺเตหิ พหูหิ ทิฏฺํ, มา เภถ กึ โสจถ โมทถวฺโห.
‘‘ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ, ปตฺตตฺถ อาวาสมิมํ อุฬารํ;
น โว ภยํ ปฏิปสฺสามิ กิฺจิ, อาปุตฺตปุตฺเตหิ ปโมทถวฺโห’’ติ.
ตตฺถ ¶ น ชาตุยนฺติ น ชาตุ อยํ. มา เภถาติ มา ภายิตฺถ. โมทถวฺโหติ ปโมทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา โหถ. อาปุตฺตปุตฺเตหีติ ยาว ปุตฺตานมฺปิ ปุตฺเตหิ ปโมทถ, นตฺถิ โว อิมสฺมึ าเน ภยนฺติ.
เอวํ โส อิมาหิ ทฺวีหิ คาถาหิ เต อสฺสาเสตฺวา ปกฺกามิ. ตสฺส ปกฺกนฺตกาเล ธมฺมิกเทวปุตฺตสฺส วจนํ อนาทิยนฺโต พาลวฑฺฒกี ‘‘สุณนฺตุ เม, โภนฺโต, วจน’’นฺติ เสสวฑฺฒกี อามนฺเตตฺวา ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘โย ¶ เทโวยํ ทกฺขิณายํ ทิสายํ, เขมนฺติ ปกฺโกสติ ตสฺส สจฺจํ;
น อุตฺตโร เวทิ ภยาภยสฺส, มา เภถ กึ โสจถ โมทถวฺโห’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทกฺขิณายนฺติ ทกฺขิณาย, อยเมว วา ปาโ.
ตํ สุตฺวา รสคิทฺธา ปฺจสตา วฑฺฒกี ตสฺส พาลสฺส วจนํ อาทิยึสุ. อิตโร ปน ปณฺฑิตวฑฺฒกี ตสฺส วจนํ อนาทิยนฺโต เต วฑฺฒกี อามนฺเตตฺวา จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ยถา อิเม วิปฺปวทนฺติ ยกฺขา, เอโก ภยํ สํสติ เขมเมโก;
ตทิงฺฆ มยฺหํ วจนํ สุณาถ, ขิปฺปํ ลหุํ มา วินสฺสิมฺห สพฺเพ.
‘‘สพฺเพ สมาคมฺม กโรม นาวํ, โทณึ ทฬฺหํ สพฺพยนฺตูปปนฺนํ;
สเจ อยํ ทกฺขิโณ สจฺจมาห, โมฆํ ปฏิกฺโกสติ อุตฺตโรยํ;
สา เจว โน เหหิติ อาปทตฺถา, อิมฺจ ทีปํ น ปริจฺจเชม.
‘‘สเจ จ โข อุตฺตโร สจฺจมาห, โมฆํ ปฏิกฺโกสติ ทกฺขิโณยํ;
ตเมว ¶ นาวํ อภิรุยฺห สพฺเพ, เอวํ มยํ โสตฺถิ ตเรมุ ปารํ.
‘‘น เว สุคณฺหํ ปเมน เสฏฺํ, กนิฏฺมาปาถคตํ คเหตฺวา;
โย จีธ ตจฺฉํ ปวิเจยฺย คณฺหติ, ส เว นโร เสฏฺมุเปติ าน’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ วิปฺปวทนฺตีติ อฺมฺํ วิรุทฺธํ วทนฺติ. ลหุนฺติ ปุริมสฺส อตฺถทีปนํ. โทณินฺติ คมฺภีรํ มหานาวํ. สพฺพยนฺตูปปนฺนนฺติ สพฺเพหิ ผิยาริตฺตาทีหิ ยนฺเตหิ อุปปนฺนํ. สา เจว โน เหหิติ อาปทตฺถาติ สา จ โน นาวา ปจฺฉาปิ อุปฺปนฺนาย อาปทาย อตฺถา ภวิสฺสติ, อิมฺจ ทีปํ น ปริจฺจชิสฺสาม. ตเรมูติ ตริสฺสาม. น เว สุคณฺหนฺติ น เว สุเขน คณฺหิตพฺพํ. เสฏฺนฺติ อุตฺตมํ ตถํ สจฺจํ. กนิฏฺนฺติ ปมวจนํ อุปาทาย ปจฺฉิมวจนํ กนิฏฺํ นาม. อิธาปิ ‘‘น เว สุคณฺห’’นฺติ อนุวตฺตเตว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺโภ วฑฺฒกี, เยน เกนจิ ปเมน วุตฺตวจนํ ‘‘อิทเมว เสฏฺํ ตถํ สจฺจ’’นฺติ สุขํ น คณฺหิตพฺพเมว, ยถา จ ตํ, เอวํ กนิฏฺํ คจฺฉา วุตฺตวจนมฺปิ ‘‘อิทเมว ตถํ สจฺจ’’นฺติ น คณฺหิตพฺพํ. ยํ ปน โสตวิสยํ อาปาถคตํ โหติ, ตํ อาปาถคตํ คเหตฺวา โย อิธ ปณฺฑิตปุริโส ปุริมวจนฺจ ปจฺฉิมวจนฺจ ปวิเจยฺย วิจินิตฺวา ตีเรตฺวา อุปปริกฺขิตฺวา ตจฺฉํ คณฺหาติ, ยํ ตถํ สจฺจํ สภาวภูตํ, ตเทว ปจฺจกฺขํ กตฺวา คณฺหาติ. ส เว นโร เสฏฺมุเปติ านนฺติ โส อุตฺตมํ านํ อุเปติ อธิคจฺฉติ วินฺทติ ลภตีติ.
โส ¶ เอวฺจ ปน วตฺวา อาห – ‘‘อมฺโภ, มยํ ทฺวินฺนมฺปิ เทวตานํ วจนํ กริสฺสาม, นาวํ ตาว สชฺเชยฺยาม. สเจ ปมสฺส วจนํ สจฺจํ ภวิสฺสติ, ตํ นาวํ อภิรุหิตฺวา ปลายิสฺสาม, อถ อิตรสฺส วจนํ สจฺจํ ภวิสฺสติ, นาวํ เอกมนฺเต เปตฺวา อิเธว วสิสฺสามา’’ติ. เอวํ วุตฺเต พาลวฑฺฒกี ‘‘อมฺโภ, ตฺวํ อุทกปาติยํ ¶ สุสุมารํ ปสฺสสิ, อตีว ทีฆํ ปสฺสสิ, ปมเทวปุตฺโต อมฺเหสุ โทสวเสน กเถสิ, ปจฺฉิโม สิเนเหเนว, อิมํ เอวรูปํ วรทีปํ ปหาย กุหึ คมิสฺสาม, สเจ ปน ตฺวํ คนฺตุกาโม, ตว ปริสํ คณฺหิตฺวา นาวํ กโรหิ, อมฺหากํ นาวาย กิจฺจํ นตฺถี’’ติ อาห. ปณฺฑิโต อตฺตโน ปริสํ คเหตฺวา นาวํ สชฺเชตฺวา นาวาย สพฺพูปกรณานิ อาโรเปตฺวา สปริโส นาวาย อฏฺาสิ.
ตโต ปุณฺณมทิวเส จนฺทสฺส อุคฺคมนเวลาย สมุทฺทโต อูมิ อุตฺตริตฺวา ชาณุกปมาณา หุตฺวา ทีปกํ โธวิตฺวา คตา. ปณฺฑิโต สมุทฺทสฺส อุตฺตรณภาวํ ตฺวา นาวํ วิสฺสชฺเชสิ. พาลวฑฺฒกิปกฺขิกานิ ปฺจ กุลสตานิ ‘‘สมุทฺทโต อูมิ ทีปโธวนตฺถาย อาคตา, เอตฺตกเมว เอต’’นฺติ กเถนฺตา ¶ นิสีทึสุ. ตโต ปฏิปาฏิยา กฏิปฺปมาณา ปุริสปฺปมาณา ตาลปฺปมาณา สตฺตตาลปฺปมาณา สาครอูมิ ทีปกมฺปิ วุยฺหมานา อาคฺฉิ. ปณฺฑิโต อุปายกุสลตาย รเส อลคฺโค โสตฺถินา คโต, พาลวฑฺฒกี รสคิทฺเธน อนาคตภยํ อโนโลเกนฺโต ปฺจหิ กุลสเตหิ สทฺธึ วินาสํ ปตฺโต.
อิโต ปรา สานุสาสนี ตมตฺถํ ทีปยมานา ติสฺโส อภิสมฺพุทฺธคาถา โหนฺติ –
‘‘ยถาปิ เต สาครวาริมชฺเฌ, สกมฺมุนา โสตฺถิ วหึสุ วาณิชา;
อนาคตตฺถํ ปฏิวิชฺฌิยาน, อปฺปมฺปิ นาจฺเจติ ส ภูริปฺโ.
‘‘พาลา จ โมเหน รสานุคิทฺธา, อนาคตํ อปฺปฏิวิชฺฌิยตฺถํ;
ปจฺจุปฺปนฺเน สีทนฺติ อตฺถชาเต, สมุทฺทมชฺเฌ ยถา เต มนุสฺสา.
‘‘อนาคตํ ¶ ปฏิกยิราถ กิจฺจํ, ‘มา มํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธสิ’;
ตํ ตาทิสํ ปฏิกตกิจฺจการึ, น ตํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธตี’’ติ.
ตตฺถ สกมฺมุนาติ อนาคตภยํ ทิสฺวา ปุเรตรํ กเตน อตฺตโน กมฺเมน. โสตฺถิ วหึสูติ เขเมน คมึสุ. วาณิชาติ สมุทฺเท วิจรณภาเวน วฑฺฒกี วุตฺตา. ปฏิวิชฺฌิยานาติ เอวํ, ภิกฺขเว ¶ , ปมตรํ กตฺตพฺพํ อนาคตํ อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อิธโลเก ภูริปฺโ กุลปุตฺโต อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺตโน อตฺถํ น อจฺเจติ นาติวตฺตติ, น หาเปตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิวิชฺฌิยตฺถนฺติ อปฺปฏิวิชฺฌิตฺวา อตฺถํ, ปมเมว กตฺตพฺพํ อกตฺวาติ อตฺโถ. ปจฺจุปฺปนฺเนติ ยทา ตํ อนาคตํ อตฺถชาตํ อุปฺปชฺชติ, ตทา ตสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺเน สีทนฺติ, อตฺเถ ชาเต อตฺตโน ปติฏฺํ น ลภนฺติ, สมุทฺเท เต พาลวฑฺฒกี มนุสฺสา วิย วินาสํ ปาปุณนฺติ.
อนาคตนฺติ ¶ ภิกฺขเว, ปณฺฑิตปุริโส อนาคตํ ปมตรํ กตฺตพฺพกิจฺจํ สมฺปรายิกํ วา ทิฏฺธมฺมิกํ วา ปฏิกยิราถ, ปุเรตรเมว กเรยฺย. กึการณา? มา มํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธสิ, ปุเร กตฺตพฺพฺหิ ปุเร อกยิรมานํ ปจฺฉา ปจฺจุปฺปนฺนภาวปฺปตฺตํ อตฺตโน กิจฺจกาเล กายจิตฺตาพาเธน พฺยเธติ, ตํ มํ มา พฺยเธสีติ ปมเมว นํ ปณฺฑิโต กเรยฺย. ตํ ตาทิสนฺติ ยถา ปณฺฑิตํ ปุริสํ. ปฏิกตกิจฺจการินฺติ ปฏิกจฺเจว กตฺตพฺพกิจฺจการินํ. ตํ กิจฺจํ กิจฺจกาเลติ อนาคตํ กิจฺจํ กยิรมานํ ปจฺฉา ปจฺจุปฺปนฺนภาวปฺปตฺตํ อตฺตโน กิจฺจกาเล กายจิตฺตาพาธกาเล ตาทิสํ ปุริมํ น พฺยเธติ น พาธติ. กสฺมา? ปุเรเยว กตตฺตาติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต ปจฺจุปฺปนฺนสุเข ลคฺโค อนาคตภยํ อโนโลเกตฺวา สปริโส วินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พาลวฑฺฒกี เทวทตฺโต อโหสิ, ทกฺขิณทิสาย ิโต อธมฺมิกเทวปุตฺโต โกกาลิโก, อุตฺตรทิสาย ิโต ธมฺมิกเทวปุตฺโต สาริปุตฺโต, ปณฺฑิตวฑฺฒกี ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
สมุทฺทวาณิชชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๔๖๗] ๔. กามชาตกวณฺณนา
กามํ ¶ กามยมานสฺสาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิ. เอโก กิร สาวตฺถิวาสี พฺราหฺมโณ อจิรวตีตีเร เขตฺตกรณตฺถาย อรฺํ โกเฏสิ. สตฺถา ตสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต มคฺคา โอกฺกมฺม เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘กึ กโรสิ พฺราหฺมณา’’ติ วตฺวา ‘‘เขตฺตฏฺานํ โกฏาเปมิ โภ, โคตมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กโรหี’’ติ วตฺวา อคมาสิ. เอเตเนว อุปาเยน ฉินฺนรุกฺเข หาเรตฺวา เขตฺตสฺส โสธนกาเล กสนกาเล เกทารพนฺธนกาเล วปนกาเลติ ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ ¶ ปฏิสนฺถารมกาสิ. วปนทิวเส ปน โส พฺราหฺมโณ ‘‘อชฺช, โภ โคตม, มยฺหํ วปฺปมงฺคลํ, อหํ อิมสฺมึ สสฺเส นิปฺผนฺเน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ มหาทานํ ทสฺสามี’’ติ อาห. สตฺถา ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสตฺวา ปกฺกามิ. ปุเนกทิวสํ พฺราหฺมโณ สสฺสํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. สตฺถาปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘กึ กโรสิ พฺราหฺมณา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สสฺสํ โอโลเกมิ โภ โคตมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ พฺราหฺมณา’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ. ตทา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘สมโณ โคตโม อภิณฺหํ อาคจฺฉติ, นิสฺสํสยํ ภตฺเตน อตฺถิโก, ทสฺสามหํ ตสฺส ภตฺต’’นฺติ. ตสฺเสวํ จินฺเตตฺวา เคหํ คตทิวเส สตฺถาปิ ตตฺถ อคมาสิ. อถ พฺราหฺมณสฺส อติวิย วิสฺสาโส อโหสิ. อปรภาเค ปริณเต สสฺเส ‘‘สฺเว เขตฺตํ ลายิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา นิปนฺเน พฺราหฺมเณ อจิรวติยา อุปริ สพฺพรตฺตึ กรกวสฺสํ วสฺสิ. มโหโฆ อาคนฺตฺวา เอกนาฬิมตฺตมฺปิ อนวเสสํ กตฺวา สพฺพํ สสฺสํ สมุทฺทํ ปเวเสสิ. พฺราหฺมโณ โอฆมฺหิ ปติเต สสฺสวินาสํ โอโลเกตฺวา สกภาเวน สณฺาตุํ นาโหสิ, พลวโสกาภิภูโต หตฺเถน อุรํ ปหริตฺวา ปริเทวมาโน โรทนฺโต นิปชฺชิ.
สตฺถา ปจฺจูสสมเย โสกาภิภูตํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา ‘‘พฺราหฺมณสฺสาวสฺสโย ภวิสฺสามี’’ติ ปุนทิวเส สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ภิกฺขู วิหารํ เปเสตฺวา ปจฺฉาสมเณน สทฺธึ ตสฺส เคหทฺวารํ อคมาสิ. พฺราหฺมโณ สตฺถุ อาคตภาวํ ¶ สุตฺวา ‘‘ปฏิสนฺถารตฺถาย เม สหาโย อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ปฏิลทฺธสฺสาโส อาสนํ ปฺเปสิ. สตฺถา ปวิสิตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, กสฺมา ตฺวํ ทุมฺมโนสิ, กึ เต อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. โภ โคตม, อจิรวตีตีเร มยา รุกฺขจฺเฉทนโต ปฏฺาย กตํ กมฺมํ ตุมฺเห ชานาถ, อหํ ‘‘อิมสฺมึ สสฺเส นิปฺผนฺเน ตุมฺหากํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ วิจรามิ, อิทานิ เม สพฺพํ ตํ สสฺสํ มโหโฆ สมุทฺทเมว ปเวเสสิ, กิฺจิ อวสิฏฺํ นตฺถิ, สกฏสตมตฺตํ ธฺํ วินฏฺํ, เตน เม มหาโสโก อุปฺปนฺโนติ. ‘‘กึ ปน, พฺราหฺมณ, โสจนฺตสฺส นฏฺํ ปุนาคจฺฉตี’’ติ. ‘‘โน เหตํ โภ โคตมา’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต กสฺมา โสจสิ, อิเมสํ สตฺตานํ ธนธฺํ นาม อุปฺปชฺชนกาเล อุปฺปชฺชติ, นสฺสนกาเล นสฺสติ, กิฺจิ สงฺขารคตํ อนสฺสนธมฺมํ นาม นตฺถิ, มา จินฺตยี’’ติ. อิติ นํ สตฺถา สมสฺสาเสตฺวา ตสฺส สปฺปายธมฺมํ เทเสนฺโต กามสุตฺตํ (สุ. นิ. ๗๗๒ อาทโย) กเถสิ. สุตฺตปริโยสาเน ¶ โสจนฺโต พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. สตฺถา ตํ นิสฺโสกํ กตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ อคมาสิ. ‘‘สตฺถา อสุกํ นาม พฺราหฺมณํ โสกสลฺลสมปฺปิตํ นิสฺโสกํ กตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปสี’’ติ สกลนครํ อฺาสิ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, ทสพโล พฺราหฺมเณน สทฺธึ มิตฺตํ กตฺวา วิสฺสาสิโก หุตฺวา อุปาเยเนว ตสฺส โสกสลฺลสมปฺปิตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ตํ ¶ นิสฺโสกํ กตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ เอตํ นิสฺโสกมกาสิ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺตสฺส รฺโ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. โส เชฏฺกสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ, กนิฏฺสฺส เสนาปติฏฺานํ. อปรภาเค พฺรหฺมทตฺเต กาลกเต อมจฺจา เชฏฺกสฺส อภิเสกํ ปฏฺเปสุํ. โส ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, กนิฏฺสฺส เม เทถา’’ติ วตฺวา ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโนปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา กนิฏฺสฺส อภิเสเก กเต ‘‘น เม อิสฺสริเยนตฺโถ’’ติ อุปรชฺชาทีนิปิ น อิจฺฉิ. ‘‘เตน หิ สาทูนิ โภชนานิ ภฺุชนฺโต อิเธว วสาหี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘น เม อิมสฺมึ นคเร กิจฺจํ อตฺถี’’ติ พาราณสิโต ¶ นิกฺขมิตฺวา ปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา เอกํ เสฏฺิกุลํ นิสฺสาย สหตฺเถน กมฺมํ กโรนฺโต วสิ. เต อปรภาเค ตสฺส ราชกุมารภาวํ ตฺวา กมฺมํ กาตุํ นาทํสุ, กุมารปริหาเรเนว ตํ ปริหรึสุ. อปรภาเค ราชกมฺมิกา เขตฺตปฺปมาณคฺคหณตฺถาย ตํ คามํ อคมํสุ. เสฏฺิ ราชกุมารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘สามิ, มยํ ตุมฺเห โปเสม, กนิฏฺภาติกสฺส ปณฺณํ เปเสตฺวา อมฺหากํ พลึ หาเรถา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ อสุกเสฏฺิกุลํ นาม อุปนิสฺสาย วสามิ, มํ นิสฺสาย เอเตสํ พลึ วิสฺสชฺเชหี’’ติ ปณฺณํ เปเสสิ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ตถา กาเรสิ.
อถ นํ สกลคามวาสิโนปิ ชนปทวาสิโนปิ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มยํ ตุมฺหากฺเว พลึ ทสฺสาม, อมฺหากมฺปิ สุงฺกํ วิสฺสชฺชาเปหี’’ติ อาหํสุ. โส เตสมฺปิ อตฺถาย ปณฺณํ เปเสตฺวา วิสฺสชฺชาเปสิ. ตโต ¶ ปฏฺาย เต ตสฺเสว พลึ อทํสุ. อถสฺส มหาลาภสกฺกาโร อโหสิ, เตน สทฺธิฺเวสฺส ตณฺหาปิ มหตี ชาตา. โส อปรภาเคปิ สพฺพํ ชนปทํ ยาจิ, อุปฑฺฒรชฺชํ ยาจิ, กนิฏฺโปิ ตสฺส อทาสิเยว. โส ตณฺหาย วฑฺฒมานาย อุปฑฺฒรชฺเชนปิ อสนฺตุฏฺโ ‘‘รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ชนปทปริวุโต ตํ นครํ คนฺตฺวา พหินคเร ตฺวา ‘‘รชฺชํ วา เม เทตุ ยุทฺธํ วา’’ติ กนิฏฺสฺส ปณฺณํ ปหิณิ. กนิฏฺโ จินฺเตสิ ‘‘อยํ พาโล ปุพฺเพ รชฺชมฺปิ อุปรชฺชาทีนิปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ‘ยุทฺเธน คณฺหามี’ติ วทติ, สเจ โข ปนาหํ อิมํ ยุทฺเธน มาเรสฺสามิ, ครหา เม ภวิสฺสติ, กึ เม รชฺเชนา’’ติ. อถสฺส ‘‘อลํ ยุทฺเธน, รชฺชํ คณฺหตู’’ติ เปเสสิ. โส รชฺชํ คณฺหิตฺวา กนิฏฺสฺส อุปรชฺชํ ทตฺวา ตโต ปฏฺาย รชฺชํ กาเรนฺโต ตณฺหาวสิโก หุตฺวา เอเกน รชฺเชน อสนฺตุฏฺโ ทฺเว ตีณิ รชฺชานิ ปตฺเถตฺวา ¶ ตณฺหาย โกฏึ นาทฺทส.
ตทา ¶ สกฺโก เทวราชา ‘‘เก นุ โข โลเก มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ, เก ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรนฺติ, เก ตณฺหาวสิกา’’ติ โอโลเกนฺโต ตสฺส ตณฺหาวสิกภาวํ ตฺวา ‘‘อยํ พาโล พาราณสิรชฺเชนปิ น ตุสฺสติ, อหํ สิกฺขาเปสฺสามิ น’’นฺติ มาณวกเวเสน ราชทฺวาเร ตฺวา ‘‘เอโก อุปายกุสโล มาณโว ทฺวาเร ิโต’’ติ อาโรจาเปตฺวา ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ ชยาเปตฺวา ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาราช ตุมฺหากํ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, รโห ปจฺจาสีสามี’’ติ อาห. สกฺกานุภาเวน ตาวเทว มนุสฺสา ปฏิกฺกมึสุ. อถ นํ มาณโว ‘‘อหํ, มหาราช, ผีตานิ อากิณฺณมนุสฺสานิ สมฺปนฺนพลวาหนานิ ตีณิ นครานิ ปสฺสามิ, อหํ เต อตฺตโน อานุภาเวน เตสุ รชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสามิ, ปปฺจํ อกตฺวา สีฆํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. โส ตณฺหาวสิโก ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สกฺกานุภาเวน ‘‘โก วา ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กึ วา เต ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ น ปุจฺฉิ. โสปิ เอตฺตกํ วตฺวา ตาวตึสภวนเมว อคมาสิ.
ราชา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอโก มาณโว ‘อมฺหากํ ตีณิ รชฺชานิ คเหตฺวา ทสฺสามี’ติ อาห, ตํ ปกฺโกสถ, นคเร เภรึ จราเปตฺวา ¶ พลกายํ สนฺนิปาตาเปถ, ปปฺจํ อกตฺวา ตีณิ รชฺชานิ คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กึ ปน เต, มหาราช, ตสฺส มาณวสฺส สกฺกาโร วา กโต, นิวาสฏฺานํ วา ปุจฺฉิต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เนว สกฺการํ อกาสึ, น นิวาสฏฺานํ ปุจฺฉึ, คจฺฉถ นํ อุปธาเรถา’’ติ อาห. อุปธาเรนฺตา นํ อทิสฺวา ‘‘มหาราช, สกลนคเร มาณวํ น ปสฺสามา’’ติ อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา ราชา โทมนสฺสชาโต ‘‘ตีสุ นคเรสุ รชฺชํ นฏฺํ, มหนฺเตนมฺหิ ยเสน ปริหีโน, ‘เนว เม ปริพฺพยํ อทาสิ, น จ ปุจฺฉิ นิวาสฏฺาน’นฺติ มยฺหํ กุชฺฌิตฺวา มาณโว ¶ อนาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ปุนปฺปุนํ จินฺเตสิ. อถสฺส ตณฺหาวสิกสฺส สรีเร ฑาโห อุปฺปชฺชิ, สรีเร ปริฑยฺหนฺเต อุทรํ โขเภตฺวา โลหิตปกฺขนฺทิกา อุทปาทิ. เอกํ ภาชนํ ปวิสติ, เอกํ นิกฺขมติ, เวชฺชา ติกิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ, ราชา กิลมติ. อถสฺส พฺยาธิตภาโว สกลนคเร ปากโฏ อโหสิ.
