📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

ชาตก-อฏฺกถา

จตุตฺโถ ภาโค

๑๐. ทสกนิปาโต

[๔๓๙] ๑. จตุทฺวารชาตกวณฺณนา

จตุทฺวารมิทํ นครนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทุพฺพจภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ นวกนิปาตสฺส ปมชาตเก วิตฺถาริตเมว. อิธ ปน สตฺถา ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ ทุพฺพโจ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุพฺเพปิ ตฺวํ ภิกฺขุ ทุพฺพจตาย ปณฺฑิตานํ วจนํ อกตฺวา ขุรจกฺกํ อาปาเทสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กสฺสปทสพลสฺส กาเล พาราณสิยํ อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน เอโก ปุตฺโต มิตฺตวินฺทโก นาม อโหสิ. ตสฺส มาตาปิตโร โสตาปนฺนา อเหสุํ, โส ปน ทุสฺสีโล อสฺสทฺโธ. อถ นํ อปรภาเค ปิตริ กาลกเต มาตา กุฏุมฺพํ วิจาเรนฺตี อาห – ‘‘ตาต, ตยา ทุลฺลภํ มนุสฺสตฺตํ ลทฺธํ, ทานํ เทหิ, สีลํ รกฺขาหิ, อุโปสถกมฺมํ กโรหิ, ธมฺมํ สุณาหี’’ติ. อมฺม, น มยฺหํ ทานาทีหิ อตฺโถ, มา มํ กิฺจิ อวจุตฺถ, อหํ ยถากมฺมํ คมิสฺสามีติ. เอวํ วทนฺตมฺปิ นํ เอกทิวสํ ปุณฺณมุโปสถทิวเส มาตา อาห – ‘‘ตาต, อชฺช อภิลกฺขิโต มหาอุโปสถทิวโส, อชฺช อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สพฺพรตฺตึ ธมฺมํ สุตฺวา เอหิ, อหํ เต สหสฺสํ ทสฺสามี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ธนโลเภน อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา ภุตฺตปาตราโส วิหารํ คนฺตฺวา ทิวสํ วีตินาเมตฺวา รตฺตึ ยถา เอกมฺปิ ธมฺมปทํ กณฺณํ น ปหรติ, ตถา เอกสฺมึ ปเทเส นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว มุขํ โธวิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา นิสีทิ.

มาตา ปนสฺส ‘‘อชฺช เม ปุตฺโต ธมฺมํ สุตฺวา ปาโตว ธมฺมกถิกตฺเถรํ อาทาย อาคมิสฺสตี’’ติ ยาคุํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาเทตฺวา อาสนํ ปฺเปตฺวา ตสฺสาคมนํ ปฏิมาเนนฺตี ตํ เอกกํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, ธมฺมกถิโก เกน น อานีโต’’ติ วตฺวา ‘‘น มยฺหํ ธมฺมกถิเกน อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ ยาคุํ ปิวา’’ติ อาห. โส ‘‘ตุมฺเหหิ มยฺหํ สหสฺสํ ปฏิสฺสุตํ, ตํ ตาว เม เทถ, ปจฺฉา ปิวิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ปิว, ตาต, ปจฺฉา ทสฺสามี’’ติ. ‘‘คเหตฺวาว ปิวิสฺสามี’’ติ. อถสฺส มาตา สหสฺสภณฺฑิกํ ปุรโต เปสิ. โส ยาคุํ ปิวิตฺวา สหสฺสภณฺฑิกํ คเหตฺวา โวหารํ กโรนฺโต น จิรสฺเสว วีสสตสหสฺสํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นาวํ อุปฏฺเปตฺวา โวหารํ กริสฺสามี’’ติ. โส นาวํ อุปฏฺเปตฺวา ‘‘อมฺม, อหํ นาวาย โวหารํ กริสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ มาตา ‘‘ตฺวํ ตาต, เอกปุตฺตโก, อิมสฺมึ ฆเร ธนมฺปิ พหุ, สมุทฺโท อเนกาทีนโว, มา คมี’’ติ นิวาเรสิ. โส ‘‘อหํ คมิสฺสาเมว, น สกฺกา มํ นิวาเรตุ’’นฺติ วตฺวา ‘‘อหํ ตํ, ตาต, วาเรสฺสามี’’ติ มาตรา หตฺเถ คหิโต หตฺถํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา มาตรํ ปหริตฺวา ปาเตตฺวา อนฺตรํ กตฺวา คนฺตฺวา นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิ.

นาวา สตฺตเม ทิวเส มิตฺตวินฺทกํ นิสฺสาย สมุทฺทปิฏฺเ นิจฺจลา อฏฺาสิ. กาฬกณฺณิสลากา กริยมานา มิตฺตวินฺทกสฺเสว หตฺเถ ติกฺขตฺตุํ ปติ. อถสฺส อุฬุมฺปํ ทตฺวา ‘‘อิมํ เอกํ นิสฺสาย พหู มา นสฺสนฺตู’’ติ ตํ สมุทฺทปิฏฺเ ขิปึสุ. ตาวเทว นาวา ชเวน มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทิ. โสปิ อุฬุมฺเป นิปชฺชิตฺวา เอกํ ทีปกํ ปาปุณิ. ตตฺถ ผลิกวิมาเน จตสฺโส เวมานิกเปติโย อทฺทส. ตา สตฺตาหํ ทุกฺขํ อนุภวนฺติ, สตฺตาหํ สุขํ. โส ตาหิ สทฺธึ สตฺตาหํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิ. อถ นํ ตา ทุกฺขานุภวนตฺถาย คจฺฉมานา ‘‘สามิ, มยํ สตฺตเม ทิวเส อาคมิสฺสาม, ยาว มยํ อาคจฺฉาม, ตาว อนุกฺกณฺมาโน อิเธว วสา’’ติ วตฺวา อคมํสุ. โส ตณฺหาวสิโก หุตฺวา ตสฺมึเยว ผลเก นิปชฺชิตฺวา ปุน สมุทฺทปิฏฺเน คจฺฉนฺโต อปรํ ทีปกํ ปตฺวา ตตฺถ รชตวิมาเน อฏฺ เวมานิกเปติโย ทิสฺวา เอเตเนว อุปาเยน อปรสฺมึ ทีปเก มณิวิมาเน โสฬส, อปรสฺมึ ทีปเก กนกวิมาเน ทฺวตฺตึส เวมานิกเปติโย ทิสฺวา ตาหิ สทฺธึ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ตาสมฺปิ ทุกฺขํ อนุภวิตุํ คตกาเล ปุน สมุทฺทปิฏฺเน คจฺฉนฺโต เอกํ ปาการปริกฺขิตฺตํ จตุทฺวารํ นครํ อทฺทส. อุสฺสทนิรโย กิเรส, พหูนํ เนรยิกสตฺตานํ กมฺมกรณานุภวนฏฺานํ มิตฺตวินฺทกสฺส อลงฺกตปฏิยตฺตนครํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาสิ.

โส ‘‘อิมํ นครํ ปวิสิตฺวา ราชา ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ขุรจกฺกํ อุกฺขิปิตฺวา สีเส ปจฺจมานํ เนรยิกสตฺตํ อทฺทส. อถสฺส ตํ ตสฺส สีเส ขุรจกฺกํ ปทุมํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาสิ. อุเร ปฺจงฺคิกพนฺธนํ อุรจฺฉทปสาธนํ หุตฺวา สีสโต คลนฺตํ โลหิตํ โลหิตจนฺทนวิเลปนํ วิย หุตฺวา ปริเทวนสทฺโท มธุรสโร คีตสทฺโท วิย หุตฺวา อุปฏฺาสิ. โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘โภ ปุริส, จิรํ ตยา ปทุมํ ธาริตํ, เทหิ เม เอต’’นฺติ อาห. ‘‘สมฺม, นยิทํ ปทุมํ, ขุรจกฺกํ เอต’’นฺติ. ‘‘ตฺวํ มยฺหํ อทาตุกามตาย เอวํ วทสี’’ติ. เนรยิกสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ กมฺมํ ขีณํ ภวิสฺสติ, อิมินาปิ มยา วิย มาตรํ ปหริตฺวา อาคเตน ภวิตพฺพํ, ทสฺสามิสฺส ขุรจกฺก’’นฺติ. อถ นํ ‘‘เอหิ โภ, คณฺห อิม’’นฺติ วตฺวา ขุรจกฺกํ ตสฺส สีเส ขิปิ, ตํ ตสฺส มตฺถกํ ปิสมานํ ภสฺสิ. ตสฺมึ ขเณ มิตฺตวินฺทโก ตสฺส ขุรจกฺกภาวํ ตฺวา ‘‘ตว ขุรจกฺกํ คณฺห, ตว ขุรจกฺกํ คณฺหา’’ติ เวทนาปฺปตฺโต ปริเทวิ, อิตโร อนฺตรธายิ. ตทา โพธิสตฺโต รุกฺขเทวตา หุตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน อุสฺสทจาริกํ จรมาโน ตํ านํ ปาปุณิ. มิตฺตวินฺทโก ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สามิ เทวราช, อิทํ มํ จกฺกํ สณฺหกรณิยํ วิย ติลานิ ปิสมานํ โอตรติ, กึ นุ โข มยา ปาปํ ปกต’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘จตุทฺวารมิทํ นครํ, อายสํ ทฬฺหปาการํ;

โอรุทฺธปฏิรุทฺโธสฺมิ, กึ ปาปํ ปกตํ มยา.

.

‘‘สพฺเพ อปิหิตา ทฺวารา, โอรุทฺโธสฺมิ ยถา ทิโช;

กิมาธิกรณํ ยกฺข, จกฺกาภินิหโต อห’’นฺติ.

ตตฺถ ทฬฺหปาการนฺติ ถิรปาการํ. ‘‘ทฬฺหโตรณ’’นฺติปิ ปาโ, ถิรทฺวารนฺติ อตฺโถ. โอรุทฺธปฏิรุทฺโธสฺมีติ อนฺโต กตฺวา สมนฺตา ปากาเรน รุทฺโธ, ปลายนฏฺานํ น ปฺายติ. กึ ปาปํ ปกตนฺติ กึ นุ โข มยา ปาปกมฺมํ กตํ. อปิหิตาติ ถกิตา. ยถา ทิโชติ ปฺชเร ปกฺขิตฺโต สกุโณ วิย. กิมาธิกรณนฺติ กึ การณํ. จกฺกาภินิหโตติ จกฺเกน อภินิหโต.

อถสฺส เทวราชา การณํ กเถตุํ ฉ คาถา อภาสิ –

.

‘‘ลทฺธา สตสหสฺสานิ, อติเรกานิ วีสติ;

อนุกมฺปกานํ าตีนํ, วจนํ สมฺม นากริ.

.

‘‘ลงฺฆึ สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิ, สาครํ อปฺปสิทฺธิกํ;

จตุพฺภิ อฏฺชฺฌคมา, อฏฺาหิปิ จ โสฬส.

.

‘‘โสฬสาหิ จ พาตฺตึส, อติจฺฉํ จกฺกมาสโท;

อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก.

.

‘‘อุปริวิสาลา ทุปฺปูรา, อิจฺฉา วิสฏคามินี;

เย จ ตํ อนุคิชฺฌนฺติ, เต โหนฺติ จกฺกธาริโน.

.

‘‘พหุภณฺฑํ อวหาย, มคฺคํ อปฺปฏิเวกฺขิย;

เยสฺเจตํ อสงฺขาตํ, เต โหนฺติ จกฺกธาริโน.

.

‘‘กมฺมํ สเมกฺเข วิปุลฺจ โภคํ, อิจฺฉํ น เสเวยฺย อนตฺถสํหิตํ;

กเรยฺย วากฺยํ อนุกมฺปกานํ, ตํ ตาทิสํ นาติวตฺเตยฺย จกฺก’’นฺติ.

ตตฺถ ลทฺธา สตสหสฺสานิ, อติเรกานิ วีสตีติ ตฺวํ อุโปสถํ กตฺวา มาตุ สนฺติกา สหสฺสํ คเหตฺวา โวหารํ กโรนฺโต สตสหสฺสานิ จ อติเรกานิ วีสติสหสฺสานิ ลภิตฺวา. นากรีติ เตน ธเนน อสนฺตุฏฺโ นาวาย สมุทฺทํ ปวิสนฺโต สมุทฺเท อาทีนวฺจ กเถตฺวา มาตุยา วาริยมาโนปิ อนุกมฺปกานํ าตีนํ วจนํ น กโรสิ, โสตาปนฺนํ มาตรํ ปหริตฺวา อนฺตรํ กตฺวา นิกฺขนฺโตเยวาสีติ ทีเปติ.

ลงฺฆินฺติ นาวํ อุลฺลงฺฆนสมตฺถํ. ปกฺขนฺทีติ ปกฺขนฺโทสิ. อปฺปสิทฺธิกนฺติ มนฺทสิทฺธึ วินาสพหุลํ. จตุพฺภิ อฏฺาติ อถ นํ นิสฺสาย ิตาย นาวาย ผลกํ ทตฺวา สมุทฺเท ขิตฺโตปิ ตฺวํ มาตรํ นิสฺสาย เอกทิวสํ กตสฺส อุโปสถกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน ผลิกวิมาเน จตสฺโส อิตฺถิโย ลภิตฺวา ตโต รชตวิมาเน อฏฺ, มณิวิมาเน โสฬส, กนกวิมาเน ทฺวตฺตึส อธิคโตสีติ. อติจฺฉํ จกฺกมาสโทติ อถ ตฺวํ ยถาลทฺเธน อสนฺตุฏฺโ ‘‘อตฺร อุตฺตริตรํ ลภิสฺสามี’’ติ เอวํ ลทฺธํ ลทฺธํ อติกฺกมนโลภสงฺขาตาย อติจฺฉาย สมนฺนาคตตฺตา อติจฺโฉ ปาปปุคฺคโล ตสฺส อุโปสถกมฺมสฺส ขีณตฺตา ทฺวตฺตึส อิตฺถิโย อติกฺกมิตฺวา อิมํ เปตนครํ อาคนฺตฺวา ตสฺส มาตุปหารทานอกุสลสฺส นิสฺสนฺเทน อิทํ ขุรจกฺกํ สมฺปตฺโตสิ. ‘‘อตฺริจฺฉ’’นฺติปิ ปาโ, อตฺร อตฺร อิจฺฉมาโนติ อตฺโถ. ‘‘อตฺริจฺฉา’’ติปิ ปาโ, อตฺริจฺฉายาติ อตฺโถ. ภมตีติ ตสฺส เต อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส อิทํ จกฺกํ มตฺถกํ ปิสมานํ อิทานิ กุมฺภการจกฺกํ วิย มตฺถเก ภมตีติ อตฺโถ.

เย จ ตํ อนุคิชฺฌนฺตีติ ตณฺหา นาเมสา คจฺฉนฺตี อุปรูปริ วิสาลา โหติ, สมุทฺโท วิย จ ทุปฺปูรา, รูปาทีสุ ตสฺส ตสฺส อิจฺฉนอิจฺฉาย วิสฏคามินี, ตํ เอวรูปํ ตณฺหํ เย จ อนุคิชฺฌนฺติ คิทฺธา คธิตา หุตฺวา ปุนปฺปุนํ อลฺลียนฺติ. เต โหนฺติ จกฺกธาริโนติ เต เอวํ ปจฺจนฺตา ขุรจกฺกํ ธาเรนฺติ. พหุภณฺฑนฺติ มาตาปิตูนํ สนฺตกํ พหุธนํ โอหาย. มคฺคนฺติ คนฺตพฺพํ อปฺปสิทฺธิกํ สมุทฺทมคฺคํ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ยถา ตฺวํ ปฏิปนฺโน, เอวเมว อฺเสมฺปิ เยสฺเจตํ อสงฺขาตํ อวีมํสิตํ, เต ยถา ตฺวํ ตเถว ตณฺหาวสิกา หุตฺวา ธนํ ปหาย คมนมคฺคํ อนเปกฺขิตฺวา ปฏิปนฺนา จกฺกธาริโน โหนฺติ. กมฺมํ สเมกฺเขติ ตสฺมา ปณฺฑิโต ปุริโส อตฺตนา กตฺตพฺพกมฺมํ ‘‘สโทสํ นุ โข, นิทฺโทส’’นฺติ สเมกฺเขยฺย ปจฺจเวกฺเขยฺย. วิปุลฺจ โภคนฺติ อตฺตโน ธมฺมลทฺธํ ธนราสิมฺปิ สเมกฺเขยฺย. นาติวตฺเตยฺยาติ ตํ ตาทิสํ ปุคฺคลํ อิทํ จกฺกํ น อติวตฺเตยฺย นาวตฺถเรยฺย. ‘‘นาติวตฺเตตี’’ติปิ ปาโ, นาวตฺถรตีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา มิตฺตวินฺทโก ‘‘อิมินา เทวปุตฺเตน มยา กตกมฺมํ ตถโต าตํ, อยํ มยฺหํ ปจฺจนปมาณมฺปิ ชานิสฺสติ, ปุจฺฉามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –

.

‘‘กีวจิรํ นุ เม ยกฺข, จกฺกํ สิรสิ สฺสติ;

กติ วสฺสสหสฺสานิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

อถสฺส กเถนฺโต มหาสตฺโต ทสมํ คาถมาห –

๑๐.

‘‘อติสโร ปจฺจสโร, มิตฺตวินฺท สุโณหิ เม;

จกฺกํ เต สิรสิ มาวิทฺธํ, น ตํ ชีวํ ปโมกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ อติสโรติ อติสรีติปิ อติสโร, อติสริสฺสตีติปิ อติสโร. ปจฺจสโรติ ตสฺเสว เววจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม มิตฺตวินฺทก, สุโณหิ เม วจนํ, ตฺวฺหิ อติทารุณสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อติสโร, ตสฺส ปน น สกฺกา วสฺสคณนาย วิปาโก ปฺาเปตุนฺติ อปริมาณํ อติมหนฺตํ วิปากทุกฺขํ สริสฺสสิ ปฏิปชฺชิสฺสสีติ อติสโร. เตน เต ‘‘เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานี’’ติ วตฺตุํ น สกฺโกมิ. สิรสิมาวิทฺธนฺติ ยํ ปน เต อิทํ จกฺกํ สิรสฺมึ อาวิทฺธํ กุมฺภการจกฺกมิว ภมติ. น ตํ ชีวํ ปโมกฺขสีติ ตํ ตฺวํ ยาว เต กมฺมวิปาโก น ขียติ, ตาว ชีวมาโน น ปโมกฺขสิ, กมฺมวิปาเก ปน ขีเณ อิทํ จกฺกํ ปหาย ยถากมฺมํ คมิสฺสสีติ.

อิทํ วตฺวา เทวปุตฺโต อตฺตโน เทวฏฺานเมว คโต, อิตโรปิ มหาทุกฺขํ ปฏิปชฺชิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มิตฺตวินฺทโก อยํ ทุพฺพจภิกฺขุ อโหสิ, เทวราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จตุทฺวารชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๔๐] ๒. กณฺหชาตกวณฺณนา

กณฺโห วตายํ ปุริโสติ อิทํ สตฺถา กปิลวตฺถุํ อุปนิสฺสาย นิคฺโรธาราเม วิหรนฺโต สิตปาตุกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา กิร สตฺถา สายนฺหสมเย นิคฺโรธาราเม ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ชงฺฆวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อฺตรสฺมึ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย, น อเหตุ ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺติ, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาวา’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห สิตการณํ ปุจฺฉิ. อถสฺส สตฺถา ‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, กณฺโห นาม อิสิ อโหสิ, โส อิมสฺมึ ภูมิปฺปเทเส วิหาสิ ฌายี ฌานรโต, ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปี’’ติ สิตการณํ วตฺวา ตสฺส วตฺถุโน อปากฏตฺตา เถเรน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พาราณสิยํ เอเกน อสีติโกฏิวิภเวน อปุตฺตเกน พฺราหฺมเณน สีลํ สมาทิยิตฺวา ปุตฺเต ปตฺถิเต โพธิสตฺโต ตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. กาฬวณฺณตฺตา ปนสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘กณฺหกุมาโร’’ติ นามํ อกํสุ. โส โสฬสวสฺสกาเล มณิปฏิมา วิย โสภคฺคปฺปตฺโต หุตฺวา ปิตรา สิปฺปุคฺคหณตฺถาย เปสิโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคเหตฺวา ปจฺจาคจฺฉิ. อถ นํ ปิตา อนุรูเปน ทาเรน สํโยเชสิ. โส อปรภาเค มาตาปิตูนํ อจฺจเยน สพฺพิสฺสริยํ ปฏิปชฺชิ. อเถกทิวสํ รตนโกฏฺาคารานิ วิโลเกตฺวา วรปลฺลงฺกมชฺฌคโต สุวณฺณปฏฺฏํ อาหราเปตฺวา ‘‘เอตฺตกํ ธนํ อสุเกน อุปฺปาทิตํ, เอตฺตกํ อสุเกนา’’ติ ปุพฺพาตีหิ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขิตานิ อกฺขรานิ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘เยหิ อิมํ ธนํ อุปฺปาทิตํ, เต น ปฺายนฺติ, ธนเมว ปฺายติ, เอโกปิ อิทํ ธนํ คเหตฺวา คโต นาม นตฺถิ, น โข ปน สกฺกา ธนภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา ปรโลกํ คนฺตุํ. ปฺจนฺนํ เวรานํ สาธารณภาเวน หิ อสารสฺส ธนสฺส ทานํ สาโร, พหุโรคสาธารณภาเวน อสารสฺส สรีรสฺส สีลวนฺเตสุ อภิวาทนาทิกมฺมํ สาโร, อนิจฺจาภิภูตภาเวน อสารสฺส ชีวิตสฺส อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนาโยโค สาโร, ตสฺมา อสาเรหิ โภเคหิ สารคฺคหณตฺถํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ.

โส อาสนา วุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตสิ. ยาว สตฺตมา ทิวสา ธนํ อปริกฺขียมานํ ทิสฺวา ‘‘กึ เม ธเนน, ยาว มํ ชรา นาภิภวติ, ตาวเทว ปพฺพชิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เคเห สพฺพทฺวารานิ วิวราเปตฺวา ‘‘ทินฺนํ เม, หรนฺตู’’ติ อสุจึ วิย ชิคุจฺฉนฺโต วตฺถุกาเม ปหาย มหาชนสฺส โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส นครา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อตฺตโน วสนตฺถาย รมณียํ ภูมิภาคํ โอโลเกนฺโต อิมํ านํ ปตฺวา ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ เอกํ อินฺทวารุณีรุกฺขํ โคจรคามํ อธิฏฺาย ตสฺเสว รุกฺขสฺส มูเล วิหาสิ. คามนฺตเสนาสนํ ปหาย อารฺิโก อโหสิ, ปณฺณสาลํ อกตฺวา รุกฺขมูลิโก อโหสิ, อพฺโภกาสิโก เนสชฺชิโก. สเจ นิปชฺชิตุกาโม, ภูมิยํเยว นิปชฺชติ, ทนฺตมูสลิโก หุตฺวา อนคฺคิปกฺกเมว ขาทติ, ถุสปริกฺขิตฺตํ กิฺจิ น ขาทติ, เอกทิวสํ เอกวารเมว ขาทติ, เอกาสนิโก อโหสิ. ขมาย ปถวีอาปเตชวายุสโม หุตฺวา เอเต เอตฺตเก ธุตงฺคคุเณ สมาทาย วตฺตติ, อิมสฺมึ กิร ชาตเก โพธิสตฺโต ปรมปฺปิจฺโฉ อโหสิ. โส น จิรสฺเสว อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานกีฬํ กีฬนฺโต ตตฺเถว วสติ, ผลาผลตฺถมฺปิ อฺตฺถ น คจฺฉติ, รุกฺขสฺส ผลิตกาเล ผลํ ขาทติ, ปุปฺผิตกาเล ปุปฺผํ ขาทติ, สปตฺตกาเล ปตฺตานิ ขาทติ, นิปฺปตฺตกาเล ปปฏิกํ ขาทติ. เอวํ ปรมสนฺตุฏฺโ หุตฺวา อิมสฺมึ าเน จิรํ วสติ.

โส เอกทิวสํ ปุพฺพณฺหสมเย ตสฺส รุกฺขสฺส ปกฺกานิ ผลานิ คณฺหิ, คณฺหนฺโต ปน โลลุปฺปจาเรน อุฏฺาย อฺสฺมึ ปเทเส น คณฺหาติ, ยถานิสินฺโนว หตฺถํ ปสาเรตฺวา หตฺถปฺปสารณฏฺาเน ิตานิ ผลานิ สํหรติ, เตสุปิ มนาปามนาปํ อวิจินิตฺวา สมฺปตฺตสมฺปตฺตเมว คณฺหาติ. เอวํ ปรมสนฺตุฏฺสฺส ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. ตํ กิร สกฺกสฺส อายุกฺขเยน วา อุณฺหํ โหติ ปุฺกฺขเยน วา, อฺสฺมึ วา มหานุภาวสตฺเต ตํ านํ ปตฺเถนฺเต, ธมฺมิกานํ วา มหิทฺธิกสมณพฺราหฺมณานํ สีลเตเชน อุณฺหํ โหติ. สกฺโก ‘‘โก นุ โข มํ านา จาเวตุกาโม’’ติ อาวชฺเชตฺวา อิมสฺมึ ปเทเส วสนฺตํ กณฺหํ อิสึ รุกฺขผลานิ อุจฺจินนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ อิสิ โฆรตโป ปรมชิตินฺทฺริโย, อิมํ ธมฺมกถาย สีหนาทํ นทาเปตฺวา สุการณํ สุตฺวา วเรน สนฺตปฺเปตฺวา อิมมสฺส รุกฺขํ ธุวผลํ กตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ. โส มหนฺเตนานุภาเวน สีฆํ โอตริตฺวา ตสฺมึ รุกฺขมูเล ตสฺส ปิฏฺิปสฺเส ตฺวา ‘‘อตฺตโน อวณฺเณ กถิเต กุชฺฌิสฺสติ นุ โข, โน’’ติ วีมํสนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๑.

‘‘กณฺโห วตายํ ปุริโส, กณฺหํ ภุฺชติ โภชนํ;

กณฺเห ภูมิปเทสสฺมึ, น มยฺหํ มนโส ปิโย’’ติ.

ตตฺถ กณฺโหติ กาฬวณฺโณ. โภชนนฺติ รุกฺขผลโภชนํ.

กณฺโห อิสิ สกฺกสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘โก นุ โข มยา สทฺธึ กเถตี’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา อุปธาเรนฺโต ‘‘สกฺโก’’ติ ตฺวา อนิวตฺติตฺวา อโนโลเกตฺวาว ทุติยํ คาถมาห –

๑๒.

‘‘น กณฺโห ตจสา โหติ, อนฺโตสาโร หิ พฺราหฺมโณ;

ยสฺมึ ปาปานิ กมฺมานิ, ส เว กณฺโห สุชมฺปตี’’ติ.

ตตฺถ ตจสาติ ตเจน กณฺโห นาม น โหตีติ อตฺโถ. อนฺโตสาโรติ อพฺภนฺตเร สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสาเรหิ สมนฺนาคโต. เอวรูโป หิ พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ นาม โหติ. ส เวติ ยสฺมึ ปน ปาปานิ กมฺมานิ อตฺถิ, โส ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโตปิ เยน เกนจิ สรีรวณฺเณน สมนฺนาคโตปิ กาฬโกว.

เอวฺจ ปน วตฺวา อิเมสํ สตฺตานํ กณฺหภาวกรานิ ปาปกมฺมานิ เอกวิธาทิเภเทหิ วิตฺถาเรตฺวา สพฺพานิปิ ตานิ ครหิตฺวา สีลาทโย คุเณ ปสํสิตฺวา อากาเส จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย สกฺกสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. สกฺโก ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปมุทิโต โสมนสฺสชาโต มหาสตฺตํ วเรน นิมนฺเตนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๓.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ พฺราหฺมณ เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ เอตสฺมินฺติ ยํ อิทํ ตยา สพฺพฺุพุทฺเธน วิย สุลปิตํ, ตสฺมึ สุลปิเต ตุมฺหากเมว อนุจฺฉวิกตฺตา ปติรูเป สุภาสิเต ยํ กิฺจิ มนสา อิจฺฉสิ, สพฺพํ เต ยํ วรํ อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ, ตํ ทมฺมีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ กึ นุ โข อตฺตโน อวณฺเณ กถิเต กุชฺฌิสฺสติ, โนติ มํ วีมํสนฺโต มยฺหํ ฉวิวณฺณฺจ โภชนฺจ วสนฏฺานฺจ ครหิตฺวา อิทานิ มยฺหํ อกุทฺธภาวํ ตฺวา ปสนฺนจิตฺโต วรํ เทติ, มํ โข ปเนส ‘สกฺกิสฺสริยพฺรหฺมิสฺสริยานํ อตฺถาย พฺรหฺมจริยํ จรตี’ติปิ มฺเยฺย, ตตฺรสฺส นิกฺกงฺขภาวตฺถํ มยฺหํ ปเรสุ โกโธ วา โทโส วา มา อุปฺปชฺชตุ, ปรสมฺปตฺติยํ โลโภ วา ปเรสุ สิเนโห วา มา อุปฺปชฺชตุ, มชฺฌตฺโตว ภเวยฺยนฺติ อิเม มยา จตฺตาโร วเร คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตสฺส นิกฺกงฺขภาวตฺถาย จตฺตาโร วเร คณฺหนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๑๔.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

สุนิกฺโกธํ สุนิทฺโทสํ, นิลฺโลภํ วุตฺติมตฺตโน;

นิสฺเนหมภิกงฺขามิ, เอเต เม จตุโร วเร’’ติ.

ตตฺถ วรฺเจ เม อโท สกฺกาติ สเจ ตฺวํ มยฺหํ วรํ อทาสิ. สุนิกฺโกธนฺติ อกุชฺฌนวเสน สุฏฺุ นิกฺโกธํ. สุนิทฺโทสนฺติ อทุสฺสนวเสน สุฏฺุ นิทฺโทสํ. นิลฺโลภนฺติ ปรสมฺปตฺตีสุ นิลฺโลภํ. วุตฺติมตฺตโนติ เอวรูปํ อตฺตโน วุตฺตึ. นิสฺเนหนฺติ ปุตฺตธีตาทีสุ วา สวิฺาณเกสุ ธนธฺาทีสุ วา อวิฺาณเกสุ อตฺตโน สนฺตเกสุปิ นิสฺเนหํ อปคตโลภํ. อภิกงฺขามีติ เอวรูปํ อิเมหิ จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ อตฺตโน วุตฺตึ อภิกงฺขามิ. เอเต เม จตุโร วเรติ เอเต นิกฺโกธาทิเก จตุโร มยฺหํ วเร เทหีติ.

กึ ปเนส น ชานาติ ‘‘ยถา น สกฺกา สกฺกสฺส สนฺติเก วรํ คเหตฺวา วเรน โกธาทโย หนิตุ’’นฺติ. โน น ชานาติ, สกฺเก โข ปน วรํ เทนฺเต น คณฺหามีติ วจนํ น ยุตฺตนฺติ ตสฺส จ นิกฺกงฺขภาวตฺถาย คณฺหิ. ตโต สกฺโก จินฺเตสิ ‘‘กณฺหปณฺฑิโต วรํ คณฺหนฺโต อติวิย อนวชฺเช วเร คณฺหิ, เอเตสุ วเรสุ คุณโทสํ เอตเมว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. อถ นํ ปุจฺฉนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –

๑๕.

‘‘กึนุ โกเธ วา โทเส วา, โลเภ สฺเนเห จ พฺราหฺมณ;

อาทีนวํ ตฺวํ ปสฺสสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – พฺราหฺมณ กึ นุ โข ตฺวํ โกเธ โทเส โลเภ สฺเนเห จ อาทีนวํ ปสฺสสิ, ตํ ตาว เม ปุจฺฉิโต อกฺขาหิ, น หิ มยํ เอตฺถ อาทีนวํ ชานามาติ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ วตฺวา จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๖.

‘‘อปฺโป หุตฺวา พหุ โหติ, วฑฺฒเต โส อขนฺติโช;

อาสงฺคี พหุปายาโส, ตสฺมา โกธํ น โรจเย.

๑๗.

‘‘ทุฏฺสฺส ผรุสา วาจา, ปรามาโส อนนฺตรา;

ตโต ปาณิ ตโต ทณฺโฑ, สตฺถสฺส ปรมา คติ;

โทโส โกธสมุฏฺาโน, ตสฺมา โทสํ น โรจเย.

๑๘.

‘‘อาโลปสาหสาการา, นิกตี วฺจนานิ จ;

ทิสฺสนฺติ โลภธมฺเมสุ, ตสฺมา โลภํ น โรจเย.

๑๙.

‘‘สฺเนหสงฺคถิตา คนฺถา, เสนฺติ มโนมยา ปุถู;

เต ภุสํ อุปตาเปนฺติ, ตสฺมา สฺเนหํ น โรจเย’’ติ.

ตตฺถ อขนฺติโชติ โส อนธิวาสกชาติกสฺส อขนฺติโต ชาโต โกโธ ปมํ ปริตฺโต หุตฺวา ปจฺฉา พหุ โหติ อปราปรํ วฑฺฒติ. ตสฺส วฑฺฒนภาโว ขนฺติวาทีชาตเกน (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) เจว จูฬธมฺมปาลชาตเกน (ชา. ๑.๕.๔๔ อาทโย) จ วณฺเณตพฺโพ. อปิจ ติสฺสามจฺจสฺสเปตฺถ ภริยํ อาทึ กตฺวา สพฺพํ สปริชนํ มาเรตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน มาริตวตฺถุ กเถตพฺพํ. อาสงฺคีติ อาสงฺคกรโณ. ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ อาสตฺตํ ลคฺคิตํ กโรติ, ตํ วตฺถุํ วิสฺสชฺเชตฺวา คนฺตุํ น เทติ, นิวตฺติตฺวา อกฺโกสนาทีนิ กาเรติ. พหุปายาโสติ พหุนา กายิกเจตสิกทุกฺขสงฺขาเตน อุปายาเสน กิลมเถน สมนฺนาคโต. โกธํ นิสฺสาย หิ โกธวเสน อริยาทีสุ กตวีติกฺกมา ทิฏฺธมฺเม เจว สมฺปราเย จ วธพนฺธวิปฺปฏิสาราทีนิ เจว ปฺจวิธพนฺธนกมฺมกรณาทีนิ จ พหูนิ ทุกฺขานิ อนุภวนฺตีติ โกโธ พหุปายาโส นาม. ตสฺมาติ ยสฺมา เอส เอวํ อเนกาทีนโว, ตสฺมา โกธํ น โรเจมิ.

ทุฏฺสฺสาติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน กุชฺฌิตฺวา อปรภาเค ทุสฺสนลกฺขเณน โทเสน ทุฏฺสฺส ปมํ ตาว ‘‘อเร, ทาส, เปสฺสา’’ติ ผรุสวาจา นิจฺฉรติ, วาจาย อนนฺตรา อากฑฺฒนวิกฑฺฒนวเสน หตฺถปรามาโส, ตโต อนนฺตรา อุปกฺกมนวเสน ปาณิ ปวตฺตติ, ตโต ทณฺโฑ, ทณฺฑปฺปหาเร อติกฺกมิตฺวา ปน เอกโตธารอุภโตธารสฺส สตฺถสฺส ปรมา คติ, สพฺพปริยนฺตา สตฺถนิปฺผตฺติ โหติ. ยทา หิ สตฺเถน ปรํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา ปจฺฉา เตเนว สตฺเถน อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปติ, ตทา โทโส มตฺถกปฺปตฺโต โหติ. โทโส โกธสมุฏฺาโนติ ยถา อนมฺพิลํ ตกฺกํ วา กฺชิกํ วา ปริณามวเสน ปริวตฺติตฺวา อมฺพิลํ โหติ, ตํ เอกชาติกมฺปิ สมานํ อมฺพิลํ อนมฺพิลนฺติ นานา วุจฺจติ, ตถา ปุพฺพกาเล โกโธ ปริณมิตฺวา อปรภาเค โทโส โหติ. โส อกุสลมูลตฺเตน เอกชาติโกปิ สมาโน โกโธ โทโสติ นานา วุจฺจติ. ยถา อนมฺพิลโต อมฺพิลํ, เอวํ โสปิ โกธโต สมุฏฺาตีติ โกธสมุฏฺาโน. ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ อเนกาทีนโว โทโส, ตสฺมา โทสมฺปิ น โรเจมิ.

อาโลปสาหสาการาติ ทิวา ทิวสฺเสว คามํ ปหริตฺวา วิลุมฺปนานิ จ อาวุธํ สรีเร เปตฺวา ‘‘อิทํ นาม เม เทหี’’ติ สาหสาการา จ. นิกตี วฺจนานิ จาติ ปติรูปกํ ทสฺเสตฺวา ปรสฺส หรณํ นิกติ นาม, สา อสุวณฺณเมว ‘‘สุวณฺณ’’นฺติ กูฏกหาปณํ ‘‘กหาปโณ’’ติ ทตฺวา ปรสนฺตกคฺคหเณ ทฏฺพฺพา. ปฏิภานวเสน ปน อุปายกุสลตาย ปรสนฺตกคฺคหณํ วฺจนํ นาม. ตสฺเสวํ ปวตฺติ ทฏฺพฺพา – เอโก กิร อุชุชาติโก คามิกปุริโส อรฺโต สสกํ อาเนตฺวา นทีตีเร เปตฺวา นฺหายิตุํ โอตริ. อเถโก ธุตฺโต ตํ สสกํ สีเส กตฺวา นฺหายิตุํ โอติณฺโณ. อิตโร อุตฺตริตฺวา สสกํ อปสฺสนฺโต อิโต จิโต จ วิโลเกสิ. ตเมนํ ธุตฺโต ‘‘กึ โภ วิโลเกสี’’ติ วตฺวา ‘‘อิมสฺมึ เม าเน สสโก ปิโต, ตํ น ปสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘อนฺธพาล, ตฺวํ น ชานาสิ, สสกา นาม นทีตีเร ปิตา ปลายนฺติ, ปสฺส อหํ อตฺตโน สสกํ สีเส เปตฺวาว นฺหายามี’’ติ อาห. โส อปฺปฏิภานตาย ‘‘เอวํ ภวิสฺสตี’’ติ ปกฺกามิ. เอกกหาปเณน มิคโปตกํ คเหตฺวา ปุน ตํ ทตฺวา ทฺวิกหาปณคฺฆนกสฺส มิคสฺส คหิตวตฺถุเปตฺถ กเถตพฺพํ. ทิสฺสนฺติ โลภธมฺเมสูติ สกฺก, อิเม อาโลปาทโย ปาปธมฺมา โลภสภาเวสุ โลภาภิภูเตสุ สตฺเตสุ ทิสฺสนฺติ. น หิ อลุทฺธา เอวรูปานิ กมฺมานิ กโรนฺติ. เอวํ โลโภ อเนกาทีนโว, ตสฺมา โลภมฺปิ น โรเจมิ.

สฺเนหสงฺคถิตา คนฺถาติ อารมฺมเณสุ อลฺลียนลกฺขเณน สฺเนเหน สงฺคถิตา ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทวเสน ฆฏิตา สุตฺเตน ปุปฺผานิ วิย พทฺธา นานปฺปกาเรสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตมานา อภิชฺฌากายคนฺถา. เสนฺติ มโนมยา ปุถูติ เต ปุถูสุ อารมฺมเณสุ อุปฺปนฺนา สุวณฺณาทีหิ นิพฺพตฺตานิ สุวณฺณาทิมยานิ อาภรณาทีนิ วิย มเนน นิพฺพตฺตตฺตา มโนมยา อภิชฺฌากายคนฺถา เตสุ อารมฺมเณสุ เสนฺติ อนุเสนฺติ. เต ภุสํ อุปตาเปนฺตีติ เต เอวํ อนุสยิตา พลวตาปํ ชเนนฺตา ภุสํ อุปตาเปนฺติ อติกิลเมนฺติ. เตสํ ปน ภุสํ อุปตาปเน ‘‘สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ (สุ. นิ. ๗๗๓) คาถาย วตฺถุ, ‘‘ปิยชาติกา หิ คหปติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา ปิยปฺปภุติกา’’ (ม. นิ. ๒.๓๕๓), ‘‘ปิยโต ชายตี โสโก’’ติอาทีนิ (ธ. ป. ๒๑๒) สุตฺตานิ จ อาหริตพฺพานิ. อปิจ มงฺคลโพธิสตฺตสฺส ทารเก ทตฺวา พลวโสเกน หทยํ ผลิ, เวสฺสนฺตรโพธิสตฺตสฺส มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุทปาทิ. เอวํ ปูริตปารมีนํ มหาสตฺตานํ เปมํ อุปตาปํ กโรติเยว. อยํ สฺเนเห อาทีนโว, ตสฺมา สฺเนหมฺปิ น โรเจมีติ.

สกฺโก ปฺหวิสฺสชฺชนํ สุตฺวา ‘‘กณฺหปณฺฑิต ตยา อิเม ปฺหา พุทฺธลีฬาย สาธุกํ กถิตา, อติวิย ตุฏฺโสฺมิ เต, อปรมฺปิ วรํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา ทสมํ คาถมาห –

๒๐.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ พฺราหฺมณ เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.

ตโต โพธิสตฺโต อนนฺตรคาถมาห –

๒๑.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

อรฺเ เม วิหรโต, นิจฺจํ เอกวิหาริโน;

อาพาธา มา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อนฺตรายกรา ภุสา’’ติ.

ตตฺถ อนฺตรายกรา ภุสาติ อิมสฺส เม ตโปกมฺมสฺส อนฺตรายกรา.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘กณฺหปณฺฑิโต วรํ คณฺหนฺโต น อามิสสนฺนิสฺสิตํ คณฺหาติ, ตโปกมฺมนิสฺสิตเมว คณฺหาตี’’ติ จินฺเตตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสนฺโน อปรมฺปิ วรํ ททมาโน อิตรํ คาถมาห –

๒๒.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ พฺราหฺมณ เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.

โพธิสตฺโตปิ วรคฺคหณาปเทเสน ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต โอสานคาถมาห –

๒๓.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

น มโน วา สรีรํ วา, มํ-กเต สกฺก กสฺสจิ;

กทาจิ อุปหฺเถ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’ติ.

ตตฺถ มโน วาติ มโนทฺวารํ วา. สรีรํ วาติ กายทฺวารํ วา, วจีทฺวารมฺปิ เอเตสํ คหเณน คหิตเมวาติ เวทิตพฺพํ. มํ-กเตติ มม การณา. อุปหฺเถาติ อุปฆาตํ อาปชฺเชยฺย อปริสุทฺธํ อสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สกฺก เทวราช, มม การณา มํ นิสฺสาย มม อนตฺถกามตาย กสฺสจิ สตฺตสฺส กิสฺมิฺจิ กาเล อิทํ ติวิธมฺปิ กมฺมทฺวารํ น อุปหฺเถ, ปาณาติปาตาทีหิ ทสหิ อกุสลกมฺมปเถหิ วิมุตฺตํ ปริสุทฺธเมว ภเวยฺยาติ.

อิติ มหาสตฺโต ฉสุปิ าเนสุ วรํ คณฺหนฺโต เนกฺขมฺมนิสฺสิตเมว คณฺหิ, ชานาติ เจส ‘‘สรีรํ นาม พฺยาธิธมฺมํ, น ตํ สกฺกา สกฺเกน อพฺยาธิธมฺมํ กาตุ’’นฺติ. สตฺตานฺหิ ตีสุ ทฺวาเรสุ ปริสุทฺธภาโว อสกฺกายตฺโตว, เอวํ สนฺเตปิ ตสฺส ธมฺมเทสนตฺถํ อิเม วเร คณฺหิ. สกฺโกปิ ตํ รุกฺขํ ธุวผลํ กตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปติฏฺเปตฺวา ‘‘อโรคา อิเธว วสถา’’ติ วตฺวา สกฏฺานเมว คโต. โพธิสตฺโตปิ อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อานนฺท, ปุพฺเพ มยา นิวุตฺถภูมิปฺปเทโส เจโส’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, กณฺหปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

กณฺหชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๔๔๑] ๓. จตุโปสถิกชาตกวณฺณนา

๒๔-๓๘. โย โกปเนยฺโยติ อิทํ จตุโปสถิกชาตกํ ปุณฺณกชาตเก อาวิ ภวิสฺสติ.

จตุโปสถิกชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๔๔๒] ๔. สงฺขชาตกวณฺณนา

พหุสฺสุโตติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สพฺพปริกฺขารทานํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิเรโก อุปาสโก ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา อตฺตโน ฆรทฺวาเร มณฺฑปํ กาเรตฺวา อลงฺกริตฺวา ปุนทิวเส ตถาคตสฺส กาลํ อาโรจาเปสิ. สตฺถา ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร ตตฺถ คนฺตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อุปาสโก สปุตฺตทาโร สปริชโน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ปุน สฺวาตนายาติ เอวํ สตฺตาหํ นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขารํ อทาสิ. ตํ ปน ททมาโน อุปาหนทานํ อุสฺสนฺนํ กตฺวา อทาสิ. ทสพลสฺส ทินฺโน อุปาหนสงฺฆาโฏ สหสฺสคฺฆนโก อโหสิ, ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ปฺจสตคฺฆนโก, เสสานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ สตคฺฆนโก. อิติ โส สพฺพปริกฺขารทานํ ทตฺวา อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ ภควโต สนฺติเก นิสีทิ. อถสฺส สตฺถา มธุเรน สเรน อนุโมทนํ กโรนฺโต ‘‘อุปาสก, อุฬารํ เต สพฺพปริกฺขารทานํ, อตฺตมโน โหหิ, ปุพฺเพ อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธสฺส เอกํ อุปาหนสงฺฆาฏํ ทตฺวา นาวาย ภินฺนาย อปฺปติฏฺเ มหาสมุทฺเทปิ อุปาหนทานนิสฺสนฺเทน ปติฏฺํ ลภึสุ, ตฺวํ ปน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สพฺพปริกฺขารทานํ อทาสิ, ตสฺส เต อุปาหนทานสฺส ผลํ กสฺมา น ปติฏฺา ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต อยํ พาราณสี โมฬินี นาม อโหสิ. โมฬินินคเร พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต สงฺโข นาม พฺราหฺมโณ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตวิตฺตุปกรโณ ปหูตธนธฺสุวณฺณรชโต จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉสุ าเนสุ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสานิ วิสฺสชฺเชนฺโต กปณทฺธิกานํ มหาทานํ ปวตฺเตสิ. โส เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘อหํ เคเห ธเน ขีเณ ทาตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อปริกฺขีเณเยว ธเน นาวาย สุวณฺณภูมึ คนฺตฺวา ธนํ อาหริสฺสามี’’ติ. โส นาวํ พนฺธาเปตฺวา ภณฺฑสฺส ปูราเปตฺวา ปุตฺตทารํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ยาวาหํ อาคจฺฉามิ, ตาว เม ทานํ อนุปจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺเตยฺยาถา’’ติ วตฺวา ทาสกมฺมกรปริวุโต ฉตฺตํ อาทาย อุปาหนํ อารุยฺห มชฺฌนฺหิกสมเย ปฏฺฏนคามาภิมุโข ปายาสิ. ตสฺมึ ขเณ คนฺธมาทเน เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ อาวชฺเชตฺวา ตํ ธนาหรณตฺถาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มหาปุริโส ธนํ อาหริตุํ คจฺฉติ, ภวิสฺสติ นุ โข อสฺส สมุทฺเท อนฺตราโย, โน’’ติ อาวชฺเชตฺวา ‘‘ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘เอส มํ ทิสฺวา ฉตฺตฺจ อุปาหนฺจ มยฺหํ ทตฺวา อุปาหนทานนิสฺสนฺเทน สมุทฺเท ภินฺนาย นาวาย ปติฏฺํ ลภิสฺสติ, กริสฺสามิสฺส อนุคฺคห’’นฺติ อากาเสนาคนฺตฺวา ตสฺสาวิทูเร โอตริตฺวา จณฺฑวาตาตเป องฺคารสนฺถรสทิสํ อุณฺหวาลุกํ มทฺทนฺโต ตสฺส อภิมุโข อาคจฺฉิ.

โส ตํ ทิสฺวาว ‘‘ปุฺกฺเขตฺตํ เม อาคตํ, อชฺช มยา เอตฺถ ทานพีชํ โรเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตุฏฺจิตฺโต เวเคน ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ อนุคฺคหตฺถาย โถกํ มคฺคา โอกฺกมฺม อิมํ รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมถา’’ติ วตฺวา ตสฺมึ รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมนฺเต รุกฺขมูเล วาลุกํ อุสฺสาเปตฺวา อุตฺตราสงฺคํ ปฺเปตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ นิสีทาเปตฺวา วนฺทิตฺวา วาสิตปริสฺสาวิเตน อุทเกน ปาเท โธวิตฺวา คนฺธเตเลน มกฺเขตฺวา อตฺตโน อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา คนฺธเตเลน มกฺเขตฺวา ตสฺส ปาเทสุ ปฏิมุฺจิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมา อุปาหนา อารุยฺห ฉตฺตํ มตฺถเก กตฺวา คจฺฉถา’’ติ ฉตฺตุปาหนํ อทาสิ. โส อสฺส อนุคฺคหตฺถาย ตํ คเหตฺวา ปสาทสํวฑฺฒนตฺถํ ปสฺสนฺตสฺเสวสฺส อุปฺปติตฺวา คนฺธมาทนเมว อคมาสิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ทิสฺวา อติวิย ปสนฺนจิตฺโต ปฏฺฏนํ คนฺตฺวา นาวํ อภิรุหิ. อถสฺส มหาสมุทฺทํ ปฏิปนฺนสฺส สตฺตเม ทิวเส นาวา วิวรํ อทาสิ, อุทกํ อุสฺสิฺจิตุํ นาสกฺขึสุ. มหาชโน มรณภยภีโต อตฺตโน อตฺตโน เทวตา นมสฺสิตฺวา มหาวิรวํ วิรวิ. มหาสตฺโต เอกํ อุปฏฺากํ คเหตฺวา สกลสรีรํ เตเลน มกฺเขตฺวา สปฺปินา สทฺธึ สกฺขรจุณฺณํ ยาวทตฺถํ ขาทิตฺวา ตมฺปิ ขาทาเปตฺวา เตน สทฺธึ กูปกยฏฺิมตฺถกํ อารุยฺห ‘‘อิมาย ทิสาย อมฺหากํ นคร’’นฺติ ทิสํ ววตฺถเปตฺวา มจฺฉกจฺฉปปริปนฺถโต อตฺตานํ โมเจนฺโต เตน สทฺธึ อุสภมตฺตํ อติกฺกมิตฺวา ปติ. มหาชโน วินาสํ ปาปุณิ. มหาสตฺโต ปน อุปฏฺาเกน สทฺธึ สมุทฺทํ ตริตุํ อารภิ. ตสฺส ตรนฺตสฺเสว สตฺตโม ทิวโส ชาโต. โส ตสฺมิมฺปิ กาเล โลโณทเกน มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก อโหสิเยว.

ตทา ปน จตูหิ โลกปาเลหิ มณิเมขลา นาม เทวธีตา ‘‘สเจ สมุทฺเท นาวาย ภินฺนาย ติสรณคตา วา สีลสมฺปนฺนา วา มาตาปิตุปฏฺากา วา มนุสฺสา ทุกฺขปฺปตฺตา โหนฺติ, เต รกฺเขยฺยาสี’’ติ สมุทฺเท อารกฺขณตฺถาย ปิตา โหติ. สา อตฺตโน อิสฺสริเยน สตฺตาหมนุภวิตฺวา ปมชฺชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส สมุทฺทํ โอโลเกนฺตี สีลาจารสํยุตฺตํ สงฺขพฺราหฺมณํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส สตฺตโม ทิวโส สมุทฺเท ปติตสฺส, สเจ โส มริสฺสติ อติวิย คารยฺหา เม ภวิสฺสตี’’ติ สํวิคฺคมานหทยา หุตฺวา เอกํ สุวณฺณปาตึ นานคฺครสโภชนสฺส ปูเรตฺวา วาตเวเคน ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อากาเส ตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, ตฺวํ สตฺตาหํ นิราหาโร, อิทํ ทิพฺพโภชนํ ภุฺชา’’ติ อาห. โส ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อปเนหิ ตว ภตฺตํ, อหํ อุโปสถิโก’’ติ อาห. อถสฺส อุปฏฺาโก ปจฺฉโต อาคโต เทวตํ อทิสฺวา สทฺทเมว สุตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปกติสุขุมาโล สตฺตาหํ นิราหารตาย ทุกฺขิโต มรณภเยน วิลปติ มฺเ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปมํ คาถมาห –

๓๙.

‘‘พหุสฺสุโต สุตธมฺโมสิ สงฺข, ทิฏฺา ตยา สมณพฺราหฺมณา จ;

อถกฺขเณ ทสฺสยเส วิลาปํ, อฺโ นุ โก เต ปฏิมนฺตโก มยา’’ติ.

ตตฺถ สุตธมฺโมสีติ ธมฺโมปิ ตยา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ สนฺติเก สุโต อสิ. ทิฏฺา ตยาติ เตสํ ปจฺจเย เทนฺเตน เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺเตน ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา จ ตยา ทิฏฺา. เอวํ อกโรนฺโต หิ ปสฺสนฺโตปิ เต น ปสฺสติเยว. อถกฺขเณติ อถ อกฺขเณ สลฺลปนฺตสฺส กสฺสจิ อภาเวน วจนสฺส อโนกาเส. ทสฺสยเสติ ‘‘อหํ อุโปสถิโก’’ติ วทนฺโต วิลาปํ ทสฺเสสิ. ปฏิมนฺตโกติ มยา อฺโ โก ตว ปฏิมนฺตโก ปฏิวจนทายโก, กึการณา เอวํ วิปฺปลปสีติ?

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อิมสฺส เทวตา น ปฺายติ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, นาหํ มรณสฺส ภายามิ, อตฺถิ ปน เม อฺโ ปฏิมนฺตโก’’ติ วตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๔๐.

‘‘สุพฺภู สุภา สุปฺปฏิมุกฺกกมฺพุ, ปคฺคยฺห โสวณฺณมยาย ปาติยา;

‘ภุฺชสฺสุ ภตฺตํ’ อิติ มํ วเทติ, สทฺธาวิตฺตา, ตมหํ โนติ พฺรูมี’’ติ.

ตตฺถ สุพฺภูติ สุภมุขา. สุภาติ ปาสาทิกา อุตฺตมรูปธรา. สุปฺปฏิมุกฺกกมฺพูติ ปฏิมุกฺกสุวณฺณาลงฺการา. ปคฺคยฺหาติ สุวณฺณปาติยา ภตฺตํ คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา. สทฺธาวิตฺตาติ สทฺธา เจว ตุฏฺจิตฺตา จ. ‘‘สทฺธํ จิตฺต’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ สทฺธนฺติ สทฺทหนฺตํ, จิตฺตนฺติ ตุฏฺจิตฺตํ. ตมหํ โนตีติ ตมหํ เทวตํ อุโปสถิกตฺตา ปฏิกฺขิปนฺโต โนติ พฺรูมิ, น วิปฺปลปามิ สมฺมาติ.

อถสฺส โส ตติยํ คาถมาห –

๔๑.

‘‘เอตาทิสํ พฺราหฺมณ ทิสฺวาน ยกฺขํ, ปุจฺเฉยฺย โปโส สุขมาสิสาโน;

อุฏฺเหิ นํ ปฺชลิกาภิปุจฺฉ, เทวี นุสิ ตฺวํ อุท มานุสี นู’’ติ.

ตตฺถ สุขมาสิสาโนติ เอตาทิสํ ยกฺขํ ทิสฺวา อตฺตโน สุขํ อาสีสนฺโต ปณฺฑิโต ปุริโส ‘‘อมฺหากํ สุขํ ภวิสฺสติ, น ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺเฉยฺย. อุฏฺเหีติ อุทกโต อุฏฺานาการํ ทสฺเสนฺโต อุฏฺห. ปฺชลิกาภิปุจฺฉาติ อฺชลิโก หุตฺวา อภิปุจฺฉ. อุท มานุสีติ อุทาหุ มหิทฺธิกา มานุสี ตฺวนฺติ.

โพธิสตฺโต ‘‘ยุตฺตํ กเถสี’’ติ ตํ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๔๒.

‘‘ยํ ตฺวํ สุเขนาภิสเมกฺขเส มํ, ภุฺชสฺสุ ภตฺตํ อิติ มํ วเทสิ;

ปุจฺฉามิ ตํ นาริ มหานุภาเว, เทวี นุสิ ตฺวํ อุท มานุสี นู’’ติ.

ตตฺถ ยํ ตฺวนฺติ ยสฺมา ตฺวํ สุเขน มํ อภิสเมกฺขเส, ปิยจกฺขูหิ โอโลเกสิ. ปุจฺฉามิ ตนฺติ เตน การเณน ตํ ปุจฺฉามิ.

ตโต เทวธีตา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๔๓.

‘‘เทวี อหํ สงฺข มหานุภาวา, อิธาคตา สาครวาริมชฺเฌ;

อนุกมฺปิกา โน จ ปทุฏฺจิตฺตา, ตเวว อตฺถาย อิธาคตาสฺมิ.

๔๔.

‘‘อิธนฺนปานํ สยนาสนฺจ, ยานานิ นานาวิวิธานิ สงฺข;

สพฺพสฺส ตฺยาหํ ปฏิปาทยามิ, ยํ กิฺจิ ตุยฺหํ มนสาภิปตฺถิต’’นฺติ.

ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ มหาสมุทฺเท. นานาวิวิธานีติ พหูนิ จ อเนกปฺปการานิ จ หตฺถิยานอสฺสยานาทีนิ อตฺถิ. สพฺพสฺส ตฺยาหนฺติ ตสฺส อนฺนปานาทิโน สพฺพสฺส สามิกํ กตฺวา ตํ เต อนฺนปานาทึ ปฏิปาทยามิ ททามิ. ยํ กิฺจีติ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ มนสา อิจฺฉิตํ, ตํ สพฺพํ เต ทมฺมีติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ เทวธีตา สมุทฺทปิฏฺเ มยฺหํ ‘อิทฺจิทฺจ ทมฺมี’ติ วทติ, กึ นุ โข เอสา มยา กเตน ปุฺกมฺเมน ทาตุกามา, อุทาหุ อตฺตโน พเลน, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๔๕.

‘‘ยํ กิฺจิ ยิฏฺฺจ หุตฺจ มยฺหํ, สพฺพสฺส โน อิสฺสรา ตฺวํ สุคตฺเต;

สุสฺโสณิ สุพฺภมุ สุวิลคฺคมชฺเฌ, กิสฺส เม กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

ตตฺถ ยิฏฺนฺติ ทานวเสน ยชิตํ. หุตนฺติ อาหุนปาหุนวเสน ทินฺนํ. สพฺพสฺส โน อิสฺสรา ตฺวนฺติ ตสฺส อมฺหากํ ปุฺกมฺมสฺส ตฺวํ อิสฺสรา, ‘‘อิมสฺส อยํ วิปาโก, อิมสฺส อย’’นฺติ พฺยากริตุํ สมตฺถาติ อตฺโถ. สุสฺโสณีติ สุนฺทรอูรุลกฺขเณ. สุพฺภมูติ สุนฺทรภมุเก. สุวิลคฺคมชฺเฌติ สุฏฺุวิลคฺคิตตนุมชฺเฌ. กิสฺส เมติ มยา กตกมฺเมสุ กตรกมฺมสฺส อยํ วิปาโก, เยนาหํ อปฺปติฏฺเ สมุทฺเท ปติฏฺํ ลภามีติ.

ตํ สุตฺวา เทวธีตา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ‘ยํ เตน กุสลํ กตํ, ตํ กมฺมํ น ชานาตี’ติ อฺาย ปุจฺฉติ มฺเ, กถยิสฺสามิ ทานิสฺสา’’ติ ตํ กเถนฺตี อฏฺมํ คาถมาห –

๔๖.

‘‘ฆมฺเม ปเถ พฺราหฺมณ เอกภิกฺขุํ, อุคฺฆฏฺฏปาทํ ตสิตํ กิลนฺตํ;

ปฏิปาทยี สงฺข อุปาหนานิ, สา ทกฺขิณา กามทุหา ตวชฺชา’’ติ.

ตตฺถ เอกภิกฺขุนฺติ เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ สนฺธายาห. อุคฺฆฏฺฏปาทนฺติ อุณฺหวาลุกาย ฆฏฺฏิตปาทํ. ตสิตนฺติ ปิปาสิตํ. ปฏิปาทยีติ ปฏิปาเทสิ, โยเชสีติ อตฺโถ. กามทุหาติ สพฺพกามทายิกา.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เอวรูเปปิ นาม อปฺปติฏฺเ มหาสมุทฺเท มยา ทินฺนอุปาหนทานํ มม สพฺพกามททํ ชาตํ, อโห สุทินฺนํ เม ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทาน’’นฺติ ตุฏฺจิตฺโต นวมํ คาถมาห –

๔๗.

‘‘สา โหตุ นาวา ผลกูปปนฺนา, อนวสฺสุตา เอรกวาตยุตฺตา;

อฺสฺส ยานสฺส น เหตฺถ ภูมิ, อชฺเชว มํ โมฬินึ ปาปยสฺสู’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – เทวเต, เอวํ สนฺเต มยฺหํ เอกํ นาวํ มาเปหิ, ขุทฺทกํ ปน เอกโทณิกนาวํ มาเปหิ, ยํ นาวํ มาเปสฺสสิ, สา โหตุ นาวา พหูหิ สุสิพฺพิเตหิ ผลเกหิ อุปปนฺนา, อุทกปเวสนสฺสาภาเวน อนวสฺสุตา, เอรเกน สมฺมา คเหตฺวา คจฺฉนฺเตน วาเตน ยุตฺตา, เปตฺวา ทิพฺพนาวํ อฺสฺส ยานสฺส เอตฺถ ภูมิ นตฺถิ, ตาย ปน ทิพฺพนาวาย อชฺเชว มํ โมฬินินครํ ปาปยสฺสูติ.

เทวธีตา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺจิตฺตา สตฺตรตนมยํ นาวํ มาเปสิ. สา ทีฆโต อฏฺอุสภา อโหสิ วิตฺถารโต จตุอุสภา, คมฺภีรโต วีสติยฏฺิกา. ตสฺสา อินฺทนีลมยา ตโย กูปกา, โสวณฺณมยานิ โยตฺตานิ รชตมยานิ ปตฺตานิ โสวณฺณมยานิ จ ผิยาริตฺตานิ อเหสุํ. เทวตา ตํ นาวํ สตฺตนฺนํ รตนานํ ปูเรตฺวา พฺราหฺมณํ อาลิงฺคิตฺวา อลงฺกตนาวาย อาโรเปสิ, อุปฏฺากํ ปนสฺส น โอโลเกสิ. พฺราหฺมโณ อตฺตนา กตกลฺยาณโต ตสฺส ปตฺตึ อทาสิ, โส อนุโมทิ. ตทา เทวตา ตมฺปิ อาลิงฺคิตฺวา นาวาย ปติฏฺาเปสิ. อถ นํ นาวํ โมฬินินครํ เนตฺวา พฺราหฺมณสฺส ฆเร ธนํ ปติฏฺาเปตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว อคมาสิ. สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา –

๔๘.

‘‘สา ตตฺถ วิตฺตา สุมนา ปตีตา, นาวํ สุจิตฺตํ อภินิมฺมินิตฺวา;

อาทาย สงฺขํ ปุริเสน สทฺธึ, อุปานยี นครํ สาธุรมฺม’’นฺติ. –

อิมํ โอสานคาถํ อภาสิ.

ตตฺถ สาติ ภิกฺขเว, สา เทวตา ตตฺถ สมุทฺทมชฺเฌ ตสฺส วจนํ สุตฺวา วิตฺติสงฺขาตาย ปีติยา สมนฺนาคตตฺตา วิตฺตา. สุมนาติ สุนฺทรมนา ปาโมชฺเชน ปตีตจิตฺตา หุตฺวา วิจิตฺรนาวํ นิมฺมินิตฺวา พฺราหฺมณํ ปริจารเกน สทฺธึ อาทาย สาธุรมฺมํ อติรมณียํ นครํ อุปานยีติ.

พฺราหฺมโณปิ ยาวชีวํ อปริมิตธนํ เคหํ อชฺฌาวสนฺโต ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา ชีวิตปริโยสาเน สปริโส เทวนครํ ปริปูเรสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุปาสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.

ตทา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, อุปฏฺากปุริโส อานนฺโท, สงฺขพฺราหฺมโณ ปน อหเมว อโหสินฺติ.

สงฺขชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๔๔๓] ๕. จูฬโพธิชาตกวณฺณนา

โย เต อิมํ วิสาลกฺขินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โกธนํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ภิกฺขุ นิยฺยานิเก พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ โกธํ นิคฺคเหตุํ นาสกฺขิ, โกธโน อโหสิ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชิ กุปฺปิ พฺยาปชฺชิ ปติฏฺยิ. สตฺถา ตสฺส โกธนภาวํ สุตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ โกธโน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ โกโธ นาม วาเรตพฺโพ, เอวรูโป หิ อิธโลเก จ ปรโลเก จ อนตฺถการโก, ตฺวํ นิกฺโกธสฺส พุทฺธสฺส สาสเน ปพฺพชิตฺวา กสฺมา กุชฺฌสิ, โปราณกปณฺฑิตา พาหิรสาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ โกธํ น กรึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต อฺตรสฺมึ กาสินิคเม เอโก พฺราหฺมโณ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค อปุตฺตโก อโหสิ, ตสฺส พฺราหฺมณี ปุตฺตํ ปตฺเถสิ. ตทา โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺติ, ตสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘โพธิกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส วยปฺปตฺตกาเล ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคตสฺส อนิจฺฉนฺตสฺเสว มาตาปิตโร สมานชาติกา กุลา กุมาริกํ อาเนสุํ. สาปิ พฺรหฺมโลกา จุตาว อุตฺตมรูปธรา เทวจฺฉรปฏิภาคา. เตสํ อนิจฺฉมานานฺเว อฺมฺํ อาวาหวิวาหํ กรึสุ. อุภินฺนํ ปเนเตสํ กิเลสสมุทาจาโร นาม น ภูตปุพฺโพ, สํราควเสน อฺมฺสฺส โอโลกนํ นาม นาโหสิ, สุปิเนปิ เมถุนธมฺโม นาม น ทิฏฺปุพฺโพ, เอวํ ปริสุทฺธสีลา อเหสุํ.

อถาปรภาเค มหาสตฺโต มาตาปิตูสุ กาลกเตสุ เตสํ สรีรกิจฺจํ กตฺวา ตํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ อิมํ อสีติโกฏิธนํ คเหตฺวา สุเขน ชีวาหี’’ติ อาห. ‘‘กึ กริสฺสถ ตุมฺเห ปน, อยฺยปุตฺตา’’ติ? ‘‘มยฺหํ ธเนน กิจฺจํ นตฺถิ, หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อตฺตโน ปติฏฺํ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘กึ ปน อยฺยปุตฺต ปพฺพชฺชา นาม ปุริสานฺเว วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘อิตฺถีนมฺปิ วฏฺฏติ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เตน หิ อหํ ตุมฺเหหิ ฉฏฺฏิตเขฬํ น คณฺหิสฺสามิ, มยฺหมฺปิ ธเนน กิจฺจํ นตฺถิ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภทฺเท’’ติ. เต อุโภปิ มหาทานํ ทตฺวา นิกฺขมิตฺวา รมณีเย ภูมิภาเค อสฺสมํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุฺฉาจริยาย ผลาผเลหิ ยาเปนฺตา ตตฺถ ทสมตฺตานิ สํวจฺฉรานิ วสึสุ, ฌานํ ปน เนสํ น ตาว อุปฺปชฺชติ. เต ตตฺถ ปพฺพชฺชาสุเขเนว ทส สํวจฺฉเร วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ชนปทจาริกํ จรนฺตา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสึสุ.

อเถกทิวสํ ราชา อุยฺยานปาลํ ปณฺณาการํ อาทาย อาคตํ ทิสฺวา ‘‘อุยฺยานกีฬิกํ กีฬิสฺสาม, อุยฺยานํ โสเธหี’’ติ วตฺวา เตน โสธิตํ สชฺชิตํ อุยฺยานํ มหนฺเตน ปริวาเรน อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ เต อุโภปิ ชนา อุยฺยานสฺส เอกปสฺเส ปพฺพชฺชาสุเขน วีตินาเมตฺวา นิสินฺนา โหนฺติ. อถ ราชา อุยฺยาเน วิจรนฺโต เต อุโภปิ นิสินฺนเก ทิสฺวา ปรมปาสาทิกํ อุตฺตมรูปธรํ ปริพฺพาชิกํ โอโลเกนฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต อโหสิ. โส กิเลสวเสน กมฺปนฺโต ‘‘ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว, อยํ ปริพฺพาชิกา อิมสฺส กึ โหตี’’ติ โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปพฺพชิต อยํ เต ปริพฺพาชิกา กึ โหตี’’ติ ปุจฺฉิ. มหาราช, กิฺจิ น โหติ, เกวลํ เอกปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตา, อปิจ โข ปน เม คิหิกาเล ปาทปริจาริกา อโหสีติ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ กิเรตสฺส กิฺจิ น โหติ, อปิจ โข ปน คิหิกาเล ปาทปริจาริกา กิรสฺส อโหสิ, สเจ ปนาหํ อิสฺสริยพเลน คเหตฺวา คจฺเฉยฺยํ, กึ นุ โข เอส กริสฺสติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ปมํ คาถมาห –

๔๙.

‘‘โย เต อิมํ วิสาลกฺขึ, ปิยํ สํมฺหิตภาสินึ;

อาทาย พลา คจฺเฉยฺย, กึ นุ กยิราสิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ สํมฺหิตภาสินินฺติ มนฺทหสิตภาสินึ. พลา คจฺเฉยฺยาติ พลกฺกาเรน อาทาย คจฺเฉยฺย. กึ นุ กยิราสีติ ตสฺส ตฺวํ พฺราหฺมณ กึ กเรยฺยาสีติ?

อถสฺส กถํ สุตฺวา มหาสตฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๕๐.

‘‘อุปฺปชฺเช เม น มุจฺเจยฺย, น เม มุจฺเจยฺย ชีวโต;

รชํว วิปุลา วุฏฺิ, ขิปฺปเมว นิวารเย’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, สเจ อิมํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต กิสฺมิฺจิ มม อพฺภนฺตเร โกโป อุปฺปชฺเชยฺย, โส เม อนฺโต อุปฺปชฺชิตฺวา น มุจฺเจยฺย, ยาวาหํ ชีวามิ, ตาว เม น มุจฺเจยฺย. นาสฺส อนฺโต ฆนสนฺนิวาเสน ปติฏฺาตุํ ทสฺสามิ, อถ โข ยถา อุปฺปนฺนํ รชํ วิปุลา เมฆวุฏฺิ ขิปฺปํ นิวาเรติ, ตถา ขิปฺปเมว นํ เมตฺตาภาวนาย นิคฺคเหตฺวา วาเรสฺสามีติ.

เอวํ มหาสตฺโต สีหนาทํ นทิ. ราชา ปนสฺส กถํ สุตฺวาปิ อนฺธพาลตาย ปฏิพทฺธํ อตฺตโน จิตฺตํ นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อฺตรํ อมจฺจํ อาณาเปสิ ‘‘อิมํ ปริพฺพาชิกํ ราชนิเวสนํ เนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ‘‘อธมฺโม โลเก วตฺตติ, อยุตฺต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ปริเทวมานํเยว นํ อาทาย ปายาสิ. โพธิสตฺโต ตสฺสา ปริเทวนสทฺทํ สุตฺวา เอกวารํ โอโลเกตฺวา ปุน น โอโลเกสิ. ตํ โรทนฺตึ ปริเทวนฺตึ ราชนิเวสนเมว นยึสุ. โสปิ พาราณสิราชา อุยฺยาเน ปปฺจํ อกตฺวาว สีฆตรํ คนฺตฺวา ตํ ปริพฺพาชิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา มหนฺเตน ยเสน นิมนฺเตสิ. สา ยสสฺส อคุณํ ปพฺพชาย เอว คุณํ กเถสิ. ราชา เกนจิ ปริยาเยน ตสฺสา มนํ อลภนฺโต ตํ เอกสฺมึ คพฺเภ กาเรตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ ปริพฺพาชิกา เอวรูปํ ยสํ น อิจฺฉติ, โสปิ ตาปโส เอวรูปํ มาตุคามํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต กุชฺฌิตฺวา โอโลกิตมตฺตมฺปิ น อกาสิ, ปพฺพชิตา โข ปน พหุมายา โหนฺติ, กิฺจิ ปโยเชตฺวา อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺย, คจฺฉามิ ตาว ชานามิ กึ กโรนฺโต นิสินฺโน’’ติ สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อุยฺยานํ อคมาสิ. โพธิสตฺโตปิ จีวรํ สิพฺพนฺโต นิสีทิ. ราชา มนฺทปริวาโรว ปทสทฺทํ อกโรนฺโต สณิกํ อุปสงฺกมิ. โพธิสตฺโต ราชานํ อโนโลเกตฺวา จีวรเมว สิพฺพิ. ราชา ‘‘อยํ กุชฺฌิตฺวา มยา สทฺธึ น สลฺลปตี’’ติ มฺมาโน ‘‘อยํ กูฏตาปโส ‘โกธสฺส อุปฺปชฺชิตุํ น ทสฺสามิ, อุปฺปนฺนมฺปิ นํ ขิปฺปเมว นิคฺคณฺหิสฺสามี’ติ ปมเมว คชฺชิตฺวา อิทานิ โกเธน ถทฺโธ หุตฺวา มยา สทฺธึ น สลฺลปตี’’ติ สฺาย ตติยํ คาถมาห –

๕๑.

‘‘ยํ นุ ปุพฺเพ วิกตฺถิตฺโถ, พลมฺหิว อปสฺสิโต;

สฺวชฺช ตุณฺหิกโต ทานิ, สงฺฆาฏึ สิพฺพมจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ พลมฺหิว อปสฺสิโตติ พลนิสฺสิโต วิย หุตฺวา. ตุณฺหิกโตติ กิฺจิ อวทนฺโต. สิพฺพมจฺฉสีติ สิพฺพนฺโต อจฺฉสิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ ราชา โกธวเสน มํ นาลปตีติ มฺติ, กเถสฺสามิ ทานิสฺส อุปฺปนฺนสฺส โกธสฺส วสํ อคตภาว’’นฺติ จินฺเตตฺวา จตุตฺถํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘อุปฺปชฺชิ เม น มุจฺจิตฺถ, น เม มุจฺจิตฺถ ชีวโต;

รชํว วิปุลา วุฏฺิ, ขิปฺปเมว นิวารยิ’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, อุปฺปชฺชิ เม, น น อุปฺปชฺชิ, น ปน เม มุจฺจิตฺถ, นาสฺส ปวิสิตฺวา หทเย าตุํ อทาสึ, อิติ โส มม ชีวโต น มุจฺจิตฺเถว, รชํ วิปุลา วุฏฺิ วิย ขิปฺปเมว นํ นิวาเรสินฺติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กึ นุ โข เอส โกปเมว สนฺธาย วทติ, อุทาหุ อฺํ กิฺจิ สิปฺปํ สนฺธาย กเถสิ, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –

๕๓.

‘‘กึ เต อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, กึ เต น มุจฺจิ ชีวโต;

รชํว วิปุลา วุฏฺิ, กตมํ ตํ นิวารยี’’ติ.

ตตฺถ กึ เต อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจีติ กึ ตว อุปฺปชฺชิ เจว น มุจฺจิ จ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘มหาราช, เอวํ โกโธ พหุอาทีนโว มหาวินาสทายโก, เอโส มม อุปฺปชฺชิ, อุปฺปนฺนฺจ นํ เมตฺตาภาวนาย นิวาเรสิ’’นฺติ โกเธ อาทีนวํ ปกาเสนฺโต –

๕๔.

‘‘ยมฺหิ ชาเต น ปสฺสติ, อชาเต สาธุ ปสฺสติ;

โส เม อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, โกโธ ทุมฺเมธโคจโร.

๕๕.

‘‘เยน ชาเตน นนฺทนฺติ, อมิตฺตา ทุกฺขเมสิโน;

โส เม อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, โกโธ ทุมฺเมธโคจโร.

๕๖.

‘‘ยสฺมิฺจ ชายมานมฺหิ, สทตฺถํ นาวพุชฺฌติ;

โส เม อุปฺปชฺชิ โน มุจฺจิ, โกโธ ทุมฺเมธโคจโร.

๕๗.

‘‘เยนาภิภูโต กุสลํ ชหาติ, ปรกฺกเร วิปุลฺจาปิ อตฺถํ;

ส ภีมเสโน พลวา ปมทฺที, โกโธ มหาราช น เม อมุจฺจถ.

๕๘.

‘‘กฏฺสฺมึ มตฺถมานสฺมึ, ปาวโก นาม ชายติ;

ตเมว กฏฺํ ฑหติ, ยสฺมา โส ชายเต คินิ.

๕๙.

‘‘เอวํ มนฺทสฺส โปสสฺส, พาลสฺส อวิชานโต;

สารมฺภา ชายเต โกโธ, โสปิ เตเนว ฑยฺหติ.

๖๐.

‘‘อคฺคีว ติณกฏฺสฺมึ, โกโธ ยสฺส ปวฑฺฒติ;

นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา.

๖๑.

‘‘อเนโธ ธูมเกตูว, โกโธ ยสฺสูปสมฺมติ;

อาปูรติ ตสฺส ยโส, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. – อิมา คาถา อาห;

ตตฺถ น ปสฺสตีติ อตฺตตฺถมฺปิ น ปสฺสติ, ปเคว ปรตฺถํ. สาธุ ปสฺสตีติ อตฺตตฺถํ ปรตฺถํ อุภยตฺถมฺปิ สาธุ ปสฺสติ. ทุมฺเมธโคจโรติ นิปฺปฺานํ อาธารภูโต โคจโร. ทุกฺขเมสิโนติ ทุกฺขํ อิจฺฉนฺตา. สทตฺถนฺติ อตฺตโน อตฺถภูตํ อตฺถโต เจว ธมฺมโต จ วุทฺธึ. ปรกฺกเรติ วิปุลมฺปิ อตฺถํ อุปฺปนฺนํ ปรโต กาเรติ, อปเนถ, น เม อิมินา อตฺโถติ วทติ. ส ภีมเสโนติ โส โกโธ ภีมาย ภยชนนิยา มหติยา กิเลสเสนาย สมนฺนาคโต. ปมทฺทีติ อตฺตโน พลวภาเวน อุฬาเรปิ สตฺเต คเหตฺวา อตฺตโน วเส กรเณน มทฺทนสมตฺโถ. น เม อมุจฺจถาติ มม สนฺติกา โมกฺขํ น ลภติ, หทเย วา ปน เม ขีรํ วิย มุหุตฺตํ ทธิภาเวน น ปติฏฺหิตฺถาติปิ อตฺโถ.

กฏฺสฺมึ มตฺถมานสฺมินฺติ อรณีสหิเตน มตฺถิยมาเน, ‘‘มทฺทมานสฺมิ’’นฺติปิ ปาโ. ยสฺมาติ ยโต กฏฺา ชายติ, ตเมว ฑหติ. คินีติ อคฺคิ. พาลสฺส อวิชานโตติ พาลสฺส อวิชานนฺตสฺส. สารมฺภา ชายเตติ อหํ ตฺวนฺติ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนํ กโรนฺตสฺส กรณุตฺตริยลกฺขณา สารมฺภา อรณีมตฺถนา วิย ปาวโก โกโธ ชายติ. โสปิ เตเนวาติ โสปิ พาโล เตเนว โกเธน กฏฺํ วิย อคฺคินา ฑยฺหติ. อเนโธ ธูมเกตูวาติ อนินฺธโน อคฺคิ วิย. ตสฺสาติ ตสฺส อธิวาสนขนฺติยา สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส สุกฺกปกฺเข จนฺโท วิย ลทฺโธ ยโส อปราปรํ อาปูรตีติ.

ราชา มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตุฏฺโ เอกํ อมจฺจํ อาณาเปตฺวา ปริพฺพาชิกํ อาหราเปตฺวา ‘‘ภนฺเต นิกฺโกธตาปส, อุโภปิ ตุมฺเห ปพฺพชฺชาสุเขน วีตินาเมนฺตา อิเธว อุยฺยาเน วสถ, อหํ โว ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ขมาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. เต อุโภปิ ตตฺเถว วสึสุ. อปรภาเค ปริพฺพาชิกา กาลมกาสิ. โพธิสตฺโต ตสฺสา กาลกตาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โกธโน ภิกฺขุ อนาคามิผเล ปติฏฺหิ.

ตทา ปริพฺพาชิกา ราหุลมาตา อโหสิ, ราชา อานนฺโท, ปริพฺพาชโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.

จูฬโพธิชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๔๔๔] ๖. กณฺหทีปายนชาตกวณฺณนา

สตฺตาหเมวาหนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาหิรกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อติเรกปฺาสวสฺสานิ อนภิรตา พฺรหฺมจริยํ จรนฺตา หิโรตฺตปฺปเภทภเยน อตฺตโน อุกฺกณฺิตภาวํ น กสฺสจิ กเถสุํ, ตฺวํ กสฺมา เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา มาทิสสฺส ครุโน พุทฺธสฺส สมฺมุเข ตฺวา จตุปริสมชฺเฌ อุกฺกณฺิตภาวํ อาวิ กโรสิ, กิมตฺถํ อตฺตโน หิโรตฺตปฺปํ น รกฺขสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต วํสรฏฺเ โกสมฺพิยํ นาม นคเร โกสมฺพโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา อฺตรสฺมึ นิคเม ทฺเว พฺราหฺมณา อสีติโกฏิธนวิภวา อฺมฺํ ปิยสหายกา กาเมสุ โทสํ ทิสฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา อุโภปิ กาเม ปหาย มหาชนสฺส โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตปเทเส อสฺสมปทํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุฺฉาจริยาย วนมูลผลาผเลน ยาเปนฺตา ปณฺณาส วสฺสานิ วสึสุ, ฌานํ อุปฺปาเทตุํ นาสกฺขึสุ. เต ปณฺณาสวสฺสจฺจเยน โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ชนปทํ จรนฺตา กาสิรฏฺํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺร อฺตรสฺมึ นิคมคาเม ทีปายนตาปสสฺส คิหิสหาโย มณฺฑพฺโย นาม อตฺถิ, เต อุโภปิ ตสฺส สนฺติกํ อคมํสุ. โส เต ทิสฺวาว อตฺตมโน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา อุโภปิ เต จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิ. เต ตตฺถ ตีณิ จตฺตาริ วสฺสานิ วสิตฺวา ตํ อาปุจฺฉิตฺวา จาริกํ จรนฺตา พาราณสึ ปตฺวา อติมุตฺตกสุสาเน วสึสุ. ตตฺถ ทีปายโน ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ปุน ตสฺเสว สหายสฺส สนฺติกํ คโต. มณฺฑพฺยตาปโส ตตฺเถว วสิ.

อเถกทิวสํ เอโก โจโร อนฺโตนคเร โจริกํ กตฺวา ธนสารํ อาทาย นิกฺขนฺโต ‘‘โจโร’’ติ ตฺวา ปฏิพุทฺเธหิ ฆรสฺสามิเกหิ เจว อารกฺขมนุสฺเสหิ จ อนุพทฺโธ นิทฺธมเนน นิกฺขมิตฺวา เวเคน สุสานํ ปวิสิตฺวา ตาปสสฺส ปณฺณสาลทฺวาเร ภณฺฑิกํ ฉฏฺเฏตฺวา ปลายิ. มนุสฺสา ภณฺฑิกํ ทิสฺวา ‘‘อเร ทุฏฺชฏิล, ตฺวํ รตฺตึ โจริกํ กตฺวา ทิวา ตาปสรูเปน จรสี’’ติ ตชฺเชตฺวา โปเถตฺวา ตํ อาทาย เนตฺวา รฺโ ทสฺสยึสุ. ราชา อนุปปริกฺขิตฺวาว ‘‘คจฺฉถ, นํ สูเล อุตฺตาเสถา’’ติ อาห. เต ตํ สุสานํ เนตฺวา ขทิรสูลํ อาโรปยึสุ, ตาปสสฺส สรีเร สูลํ น ปวิสติ. ตโต นิมฺพสูลํ อาหรึสุ, ตมฺปิ น ปวิสติ. อยสูลํ อาหรึสุ, ตมฺปิ น ปวิสติ. ตาปโส ‘‘กึ นุ โข เม ปุพฺพกมฺม’’นฺติ โอโลเกสิ, อถสฺส ชาติสฺสราณํ อุปฺปชฺชิ, เตน ปุพฺพกมฺมํ โอโลเกตฺวา อทฺทส. กึ ปนสฺส ปุพฺพกมฺมนฺติ? โกวิฬารสูเล มกฺขิกาเวธนํ. โส กิร ปุริมภเว วฑฺฒกิปุตฺโต หุตฺวา ปิตุ รุกฺขตจฺฉนฏฺานํ คนฺตฺวา เอกํ มกฺขิกํ คเหตฺวา โกวิฬารสลากาย สูเล วิย วิชฺฌิ. ตเมนํ ปาปกมฺมํ อิมํ านํ ปตฺวา คณฺหิ. โส ‘‘น สกฺกา อิโต ปาปา มยา มุจฺจิตุ’’นฺติ ตฺวา ราชปุริเส อาห ‘‘สเจ มํ สูเล อุตฺตาเสตุกามตฺถ, โกวิฬารสูลํ อาหรถา’’ติ. เต ตถา กตฺวา ตํ สูเล อุตฺตาเสตฺวา อารกฺขํ ทตฺวา ปกฺกมึสุ.

อารกฺขกา ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺเต โอโลเกนฺติ. ตทา ทีปายโน ‘‘จิรทิฏฺโ เม สหาโย’’ติ มณฺฑพฺยสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺโต ‘‘สูเล อุตฺตาสิโต’’ติ ตํ ทิวสฺเว อนฺตรามคฺเค สุตฺวา ตํ านํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ‘‘กึ สมฺม การโกสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อการโกมฺหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อตฺตโน มโนปโทสํ รกฺขิตุํ สกฺขิ, นาสกฺขี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สมฺม, เยหิ อหํ คหิโต, เนว เตสํ, น รฺโ อุปริ มยฺหํ มโนปโทโส อตฺถี’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต ตาทิสสฺส สีลวโต ฉายา มยฺหํ สุขา’’ติ วตฺวา ทีปายโน สูลํ นิสฺสาย นิสีทิ. อถสฺส สรีเร มณฺฑพฺยสฺส สรีรโต โลหิตพินฺทูนิ ปตึสุ. ตานิ สุวณฺณวณฺณสรีเร ปติตปติตานิ สุสฺสิตฺวา กาฬกานิ อุปฺปชฺชึสุ. ตโต ปฏฺาเยว โส กณฺหทีปายโน นาม อโหสิ. โส สพฺพรตฺตึ ตตฺเถว นิสีทิ.

ปุนทิวเส อารกฺขปุริสา อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘อนิสาเมตฺวาว เม กต’’นฺติ เวเคน ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘ปพฺพชิต, กสฺมา สูลํ นิสฺสาย นิสินฺโนสี’’ติ ทีปายนํ ปุจฺฉิ. มหาราช, อิมํ ตาปสํ รกฺขนฺโต นิสินฺโนมฺหิ. กึ ปน ตฺวํ มหาราช, อิมสฺส การกภาวํ วา อการกภาวํ วา ตฺวา เอวํ กาเรสีติ? โส กมฺมสฺส อโสธิตภาวํ อาจิกฺขิ. อถสฺส โส ‘‘มหาราช, รฺา นาม นิสมฺมการินา ภวิตพฺพํ, อลโส คิหี กามโภคี น สาธู’’ติอาทีนิ วตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ราชา มณฺฑพฺยสฺส นิทฺโทสภาวํ ตฺวา ‘‘สูลํ หรถา’’ติ อาณาเปสิ. สูลํ หรนฺตา หริตุํ น สกฺขึสุ. มณฺฑพฺโย อาห – ‘‘มหาราช, อหํ ปุพฺเพ กตกมฺมโทเสน เอวรูปํ ภยํ สมฺปตฺโต, มม สรีรโต สูลํ หริตุํ น สกฺกา, สเจ มยฺหํ ชีวิตํ ทาตุกาโม, กกจํ อาหราเปตฺวา อิมํ สูลํ จมฺมสมํ ฉินฺทาเปหี’’ติ. ราชา ตถา กาเรสิ. อนฺโตสรีเร สูโล อนฺโตเยว อโหสิ. ตทา กิร โส สุขุมํ โกวิฬารสลากํ คเหตฺวา มกฺขิกาย วจฺจมคฺคํ ปเวเสสิ, ตํ ตสฺส อนฺโตสรีเรเยว อโหสิ. โส เตน การเณน อมริตฺวา อตฺตโน อายุกฺขเยเนว มริ, ตสฺมา อยมฺปิ น มโต. ราชา ตาปเส วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา อุโภปิ อุยฺยาเน วสาเปนฺโต ปฏิชคฺคิ, ตโต ปฏฺาย มณฺฑพฺโย อาณิมณฺฑพฺโย นาม ชาโต. โส ราชานํ อุปนิสฺสาย ตตฺเถว วสิ, ทีปายโน ปน ตสฺส วณํ ผาสุกํ กตฺวา อตฺตโน คิหิสหายมณฺฑพฺยสฺส สนฺติกเมว คโต.

ตํ ปณฺณสาลํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา เอโก ปุริโส สหายสฺส อาโรเจสิ. โส สุตฺวาว ตุฏฺจิตฺโต สปุตฺตทาโร พหู คนฺธมาลเตลผาณิตาทีนิ อาทาย ตํ ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา ทีปายนํ วนฺทิตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา ปานกํ ปาเยตฺวา อาณิมณฺฑพฺยสฺส ปวตฺตึ สุณนฺโต นิสีทิ. อถสฺส ปุตฺโต ยฺทตฺตกุมาโร นาม จงฺกมนโกฏิยํ เคณฺฑุเกน กีฬิ, ตตฺร เจกสฺมึ วมฺมิเก อาสีวิโส วสติ. กุมารสฺส ภูมิยํ ปหฏเคณฺฑุโก คนฺตฺวา วมฺมิกพิเล อาสีวิสสฺส มตฺถเก ปติ. โส อชานนฺโต พิเล หตฺถํ ปเวเสสิ. อถ นํ กุทฺโธ อาสีวิโส หตฺเถ ฑํสิ. โส วิสเวเคน มุจฺฉิโต ตตฺเถว ปติ. อถสฺส มาตาปิตโร สปฺเปน ฑฏฺภาวํ ตฺวา กุมารกํ อุกฺขิปิตฺวา ตาปสสฺส สนฺติกํ อาเนตฺวา ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปพฺพชิตา นาม โอสธํ วา ปริตฺตํ วา ชานนฺติ, ปุตฺตกํ โน อาโรคํ กโรถา’’ติ อาหํสุ. อหํ โอสธํ น ชานามิ, นาหํ เวชฺชกมฺมํ กริสฺสามีติ. ‘‘เตน หิ ภนฺเต, อิมสฺมึ กุมารเก เมตฺตํ กตฺวา สจฺจกิริยํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ตาปโส ‘‘สาธุ, สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ยฺทตฺตสฺส สีเส หตฺถํ เปตฺวา ปมํ คาถมาห –

๖๒.

‘‘สตฺตาหเมวาหํ ปสนฺนจิตฺโต, ปุฺตฺถิโก อาจรึ พฺรหฺมจริยํ;

อถาปรํ ยํ จริตํ มเมทํ, วสฺสานิ ปฺาส สมาธิกานิ;

อกามโกวาปิ อหํ จรามิ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ;

หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’’ติ.

ตตฺถ อถาปรํ ยํ จริตนฺติ ตสฺมา สตฺตาหา อุตฺตริ ยํ มม พฺรหฺมจริยํ. อกามโกวาปีติ ปพฺพชฺชํ อนิจฺฉนฺโตเยว. เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตูติ สเจ อติเรกปณฺณาสวสฺสานิ อนภิรติวาสํ วสนฺเตน มยา กสฺสจิ อนาโรจิตภาโว สจฺจํ, เอเตน สจฺเจน ยฺทตฺตกุมารสฺส โสตฺถิภาโว โหตุ, ชีวิตํ ปฏิลภตูติ.

อถสฺส สห สจฺจกิริยาย ยฺทตฺตสฺส ถนปฺปเทสโต อุทฺธํ วิสํ ภสฺสิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. กุมาโร อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา มาตาปิตโร โอโลเกตฺวา ‘‘อมฺมตาตา’’ติ วตฺวา ปริวตฺติตฺวา นิปชฺชิ. อถสฺส ปิตรํ กณฺหทีปายโน อาห – ‘‘มยา ตาว มม พลํ กตํ, ตฺวมฺปิ อตฺตโน พลํ กโรหี’’ติ. โส ‘‘อหมฺปิ สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ ปุตฺตสฺส อุเร หตฺถํ เปตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๖๓.

‘‘ยสฺมา ทานํ นาภินนฺทึ กทาจิ, ทิสฺวานหํ อติถึ วาสกาเล;

จาปิ เม อปฺปิยตํ อเวทุํ, พหุสฺสุตา สมณพฺราหฺมณา จ;

อกามโกวาปิ อหํ ททามิ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ;

หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’’ติ.

ตตฺถ วาสกาเลติ วสนตฺถาย เคหํ อาคตกาเล. น จาปิ เม อปฺปิยตํ อเวทุนฺติ พหุสฺสุตาปิ สมณพฺราหฺมณา ‘‘อยํ เนว ทานํ อภินนฺทติ น อมฺเห’’ติ อิมํ มม อปฺปิยภาวํ เนว ชานึสุ. อหฺหิ เต ปิยจกฺขูหิเยว โอโลเกมีติ ทีเปติ. เอเตน สจฺเจนาติ สเจ อหํ ทานํ ททมาโน วิปากํ อสทฺทหิตฺวา อตฺตโน อนิจฺฉาย ทมฺมิ, อนิจฺฉนภาวํ มม ปเร น ชานนฺติ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตูติ อตฺโถ.

เอวํ ตสฺส สจฺจกิริยาย สห กฏิโต อุทฺธํ วิสํ ภสฺสิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. กุมาโร อุฏฺาย นิสีทิ, าตุํ ปน น สกฺโกติ. อถสฺส ปิตา มาตรํ อาห ‘‘ภทฺเท, มยา อตฺตโน พลํ กตํ, ตฺวํ อิทานิ สจฺจกิริยํ กตฺวา ปุตฺตสฺส อุฏฺาย คมนภาวํ กโรหี’’ติ. ‘‘สามิ, อตฺถิ มยฺหํ เอกํ สจฺจํ, ตว ปน สนฺติเก กเถตุํ น สกฺโกมี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ยถา ตถา เม ปุตฺตํ อโรคํ กโรหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สจฺจํ กโรนฺตี ตติยํ คาถมาห –

๖๔.

‘‘อาสีวิโส ตาต ปหูตเตโช, โย ตํ อฑํสี พิลรา อุทิจฺจ;

ตสฺมิฺจ เม อปฺปิยตาย อชฺช, ปิตรฺจ เต นตฺถิ โกจิ วิเสโส;

เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ, หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’’ติ.

ตตฺถ ตาตาติ ปุตฺตํ อาลปติ. ปหูตเตโชติ พลววิโส. พิลราติ วิวรา, อยเมว วา ปาโ. อุทิจฺจาติ อุฏฺหิตฺวา, วมฺมิกพิลโต อุฏฺายาติ อตฺโถ. ปิตรฺจ เตติ ปิตริ จ เต. อฏฺกถายํ ปน อยเมว ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตาต, ยฺทตฺต ตสฺมิฺจ อาสีวิเส ตว ปิตริ จ อปฺปิยภาเวน มยฺหํ โกจิ วิเสโส นตฺถิ. ตฺจ ปน อปฺปิยภาวํ เปตฺวา อชฺช มยา โกจิ ชานาปิตปุพฺโพ นาม นตฺถิ, สเจ เอตํ สจฺจํ, เอเตน สจฺเจน ตว โสตฺถิ โหตู’’ติ.

สห จ สจฺจกิริยาย สพฺพํ วิสํ ภสฺสิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. ยฺทตฺโต นิพฺพิเสน สรีเรน อุฏฺาย กีฬิตุํ อารทฺโธ. เอวํ ปุตฺเต อุฏฺิเต มณฺฑพฺโย ทีปายนสฺส อชฺฌาสยํ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๖๕.

‘‘สนฺตา ทนฺตาเยว ปริพฺพชนฺติ, อฺตฺร กณฺหา นตฺถากามรูปา;

ทีปายน กิสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก จรสิ พฺรหฺมจริย’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – เย เกจิ ขตฺติยาทโย กาเม ปหาย อิธ โลเก ปพฺพชนฺติ, เต อฺตฺร กณฺหา ภวนฺตํ กณฺหํ เปตฺวา อฺเ อกามรูปา นาม นตฺถิ, สพฺเพ ฌานภาวนาย กิเลสานํ สมิตตฺตา สนฺตา, จกฺขาทีนิ ทฺวารานิ ยถา นิพฺพิเสวนานิ โหนฺติ, ตถา เตสํ ทมิตตฺตา ทนฺตา หุตฺวา อภิรตาว พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ตฺวํ ปน ภนฺเต ทีปายน, กึการณา ตปํ ชิคุจฺฉมาโน อกามโก หุตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรสิ, กสฺมา ปุน น อคารเมว อชฺฌาวสสีติ.

อถสฺส โส การณํ กเถนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –

๖๖.

‘‘สทฺธาย นิกฺขมฺม ปุนํ นิวตฺโต, โส เอฬมูโคว พาโล วตายํ;

เอตสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก จรามิ พฺรหฺมจริยํ;

วิฺุปฺปสตฺถฺจ สตฺจ านํ, เอวมฺปหํ ปุฺกโร ภวามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – กณฺโห กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา ตาว มหนฺตํ วิภวํ ปหาย อคารา นิกฺขมิตฺวา ยํ ชหิ, ปุน ตทตฺถเมว นิวตฺโต. โส อยํ เอฬมูโค คามทารโก วิย พาโล วตาติ อิมํ วาทํ ชิคุจฺฉมาโน อหํ อตฺตโน หิโรตฺตปฺปเภทภเยน อนิจฺฉมาโนปิ พฺรหฺมจริยํ จรามิ. กิฺจ ภิยฺโย ปพฺพชฺชาปุฺฺจ นาเมตํ วิฺูหิ พุทฺธาทีหิ ปสตฺถํ, เตสํเยว จ สตํ นิวาสฏฺานํ. เอวํ อิมินาปิ การเณน อหํ ปุฺกโร ภวามิ, อสฺสุมุโขปิ รุทมาโน พฺรหฺมจริยํ จรามิเยวาติ.

เอวํ โส อตฺตโน อชฺฌาสยํ กเถตฺวา ปุน มณฺฑพฺยํ ปุจฺฉนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘สมเณ ตุวํ พฺราหฺมเณ อทฺธิเก จ, สนฺตปฺปยาสิ อนฺนปาเนน ภิกฺขํ;

โอปานภูตํว ฆรํ ตว ยิทํ, อนฺเนน ปาเนน อุเปตรูปํ;

อถ กิสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก ทานมิมํ ททาสี’’ติ.

ตตฺถ ภิกฺขนฺติ ภิกฺขาย จรนฺตานํ ภิกฺขฺจ สมฺปาเทตฺวา ททาสิ. โอปานภูตํวาติ จตุมหาปเถ ขตสาธารณโปกฺขรณี วิย.

ตโต มณฺฑพฺโย อตฺตโน อชฺฌาสยํ กเถนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๖๘.

‘‘ปิตโร จ เม อาสุํ ปิตามหา จ, สทฺธา อหุํ ทานปตี วทฺู;

ตํ กุลฺลวตฺตํ อนุวตฺตมาโน, มาหํ กุเล อนฺติมคนฺธโน อหุํ;

เอตสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมาโน, อกามโก ทานมิมํ ททามี’’ติ.

ตตฺถ ‘‘อาสุ’’นฺติ ปทสฺส ‘‘สทฺธา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, สทฺธา อเหสุนฺติ อตฺโถ. อหุนฺติ สทฺธา หุตฺวา ตโต อุตฺตริ ทานเชฏฺกา เจว ‘‘เทถ กโรถา’’ติ วุตฺตวจนสฺส อตฺถชานนกา จ อเหสุํ. ตํ กุลฺลวตฺตนฺติ ตํ กุลวตฺตํ, อฏฺกถายํ ปน อยเมว ปาโ. มาหํ กุเล อนฺติมคนฺธโน อหุนฺติ ‘‘อหํ อตฺตโน กุเล สพฺพปจฺฉิมโก เจว กุลปลาโป จ มา อหุ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา เอตํ ‘‘กุลอนฺติโม กุลปลาโป’’ติ วาทํ ชิคุจฺฉมาโน ทานํ อนิจฺฉนฺโตปิ อิทํ ทานํ ททามีติ ทีเปติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มณฺฑพฺโย อตฺตโน ภริยํ ปุจฺฉมาโน อฏฺมํ คาถมาห –

๖๙.

‘‘ทหรึ กุมารึ อสมตฺถปฺํ, ยํ ตานยึ าติกุลา สุคตฺเต;

น จาปิ เม อปฺปิยตํ อเวทิ, อฺตฺร กามา ปริจารยนฺตา;

อถ เกน วณฺเณน มยา เต โภติ, สํวาสธมฺโม อหุ เอวรูโป’’ติ.

ตตฺถ อสมตฺถปฺนฺติ กุฏุมฺพํ วิจาเรตุํ อปฺปฏิพลปฺํ อติตรุณิฺเว สมานํ. ยํ ตานยินฺติ ยํ ตํ อานยึ, อหํ ทหริเมว สมานํ ตํ าติกุลโต อาเนสินฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร กามา ปริจารยนฺตาติ เอตฺตกํ กาลํ วินา กาเมน อนิจฺฉาย มํ ปริจารยนฺตาปิ อตฺตโน อปฺปิยตํ มํ น ชานาเปสิ, สมฺปิยายมานรูปาว ปริจริ. เกน วณฺเณนาติ เกน การเณน. โภตีติ ตํ อาลปติ. เอวรูโปติ อาสีวิสสมานปฏิกูลภาเวน มยา สทฺธึ ตว สํวาสธมฺโม เอวรูโป ปิยสํวาโส วิย กถํ ชาโตติ.

อถสฺส สา กเถนฺตี นวมํ คาถมาห –

๗๐.

‘‘อารา ทูเร นยิธ กทาจิ อตฺถิ, ปรมฺปรา นาม กุเล อิมสฺมึ;

ตํ กุลฺลวตฺตํ อนุวตฺตมานา, มาหํ กุเล อนฺติมคนฺธินี อหุํ;

เอตสฺส วาทสฺส ชิคุจฺฉมานา, อกามิกา ปทฺธจรามฺหิ ตุยฺห’’นฺติ.

ตตฺถ อารา ทูเรติ อฺมฺเววจนํ. อติทูเรติ วา ทสฺเสนฺตี เอวมาห. อิธาติ นิปาตมตฺตํ, น กทาจีติ อตฺโถ. ปรมฺปราติ ปุริสปรมฺปรา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สามิ, อิมสฺมึ อมฺหากํ าติกุเล ทูรโต ปฏฺาย ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ปุริสปรมฺปรา นาม น กทาจิ อตฺถิ, เอกิตฺถิยาปิ สามิกํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺโ ปุริโส คหิตปุพฺโพ นาม นตฺถีติ. ตํ กุลฺลวตฺตนฺติ อหมฺปิ ตํ กุลวตฺตํ กุลปเวณึ อนุวตฺตมานา อตฺตโน กุเล ปจฺฉิมิกา ปลาลภูตา มา อหุนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา เอตํ กุลอนฺติมา กุลคนฺธินีติ วาทํ ชิคุจฺฉมานา อกามิกาปิ ตุยฺหํ ปทฺธจรามฺหิ เวยฺยาวจฺจการิกา ปาทปริจาริกา ชาตามฺหีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘มยา สามิกสฺส สนฺติเก อภาสิตปุพฺพํ คุยฺหํ ภาสิตํ, กุชฺเฌยฺยปิ เม อยํ, อมฺหากํ กุลูปกตาปสสฺส สมฺมุเขเยว ขมาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ขมาเปนฺตี ทสมํ คาถมาห –

๗๑.

‘‘มณฺฑพฺย ภาสึ ยมภาสเนยฺยํ, ตํ ขมฺยตํ ปุตฺตกเหตุ มชฺช;

ปุตฺตเปมา น อิธ ปรตฺถิ กิฺจิ, โส โน อยํ ชีวติ ยฺทตฺโต’’ติ.

ตตฺถ ตํ ขมฺยตนฺติ ตํ ขมยตุ. ปุตฺตกเหตุ มชฺชาติ ตํ มม ภาสิตํ อชฺช อิมสฺส ปุตฺตสฺส เหตุ ขมยตุ. โส โน อยนฺติ ยสฺส ปุตฺตสฺส การณา มยา เอตํ ภาสิตํ, โส โน ปุตฺโต ชีวติ, อิมสฺส ชีวิตลาภภาเวน เม ขม สามิ, อชฺชโต ปฏฺาย ตว วสวตฺตินี ภวิสฺสามีติ.

อถ นํ มณฺฑพฺโย ‘‘อุฏฺเหิ ภทฺเท, ขมามิ เต, อิโต ปน ปฏฺาย มา ผรุสจิตฺตา อโหสิ, อหมฺปิ เต อปฺปิยํ น กริสฺสามี’’ติ อาห. โพธิสตฺโต มณฺฑพฺยํ อาห – ‘‘อาวุโส, ตยา ทุสฺสงฺฆรํ ธนํ สงฺฆริตฺวา กมฺมฺจ ผลฺจ อสทฺทหิตฺวา ทานํ ททนฺเตน อยุตฺตํ กตํ, อิโต ปฏฺาย ทานํ สทฺทหิตฺวา เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โพธิสตฺตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, ตยา อมฺหากํ ทกฺขิเณยฺยภาเว ตฺวา อนภิรเตน พฺรหฺมจริยํ จรนฺเตน อยุตฺตํ กตํ, อิโต ปฏฺาย อิทานิ ยถา ตยิ กตการา มหปฺผลา โหนฺติ, เอวํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา สุทฺธจิตฺโต อภิรโต หุตฺวา พฺรหฺมจริยํ จราหี’’ติ. เต มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา อุฏฺาย อคมํสุ. ตโต ปฏฺาย ภริยา สามิเก สสฺเนหา อโหสิ, มณฺฑพฺโย ปสนฺนจิตฺโต สทฺธาย ทานํ อทาสิ. โพธิสตฺโต อนภิรตึ วิโนเทตฺวา ฌานาภิฺํ อุปฺปาเทตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิโต ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา มณฺฑพฺโย อานนฺโท อโหสิ, ภริยา วิสาขา, ปุตฺโต ราหุโล, อาณิมณฺฑพฺโย สาริปุตฺโต, กณฺหทีปายโน ปน อหเมว อโหสินฺติ.

กณฺหทีปายนชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๔๔๕] ๗. นิคฺโรธชาตกวณฺณนา

น วาหเมตํ ชานามีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู เตน ‘‘อาวุโส เทวทตฺต, สตฺถา ตว พหูปกาโร, ตฺวฺหิ สตฺถารํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชํ ลภิ อุปสมฺปทํ ลภิ, เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิ, ฌานํ อุปฺปาเทสิ, ลาภสกฺกาโรปิ เต ทสพลสฺเสว สนฺตโก’’ติ ภิกฺขูหิ วุตฺเต ติณสลากํ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘เอตฺตกมฺปิ สมเณน โคตเมน มยฺหํ กตํ คุณํ น ปสฺสามี’’ติ วุตฺเต ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อกตฺู มิตฺตทุพฺภี’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธมหาราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา ราชคหเสฏฺิ อตฺตโน ปุตฺตสฺส ชนปทเสฏฺิโน ธีตรํ อาเนสิ, สา วฺฌา อโหสิ. อถสฺสา อปรภาเค สกฺกาโร ปริหายิ. ‘‘อมฺหากํ ปุตฺตสฺส เคเห วฺฌิตฺถิยา วสนฺติยา กถํ กุลวํโส วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ยถา สา สุณาติ, เอวมฺปิ กถํ สมุฏฺาเปนฺติ. สา ตํ สุตฺวา ‘‘โหตุ คพฺภินิอาลยํ กตฺวา เอเต วฺเจสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน อตฺถจาริกํ ธาตึ อาห ‘‘อมฺม, คพฺภินิโย นาม กิฺจ กิฺจ กโรนฺตี’’ติ คพฺภินิปริหารํ ปุจฺฉิตฺวา อุตุนิกาเล ปฏิจฺฉาเทตฺวา อมฺพิลาทิรุจิกา หุตฺวา หตฺถปาทานํ อุทฺธุมายนกาเล หตฺถปาทปิฏฺิโย โกฏฺฏาเปตฺวา พหลํ กาเรสิ, ทิวเส ทิวเสปิ ปิโลติกาเวเนน จ อุทรวฑฺฒนํ วฑฺเฒสิ, ถนมุขานิ กาฬานิ กาเรสิ, สรีรกิจฺจํ กโรนฺตีปิ อฺตฺร ตสฺสา ธาติยา อฺเสํ สมฺมุขฏฺาเน น กโรติ. สามิโกปิสฺสา คพฺภปริหารํ อทาสิ. เอวํ นว มาเส วสิตฺวา ‘‘อิทานิ ชนปเท ปิตุ ฆรํ คนฺตฺวา วิชายิสฺสามี’’ติ สสุเร อาปุจฺฉิตฺวา รถมารุหิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ราชคหา นิกฺขมิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตสฺสา ปน ปุรโต เอโก สตฺโถ คจฺฉติ. สตฺเถน วสิตฺวา คตฏฺานํ เอสา ปาตราสกาเล ปาปุณาติ.

อเถกทิวสํ ตสฺมึ สตฺเถ เอกา ทุคฺคติตฺถี รตฺติยา เอกสฺมึ นิคฺโรธมูเล ปุตฺตํ วิชายิตฺวา ปาโตว สตฺเถ คจฺฉนฺเต ‘‘อหํ วินา สตฺเถน คนฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ, สกฺกา โข ปน ชีวนฺติยา ปุตฺตํ ลภิตุ’’นฺติ นิคฺโรธมูลชาเล ชลาพุฺเจว คพฺภมลฺจ อตฺถริตฺวา ปุตฺตํ ฉฏฺเฏตฺวา อคมาสิ. ทารกสฺสปิ เทวตา อารกฺขํ คณฺหึสุ. โส หิ น โย วา โส วา, โพธิสตฺโตเยว. โส ปน ตทา ตาทิสํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. อิตรา ปาตราสกาเล ตํ านํ ปตฺวา ‘‘สรีรกิจฺจํ กริสฺสามี’’ติ ตาย ธาติยา สทฺธึ นิคฺโรธมูลํ คตา สุวณฺณวณฺณํ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺม, นิปฺผนฺนํ โน กิจฺจ’’นฺติ ปิโลติกาโย อปเนตฺวา อุจฺฉงฺคปเทสํ โลหิเตน จ คพฺภมเลน จ มกฺเขตฺวา อตฺตโน คพฺภวุฏฺานํ อาโรเจสิ. ตาวเทว นํ สาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา หฏฺตุฏฺโ สปริชโน ราชคหํ ปณฺณํ เปเสสิ. อถสฺสา สสฺสุสสุรา วิชาตกาลโต ปฏฺาย ‘‘ปิตุ กุเล กึ กริสฺสติ, อิเธว อาคจฺฉตู’’ติ เปสยึสุ. สา ปฏินิวตฺติตฺวา ราชคหเมว ปาวิสิ. ตตฺถ ตํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทารกสฺส นามํ กโรนฺตา นิคฺโรธมูเล ชาตตฺตา ‘‘นิคฺโรธกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตํ ทิวสฺเว อนุเสฏฺิสุณิสาปิ วิชายนตฺถาย กุลฆรํ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเค เอกิสฺสา รุกฺขสาขาย เหฏฺา ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘สาขกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตํ ทิวสฺเว เสฏฺึ นิสฺสาย วสนฺตสฺส ตุนฺนการสฺส ภริยาปิ ปิโลติกนฺตเร ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘โปตฺติโก’’ติ นามํ กรึสุ.

มหาเสฏฺิ อุโภปิ เต ทารเก ‘‘นิคฺโรธกุมารสฺส ชาตทิวสฺเว ชาตา’’ติ อาณาเปตฺวา เตเนว สทฺธึ สํวฑฺเฒสิ. เต เอกโต วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺตา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหึสุ. อุโภปิ เสฏฺิปุตฺตา อาจริยสฺส ทฺเว สหสฺสานิ อทํสุ. นิคฺโรธกุมาโร โปตฺติกสฺส อตฺตโน สนฺติเก สิปฺปํ ปฏฺเปสิ. เต นิปฺผนฺนสิปฺปา อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา นิกฺขนฺตา ‘‘ชนปทจาริกํ จริสฺสามา’’ติ อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา เอกสฺมึ รุกฺขมูเล นิปชฺชึสุ. ตทา พาราณสิรฺโ กาลกตสฺส สตฺตโม ทิวโส, ‘‘สฺเว ผุสฺสรถํ โยเชสฺสามา’’ติ นคเร เภรึ จราเปสุํ. เตสุปิ สหาเยสุ รุกฺขมูเล นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตสุ โปตฺติโก ปจฺจูสกาเล อุฏฺาย นิคฺโรธกุมารสฺส ปาเท ปริมชฺชนฺโต นิสีทิ. ตสฺมึ รุกฺเข วุตฺถกุกฺกุเฏสุ อุปริกุกฺกุโฏ เหฏฺากุกฺกุฏสฺส สรีเร วจฺจํ ปาเตสิ. อถ นํ โส ‘‘เกเนตํ ปาติต’’นฺติ อาห. ‘‘สมฺม, มา กุชฺฌิ, มยา อชานนฺเตน ปาติต’’นฺติ อาห. ‘‘อเร, ตฺวํ มม สรีรํ อตฺตโน วจฺจฏฺานํ มฺสิ, กึ มม ปมาณํ น ชานาสี’’ติ. อถ นํ อิตโร ‘‘อเร ตฺวํ ‘อชานนฺเตน เม กต’นฺติ วุตฺเตปิ กุชฺฌสิเยว, กึ ปน เต ปมาณ’’นฺติ อาห. ‘‘โย มํ มาเรตฺวา มํสํ ขาทติ, โส ปาโตว สหสฺสํ ลภติ, ตสฺมา อหํ มานํ กโรมี’’ติ. อถ นํ อิตโร ‘‘อเร เอตฺตกมตฺเตน ตฺวํ มานํ กโรสิ, มํ ปน มาเรตฺวา โย ถูลมํสํ ขาทติ, โส ปาโตว ราชา โหติ, โย มชฺฌิมมํสํ ขาทติ, โส เสนาปติ, โย อฏฺินิสฺสิตํ ขาทติ, โส ภณฺฑาคาริโก โหตี’’ติ อาห.

โปตฺติโก เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘กึ โน สหสฺเสน, รชฺชเมว วร’’นฺติ สณิกํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา อุปริสยิตกุกฺกุฏํ คเหตฺวา มาเรตฺวา องฺคาเร ปจิตฺวา ถูลมํสํ นิคฺโรธสฺส อทาสิ, มชฺฌิมมํสํ สาขสฺส อทาสิ, อฏฺิมํสํ อตฺตนา ขาทิ. ขาทิตฺวา ปน ‘‘สมฺม นิคฺโรธ, ตฺวํ อชฺช ราชา ภวิสฺสสิ, สมฺม สาข, ตฺวํ เสนาปติ ภวิสฺสสิ, อหํ ปน ภณฺฑาคาริโก ภวิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กถํ ชานาสี’’ติ ปุฏฺโ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. เต ตโยปิ ชนา ปาตราสเวลาย พาราณสึ ปวิสิตฺวา เอกสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห สปฺปิสกฺกรยุตฺตํ ปายาสํ ภุฺชิตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานํ ปวิสึสุ. นิคฺโรธกุมาโร สิลาปฏฺเฏ นิปชฺชิ, อิตเร ทฺเว พหิ นิปชฺชึสุ. ตสฺมึ สมเย ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ อนฺโต เปตฺวา ผุสฺสรถํ วิสฺสชฺเชสุํ. ตตฺถ วิตฺถารกถา มหาชนกชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๒๓ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ผุสฺสรโถ อุยฺยานํ คนฺตฺวา นิวตฺติตฺวา อาโรหนสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. ปุโรหิโต ‘‘อุยฺยาเน ปุฺวตา สตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา กุมารํ ทิสฺวา ปาทนฺตโต สาฏกํ อปเนตฺวา ปาเทสุ ลกฺขณานิ อุปธาเรตฺวา ‘‘ติฏฺตุ พาราณสิยํ รชฺชํ, สกลชมฺพุทีปสฺส อธิปติราชา ภวิตุํ ยุตฺโต’’ติ สพฺพตาลาวจเร ปคฺคณฺหาเปสิ. นิคฺโรธกุมาโร ปพุชฺฌิตฺวา มุขโต สาฏกํ อปเนตฺวา มหาชนํ โอโลเกตฺวา ปริวตฺติตฺวา นิปนฺโน โถกํ วีตินาเมตฺวา สิลาปฏฺเฏ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อถ นํ ปุโรหิโต ชณฺณุนา ปติฏฺาย ‘‘รชฺชํ เต เทว ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ‘‘‘สาธู’’ติ วุตฺเต ตตฺเถว รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิฺจิ. โส รชฺชํ ปตฺวา สาขสฺส เสนาปติฏฺานํ ทตฺวา มหนฺเตน สกฺกาเรน นครํ ปาวิสิ, โปตฺติโกปิ เตหิ สทฺธิฺเว อคมาสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺโต พาราณสิยํ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ.

โส เอกทิวสํ มาตาปิตูนํ สริตฺวา สาขํ อาห – ‘‘สมฺม, น สกฺกา มาตาปิตูหิ วินา วตฺติตุํ, มหนฺเตน ปริวาเรน คนฺตฺวา มาตาปิตโร โน อาเนหี’’ติ. สาโข ‘‘น เม ตตฺถ คมนกมฺมํ อตฺถี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. ตโต โปตฺติกํ อาณาเปสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา นิคฺโรธสฺส มาตาปิตโร ‘‘ปุตฺโต โว รชฺเช ปติฏฺิโต, เอถ คจฺฉามา’’ติ อาห. เต ‘‘อตฺถิ โน ตาว วิภวมตฺตํ, อลํ ตตฺถ คมเนนา’’ติ ปฏิกฺขิปึสุ. สาขสฺสปิ มาตาปิตโร อโวจ, เตปิ น อิจฺฉึสุ. อตฺตโน มาตาปิตโร อโวจ, ‘‘มยํ ตาต ตุนฺนการกมฺเมน ชีวิสฺสาม อล’’นฺติ ปฏิกฺขิปึสุ. โส เตสํ มนํ อลภิตฺวา พาราณสิเมว ปจฺจาคนฺตฺวา ‘‘เสนาปติสฺส ฆเร มคฺคกิลมถํ วิโนเทตฺวา ปจฺฉา นิคฺโรธสหายํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส นิเวสนทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘สหาโย กิร เต โปตฺติโก นาม อาคโตติ เสนาปติสฺส อาโรเจหี’’ติ โทวาริกํ อาห, โส ตถา อกาสิ. สาโข ปน ‘‘อยํ มยฺหํ รชฺชํ อทตฺวา สหายนิคฺโรธสฺส อทาสี’’ติ ตสฺมึ เวรํ พนฺธิ. โส ตํ กถํ สุตฺวาว กุทฺโธ อาคนฺตฺวา ‘‘โก อิมสฺส สหาโย อุมฺมตฺตโก ทาสิปุตฺโต, คณฺหถ น’’นฺติ วตฺวา หตฺถปาทชณฺณุกปฺปเรหิ โกฏฺฏาเปตฺวา คีวายํ คาหาเปตฺวา นีหราเปสิ.

โส จินฺเตสิ ‘‘สาโข มม สนฺติกา เสนาปติฏฺานํ ลภิตฺวา อกตฺู มิตฺตทุพฺภี, มํ โกฏฺฏาเปตฺวา นีหราเปสิ, นิคฺโรโธ ปน ปณฺฑิโต กตฺู สปฺปุริโส, ตสฺเสว สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ. โส ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, โปตฺติโก กิร นาม เต สหาโย ทฺวาเร ิโต’’ติ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา ปกฺโกสาเปตฺวา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาย ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา มสฺสุกมฺมาทีนิ การาเปตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเตน ปริภุตฺตนานคฺครสโภชเนน เตน สทฺธึ สุขนิสินฺโน มาตาปิตูนํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา อนาคมนภาวํ สุณิ. สาโขปิ ‘‘โปตฺติโก มํ รฺโ สนฺติเก ปริภินฺเทยฺย, มยิ ปน คเต กิฺจิ วตฺตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ ตตฺเถว อคมาสิ. โปตฺติโก ตสฺส สนฺติเกเยว ราชานํ อามนฺเตตฺวา ‘‘เทว, อหํ มคฺคกิลนฺโต ‘สาขสฺส เคหํ คนฺตฺวา วิสฺสมิตฺวา อิธาคมิสฺสามี’ติ อคมึ. อถ มํ สาโข ‘นาหํ ตํ ชานามี’ติ วตฺวา โกฏฺฏาเปตฺวา คีวายํ คาหาเปตฺวา นีหราเปสีติ สทฺทเหยฺยาสิ ตฺวํ เอต’’นฺติ วตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๗๒.

‘‘น วาหเมตํ ชานามิ, โก วายํ กสฺส วาติ วา;

ยถา สาโข วทิ เอว, นิคฺโรธ กินฺติ มฺสิ.

๗๓.

‘‘ตโต คลวินีเตน, ปุริสา นีหรึสุ มํ;

ทตฺวา มุขปหารานิ, สาขสฺส วจนํกรา.

๗๔.

‘‘เอตาทิสํ ทุมฺมตินา, อกตฺุน ทุพฺภินา;

กตํ อนริยํ สาเขน, สขินา เต ชนาธิปา’’ติ.

ตตฺถ กินฺติ มฺสีติ ยถา มํ สาโข อจริ, กึ ตฺวมฺปิ เอวเมว มฺสิ, อุทาหุ อฺถา มฺสิ, มํ สาโข เอวํ วเทยฺยาติ สทฺทหสิ, ตํ น สทฺทหสีติ อธิปฺปาโย. คลวินีเตนาติ คลคฺคาเหน. ทุพฺภินาติ มิตฺตทุพฺภินา.

ตํ สุตฺวา นิคฺโรโธ จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๗๕.

‘‘น วาหเมตํ ชานามิ, นปิ เม โกจิ สํสติ;

ยํ เม ตฺวํ สมฺม อกฺขาสิ, สาเขน การณํ กตํ.

๗๖.

‘‘สขีนํ สาชีวกโร, มม สาขสฺส จูภยํ;

ตฺวํ โนสิสฺสริยํ ทาตา, มนุสฺเสสุ มหนฺตตํ;

ตยามา ลพฺภิตา อิทฺธี, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย.

๗๗.

‘‘ยถาปิ พีชมคฺคิมฺหิ, ฑยฺหติ น วิรูหติ;

เอวํ กตํ อสปฺปุริเส, นสฺสติ น วิรูหติ.

๗๘.

‘‘กตฺุมฺหิ จ โปสมฺหิ, สีลวนฺเต อริยวุตฺติเน;

สุเขตฺเต วิย พีชานิ, กตํ ตมฺหิ น นสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ สํสตีติ อาจิกฺขติ. การณํ กตนฺติ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนโปถนโกฏฺฏนสงฺขาตํ การณํ กตนฺติ อตฺโถ. สขีนํ สาชีวกโรติ สมฺม, โปตฺติก ตฺวํ สหายกานํ สุอาชีวกโร ชีวิกาย อุปฺปาเทตา. มม สาขสฺส จูภยนฺติ มยฺหฺจ สาขสฺส จ อุภินฺนมฺปิ สขีนนฺติ อตฺโถ. ตฺวํ โนสิสฺสริยนฺติ ตฺวํ โน อสิ อิสฺสริยํ ทาตา, ตว สนฺติกา อิมา สมฺปตฺตี อมฺเหหิ ลทฺธา. มหนฺตตนฺติ มหนฺตภาวํ.

เอวฺจ ปน วตฺวา เอตฺตกํ กเถนฺเต นิคฺโรเธ สาโข ตตฺเถว อฏฺาสิ. อถ นํ ราชา ‘‘สาข อิมํ โปตฺติกํ สฺชานาสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตุณฺหี อโหสิ. อถสฺส ราชา ทณฺฑํ อาณาเปนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๗๙.

‘‘อิมํ ชมฺมํ เนกติกํ, อสปฺปุริสจินฺตกํ;

หนนฺตุ สาขํ สตฺตีหิ, นาสฺส อิจฺฉามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ ชมฺมนฺติ ลามกํ. เนกติกนฺติ วฺจกํ.

ตํ สุตฺวา โปตฺติโก ‘‘มา เอส พาโล มํ นิสฺสาย นสฺสตู’’ติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –

๘๐.

‘‘ขมตสฺส มหาราช, ปาณา น ปฏิอานยา;

ขม เทว อสปฺปุริสสฺส, นาสฺส อิจฺฉามหํ วธ’’นฺติ.

ตตฺถ ขมตสฺสาติ ขมตํ อสฺส, เอตสฺส อสปฺปุริสสฺส ขมถาติ อตฺโถ. น ปฏิอานยาติ มตสฺส นาม ปาณา ปฏิอาเนตุํ น สกฺกา.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา สาขสฺส ขมิ, เสนาปติฏฺานมฺปิ โปตฺติกสฺเสว ทาตุกาโม อโหสิ, โส ปน น อิจฺฉิ. อถสฺส สพฺพเสนานีนํ วิจารณารหํ ภณฺฑาคาริกฏฺานํ นาม อทาสิ. ปุพฺเพ กิเรตํ านนฺตรํ นาโหสิ, ตโต ปฏฺาย ชาตํ. อปรภาเค โปตฺติโก ภณฺฑาคาริโก ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒมาโน อตฺตโน ปุตฺตธีตานํ โอวาทวเสน โอสานคาถมาห –

๘๑.

‘‘นิคฺโรธเมว เสเวยฺย, น สาขมุปสํวเส;

นิคฺโรธสฺมึ มตํ เสยฺโย, ยฺเจ สาขสฺมิ ชีวิต’’นฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, เทวทตฺโต ปุพฺเพปิ อกตฺูเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สาโข เทวทตฺโต อโหสิ, โปตฺติโก อานนฺโท, นิคฺโรโธ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

นิคฺโรธชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๔๔๖] ๘. ตกฺกลชาตกวณฺณนา

น ตกฺกลา สนฺติ น อาลุวานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ปิตุโปสกํ อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ทลิทฺทกุเล ปจฺจาชาโต มาตริ กาลกตาย ปาโตว อุฏฺาย ทนฺตกฏฺมุโขทกทานาทีนิ กโรนฺโต ภตึ วา กสึ วา กตฺวา ลทฺธวิภวานุรูเปน ยาคุภตฺตาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ปิตรํ โปเสสิ. อถ นํ ปิตา อาห – ‘‘ตาต, ตฺวํ เอกโกว อนฺโต จ พหิ จ กตฺตพฺพํ กโรสิ, เอกํ เต กุลทาริกํ อาเนสฺสามิ, สา เต เคเห กตฺตพฺพํ กริสฺสตี’’ติ. ‘‘ตาต, อิตฺถิโย นาม ฆรํ อาคตา เนว มยฺหํ, น ตุมฺหากํ จิตฺตสุขํ กริสฺสนฺติ, มา เอวรูปํ จินฺตยิตฺถ, อหํ ยาวชีวํ ตุมฺเห โปเสตฺวา ตุมฺหากํ อจฺจเยน ชานิสฺสามี’’ติ. อถสฺส ปิตา อนิจฺฉมานสฺเสว เอกํ กุมาริกํ อาเนสิ. สา สสุรสฺส จ สามิกสฺส จ อุปการิกา อโหสิ นีจวุตฺติ. สามิโกปิสฺสา ‘‘มม ปิตุ อุปการิกา’’ติ ตุสฺสิตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ มนาปํ อาหริตฺวา เทติ, สาปิ ตํ สสุรสฺเสว อุปนาเมสิ. สา อปรภาเค จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ สามิโก ลทฺธํ ลทฺธํ ปิตุ อทตฺวา มยฺหเมว เทติ, อทฺธา ปิตริ นิสฺเนโห ชาโต, อิมํ มหลฺลกํ เอเกนุปาเยน มม สามิกสฺส ปฏิกฺกูลํ กตฺวา เคหา นิกฺกฑฺฒาเปสฺสามี’’ติ.

สา ตโต ปฏฺาย อุทกํ อติสีตํ วา อจฺจุณฺหํ วา, อาหารํ อติโลณํ วา อโลณํ วา, ภตฺตํ อุตฺตณฺฑุลํ วา อติกิลินฺนํ วาติ เอวมาทีนิ ตสฺส โกธุปฺปตฺติการณานิ กตฺวา ตสฺมึ กุชฺฌนฺเต ‘‘โก อิมํ มหลฺลกํ อุปฏฺาตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ ผรุสานิ วตฺวา กลหํ วฑฺเฒสิ. ตตฺถ ตตฺถ เขฬปิณฺฑาทีนิ ฉฑฺเฑตฺวาปิ สามิกํ อุชฺฌาเปสิ ‘‘ปสฺส ปิตุ กมฺมํ, ‘อิทฺจิทฺจ มา กรี’ติ วุตฺเต กุชฺฌติ, อิมสฺมึ เคเห ปิตรํ วา วสาเปหิ มํ วา’’ติ. อถ นํ โส ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ ทหรา ยตฺถ กตฺถจิ ชีวิตุํ สกฺขิสฺสสิ, มยฺหํ ปิตา มหลฺลโก, ตฺวํ ตสฺส อสหนฺตี อิมมฺหา เคหา นิกฺขมา’’ติ อาห. สา ภีตา ‘‘อิโต ปฏฺาย เอวํ น กริสฺสามี’’ติ สสุรสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา ขมาเปตฺวา ปกตินิยาเมเนว ปฏิชคฺคิตุํ อารภิ. อถ โส อุปาสโก ปุริมทิวเสสุ ตาย อุพฺพาฬฺโห สตฺถุ สนฺติกํ ธมฺมสฺสวนาย อคนฺตฺวา ตสฺสา ปกติยา ปติฏฺิตกาเล อคมาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ, อุปาสก, สตฺตฏฺ ทิวสานิ ธมฺมสฺสวนาย นาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตํ การณํ กเถสิ. สตฺถา ‘‘อิทานิ ตาว ตสฺสา กถํ อคฺคเหตฺวา ปิตรํ น นีหราเปสิ, ปุพฺเพ ปน เอติสฺสา กถํ คเหตฺวา ปิตรํ อามกสุสานํ เนตฺวา อาวาฏํ ขณิตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา มารณกาเล อหํ สตฺตวสฺสิโก หุตฺวา มาตาปิตูนํ คุณํ กเถตฺวา ปิตุฆาตกกมฺมา นิวาเรสึ, ตทา ตฺวํ มม กถํ สุตฺวา ตว ปิตรํ ยาวชีวํ ปฏิชคฺคิตฺวา สคฺคปรายโณ ชาโต, สฺวายํ มยา ทินฺโน โอวาโท ภวนฺตรคตมฺปิ น วิชหติ, อิมินา การเณน ตสฺสา กถํ อคฺคเหตฺวา อิทานิ ตยา ปิตา น นีหโฏ’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต อฺตรสฺมึ กาสิคาเม เอกสฺส กุลสฺส ฆเร เอกปุตฺตโก อโหสิ นาเมน สวิฏฺโก นาม. โส มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺโต อปรภาเค มาตริ กาลกตาย ปิตรํ โปเสสีติ สพฺพํ วตฺถุ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุนิยาเมเนว กเถตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส. ตทา สา อิตฺถี ‘‘ปสฺส ปิตุ กมฺมํ, ‘อิทฺจิทฺจ มา กรี’ติ วุตฺเต กุชฺฌตี’’ติ วตฺวา ‘‘สามิ, ปิตา เต จณฺโฑ ผรุโส นิจฺจํ กลหํ กโรติ, ชราชิณฺโณ พฺยาธิปีฬิโต น จิรสฺเสว มริสฺสติ, อหฺจ เอเตน สทฺธึ เอกเคเห วสิตุํ น สกฺโกมิ, สยมฺเปส กติปาเหน มริสฺสติเยว, ตฺวํ เอตํ อามกสุสานํ เนตฺวา อาวาฏํ ขณิตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา กุทฺทาเลน สีสํ ฉินฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อุปริ ปํสุนา ฉาเทตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ อาห. โส ตาย ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโน ‘‘ภทฺเท, ปุริสมารณํ นาม ภาริยํ, กถํ นํ มาเรสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘อหํ เต อุปายํ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘อาจิกฺข ตาวา’’ติ. ‘‘สามิ, ตฺวํ ปจฺจูสกาเล ปิตุ นิสินฺนฏฺานํ คนฺตฺวา ยถา สพฺเพ สุณนฺติ, เอวํ มหาสทฺทํ กตฺวา ‘ตาต, อสุกคาเม ตุมฺหากํ อุทฺธารณโก อตฺถิ, มยิ คเต น เทติ, ตุมฺหากํ อจฺจเยน น ทสฺสเตว, สฺเว ยานเก นิสีทิตฺวา ปาโตว คจฺฉิสฺสามา’ติ วตฺวา เตน วุตฺตเวลายเมว อุฏฺาย ยานกํ โยเชตฺวา ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา อามกสุสานํ เนตฺวา อาวาฏํ ขณิตฺวา โจเรหิ อจฺฉินฺนสทฺทํ กตฺวา มาเรตฺวา อาวาเฏ ปกฺขิปิตฺวา สีสํ ฉินฺทิตฺวา นฺหายิตฺวา อาคจฺฉา’’ติ.

สวิฏฺโก ‘‘อตฺเถส อุปาโย’’ติ ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ยานกํ คมนสชฺชํ อกาสิ. ตสฺส ปเนโก สตฺตวสฺสิโก ปุตฺโต อตฺถิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต. โส มาตุ วจนํ สุตฺวา ‘‘มยฺหํ มาตา ปาปธมฺมา ปิตรํ เม ปิตุฆาตกมฺมํ กาเรติ, อหํ อิมสฺส ปิตุฆาตกมฺมํ กาตุํ น ทสฺสามี’’ติ สณิกํ คนฺตฺวา อยฺยเกน สทฺธึ นิปชฺชิ. สวิฏฺโกปิ อิตราย วุตฺตเวลาย ยานกํ โยเชตฺวา ‘‘เอหิ, ตาต, อุทฺธารํ โสเธสฺสามา’’ติ ปิตรํ ยานเก นิสีทาเปสิ. กุมาโรปิ ปมตรํ ยานกํ อภิรุหิ. สวิฏฺโก ตํ นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต เตเนว สทฺธึ อามกสุสานํ คนฺตฺวา ปิตรฺจ กุมารเกน สทฺธึ เอกมนฺเต เปตฺวา สยํ โอตริตฺวา กุทฺทาลปิฏกํ อาทาย เอกสฺมึ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน จตุรสฺสาวาฏํ ขณิตุํ อารภิ. กุมารโก โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อชานนฺโต วิย กถํ สมุฏฺาเปตฺวา ปมํ คาถมาห –

๘๒.

‘‘น ตกฺกลา สนฺติ น อาลุวานิ, น พิฬาลิโย น กฬมฺพานิ ตาต;

เอโก อรฺมฺหิ สุสานมชฺเฌ, กิมตฺถิโก ตาต ขณาสิ กาสุ’’นฺติ.

ตตฺถ น ตกฺกลา สนฺตีติ ปิณฺฑาลุกนฺทา น สนฺติ. อาลุวานีติ อาลุวกนฺทา. พิฬาลิโยติ พิฬาริวลฺลิกนฺทา. กฬมฺพานีติ ตาลกนฺทา.

อถสฺส ปิตา ทุติยํ คาถมาห –

๘๓.

‘‘ปิตามโห ตาต สุทุพฺพโล เต, อเนกพฺยาธีหิ ทุเขน ผุฏฺโ;

ตมชฺชหํ นิขณิสฺสามิ โสพฺเภ, น หิสฺส ตํ ชีวิตํ โรจยามี’’ติ.

ตตฺถ อเนกพฺยาธีหีติ อเนเกหิ พฺยาธีหิ อุปฺปนฺเนน ทุกฺเขน ผุฏฺโ. น หิสฺส ตนฺติ อหฺหิ ตสฺส ตว ปิตามหสฺส ตํ ทุชฺชีวิตํ น อิจฺฉามิ, ‘‘เอวรูปา ชีวิตา มรณเมวสฺส วร’’นฺติ มฺมาโน ตํ โสพฺเภ นิขณิสฺสามีติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร อุปฑฺฒํ คาถมาห –

๘๔.

‘‘สงฺกปฺปเมตํ ปฏิลทฺธ ปาปกํ, อจฺจาหิตํ กมฺม กโรสิ ลุทฺท’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ตาต, ตฺวํ ‘‘ปีตรํ ทุกฺขา ปโมเจสฺสามี’’ติ มรณทุกฺเขน โยเชนฺโต เอตํ ปาปกํ สงฺกปฺปํ ปฏิลทฺธา ตสฺส จ สงฺกปฺปวเสน หิตํ อติกฺกมฺม ิตตฺตา อจฺจาหิตํ กมฺมํ กโรสิ ลุทฺทนฺติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา กุมาโร ปิตุ หตฺถโต กุทฺทาลํ คเหตฺวา อวิทูเร อฺตรํ อาวาฏํ ขณิตุํ อารภิ. อถ นํ ปิตา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กสฺมา, ตาต, อาวาฏํ ขณสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตสฺส กเถนฺโต ตติยํ คาถมาห –

‘‘มยาปิ ตาต ปฏิลจฺฉเส ตุวํ, เอตาทิสํ กมฺม ชรูปนีโต;

ตํ กุลฺลวตฺตํ อนุวตฺตมาโน, อหมฺปิ ตํ นิขณิสฺสามิ โสพฺเภ’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ตาต, อหมฺปิ เอตสฺมึ โสพฺเภ ตํ มหลฺลกกาเล นิขณิสฺสามิ, อิติ โข ตาต, มยาปิ กเต อิมสฺมึ โสพฺเภ ตุวํ ชรูปนีโต เอตาทิสํ กมฺมํ ปฏิลจฺฉเส, ยํ เอตํ ตยา ปวตฺติตํ กุลวตฺตํ, ตํ อนุวตฺตมาโน วยปฺปตฺโต ภริยาย สทฺธึ วสนฺโต อหมฺปิ ตํ นิขณิสฺสามิ โสพฺเภติ.

อถสฺส ปิตา จตุตฺถํ คาถมาห –

๘๕.

‘‘ผรุสาหิ วาจาหิ ปกุพฺพมาโน, อาสชฺช มํ ตฺวํ วทเส กุมาร;

ปุตฺโต มมํ โอรสโก สมาโน, อหีตานุกมฺปี มม ตฺวํสิ ปุตฺตา’’ติ.

ตตฺถ ปกุพฺพมาโนติ อภิภวนฺโต. อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา.

เอวํ วุตฺเต ปณฺฑิตกุมารโก เอกํ ปฏิวจนคาถํ, ทฺเว อุทานคาถาติ ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๘๖.

‘‘น ตาหํ ตาต อหิตานุกมฺปี, หิตานุกมฺปี เต อหมฺปิ ตาต;

ปาปฺจ ตํ กมฺม ปกุพฺพมานํ, อรหามิ โน วารยิตุํ ตโต.

๘๗.

‘‘โย มาตรํ วา ปิตรํ สวิฏฺ, อทูสเก หึสติ ปาปธมฺโม;

กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ โส นิรยํ อุเปติ.

๘๘.

‘‘โย มาตรํ วา ปิตรํ สวิฏฺ, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหาติ;

กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ โส สุคตึ อุเปตี’’ติ. –

อิมํ ปน ปุตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปิตา อฏฺมํ คาถมาห –

๘๙.

‘‘น เม ตฺวํ ปุตฺต อหิตานุกมฺปี, หิตานุกมฺปี เม ตฺวํสิ ปุตฺต;

อหฺจ ตํ มาตรา วุจฺจมาโน, เอตาทิสํ กมฺม กโรมิ ลุทฺท’’นฺติ.

ตตฺถ อหฺจ ตํ มาตราติ อหฺจ เต มาตรา, อยเมว วา ปาโ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร ‘‘ตาต, อิตฺถิโย นาม อุปฺปนฺเน โทเส อนิคฺคยฺหมานา ปุนปฺปุนํ ปาปํ กโรนฺติ, มม มาตา ยถา ปุน เอวรูปํ น กโรติ, ตถา นํ ปณาเมตุํ วฏฺฏตี’’ติ นวมํ คาถมาห –

๙๐.

‘‘ยา เต สา ภริยา อนริยรูปา, มาตา มเมสา สกิยา ชเนตฺติ;

นิทฺธาปเย ตฺจ สกา อคารา, อฺมฺปิ เต สา ทุขมาวเหยฺยา’’ติ.

สวิฏฺโก ปณฺฑิตปุตฺตสฺส กถํ สุตฺวา โสมนสฺสชาโต หุตฺวา ‘‘คจฺฉาม, ตาตา’’ติ สทฺธึ ปุตฺเตน จ ปิตรา จ ยานเก นิสีทิตฺวา ปายาสิ. สาปิ โข อนาจารา ‘‘นิกฺขนฺตา โน เคหา กาฬกณฺณี’’ติ หฏฺตุฏฺา อลฺลโคมเยน เคหํ อุปลิมฺเปตฺวา ปายาสํ ปจิตฺวา อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี เต อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘นิกฺขนฺตํ กาฬกณฺณึ ปุน คเหตฺวา อาคโต’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘อเร นิกติก, นิกฺขนฺตํ กาฬกณฺณึ ปุน อาทาย อาคโตสี’’ติ ปริภาสิ. สวิฏฺโก กิฺจิ อวตฺวา ยานกํ โมเจตฺวา ‘‘อนาจาเร กึ วเทสี’’ติ ตํ สุโกฏฺฏิตํ โกฏฺเฏตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย มา อิมํ เคหํ ปาวิสี’’ติ ปาเท คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒิ. ตโต ปิตรฺจ ปุตฺตฺจ นฺหาเปตฺวา สยมฺปิ นฺหายิตฺวา ตโยปิ ปายาสํ ปริภุฺชึสุ. สาปิ ปาปธมฺมา กติปาหํ อฺสฺมึ เคเห วสิ. ตสฺมึ กาเล ปุตฺโต ปิตรํ อาห – ‘‘ตาต, มม มาตา เอตฺตเกน น พุชฺฌติ, ตุมฺเห มม มาตุ มงฺกุภาวกรณตฺถํ ‘อสุกคามเก มม มาตุลธีตา อตฺถิ, สา มยฺหํ ปิตรฺจ ปุตฺตฺจ มฺจ ปฏิชคฺคิสฺสติ, ตํ อาเนสฺสามี’ติ วตฺวา มาลาคนฺธาทีนิ อาทาย ยานเกน นิกฺขมิตฺวา เขตฺตํ อนุวิจริตฺวา สายํ อาคจฺฉถา’’ติ. โส ตถา อกาสิ.

ปฏิวิสฺสกกุเล อิตฺถิโย ‘‘สามิโก กิร เต อฺํ ภริยํ อาเนตุํ อสุกคามํ นาม คโต’’ติ ตสฺสา อาจิกฺขึสุ. สา ‘‘ทานิมฺหิ นฏฺา, นตฺถิ เม ปุน โอกาโส’’ติ ภีตา ตสิตา หุตฺวา ‘‘ปุตฺตเมว ยาจิสฺสามี’’ติ ปณฺฑิตปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘ตาต, ตํ เปตฺวา อฺโ มม ปฏิสรณํ นตฺถิ, อิโต ปฏฺาย ตว ปิตรฺจ ปิตามหฺจ อลงฺกตเจติยํ วิย ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ปุน มยฺหํ อิมสฺมึ ฆเร ปเวสนํ กโรหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, อมฺม, สเจ ปุน เอวรูปํ น กริสฺสถ, กริสฺสามิ, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ วตฺวา ปิตุ อาคตกาเล ทสมํ คาถมาห –

๙๑.

‘‘ยา เต สา ภริยา อนริยรูปา, มาตา มเมสา สกิยา ชเนตฺติ;

ทนฺตา กเรณูว วสูปนีตา, สา ปาปธมฺมา ปุนราวชาตู’’ติ.

ตตฺถ กเรณูวาติ ตาต, อิทานิ สา อาเนฺชการณํ การิกา หตฺถินี วิย ทนฺตา วสํ อุปนีตา นิพฺพิเสวนา ชาตา. ปุนราคชาตูติ ปุน อิมํ เคหํ อาคจฺฉตูติ.

เอวํ โส ปิตุ ธมฺมํ กเถตฺวา คนฺตฺวา มาตรํ อาเนสิ. สา สามิกฺจ สสุรฺจ ขมาเปตฺวา ตโต ปฏฺาย ทนฺตา ธมฺเมน สมนฺนาคตา หุตฺวา สามิกฺจ สสุรฺจ ปุตฺตฺจ ปฏิชคฺคิ. อุโภปิ จ ปุตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กริตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ปิตุโปสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ปิตา จ ปุตฺโต จ สุณิสา จ เตเยว อเหสุํ, ปณฺฑิตกุมาโร ปน อหเมว อโหสินฺติ.

ตกฺกลชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๔๔๗] ๙. มหาธมฺมปาลชาตกวณฺณนา

กึ เต วตนฺติ อิทํ สตฺถา ปมคมเนน กปิลปุรํ คนฺตฺวา นิคฺโรธาราเม วิหรนฺโต ปิตุ นิเวสเน รฺโ อสทฺทหนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สุทฺโธทนมหาราชา วีสติสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส ภควโต อตฺตโน นิเวสเน ยาคุขชฺชกํ ทตฺวา อนฺตราภตฺเต สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺโต ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปธานกาเล เทวตา อาคนฺตฺวา อากาเส ตฺวา ‘ปุตฺโต เต สิทฺธตฺถกุมาโร อปฺปาหารตาย มโต’ติ มยฺหํ อาโรเจสุ’’นฺติ อาห. สตฺถารา จ ‘‘สทฺทหิ, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘น สทฺทหึ, ภนฺเต, อากาเส ตฺวา กเถนฺติโยปิ เทวตา, ‘มม ปุตฺตสฺส โพธิตเล พุทฺธตฺตํ อปฺปตฺวา ปรินิพฺพานํ นาม นตฺถี’ติ ปฏิกฺขิปิ’’นฺติ อาห. ‘‘มหาราช, ปุพฺเพปิ ตฺวํ มหาธมฺมปาลกาเลปิ ‘ปุตฺโต เต มโต อิมานิสฺส อฏฺีนี’ติ ทสฺเสตฺวา วทนฺตสฺสปิ ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส ‘อมฺหากํ กุเล ตรุณกาเล กาลกิริยา นาม นตฺถี’ติ น สทฺทหิ, อิทานิ ปน กสฺมา สทฺทหิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต กาสิรฏฺเ ธมฺมปาลคาโม นาม อโหสิ. โส ธมฺมปาลกุลสฺส วสนตาย เอตํ นามํ ลภิ. ตตฺถ ทสนฺนํ กุสลกมฺมปถานํ ปาลนโต ‘‘ธมฺมปาโล’’ตฺเวว ปฺาโต พฺราหฺมโณ ปฏิวสติ, ตสฺส กุเล อนฺตมโส ทาสกมฺมกราปิ ทานํ เทนฺติ, สีลํ รกฺขนฺติ, อุโปสถกมฺมํ กโรนฺติ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺมึ กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘ธมฺมปาลกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. อถ นํ วยปฺปตฺตํ ปิตา สหสฺสํ ทตฺวา สิปฺปุคฺคหณตฺถาย ตกฺกสิลํ เปเสสิ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหิ, ปฺจนฺนํ มาณวกสตานํ เชฏฺนฺเตวาสิโก อโหสิ. ตทา อาจริยสฺส เชฏฺปุตฺโต กาลมกาสิ. อาจริโย มาณวกปริวุโต าติคเณน สทฺธึ โรทนฺโต กนฺทนฺโต สุสาเน ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรติ. ตตฺถ อาจริโย จ าติวคฺโค จสฺส อนฺเตวาสิกา จ โรทนฺติ ปริเทวนฺติ, ธมฺมปาโลเยเวโก น โรทติ น ปริเทวติ. อปิจ โข ปน เตสุ ปฺจสเตสุ มาณเวสุ สุสานา อาคมฺม อาจริยสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ‘‘อโห เอวรูโป นาม อาจารสมฺปนฺโน ตรุณมาณโว ตรุณกาเลเยว มาตาปิตูหิ วิปฺปยุตฺโต มรณปฺปตฺโต’’ติ วทนฺเตสุ ‘‘สมฺมา, ตุมฺเห ‘ตรุโณ’ติ ภณถ, อถ กสฺมา ตรุณกาเลเยว มรติ, นนุ อยุตฺตํ ตรุณกาเล มริตุ’’นฺติ อาห.

อถ นํ เต อาหํสุ ‘‘กึ ปน สมฺม, ตฺวํ อิเมสํ สตฺตานํ มรณภาวํ น ชานาสี’’ติ? ชานามิ, ตรุณกาเล ปน น มรนฺติ, มหลฺลกกาเลเยว มรนฺตีติ. นนุ อนิจฺจา สพฺเพ สงฺขารา หุตฺวา อภาวิโนติ? ‘‘สจฺจํ อนิจฺจา, ทหรกาเล ปน สตฺตา น มรนฺติ, มหลฺลกกาเล มรนฺติ, อนิจฺจตํ ปาปุณนฺตี’’ติ. ‘‘กึ สมฺม, ธมฺมปาล, ตุมฺหากํ เคเห น เกจิ มรนฺตี’’ติ? ‘‘ทหรกาเล ปน น มรนฺติ, มหลฺลกกาเลเยว มรนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปเนสา ตุมฺหากํ กุลปเวณี’’ติ? ‘‘อาม กุลปเวณี’’ติ. มาณวา ตํ ตสฺส กถํ อาจริยสฺส อาโรเจสุํ. อถ นํ โส ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘สจฺจํ กิร ตาต ธมฺมปาล, ตุมฺหากํ กุเล ทหรกาเล น มียนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ อาจริยา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ อติวิย อจฺฉริยํ วทติ, อิมสฺส ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา สเจ เอตํ สจฺจํ, อหมฺปิ ตเมว ธมฺมํ ปูเรสฺสามี’’ติ. โส ปุตฺตสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา สตฺตฏฺทิวสจฺจเยน ธมฺมปาลํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, อหํ ขิปฺปํ อาคมิสฺสามิ, ยาว มมาคมนา อิเม มาณเว สิปฺปํ วาเจหี’’ติ วตฺวา เอกสฺส เอฬกสฺส อฏฺีนิ คเหตฺวา โธวิตฺวา ปสิพฺพเก กตฺวา เอกํ จูฬุปฏฺากํ อาทาย ตกฺกสิลโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ตํ คามํ ปตฺวา ‘‘กตรํ มหาธมฺมปาลสฺส เคห’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา ทฺวาเร อฏฺาสิ. พฺราหฺมณสฺส ทาสมนุสฺเสสุ โย โย ปมํ อทฺทส, โส โส อาจริยสฺส หตฺถโต ฉตฺตํ คณฺหิ, อุปาหนํ คณฺหิ, อุปฏฺากสฺสปิ หตฺถโต ปสิพฺพกํ คณฺหิ. ‘‘ปุตฺตสฺส โว ธมฺมปาลกุมารสฺส อาจริโย ทฺวาเร ิโตติ กุมารสฺส ปิตุ อาโรเจถา’’ติ จ วุตฺตา ‘‘สาธู’’ติ คนฺตฺวา อาโรจยึสุ. โส เวเคน ทฺวารมูลํ คนฺตฺวา ‘‘อิโต เอถา’’ติ ตํ ฆรํ อภิเนตฺวา ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา สพฺพํ ปาทโธวนาทิกิจฺจํ อกาสิ.

อาจริโย ภุตฺตโภชโน สุขกถาย นิสินฺนกาเล ‘‘พฺราหฺมณ, ปุตฺโต เต ธมฺมปาลกุมาโร ปฺวา ติณฺณํ เวทานํ อฏฺารสนฺนฺจ สิปฺปานํ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต, อปิจ โข ปเนเกน อผาสุเกน ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต, สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, มา โสจิตฺถา’’ติ อาห. พฺราหฺมโณ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสิ. ‘‘กึ นุ พฺราหฺมณ, หสสี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต น มรติ, อฺโ โกจิ มโต ภวิสฺสตี’’ติ อาห. ‘‘พฺราหฺมณ, ปุตฺโตเยว เต มโต, ปุตฺตสฺเสว เต อฏฺีนิ ทิสฺวา สทฺทหา’’ติ อฏฺีนิ นีหริตฺวา ‘‘อิมานิ เต ปุตฺตสฺส อฏฺีนี’’ติ อาห. เอตานิ เอฬกสฺส วา สุนขสฺส วา ภวิสฺสนฺติ, มยฺหํ ปน ปุตฺโต น มรติ, อมฺหากาฺหิ กุเล ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ตรุณกาเล มตปุพฺพา นาม นตฺถิ, ตฺวํ มุสา ภณสีติ. ตสฺมึ ขเณ สพฺเพปิ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสึสุ. อาจริโย ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, ตุมฺหากํ กุลปเวณิยํ ทหรานํ อมรเณน น สกฺกา อเหตุเกน ภวิตุํ, เกน โว การเณน ทหรา น มียนฺตี’’ติ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๙๒.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อกฺขาหิ เม พฺราหฺมณ เอตมตฺถํ, กสฺมา นุ ตุมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ.

ตตฺถ วตนฺติ วตสมาทานํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. กิสฺส สุจิณฺณสฺสาติ ตุมฺหากํ กุเล ทหรานํ อมรณํ นาม กตรสุจริตสฺส วิปาโกติ.

ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ เยสํ คุณานํ อานุภาเวน ตสฺมึ กุเล ทหรา น มียนฺติ, เต วณฺณยนฺโต –

๙๓.

‘‘ธมฺมํ จราม น มุสา ภณาม, ปาปานิ กมฺมานิ ปริวชฺชยาม;

อนริยํ ปริวชฺเชมุ สพฺพํ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๙๔.

‘‘สุโณม ธมฺมํ อสตํ สตฺจ, น จาปิ ธมฺมํ อสตํ โรจยาม;

หิตฺวา อสนฺเต น ชหาม สนฺเต, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๙๕.

‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมนา ภวาม, ททมฺปิ เว อตฺตมนา ภวาม;

ทตฺวาปิ เว นานุตปฺปาม ปจฺฉา, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๙๖.

‘‘สมเณ มยํ พฺราหฺมเณ อทฺธิเก จ, วนิพฺพเก ยาจนเก ทลิทฺเท;

อนฺเนน ปาเนน อภิตปฺปยาม, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๙๗.

‘‘มยฺจ ภริยํ นาติกฺกมาม, อมฺเห จ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;

อฺตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๙๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมาม สพฺเพ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยาม;

อมชฺชปา โนปิ มุสา ภณาม, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๙๙.

‘‘เอตาสุ เว ชายเร สุตฺตมาสุ, เมธาวิโน โหนฺติ ปหูตปฺา;

พหุสฺสุตา เวทคุโน จ โหนฺติ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๑๐๐.

‘‘มาตา ปิตา จ ภคินี ภาตโร จ, ปุตฺตา จ ทารา จ มยฺจ สพฺเพ;

ธมฺมํ จราม ปรโลกเหตุ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร.

๑๐๑.

‘‘ทาสา จ ทาสฺโย อนุชีวิโน จ, ปริจารกา กมฺมกรา จ สพฺเพ;

ธมฺมํ จรนฺติ ปรโลกเหตุ, ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ. –

อิมา คาถา อาห.

ตตฺถ ธมฺมํ จรามาติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จราม, อตฺตโน ชีวิตเหตุ อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกมฺปิ ชีวิตา น โวโรเปม, ปรภณฺฑํ โลภจิตฺเตน น โอโลเกมาติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. มุสาวาโท เจตฺถ มุสาวาทิสฺส อกรณปาปํ นาม นตฺถีติ อุสฺสนฺนวเสน ปุน วุตฺโต. เต กิร หสาธิปฺปาเยนปิ มุสา น ภณนฺติ. ปาปานีติ สพฺพานิ นิรยคามิกมฺมานิ. อนริยนฺติ อริยครหิตํ สพฺพํ อสุนฺทรํ อปริสุทฺธํ กมฺมํ ปริวชฺชยาม. ตสฺมา หิ อมฺหนฺติ เอตฺถ หิ-กาโร นิปาตมตฺโต, เตน การเณน อมฺหากํ ทหรา น มียนฺติ, อนฺตรา อกาลมรณํ นาม โน นตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘ตสฺมา อมฺห’’นฺติปิ ปาโ. สุโณมาติ มยํ กิริยวาทานํ สปฺปุริสานํ กุสลทีปนมฺปิ อสปฺปุริสานํ อกุสลทีปนมฺปิ ธมฺมํ สุโณม, โส ปน โน สุตมตฺตโกว โหติ, ตํ น โรจยาม. เตหิ ปน โน สทฺธึ วิคฺคโห วา วิวาโท วา มา โหตูติ ธมฺมํ สุณาม, สุตฺวาปิ หิตฺวา อสนฺเต สนฺเต วตฺตาม, เอกมฺปิ ขณํ น ชหาม สนฺเต, ปาปมิตฺเต ปหาย กลฺยาณมิตฺตเสวิโนว โหมาติ.

สมเณ มยํ พฺราหฺมเณติ มยํ สมิตปาเป พาหิตปาเป ปจฺเจกพุทฺธสมณพฺราหฺมเณปิ อวเสสธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณปิ อทฺธิกยาจเก เสสชเนปิ อนฺนปาเนน อภิตปฺเปมาติ อตฺโถ. ปาฬิยํ ปน อยํ คาถา ‘‘ปุพฺเพว ทานา’’ติ คาถาย ปจฺฉโต อาคตา. นาติกฺกมามาติ อตฺตโน ภริยํ อติกฺกมิตฺวา พหิ อฺํ มิจฺฉาจารํ น กโรม. อฺตฺร ตาหีติ ตา อตฺตโน ภริยา เปตฺวา เสสอิตฺถีสุ พฺรหฺมจริยํ จราม, อมฺหากํ ภริยาปิ เสสปุริเสสุ เอวเมว วตฺตนฺติ. ชายเรติ ชายนฺติ. สุตฺตมาสูติ สุสีลาสุ อุตฺตมิตฺถีสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย เอตาสุ สมฺปนฺนสีลาสุ อุตฺตมิตฺถีสุ อมฺหากํ ปุตฺตา ชายนฺติ, เต เมธาวิโนติ เอวํปการา โหนฺติ, กุโต เตสํ อนฺตรา มรณํ, ตสฺมาปิ อมฺหากํ กุเล ทหรา น มรนฺตีติ. ธมฺมํ จรามาติ ปรโลกตฺถาย ติวิธสุจริตธมฺมํ จราม. ทาสฺโยติ ทาสิโย.

อวสาเน

๑๐๒.

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหติ;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.

๑๐๓.

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ วิย วสฺสกาเล;

ธมฺเมน คุตฺโต มม ธมฺมปาโล, อฺสฺส อฏฺีนิ สุขี กุมาโร’’ติ. –

อิมาหิ ทฺวีหิ คาถาหิ ธมฺมจารีนํ คุณํ กเถสิ.

ตตฺถ รกฺขตีติ ธมฺโม นาเมโส รกฺขิโต อตฺตโน รกฺขิตํ ปฏิรกฺขติ. สุขมาวหตีติ เทวมนุสฺสสุขฺเจว นิพฺพานสุขฺจ อาวหติ. ทุคฺคตินฺติ นิรยาทิเภทํ ทุคฺคตึ น คจฺฉติ. เอวํ พฺราหฺมณ, มยํ ธมฺมํ รกฺขาม, ธมฺโมปิ อมฺเห รกฺขตีติ ทสฺเสติ. ธมฺเมน คุตฺโตติ มหาฉตฺตสทิเสน อตฺตนา โคปิตธมฺเมน คุตฺโต. อฺสฺส อฏฺีนีติ ตยา อานีตานิ อฏฺีนิ อฺสฺส เอฬกสฺส วา สุนขสฺส วา อฏฺีนิ ภวิสฺสนฺติ, ฉฑฺเฑเถตานิ, มม ปุตฺโต สุขี กุมาโรติ.

ตํ สุตฺวา อาจริโย ‘‘มยฺหํ อาคมนํ สุอาคมนํ, สผลํ, โน นิปฺผล’’นฺติ สฺชาตโสมนสฺโส ธมฺมปาลสฺส ปิตรํ ขมาเปตฺวา ‘‘มยา อาคจฺฉนฺเตน ตุมฺหากํ วีมํสนตฺถาย อิมานิ เอฬกอฏฺีนิ อาภตานิ, ปุตฺโต เต อโรโคเยว, ตุมฺหากํ รกฺขิตธมฺมํ มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ ปณฺเณ ลิขิตฺวา กติปาหํ ตตฺถ วสิตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ธมฺมปาลํ สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขาเปตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน เปเสสิ.

สตฺถา สุทฺโธทนมหาราชสฺส อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ราชา อนาคามิผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, อาจริโย สาริปุตฺโต, ปริสา พุทฺธปริสา, ธมฺมปาลกุมาโร ปน อหเมว อโหสินฺติ.

มหาธมฺมปาลชาตกวณฺณนา นวมา.

[๔๔๘] ๑๐. กุกฺกุฏชาตกวณฺณนา

นาสฺมเส กตปาปมฺหีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส วธาย ปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิ. ธมฺมสภายฺหิ ภิกฺขู เทวทตฺตสฺส อคุณกถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ธนุคฺคหาทิปโยชเนน ทสพลสฺส วธตฺถเมว อุปายํ กโรตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอส มยฺหํ วธาย ปริสกฺกิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต โกสมฺพิยํ โกสมฺพโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต เอกสฺมึ เวฬุวเน กุกฺกุฏโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อเนกสตกุกฺกุฏปริวาโร อรฺเ วสติ, ตสฺสาวิทูเร เอโก เสโน วสติ. โส อุปาเยน เอเกกํ กุกฺกุฏํ คเหตฺวา ขาทนฺโต เปตฺวา โพธิสตฺตํ เสเส ขาทิ, โพธิสตฺโต เอกโกว อโหสิ. โส อปฺปมตฺโต เวลาย โคจรํ คเหตฺวา เวฬุวนํ ปวิสิตฺวา วสติ. โส เสโน ตํ คณฺหิตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เอเกน นํ อุปาเยน อุปลาเปตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺสาวิทูเร สาขาย นิลียิตฺวา ‘‘สมฺม กุกฺกุฏราช, ตฺวํ มยฺหํ กสฺมา ภายสิ, อหํ ตยา สทฺธึ วิสฺสาสํ กตฺตุกาโม, อสุกสฺมึ นาม ปเทเส สมฺปนฺนโคจโร, ตตฺถ อุโภปิ โคจรํ คเหตฺวา อฺมฺํ ปิยสํวาสํ วสิสฺสามา’’ติ อาห. อถ นํ โพธิสตฺโต อาห ‘‘สมฺม, มยฺหํ ตยา สทฺธึ วิสฺสาโส นาม นตฺถิ, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ. ‘‘สมฺม, ตฺวํ มยา ปุพฺเพ กตปาปตาย น สทฺทหสิ, อิโต ปฏฺาย เอวรูปํ น กริสฺสามี’’ติ. ‘‘น มยฺหํ ตาทิเสน สหาเยนตฺโถ, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ. อิติ นํ ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘เอเตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ปุคฺคเลน สทฺธึ วิสฺสาโส นาม กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วนฆฏํ อุนฺนาเทนฺโต เทวตาสุ สาธุการํ ททมานาสุ ธมฺมกถํ สมุฏฺาเปนฺโต –

๑๐๔.

‘‘นาสฺมเส กตปาปมฺหิ, นาสฺมเส อลิกวาทิเน;

นาสฺมเส อตฺตตฺถปฺมฺหิ, อติสนฺเตปิ นาสฺมเส.

๑๐๕.

‘‘ภวนฺติ เหเก ปุริสา, โคปิปาสิกชาติกา;

ฆสนฺติ มฺเ มิตฺตานิ, วาจาย น จ กมฺมุนา.

๑๐๖.

‘‘สุกฺขฺชลิปคฺคหิตา, วาจาย ปลิคุณฺิตา;

มนุสฺสเผคฺคู นาสีเท, ยสฺมึ นตฺถิ กตฺุตา.

๑๐๗.

‘‘น หิ อฺฺจิตฺตานํ, อิตฺถีนํ ปุริสาน วา;

นานาวิกตฺวา สํสคฺคํ, ตาทิสมฺปิ จ นาสฺมเส.

๑๐๘.

‘‘อนริยกมฺมโมกฺกนฺตํ, อเถตํ สพฺพฆาตินํ;

นิสิตํว ปฏิจฺฉนฺนํ, ตาทิสมฺปิ จ นาสฺมเส.

๑๐๙.

‘‘มิตฺตรูเปนิเธกจฺเจ, สาขลฺเยน อเจตสา;

วิวิเธหิ อุปายนฺติ, ตาทิสมฺปิ จ นาสฺมเส.

๑๑๐.

‘‘อามิสํ วา ธนํ วาปิ, ยตฺถ ปสฺสติ ตาทิโส;

ทุพฺภึ กโรติ ทุมฺเมโธ, ตฺจ หนฺตฺวาน คจฺฉตี’’ติ. – อิมา คาถา อาห;

ตตฺถ นาสฺมเสติ นาสฺสเส. อยเมว วา ปาโ, น วิสฺสเสติ วุตฺตํ โหติ. กตปาปมฺหีติ ปมํ กตปาเป ปุคฺคเล. อลิกวาทิเนติ มุสาวาทิมฺหิปิ น วิสฺสเส. ตสฺส หิ อกตฺตพฺพํ นาม ปาปํ นตฺถิ. นาสฺมเส อตฺตตฺถปฺมฺหีติ อตฺตโน อตฺถาย เอว ยสฺส ปฺา สฺเนหวเสน น ภชติ, ธนตฺถิโกว ภชติ, ตสฺมึ อตฺตตฺถปฺเปิ น วิสฺสเส. อติสนฺเตติ อนฺโต อุปสเม อวิชฺชมาเนเยว จ พหิ อุปสมทสฺสเนน อติสนฺเต วิย ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺเตปิ พิลปฏิจฺฉนฺนอาสีวิสสทิเส กุหกปุคฺคเล. โคปิปาสิกชาติกาติ คุนฺนํ ปิปาสกชาติกา วิย, ปิปาสิตโคสทิสาติ วุตฺตํ โหติ. ยถา ปิปาสิตคาโว ติตฺถํ โอตริตฺวา มุขปูรํ อุทกํ ปิวนฺติ, น ปน อุทกสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ กโรนฺติ, เอวเมว เอกจฺเจ ‘‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’’ติ มธุรวจเนน มิตฺตานิ ฆสนฺติ, ปิยวจนานุจฺฉวิกํ ปน น กโรนฺติ, ตาทิเสสุ วิสฺสาโส มหโต อนตฺถาย โหตีติ ทีเปติ.

สุกฺขฺชลิปคฺคหิตาติ ปคฺคหิตตุจฺฉอฺชลิโน. วาจาย ปลิคุณฺิตาติ ‘‘อิทํ ทสฺสาม, อิทํ กริสฺสามา’’ติ วจเนน ปฏิจฺฉาทิกา. มนุสฺสเผคฺคูติ เอวรูปา อสารกา มนุสฺสา มนุสฺสเผคฺคู นาม. นาสีเทติ น อาสีเท เอวรูเป น อุปคจฺเฉยฺย. ยสฺมึ นตฺถีติ ยสฺมิฺจ ปุคฺคเล กตฺุตา นตฺถิ, ตมฺปิ นาสีเทติ อตฺโถ. อฺฺจิตฺตานนฺติ อฺเนฺเน จิตฺเตน สมนฺนาคตานํ, ลหุจิตฺตานนฺติ อตฺโถ. เอวรูปานํ อิตฺถีนํ วา ปุริสานํ วา น วิสฺสเสติ ทีเปติ. นานาวิกตฺวา สํสคฺคนฺติ โยปิ น สกฺกา อนุปคนฺตฺวา เอตสฺส อนฺตรายํ กาตุนฺติ อนฺตรายกรณตฺถํ นานาการเณหิ สํสคฺคมาวิกตฺวา ทฬฺหํ กริตฺวา ปจฺฉา อนฺตรายํ กโรติ, ตาทิสมฺปิ ปุคฺคลํ นาสฺมเส น วิสฺสเสยฺยาติ ทีเปติ.

อนริยกมฺมโมกฺกนฺตติ อนริยานํ ทุสฺสีลานํ กมฺมํ โอตริตฺวา ิตํ. อเถตนฺติ อถิรํ อปฺปติฏฺิตวจนํ. สพฺพฆาตินนฺติ โอกาสํ ลภิตฺวา สพฺเพสํ อุปฆาตกรํ. นิสิตํว ปฏิจฺฉนฺนนฺติ โกสิยา วา ปิโลติกาย วา ปฏิจฺฉนฺนํ นิสิตขคฺคมิว. ตาทิสมฺปีติ เอวรูปมฺปิ อมิตฺตํ มิตฺตปติรูปกํ น วิสฺสเสยฺย. สาขลฺเยนาติ มฏฺวจเนน. อเจตสาติ อจิตฺตเกน. วจนเมว หิ เนสํ มฏฺํ, จิตฺตํ ปน ถทฺธํ ผรุสํ. วิวิเธหีติ วิวิเธหิ อุปาเยหิ โอตาราเปกฺขา อุปคจฺฉนฺติ. ตาทิสมฺปีติ โย เอเตหิ อมิตฺเตหิ มิตฺตปติรูปเกหิ สทิโส โหติ, ตมฺปิ น วิสฺสเสติ อตฺโถ. อามิสนฺติ ขาทนียโภชนียํ. ธนนฺติ มฺจปฏิปาทกํ อาทึ กตฺวา อวเสสํ. ยตฺถ ปสฺสตีติ สหายกเคเห ยสฺมึ าเน ปสฺสติ. ทุพฺภึ กโรตีติ ทุพฺภิจิตฺตํ อุปฺปาเทติ, ตํ ธนํ หรติ. ตฺจ หนฺตฺวานาติ ตฺจ สหายกมฺปิ เฉตฺวา คจฺฉติ. อิติ อิมา สตฺต คาถา กุกฺกุฏราชา กเถสิ.

๑๑๑.

‘‘มิตฺตรูเปน พหโว, ฉนฺนา เสวนฺติ สตฺตโว;

ชเห กาปุริเส เหเต, กุกฺกุโฏ วิย เสนกํ.

๑๑๒.

‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, น ขิปฺปมนุพุชฺฌติ;

อมิตฺตวสมนฺเวติ, ปจฺฉา จ มนุตปฺปติ.

๑๑๓.

‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, ขิปฺปเมว นิโพธติ;

มุจฺจเต สตฺตุสมฺพาธา, กุกฺกุโฏ วิย เสนกา.

๑๑๔.

‘‘ตํ ตาทิสํ กูฏมิโวฑฺฑิตํ วเน, อธมฺมิกํ นิจฺจวิธํสการินํ;

อารา วิวชฺเชยฺย นโร วิจกฺขโณ, เสนํ ยถา กุกฺกุโฏ วํสกานเน’’ติ. –

อิมา จตสฺโส ธมฺมราเชน ภาสิตา อภิสมฺพุทฺธคาถา.

ตตฺถ ชเห กาปุริเส เหเตติ ภิกฺขเว, เอเต กาปุริเส ปณฺฑิโต ชเหยฺย. -กาโร ปเนตฺถ นิปาตมตฺตํ. ปจฺฉา จ มนุตปฺปตีติ ปจฺฉา จ อนุตปฺปติ. กูฏมิโวฑฺฑิตนฺติ วเน มิคานํ พนฺธนตฺถาย กูฏปาสํ วิย โอฑฺฑิตํ. นิจฺจวิธํสการินนฺติ นิจฺจํ วิทฺธํสนกรํ. วํสกานเนติ ยถา วํสวเน กุกฺกุโฏ เสนํ วิวชฺเชติ, เอวํ วิจกฺขโณ ปาปมิตฺเต วิวชฺเชยฺย.

โสปิ ตา คาถา วตฺวา เสนํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สเจ อิมสฺมึ าเน วสิสฺสสิ, ชานิสฺสามิ เต กตฺตพฺพ’’นฺติ ตชฺเชสิ. เสโน ตโต ปลายิตฺวา อฺตฺร คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขเว เทวทตฺโต ปุพฺเพปิ มยฺหํ วธาย ปริสกฺกี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เสโน เทวทตฺโต อโหสิ, กุกฺกุโฏ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

กุกฺกุฏชาตกวณฺณนา ทสมา.

[๔๔๙] ๑๑. มฏฺกุณฺฑลีชาตกวณฺณนา

อลงฺกโต มฏฺกุณฺฑลีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มตปุตฺตํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิเรกสฺส พุทฺธุปฏฺากสฺส กุฏุมฺพิกสฺส ปิยปุตฺโต กาลมกาสิ. โส ปุตฺตโสกสมปฺปิโต น นฺหายติ น ภุฺชติ น กมฺมนฺเต วิจาเรติ, น พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉติ, เกวลํ ‘‘ปิยปุตฺตก, มํ โอหาย ปมตรํ คโตสี’’ติอาทีนิ วตฺวา วิปฺปลปติ. สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต ตสฺส โสตาปตฺติผลูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา อานนฺทตฺเถเรน ปจฺฉาสมเณน ตสฺส ฆรทฺวารํ อคมาสิ. สตฺถุ อาคตภาวํ กุฏุมฺพิกสฺส อาโรเจสุํ. อถสฺส เคหชโน อาสนํ ปฺเปตฺวา สตฺถารํ นิสีทาเปตฺวา กุฏุมฺพิกํ ปริคฺคเหตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อาเนสิ. ตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนํ สตฺถา กรุณาสีตเลน วจเนน อามนฺเตตฺวา ‘‘กึ, อุปาสก, ปุตฺตกํ อนุโสจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, โปราณกปณฺฑิตา ปุตฺเต กาลกเต โสกสมปฺปิตา วิจรนฺตาปิ ปณฺฑิตานํ กถํ สุตฺวา ‘อลพฺภนียฏฺาน’นฺติ ตถโต ตฺวา อปฺปมตฺตกมฺปิ โสกํ น กรึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอกสฺส มหาวิภวสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต ปฺจทสโสฬสวสฺสกาเล เอเกน พฺยาธินา ผุฏฺโ กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. พฺราหฺมโณ ตสฺส กาลกิริยโต ปฏฺาย สุสานํ คนฺตฺวา ฉาริกปุฺชํ อาวิชฺฌนฺโต ปริเทวติ, สพฺพกมฺมนฺเต ปริจฺจชิตฺวา โสกสมปฺปิโต วิจรติ. ตทา เทวปุตฺโต อนุวิจรนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘เอกํ อุปมํ กตฺวา โสกํ หริสฺสามี’’ติ ตสฺส สุสานํ คนฺตฺวา ปริเทวนกาเล ตสฺเสว ปุตฺตวณฺณี หุตฺวา สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิโต เอกสฺมึ ปเทเส ตฺวา อุโภ หตฺเถ สีเส เปตฺวา มหาสทฺเทน ปริเทวิ. พฺราหฺมโณ สทฺทํ สุตฺวา ตํ โอโลเกตฺวา ปุตฺตเปมํ ปฏิลภิตฺวา ตสฺส สนฺติเก ตฺวา ‘‘ตาต มาณว, อิมสฺมึ สุสานมชฺเฌ กสฺมา ปริเทวสี’’ติ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๑๕.

‘‘อลงฺกโต มฏฺกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.

ตตฺถ อลงฺกโตติ นานาภรณวิภูสิโต. มฏฺกุณฺฑลีติ กรณปรินิฏฺิเตหิ มฏฺเหิ กุณฺฑเลหิ สมนฺนาคโต. มาลธารีติ วิจิตฺรกุสุมมาลธโร. หริจนฺทนุสฺสโทติ สุวณฺณวณฺเณน จนฺทเนน อนุลิตฺโต. วนมชฺเฌติ สุสานมชฺเฌ. กึ ทุกฺขิโต ตุวนฺติ กึการณา ทุกฺขิโต ตฺวํ, อาจิกฺข, อหํ เต ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทสฺสามีติ อาห.

อถสฺส กเถนฺโต มาณโว ทุติยํ คาถมาห –

๑๑๖.

‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;

ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติ.

พฺราหฺมโณ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๑๗.

‘‘โสวณฺณมยํ มณีมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยามยํ;

ปาวท รถํ กริสฺสามิ เต, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ ต’’นฺติ.

ตตฺถ ปาวทาติ ยาทิเสน เต อตฺโถ ยาทิสํ โรเจสิ, ตาทิสํ วท, อหํ เต รถ กริสฺสามิ. ปฏิปาทยามิ ตนฺติ ตํ ปฺชรานุรูปํ จกฺกยุคํ อธิคจฺฉาเปมิ.

ตํ สุตฺวา มาณเวน กถิตาย คาถาย ปมปาทํ สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา กเถสิ, เสสํ มาณโว.

๑๑๘.

‘‘โส มาณโว ตสฺส ปาวทิ, จนฺทสูริยา อุภเยตฺถ ภาตโร;

โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.

พฺราหฺมโณ ตทนนฺตรํ อาห –

๑๑๙.

‘‘พาโล โข ตฺวํสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยสิ อปตฺถิยํ;

มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย’’ติ. –

พฺราหฺมเณน วุตฺตคาถาย อปตฺถิยนฺติ อปตฺเถตพฺพํ.

ตโต มาณโว อาห –

๑๒๐.

‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภเยตฺถ วีถิโย;

เปโต ปน เนว ทิสฺสติ, โก นุ โข กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.

มาณเวน วุตฺตคาถาย คมนาคมนนฺติ อุคฺคมนฺจ อตฺถคมนฺจ. วณฺโณเยว วณฺณธาตุ. อุภเยตฺถ วีถิโยติ เอตฺถ อากาเส ‘‘อยํ จนฺทสฺส วีถิ, อยํ สูริยสฺส วีถี’’ติ เอวํ อุภยคมนาคมนภูมิโยปิ ปฺายนฺติ. เปโต ปนาติ ปรโลกํ คตสตฺโต ปน น ทิสฺสเตว. โก นุ โขติ เอวํ สนฺเต อมฺหากํ ทฺวินฺนํ กนฺทนฺตานํ โก นุ โข พาลฺยตโรติ.

เอวํ มาณเว กเถนฺเต พฺราหฺมโณ สลฺลกฺเขตฺวา คาถมาห –

๑๒๑.

‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;

จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถเย’’ติ.

ตตฺถ จนฺทํ วิย ทารโกติ ยถา ทหโร คามทารโก ‘‘จนฺทํ เทถา’’ติ จนฺทสฺสตฺถาย โรเทยฺย, เอวํ อหมฺปิ เปตํ กาลกตํ อภิปตฺเถมีติ.

อิติ พฺราหฺมโณ มาณวสฺส กถาย นิสฺโสโก หุตฺวา ตสฺส ถุตึ กโรนฺโต เสสคาถา อภาสิ –

๑๒๒.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๑๒๓.

‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, ยมาสิ หทยสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.

๑๒๔.

‘‘โสหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, วีตโสโก อนาวิโล;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.

อถ นํ มาณโว ‘‘พฺราหฺมณ, ยสฺสตฺถาย ตฺวํ โรทสิ, อหํ เต ปุตฺโต, อหํ เทวโลเก นิพฺพตฺโต, อิโต ปฏฺาย มา มํ อนุโสจิ, ทานํ เทหิ, สีลํ รกฺขาหิ, อุโปสถํ กโรหี’’ติ โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. พฺราหฺมโณปิ ตสฺโสวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา กาลกโต เทวโลเก นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนหิ, สจฺจปริโยสาเน กุฏุมฺพิโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.ตทา ธมฺมเทสกเทวปุตฺโต อหเมว อโหสินฺติ.

มฏฺกุณฺฑลีชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.

[๔๕๐] ๑๒. พิลารโกสิยชาตกวณฺณนา

อปจนฺตาปีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทานวิตฺตํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย ทานวิตฺโต อโหสิ ทานชฺฌาสโย, ปตฺตปริยาปนฺนมฺปิ ปิณฺฑปาตํ อฺสฺส อทตฺวา น ภุฺชิ, อนฺตมโส ปานียมฺปิ ลภิตฺวา อฺสฺส อทตฺวา น ปิวิ, เอวํ ทานาภิรโต อโหสิ. อถสฺส ธมฺมสภายํ ภิกฺขู คุณกถํ กเถสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ ทานวิตฺโต ทานชฺฌาสโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว อยํ ปุพฺเพ อสฺสทฺโธ อโหสิ อปฺปสนฺโน, ติณคฺเคน เตลพินฺทุมฺปิ อุทฺธริตฺวา กสฺสจิ น อทาสิ, อถ นํ อหํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทานผลํ าเปสึ, ตเมว ทานนินฺนํ จิตฺตํ ภวนฺตเรปิ น ปชหตี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต กุฏุมฺพํ สณฺเปตฺวา ปิตุ อจฺจเยน เสฏฺิฏฺานํ ปตฺวา เอกทิวสํ ธนวิโลกนํ กตฺวา ‘‘ธนํ ปฺายติ, เอตสฺส อุปฺปาทกา น ปฺายนฺติ, อิมํ ธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา มหาทานํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทานสาลํ กาเรตฺวา ยาวชีวํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา อายุปริโยสาเน ‘‘อิทํ ทานวตฺตํ มา อุปจฺฉินฺที’’ติ ปุตฺตสฺส โอวาทํ ทตฺวา ตาวตึสภวเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ปุตฺโตปิสฺส ตเถว ทานํ ทตฺวา ปุตฺตํ โอวทิตฺวา อายุปริโยสาเน จนฺโท เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺสปิ ปุตฺโต มาตลิสงฺคาหโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ฉฏฺโ ปน อสฺสทฺโธ อโหสิ ถทฺธจิตฺโต นิสฺเนโห มจฺฉรี, ทานสาลํ วิทฺธํเสตฺวา ฌาเปตฺวา ยาจเก โปเถตฺวา นีหราเปสิ, กสฺสจิ ติณคฺเคน อุทฺธริตฺวา เตลพินฺทุมฺปิ น เทติ. ตทา สกฺโก เทวราชา อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปวตฺตติ นุ โข เม ทานวํโส, อุทาหุ โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘ปุตฺโต เม ทานํ ปวตฺเตตฺวา จนฺโท หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย, ตสฺส ปุตฺโต มาตลิ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ฉฏฺโ ปน ตํ วํสํ อุปจฺฉินฺที’’ติ ปสฺสิ.

อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘อิมํ ปาปธมฺมํ ทเมตฺวา ทานผลํ ชานาเปตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ. โส จนฺทสูริยมาตลิปฺจสิเข ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺมา, อมฺหากํ วํเส ฉฏฺโ กุลวํสํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา ทานสาลํ ฌาเปตฺวา ยาจเก นีหราเปสิ, น กสฺสจิ กิฺจิ เทติ, เอถ นํ ทเมสฺสามา’’ติ เตหิ สทฺธึ พาราณสึ อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ เสฏฺิ ราชุปฏฺานํ กตฺวา อาคนฺตฺวา สตฺตเม ทฺวารโกฏฺเก อนฺตรวีถึ โอโลเกนฺโต จงฺกมติ. สกฺโก ‘‘ตุมฺเห มม ปวิฏฺกาเล ปจฺฉโต ปฏิปาฏิยา อาคจฺฉถา’’ติ วตฺวา คนฺตฺวา เสฏฺิสฺส สนฺติเก ตฺวา ‘‘โภ มหาเสฏฺิ, โภชนํ เม เทหี’’ติ อาห. ‘‘พฺราหฺมณ นตฺถิ ตว อิธ ภตฺตํ, อฺตฺถ คจฺฉา’’ติ. ‘‘โภ มหาเสฏฺิ, พฺราหฺมเณหิ ภตฺเต ยาจิเต น ทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ. ‘‘พฺราหฺมณ, มม เคเห ปกฺกมฺปิ ปจิตพฺพมฺปิ ภตฺตํ นตฺถิ, อฺตฺถ คจฺฉา’’ติ. ‘‘มหาเสฏฺิ, เอกํ เต สิโลกํ กเถสฺสามิ, ตํ สุณาหี’’ติ. ‘‘นตฺถิ มยฺหํ ตว สิโลเกนตฺโถ, มา อิธ ติฏฺา’’ติ. สกฺโก ตสฺส กถํ อสุณนฺโต วิย ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๕.

‘‘อปจนฺตาปิ ทิจฺฉนฺติ, สนฺโต ลทฺธาน โภชนํ;

กิเมว ตฺวํ ปจมาโน, ยํ น ทชฺชา น ตํ สมํ.

๑๒๖.

‘‘มจฺเฉรา จ ปมาทา จ, เอวํ ทานํ น ทียติ;

ปุฺํ อากงฺขมาเนน, เทยฺยํ โหติ วิชานตา’’ติ.

ตาสํ อตฺโถ – มหาเสฏฺิ อปจนฺตาปิ สนฺโต สปฺปุริสา ภิกฺขาจริยาย ลทฺธมฺปิ โภชนํ ทาตุํ อิจฺฉนฺติ, น เอกกา ปริภุฺชนฺติ. กิเมว ตฺวํ ปจมาโน ยํ น ทเทยฺยาสิ, น ตํ สมํ, ตํ ตว อนุรูปํ อนุจฺฉวิกํ น โหติ. ทานฺหิ มจฺเฉเรน จ ปมาเทน จาติ ทฺวีหิ โทเสหิ น ทียติ, ปุฺํ อากงฺขมาเนน วิชานตา ปณฺฑิตมนุสฺเสน ทาตพฺพเมว โหตีติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ เคหํ ปวิสิตฺวา นิสีท, โถกํ ลจฺฉสี’’ติ อาห. สกฺโก ปวิสิตฺวา เต สิโลเก สชฺฌายนฺโต นิสีทิ. อถ นํ จนฺโท อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจิ. ‘‘นตฺถิ เต ภตฺตํ, คจฺฉา’’ติ จ วุตฺโต ‘‘มหาเสฏฺิ อนฺโต เอโก พฺราหฺมโณ นิสินฺโน, พฺราหฺมณวาจนกํ มฺเ ภวิสฺสติ, อหมฺปิ ภวิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘นตฺถิ พฺราหฺมณวาจนกํ, นิกฺขมา’’ติ วุจฺจมาโนปิ ‘‘มหาเสฏฺิ อิงฺฆ ตาว สิโลกํ สุณาหี’’ติ ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๗.

‘‘ยสฺเสว ภีโต น ททาติ มจฺฉรี, ตเทวาททโต ภยํ;

ชิฆจฺฉา จ ปิปาสา จ, ยสฺส ภายติ มจฺฉรี;

ตเมว พาลํ ผุสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ.

๑๒๘.

‘‘ตสฺมา วิเนยฺย มจฺเฉรํ, ทชฺชา ทานํ มลาภิภู;

ปุฺานิ ปรโลกสฺมึ, ปติฏฺา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติ.

ตตฺถ ยสฺส ภายตีติ ‘‘อหํ อฺเสํ ทตฺวา สยํ ชิฆจฺฉิโต จ ปิปาสิโต จ ภวิสฺสามี’’ติ ยสฺสา ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ภายติ. ตเมวาติ ตฺเว ชิฆจฺฉาปิปาสาสงฺขาตํ ภยํ เอตํ พาลํ นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน อิธโลเก ปรโลเก จ ผุสติ ปีเฬติ, อจฺจนฺตทาลิทฺทิยํ ปาปุณาติ. มลาภิภูติ มจฺฉริยมลํ อภิภวนฺโต.

ตสฺสปิ วจนํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ ปวิส, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โสปิ ปวิสิตฺวา สกฺกสฺส สนฺติเก นิสีทิ. ตโต โถกํ วีตินาเมตฺวา สูริโย อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๙.

‘‘ทุทฺททํ ททมานานํ, ทุกฺกรํ กมฺม กุพฺพตํ;

อสนฺโต นานุกุพฺพนฺติ, สตํ ธมฺโม ทุรนฺนโย.

๑๓๐.

‘‘ตสฺมา สตฺจ อสตํ, นานา โหติ อิโต คติ;

อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ, สนฺโต สคฺคปรายณา’’ติ.

ตตฺถ ทุทฺททนฺติ ทานํ นาม ทุทฺททํ มจฺเฉรํ อภิภวิตฺวา ทาตพฺพโต, ตํ ททมานานํ. ทุกฺกรนฺติ ตเทว ทานกมฺมํ ทุกฺกรํ ยุทฺธสทิสํ, ตํ กุพฺพตํ. นานุกุพฺพนฺตีติ อสปฺปุริสา ทานผลํ อชานนฺตา เตสํ คตมคฺคํ นานุคจฺฉนฺติ. สตํ ธมฺโมติ สปฺปุริสานํ โพธิสตฺตานํ ธมฺโม อฺเหิ ทุรนุคโม. อสนฺโตติ มจฺฉริยวเสน ทานํ อทตฺวา อสปฺปุริสา นิรยํ ยนฺติ.

เสฏฺิ คเหตพฺพคหณํ อปสฺสนฺโต ‘‘เตน หิ ปวิสิตฺวา พฺราหฺมณานํ สนฺติเก นิสีท, โถกํ ลจฺฉสี’’ติ อาห. ตโต โถกํ วีตินาเมตฺวา มาตลิ อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘นตฺถี’’ติ วจนมตฺตกาลเมว สตฺตมํ คาถมาห –

๑๓๑.

‘‘อปฺปสฺเมเก ปเวจฺฉนฺติ, พหุเนเก น ทิจฺฉเร;

อปฺปสฺมา ทกฺขิณา ทินฺนา, สหสฺเสน สมํ มิตา’’ติ.

ตตฺถ อปฺปสฺเมเก ปเวจฺฉนฺตีติ มหาเสฏฺิ เอกจฺเจ ปณฺฑิตปุริสา อปฺปสฺมิมฺปิ เทยฺยธมฺเม ปเวจฺฉนฺติ, ททนฺติเยวาติ อตฺโถ. พหุนาปิ เทยฺยธมฺเมน สมนฺนาคตา เอเก สตฺตา น ทิจฺฉเร น ททนฺติ. ทกฺขิณาติ กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา ทินฺนทานํ. สหสฺเสน สมํ มิตาติ เอวํ ทินฺนา กฏจฺฉุภตฺตมตฺตาปิ ทกฺขิณา สหสฺสทาเนน สทฺธึ มิตา, มหาผลตฺตา สหสฺสทานสทิสาว โหตีติ อตฺโถ.

ตมฺปิ โส ‘‘เตน หิ ปวิสิตฺวา นิสีทา’’ติ อาห. ตโต โถกํ วีตินาเมตฺวา ปฺจสิโข อาคนฺตฺวา ภตฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘นตฺถิ คจฺฉา’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ น คตปุพฺโพ, อิมสฺมึ เคเห พฺราหฺมณวาจนกํ ภวิสฺสติ มฺเ’’ติ ตสฺส ธมฺมกถํ อารภนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๑๓๒.

‘‘ธมฺมํ จเร โยปิ สมุฺฉกํ จเร, ทารฺจ โปสํ ททมปฺปกสฺมึ;

สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมนฺติ ติวิธสุจริตธมฺมํ. สมุฺฉกนฺติ คาเม วา อามกปกฺกภิกฺขาจริยํ อรฺเ วา ผลาผลหรณสงฺขาตํ อุฺฉํ โย จเรยฺย, โสปิ ธมฺมเมว จเร. ทารฺจ โปสนฺติ อตฺตโน จ ปุตฺตทารํ โปเสนฺโตเยว. ททมปฺปกสฺมินฺติ ปริตฺเต วา เทยฺยธมฺเม ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ททมาโน ธมฺมํ จเรติ อตฺโถ. สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินนฺติ ปรํ โปเถตฺวา วิเหเตฺวา สหสฺเสน ยาคํ ยชนฺตานํ สหสฺสยาคีนํ อิสฺสรานํ สตสหสฺสมฺปิ. กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เตติ เตสํ สตสหสฺสสงฺขาตานํ สหสฺสยาคีนํ ยาคา ตถาวิธสฺส ธมฺเมน สเมน เทยฺยธมฺมํ อุปฺปาเทตฺวา เทนฺตสฺส ทุคฺคตมนุสฺสสฺส โสฬสึ กลํ น อคฺฆนฺตีติ.

เสฏฺิ ปฺจสิขสฺส กถํ สุตฺวา สลฺลกฺเขสิ. อถ นํ อนคฺฆการณํ ปุจฺฉนฺโต นวมํ คาถมาห –

๑๓๓.

‘‘เกเนส ยฺโ วิปุโล มหคฺฆโต, สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติ;

กถํ สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติ.

ตตฺถ ยฺโติ ทานยาโค สตสหสฺสปริจฺจาควเสน วิปุโล, วิปุลตฺตาว มหคฺฆโต. สเมน ทินฺนสฺสาติ ธมฺเมน ทินฺนสฺส เกน การเณน อคฺฆํ น อุเปติ. กถํ สตํ สหสฺสานนฺติ พฺราหฺมณ, กถํ สหสฺสยาคีนํ ปุริสานํ พหูนํ สหสฺสานํ สตสหสฺสสงฺขาตา อิสฺสรา ตถาวิธสฺส ธมฺเมน อุปฺปาเทตฺวา ทายกสฺส เอกสฺส ทุคฺคตมนุสฺสสฺส กลํ นาคฺฆนฺตีติ.

อถสฺส กเถนฺโต ปฺจสิโข โอสานคาถมาห –

๑๓๔.

‘‘ททนฺติ เหเก วิสเม นิวิฏฺา, เฉตฺวา วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา;

สา ทกฺขิณา อสฺสุมุขา สทณฺฑา, สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติ;

เอวํ สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติ.

ตตฺถ วิสเมติ วิสเม กายกมฺมาทิมฺหิ นิวิฏฺา. เฉตฺวาติ กิลเมตฺวา. วธิตฺวาติ มาเรตฺวา. โสจยิตฺวาติ สโสเก กตฺวา.

โส ปฺจสิขสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ คจฺฉ, เคหํ ปวิสิตฺวา นิสีท, โถกํ ลจฺฉสี’’ติ อาห. โสปิ คนฺตฺวา เตสํ สนฺติเก นิสีทิ. ตโต พิลารโกสิโย เสฏฺิ เอกํ ทาสึ อามนฺเตตฺวา ‘‘เอเตสํ พฺราหฺมณานํ ปลาปวีหีนํ นาฬึ นาฬึ เทหี’’ติ อาห. สา วีหี คเหตฺวา พฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิเม อาทาย ยตฺถ กตฺถจิ ปจาเปตฺวา ภุฺชถา’’ติ อาห. ‘‘น อมฺหากํ วีหินา อตฺโถ, น มยํ วีหึ อามสามา’’ติ. ‘‘อยฺย, วีหึ กิเรเต นามสนฺตี’’ติ? ‘‘เตน หิ เตสํ ตณฺฑุเล เทหี’’ติ. สา ตณฺฑุเล อาทาย คนฺตฺวา ‘‘พฺราหฺมณา ตณฺฑุเล คณฺหถา’’ติ อาห. ‘‘มยํ อามกํ น ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ. ‘‘อยฺย, อามกํ กิร น คณฺหนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ เตสํ กโรฏิยํ วฑฺเฒตฺวา โคภตฺตํ เทหี’’ติ. สา เตสํ กโรฏิยํ วฑฺเฒตฺวา มหาโคณานํ ปกฺกภตฺตํ อาหริตฺวา อทาสิ. ปฺจปิ ชนา กพเฬ วฑฺเฒตฺวา มุเข ปกฺขิปิตฺวา คเล ลคฺคาเปตฺวา อกฺขีนิ ปริวตฺเตตฺวา วิสฺสฏฺสฺา มตา วิย นิปชฺชึสุ. ทาสี เต ทิสฺวา ‘‘มตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ภีตา คนฺตฺวา เสฏฺิโน อาโรเจสิ ‘‘อยฺย, เต พฺราหฺมณา โคภตฺตํ คิลิตุํ อสกฺโกนฺตา มตา’’ติ.

โส จินฺเตสิ ‘‘อิทานิ อยํ ปาปธมฺโม สุขุมาลพฺราหฺมณานํ โคภตฺตํ ทาเปสิ, เต ตํ คิลิตุํ อสกฺโกนฺตา มตาติ มํ ครหิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต ทาสึ อาห – ‘‘ขิปฺปํ คนฺตฺวา เอเตสํ กโรฏิเกสุ ภตฺตํ หริตฺวา นานคฺครสํ สาลิภตฺตํ วฑฺเฒหี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. เสฏฺิ อนฺตรปีถึ ปฏิปนฺนมนุสฺเส ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อหํ มม ภุฺชนนิยาเมน เอเตสํ พฺราหฺมณานํ ภตฺตํ ทาเปสึ, เอเต โลเภน มหนฺเต ปิณฺเฑ กตฺวา ภุฺชมานา คเล ลคฺคาเปตฺวา มตา, มม นิทฺโทสภาวํ ชานาถา’’ติ วตฺวา ปริสํ สนฺนิปาเตสิ. มหาชเน สนฺนิปติเต พฺราหฺมณา อุฏฺาย มหาชนํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปสฺสถิมสฺส เสฏฺิสฺส มุสาวาทิตํ, ‘อมฺหากํ อตฺตโน ภุฺชนภตฺตํ ทาเปสิ’นฺติ วทติ, ปมํ โคภตฺตํ อมฺหากํ ทตฺวา อมฺเหสุ มเตสุ วิย นิปนฺเนสุ อิมํ ภตฺตํ วฑฺฒาเปสี’’ติ วตฺวา อตฺตโน มุเขหิ คหิตภตฺตํ ภูมิยํ ปาเตตฺวา ทสฺเสสุํ. มหาชโน เสฏฺึ ครหิ ‘‘อนฺธพาล, อตฺตโน กุลวํสํ นาเสสิ, ทานสาลํ ฌาเปสิ, ยาจเก คีวายํ คเหตฺวา นีหราเปสิ, อิทานิ อิเมสํ สุขุมาลพฺราหฺมณานํ ภตฺตํ เทนฺโต โคภตฺตํ ทาเปสิ, ปรโลกํ คจฺฉนฺโต ตว ฆเร วิภวํ คีวายํ พนฺธิตฺวา คมิสฺสสิ มฺเ’’ติ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺโก มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘ชานาถ, ตุมฺเห อิมสฺมึ เคเห ธนํ กสฺส สนฺตก’’นฺติ? ‘‘น ชานามา’’ติ. ‘‘อิมสฺมึ นคเร อสุกกาเล พาราณสิยํ มหาเสฏฺิ นาม ทานสาลํ กาเรตฺวา มหาทานํ ปวตฺตยี’’ติ สุตปุพฺพํ ตุมฺเหหีติ. ‘‘อาม สุณามา’’ติ. ‘‘อหํ โส เสฏฺิ, ทานํ ทตฺวา สกฺโก เทวราชา หุตฺวา ปุตฺโตปิ เม ตํ วํสํ อวินาเสตฺวา ทานํ ทตฺวา จนฺโท เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย, ตสฺส ปุตฺโต มาตลิ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺโต. เตสุ อยํ จนฺโท, อยํ สูริโย, อยํ มาตลิสงฺคาหโก, อยํ อิมสฺส ปาปธมฺมสฺส ปิตา ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต, เอวํ พหุคุณํ เอตํ ทานํ นาม, กตฺตพฺพเมว กุสลํ ปณฺฑิเตหี’’ติ กเถนฺตา มหาชนสฺส กงฺขจฺเฉทนตฺถํ อากาเส อุปฺปติตฺวา มหนฺเตนานุภาเวน มหนฺเตน ปริวาเรน ชลมานสรีรา อฏฺํสุ, สกลนครํ ปชฺชลนฺตํ วิย อโหสิ. สกฺโก มหาชนํ อามนฺเตตฺวา ‘‘มยํ อตฺตโน ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปหาย อาคจฺฉนฺตา อิมํ กุลวํสนาสกรํ ปาปธมฺมพิลารโกสิยํ นิสฺสาย อาคตา, อยํ ปาปธมฺโม อตฺตโน กุลวํสํ นาเสตฺวา ทานสาลํ ฌาเปตฺวา ยาจเก คีวายํ คเหตฺวา นีหราเปตฺวา อมฺหากํ วํสํ สมุจฺฉินฺทิ, ‘อยํ อทานสีโล หุตฺวา นิรเย นิพฺพตฺเตยฺยา’ติ อิมสฺส อนุกมฺปาย อาคตามฺหา’’ติ วตฺวา ทานคุณํ ปกาเสนฺโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. พิลารโกสิโย สิรสฺมึ อฺชลึ ปติฏฺเปตฺวา ‘‘เทว, อหํ อิโต ปฏฺาย โปราณกุลวํสํ อนาสาเปตฺวา ทานํ ปวตฺเตสฺสามิ, อชฺช อาทึ กตฺวา อนฺตมโส อุทกทนฺตโปนํ อุปาทาย อตฺตโน ลทฺธาหารํ ปรสฺส อทตฺวา น ขาทิสฺสามี’’ติ สกฺกสฺส ปฏิฺํ อทาสิ. สกฺโก ตํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺเปตฺวา จตฺตาโร เทวปุตฺเต อาทาย สกฏฺานเมว คโต. โสปิ เสฏฺิ ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, อยํ ภิกฺขุ ปุพฺเพ อสฺสทฺโธ อโหสิ กสฺสจิ กิฺจิ อทาตา, อหํ ปน นํ ทเมตฺวา ทานผลํ ชานาเปสึ, ตเมว จิตฺตํ ภวนฺตรคตมฺปิ น ชหาตี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เสฏฺิ อยํ ทานปติโก ภิกฺขุ อโหสิ, จนฺโท สาริปุตฺโต, สูริโย โมคฺคลฺลาโน, มาตลิ กสฺสโป, ปฺจสิโข อานนฺโท, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

พิลารโกสิยชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมา.