ตทา โพธิสตฺโต ตกฺกสิลโต สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา พาราณสินคเร มาตาปิตูนํ สนฺติกํ อาคโต ตํ รฺโ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อหํ ติกิจฺฉิสฺสามี’’ติ ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘เอโก กิร ตรุณมาณโว ตุมฺเห ติกิจฺฉิตุํ อาคโต’’ติ อาโรจาเปสิ. ราชา ‘‘มหนฺตมหนฺตา ทิสาปาโมกฺขเวชฺชาปิ มํ ติกิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ, กึ ตรุณมาณโว สกฺขิสฺสติ, ปริพฺพยํ ทตฺวา วิสฺสชฺเชถ น’’นฺติ อาห. ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘มยฺหํ เวชฺชกมฺเมน เวตนํ นตฺถิ, อหํ ติกิจฺฉามิ, เกวลํ เภสชฺชมูลมตฺตํ เทตู’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ¶ ราชา ‘‘สาธู’’ติ ปกฺโกสาเปสิ. มาณโว ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ เต ติกิจฺฉามิ, อปิจ โข ปน เม โรคสฺส สมุฏฺานํ อาจิกฺขาหี’’ติ อาห. ราชา หรายมาโน ‘‘กึ เต สมุฏฺาเนน, เภสชฺชํ เอว กโรหี’’ติ อาห. มหาราช, เวชฺชา นาม ‘‘อยํ พฺยาธิ อิมํ นิสฺสาย สมุฏฺิโต’’ติ ตฺวา อนุจฺฉวิกํ เภสชฺชํ กโรนฺตีติ. ราชา ‘‘สาธุ ตาตา’’ติ สมุฏฺานํ กเถนฺโต ‘‘เอเกน มาณเวน อาคนฺตฺวา ตีสุ นคเรสุ รชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสามี’’ติอาทึ กตฺวา สพฺพํ กเถตฺวา ‘‘อิติ เม ตาต, ตณฺหํ นิสฺสาย พฺยาธิ อุปฺปนฺโน, สเจ ติกิจฺฉิตุํ สกฺโกสิ, ติกิจฺฉาหี’’ติ อาห. กึ ปน มหาราช, โสจนาย ตานิ นครานิ สกฺกา ลทฺธุนฺติ? ‘‘น สกฺกา ตาตา’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต กสฺมา โสจสิ, มหาราช, สพฺพเมว หิ สวิฺาณกาวิฺาณกวตฺถุํ ¶ อตฺตโน กายํ อาทึ กตฺวา ปหาย คมนียํ ¶ , จตูสุ นคเรสุ รชฺชํ คเหตฺวาปิ ตฺวํ เอกปฺปหาเรเนว น จตสฺโส ภตฺตปาติโย ภฺุชิสฺสสิ, น จตูสุ สยเนสุ สยิสฺสสิ, น จตฺตาริ วตฺถยุคานิ อจฺฉาเทสฺสสิ, ตณฺหาวสิเกน นาม ภวิตุํ น วฏฺฏติ, อยฺหิ ตณฺหา นาม วฑฺฒมานา จตูหิ อปาเยหิ มุจฺจิตุํ น เทตีติ.
อิติ นํ มหาสตฺโต โอวทิตฺวา อถสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจ ตํ สมิชฺฌติ;
อทฺธา ปีติมโน โหติ, ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉติ.
‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจ ตํ สมิชฺฌติ;
ตโต นํ อปรํ กาเม, ฆมฺเม ตณฺหํว วินฺทติ.
‘‘ควํว สิงฺคิโน สิงฺคํ, วฑฺฒมานสฺส วฑฺฒติ;
เอวํ มนฺทสฺส โปสสฺส, พาลสฺส อวิชานโต;
ภิยฺโย ตณฺหา ปิปาสา จ, วฑฺฒมานสฺส วฑฺฒติ.
‘‘ปถพฺยา สาลิยวกํ, ควาสฺสํ ทาสโปริสํ;
ทตฺวา จ นาลเมกสฺส, อิติ วิทฺวา สมํ จเร.
‘‘ราชา ปสยฺห ปถวึ วิชิตฺวา, สสาครนฺตํ มหิมาวสนฺโต;
โอรํ สมุทฺทสฺส อติตฺตรูโป, ปารํ สมุทฺทสฺสปิ ปตฺถเยถ.
‘‘ยาว ¶ อนุสฺสรํ กาเม, มนสา ติตฺติ นาชฺฌคา;
ตโต นิวตฺตา ปฏิกฺกมฺม ทิสฺวา, เต เว สุติตฺตา เย ปฺาย ติตฺตา.
‘‘ปฺาย ติตฺตินํ เสฏฺํ, น โส กาเมหิ ตปฺปติ;
ปฺาย ติตฺตํ ปุริสํ, ตณฺหา น กุรุเต วสํ.
‘‘อปจิเนเถว ¶ กามานํ, อปฺปิจฺฉสฺส อโลลุโป;
สมุทฺทมตฺโต ปุริโส, น โส กาเมหิ ตปฺปติ.
‘‘รถกาโรว จมฺมสฺส, ปริกนฺตํ อุปาหนํ;
ยํ ¶ ยํ จชติ กามานํ, ตํ ตํ สมฺปชฺชเต สุขํ;
สพฺพฺเจ สุขมิจฺเฉยฺย, สพฺเพ กาเม ปริจฺจเช’’ติ.
ตตฺถ กามนฺติ วตฺถุกามมฺปิ กิเลสกามมฺปิ. กามยมานสฺสาติ ปตฺถยมานสฺส. ตสฺส เจ ตํ สมิชฺฌตีติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตํ กามิตวตฺถุ สมิชฺฌติ เจ, นิปฺผชฺชติ เจติ อตฺโถ. ตโต นํ อปรํ กาเมติ เอตฺถ นนฺติ นิปาตมตฺตํ. อปรนฺติ ปรภาคทีปนํ. กาเมติ อุปโยคพหุวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ กามํ กามยมานสฺส ตํ กามิตวตฺถุ สมิชฺฌติ, ตสฺมึ สมิทฺเธ ตโต ปรํ โส ปุคฺคโล กามยมาโน ยถา นาม ฆมฺเม คิมฺหกาเล วาตาตเปน กิลนฺโต ตณฺหํ วินฺทติ, ปานียปิปาสํ ปฏิลภติ, เอวํ ภิยฺโย กามตณฺหาสงฺขาเต กาเม วินฺทติ ปฏิลภติ, รูปตณฺหาทิกา ตณฺหา จสฺส วฑฺฒติเยวาติ. ควํวาติ โครูปสฺส วิย. สิงฺคิโนติ มตฺถกํ ปทาเลตฺวา อุฏฺิตสิงฺคสฺส. มนฺทสฺสาติ มนฺทปฺสฺส. พาลสฺสาติ พาลธมฺเม ยุตฺตสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา วจฺฉกสฺส วฑฺฒนฺตสฺส สรีเรเนว สทฺธึ สิงฺคํ วฑฺฒติ, เอวํ อนฺธพาลสฺสปิ อปฺปตฺตกามตณฺหา จ ปตฺตกามปิปาสา จ อปราปรํ วฑฺฒตีติ.
สาลิยวกนฺติ สาลิเขตฺตยวเขตฺตํ. เอเตน สาลิยวาทิกํ สพฺพํ ธฺํ ทสฺเสติ, ทุติยปเทน สพฺพํ ทฺวิปทจตุปฺปทํ ทสฺเสติ. ปมปเทน วา สพฺพํ อวิฺาณกํ, อิตเรน สวิฺาณกํ. ทตฺวา จาติ ทตฺวาปิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ติฏฺนฺตุ ตีณิ รชฺชานิ, สเจ โส มาณโว อฺํ วา สกลมฺปิ ปถวึ สวิฺาณกาวิฺาณกรตนปูรํ กสฺสจิ ทตฺวา คจฺเฉยฺย, อิทมฺปิ เอตฺตกํ วตฺถุ เอกสฺเสว อปริยนฺตํ, เอวํ ทุปฺปูรา เอสา ตณฺหา นาม. อิติ วิทฺวา สมํ จเรติ เอวํ ชานนฺโต ปุริโส ตณฺหาวสิโก อหุตฺวา กายสมาจาราทีนิ ปูเรนฺโต จเรยฺย.
โอรนฺติ ¶ ¶ โอริมโกฏฺาสํ ปตฺวา เตน อติตฺตรูโป ปุน สมุทฺทปารมฺปิ ปตฺถเยถ. เอวํ ตณฺหาวสิกสตฺตา นาม ทุปฺปูราติ ทสฺเสติ. ยาวาติ อนิยามิตปริจฺเฉโท. อนุสฺสรนฺติ อนุสฺสรนฺโต. นาชฺฌคาติ น วินฺทติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ปุริโส อปริยนฺเตปิ กาเม ¶ มนสา อนุสฺสรนฺโต ติตฺตึ น วินฺทติ, ปตฺตุกาโมว โหติ, เอวํ กาเมสุ สตฺตานํ ตณฺหา วฑฺฒเตว. ตโต นิวตฺตาติ ตโต ปน วตฺถุกามกิเลสกามโต จิตฺเตน นิวตฺติตฺวา กาเยน ปฏิกฺกมฺม าเณน อาทีนวํ ทิสฺวา เย ปฺาย ติตฺตา ปริปุณฺณา, เต ติตฺตา นาม.
ปฺาย ติตฺตินํ เสฏฺนฺติ ปฺาย ติตฺตีนํ อยํ ปริปุณฺณเสฏฺโ, อยเมว วา ปาโ. น โส กาเมหิ ตปฺปตีติ ‘‘น หี’’ติปิ ปาโ. ยสฺมา ปฺาย ติตฺโต ปุริโส กาเมหิ น ปริฑยฺหตีติ อตฺโถ. น กุรุเต วสนฺติ ตาทิสฺหิ ปุริสํ ตณฺหา วเส วตฺเตตุํ น สกฺโกติ, สฺเวว ปน ตณฺหาย อาทีนวํ ทิสฺวา สรภงฺคมาณโว วิย จ อฑฺฒมาสกราชา วิย จ ตณฺหาวเส น ปวตฺตตีติ อตฺโถ. อปจิเนเถวาติ วิทฺธํเสเถว. สมุทฺทมตฺโตติ มหติยา ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา สมุทฺทปฺปมาโณ. โส มหนฺเตน อคฺคินาปิ สมุทฺโท วิย กิเลสกาเมหิ น ตปฺปติ น ฑยฺหติ.
รถกาโรติ จมฺมกาโร. ปริกนฺตนฺติ ปริกนฺตนฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา จมฺมกาโร อุปาหนํ ปริกนฺตนฺโต ยํ ยํ จมฺมสฺส อคยฺหูปคฏฺานํ โหติ, ตํ ตํ จชิตฺวา อุปาหนํ กตฺวา อุปาหนมูลํ ลภิตฺวา สุขิโต โหติ, เอวเมว ปณฺฑิโต จมฺมการสตฺถสทิสาย ปฺาย กนฺตนฺโต ยํ ยํ โอธึ กามานํ จชติ, เตน เตนสฺส กาโมธินา รหิตํ ตํ ตํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมฺจ สุขํ สมฺปชฺชติ วิคตทรถํ, สเจ ปน สพฺพมฺปิ กายกมฺมาทิสุขํ วิคตปริฬาหเมว อิจฺเฉยฺย, กสิณํ ภาเวตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา สพฺเพ กาเม ปริจฺจเชติ.
โพธิสตฺตสฺส ปน อิมํ คาถํ กเถนฺตสฺส รฺโ เสตจฺฉตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา โอทาตกสิณชฺฌานํ อุทปาทิ, ราชาปิ อโรโค อโหสิ. โส ตุฏฺโ สยนา วุฏฺหิตฺวา ‘‘เอตฺตกา เวชฺชา มํ ติกิจฺฉิตุํ นาสกฺขึสุ, ¶ ปณฺฑิตมาณโว ปน อตฺตโน าโณสเธน มํ นิโรคํ อกาสี’’ติ เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทสมํ คาถมาห –
‘‘อฏฺ ¶ เต ภาสิตา คาถา, สพฺพา โหนฺติ สหสฺสิยา;
ปฏิคณฺห มหาพฺรหฺเม, สาเธตํ ตว ภาสิต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อฏฺาติ ทุติยคาถํ อาทึ กตฺวา กามาทีนวสํยุตฺตา อฏฺ. สหสฺสิยาติ สหสฺสารหา. ปฏิคณฺหาติ อฏฺ สหสฺสานิ คณฺห. สาเธตํ ตว ภาสิตนฺติ สาธุ เอตํ ตว วจนํ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต เอกาทสมํ คาถมาห –
‘‘น เม อตฺโถ สหสฺเสหิ, สเตหิ นหุเตหิ วา;
ปจฺฉิมํ ภาสโต คาถํ, กาเม เม น รโต มโน’’ติ.
ตตฺถ ปจฺฉิมนฺติ ‘‘รถกาโรว จมฺมสฺสา’’ติ คาถํ. กาเม เม น รโต มโนติ อิมํ คาถํ ภาสมานสฺเสว มม วตฺถุกาเมปิ กิเลสกาเมปิ มโน นาภิรมามิ. อหฺหิ อิมํ คาถํ ภาสมาโน อตฺตโนว ธมฺมเทสนาย ฌานํ นิพฺพตฺเตสึ, มหาราชาติ.
ราชา ภิยฺโยโสมตฺตาย ตุสฺสิตฺวา มหาสตฺตํ วณฺเณนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘ภทฺรโก วตายํ มาณวโก, สพฺพโลกวิทู มุนิ;
โย อิมํ ตณฺหํ ทุกฺขชนนึ, ปริชานาติ ปณฺฑิโต’’ติ.
ตตฺถ ทุกฺขชนนินฺติ สกลวฏฺฏทุกฺขชนนึ. ปริชานาตีติ ปริชานิ ปริจฺฉินฺทิ, ลฺุจิตฺวา นีหรีติ โพธิสตฺตํ วณฺเณนฺโต เอวมาห.
โพธิสตฺโตปิ ‘‘มหาราช, อปฺปมตฺโต หุตฺวา ธมฺมํ จรา’’ติ ราชานํ โอวทิตฺวา อากาเสน หิมวนฺตํ คนฺตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌาโน หุตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปาหํ เอตํ พฺราหฺมณํ นิสฺโสกมกาสิ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา เอส พฺราหฺมโณ อโหสิ, ปณฺฑิตมาณโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
กามชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๖๘] ๕. ชนสนฺธชาตกวณฺณนา
ทส ¶ ¶ ขลูติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ โอวาทตฺถาย กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ กาเล ราชา อิสฺสริยมทมตฺโต กิเลสสุขนิสฺสิโต วินิจฺฉยมฺปิ น ปฏฺเปสิ, พุทฺธุปฏฺานมฺปิ ปมชฺชิ. โส เอกทิวเส ทสพลํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘สตฺถารํ วนฺทิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส รถวรมารุยฺห วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ มหาราช จิรํ น ปฺายสี’’ติ วตฺวา ‘‘พหุกิจฺจตาย โน ภนฺเต พุทฺธุปฏฺานสฺส โอกาโส น ชาโต’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาราช, มาทิเส นาม โอวาททายเก สพฺพฺุพุทฺเธ ธุรวิหาเร วิหรนฺเต อยุตฺตํ ตว ปมชฺชิตุํ, รฺา นาม ราชกิจฺเจสุ อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพํ, รฏฺวาสีนํ มาตาปิตุสเมน อคติคมนํ ปหาย ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺเตน รชฺชํ กาเรตุํ วฏฺฏติ, รฺโ หิ ธมฺมิกภาเว สติ ปริสาปิสฺส ธมฺมิกา โหนฺติ, อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, ยํ มยิ อนุสาสนฺเต ตฺวํ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรยฺยาสิ, โปราณกปณฺฑิตา อนุสาสกอาจริเย อวิชฺชมาเนปิ อตฺตโน มติยาว ติวิธสุจริตธมฺเม ปติฏฺาย มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา สคฺคปถํ ปูรยมานา อคมํสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ‘‘ชนสนฺธกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อถสฺส วยปฺปตฺตสฺส ตกฺกสิลโต สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคตกาเล ราชา สพฺพานิ พนฺธนาคารานิ โสธาเปตฺวา อุปรชฺชํ อทาสิ. โส อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺาย จตูสุ นครทฺวาเรสุ ¶ นครมชฺเฌ ราชทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย การาเปตฺวา ทิวเส ทิวเส ฉ สตสหสฺสานิ ปริจฺจชิตฺวา สกลชมฺพุทีปํ สงฺโขเภตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตนฺโต พนฺธนาคารานิ นิจฺจํ วิวฏานิ การาเปตฺวา ธมฺมภณฺฑิกํ โสธาเปตฺวา จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ โลกํ สงฺคณฺหนฺโต ปฺจ สีลานิ ¶ รกฺขนฺโต อุโปสถวาสํ วสนฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. อนฺตรนฺตรา จ รฏฺวาสิโน สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘‘ทานํ เทถ, สีลํ สมาทิยถ, ภาวนํ ภาเวถ, ธมฺเมน กมฺมนฺเต จ โวหาเร จ ปโยเชถ, ทหรกาเลเยว สิปฺปานิ อุคฺคณฺหถ, ธนํ อุปฺปาเทถ, คามกูฏกมฺมํ วา ปิสุณวาจากมฺมํ วา มา กริตฺถ, จณฺฑา ผรุสา มา อหุวตฺถ, มาตุปฏฺานํ ปิตุปฏฺานํ ปูเรถ, กุเล เชฏฺาปจายิโน ภวถา’’ติ ธมฺมํ เทเสตฺวา มหาชเน สุจริตธมฺเม ปติฏฺาเปสิ. โส เอกทิวสํ ปนฺนรสีอุโปสเถ สมาทินฺนุโปสโถ ‘‘มหาชนสฺส ภิยฺโย หิตสุขตฺถาย อปฺปมาทวิหารตฺถาย ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา อตฺตโน โอโรเธ อาทึ กตฺวา สพฺพนครชนํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ราชงฺคเณ อลงฺกริตฺวา อลงฺกตรตนมณฺฑปมชฺเฌ สุปฺตฺตวรปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา ‘‘อมฺโภ, นครวาสิโน ตุมฺหากํ ¶ ตปนีเย จ อตปนีเย จ ธมฺเม เทเสสฺสามิ, อปฺปมตฺตา หุตฺวา โอหิตโสตา สกฺกจฺจํ สุณาถา’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ.
สตฺถา สจฺจปริภาวิตํ มุขรตนํ วิวริตฺวา ตํ ธมฺมเทสนํ มธุเรน สเรน โกสลรฺโ อาวิ กโรนฺโต –
‘‘ทส ขลุ อิมานิ านานิ, ยานิ ปุพฺเพ อกริตฺวา;
ส ปจฺฉา มนุตปฺปติ, อิจฺเจวาห ชนสนฺโธ.
‘‘อลทฺธา วิตฺตํ ตปฺปติ, ปุพฺเพ อสมุทานิตํ;
น ปุพฺเพ ธนเมสิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘สกฺยรูปํ ปุเร สนฺตํ, มยา สิปฺปํ น สิกฺขิตํ;
กิจฺฉา วุตฺติ อสิปฺปสฺส, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘กูฏเวที ปุเร อาสึ, ปิสุโณ ปิฏฺิมํสิโก;
จณฺโฑ จ ผรุโส จาปิ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘ปาณาติปาตี ¶ ¶ ปุเร อาสึ, ลุทฺโท จาปิ อนาริโย;
ภูตานํ นาปจายิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘พหูสุ วต สนฺตีสุ, อนาปาทาสุ อิตฺถิสุ;
ปรทารํ อเสวิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘พหุมฺหิ วต สนฺตมฺหิ, อนฺนปาเน อุปฏฺิเต;
น ปุพฺเพ อททํ ทานํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘มาตรํ ปิตรํ จาปิ, ชิณฺณกํ คตโยพฺพนํ;
ปหุ สนฺโต น โปสิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘อาจริยมนุสตฺถารํ ¶ , สพฺพกามรสาหรํ;
ปิตรํ อติมฺิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต;
น ปุพฺเพ ปยิรุปาสิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘สาธุ โหติ ตโป จิณฺโณ, สนฺโต จ ปยิรุปาสิโต;
น จ ปุพฺเพ ตโป จิณฺโณ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.
‘‘โย จ เอตานิ านานิ, โยนิโส ปฏิปชฺชติ;
กรํ ปุริสกิจฺจานิ, ส ปจฺฉา นานุตปฺปตี’’ติ. – อิมา คาถา อาห;
ตตฺถ านานีติ การณานิ. ปุพฺเพติ ปมเมว อกริตฺวา. ส ปจฺฉา มนุตปฺปตีติ โส ปมํ กตฺตพฺพานํ อการโก ปุคฺคโล ปจฺฉา อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ ตปฺปติ กิลมติ. ‘‘ปจฺฉา วา อนุตปฺปตี’’ติปิ ปาโ. อิจฺเจวาหาติ อิติ เอวํ อาหาติ ปทจฺเฉโท, อิติ เอวํ ราชา ชนสนฺโธ อโวจ. อิจฺจสฺสุหาติปิ ปาโ. ตตฺถ อสฺสุ-กาโร นิปาตมตฺตํ อิติ อสฺสุ อาหาติ ปทจฺเฉโท. อิทานิ ตานิ ทส ตปนียการณานิ ปกาเสตุํ โพธิสตฺตสฺส ธมฺมกถา โหติ. ตตฺถ ปุพฺเพติ ปมเมว ตรุณกาเล ปรกฺกมํ กตฺวา อสมุทานิตํ อสมฺภตํ ธนํ ¶ มหลฺลกกาเล อลภิตฺวา ตปฺปติ โสจติ, ปเร จ สุขิเต ทิสฺวา สยํ ทุกฺขํ ชีวนฺโต ‘‘ปุพฺเพ ธนํ น ปริเยสิสฺส’’นฺติ เอวํ ปจฺฉา อนุตปฺปติ, ตสฺมา มหลฺลกกาเล สุขํ ชีวิตุกามา ทหรกาเลเยว ธมฺมิกานิ กสิกมฺมาทีนิ กตฺวา ธนํ ปริเยสถาติ ทสฺเสติ.
ปุเร สนฺตนฺติ ปุเร ทหรกาเล อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา มยา กาตุํ สกฺยรูปํ สมานํ หตฺถิสิปฺปาทิกํ กิฺจิ สิปฺปํ น ¶ สิกฺขิตํ. กิจฺฉาติ มหลฺลกกาเล อสิปฺปสฺส ทุกฺขา ชีวิตวุตฺติ, เนว สกฺกา ตทา สิปฺปํ สิกฺขิตุํ, ตสฺมา มหลฺลกกาเล สุขํ ชีวิตุกามา ตรุณกาเลเยว สิปฺปํ สิกฺขถาติ ทสฺเสติ. กุฏเวทีติ กูฏชานนโก คามกูฏโก วา โลกสฺส อนตฺถการโก วา ตุลากูฏาทิการโก วา กูฏฏฺฏการโก วาติ อตฺโถ. อาสินฺติ เอวรูโป อหํ ปุพฺเพ อโหสึ. ปิสุโณติ เปสฺุการโณ. ปิฏฺิมํสิโกติ ลฺชํ คเหตฺวา อสามิเก สามิเก กโรนฺโต ปเรสํ ปิฏฺิมํสขาทโก. อิติ ปจฺฉาติ เอวํ มรณมฺเจ นิปนฺโน อนุตปฺปติ ¶ , ตสฺมา สเจ นิรเย น วสิตุกามาตฺถ, มา เอวรูปํ ปาปกมฺมํ กริตฺถาติ โอวทติ.
ลุทฺโทติ ทารุโณ. อนาริโยติ น อริโย นีจสมาจาโร. นาปจายิสฺสนฺติ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยวเสน นีจวุตฺติโก นาโหสึ. เสสํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. อนาปาทาสูติ อาปาทานํ อาปาโท, ปริคฺคโหติ อตฺโถ. นตฺถิ อาปาโท ยาสํ ตา อนาปาทา, อฺเหิ อกตปริคฺคหาสูติ อตฺโถ. อุปฏฺิเตติ ปจฺจุปฏฺิเต. น ปุพฺเพติ อิโต ปุพฺเพ ทานํ น อททํ. ปหุ สนฺโตติ ธนพเลนาปิ กายพเลนาปิ โปสิตุํ สมตฺโถ ปฏิพโล สมาโน. อาจริยนฺติ อาจาเร สิกฺขาปนโต อิธ ปิตา ‘‘อาจริโย’’ติ อธิปฺเปโต. อนุสตฺถารนฺติ อนุสาสกํ. สพฺพกามรสาหรนฺติ สพฺเพ วตฺถุกามรเส อาหริตฺวา โปสิตารํ. อติมฺิสฺสนฺติ ตสฺส โอวาทํ อคณฺหนฺโต อติกฺกมิตฺวา มฺิสฺสํ.
น ปุพฺเพติ อิโต ปุพฺเพ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณปิ คิลานาคิลาเนปิ จีวราทีนิ ทตฺวา อปฺปฏิชคฺคเนน น ปยิรุปาสิสฺสํ. ตโปติ สุจริตตโป. สนฺโตติ ตีหิ ทฺวาเรหิ อุปสนฺโต สีลวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ติวิธสุจริตสงฺขาโต ¶ ตโป จิณฺโณ เอวรูโป จ อุปสนฺโต ปยิรุปาสิโต นาม สาธุ สุนฺทโร. น ปุพฺเพติ มยา ทหรกาเล เอวรูโป ตโป น จิณฺโณ, อิติ ปจฺฉา ชราชิณฺโณ มรณภยตชฺชิโต อนุตปฺปติ โสจติ. สเจ ตุมฺเห เอวํ น โสจิตุกามา, ตโปกมฺมํ กโรถาติ วทติ. โย จ เอตานีติ โย ปน เอตานิ ทส การณานิ ปมเมว อุปาเยน ปฏิปชฺชติ สมาทาย วตฺตติ, ปุริเสหิ กตฺตพฺพานิ ธมฺมิกกิจฺจานิ กโรนฺโต โส อปฺปมาทวิหารี ปุริโส ปจฺฉา นานุตปฺปติ, โสมนสฺสปฺปตฺโตว โหตีติ.
อิติ ¶ มหาสตฺโต อนฺวทฺธมาสํ อิมินา นิยาเมน มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโนปิสฺส โอวาเท ตฺวา ตานิ ทส านานิ ปูเรตฺวา สคฺคปรายโณว อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, มหาราช, โปราณกปณฺฑิตา อนาจริยกาปิ อตฺตโน มติยาว ธมฺมํ เทเสตฺวา มหาชนํ สคฺคปเถ ปติฏฺาเปสุ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปริสา พุทฺธปริสา อเหสุํ, ชนสนฺธราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ชนสนฺธชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๖๙] ๖. มหากณฺหชาตกวณฺณนา
กณฺโห ¶ กณฺโห จาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โลกตฺถจริยํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ‘‘ยาวฺจิทํ, อาวุโส, สตฺถา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน อตฺตโน ผาสุวิหารํ ปหาย โลกสฺเสว อตฺถํ จรติ, ปรมาภิสมฺโพธึ ปตฺวา สยํ ปตฺตจีวรมาทาย อฏฺารสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิยตฺเถรานํ ธมฺมจกฺกํ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓ อาทโย; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ปวตฺเตตฺวา ปฺจมิยา ปกฺขสฺส อนตฺตลกฺขณสุตฺตํ (สํ. นิ. ๓.๕๙; มหาว. ๒๐ อาทโย) กเถตฺวา สพฺเพสํ อรหตฺตํ อทาสิ. อุรุเวลํ คนฺตฺวา เตภาติกชฏิลานํ อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฏิหาริยสหสฺสานิ ทสฺเสตฺวา ปพฺพาเชตฺวา คยาสีเส อาทิตฺตปริยายํ (สํ. นิ. ๔.๒๓๕; มหาว. ๕๔) กเถตฺวา ชฏิลสหสฺสานํ อรหตฺตํ อทาสิ, มหากสฺสปสฺส ตีณิ คาวุตานิ ¶ ปจฺจุคฺคมนํ คนฺตฺวา ตีหิ โอวาเทหิ อุปสมฺปทํ อทาสิ. เอโก ปจฺฉาภตฺตํ ปฺจจตฺตาลีสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ปุกฺกุสาติกุลปุตฺตํ อนาคามิผเล ปติฏฺาเปสิ, มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, เอโก ปจฺฉาภตฺตํ ตึสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ตาว กกฺขฬํ ผรุสํ องฺคุลิมาลํ อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ, ตึสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา อาฬวกํ ยกฺขํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา กุมารสฺส โสตฺถึ อกาสิ. ตาวตึสภวเน เตมาสํ วสนฺโต อสีติยา เทวตาโกฏีนํ ธมฺมาภิสมยํ สมฺปาเทสิ, พฺรหฺมโลกํ คนฺตฺวา พกพฺรหฺมุโน ทิฏฺึ ภินฺทิตฺวา ทสนฺนํ พฺรหฺมสหสฺสานํ อรหตฺตํ อทาสิ, อนุสํวจฺฉรํ ตีสุ มณฺฑเลสุ จาริกํ จรมาโน อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ มนุสฺสานํ สรณานิ เจว สีลานิจ มคฺคผลานิ จ เทติ, นาคสุปณฺณาทีนมฺปิ ¶ นานปฺปการํ อตฺถํ จรตี’’ติ ทสพลสฺส โลกตฺถจริยคุณํ กถยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, โสหํ อิทานิ อภิสมฺโพธึ ปตฺวา โลกสฺส อตฺถํ จเรยฺยํ, ปุพฺเพ สราคกาเลปิ โลกสฺส อตฺถํ อจริ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล พาราณสิยํ อุสีนโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธ จตุสจฺจเทสนาย มหาชนํ กิเลสพนฺธนา โมเจตฺวา นิพฺพานนครํ ปูเรตฺวา ปรินิพฺพุเต ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สาสนํ โอสกฺกิ. ภิกฺขู เอกวีสติยา อเนสนาหิ ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, ภิกฺขู คิหิสํสคฺคํ กโรนฺติ, ปุตฺตธีตาทีหิ วฑฺฒนฺติ. ภิกฺขุนิโยปิ คิหิสํสคฺคํ กโรนฺติ, ปุตฺตธีตาทีหิ วฑฺฒนฺติ. ภิกฺขู ภิกฺขุธมฺมํ, ภิกฺขุนิโย ภิกฺขุนิธมฺมํ, อุโปสกา อุปาสกธมฺมํ, อุปาสิกา อุปาสิกธมฺมํ, พฺราหฺมณา พฺราหฺมณธมฺมํ วิสฺสชฺเชสุํ. เยภุยฺเยน มนุสฺสา ¶ ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตึสุ, มตมตา อปาเยสุ ปริปูเรสุํ. ตทา สกฺโก เทวราชา นเว นเว เทเว อปสฺสนฺโต มนุสฺสโลกํ โอโลเกตฺวา มนุสฺสานํ อปาเยสุ นิพฺพตฺติตภาวํ ตฺวา สตฺถุ สาสนํ โอสกฺกิตํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อตฺเถโก อุปาโย, มหาชนํ ตาเสตฺวา ภีตภาวํ ตฺวา ปจฺฉา อสฺสาเสตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา โอสกฺกิตํ สาสนํ ปคฺคยฺห อปรมฺปิ วสฺสสหสฺสํ ปวตฺตนการณํ กริสฺสามี’’ติ ¶ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา มาตลิเทวปุตฺตํ โมจปฺปมาณทาํ จตูหิ ทาาหิ วินิคฺคตรสฺมิยา ภยานกํ กตฺวา คพฺภินีนํ ทสฺสเนเนว คพฺภปาตนสมตฺถํ โฆรรูปํ อาชาเนยฺยปฺปมาณํ กาฬวณฺณํ มหากณฺหสุนขํ มาเปตฺวา ปฺจพนฺธเนน พนฺธิตฺวา รตฺตมาลํ ¶ กณฺเ ปิฬนฺธิตฺวา รชฺชุโกฏิกํ อาทาย สยํ ทฺเว กาสายานิ นิวาเสตฺวา ปจฺฉามุเข ปฺจธา เกเส พนฺธิตฺวา รตฺตมาลํ ปิฬนฺธิตฺวา อาโรปิตปวาฬวณฺณชิยํ มหาธนุํ คเหตฺวา วชิรคฺคนาราจํ นเขน ปริวฏฺเฏนฺโต วนจรกเวสํ คเหตฺวา นครโต โยชนมตฺเต าเน โอตริตฺวา ‘‘นสฺสติ โลโก, นสฺสติ โลโก’’ติ ติกฺขตฺตุํ สทฺทํ อนุสาเวตฺวา มนุสฺเส อุตฺตาเสตฺวา นครูปจารํ ปตฺวา ปุน สทฺทมกาสิ.
มนุสฺสา สุนขํ ทิสฺวา อุตฺรสฺตา นครํ ปวิสิตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา สีฆํ นครทฺวารานิ ปิทหาเปสิ. สกฺโกปิ อฏฺารสหตฺถํ ปาการํ อุลฺลงฺฆิตฺวา สุนเขน สทฺธึ อนฺโตนคเร ปติฏฺหิ. มนุสฺสา ภีตตสิตา ปลายิตฺวา เคหานิ ปวิสิตฺวา นิลียึสุ. มหากณฺโหปิ ทิฏฺทิฏฺเ มนุสฺเส อุปธาวิตฺวา สนฺตาเสนฺโต ราชนิเวสนํ อคมาสิ. ราชงฺคเณ มนุสฺสา ภเยน ปลายิตฺวา ราชนิเวสนํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิทหึสุ. อุสีนกราชาปิ โอโรเธ คเหตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิ. มหากณฺโห สุนโข ปุริมปาเท อุกฺขิปิตฺวา วาตปาเน ตฺวา มหาภุสฺสิตํ ภุสฺสิ. ตสฺส สทฺโท เหฏฺา อวีจึ, อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา สกลจกฺกวาฬํ เอกนินฺนาทํ อโหสิ. วิธุรชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๓๔๖ อาทโย) หิ ปุณฺณกยกฺขรฺโ, กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) กุสรฺโ, ภูริทตฺตชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๗๘๔ อาทโย) สุทสฺสนนาครฺโ, อิมสฺมึ มหากณฺหชาตเก อยํ สทฺโทติ อิเม จตฺตาโร สทฺทา ชมฺพุทิเป มหาสทฺทา นาม อเหสุํ.
นครวาสิโน ภีตตสิตา หุตฺวา เอกปุริโสปิ สกฺเกน สทฺธึ กเถตุํ นาสกฺขิ, ราชาเยว สตึ อุปฏฺาเปตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย สกฺกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘อมฺโภ ลุทฺทก, กสฺมา เต ¶ สุนโข ภุสฺสตี’’ติ อาห. ‘‘ฉาตภาเวน, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ ตสฺส ภตฺตํ ทาเปสฺสามี’’ติ อนฺโตชนสฺส จ อตฺตโน จ ปกฺกภตฺตํ สพฺพํ ทาเปสิ. ตํ สพฺพํ สุนโข เอกกพฬํ วิย กตฺวา ปุน สทฺทมกาสิ. ปุน ราชา ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิทานิปิ เม สุนโข ¶ ฉาโตเยวา’’ติ ¶ สุตฺวา หตฺถิอสฺสาทีนํ ปกฺกภตฺตํ สพฺพํ อาหราเปตฺวา ทาเปสิ. ตสฺมึ เอกปฺปหาเรเนว นิฏฺาปิเต สกลนครสฺส ปกฺกภตฺตํ ทาเปสิ. ตมฺปิ โส ตเถว ภฺุชิตฺวา ปุน สทฺทมกาสิ. ราชา ‘‘น เอส สุนโข, นิสฺสํสยํ เอส ยกฺโข ภวิสฺสติ, อาคมนการณํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ภีตตสิโต หุตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กณฺโห กณฺโห จ โฆโร จ, สุกฺกทาโ ปภาสวา;
พทฺโธ ปฺจหิ รชฺชูหิ, กึ รวิ สุนโข ตวา’’ติ.
ตตฺถ กณฺโห กณฺโหติ ภยวเสน ทฬฺหีวเสน วา อาเมฑิตํ. โฆโรติ ปสฺสนฺตานํ ภยชนโก. ปภาสวาติ ทาา นิกฺขนฺตรํสิปภาเสน ปภาสวา. กึ รวีติ กึ วิรวิ. ตเวส เอวรูโป กกฺขโฬ สุนโข กึ กโรติ, กึ มิเค คณฺหาติ, อุทาหุ เต อมิตฺเต, กึ เต อิมินา, วิสฺสชฺเชหิ นนฺติ อธิปฺปาเยเนวมาห.
ตํ สุตฺวา สกฺโก ทุติยํ คาถมาห –
‘‘นายํ มิคานมตฺถาย, อุสีนก ภวิสฺสติ;
มนุสฺสานํ อนโย หุตฺวา, ตทา กณฺโห ปโมกฺขตี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – อยฺหิ ‘‘มิคมํสํ ขาทิสฺสามี’’ติ อิธ นาคโต, ตสฺมา มิคานํ อตฺโถ น ภวิสฺสติ, มนุสฺสมํสํ ปน ขาทิตุํ อาคโต, ตสฺมา เตสํ อนโย มหาวินาสการโก หุตฺวา ยทา อเนน มนุสฺสา วินาสํ ปาปิตา ภวิสฺสนฺติ, ตทา อยํ กณฺโห ปโมกฺขติ, มม หตฺถโต มุจฺจิสฺสตีติ.
อถ นํ ราชา ‘‘กึ ปน เต โภ ลุทฺทก-สุนโข สพฺเพสํเยว มนุสฺสานํ มํสํ ขาทิสฺสติ, อุทาหุ ตว อมิตฺตานฺเวา’’ติ ¶ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อมิตฺตานฺเว เม, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘เก ปน อิธ เต อมิตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อธมฺมาภิรตา วิสมจาริโน, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘กเถหิ ตาว เน อมฺหาก’’นฺติ ปุจฺฉิ. อถสฺส กเถนฺโต เทวราชา ทส คาถา อภาสิ –
‘‘ปตฺตหตฺถา ¶ สมณกา, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;
นงฺคเลหิ กสิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘ตปสฺสินิโย ¶ ปพฺพชิตา, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;
ยทา โลเก คมิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘ทีโฆตฺตโรฏฺา ชฏิลา, ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;
อิณํ โจทาย คจฺฉนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘อธิจฺจ เวเท สาวิตฺตึ, ยฺตนฺตฺจ พฺราหฺมณา;
ภติกาย ยชิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘มาตรํ ปิตรํ จาปิ, ชิณฺณกํ คตโยพฺพนํ;
ปหู สนฺโต น ภรนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘มาตรํ ปิตรํ จาปิ, ชิณฺณกํ คตโยพฺพนํ;
พาลา ตุมฺเหติ วกฺขนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘อาจริยภริยํ สขึ, มาตุลานึ ปิตุจฺฉกึ;
ยทา โลเก คมิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘อสิจมฺมํ คเหตฺวาน, ขคฺคํ ปคฺคยฺห พฺราหฺมณา;
ปนฺถฆาตํ กริสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘สุกฺกจฺฉวี เวธเวรา, ถูลพาหู อปาตุภา;
มิตฺตเภทํ กริสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.
‘‘มายาวิโน เนกติกา, อสปฺปุริสจินฺตกา;
ยทา โลเก ภวิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ สมณกาติ ‘‘มยํ สมณามฺหา’’ติ ปฏิฺามตฺตเกน หีฬิตโวหาเรเนวมาห. กสิสฺสนฺตีติ เต ตทาปิ กสนฺติเยว. อยํ ปน ¶ อชานนฺโต วิย เอวมาห. อยฺหิสฺส อธิปฺปาโย – เอเต เอวรูปา ทุสฺสีลา มม อมิตฺตา, ยทา มม สุนเขน เอเต มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตํ ¶ ภวิสฺสติ, ตทา เอส กณฺโห อิโต ปฺจรชฺชุพนฺธนา ปโมกฺขตีติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพคาถาสุ อธิปฺปายโยชนา เวทิตพฺพา.
ปพฺพชิตาติ พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตา. คมิสฺสนฺตีติ อคารมชฺเฌ ปฺจ กามคุเณ ปริภฺุชนฺติโย วิจริสฺสนฺติ. ทีโฆตฺตโรฏฺาติ ทาิกานํ วฑฺฒิตตฺตา ทีฆุตฺตโรฏฺา. ปงฺกทนฺตาติ ปงฺเกน มเลน สมนฺนาคตทนฺตา. อิณํ โจทายาติ ภิกฺขาจริยาย ธนํ สํหริตฺวา วฑฺฒิยา อิณํ ปโยเชตฺวา ตํ โจเทตฺวา ตโต ลทฺเธน ชีวิกํ กปฺเปนฺตา ยทา คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.
สาวิตฺตินฺติ สาวิตฺติฺจ อธิยิตฺวา. ยฺตนฺตฺจาติ ยฺวิธายกตนฺตํ, ยฺํ อธิยิตฺวาติ อตฺโถ. ภติกายาติ เต เต ราชราชมหามตฺเต อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ยฺํ ยชิสฺสาม, ธนํ เทถา’’ติ เอวํ ภติอตฺถาย ยทา ยฺํ ยชิสฺสนฺติ. ปหู สนฺโตติ ภริตุํ โปเสตุํ สมตฺถา สมานา. พาลา ตุมฺเหติ ตุมฺเห พาลา น กิฺจิ ชานาถาติ ยทา วกฺขนฺติ. คมิสฺสนฺตีติ โลกธมฺมเสวนวเสน คมิสฺสนฺติ. ปนฺถฆาตนฺติ ปนฺเถ ตฺวา มนุสฺเส มาเรตฺวา เตสํ ภณฺฑคฺคหณํ.
สุกฺกจฺฉวีติ กสาวจุณฺณาทิฆํสเนน สมุฏฺาปิตสุกฺกจฺฉวิวณฺณา. เวธเวราติ วิธวา อปติกา, ตาหิ วิธวาหิ เวรํ จรนฺตีติ เวธเวรา. ถูลพาหูติ ปาทปริมทฺทนาทีหิ สมุฏฺาปิตมํสตาย มหาพาหู. อปาตุภาติ อปาตุภาวา, ธนุปฺปาทรหิตาติ อตฺโถ. มิตฺตเภทนฺติ มิถุเภทํ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทา เอวรูปา อิตฺถิธุตฺตา ‘‘อิมา อมฺเห น ชหิสฺสนฺตี’’ติ สหิรฺา วิธวา อุปคนฺตฺวา สํวาสํ กปฺเปตฺวา ตาสํ สนฺตกํ ขาทิตฺวา ตาหิ สทฺธึ มิตฺตเภทํ ¶ กริสฺสนฺติ ¶ , วิสฺสาสํ ภินฺทิตฺวา อฺํ สหิรฺํ คมิสฺสนฺติ, ตทา เอส เต โจเร สพฺเพว ขาทิตฺวา มุจฺจิสฺสติ. อสปฺปุริสจินฺตกาติ อสปฺปุริสจิตฺเตหิ ปรทุกฺขจินฺตนสีลา. ตทาติ ตทา สพฺเพปิเม ฆาเตตฺวา ขาทิตมํโส กณฺโห ปโมกฺขตีติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อิเม มยฺหํ, มหาราช, อมิตฺตา’’ติ เต เต อธมฺมการเก ปกฺขนฺทิตฺวา ขาทิตุกามตํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ. โส ตโต มหาชนสฺส อุตฺรสฺตกาเล สุนขํ รชฺชุยา อากฑฺฒิตฺวา ปิตํ วิย กตฺวา ลุทฺทกเวสํ วิชหิตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน อากาเส ชลมาโน ตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ สกฺโก เทวราชา, ‘อยํ โลโก วินสฺสตี’ติ อาคโต, ปมตฺตา หิ มหาชนา, อธมฺมํ วตฺติตฺวา มตมตา สมฺปติ อปาเย ปูเรนฺติ, เทวโลโก ตุจฺโฉ วิย ¶ วิโต, อิโต ปฏฺาย อธมฺมิเกสุ กตฺตพฺพํ อหํ ชานิสฺสามิ, ตฺวํ อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ จตูหิ สตารหคาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา มนุสฺสานํ ทานสีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา โอสกฺกิตสาสนํ อฺํ วสฺสสหสฺสํ ปวตฺตนสมตฺถํ กตฺวา มาตลึ อาทาย สกฏฺานเมว คโต. มหาชนา ทานสีลาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขเว ปุพฺเพปาหํ โลกสฺส อตฺถเมว จรามี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาตลิ อานนฺโท อโหสิ, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
มหากณฺหชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๔๗๐] ๗. โกสิยชาตกวณฺณนา
๗๓-๙๓. โกสิยชาตกํ สุธาโภชนชาตเก (ชา. ๒.๒๑.๑๙๒ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
โกสิยชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๔๗๑] ๘. เมณฺฑกปฺหชาตกวณฺณนา
๙๔-๑๐๕. เมณฺฑกปฺหชาตกํ ¶ อุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
เมณฺฑกปฺหชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๔๗๒] ๙. มหาปทุมชาตกวณฺณนา
นาทฏฺา ¶ ปรโต โทสนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต จิฺจมาณวิกํ อารพฺภ กเถสิ. ปมโพธิยฺหิ ทสพลสฺส ปุถุภูเตสุ สาวเกสุ อปริมาเณสุ เทวมนุสฺเสสุ อริยภูมึ โอกฺกนฺเตสุ ปตฺถเฏสุ คุณสมุทเยสุ มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ. ติตฺถิยา สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกสทิสา อเหสุํ หตลาภสกฺการา. เต อนฺตรวีถิยํ ตฺวา ‘‘กึ สมโณ โคตโมว พุทฺโธ, มยมฺปิ พุทฺธา, กึ ตสฺเสว ทินฺนํ มหปฺผลํ, อมฺหากมฺปิ ทินฺนํ มหปฺผลเมว, อมฺหากมฺปิ ¶ เทถ กโรถา’’ติ เอวํ มนุสฺเส วิฺาเปนฺตาปิ ลาภสกฺการํ อลภนฺตา รโห สนฺนิปติตฺวา ‘‘เกน นุ โข อุปาเยน สมณสฺส โคตมสฺส มนุสฺสานํ อนฺตเร อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสยฺยามา’’ติ มนฺตยึสุ. ตทา สาวตฺถิยํ จิฺจมาณวิกา นาเมกา ปริพฺพาชิกา อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา เทวจฺฉรา วิย. ตสฺสา สรีรโต รสฺมิโย นิจฺฉรนฺติ. อเถโก ขรมนฺตี เอวมาห – ‘‘จิฺจมาณวิกํ ปฏิจฺจ สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสสฺสามา’’ติ. เต ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ. อถ สา ติตฺถิยารามํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ, ติตฺถิยา ตาย สทฺธึ น กเถสุํ. สา ‘‘โก นุ โข เม โทโส’’ติ ยาวตติยํ ‘‘วนฺทามิ อยฺยา’’ติ วตฺวา ‘‘อยฺยา, โก นุ โข เม โทโส, กึ มยา สทฺธึ น กเถถา’’ติ อาห. ‘‘ภคินิ, สมณํ โคตมํ อมฺเห วิเหเนฺตํ หตลาภสกฺกาเร กตฺวา วิจรนฺตํ น ชานาสี’’ติ. ‘‘นาหํ ชานามิ อยฺยา, มยา กึ ปเนตฺถ กตฺตพฺพนฺติ. สเจ ตฺวํ ภคินิ, อมฺหากํ สุขมิจฺฉสิ, อตฺตานํ ปฏิจฺจ สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสหี’’ติ.