[๔๕๑] ๑๓. จกฺกวากชาตกวณฺณนา

วณฺณวา อภิรูโปสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โลลภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร จีวราทีหิ อติตฺโต ‘‘กหํ สงฺฆภตฺตํ, กหํ นิมนฺตน’’นฺติ ปริเยสนฺโต วิจรติ, อามิสกถายเมว อภิรมติ. อถฺเ เปสลา ภิกฺขู ตสฺสานุคฺคเหน สตฺถุ อาโรเจสุํ. สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ โลโล’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ กสฺมา เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา โลโล อโหสิ, โลลภาโว จ นาม ปาปโก, ปุพฺเพปิ ตฺวํ โลลภาวํ นิสฺสาย พาราณสิยํ หตฺถิกุณปาทีหิ อติตฺโต มหาอรฺํ ปวิฏฺโ’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก โลลกาโก พาราณสิยํ หตฺถิกุณปาทีหิ อติตฺโต ‘‘อรฺํ นุ โข กีทิส’’นฺติ อรฺํ คนฺตฺวา ตตฺถปิ ผลาผเลหิ อสนฺตุฏฺโ คงฺคาย ตีรํ คนฺตฺวา วิจรนฺโต ชยมฺปติเก จกฺกวาเก ทิสฺวา ‘‘อิเม สกุณา อติวิย โสภนฺติ, อิเม อิมสฺมึ คงฺคาตีเร พหุํ มจฺฉมํสํ ขาทนฺติ มฺเ, อิเม ปฏิปุจฺฉิตฺวา มยาปิ อิเมสํ โภชนํ โคจรํ ขาทิตฺวา วณฺณวนฺเตน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เตสํ อวิทูเร นิสีทิตฺวา จกฺกวากํ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๓๕.

‘‘วณฺณวา อภิรูโปสิ, ฆโน สฺชาตโรหิโต;

จกฺกวาก สุรูโปสิ, วิปฺปสนฺนมุขินฺทฺริโย.

๑๓๖.

‘‘ปาีนํ ปาวุสํ มจฺฉํ, พลชํ มุฺชโรหิตํ;

คงฺคาย ตีเร นิสินฺโน, เอวํ ภุฺชสิ โภชน’’นฺติ.

ตตฺถ ฆโนติ ฆนสรีโร. สฺชาตโรหิโตติ อุตฺตตฺตสุวณฺณํ วิย สุฏฺุชาตโรหิตวณฺโณ. ปาีนนฺติ ปาีนนามกํ ปาสาณมจฺฉํ. ปาวุสนฺติ มหามุขมจฺฉํ, ‘‘ปาหุส’’นฺติปิ ปาโ. พลชนฺติ พลชมจฺฉํ. มุฺชโรหิตนฺติ มุฺชมจฺฉฺจ โรหิตมจฺฉฺจ. เอวํ ภุฺชสีติ เอวรูปํ โภชนํ มฺเ ภุฺชสีติ ปุจฺฉติ.

จกฺกวาโก ตสฺส วจนํ ปฏิกฺขิปนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๓๗.

‘‘น วาหเมตํ ภุฺชามิ, ชงฺคลาโนทกานิ วา;

อฺตฺร เสวาลปณกา, เอตํ เม สมฺม โภชน’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – อหํ สมฺม, อฺตฺร เสวาลา จ ปณกา จ เสสานิ ชงฺคลานิ วา โอทกานิ วา มํสานิ อาทาย เอตํ โภชนํ น ภุฺชามิ, ยํ ปเนตํ เสวาลปณกํ, เอตํ เม สมฺม, โภชนนฺติ.

ตโต กาโก ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๓๘.

‘‘น วาหเมตํ สทฺทหามิ, จกฺกวากสฺส โภชนํ;

อหมฺปิ สมฺม ภุฺชามิ, คาเม โลณิยเตลิยํ.

๑๓๙.

‘‘มนุสฺเสสุ กตํ ภตฺตํ, สุจึ มํสูปเสจนํ;

น จ เม ตาทิโส วณฺโณ, จกฺกวาก ยถา ตุว’’นฺติ.

ตตฺถ ยถา ตุวนฺติ ยถา ตุวํ โสภคฺคปฺปตฺโต สรีรวณฺโณ, ตาทิโส มยฺหํ วณฺโณ นตฺถิ, เอเตน การเณน อหํ ตว ‘‘เสวาลปณกํ มม โภชน’’นฺติ วทนฺตสฺส วจนํ น สทฺทหามีติ.

อถสฺส จกฺกวาโก ทุพฺพณฺณการณํ กเถตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต เสสคาถา อภาสิ –

๑๔๐.

‘‘สมฺปสฺสํ อตฺตนิ เวรํ, หึสยํ มานุสึ ปชํ;

อุตฺรสฺโต ฆสสี ภีโต, เตน วณฺโณ ตเวทิโส.

๑๔๑.

‘‘สพฺพโลกวิรุทฺโธสิ, ธงฺก ปาเปน กมฺมุนา;

ลทฺโธ ปิณฺโฑ น ปีเณติ, เตน วณฺโณ ตเวทิโส.

๑๔๒.

‘‘อหมฺปิ สมฺม ภุฺชามิ, อหึสํ สพฺพปาณินํ;

อปฺโปสฺสุกฺโก นิราสงฺกี, อโสโก อกุโตภโย.

๑๔๓.

‘‘โส กรสฺสุ อานุภาวํ, วีติวตฺตสฺสุ สีลิยํ;

อหึสาย จร โลเก, ปิโย โหหิสิ มํมิว.

๑๔๔.

‘‘โย น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;

เมตฺตํโส สพฺพภูเตสุ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’ติ.

ตตฺถ สมฺปสฺสนฺติ สมฺม กาก ตฺวํ ปเรสุ อุปฺปนฺนํ อตฺตนิ เวรจิตฺตํ สมฺปสฺสมาโน มานุสึ ปชํ หึสนฺโต วิเหเนฺโต. อุตฺรสฺโตติ ภีโต. ฆสสีติ ภุฺชสิ. เตน เต เอทิโส พีภจฺฉวณฺโณ ชาโต. ธงฺกาติ กากํ อาลปติ. ปิณฺโฑติ โภชนํ. อหึสํ สพฺพปาณินนฺติ อหํ ปน สพฺพสตฺเต อหึสนฺโต ภุฺชามีติ วทติ. โส กรสฺสุ อานุภาวนฺติ โส ตฺวมฺปิ วีริยํ กโรหิ, อตฺตโน สีลิยสงฺขาตํ ทุสฺสีลภาวํ วีติวตฺตสฺสุ. อหึสายาติ อหึสาย สมนฺนาคโต หุตฺวา โลเก จร. ปิโย โหหิสิ มํมิวาติ เอวํ สนฺเต มยา สทิโสว โลกสฺส ปิโย โหหิสิ. น ชินาตีติ ธนชานึ น กโรติ. น ชาปเยติ อฺเปิ น กาเรติ. เมตฺตํโสติ เมตฺตโกฏฺาโส เมตฺตจิตฺโต. น เกนจีติ เกนจิ เอกสตฺเตนปิ สทฺธึ ตสฺส เวรํ นาม นตฺถีติ.

ตสฺมา สเจ โลกสฺส ปิโย ภวิตุํ อิจฺฉสิ, สพฺพเวเรหิ วิรมาหีติ เอวํ จกฺกวาโก กากสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. กาโก ‘‘ตุมฺเห อตฺตโน โคจรํ มยฺหํ น กเถถ, กา กา’’ติ วสฺสนฺโต อุปฺปติตฺวา พาราณสิยํ อุกฺการภูมิยฺเว โอตริ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โลลภิกฺขุ อนาคามิผเล ปติฏฺหิ. ตทา กาโก โลลภิกฺขุ อโหสิ, จกฺกวากี ราหุลมาตา, จกฺกวาโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.

จกฺกวากชาตกวณฺณนา เตรสมา.

[๔๕๒] ๑๔. ภูริปฺชาตกวณฺณนา

๑๔๕-๑๕๔. สจฺจํ กิราติ อิทํ ภูริปฺชาตกํ มหาอุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.

ภูริปฺชาตกวณฺณนา จุทฺทสมา.

[๔๕๓] ๑๕. มหามงฺคลชาตกวณฺณนา

กึสุ นโรติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหามงฺคลสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย) อารพฺภ กเถสิ. ราชคหนครสฺมิฺหิ เกนจิเทว กรณีเยน สนฺถาคาเร สนฺนิปติตสฺส มหาชนสฺส มชฺเฌ เอโก ปุริโส ‘‘อชฺช เม มงฺคลกิริยา อตฺถี’’ติ อุฏฺาย อคมาสิ. อปโร ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ ‘มงฺคล’นฺติ วตฺวาว คโต, กึ เอตํ มงฺคลํ นามา’’ติ อาห. ตมฺโ ‘‘อภิมงฺคลรูปทสฺสนํ มงฺคลํ นาม. เอกจฺโจ หิ กาลสฺเสว อุฏฺาย สพฺพเสตํ อุสภํ วา ปสฺสติ, คพฺภินิตฺถึ วา โรหิตมจฺฉํ วา ปุณฺณฆฏํ วา นวนีตํ วา โคสปฺปึ วา อหตวตฺถํ วา ปายาสํ วา ปสฺสติ, อิโต อุตฺตริ มงฺคลํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เตน กถิตํ เอกจฺเจ ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทึสุ. อปโร ‘‘เนตํ มงฺคลํ, สุตํ นาม มงฺคลํ. เอกจฺโจ หิ ‘ปุณฺณา’ติ วทนฺตานํ สุณาติ, ตถา ‘วฑฺฒา’ติ ‘วฑฺฒมานา’ติ สุณาติ, ‘ภุฺชา’ติ ‘ขาทา’ติ วทนฺตานํ สุณาติ, อิโต อุตฺตริ มงฺคลํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เตน กถิตมฺปิ เอกจฺเจ ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทึสุ. อปโร ‘‘น เอตํ มงฺคลํ, มุตํ นาม มงฺคลํ. เอกจฺโจ หิ กาลสฺเสว อุฏฺาย ปถวึ อามสติ, หริตติณํ อลฺลโคมยํ ปริสุทฺธสาฏกํ โรหิตมจฺฉํ สุวณฺณรชตภาชนํ อามสติ, อิโต อุตฺตริ มงฺคลํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เตน กถิตมฺปิ เอกจฺเจ ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทึสุ. เอวํ ทิฏฺมงฺคลิกา สุตมงฺคลิกา มุตมงฺคลิกาติ ติสฺโสปิ ปริสา หุตฺวา อฺมฺํ สฺาเปตุํ นาสกฺขึสุ, ภุมฺมเทวตา อาทึ กตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา ‘‘อิทํ มงฺคล’’นฺติ ตถโต น ชานึสุ.

สกฺโก จินฺเตสิ ‘‘อิมํ มงฺคลปฺหํ สเทวเก โลเก อฺตฺร ภควตา อฺโ กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส รตฺติภาเค สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘พหู เทวา มนุสฺสา จา’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉิ. อถสฺส สตฺถา ทฺวาทสหิ คาถาหิ อฏฺตึส มหามงฺคลานิ กเถสิ. มงฺคลสุตฺเต วินิวฏฺฏนฺเตเยว โกฏิสตสหสฺสมตฺตา เทวตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, โสตาปนฺนาทีนํ คณนปโถ นตฺถิ. สกฺโก มงฺคลํ สุตฺวา สกฏฺานเมว คโต. สตฺถารา มงฺคเล กถิเต สเทวโก โลโก ‘‘สุกถิต’’นฺติ อภินนฺทิ. ตทา ธมฺมสภายํ ตถาคตสฺส คุณกถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถา อฺเสํ อวิสยํ มงฺคลปฺหํ สเทวกสฺส โลกสฺส จิตฺตํ คเหตฺวา กุกฺกุจฺจํ ฉินฺทิตฺวา คคนตเล จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย กเถสิ, เอวํ มหาปฺโ, อาวุโส, ตถาคโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, อิทาเนว สมฺโพธิปฺปตฺตสฺส มม มงฺคลปฺหกถนํ, สฺวาหํ โพธิสตฺตจริยํ จรนฺโตปิ เทวมนุสฺสานํ กงฺขํ ฉินฺทิตฺวา มงฺคลปฺหํ กเถสิ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เอกสฺมึ คาเม วิภวสมฺปนฺนสฺส พฺราหฺมณสฺส กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘รกฺขิตกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ อุคฺคหิตสิปฺโป กตทารปริคฺคโห มาตาปิตูนํ อจฺจเยน รตนวิโลกนํ กตฺวา สํวิคฺคมานโส มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา กาเม ปหาย หิมวนฺตปเทเส ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร เอกสฺมึ ปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. อนุปุพฺเพนสฺส ปริวาโร มหา อโหสิ, ปฺจ อนฺเตวาสิกสตานิ อเหสุํ. อเถกทิวสํ เต ตาปสา โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘อาจริย, วสฺสารตฺตสมเย หิมวนฺตโต โอตริตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ชนปทจาริกํ คจฺฉาม, เอวํ โน สรีรฺจ ถิรํ ภวิสฺสติ, ชงฺฆวิหาโร จ กโต ภวิสฺสตี’’ติ อาหํสุ. เต ‘‘เตน หิ ตุมฺเห คจฺฉถ, อหํ อิเธว วสิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ตํ วนฺทิตฺวา หิมวนฺตา โอตริตฺวา จาริกํ จรมานา พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสึสุ. เตสํ มหาสกฺการสมฺมาโน อโหสิ. อเถกทิวสํ พาราณสิยํ สนฺถาคาเร สนฺนิปติเต มหาชนกาเย มงฺคลปฺโห สมุฏฺาติ. สพฺพํ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ตทา ปน มนุสฺสานํ กงฺขํ ฉินฺทิตฺวา มงฺคลปฺหํ กเถตุํ สมตฺถํ อปสฺสนฺโต มหาชโน อุยฺยานํ คนฺตฺวา อิสิคณํ มงฺคลปฺหํ ปุจฺฉิ. อิสโย ราชานํ อามนฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, มยํ เอตํ กเถตุํ น สกฺขิสฺสาม, อปิจ โข อมฺหากํ อาจริโย รกฺขิตตาปโส นาม มหาปฺโ หิมวนฺเต วสติ, โส สเทวกสฺส โลกสฺส จิตฺตํ คเหตฺวา เอตํ มงฺคลปฺหํ กเถสฺสตี’’ติ วทึสุ. ราชา ‘‘ภนฺเต, หิมวนฺโต นาม ทูเร ทุคฺคโมว, น สกฺขิสฺสาม มยํ ตตฺถ คนฺตุํ, สาธุ วต ตุมฺเหเยว อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา อุคฺคณฺหิตฺวา ปุนาคนฺตฺวา อมฺหากํ กเถถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา กตปฏิสนฺถารา อาจริเยน รฺโ ธมฺมิกภาเว ชนปทจาริตฺเต จ ปุจฺฉิเต ตํ ทิฏฺมงฺคลาทีนํ อุปฺปตฺตึ อาทิโต ปฏฺาย กเถตฺวา รฺโ ยาจนาย จ อตฺตโน ปฺหสวนตฺถํ อาคตภาวํ ปกาเสตฺวา ‘‘สาธุ โน ภนฺเต, มงฺคลปฺหํ ปากฏํ กตฺวา กเถถา’’ติ ยาจึสุ. ตโต เชฏฺนฺเตวาสิโก อาจริยํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๕๕.

‘‘กึสุ นโร ชปฺปมธิจฺจ กาเล, กํ วา วิชฺชํ กตมํ วา สุตานํ;

โส มจฺโจ อสฺมิฺจ ปรมฺหิ โลเก, กถํ กโร โสตฺถาเนน คุตฺโต’’ติ.

ตตฺถ กาเลติ มงฺคลปตฺถนกาเล. วิชฺชนฺติ เวทํ. สุตานนฺติ สิกฺขิตพฺพยุตฺตกปริยตฺตีนํ. อสฺมิฺจาติ เอตฺถ จาติ นิปาตมตฺตํ. โสตฺถาเนนาติ โสตฺถิภาวาวเหน มงฺคเลน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อาจริย, ปุริโส มงฺคลํ อิจฺฉนฺโต มงฺคลกาเล กึสุ นาม ชปฺปนฺโต ตีสุ เวเทสุ กตรํ วา เวทํ กตรํ วา สุตานํ อนฺตเร สุตปริยตฺตึ อธียิตฺวา โส มจฺโจ อิมสฺมิฺจ โลเก ปรมฺหิ จ กถํ กโร เอเตสุ ชปฺปาทีสุ กึ เกน นิยาเมน กโรนฺโต โสตฺถาเนน นิรปราธมงฺคเลน คุตฺโต รกฺขิโต โหติ, ตํ อุภยโลกหิตํ คเหตฺวา ิตมงฺคลํ อมฺหากํ กเถหี’’ติ.

เอวํ เชฏฺนฺเตวาสิเกน มงฺคลปฺหํ ปุฏฺโ มหาสตฺโต เทวมนุสฺสานํ กงฺขํ ฉินฺทนฺโต ‘‘อิทฺจิทฺจ มงฺคล’’นฺติ พุทฺธลีฬาย มงฺคลํ กเถนฺโต อาห –

๑๕๖.

‘‘ยสฺส เทวา ปิตโร จ สพฺเพ, สรีสปา สพฺพภูตานิ จาปิ;

เมตฺตาย นิจฺจํ อปจิตานิ โหนฺติ, ภูเตสุ เว โสตฺถานํ ตทาหู’’ติ.

ตตฺถ ยสฺสาติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส. เทวาติ ภุมฺมเทเว อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ กามาวจรเทวา. ปิตโร จาติ ตตุตฺตริ รูปาวจรพฺรหฺมาโน. สรีสปาติ ทีฆชาติกา. สพฺพภูตานิ จาปีติ วุตฺตาวเสสานิ จ สพฺพานิปิ ภูตานิ. เมตฺตาย นิจฺจํ อปจิตานิ โหนฺตีติ เอเต สพฺเพ สตฺตา ทสทิสาผรณวเสน ปวตฺตาย อปฺปนาปฺปตฺตาย เมตฺตาภาวนาย อปจิตา โหนฺติ. ภูเตสุ เวติ ตํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส สพฺพสตฺเตสุ โสตฺถานํ นิรนฺตรํ ปวตฺตํ นิรปราธมงฺคลํ อาหุ. เมตฺตาวิหารี หิ ปุคฺคโล สพฺเพสํ ปิโย โหติ ปรูปกฺกเมน อวิโกปิโย. อิติ โส อิมินา มงฺคเลน รกฺขิโต โคปิโต โหตีติ.

อิติ มหาสตฺโต ปมํ มงฺคลํ กเถตฺวา ทุติยาทีนิ กเถนฺโต –

๑๕๗.

‘‘โย สพฺพโลกสฺส นิวาตวุตฺติ, อิตฺถีปุมานํ สหทารกานํ;

ขนฺตา ทุรุตฺตานมปฺปฏิกูลวาที, อธิวาสนํ โสตฺถานํ ตทาหุ.

๑๕๘.

‘‘โย นาวชานาติ สหายมตฺเต, สิปฺเปน กุลฺยาหิ ธเนน ชจฺจา;

รุจิปฺโ อตฺถกาเล มตีมา, สหาเยสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.

๑๕๙.

‘‘มิตฺตานิ เว ยสฺส ภวนฺติ สนฺโต, สํวิสฺสตฺถา อวิสํวาทกสฺส;

น มิตฺตทุพฺภี สํวิภาคี ธเนน, มิตฺเตสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.

๑๖๐.

‘‘ยสฺส ภริยา ตุลฺยวยา สมคฺคา, อนุพฺพตา ธมฺมกามา ปชาตา;

โกลินิยา สีลวตี ปติพฺพตา, ทาเรสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.

๑๖๑.

‘‘ยสฺส ราชา ภูตปติ ยสสฺสี, ชานาติ โสเจยฺยํ ปรกฺกมฺจ;

อทฺเวชฺฌตา สุหทยํ มมนฺติ, ราชูสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.

๑๖๒.

‘‘อนฺนฺจ ปานฺจ ททาติ สทฺโธ, มาลฺจ คนฺธฺจ วิเลปนฺจ;

ปสนฺนจิตฺโต อนุโมทมาโน, สคฺเคสุ เว โสตฺถานํ ตทาหุ.

๑๖๓.

‘‘ยมริยธมฺเมน ปุนนฺติ วุทฺธา, อาราธิตา สมจริยาย สนฺโต;

พหุสฺสุตา อิสโย สีลวนฺโต, อรหนฺตมชฺเฌ โสตฺถานํ ตทาหู’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ นิวาตวุตฺตีติ มุทุจิตฺตตาย สพฺพโลกสฺส นีจวุตฺติ โหติ. ขนฺตา ทุรุตฺตานนฺติ ปเรหิ วุตฺตานํ ทุฏฺวจนานํ อธิวาสโก โหติ. อปฺปฏิกูลวาทีติ ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ, อวธิ ม’’นฺติ ยุคคฺคาหํ อกโรนฺโต อนุกูลเมว วทติ. อธิวาสนนฺติ อิทํ อธิวาสนํ ตสฺส โสตฺถานํ นิรปราธมงฺคลํ ปณฺฑิตา วทนฺติ.

สหายมตฺเตติ สหาเย จ สหายมตฺเต จ. ตตฺถ สหปํสุกีฬิตา สหายา นาม, ทส ทฺวาทส วสฺสานิ เอกโต วุตฺถา สหายมตฺตา นาม, เต สพฺเพปิ ‘‘อหํ สิปฺปวา, อิเม นิสิปฺปา’’ติ เอวํ สิปฺเปน วา ‘‘อหํ กุลีโน, อิเม น กุลีนา’’ติ เอวํ กุลสมฺปตฺติสงฺขาตาหิ กุลฺยาหิ วา, ‘‘อหํ อฑฺโฒ, อิเม ทุคฺคตา’’ติ เอวํ ธเนน วา, ‘‘อหํ ชาติสมฺปนฺโน, อิเม ทุชฺชาตา’’ติ เอวํ ชจฺจา วา นาวชานาติ. รุจิปฺโติ สาธุปฺโ สุนฺทรปฺโ. อตฺถกาเลติ กสฺสจิเทว อตฺถสฺส การณสฺส อุปฺปนฺนกาเล. มตีมาติ ตํ ตํ อตฺถํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิจารณสมตฺถตาย มติมา หุตฺวา เต สหาเย นาวชานาติ. สหาเยสูติ ตํ ตสฺส อนวชานนํ สหาเยสุ โสตฺถานํ นามาติ โปราณกปณฺฑิตา อาหุ. เตน หิ โส นิรปราธมงฺคเลน อิธโลเก จ ปรโลเก จ คุตฺโต โหติ. ตตฺถ ปณฺฑิเต สหาเย นิสฺสาย โสตฺถิภาโว กุสนาฬิชาตเกน (ชา. ๑.๑.๑๒๑ อาทโย) กเถตพฺโพ.

สนฺโตติ ปณฺฑิตา สปฺปุริสา ยสฺส มิตฺตานิ ภวนฺติ. สํวิสฺสตฺถาติ ฆรํ ปวิสิตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตสฺเสว คหณวเสน วิสฺสาสมาปนฺนา. อวิสํวาทกสฺสาติ อวิสํวาทนสีลสฺส. น มิตฺตทุพฺภีติ โย จ มิตฺตทุพฺภี น โหติ. สํวิภาคี ธเนนาติ อตฺตโน ธเนน มิตฺตานํ สํวิภาคํ กโรติ. มิตฺเตสูติ มิตฺเต นิสฺสาย ลทฺธพฺพํ ตสฺส ตํ มิตฺเตสุ โสตฺถานํ นาม โหติ. โส หิ เอวรูเปหิ มิตฺเตหิ รกฺขิโต โสตฺถึ ปาปุณาติ. ตตฺถ มิตฺเต นิสฺสาย โสตฺถิภาโว มหาอุกฺกุสชาตกาทีหิ (ชา. ๑.๑๔.๔๔ อาทโย) กเถตพฺโพ.

ตุลฺยวยาติ สมานวยา. สมคฺคาติ สมคฺควาสา. อนุพฺพตาติ อนุวตฺติตา. ธมฺมกามาติ ติวิธสุจริตธมฺมํ โรเจติ. ปชาตาติ วิชายินี, น วฺฌา. ทาเรสูติ เอเตหิ สีลคุเณหิ สมนฺนาคเต มาตุคาเม เคเห วสนฺเต สามิกสฺส โสตฺถิ โหตีติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ. ตตฺถ สีลวนฺตํ มาตุคามํ นิสฺสาย โสตฺถิภาโว มณิโจรชาตก- (ชา. ๑.๒.๘๗ อาทโย) สมฺพูลชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๒๙๗ อาทโย) ขณฺฑหาลชาตเกหิ (ชา. ๒.๒๒.๙๘๒ อาทโย) กเถตพฺโพ.

โสเจยฺยนฺติ สุจิภาวํ. อทฺเวชฺฌตาติ อทฺเวชฺฌตาย น เอส มยา สทฺธึ ภิชฺชิตฺวา ทฺวิธา ภวิสฺสตีติ เอวํ อทฺเวชฺฌภาเวน ยํ ชานาติ. สุหทยํ มมนฺติ สุหโท อยํ มมนฺติ จ ยํ ชานาติ. ราชูสุ เวติ เอวํ ราชูสุ เสวกานํ โสตฺถานํ นามาติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ. ททาติ สทฺโธติ กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา ททาติ. สคฺเคสุ เวติ เอวํ สคฺเค เทวโลเก โสตฺถานํ นิรปราธมงฺคลนฺติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ, ตํ เปตวตฺถุวิมานวตฺถูหิ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพํ.

ปุนนฺติ วุทฺธาติ ยํ ปุคฺคลํ าณวุทฺธา อริยธมฺเมน ปุนนฺติ ปริโสเธนฺติ. สมจริยายาติ สมฺมาปฏิปตฺติยา. พหุสฺสุตาติ ปฏิเวธพหุสฺสุตา. อิสโยติ เอสิตคุณา. สีลวนฺโตติ อริยสีเลน สมนฺนาคตา. อรหนฺตมชฺเฌติ อรหนฺตานํ มชฺเฌ ปฏิลภิตพฺพํ ตํ โสตฺถานนฺติ ปณฺฑิตา กเถนฺติ. อรหนฺโต หิ อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา ปฏิปาเทนฺตา อาราธกํ ปุคฺคลํ อริยมคฺเคน ปุนนฺติ, โสปิ อรหาว โหติ.

เอวํ มหาสตฺโต อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหนฺโต อฏฺหิ คาถาหิ อฏฺ มหามงฺคลานิ กเถตฺวา เตสฺเว มงฺคลานํ ถุตึ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –

๑๖๔.

‘‘เอตานิ โข โสตฺถานานิ โลเก, วิฺุปฺปสตฺถานิ สุขุทฺรยานิ;

ตานีธ เสเวถ นโร สปฺโ, น หิ มงฺคเล กิฺจนมตฺถิ สจฺจ’’นฺติ.

ตตฺถ น หิ มงฺคเลติ ตสฺมึ ปน ทิฏฺสุตมุตปฺปเภเท มงฺคเล กิฺจนํ เอกมงฺคลมฺปิ สจฺจํ นาม นตฺถิ, นิพฺพานเมว ปเนกํ ปรมตฺถสจฺจนฺติ.

อิสโย ตานิ มงฺคลานิ สุตฺวา สตฺตฏฺทิวสจฺจเยน อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา ตตฺเถว อคมํสุ. ราชา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ. เต ตสฺส อาจริเยน กถิตนิยาเมน มงฺคลปฺหํ กเถตฺวา หิมวนฺตเมว อาคมํสุ. ตโต ปฏฺาย โลเก มงฺคลํ ปากฏํ อโหสิ. มงฺคเลสุ วตฺติตฺวา มตมตา สคฺคปถํ ปูเรสุํ. โพธิสตฺโต จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา อิสิคณํ อาทาย พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ มงฺคลปฺหํ กเถสิ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อิสิคโณ พุทฺธปริสา อโหสิ, มงฺคลปฺหปุจฺฉโก เชฏฺนฺเตวาสิโก สาริปุตฺโต, อาจริโย ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหามงฺคลชาตกวณฺณนา ปนฺนรสมา.

[๔๕๔] ๑๖. ฆฏปณฺฑิตชาตกวณฺณนา

อุฏฺเหิ กณฺหาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มตปุตฺตํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ มฏฺกุณฺฑลิสทิสเมว. อิธ ปน สตฺถา ตํ อุปาสกํ ‘‘กึ, อุปาสก, โสจสี’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, โปราณกปณฺฑิตา ปณฺฑิตานํ กถํ สุตฺวา มตปุตฺตํ นานุโสจึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต อุตฺตรปเถ กํสโภเค อสิตฺชนนคเร มหากํโส นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส กํโส จ, อุปกํโส จาติ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ, เทวคพฺภา นาม เอกา ธีตา. ตสฺสา ชาตทิวเส เนมิตฺตกา พฺราหฺมณา ‘‘เอติสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตปุตฺตา กํสโคตฺตํ กํสวํสํ นาเสสฺสนฺตี’’ติ พฺยากรึสุ. ราชา พลวสิเนเหน ธีตรํ วินาเสตุํ นาสกฺขิ, ‘‘ภาตโร ชานิสฺสนฺตี’’ติ ยาวตายุกํ ตฺวา กาลมกาสิ. ตสฺมึ กาลกเต กํโส ราชา อโหสิ, อุปกํโส อุปราชา. เต จินฺตยึสุ ‘‘สเจ มยํ ภคินึ นาเสสฺสาม, คารยฺหา ภวิสฺสาม, เอตํ กสฺสจิ อทตฺวา นิสฺสามิกํ กตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามา’’ติ. เต เอกถูณกํ ปาสาทํ กาเรตฺวา ตํ ตตฺถ วสาเปสุํ. นนฺทิโคปา นาม ตสฺสา ปริจาริกา อโหสิ. อนฺธกเวณฺโฑ นาม ทาโส ตสฺสา สามิโก อารกฺขมกาสิ.

ตทา อุตฺตรมธุราย มหาสาคโร นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส สาคโร, อุปสาคโร จาติ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เตสุ ปิตุ อจฺจเยน สาคโร ราชา อโหสิ, อุปสาคโร อุปราชา. โส อุปกํสสฺส สหายโก เอกาจริยกุเล เอกโต อุคฺคหิตสิปฺโป. โส สาครสฺส ภาตุ อนฺเตปุเร ทุพฺภิตฺวา ภายมาโน ปลายิตฺวา กํสโภเค อุปกํสสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. อุปกํโส ตํ รฺโ ทสฺเสสิ, ราชา ตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิ. โส ราชุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต เทวคพฺภาย นิวาสํ เอกถมฺภํ ปาสาทํ ทิสฺวา ‘‘กสฺเสโส นิวาโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ การณํ สุตฺวา เทวคพฺภาย ปฏิพทฺธจิตฺโต อโหสิ. เทวคพฺภาปิ เอกทิวสํ ตํ อุปกํเสน สทฺธึ ราชุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มหาสาครสฺส ปุตฺโต อุปสาคโร นามา’’ติ นนฺทิโคปาย สนฺติกา สุตฺวา ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา อโหสิ. อุปสาคโร นนฺทิโคปาย ลฺชํ ทตฺวา ‘‘ภคินิ, สกฺขิสฺสสิ เม เทวคพฺภํ ทสฺเสตุ’’นฺติ อาห. สา ‘‘น เอตํ สามิ, ครุก’’นฺติ วตฺวา ตํ การณํ เทวคพฺภาย อาโรเจสิ. สา ปกติยาว ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นนฺทิโคปา อุปสาครสฺส สฺํ ทตฺวา รตฺติภาเค ตํ ปาสาทํ อาโรเปสิ. โส เทวคพฺภาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ. อถ เนสํ ปุนปฺปุนํ สํวาเสน เทวคพฺภา คพฺภํ ปฏิลภิ.

อปรภาเค ตสฺสา คพฺภปติฏฺานํ ปากฏํ อโหสิ. ภาตโร นนฺทิโคปํ ปุจฺฉึสุ, สา อภยํ ยาจิตฺวา ตํ อนฺตรํ กเถสิ. เต สุตฺวา ‘‘ภคินึ นาเสตุํ น สกฺกา, สเจ ธีตรํ วิชายิสฺสติ, ตมฺปิ น นาเสสฺสาม, สเจ ปน ปุตฺโต ภวิสฺสติ, นาเสสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา เทวคพฺภํ อุปสาครสฺเสว อทํสุ. สา ปริปุณฺณคพฺภา ธีตรํ วิชายิ. ภาตโร สุตฺวา หฏฺตุฏฺา ตสฺสา ‘‘อฺชนเทวี’’ติ นามํ กรึสุ. เตสํ โภควฑฺฒมานํ นาม โภคคามํ อทํสุ. อุปสาคโร เทวคพฺภํ คเหตฺวา โภควฑฺฒมานคาเม วสิ. เทวคพฺภาย ปุนปิ คพฺโภ ปติฏฺาสิ, นนฺทิโคปาปิ ตํ ทิวสเมว คพฺภํ ปฏิลภิ. ตาสุ ปริปุณฺณคพฺภาสุ เอกทิวสเมว เทวคพฺภา ปุตฺตํ วิชายิ, นนฺทิโคปา ธีตรํ วิชายิ. เทวคพฺภา ปุตฺตสฺส วินาสนภเยน ปุตฺตํ นนฺทิโคปาย รหสฺเสน เปเสตฺวา ตสฺสา ธีตรํ อาหราเปสิ. ตสฺสา วิชาตภาวํ ภาติกานํ อาโรเจสุํ. เต ‘‘ปุตฺตํ วิชาตา, ธีตร’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธีตร’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ โปเสถา’’ติ อาหํสุ. เอเตนุปาเยน เทวคพฺภา ทส ปุตฺเต วิชายิ, ทส ธีตโร นนฺทิโคปา วิชายิ. ทส ปุตฺตา นนฺทิโคปาย สนฺติเก วฑฺฒนฺติ, ธีตโร เทวคพฺภาย. ตํ อนฺตรํ โกจิ น ชานาติ. เทวคพฺภาย เชฏฺปุตฺโต วาสุเทโว นาม อโหสิ, ทุติโย พลเทโว, ตติโย จนฺทเทโว, จตุตฺโถ สูริยเทโว, ปฺจโม อคฺคิเทโว, ฉฏฺโ วรุณเทโว, สตฺตโม อชฺชุโน, อฏฺโม ปชฺชุโน, นวโม ฆฏปณฺฑิโต, ทสโม องฺกุโร นาม อโหสิ. เต อนฺธกเวณฺฑทาสปุตฺตา ทส ภาติกา เจฏกาติ ปากฏา อเหสุํ.

เต อปรภาเค วุทฺธิมนฺวาย ถามพลสมฺปนฺนา กกฺขฬา ผรุสา หุตฺวา วิโลปํ กโรนฺตา วิจรนฺติ, รฺโ คจฺฉนฺเต ปณฺณากาเรปิ วิลุมฺปนฺเตว. มนุสฺสา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อนฺธกเวณฺฑทาสปุตฺตา ทส ภาติกา รฏฺํ วิลุมฺปนฺตี’’ติ ราชงฺคเณ อุปกฺโกสึสุ. ราชา อนฺธกเวณฺฑํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กสฺมา ปุตฺเตหิ วิโลปํ การาเปสี’’ติ ตชฺเชสิ. เอวํ ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ มนุสฺเสหิ อุปกฺโกเส กเต ราชา ตํ สนฺตชฺเชสิ. โส มรณภยภีโต ราชานํ อภยํ ยาจิตฺวา ‘‘เทว, เอเต น มยฺหํ ปุตฺตา, อุปสาครสฺส ปุตฺตา’’ติ ตํ อนฺตรํ อาโรเจสิ. ราชา ภีโต ‘‘เกน เต อุปาเยน คณฺหามา’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอเต, เทว, มลฺลยุทฺธวิตฺตกา, นคเร ยุทฺธํ กาเรตฺวา ตตฺถ เน ยุทฺธมณฺฑลํ อาคเต คาหาเปตฺวา มาเรสฺสามา’’ติ วุตฺเต จารุรฺจ, มุฏฺิกฺจาติ ทฺเว มลฺเล โปเสตฺวา ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส ยุทฺธํ ภวิสฺสตี’’ติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา ราชงฺคเณ ยุทฺธมณฺฑลํ สชฺชาเปตฺวา อกฺขวาฏํ กาเรตฺวา ยุทฺธมณฺฑลํ อลงฺการาเปตฺวา ธชปฏากํ พนฺธาเปสิ. สกลนครํ สงฺขุภิ. จกฺกาติจกฺกํ มฺจาติมฺจํ พนฺธิตฺวา จารุรมุฏฺิกา ยุทฺธมณฺฑลํ อาคนฺตฺวา วคฺคนฺตา คชฺชนฺตา อปฺโผเฏนฺตา วิจรึสุ. ทส ภาติกาปิ อาคนฺตฺวา รชกวีถึ วิลุมฺปิตฺวา วณฺณสาฏเก นิวาเสตฺวา คนฺธาปเณสุ คนฺธํ, มาลาการาปเณสุ มาลํ วิลุมฺปิตฺวา วิลิตฺตคตฺตา มาลธาริโน กตกณฺณปูรา วคฺคนฺตา คชฺชนฺตา อปฺโผเฏนฺตา ยุทฺธมณฺฑลํ ปวิสึสุ.

ตสฺมึ ขเณ จารุโร อปฺโผเฏนฺโต วิจรติ. พลเทโว ตํ ทิสฺวา ‘‘น นํ หตฺเถน ฉุปิสฺสามี’’ติ หตฺถิสาลโต มหนฺตํ หตฺถิโยตฺตํ อาหริตฺวา วคฺคิตฺวา คชฺชิตฺวา โยตฺตํ ขิปิตฺวา จารุรํ อุทเร เวเตฺวา ทฺเว โยตฺตโกฏิโย เอกโต กตฺวา วตฺเตตฺวา อุกฺขิปิตฺวา สีสมตฺถเก ภเมตฺวา ภูมิยํ โปเถตฺวา พหิ อกฺขวาเฏ ขิปิ. จารุเร มเต ราชา มุฏฺิกมลฺลํ อาณาเปสิ. โส อุฏฺาย วคฺคิตฺวา คชฺชิตฺวา อปฺโผเฏสิ. พลเทโว ตํ โปเถตฺวา อฏฺีนิ สฺจุณฺเณตฺวา ‘‘อมลฺโลมฺหิ, อมลฺโลมฺหี’’ติ วทนฺตเมว ‘‘นาหํ ตว มลฺลภาวํ วา อมลฺลภาวํ วา ชานามี’’ติ หตฺเถ คเหตฺวา ภูมิยํ โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา พหิ อกฺขวาเฏ ขิปิ. มุฏฺิโก มรนฺโต ‘‘ยกฺโข หุตฺวา ตํ ขาทิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. โส กาลมตฺติกอฏวิยํ นาม ยกฺโข หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ราชา ‘‘คณฺหถ ทส ภาติเก เจฏเก’’ติ อุฏฺหิ. ตสฺมึ ขเณ วาสุเทโว จกฺกํ ขิปิ. ตํ ทฺวินฺนมฺปิ ภาติกานํ สีสานิ ปาเตสิ. มหาชโน ภีตตสิโต ‘‘อวสฺสยา โน โหถา’’ติ เตสํ ปาเทสุ ปติตฺวา นิปชฺชิ. เต ทฺเวปิ มาตุเล มาเรตฺวา อสิตฺชนนคเร รชฺชํ คเหตฺวา มาตาปิตโร ตตฺถ กตฺวา ‘‘สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คณฺหิสฺสามา’’ติ นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน กาลโยนกรฺโ นิวาสํ อยุชฺฌนครํ คนฺตฺวา ตํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ ปริขารุกฺขคหนํ วิทฺธํเสตฺวา ปาการํ ภินฺทิตฺวา ราชานํ คเหตฺวา ตํ รชฺชํ อตฺตโน หตฺถคตํ กตฺวา ทฺวารวตึ ปาปุณึสุ. ตสฺส ปน นครสฺส เอกโต สมุทฺโท เอกโต ปพฺพโต, อมนุสฺสปริคฺคหิตํ กิร ตํ อโหสิ.

ตสฺส อารกฺขํ คเหตฺวา ิตยกฺโข ปจฺจามิตฺเต ทิสฺวา คทฺรภเวเสน คทฺรภรวํ รวติ. ตสฺมึ ขเณ ยกฺขานุภาเวน สกลนครํ อุปฺปติตฺวา มหาสมุทฺเท เอกสฺมึ ทีปเก ติฏฺติ. ปจฺจามิตฺเตสุ คเตสุ ปุนาคนฺตฺวา สกฏฺาเนเยว ปติฏฺาติ. ตทาปิ โส คทฺรโภ เตสํ ทสนฺนํ ภาติกานํ อาคมนํ ตฺวา คทฺรภรวํ รวิ. นครํ อุปฺปติตฺวา ทีปเก ปติฏฺาย เตสุ นครํ อทิสฺวา นิวตฺตนฺเตสุ ปุนาคนฺตฺวา สกฏฺาเน ปติฏฺาสิ. เต ปุน นิวตฺตึสุ, ปุนปิ คทฺรโภ ตเถว อกาสิ. เต ทฺวารวตินคเร รชฺชํ คณฺหิตุํ อสกฺโกนฺตา กณฺหทีปายนสฺส อิสิโน สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยํ ทฺวารวติยํ รชฺชํ คเหตุํ น สกฺโกม, เอกํ โน อุปายํ กโรถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปริขาปิฏฺเ อสุกสฺมึ นาม าเน เอโก คทฺรโภ จรติ. โส หิ อมิตฺเต ทิสฺวา วิรวติ, ตสฺมึ ขเณ นครํ อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ, ตุมฺเห ตสฺส ปาเท คณฺหถ, อยํ โว นิปฺผชฺชนูปาโย’’ติ วุตฺเต ตาปสํ วนฺทิตฺวา คนฺตฺวา คทฺรภสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา นิปติตฺวา ‘‘สามิ, เปตฺวา ตุมฺเห อฺโ อมฺหากํ อวสฺสโย นตฺถิ, อมฺหากํ นครํ คณฺหนกาเล มา รวิตฺถา’’ติ ยาจึสุ. คทฺรโภ ‘‘น สกฺกา น วิรวิตุํ, ตุมฺเห ปน ปมตรํ อาคนฺตฺวา จตฺตาโร ชนา มหนฺตานิ อยนงฺคลานิ คเหตฺวา จตูสุ นครทฺวาเรสุ มหนฺเต อยขาณุเก ภูมิยํ อาโกเฏตฺวา นครสฺส อุปฺปตนกาเล นงฺคลานิ คเหตฺวา นงฺคลพทฺธํ อยสงฺขลิกํ อยขาณุเก พนฺเธยฺยาถ, นครํ อุปฺปติตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ อาห.

เต ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ตสฺมึ อวิรวนฺเตเยว นงฺคลานิ อาทาย จตูสุ นครทฺวาเรสุ ขาณุเก ภูมิยํ อาโกเฏตฺวา อฏฺํสุ. ตสฺมึ ขเณ คทฺรโภ วิรวิ, นครํ อุปฺปติตุมารภิ. จตูสุ ทฺวาเรสุ ิตา จตูหิ อยนงฺคเลหิ คเหตฺวา นงฺคลพทฺธา อยสงฺขลิกา ขาณุเกสุ พนฺธึสุ, นครํ อุปฺปติตุํ นาสกฺขิ. ทส ภาติกา ตโต นครํ ปวิสิตฺวา ราชานํ มาเรตฺวา รชฺชํ คณฺหึสุ. เอวํ เต สกลชมฺพุทีเป เตสฏฺิยา นครสหสฺเสสุ สพฺพราชาโน จกฺเกน ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ทฺวารวติยํ วสมานา รชฺชํ ทส โกฏฺาเส กตฺวา วิภชึสุ, ภคินึ ปน อฺชนเทวึ น สรึสุ. ตโต ปุน ‘‘เอกาทส โกฏฺาเส กโรมา’’ติ วุตฺเต องฺกุโร ‘‘มม โกฏฺาสํ ตสฺสา เทถ, อหํ โวหารํ กตฺวา ชีวิสฺสามิ, เกวลํ ตุมฺเห อตฺตโน ชนปเท มยฺหํ สุงฺกํ วิสฺสชฺเชถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส โกฏฺาสํ ภคินิยา ทตฺวา สทฺธึ ตาย นว ราชาโน ทฺวารวติยํ วสึสุ. องฺกุโร ปน วณิชฺชมกาสิ. เอวํ เตสุ อปราปรํ ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒมาเนสุ อทฺธาเน คเต มาตาปิตโร กาลมกํสุ.

ตทา กิร มนุสฺสานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกกาโล อโหสิ. ตทา วาสุเทวมหาราชสฺส เอโก ปุตฺโต กาลมกาสิ. ราชา โสกปเรโต สพฺพกิจฺจานิ ปหาย มฺจสฺส อฏนึ ปริคฺคเหตฺวา วิลปนฺโต นิปชฺชิ. ตสฺมึ กาเล ฆฏปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ โกจิ มม ภาตุ โสกํ หริตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อุปาเยนสฺส โสกํ หริสฺสามี’’ติ. โส อุมฺมตฺตกเวสํ คเหตฺวา ‘‘สสํ เม เทถ, สสํ เม เทถา’’ติ อากาสํ อุลฺโลเกนฺโต สกลนครํ วิจริ. ‘‘ฆฏปณฺฑิโต อุมฺมตฺตโก ชาโต’’ติ สกลนครํ สงฺขุภิ. ตสฺมึ กาเล โรหิเณยฺโย นาม อมจฺโจ วาสุเทวรฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ กถํ สมุฏฺาเปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๖๕.

‘‘อุฏฺเหิ กณฺห กึ เสสิ, โก อตฺโถ สุปเนน เต;

โยปิ ตุยฺหํ สโก ภาตา, หทยํ จกฺขุ จ ทกฺขิณํ;

ตสฺส วาตา พลียนฺติ, ฆโฏ ชปฺปติ เกสวา’’ติ.

ตตฺถ กณฺหาติ โคตฺเตนาลปติ, กณฺหายนโคตฺโต กิเรส. โก อตฺโถติ กตรา นาม วฑฺฒิ. หทยํ จกฺขุ จ ทกฺขิณนฺติ หทเยน เจว ทกฺขิณจกฺขุนา จ สมาโนติ อตฺโถ. ตสฺส วาตา พลียนฺตีติ ตสฺส หทยํ อปสฺมารวาตา อวตฺถรนฺตีติ อตฺโถ. ชปฺปตีติ ‘‘สสํ เม เทถา’’ติ วิปฺปลปติ. เกสวาติ โส กิร เกสโสภนตาย ‘‘เกสวา’’ติ ปฺายิตฺถ, เตน ตํ นาเมนาลปติ.

เอวํ อมจฺเจน วุตฺเต ตสฺส อุมฺมตฺตกภาวํ ตฺวา สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๑๖๖.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;

ตรมานรูโป วุฏฺาสิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิโต’’ติ.

ราชา อุฏฺาย สีฆํ ปาสาทา โอตริตฺวา ฆฏปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อุโภสุ หตฺเถสุ ทฬฺหํ คเหตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๖๗.

‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;

สโส สโสติ ลปสิ, โก นุ เต สสมาหรี’’ติ.

ตตฺถ เกวลํ ทฺวารกํ อิมนฺติ กสฺมา อุมฺมตฺตโก วิย หุตฺวา สกลํ อิมํ ทฺวารวตินครํ วิจรนฺโต ‘‘สโส สโส’’ติ ลปสิ. โก ตว สสํ หริ, เกน เต สโส คหิโตติ ปุจฺฉติ.

โส รฺา เอวํ วุตฺเตปิ ปุนปฺปุนํ ตเทว วจนํ วทติ. ราชา ปุน ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๖๘.

‘‘โสวณฺณมยํ มณีมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยามยํ;

สงฺขสิลาปวาฬมยํ, การยิสฺสามิ เต สสํ.

๑๖๙.

‘‘สนฺติ อฺเปิ สสกา, อรฺเ วนโคจรา;

เตปิ เต อานยิสฺสามิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – เตสุ สุวณฺณมยาทีสุ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ วท, อหํ เต กาเรตฺวา ทสฺสามิ, อถาปิ เต น โรเจสิ, อฺเปิ อรฺเ วนโคจรา สสกา อตฺถิ, เตปิ เต อานยิสฺสามิ, วท ภทฺรมุข, กีทิสํ สสมิจฺฉสีติ.

รฺโ กถํ สุตฺวา ฆฏปณฺฑิโต ฉฏฺํ คาถมาห –

๑๗๐.

‘‘น จาหเมเต อิจฺฉามิ, เย สสา ปถวิสฺสิตา;

จนฺทโต สสมิจฺฉามิ, ตํ เม โอหร เกสวา’’ติ.

ตตฺถ โอหราติ โอตาเรหิ.

ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ เม ภาตา อุมฺมตฺตโกว ชาโต’’ติ โทมนสฺสปฺปตฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๑๗๑.

‘‘โส นูน มธุรํ าติ, ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;

อปตฺถิยํ โย ปตฺถยสิ, จนฺทโต สสมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ าตีติ กนิฏฺํ อาลปนฺโต อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตาต, มยฺหํ ปิยาติ โส ตฺวํ นูน อติมธุรํ อตฺตโน ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ, โย อปตฺเถตพฺพํ ปตฺถยสี’’ติ.

ฆฏปณฺฑิโต รฺโ วจนํ สุตฺวา นิจฺจโล ตฺวา ‘‘ภาติก, ตฺวํ จนฺทโต สสกํ ปตฺเถนฺตสฺส ตํ อลภิตฺวา ชีวิตกฺขยภาวํ ชานนฺโต กึ การณา มตปุตฺตํ อนุโสจสี’’ติ วตฺวา อฏฺมํ คาถมาห –

๑๗๒.

‘‘เอวํ เจ กณฺห ชานาสิ, ยทฺมนุสาสสิ;

กสฺมา ปุเร มตํ ปุตฺตํ, อชฺชาปิ มนุโสจสี’’ติ.

ตตฺถ เอวนฺติ อิทํ อลพฺภเนยฺยฏฺานํ นาม น ปตฺเถตพฺพนฺติ ยทิ เอวํ ชานาสิ. ยทฺมนุสาสสีติ เอวํ ชานนฺโตว ยทิ อฺํ อนุสาสสีติ อตฺโถ. ปุเรติ อถ กสฺมา อิโต จตุมาสมตฺถเก มตปุตฺตํ อชฺชาปิ อนุโสจสีติ วทติ.

เอวํ โส อนฺตรวีถิยํ ิตโกว ‘‘ภาติก, อหํ ตาว ปฺายมานํ ปตฺเถมิ, ตฺวํ ปน อปฺายมานสฺส โสจสี’’ติ วตฺวา ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต ปุน ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๗๓.

‘‘ยํ น ลพฺภา มนุสฺเสน, อมนุสฺเสน วา ปุน;

ชาโต เม มา มรี ปุตฺโต, กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํ.

๑๗๔.

‘‘น มนฺตา มูลเภสชฺชา, โอสเธหิ ธเนน วา;

สกฺกา อานยิตุํ กณฺห, ยํ เปตมนุโสจสี’’ติ.

ตตฺถ นฺติ ภาติก ยํ เอวํ ชาโต เม ปุตฺโต มา มรีติ มนุสฺเสน วา เทเวน วา ปุน น ลพฺภา น สกฺกา ลทฺธุํ, ตํ ตฺวํ ปตฺเถสิ, ตเทตํ กุโต ลพฺภา เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุํ, น สกฺกาติ ทีเปติ. กสฺมา? ยสฺมา อลพฺภิยํ, อลพฺภเนยฺยฏฺานฺหิ นาเมตนฺติ อตฺโถ. มนฺตาติ มนฺตปโยเคน. มูลเภสชฺชาติ มูลเภสชฺเชน. โอสเธหีติ นานาวิโธสเธหิ. ธเนน วาติ โกฏิสตสงฺขฺเยนปิ ธเนน วา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยํ ตฺวํ เปตมนุโสจสิ, ตํ เอเตหิ มนฺตปโยคาทีหิ อาเนตุํ น สกฺกา’’ติ.

ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘ยุตฺตํ, ตาต, สลฺลกฺขิตํ เม, มม โสกหรณตฺถาย ตยา อิทํ กต’’นฺติ ฆฏปณฺฑิตํ วณฺเณนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๗๕.

‘‘ยสฺส เอตาทิสา อสฺสุ, อมจฺจา ปุริสปณฺฑิตา;

ยถา นิชฺฌาปเย อชฺช, ฆโฏ ปุริสปณฺฑิโต.

๑๗๖.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๑๗๗.

‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, ยมาสิ หทยสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.

๑๗๘.

‘‘โสหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, วีตโสโก อนาวิโล;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.

ตตฺถ ปมคาถาย สงฺเขปตฺโถ – ยถา เยน การเณน อชฺช มํ ปุตฺตโสกปเรตํ ฆโฏ ปุริสปณฺฑิโต โสกหรณตฺถาย นิชฺฌาปเย นิชฺฌาเปสิ โพเธสิ. ยสฺส อฺสฺสปิ เอตาทิสา ปุริสปณฺฑิตา อมจฺจา อสฺสุ, ตสฺส กุโต โสโกติ. เสสคาถา วุตฺตตฺถาเยว.

อวสาเน

๑๗๙.

‘‘เอวํ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;

นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตร’’นฺติ. –

อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา อุตฺตานตฺถาเยว.

เอวํ ฆฏกุมาเรน วีตโสเก กเต วาสุเทเว รชฺชํ อนุสาสนฺเต ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ทสภาติกปุตฺตา กุมารา จินฺตยึสุ ‘‘กณฺหทีปายนํ ‘ทิพฺพจกฺขุโก’ติ วทนฺติ, วีมํสิสฺสาม ตาว น’’นฺติ. เต เอกํ ทหรกุมารํ อลงฺกริตฺวา คพฺภินิอากาเรน ทสฺเสตฺวา อุทเร มสูรกํ พนฺธิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ กุมาริกา กึ วิชายิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉึสุ. ตาปโส ‘‘ทสภาติกราชูนํ วินาสกาโล ปตฺโต, มยฺหํ นุ โข อายุสงฺขาโร กีทิโส โหตี’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘อชฺเชว มรณํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘กุมารา อิมินา ตุมฺหากํ โก อตฺโถ’’ติ วตฺวา ‘‘กเถเถว โน, ภนฺเต’’ติ นิพทฺโธ ‘‘อยํ อิโต สตฺตเม ทิวเส ขทิรฆฏิกํ วิชายิสฺสติ, ตาย วาสุเทวกุลํ นสฺสิสฺสติ, อปิจ โข ปน ตุมฺเห ตํ ขทิรฆฏิกํ คเหตฺวา ฌาเปตฺวา ฉาริกํ นทิยํ ปกฺขิเปยฺยาถา’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘กูฏชฏิล, ปุริโส วิชายนโก นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา ตนฺตรชฺชุกํ นาม กมฺมกรณํ กตฺวา ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปยึสุ. ราชาโน กุมาเร ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กึ การณา ตาปสํ มารยิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพํ สุตฺวา ภีตา ตสฺส อารกฺขํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตสฺส กุจฺฉิโต นิกฺขนฺตํ ขทิรฆฏิกํ ฌาเปตฺวา ฉาริกํ นทิยํ ขิปึสุ. สา นทิยา วุยฺหมานา มุขทฺวาเร เอกปสฺเส ลคฺคิ, ตโต เอรกํ นิพฺพตฺติ.

อเถกทิวสํ เต ราชาโน ‘‘สมุทฺทกีฬํ กีฬิสฺสามา’’ติ มุขทฺวารํ คนฺตฺวา มหามณฺฑปํ การาเปตฺวา อลงฺกตมณฺฑเป ขาทนฺตา ปิวนฺตา กีฬาวเสเนว ปวตฺตหตฺถปาทปรามาสา ทฺวิธา ภิชฺชิตฺวา มหากลหํ กรึสุ. อเถโก อฺํ มุคฺครํ อลภนฺโต เอรกวนโต เอกํ เอรกปตฺตํ คณฺหิ. ตํ คหิตมตฺตเมว ขทิรมุสลํ อโหสิ. โส เตน มหาชนํ โปเถสิ. อถฺเหิ สพฺเพหิ คหิตคหิตํ ขทิรมุสลเมว อโหสิ. เต อฺมฺํ ปหริตฺวา มหาวินาสํ ปาปุณึสุ. เตสุ มหาวินาสํ วินสฺสนฺเตสุ วาสุเทโว จ พลเทโว จ ภคินี อฺชนเทวี จ ปุโรหิโต จาติ จตฺตาโร ชนา รถํ อภิรุหิตฺวา ปลายึสุ, เสสา สพฺเพปิ วินฏฺา. เตปิ จตฺตาโร รเถน ปลายนฺตา กาฬมตฺติกอฏวึ ปาปุณึสุ. โส หิ มุฏฺิกมลฺโล ปตฺถนํ กตฺวา ยกฺโข หุตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺโต พลเทวสฺส อาคตภาวํ ตฺวา ตตฺถ คามํ มาเปตฺวา มลฺลเวสํ คเหตฺวา ‘‘โก ยุชฺฌิตุกาโม’’ติ วคฺคนฺโต คชฺชนฺโต อปฺโผเฏนฺโต วิจริ. พลเทโว ตํ ทิสฺวาว ‘‘ภาติก, อหํ อิมินา สทฺธึ ยุชฺฌิสฺสามี’’ติ วตฺวา วาสุเทเว วาเรนฺเตเยว รถา โอรุยฺห ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วคฺคนฺโต คชฺชนฺโต อปฺโผเฏสิ. อถ นํ โส ปสาริตหตฺเถเยว คเหตฺวา มูลกนฺทํ วิย ขาทิ. วาสุเทโว ตสฺส มตภาวํ ตฺวา ภคินิฺจ ปุโรหิตฺจ อาทาย สพฺพรตฺตึ คนฺตฺวา สูริโยทเย เอกํ ปจฺจนฺตคามํ ปตฺวา ‘‘อาหารํ ปจิตฺวา อาหรถา’’ติ ภคินิฺจ ปุโรหิตฺจ คามํ ปหิณิตฺวา สยํ เอกสฺมึ คจฺฉนฺตเร ปฏิจฺฉนฺโน นิปชฺชิ.

อถ นํ ชรา นาม เอโก ลุทฺทโก คจฺฉํ จลนฺตํ ทิสฺวา ‘‘สูกโร เอตฺถ ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย สตฺตึ ขิปิตฺวา ปาเท วิชฺฌิตฺวา ‘‘โก มํ วิชฺฌี’’ติ วุตฺเต มนุสฺสสฺส วิทฺธภาวํ ตฺวา ภีโต ปลายิตุํ อารภิ. ราชา สตึ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อุฏฺาย ‘‘มาตุล, มา ภายิ, เอหี’’ติ ปกฺโกสิตฺวา อาคตํ ‘‘โกสิ นาม ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ สามิ, ชรา นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ชราย วิทฺโธ มริสฺสตีติ กิร มํ โปราณา พฺยากรึสุ, นิสฺสํสยํ อชฺช มยา มริตพฺพ’’นฺติ ตฺวา ‘‘มาตุล, มา ภายิ, เอหิ ปหารํ เม พนฺธา’’ติ เตน ปหารมุขํ พนฺธาเปตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. พลวเวทนา ปวตฺตึสุ, อิตเรหิ อาภตํ อาหารํ ปริภุฺชิตุํ นาสกฺขิ. อถ เต อามนฺเตตฺวา ‘‘อชฺช อหํ มริสฺสามิ, ตุมฺเห ปน สุขุมาลา อฺํ กมฺมํ กตฺวา ชีวิตุํ น สกฺขิสฺสถ, อิมํ วิชฺชํ สิกฺขถา’’ติ เอกํ วิชฺชํ สิกฺขาเปตฺวา เต อุยฺโยเชตฺวา ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. เอวํ อฺชนเทวึ เปตฺวา สพฺเพว วินาสํ ปาปุณึสูติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อุปาสก, เอวํ โปราณกปณฺฑิตา ปณฺฑิตานํ กถํ สุตฺวา อตฺตโน ปุตฺตโสกํ หรึสุ, มา จินฺตยี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุปาสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา โรหิเณยฺโย อานนฺโท อโหสิ, วาสุเทโว สาริปุตฺโต, อวเสสา พุทฺธปริสา, ฆฏปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.

ฆฏปณฺฑิตชาตกวณฺณนา โสฬสมา.

อิติ โสฬสชาตกปฏิมณฺฑิตสฺส

ทสกนิปาตชาตกสฺส อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ชาตกุทฺทานํ –

จตุทฺวาโร กณฺหุโปโส, สงฺข โพธิ ทีปายโน;

นิคฺโรธ ตกฺกล ธมฺม-ปาโล กุกฺกุฏ กุณฺฑลี;

พิลาร จกฺก ภูริ จ, มงฺคล ฆฏ โสฬส.

ทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. เอกาทสกนิปาโต

[๔๕๕] ๑. มาตุโปสกชาตกวณฺณนา

ตสฺส นาคสฺส วิปฺปวาเสนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ สามชาตกวตฺถุสทิสเมว. สตฺถา ปน ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘มา ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ อุชฺฌายิตฺถ, โปราณกปณฺฑิตา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาปิ มาตรา วิยุตฺตา สตฺตาหํ นิราหารตาย สุสฺสมานา ราชารหํ โภชนํ ลภิตฺวาปิ ‘มาตรา วินา น ภุฺชิสฺสามา’ติ มาตรํ ทิสฺวาว โคจรํ คณฺหึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตมาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต หิมวนฺตปเทเส หตฺถิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา สพฺพเสโต อโหสิ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ลกฺขณสมฺปนฺโน อสีติหตฺถิสหสฺสปริวาโร. โส ชราชิณฺณํ มาตรํ โปเสสิ, มาตา ปนสฺส อนฺธา. โส มธุรมธุรานิ ผลาผลานิ หตฺถีนํ ทตฺวา มาตุ สนฺติกํ เปเสสิ. หตฺถี ตสฺสา อทตฺวา อตฺตนาว ขาทนฺติ. โส ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘ยูถํ ฉฑฺเฑตฺวา มาตรเมว โปเสสฺสามี’’ติ รตฺติภาเค อฺเสํ หตฺถีนํ อชานนฺตานํ มาตรํ คเหตฺวา จณฺโฑรณปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา เอกํ นฬินึ อุปนิสฺสาย ิตาย ปพฺพตคุหายํ มาตรํ เปตฺวา โปเสสิ. อเถโก พาราณสิวาสี วนจรโก มคฺคมูฬฺโห ทิสํ ววตฺถเปตุํ อสกฺโกนฺโต มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวิ. โพธิสตฺโต ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ ปุริโส อนาโถ, น โข ปน เมตํ ปติรูปํ, ยํ เอส มยิ ิเต อิธ วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ ภเยน ปลายนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อมฺโภ ปุริส, นตฺถิ เต มํ นิสฺสาย ภยํ, มา ปลายิ, กสฺมา ตฺวํ ปริเทวนฺโต วิจรสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สามิ, อหํ มคฺคมูฬฺโห, อชฺช เม สตฺตโม ทิวโส’’ติ วุตฺเต ‘‘โภ ปุริส, มา ภายิ, อหํ ตํ มนุสฺสปเถ เปสฺสามี’’ติ ตํ อตฺตโน ปิฏฺิยํ นิสีทาเปตฺวา อรฺา นีหริตฺวา นิวตฺติ. โสปิ ปาโป ‘‘นครํ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ รุกฺขสฺํ ปพฺพตสฺํ กโรนฺโตว นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ อคมาสิ.

ตสฺมึ กาเล รฺโ มงฺคลหตฺถี กาลมกาสิ. ราชา ‘‘สเจ เกนจิ กตฺถจิ โอปวยฺหํ กาตุํ ยุตฺตรูโป หตฺถี ทิฏฺโ อตฺถิ, โส อาจิกฺขตู’’ติ เภรึ จราเปสิ. โส ปุริโส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มยา, เทว, ตุมฺหากํ โอปวยฺโห ภวิตุํ ยุตฺตรูโป สพฺพเสโต สีลวา หตฺถิราชา ทิฏฺโ, อหํ มคฺคํ ทสฺเสสฺสามิ, มยา สทฺธึ หตฺถาจริเย เปเสตฺวา ตํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ ‘‘อิมํ มคฺคเทสกํ กตฺวา อรฺํ คนฺตฺวา อิมินา วุตฺตํ หตฺถินาคํ อาเนถา’’ติ เตน สทฺธึ มหนฺเตน ปริวาเรน หตฺถาจริยํ เปเสสิ. โส เตน สทฺธึ คนฺตฺวา โพธิสตฺตํ นฬินึ ปวิสิตฺวา โคจรํ คณฺหนฺตํ ปสฺสิ. โพธิสตฺโตปิ หตฺถาจริยํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ภยํ น อฺโต อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ปุริสสฺส สนฺติกา อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสติ, อหํ โข ปน มหาพโล หตฺถิสหสฺสมฺปิ วิทฺธํเสตุํ สมตฺโถ โหมิ, กุชฺฌิตฺวา สรฏฺกํ เสนาวาหนํ นาเสตุํ, สเจ ปน กุชฺฌิสฺสามิ, สีลํ เม ภิชฺชิสฺสติ, ตสฺมา อชฺช สตฺตีหิ โกฏฺฏิยมาโนปิ น กุชฺฌิสฺสามี’’ติ อธิฏฺาย สีสํ นาเมตฺวา นิจฺจโลว อฏฺาสิ. หตฺถาจริโย ปทุมสรํ โอตริตฺวา ตสฺส ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘เอหิ ปุตฺตา’’ติ รชตทามสทิสาย โสณฺฑาย คเหตฺวา สตฺตเม ทิวเส พาราณสึ ปาปุณิ. โพธิสตฺตมาตา ปน ปุตฺเต อนาคจฺฉนฺเต ‘‘ปุตฺโต เม ราชราชมหามตฺตาทีหิ นีโต ภวิสฺสติ, อิทานิ ตสฺส วิปฺปวาเสน อยํ วนสณฺโฑ วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ปริเทวมานา ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘ตสฺส นาคสฺส วิปฺปวาเสน, วิรูฬฺโห สลฺลกี จ กุฏชา จ;

กุรุวินฺทกรวีรา ภิสสามา จ, นิวาเต ปุปฺผิตา จ กณิการา.

.

‘‘โกจิเทว สุวณฺณกายุรา, นาคราชํ ภรนฺติ ปิณฺเฑน;

ยตฺถ ราชา ราชกุมาโร วา, กวจมภิเหสฺสติ อฉมฺภิโต’’ติ.

ตตฺถ วิรูฬฺหาติ วฑฺฒิตา นาม, นตฺเถตฺถ สํสโยติ อสํสยวเสเนวมาห. สลฺลกี จ กุฏชา จาติ อินฺทสาลรุกฺขา จ กุฏชรุกฺขา จ. กุรุวินฺทกรวีรา ภิสสามา จาติ กุรุวินฺทรุกฺขา จ กรวีรนามกานิ มหาติณานิ จ ภิสานิ จ สามากานิ จาติ อตฺโถ. เอเต จ สพฺเพ อิทานิ วฑฺฒิสฺสนฺตีติ ปริเทวติ. นิวาเตติ ปพฺพตปาเท. ปุปฺผิตาติ มม ปุตฺเตน สาขํ ภฺชิตฺวา อขาทิยมานา กณิการาปิ ปุปฺผิตา ภวิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. โกจิเทวาติ กตฺถจิเทว คาเม วา นคเร วา. สุวณฺณกายุราติ สุวณฺณาภรณา ราชราชมหามตฺตา. ภรนฺติ ปิณฺเฑนาติ อชฺช มาตุโปสกํ นาคราชํ ราชารหสฺส โภชนสฺส สุวฑฺฒิเตน ปิณฺเฑน โปเสนฺติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ นาคราเช ราชา นิสีทิตฺวา. กวจมภิเหสฺสตีติ สงฺคามํ ปวิสิตฺวา ปจฺจามิตฺตานํ กวจํ อภิหนิสฺสติ ภินฺทิสฺสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยตฺถ มม ปุตฺเต นิสินฺโน ราชา วา ราชกุมาโร วา อฉมฺภิโต หุตฺวา สปตฺตานํ กวจํ หนิสฺสติ, ตํ เม ปุตฺตํ นาคราชานํ สุวณฺณาภรณา อชฺช ปิณฺเฑน ภรนฺตี’’ติ.

หตฺถาจริโยปิ อนฺตรามคฺเคว รฺโ สาสนํ เปเสสิ. ตํ สุตฺวา ราชา นครํ อลงฺการาเปสิ. หตฺถาจริโย โพธิสตฺตํ กตคนฺธปริภณฺฑํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ หตฺถิสาลํ เนตฺวา วิจิตฺรสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา นานคฺครสโภชนํ อาทาย คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทาเปสิ. โส ‘‘มาตรํ วินา โคจรํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปิณฺฑํ น คณฺหิ. อถ นํ ยาจนฺโต ราชา ตติยํ คาถมาห –

.

‘‘คณฺหาหิ นาค กพฬํ, มา นาค กิสโก ภว;

พหูนิ ราชกิจฺจานิ, ตานิ นาค กริสฺสสี’’ติ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

.

‘‘สา นูนสา กปณิกา, อนฺธา อปริณายิกา;

ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.

ตตฺถ สา นูนสาติ มหาราช, นูน สา เอสา. กปณิกาติ ปุตฺตวิโยเคน กปณา. ขาณุนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ รุกฺขกลิงฺครํ. ฆฏฺเฏตีติ ปริเทวมานา ตตฺถ ตตฺถ ปาเทน โปเถนฺตี นูน ปาเทน หนติ. คิรึ จณฺโฑรณํ ปตีติ จณฺโฑรณปพฺพตาภิมุขี, ปพฺพตปาเท ปริปฺผนฺทมานาติ อตฺโถ.

อถ นํ ปุจฺฉนฺโต ราชา ปฺจมํ คาถมาห –

.

‘‘กา นุ เต สา มหานาค, อนฺธา อปริณายิกา;

ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.

โพธิสตฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –

.

‘‘มาตา เม สา มหาราช, อนฺธา อปริณายิกา;

ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.

ราชา ฉฏฺคาถาย ตมตฺถํ สุตฺวา มุฺจาเปนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

.

‘‘มุฺจเถตํ มหานาคํ, โยยํ ภรติ มาตรํ;

สเมตุ มาตรา นาโค, สห สพฺเพหิ าติภี’’ติ.

ตตฺถ โยยํ ภรตีติ อยํ นาโค ‘‘อหํ, มหาราช, อนฺธํ มาตรํ โปเสมิ, มยา วินา มยฺหํ มาตา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิสฺสติ, ตาย วินา มยฺหํ อิสฺสริเยน อตฺโถ นตฺถิ, อชฺช เม มาตุ โคจรํ อลภนฺติยา สตฺตโม ทิวโส’’ติ วทติ, ตสฺมา โย อยํ มาตรํ ภรติ, เอตํ มหานาคํ ขิปฺปํ มุฺจถ. สพฺเพหิ าติภีติ สทฺธึ เอส มาตรา สเมตุ สมาคจฺฉตูติ.

อฏฺมนวมา อภิสมฺพุทฺธคาถา โหนฺติ –

.

‘‘มุตฺโต จ พนฺธนา นาโค, มุตฺตมาทาย กุฺชโร;

มุหุตฺตํ อสฺสาสยิตฺวา, อคมา เยน ปพฺพโต.

.

‘‘ตโต โส นฬินึ คนฺตฺวา, สีตํ กุฺชรเสวิตํ;

โสณฺฑายูทกมาหตฺวา, มาตรํ อภิสิฺจถา’’ติ.

โส กิร นาโค พนฺธนา มุตฺโต โถกํ วิสฺสมิตฺวา รฺโ ทสราชธมฺมคาถาย ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ โอวาทํ ทตฺวา มหาชเนน คนฺธมาลาทีหิ ปูชิยมาโน นครา นิกฺขมิตฺวา ตทเหว ตํ ปทุมสรํ ปตฺวา ‘‘มม มาตรํ โคจรํ คาหาเปตฺวาว สยํ คณฺหิสฺสามี’’ติ พหุํ ภิสมุฬาลํ อาทาย โสณฺฑปูรํ อุทกํ คเหตฺวา คุหาเลณโต นิกฺขมิตฺวา คุหาทฺวาเร นิสินฺนาย มาตุยา สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺตาหํ นิราหารตาย มาตุ สรีรสฺส ผสฺสปฏิลาภตฺถํ อุปริ อุทกํ สิฺจิ, ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ. โพธิสตฺตสฺส มาตาปิ ‘‘เทโว วสฺสตี’’ติ สฺาย ตํ อกฺโกสนฺตี ทสมํ คาถมาห –

๑๐.

‘‘โกยํ อนริโย เทโว, อกาเลนปิ วสฺสติ;

คโต เม อตฺรโช ปุตฺโต, โย มยฺหํ ปริจารโก’’ติ.

ตตฺถ อตฺรโชติ อตฺตโต ชาโต.

อถ นํ สมสฺสาเสนฺโต โพธิสตฺโต เอกาทสมํ คาถมาห –

๑๑.

‘‘อุฏฺเหิ อมฺม กึ เสสิ, อาคโต ตฺยาหมตฺรโช;

มุตฺโตมฺหิ กาสิราเชน, เวเทเหน ยสสฺสินา’’ติ.

ตตฺถ อาคโต ตฺยาหนฺติ อาคโต เต อหํ. เวเทเหนาติ าณสมฺปนฺเนน. ยสสฺสินาติ มหาปริวาเรน เตน รฺา มงฺคลหตฺถิภาวาย คหิโตปิ อหํ มุตฺโต, อิทานิ ตว สนฺติกํ อาคโต อุฏฺเหิ โคจรํ คณฺหาหีติ.

สา ตุฏฺมานสา รฺโ อนุโมทนํ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –

๑๒.

‘‘จิรํ ชีวตุ โส ราชา, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;

โย เม ปุตฺตํ ปโมเจสิ, สทา วุทฺธาปจายิก’’นฺติ.

ตทา ราชา โพธิสตฺตสฺส คุเณ ปสีทิตฺวา นฬินิยา อวิทูเร คามํ มาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส จ มาตุ จสฺส นิพทฺธํ วตฺตํ ปฏฺเปสิ. อปรภาเค โพธิสตฺโต มาตริ กาลกตาย ตสฺสา สรีรปริหารํ กตฺวา การณฺฑกอสฺสมปทํ นาม คโต. ตสฺมึ ปน าเน หิมวนฺตโต โอตริตฺวา ปฺจสตา อิสโย วสึสุ, ตํ วตฺตํ เตสํ อทาสิ. ราชา โพธิสตฺตสฺส สมานรูปํ สิลาปฏิมํ กาเรตฺวา มหาสกฺการํ ปวตฺเตสิ. สกลชมฺพุทีปวาสิโน อนุสํวจฺฉรํ สนฺนิปติตฺวา หตฺถิมหํ นาม กรึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปาปปุริโส เทวทตฺโต, หตฺถาจริโย สาริปุตฺโต, มาตา หตฺถินี มหามายา, มาตุโปสกนาโค ปน อหเมว อโหสินฺติ.

มาตุโปสกชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๕๖] ๒. ชุณฺหชาตกวณฺณนา

สุโณหิ มยฺหํ วจนํ ชนินฺทาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถเรน ลทฺธวเร อารพฺภ กเถสิ. ปมโพธิยฺหิ วีสติ วสฺสานิ ภควโต อนิพทฺธุปฏฺากา อเหสุํ. เอกทา เถโร นาคสมาโล, เอกทา นาคิโต, เอกทา อุปวาโณ, เอกทา สุนกฺขตฺโต, เอกทา จุนฺโท, เอกทา นนฺโท, เอกทา สาคโต, เอกทา เมฆิโย ภควนฺตํ อุปฏฺหิ. อเถกทิวสํ ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘‘ภิกฺขเว, อิทานิมฺหิ มหลฺลโก, เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’ติ วุตฺเต อฺเน คจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ มยฺหํ ปตฺตจีวรํ ภูมิยํ นิกฺขิปนฺติ, นิพทฺธุปฏฺากํ เม เอกํ ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, อหํ อุปฏฺหิสฺสามิ, อหํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ สิรสิ อฺชลึ กตฺวา อุฏฺิเต สาริปุตฺตตฺเถราทโย ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺถนา มตฺถกํ ปตฺตา, อล’’นฺติ ปฏิกฺขิปิ. ตโต ภิกฺขู อานนฺทตฺเถรํ ‘‘ตฺวํ อาวุโส, อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘สเจ เม ภนฺเต, ภควา อตฺตนา ลทฺธจีวรํ น ทสฺสติ, ปิณฺฑปาตํ น ทสฺสติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตุํ น ทสฺสติ, มํ คเหตฺวา นิมนฺตนํ น คมิสฺสติ, สเจ ปน ภควา มยา คหิตํ นิมนฺตนํ คมิสฺสติ, สเจ อหํ ติโรรฏฺา ติโรชนปทา ภควนฺตํ ทฏฺุํ อาคตํ ปริสํ อาคตกฺขเณเยว ทสฺเสตุํ ลภิสฺสามิ, ยทา เม กงฺขา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ ขเณเยว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ลภิสฺสามิ, สเจ ยํ ภควา มม ปรมฺมุขา ธมฺมํ กเถติ, ตํ อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อิเม จตฺตาโร ปฏิกฺเขเป จตสฺโส จ อายาจนาติ อฏฺ วเร ยาจิ, ภควาปิสฺส อทาสิ.

โส ตโต ปฏฺาย ปฺจวีสติ วสฺสานิ นิพทฺธุปฏฺาโก อโหสิ. โส ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺเค ปนํ ปตฺวา อาคมสมฺปทา, อธิคมสมฺปทา, ปุพฺพเหตุสมฺปทา, อตฺตตฺถปริปุจฺฉาสมฺปทา, ติตฺถวาสสมฺปทา, โยนิโสมนสิการสมฺปทา, พุทฺธูปนิสฺสยสมฺปทาติ อิมาหิ สตฺตหิ สมฺปทาหิ สมนฺนาคโต พุทฺธสฺส สนฺติเก อฏฺวรทายชฺชํ ลภิตฺวา พุทฺธสาสเน ปฺาโต คคนมชฺเฌ จนฺโท วิย ปากโฏ อโหสิ. อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, ตถาคโต อานนฺทตฺเถรํ วรทาเนน สนฺตปฺเปสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ อานนฺทํ วเรน สนฺตปฺเปสึ, ปุพฺเพปาหํ ยํ ยํ เอส ยาจิ, ตํ ตํ อทาสึเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม หุตฺวา ตกฺกสิลายํ สิปฺปํ อุคฺคเหตฺวา อาจริยสฺส อนุโยคํ ทตฺวา รตฺติภาเค อนฺธกาเร อาจริยสฺส ฆรา นิกฺขมิตฺวา อตฺตโน นิวาสฏฺานํ เวเคน คจฺฉนฺโต อฺตรํ พฺราหฺมณํ ภิกฺขํ จริตฺวา อตฺตโน นิวาสฏฺานํ คจฺฉนฺตํ อปสฺสนฺโต พาหุนา ปหริตฺวา ตสฺส ภตฺตปาตึ ภินฺทึ, พฺราหฺมโณ ปติตฺวา วิรวิ. กุมาโร การุฺเน นิวตฺติตฺวา ตํ หตฺเถ คเหตฺวา อุฏฺาเปสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ตยา, ตาต, มม ภิกฺขาภาชนํ ภินฺนํ, ภตฺตมูลํ เม เทหี’’ติ อาห. กุมาโร ‘‘พฺราหฺมณ, น ทานาหํ ตว ภตฺตมูลํ ทาตุํ สกฺโกมิ, อหํ โข ปน กาสิกรฺโ ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม, มยิ รชฺเช ปติฏฺิเต อาคนฺตฺวา มํ ธนํ ยาเจยฺยาสี’’ติ วตฺวา นิฏฺิตสิปฺโป อาจริยํ วนฺทิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสสิ. ปิตา ‘‘ชีวนฺเตน เม ปุตฺโต ทิฏฺโ, ราชภูตมฺปิ นํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ รชฺเช อภิสิฺจิ. โส ชุณฺหราชา นาม หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. พฺราหฺมโณ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อิทานิ มม ภตฺตมูลํ อาหริสฺสามี’’ติ พาราณสึ คนฺตฺวา ราชานํ อลงฺกตนครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺตเมว ทิสฺวา เอกสฺมึ อุนฺนตปฺปเทเส ิโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ชยาเปสิ. อถ นํ ราชา อโนโลเกตฺวาว อติกฺกมิ. พฺราหฺมโณ เตน อทิฏฺภาวํ ตฺวา กถํ สมุฏฺาเปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๓.

‘‘สุโณหิ มยฺหํ วจนํ ชนินฺท, อตฺเถน ชุณฺหมฺหิ อิธานุปตฺโต;

น พฺราหฺมเณ อทฺธิเก ติฏฺมาเน, คนฺตพฺพมาหุ ทฺวิปทินฺท เสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ ชุณฺหมฺหีติ มหาราช, ตยิ ชุณฺหมฺหิ อหํ เอเกน อตฺเถน อิธานุปฺปตฺโต, น นิกฺการณา อิธาคโตมฺหีติ ทีเปติ. อทฺธิเกติ อทฺธานํ อาคเต. คนฺตพฺพนฺติ ตํ อทฺธิกํ อทฺธานมาคตํ ยาจมานํ พฺราหฺมณํ อโนโลเกตฺวาว คนฺตพฺพนฺติ ปณฺฑิตา น อาหุ น กเถนฺตีติ.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา หตฺถึ วชิรงฺกุเสน นิคฺคเหตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๑๔.

‘‘สุโณมิ ติฏฺามิ วเทหิ พฺรหฺเม, เยนาสิ อตฺเถน อิธานุปตฺโต;

กํ วา ตฺวมตฺถํ มยิ ปตฺถยาโน, อิธาคโม พฺรหฺเม ตทิงฺฆ พฺรูหี’’ติ.

ตตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต.

ตโต ปรํ พฺราหฺมณสฺส จ รฺโ จ วจนปฏิวจนวเสน เสสคาถา กถิตา –

๑๕.

‘‘ททาหิ เม คามวรานิ ปฺจ, ทาสีสตํ สตฺต ควํสตานิ;

ปโรสหสฺสฺจ สุวณฺณนิกฺเข, ภริยา จ เม สาทิสี ทฺเว ททาหิ.

๑๖.

‘‘ตโป นุ เต พฺราหฺมณ ภึสรูโป, มนฺตา นุ เต พฺราหฺมณ จิตฺตรูปา;

ยกฺขา นุ เต อสฺสวา สนฺติ เกจิ, อตฺถํ วา เม อภิชานาสิ กตฺตํ.

๑๗.

‘‘น เม ตโป อตฺถิ น จาปิ มนฺตา, ยกฺขาปิ เม อสฺสวา นตฺถิ เกจิ;

อตฺถมฺปิ เต นาภิชานามิ กตฺตํ, ปุพฺเพ จ โข สงฺคติมตฺตมาสิ.

๑๘.

‘‘ปมํ อิทํ ทสฺสนํ ชานโต เม, น ตาภิชานามิ อิโต ปุรตฺถา;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, กทา กุหึ วา อหุ สงฺคโม โน.

๑๙.

‘‘คนฺธารราชสฺส ปุรมฺหิ รมฺเม, อวสิมฺหเส ตกฺกสีลายํ เทว;

ตตฺถนฺธการมฺหิ ติมีสิกายํ, อํเสน อํสํ สมฆฏฺฏยิมฺห.

๒๐.

‘‘เต ตตฺถ ตฺวาน อุโภ ชนินฺท, สาราณิยํ วีติสารยิมฺห ตตฺถ;

สาเยว โน สงฺคติมตฺตมาสิ, ตโต น ปจฺฉา น ปุเร อโหสิ.

๒๑.

‘‘ยทา กทาจิ มนุเชสุ พฺรหฺเม, สมาคโม สปฺปุริเสน โหติ;

น ปณฺฑิตา สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ วินาสยนฺติ.

๒๒.

‘‘พาลาว โข สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ วินาสยนฺติ;

พหุมฺปิ พาเลสุ กตํ วินสฺสติ, ตถา หิ พาลา อกตฺุรูปา.

๒๓.

‘‘ธีรา จ โข สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ น นาสยนฺติ;

อปฺปมฺปิ ธีเรสุ กตํ น นสฺสติ, ตถา หิ ธีรา สุกตฺุรูปา.

๒๔.

‘‘ททามิ เต คามวรานิ ปฺจ, ทาสีสตํ สตฺต ควํสตานิ;

ปโรสหสฺสฺจ สุวณฺณนิกฺเข, ภริยา จ เต สาทิสี ทฺเว ททามิ.

๒๕.

‘‘เอวํ สตํ โหติ สเมจฺจ ราช, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;

อาปูรตี กาสิปตี ตถาหํ, ตยาปิ เม สงฺคโม อชฺช ลทฺโธ’’ติ.

ตตฺถ สาทิสีติ รูปวณฺณชาติกุลปเทเสน มยา สาทิสี เอกสทิสา ทฺเว มหายสา ภริยา จ เม เทหีติ อตฺโถ. ภึสรูโปติ กึ นุ เต พฺราหฺมณ พลวรูปสีลาจารคุณสงฺขาตํ ตโปกมฺมํ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. มนฺตา นุ เตติ อุทาหุ วิจิตฺรรูปา สพฺพตฺถสาธกา มนฺตา เต อตฺถิ. อสฺสวาติ วจนการกา อิจฺฉิติจฺฉิตทายกา ยกฺขา วา เต เกจิ สนฺติ. กตฺตนฺติ กตํ, อุทาหุ ตยา กตํ กิฺจิ มม อตฺถํ อภิชานาสีติ ปุจฺฉติ. สงฺคติมตฺตนฺติ สมาคมมตฺตํ ตยา สทฺธึ ปุพฺเพ มม อาสีติ วทติ. ชานโต เมติ ชานนฺตสฺส มม อิทํ ปมํ ตว ทสฺสนํ. น ตาภิชานามีติ น ตํ อภิชานามิ. ติมีสิกายนฺติ พหลติมิรายํ รตฺติยํ. เต ตตฺถ ตฺวานาติ เต มยํ ตสฺมึ อํเสน อํสํ ฆฏฺฏิตฏฺาเน ตฺวา วีติสารยิมฺห ตตฺถาติ ตสฺมึเยว าเน สริตพฺพยุตฺตกํ กถํ วีติสารยิมฺห, อหํ ‘‘ภิกฺขาภาชนํ เม ตยา ภินฺนํ, ภตฺตมูลํ เม เทหี’’ติ อวจํ, ตฺวํ ‘‘อิทานาหํ ตว ภตฺตมูลํ ทาตุํ น สกฺโกมิ, อหํ โข ปน กาสิกรฺโ ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม, มยิ รชฺเช ปติฏฺิเต อาคนฺตฺวา มํ ธนํ ยาเจยฺยาสี’’ติ อวจาติ อิมํ สารณียกถํ กริมฺหาติ อาห. สาเยว โน สงฺคติมตฺตมาสีติ เทว, อมฺหากํ สาเยว อฺมฺํ สงฺคติมตฺตมาสิ, เอกมุหุตฺติกมโหสีติ ทีเปติ. ตโตติ ตโต ปน ตํมุหุตฺติกมิตฺตธมฺมโต ปจฺฉา วา ปุเร วา กทาจิ อมฺหากํ สงฺคติ นาม น ภูตปุพฺพา.

น ปณฺฑิตาติ พฺราหฺมณ ปณฺฑิตา นาม ตํมุหุตฺติกํ สงฺคตึ วา จิรกาลสนฺถวานิ วา ยํ กิฺจิ ปุพฺเพ กตคุณํ วา น นาเสนฺติ. พหุมฺปีติ พหุกมฺปิ. อกตฺุรูปาติ ยสฺมา พาลา อกตฺุสภาวา, ตสฺมา เตสุ พหุมฺปิ กตํ นสฺสตีติ อตฺโถ. สุกตฺุรูปาติ สุฏฺุ กตฺุสภาวา. เอตฺถาปิ ตตฺถาปิ ตถา หีติ หิ-กาโร การณตฺโถ. ททามิ เตติ พฺราหฺมเณน ยาจิตยาจิตํ ททนฺโต เอวมาห. เอวํ สตนฺติ พฺราหฺมโณ รฺโ อนุโมทนํ กโรนฺโต วทติ, สตํ สปฺปุริสานํ เอกวารมฺปิ สเมจฺจ สงฺคติ นาม เอวํ โหติ. นกฺขตฺตราชาริวาติ เอตฺถ -กาโร นิปาตมตฺตํ. ตารกานนฺติ ตารกคณมชฺเฌ. กาสิปตีติ ราชานมาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เทว, กาสิรฏฺาธิปติ ยถา จนฺโท ตารกานํ มชฺเฌ ิโต ตารกคณปริวุโต ปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว ปุณฺณมา อาปูรติ, ตถา อหมฺปิ อชฺช ตยา ทินฺเนหิ คามวราทีหิ อาปูรามี’’ติ. ตยาปิ เมติ มยา ปุพฺเพ ตยา สทฺธึ ลทฺโธปิ สงฺคโม อลทฺโธว, อชฺช ปน มม มโนรถสฺส นิปฺผนฺนตฺตา มยา ตยา สห สงฺคโม ลทฺโธ นามาติ นิปฺผนฺนํ เม ตยา สทฺธึ มิตฺตผลนฺติ วทติ. โพธิสตฺโต ตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ อานนฺทํ วเรน สนฺตปฺเปสึ เยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พฺราหฺมโณ อานนฺโท อโหสิ, ราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ชุณฺหชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๔๕๗] ๓. ธมฺมเทวปุตฺตชาตกวณฺณนา

ยโสกโร ปุฺกโรหมสฺมีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส ปถวิปเวสนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ตถาคเตน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น อิทาเนเวส, ภิกฺขเว, มม ชินจกฺเก ปหารํ ทตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ, ปุพฺเพปิ ธมฺมจกฺเก ปหารํ ทตฺวา ปถวึ ปวิสิตฺวา อวีจิปรายโณ ชาโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กามาวจรเทวโลเก ธมฺโม นาม เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เทวทตฺโต อธมฺโม นาม. เตสุ ธมฺโม ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต ทิพฺพรถวรมภิรุยฺห อจฺฉราคณปริวุโต มนุสฺเสสุ สายมาสํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ฆรทฺวาเร สุขกถาย นิสินฺเนสุ ปุณฺณมุโปสถทิวเส คามนิคมชนปทราชธานีสุ อากาเส ตฺวา ‘‘ปาณาติปาตาทีหิ ทสหิ อกุสลกมฺมปเถหิ วิรมิตฺวา มาตุปฏฺานธมฺมํ ปิตุปฏฺานธมฺมํ ติวิธสุจริตธมฺมฺจ ปูเรถ, เอวํ สคฺคปรายณา หุตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิสฺสถา’’ติ มนุสฺเส ทส กุสลกมฺมปเถ สมาทเปนฺโต ชมฺพุทีปํ ปทกฺขิณํ กโรติ. อธมฺโม ปน เทวปุตฺโต ‘‘ปาณํ หนถา’’ติอาทินา นเยน ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทเปนฺโต ชมฺพุทีปํ วามํ กโรติ. อถ เตสํ อากาเส รถา สมฺมุขา อเหสุํ. อถ เนสํ ปริสา ‘‘ตุมฺเห กสฺส, ตุมฺเห กสฺสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มยํ ธมฺมสฺส, มยํ อธมฺมสฺสา’’ติ วตฺวา มคฺคา โอกฺกมิตฺวา ทฺวิธา ชาตา. ธมฺโมปิ อธมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ อธมฺโม, อหํ ธมฺโม, มคฺโค มยฺหํ อนุจฺฉวิโก, ตว รถํ โอกฺกาเมตฺวา มยฺหํ มคฺคํ เทหี’’ติ ปมํ คาถมาห –

๒๖.

‘‘ยโสกโร ปุฺกโรหมสฺมิ, สทาตฺถุโต สมณพฺราหฺมณานํ;

มคฺคารโห เทวมนุสฺสปูชิโต, ธมฺโม อหํ เทหิ อธมฺม มคฺค’’นฺติ.

ตตฺถ ยโสกโรติ อหํ เทวมนุสฺสานํ ยสทายโก. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. สทาตฺถุโตติ สทา ถุโต นิจฺจปสตฺโถ. ตโต ปรา –

๒๗.

‘‘อธมฺมยานํ ทฬฺหมารุหิตฺวา, อสนฺตสนฺโต พลวาหมสฺมิ;

ส กิสฺส เหตุมฺหิ ตวชฺช ทชฺชํ, มคฺคํ อหํ ธมฺม อทินฺนปุพฺพํ.

๒๘.

‘‘ธมฺโม หเว ปาตุรโหสิ ปุพฺเพ, ปจฺฉา อธมฺโม อุทปาทิ โลเก;

เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ สนนฺตโน จ, อุยฺยาหิ เชฏฺสฺส กนิฏฺ มคฺคา.

๒๙.

‘‘น ยาจนาย นปิ ปาติรูปา, น อรหตา เตหํ ทเทยฺยํ มคฺคํ;

ยุทฺธฺจ โน โหตุ อุภินฺนมชฺช, ยุทฺธมฺหิ โย เชสฺสติ ตสฺส มคฺโค.

๓๐.

‘‘สพฺพา ทิสา อนุวิสโฏหมสฺมิ, มหพฺพโล อมิตยโส อตุลฺโย;

คุเณหิ สพฺเพหิ อุเปตรูโป, ธมฺโม อธมฺม ตฺวํ กถํ วิเชสฺสสิ.

๓๑.

‘‘โลเหน เว หฺติ ชาตรูปํ, น ชาตรูเปน หนนฺติ โลหํ;

สเจ อธมฺโม หฺฉติ ธมฺมมชฺช, อโย สุวณฺณํ วิย ทสฺสเนยฺยํ.

๓๒.

‘‘สเจ ตุวํ ยุทฺธพโล อธมฺม, น ตุยฺห วุฑฺฒา จ ครู จ อตฺถิ;

มคฺคฺจ เต ทมฺมิ ปิยาปฺปิเยน, วาจาทุรุตฺตานิปิ เต ขมามี’’ติ. –

อิมา ฉ คาถา เตสฺเว วจนปฏิวจนวเสน กถิตา.

ตตฺถ ส กิสฺส เหตุมฺหิ ตวชฺช ทชฺชนฺติ โสมฺหิ อหํ อธมฺโม อธมฺมยานํ รถํ อารุฬฺโห อภีโต พลวา. กึการณา อชฺช โภ ธมฺม, กสฺสจิ อทินฺนปุพฺพํ มคฺคํ ตุยฺหํ ทมฺมีติ. ปุพฺเพติ ปมกปฺปิกกาเล อิมสฺมึ โลเก ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม จ ปุพฺเพ ปาตุรโหสิ, ปจฺฉา อธมฺโม. เชฏฺโ จาติ ปุเร นิพฺพตฺตภาเวน อหํ เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ โปราณโก จ, ตฺวํ ปน กนิฏฺโ, ตสฺมา มคฺคา อุยฺยาหีติ วทติ. นปิ ปาติรูปาติ อหฺหิ เต เนว ยาจนาย น ปติรูปวจเนน มคฺคารหตาย มคฺคํ ทเทยฺยํ. อนุวิสโฏติ อหํ จตสฺโส ทิสา จตสฺโส อนุทิสาติ สพฺพา ทิสา อตฺตโน คุเณน ปตฺถโฏ ปฺาโต ปากโฏ. โลเหนาติ อยมุฏฺิเกน. หฺฉตีติ หนิสฺสติ. ตุวํ ยุทฺธพโล อธมฺมาติ สเจ ตฺวํ ยุทฺธพโลสิ อธมฺม. วุฑฺฒา จ ครู จาติ ยทิ ตุยฺหํ ‘‘อิเม วุฑฺฒา, อิเม ครู ปณฺฑิตา’’ติ เอวํ นตฺถิ. ปิยาปฺปิเยนาติ ปิเยนาปิ อปฺปิเยนาปิ ททนฺโต ปิเยน วิย เต มคฺคํ ททามีติ อตฺโถ.

โพธิสตฺเตน ปน อิมาย คาถาย กถิตกฺขเณเยว อธมฺโม รเถ าตุํ อสกฺโกนฺโต อวํสิโร ปถวิยํ ปติตฺวา ปถวิยา วิวเร ทินฺเน คนฺตฺวา อวีจิมฺหิเยว นิพฺพตฺติ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ภควา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา เสสคาถา อภาสิ –

๓๓.

‘‘อิทฺจ สุตฺวา วจนํ อธมฺโม, อวํสิโร ปติโต อุทฺธปาโท;

ยุทฺธตฺถิโก เจ น ลภามิ ยุทฺธํ, เอตฺตาวตา โหติ หโต อธมฺโม.

๓๔.

‘‘ขนฺตีพโล ยุทฺธพลํ วิเชตฺวา, หนฺตฺวา อธมฺมํ นิหนิตฺว ภูมฺยา;

ปายาสิ วิตฺโต อภิรุยฺห สนฺทนํ, มคฺเคเนว อติพโล สจฺจนิกฺกโม.

๓๕.

‘‘มาตา ปิตา สมณพฺราหฺมณา จ, อสมฺมานิตา ยสฺส สเก อคาเร;

อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺติ เต;

ยถา อธมฺโม ปติโต อวํสิโร.

๓๖.

‘‘มาตา ปิตา สมณพฺราหฺมณา จ, สุสมฺมานิตา ยสฺส สเก อคาเร;

อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺติ เต;

ยถาปิ ธมฺโม อภิรุยฺห สนฺทน’’นฺติ.

ตตฺถ ยุทฺธตฺถิโก เจติ อยํ ตสฺส วิลาโป, โส กิเรวํ วิลปนฺโตเยว ปติตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ. เอตฺตาวตาติ ภิกฺขเว, ยาวตา ปถวึ ปวิฏฺโ, ตาวตา อธมฺโม หโต นาม โหติ. ขนฺตีพโลติ ภิกฺขเว, เอวํ อธมฺโม ปถวึ ปวิฏฺโ อธิวาสนขนฺตีพโล ตํ ยุทฺธพลํ วิเชตฺวา วธิตฺวา ภูมิยํ นิหนิตฺวา ปาเตตฺวา วิตฺตชาตตาย วิตฺโต อตฺตโน รถํ อารุยฺห มคฺเคเนว สจฺจนิกฺกโม ตถปรกฺกโม ธมฺมเทวปุตฺโต ปายาสิ. อสมฺมานิตาติ อสกฺกตา. สรีรเทหนฺติ อิมสฺมึเยว โลเก สรีรสงฺขาตํ เทหํ นิกฺขิปิตฺวา. นิรยํ วชนฺตีติ ยสฺส ปาปปุคฺคลสฺส เอเต สกฺการารหา เคเห อสกฺกตา, ตถารูปา ยถา อธมฺโม ปติโต อวํสิโร, เอวํ อวํสิรา นิรยํ วชนฺตีติ อตฺโถ. สุคตึ วชนฺตีติ ยสฺส ปเนเต สกฺกตา, ตาทิสา ปณฺฑิตา ยถาปิ ธมฺโม สนฺทนํ อภิรุยฺห เทวโลกํ คโต, เอวํ สุคตึ วชนฺตีติ.

สตฺถา เอวํ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มยา สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อธมฺโม เทวปุตฺโต เทวทตฺโต อโหสิ, ปริสาปิสฺส เทวทตฺตปริสา, ธมฺโม ปน อหเมว, ปริสา พุทฺธปริสาเยวา’’ติ.

ธมฺมเทวปุตฺตชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๔๕๘] ๔. อุทยชาตกวณฺณนา

เอกา นิสินฺนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ กสฺมา กิเลสวเสน เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา อุกฺกณฺิโตสิ? โปราณกปณฺฑิตา สมิทฺเธ ทฺวาทสโยชนิเก สุรุนฺธนนคเร รชฺชํ กาเรนฺตา เทวจฺฉรปฏิภาคาย อิตฺถิยา สทฺธึ สตฺต วสฺสสตานิ เอกคพฺเภ วสนฺตาปิ อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา โลภวเสน น โอโลเกสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กาสิรฏฺเ สุรุนฺธนนคเร กาสิราชา รชฺชํ กาเรสิ, ตสฺส เนว ปุตฺโต, น ธีตา อโหสิ. โส อตฺตโน เทวิโย ‘‘ปุตฺเต ปตฺเถถา’’ติ อาห. อคฺคมเหสีปิ รฺโ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา อกาสิ. ตทา โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺเสว รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. อถสฺส มหาชนสฺส หทยํ วฑฺเฒตฺวา ชาตภาเวน ‘‘อุทยภทฺโท’’ติ นามํ กรึสุ. กุมารสฺส ปทสา จรณกาเล อฺโปิ สตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺเสว รฺโ อฺตราย เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ กุมาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺสาปิ ‘‘อุทยภทฺทา’’ติ นามํ กรึสุ. กุมาโร วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺปนิปฺผตฺตึ ปาปุณิ, ชาตพฺรหฺมจารี ปน อโหสิ, สุปินนฺเตนปิ เมถุนธมฺมํ น ชานาติ, น ตสฺส กิเลเสสุ จิตฺตํ อลฺลียิ. ราชา ปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจิตุกาโม ‘‘กุมารสฺส อิทานิ รชฺชสุขเสวนกาโล, นาฏกาปิสฺส ปจฺจุปฏฺาเปสฺสามี’’ติ สาสนํ เปเสสิ. โพธิสตฺโต ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, กิเลเสสุ เม จิตฺตํ น อลฺลียตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโน รตฺตชมฺพุนทมยํ อิตฺถิรูปํ กาเรตฺวา ‘‘เอวรูปํ อิตฺถึ ลภมาโน รชฺชํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามี’’ติ มาตาปิตูนํ เปเสสิ. เต ตํ สุวณฺณรูปกํ สกลชมฺพุทีปํ ปริหาราเปตฺวา ตถารูปํ อิตฺถึ อลภนฺตา อุทยภทฺทํ อลงฺกาเรตฺวา ตสฺส สนฺติเก เปสุํ. สา ตํ สุวณฺณรูปกํ อภิภวิตฺวา อฏฺาสิ. อถ เนสํ อนิจฺฉมานานฺเว เวมาติกํ ภคินึ อุทยภทฺทกุมารึ อคฺคมเหสึ กตฺวา โพธิสตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. เต ปน ทฺเวปิ พฺรหฺมจริยวาสเมว วสึสุ.

อปรภาเค มาตาปิตูนํ อจฺจเยน โพธิสตฺโต รชฺชํ กาเรสิ. อุโภ เอกคพฺเภ วสมานาปิ โลภวเสน อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา อฺมฺํ น โอโลเกสุํ, อปิจ โข ปน ‘‘โย อมฺเหสุ ปมตรํ กาลํ กโรติ, โส นิพฺพตฺตฏฺานโต อาคนฺตฺวา ‘อสุกฏฺาเน นิพฺพตฺโตสฺมี’ติ อาโรเจตู’’ติ สงฺครมกํสุ. อถ โข โพธิสตฺโต อภิเสกโต สตฺตวสฺสสตจฺจเยน กาลมกาสิ. อฺโ ราชา นาโหสิ, อุทยภทฺทายเยว อาณา ปวตฺติ. อมจฺจา รชฺชํ อนุสาสึสุ. โพธิสตฺโตปิ จุติกฺขเณ ตาวตึสภวเน สกฺกตฺตํ ปตฺวา ยสมหนฺตตาย สตฺตาหํ อนุสฺสริตุํ นาสกฺขิ. อิติ โส มนุสฺสคณนาย สตฺตวสฺสสตจฺจเยน อาวชฺเชตฺวา ‘‘อุทยภทฺทํ ราชธีตรํ ธเนน วีมํสิตฺวา สีหนาทํ นทาเปตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา สงฺครํ โมเจตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตทา กิร มนุสฺสานํ ทสวสฺสสหสฺสายุกกาโล โหติ. ราชธีตาปิ ตํ ทิวสํ รตฺติภาเค ปิหิเตสุ ทฺวาเรสุ ปิตอารกฺเข สตฺตภูมิกปาสาทวรตเล อลงฺกตสิริคพฺเภ เอกิกาว นิจฺจลา อตฺตโน สีลํ อาวชฺชมานา นิสีทิ. อถ สกฺโก สุวณฺณมาสกปูรํ เอกํ สุวณฺณปาตึ อาทาย อาคนฺตฺวา สยนคพฺเภเยว ปาตุภวิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ตาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๓๗.

‘‘เอกา นิสินฺนา สุจิ สฺตูรู, ปาสาทมารุยฺห อนินฺทิตงฺคี;

ยาจามิ ตํ กินฺนรเนตฺตจกฺขุ, อิเมกรตฺตึ อุภโย วเสมา’’ติ.

ตตฺถ สุจีติ สุจิวตฺถนิวตฺถา. สฺตูรูติ สุฏฺุ ปิตอูรู, อิริยาปถํ สณฺเปตฺวา สุจิวตฺถา เอกิกาว นิสินฺนาสีติ วุตฺตํ โหติ. อนินฺทิตงฺคีติ ปาทนฺตโต ยาว เกสคฺคา อนินฺทิตสรีรา ปรมโสภคฺคปฺปตฺตสรีรา. กินฺนรเนตฺตจกฺขูติ ตีหิ มณฺฑเลหิ ปฺจหิ จ ปสาเทหิ อุปโสภิตตฺตา กินฺนรานํ เนตฺตสทิเสหิ จกฺขูหิ สมนฺนาคเต. อิเมกรตฺตินฺติ อิมํ เอกรตฺตํ อชฺช อิมสฺมึ อลงฺกตสยนคพฺเภ เอกโต วเสยฺยามาติ ยาจติ.

ตโต ราชธีตา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๓๘.

‘‘โอกิณฺณนฺตรปริขํ, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ;

รกฺขิตํ ขคฺคหตฺเถหิ, ทุปฺปเวสมิทํ ปุรํ.

๓๙.

‘‘ทหรสฺส ยุวิโน จาปิ, อาคโม จ น วิชฺชติ;

อถ เกน นุ วณฺเณน, สงฺคมํ อิจฺฉเส มยา’’ติ.

ตตฺถ โอกิณฺณนฺตรปริขนฺติ อิทํ ทฺวาทสโยชนิกํ สุรุนฺธนปุรํ อนฺตรนฺตรา อุทกปริขานํ กทฺทมปริขานํ สุกฺขปริขานํ โอกิณฺณตฺตา โอกิณฺณนฺตรปริขํ. ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกนฺติ ถิรตเรหิ อฏฺฏาลเกหิ ทฺวารโกฏฺเกหิ จ สมนฺนาคตํ. ขคฺคหตฺเถหีติ อาวุธหตฺเถหิ ทสหิ โยธสหสฺเสหิ รกฺขิตํ. ทุปฺปเวสมิทํ ปุรนฺติ อิทํ สกลปุรมฺปิ ตสฺส อนฺโต มาปิตํ มยฺหํ นิวาสปุรมฺปิ อุภยํ กสฺสจิ ปวิสิตุํ น สกฺกา. อาคโม จาติ อิธ อิมาย เวลาย ตรุณสฺส วา โยพฺพนปฺปตฺตสฺส วา ถามสมฺปนฺนโยธสฺส วา อฺสฺส วา มหนฺตมฺปิ ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อาคโม นาม นตฺถิ. สงฺคมนฺติ อถ ตฺวํ เกน การเณน อิมาย เวลาย มยา สห สมาคมํ อิจฺฉสีติ.

อถ สกฺโก จตุตฺถํ คาถมาห –

๔๐.

‘‘ยกฺโขหมสฺมิ กลฺยาณิ, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;

ตฺวํ มํ นนฺทย ภทฺทนฺเต, ปุณฺณกํสํ ททามิ เต’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – กลฺยาณิ, สุนฺทรทสฺสเน อหเมโก เทวปุตฺโต เทวตานุภาเวน อิธาคโต, ตฺวํ อชฺช มํ นนฺทย โตเสหิ, อหํ เต อิมํ สุวณฺณมาสกปุณฺณํ สุวณฺณปาตึ ททามีติ.

ตํ สุตฺวา ราชธีตา ปฺจมํ คาถมาห –

๔๑.

‘‘เทวํว ยกฺขํ อถ วา มนุสฺสํ, น ปตฺถเย อุทยมติจฺจ อฺํ;

คจฺเฉว ตฺวํ ยกฺข มหานุภาว, มา จสฺสุ คนฺตฺวา ปุนราวชิตฺถา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อหํ เทวราช, เทวํ วา ยกฺขํ วา อุทยํ อติกฺกมิตฺวา อฺํ น ปตฺเถมิ, โส ตฺวํ คจฺเฉว, มา อิธ อฏฺาสิ, น เม ตยา อาภเตน ปณฺณากาเรน อตฺโถ, คนฺตฺวา จ มา อิมํ านํ ปุนราวชิตฺถาติ.

โส ตสฺสา สีหนาทํ สุตฺวา อฏฺตฺวา คตสทิโส หุตฺวา ตตฺเถว อนฺตรหิโต อฏฺาสิ. โส ปุนทิวเส ตาย เวลายเมว สุวณฺณมาสกปูรํ รชตปาตึ อาทาย ตาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –

๔๒.

‘‘ยา สา รติ อุตฺตมา กามโภคินํ, ยํเหตุ สตฺตา วิสมํ จรนฺติ;

มา ตํ รตึ ชียิ ตุวํ สุจิมฺหิเต, ททามิ เต รูปิยํ กํสปูร’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท, ราชธีเต ยา เอสา กามโภคิสตฺตานํ รตีสุ เมถุนกามรติ นาม อุตฺตมา รติ, ยสฺสา รติยา การณา สตฺตา กายทุจฺจริตาทิวิสมํ จรนฺติ, ตํ รตึ ตฺวํ ภทฺเท, สุจิมฺหิเต มนาปหสิเต มา ชียิ, อหมฺปิ อาคจฺฉนฺโต น ตุจฺฉหตฺโถ อาคโต, หิยฺโย สุวณฺณมาสกปูรํ สุวณฺณปาตึ อาหรึ, อชฺช รูปิยปาตึ, อิมํ เต อหํ รูปิยปาตึ สุวณฺณปูรํ ททามีติ.

ราชธีตา จินฺเตสิ ‘‘อยํ กถาสลฺลาปํ ลภนฺโต ปุนปฺปุนํ อาคมิสฺสติ, น ทานิ เตน สทฺธึ กเถสฺสามี’’ติ. สา กิฺจิ น กเถสิ.

สกฺโก ตสฺสา อกถิตภาวํ ตฺวา ตตฺเถว อนฺตรหิโต หุตฺวา ปุนทิวเส ตายเมว เวลาย โลหปาตึ กหาปณปูรํ อาทาย ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ มํ กามรติยา สนฺตปฺเปหิ, อิมํ เต กหาปณปูรํ โลหปาตึ ทสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ทิสฺวา ราชธีตา สตฺตมํ คาถมาห –

๔๓.

‘‘นารึ นโร นิชฺฌปยํ ธเนน, อุกฺกํสตี ยตฺถ กโรติ ฉนฺทํ;

วิปจฺจนีโก ตว เทวธมฺโม, ปจฺจกฺขโต โถกตเรน เอสี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – โภ ปุริส, ตฺวํ ชโฬ. นโร หิ นาม นารึ กิเลสรติการณา ธเนน นิชฺฌาเปนฺโต สฺาเปนฺโต ยตฺถ นาริยา ฉนฺทํ กโรติ, ตํ อุกฺกํสติ วณฺเณตฺวา โถเมตฺวา พหุตเรน ธเนน ปโลเภติ, ตุยฺหํ ปเนโส เทวสภาโว วิปจฺจนีโก, ตฺวฺหิ มยา ปจฺจกฺขโต โถกตเรน เอสิ, ปมทิวเส สุวณฺณปูรํ สุวณฺณปาตึ อาหริตฺวา, ทุติยทิวเส สุวณฺณปูรํ รูปิยปาตึ, ตติยทิวเส กหาปณปูรํ โลหปาตึ อาหรสีติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘ภทฺเท ราชกุมาริ, อหํ เฉกวาณิโช น นิรตฺถเกน อตฺถํ นาเสมิ, สเจ ตฺวํ อายุนา วา วณฺเณน วา วฑฺเฒยฺยาสิ, อหํ เต ปณฺณาการํ วฑฺเฒตฺวา อาหเรยฺยํ, ตฺวํ ปน ปริหายเสว, เตนาหมฺปิ ธนํ ปริหาเปมี’’ติ วตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๔๔.

‘‘อายุ จ วณฺโณ จ มนุสฺสโลเก, นิหียติ มนุชานํ สุคตฺเต;

เตเนว วณฺเณน ธนมฺปิ ตุยฺหํ, นิหียติ ชิณฺณตราสิ อชฺช.

๔๕.

‘‘เอวํ เม เปกฺขมานสฺส, ราชปุตฺติ ยสสฺสินิ;

หายเตว ตว วณฺโณ, อโหรตฺตานมจฺจเย.

๔๖.

‘‘อิมินาว ตฺวํ วยสา, ราชปุตฺติ สุเมธเส;

พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยาสิ, ภิยฺโย วณฺณวตี สิยา’’ติ.

ตตฺถ นิหียตีติ ปริสฺสาวเน อาสิตฺตอุทกํ วิย ปริหายติ. มนุสฺสโลกสฺมิฺหิ สตฺตา ชีวิเตน วณฺเณน จกฺขุปสาทาทีหิ จ ทิเน ทิเน ปริหายนฺเตว. ชิณฺณตราสีติ มม ปมํ อาคตทิวเส ปวตฺตฺหิ เต อายุ หิยฺโย ทิวสํ น ปาปุณิ, กุาริยา ฉินฺนํ วิย ตตฺเถว นิรุชฺฌิ, หิยฺโย ปวตฺตมฺปิ อชฺชทิวสํ น ปาปุณิ, หิยฺโยว กุาริยา ฉินฺนํ วิย นิรุชฺฌิ, ตสฺมา อชฺช ชิณฺณตราสิ ชาตา. เอวํ เมติ ติฏฺตุ หิยฺโย จ ปรหิยฺโย จ, อชฺเชว ปน มยฺหํ เอวํ เปกฺขมานสฺเสว หายเตว ตว วณฺโณ. อโหรตฺตานมจฺจเยติ อิโต ปฏฺาย รตฺตินฺทิเวสุ วีติวตฺเตสุ อโหรตฺตานํ อจฺจเยน อปณฺณตฺติกภาวเมว คมิสฺสสีติ ทสฺเสติ. อิมินาวาติ ตสฺมา ภทฺเท, สเจ ตฺวํ อิมินา วเยเนว อิมสฺมึ สุวณฺณวณฺเณ สรีเร รชาย อวิลุตฺเตเยว เสฏฺจริยํ จเรยฺยาสิ, ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กเรยฺยาสิ. ภิยฺโย วณฺณวตี สิยาติ อติเรกตรวณฺณา ภเวยฺยาสีติ.

ตโต ราชธีตา อิตรํ คาถมาห –

๔๗.

‘‘เทวา น ชีรนฺติ ยถา มนุสฺสา, คตฺเตสุ เตสํ วลิโย น โหนฺติ;

ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กถํ นุ เทวาน สรีรเทโห’’ติ.

ตตฺถ สรีรเทโหติ สรีรสงฺขาโต เทโห, เทวานํ สรีรํ กถํ น ชีรติ, อิทํ อหํ ตํ ปุจฺฉามีติ วทติ.

อถสฺสา กเถนฺโต สกฺโก อิตรํ คาถมาห –

๔๘.

‘‘เทวา น ชีรนฺติ ยถา มนุสฺสา, คตฺเตสุ เตสํ วลิโย น โหนฺติ;

สุเว สุเว ภิยฺยตโรว เตสํ, ทิพฺโพ จ วณฺโณ วิปุลา จ โภคา’’ติ.

ตตฺถ ยถา มนุสฺสาติ ยถา มนุสฺสา ชีรนฺตา รูเปน วณฺเณน โภเคน จกฺขุปสาทาทีหิ จ ชีรนฺติ, น เอวํ เทวา. เตสฺหิ คตฺเตสุ วลิโยปิ น สนฺติ, มฏฺกฺจนปฏฺฏมิว สรีรํ โหติ. สุเว สุเวติ ทิวเส ทิวเส. ภิยฺยตโรวาติ อติเรกตโรว เตสํ ทิพฺโพ จ วณฺโณ วิปุลา จ โภคา โหนฺติ, มนุสฺเสสุ หิ รูปปริหานิ จิรชาตภาวสฺส สกฺขิ, เทเวสุ อติเรกรูปสมฺปตฺติ จ อติเรกปริวารสมฺปตฺติ จ. เอวํ อปริหานธมฺโม นาเมส เทวโลโก. ตสฺมา ตฺวํ ชรํ อปฺปตฺวาว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพช, เอวํ ปริหานิยสภาวา มนุสฺสโลกา จวิตฺวา อปริหานิยสภาวํ เอวรูปํ เทวโลกํ คมิสฺสสีติ.

สา เทวโลกสฺส วณฺณํ สุตฺวา ตสฺส คมนมคฺคํ ปุจฺฉนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๔๙.

‘‘กึสูธ ภีตา ชนตา อเนกา, มคฺโค จ เนกายตนํ ปวุตฺโต;

ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กตฺถฏฺิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ.

ตตฺถ กึสูธ ภีตาติ เทวราช, อยํ ขตฺติยาทิเภทา อเนกา ชนตา กึภีตา กสฺส ภเยน ปริหานิยสภาวา มนุสฺสโลกา เทวโลกํ น คจฺฉตีติ ปุจฺฉติ. มคฺโคติ เทวโลกคามิมคฺโค. อิธ ปน ‘‘กิ’’นฺติ อาหริตฺวา ‘‘โก’’ติ ปุจฺฉา กาตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ‘‘อเนกติตฺถายตนวเสน ปณฺฑิเตหิ ปวุตฺโต เทวโลกมคฺโค โก กตโร’’ติ วุตฺโต. กตฺถฏฺิโตติ ปรโลกํ คจฺฉนฺโต กตรสฺมึ มคฺเค ิโต น ภายตีติ.

อถสฺสา กเถนฺโต สกฺโก อิตรํ คาถมาห –

๕๐.

‘‘วาจํ มนฺจ ปณิธาย สมฺมา, กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน;

พหุนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู;

สงฺคาหโก สขิโล สณฺหวาโจ, เอตฺถฏฺิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท, อุทเย วาจํ มนฺจ สมฺมา เปตฺวา กาเยน ปาปานิ อกโรนฺโต อิเม ทส กุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตนฺโต พหุอนฺนปาเน ปหูตเทยฺยธมฺเม ฆเร วสนฺโต ‘‘ทานสฺส วิปาโก อตฺถี’’ติ สทฺธาย สมนฺนาคโต มุทุจิตฺโต ทานสํวิภาคตาย สํวิภาคี ปพฺพชิตา ภิกฺขาย จรมานา วทนฺติ นาม, เตสํ ปจฺจยทาเนน ตสฺส วาทสฺส ชานนโต วทฺู จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหตาย สงฺคาหโก ปิยวาทิตาย สขิโล มฏฺวจนตาย สณฺหวาโจ เอตฺถ เอตฺตเก คุณราสิมฺหิ ิโต ปรโลกํ คจฺฉนฺโต น ภายตีติ.

ตโต ราชธีตา ตํ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ถุตึ กโรนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๕๑.

‘‘อนุสาสสิ มํ ยกฺข, ยถา มาตา ยถา ปิตา;

อุฬารวณฺณ ปุจฺฉามิ, โก นุ ตฺวมสิ สุพฺรหา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยถา มาตาปิตโร ปุตฺตเก อนุสาสนฺติ, ตถา มํ อนุสาสสิ. อุฬารวณฺณ โสภคฺคปฺปตฺตรูปทารก โก นุ อสิ ตฺวํ เอวํ อจฺจุคฺคตสรีโรติ.

ตโต โพธิสตฺโต อิตรํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘อุทโยหมสฺมิ กลฺยาณิ, สงฺครตฺตา อิธาคโต;

อามนฺต โข ตํ คจฺฉามิ, มุตฺโตสฺมิ ตว สงฺครา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – กลฺยาณทสฺสเน อหํ ปุริมภเว ตว สามิโก อุทโย นาม ตาวตึสภวเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺโต, อิธาคจฺฉนฺโต น กิเลสวเสนาคโต, ตํ วีมํสิตฺวา ปน สงฺครํ โมเจสฺสามีติ สงฺครตฺตา ปุพฺเพ สงฺครสฺส กตตฺตา อาคโตสฺมิ, อิทานิ ตํ อามนฺเตตฺวา คจฺฉามิ, มุตฺโตสฺมิ ตว สงฺคราติ.

ราชธีตา อสฺสสิตฺวา ‘‘สามิ, ตฺวํ อุทยภทฺทราชา’’ติ อสฺสุธารา ปวตฺตยมานา ‘‘อหํ ตุมฺเหหิ วินา วสิตุํ น สกฺโกมิ, ยถา ตุมฺหากํ สนฺติเก วสามิ, ตถา มํ อนุสาสถา’’ติ วตฺวา อิตรํ คาถํ อภาสิ –

๕๓.

‘‘สเจ โข ตฺวํ อุทโยสิ, สงฺครตฺตา อิธาคโต;

อนุสาส มํ ราชปุตฺต, ยถาสฺส ปุน สงฺคโม’’ติ.

อถ นํ อนุสาสนฺโต มหาสตฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๕๔.

‘‘อติปตติ วโย ขโณ ตเถว, านํ นตฺถิ ธุวํ จวนฺติ สตฺตา;

ปริชียติ อทฺธุวํ สรีรํ, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.

๕๕.

‘‘กสิณา ปถวี ธนสฺส ปูรา, เอกสฺเสว สิยา อนฺเธยฺยา;

ตํ จาปิ ชหติ อวีตราโค, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.

๕๖.

‘‘มาตา จ ปิตา จ ภาตโร จ, ภริยา ยาปิ ธเนน โหติ กีตา;

เต จาปิ ชหนฺติ อฺมฺํ, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.

๕๗.

‘‘กาโย ปรโภชนนฺติ ตฺวา, สํสาเร สุคติฺจ ทุคฺคติฺจ;

อิตฺตรวาโสติ ชานิยาน, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺม’’นฺติ.

ตตฺถ อติปตตีติ อติวิย ปตติ, สีฆํ อติกฺกมติ. วโยติ ปมวยาทิติวิโธปิ วโย. ขโณ ตเถวาติ อุปฺปาทฏฺิติภงฺคกฺขโณปิ ตเถว อติปตติ. อุภเยนปิ ภินฺโน อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขาโร นาม สีฆโสตา นที วิย อนิวตฺตนฺโต สีฆํ อติกฺกมตีติ ทสฺเสติ. านํ นตฺถีติ ‘‘อุปฺปนฺนา สงฺขารา อภิชฺชิตฺวา ติฏฺนฺตู’’ติ ปตฺถนายปิ เตสํ านํ นาม นตฺถิ, ธุวํ เอกํเสเนว พุทฺธํ ภควนฺตํ อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ สตฺตา จวนฺติ, ‘‘ธุวํ มรณํ, อทฺธุวํ ชีวิต’’นฺติ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวหีติ ทีเปติ. ปริชียตีติ อิทํ สุวณฺณวณฺณมฺปิ สรีรํ ชีรเตว, เอวํ ชานาหิ. มา ปมาทนฺติ ตสฺมา ตฺวํ อุทยภทฺเท มา ปมาทํ อาปชฺชิ, อปฺปมตฺตา หุตฺวา ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จราหีติ.

กสิณาติ สกลา. เอกสฺเสวาติ ยทิ เอกสฺเสว รฺโ, ตสฺมึ เอกสฺมึเยว อนฺาธีนา อสฺส. ตํ จาปิ ชหติ อวีตราโคติ ตณฺหาวสิโก ปุคฺคโล เอตฺตเกนปิ ยเสน อติตฺโต มรณกาเล อวีตราโคว ตํ วิชหติ. เอวํ ตณฺหาย อปูรณียภาวํ ชานาหีติ ทีเปติ. เต จาปีติ มาตา ปุตฺตํ, ปุตฺโต มาตรํ, ปิตา ปุตฺตํ, ปุตฺโต ปิตรํ, ภาตา ภคินึ, ภคินี ภาตรํ, ภริยา สามิกํ, สามิโก ภริยนฺติ เอเต อฺมฺํ ชหนฺติ, นานา โหนฺติ. เอวํ สตฺตานํ นานาภาววินาภาวํ ชานาหีติ ทีเปติ.

ปรโภชนนฺติ วิวิธานํ กากาทีนํ ปรสตฺตานํ โภชนํ. อิตฺตรวาโสติ ยา เอสา อิมสฺมึ สํสาเร มนุสฺสภูตา สุคฺคติ จ ติรจฺฉานภูตา ทุคฺคติ จ, เอตํ อุภยมฺปิ ‘‘อิตฺตรวาโส’’ติ ชานิตฺวา มา ปมาทํ, จรสฺสุ ธมฺมํ. อิเมสํ สตฺตานํ นานาานโต อาคนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน สมาคโม ปริตฺโต, อิเม สตฺตา อปฺปกสฺมึเยว กาเล เอกโต วสนฺติ, ตสฺมา อปฺปมตฺตา โหหีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ตสฺสา โอวาทมทาสิ. สาปิ ตสฺส ธมฺมกถาย ปสีทิตฺวา ถุตึ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –

๕๘.

‘‘สาธุ ภาสติยํ ยกฺโข, อปฺปํ มจฺจาน ชีวิตํ;

กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ;

สาหํ เอกา ปพฺพชิสฺสามิ, หิตฺวา กาสึ สุรุนฺธน’’นฺติ.

ตตฺถ สาธูติ ‘‘อปฺปํ มจฺจาน ชีวิต’’นฺติ ภาสมาโน อยํ เทวราชา สาธุ ภาสติ. กึการณา? อิทฺหิ กสิรฺจ ทุกฺขํ อสฺสาทรหิตํ, ปริตฺตฺจ น พหุกํ อิตฺตรกาลํ. สเจ หิ กสิรมฺปิ สมานํ ทีฆกาลํ ปวตฺเตยฺย, ปริตฺตกมฺปิ สมานํ สุขํ ภเวยฺย, อิทํ ปน กสิรฺเจว ปริตฺตฺจ สกเลน วฏฺฏทุกฺเขน สํยุตํ สนฺนิหิตํ. สาหนฺติ สา อหํ. สุรุนฺธนนฺติ สุรุนฺธนนครฺจ กาสิรฏฺฺจ ฉฑฺเฑตฺวา เอกิกาว ปพฺพชิสฺสามีติ อาห.

โพธิสตฺโต ตสฺสา โอวาทํ ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. สาปิ ปุนทิวเส อมจฺเจ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา อนฺโตนคเรเยว รมณีเย อุยฺยาเน อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ธมฺมํ จริตฺวา อายุปริโยสาเน ตาวตึสภวเน โพธิสตฺตสฺส ปาทปริจาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ราชธีตา ราหุลมาตา อโหสิ, สกฺโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.

อุทยชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๔๕๙] ๕. ปานียชาตกวณฺณนา

มิตฺโต มิตฺตสฺสาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กิเลสนิคฺคหํ อารพฺภ กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ สมเย สาวตฺถิวาสิโน ปฺจสตา คิหิสหายกา ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนา อนฺโตโกฏิสนฺถาเร วสนฺตา อฑฺฒรตฺตสมเย กามวิตกฺกํ วิตกฺเกสุํ. สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ภควโต อาณตฺติยา ปนายสฺมตา อานนฺเทน ภิกฺขุสงฺเฆ สนฺนิปาติเต สตฺถา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา อโนทิสฺสกํ กตฺวา ‘‘กามวิตกฺกํ วิตกฺกยิตฺถา’’ติ อวตฺวา สพฺพสงฺคาหิกวเสเนว ‘‘ภิกฺขเว, กิเลโส ขุทฺทโก นาม นตฺถิ, ภิกฺขุนา นาม อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา กิเลสา นิคฺคเหตพฺพา, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ กิเลเส นิคฺคเหตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต กาสิรฏฺเ เอกสฺมึ คามเก ทฺเว สหายกา ปานียตุมฺพานิ อาทาย เขตฺตํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ เปตฺวา เขตฺตํ โกฏฺเฏตฺวา ปิปาสิตกาเล อาคนฺตฺวา ปานียํ ปิวนฺติ. เตสุ เอโก ปานียตฺถาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปานียํ รกฺขนฺโต อิตรสฺส ตุมฺพโต ปิวิตฺวา สายํ อรฺา นิกฺขมิตฺวา นฺหายิตฺวา ิโต ‘‘อตฺถิ นุ โข เม กายทฺวาราทีหิ อชฺช กิฺจิ ปาปํ กต’’นฺติ อุปธาเรนฺโต เถเนตฺวา ปานียสฺส ปิวิตภาวํ ทิสฺวา สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อยํ ตณฺหา วฑฺฒมานา มํ อปาเยสุ ขิปิสฺสติ, อิมํ กิเลสํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ปานียสฺส เถเนตฺวา ปิวิตภาวํ อารมฺมณํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฏิลทฺธคุณํ อาวชฺเชนฺโต อฏฺาสิ. อถ นํ อิตโร นฺหายิตฺวา อุฏฺิโต ‘‘เอหิ, สมฺม, ฆรํ คจฺฉามา’’ติ อาห. ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, มม ฆเรน กิจฺจํ นตฺถิ, ปจฺเจกพุทฺธา นาม มย’’นฺติ. ‘‘ปจฺเจกพุทฺธา นาม ตุมฺหาทิสา น โหนฺตี’’ติ. ‘‘อถ กีทิสา ปจฺเจกพุทฺธา โหนฺตี’’ติ? ‘‘ทฺวงฺคุลเกสา กาสายวตฺถวสนา อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภาเร วสนฺตี’’ติ. โส สีสํ ปรามสิ, ตํ ขณฺเวสฺส คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวตฺถเมว, วิชฺชุลตาสทิสํ กายพนฺธนํ พทฺธเมว, อลตฺตกปาฏลวณฺณํ อุตฺตราสงฺคจีวรํ เอกํสํ กตเมว, เมฆวณฺณํ ปํสุกูลจีวรํ ทกฺขิณอํสกูเฏ ปิตเมว, ภมรวณฺโณ มตฺติกาปตฺโต วามอํสกูเฏ ลคฺคิโตว อโหสิ. โส อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา อุปฺปติตฺวา นนฺทมูลกปพฺภาเรเยว โอตริ.

อปโรปิ กาสิคาเมเยว กุฏุมฺพิโก อาปเณ นิสินฺโน เอกํ ปุริสํ อตฺตโน ภริยํ อาทาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ตํ อุตฺตมรูปธรํ อิตฺถึ อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา โอโลเกตฺวา ปุน จินฺเตสิ ‘‘อยํ โลโภ วฑฺฒมาโน มํ อปาเยสุ ขิปิสฺสตี’’ติ สํวิคฺคมานโส วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.

อปเรปิ กาสิคามวาสิโนเยว ทฺเว ปิตาปุตฺตา เอกโต มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ. อฏวีมุเข ปน โจรา อุฏฺิตา โหนฺติ. เต ปิตาปุตฺเต ลภิตฺวา ปุตฺตํ คเหตฺวา ‘‘ธนํ อาหริตฺวา ตว ปุตฺตํ คณฺหา’’ติ ปิตรํ วิสฺสชฺเชนฺติ, ทฺเว ภาตโร ลภิตฺวา กนิฏฺํ คเหตฺวา เชฏฺํ วิสฺสชฺเชนฺติ, อาจริยนฺเตวาสิเก ลภิตฺวา อาจริยํ คเหตฺวา อนฺเตวาสิกํ วิสฺสชฺเชนฺติ, อนฺเตวาสิโก สิปฺปโลเภน ธนํ อาหริตฺวา อาจริยํ คณฺหิตฺวา คจฺฉติ. อถ เต ปิตาปุตฺตาปิ ตตฺถ โจรานํ อุฏฺิตภาวํ ตฺวา ‘‘ตฺวํ มํ ‘ปิตา’ติ มา วท, อหมฺปิ ตํ ‘ปุตฺโต’ติ น วกฺขามี’’ติ กติกํ กตฺวา โจเรหิ คหิตกาเล ‘‘ตุมฺเห อฺมฺํ กึ โหถา’’ติ ปุฏฺา ‘‘น กิฺจิ โหมา’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ กรึสุ. เตสุ อฏวิโต นิกฺขมิตฺวา สายํ นฺหายิตฺวา ิเตสุ ปุตฺโต อตฺตโน สีลํ โสเธนฺโต ตํ มุสาวาทํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ปาปํ วฑฺฒมานํ มํ อปาเยสุ ขิปิสฺสติ, อิมํ กิเลสํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต ปิตุ ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.

อปโรปิ กาสิคาเมเยว ปน เอโก คามโภชโก มาฆาตํ การาเปสิ. อถ นํ พลิกมฺมกาเล มหาชโน สนฺนิปติตฺวา อาห ‘‘สามิ, มยํ มิคสูกราทโย มาเรตฺวา ยกฺขานํ พลิกมฺมํ กริสฺสาม, พลิกมฺมกาโล เอโส’’ติ. ตุมฺหากํ ปุพฺเพ กรณนิยาเมเนว กโรถาติ มนุสฺสา พหุํ ปาณาติปาตมกํสุ. โส พหุํ มจฺฉมํสํ ทิสฺวา ‘‘อิเม มนุสฺสา เอตฺตเก ปาเณ มาเรนฺตา มเมเวกสฺส วจเนน มารยึสู’’ติ กุกฺกุจฺจํ กตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย ิตโกว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.

อปโรปิ กาสิรฏฺเเยว คามโภชโก มชฺชวิกฺกยํ วาเรตฺวา ‘‘สามิ, ปุพฺเพ อิมสฺมึ กาเล สุราฉโณ นาม โหติ, กึ กโรมา’’ติ มหาชเนน วุตฺโต ‘‘ตุมฺหากํ โปราณกนิยาเมเนว กโรถา’’ติ อาห. มนุสฺสา ฉณํ กตฺวา สุรํ ปิวิตฺวา กลหํ กโรนฺตา หตฺถปาเท ภฺชิตฺวา สีสํ ภินฺทิตฺวา กณฺเณ ฉินฺทิตฺวา พหุทณฺเฑน พชฺฌึสุ. คามโภชโก เต ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยิ อนนุชานนฺเต อิเม อิมํ ทุกฺขํ น วินฺเทยฺยุ’’นฺติ. โส เอตฺตเกน กุกฺกุจฺจํ กตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย ิตโกว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.

อปรภาเค เต ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธา ภิกฺขาจารตฺถาย พาราณสิทฺวาเร โอตริตฺวา สุนิวตฺถา สุปารุตา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย จรนฺตา ราชทฺวารํ สมฺปาปุณึสุ. ราชา เต ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ราชนิเวสนํ ปเวเสตฺวา ปาเท โธวิตฺวา คนฺธเตเลน มกฺเขตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปมวเย ปพฺพชฺชา โสภติ, อิมสฺมึ วเย ปพฺพชนฺตา กถํ กาเมสุ อาทีนวํ ปสฺสิตฺถ, กึ โว อารมฺมณํ อโหสี’’ติ ปุจฺฉิ. เต ตสฺส กเถนฺตา –

๕๙.

‘‘มิตฺโต มิตฺตสฺส ปานียํ, อทินฺนํ ปริภุฺชิสํ;

เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;

มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.

๖๐.

‘‘ปรทารฺจ ทิสฺวาน, ฉนฺโท เม อุทปชฺชถ;

เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;

มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.

๖๑.

‘‘ปิตรํ เม มหาราช, โจรา อคณฺหุ กานเน;

เตสาหํ ปุจฺฉิโต ชานํ, อฺถา นํ วิยากรึ.

๖๒.

‘‘เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;

มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.

๖๓.

‘‘ปาณาติปาตมกรุํ, โสมยาเค อุปฏฺิเต;

เตสาหํ สมนุฺาสึ.

๖๔.

‘‘เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;

มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.

๖๕.

‘‘สุราเมรยมาธุกา, เย ชนา ปมาสุ โน;

พหูนํ เต อนตฺถาย, มชฺชปานมกปฺปยุํ;

เตสาหํ สมนุฺาสึ.

๖๖.

‘‘เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;

มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อห’’นฺติ. –

อิมา ปฏิปาฏิยา ปฺจ คาถา อภาสึสุ. ราชาปิ เอกเมกสฺส พฺยากรณํ สุตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ ปพฺพชฺชา ตุมฺหากํ เยวานุจฺฉวิกา’’ติ ถุติมกาสิ.

ตตฺถ มิตฺโต มิตฺตสฺสาติ มหาราช, อหํ เอกสฺส มิตฺโต หุตฺวา ตสฺส มิตฺตสฺส สนฺตกํ ปานียํ อิมินา นิยาเมเนว ปริภุฺชึ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปุถุชฺชนา นาม ปาปกมฺมํ กโรนฺติ, ตสฺมา อหํ มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตํ ปาปํ อารมฺมณํ กตฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ. ฉนฺโทติ มหาราช, อิมินาว นิยาเมน มม ปรทารํ ทิสฺวา กาเม ฉนฺโท อุปฺปชฺชิ. อคณฺหูติ อคณฺหึสุ. ชานนฺติ เตสํ โจรานํ ‘‘อยํ กึ เต โหตี’’ติ ปุจฺฉิโต ชานนฺโตเยว ‘‘น กิฺจิ โหตี’’ติ อฺถา พฺยากาสึ. โสมยาเคติ นวจนฺเท อุฏฺิเต โสมยาคํ นาม ยกฺขพลึ กรึสุ, ตสฺมึ อุปฏฺิเต. สมนุฺาสินฺติ สมนุฺโ อาสึ. สุราเมรยมาธุกาติ ปิฏฺสุราทิสุรฺจ ปุปฺผาสวาทิเมรยฺจ ปกฺกมธุ วิย มธุรํ มฺมานา. เย ชนา ปมาสุ โนติ เย โน คาเม ชนา ปมํ เอวรูปา อาสุํ อเหสุํ. พหูนํ เตติ เต เอกทิวสํ เอกสฺมึ ฉเณ ปตฺเต พหูนํ อนตฺถาย มชฺชปานํ อกปฺปยึสุ.

ราชา เตสํ ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต จีวรสาฏเก จ เภสชฺชานิ จ ทตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ อุยฺโยเชสิ. เตปิ ตสฺส อนุโมทนํ กตฺวา ตตฺเถว อคมํสุ. ตโต ปฏฺาย ราชา วตฺถุกาเมสุ วิรตฺโต อนเปกฺโข หุตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา อิตฺถิโย อนาลปิตฺวา อโนโลเกตฺวา วิรตฺตจิตฺโต อุฏฺาย สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน เสตภิตฺติยํ กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตสิ. โส ฌานปฺปตฺโต กาเม ครหนฺโต –

๖๗.

‘‘ธิรตฺถุ สุพหู กาเม, ทุคฺคนฺเธ พหุกณฺฏเก;

เย อหํ ปฏิเสวนฺโต, นาลภึ ตาทิสํ สุข’’นฺติ. – คาถมาห;

ตตฺถ พหุกณฺฏเกติ พหู ปจฺจามิตฺเต. เย อหนฺติ โย อหํ, อยเมว วา ปาโ. ตาทิสนฺติ เอตาทิสํ กิเลสรหิตํ ฌานสุขํ.

อถสฺส อคฺคมเหสี ‘‘อยํ ราชา ปจฺเจกพุทฺธานํ ธมฺมกถํ สุตฺวา อุกฺกณฺิตรูโป อโหสิ, อมฺเหหิ สทฺธึ อกเถตฺวาว สิริคพฺภํ ปวิฏฺโ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา สิริคพฺภทฺวาเร ิตา รฺโ กาเมสุ ครหนฺตสฺส อุทานํ สุตฺวา ‘‘มหาราช, ตฺวํ กาเม ครหสิ, กามสุขสทิสํ นาม สุขํ นตฺถี’’ติ กาเม วณฺเณนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๖๘.

‘‘มหสฺสาทา สุขา กามา, นตฺถิ กามา ปรํ สุขํ;

เย กาเม ปฏิเสวนฺติ, สคฺคํ เต อุปปชฺชเร’’ติ.

ตตฺถ มหสฺสาทาติ มหาราช, เอเต กามา นาม มหาอสฺสาทา, อิโต อุตฺตรึ อฺํ สุขํ นตฺถิ. กามเสวิโน หิ อปาเย อนุปคมฺม สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ตสฺสา ‘‘นสฺส วสลิ, กึ กเถสิ, กาเมสุ สุขํ นาม กุโต อตฺถิ, วิปริณามทุกฺขา เอเต’’ติ ครหนฺโต เสสคาถา อภาสิ –

๖๙.

‘‘อปฺปสฺสาทา ทุขา กามา, นตฺถิ กามา ปรํ ทุขํ;

เย กาเม ปฏิเสวนฺติ, นิรยํ เต อุปปชฺชเร.

๗๐.

‘‘อสี ยถา สุนิสิโต, เนตฺตึโสว สุปายิโก;

สตฺตีว อุรสิ ขิตฺตา, กามา ทุกฺขตรา ตโต.

๗๑.

‘‘องฺคารานํว ชลิตํ, กาสุํ สาธิกโปริสํ;

ผาลํว ทิวสํตตฺตํ, กามา ทุกฺขตรา ตโต.

๗๒.

‘‘วิสํ ยถา หลาหลํ, เตลํ ปกฺกุถิตํ ยถา;

ตมฺพโลหวิลีนํว, กามา ทุกฺขตรา ตโต’’ติ.

ตตฺถ เนตฺตึโสติ นิกฺกรุโณ, อิทมฺปิ เอกสฺส ขคฺคสฺส นามํ. ทุกฺขตราติ เอวํ ชลิตงฺคารกาสุํ วา ทิวสํ ตตฺตํ ผาลํ วา ปฏิจฺจ ยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตโตปิ กามาเยว ทุกฺขตราติ อตฺโถ. อนนฺตรคาถาย ยถา เอตานิ วิสาทีนิ ทุกฺขาวหนโต ทุกฺขานิ, เอวํ กามาปิ ทุกฺขา, ตํ ปน กามทุกฺขํ อิตเรหิ ทุกฺเขหิ ทุกฺขตรนฺติ อตฺโถ.

เอวํ มหาสตฺโต เทวิยา ธมฺมํ เทเสตฺวา อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘โภนฺโต อมจฺจา, ตุมฺเห รชฺชํ ปฏิปชฺชถ, อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา มหาชนสฺส โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส อุฏฺาย อากาเส ตฺวา โอวาทํ ทตฺวา อนิลปเถเนว อุตฺตรหิมวนฺตํ คนฺตฺวา รมณีเย ปเทเส อสฺสมํ มาเปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อายุปริโยสาเน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, กิเลโส ขุทฺทโก นาม นตฺถิ, อปฺปมตฺตโกปิ ปณฺฑิเตหิ นิคฺคหิตพฺโพเยวา’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. ตทา ปจฺเจกพุทฺธา ปรินิพฺพายึสุ, เทวี ราหุลมาตา อโหสิ, ราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

ปานียชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๔๖๐] ๖. ยุธฺจยชาตกวณฺณนา

มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺหนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตา ภิกฺขู ‘‘อาวุโส, สเจ ทสพโล อคารํ อชฺฌาวสิสฺส, สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติราชา อภวิสฺส สตฺตรตนสมนฺนาคโต จตุริทฺธีหิ สมิทฺโธ ปโรสหสฺสปุตฺตปริวาโร, โส เอวรูปํ สิริวิภวํ ปหาย กาเมสุ โทสํ ทิสฺวา อฑฺฒรตฺตสมเย ฉนฺนสหาโยว กณฺฏกมารุยฺห นิกฺขมิตฺวา อโนมนทีตีเร ปพฺพชิตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺโต’’ติ สตฺถุ คุณกถํ กถยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, ปุพฺเพปิ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร รชฺชํ ปหาย นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต รมฺมนคเร สพฺพทตฺโต นาม ราชา อโหสิ. อยฺหิ พาราณสี อุทยชาตเก (ชา. ๑.๑๑.๓๗ อาทโย) สุรุนฺธนนครํ นาม ชาตา, จูฬสุตโสมชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑๙๕ อาทโย) สุทสฺสนํ นาม, โสณนนฺทชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๙๒ อาทโย) พฺรหฺมวฑฺฒนํ นาม, ขณฺฑหาลชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๙๘๒ อาทโย) ปุปฺผวตี นาม, สงฺขพฺราหฺมณชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๓๙ อาทโย) โมฬินี นาม, อิมสฺมึ ปน ยุธฺจยชาตเก รมฺมนครํ นาม อโหสิ. เอวมสฺสา กทาจิ นามํ ปริวตฺตติ. ตตฺถ สพฺพทตฺตรฺโ ปุตฺตสหสฺสํ อโหสิ. ยุธฺจยสฺส นาม เชฏฺปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. โส ทิวเส ทิวเส มหาทานํ ปวตฺเตสิ. เอวํ คจฺฉนฺเต กาเล โพธิสตฺโต เอกทิวสํ ปาโตว รถวรมารุยฺห มหนฺเตน สิริวิภเวน อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺโต รุกฺขคฺคติณคฺคสาขคฺคมกฺกฏกสุตฺตชาลาทีสุ มุตฺตาชาลากาเรน ลคฺคิตอุสฺสวพินฺทูนิ ทิสฺวา ‘‘สมฺม สารถิ, กึ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอเต เทว, หิมสมเย ปตนกอุสฺสวพินฺทูนิ นามา’’ติ สุตฺวา ทิวสภาคํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา สายนฺหกาเล ปจฺจาคจฺฉนฺโต เต อทิสฺวาว ‘‘สมฺม สารถิ, กหํ นุ โข เอเต อุสฺสวพินฺทู, น เต อิทานิ ปสฺสามี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, เต สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต สพฺเพว ภิชฺชิตฺวา ปถวิยํ ปตนฺตี’’ติ สุตฺวา สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตสงฺขาราปิ ติณคฺเค อุสฺสวพินฺทุสทิสาว, มยา พฺยาธิชรามรเณหิ อปีฬิเตเยว มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุสฺสวพินฺทุเมว อารมฺมณํ กตฺวา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสนฺโต อตฺตโน เคหํ อคนฺตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตาย วินิจฺฉยสาลาย นิสินฺนสฺส ปิตุ สนฺติกํเยว คนฺตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโต ปมํ คาถมาห –

๗๓.

‘‘มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺหํ, อหํ วนฺเท รเถสภํ;

ปพฺพชิสฺสามหํ ราช, ตํ เทโว อนุมฺตู’’ติ.

ตตฺถ ปริพฺยูฬฺหนฺติ ปริวาริตํ. ตํ เทโวติ ตํ มม ปพฺพชฺชํ เทโว อนุชานาตูติ อตฺโถ.

อถ นํ ราชา นิวาเรนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๗๔.

‘‘สเจ เต อูนํ กาเมหิ, อหํ ปริปูรยามิ เต;

โย ตํ หึ สติ วาเรมิ, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร ตติยํ คาถมาห –

๗๕.

‘‘น มตฺถิ อูนํ กาเมหิ, หึสิตา เม น วิชฺชติ;

ทีปฺจ กาตุมิจฺฉามิ, ยํ ชรา นาภิกีรตี’’ติ.

ตตฺถ ทีปฺจาติ ตาต เนว มยฺหํ กาเมหิ อูนํ อตฺถิ, น มํ หึสนฺโต โกจิ วิชฺชติ, อหํ ปน ปรโลกคมนาย อตฺตโน ปติฏฺํ กาตุมิจฺฉามิ. กีทิสํ? ยํ ชรา นาภิกีรติ น วิทฺธํเสติ, ตมหํ กาตุมิจฺฉามิ, อมตมหานิพฺพานํ คเวสิสฺสามิ, น เม กาเมหิ อตฺโถ, อนุชานาถ มํ, มหาราชาติ วทติ.

อิติ ปุนปฺปุนํ กุมาโร ปพฺพชฺชํ ยาจิ, ราชา ‘‘มา ปพฺพชา’’ติ วาเรติ. ตมตฺถมาวิกโรนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒํ คาถมาห –

๗๖.

‘‘ปุตฺโต วา ปิตรํ ยาเจ, ปิตา วา ปุตฺตโมรส’’นฺติ.

ตตฺถ วา-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุตฺโต จ ปิตรํ ยาจติ, ปิตา จ โอรสํ ปุตฺตํ ยาจตี’’ติ.

เสสํ อุปฑฺฒคาถํ ราชา อาห –

‘‘เนคโม ตํ ยาเจ ตาต, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อยํ เต ตาต นิคมวาสิมหาชโน ยาจติ, นครชโนปิ มา ตฺวํ ปพฺพชาติ.

กุมาโร ปุนปิ ปฺจมํ คาถมาห –

๗๗.

‘‘มา มํ เทว นิวาเรหิ, ปพฺพชนฺตํ รเถสภ;

มาหํ กาเมหิ สมฺมตฺโต, ชราย วสมนฺวคู’’ติ.

ตตฺถ วสมนฺวคูติ มา อหํ กาเมหิ สมฺมตฺโต ปมตฺโต ชราย วสคามี นาม โหมิ, วฏฺฏทุกฺขํ ปน เขเปตฺวา ยถา จ สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิวิชฺฌนโก โหมิ,. ตถา มํ โอโลเกหีติ อธิปฺปาโย.

เอวํ วุตฺเต ราชา อปฺปฏิภาโณ อโหสิ. มาตา ปนสฺส ‘‘ปุตฺโต เต, เทวิ, ปิตรํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตี’’ติ สุตฺวา ‘‘กึ ตุมฺเห กเถถา’’ติ นิรสฺสาเสน มุเขน สุวณฺณสิวิกาย นิสีทิตฺวา สีฆํ วินิจฺฉยฏฺานํ คนฺตฺวา ยาจมานา ฉฏฺํ คาถมาห –

๗๘.

‘‘อหํ ตํ ตาต ยาจามิ, อหํ ปุตฺต นิวารเย;

จิรํ ตํ ทฏฺุมิจฺฉามิ, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร สตฺตมํ คาถมาห –

๗๙.

‘‘อุสฺสาโวว ติณคฺคมฺหิ, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

เอวมายุ มนุสฺสานํ, มา มํ อมฺม นิวารยา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อมฺม, ยถา ติณคฺเค อุสฺสวพินฺทุ สูริยสฺส อุคฺคมนํ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, ปถวิยํ ปตติ, เอวํ อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตํ ปริตฺตํ ตาวกาลิกํ อจิรฏฺิติกํ, เอวรูเป โลกสนฺนิวาเส กถํ ตฺวํ จิรํ มํ ปสฺสสิ, มา มํ นิวาเรหีติ.

เอวํ วุตฺเตปิ สา ปุนปฺปุนํ ยาจิเยว. ตโต มหาสตฺโต ปิตรํ อามนฺเตตฺวา อฏฺมํ คาถมาห –

๘๐.

‘‘ตรมาโน อิมํ ยานํ, อาโรเปตุ รเถสภ;

มา เม มาตา ตรนฺตสฺส, อนฺตรายกรา อหู’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ตาต รเถสภ, อิมํ มม มาตรํ ตรมาโน ปุริโส สุวณฺณสิวิกายานํ อาโรเปตุ, มา เม ชาติชราพฺยาธิมรณกนฺตารํ ตรนฺตสฺส อติกฺกมนฺตสฺส มาตา อนฺตรายกรา อหูติ.

ราชา ปุตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘คจฺฉ, ภทฺเท, ตว สิวิกาย นิสีทิตฺวา รติวฑฺฒนปาสาทํ อภิรุหา’’ติ อาห. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา าตุํ อสกฺโกนฺตี นารีคณปริวุตา คนฺตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘กา นุ โข ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ วินิจฺฉยฏฺานํ โอโลเกนฺตี อฏฺาสิ. โพธิสตฺโต มาตุ คตกาเล ปุน ปิตรํ ยาจิ. ราชา ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เตน หิ ตาต, ตว มนํ มตฺถกํ ปาเปหิ, ปพฺพชาหี’’ติ อนุชานิ. รฺโ อนุฺาตกาเล โพธิสตฺตสฺส กนิฏฺโ ยุธิฏฺิลกุมาโร นาม ปิตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, มยฺหํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาถา’’ติ อนุชานาเปสิ. อุโภปิ ภาตโร ปิตรํ วนฺทิตฺวา กาเม ปหาย มหาชนปริวุตา วินิจฺฉยโต นิกฺขมึสุ. เทวีปิ มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘มม ปุตฺเต ปพฺพชิเต รมฺมนครํ ตุจฺฉํ ภวิสฺสตี’’ติ ปริเทวมานา คาถาทฺวยมาห –

๘๑.

‘‘อภิธาวถ ภทฺทนฺเต, สุฺํ เหสฺสติ รมฺมกํ;

ยุธฺจโย อนุฺาโต, สพฺพทตฺเตน ราชินา.

๘๒.

‘‘โยหุ เสฏฺโ สหสฺสสฺส, ยุวา กฺจนสนฺนิโภ;

โสยํ กุมาโร ปพฺพชิโต, กาสายวสโน พลี’’ติ.

ตตฺถ อภิธาวถาติ ปริวาเรตฺวา ิตา นาริโย สพฺพา เวเคน ธาวถาติ อาณาเปติ. ภทฺทนฺเตติ เอวํ คนฺตฺวา ‘‘ภทฺทํ ตว โหตู’’ติ วทถ. รมฺมกนฺติ รมฺมนครํ สนฺธายาห. โยหุ เสฏฺโติ โย รฺโ ปุตฺโต สหสฺสสฺส เสฏฺโ อโหสิ, โส ปพฺพชิโตติ ปพฺพชฺชาย คจฺฉนฺตํ สนฺธาเยวมาห.

โพธิสตฺโตปิ น ตาว ปพฺพชติ. โส หิ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา กนิฏฺํ ยุธิฏฺิลกุมารํ คเหตฺวา นครา นิกฺขมฺม มหาชนํ นิวตฺเตตฺวา อุโภปิ ภาตโร หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา มโนรเม าเน อสฺสมปทํ กริตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาทีหิ ยาวชีวํ ยาเปตฺวา พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ. ตมตฺถํ โอสาเน อภิสมฺพุทฺธคาถาย ทีเปติ –

๘๓.

‘‘อุโภ กุมารา ปพฺพชิตา, ยุธฺจโย ยุธิฏฺิโล;

ปหาย มาตาปิตโร, สงฺคํ เฉตฺวาน มจฺจุโน’’ติ.

ตตฺถ มจฺจุโนติ มารสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, ยุธฺจโย จ ยุธิฏฺิโล จ เต อุโภปิ กุมารา มาตาปิตโร ปหาย มารสฺส สนฺตกํ ราคโทสโมหสงฺคํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิตาติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ‘‘น ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, ยุธิฏฺิลกุมาโร อานนฺโท, ยุธฺจโย ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ยุธฺจยชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๔๖๑] ๗. ทสรถชาตกวณฺณนา

เอถ ลกฺขณ สีตา จาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มตปิติกํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ ปิตริ กาลกเต โสกาภิภูโต สพฺพกิจฺจานิ ปหาย โสกานุวตฺตโกว อโหสิ. สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต ตสฺส โสตาปตฺติผลูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปุนทิวเส สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา เอกํ ปจฺฉาสมณํ คเหตฺวา ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ มธุรวจเนน อาลปนฺโต ‘‘กึ โสจสิ อุปาสกา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต, ปิตุโสโก มํ พาธตี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, โปราณกปณฺฑิตา อฏฺวิเธ โลกธมฺเม ตถโต ชานนฺตา ปิตริ กาลกเต อปฺปมตฺตกมฺปิ โสกํ น กรึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ ทสรถมหาราชา นาม อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา อคฺคมเหสี ทฺเว ปุตฺเต เอกฺจ ธีตรํ วิชายิ. เชฏฺปุตฺโต รามปณฺฑิโต นาม อโหสิ, ทุติโย ลกฺขณกุมาโร นาม, ธีตา สีตา เทวี นาม. อปรภาเค มเหสี กาลมกาสิ. ราชา ตสฺสา กาลกตาย จิรตรํ โสกวสํ คนฺตฺวา อมจฺเจหิ สฺาปิโต ตสฺสา กตฺตพฺพปริหารํ กตฺวา อฺํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา รฺโ ปิยา อโหสิ มนาปา. สาปิ อปรภาเค คพฺภํ คณฺหิตฺวา ลทฺธคพฺภปริหารา ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘ภรตกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกํสุ. ราชา ปุตฺตสิเนเหน ‘‘ภทฺเท, วรํ เต ทมฺมิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. สา คหิตกํ กตฺวา เปตฺวา กุมารสฺส สตฺตฏฺวสฺสกาเล ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ มยฺหํ ปุตฺตสฺส วโร ทินฺโน, อิทานิสฺส วรํ เทถา’’ติ อาห. คณฺห, ภทฺเทติ. ‘‘เทว, ปุตฺตสฺส เม รชฺชํ เทถา’’ติ วุตฺเต ราชา อจฺฉรํ ปหริตฺวา ‘‘นสฺส, วสลิ, มยฺหํ ทฺเว ปุตฺตา อคฺคิกฺขนฺธา วิย ชลนฺติ, เต มาราเปตฺวา ตว ปุตฺตสฺส รชฺชํ ยาจสี’’ติ ตชฺเชสิ. สา ภีตา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฺเสุปิ ทิวเสสุ ราชานํ ปุนปฺปุนํ รชฺชเมว ยาจิ.

ราชา ตสฺสา ตํ วรํ อทตฺวาว จินฺเตสิ ‘‘มาตุคาโม นาม อกตฺู มิตฺตทุพฺภี, อยํ เม กูฏปณฺณํ วา กูฏลฺชํ วา กตฺวา ปุตฺเต ฆาตาเปยฺยา’’ติ. โส ปุตฺเต ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตาตา, ตุมฺหากํ อิธ วสนฺตานํ อนฺตราโยปิ ภเวยฺย, ตุมฺเห สามนฺตรชฺชํ วา อรฺํ วา คนฺตฺวา มม มรณกาเล อาคนฺตฺวา กุลสนฺตกํ รชฺชํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา ปุน เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา อตฺตโน อายุปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อฺานิ ทฺวาทส วสฺสานิ ปวตฺติสฺสตี’’ติ สุตฺวา ‘‘ตาตา, อิโต ทฺวาทสวสฺสจฺจเยน อาคนฺตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปยฺยาถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา โรทนฺตา ปาสาทา โอตรึสุ. สีตา เทวี ‘‘อหมฺปิ ภาติเกหิ สทฺธึ คมิสฺสามี’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา โรทนฺตี นิกฺขมิ. ตโยปิ ชนา มหาปริวารา นิกฺขมิตฺวา มหาชนํ นิวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา สมฺปนฺโนทเก สุลภผลาผเล ปเทเส อสฺสมํ มาเปตฺวา ผลาผเลน ยาเปนฺตา วสึสุ.

ลกฺขณปณฺฑิโต จ สีตา จ รามปณฺฑิตํ ยาจิตฺวา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ ปิตุฏฺาเน ิตา, ตสฺมา อสฺสเมเยว โหถ, มยํ ผลาผลํ อาหริตฺวา ตุมฺเห โปเสสฺสามา’’ติ ปฏิฺํ คณฺหึสุ. ตโต ปฏฺาย รามปณฺฑิโต ตตฺเถว โหติ. อิตเร ทฺเว ผลาผลํ อาหริตฺวา ตํ ปฏิชคฺคึสุ. เอวํ เตสํ ผลาผเลน ยาเปตฺวา วสนฺตานํ ทสรถมหาราชา ปุตฺตโสเกน นวเม สํวจฺฉเร กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา เทวี ‘‘อตฺตโน ปุตฺตสฺส ภรตกุมารสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปถา’’ติ อาห. อมจฺจา ปน ‘‘ฉตฺตสฺสามิกา อรฺเ วสนฺตี’’ติ น อทํสุ. ภรตกุมาโร ‘‘มม ภาตรํ รามปณฺฑิตํ อรฺโต อาเนตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสามี’’ติ ปฺจราชกกุธภณฺฑานิ คเหตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ตสฺส วสนฏฺานํ ปตฺวา อวิทูเร ขนฺธาวารํ กตฺวา ตตฺถ นิวาเสตฺวา กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ ลกฺขณปณฺฑิตสฺส จ สีตาย จ อรฺํ คตกาเล อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อสฺสมปททฺวาเร ปิตกฺจนรูปกํ วิย รามปณฺฑิตํ นิราสงฺกํ สุขนิสินฺนํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต รฺโ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา สทฺธึ อมจฺเจหิ ปาเทสุ ปติตฺวา โรทติ. รามปณฺฑิโต ปน เนว โสจิ, น ปริเทวิ, อินฺทฺริยวิการมตฺตมฺปิสฺส นาโหสิ. ภรตสฺส ปน โรทิตฺวา นิสินฺนกาเล สายนฺหสมเย อิตเร ทฺเว ผลาผลํ อาทาย อาคมึสุ. รามปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘อิเม ทหรา มยฺหํ วิย ปริคฺคณฺหนปฺา เอเตสํ นตฺถิ, สหสา ‘ปิตา โว มโต’ติ วุตฺเต โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตานํ หทยมฺปิ เตสํ ผเลยฺย, อุปาเยน เต อุทกํ โอตาเรตฺวา เอตํ ปวตฺตึ อาโรเจสฺสามี’’ติ. อถ เนสํ ปุรโต เอกํ อุทกฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตุมฺเห อติจิเรน อาคตา, อิทํ โว ทณฺฑกมฺมํ โหตุ, อิมํ อุทกํ โอตริตฺวา ติฏฺถา’’ติ อุปฑฺฒคาถํ ตาว อาห –

๘๔.

‘‘เอถ ลกฺขณ สีตา จ, อุโภ โอตรโถทก’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – เอถ ลกฺขณ สีตา จ อาคจฺฉถ, อุโภปิ โอตรถ อุทกนฺติ;

เต เอกวจเนเนว โอตริตฺวา อฏฺํสุ. อถ เนสํ ปิตุ ปวตฺตึ อาโรเจนฺโต เสสํ อุปฑฺฒคาถมาห –

‘‘เอวายํ ภรโต อาห, ราชา ทสรโถ มโต’’ติ.

เต ปิตุ มตสาสนํ สุตฺวาว วิสฺา อเหสุํ. ปุนปิ เนสํ กเถสิ, ปุนปิ เต วิสฺา อเหสุนฺติ เอวํ ยาวตติยํ วิสฺิตํ ปตฺเต เต อมจฺจา อุกฺขิปิตฺวา อุทกา นีหริตฺวา ถเล นิสีทาเปตฺวา ลทฺธสฺสาเสสุ เตสุ สพฺเพ อฺมฺํ โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา นิสีทึสุ. ตทา ภรตกุมาโร จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ภาตา ลกฺขณกุมาโร จ ภคินี จ สีตา เทวี ปิตุ มตสาสนํ สุตฺวาว โสกํ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกนฺติ, รามปณฺฑิโต ปน เนว โสจติ, น ปริเทวติ, กึ นุ โข ตสฺส อโสจนการณํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ. โส ตํ ปุจฺฉนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๘๕.

‘‘เกน รามปฺปภาเวน, โสจิตพฺพํ น โสจสิ;

ปิตรํ กาลกตํ สุตฺวา, น ตํ ปสหเต ทุข’’นฺติ.

ตตฺถ ปภาเวนาติ อานุภาเวน. น ตํ ปสหเต ทุขนฺติ เอวรูปํ ทุกฺขํ เกน การเณน ตํ น ปีเฬติ, กึ เต อโสจนการณํ, กเถหิ ตาว นนฺติ.

อถสฺส รามปณฺฑิโต อตฺตโน อโสจนการณํ กเถนฺโต –

๘๖.

‘‘ยํ น สกฺกา นิปาเลตุํ, โปเสน ลปตํ พหุํ;

ส กิสฺส วิฺู เมธาวี, อตฺตานมุปตาปเย.

๘๗.

‘‘ทหรา จ หิ วุทฺธา จ, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;

อฑฺฒา เจว ทลิทฺทา จ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา.

๘๘.

‘‘ผลานมิว ปกฺกานํ, นิจฺจํ ปตนโต ภยํ;

เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.

๘๙.

‘‘สายเมเก น ทิสฺสนฺติ, ปาโต ทิฏฺา พหุชฺชนา;

ปาโต เอเก น ทิสฺสนฺติ, สายํ ทิฏฺา พหุชฺชนา.

๙๐.

‘‘ปริเทวยมาโน เจ, กิฺจิทตฺถํ อุทพฺพเห;

สมฺมูฬฺโห หึสมตฺตานํ, กยิรา ตํ วิจกฺขโณ.

๙๑.

‘‘กิโส วิวณฺโณ ภวติ, หึสมตฺตานมตฺตโน;

น เตน เปตา ปาเลนฺติ, นิรตฺถา ปริเทวนา.

๙๒.

‘‘ยถา สรณมาทิตฺตํ, วารินา ปรินิพฺพเย;

เอวมฺปิ ธีโร สุตวา, เมธาวี ปณฺฑิโต นโร;

ขิปฺปมุปฺปติตํ โสกํ, วาโต ตูลํว ธํสเย.

๙๓.

‘‘มจฺโจ เอโกว อจฺเจติ, เอโกว ชายเต กุเล;

สํโยคปรมาตฺเวว, สมฺโภคา สพฺพปาณินํ.

๙๔.

‘‘ตสฺมา หิ ธีรสฺส พหุสฺสุตสฺส, สมฺปสฺสโต โลกมิมํ ปรฺจ;

อฺาย ธมฺมํ หทยํ มนฺจ, โสกา มหนฺตาปิ น ตาปยนฺติ.

๙๕.

‘‘โสหํ ทสฺสฺจ โภกฺขฺจ, ภริสฺสามิ จ าตเก;

เสสฺจ ปาลยิสฺสามิ, กิจฺจเมตํ วิชานโต’’ติ. –

อิมาหิ ทสหิ คาถาหิ อนิจฺจตํ ปกาเสติ.

ตตฺถ นิปาเลตุนฺติ รกฺขิตุํ. ลปตนฺติ ลปนฺตานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตาต ภรต, ยํ สตฺตานํ ชีวิตํ พหุมฺปิ วิลปนฺตานํ ปุริสานํ เอเกนาปิ มา อุจฺฉิชฺชีติ น สกฺกา รกฺขิตุํ, โส ทานิ มาทิโส อฏฺ โลกธมฺเม ตถโต ชานนฺโต วิฺู เมธาวี ปณฺฑิโต มรณปริโยสานชีวิเตสุ สตฺเตสุ กิสฺส อตฺตานมุปตาปเย, กึการณา อนุปกาเรน โสกทุกฺเขน อตฺตานํ สนฺตาเปยฺยา’’ติ.

ทหรา จาติ คาถา ‘‘มจฺจุ นาเมส ตาต ภรต, เนว สุวณฺณรูปกสทิสานํ ทหรานํ ขตฺติยกุมารกาทีนํ, น วุทฺธิปฺปตฺตานํ มหาโยธานํ, น พาลานํ ปุถุชฺชนสตฺตานํ, น พุทฺธาทีนํ ปณฺฑิตานํ, น จกฺกวตฺติอาทีนํ อิสฺสรานํ, น นิทฺธนานํ ทลิทฺทาทีนํ ลชฺชติ, สพฺเพปิเม สตฺตา มจฺจุปรายณา มรณมุเข สํภคฺควิภคฺคา ภวนฺติเยวา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตา.

นิจฺจํ ปตนโตติ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา หิ ตาต ภรต, ปกฺกานํ ผลานํ ปกฺกกาลโต ปฏฺาย ‘‘อิทานิ วณฺฏา ฉิชฺชิตฺวา ปติสฺสนฺติ, อิทานิ ปติสฺสนฺตี’’ติ ปตนโต ภยํ นิจฺจํ ธุวํ เอกํสิกเมว ภวติ, เอวํ อาสงฺกนียโต เอวํ ชาตานํ มจฺจานมฺปิ เอกํสิกํเยว มรณโต ภยํ, นตฺถิ โส ขโณ วา ลโย วา ยตฺถ เตสํ มรณํ น อาสงฺกิตพฺพํ ภเวยฺยาติ.

สายนฺติ วิกาเล. อิมินา รตฺติภาเค จ ทิฏฺานํ ทิวสภาเค อทสฺสนํ, ทิวสภาเค จ ทิฏฺานํ รตฺติภาเค อทสฺสนํ ทีเปติ. กิฺจิทตฺถนฺติ ‘‘ปิตา เม, ปุตฺโต เม’’ติอาทีหิ ปริเทวมาโนว โปโส สมฺมูฬฺโห อตฺตานํ หึสนฺโต กิลเมนฺโต อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺถํ อาหเรยฺย. กยิรา ตํ วิจกฺขโณติ อถ ปณฺฑิโต ปุริโส เอวํ ปริเทวํ กเรยฺย, ยสฺมา ปน ปริเทวนฺโต มตํ วา อาเนตุํ อฺํ วา ตสฺส วฑฺฒึ กาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา นิรตฺถกตฺตา ปริเทวิตสฺส ปณฺฑิตา น ปริเทวนฺติ.

อตฺตานมตฺตโนติ อตฺตโน อตฺตภาวํ โสกปริเทวทุกฺเขน หึสนฺโต. น เตนาติ เตน ปริเทเวน ปรโลกํ คตา สตฺตา น ปาเลนฺติ น ยาเปนฺติ. นิรตฺถาติ ตสฺมา เตสํ มตสตฺตานํ อยํ ปริเทวนา นิรตฺถกา. สรณนฺติ นิวาสเคหํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปณฺฑิโต ปุริโส อตฺตโน วสนาคาเร อาทิตฺเต มุหุตฺตมฺปิ โวสานํ อนาปชฺชิตฺวา ฆฏสเตน ฆฏสหสฺเสน วารินา นิพฺพาปยเตว, เอวํ ธีโร อุปฺปติตํ โสกํ ขิปฺปเมว นิพฺพาปเย. ตูลํ วิย จ วาโต ยถา สณฺาตุํ น สกฺโกติ, เอวํ ธํสเย วิทฺธํเสยฺยาติ อตฺโถ.

มจฺโจ เอโกว อจฺเจตีติ เอตฺถ ตาต ภรต, อิเม สตฺตา กมฺมสฺสกา นาม, ตถา หิ อิโต ปรโลกํ คจฺฉนฺโต สตฺโต เอโกว อจฺเจติ อติกฺกมติ, ขตฺติยาทิกุเล ชายมาโนปิ เอโกว คนฺตฺวา ชายติ. ตตฺถ ตตฺถ ปน าติมิตฺตสํโยเคน ‘‘อยํ เม ปิตา, อยํ เม มาตา, อยํ เม มิตฺโต’’ติ สํโยคปรมาตฺเวว สมฺโภคา สพฺพปาณีนํ, ปรมตฺเถน ปน ตีสุปิ ภเวสุ กมฺมสฺสกาเวเต สตฺตาติ อตฺโถ.

ตสฺมาติ ยสฺมา เอเตสํ สตฺตานํ าติมิตฺตสํโยคํ าติมิตฺตปริโภคมตฺตํ เปตฺวา อิโต ปรํ อฺํ นตฺถิ, ตสฺมา. สมฺปสฺสโตติ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ นานาภาววินาภาวเมว สมฺมา ปสฺสโต. อฺาย ธมฺมนฺติ อฏฺวิธโลกธมฺมํ ชานิตฺวา. หทยํ มนฺจาติ อิทํ อุภยมฺปิ จิตฺตสฺเสว นามํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ –

‘‘ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส จ, นินฺทา ปสํสา จ สุขฺจ ทุกฺขํ;

เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา, มา โสจ กึ โสจสิ โปฏฺปาทา’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๑๔) –

อิเมสํ อฏฺนฺนํ โลกธมฺมานํ เยน เกนจิ จิตฺตํ ปริยาทียติ, ตสฺส จ อนิจฺจตํ ตฺวา ิตสฺส ธีรสฺส ปิตุปุตฺตมรณาทิวตฺถุกา มหนฺตาปิ โสกา หทยํ น ตาปยนฺตีติ. เอตํ วา อฏฺวิธํ โลกธมฺมํ ตฺวา ิตสฺส หทยวตฺถุฺจ มนฺจ มหนฺตาปิ โสกา น ตาปยนฺตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

โสหํ ทสฺสฺจ โภกฺขฺจาติ คาถาย – ตาต ภรต, อนฺธพาลานํ สตฺตานํ วิย มม โรทนปริเทวนํ นาม น อนุจฺฉวิกํ, อหํ ปน ปิตุ อจฺจเยน ตสฺส าเน ตฺวา กปณาทีนํ ทานารหานํ ทานํ, านนฺตรารหานํ านนฺตรํ, ยสารหานํ ยสํ ทสฺสามิ, ปิตรา เม ปริภุตฺตนเยน อิสฺสริยํ ปริภุฺชิสฺสามิ, าตเก จ โปเสสฺสามิ, อวเสสฺจ อนฺโตปริชนาทิกํ ชนํ ปาเลสฺสามิ, ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ กริสฺสามีติ เอวฺหิ ชานโต ปณฺฑิตปุริสสฺส อนุรูปํ กิจฺจนฺติ อตฺโถ.

ปริสา อิมํ รามปณฺฑิตสฺส อนิจฺจตาปกาสนํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา นิสฺโสกา อเหสุํ. ตโต ภรตกุมาโร รามปณฺฑิตํ วนฺทิตฺวา ‘‘พาราณสิรชฺชํ สมฺปฏิจฺฉถา’’ติ อาห. ตาต ลกฺขณฺจ, สีตาเทวิฺจ คเหตฺวา คนฺตฺวา รชฺชํ อนุสาสถาติ. ตุมฺเห ปน, เทวาติ. ตาต, มม ปิตา ‘‘ทฺวาทสวสฺสจฺจเยน อาคนฺตฺวา รชฺชํ กาเรยฺยาสี’’ติ มํ อโวจ, อหํ อิทาเนว คจฺฉนฺโต ตสฺส วจนกโร นาม น โหมิ, อฺานิปิ ตีณิ วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา อาคมิสฺสามีติ. ‘‘เอตฺตกํ กาลํ โก รชฺชํ กาเรสฺสตี’’ติ? ‘‘ตุมฺเห กาเรถา’’ติ. ‘‘น มยํ กาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เตน หิ ยาว มมาคมนา อิมา ปาทุกา กาเรสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน ติณปาทุกา โอมุฺจิตฺวา อทาสิ. เต ตโยปิ ชนา ปาทุกา คเหตฺวา รามปณฺฑิตํ วนฺทิตฺวา มหาชนปริวุตา พาราณสึ อคมํสุ. ตีณิ สํวจฺฉรานิ ปาทุกา รชฺชํ กาเรสุํ. อมจฺจา ติณปาทุกา ราชปลฺลงฺเก เปตฺวา อฑฺฑํ วินิจฺฉินนฺติ. สเจ ทุพฺพินิจฺฉิโต โหติ, ปาทุกา อฺมฺํ ปฏิหฺนฺติ. ตาย สฺาย ปุน วินิจฺฉินนฺติ. สมฺมา วินิจฺฉิตกาเล ปาทุกา นิสฺสทฺทา สนฺนิสีทนฺติ. รามปณฺฑิโต ติณฺณํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน อรฺา นิกฺขมิตฺวา พาราณสินครํ ปตฺวา อุยฺยานํ ปาวิสิ. ตสฺส อาคมนภาวํ ตฺวา กุมารา อมจฺจคณปริวุตา อุยฺยานํ คนฺตฺวา สีตํ อคฺคมเหสึ กตฺวา อุภินฺนมฺปิ อภิเสกํ อกํสุ. เอวํ อภิเสกปฺปตฺโต มหาสตฺโต อลงฺกตรเถ ตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา จนฺทกปาสาทวรสฺส มหาตลํ อภิรุหิ. ตโต ปฏฺาย โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อายุปริโยสาเน สคฺคปุรํ ปูเรสิ.

๙๖.

‘‘ทส วสฺสสหสฺสานิ, สฏฺิ วสฺสสตานิ จ;

กมฺพุคีโว มหาพาหุ, ราโม รชฺชมการยี’’ติ. –

อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา ตมตฺถํ ทีเปติ.

ตตฺถ กมฺพุคีโวติ สุวณฺณาฬิงฺคสทิสคีโว. สุวณฺณฺหิ กมฺพูติ วุจฺจติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน กุฏุมฺพิโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ทสรถมหาราชา สุทฺโธทนมหาราชา อโหสิ, มาตา มหามายาเทวี, สีตา ราหุลมาตา, ภรโต อานนฺโท, ลกฺขโณ สาริปุตฺโต, ปริสา พุทฺธปริสา, รามปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.

ทสรถชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๔๖๒] ๘. สํวรชาตกวณฺณนา

ชานนฺโต โน มหาราชาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โอสฺสฏฺวีริยํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุตฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ปูเรนฺโต อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ ปคุณานิ กตฺวา ปริปุณฺณปฺจวสฺโส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ อาจริยุปชฺฌาเย อาปุจฺฉิตฺวา โกสลรฏฺเ เอกํ ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ตตฺถ อิริยาปเถ ปสนฺนมนุสฺเสหิ ปณฺณสาลํ กตฺวา อุปฏฺิยมาโน วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยุฺชนฺโต ฆเฏนฺโต วายมนฺโต อจฺจารทฺเธน วีริเยน เตมาสํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา โอภาสมตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อทฺธา อหํ สตฺถารา เทสิเตสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ปทปรโม, กึ เม อรฺวาเสน, เชตวนํ คนฺตฺวา ตถาคตสฺส รูปสิรึ ปสฺสนฺโต มธุรธมฺมเทสนํ สุณนฺโต วีตินาเมสฺสามี’’ติ. โส วีริยํ โอสฺสชิตฺวา ตโต นิกฺขนฺโต อนุปุพฺเพน เชตวนํ คนฺตฺวา อาจริยุปชฺฌาเยหิ เจว สนฺทิฏฺสมฺภตฺเตหิ จ อาคมนการณํ ปุฏฺโ ตมตฺถํ กเถตฺวา เตหิ ‘‘กสฺมา เอวมกาสี’’ติ ครหิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, อนิจฺฉมานํ ภิกฺขุํ อานยิตฺถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ, ภนฺเต, วีริยํ โอสฺสชิตฺวา อาคโต’’ติ อาโรจิเต สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา ภิกฺขุ วีริยํ โอสฺสชิ, อิมสฺมิฺหิ สาสเน นิพฺพีริยสฺส กุสีตปุคฺคลสฺส อคฺคผลํ อรหตฺตํ นาม นตฺถิ, อารทฺธวีริยา อิมํ ธมฺมํ อาราเธนฺติ, ตฺวํ โข ปน ปุพฺเพ วีริยวา โอวาทกฺขโม, เตเนว การเณน พาราณสิรฺโ ปุตฺตสตสฺส สพฺพกนิฏฺโ หุตฺวาปิ ปณฺฑิตานํ โอวาเท ตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ปตฺโตสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต สํวรกุมาโร นาม ปุตฺตสตสฺส สพฺพกนิฏฺโ อโหสิ. ราชา เอเกกํ ปุตฺตํ ‘‘สิกฺขิตพฺพยุตฺตกํ สิกฺขาเปถา’’ติ เอเกกสฺส อมจฺจสฺส อทาสิ. สํวรกุมารสฺส อาจริโย อมจฺโจ โพธิสตฺโต อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ราชปุตฺตสฺส ปิตุฏฺาเน ิโต. อมจฺจา สิกฺขิตสิปฺเป ราชปุตฺเต รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา เตสํ ชนปทํ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ. สํวรกุมาโร สพฺพสิปฺปสฺส นิปฺผตฺตึ ปตฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, สเจ มํ ปิตา ชนปทํ เปเสติ, กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ตาต, ตฺวํ ชนปเท ทียมาเน ตํ อคฺคเหตฺวา ‘เทว อหํ สพฺพกนิฏฺโ, มยิปิ คเต ตุมฺหากํ ปาทมูลํ ตุจฺฉํ ภวิสฺสติ, อหํ ตุมฺหากํ ปาทมูเลเยว วสิสฺสามี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ. อเถกทิวสํ ราชา สํวรกุมารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ ตาต, สิปฺปํ เต นิฏฺิต’’นฺติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘ตุยฺหมฺปิ ชนปทํ เทมี’’ติ. ‘‘เทว ตุมฺหากํ ปาทมูลํ ตุจฺฉํ ภวิสฺสติ, ปาทมูเลเยว วสิสฺสามี’’ติ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺโ ปาทมูเลเยว หุตฺวา ปุนปิ โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต อฺํ กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ตาต ราชานํ เอกํ ปุราณุยฺยานํ ยาจาหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ อุยฺยานํ ยาจิตฺวา ตตฺถ ชาตเกหิ ปุปฺผผเลหิ นคเร อิสฺสรชนํ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน ‘‘กึ กโรมี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตาต, ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา อนฺโตนคเร ภตฺตเวตนํ ตฺวเมว เทหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา อนฺโตนคเร กสฺสจิ กิฺจิ อหาเปตฺวา ภตฺตเวตนํ ทตฺวา ปุน โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา ราชานํ วิฺาเปตฺวา อนฺโตนิเวสเน ทาสโปริสานมฺปิ หตฺถีนมฺปิ อสฺสานมฺปิ พลกายสฺสปิ วตฺตํ อปริหาเปตฺวา อทาสิ, ติโรชนปเทหิ อาคตานํ ทูตาทีนํ นิวาสฏฺานาทีนิ วาณิชานํ สุงฺกนฺติ สพฺพกรณียานิ อตฺตนาว อกาสิ. เอวํ โส มหาสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา สพฺพํ อนฺโตชนฺจ พหิชนฺจ นาคเร จ รฏฺวาสิโน จ อาคนฺตุเก จ อายวตฺตเน จ เตน เตน สงฺคหวตฺถุนา อาพนฺธิตฺวา สงฺคณฺหิ, สพฺเพสํ ปิโย อโหสิ มนาโป.

อปรภาเค ราชานํ มรณมฺเจ นิปนฺนํ อมจฺจา ปุจฺฉึสุ ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อจฺจเยน เสตจฺฉตฺตํ กสฺส เทมา’’ติ? ‘‘ตาต, มม ปุตฺตา สพฺเพปิ เสตจฺฉตฺตสฺส สามิโนว. โย ปน ตุมฺหากํ มนํ คณฺหาติ, ตสฺเสว เสตจฺฉตฺถํ ทเทยฺยาถา’’ติ. เต ตสฺมึ กาลกเต ตสฺส สรีรปริหารํ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส สนฺนิปติตฺวา ‘‘รฺา ‘โย ตุมฺหากํ มนํ คณฺหาติ, ตสฺส เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปยฺยาถา’ติ วุตฺตํ, อมฺหากฺจ อยํ สํวรกุมาโร มนํ คณฺหาตี’’ติ าตเกหิ ปริวาริตา ตสฺส กฺจนมาลํ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาปยึสุ. สํวรมหาราชา โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. อิตเร เอกูนสตกุมารา ‘‘ปิตา กิร โน กาลกโต, สํวรกุมารสฺส กิร เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปสุํ, โส สพฺพกนิฏฺโ, ตสฺส ฉตฺตํ น ปาปุณาติ, สพฺพเชฏฺกสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสามา’’ติ เอกโต อาคนฺตฺวา ‘‘ฉตฺตํ วา โน เทตุ, ยุทฺธํ วา’’ติ สํวรมหาราชสฺส ปณฺณํ เปเสตฺวา นครํ อุปรุนฺธึสุ. ราชา โพธิสตฺตสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. มหาราช, ตว ภาติเกหิ สทฺธึ ยุชฺฌนกิจฺจํ นตฺถิ, ตฺวํ ปิตุ สนฺตกํ ธนํ สตโกฏฺาเส กาเรตฺวา เอกูนสตํ ภาติกานํ เปเสตฺวา ‘‘อิมํ ตุมฺหากํ โกฏฺาสํ ปิตุ สนฺตกํ คณฺหถ, นาหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌามี’’ติ สาสนํ ปหิณาหีติ. โส ตถา อกาสิ. อถสฺส สพฺพเชฏฺภาติโก อุโปสถกุมาโร นาม เสเส อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาตา, ราชานํ นาม อภิภวิตุํ สมตฺถา นาม นตฺถิ, อยฺจ โน กนิฏฺภาติโก ปฏิสตฺตุปิ หุตฺวา น ติฏฺติ, อมฺหากํ ปิตุ สนฺตกํ ธนํ เปเสตฺวา ‘นาหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌามี’ติ เปเสสิ, น โข ปน มยํ สพฺเพปิ เอกกฺขเณ ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสาม, เอกสฺเสว ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสาม, อยเมว ราชา โหตุ, เอถ ตํ ปสฺสิตฺวา ราชกุฏุมฺพํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อมฺหากํ ชนปทเมว คจฺฉามา’’ติ อาห. อถ เต สพฺเพปิ กุมารา นครทฺวารํ วิวราเปตฺวา ปฏิสตฺตุโน อหุตฺวา นครํ ปวิสึสุ.

ราชาปิ เตสํ อมจฺเจหิ ปณฺณาการํ คาหาเปตฺวา ปฏิมคฺคํ เปเสติ. กุมารา นาติมหนฺเตน ปริวาเรน ปตฺติกาว อาคนฺตฺวา ราชนิเวสนํ อภิรุหิตฺวา สํวรมหาราชสฺส นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา นีจาสเน นิสีทึสุ. สํวรมหาราชา เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา สีหาสเน นิสีทิ, มหนฺโต ยโส มหนฺตํ สิริโสภคฺคํ อโหสิ, โอโลกิโตโลกิตฏฺานํ กมฺปิ. อุโปสถกุมาโร สํวรมหาราชสฺส สิริวิภวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปิตา อตฺตโน อจฺจเยน สํวรกุมารสฺส ราชภาวํ ตฺวา มฺเ อมฺหากํ ชนปเท ทตฺวา อิมสฺส น อทาสี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๙๗.

‘‘ชานนฺโต โน มหาราช, ตว สีลํ ชนาธิโป;

อิเม กุมาเร ปูเชนฺโต, น ตํ เกนจิ มฺถ.

๙๘.

‘‘ติฏฺนฺเต โน มหาราเช, อทุ เทเว ทิวงฺคเต;

าตี ตํ สมนุฺึสุ, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน.

๙๙.

‘‘เกน สํวร วตฺเตน, สฺชาเต อภิติฏฺสิ;

เกน ตํ นาติวตฺตนฺติ, าติสงฺฆา สมาคตา’’ติ.

ตตฺถ ชานนฺโต โนติ ชานนฺโต นุ. ชนาธิโปติ อมฺหากํ ปิตา นรินฺโท. อิเมติ อิเม เอกูนสเต กุมาเร. ปาฬิโปตฺถเกสุ ปน ‘‘อฺเ กุมาเร’’ติ ลิขิตํ. ปูเชนฺโตติ เตน เตน ชนปเทน มาเนนฺโต. น ตํ เกนจีติ ขุทฺทเกนาปิ เกนจิ ชนปเทน ตํ ปูเชตพฺพํ น มฺิตฺถ, ‘‘อยํ มม อจฺจเยน ราชา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา มฺเ อตฺตโน ปาทมูเลเยว วาเสสีติ. ติฏฺนฺเต โนติ ติฏฺนฺเต นุ, ธรมาเนเยว นูติ ปุจฺฉติ, อทุ เทเวติ อุทาหุ อมฺหากํ ปิตริ ทิวงฺคเต อตฺตโน อตฺถํ วุฑฺฒึ ปสฺสนฺตา สทฺธึ ราชการเกหิ เนคมชานปเทหิ าตโย ตํ ‘‘ราชา โหหี’’ติ สมนุฺึสุ. วตฺเตนาติ สีลาจาเรน. สฺชาเต อภิติฏฺสีติ สมานชาติเก เอกูนสตภาตโร อภิภวิตฺวา ติฏฺสิ. นาติวตฺตนฺตีติ น อภิภวนฺติ.

ตํ สุตฺวา สํวรมหาราชา อตฺตโน คุณํ กเถนฺโต ฉ คาถา อภาสิ –

๑๐๐.

‘‘น ราชปุตฺต อุสูยามิ, สมณานํ มเหสินํ;

สกฺกจฺจํ เต นมสฺสามิ, ปาเท วนฺทามิ ตาทินํ.

๑๐๑.

‘‘เต มํ ธมฺมคุเณ ยุตฺตํ, สุสฺสูสมนุสูยกํ;

สมณา มนุสาสนฺติ, อิสี ธมฺมคุเณ รตา.

๑๐๒.

‘‘เตสาหํ วจนํ สุตฺวา, สมณานํ มเหสินํ;

น กิฺจิ อติมฺามิ, ธมฺเม เม นิรโต มโน.

๑๐๓.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

เตสํ นปฺปฏิพนฺธามิ, นิวิฏฺํ ภตฺตเวตนํ.

๑๐๔.

‘‘มหามตฺตา จ เม อตฺถิ, มนฺติโน ปริจารกา;

พาราณสึ โวหรนฺติ, พหุมํสสุโรทนํ.

๑๐๕.

‘‘อโถปิ วาณิชา ผีตา, นานารฏฺเหิ อาคตา;

เตสุ เม วิหิตา รกฺขา, เอวํ ชานาหุโปสถา’’ติ.

ตตฺถ น ราชปุตฺตาติ อหํ ราชปุตฺต, กฺจิ สตฺตํ ‘‘อยํ สมฺปตฺติ อิมสฺส มา โหตู’’ติ น อุสูยามิ. ตาทินนฺติ ตาทิลกฺขณยุตฺตานํ สมิตปาปตาย สมณานํ มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ คุณานํ เอสิตตาย มเหสีนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ปฺจปติฏฺิเตน ปาเท วนฺทามิ, ทานํ ททนฺโต ธมฺมิกฺจ เนสํ รกฺขาวรณคุตฺตึ ปจฺจุปฏฺเปนฺโต สกฺกจฺจํ เต นมสฺสามิ, มเนน สมฺปิยายนฺโต จ ปูเชมีติ อตฺโถ. เต มนฺติ เต สมณา มํ ‘‘อยํ ธมฺมโกฏฺาเส ยุตฺตปยุตฺโต สุสฺสูสํ อนุสูยโก’’ติ ตถโต ตฺวา มํ ธมฺมคุเณ ยุตฺตํ สุสฺสูสํ อนุสูยกํ อนุสาสนฺติ, ‘‘อิทํ กร, อิทํ มา กรี’’ติ โอวทนฺตีติ อตฺโถ. เตสาหนฺติ เตสํ อหํ. หตฺถาโรหาติ หตฺถึ อารุยฺห ยุชฺฌนกา โยธา. อนีกฏฺาติ หตฺถานีกาทีสุ ิตา. รถิกาติ รถโยธา. ปตฺติการกาติ ปตฺติโนว. นิวิฏฺนฺติ ยํ เตหิ สชฺชิตํ ภตฺตฺจ เวตนฺจ, อหํ ตํ นปฺปฏิพนฺธามิ, อปริหาเปตฺวา ททามีติ อตฺโถ.

มหามตฺตาติ ภาติก, มยฺหํ มหาปฺา มนฺเตสุ กุสลา มหาอมจฺจา เจว อวเสสมนฺติโน จ ปริจารกา อตฺถิ. อิมินา อิมํ ทสฺเสติ ‘‘ตุมฺเห มนฺตสมฺปนฺเน ปณฺฑิเต อาจริเย น ลภิตฺถ, อมฺหากํ ปน อาจริยา ปณฺฑิตา อุปายกุสลา, เต โน เสตจฺฉตฺเตน โยเชสุ’’นฺติ. พาราณสินฺติ ภาติก, มม ฉตฺตํ อุสฺสาปิตกาลโต ปฏฺาย ‘‘อมฺหากํ ราชา ธมฺมิโก อนฺวทฺธมาสํ เทโว วสฺสติ, เตน สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺติ, พาราณสิยํ พหุํ ขาทิตพฺพยุตฺตกํ มจฺฉมํสํ ปายิตพฺพยุตฺตกํ สุโรทกฺจ ชาต’’นฺติ เอวํ รฏฺวาสิโน พหุมํสสุโรทกํ กตฺวา พาราณสึ โวหรนฺติ. ผีตาติ หตฺถิรตนอสฺสรตนมุตฺตรตนาทีนิ อาหริตฺวา นิรุปทฺทวา โวหารํ กโรนฺตา ผีตา สมิทฺธา. เอวํ ชานาหีติ ภาติก อุโปสถ อหํ อิเมหิ เอตฺตเกหิ การเณหิ สพฺพกนิฏฺโปิ หุตฺวา มม ภาติเก อภิภวิตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ปตฺโต, เอวํ ชานาหีติ.

อถสฺส คุณํ สุตฺวา อุโปสถกุมาโร ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๐๖.

‘‘ธมฺเมน กิร าตีนํ, รชฺชํ กาเรหิ สํวร;

เมธาวี ปณฺฑิโต จาสิ, อโถปิ าตินํ หิโต.

๑๐๗.

‘‘ตํ ตํ าติปริพฺยูฬฺหํ, นานารตนโมจิตํ;

อมิตฺตา นปฺปสหนฺติ, อินฺทํว อสุราธิโป’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมน กิร าตีนนฺติ ตาต สํวร มหาราช, ธมฺเมน กิร ตฺวํ เอกูนสตานํ าตีนํ อตฺตโน เชฏฺภาติกานํ อานุภาวํ อภิภวสิ, อิโต ปฏฺาย ตฺวเมว รชฺชํ กาเรหิ, ตฺวเมว เมธาวี เจว ปณฺฑิโต จ าตีนฺจ หิโตติ อตฺโถ. ตํ ตนฺติ เอวํ วิวิธคุณสมฺปนฺนํ ตํ. าติปริพฺยูฬฺหนฺติ อมฺเหหิ เอกูนสเตหิ าตเกหิ ปริวาริตํ. นานารตนโมจิตนฺติ นานารตเนหิ โอจิตํ สฺจิตํ พหุรตนสฺจยํ. อสุราธิโปติ ยถา ตาวตึเสหิ ปริวาริตํ อินฺทํ อสุรราชา นปฺปสหติ, เอวํ อมฺเหหิ อารกฺขํ กโรนฺเตหิ ปริวาริตํ ตํ ติโยชนสติเก กาสิรฏฺเ ทฺวาทสโยชนิกาย พาราณสิยา รชฺชํ กาเรนฺตํ อมิตฺตา นปฺปสหนฺตีติ ทีเปติ.

สํวรมหาราชา สพฺเพสมฺปิ ภาติกานํ มหนฺตํ ยสํ อทาสิ. เต ตสฺส สนฺติเก มาสฑฺฒมาสํ วสิตฺวา ‘‘มหาราช ชนปเทสุ โจเรสุ อุฏฺหนฺเตสุ มยํ ชานิสฺสาม, ตฺวํ รชฺชสุขํ อนุภวา’’ติ วตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ชนปทํ คตา. ราชาปิ โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา อายุปริโยสาเน เทวนครํ ปูเรนฺโต อคมาสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขุ เอวํ ตฺวํ ปุพฺเพ โอวาทกฺขโม, อิทานิ กสฺมา วีริยํ น อกาสี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.

ตทา สํวรมหาราชา อยํ ภิกฺขุ อโหสิ, อุโปสถกุมาโร สาริปุตฺโต, เสสภาติกา เถรานุเถรา, ปริสา พุทฺธปริสา, โอวาททายโก อมจฺโจ ปน อหเมว อโหสินฺติ.

สํวรชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๔๖๓] ๙. สุปฺปารกชาตกวณฺณนา

อุมฺมุชฺชนฺติ นิมุชฺชนฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ สายนฺหสมเย ตถาคตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ นิกฺขมนํ อาคมยมานา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ‘‘อาวุโส, อโห สตฺถา มหาปฺโ ปุถุปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ตตฺร ตตฺร อุปายปฺาย สมนฺนาคโต วิปุลาย ปถวีสมาย, มหาสมุทฺโท วิย คมฺภีราย, อากาโส วิย วิตฺถิณฺณาย, สกลชมฺพุทีปสฺมิฺหิ อุฏฺิตปฺโห ทสพลํ อติกฺกมิตฺวา คนฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ยถา มหาสมุทฺเท อุฏฺิตอูมิโย เวลํ นาติกฺกมนฺติ, เวลํ ปตฺวาว ภิชฺชนฺติ, เอวํ น โกจิ ปฺโห ทสพลํ อติกฺกมติ, สตฺถุ ปาทมูลํ ปตฺวา ภิชฺชเตวา’’ติ ทสพลสฺส มหาปฺาปารมึ วณฺเณสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ปฺวา, ปุพฺเพปิ อปริปกฺเก าเณ ปฺวาว, อนฺโธ หุตฺวาปิ มหาสมุทฺเท อุทกสฺาย ‘อิมสฺมึ อิมสฺมึ สมุทฺเท อิทํ นาม อิทํ นาม รตน’นฺติ อฺาสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กุรุรฏฺเ กุรุราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ, กุรุกจฺฉํ นาม ปฏฺฏนคาโม อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต กุรุกจฺเฉ นิยามกเชฏฺกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ, ‘‘สุปฺปารกกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒนฺโต โสฬสวสฺสกาเลเยว นิยามกสิปฺเป นิปฺผตฺตึ ปตฺวา อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน นิยามกเชฏฺโก หุตฺวา นิยามกกมฺมํ อกาสิ, ปณฺฑิโต าณสมฺปนฺโน อโหสิ. เตน อารุฬฺหนาวาย พฺยาปตฺติ นาม นตฺถิ. ตสฺส อปรภาเค โลณชลปหฏานิ ทฺเวปิ จกฺขูนิ นสฺสึสุ. โส ตโต ปฏฺาย นิยามกเชฏฺโก หุตฺวาปิ นิยามกกมฺมํ อกตฺวา ‘‘ราชานํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามี’’ติ ราชานํ อุปสงฺกมิ. อถ นํ ราชา อคฺฆาปนิยกมฺเม เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺโ หตฺถิรตนอสฺสรตนมุตฺตสารมณิสาราทีนิ อคฺฆาเปสิ.

อเถกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลหตฺถี ภวิสฺสตี’’ติ กาฬปาสาณกูฏวณฺณํ เอกํ วารณํ อาเนสุํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ‘‘ปณฺฑิตสฺส ทสฺเสถา’’ติ อาห. อถ นํ ตสฺส สนฺติกํ นยึสุ. โส หตฺเถน ตสฺส สรีรํ ปริมชฺชิตฺวา ‘‘นายํ มงฺคลหตฺถี ภวิตุํ อนุจฺฉวิโก, ปาเทหิ วามนธาตุโก เอส, เอตฺหิ มาตา วิชายมานา องฺเกน สมฺปฏิจฺฉิตุํ นาสกฺขิ, ตสฺมา ภูมิยํ ปติตฺวา ปจฺฉิมปาเทหิ วามนธาตุโก โหตี’’ติ อาห. หตฺถึ คเหตฺวา อาคเต ปุจฺฉึสุ. เต ‘‘สจฺจํ ปณฺฑิโต กเถตี’’ติ วทึสุ. ตํ การณํ ราชา สุตฺวา ตุฏฺโ ตสฺส อฏฺ กหาปเณ ทาเปสิ.

ปุเนกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลอสฺโส ภวิสฺสตี’’ติ เอกํ อสฺสํ อานยึสุ. ตมฺปิ ราชา ปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อยํ มงฺคลอสฺโส ภวิตุํ น ยุตฺโต, เอตสฺส หิ ชาตทิวเสเยว มาตา มริ, ตสฺมา มาตุ ขีรํ อลภนฺโต น สมฺมา วฑฺฒิโต’’ติ อาห. สาปิสฺส กถา สจฺจาว อโหสิ. ตมฺปิ สุตฺวา ราชา ตุสฺสิตฺวา อฏฺ กหาปเณ ทาเปสิ. อเถกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลรโถ ภวิสฺสตี’’ติ รถํ อาหรึสุ. ตมฺปิ ราชา ตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อยํ รโถ สุสิรรุกฺเขน กโต, ตสฺมา รฺโ นานุจฺฉวิโก’’ติ อาห. สาปิสฺส กถา สจฺจาว อโหสิ. ราชา ตมฺปิ สุตฺวา อฏฺเว กหาปเณ ทาเปสิ. อถสฺส มหคฺฆํ กมฺพลรตนํ อาหรึสุ. ตมฺปิ ตสฺเสว เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิมสฺส มูสิกจฺฉินฺนํ เอกฏฺานํ อตฺถี’’ติ อาห. โสเธนฺตา ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา อฏฺเว กหาปเณ ทาเปสิ.

โส จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราชา เอวรูปานิปิ อจฺฉริยานิ ทิสฺวา อฏฺเว กหาปเณ ทาเปสิ, อิมสฺส ทาโย นฺหาปิตทาโย, นฺหาปิตชาติโก ภวิสฺสติ, กึ เม เอวรูเปน ราชุปฏฺาเนน, อตฺตโน วสนฏฺานเมว คมิสฺสามี’’ติ. โส กุรุกจฺฉปฏฺฏนเมว ปจฺจาคมิ. ตสฺมึ ตตฺถ วสนฺเต วาณิชา นาวํ สชฺเชตฺวา ‘‘กํ นิยามกํ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตสุํ. ‘‘สุปฺปารกปณฺฑิเตน อารุฬฺหนาวา น พฺยาปชฺชติ, เอส ปณฺฑิโต อุปายกุสโล, อนฺโธ สมาโนปิ สุปฺปารกปณฺฑิโตว อุตฺตโม’’ติ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘นิยามโก โน โหหี’’ติ วตฺวา ‘‘ตาตา, อหํ อนฺโธ, กถํ นิยามกกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘สามิ, อนฺธาปิ ตุมฺเหเยว อมฺหากํ อุตฺตมา’’ติ ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน ‘‘สาธุ ตาตา, ตุมฺเหหิ อาโรจิตสฺาย นิยามโก ภวิสฺสามี’’ติ เตสํ นาวํ อภิรุหิ. เต นาวาย มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทึสุ. นาวา สตฺต ทิวสานิ นิรุปทฺทวา อคมาสิ, ตโต อกาลวาตํ อุปฺปาติตํ อุปฺปชฺชิ, นาวา จตฺตาโร มาเส ปกติสมุทฺทปิฏฺเ วิจริตฺวา ขุรมาลีสมุทฺทํ นาม ปตฺตา. ตตฺถ มจฺฉา มนุสฺสสมานสรีรา ขุรนาสา อุทเก อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ. วาณิชา เต ทิสฺวา มหาสตฺตํ ตสฺส สมุทฺทสฺส นามํ ปุจฺฉนฺตา ปมํ คาถมาหํสุ –

๑๐๘.

‘‘อุมฺมุชฺชนฺติ นิมุชฺชนฺติ, มนุสฺสา ขุรนาสิกา;

สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ.

เอวํ เตหิ ปุฏฺโ มหาสตฺโต อตฺตโน นิยามกสุตฺเตน สํสนฺทิตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๑๐๙.

‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

นาวาย วิปฺปนฏฺาย, ขุรมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.

ตตฺถ ปยาตานนฺติ กุรุกจฺฉปฏฺฏนา นิกฺขมิตฺวา คจฺฉนฺตานํ. ธเนสินนฺติ ตุมฺหากํ วาณิชานํ ธนํ ปริเยสนฺตานํ. นาวาย วิปฺปนฏฺายาติ ตาต ตุมฺหากํ อิมาย วิเทสํ ปกฺขนฺทนาวาย กมฺมการกํ ปกติสมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา สมฺปตฺโต อยํ สมุทฺโท ‘‘ขุรมาลี’’ติ วุจฺจติ, เอวเมตํ ปณฺฑิตา กเถนฺตีติ.

ตสฺมึ ปน สมุทฺเท วชิรํ อุสฺสนฺนํ โหติ. มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ‘อยํ วชิรสมุทฺโท’ติ เอวํ เอเตสํ กเถสฺสามิ, โลเภน พหุํ วชิรํ คณฺหิตฺวา นาวํ โอสีทาเปสฺสนฺตี’’ติ เตสํ อนาจิกฺขิตฺวาว นาวํ ลคฺคาเปตฺวา อุปาเยเนกํ โยตฺตํ คเหตฺวา มจฺฉคหณนิยาเมน ชาลํ ขิปาเปตฺวา วชิรสารํ อุทฺธริตฺวา นาวายํ ปกฺขิปิตฺวา อฺํ อปฺปคฺฆภณฺฑํ ฉฑฺฑาเปสิ. นาวา ตํ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ปุรโต อคฺคิมาลึ นาม คตา. โส ปชฺชลิตอคฺคิกฺขนฺโธ วิย มชฺฌนฺหิกสูริโย วิย จ โอภาสํ มุฺจนฺโต อฏฺาสิ. วาณิชา –

๑๑๐.

‘‘ยถา อคฺคีว สูริโยว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;

สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. – คาถาย ตํ ปุจฺฉึสุ;

มหาสตฺโตปิ เตสํ อนนฺตรคาถาย กเถสิ –

๑๑๑.

‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

นาวาย วิปฺปนฏฺาย, อคฺคิมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.

ตสฺมึ ปน สมุทฺเท สุวณฺณํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. มหาสตฺโต ปุริมนเยเนว ตโตปิ สุวณฺณํ คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ขีรํ วิย ทธึ วิย จ โอภาสนฺตํ ทธิมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –

๑๑๒.

‘‘ยถา ทธีว ขีรํว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;

สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –

คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.

มหาสตฺโต อนนฺตรคาถาย อาจิกฺขิ –

๑๑๓.

‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

นาวาย วิปฺปนฏฺาย, ทธิมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.

ตสฺมึ ปน สมุทฺเท รชตํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยน คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา นีลกุสติณํ วิย สมฺปนฺนสสฺสํ วิย จ โอภาสมานํ นีลวณฺณํ กุสมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –

๑๑๔.

‘‘ยถา กุโสว สสฺโสว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;

สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –

คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.

โส อนนฺตรคาถาย อาจิกฺขิ –

๑๑๕.

‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

นาวาย วิปฺปนฏฺาย, กุสมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.

ตสฺมึ ปน สมุทฺเท นีลมณิรตนํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยเนว คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา นฬวนํ วิย เวฬุวนํ วิย จ ขายมานํ นฬมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –

๑๑๖.

‘‘ยถา นโฬว เวฬูว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;

สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –

คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.

มหาสตฺโต อนนฺตรคาถาย กเถสิ –

๑๑๗.

‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

นาวาย วิปฺปนฏฺาย, นฬมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.

ตสฺมึ ปน สมุทฺเท มสารคลฺลํ เวฬุริยํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยน คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. อปโร นโย – นโฬติ วิจฺฉิกนโฬปิ กกฺกฏกนโฬปิ, โส รตฺตวณฺโณ โหติ. เวฬูติ ปน ปวาฬสฺเสตํ นามํ, โส จ สมุทฺโท ปวาฬุสฺสนฺโน รตฺโตภาโส อโหสิ, ตสฺมา ‘‘ยถา นโฬว เวฬุวา’’ติ ปุจฺฉึสุ. มหาสตฺโต ตโต ปวาฬํ คาหาเปสีติ.

วาณิชา นฬมาลึ อติกฺกนฺตา พลวามุขสมุทฺทํ นาม ปสฺสึสุ. ตตฺถ อุทกํ กฑฺฒิตฺวา กฑฺฒิตฺวา สพฺพโต ภาเคน อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สพฺพโต ภาเคน อุคฺคเต อุทกํ สพฺพโต ภาเคน ฉินฺนปปาตมหาโสพฺโภ วิย ปฺายติ, อูมิยา อุคฺคตาย เอกโต ปปาตสทิสํ โหติ, ภยชนโน สทฺโท อุปฺปชฺชติ โสตานิ ภินฺทนฺโต วิย หทยํ ผาเลนฺโต วิย จ. ตํ ทิสฺวา วาณิชา ภีตตสิตา –

๑๑๘.

‘‘มหพฺภโย ภึสนโก, สทฺโท สุยฺยติมานุโส;

ยถา โสพฺโภ ปปาโตว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;

สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –

คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.

ตตฺถ สุยฺยติมานุโสติ สุยฺยติ อมานุโส สทฺโท.

๑๑๙.

‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

นาวาย วิปฺปนฏฺาย, พลวามุขีติ วุจฺจตี’’ติ. –

โพธิสตฺโต อนนฺตรคาถาย ตสฺส นามํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ตาตา, อิมํ พลวามุขสมุทฺทํ ปตฺวา นิวตฺติตุํ สมตฺถา นาวา นาม นตฺถิ, อยํ สมฺปตฺตนาวํ นิมุชฺชาเปตฺวา วินาสํ ปาเปตี’’ติ อาห. ตฺจ นาวํ สตฺต มนุสฺสสตานิ อภิรุหึสุ. เต สพฺเพ มรณภยภีตา เอกปฺปหาเรเนว อวีจิมฺหิ ปจฺจมานสตฺตา วิย อติการุฺํ รวํ มุฺจึสุ. มหาสตฺโต ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ เอเตสํ โสตฺถิภาวํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สจฺจกิริยาย เตสํ โสตฺถึ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เต อามนฺเตตฺวา อาห – ‘‘ตาตา, ขิปฺปํ มํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา อหตวตฺถานิ นิวาสาเปตฺวา ปุณฺณปาตึ สชฺเชตฺวา นาวาย ธุเร เปถา’’ติ. เต เวเคน ตถา กรึสุ. มหาสตฺโต อุโภหิ หตฺเถหิ ปุณฺณปาตึ คเหตฺวา นาวาย ธุเร ิโต สจฺจกิริยํ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –

๑๒๐.

‘‘ยโต สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;

นาภิชานามิ สฺจิจฺจ, เอกปาณมฺปิ หึสิตํ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, โสตฺถึ นาวา นิวตฺตตู’’ติ.

ตตฺถ ยโตติ ยโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, ยโต ปฏฺาย จมฺหิ วิฺุตํ ปตฺโตติ อตฺโถ. เอกปาณมฺปิ หึสิตนฺติ เอตฺถนฺตเร สฺจิจฺจ เอกํ กุนฺถกิปิลฺลิกปาณมฺปิ หึสิตํ นาภิชานามิ. เทสนามตฺตเมเวตํ, โพธิสตฺโต ปน ติณสลากมฺปิ อุปาทาย มยา ปรสนฺตกํ น คหิตปุพฺพํ, โลภวเสน ปรทารํ น โอโลกิตปุพฺพํ, มุสา น ภาสิตปุพฺพา, ติณคฺเคนาปิ มชฺชํ น ปิวิตปุพฺพนฺติ เอวํ ปฺจสีลวเสน ปน สจฺจกิริยํ อกาสิ, กตฺวา จ ปน ปุณฺณปาติยา อุทกํ นาวาย ธุเร อภิสิฺจิ.

จตฺตาโร มาเส วิเทสํ ปกฺขนฺทนาวา นิวตฺติตฺวา อิทฺธิมา วิย สจฺจานุภาเวน เอกทิวเสเนว กุรุกจฺฉปฏฺฏนํ อคมาสิ. คนฺตฺวา จ ปน ถเลปิ อฏฺุสภมตฺตํ านํ ปกฺขนฺทิตฺวา นาวิกสฺส ฆรทฺวาเรเยว อฏฺาสิ. มหาสตฺโต เตสํ วาณิชานํ สุวณฺณรชตมณิปวาฬมุตฺตวชิรานิ ภาเชตฺวา อทาสิ. ‘‘เอตฺตเกหิ โว รตเนหิ อลํ, มา ปุน สมุทฺทํ ปวิสถา’’ติ เตสํ โอวาทํ ทตฺวา ยาวชีวํ ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา เทวปุรํ ปูเรสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาปฺโเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปริสา พุทฺธปริสา อเหสุํ, สุปฺปารกปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สุปฺปารกชาตกวณฺณนา นวมา.

ชาตกุทฺทานํ –

มาตุโปสก ชุณฺโห จ, ธมฺม อุทย ปานีโย;

ยุธฺจโย ทสรโถ, สํวโร จ สุปฺปารโก;

เอกาทสนิปาตมฺหิ, สงฺคีตา นว ชาตกา.

เอกาทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทฺวาทสกนิปาโต

[๔๖๔] ๑. จูฬกุณาลชาตกวณฺณนา

๑-๑๒.

ลุทฺธานํ ลหุจิตฺตานนฺติ อิทํ ชาตกํ กุณาลชาตเก (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) อาวิ ภวิสฺสติ;

จูฬกุณาลชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๖๕] ๒. ภทฺทสาลชาตกวณฺณนา

กา ตฺวํ สุทฺเธหิ วตฺเถหีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต าตตฺถจริยํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยฺหิ อนาถปิณฺฑิกสฺส นิเวสเน ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ นิพทฺธโภชนํ ปวตฺตติ, ตถา วิสาขาย จ โกสลรฺโ จ. ตตฺถ ปน กิฺจาปิ นานคฺครสโภชนํ ทียติ, ภิกฺขูนํ ปเนตฺถ โกจิ วิสฺสาสิโก นตฺถิ, ตสฺมา ภิกฺขู ราชนิเวสเน น ภุฺชนฺติ, ภตฺตํ คเหตฺวา อนาถปิณฺฑิกสฺส วา วิสาขาย วา อฺเสํ วา วิสฺสาสิกานํ ฆรํ คนฺตฺวา ภุฺชนฺติ. ราชา เอกทิวสํ ปณฺณาการํ อาหฏํ ‘‘ภิกฺขูนํ เทถา’’ติ ภตฺตคฺคํ เปเสตฺวา ‘‘ภตฺตคฺเค ภิกฺขู นตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘กหํ คตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อตฺตโน วิสฺสาสิกเคเหสุ นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺตี’’ติ สุตฺวา ภุตฺตปาตราโส สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, โภชนํ นาม กึ ปรม’’นฺติ ปุจฺฉิ. วิสฺสาสปรมํ มหาราช, กฺชิกมตฺตกมฺปิ วิสฺสาสิเกน ทินฺนํ มธุรํ โหตีติ. ภนฺเต, เกน ปน สทฺธึ ภิกฺขูนํ วิสฺสาโส โหตีติ? ‘‘าตีหิ วา เสกฺขกุเลหิ วา, มหาราชา’’ติ. ตโต ราชา จินฺเตสิ ‘‘เอกํ สกฺยธีตรํ อาเนตฺวา อคฺคมเหสึ กริสฺสามิ, เอวํ มยา สทฺธึ ภิกฺขูนํ าตเก วิย วิสฺสาโส ภวิสฺสตี’’ติ. โส อุฏฺายาสนา อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา กปิลวตฺถุํ ทูตํ เปเสสิ ‘‘ธีตรํ เม เทถ, อหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ าติภาวํ อิจฺฉามี’’ติ.

สากิยา ทูตวจนํ สุตฺวา สนฺนิปติตฺวา มนฺตยึสุ ‘‘มยํ โกสลรฺโ อาณาปวตฺติฏฺาเน วสาม, สเจ ทาริกํ น ทสฺสาม, มหนฺตํ เวรํ ภวิสฺสติ, สเจ ทสฺสาม, กุลวํโส โน ภิชฺชิสฺสติ, กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ. อถ เน มหานาโม อาห – ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มม ธีตา วาสภขตฺติยา นาม นาคมุณฺฑาย นาม ทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ. สา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา ปิตุ วํเสน ขตฺติยชาติกา, ตมสฺส ‘ขตฺติยกฺา’ติ เปเสสฺสามา’’ติ. สากิยา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทูเต ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สาธุ, ทาริกํ ทสฺสาม, อิทาเนว นํ คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ อาหํสุ. ทูตา จินฺเตสุํ ‘‘อิเม สากิยา นาม ชาตึ นิสฺสาย อติมานิโน, ‘สทิสี โน’ติ วตฺวา อสทิสิมฺปิ ทเทยฺยุํ, เอเตหิ สทฺธึ เอกโต ภุฺชมานเมว คณฺหิสฺสามา’’ติ. เต เอวมาหํสุ ‘‘มยํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตา ยา ตุมฺเหหิ สทฺธึ เอกโต ภุฺชติ, ตํ คเหตฺวา คมิสฺสามา’’ติ. สากิยา เตสํ นิวาสฏฺานํ ทาเปตฺวา ‘‘กึ กริสฺสามา’’ติ จินฺตยึสุ. มหานาโม อาห – ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, อหํ อุปายํ กริสฺสามิ, ตุมฺเห มม โภชนกาเล วาสภขตฺติยํ อลงฺกริตฺวา อาเนตฺวา มยา เอกสฺมึ กพเฬ คหิตมตฺเต ‘เทว, อสุกราชา ปณฺณํ ปหิณิ, อิมํ ตาว สาสนํ สุณาถา’ติ ปณฺณํ ทสฺเสยฺยาถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺมึ ภุฺชมาเน กุมาริกํ อลงฺกรึสุ.

มหานาโม ‘‘ธีตรํ เม อาเนถ, มยา สทฺธึ ภุฺชตู’’ติ อาห. อถ นํ อลงฺกริตฺวา ตาวเทว โถกํ ปปฺจํ กตฺวา อานยึสุ. สา ‘‘ปิตรา สทฺธึ ภุฺชิสฺสามี’’ติ เอกปาติยํ หตฺถํ โอตาเรสิ. มหานาโมปิ ตาย สทฺธึ เอกปิณฺฑํ คเหตฺวา มุเข เปสิ. ทุติยปิณฺฑาย หตฺเถ ปสาริเต ‘‘เทว, อสุกรฺา ปณฺณํ ปหิตํ, อิมํ ตาว สาสนํ สุณาถา’’ติ ปณฺณํ อุปนาเมสุํ. มหานาโม ‘‘อมฺม, ตฺวํ ภุฺชาหี’’ติ ทกฺขิณหตฺถํ ปาติยาเยว กตฺวา วามหตฺเถน คเหตฺวา ปณฺณํ โอโลเกสิ. ตสฺส ตํ สาสนํ อุปธาเรนฺตสฺเสว อิตรา ภุฺชิ. โส ตสฺสา ภุตฺตกาเล หตฺถํ โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลสิ. ตํ ทิสฺวา ทูตา ‘‘นิจฺฉเยเนสา เอตสฺส ธีตา’’ติ นิฏฺมกํสุ, น ตํ อนฺตรํ ชานิตุํ สกฺขึสุ. มหานาโม มหนฺเตน ปริวาเรน ธีตรํ เปเสสิ. ทูตาปิ นํ สาวตฺถึ เนตฺวา ‘‘อยํ กุมาริกา ชาติสมฺปนฺนา มหานามสฺส ธีตา’’ติ วทึสุ. ราชา ตุสฺสิตฺวา สกลนครํ อลงฺการาเปตฺวา ตํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน อภิสิฺจาเปสิ. สา รฺโ ปิยา อโหสิ มนาปา.

อถสฺสา น จิรสฺเสว คพฺโภ ปติฏฺหิ. ราชา คพฺภปริหารมทาสิ. สา ทสมาสจฺจเยน สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส ราชา อตฺตโน อยฺยกสฺส สนฺติกํ เปเสสิ ‘‘สกฺยราชธีตา วาสภขตฺติยา ปุตฺตํ วิชายิ, กิมสฺส นามํ กโรมา’’ติ. ตํ ปน สาสนํ คเหตฺวา คโต อมจฺโจ โถกํ พธิรธาตุโก, โส คนฺตฺวา รฺโ อยฺยกสฺสาโรเจสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘วาสภขตฺติยา ปุตฺตํ อวิชายิตฺวาปิ สพฺพํ ชนํ อภิภวติ, อิทานิ ปน อติวิย รฺโ วลฺลภา ภวิสฺสตี’’ติ อาห. โส พธิรอมจฺโจ ‘‘วลฺลภา’’ติ วจนํ ทุสฺสุตํ สุตฺวา ‘‘วิฏฏูโภ’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ราชานํ อุปคนฺตฺวา ‘‘เทว, กุมารสฺส กิร ‘วิฏฏูโภ’ติ นามํ กโรถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘โปราณกํ โน กุลทตฺติกํ นามํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘วิฏฏูโภ’’ติ นามํ อกาสิ. ตโต ปฏฺาย กุมาโร กุมารปริหาเรน วฑฺฒนฺโต สตฺตวสฺสิกกาเล อฺเสํ กุมารานํ มาตามหกุลโต หตฺถิรูปกอสฺสรูปกาทีนิ อาหริยมานานิ ทิสฺวา มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, อฺเสํ มาตามหกุลโต ปณฺณากาโร อาหริยติ, มยฺหํ โกจิ กิฺจิ น เปเสสิ, กึ ตฺวํ นิมฺมาตา นิปฺปิตาสี’’ติ? อถ นํ สา ‘‘ตาต, สกฺยราชาโน มาตามหา ทูเร ปน วสนฺติ, เตน เต กิฺจิ น เปเสนฺตี’’ติ วตฺวา วฺเจสิ.

ปุน โสฬสวสฺสิกกาเล ‘‘อมฺม, มาตามหกุลํ ปสฺสิตุกาโมมฺหี’’ติ วตฺวา ‘‘อลํ ตาต, กึ ตตฺถ คนฺตฺวา กริสฺสสี’’ติ วาริยมาโนปิ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. อถสฺส มาตา ‘‘เตน หิ คจฺฉาหี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. โส ปิตุ อาโรเจตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิ. วาสภขตฺติยา ปุเรตรํ ปณฺณํ เปเสสิ ‘‘อหํ อิธ สุขํ วสามิ, สามิโน กิฺจิ อนฺตรํ มา ทสฺสยึสู’’ติ. สากิยา วิฏฏูภสฺส อาคมนํ ตฺวา ‘‘วนฺทิตุํ น สกฺกา’’ติ ตสฺส ทหรทหเร กุมารเก ชนปทํ ปหิณึสุ. กุมาเร กปิลวตฺถุํ สมฺปตฺเต สากิยา สนฺถาคาเร สนฺนิปตึสุ. กุมาโร สนฺถาคารํ คนฺตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ ‘‘อยํ เต, ตาต, มาตามโห, อยํ มาตุโล’’ติ วทึสุ โส สพฺเพ วนฺทมาโน วิจริ. โส ยาวปิฏฺิยา รุชนปฺปมาณา วนฺทิตฺวา เอกมฺปิ อตฺตานํ วนฺทมานํ อทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข มํ วนฺทนฺตา นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. สากิยา ‘‘ตาต, ตว กนิฏฺกุมารา ชนปทํ คตา’’ติ วตฺวา ตสฺส มหนฺตํ สกฺการํ กรึสุ. โส กติปาหํ วสิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิ. อเถกา ทาสี สนฺถาคาเร เตน นิสินฺนผลกํ ‘‘อิทํ วาสภขตฺติยาย ทาสิยา ปุตฺตสฺส นิสินฺนผลก’’นฺติ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา ขีโรทเกน โธวิ. เอโก ปุริโส อตฺตโน อาวุธํ ปมุสฺสิตฺวา นิวตฺโต ตํ คณฺหนฺโต วิฏฏูภกุมารสฺส อกฺโกสนสทฺทํ สุตฺวา ตํ อนฺตรํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วาสภขตฺติยา ทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ มหานามสกฺกสฺส ชาตา’’ติ ตฺวา คนฺตฺวา พลกายสฺส กเถสิ. ‘‘วาสภขตฺติยา กิร ทาสิยา ธีตา’’ติ มหาโกลาหลํ อโหสิ.

กุมาโร ตํ สุตฺวา ‘‘เอเต ตาว มม นิสินฺนผลกํ ขีโรทเกน โธวนฺตุ, อหํ ปน รชฺเช ปติฏฺิตกาเล เอเตสํ คลโลหิตํ คเหตฺวา มม นิสินฺนผลกํ โธวิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ ปฏฺเปสิ. ตสฺมึ สาวตฺถึ คเต อมจฺจา สพฺพํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘สพฺเพ มยฺหํ ทาสิธีตรํ อทํสู’’ติ สากิยานํ กุชฺฌิตฺวา วาสภขตฺติยาย จ ปุตฺตสฺส จ ทินฺนปริหารํ อจฺฉินฺทิตฺวา ทาสทาสีหิ ลทฺธพฺพปริหารมตฺตเมว ทาเปสิ. ตโต กติปาหจฺจเยน สตฺถา ราชนิเวสนํ อาคนฺตฺวา นิสีทิ. ราชา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ กิร าตเกหิ ทาสิธีตา มยฺหํ ทินฺนา, เตนสฺสา อหํ สปุตฺตาย ปริหารํ อจฺฉินฺทิตฺวา ทาสทาสีหิ ลทฺธพฺพปริหารมตฺตเมว ทาเปสิ’’นฺติ อาห. สตฺถา ‘‘อยุตฺตํ, มหาราช, สากิเยหิ กตํ, ททนฺเตหิ นาม สมานชาติกา ทาตพฺพา อสฺส. ตํ ปน มหาราช, วทามิ วาสภขตฺติยา ขตฺติยราชธีตา ขตฺติยสฺส รฺโ เคเห อภิเสกํ ลภิ, วิฏฏูโภปิ ขตฺติยราชานเมว ปฏิจฺจ ชาโต, มาตุโคตฺตํ นาม กึ กริสฺสติ, ปิตุโคตฺตเมว ปมาณนฺติ โปราณกปณฺฑิตา ทลิทฺทิตฺถิยา กฏฺหาริกายปิ อคฺคมเหสิฏฺานํ อทํสุ, ตสฺสา จ กุจฺฉิมฺหิ ชาตกุมาโร ทฺวาทสโยชนิกาย พาราณสิยา รชฺชํ กตฺวา กฏฺวาหนราชา นาม ชาโต’’ติ กฏฺวาหนชาตกํ (ชา. ๑.๑.๗) กเถสิ. ราชา สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘ปิตุโคตฺตเมว กิร ปมาณ’’นฺติ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา มาตาปุตฺตานํ ปกติปริหารเมว ทาเปสิ.

รฺโ ปน พนฺธุโล นาม เสนาปติ มลฺลิกํ นาม อตฺตโน ภริยํ วฺฌํ ‘‘ตว กุลฆรเมว คจฺฉาหี’’ติ กุสินารเมว เปเสสิ. สา ‘‘สตฺถารํ ทิสฺวาว คมิสฺสามี’’ติ เชตวนํ ปวิสิตฺวา ตถาคตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ‘‘กหํ คจฺฉสี’’ติ จ ปุฏฺา ‘‘สามิโก เม, ภนฺเต, กุลฆรํ เปเสสี’’ติ วตฺวา ‘‘กสฺมา’’ติ วุตฺตา ‘‘วฺฌา อปุตฺติกา, ภนฺเต’’ติ วตฺวา สตฺถารา ‘‘ยทิ เอวํ คมนกิจฺจํ นตฺถิ, นิวตฺตาหี’’ติ วุตฺตา ตุฏฺา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิเวสนเมว ปุน อคมาสิ. ‘‘กสฺมา นิวตฺตสี’’ติ ปุฏฺา ‘‘ทสพเลน นิวตฺติตามฺหี’’ติ อาห. เสนาปติ ‘‘ทิฏฺํ ภวิสฺสติ ตถาคเตน การณ’’นฺติ อาห. สา น จิรสฺเสว คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา อุปฺปนฺนโทหฬา ‘‘โทหโฬ เม อุปฺปนฺโน’’ติ อาโรเจสิ. ‘‘กึ โทหโฬ’’ติ? ‘‘เวสาลิยา นคเร ลิจฺฉวิราชานํ อภิเสกมงฺคลโปกฺขรณึ โอตริตฺวา นฺหตฺวา ปานียํ ปิวิตุกามามฺหิ, สามี’’ติ. เสนาปติ ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา สหสฺสถามธนุํ คเหตฺวา ตํ รถํ อาโรเปตฺวา สาวตฺถิโต นิกฺขมิตฺวา รถํ ปาเชนฺโต เวสาลึ ปาวิสิ.

ตสฺมิฺจ กาเล โกสลรฺโ พนฺธุลเสนาปตินา สทฺธึ เอกาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺโป มหาลิ นาม ลิจฺฉวี อนฺโธ ลิจฺฉวีนํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสนฺโต ทฺวารสมีเป วสติ. โส รถสฺส อุมฺมาเร ปฏิฆฏฺฏนสทฺทํ สุตฺวา ‘‘พนฺธุลมลฺลสฺส รถปตนสทฺโท เอโส, อชฺช ลิจฺฉวีนํ ภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อาห. โปกฺขรณิยา อนฺโต จ พหิ จ อารกฺขา พลวา, อุปริ โลหชาลํ ปตฺถฏํ, สกุณานมฺปิ โอกาโส นตฺถิ. เสนาปติ ปน รถา โอตริตฺวา อารกฺขเก ขคฺเคน ปหรนฺโต ปลาเปตฺวา โลหชาลํ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตโปกฺขรณิยํ ภริยํ โอตาเรตฺวา นฺหาเปตฺวา ปาเยตฺวา สยมฺปิ นฺหตฺวา มลฺลิกํ รถํ อาโรเปตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อาคตมคฺเคเนว ปายาสิ. อารกฺขกา คนฺตฺวา ลิจฺฉวีนํ อาโรเจสุํ. ลิจฺฉวิราชาโน กุชฺฌิตฺวา ปฺจ รถสตานิ อารุยฺห ‘‘พนฺธุลมลฺลํ คณฺหิสฺสามา’’ติ นิกฺขมึสุ. ตํ ปวตฺตึ มหาลิสฺส อาโรเจสุํ. มหาลิ ‘‘มา คมิตฺถ, โส หิ โว สพฺเพ ฆาตยิสฺสตี’’ติ อาห. เตปิ ‘‘มยํ คมิสฺสามเยวา’’ติ วทึสุ. เตน หิ จกฺกสฺส ยาว นาภิโต ปถวึ ปวิฏฺฏฺานํ ทิสฺวา นิวตฺเตยฺยาถ, ตโต อนิวตฺตนฺตา ปุรโต อสนิสทฺทํ วิย สุณิสฺสถ, ตมฺหา านา นิวตฺเตยฺยาถ, ตโต อนิวตฺตนฺตา ตุมฺหากํ รถธุเรสุ ฉิทฺทํ ปสฺสิสฺสถ, ตมฺหา านา นิวตฺเตยฺยาถ, ปุรโต มาคมิตฺถาติ. เต ตสฺส วจเนน อนิวตฺติตฺวา ตํ อนุพนฺธึสุเยว.

มลฺลิกา ทิสฺวา ‘‘รถา, สามิ, ปฺายนฺตี’’ติ อาห. เตน หิ เอกสฺส รถสฺส วิย ปฺายนกาเล มม อาโรเจยฺยาสีติ. สา ยทา สพฺเพ เอโก วิย หุตฺวา ปฺายึสุ, ตทา ‘‘เอกเมว สามิ รถสีสํ ปฺายตี’’ติ อาห. พนฺธุโล ‘‘เตน หิ อิมา รสฺมิโย คณฺหาหี’’ติ ตสฺสา รสฺมิโย ทตฺวา รเถ ิโตว ธนุํ อาโรเปติ, รถจกฺกํ ยาว นาภิโต ปถวึ ปาวิสิ, ลิจฺฉวิโน ตํ านํ ทิสฺวาปิ น นิวตฺตึสุ. อิตโร โถกํ คนฺตฺวา ชิยํ โปเถสิ, อสนิสทฺโท วิย อโหสิ. เต ตโตปิ น นิวตฺตึสุ, อนุพนฺธนฺตา คจฺฉนฺเตว. พนฺธุโล รเถ ิตโกว เอกํ สรํ ขิปิ. โส ปฺจนฺนํ รถสตานํ รถสีสํ ฉิทฺทํ กตฺวา ปฺจ ราชสตานิ ปริกรพนฺธนฏฺาเน วิชฺฌิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. เต อตฺตโน วิทฺธภาวํ อชานิตฺวา ‘‘ติฏฺ เร, ติฏฺ เร’’ติ วทนฺตา อนุพนฺธึสุเยว. พนฺธุโล รถํ เปตฺวา ‘‘ตุมฺเห มตกา, มตเกหิ สทฺธึ มยฺหํ ยุทฺธํ นาม นตฺถี’’ติ อาห. เต ‘‘มตกา นาม อมฺหาทิสา เนว โหนฺตี’’ติ วทึสุ. ‘‘เตน หิ สพฺพปจฺฉิมสฺส ปริกรํ โมเจถา’’ติ. เต โมจยึสุ. โส มุตฺตมตฺเตเยว มริตฺวา ปติโต. อถ เน ‘‘สพฺเพปิ ตุมฺเห เอวรูปา, อตฺตโน ฆรานิ คนฺตฺวา สํวิธาตพฺพํ สํวิทหิตฺวา ปุตฺตทาเร อนุสาสิตฺวา สนฺนาหํ โมเจถา’’ติ อาห. เต ตถา กตฺวา สพฺเพ ชีวิตกฺขยํ ปตฺตา.

พนฺธุโลปิ มลฺลิกํ สาวตฺถึ อาเนสิ. สา โสฬสกฺขตฺตุํ ยมเก ปุตฺเต วิชายิ, สพฺเพปิ สูรา ถามสมฺปนฺนา อเหสุํ, สพฺพสิปฺเป นิปฺผตฺตึ ปาปุณึสุ. เอเกกสฺสปิ ปุริสสหสฺสปริวาโร อโหสิ. ปิตรา สทฺธึ ราชนิเวสนํ คจฺฉนฺเตหิ เตเหว ราชงฺคณํ ปริปูริ. อเถกทิวสํ วินิจฺฉเย กูฏฑฺฑปราชิตา มนุสฺสา พนฺธุลํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มหารวํ วิรวนฺตา วินิจฺฉยอมจฺจานํ กูฏฑฺฑการณํ ตสฺส อาโรเจสุํ. โสปิ วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา ตํ อฑฺฑํ ตีเรตฺวา สามิกเมว สามิกํ, อสฺสามิกเมว อสฺสามิกํ อกาสิ. มหาชโน มหาสทฺเทน สาธุการํ ปวตฺเตสิ. ราชา ‘‘กิมิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา สพฺเพปิ เต อมจฺเจ หาเรตฺวา พนฺธุลสฺเสว วินิจฺฉยํ นิยฺยาเทสิ. โส ตโต ปฏฺาย สมฺมา วินิจฺฉินิ. ตโต โปราณกวินิจฺฉยิกา ลฺชํ อลภนฺตา อปฺปลาภา หุตฺวา ‘‘พนฺธุโล รชฺชํ ปตฺเถตี’’ติ ราชกุเล ปริภินฺทึสุ. ราชา ตํ กถํ คเหตฺวา จิตฺตํ นิคฺคเหตุํ นาสกฺขิ, ‘‘อิมสฺมึ อิเธว ฆาติยมาเน ครหา เม อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปุน จินฺเตตฺวา ‘‘ปยุตฺตปุริเสหิ ปจฺจนฺตํ ปหราเปตฺวา เต ปลาเปตฺวา นิวตฺตกาเล อนฺตรามคฺเค ปุตฺเตหิ สทฺธึ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ พนฺธุลํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ปจฺจนฺโต กิร กุปิโต, ตว ปุตฺเตหิ สทฺธึ คนฺตฺวา โจเร คณฺหาหี’’ติ ปหิณิตฺวา ‘‘เอตฺเถวสฺส ทฺวตฺตึสาย ปุตฺเตหิ สทฺธึ สีสํ ฉินฺทิตฺวา อาหรถา’’ติ เตหิ สทฺธึ อฺเปิ สมตฺเถ มหาโยเธ เปเสสิ. ตสฺมึ ปจฺจนฺตํ คจฺฉนฺเตเยว ‘‘เสนาปติ กิร อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวาว ปยุตฺตกโจรา ปลายึสุ. โส ตํ ปเทสํ อาวาสาเปตฺวา ชนปทํ สณฺเปตฺวา นิวตฺติ.

อถสฺส นครโต อวิทูเร าเน เต โยธา ปุตฺเตหิ สทฺธึ สีสํ ฉินฺทึสุ. ตํ ทิวสํ มลฺลิกาย ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ทฺเว อคฺคสาวกา นิมนฺติตา โหนฺติ. อถสฺสา ปุพฺพณฺหสมเย ‘‘สามิกสฺส เต สทฺธึ ปุตฺเตหิ สีสํ ฉินฺทึสู’’ติ ปณฺณํ อาหริตฺวา อทํสุ. สา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา กสฺสจิ กิฺจิ อวตฺวา ปณฺณํ อุจฺฉงฺเค กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆเมว ปริวิสิ. อถสฺสา ปริจาริกา ภิกฺขูนํ ภตฺตํ ทตฺวา สปฺปิจาฏึ อาหรนฺติโย เถรานํ ปุรโต จาฏึ ภินฺทึสุ. ธมฺมเสนาปติ ‘‘อุปาสิเก, เภทนธมฺมํ ภินฺนํ, น จินฺเตตพฺพ’’นฺติ อาห. สา อุจฺฉงฺคโต ปณฺณํ นีหริตฺวา ‘‘ทฺวตฺตึสปุตฺเตหิ สทฺธึ ปิตุ สีสํ ฉินฺนนฺติ เม อิมํ ปณฺณํ อาหรึสุ, อหํ อิทํ สุตฺวาปิ น จินฺเตมิ, สปฺปิจาฏิยา ภินฺนาย กึ จินฺเตมิ, ภนฺเต’’ติ อาห. ธมฺมเสนาปติ ‘‘อนิมิตฺตมนฺาต’’นฺติอาทีนิ (สุ. นิ. ๕๗๙) วตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ อคมาสิ. สาปิ ทฺวตฺตึส สุณิสาโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ สามิกา อตฺตโน ปุริมกมฺมผลํ ลภึสุ, ตุมฺเห มา โสจิตฺถ มา ปริเทวิตฺถ, รฺโ อุปริ มโนปโทสํ มา กริตฺถา’’ติ โอวทิ.

รฺโ จรปุริสา ตํ กถํ สุตฺวา เตสํ นิทฺโทสภาวํ รฺโ กถยึสุ. ราชา สํเวคปฺปตฺโต ตสฺสา นิเวสนํ คนฺตฺวา มลฺลิกฺจ สุณิสาโย จสฺสา ขมาเปตฺวา มลฺลิกาย วรํ อทาสิ. สา ‘‘คหิโต เม โหตู’’ติ วตฺวา ตสฺมึ คเต มตกภตฺตํ ทตฺวา นฺหตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ เม วโร ทินฺโน, มยฺหฺจ อฺเน อตฺโถ นตฺถิ, ทฺวตฺตึสาย เม สุณิสานํ มม จ กุลฆรคมนํ อนุชานาถา’’ติ อาห. ราชา สมฺปฏิจฺฉิ. สา ทฺวตฺตึสาย สุณิสานํ สกกุลํ เปเสตฺวา สยํ กุสินารนคเร อตฺตโน กุลฆรํ อคมาสิ. ราชา พนฺธุลเสนาปติโน ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆการายนสฺส นาม เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. โส ปน ‘‘มาตุโล เม อิมินา มาริโต’’ติ รฺโ โอตารํ คเวสนฺโต วิจรติ. ราชาปิ นิปฺปราธสฺส พนฺธุลสฺส มาริตกาลโต ปฏฺาย วิปฺปฏิสารี จิตฺตสฺสาทํ น ลภติ, รชฺชสุขํ นานุโภติ.

ตทา สตฺถา สากิยานํ เวฬุํ นาม นิคมํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. ราชา ตตฺถ คนฺตฺวา อารามโต อวิทูเร ขนฺธาวารํ นิวาเสตฺวา ‘‘มหนฺเตน ปริวาเรน สตฺถารํ วนฺทิสฺสามา’’ติ วิหารํ คนฺตฺวา ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ ทีฆการายนสฺส ทตฺวา เอกโกว คนฺธกุฏึ ปาวิสิ. สพฺพํ ธมฺมเจติยสุตฺตนิยาเมเนว (ม. นิ. ๒.๓๖๔ อาทโย) เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ทีฆการายโน ตานิ ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ คเหตฺวา วิฏฏูภํ ราชานํ กตฺวา รฺโ เอกํ อสฺสํ เอกฺจ อุปฏฺานการิกํ มาตุคามํ นิวตฺเตตฺวา สาวตฺถึ อคมาสิ. ราชา สตฺถารา สทฺธึ ปิยกถํ กเถตฺวา นิกฺขนฺโต เสนํ อทิสฺวา ตํ มาตุคามํ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อหํ ภาคิเนยฺยํ อชาตสตฺตุํ อาทาย อาคนฺตฺวา วิฏฏูภํ คเหสฺสามี’’ติ ราชคหนครํ คจฺฉนฺโต วิกาเล ทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ นครํ ปวิสิตุมสกฺโกนฺโต เอกิสฺสาย สาลาย นิปชฺชิตฺวา วาตาตเปน กิลนฺโต รตฺติภาเค ตตฺเถว กาลมกาสิ. วิภาตาย รตฺติยา ‘‘เทว โกสลนรินฺท, อิทานิ อนาโถสิ ชาโต’’ติ วิลปนฺติยา ตสฺสา อิตฺถิยา สทฺทํ สุตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. โส มาตุลสฺส มหนฺเตน สกฺกาเรน สรีรกิจฺจํ กาเรสิ.

วิฏฏูโภปิ รชฺชํ ลภิตฺวา ตํ เวรํ สริตฺวา ‘‘สพฺเพปิ สากิเย มาเรสฺสามี’’ติ มหติยา เสนาย นิกฺขมิ. ตํ ทิวสํ สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต าติสงฺฆสฺส วินาสํ ทิสฺวา ‘‘าติสงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต คนฺธกุฏิยํ สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมเย อากาเสน คนฺตฺวา กปิลวตฺถุสามนฺเต เอกสฺมึ กพรจฺฉาเย รุกฺขมูเล นิสีทิ. ตโต อวิทูเร วิฏฏูภสฺส รชฺชสีมาย อนฺโต สนฺทจฺฉาโย นิคฺโรธรุกฺโข อตฺถิ, วิฏฏูโภ สตฺถารํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, กึการณา เอวรูปาย อุณฺหเวลาย อิมสฺมึ กพรจฺฉาเย รุกฺขมูเล นิสีทถ, เอตสฺมึ สนฺทจฺฉาเย นิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสีทถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา ‘‘โหตุ, มหาราช, าตกานํ ฉายา นาม สีตลา’’ติ วุตฺเต ‘‘าตกานํ รกฺขณตฺถาย สตฺถา อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา สาวตฺถิเมว ปจฺจาคมิ. สตฺถาปิ อุปฺปติตฺวา เชตวนเมว คโต.

ราชา สากิยานํ โทสํ สริตฺวา ทุติยํ นิกฺขมิตฺวา ตเถว สตฺถารํ ปสฺสิตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา ตติยวาเร นิกฺขมิตฺวา ตตฺเถว สตฺถารํ ปสฺสิตฺวา นิวตฺติ. จตุตฺถวาเร ปน ตสฺมึ นิกฺขนฺเต สตฺถา สากิยานํ ปุพฺพกมฺมํ โอโลเกตฺวา เตสํ นทิยํ วิสปกฺขิปนปาปกมฺมสฺส อปฺปฏิพาหิรภาวํ ตฺวา จตุตฺถวาเร น อคมาสิ. วิฏฏูภราชา ขีรปายเก ทารเก อาทึ กตฺวา สพฺเพ สากิเย ฆาเตตฺวา คลโลหิเตน นิสินฺนผลกํ โธวิตฺวา ปจฺจาคมิ. สตฺถริ ตติยวาเร คมนโต ปจฺจาคนฺตฺวา ปุนทิวเส ปิณฺฑาย จริตฺวา นิฏฺาปิตภตฺตกิจฺเจ คนฺธกุฏิยํ ปวิสนฺเต ทิสาหิ สนฺนิปติตา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ‘‘อาวุโส, สตฺถา อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ราชานํ นิวตฺตาเปตฺวา าตเก มรณภยา โมเจสิ, เอวํ าตกานํ อตฺถจโร สตฺถา’’ติ ภควโต คุณกถํ กถยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว ตถาคโต าตกานํ อตฺถํ จรติ, ปุพฺเพปิ จริเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘ชมฺพุทีปตเล ราชาโน พหุถมฺเภสุ ปาสาเทสุ วสนฺติ, ตสฺมา พหูหิ ถมฺเภหิ ปาสาทกรณํ นาม อนจฺฉริยํ, ยํนูนาหํ เอกถมฺภกํ ปาสาทํ กาเรยฺยํ, เอวํ สพฺพราชูนํ อคฺคราชา ภวิสฺสามี’’ติ. โส วฑฺฒกี ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มยฺหํ โสภคฺคปฺปตฺตํ เอกถมฺภกํ ปาสาทํ กโรถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา อุชู มหนฺเต เอกถมฺภกปาสาทารเห พหู รุกฺเข ทิสฺวา ‘‘อิเม รุกฺขา สนฺติ, มคฺโค ปน วิสโม, น สกฺกา โอตาเรตุํ, รฺโ อาจิกฺขิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ตถา อกํสุ. ราชา ‘‘เกนจิ อุปาเยน สณิกํ โอตาเรถา’’ติ วตฺวา ‘‘เทว, เยน เกนจิ อุปาเยน น สกฺกา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มม อุยฺยาเน เอกํ รุกฺขํ อุปธาเรถา’’ติ อาห. วฑฺฒกี อุยฺยานํ คนฺตฺวา เอกํ สุชาตํ อุชุกํ คามนิคมปูชิตํ ราชกุลโตปิ ลทฺธพลิกมฺมํ มงฺคลสาลรุกฺขํ ทิสฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘อุยฺยาเน รุกฺโข นาม มม ปฏิพทฺโธ, คจฺฉถ โภ ตํ ฉินฺทถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา อุยฺยานํ คนฺตฺวา รุกฺเข คนฺธปฺจงฺคุลิกํ ทตฺวา สุตฺเตน ปริกฺขิปิตฺวา ปุปฺผกณฺณิกํ พนฺธิตฺวา ทีปํ ชาเลตฺวา พลิกมฺมํ กตฺวา ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสาม, ราชา ฉินฺทาเปติ, อิมสฺมึ รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา อฺตฺถ คจฺฉตุ, อมฺหากํ โทโส นตฺถี’’ติ สาเวสุํ.

อถ ตสฺมึ นิพฺพตฺโต เทวปุตฺโต ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ อิเม วฑฺฒกี อิมํ รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสนฺติ, วิมานํ เม นสฺสิสฺสติ, วิมานปริยนฺติกเมว โข ปน มยฺหํ ชีวิตํ, อิมฺจ รกฺขํ ปริวาเรตฺวา ิเตสุ ตรุณสาลรุกฺเขสุ นิพฺพตฺตานํ มม าติเทวตานมฺปิ พหูนิ วิมานานิ นสฺสิสฺสนฺติ. วิมานปริยนฺติกเมว มม าตีนํ เทวตานมฺปิ ชีวิตํ, น โข ปน มํ ตถา อตฺตโน วินาโส พาธติ, ยถา าตีนํ, ตสฺมา เนสํ มยา ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อฑฺฒรตฺตสมเย ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต รฺโ สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สกลคพฺภํ เอโกภาสํ กตฺวา อุสฺสิสกปสฺเส โรทมาโน อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา ภีตตสิโต เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๓.

‘‘กา ตฺวํ สุทฺเธหิ วตฺเถหิ, อเฆ เวหายสํ ิตา;

เกน ตฺยาสฺสูนิ วตฺตนฺติ, กุโต ตํ ภยมาคต’’นฺติ.

ตตฺถ กา ตฺวนฺติ นาคยกฺขสุปณฺณสกฺกาทีสุ กา นาม ตฺวนฺติ ปุจฺฉติ. วตฺเถหีติ วจนมตฺตเมเวตํ, สพฺเพปิ ปน ทิพฺพาลงฺกาเร สนฺธาเยวมาห. อเฆติ อปฺปฏิเฆ อากาเส. เวหายสนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. เกน ตฺยาสฺสูนิ วตฺตนฺตีติ เกน การเณน ตว อสฺสูนิ วตฺตนฺติ. กุโตติ าติวิโยคธนวินาสาทีนํ กึ นิสฺสาย ตํ ภยมาคตนฺติ ปุจฺฉติ.

ตโต เทวราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๔.

‘‘ตเวว เทว วิชิเต, ภทฺทสาโลติ มํ วิทู;

สฏฺิ วสฺสสหสฺสานิ, ติฏฺโต ปูชิตสฺส เม.

๑๕.

‘‘การยนฺตา นครานิ, อคาเร จ ทิสมฺปติ;

วิวิเธ จาปิ ปาสาเท, น มํ เต อจฺจมฺิสุํ;

ยเถว มํ เต ปูเชสุํ, ตเถว ตฺวมฺปิ ปูชยา’’ติ.

ตตฺถ ติฏฺโตติ สกลพาราณสินคเรหิ เจว คามนิคเมหิ จ ตยา จ ปูชิตสฺส นิจฺจํ พลิกมฺมฺจ สกฺการฺจ ลภนฺตสฺส มยฺหํ อิมสฺมึ อุยฺยาเน ติฏฺนฺตสฺส เอตฺตโก กาโล คโตติ ทสฺเสติ. นครานีติ นครปฏิสงฺขรณกมฺมานิ. อคาเรจาติ ภูมิเคหานิ. ทิสมฺปตีติ ทิสานํ ปติ, มหาราช. น มํ เตติ เต นครปฏิสงฺขรณาทีนิ กโรนฺตา อิมสฺมึ นคเร โปราณกราชาโน มํ นาติมฺิสุํ นาติกฺกมึสุ น วิเหยึสุ, มม นิวาสรุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา อตฺตโน กมฺมํ น กรึสุ, มยฺหํ ปน สกฺการเมว กรึสูติ อวจ. ยเถวาติ ตสฺมา ยเถว เต โปราณกราชาโน มํ ปูชยึสุ, เอโกปิ อิมํ รุกฺขํ น ฉินฺทาเปสิ, ตฺวฺจาปิ มํ ตเถว ปูชย, มา เม รุกฺขํ เฉทยีติ.

ตโต ราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๖.

‘‘ตํ อิวาหํ น ปสฺสามิ, ถูลํ กาเยน เต ทุมํ;

อาโรหปริณาเหน, อภิรูโปสิ ชาติยา.

๑๗.

‘‘ปาสาทํ การยิสฺสามิ, เอกตฺถมฺภํ มโนรมํ;

ตตฺถ ตํ อุปเนสฺสามิ, จิรํ เต ยกฺข ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ กาเยนาติ ปมาเณน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตว ปมาเณน ตํ วิย ถูลํ มหนฺตํ อฺํ ทุมํ น ปสฺสามิ, ตฺวฺเว ปน อาโรหปริณาเหน สุชาตสงฺขาตาย สมสณฺานอุชุภาวปฺปการาย ชาติยา จ อภิรูโป โสภคฺคปฺปตฺโต เอกถมฺภปาสาทารโหติ. ปาสาทนฺติ ตสฺมา ตํ เฉทาเปตฺวา อหํ ปาสาทํ การาเปสฺสาเมว. ตตฺถ ตนฺติ ตํ ปนาหํ สมฺม เทวราช, ตตฺถ ปาสาเท อุปเนสฺสามิ, โส ตฺวํ มยา สทฺธึ เอกโต วสนฺโต อคฺคคนฺธมาลาทีนิ ลภนฺโต สกฺการปฺปตฺโต สุขํ ชีวิสฺสสิ, นิวาสฏฺานาภาเวน เม วินาโส ภวิสฺสตีติ มา จินฺตยิ, จิรํ เต ยกฺข ชีวิตํ ภวิสฺสตีติ.

ตํ สุตฺวา เทวราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๘.

‘‘เอวํ จิตฺตํ อุทปาทิ, สรีเรน วินาภาโว;

ปุถุโส มํ วิกนฺติตฺวา, ขณฺฑโส อวกนฺตถ.

๑๙.

‘‘อคฺเค จ เฉตฺวา มชฺเฌ จ, ปจฺฉา มูลมฺหิ ฉินฺทถ;

เอวํ เม ฉิชฺชมานสฺส, น ทุกฺขํ มรณํ สิยา’’ติ.

ตตฺถ เอวํ จิตฺตํ อุทปาทีติ ยทิ เอวํ จิตฺตํ ตว อุปฺปนฺนํ. สรีเรน วินาภาโวติ ยทิ เต มม สรีเรน ภทฺทสาลรุกฺเขน สทฺธึ มม วินาภาโว ปตฺถิโต. ปุถุโสติ พหุธา. วิกนฺติตฺวาติ ฉินฺทิตฺวา. ขณฺฑโสติ ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา อวกนฺตถ. อคฺเค จาติ อวกนฺตนฺตา ปน ปมํ อคฺเค, ตโต มชฺเฌ เฉตฺวา สพฺพปจฺฉา มูเล ฉินฺทถ. เอวฺหิ เม ฉิชฺชมานสฺส น ทุกฺขํ มรณํ สิยา, สุขํ นุ ขณฺฑโส ภเวยฺยาติ ยาจติ.

ตโต ราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๐.

‘‘หตฺถปาทํ ยถา ฉินฺเท, กณฺณนาสฺจ ชีวโต;

ตโต ปจฺฉา สิโร ฉินฺเท, ตํ ทุกฺขํ มรณํ สิยา.

๒๑.

‘‘สุขํ นุ ขณฺฑโส ฉินฺนํ, ภทฺทสาล วนปฺปติ;

กึเหตุ กึ อุปาทาย, ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ หตฺถปาทนฺติ หตฺเถ จ ปาเท จ. ตํ ทุกฺขนฺติ เอวํ ปฏิปาฏิยา ฉิชฺชนฺตสฺส โจรสฺส ตํ มรณํ ทุกฺขํ สิยา. สุขํ นูติ สมฺม ภทฺทสาล, วชฺฌปฺปตฺตา โจรา สุเขน มริตุกามา สีสจฺเฉทํ ยาจนฺติ, น ขณฺฑโส เฉทนํ, ตฺวํ ปน เอวํ ยาจสิ, เตน ตํ ปุจฺฉามิ ‘‘สุขํ นุ ขณฺฑโส ฉินฺน’’นฺติ. กึเหตูติ ขณฺฑโส ฉินฺนํ นาม น สุขํ, การเณน ปเนตฺถ ภวิตพฺพนฺติ ตํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห.

อถสฺส อาจิกฺขนฺโต ภทฺทสาโล ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๒.

‘‘ยฺจ เหตุมุปาทาย, เหตุํ ธมฺมูปสํหิตํ;

ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉามิ, มหาราช สุโณหิ เม.

๒๓.

‘‘าตี เม สุขสํวทฺธา, มม ปสฺเส นิวาตชา;

เตปิหํ อุปหึเสยฺย, ปเรสํ อสุโขจิต’’นฺติ.

ตตฺถ เหตุํ ธมฺมูปสํหิตนฺติ มหาราช, ยํ เหตุสภาวยุตฺตเมว, น เหตุปติรูปกํ, เหตุํ อุปาทาย อารพฺภ สนฺธายาหํ ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉามิ, ตํ โอหิตโสโต สุโณหีติ อตฺโถ. าตี เมติ มม ภทฺทสาลรุกฺขสฺส ฉายาย สุขสํวทฺธา มม ปสฺเส ตรุณสาลรุกฺเขสุ นิพฺพตฺตา มยา กตวาตปริตฺตาณตฺตา นิวาตชา มม าตกา เทวสงฺฆา อตฺถิ, เต อหํ วิสาลสาขวิฏโป มูเล ฉินฺทิตฺวา ปตนฺโต อุปหึเสยฺยํ, สํภคฺควิมาเน กโรนฺโต วินาเสยฺยนฺติ อตฺโถ. ปเรสํ อสุโขจิตนฺติ เอวํ สนฺเต มยา เตสํ ปเรสํ าติเทวสงฺฆานํ อสุขํ ทุกฺขํ โอจิตํ วฑฺฒิตํ, น จาหํ เตสํ ทุกฺขกาโม, ตสฺมา ภทฺทสาลํ ขณฺฑโส ขณฺฑโส ฉินฺทาเปมีติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ธมฺมิโก วตายํ, เทวปุตฺโต, อตฺตโน วิมานวินาสโตปิ าตีนํ วิมานวินาสํ น อิจฺฉติ, าตีนํ อตฺถจริยํ จรติ, อภยมสฺส ทสฺสามี’’ติ ตุสฺสิตฺวา โอสานคาถมาห –

๒๔.

‘‘เจเตยฺยรูปํ เจเตสิ, ภทฺทสาล วนปฺปติ;

หิตกาโมสิ าตีนํ, อภยํ สมฺม ทมฺมิ เต’’ติ.

ตตฺถ เจเตยฺยรูปํ เจเตสีติ าตีสุ มุทุจิตฺตตาย จินฺเตนฺโต จินฺเตตพฺพยุตฺตกเมว จินฺเตสิ. เฉเทยฺยรูปํ เฉเทสีติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ขณฺฑโส ฉินฺนมิจฺฉนฺโต เฉเทตพฺพยุตฺตกเมว เฉเทสีติ. อภยนฺติ เอตสฺมึ เต สมฺม, คุเณ ปสีทิตฺวา อภยํ ททามิ, น เม ปาสาเทนตฺโถ, นาหํ ตํ เฉทาเปสฺสามิ, คจฺฉ าติสงฺฆปริวุโต สกฺกตครุกโต สุขํ ชีวาติ อาห.

เทวราชา รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา อคมาสิ. ราชา ตสฺโสวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต าตตฺถจริยํ อจริเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ตรุณสาเลสุ นิพฺพตฺตเทวตา พุทฺธปริสา, ภทฺทสาลเทวราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ภทฺทสาลชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๔๖๖] ๓. สมุทฺทวาณิชชาตกวณฺณนา

กสนฺติ วปนฺติ เต ชนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส ปฺจ กุลสตานิ คเหตฺวา นิรเย ปติตภาวํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ อคฺคสาวเกสุ ปริสํ คเหตฺวา ปกฺกนฺเตสุ โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุณฺหโลหิเต มุขโต นิกฺขนฺเต พลวเวทนาปีฬิโต ตถาคตสฺส คุณํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘อหเมว นว มาเส ตถาคตสฺส อนตฺถํ จินฺเตสึ, สตฺถุ ปน มยิ ปาปจิตฺตํ นาม นตฺถิ, อสีติมหาเถรานมฺปิ มยิ อาฆาโต นาม นตฺถิ, มยา กตกมฺเมน อหเมว อิทานิ อนาโถ ชาโต, สตฺถาราปิมฺหิ วิสฺสฏฺโ มหาเถเรหิปิ าติเสฏฺเน ราหุลตฺเถเรนปิ สกฺยราชกุเลหิปิ, คนฺตฺวา สตฺถารํ ขมาเปสฺสามี’’ติ ปริสาย สฺํ ทตฺวา อตฺตานํ ปฺจเกน คาหาเปตฺวา รตฺตึ รตฺตึ คจฺฉนฺโต โกสลรฏฺํ สมฺปาปุณิ. อานนฺทตฺเถโร สตฺถุ อาโรเจสิ ‘‘เทวทตฺโต กิร, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ขมาเปตุํ อาคจฺฉตี’’ติ. ‘‘อานนฺท, เทวทตฺโต มม ทสฺสนํ น ลภิสฺสตี’’ติ.

อถ ตสฺมึ สาวตฺถินครทฺวารํ สมฺปตฺเต ปุน เถโร อาโรเจสิ, ภควาปิ ตเถว อวจ. ตสฺส เชตวเน โปกฺขรณิยา สมีปํ อาคตสฺส ปาปํ มตฺถกํ ปาปุณิ, สรีเร ฑาโห อุปฺปชฺชิ, นฺหตฺวา ปานียํ ปิวิตุกาโม หุตฺวา ‘‘มฺจกโต มํ อาวุโส โอตาเรถ, ปานียํ ปิวิสฺสามี’’ติ อาห. ตสฺส โอตาเรตฺวา ภูมิยํ ปิตมตฺตสฺส จิตฺตสฺสาเท อลทฺเธเยว มหาปถวี วิวรมทาสิ. ตาวเทว ตํ อวีจิโต อคฺคิชาลา อุฏฺาย ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหิ. โส ‘‘ปาปกมฺมํ เม มตฺถกํ ปตฺต’’นฺติ ตถาคตสฺส คุเณ อนุสฺสริตฺวา –

‘‘อิเมหิ อฏฺีหิ ตมคฺคปุคฺคลํ, เทวาติเทวํ นรทมฺมสารถึ;

สมนฺตจกฺขุํ สตปุฺลกฺขณํ, ปาเณหิ พุทฺธํ สรณํ อุเปมี’’ติ. (มิ. ป. ๔.๑.๓) –

อิมาย คาถาย สรเณ ปติฏฺหนฺโต อวีจิปรายโณ อโหสิ. ตสฺส ปน ปฺจ อุปฏฺากกุลสตานิ อเหสุํ. ตานิปิ ตปฺปกฺขิกานิ หุตฺวา ทสพลํ อกฺโกสิตฺวา อวีจิมฺหิเยว นิพฺพตฺตึสุ. เอวํ โส ตานิ ปฺจ กุลสตานิ คณฺหิตฺวา อวีจิมฺหิ ปติฏฺิโต.

อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ปาโป ลาภสกฺการคิทฺธตาย สมฺมาสมฺพุทฺเธ อฏฺาเน โกปํ พนฺธิตฺวา อนาคตภยมโนโลเกตฺวา ปฺจหิ กุลสเตหิ สทฺธึ อวีจิปรายโณ ชาโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น ภิกฺขเว, อิทาเนว เทวทตฺโต ลาภสกฺการคิทฺโธ หุตฺวา อนาคตภยํ น โอโลเกสิ, ปุพฺเพปิ อนาคตภยํ อโนโลเกตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนสุขคิทฺเธน สทฺธึ ปริสาย มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พาราณสิโต อวิทูเร กุลสหสฺสนิวาโส มหาวฑฺฒกีคาโม อโหสิ. ตตฺถ วฑฺฒกี ‘‘ตุมฺหากํ มฺจํ กริสฺสาม, ปีํ กริสฺสาม, เคหํ กริสฺสามา’’ติ วตฺวา มนุสฺสานํ หตฺถโต พหุํ อิณํ คเหตฺวา กิฺจิ กาตุํ น สกฺขึสุ. มนุสฺสา ทิฏฺทิฏฺเ วฑฺฒกี โจเทนฺติ ปลิพุทฺธนฺติ. เต อิณายิเกหิ อุปทฺทุตา สุขํ วสิตุํ อสกฺโกนฺตา ‘‘วิเทสํ คนฺตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสิสฺสามา’’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา มหตึ นาวํ พนฺธิตฺวา นทึ โอตาเรตฺวา อาหริตฺวา คามโต คาวุตฑฺฒโยชนมตฺเต าเน เปตฺวา อฑฺฒรตฺตสมเย คามํ อาคนฺตฺวา ปุตฺตทารมาทาย นาวฏฺานํ คนฺตฺวา นาวํ อารุยฺห อนุกฺกเมน มหาสมุทฺทํ ปวิสิตฺวา วาตเวเคน วิจรนฺตา สมุทฺทมชฺเฌ เอกํ ทีปกํ ปาปุณึสุ. ตสฺมึ ปน ทีปเก สยํชาตสาลิอุจฺฉุกทลิอมฺพชมฺพุปนสตาลนาฬิเกราทีนิ วิวิธผลานิ อตฺถิ, อฺตโร ปภินฺนนาโว ปุริโส ปมตรํ ตํ ทีปกํ ปตฺวา สาลิภตฺตํ ภุฺชมาโน อุจฺฉุอาทีนิ ขาทมาโน ถูลสรีโร นคฺโค ปรูฬฺหเกสมสฺสุ ตสฺมึ ทีปเก ปฏิวสติ.

วฑฺฒกี จินฺตยึสุ ‘‘สเจ อยํ ทีปโก รกฺขสปริคฺคหิโต ภวิสฺสติ, สพฺเพปิ อมฺเห วินาสํ ปาปุณิสฺสาม, ปริคฺคณฺหิสฺสาม ตาว น’’นฺติ. อถ สตฺตฏฺ ปุริสา สูรา พลวนฺโต สนฺนทฺธปฺจาวุธา หุตฺวา โอตริตฺวา ทีปกํ ปริคฺคณฺหึสุ. ตสฺมึ ขเณ โส ปุริโส ภุตฺตปาตราโส อุจฺฉุรสํ ปิวิตฺวา สุขปฺปตฺโต รมณีเย ปเทเส รชตปฏฺฏสทิเส วาลุกตเล สีตจฺฉายาย อุตฺตานโก นิปชฺชิตฺวา ‘‘ชมฺพุทีปวาสิโน กสนฺตา วปนฺตา เอวรูปํ สุขํ น ลภนฺติ, ชมฺพุทีปโต มยฺหํ อยเมว ทีปโก วร’’นฺติ คายมาโน อุทานํ อุทาเนสิ. อถ สตฺถา ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘โส ภิกฺขเว ปุริโส อิมํ อุทานํ อุทาเนสี’’ติ ทสฺเสนฺโต ปมํ คาถมาห –

๒๕.

‘‘กสนฺติ วปนฺติ เต ชนา, มนุชา กมฺมผลูปชีวิโน;

นยิมสฺส ทีปกสฺส ภาคิโน, ชมฺพุทีปา อิทเมว โน วร’’นฺติ.

ตตฺถ เต ชนาติ เต ชมฺพุทีปวาสิโน ชนา. กมฺมผลูปชีวิโนติ นานากมฺมานํ ผลูปชีวิโน สตฺตา.

อถ เต ทีปกํ ปริคฺคณฺหนฺตา ปุริสา ตสฺส คีตสทฺทํ สุตฺวา ‘‘มนุสฺสสทฺโท วิย สุยฺยติ, ชานิสฺสาม น’’นฺติ สทฺทานุสาเรน คนฺตฺวา ตํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘ยกฺโข ภวิสฺสตี’’ติ ภีตตสิตา สเร สนฺนหึสุ. โสปิ เต ทิสฺวา อตฺตโน วธภเยน ‘‘นาหํ, สามิ, ยกฺโข, ปุริโสมฺหิ, ชีวิตํ เม เทถา’’ติ ยาจนฺโต ‘‘ปุริสา นาม ตุมฺหาทิสา นคฺคา น โหนฺตี’’ติ วุตฺเต ปุนปฺปุนํ ยาจิตฺวา มนุสฺสภาวํ วิฺาเปสิ. เต ตํ ปุริสํ อุปสงฺกมิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ สุตฺวา ตสฺส ตตฺถ อาคตนิยามํ ปุจฺฉึสุ. โสปิ สพฺพํ เตสํ กเถตฺวา ‘‘ตุมฺเห อตฺตโน ปุฺสมฺปตฺติยา อิธาคตา, อยํ อุตฺตมทีโป, น เอตฺถ สหตฺเถน กมฺมํ กตฺวา ชีวนฺติ, สยํชาตสาลีนฺเจว อุจฺฉุอาทีนฺเจตฺถ อนฺโต นตฺถีติ อนุกฺกณฺนฺตา วสถา’’ติ อาห. อิธ ปน วสนฺตานํ อมฺหากํ อฺโ ปริปนฺโถ นตฺถิ, อฺํ ภยํ เอตฺถ นตฺถิ, อยํ ปน อมนุสฺสปริคฺคหิโต, อมนุสฺสา ตุมฺหากํ อุจฺจารปสฺสาวํ ทิสฺวา กุชฺเฌยฺยุํ, ตสฺมา ตํ กโรนฺตา วาลุกํ วิยูหิตฺวา วาลุกาย ปฏิจฺฉาเทยฺยาถ, เอตฺตกํ อิธ ภยํ, อฺํ นตฺถิ, นิจฺจํ อปฺปมตฺตา ภเวยฺยาถาติ. เต ตตฺถ วาสํ อุปคจฺฉึสุ. ตสฺมึ ปน กุลสหสฺเส ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ กุลสตานํ เชฏฺกา ทฺเว วฑฺฒกี อเหสุํ. เตสุ เอโก พาโล อโหสิ รสคิทฺโธ, เอโก ปณฺฑิโต รเสสุ อนลฺลีโน.

อปรภาเค สพฺเพปิ เต ตตฺถ สุขํ วสนฺตา ถูลสรีรา หุตฺวา จินฺตยึสุ ‘‘จิรํ ปีตา โน สุรา, อุจฺฉุรเสน เมรยํ กตฺวา ปิวิสฺสามา’’ติ. เต เมรยํ กาเรตฺวา ปิวิตฺวา มทวเสน คายนฺตา นจฺจนฺตา กีฬนฺตา ปมตฺตา ตตฺถ ตตฺถ อุจฺจารปสฺสาวํ กตฺวา อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา ทีปกํ เชคุจฺฉํ ปฏิกูลํ กรึสุ. เทวตา ‘‘อิเม อมฺหากํ กีฬามณฺฑลํ ปฏิกูลํ กโรนฺตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘มหาสมุทฺทํ อุตฺตราเปตฺวา ทีปกโธวนํ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา ‘‘อยํ กาฬปกฺโข, อชฺช อมฺหากํ สมาคโม จ ภินฺโน, อิโต ทานิ ปนฺนรสเม ทิวเส ปุณฺณมีอุโปสถทิวเส จนฺทสฺสุคฺคมนเวลาย สมุทฺทํ อุพฺพตฺเตตฺวา สพฺเพปิเม ฆาเตสฺสามา’’ติ ทิวสํ ปยึสุ. อถ เนสํ อนฺตเร เอโก ธมฺมิโก เทวปุตฺโต ‘‘มา อิเม มม ปสฺสนฺตสฺส นสฺสึสู’’ติ อนุกมฺปาย เตสุ สายมาสํ ภุฺชิตฺวา ฆรทฺวาเร สุขกถาย นิสินฺเนสุ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สกลทีปํ เอโกภาสํ กตฺวา อุตฺตราย ทิสาย อากาเส ตฺวา ‘‘อมฺโภ วฑฺฒกี, เทวตา ตุมฺหากํ กุทฺธา. อิมสฺมึ าเน มา วสิตฺถ, อิโต อฑฺฒมาสจฺจเยน หิ เทวตา สมุทฺทํ อุพฺพตฺเตตฺวา สพฺเพว ตุมฺเห ฆาเตสฺสนฺติ, อิโต นิกฺขมิตฺวา ปลายถา’’ติ วตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๒๖.

‘‘ติปฺจรตฺตูปคตมฺหิ จนฺเท, เวโค มหา เหหิติ สาครสฺส;

อุปฺลวิสฺสํ ทีปมิมํ อุฬารํ, มา โว วธี คจฺฉถ เลณมฺ’’นฺติ.

ตตฺถ อุปฺลวิสฺสนฺติ อิมํ ทีปกํ อุปฺลวนฺโต อชฺโฌตฺถรนฺโต อภิภวิสฺสติ. มา โว วธีติ โส สาครเวโค ตุมฺเห มา วธิ.

อิติ โส เตสํ โอวาทํ ทตฺวา อตฺตโน านเมว คโต. ตสฺมึ คเต อปโร สาหสิโก กกฺขโฬ เทวปุตฺโต ‘‘อิเม อิมสฺส วจนํ คเหตฺวา ปลาเยยฺยุํ, อหํ เนสํ คมนํ นิวาเรตฺวา สพฺเพปิเม มหาวินาสํ ปาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สกลทีปํ เอโกภาสํ กโรนฺโต อาคนฺตฺวา ทกฺขิณาย ทิสาย อากาเส ตฺวา ‘‘เอโก เทวปุตฺโต อิธาคโต, โน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาคโต’’ติ วุตฺเต ‘‘โส โว กึ กเถสี’’ติ วตฺวา ‘‘อิมํ นาม, สามี’’ติ วุตฺเต ‘‘โส ตุมฺหากํ อิธ นิวาสํ น อิจฺฉติ, โทเสน กเถติ, ตุมฺเห อฺตฺถ อคนฺตฺวา อิเธว วสถา’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๗.

‘‘น ชาตุยํ สาครวาริเวโค, อุปฺลวิสฺสํ ทีปมิมํ อุฬารํ;

ตํ เม นิมิตฺเตหิ พหูหิ ทิฏฺํ, มา เภถ กึ โสจถ โมทถวฺโห.

๒๘.

‘‘ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ, ปตฺตตฺถ อาวาสมิมํ อุฬารํ;

น โว ภยํ ปฏิปสฺสามิ กิฺจิ, อาปุตฺตปุตฺเตหิ ปโมทถวฺโห’’ติ.

ตตฺถ น ชาตุยนฺติ น ชาตุ อยํ. มา เภถาติ มา ภายิตฺถ. โมทถวฺโหติ ปโมทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา โหถ. อาปุตฺตปุตฺเตหีติ ยาว ปุตฺตานมฺปิ ปุตฺเตหิ ปโมทถ, นตฺถิ โว อิมสฺมึ าเน ภยนฺติ.

เอวํ โส อิมาหิ ทฺวีหิ คาถาหิ เต อสฺสาเสตฺวา ปกฺกามิ. ตสฺส ปกฺกนฺตกาเล ธมฺมิกเทวปุตฺตสฺส วจนํ อนาทิยนฺโต พาลวฑฺฒกี ‘‘สุณนฺตุ เม, โภนฺโต, วจน’’นฺติ เสสวฑฺฒกี อามนฺเตตฺวา ปฺจมํ คาถมาห –

๒๙.

‘‘โย เทโวยํ ทกฺขิณายํ ทิสายํ, เขมนฺติ ปกฺโกสติ ตสฺส สจฺจํ;

น อุตฺตโร เวทิ ภยาภยสฺส, มา เภถ กึ โสจถ โมทถวฺโห’’ติ.

ตตฺถ ทกฺขิณายนฺติ ทกฺขิณาย, อยเมว วา ปาโ.

ตํ สุตฺวา รสคิทฺธา ปฺจสตา วฑฺฒกี ตสฺส พาลสฺส วจนํ อาทิยึสุ. อิตโร ปน ปณฺฑิตวฑฺฒกี ตสฺส วจนํ อนาทิยนฺโต เต วฑฺฒกี อามนฺเตตฺวา จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๓๐.

‘‘ยถา อิเม วิปฺปวทนฺติ ยกฺขา, เอโก ภยํ สํสติ เขมเมโก;

ตทิงฺฆ มยฺหํ วจนํ สุณาถ, ขิปฺปํ ลหุํ มา วินสฺสิมฺห สพฺเพ.

๓๑.

‘‘สพฺเพ สมาคมฺม กโรม นาวํ, โทณึ ทฬฺหํ สพฺพยนฺตูปปนฺนํ;

สเจ อยํ ทกฺขิโณ สจฺจมาห, โมฆํ ปฏิกฺโกสติ อุตฺตโรยํ;

สา เจว โน เหหิติ อาปทตฺถา, อิมฺจ ทีปํ น ปริจฺจเชม.

๓๒.

‘‘สเจ จ โข อุตฺตโร สจฺจมาห, โมฆํ ปฏิกฺโกสติ ทกฺขิโณยํ;

ตเมว นาวํ อภิรุยฺห สพฺเพ, เอวํ มยํ โสตฺถิ ตเรมุ ปารํ.

๓๓.

‘‘น เว สุคณฺหํ ปเมน เสฏฺํ, กนิฏฺมาปาถคตํ คเหตฺวา;

โย จีธ ตจฺฉํ ปวิเจยฺย คณฺหติ, ส เว นโร เสฏฺมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ วิปฺปวทนฺตีติ อฺมฺํ วิรุทฺธํ วทนฺติ. ลหุนฺติ ปุริมสฺส อตฺถทีปนํ. โทณินฺติ คมฺภีรํ มหานาวํ. สพฺพยนฺตูปปนฺนนฺติ สพฺเพหิ ผิยาริตฺตาทีหิ ยนฺเตหิ อุปปนฺนํ. สา เจว โน เหหิติ อาปทตฺถาติ สา จ โน นาวา ปจฺฉาปิ อุปฺปนฺนาย อาปทาย อตฺถา ภวิสฺสติ, อิมฺจ ทีปํ น ปริจฺจชิสฺสาม. ตเรมูติ ตริสฺสาม. น เว สุคณฺหนฺติ น เว สุเขน คณฺหิตพฺพํ. เสฏฺนฺติ อุตฺตมํ ตถํ สจฺจํ. กนิฏฺนฺติ ปมวจนํ อุปาทาย ปจฺฉิมวจนํ กนิฏฺํ นาม. อิธาปิ ‘‘น เว สุคณฺห’’นฺติ อนุวตฺตเตว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺโภ วฑฺฒกี, เยน เกนจิ ปเมน วุตฺตวจนํ ‘‘อิทเมว เสฏฺํ ตถํ สจฺจ’’นฺติ สุขํ น คณฺหิตพฺพเมว, ยถา จ ตํ, เอวํ กนิฏฺํ คจฺฉา วุตฺตวจนมฺปิ ‘‘อิทเมว ตถํ สจฺจ’’นฺติ น คณฺหิตพฺพํ. ยํ ปน โสตวิสยํ อาปาถคตํ โหติ, ตํ อาปาถคตํ คเหตฺวา โย อิธ ปณฺฑิตปุริโส ปุริมวจนฺจ ปจฺฉิมวจนฺจ ปวิเจยฺย วิจินิตฺวา ตีเรตฺวา อุปปริกฺขิตฺวา ตจฺฉํ คณฺหาติ, ยํ ตถํ สจฺจํ สภาวภูตํ, ตเทว ปจฺจกฺขํ กตฺวา คณฺหาติ. ส เว นโร เสฏฺมุเปติ านนฺติ โส อุตฺตมํ านํ อุเปติ อธิคจฺฉติ วินฺทติ ลภตีติ.

โส เอวฺจ ปน วตฺวา อาห – ‘‘อมฺโภ, มยํ ทฺวินฺนมฺปิ เทวตานํ วจนํ กริสฺสาม, นาวํ ตาว สชฺเชยฺยาม. สเจ ปมสฺส วจนํ สจฺจํ ภวิสฺสติ, ตํ นาวํ อภิรุหิตฺวา ปลายิสฺสาม, อถ อิตรสฺส วจนํ สจฺจํ ภวิสฺสติ, นาวํ เอกมนฺเต เปตฺวา อิเธว วสิสฺสามา’’ติ. เอวํ วุตฺเต พาลวฑฺฒกี ‘‘อมฺโภ, ตฺวํ อุทกปาติยํ สุสุมารํ ปสฺสสิ, อตีว ทีฆํ ปสฺสสิ, ปมเทวปุตฺโต อมฺเหสุ โทสวเสน กเถสิ, ปจฺฉิโม สิเนเหเนว, อิมํ เอวรูปํ วรทีปํ ปหาย กุหึ คมิสฺสาม, สเจ ปน ตฺวํ คนฺตุกาโม, ตว ปริสํ คณฺหิตฺวา นาวํ กโรหิ, อมฺหากํ นาวาย กิจฺจํ นตฺถี’’ติ อาห. ปณฺฑิโต อตฺตโน ปริสํ คเหตฺวา นาวํ สชฺเชตฺวา นาวาย สพฺพูปกรณานิ อาโรเปตฺวา สปริโส นาวาย อฏฺาสิ.

ตโต ปุณฺณมทิวเส จนฺทสฺส อุคฺคมนเวลาย สมุทฺทโต อูมิ อุตฺตริตฺวา ชาณุกปมาณา หุตฺวา ทีปกํ โธวิตฺวา คตา. ปณฺฑิโต สมุทฺทสฺส อุตฺตรณภาวํ ตฺวา นาวํ วิสฺสชฺเชสิ. พาลวฑฺฒกิปกฺขิกานิ ปฺจ กุลสตานิ ‘‘สมุทฺทโต อูมิ ทีปโธวนตฺถาย อาคตา, เอตฺตกเมว เอต’’นฺติ กเถนฺตา นิสีทึสุ. ตโต ปฏิปาฏิยา กฏิปฺปมาณา ปุริสปฺปมาณา ตาลปฺปมาณา สตฺตตาลปฺปมาณา สาครอูมิ ทีปกมฺปิ วุยฺหมานา อาคฺฉิ. ปณฺฑิโต อุปายกุสลตาย รเส อลคฺโค โสตฺถินา คโต, พาลวฑฺฒกี รสคิทฺเธน อนาคตภยํ อโนโลเกนฺโต ปฺจหิ กุลสเตหิ สทฺธึ วินาสํ ปตฺโต.

อิโต ปรา สานุสาสนี ตมตฺถํ ทีปยมานา ติสฺโส อภิสมฺพุทฺธคาถา โหนฺติ –

๓๔.

‘‘ยถาปิ เต สาครวาริมชฺเฌ, สกมฺมุนา โสตฺถิ วหึสุ วาณิชา;

อนาคตตฺถํ ปฏิวิชฺฌิยาน, อปฺปมฺปิ นาจฺเจติ ส ภูริปฺโ.

๓๕.

‘‘พาลา จ โมเหน รสานุคิทฺธา, อนาคตํ อปฺปฏิวิชฺฌิยตฺถํ;

ปจฺจุปฺปนฺเน สีทนฺติ อตฺถชาเต, สมุทฺทมชฺเฌ ยถา เต มนุสฺสา.

๓๖.

‘‘อนาคตํ ปฏิกยิราถ กิจฺจํ, ‘มา มํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธสิ’;

ตํ ตาทิสํ ปฏิกตกิจฺจการึ, น ตํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธตี’’ติ.

ตตฺถ สกมฺมุนาติ อนาคตภยํ ทิสฺวา ปุเรตรํ กเตน อตฺตโน กมฺเมน. โสตฺถิ วหึสูติ เขเมน คมึสุ. วาณิชาติ สมุทฺเท วิจรณภาเวน วฑฺฒกี วุตฺตา. ปฏิวิชฺฌิยานาติ เอวํ, ภิกฺขเว, ปมตรํ กตฺตพฺพํ อนาคตํ อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อิธโลเก ภูริปฺโ กุลปุตฺโต อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺตโน อตฺถํ น อจฺเจติ นาติวตฺตติ, น หาเปตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิวิชฺฌิยตฺถนฺติ อปฺปฏิวิชฺฌิตฺวา อตฺถํ, ปมเมว กตฺตพฺพํ อกตฺวาติ อตฺโถ. ปจฺจุปฺปนฺเนติ ยทา ตํ อนาคตํ อตฺถชาตํ อุปฺปชฺชติ, ตทา ตสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺเน สีทนฺติ, อตฺเถ ชาเต อตฺตโน ปติฏฺํ น ลภนฺติ, สมุทฺเท เต พาลวฑฺฒกี มนุสฺสา วิย วินาสํ ปาปุณนฺติ.

อนาคตนฺติ ภิกฺขเว, ปณฺฑิตปุริโส อนาคตํ ปมตรํ กตฺตพฺพกิจฺจํ สมฺปรายิกํ วา ทิฏฺธมฺมิกํ วา ปฏิกยิราถ, ปุเรตรเมว กเรยฺย. กึการณา? มา มํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธสิ, ปุเร กตฺตพฺพฺหิ ปุเร อกยิรมานํ ปจฺฉา ปจฺจุปฺปนฺนภาวปฺปตฺตํ อตฺตโน กิจฺจกาเล กายจิตฺตาพาเธน พฺยเธติ, ตํ มํ มา พฺยเธสีติ ปมเมว นํ ปณฺฑิโต กเรยฺย. ตํ ตาทิสนฺติ ยถา ปณฺฑิตํ ปุริสํ. ปฏิกตกิจฺจการินฺติ ปฏิกจฺเจว กตฺตพฺพกิจฺจการินํ. ตํ กิจฺจํ กิจฺจกาเลติ อนาคตํ กิจฺจํ กยิรมานํ ปจฺฉา ปจฺจุปฺปนฺนภาวปฺปตฺตํ อตฺตโน กิจฺจกาเล กายจิตฺตาพาธกาเล ตาทิสํ ปุริมํ น พฺยเธติ น พาธติ. กสฺมา? ปุเรเยว กตตฺตาติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต ปจฺจุปฺปนฺนสุเข ลคฺโค อนาคตภยํ อโนโลเกตฺวา สปริโส วินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พาลวฑฺฒกี เทวทตฺโต อโหสิ, ทกฺขิณทิสาย ิโต อธมฺมิกเทวปุตฺโต โกกาลิโก, อุตฺตรทิสาย ิโต ธมฺมิกเทวปุตฺโต สาริปุตฺโต, ปณฺฑิตวฑฺฒกี ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สมุทฺทวาณิชชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๔๖๗] ๔. กามชาตกวณฺณนา

กามํ กามยมานสฺสาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิ. เอโก กิร สาวตฺถิวาสี พฺราหฺมโณ อจิรวตีตีเร เขตฺตกรณตฺถาย อรฺํ โกเฏสิ. สตฺถา ตสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต มคฺคา โอกฺกมฺม เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘กึ กโรสิ พฺราหฺมณา’’ติ วตฺวา ‘‘เขตฺตฏฺานํ โกฏาเปมิ โภ, โคตมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กโรหี’’ติ วตฺวา อคมาสิ. เอเตเนว อุปาเยน ฉินฺนรุกฺเข หาเรตฺวา เขตฺตสฺส โสธนกาเล กสนกาเล เกทารพนฺธนกาเล วปนกาเลติ ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารมกาสิ. วปนทิวเส ปน โส พฺราหฺมโณ ‘‘อชฺช, โภ โคตม, มยฺหํ วปฺปมงฺคลํ, อหํ อิมสฺมึ สสฺเส นิปฺผนฺเน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทสฺสามี’’ติ อาห. สตฺถา ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสตฺวา ปกฺกามิ. ปุเนกทิวสํ พฺราหฺมโณ สสฺสํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. สตฺถาปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘กึ กโรสิ พฺราหฺมณา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สสฺสํ โอโลเกมิ โภ โคตมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ พฺราหฺมณา’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ. ตทา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘สมโณ โคตโม อภิณฺหํ อาคจฺฉติ, นิสฺสํสยํ ภตฺเตน อตฺถิโก, ทสฺสามหํ ตสฺส ภตฺต’’นฺติ. ตสฺเสวํ จินฺเตตฺวา เคหํ คตทิวเส สตฺถาปิ ตตฺถ อคมาสิ. อถ พฺราหฺมณสฺส อติวิย วิสฺสาโส อโหสิ. อปรภาเค ปริณเต สสฺเส ‘‘สฺเว เขตฺตํ ลายิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา นิปนฺเน พฺราหฺมเณ อจิรวติยา อุปริ สพฺพรตฺตึ กรกวสฺสํ วสฺสิ. มโหโฆ อาคนฺตฺวา เอกนาฬิมตฺตมฺปิ อนวเสสํ กตฺวา สพฺพํ สสฺสํ สมุทฺทํ ปเวเสสิ. พฺราหฺมโณ โอฆมฺหิ ปติเต สสฺสวินาสํ โอโลเกตฺวา สกภาเวน สณฺาตุํ นาโหสิ, พลวโสกาภิภูโต หตฺเถน อุรํ ปหริตฺวา ปริเทวมาโน โรทนฺโต นิปชฺชิ.

สตฺถา ปจฺจูสสมเย โสกาภิภูตํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา ‘‘พฺราหฺมณสฺสาวสฺสโย ภวิสฺสามี’’ติ ปุนทิวเส สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ภิกฺขู วิหารํ เปเสตฺวา ปจฺฉาสมเณน สทฺธึ ตสฺส เคหทฺวารํ อคมาสิ. พฺราหฺมโณ สตฺถุ อาคตภาวํ สุตฺวา ‘‘ปฏิสนฺถารตฺถาย เม สหาโย อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ปฏิลทฺธสฺสาโส อาสนํ ปฺเปสิ. สตฺถา ปวิสิตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, กสฺมา ตฺวํ ทุมฺมโนสิ, กึ เต อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. โภ โคตม, อจิรวตีตีเร มยา รุกฺขจฺเฉทนโต ปฏฺาย กตํ กมฺมํ ตุมฺเห ชานาถ, อหํ ‘‘อิมสฺมึ สสฺเส นิปฺผนฺเน ตุมฺหากํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ วิจรามิ, อิทานิ เม สพฺพํ ตํ สสฺสํ มโหโฆ สมุทฺทเมว ปเวเสสิ, กิฺจิ อวสิฏฺํ นตฺถิ, สกฏสตมตฺตํ ธฺํ วินฏฺํ, เตน เม มหาโสโก อุปฺปนฺโนติ. ‘‘กึ ปน, พฺราหฺมณ, โสจนฺตสฺส นฏฺํ ปุนาคจฺฉตี’’ติ. ‘‘โน เหตํ โภ โคตมา’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต กสฺมา โสจสิ, อิเมสํ สตฺตานํ ธนธฺํ นาม อุปฺปชฺชนกาเล อุปฺปชฺชติ, นสฺสนกาเล นสฺสติ, กิฺจิ สงฺขารคตํ อนสฺสนธมฺมํ นาม นตฺถิ, มา จินฺตยี’’ติ. อิติ นํ สตฺถา สมสฺสาเสตฺวา ตสฺส สปฺปายธมฺมํ เทเสนฺโต กามสุตฺตํ (สุ. นิ. ๗๗๒ อาทโย) กเถสิ. สุตฺตปริโยสาเน โสจนฺโต พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. สตฺถา ตํ นิสฺโสกํ กตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ อคมาสิ. ‘‘สตฺถา อสุกํ นาม พฺราหฺมณํ โสกสลฺลสมปฺปิตํ นิสฺโสกํ กตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปสี’’ติ สกลนครํ อฺาสิ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, ทสพโล พฺราหฺมเณน สทฺธึ มิตฺตํ กตฺวา วิสฺสาสิโก หุตฺวา อุปาเยเนว ตสฺส โสกสลฺลสมปฺปิตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ตํ นิสฺโสกํ กตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ เอตํ นิสฺโสกมกาสิ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺตสฺส รฺโ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. โส เชฏฺกสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ, กนิฏฺสฺส เสนาปติฏฺานํ. อปรภาเค พฺรหฺมทตฺเต กาลกเต อมจฺจา เชฏฺกสฺส อภิเสกํ ปฏฺเปสุํ. โส ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, กนิฏฺสฺส เม เทถา’’ติ วตฺวา ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโนปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา กนิฏฺสฺส อภิเสเก กเต ‘‘น เม อิสฺสริเยนตฺโถ’’ติ อุปรชฺชาทีนิปิ น อิจฺฉิ. ‘‘เตน หิ สาทูนิ โภชนานิ ภุฺชนฺโต อิเธว วสาหี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘น เม อิมสฺมึ นคเร กิจฺจํ อตฺถี’’ติ พาราณสิโต นิกฺขมิตฺวา ปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา เอกํ เสฏฺิกุลํ นิสฺสาย สหตฺเถน กมฺมํ กโรนฺโต วสิ. เต อปรภาเค ตสฺส ราชกุมารภาวํ ตฺวา กมฺมํ กาตุํ นาทํสุ, กุมารปริหาเรเนว ตํ ปริหรึสุ. อปรภาเค ราชกมฺมิกา เขตฺตปฺปมาณคฺคหณตฺถาย ตํ คามํ อคมํสุ. เสฏฺิ ราชกุมารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘สามิ, มยํ ตุมฺเห โปเสม, กนิฏฺภาติกสฺส ปณฺณํ เปเสตฺวา อมฺหากํ พลึ หาเรถา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ อสุกเสฏฺิกุลํ นาม อุปนิสฺสาย วสามิ, มํ นิสฺสาย เอเตสํ พลึ วิสฺสชฺเชหี’’ติ ปณฺณํ เปเสสิ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ตถา กาเรสิ.

อถ นํ สกลคามวาสิโนปิ ชนปทวาสิโนปิ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มยํ ตุมฺหากฺเว พลึ ทสฺสาม, อมฺหากมฺปิ สุงฺกํ วิสฺสชฺชาเปหี’’ติ อาหํสุ. โส เตสมฺปิ อตฺถาย ปณฺณํ เปเสตฺวา วิสฺสชฺชาเปสิ. ตโต ปฏฺาย เต ตสฺเสว พลึ อทํสุ. อถสฺส มหาลาภสกฺกาโร อโหสิ, เตน สทฺธิฺเวสฺส ตณฺหาปิ มหตี ชาตา. โส อปรภาเคปิ สพฺพํ ชนปทํ ยาจิ, อุปฑฺฒรชฺชํ ยาจิ, กนิฏฺโปิ ตสฺส อทาสิเยว. โส ตณฺหาย วฑฺฒมานาย อุปฑฺฒรชฺเชนปิ อสนฺตุฏฺโ ‘‘รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ชนปทปริวุโต ตํ นครํ คนฺตฺวา พหินคเร ตฺวา ‘‘รชฺชํ วา เม เทตุ ยุทฺธํ วา’’ติ กนิฏฺสฺส ปณฺณํ ปหิณิ. กนิฏฺโ จินฺเตสิ ‘‘อยํ พาโล ปุพฺเพ รชฺชมฺปิ อุปรชฺชาทีนิปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ ‘ยุทฺเธน คณฺหามี’ติ วทติ, สเจ โข ปนาหํ อิมํ ยุทฺเธน มาเรสฺสามิ, ครหา เม ภวิสฺสติ, กึ เม รชฺเชนา’’ติ. อถสฺส ‘‘อลํ ยุทฺเธน, รชฺชํ คณฺหตู’’ติ เปเสสิ. โส รชฺชํ คณฺหิตฺวา กนิฏฺสฺส อุปรชฺชํ ทตฺวา ตโต ปฏฺาย รชฺชํ กาเรนฺโต ตณฺหาวสิโก หุตฺวา เอเกน รชฺเชน อสนฺตุฏฺโ ทฺเว ตีณิ รชฺชานิ ปตฺเถตฺวา ตณฺหาย โกฏึ นาทฺทส.

ตทา สกฺโก เทวราชา ‘‘เก นุ โข โลเก มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ, เก ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรนฺติ, เก ตณฺหาวสิกา’’ติ โอโลเกนฺโต ตสฺส ตณฺหาวสิกภาวํ ตฺวา ‘‘อยํ พาโล พาราณสิรชฺเชนปิ น ตุสฺสติ, อหํ สิกฺขาเปสฺสามิ น’’นฺติ มาณวกเวเสน ราชทฺวาเร ตฺวา ‘‘เอโก อุปายกุสโล มาณโว ทฺวาเร ิโต’’ติ อาโรจาเปตฺวา ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ ชยาเปตฺวา ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาราช ตุมฺหากํ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, รโห ปจฺจาสีสามี’’ติ อาห. สกฺกานุภาเวน ตาวเทว มนุสฺสา ปฏิกฺกมึสุ. อถ นํ มาณโว ‘‘อหํ, มหาราช, ผีตานิ อากิณฺณมนุสฺสานิ สมฺปนฺนพลวาหนานิ ตีณิ นครานิ ปสฺสามิ, อหํ เต อตฺตโน อานุภาเวน เตสุ รชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสามิ, ปปฺจํ อกตฺวา สีฆํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. โส ตณฺหาวสิโก ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สกฺกานุภาเวน ‘‘โก วา ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กึ วา เต ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ น ปุจฺฉิ. โสปิ เอตฺตกํ วตฺวา ตาวตึสภวนเมว อคมาสิ.

ราชา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอโก มาณโว ‘อมฺหากํ ตีณิ รชฺชานิ คเหตฺวา ทสฺสามี’ติ อาห, ตํ ปกฺโกสถ, นคเร เภรึ จราเปตฺวา พลกายํ สนฺนิปาตาเปถ, ปปฺจํ อกตฺวา ตีณิ รชฺชานิ คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กึ ปน เต, มหาราช, ตสฺส มาณวสฺส สกฺกาโร วา กโต, นิวาสฏฺานํ วา ปุจฺฉิต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เนว สกฺการํ อกาสึ, น นิวาสฏฺานํ ปุจฺฉึ, คจฺฉถ นํ อุปธาเรถา’’ติ อาห. อุปธาเรนฺตา นํ อทิสฺวา ‘‘มหาราช, สกลนคเร มาณวํ น ปสฺสามา’’ติ อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา ราชา โทมนสฺสชาโต ‘‘ตีสุ นคเรสุ รชฺชํ นฏฺํ, มหนฺเตนมฺหิ ยเสน ปริหีโน, ‘เนว เม ปริพฺพยํ อทาสิ, น จ ปุจฺฉิ นิวาสฏฺาน’นฺติ มยฺหํ กุชฺฌิตฺวา มาณโว อนาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ปุนปฺปุนํ จินฺเตสิ. อถสฺส ตณฺหาวสิกสฺส สรีเร ฑาโห อุปฺปชฺชิ, สรีเร ปริฑยฺหนฺเต อุทรํ โขเภตฺวา โลหิตปกฺขนฺทิกา อุทปาทิ. เอกํ ภาชนํ ปวิสติ, เอกํ นิกฺขมติ, เวชฺชา ติกิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ, ราชา กิลมติ. อถสฺส พฺยาธิตภาโว สกลนคเร ปากโฏ อโหสิ.

ตทา โพธิสตฺโต ตกฺกสิลโต สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา พาราณสินคเร มาตาปิตูนํ สนฺติกํ อาคโต ตํ รฺโ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อหํ ติกิจฺฉิสฺสามี’’ติ ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘เอโก กิร ตรุณมาณโว ตุมฺเห ติกิจฺฉิตุํ อาคโต’’ติ อาโรจาเปสิ. ราชา ‘‘มหนฺตมหนฺตา ทิสาปาโมกฺขเวชฺชาปิ มํ ติกิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ, กึ ตรุณมาณโว สกฺขิสฺสติ, ปริพฺพยํ ทตฺวา วิสฺสชฺเชถ น’’นฺติ อาห. ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘มยฺหํ เวชฺชกมฺเมน เวตนํ นตฺถิ, อหํ ติกิจฺฉามิ, เกวลํ เภสชฺชมูลมตฺตํ เทตู’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สาธู’’ติ ปกฺโกสาเปสิ. มาณโว ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ เต ติกิจฺฉามิ, อปิจ โข ปน เม โรคสฺส สมุฏฺานํ อาจิกฺขาหี’’ติ อาห. ราชา หรายมาโน ‘‘กึ เต สมุฏฺาเนน, เภสชฺชํ เอว กโรหี’’ติ อาห. มหาราช, เวชฺชา นาม ‘‘อยํ พฺยาธิ อิมํ นิสฺสาย สมุฏฺิโต’’ติ ตฺวา อนุจฺฉวิกํ เภสชฺชํ กโรนฺตีติ. ราชา ‘‘สาธุ ตาตา’’ติ สมุฏฺานํ กเถนฺโต ‘‘เอเกน มาณเวน อาคนฺตฺวา ตีสุ นคเรสุ รชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสามี’’ติอาทึ กตฺวา สพฺพํ กเถตฺวา ‘‘อิติ เม ตาต, ตณฺหํ นิสฺสาย พฺยาธิ อุปฺปนฺโน, สเจ ติกิจฺฉิตุํ สกฺโกสิ, ติกิจฺฉาหี’’ติ อาห. กึ ปน มหาราช, โสจนาย ตานิ นครานิ สกฺกา ลทฺธุนฺติ? ‘‘น สกฺกา ตาตา’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต กสฺมา โสจสิ, มหาราช, สพฺพเมว หิ สวิฺาณกาวิฺาณกวตฺถุํ อตฺตโน กายํ อาทึ กตฺวา ปหาย คมนียํ, จตูสุ นคเรสุ รชฺชํ คเหตฺวาปิ ตฺวํ เอกปฺปหาเรเนว น จตสฺโส ภตฺตปาติโย ภุฺชิสฺสสิ, น จตูสุ สยเนสุ สยิสฺสสิ, น จตฺตาริ วตฺถยุคานิ อจฺฉาเทสฺสสิ, ตณฺหาวสิเกน นาม ภวิตุํ น วฏฺฏติ, อยฺหิ ตณฺหา นาม วฑฺฒมานา จตูหิ อปาเยหิ มุจฺจิตุํ น เทตีติ.

อิติ นํ มหาสตฺโต โอวทิตฺวา อถสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –

๓๗.

‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจ ตํ สมิชฺฌติ;

อทฺธา ปีติมโน โหติ, ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉติ.

๓๘.

‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจ ตํ สมิชฺฌติ;

ตโต นํ อปรํ กาเม, ฆมฺเม ตณฺหํว วินฺทติ.

๓๙.

‘‘ควํว สิงฺคิโน สิงฺคํ, วฑฺฒมานสฺส วฑฺฒติ;

เอวํ มนฺทสฺส โปสสฺส, พาลสฺส อวิชานโต;

ภิยฺโย ตณฺหา ปิปาสา จ, วฑฺฒมานสฺส วฑฺฒติ.

๔๐.

‘‘ปถพฺยา สาลิยวกํ, ควาสฺสํ ทาสโปริสํ;

ทตฺวา จ นาลเมกสฺส, อิติ วิทฺวา สมํ จเร.

๔๑.

‘‘ราชา ปสยฺห ปถวึ วิชิตฺวา, สสาครนฺตํ มหิมาวสนฺโต;

โอรํ สมุทฺทสฺส อติตฺตรูโป, ปารํ สมุทฺทสฺสปิ ปตฺถเยถ.

๔๒.

‘‘ยาว อนุสฺสรํ กาเม, มนสา ติตฺติ นาชฺฌคา;

ตโต นิวตฺตา ปฏิกฺกมฺม ทิสฺวา, เต เว สุติตฺตา เย ปฺาย ติตฺตา.

๔๓.

‘‘ปฺาย ติตฺตินํ เสฏฺํ, น โส กาเมหิ ตปฺปติ;

ปฺาย ติตฺตํ ปุริสํ, ตณฺหา น กุรุเต วสํ.

๔๔.

‘‘อปจิเนเถว กามานํ, อปฺปิจฺฉสฺส อโลลุโป;

สมุทฺทมตฺโต ปุริโส, น โส กาเมหิ ตปฺปติ.

๔๕.

‘‘รถกาโรว จมฺมสฺส, ปริกนฺตํ อุปาหนํ;

ยํ ยํ จชติ กามานํ, ตํ ตํ สมฺปชฺชเต สุขํ;

สพฺพฺเจ สุขมิจฺเฉยฺย, สพฺเพ กาเม ปริจฺจเช’’ติ.

ตตฺถ กามนฺติ วตฺถุกามมฺปิ กิเลสกามมฺปิ. กามยมานสฺสาติ ปตฺถยมานสฺส. ตสฺส เจ ตํ สมิชฺฌตีติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตํ กามิตวตฺถุ สมิชฺฌติ เจ, นิปฺผชฺชติ เจติ อตฺโถ. ตโต นํ อปรํ กาเมติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. อปรนฺติ ปรภาคทีปนํ. กาเมติ อุปโยคพหุวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ กามํ กามยมานสฺส ตํ กามิตวตฺถุ สมิชฺฌติ, ตสฺมึ สมิทฺเธ ตโต ปรํ โส ปุคฺคโล กามยมาโน ยถา นาม ฆมฺเม คิมฺหกาเล วาตาตเปน กิลนฺโต ตณฺหํ วินฺทติ, ปานียปิปาสํ ปฏิลภติ, เอวํ ภิยฺโย กามตณฺหาสงฺขาเต กาเม วินฺทติ ปฏิลภติ, รูปตณฺหาทิกา ตณฺหา จสฺส วฑฺฒติเยวาติ. ควํวาติ โครูปสฺส วิย. สิงฺคิโนติ มตฺถกํ ปทาเลตฺวา อุฏฺิตสิงฺคสฺส. มนฺทสฺสาติ มนฺทปฺสฺส. พาลสฺสาติ พาลธมฺเม ยุตฺตสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา วจฺฉกสฺส วฑฺฒนฺตสฺส สรีเรเนว สทฺธึ สิงฺคํ วฑฺฒติ, เอวํ อนฺธพาลสฺสปิ อปฺปตฺตกามตณฺหา จ ปตฺตกามปิปาสา จ อปราปรํ วฑฺฒตีติ.

สาลิยวกนฺติ สาลิเขตฺตยวเขตฺตํ. เอเตน สาลิยวาทิกํ สพฺพํ ธฺํ ทสฺเสติ, ทุติยปเทน สพฺพํ ทฺวิปทจตุปฺปทํ ทสฺเสติ. ปมปเทน วา สพฺพํ อวิฺาณกํ, อิตเรน สวิฺาณกํ. ทตฺวา จาติ ทตฺวาปิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ติฏฺนฺตุ ตีณิ รชฺชานิ, สเจ โส มาณโว อฺํ วา สกลมฺปิ ปถวึ สวิฺาณกาวิฺาณกรตนปูรํ กสฺสจิ ทตฺวา คจฺเฉยฺย, อิทมฺปิ เอตฺตกํ วตฺถุ เอกสฺเสว อปริยนฺตํ, เอวํ ทุปฺปูรา เอสา ตณฺหา นาม. อิติ วิทฺวา สมํ จเรติ เอวํ ชานนฺโต ปุริโส ตณฺหาวสิโก อหุตฺวา กายสมาจาราทีนิ ปูเรนฺโต จเรยฺย.

โอรนฺติ โอริมโกฏฺาสํ ปตฺวา เตน อติตฺตรูโป ปุน สมุทฺทปารมฺปิ ปตฺถเยถ. เอวํ ตณฺหาวสิกสตฺตา นาม ทุปฺปูราติ ทสฺเสติ. ยาวาติ อนิยามิตปริจฺเฉโท. อนุสฺสรนฺติ อนุสฺสรนฺโต. นาชฺฌคาติ น วินฺทติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ปุริโส อปริยนฺเตปิ กาเม มนสา อนุสฺสรนฺโต ติตฺตึ น วินฺทติ, ปตฺตุกาโมว โหติ, เอวํ กาเมสุ สตฺตานํ ตณฺหา วฑฺฒเตว. ตโต นิวตฺตาติ ตโต ปน วตฺถุกามกิเลสกามโต จิตฺเตน นิวตฺติตฺวา กาเยน ปฏิกฺกมฺม าเณน อาทีนวํ ทิสฺวา เย ปฺาย ติตฺตา ปริปุณฺณา, เต ติตฺตา นาม.

ปฺาย ติตฺตินํ เสฏฺนฺติ ปฺาย ติตฺตีนํ อยํ ปริปุณฺณเสฏฺโ, อยเมว วา ปาโ. น โส กาเมหิ ตปฺปตีติ ‘‘น หี’’ติปิ ปาโ. ยสฺมา ปฺาย ติตฺโต ปุริโส กาเมหิ น ปริฑยฺหตีติ อตฺโถ. น กุรุเต วสนฺติ ตาทิสฺหิ ปุริสํ ตณฺหา วเส วตฺเตตุํ น สกฺโกติ, สฺเวว ปน ตณฺหาย อาทีนวํ ทิสฺวา สรภงฺคมาณโว วิย จ อฑฺฒมาสกราชา วิย จ ตณฺหาวเส น ปวตฺตตีติ อตฺโถ. อปจิเนเถวาติ วิทฺธํเสเถว. สมุทฺทมตฺโตติ มหติยา ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา สมุทฺทปฺปมาโณ. โส มหนฺเตน อคฺคินาปิ สมุทฺโท วิย กิเลสกาเมหิ น ตปฺปติ น ฑยฺหติ.

รถกาโรติ จมฺมกาโร. ปริกนฺตนฺติ ปริกนฺตนฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา จมฺมกาโร อุปาหนํ ปริกนฺตนฺโต ยํ ยํ จมฺมสฺส อคยฺหูปคฏฺานํ โหติ, ตํ ตํ จชิตฺวา อุปาหนํ กตฺวา อุปาหนมูลํ ลภิตฺวา สุขิโต โหติ, เอวเมว ปณฺฑิโต จมฺมการสตฺถสทิสาย ปฺาย กนฺตนฺโต ยํ ยํ โอธึ กามานํ จชติ, เตน เตนสฺส กาโมธินา รหิตํ ตํ ตํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมฺจ สุขํ สมฺปชฺชติ วิคตทรถํ, สเจ ปน สพฺพมฺปิ กายกมฺมาทิสุขํ วิคตปริฬาหเมว อิจฺเฉยฺย, กสิณํ ภาเวตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา สพฺเพ กาเม ปริจฺจเชติ.

โพธิสตฺตสฺส ปน อิมํ คาถํ กเถนฺตสฺส รฺโ เสตจฺฉตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา โอทาตกสิณชฺฌานํ อุทปาทิ, ราชาปิ อโรโค อโหสิ. โส ตุฏฺโ สยนา วุฏฺหิตฺวา ‘‘เอตฺตกา เวชฺชา มํ ติกิจฺฉิตุํ นาสกฺขึสุ, ปณฺฑิตมาณโว ปน อตฺตโน าโณสเธน มํ นิโรคํ อกาสี’’ติ เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทสมํ คาถมาห –

๔๖.

‘‘อฏฺ เต ภาสิตา คาถา, สพฺพา โหนฺติ สหสฺสิยา;

ปฏิคณฺห มหาพฺรหฺเม, สาเธตํ ตว ภาสิต’’นฺติ.

ตตฺถ อฏฺาติ ทุติยคาถํ อาทึ กตฺวา กามาทีนวสํยุตฺตา อฏฺ. สหสฺสิยาติ สหสฺสารหา. ปฏิคณฺหาติ อฏฺ สหสฺสานิ คณฺห. สาเธตํ ตว ภาสิตนฺติ สาธุ เอตํ ตว วจนํ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต เอกาทสมํ คาถมาห –

๔๗.

‘‘น เม อตฺโถ สหสฺเสหิ, สเตหิ นหุเตหิ วา;

ปจฺฉิมํ ภาสโต คาถํ, กาเม เม น รโต มโน’’ติ.

ตตฺถ ปจฺฉิมนฺติ ‘‘รถกาโรว จมฺมสฺสา’’ติ คาถํ. กาเม เม น รโต มโนติ อิมํ คาถํ ภาสมานสฺเสว มม วตฺถุกาเมปิ กิเลสกาเมปิ มโน นาภิรมามิ. อหฺหิ อิมํ คาถํ ภาสมาโน อตฺตโนว ธมฺมเทสนาย ฌานํ นิพฺพตฺเตสึ, มหาราชาติ.

ราชา ภิยฺโยโสมตฺตาย ตุสฺสิตฺวา มหาสตฺตํ วณฺเณนฺโต โอสานคาถมาห –

๔๘.

‘‘ภทฺรโก วตายํ มาณวโก, สพฺพโลกวิทู มุนิ;

โย อิมํ ตณฺหํ ทุกฺขชนนึ, ปริชานาติ ปณฺฑิโต’’ติ.

ตตฺถ ทุกฺขชนนินฺติ สกลวฏฺฏทุกฺขชนนึ. ปริชานาตีติ ปริชานิ ปริจฺฉินฺทิ, ลุฺจิตฺวา นีหรีติ โพธิสตฺตํ วณฺเณนฺโต เอวมาห.

โพธิสตฺโตปิ ‘‘มหาราช, อปฺปมตฺโต หุตฺวา ธมฺมํ จรา’’ติ ราชานํ โอวทิตฺวา อากาเสน หิมวนฺตํ คนฺตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌาโน หุตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปาหํ เอตํ พฺราหฺมณํ นิสฺโสกมกาสิ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา เอส พฺราหฺมโณ อโหสิ, ปณฺฑิตมาณโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

กามชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๔๖๘] ๕. ชนสนฺธชาตกวณฺณนา

ทส ขลูติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ โอวาทตฺถาย กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ กาเล ราชา อิสฺสริยมทมตฺโต กิเลสสุขนิสฺสิโต วินิจฺฉยมฺปิ น ปฏฺเปสิ, พุทฺธุปฏฺานมฺปิ ปมชฺชิ. โส เอกทิวเส ทสพลํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘สตฺถารํ วนฺทิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส รถวรมารุยฺห วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ มหาราช จิรํ น ปฺายสี’’ติ วตฺวา ‘‘พหุกิจฺจตาย โน ภนฺเต พุทฺธุปฏฺานสฺส โอกาโส น ชาโต’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาราช, มาทิเส นาม โอวาททายเก สพฺพฺุพุทฺเธ ธุรวิหาเร วิหรนฺเต อยุตฺตํ ตว ปมชฺชิตุํ, รฺา นาม ราชกิจฺเจสุ อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพํ, รฏฺวาสีนํ มาตาปิตุสเมน อคติคมนํ ปหาย ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺเตน รชฺชํ กาเรตุํ วฏฺฏติ, รฺโ หิ ธมฺมิกภาเว สติ ปริสาปิสฺส ธมฺมิกา โหนฺติ, อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, ยํ มยิ อนุสาสนฺเต ตฺวํ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรยฺยาสิ, โปราณกปณฺฑิตา อนุสาสกอาจริเย อวิชฺชมาเนปิ อตฺตโน มติยาว ติวิธสุจริตธมฺเม ปติฏฺาย มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา สคฺคปถํ ปูรยมานา อคมํสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ‘‘ชนสนฺธกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อถสฺส วยปฺปตฺตสฺส ตกฺกสิลโต สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคตกาเล ราชา สพฺพานิ พนฺธนาคารานิ โสธาเปตฺวา อุปรชฺชํ อทาสิ. โส อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺาย จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ ราชทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย การาเปตฺวา ทิวเส ทิวเส ฉ สตสหสฺสานิ ปริจฺจชิตฺวา สกลชมฺพุทีปํ สงฺโขเภตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตนฺโต พนฺธนาคารานิ นิจฺจํ วิวฏานิ การาเปตฺวา ธมฺมภณฺฑิกํ โสธาเปตฺวา จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ โลกํ สงฺคณฺหนฺโต ปฺจ สีลานิ รกฺขนฺโต อุโปสถวาสํ วสนฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. อนฺตรนฺตรา จ รฏฺวาสิโน สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘‘ทานํ เทถ, สีลํ สมาทิยถ, ภาวนํ ภาเวถ, ธมฺเมน กมฺมนฺเต จ โวหาเร จ ปโยเชถ, ทหรกาเลเยว สิปฺปานิ อุคฺคณฺหถ, ธนํ อุปฺปาเทถ, คามกูฏกมฺมํ วา ปิสุณวาจากมฺมํ วา มา กริตฺถ, จณฺฑา ผรุสา มา อหุวตฺถ, มาตุปฏฺานํ ปิตุปฏฺานํ ปูเรถ, กุเล เชฏฺาปจายิโน ภวถา’’ติ ธมฺมํ เทเสตฺวา มหาชเน สุจริตธมฺเม ปติฏฺาเปสิ. โส เอกทิวสํ ปนฺนรสีอุโปสเถ สมาทินฺนุโปสโถ ‘‘มหาชนสฺส ภิยฺโย หิตสุขตฺถาย อปฺปมาทวิหารตฺถาย ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา อตฺตโน โอโรเธ อาทึ กตฺวา สพฺพนครชนํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ราชงฺคเณ อลงฺกริตฺวา อลงฺกตรตนมณฺฑปมชฺเฌ สุปฺตฺตวรปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา ‘‘อมฺโภ, นครวาสิโน ตุมฺหากํ ตปนีเย จ อตปนีเย จ ธมฺเม เทเสสฺสามิ, อปฺปมตฺตา หุตฺวา โอหิตโสตา สกฺกจฺจํ สุณาถา’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ.

สตฺถา สจฺจปริภาวิตํ มุขรตนํ วิวริตฺวา ตํ ธมฺมเทสนํ มธุเรน สเรน โกสลรฺโ อาวิ กโรนฺโต –

๔๙.

‘‘ทส ขลุ อิมานิ านานิ, ยานิ ปุพฺเพ อกริตฺวา;

ส ปจฺฉา มนุตปฺปติ, อิจฺเจวาห ชนสนฺโธ.

๕๐.

‘‘อลทฺธา วิตฺตํ ตปฺปติ, ปุพฺเพ อสมุทานิตํ;

น ปุพฺเพ ธนเมสิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๑.

‘‘สกฺยรูปํ ปุเร สนฺตํ, มยา สิปฺปํ น สิกฺขิตํ;

กิจฺฉา วุตฺติ อสิปฺปสฺส, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๒.

‘‘กูฏเวที ปุเร อาสึ, ปิสุโณ ปิฏฺิมํสิโก;

จณฺโฑ จ ผรุโส จาปิ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๓.

‘‘ปาณาติปาตี ปุเร อาสึ, ลุทฺโท จาปิ อนาริโย;

ภูตานํ นาปจายิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๔.

‘‘พหูสุ วต สนฺตีสุ, อนาปาทาสุ อิตฺถิสุ;

ปรทารํ อเสวิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๕.

‘‘พหุมฺหิ วต สนฺตมฺหิ, อนฺนปาเน อุปฏฺิเต;

น ปุพฺเพ อททํ ทานํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๖.

‘‘มาตรํ ปิตรํ จาปิ, ชิณฺณกํ คตโยพฺพนํ;

ปหุ สนฺโต น โปสิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๗.

‘‘อาจริยมนุสตฺถารํ, สพฺพกามรสาหรํ;

ปิตรํ อติมฺิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๘.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต;

น ปุพฺเพ ปยิรุปาสิสฺสํ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๕๙.

‘‘สาธุ โหติ ตโป จิณฺโณ, สนฺโต จ ปยิรุปาสิโต;

น จ ปุพฺเพ ตโป จิณฺโณ, อิติ ปจฺฉานุตปฺปติ.

๖๐.

‘‘โย จ เอตานิ านานิ, โยนิโส ปฏิปชฺชติ;

กรํ ปุริสกิจฺจานิ, ส ปจฺฉา นานุตปฺปตี’’ติ. – อิมา คาถา อาห;

ตตฺถ านานีติ การณานิ. ปุพฺเพติ ปมเมว อกริตฺวา. ส ปจฺฉา มนุตปฺปตีติ โส ปมํ กตฺตพฺพานํ อการโก ปุคฺคโล ปจฺฉา อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ ตปฺปติ กิลมติ. ‘‘ปจฺฉา วา อนุตปฺปตี’’ติปิ ปาโ. อิจฺเจวาหาติ อิติ เอวํ อาหาติ ปทจฺเฉโท, อิติ เอวํ ราชา ชนสนฺโธ อโวจ. อิจฺจสฺสุหาติปิ ปาโ. ตตฺถ อสฺสุ-กาโร นิปาตมตฺตํ อิติ อสฺสุ อาหาติ ปทจฺเฉโท. อิทานิ ตานิ ทส ตปนียการณานิ ปกาเสตุํ โพธิสตฺตสฺส ธมฺมกถา โหติ. ตตฺถ ปุพฺเพติ ปมเมว ตรุณกาเล ปรกฺกมํ กตฺวา อสมุทานิตํ อสมฺภตํ ธนํ มหลฺลกกาเล อลภิตฺวา ตปฺปติ โสจติ, ปเร จ สุขิเต ทิสฺวา สยํ ทุกฺขํ ชีวนฺโต ‘‘ปุพฺเพ ธนํ น ปริเยสิสฺส’’นฺติ เอวํ ปจฺฉา อนุตปฺปติ, ตสฺมา มหลฺลกกาเล สุขํ ชีวิตุกามา ทหรกาเลเยว ธมฺมิกานิ กสิกมฺมาทีนิ กตฺวา ธนํ ปริเยสถาติ ทสฺเสติ.

ปุเร สนฺตนฺติ ปุเร ทหรกาเล อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา มยา กาตุํ สกฺยรูปํ สมานํ หตฺถิสิปฺปาทิกํ กิฺจิ สิปฺปํ น สิกฺขิตํ. กิจฺฉาติ มหลฺลกกาเล อสิปฺปสฺส ทุกฺขา ชีวิตวุตฺติ, เนว สกฺกา ตทา สิปฺปํ สิกฺขิตุํ, ตสฺมา มหลฺลกกาเล สุขํ ชีวิตุกามา ตรุณกาเลเยว สิปฺปํ สิกฺขถาติ ทสฺเสติ. กุฏเวทีติ กูฏชานนโก คามกูฏโก วา โลกสฺส อนตฺถการโก วา ตุลากูฏาทิการโก วา กูฏฏฺฏการโก วาติ อตฺโถ. อาสินฺติ เอวรูโป อหํ ปุพฺเพ อโหสึ. ปิสุโณติ เปสุฺการโณ. ปิฏฺิมํสิโกติ ลฺชํ คเหตฺวา อสามิเก สามิเก กโรนฺโต ปเรสํ ปิฏฺิมํสขาทโก. อิติ ปจฺฉาติ เอวํ มรณมฺเจ นิปนฺโน อนุตปฺปติ, ตสฺมา สเจ นิรเย น วสิตุกามาตฺถ, มา เอวรูปํ ปาปกมฺมํ กริตฺถาติ โอวทติ.

ลุทฺโทติ ทารุโณ. อนาริโยติ น อริโย นีจสมาจาโร. นาปจายิสฺสนฺติ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยวเสน นีจวุตฺติโก นาโหสึ. เสสํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. อนาปาทาสูติ อาปาทานํ อาปาโท, ปริคฺคโหติ อตฺโถ. นตฺถิ อาปาโท ยาสํ ตา อนาปาทา, อฺเหิ อกตปริคฺคหาสูติ อตฺโถ. อุปฏฺิเตติ ปจฺจุปฏฺิเต. น ปุพฺเพติ อิโต ปุพฺเพ ทานํ น อททํ. ปหุ สนฺโตติ ธนพเลนาปิ กายพเลนาปิ โปสิตุํ สมตฺโถ ปฏิพโล สมาโน. อาจริยนฺติ อาจาเร สิกฺขาปนโต อิธ ปิตา ‘‘อาจริโย’’ติ อธิปฺเปโต. อนุสตฺถารนฺติ อนุสาสกํ. สพฺพกามรสาหรนฺติ สพฺเพ วตฺถุกามรเส อาหริตฺวา โปสิตารํ. อติมฺิสฺสนฺติ ตสฺส โอวาทํ อคณฺหนฺโต อติกฺกมิตฺวา มฺิสฺสํ.

น ปุพฺเพติ อิโต ปุพฺเพ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณปิ คิลานาคิลาเนปิ จีวราทีนิ ทตฺวา อปฺปฏิชคฺคเนน น ปยิรุปาสิสฺสํ. ตโปติ สุจริตตโป. สนฺโตติ ตีหิ ทฺวาเรหิ อุปสนฺโต สีลวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ติวิธสุจริตสงฺขาโต ตโป จิณฺโณ เอวรูโป จ อุปสนฺโต ปยิรุปาสิโต นาม สาธุ สุนฺทโร. น ปุพฺเพติ มยา ทหรกาเล เอวรูโป ตโป น จิณฺโณ, อิติ ปจฺฉา ชราชิณฺโณ มรณภยตชฺชิโต อนุตปฺปติ โสจติ. สเจ ตุมฺเห เอวํ น โสจิตุกามา, ตโปกมฺมํ กโรถาติ วทติ. โย จ เอตานีติ โย ปน เอตานิ ทส การณานิ ปมเมว อุปาเยน ปฏิปชฺชติ สมาทาย วตฺตติ, ปุริเสหิ กตฺตพฺพานิ ธมฺมิกกิจฺจานิ กโรนฺโต โส อปฺปมาทวิหารี ปุริโส ปจฺฉา นานุตปฺปติ, โสมนสฺสปฺปตฺโตว โหตีติ.

อิติ มหาสตฺโต อนฺวทฺธมาสํ อิมินา นิยาเมน มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโนปิสฺส โอวาเท ตฺวา ตานิ ทส านานิ ปูเรตฺวา สคฺคปรายโณว อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, มหาราช, โปราณกปณฺฑิตา อนาจริยกาปิ อตฺตโน มติยาว ธมฺมํ เทเสตฺวา มหาชนํ สคฺคปเถ ปติฏฺาเปสุ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปริสา พุทฺธปริสา อเหสุํ, ชนสนฺธราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ชนสนฺธชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๔๖๙] ๖. มหากณฺหชาตกวณฺณนา

กณฺโห กณฺโห จาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โลกตฺถจริยํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ‘‘ยาวฺจิทํ, อาวุโส, สตฺถา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน อตฺตโน ผาสุวิหารํ ปหาย โลกสฺเสว อตฺถํ จรติ, ปรมาภิสมฺโพธึ ปตฺวา สยํ ปตฺตจีวรมาทาย อฏฺารสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิยตฺเถรานํ ธมฺมจกฺกํ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓ อาทโย; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ปวตฺเตตฺวา ปฺจมิยา ปกฺขสฺส อนตฺตลกฺขณสุตฺตํ (สํ. นิ. ๓.๕๙; มหาว. ๒๐ อาทโย) กเถตฺวา สพฺเพสํ อรหตฺตํ อทาสิ. อุรุเวลํ คนฺตฺวา เตภาติกชฏิลานํ อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฏิหาริยสหสฺสานิ ทสฺเสตฺวา ปพฺพาเชตฺวา คยาสีเส อาทิตฺตปริยายํ (สํ. นิ. ๔.๒๓๕; มหาว. ๕๔) กเถตฺวา ชฏิลสหสฺสานํ อรหตฺตํ อทาสิ, มหากสฺสปสฺส ตีณิ คาวุตานิ ปจฺจุคฺคมนํ คนฺตฺวา ตีหิ โอวาเทหิ อุปสมฺปทํ อทาสิ. เอโก ปจฺฉาภตฺตํ ปฺจจตฺตาลีสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ปุกฺกุสาติกุลปุตฺตํ อนาคามิผเล ปติฏฺาเปสิ, มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, เอโก ปจฺฉาภตฺตํ ตึสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ตาว กกฺขฬํ ผรุสํ องฺคุลิมาลํ อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ, ตึสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา อาฬวกํ ยกฺขํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา กุมารสฺส โสตฺถึ อกาสิ. ตาวตึสภวเน เตมาสํ วสนฺโต อสีติยา เทวตาโกฏีนํ ธมฺมาภิสมยํ สมฺปาเทสิ, พฺรหฺมโลกํ คนฺตฺวา พกพฺรหฺมุโน ทิฏฺึ ภินฺทิตฺวา ทสนฺนํ พฺรหฺมสหสฺสานํ อรหตฺตํ อทาสิ, อนุสํวจฺฉรํ ตีสุ มณฺฑเลสุ จาริกํ จรมาโน อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ มนุสฺสานํ สรณานิ เจว สีลานิจ มคฺคผลานิ จ เทติ, นาคสุปณฺณาทีนมฺปิ นานปฺปการํ อตฺถํ จรตี’’ติ ทสพลสฺส โลกตฺถจริยคุณํ กถยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, โสหํ อิทานิ อภิสมฺโพธึ ปตฺวา โลกสฺส อตฺถํ จเรยฺยํ, ปุพฺเพ สราคกาเลปิ โลกสฺส อตฺถํ อจริ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล พาราณสิยํ อุสีนโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธ จตุสจฺจเทสนาย มหาชนํ กิเลสพนฺธนา โมเจตฺวา นิพฺพานนครํ ปูเรตฺวา ปรินิพฺพุเต ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สาสนํ โอสกฺกิ. ภิกฺขู เอกวีสติยา อเนสนาหิ ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, ภิกฺขู คิหิสํสคฺคํ กโรนฺติ, ปุตฺตธีตาทีหิ วฑฺฒนฺติ. ภิกฺขุนิโยปิ คิหิสํสคฺคํ กโรนฺติ, ปุตฺตธีตาทีหิ วฑฺฒนฺติ. ภิกฺขู ภิกฺขุธมฺมํ, ภิกฺขุนิโย ภิกฺขุนิธมฺมํ, อุโปสกา อุปาสกธมฺมํ, อุปาสิกา อุปาสิกธมฺมํ, พฺราหฺมณา พฺราหฺมณธมฺมํ วิสฺสชฺเชสุํ. เยภุยฺเยน มนุสฺสา ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตึสุ, มตมตา อปาเยสุ ปริปูเรสุํ. ตทา สกฺโก เทวราชา นเว นเว เทเว อปสฺสนฺโต มนุสฺสโลกํ โอโลเกตฺวา มนุสฺสานํ อปาเยสุ นิพฺพตฺติตภาวํ ตฺวา สตฺถุ สาสนํ โอสกฺกิตํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อตฺเถโก อุปาโย, มหาชนํ ตาเสตฺวา ภีตภาวํ ตฺวา ปจฺฉา อสฺสาเสตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา โอสกฺกิตํ สาสนํ ปคฺคยฺห อปรมฺปิ วสฺสสหสฺสํ ปวตฺตนการณํ กริสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา มาตลิเทวปุตฺตํ โมจปฺปมาณทาํ จตูหิ ทาาหิ วินิคฺคตรสฺมิยา ภยานกํ กตฺวา คพฺภินีนํ ทสฺสเนเนว คพฺภปาตนสมตฺถํ โฆรรูปํ อาชาเนยฺยปฺปมาณํ กาฬวณฺณํ มหากณฺหสุนขํ มาเปตฺวา ปฺจพนฺธเนน พนฺธิตฺวา รตฺตมาลํ กณฺเ ปิฬนฺธิตฺวา รชฺชุโกฏิกํ อาทาย สยํ ทฺเว กาสายานิ นิวาเสตฺวา ปจฺฉามุเข ปฺจธา เกเส พนฺธิตฺวา รตฺตมาลํ ปิฬนฺธิตฺวา อาโรปิตปวาฬวณฺณชิยํ มหาธนุํ คเหตฺวา วชิรคฺคนาราจํ นเขน ปริวฏฺเฏนฺโต วนจรกเวสํ คเหตฺวา นครโต โยชนมตฺเต าเน โอตริตฺวา ‘‘นสฺสติ โลโก, นสฺสติ โลโก’’ติ ติกฺขตฺตุํ สทฺทํ อนุสาเวตฺวา มนุสฺเส อุตฺตาเสตฺวา นครูปจารํ ปตฺวา ปุน สทฺทมกาสิ.

มนุสฺสา สุนขํ ทิสฺวา อุตฺรสฺตา นครํ ปวิสิตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา สีฆํ นครทฺวารานิ ปิทหาเปสิ. สกฺโกปิ อฏฺารสหตฺถํ ปาการํ อุลฺลงฺฆิตฺวา สุนเขน สทฺธึ อนฺโตนคเร ปติฏฺหิ. มนุสฺสา ภีตตสิตา ปลายิตฺวา เคหานิ ปวิสิตฺวา นิลียึสุ. มหากณฺโหปิ ทิฏฺทิฏฺเ มนุสฺเส อุปธาวิตฺวา สนฺตาเสนฺโต ราชนิเวสนํ อคมาสิ. ราชงฺคเณ มนุสฺสา ภเยน ปลายิตฺวา ราชนิเวสนํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิทหึสุ. อุสีนกราชาปิ โอโรเธ คเหตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิ. มหากณฺโห สุนโข ปุริมปาเท อุกฺขิปิตฺวา วาตปาเน ตฺวา มหาภุสฺสิตํ ภุสฺสิ. ตสฺส สทฺโท เหฏฺา อวีจึ, อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา สกลจกฺกวาฬํ เอกนินฺนาทํ อโหสิ. วิธุรชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๓๔๖ อาทโย) หิ ปุณฺณกยกฺขรฺโ, กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) กุสรฺโ, ภูริทตฺตชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๗๘๔ อาทโย) สุทสฺสนนาครฺโ, อิมสฺมึ มหากณฺหชาตเก อยํ สทฺโทติ อิเม จตฺตาโร สทฺทา ชมฺพุทิเป มหาสทฺทา นาม อเหสุํ.

นครวาสิโน ภีตตสิตา หุตฺวา เอกปุริโสปิ สกฺเกน สทฺธึ กเถตุํ นาสกฺขิ, ราชาเยว สตึ อุปฏฺาเปตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย สกฺกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘อมฺโภ ลุทฺทก, กสฺมา เต สุนโข ภุสฺสตี’’ติ อาห. ‘‘ฉาตภาเวน, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ ตสฺส ภตฺตํ ทาเปสฺสามี’’ติ อนฺโตชนสฺส จ อตฺตโน จ ปกฺกภตฺตํ สพฺพํ ทาเปสิ. ตํ สพฺพํ สุนโข เอกกพฬํ วิย กตฺวา ปุน สทฺทมกาสิ. ปุน ราชา ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิทานิปิ เม สุนโข ฉาโตเยวา’’ติ สุตฺวา หตฺถิอสฺสาทีนํ ปกฺกภตฺตํ สพฺพํ อาหราเปตฺวา ทาเปสิ. ตสฺมึ เอกปฺปหาเรเนว นิฏฺาปิเต สกลนครสฺส ปกฺกภตฺตํ ทาเปสิ. ตมฺปิ โส ตเถว ภุฺชิตฺวา ปุน สทฺทมกาสิ. ราชา ‘‘น เอส สุนโข, นิสฺสํสยํ เอส ยกฺโข ภวิสฺสติ, อาคมนการณํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ภีตตสิโต หุตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๖๑.

‘‘กณฺโห กณฺโห จ โฆโร จ, สุกฺกทาโ ปภาสวา;

พทฺโธ ปฺจหิ รชฺชูหิ, กึ รวิ สุนโข ตวา’’ติ.

ตตฺถ กณฺโห กณฺโหติ ภยวเสน ทฬฺหีวเสน วา อาเมฑิตํ. โฆโรติ ปสฺสนฺตานํ ภยชนโก. ปภาสวาติ ทาา นิกฺขนฺตรํสิปภาเสน ปภาสวา. กึ รวีติ กึ วิรวิ. ตเวส เอวรูโป กกฺขโฬ สุนโข กึ กโรติ, กึ มิเค คณฺหาติ, อุทาหุ เต อมิตฺเต, กึ เต อิมินา, วิสฺสชฺเชหิ นนฺติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ทุติยํ คาถมาห –

๖๒.

‘‘นายํ มิคานมตฺถาย, อุสีนก ภวิสฺสติ;

มนุสฺสานํ อนโย หุตฺวา, ตทา กณฺโห ปโมกฺขตี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อยฺหิ ‘‘มิคมํสํ ขาทิสฺสามี’’ติ อิธ นาคโต, ตสฺมา มิคานํ อตฺโถ น ภวิสฺสติ, มนุสฺสมํสํ ปน ขาทิตุํ อาคโต, ตสฺมา เตสํ อนโย มหาวินาสการโก หุตฺวา ยทา อเนน มนุสฺสา วินาสํ ปาปิตา ภวิสฺสนฺติ, ตทา อยํ กณฺโห ปโมกฺขติ, มม หตฺถโต มุจฺจิสฺสตีติ.

อถ นํ ราชา ‘‘กึ ปน เต โภ ลุทฺทก-สุนโข สพฺเพสํเยว มนุสฺสานํ มํสํ ขาทิสฺสติ, อุทาหุ ตว อมิตฺตานฺเวา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อมิตฺตานฺเว เม, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘เก ปน อิธ เต อมิตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อธมฺมาภิรตา วิสมจาริโน, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘กเถหิ ตาว เน อมฺหาก’’นฺติ ปุจฺฉิ. อถสฺส กเถนฺโต เทวราชา ทส คาถา อภาสิ –

๖๓.

‘‘ปตฺตหตฺถา สมณกา, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

นงฺคเลหิ กสิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๖๔.

‘‘ตปสฺสินิโย ปพฺพชิตา, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

ยทา โลเก คมิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๖๕.

‘‘ทีโฆตฺตโรฏฺา ชฏิลา, ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;

อิณํ โจทาย คจฺฉนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๖๖.

‘‘อธิจฺจ เวเท สาวิตฺตึ, ยฺตนฺตฺจ พฺราหฺมณา;

ภติกาย ยชิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๖๗.

‘‘มาตรํ ปิตรํ จาปิ, ชิณฺณกํ คตโยพฺพนํ;

ปหู สนฺโต น ภรนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๖๘.

‘‘มาตรํ ปิตรํ จาปิ, ชิณฺณกํ คตโยพฺพนํ;

พาลา ตุมฺเหติ วกฺขนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๖๙.

‘‘อาจริยภริยํ สขึ, มาตุลานึ ปิตุจฺฉกึ;

ยทา โลเก คมิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๗๐.

‘‘อสิจมฺมํ คเหตฺวาน, ขคฺคํ ปคฺคยฺห พฺราหฺมณา;

ปนฺถฆาตํ กริสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๗๑.

‘‘สุกฺกจฺฉวี เวธเวรา, ถูลพาหู อปาตุภา;

มิตฺตเภทํ กริสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขติ.

๗๒.

‘‘มายาวิโน เนกติกา, อสปฺปุริสจินฺตกา;

ยทา โลเก ภวิสฺสนฺติ, ตทา กณฺโห ปโมกฺขตี’’ติ.

ตตฺถ สมณกาติ ‘‘มยํ สมณามฺหา’’ติ ปฏิฺามตฺตเกน หีฬิตโวหาเรเนวมาห. กสิสฺสนฺตีติ เต ตทาปิ กสนฺติเยว. อยํ ปน อชานนฺโต วิย เอวมาห. อยฺหิสฺส อธิปฺปาโย – เอเต เอวรูปา ทุสฺสีลา มม อมิตฺตา, ยทา มม สุนเขน เอเต มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตํ ภวิสฺสติ, ตทา เอส กณฺโห อิโต ปฺจรชฺชุพนฺธนา ปโมกฺขตีติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพคาถาสุ อธิปฺปายโยชนา เวทิตพฺพา.

ปพฺพชิตาติ พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตา. คมิสฺสนฺตีติ อคารมชฺเฌ ปฺจ กามคุเณ ปริภุฺชนฺติโย วิจริสฺสนฺติ. ทีโฆตฺตโรฏฺาติ ทาิกานํ วฑฺฒิตตฺตา ทีฆุตฺตโรฏฺา. ปงฺกทนฺตาติ ปงฺเกน มเลน สมนฺนาคตทนฺตา. อิณํ โจทายาติ ภิกฺขาจริยาย ธนํ สํหริตฺวา วฑฺฒิยา อิณํ ปโยเชตฺวา ตํ โจเทตฺวา ตโต ลทฺเธน ชีวิกํ กปฺเปนฺตา ยทา คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.

สาวิตฺตินฺติ สาวิตฺติฺจ อธิยิตฺวา. ยฺตนฺตฺจาติ ยฺวิธายกตนฺตํ, ยฺํ อธิยิตฺวาติ อตฺโถ. ภติกายาติ เต เต ราชราชมหามตฺเต อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ยฺํ ยชิสฺสาม, ธนํ เทถา’’ติ เอวํ ภติอตฺถาย ยทา ยฺํ ยชิสฺสนฺติ. ปหู สนฺโตติ ภริตุํ โปเสตุํ สมตฺถา สมานา. พาลา ตุมฺเหติ ตุมฺเห พาลา น กิฺจิ ชานาถาติ ยทา วกฺขนฺติ. คมิสฺสนฺตีติ โลกธมฺมเสวนวเสน คมิสฺสนฺติ. ปนฺถฆาตนฺติ ปนฺเถ ตฺวา มนุสฺเส มาเรตฺวา เตสํ ภณฺฑคฺคหณํ.

สุกฺกจฺฉวีติ กสาวจุณฺณาทิฆํสเนน สมุฏฺาปิตสุกฺกจฺฉวิวณฺณา. เวธเวราติ วิธวา อปติกา, ตาหิ วิธวาหิ เวรํ จรนฺตีติ เวธเวรา. ถูลพาหูติ ปาทปริมทฺทนาทีหิ สมุฏฺาปิตมํสตาย มหาพาหู. อปาตุภาติ อปาตุภาวา, ธนุปฺปาทรหิตาติ อตฺโถ. มิตฺตเภทนฺติ มิถุเภทํ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทา เอวรูปา อิตฺถิธุตฺตา ‘‘อิมา อมฺเห น ชหิสฺสนฺตี’’ติ สหิรฺา วิธวา อุปคนฺตฺวา สํวาสํ กปฺเปตฺวา ตาสํ สนฺตกํ ขาทิตฺวา ตาหิ สทฺธึ มิตฺตเภทํ กริสฺสนฺติ, วิสฺสาสํ ภินฺทิตฺวา อฺํ สหิรฺํ คมิสฺสนฺติ, ตทา เอส เต โจเร สพฺเพว ขาทิตฺวา มุจฺจิสฺสติ. อสปฺปุริสจินฺตกาติ อสปฺปุริสจิตฺเตหิ ปรทุกฺขจินฺตนสีลา. ตทาติ ตทา สพฺเพปิเม ฆาเตตฺวา ขาทิตมํโส กณฺโห ปโมกฺขตีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อิเม มยฺหํ, มหาราช, อมิตฺตา’’ติ เต เต อธมฺมการเก ปกฺขนฺทิตฺวา ขาทิตุกามตํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ. โส ตโต มหาชนสฺส อุตฺรสฺตกาเล สุนขํ รชฺชุยา อากฑฺฒิตฺวา ปิตํ วิย กตฺวา ลุทฺทกเวสํ วิชหิตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน อากาเส ชลมาโน ตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ สกฺโก เทวราชา, ‘อยํ โลโก วินสฺสตี’ติ อาคโต, ปมตฺตา หิ มหาชนา, อธมฺมํ วตฺติตฺวา มตมตา สมฺปติ อปาเย ปูเรนฺติ, เทวโลโก ตุจฺโฉ วิย วิโต, อิโต ปฏฺาย อธมฺมิเกสุ กตฺตพฺพํ อหํ ชานิสฺสามิ, ตฺวํ อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ จตูหิ สตารหคาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา มนุสฺสานํ ทานสีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา โอสกฺกิตสาสนํ อฺํ วสฺสสหสฺสํ ปวตฺตนสมตฺถํ กตฺวา มาตลึ อาทาย สกฏฺานเมว คโต. มหาชนา ทานสีลาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขเว ปุพฺเพปาหํ โลกสฺส อตฺถเมว จรามี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาตลิ อานนฺโท อโหสิ, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหากณฺหชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๔๗๐] ๗. โกสิยชาตกวณฺณนา

๗๓-๙๓. โกสิยชาตกํ สุธาโภชนชาตเก (ชา. ๒.๒๑.๑๙๒ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.

โกสิยชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๔๗๑] ๘. เมณฺฑกปฺหชาตกวณฺณนา

๙๔-๑๐๕. เมณฺฑกปฺหชาตกํ อุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.

เมณฺฑกปฺหชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๔๗๒] ๙. มหาปทุมชาตกวณฺณนา

นาทฏฺา ปรโต โทสนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต จิฺจมาณวิกํ อารพฺภ กเถสิ. ปมโพธิยฺหิ ทสพลสฺส ปุถุภูเตสุ สาวเกสุ อปริมาเณสุ เทวมนุสฺเสสุ อริยภูมึ โอกฺกนฺเตสุ ปตฺถเฏสุ คุณสมุทเยสุ มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ. ติตฺถิยา สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกสทิสา อเหสุํ หตลาภสกฺการา. เต อนฺตรวีถิยํ ตฺวา ‘‘กึ สมโณ โคตโมว พุทฺโธ, มยมฺปิ พุทฺธา, กึ ตสฺเสว ทินฺนํ มหปฺผลํ, อมฺหากมฺปิ ทินฺนํ มหปฺผลเมว, อมฺหากมฺปิ เทถ กโรถา’’ติ เอวํ มนุสฺเส วิฺาเปนฺตาปิ ลาภสกฺการํ อลภนฺตา รโห สนฺนิปติตฺวา ‘‘เกน นุ โข อุปาเยน สมณสฺส โคตมสฺส มนุสฺสานํ อนฺตเร อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสยฺยามา’’ติ มนฺตยึสุ. ตทา สาวตฺถิยํ จิฺจมาณวิกา นาเมกา ปริพฺพาชิกา อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา เทวจฺฉรา วิย. ตสฺสา สรีรโต รสฺมิโย นิจฺฉรนฺติ. อเถโก ขรมนฺตี เอวมาห – ‘‘จิฺจมาณวิกํ ปฏิจฺจ สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสสฺสามา’’ติ. เต ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ. อถ สา ติตฺถิยารามํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ, ติตฺถิยา ตาย สทฺธึ น กเถสุํ. สา ‘‘โก นุ โข เม โทโส’’ติ ยาวตติยํ ‘‘วนฺทามิ อยฺยา’’ติ วตฺวา ‘‘อยฺยา, โก นุ โข เม โทโส, กึ มยา สทฺธึ น กเถถา’’ติ อาห. ‘‘ภคินิ, สมณํ โคตมํ อมฺเห วิเหเนฺตํ หตลาภสกฺกาเร กตฺวา วิจรนฺตํ น ชานาสี’’ติ. ‘‘นาหํ ชานามิ อยฺยา, มยา กึ ปเนตฺถ กตฺตพฺพนฺติ. สเจ ตฺวํ ภคินิ, อมฺหากํ สุขมิจฺฉสิ, อตฺตานํ ปฏิจฺจ สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสหี’’ติ.

สา ‘‘สาธุ อยฺยา, มยฺหเมเวโส ภาโร, มา จินฺตยิตฺถา’’ติ วตฺวา ปกฺกมิตฺวา อิตฺถิมายาสุ กุสลตาย ตโต ปฏฺาย สาวตฺถิวาสีนํ ธมฺมกถํ สุตฺวา เชตวนา นิกฺขมนสมเย อินฺทโคปกวณฺณํ ปฏํ ปารุปิตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนาภิมุขี คจฺฉนฺตี ‘‘อิมาย เวลาย กุหึ คจฺฉสี’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ มม คมนฏฺาเนนา’’ติ วตฺวา เชตวนสมีเป ติตฺถิยาราเม วสิตฺวา ปาโตว ‘‘อคฺควนฺทนํ วนฺทิสฺสามา’’ติ นครา นิกฺขมนฺเต อุปาสกชเน เชตวเน วุตฺถา วิย หุตฺวา นครํ ปวิสติ. ‘‘กุหึ วุตฺถาสี’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ มม วุตฺถฏฺาเนนา’’ติ วตฺวา มาสฑฺฒมาสจฺจเยน ปุจฺฉิยมานา ‘‘เชตวเน สมเณน โคตเมน สทฺธึ เอกคนฺธกุฏิยา วุตฺถามฺหี’’ติ อาห. ปุถุชฺชนานํ ‘‘สจฺจํ นุ โข เอตํ, โน’’ติ กงฺขํ อุปฺปาเทตฺวา เตมาสจตุมาสจฺจเยน ปิโลติกาหิ อุทรํ เวเตฺวา คพฺภินิวณฺณํ ทสฺเสตฺวา อุปริ รตฺตปฏํ ปารุปิตฺวา ‘‘สมณํ โคตมํ ปฏิจฺจ คพฺโภ เม ลทฺโธ’’ติ อนฺธพาเล คาหาเปตฺวา อฏฺนวมาสจฺจเยน อุทเร ทารุมณฺฑลิกํ พนฺธิตฺวา อุปริ รตฺตปฏํ ปารุปิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺิโย โคหนุเกน โกฏฺฏาเปตฺวา อุสฺสเท ทสฺเสตฺวา กิลนฺตินฺทฺริยา หุตฺวา สายนฺหสมเย ตถาคเต อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺเต ธมฺมสภํ คนฺตฺวา ตถาคตสฺส ปุรโต ตฺวา ‘‘มหาสมณ, มหาชนสฺส ตาว ธมฺมํ เทเสสิ, มธุโร เต สทฺโท, สุผุสิตํ ทนฺตาวรณํ, อหํ ปน ตํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ลภิตฺวา ปริปุณฺณคพฺภา ชาตา, เนว เม สูติฆรํ ชานาสิ, น สปฺปิเตลาทีนิ, สยํ อกโรนฺโต อุปฏฺากานมฺปิ อฺตรํ โกสลราชานํ วา อนาถปิณฺฑิกํ วา วิสาขํ อุปาสิกํ วา ‘‘อิมิสฺสา จิฺจมาณวิกาย กตฺตพฺพยุตฺตํ กโรหี’ติ น วทสิ, อภิรมิตุํเยว ชานาสิ, คพฺภปริหารํ น ชานาสี’’ติ คูถปิณฺฑํ คเหตฺวา จนฺทมณฺฑลํ ทูเสตุํ วายมนฺตี วิย ปริสมชฺเฌ ตถาคตํ อกฺโกสิ. ตถาคโต ธมฺมกถํ เปตฺวา สีโห วิย อภินทนฺโต ‘‘ภคินิ, ตยา กถิตสฺส ตถภาวํ วา อตถภาวํ วา อหฺเจว ตฺวฺจ ชานามา’’ติ อาห. อาม, สมณ, ตยา จ มยา จ าตภาเวเนตํ ชาตนฺติ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. โส อาวชฺชมาโน ‘‘จิฺจมาณวิกา ตถาคตํ อภูเตน อกฺโกสตี’’ติ ตฺวา ‘‘อิมํ วตฺถุํ โสเธสฺสามี’’ติ จตูหิ เทวปุตฺเตหิ สทฺธึ อาคมิ. เทวปุตฺตา มูสิกโปตกา หุตฺวา ทารุมณฺฑลิกสฺส พนฺธนรชฺชุเก เอกปฺปหาเรเนว ฉินฺทึสุ, ปารุตปฏํ วาโต อุกฺขิปิ, ทารุมณฺฑลิกํ ปตมานํ ตสฺสา ปาทปิฏฺิยํ ปติ, อุโภ อคฺคปาทา ฉิชฺชึสุ. มนุสฺสา อุฏฺาย ‘‘กาฬกณฺณิ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ อกฺโกสสี’’ติ สีเส เขฬํ ปาเตตฺวา เลฑฺฑุทณฺฑาทิหตฺถา เชตวนา นีหรึสุ. อถสฺสา ตถาคตสฺส จกฺขุปถํ อติกฺกนฺตกาเล มหาปถวี ภิชฺชิตฺวา วิวรมทาสิ, อวีจิโต อคฺคิชาลา อุฏฺหิ. สา กุลทตฺติยํ กมฺพลํ ปารุปมานา วิย คนฺตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติ. อฺติตฺถิยานํ ลาภสกฺกาโร ปริหายิ, ทสพลสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย วฑฺฒิ. ปุนทิวเส ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, จิฺจมาณวิกา เอวํ อุฬารคุณํ อคฺคทกฺขิเณยฺยํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภูเตน อกฺโกสิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอสา มํ อภูเตน อกฺโกสิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ผุลฺลปทุมสสฺสิริกมุขตฺตา ปนสฺส ‘‘ปทุมกุมาโร’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคมิ. อถสฺส มาตา กาลมกาสิ. ราชา อฺํ อคฺคมเหสึ กตฺวา ปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. อปรภาเค ราชา ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วูปสเมตุํ อคฺคมเหสึ อาห ‘‘ภทฺเท, อิเธว วส, อหํ ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วูปสเมตุํ คจฺฉามี’’ติ วตฺวา ‘‘นาหํ อิเธว วสิสฺสามิ, อหมฺปิ คมิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ยุทฺธภูมิยา อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ยาว มมาคมนา อนุกฺกณฺมานา วส, อหํ ปทุมกุมารํ ยถา ตว กตฺตพฺพกิจฺเจสุ อปฺปมตฺโต โหติ, เอวํ อาณาเปตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตถา กตฺวา คนฺตฺวา ปจฺจามิตฺเต ปลาเปตฺวา ชนปทํ สนฺตปฺเปตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา พหินคเร ขนฺธาวารํ นิวาเสสิ. โพธิสตฺโต ปิตุ อาคตภาวํ ตฺวา นครํ อลงฺการาเปตฺวา ราชเคหํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา เอกโกว ตสฺสา สนฺติกํ อคมาสิ.

สา ตสฺส รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา อโหสิ. โพธิสตฺโต ตํ วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺม, กึ อมฺหากํ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. อถ นํ ‘‘อมฺมาติ มํ วทสี’’ติ อุฏฺาย หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘สยนํ อภิรุหา’’ติ อาห. ‘‘กึการณา’’ติ? ‘‘ยาว ราชา น อาคจฺฉติ, ตาว อุโภปิ กิเลสรติยา รมิสฺสามา’’ติ. ‘‘อมฺม, ตฺวํ มม มาตา จ สสามิกา จ, มยา สปริคฺคโห มาตุคาโม นาม กิเลสวเสน อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา น โอโลกิตปุพฺโพ, กถํ ตยา สทฺธึ เอวรูปํ กิลิฏฺกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. สา ทฺเว ตโย วาเร กเถตฺวา ตสฺมึ อนิจฺฉมาเน ‘‘มม วจนํ น กโรสี’’ติ อาห. ‘‘อาม, น กโรมี’’ติ. ‘‘เตน หิ รฺโ กเถตฺวา สีสํ เต ฉินฺทาเปสฺสามี’’ติ. มหาสตฺโต ‘‘ตว รุจึ กโรหี’’ติ วตฺวา ตํ ลชฺชาเปตฺวา ปกฺกามิ.

สา ภีตตสิตา จินฺเตสิ ‘‘สเจ อยํ ปมํ ปิตุ อาโรเจสฺสติ, ชีวิตํ เม นตฺถิ, อหเมว ปุเรตรํ กเถสฺสามี’’ติ ภตฺตํ อภุฺชิตฺวา กิลิฏฺโลมวตฺถํ นิวาเสตฺวา สรีเร นขราชิโย ทสฺเสตฺวา ‘‘กุหึ เทวีติ รฺโ ปุจฺฉนกาเล ‘‘คิลานา’ติ กเถยฺยาถา’’ติ ปริจาริกานํ สฺํ ทตฺวา คิลานาลยํ กตฺวา นิปชฺชิ. ราชาปิ นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา นิเวสนํ อารุยฺห ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘กุหึ เทวี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘กึ เต เทวิ, อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. สา ตสฺส วจนํ อสุณนฺตี วิย หุตฺวา ทฺเว ตโย วาเร ปุจฺฉิตา ‘‘มหาราช, กสฺมา กเถสิ, ตุณฺหี โหหิ, สสามิกอิตฺถิโย นาม มาทิสา น โหนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘เกน ตฺวํ วิเหิตาสิ, สีฆํ เม กเถหิ, สีสมสฺส ฉินฺทิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘กํสิ ตฺวํ, มหาราช, นคเร เปตฺวา คโต’’ติ วตฺวา ‘‘ปทุมกุมาร’’นฺติ วุตฺเต ‘‘โส มยฺหํ วสนฏฺานํ อาคนฺตฺวา ‘ตาต, มา เอวํ กโรหิ, อหํ ตว มาตา’ติ วุจฺจมาโนปิ ‘เปตฺวา มํ อฺโ ราชา นตฺถิ, อหํ ตํ เคเห กริตฺวา กิเลสรติยา รมิสฺสามี’ติ มํ เกเสสุ คเหตฺวา อปราปรํ ลุฺจิตฺวา อตฺตโน วจนํ อกโรนฺตึ มํ ปาเตตฺวา โกฏฺเฏตฺวา คโต’’ติ อาห.

ราชา อนุปปริกฺขิตฺวาว อาสีวิโส วิย กุทฺโธ ปุริเส อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, ปทุมกุมารํ พนฺธิตฺวา อาเนถา’’ติ. เต นครํ อวตฺถรนฺตา วิย ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ตํ พนฺธิตฺวา ปหริตฺวา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา รตฺตกณเวรมาลํ คีวายํ ปฏิมุฺจิตฺวา วชฺฌํ กตฺวา อานยึสุ. โส ‘‘เทวิยา อิทํ กมฺม’’นฺติ ตฺวา ‘‘โภ ปุริสา, นาหํ รฺโ โทสการโก, นิปฺปราโธหมสฺมี’’ติ วิลปนฺโต อาคจฺฉติ. สกลนครํ สํขุพฺภิตฺวา ‘‘ราชา กิร มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา มหาปทุมกุมารํ ฆาตาเปสี’’ติ สนฺนิปติตฺวา ราชกุมารสฺส ปาทมูเล นิปติตฺวา ‘‘อิทํ เต สามิ, อนนุจฺฉวิก’’นฺติ มหาสทฺเทน ปริเทวิ. อถ นํ เนตฺวา รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา ทิสฺวาว จิตฺตํ นิคฺคณฺหิตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยํ อราชาว ราชลีฬํ กโรติ, มม ปุตฺโต หุตฺวา อคฺคมเหสิยา อปรชฺฌติ, คจฺฉถ นํ โจรปปาเต ปาเตตฺวา วินาสํ ปาเปถา’’ติ อาห. มหาสตฺโต ‘‘น มยฺหํ, ตาต, เอวรูโป อปราโธ อตฺถิ, มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา มา มํ นาเสหี’’ติ ปิตรํ ยาจิ. โส ตสฺส กถํ น คณฺหิ.

ตโต โสฬสสหสฺสา อนฺเตปุริกา ‘‘ตาต มหาปทุมกุมาร, อตฺตโน อนนุจฺฉวิกํ อิทํ ลทฺธ’’นฺติ มหาวิรวํ วิรวึสุ. สพฺเพ ขตฺติยมหาสาลาทโยปิ อมจฺจปริชนาปิ ‘‘เทว, กุมาโร สีลาจารคุณสมฺปนฺโน วํสานุรกฺขิโต รชฺชทายาโท, มา นํ มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา อนุปปริกฺขิตฺวาว วินาเสหิ, รฺา นาม นิสมฺมการินา ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา สตฺต คาถา อภาสึสุ –

๑๐๖.

‘‘นาทฏฺา ปรโต โทสํ, อณุํ ถูลานิ สพฺพโส;

อิสฺสโร ปณเย ทณฺฑํ, สามํ อปฺปฏิเวกฺขิย.

๑๐๗.

‘‘โย จ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา, ทณฺฑํ กุพฺพติ ขตฺติโย;

สกณฺฏกํ โส คิลติ, ชจฺจนฺโธว สมกฺขิกํ.

๑๐๘.

‘‘อทณฺฑิยํ ทณฺฑยติ, ทณฺฑิยฺจ อทณฺฑิยํ;

อนฺโธว วิสมํ มคฺคํ, น ชานาติ สมาสมํ.

๑๐๙.

‘‘โย จ เอตานิ านานิ, อณุํ ถูลานิ สพฺพโส;

สุทิฏฺมนุสาเสยฺย, ส เว โวหริตุ มรหติ.

๑๑๐.

‘‘เนกนฺตมุทุนา สกฺกา, เอกนฺตติขิเณน วา;

อตฺตํ มหนฺเต เปตุํ, ตสฺมา อุภยมาจเร.

๑๑๑.

‘‘ปริภูโต มุทุ โหติ, อติติกฺโข จ เวรวา;

เอตฺจ อุภยํ ตฺวา, อนุมชฺฌํ สมาจเร.

๑๑๒.

‘‘พหุมฺปิ รตฺโต ภาเสยฺย, ทุฏฺโปิ พหุ ภาสติ;

น อิตฺถิการณา ราช, ปุตฺตํ ฆาเตตุมรหสี’’ติ.

ตตฺถ นาทฏฺาติ น อทิสฺวา. ปรโตติ ปรสฺส. สพฺพโสติ สพฺพานิ. อณุํถูลานีติ ขุทฺทกมหนฺตานิ วชฺชานิ. สามํ อปฺปฏิเวกฺขิยาติ ปรสฺส วจนํ คเหตฺวา อตฺตโน ปจฺจกฺขํ อกตฺวา ปถวิสฺสโร ราชา ทณฺฑํ น ปณเย น ปฏฺเปยฺย. มหาสมฺมตราชกาลสฺมิฺหิ สตโต อุตฺตริ ทณฺโฑ นาม นตฺถิ, ตาฬนครหณปพฺพาชนโต อุทฺธํ หตฺถปาทจฺเฉทนฆาตนํ นาม นตฺถิ, ปจฺฉา กกฺขฬราชูนํเยว กาเล เอตํ อุปฺปนฺนํ, ตํ สนฺธาย เต อมจฺจา ‘‘เอกนฺเตเนว ปรสฺส โทสํ สามํ อทิสฺวา กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ กเถนฺตา เอวมาหํสุ.

โย จ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ มหาราช, เอวํ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา โทสานุจฺฉวิเก ทณฺเฑ ปเณตพฺเพ โย ราชา อคติคมเน ิโต ตํ โทสํ อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา หตฺถจฺเฉทาทิทณฺฑํ กโรติ, โส อตฺตโน ทุกฺขการณํ กโรนฺโต สกณฺฏกํ โภชนํ คิลติ นาม, ชจฺจนฺโธ วิย จ สมกฺขิกํ ภุฺชติ นาม. อทณฺฑิยนฺติ โย อทณฺฑิยํ อทณฺฑปเณตพฺพฺจ ทณฺเฑตฺวา ทณฺฑิยฺจ ทณฺฑปเณตพฺพํ อทณฺเฑตฺวา อตฺตโน รุจิเมว กโรติ, โส อนฺโธ วิย วิสมํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน, น ชานาติ สมาสมํ, ตโต ปาสาณาทีสุ ปกฺขลนฺโต อนฺโธ วิย จตูสุ อปาเยสุ มหาทุกฺขํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ. เอตานิ านานีติ เอตานิ ทณฺฑิยาทณฺฑิยการณานิ เจว ทณฺฑิยการเณสุปิ อณุํถูลานิ จ สพฺพานิ สุทิฏฺํ ทิสฺวา อนุสาเสยฺย, ส เว โวหริตุํ รชฺชมนุสาสิตุํ อรหตีติ อตฺโถ.

อตฺตํ มหนฺเต เปตุนฺติ เอวรูโป อนุปฺปนฺเน โภเค อุปฺปาเทตฺวา อุปฺปนฺเน ถาวเร กตฺวา อตฺตานํ มหนฺเต อุฬาเร อิสฺสริเย เปตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. มุทูติ มุทุราชา รฏฺวาสีนํ ปริภูโต โหติ อวฺาโต, โส รชฺชํ นิจฺโจรํ กาตุํ น สกฺโกติ. เวรวาติ อติติกฺขสฺส ปน สพฺเพปิ รฏฺวาสิโน เวริโน โหนฺตีติ โส เวรวา นาม โหติ. อนุมชฺฌนฺติ อนุภูตํ มุทุติขิณภาวานํ มชฺฌํ สมาจเร, อมุทุ อติกฺโข หุตฺวา รชฺชํ กาเรยฺยาติ อตฺโถ. น อิตฺถิการณาติ ปาปํ ลามกํ มาตุคามํ นิสฺสาย วํสานุรกฺขกํ ฉตฺตทายาทํ ปุตฺตํ ฆาเตตุํ นารหสิ, มหาราชาติ.

เอวํ นานาการเณหิ กเถนฺตาปิ อมจฺจา อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ นาสกฺขึสุ. โพธิสตฺโตปิ ยาจนฺโต อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ นาสกฺขิ. อนฺธพาโล ปน ราชา ‘‘คจฺฉถ นํ โจรปปาเต ขิปถา’’ติ อาณาเปนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๑๑๓.

‘‘สพฺโพว โลโก เอกโต, อิตฺถี จ อยเมกิกา;

เตนาหํ ปฏิปชฺชิสฺสํ, คจฺฉถ ปกฺขิปเถว ต’’นฺติ.

ตตฺถ เตนาหนฺติ เยน การเณน สพฺโพ โลโก เอกโต กุมารสฺเสว ปกฺโข หุตฺวา ิโต, อยฺจ อิตฺถี เอกิกาว, เตน การเณน อหํ อิมิสฺสา วจนํ ปฏิปชฺชิสฺสํ, คจฺฉถ ตํ ปพฺพตํ อาโรเปตฺวา ปปาเต ขิปเถวาติ.

เอวํ วุตฺเต โสฬสสหสฺสาสุ ราชอิตฺถีสุ เอกาปิ สกภาเวน สณฺาตุํ นาสกฺขิ, สกลนครวาสิโน พาหา ปคฺคยฺห กนฺทิตฺวา เกเส วิกิรยมานา วิลปึสุ. ราชา ‘‘อิเม อิมสฺส ปปาเต ขิปนํ ปฏิพาเหยฺยุ’’นฺติ สปริวาโร คนฺตฺวา มหาชนสฺส ปริเทวนฺตสฺเสว นํ อุทฺธํปาทํ อวํสิรํ กตฺวา คาหาเปตฺวา ปปาเต ขิปาเปสิ. อถสฺส เมตฺตานุภาเวน ปพฺพเต อธิวตฺถา เทวตา ‘‘มา ภายิ มหาปทุมา’’ติ ตํ สมสฺสาเสตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา หทเย เปตฺวา ทิพฺพสมฺผสฺสํ ผราเปตฺวา โอตริตฺวา ปพฺพตปาเท ปติฏฺิตนาคราชสฺส ผณคพฺเภ เปสิ. นาคราชา โพธิสตฺตํ นาคภวนํ เนตฺวา อตฺตโน ยสํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา อทาสิ. โส ตตฺถ เอกสํวจฺฉรํ วสิตฺวา ‘‘มนุสฺสปถํ คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กตรํ าน’’นฺติ วุตฺเต ‘‘หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. นาคราชา ‘‘สาธู’’ติ ตํ คเหตฺวา มนุสฺสปเถ ปติฏฺาเปตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. โสปิ หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร ตตฺถ ปฏิวสติ.

อเถโก พาราณสิวาสี วนจรโก ตํ านํ ปตฺโต มหาสตฺตํ สฺชานิตฺวา ‘‘นนุ ตฺวํ เทว, มหาปทุมกุมาโร’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สมฺมา’’ติ วุตฺเต ตํ วนฺทิตฺวา กติปาหํ ตตฺถ วสิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ ‘‘เทว, ปุตฺโต เต หิมวนฺตปเทเส อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปณฺณสาลายํ วสติ, อหํ ตสฺส สนฺติเก วสิตฺวา อาคโต’’ติ. ‘‘ปจฺจกฺขโต เต ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘อาม เทวา’’ติ. ราชา มหาพลกายปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา วนปริยนฺเต ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา อมจฺจคณปริวุโต ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา กฺจนรูปสทิสํ ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺนํ มหาสตฺตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อมจฺจาปิ วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสีทึสุ. โพธิสตฺโตปิ ราชานํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. อถ นํ ราชา ‘‘ตาต, มยา ตฺวํ คมฺภีเร ปปาเต ขิปาปิโต, กถํ สชีวิโตสี’’ติ ปุจฺฉนฺโต นวมํ คาถมาห –

๑๑๔.

‘‘อเนกตาเล นรเก, คมฺภีเร จ สุทุตฺตเร;

ปาติโต คิริทุคฺคสฺมึ, เกน ตฺวํ ตตฺถ นามรี’’ติ.

ตตฺถ อเนกตาเลติ อเนกตาลปฺปมาเณ. นามรีติ น อมริ.

ตโตปรํ –

๑๑๕.

‘‘นาโค ชาตผโณ ตตฺถ, ถามวา คิริสานุโช;

ปจฺจคฺคหิ มํ โภเคหิ, เตนาหํ ตตฺถ นามรึ.

๑๑๖.

‘‘เอหิ ตํ ปฏิเนสฺสามิ, ราชปุตฺต สกํ ฆรํ;

รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.

๑๑๗.

‘‘ยถา คิลิตฺวา พฬิสํ, อุทฺธเรยฺย สโลหิตํ;

อุทฺธริตฺวา สุขี อสฺส, เอวํ ปสฺสามิ อตฺตนํ.

๑๑๘.

‘‘กึ นุ ตฺวํ พฬิสํ พฺรูสิ, กึ ตฺวํ พฺรูสิ สโลหิตํ;

กึ นุ ตฺวํ อุพฺภตํ พฺรูสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต.

๑๑๙.

‘‘กามาหํ พฬิสํ พฺรูมิ, หตฺถิอสฺสํ สโลหิตํ;

จตฺตาหํ อุพฺภตํ พฺรูมิ, เอวํ ชานาหิ ขตฺติยา’’ติ. –

อิมาสุ ปฺจสุ เอกนฺตริกา ติสฺโส คาถา โพธิสตฺตสฺส, ทฺเว รฺโ.

ตตฺถ ปจฺจคฺคหิ มนฺติ ปพฺพตปตนกาเล เทวตาย ปริคฺคเหตฺวา ทิพฺพสมฺผสฺเสน สมสฺสาเสตฺวา อุปนีตํ มํ ปฏิคฺคณฺหิ, คเหตฺวา จ ปน นาคภวนํ อาเนตฺวา มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา ‘‘มนุสฺสปถํ มํ เนหี’’ติ วุตฺโต มํ มนุสฺสปถํ อาเนสิ. อหํ อิธาคนฺตฺวา ปพฺพชิโต, อิติ เตน เทวตาย จ นาคราชสฺส จ อานุภาเวน อหํ ตตฺถ นามรินฺติ สพฺพํ อาโรเจสิ.

เอหีติ ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘ตาต, อหํ พาลภาเวน อิตฺถิยา วจนํ คเหตฺวา เอวํ สีลาจารสมฺปนฺเน ตยิ อปรชฺฌึ, ขมาหิ เม โทส’’นฺติ ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘อุฏฺเหิ, มหาราช, ขมาม เต โทสํ, อิโต ปรํ ปุน มา เอวํ อนิสมฺมการี ภเวยฺยาสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตาต, ตฺวํ อตฺตโน กุลสนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชํ อนุสาสนฺโต มยฺหํ ขมสิ นามา’’ติ เอวมาห.

อุทฺธริตฺวาติ หทยวกฺกาทีนิ อสมฺปตฺตเมว ตํ อุทฺธริตฺวา สุขี อสฺส. เอวํ ปสฺสามิ อตฺตนนฺติ อตฺตานํ มหาราช, เอวํ อหมฺปิ ปุน โสตฺถิภาวปฺปตฺตํ คิลิตพฬิสํ ปุริสมิว อตฺตานํ ปสฺสามีติ. ‘‘กึ นุ ตฺว’’นฺติ อิทํ ราชา ตมตฺถํ วิตฺถารโต โสตุํ ปุจฺฉติ. กามาหนฺติ ปฺจ กามคุเณ อหํ. หตฺถิอสฺสํ สโลหิตนฺติ เอวํ หตฺถิอสฺสรถวาหนํ สตฺตรตนาทิวิภวํ ‘‘สโลหิต’’นฺติ พฺรูมิ. จตฺตาหนฺติ จตฺตํ อหํ, ยทา ตํ สพฺพมฺปิ จตฺตํ โหติ ปริจฺจตฺตํ, ตํ ทานาหํ ‘‘อุพฺภต’’นฺติ พฺรูมิ.

‘‘อิติ โข, มหาราช, มยฺหํ รชฺเชน กิจฺจํ นตฺถิ, ตฺวํ ปน ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหี’’ติ มหาสตฺโต ปิตุ โอวาทํ อทาสิ. โส ราชา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา นครํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อมจฺเจ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ กํ นิสฺสาย เอวรูเปน อาจารคุณสมฺปนฺเนน ปุตฺเตน วิโยคํ ปตฺโต’’ติ? ‘‘อคฺคมเหสึ, เทวา’’ติ. ราชา ตํ อุทฺธํปาทํ คาหาเปตฺวา โจรปปาเต ขิปาเปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพเปสา มํ อกฺโกสิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา –

๑๒๐.

‘‘จิฺจมาณวิกา มาตา, เทวทตฺโต จ เม ปิตา;

อานนฺโท ปณฺฑิโต นาโค, สาริปุตฺโต จ เทวตา;

ราชปุตฺโต อหํ อาสึ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ. –

โอสานคาถาย ชาตกํ สโมธาเนสิ.

มหาปทุมชาตกวณฺณนา นวมา.

[๔๗๓] ๑๐. มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา

กานิ กมฺมานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ อตฺถจรกํ อมจฺจํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร รฺโ พหูปกาโร อโหสิ. อถสฺส ราชา อติเรกสมฺมานํ กาเรสิ. อวเสสา นํ อสหมานา ‘‘เทว, อสุโก นาม อมจฺโจ ตุมฺหากํ อนตฺถการโก’’ติ ปริภินฺทึสุ. ราชา ตํ ปริคฺคณฺหนฺโต กิฺจิ โทสํ อทิสฺวา ‘‘อหํ อิมสฺส กิฺจิ โทสํ น ปสฺสามิ, กถํ นุ โข สกฺกา มยา อิมสฺส มิตฺตภาวํ วา อมิตฺตภาวํ วา ชานิตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘อิมํ ปฺหํ เปตฺวา ตถาคตํ อฺโ ชานิตุํ น สกฺขิสฺสติ, คนฺตฺวา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, กถํ นุ โข สกฺกา ปุริเสน อตฺตโน มิตฺตภาวํ วา อมิตฺตภาวํ วา ชานิตุ’’นฺติ ปุจฺฉิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ปุพฺเพปิ มหาราช, ปณฺฑิตา อิมํ ปฺหํ จินฺเตตฺวา ปณฺฑิเต ปุจฺฉิตฺวา เตหิ กถิตวเสน ตฺวา อมิตฺเต วชฺเชตฺวา มิตฺเต เสวึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสโก อมจฺโจ อโหสิ. ตทา พาราณสิรฺโ เอกํ อตฺถจรกํ อมจฺจํ เสสา ปริภินฺทึสุ. ราชา ตสฺส โทสํ อปสฺสนฺโต ‘‘กถํ นุ โข สกฺกา มิตฺตํ วา อมิตฺตํ วา าตุ’’นฺติ มหาสตฺตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๒๑.

‘‘กานิ กมฺมานิ กุพฺพานํ, กถํ วิฺู ปรกฺกเม;

อมิตฺตํ ชาเนยฺย เมธาวี, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – กานิ กมฺมานิ กโรนฺตํ เมธาวี ปณฺฑิโต ปุริโส จกฺขุนา ทิสฺวา วา โสเตน สุตฺวา วา ‘‘อยํ มยฺหํ อมิตฺโต’’ติ ชาเนยฺย, ตสฺส ชานนตฺถาย กถํ วิฺู ปรกฺกเมยฺยาติ.

อถสฺส อมิตฺตลกฺขณํ กเถนฺโต อาห –

๑๒๒.

‘‘น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวา, น จ นํ ปฏินนฺทติ;

จกฺขูนิ จสฺส น ททาติ, ปฏิโลมฺจ วตฺตติ.

๑๒๓.

‘‘อมิตฺเต ตสฺส ภชติ, มิตฺเต ตสฺส น เสวติ;

วณฺณกาเม นิวาเรติ, อกฺโกสนฺเต ปสํสติ.

๑๒๔.

‘‘คุยฺหฺจ ตสฺส นกฺขาติ, ตสฺส คุยฺหํ น คูหติ;

กมฺมํ ตสฺส น วณฺเณติ, ปฺสฺส นปฺปสํสติ.

๑๒๕.

‘‘อภเว นนฺทติ ตสฺส, ภเว ตสฺส น นนฺทติ;

อจฺเฉรํ โภชนํ ลทฺธา, ตสฺส นุปฺปชฺชเต สติ;

ตโต นํ นานุกมฺปติ, อโห โสปิ ลเภยฺยิโต.

๑๒๖.

‘‘อิจฺเจเต โสฬสาการา, อมิตฺตสฺมึ ปติฏฺิตา;

เยหิ อมิตฺตํ ชาเนยฺย, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ.

มหาสตฺโต อิมา ปฺจ คาถา วตฺวาน ปุน –

๑๒๗.

‘‘กานิ กมฺมานิ กุพฺพานํ, กถํ วิฺู ปรกฺกเม;

มิตฺตํ ชาเนยฺย เมธาวี, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ. –

อิมาย คาถาย มิตฺตลกฺขณํ ปุฏฺโ เสสคาถา อภาสิ –

๑๒๘.

‘‘ปวุตฺถํ ตสฺส สรติ, อาคตํ อภินนฺทติ;

ตโต เกลายิโต โหติ, วาจาย ปฏินนฺทติ.

๑๒๙.

‘‘มิตฺเต ตสฺเสว ภชติ, อมิตฺเต ตสฺส น เสวติ;

อกฺโกสนฺเต นิวาเรติ, วณฺณกาเม ปสํสติ.

๑๓๐.

‘‘คุยฺหฺจ ตสฺส อกฺขาติ, ตสฺส คุยฺหฺจ คูหติ;

กมฺมฺจ ตสฺส วณฺเณติ, ปฺํ ตสฺส ปสํสติ.

๑๓๑.

‘‘ภเว จ นนฺทติ ตสฺส, อภเว ตสฺส น นนฺทติ;

อจฺเฉรํ โภชนํ ลทฺธา, ตสฺส อุปฺปชฺชเต สติ;

ตโต นํ อนุกมฺปติ, อโห โสปิ ลเภยฺยิโต.

๑๓๒.

‘‘อิจฺเจเต โสฬสาการา, มิตฺตสฺมึ สุปฺปติฏฺิตา;

เยหิ มิตฺตฺจ ชาเนยฺย, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติ.

ตตฺถ น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวาติ ตํ มิตฺตํ มิตฺตปติรูปโก ทิสฺวา สิตํ น กโรติ, ปหฏฺาการํ น ทสฺเสติ. น จ นํ ปฏินนฺทตีติ ตสฺส กถํ ปคฺคณฺหนฺโต น ปฏินนฺทติ น ตุสฺสติ. จกฺขูนิ จสฺส น ททาตีติ โอโลเกนฺตํ น โอโลเกติ. ปฏิโลมฺจาติ ตสฺส กถํ ปฏิปฺผรติ ปฏิสตฺตุ โหติ. วณฺณกาเมติ ตสฺส วณฺณํ ภณนฺเต. นกฺขาตีติ อตฺตโน คุยฺหํ ตสฺส น อาจิกฺขติ. กมฺมํ ตสฺสาติ เตน กตกมฺมํ น วณฺณยติ. ปฺสฺสาติ อสฺส ปฺํ นปฺปสํสติ, าณสมฺปทํ น ปสํสติ. อภเวติ อวฑฺฒิยํ. ตสฺส นุปฺปชฺชเต สตีติ ตสฺส มิตฺตปติรูปกสฺส ‘‘มม มิตฺตสฺสปิ อิโต ทสฺสามี’’ติ สติ น อุปฺปชฺชติ. นานุกมฺปตีติ มุทุจิตฺเตน น จินฺเตติ. ลเภยฺยิโตติ ลเภยฺย อิโต. อาการาติ การณานิ. ปวุตฺถนฺติ วิเทสคตํ. เกลายิโตติ เกลายติ มมายติ ปตฺเถติ ปิเหติ อิจฺฉตีติ อตฺโถ. วาจายาติ มธุรวจเนน ตํ สมุทาจรนฺโต ปฏินนฺทติ ตุสฺสติ. เสสํ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. ราชา มหาสตฺตสฺส กถาย อตฺตมโน หุตฺวา ตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, มหาราช, ปุพฺเพเปส ปฺโห สมุฏฺหิ, ปณฺฑิตาว นํ กถยึสุ, อิเมหิ ทฺวตฺตึสาย อากาเรหิ มิตฺตามิตฺโต ชานิตพฺโพ’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปณฺฑิตามจฺโจ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา ทสมา.

ชาตกุทฺทานํ –

กุณาลํ ภทฺทสาลฺจ, สมุทฺทวาณิช ปณฺฑิตํ;

ชนสนฺธํ มหากณฺหํ, โกสิยํ สิริมนฺตกํ.

ปทุมํ มิตฺตามิตฺตฺจ, อิจฺเจเต ทส ชาตเก;

สงฺคายึสุ มหาเถรา, ทฺวาทสมฺหิ นิปาตเก.

ทฺวาทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. เตรสกนิปาโต

[๔๗๔] ๑. อมฺพชาตกวณฺณนา

อหาสิ เม อมฺพผลานิ ปุพฺเพติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. เทวทตฺโต หิ ‘‘อหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามิ, มยฺหํ สมโณ โคตโม เนว อาจริโย น อุปชฺฌาโย’’ติ อาจริยํ ปจฺจกฺขาย ฌานปริหีโน สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อาคจฺฉนฺโต พหิเชตวเน ปถวิยา วิวเร ทินฺเน อวีจึ ปาวิสิ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโต, อวีจิมหานิรเย นิพฺพตฺโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตสฺส ปุโรหิตกุลํ อหิวาตโรเคน วินสฺสิ. เอโกว ปุตฺโต ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา ปลาโต. โส ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺสาจริยสฺส สนฺติเก ตโย เวเท จ อวเสสสิปฺปานิ จ อุคฺคเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโต ‘‘เทสจาริตฺตํ ชานิสฺสามี’’ติ จรนฺโต เอกํ ปจฺจนฺตนครํ ปาปุณิ. ตํ นิสฺสาย มหาจณฺฑาลคามโก อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺมึ คาเม ปฏิวสติ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต อกาเล ผลํ คณฺหาปนมนฺตํ ชานาติ. โส ปาโตว วุฏฺาย กาชํ อาทาย ตโต คามา นิกฺขิมิตฺวา อรฺเ เอกํ อมฺพรุกฺขํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต ตํ มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา อมฺพรุกฺขํ เอเกน อุทกปสเตน ปหรติ. รุกฺขโต ตงฺขณฺเว ปุราณปณฺณานิ ปตนฺติ, นวานิ อุฏฺหนฺติ, ปุปฺผานิ ปุปฺผิตฺวา ปตนฺติ, อมฺพผลานิ อุฏฺาย มุหุตฺเตเนว ปจฺจิตฺวา มธุรานิ โอชวนฺตานิ ทิพฺพรสสทิสานิ หุตฺวา รุกฺขโต ปตนฺติ. มหาสตฺโต ตานิ อุจฺจินิตฺวา ยาวทตฺถํ ขาทิตฺวา กาชํ ปูราเปตฺวา เคหํ คนฺตฺวา ตานิ วิกฺกิณิตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสสิ.

โส พฺราหฺมณกุมาโร มหาสตฺตํ อกาเล อมฺพปกฺกานิ อาหริตฺวา วิกฺกิณนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นิสฺสํสเยน เตหิ มนฺตพเลน อุปฺปนฺเนหิ ภวิตพฺพํ, อิมํ ปุริสํ นิสฺสาย อิทํ อนคฺฆมนฺตํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อมฺพานิ อาหรณนิยามํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตถโต ตฺวา ตสฺมึ อรฺโต อนาคเตเยว ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา อชานนฺโต วิย หุตฺวา ตสฺส ภริยํ ‘‘กุหึ อยฺโย, อาจริโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อรฺํ คโต’’ติ วุตฺเต ตํ อาคตํ อาคมยมาโนว ตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา หตฺถโต ปจฺฉึ คเหตฺวา อาหริตฺวา เคเห เปสิ. มหาสตฺโต ตํ โอโลเกตฺวา ภริยํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อยํ มาณโว มนฺตตฺถาย อาคโต, ตสฺส หตฺเถ มนฺโต นสฺสติ, อสปฺปุริโส เอโส’’ติ. มาณโวปิ ‘‘อหํ อิมํ มนฺตํ อาจริยสฺส อุปการโก หุตฺวา ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ตสฺส เคเห สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ทารูนิ อาหรติ, วีหึ โกฏฺเฏติ, ภตฺตํ ปจติ, ทนฺตกฏฺมุขโธวนาทีนิ เทติ, ปาทํ โธวติ.

เอกทิวสํ มหาสตฺเตน ‘‘ตาต มาณว, มฺจปาทานํ เม อุปธานํ เทหี’’ติ วุตฺเต อฺํ อปสฺสิตฺวา สพฺพรตฺตึ อูรุมฺหิ เปตฺวา นิสีทิ. อปรภาเค มหาสตฺตสฺส ภริยา ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺสา ปสูติกาเล ปริกมฺมํ สพฺพมกาสิ. สา เอกทิวสํ มหาสตฺตํ อาห ‘‘สามิ, อยํ มาณโว ชาติสมฺปนฺโน หุตฺวา มนฺตตฺถาย อมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กโรติ, เอตสฺส หตฺเถ มนฺโต ติฏฺตุ วา มา วา, เทถ ตสฺส มนฺต’’นฺติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส มนฺตํ ทตฺวา เอวมาห – ‘‘ตาต, อนคฺโฆยํ มนฺโต, ตว อิมํ นิสฺสาย มหาลาภสกฺกาโร ภวิสฺสติ, รฺา วา ราชมหามตฺเตน วา ‘โก เต อาจริโย’ติ ปุฏฺกาเล มา มํ นิคูหิตฺโถ, สเจ หิ ‘จณฺฑาลสฺส เม สนฺติกา มนฺโต คหิโต’ติ ลชฺชนฺโต ‘พฺราหฺมณมหาสาโล เม อาจริโย’ติ กเถสฺสสิ, อิมสฺส มนฺตสฺส ผลํ น ลภิสฺสสี’’ติ. โส ‘‘กึ การณา ตํ นิคูหิสฺสามิ, เกนจิ ปุฏฺกาเล ตุมฺเหเยว กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา จณฺฑาลคามโต นิกฺขมิตฺวา มนฺตํ วีมํสิตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา อมฺพานิ วิกฺกิณิตฺวา พหุํ ธนํ ลภิ.

อเถกทิวสํ อุยฺยานปาโล ตสฺส หตฺถโต อมฺพํ กิณิตฺวา รฺโ อทาสิ. ราชา ตํ ปริภุฺชิตฺวา ‘‘กุโต สมฺม, ตยา เอวรูปํ อมฺพํ ลทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิ. เทว, เอโก มาณโว อกาลอมฺพผลานิ อาเนตฺวา วิกฺกิณาติ, ตโต เม คหิตนฺติ. เตน หิ ‘‘อิโต ปฏฺาย อิเธว อมฺพานิ อาหรตู’’ติ นํ วเทหีติ. โส ตถา อกาสิ. มาณโวปิ ตโต ปฏฺาย อมฺพานิ ราชกุลํ หรติ. อถ รฺา ‘‘อุปฏฺห ม’’นฺติ วุตฺเต ราชานํ อุปฏฺหนฺโต พหุํ ธนํ ลภิตฺวา อนุกฺกเมน วิสฺสาสิโก ชาโต. อถ นํ เอกทิวสํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘มาณว, กุโต อกาเล เอวํ วณฺณคนฺธรสสมฺปนฺนานิ อมฺพานิ ลภสิ, กึ เต นาโค วา สุปณฺโณ วา เทโว วา โกจิ เทติ, อุทาหุ มนฺตพลํ เอต’’นฺติ? ‘‘น เม มหาราช, โกจิ เทติ, อนคฺโฆ ปน เม มนฺโต อตฺถิ, ตสฺเสว พล’’นฺติ. ‘‘เตน หิ มยมฺปิ เต เอกทิวสํ มนฺตพลํ ทฏฺุกามา’’ติ. ‘‘สาธุ, เทว, ทสฺเสสฺสามี’’ติ. ราชา ปุนทิวเส เตน สทฺธึ อุยฺยานํ คนฺตฺวา ‘‘ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ อมฺพรุกฺขํ อุปคนฺตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา รุกฺขํ อุทเกน ปหริ. ตงฺขณฺเว อมฺพรุกฺโข เหฏฺา วุตฺตนิยาเมเนว ผลํ คเหตฺวา มหาเมโฆ วิย อมฺพวสฺสํ วสฺสิ. มหาชโน สาธุการํ อทาสิ, เจลุกฺเขปา ปวตฺตึสุ.

ราชา อมฺพผลานิ ขาทิตฺวา ตสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘มาณวก, เอวรูโป เต อจฺฉริยมนฺโต กสฺส สนฺติเก คหิโต’’ติ ปุจฺฉิ. มาณโว ‘‘สจาหํ ‘จณฺฑาลสฺส สนฺติเก’ติ วกฺขามิ, ลชฺชิตพฺพกํ ภวิสฺสติ, มฺจ ครหิสฺสนฺติ, มนฺโต โข ปน เม ปคุโณ, อิทานิ น นสฺสิสฺสติ, ทิสาปาโมกฺขํ อาจริยํ อปทิสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มุสาวาทํ กตฺวา ‘‘ตกฺกสิลายํ ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก คหิโต เม’’ติ วทนฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาสิ. ตงฺขณฺเว มนฺโต อนฺตรธายิ. ราชา โสมนสฺสชาโต ตํ อาทาย นครํ ปวิสิตฺวา ปุนทิวเส ‘‘อมฺพานิ ขาทิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิตฺวา มาณว, อมฺพานิ อาหราติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ อมฺพํ อุปคนฺตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต ‘‘มนฺตํ ปริวตฺเตสฺสามี’’ติ มนฺเต อนุปฏฺหนฺเต อนฺตรหิตภาวํ ตฺวา ลชฺชิโต อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อยํ ปุพฺเพ ปริสมชฺเฌเยว อมฺพานิ อาหริตฺวา อมฺหากํ เทติ, ฆนเมฆวสฺสํ วิย อมฺพวสฺสํ วสฺสาเปติ, อิทานิ ถทฺโธ วิย ิโต, กึ นุ โข การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘อหาสิ เม อมฺพผลานิ ปุพฺเพ, อณูนิ ถูลานิ จ พฺรหฺมจาริ;

เตเหว มนฺเตหิ น ทานิ ตุยฺหํ, ทุมปฺผลา ปาตุภวนฺติ พฺรหฺเม’’ติ.

ตตฺถ อหาสีติ อาหริ. ทุมปฺผลาติ รุกฺขผลานิ.

ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘สเจ ‘อชฺช อมฺพผลํ น คณฺหามี’ติ วกฺขามิ, ราชา เม กุชฺฌิสฺสติ, มุสาวาเทน นํ วฺเจสฺสามี’’ติ ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘นกฺขตฺตโยคํ ปฏิมานยามิ, ขณํ มุหุตฺตฺจ มนฺเต น ปสฺสํ;

นกฺขตฺตโยคฺจ ขณฺจ ลทฺธา, อทฺธา หริสฺสมฺพผลํ ปหูต’’นฺติ.

ตตฺถ อทฺธาหริสฺสมฺพผลนฺติ อทฺธา อมฺพผลํ อาหริสฺสามิ.

ราชา ‘‘อยํ อฺทา นกฺขตฺตโยคํ น วทติ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘นกฺขตฺตโยคํ น ปุเร อภาณิ, ขณํ มุหุตฺตํ น ปุเร อสํสิ;

สยํ หรี อมฺพผลํ ปหูตํ, วณฺเณน คนฺเธน รเสนุเปตํ.

.

‘‘มนฺตาภิชปฺเปน ปุเร หิ ตุยฺหํ, ทุมปฺผลา ปาตุภวนฺติ พฺรหฺเม;

สฺวาชฺช น ปาเรสิ ชปฺปมฺปิ มนฺตํ, อยํ โส โก นาม ตวชฺช ธมฺโม’’ติ.

ตตฺถ น ปาเรสีติ น สกฺโกสิ. ชปฺปมฺปีติ ชปฺปนฺโตปิ ปริวตฺเตนฺโตปิ. อยํ โสติ อยเมว โส ตว สภาโว อชฺช โก นาม ชาโตติ.

ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘น สกฺกา ราชานํ มุสาวาเทน วฺเจตุํ, สเจปิ เม สภาเว กถิเต อาณํ กเรยฺย, กโรตุ, สภาวเมว กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘จณฺฑาลปุตฺโต มม สมฺปทาสิ, ธมฺเมน มนฺเต ปกติฺจ สํสิ;

มา จสฺสุ เม ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ, คุยฺหิตฺโถ อตฺถํ วิชเหยฺย มนฺโต.

.

‘‘โสหํ ชนินฺเทน ชนมฺหิ ปุฏฺโ, มกฺขาภิภูโต อลิกํ อภาณึ;

‘มนฺตา อิเม พฺราหฺมณสฺสา’ติ มิจฺฉา, ปหีนมนฺโต กปโณ รุทามี’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมนาติ สเมน การเณน อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวาว อทาสิ. ปกติฺจ สํสีติ ‘‘มา เม ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ คุยฺหิตฺโถ, สเจ คูหสิ, มนฺตา เต นสฺสิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ นสฺสนปกติฺจ มยฺหํ สํสิ. พฺราหฺมณสฺสาติ มิจฺฉาติ ‘‘พฺราหฺมณสฺส สนฺติเก มยา อิเม มนฺตา คหิตา’’ติ มิจฺฉาย อภณึ, เตน เม เต มนฺตา นฏฺา, สฺวาหํ ปหีนมนฺโต อิทานิ กปโณ รุทามีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ ปาปธมฺโม เอวรูปํ รตนมนฺตํ น โอโลเกสิ, เอวรูปสฺมิฺหิ อุตฺตมรตนมนฺเต ลทฺเธ ชาติ กึ กริสฺสตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ตสฺส ครหนฺโต –

.

‘‘เอรณฺฑา ปุจิมนฺทา วา, อถ วา ปาลิภทฺทกา;

มธุํ มธุตฺถิโก วินฺเท, โส หิ ตสฺส ทุมุตฺตโม.

.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

ยมฺหา ธมฺมํ วิชาเนยฺย, โส หิ ตสฺส นรุตฺตโม.

.

‘‘อิมสฺส ทณฺฑฺจ วธฺจ ทตฺวา, คเล คเหตฺวา ขลยาถ ชมฺมํ;

โย อุตฺตมตฺถํ กสิเรน ลทฺธํ, มานาติมาเนน วินาสยิตฺถา’’ติ. –

อิมา คาถา อาห.

ตตฺถ มธุตฺถิโกติ มธุอตฺถิโก ปุริโส อรฺเ มธุํ โอโลเกนฺโต เอเตสํ รุกฺขานํ ยโต มธุํ ลภติ, โสว ทุโม ตสฺส ทุมุตฺตโม นาม. ตเถว ขตฺติยาทีสุ ยมฺหา ปุริสา ธมฺมํ การณํ ยุตฺตํ อตฺถํ วิชาเนยฺย, โสว ตสฺส อุตฺตโม นโร นาม. อิมสฺส ทณฺฑฺจาติ อิมสฺส ปาปธมฺมสฺส สพฺพสฺสหรณทณฺฑฺจ เวฬุเปสิกาทีหิ ปิฏฺิจมฺมํ อุปฺปาเฏตฺวา วธฺจ ทตฺวา อิมํ ชมฺมํ คเล คเหตฺวา ขลยาถ, ขลิการตฺตํ ปาเปตฺวา นิทฺธมถ นิกฺกฑฺฒถ, กึ อิมินา อิธ วสนฺเตนาติ.

ราชปุริสา ตถา กตฺวา ‘‘ตวาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาราเธตฺวาว สเจ ปุน มนฺเต ลภิสฺสสิ, อิธ อาคจฺเฉยฺยาสิ, โน เจ, อิมํ ทิสํ มา โอโลเกยฺยาสี’’ติ ตํ นิพฺพิสยมกํสุ. โส อนาโถ หุตฺวา ‘‘เปตฺวา อาจริยํ น เม อฺํ ปฏิสรณํ อตฺถิ, ตสฺเสว สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาราเธตฺวา ปุน มนฺตํ ยาจิสฺสามี’’ติ โรทนฺโต ตํ คามํ อคมาสิ. อถ นํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต ภริยํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปสฺส ตํ ปาปธมฺมํ ปริหีนมนฺตํ ปุน อาคจฺฉนฺต’’นฺติ อาห. โส มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อาจริย, มุสาวาทํ กตฺวา อาจริยํ ปจฺจกฺขิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโตมฺหี’’ติ วตฺวา อจฺจยํ ทสฺเสตฺวา ปุน มนฺเต ยาจนฺโต –

๑๐.

‘‘ยถา สมํ มฺมาโน ปเตยฺย, โสพฺภํ คุหํ นรกํ ปูติปาทํ;

รชฺชูติ วา อกฺกเม กณฺหสปฺปํ, อนฺโธ ยถา โชติมธิฏฺเหยฺย;

เอวมฺปิ มํ ตํ ขลิตํ สปฺ, ปหีนมนฺตสฺส ปุนปฺปทาหี’’ติ. – คาถมาห;

ตตฺถ ยถา สมนฺติ ยถา ปุริโส อิทํ สมํ านนฺติ มฺมาโน โสพฺภํ วา คุหํ วา ภูมิยา ผลิตฏฺานสงฺขาตํ นรกํ วา ปูติปาทํ วา ปเตยฺย. ปูติปาโทติ หิมวนฺตปเทเส มหารุกฺเข สุสฺสิตฺวา มเต ตสฺส มูเลสุ ปูติเกสุ ชาเตสุ ตสฺมึ าเน มหาอาวาโฏ โหติ, ตสฺส นามํ. โชติมธิฏฺเหยฺยาติ อคฺคึ อกฺกเมยฺย. เอวมฺปีติ เอวํ อหมฺปิ ปฺาจกฺขุโน อภาวา อนฺโธ ตุมฺหากํ วิเสสํ อชานนฺโต ตุมฺเหสุ ขลิโต, ตํ มํ ขลิตํ วิทิตฺวา สปฺ าณสมฺปนฺน ปหีนมนฺตสฺส มม ปุนปิ เทถาติ.

อถ นํ อาจริโย ‘‘ตาต, กึ กเถสิ, อนฺโธ หิ สฺาย ทินฺนาย โสพฺภาทีนิ ปริหรติ, มยา ปมเมว ตว กถิตํ, อิทานิ กิมตฺถํ มม สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วตฺวา –

๑๑.

‘‘ธมฺเมน มนฺตํ ตว สมฺปทาสึ, ตุวมฺปิ ธมฺเมน ปฏิคฺคเหสิ;

ปกติมฺปิ เต อตฺตมโน อสํสึ, ธมฺเม ิตํ ตํ น ชเหยฺย มนฺโต.

๑๒.

‘‘โย พาล-มนฺตํ กสิเรน ลทฺธํ, ยํ ทุลฺลภํ อชฺช มนุสฺสโลเก;

กิฺจาปิ ลทฺธา ชีวิตุํ อปฺปปฺโ, วินาสยี อลิกํ ภาสมาโน.

๑๓.

‘‘พาลสฺส มูฬฺหสฺส อกตฺุโน จ, มุสา ภณนฺตสฺส อสฺตสฺส;

มนฺเต มยํ ตาทิสเก น เทม, กุโต มนฺตา คจฺฉ น มยฺหํ รุจฺจสี’’ติ. –

อิมา คาถา อาห.

ตตฺถ ธมฺเมนาติ อหมฺปิ ตว อาจริยภาคํ หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา อคฺคเหตฺวา ธมฺเมเนว มนฺตํ สมฺปทาสึ, ตฺวมฺปิ กิฺจิ อทตฺวา ธมฺเมน สเมเนว ปฏิคฺคเหสิ. ธมฺเม ิตนฺติ อาจริยปูชกธมฺเม ิตํ. ตาทิสเกติ ตถารูเป อกาลผลคณฺหาปเก มนฺเต น เทม, คจฺฉ น เม รุจฺจสีติ.

โส เอวํ อาจริเยน อุยฺโยชิโต ‘‘กึ มยฺหํ ชีวิเตนา’’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา อนาถมรณํ มริ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อกตฺู มาณโว เทวทตฺโต อโหสิ, ราชา อานนฺโท, จณฺฑาลปุตฺโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

อมฺพชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๗๕] ๒. ผนฺทนชาตกวณฺณนา

กุาริหตฺโถ ปุริโสติ อิทํ สตฺถา โรหิณีนทีตีเร วิหรนฺโต าตกานํ กลหํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน กุณาลชาตเก (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา าตเก อามนฺเตตฺวา – มหาราชา, อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พหินคเร วฑฺฒกิคาโม อโหสิ. ตตฺเรโก พฺราหฺมณวฑฺฒกี อรฺโต ทารูนิ อาหริตฺวา รถํ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสิ. ตทา หิมวนฺตปเทเส มหาผนฺทนรุกฺโข อโหสิ. เอโก กาฬสีโห โคจรํ ปริเยสิตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺส มูเล นิปชฺชิ. อถสฺส เอกทิวสํ วาเต ปหรนฺเต เอโก สุกฺขทณฺฑโก ปติตฺวา ขนฺเธ อวตฺถาสิ. โส โถกํ ขนฺเธน รุชนฺเตน ภีตตสิโต อุฏฺาย ปกฺขนฺทิตฺวา ปุน นิวตฺโต อาคตมคฺคํ โอโลเกนฺโต กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘อฺโ มํ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อนุพนฺธนฺโต นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา มํ เอตฺถ นิปชฺชนฺตํ น สหติ มฺเ, โหตุ ชานิสฺสามี’’ติ อฏฺาเน โกปํ พนฺธิตฺวา รุกฺขํ ปหริตฺวา ‘‘เนว ตว รุกฺขสฺส ปตฺตํ ขาทามิ, น สาขํ ภฺชามิ, อิธ อฺเ มิเค วสนฺเต สหสิ, มํ น สหสิ, โก มยฺหํ โทโส อตฺถิ, กติปาหํ อาคเมหิ, สมูลํ เต รุกฺขํ อุปฺปาเฏตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉทาเปสฺสามี’’ติ รุกฺขเทวตํ ตชฺเชตฺวา เอกํ ปุริสํ อุปธาเรนฺโต วิจริ. ตทา โส พฺราหฺมณวฑฺฒกี ทฺเว ตโย มนุสฺเส อาทาย รถทารูนํ อตฺถาย ยานเกน ตํ ปเทสํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน ยานกํ เปตฺวา วาสิผรสุหตฺโถ รุกฺเข อุปธาเรนฺโต ผนฺทนสมีปํ อคมาสิ. กาฬสีโห ตํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช, มยา ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ คนฺตฺวา รุกฺขมูเล อฏฺาสิ. วฑฺฒกี จ อิโต จิโต โอโลเกตฺวา ผนฺทนสมีเปน ปายาสิ. โส ‘‘ยาว เอโส นาติกฺกมติ, ตาวเทวสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปมํ คาถมาห –

๑๔.

‘‘กุาริหตฺโถ ปุริโส, วนโมคยฺห ติฏฺสิ;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ ทารุํ เฉตุมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ ปุริโสติ ตฺวํ กุาริหตฺโถ เอโก ปุริโส อิมํ วนํ โอคยฺห ติฏฺสีติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, น วต เม อิโต ปุพฺเพ มิโค มนุสฺสวาจํ ภาสนฺโต ทิฏฺปุพฺโพ, เอส รถานุจฺฉวิกํ ทารุํ ชานิสฺสติ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๑๕.

‘‘อิสฺโส วนานิ จรสิ, สมานิ วิสมานิ จ;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ ทารุํ เนมิยา ทฬฺห’’นฺติ.

ตตฺถ อิสฺโสติ ตฺวมฺปิ เอโก กาฬสีโห วนานิ จรสิ, ตฺวํ รถานุจฺฉวิกํ ทารุํ ชานิสฺสสีติ.

ตํ สุตฺวา กาฬสีโห ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตติยํ คาถมาห –

๑๖.

‘‘เนว สาโล น ขทิโร, นาสฺสกณฺโณ กุโต ธโว;

รุกฺโข จ ผนฺทโน นาม, ตํ ทารุํ เนมิยา ทฬฺห’’นฺติ.

โส ตํ สุตฺวา โสมนสฺสชาโต ‘‘สุทิวเสน วตมฺหิ อชฺช อรฺํ ปวิฏฺโ, ติรจฺฉานคโต เม รถานุจฺฉวิกํ ทารุํ อาจิกฺขติ, อโห สาธู’’ติ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๑๗.

‘‘กีทิสานิสฺส ปตฺตานิ, ขนฺโธ วา ปน กีทิโส;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, ยถา ชาเนมุ ผนฺทน’’นฺติ.

อถสฺส โส อาจิกฺขนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๘.

‘‘ยสฺส สาขา ปลมฺพนฺติ, นมนฺติ น จ ภฺชเร;

โส รุกฺโข ผนฺทโน นาม, ยสฺส มูเล อหํ ิโต.

๑๙.

‘‘อรานํ จกฺกนาภีนํ, อีสาเนมิรถสฺส จ;

สพฺพสฺส เต กมฺมนิโย, อยํ เหสฺสติ ผนฺทโน’’ติ.

ตตฺถ ‘‘อราน’’นฺติ อิทํ โส ‘‘กทาเจส อิมํ รุกฺขํ น คณฺเหยฺย, คุณมฺปิสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. ตตฺถ อีสาเนมิรถสฺส จาติ อีสาย จ เนมิยา จ เสสสฺส จ รถสฺส สพฺพสฺส เต เอส กมฺมนิโย กมฺมกฺขโม ภวิสฺสตีติ.

โส เอวํ อาจิกฺขิตฺวา ตุฏฺมานโส เอกมนฺเต วิจริ, วฑฺฒกีปิ รุกฺขํ ฉินฺทิตุํ อารภิ. รุกฺขเทวตา จินฺเตสิ ‘‘มยา เอตสฺส อุปริ น กิฺจิ ปาติตํ, อยํ อฏฺาเน อาฆาตํ พนฺธิตฺวา มม วิมานํ นาเสติ, อหฺจ วินสฺสิสฺสามิ, เอเกนุปาเยน อิมฺจ อิสฺสํ วินาเสสฺสามี’’ติ. สา วนกมฺมิกปุริโส วิย หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘โภ ปุริส มนาโป เต รุกฺโข ลทฺโธ, อิมํ ฉินฺทิตฺวา กึ กริสฺสสี’’ติ? ‘‘รถเนมึ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘อิมินา รุกฺเขน รโถ ภวิสฺสตี’’ติ เกน เต อกฺขาตนฺติ. ‘‘เอเกน กาฬสีเหนา’’ติ. ‘‘สาธุ สุฏฺุ เตน อกฺขาตํ, อิมินา รุกฺเขน รโถ สุนฺทโร ภวิสฺสติ, กาฬสีหสฺส คลจมฺมํ อุปฺปาเฏตฺวา จตุรงฺคุลมตฺเต าเน อยปฏฺเฏน วิย เนมิมณฺฑเล ปริกฺขิตฺเต เนมิ จ ถิรา ภวิสฺสติ, พหุฺจ ธนํ ลภิสฺสสี’’ติ. ‘‘กาฬสีหจมฺมํ กุโต ลจฺฉามี’’ติ? ‘‘ตฺวํ พาลโกสิ, อยํ ตว รุกฺโข วเน ิโต น ปลายติ, ตฺวํ เยน เต รุกฺโข อกฺขาโต, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘สามิ ตยา ทสฺสิตรุกฺขํ กตรฏฺาเน ฉินฺทามี’ติ วฺเจตฺวา อาเนหิ, อถ นํ นิราสงฺกํ ‘อิธ จ เอตฺถ จ ฉินฺทา’ติ มุขตุณฺฑํ ปสาเรตฺวา อาจิกฺขนฺตํ ติขิเณน มหาผรสุนา โกฏฺเฏตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา จมฺมํ อาทาย วรมํสํ ขาทิตฺวา รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติ เวรํ อปฺเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อาห –

๒๐.

‘‘อิติ ผนฺทนรุกฺโขปิ, ตาวเท อชฺฌภาสถ;

มยฺหมฺปิ วจนํ อตฺถิ, ภารทฺวาช สุโณหิ เม.

๒๑.