สา ¶ ‘‘สาธุ อยฺยา, มยฺหเมเวโส ภาโร, มา จินฺตยิตฺถา’’ติ วตฺวา ปกฺกมิตฺวา อิตฺถิมายาสุ กุสลตาย ตโต ปฏฺาย สาวตฺถิวาสีนํ ธมฺมกถํ สุตฺวา เชตวนา นิกฺขมนสมเย อินฺทโคปกวณฺณํ ปฏํ ปารุปิตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนาภิมุขี ¶ คจฺฉนฺตี ‘‘อิมาย เวลาย กุหึ คจฺฉสี’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ มม คมนฏฺาเนนา’’ติ วตฺวา เชตวนสมีเป ติตฺถิยาราเม วสิตฺวา ปาโตว ‘‘อคฺควนฺทนํ วนฺทิสฺสามา’’ติ นครา นิกฺขมนฺเต อุปาสกชเน เชตวเน วุตฺถา วิย หุตฺวา นครํ ปวิสติ. ‘‘กุหึ วุตฺถาสี’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ มม วุตฺถฏฺาเนนา’’ติ วตฺวา มาสฑฺฒมาสจฺจเยน ปุจฺฉิยมานา ‘‘เชตวเน สมเณน โคตเมน สทฺธึ เอกคนฺธกุฏิยา วุตฺถามฺหี’’ติ อาห. ปุถุชฺชนานํ ‘‘สจฺจํ นุ โข เอตํ, โน’’ติ กงฺขํ อุปฺปาเทตฺวา เตมาสจตุมาสจฺจเยน ปิโลติกาหิ อุทรํ เวเตฺวา คพฺภินิวณฺณํ ทสฺเสตฺวา อุปริ รตฺตปฏํ ปารุปิตฺวา ‘‘สมณํ โคตมํ ปฏิจฺจ คพฺโภ เม ลทฺโธ’’ติ อนฺธพาเล คาหาเปตฺวา อฏฺนวมาสจฺจเยน อุทเร ทารุมณฺฑลิกํ พนฺธิตฺวา อุปริ รตฺตปฏํ ปารุปิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺิโย โคหนุเกน โกฏฺฏาเปตฺวา อุสฺสเท ทสฺเสตฺวา กิลนฺตินฺทฺริยา หุตฺวา สายนฺหสมเย ตถาคเต อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺเต ธมฺมสภํ คนฺตฺวา ตถาคตสฺส ปุรโต ตฺวา ‘‘มหาสมณ, มหาชนสฺส ตาว ธมฺมํ เทเสสิ, มธุโร เต สทฺโท, สุผุสิตํ ทนฺตาวรณํ, อหํ ปน ตํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ลภิตฺวา ปริปุณฺณคพฺภา ชาตา, เนว เม สูติฆรํ ชานาสิ, น สปฺปิเตลาทีนิ, สยํ อกโรนฺโต อุปฏฺากานมฺปิ อฺตรํ โกสลราชานํ วา อนาถปิณฺฑิกํ วา วิสาขํ อุปาสิกํ วา ‘‘อิมิสฺสา จิฺจมาณวิกาย กตฺตพฺพยุตฺตํ กโรหี’ติ น วทสิ, อภิรมิตุํเยว ¶ ชานาสิ, คพฺภปริหารํ น ชานาสี’’ติ คูถปิณฺฑํ คเหตฺวา จนฺทมณฺฑลํ ทูเสตุํ วายมนฺตี วิย ปริสมชฺเฌ ตถาคตํ อกฺโกสิ. ตถาคโต ธมฺมกถํ เปตฺวา สีโห วิย อภินทนฺโต ‘‘ภคินิ, ตยา กถิตสฺส ตถภาวํ วา อตถภาวํ วา อหฺเจว ตฺวฺจ ชานามา’’ติ อาห. อาม, สมณ, ตยา จ มยา จ าตภาเวเนตํ ชาตนฺติ.
ตสฺมึ ¶ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. โส อาวชฺชมาโน ‘‘จิฺจมาณวิกา ตถาคตํ อภูเตน อกฺโกสตี’’ติ ตฺวา ‘‘อิมํ วตฺถุํ โสเธสฺสามี’’ติ จตูหิ เทวปุตฺเตหิ สทฺธึ อาคมิ. เทวปุตฺตา มูสิกโปตกา หุตฺวา ทารุมณฺฑลิกสฺส ¶ พนฺธนรชฺชุเก เอกปฺปหาเรเนว ฉินฺทึสุ, ปารุตปฏํ วาโต อุกฺขิปิ, ทารุมณฺฑลิกํ ปตมานํ ตสฺสา ปาทปิฏฺิยํ ปติ, อุโภ อคฺคปาทา ฉิชฺชึสุ. มนุสฺสา อุฏฺาย ‘‘กาฬกณฺณิ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ อกฺโกสสี’’ติ สีเส เขฬํ ปาเตตฺวา เลฑฺฑุทณฺฑาทิหตฺถา เชตวนา นีหรึสุ. อถสฺสา ตถาคตสฺส จกฺขุปถํ อติกฺกนฺตกาเล มหาปถวี ภิชฺชิตฺวา วิวรมทาสิ, อวีจิโต อคฺคิชาลา อุฏฺหิ. สา กุลทตฺติยํ กมฺพลํ ปารุปมานา วิย คนฺตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติ. อฺติตฺถิยานํ ลาภสกฺกาโร ปริหายิ, ทสพลสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย วฑฺฒิ. ปุนทิวเส ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, จิฺจมาณวิกา เอวํ อุฬารคุณํ อคฺคทกฺขิเณยฺยํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภูเตน อกฺโกสิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอสา มํ อภูเตน อกฺโกสิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ผุลฺลปทุมสสฺสิริกมุขตฺตา ปนสฺส ‘‘ปทุมกุมาโร’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคมิ. อถสฺส มาตา กาลมกาสิ. ราชา อฺํ อคฺคมเหสึ กตฺวา ปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. อปรภาเค ราชา ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วูปสเมตุํ อคฺคมเหสึ อาห ‘‘ภทฺเท, อิเธว วส, อหํ ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วูปสเมตุํ คจฺฉามี’’ติ วตฺวา ‘‘นาหํ อิเธว วสิสฺสามิ, อหมฺปิ คมิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ยุทฺธภูมิยา อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ยาว มมาคมนา อนุกฺกณฺมานา วส, อหํ ปทุมกุมารํ ยถา ตว กตฺตพฺพกิจฺเจสุ อปฺปมตฺโต โหติ, เอวํ อาณาเปตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตถา กตฺวา คนฺตฺวา ปจฺจามิตฺเต ปลาเปตฺวา ชนปทํ สนฺตปฺเปตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา พหินคเร ขนฺธาวารํ นิวาเสสิ ¶ . โพธิสตฺโต ปิตุ อาคตภาวํ ตฺวา ¶ นครํ ¶ อลงฺการาเปตฺวา ราชเคหํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา เอกโกว ตสฺสา สนฺติกํ อคมาสิ.
สา ตสฺส รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา อโหสิ. โพธิสตฺโต ตํ วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺม, กึ อมฺหากํ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. อถ นํ ‘‘อมฺมาติ มํ วทสี’’ติ อุฏฺาย หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘สยนํ อภิรุหา’’ติ อาห. ‘‘กึการณา’’ติ? ‘‘ยาว ราชา น อาคจฺฉติ, ตาว อุโภปิ กิเลสรติยา รมิสฺสามา’’ติ. ‘‘อมฺม, ตฺวํ มม มาตา จ สสามิกา จ, มยา สปริคฺคโห มาตุคาโม นาม กิเลสวเสน อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา น โอโลกิตปุพฺโพ, กถํ ตยา สทฺธึ เอวรูปํ กิลิฏฺกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. สา ทฺเว ตโย วาเร กเถตฺวา ตสฺมึ อนิจฺฉมาเน ‘‘มม วจนํ น กโรสี’’ติ อาห. ‘‘อาม, น กโรมี’’ติ. ‘‘เตน หิ รฺโ กเถตฺวา สีสํ เต ฉินฺทาเปสฺสามี’’ติ. มหาสตฺโต ‘‘ตว รุจึ กโรหี’’ติ วตฺวา ตํ ลชฺชาเปตฺวา ปกฺกามิ.
สา ภีตตสิตา จินฺเตสิ ‘‘สเจ อยํ ปมํ ปิตุ อาโรเจสฺสติ, ชีวิตํ เม นตฺถิ, อหเมว ปุเรตรํ กเถสฺสามี’’ติ ภตฺตํ อภฺุชิตฺวา กิลิฏฺโลมวตฺถํ นิวาเสตฺวา สรีเร นขราชิโย ทสฺเสตฺวา ‘‘กุหึ เทวีติ รฺโ ปุจฺฉนกาเล ‘‘คิลานา’ติ กเถยฺยาถา’’ติ ปริจาริกานํ สฺํ ทตฺวา คิลานาลยํ กตฺวา นิปชฺชิ. ราชาปิ นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา นิเวสนํ อารุยฺห ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘กุหึ เทวี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘กึ เต เทวิ, อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. สา ตสฺส วจนํ อสุณนฺตี วิย หุตฺวา ทฺเว ตโย วาเร ปุจฺฉิตา ‘‘มหาราช, กสฺมา กเถสิ, ตุณฺหี โหหิ, สสามิกอิตฺถิโย นาม มาทิสา น โหนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘เกน ตฺวํ วิเหิตาสิ, สีฆํ เม กเถหิ ¶ , สีสมสฺส ฉินฺทิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘กํสิ ตฺวํ, มหาราช, นคเร เปตฺวา คโต’’ติ วตฺวา ‘‘ปทุมกุมาร’’นฺติ วุตฺเต ‘‘โส มยฺหํ วสนฏฺานํ อาคนฺตฺวา ‘ตาต, มา เอวํ กโรหิ, อหํ ตว มาตา’ติ วุจฺจมาโนปิ ‘เปตฺวา มํ อฺโ ราชา นตฺถิ, อหํ ตํ เคเห กริตฺวา กิเลสรติยา รมิสฺสามี’ติ มํ เกเสสุ ¶ คเหตฺวา อปราปรํ ลฺุจิตฺวา อตฺตโน วจนํ อกโรนฺตึ มํ ปาเตตฺวา โกฏฺเฏตฺวา คโต’’ติ อาห.
ราชา อนุปปริกฺขิตฺวาว อาสีวิโส วิย กุทฺโธ ปุริเส อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, ปทุมกุมารํ พนฺธิตฺวา อาเนถา’’ติ. เต นครํ อวตฺถรนฺตา วิย ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ตํ พนฺธิตฺวา ปหริตฺวา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา รตฺตกณเวรมาลํ คีวายํ ปฏิมฺุจิตฺวา วชฺฌํ กตฺวา อานยึสุ ¶ . โส ‘‘เทวิยา อิทํ กมฺม’’นฺติ ตฺวา ‘‘โภ ปุริสา, นาหํ รฺโ โทสการโก, นิปฺปราโธหมสฺมี’’ติ วิลปนฺโต อาคจฺฉติ. สกลนครํ สํขุพฺภิตฺวา ‘‘ราชา กิร มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา มหาปทุมกุมารํ ฆาตาเปสี’’ติ สนฺนิปติตฺวา ราชกุมารสฺส ปาทมูเล นิปติตฺวา ‘‘อิทํ เต สามิ, อนนุจฺฉวิก’’นฺติ มหาสทฺเทน ปริเทวิ. อถ นํ เนตฺวา รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา ทิสฺวาว จิตฺตํ นิคฺคณฺหิตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยํ อราชาว ราชลีฬํ กโรติ, มม ปุตฺโต หุตฺวา อคฺคมเหสิยา อปรชฺฌติ, คจฺฉถ นํ โจรปปาเต ปาเตตฺวา วินาสํ ปาเปถา’’ติ อาห. มหาสตฺโต ‘‘น มยฺหํ, ตาต, เอวรูโป อปราโธ อตฺถิ, มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา มา มํ นาเสหี’’ติ ปิตรํ ยาจิ. โส ตสฺส กถํ น คณฺหิ.
ตโต โสฬสสหสฺสา อนฺเตปุริกา ‘‘ตาต มหาปทุมกุมาร, อตฺตโน อนนุจฺฉวิกํ อิทํ ลทฺธ’’นฺติ มหาวิรวํ วิรวึสุ. สพฺเพ ¶ ขตฺติยมหาสาลาทโยปิ อมจฺจปริชนาปิ ‘‘เทว, กุมาโร สีลาจารคุณสมฺปนฺโน วํสานุรกฺขิโต รชฺชทายาโท, มา นํ มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา อนุปปริกฺขิตฺวาว วินาเสหิ, รฺา นาม นิสมฺมการินา ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา สตฺต คาถา อภาสึสุ –
‘‘นาทฏฺา ปรโต โทสํ, อณุํ ถูลานิ สพฺพโส;
อิสฺสโร ปณเย ทณฺฑํ, สามํ อปฺปฏิเวกฺขิย.
‘‘โย จ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา, ทณฺฑํ กุพฺพติ ขตฺติโย;
สกณฺฏกํ โส คิลติ, ชจฺจนฺโธว สมกฺขิกํ.
‘‘อทณฺฑิยํ ¶ ทณฺฑยติ, ทณฺฑิยฺจ อทณฺฑิยํ;
อนฺโธว วิสมํ มคฺคํ, น ชานาติ สมาสมํ.
‘‘โย จ เอตานิ านานิ, อณุํ ถูลานิ สพฺพโส;
สุทิฏฺมนุสาเสยฺย, ส เว โวหริตุ มรหติ.
‘‘เนกนฺตมุทุนา สกฺกา, เอกนฺตติขิเณน วา;
อตฺตํ มหนฺเต เปตุํ, ตสฺมา อุภยมาจเร.
‘‘ปริภูโต ¶ มุทุ โหติ, อติติกฺโข จ เวรวา;
เอตฺจ อุภยํ ตฺวา, อนุมชฺฌํ สมาจเร.
‘‘พหุมฺปิ รตฺโต ภาเสยฺย, ทุฏฺโปิ พหุ ภาสติ;
น อิตฺถิการณา ราช, ปุตฺตํ ฆาเตตุมรหสี’’ติ.
ตตฺถ นาทฏฺาติ น อทิสฺวา. ปรโตติ ปรสฺส. สพฺพโสติ สพฺพานิ. อณุํถูลานีติ ขุทฺทกมหนฺตานิ วชฺชานิ. สามํ อปฺปฏิเวกฺขิยาติ ปรสฺส วจนํ คเหตฺวา อตฺตโน ปจฺจกฺขํ อกตฺวา ปถวิสฺสโร ราชา ทณฺฑํ น ปณเย น ปฏฺเปยฺย. มหาสมฺมตราชกาลสฺมิฺหิ สตโต อุตฺตริ ทณฺโฑ นาม นตฺถิ, ตาฬนครหณปพฺพาชนโต อุทฺธํ หตฺถปาทจฺเฉทนฆาตนํ นาม นตฺถิ, ปจฺฉา กกฺขฬราชูนํเยว กาเล เอตํ อุปฺปนฺนํ, ตํ สนฺธาย เต อมจฺจา ‘‘เอกนฺเตเนว ปรสฺส โทสํ สามํ อทิสฺวา กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ กเถนฺตา เอวมาหํสุ.
โย จ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ มหาราช, เอวํ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา โทสานุจฺฉวิเก ทณฺเฑ ปเณตพฺเพ โย ราชา อคติคมเน ิโต ตํ โทสํ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา หตฺถจฺเฉทาทิทณฺฑํ กโรติ, โส ¶ อตฺตโน ทุกฺขการณํ กโรนฺโต สกณฺฏกํ โภชนํ คิลติ นาม, ชจฺจนฺโธ วิย จ สมกฺขิกํ ภฺุชติ นาม. อทณฺฑิยนฺติ โย อทณฺฑิยํ อทณฺฑปเณตพฺพฺจ ทณฺเฑตฺวา ทณฺฑิยฺจ ทณฺฑปเณตพฺพํ อทณฺเฑตฺวา อตฺตโน รุจิเมว กโรติ, โส อนฺโธ วิย วิสมํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน, น ชานาติ สมาสมํ, ตโต ปาสาณาทีสุ ปกฺขลนฺโต อนฺโธ วิย จตูสุ อปาเยสุ มหาทุกฺขํ ปาปุณาตีติ ¶ อตฺโถ. เอตานิ านานีติ เอตานิ ทณฺฑิยาทณฺฑิยการณานิ เจว ทณฺฑิยการเณสุปิ อณุํถูลานิ จ สพฺพานิ สุทิฏฺํ ทิสฺวา อนุสาเสยฺย, ส เว โวหริตุํ รชฺชมนุสาสิตุํ อรหตีติ อตฺโถ.
อตฺตํ มหนฺเต เปตุนฺติ เอวรูโป อนุปฺปนฺเน โภเค อุปฺปาเทตฺวา อุปฺปนฺเน ถาวเร กตฺวา อตฺตานํ มหนฺเต อุฬาเร อิสฺสริเย เปตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. มุทูติ มุทุราชา รฏฺวาสีนํ ปริภูโต โหติ อวฺาโต, โส รชฺชํ นิจฺโจรํ กาตุํ น สกฺโกติ. เวรวาติ อติติกฺขสฺส ปน สพฺเพปิ รฏฺวาสิโน เวริโน โหนฺตีติ โส เวรวา นาม โหติ. อนุมชฺฌนฺติ อนุภูตํ มุทุติขิณภาวานํ มชฺฌํ สมาจเร, อมุทุ อติกฺโข หุตฺวา รชฺชํ กาเรยฺยาติ อตฺโถ. น อิตฺถิการณาติ ปาปํ ลามกํ มาตุคามํ นิสฺสาย วํสานุรกฺขกํ ฉตฺตทายาทํ ปุตฺตํ ฆาเตตุํ นารหสิ, มหาราชาติ.
เอวํ ¶ นานาการเณหิ กเถนฺตาปิ อมจฺจา อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ นาสกฺขึสุ. โพธิสตฺโตปิ ยาจนฺโต อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ นาสกฺขิ. อนฺธพาโล ปน ราชา ‘‘คจฺฉถ นํ โจรปปาเต ขิปถา’’ติ อาณาเปนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘สพฺโพว โลโก เอกโต, อิตฺถี จ อยเมกิกา;
เตนาหํ ปฏิปชฺชิสฺสํ, คจฺฉถ ปกฺขิปเถว ต’’นฺติ.
ตตฺถ เตนาหนฺติ เยน การเณน สพฺโพ โลโก เอกโต กุมารสฺเสว ปกฺโข หุตฺวา ิโต, อยฺจ อิตฺถี เอกิกาว, เตน การเณน อหํ อิมิสฺสา วจนํ ปฏิปชฺชิสฺสํ, คจฺฉถ ตํ ปพฺพตํ อาโรเปตฺวา ปปาเต ขิปเถวาติ.
เอวํ วุตฺเต โสฬสสหสฺสาสุ ราชอิตฺถีสุ เอกาปิ สกภาเวน สณฺาตุํ นาสกฺขิ, สกลนครวาสิโน พาหา ปคฺคยฺห กนฺทิตฺวา เกเส วิกิรยมานา วิลปึสุ. ราชา ‘‘อิเม อิมสฺส ปปาเต ขิปนํ ¶ ปฏิพาเหยฺยุ’’นฺติ สปริวาโร คนฺตฺวา มหาชนสฺส ปริเทวนฺตสฺเสว นํ อุทฺธํปาทํ อวํสิรํ กตฺวา คาหาเปตฺวา ปปาเต ขิปาเปสิ. อถสฺส เมตฺตานุภาเวน ปพฺพเต อธิวตฺถา เทวตา ‘‘มา ภายิ มหาปทุมา’’ติ ตํ สมสฺสาเสตฺวา ¶ อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา หทเย เปตฺวา ทิพฺพสมฺผสฺสํ ผราเปตฺวา โอตริตฺวา ปพฺพตปาเท ปติฏฺิตนาคราชสฺส ผณคพฺเภ เปสิ. นาคราชา โพธิสตฺตํ นาคภวนํ เนตฺวา อตฺตโน ยสํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา อทาสิ. โส ตตฺถ เอกสํวจฺฉรํ วสิตฺวา ‘‘มนุสฺสปถํ คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กตรํ าน’’นฺติ วุตฺเต ‘‘หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. นาคราชา ‘‘สาธู’’ติ ตํ คเหตฺวา มนุสฺสปเถ ปติฏฺาเปตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. โสปิ หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร ตตฺถ ปฏิวสติ.
อเถโก พาราณสิวาสี วนจรโก ตํ านํ ปตฺโต มหาสตฺตํ สฺชานิตฺวา ‘‘นนุ ตฺวํ เทว, มหาปทุมกุมาโร’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สมฺมา’’ติ วุตฺเต ตํ วนฺทิตฺวา กติปาหํ ตตฺถ วสิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ ‘‘เทว, ปุตฺโต เต หิมวนฺตปเทเส อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปณฺณสาลายํ วสติ, อหํ ตสฺส สนฺติเก วสิตฺวา อาคโต’’ติ. ‘‘ปจฺจกฺขโต เต ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘อาม เทวา’’ติ. ราชา มหาพลกายปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา วนปริยนฺเต ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา อมจฺจคณปริวุโต ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา กฺจนรูปสทิสํ ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺนํ มหาสตฺตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อมจฺจาปิ วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ¶ นิสีทึสุ. โพธิสตฺโตปิ ราชานํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. อถ นํ ราชา ‘‘ตาต, มยา ตฺวํ คมฺภีเร ¶ ปปาเต ขิปาปิโต, กถํ สชีวิโตสี’’ติ ปุจฺฉนฺโต นวมํ คาถมาห –
‘‘อเนกตาเล นรเก, คมฺภีเร จ สุทุตฺตเร;
ปาติโต คิริทุคฺคสฺมึ, เกน ตฺวํ ตตฺถ นามรี’’ติ.
ตตฺถ อเนกตาเลติ อเนกตาลปฺปมาเณ. นามรีติ น อมริ.
ตโตปรํ –
‘‘นาโค ชาตผโณ ตตฺถ, ถามวา คิริสานุโช;
ปจฺจคฺคหิ มํ โภเคหิ, เตนาหํ ตตฺถ นามรึ.
‘‘เอหิ ¶ ตํ ปฏิเนสฺสามิ, ราชปุตฺต สกํ ฆรํ;
รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.
‘‘ยถา คิลิตฺวา พฬิสํ, อุทฺธเรยฺย สโลหิตํ;
อุทฺธริตฺวา สุขี อสฺส, เอวํ ปสฺสามิ อตฺตนํ.
‘‘กึ นุ ตฺวํ พฬิสํ พฺรูสิ, กึ ตฺวํ พฺรูสิ สโลหิตํ;
กึ นุ ตฺวํ อุพฺภตํ พฺรูสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต.
‘‘กามาหํ พฬิสํ พฺรูมิ, หตฺถิอสฺสํ สโลหิตํ;
จตฺตาหํ อุพฺภตํ พฺรูมิ, เอวํ ชานาหิ ขตฺติยา’’ติ. –
อิมาสุ ปฺจสุ เอกนฺตริกา ติสฺโส คาถา โพธิสตฺตสฺส, ทฺเว รฺโ.
ตตฺถ ¶ ปจฺจคฺคหิ มนฺติ ปพฺพตปตนกาเล เทวตาย ปริคฺคเหตฺวา ทิพฺพสมฺผสฺเสน สมสฺสาเสตฺวา อุปนีตํ มํ ปฏิคฺคณฺหิ, คเหตฺวา จ ปน นาคภวนํ อาเนตฺวา มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา ‘‘มนุสฺสปถํ มํ เนหี’’ติ วุตฺโต มํ มนุสฺสปถํ อาเนสิ. อหํ อิธาคนฺตฺวา ปพฺพชิโต, อิติ เตน เทวตาย จ นาคราชสฺส จ อานุภาเวน อหํ ตตฺถ นามรินฺติ สพฺพํ อาโรเจสิ.
เอหีติ ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘ตาต, อหํ พาลภาเวน อิตฺถิยา วจนํ คเหตฺวา เอวํ สีลาจารสมฺปนฺเน ตยิ อปรชฺฌึ, ขมาหิ เม โทส’’นฺติ ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘อุฏฺเหิ, มหาราช, ขมาม เต โทสํ, อิโต ปรํ ปุน มา เอวํ อนิสมฺมการี ภเวยฺยาสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตาต, ตฺวํ อตฺตโน กุลสนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชํ อนุสาสนฺโต มยฺหํ ขมสิ นามา’’ติ เอวมาห.
อุทฺธริตฺวาติ ¶ หทยวกฺกาทีนิ อสมฺปตฺตเมว ตํ อุทฺธริตฺวา สุขี อสฺส. เอวํ ปสฺสามิ อตฺตนนฺติ อตฺตานํ มหาราช, เอวํ อหมฺปิ ปุน โสตฺถิภาวปฺปตฺตํ คิลิตพฬิสํ ปุริสมิว อตฺตานํ ปสฺสามีติ. ‘‘กึ นุ ตฺว’’นฺติ อิทํ ราชา ตมตฺถํ วิตฺถารโต โสตุํ ปุจฺฉติ. กามาหนฺติ ปฺจ กามคุเณ อหํ. หตฺถิอสฺสํ สโลหิตนฺติ เอวํ หตฺถิอสฺสรถวาหนํ สตฺตรตนาทิวิภวํ ‘‘สโลหิต’’นฺติ พฺรูมิ. จตฺตาหนฺติ จตฺตํ อหํ, ยทา ตํ สพฺพมฺปิ จตฺตํ โหติ ปริจฺจตฺตํ, ตํ ทานาหํ ‘‘อุพฺภต’’นฺติ พฺรูมิ.