‘‘อิสฺสสฺส อุปกฺขนฺธมฺหา, อุกฺกจฺจ จตุรงฺคุลํ;

เตน เนมึ ปสาเรสิ, เอวํ ทฬฺหตรํ สิยา.

๒๒.

‘‘อิติ ผนฺทนรุกฺโขปิ, เวรํ อปฺเปสิ ตาวเท;

ชาตานฺจ อชาตานํ, อิสฺสานํ ทุกฺขมาวหี’’ติ.

ตตฺถ ภารทฺวาชาติ ตํ โคตฺเตน อาลปติ. อุปกฺขนฺธมฺหาติ ขนฺธโต. อุกฺกจฺจาติ อุกฺกนฺติตฺวา.

วฑฺฒกี รุกฺขเทวตาย วจนํ สุตฺวา ‘‘อโห อชฺช มยฺหํ มงฺคลทิวโส’’ติ กาฬสีหํ ฆาเตตฺวา รุกฺขํ เฉตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๓.

‘‘อิจฺเจวํ ผนฺทโน อิสฺสํ, อิสฺโส จ ปน ผนฺทนํ;

อฺมฺํ วิวาเทน, อฺมฺมฆาตยุํ.

๒๔.

‘‘เอวเมว มนุสฺสานํ, วิวาโท ยตฺถ ชายติ;

มยูรนจฺจํ นจฺจนฺติ, ยถา เต อิสฺสผนฺทนา.

๒๕.

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

สมฺโมทถ มา วิวทถ, มา โหถ อิสฺสผนฺทนา.

๒๖.

‘‘สามคฺคิเมว สิกฺเขถ, พุทฺเธเหตํ ปสํสิตํ;

สามคฺคิรโต ธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา น ธํสตี’’ติ.

ตตฺถ อฆาตยุนฺติ ฆาตาเปสุํ. มยูรนจฺจํ นจฺจนฺตีติ มหาราชา ยตฺถ หิ มนุสฺสานํ วิวาโท โหติ, ตตฺถ ยถา นาม มยูรา นจฺจนฺตา ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ รหสฺสงฺคํ ปากฏํ กโรนฺติ, เอวํ มนุสฺสา อฺมฺสฺส รนฺธํ ปกาเสนฺตา มยูรนจฺจํ นจฺจนฺติ นาม. ยถา เต อิสฺสผนฺทนา อฺมฺสฺส รนฺธํ ปกาเสนฺตา นจฺจึสุ นาม. ตํ โวติ เตน การเณน ตุมฺเห วทามิ. ภทฺทํ โวติ ภทฺทํ ตุมฺหากํ โหตุ. ยาวนฺเตตฺถาติ ยาวนฺโต เอตฺถ อิสฺสผนฺทนสทิสา มา อหุวตฺถ. สามคฺคิเมว สิกฺเขถาติ สมคฺคภาวเมว ตุมฺเห สิกฺขถ, อิทํ ปฺาวุทฺเธหิ ปณฺฑิเตหิ ปสํสิตํ. ธมฺมฏฺโติ สุจริตธมฺเม ิโต. โยคกฺเขมา น ธํสตีติ โยเคหิ เขมา นิพฺพานา น ปริหายตีติ นิพฺพาเนน เทสนากูฏํ คณฺหิ. สกฺยราชาโน ธมฺมกถํ สุตฺวา สมคฺคา ชาตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ตํ การณํ วิทิตฺวา ตสฺมึ วนสณฺเฑ นิวุตฺถเทวตา อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ผนฺทนชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๔๗๖] ๓. ชวนหํสชาตกวณฺณนา

อิเธว หํส นิปตาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทฬฺหธมฺมธนุคฺคหสุตฺตนฺตเทสนํ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) อารพฺภ กเถสิ. ภควตา หิ –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคหา สุสิกฺขิตา กตหตฺถา กตูปาสนา จตุทฺทิสา ิตา อสฺสุ, อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ‘อหํ อิเมสํ จตุนฺนํ ทฬฺหธมฺมานํ ธนุคฺคหานํ สุสิกฺขิตานํ กตหตฺถานํ กตูปาสนานํ จตุทฺทิสา กณฺเฑ ขิตฺเต อปติฏฺิเต ปถวิยํ คเหตฺวา อาหริสฺสามี’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ‘ชวโน ปุริโส ปรเมน ชเวน สมนฺนาคโต’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ. ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ตโต สีฆตโร. ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ยถา จ ยา เทวตา จนฺทิมสูริยานํ ปุรโต ธาวนฺติ, ตาสํ เทวตานํ ชโว, ตโต สีฆตรํ อายุสงฺขารา ขียนฺติ, ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘อปฺปมตฺตา วิหริสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ –

อิมสฺส สุตฺตสฺส กถิตทิวสโต ทุติยทิวเส ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถา อตฺตโน พุทฺธวิสเย ตฺวา อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขาเร อิตฺตเร ทุพฺพเล กตฺวา ปริทีเปนฺโต ปุถุชฺชนภิกฺขู อติวิย สนฺตาสํ ปาเปสิ, อโห พุทฺธพลํ นามา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, สฺวาหํ อิทานิ สพฺพฺุตํ ปตฺโต อายุสงฺขารานํ อิตฺตรภาวํ ทสฺเสตฺวา ภิกฺขู สํเวเชตฺวา ธมฺมํ เทเสมิ, มยา หิ ปุพฺเพ อเหตุกหํสโยนิยํ นิพฺพตฺเตนปิ อายุสงฺขารานํ อิตฺตรภาวํ ทสฺเสตฺวา พาราณสิราชานํ อาทึ กตฺวา สกลราชปริสํ สํเวเชตฺวา ธมฺโม เทสิโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ชวนหํสโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา นวุติหํสสหสฺสปริวุโต จิตฺตกูเฏ ปฏิวสติ. โส เอกทิวสํ ชมฺพุทีปตเล เอกสฺมึ สเร สปริวาโร สยํชาตสาลึ ขาทิตฺวา อากาเส สุวณฺณกิลฺชํ ปตฺถรนฺโต วิย มหนฺเตน ปริวาเรน พาราณสินครสฺส มตฺถเกน มนฺทมนฺทาย วิลาสคติยา จิตฺตกูฏํ คจฺฉติ. อถ นํ พาราณสิราชา ทิสฺวา ‘‘อิมินาปิ มาทิเสน รฺา ภวิตพฺพ’’นฺติ อมจฺจานํ วตฺวา ตสฺมึ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา มาลาคนฺธวิเลปนํ คเหตฺวา มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา สพฺพตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ. มหาสตฺโต อตฺตโน สกฺการํ กโรนฺตํ ทิสฺวา หํเส ปุจฺฉิ ‘‘ราชา, มม เอวรูปํ สกฺการํ กโรนฺโต กึ ปจฺจาสีสตี’’ติ? ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ รฺโ อมฺเหหิ สทฺธึ มิตฺตภาโว โหตู’’ติ รฺา สทฺธึ มิตฺตภาวํ กตฺวา ปกฺกามิ. อเถกทิวสํ รฺโ อุยฺยานํ คตกาเล อโนตตฺตทหํ คนฺตฺวา เอเกน ปกฺเขน อุทกํ, เอเกน จนฺทนจุณฺณํ อาทาย อาคนฺตฺวา ราชานํ เตน อุทเกน นฺหาเปตฺวา จนฺทนจุณฺเณน โอกิริตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว สปริวาโร จิตฺตกูฏํ อคมาสิ. ตโต ปฏฺาย ราชา มหาสตฺตํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา ‘‘สหาโย เม อชฺช อาคมิสฺสติ, สหาโย เม อชฺช อาคมิสฺสตี’’ติ อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต อจฺฉติ.

ตทา มหาสตฺตสฺส กนิฏฺา ทฺเว หํสโปตกา ‘‘สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อาโรเจสุํ ‘‘มยํ สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ. ‘‘ตาตา, สูริยชโว นาม สีโฆ, สูริเยน สทฺธึ ชวิตุํ น สกฺขิสฺสถ, อนฺตราว วินสฺสิสฺสถ, มา คมิตฺถา’’ติ. เต ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ยาจึสุ, โพธิสตฺโตปิ เต ยาวตติยํ วาเรสิเยว. เต มานถทฺธา อตฺตโน พลํ อชานนฺตา มหาสตฺตสฺส อนาจิกฺขิตฺวาว ‘‘สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ สูริเย อนุคฺคเตเยว คนฺตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเก นิสีทึสุ. มหาสตฺโต เต อทิสฺวา ‘‘กหํ นุ โข คตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘เต สูริเยน สทฺธึ ชวิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, อนฺตราว วินสฺสิสฺสนฺติ, ชีวิตํ เตสํ ทสฺสามี’’ติ. โสปิ คนฺตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเกเยว นิสีทิ. อถ อุคฺคเต สูริยมณฺฑเล หํสโปตกา อุปฺปติตฺวา สูริเยน สทฺธึ ปกฺขนฺทึสุ, มหาสตฺโตปิ เตหิ สทฺธึ ปกฺขนฺทิ. กนิฏฺภาติโก ยาว ปุพฺพณฺหสมยา ชวิตฺวา กิลมิ, ปกฺขสนฺธีสุ อคฺคิอุฏฺานกาโล วิย อโหสิ. โส โพธิสตฺตสฺส สฺํ อทาสิ ‘‘ภาติก, น สกฺโกมี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มา ภายิ, ชีวิตํ เต ทสฺสามี’’ติ ปกฺขปฺชเรน ปริกฺขิปิตฺวา อสฺสาเสตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพตํ เนตฺวา หํสานํ มชฺเฌ เปตฺวา ปุน ปกฺขนฺทิตฺวา สูริยํ ปตฺวา อิตเรน สทฺธึ ปายาสิ. โสปิ ยาว อุปกฏฺมชฺฌนฺหิกา สูริเยน สทฺธึ ชวิตฺวา กิลมิ, ปกฺขสนฺธีสุ อคฺคิอุฏฺานกาโล วิย อโหสิ. ตทา โพธิสตฺตสฺส สฺํ อทาสิ ‘‘ภาติก, น สกฺโกมี’’ติ. ตมฺปิ มหาสตฺโต ตเถว สมสฺสาเสตฺวา ปกฺขปฺชเรนาทาย จิตฺตกูฏเมว อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ สูริโย นภมชฺฌํ ปาปุณิ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘มม อชฺช สรีรพลํ วีมํสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกเวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเก นิสีทิตฺวา ตโต อุปฺปติตฺวา เอกเวเคน สูริยํ ปาปุณิตฺวา กาเลน ปุรโต, กาเลน ปจฺฉโต ชวิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ สูริเยน สทฺธึ ชวนํ นาม นิรตฺถกํ อโยนิโสมนสิการสมฺภูตํ, กึ เม อิมินา, พาราณสึ คนฺตฺวา มม สหายกสฺส รฺโ อตฺถยุตฺตํ ธมฺมยุตฺตํ กถํ กเถสฺสามี’’ติ. โส นิวตฺติตฺวา สูริเย นภมชฺฌํ อนติกฺกนฺเตเยว สกลจกฺกวาฬคพฺภํ อนฺตนฺเตน อนุสํยายิตฺวา เวคํ ปริหาเปนฺโต สกลชมฺพุทีปํ อนฺตนฺเตน อนุสํยายิตฺวา พาราณสึ ปาปุณิ. ทฺวาทสโยชนิกํ สกลนครํ หํสจฺฉนฺนํ วิย อโหสิ, ฉิทฺทํ นาม น ปฺายิ, อนุกฺกเมน เวเค ปริหายนฺเต อากาเส ฉิทฺทานิ ปฺายึสุ. มหาสตฺโต เวคํ ปริหาเปตฺวา อากาสโต โอตริตฺวา สีหปฺชรสฺส อภิมุขฏฺาเน อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อาคโต เม สหาโย’’ติ โสมนสฺสปฺปตฺโต ตสฺส นิสีทนตฺถาย กฺจนปีํ ปฺเปตฺวา ‘‘สมฺม, ปวิส, อิธ นิสีทา’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๒๗.

‘‘อิเธว หํส นิปต, ปิยํ เม ตว ทสฺสนํ;

อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยมิธตฺถิ ปเวทยา’’ติ.

ตตฺถ ‘‘อิธา’’ติ กฺจนปีํ สนฺธายาห. นิปตาติ นิสีท. อิสฺสโรสีติ ตฺวํ อิมสฺส านสฺส อิสฺสโร สามิ หุตฺวา อาคโตสีติ วทติ. ยมิธตฺถิ ปเวทยาติ ยํ อิมสฺมึ นิเวสเน อตฺถิ, ตํ อปริสงฺกนฺโต อมฺหากํ กเถหีติ.

มหาสตฺโต กฺจนปีเ นิสีทิ. ราชา สตปากสหสฺสปาเกหิ เตเลหิ ตสฺส ปกฺขนฺตรานิ มกฺเขตฺวา กฺจนตฏฺฏเก มธุลาเช จ มธุโรทกฺจ สกฺขโรทกฺจ ทาเปตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ เอกโกว อาคโตสิ, กุหึ อคมิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตํ ปวตฺตึ วิตฺถาเรน กเถสิ. อถ นํ ราชา อาห ‘‘สมฺม, มมปิ สูริเยน สทฺธึ ชวิตเวคํ ทสฺเสหี’’ติ. มหาราช, น สกฺกา โส เวโค ทสฺเสตุนฺติ. เตน หิ เม สริกฺขกมตฺตํ ทสฺเสหีติ. สาธุ, มหาราช, สริกฺขกมตฺตํ ทสฺเสสฺสามิ, อกฺขณเวธี ธนุคฺคเห สนฺนิปาเตหีติ. ราชา สนฺนิปาเตสิ. มหาสตฺโต จตฺตาโร ธนุคฺคเห คเหตฺวา นิเวสนา โอรุยฺห ราชงฺคเณ สิลาถมฺภํ นิขณาเปตฺวา อตฺตโน คีวายํ ฆณฺฏํ พนฺธาเปตฺวา สิลาถมฺภมตฺถเก นิสีทิตฺวา จตฺตาโร ธนุคฺคเห ถมฺภํ นิสฺสาย จตุทฺทิสาภิมุเข เปตฺวา ‘‘มหาราช, อิเม จตฺตาโร ชนา เอกปฺปหาเรเนว จตุทฺทิสาภิมุขา จตฺตาริ กณฺฑานิ ขิปนฺตุ, ตานิ อหํ ปถวึ อปฺปตฺตาเนว อาหริตฺวา เอเตสํ ปาทมูเล ปาเตสฺสามิ. มม กณฺฑคหณตฺถาย คตภาวํ ฆณฺฏสทฺทสฺาย ชาเนยฺยาสิ, มํ ปน น ปสฺสิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตหิ เอกปฺปหาเรเนว ขิตฺตกณฺฑานิ อาหริตฺวา เตสํ ปาทมูเล ปาเตตฺวา สิลาถมฺภมตฺถเก นิสินฺนเมว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ทิฏฺโ เต, มหาราช, มยฺหํ เวโค’’ติ วตฺวา ‘‘มหาราช, อยํ เวโค มยฺหํ เนว อุตฺตโม, มชฺฌิโม, ปริตฺโต ลามกเวโค เอส, เอวํ สีโฆ, มหาราช, อมฺหากํ เวโค’’ติ อาห.

อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘สมฺม, อตฺถิ ปน ตุมฺหากํ เวคโต อฺโ สีฆตโร เวโค’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อมฺหากํ อุตฺตมเวคโตปิ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขารา สีฆตรํ ขียนฺติ ภิชฺชนฺติ, ขยํ คจฺฉนฺตี’’ติ ขณิกนิโรธวเสน รูปธมฺมานํ นิโรธํ ทสฺเสติ, ตโต นามธมฺมานํ. ราชา มหาสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา มรณภยภีโต สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ภูมิยํ ปติ, มหาชโน อุตฺราสํ ปตฺโต อโหสิ. รฺโ มุขํ อุทเกน สิฺจิตฺวา สตึ ลภาเปสิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, มา ภายิ, มรณสฺสตึ ภาเวหิ, ธมฺมํ จราหิ, ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรหิ, อปฺปมตฺโต โหหิ, เทวา’’ติ โอวทิ. อถ ราชา ‘‘สามิ, มยํ ตุมฺหาทิเสน าณพลสมฺปนฺเนน อาจริเยน วินา วสิตุํ น สกฺขิสฺสาม, จิตฺตกูฏํ อคนฺตฺวา มยฺหํ ธมฺมํ เทเสนฺโต มยฺหํ โอวาทาจริโย หุตฺวา อิเธว วสาหี’’ติ ยาจนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๘.

‘‘สวเนน เอกสฺส ปิยา ภวนฺติ, ทิสฺวา ปเนกสฺส วิเยติ ฉนฺโท;

ทิสฺวา จ สุตฺวา จ ปิยา ภวนฺติ, กจฺจินฺนุ เม ปียสิ ทสฺสเนน.

๒๙.

‘‘สวเนน ปิโย เมสิ, ภิยฺโย จาคมฺม ทสฺสนํ;

เอวํ ปิยทสฺสโน เม, วส หํส มมนฺติเก’’ติ.

ตาสํ อตฺโถ – สมฺม หํสราช สวเนน เอกสฺส เอกจฺเจ ปิยา โหนฺติ, ‘‘เอวํ คุโณ นามา’’ติ สุตฺวา สวเนน ปิยายติ, เอกสฺส ปน เอกจฺเจ ทิสฺวาว ฉนฺโท วิคจฺฉติ, เปมํ อนฺตรธายติ, ขาทิตุํ อาคตา ยกฺขา วิย อุปฏฺหนฺติ, เอกสฺส เอกจฺเจ ทิสฺวา จ สุตฺวา จาติ อุภยถาปิ ปิยา โหนฺติ, เตน ตํ ปุจฺฉามิ. กจฺจินฺนุ เม ปียสิ ทสฺสเนนาติ กจฺจิ นุ ตฺวํ มํ ปิยายสิ, มยฺหํ ปน ตฺวํ สวเนน ปิโยว, ทสฺสนํ ปนาคมฺม อติปิโยว. เอวํ มม ปิยทสฺสโน สมาโน จิตฺตกูฏํ อคนฺตฺวา อิธ มม สนฺติเก วสาติ.

โพธิสตฺโต อาห –

๓๐.

‘‘วเสยฺยาม ตวาคาเร, นิจฺจํ สกฺกตปูชิตา;

มตฺโต จ เอกทา วชฺเช, หํสราชํ ปจนฺตุ เม’’ติ.

ตตฺถ มตฺโต จ เอกทาติ มหาราช, มยํ ตว ฆเร นิจฺจํ ปูชิตา วเสยฺยาม, ตฺวํ ปน กทาจิ สุรามทมตฺโต มํสขาทนตฺถํ ‘‘หํสราชํ ปจนฺตุ เม’’ติ วเทยฺยาสิ, อถ เอวํ ตว อนุชีวิโน มํ มาเรตฺวา ปเจยฺยุํ, ตทาหํ กึ กริสฺสามีติ.

อถสฺส ราชา ‘‘เตน หิ มชฺชเมว น ปิวิสฺสามี’’ติ ปฏิฺํ ทาตุํ อิมํ คาถมาห –

๓๑.

‘‘ธิรตฺถุ ตํ มชฺชปานํ, ยํ เม ปิยตรํ ตยา;

น จาปิ มชฺชํ ปิสฺสามิ, ยาว เม วจฺฉสี ฆเร’’ติ.

ตโต ปรํ โพธิสตฺโต ฉ คาถา อาห –

๓๒.

‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;

มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.

๓๓.

‘‘อปิ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;

โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส.

๓๔.

‘‘ยสฺมึ มโน นิวิสติ, อวิทูเร สหาปิ โส;

สนฺติเกปิ หิ โส ทูเร, ยสฺมึ นาวิสเต มโน.

๓๕.

‘‘อนฺโตปิ โส โหติ ปสนฺนจิตฺโต, ปารํ สมุทฺทสฺส ปสนฺนจิตฺโต;

อนฺโตปิ โส โหติ ปทุฏฺจิตฺโต, ปารํ สมุทฺทสฺส ปทุฏฺจิตฺโต.

๓๖.

‘‘สํวสนฺตา วิวสนฺติ, เย ทิสา เต รเถสภ;

อารา สนฺโต สํวสนฺติ, มนสา รฏฺวฑฺฒน.

๓๗.

‘‘อติจิรํ นิวาเสน, ปิโย ภวติ อปฺปิโย;

อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, ปุรา เต โหม อปฺปิยา’’ติ.

ตตฺถ วสฺสิตนฺติ มหาราช, ติรจฺฉานคตา อุชุหทยา, เตน เตสํ วสฺสิตํ สุวิชานํ, มนุสฺสา ปน กกฺขฬา, ตสฺมา เตสํ วจนํ ทุพฺพิชานตรนฺติ อตฺโถ. โย ปุพฺเพติ โย ปุคฺคโล ปมเมว อตฺตมโน หุตฺวา ‘‘ตฺวํ มยฺหํ าตโก มิตฺโต ปาณสโม สขา’’ติ อปิ เอวํ มฺติ, สฺเวว ปจฺฉา ทิโส เวรี สมฺปชฺชติ, เอวํ ทุพฺพิชานํ นาม มนุสฺสหทยนฺติ. นิวิสตีติ มหาราช, ยสฺมึ ปุคฺคเล เปมวเสน มโน นิวิสติ, โส ทูเร วสนฺโตปิ อวิทูเร สหาปิ วสติเยว นาม. ยสฺมึ ปน ปุคฺคเล มโน น นิวิสติ อเปติ, โส สนฺติเก วสนฺโตปิ ทูเรเยว.

อนฺโตปิ โส โหตีติ มหาราช, โย สหาโย ปสนฺนจิตฺโต, โส จิตฺเตน อลฺลีนตฺตา ปารํ สมุทฺทสฺส วสนฺโตปิ อนฺโตเยว โหติ. โย ปน ปทุฏฺจิตฺโต, โส จิตฺเตน อนลฺลีนตฺตา อนฺโต วสนฺโตปิ ปารํ สมุทฺทสฺส นาม. เย ทิสา เตติ เย เวริโน ปจฺจตฺถิกา, เต เอกโต วสนฺตาปิ ทูเร วสนฺติเยว นาม. สนฺโต ปน ปณฺฑิตา อารา ิตาปิ เมตฺตาภาวิเตน มนสา อาวชฺเชนฺตา สํวสนฺติเยว. ปุรา เต โหมาติ ยาว ตว อปฺปิยา น โหม, ตาวเทว ตํ อามนฺเตตฺวา คจฺฉามาติ วทติ.

อถ นํ ราชา อาห –

๓๘.

‘‘เอวํ เจ ยาจมานานํ, อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ;

ปริจารกานํ สตํ, วจนํ น กโรสิ โน;

เอวํ ตํ อภิยาจาม, ปุน กยิราสิ ปริยาย’’นฺติ.

ตตฺถ เอวํ เจติ สเจ หํสราช, เอวํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจมานานํ อมฺหากํ อิมํ อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ, ตว ปริจารกานํ สมานานํ วจนํ น กโรสิ, อถ นํ เอวํ ยาจาม. ปุน กยิราสิ ปริยายนฺติ กาเลน กาลํ อิธ อาคมนาย วารํ กเรยฺยาสีติ อตฺโถ.

ตโต โพธิสตฺโต อาห –

๓๙.

‘‘เอวํ เจ โน วิหรตํ, อนฺตราโย น เหสฺสติ;

ตุยฺหํ จาปิ มหาราช, มยฺหฺจ รฏฺวฑฺฒน;

อปฺเปว นาม ปสฺเสมุ, อโหรตฺตานมจฺจเย’’ติ.

ตตฺถ เอวํ เจ โนติ มหาราช, มา จินฺตยิตฺถ, สเจ อมฺหากมฺปิ เอวํ วิหรนฺตานํ ชีวิตนฺตราโย น ภวิสฺสติ, อปฺเปว นาม อุโภ อฺมฺํ ปสฺสิสฺสาม, อปิจ ตฺวํ มยา ทินฺนํ โอวาทเมว มม าเน เปตฺวา เอวํ อิตฺตรชีวิเต โลกสนฺนิวาเส อปฺปมตฺโต หุตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรนฺโต ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอวฺหิ เม โอวาทํ กโรนฺโต มํ ปสฺสิสฺสติเยวาติ. เอวํ มหาสตฺโต ราชานํ โอวทิตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพตเมว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺเตนปิ มยา อายุสงฺขารานํ ทุพฺพลภาวํ ทสฺเสตฺวา ธมฺโม เทสิโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, กนิฏฺโ โมคฺคลฺลาโน, มชฺฌิโม สาริปุตฺโต, เสสหํสคณา พุทฺธปริสา, ชวนหํโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ชวนหํสชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๔๗๗] ๔. จูฬนารทชาตกวณฺณนา

เต กฏฺานิ ภินฺนานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ถุลฺลกุมาริกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิวาสิโน กิเรกสฺส กุลสฺส ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกา ธีตา อโหสิ โสภคฺคปฺปตฺตา, น จ นํ โกจิ วาเรสิ. อถสฺสา มาตา จินฺเตสิ ‘‘มม ธีตา วยปฺปตฺตา, น จ นํ โกจิ วาเรติ, อามิเสน มจฺฉํ วิย เอตาย เอกํ สากิยภิกฺขุํ ปโลเภตฺวา อุปฺปพฺพาเชตฺวา ตํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามี’’ติ. ตทา จ สาวตฺถิวาสี เอโก กุลปุตฺโต สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย สิกฺขากามตํ ปหาย อาลสิโย สรีรมณฺฑนมนุยุตฺโต วิหาสิ. มหาอุปาสิกา เคเห ยาคุขาทนียโภชนียานิ สมฺปาเทตฺวา ทฺวาเร ตฺวา อนฺตรวีถิยา คจฺฉนฺเตสุ ภิกฺขูสุ เอกํ ภิกฺขุํ รสตณฺหาย พนฺธิตฺวา คเหตุํ สกฺกุเณยฺยรูปํ อุปธาเรนฺตี เตปิฏกอาภิธมฺมิกวินยธรานํ มหนฺเตน ปริวาเรน คจฺฉนฺตานํ อนฺตเร กฺจิ คยฺหุปคํ อทิสฺวา เตสํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตานํ มธุรธมฺมกถิกานํ อจฺฉินฺนวลาหกสทิสานํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ อนฺตเร กฺจิ อทิสฺวาว เอกํ ยาว พหิ อปงฺคา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา เกเส โอสณฺเหตฺวา ทุกูลนฺตรวาสกํ นิวาเสตฺวา ฆฏิตมฏฺํ จีวรํ ปารุปิตฺวา มณิวณฺณปตฺตํ อาทาย มโนรมํ ฉตฺตํ ธารยมานํ วิสฺสฏฺินฺทฺริยํ กายทฬฺหิพหุลํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ สกฺกา คณฺหิตุ’’นฺติ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา ‘‘เอถ, ภนฺเต’’ติ ฆรํ อาเนตฺวา นิสีทาเปตฺวา ยาคุอาทีหิ ปริวิสิตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ตํ ภิกฺขุํ ‘‘ภนฺเต, อิโต ปฏฺาย อิเธวาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ อาห. โสปิ ตโต ปฏฺาย ตตฺเถว คนฺตฺวา อปรภาเค วิสฺสาสิโก อโหสิ.

อเถกทิวสํ มหาอุปาสิกา ตสฺส สวนปเถ ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ เคเห อุปโภคปริโภคมตฺตา อตฺถิ, ตถารูโป ปน เม ปุตฺโต วา ชามาตา วา เคหํ วิจาริตุํ สมตฺโถ นตฺถี’’ติ อาห. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘กิมตฺถํ นุ โข กเถตี’’ติ โถกํ หทเย วิทฺโธ วิย อโหสิ. สา ธีตรํ อาห ‘‘อิมํ ปโลเภตฺวา ตว วเส วตฺตาเปหี’’ติ. สา ตโต ปฏฺาย มณฺฑิตปสาธิตา อิตฺถิกุตฺตวิลาเสหิ ตํ ปโลเภสิ. ถุลฺลกุมาริกาติ น จ ถูลสรีรา ทฏฺพฺพา, ถูลา วา โหตุ กิสา วา, ปฺจกามคุณิกราเคน ปน ถูลตาย ‘‘ถุลฺลกุมาริกา’’ติ วุจฺจติ. โส ทหโร กิเลสวสิโก หุตฺวา ‘‘น ทานาหํ พุทฺธสาสเน ปติฏฺาตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ นิยฺยาเทตฺวา อสุกฏฺานํ นาม คมิสฺสามิ, ตตฺร เม วตฺถานิ เปเสถา’’ติ วตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ นิยฺยาเทตฺวา ‘‘อุกฺกณฺิโตสฺมี’’ติ อาจริยุปชฺฌาเย อาห. เต ตํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโต’’ติ อาโรเจสุํ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ถุลฺลกุมาริกาย, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ ปุพฺเพเปสา ตว อรฺเ วสนฺตสฺส พฺรหฺมจริยนฺตรายํ กตฺวา มหนฺตํ อนตฺถมกาสิ, ปุน ตฺวํ เอตเมว นิสฺสาย กสฺมา อุกฺกณฺิโตสี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ มหาโภเค พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุคฺคหิตสิปฺโป กุฏุมฺพํ สณฺเปสิ, อถสฺส ภริยา เอกํ ปุตฺตํ วิชายิตฺวา กาลมกาสิ. โส ‘‘ยเถว เม ปิยภริยาย, เอวํ มยิปิ มรณํ อาคมิสฺสติ, กึ เม ฆราวาเสน, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา กาเม ปหาย ปุตฺตํ อาทาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา เตน สทฺธึ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร อรฺเ วิหาสิ. ตทา ปจฺจนฺตวาสิโน โจรา ชนปทํ ปวิสิตฺวา คามํ ปหริตฺวา กรมเร คเหตฺวา ภณฺฑิกํ อุกฺขิปาเปตฺวา ปุน ปจฺจนฺตํ ปาปยึสุ. เตสํ อนฺตเร เอกา อภิรูปา กุมาริกา เกราฏิกปฺาย สมนฺนาคตา จินฺเตสิ ‘‘อิเม อมฺเห คเหตฺวา ทาสิโภเคน ปริภุฺชิสฺสนฺติ, เอเกน อุปาเยน ปลายิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สา ‘‘สามิ, สรีรกิจฺจํ กาตุกามามฺหิ, โถกํ ปฏิกฺกมิตฺวา ติฏฺถา’’ติ วตฺวา โจเร วฺเจตฺวา ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสนฺตี โพธิสตฺตสฺส ปุตฺตํ อสฺสเม เปตฺวา ผลาผลตฺถาย คตกาเล ปุพฺพณฺหสมเย ตํ อสฺสมํ ปาปุณิตฺวา ตํ ตาปสกุมารํ กามรติยา ปโลเภตฺวา สีลมสฺส ภินฺทิตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ‘‘กึ เต อรฺวาเสน, เอหิ คามํ คนฺตฺวา วสิสฺสาม, ตตฺร หิ รูปาทโย กามคุณา สุลภา’’ติ อาห. โสปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘ปิตา ตาว เม อรฺโต ผลาผลํ อาหริตุํ คโต, ตํ ทิสฺวา อุโภปิ เอกโตว คมิสฺสามา’’ติ อาห.

สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ตรุณทารโก น กิฺจิ ชานาติ, ปิตรา ปนสฺส มหลฺลกกาเล ปพฺพชิเตน ภวิตพฺพํ, โส อาคนฺตฺวา ‘อิธ กึ กโรสี’ติ มํ โปเถตฺวา ปาเท คเหตฺวา กฑฺเฒตฺวา อรฺเ ขิปิสฺสติ, ตสฺมึ อนาคเตเยว ปลายิสฺสามี’’ติ. อถ นํ ‘‘อหํ ปุรโต คจฺฉามิ, ตฺวํ ปจฺฉา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา มคฺคสฺํ อาจิกฺขิตฺวา ปกฺกามิ. โส ตสฺสา คตกาลโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนโทมนสฺโส ยถา ปุเร กิฺจิ วตฺตํ อกตฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา อนฺโตปณฺณสาลาย ปชฺฌายนฺโต นิปชฺชิ. มหาสตฺโต ผลาผลํ อาทาย อาคนฺตฺวา ตสฺสา ปทวลฺชํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มาตุคามสฺส ปทวลฺโช, ‘‘ปุตฺตสฺส มม สีลํ ภินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ผลาผลํ โอตาเรตฺวา ปุตฺตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๔๐.

‘‘น เต กฏฺานิ ภินฺนานิ, น เต อุทกมาภตํ;

อคฺคีปิ เต น หาปิโต, กึ นุ มนฺโทว ฌายสี’’ติ.

ตตฺถ อคฺคีปิ เต น หาปิโตติ อคฺคิปิ เต น ชาลิโต. มนฺโทวาติ นิปฺปฺโ อนฺธพาโล วิย.

โส ปิตุ กถํ สุตฺวา อุฏฺาย ปิตรํ วนฺทิตฺวา คารเวเนว อรฺวาเส อนุสฺสาหํ ปเวเทนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๔๑.

‘‘น อุสฺสเห วเน วตฺถุํ, กสฺสปามนฺตยามิ ตํ;

ทุกฺโข วาโส อรฺมฺหิ, รฏฺํ อิจฺฉามิ คนฺตเว.

๔๒.

‘‘ยถา อหํ อิโต คนฺตฺวา, ยสฺมึ ชนปเท วสํ;

อาจารํ พฺรหฺเม สิกฺเขยฺยํ, ตํ ธมฺมํ อนุสาส ม’’นฺติ.

ตตฺถ กสฺสปามนฺตยามิ ตนฺติ กสฺสป อามนฺตยามิ ตํ. คนฺตเวติ คนฺตุํ. อาจารนฺติ ยสฺมึ ชนปเท วสามิ, ตตฺถ วสนฺโต ยถา อาจารํ ชนปทจาริตฺตํ สิกฺเขยฺยํ ชาเนยฺยํ, ตํ ธมฺมํ อนุสาส โอวทาหีติ วทติ.

มหาสตฺโต ‘‘สาธุ, ตาต, เทสจาริตฺตํ เต กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๔๓.

‘‘สเจ อรฺํ หิตฺวาน, วนมูลผลานิ จ;

รฏฺเ โรจยเส วาสํ, ตํ ธมฺมํ นิสาเมหิ เม.

๔๔.

‘‘วิสํ มา ปฏิเสวิตฺโถ, ปปาตํ ปริวชฺชย;

ปงฺเก จ มา วิสีทิตฺโถ, ยตฺโต จาสีวิเส จเร’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมนฺติ สเจ รฏฺวาสํ โรเจสิ, เตน หิ ตฺวํ ชนปทจาริตฺตํ ธมฺมํ นิสาเมหิ. ยตฺโต จาสีวิเสติ อาสีวิสสฺส สนฺติเก ยตฺโต ปฏิยตฺโต จเรยฺยาสิ, สกฺโกนฺโต อาสีวิสํ ปริวชฺเชยฺยาสีติ อตฺโถ.

ตาปสกุมาโร สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส อตฺถํ อชานนฺโต ปุจฺฉิ –

๔๕.

‘‘กึ นุ วิสํ ปปาโต วา, ปงฺโก วา พฺรหฺมจารินํ;

กํ ตฺวํ อาสีวิสํ พฺรูสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ –

๔๖.

‘‘อาสโว ตาต โลกสฺมึ, สุรา นาม ปวุจฺจติ;

มนุฺโ สุรภี วคฺคุ, สาทุ ขุทฺทรสูปโม;

วิสํ ตทาหุ อริยา เส, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.

๔๗.

‘‘อิตฺถิโย ตาต โลกสฺมึ, ปมตฺตํ ปมเถนฺติ ตา;

หรนฺติ ยุวิโน จิตฺตํ, ตูลํ ภฏฺํว มาลุโต;

ปปาโต เอโส อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.

๔๘.

‘‘ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร, ปูชา ปรกุเลสุ จ;

ปงฺโก เอโส จ อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.

๔๙.

‘‘สสตฺถา ตาต ราชาโน, อาวสนฺติ มหึ อิมํ;

เต ตาทิเส มนุสฺสินฺเท, มหนฺเต ตาต นารท.

๕๐.

‘‘อิสฺสรานํ อธิปตีนํ, น เตสํ ปาทโต จเร;

อาสีวิโสติ อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.

๕๑.

‘‘ภตฺตตฺโถ ภตฺตกาเล จ, ยํ เคหมุปสงฺกเม;

ยเทตฺถ กุสลํ ชฺา, ตตฺถ ฆาเสสนํ จเร.

๕๒.

‘‘ปวิสิตฺวา ปรกุลํ, ปานตฺถํ โภชนาย วา;

มิตํ ขาเท มิตํ ภุฺเช, น จ รูเป มนํ กเร.

๕๓.

‘‘โคฏฺํ มชฺชํ กิราฏฺจ, สภา นิกิรณานิ จ;

อารกา ปริวชฺเชหิ, ยานีว วิสมํ ปถ’’นฺติ.

ตตฺถ อาสโวติ ปุปฺผาสวาทิ. วิสํ ตทาหูติ ตํ อาสวสงฺขาตํ สุรํ อริยา ‘‘พฺรหฺมจริยสฺส วิส’’นฺติ วทนฺติ. ปมตฺตนฺติ มุฏฺสฺสตึ. ตูลํ ภฏฺํวาติ รุกฺขา ภสฺสิตฺวา ปติตตูลํ วิย. อกฺขาโตติ พุทฺธาทีหิ กถิโต. สิโลโกติ กิตฺติวณฺโณ. สกฺกาโรติ อฺชลิกมฺมาทิ. ปูชาติ คนฺธมาลาทีหิ ปูชา. ปงฺโกติ เอส โอสีทาปนฏฺเน ‘‘ปงฺโก’’ติ อกฺขาโต. มหนฺเตติ มหนฺตภาวปฺปตฺเต. น เตสํ ปาทโต จเรติ เตสํ สนฺติเก น จเร, ราชกุลูปโก น ภเวยฺยาสีติ อตฺโถ. ราชาโน หิ อาสีวิสา วิย มุหุตฺเตเนว กุชฺฌิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ. อปิจ อนฺเตปุรปฺปเวสเน วุตฺตาทีนววเสนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ภตฺตตฺโถติ ภตฺเตน อตฺถิโก หุตฺวา. ยเทตฺถ กุสลนฺติ ยํ เตสุ อุปสงฺกมิตพฺเพสุ เคเหสุ กุสลํ อนวชฺชํ ปฺจอโคจรรหิตํ ชาเนยฺยาสิ, ตตฺถ ฆาเสสนํ จเรยฺยาสีติ อตฺโถ. น จ รูเป มนํ กเรติ ปรกุเล มตฺตฺู หุตฺวา โภชนํ ภุฺชนฺโตปิ ตตฺถ อิตฺถิรูเป มนํ มา กเรยฺยาสิ, มา จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา อิตฺถิรูเป นิมิตฺตํ คณฺเหยฺยาสีติ วทติ. โคฏฺํ มชฺชํ กิราฏนฺติ อยํ โปตฺถเกสุ ปาโ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘โคฏฺํ มชฺชํ กิราสฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘โคฏฺนฺติ คุนฺนํ ิตฏฺานํ. มชฺชนฺติ ปานาคารํ. กิราสนฺติ ธุตฺตเกราฏิกชน’’นฺติ วุตฺตํ. สภา นิกิรณานิ จาติ สภาโย จ หิรฺสุวณฺณานํ นิกิรณฏฺานานิ จ. อารกาติ เอตานิ สพฺพานิ ทูรโต ปริวชฺเชยฺยาสิ. ยานีวาติ สปฺปิเตลยาเนน คจฺฉนฺโต วิสมํ มคฺคํ วิย.

มาณโว ปิตุ กเถนฺตสฺเสว สตึ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ตาต, อลํ เม มนุสฺสปเถนา’’ติ อาห. อถสฺส ปิตา เมตฺตาทิภาวนํ อาจิกฺขิ. โส ตสฺโสวาเท ตฺวา น จิรสฺเสว ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตสิ. อุโภปิ ปิตาปุตฺตา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สา กุมาริกา อยํ กุมาริกา อโหสิ, ตาปสกุมาโร อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬนารทชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๔๗๘] ๕. ทูตชาตกวณฺณนา

ทูเต เต พฺรหฺเม ปาเหสินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตโน ปฺาปสํสนํ อารพฺภ กเถสิ. ธมฺมสภายํ ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘ปสฺสถ, อาวุโส, ทสพลสฺส อุปายโกสลฺลํ, นนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส อจฺฉราคณํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, จูฬปนฺถกสฺส ปิโลติกํ ทตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ อทาสิ, กมฺมารปุตฺตสฺส ปทุมํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, เอวํ นานาอุปาเยหิ สตฺเต วิเนตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ‘อิมินา อิทํ โหตี’ติ อุปายกุสโล, ปุพฺเพปิ อุปายกุสโลเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ชนปโท อหิรฺโ อโหสิ. โส หิ ชนปทํ ปีเฬตฺวา ธนเมว สํกฑฺฒิ. ตทา โพธิสตฺโต กาสิคาเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ‘‘ปจฺฉา ธมฺเมน ภิกฺขํ จริตฺวา อาจริยธนํ อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา นิฏฺิตสิปฺโป อนุโยคํ ทตฺวา ‘‘อาจริย, ตุมฺหากํ ธนํ อาหริสฺสามี’’ติ อาปุจฺฉิตฺวา นิกฺขมฺม ชนปเท จรนฺโต ธมฺเมน สเมน ปริเยสิตฺวา สตฺต นิกฺเข ลภิตฺวา ‘‘อาจริยสฺส ทสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค คงฺคํ โอตริตุํ นาวํ อภิรุหิ. ตสฺส ตตฺถ นาวาย วิปริวตฺตมานาย ตํ สุวณฺณํ อุทเก ปติ. โส จินฺเตสิ ‘‘ทุลฺลภํ หิรฺํ, ชนปเท ปุน อาจริยธเน ปริเยสิยมาเน ปปฺโจ ภวิสฺสติ, ยํนูนาหํ คงฺคาตีเรเยว นิราหาโร นิสีเทยฺยํ, ตสฺส เม นิสินฺนภาวํ อนุปุพฺเพน ราชา ชานิสฺสติ, ตโต อมจฺเจ เปเสสฺสติ, อหํ เตหิ สทฺธึ น มนฺเตสฺสามิ, ตโต ราชา สยํ อาคมิสฺสติ, อิมินา อุปาเยน ตสฺส สนฺติเก อาจริยธนํ ลภิสฺสามี’’ติ. โส คงฺคาตีเร อุตฺตริสาฏกํ ปารุปิตฺวา ยฺสุตฺตํ พหิ เปตฺวา รชตปฏฺฏวณฺเณ วาลุกตเล สุวณฺณปฏิมา วิย นิสีทิ. ตํ นิราหารํ นิสินฺนํ ทิสฺวา มหาชโน ‘‘กสฺมา นิสินฺโนสี’’ติ ปุจฺฉิ, กสฺสจิ น กเถสิ. ปุนทิวเส ทฺวารคามวาสิโน ตสฺส ตตฺถ นิสินฺนภาวํ สุตฺวา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉึสุ, เตสมฺปิ น กเถสิ. เต ตสฺส กิลมถํ ทิสฺวา ปริเทวนฺตา ปกฺกมึสุ. ตติยทิวเส นครวาสิโน อาคมึสุ, จตุตฺถทิวเส นครโต อิสฺสรชนา, ปฺจมทิวเส ราชปุริสา. ฉฏฺทิวเส ราชา อมจฺเจ เปเสสิ, เตหิปิ สทฺธึ น กเถสิ. สตฺตมทิวเส ราชา ภยฏฺฏิโต หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๕๔.

‘‘ทูเต เต พฺรหฺเม ปาเหสึ, คงฺคาตีรสฺมิ ฌายโต;

เตสํ ปุฏฺโ น พฺยากาสิ, ทุกฺขํ คุยฺหมตํ นุ เต’’ติ.

ตตฺถ ทุกฺขํ คุยฺหมตํ นุ เตติ กึ นุ โข, พฺราหฺมณ, ยํ ตว ทุกฺขํ อุปฺปนฺนํ, ตํ เต คุยฺหเมว มตํ, น อฺสฺส อาจิกฺขิตพฺพนฺติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, ทุกฺขํ นาม หริตุํ สมตฺถสฺเสว อาจิกฺขิตพฺพํ, น อฺสฺสา’’ติ วตฺวา สตฺต คาถา อภาสิ –

๕๕.

‘‘สเจ เต ทุกฺขมุปฺปชฺเช, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒน;

มา โข นํ ตสฺส อกฺขาหิ, โย ตํ ทุกฺขา น โมจเย.

๕๖.

‘‘โย ตสฺส ทุกฺขชาตสฺส, เอกงฺคมปิ ภาคโส;

วิปฺปโมเจยฺย ธมฺเมน, กามํ ตสฺส ปเวทย.

๕๗.

‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;

มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.

๕๘.

‘‘อปิ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;

โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส.

๕๙.

‘‘โย อตฺตโน ทุกฺขมนานุปุฏฺโ, ปเวทเย ชนฺตุ อกาลรูเป;

อานนฺทิโน ตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, หิเตสิโน ตสฺส ทุขี ภวนฺติ.

๖๐.

‘‘กาลฺจ ตฺวาน ตถาวิธสฺส, เมธาวินํ เอกมนํ วิทิตฺวา;

อกฺเขยฺย ติพฺพานิ ปรสฺส ธีโร, สณฺหํ คิรํ อตฺถวตึ ปมุฺเจ.

๖๑.

‘‘สเจ จ ชฺา อวิสยฺหมตฺตโน, น เต หิ มยฺหํ สุขาคมาย;

เอโกว ติพฺพานิ สเหยฺย ธีโร, สจฺจํ หิโรตฺตปฺปมเปกฺขมาโน’’ติ.

ตตฺถ อุปฺปชฺเชติ สเจ ตว อุปฺปชฺเชยฺย. มา อกฺขาหีติ มา กเถหิ. ทุพฺพิชานตรํ ตโตติ ตโต ติรจฺฉานคตวสฺสิตโตปิ ทุพฺพิชานตรํ, ตสฺมา ตถโต อชานิตฺวา หริตุํ อสมตฺถสฺส อตฺตโน ทุกฺขํ น กเถตพฺพเมวาติ. อปิ เจติ คาถา วุตฺตตฺถาว. อนานุปุฏฺโติ ปุนปฺปุนํ ปุฏฺโ. ปเวทเยติ กเถติ. อกาลรูเปติ อกาเล. กาลนฺติ อตฺตโน คุยฺหสฺส กถนกาลํ. ตถาวิธสฺสาติ ปณฺฑิตปุริสํ อตฺตนา สทฺธึ เอกมนํ วิทิตฺวา ตถาวิธสฺส อาจิกฺเขยฺย. ติพฺพานีติ ทุกฺขานิ.

สเจติ ยทิ อตฺตโน ทุกฺขํ อวิสยฺหํ อตฺตโน วา ปเรสํ วา ปุริสกาเรน อเตกิจฺฉํ ชาเนยฺย. เต หีติ เต เอว โลกปเวณิกา, อฏฺโลกธมฺมาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อถ อยํ โลกปเวณี น มยฺหํ เอว สุขาคมาย อุปฺปนฺนา, อฏฺหิ โลกธมฺเมหิ ปริมุตฺโต นาม นตฺถิ, เอวํ สนฺเต สุขเมว ปตฺเถนฺเตน ปรสฺส ทุกฺขาโรปนํ นาม น ยุตฺตํ, เนตํ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺเนน กตฺตพฺพํ, อตฺถิ จ เม หิรี โอตฺตปฺปนฺติ สจฺจํ สํวิชฺชมานํ อตฺตนิ หิโรตฺตปฺปํ อเปกฺขมาโนว อฺสฺส อนาโรเจตฺวา เอโกว ติพฺพานิ สเหยฺย ธีโรติ.

เอวํ มหาสตฺโต สตฺตหิ คาถาหิ รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา อตฺตโน อาจริยธนสฺส ปริเยสิตภาวํ ทสฺเสนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๖๒.

‘‘อหํ รฏฺเ วิจรนฺโต, นิคเม ราชธานิโย;

ภิกฺขมาโน มหาราช, อาจริยสฺส ธนตฺถิโก.

๖๓.

‘‘คหปตี ราชปุริเส, มหาสาเล จ พฺราหฺมเณ;

อลตฺถํ สตฺต นิกฺขานิ, สุวณฺณสฺส ชนาธิป;

เต เม นฏฺา มหาราช, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.

๖๔.

‘‘ปุริสา เต มหาราช, มนสานุวิจินฺติตา;

นาลํ ทุกฺขา ปโมเจตุํ, ตสฺมา เตสํ น พฺยาหรึ.

๖๕.

‘‘ตฺวฺจ โข เม มหาราช, มนสานุวิจินฺติโต;

อลํ ทุกฺขา ปโมเจตุํ, ตสฺมา ตุยฺหํ ปเวทยิ’’นฺติ.

ตตฺถ ภิกฺขมาโนติ เอเต คหปติอาทโย ยาจมาโน. เต เมติ เต สตฺต นิกฺขา มม คงฺคํ ตรนฺตสฺส นฏฺา, คงฺคายํ ปติตา. ปุริสา เตติ มหาราช, ตว ทูตปุริสา. อนุวิจินฺติตาติ ‘‘นาลํ อิเม มํ ทุกฺขา โมเจตุ’’นฺติ มยา าตา. ตสฺมาติ เตน การเณน เตสํ อตฺตโน ทุกฺขํ นาจิกฺขึ. ปเวทยินฺติ กเถสึ.

ราชา ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘มา จินฺตยิ, พฺราหฺมณ, อหํ เต อาจริยธนํ ทสฺสามี’’ติ ทฺวิคุณธนมทาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๖๖.

‘‘ตสฺสาทาสิ ปสนฺนตฺโต, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;

ชาตรูปมเย นิกฺเข, สุวณฺณสฺส จตุทฺทสา’’ติ.

ตตฺถ ชาตรูปมเยติ เต สุวณฺณสฺส จตุทฺทส นิกฺเข ชาตรูปมเยเยว อทาสิ, น ยสฺส วา ตสฺส วา สุวณฺณสฺสาติ อตฺโถ.

มหาสตฺโต รฺโ โอวาทํ ทตฺวา อาจริยสฺส ธนํ ทตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา ราชาปิ ตสฺโสวาเท ิโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อุโภปิ ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต อุปายกุสโลเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, อาจริโย สาริปุตฺโต, พฺราหฺมณมาณโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ทูตชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๔๗๙] ๖. กาลิงฺคโพธิชาตกวณฺณนา

ราชา กาลิงฺโค จกฺกวตฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถเรน กตํ มหาโพธิปูชํ อารพฺภ กเถสิ. เวเนยฺยสงฺคหตฺถาย หิ ตถาคเต ชนปทจาริกํ ปกฺกนฺเต สาวตฺถิวาสิโน คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนํ คนฺตฺวา อฺํ ปูชนียฏฺานํ อลภิตฺวา คนฺธกุฏิทฺวาเร ปาเตตฺวา คจฺฉนฺติ, เต อุฬารปาโมชฺชา น โหนฺติ. ตํ การณํ ตฺวา อนาถปิณฺฑิโก ตถาคตสฺส เชตวนํ อาคตกาเล อานนฺทตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ วิหาโร ตถาคเต จาริกํ ปกฺกนฺเต นิปจฺจโย โหติ, มนุสฺสานํ คนฺธมาลาทีหิ ปูชนียฏฺานํ น โหติ, สาธุ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส อิมมตฺถํ อาโรเจตฺวา เอกสฺส ปูชนียฏฺานสฺส สกฺกุเณยฺยภาวํ ชานาถา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถาคตํ ปุจฺฉิ ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, เจติยานี’’ติ? ‘‘ตีณิ อานนฺทา’’ติ. ‘‘กตมานิ, ภนฺเต, ตีณี’’ติ? ‘‘สารีริกํ ปาริโภคิกํ อุทฺทิสฺสก’’นฺติ. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ ธรนฺเตสุเยว เจติยํ กาตุ’’นฺติ. ‘‘อานนฺท, สารีริกํ น สกฺกา กาตุํ. ตฺหิ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานกาเล โหติ, อุทฺทิสฺสกํ อวตฺถุกํ มมายนมตฺตเมว โหติ, พุทฺเธหิ ปริภุตฺโต มหาโพธิรุกฺโข พุทฺเธสุ ธรนฺเตสุปิ เจติยเมวา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหสุ ปกฺกนฺเตสุ เชตวนวิหาโร อปฺปฏิสรโณ โหติ, มหาชโน ปูชนียฏฺานํ น ลภติ, มหาโพธิโต พีชํ อาหริตฺวา เชตวนทฺวาเร โรเปสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สาธุ, อานนฺท, โรเปหิ, เอวํ สนฺเต เชตวเน มม นิพทฺธวาโส วิย ภวิสฺสตี’’ติ.

เถโร โกสลนรินฺทสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส วิสาขาทีนฺจ อาโรเจตฺวา เชตวนทฺวาเร โพธิโรปนฏฺาเน อาวาฏํ ขณาเปตฺวา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อหํ เชตวนทฺวาเร โพธึ โรเปสฺสามิ, มหาโพธิโต เม โพธิปกฺกํ อาหรถา’’ติ. เถโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อากาเสน โพธิมณฺฑํ คนฺตฺวา วณฺฏา ปริคลนฺตํ ปกฺกํ ภูมึ อสมฺปตฺตเมว จีวเรน สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คเหตฺวา อานนฺทตฺเถรสฺส อทาสิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘อชฺช โพธึ โรเปสฺสามี’’ติ โกสลราชาทีนํ อาโรเจสิ. ราชา สายนฺหสมเย มหนฺเตน ปริวาเรน สพฺพูปกรณานิ คาหาเปตฺวา อาคมิ, ตถา อนาถปิณฺฑิโก วิสาขา จ อฺโ จ สทฺโธ ชโน. เถโร มหาโพธิโรปนฏฺาเน มหนฺตํ สุวณฺณกฏาหํ เปตฺวา เหฏฺา ฉิทฺทํ กาเรตฺวา คนฺธกลลสฺส ปูเรตฺวา ‘‘อิทํ โพธิปกฺกํ โรเปหิ, มหาราชา’’ติ รฺโ อทาสิ. โส จินฺเตสิ ‘‘รชฺชํ นาม น สพฺพกาลํ อมฺหากํ หตฺเถ ติฏฺติ, อิทํ มยา อนาถปิณฺฑิเกน โรปาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตํ โพธิปกฺกํ มหาเสฏฺิสฺส หตฺเถ เปสิ. อนาถปิณฺฑิโก คนฺธกลลํ วิยูหิตฺวา ตตฺถ ปาเตสิ. ตสฺมึ ตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานฺเว นงฺคลสีสปฺปมาโณ โพธิขนฺโธ ปณฺณาสหตฺถุพฺเพโธ อุฏฺหิ, จตูสุ ทิสาสุ อุทฺธฺจาติ ปฺจ มหาสาขา ปณฺณาสหตฺถาว นิกฺขมึสุ. อิติ โส ตงฺขณฺเว วนปฺปติเชฏฺโก หุตฺวา อฏฺาสิ. ราชา อฏฺารสมตฺเต สุวณฺณรชตฆเฏ คนฺโธทเกน ปูเรตฺวา นีลุปฺปลหตฺถกาทิปฏิมณฺฑิเต มหาโพธึ ปริกฺขิปิตฺวา ปุณฺณฆเฏ ปฏิปาฏิยา เปสิ, สตฺตรตนมยํ เวทิกํ กาเรสิ, สุวณฺณมิสฺสกํ วาลุกํ โอกิริ, ปาการปริกฺเขปํ กาเรสิ, สตฺตรตนมยํ ทฺวารโกฏฺกํ กาเรสิ, สกฺกาโร มหา อโหสิ.

เถโร ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ มหาโพธิมูเล สมาปนฺนสมาปตฺตึ มยา โรปิตโพธิมูเล นิสีทิตฺวา มหาชนสฺส หิตตฺถาย สมาปชฺชถา’’ติ อาห. ‘‘อานนฺท, กึ กเถสิ, มยิ มหาโพธิมูเล สมาปนฺนสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน อฺโ ปเทโส ธาเรตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, มหาชนสฺส หิตตฺถาย อิมสฺส ภูมิปฺปเทสสฺส ธุวนิยาเมน สมาปตฺติสุเขน ตํ โพธิมูลํ ปริภุฺชถา’’ติ. สตฺถา เอกรตฺตึ สมาปตฺติสุเขน ปริภุฺชิ. เถโร โกสลราชาทีนํ กเถตฺวา โพธิมหํ นาม กาเรสิ. โสปิ โข โพธิรุกฺโข อานนฺทตฺเถเรน โรปิตตฺตา อานนฺทโพธิเยวาติ ปฺายิตฺถ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส อายสฺมา อานนฺโท ธรนฺเตเยว ตถาคเต โพธึ โรเปตฺวา มหาปูชํ กาเรสิ, อโห มหาคุโณ เถโร’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท สปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ มนุสฺเส คเหตฺวา พหุคนฺธมาลาทีนิ อาหริตฺวา มหาโพธิมณฺเฑ โพธิมหํ กาเรสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กลิงฺครฏฺเ ทนฺตปุรนคเร กาลิงฺโค นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส มหากาลิงฺโค, จูฬกาลิงฺโคติ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เนมิตฺตกา ‘‘เชฏฺปุตฺโต ปิตุ อจฺจเยน รชฺชํ กาเรสฺสติ, กนิฏฺโ ปน อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขาย จริสฺสติ, ปุตฺโต ปนสฺส จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อปรภาเค เชฏฺปุตฺโต ปิตุ อจฺจเยน ราชา อโหสิ, กนิฏฺโ ปน อุปราชา. โส ‘‘ปุตฺโต กิร เม จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ ปุตฺตํ นิสฺสาย มานํ อกาสิ. ราชา อสหนฺโต ‘‘จูฬกาลิงฺคํ คณฺหา’’ติ เอกํ อตฺถจรกํ อาณาเปสิ. โส คนฺตฺวา ‘‘กุมาร, ราชา ตํ คณฺหาเปตุกาโม, ตว ชีวิตํ รกฺขาหี’’ติ อาห. โส อตฺตโน ลฺชนมุทฺทิกฺจ สุขุมกมฺพลฺจ ขคฺคฺจาติ อิมานิ ตีณิ อตฺถจรกามจฺจสฺส ทสฺเสตฺวา ‘‘อิมาย สฺาย มม ปุตฺตสฺส รชฺชํ ทเทยฺยาถา’’ติ วตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา รมณีเย ภูมิภาเค อสฺสมํ กตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา นทีตีเร วาสํ กปฺเปสิ.

มทฺทรฏฺเปิ สาคลนคเร มทฺทรฺโ อคฺคมเหสี ธีตรํ วิชายิ. ตํ เนมิตฺตกา ‘‘อยํ ภิกฺขํ จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสติ, ปุตฺโต ปนสฺสา จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. สกลชมฺพุทีเป ราชาโน ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เอกปฺปหาเรเนว อาคนฺตฺวา สาคลนครํ รุนฺธึสุ. มทฺทราชา จินฺเตสิ ‘‘สจาหํ อิมํ เอกสฺส ทสฺสามิ, เสสราชาโน กุชฺฌิสฺสนฺติ, มม ธีตรํ รกฺขิสฺสามี’’ติ ธีตรฺจ ภริยฺจ คเหตฺวา อฺาตกเวเสน ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา จูฬกาลิงฺคกุมารสฺส อสฺสมปทโต อุปริภาเค อสฺสมํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุฺฉาจริยาย ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ตตฺถ ปฏิวสติ. มาตาปิตโร ‘‘ธีตรํ รกฺขิสฺสามา’’ติ ตํ อสฺสมปเท กตฺวา ผลาผลตฺถาย คจฺฉนฺติ. สา เตสํ คตกาเล นานาปุปฺผานิ คเหตฺวา ปุปฺผจุมฺพฏกํ กตฺวา คงฺคาตีเร ปิตโสปานปนฺติ วิย ชาโต เอโก สุปุปฺผิโต อมฺพรุกฺโข อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวา กีฬิตฺวา ปุปฺผจุมฺพฏกํ อุทเก ขิปิ. ตํ เอกทิวสํ คงฺคายํ นฺหายนฺตสฺส จูฬกาลิงฺคกุมารสฺส สีเส ลคฺคิ. โส ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ เอกาย อิตฺถิยา กตํ, โน จ โข มหลฺลิกาย, ตรุณกุมาริกาย กตกมฺมํ, วีมํสิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ กิเลสวเสน อุปริคงฺคํ คนฺตฺวา ตสฺสา อมฺพรุกฺเข นิสีทิตฺวา มธุเรน สเรน คายนฺติยา สทฺทํ สุตฺวา รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา ตํ ทิสฺวา ‘‘ภทฺเท, กา นาม ตฺว’’นฺติ อาห. ‘‘มนุสฺสิตฺถีหมสฺมิ สามี’’ติ. ‘‘เตน หิ โอตราหี’’ติ. ‘‘น สกฺกา สามิ, อหํ ขตฺติยา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, อหมฺปิ ขตฺติโยเยว, โอตราหี’’ติ. สามิ, น วจนมตฺเตเนว ขตฺติโย โหติ, ยทิสิ ขตฺติโย, ขตฺติยมายํ กเถหี’’ติ. เต อุโภปิ อฺมฺํ ขตฺติยมายํ กถยึสุ. ราชธีตา โอตริ.

เต อฺมฺํ อชฺฌาจารํ จรึสุ. สา มาตาปิตูสุ อาคเตสุ ตสฺส กาลิงฺคราชปุตฺตภาวฺเจว อรฺํ ปวิฏฺการณฺจ วิตฺถาเรน เตสํ กเถสิ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ตสฺส อทํสุ. เตสํ ปิยสํวาเสน วสนฺตานํ ราชธีตา คพฺภํ ลภิตฺวา ทสมาสจฺจเยน ธฺปุฺลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘กาลิงฺโค’’ติสฺส นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ปิตุ เจว อยฺยกสฺส จ สนฺติเก สพฺพสิปฺปานํ นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. อถสฺส ปิตา นกฺขตฺตโยควเสน ภาตุ มตภาวํ ตฺวา ‘‘ตาต, มา ตฺวํ อรฺเ วส, เปตฺเตยฺโย เต มหากาลิงฺโค กาลกโต, ตฺวํ ทนฺตปุรนครํ คนฺตฺวา กุลสนฺตกํ สกลรชฺชํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา อตฺตนา อานีตํ มุทฺทิกฺจ กมฺพลฺจ ขคฺคฺจ ทตฺวา ‘‘ตาต, ทนฺตปุรนคเร อสุกวีถิยํ อมฺหากํ อตฺถจรโก อมจฺโจ อตฺถิ, ตสฺส เคเห สยนมชฺเฌ โอตริตฺวา อิมานิ ตีณิ รตนานิ ตสฺส ทสฺเสตฺวา มม ปุตฺตภาวํ อาจิกฺข, โส ตํ รชฺเช ปติฏฺาเปสฺสตี’’ติ อุยฺโยเชสิ. โส มาตาปิตโร จ อยฺยกายฺยิเก จ วนฺทิตฺวา ปุฺมหิทฺธิยา อากาเสน คนฺตฺวา อมจฺจสฺส สยนปิฏฺเเยว โอตริตฺวา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุฏฺโ ‘‘จูฬกาลิงฺคสฺส ปุตฺโตมฺหี’’ติ อาจิกฺขิตฺวา ตานิ รตนานิ ทสฺเสสิ. อมจฺโจ ราชปริสาย อาโรเจสิ. อมจฺจา นครํ อลงฺการาเปตฺวา ตสฺส เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาปยึสุ.

อถสฺส กาลิงฺคภารทฺวาโช นาม ปุโรหิโต ตสฺส ทส จกฺกวตฺติวตฺตานิ อาจิกฺขิ. โส ตํ วตฺตํ ปูเรสิ. อถสฺส ปนฺนรสอุโปสถทิวเส จกฺกทหโต จกฺกรตนํ, อุโปสถกุลโต หตฺถิรตนํ, วลาหกกุลโต อสฺสรตนํ, เวปุลฺลปพฺพตโต มณิรตนํ อาคมิ, อิตฺถิรตนคหปติรตนปริณายกรตนานิ ปาตุภวนฺติ. โส สกลจกฺกวาฬคพฺเภ รชฺชํ คณฺหิตฺวา เอกทิวสฺจ ฉตฺตึสโยชนาย ปริสาย ปริวุโต สพฺพเสตํ เกลาสกูฏปฏิภาคํ หตฺถึ อารุยฺห มหนฺเตน สิริวิลาเสน มาตาปิตูนํ สนฺติกํ ปายาสิ. อถสฺส สพฺพพุทฺธานํ ชยปลฺลงฺกสฺส ปถวีนาภิภูตสฺส มหาโพธิมณฺฑสฺส อุปริภาเค นาโค คนฺตุํ นาสกฺขิ. ราชา ปุนปฺปุนํ โจเทสิ, โส นาสกฺขิเยว. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปมํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘ราชา กาลิงฺโค จกฺกวตฺติ, ธมฺเมน ปถวิมนุสาสํ;

อคมา โพธิสมีปํ, นาเคน มหานุภาเวนา’’ติ.

อถ รฺโ ปุโรหิโต รฺา สทฺธึ คจฺฉนฺโต ‘‘อากาเส อาวรณํ นาม นตฺถิ, กึ นุ โข ราชา หตฺถึ เปเสตุํ น สกฺโกติ, วีมํสิสฺสามี’’ติ อากาสโต โอรุยฺห สพฺพพุทฺธานํเยว ชยปลฺลงฺกํ ปถวีนาภิมณฺฑลภูตํ ภูมิภาคํ ปสฺสิ. ตทา กิร ตตฺถ อฏฺราชกรีสมตฺเต าเน เกสมสฺสุมตฺตมฺปิ ติณํ นาม นตฺถิ, รชตปฏฺฏวณฺณวาลุกา วิปฺปกิณฺณา โหนฺติ, สมนฺตา ติณลตาวนปฺปติโย โพธิมณฺฑํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาวฏฺเฏตฺวา โพธิมณฺฑาภิมุขาว อฏฺํสุ. พฺราหฺมโณ ตํ ภูมิภาคํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทฺหิ สพฺพพุทฺธานํ สพฺพกิเลสวิทฺธํสนฏฺานํ, อิมสฺส อุปริภาเค สกฺกาทีหิปิ น สกฺกา คนฺตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา กาลิงฺครฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา โพธิมณฺฑสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ราชานํ ‘‘โอตรา’’ติ อาห. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อาห –

๖๘.

‘‘กาลิงฺโค ภารทฺวาโช จ, ราชานํ กาลิงฺคํ สมณโกลฺํ;

จกฺกํ วตฺตยโต ปริคฺคเหตฺวา, ปฺชลี อิทมโวจ.

๖๙.

‘‘ปจฺโจโรห มหาราช, ภูมิภาโค ยถา สมณุคฺคโต;

อิธ อนธิวรา พุทฺธา, อภิสมฺพุทฺธา วิโรจนฺติ.

๗๐.

‘‘ปทกฺขิณโต อาวฏฺฏา, ติณลตา อสฺมึ ภูมิภาคสฺมึ;

ปถวิยา นาภิยํ มณฺโฑ, อิติ โน สุตํ มนฺเต มหาราช.

๗๑.

‘‘สาครปริยนฺตาย, เมทินิยา สพฺพภูตธรณิยา;

ปถวิยา อยํ มณฺโฑ, โอโรหิตฺวา นโม กโรหิ.

๗๒.

‘‘เย เต ภวนฺติ นาคา จ, อภิชาตา จ กุฺชรา;

เอตฺตาวตา ปเทสํ เต, นาคา เนว มุปยนฺติ.

๗๓.

‘‘อภิชาโต นาโค กามํ, เปเสหิ กุฺชรํ ทนฺตึ;

เอตฺตาวตา ปเทโส, สกฺกา นาเคน มุปคนฺตุํ.

๗๔.

‘‘ตํ สุตฺวา ราชา กาลิงฺโค, เวยฺยฺชนิกวโจ นิสาเมตฺวา;

สมฺเปเสสิ นาคํ สฺสาม, มยํ ยถิมสฺสิทํ วจนํ.

๗๕.

‘‘สมฺเปสิโต จ รฺา, นาโค โกฺโจว อภินทิตฺวาน;

ปฏิสกฺกิตฺวา นิสีทิ, ครุํว ภารํ อสหมาโน’’ติ.

ตตฺถ สมณโกลฺนฺติ ตาปสานํ ปุตฺตํ. จกฺกํ วตฺตยโตติ จกฺกํ วตฺตยมานํ, จกฺกวตฺตินฺติ อตฺโถ. ปริคฺคเหตฺวาติ ภูมิภาคํ วีมํสิตฺวา. สมณุคฺคโตติ สพฺพพุทฺเธหิ วณฺณิโต. อนธิวราติ อตุลฺยา อปฺปเมยฺยา. วิโรจนฺตีติ วิหตสพฺพกิเลสนฺธการา ตรุณสูริยา วิย อิธ นิสินฺนา วิโรจนฺติ. ติณลตาติ ติณานิ จ ลตาโย จ. มณฺโฑติ จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลาย ปถวิยา มณฺโฑ สาโร นาภิภูโต อจลฏฺานํ, กปฺเป สณฺหนฺเต ปมํ สณฺหติ, วินสฺสนฺเต ปจฺฉา วินสฺสติ. อิติ โน สุตนฺติ เอวํ อมฺเหหิ ลกฺขณมนฺตวเสน สุตํ. โอโรหิตฺวาติ อากาสโต โอตริตฺวา อิมสฺส สพฺพพุทฺธานํ กิเลสวิทฺธํสนฏฺานสฺส นโม กโรหิ, ปูชาสกฺการํ กโรหิ.

เย เตติ เย จกฺกวตฺติรฺโ หตฺถิรตนสงฺขาตา อุโปสถกุเล นิพฺพตฺตนาคา. เอตฺตาวตาติ สพฺเพปิ เต เอตฺตกํ ปเทสํ เนว อุปยนฺติ, โกฏฺฏิยมานาปิ น อุปคจฺฉนฺติเยว. อภิชาโตติ โคจริยาทีนิ อฏฺ หตฺถิกุลานิ อภิภวิตฺวา อติกฺกมิตฺวา อุโปสถกุเล ชาโต. กุฺชรนฺติ อุตฺตมํ. เอตฺตาวตาติ เอตฺตโก ปเทโส สกฺกา เอเตน นาเคน อุปคนฺตุํ, อิโต อุตฺตริ น สกฺกา, อภิกงฺขนฺโต วชิรงฺกุเสน สฺํ ทตฺวา เปเสหีติ. เวยฺยฺชนิกวโจ นิสาเมตฺวาติ ภิกฺขเว, โส ราชา ตสฺส ลกฺขณปากสฺส เวยฺยฺชนิกสฺส กาลิงฺคภารทฺวาชสฺส วโจ นิสาเมตฺวา อุปธาเรตฺวา ‘‘สฺสาม มยํ ยถา อิมสฺส วจนํ ยทิ วา สจฺจํ ยทิ วา อลิก’’นฺติ วีมํสนฺโต นาคํ เปเสสีติ อตฺโถ. โกฺโจว อภินทิตฺวานาติ ภิกฺขเว, โส นาโค เตน รฺา วชิรงฺกุเสน โจเทตฺวา เปสิโต โกฺจสกุโณ วิย นทิตฺวา ปฏิสกฺกิตฺวา โสณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา คีวํ อุนฺนาเมตฺวา ครุํ ภารํ วหิตุํ อสกฺโกนฺโต วิย อากาเสเยว นิสีทิ.

โส เตน ปุนปฺปุนํ วิชฺฌิยมาโน เวทนํ สหิตุํ อสกฺโกนฺโต กาลมกาสิ. ราชา ปนสฺส มตภาวํ อชานนฺโต ปิฏฺเ นิสินฺโนว อโหสิ. กาลิงฺคภารทฺวาโช ‘‘มหาราช, ตว นาโค นิรุทฺโธ, อฺํ หตฺถึ สงฺกมา’’ติ อาห. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทสมํ คาถมาห –

๗๖.

‘‘กาลิงฺคภารทฺวาโช, นาคํ ขีณายุกํ วิทิตฺวาน;

ราชานํ กาลิงฺคํ, ตรมาโน อชฺฌภาสิตฺถ;

อฺํ สงฺกม นาคํ, นาโค ขีณายุโก มหาราชา’’ติ.

ตตฺถ นาโค ขีณายุโกติ นาโค เต ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต, ยํ กิฺจิ กโรนฺเตน น สกฺกา ปิฏฺเ นิสินฺเนน โพธิมณฺฑมตฺถเกน คนฺตุํ. อฺํ นาคํ สงฺกมาติ รฺโ ปุฺิทฺธิพเลน อฺโ นาโค อุโปสถกุลโต อาคนฺตฺวา ปิฏฺึ อุปนาเมสิ.

ราชา ตสฺส ปิฏฺิยํ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ มตหตฺถี ภูมิยํ ปติ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิตรํ คาถมาห –

๗๗.

‘‘ตํ สุตฺวา กาลิงฺโค, ตรมาโน สงฺกมี นาคํ;

สงฺกนฺเตว รฺเ นาโค, ตตฺเถว ปติ ภุมฺยา;

เวยฺยฺชนิกวโจ, ยถา ตถา อหุ นาโค’’ติ.

อถ ราชา อากาสโต โอรุยฺห โพธิมณฺฑํ โอโลเกตฺวา ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ภารทฺวาชสฺส ถุตึ กโรนฺโต อาห –

๗๘.

‘‘กาลิงฺโค ราชา กาลิงฺคํ, พฺราหฺมณํ เอตทโวจ;

ตฺวเมว อสิ สมฺพุทฺโธ, สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี’’ติ.

พฺราหฺมโณ ตํ อนธิวาเสนฺโต อตฺตานํ นีจฏฺาเน เปตฺวา พุทฺเธเยว อุกฺขิปิตฺวา วณฺเณสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อภาสิ –

๗๙.

‘‘ตํ อนธิวาเสนฺโต กาลิงฺค, พฺราหฺมโณ อิทมโวจ;

เวยฺยฺชนิกา หิ มยํ, พุทฺธา สพฺพฺุโน มหาราช.

๘๐.

‘‘สพฺพฺู สพฺพวิทู จ, พุทฺธา น ลกฺขเณน ชานนฺติ;

อาคมพลสา หิ มยํ, พุทฺธา สพฺพํ ปชานนฺตี’’ติ.

ตตฺถ เวยฺยฺชนิกาติ มหาราช, มยํ พฺยฺชนํ ทิสฺวา พฺยากรณสมตฺถา สุตพุทฺธา นาม, พุทฺธา ปน สพฺพฺู สพฺพวิทู. พุทฺธา หิ อตีตาทิเภทํ สพฺพํ ชานนฺติ เจว ปสฺสนฺติ จ, สพฺพฺุตฺาเณน เต สพฺพํ ชานนฺติ, น ลกฺขเณน. มยํ ปน อาคมพลสา อตฺตโน สิปฺปพเลเนว ชานาม, ตฺจ เอกเทสเมว, พุทฺธา ปน สพฺพํ ปชานนฺตีติ.

ราชา พุทฺธคุเณ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา สกลจกฺกวาฬวาสิเกหิ พหุคนฺธมาลํ อาหราเปตฺวา มหาโพธิมณฺเฑ สตฺตาหํ วสิตฺวา มหาโพธิปูชํ กาเรสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมํ คาถาทฺวยมาห –

๘๑.

‘‘มหยิตฺวา สมฺโพธึ, นานาตุริเยหิ วชฺชมาเนหิ;

มาลาวิเลปนํ อภิหริตฺวา, อถ ราชา มนุปายาสิ.

๘๒.

‘‘สฏฺิ วาหสหสฺสานิ, ปุปฺผานํ สนฺนิปาตยิ;

ปูเชสิ ราชา กาลิงฺโค, โพธิมณฺฑมนุตฺตร’’นฺติ.

ตตฺถ มนุปายาสีติ มาตาปิตูนํ สนฺติกํ อคมาสิ. โส มหาโพธิมณฺเฑ อฏฺารสหตฺถํ สุวณฺณตฺถมฺภํ อุสฺสาเปสิ. ตสฺส สตฺตรตนมยา เวทิกา กาเรสิ, รตนมิสฺสกํ วาลุกํ โอกิราเปตฺวา ปาการปริกฺขิตฺตํ กาเรสิ, สตฺตรตนมยํ ทฺวารโกฏฺกํ กาเรสิ, เทวสิกํ ปุปฺผานํ สฏฺิวาหสหสฺสานิ สนฺนิปาตยิ, เอวํ โพธิมณฺฑํ ปูเชสิ. ปาฬิยํ ปน ‘‘สฏฺิ วาหสหสฺสานิ ปุปฺผาน’’นฺติ เอตฺตกเมว อาคตํ.

เอวํ มหาโพธิปูชํ กตฺวา มาตาปิตโร อยฺยกายฺยิเก จ อาทาย ทนฺตปุรเมว อาเนตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท โพธิปูชํ กาเรสิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาณวกกาลิงฺโค อานนฺโท อโหสิ, กาลิงฺคภารทฺวาโช ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

กาลิงฺคโพธิชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๔๘๐] ๗. อกิตฺติชาตกวณฺณนา

อกิตฺตึ ทิสฺวา สมฺมนฺตนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ สาวตฺถิวาสึ ทานปตึ อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ปริโยสานทิวเส อริยสงฺฆสฺส สพฺพปริกฺขาเร อทาสิ. อถสฺส สตฺถา ปริสมชฺเฌเยว อนุโมทนํ กโรนฺโต ‘‘อุปาสก, มหา เต ปริจฺจาโค, อโห ทุกฺกรํ ตยา กตํ, อยฺหิ ทานวํโส นาม โปราณกปณฺฑิตานํ วํโส, ทานํ นาม คิหินาปิ ปพฺพชิเตนาปิ ทาตพฺพเมว. โปราณกปณฺฑิตา ปน ปพฺพชิตฺวา อรฺเ วสนฺตาปิ อโลณกํ วิธูปนํ อุทกมตฺตสิตฺตํ การปณฺณํ ขาทมานาปิ สมฺปตฺตยาจกานํ ยาวทตฺถํ ทตฺวา สยํ ปีติสุเขน ยาปยึสู’’ติ วตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิทํ ตาว สพฺพปริกฺขารทานํ มหาชนสฺส ปากฏํ, ตุมฺเหหิ วุตฺตํ อปากฏํ, ตํ โน กเถถา’’ติ เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต อสีติโกฏิวิภวสฺส พฺราหฺมณมหาสาลสฺส กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘อกิตฺตี’’ติสฺส นามํ กรึสุ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล ภคินีปิ ชายิ, ‘‘ยสวตี’’ติสฺสา นามํ กรึสุ. มหาสตฺโต โสฬสวสฺสกาเล ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคมิ. อถสฺส มาตาปิตโร กาลมกํสุ. โส เตสํ เปตกิจฺจานิ กาเรตฺวา ธนวิโลกนํ กโรนฺโต ‘‘อสุโก นาม เอตฺตกํ ธนํ สณฺเปตฺวา อตีโต, อสุโก เอตฺตก’’นฺติ วจนํ สุตฺวา สํวิคฺคมานโส หุตฺวา ‘‘อิทํ ธนเมว ปฺายติ, น ธนสฺส สํหารกา, สพฺเพ อิมํ ธนํ ปหาเยว คตา, อหํ ปน ตํ อาทาย คมิสฺสามี’’ติ ภคินึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ อิมํ ธนํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ อาห. ‘‘ตุมฺหากํ ปน โก อชฺฌาสโย’’ติ? ‘‘ปพฺพชิตุกาโมมฺหี’’ติ. ‘‘ภาติก, อหํ ตุมฺเหหิ ฉฑฺฑิตํ เขฬํ น สิรสา สมฺปฏิจฺฉามิ, น เม อิมินา อตฺโถ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา เภรึ จราเปสิ ‘‘ธเนน อตฺถิกา อกิตฺติปณฺฑิตสฺส เคหํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ.

โส สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ธเน อขียมาเน จินฺเตสิ ‘‘อิเม สงฺขารา ขียนฺติ, กึ เม ธนกีฬาย, อตฺถิกา ตํ คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ นิเวสนทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘ทินฺนฺเว หรนฺตู’’ติ สหิรฺสุวณฺณํ เคหํ ปหาย าติมณฺฑลสฺส ปริเทวนฺตสฺส ภคินึ คเหตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมิ. เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ, ตํ อกิตฺติทฺวารํ นาม ชาตํ, เยน ติตฺเถน นทึ โอติณฺโณ, ตมฺปิ อกิตฺติติตฺถํ นาม ชาตํ. โส ทฺเว ตีณิ โยชนานิ คนฺตฺวา รมณีเย าเน ปณฺณสาลํ กตฺวา ภคินิยา สทฺธึ ปพฺพชิ. ตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย พหุคามนิคมราชธานิวาสิโน ปพฺพชึสุ. มหาปริวาโร อโหสิ, มหาลาภสกฺกาโร นิพฺพตฺติ, พุทฺธุปฺปาทกาโล วิย ปวตฺติ. อถ มหาสตฺโต ‘‘อยํ ลาภสกฺกาโร มหา, ปริวาโรปิ มหนฺโต, มยา เอกเกเนว วิหริตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อเวลาย อนฺตมโส ภคินิมฺปิ อชานาเปตฺวา เอกโกว นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ทมิฬรฏฺํ ปตฺวา กาวีรปฏฺฏนสมีเป อุยฺยาเน วิหรนฺโต ฌานาภิฺาโย นิพฺพตฺเตสิ. ตตฺราปิสฺส มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. โส ตํ ชิคุจฺฉิตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา นาคทีปสมีเป การทีเป โอตริ. ตทา การทีโป อหิทีโป นาม อโหสิ. โส ตตฺถ มหนฺตํ การรุกฺขํ อุปนิสฺสาย ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา วาสํ กปฺเปสิ. ตตฺถ ตสฺส วสนภาวํ น โกจิ ชานาติ. อถสฺส ภคินี ภาตรํ คเวสมานา อนุปุพฺเพน ทมิฬรฏฺํ ปตฺวา ตํ อทิสฺวา เตน วสิตฏฺาเนเยว วสิ, ฌานํ ปน นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ.

มหาสตฺโต อปฺปิจฺฉตาย กตฺถจิ อคนฺตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส ผลกาเล ผลานิ ขาทติ, ปตฺตกาเล ปตฺตานิ อุทกสิตฺตานิ ขาทติ. ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก ‘‘โก นุ โข มํ านา จาเวตุกาโม’’ติ อาวชฺเชนฺโต อกิตฺติปณฺฑิตํ ทิสฺวา ‘‘กิมตฺถํ เอส ตาปโส สีลานิ รกฺขติ, สกฺกตฺตํ นุ โข ปตฺเถติ, อุทาหุ อฺํ, วีมึสิสฺสามิ นํ. อยฺหิ ทุกฺเขน ชีวิกํ กปฺเปสิ, อุทกสิตฺตานิ การปณฺณานิ ขาทติ, สเจ สกฺกตฺตํ ปตฺเถติ, อตฺตโน สิตฺตปตฺตานิ มยฺหํ ทสฺสติ, โน เจ, น ทสฺสตี’’ติ พฺราหฺมณวณฺเณน ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โพธิสตฺโต การปณฺณานิ เสเทตฺวา โอตาเรตฺวา ‘‘สีตลภูตานิ ขาทิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ. อถสฺส ปุรโต สกฺโก ภิกฺขาย อฏฺาสิ. มหาสตฺโต ตํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘ลาภา วต เม, โยหํ ยาจกํ ปสฺสามิ, อชฺช เม มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทานํ ทสฺสามี’’ติ ปกฺกภาชเนเนว อาทาย คนฺตฺวา ‘‘อิทํ เม ทานํ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปจฺจโย โหตู’’ติ อตฺตโน อเสเสตฺวาว ตสฺส ภาชเน ปกฺขิปิ. พฺราหฺมโณ ตํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา อนฺตรธายิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส ทตฺวา ปุน อปจิตฺวา ปีติสุเขเนว วีตินาเมตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา ตตฺเถว ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ.

สกฺโก ปุน พฺราหฺมณเวเสน อคมาสิ. ปุนปิสฺส ทตฺวา มหาสตฺโต ตเถว วีตินาเมสิ. ตติยทิวเสปิ ตเถว ทตฺวา ‘‘อโห เม ลาภา วต, การปณฺณานิ นิสฺสาย มหนฺตํ ปุฺํ ปสุต’’นฺติ โสมนสฺสปฺปตฺโต ตโย ทิวเส อนาหารตาย ทุพฺพโลปิ สมาโน มชฺฌนฺหิกสมเย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ทานํ อาวชฺเชนฺโต ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ. สกฺโกปิ จินฺเตสิ ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ตโย ทิวเส นิราหาโร หุตฺวา เอวํ ทุพฺพโลปิ ทานํ เทนฺโต ตุฏฺจิตฺโตว เทติ, จิตฺตสฺส อฺถตฺตมฺปิ นตฺถิ, อหํ อิมํ ‘อิทํ นาม ปตฺเถตฺวา เทตี’ติ น ชานามิ, ปุจฺฉิตฺวา อชฺฌาสยมสฺส สุตฺวา ทานการณํ ชานิสฺสามี’’ติ. โส มชฺฌนฺหิเก วีติวตฺเต มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน คคนตเล ตรุณสูริโย วิย ชลมาโน อาคนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส ปุรโตว ตฺวา ‘‘อมฺโภ ตาปส, เอวํ อุณฺหวาเต ปหรนฺเต เอวรูเป โลณชลปริกฺขิตฺเต อรฺเ กิมตฺถํ ตโปกมฺมํ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปมํ คาถมาห –

๘๓.

‘‘อกิตฺตึ ทิสฺวา สมฺมนฺตํ, สกฺโก ภูตปตี พฺรวิ;

กึ ปตฺถยํ มหาพฺรหฺเม, เอโก สมฺมสิ ฆมฺมนี’’ติ.

ตตฺถ กึ ปตฺถยนฺติ กึ มนุสฺสสมฺปตฺตึ ปตฺเถนฺโต, อุทาหุ สกฺกสมฺปตฺติอาทีนํ อฺตรนฺติ.

มหาสตฺโต ตํ สุตฺวา สกฺกภาวฺจสฺส ตฺวา ‘‘นาหํ เอตา สมฺปตฺติโย ปตฺเถมิ, สพฺพฺุตํ ปน ปตฺเถนฺโต ตโปกมฺมํ กโรมี’’ติ ปกาเสตุํ ทุติยํ คาถมาห –

๘๔.

‘‘ทุกฺโข ปุนพฺภโว สกฺก, สรีรสฺส จ เภทนํ;

สมฺโมหมรณํ ทุกฺขํ, ตสฺมา สมฺมามิ วาสวา’’ติ.

ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ปุนปฺปุนํ ชาติ ขนฺธานํ เภทนํ สมฺโมหมรณฺจ ทุกฺขํ, ตสฺมา ยตฺเถตานิ นตฺถิ, ตํ นิพฺพานํ ปตฺเถนฺโต อิธ สมฺมามีติ เอวํ อตฺตโน นิพฺพานชฺฌาสยตํ ทีเปติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ตุฏฺมานโส ‘‘สพฺพภเวสุ กิรายํ อุกฺกณฺิโต นิพฺพานตฺถาย อรฺเ วิหรติ, วรมสฺส ทสฺสามี’’ติ วเรน นิมนฺเตนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๘๕.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสีติ ยํ มนสา อิจฺฉสิ, ตํ ทมฺมิ, วรํ คณฺหาหีติ.

มหาสตฺโต วรํ คณฺหนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๘๖.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

เยน ปุตฺเต จ ทาเร จ, ธนธฺํ ปิยานิ จ;

ลทฺธา นรา น ตปฺปนฺติ, โส โลโภ น มยี วเส’’ติ.

ตตฺถ วรฺเจ เม อโทติ สเจ วรํ มยฺหํ เทสิ. ปิยานิ จาติ อฺานิ จ ยานิ ปิยภณฺฑานิ. น ตปฺปนฺตีติ ปุนปฺปุนํ ปุตฺตาทโย ปตฺเถนฺติเยว, น ติตฺตึ อุปคจฺฉนฺติ. น มยี วเสติ มยิ มา วสตุ มา อุปฺปชฺชตุ.

อถสฺส สกฺโก ตุสฺสิตฺวา อุตฺตริมฺปิ วรํ เทนฺโต มหาสตฺโต จ วรํ คณฺหนฺโต อิมา คาถา อภาสึสุ –

๘๗.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.

๘๘.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

เขตฺตํ วตฺถุํ หิรฺฺจ, ควาสฺสํ ทาสโปริสํ;

เยน ชาเตน ชียนฺติ, โส โทโส น มยี วเส.

๘๙.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.

๙๐.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

พาลํ น ปสฺเส น สุเณ, น จ พาเลน สํวเส;

พาเลนลฺลาปสลฺลาปํ, น กเร น จ โรจเย.

๙๑.

‘‘กึ นุ เต อกรํ พาโล, วท กสฺสป การณํ;

เกน กสฺสป พาลสฺส, ทสฺสนํ นาภิกงฺขสิ.

๙๒.

‘‘อนยํ นยติ ทุมฺเมโธ, อธุรายํ นิยุฺชติ;

ทุนฺนโย เสยฺยโส โหติ, สมฺมา วุตฺโต ปกุปฺปติ;

วินยํ โส น ชานาติ, สาธุ ตสฺส อทสฺสนํ.

๙๓.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.

๙๔.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

ธีรํ ปสฺเส สุเณ ธีรํ, ธีเรน สห สํวเส;

ธีเรนลฺลาปสลฺลาปํ, ตํ กเร ตฺจ โรจเย.

๙๕.

‘‘กึ นุ เต อกรํ ธีโร, วท กสฺสป การณํ;

เกน กสฺสป ธีรสฺส, ทสฺสนํ อภิกงฺขสิ.

๙๖.

‘‘นยํ นยติ เมธาวี, อธุรายํ น ยุฺชติ;

สุนโย เสยฺยโส โหติ, สมฺมา วุตฺโต น กุปฺปติ;

วินยํ โส ปชานาติ, สาธุ เตน สมาคโม.

๙๗.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.

๙๘.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, สีลวนฺโต จ ยาจกา.

๙๙.

‘‘ททโต เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;

ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, เอตํ สกฺก วรํ วเร.

๑๐๐.

‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;

วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.

๑๐๑.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

น มํ ปุน อุเปยฺยาสิ, เอตํ สกฺก วรํ วเร.

๑๐๒.

‘‘พหูหิ วตจริยาหิ, นรา จ อถ นาริโย;

ทสฺสนํ อภิกงฺขนฺติ, กึ นุ เม ทสฺสเน ภยํ.

๑๐๓.

‘‘ตํ ตาทิสํ เทววณฺณํ, สพฺพกามสมิทฺธินํ;

ทิสฺวา ตโป ปมชฺเชยฺยํ, เอตํ เต ทสฺสเน ภย’’นฺติ.

ตตฺถ เยน ชาเตนาติ เยน จิตฺเตน ชาเตน กุทฺธา สตฺตา ปาณวธาทีนํ กตตฺตา ราชทณฺฑวเสน วิสขาทนาทีหิ วา อตฺตโน มรณวเสน เอตานิ เขตฺตาทีนิ ชียนฺติ, โส โทโส มยิ น วเสยฺยาติ ยาจติ. น สุเณติ อสุกฏฺาเน นาม วสตีติปิ อิเมหิ การเณหิ น สุเณยฺยํ. กึ นุ เต อกรนฺติ กึ นุ ตว พาเลน มาตา มาริตา, อุทาหุ ตว ปิตา, อฺํ วา ปน เต กึ นาม อนตฺถํ พาโล อกรํ.

อนยํ นยตีติ อการณํ ‘‘การณ’’นฺติ คณฺหาติ, ปาณาติปาตาทีนิ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสามีติ เอวรูปานิ อนตฺถกมฺมานิ จินฺเตติ. อธุรายนฺติ สทฺธาธุรสีลธุรปฺาธุเรสุ อโยเชตฺวา อโยเค นิยุฺชติ. ทุนฺนโย เสยฺยโส โหตีติ ทุนฺนโยว ตสฺส เสยฺโย โหติ. ปฺจ ทุสฺสีลกมฺมานิ สมาทาย วตฺตนเมว เสยฺโยติ คณฺหาติ, หิตปฏิปตฺติยา วา ทุนฺนโย โหติ เนตุํ อสกฺกุเณยฺโย. สมฺมา วุตฺโตติ เหตุนา การเณน วุตฺโต กุปฺปติ. วินยนฺติ ‘‘เอวํ อภิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทิกํ อาจารวินยํ น ชานาติ, โอวาทฺจ น สมฺปฏิจฺฉติ. สาธุ ตสฺสาติ เอเตหิ การเณหิ ตสฺส อทสฺสนเมว สาธุ.

สูริยุคฺคมนํ ปตีติ สูริยุคฺคมนเวลาย. ทิพฺพา ภกฺขาติ ทิพฺพโภชนํ ยาจกาติ ตสฺส ทิพฺพโภชนสฺส ปฏิคฺคาหกา. วตจริยาหีติ ทานสีลอุโปสถกมฺเมหิ. ทสฺสนํ อภิกงฺขนฺตีติ ทสฺสนํ มม อภิกงฺขนฺติ. ตํ ตาทิสนฺติ เอวรูปํ ทิพฺพาลงฺการวิภูสิตํ. ปมชฺเชยฺยนฺติ ปมาทํ อาปชฺเชยฺยํ. ตว สิริสมฺปตฺตึ ปตฺเถยฺยํ, เอวํ นิพฺพานตฺถาย ปวตฺติเต ตโปกมฺเม สกฺกฏฺานํ ปตฺเถนฺโต ปมตฺโต นาม ภเวยฺยํ, เอตํ ตว ทสฺสเน มยฺหํ ภยนฺติ.

สกฺโก ‘‘สาธุ, ภนฺเต, อิโต ปฏฺาย น เต สนฺติกํ อาคมิสฺสามา’’ติ ตํ วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ. มหาสตฺโต ยาวชีวํ ตตฺเถว วสนฺโต พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, อกิตฺติปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

อกิตฺติชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๔๘๑] ๘. ตกฺการิยชาตกวณฺณนา

อหเมว ทุพฺภาสิตํ ภาสิ พาโลติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกกาลิกํ อารพฺภ กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ อนฺโตวสฺเส ทฺเว อคฺคสาวกา คณํ ปหาย วิวิตฺตาวาสํ วสิตุกามา สตฺถารํ อาปุจฺฉิตฺวา โกกาลิกรฏฺเ โกกาลิกสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ตํ เอวมาหํสุ ‘‘อาวุโส โกกาลิก, ตํ นิสฺสาย อมฺหากํ, อมฺเห จ นิสฺสาย ตว ผาสุวิหาโร ภวิสฺสติ, อิมํ เตมาสํ อิธ วเสยฺยามา’’ติ. ‘‘โก ปนาวุโส, มํ นิสฺสาย ตุมฺหากํ ผาสุวิหาโร’’ติ. สเจ ตฺวํ อาวุโส ‘‘ทฺเว อคฺคสาวกา อิธ วิหรนฺตี’’ติ กสฺสจิ นาโรเจยฺยาสิ, มยํ สุขํ วิหเรยฺยาม, อยํ ตํ นิสฺสาย อมฺหากํ ผาสุวิหาโรติ. ‘‘อถ ตุมฺเห นิสฺสาย มยฺหํ โก ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘มยํ ตุยฺหํ อนฺโตเตมาสํ ธมฺมํ วาเจสฺสาม, ธมฺมกถํ กเถสฺสาม, เอส ตุยฺหํ อมฺเห นิสฺสาย ผาสุวิหาโร’’ติ. ‘‘วสถาวุโส, ยถาชฺฌาสเยนา’’ติ. โส เตสํ ปติรูปํ เสนาสนํ อทาสิ. เต ผลสมาปตฺติสุเขน สุขํ วสึสุ. โกจิ เนสํ ตตฺถ วสนภาวํ น ชานาติ.

เต วุตฺถวสฺสา ปวาเรตฺวา ‘‘อาวุโส, ตํ นิสฺสาย สุขํ วุตฺถามฺห, สตฺถารํ วนฺทิตุํ คจฺฉามา’’ติ ตํ อาปุจฺฉึสุ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เต อาทาย ธุรคาเม ปิณฺฑาย จริ. เถรา กตภตฺตกิจฺจา คามโต นิกฺขมึสุ. โกกาลิโก เต อุยฺโยเชตฺวา นิวตฺติตฺวา มนุสฺสานํ อาโรเจสิ ‘‘อุปาสกา, ตุมฺเห ติรจฺฉานสทิสา, ทฺเว อคฺคสาวเก เตมาสํ ธุรวิหาเร วสนฺเต น ชานิตฺถ, อิทานิ เต คตา’’ติ. มนุสฺสา ‘‘กสฺมา ปน, ภนฺเต, อมฺหากํ นาโรจิตฺถา’’ติ วตฺวา พหุํ สปฺปิเตลาทิเภสชฺชฺเจว วตฺถจฺฉาทนฺจ คเหตฺวา เถเร อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ขมถ โน, ภนฺเต, มยํ ตุมฺหากํ อคฺคสาวกภาวํ น ชานาม, อชฺช โน โกกาลิกภทนฺตสฺส วจเนน าตา, อมฺหากํ อนุกมฺปาย อิมานิ เภสชฺชวตฺถจฺฉาทนานิ คณฺหถา’’ติ อาหํสุ.

โกกาลิโก ‘‘เถรา อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา, อิมานิ วตฺถานิ อตฺตนา อคฺคเหตฺวา มยฺหํ ทสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปาสเกหิ สทฺธึเยว เถรานํ สนฺติกํ คโต. เถรา ภิกฺขุปริปาจิตตฺตา ตโต กิฺจิ เนว อตฺตนา คณฺหึสุ, น โกกาลิกสฺส ทาเปสุํ. อุปาสกา ‘‘ภนฺเต, อิทานิ อคณฺหนฺตา ปุน อมฺหากํ อนุกมฺปาย อิธ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ ยาจึสุ. เถรา อนธิวาเสตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อคมึสุ. โกกาลิโก ‘‘อิเม เถรา อตฺตนา อคณฺหนฺตา มยฺหํ น ทาเปสุ’’นฺติ อาฆาตํ พนฺธิ. เถราปิ สตฺถุ สนฺติเก โถกํ วสิตฺวา อตฺตโน ปริวาเร ปฺจภิกฺขุสเต จ อาทาย ภิกฺขุสหสฺเสน สทฺธึ จาริกํ จรมานา โกกาลิกรฏฺํ ปตฺตา. เต อุปาสกา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา เถเร อาทาย ตเมว วิหารํ เนตฺวา เทวสิกํ มหาสกฺการํ กรึสุ. ปหุตํ เภสชฺชวตฺถจฺฉาทนํ อุปฺปชฺชิ, เถเรหิ สทฺธึ อาคตภิกฺขู จีวรานิ วิจาเรนฺตา สทฺธึ อาคตานํ ภิกฺขูนฺเว เทนฺติ, โกกาลิกสฺส น เทนฺติ, เถราปิ ตสฺส น ทาเปนฺติ. โกกาลิโก จีวรํ อลภิตฺวา ‘‘ปาปิจฺฉา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปุพฺเพ ทียมานํ ลาภํ อคฺคเหตฺวา อิทานิ คณฺหนฺติ, ปูเรตุํ น สกฺกา, อฺเ น โอโลเกนฺตี’’ติ เถเร อกฺโกสติ ปริภาสติ. เถรา ‘‘อยํ อมฺเห นิสฺสาย อกุสลํ ปสวตี’’ติ สปริวารา นิกฺขมิตฺวา ‘‘อฺํ, ภนฺเต, กติปาหํ วสถา’’ติ มนุสฺเสหิ ยาจิยมานาปิ นิวตฺติตุํ น อิจฺฉึสุ.

อเถโก ทหโร ภิกฺขุ อาห – ‘‘อุปาสกา, กถํ เถรา วสิสฺสนฺติ, ตุมฺหากํ กุลูปโก เถโร อิธ อิเมสํ วาสํ น สหตี’’ติ. เต ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห กิร เถรานํ อิธ วาสํ น สหถ, คจฺฉถ เน ขมาเปตฺวา นิวตฺเตถ, สเจ น นิวตฺเตถ, ปลายิตฺวา อฺตฺถ วสถา’’ติ อาหํสุ. โส อุปาสกานํ ภเยน คนฺตฺวา เถเร ยาจิ. เถรา ‘‘คจฺฉาวุโส, น มยํ นิวตฺตามา’’ติ ปกฺกมึสุ. โส เถเร นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต วิหารเมว ปจฺจาคโต. อถ นํ อุปาสกา ปุจฺฉึสุ ‘‘นิวตฺติตา เต, ภนฺเต, เถรา’’ติ. ‘‘นิวตฺเตตุํ นาสกฺขึ อาวุโส’’ติ. อถ นํ ‘‘อิมสฺมึ ปาปธมฺเม วสนฺเต อิธ เปสลา ภิกฺขู น วสิสฺสนฺติ, นิกฺกฑฺฒาม น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ภนฺเต, มา ตฺวํ อิธ วสิ, อมฺเห นิสฺสาย ตุยฺหํ กิฺจิ นตฺถี’’ติ อาหํสุ. โส เตหิ นิกฺกฑฺฒิโต ปตฺตจีวรมาทาย เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปาปิจฺฉา, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ อาห. อถ นํ สตฺถา ‘‘มา เหวํ โกกาลิก, อวจ, มา เหวํ โกกาลิก อวจ, ปสาเทหิ โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ, เต เปสลา ภิกฺขู’’ติ วาเรติ. วาริโตปิ โกกาลิโก ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, ตุมฺหากํ อคฺคสาวกานํ สทฺทหถ, อหํ ปจฺจกฺขโต อทฺทสํ, ปาปิจฺฉา เอเต ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตา ทุสฺสีลา’’ติ วตฺวา ยาวตติยํ สตฺถารา วาริโตปิ ตเถว วตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ตสฺส ปกฺกนฺตมตฺตสฺเสว สกลสรีเร สาสปมตฺตา ปิฬกา อุฏฺหิตฺวา อนุปุพฺเพน วฑฺฒิตฺวา เพฬุวปกฺกมตฺตา หุตฺวา ภิชฺชิตฺวา ปุพฺพโลหิตานิ ปคฺฆรึสุ. โส นิตฺถุนนฺโต เวทนาปฺปตฺโต เชตวนทฺวารโกฏฺเก นิปชฺชิ. ‘‘โกกาลิเกน ทฺเว อคฺคสาวกา อกฺกุฏฺา’’ติ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ อโหสิ.

อถสฺส อุปชฺฌาโย ตุรู นาม พฺรหฺมา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘เถเร ขมาเปสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา อากาเส ตฺวา ‘‘โกกาลิก, ผรุสํ เต กมฺมํ กตํ, อคฺคสาวเก ปสาเทหี’’ติ อาห. ‘‘โก ปน ตฺวํ อาวุโส’’ติ? ‘‘ตุรู พฺรหฺมา นามาห’’นฺติ. ‘‘นนุ ตฺวํ, อาวุโส, ภควตา อนาคามีติ พฺยากโต, อนาคามี จ อนาวตฺติธมฺโม อสฺมา โลกาติ วุตฺตํ, ตฺวํ สงฺการฏฺาเน ยกฺโข ภวิสฺสสี’’ติ มหาพฺรหฺมํ อปสาเทสิ. โส ตํ อตฺตโน วจนํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘ตว วาจาย ตฺวฺเว ปฺายิสฺสสี’’ติ วตฺวา สุทฺธาวาสเมว คโต. โกกาลิโกปิ กาลํ กตฺวา ปทุมนิรเย อุปฺปชฺชิ. ตสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตภาวํ ตฺวา สหมฺปติพฺรหฺมา ตถาคตสฺส อาโรเจสิ, สตฺถา ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ตสฺส อคุณํ กเถนฺตา ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, โกกาลิโก กิร สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน อกฺโกสิตฺวา อตฺตโน มุขํ นิสฺสาย ปทุมนิรเย อุปฺปนฺโน’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โกกาลิโก วจเนน หโต อตฺตโน มุขํ นิสฺสาย ทุกฺขํ อนุโภติ, ปุพฺเพปิ เอส อตฺตโน มุขํ นิสฺสาย ทุกฺขํ อนุโภสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตสฺส ปุโรหิโต ปิงฺคโล นิกฺขนฺตทาโ อโหสิ. ตสฺส พฺราหฺมณี อฺเน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อติจริ, โสปิ ตาทิโสว. ปุโรหิโต พฺราหฺมณึ ปุนปฺปุนํ วาเรนฺโตปิ วาเรตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อิมํ มม เวรึ สหตฺถา มาเรตุํ น สกฺกา, อุปาเยน นํ มาเรสฺสามี’’ติ. โส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห ‘‘มหาราช, ตว นครํ สกลชมฺพุทีเป อคฺคนครํ, ตฺวํ อคฺคราชา, เอวํ อคฺครฺโ นาม ตว ทกฺขิณทฺวารํ ทุยุตฺตํ อวมงฺคล’’นฺติ. ‘‘อาจริย, อิทานิ กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘มงฺคลํ กตฺวา โยเชตพฺพ’’นฺติ. ‘‘กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ปุราณทฺวารํ หาเรตฺวา มงฺคลยุตฺตานิ ทารูนิ คเหตฺวา นครปริคฺคาหกานํ ภูตานํ พลึ ทตฺวา มงฺคลนกฺขตฺเตน ปติฏฺาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘เตน หิ เอวํ กโรถา’’ติ. ตทา โพธิสตฺโต ตกฺการิโย นาม มาณโว หุตฺวา ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหาติ. ปุโรหิโต ปุราณทฺวารํ หาเรตฺวา นวํ นิฏฺาเปตฺวา ราชานํ อาห – ‘‘นิฏฺิตํ, เทว, ทฺวารํ, สฺเว ภทฺทกํ นกฺขตฺตํ, ตํ อนติกฺกมิตฺวา พลึ กตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘อาจริย, พลิกมฺมตฺถาย กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เทว, มเหสกฺขํ ทฺวารํ มเหสกฺขาหิ เทวตาหิ ปริคฺคหิตํ, เอกํ ปิงฺคลํ นิกฺขนฺตทาํ อุภโตวิสุทฺธํ พฺราหฺมณํ มาเรตฺวา ตสฺส มํสโลหิเตน พลึ กตฺวา สรีรํ เหฏฺา ขิปิตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปตพฺพํ, เอวํ ตุมฺหากฺจ นครสฺส จ วุฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ อาจริย, เอวรูปํ พฺราหฺมณํ มาเรตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปหี’’ติ.

โส ตุฏฺมานโส ‘‘สฺเว ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา มุขํ รกฺขิตุํ อสกฺโกนฺโต ตุริตตุริโต ภริยํ อาห – ‘‘ปาเป จณฺฑาลิ อิโต ปฏฺาย เกน สทฺธึ อภิรมิสฺสสิ, สฺเว เต ชารํ มาเรตฺวา พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘นิรปราธํ กึการณา มาเรสฺสสี’’ติ? ราชา ‘‘กฬารปิงฺคลสฺส พฺราหฺมณสฺส มํสโลหิเตน พลิกมฺมํ กตฺวา นครทฺวารํ ปติฏฺาเปหี’’ติ อาห, ‘‘ชาโร จ เต กฬารปิงฺคโล, ตํ มาเรตฺวา พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. สา ชารสฺส สนฺติกํ สาสนํ ปาเหสิ ‘‘ราชา กิร กฬารปิงฺคลํ พฺราหฺมณํ มาเรตฺวา พลึ กาตุกาโม, สเจ ชีวิตุกาโม, อฺเปิ ตยา สทิเส พฺราหฺมเณ คเหตฺวา กาลสฺเสว ปลายสฺสู’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ตํ นคเร ปากฏํ อโหสิ, สกลนครโต สพฺเพ กฬารปิงฺคลา ปลายึสุ.

ปุโรหิโต ปจฺจามิตฺตสฺส ปลาตภาวํ อชานิตฺวา ปาโตว ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, อสุกฏฺาเน กฬารปิงฺคโล พฺราหฺมโณ อตฺถิ, ตํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา อมจฺเจ เปเสสิ. เต ตํ อปสฺสนฺตา อาคนฺตฺวา ‘‘ปลาโต กิรา’’ติ อาโรเจสุํ. ‘‘อฺตฺถ อุปธาเรถา’’ติ สกลนครํ อุปธาเรนฺตาปิ น ปสฺสึสุ. ตโต ‘‘อฺํ อุปธาเรถา’’ติ วุตฺเต ‘‘เทว, เปตฺวา ปุโรหิตํ อฺโ เอวรูโป นตฺถี’’ติ วทึสุ. ปุโรหิตํ น สกฺกา มาเรตุนฺติ. ‘‘เทว, กึ กเถถ, ปุโรหิตสฺส การณา อชฺช ทฺวาเร อปฺปติฏฺาปิเต นครํ อคุตฺตํ ภวิสฺสติ, อาจริโย กเถนฺโต ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ อติกฺกมิตฺวา อิโต สํวจฺฉรจฺจเยน นกฺขตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ กเถสิ, สํวจฺฉรํ นคเร อทฺวารเก ปจฺจตฺถิกานํ โอกาโส ภวิสฺสติ, อิมํ มาเรตฺวา อฺเน พฺยตฺเตน พฺราหฺมเณน พลิกมฺมํ กาเรตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปสฺสามา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน อฺโ อาจริยสทิโส ปณฺฑิโต พฺราหฺมโณ’’ติ? ‘‘อตฺถิ เทว, ตสฺส อนฺเตวาสี ตกฺการิยมาณโว นาม, ตสฺส ปุโรหิตฏฺานํ ทตฺวา มงฺคลํ กโรถา’’ติ.

ราชา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา สมฺมานํ กาเรตฺวา ปุโรหิตฏฺานํ ทตฺวา ตถา กาตุํ อาณาเปสิ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน นครทฺวารํ อคมาสิ. ปุโรหิตํ ราชานุภาเวน พนฺธิตฺวา อานยึสุ. มหาสตฺโต ทฺวารฏฺปนฏฺาเน อาวาฏํ ขณาเปตฺวา สาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา อาจริเยน สทฺธึ อนฺโตสาณิยํ อฏฺาสิ. อาจริโย อาวาฏํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน ปติฏฺํ อลภนฺโต ‘‘อตฺโถ ตาว เม นิปฺผาทิโต อโหสิ, พาลตฺตา ปน มุขํ รกฺขิตุํ อสกฺโกนฺโต เวเคน ปาปิตฺถิยา กเถสึ, อตฺตนาว อตฺตโน วโธ อาภโต’’ติ มหาสตฺตํ อาลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๐๔.

‘‘อหเมว ทุพฺภาสิตํ ภาสิ พาโล, เภโกวรฺเ อหิมวฺหายมาโน;

ตกฺการิเย โสพฺภมิมํ ปตามิ, น กิเรว สาธุ อติเวลภาณี’’ติ.

ตตฺถ ทุพฺภาสิตํ ภาสีติ ทุพฺภาสิตํ ภาสึ. เภโกวาติ ยถา อรฺเ มณฺฑูโก วสฺสนฺโต อตฺตโน ขาทกํ อหึ อวฺหายมาโน ทุพฺภาสิตํ ภาสติ นาม, เอวํ อหเมว ทุพฺภาสิตํ ภาสึ. ตกฺการิเยติ ตสฺส นามํ, ตกฺการิยาติ อิตฺถิลิงฺคํ นามํ, เตเนว ตํ อาลปนฺโต เอวมาห.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๑๐๕.

‘‘ปปฺโปติ มจฺโจ อติเวลภาณี, พนฺธํ วธํ โสกปริทฺทวฺจ;

อตฺตานเมว ครหาสิ เอตฺถ, อาเจร ยํ ตํ นิขณนฺติ โสพฺเภ’’ติ.

ตตฺถ อติเวลภาณีติ เวลาติกฺกนฺตํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กตฺวา กถนํ นาม น สาธุ, อติเวลภาณี ปุริโส น สาธูติ อตฺโถ. โสกปริทฺทวฺจาติ อาจริย, เอวเมว อติเวลภาณี ปุริโส วธํ พนฺธฺจ โสกฺจ มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวฺจ ปปฺโปติ. ครหาสีติ ปรํ อครหิตฺวา อตฺตานํเยว ครเหยฺยาสิ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ การเณ. อาเจร ยํ ตนฺติ อาจริย, เยน การเณน ตํ นิขณนฺติ โสพฺเภ, ตํ ตยาว กตํ, ตสฺมา อตฺตานเมว ครเหยฺยาสีติ วทติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อาจริย, วาจํ อรกฺขิตฺวา น เกวลํ ตฺวเมว ทุกฺขปฺปตฺโต, อฺโปิ ทุกฺขปฺปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิ.

ปุพฺเพ กิร พาราณสิยํ กาฬี นาม คณิกา อโหสิ, ตสฺสา ตุณฺฑิโล นาม ภาตา. กาฬี เอกทิวสํ สหสฺสํ คณฺหาติ. ตุณฺฑิโล ปน อิตฺถิธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต อโหสิ. สา ตสฺส ธนํ เทติ, โส ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ. สา ตํ วาเรนฺตีปิ วาเรตุํ นาสกฺขิ. โส เอกทิวสํ ชูตปราชิโต นิวตฺถวตฺถานิ ทตฺวา กฏสารกขณฺฑํ นิวาเสตฺวา ตสฺสา เคหํ อาคมิ. ตาย จ ทาสิโย อาณตฺตา โหนฺติ ‘‘ตุณฺฑิลสฺส อาคตกาเล กิฺจิ อทตฺวา คีวายํ นํ คเหตฺวา นีหเรยฺยาถา’’ติ. ตา ตถา กรึสุ. โส ทฺวารมูเล โรทนฺโต อฏฺาสิ.

อเถโก เสฏฺิปุตฺโต นิจฺจกาลํ กาฬิยา สหสฺสํ อาหราเปนฺโต ทิสฺวา ‘‘กสฺมา ตุณฺฑิล โรทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, ชูตปราชิโต มม ภคินิยา สนฺติกํ อาคโตมฺหิ, ตํ มํ ทาสิโย คีวายํ คเหตฺวา นีหรึสู’’ติ. ‘‘เตน หิ ติฏฺ, ภคินิยา เต กเถสฺสามี’’ติ โส คนฺตฺวา ‘‘ภาตา เต กฏสารกขณฺฑํ นิวาเสตฺวา ทฺวารมูเล ิโต, วตฺถานิสฺส กิมตฺถํ น เทสี’’ติ อาห. ‘‘อหํ ตาว น เทมิ, สเจ ปน เต สิเนโห อตฺถิ, ตฺวํ เทหี’’ติ. ตสฺมึ ปน คณิกาย ฆเร อิทํจาริตฺตํ – อาภตสหสฺสโต ปฺจสตานิ คณิกาย โหนฺติ, ปฺจสตานิ วตฺถคนฺธมาลมูลานิ โหนฺติ. อาคตปุริสา ตสฺมึ ฆเร ลทฺธวตฺถานิ นิวาเสตฺวา รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส คจฺฉนฺตา อาภตวตฺถาเนว นิวาเสตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺมา โส เสฏฺิปุตฺโต ตาย ทินฺนวตฺถานิ นิวาเสตฺวา อตฺตโน สาฏเก ตุณฺฑิลสฺส ทาเปสิ. โส นิวาเสตฺวา นทนฺโต คชฺชนฺโต คนฺตฺวา สุราเคหํ ปาวิสิ. กาฬีปิ ทาสิโย อาณาเปสิ ‘‘สฺเว เอตสฺส คมนกาเล วตฺถานิ อจฺฉินฺเทยฺยาถา’’ติ. ตา ตสฺส นิกฺขมนกาเล อิโต จิโต จ อุปธาวิตฺวา วิลุมฺปมานา สาฏเก คเหตฺวา ‘‘อิทานิ ยาหิ กุมารา’’ติ นคฺคํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสุํ. โส นคฺโคว นิกฺขมิ. ชโน ปริหาสํ กโรติ. โส ลชฺชิตฺวา ‘‘มยาเวตํ กตํ, อหเมว อตฺตโน มุขํ รกฺขิตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ ปริเทวิ. อิทํ ตาว ทสฺเสตุํ ตติยํ คาถมาห –

๑๐๖.

‘‘กิเมวหํ ตุณฺฑิลมนุปุจฺฉึ, กเรยฺย สํ ภาตรํ กาฬิกายํ;

นคฺโควหํ วตฺถยุคฺจ ชีโน, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.

ตตฺถ พหุตาทิโสวาติ เสฏฺิปุตฺโต หิ อตฺตนา กเตน ทุกฺขํ ปตฺโต, ตฺวมฺปิ ตสฺมา อยมฺปิ ตุยฺหํ ทุกฺขปฺปตฺติ อตฺโถ. พหูหิ การเณหิ ตาทิโสว.

อปโรปิ พาราณสิยํ อชปาลานํ ปมาเทน โคจรภูมิยํ ทฺวีสุ เมณฺเฑสุ ยุชฺฌนฺเตสุ เอโก กุลิงฺคสกุโณ ‘‘อิเม ทานิ ภินฺเนหิ สีเสหิ มริสฺสนฺติ, วาเรสฺสามิ เตติ มาตุลา มา ยุชฺฌถา’’ติ วาเรตฺวา เตสํ กถํ อคฺคเหตฺวา ยุชฺฌนฺตานฺเว ปิฏฺิยมฺปิ สีเสปิ นิสีทิตฺวา ยาจิตฺวา วาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เตน หิ มํ มาเรตฺวา ยุชฺฌถา’’ติ อุภินฺนมฺปิ สีสนฺตรํ ปาวิสิ. เต อฺมฺํ ยุชฺฌึสุเยว. โส สณฺหกรณิยํ ปิสิโต วิย อตฺตนา กเตเนว วินาสํ ปตฺโต. อิทมฺปิ อปรํ การณํ ทสฺเสตุํ จตุตฺถํ คาถมาห –

๑๐๗.

‘‘โย ยุชฺฌมานานมยุชฺฌมาโน, เมณฺฑนฺตรํ อจฺจุปตี กุลิงฺโค;

โส ปึสิโต เมณฺฑสิเรหิ ตตฺถ, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.

ตตฺถ เมณฺฑนฺตรนฺติ เมณฺฑานํ อนฺตรํ. อจฺจุปตีติ อติคนฺตฺวา อุปฺปติ, อากาเส สีสานํ เวมชฺเฌ อฏฺาสีติ อตฺโถ. ปึสิโตติ ปีฬิโต.

อปเรปิ พาราณสิวาสิโน โคปาลกา ผลิตํ ตาลรุกฺขํ ทิสฺวา เอกํ ตาลผลตฺถาย รุกฺขํ อาโรเปสุํ. ตสฺมึ ผลานิ ปาเตนฺเต เอโก กณฺหสปฺโป วมฺมิกา นิกฺขมิตฺวา ตาลรุกฺขํ อารุหิ. เหฏฺา ปติฏฺิตา ทณฺเฑหิ ปหรนฺตา นิวาเรตุํ นาสกฺขึสุ. เต ‘‘สปฺโป ตาลํ อภิรุหตี’’ติ อิตรสฺส อาจิกฺขึสุ. โส ภีโต มหาวิรวํ วิรวิ. เหฏฺา ิตา เอกํ ถิรสาฏกํ จตูสุ กณฺเณสุ คเหตฺวา ‘‘อิมสฺมึ สาฏเก ปตา’’ติ อาหํสุ. โส ปตนฺโต จตุนฺนมฺปิ อนฺตเร สาฏกมชฺเฌ ปติ. ตสฺส ปน ปาตนเวเคน เต สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตา อฺมฺํ สีเสหิ ปหริตฺวา ภินฺเนหิ สีเสหิ ชีวิตกฺขยํ ปตฺตา. อิทมฺปิ การณํ ทสฺเสนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –

๑๐๘.

‘‘จตุโร ชนา โปตฺถกมคฺคเหสุํ, เอกฺจ โปสํ อนุรกฺขมานา;

สพฺเพว เต ภินฺนสิรา สยึสุ, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.

ตตฺถ โปตฺถกนฺติ สาณสาฏกํ. สพฺเพว เตติ เตปิ จตฺตาโร ชนา อตฺตนา กเตเนว ภินฺนสีสา สยึสุ.

อปเรปิ พาราณสิวาสิโน เอฬกโจรา รตฺตึ เอกํ อชํ เถเนตฺวา ‘‘ทิวา อรฺเ ขาทิสฺสามา’’ติ ตสฺสา อวสฺสนตฺถาย มุขํ พนฺธิตฺวา เวฬุคุมฺเพ เปสุํ. ปุนทิวเส ตํ ขาทิตุํ คจฺฉนฺตา อาวุธํ ปมุสฺสิตฺวา อคมํสุ. เต ‘‘อชํ มาเรตฺวา มํสํ ปจิตฺวา ขาทิสฺสาม, อาหรถาวุธ’’นฺติ เอกสฺสปิ หตฺเถ อาวุธํ อทิสฺวา ‘‘วินา อาวุเธน เอตํ มาเรตฺวาปิ มํสํ คเหตุํ น สกฺกา, วิสฺสชฺเชถ นํ, ปุฺมสฺส อตฺถี’’ติ วิสฺสชฺเชสุํ. ตทา เอโก นฬกาโร เวฬุํ คเหตฺวา ‘‘ปุนปิ อาคนฺตฺวา คเหสฺสามี’’ติ นฬการสตฺถํ เวฬุคุมฺพนฺตเร เปตฺวา ปกฺกามิ. อชา ‘‘มุตฺตามฺหี’’ติ ตุสฺสิตฺวา เวฬุมูเล กีฬมานา ปจฺฉิมปาเทหิ ปหริตฺวา ตํ สตฺถํ ปาเตสิ. โจรา สตฺถสทฺทํ สุตฺวา อุปธาเรนฺตา ตํ ทิสฺวา ตุฏฺมานสา อชํ มาเรตฺวา มํสํ ขาทึสุ. อิติ ‘‘สาปิ อชา อตฺตนา กเตเนว มตา’’ติ ทสฺเสตุํ ฉฏฺํ คาถมาห –

๑๐๙.

‘‘อชา ยถา เวฬุคุมฺพสฺมึ พทฺธา, อวกฺขิปนฺตี อสิมชฺฌคจฺฉิ;

เตเนว ตสฺสา คลกาวกนฺตํ, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.

ตตฺถ อวกฺขิปนฺตีติ กีฬมานา ปจฺฉิมปาเท ขิปนฺตี.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อตฺตโน วจนํ รกฺขิตฺวา มิตภาณิโน นาม มรณทุกฺขา มุจฺจนฺตี’’ติ ทสฺเสตฺวา กินฺนรวตฺถุํ อาหริ.

พาราณสิวาสี กิเรโก ลุทฺทโก หิมวนฺตํ คนฺตฺวา เอเกนุปาเยน ชยมฺปติเก ทฺเว กินฺนเร คเหตฺวา อาเนตฺวา รฺโ อทาสิ. ราชา อทิฏฺปุพฺเพ กินฺนเร ทิสฺวา ตุสฺสิตฺวา ‘‘ลุทฺท, อิเมสํ โก คุโณ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, เอเต มธุเรน สทฺเทน คายนฺติ, มนุฺํ นจฺจนฺติ, มนุสฺสา เอวํ คายิตุฺจ นจฺจิตุฺจ น ชานนฺตี’’ติ. ราชา ลุทฺทสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา กินฺนเร ‘‘คายถ นจฺจถา’’ติ อาห. กินฺนรา ‘‘สเจ มยํ คายนฺตา พฺยฺชนํ ปริปุณฺณํ กาตุํ น สกฺขิสฺสาม, ทุคฺคีตํ โหติ, อมฺเห ครหิสฺสนฺติ วธิสฺสนฺติ, พหุํ กเถนฺตานฺจ ปน มุสาวาโทปิ โหตี’’ติ มุสาวาทภเยน รฺา ปุนปฺปุนํ วุตฺตาปิ น คายึสุ น นจฺจึสุ. ราชา กุชฺฌิตฺวา ‘‘อิเม มาเรตฺวา มํสํ ปจิตฺวา อาหรถา’’ติ อาณาเปนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๑๑๐.

‘‘อิเม น เทวา น คนฺธพฺพปุตฺตา, มิคา อิเม อตฺถวสํ คตา เม;

เอกฺจ นํ สายมาเส ปจนฺตุ, เอกํ ปุนปฺปาตราเส ปจนฺตู’’ติ.

ตตฺถ มิคา อิเมติ อิเม สเจ เทวา คนฺธพฺพา วา ภเวยฺยุํ, นจฺเจยฺยุฺเจว คาเยยฺยุฺจ, อิเม ปน มิคา ติรจฺฉานคตา. อตฺถวสํ คตา เมติ อตฺถํ ปจฺจาสีสนฺเตน ลุทฺเทน อานีตตฺตา อตฺถวเสน มม หตฺถํ คตา. เอเตสุ เอกํ สายมาเส, เอกํ ปาตราเส ปจนฺตูติ.

กินฺนรี จินฺเตสิ ‘‘ราชา กุทฺโธ นิสฺสํสยํ มาเรสฺสติ, อิทานิ กเถตุํ กาโล’’ติ อฏฺมํ คาถมาห –

๑๑๑.

‘‘สตํ สหสฺสานิ ทุภาสิตานิ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ สุภาสิตสฺส;

ทุพฺภาสิตํ สงฺกมาโน กิเลโส, ตสฺมา ตุณฺหี กิมฺปุริสา น พาลฺยา’’ติ.

ตตฺถ สงฺกมาโน กิเลโสติ กทาจิ อหํ ภาสมาโน ทุพฺภาสิตํ ภาเสยฺยํ, เอวํ ทุพฺภาสิตํ สงฺกมาโน กิลิสฺสติ กิลมติ. ตสฺมาติ เตน การเณน ตุมฺหากํ น คายึ, น พาลภาเวนาติ.

ราชา กินฺนริยา ตุสฺสิตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๑๒.

‘‘ยา เมสา พฺยาหาสิ ปมุฺจเถตํ, คิริฺจ นํ หิมวนฺตํ นยนฺตุ;

อิมฺจ โข เทนฺตุ มหานสาย, ปาโตว นํ ปาตราเส ปจนฺตู’’ติ.

ตตฺถ ยา เมสาติ ยา เม เอสา. เทนฺตูติ มหานสตฺถาย เทนฺตุ.

กินฺนโร รฺโ วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ มํ อกเถนฺตํ อวสฺสํ มาเรสฺสติ, อิทานิ กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิตรํ คาถมาห –

๑๑๓.

‘‘ปชฺชุนฺนนาถา ปสโว, ปสุนาถา อยํ ปชา;

ตฺวํ นาโถสิ มหาราช, นาโถหํ ภริยาย เม;

ทฺวินฺนมฺตรํ ตฺวา, มุตฺโต คจฺเฉยฺย ปพฺพต’’นฺติ.

ตตฺถ ปชฺชุนฺนนาถา ปสโวติ ติณภกฺขา ปสโว เมฆนาถา นาม. ปสุนาถา อยํ ปชาติ อยํ ปน มนุสฺสปชา ปฺจโครเสน อุปชีวนฺตี ปสุนาถา ปสุปติฏฺา. ตฺวํ นาโถสีติ ตฺวํ มม ปติฏฺา อสิ. นาโถหนฺติ มม ภริยาย อหํ นาโถ, อหมสฺสา ปติฏฺา. ทฺวินฺนมฺตรํ ตฺวา, มุตฺโต คจฺเฉยฺย ปพฺพตนฺติ อมฺหากํ ทฺวินฺนํ อนฺตเร เอโก เอกํ มตํ ตฺวา สยํ มรณโต มุตฺโต หิมวนฺตํ คจฺเฉยฺย, ชีวมานา ปน มยํ อฺมฺํ น ชหาม, ตสฺมา สเจปิ อิมํ หิมวนฺตํ เปเสตุกาโม, มํ ปมํ มาเรตฺวา ปจฺฉา เปเสหีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘มหาราช, น มยํ ตว วจนํ อกาตุกามตาย ตุณฺหี อหุมฺห, มยํ กถาย ปน โทสํ ทิสฺวา น กถยิมฺหา’’ติ ทีเปนฺโต อิมํ คาถาทฺวยมาห –

๑๑๔.

‘‘น เว นินฺทา สุปริวชฺชเยถ, นานา ชนา เสวิตพฺพา ชนินฺท;

เยเนว เอโก ลภเต ปสํสํ, เตเนว อฺโ ลภเต นินฺทิตารํ.

๑๑๕.

‘‘สพฺโพ โลโก ปริจิตฺโต อติจิตฺโต, สพฺโพ โลโก จิตฺตวา สมฺหิ จิตฺเต;

ปจฺเจกจิตฺตา ปุถุ สพฺพสตฺตา, กสฺสีธ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเต’’ติ.

ตตฺถ สุปริวชฺชเยถาติ มหาราช, นินฺทา นาม สุเขน ปริวชฺเชตุํ น สกฺกา. นานา ชนาติ นานาฉนฺทา ชนา. เยเนวาติ เยน สีลาทิคุเณน เอโก ปสํสํ ลภติ, เตเนว อฺโ นินฺทิตารํ ลภติ. อมฺหากฺหิ กินฺนรานํ อนฺตเร กถเนน ปสํสํ ลภติ, มนุสฺสานํ อนฺตเร นินฺทํ, อิติ นินฺทา นาม ทุปฺปริวชฺชิยา, สฺวาหํ กถํ ตว สนฺติกา ปสํสํ ลภิสฺสามีติ.

สพฺโพ โลโก ปริจิตฺโตติ มหาราช, อสปฺปุริโส นาม ปาณาติปาตาทิจิตฺเตน, สปฺปุริโส ปาณาติปาตา เวรมณิ อาทิจิตฺเตน อติจิตฺโตติ, เอวํ สพฺโพ โลโก ปริจิตฺโต อติจิตฺโตติ อตฺโถ. จิตฺตวา สมฺหิ จิตฺเตติ สพฺโพ ปน โลโก อตฺตโน หีเนน วา ปณีเตน วา จิตฺเตน จิตฺตวา นาม. ปจฺเจกจิตฺตาติ ปาฏิเยกฺกจิตฺตา ปุถุปฺปเภทา สพฺเพ สตฺตา. เตสุ กสฺเสกสฺส ตว วา อฺสฺส วา จิตฺเตน กินฺนรี วา มาทิโส วา อฺโ วา วตฺเตยฺย, ตสฺมา ‘‘อยํ มม จิตฺตวเสน น วตฺตตี’’ติ, มา มยฺหํ กุชฺฌิ. สพฺพสตฺตา หิ อตฺตโน จิตฺตวเสน คจฺฉนฺติ, เทวาติ. กิมฺปุริโส รฺโ ธมฺมํ เทเสสิ.

ราชา ‘‘สภาวเมว กเถติ ปณฺฑิโต กินฺนโร’’ติ โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา โอสานคาถมาห –

๑๑๖.

‘‘ตุณฺหี อหู กิมฺปุริโส สภริโย, โย ทานิ พฺยาหาสิ ภยสฺส ภีโต;

โส ทานิ มุตฺโต สุขิโต อโรโค, วาจากิเรวตฺถวตี นราน’’นฺติ.

ตตฺถ วาจากิเรวตฺถวตี นรานนฺติ วาจาคิรา เอว อิเมสํ สตฺตานํ อตฺถวตี หิตาวหา โหตีติ อตฺโถ.

ราชา กินฺนเร สุวณฺณปฺชเร นิสีทาเปตฺวา ตเมว ลุทฺทํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ ภเณ, คหิตฏฺาเนเยว วิสฺสชฺเชหี’’ติ วิสฺสชฺชาเปสิ. มหาสตฺโตปิ ‘‘อาจริย, เอวํ กินฺนรา วาจํ รกฺขิตฺวา ปตฺตกาเล กถิเตน สุภาสิเตเนว มุตฺตา, ตฺวํ ปน ทุกฺกถิเตน มหาทุกฺขํ ปตฺโต’’ติ อิทํ อุทาหรณํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อาจริย, มา ภายิ, ชีวิตํ เต อหํ ทสฺสามี’’ติ อสฺสาเสสิ, ‘‘อปิจ โข ปน ตุมฺเห มํ รกฺเขยฺยาถา’’ติวุตฺเต ‘‘น ตาว นกฺขตฺตโยโค ลพฺภตี’’ติ ทิวสํ วีตินาเมตฺวา มชฺฌิมยามสมนนฺตเร มตํ เอฬกํ อาหราเปตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, ยตฺถ กตฺถจิ คนฺตฺวา ชีวาหี’’ติ กฺจิ อชานาเปตฺวา อุยฺโยเชตฺวา เอฬกมํเสน พลึ กตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ โกกาลิโก วาจาย หโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กฬารปิงฺคโล โกกาลิโก อโหสิ, ตกฺการิยปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ตกฺการิยชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๔๘๒] ๙. รุรุมิคราชชาตกวณฺณนา

ตสฺส คามวรํ ทมฺมีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ภิกฺขูหิ ‘‘พหูปกาโร เต อาวุโส, เทวทตฺตสตฺถา, ตฺวํ ตถาคตํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชํ ลภิ, ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคณฺหิ, ลาภสกฺการํ ปาปุณี’’ติ วุตฺโต ‘‘อาวุโส, สตฺถารา มม ติณคฺคมตฺโตปิ อุปกาโร น กโต, อหํ สยเมว ปพฺพชึ, สยํ ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคณฺหึ, สยํ ลาภสกฺการํ ปาปุณิ’’นฺติ กเถสิ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อกตฺู อาวุโส, เทวทตฺโต อกตเวที’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, เทวทตฺโต อิทาเนว อกตฺู, ปุพฺเพปิ อกตฺูเยว, ปุพฺเพเปส มยา ชีวิเต ทินฺเนปิ มม คุณมตฺตํ น ชานาตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก อสีติโกฏิวิภโว เสฏฺิ ปุตฺตํ ลภิตฺวา ‘‘มหาธนโก’’ติสฺส, นามํ กตฺวา ‘‘สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺโต มม ปุตฺโต กิลมิสฺสตี’’ติ น กิฺจิ สิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปสิ. โส คีตนจฺจวาทิตขาทนโภชนโต อุทฺธํ น กิฺจิ อฺาสิ. ตํ วยปฺปตฺตํ ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชตฺวา มาตาปิตโร กาลมกํสุ. โส เตสํ อจฺจเยน อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทีหิ ปริวุโต นานาพฺยสนมุเขหิ อิณํ อาทาย ตํ ทาตุํ อสกฺโกนฺโต อิณายิเกหิ โจทิยมาโน จินฺเตสิ ‘‘กึ มยฺหํ ชีวิเตน, เอเกนมฺหิ อตฺตภาเวน อฺโ วิย ชาโต, มตํ เม เสยฺโย’’ติ. โส อิณายิเก อาห – ‘‘ตุมฺหากํ อิณปณฺณานิ คเหตฺวา อาคจฺฉถ, คงฺคาตีเร เม นิทหิตํ กุลสนฺตกํ ธนํ อตฺถิ, ตํ โว ทสฺสามี’’ติ. เต เตน สทฺธึ อคมํสุ. โส ‘‘อิธ ธน’’นฺติ นิธิฏฺานํ อาจิกฺขนฺโต วิย ‘‘คงฺคายํ ปติตฺวา มริสฺสามี’’ติ ปลายิตฺวา คงฺคายํ ปติ. โส จณฺฑโสเตน วุยฺหนฺโต การุฺรวํ วิรวิ.

ตทา มหาสตฺโต รุรุมิคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ปริวารํ ฉฑฺเฑตฺวา เอกโกว คงฺคานิวตฺตเน รมณีเย สาลมิสฺสเก สุปุปฺผิตอมฺพวเน วสติ อุโปสถํ อุปวุตฺถาย. ตสฺส สรีรจฺฉวิ สุมชฺชิตกฺจนปฏฺฏวณฺณา อโหสิ, หตฺถปาทา ลาขารสปริกมฺมกตา วิย, นงฺคุฏฺํ จามรีนงฺคุฏฺํ วิย, สิงฺคานิ รชตทามสทิสานิ, อกฺขีนิ สุมชฺชิตมณิคุฬิกา วิย, มุขํ โอทหิตฺวา ปิตรตฺตกมฺพลเคณฺฑุกํ วิย. เอวรูปํ ตสฺส รูปํ อโหสิ. โส อฑฺฒรตฺตสมเย ตสฺส การุฺสทฺทํ สุตฺวา ‘‘มนุสฺสสทฺโท สูยติ, มา มยิ ธรนฺเต มรตุ, ชีวิตมสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สยนคุมฺพา อุฏฺาย นทีตีรํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺโภ ปุริส, มา ภายิ, ชีวิตํ เต ทสฺสามี’’ติ อสฺสาเสตฺวา โสตํ ฉินฺทนฺโต คนฺตฺวา ตํ ปิฏฺิยํ อาโรเปตฺวา ตีรํ ปาเปตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ เนตฺวา ผลาผลานิ ทตฺวา ทฺวีหตีหจฺจเยน ‘‘โภ ปุริส, อหํ ตํ อิโต อรฺโต นีหริตฺวา พาราณสิมคฺเค เปสฺสามิ, ตฺวํ โสตฺถินา คมิสฺสสิ, อปิจ โข ปน ตฺวํ ‘อสุกฏฺาเน นาม กฺจนมิโค วสตี’ติ ธนการณา มํ รฺโ เจว ราชมหามตฺตสฺส จ มา อาจิกฺขาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ สามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.

มหาสตฺโต ตสฺส ปฏิฺํ คเหตฺวา ตํ อตฺตโน ปิฏฺิยํ อาโรเปตฺวา พาราณสิมคฺเค โอตาเรตฺวา นิวตฺติ. ตสฺส พาราณสิปวิสนทิวเสเยว เขมา นาม รฺโ อคฺคมเหสี ปจฺจูสกาเล สุปินนฺเต สุวณฺณวณฺณํ มิคํ อตฺตโน ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘สเจ เอวรูโป มิโค น ภเวยฺย, นาหํ สุปิเน ปสฺเสยฺยํ, อทฺธา ภวิสฺสติ, รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ. สา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ สุวณฺณวณฺณํ มิคํ ปสฺสิตุํ อิจฺฉามิ, สุวณฺณวณฺณมิคสฺส ธมฺมํ โสตุกามามฺหิ, ลภิสฺสามิ เจ, ชีเวยฺยํ, โน เจ, นตฺถิ เม ชีวิต’’นฺติ อาห. ราชา ตํ อสฺสาเสตฺวา ‘‘สเจ มนุสฺสโลเก อตฺถิ, ลภิสฺสสี’’ติ วตฺวา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณา มิคา นาม โหนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทว, โหนฺตี’’ติ สุตฺวา อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺเธ สุวณฺณจงฺโกฏเก สหสฺสถวิกํ เปตฺวา โย สุวณฺณวณฺณํ มิคํ อาจิกฺขิสฺสติ, ตสฺส สทฺธึ สหสฺสถวิกสุวณฺณจงฺโกฏเกน ตฺจ หตฺถึ ตโต จ อุตฺตริ ทาตุกาโม หุตฺวา สุวณฺณปฏฺเฏ คาถํ ลิขาเปตฺวา เอกํ อมจฺจํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอหิ ตาต, มม วจเนน อิมํ คาถํ นครวาสีนํ กเถหี’’ติ อิมสฺมึ ชาตเก ปมํ คาถมาห –

๑๑๗.

‘‘ตสฺส คามวรํ ทมฺมิ, นาริโย จ อลงฺกตา;

โย เม ตํ มิคมกฺขาติ, มิคานํ มิคมุตฺตม’’นฺติ.

อมจฺโจ สุวณฺณปฏฺฏํ คเหตฺวา สกลนคเร วาจาเปสิ. อถ โส เสฏฺิปุตฺโต พาราณสึ ปวิสนฺโตว ตํ กถํ สุตฺวา อมจฺจสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ รฺโ เอวรูปํ มิคํ อาจิกฺขิสฺสามิ, มํ รฺโ ทสฺเสหี’’ติ อาห. อมจฺโจ หตฺถิกฺขนฺธโต โอตริตฺวา ตํ รฺโ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ กิร, เทว, ตํ มิคํ อาจิกฺขิสฺสตี’’ติ ทสฺเสสิ. ราชา ‘‘สจฺจํ อมฺโภ ปุริสา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘สจฺจํ มหาราช, ตฺวํ เอตํ ยสํ มยฺหํ เทหี’’ติ วทนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๑๑๘.

‘‘มยฺหํ คามวรํ เทหิ, นาริโย จ อลงฺกตา;

อหํ เต มิคมกฺขิสฺสํ, มิคานํ มิคมุตฺตม’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตสฺส มิตฺตทุพฺภิสฺส ตุสฺสิตฺวา ‘‘อพฺโภ กุหึ โส มิโค วสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม เทวา’’ติ วุตฺเต ตเมว มคฺคเทสกํ กตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ านํ อคมาสิ. อถ นํ โส มิตฺตทุพฺภี ‘‘เสนํ, เทว, สนฺนิสีทาเปหี’’ติ วตฺวา สนฺนิสินฺนาย เสนาย เอโส, เทว, สุวณฺณมิโค เอตสฺมึ วเน วสตี’’ติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา อาจิกฺขนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๑๙.

‘‘เอตสฺมึ วนสณฺฑสฺมึ, อมฺพา สาลา จ ปุปฺผิตา;

อินฺทโคปกสฺฉนฺนา, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ.

ตตฺถ อินฺทโคปกสฺฉนฺนาติ เอตสฺส วนสณฺฑสฺส ภูมิ อินฺทโคปกวณฺณาย รตฺตาย สุขสมฺผสฺสาย ติณชาติยา สฺฉนฺนา, สสกุจฺฉิ วิย มุทุกา, เอตฺถ เอตสฺมึ รมณีเย วนสณฺเฑ เอโส ติฏฺตีติ ทสฺเสติ.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อมจฺเจ อาณาเปสิ ‘‘ตสฺส มิคสฺส ปลายิตุํ อทตฺวา ขิปฺปํ อาวุธหตฺเถหิ ปุริเสหิ สทฺธึ วนสณฺฑํ ปริวาเรถา’’ติ. เต ตถา กตฺวา อุนฺนทึสุ. ราชา กติปเยหิ ชเนหิ สทฺธึ เอกมนฺตํ อฏฺาสิ, โสปิสฺส อวิทูเร อฏฺาสิ. มหาสตฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มหนฺโต พลกายสทฺโท, ตมฺหา เม ปุริสา ภเยน อุปฺปนฺเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ. โส อุฏฺาย สกลปริสํ โอโลเกตฺวา รฺโ ิตฏฺานํ ทิสฺวา ‘‘รฺโ ิตฏฺาเนเยว เม โสตฺถิ ภวิสฺสติ, เอตฺเถว มยา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ราชาภิมุโข ปายาสิ. ราชา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นาคพโล มิโค อวตฺถรนฺโต วิย อาคจฺเฉยฺย, สรํ สนฺนยฺหิตฺวา อิมํ มิคํ สนฺตาเสตฺวา สเจ ปลายติ, วิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ ธนุํ อาโรเปตฺวา โพธิสตฺตาภิมุโข อโหสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมํ คาถาทฺวยมาห –

๑๒๐.

‘‘ธนุํ อทฺเวชฺฌํ กตฺวาน, อุสุํ สนฺนยฺหุปาคมิ;

มิโค จ ทิสฺวา ราชานํ, ทูรโต อชฺฌภาสถ.

๑๒๑.

‘‘อาคเมหิ มหาราช, มา มํ วิชฺฌิ รเถสภ;

โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ.

ตตฺถ อทฺเวชฺฌํ กตฺวานาติ ชิยาย จ สเรน จ สทฺธึ เอกเมว กตฺวา. สนฺนยฺหาติ สนฺนยฺหิตฺวา. อาคเมหีติ ‘‘ติฏฺ, มหาราช, มา มํ วิชฺฌิ, ชีวคฺคาหเมว คณฺหาหี’’ติ มธุราย มนุสฺสวาจาย อภาสิ.

ราชา ตสฺส มธุรกถาย พนฺธิตฺวา ธนุํ โอตาเรตฺวา คารเวน อฏฺาสิ. มหาสตฺโตปิ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. มหาชโนปิ สพฺพาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา อาคนฺตฺวา ราชานํ ปริวาเรสิ. ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต สุวณฺณกิงฺกิณิกํ จาเลนฺโต วิย มธุเรน สเรน ราชานํ ปุจฺฉิ ‘‘โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ? ตสฺมึ ขเณ ปาปปุริโส โถกํ ปฏิกฺกมิตฺวา โสตปเถว อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อิมินา เม ทสฺสิโต’’ติ กเถนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –

๑๒๒.

‘‘เอส ปาปจโร โปโส, สมฺม ติฏฺติ อารกา;

โสยํ เม อิทมกฺขาสิ, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ.

ตตฺถ ปาปจโรติ วิสฺสฏฺาจาโร.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตํ มิตฺตทุพฺภึ ครหิตฺวา รฺา สทฺธึ สลฺลปนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๑๒๓.

‘‘สจฺจํ กิเรว มาหํสุ, นรา เอกจฺจิยา อิธ;

กฏฺํ นิปฺลวิตํ เสยฺโย, น ตฺเวเวกจฺจิโย นโร’’ติ.

ตตฺถ นิปฺลวิตนฺติ อุตฺตาริตํ. เอกจฺจิโยติ เอกจฺโจ ปน มิตฺตทุพฺภี ปาปปุคฺคโล อุทเก ปตนฺโตปิ อุตฺตาริโต น ตฺเวว เสยฺโย. กฏฺฺหิ นานปฺปกาเรน อุปการาย สํวตฺตติ, มิตฺตทุพฺภี ปน ปาปปุคฺคโล วินาสาย, ตสฺมา ตโต กฏฺเมว วรตรนฺติ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ, มยา ปน เตสํ วจนํ น กตนฺติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อิตรํ คาถมาห –

๑๒๔.

‘‘กึ นุ รุรุ ครหสิ มิคานํ, กึ ปกฺขีนํ กึ ปน มานุสานํ;

ภยํ หิ มํ วินฺทตินปฺปรูปํ, สุตฺวาน ตํ มานุสึ ภาสมาน’’นฺติ.

ตตฺถ มิคานนฺติ มิคานมฺตรํ ครหสิ, อุทาหุ ปกฺขีนํ, มานุสานนฺติ ปุจฺฉิ. ภยฺหิ มํ วินฺทตีติ ภยํ มํ ปฏิลภติ, อหํ อตฺตนิ อนิสฺสโร ภยสนฺตโก วิย โหมิ. อนปฺปรูปนฺติ มหนฺตํ.

ตโต มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, น มิคํ, น ปกฺขึ ครหามิ, มนุสฺสํ ปน ครหามี’’ติ ทสฺเสนฺโต นวมํ คาถมาห –

๑๒๕.

‘‘ยมุทฺธรึ วาหเน วุยฺหมานํ, มโหทเก สลิเล สีฆโสเต;

ตโตนิทานํ ภยมาคตํ มม, ทุกฺโข หเว ราช อสพฺภิ สงฺคโม’’ติ.

ตตฺถ วาหเนติ ปติตปติเต วหิตุํ สมตฺเถ คงฺคาวเห. มโหทเก สลิเลติ มหาอุทเก มหาสลิเลติ อตฺโถ. อุภเยนาปิ คงฺคาวหสฺเสว พหุอุทกตํ ทสฺเสติ. ตโตนิทานนฺติ มหาราช, โย มยฺหํ ตยา ทสฺสิโต ปุริโส, เอโส มยา คงฺคาย วุยฺหมาโน อฑฺฒรตฺตสมเย การุฺรวํ วิรวนฺโต อุทฺธริโต, ตโตนิทานํ เม อิทมชฺช ภยํ อาคตํ, อสปฺปุริเสหิ สมาคโม นาม ทุกฺโข, มหาราชาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตสฺส กุชฺฌิตฺวา ‘‘เอวํ พหูปการสฺส นาม คุณํ น ชานาติ, วิชฺฌิตฺวา นํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสามี’’ติ ทสมํ คาถมาห –

๑๒๖.

‘‘โสหํ จตุปฺปตฺตมิมํ วิหงฺคมํ, ตนุจฺฉิทํ หทเย โอสฺสชามิ;

หนามิ ตํ มิตฺตทุพฺภึ อกิจฺจการึ, โย ตาทิสํ กมฺมกตํ น ชาเน’’ติ.

ตตฺถ จตุปฺปตฺตนฺติ จตูหิ วาชปตฺเตหิ สมนฺนาคตํ. วิหงฺคมนฺติ อากาสคามึ. ตนุจฺฉิทนฺติ สรีรฉินฺทนํ. โอสฺสชามีติ เอตสฺส หทเย วิสฺสชฺเชมิ.

ตโต มหาสตฺโต ‘‘มา เอส มํ นิสฺสาย นสฺสตู’’ติ จินฺเตตฺวา เอกาทสมํ คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘ธีรสฺส พาลสฺส หเว ชนินฺท, สนฺโต วธํ นปฺปสํสนฺติ ชาตุ;

กามํ ฆรํ คจฺฉตุ ปาปธมฺโม, ยฺจสฺส ภฏฺํ ตเทตสฺส เทหิ;

อหฺจ เต กามกโร ภวามี’’ติ.

ตตฺถ กามนฺติ กาเมน ยถารุจิยา อตฺตโน ฆรํ คจฺฉตุ. ยฺจสฺส ภฏฺํ ตเทตสฺส เทหีติ ยฺจ ตสฺส ‘‘อิทํ นาม เต ทสฺสามี’’ติ ตยา กถิตํ, ตํ ตสฺส เทหิ. กามกโรติ อิจฺฉากโร, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ กโรหิ, มํสํ วา เม ขาท, กีฬามิคํ วา กโรหิ, สพฺพตฺถ เต อนุกูลวตฺตี ภวิสฺสามีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตุฏฺมานโส มหาสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๒๘.

‘‘อทฺธา รุรู อฺตโร สตํ โส, โย ทุพฺภโต มานุสสฺส น ทุพฺภิ;

กามํ ฆรํ คจฺฉตุ ปาปธมฺโม, ยฺจสฺส ภฏฺํ ตเทตสฺส ทมฺมิ;

อหฺจ เต กามจารํ ททามี’’ติ.

ตตฺถ สตํ โสติ อทฺธา ตฺวํ สตํ ปณฺฑิตานํ อฺตโร. กามจารนฺติ อหํ ตว ธมฺมกถาย ปสีทิตฺวา ตุยฺหํ กามจารํ อภยํ ททามิ, อิโต ปฏฺาย ตุมฺเห นิพฺภยา ยถารุจิยา วิหรถาติ มหาสตฺตสฺส วรํ อทาสิ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, มนุสฺสา นาม อฺํ มุเขน ภาสนฺติ, อฺํ กาเยน กโรนฺตี’’ติ ปริคฺคณฺหนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๙.

‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;

มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.

๑๓๐.

‘‘อปิ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;

โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มิคราช, มา มํ เอวํ มฺิ, อหฺหิ รชฺชํ ชหนฺโตปิ น ตุยฺหํ ทินฺนวรํ ชหิสฺสํ, สทฺทหถ, มยฺห’’นฺติ วรํ อทาสิ. มหาสตฺโต ตสฺส สนฺติเก วรํ คณฺหนฺโต อตฺตานํ อาทึ กตฺวา สพฺพสตฺตานํ อภยทานํ วรํ คณฺหิ. ราชาปิ ตํ วรํ ทตฺวา โพธิสตฺตํ นครํ เนตฺวา มหาสตฺตฺจ นครฺจ อลงฺการาเปตฺวา เทวิยา ธมฺมํ เทสาเปสิ. มหาสตฺโต เทวึ อาทึ กตฺวา รฺโ จ ราชปริสาย จ มธุราย มนุสฺสภาสาย ธมฺมํ เทเสตฺวา ราชานํ ทสหิ ราชธมฺเมหิ โอวทิตฺวา มหาชนํ อนุสาสิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา มิคคณปริวุโต วาสํ กปฺเปสิ. ราชา ‘‘สพฺเพสํ สตฺตานํ อภยํ ทมฺมี’’ติ นคเร เภรึ จราเปสิ. ตโต ปฏฺาย มิคปกฺขีนํ โกจิ หตฺถํ ปสาเรตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. มิคคโณ มนุสฺสานํ สสฺสานิ ขาทติ, โกจิ วาเรตุํ น สกฺโกติ. มหาชโน ราชงฺคณํ คนฺตฺวา อุปกฺโกสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมํ คาถมาห –

๑๓๑.

‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

มิคา สสฺสานิ ขาทนฺติ, ตํ เทโว ปฏิเสธตู’’ติ.

ตตฺถ ตํ เทโวติ ตํ มิคคณํ เทโว ปฏิเสธตูติ.

ตํ สุตฺวา ราชา คาถาทฺวยมาห –

๑๓๒.

‘‘กามํ ชนปโท มาสิ, รฏฺฺจาปิ วินสฺสตุ;

น ตฺเววาหํ รุรุํ ทุพฺเภ, ทตฺวา อภยทกฺขิณํ.

๑๓๓.

‘‘มา เม ชนปโท อาสิ, รฏฺฺจาปิ วินสฺสตุ;

น ตฺเววาหํ มิคราชสฺส, วรํ ทตฺวา มุสา ภเณ’’ติ.

ตตฺถ มาสีติ กามํ มยฺหํ ชนปโท มา โหตุ. รุรุนฺติ น ตฺเวว อหํ สุวณฺณวณฺณสฺส รุรุมิคราชสฺส อภยทกฺขิณํ ทตฺวา ทุพฺภิสฺสามีติ.

มหาชโน รฺโ วจนํ สุตฺวา กิฺจิ วตฺตุํ อวิสหนฺโต ปฏิกฺกมิ. สา กถา วิตฺถาริกา อโหสิ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต มิคคณํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย มนุสฺสานํ สสฺสานิ มา ขาทถา’’ติ โอวทิตฺวา ‘‘อตฺตโน เขตฺเตสุ ปณฺณสฺํ พนฺธนฺตู’’ติ มนุสฺสานํ โฆสาเปสิ. เต ตถา พนฺธึสุ, ตาย สฺาย มิคา ยาวชฺชตนา สสฺสานิ น ขาทนฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อกตฺูเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา เสฏฺิปุตฺโต เทวทตฺโต อโหสิ, ราชา อานนฺโท, รุรุมิคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

รุรุมิคราชชาตกวณฺณนา นวมา.

[๔๘๓] ๑๐. สรภมิคชาตกวณฺณนา

อาสีเสเถว ปุริโสติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตนา สํขิตฺเตน ปุจฺฉิตปฺหสฺส ธมฺมเสนาปติโน วิตฺถาเรน พฺยากรณํ อารพฺภ กเถสิ. กทา ปน สตฺถา เถรํ สํขิตฺเตน ปฺหํ ปุจฺฉีติ? เทโวโรหเน. ตตฺรายํ สงฺเขปโต อนุปุพฺพิกถา. ราชคหเสฏฺิโน หิ สนฺตเก จนฺทนปตฺเต อายสฺมตา ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน อิทฺธิยา คหิเต สตฺถา ภิกฺขูนํ อิทฺธิปาฏิหาริยกรณํ ปฏิกฺขิปิ. ตทา ติตฺถิยา ‘‘ปฏิกฺขิตฺตํ สมเณน โคตเมน อิทฺธิปาฏิหาริยกรณํ, อิทานิ สยมฺปิ น กริสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา มงฺกุภูเตหิ อตฺตโน สาวเกหิ ‘‘กึ, ภนฺเต, อิทฺธิยา ปตฺตํ น คณฺหถา’’ติ วุจฺจมานา ‘‘เนตํ อาวุโส, อมฺหากํ ทุกฺกรํ, ฉวสฺส ปน ทารุปตฺตสฺสตฺถาย อตฺตโน สณฺหสุขุมคุณํ โก คิหีนํ ปกาเสสฺสตีติ น คณฺหิมฺห, สมณา ปน สกฺยปุตฺติยา โลลตาย อิทฺธึ ทสฺเสตฺวา คณฺหึสุ. มา ‘อมฺหากํ อิทฺธิกรณํ ภาโร’ติ จินฺตยิตฺถ, มยฺหิ ติฏฺนฺตุ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา, อากงฺขมานา ปน สมเณน โคตเมน สทฺธึ อิทฺธึ ทสฺเสสฺสาม, สเจ หิ สมโณ โคตโม เอกํ ปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, มยํ ทฺวิคุณํ กริสฺสามา’’ติ กถยึสุ.

ตํ สุตฺวา ภิกฺขู ภควโต อาโรเจสุํ ‘‘ภนฺเต, ติตฺถิยา กิร ปาฏิหาริยํ กริสฺสนฺตี’’ติ. สตฺถา ‘‘ภิกฺขเว, กโรนฺตุ, อหมฺปิ กริสฺสามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา พิมฺพิสาโร อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ภนฺเต, ปาฏิหาริยํ กิร กริสฺสถา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, สิกฺขาปทํ ปฺตฺต’’นฺติ. ‘‘มหาราช, ตํ มยา สาวกานํ ปฺตฺตํ, พุทฺธานํ ปน สิกฺขาปทํ นาม นตฺถิ. ‘‘ยถา หิ, มหาราช, ตว อุยฺยาเน ปุปฺผผลํ อฺเสํ วาริตํ, น ตว, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ‘‘กตฺถ ปน, ภนฺเต, ปาฏิหาริยํ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘สาวตฺถินครทฺวาเร กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล’’ติ. ‘‘อมฺเหหิ ตตฺถ กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ กิฺจิ มหาราชา’’ติ. ปุนทิวเส สตฺถา กตภตฺตกิจฺโจ จาริกํ ปกฺกามิ. มนุสฺสา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, สตฺถา คจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉนฺติ. ‘‘สาวตฺถินครทฺวาเร กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล ติตฺถิยมทฺทนํ ยมกปาฏิหาริยํ กาตุ’’นฺติ เตสํ ภิกฺขู กถยนฺติ. มหาชโน ‘‘อจฺฉริยรูปํ กิร ปาฏิหาริยํ ภวิสฺสติ, ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ ฆรทฺวารานิ ฉฑฺเฑตฺวา สตฺถารา สทฺธึเยว อคมาสิ.

อฺติตฺถิยา ‘‘มยมฺปิ สมณสฺส โคตมสฺส ปาฏิหาริยกรณฏฺาเน ปาฏิหาริยํ กริสฺสามา’’ติ อุปฏฺาเกหิ สทฺธึ สตฺถารเมว อนุพนฺธึสุ. สตฺถา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ คนฺตฺวา รฺา ‘‘ปาฏิหาริยํ กิร, ภนฺเต, กริสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กทา, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส อาสาฬฺหิปุณฺณมาสิย’’นฺติ อาห. ‘‘มณฺฑปํ กโรมิ ภนฺเต’’ติ? ‘‘อลํ มหาราช, มม ปาฏิหาริยกรณฏฺาเน สกฺโก เทวราชา ทฺวาทสโยชนิกํ รตนมณฺฑปํ กริสฺสตี’’ติ. ‘‘เอตํ การณํ นคเร อุคฺโฆสาเปมิ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อุคฺโฆสาเปหิ มหาราชา’’ติ. ราชา ธมฺมโฆสกํ อลงฺกตหตฺถิปิฏฺึ อาโรเปตฺวา ‘‘ภควา กิร สาวตฺถินครทฺวาเร กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล ติตฺถิยมทฺทนํ ปาฏิหาริยํ กริสฺสติ อิโต สตฺตเม ทิวเส’’ติ ยาว ฉฏฺทิวสา เทวสิกํ โฆสนํ กาเรสิ. ติตฺถิยา ‘‘กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล กิร กริสฺสตี’’ติ สามิกานํ ธนํ ทตฺวา สาวตฺถิสามนฺเต อมฺพรุกฺเข ฉินฺทาปยึสุ. ธมฺมโฆสโก ปุณฺณมีทิวเส ปาโตว ‘‘อชฺช, ภควโต ปาฏิหาริยํ ภวิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสสิ. เทวตานุภาเวน สกลชมฺพุทีเป ทฺวาเร ตฺวา อุคฺโฆสิตํ วิย อโหสิ. เย เย คนฺตุํ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺติ, เต เต สาวตฺถึ ปตฺตเมว อตฺตานํ ปสฺสึสุ, ทฺวาทสโยชนิกา ปริสา อโหสิ.

สตฺถา ปาโตว สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตุํ นิกฺขมิ. กณฺโฑ นาม อุยฺยานปาโล ปิณฺฑิปกฺกเมว กุมฺภปมาณํ มหนฺตํ อมฺพปกฺกํ รฺโ หรนฺโต สตฺถารํ นครทฺวาเร ทิสฺวา ‘‘อิทํ ตถาคตสฺเสว อนุจฺฉวิก’’นฺติ อทาสิ. สตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสินฺโน ปริภุฺชิตฺวา ‘‘อานนฺท, อิมํ อมฺพฏฺึ อุยฺยานปาลกสฺส อิมสฺมึ าเน โรปนตฺถาย เทหิ, เอส กณฺฑมฺโพ นาม ภวิสฺสตี’’ติ อาห. เถโร ตถา อกาสิ. อุยฺยานปาโล ปํสุํ วิยูหิตฺวา โรเปสิ. ตงฺขณฺเว อฏฺึ ภินฺทิตฺวา มูลานิ โอตรึสุ, นงฺคลสีสปมาโณ รตฺตงฺกุโร อุฏฺหิ, มหาชนสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว ปณฺณาสหตฺถกฺขนฺโธ ปณฺณาสหตฺถสาโข อุพฺเพธโต จ หตฺถสติโก อมฺพรุกฺโข สมฺปชฺชิ, ตาวเทวสฺส ปุปฺผานิ จ ผลานิ จ อุฏฺหึสุ. โส มธุกรปริวุโต สุวณฺณวณฺณผลภริโต นภํ ปูเรตฺวา อฏฺาสิ, วาตปฺปหรณกาเล มธุรปกฺกานิ ปตึสุ. ปจฺฉา อาคจฺฉนฺตา ภิกฺขู ปริภุฺชิตฺวาว อาคมึสุ.

สายนฺหสมเย สกฺโก เทวราชา อาวชฺเชนฺโต ‘‘สตฺถุ รตนมณฺฑปกรณํ อมฺหากํ ภาโร’’ติ ตฺวา วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ เปเสตฺวา ทฺวาทสโยชนิกํ นีลุปฺปลสฺฉนฺนํ สตฺตรตนมณฺฑปํ กาเรสิ. เอวํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปตึสุ. สตฺถา ติตฺถิยมทฺทนํ อสาธารณํ สาวเกหิ ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา พหุชนสฺส ปสนฺนภาวํ ตฺวา โอรุยฺห พุทฺธาสเน นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสสิ. วีสติ ปาณโกฏิโย อมตปานํ ปิวึสุ. ตโต ‘‘ปุริมพุทฺธา ปน ปาฏิหาริยํ กตฺวา กตฺถ คจฺฉนฺตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘ตาวตึสภวน’’นฺติ ตฺวา พุทฺธาสนา อุฏฺาย ทกฺขิณปาทํ ยุคนฺธรมุทฺธนิ เปตฺวา วามปาเทน สิเนรุมตฺถกํ อกฺกมิตฺวา ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อนฺโตเตมาสํ เทวานํ อภิธมฺมปิฏกํ กเถสิ. ปริสา สตฺถุ คตฏฺานํ อชานนฺตี ‘‘ทิสฺวาว คมิสฺสามา’’ติ ตตฺเถว เตมาสํ วสิ. อุปกฏฺาย ปวารณาย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. อถ นํ สตฺถา ปุจฺฉิ ‘‘กหํ ปน เอตรหิ สาริปุตฺโต’’ติ? ‘‘เอโส, ภนฺเต, ปาฏิหาริเย ปสีทิตฺวา ปพฺพชิเตหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สงฺกสฺสนครทฺวาเร วสี’’ติ. ‘‘โมคฺคลฺลาน, อหํ อิโต สตฺตเม ทิวเส สงฺกสฺสนครทฺวาเร โอตริสฺสามิ, ตถาคตํ ทฏฺุกามา สงฺกสฺสนคเร เอกโต สนฺนิปตนฺตู’’ติ. เถโร ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา อาคนฺตฺวา ปริสาย อาโรเจตฺวา สกลปริสํ สาวตฺถิโต ตึสโยชนํ สงฺกสฺสนครํ เอกมุหุตฺเตเนว ปาเปสิ.

สตฺถา วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา ‘‘มหาราช, มนุสฺสโลกํ คมิสฺสามี’’ติ สกฺกสฺส อาโรเจสิ. สกฺโก วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ทสพลสฺส มนุสฺสโลกคมนตฺถาย ตีณิ โสปานานิ กโรหี’’ติ อาห. โส สิเนรุมตฺถเก โสปานสีสํ สงฺกสฺสนครทฺวาเร ธุรโสปานํ กตฺวา มชฺเฌ มณิมยํ, เอกสฺมึ ปสฺเส รชตมยํ, เอกสฺมึ ปสฺเส สุวณฺณมยนฺติ ตีณิ โสปานานิ มาเปสิ, สตฺตรตนมยา เวทิกาปริกฺเขปา. สตฺถา โลกวิวรณํ ปาฏิหาริยํ กตฺวา มชฺเฌ มณิมเยน โสปาเนน โอตริ. สกฺโก ปตฺตจีวรํ อคฺคเหสิ, สุยาโม วาลพีชนึ, สหมฺปติ มหาพฺรหฺมา ฉตฺตํ ธาเรสิ, ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา ทิพฺพคนฺธมาลาทีหิ ปูชยึสุ. สตฺถารํ ธุรโสปาเน ปติฏฺิตํ ปมเมว สาริปุตฺตตฺเถโร วนฺทิ, ปจฺฉา เสสปริสา. ตสฺมึ สมาคเม สตฺถา จินฺเตสิ ‘‘โมคฺคลฺลาโน ‘‘อิทฺธิมา’ติ ปากโฏ, อุปาลิ ‘วินยธโร’ติ. สาริปุตฺตสฺส ปน มหาปฺคุโณ อปากโฏ, เปตฺวา มํ อฺโ เอเตน สทิโส สมปฺโ นาม นตฺถิ, ปฺาคุณมสฺส ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ ปมํ ตาว ปุถุชฺชนานํ วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตํ ปุถุชฺชนาว กถยึสุ ตโต โสตาปนฺนานํ วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตมฺปิ โสตาปนฺนาว กถยึสุ, ปุถุชฺชนา น ชานึสุ. เอวํ สกทาคามิวิสเย อนาคามิวิสเย ขีณาสววิสเย มหาสาวกวิสเย จ ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตมฺปิ เหฏฺิมา เหฏฺิมา น ชานึสุ, อุปริมา อุปริมาว กถยึสุ. อคฺคสาวกวิสเย ปุฏฺปฺหมฺปิ อคฺคสาวกาว กถยึสุ, อฺเ น ชานึสุ. ตโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตํ เถโรว กเถสิ, อฺเ น ชานึสุ.

มนุสฺสา ‘‘โก นาม เอส เถโร สตฺถารา สทฺธึ กเถสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร นามา’’ติ สุตฺวา ‘‘อโห มหาปฺโ’’ติ วทึสุ. ตโต ปฏฺาย เทวมนุสฺสานํ อนฺตเร เถรสฺส มหาปฺคุโณ ปากโฏ ชาโต. อถ นํ สตฺถา –

‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, เย จ เสขา ปุถู อิธ;

เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริสา’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๔; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๖๓; เนตฺติ. ๑๔) –

พุทฺธวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมสฺส นุ โข สาริปุตฺต, สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส กถํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ อาห. เถโร ปฺหํ โอโลเกตฺวา ‘‘สตฺถา มํ เสขาเสขานํ ภิกฺขูนํ อาคมนปฏิปทํ ปุจฺฉตี’’ติ ปฺเห นิกฺกงฺโข หุตฺวา ‘‘อาคมนปฏิปทา นาม ขนฺธาทิวเสน พหูหิ มุเขหิ สกฺกา กเถตุํ, กตํ นุ โข กเถนฺโต สตฺถุ อชฺฌาสยํ คณฺหิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ อชฺฌาสเย กงฺขิ. สตฺถา ‘‘สาริปุตฺโต ปฺเห นิกฺกงฺโข, อชฺฌาสเย ปน เม กงฺขติ, มยา นเย อทินฺเน กเถตุํ น สกฺขิสฺสติ, นยมสฺส ทสฺสามี’’ติ นยํ ททนฺโต ‘‘ภูตมิทํ สาริปุตฺต สมนุปสฺสา’’ติ อาห. เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘สาริปุตฺโต มม อชฺฌาสยํ คเหตฺวา กเถนฺโต ขนฺธวเสน กเถสฺสตี’’ติ. เถรสฺส สห นยทาเนน โส ปฺโห นยสเตน นยสหสฺเสน อุปฏฺาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเย ตฺวา พุทฺธวิสเย ปฺหํ กเถสิ.

สตฺถา ทฺวาทสโยชนิกาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตึส ปาณโกฏิโย อมตปานํ ปิวึสุ. สตฺถา ปริสํ อุยฺโยเชตฺวา จาริกํ จรนฺโต อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ คนฺตฺวา ปุนทิวเส สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ภิกฺขูหิ วตฺเต ทสฺสิเต คนฺธกุฏึ ปาวิสิ. สายนฺหสมเย ภิกฺขู เถรสฺส คุณกถํ กเถนฺตา ธมฺมสภายํ นิสีทึสุ ‘‘มหาปฺโ, อาวุโส, สาริปุตฺโต ปุถุปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ทสพเลน สํขิตฺเตน ปุจฺฉิตปฺหํ วิตฺถาเรน กเถสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ กเถสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต สรภมิคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อรฺเ วสติ. ราชา มิควิตฺตโก อโหสิ ถามสมฺปนฺโน, อฺํ มนุสฺสํ ‘‘มนุสฺโส’’ติปิ น คเณติ. โส เอกทิวสํ มิควํ คนฺตฺวา อมจฺเจ อาห – ‘‘ยสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายติ, เตน โส ทณฺโฑ ทาตพฺโพ’’ติ. เต จินฺตยึสุ ‘‘กทาจิ เวมชฺเฌ ิตมิคํ วิชฺฌนฺติ, กทาจิ อุฏฺิตํ, กทาจิ ปลายนฺตมฺปิ, อชฺช ปน เยน เกนจิ อุปาเยน รฺโ ิตฏฺานฺเว อาโรเปสฺสามา’’ติ. จินฺเตตฺวา จ ปน กติกํ กตฺวา รฺโ ธุรมคฺคํ อทํสุ. เต มหนฺตํ คุมฺพํ ปริกฺขิปิตฺวา มุคฺคราทีหิ ภูมึ โปถยึสุ. ปมเมว สรภมิโค อุฏฺาย ติกฺขตฺตุํ คุพฺภํ อนุปริคนฺตฺวา ปลายโนกาสํ โอโลเกนฺโต เสสทิสาสุ มนุสฺเส พาหาย พาหํ ธนุนา ธนุํ อาหจฺจ นิรนฺตเร ิเต ทิสฺวา รฺโ ิตฏฺาเนเยว โอกาสํ อทฺทส. โส อุมฺมีลิเตสุ อกฺขีสุ วาลุกํ ขิปมาโน วิย ราชานํ อภิมุโข อคมาสิ. ราชา ตํ ลหุสมฺปตฺตํ ทิสฺวา สรํ อุกฺขิปิตฺวา วิชฺฌิ. สรภมิคา นาม สรํ วฺเจตุํ เฉกา โหนฺติ, สเร อภิมุขํ อาคจฺฉนฺเต เวคํ หาเปตฺวา ติฏฺนฺติ, ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺเต เวเคน ปุรโต ชวนฺติ, อุปริภาเคนาคจฺฉนฺเต ปิฏฺึ นาเมนฺติ, ปสฺเสนาคจฺฉนฺเต โถกํ อปคจฺฉนฺติ, กุจฺฉึ สนฺธายาคจฺฉนฺเต ปริวตฺติตฺวา ปตนฺติ, สเร อติกฺกนฺเต วาตจฺฉินฺนวลาหกเวเคน ปลายนฺติ.

โสปิ ราชา ตสฺมึ ปริวตฺติตฺวา ปติเต ‘‘สรภมิโค เม วิทฺโธ’’ติ นาทํ มุฺจิ. สรโภ อุฏฺาย วาตเวเคน ปลายิ. พลมณฺฑลํ ภิชฺชิตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ ิตอมจฺจา สรภํ ปลายมานํ ทิสฺวา เอกโต หุตฺวา ปุจฺฉึสุ ‘‘มิโค กสฺส ิตฏฺานํ อภิรุหี’’ติ? ‘‘รฺโ ิตฏฺาน’’นฺติ. ‘‘ราชา ‘วิทฺโธ เม’ติ วทติ, โกเนน วิทฺโธ, นิพฺพิรชฺโฌ โภ อมฺหากํ ราชา, ภูมิเนน วิทฺธา’’ติ เต นานปฺปกาเรน รฺา สทฺธึ เกฬึ กรึสุ. ราชา จินฺเตสิ ‘‘อิเม มํ ปริหสนฺติ, น มม ปมาณํ ชานนฺตี’’ติ คาฬฺหํ นิวาเสตฺวา ปตฺติโกว ขคฺคํ อาทาย ‘‘สรภํ คณฺหิสฺสามี’’ติ เวเคน ปกฺขนฺทิ. อถ นํ ทิสฺวา ตีณิ โยชนานิ อนุพนฺธิ. สรโภ อรฺํ ปาวิสิ, ราชาปิ ปาวิสิ. ตตฺถ สรภมิคสฺส คมนมคฺเค สฏฺิหตฺถมตฺโต มหาปูติปาทนรกาวาโฏ อตฺถิ, โส ตึสหตฺถมตฺตํ อุทเกน ปุณฺโณ ติเณหิ จ ปฏิจฺฉนฺโน. สรโภ อุทกคนฺธํ ฆายิตฺวาว อาวาฏภาวํ ตฺวา โถกํ โอสกฺกิตฺวา คโต. ราชา ปน อุชุกเมว คจฺฉนฺโต ตสฺมึ ปติ.

สรโภ ตสฺส ปทสทฺทํ อสุณนฺโต นิวตฺติตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘นรกาวาเฏ ปติโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา อาคนฺตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ คมฺภีรอุทเก อปติฏฺํ กิลมนฺตํ ทิสฺวา เตน กตํ อปราธํ หทเย อกตฺวา สฺชาตการุฺโ ‘‘มา มยิ ปสฺสนฺเตว ราชา นสฺสตุ, อิมมฺหา ทุกฺขา นํ โมเจสฺสามี’’ติ อาวาฏตีเร ิโต ‘‘มา ภายิ, มหาราช, มหนฺตา ทุกฺขา ตํ โมเจสฺสามี’’ติ วตฺวา อตฺตโน ปิยปุตฺตํ อุทฺธริตุํ อุสฺสาหํ กโรนฺโต วิย ตสฺสุทฺธรณตฺถาย สิลาย โยคฺคํ กตฺวาว ‘‘วิชฺฌิสฺสามี’’ติ อาคตํ ราชานํ สฏฺิหตฺถา นรกา อุทฺธริตฺวา อสฺสาเสตฺวา ปิฏฺึ อาโรเปตฺวา อรฺา นีหริตฺวา เสนาย อวิทูเร โอตาเรตฺวา โอวาทมสฺส ทตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. ราชา มหาสตฺตํ วินา วสิตุํ อสกฺโกนฺโต อาห ‘‘สามิ สรภมิคราช, มยา สทฺธึ พาราณสึ เอหิ, ทฺวาทสโยชนิกาย เต พาราณสิยํ รชฺชํ ทมฺมิ, ตํ กาเรหี’’ติ. ‘‘มหาราช, มยํ ติรจฺฉานคตา, น เม รชฺเชนตฺโถ, สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, มยา ทินฺนานิ สีลานิ รกฺขนฺโต รฏฺวาสิโนปิ สีลํ รกฺขาเปหี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา อรฺเมว ปาวิสิ.

โส อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ตสฺส คุณํ สรนฺโตว เสนํ ปาปุณิตฺวา เสนงฺคปริวุโต นครํ คนฺตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย สกลนครวาสิโน ปฺจ สีลานิ รกฺขนฺตู’’ติ ธมฺมเภรึ จราเปสิ. มหาสตฺเตน ปน อตฺตโน กตคุณํ กสฺสจิ อกเถตฺวา สายนฺเห นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา อลงฺกตสยเน สยิตฺวา ปจฺจูสกาเล มหาสตฺตสฺส คุณํ สริตฺวา อุฏฺาย สยนปิฏฺเ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา ปีติปุณฺเณน หทเยน ฉหิ คาถาหิ อุทาเนสิ –

๑๓๔.

‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.

๑๓๕.

‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.

๑๓๖.

‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.

๑๓๗.

‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.

๑๓๘.

‘‘ทุกฺขูปนีโตปิ นโร สปฺโ, อาสํ น ฉินฺเทยฺย สุขาคมาย;

พหู หิ ผสฺสา อหิตา หิตา จ, อวิตกฺกิตา มจฺจุมุปพฺพชนฺติ.

๑๓๙.

‘‘อจินฺติตมฺปิ ภวติ, จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ;

น หิ จินฺตามยา โภคา, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา’’ติ.

ตตฺถ อาสีเสเถว ปุริโสติ อาสจฺเฉทกกมฺมํ อกตฺวา อตฺตโน กมฺเมสุ อาสํ กโรเถว น อุกฺกณฺเยฺย. ยถา อิจฺฉินฺติ อหฺหิ สฏฺิหตฺถา นรกา อุฏฺานํ อิจฺฉึ, โสมฺหิ ตเถว ชาโต, ตโต อุฏฺิโตเยวาติ ทีเปติ. อหิตา หิตา จาติ ทุกฺขผสฺสา จ สุขผสฺสา จ, ‘‘มรณผสฺสา ชีวิตผสฺสา จา’’ติปิ อตฺโถ, สตฺตานฺหิ มรณผสฺโส อหิโต ชีวิตผสฺโส หิโต, เตสํ อวิตกฺกิโต อจินฺติโตปิ มรณผสฺโส อาคจฺฉตีติ ทสฺเสติ. อจินฺติ ตมฺปีติ มยา ‘‘อาวาเฏ ปติสฺสามี’’ติ น จินฺติตํ, ‘‘สรภํ มาเรสฺสามี’’ติ จินฺติตํ, อิทานิ ปน เม จินฺติตํ นฏฺํ, อจินฺติตเมว ชาตํ. โภคาติ ยสปริวารา. เอเต จินฺตามยา น โหนฺติ, ตสฺมา าณวตา วีริยเมว กาตพฺพํ. วีริยวโต หิ อจินฺติตมฺปิ โหติเยว.

ตสฺเสวํ อุทานํ อุทาเนนฺตสฺเสว อรุณํ อุฏฺหิ. ปุโรหิโต จ ปาโตว สุขเสยฺยปุจฺฉนตฺถํ อาคนฺตฺวา ราชทฺวาเร ิโต ตสฺส อุทานคีตสทฺทํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘ราชา หิยฺโย มิควํ อคมาสิ, ตตฺถ สรภมิคํ วิรทฺโธ ภวิสฺสติ, ตโต อมจฺเจหิ อวหสิยมาโน ‘มาเรตฺวา นํ อาหริสฺสามี’ติ ขตฺติยมาเนน ตํ อนุพนฺธนฺโต สฏฺิหตฺเถ นรเก ปติโต ภวิสฺสติ, ทยาลุนา สรภราเชน รฺโ โทสํ อจินฺเตตฺวา ราชา อุทฺธริโต ภวิสฺสติ, เตน มฺเ อุทานํ อุทาเนตี’’ติ. เอวํ พฺราหฺมณสฺส รฺโ ปริปุณฺณพฺยฺชนํ อุทานํ สุตฺวา สุมชฺชิเต อาทาเส มุขํ โอโลเกนฺตสฺส ฉายา วิย รฺา จ สรเภน จ กตการณํ ปากฏํ อโหสิ. โส นขคฺเคน ทฺวารํ อาโกเฏสิ. ราชา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ เทว ปุโรหิโต’’ติ. อถสฺส ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิโต เอหาจริยา’’ติ อาห. โส ปวิสิตฺวา ราชานํ ชยาเปตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ‘‘อหํ, มหาราช, ตยา อรฺเ กตการณํ ชานามิ, ตฺวํ เอกํ สรภมิคํ อนุพนฺธนฺโต นรเก ปติโต, อถ นํ โส สรโภ สิลาย โยคฺคํ กตฺวา นรกโต อุทฺธริ, โส ตฺวํ ตสฺส คุณํ อนุสฺสริตฺวา อุทานํ อุทาเนสี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๔๐.

‘‘สรภํ คิริทุคฺคสฺมึ, ยํ ตฺวํ อนุสรี ปุเร;

อลีนจิตฺตสฺส ตุวํ, วิกฺกนฺตมนุชีวสิ.

๑๔๑.

‘‘โย ตํ วิทุคฺคา นรกา สมุทฺธริ, สิลาย โยคฺคํ สรโภ กริตฺวา;

ทุกฺขูปนีตํ มจฺจุมุขา ปโมจยิ, อลีนจิตฺตํ ต มิคํ วเทสี’’ติ.

ตตฺถ อนุสรีติ อนุพนฺธิ. วิกฺกนฺตนฺติ อุทฺธรณตฺถาย กตปรกฺกมํ. อนุชีวสีติ อุปชีวสิ, ตสฺสานุภาเวน ตยา ชีวิตํ ลทฺธนฺติ อตฺโถ. สมุทฺธรีติ อุทฺธริ. ต มิคํ วเทสีติ ตํ สุวณฺณสรภมิคํ อิธ สิริสยเน นิสินฺโน วณฺเณสิ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ มยา สทฺธึ น มิควํ คโต, สพฺพํ ปวตฺตึ ชานาติ, กถํ นุ โข ชานาติ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –

๑๔๒.

‘‘กึ ตฺวํ นุ ตตฺเถว ตทา อโหสิ, อุทาหุ เต โกจิ นํ เอตทกฺขา;

วิวฏจฺฉทฺโท นุสิ สพฺพทสฺสี, าณํ นุ เต พฺราหฺมณ ภึสรูป’’นฺติ.

ตตฺถ ภึสรูปนฺติ กึ นุ เต าณํ พลวชาติกํ, เตเนตํ ชานาสีติ.

พฺราหฺมโณ ‘‘นาหํ สพฺพฺุพุทฺโธ, พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ตยา กถิตคาถานํ ปน มยฺหํ อตฺโถ อุปฏฺาตี’’ติ ทีเปนฺโต ทสมํ คาถมาห –

๑๔๓.

‘‘น เจวหํ ตตฺถ ตทา อโหสึ, น จาปิ เม โกจิ นํ เอตทกฺขา;

คาถาปทานฺจ สุภาสิตานํ, อตฺถํ ตทาเนนฺติ ชนินฺท ธีรา’’ติ.

ตตฺถ สุภาสิตานนฺติ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา สุฏฺุ ภาสิตานํ. อตฺถํ ตทาเนนฺตีติ โย เตสํ อตฺโถ, ตํ อาเนนฺติ อุปธาเรนฺตีติ.

ราชา ตสฺส ตุสฺสิตฺวา พหุํ ธนํ อทาสิ. ตโต ปฏฺาย ทานาทิปุฺาภิรโต อโหสิ, มนุสฺสาปิ ปุฺาภิรตา หุตฺวา มตมตา สคฺคเมว ปูรยึสุ. อเถกทิวสํ ราชา ‘‘ลกฺขํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ปุโรหิตมาทาย อุยฺยานํ คโต. ตทา สกฺโก เทวราชา พหู นเว เทเว จ เทวกฺาโย จ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข การณ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต สรภมิเคน นรกา อุทฺธริตฺวา รฺโ สีเลสุ ปติฏฺาปิตภาวํ ตฺวา ‘‘รฺโ อานุภาเวน มหาชโน ปุฺานิ กโรติ, เตน เทวโลโก ปริปูรติ, อิทานิ โข ปน ราชา ลกฺขํ วิชฺฌิตุํ อุยฺยานํ คโต, ตํ วีมํสิตฺวา สีหนาทํ นทาเปตฺวา สรภมิคสฺส คุณํ กถาเปตฺวา อตฺตโน จ สกฺกภาวํ ชานาเปตฺวา อากาเส ิโต ธมฺมํ เทเสตฺวา เมตฺตาย เจว ปฺจนฺนํ สีลานฺจ คุณํ กเถตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุยฺยานํ อคมาสิ. ราชาปิ ‘‘ลกฺขํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ธนุํ อาโรเปตฺวา สรํ สนฺนยฺหิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก รฺโ จ ลกฺขสฺส จ อนฺตเร อตฺตโน อานุภาเวน สรภํ ทสฺเสสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา สรํ น มุฺจิ. อถ นํ สกฺโก ปุโรหิตสฺส สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา คาถํ อภาสิ –

๑๔๔.

‘‘อาทาย ปตฺตึ ปรวิริยฆาตึ, จาเป สรํ กึ วิจิกิจฺฉเส ตุวํ;

นุนฺโน สโร สรภํ หนฺตุ ขิปฺปํ, อนฺนฺหิ เอตํ วรปฺ รฺโ’’ติ.

ตตฺถ ปตฺตินฺติ วาชปตฺเตหิ สมนฺนาคตํ. ปรวิริยฆาตินฺติ ปเรสํ วีริยฆาตกํ. จาเป สรนฺติ เอตํ ปตฺตสหิตํ สรํ จาเป อาทาย สนฺนยฺหิตฺวา อิทานิ ตฺวํ กึ วิจิกิจฺฉสิ. หนฺตูติ ตยา วิสฺสฏฺโ หุตฺวา เอส สโร ขิปฺปํ อิมํ สรภํ หนตุ. อนฺนฺหิ เอตนฺติ วรปฺ, มหาราช, สรโภ นาม รฺโ อาหาโร ภกฺโขติ อตฺโถ.

ตโต ราชา คาถมาห –

๑๔๕.

‘‘อทฺธา ปชานามิ อหมฺปิ เอตํ, อนฺนํ มิโค พฺราหฺมณ ขตฺติยสฺส;

ปุพฺเพ กตฺจ อปจายมาโน, ตสฺมา มิคํ สรภํ โน หนามี’’ติ.

ตตฺถ ปุพฺเพ กตฺจาติ พฺราหฺมณ, อหเมตํ เอกํเสน ชานามิ ยถา มิโค ขตฺติยสฺส อนฺนํ, ปุพฺเพ ปน อิมินา มยฺหํ กตคุณํ ปูเชมิ, ตสฺมา ตํ น หนามีติ.

ตโต สกฺโก คาถาทฺวยมาห –

๑๔๖.

‘‘เนโส มิโค มหาราช, อสุเรโส ทิสมฺปติ;

เอตํ หนฺตฺวา มนุสฺสินฺท, ภวสฺสุ อมราธิโป.

๑๔๗.

‘‘สเจ จ ราชา วิจิกิจฺฉเส ตุวํ, หนฺตุํ มิคํ สรภํ สหายกํ;

สปุตฺตทาโร นรวีรเสฏฺ, คนฺตา ตุวํ เวตรณึ ยมสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อสุเรโสติ อสุโร เอโส, อสุรเชฏฺโก สกฺโก เอโสติ อธิปฺปาเยน วทติ. อมราธิโปติ ตฺวํ เอตํ สกฺกํ มาเรตฺวา สยํ สกฺโก เทวราชา โหหีติ วทติ. เวตรณึ ยมสฺสาติ ‘‘สเจ เอตํ ‘สหาโย เม’ติ จินฺเตตฺวา น มาเรสฺสสิ, สปุตฺตทาโร ยมสฺส เวตรณินิรยํ คโต ภวิสฺสสี’’ติ นํ ตาเสสิ.

ตโต ราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๔๘.

‘‘กามํ อหํ ชานปทา จ สพฺเพ, ปุตฺตา จ ทารา จ สหายสงฺฆา;

คจฺเฉมุ ตํ เวตรณึ ยมสฺส, น ตฺเวว หฺโ มม ปาณโท โย.

๑๔๙.

‘‘อยํ มิโค กิจฺฉคตสฺส มยฺหํ, เอกสฺส กตฺตา วิวนสฺมิ โฆเร;

ตํ ตาทิสํ ปุพฺพกิจฺจํ สรนฺโต, ชานํ มหาพฺรหฺเม กถํ หเนยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ มม ปาณโท โยติ พฺราหฺมณ, โย มม ปาณทโท เยน เม ปิยํ ชีวิตํ ทินฺนํ, นรกํ ปวิสนฺเตน มยา โส น ตฺเวว หฺโ น หนิตพฺโพ, อวชฺโฌ เอโสติ วทติ. เอกสฺส กตฺตา วิวนสฺมิ โฆเรติ ทารุเณ อรฺเ ปวิฏฺสฺส สโต เอกสฺส อสหายกสฺส มม กตฺตา การโก ชีวิตสฺส ทายโก, สฺวาหํ ตํ อิมินา กตํ ตาทิสํ ปุพฺพกิจฺจํ สรนฺโตเยว ตํ คุณํ ชานนฺโตเยว กถํ หเนยฺยํ.

อถ สกฺโก ปุโรหิตสฺส สรีรโต อปคนฺตฺวา สกฺกตฺตภาวํ มาเปตฺวา อากาเส ตฺวา รฺโ คุณํ ปกาเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๕๐.

‘‘มิตฺตาภิราธี จิรเมว ชีว, รชฺชํ อิมํ ธมฺมคุเณ ปสาส;

นารีคเณหิ ปริจาริยนฺโต, โมทสฺสุ รฏฺเ ติทิเวว วาสโว.

๑๕๑.

‘‘อกฺโกธโน นิจฺจปสนฺนจิตฺโต, สพฺพาติถี ยาจโยโค ภวิตฺวา;

ทตฺวา จ ภุตฺวา จ ยถานุภาวํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.

ตตฺถ มิตฺตาภิราธีติ มิตฺเต อาราเธนฺโต โตเสนฺโต เตสุ อทุพฺภมาโน. สพฺพาติถีติ สพฺเพ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ อติถี ปาหุนเกเยว กตฺวา ปริหรนฺโต ยาจิตพฺพยุตฺตโก หุตฺวา. อนินฺทิโตติ ทานาทีนิ ปุฺานิ กรเณน ปมุทิโต เทวโลเกน อภินนฺทิโต หุตฺวา สคฺคฏฺานํ อุเปหีติ.

เอวํ วตฺวา สกฺโก ‘‘อหํ มหาราชํ ตํ ปริคฺคณฺหิตุํ อาคโต, ตฺวํ อตฺตานํ ปริคฺคณฺหิตุํ นาทาสิ, อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ สาริปุตฺโต สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ ชานาติเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปุโรหิโต สาริปุตฺโต, สรภมิโค ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สรภมิคชาตกวณฺณนา ทสมา.

ชาตกุทฺทานํ –

อมฺพ ผนฺทน ชวน, นารท ทูต กลิงฺคา;

อกิตฺติ ตกฺการิยํ รุรุ, สรภํ ทส เตรเส.

เตรสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. ปกิณฺณกนิปาโต

[๔๘๔] ๑. สาลิเกทารชาตกวณฺณนา

สมฺปนฺนํ สาลิเกทารนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ สามชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ คิหี โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ เต โหนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘มาตาปิตโร เม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ ภิกฺขุ, โปราณกปณฺฑิตา ติรจฺฉานา หุตฺวา สุวโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวาปิ ชิณฺเณ มาตาปิตโร กุลาวเก นิปชฺชาเปตฺวา มุขตุณฺฑเกน โคจรํ อาหริตฺวา โปเสสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา นครโต ปุพฺพุตฺตรทิสาย สาลิทฺทิโย นาม พฺราหฺมณคาโม อโหสิ. ตสฺส ปุพฺพุตฺตรทิสาย มคธเขตฺตํ อตฺถิ, ตตฺถ โกสิยโคตฺโต นาม สาลิทฺทิยวาสี พฺราหฺมโณ สหสฺสกรีสมตฺตํ เขตฺตํ คเหตฺวา สาลึ วปาเปสิ. อุฏฺิเต จ ปน สสฺเส วตึ ถิรํ กาเรตฺวา กสฺสจิ ปณฺณาสกรีสมตฺตํ, กสฺสจิ สฏฺิกรีสมตฺตนฺติ เอวํ ปฺจสตกรีสมตฺตํ เขตฺตํ อตฺตโน ปุริสานํเยว อารกฺขณตฺถาย ทตฺวา เสสํ ปฺจสตกรีสมตฺตํ เขตฺตํ ภตึ กตฺวา เอกสฺส ภตกสฺส อทาสิ. โส ตตฺถ กุฏึ กตฺวา รตฺตินฺทิวํ วสติ. เขตฺตสฺส ปน ปุพฺพุตฺตรทิสาภาเค เอกสฺมึ สานุปพฺพเต มหนฺตํ สิมฺพลิวนํ อตฺถิ, ตตฺถ อเนกานิ สุวสตานิ วสนฺติ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺมึ สุวสงฺเฆ สุวรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส วยปฺปตฺโต อภิรูโป ถามสมฺปนฺโน สกฏนาภิปมาณสรีโร อโหสิ. อถสฺส ปิตา มหลฺลกกาเล ‘‘อหํ อิทานิ ทูรํ คนฺตุํ น สกฺโกมิ, ตฺวํ อิมํ คณํ ปริหรา’’ติ คณํ นิยฺยาเทสิ. โส ปุนทิวสโต ปฏฺาย มาตาปิตูนํ โคจรตฺถาย คนฺตุํ นาทาสิ, สุวคณํ ปริหรนฺโต หิมวนฺตํ คนฺตฺวา สยํชาตสาลิวเน ยาวทตฺถํ สาลึ ขาทิตฺวา อาคมนกาเล มาตาปิตูนํ ปโหนกํ โคจรํ อาหริตฺวา มาตาปิตโร โปเสสิ.

อถสฺส เอกทิวสํ สุวา อาโรเจสุํ ‘‘ปุพฺเพ อิมสฺมึ กาเล มคธเขตฺเต สาลิ ปจฺจติ, อิทานิ กึ นุ โข ชาต’’นฺติ? ‘‘เตน หิ ชานาถา’’ติ ทฺเว สุเว ปหิณึสุ. เต คนฺตฺวา มคธเขตฺเต โอตรนฺตา ตสฺส ภติยา รกฺขณปุริสสฺส เขตฺเต โอตริตฺวา สาลึ ขาทิตฺวา เอกํ สาลิสีสํ อาทาย สิมฺพลิวนํ คนฺตฺวา สาลิสีสํ มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ตตฺถ เอวรูโป สาลี’’ติ วทึสุ. โส ปุนทิวเส สุวคณปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺมึ ภตกสฺส เขตฺเต โอตริ. โส ปน ปุริโส สุเว สาลึ ขาทนฺเต ทิสฺวา อิโต จิโต จ ธาวิตฺวา วาเรนฺโตปิ วาเรตุํ น สกฺโกติ. เสสา สุวา ยาวทตฺถํ สาลึ ขาทิตฺวา ตุจฺฉมุขาว คจฺฉนฺติ. สุวราชา ปน พหูนิ สาลิสีสานิ เอกโต กตฺวา เตหิ ปริวุโต หุตฺวา อาหริตฺวา มาตาปิตูนํ เทติ. สุวา ปุนทิวสโต ปฏฺาย ตตฺเถว สาลึ ขาทึสุ. อถ โส ปุริโส ‘‘สเจ อิเม อฺํ กติปาหํ เอวํ ขาทิสฺสนฺติ, กิฺจิ น ภวิสฺสติ, พฺราหฺมโณ สาลึ อคฺฆาเปตฺวา มยฺหํ อิณํ กริสฺสติ, คนฺตฺวา ตสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ สาลิมุฏฺินา สทฺธึ ตถารูปํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา สาลิทฺทิยคามํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณํ ปสฺสิตฺวา วนฺทิตฺวา ปณฺณาการํ ทตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ‘‘กึ, โภ ปุริส, สมฺปนฺนํ สาลิเขตฺต’’นฺติ ปุฏฺโ ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, สมฺปนฺน’’นฺติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทารํ, สุวา ภุฺชนฺติ โกสิย;

ปฏิเวเทมิ เต พฺรหฺเม, น เน วาเรตุมุสฺสเห.

.

‘‘เอโก จ ตตฺถ สกุโณ, โย เนสํ สพฺพสุนฺทโร;

ภุตฺวา สาลึ ยถากามํ, ตุณฺเฑนาทาย คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ สมฺปนฺนนฺติ ปริปุณฺณํ อเวกลฺลํ. สาลิเกทารนฺติ สาลิเขตฺตํ. สพฺพสุนฺทโรติ สพฺเพหิ โกฏฺาเสหิ สุนฺทโร รตฺตตุณฺโฑ ชิฺชุกสนฺนิภอกฺขิ รตฺตปาโท ตีหิ รตฺตราชีหิ ปริกฺขิตฺตคีโว มหามยูรปมาโณ โส ยาวทตฺถํ สาลึ ขาทิตฺวา อฺํ ตุณฺเฑน คเหตฺวา คจฺฉตีติ.

พฺราหฺมโณ ตสฺส กถํ สุตฺวา สุวราเช สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา เขตฺตปาลํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺโภ ปุริส, ปาสํ โอฑฺเฑตุํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, ชานามี’’ติ. อถ นํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

.

‘‘โอฑฺเฑนฺตุ วาลปาสานิ, ยถา พชฺเฌถ โส ทิโช;

ชีวฺจ นํ คเหตฺวาน, อานเยหิ มมนฺติเก’’ติ.

ตตฺถ โอฑฺเฑนฺตูติ โอฑฺฑยนฺตุ. วาลปาสานีติ อสฺสวาลาทิรชฺชุมยปาสานิ. ชีวฺจ นนฺติ ชีวนฺตํ เอว นํ. อานเยหีติ อาเนหิ.

ตํ สุตฺวา เขตฺตปาโล สาลึ อคฺฆาเปตฺวา อิณสฺส อกตภาเวน ตุฏฺโ คนฺตฺวา อสฺสวาเล วฏฺเฏตฺวา ‘‘อชฺช อิมสฺมึ าเน โอตริสฺสตี’’ติ สุวรฺโ โอตรณฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว จาฏิปมาณํ ปฺชรํ กตฺวา ปาสฺจ โอฑฺเฑตฺวา สุวานํ อาคมนํ โอโลเกนฺโต กุฏิยํ นิสีทิ. สุวราชาปิ สุวคณปริวุโต อาคนฺตฺวา อโลลุปฺปจารตาย หิยฺโย ขาทิตฏฺาเน โอฑฺฑิตปาเส ปาทํ ปเวสนฺโตว โอตริ. โส อตฺตโน พทฺธภาวํ ตฺวา จินฺเตสิ ‘‘สจาหํ อิทาเนว พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าตกาเม ภยตชฺชิตา โคจรํ อคฺคเหตฺวาว ปลายิสฺสนฺติ, ยาว เอเตสํ โคจรคฺคหณํ, ตาว อธิวาเสสฺสามี’’ติ. โส เตสํ สุหิตภาวํ ตฺวา มรณภยตชฺชิโต หุตฺวา ติกฺขตฺตุํ พทฺธรวํ รวิ. อถ สพฺเพ เต สุวา ปลายึสุ. สุวราชา ‘‘เอตฺตเกสุ เม าตเกสุ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต เอโกปิ นตฺถิ, กึ นุ โข มยา ปาปํ กต’’นฺติ วิลปนฺโต คาถมาห –

.

‘‘เอเต ภุตฺวา ปิวิตฺวา จ, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;

เอโก พทฺโธสฺมิ ปาเสน, กึ ปาปํ ปกตํ มยา’’ติ.

เขตฺตปาโล สุวราชสฺส พทฺธรวํ สุวานฺจ อากาเส ปกฺขนฺทนสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ นุ โข’’ติ กุฏิยา โอรุยฺห ปาสาฏฺานํ คนฺตฺวา สุวราชานํ ทิสฺวา ‘‘ยสฺเสว เม ปาโส โอฑฺฑิโต, สฺเวว พทฺโธ’’ติ ตุฏฺมานโส สุวราชานํ ปาสโต โมเจตฺวา ทฺเว ปาเท เอกโต พนฺธิตฺวา ทฬฺหํ อาทาย สาลิทฺทิยคามํ คนฺตฺวา สุวราชํ พฺราหฺมณสฺส อทาสิ. พฺราหฺมโณ พลวสิเนเหน มหาสตฺตํ อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ คเหตฺวา องฺเก นิสีทาเปตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘อุทรํ นูน อฺเสํ, สุว อจฺโจทรํ ตว;

ภุตฺวา สาลึ ยถากามํ, ตุณฺเฑนาทาย คจฺฉสิ.

.

‘‘โกฏฺํ นุ ตตฺถ ปูเรสิ, สุว เวรํ นุ เต มยา;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กุหึ สาลึ นิทาหสี’’ติ.

ตตฺถ อุทรํ นูนาติ อฺเสํ อุทรํ อุทรเมว มฺเ, ตว อุทรํ ปน อติอุทรํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ สิมฺพลิวเน. ปูเรสีติ วสฺสารตฺตตฺถาย ปูเรสิ. นิทาหสีติ นิธานํ กตฺวา เปสิ, ‘‘นิธียสี’’ติปิ ปาโ.

ตํ สุตฺวา สุวราชา มธุราย มนุสฺสภาสาย สตฺตมํ คาถมาห –

.

‘‘น เม เวรํ ตยา สทฺธึ, โกฏฺโ มยฺหํ น วิชฺชติ;

อิณํ มุฺจามิณํ ทมฺมิ, สมฺปตฺโต โกฏสิมฺพลึ;

นิธิมฺปิ ตตฺถ นิทหามิ, เอวํ ชานาหิ โกสิยา’’ติ.

ตตฺถ อิณํ มุฺจามิณํ ทมฺมีติ ตว สาลึ หริตฺวา อิณํ มุฺจามิ เจว ทมฺมิ จาติ วทติ. นิธิมฺปีติ เอกํ ตตฺถ สิมฺพลิวเน อนุคามิกนิธิมฺปิ นิทหามิ.

อถ นํ พฺราหฺมโณ ปุจฺฉิ –

.

‘‘กีทิสํ เต อิณทานํ, อิณโมกฺโข จ กีทิโส;

นิธินิธานมกฺขาหิ, อถ ปาสา ปโมกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ อิณทานนฺติ อิณสฺส ทานํ. นิธินิธานนฺติ นิธิโน นิธานํ.

เอวํ พฺราหฺมเณน ปุฏฺโ สุวราชา ตสฺส พฺยากโรนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

.

‘‘อชาตปกฺขา ตรุณา, ปุตฺตกา มยฺห โกสิย;

เต มํ ภตา ภริสฺสนฺติ, ตสฺมา เตสํ อิณํ ทเท.

๑๐.

‘‘มาตา ปิตา จ เม วุทฺธา, ชิณฺณกา คตโยพฺพนา;

เตสํ ตุณฺเฑน หาตูน, มุฺเจ ปุพฺพกตํ อิณํ.

๑๑.