‘‘อิติ ¶ โข, มหาราช, มยฺหํ รชฺเชน กิจฺจํ นตฺถิ, ตฺวํ ปน ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหี’’ติ มหาสตฺโต ปิตุ โอวาทํ อทาสิ. โส ราชา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา นครํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อมจฺเจ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ กํ นิสฺสาย เอวรูเปน อาจารคุณสมฺปนฺเนน ปุตฺเตน วิโยคํ ปตฺโต’’ติ? ‘‘อคฺคมเหสึ, เทวา’’ติ. ราชา ตํ อุทฺธํปาทํ คาหาเปตฺวา โจรปปาเต ขิปาเปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพเปสา มํ อกฺโกสิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา –
‘‘จิฺจมาณวิกา ¶ มาตา, เทวทตฺโต จ เม ปิตา;
อานนฺโท ปณฺฑิโต นาโค, สาริปุตฺโต จ เทวตา;
ราชปุตฺโต อหํ อาสึ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ. –
โอสานคาถาย ชาตกํ สโมธาเนสิ.
มหาปทุมชาตกวณฺณนา นวมา.
[๔๗๓] ๑๐. มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา
กานิ กมฺมานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ อตฺถจรกํ อมจฺจํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร รฺโ พหูปกาโร อโหสิ. อถสฺส ราชา อติเรกสมฺมานํ กาเรสิ. อวเสสา นํ อสหมานา ‘‘เทว, อสุโก นาม อมจฺโจ ตุมฺหากํ อนตฺถการโก’’ติ ปริภินฺทึสุ. ราชา ตํ ปริคฺคณฺหนฺโต กิฺจิ โทสํ อทิสฺวา ‘‘อหํ อิมสฺส กิฺจิ โทสํ น ปสฺสามิ, กถํ นุ โข สกฺกา มยา อิมสฺส มิตฺตภาวํ วา อมิตฺตภาวํ วา ชานิตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘อิมํ ปฺหํ เปตฺวา ตถาคตํ ¶ อฺโ ชานิตุํ น สกฺขิสฺสติ, คนฺตฺวา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, กถํ นุ โข สกฺกา ปุริเสน อตฺตโน มิตฺตภาวํ วา อมิตฺตภาวํ วา ชานิตุ’’นฺติ ปุจฺฉิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ปุพฺเพปิ มหาราช, ปณฺฑิตา อิมํ ปฺหํ จินฺเตตฺวา ปณฺฑิเต ปุจฺฉิตฺวา เตหิ กถิตวเสน ¶ ตฺวา อมิตฺเต วชฺเชตฺวา มิตฺเต เสวึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสโก อมจฺโจ อโหสิ. ตทา พาราณสิรฺโ เอกํ อตฺถจรกํ อมจฺจํ เสสา ปริภินฺทึสุ. ราชา ตสฺส โทสํ อปสฺสนฺโต ‘‘กถํ นุ โข สกฺกา มิตฺตํ วา อมิตฺตํ วา าตุ’’นฺติ มหาสตฺตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กานิ กมฺมานิ กุพฺพานํ, กถํ วิฺู ปรกฺกเม;
อมิตฺตํ ชาเนยฺย เมธาวี, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – กานิ กมฺมานิ กโรนฺตํ เมธาวี ปณฺฑิโต ปุริโส จกฺขุนา ทิสฺวา วา โสเตน ¶ สุตฺวา วา ‘‘อยํ มยฺหํ อมิตฺโต’’ติ ชาเนยฺย, ตสฺส ชานนตฺถาย กถํ วิฺู ปรกฺกเมยฺยาติ.
อถสฺส อมิตฺตลกฺขณํ กเถนฺโต อาห –
‘‘น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวา, น จ นํ ปฏินนฺทติ;
จกฺขูนิ จสฺส น ททาติ, ปฏิโลมฺจ วตฺตติ.
‘‘อมิตฺเต ตสฺส ภชติ, มิตฺเต ตสฺส น เสวติ;
วณฺณกาเม นิวาเรติ, อกฺโกสนฺเต ปสํสติ.
‘‘คุยฺหฺจ ตสฺส นกฺขาติ, ตสฺส คุยฺหํ น คูหติ;
กมฺมํ ตสฺส น วณฺเณติ, ปฺสฺส นปฺปสํสติ.
‘‘อภเว นนฺทติ ตสฺส, ภเว ตสฺส น นนฺทติ;
อจฺเฉรํ โภชนํ ลทฺธา, ตสฺส นุปฺปชฺชเต สติ;
ตโต นํ นานุกมฺปติ, อโห โสปิ ลเภยฺยิโต.
‘‘อิจฺเจเต โสฬสาการา, อมิตฺตสฺมึ ปติฏฺิตา;
เยหิ อมิตฺตํ ชาเนยฺย, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ.
มหาสตฺโต ¶ อิมา ปฺจ คาถา วตฺวาน ปุน –
‘‘กานิ ¶ กมฺมานิ กุพฺพานํ, กถํ วิฺู ปรกฺกเม;
มิตฺตํ ชาเนยฺย เมธาวี, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ. –
อิมาย คาถาย มิตฺตลกฺขณํ ปุฏฺโ เสสคาถา อภาสิ –
‘‘ปวุตฺถํ ¶ ตสฺส สรติ, อาคตํ อภินนฺทติ;
ตโต เกลายิโต โหติ, วาจาย ปฏินนฺทติ.
‘‘มิตฺเต ตสฺเสว ภชติ, อมิตฺเต ตสฺส น เสวติ;
อกฺโกสนฺเต นิวาเรติ, วณฺณกาเม ปสํสติ.
‘‘คุยฺหฺจ ตสฺส อกฺขาติ, ตสฺส คุยฺหฺจ คูหติ;
กมฺมฺจ ตสฺส วณฺเณติ, ปฺํ ตสฺส ปสํสติ.
‘‘ภเว จ นนฺทติ ตสฺส, อภเว ตสฺส น นนฺทติ;
อจฺเฉรํ โภชนํ ลทฺธา, ตสฺส อุปฺปชฺชเต สติ;
ตโต นํ อนุกมฺปติ, อโห โสปิ ลเภยฺยิโต.
‘‘อิจฺเจเต โสฬสาการา, มิตฺตสฺมึ สุปฺปติฏฺิตา;
เยหิ มิตฺตฺจ ชาเนยฺย, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ.
ตตฺถ น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวาติ ตํ มิตฺตํ มิตฺตปติรูปโก ทิสฺวา สิตํ น กโรติ, ปหฏฺาการํ น ทสฺเสติ. น จ นํ ปฏินนฺทตีติ ตสฺส กถํ ปคฺคณฺหนฺโต น ปฏินนฺทติ น ตุสฺสติ. จกฺขูนิ จสฺส น ททาตีติ โอโลเกนฺตํ น โอโลเกติ. ปฏิโลมฺจาติ ตสฺส กถํ ปฏิปฺผรติ ปฏิสตฺตุ โหติ. วณฺณกาเมติ ตสฺส วณฺณํ ภณนฺเต. นกฺขาตีติ อตฺตโน คุยฺหํ ตสฺส น อาจิกฺขติ. กมฺมํ ตสฺสาติ เตน กตกมฺมํ น วณฺณยติ. ปฺสฺสาติ อสฺส ปฺํ นปฺปสํสติ, าณสมฺปทํ น ปสํสติ. อภเวติ อวฑฺฒิยํ. ตสฺส นุปฺปชฺชเต สตีติ ตสฺส มิตฺตปติรูปกสฺส ‘‘มม มิตฺตสฺสปิ อิโต ทสฺสามี’’ติ สติ น อุปฺปชฺชติ. นานุกมฺปตีติ มุทุจิตฺเตน น จินฺเตติ. ลเภยฺยิโตติ ลเภยฺย อิโต. อาการาติ การณานิ. ปวุตฺถนฺติ วิเทสคตํ ¶ . เกลายิโตติ เกลายติ มมายติ ปตฺเถติ ปิเหติ อิจฺฉตีติ อตฺโถ. วาจายาติ มธุรวจเนน ตํ สมุทาจรนฺโต ปฏินนฺทติ ตุสฺสติ. เสสํ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. ราชา ¶ มหาสตฺตสฺส กถาย อตฺตมโน หุตฺวา ตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, มหาราช, ปุพฺเพเปส ปฺโห สมุฏฺหิ, ปณฺฑิตาว นํ ¶ กถยึสุ, อิเมหิ ทฺวตฺตึสาย อากาเรหิ มิตฺตามิตฺโต ชานิตพฺโพ’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปณฺฑิตามจฺโจ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา ทสมา.
ชาตกุทฺทานํ –
กุณาลํ ภทฺทสาลฺจ, สมุทฺทวาณิช ปณฺฑิตํ;
ชนสนฺธํ มหากณฺหํ, โกสิยํ สิริมนฺตกํ.
ปทุมํ มิตฺตามิตฺตฺจ, อิจฺเจเต ทส ชาตเก;
สงฺคายึสุ มหาเถรา, ทฺวาทสมฺหิ นิปาตเก.
ทฺวาทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. เตรสกนิปาโต
[๔๗๔] ๑. อมฺพชาตกวณฺณนา
อหาสิ ¶ ¶ ¶ เม อมฺพผลานิ ปุพฺเพติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. เทวทตฺโต หิ ‘‘อหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามิ, มยฺหํ สมโณ โคตโม เนว อาจริโย น อุปชฺฌาโย’’ติ อาจริยํ ปจฺจกฺขาย ฌานปริหีโน สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อาคจฺฉนฺโต พหิเชตวเน ปถวิยา วิวเร ทินฺเน อวีจึ ปาวิสิ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโต, อวีจิมหานิรเย นิพฺพตฺโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตสฺส ปุโรหิตกุลํ อหิวาตโรเคน วินสฺสิ. เอโกว ปุตฺโต ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา ปลาโต. โส ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺสาจริยสฺส สนฺติเก ตโย เวเท จ อวเสสสิปฺปานิ จ อุคฺคเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโต ‘‘เทสจาริตฺตํ ชานิสฺสามี’’ติ จรนฺโต เอกํ ปจฺจนฺตนครํ ปาปุณิ. ตํ นิสฺสาย มหาจณฺฑาลคามโก อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺมึ คาเม ปฏิวสติ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต อกาเล ผลํ คณฺหาปนมนฺตํ ชานาติ. โส ปาโตว วุฏฺาย กาชํ อาทาย ตโต คามา นิกฺขิมิตฺวา อรฺเ เอกํ อมฺพรุกฺขํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต ตํ มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา อมฺพรุกฺขํ เอเกน ¶ อุทกปสเตน ปหรติ. รุกฺขโต ตงฺขณฺเว ปุราณปณฺณานิ ปตนฺติ, นวานิ อุฏฺหนฺติ, ปุปฺผานิ ปุปฺผิตฺวา ปตนฺติ, อมฺพผลานิ อุฏฺาย มุหุตฺเตเนว ปจฺจิตฺวา มธุรานิ โอชวนฺตานิ ทิพฺพรสสทิสานิ หุตฺวา รุกฺขโต ปตนฺติ. มหาสตฺโต ตานิ อุจฺจินิตฺวา ยาวทตฺถํ ขาทิตฺวา กาชํ ปูราเปตฺวา เคหํ คนฺตฺวา ตานิ วิกฺกิณิตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสสิ.
โส ¶ ¶ พฺราหฺมณกุมาโร มหาสตฺตํ อกาเล อมฺพปกฺกานิ อาหริตฺวา วิกฺกิณนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นิสฺสํสเยน เตหิ มนฺตพเลน อุปฺปนฺเนหิ ภวิตพฺพํ, อิมํ ปุริสํ นิสฺสาย อิทํ อนคฺฆมนฺตํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อมฺพานิ อาหรณนิยามํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตถโต ตฺวา ตสฺมึ อรฺโต อนาคเตเยว ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา อชานนฺโต วิย หุตฺวา ตสฺส ภริยํ ‘‘กุหึ อยฺโย, อาจริโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อรฺํ คโต’’ติ วุตฺเต ตํ อาคตํ อาคมยมาโนว ตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา หตฺถโต ปจฺฉึ คเหตฺวา อาหริตฺวา เคเห เปสิ. มหาสตฺโต ตํ โอโลเกตฺวา ภริยํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อยํ มาณโว มนฺตตฺถาย อาคโต, ตสฺส หตฺเถ มนฺโต นสฺสติ, อสปฺปุริโส เอโส’’ติ. มาณโวปิ ‘‘อหํ อิมํ มนฺตํ อาจริยสฺส อุปการโก หุตฺวา ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ตสฺส เคเห สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ทารูนิ อาหรติ, วีหึ โกฏฺเฏติ, ภตฺตํ ปจติ, ทนฺตกฏฺมุขโธวนาทีนิ เทติ, ปาทํ โธวติ.
เอกทิวสํ มหาสตฺเตน ‘‘ตาต มาณว, มฺจปาทานํ เม อุปธานํ เทหี’’ติ วุตฺเต อฺํ อปสฺสิตฺวา สพฺพรตฺตึ อูรุมฺหิ เปตฺวา นิสีทิ. อปรภาเค มหาสตฺตสฺส ภริยา ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺสา ปสูติกาเล ปริกมฺมํ สพฺพมกาสิ. สา เอกทิวสํ มหาสตฺตํ อาห ‘‘สามิ, อยํ มาณโว ชาติสมฺปนฺโน หุตฺวา มนฺตตฺถาย อมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กโรติ, เอตสฺส หตฺเถ มนฺโต ติฏฺตุ วา มา วา, เทถ ตสฺส มนฺต’’นฺติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ¶ ตสฺส มนฺตํ ทตฺวา เอวมาห – ‘‘ตาต, อนคฺโฆยํ มนฺโต, ตว อิมํ นิสฺสาย มหาลาภสกฺกาโร ภวิสฺสติ, รฺา วา ราชมหามตฺเตน วา ‘โก เต อาจริโย’ติ ปุฏฺกาเล มา มํ นิคูหิตฺโถ, สเจ หิ ‘จณฺฑาลสฺส เม สนฺติกา มนฺโต คหิโต’ติ ลชฺชนฺโต ‘พฺราหฺมณมหาสาโล เม อาจริโย’ติ กเถสฺสสิ, อิมสฺส มนฺตสฺส ผลํ น ลภิสฺสสี’’ติ. โส ‘‘กึ การณา ตํ นิคูหิสฺสามิ, เกนจิ ปุฏฺกาเล ตุมฺเหเยว กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา จณฺฑาลคามโต นิกฺขมิตฺวา มนฺตํ วีมํสิตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา อมฺพานิ วิกฺกิณิตฺวา พหุํ ธนํ ลภิ.
อเถกทิวสํ อุยฺยานปาโล ตสฺส หตฺถโต อมฺพํ กิณิตฺวา รฺโ อทาสิ. ราชา ตํ ปริภฺุชิตฺวา ‘‘กุโต สมฺม, ตยา เอวรูปํ อมฺพํ ¶ ลทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิ. เทว, เอโก มาณโว อกาลอมฺพผลานิ อาเนตฺวา วิกฺกิณาติ, ตโต เม คหิตนฺติ. เตน หิ ‘‘อิโต ปฏฺาย อิเธว อมฺพานิ อาหรตู’’ติ นํ วเทหีติ. โส ตถา อกาสิ. มาณโวปิ ตโต ปฏฺาย อมฺพานิ ราชกุลํ หรติ. อถ รฺา ‘‘อุปฏฺห ม’’นฺติ วุตฺเต ราชานํ อุปฏฺหนฺโต พหุํ ธนํ ลภิตฺวา อนุกฺกเมน วิสฺสาสิโก ชาโต. อถ นํ เอกทิวสํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘มาณว, กุโต อกาเล เอวํ ¶ วณฺณคนฺธรสสมฺปนฺนานิ อมฺพานิ ลภสิ, กึ เต นาโค วา สุปณฺโณ วา เทโว วา โกจิ เทติ, อุทาหุ มนฺตพลํ เอต’’นฺติ? ‘‘น เม มหาราช, โกจิ เทติ, อนคฺโฆ ปน เม มนฺโต อตฺถิ, ตสฺเสว พล’’นฺติ. ‘‘เตน หิ มยมฺปิ เต เอกทิวสํ มนฺตพลํ ทฏฺุกามา’’ติ. ‘‘สาธุ, เทว, ทสฺเสสฺสามี’’ติ. ราชา ปุนทิวเส เตน สทฺธึ อุยฺยานํ คนฺตฺวา ‘‘ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ อมฺพรุกฺขํ อุปคนฺตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา รุกฺขํ อุทเกน ปหริ. ตงฺขณฺเว อมฺพรุกฺโข เหฏฺา วุตฺตนิยาเมเนว ผลํ คเหตฺวา ¶ มหาเมโฆ วิย อมฺพวสฺสํ วสฺสิ. มหาชโน สาธุการํ อทาสิ, เจลุกฺเขปา ปวตฺตึสุ.
ราชา อมฺพผลานิ ขาทิตฺวา ตสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘มาณวก, เอวรูโป เต อจฺฉริยมนฺโต กสฺส สนฺติเก คหิโต’’ติ ปุจฺฉิ. มาณโว ‘‘สจาหํ ‘จณฺฑาลสฺส สนฺติเก’ติ วกฺขามิ, ลชฺชิตพฺพกํ ภวิสฺสติ, มฺจ ครหิสฺสนฺติ, มนฺโต โข ปน เม ปคุโณ, อิทานิ น นสฺสิสฺสติ, ทิสาปาโมกฺขํ อาจริยํ อปทิสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มุสาวาทํ กตฺวา ‘‘ตกฺกสิลายํ ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก คหิโต เม’’ติ วทนฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาสิ. ตงฺขณฺเว มนฺโต อนฺตรธายิ. ราชา โสมนสฺสชาโต ตํ อาทาย นครํ ปวิสิตฺวา ปุนทิวเส ‘‘อมฺพานิ ขาทิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิตฺวา มาณว, อมฺพานิ อาหราติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ อมฺพํ อุปคนฺตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต ‘‘มนฺตํ ปริวตฺเตสฺสามี’’ติ มนฺเต อนุปฏฺหนฺเต อนฺตรหิตภาวํ ตฺวา ลชฺชิโต อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อยํ ปุพฺเพ ปริสมชฺเฌเยว อมฺพานิ อาหริตฺวา อมฺหากํ เทติ, ฆนเมฆวสฺสํ วิย อมฺพวสฺสํ วสฺสาเปติ, อิทานิ ถทฺโธ วิย ิโต, กึ นุ โข การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘อหาสิ ¶ เม อมฺพผลานิ ปุพฺเพ, อณูนิ ถูลานิ จ พฺรหฺมจาริ;
เตเหว มนฺเตหิ น ทานิ ตุยฺหํ, ทุมปฺผลา ปาตุภวนฺติ พฺรหฺเม’’ติ.
ตตฺถ อหาสีติ อาหริ. ทุมปฺผลาติ รุกฺขผลานิ.
ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘สเจ ‘อชฺช อมฺพผลํ น คณฺหามี’ติ วกฺขามิ, ราชา เม กุชฺฌิสฺสติ, มุสาวาเทน นํ วฺเจสฺสามี’’ติ ทุติยํ คาถมาห –
‘‘นกฺขตฺตโยคํ ¶ ปฏิมานยามิ, ขณํ มุหุตฺตฺจ มนฺเต น ปสฺสํ;
นกฺขตฺตโยคฺจ ¶ ขณฺจ ลทฺธา, อทฺธา หริสฺสมฺพผลํ ปหูต’’นฺติ.
ตตฺถ อทฺธาหริสฺสมฺพผลนฺติ อทฺธา อมฺพผลํ อาหริสฺสามิ.
ราชา ‘‘อยํ อฺทา นกฺขตฺตโยคํ น วทติ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘นกฺขตฺตโยคํ น ปุเร อภาณิ, ขณํ มุหุตฺตํ น ปุเร อสํสิ;
สยํ หรี อมฺพผลํ ปหูตํ, วณฺเณน คนฺเธน รเสนุเปตํ.
‘‘มนฺตาภิชปฺเปน ปุเร หิ ตุยฺหํ, ทุมปฺผลา ปาตุภวนฺติ พฺรหฺเม;
สฺวาชฺช น ปาเรสิ ชปฺปมฺปิ มนฺตํ, อยํ โส โก นาม ตวชฺช ธมฺโม’’ติ.
ตตฺถ น ปาเรสีติ น สกฺโกสิ. ชปฺปมฺปีติ ชปฺปนฺโตปิ ปริวตฺเตนฺโตปิ. อยํ โสติ อยเมว โส ตว สภาโว อชฺช โก นาม ชาโตติ.
ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘น สกฺกา ราชานํ มุสาวาเทน วฺเจตุํ, สเจปิ เม สภาเว กถิเต อาณํ กเรยฺย, กโรตุ, สภาวเมว กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘จณฺฑาลปุตฺโต ¶ มม สมฺปทาสิ, ธมฺเมน มนฺเต ปกติฺจ สํสิ;
มา จสฺสุ เม ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ, คุยฺหิตฺโถ อตฺถํ วิชเหยฺย มนฺโต.
‘‘โสหํ ชนินฺเทน ชนมฺหิ ปุฏฺโ, มกฺขาภิภูโต อลิกํ อภาณึ;
‘มนฺตา อิเม พฺราหฺมณสฺสา’ติ มิจฺฉา, ปหีนมนฺโต กปโณ รุทามี’’ติ.
ตตฺถ ธมฺเมนาติ สเมน การเณน อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวาว อทาสิ. ปกติฺจ สํสีติ ‘‘มา เม ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ คุยฺหิตฺโถ, สเจ คูหสิ ¶ , มนฺตา เต นสฺสิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ นสฺสนปกติฺจ มยฺหํ สํสิ. พฺราหฺมณสฺสาติ มิจฺฉาติ ‘‘พฺราหฺมณสฺส สนฺติเก มยา อิเม มนฺตา คหิตา’’ติ ¶ มิจฺฉาย อภณึ, เตน เม เต มนฺตา นฏฺา, สฺวาหํ ปหีนมนฺโต อิทานิ กปโณ รุทามีติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ ปาปธมฺโม เอวรูปํ รตนมนฺตํ น โอโลเกสิ, เอวรูปสฺมิฺหิ อุตฺตมรตนมนฺเต ลทฺเธ ชาติ กึ กริสฺสตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ตสฺส ครหนฺโต –
‘‘เอรณฺฑา ปุจิมนฺทา วา, อถ วา ปาลิภทฺทกา;
มธุํ มธุตฺถิโก วินฺเท, โส หิ ตสฺส ทุมุตฺตโม.
‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
ยมฺหา ธมฺมํ วิชาเนยฺย, โส หิ ตสฺส นรุตฺตโม.
‘‘อิมสฺส ทณฺฑฺจ วธฺจ ทตฺวา, คเล คเหตฺวา ขลยาถ ชมฺมํ;
โย อุตฺตมตฺถํ กสิเรน ลทฺธํ, มานาติมาเนน วินาสยิตฺถา’’ติ. –
อิมา คาถา อาห.
ตตฺถ ¶ มธุตฺถิโกติ มธุอตฺถิโก ปุริโส อรฺเ มธุํ โอโลเกนฺโต เอเตสํ รุกฺขานํ ยโต มธุํ ลภติ, โสว ทุโม ตสฺส ทุมุตฺตโม นาม. ตเถว ขตฺติยาทีสุ ยมฺหา ปุริสา ธมฺมํ การณํ ยุตฺตํ อตฺถํ วิชาเนยฺย, โสว ตสฺส อุตฺตโม นโร นาม. อิมสฺส ทณฺฑฺจาติ อิมสฺส ปาปธมฺมสฺส สพฺพสฺสหรณทณฺฑฺจ เวฬุเปสิกาทีหิ ปิฏฺิจมฺมํ อุปฺปาเฏตฺวา วธฺจ ทตฺวา อิมํ ชมฺมํ คเล คเหตฺวา ขลยาถ, ขลิการตฺตํ ปาเปตฺวา นิทฺธมถ นิกฺกฑฺฒถ, กึ อิมินา อิธ วสนฺเตนาติ.
ราชปุริสา ตถา กตฺวา ‘‘ตวาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาราเธตฺวาว สเจ ปุน มนฺเต ลภิสฺสสิ, อิธ อาคจฺเฉยฺยาสิ, โน เจ, อิมํ ทิสํ มา โอโลเกยฺยาสี’’ติ ตํ นิพฺพิสยมกํสุ. โส อนาโถ หุตฺวา ‘‘เปตฺวา อาจริยํ น เม อฺํ ปฏิสรณํ อตฺถิ, ตสฺเสว สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาราเธตฺวา ปุน มนฺตํ ยาจิสฺสามี’’ติ โรทนฺโต ตํ คามํ อคมาสิ. อถ ¶ นํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต ภริยํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปสฺส ตํ ปาปธมฺมํ ปริหีนมนฺตํ ปุน อาคจฺฉนฺต’’นฺติ อาห. โส มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อาจริย, มุสาวาทํ กตฺวา อาจริยํ ปจฺจกฺขิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโตมฺหี’’ติ วตฺวา อจฺจยํ ทสฺเสตฺวา ปุน มนฺเต ยาจนฺโต –
‘‘ยถา สมํ มฺมาโน ปเตยฺย, โสพฺภํ คุหํ นรกํ ปูติปาทํ;
รชฺชูติ วา อกฺกเม กณฺหสปฺปํ, อนฺโธ ยถา โชติมธิฏฺเหยฺย;
เอวมฺปิ มํ ตํ ขลิตํ สปฺ, ปหีนมนฺตสฺส ปุนปฺปทาหี’’ติ. – คาถมาห;
ตตฺถ ยถา สมนฺติ ยถา ปุริโส อิทํ สมํ านนฺติ มฺมาโน โสพฺภํ วา คุหํ วา ภูมิยา ผลิตฏฺานสงฺขาตํ นรกํ วา ปูติปาทํ วา ปเตยฺย. ปูติปาโทติ หิมวนฺตปเทเส มหารุกฺเข สุสฺสิตฺวา มเต ตสฺส ¶ มูเลสุ ปูติเกสุ ชาเตสุ ตสฺมึ าเน มหาอาวาโฏ โหติ, ตสฺส นามํ. โชติมธิฏฺเหยฺยาติ อคฺคึ อกฺกเมยฺย. เอวมฺปีติ เอวํ อหมฺปิ ปฺาจกฺขุโน อภาวา อนฺโธ ตุมฺหากํ วิเสสํ อชานนฺโต ตุมฺเหสุ ขลิโต, ตํ มํ ขลิตํ วิทิตฺวา สปฺ าณสมฺปนฺน ปหีนมนฺตสฺส มม ปุนปิ เทถาติ.
อถ นํ อาจริโย ‘‘ตาต, กึ กเถสิ, อนฺโธ หิ สฺาย ทินฺนาย โสพฺภาทีนิ ปริหรติ, มยา ปมเมว ตว กถิตํ, อิทานิ กิมตฺถํ มม สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วตฺวา –
‘‘ธมฺเมน มนฺตํ ตว สมฺปทาสึ, ตุวมฺปิ ธมฺเมน ปฏิคฺคเหสิ;
ปกติมฺปิ เต อตฺตมโน อสํสึ, ธมฺเม ิตํ ตํ น ชเหยฺย มนฺโต.
‘‘โย ¶ พาล-มนฺตํ กสิเรน ลทฺธํ, ยํ ทุลฺลภํ อชฺช มนุสฺสโลเก;
กิฺจาปิ ลทฺธา ชีวิตุํ อปฺปปฺโ, วินาสยี อลิกํ ภาสมาโน.
‘‘พาลสฺส มูฬฺหสฺส อกตฺุโน จ, มุสา ภณนฺตสฺส อสฺตสฺส;
มนฺเต มยํ ตาทิสเก น เทม, กุโต มนฺตา คจฺฉ น มยฺหํ รุจฺจสี’’ติ. –
อิมา คาถา อาห.
ตตฺถ ธมฺเมนาติ อหมฺปิ ตว อาจริยภาคํ หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา อคฺคเหตฺวา ธมฺเมเนว มนฺตํ สมฺปทาสึ, ตฺวมฺปิ กิฺจิ อทตฺวา ธมฺเมน สเมเนว ปฏิคฺคเหสิ. ธมฺเม ิตนฺติ อาจริยปูชกธมฺเม ¶ ิตํ. ตาทิสเกติ ตถารูเป อกาลผลคณฺหาปเก มนฺเต น เทม, คจฺฉ น เม รุจฺจสีติ.
โส เอวํ อาจริเยน อุยฺโยชิโต ‘‘กึ มยฺหํ ชีวิเตนา’’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา อนาถมรณํ มริ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อกตฺู มาณโว เทวทตฺโต อโหสิ, ราชา อานนฺโท, จณฺฑาลปุตฺโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
อมฺพชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๗๕] ๒. ผนฺทนชาตกวณฺณนา
กุาริหตฺโถ ปุริโสติ อิทํ สตฺถา โรหิณีนทีตีเร วิหรนฺโต าตกานํ กลหํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน กุณาลชาตเก (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา าตเก อามนฺเตตฺวา – มหาราชา, อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พหินคเร วฑฺฒกิคาโม อโหสิ. ตตฺเรโก พฺราหฺมณวฑฺฒกี อรฺโต ทารูนิ อาหริตฺวา รถํ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสิ. ตทา หิมวนฺตปเทเส มหาผนฺทนรุกฺโข อโหสิ ¶ . เอโก กาฬสีโห โคจรํ ปริเยสิตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺส มูเล นิปชฺชิ. อถสฺส เอกทิวสํ วาเต ปหรนฺเต เอโก สุกฺขทณฺฑโก ปติตฺวา ขนฺเธ อวตฺถาสิ. โส โถกํ ขนฺเธน รุชนฺเตน ภีตตสิโต อุฏฺาย ปกฺขนฺทิตฺวา ปุน นิวตฺโต อาคตมคฺคํ โอโลเกนฺโต กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘อฺโ มํ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อนุพนฺธนฺโต นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา มํ เอตฺถ นิปชฺชนฺตํ น สหติ มฺเ, โหตุ ชานิสฺสามี’’ติ อฏฺาเน โกปํ พนฺธิตฺวา รุกฺขํ ปหริตฺวา ‘‘เนว ตว รุกฺขสฺส ปตฺตํ ขาทามิ, น สาขํ ภฺชามิ, อิธ อฺเ มิเค วสนฺเต สหสิ, มํ น สหสิ, โก มยฺหํ โทโส อตฺถิ, กติปาหํ อาคเมหิ, สมูลํ เต รุกฺขํ อุปฺปาเฏตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉทาเปสฺสามี’’ติ รุกฺขเทวตํ ตชฺเชตฺวา เอกํ ปุริสํ อุปธาเรนฺโต วิจริ. ตทา โส พฺราหฺมณวฑฺฒกี ทฺเว ตโย มนุสฺเส อาทาย รถทารูนํ อตฺถาย ยานเกน ตํ ปเทสํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน ยานกํ เปตฺวา วาสิผรสุหตฺโถ รุกฺเข อุปธาเรนฺโต ผนฺทนสมีปํ อคมาสิ. กาฬสีโห ตํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช, มยา ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ คนฺตฺวา รุกฺขมูเล อฏฺาสิ ¶ . วฑฺฒกี จ อิโต จิโต โอโลเกตฺวา ¶ ผนฺทนสมีเปน ปายาสิ. โส ‘‘ยาว เอโส นาติกฺกมติ, ตาวเทวสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘กุาริหตฺโถ ปุริโส, วนโมคยฺห ติฏฺสิ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ ทารุํ เฉตุมิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ ปุริโสติ ตฺวํ กุาริหตฺโถ เอโก ปุริโส อิมํ วนํ โอคยฺห ติฏฺสีติ.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, น วต เม อิโต ปุพฺเพ มิโค มนุสฺสวาจํ ภาสนฺโต ทิฏฺปุพฺโพ, เอส รถานุจฺฉวิกํ ¶ ทารุํ ชานิสฺสติ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘อิสฺโส วนานิ จรสิ, สมานิ วิสมานิ จ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ ทารุํ เนมิยา ทฬฺห’’นฺติ.
ตตฺถ อิสฺโสติ ตฺวมฺปิ เอโก กาฬสีโห วนานิ จรสิ, ตฺวํ รถานุจฺฉวิกํ ทารุํ ชานิสฺสสีติ.
ตํ สุตฺวา กาฬสีโห ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตติยํ คาถมาห –
‘‘เนว สาโล น ขทิโร, นาสฺสกณฺโณ กุโต ธโว;
รุกฺโข จ ผนฺทโน นาม, ตํ ทารุํ เนมิยา ทฬฺห’’นฺติ.
โส ตํ สุตฺวา โสมนสฺสชาโต ‘‘สุทิวเสน วตมฺหิ อชฺช อรฺํ ปวิฏฺโ, ติรจฺฉานคโต เม รถานุจฺฉวิกํ ทารุํ อาจิกฺขติ, อโห สาธู’’ติ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘กีทิสานิสฺส ปตฺตานิ, ขนฺโธ วา ปน กีทิโส;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, ยถา ชาเนมุ ผนฺทน’’นฺติ.
อถสฺส ¶ โส อาจิกฺขนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ยสฺส สาขา ปลมฺพนฺติ, นมนฺติ น จ ภฺชเร;
โส รุกฺโข ผนฺทโน นาม, ยสฺส มูเล อหํ ิโต.
‘‘อรานํ ¶ จกฺกนาภีนํ, อีสาเนมิรถสฺส จ;
สพฺพสฺส เต กมฺมนิโย, อยํ เหสฺสติ ผนฺทโน’’ติ.
ตตฺถ ‘‘อราน’’นฺติ อิทํ โส ‘‘กทาเจส อิมํ รุกฺขํ น คณฺเหยฺย, คุณมฺปิสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. ตตฺถ อีสาเนมิรถสฺส จาติ อีสาย จ เนมิยา จ เสสสฺส จ รถสฺส สพฺพสฺส เต เอส กมฺมนิโย กมฺมกฺขโม ภวิสฺสตีติ.
โส เอวํ อาจิกฺขิตฺวา ตุฏฺมานโส เอกมนฺเต วิจริ, วฑฺฒกีปิ รุกฺขํ ฉินฺทิตุํ อารภิ. รุกฺขเทวตา จินฺเตสิ ‘‘มยา เอตสฺส อุปริ น กิฺจิ ปาติตํ, อยํ อฏฺาเน อาฆาตํ พนฺธิตฺวา มม วิมานํ นาเสติ, อหฺจ วินสฺสิสฺสามิ, เอเกนุปาเยน ¶ อิมฺจ อิสฺสํ วินาเสสฺสามี’’ติ. สา วนกมฺมิกปุริโส วิย หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘โภ ปุริส มนาโป เต รุกฺโข ลทฺโธ, อิมํ ฉินฺทิตฺวา กึ กริสฺสสี’’ติ? ‘‘รถเนมึ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘อิมินา รุกฺเขน รโถ ภวิสฺสตี’’ติ เกน เต อกฺขาตนฺติ. ‘‘เอเกน กาฬสีเหนา’’ติ. ‘‘สาธุ สุฏฺุ เตน อกฺขาตํ, อิมินา รุกฺเขน รโถ สุนฺทโร ภวิสฺสติ, กาฬสีหสฺส คลจมฺมํ อุปฺปาเฏตฺวา จตุรงฺคุลมตฺเต าเน อยปฏฺเฏน วิย เนมิมณฺฑเล ปริกฺขิตฺเต เนมิ จ ถิรา ภวิสฺสติ, พหฺุจ ธนํ ลภิสฺสสี’’ติ. ‘‘กาฬสีหจมฺมํ กุโต ลจฺฉามี’’ติ? ‘‘ตฺวํ พาลโกสิ, อยํ ตว รุกฺโข วเน ิโต น ปลายติ, ตฺวํ เยน เต รุกฺโข อกฺขาโต, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘สามิ ตยา ทสฺสิตรุกฺขํ กตรฏฺาเน ฉินฺทามี’ติ วฺเจตฺวา อาเนหิ, อถ นํ นิราสงฺกํ ‘อิธ จ เอตฺถ จ ฉินฺทา’ติ มุขตุณฺฑํ ปสาเรตฺวา อาจิกฺขนฺตํ ติขิเณน มหาผรสุนา โกฏฺเฏตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา จมฺมํ อาทาย วรมํสํ ขาทิตฺวา รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติ เวรํ อปฺเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อาห –
‘‘อิติ ผนฺทนรุกฺโขปิ, ตาวเท อชฺฌภาสถ;
มยฺหมฺปิ วจนํ อตฺถิ, ภารทฺวาช สุโณหิ เม.
‘‘อิสฺสสฺส ¶ อุปกฺขนฺธมฺหา, อุกฺกจฺจ จตุรงฺคุลํ;
เตน เนมึ ปสาเรสิ, เอวํ ทฬฺหตรํ สิยา.
‘‘อิติ ผนฺทนรุกฺโขปิ, เวรํ อปฺเปสิ ตาวเท;
ชาตานฺจ อชาตานํ, อิสฺสานํ ทุกฺขมาวหี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ภารทฺวาชาติ ตํ โคตฺเตน อาลปติ. อุปกฺขนฺธมฺหาติ ขนฺธโต. อุกฺกจฺจาติ อุกฺกนฺติตฺวา.
วฑฺฒกี รุกฺขเทวตาย วจนํ สุตฺวา ‘‘อโห อชฺช มยฺหํ มงฺคลทิวโส’’ติ กาฬสีหํ ฆาเตตฺวา รุกฺขํ เฉตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘อิจฺเจวํ ผนฺทโน อิสฺสํ, อิสฺโส จ ปน ผนฺทนํ;
อฺมฺํ วิวาเทน, อฺมฺมฆาตยุํ.
‘‘เอวเมว มนุสฺสานํ, วิวาโท ยตฺถ ชายติ;
มยูรนจฺจํ นจฺจนฺติ, ยถา เต อิสฺสผนฺทนา.
‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;
สมฺโมทถ มา วิวทถ, มา โหถ อิสฺสผนฺทนา.
‘‘สามคฺคิเมว สิกฺเขถ, พุทฺเธเหตํ ปสํสิตํ;
สามคฺคิรโต ธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา น ธํสตี’’ติ.
ตตฺถ อฆาตยุนฺติ ฆาตาเปสุํ. มยูรนจฺจํ นจฺจนฺตีติ มหาราชา ยตฺถ หิ มนุสฺสานํ วิวาโท โหติ, ตตฺถ ยถา นาม มยูรา นจฺจนฺตา ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ รหสฺสงฺคํ ปากฏํ กโรนฺติ, เอวํ มนุสฺสา อฺมฺสฺส รนฺธํ ปกาเสนฺตา มยูรนจฺจํ นจฺจนฺติ นาม. ยถา เต อิสฺสผนฺทนา อฺมฺสฺส รนฺธํ ปกาเสนฺตา นจฺจึสุ นาม. ตํ โวติ เตน การเณน ตุมฺเห วทามิ. ภทฺทํ โวติ ภทฺทํ ตุมฺหากํ โหตุ. ยาวนฺเตตฺถาติ ยาวนฺโต เอตฺถ อิสฺสผนฺทนสทิสา มา อหุวตฺถ. สามคฺคิเมว สิกฺเขถาติ สมคฺคภาวเมว ตุมฺเห สิกฺขถ, อิทํ ปฺาวุทฺเธหิ ปณฺฑิเตหิ ปสํสิตํ ¶ . ธมฺมฏฺโติ สุจริตธมฺเม ิโต. โยคกฺเขมา น ธํสตีติ โยเคหิ เขมา นิพฺพานา น ปริหายตีติ นิพฺพาเนน เทสนากูฏํ คณฺหิ. สกฺยราชาโน ธมฺมกถํ สุตฺวา สมคฺคา ชาตา.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ตํ การณํ วิทิตฺวา ตสฺมึ วนสณฺเฑ นิวุตฺถเทวตา อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ผนฺทนชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๔๗๖] ๓. ชวนหํสชาตกวณฺณนา
อิเธว ¶ หํส นิปตาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทฬฺหธมฺมธนุคฺคหสุตฺตนฺตเทสนํ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) อารพฺภ กเถสิ. ภควตา หิ –
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคหา สุสิกฺขิตา กตหตฺถา กตูปาสนา จตุทฺทิสา ิตา อสฺสุ, อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ‘อหํ อิเมสํ จตุนฺนํ ทฬฺหธมฺมานํ ธนุคฺคหานํ สุสิกฺขิตานํ กตหตฺถานํ กตูปาสนานํ ¶ จตุทฺทิสา กณฺเฑ ขิตฺเต อปติฏฺิเต ปถวิยํ คเหตฺวา อาหริสฺสามี’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ‘ชวโน ปุริโส ปรเมน ชเวน สมนฺนาคโต’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ. ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ตโต สีฆตโร. ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ยถา จ ยา เทวตา จนฺทิมสูริยานํ ปุรโต ธาวนฺติ, ตาสํ เทวตานํ ชโว, ตโต สีฆตรํ อายุสงฺขารา ขียนฺติ, ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘อปฺปมตฺตา วิหริสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ –
อิมสฺส สุตฺตสฺส กถิตทิวสโต ทุติยทิวเส ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถา อตฺตโน พุทฺธวิสเย ตฺวา อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขาเร อิตฺตเร ทุพฺพเล กตฺวา ปริทีเปนฺโต ปุถุชฺชนภิกฺขู อติวิย สนฺตาสํ ปาเปสิ, อโห พุทฺธพลํ นามา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, สฺวาหํ อิทานิ สพฺพฺุตํ ปตฺโต อายุสงฺขารานํ อิตฺตรภาวํ ทสฺเสตฺวา ภิกฺขู สํเวเชตฺวา ธมฺมํ เทเสมิ, มยา หิ ปุพฺเพ อเหตุกหํสโยนิยํ นิพฺพตฺเตนปิ อายุสงฺขารานํ อิตฺตรภาวํ ¶ ทสฺเสตฺวา พาราณสิราชานํ อาทึ กตฺวา สกลราชปริสํ สํเวเชตฺวา ธมฺโม เทสิโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ชวนหํสโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา นวุติหํสสหสฺสปริวุโต จิตฺตกูเฏ ปฏิวสติ. โส เอกทิวสํ ชมฺพุทีปตเล เอกสฺมึ สเร สปริวาโร สยํชาตสาลึ ขาทิตฺวา อากาเส สุวณฺณกิลฺชํ ปตฺถรนฺโต วิย มหนฺเตน ปริวาเรน พาราณสินครสฺส มตฺถเกน มนฺทมนฺทาย วิลาสคติยา จิตฺตกูฏํ คจฺฉติ. อถ นํ พาราณสิราชา ทิสฺวา ‘‘อิมินาปิ มาทิเสน รฺา ภวิตพฺพ’’นฺติ อมจฺจานํ วตฺวา ตสฺมึ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา มาลาคนฺธวิเลปนํ คเหตฺวา มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา สพฺพตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ. มหาสตฺโต อตฺตโน สกฺการํ กโรนฺตํ ทิสฺวา หํเส ปุจฺฉิ ‘‘ราชา ¶ , มม เอวรูปํ สกฺการํ กโรนฺโต กึ ปจฺจาสีสตี’’ติ? ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ รฺโ อมฺเหหิ สทฺธึ มิตฺตภาโว โหตู’’ติ รฺา สทฺธึ มิตฺตภาวํ กตฺวา ปกฺกามิ. อเถกทิวสํ รฺโ อุยฺยานํ คตกาเล อโนตตฺตทหํ คนฺตฺวา เอเกน ปกฺเขน อุทกํ, เอเกน จนฺทนจุณฺณํ อาทาย อาคนฺตฺวา ราชานํ เตน อุทเกน นฺหาเปตฺวา จนฺทนจุณฺเณน โอกิริตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว สปริวาโร จิตฺตกูฏํ อคมาสิ. ตโต ปฏฺาย ราชา มหาสตฺตํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา ‘‘สหาโย เม อชฺช อาคมิสฺสติ, สหาโย เม อชฺช อาคมิสฺสตี’’ติ อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต อจฺฉติ.
ตทา มหาสตฺตสฺส กนิฏฺา ทฺเว หํสโปตกา ‘‘สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อาโรเจสุํ ‘‘มยํ สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ. ‘‘ตาตา, สูริยชโว นาม สีโฆ, สูริเยน สทฺธึ ชวิตุํ น สกฺขิสฺสถ, อนฺตราว วินสฺสิสฺสถ, มา คมิตฺถา’’ติ. เต ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ยาจึสุ, โพธิสตฺโตปิ เต ยาวตติยํ วาเรสิเยว. เต มานถทฺธา อตฺตโน พลํ อชานนฺตา มหาสตฺตสฺส อนาจิกฺขิตฺวาว ‘‘สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ สูริเย อนุคฺคเตเยว คนฺตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเก นิสีทึสุ. มหาสตฺโต เต อทิสฺวา ‘‘กหํ นุ โข คตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘เต สูริเยน สทฺธึ ชวิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, อนฺตราว วินสฺสิสฺสนฺติ, ชีวิตํ เตสํ ทสฺสามี’’ติ. โสปิ คนฺตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเกเยว นิสีทิ. อถ อุคฺคเต สูริยมณฺฑเล หํสโปตกา อุปฺปติตฺวา สูริเยน สทฺธึ ปกฺขนฺทึสุ, มหาสตฺโตปิ เตหิ สทฺธึ ปกฺขนฺทิ. กนิฏฺภาติโก ¶ ยาว ปุพฺพณฺหสมยา ชวิตฺวา กิลมิ, ปกฺขสนฺธีสุ อคฺคิอุฏฺานกาโล วิย อโหสิ. โส โพธิสตฺตสฺส สฺํ อทาสิ ‘‘ภาติก, น สกฺโกมี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มา ภายิ, ชีวิตํ เต ทสฺสามี’’ติ ปกฺขปฺชเรน ปริกฺขิปิตฺวา ¶ อสฺสาเสตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพตํ เนตฺวา หํสานํ มชฺเฌ เปตฺวา ปุน ปกฺขนฺทิตฺวา สูริยํ ปตฺวา อิตเรน สทฺธึ ปายาสิ. โสปิ ยาว อุปกฏฺมชฺฌนฺหิกา สูริเยน ¶ สทฺธึ ชวิตฺวา กิลมิ, ปกฺขสนฺธีสุ อคฺคิอุฏฺานกาโล วิย อโหสิ. ตทา โพธิสตฺตสฺส สฺํ อทาสิ ‘‘ภาติก, น สกฺโกมี’’ติ. ตมฺปิ มหาสตฺโต ตเถว สมสฺสาเสตฺวา ปกฺขปฺชเรนาทาย จิตฺตกูฏเมว อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ สูริโย นภมชฺฌํ ปาปุณิ.
อถ มหาสตฺโต ‘‘มม อชฺช สรีรพลํ วีมํสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกเวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเก นิสีทิตฺวา ตโต อุปฺปติตฺวา เอกเวเคน สูริยํ ปาปุณิตฺวา กาเลน ปุรโต, กาเลน ปจฺฉโต ชวิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ สูริเยน สทฺธึ ชวนํ นาม นิรตฺถกํ อโยนิโสมนสิการสมฺภูตํ, กึ เม อิมินา, พาราณสึ คนฺตฺวา มม สหายกสฺส รฺโ อตฺถยุตฺตํ ธมฺมยุตฺตํ กถํ กเถสฺสามี’’ติ. โส นิวตฺติตฺวา สูริเย นภมชฺฌํ อนติกฺกนฺเตเยว สกลจกฺกวาฬคพฺภํ อนฺตนฺเตน อนุสํยายิตฺวา เวคํ ปริหาเปนฺโต สกลชมฺพุทีปํ อนฺตนฺเตน อนุสํยายิตฺวา พาราณสึ ปาปุณิ. ทฺวาทสโยชนิกํ สกลนครํ หํสจฺฉนฺนํ วิย อโหสิ, ฉิทฺทํ นาม น ปฺายิ, อนุกฺกเมน เวเค ปริหายนฺเต อากาเส ฉิทฺทานิ ปฺายึสุ. มหาสตฺโต เวคํ ปริหาเปตฺวา อากาสโต โอตริตฺวา สีหปฺชรสฺส อภิมุขฏฺาเน อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อาคโต เม สหาโย’’ติ โสมนสฺสปฺปตฺโต ตสฺส นิสีทนตฺถาย กฺจนปีํ ปฺเปตฺวา ‘‘สมฺม, ปวิส, อิธ นิสีทา’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘อิเธว หํส นิปต, ปิยํ เม ตว ทสฺสนํ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยมิธตฺถิ ปเวทยา’’ติ.