‘‘อฺเปิ ตตฺถ สกุณา, ขีณปกฺขา สุทุพฺพลา;

เตสํ ปุฺตฺถิโก ทมฺมิ, ตํ นิธึ อาหุ ปณฺฑิตา.

๑๒.

‘‘อีทิสํ เม อิณทานํ, อิณโมกฺโข จ อีทิโส;

นิธินิธานมกฺขามิ, เอวํ ชานาหิ โกสิยา’’ติ.

ตตฺถ หาตูนาติ หริตฺวา. ตํ นิธินฺติ ตํ ปุฺกมฺมํ ปณฺฑิตา อนุคามิกนิธึ นาม กเถนฺติ. นิธินิธานนฺติ นิธิโน นิธานํ, ‘‘นิธานนิธิ’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ.

พฺราหฺมโณ มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ.

๑๓.

‘‘ภทฺทโก วตยํ ปกฺขี, ทิโช ปรมธมฺมิโก;

เอกจฺเจสุ มนุสฺเสสุ, อยํ ธมฺโม น วิชฺชติ.

๑๔.

‘‘ภุฺช สาลึ ยถากามํ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ปุนาปิ สุว ปสฺเสมุ, ปิยํ เม ตว ทสฺสน’’นฺติ.

ตตฺถ ภุฺช สาลินฺติ อิโต ปฏฺาย นิพฺภโย หุตฺวา ภุฺชาติ กรีสสหสฺสมฺปิ ตสฺเสว นิยฺยาเทนฺโต เอวมาห. ปสฺเสมูติ อตฺตโน รุจิยา อาคตํ อฺเสุปิ ทิวเสสุ ตํ ปสฺเสยฺยามาติ.

เอวํ พฺราหฺมโณ มหาสตฺตํ ยาจิตฺวา ปิยปุตฺตํ วิย มุทุจิตฺเตน โอโลเกนฺโต ปาทโต พนฺธนํ โมเจตฺวา สตปากเตเลน ปาเท มกฺเขตฺวา ภทฺทปีเ นิสีทาเปตฺวา กฺจนตฏฺฏเก มธุลาเช ขาทาเปตฺวา สกฺขโรทกํ ปาเยสิ. อถสฺส สุวราชา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, พฺราหฺมณา’’ติ วตฺวา โอวาทํ เทนฺโต อาห –

๑๕.

‘‘ภุตฺตฺจ ปีตฺจ ตวสฺสมมฺหิ, รตี จ โน โกสิย เต สกาเส;

นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาหิ ทานํ, ชิณฺเณ จ มาตาปิตโร ภรสฺสู’’ติ.

ตตฺถ ตวสฺสมมฺหีติ ตว นิเวสเน. รตีติ อภิรติ.

ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ตุฏฺมานโส อุทานํ อุทาเนนฺโต คาถมาห –

๑๖.

‘‘ลกฺขี วต เม อุทปาทิ อชฺช, โย อทฺทสาสึ ปวรํ ทิชานํ;

สุวสฺส สุตฺวาน สุภาสิตานิ, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ตตฺถ ลกฺขีติ สิรีปิ ปุฺมฺปิ ปฺาปิ.

มหาสตฺโต พฺราหฺมเณน อตฺตโน ทินฺนํ กรีสสหสฺสมตฺตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อฏฺกรีสเมว คณฺหิ. พฺราหฺมโณ ถมฺเภ นิขนิตฺวา ตสฺส เขตฺตํ นิยฺยาเทตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา ขมาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ สามิ, อสฺสุมุเข โรทมาเน มาตาปิตโร อสฺสาเสหี’’ติ วตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. โส ตุฏฺมานโส สาลิสีสํ อาทาย คนฺตฺวา มาตาปิตูนํ ปุรโต นิกฺขิปิตฺวา ‘‘อมฺมตาตา, อุฏฺเถา’’ติ อาห. เต อสฺสุมุขา โรทมานา อุฏฺหึสุ, ตาวเทว สุวคณา สนฺนิปติตฺวา ‘‘กถํ มุตฺโตสิ, เทวา’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส เตสํ สพฺพํ วิตฺถารโต กเถสิ. โกสิโยปิ สุวรฺโ โอวาทํ สุตฺวา ตโต ปฏฺาย ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ มหาทานํ ปฏฺเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๑๗.

‘‘โส โกสิโย อตฺตมโน อุทคฺโค, อนฺนฺจ ปานฺจภิสงฺขริตฺวา;

อนฺเนน ปาเนน ปสนฺนจิตฺโต, สนฺตปฺปยิ สมณพฺราหฺมเณ จา’’ติ.

ตตฺถ สนฺตปฺปยีติ คหิตคหิตานิ ภาชนานิ ปูเรนฺโต สนฺตปฺเปสีติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขุ มาตาปิตูนํ โปสนํ นาม ปณฺฑิตานํ วํโส’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา สุวคณา พุทฺธปริสา อเหสุํ, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, เขตฺตปาโล ฉนฺโน, พฺราหฺมโณ อานนฺโท, สุวราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

สาลิเกทารชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๘๕] ๒. จนฺทกินฺนรีชาตกวณฺณนา

อุปนียติทํ มฺเติ อิทํ สตฺถา กปิลวตฺถุปุรํ อุปนิสฺสาย นิคฺโรธาราเม วิหรนฺโต ราชนิเวสเน ราหุลมาตรํ อารพฺภ กเถสิ. อิทํ ปน ชาตกํ ทูเรนิทานโต ปฏฺาย กเถตพฺพํ. สา ปเนสา นิทานกถา ยาว ลฏฺิวเน อุรุเวลกสฺสปสีหนาทา อปณฺณกชาตเก กถิตา, ตโต ปรํ ยาว กปิลวตฺถุคมนา เวสฺสนฺตรชาตเก อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ปน ปิตุ นิเวสเน นิสีทิตฺวา อนฺตรภตฺตสมเย มหาธมฺมปาลชาตกํ (ชา. ๑.๑๐.๙๒ อาทโย) กเถตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ‘‘ราหุลมาตุ นิเวสเน นิสีทิตฺวา ตสฺสา คุณํ วณฺเณนฺโต จนฺทกินฺนรีชาตกํ (ชา. ๑.๑๔.๑๘ อาทโย) กเถสฺสามี’’ติ ราชานํ ปตฺตํ คาหาเปตฺวา ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ สทฺธึ ราหุลมาตุ นิเวสนฏฺานํ ปายาสิ. ตทา ตสฺสา สมฺมุขา จตฺตาลีสสหสฺสนาฏกิตฺถิโย วสนฺติ ตาสุ ขตฺติยกฺานํเยว นวุติอธิกสหสฺสํ. สา ตถาคตสฺส อาคมนํ ตฺวา ‘‘สพฺพา กาสาวาเนว นิวาเสนฺตู’’ติ ตาสํ อาโรจาเปสิ. ตา ตถา กรึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. อถ ตา สพฺพาปิ เอกปฺปหาเรเนว วิรวึสุ, มหาปริเทวสทฺโท อโหสิ. ราหุลมาตาปิ ปริเทวิตฺวา โสกํ วิโนเทตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ราชคเตน พหุมาเนน สคารเวน นิสีทิ. ราชา ตสฺสา คุณกถํ อารภิ, ‘‘ภนฺเต, มม สุณฺหา ‘ตุมฺเหหิ กาสาวานิ นิวตฺถานี’ติ สุตฺวา กาสาวาเนว นิวาเสสิ, ‘มาลาทีนิ ปริจฺจตฺตานี’ติ สุตฺวา มาลาทีนิ ปริจฺจชิ, ‘ภูมิยํ สยตี’ติ สุตฺวา ภูมิสยนาว ชาตา, ตุมฺหากํ ปพฺพชิตกาเล วิธวา หุตฺวา อฺเหิ ราชูหิ เปสิตํ ปณฺณาการํ น คณฺหิ, เอวํ ตุมฺเหสุ อสํหีรจิตฺตา เอสา’’ติ นานปฺปกาเรหิ ตสฺสา คุณกถํ กเถสิ. สตฺถา ‘‘อนจฺฉริยํ, มหาราช, ยํ เอสา อิทานิ มม ปจฺฉิเม อตฺตภาเว มยิ สสิเนหา อสํหีรจิตฺตา อนฺเนยฺยา ภเวยฺย. เอสา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาปิ มยิ อสํหีรจิตฺตา อนฺเนยฺยา อโหสี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต มหาสตฺโต หิมวนฺตปเทเส กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติ, จนฺทา นามสฺส ภริยา. เต อุโภปิ จนฺทนามเก รชตปพฺพเต วสึสุ. ตทา พาราณสิราชา อมจฺจานํ รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา ทฺเว กาสายานิ นิวาเสตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ เอกโกว หิมวนฺตํ ปาวิสิ. โส มิคมํสํ ขาทนฺโต เอกํ ขุทฺทกนทึ อนุสฺจรนฺโต อุทฺธํ อภิรุหิ. จนฺทปพฺพตวาสิโน กินฺนรา วสฺสารตฺตสมเย อโนตริตฺวา ปพฺพเตเยว วสนฺติ, นิทาฆสมเย โอตรนฺติ. ตทา จ โส จนฺทกินฺนโร อตฺตโน ภริยาย สทฺธึ โอตริตฺวา เตสุ เตสุ าเนสุ คนฺเธ วิลิมฺปนฺโต ปุปฺผเรณุํ ขาทนฺโต ปุปฺผปเฏ นิวาเสนฺโต ปารุปนฺโต ลตาโทลาหิ กีฬนฺโต มธุรสฺสเรน คายนฺโต ตํ ขุทฺทกนทึ ปตฺวา เอกสฺมึ นิวตฺตนฏฺาเน โอตริตฺวา อุทเก ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา อุทกกีฬํ กีฬิตฺวา ปุปฺผปเฏ นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา รชตปฏฺฏวณฺณาย วาลุกาย ปุปฺผาสนํ ปฺเปตฺวา เอกํ เวฬุ ทณฺฑกํ คเหตฺวา สยเน นิสีทิ. ตโต จนฺทกินฺนโร เวฬุํ วาเทนฺโต มธุรสทฺเทน คายิ. จนฺทกินฺนรี มุทุหตฺเถ นาเมตฺวา ตสฺส อวิทูเร ิตา นจฺจิ เจว คายิ จ. โส ราชา เตสํ สทฺทํ สุตฺวา ปทสทฺทํ อสาเวนฺโต สณิกํ คนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา เต กินฺนเร ทิสฺวา กินฺนริยา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘ตํ กินฺนรํ วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อิมาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสฺสามี’’ติ ตฺวา จนฺทกินฺนรํ วิชฺฌิ. โส เวทนาปฺปตฺโต ปริเทวมาโน จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๘.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, จนฺเท โลหิตมทฺทเน;

อชฺช ชหามิ ชีวิตํ, ปาณา เม จนฺเท นิรุชฺฌนฺติ.

๑๙.

‘‘โอสีทิ เม ทุกฺขํ หทยํ, เม ฑยฺหเต นิตมฺมามิ;

ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา, น นํ อฺเหิ โสเกหิ.

๒๐.

‘‘ติณมิว วนมิว มิลายามิ, นที อปริปุณฺณาว สุสฺสามิ;

ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา, น นํ อฺเหิ โสเกหิ.

๒๑.

‘‘วสฺสมิว สเร ปาเท, อิมานิ อสฺสูนิ วตฺตเร มยฺหํ;

ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา, น นํ อฺเหิ โสเกหี’’ติ.

ตตฺถ อุปนียตีติ สนฺตติวิจฺเฉทํ อุปนียติ. อิทนฺติ ชีวิตํ. ปาณา เมติ ภทฺเท, จนฺเท มม ชีวิตปาณา นิรุชฺฌนฺติ. โอสีทิ เมติ ชีวิตํ เม โอสีทติ. นิตมฺมามีติ อติกิลมามิ. ตว จนฺทิยาติ อิทํ มม ทุกฺขํ, น นํ อฺเหิ โสเกหิ, อถ โข ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา โสกเหตุ ยสฺมา ตฺวํ มม วิโยเคน โสจิสฺสสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ติณมิว วนมิว มิลายามีติ ตตฺตปาสาเณ ขิตฺตติณมิว มูลฉินฺนวนมิว มิลายามีติ วทติ. สเร ปาเทติ ยถา นาม ปพฺพตปาเท ปติตวสฺสํ สริตฺวา อจฺฉินฺนธารํ วตฺตติ.

มหาสตฺโต อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ ปริเทวิตฺวา ปุปฺผสยเน นิปนฺโนว สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา ปริวตฺติ. ราชา ปติฏฺิโตว. อิตรา มหาสตฺเต ปริเทวนฺเต อตฺตโน รติยา มตฺตา หุตฺวา ตสฺส วิทฺธภาวํ น ชานาติ, วิสฺํ ปน นํ ปริวตฺติตฺวา นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เม ปิยสามิกสฺส ทุกฺข’’นฺติ อุปธาเรนฺตี ปหารมุขโต ปคฺฆรนฺตํ โลหิตํ ทิสฺวา ปิยสามิเก อุปฺปนฺนํ พลวโสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี มหาสทฺเทน ปริเทวิ. ราชา ‘‘กินฺนโร มโต ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสสิ. จนฺทา ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา เม โจเรน ปิยสามิโก วิทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ กมฺปมานา ปลายิตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ตฺวา ราชานํ ปริภาสนฺตี ปฺจ คาถา อภาสิ –

๒๒.

‘‘ปาโป โขสิ ราชปุตฺต, โย เม อิจฺฉิตํ ปตึ วรากิยา;

วิชฺฌสิ วนมูลสฺมึ, โสยํ วิทฺโธ ฉมา เสติ.

๒๓.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ราชปุตฺต ตว มาตา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, กิมฺปุริสํ อเวกฺขมานาย.

๒๔.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ราชปุตฺต ตว ชายา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, กิมฺปุริสํ อเวกฺขมานาย.

๒๕.

‘‘มา จ ปุตฺตํ มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ราชปุตฺต ตว มาตา;

โย กิมฺปุริสํ อวธิ, อทูสกํ มยฺห กามา หิ.

๒๖.

‘‘มา จ ปุตฺตํ มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ราชปุตฺต ตว ชายา;

โย กิมฺปุริสํ อวธิ, อทูสกํ มยฺห กามา หี’’ติ.

ตตฺถ วรากิยาติ กปณาย. ปฏิมุฺจตูติ ปฏิลภตุ ผุสตุ ปาปุณาตุ. มยฺห กามา หีติ มยฺหํ กาเมน.

ราชา นํ ปฺจหิ คาถาหิ ปริภาสิตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ิตํเยว อสฺสาเสนฺโต คาถมาห –

๒๗.

‘‘มา ตฺวํ จนฺเท โรทิ มา โสปิ, วนติมิรมตฺตกฺขิ;

มม ตฺวํ เหหิสิ ภริยา, ราชกุเล ปูชิตา นารีภี’’ติ.

ตตฺถ จนฺเทติ มหาสตฺตสฺส ปริเทวนกาเล นามสฺส สุตตฺตา เอวมาห. วนติมิรมตฺตกฺขีติ วนติมิรปุปฺผสมานอกฺขิ. ปูชิตา นารีภีติ โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา อคฺคมเหสี เหสฺสสิ.

จนฺทา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ตฺวํ กึ มํ วเทสี’’ติ สีหนาทํ นทนฺตี อนนฺตรคาถมาห –

๒๘.

‘‘อปิ นูนหํ มริสฺสํ, นาหํ ราชปุตฺต ตว เหสฺสํ;

โย กิมฺปุริสํ อวธิ, อทูสกํ มยฺห กามา หี’’ติ.

ตตฺถ อปิ นูนหนฺติ อปิ เอกํเสเนว อหํ มริสฺสํ.

โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา นิจฺฉนฺทราโค หุตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๒๙.

‘‘อปิ ภีรุเก อปิ ชีวิตุกามิเก, กิมฺปุริสิ คจฺฉ หิมวนฺตํ;

ตาลีสตครโภชนา, อฺเ ตํ มิคา รมิสฺสนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อปิ ภีรุเกติ ภีรุชาติเก. ตาลีสตครโภชนาติ ตฺวํ ตาลีสปตฺตตครปตฺตโภชนา มิคี, ตสฺมา อฺเ ตํ มิคา รมิสฺสนฺติ, น ตฺวํ ราชกุลารหา, คจฺฉาติ นํ อวจ, วตฺวา จ ปน นิรเปกฺโข หุตฺวา ปกฺกามิ.

สา ตสฺส คตภาวํ ตฺวา โอรุยฺห มหาสตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา ปพฺพตมตฺถกํ อาโรเปตฺวา ปพฺพตตเล นิปชฺชาเปตฺวา สีสมสฺส อตฺตโน อูรูสุ กตฺวา พลวปริเทวํ ปริเทวมานา ทฺวาทส คาถา อภาสิ –

๓๐.

‘‘เต ปพฺพตา ตา จ กนฺทรา, ตา จ คิริคุหาโย ตเถว ติฏฺนฺติ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๑.

‘‘เต ปณฺณสนฺถตา รมณียา, วาฬมิเคหิ อนุจิณฺณา;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๒.

‘‘เต ปุปฺผสนฺถตา รมณียา, วาฬมิเคหิ อนุจิณฺณา;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๓.

‘‘อจฺฉา สวนฺติ คิริวนนทิโย, กุสุมาภิกิณฺณโสตาโย;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๔.

‘‘นีลานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๕.

‘‘ปีตานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๖.

‘‘ตมฺพานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๗.

‘‘ตุงฺคานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๘.

‘‘เสตานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๙.

‘‘จิตฺรานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๔๐.

‘‘ยกฺขคณเสวิเต คนฺธมาทเน, โอสเธภิ สฺฉนฺเน;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๔๑.

‘‘กิมฺปุริสเสวิเต คนฺธมาทเน, โอสเธภิ สฺฉนฺเน;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ เต ปพฺพตาติ เยสุ มยํ เอกโตว อภิรมิมฺห, อิเม เต ปพฺพตา ตา จ กนฺทรา ตา จ คิริคุหาโย ตเถว ิตา. เตสุ อหํ อิทานิ ตํ อปสฺสนฺตี กถํ กสฺสํ, กึ กริสฺสามิ, เตสุ ปุปฺผผลปลฺลวาทิโสภํ ตํ อปสฺสนฺตี กถํ อธิวาเสตุํ สกฺขิสฺสามีติ ปริเทวติ. ปณฺณสนฺถตาติ ตาลีสปตฺตาทิคนฺธปณฺณสนฺถรา. อจฺฉาติ วิปฺปสนฺโนทกา. นีลานีติ นีลมณิมยานิ. ปีตานีติ โสวณฺณมยานิ. ตมฺพานีติ มโนสิลมยานิ. ตุงฺคานีติ อุจฺจานิ ติขิณคฺคานิ. เสตานีติ รชตมยานิ. จิตฺรานีติ สตฺตรตนมิสฺสกานิ. ยกฺขคณเสวิเตติ ภุมฺมเทวตาหิ เสวิเต.

อิติ สา ทฺวาทสหิ คาถาหิ ปริเทวิตฺวา มหาสตฺตสฺส อุเร หตฺถํ เปตฺวา สนฺตาปภาวํ ตฺวา ‘‘จนฺโท ชีวติเยว, เทวุชฺฌานกมฺมํ กตฺวา ชีวิตมสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ นุ โข โลกปาลา นาม นตฺถิ, อุทาหุ วิปฺปวุตฺถา, อทุ มตา, เต เม ปิยสามิกํ น รกฺขนฺตี’’ติ เทวุชฺฌานกมฺมํ อกาสิ. ตสฺสา โสกเวเคน สกฺกสฺส อาสนํ อุณฺหํ อโหสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา พฺราหฺมณวณฺเณน เวเคเนว อาคนฺตฺวา กุณฺฑิกโต อุทกํ คเหตฺวา มหาสตฺตํ อาสิฺจิ. ตาวเทว วิสํ อนฺตรธายิ, วโณ รุหิ, อิมสฺมึ าเน วิทฺโธติปิ น ปฺายิ. มหาสตฺโต สุขิโต อุฏฺาสิ. จนฺทา ปิยสามิกํ อโรคํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺตา สกฺกสฺส ปาเท วนฺทนฺตี อนนฺตรคาถมาห –

๔๒.

‘‘วนฺเท เต อยิรพฺรหฺเม, โย เม อิจฺฉิตํ ปตึ วรากิยา;

อมเตน อภิสิฺจิ, สมาคตาสฺมิ ปิยตเมนา’’ติ.

ตตฺถ อมเตนาติ อุทกํ ‘‘อมต’’นฺติ มฺมานา เอวมาห. ปิยตเมนาติ ปิยตเรน, อยเมว วา ปาโ.

สกฺโก เตสํ โอวาทมทาสิ ‘‘อิโต ปฏฺาย จนฺทปพฺพตโต โอรุยฺห มนุสฺสปถํ มา คมิตฺถ, อิเธว วสถา’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา เต โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. จนฺทาปิ ‘‘กึ โน สามิ อิมินา ปริปนฺถฏฺาเนน, เอหิ จนฺทปพฺพตเมว คจฺฉามา’’ติ วตฺวา โอสานคาถมาห –

๔๓.

‘‘วิจราม ทานิ คิริวนนทิโย, กุสุมาภิกิณฺณโสตาโย;

นานาทุมวสนาโย, ปิยํวทา อฺมฺสฺสา’’ติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น อิทาเนว, ปุพฺเพเปสา มยิ อสํหีรจิตฺตา อนฺเนยฺยา เอวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา เทวทตฺโต อโหสิ, สกฺโก อนุรุทฺโธ, จนฺทา ราหุลมาตา, จนฺทกินฺนโร ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จนฺทกินฺนรีชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๔๘๖] ๓. มหาอุกฺกุสชาตกวณฺณนา

อุกฺกา จิลาจา พนฺธนฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มิตฺตพนฺธกอุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิยํ ปริชิณฺณสฺส กุลสฺส ปุตฺโต สหายํ เปเสตฺวา อฺตรํ กุลธีตรํ วาราเปตฺวา ‘‘อตฺถิ ปนสฺส อุปฺปนฺนกิจฺจํ นิตฺถรณสมตฺโถ มิตฺโต วา สหาโย วา’’ติ วุตฺเต ‘‘นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ มิตฺเต ตาว พนฺธตู’’ติ วุตฺเต ตสฺมึ โอวาเท ตฺวา ปมํ ตาว จตูหิ โทวาริเกหิ สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ, อถานุปุพฺเพน นครคุตฺติกคณกมหามตฺตาทีหิ สทฺธึ เมตฺตึ กตฺวา เสนาปตินาปิ อุปราเชนาปิ สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ. เตหิ ปน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา รฺา สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ. ตโต อสีติยา มหาเถเรหิ สทฺธึ อานนฺทตฺเถเรนปิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา ตถาคเตน สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ. อถ นํ สตฺถา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปสิ, ราชาปิสฺส อิสฺสริยมทาสิ. โส มิตฺตพนฺธโกเยวาติ ปากโฏ ชาโต. อถสฺส ราชา มหนฺตํ เคหํ ทตฺวา อาวาหมงฺคลํ กาเรสิ. ราชานํ อาทึ กตฺวา มหาชโน ปณฺณากาเร ปหิณิ. อถสฺส ภริยา รฺา ปหิตํ ปณฺณาการํ อุปราชสฺส, อุปราเชน ปหิตํ ปณฺณาการํ เสนาปติสฺสาติ เอเตน อุปาเยน สกลนครวาสิโน อาพนฺธิตฺวา คณฺหิ. สตฺตเม ทิวเส มหาสกฺการํ กตฺวา ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา ปฺจสตสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน สตฺถารา กถิตํ อนุโมทนํ สุตฺวา อุโภปิ ชยมฺปติกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ.

ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, มิตฺตพนฺธกอุปาสโก อตฺตโน ภริยํ นิสฺสาย ตสฺสา วจนํ กตฺวา สพฺเพหิ เมตฺตึ กตฺวา รฺโ สนฺติกา มหนฺตํ สกฺการํ ลภิ, ตถาคเตน ปน สทฺธึ เมตฺตึ กตฺวา อุโภปิ ชยมฺปติกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โส เอตํ มาตุคามํ นิสฺสาย มหนฺตํ ยสํ สมฺปตฺโต, ปุพฺเพ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ ปเนส เอติสฺสา วจเนน พหูหิ สทฺธึ เมตฺตึ กตฺวา ปุตฺตโสกโต มุตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอกจฺเจ ปจฺจนฺตวาสิโน ยตฺถ ยตฺถ พหุํ มํสํ ลภนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ คามํ นิวาเสตฺวา อรฺเ จริตฺวา มิคาทโย มาเรตฺวา มํสํ อาหริตฺวา ปุตฺตทาเร โปเสนฺติ. เตสํ คามโต อวิทูเร มหาชาตสฺสโร อตฺถิ. ตสฺส ทกฺขิณปสฺเส เอโก เสนสกุโณ, ปจฺฉิมปสฺเส เอกา เสนสกุณี, อุตฺตรปสฺเส สีโห มิคราชา, ปาจีนปสฺเส อุกฺกุสสกุณราชา วสติ. ชาตสฺสรมชฺเฌ ปน อุนฺนตฏฺาเน กจฺฉโป วสติ. ตทา เสโน เสนึ ‘‘ภริยา เม โหหี’’ติ วทติ. อถ นํ สา อาห – ‘‘อตฺถิ ปน เต โกจิ มิตฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภทฺเท’’ติ. อมฺหากํ อุปฺปนฺนํ ภยํ วา ทุกฺขํ วา หรณสมตฺถํ มิตฺตํ วา สหายํ วา ลทฺธุํ วฏฺฏติ, มิตฺเต ตาว คณฺหาหีติ. ‘‘เกหิ สทฺธึ เมตฺตึ กโรมิ ภทฺเท’’ติ? ปาจีนปสฺเส วสนฺเตน อุกฺกุสราเชน, อุตฺตรปสฺเส สีเหน, ชาตสฺสรมชฺเฌ กจฺฉเปน สทฺธึ เมตฺตึ กโรหีติ. โส ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา อกาสิ. ตทา เต อุโภปิ สํวาสํ กปฺเปตฺวา ตสฺมึเยว สเร เอกสฺมึ ทีปเก กทมฺพรุกฺโข อตฺถิ สมนฺตา อุทเกน ปริกฺขิตฺโต, ตสฺมึ กุลาวกํ กตฺวา ปฏิวสึสุ.

เตสํ อปรภาเค ทฺเว สกุณโปตกา ชายึสุ. เตสํ ปกฺเขสุ อสฺชาเตสุเยว เอกทิวสํ เต ชานปทา ทิวสํ อรฺเ จริตฺวา กิฺจิ อลภิตฺวา ‘‘น สกฺกา ตุจฺฉหตฺเถน ฆรํ คนฺตุํ, มจฺเฉ วา กจฺฉเป วา คณฺหิสฺสามา’’ติ สรํ โอตริตฺวา ตํ ทีปกํ คนฺตฺวา ตสฺส กทมฺพสฺส มูเล นิปชฺชิตฺวา มกสาทีหิ ขชฺชมานา เตสํ ปลาปนตฺถาย อรณึ มนฺเถตฺวา อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา ธูมํ กรึสุ. ธุโม อุคฺคนฺตฺวา สกุเณ ปหริ, สกุณโปตกา วิรวึสุ. ชานปทา ตํ สุตฺวา ‘‘อมฺโภ, สกุณโปตกานํ สูยติ สทฺโท, อุฏฺเถ อุกฺกา พนฺธถ, ฉาตา สยิตุํ น สกฺโกม, สกุณมํสํ ขาทิตฺวาว สยิสฺสามา’’ติ วตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา อุกฺกา พนฺธึสุ. สกุณิกา เตสํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อิเม อมฺหากํ โปตเก ขาทิตุกามา, มยํ เอวรูปสฺส ภยสฺส หรณตฺถาย มิตฺเต คณฺหิมฺห, สามิกํ อุกฺกุสราชสฺส สนฺติกํ เปเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘คจฺฉ, สามิ, ปุตฺตานํ โน อุปฺปนฺนภยํ อุกฺกุสราชสฺส อาโรเจหี’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๔๔.

‘‘อุกฺกา จิลาจา พนฺธนฺติ ทีเป, ปชา มมํ ขาทิตุํ ปตฺถยนฺติ;

มิตฺตํ สหายฺจ วเทหิ เสนก, อาจิกฺข าติพฺยสนํ ทิชาน’’นฺติ.

ตตฺถ จิลาจาติ ชานปทา. ทีเปติ ทีปกมฺหิ. ปชา มมนฺติ มม ปุตฺตเก. เสนกาติ เสนกสกุณํ นาเมนาลปติ. าติพฺยสนนฺติ ปุตฺตานํ พฺยสนํ. ทิชานนฺติ อมฺหากํ าตีนํ ทิชานํ อิทํ พฺยสนํ อุกฺกุสราชสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาจิกฺขาหีติ วทติ.

โส เวเคน ตสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา วสฺสิตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา กโตกาโส อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ อาคตการณํ ทสฺเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๔๕.

‘‘ทิโช ทิชานํ ปวโรสิ ปกฺขิม, อุกฺกุสราช สรณํ ตํ อุเปม;

ปชา มมํ ขาทิตุํ ปตฺถยนฺติ, ลุทฺทา จิลาจา ภว เม สุขายา’’ติ.

ตตฺถ ทิโชติ ตฺวํ ทิโช เจว ทิชานํ ปวโร จ.

อุกฺกุสราชา ‘‘เสนก มา ภายี’’ติ ตํ อสฺสาเสตฺวา ตติยํ คาถมาห –

๔๖.

‘‘มิตฺตํ สหายฺจ กโรนฺติ ปณฺฑิตา, กาเล อกาเล สุขเมสมานา;

กโรมิ เต เสนก เอตมตฺถํ, อริโย หิ อริยสฺส กโรติ กิจฺจ’’นฺติ.

ตตฺถ กาเล อกาเลติ ทิวา จ รตฺติฺจ. อริโยติ อิธ อาจารอริโย อธิปฺเปโต. อาจารสมฺปนฺโน หิ อาจารสมฺปนฺนสฺส กิจฺจํ กโรเตว, กิเมตฺถ กรณียนฺติ วทติ.

อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, สมฺม, รุกฺขํ อภิรุฬฺหา จิลาจา’’ติ? น ตาว อภิรุฬฺหา, อุกฺกาเยว พนฺธนฺตีติ. เตน หิ ตฺวํ สีฆํ คนฺตฺวา มม สหายิกํ อสฺสาเสตฺวา มมาคมนภาวํ อาจิกฺขาหีติ. โส ตถา อกาสิ. อุกฺกุสราชาปิ คนฺตฺวา กทมฺพสฺส อวิทูเร จิลาจานํ อภิรุหนํ โอโลเกนฺโต เอกสฺมึ รุกฺขคฺเค นิสีทิตฺวา เอกสฺส จิลาจสฺส อภิรุหนกาเล ตสฺมึ กุลาวกสฺส อวิทูรํ อภิรุฬฺเห สเร นิมุชฺชิตฺวา ปกฺเขหิ จ มุเขน จ อุทกํ อาหริตฺวา อุกฺกาย อุปริ อาสิฺจิ, สา นิพฺพายิ. จิลาจา ‘‘อิมฺจ เสนกสกุณโปตเก จสฺส ขาทิสฺสามี’’ติ โอตริตฺวา ปุน อุกฺกํ ชาลาเปตฺวา อภิรุหึสุ. ปุน โส อุกฺกํ วิชฺฌาเปสิ. เอเตนุปาเยน พทฺธํ พทฺธํ วิชฺฌาเปนฺตสฺเสวสฺส อฑฺฒรตฺโต ชาโต. โส อติวิย กิลมิ, เหฏฺาอุทเร กิโลมกํ ตนุตํ คตํ, อกฺขีนิ รตฺตานิ ชาตานิ. ตํ ทิสฺวา สกุณี สามิกํ อาห – ‘‘สามิ, อติวิย กิลนฺโต อุกฺกุสราชา, เอตสฺส โถกํ วิสฺสมนตฺถาย คนฺตฺวา กจฺฉปราชสฺส กเถหี’’ติ. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา อุกฺกุสํ อุปสงฺกมิตฺวา คาถาย อชฺฌภาสิ –

๔๗.

‘‘ยํ โหติ กิจฺจํ อนุกมฺปเกน, อริยสฺส อริเยน กตํ ตยีทํ;

อตฺตานุรกฺขี ภว มา อฑยฺหิ, ลจฺฉาม ปุตฺเต ตยิ ชีวมาเน’’ติ.

ตตฺถ ตยีทนฺติ ตยา อิทํ, อยเมว วา ปาโ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สีหนาทํ นทนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –

๔๘.

‘‘ตเวว รกฺขาวรณํ กโรนฺโต, สรีรเภทาปิ น สนฺตสามิ;

กโรนฺติ เหเก สขินํ สขาโร, ปาณํ จชนฺตา สตเมส ธมฺโม’’ติ.

ฉฏฺํ ปน สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ตสฺส คุณํ วณฺเณนฺโต อาห –

๔๙.

‘‘สุทุกฺกรํ กมฺมมกาสิ, อณฺฑชายํ วิหงฺคโม;

อตฺถาย กุรโร ปุตฺเต, อฑฺฒรตฺเต อนาคเต’’ติ.

ตตฺถ กุรโรติ อุกฺกุสราชา. ปุตฺเตติ เสนกสฺส ปุตฺเต รกฺขนฺโต เตสํ อตฺถาย อฑฺฒรตฺเต อนาคเต ยาว ทิยฑฺฒยามา วายามํ กโรนฺโต ทุกฺกรํ อกาสิ.

เสโนปิ อุกฺกุสํ ‘‘โถกํ วิสฺสมาหิ, สมฺมา’’ติ วตฺวา กจฺฉปสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อุฏฺาเปตฺวา ‘‘กึ, สมฺม, อาคโตสี’’ติ วุตฺโต ‘‘เอวรูปํ นาม ภยํ อุปฺปนฺนํ, อุกฺกุสราชา ปมยามโต ปฏฺาย วายมนฺโต กิลมิ, เตนมฺหิ ตว สนฺติกํ อาคโต’’ติ วตฺวา สตฺตมํ คาถมาห –

๕๐.

‘‘จุตาปิ เหเก ขลิตา สกมฺมุนา, มิตฺตานุกมฺปาย ปติฏฺหนฺติ;

ปุตฺตา มมฏฺฏา คติมาคโตสฺมิ, อตฺถํ จเรโถ มม วาริจรา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สามิ, เอกจฺเจ หิ ยสโต วา ธนโต วา จุตาปิ สกมฺมุนา ขลิตาปิ มิตฺตานํ อนุกมฺปาย ปติฏฺหนฺติ, มม จ ปุตฺตา อฏฺฏา อาตุรา, เตนาหํ ตํ คตึ ปฏิสรณํ กตฺวา อาคโตสฺมิ, ปุตฺตานํ ชีวิตทานํ ททนฺโต อตฺถํ เม จราหิ วาริจราติ.

ตํ สุตฺวา กจฺฉโป อิตรํ คาถมาห –

๕๑.

‘‘ธเนน ธฺเน จ อตฺตนา จ, มิตฺตํ สหายฺจ กโรนฺติ ปณฺฑิตา;

กโรมิ เต เสนก เอตมตฺถํ, อริโย หิ อริยสฺส กโรติ กิจฺจ’’นฺติ.

อถสฺส ปุตฺโต อวิทูเร นิปนฺโน ปิตุ วจนํ สุตฺวา ‘‘มา เม ปิตา กิลมตุ, อหํ ปิตุ กิจฺจํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตาต ตุวํ นิสีท, ปุตฺโต ปิตุ จรติ อตฺถจริยํ;

อหํ จริสฺสามิ ตเวตมตฺถํ, เสนสฺส ปุตฺเต ปริตายมาโน’’ติ.

อถ นํ ปิตา คาถาย อชฺฌภาสิ –

๕๓.

‘‘อทฺธา หิ ตาต สตเมส ธมฺโม, ปุตฺโต ปิตุ ยํ จเร อตฺถจริยํ;

อปฺเปว มํ ทิสฺวาน ปวฑฺฒกายํ, เสนสฺส ปุตฺตา น วิเหเยยฺยุ’’นฺติ.

ตตฺถ สตเมส ธมฺโมติ ปณฺฑิตานํ เอส ธมฺโม. ปุตฺตาติ เสนสฺส ปุตฺเต จิลาจา น เหเยยฺยุนฺติ.

เอวํ วตฺวา มหากจฺฉโป ‘‘สมฺม, มา ภายิ, ตฺวํ ปุรโต คจฺฉ, อิทานาหํ อาคมิสฺสามี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา อุทเก ปติตฺวา กลลฺจ เสวาลฺจ สํกฑฺฒิตฺวา อาทาย ทีปกํ คนฺตฺวา อคฺคึ วิชฺฌาเปตฺวา นิปชฺชิ. จิลาจา ‘‘กึ โน เสนโปตเกหิ, อิมํ กาฬกจฺฉปํ ปริวตฺเตตฺวา มาเรสฺสาม, อยํ โน สพฺเพสํ ปโหสฺสตี’’ติ วลฺลิโย อุทฺธริตฺวา ชิยา คเหตฺวา นิวตฺถปิโลติกาปิ โมเจตฺวา เตสุ เตสุ าเนสุ พนฺธิตฺวา กจฺฉปํ ปริวตฺเตตุํ น สกฺโกนฺติ. กจฺฉโป เต อากฑฺฒนฺโต คนฺตฺวา คมฺภีรฏฺาเน อุทเก ปติ. เตปิ กจฺฉปโลเภน สทฺธึเยว ปติตฺวา อุทกปุณฺณาย กุจฺฉิยา กิลนฺตา นิกฺขมิตฺวา ‘‘โภ เอเกน โน อุกฺกุเสน ยาว อฑฺฒรตฺตา อุกฺกา วิชฺฌาปิตา, อิทานิ อิมินา กจฺฉเปน อุทเก ปาเตตฺวา อุทกํ ปาเยตฺวา มโหทรา กตมฺห, ปุน อคฺคึ กริตฺวา อรุเณ อุคฺคเตปิ อิเม เสนกโปตเก ขาทิสฺสามา’’ติ อคฺคึ กาตุํ อารภึสุ. สกุณี เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘สามิ, อิเม ยาย กายจิ เวลาย อมฺหากํ ปุตฺตเก ขาทิตฺวา คมิสฺสนฺติ, สหายสฺส โน สีหสฺส สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ อาห. โส ตงฺขณฺเว สีหสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ อเวลาย อาคโตสี’’ติ วุตฺเต อาทิโต ปฏฺาย ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา เอกาทสมํ คาถมาห –

๕๔.

‘‘ปสู มนุสฺสา มิควีรเสฏฺ, ภยฏฺฏิตา เสฏฺมุปพฺพชนฺติ;

ปุตฺตา มมฏฺฏา คติมาคโตสฺมิ, ตฺวํ โนสิ ราชา ภว เม สุขายา’’ติ.

ตตฺถ ปสูติ สพฺพติรจฺฉาเน อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สามิ, มิเคสุ วีริเยน เสฏฺ, สพฺพโลกสฺมิฺหิ สพฺเพ ติรจฺฉานาปิ มนุสฺสาปิ ภยฏฺฏิตา หุตฺวา เสฏฺํ อุปคจฺฉนฺติ, มม จ ปุตฺตา อฏฺฏา อาตุรา. ตสฺมาหํ ตํ คตึ กตฺวา อาคโตมฺหิ, ตฺวํ อมฺหากํ ราชา สุขาย เม ภวาหี’’ติ.

ตํ สุตฺวา สีโห คาถมาห –

๕๕.

‘‘กโรมิ เต เสนก เอตมตฺถํ, อายามิ เต ตํ ทิสตํ วธาย;

กถฺหิ วิฺู ปหุ สมฺปชาโน, น วายเม อตฺตชนสฺส คุตฺติยา’’ติ.

ตตฺถ ตํ ทิสตนฺติ ตํ ทิสสมูหํ, ตํ ตว ปจฺจตฺถิกคณนฺติ อตฺโถ. ปหูติ อมิตฺเต หนฺตุํ สมตฺโถ. สมฺปชาโนติ มิตฺตสฺส ภยุปฺปตฺตึ ชานนฺโต. อตฺตชนสฺสาติ อตฺตสมสฺส องฺคสมานสฺส ชนสฺส, มิตฺตสฺสาติ อตฺโถ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ ปุตฺเต สมสฺสาเสหี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา มณิวณฺณํ อุทกํ มทฺทมาโน ปายาสิ. จิลาจา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กุรเรน ตาว อมฺหากํ อุกฺกา วิชฺฌาปิตา, ตถา กจฺฉเปน อมฺเห นิวตฺถปิโลติกานมฺปิ อสฺสามิกา กตา, อิทานิ ปน นฏฺมฺหา, สีโห โน ชีวิตกฺขยเมว ปาเปสฺสตี’’ติ มรณภยตชฺชิตา เยน วา เตน วา ปลายึสุ. สีโห อาคนฺตฺวา รุกฺขมูเล น กิฺจิ อทฺทส. อถ นํ กุรโร จ กจฺฉโป จ เสโน จ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทึสุ. โส เตสํ มิตฺตานิสํสํ กเถตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย มิตฺตธมฺมํ อภินฺทิตฺวา อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ โอวทิตฺวา ปกฺกามิ, เตปิ สกานานิ คตา. เสนสกุณี อตฺตโน ปุตฺเต โอโลเกตฺวา ‘‘มิตฺเต นิสฺสาย อมฺเหหิ ทารกา ลทฺธา’’ติ สุขนิสินฺนสมเย เสเนน สทฺธึ สลฺลปนฺตี มิตฺตธมฺมํ ปกาสมานา ฉ คาถา อภาสิ –

๕๖.

‘‘มิตฺตฺจ กยิราถ สุหทยฺจ, อยิรฺจ กยิราถ สุขาคมาย;

นิวตฺถโกโจว สเรภิหนฺตฺวา, โมทาม ปุตฺเตหิ สมงฺคิภูตา.

๕๗.

‘‘สกมิตฺตสฺส กมฺเมน, สหายสฺสาปลายิโน;

กูชนฺตมุปกูชนฺติ, โลมสา หทยงฺคมํ.

๕๘.

‘‘มิตฺตํ สหายํ อธิคมฺม ปณฺฑิโต, โส ภุฺชตี ปุตฺต ปสุํ ธนํ วา;

อหฺจ ปุตฺตา จ ปตี จ มยฺหํ, มิตฺตานุกมฺปาย สมงฺคิภูตา.

๕๙.

‘‘ราชวตา สูรวตา จ อตฺโถ, สมฺปนฺนสขิสฺส ภวนฺติ เหเต;

โส มิตฺตวา ยสวา อุคฺคตตฺโต, อสฺมึธโลเก โมทติ กามกามี.

๖๐.

‘‘กรณียานิ มิตฺตานิ, ทลิทฺเทนาปิ เสนก;

ปสฺส มิตฺตานุกมฺปาย, สมคฺคมฺหา สาตเก.

๖๑.

‘‘สูเรน พลวนฺเตน, โย มิตฺเต กุรุเต ทิโช;

เอวํ โส สุขิโต โหติ, ยถาหํ ตฺวฺจ เสนกา’’ติ.

ตตฺถ มิตฺตฺจาติ ยํกิฺจิ อตฺตโน มิตฺตฺจ สุหทยฺจ สุหทยสหายฺจ สามิกสงฺขาตํ อยิรฺจ กโรเถว. นิวตฺถโกโจว สเรภิหนฺตฺวาติ เอตฺถ โกโจติ กวโจ. ยถา นาม ปฏิมุกฺกกวโจ สเร อภิหนติ นิวาเรติ, เอวํ มยมฺปิ มิตฺตพเลน ปจฺจตฺถิเก อภิหนฺตฺวา ปุตฺเตหิ สทฺธึ โมทามาติ วทติ. สกมิตฺตสฺส กมฺเมนาติ สกสฺส มิตฺตสฺส ปรกฺกเมน. สหายสฺสาปลายิโนติ สหายสฺส อปลายิโน มิคราชสฺส. โลมสาติ ปกฺขิโน อมฺหากํ ปุตฺตกา มฺจ ตฺจ กูชนฺตํ หทยงฺคมํ มธุรสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา อุปกูชนฺติ. สมงฺคิภูตาติ เอกฏฺาเน ิตา.

ราชวตา สูรวตา จ อตฺโถติ ยสฺส สีหสทิโส ราชา อุกฺกุสกจฺฉปสทิสา จ สูรา มิตฺตา โหนฺติ, เตน ราชวตา สูรวตา จ อตฺโถ สกฺกา ปาปุณิตุํ. ภวนฺติ เหเตติ โย จ สมฺปนฺนสโข ปริปุณฺณมิตฺตธมฺโม, ตสฺส เอเต สหายา ภวนฺติ. อุคฺคตตฺโตติ สิริโสภคฺเคน อุคฺคตสภาโว. อสฺมึธโลเกติ อิธโลกสงฺขาเต อสฺมึ โลเก โมทติ. กามกามีติ สามิกํ อาลปติ. โส หิ กาเม กามนโต กามกามี นาม. สมคฺคมฺหาติ สมคฺคา ชาตมฺหา. สาตเกติ าตเกหิ ปุตฺเตหิ สทฺธึ.

เอวํ สา ฉหิ คาถาหิ มิตฺตธมฺมสฺส คุณกถํ กเถสิ. เต สพฺเพปิ สหายกา มิตฺตธมฺมํ อภินฺทิตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โส ภริยํ นิสฺสาย สุขปฺปตฺโต, ปุพฺเพปิ สุขปฺปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เสโน จ เสนี จ ชยมฺปติกา อเหสุํ, ปุตฺตกจฺฉโป ราหุโล, ปิตา มหาโมคฺคลฺลาโน, อุกฺกุโส สาริปุตฺโต, สีโห ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาอุกฺกุสชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๔๘๗] ๔. อุทฺทาลกชาตกวณฺณนา

ขราชินา ชฏิลา ปงฺกทนฺตาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ กุหกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ จตุปจฺจยตฺถาย ติวิธํ กุหกวตฺถุํ ปูเรสิ. อถสฺส อคุณํ ปกาเสนฺตา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม ภิกฺขุ เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา กุหนํ นิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส กุหโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส ปุโรหิโต อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต. โส เอกทิวสํ อุยฺยานกีฬํ คโต เอกํ อภิรูปํ คณิกํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต ตาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ. สา ตํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ปฏิลภิ. คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา ตํ อาห – ‘‘สามิ, คพฺโภ เม ปติฏฺิโต, ชาตกาเล นามํ กโรนฺตี อสฺส กึ นามํ กโรมี’’ติ? โส ‘‘วณฺณทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตตฺตา น สกฺกา กุลนามํ กาตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, อยํ วาตฆาตรุกฺโข อุทฺทาโล นาม, อิธ ปฏิลทฺธตฺตา ‘อุทฺทาลโก’ติสฺส นามํ กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา องฺคุลิมุทฺทิกํ อทาสิ. ‘‘สเจ ธีตา โหติ, อิมาย นํ โปเสยฺยาสิ, สเจ ปุตฺโต, อถ นํ วยปฺปตฺตํ มยฺหํ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ อาห. สา อปรภาเค ปุตฺตํ วิชายิตฺวา ‘‘อุทฺทาลโก’’ติสฺส นามํ อกาสิ.

โส วยปฺปตฺโต มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม, โก เม ปิตา’’ติ? ‘‘ปุโรหิโต ตาตา’’ติ. ‘‘ยทิ เอวํ เวเท อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ มาตุ หตฺถโต มุทฺทิกฺจ อาจริยภาคฺจ คเหตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺโต เอกํ ตาปสคณํ ทิสฺวา ‘‘อิเมสํ สนฺติเก วรสิปฺปํ ภวิสฺสติ, ตํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ สิปฺปโลเภน ปพฺพชิตฺวา เตสํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา ‘‘อาจริยา มํ ตุมฺหากํ ชานนสิปฺปํ สิกฺขาเปถา’’ติ อาห. เต อตฺตโน อตฺตโน ชานนนิยาเมเนว ตํ สิกฺขาเปสุํ. ปฺจนฺนํ ตาปสสตานํ เอโกปิ เตน อติเรกปฺโ นาโหสิ, สฺเวว เตสํ ปฺาย อคฺโค. อถสฺส เต สนฺนิปติตฺวา อาจริยฏฺานํ อทํสุ. อถ เน โส อาห – ‘‘มาริสา, ตุมฺเห นิจฺจํ วนมูลผลาหารา อรฺเว วสถ, มนุสฺสปถํ กสฺมา น คจฺฉถา’’ติ? ‘‘มาริส, มนุสฺสา นาม มหาทานํ ทตฺวา อนุโมทนํ การาเปนฺติ, ธมฺมึ กถํ ภณาเปนฺติ, ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, มยํ เตน ภเยน ตตฺถ น คจฺฉามา’’ติ. ‘‘มาริสา, สเจปิ จกฺกวตฺติราชา ภวิสฺสติ, มนํ คเหตฺวา กถนํ นาม มยฺหํ ภาโร, ตุมฺเห มา ภายถา’’ติ วตฺวา เตหิ สทฺธึ จาริกํ จรมาโน อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส สพฺเพหิ สทฺธึ ทฺวารคาเม ภิกฺขาย จริ, มนุสฺสา มหาทานํ อทํสุ. ตาปสา ปุนทิวเส นครํ ปวิสึสุ มนุสฺสา มหาทานํ อทํสุ. อุทฺทาลกตาปโส ทานานุโมทนํ กโรติ, มงฺคลํ วทติ, ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, มนุสฺสา ปสีทิตฺวา พหุปจฺจเย อทํสุ. สกลนครํ ‘‘ปณฺฑิโต คณสตฺถา ธมฺมิกตาปโส อาคโต’’ติ สงฺขุภิ, ตํ รฺโปิ กถยึสุ.

ราชา ‘‘กุหึ วสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อุยฺยาเน’’ติ สุตฺวา ‘‘สาธุ อชฺช เตสํ ทสฺสนาย คมิสฺสามี’’ติ อาห. เอโก ปุริโส คนฺตฺวา ‘‘ราชา กิร โว ปสฺสิตุํ อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ อุทฺทาลกสฺส กเถสิ. โสปิ อิสิคณํ อามนฺเตตฺวา ‘‘มาริสา, ราชา กิร อาคมิสฺสติ, อิสฺสเร นาม เอกทิวสํ อาราเธตฺวา ยาวชีวํ อลํ โหตี’’ติ. ‘‘กึ ปน กาตพฺพํ อาจริยา’’ติ? โส เอวมาห – ‘‘ตุมฺเหสุ เอกจฺเจ วคฺคุลิวตํ จรนฺตุ, เอกจฺเจ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุฺชนฺตุ, เอกจฺเจ กณฺฏกาปสฺสยิกา ภวนฺตุ, เอกจฺเจ ปฺจาตปํ ตปนฺตุ, เอกจฺเจ อุทโกโรหนกมฺมํ กโรนฺตุ, เอกจฺเจ ตตฺถ ตตฺถ มนฺเต สชฺฌายนฺตู’’ติ. เต ตถา กรึสุ. สยํ ปน อฏฺ วา ทส วา ปณฺฑิตวาทิโน คเหตฺวา มโนรเม อาธารเก รมณียํ โปตฺถกํ เปตฺวา อนฺเตวาสิกปริวุโต สุปฺตฺเต สาปสฺสเย อาสเน นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ ราชา ปุโรหิตํ อาทาย มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คนฺตฺวา เต มิจฺฉาตปํ จรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อปายภยมฺหา มุตฺตา’’ติ ปสีทิตฺวา อุทฺทาลกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ตุฏฺมานโส ปุโรหิเตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๖๒.

‘‘ขราชินา ชฏิลา ปงฺกทนฺตา, ทุมฺมกฺขรูปา เย มนฺตํ ชปฺปนฺติ;

กจฺจินฺนุ เต มานุสเก ปโยเค, อิทํ วิทู ปริมุตฺตา อปายา’’ติ.

ตตฺถ ขราชินาติ สขุเรหิ อชินจมฺเมหิ สมนฺนาคตา. ปงฺกทนฺตาติ ทนฺตกฏฺสฺส อขาทเนน มลคฺคหิตทนฺตา. ทุมฺมกฺขรูปาติ อนฺชิตกฺขา อมณฺฑิตรูปา ลูขสงฺฆาฏิธรา. มานุสเก ปโยเคติ มนุสฺเสหิ กตฺตพฺพวีริเย. อิทํ วิทูติ อิทํ ตปจรณฺจ มนฺตสชฺฌายนฺจ ชานนฺตา. อปายาติ กจฺจิ อาจริย, อิเม จตูหิ อปาเยหิ มุตฺตาติ ปุจฺฉติ.

ตํ สุตฺวา ปุโรหิโต ‘‘อยํ ราชา อฏฺาเน ปสนฺโน, ตุณฺหี ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๖๓.

‘‘ปาปานิ กมฺมานิ กเรถ ราช, พหุสฺสุโต เจ น จเรยฺย ธมฺมํ;

สหสฺสเวโทปิ น ตํ ปฏิจฺจ, ทุกฺขา ปมุจฺเจ จรณํ อปตฺวา’’ติ.

ตตฺถ พหุสฺสุโต เจติ สเจ มหาราช, ‘‘อหํ พหุสฺสุโตมฺหี’’ติ ปคุณเวโทปิ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ น จเรยฺย, ตีหิ ทฺวาเรหิ ปาปาเนว กเรยฺย, ติฏฺนฺตุ ตโย เวทา, สหสฺสเวโทปิ สมาโน ตํ พาหุสจฺจํ ปฏิจฺจ อฏฺสมาปตฺติสงฺขาตํ จรณํ อปฺปตฺวา อปายทุกฺขโต น มุจฺเจยฺยาติ.

ตสฺส วจนํ สุตฺวา อุทฺทาลโก จินฺเตสิ ‘‘ราชา ยถา วา ตถา วา อิสิคณสฺส ปสีทิ, อยํ ปน พฺราหฺมโณ จรนฺตํ โคณํ ทณฺเฑน ปหรนฺโต วิย วฑฺฒิตภตฺเต กจวรํ ขิปนฺโต วิย กเถสิ, เตน สทฺธึ กเถสฺสามี’’ติ. โส เตน สทฺธึ กเถนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๖๔.

‘‘สหสฺสเวโทปิ น ตํ ปฏิจฺจ, ทุกฺขา ปมุจฺเจ จรณํ อปตฺวา;

มฺามิ เวทา อผลา ภวนฺติ, สสํยมํ จรณฺเว สจฺจ’’นฺติ.

ตตฺถ อผลาติ ตว วาเท เวทา จ เสสสิปฺปานิ จ อผลานิ อาปชฺชนฺติ, ตานิ กสฺมา อุคฺคณฺหนฺติ, สีลสํยเมน สทฺธึ จรณฺเว เอกํ สจฺจํ อาปชฺชตีติ.

ตโต ปุโรหิโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๖๕.

‘‘น เหว เวทา อผลา ภวนฺติ, สสํยมํ จรณฺเว สจฺจํ;

กิตฺติฺหิ ปปฺโปติ อธิจฺจ เวเท, สนฺตึ ปุณาติ จรเณน ทนฺโต’’ติ.

ตตฺถ น เหวาติ นาหํ ‘‘เวทา อผลา’’ติ วทามิ, อปิจ โข ปน สสํยมํ จรณํ สจฺจเมว สภาวภูตํ อุตฺตมํ. เตน หิ สกฺกา ทุกฺขา มุจฺจิตุํ. สนฺตึ ปุณาตีติ สมาปตฺติสงฺขาเตน จรเณน ทนฺโต ภยสนฺติกรํ นิพฺพานํ ปาปุณาตีติ.

ตํ สุตฺวา อุทฺทาลโก ‘‘น สกฺกา อิมินา สทฺธึ ปฏิปกฺขวเสน าตุํ, ‘ปุตฺโต ตวาห’นฺติ วุตฺเต สิเนหํ อกโรนฺโต นาม นตฺถิ, ปุตฺตภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปฺจมํ คาถมาห –

๖๖.

‘‘ภจฺจา มาตา ปิตา พนฺธู, เยน ชาโต สเยว โส;

อุทฺทาลโก อหํ โภโต, โสตฺติยากุลวํสโก’’ติ.

ตตฺถ ภจฺจาติ มาตา จ ปิตา จ เสสพนฺธู จ ภริตพฺพา นาม. เยน ปน ชาโต, โสเยว โส โหติ. อตฺตาเยว หิ อตฺตโน ชายติ, อหฺจ ตยาว อุทฺทาลกรุกฺขมูเล ชนิโต, ตยา วุตฺตเมว นามํ กตํ, อุทฺทาลโก อหํ โภติ.

โส ‘‘เอกํเสน ตฺวํ อุทฺทาลโกสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อามา’’ติ วตฺวา ‘‘มยา เต มาตุ สฺาณํ ทินฺนํ, ตํ กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อิทํ พฺราหฺมณา’’ติ มุทฺทิกํ ตสฺส หตฺเถ เปสิ. พฺราหฺมโณ มุทฺทิกํ สฺชานิตฺวา นิจฺฉเยน ‘‘ตฺวํ พฺราหฺมณธมฺมํ ปชานาสี’’ติ วตฺวา พฺราหฺมณธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘กถํ โภ พฺราหฺมโณ โหติ, กถํ ภวติ เกวลี;

กถฺจ ปรินิพฺพานํ, ธมฺมฏฺโ กินฺติ วุจฺจตี’’ติ.

อุทฺทาลโกปิ ตสฺส อาจิกฺขนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๖๘.

‘‘นิรํกตฺวา อคฺคิมาทาย พฺราหฺมโณ, อาโป สิฺจํ ยชํ อุสฺเสติ ยูปํ;

เอวํกโร พฺราหฺมโณ โหติ เขมี, ธมฺเม ิตํ เตน อมาปยึสู’’ติ.

ตตฺถ นิรํกตฺวา อคฺคิมาทายาติ นิรนฺตรํ กตฺวา อคฺคึ คเหตฺวา ปริจรติ. อาโป สิฺจํ ยชํ อุสฺเสติ ยูปนฺติ อภิเสจนกกมฺมํ กโรนฺโต สมฺมาปาสํ วา วาชเปยฺยํ วา นิรคฺคฬํ วา ยชนฺโต สุวณฺณยูปํ อุสฺสาเปติ. เขมีติ เขมปฺปตฺโต. อมาปยึสูติ เตเนว จ การเณน ธมฺเม ิตํ กถยึสุ.

ตํ สุตฺวา ปุโรหิโต เตน กถิตํ พฺราหฺมณธมฺมํ ครหนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๖๙.

‘‘น สุทฺธิ เสจเนนตฺถิ, นาปิ เกวลี พฺราหฺมโณ;

น ขนฺตี นาปิ โสรจฺจํ, นาปิ โส ปรินิพฺพุโต’’ติ.

ตตฺถ เสจเนนาติ เตน วุตฺเตสุ พฺราหฺมณธมฺเมสุ เอกํ ทสฺเสตฺวา สพฺพํ ปฏิกฺขิปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อคฺคิปริจรเณน วา อุทกเสจเนน วา ปสุฆาตยฺเน วา สุทฺธิ นาม นตฺถิ, นาปิ เอตฺตเกน พฺราหฺมโณ เกวลปริปุณฺโณ โหติ, น อธิวาสนขนฺติ, น สีลโสรจฺจํ, นาปิ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต นาม โหตี’’ติ.

ตโต นํ อุทฺทาลโก ‘‘ยทิ เอวํ พฺราหฺมโณ น โหติ, อถ กถํ โหตี’’ติ ปุจฺฉนฺโต นวมํ คาถมาห –

๗๐.

‘‘กถํ โส พฺราหฺมโณ โหติ, กถํ ภวติ เกวลี;

กถฺจ ปรินิพฺพานํ, ธมฺมฏฺโ กินฺติ วุจฺจตี’’ติ.

ปุโรหิโตปิสฺส กเถนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๗๑.

‘‘อเขตฺตพนฺธู อมโม นิราโส, นิลฺโลภปาโป ภวโลภขีโณ;

เอวํกโร พฺราหฺมโณ โหติ เขมี, ธมฺเม ิตํ เตน อมาปยึสู’’ติ.

ตตฺถ อเขตฺตพนฺธูติ อกฺเขตฺโต อพนฺธุ, เขตฺตวตฺถุคามนิคมปริคฺคเหน เจว าติพนฺธวโคตฺตพนฺธวมิตฺตพนฺธวสหายพนฺธวสิปฺปพนฺธวปริคฺคเหน จ รหิโต. อมโมติ สตฺตสงฺขาเรสุ ตณฺหาทิฏฺิมมายนรหิโต. นิราโสติ ลาภธนปุตฺตชีวิตาสาย รหิโต. นิลฺโลภปาโปติ ปาปโลภวิสมโลเภน รหิโต. ภวโลภขีโณติ ขีณภวราโค.

ตโต อุทฺทาลโก คาถมาห –

๗๒.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

สพฺเพว โสรตา ทนฺตา, สพฺเพว ปรินิพฺพุตา;

สพฺเพสํ สีติภูตานํ, อตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโย’’ติ.

ตตฺถ อตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโยติ เอเต ขตฺติยาทโย สพฺเพปิ โสรจฺจาทีหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ, เอวํ ภูตานํ ปน เตสํ อยํ เสยฺโย, อยํ ปาปิโยติ เอวํ หีนุกฺกฏฺตา อตฺถิ, นตฺถีติ ปุจฺฉติ.

อถสฺส ‘‘อรหตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย หีนุกฺกฏฺตา นาม นตฺถี’’ติ ทสฺเสตุํ พฺราหฺมโณ คาถมาห –

๗๓.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

สพฺเพว โสรตา ทนฺตา, สพฺเพว ปรินิพฺพุตา;

สพฺเพสํ สีติภูตานํ, นตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโย’’ติ.

อถ นํ ครหนฺโต อุทฺทาลโก คาถาทฺวยมาห –

๗๔.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

สพฺเพว โสรตา ทนฺตา, สพฺเพว ปรินิพฺพุตา.

๗๕.

‘‘สพฺเพสํ สีติภูตานํ, นตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโย;

ปนฏฺํ จรสิ พฺรหฺมฺํ, โสตฺติยากุลวํสต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ยทิ เอเตหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ วิเสโส นตฺถิ, เอโก วณฺโณว โหติ, เอวํ สนฺเต ตฺวํ อุภโต สุชาตภาวํ นาเสนฺโต ปนฏฺํ จรสิ พฺรหฺมฺํ, จณฺฑาลสโม โหสิ, โสตฺติยกุลวํสตํ นาเสสีติ.

อถ นํ ปุโรหิโต อุปมาย สฺาเปนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๗๖.

‘‘นานารตฺเตหิ วตฺเถหิ, วิมานํ ภวติ ฉาทิตํ;

น เตสํ ฉายา วตฺถานํ, โส ราโค อนุปชฺชถ.

๗๗.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, ยทา สุชฺฌนฺติ มาณวา;

เต สชาตึ ปมุฺจนฺติ, ธมฺมมฺาย สุพฺพตา’’ติ.

ตตฺถ วิมานนฺติ เคหํ วา มณฺฑปํ วา. ฉายาติ เตสํ วตฺถานํ ฉายา โส นานาวิโธ ราโค น อุเปติ, สพฺพา ฉายา เอกวณฺณาว โหนฺติ. เอวเมวาติ มนุสฺเสสุปิ เอวเมว เอกจฺเจ อฺาณพฺราหฺมณา อการเณเนว จาตุวณฺเณ สุทฺธึ ปฺาเปนฺติ, เอสา อตฺถีติ มา คณฺหิ. ยทา อริยมคฺเคน มาณวา สุชฺฌนฺติ, ตทา เตหิ ปฏิวิทฺธํ นิพฺพานธมฺมํ ชานิตฺวา สุพฺพตา สีลวนฺตา ปณฺฑิตปุริสา เต สชาตึ มุฺจนฺติ. นิพฺพานปฺปตฺติโต ปฏฺาย หิ ชาติ นาม นิรตฺถกาติ.

อุทฺทาลโก ปน ปจฺจาหริตุํ อสกฺโกนฺโต อปฺปฏิภาโนว นิสีทิ. อถ พฺราหฺมโณ ราชานํ อาห – ‘‘สพฺเพ เอเต, มหาราช, กุหกา สกลชมฺพุทีเป โกหฺเเนว นาเสนฺติ, อุทฺทาลกํ อุปฺปพฺพาเชตฺวา อุปปุโรหิตํ กโรถ, เสเส อุปฺปพฺพาเชตฺวา ผลกาวุธานิ ทตฺวา เสวเก กโรถา’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริยา’’ติ ราชา ตถา กาเรสิ. เต ราชานํ อุปฏฺหนฺตาว ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส กุหโกเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อุทฺทาลโก กุหกภิกฺขุ อโหสิ, ราชา อานนฺโท, ปุโรหิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

อุทฺทาลกชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๔๘๘] ๕. ภิสชาตกวณฺณนา

อสฺสํ ควํ รชตํ ชาตรูปนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ปฏิจฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘กิเลสํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา กสฺมา กิเลสํ ปฏิจฺจ อุกฺกณฺิโตสิ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาหิรกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วตฺถุกามกิเลสกาเม อารพฺภ อุปฺปชฺชนกสฺํ สปถํ กตฺวา วิหรึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต อสีติโกฏิวิภวสฺส พฺราหฺมณมหาสาลกุลสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ‘‘มหากฺจนกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อถสฺส ปทสา วิจรณกาเล อปโรปิ ปุตฺโต ชายิ, ‘‘อุปกฺจนกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. เอวํ ปฏิปาฏิยา สตฺต ปุตฺตา อเหสุํ. สพฺพกนิฏฺา ปเนกา ธีตา, ตสฺสา ‘‘กฺจนเทวี’’ติ นามํ กรึสุ. มหากฺจนกุมาโร วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลโต สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉิ. อถ นํ มาตาปิตโร ฆราวาเสน พนฺธิตุกามา ‘‘อตฺตนา สมานชาติยกุลโต เต ทาริกํ อาเนสฺสาม, ฆราวาสํ สณฺเปหี’’ติ วทึสุ. ‘‘อมฺมตาตา, น มยฺหํ ฆราวาเสนตฺโถ, มยฺหฺหิ ตโย ภวา อาทิตฺตา วิย สปฺปฏิภยา, พนฺธนาคารํ วิย ปลิพุทฺธา, อุกฺการภูมิ วิย เชคุจฺฉา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, มยา สุปิเนนปิ เมถุนธมฺโม น ทิฏฺปุพฺโพ, อฺเ โว ปุตฺตา อตฺถิ, เต ฆราวาเสน นิมนฺเตถา’’ติ วตฺวา ปุนปฺปุนํ ยาจิโตปิ สหาเย เปเสตฺวา เตหิ ยาจิโตปิ น อิจฺฉิ.

อถ นํ สหายา ‘‘สมฺม, กึ ปน ตฺวํ ปตฺเถนฺโต กาเม ปริภุฺชิตุํ น อิจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส เตสํ เนกฺขมฺมชฺฌาสยตํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา มาตาปิตโร เสสปุตฺเต นิมนฺเตสุํ, เตปิ น อิจฺฉึสุ. กฺจนเทวีปิ น อิจฺฉิเยว. อปรภาเค มาตาปิตโร กาลมกํสุ. มหากฺจนปณฺฑิโต มาตาปิตูนํ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา อสีติโกฏิธเนน กปณทฺธิกานํ มหาทานํ ทตฺวา ฉ ภาตโร ภคินึ เอกํ ทาสํ เอกํ ทาสึ เอกํ สหายกฺจ อาทาย มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปาวิสิ. เต ตตฺถ เอกํ ปทุมสรํ นิสฺสาย รมณีเย ภูมิภาเค อสฺสมํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา วนมูลผลาหาเรหิ ยาปยึสุ. เต อรฺํ คจฺฉนฺตา เอกโตว คนฺตฺวา ยตฺถ เอโก ผลํ วา ปตฺตํ วา ปสฺสติ, ตตฺถ อิตเรปิ ปกฺโกสิตฺวา ทิฏฺสุตาทีนิ กเถนฺตา อุจฺจินนฺติ, คามสฺส กมฺมนฺตฏฺานํ วิย โหติ. อถ อาจริโย มหากฺจนตาปโส จินฺเตสิ ‘‘อมฺหากํ อสีติโกฏิธนํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิตานํ เอวํ โลลุปฺปจารวเสน ผลาผลตฺถาย วิจรณํ นาม อปฺปติรูปํ, อิโต ปฏฺาย อหเมว ผลาผลํ อาหริสฺสามี’’ติ. โส อสฺสมํ ปตฺวา สพฺเพปิ เต สายนฺหสมเย สนฺนิปาเตตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตุมฺเห อิเธว สมณธมฺมํ กโรนฺตา อจฺฉถ, อหํ ผลาผลํ อาหริสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ อุปกฺจนาทโย ‘‘มยํ อาจริย, ตุมฺเห นิสฺสาย ปพฺพชิตา, ตุมฺเห อิเธว สมณธมฺมํ กโรถ, ภคินีปิ โน อิเธว โหตุ, ทาสีปิ ตสฺสา สนฺติเก อจฺฉตุ, มยํ อฏฺ ชนา วาเรน ผลาผลํ อาหริสฺสาม, ตุมฺเห ปน ตโย วารมุตฺตาว โหถา’’ติ วตฺวา ปฏิฺํ คณฺหึสุ.

ตโต ปฏฺาย อฏฺสุปิ ชเนสุ เอเกโก วาเรเนว ผลาผลํ อาหรติ. เสสา อตฺตโน อตฺตโน ปณฺณสาลายเมว โหนฺติ, อการเณน เอกโต ภวิตุํ น ลภนฺติ. วารปฺปตฺโต ผลาผลํ อาหริตฺวา เอโก มาฬโก อตฺถิ, ตตฺถ ปาสาณผลเก เอกาทส โกฏฺาเส กตฺวา ฆณฺฑิสฺํ กตฺวา อตฺตโน โกฏฺาสํ อาทาย วสนฏฺานํ ปวิสติ. เสสา ฆณฺฑิสฺาย นิกฺขมิตฺวา โลลุปฺปํ อกตฺวา คารวปริหาเรน คนฺตฺวา อตฺตโน ปาปุณนโกฏฺาสํ อาทาย วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปริภุฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. เต อปรภาเค ภิสานิ อาหริตฺวา ขาทนฺตา ตตฺตตปา โฆรตปา ปรมาชิตินฺทฺริยา กสิณปริกมฺมํ กโรนฺตา วิหรึสุ. อถ เตสํ สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโกปิ อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘กามาธิมุตฺตา นุ โข อิเม อิสโย, โน’’ติ อาสงฺกํ กโรติเยว. โส ‘‘อิเม ตาว อิสโย ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน มหาสตฺตสฺส โกฏฺาสํ ตโย ทิวเส อนฺตรธาเปสิ. โส ปมทิวเส โกฏฺาสํ อทิสฺวา ‘‘มม โกฏฺาสํ ปมุฏฺโ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสิ, ทุติยทิวเส ‘‘มม โทเสน ภวิตพฺพํ, ปณามนวเสน มม โกฏฺาสํ น เปสิ มฺเ’’ติ จินฺเตสิ, ตติยทิวเส ‘‘เกน นุ โข การเณน มยฺหํ โกฏฺาสํ น เปนฺติ, สเจ เม โทโส อตฺถิ, ขมาเปสฺสามี’’ติ สายนฺหสมเย ฆณฺฑิสฺํ อทาสิ.

สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ‘‘เกน ฆณฺฑิสฺา ทินฺนา’’ติ อาหํสุ. ‘‘มยา ตาตา’’ติ. ‘‘กึการณา อาจริยา’’ติ? ‘‘ตาตา ตติยทิวเส เกน ผลาผลํ อาภต’’นฺติ? เตสุ เอโก อุฏฺาย ‘‘มยา อาจริยา’’ติ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โกฏฺาเส กโรนฺเตน เต มยฺหํ โกฏฺาโส กโตติ. ‘‘อาม, อาจริย, เชฏฺกโกฏฺาโส เม กโต’’ติ. ‘‘หิยฺโย เกนาภต’’นฺติ? ‘‘มยา’’ติ อปโร อุฏฺาย วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โกฏฺาสํ กโรนฺโต มํ อนุสฺสรีติ. ‘‘ตุมฺหากํ เม เชฏฺกโกฏฺาโส ปิโต’’ติ. ‘‘อชฺช เกนาภต’’นฺติ. ‘‘มยา’’ติ อปโร อุฏฺาย วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โกฏฺาสํ กโรนฺโต มํ อนุสฺสรีติ. ‘‘ตุมฺหากํ เม เชฏฺกโกฏฺาโส กโต’’ติ. ‘‘ตาตา, อชฺช มยฺหํ โกฏฺาสํ อลภนฺตสฺส ตติโย ทิวโส, ปมทิวเส โกฏฺาสํ อทิสฺวา ‘โกฏฺาสํ กโรนฺโต มํ ปมุฏฺโ ภวิสฺสตี’ติ จินฺเตสึ, ทุติยทิวเส ‘‘มม โกจิ โทโส ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสึ, อชฺช ปน ‘‘สเจ เม โทโส อตฺถิ, ขมาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ฆณฺฑิสฺาย ตุมฺเห สนฺนิปาเตสึ. เอเต ภิสโกฏฺาเส ตุมฺเห ‘‘กริมฺหา’’ติ วทถ, อหํ น ลภามิ, เอเตสํ เถเนตฺวา ขาทกํ าตุํ วฏฺฏติ, กาเม ปหาย ปพฺพชิตานํ ภิสมตฺตํ เถนนํ นาม อปฺปติรูปนฺติ. เต ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘อโห สาหสิกกมฺม’’นฺติ สพฺเพว อุพฺเพคปฺปตฺตา อเหสุํ.

ตสฺมึ อสฺสมปเท วนเชฏฺกรุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตาปิ โอตริตฺวา อาคนฺตฺวา เตสํเยว สนฺติเก นิสีทิ. อาเนฺชกรณํ การิยมาโน ทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อาฬานํ ภินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิฏฺโ เอโก วารโณ กาเลน กาลํ อิสิคณํ วนฺทติ, โสปิ อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. สปฺปกีฬาปนโก เอโก วานโร อหิตุณฺฑิกสฺส หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺเถว อสฺสเม วสติ. โสปิ ตํ ทิวสํ อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. สกฺโก ‘‘อิสิคณํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ เตสํ สนฺติเก อทิสฺสมานกาโย อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณว โพธิสตฺตสฺส กนิฏฺโ อุปกฺจนตาปโส อุฏฺายาสนา โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา เสสานํ อปจิตึ ทสฺเสตฺวา ‘‘อาจริย, อหํ อฺเ อปฏฺเปตฺวา อตฺตานฺเว โสเธตุํ ลภามี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, ลภสี’’ติ. โส อิสิคณมชฺเฌ ตฺวา ‘‘สเจ เต มยา ภิสานิ ขาทิตานิ, เอวรูโป นาม โหตู’’ติ สปถํ กโรนฺโต ปมํ คาถมาห –

๗๘.

‘‘อสฺสํ ควํ รชตํ ชาตรูปํ, ภริยฺจ โส อิธ ลภตํ มนาปํ;

ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิ โหตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสี’’ติ.

ตตฺถ ‘‘อสฺสํ คว’’นฺติ อิทํ ‘‘โส ‘ยตฺตกานิ ปิยวตฺถูนิ โหนฺติ, เตหิ วิปฺปโยเค ตตฺตกานิ โสกทุกฺขานิ อุปฺปชฺชนฺตี’ติ วตฺถุกาเม ครหนฺโต อภาสี’’ติ เวทิตพฺพํ.

ตํ สุตฺวา อิสิคโณ ‘‘มาริส, มา เอวํ กเถถ, อติภาริโย เต สปโถ’’ติ กณฺเณ ปิทหิ. โพธิสตฺโตปิ นํ ‘‘ตาต, อติภาริโย เต สปโถ, น ตฺวํ ขาทสิ, ตว ปตฺตาสเน นิสีทา’’ติ อาห. ตสฺมึ ปมํ สปถํ กตฺวา นิสินฺเน ทุติโยปิ ภาตา สหสา อุฏฺาย มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา สปเถน อตฺตานํ โสเธนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๗๙.

‘‘มาลฺจ โส กาสิกจนฺทนฺจ, ธาเรตุ ปุตฺตสฺส พหู ภวนฺตุ;

กาเมสุ ติพฺพํ กุรุตํ อเปกฺขํ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสี’’ติ.

ตตฺถ ติพฺพนฺติ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ พหลํ อเปกฺขํ กโรตูติ. อิทํ โส ‘‘ยสฺเสเตสุ ติพฺพา อเปกฺขา โหนฺติ, โส เตหิ วิปฺปโยเค มหนฺตํ ทุกฺขํ ปาปุณาตี’’ติ ทุกฺขปฏิกฺเขปวเสเนว อาห.

ตสฺมึ นิสินฺเน เสสาปิ อตฺตโน อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ตํ ตํ คาถํ อภาสึสุ –

๘๐.

‘‘ปหูตธฺโ กสิมา ยสสฺสี, ปุตฺเต คิหี ธนิมา สพฺพกาเม;

วยํ อปสฺสํ ฆรมาวสาตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๑.

‘‘โส ขตฺติโย โหตุ ปสยฺหการี, ราชาภิราชา พลวา ยสสฺสี;

ส จาตุรนฺตํ มหิมาวสาตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๒.

‘‘โส พฺราหฺมโณ โหตุ อวีตราโค, มุหุตฺตนกฺขตฺตปเถสุ ยุตฺโต;

ปูเชตุ นํ รฏฺปตี ยสสฺสี, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๓.

‘‘อชฺฌายกํ สพฺพสมนฺตเวทํ, ตปสฺสินํ มฺตุ สพฺพโลโก;

ปูเชนฺตุ นํ ชานปทา สเมจฺจ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๔.

‘‘จตุสฺสทํ คามวรํ สมิทฺธํ, ทินฺนฺหิ โส ภุฺชตุ วาสเวน;

อวีตราโค มรณํ อุเปตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๕.

‘‘โส คามณี โหตุ สหายมชฺเฌ, นจฺเจหิ คีเตหิ ปโมทมาโน;

โส ราชโต พฺยสน มาลตฺถ กิฺจิ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๖.

‘‘ยํ เอกราชา ปถวึ วิเชตฺวา, อิตฺถีสหสฺสาน เปตุ อคฺคํ;

สีมนฺตินีนํ ปวรา ภวาตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ ยา อหาสิ.

๘๗.

‘‘อิสีนฺหิ สา สพฺพสมาคตานํ, ภุฺเชยฺย สาทุํ อวิกมฺปมานา;

จราตุ ลาเภน วิกตฺถมานา, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ ยา อหาสิ.

๘๘.

‘‘อาวาสิโก โหตุ มหาวิหาเร, นวกมฺมิโก โหตุ คชงฺคลายํ;

อาโลกสนฺธึ ทิวสํ กโรตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๙.

‘‘โส พชฺฌตู ปาสสเตหิ ฉพฺภิ, รมฺมา วนา นิยฺยตุ ราชธานึ;

ตุตฺเตหิ โส หฺตุ ปาจเนหิ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๙๐.

‘‘อลกฺกมาลี ติปุกณฺณวิทฺโธ, ลฏฺีหโต สปฺปมุขํ อุเปตุ;

สกจฺฉพนฺโธ วิสิขํ จราตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสี’’ติ.

ตตฺถ ตติเยน วุตฺตคาถาย กสิมาติ สมฺปนฺนกสิกมฺโม. ปุตฺเต คิหี ธนิมา สพฺพกาเมติ ปุตฺเต ลภตุ, คิหี โหตุ, สตฺตวิเธน รตนธเนน ธนิมา โหตุ, รูปาทิเภเท สพฺพกาเม ลภตุ. วยํ อปสฺสนฺติ มหลฺลกกาเล ปพฺพชฺชานุรูปมฺปิ อตฺตโน วยํ อปสฺสนฺโต ปฺจกามคุณสมิทฺธํ ฆรเมว อาวสตูติ. อิทํ โส ‘‘ปฺจกามคุณคิทฺโธ กามคุณวิปฺปโยเคน มหาวินาสํ ปาปุณาตี’’ติ ทสฺเสตุํ กเถสิ.

จตุตฺเถน วุตฺตคาถาย ราชาภิราชาติ ราชูนํ อนฺตเร อภิราชาติ. อิทํ โส ‘‘อิสฺสรานํ นาม อิสฺสริเย ปริคลิเต มหนฺตํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตี’’ติ รชฺเช โทสํ ทสฺเสนฺโต กเถสิ. ปฺจเมน วุตฺตคาถาย อวีตราโคติ ปุโรหิตฏฺานตณฺหาย สตณฺโหติ. อิทํ โส ‘‘ปุโรหิตสฺส ปุโรหิตฏฺาเน ปริคลิเต มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ทสฺเสตุํ กเถสิ. ฉฏฺเน วุตฺตคาถาย ตปสฺสินนฺติ ตปสีลสมฺปนฺโนติ ตํ มฺตุ. อิทํ โส ‘‘ลาภสกฺการาปคเมน มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ลาภสกฺการครหวเสน กเถสิ.

สหายตาปเสน วุตฺตคาถาย จตุสฺสทนฺติ อากิณฺณมนุสฺสตาย มนุสฺเสหิ, ปหูตธฺตาย ธฺเน, สุลภทารุตาย ทารูหิ, สมฺปนฺโนทกตาย อุทเกนาติ จตูหิ อุสฺสนฺนํ, จตุสฺสทสมนฺนาคตนฺติ อตฺโถ. วาสเวนาติ วาสเวน ทินฺนํ วิย อจลํ, วาสวโต ลทฺธวรานุภาเวน เอกํ ราชานํ อาราเธตฺวา เตน ทินฺนนฺติปิ อตฺโถ. อวีตราโคติ กทฺทเม สูกโร วิย กามปงฺเก นิมุคฺโคว หุตฺวา. อิติ โสปิ กามานํ อาทีนวํ กเถนฺโต เอวมาห.

ทาเสน วุตฺตคาถาย คามณีติ คามเชฏฺโก. อยมฺปิ กาเม ครหนฺโตเยว เอวมาห. กฺจนเทวิยา วุตฺตคาถาย นฺติ ยํ อิตฺถินฺติ อตฺโถ. เอกราชาติ อคฺคราชา. อิตฺถิสหสฺสานนฺติ วจนมฏฺตาย วุตฺตํ, โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ อคฺคฏฺาเน เปตูติ อตฺโถ. สีมนฺตินีนนฺติ สีมนฺตธรานํ อิตฺถีนนฺติ อตฺโถ. อิติ สา อิตฺถิภาเว ตฺวาปิ ทุคฺคนฺธคูถราสึ วิย กาเม ครหนฺตีเยว เอวมาห. ทาสิยา วุตฺตคาถาย สพฺพสมาคตานนฺติ สพฺเพสํ สนฺนิปติตานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา อวิกมฺปมานา อโนสกฺกมานา สาทุรสํ ภุฺชตูติ อตฺโถ. ทาสีนํ กิร สามิกสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ภุฺชนํ นาม อปฺปิยํ. อิติ สา อตฺตโน อปฺปิยตาย เอวมาห. จราตูติ จรตุ. ลาเภน วิกตฺถมานาติ ลาภเหตุ กุหนกมฺมํ กโรนฺตี ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทนฺตี จรตูติ อตฺโถ. อิมินา สา ทาสิภาเว ิตาปิ กิเลสกามวตฺถุกาเม ครหติ.

เทวตาย วุตฺตคาถาย อาวาสิโกติ อาวาสชคฺคนโก. คชงฺคลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตตฺถ กิร ทพฺพสมฺภารา สุลภา. อาโลกสนฺธึ ทิวสนฺติ เอกทิวเสเนว วาตปานํ กโรตุ. โส กิร เทวปุตฺโต กสฺสปพุทฺธกาเล คชงฺคลนครํ นิสฺสาย โยชนิเก ชิณฺณมหาวิหาเร อาวาสิกสงฺฆตฺเถโร หุตฺวา ชิณฺณวิหาเร นวกมฺมํ กโรนฺโตเยว มหาทุกฺขํ อนุภวิ. ตสฺมา ตเทว ทุกฺขํ อารพฺภ เอวมาห. หตฺถินา วุตฺตคาถาย ปาสสเตหีติ พหูหิ ปาเสหิ. ฉพฺภีติ จตูสุ ปาเทสุ คีวาย กฏิภาเค จาติ ฉสุ าเนสุ. ตุตฺเตหีติ ทฺวิกณฺฑกาหิ ทีฆลฏฺีหิ. ปาจเนหีติ ทสปาจเนหิ องฺกุเสหิ วา. โส กิร อตฺตโน อนุภูตทุกฺขฺเว อารพฺภ เอวมาห.

วานเรน วุตฺตคาถาย อลกฺกมาลีติ อหิตุณฺฑิเกน กณฺเ ปริกฺขิปิตฺวา ปิตาย อลกฺกมาลาย สมนฺนาคโต. ติปุกณฺณวิทฺโธติ ติปุปิฬนฺธเนน ปิฬนฺธกณฺโณ. ลฏฺีหโตติ สปฺปกีฬํ สิกฺขาปยมาโน ลฏฺิยา หโต หุตฺวา. เอโสปิ อหิตุณฺฑิกสฺส หตฺเถ อตฺตโน อนุภูตทุกฺขเมว สนฺธาย เอวมาห.

เอวํ เตหิ เตรสหิ ชเนหิ สปเถ กเต มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘กทาจิ อิเม ‘อยํ อนฏฺเมว นฏฺนฺติ กเถตี’ติ มยิ อาสงฺกํ กเรยฺยุํ, อหมฺปิ สปถํ กโรมี’’ติ. อถ นํ กโรนฺโต จุทฺทสมํ คาถมาห –

๙๑.

‘‘โย เว อนฏฺํว นฏฺนฺติ จาห, กาเมว โส ลภตํ ภุฺชตฺจ;

อคารมชฺเฌ มรณํ อุเปตุ, โย วา โภนฺโต สงฺกติ กฺจิเทวา’’ติ.

ตตฺถ โภนฺโตติ อาลปนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภวนฺโต โย อนฏฺเ โกฏฺาเส ‘‘นฏฺํ เม’’ติ วทติ, โย วา ตุมฺเหสุ กฺจิ อาสงฺกติ, โส ปฺจ กามคุเณ ลภตุ เจว ภุฺชตุ จ, รมณียเมว ปพฺพชฺชํ อลภิตฺวา อคารมชฺเฌเยว มรตูติ.

เอวํ อิสีหิ สปเถ กเต สกฺโก ภายิตฺวา ‘‘อหํ อิเม วีมํสนฺโต ภิสานิ อนฺตรธาเปสึ. อิเม จ ฉฑฺฑิตเขฬปิณฺฑํ วิย กาเม ครหนฺตา สปถํ กโรนฺติ, กาเม ครหการณํ เต ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทิสฺสมานรูโป โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา ปุจฺฉนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๙๒.

‘‘ยเทสมานา วิจรนฺติ โลเก, อิฏฺฺจ กนฺตฺจ พหูนเมตํ;

ปิยํ มนุฺํ จิธ ชีวโลเก, กสฺมา อิสโย นปฺปสํสนฺติ กาเม’’ติ.

ตตฺถ ยเทสมานาติ ยํ วตฺถุกามํ กิเลสกามฺจ กสิโครกฺขาทีหิ สมวิสมกมฺเมหิ ปริเยสมานา สตฺตา โลเก วิจรนฺติ, เอตํ พหูนํ เทวมนุสฺสานํ อิฏฺฺจ กนฺตฺจ ปิยฺจ มนุฺฺจ, กสฺมา อิสโย นปฺปสํสนฺติ กาเมติ อตฺโถ. ‘‘กาเม’’ติ อิมินา ตํ วตฺถุํ สรูปโต ทสฺเสติ.

อถสฺส ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๙๓.

‘‘กาเมสุ เว หฺเร พชฺฌเร จ, กาเมสุ ทุกฺขฺจ ภยฺจ ชาตํ;

กาเมสุ ภูตาธิปตี ปมตฺตา, ปาปานิ กมฺมานิ กโรนฺติ โมหา.

๙๔.

‘‘เต ปาปธมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺติ;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, ตสฺมา อิสโย นปฺปสํสนฺติ กาเม’’ติ.

ตตฺถ กาเมสูติ กามเหตุ, กาเม นิสฺสาย กายทุจฺจริตาทีนิ กโรนฺตีติ อตฺโถ. หฺเรติ ทณฺฑาทีหิ หฺนฺติ. พชฺฌเรติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พชฺฌนฺติ. ทุกฺขนฺติ กายิกเจตสิกํ อสาตํ ทุกฺขํ. ภยนฺติ อตฺตานุวาทาทิกํ สพฺพมฺปิ ภยํ. ภูตาธิปตีติ สกฺกํ อาลปติ. อาทีนวนฺติ เอวรูปํ โทสํ. โส ปเนส อาทีนโว ทุกฺขกฺขนฺธาทีหิ สุตฺเตหิ (ม. นิ. ๑.๑๖๓-๑๘๐) ทีเปตพฺโพ.

สกฺโก มหาสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา สํวิคฺคมานโส อนนฺตรํ คาถมาห –

๙๕.

‘‘วีมํสมาโน อิสิโน ภิสานิ, ตีเร คเหตฺวาน ถเล นิเธสึ;

สุทฺธา อปาปา อิสโย วสนฺติ, เอตานิ เต พฺรหฺมจารี ภิสานี’’ติ.

ตตฺถ วิมํสมาโนติ ภนฺเต, อหํ ‘‘อิเม อิสโย กามาธิมุตฺตา วา, โน วา’’ติ วีมํสนฺโต. อิสิโนติ ตว มเหสิโน สนฺตกานิ ภิสานิ. ตีเร คเหตฺวานาติ ตีเร นิกฺขิตฺตานิ คเหตฺวา ถเล เอกมนฺเต นิเธสึ. สุทฺธาติ อิทานิ มยา ตุมฺหากํ สปถกิริยาย าตํ ‘‘อิเม อิสโย สุทฺธา อปาปา หุตฺวา วสนฺตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต คาถมาห –

๙๖.

‘‘น เต นฏา โน ปน กีฬเนยฺยา, น พนฺธวา โน ปน เต สหายา;

กิสฺมึ วุปตฺถมฺภ สหสฺสเนตฺต, อิสีหิ ตฺวํ กีฬสิ เทวราชา’’ติ.

ตตฺถ น เต นฏา โนติ เทวราช, มยํ ตว นฏา วา กีฬิตพฺพยุตฺตกา วา เกจิ น โหม, นาปิ ตว าตกา, น สหายา, อถ ตฺวํ กึ วา อุปตฺถมฺภํ กตฺวา กึ นิสฺสาย อิสีหิ สทฺธึ กีฬสีติ อตฺโถ.

อถ นํ สกฺโก ขมาเปนฺโต วีสติมํ คาถมาห –

๙๗.

‘‘อาจริโย เมสิ ปิตา จ มยฺหํ, เอสา ปติฏฺา ขลิตสฺส พฺรหฺเม;

เอกาปราธํ ขม ภูริปฺ, น ปณฺฑิตา โกธพลา ภวนฺตี’’ติ.

ตตฺถ เอสา ปติฏฺาติ เอสา ตว ปาทจฺฉายา อชฺช มม ขลิตสฺส อปรทฺธสฺส ปติฏฺา โหตุ. โกธพลาติ ปณฺฑิตา นาม ขนฺติพลา ภวนฺติ, น โกธพลาติ.

อถ มหาสตฺโต สกฺกสฺส เทวรฺโ ขมิตฺวา สยํ อิสิคณํ ขมาเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๙๘.

‘‘สุวาสิตํ อิสินํ เอกรตฺตํ, ยํ วาสวํ ภูตปติทฺทสาม;

สพฺเพว โภนฺโต สุมนา ภวนฺตุ, ยํ พฺราหฺมโณ ปจฺจุปาที ภิสานี’’ติ.

ตตฺถ สุวาสิตํ อิสินํ เอกรตฺตนฺติ อายสฺมนฺตานํ อิสีนํ เอกรตฺตมฺปิ อิมสฺมึ อรฺเ วสิตํ สุวสิตเมว. กึการณา? ยํ วาสวํ ภูตปตึ อทฺทสาม, สเจ หิ มยํ นคเร อวสิมฺห, อิมํ น อทฺทสาม. โภนฺโตติ ภวนฺโต สพฺเพปิ สุมนา ภวนฺตุ, ตุสฺสนฺตุ, สกฺกสฺส เทวรฺโ ขมนฺตุ. กึการณา? ยํ พฺราหฺมโณ ปจฺจุปาที ภิสานิ, ยสฺมา ตุมฺหากํ อาจริโย ภิสานิ ปฏิลภีติ.

สกฺโก อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. อิสิคโณปิ ฌานาภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา สปถํ กตฺวา กิเลเส ปชหึสู’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ชาตกํ สโมธาเนนฺโต ปุน สตฺถา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๙๙.

‘‘อหฺจ สาริปุตฺโต จ, โมคฺคลฺลาโน จ กสฺสโป;

อนุรุทฺโธ ปุณฺโณ อานนฺโท, ตทาสุํ สตฺต ภาตโร.

๑๐๐.

‘‘ภคินี อุปฺปลวณฺณา จ, ทาสี ขุชฺชุตฺตรา ตทา;

จิตฺโต คหปติ ทาโส, ยกฺโข สาตาคิโร ตทา.

๑๐๑.

‘‘ปาลิเลยฺโย ตทา นาโค, มธุโท เสฏฺวานโร;

กาฬุทายี ตทา สกฺโก, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

ภิสชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๔๘๙] ๖. สุรุจิชาตกวณฺณนา

มเหสี สุรุจิโน ภริยาติ อิทํ สตฺถา สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย มิคารมาตุปาสาเท วิหรนฺโต วิสาขาย มหาอุปาสิกาย ลทฺเธ อฏฺ วเร อารพฺภ กเถสิ. สา หิ เอกทิวสํ เชตวเน ธมฺมกถํ สุตฺวา ภควนฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา ปกฺกามิ. ตสฺสา ปน รตฺติยา อจฺจเยน จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ ปาวสฺสิ. ภควา ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ยถา, ภิกฺขเว, เชตวเน วสฺสติ, เอวํ จตูสุ ทีเปสุ วสฺสติ, โอวสฺสาเปถ, ภิกฺขเว, กายํ, อยํ ปจฺฉิมโก จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ’’ติ วตฺวา โอวสฺสาปิตกาเยหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อิทฺธิพเลน เชตวเน อนฺตรหิโต วิสาขาย โกฏฺเก ปาตุรโหสิ. อุปาสิกา ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ชาณุกมตฺเตสุปิ โอเฆสุ วตฺตมาเนสุ กฏิมตฺเตสุปิ โอเฆสุ วตฺตมาเนสุ น หิ นาม เอกภิกฺขุสฺสปิ ปาทา วา จีวรานิ วา อลฺลานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ หฏฺา อุทคฺคา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ภควนฺตํ เอตทโวจ ‘‘อฏฺาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วรานิ ยาจามี’’ติ. ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข, วิสาเข, ตถาคตา’’ติ. ‘‘ยานิ จ, ภนฺเต, กปฺปิยานิ ยานิ จ อนวชฺชานี’’ติ. ‘‘วเทหิ วิสาเข’’ติ. ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ยาวชีวํ วสฺสิกสาฏิกํ ทาตุํ, อาคนฺตุกภตฺตํ ทาตุํ, คมิกภตฺตํ ทาตุํ, คิลานภตฺตํ ทาตุํ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ ทาตุํ, คิลานเภสชฺชํ ทาตุํ, ธุวยาคุํ ทาตุํ, ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ยาวชีวํ อุทกสาฏิกํ ทาตุ’’นฺติ.

สตฺถา ‘‘กํ ปน ตฺวํ, วิสาเข, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตาย วรานิสํเส กถิเต ‘‘สาธุ สาธุ, วิสาเข, สาธุ โข ตฺวํ, วิสาเข, อิมํ อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจสี’’ติ วตฺวา ‘‘อนุชานามิ เต, วิสาเข, อฏฺ วรานี’’ติ อฏฺ วเร ทตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. อเถกทิวสํ สตฺถริ ปุพฺพาราเม วิหรนฺเต ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, วิสาขา มหาอุปาสิกา มาตุคามตฺตภาเว ตฺวาปิ ทสพลสฺส สนฺติเก อฏฺ วเร ลภิ, อโห มหาคุณา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, วิสาขา อิทาเนว มม สนฺติกา วเร ลภติ, ปุพฺเพเปสา ลภิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต มิถิลายํ สุรุจิ นาม ราชา รชฺชํ กาเรนฺโต ปุตฺตํ ปฏิลภิตฺวา ตสฺส ‘‘สุรุจิกุมาโร’’ตฺเวว นามํ อกาสิ. โส วยปฺปตฺโต ‘‘ตกฺกสิลายํ สิปฺปํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา นครทฺวาเร สาลายํ นิสีทิ. พาราณสิรฺโปิ ปุตฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมาโร นาม ตเถว คนฺตฺวา สุรุจิกุมารสฺส นิสินฺนผลเกเยว นิสีทิ. เต อฺมฺํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสาสิกา หุตฺวา เอกโตว อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาจริยภาคํ ทตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา น จิรสฺเสว นิฏฺิตสิปฺปา อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา โถกํ มคฺคํ เอกโตว คนฺตฺวา ทฺเวธาปเถ ิตา อฺมฺํ อาลิงฺคิตฺวา มิตฺตธมฺมานุรกฺขณตฺถํ กติกํ กรึสุ ‘‘สเจ มม ปุตฺโต ชายติ, ตว ธีตา, ตว ปุตฺโต, มม ธีตา, เตสํ อาวาหวิวาหํ กริสฺสามา’’ติ. เตสุ รชฺชํ กาเรนฺเตสุ สุรุจิมหาราชสฺส ปุตฺโต ชายิ, ‘‘สุรุจิกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. พฺรหฺมทตฺตสฺส ธีตา ชายิ, ‘‘สุเมธา’’ติสฺสา นามํ กรึสุ.

สุรุจิกุมาโร วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉิ. อถ นํ ปิตา รชฺเช อภิสิฺจิตุกาโม หุตฺวา ‘‘สหายสฺส กิร เม พาราณสิรฺโ ธีตา อตฺถิ, ตเมวสฺส อคฺคมเหสึ กริสฺสามี’’ติ ตสฺสา อตฺถาย พหุํ ปณฺณาการํ ทตฺวา อมจฺเจ เปเสสิ. เตสํ อนาคตกาเลเยว พาราณสิราชา เทวึ ปุจฺฉิ ‘‘ภทฺเท, มาตุคามสฺส นาม กึ อติเรกทุกฺข’’นฺติ? ‘‘สปตฺติโรสทุกฺขํ เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภทฺเท, อมฺหากํ เอกํ ธีตรํ สุเมธาเทวึ ตมฺหา ทุกฺขา โมเจตฺวา โย เอตํ เอกิกเมว คณฺหิสฺสติ, ตสฺส ทสฺสามา’’ติ อาห. โส เตหิ อมจฺเจหิ อาคนฺตฺวา ตสฺสา นาเม คหิเต ‘‘ตาตา, กามํ มยา ปุพฺเพ มยฺหํ สหายสฺส ปฏิฺา กตา, อิมํ ปน มยํ อิตฺถิฆฏาย อนฺตเร น ขิปิตุกามา, โย เอตํ เอกิกเมว คณฺหาติ, ตสฺส ทาตุกามมฺหา’’ติ อาห. เต รฺโ สนฺติกํ ปหิณึสุ. ราชา ปน ‘‘อมฺหากํ รชฺชํ มหนฺตํ, สตฺตโยชนิกํ มิถิลนครํ, ตีณิ โยชนสตานิ รฏฺปริจฺเฉโท, เหฏฺิมนฺเตน โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา น โรเจสิ.

สุรุจิกุมาโร ปน สุเมธาย รูปสมฺปทํ สุตฺวา สวนสํสคฺเคน พชฺฌิตฺวา ‘‘อหํ ตํ เอกิกเมว คณฺหิสฺสามิ, น มยฺหํ อิตฺถิฆฏาย อตฺโถ, ตเมว อาเนนฺตู’’ติ มาตาปิตูนํ เปเสสิ. เต ตสฺส มนํ อภินฺทิตฺวา พหุํ ธนํ เปเสตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ อาเนตฺวา กุมารสฺส อคฺคมเหสึ กตฺวา เอกโตว อภิสิฺจึสุ. โส สุรุจิมหาราชา นาม หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ตาย สทฺธึ ปิยสํวาสํ วสิ. สา ปน ทส วสฺสสหสฺสานิ ตสฺส เคเห วสนฺตี เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภิ. อถ นาครา สนฺนิปติตฺวา ราชงฺคเณ อุปกฺโกสิตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘รฺโ โทโส นตฺถิ, วํสานุปาลโก ปน โว ปุตฺโต น วิชฺชติ, ตุมฺหากํ เอกาว เทวี, ราชกุเล จ นาม เหฏฺิมนฺเตน โสฬสหิ อิตฺถิสหสฺเสหิ ภวิตพฺพํ, อิตฺถิฆฏํ คณฺห, เทว, อทฺธา ตาสุ ปุฺวตี ปุตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตาตา, กึ กเถถ, ‘อหํ อฺํ น คณฺหิสฺสามี’ติ ปฏิฺํ ทตฺวา มยา เอสา อานีตา, น สกฺกา มุสาวาทํ กาตุํ, น มยฺหํ อิตฺถิฆฏาย อตฺโถ’’ติ รฺา ปฏิกฺขิตฺตา ปกฺกมึสุ.

สุเมธา ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘ราชา ตาว สจฺจวาทิตาย อฺา อิตฺถิโย น อาเนสิ, อหเมว ปนสฺส อาเนสฺสามี’’ติ รฺโ มาตุสมภริยฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน รุจิยาว ขตฺติยกฺานํ สหสฺสํ, อมจฺจกฺานํ สหสฺสํ, คหปติกฺานํ สหสฺสํ, สพฺพสมยนาฏกิตฺถีนํ สหสฺสนฺติ จตฺตาริ อิตฺถิสหสฺสานิ อาเนสิ. ตาปิ ทส วสฺสสหสฺสานิ ราชกุเล วสิตฺวา เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภึสุ. เอเตเนวุปาเยน อปรานิปิ ติกฺขตฺตุํ จตฺตาริ จตฺตาริ สหสฺสานิ อาเนสิ. ตาปิ เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภึสุ. เอตฺตาวตา โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ. จตฺตาลีส วสฺสสหสฺสานิ อติกฺกมึสุ, ตานิ ตาย เอกิกาย วุตฺเถหิ ทสหิ สหสฺเสหิ สทฺธึ ปฺาส วสฺสสหสฺสานิ โหนฺติ. อถ นาครา สนฺนิปติตฺวา ปุน อุปกฺโกสิตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อิตฺถิโย ปุตฺตํ ปตฺเถตุํ อาณาเปถา’’ติ วทึสุ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ อาห. ตา ตโต ปฏฺาย ปุตฺตํ ปตฺถยมานา นานาเทวตา นมสฺสนฺติ, นานาวตานิ จรนฺติ, ปุตฺโต นุปฺปชฺชเตว. อถ ราชา สุเมธํ อาห ‘‘ภทฺเท, ตฺวมฺปิ ปุตฺตํ ปตฺเถหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปนฺนรสอุโปสถทิวเส อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ สมาทาย สิริคพฺเภ สีลานิ อาวชฺชมานา กปฺปิยมฺจเก นิสีทิ. เสสา อชวตโควตา หุตฺวา ปุตฺตํ อลภิตฺวา อุยฺยานํ อคมํสุ.

สุเมธาย สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. ตทา สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ‘‘สุเมธา ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ปุตฺตมสฺสา ทสฺสามิ, น โข ปน สกฺกา ยํ วา ตํ วา ทาตุํ, อนุจฺฉวิกมสฺสา ปุตฺตํ อุปธาเรสฺสามี’’ติ อุปธาเรนฺโต นฬการเทวปุตฺตํ ปสฺสิ. โส หิ ปุฺสมฺปนฺโน สตฺโต ปุริมตฺตภาเว พาราณสิยํ วสนฺโต วปฺปกาเล เขตฺตํ คจฺฉนฺโต เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา ทาสกมฺมกเร ‘‘วปถา’’ติ ปหิณิ. สยํ นิวตฺติตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ เคหํ เนตฺวา โภเชตฺวา ปุน คงฺคาตีรํ อาเนตฺวา ปุตฺเตน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา อุทุมฺพรภิตฺติปาทํ นฬภิตฺติกํ ปณฺณสาลํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา จงฺกมํ กตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ ตตฺเถว เตมาสํ วสาเปตฺวา วุตฺถวสฺสํ ทฺเว ปิตาปุตฺตา ติจีวเรน อจฺฉาเทตฺวา อุยฺโยเชสุํ. เอเตเนว นิยาเมน สตฺตฏฺ ปจฺเจกพุทฺเธ ตาย ปณฺณสาลาย วสาเปตฺวา ติจีวรานิ อทํสุ. ‘‘ทฺเว ปิตาปุตฺตา นฬการา หุตฺวา คงฺคาตีเร เวฬุํ อุปธาเรนฺตา ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา เอวมกํสู’’ติปิ วทนฺติเยว.

เต กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติตฺวา ฉสุ กามาวจรสคฺเคสุ อนุโลมปฏิโลเมน มหนฺตํ เทวิสฺสริยํ อนุภวนฺตา วิจรนฺติ. เต ตโต จวิตฺวา อุปริเทวโลเก นิพฺพตฺติตุกามา โหนฺติ. สกฺโก ตถา คตภาวํ ตฺวา เตสุ เอกสฺส วิมานทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิตํ อาห – ‘‘มาริส, ตยา มนุสฺสโลกํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘มหาราช, มนุสฺสโลโก นาม เชคุจฺโฉ ปฏิกูโล, ตตฺถ ิตา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา เทวโลกํ ปตฺเถนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘มาริส, เทวโลเก ปริภุฺชิตพฺพสมฺปตฺตึ มนุสฺสโลเก ปริภุฺชิสฺสสิ, ปฺจวีสติโยชนุพฺเพเธ นวโยชนอายาเม อฏฺโยชนวิตฺถาเร รตนปาสาเท วสิสฺสสิ, อธิวาเสหี’’ติ. โส อธิวาเสสิ. สกฺโก ตสฺส ปฏิฺํ คเหตฺวา อิสิเวเสน ราชุยฺยานํ คนฺตฺวา ตาสํ อิตฺถีนํ อุปริ อากาเส จงฺกมนฺโต อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กสฺสาหํ ปุตฺตวรํ ทมฺมิ, กา ปุตฺตวรํ คณฺหิสฺสตี’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ หตฺเถ อุกฺขิปึสุ. ตโต สกฺโก อาห – ‘‘อหํ สีลวตีนํ ปุตฺตํ ทมฺมิ, ตุมฺหากํ กึ สีลํ, โก อาจาโร’’ติ. ตา อุกฺขิตฺตหตฺเถ สมฺฉิตฺวา ‘‘สเจ สีลวติยา ทาตุกาโม, สุเมธาย สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ วทึสุ. โส อากาเสเนว คนฺตฺวา ตสฺสา วาสาคาเร สีหปฺชเร อฏฺาสิ.

อถสฺสา ตา อิตฺถิโย อาโรเจสุํ ‘‘เอถ, เทวิ, สกฺโก เทวราชา ‘ตุมฺหากํ ปุตฺตวรํ ทสฺสามี’ติ อากาเสนาคนฺตฺวา สีหปฺชเร ิโต’’ติ. สา ครุปริหาเรนาคนฺตฺวา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร, ภนฺเต, ตุมฺเห สีลวติยา ปุตฺตวรํ เทถา’’ติ อาห. ‘‘อาม เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ มยฺหํ เทถา’’ติ. ‘‘กึ ปน เต สีลํ, กเถหิ, สเจ เม รุจฺจติ, ทสฺสามิ เต ปุตฺตวร’’นฺติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ วตฺวา อตฺตโน สีลคุณํ กเถนฺตี ปนฺนรส คาถา อภาสิ –

๑๐๒.

‘‘มเหสี สุรุจิโน ภริยา, อานีตา ปมํ อหํ;

ทส วสฺสสหสฺสานิ, ยํ มํ สุรุจิมานยิ.

๑๐๓.

‘‘สาหํ พฺราหฺมณ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ;

นาภิชานามิ กาเยน, วาจาย อุท เจตสา;

สุรุจึ อติมฺิตฺถ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.

๑๐๔.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๐๕.

‘‘ภตฺตุ มม สสฺสุ มาตา, ปิตา จาปิ จ สสฺสุโร;

เต มํ พฺรหฺเม วิเนตาโร, ยาว อฏฺํสุ ชีวิตํ.

๑๐๖.

‘‘สาหํ อหึสารตินี, กามสา ธมฺมจารินี;

สกฺกจฺจํ เต อุปฏฺาสึ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา.

๑๐๗.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๐๘.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สหภริยานิ พฺราหฺมณ;

ตาสุ อิสฺสา วา โกโธ วา, นาหุ มยฺหํ กุทาจนํ.

๑๐๙.

‘‘หิเตน ตาสํ นนฺทามิ, น จ เม กาจิ อปฺปิยา;

อตฺตานํวานุกมฺปามิ, สทา สพฺพา สปตฺติโย.

๑๑๐.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๑๑.

‘‘ทาเส กมฺมกเร เปสฺเส, เย จฺเ อนุชีวิโน;

เปเสมิ สหธมฺเมน, สทา ปมุทิตินฺทฺริยา.

๑๑๒.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๑๓.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ จาปิ วนิพฺพเก;

ตปฺเปมิ อนฺนปาเนน, สทา ปยตปาณินี.

๑๑๔.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๑๕.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทฺทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ;

อุโปสถํ อุปวสามิ, สทา สีเลสุ สํวุตา.

๑๑๖.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา’’ติ.

ตตฺถ มเหสีติ อคฺคมเหสี. สุรุจิโนติ สุรุจิรฺโ. ปมนฺติ โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ สพฺพปมํ. ยํ มนฺติ ยสฺมึ กาเล มํ สุรุจิ อานยิ, ตโต ปฏฺาย อหํ ทส วสฺสสหสฺสานิ เอกิกาว อิมสฺมึ เคเห วสึ. อติมฺิตฺถาติ มุหุตฺตมฺปิ สมฺมุขา วา ปรมฺมุขา วา อติมฺินฺติ อิทํ อติกฺกมิตฺวา มฺนํ น ชานามิ น สรามิ. อิเสติ ตํ อาลปติ.

เต นฺติ สสุโร จ สสฺสุ จาติ เต อุโภปิ มํ วิเนตาโร, เตหิ วินีตา อมฺหิ, เต เม ยาว ชีวึสุ, ตาว โอวาทมทํสุ. อหึสารตินีติ อหึสาสงฺขาตาย รติยา สมนฺนาคตา. มยา หิ กุนฺถกิปิลฺลิโกปิ น หึสิตปุพฺโพ. กามสาติ เอกนฺเตเนว. ธมฺมจารินีติ ทสกุสลกมฺมปเถสุ ปูเรมิ. อุปฏฺาสินฺติ ปาทปริกมฺมาทีนิ กิจฺจานิ กโรนฺตี อุปฏฺหึ.

สหภริยานีติ มยา สห เอกสามิกสฺส ภริยภูตานิ. นาหูติ กิเลสํ นิสฺสาย อิสฺสาธมฺโม วา โกธธมฺโม วา มยฺหํ น ภูตปุพฺโพ. หิเตนาติ ยํ ตาสํ หิตํ, เตเนว นนฺทามิ, อุเร วุตฺถธีตโร วิย ตา ทิสฺวา ตุสฺสามิ. กาจีติ ตาสุ เอกาปิ มยฺหํ อปฺปิยา นาม นตฺถิ, สพฺพาปิ ปิยกาเยว. อนุกมฺปามีติ มุทุจิตฺเตน สพฺพา โสฬสสหสฺสาปิ ตา อตฺตานํ วิย อนุกมฺปามิ.

สหธมฺเมนาติ นเยน การเณน โย ยํ กาตุํ สกฺโกติ, ตํ ตสฺมึ กมฺเม ปโยเชมีติ อตฺโถ. ปมุทิตินฺทฺริยาติ เปเสนฺตี จ นิจฺจํ ปมุทิตินฺทฺริยาว หุตฺวา เปเสมิ, ‘‘อเร ทุฏฺ ทาส อิทํ นาม กโรหี’ติ เอวํ กุชฺฌิตฺวา น เม โกจิ กตฺถจิ เปสิตปุพฺโพ. ปยตปาณินีติ โธตหตฺถา ปสาริตหตฺถาว หุตฺวา. ปาฏิหาริยปกฺขฺจาติ อฏฺมีจาตุทฺทสีปนฺนรสีนํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน จตฺตาโร ทิวสา. สทาติ นิจฺจกาลํ ปฺจสุ สีเลสุ สํวุตา, เตหิ ปิหิตโคปิตตฺตภาวาว โหมีติ.

เอวํ ตสฺสา คาถาย สเตนปิ สหสฺเสนปิ วณฺณิยมานานํ คุณานํ ปมาณํ นาม นตฺถิ, ตาย ปนฺนรสหิ คาถาหิ อตฺตโน คุณานํ วณฺณิตกาเลเยว สกฺโก อตฺตโน พหุกรณียตาย ตสฺสา กถํ อวิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ปหูตา อพฺภุตาเยว เต คุณา’’ติ ตํ ปสํสนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๑๗.

‘‘สพฺเพว เต ธมฺมคุณา, ราชปุตฺติ ยสสฺสินิ;

สํวิชฺชนฺติ ตยิ ภทฺเท, เย ตฺวํ กิตฺเตสิ อตฺตนิ.

๑๑๘.

‘‘ขตฺติโย ชาติสมฺปนฺโน, อภิชาโต ยสสฺสิมา;

ธมฺมราชา วิเทหานํ, ปุตฺโต อุปฺปชฺชเต ตวา’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมคุณาติ สภาวคุณา ภูตคุณา. สํวิชฺชนฺตีติ เย ตยา วุตฺตา, เต สพฺเพว ตยิ อุปลพฺภนฺติ. อภิชาโตติ อติชาโต สุทฺธชาโต. ยสสฺสิมาติ ยสสมฺปนฺเนน ปริวารสมฺปนฺเนน สมนฺนาคโต. อุปฺปชฺชเตติ เอวรูโป ปุตฺโต ตว อุปฺปชฺชิสฺสติ, มา จินฺตยีติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสมนสฺสชาตา ตํ ปุจฺฉนฺตี ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๑๙.

‘‘ทุมฺมี รโชชลฺลธโร, อเฆ เวหายสํ ิโต;

มนุฺํ ภาสเส วาจํ, ยํ มยฺหํ หทยงฺคมํ.

๑๒๐.

‘‘เทวตานุสิ สคฺคมฺหา, อิสิ วาสิ มหิทฺธิโก;

โก วาสิ ตฺวํ อนุปฺปตฺโต, อตฺตานํ เม ปเวทยา’’ติ.

ตตฺถ ทุมฺมีติ อนฺชิตามณฺฑิโต สกฺโก อาคจฺฉนฺโต รมณีเยน ตาปสเวเสน อาคโต, ปพฺพชิตเวเสน อาคตตฺตา ปน สา เอวมาห. อเฆติ อปฺปฏิเฆ าเน. ยํ มยฺหนฺติ ยํ เอตํ มนุฺํ วาจํ มยฺหํ ภาสสิ, ตํ ภาสมาโน ตฺวํ เทวตานุสิ สคฺคมฺหา อิธาคโต. อิสิ วาสิ มหิทฺธิโกติ ยกฺขาทีสุ โก วา ตฺวํ อสิ อิธานุปฺปตฺโต, อตฺตานํ เม ปเวทย, ยถาภูตํ กเถหีติ วทติ.

สกฺโก ตสฺสา กเถนฺโต ฉ คาถา อภาสิ –

๑๒๑.

‘‘ยํ เทวสงฺฆา วนฺทนฺติ, สุธมฺมายํ สมาคตา;

โสหํ สกฺโก สหสฺสกฺโข, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก.

๑๒๒.

‘‘อิตฺถิโย ชีวโลกสฺมึ, ยา โหติ สมจารินี;

เมธาวินี สีลวตี, สสฺสุเทวา ปติพฺพตา.

๑๒๓.

‘‘ตาทิสาย สุเมธาย, สุจิกมฺมาย นาริยา;

เทวา ทสฺสนมายนฺติ, มานุสิยา อมานุสา.

๑๒๔.

‘‘ตฺวฺจ ภทฺเท สุจิณฺเณน, ปุพฺเพ สุจริเตน จ;

อิธ ราชกุเล ชาตา, สพฺพกามสมิทฺธินี.

๑๒๕.

‘‘อยฺจ เต ราชปุตฺติ, อุภยตฺถ กฏคฺคโห;

เทวโลกูปปตฺตี จ, กิตฺตี จ อิธ ชีวิเต.

๑๒๖.

‘‘จิรํ สุเมเธ สุขินี, ธมฺมมตฺตนิ ปาลย;

เอสาหํ ติทิวํ ยามิ, ปิยํ เม ตว ทสฺสน’’นฺติ.

ตตฺถ สหสฺสกฺโขติ อตฺถสหสฺสสฺส ตํมุหุตฺตํ ทสฺสนวเสน สหสฺสกฺโข. อิตฺถิโยติ อิตฺถี. สมจารินีติ ตีหิ ทฺวาเรหิ สมจริยาย สมนฺนาคตา. ตาทิสายาติ ตถารูปาย. สุเมธายาติ สุปฺาย. อุภยตฺถ กฏคฺคโหติ อยํ ตว อิมสฺมิฺจ อตฺตภาเว อนาคเต จ ชยคฺคาโห. เตสุ อนาคเต เทวโลกุปฺปตฺติ จ อิธ ชีวิเต ปวตฺตมาเน กิตฺติ จาติ อยํ อุภยตฺถ กฏคฺคโห นาม. ธมฺมนฺติ เอวํ สภาวคุณํ จิรํ อตฺตนิ ปาลย. เอสาหนฺติ เอโส อหํ. ปิยํ เมติ มยฺหํ ตว ทสฺสนํ ปิยํ.

เทวโลเก ปน เม กิจฺจกรณียํ อตฺถิ, ตสฺมา คจฺฉามิ, ตฺวํ อปฺปมตฺตา โหหีติ ตสฺสา โอวาทํ ทตฺวา ปกฺกามิ. นฬการเทวปุตฺโต ปน ปจฺจูสกาเล จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา รฺโ อาโรเจสิ, ราชา คพฺภสฺส ปริหารํ อทาสิ. สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘มหาปนาโท’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อุภยรฏฺวาสิโน ‘‘สามิปุตฺตสฺส โน ขีรมูล’’นฺติ เอเกกํ กหาปณํ ราชงฺคเณ ขิปึสุ, มหาธนราสิ อโหสิ. รฺา ปฏิกฺขิตฺตาปิ ‘‘สามิปุตฺตสฺส โน วฑฺฒิตกาเล ปริพฺพโย ภวิสฺสตี’’ติ อคฺคเหตฺวาว ปกฺกมึสุ. กุมาโร ปน มหาปริวาเรน วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺโต โสฬสวสฺสกาเลเยว สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. ราชา ปุตฺตสฺส วยํ โอโลเกตฺวา เทวึ อาห – ‘‘ภทฺเท, ปุตฺตสฺส เม รชฺชาภิเสกกาโล, รมณียมสฺส ปาสาทํ กาเรตฺวา อภิเสกํ กริสฺสามี’’ติ. สา ‘‘สาธุ เทวา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ราชา วตฺถุวิชฺชาจริเย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา, วฑฺฒกึ คเหตฺวา อมฺหากํ นิเวสนโต อวิทูเร ปุตฺตสฺส เม ปาสาทํ มาเปถ, รชฺเชน นํ อภิสิฺจิสฺสามา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ภูมิปฺปเทสํ วีมํสนฺติ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. โส ตํ การณํ ตฺวา วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘คจฺฉ, ตาต, มหาปนาทกุมารสฺส อายาเมน นวโยชนิกํ, วิตฺถารโต อฏฺโยชนิกํ, อุพฺเพเธน ปฺจวีสติโยชนิกํ, รตนปาสาทํ มาเปหี’’ติ เปเสสิ. โส วฑฺฒกีเวเสน วฑฺฒกีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปาตราสํ ภุฺชิตฺวา เอถา’’ติ เต เปเสตฺวา ทณฺฑเกน ภูมึ ปหริ, ตาวเทว วุตฺตปฺปกาโร สตฺตภูมิโก ปาสาโท อุฏฺหิ. มหาปนาทสฺส ปาสาทมงฺคลํ, ฉตฺตมงฺคลํ, อาวาหมงฺคลนฺติ ตีณิ มงฺคลานิ เอกโตว อเหสุํ. มงฺคลฏฺาเน อุภยรฏฺวาสิโน สนฺนิปติตฺวา มงฺคลจฺฉเณน สตฺต วสฺสานิ วีตินาเมสุํ. เนว เน ราชา อุยฺโยเชสิ, เตสํ วตฺถาลงฺการขาทนียโภชนียาทิ สพฺพํ ราชกุลสนฺตกเมว อโหสิ. เต สตฺตสํวจฺฉรจฺจเยน อุปกฺโกสิตฺวา สุรุจิมหาราเชน ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุฏฺา ‘‘มหาราช, อมฺหากํ มงฺคลํ ภุฺชนฺตานํ สตฺต วสฺสานิ คตานิ, กทา มงฺคลสฺส โอสานํ ภวิสฺสตี’’ติ อาหํสุ. ตโต ราชา ‘‘ตาตา, ปุตฺเตน เม เอตฺตกํ กาลํ น หสิตปุพฺพํ, ยทา โส หสิสฺสติ, ตทา คมิสฺสถา’’ติ อาห. อถ มหาชโน เภรึ จราเปตฺวา นเฏ สนฺนิปาเตสิ. ฉ นฏสหสฺสานิ สนฺนิปติตฺวา สตฺต โกฏฺาสา หุตฺวา นจฺจนฺตา ราชานํ หสาเปตุํ นาสกฺขึสุ. ตสฺส กิร ทีฆรตฺตํ ทิพฺพนาฏกานํ ทิฏฺตฺตา เตสํ นจฺจํ อมนุฺํ อโหสิ.

ตทา ภณฺฑุกณฺโฑ จ ปณฺฑุกณฺโฑ จาติ ทฺเว นาฏกเชฏฺกา ‘‘มยํ ราชานํ หสาเปสฺสามา’’ติ ราชงฺคณํ ปวิสึสุ. เตสุ ภณฺฑุกณฺโฑ ตาว ราชทฺวาเร มหนฺตํ อตุลํ นาม อมฺพํ มาเปตฺวา สุตฺตคุฬํ ขิปิตฺวา ตสฺส สาขาย ลคฺคาเปตฺวา สุตฺเตน อตุลมฺพํ อภิรุหิ. อตุลมฺโพติ กิร เวสฺสวณสฺส อมฺโพ. อถ ตมฺปิ เวสฺสวณสฺส ทาสา คเหตฺวา องฺคปจฺจงฺคานิ ฉินฺทิตฺวา ปาเตสุํ, เสสนาฏกา ตานิ สโมธาเนตฺวา อุทเกน อภิสิฺจึสุ. โส ปุปฺผปฏํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ นจฺจนฺโตว อุฏฺหิ. มหาปนาโท ตมฺปิ ทิสฺวา เนว หสิ. ปณฺฑุกณฺโฑ นโฏ ราชงฺคเณ ทารุจิตกํ กาเรตฺวา อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ อคฺคึ ปาวิสิ. ตสฺมึ นิพฺพุเต จิตกํ อุทเกน อภิสิฺจึสุ. โส สปริโส ปุปฺผปฏํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ นจฺจนฺโตว อุฏฺหิ. ตมฺปิ ทิสฺวา ราชา เนว หสิ. อิติ ตํ หสาเปตุํ อสกฺโกนฺตา มนุสฺสา อุปทฺทุตา อเหสุํ.

สกฺโก ตํ การณํ ตฺวา ‘‘คจฺฉ, ตาต, มหาปนาทํ หสาเปตฺวา เอหี’’ติ เทวนฏํ เปเสสิ. โส อาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ อากาเส ตฺวา อุปฑฺฒองฺคํ นาม ทสฺเสสิ, เอโกว หตฺโถ, เอโกว ปาโท, เอกํ อกฺขิ, เอกา ทาา นจฺจติ จลติ ผนฺทติ, เสสํ นิจฺจลมโหสิ. ตํ ทิสฺวา มหาปนาโท โถกํ หสิตํ อกาสิ. มหาชโน ปน หสนฺโต หสนฺโต หาสํ สนฺธาเรตุํ สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต องฺคานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ราชงฺคเณเยว ปติ, ตสฺมึ กาเล มงฺคลํ นิฏฺิตํ. เสสเมตฺถ ‘‘ปนาโท นาม โส ราชา, ยสฺส ยูโป สุวณฺณโย’’ติ มหาปนาทชาตเกน วณฺเณตพฺพํ. ราชา มหาปนาโท ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน เทวโลกเมว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, วิสาขา ปุพฺเพปิ มม สนฺติกา วรํ ลภิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มหาปนาโท ภทฺทชิ อโหสิ, สุเมธาเทวี วิสาขา, วิสฺสกมฺโม อานนฺโท, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สุรุจิชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๔๙๐] ๗. ปฺจุโปสถชาตกวณฺณนา

อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ตุวํ กโปตาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถิเก ปฺจสเต อุปาสเก อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ธมฺมสภายํ จตุปริสมชฺเฌ อลงฺกตพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา มุทุจิตฺเตน ปริสํ โอโลเกตฺวา ‘‘อชฺช อุปาสกานํ กถํ ปฏิจฺจ เทสนา สมุฏฺหิสฺสตี’’ติ ตฺวา อุปาสเก อามนฺเตตฺวา ‘‘อุโปสถิกตฺถ อุปาสกา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ โว กตํ, อุโปสโถ นาเมส โปราณกปณฺฑิตานํ วํโส, โปราณกปณฺฑิตา หิ ราคาทิกิเลสนิคฺคหตฺถํ อุโปสถวาสํ วสึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต มคธรฏฺาทีนํ ติณฺณํ รฏฺานํ อนฺตเร อฏวี อโหสิ. โพธิสตฺโต มคธรฏฺเ พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต กาเม ปหาย นิกฺขมิตฺวา ตํ อฏวึ ปวิสิตฺวา อสฺสมํ กตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วาสํ กปฺเปสิ. ตสฺส ปน อสฺสมสฺส อวิทูเร เอกสฺมึ เวฬุคหเน อตฺตโน ภริยาย สทฺธึ กโปตสกุโณ วสติ, เอกสฺมึ วมฺมิเก อหิ, เอกสฺมึ วนคุมฺเพ สิงฺคาโล, เอกสฺมึ วนคุมฺเพ อจฺโฉ. เต จตฺตาโรปิ กาเลน กาลํ อิสึ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติ.

อเถกทิวสํ กโปโต ภริยาย สทฺธึ กุลาวกา นิกฺขมิตฺวา โคจราย ปกฺกามิ. ตสฺส ปจฺฉโต คจฺฉนฺตึ กโปตึ เอโก เสโน คเหตฺวา ปลายิ. ตสฺสา วิรวสทฺทํ สุตฺวา กโปโต นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ เตน หริยมานํ ปสฺสิ. เสโนปิ นํ วิรวนฺตึเยว มาเรตฺวา ขาทิ. กโปโต ตาย วิโยเคน ราคปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราโค มํ อติวิย กิลเมติ, น อิทานิ อิมํ อนิคฺคเหตฺวา โคจราย ปกฺกมิสฺสามี’’ติ. โส โคจรปถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ตาปสสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ราคนิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

สปฺโปปิ ‘‘โคจรํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ วสนฏฺานา นิกฺขมิตฺวา ปจฺจนฺตคาเม คาวีนํ วิจรณฏฺาเน โคจรํ ปริเยสติ. ตทา คามโภชกสฺส สพฺพเสโต มงฺคลอุสโภ โคจรํ คเหตฺวา เอกสฺมึ วมฺมิกปาเท ชณฺณุนา ปติฏฺาย สิงฺเคหิ มตฺติกํ คณฺหนฺโต กีฬติ, สปฺโป คาวีนํ ปทสทฺเทน ภีโต ตํ วมฺมิกํ ปวิสิตุํ ปกฺกนฺโต. อถ นํ อุสโภ ปาเทน อกฺกมิ. โส ตํ กุชฺฌิตฺวา ฑํสิ, อุสโภ ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต. คามวาสิโน ‘‘อุสโภ กิร มโต’’ติ สุตฺวา สพฺเพ เอกโต อาคนฺตฺวา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา ตํ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา อาวาเฏ นิขณิตฺวา ปกฺกมึสุ. สปฺโป เตสํ คตกาเล นิกฺขมิตฺวา ‘‘อหํ โกธํ นิสฺสาย อิมํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา มหาชนสฺส หทเย โสกํ ปเวเสสึ, น ทานิ อิมํ โกธํ อนิคฺคเหตฺวา โคจราย ปกฺกมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิวตฺติตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา โกธนิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

สิงฺคาโลปิ โคจรํ ปริเยสนฺโต เอกํ มตหตฺถึ ทิสฺวา ‘‘มหา เม โคจโร ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺโ คนฺตฺวา โสณฺฑายํ ฑํสิ, ถมฺเภ ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. ตตฺถ อสฺสาทํ อลภิตฺวา ทนฺเต ฑํสิ, ปาสาเณ ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. กุจฺฉิยํ ฑํสิ, กุสุเล ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. นงฺคุฏฺเ ฑํสิ, อยสลาเก ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. วจฺจมคฺเค ฑํสิ, ฆตปูเว ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. โส โลภวเสน ขาทนฺโต อนฺโตกุจฺฉิยํ ปาวิสิ, ตตฺถ ฉาตกาเล มํสํ ขาทติ, ปิปาสิตกาเล โลหิตํ ปิวติ, นิปชฺชนกาเล อนฺตานิ จ ปปฺผาสฺจ อวตฺถริตฺวา นิปชฺชิ. โส ‘‘อิเธว เม อนฺนปานฺจ สยนฺจ นิปฺผนฺนํ, อฺตฺถ กึ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺเถว อภิรโต พหิ อนิกฺขมิตฺวา อนฺโตกุจฺฉิยํเยว วสิ. อปรภาเค วาตาตเปน หตฺถิกุณเป สุกฺขนฺเต กรีสมคฺโค ปิหิโต, สิงฺคาโล อนฺโตกุจฺฉิยํ นิปชฺชมาโน อปฺปมํสโลหิโต ปณฺฑุสรีโร หุตฺวา นิกฺขมนมคฺคํ น ปสฺสิ. อเถกทิวสํ อกาลเมโฆ วสฺสิ, กรีสมคฺโค เตมิยมาโน มุทุ หุตฺวา วิวรํ ทสฺเสสิ. สิงฺคาโล ฉิทฺทํ ทิสฺวา ‘‘อติจิรมฺหิ กิลนฺโต, อิมินา ฉิทฺเทน ปลายิสฺสามี’’ติ กรีสมคฺคํ สีเสน ปหริ. ตสฺส สมฺพาธฏฺาเนน เวเคน นิกฺขนฺตสฺส สินฺนสรีรสฺส สพฺพานิ โลมานิ กรีสมคฺเค ลคฺคานิ, ตาลกนฺโท วิย นิลฺโลมสรีโร หุตฺวา นิกฺขมิ. โส ‘‘โลภํ นิสฺสาย มยา อิทํ ทุกฺขํ อนุภูตํ, น ทานิ อิมํ อนิคฺคเหตฺวา โคจรํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา โลภนิคฺคหตฺถาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

อจฺโฉปิ อรฺา นิกฺขมิตฺวา อตฺริจฺฉาภิภูโต มลฺลรฏฺเ ปจฺจนฺตคามํ คโต. คามวาสิโน ‘‘อจฺโฉ กิร อาคโต’’ติ ธนุทณฺฑาทิหตฺถา นิกฺขมิตฺวา เตน ปวิฏฺํ คุมฺพํ ปริวาเรสุํ. โส มหาชเนน ปริวาริตภาวํ ตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปลายิ, ปลายนฺตเมว ตํ ธนูหิ เจว ทณฺฑาทีหิ จ โปเถสุํ. โส ภินฺเนน สีเสน โลหิเตน คลนฺเตน อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘อิทํ ทุกฺขํ มม อตฺริจฺฉาโลภวเสน อุปฺปนฺนํ, น ทานิ อิมํ อนิคฺคเหตฺวา โคจรํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา อตฺริจฺฉานิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

ตาปโสปิ อตฺตโน ชาตึ นิสฺสาย มานวสิโก หุตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทตุํ น สกฺโกติ. อเถโก ปจฺเจกพุทฺโธ ตสฺส มานนิสฺสิตภาวํ ตฺวา ‘‘อยํ น ลามกสตฺโต, พุทฺธงฺกุโร เอส, อิมสฺมึเยว ภทฺทกปฺเป สพฺพฺุตํ ปาปุณิสฺสติ, อิมสฺส มานนิคฺคหํ กตฺวา สมาปตฺตินิพฺพตฺตนาการํ กริสฺสามี’’ติ ตสฺมึ ปณฺณสาลาย นิสินฺเนเยว อุตฺตรหิมวนฺตโต อาคนฺตฺวา ตสฺส ปาสาณผลเก นิสีทิ. โส นิกฺขมิตฺวา ตํ อตฺตโน อาสเน นิสินฺนํ ทิสฺวา มานนิสฺสิตภาเวน อนตฺตมโน หุตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา อจฺฉรํ ปหริตฺวา ‘‘นสฺส, วสล, กาฬกณฺณิ, มุณฺฑก, สมณก, กิมตฺถํ มม นิสินฺนผลเก นิสินฺโนสี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘สปฺปุริส, กสฺมา มานนิสฺสิโตสิ, อหํ ปฏิวิทฺธปจฺเจกโพธิาโณ, ตฺวํ อิมสฺมึเยว ภทฺทกปฺเป สพฺพฺุพุทฺโธ ภวิสฺสสิ, พุทฺธงฺกุโรสิ, ปารมิโย ปูเรตฺวา อาคโต อฺํ เอตฺตกํ นาม กาลํ อติกฺกมิตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสสิ, พุทฺธตฺตภาเว ิโต สิทฺธตฺโถ นาม ภวิสฺสสี’’ติ นามฺจ โคตฺตฺจ กุลฺจ อคฺคสาวกาทโย จ สพฺเพ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘กิมตฺถํ ตฺวํ มานนิสฺสิโต หุตฺวา ผรุโส โหสิ, นยิทํ ตว อนุจฺฉวิก’’นฺติ โอวาทมทาสิ. โส เตน เอวํ วุตฺโตปิ เนว นํ วนฺทิ, น จ ‘‘กทาหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติอาทีนิ ปุจฺฉิ. อถ นํ ปจฺเจกพุทฺโธ ‘‘ตว ชาติยา มม คุณานํ มหนฺตภาวํ ชาน, สเจ สกฺโกสิ, อหํ วิย อากาเส วิจราหี’’ติ วตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา อตฺตโน ปาทปํสุํ ตสฺส ชฏามณฺฑเล วิกิรนฺโต อุตฺตรหิมวนฺตเมว คโต.

ตาปโส ตสฺส คตกาเล สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อยํ สมโณ เอวํ ครุสรีโร วาตมุเข ขิตฺตตูลปิจุ วิย อากาเส ปกฺขนฺโท, อหํ ชาติมาเนน เอวรูปสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส เนว ปาเท วนฺทึ, น จ ‘‘กทาหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามี’ติ ปุจฺฉึ, ชาติ นาเมสา กึ กริสฺสติ, อิมสฺมึ โลเก สีลจรณเมว มหนฺตํ, อยํ โข ปน เม มาโน วฑฺฒนฺโต นิรยํ อุปเนสฺสติ, น อิทานิ อิมํ มานํ อนิคฺคเหตฺวา ผลาผลตฺถาย คมิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา มานนิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทาย กฏฺตฺถริกาย นิสินฺโน มหาาโณ กุลปุตฺโต มานํ นิคฺคเหตฺวา กสิณํ วฑฺเฒตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา นิกฺขมิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ปาสาณผลเก นิสีทิ. อถ นํ กโปตาทโย อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. มหาสตฺโต กโปตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ อฺเสุ ทิวเสสุ น อิมาย เวลาย อาคจฺฉสิ, โคจรํ ปริเยสสิ, กึ นุ โข อชฺช อุโปสถิโก ชาโตสี’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. อถ นํ ‘‘เกน การเณนา’’ติ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ตุวํ กโปต, วิหงฺคม น ตว โภชนตฺโถ;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก กโปตา’’ติ.

ตตฺถ อปฺโปสฺสุกฺโกติ นิราลโย. น ตว โภชนตฺโถติ กึ อชฺช ตว โภชเนน อตฺโถ นตฺถิ.

ตํ สุตฺวา กโปโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๘.

‘‘อหํ ปุเร คิทฺธิคโต กโปติยา, อสฺมึ ปเทสสฺมิมุโภ รมาม;

อถคฺคหี สากุณิโก กโปตึ, อกามโก ตาย วินา อโหสึ.

๑๒๙.

‘‘นานาภวา วิปฺปโยเคน ตสฺสา, มโนมยํ เวทน เวทยามิ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, ราโค มมํ มา ปุนราคมาสี’’ติ.

ตตฺถ รมามาติ อิมสฺมึ ภูมิภาเค กามรติยา รมาม. สากุณิโกติ เสนสกุโณ.

กโปเตน อตฺตโน อุโปสถกมฺเม วณฺณิเต มหาสตฺโต สปฺปาทีสุ เอเกกํ ปุจฺฉิ. เตปิ ยถาภูตํ พฺยากรึสุ –

๑๓๐.

‘‘อนุชฺชุคามี อุรคา ทุชิวฺห, ทาาวุโธ โฆรวิโสสิ สปฺป;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก นุ ทีฆ.

๑๓๑.

‘‘อุสโภ อหู พลวา คามิกสฺส, จลกฺกกู วณฺณพลูปปนฺโน;

โส มํ อกฺกมิ ตํ กุปิโต อฑํสึ, ทุกฺขาภิตุณฺโณ มรณํ อุปาคา.

๑๓๒.

‘‘ตโต ชนา นิกฺขมิตฺวาน คามา, กนฺทิตฺวา โรทิตฺวา อปกฺกมึสุ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, โกโธ มมํ มา ปุนราคมาสิ.

๑๓๓.

‘‘มตาน มํสานิ พหู สุสาเน, มนุฺรูปํ ตว โภชเน ตํ;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก สิงฺคาล.

๑๓๔.

‘‘ปวิสิ กุจฺฉึ มหโต คชสฺส, กุณเป รโต หตฺถิมํเสสุ คิทฺโธ;

อุณฺโห จ วาโต ติขิณา จ รสฺมิโย, เต โสสยุํ ตสฺส กรีสมคฺคํ.

๑๓๕.

‘‘กิโส จ ปณฺฑู จ อหํ ภทนฺเต, น เม อหู นิกฺขมนาย มคฺโค;

มหา จ เมโฆ สหสา ปวสฺสิ, โส เตมยี ตสฺส กรีสมคฺคํ.

๑๓๖.

‘‘ตโต อหํ นิกฺขมิสํ ภทนฺเต, จนฺโท ยถา ราหุมุขา ปมุตฺโต;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, โลโภ มมํ มา ปุนราคมาสิ.

๑๓๗.

‘‘วมฺมีกถูปสฺมึ กิปิลฺลิกานิ, นิปฺโปถยนฺโต ตุวํ ปุเร จราสิ;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก นุ อจฺฉ.

๑๓๘.

‘‘สกํ นิเกตํ อติหีฬยาโน, อตฺริจฺฉตา มลฺลคามํ อคจฺฉึ;

ตโต ชนา นิกฺขมิตฺวาน คามา, โกทณฺฑเกน ปริโปถยึสุ มํ.

๑๓๙.

‘‘โส ภินฺนสีโส รุหิรมกฺขิตงฺโค, ปจฺจาคมาสึ สกํ นิเกตํ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, อตฺริจฺฉตา มา ปุนราคมาสี’’ติ.

ตตฺถ อนุชฺชุคามีติอาทีหิ ตํ อาลปติ. จลกฺกกูติ จลมานกกุโธ. ทุกฺขาภิตุณฺโณติ โส อุสโภ ทุกฺเขน อภิตุณฺโณ อาตุโร หุตฺวา. พหูติ พหูนิ. ปวิสีติ ปาวิสึ. รสฺมิโยติ สูริยรสฺมิโย. นิกฺขมิสนฺติ นิกฺขมึ. กิปิลฺลิกานีติ อุปจิกาโย. นิปฺโปถยนฺโตติ ขาทมาโน. อติหีฬยาโนติ อติมฺนฺโต นินฺทนฺโต ครหนฺโต. โกทณฺฑเกนาติ ธนุทณฺฑเกหิ เจว มุคฺคเรหิ จ.

เอวํ เต จตฺตาโรปิ อตฺตโน อุโปสถกมฺมํ วณฺเณตฺวา อุฏฺาย มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห อฺเสุ ทิวเสสุ อิมาย เวลาย ผลาผลตฺถาย คจฺฉถ, อชฺช อคนฺตฺวา กสฺมา อุโปสถิกตฺถา’’ติ ปุจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –

๑๔๐.

‘‘ยํ โน อปุจฺฉิตฺถ ตุวํ ภทนฺเต, สพฺเพว พฺยากริมฺห ยถาปชานํ;

มยมฺปิ ปุจฺฉาม ตุวํ ภทนฺเต, กสฺมา ภวํโปสถิโก นุ พฺรหฺเม’’ติ.

โสปิ เนสํ พฺยากาสิ –

๑๔๑.

‘‘อนูปลิตฺโต มม อสฺสมมฺหิ, ปจฺเจกพุทฺโธ มุหุตฺตํ นิสีทิ;

โส มํ อเวที คติมาคติฺจ, นามฺจ โคตฺตํ จรณฺจ สพฺพํ.

๑๔๒.

‘‘เอวมฺปหํ น วนฺทิ ตสฺส ปาเท, น จาปิ นํ มานคเตน ปุจฺฉึ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, มาโน มมํ มา ปุนราคมาสี’’ติ.

ตตฺถ ยํ โนติ ยํ อตฺถํ ตฺวํ อมฺเห อปุจฺฉิ. ยถาปชานนฺติ อตฺตโน ปชานนนิยาเมน ตํ มยํ พฺยากริมฺห. อนูปลิตฺโตติ สพฺพกิเลเสหิ อลิตฺโต. โส มํ อเวทีติ โส มม อิทานิ คนฺตพฺพฏฺานฺจ คตฏฺานฺจ ‘‘อนาคเต ตฺวํ เอวํนาโม พุทฺโธ ภวิสฺสสิ เอวํโคตฺโต, เอวรูปํ เต สีลจรณํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ นามฺจ โคตฺตฺจ จรณฺจ สพฺพํ มํ อเวทิ ชานาเปสิ, กเถสีติ อตฺโถ. เอวมฺปหํ น วนฺทีติ เอวํ กเถนฺตสฺสปิ ตสฺส อหํ อตฺตโน มานํ นิสฺสาย ปาเท น วนฺทินฺติ.

เอวํ มหาสตฺโต อตฺตโน อุโปสถการณํ กเถตฺวา เต โอวทิตฺวา อุยฺโยเชตฺวา ปณฺณสาลํ ปาวิสิ, อิตเรปิ ยถาฏฺานานิ อคมํสุ. มหาสตฺโต อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ, อิตเร จ ตสฺโสวาเท ตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ อุปาสกา, อุโปสโถ นาเมส โปราณกปณฺฑิตานํ วํโส, อุปวสิตพฺโพ อุโปสถวาโส’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กโปโต อนุรุทฺโธ อโหสิ, อจฺโฉ กสฺสโป, สิงฺคาโล โมคฺคลฺลาโน, สปฺโป สาริปุตฺโต, ตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ปฺจุโปสถชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๔๙๑] ๘. มหาโมรชาตกวณฺณนา

สเจ หิ ตฺยาหํ ธนเหตุ คาหิโตติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ตฺหิ ภิกฺขุํ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ อยํ นนฺทีราโค ตาทิสํ กึ นาม นาโลเลสฺสติ, น หิ สิเนรุอุพฺพาหนกวาโต สามนฺเต ปุราณปณฺณสฺส ลชฺชติ, ปุพฺเพ สตฺต วสฺสสตานิ อนฺโตกิเลสสมุทาจารํ วาเรตฺวา วิหรนฺเต วิสุทฺธสตฺเตเปส อาโลเลสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ปจฺจนฺตปเทเส โมรสกุณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. คพฺเภ ปริปากคเต มาตา โคจรภูมิยํ อณฺฑํ ปาเตตฺวา ปกฺกามิ. อณฺฑฺจ นาม มาตุ อโรคภาเว สติ อฺสฺมึ ทีฆชาติกาทิปริปนฺเถ จ อวิชฺชมาเน น นสฺสติ. ตสฺมา ตํ อณฺฑํ กณิการมกุลํ วิย สุวณฺณวณฺณํ หุตฺวา ปริณตกาเล อตฺตโน ธมฺมตาย ภิชฺชิ, สุวณฺณวณฺโณ โมรจฺฉาโป นิกฺขมิ. ตสฺส ทฺเว อกฺขีนิ ชิฺชุกาผลสทิสานิ, ตุณฺฑํ ปวาฬวณฺณํ, ติสฺโส รตฺตราชิโย คีวํ ปริกฺขิปิตฺวา ปิฏฺิมชฺเฌน อคมํสุ. โส วยปฺปตฺโต ภณฺฑสกฏมตฺตสรีโร อภิรูโป อโหสิ. ตํ สพฺเพ นีลโมรา สนฺนิปติตฺวา ราชานํ กตฺวา ปริวารยึสุ.

โส เอกทิวสํ อุทกโสณฺฑิยํ ปานียํ ปิวนฺโต อตฺตโน รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อหํ สพฺพโมเรหิ อติเรกรูปโสโภ, สจาหํ อิเมหิ สทฺธึ มนุสฺสปเถ วสิสฺสามิ, ปริปนฺโถ เม อุปฺปชฺชิสฺสติ, หิมวนฺตํ คนฺตฺวา เอกโกว ผาสุกฏฺาเน วสิสฺสามี’’ติ. โส รตฺติภาเค โมเรสุ ปฏิสลฺลีเนสุ กฺจิ อชานาเปตฺวา อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ติสฺโส ปพฺพตราชิโย อติกฺกมฺม จตุตฺถาย ปพฺพตราชิยา เอกสฺมึ อรฺเ ปทุมสฺฉนฺโน ชาตสฺสโร อตฺถิ, ตสฺส อวิทูเร เอกํ ปพฺพตํ นิสฺสาย ิโต มหานิคฺโรธรุกฺโข อตฺถิ, ตสฺส สาขาย นิลียิ. ตสฺส ปน ปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ มนาปา คุหา อตฺถิ. โส ตตฺถ วสิตุกาโม หุตฺวา ตสฺสา ปมุเข ปพฺพตตเล นิลียิ. ตํ ปน านํ เนว เหฏฺาภาเคน อภิรุหิตุํ, น อุปริภาเคน โอตริตุํ สกฺกา, พิฬาลทีฆชาติกมนุสฺสภเยหิ วิมุตฺตํ. โส ‘‘อิทํ เม ผาสุกฏฺาน’’นฺติ ตํ ทิวสํ ตตฺเถว วสิตฺวา ปุนทิวเส ปพฺพตคุหาโต อุฏฺาย ปพฺพตมตฺถเก ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน อุเทนฺตํ สูริยมณฺฑลํ ทิสฺวา อตฺตโน ทิวารกฺขาวรณตฺถาย ‘‘อุเทตยํ จกฺขุมา เอกราชา’’ติ ปริตฺตํ กตฺวา โคจรภูมิยํ โอตริตฺวา โคจรํ คเหตฺวา สายํ อาคนฺตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ปจฺฉาภิมุโข นิสินฺโน อตฺถงฺคตํ สูริยมณฺฑลํ ทิสฺวา อตฺตโน รตฺติรกฺขาวรณตฺถาย ‘‘อเปตยํ จกฺขุมา เอกราชา’’ติ ปริตฺตํ กตฺวา เอเตนุปาเยน วสติ.

อถ นํ เอกทิวสํ เอโก ลุทฺทปุตฺโต อรฺเ วิจรนฺโต ปพฺพตมตฺถเก นิสินฺนํ โมรํ ทิสฺวา อตฺตโน นิเวสนํ อาคนฺตฺวา มรณาสนฺนกาเล ปุตฺตํ อาห – ‘‘ตาต, จตุตฺถาย ปพฺพตราชิยา อรฺเ สุวณฺณวณฺโณ โมโร อตฺถิ, สเจ ราชา ปุจฺฉติ, อาจิกฺเขยฺยาสี’’ติ. อเถกสฺมึ ทิวเส พาราณสิรฺโ เขมา นาม อคฺคมเหสี ปจฺจูสกาเล สุปินํ ปสฺสิ. เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – ‘‘สุวณฺณวณฺโณ โมโร ธมฺมํ เทเสติ, สา สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ สุณาติ, โมโร ธมฺมํ เทเสตฺวา อุฏฺาย ปกฺกามิ’’. สา ‘‘โมรราชา คจฺฉติ, คณฺหถ น’’นฺติ วทนฺตีเยว ปพุชฺฌิ, ปพุชฺฌิตฺวา จ ปน สุปินภาวํ ตฺวา ‘‘สุปิโนติ วุตฺเต ราชา น อาทรํ กริสฺสติ, ‘โทหโฬ เม’ติ วุตฺเต กริสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา โทหฬินี วิย หุตฺวา นิปชฺชิ. อถ นํ ราชา อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ภทฺเท, กึ เต อผาสุก’’นฺติ. ‘‘โทหโฬ เม อุปฺปนฺโน’’ติ. ‘‘กึ อิจฺฉสิ ภทฺเท’’ติ? ‘‘สุวณฺณวณฺณสฺส โมรสฺส ธมฺมํ โสตุํ เทวา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, กุโต เอวรูปํ โมรํ ลจฺฉามี’’ติ? ‘‘เทว, สเจ น ลภามิ, ชีวิตํ เม นตฺถี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, มา จินฺตยิ, สเจ กตฺถจิ อตฺถิ, ลภิสฺสสี’’ติ ราชา นํ อสฺสาเสตฺวา คนฺตฺวา ราชาสเน นิสินฺโน อมจฺเจ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺโภ, เทวี สุวณฺณวณฺณสฺส โมรสฺส ธมฺมํ โสตุกามา, โมรา นาม สุวณฺณวณฺณา โหนฺตี’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา ชานิสฺสนฺติ เทวา’’ติ.

ราชา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ ‘‘มหาราช ชลเชสุ มจฺฉกจฺฉปกกฺกฏกา, ถลเชสุ มิคา หํสา โมรา ติตฺติรา เอเต ติรจฺฉานคตา จ มนุสฺสา จ สุวณฺณวณฺณา โหนฺตีติ อมฺหากํ ลกฺขณมนฺเตสุ อาคต’’นฺติ. ราชา อตฺตโน วิชิเต ลุทฺทปุตฺเต สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺโณ โมโร โว ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิ. เสสา ‘‘น ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ อาหํสุ. ยสฺส ปน ปิตรา อาจิกฺขิตํ, โส อาห – ‘‘มยาปิ น ทิฏฺปุพฺโพ, ปิตา ปน เม ‘อสุกฏฺาเน นาม สุวณฺณวณฺโณ โมโร อตฺถี’ติ กเถสี’’ติ. อถ นํ ราชา ‘‘สมฺม, มยฺหฺจ เทวิยา จ ชีวิตํ ทินฺนํ ภวิสฺสติ, คนฺตฺวา ตํ พนฺธิตฺวา อาเนหี’’ติ พหุํ ธนํ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ปุตฺตทารสฺส ธนํ ทตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ ทิสฺวา ปาเส โอฑฺเฑตฺวา ‘‘อชฺช พชฺฌิสฺสติ, อชฺช พชฺฌิสฺสตี’’ติ อพชฺฌิตฺวาว มโต, เทวีปิ ปตฺถนํ อลภนฺตี มตา. ราชา ‘‘ตํ โมรํ นิสฺสาย ปิยภริยา เม มตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา โกธวสิโก หุตฺวา ‘‘หิมวนฺเต จตุตฺถาย ปพฺพตราชิยา สุวณฺณวณฺโณ โมโร จรติ, ตสฺส มํสํ ขาทิตฺวา อชรา อมรา โหนฺตี’’ติ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขาเปตฺวา ตํ ปฏฺฏํ สารมฺชูสายํ เปตฺวา กาลมกาสิ.

อถ อฺโ ราชา อโหสิ. โส สุวณฺณปฏฺเฏ อกฺขรานิ ทิสฺวา ‘‘อชโร อมโร ภวิสฺสามี’’ติ ตสฺส คหณตฺถาย เอกํ ลุทฺทปุตฺตํ เปเสสิ. โสปิ ตตฺเถว มโต. เอวํ ฉ ราชปริวฏฺฏา คตา, ฉ ลุทฺทปุตฺตา หิมวนฺเตเยว มตา. สตฺตเมน ปน รฺา เปสิโต สตฺตโม ลุทฺโท ‘‘อชฺช อชฺเชวา’’ติ สตฺต สํวจฺฉรานิ พชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ ‘‘กึ นุ โข อิมสฺส โมรราชสฺส ปาเท ปาสสฺส อสฺจรณการณ’’นฺติ? อถ นํ ปริคฺคณฺหนฺโต สายํปาตํ ปริตฺตํ กโรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน อฺโ โมโร นตฺถิ, อิมินา พฺรหฺมจารินา ภวิตพฺพํ, พฺรหฺมจริยานุภาเวน เจว ปริตฺตานุภาเวน จสฺส ปาโท ปาเส น พชฺฌตี’’ติ นยโต ปริคฺคเหตฺวา ปจฺจนฺตชนปทํ คนฺตฺวา เอกํ โมรึ พนฺธิตฺวา ยถา สา อจฺฉราย ปหฏาย วสฺสติ, ปาณิมฺหิ ปหเฏ นจฺจติ, เอวํ สิกฺขาเปตฺวา อาทาย คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ปริตฺตกรณโต ปุเรตรเมว ปาสํ โอฑฺเฑตฺวา อจฺฉรํ ปหริตฺวา โมรึ วสฺสาเปสิ. โมโร ตสฺสา สทฺทํ สุณิ, ตาวเทวสฺส สตฺต วสฺสสตานิ สนฺนิสินฺนกิเลโส ผณํ กริตฺวา ทณฺเฑน ปหฏาสีวิโส วิย อุฏฺหิ. โส กิเลสาตุโร หุตฺวา ปริตฺตํ กาตุํ อสกฺกุณิตฺวาว เวเคน ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา ปาเส ปาทํ ปเวเสนฺโตเยว อากาสา โอตริ. สตฺต วสฺสสตานิ อสฺจรณกปาโส ตงฺขณฺเว สฺจริตฺวา ปาทํ พนฺธิ.

อถ นํ ลุทฺทปุตฺโต ยฏฺิอคฺเค โอลมฺพนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิมํ โมรราชํ ฉ ลุทฺทปุตฺตา พนฺธิตุํ นาสกฺขึสุ, อหมฺปิ สตฺต วสฺสานิ นาสกฺขึ, อชฺช ปเนส อิมํ โมรึ นิสฺสาย กิเลสาตุโร หุตฺวา ปริตฺตํ กาตุํ อสกฺกุณิตฺวา อาคมฺม ปาเส พทฺโธ เหฏฺาสีสโก โอลมฺพติ, เอวรูโป เม สีลวา กิลมิโต, เอวรูปํ รฺโ ปณฺณาการตฺถาย เนตุํ อยุตฺตํ, กึ เม รฺา ทินฺเนน สกฺกาเรน, วิสฺสชฺเชสฺสามิ น’’นฺติ. ปุน จินฺเตสิ ‘‘อยํ นาคพโล ถามสมฺปนฺโน มยิ อุปสงฺกมนฺเต ‘เอส มํ มาเรตุํ อาคจฺฉตี’ติ มรณภยตชฺชิโต ผนฺทมาโน ปาทํ วา ปกฺขํ วา ภินฺเทยฺย, อนุปคนฺตฺวา ปน ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา ขุรปฺเปนสฺส ปาสํ ฉินฺทิสฺสามิ, ตโต สยเมว ยถารุจิยา คมิสฺสตี’’ติ. โส ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา ธนุํ อาโรเปตฺวา ขุรปฺปํ สนฺนยฺหิตฺวา อากฑฺฒิ. โมโรปิ ‘‘อยํ ลุทฺทโก มํ กิเลสาตุรํ กตฺวา พทฺธภาวํ ตฺวา นิราสงฺโก อาคจฺฉิสฺสติ, กหํ นุ โข โส’’ติ จินฺเตตฺวา อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ธนุํ อาโรเปตฺวา ิตํ ทิสฺวา ‘‘มาเรตฺวา มํ อาทาย คนฺตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน มรณภยตชฺชิโต หุตฺวา ชีวิตํ ยาจนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๔๓.

‘‘สเจ หิ ตฺยาหํ ธนเหตุ คาหิโต, มา มํ วธี ชีวคาหํ คเหตฺวา;

รฺโ จ มํ สมฺม อุปนฺติกํ เนหิ, มฺเ ธนํ ลจฺฉสินปฺปรูป’’นฺติ.

ตตฺถ สเจ หิ ตฺยาหนฺติ สเจ หิ เต อหํ. อุปนฺติกํ เนหีติ อุปสนฺติกํ เนหิ. ลจฺฉสินปฺปรูปนฺติ ลจฺฉสิ อนปฺปกรูปํ.

ตํ สุตฺวา ลุทฺทปุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘โมรราชา, ‘อยํ มํ วิชฺฌิตุกามตาย ขุรปฺปํ สนฺนยฺหี’ติ มฺติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ. โส อสฺสาเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๑๔๔.

‘‘น เม อยํ ตุยฺห วธาย อชฺช, สมาหิโต จาปธุเร ขุรปฺโป;

ปาสฺจ ตฺยาหํ อธิปาตยิสฺสํ, ยถาสุขํ คจฺฉตุ โมรราชา’’ติ.

ตตฺถ อธิปาตยิสฺสนฺติ ฉินฺทยิสฺสํ.

ตโต โมรราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๔๕.

‘‘ยํ สตฺต วสฺสานิ มมานุพนฺธิ, รตฺตินฺทิวํ ขุปฺปิปาสํ สหนฺโต;

อถ กิสฺส มํ ปาสวสูปนีตํ, ปมุตฺตเว อิจฺฉสิ พนฺธนสฺมา.

๑๔๖.

‘‘ปาณาติปาตา วิรโต นุสชฺช, อภยํ นุ เต สพฺพภูเตสุ ทินฺนํ;

ยํ มํ ตุวํ ปาสวสูปนีตํ, ปมุตฺตเว อิจฺฉสิ พนฺธนสฺมา’’ติ.

ตตฺถ นฺติ ยสฺมา มํ เอตฺตกํ กาลํ ตฺวํ อนุพนฺธิ, ตสฺมา ตํ ปุจฺฉามิ, อถ กิสฺส มํ ปาสวสํ อุปนีตํ พนฺธนสฺมา ปโมเจตุํ อิจฺฉสีติ อตฺโถ. วิรโต นุสชฺชาติ วิรโต นุสิ อชฺช. สพฺพภูเตสูติ สพฺพสตฺตานํ.

อิโต ปรํ –

๑๔๗.

‘‘ปาณาติปาตา วิรตสฺส พฺรูหิ, อภยฺจ โย สพฺพภูเตสุ เทติ;

ปุจฺฉามิ ตํ โมรราเชตมตฺถํ, อิโต จุโต กึ ลภเต สุขํ โส.

๑๔๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรตสฺส พฺรูมิ, อภยฺจ โย สพฺพภูเตสุ เทติ;

ทิฏฺเว ธมฺเม ลภเต ปสํสํ, สคฺคฺจ โส ยาติ สรีรเภทา.

๑๔๙.

‘‘น สนฺติ เทวา อิติ อาหุ เอเก, อิเธว ชีโว วิภวํ อุเปติ;

ตถา ผลํ สุกตทุกฺกฏานํ, ทตฺตุปฺตฺตฺจ วทนฺติ ทานํ;

เตสํ วโจ อรหตํ สทฺทหาโน, ตสฺมา อหํ สกุเณ พาธยามี’’ติ. –

อิมา อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยน เวทิตพฺพา.

ตตฺถ อิติ อาหุ เอเกติ เอกจฺเจ สมณพฺราหฺมณา เอวํ กเถนฺติ. เตสํ วโจ อรหตํ สทฺทหาโนติ ตสฺส กิร กุลูปกา อุจฺเฉทวาทิโน นคฺคสมณกา. เต ตํ ปจฺเจกโพธิาณสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนมฺปิ สตฺตํ อุจฺเฉทวาทํ คณฺหาเปสุํ. โส เตหิ สํสคฺเคน ‘‘กุสลากุสลํ นตฺถี’’ติ คเหตฺวา สกุเณ มาเรติ. เอวํ มหาสาวชฺชา เอสา อสปฺปุริสเสวนา นาม. เตเยว อยํ ‘‘อรหนฺโต’’ติ มฺมาโน เอวมาห.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘ตสฺเสว ปรโลกสฺส อตฺถิภาวํ กเถสฺสามี’’ติ ปาสยฏฺิยํ อโธสิโร โอลมฺพมาโนว อิมํ คาถมาห –

๑๕๐.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา, คจฺฉนฺติ โอภาสยมนฺตลิกฺเข;

อิมสฺส โลกสฺส ปรสฺส วา เต, กถํ นุ เต อาหุ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ อิมสฺสาติ กึ นุ เต อิมสฺส โลกสฺส สนฺติ, อุทาหุ ปรโลกสฺสาติ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ สามิวจนํ. กถํ นุ เตติ เอเตสุ วิมาเนสุ จนฺทิมสูริยเทวปุตฺเต กถํ นุ กเถนฺติ, กึ อตฺถีติ กเถนฺติ, อุทาหุ นตฺถีติ, กึ วา เทวา, อุทาหุ มนุสฺสาติ?

ลุทฺทปุตฺโต คาถมาห –

๑๕๑.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา, คจฺฉนฺติ โอภาสยมนฺตลิกฺเข;

ปรสฺส โลกสฺส น เต อิมสฺส, เทวาติ เต อาหุ มนุสฺสโลเก’’ติ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๑๕๒.

‘‘เอตฺเถว เต นีหตา หีนวาทา, อเหตุกา เย น วทนฺติ กมฺมํ;

ตถา ผลํ สุกตทุกฺกฏานํ, ทตฺตุปฺตฺตํ เย จ วทนฺติ ทาน’’นฺติ.

ตตฺถ เอตฺเถว เต นิหตา หีนวาทาติ สเจ จนฺทิมสูริยา เทวโลเก ิตา, น มนุสฺสโลเก, สเจ จ เต เทวา, น มนุสฺสา, เอตฺเถว เอตฺตเก พฺยากรเณ เต ตว กุลูปกา หีนวาทา นีหตา โหนฺติ. อเหตุกา ‘‘วิสุทฺธิยา วา สํกิเลสสฺส วา เหตุภูตํ กมฺมํ นตฺถี’’ติ เอวํวาทา. ทตฺตุปฺตฺตนฺติ เย จ ทานํ ‘‘พาลเกหิ ปฺตฺต’’นฺติ วทนฺติ.

โส มหาสตฺเต กเถนฺเต สลฺลกฺเขตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๑๕๓.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ วจนํ ตเวทํ, กถฺหิ ทานํ อผลํ ภเวยฺย;

ตถา ผลํ สุกตทุกฺกฏานํ, ทตฺตุปฺตฺตฺจ กถํ ภเวยฺย.

๑๕๔.

‘‘กถํกโร กินฺติกโร กิมาจรํ, กึ เสวมาโน เกน ตโปคุเณน;

อกฺขาหิ เม โมรราเชตมตฺถํ, ยถา อหํ โน นิรยํ ปเตยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ ทตฺตุปฺตฺตฺจาติ ทานฺจ ทตฺตุปฺตฺตํ นาม กถํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. กถํกโรติ กตรกมฺมํ กโรนฺโต. กินฺติกโรติ เกน การเณน กโรนฺโต อหํ นิรยํ น คจฺเฉยฺยํ. อิตรานิ ตสฺเสว เววจนานิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ อิมํ ปฺหํ น กเถสฺสามิ, มนุสฺสโลโก ตุจฺโฉ วิย กโต ภวิสฺสติ, ตเถวสฺส ธมฺมิกานํ สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถิภาวํ กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๕๕.

‘‘เย เกจิ อตฺถิ สมณา ปถพฺยา, กาสายวตฺถา อนคาริยา เต;

ปาโตว ปิณฺฑาย จรนฺติ กาเล, วิกาลจริยา วิรตา หิ สนฺโต.

๑๕๖.

‘‘เต ตตฺถ กาเลนุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉาหิ ยํ เต มนโส ปิยํ สิยา;

เต เต ปวกฺขนฺติ ยถาปชานํ, อิมสฺส โลกสฺส ปรสฺส จตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ สนฺโตติ สนฺตปาปา ปณฺฑิตา ปจฺเจกพุทฺธา. ยถาปชานนฺติ เต ตุยฺหํ อตฺตโน ปชานนนิยาเมน วกฺขนฺติ, กงฺขํ เต ฉินฺทิตฺวา กเถสฺสนฺติ. อิมสฺส โลกสฺส ปรสฺส จตฺถนฺติ อิมินา นาม กมฺเมน มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, อิมินา เทวโลเก, อิมินา นิรยาทีสูติ เอวํ อิมสฺส จ ปรสฺส จ โลกสฺส อตฺถํ อาจิกฺขิสฺสนฺติ, เต ปุจฺฉาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา นิรยภเยน ตชฺเชสิ. โส ปน ปูริตปารมี ปจฺเจกโพธิสตฺโต สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ โอโลเกตฺวา ิตํ ปริณตปทุมํ วิย ปริปากคตาโณ วิจรติ. โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุณนฺโต ิตปเทเนว ิโต สงฺขาเร ปริคฺคณฺหิตฺวา ติลกฺขณํ สมฺมสนฺโต ปจฺเจกโพธิาณํ ปฏิวิชฺฌิ. ตสฺส ปฏิเวโธ จ มหาสตฺตสฺส ปาสโต โมกฺโข จ เอกกฺขเณเยว อโหสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ สพฺพกิเลเส ปทาเลตฺวา ภวปริยนฺเต ิโตว อุทานํ อุทานนฺโต คาถมาห –

๑๕๗.

‘‘ตจํว ชิณฺณํ อุรโค ปุราณํ, ปณฺฑูปลาสํ หริโต ทุโมว;

เอสปฺปหีโน มม ลุทฺทภาโว, ชหามหํ ลุทฺทกภาวมชฺชา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยถา ชิณฺณํ ปุราณํ ตจํ อุรโค ชหติ, ยถา จ หริโต สมฺปชฺชมานนีลปตฺโต ทุโม กตฺถจิ ิตํ ปณฺฑุปลาสํ ชหติ, เอวํ อหมฺปิ อชฺช ลุทฺทภาวํ ทารุณภาวํ ชหิตฺวา ิโต, โส ทานิ เอส ปหีโน มม ลุทฺทภาโว, สาธุ วต ชหามหํ ลุทฺทกภาวมชฺชาติ. ชหามหนฺติ ปชหึ อหนฺติ อตฺโถ.

โส อิมํ อุทานํ อุทาเนตฺวา ‘‘อหํ ตาว สพฺพกิเลสพนฺธเนหิ มุตฺโต, นิเวสเน ปน เม พนฺธิตฺวา ปิตา พหู สกุณา อตฺถิ, เต กถํ โมเจสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตํ ปุจฺฉิ – ‘‘โมรราช, นิเวสเน เม พหู สกุณา พทฺธา อตฺถิ, เต กถํ โมเจสฺสามี’’ติ? ปจฺเจกพุทฺธโตปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตานฺเว อุปายปริคฺคหาณํ มหนฺตตรํ โหติ, เตน นํ อาห ‘‘ยํ โว มคฺเคน กิเลเส ขณฺเฑตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ ปฏิวิทฺธํ, ตํ อารพฺภ สจฺจกิริยํ กโรถ, สกลชมฺพุทีเป พนฺธนคโต สตฺโต นาม น ภวิสฺสตี’’ติ. โส โพธิสตฺเตน ทินฺนนยทฺวาเร ตฺวา สจฺจกิริยํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๕๘.

‘‘เย จาปิ เม สกุณา อตฺถิ พทฺธา, สตานิเนกานิ นิเวสนสฺมึ;

เตสมฺปหํ ชีวิตมชฺช ทมฺมิ, โมกฺขฺจ เต ปตฺตา สกํ นิเกต’’นฺติ.

ตตฺถ โมกฺขฺจ เต ปตฺตาติ สฺวาหํ โมกฺขํ ปตฺโต ปจฺเจกโพธิาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต, เต สตฺเต ชีวิตทาเนน อนุกมฺปามิ, เอเตน สจฺเจน. สกํ นิเกตนฺติ สพฺเพปิ เต สตฺตา อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานํ คจฺฉนฺตูติ วทติ.

อถสฺส สจฺจกิริยาสมกาลเมว สพฺเพ พนฺธนา มุจฺจิตฺวา ตุฏฺิรวํ รวนฺตา สกฏฺานเมว อคมึสุ. ตสฺมึ ขเณ เตสํ เตสํ เคเหสุ พิฬาเล อาทึ กตฺวา สกลชมฺพุทีเป พนฺธนคโต สตฺโต นาม นาโหสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา สีสํ ปรามสิ. ตาวเทว คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, ปพฺพชิตลิงฺคํ ปาตุรโหสิ. โส สฏฺิวสฺสิกตฺเถโร วิย อากปฺปสมฺปนฺโน อฏฺปริกฺขารธโร หุตฺวา ‘‘ตฺวเมว มม ปติฏฺา อโหสี’’ติ โมรราชสฺส อฺชลึ ปคฺคยฺห ปทกฺขิณํ กตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารํ อคมาสิ. โมรราชาปิ ยฏฺิอคฺคโต อุปฺปติตฺวา โคจรํ คเหตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ คโต. อิทานิ ลุทฺทสฺส สตฺต วสฺสานิ ปาสหตฺถสฺส จริตฺวาปิ โมรราชานํ นิสฺสาย ทุกฺขา มุตฺตภาวํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๑๕๙.

‘‘ลุทฺโท จรี ปาสหตฺโถ อรฺเ, พาเธตุ โมราธิปตึ ยสสฺสึ;

พนฺธิตฺวา โมราธิปตึ ยสสฺสึ, ทุกฺขา ส ปมุจฺจิ ยถาหํ ปมุตฺโต’’ติ.

ตตฺถ พาเธตูติ มาเรตุํ, อยเมว วา ปาโ. พนฺธิตฺวาติ พนฺธิตฺวา ิตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวโค หุตฺวาติ อตฺโถ. ยถาหนฺติ ยถา อหํ สยมฺภุาเณน มุตฺโต, เอวเมว โสปิ มุตฺโตติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตทา โมรราชา อหเมว อโหสินฺติ.

มหาโมรชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๔๙๒] ๙. ตจฺฉสูกรชาตกวณฺณนา

ยเทสมานา วิจริมฺหาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทฺเว มหลฺลกตฺเถเร อารพฺภ กเถสิ. มหาโกสโล กิร รฺโ พิมฺพิสารสฺส ธีตรํ เทนฺโต ธีตุ นฺหานียมูลตฺถาย กาสิคามํ อทาสิ. ปเสนทิ ราชา อชาตสตฺตุนา ปิตริ มาริเต ตํ คามํ อจฺฉินฺทิ. เตสุ ตสฺสตฺถาย ยุชฺฌนฺเตสุ ปมํ อชาตสตฺตุสฺส ชโย อโหสิ. โกสลราชา ปราชยปฺปตฺโต อมจฺเจ ปุจฺฉิ ‘‘เกน นุ โข อุปาเยน อชาตสตฺตุํ คณฺเหยฺยามา’’ติ. มหาราช, ภิกฺขู นาม มนฺตกุสลา โหนฺติ, จรปุริเส เปเสตฺวา วิหาเร ภิกฺขูนํ กถํ ปริคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ‘‘เอถ, ตุมฺเห วิหารํ คนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา ภทนฺตานํ กถํ ปริคฺคณฺหถา’’ติ จรปุริเส ปโยเชสิ. เชตวเนปิ พหู ราชปุริสา ปพฺพชิตา โหนฺติ. เตสุ ทฺเว มหลฺลกตฺเถรา วิหารปจฺจนฺเต ปณฺณสาลายํ วสนฺติ, เอโก ธนุคฺคหติสฺสตฺเถโร นาม, เอโก มนฺติทตฺตตฺเถโร นาม. เต สพฺพรตฺตึ สุปิตฺวา ปจฺจูสกาเล ปพุชฺฌึสุ.

เตสุ ธนุคฺคหติสฺสตฺเถโร อคฺคึ ชาเลตฺวา อาห ‘‘ภนฺเต, มนฺติทตฺตตฺเถรา’’ติ. ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ. ‘‘นิทฺทายถ ตุมฺเห’’ติ. ‘‘น นิทฺทายามิ, กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ภนฺเต, ลาลโก วตายํ โกสลราชา จาฏิมตฺตโภชนเมว ภุฺชิตุํ ชานาตี’’ติ. ‘‘อถ กึ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อตฺตโน กุจฺฉิมฺหิ ปาณกมตฺเตน อชาตสตฺตุนา ปราชิโต ราชา’’ติ. ‘‘กินฺติ ปน ภนฺเต กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ภนฺเต, มนฺติทตฺตตฺเถร ยุทฺธํ นาม สกฏพฺยูหจกฺกพฺยูหปทุมพฺยูหวเสน ติวิธํ. เตสุ ภาคิเนยฺยํ อชาตสตฺตุํ คณฺหนฺเตน สกฏพฺยูหํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อสุกสฺมึ นาม ปพฺพตกณฺเณ ทฺวีสุ ปสฺเสสุ สูรปุริเส เปตฺวา ปุรโต พลํ ทสฺเสตฺวา อนฺโต ปวิฏฺภาวํ ตฺวา นทิตฺวา วคฺคิตฺวา กุมิเน ปวิฏฺมจฺฉํ วิย อนฺโตมุฏฺิยํ กตฺวาว นํ คเหตุํ สกฺกา’’ติ.

ปโยชิตปุริสา ตํ กถํ สุตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา มหติยา เสนาย คนฺตฺวา ตถา กตฺวา อชาตสตฺตุํ คเหตฺวา สงฺขลิกพนฺธเนน พนฺธิตฺวา กติปาหํ นิมฺมทํ กตฺวา ‘‘ปุน เอวรูปํ มา กรี’’ติ อสฺสาเสตฺวา โมเจตฺวา ธีตรํ วชิรกุมารึ นาม ตสฺส ทตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน วิสฺสชฺเชสิ. ‘‘โกสลรฺา ธนุคฺคหติสฺสตฺเถรสฺส สํวิธาเนน อชาตสตฺตุ คหิโต’’ติ ภิกฺขูนํ อนฺตเร กถา สมุฏฺหิ, ธมฺมสภายมฺปิ ตเมว กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ธนุคฺคหติสฺโส ยุทฺธสํวิธาเน เฉโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสินครสฺส ทฺวารคามวาสี เอโก วฑฺฒกี ทารุอตฺถาย อรฺํ คนฺตฺวา อาวาเฏ ปติตํ เอกํ สูกรโปตกํ ทิสฺวา อาเนตฺวา ‘‘ตจฺฉสูกโร’’ติสฺส นามํ กตฺวา โปเสสิ. โส ตสฺส อุปการโก อโหสิ. ตุณฺเฑน รุกฺเข ปริวตฺเตตฺวา เทติ, ทาาย เวเตฺวา กาฬสุตฺตํ กฑฺฒติ, มุเขน ฑํสิตฺวา วาสินิขาทนมุคฺคเร อาหรติ. โส วุฑฺฒิปฺปตฺโต มหาพโล มหาสรีโร อโหสิ. อถ วฑฺฒกี ตสฺมึ ปุตฺตเปมํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ‘‘อิมํ อิธ วสนฺตํ โกจิเทว หึเสยฺยา’’ติ อรฺเ วิสฺสชฺเชสิ. โส จินฺเตสิ ‘‘อหํ อิมสฺมึ อรฺเ เอกโกว วสิตุํ น สกฺขิสฺสามิ, าตเก ปริเยสิตฺวา เตหิ ปริวุโต วสิสฺสามี’’ติ. โส วนฆฏาย สูกเร ปริเยสนฺโต พหู สูกเร ทิสฺวา ตุสฺสิตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๖๐.

‘‘ยเทสมานา วิจริมฺห, ปพฺพตานิ วนานิ จ;

อนฺเวสํ วิจรึ าตี, เตเม อธิคตา มยา.

๑๖๑.

‘‘พหุฺจิทํ มูลผลํ, ภกฺโข จายํ อนปฺปโก;

รมฺมา จิมา คิรีนชฺโช, ผาสุวาโส ภวิสฺสติ.

๑๖๒.

‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

อปฺโปสฺสุกฺโก นิราสงฺกี, อโสโก อกุโตภโย’’ติ.

ตตฺถ ยเทสมานาติ ยํ าติคณํ ปริเยสนฺตา มยํ วิจริมฺห. อนฺเวสนฺติ จิรํ วต อนฺเวสนฺโต วิจรึ. เตเมติ เต อิเม. ภกฺโขติ สฺเวว วนมูลผลสงฺขาโต ภกฺโข. อปฺโปสฺสุกฺโกติ อนุสฺสุกฺโก หุตฺวา.

สูกรา ตสฺส วจนํ สุตฺวา จตุตฺถํ คาถมาหํสุ –

๑๖๓.

‘‘อฺมฺปิ เลณํ ปริเยส, สตฺตุ โน อิธ วิชฺชติ;

โส ตจฺฉ สูกเร หนฺติ, อิธาคนฺตฺวา วรํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ ตจฺฉาติ ตํ นาเมนาลปนฺติ. วรํ วรนฺติ สูกเร หนนฺโต ถูลมํสํ วรํ วรฺเว หนติ.

อิโต ปรํ อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยน เวทิตพฺพา –

๑๖๔.

‘‘โก นุมฺหากํ อิธ สตฺตุ, โก าตี สุสมาคเต;

ทุปฺปธํเส ปธํเสติ, ตํ เม อกฺขาถ ปุจฺฉิตา.

๑๖๕.

‘‘อุทฺธคฺคราชี มิคราชา, พลี ทาาวุโธ มิโค;

โส ตจฺฉ สูกเร หนฺติ, อิธาคนฺตฺวา วรํ วรํ.

๑๖๖.

‘‘น โน ทาา น วิชฺชนฺติ, พลํ กาเย สโมหิตํ;

สพฺเพ สมคฺคา หุตฺวาน, วสํ กาหาม เอกกํ.

๑๖๗.

‘‘หทยงฺคมํ กณฺณสุขํ, วาจํ ภาสสิ ตจฺฉก;

โยปิ ยุทฺเธ ปลาเยยฺย, ตมฺปิ ปจฺฉา หนามเส’’ติ.

ตตฺถ โก นุมฺหากนฺติ อหํ ตุมฺเห ทิสฺวาว ‘‘อิเม สูกรา อปฺปมํสโลหิตา, ภเยน เนสํ ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตสึ, ตสฺมา เม อาจิกฺขถ, โก นุ อมฺหากํ อิธ สตฺตุ. อุทฺธคฺคราชีติ อุทฺธคฺคาหิ สรีรราชีหิ สมนฺนาคโต. พฺยคฺฆํ สนฺธาเยวมาหํสุ. โยปีติ โย อมฺหากํ อนฺตเร เอโกปิ ปลายิสฺสติ, ตมฺปิ มยํ ปจฺฉา หนิสฺสามาติ.

ตจฺฉสูกโร สพฺเพ สูกเร เอกจิตฺเต กตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘กาย เวลาย พฺยคฺโฆ อาคมิสฺสตี’’ติ. อชฺช ปาโตว เอกํ คเหตฺวา คโต, สฺเว ปาโตว อาคมิสฺสตีติ. โส ยุทฺธกุสโล ‘‘อิมสฺมึ าเน ิเตน สกฺกา เชตุ’’นฺติ ภูมิสีสํ ปชานาติ, ตสฺมา เอกํ ปเทสํ สลฺลกฺเขตฺวา รตฺติเมว สูกเร โคจรํ คาหาเปตฺวา พลวปจฺจูสโต ปฏฺาย ‘‘ยุทฺธํ นาม สกฏพฺยูหาทิวเสน ติวิธํ โหตี’’ติ วตฺวา ปทุมพฺยูหํ สํวิทหติ. มชฺเฌ าเน ขีรปิวเก สูกรโปตเก เปสิ. เต ปริวาเรตฺวา เตสํ มาตโร, ตา ปริวาเรตฺวา วฺฌา สูกริโย, ตาสํ อนนฺตรา สูกรโปตเก, เตสํ อนนฺตรา มกุลทาเ ตรุณสูกเร, เตสํ อนนฺตรา มหาทาเ, เตสํ อนนฺตรา ชิณฺณสูกเร, ตโต ตตฺถ ตตฺถ ทสวคฺคํ วีสติวคฺคํ ตึสวคฺคฺจ กตฺวา พลคุมฺพํ เปสิ. อตฺตโน อตฺถาย เอกํ อาวาฏํ, พฺยคฺฆสฺส ปตนตฺถาย เอกํ สุปฺปสณฺานํ ปพฺภารํ กตฺวา ขณาเปสิ. ทฺวินฺนํ อาวาฏานํ อนฺตเร อตฺตโน วสนตฺถาย ปีกํ กาเรสิ. โส ถามสมฺปนฺเน โยธสูกเร คเหตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สูกเร อสฺสาเสนฺโต วิจริ. ตสฺเสวํ กโรนฺตสฺเสว สูริโย อุคฺคจฺฉติ.

อถ พฺยคฺฆราชา กูฏชฏิลสฺส อสฺสมปทา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพตตเล อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา สูกรา ‘‘อาคโต โน ภนฺเต เวรี’’ติ วทึสุ. มา ภายถ, ยํ ยํ เอส กโรติ, ตํ สพฺพํ สริกฺขา หุตฺวา กโรถาติ. พฺยคฺโฆ สรีรํ วิธุนิตฺวา โอสกฺกนฺโต วิย ปสฺสาวมกาสิ, สูกราปิ ตเถว กรึสุ. พฺยคฺโฆ สูกเร โอโลเกตฺวา มหานทํ นทิ, เตปิ ตเถว กรึสุ. โส เตสํ กิริยํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘น อิเม ปุพฺพสทิสา, อชฺช มยฺหํ ปฏิสตฺตุโน หุตฺวา วคฺควคฺคา ิตา, สํวิทหโก เนสํ เสนานายโกปิ อตฺถิ, อชฺช มยา เอเตสํ สนฺติกํ คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ มรณภยตชฺชิโต นิวตฺติตฺวา กูฏชฏิลสฺส สนฺติกํ คโต. อถ นํ โส ตุจฺฉหตฺถํ ทิสฺวา นวมํ คาถมาห –

๑๖๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรโต นุ อชฺช, อภยํ นุ เต สพฺพภูเตสุ ทินฺนํ;

ทาา นุ เต มิควธาย น สนฺติ, โย สงฺฆปตฺโต กปโณว ฌายสี’’ติ.

ตตฺถ สงฺฆปตฺโตติ โย ตฺวํ สูกรสงฺฆปตฺโต หุตฺวา กิฺจิ โคจรํ อลภิตฺวา กปโณ วิย ฌายสีติ.

อถ พฺยคฺโฆ ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๖๙.

‘‘น เม ทาา น วิชฺชนฺติ, พลํ กาเย สโมหิตํ;

าตี จ ทิสฺวาน สามคฺคี เอกโต, ตสฺมา จ ฌายามิ วนมฺหิ เอกโก.

๑๗๐.

‘‘อิมสฺสุทํ ยนฺติ ทิโสทิสํ ปุเร, ภยฏฺฏิตา เลณคเวสิโน ปุถุ;

เต ทานิ สงฺคมฺม วสนฺติ เอกโต, ยตฺถฏฺิตา ทุปฺปสหชฺช เต มยา.

๑๗๑.

‘‘ปริณายกสมฺปนฺนา, สหิตา เอกวาทิโน;

เต มํ สมคฺคา หึเสยฺยุํ, ตสฺมา เนสํ น ปตฺถเย’’ติ.

ตตฺถ สามคฺคี เอกโตติ สหิตา หุตฺวา เอกโต ิเต. อิมสฺสุทนฺติ อิเม สุทํ มยา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลกิตมตฺตาว ปุพฺเพ ทิโสทิสํ คจฺฉนฺติ. ปุถูติ วิสุํ วิสุํ. ยตฺถฏฺิตาติ ยสฺมึ ภูมิภาเค ิตา. ปริณายกสมฺปนฺนาติ เสนานายเกน สมฺปนฺนา. ตสฺมา เนสํ น ปตฺถเยติ เตน การเณน เอเตสํ น ปตฺเถมิ.

ตํ สุตฺวา กูฏชฏิโล ตสฺส อุสฺสาหํ ชนยนฺโต คาถมาห –

๑๗๒.

‘‘เอโกว อินฺโท อสุเร ชินาติ, เอโกว เสโน หนฺติ ทิเช ปสยฺห;

เอโกว พฺยคฺโฆ มิคสงฺฆปตฺโต, วรํ วรํ หนฺติ พลฺหิ ตาทิส’’นฺติ.

ตตฺถ มิคสงฺฆปตฺโตติ มิคคณปตฺโต หุตฺวา วรํ วรํ มิคํ หนฺติ. พลฺหิ ตาทิสนฺติ ตาทิสฺหิ ตสฺส พลํ.

อถ พฺยคฺโฆ คาถมาห –

๑๗๓.

‘‘น เหว อินฺโท น เสโน, นปิ พฺยคฺโฆ มิคาธิโป;

สมคฺเค สหิเต าตี, น พฺยคฺเฆ กุรุเต วเส’’ติ.

ตตฺถ พฺยคฺเฆติ พฺยคฺฆสทิเส หุตฺวา สรีรวิธูนนาทีนิ กตฺวา ิเต วเส น กุรุเต, อตฺตโน วเส วตฺตาเปตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ.

ปุน ชฏิโล ตํ อุสฺสาเหนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๗๔.

‘‘กุมฺภีลกา สกุณกา, สงฺฆิโน คณจาริโน;

สมฺโมทมานา เอกชฺฌํ, อุปฺปตนฺติ ฑยนฺติ จ.

๑๗๕.

‘‘เตสฺจ ฑยมานานํ, เอเกตฺถ อปสกฺกติ;

ตฺจ เสโน นิตาเฬติ, เวยฺยคฺฆิเยว สา คตี’’ติ.

ตตฺถ กุมฺภีลกาติ เอวํนามกา ขุทฺทกสกุณา. อุปฺปตนฺตีติ โคจรํ จรนฺตา อุปฺปตนฺติ. ฑยนฺติ จาติ โคจรํ คเหตฺวา อากาเสน คจฺฉนฺติ. เอเกตฺถ อปสกฺกตีติ เอโก เอเตสุ โอสกฺกิตฺวา วา เอกปสฺเสน วา วิสุํ คจฺฉติ. นิตาเฬตีติ ปหริตฺวา คณฺหาติ. เวยฺยคฺฆิเยว สา คตีติ พฺยคฺฆานํ เอสาติ เวยฺยคฺฆิ, สมคฺคานํ คจฺฉนฺตานมฺปิ เอสา เอวรูปา คติ พฺยคฺฆานํ คติเยว นาม โหติ. น หิ สกฺกา สพฺเพหิ เอกโตว คนฺตุํ, ตสฺมา โย เอวํ ตตฺถ เอโก คจฺฉติ, ตํ คณฺหาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘พฺยคฺฆราช ตฺวํ อตฺตโน พลํ น ชานาสิ, มา ภายิ, เกวลํ ตฺวํ นทิตฺวา ปกฺขนฺท, ทฺเว เอกโต คจฺฉนฺตา นาม น ภวิสฺสนฺตี’’ติ อุสฺสาเหสิ. โส ตถา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๗๖.

‘‘อุสฺสาหิโต ชฏิเลน, ลุทฺเทนามิสจกฺขุนา;

ทาี ทาีสุ ปกฺขนฺติ, มฺมาโน ยถา ปุเร’’ติ.

ตตฺถ ทาีติ สยํ ทาาวุโธ อิตเรสุ ทาาวุเธสุ ปกฺขนฺทิ. ยถา ปุเรติ ยถา ปุพฺเพ มฺติ, ตเถว มฺมาโน.

โส กิร คนฺตฺวา ปพฺพตตเล ตาว อฏฺาสิ. สูกรา ‘‘ปุนาคโต สามิ, โจโร’’ติ ตจฺฉสฺส อาโรเจสุํ. โส ‘‘มา ภายถา’’ติ เต อสฺสาเสตฺวา อุฏฺาย ทฺวินฺนํ อาวาฏานํ อนฺตเร ปีกาย อฏฺาสิ. พฺยคฺโฆ เวคํ ชเนตฺวา ตจฺฉสูกรํ สนฺธาย ปกฺขนฺทิ. ตจฺฉสูกโร ปริวตฺติตฺวา ปจฺฉามุโข ปุริมอาวาเฏ ปติ. พฺยคฺโฆ จ เวคํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต คนฺตฺวา สุปฺปปพฺภาเร อาวาเฏ ปติตฺวา ปุฺชกิโตว อฏฺาสิ. ตจฺฉสูกโร เวเคน อุฏฺาย ตสฺส อนฺตรสตฺถิมฺหิ ทาํ โอตาเรตฺวา ยาว หทยา ผาเลตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา มุเขน ฑํสิตฺวา พหิอาวาเฏ ปาเตตฺวา ‘‘คณฺหถิมํ ทาส’’นฺติ อาห. ปมาคตา เอกวารเมว ตุณฺโฑตารณมตฺตํ ลภึสุ, ปจฺฉา อาคตา อลภิตฺวา ‘‘พฺยคฺฆมํสํ นาม กีทิส’’นฺติ วทึสุ. ตจฺฉสูกโร อาวาฏา อุตฺตริตฺวา สูกเร โอโลเกตฺวา ‘‘กึ นุ โข น ตุสฺสถา’’ติ อาห. ‘‘สามิ, เอโก ตาว พฺยคฺโฆ คหิโต, อฺโ ปเนโก ทสพฺยคฺฆคฺฆนโก อตฺถี’’ติ? ‘‘โก นาเมโส’’ติ? ‘‘พฺยคฺเฆน อาภตาภตมํสํ ขาทโก กูฏชฏิโล’’ติ. ‘‘เตน หิ เอถ, คณฺหิสฺสาม น’’นฺติ เตหิ สทฺธึ เวเคน ปกฺขนฺทิ.

ชฏิโล ‘‘พฺยคฺโฆ จิรายตี’’ติ ตสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต พหู สูกเร อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิเม พฺยคฺฆํ มาเรตฺวา มม มารณตฺถาย อาคจฺฉนฺติ มฺเ’’ติ ปลายิตฺวา เอกํ อุทุมฺพรรุกฺขํ อภิรุหิ. สูกรา ‘‘เอส รุกฺขํ อารุฬฺโห’’ติ วทึสุ. ‘‘กึ รุกฺข’’นฺติ. ‘‘อุทุมฺพรรุกฺข’’นฺติ. ‘‘เตน หิ มา จินฺตยิตฺถ, อิทานิ นํ คณฺหิสฺสามา’’ติ ตรุณสูกเร ปกฺโกสิตฺวา รุกฺขมูลตา ปํสุํ อปพฺยูหาเปสิ, สูกรีหิ มุขปูรํ อุทกํ อาหราเปสิ, มหาทาสูกเรหิ สมนฺตา มูลานิ ฉินฺทาเปสิ. เอกํ อุชุกํ โอติณฺณมูลเมว อฏฺาสิ. ตโต เสสสูกเร ‘‘ตุมฺเห อเปถา’’ติ อุสฺสาเรตฺวา ชณฺณุเกหิ ปติฏฺหิตฺวา ทาาย มูลํ ปหริ, ผรสุนา ปหฏํ วิย ฉิชฺชิตฺวา คตํ. รุกฺโข ปริวตฺติตฺวา ปติ. ตํ กูฏชฏิลํ ปตนฺตเมว สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มํสํ ภกฺเขสุํ. ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา คาถมาห –

๑๗๗.

‘‘สาธุ สมฺพหุลา าตี, อปิ รุกฺขา อรฺชา;

สูกเรหิ สมคฺเคหิ, พฺยคฺโฆ เอกายเน หโต’’ติ.

ตตฺถ เอกายเน หโตติ เอกคมนสฺมึเยว หโต.

อุภินฺนํ ปน เนสํ หตภาวํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิตรํ คาถมาห –

๑๗๘.

‘‘พฺราหฺมณฺเจว พฺยคฺฆฺจ, อุโภ หนฺตฺวาน สูกรา;

อานนฺทิโน ปมุทิตา, มหานาทํ ปนาทิสุ’’นฺติ.

ปุน ตจฺฉสูกโร เต ปุจฺฉิ ‘‘อฺเปิ โว อมิตฺตา อตฺถี’’ติ? สูกรา ‘‘นตฺถิ, สามี’’ติ วตฺวา ‘‘ตํ อภิสิฺจิตฺวา ราชานํ กริสฺสามา’’ติ อุทกํ ปริเยสนฺตา ชฏิลสฺส ปานียสงฺขํ ทิสฺวา ตํ ทกฺขิณาวฏฺฏํ สงฺขรตนํ ปูเรตฺวา อุทกํ อภิหริตฺวา ตจฺฉสูกรํ อุทุมฺพรรุกฺขมูเลเยว อภิสิฺจึสุ. อภิเสกอุทกํ อาสิตฺตํ, สูกริเมวสฺส อคฺคมเหสึ กรึสุ. ตโต ปฏฺาย อุทุมฺพรภทฺทปีเ นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิณาวฏฺฏสงฺเขน อภิเสกกรณํ ปวตฺตํ. ตมฺปิ อตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๑๗๙.

‘‘เต สุ อุทุมฺพรมูลสฺมึ, สูกรา สุสมาคตา;

ตจฺฉกํ อภิสิฺจึสุ, ตฺวํ โน ราชาสิ อิสฺสโร’’ติ.

ตตฺถ เต สูติ เต สูกรา, สุ-กาโร นิปาตมตฺตํ. อุทุมฺพรมูลสฺมินฺติ อุทุมฺพรสฺส มูเล.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ธนุคฺคหติสฺสตฺเถโร ยุทฺธสํวิทหเน เฉโกเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กูฏชฏิโล เทวทตฺโต อโหสิ, ตจฺฉสูกโร ธนุคฺคหติสฺโส, รุกฺขเทวตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ตจฺฉสูกรชาตกวณฺณนา นวมา.

[๔๙๓] ๑๐. มหาวาณิชชาตกวณฺณนา

วาณิชา สมิตึ กตฺวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สาวตฺถิวาสิโน วาณิเช อารพฺภ กเถสิ. เต กิร โวหารตฺถาย คจฺฉนฺตา สตฺถุ มหาทานํ ทตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาย ‘‘ภนฺเต, สเจ อโรคา อาคมิสฺสาม, ปุน ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทิสฺสามา’’ติ วตฺวา ปฺจมตฺเตหิ สกฏสเตหิ นิกฺขมิตฺวา กนฺตารํ ปตฺวา มคฺคํ อสลฺลกฺเขตฺวา มคฺคมูฬฺหา นิรุทเก นิราหาเร อรฺเ วิจรนฺตา เอกํ นาคปริคฺคหิตํ นิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา สกฏานิ โมเจตฺวา รุกฺขมูเล นิสีทึสุ. เต ตสฺส อุทกตินฺตานิ วิย นีลานิ สินิทฺธานิ ปตฺตานิ อุทกปุณฺณา วิย จ สาขา ทิสฺวา จินฺตยึสุ ‘‘อิมสฺมึ รุกฺเข อุทกํ สฺจรนฺตํ วิย ปฺายติ, อิมสฺส ปุริมสาขํ ฉินฺทาม, ปานียํ โน ทสฺสตี’’ติ. อเถโก รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา สาขํ ฉินฺทิ, ตโต ตาลกฺขนฺธปฺปมาณา อุทกธารา ปวตฺติ. เต ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ทกฺขิณสาขํ ฉินฺทึสุ, ตโต นานคฺครสโภชนํ นิกฺขมิ. ตํ ภุฺชิตฺวา ปจฺฉิมสาขํ ฉินฺทึสุ, ตโต อลงฺกตอิตฺถิโย นิกฺขมึสุ. ตาหิ สทฺธึ อภิรมิตฺวา อุตฺตรสาขํ ฉินฺทึสุ, ตโต สตฺต รตนานิ นิกฺขมึสุ. ตานิ คเหตฺวา ปฺจ สกฏสตานิ ปูเรตฺวา สาวตฺถึ ปจฺจาคนฺตฺวา ธนํ โคเปตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปูเชตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา ธมฺมกถํ สุตฺวา นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหาทานํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมึ ทาเน อมฺหากํ ธนทายิกาย รุกฺขเทวตาย ปตฺตึ เทมา’’ติ ปตฺตึ อทํสุ. สตฺถา นิฏฺิตภตฺตกิจฺโจ ‘‘กตรรุกฺขเทวตาย ปตฺตึ เทถา’’ติ ปุจฺฉิ. วาณิชา นิคฺโรธรุกฺเข ธนสฺส ลทฺธาการํ ตถาคตสฺสาโรเจสุํ. สตฺถา ‘‘ตุมฺเห ตาว มตฺตฺุตาย ตณฺหาวสิกา อหุตฺวา ธนํ ลภิตฺถ, ปุพฺเพ ปน อมตฺตฺุตาย ตณฺหาวสิกา ธนฺจ ชีวิตฺจ วิชหึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสินคเร ตเทว ปน กนฺตารํ สฺเวว นิคฺโรโธ. วาณิชา มคฺคมูฬฺหา หุตฺวา ตเมว นิคฺโรธํ ปสฺสึสุ. ตมตฺถํ สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา กเถนฺโต อิมา คาถา อาห –

๑๘๐.

‘‘วาณิชา สมิตึ กตฺวา, นานารฏฺโต อาคตา;

ธนาหรา ปกฺกมึสุ, เอกํ กตฺวาน คามณึ.

๑๘๑.

‘‘เต ตํ กนฺตารมาคมฺม, อปฺปภกฺขํ อโนทกํ;

มหานิคฺโรธมทฺทกฺขุํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํ.

๑๘๒.

‘‘เต จ ตตฺถ นิสีทิตฺวา, ตสฺส รุกฺขสฺส ฉายยา;

วาณิชา สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา.

๑๘๓.

‘‘อลฺลายเต อยํ รุกฺโข, อปิ วารีว สนฺทติ;

อิงฺฆสฺส ปุริมํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๘๔.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, อจฺฉํ วารึ อนาวิลํ;

เต ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา.

๑๘๕.

‘‘ทุติยํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส ทกฺขิณํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๘๖.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, สาลิมํโสทนํ พหุํ;

อปฺโปทวณฺเณ กุมฺมาเส, สิงฺคึ วิทลสูปิโย.

๑๘๗.

‘‘เต ตตฺถ ภุตฺวา ขาทิตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา;

ตติยํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส ปจฺฉิมํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๘๘.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, นาริโย สมลงฺกตา;

วิจิตฺรวตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา.

๑๘๙.

‘‘อปิ สุ วาณิชา เอกา, นาริโย ปณฺณวีสติ;

สมนฺตา ปริวารึสุ, ตสฺส รุกฺขสฺส ฉายยา;

เต ตาหิ ปริจาเรตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา.

๑๙๐.

‘‘จตุตฺถํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส อุตฺตรํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๙๑.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู;

รชตํ ชาตรูปฺจ, กุตฺติโย ปฏิยานิ จ.

๑๙๒.

‘‘กาสิกานิ จ วตฺถานิ, อุทฺทิยานิ จ กมฺพลา;

เต ตตฺถ ภาเร พนฺธิตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา.

๑๙๓.

‘‘ปฺจมํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส มูลํ ฉินฺทาม, อปิ ภิยฺโย ลภามเส.

๑๙๔.

‘‘อถุฏฺหิ สตฺถวาโห, ยาจมาโน กตฺชลี;

นิคฺโรโธ กึ ปรชฺฌติ, วาณิชา ภทฺทมตฺถุ เต.

๑๙๕.

‘‘วาริทา ปุริมา สาขา, อนฺนปานฺจ ทกฺขิณา;

นาริทา ปจฺฉิมา สาขา, สพฺพกาเม จ อุตฺตรา;

นิคฺโรโธ กึ ปรชฺฌติ, วาณิชา ภทฺทมตฺถุ เต.

๑๙๖.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.

๑๙๗.

‘‘เต จ ตสฺสานาทิยิตฺวา, เอกสฺส วจนํ พหู;

นิสิตาหิ กุารีหิ, มูลโต นํ อุปกฺกมุ’’นฺติ.

ตตฺถ สมิตึ กตฺวาติ พาราณสิยํ สมาคมํ กตฺวา, พหู เอกโต หุตฺวาติ อตฺโถ. ปกฺกมึสูติ ปฺจหิ สกฏสเตหิ พาราณเสยฺยกํ ภณฺฑํ อาทาย ปกฺกมึสุ. คามณินฺติ เอกํ ปฺวนฺตตรํ สตฺถวาหํ กตฺวา. ฉายยาติ ฉายาย. อลฺลายเตติ อุทกภริโต วิย อลฺโล หุตฺวา ปฺายติ. ฉินฺนาว ปคฺฆรีติ เอโก รุกฺขาโรหนกุสโล อภิรุหิตฺวา ตํ ฉินฺทิ, สา ฉินฺนมตฺตาว ปคฺฆรีติ ทสฺเสติ. ปรโตปิ เอเสว นโย.

อปฺโปทวณฺเณ กุมฺมาเสติ อปฺโปทกปายาสสทิเส กุมฺมาเส. สิงฺคินฺติ สิงฺคิเวราทิกํ อุตฺตริภงฺคํ. วิทลสูปิโยติ มุคฺคสูปาทโย. วาณิชา เอกาติ เอเกกสฺส วาณิชสฺส ยตฺตกา วาณิชา, เตสุ เอเกกสฺส เอเกกาว, สตฺถวาหสฺส ปน สนฺติเก ปฺจวีสตีติ อตฺโถ. ปริวารึสูติ ปริวาเรสุํ. ตาหิ ปน สทฺธึเยว นาคานุภาเวน สาณิวิตานสยนาทีนิ ปคฺฆรึสุ.