ตตฺถ ‘‘อิธา’’ติ กฺจนปีํ สนฺธายาห. นิปตาติ นิสีท. อิสฺสโรสีติ ตฺวํ อิมสฺส านสฺส อิสฺสโร สามิ หุตฺวา อาคโตสีติ วทติ. ยมิธตฺถิ ปเวทยาติ ¶ ยํ อิมสฺมึ นิเวสเน อตฺถิ, ตํ อปริสงฺกนฺโต อมฺหากํ กเถหีติ.
มหาสตฺโต กฺจนปีเ นิสีทิ. ราชา สตปากสหสฺสปาเกหิ เตเลหิ ตสฺส ปกฺขนฺตรานิ มกฺเขตฺวา กฺจนตฏฺฏเก มธุลาเช จ มธุโรทกฺจ สกฺขโรทกฺจ ทาเปตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา ¶ ‘‘สมฺม, ตฺวํ เอกโกว อาคโตสิ, กุหึ อคมิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตํ ปวตฺตึ วิตฺถาเรน กเถสิ. อถ นํ ราชา อาห ‘‘สมฺม, มมปิ สูริเยน สทฺธึ ชวิตเวคํ ทสฺเสหี’’ติ. มหาราช, น สกฺกา โส เวโค ทสฺเสตุนฺติ. เตน หิ เม สริกฺขกมตฺตํ ¶ ทสฺเสหีติ. สาธุ, มหาราช, สริกฺขกมตฺตํ ทสฺเสสฺสามิ, อกฺขณเวธี ธนุคฺคเห สนฺนิปาเตหีติ. ราชา สนฺนิปาเตสิ. มหาสตฺโต จตฺตาโร ธนุคฺคเห คเหตฺวา นิเวสนา โอรุยฺห ราชงฺคเณ สิลาถมฺภํ นิขณาเปตฺวา อตฺตโน คีวายํ ฆณฺฏํ พนฺธาเปตฺวา สิลาถมฺภมตฺถเก นิสีทิตฺวา จตฺตาโร ธนุคฺคเห ถมฺภํ นิสฺสาย จตุทฺทิสาภิมุเข เปตฺวา ‘‘มหาราช, อิเม จตฺตาโร ชนา เอกปฺปหาเรเนว จตุทฺทิสาภิมุขา จตฺตาริ กณฺฑานิ ขิปนฺตุ, ตานิ อหํ ปถวึ อปฺปตฺตาเนว อาหริตฺวา เอเตสํ ปาทมูเล ปาเตสฺสามิ. มม กณฺฑคหณตฺถาย คตภาวํ ฆณฺฏสทฺทสฺาย ชาเนยฺยาสิ, มํ ปน น ปสฺสิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตหิ เอกปฺปหาเรเนว ขิตฺตกณฺฑานิ อาหริตฺวา เตสํ ปาทมูเล ปาเตตฺวา สิลาถมฺภมตฺถเก นิสินฺนเมว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ทิฏฺโ เต, มหาราช, มยฺหํ เวโค’’ติ วตฺวา ‘‘มหาราช, อยํ เวโค มยฺหํ เนว อุตฺตโม, มชฺฌิโม, ปริตฺโต ลามกเวโค เอส, เอวํ สีโฆ, มหาราช, อมฺหากํ เวโค’’ติ อาห.
อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘สมฺม, อตฺถิ ปน ตุมฺหากํ เวคโต อฺโ สีฆตโร เวโค’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อมฺหากํ อุตฺตมเวคโตปิ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขารา สีฆตรํ ขียนฺติ ภิชฺชนฺติ, ขยํ คจฺฉนฺตี’’ติ ขณิกนิโรธวเสน รูปธมฺมานํ นิโรธํ ทสฺเสติ, ตโต นามธมฺมานํ. ราชา มหาสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา มรณภยภีโต สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ภูมิยํ ปติ, มหาชโน อุตฺราสํ ปตฺโต อโหสิ. รฺโ มุขํ อุทเกน สิฺจิตฺวา ¶ สตึ ลภาเปสิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, มา ภายิ, มรณสฺสตึ ¶ ภาเวหิ, ธมฺมํ จราหิ, ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรหิ, อปฺปมตฺโต โหหิ, เทวา’’ติ โอวทิ. อถ ราชา ‘‘สามิ, มยํ ตุมฺหาทิเสน าณพลสมฺปนฺเนน อาจริเยน วินา วสิตุํ น สกฺขิสฺสาม, จิตฺตกูฏํ อคนฺตฺวา มยฺหํ ธมฺมํ เทเสนฺโต มยฺหํ โอวาทาจริโย หุตฺวา อิเธว วสาหี’’ติ ยาจนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘สวเนน เอกสฺส ปิยา ภวนฺติ, ทิสฺวา ปเนกสฺส วิเยติ ฉนฺโท;
ทิสฺวา จ สุตฺวา จ ปิยา ภวนฺติ, กจฺจินฺนุ เม ปียสิ ทสฺสเนน.
‘‘สวเนน ปิโย เมสิ, ภิยฺโย จาคมฺม ทสฺสนํ;
เอวํ ปิยทสฺสโน เม, วส หํส มมนฺติเก’’ติ.
ตาสํ อตฺโถ – สมฺม หํสราช สวเนน เอกสฺส เอกจฺเจ ปิยา โหนฺติ, ‘‘เอวํ คุโณ นามา’’ติ สุตฺวา สวเนน ปิยายติ, เอกสฺส ปน เอกจฺเจ ทิสฺวาว ฉนฺโท วิคจฺฉติ, เปมํ อนฺตรธายติ ¶ , ขาทิตุํ อาคตา ยกฺขา วิย อุปฏฺหนฺติ, เอกสฺส เอกจฺเจ ทิสฺวา จ สุตฺวา จาติ อุภยถาปิ ปิยา โหนฺติ, เตน ตํ ปุจฺฉามิ. กจฺจินฺนุ เม ปียสิ ทสฺสเนนาติ กจฺจิ นุ ตฺวํ มํ ปิยายสิ, มยฺหํ ปน ตฺวํ สวเนน ปิโยว, ทสฺสนํ ปนาคมฺม อติปิโยว. เอวํ มม ปิยทสฺสโน สมาโน จิตฺตกูฏํ อคนฺตฺวา อิธ มม สนฺติเก วสาติ.
โพธิสตฺโต อาห –
‘‘วเสยฺยาม ตวาคาเร, นิจฺจํ สกฺกตปูชิตา;
มตฺโต จ เอกทา วชฺเช, หํสราชํ ปจนฺตุ เม’’ติ.
ตตฺถ มตฺโต จ เอกทาติ มหาราช, มยํ ตว ฆเร นิจฺจํ ปูชิตา วเสยฺยาม, ตฺวํ ปน กทาจิ สุรามทมตฺโต มํสขาทนตฺถํ ‘‘หํสราชํ ปจนฺตุ เม’’ติ วเทยฺยาสิ, อถ เอวํ ตว อนุชีวิโน มํ มาเรตฺวา ปเจยฺยุํ, ตทาหํ กึ กริสฺสามีติ.
อถสฺส ¶ ¶ ราชา ‘‘เตน หิ มชฺชเมว น ปิวิสฺสามี’’ติ ปฏิฺํ ทาตุํ อิมํ คาถมาห –
‘‘ธิรตฺถุ ตํ มชฺชปานํ, ยํ เม ปิยตรํ ตยา;
น จาปิ มชฺชํ ปิสฺสามิ, ยาว เม วจฺฉสี ฆเร’’ติ.
ตโต ปรํ โพธิสตฺโต ฉ คาถา อาห –
‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;
มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.
‘‘อปิ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;
โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส.
‘‘ยสฺมึ มโน นิวิสติ, อวิทูเร สหาปิ โส;
สนฺติเกปิ หิ โส ทูเร, ยสฺมึ นาวิสเต มโน.
‘‘อนฺโตปิ ¶ โส โหติ ปสนฺนจิตฺโต, ปารํ สมุทฺทสฺส ปสนฺนจิตฺโต;
อนฺโตปิ โส โหติ ปทุฏฺจิตฺโต, ปารํ สมุทฺทสฺส ปทุฏฺจิตฺโต.
‘‘สํวสนฺตา วิวสนฺติ, เย ทิสา เต รเถสภ;
อารา สนฺโต สํวสนฺติ, มนสา รฏฺวฑฺฒน.
‘‘อติจิรํ นิวาเสน, ปิโย ภวติ อปฺปิโย;
อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, ปุรา เต โหม อปฺปิยา’’ติ.
ตตฺถ วสฺสิตนฺติ มหาราช, ติรจฺฉานคตา อุชุหทยา, เตน เตสํ วสฺสิตํ สุวิชานํ, มนุสฺสา ปน กกฺขฬา, ตสฺมา เตสํ วจนํ ทุพฺพิชานตรนฺติ อตฺโถ. โย ปุพฺเพติ โย ปุคฺคโล ปมเมว อตฺตมโน หุตฺวา ‘‘ตฺวํ มยฺหํ าตโก มิตฺโต ปาณสโม สขา’’ติ อปิ เอวํ มฺติ, สฺเวว ปจฺฉา ทิโส เวรี สมฺปชฺชติ, เอวํ ทุพฺพิชานํ นาม มนุสฺสหทยนฺติ. นิวิสตีติ มหาราช, ยสฺมึ ปุคฺคเล เปมวเสน มโน นิวิสติ, โส ทูเร ¶ วสนฺโตปิ อวิทูเร สหาปิ วสติเยว นาม. ยสฺมึ ปน ปุคฺคเล มโน น นิวิสติ อเปติ, โส สนฺติเก วสนฺโตปิ ทูเรเยว.
อนฺโตปิ โส โหตีติ มหาราช, โย สหาโย ปสนฺนจิตฺโต, โส จิตฺเตน อลฺลีนตฺตา ปารํ สมุทฺทสฺส วสนฺโตปิ อนฺโตเยว ¶ โหติ. โย ปน ปทุฏฺจิตฺโต, โส จิตฺเตน อนลฺลีนตฺตา อนฺโต วสนฺโตปิ ปารํ สมุทฺทสฺส นาม. เย ทิสา เตติ เย เวริโน ปจฺจตฺถิกา, เต เอกโต วสนฺตาปิ ทูเร วสนฺติเยว นาม. สนฺโต ปน ปณฺฑิตา อารา ิตาปิ เมตฺตาภาวิเตน มนสา อาวชฺเชนฺตา สํวสนฺติเยว. ปุรา เต โหมาติ ยาว ตว อปฺปิยา น โหม, ตาวเทว ตํ อามนฺเตตฺวา คจฺฉามาติ วทติ.
อถ นํ ราชา อาห –
‘‘เอวํ เจ ยาจมานานํ, อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ;
ปริจารกานํ สตํ, วจนํ น กโรสิ โน;
เอวํ ตํ อภิยาจาม, ปุน กยิราสิ ปริยาย’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ เอวํ เจติ สเจ หํสราช, เอวํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจมานานํ อมฺหากํ อิมํ อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ, ตว ปริจารกานํ สมานานํ วจนํ น กโรสิ, อถ นํ เอวํ ยาจาม. ปุน กยิราสิ ปริยายนฺติ กาเลน กาลํ อิธ อาคมนาย วารํ กเรยฺยาสีติ อตฺโถ.
ตโต โพธิสตฺโต อาห –
‘‘เอวํ เจ โน วิหรตํ, อนฺตราโย น เหสฺสติ;
ตุยฺหํ จาปิ มหาราช, มยฺหฺจ รฏฺวฑฺฒน;
อปฺเปว นาม ปสฺเสมุ, อโหรตฺตานมจฺจเย’’ติ.
ตตฺถ เอวํ เจ โนติ มหาราช, มา จินฺตยิตฺถ, สเจ อมฺหากมฺปิ เอวํ วิหรนฺตานํ ชีวิตนฺตราโย น ภวิสฺสติ, อปฺเปว นาม อุโภ อฺมฺํ ปสฺสิสฺสาม, อปิจ ตฺวํ มยา ทินฺนํ โอวาทเมว มม าเน เปตฺวา เอวํ อิตฺตรชีวิเต โลกสนฺนิวาเส อปฺปมตฺโต หุตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรนฺโต ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอวฺหิ ¶ เม โอวาทํ กโรนฺโต มํ ปสฺสิสฺสติเยวาติ. เอวํ มหาสตฺโต ราชานํ โอวทิตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพตเมว คโต.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺเตนปิ มยา อายุสงฺขารานํ ทุพฺพลภาวํ ทสฺเสตฺวา ธมฺโม เทสิโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, กนิฏฺโ โมคฺคลฺลาโน, มชฺฌิโม สาริปุตฺโต, เสสหํสคณา พุทฺธปริสา, ชวนหํโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ชวนหํสชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๔๗๗] ๔. จูฬนารทชาตกวณฺณนา
น ¶ เต กฏฺานิ ภินฺนานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ถุลฺลกุมาริกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิวาสิโน กิเรกสฺส กุลสฺส ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกา ธีตา อโหสิ โสภคฺคปฺปตฺตา, น จ นํ โกจิ วาเรสิ. อถสฺสา มาตา จินฺเตสิ ‘‘มม ธีตา วยปฺปตฺตา, น จ นํ โกจิ วาเรติ, อามิเสน มจฺฉํ วิย เอตาย เอกํ สากิยภิกฺขุํ ปโลเภตฺวา อุปฺปพฺพาเชตฺวา ¶ ตํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามี’’ติ. ตทา จ สาวตฺถิวาสี เอโก กุลปุตฺโต สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย สิกฺขากามตํ ปหาย อาลสิโย สรีรมณฺฑนมนุยุตฺโต วิหาสิ. มหาอุปาสิกา เคเห ยาคุขาทนียโภชนียานิ สมฺปาเทตฺวา ทฺวาเร ตฺวา อนฺตรวีถิยา คจฺฉนฺเตสุ ภิกฺขูสุ เอกํ ภิกฺขุํ รสตณฺหาย พนฺธิตฺวา คเหตุํ สกฺกุเณยฺยรูปํ อุปธาเรนฺตี เตปิฏกอาภิธมฺมิกวินยธรานํ มหนฺเตน ปริวาเรน คจฺฉนฺตานํ อนฺตเร กฺจิ คยฺหุปคํ อทิสฺวา เตสํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตานํ มธุรธมฺมกถิกานํ อจฺฉินฺนวลาหกสทิสานํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ อนฺตเร กฺจิ อทิสฺวาว เอกํ ยาว พหิ อปงฺคา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา เกเส โอสณฺเหตฺวา ทุกูลนฺตรวาสกํ นิวาเสตฺวา ฆฏิตมฏฺํ จีวรํ ปารุปิตฺวา มณิวณฺณปตฺตํ อาทาย มโนรมํ ฉตฺตํ ธารยมานํ วิสฺสฏฺินฺทฺริยํ กายทฬฺหิพหุลํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ สกฺกา คณฺหิตุ’’นฺติ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา ‘‘เอถ ¶ , ภนฺเต’’ติ ฆรํ อาเนตฺวา นิสีทาเปตฺวา ยาคุอาทีหิ ปริวิสิตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ตํ ภิกฺขุํ ‘‘ภนฺเต, อิโต ปฏฺาย อิเธวาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ อาห. โสปิ ตโต ปฏฺาย ตตฺเถว คนฺตฺวา อปรภาเค วิสฺสาสิโก อโหสิ.
อเถกทิวสํ มหาอุปาสิกา ตสฺส สวนปเถ ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ เคเห อุปโภคปริโภคมตฺตา อตฺถิ, ตถารูโป ปน เม ปุตฺโต วา ชามาตา วา เคหํ วิจาริตุํ สมตฺโถ นตฺถี’’ติ อาห. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘กิมตฺถํ นุ โข กเถตี’’ติ โถกํ หทเย วิทฺโธ วิย อโหสิ. สา ธีตรํ อาห ‘‘อิมํ ปโลเภตฺวา ตว วเส วตฺตาเปหี’’ติ. สา ตโต ปฏฺาย มณฺฑิตปสาธิตา อิตฺถิกุตฺตวิลาเสหิ ตํ ปโลเภสิ. ถุลฺลกุมาริกาติ ¶ น จ ถูลสรีรา ทฏฺพฺพา, ถูลา วา โหตุ กิสา วา, ปฺจกามคุณิกราเคน ปน ถูลตาย ‘‘ถุลฺลกุมาริกา’’ติ วุจฺจติ. โส ทหโร กิเลสวสิโก หุตฺวา ‘‘น ทานาหํ พุทฺธสาสเน ปติฏฺาตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ นิยฺยาเทตฺวา อสุกฏฺานํ นาม คมิสฺสามิ, ตตฺร เม วตฺถานิ เปเสถา’’ติ วตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ นิยฺยาเทตฺวา ‘‘อุกฺกณฺิโตสฺมี’’ติ อาจริยุปชฺฌาเย อาห. เต ตํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโต’’ติ อาโรเจสุํ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ถุลฺลกุมาริกาย, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ ปุพฺเพเปสา ตว อรฺเ วสนฺตสฺส พฺรหฺมจริยนฺตรายํ กตฺวา มหนฺตํ อนตฺถมกาสิ, ปุน ตฺวํ เอตเมว นิสฺสาย กสฺมา อุกฺกณฺิโตสี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ มหาโภเค พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุคฺคหิตสิปฺโป กุฏุมฺพํ สณฺเปสิ, อถสฺส ภริยา เอกํ ปุตฺตํ วิชายิตฺวา กาลมกาสิ. โส ‘‘ยเถว เม ปิยภริยาย, เอวํ มยิปิ มรณํ อาคมิสฺสติ, กึ เม ฆราวาเสน, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา กาเม ปหาย ปุตฺตํ อาทาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา เตน สทฺธึ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร อรฺเ วิหาสิ. ตทา ปจฺจนฺตวาสิโน โจรา ชนปทํ ปวิสิตฺวา ¶ คามํ ปหริตฺวา กรมเร คเหตฺวา ภณฺฑิกํ อุกฺขิปาเปตฺวา ปุน ปจฺจนฺตํ ปาปยึสุ. เตสํ อนฺตเร เอกา อภิรูปา กุมาริกา เกราฏิกปฺาย สมนฺนาคตา จินฺเตสิ ‘‘อิเม อมฺเห คเหตฺวา ทาสิโภเคน ปริภฺุชิสฺสนฺติ, เอเกน อุปาเยน ปลายิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สา ‘‘สามิ, สรีรกิจฺจํ กาตุกามามฺหิ, โถกํ ปฏิกฺกมิตฺวา ติฏฺถา’’ติ วตฺวา โจเร วฺเจตฺวา ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสนฺตี โพธิสตฺตสฺส ปุตฺตํ อสฺสเม เปตฺวา ผลาผลตฺถาย คตกาเล ปุพฺพณฺหสมเย ตํ อสฺสมํ ปาปุณิตฺวา ตํ ตาปสกุมารํ ¶ กามรติยา ปโลเภตฺวา สีลมสฺส ภินฺทิตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ‘‘กึ เต อรฺวาเสน, เอหิ คามํ คนฺตฺวา วสิสฺสาม, ตตฺร หิ รูปาทโย กามคุณา สุลภา’’ติ อาห. โสปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘ปิตา ตาว เม อรฺโต ผลาผลํ อาหริตุํ คโต, ตํ ทิสฺวา อุโภปิ เอกโตว คมิสฺสามา’’ติ อาห.
สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ตรุณทารโก น กิฺจิ ชานาติ, ปิตรา ปนสฺส มหลฺลกกาเล ปพฺพชิเตน ภวิตพฺพํ, โส อาคนฺตฺวา ‘อิธ กึ กโรสี’ติ มํ โปเถตฺวา ปาเท คเหตฺวา กฑฺเฒตฺวา อรฺเ ขิปิสฺสติ, ตสฺมึ อนาคเตเยว ปลายิสฺสามี’’ติ. อถ นํ ‘‘อหํ ปุรโต คจฺฉามิ, ตฺวํ ปจฺฉา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา มคฺคสฺํ อาจิกฺขิตฺวา ปกฺกามิ. โส ตสฺสา คตกาลโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนโทมนสฺโส ยถา ปุเร กิฺจิ วตฺตํ อกตฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา อนฺโตปณฺณสาลาย ปชฺฌายนฺโต นิปชฺชิ. มหาสตฺโต ผลาผลํ อาทาย อาคนฺตฺวา ตสฺสา ปทวลฺชํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มาตุคามสฺส ปทวลฺโช, ‘‘ปุตฺตสฺส มม สีลํ ภินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ผลาผลํ โอตาเรตฺวา ปุตฺตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘น เต กฏฺานิ ภินฺนานิ, น เต อุทกมาภตํ;
อคฺคีปิ เต น หาปิโต, กึ นุ มนฺโทว ฌายสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อคฺคีปิ เต น หาปิโตติ อคฺคิปิ เต น ชาลิโต. มนฺโทวาติ นิปฺปฺโ อนฺธพาโล วิย.
โส ปิตุ กถํ สุตฺวา อุฏฺาย ปิตรํ วนฺทิตฺวา คารเวเนว อรฺวาเส อนุสฺสาหํ ปเวเทนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘น ¶ อุสฺสเห วเน วตฺถุํ, กสฺสปามนฺตยามิ ตํ;
ทุกฺโข วาโส อรฺมฺหิ, รฏฺํ อิจฺฉามิ คนฺตเว.
‘‘ยถา อหํ อิโต คนฺตฺวา, ยสฺมึ ชนปเท วสํ;
อาจารํ พฺรหฺเม สิกฺเขยฺยํ, ตํ ธมฺมํ อนุสาส ม’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ กสฺสปามนฺตยามิ ตนฺติ กสฺสป อามนฺตยามิ ตํ. คนฺตเวติ คนฺตุํ. อาจารนฺติ ยสฺมึ ชนปเท วสามิ, ตตฺถ วสนฺโต ยถา อาจารํ ชนปทจาริตฺตํ สิกฺเขยฺยํ ชาเนยฺยํ, ตํ ธมฺมํ อนุสาส โอวทาหีติ วทติ.
มหาสตฺโต ‘‘สาธุ, ตาต, เทสจาริตฺตํ เต กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –
‘‘สเจ อรฺํ หิตฺวาน, วนมูลผลานิ จ;
รฏฺเ โรจยเส วาสํ, ตํ ธมฺมํ นิสาเมหิ เม.
‘‘วิสํ มา ปฏิเสวิตฺโถ, ปปาตํ ปริวชฺชย;
ปงฺเก จ มา วิสีทิตฺโถ, ยตฺโต จาสีวิเส จเร’’ติ.
ตตฺถ ธมฺมนฺติ สเจ รฏฺวาสํ โรเจสิ, เตน หิ ตฺวํ ชนปทจาริตฺตํ ธมฺมํ นิสาเมหิ. ยตฺโต จาสีวิเสติ อาสีวิสสฺส สนฺติเก ยตฺโต ปฏิยตฺโต จเรยฺยาสิ, สกฺโกนฺโต อาสีวิสํ ปริวชฺเชยฺยาสีติ อตฺโถ.
ตาปสกุมาโร สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส อตฺถํ อชานนฺโต ปุจฺฉิ –
‘‘กึ ¶ นุ วิสํ ปปาโต วา, ปงฺโก วา พฺรหฺมจารินํ;
กํ ตฺวํ อาสีวิสํ พฺรูสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ –
‘‘อาสโว ตาต โลกสฺมึ, สุรา นาม ปวุจฺจติ;
มนฺุโ สุรภี วคฺคุ, สาทุ ขุทฺทรสูปโม;
วิสํ ตทาหุ อริยา เส, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘อิตฺถิโย ¶ ตาต โลกสฺมึ, ปมตฺตํ ปมเถนฺติ ตา;
หรนฺติ ยุวิโน จิตฺตํ, ตูลํ ภฏฺํว มาลุโต;
ปปาโต เอโส อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร, ปูชา ปรกุเลสุ จ;
ปงฺโก เอโส จ อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘สสตฺถา ตาต ราชาโน, อาวสนฺติ มหึ อิมํ;
เต ตาทิเส มนุสฺสินฺเท, มหนฺเต ตาต นารท.
‘‘อิสฺสรานํ ¶ อธิปตีนํ, น เตสํ ปาทโต จเร;
อาสีวิโสติ อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘ภตฺตตฺโถ ภตฺตกาเล จ, ยํ เคหมุปสงฺกเม;
ยเทตฺถ กุสลํ ชฺา, ตตฺถ ฆาเสสนํ จเร.
‘‘ปวิสิตฺวา ปรกุลํ, ปานตฺถํ โภชนาย วา;
มิตํ ขาเท มิตํ ภฺุเช, น จ รูเป มนํ กเร.
‘‘โคฏฺํ มชฺชํ กิราฏฺจ, สภา นิกิรณานิ จ;
อารกา ปริวชฺเชหิ, ยานีว วิสมํ ปถ’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อาสโวติ ปุปฺผาสวาทิ. วิสํ ตทาหูติ ตํ อาสวสงฺขาตํ สุรํ อริยา ‘‘พฺรหฺมจริยสฺส วิส’’นฺติ วทนฺติ. ปมตฺตนฺติ มุฏฺสฺสตึ. ตูลํ ภฏฺํวาติ รุกฺขา ภสฺสิตฺวา ปติตตูลํ วิย. อกฺขาโตติ พุทฺธาทีหิ กถิโต. สิโลโกติ กิตฺติวณฺโณ. สกฺกาโรติ อฺชลิกมฺมาทิ. ปูชาติ คนฺธมาลาทีหิ ปูชา. ปงฺโกติ เอส โอสีทาปนฏฺเน ‘‘ปงฺโก’’ติ อกฺขาโต. มหนฺเตติ มหนฺตภาวปฺปตฺเต. น เตสํ ปาทโต จเรติ เตสํ สนฺติเก น จเร, ราชกุลูปโก น ภเวยฺยาสีติ อตฺโถ. ราชาโน หิ อาสีวิสา วิย มุหุตฺเตเนว กุชฺฌิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ. อปิจ อนฺเตปุรปฺปเวสเน วุตฺตาทีนววเสนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ภตฺตตฺโถติ ¶ ภตฺเตน อตฺถิโก หุตฺวา. ยเทตฺถ กุสลนฺติ ยํ เตสุ อุปสงฺกมิตพฺเพสุ เคเหสุ กุสลํ อนวชฺชํ ปฺจอโคจรรหิตํ ชาเนยฺยาสิ, ตตฺถ ฆาเสสนํ จเรยฺยาสีติ อตฺโถ. น จ รูเป มนํ กเรติ ปรกุเล มตฺตฺู หุตฺวา โภชนํ ภฺุชนฺโตปิ ตตฺถ อิตฺถิรูเป มนํ มา กเรยฺยาสิ, มา จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา อิตฺถิรูเป นิมิตฺตํ คณฺเหยฺยาสีติ วทติ. โคฏฺํ มชฺชํ กิราฏนฺติ อยํ โปตฺถเกสุ ปาโ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘โคฏฺํ มชฺชํ กิราสฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘โคฏฺนฺติ คุนฺนํ ิตฏฺานํ. มชฺชนฺติ ปานาคารํ. กิราสนฺติ ธุตฺตเกราฏิกชน’’นฺติ วุตฺตํ. สภา นิกิรณานิ จาติ สภาโย จ หิรฺสุวณฺณานํ นิกิรณฏฺานานิ จ. อารกาติ เอตานิ สพฺพานิ ทูรโต ปริวชฺเชยฺยาสิ. ยานีวาติ สปฺปิเตลยาเนน คจฺฉนฺโต วิสมํ มคฺคํ วิย.
มาณโว ปิตุ กเถนฺตสฺเสว สตึ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ตาต, อลํ เม มนุสฺสปเถนา’’ติ อาห. อถสฺส ปิตา ¶ เมตฺตาทิภาวนํ อาจิกฺขิ. โส ตสฺโสวาเท ตฺวา น จิรสฺเสว ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตสิ. อุโภปิ ปิตาปุตฺตา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สา กุมาริกา อยํ กุมาริกา อโหสิ, ตาปสกุมาโร อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
จูฬนารทชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๗๘] ๕. ทูตชาตกวณฺณนา
ทูเต เต พฺรหฺเม ปาเหสินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตโน ปฺาปสํสนํ อารพฺภ กเถสิ. ธมฺมสภายํ ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘ปสฺสถ, อาวุโส, ทสพลสฺส อุปายโกสลฺลํ, นนฺทสฺส ¶ สกฺยปุตฺตสฺส อจฺฉราคณํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, จูฬปนฺถกสฺส ปิโลติกํ ทตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ อทาสิ, กมฺมารปุตฺตสฺส ปทุมํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, เอวํ นานาอุปาเยหิ สตฺเต วิเนตี’’ติ ¶ . สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ‘อิมินา อิทํ โหตี’ติ อุปายกุสโล, ปุพฺเพปิ อุปายกุสโลเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ชนปโท อหิรฺโ อโหสิ. โส หิ ชนปทํ ปีเฬตฺวา ธนเมว สํกฑฺฒิ. ตทา โพธิสตฺโต กาสิคาเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ‘‘ปจฺฉา ธมฺเมน ภิกฺขํ จริตฺวา อาจริยธนํ อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา นิฏฺิตสิปฺโป อนุโยคํ ทตฺวา ‘‘อาจริย, ตุมฺหากํ ธนํ อาหริสฺสามี’’ติ อาปุจฺฉิตฺวา นิกฺขมฺม ชนปเท จรนฺโต ธมฺเมน สเมน ปริเยสิตฺวา สตฺต นิกฺเข ลภิตฺวา ‘‘อาจริยสฺส ทสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค คงฺคํ โอตริตุํ นาวํ อภิรุหิ. ตสฺส ตตฺถ นาวาย วิปริวตฺตมานาย ตํ สุวณฺณํ อุทเก ปติ. โส จินฺเตสิ ‘‘ทุลฺลภํ หิรฺํ, ชนปเท ปุน อาจริยธเน ปริเยสิยมาเน ¶ ปปฺโจ ภวิสฺสติ, ยํนูนาหํ คงฺคาตีเรเยว นิราหาโร นิสีเทยฺยํ, ตสฺส เม นิสินฺนภาวํ อนุปุพฺเพน ราชา ชานิสฺสติ, ตโต อมจฺเจ เปเสสฺสติ, อหํ เตหิ สทฺธึ น มนฺเตสฺสามิ, ตโต ราชา สยํ อาคมิสฺสติ, อิมินา อุปาเยน ตสฺส สนฺติเก อาจริยธนํ ลภิสฺสามี’’ติ. โส คงฺคาตีเร อุตฺตริสาฏกํ ปารุปิตฺวา ยฺสุตฺตํ พหิ เปตฺวา รชตปฏฺฏวณฺเณ วาลุกตเล สุวณฺณปฏิมา วิย นิสีทิ. ตํ นิราหารํ นิสินฺนํ ทิสฺวา มหาชโน ‘‘กสฺมา นิสินฺโนสี’’ติ ปุจฺฉิ, กสฺสจิ น กเถสิ. ปุนทิวเส ทฺวารคามวาสิโน ตสฺส ตตฺถ นิสินฺนภาวํ สุตฺวา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉึสุ, เตสมฺปิ น กเถสิ. เต ตสฺส กิลมถํ ทิสฺวา ปริเทวนฺตา ปกฺกมึสุ. ตติยทิวเส นครวาสิโน อาคมึสุ, จตุตฺถทิวเส นครโต อิสฺสรชนา, ปฺจมทิวเส ราชปุริสา. ฉฏฺทิวเส ราชา อมจฺเจ เปเสสิ, เตหิปิ สทฺธึ น กเถสิ. สตฺตมทิวเส ราชา ภยฏฺฏิโต หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘ทูเต เต พฺรหฺเม ปาเหสึ, คงฺคาตีรสฺมิ ฌายโต;
เตสํ ปุฏฺโ น พฺยากาสิ, ทุกฺขํ คุยฺหมตํ นุ เต’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทุกฺขํ คุยฺหมตํ นุ เตติ กึ นุ โข, พฺราหฺมณ, ยํ ตว ทุกฺขํ อุปฺปนฺนํ, ตํ เต คุยฺหเมว มตํ, น อฺสฺส อาจิกฺขิตพฺพนฺติ.
ตํ ¶ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, ทุกฺขํ นาม หริตุํ สมตฺถสฺเสว อาจิกฺขิตพฺพํ, น อฺสฺสา’’ติ วตฺวา สตฺต คาถา อภาสิ –
‘‘สเจ เต ทุกฺขมุปฺปชฺเช, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒน;
มา โข นํ ตสฺส อกฺขาหิ, โย ตํ ทุกฺขา น โมจเย.
‘‘โย ตสฺส ทุกฺขชาตสฺส, เอกงฺคมปิ ภาคโส;
วิปฺปโมเจยฺย ธมฺเมน, กามํ ตสฺส ปเวทย.
‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;
มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.
‘‘อปิ ¶ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;
โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส.
‘‘โย อตฺตโน ทุกฺขมนานุปุฏฺโ, ปเวทเย ชนฺตุ อกาลรูเป;
อานนฺทิโน ตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, หิเตสิโน ตสฺส ทุขี ภวนฺติ.
‘‘กาลฺจ ตฺวาน ตถาวิธสฺส, เมธาวินํ เอกมนํ วิทิตฺวา;
อกฺเขยฺย ติพฺพานิ ปรสฺส ธีโร, สณฺหํ คิรํ อตฺถวตึ ปมฺุเจ.
‘‘สเจ จ ชฺา อวิสยฺหมตฺตโน, น เต หิ มยฺหํ สุขาคมาย;
เอโกว ติพฺพานิ สเหยฺย ธีโร, สจฺจํ หิโรตฺตปฺปมเปกฺขมาโน’’ติ.
ตตฺถ ¶ อุปฺปชฺเชติ สเจ ตว อุปฺปชฺเชยฺย. มา อกฺขาหีติ มา กเถหิ. ทุพฺพิชานตรํ ตโตติ ตโต ติรจฺฉานคตวสฺสิตโตปิ ทุพฺพิชานตรํ, ตสฺมา ตถโต อชานิตฺวา หริตุํ อสมตฺถสฺส อตฺตโน ทุกฺขํ น กเถตพฺพเมวาติ. อปิ เจติ คาถา วุตฺตตฺถาว. อนานุปุฏฺโติ ปุนปฺปุนํ ปุฏฺโ. ปเวทเยติ กเถติ. อกาลรูเปติ อกาเล. กาลนฺติ อตฺตโน คุยฺหสฺส กถนกาลํ. ตถาวิธสฺสาติ ปณฺฑิตปุริสํ อตฺตนา สทฺธึ เอกมนํ วิทิตฺวา ตถาวิธสฺส อาจิกฺเขยฺย. ติพฺพานีติ ทุกฺขานิ.
สเจติ ¶ ยทิ อตฺตโน ทุกฺขํ อวิสยฺหํ อตฺตโน วา ปเรสํ วา ปุริสกาเรน อเตกิจฺฉํ ชาเนยฺย. เต หีติ เต เอว โลกปเวณิกา, อฏฺโลกธมฺมาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อถ อยํ โลกปเวณี น มยฺหํ เอว สุขาคมาย อุปฺปนฺนา, อฏฺหิ โลกธมฺเมหิ ปริมุตฺโต นาม นตฺถิ, เอวํ สนฺเต สุขเมว ปตฺเถนฺเตน ปรสฺส ทุกฺขาโรปนํ นาม น ยุตฺตํ, เนตํ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺเนน กตฺตพฺพํ, อตฺถิ จ เม หิรี โอตฺตปฺปนฺติ สจฺจํ สํวิชฺชมานํ อตฺตนิ หิโรตฺตปฺปํ อเปกฺขมาโนว อฺสฺส อนาโรเจตฺวา เอโกว ติพฺพานิ สเหยฺย ธีโรติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต สตฺตหิ คาถาหิ รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา อตฺตโน อาจริยธนสฺส ปริเยสิตภาวํ ทสฺเสนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อหํ รฏฺเ วิจรนฺโต, นิคเม ราชธานิโย;
ภิกฺขมาโน มหาราช, อาจริยสฺส ธนตฺถิโก.
‘‘คหปตี ราชปุริเส, มหาสาเล จ พฺราหฺมเณ;
อลตฺถํ สตฺต นิกฺขานิ, สุวณฺณสฺส ชนาธิป;
เต เม นฏฺา มหาราช, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.
‘‘ปุริสา เต มหาราช, มนสานุวิจินฺติตา;
นาลํ ทุกฺขา ปโมเจตุํ, ตสฺมา เตสํ น พฺยาหรึ.
‘‘ตฺวฺจ ¶ โข เม มหาราช, มนสานุวิจินฺติโต;
อลํ ทุกฺขา ปโมเจตุํ, ตสฺมา ตุยฺหํ ปเวทยิ’’นฺติ.
ตตฺถ ภิกฺขมาโนติ เอเต คหปติอาทโย ยาจมาโน. เต เมติ เต สตฺต นิกฺขา มม คงฺคํ ตรนฺตสฺส นฏฺา, คงฺคายํ ปติตา. ปุริสา เตติ มหาราช, ตว ทูตปุริสา. อนุวิจินฺติตาติ ‘‘นาลํ อิเม มํ ทุกฺขา โมเจตุ’’นฺติ มยา าตา. ตสฺมาติ เตน การเณน เตสํ อตฺตโน ทุกฺขํ นาจิกฺขึ. ปเวทยินฺติ กเถสึ.
ราชา ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘มา จินฺตยิ, พฺราหฺมณ, อหํ เต อาจริยธนํ ทสฺสามี’’ติ ทฺวิคุณธนมทาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –
‘‘ตสฺสาทาสิ ¶ ปสนฺนตฺโต, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;
ชาตรูปมเย นิกฺเข, สุวณฺณสฺส จตุทฺทสา’’ติ.
ตตฺถ ชาตรูปมเยติ เต สุวณฺณสฺส จตุทฺทส นิกฺเข ชาตรูปมเยเยว อทาสิ, น ยสฺส วา ตสฺส วา สุวณฺณสฺสาติ อตฺโถ.
มหาสตฺโต รฺโ โอวาทํ ทตฺวา อาจริยสฺส ธนํ ทตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา ราชาปิ ตสฺโสวาเท ิโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อุโภปิ ยถากมฺมํ คตา.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต อุปายกุสโลเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, อาจริโย สาริปุตฺโต, พฺราหฺมณมาณโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ทูตชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๗๙] ๖. กาลิงฺคโพธิชาตกวณฺณนา
ราชา กาลิงฺโค จกฺกวตฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถเรน กตํ มหาโพธิปูชํ อารพฺภ กเถสิ. เวเนยฺยสงฺคหตฺถาย หิ ตถาคเต ชนปทจาริกํ ปกฺกนฺเต สาวตฺถิวาสิโน คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนํ คนฺตฺวา อฺํ ปูชนียฏฺานํ อลภิตฺวา คนฺธกุฏิทฺวาเร ปาเตตฺวา ¶ คจฺฉนฺติ, เต อุฬารปาโมชฺชา น โหนฺติ. ตํ การณํ ตฺวา อนาถปิณฺฑิโก ตถาคตสฺส เชตวนํ อาคตกาเล อานนฺทตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ วิหาโร ตถาคเต จาริกํ ปกฺกนฺเต นิปจฺจโย โหติ, มนุสฺสานํ คนฺธมาลาทีหิ ปูชนียฏฺานํ น โหติ, สาธุ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส อิมมตฺถํ อาโรเจตฺวา เอกสฺส ปูชนียฏฺานสฺส สกฺกุเณยฺยภาวํ ชานาถา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถาคตํ ปุจฺฉิ ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, เจติยานี’’ติ? ‘‘ตีณิ อานนฺทา’’ติ. ‘‘กตมานิ, ภนฺเต, ตีณี’’ติ? ‘‘สารีริกํ ปาริโภคิกํ อุทฺทิสฺสก’’นฺติ. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ ธรนฺเตสุเยว เจติยํ กาตุ’’นฺติ. ‘‘อานนฺท, สารีริกํ น สกฺกา กาตุํ. ตฺหิ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานกาเล โหติ, อุทฺทิสฺสกํ อวตฺถุกํ มมายนมตฺตเมว โหติ, พุทฺเธหิ ปริภุตฺโต มหาโพธิรุกฺโข พุทฺเธสุ ธรนฺเตสุปิ เจติยเมวา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหสุ ปกฺกนฺเตสุ เชตวนวิหาโร อปฺปฏิสรโณ โหติ, มหาชโน ปูชนียฏฺานํ ¶ น ลภติ, มหาโพธิโต พีชํ อาหริตฺวา เชตวนทฺวาเร โรเปสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สาธุ, อานนฺท, โรเปหิ, เอวํ สนฺเต เชตวเน มม นิพทฺธวาโส วิย ภวิสฺสตี’’ติ.
เถโร โกสลนรินฺทสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส วิสาขาทีนฺจ อาโรเจตฺวา เชตวนทฺวาเร โพธิโรปนฏฺาเน อาวาฏํ ขณาเปตฺวา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อหํ เชตวนทฺวาเร โพธึ โรเปสฺสามิ, มหาโพธิโต เม โพธิปกฺกํ อาหรถา’’ติ. เถโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อากาเสน โพธิมณฺฑํ คนฺตฺวา วณฺฏา ปริคลนฺตํ ¶ ปกฺกํ ภูมึ อสมฺปตฺตเมว จีวเรน สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คเหตฺวา อานนฺทตฺเถรสฺส อทาสิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘อชฺช โพธึ โรเปสฺสามี’’ติ โกสลราชาทีนํ อาโรเจสิ. ราชา สายนฺหสมเย มหนฺเตน ปริวาเรน สพฺพูปกรณานิ คาหาเปตฺวา อาคมิ, ตถา อนาถปิณฺฑิโก วิสาขา จ อฺโ จ สทฺโธ ชโน. เถโร มหาโพธิโรปนฏฺาเน มหนฺตํ สุวณฺณกฏาหํ เปตฺวา เหฏฺา ฉิทฺทํ กาเรตฺวา คนฺธกลลสฺส ปูเรตฺวา ‘‘อิทํ โพธิปกฺกํ โรเปหิ, มหาราชา’’ติ รฺโ อทาสิ. โส จินฺเตสิ ‘‘รชฺชํ นาม น สพฺพกาลํ อมฺหากํ หตฺเถ ติฏฺติ, อิทํ มยา อนาถปิณฺฑิเกน โรปาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ . โส ตํ โพธิปกฺกํ มหาเสฏฺิสฺส หตฺเถ เปสิ. อนาถปิณฺฑิโก คนฺธกลลํ วิยูหิตฺวา ตตฺถ ปาเตสิ. ตสฺมึ ตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานฺเว นงฺคลสีสปฺปมาโณ โพธิขนฺโธ ปณฺณาสหตฺถุพฺเพโธ อุฏฺหิ, จตูสุ ทิสาสุ อุทฺธฺจาติ ปฺจ มหาสาขา ปณฺณาสหตฺถาว นิกฺขมึสุ. อิติ โส ตงฺขณฺเว วนปฺปติเชฏฺโก หุตฺวา อฏฺาสิ. ราชา อฏฺารสมตฺเต สุวณฺณรชตฆเฏ คนฺโธทเกน ปูเรตฺวา นีลุปฺปลหตฺถกาทิปฏิมณฺฑิเต มหาโพธึ ปริกฺขิปิตฺวา ปุณฺณฆเฏ ปฏิปาฏิยา เปสิ, สตฺตรตนมยํ เวทิกํ กาเรสิ, สุวณฺณมิสฺสกํ วาลุกํ โอกิริ, ปาการปริกฺเขปํ กาเรสิ, สตฺตรตนมยํ ทฺวารโกฏฺกํ กาเรสิ, สกฺกาโร มหา อโหสิ.
เถโร ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ มหาโพธิมูเล สมาปนฺนสมาปตฺตึ มยา โรปิตโพธิมูเล นิสีทิตฺวา มหาชนสฺส หิตตฺถาย สมาปชฺชถา’’ติ อาห. ‘‘อานนฺท, กึ กเถสิ, มยิ มหาโพธิมูเล สมาปนฺนสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน อฺโ ปเทโส ธาเรตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, มหาชนสฺส หิตตฺถาย อิมสฺส ภูมิปฺปเทสสฺส ธุวนิยาเมน สมาปตฺติสุเขน ตํ โพธิมูลํ ปริภฺุชถา’’ติ. สตฺถา เอกรตฺตึ สมาปตฺติสุเขน ปริภฺุชิ. เถโร โกสลราชาทีนํ กเถตฺวา โพธิมหํ นาม กาเรสิ. โสปิ โข โพธิรุกฺโข อานนฺทตฺเถเรน โรปิตตฺตา อานนฺทโพธิเยวาติ ปฺายิตฺถ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส อายสฺมา อานนฺโท ธรนฺเตเยว ตถาคเต โพธึ โรเปตฺวา มหาปูชํ กาเรสิ ¶ , อโห มหาคุโณ เถโร’’ติ ¶ . สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท สปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ มนุสฺเส คเหตฺวา พหุคนฺธมาลาทีนิ อาหริตฺวา มหาโพธิมณฺเฑ โพธิมหํ กาเรสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต กลิงฺครฏฺเ ทนฺตปุรนคเร กาลิงฺโค นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส มหากาลิงฺโค, จูฬกาลิงฺโคติ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เนมิตฺตกา ‘‘เชฏฺปุตฺโต ปิตุ อจฺจเยน รชฺชํ กาเรสฺสติ, กนิฏฺโ ปน อิสิปพฺพชฺชํ ¶ ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขาย จริสฺสติ, ปุตฺโต ปนสฺส จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อปรภาเค เชฏฺปุตฺโต ปิตุ อจฺจเยน ราชา อโหสิ, กนิฏฺโ ปน อุปราชา. โส ‘‘ปุตฺโต กิร เม จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ ปุตฺตํ นิสฺสาย มานํ อกาสิ. ราชา อสหนฺโต ‘‘จูฬกาลิงฺคํ คณฺหา’’ติ เอกํ อตฺถจรกํ อาณาเปสิ. โส คนฺตฺวา ‘‘กุมาร, ราชา ตํ คณฺหาเปตุกาโม, ตว ชีวิตํ รกฺขาหี’’ติ อาห. โส อตฺตโน ลฺชนมุทฺทิกฺจ สุขุมกมฺพลฺจ ขคฺคฺจาติ อิมานิ ตีณิ อตฺถจรกามจฺจสฺส ทสฺเสตฺวา ‘‘อิมาย สฺาย มม ปุตฺตสฺส รชฺชํ ทเทยฺยาถา’’ติ วตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา รมณีเย ภูมิภาเค อสฺสมํ กตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา นทีตีเร วาสํ กปฺเปสิ.
มทฺทรฏฺเปิ สาคลนคเร มทฺทรฺโ อคฺคมเหสี ธีตรํ วิชายิ. ตํ เนมิตฺตกา ‘‘อยํ ภิกฺขํ จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสติ, ปุตฺโต ปนสฺสา จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. สกลชมฺพุทีเป ราชาโน ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เอกปฺปหาเรเนว อาคนฺตฺวา สาคลนครํ รุนฺธึสุ. มทฺทราชา จินฺเตสิ ‘‘สจาหํ อิมํ เอกสฺส ทสฺสามิ, เสสราชาโน กุชฺฌิสฺสนฺติ, มม ธีตรํ รกฺขิสฺสามี’’ติ ธีตรฺจ ภริยฺจ คเหตฺวา อฺาตกเวเสน ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา จูฬกาลิงฺคกุมารสฺส อสฺสมปทโต อุปริภาเค อสฺสมํ ¶ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา อฺุฉาจริยาย ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ตตฺถ ปฏิวสติ. มาตาปิตโร ‘‘ธีตรํ รกฺขิสฺสามา’’ติ ตํ อสฺสมปเท กตฺวา ผลาผลตฺถาย คจฺฉนฺติ. สา เตสํ คตกาเล นานาปุปฺผานิ คเหตฺวา ปุปฺผจุมฺพฏกํ กตฺวา คงฺคาตีเร ปิตโสปานปนฺติ วิย ชาโต เอโก สุปุปฺผิโต อมฺพรุกฺโข อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวา กีฬิตฺวา ปุปฺผจุมฺพฏกํ อุทเก ขิปิ. ตํ เอกทิวสํ คงฺคายํ นฺหายนฺตสฺส จูฬกาลิงฺคกุมารสฺส สีเส ลคฺคิ. โส ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ เอกาย อิตฺถิยา กตํ, โน จ โข มหลฺลิกาย, ตรุณกุมาริกาย กตกมฺมํ, วีมํสิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ กิเลสวเสน อุปริคงฺคํ คนฺตฺวา ตสฺสา อมฺพรุกฺเข นิสีทิตฺวา มธุเรน สเรน คายนฺติยา สทฺทํ สุตฺวา รุก