กุตฺติโยติ หตฺถตฺถราทโย. ปฏิยานิจาติ อุณฺณามยปจฺจตฺถรณานิ. ‘‘เสตกมฺพลานี’’ติปิ วทนฺติเยว. อุทฺทิยานิ จ กมฺพลาติ อุทฺทิยานิ นาม กมฺพลา อตฺถิ. เต ตตฺถ ภาเร พนฺธิตฺวาติ ยาวตกํ อิจฺฉึสุ, ตาวตกํ คเหตฺวา ปฺจ สกฏสตานิ ปูเรตฺวาติ อตฺโถ. วาณิชา ภทฺทมตฺถุ เตติ เอเกกํ วาณิชํ อาลปนฺโต ‘‘ภทฺทํ เต อตฺถู’’ติ อาห. อนฺนปานฺจาติ อนฺนฺจ ปานฺจ อทาสิ. สพฺพกาเม จาติ สพฺพกาเม จ อทาสิ. มิตฺตทุพฺโภ หีติ มิตฺตานํ ทุพฺภนปุริโส หิ ปาปโก ลามโก นาม. อนาทิยิตฺวาติ ตสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา. อุปกฺกมุนฺติ โมหาว ฉินฺทิตุํ อารภึสุ.

อถ เน ฉินฺทนตฺถาย รุกฺขํ อุปคเต ทิสฺวา นาคราชา จินฺเตสิ ‘‘อหํ เอเตสํ ปิปาสิตานํ ปานียํ ทาเปสึ, ตโต ทิพฺพโภชนํ, ตโต สยนาทีนิ เจว ปริจาริกา จ นาริโย, ตโต ปฺจสตสกฏปูรํ รตนํ, อิทานิ ปนิเม ‘‘รุกฺขํ มูลโต ฉินฺทิสฺสามา’ติ วทนฺติ, อติวิย ลุทฺธา อิเม, เปตฺวา สตฺถวาหํ อวเสเส มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ‘‘เอตฺตกา สนฺนทฺธโยธา นิกฺขมนฺตุ, เอตฺตกา ธนุคฺคหา, เอตฺตกา วมฺมิโน’’ติ เสนํ วิจาเรสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา คาถมาห –

๑๙๘.

‘‘ตโต นาคา นิกฺขมึสุ, สนฺนทฺธา ปณฺณวีสติ;

ธนุคฺคหานํ ติสตา, ฉสหสฺสา จ วมฺมิโน’’ติ.

ตตฺถ สนฺนทฺธาติ สุวณฺณรชตาทิวมฺมกวจิกา. ธนุคฺคหานํ ติสตาติ เมณฺฑวิสาณธนุคฺคหานํ ตีณิ สตานิ. วมฺมิโนติ เขฏกผลกหตฺถา ฉสหสฺสา.

๑๙๙.

‘‘เอเต หนถ พนฺธถ, มา โว มุฺจิตฺถ ชีวิตํ;

เปตฺวา สตฺถวาหํว, สพฺเพ ภสฺมํ กโรถ เน’’ติ. – อยํ นาคราเชน วุตฺตคาถา;

ตตฺถ มา โว มุฺจิตฺถ ชีวิตนฺติ กสฺสจิ เอกสฺสปิ ชีวิตํ มา มุฺจิตฺถ.

นาคา ตถา กตฺวา อตฺถรณาทีนิ ปฺจสุ สกฏสเตสุ อาโรเปตฺวา สตฺถวาหํ คเหตฺวา สยํ ตานิ สกฏานิ ปาเชนฺตา พาราณสึ คนฺตฺวา สพฺพํ ธนํ ตสฺส เคเห ปฏิสาเมตฺวา ตํ อาปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน นาคภวนเมว คตา. ตมตฺถํ วิทิตฺวา สตฺถา โอวาทวเสน คาถาทฺวยมาห –

๒๐๐.

‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;

โลภสฺส น วสํ คจฺเฉ, หเนยฺยาริสกํ มนํ.

๒๐๑.

‘‘เอวมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;

วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา โลภวสิกา มหาวินาสํ ปตฺตา, สตฺถวาโห อุตฺตมสมฺปตฺตึ, ตสฺมา. หเนยฺยาริสกํ มนนฺติ อนฺโต อุปฺปชฺชมานานํ นานาวิธานํ โลภสตฺตูนํ สนฺตกํ มนํ, โลภสมฺปยุตฺตจิตฺตํ หเนยฺยาติ อตฺโถ. เอวมาทีนวนฺติ เอวํ โลเภ อาทีนวํ ชานิตฺวา. ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ ชาติอาทิทุกฺขสฺส ตณฺหา สมฺภโว, ตโต เอตํ ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ, เอวํ ตณฺหาว ทุกฺขสฺส สมฺภวํ ตฺวา วีตตณฺโห ตณฺหาอาทาเนน อนาทาโน มคฺเคน อาคตาย สติยา สโต หุตฺวา ภิกฺขุ ปริพฺพเช อิริเยถ วตฺเตถาติ อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหิ.

อิมฺจ ปน ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ อุปาสกา ปุพฺเพ โลภวสิกา วาณิชา มหาวินาสํ ปตฺตา, ตสฺมา โลภวสิเกน น ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน เต วาณิชา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา. ตทา นาคราชา สาริปุตฺโต อโหสิ, สตฺถวาโห ปน อหเมว อโหสินฺติ.

มหาวาณิชชาตกวณฺณนา ทสมา.

[๔๙๔] ๑๑. สาธินชาตกวณฺณนา

อพฺภุโต วต โลกสฺมินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถิเก อุปาสเก อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘อุปาสกา โปราณกปณฺฑิตา อตฺตโน อุโปสถกมฺมํ นิสฺสาย มนุสฺสสรีเรเนว เทวโลกํ คนฺตฺวา จิรํ วสึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต มิถิลายํ สาธิโน นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. โส จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตสิ, เทวสิกํ ฉ สตสหสฺสานิ วยกรณํ คจฺฉนฺติ, ปฺจ สีลานิ รกฺขติ, อุโปสถํ อุปวสติ. รฏฺวาสิโนปิ ตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา มตมตา เทวนคเรเยว นิพฺพตฺตึสุ. สุธมฺมเทวสภํ ปูเรตฺวา นิสินฺนา เทวา รฺโ สีลาทิคุณเมว วณฺณยนฺติ. ตํ สุตฺวา เสสเทวาปิ ราชานํ ทฏฺุกามา อเหสุํ. สกฺโก เทวราชา เตสํ มนํ วิทิตฺวา อาห – ‘‘สาธินราชานํ ทฏฺุกามตฺถา’’ติ. ‘‘อาม เทวา’’ติ. โส มาตลึ อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉ ตฺวํ เวชยนฺตรถํ โยเชตฺวา สาธินราชานํ อาเนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รถํ โยเชตฺวา วิเทหรฏฺํ อคมาสิ, ตทา ปุณฺณมทิวโส โหติ. มาตลิ มนุสฺสานํ สายมาสํ ภุฺชิตฺวา ฆรทฺวาเรสุ สุขกถาย นิสินฺนกาเล จนฺทมณฺฑเลน สทฺธึ รถํ เปเสสิ. มนุสฺสา ‘‘ทฺเว จนฺทา อุฏฺิตา’’ติ วทนฺตา ปุน จนฺทมณฺฑลํ โอหาย รถํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นายํ จนฺโท, รโถ เอโส, เทวปุตฺโต ปฺายติ, กสฺเสส เอตํ มโนมยสินฺธวยุตฺตํ ทิพฺพรถํ อาเนติ, น อฺสฺส, อมฺหากํ รฺโ ภวิสฺสติ, ราชา หิ โน ธมฺมิโก ธมฺมราชา’’ติ โสมนสฺสชาตา หุตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ิตา ปมํ คาถมาหํสุ –

๒๐๒.

‘‘อพฺภุโต วต โลกสฺมึ, อุปฺปชฺชิ โลมหํสโน;

ทิพฺโพ รโถ ปาตุรหุ, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อพฺภุโต วเตส อมฺหากํ ราชา, โลกสฺมึ โลมหํสโน อุปฺปชฺชิ, ยสฺส ทิพฺโพ รโถ ปาตุรโหสิ เวเทหสฺส ยสสฺสิโนติ.

มาตลิปิ ตํ รถํ อาเนตฺวา มนุสฺเสสุ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชนฺเตสุ ติกฺขตฺตุํ นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา รฺโ นิเวสนทฺวารํ คนฺตฺวา รถํ นิวตฺเตตฺวา ปจฺฉาภาเคน สีหปฺชรอุมฺมาเร เปตฺวา อาโรหณสชฺชํ กตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ทิวสํ ราชาปิ ทานสาลาโย โอโลเกตฺวา ‘‘อิมินา นิยาเมน ทานํ เทถา’’ติ อาณาเปตฺวา อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา ทิวสํ วีตินาเมตฺวา อมจฺจคณปริวุโต อลงฺกตมหาตเล ปาจีนสีหปฺชราภิมุโข ธมฺมยุตฺตํ กเถนฺโต นิสินฺโน โหติ. อถ นํ มาตลิ รถาภิรุหนตฺถํ นิมนฺเตตฺวา อาทาย อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๐๓.

‘‘เทวปุตฺโต มหิทฺธิโก, มาตลิ เทวสารถิ;

นิมนฺตยิตฺถ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ.

๒๐๔.

‘‘เอหิมํ รถมารุยฺห, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

เทวา ทสฺสนกามา เต, ตาวตึสา สอินฺทกา;

สรมานา หิ เต เทวา, สุธมฺมายํ สมจฺฉเร.

๒๐๕.

‘‘ตโต จ ราชา สาธิโน, เวเทโห มิถิลคฺคโห;

สหสฺสยุตฺตมารุยฺห, อคา เทวาน สนฺติเก;

ตํ เทวา ปฏินนฺทึสุ, ทิสฺวา ราชานมาคตํ.

๒๐๖.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

นิสีท ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก.

๒๐๗.

‘‘สกฺโกปิ ปฏินนฺทิตฺถ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ;

นิมนฺตยิตฺถ กาเมหิ, อาสเนน จ วาสโว.

๒๐๘.

‘‘สาธุ โขสิ อนุปฺปตฺโต, อาวาสํ วสวตฺตินํ;

วส เทเวสุ ราชีสิ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, ภุฺช กาเม อมานุเส’’ติ.

ตตฺถ สมจฺฉเรติ อจฺฉนฺติ. อคา เทวาน สนฺติเกติ เทวานํ สนฺติกํ อคมาสิ. ตสฺมิฺหิ รถํ อภิรุหิตฺวา ิเต รโถ อากาสํ ปกฺขนฺทิ, โส มหาชนสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว อนฺตรธายิ. มาตลิ ราชานํ เทวโลกํ เนสิ. ตํ ทิสฺวา เทวตา จ สกฺโก จ หฏฺตุฏฺา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ปฏิสนฺถารํ กรึสุ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ เทวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปฏินนฺทึสูติ ปุนปฺปุนํ นนฺทึสุ. อาสเนน จาติ ราชานํ อาลิงฺคิตฺวา ‘‘อิธ นิสีทา’’ติ อตฺตโน ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเนน จ กาเมหิ จ นิมนฺเตสิ, อุปฑฺฒรชฺชํ ทตฺวา เอกาสเน นิสีทาเปสีติ อตฺโถ.

ตตฺถ สกฺเกน เทวรฺา ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ อฑฺฒติยา จ อจฺฉราโกฏิโย เวชยนฺตปาสาทฺจ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทินฺนํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส มนุสฺสคณนาย สตฺต วสฺสสตานิ อติกฺกนฺตานิ. เตนตฺตภาเวน เทวโลเก วสนกํ ปุฺํ ขีณํ, อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตสฺมา สกฺเกน สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถมาห –

๒๐๙.

‘‘อหํ ปุเร สคฺคคโต รมามิ, นจฺเจหิ คีเตหิ จ วาทิเตหิ;

โส ทานิ อชฺช น รมามิ สคฺเค, อายุํ นุ ขีโณ มรณํ นุ สนฺติเก;

อุทาหุ มูฬฺโหสฺมิ ชนินฺทเสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ อายุํ นุ ขีโณติ กึ นุ มม สรเสน ชีวิตินฺทฺริยํ ขีณํ, อุทาหุ อุปจฺเฉทกกมฺมวเสน มรณํ สนฺติเก ชาตนฺติ ปุจฺฉติ. ชนินฺทเสฏฺาติ ชนินฺทานํ เทวานํ เสฏฺ.

อถ นํ สกฺโก อาห –

๒๑๐.

‘‘น ตายุ ขีณํ มรณฺจ ทูเร, น จาปิ มูฬฺโห นรวีรเสฏฺ;

ตุยฺหฺจ ปุฺานิ ปริตฺตกานิ, เยสํ วิปากํ อิธ เวทยิตฺโถ.

๒๑๑.

‘‘วส เทวานุภาเวน, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, ภุฺช กาเม อมานุเส’’ติ.

ตตฺถ ‘‘ปริตฺตกานี’’ติ อิทํ เตน อตฺตภาเวน เทวโลเก วิปากทายกานิ ปุฺานิ สนฺธาย วุตฺตํ, อิตรานิ ปนสฺส ปุฺานิ ปถวิยํ ปํสุ วิย อปฺปมาณานิ. วส เทวานุภาเวนาติ อหํ เต อตฺตโน ปุฺานิ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทสฺสามิ, มมานุภาเวน วสาติ ตํ สมสฺสาเสนฺโต อาห.

อถ นํ ปฏิกฺขิปนฺโต มหาสตฺโต อาห –

๒๑๒.

‘‘ยถา ยาจิตกํ ยานํ, ยถา ยาจิตกํ ธนํ;

เอวํสมฺปทเมเวตํ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา.

๒๑๓.

‘‘น จาหเมตมิจฺฉามิ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา;

สยํกตานิ ปุฺานิ, ตํ เม อาเวณิกํ ธนํ.

๒๑๔.

‘‘โสหํ คนฺตฺวา มนุสฺเสสุ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;

ยํ กตฺวา สุขิโต โหติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปตี’’ติ.

ตตฺถ ยํ ปรโต ทานปจฺจยาติ ยํ ปเรน ทินฺนตฺตา ลพฺภติ, ตํ ยาจิตกสทิสเมว โหติ. ยาจิตกฺหิ ตุฏฺกาเล เทนฺติ, อตุฏฺกาเล อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตีติ วทติ. สมจริยายาติ กายาทีหิ ปาปสฺส อกรเณน. สํยเมนาติ สีลสํยเมน. ทเมนาติ อินฺทฺริยทมเนน. ยํ กตฺวาติ ยํ กริตฺวา สุขิโต เจว โหติ น จ ปจฺฉานุตปฺปติ, ตถารูปเมว กมฺมํ กริสฺสามีติ.

อถสฺส วจนํ สุตฺวา สกฺโก มาตลึ อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉ, ตาต, สาธินราชานํ มิถิลํ เนตฺวา อุยฺยาเน โอตาเรหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ราชา อุยฺยาเน จงฺกมติ. อถ นํ อุยฺยานปาโล ทิสฺวา ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา นารทรฺโ อาโรเจสิ. โส รฺโ อาคตภาวํ สุตฺวา ‘‘ตฺวํ ปุรโต คนฺตฺวา อุยฺยานํ สชฺเชตฺวา ตสฺส จ มยฺหฺจ ทฺเว อาสนานิ ปฺาเปหี’’ติ อุยฺยานปาลํ อุยฺโยเชสิ. โส ตถา อกาสิ. อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘กสฺส ทฺเว อาสนานิ ปฺาเปสี’’ติ? ‘‘เอกํ ตุมฺหากํ, เอกํ อมฺหากํ รฺโ’’ติ. อถ นํ ราชา ‘‘โก อฺโ สตฺโต มม สนฺติเก อาสเน นิสีทิสฺสตี’’ติ วตฺวา เอกสฺมึ นิสีทิตฺวา เอกสฺมึ ปาเท เปสิ. นารทราชา อาคนฺตฺวา ตสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. โส กิรสฺส สตฺตโม ปนตฺตา. ตทา กิร วสฺสสตายุกกาโลว โหติ. มหาสตฺโต ปน อตฺตโน ปุฺพเลน เอตฺตกํ กาลํ วีตินาเมสิ. โส นารทํ หตฺเถ คเหตฺวา อุยฺยาเน วิจรนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๑๕.

‘‘อิมานิ ตานิ เขตฺตานิ, อิมํ นิกฺขํ สุกุณฺฑลํ;

อิมา ตา หริตานูปา, อิมา นชฺโช สวนฺติโย.

๒๑๖.

‘‘อิมา ตา โปกฺขรณี รมฺมา, จกฺกวากปกูชิตา;

มนฺทาลเกหิ สฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จ;

ยสฺสิมานิ มมายึสุ, กึ นุ เต ทิสตํ คตา.

๒๑๗.

‘‘ตานีธ เขตฺตานิ โส ภูมิภาโค, เตเยว อารามวนูปจารา;

ตเมว มยฺหํ ชนตํ อปสฺสโต, สุฺํว เม นารท ขายเต ทิสา’’ติ.

ตตฺถ เขตฺตานีติ ภูมิภาเค สนฺธายาห. อิมํ นิกฺขนฺติ อิมํ ตาทิสเมว อุทกนิทฺธมนํ. สุกุณฺฑลนฺติ โสภเนน มุสลปเวสนกุณฺฑเลน สมนฺนาคตํ. หริตานูปาติ อุทกนิทฺธมนสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ หริตติณสฺฉนฺนา อนูปภูมิโย. ยสฺสิมานิ มมายึสูติ ตาต นารท, เย มม อุปฏฺากา จ โอโรธา จ อิมสฺมึ อุยฺยาเน มหนฺเตน ยเสน มยา สทฺธึ วิจรนฺตา อิมานิ านานิ มมายึสุ ปิยายึสุ, กตรํ นุ เต ทิสตํ คตา, กตฺถ เต เปสิตา. ตานีธ เขตฺตานีติ อิมสฺมึ อุยฺยาเน ตาเนว เอตานิ อุปโรปนกวิรุหนฏฺานานิ. เตเยว อารามวนูปจาราติ อิเม เตเยว อารามวนูปจารา, วิหารภูมิโยติ อตฺโถ.

อถ นํ นารโท อาห – ‘‘เทว, ตุมฺหากํ เทวโลกคตานํ อิทานิ สตฺต วสฺสสตานิ, อหํ โว สตฺตโม ปนตฺตา, ตุมฺหากํ อุปฏฺากา จ โอโรธา จ มรณมุขํ ปตฺตา, อิทํ โว อตฺตโน สนฺตกํ รชฺชํ, อนุภวถ น’’นฺติ. ราชา ‘‘ตาต นารท, นาหํ อิธาคจฺฉนฺโต รชฺชตฺถาย อาคโต, ปุฺกรณตฺถายมฺหิ อาคโต, อหํ ปุฺเมว กริสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถา อาห –

๒๑๘.

‘‘ทิฏฺา มยา วิมานานิ, โอภาเสนฺตา จตุทฺทิสา;

สมฺมุขา เทวราชสฺส, ติทสานฺจ สมฺมุขา.

๒๑๙.

‘‘วุตฺถํ เม ภวนํ ทิพฺยํ, ภุตฺตา กามา อมานุสา;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ.

๒๒๐.

‘‘โสหํ เอตาทิสํ หิตฺวา, ปุฺายมฺหิ อิธาคโต;

ธมฺมเมว จริสฺสามิ, นาหํ รชฺเชน อตฺถิโก.

๒๒๑.

‘‘อทณฺฑาวจรํ มคฺคํ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ;

ตํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิสฺสํ, เยน คจฺฉนฺติ สุพฺพตา’’ติ.

ตตฺถ วุตฺถํ เม ภวนํ ทิพฺยนฺติ เวชยนฺตํ สนฺธาย อาห. โสหํ เอตาทิสนฺติ ตาต นารท, โสหํ พุทฺธาเณน อปริจฺฉินฺทนียํ เอวรูปํ กามคุณสมฺปตฺตึ ปหาย ปุฺกรณตฺถาย อิธาคโต. อทณฺฑาวจรนฺติ อทณฺเฑหิ นิกฺขิตฺตทณฺฑหตฺเถหิ อวจริตพฺพํ สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขารํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ. สุพฺพตาติ เยน มคฺเคน สุพฺพตา สพฺพฺุพุทฺธา คจฺฉนฺติ, อหมฺปิ อคตปุพฺพํ ทิสํ คนฺตุํ โพธิตเล นิสีทิตฺวา ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิสฺสามีติ.

เอวํ โพธิสตฺโต อิมา คาถาโย สพฺพฺุตฺาเณน สงฺขิปิตฺวา กเถสิ. นารโท ปุนปิ อาห – ‘‘รชฺชํ, เทว, อนุสาสา’’ติ. ‘‘ตาต, น เม รชฺเชนตฺโถ, สตฺต วสฺสสตานิ วิคตํ ทานํ สตฺตาเหเนว ทาตุกามมฺหี’’ติ. นารโท ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มหาทานํ ปฏิยาเทสิ. ราชา สตฺตาหํ ทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเนเยว นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ วสิตพฺพยุตฺตกํ อุโปสถกมฺมํ นามา’’ติ ทสฺเสตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุโปสถิเกสุ อุปาสเกสุ เกจิ โสตาปตฺติผเล, เกจิ สกทาคามิผเล, เกจิ อนาคามิผเล ปติฏฺหึสุ. ตทา นารทราชา สาริปุตฺโต อโหสิ, มาตลิ อานนฺโท, สกฺโก อนุรุทฺโธ, สาธินราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

สาธินชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.

[๔๙๕] ๑๒. ทสพฺราหฺมณชาตกวณฺณนา

ราชา อโวจ วิธุรนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อสทิสทานํ อารพฺภ กเถสิ. ตํ อฏฺกนิปาเต อาทิตฺตชาตเก (ชา. ๑.๘.๖๙ อาทโย) วิตฺถาริตเมว. ราชา กิร ตํ ทานํ ททนฺโต สตฺถารํ เชฏฺกํ กตฺวา ปฺจ ภิกฺขุสตานิ วิจินิตฺวา คณฺหิตฺวา มหาขีณาสวานํเยว อทาสิ. อถสฺส คุณกถํ กเถนฺตา ‘‘อาวุโส, ราชา อสทิสทานํ ททนฺโต วิจินิตฺวา มหปฺผลฏฺาเน อทาสี’’ติ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ยํ โกสลราชา มาทิสสฺส พุทฺธสฺส อุปฏฺาโก หุตฺวา วิเจยฺยทานํ เทติ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธปิ วิเจยฺยทานํ อทํสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กุรุรฏฺเ อินฺทปตฺถนคเร ยุธิฏฺิลโคตฺโต โกรพฺโย นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส วิธุโร นาม อมจฺโจ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสติ. ราชา สกลชมฺพุทีปํ โขเภตฺวา มหาทานํ เทติ. ตํ คเหตฺวา ภุฺชนฺเตสุ เอโกปิ ปฺจสีลมตฺตํ รกฺขนฺโต นาม นตฺถิ, สพฺเพ ทุสฺสีลาว, ทานํ ราชานํ น โตเสติ. ราชา ‘‘วิเจยฺยทานํ มหปฺผล’’นฺติ สีลวนฺตานํ ทาตุกาโม หุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘วิธุรปณฺฑิเตน สทฺธึ มนฺตยิสฺสามี’’ติ. โส ตํ อุปฏฺานํ อาคตํ อาสเน นิสีทาเปตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒคาถมาห –

๒๒๒.

‘‘ราชา อโวจ วิธุรํ, ธมฺมกาโม ยุธิฏฺิโล’’ติ;

ปรโต รฺโ จ วิธุรสฺส จ วจนปฏิวจนํ โหติ –

‘‘พฺราหฺมเณ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๒๓.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๒๔.

‘‘ทุลฺลภา พฺราหฺมณา เทว, สีลวนฺโต พหุสฺสุตา;

วิรตา เมถุนา ธมฺมา, เย เต ภุฺเชยฺยุ โภชนํ.

๒๒๕.

‘‘ทส ขลุ มหาราช, ยา ตา พฺราหฺมณชาติโย;

เตสํ วิภงฺคํ วิจยํ, วิตฺถาเรน สุโณหิ เม.

๒๒๖.

‘‘ปสิพฺพเก คเหตฺวาน, ปุณฺเณ มูลสฺส สํวุเต;

โอสธิกาโย คนฺเถนฺติ, นฺหาปยนฺติ ชปนฺติ จ.

๒๒๗.

‘‘ติกิจฺฉกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๒๘.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๒๙.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๓๐.

‘‘กิงฺกิณิกาโย คเหตฺวา, โฆเสนฺติ ปุรโตปิ เต;

เปสนานิปิ คจฺฉนฺติ, รถจริยาสุ สิกฺขเร.

๒๓๑.

‘‘ปริจารกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๓๒.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๓๓.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๓๔.

‘‘กมณฺฑลุํ คเหตฺวาน, วงฺกทณฺฑฺจ พฺราหฺมณา;

ปจฺจุเปสฺสนฺติ ราชาโน, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

นาทินฺเน วุฏฺหิสฺสาม, คามมฺหิ วา วนมฺหิ วา.

๒๓๕.

‘‘นิคฺคาหกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๓๖.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๓๗.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๓๘.

‘‘ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา, ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;

โอกิณฺณา รชเรณูหิ, ยาจกา วิจรนฺติ เต.

๒๓๙.

‘‘ขาณุฆาตสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๔๐.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๔๑.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๔๒.

‘‘หรีตกํ อามลกํ, อมฺพํ ชมฺพุํ วิภีตกํ;

ลพุชํ ทนฺตโปณานิ, เพลุวา พทรานิ จ.

๒๔๓.

‘‘ราชายตนํ อุจฺฉุปุฏํ, ธูมเนตฺตํ มธุอฺชนํ;

อุจฺจาวจานิ ปณิยานิ, วิปเณนฺติ ชนาธิป.

๒๔๔.

‘‘วาณิชกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๔๕.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๔๖.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๔๗.

‘‘กสิวาณิชฺชํ กาเรนฺติ, โปสยนฺติ อเชฬเก;

กุมาริโย ปเวจฺฉนฺติ, วิวาหนฺตาวหนฺติ จ.

๒๔๘.

‘‘สมา อมฺพฏฺเวสฺเสหิ, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๔๙.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๕๐.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๕๑.

‘‘นิกฺขิตฺตภิกฺขํ ภุฺชนฺติ, คาเมสฺเวเก ปุโรหิตา;

พหู เต ปริปุจฺฉนฺติ, อณฺฑจฺเฉทา นิลฺฉกา.

๒๕๒.

‘‘ปสูปิ ตตฺถ หฺนฺติ, มหึสา สูกรา อชา;

โคฆาตกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๕๓.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๕๔.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๕๕.

‘‘อสิจมฺมํ คเหตฺวาน, ขคฺคํ ปคฺคยฺห พฺราหฺมณา;

เวสฺสปเถสุ ติฏฺนฺติ, สตฺถํ อพฺพาหยนฺติปิ.

๒๕๖.

‘‘สมา โคปนิสาเทหิ, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๕๗.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๕๘.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๕๙.

‘‘อรฺเ กุฏิกํ กตฺวา, กุฏานิ การยนฺติ เต;

สสพิฬาเร พาเธนฺติ, อาโคธา มจฺฉกจฺฉปํ.

๒๖๐.

‘‘เต ลุทฺทกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๖๑.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๖๒.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๖๓.

‘‘อฺเ ธนสฺส กามา หิ, เหฏฺามฺเจ ปสกฺกิตา;

ราชาโน อุปริ นฺหายนฺติ, โสมยาเค อุปฏฺิเต.

๒๖๔.

‘‘มลมชฺชกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๖๕.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๖๖.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.

ตตฺถ สีลวนฺเตติ มคฺเคนาคตสีเล. พหุสฺสุเตติ ปฏิเวธพหุสฺสุเต. ทกฺขิณนฺติ ทานํ. เย เตติ เย ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา ตว ทานํ ภุฺเชยฺยุํ, เต ทุลฺลภา. พฺราหฺมณชาติโยติ พฺราหฺมณกุลานิ. เตสํ วิภงฺคํ วิจยนฺติ เตสํ พฺราหฺมณานํ วิภงฺคํ มม ปฺาย วิจิตภาวํ วิตฺถาเรน สุโณหิ. สํวุเตติ พทฺธมุเข. โอสธิกาโย คนฺเถนฺตีติ ‘‘อิทํ อิมสฺส โรคสฺส เภสชฺชํ, อิทํ อิมสฺส โรคสฺส เภสชฺช’’นฺติ เอวํ สิโลเก พนฺธิตฺวา มนุสฺสานํ เทนฺติ. นฺหาปยนฺตีติ นหาปนํ นาม กโรนฺติ. ชปนฺติ จาติ ภูตวิชฺชํ ปริวตฺเตนฺติ. ติกิจฺฉกสมาติ เวชฺชสทิสา. เตปิ วุจฺจนฺตีติ เตปิ ‘‘พฺราหฺมณา วา มยํ, อพฺราหฺมณา วา’’ติ อชานิตฺวา เวชฺชกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปนฺตา โวหาเรน ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ. อกฺขาตา เตติ อิเม เต มยา เวชฺชพฺราหฺมณา นาม อกฺขาตา. นิปตามเสติ วเทหิ ทานิ, กึ ตาทิเส พฺราหฺมเณ นิปตาม, นิมนฺตนตฺถาย อุปสงฺกมาม, อตฺถิ เต เอเตหิ อตฺโถติ ปุจฺฉติ. พฺรหฺมฺาติ พฺราหฺมณธมฺมโต. น เต วุจฺจนฺตีติ เต พาหิตปาปตาย พฺราหฺมณา นาม น วุจฺจนฺติ.

กิงฺกิณิกาโยติ มหาราช, อปเรปิ พฺราหฺมณา อตฺตโน พฺราหฺมณธมฺมํ ฉฑฺเฑตฺวา ชีวิกตฺถาย ราชราชมหามตฺตานํ ปุรโต กํสตาเฬ คเหตฺวา วาเทนฺตา คายนฺตา คจฺฉนฺติ. เปสนานิปีติ ทาสกมฺมกรา วิย เปสนานิปิ คจฺฉนฺติ. รถจริยาสูติ รถสิปฺปํ สิกฺขนฺติ. ปริจารกสมาติ ทาสกมฺมกรสทิสา. วงฺกทณฺฑนฺติ วงฺกทณฺฑกฏฺํ. ปจฺจุเปสฺสนฺติ ราชาโนติ ราชราชมหามตฺเต ปฏิจฺจ อาคมฺม สนฺธาย อุปเสวนฺติ. คาเมสุ นิคเมสุ จาติ เตสํ นิเวสนทฺวาเร นิสีทนฺติ. นิคฺคาหกสมาติ นิคฺคหการเกหิ พลิสาธกราชปุริเสหิ สมา. ยถา เต ปุริสา ‘‘อคฺคเหตฺวา น คมิสฺสามา’’ติ นิคฺคหํ กตฺวา คณฺหนฺติเยว, ตถา ‘‘คาเม วา วเน วา อลทฺธา มรนฺตาปิ น วุฏฺหิสฺสามา’’ติ อุปวสนฺติ. เตปีติ เตปิ พลิสาธกสทิสา ปาปธมฺมา.

รชเรณูหีติ รเชหิ จ ปํสูหิ จ โอกิณฺณา. ยาจกาติ ธนยาจกา. ขาณุฆาตสมาติ มลีนสรีรตาย ฌามเขตฺเต ขาณุฆาตเกหิ ภูมึ ขณิตฺวา ฌามขาณุกอุทฺธรณกมนุสฺเสหิ สมานา, ‘‘อคฺคเหตฺวา น คมิสฺสามา’’ติ นิจฺจลภาเวน ิตตฺตา นิขณิตฺวา ปิตวติขาณุกา วิยาติปิ อตฺโถ. เตปีติ เตปิ ตถา ลทฺธํ ธนํ วฑฺฒิยา ปโยเชตฺวา ปุน ตเถว ิตตฺตา ทุสฺสีลา พฺราหฺมณา.

อุจฺฉุปุฏนฺติ อุจฺฉุฺเจว ผาณิตปุฏฺจ. มธุอฺชนนฺติ มธุฺเจว อฺชนฺจ. อุจฺจาวจานีติ มหคฺฆอปฺปคฺฆานิ. ปณิยานีติ ภณฺฑานิ. วิปเณนฺตีติ วิกฺกิณนฺติ. เตปีติ เตปิ อิมานิ เอตฺตกานิ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปกา วาณิชกพฺราหฺมณา. โปสยนฺตีติ โครสวิกฺกเยน ชีวิกกปฺปนตฺถํ โปเสนฺติ. ปเวจฺฉนฺตีติ อตฺตโน ธีตโร หิรฺสุวณฺณํ คเหตฺวา ปเรสํ เทนฺติ. เต เอวํ ปเรสํ ททมานา วิวาหนฺติ นาม, อตฺตโน ปุตฺตานํ อตฺถาย คณฺหมานา อาวาหนฺติ นาม. อมฺพฏฺเวสฺเสหีติ กุฏุมฺพิเกหิ เจว คหปตีหิ จ สมา, เตปิ โวหารวเสน ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ.

นิกฺขิตฺตภิกฺขนฺติ คามปุโรหิตา หุตฺวา อตฺตโน อตฺถาย นิพทฺธภิกฺขํ. พหู เตติ พหู ชนา เอเต คามปุโรหิเต นกฺขตฺตมุหุตฺตมงฺคลานิ ปุจฺฉนฺติ. อณฺฑจฺเฉทา นิลฺฉกาติ ภตึ คเหตฺวา พลิพทฺทานํ อณฺฑจฺเฉทกา เจว ติสูลาทิองฺกกรเณน ลฺฉกา จ, ลกฺขณการกาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ เตสํ คามปุโรหิตานํ เคเหสุ มํสวิกฺกิณนตฺถํ เอเต ปสุอาทโยปิ หฺนฺติ. เตปีติ เตปิ โคฆาตกสมา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ.

อสิจมฺมนฺติ อสิลฏฺิฺเจว กณฺฑวารณฺจ. เวสฺสปเถสูติ วาณิชานํ คมนมคฺเคสุ. สตฺถํ อพฺพาหยนฺตีติ สตฺถวาหานํ หตฺถโต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ คเหตฺวา สตฺเถ โจราฏวึ อติพาเหนฺติ. โคปนิสาเทหีติ โคปาลเกหิ เจว นิสาเทหิ จ คามฆาตกโจเรหิ สมาติ วุตฺตํ. เตปีติ เตปิ เอวรูปา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ. กุฏานิ การยนฺติ เตติ กูฏปาสาทีนิ โรเปนฺติ. สสพิฬาเรติ สเส เจว พิฬาเร จ. เอเตน ถลจเร มิเค ทสฺเสติ. อาโคธา มจฺฉกจฺฉปนฺติ ถลเชสุ ตาว อาโคธโต มหนฺเต จ ขุทฺทเก จ ปาณโย พาเธนฺติ มาเรนฺติ, ชลเชสุ มจฺฉกจฺฉเป. เตปีติ เตปิ ลุทฺทกสมา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ.

อฺเ ธนสฺส กามา หีติ อปเร พฺราหฺมณา ธนํ ปตฺเถนฺตา. เหฏฺามฺเจ ปสกฺกิตาติ ‘‘กลิปวาหกมฺมํ กาเรสฺสามา’’ติ รตนมยํ มฺจํ กาเรตฺวา ตสฺส เหฏฺา นิปนฺนา อจฺฉนฺติ. อถ เนสํ โสมยาเค อุปฏฺิเต ราชาโน อุปริ นหายนฺติ, เต กิร โสมยาเค นิฏฺิเต อาคนฺตฺวา ตสฺมึ มฺเจ นิสีทนฺติ. อถ เน อฺเ พฺราหฺมณา ‘‘กลึ ปวาเหสฺสามา’’ติ นหาเปนฺติ. รตนมฺโจ เจว รฺโ ราชาลงฺกาโร จ สพฺโพ เหฏฺามฺเจ นิปนฺนสฺเสว โหติ. เตปีติ เตปิ มลมชฺชเกหิ นหาปิเตหิ สทิสา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ.

เอวฺจิเม โวหารมตฺตพฺราหฺมเณ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปรมตฺถพฺราหฺมเณ ทสฺเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๖๗.

‘‘อตฺถิ โข พฺราหฺมณา เทว, สีลวนฺโต พหุสฺสุตา;

วิรตา เมถุนา ธมฺมา, เย เต ภุฺเชยฺยุ โภชนํ.

๒๖๘.

‘‘เอกฺจ ภตฺตํ ภุฺชนฺติ, น จ มชฺชํ ปิวนฺติ เต;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส’’ติ.

ตตฺถ สีลวนฺโตติ อริยสีเลน สมนฺนาคตา. พหุสฺสุตาติ ปฏิเวธพาหุสจฺเจน สมนฺนาคตา. ตาทิเสติ เอวรูเป พาหิตปาเป ปจฺเจกพุทฺธพฺราหฺมเณ นิมนฺตนตฺถาย อุปสงฺกมามาติ.

ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘สมฺม วิธุร, เอวรูปา อคฺคทกฺขิเณยฺยา พฺราหฺมณา กหํ วสนฺตี’’ติ? อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภาเร, มหาราชาติ. ‘‘เตน หิ, ปณฺฑิต, ตว พเลน มยฺหํ เต พฺราหฺมเณ ปริเยสา’’ติ ตุฏฺมานโส คาถมาห –

๒๖๙.

‘‘เอเต โข พฺราหฺมณา วิธุร, สีสวนฺโต พหุสฺสุตา;

เอเต วิธุร ปริเยส, ขิปฺปฺจ เน นิมนฺตยา’’ติ.

มหาสตฺโต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เตน หิ, มหาราช, นครํ อลงฺการาเปตฺวา สพฺเพ นครวาสิโน ทานํ ทตฺวา อุโปสถํ อธิฏฺาย สมาทินฺนสีลา โหนฺตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา ‘‘ตุมฺเหปิ สทฺธึ ปริชเนน อุโปสถํ สมาทิยถา’’ติ วตฺวา สยํ ปาโตว ภุฺชิตฺวา อุโปสถํ สมาทาย สายนฺหสมเย ชาติปุปฺผปุณฺณํ สุวณฺณสมุคฺคํ อาหราเปตฺวา รฺา สทฺธึ ปฺจปติฏฺิตํ ปติฏฺหิตฺวา ปจฺเจกพุทฺธานํ คุเณ อนุสฺสริตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภารวาสิโน ปฺจสตา ปจฺเจกพุทฺธา สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ นิมนฺเตตฺวา อากาเส อฏฺ ปุปฺผมุฏฺิโย วิสฺสชฺเชสิ. ตทา ตตฺถ ปฺจสตา ปจฺเจกพุทฺธา วสนฺติ, ปุปฺผานิ คนฺตฺวา เตสํ อุปริ ปตึสุ. เต อาวชฺเชนฺตา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘มาริสา, วิธุรปณฺฑิเตน นิมนฺติตมฺห, น โข ปเนส อิตฺตรสตฺโต, พุทฺธงฺกุโร เอส, อิมสฺมึเยว กปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสติ, กริสฺสามสฺส สงฺคห’’นฺติ นิมนฺตนํ อธิวาสยึสุ. มหาสตฺโต ปุปฺผานํ อนาคมนสฺาย อธิวาสิตภาวํ ตฺวา ‘‘มหาราช, สฺเว ปจฺเจกพุทฺธา อาคมิสฺสนฺติ, สกฺการสมฺมานํ กโรหี’’ติ อาห. ราชา ปุนทิวเส มหาสกฺการํ กตฺวา มหาตเล มหารหานิ อาสนานิ ปฺเปสิ. ปจฺเจกพุทฺธา อโนตตฺตทเห กตสรีรปฏิชคฺคนา เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ โอตรึสุ. ราชา จ โพธิสตฺโต จ ปสนฺนมานสา เตสํ หตฺถโต ปตฺตานิ คเหตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสึสุ. ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน จ ปุนทิวสตฺถายาติ เอวํ สตฺต ทิวเส นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขาเร อทํสุ. เต อนุโมทนํ กตฺวา อากาเสน ตตฺเถว คตา, ปริกฺขาราปิ เตหิ สทฺธึเยว คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, โกสลรฺโ มม อุปฏฺากสฺส สโต วิเจยฺยทานํ ทาตุํ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ ทานํ อทํสุเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, วิธุรปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ทสพฺราหฺมณชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมา.

[๔๙๖] ๑๓. ภิกฺขาปรมฺปรชาตกวณฺณนา

สุขุมาลรูปํ ทิสฺวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สทฺโธ อโหสิ ปสนฺโน, ตถาคตสฺส เจว สงฺฆสฺส จ นิพทฺธํ มหาสกฺการํ กโรติ. อเถกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘อหํ พุทฺธรตนสฺส เจว สงฺฆรตนสฺส จ ปณีตานิ ขาทนียโภชนียานิ เจว สุขุมวตฺถานิ จ เทนฺโต นิจฺจํ มหาสกฺการํ กโรมิ, อิทานิ ธมฺมรตนสฺสปิ กริสฺสามิ, กถํ นุ โข ตสฺส สกฺการํ กโรนฺเตน กตฺตพฺพ’’นฺติ. โส พหูนิ คนฺธมาลาทีนิ อาทาย เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, ธมฺมรตนสฺส สกฺการํ กตฺตุกาโมมฺหิ, กถํ นุ โข ตสฺส สกฺการํ กโรนฺเตน กตฺตพฺพ’’นฺติ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘สเจ ธมฺมรตนสฺส สกฺการํ กตฺตุกาโม, ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส อานนฺทสฺส สกฺการํ กโรหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา เถรํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหนฺเตน สกฺกาเรน อตฺตโน เคหํ เนตฺวา มหารเห อาสเน นิสีทาเปตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา นานคฺครสโภชนํ ทตฺวา มหคฺเฆ ติจีวรปฺปโหนเก สาฏเก อทาสิ. เถโรปิ ‘‘อยํ สกฺกาโร ธมฺมรตนสฺส กโต, น มยฺหํ อนุจฺฉวิโก, อคฺคสาวกสฺส ธมฺมเสนาปติสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ จินฺเตตฺวา ปิณฺฑปาตฺจ วตฺถานิ จ วิหารํ หริตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส อทาสิ. โสปิ ‘‘อยํ สกฺกาโร ธมฺมรตนสฺส กโต, เอกนฺเตน ธมฺมสฺสามิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺเสว อนุจฺฉวิโก’’ติ จินฺเตตฺวา ทสพลสฺส อทาสิ. สตฺถา อตฺตโน อุตฺตริตรํ อทิสฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิ, จีวรสาฏเก อคฺคเหสิ.

ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม กุฏุมฺพิโก ‘ธมฺมรตนสฺส สกฺการํ กโรมี’ติ ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส อานนฺทตฺเถรสฺส อทาสิ. เถโร ‘นายํ มยฺหํ อนุจฺฉวิโก’ติ ธมฺมเสนาปติโน อทาสิ, โสปิ ‘นายํ มยฺหํ อนุจฺฉวิโก’ติ ตถาคตสฺส อทาสิ. ตถาคโต อฺํ อุตฺตริตรํ อปสฺสนฺโต อตฺตโน ธมฺมสฺสามิตาย ‘มยฺหเมเวโส อนุจฺฉวิโก’ติ ตํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิ, จีวรสาฏเกปิ คณฺหิ, เอวํ โส ปิณฺฑปาโต ยถานุจฺฉวิกตาย ธมฺมสฺสามิโนว ปาทมูลํ คโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว ปิณฺฑปาโต ปรมฺปรา ยถานุจฺฉวิกํ คจฺฉติ, ปุพฺเพปิ อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ อคมาสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต อคติคมนํ ปหาย ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. เอวํ สนฺเตปิสฺส วินิจฺฉโย สุฺโ วิย อโหสิ. ราชา อตฺตโน อคุณคเวสโก หุตฺวา อนฺโตนิเวสนาทีนิ ปริคฺคณฺหนฺโต อนฺเตปุเร จ อนฺโตนคเร จ ทฺวารคาเมสุ จ อตฺตโน อคุณํ กเถนฺตํ อทิสฺวา ‘‘ชนปเท คเวสิสฺสามี’’ติ อมจฺจานํ รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา ปุโรหิเตน สทฺธึ อฺาตกเวเสเนว กาสิรฏฺเ จรนฺโต กฺจิ อคุณํ กเถนฺตํ อทิสฺวา ปจฺจนฺเต เอกํ นิคมํ ปตฺวา พหิทฺวารสาลายํ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ นิคมวาสี อสีติโกฏิวิภโว กุฏุมฺพิโก มหนฺเตน ปริวาเรน นฺหานติตฺถํ คจฺฉนฺโต สาลายํ นิสินฺนํ สุวณฺณวณฺณํ สุขุมาลสรีรํ ราชานํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนโห สาลํ ปวิสิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘อิเธว โหถา’’ติ วตฺวา เคหํ คนฺตฺวา นานคฺครสโภชนํ สมฺปาเทตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ภตฺตภาชนานิ คาหาเปตฺวา อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ หิมวนฺตวาสี ปฺจาภิฺโ ตาปโส อาคนฺตฺวา ตตฺเถว นิสีทิ. นนฺทมูลกปพฺภารโต ปจฺเจกพุทฺโธปิ อาคนฺตฺวา ตตฺเถว นิสีทิ.

กุฏุมฺพิโก รฺโ หตฺถโธวนอุทกํ ทตฺวา นานคฺครเสหิ สูปพฺยฺชเนหิ ภตฺตปาตึ สชฺเชตฺวา รฺโ อุปเนสิ. ราชา นํ คเหตฺวา ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณสฺส อทาสิ. พฺราหฺมโณ คเหตฺวา ตาปสสฺส อทาสิ. ตาปโส ปจฺเจกพุทฺธสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วามหตฺเถน ภตฺตปาตึ, ทกฺขิณหตฺเถน กมณฺฑลุํ คเหตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปตฺเต ภตฺตํ ปกฺขิปิ. โส กฺจิ อนิมนฺเตตฺวา อนาปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิ. ตสฺส ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน กุฏุมฺพิโก จินฺเตสิ ‘‘มยา รฺโ ภตฺตํ ทินฺนํ, รฺา พฺราหฺมณสฺส, พฺราหฺมเณน ตาปสสฺส, ตาปเสน ปจฺเจกพุทฺธสฺส, ปจฺเจกพุทฺโธ กฺจิ อนาปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิ, กึ นุ โข อิเมสํ เอตฺตกํ ทานการณํ, กึ อิมสฺส กฺจิ อนาปุจฺฉิตฺวาว ภุฺชนการณํ, อนุปุพฺเพน เต ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส เอเกกํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ. เตปิสฺส กเถสุํ –

๒๗๐.

‘‘สุขุมาลรูปํ ทิสฺวา, รฏฺา วิวนมาคตํ;

กุฏาคารวรูเปตํ, มหาสยนมุปาสิตํ.

๒๗๑.

‘‘ตสฺส เต เปมเกนาหํ, อทาสึ วฑฺฒโมทนํ;

สาลีนํ วิจิตํ ภตฺตํ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๗๒.

‘‘ตํ ตฺวํ ภตฺตํ ปฏิคฺคยฺห, พฺราหฺมณสฺส อทาสยิ;

อตฺตานํ อนสิตฺวาน, โกยํ ธมฺโม นมตฺถุ เต.

๒๗๓.

‘‘อาจริโย พฺราหฺมโณ มยฺหํ, กิจฺจากิจฺเจสุ พฺยาวโฏ;

ครุ จ อามนฺตนีโย จ, ทาตุมรหามิ โภชนํ.

๒๗๔.

‘‘พฺราหฺมณํ ทานิ ปุจฺฉามิ, โคตมํ ราชปูชิตํ;

ราชา เต ภตฺตํ ปาทาสิ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๗๕.

‘‘ตํ ตฺวํ ภตฺตํ ปฏิคฺคยฺห, อิสิสฺส โภชนํ อทา;

อเขตฺตฺูสิ ทานสฺส, โกยํ ธมฺโม นมตฺถุ เต.

๒๗๖.

‘‘ภรามิ ปุตฺตทาเร จ, ฆเรสุ คธิโต อหํ;

ภุฺเช มานุสเก กาเม, อนุสาสามิ ราชิโน.

๒๗๗.

‘‘อารฺิกสฺส อิสิโน, จิรรตฺตํ ตปสฺสิโน;

วุฑฺฒสฺส ภาวิตตฺตสฺส, ทาตุมรหามิ โภชนํ.

๒๗๘.

‘‘อิสิฺจ ทานิ ปุจฺฉามิ, กิสํ ธมนิสนฺถตํ;

ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมํ, ปงฺกทนฺตํ รชสฺสิรํ.

๒๗๙.

‘‘เอโก อรฺเ วิหรสิ, นาวกงฺขสิ ชีวิตํ;

ภิกฺขุ เกน ตยา เสยฺโย, ยสฺส ตฺวํ โภชนํ อทา.

๒๘๐.

‘‘ขณนฺตาลุกลมฺพานิ, พิลาลิตกฺกลานิ จ;

ธุนํ สามากนีวารํ, สงฺฆาริยํ ปสาริยํ.

๒๘๑.

‘‘สากํ ภิสํ มธุํ มํสํ, พทรามลกานิ จ;

ตานิ อาหริตฺวา ภุฺชามิ, อตฺถิ เม โส ปริคฺคโห.

๒๘๒.

‘‘ปจนฺโต อปจนฺตสฺส, อมมสฺส สกิฺจโน;

อนาทานสฺส สาทาโน, ทาตุมรหามิ โภชนํ.

๒๘๓.

‘‘ภิกฺขุฺจ ทานิ ปุจฺฉามิ, ตุณฺหีมาสีน สุพฺพตํ;

อิสิ เต ภตฺตํ ปาทาสิ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๘๔.

‘‘ตํ ตฺวํ ภตฺตํ ปฏิคฺคยฺห, ตุณฺหี ภุฺชสิ เอกโก;

นาฺํ กฺจิ นิมนฺเตสิ, โกยํ ธมฺโม นมตฺถุ เต.

๒๘๕.

‘‘น ปจามิ น ปาเจมิ, น ฉินฺทามิ น เฉทเย;

ตํ มํ อกิฺจนํ ตฺวา, สพฺพปาเปหิ อารตํ.

๒๘๖.

‘‘วาเมน ภิกฺขมาทาย, ทกฺขิเณน กมณฺฑลุํ;

อิสิ เม ภตฺตํ ปาทาสิ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๘๗.

‘‘เอเต หิ ทาตุมรหนฺติ, สมมา สปริคฺคหา;

ปจฺจนีกมหํ มฺเ, โย ทาตารํ นิมนฺตเย’’ติ.

ตตฺถ วิวนนฺติ นิรุทการฺสทิสํ อิมํ ปจฺจนฺตํ อาคตํ. กูฏาคารวรูเปตนฺติ กูฏาคารวเรน อุปคตํ, เอกํ วรกูฏาคารวาสินนฺติ อตฺโถ. มหาสยนมุปาสิตนฺติ ตตฺเถว สุปฺตฺตํ สิริสยนํ อุปาสิตํ. ตสฺส เตติ เอวรูปํ ตํ ทิสฺวา อหํ เปมมกาสึ, ตสฺส เต เปมเกน. วฑฺฒโมทนนฺติ อุตฺตโมทนํ. วิจิตนฺติ อปคตขณฺฑกาฬเกหิ วิจิตตณฺฑุเลหิ กตํ. อทาสยีติ อทาสิ. อตฺตานนฺติ อตฺตนา, อยเมว วา ปาโ. อนสิตฺวานาติ อภุฺชิตฺวา. โกยํ ธมฺโมติ มหาราช, โก เอส ตุมฺหากํ สภาโว. นมตฺถุ เตติ นโม ตว อตฺถุ, โย ตฺวํ อตฺตนา อภุฺชิตฺวา ปรสฺส อทาสิ.

อาจริโยติ กุฏุมฺพิก เอส มยฺหํ อาจารสิกฺขาปโก อาจริโย. พฺยาวโฏติ อุสฺสุโก. อามนฺตนีโยติ อามนฺเตตพฺพยุตฺตโก มยา ทินฺนํ ภตฺตํ คเหตุํ อนุรูโป. ทาตุมรหามีติ ‘‘อหํ เอวรูปสฺส อาจริยสฺส โภชนํ ทาตุํ อรหามี’’ติ ราชา พฺราหฺมณสฺส คุณํ วณฺเณสิ. อเขตฺตฺูสีติ นาหํ ทานสฺส เขตฺตํ, มยิ ทินฺนํ มหปฺผลํ น โหตีติ เอวํ อตฺตานํ ทานสฺส อเขตฺตํ ชานาสิ มฺเติ. อนุสาสามีติ อตฺตโน อตฺถํ ปหาย รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสามิ.

เอวํ อตฺตโน อคุณํ กเถตฺวา อารฺิกสฺสาติ อิสิโน คุณํ กเถสิ. อิสิโนติ สีลาทิคุณปริเยสกสฺส. ตปสฺสิโนติ ตปนิสฺสิตสฺส. วุฑฺฒสฺสาติ ปณฺฑิตสฺส คุณวุฑฺฒสฺส. นาวกงฺขสีติ สยํ ทุลฺลภโภชโน หุตฺวา เอวรูปํ โภชนํ อฺสฺส เทสิ, กึ อตฺตโน ชีวิตํ น กงฺขสิ. ภิกฺขุ เกนาติ อยํ ภิกฺขุ กตเรน คุเณน ตยา เสฏฺตโร.

ขณนฺตาลุกลมฺพานีติ ขณนฺโต อาลูนิ เจว ตาลกนฺทานิ จ. พิลาลิตกฺกลานิ จาติ พิลาลิกนฺทตกฺกลกนฺทานิ จ. ธุนํ สามากนีวารนฺติ สามากฺจ นีวารฺจ ธุนิตฺวา. สงฺฆาริยํ ปสาริยนฺติ เอเต สามากนีวาเร ธุนนฺโต สงฺฆาเรตฺวา ปุน สุกฺขาปิเต ปสาเรตฺวา สุปฺเปน ปปฺโผเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ตณฺฑุเล อาทาย ปจิตฺวา ภุฺชามีติ วทติ. สากนฺติ ยํ กิฺจิ สูเปยฺยปณฺณํ. มํสนฺติ สีหพฺยคฺฆวิฆาสาทิมํสํ. ตานิ อาหริตฺวาติ ตานิ สากาทีนิ อาหริตฺวา. อมมสฺสาติ ตณฺหาทิฏฺิมมตฺตรหิตสฺส. สกิฺจโนติ สปลิโพโธ. อนาทานสฺสาติ นิคฺคหณสฺส. ทาตุมรหามีติ เอวรูปสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส อตฺตนา ลทฺธโภชนํ ทาตุํ อรหามิ.

ตุณฺหีมาสีนนฺติ กิฺจิ อวตฺวา นิสินฺนํ. อกิฺจนนฺติ ราคกิฺจนาทีหิ รหิตํ. อารตนฺติ วิรตํ สพฺพปาปานิ ปหาย ิตํ. กมณฺฑลุนฺติ กุณฺฑิกํ. เอเต หีติ เอเต ราชาทโย ตโย ชนาติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา เต นิทฺทิสนฺโต เอวมาห. ทาตุมรหนฺตีติ มาทิสสฺส ทาตุํ อรหนฺติ. ปจฺจนีกนฺติ ปจฺจนีกปฏิปทํ. ทายกสฺส หิ นิมนฺตนํ เอกวีสติยา อเนสนาสุ อฺตราย ปิณฺฑปาตปริเยสนาย ชีวิกกปฺปนสงฺขาตา มิจฺฉาชีวปฏิปตฺติ นาม โหติ.

ตสฺส วจนํ สุตฺวา กุฏุมฺพิโก อตฺตมโน ทฺเว โอสานคาถา อภาสิ –

๒๘๘.

‘‘อตฺถาย วต เม อชฺช, อิธาคจฺฉิ รเถสโภ;

โสหํ อชฺช ปชานามิ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๘๙.

‘‘รฏฺเสุ คิทฺธา ราชาโน, กิจฺจากิจฺเจสุ พฺราหฺมณา;

อิสี มูลผเล คิทฺธา, วิปฺปมุตฺตา จ ภิกฺขโว’’ติ.

ตตฺถ รเถสโภติ ราชานํ สนฺธายาห. กิจฺจากิจฺเจสูติ รฺโ กิจฺจกรณีเยสุ. ภิกฺขโวติ ปจฺเจกพุทฺธา ภิกฺขโว ปน สพฺพภเวหิ วิปฺปมุตฺตา.

ปจฺเจกพุทฺโธ ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา สกฏฺานเมว คโต, ตถา ตาปโส. ราชา ปน กติปาหํ ตสฺส สนฺติเก วสิตฺวา พาราณสิเมว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว ปิณฺฑปาโต ยถานุจฺฉวิกํ คจฺฉติ, ปุพฺเพปิ คโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กุฏุมฺพิโก ธมฺมรตนสฺส สกฺการการโก กุฏุมฺพิโก อโหสิ, ราชา อานนฺโท, ปุโรหิโต สาริปุตฺโต, หิมวนฺตตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ภิกฺขาปรมฺปรชาตกวณฺณนา เตรสมา.

ชาตกุทฺทานํ –

เกทารํ จนฺทกินฺนรี, อุกฺกุสุทฺทาลภิสกํ;

สุรุจิ ปฺจุโปสถํ, มหาโมรฺจ ตจฺฉกํ.

มหาวาณิช สาธินํ, ทสพฺราหฺมณชาตกํ;

ภิกฺขาปรมฺปราปิ จ, เตรสานิ ปกิณฺณเก.

ปกิณฺณกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. วีสตินิปาโต

[๔๙๗] ๑. มาตงฺคชาตกวณฺณนา

กุโต นุ อาคจฺฉสิ ทุมฺมวาสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุเทนํ นาม วํสราชานํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺมิฺหิ กาเล อายสฺมา ปิณฺโฑลภารทฺวาโช เชตวนโต อากาเสน คนฺตฺวา เยภุยฺเยน โกสมฺพิยํ อุเทนสฺส รฺโ อุยฺยานํ ทิวาวิหาราย คจฺฉติ. เถโร กิร ปุริมภเว รชฺชํ กาเรนฺโต ทีฆมทฺธานํ ตสฺมึ อุยฺยาเน มหาปริวาโร สมฺปตฺตึ อนุภวิ. โส เตน ปุพฺพาจิณฺเณน เยภุยฺเยน ตตฺเถว ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมติ. ตสฺมึ เอกทิวสํ ตตฺถ คนฺตฺวา สุปุปฺผิตสาลมูเล นิสินฺเน อุเทโน สตฺตาหํ มหาปานํ ปิวิตฺวา ‘‘อุยฺยานกีฬํ กีฬิสฺสามี’’ติ มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คนฺตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ อฺตราย อิตฺถิยา องฺเก นิปนฺโน สุรามทมตฺตตาย นิทฺทํ โอกฺกมิ. คายนฺตา นิสินฺนิตฺถิโย ตูริยานิ ฉฑฺเฑตฺวา อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา ปุปฺผผลาทีนิ วิจินนฺติโย เถรํ ทิสฺวา คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสีทึสุ. เถโร ตาสํ ธมฺมกถํ กเถนฺโต นิสีทิ. อิตราปิ อิตฺถี องฺกํ จาเลตฺวา ราชานํ ปโพเธตฺวา ‘‘กุหึ ตา วสลิโย คตา’’ติ วุตฺเต ‘‘เอกํ สมณํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา’’ติ อาห. โส กุทฺโธ คนฺตฺวา เถรํ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา ‘‘หนฺทาหํ, ตํ สมณํ ตมฺพกิปิลฺลเกหิ ขาทาเปสฺสามี’’ติ โกธวเสน เถรสฺส สรีเร ตมฺพกิปิลฺลกปุฏํ ภินฺทาเปสิ. เถโร อากาเส ตฺวา ตสฺโสวาทํ ทตฺวา เชตวเน คนฺธกุฏิทฺวาเรเยว โอตริตฺวา ตถาคเตน ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘น โข, ภารทฺวาช, อุเทโน อิทาเนว ปพฺพชิเต วิเหเติ, ปุพฺเพปิ วิเหเสิเยวา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตทา มหาสตฺโต พหินคเร จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺติ, ‘‘มาตงฺโค’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อปรภาเค วิฺุตํ ปตฺโต ‘‘มาตงฺคปณฺฑิโต’’ติ ปากโฏ อโหสิ. ตทา พาราณสิเสฏฺิโน ธีตา ทิฏฺมงฺคลิกา นาม เอกมาสทฺเวมาสวาเรน มหาปริวารา อุยฺยานํ กีฬิตุํ คจฺฉติ. อเถกทิวสํ มหาสตฺโต เกนจิ กมฺเมน นครํ ปวิสนฺโต อนฺตรทฺวาเร ทิฏฺมงฺคลิกํ ทิสฺวา เอกมนฺตํ อปคนฺตฺวา อลฺลียิตฺวา อฏฺาสิ. ทิฏฺมงฺคลิกา สาณิยา อนฺตเรน โอโลเกนฺตี ตํ ทิสฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จณฺฑาโล อยฺเย’’ติ วุตฺเต ‘‘อทิฏฺปุพฺพยุตฺตกํ วต ปสฺสามี’’ติ คนฺโธทเกน อกฺขีนิ โธวิตฺวา ตโต นิวตฺติ. ตาย สทฺธึ นิกฺขนฺตชโน ‘‘อเร, ทุฏฺ จณฺฑาล, อชฺช ตํ นิสฺสาย อมฺหากํ อมูลกํ สุราภตฺตํ นฏฺ’’นฺติ โกธาภิภูโต มาตงฺคปณฺฑิตํ หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ โปเถตฺวา วิสฺึ กตฺวา ปกฺกามิ. โส มุหุตฺตํ วีตินาเมตฺวา ปฏิลทฺธสฺโ จินฺเตสิ ‘‘ทิฏฺมงฺคลิกาย ปริชโน มํ นิทฺโทสํ อการเณน โปเถสิ, ทิฏฺมงฺคลิกํ ลภิตฺวาว อุฏฺหิสฺสามิ, โน อลภิตฺวา’’ติ อธิฏฺาย คนฺตฺวา ตสฺสา ปิตุ นิเวสนทฺวาเร นิปชฺชิ. โส ‘‘เกน การเณน นิปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อฺํ การณํ นตฺถิ, ทิฏฺมงฺคลิกาย เม อตฺโถ’’ติ อาห. เอโก ทิวโส อตีโต, ตถา ทุติโย, ตติโย, จตุตฺโถ, ปฺจโม, ฉฏฺโ จ. โพธิสตฺตานํ อธิฏฺานํ นาม สมิชฺฌติ, ตสฺมา สตฺตเม ทิวเส ทิฏฺมงฺคลิกํ นีหริตฺวา ตสฺส อทํสุ.

อถ นํ สา ‘‘อุฏฺเหิ, สามิ, ตุมฺหากํ เคหํ คจฺฉามา’’ติ อาห. ภทฺเท, ตว ปริชเนนมฺหิ สุโปถิโต ทุพฺพโล, มํ อุกฺขิปิตฺวา ปิฏฺึ อาโรเปตฺวา อาทาย คจฺฉาหีติ. สา ตถา กตฺวา นครวาสีนํ ปสฺสนฺตานฺเว นครา นิกฺขมิตฺวา จณฺฑาลคามกํ คตา. อถ นํ มหาสตฺโต ชาติสมฺเภทวีติกฺกมํ อกตฺวาว กติปาหํ เคเห วสาเปตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อหเมตํ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ กโรนฺโต ปพฺพชิตฺวาว กาตุํ สกฺขิสฺสามิ, น อิตรถา’’ติ. อถ นํ อามนฺเตตฺวา ‘ภทฺเท, มยิ อรฺโต กิฺจิ อนาหรนฺเต อมฺหากํ ชีวิกา นปฺปวตฺตติ, ยาว มมาคมนา มา อุกฺกณฺิ, อหํ อรฺํ คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา เคหวาสิโนปิ ‘‘อิมํ มา ปมชฺชิตฺถา’’ติ โอวทิตฺวา อรฺํ คนฺตฺวา สมณปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อปฺปมตฺโต สตฺตเม ทิวเส อฏฺ สมาปตฺติโย จ ปฺจ อภิฺาโย จ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อิทานิ ทิฏฺมงฺคลิกาย อวสฺสโย ภวิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ อิทฺธิยา คนฺตฺวา จณฺฑาลคามทฺวาเร โอตริตฺวา ทิฏฺมงฺคลิกาย เคหทฺวารํ อคมาสิ. สา ตสฺสาคมนํ สุตฺวา เคหโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘สามิ, กสฺมา มํ อนาถํ กตฺวา ปพฺพชิโตสี’’ติ ปริเทวิ. อถ นํ ‘‘ภทฺเท, มา จินฺตยิ, ตว โปราณกยสโต อิทานิ มหนฺตตรํ ยสํ กริสฺสามิ, อปิจ โข ปน ‘น มยฺหํ มาตงฺคปณฺฑิโต สามิโก, มหาพฺรหฺมา เม สามิโก’ติ เอตฺตกํ ปริสมชฺเฌ วตฺตุํ สกฺขิสฺสสี’ติ อาห. ‘‘อาม, สามิ, สกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ ‘‘อิทานิ เต สามิโก กุหินฺติ ปุฏฺา ‘พฺรหฺมโลกํ คโต’ติ วตฺวา ‘กทา อาคมิสฺสตี’ติ วุตฺเต ‘อิโต สตฺตเม ทิวเส ปุณฺณมายํ จนฺทํ ภินฺทิตฺวา อาคมิสฺสตี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ นํ วตฺวา มหาสตฺโต หิมวนฺตเมว คโต.

ทิฏฺมงฺคลิกาปิ พาราณสิยํ มหาชนสฺส มชฺเฌ เตสุ เตสุ าเนสุ ตถา กเถสิ. มหาชโน ‘‘อโห มหาพฺรหฺมา สมาโน ทิฏฺมงฺคลิกํ น คจฺฉติ, เอวเมตํ ภวิสฺสตี’’ติ สทฺทหิ. โพธิสตฺโตปิ ปุณฺณมทิวเส จนฺทสฺส คคนมชฺเฌ ิตกาเล พฺรหฺมตฺตภาวํ มาเปตฺวา สกลํ กาสิรฏฺํ ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสินครฺจ เอโกภาสํ กตฺวา จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา โอตริตฺวา พาราณสิยา อุปรูปริ ติกฺขตฺตุํ ปริพฺภมิตฺวา มหาชเนน คนฺธมาลาทีหิ ปูชิยมาโน จณฺฑาลคามกาภิมุโข อโหสิ. พฺรหฺมภตฺตา สนฺนิปติตฺวา จณฺฑาลคามกํ คนฺตฺวา ทิฏฺมงฺคลิกาย เคหํ สุทฺธวตฺเถหิ ฉาเทตฺวา ภูมึ จตุชฺชาติยคนฺเธหิ โอปุฺฉิตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา ธูมํ ทตฺวา เจลวิตานํ ปสาเรตฺวา มหาสยนํ ปฺเปตฺวา คนฺธเตเลหิ ทีปํ ชาเลตฺวา ทฺวาเร รชตปฏฺฏวณฺณวาลุกํ โอกิริตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา ธเช พนฺธึสุ. เอวํ อลงฺกเต เคเห มหาสตฺโต โอตริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา โถกํ สยนปิฏฺเ นิสีทิ.

ตทา ทิฏฺมงฺคลิกา อุตุนี โหติ. อถสฺสา องฺคุฏฺเกน นาภึ ปรามสิ, กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺาสิ. อถ นํ มหาสตฺโต อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, คพฺโภ เต ปติฏฺิโต, ตฺวํ ปุตฺตํ วิชายิสฺสสิ, ตฺวมฺปิ ปุตฺโตปิ เต ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตา ภวิสฺสถ, ตว ปาทโธวนอุทกํ สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสโกทกํ ภวิสฺสติ, นหาโนทกํ ปน เต อมโตสธํ ภวิสฺสติ, เย ตํ สีเส อาสิฺจิสฺสนฺติ, เต สพฺพโรเคหิ มุจฺจิสฺสนฺติ, กาฬกณฺณึ ปริวชฺเชสฺสนฺติ, ตว ปาทปิฏฺเ สีสํ เปตฺวา วนฺทนฺตา สหสฺสํ ทสฺสนฺติ, โสตปเถ ตฺวา วนฺทนฺตา สตํ ทสฺสนฺติ, จกฺขุปเถ ตฺวา วนฺทนฺตา เอกํ กหาปณํ ทตฺวา วนฺทิสฺสนฺติ, อปฺปมตฺตา โหหี’’ติ นํ โอวทิตฺวา เคหา นิกฺขมิตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อุปฺปติตฺวา จนฺทมณฺฑลํ ปาวิสิ. พฺรหฺมภตฺตา สนฺนิปติตฺวา ิตกาว รตฺตึ วีตินาเมตฺวา ปาโตว ทิฏฺมงฺคลิกํ สุวณฺณสิวิกํ อาโรเปตฺวา สีเสน อุกฺขิปิตฺวา นครํ ปวิสึสุ. ‘‘มหาพฺรหฺมภริยา’’ติ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา มหาชโน คนฺธมาลาทีหิ ปูเชสิ. ปาทปิฏฺเ สีสํ เปตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺตา สหสฺสตฺถวิกํ เทนฺติ, โสตปเถ ตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺตา สตํ เทนฺติ, จกฺขุปเถ ตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺตา เอกํ กหาปณํ เทนฺติ. เอวํ ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสึ ตํ คเหตฺวา วิจรนฺตา อฏฺารสโกฏิธนํ ลภึสุ.

อถ นํ นครํ ปริหริตฺวา อาเนตฺวา นครมชฺเฌ มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สาณึ ปริกฺขิปิตฺวา มหาสยนํ ปฺเปตฺวา มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน ตตฺถ วสาเปสุํ. มณฺฑปสนฺติเกเยว สตฺตทฺวารโกฏฺํ สตฺตภูมิกํ ปาสาทํ กาตุํ อารภึสุ, มหนฺตํ นวกมฺมํ อโหสิ. ทิฏฺมงฺคลิกา มณฺฑเปเยว ปุตฺตํ วิชายิ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส พฺราหฺมณา สนฺนิปติตฺวา มณฺฑเป ชาตตฺตา ‘‘มณฺฑพฺยกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ปาสาโท ปน ทสหิ มาเสหิ นิฏฺิโต. ตโต ปฏฺาย สา มหนฺเตน ยเสน ตสฺมึ วสติ, มณฺฑพฺยกุมาโรปิ มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒติ. ตสฺส สตฺตฏฺวสฺสกาเลเยว ชมฺพุทีปตเล อุตฺตมาจริยา สนฺนิปตึสุ. เต ตํ ตโย เวเท อุคฺคณฺหาเปสุํ. โส โสฬสวสฺสกาลโต ปฏฺาย พฺราหฺมณานํ ภตฺตํ ปฏฺเปสิ, นิพทฺธํ โสฬส พฺราหฺมณสหสฺสานิ ภุฺชนฺติ. จตุตฺเถ ทฺวารโกฏฺเก พฺราหฺมณานํ ทานํ เทติ.

อเถกสฺมึ มหามหทิวเส เคเห พหุํ ปายาสํ ปฏิยาเทสุํ. โสฬส พฺราหฺมณสหสฺสานิ จตุตฺเถ ทฺวารโกฏฺเก นิสีทิตฺวา สุวณฺณรสวณฺเณน นวสปฺปินา ปกฺกมธุขณฺฑสกฺขราหิ จ อภิสงฺขตํ ปายาสํ ปริภุฺชนฺติ. กุมาโรปิ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สุวณฺณปาทุกา อารุยฺห หตฺเถน กฺจนทณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อิธ สปฺปึ เทถ, อิธ มธุ’’นฺติ วิจาเรนฺโต จรติ. ตสฺมึ ขเณ มาตงฺคปณฺฑิโต หิมวนฺเต อสฺสมปเท นิสินฺโน ‘‘กา นุ โข ทิฏฺมงฺคลิกาย ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตสฺส อติตฺเถ ปกฺขนฺทภาวํ ทิสฺวา ‘‘อชฺเชว คนฺตฺวา มาณวํ ทเมตฺวา ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ, ตตฺถ ทานํ ทาเปตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อากาเสน อโนตตฺตทหํ คนฺตฺวา มุขโธวนาทีนิ กตฺวา มโนสิลาตเล ิโต รตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ปํสุกูลสงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา มตฺติกาปตฺตํ อาทาย อากาเสนาคนฺตฺวา จตุตฺเถ ทฺวารโกฏฺเก ทานคฺเคเยว โอตริตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. มณฺฑพฺโย กุมาโร อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘เอวํวิรูโป สงฺการยกฺขสทิโส อยํ ปพฺพชิโต อิมํ านํ อาคจฺฉนฺโต กุโต นุ โข อาคจฺฉตี’’ติ เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘กุโต นุ อาคจฺฉสิ ทุมฺมวาสี, โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว;

สงฺการโจฬํ ปฏิมุฺจ กณฺเ, โก เร ตุวํ โหสิ อทกฺขิเณยฺโย’’ติ.

ตตฺถ ทุมฺมวาสีติ อนฺชิตอมณฺฑิตฆฏิตสงฺฆาฏิกปิโลติกวสโน. โอตลฺลโกติ ลามโก โอลมฺพวิลมฺพนนฺตกธโร วา. ปํสุปิสาจโกวาติ สงฺการฏฺาเน ปิสาจโก วิย. สงฺการโจฬนฺติ สงฺการฏฺาเน ลทฺธปิโลติกํ. ปฏิมุฺจาติ ปฏิมุฺจิตฺวา. อทกฺขิเณยฺโยติ ตฺวํ อทกฺขิเณยฺโย อิเมสํ ปรมทกฺขิเณยฺยานํ นิสินฺนฏฺานํ เอโก หุตฺวา กุโต อาคโต.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต มุทุจิตฺเตเนว เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘อนฺนํ ตเวทํ ปกตํ ยสสฺสิ, ตํ ขชฺชเร ภุฺชเร ปิยฺยเร จ;

ชานาสิ มํ ตฺวํ ปรทตฺตูปชีวึ, อุตฺติฏฺปิณฺฑํ ลภตํ สปาโก’’ติ.

ตตฺถ ปกตนฺติ ปฏิยตฺตํ. ยสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺน. ตํ ขชฺชเรติ ตํ ขชฺชนฺติ จ ภุฺชนฺติ จ ปิวนฺติ จ. กึการณา มยฺหํ กุชฺฌสิ? อุตฺติฏฺปิณฺฑนฺติ อุปติฏฺิตฺวา ลภิตพฺพปิณฺฑํ, อุฏฺาย ิเตหิ วา ทียมานํ เหฏฺา ตฺวา ลภิตพฺพปิณฺฑํ. ลภตํ สปาโกติ สปาโก จณฺฑาโลปิ ลภตุ. ชาติสมฺปนฺนา หิ ยตฺถ กตฺถจิ ลภนฺติ, สปากจณฺฑาลสฺส ปน โก เทติ, ทุลฺลภปิณฺโฑ อหํ, ตสฺมา เม ชีวิตปวตฺตนตฺถํ โภชนํ ทาเปหิ, กุมาราติ.

ตโต มณฺฑพฺโย คาถมาห –

.

‘‘อนฺนํ มเมทํ ปกตํ พฺราหฺมณานํ, อตฺตตฺถาย สทฺทหโต มเมทํ;

อเปหิ เอตฺโต กิมิธฏฺิโตสิ, น มาทิสา ตุมฺหํ ททนฺติ ชมฺมา’’ติ.

ตตฺถ อตฺตตฺถายาติ อตฺตโน วฑฺฒิอตฺถาย. อเปหิ เอตฺโตติ อิมมฺหา านา อปคจฺฉ. น มาทิสาติ มาทิสา ชาติสมฺปนฺนานํ อุทิจฺจพฺราหฺมณานํ ทานํ เทนฺติ, น ตุยฺหํ จณฺฑาลสฺส, คจฺฉ, ชมฺมาติ.

ตโต มหาสตฺโต คาถมาห –

.

‘‘ถเล จ นินฺเน จ วปนฺติ พีชํ, อนูปเขตฺเต ผลมาสมานา;

เอตาย สทฺธาย ททาหิ ทานํ, อปฺเปว อาราธเย ทกฺขิเณยฺเย’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – กุมาร, สสฺสผลํ อาสีสมานา ตีสุปิ เขตฺเตสุ พีชํ วปนฺติ. ตตฺถ อติวุฏฺิกาเล ถเล สสฺสํ สมฺปชฺชติ, นินฺเน ปูติกํ โหติ, อนูปเขตฺเต นทิฺจ ตฬากฺจ นิสฺสาย กตํ โอเฆน วุยฺหติ. มนฺทวุฏฺิกาเล ถเล เขตฺเต วิปชฺชติ, นินฺเน โถกํ สมฺปชฺชติ, อนูปเขตฺเต สมฺปชฺชเตว. สมวุฏฺิกาเล ถเล เขตฺเต โถกํ สมฺปชฺชติ, อิตเรสุ สมฺปชฺชเตว. ตสฺมา ยถา ผลมาสีสมานา ตีสุปิ เขตฺเตสุ วปนฺติ, ตถา ตฺวมฺปิ เอตาย ผลสทฺธาย อาคตาคตานํ สพฺเพสํเยว ทานํ เทหิ, อปฺเปว นาม เอวํ ททนฺโต ทกฺขิเณยฺเย อาราเธยฺยาสิ ลเภยฺยาสีติ.

ตโต มณฺฑพฺโย คาถมาห –

.

‘‘เขตฺตานิ มยฺหํ วิทิตานิ โลเก, เยสาหํ พีชานิ ปติฏฺเปมิ;

เย พฺราหฺมณา ชาติมนฺตูปปนฺนา, ตานีธ เขตฺตานิ สุเปสลานี’’ติ.

ตตฺถ เยสาหนฺติ เยสุ อหํ. ชาติมนฺตูปปนฺนาติ ชาติยา จ มนฺเตหิ จ อุปปนฺนา.

ตโต มหาสตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘ชาติมโท จ อติมานิตา จ, โลโภ จ โทโส จ มโท จ โมโห;

เอเต อคุณา เยสุ จ สนฺติ สพฺเพ, ตานีธ เขตฺตานิ อเปสลานิ.

.

‘‘ชาติมโท จ อติมานิตา จ, โลโภ จ โทโส จ มโท จ โมโห;

เอเต อคุณา เยสุ น สนฺติ สพฺเพ, ตานีธ เขตฺตานิ สุเปสลานี’’ติ.

ตตฺถ ชาติมโทติ ‘‘อหมสฺมิ ชาติสมฺปนฺโน’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. อติมานิตา จาติ ‘‘อฺโ มยา สทฺธึ ชาติอาทีหิ สทิโส นตฺถี’’ติ อติกฺกมฺม ปวตฺตมาโน. โลภาทโย ลุพฺภนทุสฺสนมชฺชนมุยฺหนมตฺตาว. อเปสลานีติ เอวรูปา ปุคฺคลา อาสีวิสภริตา วิย วมฺมิกา อปฺปิยสีลา โหนฺติ. เอวรูปานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ, ตสฺมา มา เอเตสํ สุเปสลเขตฺตภาวํ มฺิตฺถ. น หิ ชาติมนฺตา สคฺคทายกา. เย ปน ชาติมานาทิรหิตา อริยา, ตานิ เขตฺตานิ สุเปสลานิ, เตสุ ทินฺนํ มหปฺผลํ, เต สคฺคทายกา โหนฺตีติ.

อิติ โส มหาสตฺเต ปุนปฺปุนํ กเถนฺเต กุชฺฌิตฺวา ‘‘อยํ อติวิย พหุํ วิปฺปลปติ, กุหึ คตา อิเม โทวาริกา, นยิมํ จณฺฑาลํ นีหรนฺตี’’ติ คาถมาห –

.

‘‘กฺเวตฺถ คตา อุปโชติโย จ, อุปชฺฌาโย อถ วา คณฺฑกุจฺฉิ;

อิมสฺส ทณฺฑฺจ วธฺจ ทตฺวา, คเล คเหตฺวา ขลยาถ ชมฺม’’นฺติ.

ตตฺถ กฺเวตฺถ คตาติ อิเมสุ ตีสุ ทฺวาเรสุ ปิตา อุปโชติโย จ อุปชฺฌาโย จ คณฺฑกุจฺฉิ จาติ ตโย โทวาริกา กุหึ คตาติ อตฺโถ.

เตปิ ตสฺส วจนํ สุตฺวา เวเคนาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กึ กโรม เทวา’’ติ อาหํสุ. ‘‘อยํ โว ชมฺโม จณฺฑาโล ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น ปสฺสาม เทว, กุโตจิ อาคตภาวํ น ชานามา’’ติ. ‘‘โก เจส มายากาโร วา วิชฺชาธโร วา ภวิสฺสติ, อิทานิ กึ ติฏฺถา’’ติ. ‘‘กึ กโรม เทวา’’ติ? ‘‘อิมสฺส มุขเมว โปเถตฺวา ภินฺทนฺตา ทณฺฑเวฬุเปสิกาหิ ปิฏฺิจมฺมํ อุปฺปาเฏนฺตา วธฺจ ทตฺวา คเล คเหตฺวา เอตํ ชมฺมํ ขลยาถ, อิโต นีหรถา’’ติ.

มหาสตฺโต เตสุ อตฺตโน สนฺติกํ อนาคเตสฺเวว อุปฺปติตฺวา อากาเส ิโต คาถมาห –

.

‘‘คิรึ นเขน ขณสิ, อโย ทนฺเตหิ ขาทสิ;

ชาตเวทํ ปทหสิ, โย อิสึ ปริภาสสี’’ติ.

ตตฺถ ชาตเวทํ ปทหสีติ อคฺคึ คิลิตุํ วายมสิ.

อิมฺจ ปน คาถํ วตฺวา มหาสตฺโต ปสฺสนฺตสฺเสว มาณวสฺส จ พฺราหฺมณานฺจ อากาเส ปกฺขนฺทิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๐.

‘‘อิทํ วตฺวาน มาตงฺโค, อิสิ สจฺจปรกฺกโม;

อนฺตลิกฺขสฺมึ ปกฺกามิ, พฺราหฺมณานํ อุทิกฺขต’’นฺติ.

ตตฺถ สจฺจปรกฺกโมติ สภาวปรกฺกโม.

โส ปาจีนทิสาภิมุโข คนฺตฺวา เอกาย วีถิยา โอตริตฺวา ‘‘ปทวฬฺชํ ปฺายตู’’ติ อธิฏฺาย ปาจีนทฺวารสมีเป ปิณฺฑาย จรนฺโต มิสฺสกภตฺตํ สํกฑฺฒิตฺวา เอกิสฺสํ สาลายํ นิสีทิตฺวา มิสฺสกภตฺตํ ปริภุฺชิ. นครเทวตา ‘‘อยํ อมฺหากํ อยฺยํ วิเหเตฺวา กเถตี’’ติ อสหมานา อาคมึสุ. อถสฺส เชฏฺกยกฺโข มณฺฑพฺยสฺส คีวํ คเหตฺวา ปริวตฺเตสิ, เสสเทวตา เสสพฺราหฺมณานํ คีวํ คณฺหิตฺวา ปริวตฺเตสุํ. โพธิสตฺเต มุทุจิตฺตตาย ปน ‘‘ตสฺส ปุตฺโต’’ติ นํ น มาเรนฺติ, เกวลํ กิลเมนฺติเยว. มณฺฑพฺยสฺส สีสํ ปริวตฺติตฺวา ปิฏฺิปสฺสาภิมุขํ ชาตํ, หตฺถปาทา อุชุกา ถทฺธาว อฏฺํสุ, อกฺขีนิ กาลกตสฺเสว ปริวตฺตึสุ. โส ถทฺธสรีโรว นิปชฺชิ, เสสพฺราหฺมณา มุเขน เขฬํ วมนฺตา อปราปรํ ปริวตฺตนฺติ. มาณวา ‘‘อยฺเย, ปุตฺตสฺส เต กึ ชาต’’นฺติ ทิฏฺมงฺคลิกาย อาโรจยึสุ. สา เวเคน คนฺตฺวา ปุตฺตํ ทิสฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วตฺวา คาถมาห –

๑๑.

‘‘อาเวลฺลิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ, พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;

เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส, โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ.

ตตฺถ อาเวลฺลิตนฺติ ปริวตฺติตํ.

อถสฺสา ตสฺมึ าเน ิตชโน อาโรเจตุํ คาถมาห –

๑๒.

‘‘อิธาคมา สมโณ ทุมฺมวาสี, โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว;

สงฺการโจฬํ ปฏิมุฺจ กณฺเ, โส เต อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ.

สา ตํ สุตฺวาว จินฺเตสิ ‘‘อฺสฺเสตํ พลํ นตฺถิ, นิสฺสํสยํ มาตงฺคปณฺฑิโต ภวิสฺสติ, สมฺปนฺนเมตฺตาภาวโน โข ปน ธีโร น เอตฺตกํ ชนํ กิลเมตฺวา คมิสฺสติ, กตรํ นุ โข ทิสํ คโต ภวิสฺสตี’’ติ. ตโต ปุจฺฉนฺตี คาถมาห –

๑๓.

‘‘กตมํ ทิสํ อคมา ภูริปฺโ, อกฺขาถ เม มาณวา เอตมตฺถํ;

คนฺตฺวาน ตํ ปฏิกเรมุ อจฺจยํ, อปฺเปว นํ ปุตฺต ลเภมุ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ คนฺตฺวานาติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา. ตํ ปฏิกเรมุ อจฺจยนฺติ ตํ อจฺจยํ ปฏิกริสฺสาม เทเสสฺสาม, ขมาเปสฺสาม นนฺติ. ปุตฺต ลเภมุ ชีวิตนฺติ อปฺเปว นาม ปุตฺตสฺส ชีวิตํ ลเภยฺยาม.

อถสฺสา ตตฺถ ิตา มาณวา กเถนฺตา คาถมาหํสุ –

๑๔.

‘‘เวหายสํ อคมา ภูริปฺโ, ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จนฺโท;

อปิ จาปิ โส ปุริมทิสํ อคจฺฉิ, สจฺจปฺปฏิฺโ อิสิ สาธุรูโป’’ติ.

ตตฺถ ปถทฺธุโนติ อากาสปถสงฺขาตสฺส อทฺธุโน มชฺเฌ ิโต ปนฺนรเส จนฺโท วิย. อปิ จาปิ โสติ อปิจ โข ปน โส ปุรตฺถิมํ ทิสํ คโต.

สา เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘มม สามิกํ อุปธาเรสฺสามี’’ติ สุวณฺณกลสสุวณฺณสรกานิ คาหาเปตฺวา ทาสิคณปริวุตา เตน ปทวฬฺชสฺส อธิฏฺิตฏฺานํ ปตฺวา เตนานุสาเรน คจฺฉนฺตี ตสฺมึ ปีิกาย นิสีทิตฺวา ภุฺชมาเน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โส ตํ ทิสฺวา โถกํ โอทนํ ปตฺเต เปสิ. ทิฏฺมงฺคลิกา สุวณฺณกลเสน ตสฺส อุทกํ อทาสิ. โส ตตฺเถว หตฺถํ โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลสิ. อถ นํ สา ‘‘เกน เม ปุตฺตสฺส โส วิปฺปกาโร กโต’’ติ ปุจฺฉนฺตี คาถมาห –

๑๕.

‘‘อาเวลฺลิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ, พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;

เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส, โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ.

ตโต ปรา เตสํ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –

๑๖.

‘‘ยกฺขา หเว สนฺติ มหานุภาวา, อนฺวาคตา อิสโย สาธุรูปา;

เต ทุฏฺจิตฺตํ กุปิตํ วิทิตฺวา, ยกฺขา หิ เต ปุตฺตมกํสุ เอวํ.

๑๗.

‘‘ยกฺขา จ เม ปุตฺตมกํสุ เอวํ, ตฺวฺเว เม มา กุทฺโธ พฺรหฺมจาริ;

ตุมฺเหว ปาเท สรณํ คตาสฺมิ, อนฺวาคตา ปุตฺตโสเกน ภิกฺขุ.

๑๘.

‘‘ตเทว หิ เอตรหิ จ มยฺหํ, มโนปโทโส น มมตฺถิ โกจิ;

ปุตฺโต จ เต เวทมเทน มตฺโต, อตฺถํ น ชานาติ อธิจฺจ เวเท.

๑๙.

‘‘อทฺธา หเว ภิกฺขุ มุหุตฺตเกน, สมฺมุยฺหเตว ปุริสสฺส สฺา;

เอกาปราธํ ขม ภูริปฺ, น ปณฺฑิตา โกธพลา ภวนฺตี’’ติ.

ตตฺถ ยกฺขาติ นครปริคฺคาหกยกฺขา. อนฺวาคตาติ อนุ อาคตา, อิสโย สาธุรูปา คุณสมฺปนฺนาติ เอวํ ชานมานาติ อตฺโถ. เตติ เต อิสีนํ คุณํ ตฺวา ตว ปุตฺตํ ทุฏฺจิตฺตํ กุปิตจิตฺตํ วิทิตฺวา. ตฺวฺเว เมติ สเจ ยกฺขา กุปิตา เอวมกํสุ, กโรนฺตุ, เทวตา นาม ปานียอุฬุงฺกมตฺเตน สนฺตปฺเปตุํ สกฺกา, ตสฺมาหํ เตสํ น ภายามิ, เกวลํ ตฺวฺเว เม ปุตฺตสฺส มา กุชฺฌิ. อนฺวาคตาติ อาคตาสฺมิ. ภิกฺขูติ มหาสตฺตํ อาลปนฺตี ปุตฺตสฺส ชีวิตทานํ ยาจติ. ตเทว หีติ ทิฏฺมงฺคลิเก ตทา ตว ปุตฺตสฺส มํ อกฺโกสนกาเล จ มยฺหํ มโนปโทโส นตฺถิ, เอตรหิ จ ตยิ ยาจมานายปิ มม ตสฺมึ มโนปโทโส นตฺถิเยว. เวทมเทนาติ ‘‘ตโย เวทา เม อุคฺคหิตา’’ติ มเทน. อธิจฺจาติ เวเท อุคฺคเหตฺวาปิ อตฺถานตฺถํ น ชานาติ. มุหุตฺตเกนาติ ยํ กิฺจิ อุคฺคเหตฺวา มุหุตฺตเกเนว.

เอวํ ตาย ขมาปิยมาโน มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ เอเตสํ ยกฺขานํ ปลายนตฺถาย อมโตสธํ ทสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๒๐.

‘‘อิทฺจ มยฺหํ อุตฺติฏฺปิณฺฑํ, ตว มณฺฑพฺโย ภุฺชตุ อปฺปปฺโ;

ยกฺขา จ เต นํ น วิเหเยยฺยุํ, ปุตฺโต จ เต เหสฺสติ โส อโรโค’’ติ.

ตตฺถ อุตฺติฏฺปิณฺฑนฺติ อุจฺฉิฏฺกปิณฺฑํ, ‘‘อุจฺฉิฏฺปิณฺฑ’’นฺติปิ ปาโ.

สา มหาสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เทถ, สามิ, อมโตสธ’’นฺติ สุวณฺณสรกํ อุปนาเมสิ. มหาสตฺโต อุจฺฉิฏฺกกฺชิกํ ตตฺถ อาสิฺจิตฺวา ‘‘ปมฺเว อิโต อุปฑฺฒํ ตว ปุตฺตสฺส มุเข โอสิฺจิตฺวา เสสํ จาฏิยํ อุทเกน มิสฺเสตฺวา เสสพฺราหฺมณานํ มุเข โอสิฺเจหิ, สพฺเพปิ นิโรคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตเมว คโต. สาปิ ตํ สรกํ สีเสนาทาย ‘‘อมโตสธํ เม ลทฺธ’’นฺติ วทนฺตี นิเวสนํ คนฺตฺวา ปมํ ปุตฺตสฺส มุเข กฺชิกํ โอสิฺจิ, ยกฺโข ปลายิ. อิตโร ปํสุํ ปุฺฉนฺโต อุฏฺาย ‘‘อมฺม กิเมต’’นฺติ อาห. ตยา กตํ ตฺวเมว ชานิสฺสสิ. เอหิ, ตาต, ตว ทกฺขิเณยฺยานํ เตสํ วิปฺปการํ ปสฺสาติ. โส เต ทิสฺวา วิปฺปฏิสารี อโหสิ. อถ นํ มาตา ‘‘ตาต มณฺฑพฺย, ตฺวํ พาโล ทานสฺส มหปฺผลฏฺานํ น ชานาสิ, ทกฺขิเณยฺยา นาม เอวรูปา น โหนฺติ, มาตงฺคปณฺฑิตสทิสาว โหนฺติ, อิโต ปฏฺาย มา เอเตสํ ทุสฺสีลานํ ทานมทาสิ, สีลวนฺตานํ เทหี’’ติ วตฺวา อาห –

๒๑.

‘‘มณฺฑพฺย พาโลสิ ปริตฺตปฺโ, โย ปุฺกฺเขตฺตานมโกวิโทสิ;

มหกฺกสาเวสุ ททาสิ ทานํ, กิลิฏฺกมฺเมสุ อสฺเตสุ.

๒๒.

‘‘ชฏา จ เกสา อชินา นิวตฺถา, ชรูทปานํว มุขํ ปรูฬฺหํ;

ปชํ อิมํ ปสฺสถ ทุมฺมรูปํ, น ชฏาชินํ ตายติ อปฺปปฺํ.

๒๓.

‘‘เยสํ ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;

ขีณาสวา อรหนฺโต, เตสุ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.

ตตฺถ มหกฺกสาเวสูติ มหากสาเวสุ มหนฺเตหิ ราคกสาวาทีหิ สมนฺนาคเตสุ. ชฏา จ เกสาติ ตาต มณฺฑพฺย, ตว ทกฺขิเณยฺเยสุ เอกจฺจานํ เกสา ชฏา กตฺวา พทฺธา. อชินา นิวตฺถาติ สขุรานิ อชินจมฺมานิ นิวตฺถา. ชรูทปานํ วาติ ติณคหเนน ชิณฺณกูโป วิย มุขํ ทีฆมสฺสุตาย ปรูฬฺหํ. ปชํ อิมนฺติ อิมํ เอวรูปํ อนฺชิตามณฺฑิตลูขเวสํ ปชํ ปสฺสถ. น ชฏาชินนฺติ เอตํ ชฏาชินํ อิมํ อปฺปปฺํ ปชํ ตายิตุํ น สกฺโกติ, สีลปฺาณตโปกมฺมาเนว อิเมสํ สตฺตานํ ปติฏฺา โหนฺติ. เยสนฺติ ยสฺมา เยสํ เอเต รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนสภาวา ราคาทโย อฏฺวตฺถุกา จ อวิชฺชา วิราชิตา วิคตา, วิคตตฺตาเยว จ เอเตสํ กิเลสานํ เย ขีณาสวา อรหนฺโต, เตสุ ทินฺนํ มหปฺผลํ, ตสฺมา ตฺวํ, ตาต, อิโต ปฏฺาย เอวรูปานํ ทุสฺสีลานํ อทตฺวา เย โลเก อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปฺจาภิฺา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ สนฺติ, เตสํ ทานํ เทหิ. เอหิ, ตาต, ตว กุลูปเก อมโตสธํ ปาเยตฺวา อโรเค กริสฺสามาติ วตฺวา อุจฺฉิฏฺกฺชิกํ คาหาเปตฺวา อุทกจาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา โสฬสนฺนํ พฺราหฺมณสหสฺสานํ มุเขสุ อาสิฺจาเปสิ.

เอเกโก ปํสุํ ปุฺฉนฺโตว อุฏฺหิ. อถ เน พฺราหฺมณา ‘‘อิเมหิ จณฺฑาลุจฺฉิฏฺกํ ปีต’’นฺติ อพฺราหฺมเณ กรึสุ. เต ลชฺชิตา พาราณสิโต นิกฺขมิตฺวา มชฺฌรฏฺํ คนฺตฺวา มชฺฌรฺโ สนฺติเก วสึสุ, มณฺฑพฺโย ปน ตตฺเถว วสิ. ตทา เวตฺตวตีนครํ อุปนิสฺสาย เวตฺตวตีนทีตีเร ชาติมนฺโต นาเมโก พฺราหฺมโณ ปพฺพชิโต ชาตึ นิสฺสาย มหนฺตํ มานมกาสิ. มหาสตฺโต ‘‘เอตสฺส มานํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตํ านํ คนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก อุปริโสเต วาสํ กปฺเปสิ. โส เอกทิวสํ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา ‘‘อิมํ ทนฺตกฏฺํ ชาติมนฺตสฺส ชฏาสุ ลคฺคตู’’ติ อธิฏฺาย นทิยํ ปาเตสิ. ตํ ตสฺส อุทกํ อาจมนฺตสฺส ชฏาสุ ลคฺคิ. โส ตํ ทิสฺวาว ‘‘นสฺส วสลา’’ติ วตฺวา ‘‘กุโต อยํ กาฬกณฺณี อาคโต, อุปธาเรสฺสามิ น’’นฺติ อุทฺธํโสตํ คจฺฉนฺโต มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘กึชาติโกสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘จณฺฑาโลสฺมี’’ติ. ‘‘ตยา นทิยา ทนฺตกฏฺํ ปาติต’’นฺติ? ‘‘อาม, มยา’’ติ. ‘‘นสฺส, วสล, จณฺฑาล กาฬกณฺณิ มา อิธ วสิ, เหฏฺาโสเต วสาหี’’ติ วตฺวา เหฏฺาโสเต วสนฺเตนปิ เตน ปาติเต ทนฺตกฏฺเ ปฏิโสตํ อาคนฺตฺวา ชฏาสุ ลคฺคนฺเต โส ‘‘นสฺส วสล, สเจ อิธ วสิสฺสสิ, สตฺตเม ทิวเส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสตี’’ติ อาห.

มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ เอตสฺส กุชฺฌิสฺสามิ, สีลํ เม อรกฺขิตํ ภวิสฺสติ, อุปาเยเนวสฺส มานํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ สตฺตเม ทิวเส สูริยุคฺคมนํ นิวาเรสิ. มนุสฺสา อุพฺพาฬฺหา ชาติมนฺตํ ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห สูริยุคฺคมนํ น เทถา’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส อาห – ‘‘น เม ตํ กมฺมํ, นทีตีเร ปเนโก จณฺฑาโล วสติ, ตสฺเสตํ กมฺมํ ภวิสฺสตี’’ติ. มนุสฺสา มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, สูริยุคฺคมนํ น เทถา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘อามาวุโส’’ติ. ‘‘กึการณา’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ กุลูปโก ตาปโส มํ นิรปราธํ อภิสปิ, ตสฺมึ อาคนฺตฺวา ขมาปนตฺถาย มม ปาเทสุ ปติเต สูริยํ วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ. เต คนฺตฺวา ตํ กฑฺฒนฺตา อาเนตฺวา มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ขมาเปตฺวา อาหํสุ ‘‘สูริยํ วิสฺสชฺเชถ ภนฺเต’’ติ. ‘‘น สกฺกา วิสฺสชฺเชตุํ, สจาหํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, อิมสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสตี’’ติ. ‘‘อถ, ภนฺเต, กึ กโรมา’’ติ? โส ‘‘มตฺติกาปิณฺฑํ อาหรถา’’ติ อาหราเปตฺวา ‘‘อิมํ ตาปสสฺส สีเส เปตฺวา ตาปสํ โอตาเรตฺวา อุทเก เปถา’’ติ ปาเปตฺวา สูริยํ วิสฺสชฺเชสิ. สูริยรสฺมีหิ ปหฏมตฺเต มตฺติกาปิณฺโฑ สตฺตธา ภิชฺชิ, ตาปโส อุทเก นิมุชฺชิ.

มหาสตฺโต ตํ ทเมตฺวา ‘‘กหํ นุ โข ทานิ โสฬส พฺราหฺมณสหสฺสานิ วสนฺตี’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘มชฺฌรฺโ สนฺติเก’’ติ ตฺวา ‘‘เต ทเมสฺสามี’’ติ อิทฺธิยา คนฺตฺวา นครสามนฺเต โอตริตฺวา ปตฺตํ อาทาย นคเร ปิณฺฑาย จริ. พฺราหฺมณา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อิธ เอกํ ทฺเว ทิวเส วสนฺโตปิ อมฺเห อปฺปติฏฺเ กริสฺสตี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, มายากาโร เอโก วิชฺชาธโร โจโร อาคโต, คณฺหาเปถ น’’นฺติ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. มหาสตฺโตปิ มิสฺสกภตฺตํ อาทาย อฺตรํ กุฏฺฏํ นิสฺสาย ปีิกาย นิสินฺโน ภุฺชติ. อถ นํ อฺวิหิตกํ อาหารํ ปริภุฺชมานเมว รฺา ปหิตปุริสา อสินา คีวํ ปหริตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสุํ. โส กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. อิมสฺมึ กิร ชาตเก โพธิสตฺโต โกณฺฑทมโก อโหสิ. โส เตเนว ปรตนฺติยุตฺตภาเวน ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. เทวตา กุชฺฌิตฺวา สกลเมว มชฺฌรฏฺํ อุณฺหํ กุกฺกุฬวสฺสํ วสฺสาเปตฺวา รฏฺํ อรฏฺมกํสุ. เตน วุตฺตํ –

‘‘อุปหจฺจ มนํ มชฺโฌ, มาตงฺคสฺมึ ยสสฺสิเน;

สปาริสชฺโช อุจฺฉินฺโน, มชฺฌารฺํ ตทา อหู’’ติ. (ชา. ๒.๑๙.๙๖);

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อุเทโน ปพฺพชิเต วิเหเสิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มณฺฑพฺโย อุเทโน อโหสิ, มาตงฺคปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มาตงฺคชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๙๘] ๒. จิตฺตสมฺภูตชาตกวณฺณนา

สพฺพํ นรานํ สผลํ สุจิณฺณนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิยสํวาเส ทฺเว สทฺธิวิหาริเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ. เต กิร อฺมฺํ อปฺปฏิวิภตฺตโภคา ปรมวิสฺสาสิกา อเหสุํ, ปิณฺฑาย จรนฺตาปิ เอกโตว คจฺฉนฺติ, เอกโตว อาคจฺฉนฺติ, วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ. ธมฺมสภายํ ภิกฺขู เตสํเยว วิสฺสาสํ วณฺณยมานา นิสีทึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ เอกสฺมึ อตฺตภาเว วิสฺสาสิกตฺตํ, โปราณกปณฺฑิตา ตีณิ จตฺตาริ ภวนฺตรานิ คจฺฉนฺตาปิ มิตฺตภาวํ น วิชหึสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต อวนฺติรฏฺเ อุชฺเชนิยํ อวนฺติมหาราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา อุชฺเชนิยา พหิ จณฺฑาลคามโก อโหสิ. มหาสตฺโต ตตฺถ นิพฺพตฺติ, อปโรปิ สตฺโต ตสฺเสว มาตุจฺฉาปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เตสุ เอโก จิตฺโต นาม อโหสิ, เอโก สมฺภูโต นาม. เต อุโภปิ วยปฺปตฺตา จณฺฑาลวํสโธวนํ นาม สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา เอกทิวสํ ‘‘อุชฺเชนีนครทฺวาเร สิปฺปํ ทสฺเสสฺสามา’’ติ เอโก อุตฺตรทฺวาเร สิปฺปํ ทสฺเสสิ, เอโก ปาจีนทฺวาเร. ตสฺมิฺจ นคเร ทฺเว ทิฏฺมงฺคลิกาโย อเหสุํ, เอกา เสฏฺิธีตา, เอกา ปุโรหิตธีตา. ตา พหุขาทนียโภชนียมาลาคนฺธาทีนิ คาหาเปตฺวา ‘‘อุยฺยานกีฬํ กีฬิสฺสามา’’ติ เอกา อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิ, เอกา ปาจีนทฺวาเรน. ตา เต จณฺฑาลปุตฺเต สิปฺปํ ทสฺเสนฺเต ทิสฺวา ‘‘เก เอเต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จณฺฑาลปุตฺตา’’ติ สุตฺวา ‘‘อปสฺสิตพฺพยุตฺตกํ วต ปสฺสิมฺหา’’ติ คนฺโธทเกน อกฺขีนิ โธวิตฺวา นิวตฺตึสุ. มหาชโน ‘‘อเร ทุฏฺจณฺฑาล, ตุมฺเห นิสฺสาย มยํ อมูลกานิ สุราภตฺตาทีนิ น ลภิมฺหา’’ติ เต อุโภปิ ภาติเก โปเถตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสิ.

เต ปฏิลทฺธสฺา อุฏฺาย อฺมฺสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺตา เอกสฺมึ าเน สมาคนฺตฺวา อฺมฺสฺส ตํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ อาโรเจตฺวา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ‘‘กินฺติ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา ‘‘อิมํ อมฺหากํ ชาตึ นิสฺสาย ทุกฺขํ อุปฺปนฺนํ, จณฺฑาลกมฺมํ กาตุํ น สกฺขิสฺสาม, ชาตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา พฺราหฺมณมาณววณฺเณน ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิสฺสามา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ธมฺมนฺเตวาสิกา หุตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ ปฏฺเปสุํ. ชมฺพุทีปตเล ‘‘ทฺเว กิร จณฺฑาลา ชาตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺตี’’ติ สูยิตฺถ. เตสุ จิตฺตปณฺฑิตสฺส สิปฺปํ นิฏฺิตํ, สมฺภูตสฺส น ตาว นิฏฺาติ.

อเถกทิวสํ เอโก คามวาสี ‘‘พฺราหฺมณวาจนกํ กริสฺสามี’’ติ อาจริยํ นิมนฺเตสิ. ตเมว รตฺตึ เทโว วสฺสิตฺวา มคฺเค กนฺทราทีนิ ปูเรสิ. อาจริโย ปาโตว จิตฺตปณฺฑิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, อหํ คนฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ, ตฺวํ มาณเวหิ สทฺธึ คนฺตา มงฺคลํ วตฺวา ตุมฺเหหิ ลทฺธํ ภุฺชิตฺวา อมฺเหหิ ลทฺธํ อาหรา’’ติ เปเสสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ มาณวเก คเหตฺวา คโต. ยาว มาณวา นฺหายนฺติ เจว มุขานิ จ โธวนฺติ, ตาว มนุสฺสา ปายาสํ วฑฺเฒตฺวา นิพฺพาตูติ เปสุํ. มาณวา ตสฺมึ อนิพฺพุเตเยว อาคนฺตฺวา นิสีทึสุ. มนุสฺสา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา เตสํ ปุรโต ปาติโย เปสุํ. สมฺภูโต ลุทฺธธาตุโก วิย หุตฺวา ‘‘สีตโล’’ติ สฺาย ปายาสปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา มุเข เปสิ, โส ตสฺส อาทิตฺตอโยคุโฬ วิย มุขํ ทหิ. โส กมฺปมาโน สตึ อนุปฏฺาเปตฺวา จิตฺตปณฺฑิตํ โอโลเกตฺวา จณฺฑาลภาสาย เอว ‘‘ขฬุ ขฬู’’ติ อาห. โสปิ ตเถว สตึ อนุปฏฺาเปตฺวา จณฺฑาลภาสาย เอว ‘‘นิคฺคล นิคฺคลา’’ติ อาห. มาณวา อฺมฺํ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ ภาสา นาเมสา’’ติ วทึสุ. จิตฺตปณฺฑิโต มงฺคลํ อภาสิ. มาณวา พหิ นิกฺขมิตฺวา วคฺควคฺคา หุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิสีทิตฺวา ภาสํ โสเธนฺตา ‘‘จณฺฑาลภาสา’’ติ ตฺวา ‘‘อเร ทุฏฺจณฺฑาลา, เอตฺตกํ กาลํ ‘พฺราหฺมณามฺหา’ติ วตฺวา วฺจยิตฺถา’’ติ อุโภปิ เต โปถยึสุ. อเถโก สปฺปุริโส ‘‘อเปถา’’ติ วาเรตฺวา ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ชาติยา โทโส, คจฺฉถ กตฺถจิ เทเสว ปพฺพชิตฺวา ชีวถา’’ติ เต อุโภ อุยฺโยเชสิ. มาณวา เตสํ จณฺฑาลภาวํ อาจริยสฺส อาโรเจสุํ.

เตปิ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา น จิรสฺเสว ตโต จวิตฺวา เนรฺชราย ตีเร มิคิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตึสุ. เต มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย เอกโตว วิจรนฺติ, วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ. เต เอกทิวสํ โคจรํ คเหตฺวา เอกสฺมึ รุกฺขมูเล สีเสน สีสํ, สิงฺเคน สิงฺคํ, ตุณฺเฑน ตุณฺฑํ อลฺลียาเปตฺวา โรมนฺถยมาเน ิเต ทิสฺวา เอโก ลุทฺทโก สตฺตึ ขิปิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว ชีวิตา โวโรเปสิ. ตโต จวิตฺวา นมฺมทานทีตีเร อุกฺกุสโยนิยํ นิพฺพตฺตึสุ. ตตฺราปิ วุทฺธิปฺปตฺเต โคจรํ คเหตฺวา สีเสน สีสํ, ตุณฺเฑน ตุณฺฑํ อลฺลียาเปตฺวา ิเต ทิสฺวา เอโก ยฏฺิลุทฺทโก เอกปฺปหาเรเนว พนฺธิตฺวา วธิ. ตโต ปน จวิตฺวา จิตฺตปณฺฑิโต โกสมฺพิยํ ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สมฺภูตปณฺฑิโต อุตฺตรปฺจาลรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เต นามคฺคหณทิวสโต ปฏฺาย อตฺตโน ชาตึ อนุสฺสรึสุ. เตสุ สมฺภูตปณฺฑิโต นิรนฺตรํ สริตุํ อสกฺโกนฺโต จตุตฺถํ จณฺฑาลชาติเมว อนุสฺสรติ, จิตฺตปณฺฑิโต ปฏิปาฏิยา จตสฺโสปิ ชาติโย. โส โสฬสวสฺสกาเล นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานสุเขน วีตินาเมนฺโต วสิ. สมฺภูตปณฺฑิโตปิ ปิตุ อจฺจเยน ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ฉตฺตมงฺคลทิวเสเยว มหาชนมชฺเฌ มงฺคลคีตํ กตฺวา อุทานวเสน ทฺเว คาถา อภาสิ. ตํ สุตฺวา ‘‘อมฺหากํ รฺโ มงฺคลคีต’’นฺติ โอโรธาปิ คนฺธพฺพาปิ ตเมว คีตํ คายนฺติ. อนุกฺกเมเนว ‘‘รฺโ ปิยคีต’’นฺติ สพฺเพปิ นครวาสิโน มนุสฺสา ตเมว คายนฺติ.

จิตฺตปณฺฑิโตปิ หิมวนฺตปเทเส วสนฺโตเยว ‘‘กึ นุ โข มม ภาติเกน สมฺภูเตน ฉตฺตํ ลทฺธํ, อุทาหุ น วา’’ติ อุปธาเรนฺโต ลทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘นวรชฺชํ ตาว อิทานิ คนฺตฺวาปิ โพเธตุํ น สกฺขิสฺสามิ, มหลฺลกกาเล นํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปณฺณาส วสฺสานิ อคนฺตฺวา รฺโ ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิตกาเล อิทฺธิยา คนฺตฺวา อุยฺยาเน โอตริตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ สุวณฺณปฏิมา วิย นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก ทารโก ตํ คีตํ คายนฺโต ทารูนิ อุทฺธรติ. จิตฺตปณฺฑิโต ตํ ปกฺโกสิ. โส อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ อาห – ‘‘ตฺวํ ปาโตว ปฏฺาย อิมเมว คีตํ คายสิ, กึ อฺํ น ชานาสี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, อฺานิปิ พหูนิ ชานามิ, อิมานิ ปน ทฺเว รฺโ ปิยคีตานิ, ตสฺมา อิมาเนว คายามี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน รฺโ คีตสฺส ปฏิคีตํ คายนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘สกฺขิสฺสสิ ปน ตฺวํ ปฏิคีตํ คายิตุ’’นฺติ? ‘‘ชานนฺโต สกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ รฺา ทฺวีสุ คีเตสุ คายิเตสุ อิทํ ตติยํ กตฺวา คายสฺสู’’ติ คีตํทตฺวา ‘‘คนฺตฺวา รฺโ สนฺติเก คายิสฺสสิ, ราชา เต ปสีทิตฺวา มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทสฺสตี’’ติ อุยฺโยเชสิ.

โส สีฆํ มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา อตฺตานํ อลงฺการาเปตฺวา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘เอโก กิร ทารโก ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปฏิคีตํ คายิสฺสตี’’ติ รฺโ อาโรจาเปตฺวา ‘‘อาคจฺฉตู’’ติ วุตฺเต คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร, ตาต, ปฏิคีตํ คายิสฺสสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อาม, เทว, สพฺพํ ราชปริสํ สนฺนิปาเตถา’’ติ สนฺนิปติตาย ปริสาย ราชานํ อาห ‘‘ตุมฺเห ตาว, เทว, ตุมฺหากํ คีตํ คายถ, อถาหํ ปฏิคีตํ คายิสฺสามี’’ติ. ราชา คาถาทฺวยมาห –

๒๔.

‘‘สพฺพํ นรานํ สผลํ สุจิณฺณํ, น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถิ;

ปสฺสามิ สมฺภูตํ มหานุภาวํ, สกมฺมุนา ปุฺผลูปปนฺนํ.

๒๕.

‘‘สพฺพํ นรานํ สผลํ สุจิณฺณํ, น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถิ;

กจฺจินฺนุ จิตฺตสฺสปิ เอวเมวํ, อิทฺโธ มโน ตสฺส ยถาปิ มยฺห’’นฺติ.

ตตฺถ น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถีติ สุกตทุกฺกเฏสุ กมฺเมสุ กิฺจน เอกกมฺมมฺปิ โมฆํ นาม นตฺถิ, นิปฺผลํ น โหติ, วิปากํ ทตฺวาว นสฺสตีติ อปราปริยเวทนียกมฺมํ สนฺธายาห. สมฺภูตนฺติ อตฺตานํ วทติ, ปสฺสามหํ อายสฺมนฺตํ สมฺภูตํ สเกน กมฺเมน ปุฺผลูปปนฺนํ, สกมฺมํ นิสฺสาย ปุฺผเลน อุปปนฺนํ ตํ ปสฺสามีติ อตฺโถ. กจฺจินฺนุ จิตฺตสฺสปีติ มยฺหิ ทฺเวปิ ชนา เอกโต หุตฺวา น จิรํ สีลํ รกฺขิมฺห, อหํ ตาว ตสฺส ผเลน มหนฺตํ ยสํ ปตฺโต, กจฺจิ นุ โข เม ภาติกสฺส จิตฺตสฺสปิ เอวเมว มโน อิทฺโธ สมิทฺโธติ.

ตสฺส คีตาวสาเน ทารโก คายนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๒๖.

‘‘สพฺพํ นรานํ สผลํ สุจิณฺณํ, น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถิ;

จิตฺตมฺปิ ชานาหิ ตเถว เทว, อิทฺโธ มโน ตสฺส ยถาปิ ตุยฺห’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา ราชา จตุตฺถํ คาถมาห –

๒๗.

‘‘ภวํ นุ จิตฺโต สุตมฺโต เต, อุทาหุ เต โกจิ นํ เอตทกฺขา;

คาถา สุคีตา น มมตฺถิ กงฺขา, ททามิ เต คามวรํ สตฺจา’’ติ.

ตตฺถ สุตมฺโต เตติ อหํ สมฺภูตสฺส ภาตา จิตฺโต นามาติ วทนฺตสฺส จิตฺตสฺเสว นุ เต สนฺติกา สุตนฺติ อตฺโถ. โกจิ นนฺติ อุทาหุ มยา สมฺภูตสฺส รฺโ ภาตา จิตฺโต ทิฏฺโติ โกจิ เต เอตมตฺถํ อาจิกฺขิ. สุคีตาติ สพฺพถาปิ อยํ คาถา สุคีตา, นตฺเถตฺถ มม กงฺขา. คามวรํ สตฺจาติ คามวรานํ เต สตํ ททามีติ วทติ.

ตโต ทารโก ปฺจมํ คาถมาห –

๒๘.

‘‘น จาหํ จิตฺโต สุตมฺโต เม, อิสี จ เม เอตมตฺถํ อสํสิ;

คนฺตฺวาน รฺโ ปฏิคาหิ คาถํ, อปิ เต วรํ อตฺตมโน ทเทยฺยา’’ติ.

ตตฺถ เอตมตฺถนฺติ ตุมฺหากํ อุยฺยาเน นิสินฺโน เอโก อิสิ มยฺหํ เอตมตฺถํ อาจิกฺขิ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘โส มม ภาตา จิตฺโต ภวิสฺสติ, อิทาเนว นํ คนฺตฺวา ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปุริเส อาณาเปนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๒๙.

‘‘โยเชนฺตุ เว ราชรเถ, สุกเต จิตฺตสิพฺพเน;

กจฺฉํ นาคานํ พนฺธถ, คีเวยฺยํ ปฏิมุฺจถ.

๓๐.

‘‘อาหฺนฺตุ เภริมุทิงฺคสงฺเข, สีฆานิ ยานานิ จ โยชยนฺตุ;

อชฺเชวหํ อสฺสมํ ตํ คมิสฺสํ, ยตฺเถว ทกฺขิสฺสมิสึ นิสินฺน’’นฺติ.

ตตฺถ อาหฺนฺตูติ อาหนนฺตุ. อสฺสมํ ตนฺติ ตํ อสฺสมํ.

โส เอวํ วตฺวา รถํ อภิรุยฺห สีฆํ คนฺตฺวา อุยฺยานทฺวาเร รถํ เปตฺวา จิตฺตปณฺฑิตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ตุฏฺมานโส อฏฺมํ คาถมาห –

๓๑.

‘‘สุลทฺธลาโภ วต เม อโหสิ, คาถา สุคีตา ปริสาย มชฺเฌ;

สฺวาหํ อิสึ สีลวตูปปนฺนํ, ทิสฺวา ปตีโต สุมโนหมสฺมี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สุลทฺธลาโภ วต มยฺหํ ฉตฺตมงฺคลทิวเส ปริสาย มชฺเฌ คีตคาถา สุคีตาว อโหสิ, สฺวาหํ อชฺช สีลวตสมฺปนฺนํ อิสึ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสปฺปตฺโต ชาโตติ.

โส จิตฺตปณฺฑิตสฺส ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย โสมนสฺสปฺปตฺโต ‘‘ภาติกสฺส เม ปลฺลงฺกํ อตฺถรถา’’ติอาทีนิ อาณาเปนฺโต นวมํ คาถมาห –

๓๒.

‘‘อาสนํ อุทกํ ปชฺชํ, ปฏิคฺคณฺหาตุ โน ภวํ;

อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภว’’นฺติ.

ตตฺถ อคฺเฆติ อติถิโน ทาตพฺพยุตฺตกสฺมึ อคฺเฆ ภวนฺตํ อาปุจฺฉาม. กุรุตุ โนติ อิมํ โน อคฺฆํ ภวํ ปฏิคฺคณฺหาตุ.

เอวํ มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา รชฺชํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา เทนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๓๓.

‘‘รมฺมฺจ เต อาวสถํ กโรนฺตุ, นารีคเณหิ ปริจารยสฺสุ;

กโรหิ โอกาสมนุคฺคหาย, อุโภปิมํ อิสฺสริยํ กโรมา’’ติ.

ตตฺถ อิมํ อิสฺสริยนฺติ กปิลรฏฺเ อุตฺตรปฺจาลนคเร รชฺชํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทฺเวปิ ชนา กโรม อนุภวาม.

ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา จิตฺตปณฺฑิโต ธมฺมํ เทเสนฺโต ฉ คาถา อภาสิ –

๓๔.

‘‘ทิสฺวา ผลํ ทุจฺจริตสฺส ราช, อตฺโถ สุจิณฺณสฺส มหาวิปากํ;

อตฺตานเมว ปฏิสํยมิสฺสํ, น ปตฺถเย ปุตฺต ปสุํ ธนํ วา.

๓๕.

‘‘ทเสวิมา วสฺสทสา, มจฺจานํ อิธ ชีวิตํ;

อปตฺตฺเว ตํ โอธึ, นโฬ ฉินฺโนว สุสฺสติ.

๓๖.

‘‘ตตฺถ กา นนฺทิ กา ขิฑฺฑา, กา รตี กา ธเนสนา;

กึ เม ปุตฺเตหิ ทาเรหิ, ราช มุตฺโตสฺมิ พนฺธนา.

๓๗.

‘‘โสหํ เอวํ ปชานามิ, มจฺจุ เม นปฺปมชฺชติ;

อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, กา รตี กา ธเนสนา.

๓๘.

‘‘ชาติ นรานํ อธมา ชนินฺท, จณฺฑาลโยนิ ทฺวิปทากนิฏฺา;

สเกหิ กมฺเมหิ สุปาปเกหิ, จณฺฑาลคพฺเภ อวสิมฺห ปุพฺเพ.

๓๙.

‘‘จณฺฑาลาหุมฺห อวนฺตีสุ, มิคา เนรฺชรํ ปติ;

อุกฺกุสา นมฺมทาตีเร, ตฺยชฺช พฺราหฺมณขตฺติยา’’ติ.

ตตฺถ ทุจฺจริตสฺสาติ มหาราช, ตฺวํ สุจริตสฺเสว ผลํ ชานาสิ, อหํ ปน ทุจฺจริตสฺสปิ ผลํ ปสฺสามิเยว. มยฺหิ อุโภ ทุจฺจริตสฺส ผเลน อิโต จตุตฺเถ อตฺตภาเว จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺตา. ตตฺถ น จิรํ สีลํ รกฺขิตฺวา ตสฺส ผเลน ตฺวํ ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺโต, อหํ พฺราหฺมณกุเล, เอวาหํ ทุจฺจริตสฺส จ ผลํ สุจิณฺณสฺส จ มหาวิปากํ ทิสฺวา อตฺตานเมว สีลสํยเมน ปฏิสํยมิสฺสํ, ปุตฺตํ วา ปสุํ วา ธนํ วา น ปตฺเถมิ.

ทเสวิมา วสฺสทสาติ มหาราช, มนฺททสกํ ขิฑฺฑาทสกํ วณฺณทสกํ พลทสกํ ปฺาทสกํ หานิทสกํ ปพฺภารทสกํ วงฺกทสกํ โมมูหทสกํ สยนทสกนฺติ อิเมสฺหิ ทสนฺนํ ทสกานํ วเสน ทเสว วสฺสทสา อิเมสํ มจฺจานํ อิธ มนุสฺสโลเก ชีวิตํ. ตยิทํ น นิยเมน สพฺพา เอว เอตา ทสา ปาปุณาติ, อถ โข อปฺปตฺตฺเว ตํ โอธึ นโฬ ฉินฺโนว สุสฺสติ. เยปิ สกลํ วสฺสสตํ ชีวนฺติ, เตสมฺปิ มนฺททสเก ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา วิจฺฉินฺทิตฺวา อาตเป ขิตฺตนโฬ วิย ตตฺเถว สุสฺสนฺติ อนฺตรธายนฺติ, ตํ โอธึ อติกฺกมิตฺวา ขิฑฺฑาทสกํ น ปาปุณนฺติ, ตถา ขิฏฺฏาทสกาทีสุ ปวตฺตา วณฺณทสกาทีนิ.

ตตฺถาติ ตสฺมึ เอวํ สุสฺสมาเน ชีวิเต กา ปฺจ กามคุเณ นิสฺสาย อภินนฺที, กา กายกีฬาทิวเสน ขิฑฺฑา, กา โสมนสฺสวเสน รติ, กา ธเนสนา, กึ เม ปุตฺเตหิ, กึ ทาเรหิ, มุตฺโตสฺมิ ตมฺหา ปุตฺตทารพนฺธนาติ อตฺโถ. อนฺตเกนาธิปนฺนสฺสาติ ชีวิตนฺตกเรน มจฺจุนา อภิภูตสฺส. ทฺวิปทากนิฏฺาติ ทฺวิปทานํ อนฺตเร ลามกา. อวสิมฺหาติ ทฺเวปิ มยํ วสิมฺห.

จณฺฑาลาหุมฺหาติ มหาราช, อิโต ปุพฺเพ จตุตฺถํ ชาตึ อวนฺติรฏฺเ อุชฺเชนินคเร จณฺฑาลา อหุมฺห, ตโต จวิตฺวา เนรฺชราย นทิยา ตีเร อุโภปิ มิคา อหุมฺห. ตตฺถ ทฺเวปิ อมฺเห เอกสฺมึ รุกฺขมูเล อฺมฺํ นิสฺสาย ิเต เอโก ลุทฺทโก เอเกเนว สตฺติปหาเรน ชีวิตา โวโรเปสิ, ตโต จวิตฺวา นมฺมทานทีตีเร กุรรา อหุมฺห. ตตฺราปิ โน นิสฺสาย ิเต เอโก เนสาโท เอกปฺปหาเรเนว พนฺธิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ, ตโต จวิตฺวา เต มยํ อชฺช พฺราหฺมณขตฺติยา ชาตา. อหํ โกสมฺพิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺโต, ตฺวํ อิธ ราชา ชาโตติ.

เอวมสฺส อตีเต ลามกชาติโย ปกาเสตฺวา อิทานิ อิมิสฺสาปิ ชาติยา อายุสงฺขารปริตฺตตํ ทสฺเสตฺวา ปุฺเสุ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๔๐.

‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ, ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา;

กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมานิ ทุกฺขุทฺรยานิ.

๔๑.

‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ, ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา;

กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมานิ ทุกฺขปฺผลานิ.

๔๒.

‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ, ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา;

กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมานิ รชสฺสิรานิ.

๔๓.

‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ, วณฺณํ ชรา หนฺติ นรสฺส ชิยฺยโต;

กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมํ นิรยูปปตฺติยา’’ติ.

ตตฺถ อุปนียตีติ มหาราช, อิทํ ชีวิตํ มรณํ อุปคจฺฉติ. อิทฺหิ อิเมสํ สตฺตานํ อปฺปมายุ สรสปริตฺตตายปิ ิติปริตฺตตายปิ ปริตฺตกํ, สูริยุคฺคมเน ติณคฺเค อุสฺสาวพินฺทุสทิสํ. น สนฺติ ตาณาติ น หิ ชราย มรณํ อุปนีตสฺส ปุตฺตาทโย ตาณา นาม โหนฺติ. มเมต วากฺยนฺติ มม เอตํ วจนํ. มากาสีติ มา รูปาทิกามคุณเหตุ ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา นิรยาทีสุ ทุกฺขวฑฺฒนานิ กมฺมานิ กริ. ทุกฺขปฺผลานีติ ทุกฺขวิปากานิ. รชสฺสิรานีติ กิเลสรเชน โอกิณฺณสีสานิ. วณฺณนฺติ ชีรมานสฺส นรสฺส สรีรวณฺณํ ชรา หนฺติ. นิรยูปปตฺติยาติ นิรสฺสาเท นิรเย อุปฺปชฺชนตฺถาย.

เอวํ มหาสตฺเต กเถนฺเต ราชา ตุสฺสิตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๔๔.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ วจนํ ตเวตํ, ยถา อิสี ภาสสิ เอวเมตํ;

กามา จ เม สนฺติ อนปฺปรูปา, เต ทุจฺจชา มาทิสเกน ภิกฺขุ.

๔๕.

‘‘นาโค ยถา ปงฺกมชฺเฌ พฺยสนฺโน, ปสฺสํ ถลํ นาภิสมฺโภติ คนฺตุํ;

เอวมฺปหํ กามปงฺเก พฺยสนฺโน, น ภิกฺขุโน มคฺคมนุพฺพชามิ.

๔๖.

‘‘ยถาปิ มาตา จ ปิตา จ ปุตฺตํ, อนุสาสเร กินฺติ สุขี ภเวยฺย;

เอวมฺปิ มํ ตฺวํ อนุสาส ภนฺเต, ยถา จิรํ เปจฺจ สุขี ภเวยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ อนปฺปรูปาติ อปริตฺตชาติกา พหู อปริมิตา. เต ทุจฺจชา มาทิสเกนาติ ภาติก, ตฺวํ กิเลเส ปหาย ิโต, อหํ ปน กามปงฺเก นิมุคฺโค, ตสฺมา มาทิสเกน เต กามา ทุจฺจชา. ‘‘นาโค ยถา’’ติ อิมินา อตฺตโน กามปงฺเก นิมุคฺคภาวสฺส อุปมํ ทสฺเสติ. ตตฺถ พฺยสนฺโนติ วิสนฺโน อนุปวิฏฺโ อยเมว วา ปาโ. มคฺคนฺติ ตุมฺหากํ โอวาทานุสาสนีมคฺคํ นานุพฺพชามิ ปพฺพชิตุํ น สกฺโกมิ, อิเธว ปน เม ิตสฺส โอวาทํ เทถาติ. อนุสาสเรติ อนุสาสนฺติ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๔๗.

‘‘โน เจ ตุวํ อุสฺสหเส ชนินฺท, กาเม อิเม มานุสเก ปหาตุํ;

ธมฺมึ พลึ ปฏฺปยสฺสุ ราช, อธมฺมกาโร ตว มาหุ รฏฺเ.

๔๘.

‘‘ทูตา วิธาวนฺตุ ทิสา จตสฺโส, นิมนฺตกา สมณพฺราหฺมณานํ;

เต อนฺนปาเนน อุปฏฺหสฺสุ, วตฺเถน เสนาสนปจฺจเยน จ.

๔๙.

‘‘อนฺเนน ปาเนน ปสนฺนจิตฺโต, สนฺตปฺปย สมณพฺราหฺมเณ จ;

ทตฺวา จ ภุตฺวา จ ยถานุภาวํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ านํ.

๕๐.

‘‘สเจ จ ตํ ราช มโท สเหยฺย, นารีคเณหิ ปริจารยนฺตํ;

อิมเมว คาถํ มนสี กโรหิ, ภาเสสิ เจนํ ปริสาย มชฺเฌ.

๕๑.

‘‘อพฺโภกาสสโย ชนฺตุ, วชนฺตฺยา ขีรปายิโต;

ปริกิณฺโณ สุวาเนหิ, สฺวาชฺช ราชาติ วุจฺจตี’’ติ.

ตตฺถ อุสฺสหเสติ อุสฺสหสิ. ธมฺมึ พลินฺติ ธมฺเมน สเมน อนติริตฺตํ พลึ คณฺหาติ อตฺโถ. อธมฺมกาโรติ โปราณกราชูหิ ปิตํ วินิจฺฉยธมฺมํ ภินฺทิตฺวา ปวตฺตา อธมฺมกิริยา. นิมนฺตกาติ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา ปกฺโกสกา. ยถานุภาวนฺติ ยถาพลํ ยถาสตฺตึ. อิมเมว คาถนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สนฺธายาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ‘‘มหาราช, สเจ ตํ มโท อภิภเวยฺย, สเจ เต นารีคณปริวุตสฺส รูปาทโย วา กามคุเณ รชฺชสุขํ วา อารพฺภ มาโน อุปฺปชฺเชยฺย, อเถวํ จินฺเตยฺยาสิ ‘อหํ ปุเร จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺโต ฉนฺนสฺส ติณกุฏิมตฺตสฺสปิ อภาวา อพฺโภกาสสโย อโหสึ, ตทา หิ เม มาตา จณฺฑาลี อรฺํ ทารุปณฺณาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺตี มํ กุกฺกุรคณสฺส มชฺเฌ อพฺโภกาเส นิปชฺชาเปตฺวา อตฺตโน ขีรํ ปาเยตฺวา คจฺฉติ, โสหํ กุกฺกุเรหิ ปริวาริโต เตหิเยว สทฺธึ สุนขิยา ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิโต, เอวํ นีจชจฺโจ หุตฺวา อชฺช ราชา นาม ชาโต’ติ. ‘อิติ โข, ตฺวํ มหาราช, อิมินา อตฺเถน อตฺตานํ โอวทนฺโต โย โส ปุพฺเพ อพฺโภกาสสโย ชนฺตุ อรฺเ วชนฺติยา จณฺฑาลิยา อิโต จิโต จ อนุสฺจรนฺติยา สุนขิยา จ ขีรํ ปายิโต สุนเขหิ ปริกิณฺโณ วฑฺฒิโต, โส อชฺช ราชาติ วุจฺจตี’ติ อิมํ คาถํ ภาเสยฺยาสี’’ติ.

เอวํ มหาสตฺโต ตสฺส โอวาทํ ทตฺวา ‘‘ทินฺโน เต มยา โอวาโท, อิทานิ ตฺวํ ปพฺพช วา มา วา, อตฺตนาว อตฺตโน กมฺมสฺส วิปากํ ปฏิเสวิสฺสตี’’ติ วตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา ตสฺส มตฺถเก ปาทรชํ ปาเตนฺโต หิมวนฺตเมว คโต. ราชาปิ ตํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนสํเวโค เชฏฺปุตฺตสฺส รชฺชํ ทตฺวา พลกายํ นิวตฺเตตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข ปายาสิ. มหาสตฺโต ตสฺสาคมนํ ตฺวา อิสิคณปริวุโต อาคนฺตฺวา ตํ อาทาย คนฺตฺวา ปพฺพาเชตฺวา กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ. โส ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตสิ. อิติ เต อุโภปิ พฺรหฺมโลกูปคา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, โปราณกปณฺฑิตา ตีณิ จตฺตาริ ภวนฺตรานิ คจฺฉนฺตาปิ ทฬฺหวิสฺสาสาว อเหสุ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สมฺภูตปณฺฑิโต อานนฺโท อโหสิ, จิตฺตปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จิตฺตสมฺภูตชาตกวณฺณนา ทุติยา

[๔๙๙] ๓. สิวิชาตกวณฺณนา

ทูเร อปสฺสํ เถโรวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อสทิสทานํ อารพฺภ กเถสิ. ตํ อฏฺกนิปาเต สิวิชาตเก วิตฺถาริตเมว. ตทา ปน ราชา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขาเร ทตฺวา อนุโมทนํ ยาจิ, สตฺถา อกตฺวาว ปกฺกามิ. ราชา ภุตฺตปาตราโส วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, อนุโมทนํ น กริตฺถา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘อปริสุทฺธา, มหาราช, ปริสา’’ติ วตฺวา ‘‘น เว กทริยา เทวโลกํ วชนฺตี’’ติ (ธ. ป. ๑๗๗) คาถาย ธมฺมํ เทเสสิ. ราชา ปสีทิตฺวา สตสหสฺสคฺฆนเกน สีเวยฺยเกน อุตฺตราสงฺเคน ตถาคตํ ปูเชตฺวา นครํ ปาวิสิ. ปุนทิวเส ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, โกสลราชา อสทิสทานํ ทตฺวา ตาทิเสนปิ ทาเนน อติตฺโต ทสพเลน ธมฺเม เทสิเต ปุน สตสหสฺสคฺฆนกํ สีเวยฺยกวตฺถํ อทาสิ, ยาว อติตฺโต วต อาวุโส ทาเนน ราชา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว, พาหิรภณฺฑํ นาม สุทินฺนํ, โปราณกปณฺฑิตา สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสปริจฺจาเคน ทานํ ททมานาปิ พาหิรทาเนน อติตฺตา ‘ปิยสฺส ทาตา ปิยํ ลภตี’ติ สมฺปตฺตยาจกานํ อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา อทํสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต สิวิรฏฺเ อริฏฺปุรนคเร สิวิมหาราเช รชฺชํ กาเรนฺเต มหาสตฺโต ตสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ‘‘สิวิกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา อุคฺคหิตสิปฺโป อาคนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสตฺวา อุปรชฺชํ ลภิตฺวา อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน ราชา หุตฺวา อคติคมนํ ปหาย ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสปริจฺจาเคน มหาทานํ ปวตฺเตสิ. อฏฺมิยํ จาตุทฺทสิยํ ปนฺนรสิยฺจ นิจฺจํ ทานสาลํ คนฺตฺวา ทานํ โอโลเกสิ. โส เอกทา ปุณฺณมทิวเส ปาโตว สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน อตฺตนา ทินฺนทานํ อาวชฺเชนฺโต พาหิรวตฺถุํ อตฺตนา อทินฺนํ นาม อทิสฺวา ‘‘มยา พาหิรวตฺถุ อทินฺนํ นาม นตฺถิ, น มํ พาหิรทานํ โตเสติ, อหํ อชฺฌตฺติกทานํ ทาตุกาโม, อโห วต อชฺช มม ทานสาลํ คตกาเล โกจิเทว ยาจโก พาหิรวตฺถุํ อยาจิตฺวา อชฺฌตฺติกสฺส นามํ คณฺเหยฺย, สเจ หิ เม โกจิ หทยมํสสฺส นามํ คณฺเหยฺย, กณเยน อุรํ ปหริตฺวา ปสนฺนอุทกโต สนาฬํ ปทุมํ อุทฺธรนฺโต วิย โลหิตพินฺทูนิ ปคฺฆรนฺตํ หทยํ นีหริตฺวา ทสฺสามิ. สเจ สรีรมํสสฺส นามํ คณฺเหยฺย, อวเลขนสตฺถเกน เตลสิงฺคํ ลิขนฺโต วิย สรีรมํสํ โอตาเรตฺวา ทสฺสามิ. สเจ โลหิตสฺส นามํ คณฺเหยฺย, ยนฺตมุเข ปกฺขนฺทิตฺวา อุปนีตํ ภาชนํ ปูเรตฺวา โลหิตํ ทสฺสามิ. สเจ วา ปน โกจิ ‘เคเห เม กมฺมํ นปฺปวตฺตติ, เคเห เม ทาสกมฺมํ กโรหี’ติ วเทยฺย, ราชเวสํ อปเนตฺวา พหิ ตฺวา อตฺตานํ สาเวตฺวา ทาสกมฺมํ กริสฺสามิ. สเจ เม โกจิ อกฺขิโน นามํ คณฺเหยฺย, ตาลมิฺชํ นีหรนฺโต วิย อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา ทสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

อิติ โส –

‘‘ยํกิฺจิ มานุสํ ทานํ, อทินฺนํ เม น วิชฺชติ;

โยปิ ยาเจยฺย มํ จกฺขุํ, ทเทยฺยํ อวิกมฺปิโต’’ติ. (จริยา. ๑.๕๒) –

จินฺเตตฺวา โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวรคโต ทานคฺคํ อคมาสิ. สกฺโก ตสฺส อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘สิวิราชา ‘อชฺช สมฺปตฺตยาจกานํ จกฺขูนิ อุปฺปาเฏตฺวา ทสฺสามี’ติ จินฺเตสิ, สกฺขิสฺสติ นุ โข ทาตุํ, อุทาหุ โน’’ติ ตสฺส วิมํสนตฺถาย ชราปตฺโต อนฺธพฺราหฺมโณ วิย หุตฺวา รฺโ ทานคฺคคมนกาเล เอกสฺมึ อุนฺนตปฺปเทเส หตฺถํ ปสาเรตฺวา ราชานํ ชยาเปตฺวา อฏฺาสิ. ราชา ตทภิมุขํ วารณํ เปเสตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, กึ วเทสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ สกฺโก ‘‘มหาราช, ตว ทานชฺฌาสยํ นิสฺสาย สมุคฺคเตน กิตฺติโฆเสน สกลโลกสนฺนิวาโส นิรนฺตรํ ผุโฏ, อหํ อนฺโธ, ตฺวํ ทฺวิจกฺขุโก’’ติ วตฺวา จกฺขุํ ยาจนฺโต ปมํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘ทูเร อปสฺสํ เถโรว, จกฺขุํ ยาจิตุมาคโต;

เอกเนตฺตา ภวิสฺสาม, จกฺขุํ เม เทหิ ยาจิโต’’ติ.

ตตฺถ ทูเรติ อิโต ทูเร วสนฺโต. เถโรติ ชราชิณฺณเถโร. เอกเนตฺตาติ เอกํ เนตฺตํ มยฺหํ เทหิ, เอวํ ทฺเวปิ เอเกกเนตฺตา ภวิสฺสามาติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อิทาเนวาหํ ปาสาเท นิสินฺโน จินฺเตตฺวา อาคโต, อโห เม ลาโภ, อชฺเชว เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อทินฺนปุพฺพํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ ตุฏฺมานโส ทุติยํ คาถมาห –

๕๓.

‘‘เกนานุสิฏฺโ อิธ มาคโตสิ, วนิพฺพก จกฺขุปถานิ ยาจิตุํ;

สุทุจฺจชํ ยาจสิ อุตฺตมงฺคํ, ยมาหุ เนตฺตํ ปุริเสน ‘ทุจฺจช’นฺติ.

ตตฺถ วนิพฺพกาติ ตํ อาลปติ. จกฺขุปถานีติ จกฺขูนเมตํ นามํ. ยมาหูติ ยํ ปณฺฑิตา ‘‘ทุจฺจช’’นฺติ กเถนฺติ.

อิโต ปรํ อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –

๕๔.

‘‘ยมาหุ เทเวสุ สุชมฺปตีติ, มฆวาติ นํ อาหุ มนุสฺสโลเก;

เตนานุสิฏฺโ อิธ มาคโตสฺมิ, วนิพฺพโก จกฺขุปถานิ ยาจิตุํ.

๕๕.

‘‘วนิพฺพโต มยฺห วนึ อนุตฺตรํ, ททาหิ เต จกฺขุปถานิ ยาจิโต;

ททาหิ เม จกฺขุปถํ อนุตฺตรํ, ยมาหุ เนตฺตํ ปุริเสน ทุจฺจชํ.

๕๖.

‘‘เยน อตฺเถน อาคจฺฉิ, ยมตฺถมภิปตฺถยํ;

เต เต อิชฺฌนฺตุ สงฺกปฺปา, ลภ จกฺขูนิ พฺราหฺมณ.

๕๗.

‘‘เอกํ เต ยาจมานสฺส, อุภยานิ ททามหํ;

ส จกฺขุมา คจฺฉ ชนสฺส เปกฺขโต, ยทิจฺฉเส ตฺวํ ตทเต สมิชฺฌตู’’ติ.

ตตฺถ วนิพฺพโตติ ยาจนฺตสฺส. วนินฺติ ยาจนํ. เต เตติ เต ตว ตสฺส อตฺถสฺส สงฺกปฺปา. ส จกฺขุมาติ โส ตฺวํ มม จกฺขูหิ จกฺขุมา หุตฺวา. ยทิจฺฉเส ตฺวํ ตทเต สมิชฺฌตูติ ยํ ตฺวํ มม สนฺติกา อิจฺฉสิ, ตํ เต สมิชฺฌตูติ.

ราชา เอตฺตกํ กเถตฺวา ‘‘อิเธว มยา อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา ทาตุํ อสารุปฺป’’นฺติ จินฺเตตฺวา พฺราหฺมณํ อาทาย อนฺเตปุรํ คนฺตฺวา ราชาสเน นิสีทิตฺวา สีวิกํ นาม เวชฺชํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อกฺขึ เม โสเธหี’’ติ อาห. ‘‘อมฺหากํ กิร ราชา อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา พฺราหฺมณสฺส ทาตุกาโม’’ติ สกลนคเร เอกโกลาหลํ อโหสิ. อถ เสนาปติอาทโย ราชวลฺลภา จ นาครา จ โอโรธา จ สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ราชานํ วาเรนฺตา ติสฺโส คาถา อโวจุํ –

๕๘.

‘‘มา โน เทว อทา จกฺขุํ, มา โน สพฺเพ ปรากริ;

ธนํ เทหิ มหาราช, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.

๕๙.

‘‘ยุตฺเต เทว รเถ เทหิ, อาชานีเย จลงฺกเต;

นาเค เทหิ มหาราช, เหมกปฺปนวาสเส.

๖๐.

‘‘ยถา ตํ สิวโย สพฺเพ, สโยคฺคา สรถา สทา;

สมนฺตา ปริกิเรยฺยุํ, เอวํ เทหิ รเถสภา’’ติ.

ตตฺถ ปรากรีติ ปริจฺจชิ. อกฺขีสุ หิ ทินฺเนสุ รชฺชํ ตฺวํ น กาเรสฺสสิ, อฺโ ราชา ภวิสฺสติ, เอวํ ตยา มยํ ปริจฺจตฺตา นาม ภวิสฺสามาติ อธิปฺปาเยเนวมาหํสุ. ปริกิเรยฺยุนฺติ ปริวาเรยฺยุํ. เอวํ เทหีติ ยถา ตํ อวิกลจกฺขุํ สิวโย ปริวาเรยฺยุํ, เอวํ พาหิรธนเมวสฺส เทหิ, มา อกฺขีนิ. อกฺขีสุ หิ ทินฺเนสุ น ตํ สิวโย ปริวาเรสฺสนฺตีติ.

อถ ราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๖๑.

‘‘โย เว ทสฺสนฺติ วตฺวาน, อทาเน กุรุเต มโน;

ภูมฺยํ โส ปติตํ ปาสํ, คีวายํ ปฏิมุฺจติ.

๖๒.

‘‘โย เว ทสฺสนฺติ วตฺวานํ, อทาเน กุรุเต มโน;

ปาปา ปาปตโร โหติ, สมฺปตฺโต ยมสาธนํ.

๖๓.

‘‘ยฺหิ ยาเจ ตฺหิ ทเท, ยํ น ยาเจ น ตํ ทเท;

สฺวาหํ ตเมว ทสฺสามิ, ยํ มํ ยาจติ พฺราหฺมโณ’’ติ.

ตตฺถ ปฏิมุฺจตีติ ปเวเสติ. ปาปา ปาปตโรติ ลามกาปิ ลามกตโร นาม โหติ. สมฺปตฺโต ยมสาธนนฺติ ยมสฺส อาณาปวตฺติฏฺานํ อุสฺสทนิรยํ เอส ปตฺโตเยว นาม โหติ. ยฺหิ ยาเจติ ยํ ยาจโก ยาเจยฺย, ทายโกปิ ตเมว ทเทยฺย, น อยาจิตํ, อยฺจ พฺราหฺมโณ มํ จกฺขุํ ยาจติ, น มุตฺตาทิกํ ธนํ, ตเทวสฺสาหํ ทสฺสามีติ วทติ.

อถ นํ อมจฺจา ‘‘กึ ปตฺเถตฺวา จกฺขูนิ เทสี’’ติ ปุจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –

๖๔.

‘‘อายุํ นุ วณฺณํ นุ สุขํ พลํ นุ, กึ ปตฺถยาโน นุ ชนินฺท เทสิ;

กถฺหิ ราชา สิวินํ อนุตฺตโร, จกฺขูนิ ทชฺชา ปรโลกเหตู’’ติ.

ตตฺถ ปรโลกเหตูติ มหาราช, กถํ นาม ตุมฺหาทิโส ปณฺฑิตปุริโส สนฺทิฏฺิกํ อิสฺสริยํ ปหาย ปรโลกเหตุ จกฺขูนิ ทเทยฺยาติ.

อถ เนสํ กเถนฺโต ราชา คาถมาห –

๖๕.

‘‘น วาหเมตํ ยสสา ททามิ, น ปุตฺตมิจฺเฉ น ธนํ น รฏฺํ;

สตฺจ ธมฺโม จริโต ปุราโณ, อิจฺเจว ทาเน รมเต มโน มมา’’ติ.

ตตฺถ น วาหนฺติ น เว อหํ. ยสสาติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา ยสสฺส การณา. น ปุตฺตมิจฺเฉติ อิมสฺส จกฺขุทานสฺส ผเลน เนวาหํ ปุตฺตํ อิจฺฉามิ, น ธนํ น รฏฺํ, อปิจ สตํ ปณฺฑิตานํ สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ เอส อาจิณฺโณ สมาจิณฺโณ โปราณกมคฺโค, ยทิทํ ปารมีปูรณํ นาม. น หิ ปารมิโย อปูเรตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตํ ปาปุณิตุํ สมตฺโถ นาม อตฺถิ, อหฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา พุทฺโธ ภวิตุกาโม. อิจฺเจว ทาเน รมเต มโน มมาติ อิมินา การเณน มม มโน ทาเนเยว นิรโตติ วทติ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส จริยาปิฏกํ เทเสนฺโต ‘‘มยฺหํ ทฺวีหิ จกฺขูหิปิ สพฺพฺุตฺาณเมว ปิยตร’’นฺติ ทีเปตุํ อาห –

‘‘น เม เทสฺสา อุโภ จกฺขู, อตฺตานํ เม น เทสฺสิยํ;

สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา จกฺขุํ อทาสห’’นฺติ. (จริยา. ๑.๖๖);

มหาสตฺตสฺส ปน กถํ สุตฺวา อมจฺเจสุ อปฺปฏิภาเณสุ ิเตสุ มหาสตฺโต สีวิกํ เวชฺชํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๖๖.

‘‘สขา จ มิตฺโต จ มมาสิ สีวิก, สุสิกฺขิโต สาธุ กโรหิ เม วโจ;

อุทฺธริตฺวา จกฺขูนิ มมํ ชิคีสโต, หตฺเถสุ เปหิ วนิพฺพกสฺสา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สมฺม สีวิก, ตฺวํ มยฺหํ สหาโย จ มิตฺโต จ เวชฺชสิปฺเป จาสิ สุสิกฺขิโต, สาธุ เม วจนํ กโรหิ. มม ชิคีสโต อุปธาเรนฺตสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว ตาลมิฺชํ วิย เม อกฺขีนิ อุทฺธริตฺวา อิมสฺส ยาจกสฺส หตฺเถสุ เปหีติ.

อถ นํ สีวิโก อาห ‘‘จกฺขุทานํ นาม ภาริยํ, อุปธาเรหิ, เทวา’’ติ. สีวิก, อุปธาริตํ มยา, ตฺวํ มา ปปฺจํ กโรหิ, มา มยา สทฺธึ พหุํ กเถหีติ. โส จินฺเตสิ ‘‘อยุตฺตํ มาทิสสฺส สุสิกฺขิตสฺส เวชฺชสฺส รฺโ อกฺขีสุ สตฺถปาตน’’นฺติ. โส นานาเภสชฺชานิ ฆํสิตฺวา เภสชฺชจุณฺเณน นีลุปฺปลํ ปริภาเวตฺวา ทกฺขิณกฺขึ อุปสิงฺฆาเปสิ, อกฺขิ ปริวตฺติ, ทุกฺขเวทนา อุปฺปชฺชิ. ‘‘สลฺลกฺเขหิ, มหาราช, ปฏิปากติกกรณํ มยฺหํ ภาโร’’ติ. ‘‘อลฺหิ ตาต มา ปปฺจํ กรี’’ติ. โส ปริภาเวตฺวา ปุน อุปสิงฺฆาเปสิ, อกฺขิ อกฺขิกูปโต มุจฺจิ, พลวตรา เวทนา อุทปาทิ. ‘‘สลฺลกฺเขหิ มหาราช, สกฺโกมหํ ปฏิปากติกํ กาตุ’’นฺติ. ‘‘มา ปปฺจํ กรี’’ติ. โส ตติยวาเร ขรตรํ ปริภาเวตฺวา อุปนาเมสิ. อกฺขิ โอสธพเลน ปริพฺภมิตฺวา อกฺขิกูปโต นิกฺขมิตฺวา นฺหารุสุตฺตเกน โอลมฺพมานํ อฏฺาสิ. สลฺลกฺเขหิ นรินฺท, ปุน ปากติกกรณํ มยฺหํ พลนฺติ. มา ปปฺจํ กรีติ. อธิมตฺตา เวทนา อุทปาทิ, โลหิตํ ปคฺฆริ, นิวตฺถสาฏกา โลหิเตน เตมึสุ. โอโรธา จ อมจฺจา จ รฺโ ปาทมูเล ปติตฺวา ‘‘เทว อกฺขีนิ มา เทหี’’ติ มหาปริเทวํ ปริเทวึสุ.

ราชา เวทนํ อธิวาเสตฺวา ‘‘ตาต, มา ปปฺจํ กรี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วามหตฺเถน อกฺขึ ธาเรตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน สตฺถกํ อาทาย อกฺขิสุตฺตกํ ฉินฺทิตฺวา อกฺขึ คเหตฺวา มหาสตฺตสฺส หตฺเถ เปสิ. โส วามกฺขินา ทกฺขิณกฺขึ โอโลเกตฺวา เวทนํ อธิวาเสตฺวา ‘‘เอหิ พฺราหฺมณา’’ติ พฺราหฺมณํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘มม อิโต อกฺขิโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน สพฺพฺุตฺาณกฺขิเมว ปิยตรํ, ตสฺส เม อิทํ ปจฺจโย โหตู’’ติ วตฺวา พฺราหฺมณสฺส อกฺขึ อทาสิ. โส ตํ อุกฺขิปิตฺวา อตฺตโน อกฺขิมฺหิ เปสิ. ตํ ตสฺสานุภาเวน วิกสิตนีลุปฺปลํ วิย หุตฺวา ปติฏฺาสิ. มหาสตฺโต วามกฺขินา ตสฺส ตํ อกฺขึ ทิสฺวา ‘‘อโห, สุทินฺนํ มยา อกฺขิทาน’’นฺติ อนฺโต สมุคฺคตาย ปีติยา นิรนฺตรํ ผุโฏ หุตฺวา อิตรมฺปิ อกฺขึ อทาสิ. สกฺโก ตมฺปิ อตฺตโน อกฺขิมฺหิ เปตฺวา ราชนิเวสนา นิกฺขมิตฺวา มหาชนสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว นครา นิกฺขมิตฺวา เทวโลกเมว คโต. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทิยฑฺฒคาถมาห –

๖๗.

‘‘โจทิโต สิวิราเชน, สีวิโก วจนํกโร;

รฺโ จกฺขูนุทฺธริตฺวา, พฺราหฺมณสฺสูปนามยิ;

สจกฺขุ พฺราหฺมโณ อาสิ, อนฺโธ ราชา อุปาวิสี’’ติ.

รฺโ น จิรสฺเสว อกฺขีนิ รุหึสุ, รุหมานานิ จ อาวาฏภาวํ อปฺปตฺวา กมฺพลเคณฺฑุเกน วิย อุคฺคเตน มํสปิณฺเฑน ปูเรตฺวา จิตฺตกมฺมรูปสฺส วิย อกฺขีนิ อเหสุํ, เวทนา ปจฺฉิชฺชิ. อถ มหาสตฺโต กติปาหํ ปาสาเท วสิตฺวา ‘‘กึ อนฺธสฺส รชฺเชน, อมจฺจานํ รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘เอโก มุขโธวนาทิทายโก กปฺปิยการโกว มยฺหํ สนฺติเก ภวิสฺสติ, สรีรกิจฺจฏฺาเนสุปิ เม รชฺชุกํ พนฺธถา’’ติ วตฺวา สารถึ อามนฺเตตฺวา ‘‘รถํ โยเชหี’’ติ อาห. อมจฺจา ปนสฺส รเถน คนฺตุํ อทตฺวา สุวณฺณสิวิกาย นํ เนตฺวา โปกฺขรณีตีเร นิสีทาเปตฺวา อารกฺขํ สํวิธาย ปฏิกฺกมึสุ. ราชา ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน อตฺตโน ทานํ อาวชฺเชสิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส อาสนํ อุณฺหํ อโหสิ. โส อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ทิสฺวา ‘‘มหาราชสฺส วรํ ทตฺวา จกฺขุํ ปฏิปากติกํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส อวิทูเร อปราปรํ จงฺกมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อาห –

๖๘.

‘‘ตโต โส กติปาหสฺส, อุปรูฬฺเหสุ จกฺขุสุ;

สูตํ อามนฺตยี ราชา, สิวีนํ รฏฺวฑฺฒโน.

๖๙.

‘‘โยเชหิ สารถิ ยานํ, ยุตฺตฺจ ปฏิเวทย;

อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม, โปกฺขรฺโ วนานิ จ.

๗๐.

‘‘โส จ โปกฺขรณีตีเร, ปลฺลงฺเกน อุปาวิสิ;

ตสฺส สกฺโก ปาตุรหุ, เทวราชา สุชมฺปตี’’ติ.

สกฺโกปิ มหาสตฺเตน ปทสทฺทํ สุตฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุฏฺโ คาถมาห –

๗๑.

‘‘สกฺโกหมสฺมิ เทวินฺโท, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;

วรํ วรสฺสุ ราชีสิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ. –

เอวํ วุตฺเต ราชา คาถมาห –

๗๒.

‘‘ปหูตํ เม ธนํ สกฺก, พลํ โกโส จนปฺปโก;

อนฺธสฺส เม สโต ทานิ, มรณฺเว รุจฺจตี’’ติ.

ตตฺถ มรณฺเว รุจฺจตีติ เทวราช, อิทานิ มยฺหํ อนฺธภาเวน มรณเมว รุจฺจติ, ตํ เม เทหีติ.

อถ นํ สกฺโก อาห ‘‘สิวิราช, กึ ปน ตฺวํ มริตุกาโม หุตฺวา มรณํ โรเจสิ, อุทาหุ อนฺธภาเวนา’’ติ? ‘‘อนฺธภาเวน เทวา’’ติ. ‘‘มหาราช, ทานํ นาม น เกวลํ สมฺปรายตฺถเมว ทียติ, ทิฏฺธมฺมตฺถายปิ ปจฺจโย โหติ, ตฺวฺจ เอกํ จกฺขุํ ยาจิโต ทฺเว อทาสิ, เตน สจฺจกิริยํ กโรหี’’ติ กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อาห –

๗๓.

‘‘ยานิ สจฺจานิ ทฺวิปทินฺท, ตานิ ภาสสฺสุ ขตฺติย;

สจฺจํ เต ภณมานสฺส, ปุน จกฺขุ ภวิสฺสตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สกฺก, สเจสิ มม จกฺขุํ ทาตุกาโม, อฺํ อุปายํ มา กริ, มม ทานนิสฺสนฺเทเนว เม จกฺขุ อุปฺปชฺชตู’’ติ วตฺวา สกฺเกน ‘‘มหาราช, อหํ สกฺโก เทวราชาปิ น ปเรสํ จกฺขุํ ทาตุํ สกฺโกมิ, ตยา ทินฺนทานสฺส ผเลเนว เต จกฺขุ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มยา ทานํ สุทินฺน’’นฺติ วตฺวา สจฺจกิริยํ กโรนฺโต คาถมาห –

๗๔.

‘‘เย มํ ยาจิตุมายนฺติ, นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;

โยปิ มํ ยาจเต ตตฺถ, โสปิ เม มนโส ปิโย;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, จกฺขุ เม อุปปชฺชถา’’ติ.

ตตฺถ เย มนฺติ เย มํ ยาจิตุํ อาคจฺฉนฺติ, เตสุ ยาจเกสุ อาคจฺฉนฺเตสุ โยปิ มํ ยาจเต, โสปิ เม มนโส ปิโย. เอเตนาติ สเจ มม สพฺเพปิ ยาจกา ปิยา, สจฺจเมเวตํ มยา วุตฺตํ, เอเตน เม สจฺจวจเนน เอกํ เม จกฺขุ อุปปชฺชถ อุปปชฺชตูติ อาห.

อถสฺส วจนานนฺตรเมว ปมํ จกฺขุ อุทปาทิ. ตโต ทุติยสฺส อุปฺปชฺชนตฺถาย คาถาทฺวยมาห –

๗๕.

‘‘ยํ มํ โส ยาจิตุํ อาคา, เทหิ จกฺขุนฺติ พฺราหฺมโณ;

ตสฺส จกฺขูนิ ปาทาสึ, พฺราหฺมณสฺส วนิพฺพโต.

๗๖.

‘‘ภิยฺโย มํ อาวิสี ปีติ, โสมนสฺสฺจนปฺปกํ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, ทุติยํ เม อุปปชฺชถา’’ติ.

ตตฺถ ยํ มนฺติ โย มํ ยาจติ. โสติ โส จกฺขุวิกโล พฺราหฺมโณ ‘‘เทหิ เม จกฺขุ’’นฺติ ยาจิตุํ อาคโต. วนิพฺพโตติ ยาจนฺตสฺส. ภิยฺโย มํ อาวิสีติ พฺราหฺมณสฺส จกฺขูนิ ทตฺวา อนฺธกาลโต ปฏฺาย ตสฺมึ อนฺธกาเล ตถารูปํ เวทนํ อคเณตฺวา ‘‘อโห สุทินฺนํ เม ทาน’’นฺติ ปจฺจเวกฺขนฺตํ มํ ภิยฺโย อติเรกตรา ปีติ อาวิสิ, มม หทยํ ปวิฏฺา, โสมนสฺสฺจ มม อนนฺตํ อปริมาณํ อุปฺปชฺชิ. เอเตนาติ สเจ มม ตทา อนปฺปกํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สจฺจเมเวตํ มยา วุตฺตํ, เอเตน เม สจฺจวจเนน ทุติยมฺปิ จกฺขุ อุปปชฺชตูติ อาห.

ตงฺขณฺเว ทุติยมฺปิ จกฺขุ อุทปาทิ. ตานิ ปนสฺส จกฺขูนิ เนว ปากติกานิ, น ทิพฺพานิ. สกฺกพฺราหฺมณสฺส หิ ทินฺนํ จกฺขุํ ปุน ปากติกํ กาตุํ น สกฺกา, อุปหตวตฺถุโน จ ทิพฺพจกฺขุ นาม น อุปฺปชฺชติ, ตานิ ปนสฺส สจฺจปารมิตานุภาเวน สมฺภูตานิ จกฺขูนีติ วุตฺตานิ. เตสํ อุปฺปตฺติสมกาลเมว สกฺกานุภาเวน สพฺพา ราชปริสา สนฺนิปติตาว อเหสุํ. อถสฺส สกฺโก มหาชนมชฺเฌเยว ถุตึ กโรนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๗๗.

‘‘ธมฺเมน ภาสิตา คาถา, สิวีนํ รฏฺวฑฺฒน;

เอตานิ ตว เนตฺตานิ, ทิพฺพานิ ปฏิทิสฺสเร.

๗๘.

‘‘ติโรกุฏฺฏํ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;

สมนฺตา โยชนสตํ, ทสฺสนํ อนุโภนฺตุ เต’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมน ภาสิตาติ มหาราช, อิมา เต คาถา ธมฺเมน สภาเวเนว ภาสิตา. ทิพฺพานีติ ทิพฺพานุภาวยุตฺตานิ. ปฏิทิสฺสเรติ ปฏิทิสฺสนฺติ. ติโรกุฏฺฏนฺติ มหาราช, อิมานิ เต จกฺขูนิ เทวตานํ จกฺขูนิ วิย ปรกุฏฺฏํ ปรเสลํ ยํกิฺจิ ปพฺพตมฺปิ สมติคฺคยฺห อติกฺกมิตฺวา สมนฺตา ทส ทิสา โยชนสตํ รูปทสฺสนํ อนุโภนฺตุ สาเธนฺตูติ อตฺโถ.

อิติ โส อากาเส ตฺวา มหาชนมชฺเฌ อิมา คาถา ภาสิตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ มหาสตฺตํ โอวทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. มหาสตฺโตปิ มหาชนปริวุโต มหนฺเตน สกฺกาเรน นครํ ปวิสิตฺวา สุจนฺทกํ ปาสาทํ อภิรุหิ. เตน จกฺขูนํ ปฏิลทฺธภาโว สกลสิวิรฏฺเ ปากโฏ ชาโต. อถสฺส ทสฺสนตฺถํ สกลรฏฺวาสิโน พหุํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคมึสุ. มหาสตฺโต ‘‘อิมสฺมึ มหาชนสนฺนิปาเต มม ทานํ วณฺณยิสฺสามี’’ติ ราชทฺวาเร มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน นคเร เภรึ จราเปตฺวา สพฺพเสนิโย สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘อมฺโภ, สิวิรฏฺวาสิโน อิมานิ เม ทิพฺพจกฺขูนิ ทิสฺวา อิโต ปฏฺาย ทานํ อทตฺวา มา ภุฺชถา’’ติ ธมฺมํ เทเสนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๗๙.

‘‘โก นีธ วิตฺตํ น ทเทยฺย ยาจิโต, อปิ วิสิฏฺํ สุปิยมฺปิ อตฺตโน;

ตทิงฺฆ สพฺเพ สิวโย สมาคตา, ทิพฺพานิ เนตฺตานิ มมชฺช ปสฺสถ.

๘๐.

‘‘ติโรกุฏฺฏํ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;

สมนฺตา โยชนสตํ, ทสฺสนํ อนุโภนฺติ เม.

๘๑.

‘‘น จาคมตฺตา ปรมตฺถิ กิฺจิ, มจฺจานํ อิธ ชีวิเต;

ทตฺวาน มานุสํ จกฺขุํ, ลทฺธํ เม จกฺขุํ อมานุสํ.

๘๒.

‘‘เอตมฺปิ ทิสฺวา สิวโย, เทถ ทานานิ ภุฺชถ;

ทตฺวา จ ภุตฺวา จ ยถานุภาวํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปถ าน’’นฺติ.

ตตฺถ โกนีธาติ โก นุ อิธ. อปิ วิสิฏฺนฺติ อุตฺตมมฺปิ สมานํ. จาคมตฺตาติ จาคปมาณโต อฺํ วรํ นาม นตฺถิ. อิธ ชีวิเตติ อิมสฺมึ ชีวโลเก. ‘‘อิธ ชีวต’’นฺติปิ ปาโ, อิมสฺมึ โลเก ชีวมานานนฺติ อตฺโถ. อมานุสนฺติ ทิพฺพจกฺขุ มยา ลทฺธํ, อิมินา การเณน เวทิตพฺพเมตํ ‘‘จาคโต อุตฺตมํ นาม นตฺถี’’ติ. เอตมฺปิ ทิสฺวาติ เอตํ มยา ลทฺธํ ทิพฺพจกฺขุํ ทิสฺวาปิ.

อิติ อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา ตโต ปฏฺาย อนฺวทฺธมาสํ ปนฺนรสุโปสเถสุ มหาชนํ สนฺนิปาตาเปตฺวา นิจฺจํ อิมาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ. ตํ สุตฺวา มหาชโน ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา เทวโลกํ ปูเรนฺโตว อคมาสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, โปราณกปณฺฑิตา พาหิรทาเนน อสนฺตุฏฺา สมฺปตฺตยาจกานํ อตฺตโน จกฺขูนิ อุปฺปาเฏตฺวา อทํสู’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สีวิกเวชฺโช อานนฺโท อโหสิ, สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สิวิราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สิวิชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๐๐] ๔. สิรีมนฺตชาตกวณฺณนา

๘๓-๑๐๓. ปฺายุเปตํ สิริยา วิหีนนฺติ อยํ สิรีมนฺตปฺโห มหาอุมงฺเค (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.

สิรีมนฺตชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๐๑] ๕. โรหณมิคชาตกวณฺณนา

เอเต ยูถา ปติยนฺตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ชีวิตปริจฺจาคํ อารพฺภ กเถสิ. โส ปนสฺส ชีวิตปริจฺจาโค อสีตินิปาเต จูฬหํสชาตเก (ชา. ๒.๒๑.๑ อาทโย) ธนปาลทมเน อาวิ ภวิสฺสติ. เอวํ เตนายสฺมตา สตฺถุ อตฺถาย ชีวิเต ปริจฺจตฺเต ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อายสฺมา อานนฺโท เสกฺขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต หุตฺวา ทสพลสฺสตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เขมา นามสฺส อคฺคมเหสี อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต หิมวนฺตปเทเส มิคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา สุวณฺณวณฺโณ อโหสิ โสภคฺคปฺปตฺโต. กนิฏฺโปิสฺส จิตฺตมิโค นาม สุวณฺณวณฺโณว อโหสิ, กนิฏฺภคินีปิสฺส สุตนา นาม สุวณฺณวณฺณาว อโหสิ. มหาสตฺโต ปน โรหโณ นาม มิคราชา อโหสิ. โส หิมวนฺเต ทฺเว ปพฺพตราชิโย อติกฺกมิตฺวา ตติยาย อนฺตเร โรหณํ นาม สรํ นิสฺสาย อสีติมิคสหสฺสปริวาโร วาสํ กปฺเปสิ. โส อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสสิ. อเถโก พาราณสิโต อวิทูเร เนสาทคามวาสี เนสาทปุตฺโต หิมวนฺตํ ปวิฏฺโ มหาสตฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน คามํ อาคนฺตฺวา อปรภาเค กาลํ กโรนฺโต ปุตฺตสฺสาโรเจสิ ‘‘ตาต, อมฺหากํ กมฺมภูมิยํ อสุกสฺมึ นาม าเน สุวณฺณวณฺโณ มิโค วสติ, สเจ ราชา ปุจฺเฉยฺย, กเถยฺยาสี’’ติ.

อเถกทิวสํ เขมา เทวี ปจฺจูสกาเล สุปินํ อทฺทส. เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – สุวณฺณวณฺโณ มิโค อาคนฺตฺวา กฺจนปีเ นิสีทิตฺวา สุวณฺณกิงฺกิณิกํ อาโกเฏนฺโต วิย มธุรสฺสเรน เทวิยา ธมฺมํ เทเสติ, สา สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ สุณาติ. มิโค ธมฺมกถาย อนิฏฺิตาย เอว อุฏฺาย คจฺฉติ, สา ‘‘มิคํ คณฺหถ คณฺหถา’’ติ วทนฺตีเยว ปพุชฺฌิ. ปริจาริกาโย ตสฺสา สทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปิหิตทฺวารวาตปานํ เคหํ วาตสฺสปิ โอกาโส นตฺถิ, อยฺยา, อิมาย เวลาย มิคํ คณฺหาเปตี’’ติ อวหสึสุ. สา ตสฺมึ ขเณ ‘‘สุปิโน อย’’นฺติ ตฺวา จินฺเตสิ ‘‘สุปิโนติ วุตฺเต ราชา อนาทโร ภวิสฺสติ, ‘โทหโฬ อุปฺปนฺโน’ติ วุตฺเต ปน อาทเรน ปริเยสิสฺสติ, สุวณฺณวณฺณสฺส มิคสฺส ธมฺมกถํ สุณิสฺสามี’’ติ. สา คิลานาลยํ กตฺวา นิปชฺชิ. ราชา อาคนฺตฺวา ‘‘ภทฺเท, กึ เต อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, อฺํ นตฺถิ, โทหโฬ ปน เม อุปฺปนฺโน’’ติ. ‘‘กึ อิจฺฉสิ เทวี’’ติ? ‘‘สุวณฺณวณฺณสฺส ธมฺมิกมิคสฺส ธมฺมํ โสตุกามา เทวา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ยํ นตฺถิ, ตตฺถ เต โทหโฬ อุปฺปนฺโน, สุวณฺณวณฺโณ นาม มิโคเยว นตฺถี’’ติ. โส ‘‘สเจ น ลภามิ, อิเธว เม มรณ’’นฺติ รฺโ ปิฏฺึ ทตฺวา นิปชฺชิ.

ราชา ‘‘สเจ อตฺถิ, ลภิสฺสสี’’ติ ปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา โมรชาตเก (ชา. ๑.๒.๑๗ อาทโย) วุตฺตนเยเนว อมจฺเจ จ พฺราหฺมเณ จ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณา มิคา นาม โหนฺตี’’ติ สุตฺวา ลุทฺทเก สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘เอวรูโป มิโค เกน ทิฏฺโ, เกน สุโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน เนสาทปุตฺเตน ปิตุ สนฺติกา สุตนิยาเมน กถิเต ‘‘สมฺม, ตสฺส เต มิคสฺส อานีตกาเล มหนฺตํ สกฺการํ กริสฺสามิ, คจฺฉ อาเนหิ น’’นฺติ วตฺวา ปริพฺพยํ ทตฺวา ตํ เปเสสิ. โสปิ ‘‘สจาหํ, เทว, ตํ อาเนตุํ น สกฺขิสฺสามิ, จมฺมมสฺส อาเนสฺสามิ, ตํ อาเนตุํ อสกฺโกนฺโต โลมานิปิสฺส อาเนสฺสามิ, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถา’’ติ วตฺวา อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา ปุตฺตทารสฺส ปริพฺพยํ ทตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ มิคราชานํ ทิสฺวา ‘‘กสฺมึ นุ โข าเน ปาสํ โอฑฺเฑตฺวา อิมํ มิคราชานํ คณฺหิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ วีมํสนฺโต ปานียติตฺเถ โอกาสํ ปสฺสิ. โส ทฬฺหํ จมฺมโยตฺตํ วฏฺเฏตฺวา มหาสตฺตสฺส ปานียปิวนฏฺาเน ยฏฺิปาสํ โอฑฺเฑสิ.

ปุนทิวเส มหาสตฺโต อสีติยา มิคสหสฺเสหิ สทฺธึ โคจรํ จริตฺวา ‘‘ปกติติตฺเถเยว ปานียํ ปิวิสฺสามี’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา โอตรนฺโตเยว ปาเส พชฺฌิ. โส ‘‘สจาหํ อิทาเนว พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าติคณา ปานียํ อปิวิตฺวาว ภีตา ปลายิสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ยฏฺิยํ อลฺลียิตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ปานียํ ปิวนฺโต วิย อโหสิ. อถ อสีติยา มิคสหสฺสานํ ปานียํ ปิวิตฺวา อุตฺตริตฺวา ิตกาเล ‘‘ปาสํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ อากฑฺฒิ. ปมวาเร จมฺมํ ฉิชฺชิ, ทุติยวาเร มํสํ ฉิชฺชิ, ตติยวาเร นฺหารุํ ฉินฺทิตฺวา ปาโส อฏฺึ อาหจฺจ อฏฺาสิ. โส ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโต พทฺธรวํ รวิ, มิคคณา ภายิตฺวา ตีหิ ฆฏาหิ ปลายึสุ. จิตฺตมิโค ติณฺณมฺปิ ฆฏานํ อนฺตเร มหาสตฺตํ อทิสฺวา ‘‘อิทํ ภยํ อุปฺปชฺชมานํ มม ภาตุ อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา พทฺธํ ปสฺสิ. อถ นํ มหาสตฺโต ทิสฺวา ‘‘ภาติก, มา อิธ ติฏฺ, สาสงฺกํ อิทํ าน’’นฺติ วตฺวา อุยฺโยเชนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๐๔.

‘‘เอเต ยูถา ปติยนฺติ, ภีตา มรณสฺส จิตฺตก;

คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สหา’’ติ.

ตตฺถ เอเตติ จกฺขุปถํ อติกฺกมิตฺวา ทูรคเต สนฺธายาห. ปติยนฺตีติ ปติคจฺฉนฺติ, ปลายนฺตีติ อตฺโถ. จิตฺตกาติ ตํ อาลปติ. ตยา สหาติ ตฺวํ เอเตสํ มม าเน ตฺวา ราชา โหหิ, เอเต ตยา สทฺธึ ชีวิสฺสนฺตีติ.

ตโต อุภินฺนมฺปิ ติสฺโส เอกนฺตริกคาถาโย โหนฺติ –

๑๐๕.

‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;

น ตํ อหํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิตํ.

๑๐๖.

‘‘เต หิ นูน มริสฺสนฺติ, อนฺธา อปริณายกา;

คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สห.

๑๐๗.

‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;

น ตํ พทฺธํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ โรหณาติ มหาสตฺตํ นาเมนาลปติ. อวกสฺสตีติ กฑฺฒยติ, โสเกน วา กฑฺฒียติ. เต หิ นูนาติ เต อมฺหากํ มาตาปิตโร เอกํเสเนว ทฺวีสุปิ อมฺเหสุ อิธ มเตสุ อปริณายกา หุตฺวา อปฺปฏิชคฺคิยมานา สุสฺสิตฺวา มริสฺสนฺติ, ตสฺมา ภาติก จิตฺตก, คจฺฉ ตุวํ, ตยา สห เต ชีวิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อิธ หิสฺสามีติ อิมสฺมึเยว าเน ชีวิตํ ชหิสฺสามีติ.

อิติ วตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ตํ สนฺธาเรตฺวา อสฺสาเสนฺโต อฏฺาสิ. สุตนาปิ มิคโปติกา ปลายิตฺวา มิคานํ อนฺตเร อุโภ ภาติเก อปสฺสนฺตี ‘‘อิทํ ภยํ มม ภาติกานํ อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ นิวตฺติตฺวา เตสํ สนฺติกํ อาคตา. นํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา มหาสตฺโต ปฺจมํ คาถมาห –

๑๐๘.

‘‘คจฺฉ ภีรุ ปลายสฺสุ, กูเฏ พทฺโธสฺมิ อายเส;

คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สหา’’ติ.

ตตฺถ ภีรูติ มาตุคาโม นาม อปฺปมตฺตเกนปิ ภายติ, เตน นํ เอวํ อาลปติ. กูเฏติ ปฏิจฺฉนฺนปาเส. อายเสติ โส หิ อนฺโตอุทเก อยกฺขนฺธํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ สารทารุํ ยฏฺึ พนฺธิตฺวา โอฑฺฑิโต, ตสฺมา เอวมาห. ตยา สหาติ เต อสีติสหสฺสา มิคา ตยา สทฺธึ ชีวิสฺสนฺตีติ.

ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว ติสฺโส คาถา โหนฺติ –

๑๐๙.

‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;

น ตํ อหํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิตํ.

๑๑๐.

‘‘เต หิ นูน มริสฺสนฺติ, อนฺธา อปริณายกา;

คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สห.

๑๑๑.

‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;

น ตํ พทฺธํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ เต หิ นูนาติ อิธาปิ มาตาปิตโรเยว สนฺธายาห.

สาปิ ตเถว ปฏิกฺขิปิตฺวา มหาสตฺตสฺส วามปสฺสํ นิสฺสาย อสฺสาสยมานา อฏฺาสิ. ลุทฺโทปิ เต มิเค ปลายนฺเต ทิสฺวา พทฺธรวฺจ สุตฺวา ‘‘พทฺโธ ภวิสฺสติ มิคราชา’’ติ ทฬฺหํ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา มิคมารณสตฺตึ อาทาย เวเคนาคจฺฉิ. มหาสตฺโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา นวมํ คาถมาห –

๑๑๒.

‘‘อยํ โส ลุทฺทโก เอติ, ลุทฺทรูโป สหาวุโธ;

โย โน วธิสฺสติ อชฺช, อุสุนา สตฺติยา อปี’’ติ.

ตตฺถ ลุทฺทรูโปติ ทารุณชาติโก. สตฺติยา อปีติ สตฺติยาปิ โน ปหริตฺวา วธิสฺสติ, ตสฺมา ยาว โส นาคจฺฉติ, ตาว ปลายถาติ.

ตํ ทิสฺวาปิ จิตฺตมิโค น ปลายิ. สุตนา ปน สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี มรณภยภีตา โถกํ ปลายิตฺวา – ‘‘อหํ ทฺเว ภาติเก ปหาย กุหึ ปลายิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ชีวิตํ ชหิตฺวา นลาเฏน มจฺจุํ อาทาย ปุนาคนฺตฺวา ภาตุ วามปสฺเส อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทสมํ คาถมาห –

๑๑๓.

‘‘สา มุหุตฺตํ ปลายิตฺวา, ภยฏฺฏา ภยตชฺชิตา;

สุทุกฺกรํ อกรา ภีรุ, มรณายูปนิวตฺตถา’’ติ.

ตตฺถ มรณายูปนิวตฺตถาติ มรณตฺถาย อุปนิวตฺติ.

ลุทฺโทปิ อาคนฺตฺวา เต ตโย ชเน เอกโต ิเต ทิสฺวา เมตฺตจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา เอกกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตภาตโร วิย เต มฺมาโน จินฺเตสิ ‘‘มิคราชา, ตาว ปาเส พทฺโธ, อิเม ปน ทฺเว ชนา หิโรตฺตปฺปพนฺธเนน พทฺธา, กึ นุ โข อิเม เอตสฺส โหนฺตี’’ติ? อถ นํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๑๔.

‘‘กึ นุ เตเม มิคา โหนฺติ, มุตฺตา พทฺธํ อุปาสเร;

น ตํ จชิตุมิจฺฉนฺติ, ชีวิตสฺสปิ การณา’’ติ.

ตตฺถ กึ นุ เตเมติ กึ นุ เต อิเม. อุปาสเรติ อุปาสนฺติ.

อถสฺส โพธิสตฺโต อาจิกฺขิ –

๑๑๕.

‘‘ภาตโร โหนฺติ เม ลุทฺท, โสทริยา เอกมาตุกา;

น มํ จชิตุมิจฺฉนฺติ, ชีวิตสฺสปิ การณา’’ติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย มุทุจิตฺโต อโหสิ. จิตฺตมิคราชา ตสฺส มุทุจิตฺตภาวํ ตฺวา ‘‘สมฺม ลุทฺทก, มา ตฺวํ เอตํ มิคราชานํ ‘มิคมตฺโตเยวา’ติ มฺิตฺถ, อยฺหิ อสีติยา มิคสหสฺสานํ ราชา สีลาจารสมฺปนฺโน สพฺพสตฺเตสุ มุทุจิตฺโต มหาปฺโ อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสติ. สเจ ตฺวํ เอวรูปํ ธมฺมิกํ มิคํ มาเรสิ, เอตํ มาเรนฺโต มาตาปิตโร จ โน มฺจ ภคินิฺจ เมติ อมฺเห ปฺจปิ ชเน มาเรสิเยว. มยฺหํ ปน ภาตุ ชีวิตํ เทนฺโต ปฺจนฺนมฺปิ ชนานํ ชีวิตทายโกสี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๑๑๖.

‘‘เต หิ นูน มริสฺสนฺติ, อนฺธา อปริณายกา;

ปฺจนฺนํ ชีวิตํ เทหิ, ภาตรํ มุฺจ ลุทฺทกา’’ติ.

โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘มา ภายิ สามี’’ติ วตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๑๗.

‘‘โส โว อหํ ปโมกฺขามิ, มาตาเปตฺติภรํ มิคํ;

นนฺทนฺตุ มาตาปิตโร, มุตฺตํ ทิสฺวา มหามิค’’นฺติ.

ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ. มุตฺตนฺติ พนฺธนา มุตฺตํ ปสฺสิตฺวา.

เอวฺจ ปน วตฺวา จินฺเตสิ ‘‘รฺา ทินฺนยโส มยฺหํ กึ กริสฺสติ, สจาหํ อิมํ มิคราชานํ วธิสฺสามิ, อยํ วา เม ปถวี ภิชฺชิตฺวา วิวรํ ทสฺสติ, อสนิ วา เม มตฺถเก ปติสฺสติ, วิสฺสชฺเชสฺสามิ น’’นฺติ. โส มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ยฏฺึ ปาเตตฺวา จมฺมโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา มิคราชานํ อาลิงฺคิตฺวา อุทกปริยนฺเต นิปชฺชาเปตฺวา มุทุจิตฺเตน สณิกํ ปาสา โมเจตฺวา นฺหารูหิ นฺหารุํ, มํเสน มํสํ, จมฺเมน จมฺมํ สโมธาเนตฺวา อุทเกน โลหิตํ โธวิตฺวา เมตฺตจิตฺเตน ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชิ. ตสฺส เมตฺตานุภาเวเนว มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน จ สพฺพานิ นฺหารุมํสจมฺมานิ สนฺธียึสุ, ปาโท สฺฉนฺนฉวิ สฺฉนฺนโลโม อโหสิ, อสุกฏฺาเน พทฺโธ อโหสีติปิ น ปฺายิ. มหาสตฺโต สุขปฺปตฺโต หุตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา จิตฺตมิโค โสมนสฺสชาโต ลุทฺทสฺส อนุโมทนํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๑๘.

‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา มหามิค’’นฺติ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘กึ นุ โข เอส ลุทฺโท มํ คณฺหนฺโต อตฺตโน กาเมน คณฺหิ, อุทาหุ อฺสฺส อาณตฺติยา’’ติ จินฺเตตฺวา คหิตการณํ ปุจฺฉิ. ลุทฺทปุตฺโต อาห – ‘‘สามิ, น มยฺหํ ตุมฺเหหิ กมฺมํ อตฺถิ, รฺโ ปน อคฺคมเหสี เขมา นาม ตุมฺหากํ ธมฺมกถํ โสตุกามา, ตทตฺถาย รฺโ อาณตฺติยา ตฺวํ มยา คหิโต’’ติ. สมฺม, เอวํ สนฺเต มํ วิสฺสชฺเชนฺโต อติทุกฺกรํ กโรสิ, เอหิ มํ เนตฺวา รฺโ ทสฺเสหิ, เทวิยา ธมฺมํ กเถสฺสามีติ. สามิ, ราชาโน นาม กกฺขฬา, โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสติ, มยฺหํ รฺา ทินฺนยเสน กมฺมํ นตฺถิ, คจฺฉ ตฺวํ ยถาสุขนฺติ. ปุน มหาสตฺโต ‘‘อิมินา มํ วิสฺสชฺเชนฺเตน อติทุกฺกรํ กตํ, ยสปฏิลาภสฺส อุปายมสฺส กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ปิฏฺึ ตาว เม หตฺเถน ปริมชฺชา’’ติ อาห. ‘‘โส ปริมชฺชิ, หตฺโถ สุวณฺณวณฺเณหิ โลเมหิ ปูริ’’. ‘‘สามิ, อิเมหิ โลเมหิ กึ กาโรมี’’ติ. ‘‘สมฺม, อิมานิ หริตฺวา รฺโ จ เทวิยา จ ทสฺเสตฺวา ‘อิมานิ ตสฺส สุวณฺณวณฺณมิคสฺส โลมานี’ติ วตฺวา มม าเน ตฺวา อิมาหิ คาถาหิ เทวิยา ธมฺมํ เทเสหิ, ตํ สุตฺวาเยว จสฺสา โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสตี’’ติ. ‘‘ธมฺมํ จร มหาราชา’’ติ ทส ธมฺมจริยคาถา อุคฺคณฺหาเปตฺวา ปฺจ สีลานิ ทตฺวา อปฺปมาเทน โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. ลุทฺทปุตฺโต มหาสตฺตํ อาจริยฏฺาเน เปตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา โลมานิ ปทุมินิปตฺเตน คเหตฺวา ปกฺกามิ. เตปิ ตโย ชนา โถกํ อนุคนฺตฺวา มุเขน โคจรฺจ ปานียฺจ คเหตฺวา มาตาปิตูนํ สนฺติกํ คมึสุ. มาตาปิตโร ‘‘ตาต โรหณ, ตฺวํ กิร ปาเส พทฺโธ กถํ มุตฺโตสี’’ติ ปุจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –

๑๑๙.

‘‘กถํ ตฺวํ ปโมกฺโข อาสิ, อุปนีตสฺมิ ชีวิเต;

กถํ ปุตฺต อโมเจสิ, กูฏปาสมฺห ลุทฺทโก’’ติ.

ตตฺถ อุปนีตสฺมีติ ตว ชีวิเต มรณสนฺติกํ อุปนีเต กถํ ปโมกฺโข อาสิ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๒๐.

‘‘ภณํ กณฺณสุขํ วาจํ, หทยงฺคํ หทยสฺสิตํ;

สุภาสิตาหิ วาจาหิ, จิตฺตโก มํ อโมจยิ.

๑๒๑.

‘‘ภณํ กณฺณสุขํ วาจํ, หทยงฺคํ หทยสฺสิตํ;

สุภาสิตาหิ วาจาหิ, สุตนา มํ อโมจยิ.

๑๒๒.

‘‘สุตฺวา กณฺณสุขํ วาจํ, หทยงฺคํ หทยสฺสิตํ;

สุภาสิตานิ สุตฺวาน, ลุทฺทโก มํ อโมจยี’’ติ.

ตตฺถ ภณนฺติ ภณนฺโต. หทยงฺคนฺติ หทยงฺคมํ. ทุติยคาถาย ภณนฺติ ภณมานา. สุตฺวาติ โส อิเมสํ อุภินฺนํ วาจํ สุตฺวา.

อถสฺส มาตาปิตโร อนุโมทนฺตา อาหํสุ –

๑๒๓.

‘‘เอวํ อานนฺทิโต โหตุ, สห ทาเรหิ ลุทฺทโก;

ยถา มยชฺช นนฺทาม, ทิสฺวา โรหณมาคต’’นฺติ.

ลุทฺโทปิ อรฺา นิกฺขมิตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา ราชา คาถมาห –

๑๒๔.

‘‘นนุ ตฺวํ อวจ ลุทฺท, ‘มิคจมฺมานิ อาหรึ’;

อถ เกน นุ วณฺเณน, มิคจมฺมานิ นาหรี’’ติ.

ตตฺถ มิคจมฺมานีติ มิคํ วา จมฺมํ วา. อาหรินฺติ อาหริสฺสามิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺโภ ลุทฺท, นนุ ตฺวํ เอวํ อวจ ‘‘มิคํ อาเนตุํ อสกฺโกนฺโต จมฺมํ อาหริสฺสามิ, ตํ อสกฺโกนฺโต โลมานี’’ติ, โส ตฺวํ เกน การเณน เนว มิคํ, น มิคจมฺมํ อาหรีติ?

ตํ สุตฺวา ลุทฺโท คาถมาห –

๑๒๕.

‘‘อาคมา เจว หตฺถตฺถํ, กูฏปาสฺจ โส มิโค;

อพชฺฌิ ตํ มิคราชํ, ตฺจ มุตฺตา อุปาสเร.

๑๒๖.

‘‘ตสฺส เม อหุ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน;

อิมฺจาหํ มิคํ หฺเ, อชฺช หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ อาคมาติ มหาราช, โส มิโค มม หตฺถตฺถํ หตฺถปาสฺเจว มยา โอฑฺฑิตํ กูฏปาสฺจ อาคโต, ตสฺมิฺจ กูฏปาเส อพชฺฌิ. ตฺจ มุตฺตา อุปาสเรติ ตฺจ พทฺธํ อปเร มุตฺตา อพทฺธาว ทฺเว มิคา อสฺสาเสนฺตา ตํ นิสฺสาย อฏฺํสุ. อพฺภุโตติ ปุพฺเพ อภูตปุพฺโพ. อิมฺจาหนฺติ อถ เม สํวิคฺคสฺส เอตทโหสิ ‘‘สเจ อหํ อิมํ มิคํ หนิสฺสามิ, อชฺเชว อิมสฺมึเยว าเน ชีวิตํ ชหิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อาห –

๑๒๗.

‘‘กีทิสา เต มิคา ลุทฺท, กีทิสา ธมฺมิกา มิคา;

กถํวณฺณา กถํสีลา, พาฬฺหํ โข เน ปสํสสี’’ติ.

อิทํ โส ราชา วิมฺหยวเสน ปุนปฺปุนํ ปุจฺฉติ. ตํ สุตฺวา ลุทฺโท คาถมาห –

๑๒๘.

‘‘โอทาตสิงฺคา สุจิวาลา, ชาตรูปตจูปมา;

ปาทา โลหิตกา เตสํ, อฺชิตกฺขา มโนรมา’’ติ.

ตตฺถ โอทาตสิงฺคาติ รชตทามสทิสสิงฺคา. สุจิวาลาติ จามริวาลสทิเสน สุจินา วาเลน สมนฺนาคตา. โลหิตกาติ รตฺตนขา ปวาฬสทิสา. ปาทาติ ขุรปริยนฺตา. อฺชิตกฺขาติ อฺชิเตหิ วิย วิสุทฺธปฺจปสาเทหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคตา.

อิติ โส กเถนฺโตว มหาสตฺตสฺส สุวณฺณวณฺณานิ โลมานิ รฺโ หตฺเถ เปตฺวา เตสํ มิคานํ สรีรวณฺณํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –

๑๒๙.

‘‘เอทิสา เต มิคา เทว, เอทิสา ธมฺมิกา มิคา;

มาตาเปตฺติภรา เทว, น เต โส อภิหาริตุ’’นฺติ.

ตตฺถ มาตาเปตฺติภราติ ชิณฺเณ อนฺเธ มาตาปิตโร โปเสนฺติ, เอตาทิสา เนสํ ธมฺมิกตา. น เต โส อภิหาริตุนฺติ โส มิคราชา น สกฺกา เกนจิ ตว ปณฺณาการตฺถาย อภิหริตุนฺติ อตฺโถ. ‘‘อภิหารยิ’’นฺติปิ ปาโ, โส อหํ ตํ เต ปณฺณาการตฺถาย นาภิหารยึ น อาหรินฺติ อตฺโถ.

อิติ โส มหาสตฺตสฺส จ จิตฺตมิคสฺส จ สุตนาย มิคโปติกาย จ คุณํ กเถตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ เตน มิครฺา ‘อตฺตโน โลมานิ ทสฺเสตฺวา มม าเน ตฺวา ทสหิ ราชธมฺมจริยคาถาหิ เทวิยา ธมฺมํ กเถยฺยาสี’ติ อุคฺคณฺหาปิโต อาณตฺโต’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ราชา นํ นฺหาเปตฺวา อหตวตฺถานิ นิวาเสตฺวา สตฺตรตนขจิเต ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา สยํ เทวิยา สทฺธึ นีจาสเน เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ตํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจติ. โส ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเสุ ชนปเทสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;

สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ. (ชา. ๒.๑๘.๑๑๔-๑๒๓);

อิติ เนสาทปุตฺโต มหาสตฺเตน เทสิตนิยาเมน อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย พุทฺธลีลาย ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโน สาธุการสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ. ธมฺมกถํ สุตฺวาเยว เทวิยา โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ลุทฺทปุตฺตํ มหนฺเตน ยเสน สนฺตปฺเปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๓๐.

‘‘ทมฺมิ นิกฺขสตํ ลุทฺท, ถูลฺจ มณิกุณฺฑลํ;

จตุสฺสทฺจ ปลฺลงฺกํ, อุมาปุปฺผสรินฺนิภํ.

๑๓๑.

‘‘ทฺเว จ สาทิสิโย ภริยา, อุสภฺจ ควํ สตํ;

ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสฺสํ, พหุกาโร เมสิ ลุทฺทก.

๑๓๒.

‘‘กสิวาณิชฺชา อิณทานํ, อุจฺฉาจริยา จ ลุทฺทก;

เอเตน ทารํ โปเสหิ, มา ปาปํ อกรี ปุนา’’ติ.

ตตฺถ ถูลนฺติ มหคฺฆํ มณิกุณฺฑลปสาธนฺจ เต ทมฺมิ. จตุสฺสทนฺติ จตุรุสฺสทํ, จตุอุสฺสีสกนฺติ อตฺโถ. อุมาปุปฺผสรินฺนิภนฺติ นีลปจฺจตฺถรณตฺตา อุมาปุปฺผสทิสาย นิภาย โอภาเสน สมนฺนาคตํ, กาฬวณฺณทารุสารมยํ วา. สาทิสิโยติ อฺมฺํ รูเปน จ โภเคน จ สทิสา. อุสภฺจ ควํ สตนฺติ อุสภํ เชฏฺกํ กตฺวา ควํ สตฺจ เต ทมฺมิ. กาเรสฺสนฺติ ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺโต ธมฺเมเนว รชฺชํ กาเรสฺสามิ. พหุกาโร เมสีติ สุวณฺณวณฺณสฺส มิครฺโ าเน ตฺวา ธมฺมสฺส เทสิตตฺตา ตฺวํ มม พหุปกาโร, มิคราเชน วุตฺตนิยาเมเนว เต อหํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาปิโต. กสิวาณิชฺชาติ สมฺม ลุทฺทก, อหมฺปิ มิคราชานํ อทิสฺวา ตสฺส วจนเมว สุตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺิโต, ตฺวมฺปิ อิโต ปฏฺาย สีลวา โหหิ, ยานิ ตานิ กสิวาณิชฺชานิ อิณทานํ อุฺฉาจริยาติ อาชีวมุขานิ, เอเตเนว สมฺมาอาชีเวน ตว ปุตฺตทารํ โปเสหิ, มา ปุน ปาปํ กรีติ.

โส รฺโ กถํ สุตฺวา ‘‘น เม ฆราวาเสนตฺโถ, ปพฺพชฺชํ เม อนุชานาถ เทวา’’ติ อนุชานาเปตฺวา รฺา ทินฺนธนํ ปุตฺตทารสฺส ทตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ. ราชาปิ มหาสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิ, ตสฺส โอวาโท วสฺสสหสฺสํ ปวตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขเว ปุพฺเพปิ มมตฺถาย อานนฺเทน ชีวิตํ ปริจฺจตฺตเมวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ลุทฺโท ฉนฺโน อโหสิ, ราชา สาริปุตฺโต, เทวี เขมา ภิกฺขุนี, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, สุตนา อุปฺปลวณฺณา, จิตฺตมิโค อานนฺโท, อสีติ มิคสหสฺสานิ สากิยคโณ, โรหโณ มิคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

โรหณมิคชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๕๐๒] ๖. จูฬหํสชาตกวณฺณนา

เอเต หํสา ปกฺกมนฺตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อานนฺทเถรสฺส ชีวิตปริจฺจาคเมว อารพฺภ กเถสิ. ตทาปิ หิ ธมฺมสภายํ เถรสฺส คุณกถํ กเถนฺเตสุ ภิกฺขูสุ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺเทน มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจตฺตเมวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พหุปุตฺตโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. เขมา นามสฺส อคฺคมเหสี อโหสิ. ตทา มหาสตฺโต สุวณฺณหํสโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา นวุติหํสสหสฺสปริวุโต จิตฺตกูเฏ วสิ. ตทาปิ เทวี วุตฺตนเยเนว สุปินํ ทิสฺวา รฺโ สุวณฺณวณฺณหํสสฺส ธมฺมเทสนาสวนโทหฬํ อาโรเจสิ. ราชาปิ อมจฺเจ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณหํสา นาม จิตฺตกูฏปพฺพเต วสนฺตี’’ติ จ สุตฺวา เขมํ นาม สรํ กาเรตฺวา นานปฺปการานิ นิวาปธฺานิ โรปาเปตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ เทวสิกํ อภยโฆสนํ โฆสาเปสิ, เอกฺจ ลุทฺทปุตฺตํ หํสานํ คหณตฺถาย ปโยเชสิ. ตสฺส ปโยชิตากาโร จ, เตน ตตฺถ สกุณานํ อุปปริกฺขิตภาโว จ, สุวณฺณหํสานํ อาคตกาเล รฺโ อาโรเจตฺวา ปาสานํ โอฑฺฑิตนิยาโม จ, มหาสตฺตสฺส ปาเส พทฺธนิยาโม จ, สุมุขสฺส หํสเสนาปติโน ตีสุ หํสฆฏาสุ ตํ อทิสฺวา นิวตฺตนฺจ สพฺพํ มหาหํสชาตเก (ชา. ๒.๒๑.๘๙ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. อิธาปิ มหาสตฺโต ยฏฺิปาเส พชฺฌิตฺวา ปาสยฏฺิยํ โอลมฺพนฺโตเยว คีวํ ปสาเรตฺวา หํสานํ คตมคฺคํ โอโลเกนฺโต สุมุขํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อาคตกาเล นํ วีมํสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺมึ อาคเต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๓๓.

‘‘เอเต หํสา ปกฺกมนฺติ, วกฺกงฺคา ภยเมริตา;

หริตฺตจ เหมวณฺณ, กามํ สุมุข ปกฺกม.

๑๓๔.

‘‘โอหาย มํ าติคณา, เอกํ ปาสวสํ คตํ;

อนเปกฺขมานา คจฺฉนฺติ, กึ เอโก อวหิยฺยสิ.

๑๓๕.

‘‘ปเตว ปตตํ เสฏฺ, นตฺถิ พทฺเธ สหายตา;

มา อนีฆาย หาเปสิ, กามํ สุมุข ปกฺกมา’’ติ.

ตตฺถ ภยเมริตาติ ภเยริตา ภยตชฺชิตา ภยจลิตา. หริตฺตจ เหมวณฺณาติ ทฺวีหิปิ วจเนหิ ตเมวาลปติ. กามนฺติ สุวณฺณตฺตจ, สุวณฺณวณฺณ, สุนฺทรมุข เอกํเสน ปกฺกมาหิเยว, กึ เต อิธาคมเนนาติ วทติ. โอหายาติ มํ ชหิตฺวา อุปฺปติตา. อนเปกฺขมานาติ เต มม าตกา มยิ อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ. ปเตวาติ อุปฺปเตว. มา อนีฆายาติ อิโต คนฺตฺวา ปตฺตพฺพาย นิทฺทุกฺขภาวาย วีริยํ มา หาเปสิ.

ตโต สุมุโข ปงฺกปิฏฺเ นิสีทิตฺวา คาถมาห –

๑๓๖.

‘‘นาหํ ทุกฺขปเรโตติ, ธตรฏฺ ตุวํ ชเห;

ชีวิตํ มรณํ วา เม, ตยา สทฺธึ ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ทุกฺขปเรโตติ มหาราช, ‘‘ตฺวํ มรณทุกฺขปเรโต’’ติ เอตฺตเกเนว นาหํ ตํ ชหามิ.

เอวํ สุมุเขน สีหนาเท กถิเต ธตรฏฺโ คาถมาห –

๑๓๗.

‘‘เอตทริยสฺส กลฺยาณํ, ยํ ตฺวํ สุมุข ภาสสิ;

ตฺจ วีมํสมาโนหํ, ปตเตตํ อวสฺสชิ’’นฺติ.

ตตฺถ เอตทริยสฺสาติ ยํ ตฺวํ ‘‘นาหํ ตํ ชเห’’ติ ภาสสิ, เอตํ อาจารสมฺปนฺนสฺส อริยสฺส กลฺยาณํ อุตฺตมวจนํ. ปตเตตนฺติ อหฺจ น ตํ วิสฺสชฺเชตุกาโมว เอวํ อวจํ, อถ โข ตํ วีมํสมาโน ‘‘ปตตู’’ติ เอตํ วจนํ อวสฺสชึ, คจฺฉาติ ตํ อโวจนฺติ อตฺโถ.

เอวํ เตสํ กเถนฺตานฺเว ลุทฺทปุตฺโต ทณฺฑมาทาย เวเคนาคโต. สุมุโข ธตรฏฺํ อสฺสาเสตฺวา ตสฺสาภิมุโข คนฺตฺวา อปจิตึ ทสฺเสตฺวา หํสรฺโ คุเณ กเถสิ. ตาวเทว ลุทฺโท มุทุจิตฺโต อโหสิ. โส ตสฺส มุทุจิตฺตกํ ตฺวา ปุน คนฺตฺวา หํสราชเมว อสฺสาเสนฺโต อฏฺาสิ. ลุทฺโทปิ หํสราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ฉฏฺํ คาถมาห –

๑๓๘.

‘‘อปเทน ปทํ ยาติ, อนฺตลิกฺขจโร ทิโช;

อารา ปาสํ น พุชฺฌิ ตฺวํ, หํสานํ ปวรุตฺตมา’’ติ.

ตตฺถ อปเทน ปทนฺติ มหาราช, ตุมฺหาทิโส อนฺตลิกฺขจโร ทิโช อปเท อากาเส ปทํ กตฺวา ยาติ. น พุชฺฌิ ตฺวนฺติ โส ตฺวํ เอวรูโป ทูรโตว อิมํ ปาสํ น พุชฺฌิ น ชานีติ ปุจฺฉติ.

มหาสตฺโต อาห –

๑๓๙.

‘‘ยทา ปราภโว โหติ, โปโส ชีวิตสงฺขเย;

อถ ชาลฺจ ปาสฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌตี’’ติ.

ตตฺถ ยทา ปราภโวติ สมฺม ลุทฺทปุตฺต, ยทา ปราภโว อวุฑฺฒิ วินาโส สมฺปตฺโต โหติ, อถ โปโส ชีวิตสงฺขเย ปตฺเต ชาลฺจ ปาสฺจ ปตฺวาปิ น ชานาตีติ อตฺโถ.

ลุทฺโท หํสรฺโ กถํ อภินนฺทิตฺวา สุมุเขน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๔๐.

‘‘เอเต หํสา ปกฺกมนฺติ, วกฺกงฺคา ภยเมริตา;

หริตฺตจ เหมวณฺณ, ตฺวฺเว อวหิยฺยสิ.

๑๔๑.

‘‘เอเต ภุตฺวา จ ปิวิตฺวา จ, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;

อนเปกฺขมานา วกฺกงฺคา, ตฺวฺเเวโก อุปาสสิ.

๑๔๒.

‘‘กึ นุ ตฺยายํ ทิโช โหติ, มุตฺโต พทฺธํ อุปาสสิ;

โอหาย สกุณา ยนฺติ, กึ เอโก อวหิยฺยสี’’ติ.

ตตฺถ ตฺวฺเวาติ ตฺวเมว โอหิยฺยสีติ ปุจฺฉติ. อุปาสสีติ ปยิรุปาสสิ.

สุมุโข อาห –

๑๔๓.

‘‘ราชา เม โส ทิโช มิตฺโต, สขา ปาณสโม จ เม;

เนว นํ วิชหิสฺสามิ, ยาว กาลสฺส ปริยาย’’นฺติ.

ตตฺถ ยาว กาลสฺส ปริยายนฺติ ลุทฺทปุตฺต, ยาว ชีวิตกาลสฺส ปริโยสานํ อหํ เอตํ น วิชหิสฺสามิเยว.

ตํ สุตฺวา ลุทฺโท ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา ‘‘สจาหํ เอวํ สีลสมฺปนฺเนสุ อิเมสุ อปรชฺฌิสฺสามิ, ปถวีปิ เม วิวรํ ทเทยฺย, กึ เม รฺโ สนฺติกา ลทฺเธน ธเนน, วิสฺสชฺเชสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๔๔.

‘‘โย จ ตฺวํ สขิโน เหตุ, ปาณํ จชิตุมิจฺฉสิ;

โส เต สหายํ มุฺจามิ, โหตุ ราชา ตวานุโค’’ติ.

ตตฺถ โย จ ตฺวนฺติ โย นาม ตฺวํ. โสติ โส อหํ. ตวานุโคติ เอส หํสราชา ตว วสํ อนุคโต โหตุ, ตยา สทฺธึ เอกฏฺาเน วสตุ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ธตรฏฺํ ยฏฺิปาสโต โอตาเรตฺวา สรตีรํ เนตฺวา ปาสํ มุฺจิตฺวา มุทุจิตฺเตน โลหิตํ โธวิตฺวา นฺหารุอาทีนิ ปฏิปาเทสิ. ตสฺส มุทุจิตฺตตาย มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน จ ตาวเทว ปาโท สจฺฉวิ อโหสิ, พทฺธฏฺานมฺปิ น ปฺายิ. สุมุโข โพธิสตฺตํ โอโลเกตฺวา ตุฏฺจิตฺโต อนุโมทนํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๔๕.

‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา ทิชาธิป’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา ลุทฺโท ‘‘คจฺฉถ, สามี’’ติ อาห. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘กึ ปน ตฺวํ สมฺม, มํ อตฺตโน อตฺถาย พนฺธิ, อุทาหุ อฺสฺส อาณตฺติยา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ตสฺมึ การเณ อาโรจิเต ‘‘กึ นุ โข เม อิโตว จิตฺตกูฏํ คนฺตุํ เสยฺโย, อุทาหุ นคร’’นฺติ วิมํสนฺโต ‘‘มยิ นครํ คเต ลุทฺทปุตฺโต ธนํ ลภิสฺสติ, เทวิยา โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, สุมุขสฺส มิตฺตธมฺโม ปากโฏ ภวิสฺสติ, ตถา มม าณพลํ, เขมฺจ สรํ อภยทกฺขิณํ กตฺวา ลภิสฺสามิ, ตสฺมา นครเมว คนฺตุํ เสยฺโย’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ‘‘ลุทฺท, ตฺวํ อมฺเห กาเชนาทาย รฺโ สนฺติกํ เนหิ, สเจ โน ราชา วิสฺสชฺเชตุกาโม ภวิสฺสติ, วิสฺสชฺเชสฺสตี’’ติ อาห. ราชาโน นาม สามิ, กกฺขฬา, คจฺฉถ ตุมฺเหติ. มยํ ตาทิสํ ลุทฺทมฺปิ มุทุกํ กริมฺห, รฺโ อาราธเน อมฺหากํ ภาโร, เนหิเยว โน, สมฺมาติ. โส ตถา อกาสิ. ราชา หํเส ทิสฺวาว โสมนสฺสชาโต หุตฺวา ทฺเวปิ หํเส กฺจนปีเ นิสีทาเปตฺวา มธุลาเช ขาทาเปตฺวา มธุโรทกํ ปาเยตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ธมฺมกถํ อายาจิ. หํสราชา ตสฺส โสตุกามตํ วิทิตฺวา ปมํ ตาว ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตตฺริมา หํสสฺส จ รฺโ จ วจนปฏิวจนคาถาโย โหนฺติ –

๑๔๖.

‘‘กจฺจินฺนุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;

กจฺจิ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสสิ.

๑๔๗.

‘‘กุสลํ เจว เม หํส, อโถ หํส อนามยํ;

อโถ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสหํ.

๑๔๘.

‘‘กจฺจิ โภโต อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

กจฺจิ อารา อมิตฺตา เต, ฉายา ทกฺขิณโตริว.

๑๔๙.

‘‘อโถปิ เม อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

อโถ อารา อมิตฺตา เม, ฉายา ทกฺขิณโตริว.

๑๕๐.

‘‘กจฺจิ เต สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, ตว ฉนฺทวสานุคา.

๑๕๑.

‘‘อโถ เม สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, มม ฉนฺทวสานุคา.

๑๕๒.

‘‘กจฺจิ เต พหโว ปุตฺตา, สุชาตา รฏฺวฑฺฒน;

ปฺาชเวน สมฺปนฺนา, สมฺโมทนฺติ ตโต ตโต.

๑๕๓.

‘‘สตเมโก จ เม ปุตฺตา, ธตรฏฺ มยา สุตา;

เตสํ ตฺวํ กิจฺจมกฺขาหิ, นาวรุชฺฌนฺติ เต วโจ’’ติ.

ตตฺถ กุสลนฺติ อาโรคฺยํ, อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. ผีตนฺติ กจฺจิ เต อิทํ รฏฺํ ผีตํ สุภิกฺขํ, ธมฺเมน จ นํ อนุสาสสีติ ปุจฺฉติ. โทโสติ อปราโธ. ฉายา ทกฺขิณโตริวาติ ยถา นาม ทกฺขิณทิสาภิมุขา ฉายา น วฑฺฒติ, เอวํ เต กจฺจิ อมิตฺตา น วฑฺฒนฺตีติ วทติ. สาทิสีติ ชาติโคตฺตกุลปเทเสหิ สมานา. เอวรูปา หิ อติจารินี น โหติ. อสฺสวาติ วจนปฏิคฺคาหิกา. ปุตฺตรูปยสูเปตาติ ปุตฺเตหิ จ รูเปน จ ยเสน จ อุเปตา. ปฺาชเวนาติ ปฺาเวเคน ปฺํ ชวาเปตฺวา ตานิ ตานิ กิจฺจานิ ปริจฺฉินฺทิตุํ สมตฺถาติ ปุจฺฉติ. สมฺโมทนฺติ ตโต ตโตติ ยตฺถ ยตฺถ นิยุตฺตา โหนฺติ, ตโต ตโต สมฺโมทนฺเตว, น วิรุชฺฌนฺตีติ ปุจฺฉติ. มยา สุตาติ มยา วิสฺสุตา. มฺหิ โลโก ‘‘พหุปุตฺตราชา’’ติ วทติ, อิติ เต มํ นิสฺสาย วิสฺสุตา ปากฏา ชาตาติ มยา สุตา นาม โหนฺตีติ วทติ. เตสํ ตฺวํ กิจฺจมกฺขาหีติ เตสํ มม ปุตฺตานํ ‘‘อิทํ นาม กโรนฺตู’’ติ ตฺวํ กิจฺจมกฺขาหิ, น เต วจนํ อวรุชฺฌนฺติ, โอวาทํ เนสํ เทหีติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตสฺส โอวาทํ เทนฺโต ปฺจ คาถา อภาสิ –

๑๕๔.

‘‘อุปปนฺโนปิ เจ โหติ, ชาติยา วินเยน วา;

อถ ปจฺฉา กุรุเต โยคํ, กิจฺเฉ อาปาสุ สีทติ.

๑๕๕.

‘‘ตสฺส สํหีรปฺสฺส, วิวโร ชายเต มหา;

รตฺติมนฺโธว รูปานิ, ถูลานิ มนุปสฺสติ.

๑๕๖.

‘‘อสาเร สารโยคฺู, มตึ น ตฺเวว วินฺทติ;

สรโภว คิริทุคฺคสฺมึ, อนฺตราเยว สีทติ.

๑๕๗.

‘‘หีนชจฺโจปิ เจ โหติ, อุฏฺาตา ธิติมา นโร;

อาจารสีลสมฺปนฺโน, นิเส อคฺคีว ภาสติ.

๑๕๘.

‘‘เอตํ เม อุปมํ กตฺวา, ปุตฺเต วิชฺชาสุ วาจย;

สํวิรูฬฺเหถ เมธาวี, เขตฺเต พีชํว วุฏฺิยา’’ติ.

ตตฺถ วินเยนาติ อาจาเรน. ปจฺฉา กุรุเต โยคนฺติ โย เจ สิกฺขิตพฺพสิกฺขาสุ ทหรกาเล โยคํ วีริยํ อกตฺวา ปจฺฉา มหลฺลกกาเล กโรติ, เอวรูโป ปจฺฉา ตถารูเป ทุกฺเข วา อาปทาสุ วา อุปฺปนฺนาสุ สีทติ, อตฺตานํ อุทฺธริตุํ น สกฺโกติ. ตสฺส สํหีรปฺสฺสาติ ตสฺส อสิกฺขิตตฺตา ตโต ตโต หริตพฺพปฺสฺส นิจฺจํ จลพุทฺธิโน. วิวโรติ โภคาทีนํ ฉิทฺทํ, ปริหานีติ อตฺโถ. รตฺติมนฺโธติ รตฺตนฺโธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยถา รตฺตนฺโธ รตฺติกาโณ รตฺตึ จนฺโทภาสาทีหิ ถูลรูปาเนว ปสฺสติ, สุขุมานิ ปสฺสิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ อสิกฺขิโต สํหีรปฺโ กิสฺมิฺจิเทว ภเย อุปฺปนฺเน สุขุมานิ กิจฺจานิ ปสฺสิตุํ น สกฺโกติ, โอฬาริเกเยว ปสฺสติ, ตสฺมา ตว ปุตฺเต ทหรกาเลเยว สิกฺขาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

อสาเรติ นิสฺสาเร โลกายตเวทสมเย. สารโยคฺูติ สารยุตฺโต เอส สมโยติ มฺมาโน. มตึ น ตฺเวว วินฺทตีติ พหุํ สิกฺขิตฺวาปิ ปฺํ น ลภติเยว. คิริทุคฺคสฺมินฺติ โส เอวรูโป ยถา นาม สรโภ อตฺตโน วสนฏฺานํ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค วิสมมฺปิ สมนฺติ มฺมาโน คิริทุคฺเค เวเคนาคจฺฉนฺโต นรกปปาตํ ปติตฺวา อนฺตราเยว สีทติ, อาวาสํ น ปาปุณาติ, เอวเมตํ อสารํ โลกายตเวทสมยํ สารสฺาย อุคฺคเหตฺวา มหาวินาสํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ตว ปุตฺเต อตฺถนิสฺสิเตสุ วฑฺฒิอาวเหสุ กิจฺเจสุ โยเชตฺวา สิกฺขาเปหีติ. นิเส อคฺคีวาติ มหาราช, หีนชาติโกปิ อุฏฺานาทิคุณสมฺปนฺโน รตฺตึ อคฺคิกฺขนฺโธ วิย โอภาสติ. เอตํ เมติ เอตํ มยา วุตฺตํ รตฺตนฺธฺจ อคฺคิกฺขนฺธฺจ อุปมํ กตฺวา ตว ปุตฺเต วิชฺชาสุ วาจย, สิกฺขิตพฺพยุตฺตาสุ สิกฺขาสุ โยเชหิ. เอวํ ยุตฺโต หิ ยถา สุเขตฺเต สุวุฏฺิยา พีชํ สํวิรูหติ, ตเถว เมธาวี สํวิรูหติ, ยเสน จ โภเคหิ จ วฑฺฒตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต สพฺพรตฺตึ รฺโ ธมฺมํ เทเสสิ, เทวิยา โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. มหาสตฺโต อรุณุคฺคมนเวลายเมว ราชานํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺเปตฺวา อปฺปมาเทน โอวทิตฺวา สทฺธึ สุมุเขน อุตฺตรสีหปฺชเรน นิกฺขมิตฺวา จิตฺตกูฏเมว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ อิมินา มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจตฺตเมวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ลุทฺโท ฉนฺโน อโหสิ, ราชา สาริปุตฺโต, เทวี เขมาภิกฺขุนี, หํสปริสา สากิยคโณ, สุมุโข อานนฺโท, หํสราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬหํสชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๕๐๓] ๗. สตฺติคุมฺพชาตกวณฺณนา

มิคลุทฺโท มหาราชาติ อิทํ สตฺถา มทฺทกุจฺฉิสฺมึ มิคทาเย วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. เทวทตฺเตน หิ สิลาย ปวิทฺธาย ภควโต ปาเท สกลิกาย ขเต พลวเวทนา อุปฺปชฺชิ. ตถาคตสฺส ทสฺสนตฺถาย พหู ภิกฺขู สนฺนิปตึสุ. อถ ภควา ปริสํ สนฺนิปติตํ ทิสฺวา ‘‘ภิกฺขเว, อิทํ เสนาสนํ อติสมฺพาธํ, สนฺนิปาโต มหา ภวิสฺสติ, มํ มฺจสิวิกาย มทฺทกุจฺฉึ เนถา’’ติ อาห. ภิกฺขู ตถา กรึสุ. ชีวโก ตถาคตสฺส ปาทํ ผาสุกํ อกาสิ. ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติเก นิสินฺนาว กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต สยมฺปิ ปาโป, ปริสาปิสฺส ปาปา, อิติ โส ปาโป ปาปปริวาโรว วิหรตี’’ติ. สตฺถา ‘‘กึ กเถถ, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิทํ นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต ปาโป ปาปปริวาโรเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต อุตฺตรปฺจาลนคเร ปฺจาโล นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. มหาสตฺโต อรฺายตเน เอกสฺมึ สานุปพฺพเต สิมฺพลิวเน เอกสฺส สุวรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ทฺเว ภาตโร อเหสุํ. ตสฺส ปน ปพฺพตสฺส อุปริวาเต โจรคามโก อโหสิ ปฺจนฺนํ โจรสตานํ นิวาโส, อโธวาเต อสฺสโม ปฺจนฺนํ อิสิสตานํ นิวาโส. เตสํ สุวโปตกานํ ปกฺขนิกฺขมนกาเล วาตมณฺฑลิกา อุทปาทิ. ตาย ปหโฏ เอโก สุวโปตโก โจรคามเก โจรานํ อาวุธนฺตเร ปติโต, ตสฺส ตตฺถ ปติตตฺตา ‘‘สตฺติคุมฺโพ’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. เอโก อสฺสเม วาลุกตเล ปุปฺผนฺตเร ปติ, ตสฺส ตตฺถ ปติตตฺตา ‘‘ปุปฺผโก’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. สตฺติคุมฺโพ โจรานํ อนฺตเร วฑฺฒิโต, ปุปฺผโก อิสีนํ.

อเถกทิวสํ ราชา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต รถวรํ อภิรุหิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน มิควธาย นครโต นาติทูเร สุปุปฺผิตผลิตํ รมณียํ อุปคุมฺพวนํ คนฺตฺวา ‘‘ยสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายติ, ตสฺเสว คีวา’’ติ วตฺวา รถา โอรุยฺห ปฏิจฺฉาเทตฺวา ทินฺเน โกฏฺเก ธนุํ อาทาย อฏฺาสิ. ปุริเสหิ มิคานํ อุฏฺาปนตฺถาย วนคุมฺเพสุ โปถิยมาเนสุ เอโก เอณิมิโค อุฏฺาย คมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต รฺโ ิตฏฺานสฺเสว วิวิตฺตตํ ทิสฺวา ตทภิมุโข ปกฺขนฺทิตฺวา ปลายิ. อมจฺจา ‘‘กสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายิโต’’ติ ปุจฺฉนฺตา ‘‘รฺโ ปสฺเสนา’’ติ ตฺวา รฺา สทฺธึ เกฬึ กรึสุ. ราชา อสฺมิมาเนน เตสํ เกฬึ อสหนฺโต ‘‘อิทานิ ตํ มิคํ คเหสฺสามี’’ติ รถํ อารุยฺห ‘‘สีฆํ เปเสหี’’ติ สารถึ อาณาเปตฺวา มิเคน คตมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. รถํ เวเคน คจฺฉนฺตํ ปริสา อนุพนฺธิตุํ นาสกฺขิ. ราชา สารถิทุติโย ยาว มชฺฌนฺหิกา คนฺตฺวา ตํ มิคํ อทิสฺวา นิวตฺตนฺโต ตสฺส โจรคามสฺส สนฺติเก รมณียํ กนฺทรํ ทิสฺวา รถา โอรุยฺห นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริ. อถสฺส สารถิ รถสฺส อุตฺตรตฺถรณํ โอตาเรตฺวา สยนํ รุกฺขจฺฉายาย ปฺเปสิ, โส ตตฺถ นิปชฺชิ. สารถิปิ ตสฺส ปาเท สมฺพาหนฺโต นิสีทิ. ราชา อนฺตรนฺตรา นิทฺทายติ เจว ปพุชฺฌติ จ.

โจรคามวาสิโน โจราปิ รฺโ อารกฺขณตฺถาย อรฺเมว ปวิสึสุ. โจรคามเก สตฺติคุมฺโพ เจว ภตฺตรนฺธโก ปติโกลมฺโพ นาเมโก ปุริโส จาติ ทฺเวว โอหียึสุ. ตสฺมึ ขเณ สตฺติคุมฺโพ คามกา นิกฺขมิตฺวา ราชานํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ นิทฺทายมานเมว มาเรตฺวา อาภรณานิ คเหสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ปติโกลมฺพสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ การณํ อาโรเจสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปฺจ คาถา อภาสิ –

๑๕๙.

‘‘มิคลุทฺโท มหาราชา, ปฺจาลานํ รเถสโภ;

นิกฺขนฺโต สห เสนาย, โอคโณ วนมาคมา.

๑๖๐.

‘‘ตตฺถทฺทสา อรฺสฺมึ, ตกฺกรานํ กุฏึ กตํ;

ตสฺสา กุฏิยา นิกฺขมฺม, สุโว ลุทฺทานิ ภาสติ.

๑๖๑.

‘‘สมฺปนฺนวาหโน โปโส, ยุวา สมฺมฏฺกุณฺฑโล;

โสภติ โลหิตุณฺหีโส, ทิวา สูริโยว ภาสติ.

๑๖๒.

‘‘มชฺฌนฺหิเก สมฺปติเก, สุตฺโต ราชา สสารถิ;

หนฺทสฺสาภรณํ สพฺพํ, คณฺหาม สาหสา มยํ.

๑๖๓.

‘‘นิสีเถปิ รโหทานิ, สุตฺโต ราชา สสารถิ;

อาทาย วตฺถํ มณิกุณฺฑลฺจ, หนฺตฺวาน สาขาหิ อวตฺถรามา’’ติ.

ตตฺถ มิคลุทฺโทติ ลุทฺโท วิย มิคานํ คเวสนโต ‘‘มิคลุทฺโท’’ติ วุตฺโต. โอคโณติ คณา โอหีโน ปริหีโน หุตฺวา. ตกฺกรานํ กุฏึ กตนฺติ โส ราชา ตตฺถ อรฺเ โจรานํ วสนตฺถาย กตํ คามกํ อทฺทส. ตสฺสาติ ตโต โจรกุฏิโต. ลุทฺทานิ ภาสตีติ ปติโกลมฺเพน สทฺธึ ทารุณานิ วจนานิ กเถติ. สมฺปนฺนวาหโนติ สมฺปนฺนอสฺสวาหโน. โลหิตุณฺหีโสติ รตฺเตน อุณฺหีสปฏฺเฏน สมนฺนาคโต. สมฺปติเกติ สมฺปติ อิทานิ, เอวรูเป ิตมชฺฌนฺหิกกาเลติ อตฺโถ. สาหสาติ สาหเสน ปสยฺหาการํ กตฺวา คณฺหามาติ วทติ. นิสีเถปิ รโหทานีติ นิสีเถปิ อิทานิปิ รโห. อิทํ วทติ – ยถา นิสีเถ อฑฺฒรตฺตสมเย มนุสฺสา กิลนฺตา สยนฺติ, รโห นาม โหติ, อิทานิ ิตมชฺฌนฺหิเกปิ กาเล ตเถวาติ. หนฺตฺวานาติ ราชานํ มาเรตฺวา วตฺถาภรณานิสฺส คเหตฺวา อถ นํ ปาเท คเหตฺวา กฑฺฒิตฺวา เอกมนฺเต สาขาหิ ปฏิจฺฉาเทมาติ.

อิติ โส เวเคน สกึ นิกฺขมติ, สกึ ปติโกลมฺพสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา โอโลเกนฺโต ราชภาวํ ตฺวา ภีโต คาถมาห –

๑๖๔.

‘‘กินฺนุ อุมฺมตฺตรูโปว, สตฺติคุมฺพ ปภาสสิ;

ทุราสทา หิ ราชาโน, อคฺคิ ปชฺชลิโต ยถา’’ติ.

อถ นํ สุโว คาถาย อชฺฌภาสิ –

๑๖๕.

‘‘อถ ตฺวํ ปติโกลมฺพ, มตฺโต ถุลฺลานิ คชฺชสิ;

มาตริ มยฺห นคฺคาย, กินฺนุ ตฺวํ วิชิคุจฺฉเส’’ติ.

ตตฺถ อถ ตฺวนฺติ นนุ ตฺวํ. มตฺโตติ โจรานํ อุจฺฉิฏฺสุรํ ลภิตฺวา ตาย มตฺโต หุตฺวา ปุพฺเพ มหาคชฺชิตานิ คชฺชสิ. มาตรีติ โจรเชฏฺกสฺส ภริยํ สนฺธายาห. สา กิร ตทา สาขาภงฺคํ นิวาเสตฺวา จรติ. วิชิคุจฺฉเสติ มม มาตริ นคฺคาย กินฺนุ ตฺวํ อิทานิ โจรกมฺมํ ชิคุจฺฉสิ, กาตุํ น อิจฺฉสีติ.

ราชา ปพุชฺฌิตฺวา ตสฺส เตน สทฺธึ มนุสฺสภาสาย กเถนฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สปฺปฏิภยํ อิทํ าน’’นฺติ สารถึ อุฏฺาเปนฺโต คาถมาห –

๑๖๖.

‘‘อุฏฺเหิ สมฺม ตรมาโน, รถํ โยเชหิ สารถิ;

สกุโณ เม น รุจฺจติ, อฺํ คจฺฉาม อสฺสม’’นฺติ.

โสปิ สีฆํ อุฏฺหิตฺวา รถํ โยเชตฺวา คาถมาห –

๑๖๗.

‘‘ยุตฺโต รโถ มหาราช, ยุตฺโต จ พลวาหโน;

อธิติฏฺ มหาราช, อฺํ คจฺฉาม อสฺสม’’นฺติ.

ตตฺถ พลวาหโนติ พลววาหโน, มหาถามอสฺสสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. อธิติฏฺาติ อภิรุห.

อภิรุฬฺหมตฺเตเยว จ ตสฺมึ สินฺธวา วาตเวเคน ปกฺขนฺทึสุ. สตฺติคุมฺโพ รถํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สํเวคปฺปตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๖๘.

‘‘โก นุเมว คตา สพฺเพ, เย อสฺมึ ปริจารกา;

เอส คจฺฉติ ปฺจาโล, มุตฺโต เตสํ อทสฺสนา.

๑๖๙.

‘‘โกทณฺฑกานิ คณฺหถ, สตฺติโย โตมรานิ จ;

เอส คจฺฉติ ปฺจาโล, มา โว มุฺจิตฺถ ชีวต’’นฺติ.

ตตฺถ โก นุเมติ กุหึ นุ อิเม. อสฺมินฺติ อิมสฺมึ อสฺสเม. ปริจารกาติ โจรา. อทสฺสนาติ เอเตสํ โจรานํ อทสฺสเนน มุตฺโต เอส คจฺฉตีติ, เอเตสํ หตฺถโต มุตฺโต หุตฺวา เอส อทสฺสนํ คจฺฉตีติปิ อตฺโถ. โกทณฺฑกานีติ ธนูนิ. ชีวตนฺติ ตุมฺหากํ ชีวนฺตานํ มา มุฺจิตฺถ, อาวุธหตฺถา ธาวิตฺวา คณฺหถ นนฺติ.

เอวํ ตสฺส วิรวิตฺวา อปราปรํ ธาวนฺตสฺเสว ราชา อิสีนํ อสฺสมํ ปตฺโต. ตสฺมึ ขเณ อิสโย ผลาผลตฺถาย คตา. เอโก ปุปฺผกสุโวว อสฺสมปเท ิโต โหติ. โส ราชานํ ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๗๐.

‘‘อถาปโร ปฏินนฺทิตฺถ, สุโว โลหิตตุณฺฑโก;

สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.

๑๗๑.

‘‘ติณฺฑุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;

ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุฺช ราช วรํ วรํ.

๑๗๒.

‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;

ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสิ.

๑๗๓.

‘‘อรฺํ อุฺฉาย คตา, เย อสฺมึ ปริจารกา;

สยํ อุฏฺาย คณฺหวฺโห, หตฺถา เม นตฺถิ ทาตเว’’ติ.

ตตฺถ ปฏินนฺทิตฺถาติ ราชานํ ทิสฺวาว ตุสฺสิ. โลหิตตุณฺฑโกติ รตฺตตุณฺโฑ โสภคฺคปฺปตฺโต. มธุเกติ มธุกผลานิ. กาสุมาริโยติ เอวํนามกานิ ผลานิ, การผลานิ วา. ตโต ปิวาติ ตโต ปานียมาฬโต คเหตฺวา ปานียํ ปิว. เย อสฺมึ ปริจารกาติ มหาราช, เย อิมสฺมึ อสฺสเม วิจรณกา อิสโย, เต อรฺํ อุฺฉาย คตา. คณฺหวฺโหติ ผลาผลานิ คณฺหถ. ทาตเวติ ทาตุํ.

ราชา ตสฺส ปฏิสนฺถาเร ปสีทิตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๑๗๔.

‘‘ภทฺทโก วตยํ ปกฺขี, ทิโช ปรมธมฺมิโก;

อเถโส อิตโร ปกฺขี, สุโว ลุทฺทานิ ภาสติ.

๑๗๕.

‘‘‘เอตํ หนถ พนฺธถ, มา โว มุฺจิตฺถ ชีวตํ’;

อิจฺเจวํ วิลปนฺตสฺส, โสตฺถึ ปตฺโตสฺมิ อสฺสม’’นฺติ.

ตตฺถ อิตโรติ โจรกุฏิยํ สุวโก. อิจฺเจวนฺติ อหํ ปน ตสฺส เอวํ วิลปนฺตสฺเสว อิมํ อสฺสมํ โสตฺถินา ปตฺโต.

รฺโ กถํ สุตฺวา ปุปฺผโก ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๗๖.

‘‘ภาตโรสฺม มหาราช, โสทริยา เอกมาตุกา;

เอกรุกฺขสฺมึ สํวฑฺฒา, นานาเขตฺตคตา อุโภ.

๑๗๗.

‘‘สตฺติคุมฺโพ จ โจรานํ, อหฺจ อิสินํ อิธ;

อสตํ โส, สตํ อหํ, เตน ธมฺเมน โน วินา’’ติ.

ตตฺถ ภาตโรสฺมาติ มหาราช, โส จ อหฺจ อุโภ ภาตโร โหม. โจรานนฺติ โส โจรานํ สนฺติเก สํวฑฺโฒ, อหํ อิสีนํ สนฺติเก. อสตํ โส, สตํ อหนฺติ โส อสาธูนํ ทุสฺสีลานํ สนฺติกํ อุปคโต, อหํ สาธูนํ สีลวนฺตานํ. เตน ธมฺเมน โน วินาติ มหาราช, ตํ สตฺติคุมฺพํ โจรา โจรธมฺเมน โจรกิริยาย วิเนสุํ, มํ อิสโย อิสิธมฺเมน อิสิสีลาจาเรน, ตสฺมา โสปิ เตน โจรธมฺเมน โน วินา โหติ, อหมฺปิ อิสิธมฺเมน โน วินา โหมีติ.

อิทานิ ตํ ธมฺมํ วิภชนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๗๘.

‘‘ตตฺถ วโธ จ พนฺโธ จ, นิกตี วฺจนานิ จ;

อาโลปา สาหสาการา, ตานิ โส ตตฺถ สิกฺขติ.

๑๗๙.

‘‘อิธ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, อหึสา สํยโม ทโม;

อาสนูทกทายีนํ, องฺเก วทฺโธสฺมิ ภารธา’’ติ.

ตตฺถ นิกตีติ ปติรูปเกน วฺจนา. วฺจนานีติ อุชุกวฺจนาเนว. อาโลปาติ ทิวา คามฆาตา. สาหสาการาติ เคหํ ปวิสิตฺวา มรเณน ตชฺเชตฺวา สาหสิกกมฺมกรณานิ. สจฺจนฺติ สภาโว. ธมฺโมติ สุจริตธมฺโม. อหึสาติ เมตฺตาปุพฺพภาโค. สํยโมติ สีลสํยโม. ทโมติ อินฺทฺริยทมนํ. อาสนูทกทายีนนฺติ อพฺภาคตานํ อาสนฺจ อุทกฺจ ทานสีลานํ. ภารธาติ ราชานํ อาลปติ.

อิทานิ รฺโ ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –

๑๘๐.

‘‘ยํ ยฺหิ ราช ภชติ, สนฺตํ วา ยทิ วา อสํ;

สีลวนฺตํ วิสีลํ วา, วสํ ตสฺเสว คจฺฉติ.

๑๘๑.

‘‘ยาทิสํ กุรุเต มิตฺตํ, ยาทิสํ จูปเสวติ;

โสปิ ตาทิสโก โหติ, สหวาโส หิ ตาทิโส.

๑๘๒.

‘‘เสวมาโน เสวมานํ, สมฺผุฏฺโ สมฺผุสํ ปรํ;

สโร ทิทฺโธ กลาปํว, อลิตฺตมุปลิมฺปติ;

อุปเลปภยา ธีโร, เนว ปาปสขา สิยา.

๑๘๓.

‘‘ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน, โย นโร อุปนยฺหติ;

กุสาปิ ปูติ วายนฺติ, เอวํ พาลูปเสวนา.

๑๘๔.

‘‘ตครฺจ ปลาเสน, โย นโร อุปนยฺหติ;

ปตฺตาปิ สุรภิ วายนฺติ, เอวํ ธีรูปเสวนา.

๑๘๕.

‘‘ตสฺมา ปตฺตปุฏสฺเสว, ตฺวา สมฺปากมตฺตโน;

อสนฺเต โนปเสเวยฺย, สนฺเต เสเวยฺย ปณฺฑิโต;

อสนฺโต นิรยํ เนนฺติ, สนฺโต ปาเปนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ.

ตตฺถ สนฺตํ วา ยทิ วา อสนฺติ สปฺปุริสํ วา อสปฺปุริสํ วา. เสวมาโน เสวมานนฺติ เสวิยมาโน อาจริโย เสวมานํ อนฺเตวาสิกํ. สมฺผุฏฺโติ อนฺเตวาสินา วา ผุฏฺโ อาจริโย. สมฺผุสํ ปรนฺติ ปรํ อาจริยํ สมฺผุสนฺโต อนฺเตวาสี วา. อลิตฺตนฺติ ตํ อนฺเตวาสิกํ ปาปธมฺเมน อลิตฺตํ โส อาจริโย วิสทิทฺโธ สโร เสสํ สรกลาปํ วิย ลิมฺปติ. เอวํ พาลูปเสวนาติ พาลูปเสวี หิ ปูติมจฺฉํ อุปนยฺหนกุสคฺคํ วิย โหติ, ปาปกมฺมํ อกโรนฺโตปิ อวณฺณํ อกิตฺตึ ลภติ. ธีรูปเสวนาติ ธีรูปเสวี ปุคฺคโล ตคราทิคนฺธชาติปลิเวนปตฺตํ วิย โหติ, ปณฺฑิโต ภวิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ กลฺยาณมิตฺตเสวี คุณกิตฺตึ ลภติ. ปตฺตปุฏสฺเสวาติ ทุคฺคนฺธสุคนฺธปลิเวนปณฺณสฺเสว. สมฺปากมตฺตโนติ กลฺยาณมิตฺตสํสคฺควเสน อตฺตโน ปริปากํ ปริภาวนํ ตฺวาติ อตฺโถ. ปาเปนฺติ สุคฺคตินฺติ สนฺโต สมฺมาทิฏฺิกา อตฺตานํ นิสฺสิเต สตฺเต สคฺคเมว ปาเปนฺตีติ เทสนํ ยถานุสนฺธิเมว ปาเปสิ.

ราชา ตสฺส ธมฺมกถาย ปสีทิ, อิสิคโณปิ อาคโต. ราชา อิสโย วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มํ อนุกมฺปมานา มม วสนฏฺาเน วสถา’’ติ วตฺวา เตสํ ปฏิฺํ คเหตฺวา นครํ คนฺตฺวา สุวานํ อภยํ อทาสิ. อิสโยปิ ตตฺถ อคมํสุ. ราชา อิสิคณํ อุยฺยาเน วสาเปนฺโต ยาวชีวํ อุปฏฺหิตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิ. อถสฺส ปุตฺโตปิ ฉตฺตํ อุสฺสาเปนฺโต อิสิคณํ ปฏิชคฺคิเยวาติ ตสฺมึ กุลปริวฏฺเฏ สตฺต ราชาโน อิสิคณสฺส ทานํ ปวตฺตยึสุ. มหาสตฺโต อรฺเ วสนฺโตเยว ยถากมฺมํ คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต ปาโป ปาปปริวาโรเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สตฺติคุมฺโพ เทวทตฺโต อโหสิ, โจรา เทวทตฺตปริสา, ราชา อานนฺโท, อิสิคณา พุทฺธปริสา, ปุปฺผกสุโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สตฺติคุมฺพชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๕๐๔] ๘. ภลฺลาติยชาตกวณฺณนา

ภลฺลาติโย นาม อโหสิ ราชาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มลฺลิกํ เทวึ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺสา กิร เอกทิวสํ รฺา สทฺธึ สยนํ นิสฺสาย กลโห อโหสิ. ราชา กุชฺฌิตฺวา นํ น โอโลเกสิ. สา จินฺเตสิ ‘‘นนุ ตถาคโต รฺโ มยิ กุทฺธภาวํ น ชานาตี’’ติ. สตฺถา ตํ การณํ ตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา รฺโ เคหทฺวารํ คโต. ราชา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา สตฺถารํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปฏิปาฏิยา ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปณีเตนาหาเรน ปริวิสิตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน เอกมนฺตํ นิสีทิ. สตฺถา ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, มลฺลิกา น ปฺายตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อตฺตโน สุขมทมตฺตตายา’’ติ วุตฺเต ‘‘นนุ, มหาราช, ตฺวํ ปุพฺเพ กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา เอกรตฺตึ กินฺนริยา วินา หุตฺวา สตฺต วสฺสสตานิ ปริเทวมาโน วิจรี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ ภลฺลาติโย นาม ราชา รชฺชํ กาเรนฺโต ‘‘องฺคารปกฺกมิคมํสํ ขาทิสฺสามี’’ติ รชฺชํ อมจฺจานํ นิยฺยาเทตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ สุสิกฺขิตโกเลยฺยกสุณขคณปริวุโต นครา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อนุคงฺคํ คนฺตฺวา อุปริ อภิรุหิตุํ อสกฺโกนฺโต เอกํ คงฺคํ โอติณฺณนทึ ทิสฺวา ตทนุสาเรน คจฺฉนฺโต มิคสูกราทโย วธิตฺวา องฺคารปกฺกมํสํ ขาทนฺโต อุจฺจฏฺานํ อภิรุหิ. ตตฺถ รมณียา นทิกา ปริปุณฺณกาเล ถนปมาโณทกา หุตฺวา สนฺทติ, อฺทา ชณฺณุกปมาโณทกา โหติ. ตตฺถ นานปฺปการกา มจฺฉกจฺฉปา วิจรนฺติ. อุทกปริยนฺเต รชตปฏฺฏวณฺณวาลุกา อุโภสุ ตีเรสุ นานาปุปฺผผลภริตวินมิตา รุกฺขา ปุปฺผผลรสมตฺเตหิ นานาวิหงฺคมภมรคเณหิ สมฺปริกิณฺณา วิวิธมิคสงฺฆนิเสวิตา สีตจฺฉายา. เอวํ รมณียาย เหมวตนทิยา ตีเร ทฺเว กินฺนรา อฺมฺํ อาลิงฺคิตฺวา ปริจุมฺพิตฺวา นานปฺปกาเรหิ ปริเทวนฺตา โรทนฺติ.

ราชา ตสฺสา นทิยา ตีเรน คนฺธมาทนํ อภิรุหนฺโต เต กินฺนเร ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เอเต เอวํ ปริเทวนฺติ, ปุจฺฉิสฺสามิ เน’’ติ จินฺเตตฺวา สุนเข โอโลเกตฺวา อจฺฉรํ ปหริ. สุสิกฺขิตโกเลยฺยกสุนขา ตาย สฺาย คุมฺพํ ปวิสิตฺวา อุเรน นิปชฺชึสุ. โส เตสํ ปฏิสลฺลีนภาวํ ตฺวา ธนุกลาปฺเจว เสสาวุธานิ จ รุกฺขํ นิสฺสาย เปตฺวา ปทสทฺทํ อกโรนฺโต สณิกํ เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึการณา ตุมฺเห โรทถา’’ติ กินฺนเร ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๘๖.

‘‘ภลฺลาติโย นาม อโหสิ ราชา, รฏฺํ ปหาย มิควํ อจาริ โส;

อคมา คิริวรํ คนฺธมาทนํ, สุปุปฺผิตํ กิมฺปุริสานุจิณฺณํ.

๑๘๗.

‘‘สาฬูรสงฺฆฺจ นิเสธยิตฺวา, ธนุํ กลาปฺจ โส นิกฺขิปิตฺวา;

อุปาคมิ วจนํ วตฺตุกาโม, ยตฺถฏฺิตา กิมฺปุริสา อเหสุํ.

๑๘๘.

‘‘หิมจฺจเย เหมวตาย ตีเร, กิมิธฏฺิตา มนฺตยวฺโห อภิณฺหํ;

ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กถํ โว ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ สาฬูรสงฺฆนฺติ สุนขคณํ. หิมจฺจเยติ จตุนฺนํ เหมนฺตมาสานํ อติกฺกเม. เหมวตายาติ อิมิสฺสา เหมวตาย นทิยา ตีเร.

รฺโ วจนํ สุตฺวา กินฺนโร ตุณฺหี อโหสิ, กินฺนรี ปน รฺา สทฺธึ สลฺลปิ –

๑๘๙.

‘‘มลฺลํ คิรึ ปณฺฑรกํ ติกูฏํ, สีโตทกา อนุวิจราม นชฺโช;

มิคา มนุสฺสาว นิภาสวณฺณา, ชานนฺติ โน กิมฺปุริสาติ ลุทฺทา’’ติ.

ตตฺถ มลฺลํ คิรินฺติ สมฺม ลุทฺทก, มยํ อิมํ มลฺลคิริฺจ ปณฺฑรกฺจ ติกูฏฺจ อิมา จ นชฺโช อนุวิจราม. ‘‘มาลาคิริ’’นฺติปิ ปาโ. นิภาสวณฺณาติ นิภาสมานวณฺณา, ทิสฺสมานสรีราติ อตฺโถ.

ตโต ราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๙๐.

‘‘สุกิจฺฉรูปํ ปริเทวยวฺโห, อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยาย;

ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กิมิธ วเน โรทถ อปฺปตีตา.

๑๙๑.

‘‘สุกิจฺฉรูปํ ปริเทวยวฺโห, อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยาย;

ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กิมิธ วเน วิลปถ อปฺปตีตา.

๑๙๒.

‘‘สุกิจฺฉรูปํ ปริเทวยวฺโห, อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยาย;

ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กิมิธ วเน โสจถ อปฺปตีตา’’ติ.

ตตฺถ สุกิจฺฉรูปนฺติ สุฏฺุ ทุกฺขปฺปตฺตา วิย หุตฺวา. อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยายาติ ตยา ปิยาย ตว ปิโย อาลิงฺคิโต จ อาสิ. ‘‘อาลิงฺคิโย จาสี’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. กิมิธ วเนติ กึการณา อิธ วเน อนฺตรนฺตรา อาลิงฺคิตฺวา ปริจุมฺพิตฺวา ปิยกถํ กเถตฺวา ปุน อปฺปตีตา โรทถาติ.

ตโต ปรา อุภินฺนมฺปิ อาลาปสลฺลาปคาถา โหนฺติ –

๑๙๓.

‘‘มเยกรตฺตํ วิปฺปวสิมฺห ลุทฺท, อกามกา อฺมฺํ สรนฺตา;

ตเมกรตฺตํ อนุตปฺปมานา, โสจาม ‘สา รตฺติ ปุนํ น โหสฺสติ’.

๑๙๔.

‘‘ยเมกรตฺตํ อนุตปฺปเถตํ, ธนํว นฏฺํ ปิตรํว เปตํ;

ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กถํ วินา วาสมกปฺปยิตฺถ.

๑๙๕.

‘‘ยมิมํ นทึ ปสฺสสิ สีฆโสตํ, นานาทุมจฺฉาทนํ เสลกูลํ;

ตํ เม ปิโย อุตฺตริ วสฺสกาเล, มมฺจ มฺํ อนุพนฺธตีติ.

๑๙๖.

‘‘อหฺจ องฺโกลกโมจินามิ, อติมุตฺตกํ สตฺตลิโยถิกฺจ;

‘ปิโย จ เม เหหิติ มาลภารี, อหฺจ นํ มาลินี อชฺฌุเปสฺสํ’.

๑๙๗.

‘‘อหฺจิทํ กุรวกโมจินามิ, อุทฺทาลกา ปาฏลิสินฺธุวารกา;

‘ปิโย จ เม เหหิติ มาลภารี, อหฺจ นํ มาลินี อชฺฌุเปสฺสํ’.

๑๙๘.

‘‘อหฺจ สาลสฺส สุปุปฺผิตสฺส, โอเจยฺย ปุปฺผานิ กโรมิ มาลํ;

‘ปิโย จ เม เหหิติ มาลภารี, อหฺจ นํ มาลินี อชฺฌุเปสฺสํ’.

๑๙๙.

‘‘อหฺจ สาลสฺส สุปุปฺผิตสฺส, โอเจยฺย ปุปฺผานิ กโรมิ ภารํ;

อิทฺจ โน เหหิติ สนฺถรตฺถํ, ยตฺถชฺชิมํ วิหริสฺสาม รตฺตึ.

๒๐๐.

‘‘อหฺจ โข อคฬุํ จนฺทนฺจ, สิลาย ปึสามิ ปมตฺตรูปา;

‘ปิโย จ เม เหหิติ โรสิตงฺโค, อหฺจ นํ โรสิตา อชฺฌุเปสฺสํ’.

๒๐๑.

‘‘อถาคมา สลิลํ สีฆโสตํ, นุทํ สาเล สลเฬ กณฺณิกาเร;

อาปูรถ เตน มุหุตฺตเกน, สายํ นที อาสิ มยา สุทุตฺตรา.

๒๐๒.

‘‘อุโภสุ ตีเรสุ มยํ ตทา ิตา, สมฺปสฺสนฺตา อุภโย อฺมฺํ;

สกิมฺปิ โรทาม สกึ หสาม, กิจฺเฉน โน อาคมา สํวรี สา.

๒๐๓.

‘‘ปาโตว โข อุคฺคเต สูริยมฺหิ, จตุกฺกํ นทึ อุตฺตริยาน ลุทฺท;

อาลิงฺคิยา อฺมฺํ มยํ อุโภ, สกิมฺปิ โรทาม สกึ หสาม.

๒๐๔.

‘‘ตีหูนกํ สตฺต สตานิ ลุทฺท, ยมิธ มยํ วิปฺปวสิมฺห ปุพฺเพ;

วสฺเสกิมํ ชีวิตํ ภูมิปาล, โก นีธ กนฺตาย วินา วเสยฺย.

๒๐๕.

‘‘อายุฺจ โว กีวตโก นุ สมฺม, สเจปิ ชานาถ วเทถ อายุํ;

อนุสฺสวา วุฑฺฒโต อาคมา วา, อกฺขาถ เมตํ อวิกมฺปมานา.

๒๐๖.

‘‘อายุฺจ โน วสฺสสหสฺสํ ลุทฺท, น จนฺตรา ปาปโก อตฺถิ โรโค;

อปฺปฺจ ทุกฺขํ สุขเมว ภิยฺโย, อวีตราคา วิชหาม ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ มเยกรตฺตนฺติ มยํ เอกรตฺตํ. วิปฺปวสิมฺหาติ วิปฺปยุตฺตา หุตฺวา วสิมฺห. อนุตปฺปมานาติ ‘‘อนิจฺฉมานานํ โน เอกรตฺโต อตีโต’’ติ ตํ เอกรตฺตํ อนุจินฺตยมานา. ปุนํ น เหสฺสตีติ ปุน น ภวิสฺสติ นาคมิสฺสตีติ โสจาม. ธนํว นฏฺํ ปิตรํว เปตนฺติ ธนํ วา นฏฺํ ปิตรํ วา มาตรํ วาเปตํ กาลกตํ กึ นุ โข ตุมฺเห จินฺตยมานา เกน การเณน ตํ เอกรตฺตํ วินา วาสํ อกปฺปยิตฺถ, อิทํ เม อาจิกฺขถาติ ปุจฺฉติ. ยมิมนฺติ ยํ อิมํ. เสลกูลนฺติ ทฺวินฺนํ เสลานํ อนฺตเร สนฺทมานํ. วสฺสกาเลติ เอกสฺส เมฆสฺส อุฏฺาย วสฺสนกาเล. อมฺหากฺหิ อิมสฺมึ วนสณฺเฑ รติวเสน จรนฺตานํ เอโก เมโฆ อุฏฺหิ. อถ เม ปิยสามิโก กินฺนโรมํ ‘‘ปจฺฉโต อาคจฺฉตี’’ติ มฺมาโน เอตํ นทึ อุตฺตรีติ อาห.

อหฺจาติ อหํ ปเนตสฺส ปรตีรํ คตภาวํ อชานนฺตี สุปุปฺผิตานิ องฺโกลกาทีนิ ปุปฺผานิ โอจินามิ. ตตฺถ สตฺตลิโยถิกฺจาติ กุนฺทาลปุปฺผฺจ สุวณฺณโยถิกฺจ โอจินนฺตี ปน ‘‘ปิโย จ เม มาลภารี ภวิสฺสติ, อหฺจ นํ มาลินี หุตฺวา อชฺฌุเปสฺส’’นฺติ อิมินา การเณน โอจินามิ. อุทฺทาลกา ปาฏลิสินฺธุวารกาติ เตปิ มยา โอจิตาเยวาติ วทติ. โอเจยฺยาติ โอจินิตฺวา. อคฬุํ จนฺทนฺจาติ กาฬาคฬุฺจ รตฺตจนฺทนฺจ. โรสิตงฺโคติ วิลิตฺตสรีโร. โรสิตาติ วิลิตฺตา หุตฺวา. อชฺฌุเปสฺสนฺติ สยเน อุปคมิสฺสามิ. นุทํ สาเล สลเฬ กณฺณิกาเรติ เอตานิ มยา โอจินิตฺวา ตีเร ปิตานิ ปุปฺผานิ นุทนฺตํ หรนฺตํ. สุทุตฺตราติ ตสฺสา หิ โอริมตีเร ิตกาเลเยว นทิยา อุทกํ อาคตํ, ตงฺขณฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต, วิชฺชุลตา นิจฺฉรนฺติ, กินฺนรา นาม อุทกภีรุกา โหนฺติ, อิติ สา โอตริตุํ น วิสหิ. เตนาห ‘‘สายํ นที อาสิ มยา สุทุตฺตรา’’ติ.

สมฺปสฺสนฺตาติ วิชฺชุลตานิจฺฉรณกาเล ปสฺสนฺตา. โรทามาติ อนฺธการกาเล อปสฺสนฺตา โรทาม, วิชฺชุลตานิจฺฉรณกาเล ปสฺสนฺตา หสาม. สํวรีติ รตฺติ. จตุกฺกนฺติ ตุจฺฉํ. อุตฺตริยานาติ อุตฺตริตฺวา. ตีหูนกนฺติ ตีหิ อูนานิ สตฺต วสฺสสตานิ. ยมิธ มยนฺติ ยํ กาลํ อิธ มยํ วิปฺปวสิมฺห, โส อิโต ตีหิ อูนกานิ สตฺต วสฺสสตานิ โหนฺตีติ วทติ. วสฺเสกิมนฺติ วสฺสํ เอกํ อิมํ, ตุมฺหากํ เอกเมว วสฺสสตํ อิมํ ชีวิตนฺติ วทติ. โก นีธาติ เอวํ ปริตฺตเก ชีวิเต โก นุ อิธ กนฺตาย วินา ภเวยฺย, อยุตฺตํ ตว ปิยภริยาย วินา ภวิตุนฺติ ทีเปติ.

กีวตโก นูติ ราชา กินฺนริยา วจนํ สุตฺวา ‘‘อิเมสํ อายุปฺปมาณํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ กิตฺตโก อายู’’ติ ปุจฺฉติ. อนุสฺสวาติ สเจ โว กสฺสจิ วทนฺตสฺส วา สุตํ, มาตาปิตูนํ วา วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ สนฺติกา อาคโม อตฺถิ, อถ เม ตโต อนุสฺสวา วุฑฺฒโต อาคมา วา เอตํ อวิกมฺปมานา อกฺขาถ. น จนฺตราติ อมฺหากํ วสฺสสหสฺสํ อายุ, อนฺตรา จ โน ปาปโก ชีวิตนฺตรายกโร โรโคปิ นตฺถิ. อวีตราคาติ อฺมฺํ อวิคตเปมาว หุตฺวา.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อิเม หิ นาม ติรจฺฉานคตา หุตฺวา เอกรตฺตึ วิปฺปโยเคน สตฺต วสฺสสตานิ โรทนฺตา วิจรนฺติ, อหํ ปน ติโยชนสติเก รชฺเช มหาสมฺปตฺตึ ปหาย อรฺเ วิจรามิ, อโห อกิจฺจการิมฺหี’’ติ ตโตว นิวตฺโต พาราณสึ คนฺตฺวา ‘‘กึ เต, มหาราช, หิมวนฺเต อจฺฉริยํ ทิฏฺ’’นฺติ อมจฺเจหิ ปุฏฺโ สพฺพํ อาโรเจตฺวา ตโต ปฏฺาย ทานานิ ททนฺโต โภเค ภุฺชิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา –

๒๐๗.

‘‘อิทฺจ สุตฺวาน อมานุสานํ, ภลฺลาติโย อิตฺตรํ ชีวิตนฺติ;

นิวตฺตถ น มิควํ อจริ, อทาสิ ทานานิ อภุฺชิ โภเค’’ติ. –

อิมํ คาถํ วตฺวา ปุน โอวทนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๐๘.

‘‘อิทฺจ สุตฺวาน อมานุสานํ, สมฺโมทถ มา กลหํ อกตฺถ;

มา โว ตปี อตฺตกมฺมาปราโธ, ยถาปิ เต กิมฺปุริเสกรตฺตํ.

๒๐๙.

‘‘อิทฺจ สุตฺวาน อมานุสานํ, สมฺโมทถ มา วิวาทํ อกตฺถ;

มา โว ตปี อตฺตกมฺมาปราโธ, ยถาปิ เต กิมฺปุริเสกรตฺต’’นฺติ.

ตตฺถ อมานุสานนฺติ กินฺนรานํ. อตฺตกมฺมาปราโธติ อตฺตโน กมฺมโทโส. กิมฺปุริเสกรตฺตนฺติ ยถา เต กิมฺปุริเส เอกรตฺตึ กโต อตฺตโน กมฺมโทโส ตปิ, ตถา ตุมฺเหปิ มา ตปีติ อตฺโถ.

มลฺลิกา เทวี ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อุฏฺายาสนา อฺชลึ ปคฺคยฺห ทสพลสฺส ถุตึ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –

๒๑๐.

‘‘วิวิธํ อธิมนา สุโณมหํ, วจนปถํ ตว อตฺถสํหิตํ;

มุฺจํ คิรํ นุทเสว เม ทรํ, สมณ สุขาวห ชีว เม จิร’’นฺติ.

ตตฺถ วิวิธํ อธิมนา สุโณมหนฺติ ภนฺเต, ตุมฺเหหิ วิวิเธหิ นานาการเณหิ อลงฺกริตฺวา เทสิตํ ธมฺมเทสนํ อหํ อธิมนา ปสนฺนจิตฺตา หุตฺวา สุโณมิ. วจนปถนฺติ ตํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ วิวิธวจนํ. มุฺจํ คิรํ นุทเสว เม ทรนฺติ กณฺณสุขํ มธุรํ คิรํ มุฺจนฺโต มม หทเย โสกทรถํ นุทสิเยว หรสิเยว. สมณ สุขาวห ชีว เม จิรนฺติ ภนฺเต พุทฺธสมณ, ทิพฺพมานุสโลกิยโลกุตฺตรสุขาวห มม สามิ ธมฺมราช, จิรํ ชีวาติ.

โกสลราชา ตโต ปฏฺาย ตาย สทฺธึ สมคฺควาสํ วสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กินฺนโร โกสลราชา อโหสิ, กินฺนรี มลฺลิกา เทวี, ภลฺลาติยราชา อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ภลฺลาติยชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๕๐๕] ๙. โสมนสฺสชาตกวณฺณนา

โก ตํ หึสติ เหเตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส วธาย ปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มม วธาย ปริสกฺกิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กุรุรฏฺเ อุตฺตรปฺจาลนคเร เรณุ นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา มหารกฺขิโต นาม ตาปโส ปฺจสตตาปสปริวาโร หิมวนฺเต จิรํ วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย จาริกํ จรนฺโต อุตฺตรปฺจาลนครํ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา สปริโส ปิณฺฑาย จรนฺโต ราชทฺวารํ ปาปุณิ. ราชา อิสิคณํ ทิสฺวา อิริยาปเถ ปสนฺโน อลงฺกตมหาตเล นิสีทาเปตฺวา ปณีเตนาหาเรน ปริวิสิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมํ วสฺสารตฺตํ มม อุยฺยาเนเยว วสถา’’ติ วตฺวา เตหิ สทฺธึ อุยฺยานํ คนฺตฺวา วสนฏฺานานิ กาเรตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทตฺวา วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ. ตโต ปฏฺาย สพฺเพปิ เต ราชนิเวสเน ภุฺชนฺติ. ราชา ปน อปุตฺตโก ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ปุตฺตา นุปฺปชฺชนฺติ. วสฺสารตฺตจฺจเยน มหารกฺขิโต ‘‘อิทานิ หิมวนฺโต รมณีโย, ตตฺเถว คมิสฺสามา’’ติ ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา รฺา กตสกฺการสมฺมาโน นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค มชฺฌนฺหิกสมเย มคฺคา โอกฺกมฺม เอกสฺส สนฺทจฺฉายสฺส รุกฺขสฺส เหฏฺา ตรุณติณปิฏฺเ สปริวาโร นิสีทิ.

ตาปสา กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘ราชเคเห วํสานุรกฺขิโต ปุตฺโต นตฺถิ, สาธุ วตสฺส สเจ ราชา ปุตฺตํ ลเภยฺย, ปเวณิ ฆฏีเยถา’’ติ. มหารกฺขิโต เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ นุ โข รฺโ ปุตฺโต, อุทาหุ โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา เอวมาห ‘‘มา โภนฺโต จินฺตยิตฺถ, อชฺช ปจฺจูสกาเล เอโก เทวปุตฺโต จวิตฺวา รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสตี’’ติ. ตํ สุตฺวา เอโก กุฏชฏิโล ‘‘อิทานิ ราชกุลูปโก ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตาปสานํ คมนกาเล คิลานาลยํ กตฺวา นิปชฺชิตฺวา ‘‘เอหิ คจฺฉามา’’ติ วุตฺโต ‘‘น สกฺโกมี’’ติ อาห. มหารกฺขิโต ตสฺส นิปนฺนการณํ ตฺวา ‘‘ยทา สกฺโกสิ, ตทา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา อิสิคณํ อาทาย หิมวนฺตเมว คโต. กุหโกปิ นิวตฺติตฺวา เวเคนาคนฺตฺวา ราชทฺวาเร ตฺวา ‘‘มหารกฺขิตสฺส อุปฏฺากตาปโส อาคโต’’ติ รฺโ อาโรจาเปตฺวา รฺา เวเคน ปกฺโกสาปิโต ปาสาทํ อภิรุยฺห ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ราชา กุหกํ ตาปสํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน อิสีนํ อาโรคฺยํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อติขิปฺปํ นิวตฺติตฺถ, เวเคน เกนตฺเถนาคตตฺถา’’ติ อาห. ‘‘อาม, มหาราช, อิสิคโณ สุขนิสินฺโน ‘สาธุ วตสฺส, สเจ รฺโ ปเวณิปาลโก ปุตฺโต อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ กถํ สมุฏฺาเปสิ. อหํ กถํ สุตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ นุ โข รฺโ ปุตฺโต, อุทาหุ โน’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต ‘‘มหิทฺธิโก เทวปุตฺโต จวิตฺวา อคฺคมเหสิยา สุธมฺมาย กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ‘‘อชานนฺตา คพฺภํ นาเสยฺยุํ, อาจิกฺขิสฺสามิ เนส’’นฺติ ตุมฺหากํ กถนตฺถาย อาคโต. กถิตํ เต มยา, คจฺฉามหํ, มหาราชาติ. ราชา ‘‘ภนฺเต, น สกฺกา คนฺตุ’’นฺติ หฏฺตุฏฺโ ปสนฺนจิตฺโต กุหกตาปสํ อุยฺยานํ เนตฺวา วสนฏฺานํ สํวิทหิตฺวา อทาสิ. โส ตโต ปฏฺาย ราชกุเล ภุฺชนฺโต วสติ, ‘‘ทิพฺพจกฺขุโก’’ตฺเววสฺส นามํ อโหสิ.

ตทา โพธิสตฺโต ตาวตึสภวนา จวิตฺวา ตตฺถ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ชาตสฺส จสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘โสมนสฺสกุมาโร’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. โส กุมารปริหาเรน วฑฺฒติ. กุหกตาปโสปิ อุยฺยานสฺส เอกสฺมึ ปสฺเส นานปฺปการํ สูเปยฺยสากฺจ วลฺลิผลานิ จ โรเปตฺวา ปณฺณิกานํ หตฺเถ วิกฺกิณนฺโต ธนํ สณฺเปสิ. โพธิสตฺตสฺส สตฺตวสฺสิกกาเล รฺโ ปจฺจนฺโต กุปฺปิ. ‘‘ทิพฺพจกฺขุตาปสํ มา ปมชฺชี’’ติ กุมารํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘ปจฺจนฺตํ วูปสเมสฺสามี’’ติ คโต. อเถกทิวสํ กุมาโร ‘‘ชฏิลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา กูฏชฏิลํ เอกํ คณฺิกกาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ทฺเว อุทกฆเฏ คเหตฺวา สากวตฺถุสฺมึ อุทกํ อาสิฺจนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ กูฏชฏิโล อตฺตโน สมณธมฺมํ อกตฺวา ปณฺณิกกมฺมํ กโรตี’’ติ ตฺวา ‘‘กึ กโรสิ ปณฺณิกคหปติกา’’ติ ตํ ลชฺชาเปตฺวา อวนฺทิตฺวาว นิกฺขมิ. กูฏชฏิโล ‘‘อยํ อิทาเนว เอวรูโป ปจฺจามิตฺโต, โก ชานาติ กึ กริสฺสติ, อิทาเนว นํ นาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา รฺโ อาคมนกาเล ปาสาณผลกํ เอกมนฺตํ ขิปิตฺวา ปานียฆฏํ ภินฺทิตฺวา ปณฺณสาลาย ติณานิ วิกิริตฺวา สรีรํ เตเลน มกฺเขตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา มหาทุกฺขปฺปตฺโต วิย มฺเจ นิปชฺชิ. ราชา อาคนฺตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา นิเวสนํ อปวิสิตฺวาว ‘‘มม สามิกํ ทิพฺพจกฺขุกํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อนฺโต ปวิสิตฺวา ตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา ปาเท ปริมชฺชนฺโต ปมํ คาถมาห –

๒๑๑.

‘‘โก ตํ หึสติ เหเติ, กึ ทุมฺมโน โสจสิ อปฺปตีโต;

กสฺสชฺช มาตาปิตโร รุทนฺตุ, กฺวชฺช เสตุ นิหโต ปถพฺยา’’ติ.

ตตฺถ หึสตีติ ปหรติ. เหเตีติ อกฺโกสติ. กฺวชฺช เสตูติ โก อชฺช สยตุ.

ตํ สุตฺวา กูฏชฏิโล นิตฺถุนนฺโต อุฏฺาย ทุติยํ คาถมาห –

๒๑๒.

‘‘ตุฏฺโสฺมิ เทว ตว ทสฺสเนน, จิรสฺสํ ปสฺสามิ ตํ ภูมิปาล;

อหึสโก เรณุมนุปฺปวิสฺส, ปุตฺเตน เต เหยิโตสฺมิ เทวา’’ติ.

อิโต ปรา อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –

๒๑๓.

‘‘อายนฺตุ โทวาริกา ขคฺคพนฺธา, กาสาวิยา ยนฺตุ อนฺเตปุรนฺตํ;

หนฺตฺวาน ตํ โสมนสฺสํ กุมารํ, เฉตฺวาน สีสํ วรมาหรนฺตุ.

๒๑๔.

‘‘เปสิตา ราชิโน ทูตา, กุมารํ เอตทพฺรวุํ;

อิสฺสเรน วิติณฺโณสิ, วธํ ปตฺโตสิ ขตฺติย.

๒๑๕.

‘‘ส ราชปุตฺโต ปริเทวยนฺโต, ทสงฺคุลึ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา;

อหมฺปิ อิจฺฉามิ ชนินฺท ทฏฺุํ, ชีวํ มํ เนตฺวา ปฏิทสฺสเยถ.

๒๑๖.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, รฺโ ปุตฺตํ อทสฺสยุํ;

ปุตฺโต จ ปิตรํ ทิสฺวา, ทูรโตวชฺฌภาสถ.

๒๑๗.

‘‘อาคจฺฉุํ โทวาริกา ขคฺคพนฺธา, กาสาวิยา หนฺตุ มมํ ชนินฺท;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, อปราโธ โก นิธ มมชฺช อตฺถี’’ติ.

ตตฺถ อหึสโกติ อหํ กสฺสจิ อหึสโก สีลาจารสมฺปนฺโน. เรณุมนุปฺปวิสฺสาติ มหาราช เรณุ, อหํ ตว ปุตฺเตน มหาปริวาเรน อนุปวิสิตฺวา ‘‘อเร กูฏตาปส, กสฺมา ตฺวํ อิธ วสสี’’ติ วตฺวา ปาสาณผลกํ ขิปิตฺวา ฆฏํ ภินฺทิตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ โกฏฺเฏนฺเตน วิเหิโตสฺมีติ เอวํ โส อภูตเมว ภูตํ วิย กตฺวา ราชานํ สทฺทหาเปสิ. อายนฺตูติ คจฺฉนฺตุ. ‘‘มม สามิมฺหิ วิปฺปฏิปนฺนกาลโต ปฏฺาย มยิปิ โส น ลชฺชิสฺสตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ตสฺส วธํ อาณาเปนฺโต เอวมาห. กาสาวิยาติ โจรฆาตกา. เตปิ ผรสุหตฺถา อตฺตโน วิธาเนน คจฺฉนฺตูติ วทติ. วรนฺติ วรํ สีสํ อุตฺตมสีสํ ฉินฺทิตฺวา อาหรนฺตุ.

ราชิโนติ ภิกฺขเว, รฺโ สนฺติกา ทูตา รฺา เปสิตา เวเคน คนฺตฺวา มาตรา อลงฺกริตฺวา อตฺตโน องฺเก นิสีทาปิตํ กุมารํ ปริวาเรตฺวา เอตทโวจุํ. อิสฺสเรนาติ รฺา. วิติณฺโณสีติ ปริจฺจตฺโตสิ. ส ราชปุตฺโตติ ภิกฺขเว, เตสํ วจนํ สุตฺวา มรณภยตชฺชิโต มาตุ องฺกโต อุฏฺาย โส ราชปุตฺโต. ปฏิทสฺสเยถาติ ทสฺเสถ. ตสฺสาติ ภิกฺขเว, เต ทูตา กุมารสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา มาเรตุํ อวิสหนฺตา โคณํ วิย นํ รชฺชุยา ปริกฑฺฒนฺตา เนตฺวา รฺโ ทสฺสยุํ. กุมาเร ปน นียมาเน ทาสิคณปริวุตา สทฺธึ โอโรเธหิ สุธมฺมาปิ เทวี นาคราปิ ‘‘มยํ นิรปราธํ กุมารํ มาเรตุํ น ทสฺสามา’’ติ เตน สทฺธึเยว อคมํสุ. อาคจฺฉุนฺติ ตุมฺหากํ อาณาย มม สนฺติกํ อาคมึสุ. หนฺตุํ มมนฺติ มํ มาเรตุํ. โก นีธาติ โก นุ อิธ มม อปราโธ, เยน มํ ตฺวํ มาเรสีติ ปุจฺฉิ.

ราชา ‘‘ภวคฺคํ อตินีจํ, ตว โทโส อติมหนฺโต’’ติ ตสฺส โทสํ กเถนฺโต คาถมาห –

๒๑๘.

‘‘สายฺจ ปาโต อุทกํ สชาติ, อคฺคึ สทา ปาริจรตปฺปมตฺโต;

ตํ ตาทิสํ สํยตํ พฺรหฺมจารึ, กสฺมา ตุวํ พฺรูสิ คหปฺปตี’’ติ.

ตตฺถ อุทกํ สชาตีติ อุทโกโรหณกมฺมํ กโรติ. ตํ ตาทิสนฺติ ตํ ตถารูปํ มม สามึ ทิพฺพจกฺขุตาปสํ กสฺมา ตฺวํ คหปติวาเทน สมุทาจรสีติ วทติ.

ตโต กุมาโร ‘‘เทว, มยฺหํ คหปติฺเว ‘คหปตี’ติ วทนฺตสฺส โก โทโส’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๒๑๙.

‘‘ตาลา จ มูลา จ ผลา จ เทว, ปริคฺคหา วิวิธา สนฺติมสฺส;

เต รกฺขติ โคปยตปฺปมตฺโต, ตสฺมา อหํ พฺรูมิ คหปฺปตี’’ติ.

ตตฺถ มูลาติ มูลกาทิมูลานิ. ผลาติ นานาวิธานิ วลฺลิผลานิ. เต รกฺขติ โคปยตปฺปมตฺโตติ เต เอส ตว กุลูปกตาปโส ปณฺณิกกมฺมํ กโรนฺโต นิสีทิตฺวา รกฺขติ, วตึ กตฺวา โคปยติ อปฺปมตฺโต, เตน การเณน โส ตว พฺราหฺมโณ คหปติ นาม โหติ.

อิติ นํ อหมฺปิ ‘‘คหปตี’’ติ กเถสึ. สเจ น สทฺทหสิ, จตูสุ ทฺวาเรสุ ปณฺณิเก ปุจฺฉาเปหีติ. ราชา ปุจฺฉาเปสิ. เต ‘‘อาม, มยํ อิมสฺส หตฺถโต ปณฺณฺจ ผลาผลานิ จ กิณามา’’ติ อาหํสุ. ปณฺณวตฺถุมฺปิ อุปธาราเปตฺวา ปจฺจกฺขมกาสิ. ปณฺณสาลมฺปิสฺส ปวิสิตฺวา กุมารสฺส ปุริสา ปณฺณวิกฺกยลทฺธํ กหาปณมาสกภณฺฑิกํ นีหริตฺวา รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา มหาสตฺตสฺส นิทฺโทสภาวํ ตฺวา คาถมาห –

๒๒๐.

‘‘สจฺจํ โข เอตํ วทสิ กุมาร, ปริคฺคหา วิวิธา สนฺติมสฺส;

เต รกฺขติ โคปยตปฺปมตฺโต, ส พฺราหฺมโณ คหปติ เตน โหตี’’ติ.

ตโต มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘เอวรูปสฺส พาลสฺส รฺโ สนฺติเก วาสโต หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตุํ วรํ, ปริสมชฺเฌเยวสฺส โทสํ อาวิกตฺวา อาปุจฺฉิตฺวา อชฺเชว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ปริสาย นมกฺการํ กตฺวา คาถมาห –

๒๒๑.

‘‘สุณนฺตุ มยฺหํ ปริสา สมาคตา, สเนคมา ชานปทา จ สพฺเพ;

พาลายํ พาลสฺส วโจ นิสมฺม, อเหตุนา ฆาตยเต มํ ชนินฺโท’’ติ.

ตตฺถ พาลายํ พาลสฺสาติ อยํ ราชา สยํ พาโล อิมสฺส พาลสฺส กูฏชฏิลสฺส วจนํ สุตฺวา อเหตุนาว มํ ฆาตยเตติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา อตฺตานํ ปพฺพชฺชาย อนุชานาเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๒๒๒.

‘‘ทฬฺหสฺมิ มูเล วิสเฏ วิรูฬฺเห, ทุนฺนิกฺกโย เวฬุ ปสาขชาโต;

วนฺทามิ ปาทานิ ตว ชนินฺท, อนุชาน มํ ปพฺพชิสฺสามิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ วิสเฏติ วิสาเล มหนฺเต ชาเต. ทุนฺนิกฺกโยติ ทุนฺนิกฺกฑฺฒิโย.

ตโต ปรา รฺโ จ ปุตฺตสฺส จ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –

๒๒๓.

‘‘ภุฺชสฺสุ โภเค วิปุเล กุมาร, สพฺพฺจ เต อิสฺสริยํ ททามิ;

อชฺเชว ตฺวํ กุรูนํ โหหิ ราชา, มา ปพฺพชี ปพฺพชฺชา หิ ทุกฺขา.

๒๒๔.

‘‘กินฺนูธ เทว ตวมตฺถิ โภคา, ปุพฺเพวหํ เทวโลเก รมิสฺสํ;

รูเปหิ สทฺเทหิ อโถ รเสหิ, คนฺเธหิ ผสฺเสหิ มโนรเมหิ.

๒๒๕.

‘‘ภุตฺตา จ เม โภคา ติทิวสฺมึ เทว, ปริวาริโต อจฺฉรานํ คเณน;

ตุวฺจ พาลํ ปรเนยฺยํ วิทิตฺวา, น ตาทิเส ราชกุเล วเสยฺยํ.

๒๒๖.

‘‘สจาหํ พาโล ปรเนยฺโย อสฺมิ, เอกาปราธํ ขม ปุตฺต มยฺหํ;

ปุนปิ เจ เอทิสกํ ภเวยฺย, ยถามตึ โสมนสฺส กโรหี’’ติ.

ตตฺถ ทุกฺขาติ ตาต, ปพฺพชฺชา นาม ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา ทุกฺขา, มา ปพฺพชิ, ราชา โหหีติ ตํ ยาจิ. กินฺนูธ เทวาติ เทว, เย ตว โภคา, เตสุ กึ นาม ภุฺชิตพฺพํ อตฺถิ. ปริวาริโตติ ปริจาริโต, อยเมว วา ปาโ. ตสฺส กิร ชาติสฺสราณํ อุปฺปชฺชิ, ตสฺมา เอวมาห. ปรเนยฺยนฺติ อนฺธํ วิย ยฏฺิยา ปเรน เนตพฺพํ. ตาทิเสติ ตาทิสสฺส รฺโ สนฺติเก น ปณฺฑิเตน วสิตพฺพํ, มยา อตฺตโน าณพเลน อชฺช ชีวิตํ ลทฺธํ, นาหํ ตว สนฺติเก วสิสฺสามีติ าเปตุํ เอวมาห. ยถามตินฺติ สเจ ปุน มยฺหํ เอวรูโป โทโส โหติ, อถ ตฺวํ ยถาอชฺฌาสยํ กโรหีติ ปุตฺตํ ขมาเปสิ.

มหาสตฺโต ราชานํ โอวทนฺโต อฏฺ คาถา อภาสิ –

๒๒๗.

‘‘อนิสมฺม กตํ กมฺมํ, อนวตฺถาย จินฺติตํ;

เภสชฺชสฺเสว เวภงฺโค, วิปาโก โหติ ปาปโก.

๒๒๘.

‘‘นิสมฺม จ กตํ กมฺมํ, สมฺมาวตฺถาย จินฺติตํ;

เภสชฺชสฺเสว สมฺปตฺติ, วิปาโก โหติ ภทฺรโก.

๒๒๙.

‘‘อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ, อสฺโต ปพฺพชิโต น สาธุ;

ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี, โย ปณฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ.

๒๓๐.

‘‘นิสมฺม ขตฺติโย กยิรา, นานิสมฺม ทิสมฺปติ;

นิสมฺมการิโน ราช, ยโส กิตฺติ จ วฑฺฒติ.

๒๓๑.

‘‘นิสมฺม ทณฺฑํ ปณเยยฺย อิสฺสโร, เวคา กตํ ตปฺปติ ภูมิปาล;

สมฺมาปณีธี จ นรสฺส อตฺถา, อนานุตปฺปา เต ภวนฺติ ปจฺฉา.

๒๓๒.

‘‘อนานุตปฺปานิ หิ เย กโรนฺติ, วิภชฺช กมฺมายตนานิ โลเก;

วิฺุปฺปสตฺถานิ สุขุทฺรยานิ, ภวนฺติ พุทฺธานุมตานิ ตานิ.

๒๓๓.

‘‘อาคจฺฉุํ โทวาริกา ขคฺคพนฺธา, กาสาวิยา หนฺตุ มมํ ชนินฺท;

มาตุฺจ องฺกสฺมิมหํ นิสินฺโน, อากฑฺฒิโต สหสา เตหิ เทว.

๒๓๔.

‘‘กฏุกฺหิ สมฺพาธํ สุกิจฺฉํ ปตฺโต, มธุรมฺปิ ยํ ชีวิตํ ลทฺธ ราช;

กิจฺเฉนหํ อชฺช วธา ปมุตฺโต, ปพฺพชฺชเมวาภิมโนหมสฺมี’’ติ.

ตตฺถ อนิสมฺมาติ อโนโลเกตฺวา อนุปธาเรตฺวา. อนวตฺถาย จินฺติตนฺติ อนวตฺถเปตฺวา อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา จินฺติตํ. วิปาโก โหติ ปาปโกติ ตสฺส หิ ยถา นาม เภสชฺชสฺส เวภงฺโค วิปตฺติ, เอวเมวํ วิปาโก โหติ ปาปโก. อสฺโตติ กายาทีหิ อสฺโต ทุสฺสีโล. ตํ น สาธูติ ตํ ตสฺส โกธนํ น สาธุ. นานิสมฺมาติ อนิสาเมตฺวา กิฺจิ กมฺมํ น กเรยฺย. ปณเยยฺยาติ ปฏฺเปยฺย ปวตฺเตยฺย. เวคาติ เวเคน สหสา. สมฺมาปณีธี จาติ โยนิโส ปิเตน จิตฺเตน กตา นรสฺส อตฺถา ปจฺฉา อนานุตปฺปา ภวนฺตีติ อตฺโถ. วิภชฺชาติ ‘‘อิมานิ กาตุํ ยุตฺตานิ, อิมานิ อยุตฺตานี’’ติ เอวํ ปฺาย วิภชิตฺวา. กมฺมายตนานีติ กมฺมานิ. พุทฺธานุมตานีติ ปณฺฑิเตหิ อนุมตานิ อนวชฺชานิ โหนฺติ. กฏุกนฺติ เทว, กฏุกํ สมฺพาธํ สุกิจฺฉํ มรณภยํ ปตฺโตมฺหิ. ลทฺธาติ อตฺตโน าณพเลน ลภิตฺวา. ปพฺพชฺชเมวาภิมโนหมสฺมีติ ปพฺพชฺชาภิมุขจิตฺโตเยวสฺมิ.

เอวํ มหาสตฺเตน ธมฺเม เทสิเต ราชา เทวึ อามนฺเตตฺวา คาถมาห –

๒๓๕.

‘‘ปุตฺโต ตวายํ ตรุโณ สุธมฺเม, อนุกมฺปโก โสมนสฺโส กุมาโร;

ตํ ยาจมาโน น ลภามิ สฺวชฺช, อรหสิ นํ ยาจิตเว ตุวมฺปี’’ติ.

ตตฺถ ยาจิตเวติ ยาจิตุํ.

สา ปพฺพชฺชายเมว อุโยเชนฺตี คาถมาห –

๒๓๖.

‘‘รมสฺสุ ภิกฺขาจริยาย ปุตฺต, นิสมฺม ธมฺเมสุ ปริพฺพชสฺสุ;

สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, อนินฺทิโต พฺรหฺมมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ นิสมฺมาติ ปพฺพชนฺโต จ นิสาเมตฺวา มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ปพฺพชฺชํ ปหาย สมฺมาทิฏฺิยุตฺตํ นิยฺยานิกปพฺพชฺชํ ปพฺพช.

อถ ราชา คาถมาห –

๒๓๗.

‘‘อจฺเฉรรูปํ วต ยาทิสฺจ, ทุกฺขิตํ มํ ทุกฺขาปยเส สุธมฺเม;

ยาจสฺสุ ปุตฺตํ อิติ วุจฺจมานา, ภิยฺโยว อุสฺสาหยเส กุมาร’’นฺติ.

ตตฺถ ยาทิสฺจาติ ยาทิสํ อิทํ ตฺวํ วเทสิ, ตํ อจฺฉริยรูปํ วต. ทุกฺขิตนฺติ ปกติยาปิ มํ ทุกฺขิตํ ภิยฺโย ทุกฺขาปยสิ.

ปุน เทวี คาถมาห –

๒๓๘.

‘‘เย วิปฺปมุตฺตา อนวชฺชโภคิโน, ปรินิพฺพุตา โลกมิมํ จรนฺติ;

ตมริยมคฺคํ ปฏิปชฺชมานํ, น อุสฺสเห วารยิตุํ กุมาร’’นฺติ.

ตตฺถ วิปฺปมุตฺตาติ ราคาทีหิ วิปฺปมุตฺตา. ปรินิพฺพุตาติ กิเลสปรินิพฺพาเนน นิพฺพุตา. ตมริยมคฺคนฺติ ตํ เตสํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ สนฺตกํ มคฺคํ ปฏิปชฺชมานํ มม ปุตฺตํ วาเรตุํ น อุสฺสหามิ เทวาติ.

ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ราชา โอสานคาถมาห –

๒๓๙.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

เยสายํ สุตฺวาน สุภาสิตานิ, อปฺโปสฺสุกฺกา วีตโสกา สุธมฺมา’’ติ.

ตตฺถ พหุานจินฺติโนติ พหุการณจินฺติโน. เยสายนฺติ เยสํ อยํ. โสมนสฺสกุมารสฺเสว หิ สา สุภาสิตํ สุตฺวา อปฺโปสฺสุกฺกา ชาตา, ราชาปิ ตเทว สนฺธายาห.

มหาสตฺโต มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ‘‘สเจ มยฺหํ โทโส อตฺถิ, ขมถา’’ติ มหาชนสฺส อฺชลึ กตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข คนฺตฺวา มนุสฺเสสุ นิวตฺเตสุ มนุสฺสวณฺเณนาคนฺตฺวา เทวตาหิ สตฺต ปพฺพตราชิโย อติกฺกมิตฺวา หิมวนฺตํ นีโต วิสฺสกมฺมุนา นิมฺมิตาย ปณฺณสาลาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. ตํ ตตฺถ ยาว โสฬสวสฺสกาลา ราชกุลปริจาริกเวเสน เทวตาเยว อุปฏฺหึสุ. กูฏชฏิลมฺปิ มหาชโน โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. มหาสตฺโต ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพเปส มยฺหํ วธาย ปริสกฺกิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กุหโก เทวทตฺโต อโหสิ, มาตา มหามายา, มหารกฺขิโต สาริปุตฺโต, โสมนสฺสกุมาโร ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

โสมนสฺสชาตกวณฺณนา นวมา.

[๕๐๖] ๑๐. จมฺเปยฺยชาตกวณฺณนา

กา นุ วิชฺชุริวาภาสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘สาธุ โว กตํ อุปาสกา อุโปสถวาสํ วสนฺเตหิ, โปราณกปณฺฑิตา นาคสมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถวาสํ วสึสุเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต องฺครฏฺเ องฺเค จ มคธรฏฺเ มคเธ จ รชฺชํ กาเรนฺเต องฺคมคธรฏฺานํ อนฺตเร จมฺปา นาม นที, ตตฺถ นาคภวนํ อโหสิ. จมฺเปยฺโย นาม นาคราชา รชฺชํ กาเรสิ. กทาจิ มคธราชา องฺครฏฺํ คณฺหาติ, กทาจิ องฺคราชา มคธรฏฺํ. อเถกทิวสํ มคธราชา องฺเคน สทฺธึ ยุชฺฌิตฺวา ยุทฺธปราชิโต อสฺสํ อารุยฺห ปลายนฺโต องฺครฺโ โยเธหิ อนุพทฺโธ ปุณฺณํ จมฺปานทึ ปตฺวา ‘‘ปรหตฺเถ มรณโต นทึ ปวิสิตฺวา มตํ เสยฺโย’’ติ อสฺเสเนว สทฺธึ นทึ โอตริ. ตทา จมฺเปยฺโย นาคราชา อนฺโตทเก รตนมณฺฑปํ นิมฺมินิตฺวา มหาปริวาโร มหาปานํ ปิวติ. อสฺโส รฺา สทฺธึ อุทเก นิมุชฺชิตฺวา นาครฺโ ปุรโต โอตริ. นาคราชา อลงฺกตปฏิยตฺตํ ราชานํ ทิสฺวา สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา อาสนา อุฏฺาย ‘‘มา ภายิ, มหาราชา’’ติ ราชานํ อตฺตโน ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา อุทเก นิมุคฺคการณํ ปุจฺฉิ. ราชา ยถาภูตํ กเถสิ. อถ นํ ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ ตํ ทฺวินฺนํ รฏฺานํ สามิกํ กริสฺสามี’’ติ อสฺสาเสตฺวา สตฺตาหํ มหนฺตํ ยสํ อนุภวิตฺวา สตฺตเม ทิวเส มคธราเชน สทฺธึ นาคภวนา นิกฺขมิ. มคธราชา นาคราชสฺสานุภาเวน องฺคราชานํ คเหตฺวา ชีวิตา โวโรเปตฺวา ทฺวีสุ รฏฺเสุ รชฺชํ กาเรสิ. ตโต ปฏฺาย รฺโ จ นาคราชสฺส จ วิสฺสาโส ถิโร อโหสิ. ราชา อนุสํวจฺฉรํ จมฺปานทีตีเร รตนมณฺฑปํ กาเรตฺวา มหนฺเตน ปริจฺจาเคน นาครฺโ พลิกมฺมํ กโรติ. โสปิ มหนฺเตน ปริวาเรน นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา พลิกมฺมํ สมฺปฏิจฺฉติ. มหาชโน นาครฺโ สมฺปตฺตึ โอโลเกติ.

ตทา โพธิสตฺโต ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺโต ราชปริสาย สทฺธึ นทีตีรํ คนฺตฺวา ตํ นาคราชสฺส สมฺปตฺตึ ทิสฺวา โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ปตฺถยมาโน ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา จมฺเปยฺยนาคราชสฺส กาลกิริยโต สตฺตเม ทิวเส จวิตฺวา ตสฺส วสนปาสาเท สิริคพฺเภ สิริสยนปิฏฺเ นิพฺพตฺติ. สรีรํ สุมนทามวณฺณํ มหนฺตํ อโหสิ. โส ตํ ทิสฺวา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘มยา กตกุสลนิสฺสนฺเทน ฉสุ กามสคฺเคสุ อิสฺสริยํ โกฏฺเ ปฏิสามิตํ ธฺํ วิย อโหสิ. สฺวาหํ อิมิสฺสา ติรจฺฉานโยนิยา ปฏิสนฺธึ คณฺหึ, กึ เม ชีวิเตนา’’ติ มรณาย จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. อถ นํ สุมนา นาม นาคมาณวิกา ทิสฺวา ‘‘มหานุภาโว สตฺโต นิพฺพตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ เสสนาคมาณวิกานํ สฺํ อทาสิ, สพฺพา นานาตูริยหตฺถา อาคนฺตฺวา ตสฺส อุปหารํ กรึสุ. ตสฺส ตํ นาคภวนํ สกฺกภวนํ วิย อโหสิ, มรณจิตฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ, สปฺปสรีรํ วิชหิตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สยนปิฏฺเ นิสีทิ. อถสฺส ตโต ปฏฺาย ยโส มหา อโหสิ.

โส ตตฺถ นาครชฺชํ กาเรนฺโต อปรภาเค วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘กึ เม อิมาย ติรจฺฉานโยนิยา, อุโปสถวาสํ วสิตฺวา อิโต มุจฺจิตฺวา มนุสฺสปถํ คนฺตฺวา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ตสฺมึเยว ปาสาเท อุโปสถกมฺมํ กโรติ. อลงฺกตนาคมาณวิกา ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, เยภุยฺเยนสฺส สีลํ ภิชฺชติ. โส ตโต ปฏฺาย ปาสาทา นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานํ คจฺฉติ. ตา ตตฺราปิ คจฺฉนฺติ, อุโปสโถ ภิชฺชเตว. โส จินฺเตสิ ‘‘มยา อิโต นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา อุโปสถวาสํ วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย อุโปสถทิวเสสุ นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา เอกสฺส ปจฺจนฺตคามสฺส อวิทูเร มหามคฺคสมีเป วมฺมิกมตฺถเก ‘‘มม จมฺมาทีหิ อตฺถิกา คณฺหนฺตุ, มํ กีฬาสปฺปํ วา กาตุกามา กโรนฺตู’’ติ สรีรํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา โภเค อาภุชิตฺวา นิปนฺโน อุโปสถวาสํ วสติ. มหามคฺเคน คจฺฉนฺตา จ อาคจฺฉนฺตา จ ตํ ทิสฺวา คนฺธาทีหิ ปูเชตฺวา ปกฺกมนฺติ. ปจฺจนฺตคามวาสิโน คนฺตฺวา ‘‘มหานุภาโว นาคราชา’’ติ ตสฺส อุปริ มณฺฑปํ กริตฺวา สมนฺตา วาลุกํ โอกิริตฺวา คนฺธาทีหิ ปูชยึสุ. ตโต ปฏฺาย มนุสฺสา มหาสตฺเต ปสีทิตฺวา ปูชํ กตฺวา ปุตฺตํ ปตฺเถนฺติ, ธีตรํ ปตฺเถนฺติ.

มหาสตฺโตปิ อุโปสถกมฺมํ กโรนฺโต จาตุทฺทสีปนฺนรสีสุ วมฺมิกมตฺถเก นิปชฺชิตฺวา ปาฏิปเท นาคภวนํ คจฺฉติ. ตสฺเสวํ อุโปสถํ กโรนฺตสฺส อทฺธา วีติวตฺโต. เอกทิวสํ สุมนา อคฺคมเหสี อาห ‘‘เทว, ตฺวํ มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา อุโปสถํ อุปวสสิ, มนุสฺสโลโก จ สาสงฺโก สปฺปฏิภโย, สเจ เต ภยํ อุปฺปชฺเชยฺย, อถ มยํ เยน นิมิตฺเตน ชาเนยฺยาม, ตํ โน อาจิกฺขาหี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต มงฺคลโปกฺขรณิยา ตีรํ เนตฺวา ‘‘สเจ มํ ภทฺเท, โกจิ ปหริตฺวา กิลเมสฺสติ, อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา อุทกํ อาวิลํ ภวิสฺสติ, สเจ สุปณฺโณ คเหสฺสติ, อุทกํ ปกฺกุถิสฺสติ, สเจ อหิตุณฺฑิโก คณฺหิสฺสติ, อุทกํ โลหิตวณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ อาห. เอวํ ตสฺสา ตีณิ นิมิตฺตานิ อาจิกฺขิตฺวา จาตุทฺทสีอุโปสถํ อธิฏฺาย นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วมฺมิกมตฺถเก นิปชฺชิ สรีรโสภาย วมฺมิกํ โสภยมาโน. สรีรฺหิสฺส รชตทามํ วิย เสตํ อโหสิ มตฺถโก รตฺตกมฺพลเคณฺฑุโก วิย. อิมสฺมึ ปน ชาตเก โพธิสตฺตสฺส สรีรํ นงฺคลสีสปมาณํ อโหสิ, ภูริทตฺตชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๗๘๔ อาทโย) อูรุปฺปมาณํ, สงฺขปาลชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑๔๓ อาทโย) เอกโทณิกนาวปมาณํ.

ตทา เอโก พาราณสิวาสี มาณโว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก อลมฺปายนมนฺตํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน มคฺเคน อตฺตโน เคหํ คจฺฉนฺโต มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ สปฺปํ คเหตฺวา คามนิคมราชธานีสุ กีฬาเปนฺโต ธนํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทิพฺโพสธานิ คเหตฺวา ทิพฺพมนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ทิพฺพมนฺตสุตกาลโต ปฏฺาย มหาสตฺตสฺส กณฺเณสุ อยสลากปเวสนกาโล วิย ชาโต, มตฺถโก สิขเรน อภิมตฺถิยมาโน วิย ชาโต. โส ‘‘โก นุ โข เอโส’’ติ โภคนฺตรโต สีสํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกนฺโต อหิตุณฺฑิกํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘มม วิสํ มหนฺตํ, สจาหํ กุชฺฌิตฺวา นาสวาตํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, เอตสฺส สรีรํ ภสฺมมุฏฺิ วิย วิปฺปกิริสฺสติ, อถ เม สีลํ ขณฺฑํ ภวิสฺสติ, น ทานิ ตํ โอโลเกสฺสามี’’ติ. โส อกฺขีนิ นิมฺมีเลตฺวา สีสํ โภคนฺตเร เปสิ.

อหิตุณฺฑิโก พฺราหฺมโณ โอสธํ ขาทิตฺวา มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา เขฬํ มหาสตฺตสฺส สรีเร โอปิ, โอสธานฺจ มนฺตสฺส จานุภาเวน เขเฬน ผุฏฺผุฏฺฏฺาเน โผฏานํ อุฏฺานกาโล วิย ชาโต. อถ นํ โส นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา กฑฺฒิตฺวา ทีฆโส นิปชฺชาเปตฺวา อชปเทน ทณฺเฑน อุปฺปีเฬนฺโต ทุพฺพลํ กตฺวา สีสํ ทฬฺหํ คเหตฺวา นิปฺปีฬิ, มหาสตฺตสฺส มุขํ วิวริ. อถสฺส มุเข เขฬํ โอปิตฺวา โอสธมนฺตํ กตฺวา ทนฺเต ภินฺทิ, มุขํ โลหิตสฺส ปูริ. มหาสตฺโต อตฺตโน สีลเภทภเยน เอวรูปํ ทุกฺขํ อธิวาเสนฺโต อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลกนมตฺตมฺปิ นากริ. โสปิ ‘‘นาคราชานํ ทุพฺพลํ กริสฺสามี’’ติ นงฺคุฏฺโต ปฏฺายสฺส อฏฺีนิ จุณฺณยมาโน วิย สกลสรีรํ มทฺทิตฺวา ปฏฺฏกเวนํ นาม เวเสิ, ตนฺตมชฺชิตํ นาม มชฺชิ, นงฺคุฏฺํ คเหตฺวา ทุสฺสโปถิมํ นาม โปเถสิ. มหาสตฺตสฺส สกลสรีรํ โลหิตมกฺขิตํ อโหสิ. โส มหาเวทนํ อธิวาเสสิ.

อถสฺส ทุพฺพลภาวํ ตฺวา วลฺลีหิ เปฬํ กริตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา ปจฺจนฺตคามํ เนตฺวา มหาชนมชฺเฌ กีฬาเปสิ. นีลาทีสุ วณฺเณสุ วฏฺฏจตุรสฺสาทีสุ สณฺาเนสุ อณุํถูลาทีสุ ปมาเณสุ ยํ ยํ พฺราหฺมโณ อิจฺฉติ, มหาสตฺโต ตํตเทว กตฺวา นจฺจติ, ผณสตํ ผณสหสฺสมฺปิ กโรติเยว. มหาชโน ปสีทิตฺวา พหุํ ธนํ อทาสิ. เอกทิวสเมว กหาปณสหสฺสฺเจว สหสฺสคฺฆนเก จ ปริกฺขาเร ลภิ. พฺราหฺมโณ อาทิโตว สหสฺสํ ลภิตฺวา ‘‘วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ, ตํ ปน ธนํ ลภิตฺวา ‘‘ปจฺจนฺตคาเมเยว ตาว เม เอตฺตกํ ธนํ ลทฺธํ, ราชราชมหามจฺจานํ สนฺติเก พหุํ ธนํ ลภิสฺสามี’’ติ สกฏฺจ สุขยานกฺจ คเหตฺวา สกเฏ ปริกฺขาเร เปตฺวา สุขยานเก นิสินฺโน มหนฺเตน ปริวาเรน มหาสตฺตํ คามนิคมาทีสุ กีฬาเปนฺโต ‘‘พาราณสิยํ อุคฺคเสนรฺโ สนฺติเก กีฬาเปตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ อคมาสิ. โส มณฺฑูเก มาเรตฺวา นาครฺโ เทติ. นาคราชา ‘‘ปุนปฺปุนํ เอส มํ นิสฺสาย มาเรสฺสตี’’ติ น ขาทติ. อถสฺส มธุลาเช อทาสิ. มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ โภชนํ คณฺหิสฺสามิ, อนฺโตเปฬาย เอว มรณํ ภวิสฺสตี’’ติ เตปิ น ขาทติ. พฺราหฺมโณ มาสมตฺเตน พาราณสึ ปตฺวา ทฺวารคาเมสุ กีฬาเปนฺโต พหุํ ธนํ ลภิ.

ราชาปิ นํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อมฺหากํ กีฬาเปหี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, เทว, สฺเว ปนฺนรเส ตุมฺหากํ กีฬาเปสฺสามี’’ติ. ราชา ‘‘สฺเว นาคราชา ราชงฺคเณ นจฺจิสฺสติ, มหาชโน สนฺนิปติตฺวา ปสฺสตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา ปุนทิวเส ราชงฺคณํ อลงฺการาเปตฺวา พฺราหฺมณํ ปกฺโกสาเปสิ. โส รตนเปฬาย มหาสตฺตํ เนตฺวา วิจิตฺตตฺถเร เปฬํ เปตฺวา นิสีทิ. ราชาปิ ปาสาทา โอรุยฺห มหาชนปริวุโต ราชาสเน นิสีทิ. พฺราหฺมโณ มหาสตฺตํ นีหริตฺวา นจฺจาเปสิ. มหาชโน สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต เจลุกฺเขปสหสฺสํ ปวตฺเตติ. โพธิสตฺตสฺส อุปริ สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสติ. ตสฺส คหิตสฺส มาโส สมฺปูริ. เอตฺตกํ กาลํ นิราหาโรว อโหสิ. สุมนา ‘‘อติจิรายติ เม ปิยสามิโก, อิทานิสฺส อิธ อนาคจฺฉนฺตสฺส มาโส สมฺปุณฺโณ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ คนฺตฺวา โปกฺขรณึ โอโลเกนฺตี โลหิตวณฺณํ อุทกํ ทิสฺวา ‘‘อหิตุณฺฑิเกน คหิโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา วมฺมิกสนฺติกํ คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส คหิตฏฺานฺจ กิลมิตฏฺานฺจ ทิสฺวา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ราชงฺคเณ ปริสมชฺเฌ อากาเส โรทมานา อฏฺาสิ. มหาสตฺโต นจฺจนฺโตว อากาสํ โอโลเกตฺวา ตํ ทิสฺวา ลชฺชิโต เปฬํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิ. ราชา ตสฺส เปฬํ ปวิฏฺกาเล ‘‘กึ นุ โข การณ’’นฺติ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ตํ อากาเส ิตํ ทิสฺวา ปมํ คาถมาห –

๒๔๐.

‘‘กา นุ วิชฺชุริวาภาสิ, โอสธี วิย ตารกา;

เทวตา นุสิ คนฺธพฺพี, น ตํ มฺามี มานุสิ’’นฺติ.

ตตฺถ น ตํ มฺามิ มานุสินฺติ อหํ ตํ มานุสีติ น มฺามิ, ตยา เอกาย เทวตาย คนฺธพฺพิยา วา ภวิตุํ วฏฺฏตีติ วทติ.

อิทานิ เตสํ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –

๒๔๑.

‘‘นมฺหิ เทวี น คนฺธพฺพี, น มหาราช มานุสี;

นาคกฺาสฺมิ ภทฺทนฺเต, อตฺเถนมฺหิ อิธาคตา.

๒๔๒.

‘‘วิพฺภนฺตจิตฺตา กุปิตินฺทฺริยาสิ, เนตฺเตหิ เต วาริคณา สวนฺติ;

กึ เต นฏฺํ กึ ปน ปตฺถยานา, อิธาคตา นาริ ตทิงฺฆ พฺรูหิ.

๒๔๓.

‘‘ยมุคฺคเตโช อุรโคติ จาหุ, นาโคติ นํ อาหุ ชนา ชนินฺท;

ตมคฺคหี ปุริโส ชีวิกตฺโถ, ตํ พนฺธนา มุฺจ ปตี มเมโส.

๒๔๔.

‘‘กถํ นฺวยํ พลวิริยูปปนฺโน, หตฺถตฺตมาคจฺฉิ วนิพฺพกสฺส;

อกฺขาหิ เม นาคกฺเ ตมตฺถํ, กถํ วิชาเนมุ คหีตนาคํ.

๒๔๕.

‘‘นครมฺปิ นาโค ภสฺมํ กเรยฺย, ตถา หิ โส พลวิริยูปปนฺโน;

ธมฺมฺจ นาโค อปจายมาโน, ตสฺมา ปรกฺกมฺม ตโป กโรตี’’ติ.

ตตฺถ อตฺเถนมฺหีติ อหํ เอกํ การณํ ปฏิจฺจ อิธาคตา. กุปิตินฺทฺริยาติ กิลนฺตินฺทฺริยา. วาริคณาติ อสฺสุพินฺทุฆฏา. อุรโคติ จาหูติ อุรโคติ จายํ มหาชโน กเถสิ. ตมคฺคหี ปุริโสติ อยํ ปุริโส ตํ นาคราชานํ ชีวิกตฺถาย อคฺคเหสิ. วนิพฺพกสฺสาติ อิมสฺส วนิพฺพกสฺส กถํ นุ เอส มหานุภาโว สมาโน หตฺถตฺตํ อาคโตติ ปุจฺฉติ. ธมฺมฺจาติ ปฺจสีลธมฺมํ อุโปสถวาสธมฺมฺจ ครุํ กโรนฺโต วิหรติ, ตสฺมา อิมินา ปุริเสน คหิโตปิ ‘‘สจาหํ อิมสฺส อุปริ นาสวาตํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, ภสฺมมุฏฺิ วิย วิกิริสฺสติ, เอวํ เม สีลํ ภิชฺชิสฺสตี’’ติ สีลเภทภยา ปรกฺกมฺม ตํ ทุกฺขํ อธิวาเสตฺวา ตโป กโรติ, วีริยเมว กโรตีติ อาห.

ราชา ‘‘กหํ ปเนโส อิมินา คหิโต’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส สา อาจิกฺขนฺตี คาถมาห –

๒๔๖.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสิฺจ ราช, จตุปฺปเถ สมฺมติ นาคราชา;

ตมคฺคหี ปุริโส ชีวิกตฺโถ, ตํ พนฺธนา มุฺจ ปตี มเมโส’’ติ.

ตตฺถ จตุปฺปเถติ จตุกฺกมคฺคสฺส อาสนฺนฏฺาเน เอกสฺมึ วมฺมิเก จตุรงฺคสมนฺนาคตํ อธิฏฺานํ อธิฏฺหิตฺวา อุโปสถวาสํ วสนฺโต นิปชฺชตีติ อตฺโถ. ตํ พนฺธนาติ ตํ เอวํ ธมฺมิกํ คุณวนฺตํ นาคราชานํ เอตสฺส ธนํ ทตฺวา เปฬพนฺธนา ปมุฺจ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ปุนปิ ตํ ยาจนฺตี ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๔๗.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

วาริเคหสยา นารี, ตาปิ ตํ สรณํ คตา.

๒๔๘.

‘‘ธมฺเมน โมเจหิ อสาหเสน, คาเมน นิกฺเขน ควํ สเตน;

โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปุฺตฺถิโก มุฺจตุ พนฺธนสฺมา’’ติ.

ตตฺถ โสฬสิตฺถิสหสฺสานีติ มา ตฺวํ เอส โย วา โส วา ทลิทฺทนาโคติ มฺิตฺถ. เอตสฺส หิ เอตฺตกา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา อิตฺถิโยว, เสสา สมฺปตฺติ อปริมาณาติ ทสฺเสติ. วาริเคหสยาติ อุทกจฺฉทนํ อุทกคพฺภํ กตฺวา ตตฺถ สยนสีลา. โอสฺสฏฺกาโยติ นิสฺสฏฺกาโย หุตฺวา. จราตูติ จรตุ.

อถ นํ ราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๔๙.

‘‘ธมฺเมน โมเจมิ อสาหเสน, คาเมน นิกฺเขน ควํ สเตน;

โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปุฺตฺถิโก มุฺจตุ พนฺธนสฺมา.

๒๕๐.

‘‘ทมฺมิ นิกฺขสตํ ลุทฺท, ถูลฺจ มณิกุณฺฑลํ;

จตุสฺสทฺจ ปลฺลงฺกํ, อุมาปุปฺผสรินฺนิภํ.

๒๕๑.

‘‘ทฺเว จ สาทิสิโย ภริยา, อุสภฺจ ควํ สตํ;

โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปุฺตฺถิโก มุฺจตุ พนฺธนสฺมา’’ติ.

ตตฺถ ลุทฺทาติ ราชา อุรคํ โมเจตุํ อหิตุณฺฑิกํ อามนฺเตตฺวา ตสฺส ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺมํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. คาถา ปน เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว.

อถ นํ ลุทฺโท อาห –

๒๕๒.

‘‘วินาปิ ทานา ตว วจนํ ชนินฺท, มุฺเจมุ นํ อุรคํ พนฺธนสฺมา;

โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปุฺตฺถิโก มุฺจตุ พนฺธนสฺมา’’ติ.

ตตฺถ ตว วจนนฺติ มหาราช, วินาปิ ทาเนน ตว วจนเมว อมฺหากํ ครุ. มุฺเจมุ นนฺติ มุฺจิสฺสามิ เอตนฺติ วทติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺตํ เปฬโต นีหริ. นาคราชา นิกฺขมิตฺวา ปุปฺผนฺตรํ ปวิสิตฺวา ตํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา มาณวกวณฺเณน อลงฺกตสรีโร หุตฺวา ปถวึ ภินฺทนฺโต วิย นิกฺขนฺโต อฏฺาสิ. สุมนา อากาสโต โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติเก ิตา. นาคราชา อฺชลึ ปคฺคยฺห ราชานํ นมสฺสมาโน อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๕๓.

‘‘มุตฺโต จมฺเปยฺยโก นาโค, ราชานํ เอตทพฺรวิ;

นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;

อฺชลึ เต ปคฺคณฺหามิ, ปสฺเสยฺยํ เม นิเวสนํ.

๒๕๔.

‘‘อทฺธา หิ ทุพฺพิสฺสสเมตมาหุ, ยํ มานุโส วิสฺสเส อมานุสมฺหิ;

สเจ จ มํ ยาจสิ เอตมตฺถํ, ทกฺเขมุ เต นาค นิเวสนานี’’ติ.

ตตฺถ ปสฺเสยฺยํ เม นิเวสนนฺติ มม นิเวสนํ จมฺเปยฺยนาคภวนํ รมณียํ ปสฺสิตพฺพยุตฺตกํ. ตํ เต อหํ ทสฺเสตุกาโม, ตํ สพลวาหโน ตฺวํ อาคนฺตฺวา ปสฺส, นรินฺทาติ วทติ. ทุพฺพิสฺสสนฺติ ทุวิสฺสาสนียํ. สเจ จาติ สเจ มํ ยาจสิ, ปสฺเสยฺยาม เต นิเวสนานิ, อปิ จ โข ปน ตํ น สทฺทหามีติ วทติ.

อถ นํ สทฺทหาเปตุํ สปถํ กโรนฺโต มหาสตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๕๕.

‘‘สเจปิ วาโต คิริมาวเหยฺย, จนฺโท จ สุริโย จ ฉมา ปเตยฺยุํ;

สพฺพา จ นชฺโช ปฏิโสตํ วเชยฺยุํ, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺยํ.

๒๕๖.

‘‘นภํ ผเลยฺย อุทธีปิ สุสฺเส, สํวฏฺฏเย ภูตธรา วสุนฺธรา;

สิลุจฺจโย เมรุ สมูลมุปฺปเต, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ สํวฏฺฏเย ภูตธรา วสุนฺธราติ อยํ ภูตธราติ จ วสุนฺธราติ จ สงฺขํ คตา มหาปถวี กิลฺชํ วิย สํวฏฺเฏยฺย. สมูลมุปฺปเตติ เอวํ มหาสิเนรุปพฺพโต สมูโล อุฏฺาย ปุราณปณฺณํ วิย อากาเส ปกฺขนฺเทยฺย.

โส มหาสตฺเตน เอวํ วุตฺเตปิ อสทฺทหนฺโต –

๒๕๗.

‘‘อทฺธา หิ ทุพฺพิสฺสสเมตมาหุ, ยํ มานุโส วิสฺสเส อมานุสมฺหิ;

สเจ จ มํ ยาจสิ เอตมตฺถํ, ทกฺเขมุ เต นาค นิเวสนานี’’ติ. –

ปุนปิ ตเมว คาถํ วตฺวา ‘‘ตฺวํ มยา กตคุณํ ชานิตุํ อรหสิ, สทฺทหิตุํ ปน ยุตฺตภาวํ วา อยุตฺตภาวํ วา อหํ ชานิสฺสามี’’ติ ปกาเสนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๒๕๘.

‘‘ตุมฺเห โขตฺถ โฆรวิสา อุฬารา, มหาเตชา ขิปฺปโกปี จ โหถ;

มํการณา พนฺธนสฺมา ปมุตฺโต, อรหสิ โน ชานิตุเย กตานี’’ติ.

ตตฺถ อุฬาราติ อุฬารวิสา. ชานิตุเยติ ชานิตุํ.

อถ นํ สทฺทหาเปตุํ ปุน สปถํ กโรนฺโต มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๕๙.

‘‘โส ปจฺจตํ นิรเย โฆรรูเป, มา กายิกํ สาตมลตฺถ กิฺจิ;

เปฬาย พทฺโธ มรณํ อุเปตุ, โย ตาทิสํ กมฺมกตํ น ชาเน’’ติ.

ตตฺถ ปจฺจตนฺติ ปจฺจตุ. กมฺมกตนฺติ กตกมฺมํ เอวํ คุณการกํ ตุมฺหาทิสํ โย น ชานาติ, โส เอวรูโป โหตูติ วทติ.

อถสฺส ราชา สทฺทหิตฺวา ถุตึ กโรนฺโต คาถมาห –

๒๖๐.

‘‘สจฺจปฺปฏิฺา ตว เมส โหตุ, อกฺโกธโน โหหิ อนุปนาหี;

สพฺพฺจ เต นาคกุลํ สุปณฺณา, อคฺคึว คิมฺเหสุ วิวชฺชยนฺตู’’ติ.

ตตฺถ ตว เมส โหตูติ ตว เอสา ปฏิฺา สจฺจา โหตุ. อคฺคึว คิมฺเหสุ วิวชฺชยนฺตูติ ยถา มนุสฺสา คิมฺหกาเล สนฺตาปํ อนิจฺฉนฺตา ชลมานํ อคฺคึ วิวชฺเชนฺติ, เอวํ วิวชฺเชนฺตุ ทูรโตว ปริหรนฺตุ.

มหาสตฺโตปิ รฺโ ถุตึ กโรนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๒๖๑.

‘‘อนุกมฺปสี นาคกุลํ ชนินฺท, มาตา ยถา สุปฺปิยํ เอกปุตฺตํ;

อหฺจ เต นาคกุเลน สทฺธึ, กาหามิ เวยฺยาวฏิกํ อุฬาร’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา ราชา นาคภวนํ คนฺตุกาโม เสนํ คมนสชฺชํ กาตุํ อาณาเปนฺโต คาถมาห –

๒๖๒.

‘‘โยเชนฺตุ เว ราชรเถ สุจิตฺเต, กมฺโพชเก อสฺสตเร สุทนฺเต;

นาเค จ โยเชนฺตุ สุวณฺณกปฺปเน, ทกฺเขมุ นาคสฺส นิเวสนานี’’ติ.

ตตฺถ กมฺโพชเก อสฺสตเร สุทนฺเตติ สุสิกฺขิเต กมฺโพชรฏฺสมฺภเว อสฺสตเร โยเชนฺตุ.

อิตรา อภิสมฺพุทฺธคาถา –

๒๖๓.

‘‘เภรี มุทิงฺคา ปณวา จ สงฺขา, อวชฺชยึสุ อุคฺคเสนสฺส รฺโ;

ปายาสิ ราชา พหุ โสภมาโน, ปุรกฺขโต นาริคณสฺส มชฺเฌ’’ติ.

ตตฺถ พหุ โสภมาโนติ ภิกฺขเว, พาราณสิราชา โสฬสหิ นารีสหสฺเสหิ ปุรกฺขโต ปริวาริโต ตสฺส นารีคณสฺส มชฺเฌ พาราณสิโต นาคภวนํ คจฺฉนฺโต อติวิย โสภมาโน ปายาสิ.

ตสฺส นครา นิกฺขนฺตกาเลเยว มหาสตฺโต อตฺตโน อานุภาเวน นาคภวนํ สพฺพรตนมยํ ปาการฺจ ทฺวารฏฺฏาลเก จ ทิสฺสมานรูเป กตฺวา นาคภวนคามึ มคฺคํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ มาเปสิ. ราชา สปริโส เตน มคฺเคน นาคภวนํ ปวิสิตฺวา รมณียํ ภูมิภาคฺจ ปาสาเท จ อทฺทส. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๖๔.

‘‘สุวณฺณจิตกํ ภูมึ, อทฺทกฺขิ กาสิวฑฺฒโน;

โสวณฺณมยปาสาเท, เวฬุริยผลกตฺถเต.

๒๖๕.

‘‘ส ราชา ปาวิสิ พฺยมฺหํ, จมฺเปยฺยสฺส นิเวสนํ;

อาทิจฺจวณฺณสนฺนิภํ, กํสวิชฺชุปภสฺสรํ.

๒๖๖.

‘‘นานารุกฺเขหิ สฺฉนฺนํ, นานาคนฺธสมีริตํ;

โส ปาเวกฺขิ กาสิราชา, จมฺเปยฺยสฺส นิเวสนํ.

๒๖๗.

‘‘ปวิฏฺสฺมึ กาสิรฺเ, จมฺเปยฺยสฺส นิเวสนํ;

ทิพฺพา ตูริยา ปวชฺชึสุ, นาคกฺา จ นจฺจิสุํ.

๒๖๘.

‘‘ตํ นาคกฺา จริตํ คเณน, อนฺวารุหี กาสิราชา ปสนฺโน;

นิสีทิ โสวณฺณมยมฺหิ ปีเ, สาปสฺสเย จนฺทนสารลิตฺเต’’ติ.

ตตฺถ สุวณฺณจิตกนฺติ สุวณฺณวาลุกาย สนฺถตํ. พฺยมฺหนฺติ อลงฺกตนาคภวนํ. จมฺเปยฺยสฺสาติ นาคภวนํ ปวิสิตฺวา จมฺเปยฺยนาคราชสฺส นิเวสนํ ปาวิสิ. กํสวิชฺชุปภสฺสรนฺติ เมฆมุเข สฺจรณสุวณฺณวิชฺชุ วิย โอภาสมานํ. นานาคนฺธสมีริตนฺติ นานาวิเธหิ ทิพฺพคนฺเธหิ อนุสฺจริตํ. จริตํ คเณนาติ ตํ นิเวสนํ นาคกฺาคเณน จริตํ อนุสฺจริตํ. จนฺทนสารลิตฺเตติ ทิพฺพสารจนฺทเนน อนุลิตฺเต.

ตตฺถ นิสินฺนมตฺตสฺเสวสฺส นานคฺครสํ ทิพฺพโภชนํ อุปนาเมสุํ, ตถา โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เสสราชปริสาย จ. โส สตฺตาหมตฺตํ สปริโส ทิพฺพนฺนปานาทีนิ ปริภุฺชิตฺวา ทิพฺเพหิ กามคุเณหิ อภิรมิตฺวา สุขสยเน นิสินฺโน มหาสตฺตสฺส ยสํ วณฺเณตฺวา ‘‘นาคราช, ตฺวํ เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ปหาย มนุสฺสโลเก วมฺมิกมตฺถเก นิปชฺชิตฺวา กสฺมา อุโปสถวาสํ วสี’’ติ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๖๙.

‘‘โส ตตฺถ ภุตฺวา จ อโถ รมิตฺวา, จมฺเปยฺยกํ กาสิราชา อโวจ;

วิมานเสฏฺานิ อิมานิ ตุยฺหํ, อาทิจฺจวณฺณานิ ปภสฺสรานิ;

เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๒๗๐.

‘‘ตา กมฺพุกายูรธรา สุวตฺถา, วฏฺฏงฺคุลี ตมฺพตลูปปนฺนา;

ปคฺคยฺห ปาเยนฺติ อโนมวณฺณา, เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก;

กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๒๗๑.

‘‘นชฺโช จ เตมา ปุถุโลมมจฺฉา, อาฏาสกุนฺตาภิรุทา สุติตฺถา;

เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๒๗๒.

‘‘โกฺจา มยูรา ทิวิยา จ หํสา, วคฺคุสฺสรา โกกิลา สมฺปตนฺติ;

เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๒๗๓.

‘‘อมฺพา จ สาลา ติลกา จ ชมฺพุโย, อุทฺทาลกา ปาฏลิโย จ ผุลฺลา;

เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๒๗๔.

‘‘อิมา จ เต โปกฺขรฺโ สมนฺตโต, ทิพฺพา จ คนฺธา สตตํ ปวายนฺติ;

เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๒๗๕.

‘‘น ปุตฺตเหตุ น ธนสฺส เหตุ, น อายุโน จาปิ ชนินฺท เหตุ;

มนุสฺสโยนึ อภิปตฺถยาโน, ตสฺมา ปรกฺกมฺม ตโป กโรมี’’ติ.

ตตฺถ ตาติ โสฬสสหสฺสนาคกฺาโย สนฺธายาห. กมฺพุกายูรธราติ สุวณฺณาภรณธรา. วฏฺฏงฺคุลีติ ปวาฬงฺกุรสทิสวฏฺฏงฺคุลี. ตมฺพตลูปปนฺนาติ อภิรตฺเตหิ หตฺถปาทตเลหิ สมนฺนาคตา. ปาเยนฺตีติ ทิพฺพปานํ อุกฺขิปิตฺวา ตํ ปาเยนฺติ. ปุถุโลมมจฺฉาติ ปุถุลปตฺเตหิ นานามจฺเฉหิ สมนฺนาคตา. อาฏาสกุนฺตาภิรุทาติ อาฏาสงฺขาเตหิ สกุเณหิ อภิรุทา. สุติตฺถาติ สุนฺทรติตฺถา. ทิวิยา จ หํสาติ ทิพฺพหํสา จ. สมฺปตนฺตีติ มนุฺรวํ รวนฺตา รุกฺขโต รุกฺขํ สมฺปตนฺติ. ทิพฺพา จ คนฺธาติ ตาสุ โปกฺขรณีสุ สตตํ ทิพฺพคนฺธา วายนฺติ. อภิปตฺถยาโนติ ปตฺถยนฺโต วิจรามิ. ตสฺมาติ เตน การเณน ปรกฺกมฺม วีริยํ ปคฺคเหตฺวา ตโป กโรมิ, อุโปสถํ อุปวสามีติ.

เอวํ วุตฺเต ราชา อาห –

๒๗๖.

‘‘ตฺวํ โลหิตกฺโข วิหตนฺตรํโส, อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสุ;

สุโรสิโต โลหิตจนฺทเนน, คนฺธพฺพราชาว ทิสา ปภาสสิ.

๒๗๗.

‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, เสยฺโย อิโต เกน มนุสฺสโลโก’’ติ.

ตตฺถ สุโรสิโตติ สุวิลิตฺโต.

อถสฺส อาจิกฺขนฺโต นาคราชา อาห –

๒๗๘.

‘‘ชนินฺท นาฺตฺร มนุสฺสโลกา, สุทฺธีว สํวิชฺชติ สํยโม วา;

อหฺจ ลทฺธาน มนุสฺสโยนึ, กาหามิ ชาติมรณสฺส อนฺต’’นฺติ.

ตตฺถ สุทฺธี วาติ มหาราช, อฺตฺร มนุสฺสโลกา อมตมหานิพฺพานสงฺขาตา สุทฺธิ วา สีลสํยโม วา นตฺถิ. อนฺตนฺติ มนุสฺสโยนึ ลทฺธา ชาติมรณสฺส อนฺตํ กริสฺสามีติ ตโป กโรมีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อาห –

๒๗๙.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาริโย จ ทิสฺวาน ตุวฺจ นาค, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ตตฺถ นาริโย จาติ อิมา ตว นาคกฺาโย จ ตุวฺจ ทิสฺวา พหูนิ ปุฺานิ กริสฺสามีติ วทติ.

อถ นํ นาคราชา อาห –

๒๘๐.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาริโย จ ทิสฺวาน มมฺจ ราช, กโรหิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ตตฺถ กโรหีติ กเรยฺยาสิ, มหาราชาติ.

เอวํ วุตฺเต อุคฺคเสโน คนฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘นาคราช, จิรํ วสิมฺห, คมิสฺสามา’’ติ อาปุจฺฉิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ มหาราช, ยาวทิจฺฉกํ ธนํ คณฺหาหี’’ติ ธนํ ทสฺเสนฺโต อาห –

๒๘๑.

‘‘อิทฺจ เม ชาตรูปํ ปหูตํ, ราสี สุวณฺณสฺส จ ตาลมตฺตา;

อิโต หริตฺวาน สุวณฺณฆรานิ, กรสฺสุ รูปิยปาการํ กโรนฺตุ.

๒๘๒.

‘‘มุตฺตา จ วาหสหสฺสานิ ปฺจ, เวฬุริยมิสฺสานิ อิโต หริตฺวา;

อนฺเตปุเร ภูมิยํ สนฺถรนฺตุ, นิกฺกทฺทมา เหหิติ นีรชา จ.

๒๘๓.

‘‘เอตาทิสํ อาวส ราชเสฏฺ, วิมานเสฏฺํ พหุ โสภมานํ;

พาราณสึ นครํ อิทฺธํ ผีตํ, รชฺชฺจ กาเรหิ อโนมปฺา’’ติ.

ตตฺถ ราสีติ เตสุ เตสุ าเนสุ ตาลปมาณา ราสิโย. สุวณฺณฆรานีติ สุวณฺณเคหานิ. นิกฺกทฺทมาติ เอวํ เต อนฺเตปุเร ภูมิ นิกฺกทฺทมา จ นิรชา จ ภวิสฺสติ. เอตาทิสนฺติ เอวรูปํ สุวณฺณมยํ รชตปาการํ มุตฺตาเวฬุริยสนฺถตภูมิภาคํ. ผีตนฺติ ผีตํ พาราณสินครฺจ อาวส. อโนมปฺาติ อลามกปฺา.

ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา อธิวาเสสิ. อถ มหาสตฺโต นาคภวเน เภรึ จราเปสิ ‘‘สพฺพา ราชปริสา ยาวทิจฺฉกํ หิรฺสุวณฺณาทิกํ ธนํ คณฺหนฺตู’’ติ. รฺโ จ อเนเกหิ สกฏสเตหิ ธนํ เปเสสิ. ราชา มหนฺเตน ยเสน นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา พาราณสิเมว คโต. ตโต ปฏฺาย กิร ชมฺพุทีปตลํ สหิรฺํ ชาตํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ โปราณกปณฺฑิตา นาคสมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถวาสํ วสึสู’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อหิตุณฺฑิโก เทวทตฺโต อโหสิ, สุมนา ราหุลมาตา, อุคฺคเสโน สาริปุตฺโต, จมฺเปยฺยนาคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จมฺเปยฺยชาตกวณฺณนา ทสมา.

[๕๐๗] ๑๑. มหาปโลภนชาตกวณฺณนา

พฺรหฺมโลกา จวิตฺวานาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต วิสุทฺธสํกิเลสํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ เหฏฺา วิตฺถาริตเมว. อิธ ปน สตฺถา ‘‘ภิกฺขุ มาตุคาโม นาเมส วิสุทฺธสตฺเตปิ สํกิลิฏฺเ กโรตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยนฺติ จูฬปโลภเน (ชา. ๑.๓.๓๗ อาทโย) วุตฺตนเยเนว อตีตวตฺถุ วิตฺถาริตพฺพํ. ตทา ปน มหาสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา กาสิรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อนิตฺถิคนฺธกุมาโร นาม อโหสิ. อิตฺถีนํ หตฺเถ น สณฺาติ, ปุริสเวเสน นํ ถฺํ ปาเยนฺติ, ฌานาคาเร วสติ, อิตฺถิโย น ปสฺสติ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๘๔.

‘‘พฺรหฺมโลกา จวิตฺวาน, เทวปุตฺโต มหิทฺธิโก;

รฺโ ปุตฺโต อุทปาทิ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ.

๒๘๕.

‘‘กามา วา กามสฺา วา, พฺรหฺมโลเก น วิชฺชติ;

สฺวาสฺสุ ตาเยว สฺาย, กาเมหิ วิชิคุจฺฉถ.

๒๘๖.

‘‘ตสฺส จนฺเตปุเร อาสิ, ฌานาคารํ สุมาปิตํ;

โส ตตฺถ ปฏิสลฺลีโน, เอโก รหสิ ฌายถ.

๒๘๗.

‘‘ส ราชา ปริเทเวสิ, ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิโต;

เอกปุตฺโต จยํ มยฺหํ, น จ กามานิ ภุฺชตี’’ติ.

ตตฺถ สพฺพกามสมิทฺธิสูติ สพฺพกามานํ สมิทฺธีสุ สมฺปตฺตีสุ ิตสฺส รฺโ ปุตฺโต หุตฺวา เอโก เทวปุตฺโต นิพฺพตฺติ. สฺวาสฺสูติ โส กุมาโร. ตาเยวาติ ตาย พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตาย ฌานสฺาย เอว. สุมาปิตนฺติ ปิตรา สุฏฺุ มนาปํ กตฺวา มาปิตํ. รหสิ ฌายถาติ มาตุคามํ อปสฺสนฺโต วสิ. ปริเทเวสีติ วิลปิ.

ปฺจมา รฺโ ปริเทวนคาถา –

๒๘๘.

‘‘โก นุ ขฺเวตฺถ อุปาโย โส, โก วา ชานาติ กิฺจนํ;

โย เม ปุตฺตํ ปโลเภยฺย, ยถา กามานิ ปตฺถเย’’ติ.

ตตฺถ โก นุ ขฺเวตฺถ อุปาโยติ โก นุ โข เอตฺถ เอตสฺส กามานํ ภุฺชนอุปาโย. ‘‘โก นุ โข อิธุปาโย โส’’ติปิ ปาโ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘โก นุ โข เอตํ อุปวสิตฺวา อุปลาปนการณํ ชานาตี’’ติ วุตฺตํ. โก วา ชานาติ กิฺจนนฺติ โก วา เอตสฺส ปลิโพธการณํ ชานาตีติ อตฺโถ.

ตโต ปรํ ทิยฑฺฒคาถา อภิสมฺพุทฺธคาถา –

๒๘๙.

‘‘อหุ กุมารี ตตฺเถว, วณฺณรูปสมาหิตา;

กุสลา นจฺจคีตสฺส, วาทิเต จ ปทกฺขิณา.

๒๙๐.

‘‘สา ตตฺถ อุปสงฺกมฺม, ราชานํ เอตทพฺรวี’’ติ;

ตตฺถ อหูติ ภิกฺขเว, ตตฺเถว อนฺเตปุเร จูฬนาฏกานํ อนฺตเร เอกา ตรุณกุมาริกา อโหสิ. ปทกฺขิณาติ สุสิกฺขิตา.

‘‘อหํ โข นํ ปโลเภยฺยํ, สเจ ภตฺตา ภวิสฺสตี’’ติ. –

อุปฑฺฒคาถา กุมาริกาย วุตฺตา.

ตตฺถ สเจ ภตฺตาติ สเจ เอส มยฺหํ ปติ ภวิสฺสตีติ.

๒๙๑.

‘‘ตํ ตถาวาทินึ ราชา, กุมารึ เอตทพฺรวิ;

ตฺวฺเว นํ ปโลเภหิ, ตว ภตฺตา ภวิสฺสตีติ.

ตตฺถ ตว ภตฺตาติ ตเวส ปติ ภวิสฺสติ, ตฺวฺเว ตสฺส อคฺคมเหสี ภวิสฺสสิ, คจฺฉ นํ ปโลเภหิ, กามรสํ ชานาเปหีติ.

เอวํ วตฺวา ราชา ‘‘อิมิสฺสา กิร โอกาสํ กโรนฺตู’’ติ กุมารสฺส อุปฏฺากานํ เปเสสิ. สา ปจฺจูสกาเล วีณํ อาทาย คนฺตฺวา กุมารสฺส สยนคพฺภสฺส พหิ อวิทูเร ตฺวา อคฺคนเขหิ วีณํ วาเทนฺตี มธุรสเรน คายิตฺวา ตํ ปโลเภสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๙๒.

‘‘สา จ อนฺเตปุรํ คนฺตฺวา, พหุํ กามุปสํหิตํ;

หทยงฺคมา เปมนียา, จิตฺรา คาถา อภาสถ.

๒๙๓.

‘‘ตสฺสา จ คายมานาย, สทฺทํ สุตฺวาน นาริยา;

กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปชฺชิ, ชนํ โส ปริปุจฺฉถ.

๒๙๔.

‘‘กสฺเสโส สทฺโท โก วา โส, ภณติ อุจฺจาวจํ พหุํ;

หทยงฺคมํ เปมนียํ, อโห กณฺณสุขํ มม.

๒๙๕.

‘‘เอสา โข ปมทา เทว, ขิฑฺฑา เอสา อนปฺปิกา;

สเจ ตฺวํ กาเม ภุฺเชยฺย, ภิยฺโย ภิยฺโย ฉาเทยฺยุ ตํ.

๒๙๖.

‘‘อิงฺฆ อาคจฺฉโตเรน, อวิทูรมฺหิ คายตุ;

อสฺสมสฺส สมีปมฺหิ, สนฺติเก มยฺห คายตุ.

๒๙๗.

‘‘ติโรกุฏฺฏมฺหิ คายิตฺวา, ฌานาคารมฺหิ ปาวิสิ;

พนฺธิ นํ อนุปุพฺเพน, อารฺมิว กุฺชรํ.

๒๙๘.

‘‘ตสฺส กามรสํ ตฺวา, อิสฺสาธมฺโม อชายถ;

‘อหเมว กาเม ภุฺเชยฺยํ, มา อฺโ ปุริโส อหุ’.

๒๙๙.

‘‘ตโต อสึ คเหตฺวาน, ปุริเส หนฺตุํ อุปกฺกมิ;

อหเมเวโก ภุฺชิสฺสํ, มา อฺโ ปุริโส สิยา.

๓๐๐.

‘‘ตโต ชานปทา สพฺเพ, วิกฺกนฺทึสุ สมาคตา;

ปุตฺโต ตฺยายํ มหาราช, ชนํ เหเตฺยทูสกํ.

๓๐๑.

‘‘ตฺจ ราชา วิวาเหสิ, สมฺหา รฏฺา จ ขตฺติโย;

ยาวตา วิชิตํ มยฺหํ, น เต วตฺถพฺพ ตาวเท.

๓๐๒.

‘‘ตโต โส ภริยมาทาย, สมุทฺทํ อุปสงฺกมิ;

ปณฺณสาลํ กริตฺวาน, วนมุฺฉาย ปาวิสิ.

๓๐๓.

‘‘อเถตฺถ อิสิ มาคจฺฉิ, สมุทฺทํ อุปรูปริ;

โส ตสฺส เคหํ ปาเวกฺขิ, ภตฺตกาเล อุปฏฺิเต.

๓๐๔.

‘‘ตฺจ ภริยา ปโลเภสิ, ปสฺส ยาว สุทารุณํ;

จุโต โส พฺรหฺมจริยมฺหา, อิทฺธิยา ปริหายถ.

๓๐๕.

‘‘ราชปุตฺโต จ อุฺฉาโต, วนมูลผลํ พหุํ;

สายํ กาเชน อาทาย, อสฺสมํ อุปสงฺกมิ.

๓๐๖.

‘‘อิสี จ ขตฺติยํ ทิสฺวา, สมุทฺทํ อุปสงฺกมิ;

‘เวหายสํ คมิสฺส’นฺติ, สีทเต โส มหณฺณเว.

๓๐๗.

‘‘ขตฺติโย จ อิสึ ทิสฺวา, สีทมานํ มหณฺณเว;

ตสฺเสว อนุกมฺปาย, อิมา คาถา อภาสถ.

๓๐๘.

‘‘อภิชฺชมาเน วาริสฺมึ, สยํ อาคมฺม อิทฺธิยา;

มิสฺสีภาวิตฺถิยา คนฺตฺวา, สํสีทสิ มหณฺณเว.

๓๐๙.

‘‘อาวฏฺฏนี มหามายา, พฺรหฺมจริยวิโกปนา;

สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.

๓๑๐.

‘‘อนลา มุทุสมฺภาสา, ทุปฺปูรา ตา นทีสมา;

สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.

๓๑๑.

‘‘ยํ เอตา อุปเสวนฺติ, ฉนฺทสา วา ธเนน วา;

ชาตเวโทว สํ านํ, ขิปฺปํ อนุทหนฺติ ตํ.

๓๑๒.

‘‘ขตฺติยสฺส วโจ สุตฺวา, อิสิสฺส นิพฺพิทา อหุ;

ลทฺธา โปราณกํ มคฺคํ, คจฺฉเต โส วิหายสํ.

๓๑๓.

‘‘ขตฺติโย จ อิสึ ทิสฺวา, คจฺฉมานํ วิหายสํ;

สํเวคํ อลภี ธีโร, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ.

๓๑๔.

‘‘ตโต โส ปพฺพชิตฺวาน, กามราคํ วิราชยิ;

กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺราหฺมโลกูปโค อหู’’ติ.

ตตฺถ อนฺเตปุรนฺติ กุมารสฺส วสนฏฺานํ. พหุนฺติ พหุํ นานปฺปการํ. กามุปสํหิตนฺติ กามนิสฺสิตํ คีตํ ปวตฺตยมานา. กามจฺฉนฺทสฺสาติ อสฺส อนิตฺถิคนฺธกุมารสฺส กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชิ. ชนนฺติ อตฺตโน สนฺติกาวจรํ ปริจาริกชนํ. อุจฺจาวจนฺติ อุคฺคตฺจ อนุคฺคตฺจ. ภุฺเชยฺยาติ สเจ ภุฺเชยฺยาสิ. ฉาเทยฺยุ ตนฺติ เอเต กามา นาม ตว รุจฺเจยฺยุํ. โส ‘‘ปมทา’’ติ วจนํ สุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อิตรา ปุนทิวเสปิ คายิ. เอวํ กุมาโร ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ตสฺสา อาคมนํ โรเจนฺโต ปริจาริเก อามนฺเตตฺวา ‘‘อิงฺฆา’’ติ คาถมาห.

ติโรกุฏฺฏมฺหีติ สยนคพฺภกุฏฺฏสฺส พหิ. มา อฺโติ อฺโ กาเม ปริภุฺชนฺโต ปุริโส นาม มา สิยา. หนฺตุํ อุปกฺกมีติ อนฺตรวีถึ โอตริตฺวา มาเรตุํ อารภิ. วิกนฺทึสูติ กุมาเรน กติปเยสุ ปุริเสสุ ปหเตสุ ปุริสา ปลายิตฺวา เคหานิ ปวิสึสุ. โส ปุริเส อลภนฺโต โถกํ วิสฺสมิ. ตสฺมึ ขเณ ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา อุปกฺโกสึสุ. ชนํ เหเตฺยทูสกนฺติ นิรปราธํ ชนํ เหเติ, ตํ คณฺหาเปถาติ วทึสุ. ราชา อุปาเยน กุมารํ คณฺหาเปตฺวา ‘‘อิมสฺส กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, อฺํ นตฺถิ, อิมํ ปน กุมารํ ตาย กุมาริกาย สทฺธึ รฏฺา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ตถา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ‘‘ตฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิวาเหสีติ ปพฺพาเชสิ. น เต วตฺถพฺพ ตาวเทติ ยตฺตกํ มยฺหํ วิชิตํ, ตตฺตเก ตยา น วตฺถพฺพํ. อุฺฉายาติ ผลาผลตฺถาย.

ตสฺมึ ปน วนํ ปวิฏฺเ อิตรา ยํ ตตฺถ ปจิตพฺพยุตฺตกํ อตฺถิ, ตํ ปจิตฺวา ตสฺสาคมนํ โอโลเกนฺตี ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทติ. เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต เอกทิวสํ อนฺตรทีปกวาสี เอโก อิทฺธิมนฺตตาปโส อสฺสมปทโต นิกฺขมิตฺวา มณิผลกํ วิย อุทกํ มทฺทมาโนว อากาเส อุปฺปติตฺวา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺโต ปณฺณสาลาย อุปริภาคํ ปตฺวา ธูมํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน มนุสฺสา วสนฺติ มฺเ’’ติ ปณฺณสาลทฺวาเร โอตริ. สา ตํ ทิสฺวา นิสีทาเปตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา อิตฺถิกุตฺตํ ทสฺเสตฺวา เตน สทฺธึ อนาจารํ อจริ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ‘‘อเถตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิสิ มาคจฺฉีติ อิสิ อาคจฺฉิ. สมุทฺทํ อุปรูปรีติ สมุทฺทสฺส มตฺถกมตฺถเกน. ปสฺส ยาว สุทารุณนฺติ ปสฺสถ, ภิกฺขเว, ตาย กุมาริกาย ยาว สุทารุณํ กมฺมํ กตนฺติ อตฺโถ.

สายนฺติ สายนฺหสมเย. ทิสฺวาติ ตํ วิชหิตุํ อสกฺโกนฺโต สกลทิวสํ ตตฺเถว หุตฺวา สายนฺหสมเย ราชปุตฺตํ อาคตํ ทิสฺวา ปลายิตุํ ‘‘เวหายสํ คมิสฺส’’นฺติ อุปฺปตนาการํ กโรนฺโต ปติตฺวา มหณฺณเว สีทติ. อิสึ ทิสฺวาติ อนุพนฺธมาโน คนฺตฺวา ปสฺสิตฺวา. อนุกมฺปายาติ สจายํ ภูมิยา อาคโต อภวิสฺส, ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิเสยฺย, อากาเสน อาคโต ภวิสฺสติ, ตสฺมา สมุทฺเท ปติโตปิ อุปฺปตนาการเมว กโรตีติ อนุกมฺปํ อุปฺปาเทตฺวา ตสฺเสว อนุกมฺปาย อภาสถ. ตาสํ ปน คาถานํ อตฺโถ ติกนิปาเต วุตฺโตเยว. นิพฺพิทา อหูติ กาเมสุ นิพฺเพโท ชาโต. โปราณกํ มคฺคนฺติ ปุพฺเพ อธิคตํ ฌานวิเสสํ. ปพฺพชิตฺวานาติ ตํ อิตฺถึ มนุสฺสาวาสํ เนตฺวา นิวตฺติตฺวา อรฺเ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กามราคํ วิราชยิ, วิราเชตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสีติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, มาตุคามํ ปฏิจฺจ วิสุทฺธสตฺตาปิ สํกิลิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต. ตทา อนิตฺถิคนฺธกุมาโร อหเมว อโหสินฺติ.

มหาปโลภนชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.

[๕๐๘] ๑๒. ปฺจปณฺฑิตชาตกวณฺณนา

๓๑๕-๓๓๖. ปฺจปณฺฑิตชาตกํ มหาอุมงฺเค อาวิ ภวิสฺสติ.

ปฺจปณฺฑิตชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมา.

[๕๐๙] ๑๓. หตฺถิปาลชาตกวณฺณนา

จิรสฺสํ วต ปสฺสามาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ เอสุการี นาม ราชา อโหสิ. ตสฺส ปุโรหิโต ทหรกาลโต ปฏฺาย ปิยสหาโย. เต อุโภปิ อปุตฺตกา อเหสุํ. เต เอกทิวสํ สุขสยเน นิสินฺนา มนฺตยึสุ ‘‘อมฺหากํ อิสฺสริยํ มหนฺตํ, ปุตฺโต วา ธีตา วา นตฺถิ, กึ นุ โข กตฺตพฺพ’’นฺติ. ตโต ราชา ปุโรหิตํ อาห – ‘‘สมฺม, สเจ ตว เคเห ปุตฺโต ชายิสฺสติ, มม รชฺชสฺส สามิโก ภวิสฺสติ, สเจ มม ปุตฺโต ชายิสฺสติ, ตว เคเห โภคานํ สามิโก ภวิสฺสตี’’ติ. เอวํ อุโภปิ อฺมฺํ สงฺกรึสุ.

อเถกทิวสํ ปุโรหิโต โภคคามํ คนฺตฺวา อาคมนกาเล ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสนฺโต พหินคเร เอกํ พหุปุตฺติกํ นาม ทุคฺคติตฺถึ ปสฺสิ. ตสฺสา สตฺต ปุตฺตา สพฺเพว อโรคา, เอโก ปจนภาชนกปลฺลํ คณฺหิ, เอโก สยนกฏสารกํ, เอโก ปุรโต คจฺฉติ, เอโก ปจฺฉโต, เอโก องฺคุลึ คณฺหิ, เอโก องฺเก นิสินฺโน, เอโก ขนฺเธ. อถ นํ ปุโรหิโต ปุจฺฉิ ‘‘ภทฺเท, อิเมสํ ทารกานํ ปิตา กุหิ’’นฺติ? ‘‘สามิ, อิเมสํ ปิตา นาม นิพทฺโธ นตฺถี’’ติ. ‘‘เอวรูเป สตฺต ปุตฺเต กินฺติ กตฺวา อลตฺถา’’ติ? สา อฺํ คหณํ อปสฺสนฺตี นครทฺวาเร ิตํ นิคฺโรธรุกฺขํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สามิ เอตสฺมึ นิคฺโรเธ อธิวตฺถาย เทวตาย สนฺติเก ปตฺเถตฺวา ลภึ, เอตาย เม ปุตฺตา ทินฺนา’’ติ อาห. ปุโรหิโต ‘‘เตน หิ คจฺฉ ตฺว’’นฺติ รถา โอรุยฺห นิคฺโรธมูลํ คนฺตฺวา สาขาย คเหตฺวา จาเลตฺวา ‘‘อมฺโภ เทวเต, ตฺวํ รฺโ สนฺติกา กึ นาม น ลภสิ, ราชา เต อนุสํวจฺฉรํ สหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา พลิกมฺมํ กโรติ, ตสฺส ปุตฺตํ น เทสิ, เอตาย ทุคฺคติตฺถิยา ตว โก อุปกาโร กโต, เยนสฺสา สตฺต ปุตฺเต อทาสิ. สเจ อมฺหากํ รฺโ ปุตฺตํ น เทสิ, อิโต ตํ สตฺตเม ทิวเส สมูลํ ฉินฺทาเปตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กาเรสฺสามี’’ติ รุกฺขเทวตํ ตชฺเชตฺวา ปกฺกามิ. โส เอเตน นิยาเมเนว ปุนทิวเสปีติ ปฏิปาฏิยา ฉ ทิวเส กเถสิ. ฉฏฺเ ปน ทิวเส สาขาย คเหตฺวา ‘‘รุกฺขเทวเต อชฺเชกรตฺติมตฺตกเมว เสสํ, สเจ เม รฺโ ปุตฺตํ น เทสิ, สฺเว ตํ นิฏฺาเปสฺสามี’’ติ อาห.

รุกฺขเทวตา อาวชฺเชตฺวา ตํ การณํ ตถโต ตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปุตฺตํ อลภนฺโต มม วิมานํ นาเสสฺสติ, เกน นุ โข อุปาเยน ตสฺส ปุตฺตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จตุนฺนํ มหาราชานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. เต ‘‘มยํ ตสฺส ปุตฺตํ ทาตุํ น สกฺขิสฺสามา’’ติ วทึสุ. อฏฺวีสติยกฺขเสนาปตีนํ สนฺติกํ อคมาสิ, เตปิ ตเถวาหํสุ. สกฺกสฺส เทวรฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา กเถสิ. โสปิ ‘‘ลภิสฺสติ นุ โข ราชา อนุจฺฉวิเก ปุตฺเต, อุทาหุ โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ปุฺวนฺเต จตฺตาโร เทวปุตฺเต ปสฺสิ. เต กิร ปุริมภเว พาราณสิยํ เปสการา หุตฺวา เตน กมฺเมน ลทฺธกํ ปฺจโกฏฺาสํ กตฺวา จตฺตาโร โกฏฺาเส ปริภุฺชึสุ. ปฺจมํ คเหตฺวา เอกโตว ทานํ อทํสุ. เต ตโต จุตา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺตึสุ, ตโต ยามภวเนติ เอวํ อนุโลมปฏิโลมํ ฉสุ เทวโลเกสุ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตา วิจรนฺติ. ตทา ปน เนสํ ตาวตึสภวนโต จวิตฺวา ยามภวนํ คมนวาโร โหติ. สกฺโก เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปกฺโกสิตฺวา ‘‘มาริสา, ตุมฺเหหิ มนุสฺสโลกํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, เอสุการีรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตถา’’ติ อาห. เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สาธุ เทว, คมิสฺสาม, น ปนมฺหากํ ราชกุเลนตฺโถ, ปุโรหิตสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา ทหรกาเลเยว กาเม ปหาย ปพฺพชิสฺสามา’’ติ วทึสุ. สกฺโก ‘‘สาธู’’ติ เตสํ ปฏิฺํ คเหตฺวา อาคนฺตฺวา รุกฺขเทวตาย ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สา ตุฏฺมานสา สกฺกํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน วิมานเมว คตา.

ปุโรหิโตปิ ปุนทิวเส พลวปุริเส สนฺนิปาตาเปตฺวา วาสิผรสุอาทีนิ คาหาเปตฺวา รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา รุกฺขสาขาย คเหตฺวา ‘‘อมฺโภ เทวเต, อชฺช มยฺหํ ตํ ยาจนฺตสฺส สตฺตโม ทิวโส, อิทานิ เต นิฏฺานกาโล’’ติ อาห. ตโต รุกฺขเทวตา มหนฺเตนานุภาเวน ขนฺธวิวรโต นิกฺขมิตฺวา มธุรสเรน ตํ อามนฺเตตฺวา ‘พฺราหฺมณ, ติฏฺตุ เอโก ปุตฺโต, จตฺตาโร เต ปุตฺเต ทสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘มม ปุตฺเตนตฺโถ นตฺถิ, อมฺหากํ รฺโ ปุตฺตํ เทหี’’ติ. ‘‘ตุยฺหํเยว เทมี’’ติ. ‘‘เตน หิ มม ทฺเว, รฺโ ทฺเว เทหี’’ติ. ‘‘รฺโ น เทมิ, จตฺตาโรปิ ตุยฺหเมว ทมฺมิ, ตยา จ ลทฺธมตฺตาว ภวิสฺสนฺติ, อคาเร ปน อฏฺตฺวา ทหรกาเลเยว ปพฺพชิสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘ตฺวํ เม เกวลํ ปุตฺเต เทหิ, อปพฺพชนการณํ ปน อมฺหากํ ภาโร’’ติ. สา ตสฺส ปุตฺตวรํ ทตฺวา อตฺตโน ภวนํ ปาวิสิ. ตโต ปฏฺาย เทวตาย สกฺกาโร มหา อโหสิ.

เชฏฺกเทวปุตฺโต จวิตฺวา ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. ตสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘หตฺถิปาโล’’ติ นามํ กตฺวา อปพฺพชนตฺถาย หตฺถิโคปเก ปฏิจฺฉาเปสุํ. โส เตสํ สนฺติเก วฑฺฒติ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล ทุติโย จวิตฺวา อสฺสา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ตสฺสปิ ชาตกาเล ‘‘อสฺสปาโล’’ติ นามํ กรึสุ. โส อสฺสโคปกานํ สนฺติเก วฑฺฒติ. ตติยสฺส ชาตกาเล ‘‘โคปาโล’’ติ นามํ กรึสุ. โส โคปาเลหิ สทฺธึ วฑฺฒติ. จตุตฺถสฺส ชาตกาเล ‘‘อชปาโล’’ติ นามํ กรึสุ. โส อชปาเลหิ สทฺธึ วฑฺฒติ. เต วุฑฺฒิมนฺวาย โสภคฺคปฺปตฺตา อเหสุํ.

อถ เนสํ ปพฺพชิตภเยน รฺโ วิชิตา ปพฺพชิเต นีหรึสุ. สกลกาสิรฏฺเ เอกปพฺพชิโตปิ นาโหสิ. เต กุมารา อติผรุสา อเหสุํ, ยาย ทิสาย คจฺฉนฺติ, ตาย อาหริยมานํ ปณฺณาการํ วิลุมฺปนฺติ. หตฺถิปาลสฺส โสฬสวสฺสกาเล กายสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ราชา จ ปุโรหิโต จ ‘‘กุมารา มหลฺลกา ชาตา, ฉตฺตุสฺสาปนสมโย, เตสํ กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ มนฺเตตฺวา ‘‘เอเต อภิสิตฺตกาลโต ปฏฺาย อติสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, ตโต ตโต ปพฺพชิตา อาคมิสฺสนฺติ, เต ทิสฺวา ปพฺพชิสฺสนฺติ, เอเตสํ ปพฺพชิตกาเล ชนปโท อุลฺโลโฬ ภวิสฺสติ, วีมํสิสฺสาม ตาว เน, ปจฺฉา อภิสิฺจิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา อุโภปิ อิสิเวสํ คเหตฺวา ภิกฺขํ จรนฺตา หตฺถิปาลสฺส กุมารสฺส นิเวสนทฺวารํ อคมํสุ. กุมาโร เต ทิสฺวาว ตุฏฺโ ปสนฺโน อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๓๓๗.

‘‘จิรสฺสํ วต ปสฺสาม, พฺราหฺมณํ เทววณฺณินํ;

มหาชฏํ ขาริธรํ, ปงฺกทนฺตํ รชสฺสิรํ.

๓๓๘.

‘‘จิรสฺสํ วต ปสฺสาม, อิสึ ธมฺมคุเณ รตํ;

กาสายวตฺถวสนํ, วากจีรํ ปฏิจฺฉทํ.

๓๓๙.

‘‘อาสนํ อุทกํ ปชฺชํ, ปฏิคณฺหาตุ โน ภวํ;

อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภว’’นฺติ.

ตตฺถ พฺราหฺมณนฺติ พาหิตปาปพฺราหฺมณํ. เทววณฺณินนฺติ เสฏฺวณฺณินํ โฆรตปํ ปรมติกฺขินฺทฺริยํ ปพฺพชิตภาวํ อุปคตนฺติ อตฺโถ. ขาริธรนฺติ ขาริภารธรํ. อิสินฺติ สีลกฺขนฺธาทโย ปริเยสิตฺวา ิตํ. ธมฺมคุเณ รตนฺติ สุจริตโกฏฺาเส อภิรตํ. ‘‘อาสน’’นฺติ อิทํ เตสํ นิสีทนตฺถาย อาสนํ ปฺเปตฺวา คนฺโธทกฺจ ปาทพฺภฺชนฺจ อุปเนตฺวา อาห. อคฺเฆติ อิเม สพฺเพปิ อาสนาทโย อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม. กุรุตุ โนติ อิเม โน อคฺเฆ ภวํ ปฏิคฺคณฺหตูติ.

เอวํ โส เตสุ เอเกกํ วาเรนาห. อถ นํ ปุโรหิโต อาห – ‘‘ตาต หตฺถิปาล ตฺวํ อมฺเห ‘เก อิเม’ติ มฺมาโน เอวํ กเถสี’’ติ. ‘‘เหมวนฺตกา อิสโย’’ติ. ‘‘น มยํ, ตาต, อิสโย, เอส ราชา เอสุการี, อหํ เต ปิตา ปโรหิโต’’ติ. ‘‘อถ กสฺมา อิสิเวสํ คณฺหิตฺถา’’ติ? ‘‘ตว วีมํสนตฺถายา’’ติ. ‘‘มม กึ วีมํสถา’’ติ? ‘‘สเจ อมฺเห ทิสฺวา น ปพฺพชิสฺสสิ, อถ ตํ รชฺเช อภิสิฺจิตุํ อาคตามฺหา’’ติ. ‘‘ตาต น เม รชฺเชนตฺโถ, ปพฺพชิสฺสามหนฺติ. อถ นํ ปิตา ‘‘ตาต หตฺถิปาล, นายํ กาโล ปพฺพชฺชายา’’ติ วตฺวา ยถาชฺฌาสยํ อนุสาสนฺโต จตุตฺถคาถมาห –

๓๔๐.

‘‘อธิจฺจ เวเท ปริเยส วิตฺตํ, ปุตฺเต เคเห ตาต ปติฏฺเปตฺวา;

คนฺเธ รเส ปจฺจนุภุยฺย สพฺพํ, อรฺํ สาธุ มุนิ โส ปสตฺโถ’’ติ.

ตตฺถ อธิจฺจาติ สชฺฌายิตฺวา. ปุตฺเตติ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา นาฏเก วาเรน อุปฏฺาเปตฺวา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิตฺวา เต ปุตฺเต เคเห ปติฏฺาเปตฺวาติ อตฺโถ. สพฺพนฺติ เอเต จ คนฺธรเส เสสฺจ สพฺพํ วตฺถุกามํ อนุภวิตฺวา. อรฺํ สาธุ มุนิ โส ปสตฺโถติ ปจฺฉา มหลฺลกกาเล ปพฺพชิตสฺส อรฺํ สาธุ ลทฺธกํ โหติ. โย เอวรูเป กาเล ปพฺพชติ, โส มุนิ พุทฺธาทีหิ อริเยหิ ปสตฺโถติ วทติ.

ตโต หตฺถิปาโล คาถมาห –

๓๔๑.

‘‘เวทา น สจฺจา น จ วิตฺตลาโภ, น ปุตฺตลาเภน ชรํ วิหนฺติ;

คนฺเธ รเส มุจฺจนมาหุ สนฺโต, สกมฺมุนา โหติ ผลูปปตฺตี’’ติ.

ตตฺถ น สจฺจาติ ยํ สคฺคฺจ มคฺคฺจ วทนฺติ, น ตํ สาเธนฺติ, ตุจฺฉา นิสฺสารา นิปฺผลา. น จ วิตฺตลาโภติ ธนลาโภปิ ปฺจสาธารณตฺตา สพฺโพ เอกสภาโว น โหติ. ชรนฺติ ตาต, ชรํ วา พฺยาธิมรณํ วา น โกจิ ปุตฺตลาเภน ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ นาม อตฺถิ. ทุกฺขมูลา เหเต อุปธโย. คนฺเธ รเสติ คนฺเธ จ รเส จ เสเสสุ อารมฺมเณสุ จ มุจฺจนํ มุตฺติเมว พุทฺธาทโย ปณฺฑิตา กเถนฺติ. สกมฺมุนาติ อตฺตนา กตกมฺเมเนว สตฺตานํ ผลูปปตฺติ ผลนิปฺผตฺติ โหติ. กมฺมสฺสกา หิ, ตาต, สตฺตาติ.

กุมารสฺส วจนํ สุตฺวา ราชา คาถมาห –

๓๔๒.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ วจนํ ตเวตํ, สกมฺมุนา โหติ ผลูปปตฺติ;

ชิณฺณา จ มาตาปิตโร ตวีเม, ปสฺเสยฺยุํ ตํ วสฺสสตํ อโรค’’นฺติ.

ตตฺถ วสฺสสตํ อโรคนฺติ เอเต วสฺสสตํ อโรคํ ตํ ปสฺเสยฺยุํ, ตฺวมฺปิ วสฺสสตํ ชีวนฺโต มาตาปิตโร โปสสฺสูติ วทติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร ‘‘เทว, ตฺวํ กึ นาเมตํ วทสี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๓๔๓.

‘‘ยสฺสสฺส สกฺขี มรเณน ราช, ชราย เมตฺตี นรวีรเสฏฺ;

โย จาปิ ชฺา น มริสฺสํ กทาจิ, ปสฺเสยฺยุํ ตํ วสฺสสตํ อโรคํ.

๓๔๔.

‘‘ยถาปิ นาวํ ปุริโส ทกมฺหิ, เอเรติ เจ นํ อุปเนติ ตีรํ;

เอวมฺปิ พฺยาธี สตตํ ชรา จ, อุปเนติ มจฺจํ วสมนฺตกสฺสา’’ติ.

ตตฺถ สกฺขีติ มิตฺตธมฺโม. มรเณนาติ ทตฺโต มโต มิตฺโต มโตติ สมฺมุติมรเณน. ชรายาติ ปากฏชราย วา สทฺธึ ยสฺส เมตฺตี ภเวยฺย, ยสฺเสตํ มรณฺจ ชรา จ มิตฺตภาเวน นาคจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. เอเรติ เจ นนฺติ มหาราช, ยถา นาม ปุริโส นทีติตฺเถ อุทกมฺหิ นาวํ เปตฺวา ปรตีรคามึ ชนํ อาโรเปตฺวา สเจ อริตฺเตน อุปฺปีเฬนฺโต ผิเยน กฑฺฒนฺโต จาเลติ ฆฏฺเฏติ, อถ นํ ปรตีรํ เนติ. เอวํ พฺยาธิ ชรา จ นิจฺจํ อนฺตกสฺส มจฺจุโน วสํ อุปเนติเยวาติ.

เอวํ อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตสงฺขารสฺส ปริตฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘มหาราช, ตุมฺเห ติฏฺถ, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กถยนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺติ, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ โอวาทํ ทตฺวา ราชานฺจ ปิตรฺจ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ปริจารเก คเหตฺวา พาราณสิยํ รชฺชํ ปหาย ‘‘ปพฺพชิสฺสามี’’ติ นครโต นิกฺขมิ. ‘‘ปพฺพชฺชา นาเมสา โสภนา ภวิสฺสตี’’ติ หตฺถิปาลกุมาเรน สทฺธึ มหาชโน นิกฺขมิ. โยชนิกา ปริสา อโหสิ. โส ตาย ปริสาย สทฺธึ คงฺคาย ตีรํ ปตฺวา คงฺคาย อุทกํ โอโลเกตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ สมาคโม มหา ภวิสฺสติ, มม ตโย กนิฏฺภาตโร มาตาปิตโร ราชา เทวีติ สพฺเพ สปริสา ปพฺพชิสฺสนฺติ, พาราณสี สุฺา ภวิสฺสติ, ยาว เอเตสํ อาคมนา อิเธว ภวิสฺสามี’’ติ. โส ตตฺเถว มหาชนสฺส โอวาทํ เทนฺโต นิสีทิ.

ปุนทิวเส ราชา จ ปุโรหิโต จ จินฺตยึสุ ‘‘หตฺถิปาลกุมาโร ตาว ‘รชฺชํ ปหาย มหาชนํ อาทาย ปพฺพชิสฺสามี’ติ คนฺตฺวา คงฺคาตีเร นิสินฺโน, อสฺสปาลํ วีมํสิตฺวา อภิสิฺจิสฺสามา’’ติ. เต อิสิเวเสเนว ตสฺสปิ เคหทฺวารํ อคมํสุ. โสปิ เต ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘จิรสฺสํ วต ปสฺสามา’’ติอาทีนิ วทนฺโต ตเถว ปฏิปชฺชิ. เตปิ ตํ ตเถว วตฺวา อตฺตโน อาคตการณํ กถยึสุ. โส ‘‘มม ภาติเก หตฺถิปาลกุมาเร สนฺเต กถํ ปมตรํ มยฺหเมว เสตจฺฉตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตาต, ภาตา, เต ‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, ปพฺพชิสฺสามี’ติ วตฺวา นิกฺขนฺโต’’ติ วุตฺเต ‘‘กหํ ปเนโส อิทานี’’ติ วตฺวา ‘‘คงฺคาตีเร นิสินฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘ตาต, มม ภาตรา ฉฑฺฑิตเขเฬน กมฺมํ นตฺถิ, พาลา หิ ปริตฺตกปฺา สตฺตา เอตํ กิเลสํ ชหิตุํ น สกฺโกนฺติ, อหํ ปน ชหิสฺสามี’’ติ รฺโ จ ปิตุ จ ธมฺมํ เทเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๓๔๕.

‘‘ปงฺโก จ กามา ปลิโป จ กามา, มโนหรา ทุตฺตรา มจฺจุเธยฺยา;

เอตสฺมึ ปงฺเก ปลิเป พฺยสนฺนา, หีนตฺตรูปา น ตรนฺติ ปารํ.

๓๔๖.

‘‘อยํ ปุเร ลุทฺทมกาสิ กมฺมํ, สฺวายํ คหีโต น หิ โมกฺขิโต เม;

โอรุนฺธิยา นํ ปริรกฺขิสฺสามิ, มายํ ปุน ลุทฺทมกาสิ กมฺม’’นฺติ.

ตตฺถ ปงฺโกติ โย โกจิ กทฺทโม. ปลิโปติ สุขุมวาลุกมิสฺโส สณฺหกทฺทโม. ตตฺถ กามา ลคฺคาปนวเสน ปงฺโก นาม, โอสีทาปนวเสน ปลิโป นามาติ วุตฺตา. ทุตฺตราติ ทุรติกฺกมา. มจฺจุเธยฺยาติ มจฺจุโน อธิฏฺานา. เอเตสุ หิ ลคฺคา เจว อนุปวิฏฺา จ สตฺตา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺตา ทุกฺขกฺขนฺธปริยาเย วุตฺตปฺปการํ ทุกฺขฺเจว มรณฺจ ปาปุณนฺติ. เตนาห – ‘‘เอตสฺมึ ปงฺเก ปลิเป พฺยสนฺนา หีนตฺตรูปา น ตรนฺติ ปาร’’นฺติ. ตตฺถ พฺยสนฺนาติ สนฺนา. ‘‘วิสนฺนา’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. หีนตฺตรูปาติ หีนจิตฺตสภาวา. น ตรนฺติ ปารนฺติ นิพฺพานปารํ คนฺตุํ น สกฺโกนฺติ.

อยนฺติ มหาราช, อยํ มมตฺตภาโว ปุพฺเพ อสฺสโคปเกหิ สทฺธึ วฑฺฒนฺโต มหาชนสฺส วิลุมฺปนวิเหนาทิวเสน พหุํ ลุทฺทํ สาหสิกกมฺมํ อกาสิ. สฺวายํ คหีโตติ โส อยํ ตสฺส กมฺมสฺส วิปาโก มยา คหิโต. น หิ โมกฺขิโต เมติ สํสารวฏฺเฏ สติ น หิ โมกฺโข อิโต อกุสลผลโต มม อตฺถิ. โอรุนฺธิยา นํ ปริรกฺขิสฺสามีติ อิทานิ นํ กายวจีมโนทฺวารานิ ปิทหนฺโต โอรุนฺธิตฺวา ปริรกฺขิสฺสามิ. กึการณา? มายํ ปุน ลุทฺทมกาสิ กมฺมํ. อหฺหิ อิโต ปฏฺาย ปาปํ อกตฺวา กลฺยาณเมว กริสฺสามิ.

เอวํ อสฺสปาลกุมาโร ทฺวีหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺตี’’ติ โอวาทํ ทตฺวา โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา หตฺถิปาลกุมารสฺเสว สนฺติกํ คโต. โส ตสฺส อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ภาติก, อยํ สมาคโม มหา ภวิสฺสติ, อิเธว ตาว โหมา’’ติ อาห. อิตโรปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ปุนทิวเส ราชา จ ปุโรหิโต จ เตเนวุปาเยน โคปาลกุมารสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา เตนปิ ตเถว ปฏินนฺทิตฺวา อตฺตโน อาคมนการณํ อาจิกฺขึสุ. โสปิ อสฺสปาลกุมาโร วิย ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อหํ จิรโต ปฏฺาย ปพฺพชิตุกาโม วเน นฏฺโคณํ วิย ปพฺพชฺชํ อุปธาเรนฺโต วิจรามิ, เตน เม นฏฺโคณสฺส ปทํ วิย ภาติกานํ คตมคฺโค ทิฏฺโ, สฺวาหํ เตเนว มคฺเคน คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๔๗.

‘‘ควํว นฏฺํ ปุริโส ยถา วเน, อนฺเวสตี ราช อปสฺสมาโน;

เอวํ นฏฺโ เอสุการี มมตฺโถ, โสหํ กถํ น คเวเสยฺยํ ราชา’’ติ.

ตตฺถ เอสุการีติ ราชานํ อาลปติ. มมตฺโถติ วเน โคโณ วิย มม ปพฺพชฺชาสงฺขาโต อตฺโถ นฏฺโ. โสหนฺติ โส อหํ อชฺช ปพฺพชิตานํ มคฺคํ ทิสฺวา กถํ ปพฺพชฺชํ น คเวเสยฺยํ, มม ภาติกานํ คตมคฺคเมว คมิสฺสามิ นรินฺทาติ.

อถ นํ ‘‘ตาต โคปาล, เอกาหํ ทฺวีหํ อาคเมหิ, อมฺเห สมสฺสาเสตฺวา ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสี’’ติ วทึสุ. โส ‘‘มหาราช, อชฺช กตฺตพฺพกมฺมํ ‘สฺเว กริสฺสามี’ติ น วตฺตพฺพํ, กลฺยาณกมฺมํ นาม อชฺเชว กตฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๓๔๘.

‘‘หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส, ปเรติ ปริหายติ;

อนาคตํ เนตมตฺถีติ ตฺวา, อุปฺปนฺนฉนฺทํ โก ปนุเทยฺย ธีโร’’ติ.

ตตฺถ หิยฺโยติ สฺเวติ อตฺโถ. ปเรติ ปุนทิวเส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘โย มหาราช, อชฺช กตฺตพฺพํ กมฺมํ ‘สฺเว’ติ, สฺเว กตฺตพฺพํ กมฺมํ ‘ปเร’ติ วตฺวา น กโรติ, โส ตโต ปริหายติ, น ตํ กมฺมํ กาตุํ สกฺโกตี’’ติ. เอวํ โคปาโล ภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๒๗๒ อาทโย) นาม กเถสิ. สฺวายมตฺโถ ภทฺเทกรตฺตสุตฺเตน กเถตพฺโพ. อนาคตํ เนตมตฺถีติ ยํ อนาคตํ, ตํ ‘‘เนตํ อตฺถี’’ติ ตฺวา อุปฺปนฺนํ กุสลจฺฉนฺทํ โก ปณฺฑิโต ปนุเทยฺย หเรยฺย.

เอวํ โคปาลกุมาโร ทฺวีหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺตี’’ติ โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา ทฺวินฺนํ ภาติกานํ สนฺติกํ คโต. หตฺถิปาโล ตสฺสปิ ธมฺมํ เทเสสิ. ปุนทิวเส ราชา จ ปุโรหิโต จ เตเนวุปาเยน อชปาลกุมารสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา เตนปิ ตเถว ปฏินนฺทิตฺวา อตฺตโน อาคมนการณํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ฉตฺตํ เต อุสฺสาเปสฺสามา’’ติ วทึสุ. กุมาโร อาห – ‘‘มยฺหํ ภาติกา กุหิ’’นฺติ? เต ‘‘อมฺหากํ รชฺเชนตฺโถ นตฺถี’’ติ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย ติโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา คงฺคาตีเร นิสินฺนาติ. นาหํ มม ภาติเกหิ ฉฑฺฑิตเขฬํ สีเสนาทาย วิจริสฺสามิ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามีติ. ตาต, ตฺวํ ตาว ทหโร, อมฺหากํ หตฺถภาโร, วยปฺปตฺตกาเล ปพฺพชิสฺสสีติ. อถ เน กุมาโร ‘‘กึ ตุมฺเห กเถถ, นนุ อิเม สตฺตา ทหรกาเลปิ มหลฺลกกาเลปิ มรนฺติเยว, ‘อยํ ทหรกาเล มริสฺสติ, อยํ มหลฺลกกาเล’ติ กสฺสจิ หตฺเถ วา ปาเท วา นิมิตฺตํ นตฺถิ, อหํ มม มรณกาลํ น ชานามิ, ตสฺมา อิทาเนว ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๓๔๙.

‘‘ปสฺสามิ โวหํ ทหรํ กุมารึ, มตฺตูปมํ เกตกปุปฺผเนตฺตํ;

อภุตฺตโภเค ปเม วยสฺมึ, อาทาย มจฺจุ วชเต กุมารึ.

๓๕๐.

‘‘ยุวา สุชาโต สุมุโข สุทสฺสโน, สาโม กุสุมฺภปริกิณฺณมสฺสุ;

หิตฺวาน กาเม ปฏิกจฺจ เคหํ, อนุชาน มํ ปพฺพชิสฺสามิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ, ปสฺสามิจฺเจวาติ อตฺโถ. มตฺตูปมนฺติ หาสภาสวิลาเสหิ มตฺตํ วิย จรนฺตึ. เกตกปุปฺผเนตฺตนฺติ เกตกปุปฺผปตฺตํ วิย ปุถุลายตเนตฺตํ. อภุตฺตโภเคติ เอวํ อุตฺตมรูปธรํ กุมารึ ปมวเย วตฺตมานํ อภุตฺตโภคเมว มาตาปิตูนํ อุปริ มหนฺตํ โสกํ ปาเตตฺวา มจฺจุ คเหตฺวาว คจฺฉติ. สุชาโตติ สุสณฺิโต. สุมุโขติ กฺจนาทาสปุณฺณจนฺทสทิสมุโข. สุทสฺสโนติ อุตฺตมรูปธาริตาย สมฺปนฺนทสฺสโน. สาโมติ สุวณฺณสาโม. กุสุมฺภปริกิณฺณมสฺสูติ สนฺนิสินฺนฏฺเน สุขุมฏฺเน จ ตรุณกุสุมฺภเกสรสทิสปริกิณฺณมสฺสุ. อิมินา เอวรูโปปิ กุมาโร มจฺจุวสํ คจฺฉติ. ตถาวิธมฺปิ หิ สิเนรุํ อุปฺปาเตนฺโต วิย นิกฺกรุโณ มจฺจุ อาทาย คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. หิตฺวาน กาเม ปฏิกจฺจ เคหํ, อนุชาน มํ ปพฺพชิสฺสามิ เทวาติ เทว, ปุตฺตทารพนฺธนสฺมิฺหิ อุปฺปนฺเน ตํ พนฺธนํ ทุจฺเฉทนียํ โหติ, เตนาหํ ปุเรตรฺเว กาเม จ เคหฺจ หิตฺวา อิทาเนว ปพฺพชิสฺสามิ, อนุชาน, มนฺติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺตี’’ติ เต อุโภปิ วนฺทิตฺวา โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา คงฺคาตีรเมว อคมาสิ. หตฺถิปาโล ตสฺสปิ อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘สมาคโม มหา ภวิสฺสตี’’ติ ตตฺเถว นิสีทิ. ปุนทิวเส ปุโรหิโต ปลฺลงฺกวรมชฺฌคโต นิสีทิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มม ปุตฺตา ปพฺพชิตา, อิทานาหํ เอกโกว มนุสฺสขาณุโก ชาโตมฺหิ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส พฺราหฺมณิยา สทฺธึ มนฺเตนฺโต คาถมาห –

๓๕๑.

‘‘สาขาหิ รุกฺโข ลภเต สมฺํ, ปหีนสาขํ ปน ขาณุมาหุ;

ปหีนปุตฺตสฺส มมชฺช โภติ, วาเสฏฺิ ภิกฺขาจริยาย กาโล’’ติ.

ตตฺถ ลภเต สมฺนฺติ รุกฺโขติ โวหารํ ลภติ. วาเสฏฺีติ พฺราหฺมณึ อาลปติ. ภิกฺขาจริยายาติ มยฺหมฺปิ ปพฺพชฺชาย กาโล, ปุตฺตานํ สนฺติกเมว คมิสฺสามีติ.

โส เอวํ วตฺวา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปสิ, สฏฺิ พฺราหฺมณสหสฺสานิ สนฺนิปตึสุ. อถ เน อาห – ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ ตุมฺเห ปน อาจริยาติ. ‘‘อหํ มม ปุตฺตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘น ตุมฺหากเมว นิรโย อุณฺโห, มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. โส อสีติโกฏิธนํ พฺราหฺมณิยา นิยฺยาเทตฺวา โยชนิกํ พฺราหฺมณปริสํ อาทาย นิกฺขมิตฺวา ปุตฺตานํ สนฺติกฺเว คโต. หตฺถิปาโล ตายปิ ปริสาย อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ปุนทิวเส พฺราหฺมณี จินฺเตสิ ‘‘มม จตฺตาโร ปุตฺตา เสตจฺฉตฺตํ ปหาย ‘ปพฺพชิสฺสามา’ติ คตา, พฺราหฺมโณปิ ปุโรหิตฏฺาเนน สทฺธึ อสีติโกฏิธนํ ฉฑฺเฑตฺวา ปุตฺตานฺเว สนฺติกํ คโต, อหเมว เอกา กึ กริสฺสามิ, ปุตฺตานํ คตมคฺเคเนว คมิสฺสามี’’ติ. สา อตีตํ อุทาหรณํ อาหรนฺตี อุทานคาถมาห –

๓๕๒.

‘‘อฆสฺมิ โกฺจาว ยถา หิมจฺจเย, กตานิ ชาลานิ ปทาลิย หํสา;

คจฺฉนฺติ ปุตฺตา จ ปตี จ มยฺหํ, สาหํ กถํ นานุวเช ปชาน’’นฺติ.

ตตฺถ อฆสฺมิ โกฺจาว ยถาติ ยเถว อากาเส โกฺจสกุณา อสชฺชมานา คจฺฉนฺติ. หิมจฺจเยติ วสฺสานจฺจเย. กตานิ ชาลานิ ปทาลิย หํสาติ อตีเต กิร ฉนฺนวุติสหสฺสา สุวณฺณหํสาวสฺสารตฺตปโหนกํ สาลึ กฺจนคุหายํ นิกฺขิปิตฺวา วสฺสภเยน พหิ อนิกฺขมิตฺวา จตุมาสํ ตตฺถ วสนฺติ. อถ เนสํ อุณฺณนาภิ นาม มกฺกฏโก คุหาทฺวาเร ชาลํ พนฺธติ. หํสา ทฺวินฺนํ ตรุณหํสานํ ทฺวิคุณํ วฏฺฏํ เทนฺติ. เต ถามสมฺปนฺนตาย ตํ ชาลํ ฉินฺทิตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺติ, เสสา เตสํ คตมคฺเคน คจฺฉนฺติ. สา ตมตฺถํ ปกาเสนฺตี เอวมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเถว อากาเส โกฺจสกุณา อสชฺชมานา คจฺฉนฺติ, ตถา หิมจฺจเย วสฺสานาติกฺกเม ทฺเว ตรุณหํสา กตานิ ชาลานิ ปทาเลตฺวา คจฺฉนฺติ, อถ เนสํ คตมคฺเคน อิตเร หํสา. อิทานิ ปน มม ปุตฺตา ตรุณหํสา ชาลํ วิย กามชาลํ ฉินฺทิตฺวา คตา, มยาปิ เตสํ คตมคฺเคน คนฺตพฺพนฺติ อิมินาธิปฺปาเยน ‘‘คจฺฉนฺติ ปุตฺตา จ ปตี จ มยฺหํ, สาหํ กถํ นานุวเช ปชาน’’นฺติ อาห.

อิติ สา ‘‘กถํ อหํ เอวํ ปชานนฺตี น ปพฺพชิสฺสามิ, ปพฺพชิสฺสามิ เยวา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา พฺราหฺมณิโย ปกฺโกสาเปตฺวา เอวมาห ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตุมฺเห ปน อยฺเย’’ติ. ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. สา ตํ วิภวํ ฉฑฺเฑตฺวา โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา ปุตฺตานํ สนฺติกเมว คตา. หตฺถิปาโล ตายปิ ปริสาย อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ปุนทิวเส ราชา ‘‘กุหึ ปุโรหิโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, ปุโรหิโต จ พฺราหฺมณี จ สพฺพํ ธนํ ฉฑฺเฑตฺวา ทฺวิโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา ปุตฺตานํ สนฺติกํ คตา’’ติ. ราชา ‘‘อสามิกํ ธนํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ ตสฺส เคหโต ธนํ อาหราเปสิ. อถสฺส อคฺคมเหสี ‘‘ราชา กึ กโรตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปุโรหิตสฺส เคหโต ธนํ อาหราเปตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุโรหิโต กุหิ’’นฺติ วตฺวา ‘‘สปชาปติโก ปพฺพชฺชตฺถาย นิกฺขนฺโต’’ติ สุตฺวา ‘‘อยํ ราชา พฺราหฺมเณน จ พฺราหฺมณิยา จ จตูหิ ปุตฺเตหิ จ ชหิตํ อุกฺการํ โมเหน มูฬฺโห อตฺตโน ฆรํ อาหราเปติ, อุปมาย นํ โพเธสฺสามี’’ติ สูนโต มํสํ อาหราเปตฺวา ราชงฺคเณ ราสึ กาเรตฺวา อุชุมคฺคํ วิสฺสชฺเชตฺวา ชาลํ ปริกฺขิปาเปสิ. คิชฺฌา ทูรโตว ทิสฺวา ตสฺสตฺถาย โอตรึสุ. ตตฺถ สปฺปฺา ชาลํ ปสาริตํ ตฺวา อติภาริกา หุตฺวา ‘‘อุชุกํ อุปฺปติตุํ น สกฺขิสฺสามา’’ติ อตฺตนา ขาทิตมํสํ ฉฑฺเฑตฺวา วมิตฺวา ชาลํ อนลฺลียิตฺวา อุชุกเมว อุปฺปติตฺวา คมึสุ. อนฺธพาลา ปน เตหิ ฉฑฺฑิตํ วมิตํ ขาทิตฺวา ภาริยา หุตฺวา อุชุกํ อุปฺปติตุํ อสกฺโกนฺตา อาคนฺตฺวา ชาเล พชฺฌึสุ. อเถกํ คิชฺฌํ อาเนตฺวา เทวิยา ทสฺสยึสุ. สา ตํ อาทาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เอถ ตาว, มหาราช, ราชงฺคเณ เอกํ กิริยํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ‘‘อิเม คิชฺเฌ โอโลเกหิ มหาราชา’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๓๕๓.

‘‘เอเต ภุตฺวา วมิตฺวา จ, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;

เย จ ภุตฺวา น วมึสุ, เต เม หตฺถตฺตมาคตา.

๓๕๔.

‘‘อวมี พฺราหฺมโณ กาเม, โส ตฺวํ ปจฺจาวมิสฺสสิ;

วนฺตาโท ปุริโส ราช, น โส โหติ ปสํสิโย’’ติ.

ตตฺถ ภุตฺวา วมิตฺวา จาติ มํสํ ขาทิตฺวา วมิตฺวา จ. ปจฺจาวมิสฺสสีติ ปฏิภุฺชิสฺสสิ. วนฺตาโทติ ปรสฺส วมิตขาทโก. น ปสํสิโยติ โส ตณฺหาวสิโก พาโล พุทฺธาทีหิ ปณฺฑิเตหิ ปสํสิตพฺโพ น โหติ.

ตํ สุตฺวา ราชา วิปฺปฏิสารี อโหสิ, ตโย ภวา อาทิตฺตา วิย อุปฏฺหึสุ. โส ‘‘อชฺเชว รชฺชํ ปหาย มม ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุปฺปนฺนสํเวโค เทวิยา ถุตึ กโรนฺโต คาถมาห –

๓๕๕.

‘‘ปงฺเก จ โปสํ ปลิเป พฺยสนฺนํ, พลี ยถา ทุพฺพลมุทฺธเรยฺย;

เอวมฺปิ มํ ตฺวํ อุทตาริ โภติ, ปฺจาลิ คาถาหิ สุภาสิตาหี’’ติ.

ตตฺถ พฺยสนฺนนฺติ นิมุคฺคํ, ‘‘วิสนฺน’’นฺติปิ ปาโ. อุทฺธเรยฺยาติ เกเสสุ วา หตฺเถสุ วา คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ถเล เปยฺย. อุทตารีติ กามปงฺกโต อุตฺตารยิ. ‘‘อุทตาสี’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ‘‘อุทฺธฏาสี’’ติปิ ปาโ, อุทฺธรีติ อตฺโถ. ปฺจาลีติ ปฺจาลราชธีเต.

เอวฺจ ปน วตฺวา ตงฺขณฺเว ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ ตุมฺเห ปน, เทวาติ? ‘‘อหํ หตฺถิปาลสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม, เทวา’’ติ. ราชา ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘อตฺถิกา เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปนฺตู’’ติ อมจฺจปริวุโต ติโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา กุมารสฺเสว สนฺติกํ คโต. หตฺถิปาโล ตสฺสาปิ ปริสาย อากาเส นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสสิ. สตฺถา รฺโ ปพฺพชิตภาวํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –

๓๕๖.

‘‘อิทํ วตฺวา มหาราชา, เอสุการี ทิสมฺปติ;

รฏฺํ หิตฺวาน ปพฺพชิ, นาโค เฉตฺวาว พนฺธน’’นฺติ.

ปุนทิวเส นคเร โอหีนชโน สนฺนิปติตฺวา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา เทวิยา อาโรเจตฺวา นิเวสนํ ปวิสิตฺวา เทวึ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต คาถมาห.

๓๕๗.

‘‘ราชา จ ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถ, รฏฺํ ปหาย นรวีรเสฏฺโ;

ตุวมฺปิ โน โหหิ ยเถว ราชา, อมฺเหหิ คุตฺตา อนุสาส รชฺช’’นฺติ.

ตตฺถ อนุสาสาติ อมฺเหหิ คุตฺตา หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหิ.

สา มหาชนสฺส กถํ สุตฺวา เสสคาถา อภาสิ –

๓๕๘.

‘‘ราชา จ ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถ, รฏฺํ ปหาย นรวีรเสฏฺโ;

อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ มโนรมานิ.

๓๕๙.

‘‘ราชา จ ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถ, รฏฺํ ปหาย นรวีรเสฏฺโ;

อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานิ.

๓๖๐.

‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ;

อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ มโนรมานิ.

๓๖๑.

‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ;

อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานิ.

๓๖๒.

‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ;

อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, สีติภูตา สพฺพมติจฺจ สงฺค’’นฺติ.

ตตฺถ เอกาติ ปุตฺตธีตุกิเลสสมฺพาเธหิ มุจฺจิตฺวา อิมสฺมึ โลเก เอกิกาว จริสฺสามิ. กามานีติ รูปาทโย กามคุเณ. ยโตธิกานีติ เยน เยน โอธินา ิตานิ, เตน เตน ิตาเนว ชหิสฺสามิ, น กิฺจิ อามสิสฺสามีติ อตฺโถ. อจฺเจนฺติ กาลาติ ปุพฺพณฺหาทโย กาลา อติกฺกมนฺติ. ตรยนฺตีติ อตุจฺฉา หุตฺวา อายุสงฺขารํ เขปยมานา ขาทยมานา คจฺฉนฺติ. วโยคุณาติ ปมวยาทโย ตโย, มนฺททสกาทโย วา ทส โกฏฺาสา. อนุปุพฺพํ ชหนฺตีติ อุปรูปริโกฏฺาสํ อปฺปตฺวา ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌนฺติ. สีติภูตาติ อุณฺหการเก อุณฺหสภาเว กิเลเส ปหาย สีตลา หุตฺวา. สพฺพมติจฺจ สงฺคนฺติ ราคสงฺคาทิกํ สพฺพสงฺคํ อติกฺกมิตฺวา เอกา จริสฺสามิ, หตฺถิปาลกุมารสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามีติ.

อิติ สา อิมาหิ คาถาหิ มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา อมจฺจภริยาโย ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ ตุมฺเห ปน อยฺเยติ? ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ ราชนิเวสเน สุวณฺณโกฏฺาคาราทีนิ วิวราเปตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน จ อสุกฏฺาเน จ มหานิธิ นิทหิต’’นฺติ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขาเปตฺวา ‘‘ทินฺนฺเว, อตฺถิกา หรนฺตู’’ติ วตฺวา สุวณฺณปฏฺฏํ มหาตเล ถมฺเภ พนฺธาเปตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาสมฺปตฺตึ ฉฑฺเฑตฺวา นครา นิกฺขมิ. ตสฺมึ ขเณ สกลนครํ สงฺขุภิ. ‘‘ราชา จ กิร เทวี จ รชฺชํ ปหาย ‘ปพฺพชิสฺสามา’ติ นิกฺขมนฺติ, มยํ อิธ กึ กริสฺสามา’’ติ ตโต ตโต มนุสฺสา ยถาปูริตาเนว เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา ปุตฺเต หตฺเถสุ คเหตฺวา นิกฺขมึสุ. สพฺพาปณา ปสาริตนิยาเมเนว ิตา, นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต นาม นาโหสิ. สกลนครํ ตุจฺฉํ อโหสิ, เทวีปิ ติโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา ตตฺเถว คตา. หตฺถิปาโล ตสฺสาปิ ปริสาย อากาเส นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสตฺวา ทฺวาทสโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข ปายาสิ. ‘‘หตฺถิปาลกุมาโร กิร ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสึ ตุจฺฉํ กตฺวา ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ มหาชนํ อาทาย หิมวนฺตํ คจฺฉติ, กิมงฺคํ ปน มย’’นฺติ สกลกาสิรฏฺํ สงฺขุภิ. อปรภาเค ปริสา ตึสโยชนิกา อเหสุํ, โส ตาย ปริสาย สทฺธึ หิมวนฺตํ ปาวิสิ.

สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘หตฺถิปาลกุมาโร มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, สมาคโม มหา ภวิสฺสติ, วสนฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ วิสฺสกมฺมํ อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉ, อายามโต ฉตฺตึสโยชนํ, วิตฺถารโต ปนฺนรสโยชนํ อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร สมฺปาเทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา คงฺคาตีเร รมณีเย ภูมิภาเค วุตฺตปฺปมาณํ อสฺสมปทํ มาเปตฺวา ปณฺณสาลาสุ กฏฺตฺถรณปณฺณตฺถรณอาสนาทีนิ ปฺเปตฺวา สพฺเพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร มาเปสิ. เอเกกิสฺสา ปณฺณสาลาย ทฺวาเร เอเกโก จงฺกโม รตฺติฏฺานทิวาฏฺานปริจฺฉินฺโน กตสุธาปริกมฺโม อาลมฺพนผลโก, เตสุ เตสุ าเนสุ นานาวณฺณสุรภิกุสุมสฺฉนฺนา ปุปฺผคจฺฉา, เอเกกสฺส จงฺกมสฺส โกฏิยํ เอเกโก อุทกภริโต กูโป, ตสฺส สนฺติเก เอเกโก ผลรุกฺโข, โส เอโกว สพฺพผลานิ ผลติ. อิทํ สพฺพํ เทวตานุภาเวน อโหสิ. วิสฺสกมฺโม อสฺสมปทํ มาเปตฺวา ปณฺณสาลาสุ ปพฺพชิตปริกฺขาเร เปตฺวา ‘‘เย เกจิ ปพฺพชิตุกามา อิเม ปริกฺขาเร คณฺหนฺตู’’ติ ชาติหิงฺคุลเกน ภิตฺติยา อกฺขรานิ ลิขิตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน เภรวสทฺเท มิคปกฺขี ทุทฺทสิเก อมนุสฺเส จ ปฏิกฺกมาเปตฺวา สกฏฺานเมว คโต.

หตฺถิปาลกุมาโร เอกปทิกมคฺเคน สกฺกทตฺติยํ อสฺสมํ ปวิสิตฺวา อกฺขรานิ ทิสฺวา ‘‘สกฺเกน มม มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺตภาโว าโต ภวิสฺสตี’’ติ ทฺวารํ วิวริตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชลิงฺคํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา จงฺกมํ โอตริตฺวา กติปเย วาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา เสสชนกายํ ปพฺพาเชตฺวา อสฺสมปทํ วิจาเรนฺโต ตรุณปุตฺตานํ อิตฺถีนํ มชฺฌฏฺาเน ปณฺณสาลํ อทาสิ. ตโต อนนฺตรํ มหลฺลกิตฺถีนํ, ตโต อนนฺตรํ มชฺฌิมิตฺถีนํ, สมนฺตา ปริกฺขิปิตฺวา ปน ปุริสานํ อทาสิ. อเถโก ราชา ‘‘พาราณสิยํ กิร ราชา นตฺถี’’ติ อาคนฺตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตํ นครํ โอโลเกตฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห ตตฺถ ตตฺถ รตนราสึ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปํ นครํ ปหาย ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย ปพฺพชฺชา นาเมสา อุฬารา ภวิสฺสตี’’ติ สุราโสณฺเฑ มคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา หตฺถิปาลสฺส สนฺติกํ ปายาสิ. หตฺถิปาโล ตสฺส วนนฺตรํ อาคตภาวํ ตฺวา ปฏิมคฺคํ คนฺตฺวา อากาเส นิสินฺโน ปริสาย ธมฺมํ เทเสตฺวา อสฺสมปทํ เนตฺวา สพฺพปริสํ ปพฺพาเชสิ. เอเตนุปาเยน อฺเปิ ฉ ราชาโน ปพฺพชึสุ. สตฺต ราชาโน โภเค ฉฑฺฑยึสุ, ฉตฺตึสโยชนิโก อสฺสโม นิรนฺตโร ปริปูริ. โย กามวิตกฺกาทีสุ อฺตรํ วิตกฺเกติ, มหาปุริโส ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา พฺรหฺมวิหารภาวนฺเจว กสิณภาวนฺจ อาจิกฺขติ. เต เยภุยฺเยน ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา ตีสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ. ตติยโกฏฺาสํ ติธา กตฺวา เอโก โกฏฺาโส พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, เอโก ฉสุ กามสคฺเคสุ, เอโก อิสีนํ ปาริจริยํ กตฺวา มนุสฺสโลเก ตีสุ กุลสมฺปตฺตีสุ นิพฺพตฺติ. เอวํ หตฺถิปาลสฺส สาสนํ อปคตนิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยาสุรกายํ อโหสิ.

อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ปถวิจาลกธมฺมคุตฺตตฺเถโร, กฏกนฺธการวาสี ผุสฺสเทวตฺเถโร, อุปริมณฺฑลวาสี มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร, มลยมหาเทวตฺเถโร, อภยคิริวาสี มหาเทวตฺเถโร, คามนฺตปพฺภารวาสี มหาสิวตฺเถโร, กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร กุทฺทาลสมาคเม มูคปกฺขสมาคเม จูฬสุตโสมสมาคเม อโยฆรปณฺฑิตสมาคเม หตฺถิปาลสมาคเม จ สพฺพปจฺฉา นิกฺขนฺตปุริสา อเหสุํ. เตเนวาห ภควา –

‘‘อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ, ปาปา จิตฺตํ นิวารเย;

ทนฺธฺหิ กโรโต ปุฺํ, ปาปสฺมึ รมเต มโน’’ติ. (ธ. ป. ๑๑๖);

ตสฺมา กลฺยาณํ ตุริตตุริเตเนว กาตพฺพนฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เอสุการี ราชา สุทฺโธทนมหาราชา อโหสิ, เทวี มหามายา, ปุโรหิโต กสฺสโป, พฺราหฺมณี ภทฺทกาปิลานี, อชปาโล อนุรุทฺโธ, โคปาโล โมคฺคลฺลาโน, อสฺสปาโล สาริปุตฺโต, เสสปริสา พุทฺธปริสา, หตฺถิปาโล ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

หตฺถิปาลชาตกวณฺณนา เตรสมา.

[๕๑๐] ๑๔. อโยฆรชาตกวณฺณนา

ยเมกรตฺตึ ปมนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนฺเว อารพฺภ กเถสิ. ตทาปิ หิ โส ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พฺรหฺมทตฺตสฺส รฺโ อคฺคมเหสี คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ลทฺธคพฺภปริหารา ปริณตคพฺภา ปจฺจูสสมนนฺตเร ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺสา ปุริมตฺตภาเว เอกา สปตฺติกา ‘‘ตว ชาตํ ชาตํ ปชํ ขาทิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. สา กิร สยํ วฺฌา หุตฺวา ปุตฺตมาตุโกเธน ตํ ปตฺถนํ กตฺวา ยกฺขโยนิยํ นิพฺพตฺติ. อิตรา รฺโ อคฺคมเหสี หุตฺวา อิมํ ปุตฺตํ วิชายิ. สา ยกฺขินี ตทา โอกาสํ ลภิตฺวา เทวิยา ปสฺสนฺติยาว พีภจฺฉรูปา หุตฺวา อาคนฺตฺวา ตํ ทารกํ คเหตฺวา ปลายิ. เทวี ‘‘ยกฺขินี เม ปุตฺตํ คเหตฺวา ปลายี’’ติ มหาสทฺเทน วิรวิ. อิตราปิ ทารกํ มูลกนฺทํ วิย มุรุํ มุรุํ กโรนฺตี ขาทิตฺวา เทวิยา หตฺถวิการาทีหิ เภรวํ ปกาเสตฺวา ตชฺเชตฺวา ปกฺกามิ. ราชา ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘กึ สกฺกา ยกฺขินิยา กาตุ’’นฺติ ตุณฺหี อโหสิ. ปุน เทวิยา วิชายนกาเล ทฬฺหํ อารกฺขมกาสิ. เทวี ปุตฺตํ ปุน วิชายิ. ยกฺขินี อาคนฺตฺวา ตมฺปิ ขาทิตฺวา คตา. ตติยวาเร ตสฺสา กุจฺฉิยํ มหาสตฺโต ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ราชา มหาชนํ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘เทวิยา ชาตํ ชาตํ ปชํ เอกา ยกฺขินี ขาทติ, กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. อเถโก ‘‘ยกฺขา นาม ตาลปณฺณสฺส ภายนฺติ, เทวิยา หตฺถปาเทสุ ตาลปณฺณํ พนฺธิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. อเถโก ‘‘อโยฆรสฺส ภายนฺติ, อโยฆรํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ อตฺตโน วิชิเต กมฺมาเร สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘อโยฆรํ กโรถา’’ติ อาณาเปตฺวา อายุตฺตเก อทาสิ. อนฺโตนคเรเยว รมณีเย ภูมิภาเค เคหํ ปฏฺเปสุํ, ถมฺเภ อาทึ กตฺวา สพฺพเคหสมฺภารา อโยมยาว อเหสุํ, นวหิ มาเสหิ อโยมยํ มหนฺตํ จตุรสฺสสาลํ นิฏฺานํ อคมาสิ. ตํ นิจฺจํ ปชฺชลิตปทีปเมว โหติ.

ราชา เทวิยา คพฺภปริปากํ ตฺวา อโยฆรํ อลงฺการาเปตฺวา ตํ อาทาย อโยฆรํ ปาวิสิ. สา ตตฺถ ธฺปุฺลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘อโยฆรกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. ตํ ธาตีนํ ทตฺวา มหนฺตํ อารกฺขํ สํวิทหิตฺวา ราชา เทวึ อาทาย นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อลงฺกตปาสาทตลเมว อภิรุหิ. ยกฺขินีปิ อุทกวารํ คนฺตฺวา เวสฺสวณสฺส อุทกํ วหนฺตี ชีวิตกฺขยํ ปตฺตา. มหาสตฺโต อโยฆเรเยว วฑฺฒิตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ตตฺเถว สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิ. ราชา ‘‘โก เม ปุตฺตสฺส วยปฺปเทโส’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โสฬสวสฺโส, เทว, สูโร ถามสมฺปนฺโน ยกฺขสหสฺสมฺปิ ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ’’ติ สุตฺวา ‘‘รชฺชมสฺส ทสฺสามิ, สกลนครํ อลงฺกริตฺวา อโยฆรโต ตํ นีหริตฺวา อาเนถา’’ติ อาห. อมจฺจา ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสึ อลงฺกริตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตํ มงฺคลวารณํ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา กุมารํ อลงฺการาเปตฺวา หตฺถิกฺขนฺเธ นิสีทาเปตฺวา ‘‘เทว, กุลสนฺตกํ อลงฺกตนครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปิตรํ กาสิราชานํ วนฺทถ, อชฺเชว เสตจฺฉตฺตํ ลภิสฺสถา’’ติ อาหํสุ.

มหาสตฺโต นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต อารามรามเณยฺยกวนโปกฺขรณิภูมิรามเณยฺยกปาสาทรามเณยฺยกาทีนิ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘มม ปิตา มํ เอตฺตกํ กาลํ พนฺธนาคาเร วสาเปสิ. เอวรูปํ อลงฺกตนครํ ทฏฺุํ นาทาสิ, โก นุ โข มยฺหํ โทโส’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, นตฺถิ ตุมฺหากํ โทโส, ตุมฺหากํ ปน ทฺเวภาติเก เอกา ยกฺขินี ขาทิ, เตน โว ปิตา อโยฆเร วสาเปสิ, อโยฆเรน ชีวิตํ ตุมฺหากํ ลทฺธ’’นฺติ. โส เตสํ วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อหํ ทส มาเส โลหกุมฺภินิรเย วิย จ คูถนิรเย วิย จ มาตุกุจฺฉิมฺหิ วสิตฺวา มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย โสฬส วสฺสานิ เอตสฺมึ พนฺธนาคาเร วสึ, พหิ โอโลเกตุมฺปิ น ลภึ, อุสฺสทนิรเย ขิตฺโต วิย อโหสึ, ยกฺขินิยา หตฺถโต มุตฺโตปิ ปนาหํ เนว อชโร, น อมโร โหมิ, กึ เม รชฺเชน, รชฺเช ิตกาลโต ปฏฺาย ทุนฺนิกฺขมนํ โหติ, อชฺเชว มม ปิตรํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ราชกุลํ ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ.

ราชา ตสฺส สรีรโสภํ โอโลเกตฺวา พลวสิเนเหน อมจฺเจ โอโลเกสิ. เต ‘‘กึ กโรม, เทวา’’ติ วทึสุ. ปุตฺตํ เม รตนราสิมฺหิ เปตฺวา ตีหิ สงฺเขหิ อภิสิฺจิตฺวา กฺจนมาลํ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปถาติ. มหาสตฺโต ปิตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, อหํ ปพฺพชิสฺสามิ, ปพฺพชฺชํ เม อนุชานาถา’’ติ อาห. ตาต รชฺชํ ปฏิกฺขิปิตฺวา กึการณา ปพฺพชิสฺสสีติ. ‘‘เทว อหํ มาตุกุจฺฉิมฺหิ ทส มาเส คูถนิรเย วิย วสิตฺวา มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺโต ยกฺขินิภเยน โสฬส วสฺสานิ พนฺธนาคาเร วสนฺโต พหิ โอโลเกตุมฺปิ น อลภึ, อุสฺสทนิรเย ขิตฺโต วิย อโหสึ, ยกฺขินิยา หตฺถโต มุตฺโตมฺหีติปิ อชโร อมโร น โหมิ. มจฺจุ นาเมส น สกฺกา เกนจิ ชินิตุํ, ภเว อุกฺกณฺิโตมฺหิ, ยาว เม พฺยาธิชรามรณานิ นาคจฺฉนฺติ, ตาวเทว ปพฺพชิตฺวา ธมฺมํ จริสฺสามิ, อลํ เม รชฺเชน, อนุชานาถ มํ, เทวา’’ติ วตฺวา ปิตุ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

๓๖๓.

‘‘ยเมกรตฺตึ ปมํ, คพฺเภ วสติ มาณโว;

อพฺภุฏฺิโตว โส ยาติ, ส คจฺฉํ น นิวตฺตติ.

๓๖๔.

‘‘น ยุชฺฌมานา น พเลนวสฺสิตา, นรา น ชีรนฺติ น จาปิ มียเร;

สพฺพํ หิทํ ชาติชรายุปทฺทุตํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๖๕.

‘‘จตุรงฺคินึ เสนํ สุภึสรูปํ, ชยนฺติ รฏฺาธิปตี ปสยฺห;

น มจฺจุโน ชยิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๖๖.

‘‘หตฺถีหิ อสฺเสหิ รเถหิ ปตฺติภิ, ปริวาริตา มุจฺจเร เอกจฺเจยฺยา;

น มจฺจุโน มุจฺจิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๖๗.

‘‘หตฺถีหิ อสฺเสหิ รเถหิ ปตฺติภิ, สูรา ปภฺชนฺติ ปธํสยนฺติ;

น มจฺจุโน ภฺชิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๖๘.

‘‘มตฺตา คชา ภินฺนคฬา ปภินฺนา, นครานิ มทฺทนฺติ ชนํ หนนฺติ;

น มจฺจุโน มทฺทิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๖๙.

‘‘อิสฺสาสิโน กตหตฺถาปิ วีรา, ทูเรปาตี อกฺขณเวธิโนปิ;

น มจฺจุโน วิชฺฌิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๐.

‘‘สรานิ ขียนฺติ สเสลกานนา, สพฺพํ หิทํ ขียติ ทีฆมนฺตรํ;

สพฺพํ หิทํ ภฺชเร กาลปริยายํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๑.

‘‘สพฺเพสเมวฺหิ นราน นารินํ, จลาจลํ ปาณภุโนธ ชีวิตํ;

ปโฏว ธุตฺตสฺส, ทุโมว กูลโช, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๒.

‘‘ทุมปฺผลาเนว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุทฺธา จ สรีรเภทา;

นาริโย นรา มชฺฌิมโปริสา จ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๓.

‘‘นายํ วโย ตารกราชสนฺนิโภ, ยทพฺภตีตํ คตเมว ทานิ ตํ;

ชิณฺณสฺส หี นตฺถิ รตี กุโต สุขํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๔.

‘‘ยกฺขา ปิสาจา อถวาปิ เปตา, กุปิตา เต อสฺสสนฺติ มนุสฺเส;

น มจฺจุโน อสฺสสิตุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๕.

‘‘ยกฺเข ปิสาเจ อถวาปิ เปเต, กุปิเตปิ เต นิชฺฌปนํ กโรนฺติ;

น มจฺจุโน นิชฺฌปนํ กโรนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๖.

‘‘อปราธเก ทูสเก เหเก จ, ราชาโน ทณฺเฑนฺติ วิทิตฺวาน โทสํ;

น มจฺจุโน ทณฺฑยิตุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๗.

‘‘อปราธกา ทูสกา เหกา จ, ลภนฺติ เต ราชิโน นิชฺฌเปตุํ;

น มจฺจุโน นิชฺฌปนํ กโรนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๘.

‘‘น ขตฺติโยติ น จ พฺราหฺมโณติ, น อฑฺฒกา พลวา เตชวาปิ;

น มจฺจุราชสฺส อเปกฺขมตฺถิ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๗๙.

‘‘สีหา จ พฺยคฺฆา จ อโถปิ ทีปิโย, ปสยฺห ขาทนฺติ วิปฺผนฺทมานํ;

น มจฺจุโน ขาทิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๘๐.

‘‘มายาการา รงฺคมชฺเฌ กโรนฺตา, โมเหนฺติ จกฺขูนิ ชนสฺส ตาวเท;

น มจฺจุโน โมหยิตุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๘๑.

‘‘อาสีวิสา กุปิตา อุคฺคเตชา, ฑํสนฺติ มาเรนฺติปิ เต มนุสฺเส;

น มจฺจุโน ฑํสิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๘๒.

‘‘อาสีวิสา กุปิตา ยํ ฑํสนฺติ, ติกิจฺฉกา เตส วิสํ หนนฺติ;

น มจฺจุโน ทฏฺวิสํ หนนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๘๓.

‘‘ธมฺมนฺตรี เวตฺตรณี จ โภโช, วิสานิ หนฺตฺวาน ภุชงฺคมานํ;

สุยฺยนฺติ เต กาลกตา ตเถว, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๘๔.

‘‘วิชฺชาธรา โฆรมธียมานา, อทสฺสนํ โอสเธหิ วชนฺติ;

น มจฺจุราชสฺส วชนฺตทสฺสนํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.

๓๘๕.

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.

๓๘๖.

‘‘น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;

อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคติ’’นฺติ.

ตตฺถ ยเมกรตฺตินฺติ เยภุยฺเยน สตฺตา มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตา รตฺติยํเยว คณฺหนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – ยํ เอกรตฺตึ วา ทิวา วา ปมเมว ปฏิสนฺธึ คณฺหิตฺวา มาตุกุจฺฉิสงฺขาเต คพฺเภ วสติ. มาณโวติ สตฺโต กลลภาเวน ปติฏฺาติ. อพฺภุฏฺิโตว โส ยาตีติ โส มาณโว ยถา นาม วลาหกสงฺขาโต อพฺโภ อุฏฺิโต นิพฺพตฺโต วายุเวคาหโต ปฏิคจฺฉติ, ตเถว –

‘‘ปมํ กลลํ โหติ, กลลา โหติ อพฺพุทํ;

อพฺพุทา ชายเต เปสิ, เปสิ นิพฺพตฺตตี ฆโน;

ฆนา ปสาขา ชายนฺติ, เกสา โลมา นขาปิ จ.

‘‘ยฺจสฺส ภุฺชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;

เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโรติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);

อิมํ มาตุกุจฺฉิยํ กลลาทิภาวํ, มาตุกุจฺฉิโต จ นิกฺขนฺโต มนฺททสกาทิภาวํ อาปชฺชมาโน สตตํ สมิตํ คจฺฉติ. ส คจฺฉํ น นิวตฺตตีติ สจายํ เอวํ คจฺฉนฺโต ปุน อพฺพุทโต กลลภาวํ, เปสิอาทิโต วา อพฺพุทาทิภาวํ, ขิฑฺฑาทสกโต มนฺททสกภาวํ, วณฺณทสกาทิโต วา ขิฑฺฑาทสกาทิภาวํ ปาปุณิตุํ น นิวตฺตติ. ยถา ปน โส วลาหโก วาตเวเคน สํจุณฺณิยมาโน ‘‘อหํ อสุกฏฺาเน นาม อุฏฺิโต ปุน นิวตฺติตฺวา ตตฺเถว คนฺตฺวา ปกติภาเวน สฺสามี’’ติ น ลภติ, ยํ ทิสํ คตํ, ตํ คตเมว, ยํ อนฺตรหิตํ, ตํ อนฺตรหิตเมว โหติ, ตถา โสปิ กลลาทิภาเวน คจฺฉมาโน คจฺฉเตว, ตสฺมึ ตสฺมึ โกฏฺาเส สงฺขารา ปุริมานํ ปุริมานํ ปจฺจยา หุตฺวา ปจฺฉโต อนิวตฺติตฺวา ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ, ชรากาเล สงฺขารา ‘‘อมฺเหหิ เอส ปุพฺเพ ยุวา ถามสมฺปนฺโน กโต, ปุน นํ นิวตฺติตฺวา ตตฺเถว กริสฺสามา’’ติ น ลภนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว อนฺตรธายนฺตีติ ทสฺเสติ.

ยุชฺฌมานาติ อุภโต พฺยูฬฺเห สงฺคาเม ยุชฺฌนฺตา. น พเลนวสฺสิตาติ น กายพเลน วา โยธพเลน วา อุปคตา สมนฺนาคตา. น ชีรนฺตีติ ปุริม-น-การํ อาหริตฺวา เอวรูปาปิ นรา น ชีรนฺติ น จาปิ น มียเรติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สพฺพํ หิทนฺติ มหาราช, สพฺพเมว อิทํ ปาณมณฺฑลํ มหายนฺเตน ปีฬิยมานา อุจฺฉุฆฏิกา วิย ชาติยา จ ชราย จ อุปทฺทุตํ นิจฺจํ ปีฬิตํ. ตํ เม มตี โหตีติ เตน การเณน มม ‘‘ปพฺพชิตฺวา ธมฺมํ จรามี’’ติ มติ โหติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.

จตุรงฺคินินฺติ หตฺถิอาทีหิ จตุรงฺเคหิ สมนฺนาคตํ. เสนํ สุภึสรูปนฺติ สุฏฺุ ภึสนกชาติกํ เสนํ. ชยนฺตีติ กทาจิ เอกจฺเจ ราชาโน อตฺตโน เสนาย ชยนฺติ. น มจฺจุโนติ เตปิ ราชาโน มหาเสนสฺส มจฺจุโน เสนํ ชยิตุํ น อุสฺสหนฺติ, น พฺยาธิชรามรณานิ มทฺทิตุํ สกฺโกนฺติ. มุจฺจเร เอกจฺเจยฺยาติ เอเตหิ หตฺถิอาทีหิ ปริวาริตา เอกจฺเจ ปจฺจามิตฺตานํ หตฺถโต มุจฺจนฺติ, มจฺจุโน ปน สนฺติกา มุจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ. ปภฺชนฺตีติ เอเตหิ หตฺถิอาทีหิ ปจฺจตฺถิกราชูนํ นครานิ ปภฺชนฺติ. ปธํสยนฺตีติ มหาชนํ ธํเสนฺตา ปธํเสนฺตา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ. น มจฺจุโนติ เตปิ มรณกาเล ปตฺเต มจฺจุโน ภฺชิตุํ น สกฺโกนฺติ.

ภินฺนคฬา ปภินฺนาติ ตีสุ าเนสุ ปภินฺนา หุตฺวา มทํ คฬนฺตา, ปคฺฆริตมทาติ อตฺโถ. น มจฺจุโนติ เตปิ มหามจฺจุํ มทฺทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อิสฺสาสิโนติ อิสฺสาสา ธนุคฺคหา. กตหตฺถาติ สุสิกฺขิตา. ทูเรปาตีติ สรํ ทูเร ปาเตตุํ สมตฺถา. อกฺขณเวธิโนติ อวิรทฺธเวธิโน, วิชฺชุอาโลเกน วิชฺฌนสมตฺถา วา. สรานีติ อโนตตฺตาทีนิ มหาสรานิ ขียนฺติเยว. สเสลกานนาติ สปพฺพตวนสณฺฑา มหาปถวีปิ ขียติ. สพฺพํ หิทนฺติ สพฺพมิทํ สงฺขารคตํ ทีฆมนฺตรํ ตฺวา ขียเตว. กปฺปุฏฺานคฺคึ ปตฺวา มหาสิเนรุปิ อคฺคิมุเข มธุสิตฺถกํ วิย วิลียเตว, อณุมตฺโตปิ สงฺขาโร าตุํ น สกฺโกติ. กาลปริยายนฺติ กาลปริยายํ นสฺสนกาลวารํ ปตฺวา สพฺพํ ภฺชเร, สพฺพํ สงฺขารคตํ ภิชฺชเตว. ตสฺส ปกาสนตฺถํ สตฺตสูริยสุตฺตํ (อ. นิ. ๗.๖๖) อาหริตพฺพํ.

จลาจลนฺติ จฺจลํ สกภาเวน าตุํ อสมตฺถํ นานาภาววินาภาวสภาวเมว. ปาณภุโนธ ชีวิตนฺติ อิธ โลเก อิเมสํ ปาณภูตานํ ชีวิตํ. ปโฏว ธุตฺตสฺส, ทุโมว กูลโชติ สุรธุตฺโต หิ สุรํ ทิสฺวาว อุทเร พทฺธํ สาฏกํ ทตฺวา ปิวเตว, นทีกูเล ชาตทุโมว กูเล ลุชฺชมาเน ลุชฺชติ, ยถา เอส ปโฏ จ ทุโม จ จฺจโล, เอวํ สตฺตานํ ชีวิตํ, เทวาติ. ทุมปฺผลาเนวาติ ยถา ปกฺกานิ ผลานิ วาตาหตานิ ทุมคฺคโต ภูมิยํ ปตนฺติ, ตเถวิเม มาณวา ชราวาตาหตา ชีวิตา คฬิตฺวา มรณปถวิยํ ปตนฺติ. ทหราติ อนฺตมโส กลลภาเว ิตาปิ. มชฺฌิมโปริสาติ นารีนรานํ มชฺเฌ ิตา อุภโตพฺยฺชนกนปุํสกา.

ตารกราชสนฺนิโภติ ยถา ตารกราชา กาฬปกฺเข ขีโณ, ปุน ชุณฺหปกฺเข ปูรติ, น เอวํ สตฺตานํ วโย. สตฺตานฺหิ ยํ อพฺภตีตํ, คตเมว ทานิ ตํ, น ตสฺส ปุนาคมนํ อตฺถิ. กุโต สุขนฺติ ชราชิณฺณสฺส กามคุเณสุ รติปิ นตฺถิ, เต ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกสุขํ กุโตเยว. ยกฺขาติ มหิทฺธิกา ยกฺขา. ปิสาจาติ ปํสุปิสาจกา. เปตาติ เปตฺติวิสยิกา. อสฺสสนฺตีติ อสฺสาสวาเตน อุปหนนฺติ, อาวิสนฺตีติ วา อตฺโถ. น มจฺจุโนติ มจฺจุํ ปน เตปิ อสฺสาเสน อุปหนิตุํ วา อาวิสิตุํ วา น สกฺโกนฺติ. นิชฺฌปนํ กโรนฺตีติ พลิกมฺมวเสน ขมาเปนฺติ ปสาเทนฺติ. อปราธเกติ ราชาปราธการเก. ทูสเกติ รชฺชทูสเก. เหเกติ สนฺธิจฺเฉทาทีหิ โลกวิเหเก. ราชาโนติ ราชาโน. วิทิตฺวาน โทสนฺติ โทสํ ชานิตฺวา ยถานุรูเปน ทณฺเฑน ทณฺเฑนฺตีติ อตฺโถ. น มจฺจุโนติ เตปิ มจฺจุํ ทณฺฑยิตุํ น สกฺโกนฺติ.

นิชฺฌเปตุนฺติ สกฺขีหิ อตฺตโน นิรปราธภาวํ ปกาเสตฺวา ปสาเทตุํ. น อฑฺฒกา พลวา เตชวาปีติ ‘‘อิเม อฑฺฒา, อยํ กายพลาณพลาทีหิ พลวา, อยํ เตชวา’’ติ เอวมฺปิ น ปจฺจุราชสฺส อเปกฺขํ อตฺถิ, เอกสฺมิมฺปิ สตฺเต อเปกฺขํ เปมํ สิเนโห นตฺถิ, สพฺพเมว อภิมทฺทตีติ ทสฺเสติ. ปสยฺหาติ พลกฺกาเรน อภิภวิตฺวา. น มจฺจุโนติ เตปิ มจฺจุํ ขาทิตุํ น สกฺโกนฺติ. กโรนฺตาติ มายํ กโรนฺตา. โมเหนฺตีติ อภูตํ ภูตํ กตฺวา ทสฺเสนฺตา โมเหนฺติ. อุคฺคเตชาติ อุคฺคเตน วิสเตเชน สมนฺนาคตา. ติกิจฺฉกาติ วิสเวชฺชา. ธมฺมนฺตรี เวตฺตรณี จ โภโชติ เอเต เอวํนามกา เวชฺชา. โฆรมธียมานาติ โฆรํ นาม วิชฺชํ อธียนฺตา. โอสเธหีติ โฆรํ วา คนฺธารึ วา วิชฺชํ สาเวตฺวา โอสธํ อาทาย เตหิ โอสเธหิ ปจฺจตฺถิกานํ อทสฺสนํ วชนฺติ.

ธมฺโมติ สุจริตธมฺโม. รกฺขตีติ เยน รกฺขิโต, ตํ ปฏิรกฺขติ. สุขนฺติ ฉสุ กามสคฺเคสุ สุขํ อาวหติ. ปาเปตีติ ปฏิสนฺธิวเสน อุปเนติ.

เอวํ มหาสตฺโต จตุวีสติยา คาถาหิ ปิตุ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘มหาราช, ตุมฺหากํ รชฺชํ ตุมฺหากเมว โหตุ, น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ, ตุมฺเหหิ ปน สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺติ, ติฏฺถ, ตุมฺเห’’ติ วตฺวา อยทามํ ฉินฺทิตฺวา มตฺตหตฺถี วิย กฺจนปฺชรํ ฉินฺทิตฺวา สีหโปตโก วิย กาเม ปหาย มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ. อถสฺส ปิตา ‘‘มมปิ รชฺเชนตฺโถ นตฺถี’’ติ รชฺชํ ปหาย เตน สทฺธิฺเว นิกฺขมิ, ตสฺมึ นิกฺขนฺเต เทวีปิ อมจฺจาปิ พฺราหฺมณคหปติกาทโยปีติ สกลนครวาสิโน เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมึสุ. สมาคโม มหา อโหสิ, ปริสา ทฺวาทสโยชนิกา ชาตา. ตํ อาทาย มหาสตฺโต หิมวนฺตํ ปาวิสิ. สกฺโก ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา วิสฺสกมฺมํ เปเสตฺวา ทฺวาทสโยชนายามํ สตฺตโยชนวิตฺถารํ อสฺสมปทํ กาเรสิ. สพฺเพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาทาเปสิ. อิโต ปรํ มหาสตฺตสฺส ปพฺพชฺชา จ โอวาททานฺจ พฺรหฺมโลกปรายณตา จ ปริสาย อนปายคมนียตา จ สพฺพา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, อโยฆรปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

อโยฆรชาตกวณฺณนา จุทฺทสมา.

ชาตกุทฺทานํ –

มาตงฺโค จิตฺตสมฺภูโต, สิวิ สิรี จ โรหณํ;

หํโส สตฺติคุมฺโพ ภลฺลา, โสมนสฺสํ จมฺเปยฺยกํ.

ปโลภํ ปฺจปณฺฑิตํ, หตฺถิปาลํ อโยฆรํ;

วีสติยมฺหิ ชาตกา, จตุทฺทเสว สงฺคิตา.

วีสตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

(จตุตฺโถ ภาโค นิฏฺิโต)

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

ชาตก-อฏฺกถา

(ปฺจโม ภาโค)

๑๖. ตึสนิปาโต

[๕๑๑] ๑. กึฉนฺทชาตกวณฺณนา

กึฉนฺโท กิมธิปฺปาโยติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ สตฺถา พหู อุปาสเก จ อุปาสิกาโย จ อุโปสถิเก ธมฺมสฺสวนตฺถาย อาคนฺตฺวา ธมฺมสภายํ นิสินฺเน ‘‘อุโปสถิกาตฺถ อุปาสกา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ โว กตํ อุโปสถํ กโรนฺเตหิ, โปราณกา อุปฑฺฒูโปสถกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน มหนฺตํ ยสํ ปฏิลภึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต สทฺโธ อโหสิ ทานสีลอุโปสถกมฺเมสุ อปฺปมตฺโต. โส เสเสปิ อมจฺจาทโย ทานาทีสุ สมาทเปสิ. ปุโรหิโต ปนสฺส ปรปิฏฺิมํสิโก ลฺชขาทโก กูฏวินิจฺฉยิโก อโหสิ. ราชา อุโปสถทิวเส อมจฺจาทโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อุโปสถิกา โหถา’’ติ อาห. ปุโรหิโต อุโปสถํ น สมาทิยิ. อถ นํ ทิวา ลฺชํ คเหตฺวา กูฏฑฺฑํ กตฺวา อุปฏฺานํ อาคตํ ราชา ‘‘ตุมฺเห อุโปสถิกา’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉนฺโต ‘‘ตฺวมฺปิ อาจริย อุโปสถิโก’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘อามา’’ติ มุสาวาทํ กตฺวา ปาสาทา โอตริ. อถ นํ เอโก อมจฺโจ ‘‘นนุ ตุมฺเห น อุโปสถิกา’’ติ โจเทสิ. โส อาห – ‘‘อหํ เวลายเมว ภุฺชึ, เคหํ ปน คนฺตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถํ อธิฏฺาย สายํ น ภุฺชิสฺสามิ, รตฺตึ สีลํ รกฺขิสฺสามิ, เอวํ เม อุปฑฺฒูโปสถกมฺมํ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สาธุ, อาจริยา’’ติ. โส เคหํ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. ปุเนกทิวสํ ตสฺมึ วินิจฺฉเย นิสินฺเน อฺตรา สีลวตี อิตฺถี อฑฺฑํ กโรนฺตี ฆรํ คนฺตุํ อลภมานา ‘‘อุโปสถกมฺมํ นาติกฺกมิสฺสามี’’ติ อุปกฏฺเ กาเล มุขํ วิกฺขาเลตุํ อารภิ. ตสฺมึ ขเณ พฺราหฺมณสฺส สุปกฺกานํ อมฺพผลานํ อมฺพปิณฺฑิ อาหริยิตฺถ. โส ตสฺสา อุโปสถิกภาวํ ตฺวา ‘‘อิมานิ ขาทิตฺวา อุโปสถิกา โหหี’’ติ อทาสิ. สา ตถา อกาสิ. เอตฺตกํ พฺราหฺมณสฺส กมฺมํ.

โส อปรภาเค กาลํ กตฺวา หิมวนฺตปเทเส โกสิกิคงฺคาย ตีเร ติโยชนิเก อมฺพวเน รมณีเย ภูมิภาเค โสภคฺคปฺปตฺเต กนกวิมาเน อลงฺกตสิริสยเน สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย นิพฺพตฺติ อลงฺกตปฏิยตฺโต อุตฺตมรูปธโร โสฬสสหสฺสเทวกฺาปริวาโร. โส รตฺติฺเว ตํ สิริสมฺปตฺตึ อนุโภติ. เวมานิกเปตภาเวน หิสฺส กมฺมสริกฺขโก วิปาโก อโหสิ, ตสฺมา อรุเณ อุคฺคจฺฉนฺเต อมฺพวนํ ปวิสติ, ปวิฏฺกฺขเณเยวสฺส ทิพฺพตฺตภาโว อนฺตรธายติ, อสีติหตฺถตาลกฺขนฺธปฺปมาโณ อตฺตภาโว นิพฺพตฺตติ, สกลสรีรํ ฌายติ, สุปุปฺผิตกึสุโก วิย โหติ. ทฺวีสุ หตฺเถสุ เอเกกาว องฺคุลิ, ตตฺถ มหากุทฺทาลปฺปมาณา นขา โหนฺติ. เตหิ นเขหิ อตฺตโน ปิฏฺิมํสํ ผาเลตฺวา อุปฺปาเฏตฺวา ขาทนฺโต เวทนาปฺปตฺโต มหารวํ รวนฺโต ทุกฺขํ อนุโภติ. สูริเย อตฺถงฺคเต ตํ สรีรํ อนฺตรธายติ, ทิพฺพสรีรํ นิพฺพตฺตติ, อลงฺกตปฏิยตฺตา ทิพฺพนาฏกิตฺถิโย นานาตูริยานิ คเหตฺวา ปริวาเรนฺติ. โส มหาสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต รมณีเย อมฺพวเน ทิพฺพปาสาทํ อภิรุหติ. อิติ โส อุโปสถิกาย อิตฺถิยา อมฺพผลทานสฺส นิสฺสนฺเทน ติโยชนิกํ อมฺพวนํ ปฏิลภติ, ลฺชํ คเหตฺวา กูฏฑฺฑกรณนิสฺสนฺเทน ปน ปิฏฺิมํสํ อุปฺปาเฏตฺวา ขาทติ, อุปฑฺฒูโปสถสฺส นิสฺสนฺเทน รตฺตึ สมฺปตฺตึ อนุโภติ, โสฬสสหสฺสนาฏกิตฺถีหิ ปริวุโต ปริจาเรสิ.

ตสฺมึ กาเล พาราณสิราชา กาเมสุ โทสํ ทิสฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อโธคงฺคาย รมณีเย ภูมิปเทเส ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา อุฺฉาจริยาย ยาเปนฺโต วิหาสิ. อเถกทิวสํ ตมฺหา อมฺพวนา มหาฆฏปฺปมาณํ อมฺพปกฺกํ คงฺคาย ปติตฺวา โสเตน วุยฺหมานํ ตสฺส ตาปสสฺส ปริโภคติตฺถาภิมุขํ อคมาสิ. โส มุขํ โธวนฺโต ตํ มชฺเฌ นทิยา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อุทกํ ตรนฺโต คนฺตฺวา อาทาย อสฺสมปทํ อาหริตฺวา อคฺยาคาเร เปตฺวา สตฺถเกน ผาเลตฺวา ยาปนมตฺตํ ขาทิตฺวา เสสํ กทลิปณฺเณหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปุนปฺปุนํ ทิวเส ทิวเส ยาว ปริกฺขยา ขาทิ. ตสฺมึ ปน ขีเณ อฺํ ผลาผลํ ขาทิตุํ นาสกฺขิ, รสตณฺหาย พชฺฌิตฺวา ‘‘ตเมว อมฺพปกฺกํ ขาทิสฺสามี’’ติ นทีตีรํ คนฺตฺวา นทึ โอโลเกนฺโต ‘‘อมฺพํ อลภิตฺวา น อุฏฺหิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา นิสีทิ. โส ตตฺถ นิราหาโร เอกมฺปิ ทิวสํ, ทฺเวปิ, ตีณิ, จตุ, ปฺจ, ฉ ทิวสานิ วาตาตเปน ปริสุสฺสนฺโต อมฺพํ โอโลเกนฺโต นิสีทิ. อถ สตฺตเม ทิวเส นทีเทวตา อาวชฺชมานา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘อยํ ตาปโส ตณฺหาวสิโก หุตฺวา สตฺตาหํ นิราหาโร คงฺคํ โอโลเกนฺโต นิสีทิ, อิมสฺส อมฺพปกฺกํ อทาตุํ น ยุตฺตํ, อลภนฺโต มริสฺสติ, ทสฺสามิ ตสฺสา’’ติ อาคนฺตฺวา คงฺคาย อุปริ อากาเส ตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺตี ปมํ คาถมาห –

.

‘‘กึฉนฺโท กิมธิปฺปาโย, เอโก สมฺมสิ ฆมฺมนิ;

กึปตฺถยาโน กึ เอสํ, เกน อตฺเถน พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ ฉนฺโทติ อชฺฌาสโย. อธิปฺปาโยติ จิตฺตํ. สมฺมสีติ อจฺฉสิ. ฆมฺมนีติ คิมฺเห. เอสนฺติ เอสนฺโต. พฺราหฺมณาติ ปพฺพชิตตฺตา ตาปสํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พฺราหฺมณ, ตฺวํ กึ อธิปฺปาโย กึ จินฺเตนฺโต กึ ปตฺเถนฺโต กึ คเวสนฺโต เกนตฺเถน อิมสฺมึ คงฺคาตีเร คงฺคํ โอโลเกนฺโต นิสินฺโนติ.

ตํ สุตฺวา ตาปโส นว คาถา อภาสิ –

.

‘‘ยถา มหา วาริธโร, กุมฺโภ สุปริณาหวา;

ตถูปมํ อมฺพปกฺกํ, วณฺณคนฺธรสุตฺตมํ.

.

‘‘ตํ วุยฺหมานํ โสเตน, ทิสฺวานามลมชฺฌิเม;

ปาณีภิ นํ คเหตฺวาน, อคฺยายตนมาหรึ.

.

‘‘ตโต กทลิปตฺเตสุ, นิกฺขิปิตฺวา สยํ อหํ;

สตฺเถน นํ วิกปฺเปตฺวา, ขุปฺปิปาสํ อหาสิ เม.

.

‘‘โสหํ อเปตทรโถ, พฺยนฺตีภูโต ทุขกฺขโม;

อสฺสาทํ นาธิคจฺฉามิ, ผเลสฺวฺเสุ เกสุจิ.

.

‘‘โสเสตฺวา นูน มรณํ, ตํ มมํ อาวหิสฺสติ;

อมฺพํ ยสฺส ผลํ สาทุ, มธุรคฺคํ มโนรมํ;

ยมุทฺธรึ วุยฺหมานํ, อุทธิสฺมา มหณฺณเว.

.

‘‘อกฺขาตํ เต มยา สพฺพํ, ยสฺมา อุปวสามหํ;

รมฺมํ ปติ นิสินฺโนสฺมิ, ปุถุโลมายุตา ปุถุ.

.

‘‘ตฺวฺจ โข เมว อกฺขาหิ, อตฺตานมปลายินิ;

กา วา ตฺวมสิ กลฺยาณิ, กิสฺส วา ตฺวํ สุมชฺฌิเม.

.

‘‘รุปฺปปฏฺฏปลิมฏฺีว, พฺยคฺฆีว คิริสานุชา;

ยา สนฺติ นาริโย เทเวสุ, เทวานํ ปริจาริกา.

๑๐.

‘‘ยา จ มนุสฺสโลกสฺมึ, รูเปนานฺวาคติตฺถิโย;

รูเปน เต สทิสี นตฺถิ, เทเวสุ คนฺธพฺพมนุสฺสโลเก;

ปุฏฺาสิ เม จารุปุพฺพงฺคิ, พฺรูหิ นามฺจ พนฺธเว’’ติ.

ตตฺถ วาริธโร กุมฺโภติ อุทกฆโฏ. สุปริณาหวาติ สุสณฺาโน. วณฺณคนฺธรสุตฺตมนฺติ วณฺณคนฺธรเสหิ อุตฺตมํ. ทิสฺวานาติ ทิสฺวา. อมลมชฺฌิเมติ นิมฺมลมชฺเฌ. เทวตํ อาลปนฺโต เอวมาห. ปาณีภีติ หตฺเถหิ. อคฺยายตนมาหรินฺติ อตฺตโน อคฺคิหุตสาลํ อาหรึ. วิกปฺเปตฺวาติ วิจฺฉินฺทิตฺวา. ‘‘วิกนฺเตตฺวา’’ติปิ ปาโ. ‘‘ขาทิ’’นฺติ ปาเสโส. อหาสิ เมติ ตํ ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตเมว สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ ผริตฺวา มม ขุทฺจ ปิปาสฺจ หริ. อเปตทรโถติ วิคตกายจิตฺตทรโถ. สุธาโภชนํ ภุตฺตสฺส วิย หิ ตสฺส สพฺพทรถํ อปหริ. พฺยนฺตีภูโตติ ตสฺส อมฺพปกฺกสฺส วิคตนฺโต ชาโต, ปริกฺขีณอมฺพปกฺโก หุตฺวาติ อตฺโถ. ทุขกฺขโมติ ทุกฺเขน อสาเตน กายกฺขเมน เจว จิตฺตกฺขเมน จ สมนฺนาคโต. อฺเสุ ปน กทลิปนสาทีสุ ผเลสุ ปริตฺตกมฺปิ อสฺสาทํ นาธิคจฺฉามิ, สพฺพานิ เม ชิวฺหาย ปิตมตฺตานิ ติตฺตกาเนว สมฺปชฺชนฺตีติ ทีเปติ.

โสเสตฺวาติ นิราหารตาย โสเสตฺวา สุกฺขาเปตฺวา. ตํ มมนฺติ ตํ มม. ยสฺสาติ ยํ อสฺส, อโหสีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ ผลํ มม สาทุ อโหสิ, ยมหํ คมฺภีเร ปุถุลอุทกกฺขนฺธสงฺขาเต มหณฺณเว วุยฺหมานํ ตโต อุทธิสฺมา อุทฺธรึ, ตํ อมฺพํ มม มรณํ อาวหิสฺสตีติ มฺามิ, มยฺหํ ตํ อลภนฺตสฺส ชีวิตํ นปฺปวตฺติสฺสตีติ. อุปวสามีติ ขุปฺปิปาสาหิ อุปคโต วสามิ. รมฺมํ ปติ นิสินฺโนสฺมีติ รมณียํ นทึ ปติ อหํ นิสินฺโน. ปุถุโลมายุตา ปุถูติ อยํ นที ปุถุโลเมหิ มจฺเฉหิ อายุตา ปุถุ วิปุลา, อปิ นาม เม อิโต โสตฺถิ ภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย. อปลายินีติ อปลายิตฺวา มม สมฺมุเข ิเตติ ตํ เทวตํ อาลปติ. ‘‘อปลาสินี’’ติปิ ปาโ, ปลาสรหิเต อนวชฺชสรีเรติ อตฺโถ. กิสฺส วาติ กิสฺส วา การณา อิธาคตาสีติ ปุจฺฉติ.

รูปปฏฺฏปลิมฏฺีวาติ สุฏฺุ ปริมชฺชิตกฺจนปฏฺฏสทิสี. พฺยคฺฆีวาติ ลีลาวิลาเสน ตรุณพฺยคฺฆโปติกา วิย. เทวานนฺติ ฉนฺนํ กามาวจรเทวานํ. ยา จ มนุสฺสโลกสฺมินฺติ ยา จ มนุสฺสโลเก. รูเปนานฺวาคติตฺถิโยติ รูเปน อนฺวาคตา อิตฺถิโย นตฺถีติ อตฺตโน สมฺภาวนาย เอวมาห. ตว รูปสทิสาย นาม น ภวิตพฺพนฺติ หิสฺส อธิปฺปาโย. คนฺธพฺพมนุสฺสโลเกติ มูลคนฺธาทินิสฺสิเตสุ คนฺธพฺเพสุ จ มนุสฺสโลเก จ. จารุปุพฺพงฺคีติ จารุนา ปุพฺพงฺเคน อูรุลกฺขเณน สมนฺนาคเต. นามฺจ พนฺธเวติ อตฺตโน นามโคตฺตฺจ พนฺธเว จ มยฺหํ อกฺขาหีติ วทติ.

ตโต เทวธีตา อฏฺ คาถา อภาสิ –

๑๑.

‘‘ยํ ตฺวํ ปติ นิสินฺโนสิ, รมฺมํ พฺราหฺมณ โกสิกึ;

สาหํ ภุสาลยาวุตฺถา, วรวาริวโหฆสา.

๑๒.

‘‘นานาทุมคณากิณฺณา, พหุกา คิริกนฺทรา;

มเมว ปมุขา โหนฺติ, อภิสนฺทนฺติ ปาวุเส.

๑๓.

‘‘อโถ พหู วนโตทา, นีลวาริวหินฺธรา;

พหุกา นาควิตฺโตทา, อภิสนฺทนฺติ วารินา.

๑๔.

‘‘ตา อมฺพชมฺพุลพุชา, นีปา ตาลา จุทุมฺพรา;

พหูนิ ผลชาตานิ, อาวหนฺติ อภิณฺหโส.

๑๕.

‘‘ยํ กิฺจิ อุภโต ตีเร, ผลํ ปตติ อมฺพุนิ;

อสํสยํ ตํ โสตสฺส, ผลํ โหติ วสานุคํ.

๑๖.

‘‘เอตทฺาย เมธาวิ, ปุถุปฺ สุโณหิ เม;

มา โรจย มภิสงฺคํ, ปฏิเสธ ชนาธิป.

๑๗.

‘‘น วาหํ วฑฺฒวํ มฺเ, ยํ ตฺวํ รฏฺาภิวฑฺฒน;

อาเจยฺยมาโน ราชิสิ, มรณํ อภิกงฺขสิ.

๑๘.

‘‘ตสฺส ชานนฺติ ปิตโร, คนฺธพฺพา จ สเทวกา;

เย จาปิ อิสโย โลเก, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;

อสํสยํ เตปิ ชานนฺติ, ปฏฺภูตา ยสสฺสิโน’’ติ.

ตตฺถ โกสิกินฺติ ยํ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, รมฺมํ โกสิกึ คงฺคํ ปติ นิสินฺโน. ภุสาลยาวุตฺถาติ ภุเส จณฺฑโสเต อาลโย ยสฺส วิมานสฺส, ตสฺมึ อธิวตฺถา, คงฺคฏฺกวิมานวาสินีติ อตฺโถ. วรวาริวโหฆสาติ วรวาริวเหน โอเฆน สมนฺนาคตา. ปมุขาติ ตา วุตฺตปฺปการา คิริกนฺทรา มํ ปมุขํ กโรนฺติ, อหํ ตาสํ ปาโมกฺขา โหมีติ ทสฺเสติ. อภิสนฺทนฺตีติ สนฺทนฺติ ปวตฺตนฺติ, ตโต ตโต อาคนฺตฺวา มํ โกสิกิคงฺคํ ปวิสนฺตีติ อตฺโถ. วนโตทาติ น เกวลํ กนฺทราว, อถ โข พหู วนโตทา ตมฺหา ตมฺหา วนมฺหา อุทกานิปิ มํ พหูนิ ปวิสนฺติ. นีลวาริวหินฺธราติ มณิวณฺเณน นีลวารินา ยุตฺเต อุทกกฺขนฺธสงฺขาเต วเห ธารยนฺติโย. นาควิตฺโตทาติ นาคานํ วิตฺติกาเรน ธนสงฺขาเตน วา อุทเกน สมนฺนาคตา. วารินาติ เอวรูปา หิ พหู นทิโย มํ วารินาว อภิสนฺทนฺติ ปูเรนฺตีติ ทสฺเสติ.

ตาติ ตา นทิโย. อาวหนฺตีติ เอตานิ อมฺพาทีนิ อากฑฺฒนฺติ. สพฺพานิ หิ เอตานิ อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตวจนานิ. อถ วา ตาติ อุปโยคพหุวจนํ. อาวหนฺตีติ อิมานิ อมฺพาทีนิ ตา นทิโย อาคจฺฉนฺติ, อุปคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ, เอวํ อุปคตานิ ปน มม โสตํ ปวิสนฺตีติ อธิปฺปาโย. โสตสฺสาติ ยํ อุภโต ตีเร ชาตรุกฺเขหิ ผลํ มม อมฺพุนิ ปตติ, สพฺพํ ตํ มม โสตสฺเสว วสานุคํ โหติ. นตฺเถตฺถ สํสโยติ เอวํ อมฺพปกฺกสฺส นทีโสเตน อาคมนการณํ กเถสิ.

เมธาวิ ปุถุปฺาติ อุภยํ อาลปนเมว. มา โรจยาติ เอวํ ตณฺหาภิสงฺคํ มา โรจย. ปฏิเสธาติ ปฏิเสเธหิ นนฺติ ราชานํ โอวทติ. วฑฺฒวนฺติ ปฺาวฑฺฒภาวํ ปณฺฑิตภาวํ. รฏฺาภิวฑฺฒนาติ รฏฺสฺส อภิวฑฺฒน. อาเจยฺยมาโนติ มํสโลหิเตหิ อาจิยนฺโต วฑฺฒนฺโต, ตรุโณว หุตฺวาติ อตฺโถ. ราชิสีติ ตํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ ตฺวํ นิราหารตาย สุสฺสมาโน ตรุโณว สมาโน อมฺพโลเภน มรณํ อภิกงฺขสิ, น เว อหํ ตว อิมํ ปณฺฑิตภาวํ มฺามีติ.

ตสฺสาติ โย ปุคฺคโล ตณฺหาวสิโก โหติ, ตสฺส ตณฺหาวสิกภาวํ ‘‘ปิตโร’’ติ สงฺขํ คตา พฺรหฺมาโน จ สทฺธึ กามาวจรเทเวหิ คนฺธพฺพา จ วุตฺตปฺปการา ทิพฺพจกฺขุกา อิสโย จ อสํสยํ ชานนฺติ. อนจฺฉริยฺเจตํ, ยํ เต อิทฺธิมนฺโต ชาเนยฺยุํ, ‘‘อสุโก หิ นาม ตณฺหาวสิโก โหตี’’ติ. ปุน เตสํ ภาสมานานํ วจนํ สุตฺวา เยปิ เตสํ ปฏฺภูตา ยสสฺสิโน ปริจารกา, เตปิ ชานนฺติ. ปาปกมฺมํ กโรนฺตสฺส หิ รโห นาม นตฺถีติ ตาปสสฺส สํเวคํ อุปฺปาเทนฺตี เอวมาห.

ตโต ตาปโส จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๙.

‘‘เอวํ วิทิตฺวา วิทู สพฺพธมฺมํ, วิทฺธํสนํ จวนํ ชีวิตสฺส;

น จียตี ตสฺส นรสฺส ปาปํ, สเจ น เจเตติ วธาย ตสฺส.

๒๐.

‘‘อิสิปูคสมฺาเต, เอวํ โลกฺยา วิทิตา สติ;

อนริยปริสมฺภาเส, ปาปกมฺมํ ชิคีสสิ.

๒๑.

‘‘สเจ อหํ มริสฺสามิ, ตีเร เต ปุถุสุสฺโสณิ;

อสํสยํ ตํ อสิโลโก, มยิ เปเต อาคมิสฺสติ.

๒๒.

‘‘ตสฺมา หิ ปาปกํ กมฺมํ, รกฺขสฺเสว สุมชฺฌิเม;

มา ตํ สพฺโพ ชโน ปจฺฉา, ปกุฏฺายิ มยิ มเต’’ติ.

ตตฺถ เอวํ วิทิตฺวาติ ยถา อหํ สีลฺจ อนิจฺจตฺจ ชานามิ, เอวํ ชานิตฺวา ิตสฺส. วิทูติ วิทุโน. สพฺพธมฺมนฺติ สพฺพํ สุจริตธมฺมํ. ติวิธฺหิ สุจริตํ อิธ สพฺพธมฺโมติ อธิปฺเปตํ. วิทฺธํสนนฺติ ภงฺคํ. จวนนฺติ จุตึ. ชีวิตสฺสาติ อายุโน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอวํ วิทิตฺวา ิตสฺส ปณฺฑิตสฺส สพฺพํ สุจริตธมฺมํ ชีวิตสฺส จ อนิจฺจตํ ชานนฺตสฺส เอวรูปสฺส นรสฺส ปาปํ น จียติ น วฑฺฒติ. สเจ น เจเตติ วธาย ตสฺสาติ ตสฺส สงฺขํ คตสฺส ปรปุคฺคลสฺส วธาย น เจเตติ น ปกปฺเปติ, เนว ปรปุคฺคลํ วธาย เจเตติ, นาปิ ปรสนฺตกํ วินาเสติ, อหฺจ กสฺสจิ วธาย อเจเตตฺวา เกวลํ อมฺพปกฺเก อาสงฺคํ กตฺวา คงฺคํ โอโลเกนฺโต นิสินฺโน, ตฺวํ มยฺหํ กึ นาม อกุสลํ ปสฺสสีติ.

อิสิปูคสมฺาเตติ อิสิคเณน สุฏฺุ อฺาเต อิสีนํ สมฺมเต. เอวํ โลกฺยาติ ตฺวํ นาม ปาปปวาหเนน โลกสฺส หิตาติ เอวํ วิทิตา. สตีติ สติ โสภเน อุตฺตเมติ อาลปนเมตํ. อนริยปริสมฺภาเสติ ‘‘ตสฺส ชานนฺติ ปิตโร’’ติอาทิกาย อสุนฺทราย ปริภาสาย สมนฺนาคเต. ชิคีสสีติ มยิ ปาเป อสํวิชฺชนฺเตปิ มํ เอวํ ปริภาสนฺตี จ ปรมรณํ อชฺฌุเปกฺขนฺตี จ อตฺตโน ปาปกมฺมํ คเวสสิ อุปฺปาเทสิ. ตีเร เตติ ตว คงฺคาตีเร. ปุถุสุสฺโสณีติ ปุถุลาย สุนฺทราย โสณิยา สมนฺนาคเต. เปเตติ อมฺพปกฺกํ อลภิตฺวา ปรโลกํ คเต, มเตติ อตฺโถ. ปกุฏฺายีติ อกฺโกสิ ครหิ นินฺทิ. ‘‘ปกฺวตฺถาสี’’ติปิ ปาโ.

ตํ สุตฺวา เทวธีตา ปฺจ คาถา อภาสิ –

๒๓.

‘‘อฺาตเมตํ อวิสยฺหสาหิ, อตฺตานมมฺพฺจ ททามิ เต ตํ;

โย ทุพฺพเช กามคุเณ ปหาย, สนฺติฺจ ธมฺมฺจ อธิฏฺิโตสิ.

๒๔.

‘‘โย หิตฺวา ปุพฺพสฺโคํ, ปจฺฉาสํโยชเน ิโต;

อธมฺมฺเจว จรติ, ปาปฺจสฺส ปวฑฺฒติ.

๒๕.

‘‘เอหิ ตํ ปาปยิสฺสามิ, กามํ อปฺโปสฺสุโก ภว;

อุปนยามิ สีตสฺมึ, วิหราหิ อนุสฺสุโก.

๒๖.

‘‘ตํ ปุปฺผรสมตฺเตภิ, วกฺกงฺเคหิ อรินฺทม;

โกฺจา มยูรา ทิวิยา, โกลฏฺิมธุสาฬิกา;

กูชิตา หํสปูเคหิ, โกกิเลตฺถ ปโพธเร.

๒๗.

‘‘อมฺเพตฺถ วิปฺปสาขคฺคา, ปลาลขลสนฺนิภา;

โกสมฺพสลฬา นีปา, ปกฺกตาลวิลมฺพิโน’’ติ.

ตตฺถ อฺาตเมตนฺติ ‘‘ครหา เต ภวิสฺสตีติ วทนฺโต อมฺพปกฺกตฺถาย วทสี’’ติ เอตํ การณํ มยา อฺาตํ. อวิสยฺหสาหีติ ราชาโน นาม ทุสฺสหํ สหนฺติ, เตน นํ อาลปนฺตี เอวมาห. อตฺตานนฺติ ตํ อาลิงฺคิตฺวา อมฺพวนํ นยนฺตี อตฺตานฺจ เต ททามิ ตฺจ อมฺพํ. กามคุเณติ กฺจนมาลาเสตจฺฉตฺตปฏิมณฺฑิเต วตฺถุกาเม. สนฺติฺจ ธมฺมฺจาติ ทุสฺสีลฺยวูปสเมน สนฺติสงฺขาตํ สีลฺเจว สุจริตธมฺมฺจ. อธิฏฺิโตสีติ โย ตฺวํ อิเม คุเณ อุปคโต, เอเตสุ วา ปติฏฺิโตติ อตฺโถ.

ปุพฺพสฺโคนฺติ ปุริมพนฺธนํ. ปจฺฉาสํโยชเนติ ปจฺฉิมพนฺธเน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺโภ ตาปส โย มหนฺตํ รชฺชสิริวิภวํ ปหาย อมฺพปกฺกมตฺเต รสตณฺหาย พชฺฌิตฺวา วาตาตปํ อคเณตฺวา นทีตีเร สุสฺสมาโน นิสีทติ, โส มหาสมุทฺทํ ตริตฺวา เวลนฺเต สํสีทนปุคฺคลสทิโส. โย ปุคฺคโล รสตณฺหาวสิโก อธมฺมฺเจว จรติ, รสตณฺหาวเสน กริยมานํ ปาปฺจสฺส ปวฑฺฒตีติ. อิติ สา ตาปสํ ครหนฺตี เอวมาห.

กามํ อปฺโปสฺสุโก ภวาติ เอกํเสเนว อมฺพปกฺเก นิราลโย โหหิ. สีตสฺมินฺติ สีตเล อมฺพวเน. นฺติ เอวํ วทมานาว เทวตา ตาปสํ อาลิงฺคิตฺวา อุเร นิปชฺชาเปตฺวา อากาเส ปกฺขนฺตา ติโยชนิกํ ทิพฺพอมฺพวนํ ทิสฺวา สกุณสทฺทฺจ สุตฺวา ตาปสสฺส อาจิกฺขนฺตี ‘‘ต’’นฺติ เอวมาห. ปุปฺผรสมตฺเตภีติ ปุปฺผรเสน มตฺเตหิ. วกฺกงฺเคหีติ วงฺกคีเวหิ สกุเณหิ อภินาทิตนฺติ อตฺโถ. อิทานิ เต สกุเณ อาจิกฺขนฺตี ‘‘โกฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทิวิยาติ ทิพฺยา. โกลฏฺิมธุสาฬิกาติ โกลฏฺิสกุณา จ นาม สุวณฺณสาฬิกา สกุณา จ. เอเต ทิพฺพสกุณา เอตฺถ วสนฺตีติ ทสฺเสติ. กูชิตา หํสปูเคหีติ หํสคเณหิ อุปกูชิตา วิรวสงฺฆฏฺฏิตา. โกกิเลตฺถ ปโพธเรติ เอตฺถ อมฺพวเน โกกิลา วสฺสนฺติโย อตฺตานํ ปโพเธนฺติ าเปนฺติ. อมฺเพตฺถาติ อมฺพา เอตฺถ. วิปฺปสาขคฺคาติ ผลภาเรน โอนมิตสาขคฺคา. ปลาลขลสนฺนิภาติ ปุปฺผสนฺนิจเยน สาลิปลาลขลสทิสา. ปกฺกตาลวิลมฺพิโนติ ปกฺกตาลผลวิลมฺพิโน. เอวรูปา รุกฺขา จ เอตฺถ อตฺถีติ อมฺพวนํ วณฺเณติ.

วณฺณยิตฺวา จ ปน ตาปสํ ตตฺถ โอตาเรตฺวา ‘‘อิมสฺมึ อมฺพวเน อมฺพานิ ขาทนฺโต อตฺตโน ตณฺหํ ปูเรหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ. ตาปโส อมฺพานิ ขาทิตฺวา ตณฺหํ ปูเรตฺวา วิสฺสมิตฺวา อมฺพวเน วิจรนฺโต ตํ เปตํ ทุกฺขํ อนุภวนฺตํ ทิสฺวา กิฺจิ วตฺตุํ นาสกฺขิ. สูริเย ปน อตฺถงฺคเต ตํ นาฏกิตฺถิปริวาริตํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมานํ ทิสฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๘.

‘‘มาลี กิริฏี กายูรี, องฺคที จนฺทนุสฺสโท;

รตฺตึ ตฺวํ ปริจาเรสิ, ทิวา เวเทสิ เวทนํ.

๒๙.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, ยา เตมา ปริจาริกา;

เอวํ มหานุภาโวสิ, อพฺภุโต โลมหํสโน.

๓๐.

‘‘กึ กมฺมมกรี ปุพฺเพ, ปาปํ อตฺตทุขาวหํ;

ยํ กริตฺวา มนุสฺเสสุ, ปิฏฺิมํสานิ ขาทสี’’ติ.

ตตฺถ มาลีติ ทิพฺพมาลาธโร. กิริฏีติ ทิพฺพเวนธโร. กายูรีติ ทิพฺพาภรณปฏิมณฺฑิโต. องฺคทีติ ทิพฺพงฺคทสมนฺนาคโต. จนฺทนุสฺสโทติ ทิพฺพจนฺทนวิลิตฺโต. ปริจาเรสีติ อินฺทฺริยานิ ทิพฺพวิสเยสุ จาเรสิ. ทิวาติ ทิวา ปน มหาทุกฺขํ อนุโภสิ. ยา เตมาติ ยา เต อิมา. อพฺภุโตติ มนุสฺสโลเก อภูตปุพฺโพ. โลมหํสโนติ เย ตํ ปสฺสนฺติ, เตสํ โลมานิ หํสนฺติ. ปุพฺเพติ ปุริมภเว. อตฺตทุขาวหนฺติ อตฺตโน ทุกฺขาวหํ. มนุสฺเสสูติ ยํ มนุสฺสโลเก กตฺวา อิทานิ อตฺตโน ปิฏฺิมํสานิ ขาทสีติ ปุจฺฉติ.

เปโต ตํ สฺชานิตฺวา ‘‘ตุมฺเห มํ น สฺชานาถ, อหํ ตุมฺหากํ ปุโรหิโต อโหสึ, อิทํ เม รตฺตึ สุขานุภวนํ ตุมฺเห นิสฺสาย กตสฺส อุปฑฺฒูโปสถสฺส นิสฺสนฺเทน ลทฺธํ, ทิวา ทุกฺขานุภวนํ ปน มยา ปกตสฺส ปาปสฺเสว นิสฺสนฺเทน. อหฺหิ ตุมฺเหหิ วินิจฺฉเย ปิโต กูฏฑฺฑํ กริตฺวา ลฺชํ คเหตฺวา ปรปิฏฺิมํสิโก หุตฺวา ตสฺส ทิวา กตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน อิทํ ทุกฺขํ อนุภวามี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๓๑.

‘‘อชฺเฌนานิ ปฏิคฺคยฺห, กาเมสุ คธิโต อหํ;

อจรึ ทีฆมทฺธานํ, ปเรสํ อหิตายหํ.

๓๒.

‘‘โย ปิฏฺิมํสิโก โหติ, เอวํ อุกฺกจฺจ ขาทติ;

ยถาหํ อชฺช ขาทามิ, ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน’’ติ.

ตตฺถ อชฺเฌนานีติ เวเท. ปฏิคฺคยฺหาติ ปฏิคฺคเหตฺวา อธียิตฺวา. อจรินฺติ ปฏิปชฺชึ. อหิตายหนฺติ อหิตาย อตฺถนาสนาย อหํ. โย ปิฏฺิมํสิโกติ โย ปุคฺคโล ปเรสํ ปิฏฺิมํสขาทโก ปิสุโณ โหติ. อุกฺกจฺจาติ อุกฺกนฺติตฺวา.

อิทฺจ ปน วตฺวา ตาปสํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตุมฺเห กถํ อิธาคตา’’ติ. ตาปโส สพฺพํ วิตฺถาเรน กเถสิ. ‘‘อิทานิ ปน, ภนฺเต, อิเธว วสิสฺสถ, คมิสฺสถา’’ติ. ‘‘น วสิสฺสามิ, อสฺสมปทํเยว คมิสฺสามี’’ติ. เปโต ‘‘สาธุ, ภนฺเต, อหํ โว นิพทฺธํ อมฺพปกฺเกน อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน อสฺสมปเทเยว โอตาเรตฺวา ‘‘อนุกฺกณฺา อิเธว วสถา’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา คโต. ตโต ปฏฺาย นิพทฺธํ อมฺพปกฺเกน อุปฏฺหิ. ตาปโส ตํ ปริภุฺชนฺโต กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

สตฺถา อุปาสกานํ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน เกจิ โสตาปนฺนา อเหสุํ, เกจิ สกทาคามิโน, เกจิ อนาคามิโน. ตทา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, ตาปโส ปน อหเมว อโหสินฺติ.

กึฉนฺทชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๑๒] ๒. กุมฺภชาตกวณฺณนา

โก ปาตุราสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต วิสาขาย สหายิกา สุราปีตา ปฺจสตา อิตฺถิโย อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิร สุราฉเณ สงฺฆุฏฺเ ตา ปฺจสตา อิตฺถิโย สามิกานํ ฉเณ กีฬมานานํ ติกฺขสุรํ ปฏิยาเทตฺวา ‘‘ฉณํ กีฬิสฺสามา’’ติ สพฺพาปิ วิสาขาย สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘สหายิเก ฉณํ กีฬิสฺสามา’’ติ วตฺวา ‘‘อยํ สุราฉโณ, น อหํ สุรํ ปิวิสฺสามี’’ติ วุตฺเต – ‘‘ตุมฺเห สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทานํ เทถ, มยํ ฉณํ กริสฺสามา’’ติ อาหํสุ. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตา อุยฺโยเชตฺวา สตฺถารํ นิมนฺตาเปตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา พหุํ คนฺธมาลํ อาทาย สายนฺหสมเย ธมฺมกถํ โสตุํ ตาหิ ปริวุตา เชตวนํ อคมาสิ. ตา ปนิตฺถิโย สุรํ ปิวมานาว ตาย สทฺธึ คนฺตฺวา ทฺวารโกฏฺเก ตฺวา สุรํ ปิวิตฺวาว ตาย สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ อคมํสุ. วิสาขา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, อิตราสุ เอกจฺจา สตฺถุ สนฺติเกเยว นจฺจึสุ, เอกจฺจา คายึสุ, เอกจฺจา หตฺถกุกฺกุจฺจปาทกุกฺกุจฺจานิ, เอกจฺจา กลหํ อกํสุ.

สตฺถา ตาสํ สํเวคชนนตฺถาย ภมุกโลมโต รํสี วิสฺสชฺเชสิ, อนฺธการติมิสา อโหสิ. ตา ภีตา อเหสุํ มรณภยตชฺชิตา, เตน ตาสํ สุรา ชีริ. สตฺถา นิสินฺนปลฺลงฺเก อนฺตรหิโต สิเนรุมุทฺธนิ ตฺวา อุณฺณโลมโต รํสี วิสฺสชฺเชสิ, จนฺทสูริยสหสฺสุคฺคมนํ วิย อโหสิ. สตฺถา ตตฺถ ิโตว ตาสํ สํเวคชนนตฺถาย –

‘‘โก นุ หาโส กิมานนฺโท, นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ;

อนฺธกาเรน โอนทฺธา, ปทีปํ น คเวสถา’’ติ. (ธ. ป. ๑๔๖) –

อิมํ คาถมาห. คาถาปริโยสาเน ตา ปฺจสตาปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา คนฺธกุฏิฉายาย พุทฺธาสเน นิสีทิ. อถ นํ วิสาขา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิทํ หิโรตฺตปฺปเภทกํ สุราปานํ นาม กทา อุปฺปนฺน’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ตสฺสา อาจิกฺขนฺโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก กาสิรฏฺวาสี สุโร นาม วนจรโก ภณฺฑปริเยสนตฺถาย หิมวนฺตํ อคมาสิ. ตตฺเถโก รุกฺโข อุคฺคนฺตฺวา โปริสมตฺเต าเน ติธากปฺโป อโหสิ. ตสฺส ติณฺณํ กปฺปานํ อนฺตเร จาฏิปฺปมาโณ อาวาโฏ อโหสิ. โส เทเว วสฺสนฺเต อุทเกน ปูริโต, ตํ ปริวาเรตฺวา หรีตกี อามลกี มริจคจฺโฉ จ อโหสิ, เตสํ ปกฺกานิ ผลานิ ฉิชฺชิตฺวา ตตฺถ ปตนฺติ. ตสฺสาวิทูเร สยํชาตสาลิ ชาโต, ตโต สุวกา สาลิสีสานิ อาหริตฺวา ตสฺมึ รุกฺเข นิสีทิตฺวา ขาทนฺติ. เตสํ ขาทมานานํ สาลีปิ ตณฺฑุลาปิ ตตฺถ ปตนฺติ. อิติ ตํ อุทกํ สูริยสนฺตาเปน ปจฺจมานํ รสํ โลหิตวณฺณํ อโหสิ. นิทาฆสมเย ปิปาสิตา สกุณคณา อาคนฺตฺวา ตํ ปิวิตฺวา มตฺตา ปริวตฺติตฺวา รุกฺขมูเล ปตึสุ, ตสฺมึ โถกํ นิทฺทายิตฺวา วิกูชมานา ปกฺกมนฺติ. รุกฺขสุนขมกฺกฏาทีสุปิ เอเสว นโย. วนจรโก ตํ ทิสฺวา ‘‘สเจ อิทํ วิสํ ภเวยฺย, อิเม มเรยฺยุํ, อิเม ปน โถกํ นิทฺทายิตฺวา ยถาสุขํ คจฺฉนฺติ, นยิทํ วิส’’นฺติ สยํ ปิวิตฺวา มตฺโต หุตฺวา มํสํ ขาทิตุกาโม อโหสิ. ตโต อคฺคึ กตฺวา รุกฺขมูเล ปติเต ติตฺติรกุกฺกุฏาทโย มาเรตฺวา มํสํ องฺคาเร ปจิตฺวา เอเกน หตฺเถน นจฺจนฺโต เอเกน มํสํ ขาทนฺโต เอกาหทฺวีหํ ตตฺเถว อโหสิ.

ตโต ปน อวิทูเร เอโก วรุโณ นาม ตาปโส วสติ. วนจรโก อฺทาปิ ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ ปานํ ตาปเสน สทฺธึ ปิวิสฺสามี’’ติ. โส เอกํ เวฬุนาฬิกํ ปูเรตฺวา ปกฺกมํเสน สทฺธึ อาหริตฺวา ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิมํ ปิวถา’’ติ วตฺวา อุโภปิ มํสํ ขาทนฺตา ปิวึสุ. อิติ สุเรน จ วรุเณน จ ทิฏฺตฺตา ตสฺส ปานสฺส ‘‘สุรา’’ติ จ ‘‘วรุณา’’ติ จ นามํ ชาตํ. เต อุโภปิ ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ เวฬุนาฬิโย ปูเรตฺวา กาเชนาทาย ปจฺจนฺตนครํ คนฺตฺวา ‘‘ปานการกา นาม อาคตา’’ติ รฺโ อาโรจาเปสุํ. ราชา เน ปกฺโกสาเปสิ, เต ตสฺส ปานํ อุปเนสุํ. ราชา ทฺเว ตโย วาเร ปิวิตฺวา มชฺชิ, ตสฺส ตํ เอกาหทฺวีหมตฺตเมว อโหสิ. อถ เน ‘‘อฺมฺปิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, เทวา’’ติ. ‘‘กุหิ’’นฺติ? ‘‘หิมวนฺเต เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ อาเนถา’’ติ. เต คนฺตฺวา เอกทฺเว วาเร อาเนตฺวา ‘‘นิพทฺธํ คนฺตุํ น สกฺขิสฺสามา’’ติ สมฺภาเร สลฺลกฺเขตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส ตจํ อาทึ กตฺวา สพฺพสมฺภาเร ปกฺขิปิตฺวา นคเร สุรํ กรึสุ. นาครา สุรํ ปิวิตฺวา ปมาทํ อาปนฺนา ทุคฺคตา อเหสุํ, นครํ สุฺํ วิย อโหสิ, เตน ปานการกา ตโต ปลายิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ‘‘ปานการกา อาคตา’’ติ รฺโ อาโรจาเปสุํ. ราชา เน ปกฺโกสาเปตฺวา ปริพฺพยํ อทาสิ. เต ตตฺถาปิ สุรํ อกํสุ, ตมฺปิ นครํ ตเถว วินสฺสิ, ตโต ปลายิตฺวา สาเกตํ, สาเกตโต สาวตฺถึ อคมํสุ.

ตทา สาวตฺถิยํ สพฺพมิตฺโต นาม ราชา อโหสิ. โส เตสํ สงฺคหํ กตฺวา ‘‘เกน โว อตฺโถ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สมฺภารมูเลน เจว สาลิปิฏฺเน จ ปฺจหิ จาฏิสเตหิ จา’’ติ วุตฺเต สพฺพํ ทาเปสิ. เต ปฺจสุ จาฏิสเตสุ สุรํ สณฺาเปตฺวา มูสิกภเยน จาฏิรกฺขณตฺถาย เอเกกาย จาฏิยา สนฺติเก เอเกกํ พิฬารํ พนฺธึสุ. เต ปจฺจิตฺวา อุตฺตรณกาเล จาฏิกุจฺฉีสุ ปคฺฆรนฺตํ สุรํ ปิวิตฺวา มตฺตา นิทฺทายึสุ. มูสิกา อาคนฺตฺวา เตสํ กณฺณนาสิกทาิกนงฺคุฏฺเ ขาทิตฺวา อคมํสุ. ‘‘พิฬารา สุรํ ปิวิตฺวา มตา’’ติ อายุตฺตกปุริสา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘วิสการกา เอเต ภวิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ สีสานิ ฉินฺทาเปสิ. เต ‘‘สุรํ เทว, มธุรํ เทวา’’ติ วิรวนฺตาว มรึสุ. ราชา เต มาราเปตฺวา ‘‘จาฏิโย ภินฺทถา’’ติ อาณาเปสิ. พิฬาราปิ สุราย ชิณฺณาย อุฏฺหิตฺวา กีฬนฺตา วิจรึสุ, เต ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘สเจ วิสํ อสฺส, เอเต มเรยฺยุํ, มธุเรเนว ภวิตพฺพํ, ปิวิสฺสามิ น’’นฺติ นครํ อลงฺการาเปตฺวา ราชงฺคเณ มณฺฑปํ การาเปตฺวา อลงฺกตมณฺฑเป สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา อมจฺจคณปริวุโต สุรํ ปาตุํ อารภิ.

ตทา สกฺโก เทวราชา ‘‘เก นุ โข มาตุปฏฺานาทีสุ อปฺปมตฺตา ตีณิ สุจริตานิ ปูเรนฺตี’’ติ โลกํ โวโลเกนฺโต ตํ ราชานํ สุรํ ปาตุํ นิสินฺนํ ทิสฺวา ‘‘สจายํ สุรํ ปิวิสฺสติ, สกลชมฺพุทีโป นสฺสิสฺสติ. ยถา น ปิวิสฺสติ, ตถา นํ กริสฺสามี’’ติ เอกํ สุราปุณฺณํ กุมฺภํ หตฺถตเล เปตฺวา พฺราหฺมณเวเสนาคนฺตฺวา รฺโ สมฺมุขฏฺาเน อากาเส ตฺวา ‘‘อิมํ กุมฺภํ กิณาถ, อิมํ กุมฺภํ กิณาถา’’ติ อาห. สพฺพมิตฺตราชา ตํ ตถา วทนฺตํ อากาเส ิตํ ทิสฺวา ‘‘กุโต นุ โข พฺราหฺมโณ อาคจฺฉตี’’ติ เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๓๓.

‘‘โก ปาตุราสี ติทิวา นภมฺหิ, โอภาสยํ สํวรึ จนฺทิมาว;

คตฺเตหิ เต รสฺมิโย นิจฺฉรนฺติ, สเตรตา วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๓๔.

‘‘โส ฉินฺนวาตํ กมสี อฆมฺหิ, เวหายสํ คจฺฉสิ ติฏฺสี จ;

อิทฺธี นุ เต วตฺถุกตา สุภาวิตา, อนทฺธคูนํ อปิ เทวตานํ.

๓๕.

‘‘เวหายสํ คมฺมมาคมฺม ติฏฺสิ, กุมฺภํ กิณาถาติ ยเมตมตฺถํ;

โก วา ตุวํ กิสฺส วา ตาย กุมฺโภ, อกฺขาหิ เม พฺราหฺมณ เอตมตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ โก ปาตุราสีติ กุโต ปาตุภูโตสิ, กุโต อาคโตสีติ อตฺโถ. ติทิวา นภมฺหีติ กึ ตาวตึสภวนา อาคนฺตฺวา อิธ นภมฺหิ อากาเส ปากโฏ ชาโตสีติ ปุจฺฉติ. สํวรินฺติ รตฺตึ. สเตรตาติ เอวํนามิกา. โสติ โส ตฺวํ. ฉินฺนวาตนฺติ วลาหโกปิ ตาว วาเตน กมติ, ตสฺส ปน โสปิ วาโต นตฺถิ, เตเนวมาห. กมสีติ ปวตฺเตสิ. อฆมฺหีติ อปฺปฏิเฆ อากาเส. วตฺถุกตาติ วตฺถุ วิย ปติฏฺา วิย กตา. อนทฺธคูนํ อปิ เทวตานนฺติ ยา ปทสา อทฺธานํ อคมเนน อนทฺธคูนํ เทวตานํ อิทฺธิ, สา อปิ ตว สุภาวิตาติ ปุจฺฉติ. เวหายสํ คมฺมมาคมฺมาติ อากาเส ปวตฺตํ ปทวีติหารํ ปฏิจฺจ นิสฺสาย. ‘‘ติฏฺสี’’ติ อิมสฺส ‘‘โก วา ตุว’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ, เอวํ ติฏฺมาโน โก วา ตฺวนฺติ อตฺโถ. ยเมตมตฺถนฺติ ยํ เอตํ วทสิ. อิมสฺส ‘‘กิสฺส วา ตาย’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ยํ เอตํ กุมฺภํ กิณาถาติ วทสิ, กิสฺส วา เต อยํ กุมฺโภติ อตฺโถ.

ตโต สกฺโก ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ วตฺวา สุราย โทเส ทสฺเสนฺโต อาห –

๓๖.

‘‘น สปฺปิกุมฺโภ นปิ เตลกุมฺโภ, น ผาณิตสฺส น มธุสฺส กุมฺโภ;

กุมฺภสฺส วชฺชานิ อนปฺปกานิ, โทเส พหู กุมฺภคเต สุณาถ.

๓๗.

‘‘คเฬยฺย ยํ ปิตฺวา ปเต ปปาตํ, โสพฺภํ คุหํ จนฺทนิโยฬิคลฺลํ;

พหุมฺปิ ภุฺเชยฺย อโภชเนยฺยํ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๓๘.

‘‘ยํ ปิตฺวา จิตฺตสฺมึ อเนสมาโน, อาหิณฺฑตี โคริว ภกฺขสาที;

อนาถมาโน อุปคายติ นจฺจติ จ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๓๙.

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวา อเจโลว นคฺโค, จเรยฺย คาเม วิสิขนฺตรานิ;

สมฺมูฬฺหจิตฺโต อติเวลสายี, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๐.

‘‘ยํ ปิตฺวา อุฏฺาย ปเวธมาโน, สีสฺจ พาหุฺจ ปจาลยนฺโต;

โส นจฺจตี ทารุกฏลฺลโกว, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๑.

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวา อคฺคิทฑฺฒา สยนฺติ, อโถ สิคาเลหิปิ ขาทิตาเส;

พนฺธํ วธํ โภคชานิฺจุเปนฺติ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๒.

‘‘ยํ ปิตฺวา ภาเสยฺย อภาสเนยฺยํ, สภายมาสีโน อเปตวตฺโถ;

สมฺมกฺขิโต วนฺตคโต พฺยสนฺโน, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๓.

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวา อุกฺกฏฺโ อาวิลกฺโข, มเมว สพฺพปถวีติ มฺเ;

น เม สโม จาตุรนฺโตปิ ราชา, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๔.

‘‘มานาติมานา กลหานิ เปสุณี, ทุพฺพณฺณินี นคฺคยินี ปลายินี;

โจราน ธุตฺตาน คตี นิเกโต, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๕.

‘‘อิทฺธานิ ผีตานิ กุลานิ อสฺสุ, อเนกสาหสฺสธนานิ โลเก;

อุจฺฉินฺนทายชฺชกตานิมาย, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๖.

‘‘ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ, เขตฺตํ ควํ ยตฺถ วินาสยนฺติ;

อุจฺเฉทนี วิตฺตคตํ กุลานํ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๗.

‘‘ยํ เว ปิตฺวา ทิตฺตรูโปว โปโส, อกฺโกสติ มาตรํ ปิตรฺจ;

สสฺสุมฺปิ คณฺเหยฺย อโถปิ สุณฺหํ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๘.

‘‘ยํ เว ปิตฺวา ทิตฺตรูปาว นารี, อกฺโกสตี สสฺสุรํ สามิกฺจ;

ทาสมฺปิ คณฺเห ปริจาริกมฺปิ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๔๙.

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวาน หเนยฺย โปโส, ธมฺเม ิตํ สมณํ พฺราหฺมณํ วา;

คจฺเฉ อปายมฺปิ ตโตนิทานํ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๐.

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวา ทุจฺจริตํ จรนฺติ, กาเยน วาจาย จ เจตสา จ;

นิรยํ วชนฺติ ทุจฺจริตํ จริตฺวา, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๑.

‘‘ยํ ยาจมานา น ลภนฺติ ปุพฺเพ, พหุํ หิรฺมฺปิ ปริจฺจชนฺตา;

โส ตํ ปิวิตฺวา อลิกํ ภณาติ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๒.

‘‘ยํ เว ปิตฺวา เปสเน เปสิยนฺโต, อจฺจายิเก กรณียมฺหิ ชาเต;

อตฺถมฺปิ โส นปฺปชานาติ วุตฺโต, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๓.

‘‘หิรีมนาปิ อหิรีกภาวํ, ปาตุํ กโรนฺติ มทนาย มตฺตา;

ธีราปิ สนฺตา พหุกํ ภณนฺติ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๔.

‘‘ยํ เว ปิตฺวา เอกถูปา สยนฺติ, อนาสกา ถณฺฑิลทุกฺขเสยฺยํ;

ทุพฺพณฺณิยํ อายสกฺยฺจุเปนฺติ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๕.

‘‘ยํ เว ปิตฺวา ปตฺตขนฺธา สยนฺติ, คาโว กูฏหตาว น หิ วารุณิยา;

เวโค นเรน สุสโหริว, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๖.

‘‘ยํ มนุสฺสา วิวชฺชนฺติ, สปฺปํ โฆรวิสมิว;

ตํ โลเก วิสสมานํ, โก นโร ปาตุมรหติ.

๕๗.

‘‘ยํ เว ปิตฺวา อนฺธกเวณฺฑปุตฺตา, สมุทฺทตีเร ปริจารยนฺตา;

อุปกฺกมุํ มุสเลภิ อฺมฺํ, ตสฺสา ปุณฺณํ กุมฺภมิมํ กิณาถ.

๕๘.

‘‘ยํ เว ปิตฺวา ปุพฺพเทวา ปมตฺตา, ติทิวา จุตา สสฺสติยา สมายา;

ตํ ตาทิสํ มชฺชมิมํ นิรตฺถกํ, ชานํ มหาราช กถํ ปิเวยฺย.

๕๙.

‘‘นยิมสฺมึ กุมฺภสฺมึ ทธิ วา มธุ วา, เอวํ อภิฺาย กิณาหิ ราช;

เอวฺหิมํ กุมฺภคตา มยา เต, อกฺขาตรูปํ ตว สพฺพมิตฺตา’’ติ.

ตตฺถ วชฺชานีติอาทีนวา. คเฬยฺยาติ คจฺฉนฺโต ปเท ปเท ปริวตฺเตยฺย. ยํ ปิตฺวา ปเตติ ยํ ปิวิตฺวา ปเตยฺย. โสพฺภนฺติ อาวาฏํ. จนฺทนิโยฬิคลฺลนฺติ จนฺทนิกฺจ โอฬิคลฺลฺจ. อโภชเนยฺยนฺติ ภุฺชิตุํ อยุตฺตํ. อเนสมาโนติ อนิสฺสโร. โคริวาติ โคโณ วิย. ภกฺขสาทีติ ปุราณกสฏขาทโก, ยถา โส ตตฺถ ตตฺถ ภกฺขสํ ปริเยสนฺโต อาหิณฺฑติ, เอวํ อาหิณฺฑตีติ อตฺโถ. อนาถมาโนติ นิรวสฺสโย อนาโถ วิย. อุปคายตีติ อฺํ คายนฺตํ ทิสฺวา อุปคนฺตฺวา คายติ. อเจโลวาติ อเจลโก วิย. วิสิขนฺตรานีติ อนฺตรวีถิโย. อติเวลสายีติ อติจิรมฺปิ นิทฺทํ โอกฺกเมยฺย. ‘‘อติเวลจารี’’ติปิ ปาโ, อติเวลจารี หุตฺวา จเรยฺยาติ อตฺโถ.

ทารุกฏลฺลโก วาติ ทารุมยยนฺตรูปกํ วิย. โภคชานิฺจุเปนฺตีติ โภคชานิฺจ อุเปนฺติ, ปาณาติปาตาทีนิ กตฺวา ทณฺฑปีฬิตา ธนชานิฺจ อฺฺจ วธพนฺธนาทิทุกฺขํ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ. วนฺตคโตติ อตฺตโน วนฺตสฺมึ คโต. พฺยสนฺโนติ พฺยสนาปนฺโน. ‘‘วิสนฺโน’’ติปิ ปาโ, ตสฺมึ วนฺเต โอสนฺโนติ อตฺโถ. อุกฺกฏฺโติ อหํ มหาโยโธ, โก มยา สทิโส อตฺถีติ เอวํ อุกฺกํสคโต หุตฺวา. อาวิลกฺโขติ รตฺตกฺโข. สพฺพปถวีติ สพฺพา ปถวี. ‘‘สพฺพปุถุวี’’ติปิ ปาโ. จาตุรนฺโตติ จตุสมุทฺทปริยนฺตาย ปถวิยา อิสฺสโร. มานาติมานาติ มานการิกา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. คตีติ นิพฺพตฺติ. นิเกโตติ นิวาโส. ตสฺสา ปุณฺณนฺติ ยา เอวรูปา, ตสฺสา ปุณฺณํ. อิทฺธานีติ สมิทฺธานิ. ผีตานีติ วตฺถาลงฺการกปฺปภณฺเฑหิ ปุปฺผิตานิ. อุจฺฉินฺนทายชฺชกตานีติ อุจฺฉินฺนทายาทานิ นิทฺธนานิ กตานิ. ยตฺถ วินาสยนฺตีติ ยํ นิสฺสาย ยตฺถ ปติฏฺิตา, เอวํ พหุมฺปิ ธนธฺาทิสาปเตยฺยํ นาสยนฺติ, กปณา โหนฺติ.

ทิตฺตรูโปติ ทปฺปิตรูโป. คณฺเหยฺยาติ ภริยสฺาย กิเลสวเสน หตฺเถ คณฺเหยฺย. ทาสมฺปิ คณฺเหติ อตฺตโน ทาสมฺปิ กิเลสวเสน ‘‘สามิโก เม’’ติ คณฺเหยฺย. ปิวิตฺวานาติ ปิวิตฺวา. ทุจฺจริตํ จริตฺวาติ เอวํ ตีหิ ทฺวาเรหิ ทสวิธมฺปิ อกุสลํ กตฺวา. ยํ ยาจมานาติ ยํ ปุริสํ ปุพฺเพ สุรํ อปิวนฺตํ พหุํ หิรฺํ ปริจฺจชนฺตา มุสาวาทํ กโรหีติ ยาจมานา น ลภนฺติ. ปิตฺวาติ ปิวิตฺวา ิโต. นปฺปชานาติ วุตฺโตติ ‘‘เกนฏฺเน อาคโตสี’’ติ วุตฺโต สาสนสฺส ทุคฺคหิตตฺตา ตํ อตฺถํ น ชานาติ. หิรีมนาปีติ หิรียุตฺตจิตฺตาปิ. เอกถูปาติ สูกรโปตกา วิย หีนชจฺเจหิปิ สทฺธึ เอกราสี หุตฺวา. อนาสกาติ นิราหารา. ถณฺฑิลทุกฺขเสยฺยนฺติ ภูมิยํ ทุกฺขเสยฺยํ สยนฺติ. อายสกฺยนฺติ ครหํ.

ปตฺตขนฺธาติ ปติตกฺขนฺธา. กูฏหตาวาติ คีวาย พทฺเธน กูเฏน หตา คาโว วิย, ยถา ตา ติณํ อขาทนฺติโย ปานียํ อปิวนฺติโย สยนฺติ, ตถา สยนฺตีติ อตฺโถ. โฆรวิสมิวาติ โฆรวิสํ วิย. วิสสมานนฺติ วิสสทิสํ. อนฺธกเวณฺฑปุตฺตาติ ทส ภาติกราชาโน. อุปกฺกมุนฺติ ปหรึสุ. ปุพฺพเทวาติ อสุรา. ติทิวาติ ตาวตึสเทวโลกา. สสฺสติยาติ สสฺสตา, ทีฆายุกภาเวน นิจฺจสมฺมตา เทวโลกาติ อตฺโถ. สมายาติ สทฺธึ อสุรมายาหิ. ชานนฺติ เอวํ ‘‘นิรตฺถกํ เอต’’นฺติ ชานนฺโต ตุมฺหาทิโส ปณฺฑิโต ปุริโส กถํ ปิเวยฺย. กุมฺภคตา มยาติ กุมฺภคตํ มยา, อยเมว วา ปาโ. อกฺขาตรูปนฺติ สภาวโต อกฺขาตํ.

ตํ สุตฺวา ราชา สุราย อาทีนวํ ตฺวา ตุฏฺโ สกฺกสฺส ถุตึ กโรนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๖๐.

‘‘น เม ปิตา วา อถวาปิ มาตา, เอตาทิสา ยาทิสโก ตุวํสิ;

หิตานุกมฺปี ปรมตฺถกาโม, โสหํ กริสฺสํ วจนํ ตวชฺช.

๖๑.

‘‘ททามิ เต คามวรานิ ปฺจ, ทาสีสตํ สตฺต ควํสตานิ;

อาชฺยุตฺเต จ รเถ ทส อิเม, อาจริโย โหสิ มมตฺถกาโม’’ติ.

ตตฺถ คามวรานีติ, พฺราหฺมณ, อาจริยสฺส นาม อาจริยภาโค อิจฺฉิตพฺโพ, สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร สตสหสฺสุฏฺานเก ตุยฺหํ ปฺจ คาเม ททามีติ วทติ. ทส อิเมติ อิเม ทส ปุรโต ิเต กฺจนวิจิตฺเต รเถ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

ตํ สุตฺวา สกฺโก เทวตฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา อตฺตานํ ชานาเปนฺโต อากาเส ตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๖๒.

‘‘ตเวว ทาสีสตมตฺถุ ราช, คามา จ คาโว จ ตเวว โหนฺตุ;

อาชฺยุตฺตา จ รถา ตเวว, สกฺโกหมสฺมี ติทสานมินฺโท.

๖๓.

‘‘มํโสทนํ สปฺปิปายาสํ ภุฺช, ขาทสฺสุ จ ตฺวํ มธุมาสปูเว;

เอวํ ตุวํ ธมฺมรโต ชนินฺท, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.

ตตฺถ เอวํ ตุวํ ธมฺมรโตติ เอวํ ตฺวํ นานคฺครสโภชนํ ภุฺชนฺโต สุราปานา วิรโต ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปหาย ติวิธสุจริตธมฺมรโต หุตฺวา เกนจิ อนินฺทิโต สคฺคฏฺานํ อุเปหีติ.

อิติ สกฺโก ตสฺส โอวาทํ ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. โสปิ สุรํ อปิวิตฺวา สุราภาชนานิ ภินฺทาเปตฺวา สีลํ สมาทาย ทานํ ทตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. ชมฺพุทีเปปิ อนุกฺกเมน สุราปานํ เวปุลฺลปฺปตฺตํ ชาตํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

กุมฺภชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๑๓] ๓. ชยทฺทิสชาตกวณฺณนา

จิรสฺสํ วต เมติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ สามชาตกสทิสํ (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย). ตทา ปน สตฺถา ‘‘โปราณกปณฺฑิตา กฺจนมาลํ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย มาตาปิตโร โปเสสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กปิลรฏฺเ อุตฺตรปฺจาลนคเร ปฺจาโล นาม ราชา อโหสิ. ตสฺส อคฺคมเหสี คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺสา ปุริมภเว เอกา สปตฺติกา กุชฺฌิตฺวา ‘‘ตุยฺหํ ชาตํ ชาตํ ปชํ ขาทิตุํ สมตฺถา ภวิสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ เปตฺวา ยกฺขินี อโหสิ. สา ตทา โอกาสํ ลภิตฺวา ตสฺสา ปสฺสนฺติยาว ตํ อลฺลมํสเปสิวณฺณํ กุมารกํ คเหตฺวา มุรุมุรายนฺตี ขาทิตฺวา ปกฺกามิ. ทุติยวาเรปิ ตเถว อกาสิ. ตติยวาเร ปน ตสฺสา ปสูติฆรํ ปวิฏฺกาเล เคหํ ปริวาเรตฺวา คาฬฺหํ อารกฺขํ อกํสุ. วิชาตทิวเส ยกฺขินี อาคนฺตฺวา ปุน ทารกํ อคฺคเหสิ. เทวี ‘‘ยกฺขินี’’ติ มหาสทฺทมกาสิ. อาวุธหตฺถา ปุริสา อาคนฺตฺวา เทวิยา ทินฺนสฺาย ยกฺขินึ อนุพนฺธึสุ. สา ขาทิตุํ โอกาสํ อลภนฺตี ตโต ปลายิตฺวา อุทกนิทฺธมนํ ปาวิสิ. ทารโก มาตุสฺาย ตสฺสา ถนํ มุเขน คณฺหิ. สา ปุตฺตสิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ตโต ปลายิตฺวา สุสานํ คนฺตฺวา ทารกํ ปาสาณเลเณ เปตฺวา ปฏิชคฺคิ. อถสฺส อนุกฺกเมน วฑฺฒมานสฺส มนุสฺสมํสํ อาหริตฺวา อทาสิ. อุโภปิ มนุสฺสมํสํ ขาทิตฺวา ตตฺถ วสึสุ. ทารโก อตฺตโน มนุสฺสภาวํ น ชานาติ ‘‘ยกฺขินิปุตฺโตสฺมี’’ติ สฺาย. โส อตฺตภาวํ ชหิตฺวา อนฺตรธายิตุํ น สกฺโกติ. อถสฺส สา อนฺตรธานตฺถาย เอกํ มูลํ อทาสิ. โส มูลานุภาเวน อนฺตรธายิตฺวา มนุสฺสมํสํ ขาทนฺโต วิจรติ. ยกฺขินี เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส เวยฺยาวจฺจตฺถาย คตา ตตฺเถว กาลมกาสิ. เทวีปิ จตุตฺถวาเร อฺํ ปุตฺตํ วิชายิ. โส ยกฺขินิยา มุตฺตตฺตา อโรโค อโหสิ. ปจฺจามิตฺตํ ยกฺขินึ ชินิตฺวา ชาตตฺตา ‘‘ชยทฺทิสกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชมนุสาสิ.

ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ‘‘อลีนสตฺตุกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต อุคฺคหิตสพฺพสิปฺโป อุปราชา อโหสิ. โสปิ ยกฺขินิปุตฺโต อปรภาเค ปมาเทน ตํ มูลํ นาเสตฺวา อนฺตรธายิตุํ อสกฺโกนฺโต ทิสฺสมานรูโปว สุสาเน มนุสฺสมํสํ ขาทิ. มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ภีตา อาคนฺตฺวา รฺโ อุปกฺโกสึสุ ‘‘เทว เอโก ยกฺโข ทิสฺสมานรูโป สุสาเน มนุสฺสมํสํ ขาทติ, โส อนุกฺกเมน นครํ ปวิสิตฺวา มนุสฺเส มาเรตฺวา ขาทิสฺสติ, ตํ คาหาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ‘‘คณฺหถ น’’นฺติ อาณาเปสิ. พลกาโย คนฺตฺวา สุสานํ ปริวาเรตฺวา อฏฺาสิ. ยกฺขินิปุตฺโต นคฺโค อุพฺพิคฺครูโป มรณภยภีโต วิรวนฺโต มนุสฺสานํ อนฺตรํ ปกฺขนฺทิ. มนุสฺสา ‘‘ยกฺโข’’ติ มรณภยภีตา ทฺวิธา ภิชฺชึสุ. โสปิ ตโต ปลายิตฺวา อรฺํ ปาวิสิ, น ปุน มนุสฺสปถํ อาคจฺฉิ. โส เอกํ มหาวตฺตนิอฏวึ นิสฺสาย มคฺคปฏิปนฺเนสุ มนุสฺเสสุ เอเกกํ คเหตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา มาเรตฺวา ขาทนฺโต เอกสฺมึ นิคฺโรธมูเล วาสํ กปฺเปสิ.

อเถโก สตฺถวาหพฺราหฺมโณ อฏวิปาลานํ สหสฺสํ ทตฺวา ปฺจหิ สกฏสเตหิ ตํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. มนุสฺสยกฺโข วิรวนฺโต ปกฺขนฺทิ, ภีตา มนุสฺสา อุเรน นิปชฺชึสุ. โส พฺราหฺมณํ คเหตฺวา ปลายนฺโต ขาณุนา ปาเท วิทฺโธ อฏวิปาเลสุ อนุพนฺธนฺเตสุ พฺราหฺมณํ ฉฑฺเฑตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานรุกฺขมูเล นิปชฺชิ. ตสฺส ตตฺถ นิปนฺนสฺส สตฺตเม ทิวเส ชยทฺทิสราชา มิควธํ อาณาเปตฺวา นครา นิกฺขมิ. ตํ นครา นิกฺขนฺตมตฺตเมว ตกฺกสิลวาสี นนฺโท นาม มาตุโปสกพฺราหฺมโณ จตสฺโส สตารหคาถาโย อาทาย อาคนฺตฺวา ราชานํ อทฺทส. ราชา ‘‘นิวตฺติตฺวา สุณิสฺสามี’’ติ ตสฺส นิวาสเคหํ ทาเปตฺวา มิควํ คนฺตฺวา ‘‘ยสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายติ, ตสฺเสว คีวา’’ติ อาห. อเถโก ปสทมิโค อุฏฺหิตฺวา รฺโ อภิมุโข คนฺตฺวา ปลายิ. อมจฺจา ปริหาสํ กรึสุ. ราชา ขคฺคํ คเหตฺวา ตํ อนุพนฺธิตฺวา ติโยชนมตฺถเก ปตฺวา ขคฺเคน ปหริตฺวา ทฺเว ขณฺฑานิ กริตฺวา กาเชนาทาย อาคจฺฉนฺโต มนุสฺสยกฺขสฺส นิปนฺนฏฺานํ ปตฺวา ทพฺพติเณสุ นิสีทิตฺวา โถกํ วิสฺสมิตฺวา คนฺตุํ อารภิ. อถ นํ โส อุฏฺาย ‘‘ติฏฺ กุหึ คจฺฉสิ, ภกฺโขสิ เม’’ติ หตฺเถ คเหตฺวา ปมํ คาถมาห –

๖๔.

‘‘จิรสฺสํ วต เม อุทปาทิ อชฺช, ภกฺโข มหา สตฺตมิภตฺตกาเล;

กุโตสิ โกวาสิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ, อาจิกฺข ชาตึ วิทิโต ยถาสี’’ติ.

ตตฺถ ภกฺโข มหาติ มหาภกฺโข. สตฺตมิภตฺตกาเลติ ปาฏิปทโต ปฏฺาย นิราหารสฺส สตฺตมิยํ ภตฺตกาเล. กุโตสีติ กุโต อาคโตสีติ.

ราชา ยกฺขํ ทิสฺวา ภีโต อูรุตฺถมฺภํ ปตฺวา ปลายิตุํ นาสกฺขิ, สตึ ปน ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๖๕.

‘‘ปฺจาลราชา มิควํ ปวิฏฺโ, ชยทฺทิโส นาม ยทิสฺสุโต เต;

จรามิ กจฺฉานิ วนานิ จาหํ, ปสทํ อิมํ ขาท มมชฺช มุฺจา’’ติ.

ตตฺถ มิควํ ปวิฏฺโติ มิควธาย รฏฺา นิกฺขนฺโต. กจฺฉานีติ ปพฺพตปสฺสานิ. ปสทนฺติ ปสทมิคํ.

ตํ สุตฺวา ยกฺโข ตติยํ คาถมาห –

๖๖.

‘‘เสเนว ตฺวํ ปณสิ สสฺสมาโน, มเมส ภกฺโข ปสโท ยํ วเทสิ;

ตํ ขาทิยาน ปสทํ ชิฆฺํ, ขาทิสฺสํ ปจฺฉา น วิลาปกาโล’’ติ.

ตตฺถ เสเนวาติ มม สนฺตเกเนว. ปณสีติ โวหรสิ อตฺตานํ วิกฺกิณาสิ. สสฺสมาโนติ วิหึสยมาโน. ตํ ขาทิยานาติ ตํ ปมํ ขาทิตฺวา. ชิฆฺนฺติ ฆสิตุกาโม. ขาทิสฺสนฺติ เอตํ ปจฺฉา ขาทิสฺสามิ. น วิลาปกาโลติ มา วิลปิ. นายํ วิลาปกาโลติ วทติ.

ตํ สุตฺวา ราชา นนฺทพฺราหฺมณํ สริตฺวา จตุตฺถํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘น จตฺถิ โมกฺโข มม นิกฺกเยน, คนฺตฺวาน ปจฺฉาคมนาย ปณฺเห;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ น จตฺถีติ น เจ มยฺหํ นิกฺกเยน วิโมกฺโข อตฺถิ. คนฺตฺวานาติ เอวํ สนฺเต อชฺช อิมํ มิคมํสํ ขาทิตฺวา มม นครํ คนฺตฺวา. ปณฺเหติ ปเคเยว, สฺเวว ปาตราสกาเล ปจฺจาคมนตฺถาย ปฏิฺํ คณฺหาหีติ อธิปฺปาโย. ตํ สงฺครนฺติ มยา ‘‘ธนํ เต ทสฺสามี’’ติ พฺราหฺมณสฺส สงฺคโร กโต, ตํ ตสฺส ทตฺวา อิมํ มยา วุตฺตํ สจฺจํ อนุรกฺขนฺโต อหํ ปุน อาคมิสฺสามีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ยกฺโข ปฺจมํ คาถมาห –

๖๘.

‘‘กึ กมฺมชาตํ อนุตปฺปเต ตฺวํ, ปตฺตํ สมีปํ มรณสฺส ราช;

อาจิกฺข เม ตํ อปิ สกฺกุเณมุ, อนุชานิตุํ อาคมนาย ปณฺเห’’ติ.

ตตฺถ กมฺมเมว กมฺมชาตํ. อนุตปฺปเตติ ตํ อนุตปฺปติ. ปตฺตนฺติ อุปคตํ. อปิ สกฺกุเณมูติ อปิ นาม ตํ ตว โสกการณํ สุตฺวา ปาโตว อาคมนาย ตํ อนุชานิตุํ สกฺกุเณยฺยามาติ อตฺโถ.

ราชา ตํ การณํ กเถนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –

๖๙.

‘‘กตา มยา พฺราหฺมณสฺส ธนาสา, ตํ สงฺครํ ปฏิมุกฺกํ น มุตฺตํ;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ ปฏิมุกฺกํ น มุตฺตนฺติ จตสฺโส สตารหา คาถา สุตฺวา ‘‘ธนํ เต ทสฺสามี’’ติ ปฏิฺาย มยา อตฺตนิ ปฏิมุฺจิตฺวา ปิตํ, น ปน ตํ มุตฺตํ ธนสฺส อทินฺนตฺตา.

ตํ สุตฺวา ยกฺโข สตฺตมํ คาถมาห –

๗๐.

‘‘ยา เต กตา พฺราหฺมณสฺส ธนาสา, ตํ สงฺครํ ปฏิมุกฺกํ น มุตฺตํ;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชสฺสู’’ติ.

ตตฺถ ปุนราวชสฺสูติ ปุน อาคจฺฉสฺสุ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ราชานํ วิสฺสชฺเชสิ. โส เตน วิสฺสฏฺโ ‘‘ตฺวํ มา จินฺตยิ, อหํ ปาโตว อาคมิสฺสามี’’ติ วตฺวา มคฺคนิมิตฺตานิ สลฺลกฺเขนฺโต อตฺตโน พลกายํ อุปคนฺตฺวา พลกายปริวุโต นครํ ปวิสิตฺวา นนฺทพฺราหฺมณํ ปกฺโกสาเปตฺวา มหารเห อาสเน นิสีทาเปตฺวา ตา คาถา สุตฺวา จตฺตาริ สหสฺสานิ ทตฺวา ยานํ อาโรเปตฺวา ‘‘อิมํ ตกฺกสิลเมว เนถา’’ติ มนุสฺเส ทตฺวา พฺราหฺมณํ อุยฺโยเชตฺวา ทุติยทิวเส ปฏิคนฺตุกาโม หุตฺวา ปุตฺตํ อามนฺเตตฺวา อนุสาสิ. ตมตฺถํ ทีเปนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๗๑.

‘‘มุตฺโตจ โส โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺสปฺปทาย, อามนฺตยี ปุตฺตมลีนสตฺตุํ.

๗๒.

‘‘อชฺเชว รชฺชํ อภิสิฺจยสฺสุ, ธมฺมํ จร เสสุ ปเรสุ จาปิ;

อธมฺมกาโร จ เต มาหุ รฏฺเ, คจฺฉามหํ โปริสาทสฺส ตฺเต’’ติ.

ตตฺถ อลีนสตฺตุนฺติ เอวํนามกํ กุมารํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อรินสตฺตุ’’นฺติ ลิขิตํ. อชฺเชว รชฺชนฺติ ปุตฺต รชฺชํ เต ทมฺมิ, ตฺวํ อชฺเชว มุทฺธนิ อภิเสกํ อภิสิฺจยสฺสุ. ตฺเตติ อภฺยาเส, สนฺติเกติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร ทสมํ คาถมาห –

๗๓.

‘‘กึ กมฺม กฺรุพฺพํ ตว เทว ปาว, นาราธยี ตํ ตทิจฺฉามิ โสตุํ;

ยมชฺช รชฺชมฺหิ อุทสฺสเย ตุวํ, รชฺชมฺปิ นิจฺเฉยฺยํ, ตยา วินาห’’นฺติ.

ตตฺถ กฺรุพฺพนฺติ กโรนฺโต. ยมชฺชาติ เยน อนาราธกมฺเมน อชฺช มํ รชฺชมฺหิ ตฺวํ อุทสฺสเย อุสฺสาเปสิ ปติฏฺาเปสิ, ตํ เม อาจิกฺข, อหฺหิ ตยา วินา รชฺชมฺปิ น อิจฺฉามีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๔.

‘‘น กมฺมุนา วา วจสาว ตาต, อปราธิโตหํ ตุวิยํ สรามิ;

สนฺธิฺจ กตฺวา ปุริสาทเกน, สจฺจานุรกฺขี ปุนาหํ คมิสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ อปราธิโตติ อปราธํ อิโต. ตุวิยนฺติ ตว สนฺตกํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, อหํ อิโต ตว กมฺมโต วา ตว วจนโต วา กิฺจิ มม อปฺปิยํ อปราธํ น สรามีติ. สนฺธิฺจ กตฺวาติ มํ ปน มิควํ คตํ เอโก ยกฺโข ‘‘ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหิ. อถาหํ พฺราหฺมณสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตสฺส สกฺการํ กตฺวา ‘‘สฺเว ตว ปาตราสกาเล อาคมิสฺสามี’’ติ เตน ปุริสาทเกน สนฺธึ สจฺจํ กตฺวา อาคโต, ตสฺมา ตํ สจฺจํ อนุรกฺขนฺโต ปุน ตตฺถ คมิสฺสามิ, ตฺวํ รชฺชํ กาเรหีติ วทติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร คาถมาห –

๗๕.

‘‘อหํ คมิสฺสามิ อิเธว โหหิ, นตฺถิ ตโต ชีวโต วิปฺปโมกฺโข;

สเจ ตุวํ คจฺฉสิเยว ราช, อหมฺปิ คจฺฉามิ อุโภ น โหมา’’ติ.

ตตฺถ อิเธวาติ ตฺวํ อิเธว โหติ. ตโตติ ตสฺส สนฺติกา ชีวนฺตสฺส โมกฺโข นาม นตฺถิ. อุโภติ เอวํ สนฺเต อุโภปิ น ภวิสฺสาม.

ตํ สุตฺวา ราชา คาถมาห –

๗๖.

‘‘อทฺธา หิ ตาต สตาเนส ธมฺโม, มรณา จ เม ทุกฺขตรํ ตทสฺส;

กมฺมาสปาโท ตํ ยทา ปจิตฺวา, ปสยฺห ขาเท ภิทา รุกฺขสูเล’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อทฺธา เอกํเสน เอส, ตาต, สตานํ ปณฺฑิตานํ ธมฺโม สภาโว, ยุตฺตํ ตฺวํ วทสิ, อปิ จ โข ปน มยฺหํ มรณโตเปตํ ทุกฺขตรํ อสฺส, ยทา ตํ โส กมฺมาสปาโท. ภิทา รุกฺขสูเลติ ติขิณรุกฺขสูเล ภิตฺวา ปจิตฺวา ปสยฺห พลกฺกาเรน ขาเทยฺยาติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร คาถมาห –

๗๗.

‘‘ปาเณน เต ปาณมหํ นิมิสฺสํ, มา ตฺวํ อคา โปริสาทสฺส ตฺเต;

เอวฺจ เต ปาณมหํ นิมิสฺสํ, ตสฺมา มตํ ชีวิตสฺส วณฺเณมี’’ติ.

ตตฺถ นิมิสฺสนฺติ อหํ อิเธว ตว ปาเณน มม ปาณํ ปริวตฺเตสฺสํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอตํ ปาณํ ตว ปาเณนาหํ นิมิสฺสํ, ตสฺมา ตว ชีวิตสฺสตฺถาย มม มรณํ วณฺเณมิ มรณเมว วเรมิ, อิจฺฉามีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา ปุตฺตสฺส พลํ ชานนฺโต ‘‘สาธุ ตาต, คจฺฉาหี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. โส มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา นครมฺหา นิกฺขมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒคาถมาห –

๗๘.

‘‘ตโต หเว ธิติมา ราชปุตฺโต, วนฺทิตฺวา มาตุ จ ปิตุ จ ปาเท’’ติ.

ตตฺถ ปาเทติ ปาเท วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโตติ อตฺโถ;

อถสฺส มาตาปิตโรปิ ภคินีปิ ภริยาปิ อมจฺจปริชเนหิ สทฺธึเยว นิกฺขมึสุ. โส นครา นิกฺขมิตฺวา ปิตรํ มคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา เสสานํ โอวาทํ ทตฺวา อจฺฉมฺภิโต เกสรสีโห วิย มคฺคํ อารุยฺห ยกฺขาวาสํ ปายาสิ. ตํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มาตา สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี ปถวิยํ ปติ. ปิตา พาหา ปคฺคยฺห มหนฺเตน สทฺเทน กนฺทิ. ตมฺปิ อตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา –

‘‘ทุขินิสฺส มาตา นิปตา ปถพฺยา, ปิตาสฺส ปคฺคยฺห ภุชานิ กนฺทตี’’ติ. –

อุปฑฺฒคาถํ วตฺวา ตสฺส ปิตรา ปยุตฺตํ อาสีสวาทํ อภิวาทนวาทํ มาตรา ภคินีภริยาหิ จ กตํ สจฺจกิริยํ ปกาเสนฺโต อปราปิ จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๗๙.

‘‘ตํ คจฺฉนฺตํ ตาว ปิตา วิทิตฺวา, ปรมฺมุโข วนฺทติ ปฺชลีโก;

โสโม จ ราชา วรุโณ จ ราชา, ปชาปตี จนฺทิมา สูริโย จ;

เอเตหิ คุตฺโต ปุริสาทกมฺหา, อนุฺาโต โสตฺถิ ปจฺเจหิ ตาต.

๘๐.

‘‘ยํ ทณฺฑกิรฺโ คตสฺส มาตา, รามสฺสกาสิ โสตฺถานํ สุคุตฺตา;

ตํ เต อหํ โสตฺถานํ กโรมิ, เอเตน สจฺเจน สรนฺตุ เทวา;

อนุฺาโต โสตฺถิ ปจฺเจหิ ปุตฺต.

๘๑.

‘‘อาวี รโห วาปิ มโนปโทสํ, นาหํ สเร ชาตุ มลีนสตฺเต;

เอเตน สจฺเจน สรนฺตุ เทวา, อนุฺาโต โสตฺถิ ปจฺเจหิ ภาติก.

๘๒.

‘‘ยสฺมา จ เม อนธิมโนสิ สามิ, น จาปิ เม มนสา อปฺปิโยสิ;

เอเตน สจฺเจน สรนฺตุ เทวา, อนุฺาโต โสตฺถิ ปจฺเจหิ สามี’’ติ.

ตตฺถ ปรมฺมุโขติ อยํ เม ปุตฺโต ปรมฺมุโข มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา คจฺฉติ, อิติ เอตํ ปรมฺมุขํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา วิทิตฺวา. ปฺชลีโกติ ตสฺมึ กาเล สิรสิ อฺชลึ เปตฺวา วนฺทติ เทวตา นมสฺสติ. ปุริสาทกมฺหาติ ปุริสาทสฺส สนฺติกา เตน อนุฺาโต โสตฺถินา ปจฺเจหิ.

รามสฺสกาสีติ รามสฺส อกาสิ. เอโก กิร พาราณสิวาสี ราโม นาม มาตุโปสโก มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺโต โวหารตฺถาย คโต ทณฺฑกิรฺโ วิชิเต กุมฺภวตีนครํ คนฺตฺวา นววิเธน วสฺเสน สกลรฏฺเ วินาสิยมาเน มาตาปิตูนํ คุณํ สริ. อถ นํ มาตุปฏฺานกมฺมสฺส ผเลน เทวตา โสตฺถินา อานยิตฺวา มาตุ อทํสุ. ตํ การณํ สุตวเสนาหริตฺวา เอวมาห. โสตฺถานนฺติ โสตฺถิภาวํ. ตํ ปน กิฺจาปิ เทวตา กรึสุ, มาตุปฏฺานํ นิสฺสาย นิพฺพตฺตตฺตา ปน มาตา อกาสีติ วุตฺตํ. ตํ เต อหนฺติ อหมฺปิ เต ตเมว โสตฺถานํ กโรมิ, มํ นิสฺสาย ตเถว ตว โสตฺถิภาโว โหตูติ อตฺโถ. อถ วา กโรมีติ อิจฺฉามิ. เอเตน สจฺเจนาติ สเจ เทวตาหิ ตสฺส โสตฺถินา อานีตภาโว สจฺโจ, เอเตน สจฺเจน มมปิ ปุตฺตํ สรนฺตุ เทวา, รามํ วิย ตมฺปิ อาหริตฺวา มม ทสฺสนฺตูติ อตฺโถ. อนุฺาโตติ โปริสาเทน ‘‘คจฺฉา’’ติ อนุฺาโต เทวตานํ อานุภาเวน โสตฺถิ ปฏิอาคจฺฉ ปุตฺตาติ วทติ.

ชาตุ มลีนสตฺเตติ ชาตุ เอกํเสน อลีนสตฺเต มม ภาติเก อหํ สมฺมุขา วา ปรมฺมุขา วา มโนปโทสํ น สรามิ, น มยา ตมฺหิ มโนปโทโส กตปุพฺโพติ เอวมสฺส กนิฏฺา สจฺจมกาสิ. ยสฺมา จ เม อนธิมโนสิ, สามีติ มม, สามิ อลีนสตฺตุ ยสฺมา ตฺวํ อนธิมโนสิ, มํ อภิภวิตฺวา อติกฺกมิตฺวา อฺํ มเนน น ปตฺเถสิ. น จาปิ เม มนสา อปฺปิโยสีติ มยฺหมฺปิ จ มนสา ตฺวํ อปฺปิโย น โหสิ, อฺมฺํ ปิยสํวาสาว มยนฺติ เอวมสฺส อคฺคมเหสี สจฺจมกาสิ.

กุมาโรปิ ปิตรา อกฺขาตนเยน รกฺขาวาสมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ยกฺโขปิ ‘‘ขตฺติยา นาม พหุมายา โหนฺติ, โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา รฺโ อาคมนํ โอโลเกนฺโต นิสีทิ. โส กุมารํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ปิตรํ นิวตฺเตตฺวา ปุตฺโต อาคโต ภวิสฺสติ, นตฺถิ เม ภย’’นฺติ โอตริตฺวา ตสฺส ปิฏฺึ ทสฺเสนฺโต นิสีทิ. โส อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อฏฺาสิ. อถ ยกฺโข คาถมาห –

๘๓.

‘‘พฺรหา อุชู จารุมุโข กุโตสิ, น มํ ปชานาสิ วเน วสนฺตํ;

ลุทฺทํ มํ ตฺวา ‘ปุริสาทโก’สิ, โก โสตฺถิมาชานมิธาวเชยฺยา’’ติ.

ตตฺถ โก โสตฺถิมาชานมิธาวเชยฺยาติ กุมาร โก นาม ปุริโส อตฺตโน โสตฺถิภาวํ ชานนฺโต อิจฺฉนฺโต อิธาคจฺเฉยฺย, ตฺวํ อชานนฺโต อาคโต มฺเติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร คาถมาห –

๘๔.

‘‘ชานามิ ลุทฺท ปุริสาทโก ตฺวํ, น ตํ น ชานามิ วเน วสนฺตํ;

อหฺจ ปุตฺโตสฺมิ ชยทฺทิสสฺส, มมชฺช ขาท ปิตุโน ปโมกฺขา’’ติ.

ตตฺถ ปโมกฺขาติ ปโมกฺขเหตุ อหํ ปิตุ ชีวิตํ ทตฺวา อิธาคโต, ตสฺมา ตํ มุฺจ, มํ ขาทาหีติ อตฺโถ.

ตโต ยกฺโข คาถมาห –

๘๕.

‘‘ชานามิ ปุตฺโตติ ชยทฺทิสสฺส, ตถา หิ โว มุขวณฺโณ อุภินฺนํ;

สุทุกฺกรฺเว กตํ ตเวทํ, โย มตฺตุมิจฺเฉ ปิตุโน ปโมกฺขา’’ติ.

ตตฺถ ตถา หิ โวติ ตาทิโส โว ตุมฺหากํ. อุภินฺนมฺปิ สทิโสว มุขวณฺโณ โหตีติ อตฺโถ. กตํ ตเวทนฺติ อิทํ ตว กมฺมํ สุทุกฺกรํ.

ตโต กุมาโร คาถมาห –

๘๖.

‘‘น ทุกฺกรํ กิฺจิ มเหตฺถ มฺเ, โย มตฺตุมิจฺเฉ ปิตุโน ปโมกฺขา;

มาตุ จ เหตุ ปรโลก คนฺตฺวา, สุเขน สคฺเคน จ สมฺปยุตฺโต’’ติ.

ตตฺถ กิฺจิ มเหตฺถ มฺเติ กิฺจิ อหํ เอตฺถ น มฺามิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยกฺข โย ปุคฺคโล ปิตุ วา ปโมกฺขตฺถาย มาตุ วา เหตุ ปรโลกํ คนฺตฺวา สุเขน สคฺเค นิพฺพตฺตนกสุเขน สมฺปยุตฺโต ภวิตุํ มตฺตุมิจฺเฉ มริตุํ อิจฺฉติ, ตสฺมา อหํ เอตฺถ มาตาปิตูนํ อตฺถาย ชีวิตปริจฺจาเค กิฺจิ ทุกฺกรํ น มฺามีติ.

ตํ สุตฺวา ยกฺโข ‘‘กุมาร, มรณสฺส อภยานกสตฺโต นาม นตฺถิ, ตฺวํ กสฺมา น ภายสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตสฺส กเถนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๘๗.

‘‘อหฺจ โข อตฺตโน ปาปกิริยํ, อาวี รโห วาปิ สเร น ชาตุ;

สงฺขาตชาตีมรโณหมสฺมิ, ยเถว เม อิธ ตถา ปรตฺถ.

๘๘.

‘‘ขาทชฺช มํ ทานิ มหานุภาว, กรสฺสุ กิจฺจานิ อิมํ สรีรํ;

รุกฺขสฺส วา เต ปปตามิ อคฺคา, ฉาทยมาโน มยฺหํ ตฺวมเทสิ มํส’’นฺติ.

ตตฺถ สเร น ชาตูติ เอกํเสเนว น สรามิ. สงฺขาตชาตีมรโณหมสฺมีติ อหํ าเณน สุปริจฺฉินฺนชาติมรโณ, ชาตสตฺโต อมรณธมฺโม นาม นตฺถีติ ชานามิ. ยเถว เม อิธาติ ยเถว มม อิธ, ตถา ปรโลเก, ยถา จ ปรโลเก, ตถา อิธาปิ มรณโต มุตฺติ นาม นตฺถีติ อิทมฺปิ มม าเณน สุปริจฺฉินฺนํ. กรสฺสุ กิจฺจานีติ อิมินา สรีเรน กตฺตพฺพกิจฺจานิ กร, อิมํ เต มยา นิสฺสฏฺํ สรีรํ. ฉาทยมาโน มยฺหํ ตฺวมเทสิ มํสนฺติ มยิ รุกฺขคฺคา ปติตฺวา มเต มม สรีรโต ตฺวํ ฉาทยมาโน โรจยมาโน ยํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ตํ มํสํ อเทสิ, ขาเทยฺยาสีติ อตฺโถ.

ยกฺโข ตสฺส วจนํ สุตฺวา ภีโต หุตฺวา ‘‘น สกฺกา อิมสฺส มํสํ ขาทิตุํ, อุปาเยน นํ ปลาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ คาถมาห –

๘๙.

‘‘อิทฺจ เต รุจฺจติ ราชปุตฺต, จเชสิ ปาณํ ปิตุโน ปโมกฺขา;

ตสฺมา หิ โส ตฺวํ ตรมานรูโป, สมฺภฺช กฏฺานิ ชเลหิ อคฺคิ’’นฺติ.

ตตฺถ ชเลหีติ อรฺํ ปวิสิตฺวา สารทารูนิ อาหริตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา นิทฺธูเม องฺคาเร กร, ตตฺถ เต มํสํ ปจิตฺวา ขาทิสฺสามีติ ทีเปติ.

โส ตถา กตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ การณํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิตรํ คาถมาห –

๙๐.

‘‘ตโต หเว ธิติมา ราชปุตฺโต, ทารุํ สมาหริตฺวา มหนฺตมคฺคึ;

สนฺตีปยิตฺวา ปฏิเวทยิตฺถ, อาทีปิโต ทานิ มหายมคฺคี’’ติ.

ยกฺโข อคฺคึ กตฺวา อาคตํ กุมารํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ ปุริสสีโห, มรณาปิสฺส ภยํ นตฺถิ, มยา เอตฺตกํ กาลํ เอวํ นิพฺภโย นาม น ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ โลมหํสชาโต กุมารํ ปุนปฺปุนํ โอโลเกนฺโต นิสีทิ. กุมาโร ตสฺส กิริยํ ทิสฺวา คาถมาห –

๙๑.

‘‘ขาทชฺช มํ ทานิ ปสยฺหการิ, กึ มํ มุหุํ เปกฺขสิ หฏฺโลโม;

ตถา ตถา ตุยฺหมหํ กโรมิ, ยถา ยถา มํ ฉาทยมาโน อเทสี’’ติ.

ตตฺถ มุหุนฺติ ปุนปฺปุนํ. ตถา ตถา ตุยฺหมหนฺติ อหํ ตุยฺหํ ตถา ตถา วจนํ กโรมิ, อิทานิ กึ กริสฺสามิ, ยถา ยถา มํ ฉาทยมาโน โรจยมาโน อเทสิ ขาทิสฺสสิ, ตสฺมา ขาทชฺช มนฺติ.

อถสฺส วจนํ สุตฺวา ยกฺโข คาถมาห –

๙๒.

‘‘โก ตาทิสํ อรหติ ขาทิตาเย, ธมฺเม ิตํ สจฺจวาทึ วทฺุํ;

มุทฺธาปิ ตสฺส วิผเลยฺย สตฺตธา, โย ตาทิสํ สจฺจวาทึ อเทยฺยา’’ติ.

ตํ สุตฺวา กุมาโร ‘‘สเจ มํ น ขาทิตุกาโมสิ, อถ กสฺมา ทารูนิ ภฺชาเปตฺวา อคฺคึ กาเรสี’’ติ วตฺวา ‘‘ปลายิสฺสติ นุ โข, โนติ ตว ปริคฺคณฺหนตฺถายา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตฺวํ อิทานิ มํ กถํ ปริคฺคณฺหิสฺสสิ, โยหํ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโต สกฺกสฺส เทวรฺโ อตฺตานํ ปริคฺคณฺหิตุํ นาทาสิ’’นฺติ วตฺวา อาห –

๙๓.

‘‘อิทฺหิ โส พฺราหฺมณํ มฺมาโน, สโส อวาเสสิ สเก สรีเร;

เตเนว โส จนฺทิมา เทวปุตฺโต, สสตฺถุโต กามทุหชฺช ยกฺขา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อิทฺหิ โส สสปณฺฑิโต ‘‘พฺราหฺมโณ เอโส’’ติ พฺราหฺมณํ มฺมาโน ‘‘อชฺช อิมํ สรีรํ ขาทิตฺวา อิเธว วสา’’ติ เอวํ สเก สรีเร อตฺตโน สรีรํ ทาตุํ อวาเสสิ, วสาเปสีติ อตฺโถ. สรีรฺจสฺส ภกฺขตฺถาย อทาสิ. สกฺโก ปพฺพตรสํ ปีเฬตฺวา อาทาย จนฺทมณฺฑเล สสลกฺขณํ อกาสิ. ตโต ปฏฺาย เตเนว สสลกฺขเณน โส จนฺทิมา เทวปุตฺโต ‘‘สสี สสี’’ติ เอวํ สสตฺถุโต โลกสฺส กามทุโห เปมวฑฺฒโน อชฺช ยกฺข วิโรจติ. กปฺปฏฺิยฺเหตํ ปาฏิหาริยนฺติ.

ตํ สุตฺวา ยกฺโข กุมารํ วิสฺสชฺเชนฺโต คาถมาห –

๙๔.

‘‘จนฺโท ยถา ราหุมุขา ปมุตฺโต, วิโรจเต ปนฺนรเสว ภาณุมา;

เอวํ ตุวํ โปริสาทา ปมุตฺโต, วิโรจ กปฺปิเล มหานุภาว;

อาโมทยํ ปิตรํ มาตรฺจ, สพฺโพ จ เต นนฺทตุ าติปกฺโข’’ติ.

ตตฺถ ภาณุมาติ สูริโย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปนฺนรเส ราหุมุขา มุตฺโต จนฺโท วา ภาณุมา วา วิโรจติ, เอวํ ตฺวมฺปิ มม สนฺติกา มุตฺโต กปิลรฏฺเ วิโรจ มหานุภาวาติ. นนฺทตูติ ตุสฺสตุ.

คจฺฉ มหาวีราติ มหาสตฺตํ อุยฺโยเชสิ. โสปิ ตํ นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ปฺจ สีลานิ ทตฺวา ‘‘ยกฺโข นุ โข เอส, โน’’ติ ปริคฺคณฺหนฺโต ‘‘ยกฺขานํ อกฺขีนิ รตฺตานิ โหนฺติ อนิมฺมิสานิ จ, ฉายา น ปฺายติ, อจฺฉมฺภิตา โหนฺติ. นายํ ยกฺโข, มนุสฺโส เอโส. มยฺหํ ปิตุ กิร ตโย ภาตโร ยกฺขินิยา คหิตา. เตสุ เอตาย ทฺเว ขาทิตา ภวิสฺสนฺติ, เอโก ปุตฺตสิเนเหน ปฏิชคฺคิโต ภวิสฺสติ, อิมินา เตน ภวิตพฺพํ, อิมํ เนตฺวา มยฺหํ ปิตุ อาจิกฺขิตฺวา รชฺเช ปติฏฺาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เอหิ อมฺโภ, น ตฺวํ ยกฺโข, ปิตุ เม เชฏฺภาติโกสิ, เอหิ มยา สทฺธึ คนฺตฺวา กุลสนฺตเก รชฺเช ฉตฺตํ อุสฺสาเปหี’’ติ วตฺวา อิตเรน ‘‘นาหํ มนุสฺโส’’ติ วุตฺเต ‘‘น ตฺวํ มยฺหํ สทฺทหสิ, อตฺถิ ปน โส, ยสฺส สทฺทหสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อตฺถิ อสุกฏฺาเน ทิพฺพจกฺขุกตาปโส’’ติ วุตฺเต ตํ อาทาย ตตฺถ อคมาสิ. ตาปโส เต ทิสฺวาว ‘‘กึ กโรนฺตา ปิตาปุตฺตา อรฺเ จรถา’’ติ วตฺวา เตสํ าติภาวํ กเถสิ. โปริสาโท ตสฺส สทฺทหิตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ คจฺฉ, อหํ เอกสฺมิฺเว อตฺตภาเว ทฺวิธา ชาโต, น เม รชฺเชนตฺโถ, ปพฺพชิสฺสามห’’นฺติ ตาปสสฺส สนฺติเก อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. อถ นํ กุมาโร วนฺทิตฺวา นครํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา –

๙๕.

‘‘ตโต หเว ธิติมา ราชปุตฺโต, กตฺชลี ปริยาย โปริสาทํ;

อนุฺาโต โสตฺถิ สุขี อโรโค, ปจฺจาคมา กปิลมลีนสตฺตา’’ติ. –

คาถํ วตฺวา ตสฺส นครํ คตสฺส เนคมาทีหิ กตกิริยํ ทสฺเสนฺโต โอสานคาถมาห –

๙๖.

‘‘ตํ เนคมา ชานปทา จ สพฺเพ, หตฺถาโรหา รถิกา ปตฺติกา จ;

นมสฺสมานา ปฺชลิกา อุปาคมุํ, นมตฺถุ เต ทุกฺกรการโกสี’’ติ.

ราชา ‘‘กุมาโร กิร อาคโต’’ติ สุตฺวา ปจฺจุคฺคมนํ อกาสิ. กุมาโร มหาชนปริวาโร คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิ. อถ นํ โส ปุจฺฉิ – ‘‘ตาต, กถํ ตาทิสา โปริสาทา มุตฺโตสี’’ติ. ‘‘ตาต, นายํ ยกฺโข, ตุมฺหากํ เชฏฺภาติโก, เอส มยฺหํ เปตฺเตยฺโย’’ติ สพฺพํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ มม เปตฺเตยฺยํ ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ราชา ตงฺขณฺเว เภรึ จราเปตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตาปสานํ สนฺติกํ อคมาสิ. มหาตาปโส ตสฺส ยกฺขินิยา อาเนตฺวา อขาทิตฺวา โปสิตการณฺจ ยกฺขาภาวการณฺจ เตสํ าติภาวฺจ สพฺพํ วิตฺถารโต กเถสิ. ราชา ‘‘เอหิ, ภาติก, รชฺชํ กาเรหี’’ติ อาห. ‘‘อลํ มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ เอถ อุยฺยาเน วสิสฺสถ, อหํ โว จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ? ‘‘น อาคจฺฉามิ มหาราชา’’ติ. ราชา เตสํ อสฺสมปทโต อวิทูเร เอกํ ปพฺพตนฺตรํ พนฺธิตฺวา มหนฺตํ ตฬากํ กาเรตฺวา เกทาเร สมฺปาเทตฺวา มหฑฺฒกุลสหสฺสํ อาเนตฺวา มหาคามํ นิวาเสตฺวา ตาปสานํ ภิกฺขาจารํ ปฏฺเปสิ. โส คาโม จูฬกมฺมาสทมฺมนิคโม นาม ชาโต. สุตโสมมหาสตฺเตน โปริสาทสฺส ทมิตปเทโส ปน มหากมฺมาสทมฺมนิคโมติ เวทิตพฺโพ.

สตฺถา อิทํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกตฺเถโร โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, ตาปโส สาริปุตฺโต, โปริสาโท องฺคุลิมาโล, กนิฏฺา อุปฺปลวณฺณา, อคฺคมเหสี ราหุลมาตา, อลีนสตฺตุกุมาโร ปน อหเมว อโหสินฺติ.

ชยทฺทิสชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๑๔] ๔. ฉทฺทนฺตชาตกวณฺณนา

กึ นุ โสจสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทหรภิกฺขุนึ อารพฺภ กเถสิ. สา กิร สาวตฺถิยํ กุลธีตา ฆราวาเส อาทีนวํ ทิสฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา เอกทิวสํ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ ธมฺมสวนาย คนฺตฺวา อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส ทสพลสฺส อปริมาณปุฺปภาวาภินิพฺพตฺตํ อุตฺตมรูปสมฺปตฺติยุตฺตํ อตฺตภาวํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปริจิณฺณปุพฺพา นุ โข เม ภวสฺมึ วิจรนฺติยา อิมสฺส มหาปุริสสฺส ปาทปริจาริกา’’ติ จินฺเตสิ. อถสฺสา ตงฺขณฺเว ชาติสฺสราณํ อุปฺปชฺชิ – ‘‘ฉทฺทนฺตวารณกาเล อหํ อิมสฺส มหาปุริสสฺส ปาทปริจาริกา ภูตปุพฺพา’’ติ. อถสฺสา สรนฺติยา มหนฺตํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชิ. สา ปีติเวเคน มหาหสิตํ หสิตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘ปาทปริจาริกา นาม สามิกานํ หิตชฺฌาสยา อปฺปกา, อหิตชฺฌาสยาว พหุตรา, หิตชฺฌาสยา นุ โข อหํ อิมสฺส มหาปุริสสฺส อโหสึ, อหิตชฺฌาสยา’’ติ. สา อนุสฺสรมานา ‘‘อหํ อปฺปมตฺตกํ โทสํ หทเย เปตฺวา วีสรตนสติกํ ฉทฺทนฺตมหาคชิสฺสรํ โสนุตฺตรํ นาม เนสาทํ เปเสตฺวา วิสปีตสลฺเลน วิชฺฌาเปตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ’’นฺติ อทฺทส. อถสฺสา โสโก อุทปาทิ, หทยํ อุณฺหํ อโหสิ, โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อสฺสสิตฺวา ปสฺสสิตฺวา มหาสทฺเทน ปโรทิ. ตํ ทิสฺวา สตฺถา สิตํ ปาตุ กริตฺวา ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ ภิกฺขุสงฺเฆน ปุฏฺโ ‘‘ภิกฺขเว, อยํ ทหรภิกฺขุนี ปุพฺเพ มยิ กตํ อปราธํ สริตฺวา โรทตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต หิมวนฺตปเทเส ฉทฺทนฺตทหํ อุปนิสฺสาย อฏฺสหสฺสา หตฺถินาคา วสึสุ อิทฺธิมนฺตา เวหาสงฺคมา. ตทา โพธิสตฺโต เชฏฺกวารณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, โส สพฺพเสโต อโหสิ รตฺตมุขปาโท. โส อปรภาเค วุทฺธิปฺปตฺโต อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพโธ อโหสิ วีสรตนสตายาโม. อฏฺปณฺณาสหตฺถาย รชตทามสทิสาย โสณฺฑาย สมนฺนาคโต. ทนฺตา ปนสฺส ปริกฺเขปโต ปนฺนรสหตฺถา อเหสุํ ทีฆโต ตึสหตฺถา ฉพฺพณฺณรํสีหิ สมนฺนาคตา. โส อฏฺนฺนํ นาคสหสฺสานํ เชฏฺโก อโหสิ, ปฺจสเต ปจฺเจกพุทฺเธ ปูเชสิ. ตสฺส ทฺเว อคฺคมเหสิโย อเหสุํ – จูฬสุภทฺทา, มหาสุภทฺทา จาติ. นาคราชา อฏฺนาคสหสฺสปริวาโร กฺจนคุหายํ วสติ. โส ปน ฉทฺทนฺตทโห อายามโต จ วิตฺถารโต จ ปณฺณาสโยชโน โหติ. ตสฺส มชฺเฌ ทฺวาทสโยชนปฺปมาเณ าเน เสวาโล วา ปณกํ วา นตฺถิ, มณิกฺขนฺธวณฺณอุทกเมว สนฺติฏฺติ, ตทนนฺตรํ โยชนวิตฺถตํ สุทฺธํ กลฺลหารวนํ, ตํ อุทกํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ, ตทนนฺตรํ โยชนวิตฺถตเมว สุทฺธํ นีลุปฺปลวนํ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ, ตโต โยชนโยชนวิตฺถตาเนว รตฺตุปฺปลเสตุปฺปลรตฺตปทุมเสตปทุมกุมุทวนานิ ปุริมํ ปุริมํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตานิ. อิเมสํ ปน สตฺตนฺนํ วนานํ อนนฺตรํ สพฺเพสมฺปิ เตสํ กลฺลหาราทิวนานํ วเสน โอมิสฺสกวนํ โยชนวิตฺถตเมว ตานิ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ. ตทนนฺตรํ นาคานํ กฏิปฺปมาเณ อุทเก โยชนวิตฺถตเมว รตฺตสาลิวนํ, ตทนนฺตรํ อุทกปริยนฺเต โยชนวิตฺถตเมว นีลปีตโลหิตโอทาตสุรภิสุขุมกุสุมสมากิณฺณํ ขุทฺทกคจฺฉวนํ, อิติ อิมานิ ทส วนานิ โยชนวิตฺถตาเนว. ตโต ขุทฺทกราชมาสมหาราชมาสมุคฺควนํ, ตทนนฺตรํ ติปุสเอลาลุกลาพุกุมฺภณฺฑวลฺลิวนานิ, ตโต ปูครุกฺขปฺปมาณํ อุจฺฉุวนํ, ตโต หตฺถิทนฺตปฺปมาณผลํ กทลิวนํ, ตโต สาลวนํ, ตทนนฺตรํ จาฏิปฺปมาณผลํ ปนสวนํ, ตโต มธุรผลํ จิฺจวนํ, ตโต อมฺพวนํ, ตโต กปิฏฺวนํ, ตโต โอมิสฺสโก มหาวนสณฺโฑ, ตโต เวฬุวนํ, อยมสฺส ตสฺมึ กาเล สมฺปตฺติ. สํยุตฺตฏฺกถายํ ปน อิทานิ ปวตฺตมานสมฺปตฺติเยว กถิตา.

เวฬุวนํ ปน ปริกฺขิปิตฺวา สตฺต ปพฺพตา ิตา. เตสํ พาหิรนฺตโต ปฏฺาย ปโม จูฬกาฬปพฺพโต นาม, ทุติโย มหากาฬปพฺพโต นาม, ตโต อุทกปพฺพโต นาม, ตโต จนฺทิมปสฺสปพฺพโต นาม, ตโต สูริยปสฺสปพฺพโต นาม, ตโต มณิปสฺสปพฺพโต นาม, สตฺตโม สุวณฺณปสฺสปพฺพโต นาม. โส อุพฺเพธโต สตฺตโยชนิโก ฉทฺทนฺตทหํ ปริกฺขิปิตฺวา ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิ วิย ิโต. ตสฺส อพฺภนฺตริมํ ปสฺสํ สุวณฺณวณฺณํ, ตโต นิกฺขนฺเตน โอภาเสน ฉทฺทนฺตทโห สมุคฺคตพาลสูริโย วิย โหติ. พาหิรปพฺพเตสุ ปน เอโก อุพฺเพธโต ฉโยชนิโก, เอโก ปฺจ, เอโก จตฺตาริ, เอโก ตีณิ, เอโก ทฺเว, เอโก โยชนิโก, เอวํ สตฺตปพฺพตปริกฺขิตฺตสฺส ปน ตสฺส ทหสฺส ปุพฺพุตฺตรกณฺเณ อุทกวาตปฺปหรโณกาเส มหานิคฺโรธรุกฺโข อตฺถิ. ตสฺส ขนฺโธ ปริกฺเขปโต ปฺจโยชนิโก, อุพฺเพธโต สตฺตโยชนิโก, จตูสุ ทิสาสุ จตสฺโส สาขา ฉโยชนิกา, อุทฺธํ อุคฺคตสาขาปิ ฉโยชนิกาว, อิติ โส มูลโต ปฏฺาย อุพฺเพเธน เตรสโยชนิโก, สาขานํ โอริมนฺตโต ยาว ปาริมนฺตา ทฺวาทสโยชนิโก, อฏฺหิ ปาโรหสหสฺเสหิ ปฏิมณฺฑิโต มุณฺฑมณิปพฺพโต วิย วิลาสมาโน ติฏฺติ. ฉทฺทนฺตทหสฺส ปน ปจฺฉิมทิสาภาเค สุวณฺณปสฺสปพฺพเต ทฺวาทสโยชนิกา กฺจนคุหา ติฏฺติ. ฉทฺทนฺโต นาม นาคราชา วสฺสารตฺเต เหมนฺเต อฏฺสหสฺสนาคปริวุโต กฺจนคุหายํ วสติ. คิมฺหกาเล อุทกวาตํ สมฺปฏิจฺฉมาโน มหานิคฺโรธมูเล ปาโรหนฺตเร ติฏฺตี.

อถสฺส เอกทิวสํ ‘‘มหาสาลวนํ ปุปฺผิต’’นฺติ ตรุณนาคา อาคนฺตฺวา อาโรจยึสุ. โส สปริวาโร ‘‘สาลกีฬํ กีฬิสฺสามี’’ติ สาลวนํ คนฺตฺวา เอกํ สุปุปฺผิตํ สาลรุกฺขํ กุมฺเภน ปหริ. ตทา จูฬสุภทฺทา ปฏิวาตปสฺเส ิตา, ตสฺสา สรีเร สุกฺขทณฺฑกมิสฺสกานิ ปุราณปณฺณานิ เจว ตมฺพกิปิลฺลิกานิ จ ปตึสุ. มหาสุภทฺทา อโธวาตปสฺเส ิตา, ตสฺสา สรีเร ปุปฺผเรณุกิฺชกฺขปตฺตานิ ปตึสุ. จูฬสุภทฺทา ‘‘อยํ นาคราชา อตฺตโน ปิยภริยาย อุปริ ปุปฺผเรณุกิฺชกฺขปตฺตานิ ปาเตสิ, มม สรีเร สุกฺขทณฺฑกมิสฺสานิ ปุราณปณฺณานิ เจว ตมฺพกิปิลฺลิกานิ จ ปาเตสิ, โหตุ, กาตพฺพํ ชานิสฺสามี’’ติ มหาสตฺเต เวรํ พนฺธิ.

อปรมฺปิ ทิวสํ นาคราชา สปริวาโร นฺหานตฺถาย ฉทฺทนฺตทหํ โอตริ. อถ ทฺเว ตรุณนาคา โสณฺฑาหิ อุสิรกลาเป คเหตฺวา เกลาสกูฏํ มชฺชนฺตา วิย นฺหาเปสุํ. ตสฺมึ นฺหตฺวา อุตฺติณฺเณ ทฺเว กเรณุโย นฺหาเปสุํ. ตาปิ อุตฺตริตฺวา มหาสตฺตสฺส สนฺติเก อฏฺํสุ. ตโต อฏฺสหสฺสนาคาสรํ โอตริตฺวา อุทกกีฬํ กีฬิตฺวา สรโต นานาปุปฺผานิ อาหริตฺวา รชตถูปํ อลงฺกโรนฺตา วิย มหาสตฺตํ อลงฺกริตฺวา ปจฺฉา ทฺเว กเรณุโย อลงฺกรึสุ. อเถโก หตฺถี สเร วิจรนฺโต สตฺตุทฺทยํ นาม มหาปทุมํ ลภิตฺวา อาหริตฺวา มหาสตฺตสฺส อทาสิ. โส ตํ โสณฺฑาย คเหตฺวา เรณุํ กุมฺเภ โอกิริตฺวา เชฏฺกาย มหาสุภทฺทาย อทาสิ. ตํ ทิสฺวา อิตรา ‘‘อิทมฺปิ สตฺตุทฺทยํ มหาปทุมํ อตฺตโน ปิยภริยาย เอว อทาสิ, น มยฺห’’นฺติ ปุนปิ ตสฺมึ เวรํ พนฺธิ.

อเถกทิวสํ โพธิสตฺเต มธุรผลานิ เจว ภิสมุฬาลานิ จ โปกฺขรมธุนา โยเชตฺวา ปฺจสเต ปจฺเจกพุทฺเธ โภเชนฺเต จูฬสุภทฺทา อตฺตนา ลทฺธผลาผลํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิโต จวิตฺวา มทฺทราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สุภทฺทา นาม ราชกฺา หุตฺวา วยปฺปตฺตา พาราณสิรฺโ อคฺคมเหสิภาวํ ปตฺวา ตสฺส ปิยา มนาปา ตํ อตฺตโน รุจึ กาเรตุํ สมตฺถา หุตฺวา ตสฺส อาจิกฺขิตฺวา เอกํ ลุทฺทกํ เปเสตฺวา อิมํ หตฺถึ วิสปีเตน สลฺเลน วิชฺฌาเปตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ฉพฺพณฺณรํสึ วิสฺสชฺเชนฺเต ยมกทนฺเต อาหราเปตุํ สมตฺถา โหมี’’ติ ปตฺถนํ เปสิ. สา ตโต ปฏฺาย โคจรํ อคฺคเหตฺวา สุสฺสิตฺวา นจิรสฺเสว กาลํ กตฺวา มทฺทรฏฺเ ราชอคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, สุภทฺทาติสฺสา นามํ กรึสุ. อถ นํ วยปฺปตฺตํ พาราณสิรฺโ อทํสุ. สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา, โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา หุตฺวา ชาติสฺสราณฺจ ปฏิลภิ. สา จินฺเตสิ – ‘‘สมิทฺธา เม ปตฺถนา, อิทานิ ตสฺส นาคสฺส ยมกทนฺเต อาหราเปสฺสามี’’ติ. ตโต สรีรํ เตเลน มกฺเขตฺวา กิลิฏฺวตฺถํ นิวาเสตฺวา คิลานาการํ ทสฺเสตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. ราชา ‘‘กุหึ สุภทฺทา’’ติ วตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา มฺจเก นิสีทิตฺวา ตสฺสา ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺโต ปมํ คาถมาห –

๙๗.

‘‘กึ นุ โสจสินุจฺจงฺคิ, ปณฺฑูสิ วรวณฺณินิ;

มิลายสิ วิสาลกฺขิ, มาลาว ปริมทฺทิตา’’ติ.

ตตฺถ อนุจฺจงฺคีติ กฺจนสนฺนิภสรีเร. มาลาว ปริมทฺทิตาติ หตฺเถหิ ปริมทฺทิตา ปทุมมาลา วิย.

ตํ สุตฺวา สา อิตรํ คาถมาห –

๙๘.

‘‘โทหโฬ เม มหาราช, สุปินนฺเตนุปชฺฌคา;

น โส สุลภรูโปว, ยาทิโส มม โทหโฬ’’ติ.

ตตฺถ น โสติ ยาทิโส มม สุปินนฺเตนุปชฺฌคา สุปิเน ปสฺสนฺติยา มยา ทิฏฺโ โทหโฬ, โส สุลภรูโป วิย น โหติ, ทุลฺลโภ โส, มยฺหํ ปน ตํ อลภนฺติยา ชีวิตํ นตฺถีติ อวจ.

ตํ สุตฺวา ราชา คาถมาห –

๙๙.

‘‘เย เกจิ มานุสา กามา, อิธ โลกมฺหิ นนฺทเน;

สพฺเพ เต ปจุรา มยฺหํ, อหํ เต ทมฺมิ โทหฬ’’นฺติ.

ตตฺถ ปจุราติ พหู สุลภา.

ตํ สุตฺวา เทวี, ‘‘มหาราช, ทุลฺลโภ มม โทหโฬ, น ตํ อิทานิ กเถมิ, ยาวตฺตกา ปน เต วิชิเต ลุทฺทา, เต สพฺเพ สนฺนิปาเตถ, เตสํ มชฺเฌ กเถสฺสามี’’ติ ทีเปนฺตี อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๐๐.

‘‘ลุทฺทา เทว สมายนฺตุ, เย เกจิ วิชิเต ตว;

เอเตสํ อหมกฺขิสฺสํ, ยาทิโส มม โทหโฬ’’ติ.

ราชา ‘‘สาธู’’ติ สิริคพฺภา นิกฺขมิตฺวา ‘‘ยาวติกา ติโยชนสติเก กาสิกรฏฺเ ลุทฺทา, เตสํ สนฺนิปาตตฺถาย เภรึ จราเปถา’’ติ อมจฺเจ อาณาเปสิ. เต ตถา อกํสุ. นจิรสฺเสว กาสิรฏฺวาสิโน ลุทฺทา ยถาพลํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคนฺตฺวา อาคตภาวํ รฺโ อาโรจาเปสุํ. เต สพฺเพปิ สฏฺิสหสฺสมตฺตา อเหสุํ. ราชา เตสํ อาคตภาวํ ตฺวา วาตปาเน ิโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา เตสํ อาคตภาวํ เทวิยา กเถนฺโต อาห –

๑๐๑.

‘‘อิเม เต ลุทฺทกา เทวิ, กตหตฺถา วิสารทา;

วนฺู จ มิคฺู จ, มมตฺเถ จตฺตชีวิตา’’ติ.

ตตฺถ อิเม เตติ เย ตฺวํ สนฺนิปาตาเปสิ, อิเม เต. กตหตฺถาติ วิชฺฌนเฉทเนสุ กตหตฺถา กุสลา สุสิกฺขิตา. วิสารทาติ นิพฺภยา. วนฺู จ มิคฺู จาติ วนานิ จ มิเค จ ชานนฺติ. มมตฺเถติ สพฺเพปิ เจเต มมตฺเถ จตฺตชีวิตา, ยมหํ อิจฺฉามิ, ตํ กโรนฺตีติ.

ตํ สุตฺวา เทวี เต อามนฺเตตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๑๐๒.

‘‘ลุทฺทปุตฺตา นิสาเมถ, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

ฉพฺพิสาณํ คชํ เสตํ, อทฺทสํ สุปิเน อหํ;

ตสฺส ทนฺเตหิ เม อตฺโถ, อลาเภ นตฺถิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ นิสาเมถาติ สุณาถ. ฉพฺพิสาณนฺติ ฉพฺพณฺณวิสาณํ.

ตํ สุตฺวา ลุทฺทปุตฺตา อาหํสุ –

๑๐๓.

‘‘น โน ปิตูนํ น ปิตามหานํ, ทิฏฺโ สุโต กุฺชโร ฉพฺพิสาโณ;

ยมทฺทสา สุปิเน ราชปุตฺตี, อกฺขาหิ โน ยาทิโส หตฺถินาโค’’ติ.

ตตฺถ ปิตูนนฺติ กรณตฺเถ สามิวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เทวิ เนว อมฺหากํ ปิตูหิ, น ปิตามเหหิ เอวรูโป กุฺชโร ทิฏฺปุพฺโพ, ปเคว อมฺเหหิ, ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺลกฺขณวเสน อกฺขาหิ โน, ยาทิโส ตยา ทิฏฺโ หตฺถินาโคติ.

อนนฺตรคาถาปิ เตเหว วุตฺตา –

๑๐๔.

‘‘ทิสา จตสฺโส วิทิสา จตสฺโส, อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา อิมาโย;

กตมํ ทิสํ ติฏฺติ นาคราชา, ยมทฺทสา สุปิเน ฉพฺพิสาณ’’นฺติ.

ตตฺถ ทิสาติ ทิสาสุ. กตมนฺติ เอตาสุ ทิสาสุ กตมาย ทิสายาติ.

เอวํ วุตฺเต สุภทฺทา สพฺเพ ลุทฺเท โอโลเกตฺวา เตสํ อนฺตเร ปตฺถฏปาทํ ภตฺตปุฏสทิสชงฺฆํ มหาชาณุกํ มหาผาสุกํ พหลมสฺสุตมฺพทาิกํ นิพฺพิทฺธปิงฺคลํ ทุสฺสณฺานํ พีภจฺฉํ สพฺเพสํ มตฺถกมตฺถเกน ปฺายมานํ มหาสตฺตสฺส ปุพฺพเวรึ โสนุตฺตรํ นาม เนสาทํ ทิสฺวา ‘‘เอส มม วจนํ กาตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ ราชานํ อนุชานาเปตฺวา ตํ อาทาย สตฺตภูมิกปาสาทสฺส อุปริมตลํ อารุยฺห อุตฺตรสีหปฺชรํ วิวริตฺวา อุตฺตรหิมวนฺตาภิมุขํ หตฺถํ ปสาเรตฺวา จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๐๕.

‘‘อิโต อุชุํ อุตฺตริยํ ทิสายํ, อติกฺกมฺม โส สตฺต คิรี พฺรหฺมนฺเต;

สุวณฺณปสฺโส นาม คิรี อุฬาโร, สุปุปฺผิโต กิมฺปุริสานุจิณฺโณ.

๑๐๖.

‘‘อารุยฺห เสลํ ภวนํ กินฺนรานํ, โอโลกย ปพฺพตปาทมูลํ;

อถ ทกฺขสี เมฆสมานวณฺณํ, นิคฺโรธราชํ อฏฺสหสฺสปาทํ.

๑๐๗.

‘‘ตตฺถจฺฉตี กุฺชโร ฉพฺพิสาโณ, สพฺพเสโต ทุปฺปสโห ปเรภิ;

รกฺขนฺติ นํ อฏฺสหสฺสนาคา, อีสาทนฺตา วาตชวปฺปหาริโน.

๑๐๘.

‘‘ติฏฺนฺติ เต ตุมูลํ ปสฺสสนฺตา, กุปฺปนฺติ วาตสฺสปิ เอริตสฺส;

มนุสฺสภูตํ ปน ตตฺถ ทิสฺวา, ภสฺมํ กเรยฺยุํ นาสฺส รโชปิ ตสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อิโตติ อิมมฺหา านา. อุตฺตริยนฺติ อุตฺตราย. อุฬาโรติ มหา อิตเรหิ ฉหิ ปพฺพเตหิ อุจฺจตโร. โอโลกยาติ อาโลเกยฺยาสิ. ตตฺถจฺฉตีติ ตสฺมึ นิคฺโรธมูเล คิมฺหสมเย อุทกวาตํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ติฏฺติ. ทุปฺปสโหติ อฺเ ตํ อุปคนฺตฺวา ปสยฺหการํ กาตุํ สมตฺถา นาม นตฺถีติ ทุปฺปสโห ปเรภิ. อีสาทนฺตาติ รถีสาย สมานทนฺตา. วาตชวปฺปหาริโนติ วาตชเวน คนฺตฺวา ปจฺจามิตฺเต ปหรณสีลา เอวรูปา อฏฺสหสฺสนาคา นาคราชานํ รกฺขนฺติ. ตุมูลนฺติ ภึสนกํ มหาสทฺทานุพนฺธํ อสฺสาสํ มุฺจนฺตา ติฏฺนฺติ. เอริตสฺสาติ วาตปหริตสฺส ยํ สทฺทานุพนฺธํ เอริตํ จลนํ กมฺปนํ, ตสฺสปิ กุปฺปนฺติ, เอวํผรุสา เต นาคา. นาสฺสาติ ตสฺส นาสวาเตน วิทฺธํเสตฺวา ภสฺมํ กตสฺส ตสฺส รโชปิ น ภเวยฺยาติ.

ตํ สุตฺวา โสนุตฺตโร มรณภยภีโต อาห –

๑๐๙.

‘‘พหู หิเม ราชกุลมฺหิ สนฺติ, ปิฬนฺธนา ชาตรูปสฺส เทวิ;

มุตฺตา มณี เวฬุริยามยา จ, กึ กาหสิ ทนฺตปิฬนฺธเนน;

มาเรตุกามา กุฺชรํ ฉพฺพิสาณํ, อุทาหุ ฆาเตสฺสสิ ลุทฺทปุตฺเต’’ติ.

ตตฺถ ปิฬนฺธนาติ อาภรณานิ. เวฬุริยามยาติ เวฬุริยมยานิ. ฆาเตสฺสสีติ อุทาหุ ปิฬนฺธนาปเทเสน ลุทฺทปุตฺเต ฆาตาเปตุกามาสีติ ปุจฺฉติ.

ตโต เทวี คาถมาห –

๑๑๐.

‘‘สา อิสฺสิตา ทุกฺขิตา จสฺมิ ลุทฺท, อุทฺธฺจ สุสฺสามิ อนุสฺสรนฺตี;

กโรหิ เม ลุทฺทก เอตมตฺถํ, ทสฺสามิ เต คามวรานิ ปฺจา’’ติ.

ตตฺถ สาติ สา อหํ. อนุสฺสรนฺตีติ เตน วารเณน ปุเร มยิ กตํ เวรํ อนุสฺสรมานา. ทสฺสามิ เตติ เอตสฺมึ เต อตฺเถ นิปฺผาทิเต สํวจฺฉเร สตสหสฺสุฏฺานเก ปฺจ คามวเร ททามีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘สมฺม ลุทฺทปุตฺต อหํ ‘เอตํ ฉทฺทนฺตหตฺถึ มาราเปตฺวา ยมกทนฺเต อาหราเปตุํ สมตฺถา โหมี’ติ ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺธานํ ทานํ ทตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสึ, มยา สุปินนฺเตน ทิฏฺํ นาม นตฺถิ, สา ปน มยา ปตฺถิตปตฺถนา สมิชฺฌิสฺสติ, ตฺวํ คจฺฉนฺโต มา ภายี’’ติ ตํ สมสฺสาเสตฺวา เปเสสิ. โส ‘‘สาธุ, อยฺเย’’ติ ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เตน หิ เม ปากฏํ กตฺวา ตสฺส วสนฏฺานํ กเถหี’’ติ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –

๑๑๑.

‘‘กตฺถจฺฉตี กตฺถ มุเปติ านํ, วีถิสฺส กา นฺหานคตสฺส โหติ;

กถฺหิ โส นฺหายติ นาคราชา, กถํ วิชาเนมุ คตึ คชสฺสา’’ติ.

ตตฺถ กตฺถจฺฉตีติ กตฺถ วสติ. กตฺถ มุเปตีติ กตฺถ อุเปติ, กตฺถ ติฏฺตีติ อตฺโถ. วีถิสฺส กาติ ตสฺส นฺหานคตสฺส กา วีถิ โหติ, กตรมคฺเคน โส คจฺฉติ. กถํ วิชาเนมุ คตินฺติ ตยา อกถิเต มยํ กถํ ตสฺส นาคราชสฺส คตึ วิชานิสฺสาม, ตสฺมา กเถหิ โนติ อตฺโถ.

ตโต สา ชาติสฺสราเณน ปจฺจกฺขโต ทิฏฺฏฺานํ ตสฺส อาจิกฺขนฺตี ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๑๒.

‘‘ตตฺเถว สา โปกฺขรณี อทูเร, รมฺมา สุติตฺถา จ มโหทิกา จ;

สมฺปุปฺผิตา ภมรคณานุจิณฺณา, เอตฺถ หิ โส นฺหายติ นาคราชา.

๑๑๓.

‘‘สีสํ นหาตุปฺปลมาลภารี, สพฺพเสโต ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคี;

อาโมทมาโน คจฺฉติ สนฺนิเกตํ, ปุรกฺขตฺวา มเหสึ สพฺพภทฺท’’นฺติ.

ตตฺถ ตตฺเถวาติ ตสฺส วสนฏฺาเนเยว. โปกฺขรณีติ ฉทฺทนฺตทหํ สนฺธายาห. สมฺปุปฺผิตาติ ทุวิเธหิ กุมุเทหิ ติวิเธหิ อุปฺปเลหิ ปฺจวณฺเณหิ จ ปทุเมหิ สมนฺตโต ปุปฺผิตา. เอตฺถ หิ โสติ โส นาคราชา เอตฺถ ฉทฺทนฺตทเห นฺหายติ. อุปฺปลมาลภารีติ อุปฺปลาทีนํ ชลชถลชานํ ปุปฺผานํ มาลํ ธาเรนฺโต. ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคีติ ปุณฺฑรีกสทิสตเจน โอทาเตน องฺเคน สมนฺนาคโต. อาโมทมาโนติ อาโมทิตปโมทิโต. สนฺนิเกตนฺติ อตฺตโน วสนฏฺานํ. ปุรกฺขตฺวาติ สพฺพภทฺทํ นาม มเหสึ ปุรโต กตฺวา อฏฺหิ นาคสหสฺเสหิ ปริวุโต อตฺตโน วสนฏฺานํ คจฺฉตีติ.

ตํ สุตฺวา โสนุตฺตโร ‘‘สาธุ อยฺเย, อหํ ตํ วารณํ มาเรตฺวา ตสฺส ทนฺเต อาหริสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺส สา ตุฏฺา สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘เคหํ ตาว คจฺฉ, อิโต สตฺตาหจฺจเยน ตตฺถ คมิสฺสสี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา กมฺมาเร ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา อมฺหากํ วาสิผรสุ-กุทฺทาล-นิขาทน-มุฏฺิกเวฬุคุมฺพจฺเฉทน-สตฺถ-ติณลายน-อสิโลหทณฺฑกกจขาณุก- อยสิงฺฆาฏเกหิ อตฺโถ, สพฺพํ สีฆํ กตฺวา อาหรถา’’ติ อาณาเปตฺวา จมฺมกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา อมฺหากํ กุมฺภภารคาหิตํ จมฺมภสฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ, จมฺมโยตฺตวรตฺตหตฺถิปาทอุปาหนจมฺมฉตฺเตหิปิ โน อตฺโถ, สพฺพํ สีฆํ กตฺวา อาหรถา’’ติ อาณาเปสิ. เต อุโภปิ สพฺพานิ ตานิ สีฆํ กตฺวา อาหริตฺวา อทํสุ. สา ตสฺส ปาเถยฺยํ สํวิทหิตฺวา อรณิสหิตํ อาทึ กตฺวา สพฺพํ อุปกรณฺจ พทฺธสตฺตุมาทึ กตฺวา ปาเถยฺยฺจ จมฺมภสฺตายํ ปกฺขิปิ, ตํ สพฺพมฺปิ กุมฺภภารมตฺตํ อโหสิ.

โสนุตฺตโรปิ อตฺตโน ปริวจฺฉํ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส อาคนฺตฺวา เทวึ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ สา ‘‘นิฏฺิตํ เต สมฺม สพฺพูปกรณํ, อิมํ ตาว ปสิพฺพกํ คณฺหา’’ติ อาห. โส ปน มหาถาโม ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ, ตสฺมา ตมฺพูลปสิพฺพกํ วิย อุกฺขิปิตฺวา อุปกจฺฉนฺตเร เปตฺวา ริตฺตหตฺโถ วิย อฏฺาสิ. สุภทฺทา ลุทฺทสฺส ปุตฺตทารานํ ปริพฺพยํ ทตฺวา รฺโ อาจิกฺขิตฺวา โสนุตฺตรํ อุยฺโยเชสิ. โสปิ ราชานฺจ เทวิฺจ วนฺทิตฺวา ราชนิเวสนา โอรุยฺห รเถ ตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นครา นิกฺขมิตฺวา คามนิคมชนปทปรมฺปราย ปจฺจนฺตํ ปตฺวา ชานปเท นิวตฺเตตฺวา ปจฺจนฺตวาสีหิ สทฺธึ อรฺํ ปวิสิตฺวา มนุสฺสปถํ อติกฺกมฺม ปจฺจนฺตวาสิโนปิ นิวตฺเตตฺวา เอกโกว คจฺฉนฺโต ตึสโยชนํ ปตฺวา ปมํ ทพฺพคหนํ กาสคหนํ ติณคหนํ ตุลสิคหนํ สรคหนํ ติริวจฺฉคหนนฺติ ฉ คหนานิ, กณฺฏกเวฬุคุมฺพคหนานิ เวตฺตคหนํ โอมิสฺสกคหนํ นฬคหนํ สรคหนสทิสํ อุรเคนปิ ทุพฺพินิวิชฺฌํ ฆนวนคหนํ รุกฺขคหนํ เวฬุคหนํ อปรมฺปิ เวฬุคุมฺพคหนํ กลลคหนํ อุทกคหนํ ปพฺพตคหนนฺติ อฏฺารส คหนานิ ปฏิปาฏิยา ปตฺวา ทพฺพคหนาทีนิ อสิเตน ลายิตฺวา ตุลสิคหนาทีนิ เวฬุคุมฺพจฺเฉทนสตฺเถน ฉินฺทิตฺวา รุกฺเข ผรสุนา โกฏฺเฏตฺวา อติมหนฺเต รุกฺเข นิขาทเนน วิชฺฌิตฺวา มคฺคํ กโรนฺโต เวฬุวเน นิสฺเสณึ กตฺวา เวฬุคุมฺพํ อารุยฺห เวฬุํ ฉินฺทิตฺวา อปรสฺส เวฬุคุมฺพสฺส อุปริ ปาเตตฺวา เวฬุคุมฺพมตฺถเกน คนฺตฺวา กลลคหเน สุกฺขรุกฺขปทรํ อตฺถริตฺวา เตน คนฺตฺวา อปรํ อตฺถริตฺวา อิตรํ อุกฺขิปิตฺวา ปุน ปุรโต อตฺถรนฺโต ตํ อติกฺกมิตฺวา อุทกคหเน โทณึ กตฺวา ตาย อุทกคหนํ ตริตฺวา ปพฺพตปาเท ตฺวา อยสิงฺฆาฏกํ โยตฺเตน พนฺธิตฺวา อุทฺธํ ขิปิตฺวา ปพฺพเต ลคฺคาเปตฺวา โยตฺเตนารุยฺห วชิรคฺเคน โลหทณฺเฑน ปพฺพตํ วิชฺฌิตฺวา ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ ตฺวา สิงฺฆาฏกํ อากฑฺฒิตฺวา ปุน อุปริ ลคฺคาเปตฺวา ตตฺถ ิโต จมฺมโยตฺตํ โอลมฺเพตฺวา ตํ อาทาย โอตริตฺวา เหฏฺิมขาณุเก พนฺธิตฺวา วามหตฺเถน โยตฺตํ คเหตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน มุคฺครํ อาทาย โยตฺตํ ปหริตฺวา ขาณุกํ นีหริตฺวา ปุน อภิรุหติ. เอเตนุปาเยน ปพฺพตมตฺถกํ อภิรุยฺห ปรโต โอตรนฺโต ปุริมนเยเนว ปมํ ปพฺพตมตฺถเก ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา จมฺมปสิพฺพเก โยตฺตํ พนฺธิตฺวา ขาณุเก เวเตฺวา สยํ อนฺโตปสิพฺพเก นิสีทิตฺวา มกฺกฏกานํ มกฺกฏสุตฺตวิสฺสชฺชนากาเรน โยตฺตํ วินิเวเนฺโต โอตรติ. จมฺมฉตฺเตน วาตํ คาหาเปตฺวา สกุโณ วิย โอตรตีติปิ วทนฺติเยว.

เอวํ ตสฺส สุภทฺทาย วจนํ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา สตฺตรส คหนานิ อติกฺกมิตฺวา ปพฺพตคหนํ ปตฺวา ตตฺราปิ ฉ ปพฺพเต อติกฺกมิตฺวา สุวณฺณปสฺสปพฺพตมตฺถกํ อารุฬฺหภาวํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๔.

‘‘ตตฺเถว โส อุคฺคเหตฺวาน วากฺยํ, อาทาย ตูณิฺจ ธนุฺจ ลุทฺโท;

วิตุริยติ สตฺต คิรี พฺรหนฺเต, สุวณฺณปสฺสํ นาม คิรึ อุฬารํ.

๑๑๕.

‘‘อารุยฺห เสลํ ภวนํ กินฺนรานํ, โอโลกยี ปพฺพตปาทมูลํ;

ตตฺถทฺทสา เมฆสมานวณฺณํ, นิคฺโรธราชํ อฏฺสหสฺสปาทํ.

๑๑๖.

‘‘ตตฺถทฺทสา กุฺชรํ ฉพฺพิสาณํ, สพฺพเสตํ ทุปฺปสหํ ปเรภิ;

รกฺขนฺติ นํ อฏฺสหสฺสนาคา, อีสาทนฺตา วาตชวปฺปหาริโน.

๑๑๗.

‘‘ตตฺถทฺทสา โปกฺขรณึ อทูเร, รมฺมํ สุติตฺถฺจ มโหทิกฺจ;

สมฺปุปฺผิตํ ภมรคณานุจิณฺณํ, ยตฺถ หิ โส นฺหายติ นาคราชา.

๑๑๘.

‘‘ทิสฺวาน นาคสฺส คตึ ิติฺจ, วีถิสฺสยา นฺหานคตสฺส โหติ;

โอปาตมาคจฺฉิ อนริยรูโป, ปโยชิโต จิตฺตวสานุคายา’’ติ.

ตตฺถ โสติ, ภิกฺขเว, โส ลุทฺโท ตตฺเถว สตฺตภูมิกปาสาทตเล ิตาย ตสฺสา สุภทฺทาย วจนํ อุคฺคเหตฺวา สรตูณิฺจ มหาธนุฺจ อาทาย ปพฺพตคหนํ ปตฺวา ‘‘กตโร นุ โข สุวณฺณปสฺสปพฺพโต นามา’’ติ สตฺต มหาปพฺพเต วิตุริยติ, ตสฺมึ กาเล ตุเลติ ตีเรติ. โส เอวํ ตีเรนฺโต สุวณฺณปสฺสํ นาม คิรึ อุฬารํ ทิสฺวา ‘‘อยํ โส ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสิ. โอโลกยีติ ตํ กินฺนรานํ ภวนภูตํ ปพฺพตํ อารุยฺห สุภทฺทาย ทินฺนสฺาวเสน เหฏฺา โอโลเกสิ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปพฺพตปาทมูเล อวิทูเรเยว ตํ นิคฺโรธํ อทฺทส.

ตตฺถาติ ตสฺมึ นิคฺโรธรุกฺขมูเล ิตํ. ตตฺถาติ ตตฺเถว อนฺโตปพฺพเต ตสฺส นิคฺโรธสฺสาวิทูเร ยตฺถ โส นฺหายติ, ตํ โปกฺขรณึ อทฺทส. ทิสฺวานาติ สุวณฺณปสฺสปพฺพตา โอรุยฺห หตฺถีนํ คตกาเล หตฺถิปาทอุปาหนํ อารุยฺห ตสฺส นาครฺโ คตฏฺานํ นิพทฺธวสนฏฺานํ อุปธาเรนฺโต ‘‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉติ, อิธ นฺหายติ, นฺหตฺวา อุตฺติณฺโณ, อิธ ติฏฺตี’’ติ สพฺพํ ทิสฺวา อหิริกภาเวน อนริยรูโป ตาย จิตฺตวสานุคาย ปโยชิโต, ตสฺมา โอปาตํ อาคจฺฉิ ปฏิปชฺชิ, อาวาฏํ ขณีติ อตฺโถ.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – ‘‘โส กิร มหาสตฺตสฺส วสโนกาสํ สตฺตมาสาธิเกหิ สตฺตหิ สํวจฺฉเรหิ สตฺตหิ จ ทิวเสหิ ปตฺวา วุตฺตนเยเนว ตสฺส วสโนกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อิธ อาวาฏํ ขณิตฺวา ตสฺมึ ิโต วารณาธิปตึ วิสปีเตน สลฺเลน วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสามี’’ติ ววตฺถเปตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ถมฺภาทีนํ อตฺถาย รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ทพฺพสมฺภาเร สชฺเชตฺวา หตฺถีสุ นฺหานตฺถาย คเตสุ ตสฺส วสโนกาเส มหากุทฺทาเลน จตุรสฺสํ อาวาฏํ ขณิตฺวา อุทฺธตปํสุํ พีชํ วปนฺโต วิย อุทเกน วิกิริตฺวา อุทุกฺขลปาสาณานํ อุปริ ถมฺเภ ปติฏฺเปตฺวา ตุลา จ กาเช จ ทตฺวา ปทรานิ อตฺถริตฺวา กณฺฑปฺปมาณํ ฉิทฺทํ กตฺวา อุปริ ปํสุฺจ กจวรฺจ ปกฺขิปิตฺวา เอเกน ปสฺเสน อตฺตโน ปวิสนฏฺานํ กตฺวา เอวํ นิฏฺิเต อาวาเฏ ปจฺจูสกาเลเยว ปติสีสกํ ปฏิมุฺจิตฺวา กาสายานิ ปริทหิตฺวา สทฺธึ วิสปีเตน สลฺเลน ธนุํ อาทาย อาวาฏํ โอตริตฺวา อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๙.

‘‘ขณิตฺวาน กาสุํ ผลเกหิ ฉาทยิ, อตฺตานโมธาย ธนุฺจ ลุทฺโท;

ปสฺสาคตํ ปุถุสลฺเลน นาคํ, สมปฺปยี ทุกฺกฏกมฺมการี.

๑๒๐.

‘‘วิทฺโธ จ นาโค โกฺจมนาทิ โฆรํ, สพฺเพ จ นาคา นินฺนทุํ โฆรรูปํ;

ติณฺจ กฏฺฺจ รณํ กโรนฺตา, ธาวึสุ เต อฏฺ ทิสา สมนฺตโต.

๑๒๑.

‘‘วธิสฺสเมตนฺติ ปรามสนฺโต, กาสาวมทฺทกฺขิ ธชํ อิสีนํ;

ทุกฺเขน ผุฏฺสฺสุทปาทิ สฺา, อรหทฺธโช สพฺภิ อวชฺฌรูโป’’ติ.

ตตฺถ โอธายาติ โอทหิตฺวา ปเวเสตฺวา. ปสฺสาคตนฺติ อตฺตโน อาวาฏสฺส ปสฺสํ อาคตํ. โส กิร ทุติยทิวเส อาคนฺตฺวา นฺหตฺวา อุตฺติณฺโณ ตสฺมึ มหาวิสาลมาลเก นาม ปเทเส อฏฺาสิ. อถสฺส สรีรโต อุทกํ นาภิปเทเสน โอคลิตฺวา เตน ฉิทฺเทน ลุทฺทสฺส สรีเร ปติ. ตาย สฺาย โส มหาสตฺตสฺส อาคนฺตฺวา ิตภาวํ ตฺวา ตํ ปสฺสาคตํ ปุถุนา สลฺเลน สมปฺปยิ วิชฺฌิ. ทุกฺกฏกมฺมการีติ ตสฺส มหาสตฺตสฺส กายิกเจตสิกสฺส ทุกฺขสฺส อุปฺปาทเนน ทุกฺกฏสฺส กมฺมสฺส การโก.

โกฺจมนาทีติ โกฺจนาทํ อกริ. ตสฺส กิร ตํ สลฺลํ นาภิยํ ปวิสิตฺวา ปิหกาทีนิ สฺจุณฺเณตฺวา อนฺตานิ ฉินฺทิตฺวา ปิฏฺิภาคํ ผรสุนา ปทาเลนฺตํ วิย อุคฺคนฺตฺวา อากาเส ปกฺขนฺทิ. ภินฺนรชตกุมฺภโต รชนํ วิย ปหารมุเขน โลหิตํ ปคฺฆริ, พลวเวทนา อุปฺปชฺชิ. โส เวทนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต เวทนาปฺปตฺโต สกลปพฺพตํ เอกนินฺนาทํ กโรนฺโต ติกฺขตฺตุํ มหนฺตํ โกฺจนาทํ นทิ. สพฺเพ จาติ เตปิ สพฺเพ อฏฺสหสฺสนาคา ตํ สทฺทํ สุตฺวา มรณภยภีตา โฆรรูปํ นินฺนทุํ อนุรวํ กรึสุ. รณํ กโรนฺตาติ เตน สทฺเทน คนฺตฺวา ฉทฺทนฺตวารณํ เวทนาปฺปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘ปจฺจามิตฺตํ คณฺหิสฺสามา’’ติ ติณฺจ กฏฺฺจ จุณฺณวิจุณฺณํ กโรนฺตา สมนฺตา ธาวึสุ.

วธิสฺสเมตนฺติ ‘‘ภิกฺขเว, โส ฉทฺทนฺตวารโณ ทิสา ปกฺกนฺเตสุ นาเคสุ สุภทฺทาย กเรณุยา ปสฺเส ตฺวา สนฺธาเรตฺวา สมสฺสาสยมานาย เวทนํ อธิวาเสตฺวา กณฺฑสฺส อาคตฏฺานํ สลฺลกฺเขนฺโต ‘สเจ อิทํ ปุรตฺถิมทิสาทีหิ อาคตํ อภวิสฺส, กุมฺภาทีหิ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมกายีทีหิ นิกฺขมิสฺส, อิทํ ปน นาภิยา ปวิสิตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ, ตสฺมา ปถวิยํ ิเตน วิสฺสฏฺํ ภวิสฺสตี’ติ อุปธาเรตฺวา ิตฏฺานํ อุปปริกฺขิตุกาโม ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสติ, สุภทฺทํ อปเนตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, อฏฺสหสฺสนาคา มม ปจฺจามิตฺตํ ปริเยสนฺตา ทิสา ปกฺขนฺทา, ตฺวํ อิธ กึ กโรสี’’ติ วตฺวา, ‘‘เทว, อหํ ตุมฺเห สนฺธาเรตฺวา สมสฺสาเสนฺตี ิตา, ขมถ เม’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา ตาย อากาสํ ปกฺขนฺทาย นาคราชา ภูมึ ปาทนเขน ปหริ, ปทรํ อุปฺปติตฺวา คตํ. โส ฉิทฺเทน โอโลเกนฺโต โสนุตฺตรํ ทิสฺวา ‘‘วธิสฺสามิ น’’นฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา รชตทามวณฺณโสณฺฑํ ปเวเสตฺวา ปรามสนฺโต พุทฺธานํ อิสีนํ ธชํ กาสาวํ อทฺทกฺขิ. ลุทฺโท กาสาวํ มหาสตฺตสฺส หตฺเถ เปสิ. โส ตํ อุกฺขิปิตฺวา ปุรโต เปสิ. อถสฺส เตน ตถารูเปนปิ ทุกฺเขน ผุฏฺสฺส ‘‘อรหทฺธโช นาม สพฺภิ ปณฺฑิเตหิ อวชฺฌรูโป, อฺทตฺถุ สกฺกาตพฺโพ ครุกาตพฺโพเยวา’’ติ อยํ สฺา อุทปาทิ.

โส เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๒๒.

‘‘อนิกฺกสาโว กาสาวํ, โย วตฺถํ ปริทหิสฺสติ;

อเปโต ทมสจฺเจน, น โส กาสาวมรหติ.

๑๒๓.

‘‘โย จ วนฺตกสาวสฺส, สีเลสุ สุสมาหิโต;

อุเปโต ทมสจฺเจน, ส เว กาสาวมรหตี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สมฺม ลุทฺทปุตฺต โย ปุริโส ราคาทีหิ กสาเวหิ อนิกฺกสาโว อินฺทฺริยทเมน เจว วจีสจฺเจน จ อเปโต อนุปคโต เตหิ คุเณหิ กสาวรสปีตํ กาสาววตฺถํ ปริทหติ, โส ตํ กาสาวํ นารหติ, นานุจฺฉวิโก โส ตสฺส วตฺถสฺส. โย ปน เตสํ กสาวานํ วนฺตตฺตา วนฺตกสาโว อสฺส สีเลสุ สุสมาหิโต สุปติฏฺิโต ปริปุณฺณสีลาจาโร, โส ตํ กาสาวํ อรหติ นามาติ.

เอวํ วตฺวา มหาสตฺโต ตสฺมึ จิตฺตํ นิพฺพาเปตฺวา ‘‘สมฺม กิมตฺถํ ตฺวํ มํ วิชฺฌสิ, กึ อตฺตโน อตฺถาย, อุทาหุ อฺเน ปโยชิโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ อาวีกโรนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๔.

‘‘สมปฺปิโต ปุถุสลฺเลน นาโค, อทุฏฺจิตฺโต ลุทฺทกมชฺฌภาสิ;

กิมตฺถยํ กิสฺส วา สมฺม เหตุ, มมํ วธี กสฺส วายํ ปโยโค’’ติ.

ตตฺถ กิมตฺถยนฺติ อายตึ กึ ปตฺเถนฺโต. กิสฺส วาติ กิสฺส เหตุ เกน การเณน, กึ นาม ตว มยา สทฺธึ เวรนฺติ อธิปฺปาโย. กสฺส วาติ กสฺส วา อฺสฺส อยํ ปโยโค, เกน ปโยชิโต มํ อวธีติ อตฺโถ.

อถสฺส อาจิกฺขนฺโต ลุทฺโท คาถมาห –

๑๒๕.

‘‘กาสิสฺส รฺโ มเหสี ภทนฺเต, สา ปูชิตา ราชกุเล สุภทฺทา;

ตํ อทฺทสา สา จ มมํ อสํสิ, ทนฺเตหิ อตฺโถติ จ มํ อโวจา’’ติ.

ตตฺถ ปูชิตาติ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปตฺวา ปูชิตา. อทฺทสาติ สา กิร ตํ สุปินนฺเต อทฺทส. อสํสีติ สา จ มม สกฺการํ กาเรตฺวา ‘‘หิมวนฺตปเทเส เอวรูโป นาม นาโค อสุกสฺมึ นาม าเน วสตี’’ติ มมํ อาจิกฺขิ. ทนฺเตหีติ ตสฺส นาคสฺส ฉพฺพณฺณรํสิสมุชฺชลา ทนฺตา, เตหิ มม อตฺโถ, ปิฬนฺธนํ กาเรตุกามามฺหิ, เต เม อาหราติ มํ อโวจาติ.

ตํ สุตฺวา ‘‘อิทํ จูฬสุภทฺทาย กมฺม’’นฺติ ตฺวา มหาสตฺโต เวทนํ อธิวาเสตฺวา ‘‘ตสฺสา มม ทนฺเตหิ อตฺโถ นตฺถิ, มํ มาเรตุกามตาย ปน ปหิณี’’ติ ทีเปนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๒๖.

‘‘พหู หิเม ทนฺตยุคา อุฬารา, เย เม ปิตูนฺจ ปิตามหานํ;

ชานาติ สา โกธนา ราชปุตฺตี, วธตฺถิกา เวรมกาสิ พาลา.

๑๒๗.

‘‘อุฏฺเหิ ตฺวํ ลุทฺท ขรํ คเหตฺวา, ทนฺเต อิเม ฉินฺท ปุรา มรามิ;

วชฺชาสิ ตํ โกธนํ ราชปุตฺตึ, นาโค หโต หนฺท อิมสฺส ทนฺตา’’ติ.

ตตฺถ อิเมติ ตสฺส กิร ปิตุ ปิตามหานํ ทนฺตา มา วินสฺสนฺตูติ คุหายํ สนฺนิจิตา, เต สนฺธาย เอวมาห. ชานาตีติ พหูนํ วารณานํ อิธ สนฺนิจิเห ทนฺเต ชานาติ. วธตฺถิกาติ เกวลํ ปน สา มํ มาเรตุกามา อปฺปมตฺตกํ โทสํ หทเย เปตฺวา อตฺตโน เวรํ อกาสิ, เอวรูเปน ผรุสกมฺเมน มตฺถกํ ปาเปสิ. ขรนฺติ กกจํ. ปุรา มรามีติ ยาว น มรามิ. วชฺชสีติ วเทยฺยาสิ. หนฺท อิมสฺส ทนฺตาติ หโต โส มยา นาโค, มโนรโถ เต มตฺถกปฺปตฺโต, คณฺห, อิเม ตสฺส ทนฺตาติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา นิสีทนฏฺานา วุฏฺาย กกจํ อาทาย ‘‘ทนฺเต ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ตสฺส สนฺติกํ อุปคโต. โส ปน อุพฺเพธโต อฏฺาสีติหตฺโถ รชตปพฺพโต วิย ิโต, เตนสฺส โส ทนฺตฏฺานํ น ปาปุณิ. อถ มหาสตฺโต กายํ อุปนาเมนฺโต เหฏฺาสีสโก นิปชฺชิ. ตทา เนสาโท มหาสตฺตสฺส รชตทามสทิสํ โสณฺฑํ มทฺทนฺโต อภิรุหิตฺวา เกลาสกูเฏ วิย กุมฺเภ ตฺวา มุขโกฏิมํสํ ธนุเกน ปหริตฺวา อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา กุมฺภโต โอรุยฺห กกจํ อนฺโตมุเข ปเวเสสิ, อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ อปราปรํ กฑฺฒิ. มหาสตฺตสฺส พลวเวทนา อุปฺปชฺชิ, มุขํ โลหิเตน ปูริ. เนสาโท อิโต จิโต จ สฺจาเรนฺโต กกเจน ฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ มหาสตฺโต มุขโต โลหิตํ ฉฑฺเฑตฺวา เวทนํ อธิวาเสตฺวา ‘‘กึ สมฺม ฉินฺทิตุํ น สกฺโกสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, สามี’’ติ. มหาสตฺโต สตึ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ‘‘เตน หิ สมฺม มม โสณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา กกจโกฏึ คณฺหาเปหิ, มม สยํ โสณฺฑํ อุกฺขิปิตุํ พลํ นตฺถี’’ติ อาห. เนสาโท ตถา อกาสิ.

มหาสตฺโต โสณฺฑาย กกจํ คเหตฺวา อปราปรํ จาเรสิ, ทนฺตา กฬีรา วิย ฉิชฺชึสุ. อถ นํ เต อาหราเปตฺวา คณฺหิตฺวา ‘‘สมฺม ลุทฺทปุตฺต อหํ อิเม ทนฺเต ตุยฺหํ ททมาโน เนว ‘มยฺหํ อปฺปิยา’ติ ทมฺมิ, น สกฺกตฺตมารตฺตพฺรหฺมตฺตานิ ปตฺเถนฺโต, อิเมหิ ปน เม ทนฺเตหิ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน สพฺพฺุตฺาณทนฺตาว ปิยตรา, สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิเวธาย เม อิทํ ปุฺํ ปจฺจโย โหตู’’ติ ทนฺเต ทตฺวา ‘‘สมฺม อิทํ านํ กิตฺตเกน กาเลน อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สตฺตมาสสตฺตทิวสาธิเกหิ สตฺตหิ สํวจฺฉเรหี’’ติ วุตฺเต – ‘‘คจฺฉ อิเมสํ ทนฺตานํ อานุภาเวน สตฺตทิวสพฺภนฺตเรเยว พาราณสึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ วตฺวา ตสฺส ปริตฺตํ กตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. อุยฺโยเชตฺวา จ ปน อนาคเตสุเยว เตสุ นาเคสุ สุภทฺทาย จ อนาคตาย กาลมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๘.

‘‘อุฏฺาย โส ลุทฺโท ขรํ คเหตฺวา, เฉตฺวาน ทนฺตานิ คชุตฺตมสฺส;

วคฺคู สุเภ อปฺปฏิเม ปถพฺยา, อาทาย ปกฺกามิ ตโต หิ ขิปฺป’’นฺติ.

ตตฺถ วคฺคูติ วิลาสวนฺเต. สุเภติ สุนฺทเร. อปฺปฏิเมติ อิมิสฺสํ ปถวิยํ อฺเหิ ทนฺเตหิ อสทิเสติ.

ตสฺมึ ปกฺกนฺเต เต นาคา ปจฺจามิตฺตํ อทิสฺวา อาคมึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๙.

‘‘ภยฏฺฏิตา นาควเธน อฏฺฏา, เย เต นาคา อฏฺ ทิสา วิธาวุํ;

อทิสฺวาน โปสํ คชปจฺจมิตฺตํ, ปจฺจาคมุํ เยน โส นาคราชา’’ติ.

ตตฺถ ภยฏฺฏิตาติ มรณภเยน อุปทฺทุตา. อฏฺฏาติ ทุกฺขิตา. คชปจฺจมิตฺตนฺติ คชสฺส ปจฺจามิตฺตํ. เยน โสติ ยตฺถ วิสาลมาลเก โส นาคราชา กาลํ กตฺวา เกลาสปพฺพโต วิย ปติโต, ตํ านํ ปจฺจาคมุนฺติ อตฺโถ.

เตหิ ปน สทฺธึ มหาสุภทฺทาปิ อาคตา. เต สพฺเพปิ อฏฺสหสฺสนาคา ตตฺถ โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา มหาสตฺตสฺส กุลุปกานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปจฺจยทายโก วิสปีเตน สลฺเลน วิทฺโธ กาลกโต, สีวถิกทสฺสนมสฺส อาคจฺฉถา’’ติ วทึสุ. ปฺจสตา ปจฺเจกพุทฺธาปิ อากาเสนาคนฺตฺวา วิสาลมาลเก โอตรึสุ. ตสฺมึ ขเณ ทฺเว ตรุณนาคา นาครฺโ สรีรํ ทนฺเตหิ อุกฺขิปิตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ วนฺทาเปตฺวา จิตกํ อาโรเปตฺวา ฌาปยึสุ. ปจฺเจกพุทฺธา สพฺพรตฺตึ อาฬาหเน ธมฺมสชฺฌายมกํสุ. อฏฺสหสฺสนาคา อาฬาหนํ นิพฺพาเปตฺวา วนฺทิตฺวา นฺหตฺวา มหาสุภทฺทํ ปุรโต กตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ อคมํสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๐.

‘‘เต ตตฺถ กนฺทิตฺวา โรทิตฺวาน นาคา, สีเส สเก ปํสุกํ โอกิริตฺวา;

อคมํสุ เต สพฺเพ สกํ นิเกตํ, ปุรกฺขตฺวา มเหสึ สพฺพภทฺท’’นฺติ.

ตตฺถ ปํสุกนฺติ อาฬาหนปํสุกํ.

โสนุตฺตโรปิ อปฺปตฺเตเยว สตฺตเม ทิวเส ทนฺเต อาทาย พาราณสึ สมฺปาปุณิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๑.

‘‘อาทาย ทนฺตานิ คชุตฺตมสฺส, วคฺคู สุเภ อปฺปฏิเม ปถพฺยา;

สุวณฺณราชีหิ สมนฺตโมทเร, โส ลุทฺทโก กาสิปุรํ อุปาคมิ;

อุปเนสิ โส ราชกฺาย ทนฺเต, นาโค หโต หนฺท อิมสฺส ทนฺตา’’ติ.

ตตฺถ สุวณฺณราชีหีติ สุวณฺณราชิรํสีหิ. สมนฺตโมทเรติ สมนฺตโต โอภาสนฺเต สกลวนสณฺฑํ สุวณฺณวณฺณํ วิย กโรนฺเต. อุปเนสีติ อหํ ฉทฺทนฺตวารณสฺส ฉพฺพณฺณรํสิวิสฺสชฺชเน ยมกทนฺเต อาทาย อาคจฺฉามิ, นครํ อลงฺการาเปถาติ เทวิยา สาสนํ เปเสตฺวา ตาย รฺโ อาโรจาเปตฺวา เทวนครํ วิย นคเร อลงฺการาปิเต โสนุตฺตโรปิ นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทํ อารุหิตฺวา ทนฺเต อุปเนสิ, อุปเนตฺวา จ ปน, ‘‘อยฺเย, ยสฺส กิร ตุมฺเห อปฺปมตฺตกํ โทสํ หทเย กริตฺถ, โส นาโค มยา หโต มโต, ‘มตภาวํ เม อาโรเจยฺยาสี’ติ อาห, ตสฺส มตภาวํ ตุมฺเห ชานาถ, คณฺหถ, อิเม ตสฺส ทนฺตา’’ติ ทนฺเต อทาสิ.

สา มหาสตฺตสฺส ฉพฺพณฺณรํสิวิจิตฺตทนฺเต มณิตาลวณฺเฏน คเหตฺวา อูรูสุ เปตฺวา ปุริมภเว อตฺตโน ปิรสามิกสฺส ทนฺเต โอโลเกนฺตี ‘‘เอวรูปํ โสภคฺคปฺปตฺตํ วารณํ วิสปีเตน สลฺเลน ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อิเม ทนฺเต ฉินฺทิตฺวา โสนุตฺตโร อาคโต’’ติ มหาสตฺตํ อนุสฺสรนฺตี โสกํ อุปฺปาเทตฺวา อธิวาเสตุํ นาสกฺขิ. อถสฺสา ตตฺเถว หทยํ ผลิ, ตํ ทิวสเมว กาลมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๒.

‘‘ทิสฺวาน ทนฺตานิ คชุตฺตมสฺส, ภตฺตุปฺปิยสฺส ปุริมาย ชาติยา;

ตตฺเถว ตสฺสา หทยํ อผาลิ, เตเนว สา กาลมกาสิ พาลา’’ติ.

๑๓๓.

‘‘สมฺโพธิปตฺโต ส มหานุภาโว, สิตํ อกาสี ปริสาย มชฺเฌ;

ปุจฺฉึสุ ภิกฺขู สุวิมุตฺตจิตฺตา, นาการเณ ปาตุกโรนฺติ พุทฺธา.

๑๓๔.

‘‘ยมทฺทสาถ ทหรึ กุมารึ, กาสายวตฺถํ อนคาริยํ จรนฺตึ;

สา โข ตทา ราชกฺา อโหสิ, อหํ ตทา นาคราชา อโหสึ.

๑๓๕.

‘‘อาทาย ทนฺตานิ คชุตฺตมสฺส, วคฺคู สุเภ อปฺปฏิเม ปถพฺยา;

โย ลุทฺทโก กาสิปุรํ อุปาคมิ, โส โข ตทา เทวทตฺโต อโหสิ.

๑๓๖.

‘‘อนาวสูรํ จิรรตฺตสํสิตํ, อุจฺจาวจํ จริตมิทํ ปุราณํ;

วีตทฺทโร วีตโสโก วิสลฺโล, สยํ อภิฺาย อภาสิ พุทฺโธ.

๑๓๗.

‘‘อหํ โว เตน กาเลน, อโหสึ ตตฺถ ภิกฺขโว;

นาคราชา ตทา โหมิ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ. –

อิมา คาถา ทสพลสฺส คุเณ วณฺเณนฺเตหิ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา.

ตตฺถ สิตํ อกาสีติ โส สมฺโพธิปฺปตฺโต สตฺถา มหานุภาโว อลงฺกตธมฺมสภายํ อลงฺกตธมฺมาสเน ปริสมชฺเฌ นิสินฺโน เอกทิวสํ สิตํ อกาสิ. นาการเณติ ‘‘ภนฺเต, พุทฺธา นาม อการเณ สิตํ น กโรนฺติ, ตุมฺเหหิ จ สิตํ กตํ, เกน นุ โข การเณน สิตํ กต’’นฺติ มหาขีณาสวา ภิกฺขู ปุจฺฉึสุ. ยมทฺทสาถาติ เอวํ ปุฏฺโ, อาวุโส, สตฺถา อตฺตโน สิตการณํ อาจิกฺขนฺโต เอกํ ทหรภิกฺขุนึ ทสฺเสตฺวา เอวมาห – ‘‘ภิกฺขเว, ยํ เอกํ ทหรํ โยพฺพนปฺปตฺตํ กุมารึ กาสายวตฺถํ อนคาริยํ อุเปตํ ปพฺพชิตฺวา อิมสฺมึ สาสเน จรนฺตึ อทฺทสาถ ปสฺสถ, สา ตทา ‘วิสปีเตน สลฺเลน นาคราชํ วิชฺฌิตฺวา วเธหี’’’ติ โสนุตฺตรสฺส เปเสตา ราชกฺา อโหสิ. เตน คนฺตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปิโต อหํ ตทา โส นาคราชา อโหสินฺติ อตฺโถ. เทวทตฺโตติ, ภิกฺขเว, อิทานิ เทวทตฺโต ตทา โส ลุทฺทโก อโหสิ.

อนาวสูรนฺติ น อวสูรํ, อนตฺถงฺคตสูริยนฺติ อตฺโถ. จิรรตฺตสํสิตนฺติ อิโต จิรรตฺเต อเนกวสฺสโกฏิมตฺถเก สํสิตํ สํสริตํ อนุจิณฺณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อาวุโส, อิโต อเนกวสฺสโกฏิมตฺถเก สํสริตมฺปิ ปุพฺพณฺเห กตํ ตํ ทิวสเมว สายนฺเห สรนฺโต วิย อตฺตโน จริตวเสน อุจฺจตฺตา ตาย ราชธีตาย จ โสนุตฺตรสฺส จ จริตวเสน นีจตฺตา อุจฺจานีจํ จริตํ อิทํ ปุราณํ ราคาทีนํ ทรานํ วิคตตาย วีตทฺทโร, าติธนโสกาทีนํ อภาเวน วีตโสโก, ราคสลฺลาทีนํ วิคตตฺตา วิสลฺโล อตฺตนาว ชานิตฺวา พุทฺโธ อภาสีติ. อหํ โวติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ, ภิกฺขเว, อหํ เตน กาเลน ตตฺถ ฉทฺทนฺตทเห อโหสินฺติ อตฺโถ. นาคราชาติ โหนฺโต จ ปน น อฺโ โกจิ ตทา โหมิ, อถ โข นาคราชา โหมีติ อตฺโถ. เอวํ จาเรถาติ ตุมฺเห ตํ ชาตกํ เอวํ ธาเรถ อุคฺคณฺหาถ ปริยาปุณาถาติ.

อิมฺจ ปน ธมฺมเทสนํ สุตฺวา พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํ. สา ปน ภิกฺขุนี ปจฺฉา วิปสฺสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตาติ.

ฉทฺทนฺตชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๑๕] ๕. สมฺภวชาตกวณฺณนา

รชฺชฺจ ปฏิปนฺนาสฺมาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ มหาอุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.

อตีเต ปน กุรุรฏฺเ อินฺทปตฺถนคเร ธนฺจยโกรพฺโย นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส สุจิรโต นาม พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต อตฺถธมฺมานุสาสโก อโหสิ. ราชา ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรนฺโต ธมฺเมน รชฺชมนุสาสิ. โส เอกทิวสํ ธมฺมยาคํ นาม ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา สุจิรตํ นาม พฺราหฺมณํ ปุโรหิตํ อาสเน นิสีทาเปตฺวา สกฺการํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๓๘.

‘‘รชฺชฺจ ปฏิปนฺนาสฺม, อาธิปจฺจํ สุจีรต;

มหตฺตํ ปตฺตุมิจฺฉามิ, วิเชตุํ ปถวึ อิมํ.

๑๓๙.

‘‘ธมฺเมน โน อธมฺเมน, อธมฺโม เม น รุจฺจติ;

กิจฺโจว ธมฺโม จริโต, รฺโ โหติ สุจีรต.

๑๔๐.

‘‘อิธ เจวานินฺทิตา เยน, เปจฺจ เยน อนินฺทิตา;

ยสํ เทวมนุสฺเสสุ, เยน ปปฺโปมุ พฺราหฺมณ.

๑๔๑.

‘‘โยหํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, กตฺตุมิจฺฉามิ พฺราหฺมณ;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, พฺราหฺมณกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตตฺถ รชฺชนฺติ, อาจริย, มยํ อิมสฺมึ สตฺตโยชนิเก อินฺทปตฺถนคเร รชฺชฺจ, ติโยชนสติเก กุรุรฏฺเ อิสฺสรภาวสงฺขาตํ อาธิปจฺจฺจ. ปฏิปนฺนาสฺมาติ อธิคตา ภวาม. มหตฺตนฺติ อิทานิ มหนฺตภาวํ. ปตฺตุมิจฺฉามิ วิเชตุนฺติ อิมํ ปถวึ ธมฺเมน อภิภวิตุํ อชฺโฌตฺถริตุํ อิจฺฉามิ. กิจฺโจวาติ อวเสสชเนหิ รฺโ จริโต ธมฺโม กิจฺโจ กรณียตโร. ราชานุวตฺตโก หิ โลโก, โส ตสฺมึ ธมฺมิเก สพฺโพปิ ธมฺมิโก โหติ. ตสฺมา เอส ธมฺโม นาม รฺโว กิจฺโจติ.

อิธ เจวานินฺทิตาติ เยน มยํ อิธโลเก ปรโลเก จ อนินฺทิตา. เยน ปปฺโปมูติ เยน มยํ นิรยาทีสุ อนิพฺพตฺติตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ ยสํ อิสฺสริยํ โสภคฺคํ ปาปุเณยฺยาม, ตํ โน การณํ กเถหีติ. โยหนฺติ, พฺราหฺมณ, โย อหํ ผลวิปากสงฺขาตํ อตฺถฺจ ตสฺส อตฺถสฺส เหตุภูตํ ธมฺมฺจ กตฺตุํ สมาทาย วตฺติตุํ อุปฺปาเทตุฺจ อิจฺฉามิ. ตํ ตฺวนฺติ ตสฺส มยฺหํ ตฺวํ สุเขเนว นิพฺพานคามิมคฺคํ อารุยฺห อปฏิสนฺธิกภาวํ ปตฺเถนฺตสฺส ตํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปุจฺฉิโต อกฺขาหิ, ปากฏํ กตฺวา กเถหีติ พฺราหฺมณํ ธมฺมยาคปฺหํ ปุจฺฉิ.

อยํ ปน ปฺโห คมฺภีโร พุทฺธวิสโย, สพฺพฺุพุทฺธเมว ตํ ปุจฺฉิตุํ ยุตฺตํ, ตสฺมึ อสติ สพฺพฺุตฺาณปริเยสกํ โพธิสตฺตนฺติ. สุจิรโต ปน อตฺตโน อโพธิสตฺตตาย ปฺหํ กเถตุํ นาสกฺขิ, อสกฺโกนฺโต จ ปณฺฑิตมานํ อกตฺวา อตฺตโน อสมตฺถภาวํ กเถนฺโต คาถมาห –

๑๔๒.

‘‘นาฺตฺร วิธุรา ราช, เอตทกฺขาตุมรหติ;

ยํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, กตฺตุมิจฺฉสิ ขตฺติยา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อวิสโย เอส, มหาราช, ปฺโห มาทิสานํ. อหฺหิ เนวสฺส อาทึ, น ปริโยสานํ ปสฺสามิ, อนฺธการํ ปวิฏฺโ วิย โหมิ. พาราณสิรฺโ ปน ปุโรหิโต วิธุโร นาม พฺราหฺมโณ อตฺถิ, โส เอตํ อาจิกฺเขยฺย, ตํ เปตฺวา ยํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ กตฺตุมิจฺฉสิ, เอตํ อกฺขาตุํ น อฺโ อรหตีติ.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ขิปฺปํ ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ ปณฺณาการํ ทตฺวา ตํ เปเสตุกาโม หุตฺวา คาถมาห –

๑๔๓.

‘‘เอหิ โข ปหิโต คจฺฉ, วิธุรสฺส อุปนฺติกํ;

นิกฺขฺจิมํ สุวณฺณสฺส, หรํ คจฺฉ สุจีรต;

อภิหารํ อิมํ ทชฺชา, อตฺถธมฺมานุสิฏฺิยา’’ติ.

ตตฺถ อุปนฺติกนฺติ สนฺติกํ. นิกฺขนฺติ ปฺจสุวณฺโณ เอโก นิกฺโข. อยํ ปน รตฺตสุวณฺณสฺส นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา เอวมาห. อิมํ ทชฺชาติ เตน อิมสฺมึ ธมฺมยาคปฺเห กถิเต ตสฺส อตฺถธมฺมานุสิฏฺิยา อภิหารปูชํ กโรนฺโต อิมํ นิกฺขสหสฺสํ ทเทยฺยาสีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ปฺหวิสฺสชฺชนสฺส ลิขนตฺถาย สตสหสฺสคฺฆนกํ สุวณฺณปฏฺฏฺจ คมนตฺถาย ยานํ, ปริวารตฺถาย พลกายํ, ตฺจ ปณฺณาการํ ทตฺวา ตงฺขณฺเว อุยฺโยเชสิ. โส ปน อินฺทปตฺถนครา นิกฺขมิตฺวา อุชุกเมว พาราณสึ อคนฺตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ปณฺฑิตา วสนฺติ, สพฺพานิ ตานิ านานิ อุปสงฺกมิตฺวา สกลชมฺพุทีเป ปฺหสฺส วิสฺสชฺเชตารํ อลภิตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา เอกสฺมึ าเน นิวาสํ คเหตฺวา กติปเยหิ ชเนหิ สทฺธึ ปาตราสภุฺชนเวลาย วิธุรสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา อาคตภาวํ อาโรจาเปตฺวา เตน ปกฺโกสาปิโต ตํ สเก ฆเร ภุฺชมานํ อทฺทส. ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา สตฺตมํ คาถมาห –

๑๔๔.

‘‘สฺวาธิปฺปาคา ภารทฺวาโช, วิธุรสฺส อุปนฺติกํ;

ตมทฺทส มหาพฺรหฺมา, อสมานํ สเก ฆเร’’ติ.

ตตฺถ สฺวาธิปฺปาคาติ โส ภารทฺวาชโคตฺโต สุจิรโต อธิปฺปาคา, คโตติ อตฺโถ. มหาพฺรหฺมาติ มหาพฺราหฺมโณ. อสมานนฺติ ภุฺชมานํ.

โส ปน ตสฺส พาลสหายโก เอกาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺโป, ตสฺมา เตน สทฺธึ เอกโต ภุฺชิตฺวา ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน สุขนิสินฺโน ‘‘สมฺม กิมตฺถํ อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ อาคมนการณํ อาจิกฺขนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๑๔๕.

‘‘รฺโหํ ปหิโต ทูโต, โกรพฺยสฺส ยสสฺสิโน;

‘อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺเฉสิ’, อิจฺจพฺรวิ ยุธิฏฺิโล;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, วิธุรกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตตฺถ รฺโหนฺติ อหํ รฺโ โกรพฺยสฺส ยสสฺสิโน ทูโต. ปหิโตติ เตน เปสิโต อิธาคมึ. ปุจฺเฉสีติ โส ยุธิฏฺิลโคตฺโต ธนฺจยราชา มํ ธมฺมยาคปฺหํ นาม ปุจฺฉิ, อหํ กเถตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสี’’ติ ตฺวา ตสฺส อาโรเจสึ, โส จ ปณฺณาการํ ทตฺวา ปฺหปุจฺฉนตฺถาย มํ ตว สนฺติกํ เปเสนฺโต ‘‘วิธุรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อิมสฺส ปฺหสฺส อตฺถฺจ ปาฬิธมฺมฺจ ปุจฺเฉยฺยาสี’’ติ อพฺรวิ. ‘‘ตํ ตฺวํ อิทานิ มยา ปุจฺฉิโต อกฺขาหี’’ติ.

ตทา ปน โส พฺราหฺมโณ ‘‘มหาชนสฺส จิตฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ คงฺคํ ปิทหนฺโต วิย วินิจฺฉยํ วิจาเรติ. ตสฺส ปฺหวิสฺสชฺชเน โอกาโส นตฺถิ. โส ตมตฺถํ อาจิกฺขนฺโต นวมํ คาถมาห –

๑๔๖.

‘‘คงฺคํ เม ปิทหิสฺสนฺติ, น ตํ สกฺโกมิ พฺราหฺมณ;

อปิเธตุํ มหาสินฺธุํ, ตํ กถํ โส ภวิสฺสติ;

น เต สกฺโกมิ อกฺขาตุํ, อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – พฺราหฺมณ, มยฺหํ ‘‘มหาชนสฺส นานาจิตฺตคติสงฺขาตํ คงฺคํ ปิทหิสฺส’’นฺติ พฺยาปาโร อุปฺปนฺโน, ตมหํ มหาสินฺธุํ อปิเธตุํ น สกฺโกมิ, ตสฺมา กถํ โส โอกาโส ภวิสฺสติ, ยสฺมา เต อหํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชยฺยํ. อิติ จิตฺเตกคฺคตฺเจว โอกาสฺจ อลภนฺโต น เต สกฺโกมิ อกฺขาตุํ อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺฉิโตติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ปณฺฑิโต มยา าณวนฺตตโร, โส เต พฺยากริสฺสติ, ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ วตฺวา ทสมํ คาถมาห –

๑๔๗.

‘‘ภทฺรกาโร จ เม ปุตฺโต, โอรโส มม อตฺรโช;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, คนฺตฺวา ปุจฺฉสฺสุ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ โอรโสติ อุเร สํวฑฺโฒ. อตฺรโชติ อตฺตนา ชาโตติ.

ตํ สุตฺวา สุจิรโต วิธุรสฺส ฆรา นิกฺขมิตฺวา ภทฺรการสฺส ภุตฺตปาตราสสฺส อตฺตโน ปริสมชฺเฌ นิสินฺนกาเล นิเวสนํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา เอกาทสมํ คาถมาห –

๑๔๘.

‘‘สฺวาธิปฺปาคา ภารทฺวาโช, ภทฺรการสฺสุปนฺติกํ;

ตมทฺทส มหาพฺรหฺมา, นิสินฺนํ สมฺหิ เวสฺมนี’’ติ.

ตตฺถ เวสฺมนีติ ฆเร.

โส ตตฺถ คนฺตฺวา ภทฺรการมาณเวน กตาสนาภิหารสกฺกาโร นิสีทิตฺวา อาคมนการณํ ปุฏฺโ ทฺวาทสมํ คาถมาห –

๑๔๙.

‘‘รฺโหํ ปหิโต ทูโต, โกรพฺยสฺส ยสสฺสิโน;

‘อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺเฉสิ’, อิจฺจพฺรวิ ยุธิฏฺิโล;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, ภทฺรการ ปพฺรูหิ เม’’ติ.

อถ นํ ภทฺรกาโร, ‘‘ตาต, อหํ อิเมสุ ทิวเสสุ ปรทาริกกมฺเม อภินิวิฏฺโ, จิตฺตํ เม พฺยากุลํ, เตน ตฺยาหํ วิสฺสชฺเชตุํ น สกฺขิสฺสามิ, มยฺหํ ปน กนิฏฺโ สฺจยกุมาโร นาม มยา อติวิย าณวนฺตตโร, ตํ ปุจฺฉ, โส เต ปฺหํ วิสฺสชฺเชสฺสตี’’ติ ตสฺส สนฺติกํ เปเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๕๐.

‘‘มํสกาชํ อวหาย, โคธํ อนุปตามหํ;

น เต สกฺโกมิ อกฺขาตุํ, อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺฉิโต.

๑๕๑.

‘‘สฺจโย นาม เม ภาตา, กนิฏฺโ เม สุจีรต;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, คนฺตฺวา ปุจฺฉสฺสุ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ มํสกาชนฺติ ยถา นาม ปุริโส ถูลมิคมํสํ กาเชนาทาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค โคธโปตกํ ทิสฺวา มํสกาชํ ฉฑฺเฑตฺวา ตํ อนุพนฺเธยฺย, เอวเมว อตฺตโน ฆเร วสวตฺตินึ ภริยํ ฉฑฺเฑตฺวา ปรสฺส รกฺขิตโคปิตํ อิตฺถึ อนุพนฺธนฺโต โหมีติ ทีเปนฺโต เอวมาหาติ.

โส ตสฺมึ ขเณ สฺจยสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา เตน กตสกฺกาโร อาคมนการณํ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๕๒.

‘‘สฺวาธิปฺปาคา ภารทฺวาโช, สฺจยสฺส อุปนฺติกํ;

ตมทฺทส มหาพฺรหฺมา, นิสินฺนํ สมฺหิ เวสฺมนิ.

๑๕๓.

‘‘รฺโหํ ปหิโต ทูโต, โกรพฺยสฺส ยสสฺสิโน;

‘อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺเฉสิ’, อิจฺจพฺรวิ ยุธิฏฺิโล;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, สฺจยกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

สฺจยกุมาโร ปน ตทา ปรทารเมว เสวติ. อถสฺส โส ‘‘อหํ, ตาต, ปรทารํ เสวามิ, เสวนฺโต จ ปน คงฺคํ โอตริตฺวา ปรตีรํ คจฺฉามิ, ตํ มํ สายฺจ ปาโต จ นทึ ตรนฺตํ มจฺจุ คิลติ นาม, เตน จิตฺตํ เม พฺยากุลํ, น ตฺยาหํ อาจิกฺขิตุํ สกฺขิสฺสามิ, กนิฏฺโ ปน เม สมฺภวกุมาโร นาม อตฺถิ ชาติยา สตฺตวสฺสิโก, มยา สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณนาธิกาณตโร, โส เต อาจิกฺขิสฺสติ, คจฺฉ ตํ ปุจฺฉาหี’’ติ อาห. อิมมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๕๔.

‘‘สทา มํ คิลเต มจฺจุ, สายํ ปาโต สุจีรต;

น เต สกฺโกมิ อกฺขาตุํ, อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺฉิโต.

๑๕๕.

‘‘สมฺภโว นาม เม ภาตา, กนิฏฺโ เม สุจีรต;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, คนฺตฺวา ปุจฺฉสฺสุ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตํ สุตฺวา สุจิรโต ‘‘อยํ ปฺโห อิมสฺมึ โลเก อพฺภุโต ภวิสฺสติ, อิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๕๖.

‘‘อพฺภุโต วต โภ ธมฺโม, นายํ อสฺมาก รุจฺจติ;

ตโย ชนา ปิตาปุตฺตา, เต สุ ปฺาย โน วิทู.

๑๕๗.

‘‘น ตํ สกฺโกถ อกฺขาตุํ, อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺฉิตา;

กถํ นุ ทหโร ชฺา, อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตตฺถ นายนฺติ อยํ ปฺหธมฺโม อพฺภุโต, อิมํ กเถตุํ สมตฺเถน นาม น ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ยํ ตฺวํ ‘‘กุมาโร กเถสฺสตี’’ติ วทติ, นายํ อสฺมากํ รุจฺจติ. เต สูติ เอตฺถ สุ-กาโร นิปาตมตฺตํ. ปิตาติ วิธุโร ปณฺฑิโต, ปุตฺตา ภทฺรกาโร สฺจโย จาติ เตปิ ตโย ปิตาปุตฺตา ปฺาย อิมํ ธมฺมํ โน วิทู, น วิชานนฺติ, อฺโ โก ชานิสฺสตีติ อตฺโถ. น ตนฺติ ตุมฺเห ตโย ชนา ปุจฺฉิตา เอตํ อกฺขาตุํ น สกฺโกถ, ทหโร สตฺตวสฺสิโก กุมาโร ปุจฺฉิโต กถํ นุ ชฺา, เกน การเณน ชานิตุํ สกฺขิสฺสตีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา สฺจยกุมาโร, ‘‘ตาต, สมฺภวกุมารํ ‘ทหโร’ติ มา อุฺาสิ, สเจปิ ปฺหวิสฺสชฺชเนนาตฺถิโก, คจฺฉ นํ ปุจฺฉา’’ติ อตฺถทีปนาหิ อุปมาหิ กุมารสฺส วณฺณํ ปกาเสนฺโต ทฺวาทส คาถา อภาสิ –

๑๕๘.

‘‘มา นํ ทหโรติ อุฺาสิ, อปุจฺฉิตฺวาน สมฺภวํ;

ปุจฺฉิตฺวา สมฺภวํ ชฺา, อตฺถํ ธมฺมฺจ พฺราหฺมณ.

๑๕๙.

‘‘ยถาปิ จนฺโท วิมโล, คจฺฉํ อากาสธาตุยา;

สพฺเพ ตาราคเณ โลเก, อาภาย อติโรจติ.

๑๖๐.

‘‘เอวมฺปิ ทหรูเปโต, ปฺาโยเคน สมฺภโว;

มา นํ ทหโรติ อุฺาสิ, อปุจฺฉิตฺวาน สมฺภวํ;

ปุจฺฉิตฺวา สมฺภวํ ชฺา, อตฺถํ ธมฺมฺจ พฺราหฺมณ.

๑๖๑.

‘‘ยถาปิ รมฺมโก มาโส, คิมฺหานํ โหติ พฺราหฺมณ;

อเตวฺเหิ มาเสหิ, ทุมปุปฺเผหิ โสภติ.

๑๖๒.

‘‘เอวมฺปิ ทหรูเปโต, ปฺาโยเคน สมฺภโว;

มา นํ ทหโรติ อุฺาสิ, อปุจฺฉิตฺวาน สมฺภวํ;

ปุจฺฉิตฺวา สมฺภวํ ชฺา, อตฺถํ ธมฺมฺจ พฺราหฺมณ.

๑๖๓.

‘‘ยถาปิ หิมวา พฺรหฺเม, ปพฺพโต คนฺธมาทโน;

นานารุกฺเขหิ สฺฉนฺโน, มหาภูตคณาลโย;

โอสเธหิ จ ทิพฺเพหิ, ทิสา ภาติ ปวาติ จ.

๑๖๔.

‘‘เอวมฺปิ ทหรูเปโต, ปฺาโยเคน สมฺภโว;

มา นํ ทหโรติ อุฺาสิ, อปุจฺฉิตฺวาน สมฺภวํ;

ปุจฺฉิตฺวา สมฺภวํ ชฺา, อตฺถํ ธมฺมฺจ พฺราหฺมณ.

๑๖๕.

‘‘ยถาปิ ปาวโก พฺรหฺเม, อจฺจิมาลี ยสสฺสิมา;

ชลมาโน วเน คจฺเฉ, อนโล กณฺหวตฺตนี.

๑๖๖.

‘‘ฆตาสโน ธูมเกตุ, อุตฺตมาเหวนนฺทโห;

นิสีเถ ปพฺพตคฺคสฺมึ, ปหูเตโธ วิโรจติ.

๑๖๗.

‘‘เอวมฺปิ ทหรูเปโต, ปฺาโยเคน สมฺภโว;

มา นํ ทหโรติ อุฺาสิ, อปุจฺฉิตฺวาน สมฺภวํ;

ปุจฺฉิตฺวา สมฺภวํ ชฺา, อตฺถํ ธมฺมฺจ พฺราหฺมณ.

๑๖๘.

‘‘ชเวน ภทฺรํ ชานนฺติ, พลิพทฺทฺจ วาหิเย;

โทเหน เธนุํ ชานนฺติ, ภาสมานฺจ ปณฺฑิตํ.

๑๖๙.

‘‘เอวมฺปิ ทหรูเปโต, ปฺาโยเคน สมฺภโว;

มา นํ ทหโรติ อุฺาสิ, อปุจฺฉิตฺวาน สมฺภวํ;

ปุจฺฉิตฺวา สมฺภวํ ชฺา, อตฺถํ ธมฺมฺจ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ ชฺาติ ชานิสฺสสิ. จนฺโทติ ปุณฺณจนฺโท. วิมโลติ อพฺภาทิมลวิรหิโต. เอวมฺปิ ทหรูเปโตติ เอวํ สมฺภวกุมาโร ทหรภาเวน อุเปโตปิ ปฺาโยเคน สกลชมฺพุทีปตเล อวเสเส ปณฺฑิเต อติกฺกมิตฺวา วิโรจติ. รมฺมโกติ จิตฺตมาโส. อเตวฺเหีติ อติวิย อฺเหิ เอกาทสหิ มาเสหิ. เอวนฺติ เอวํ สมฺภโวปิ ปฺาโยเคน โสภติ. หิมวาติ หิมปาตสมเย หิมยุตฺโตติ หิมวา, คิมฺหกาเล หิมํ วมตีติ หิมวา. สมฺปตฺตํ ชนํ คนฺเธน มทยตีติ คนฺธมาทโน. มหาภูตคณาลโยติ เทวคณานํ นิวาโส. ทิสา ภาตีติ สพฺพทิสา เอโกภาสา วิย กโรติ. ปวาตีติ คนฺเธน สพฺพทิสา วายติ. เอวนฺติ เอวํ สมฺภโวปิ ปฺาโยเคน สพฺพทิสา ภาติ เจว ปวาติ จ.

ยสสฺสิมาติ เตชสมฺปตฺติยา ยสสฺสิมา. อจฺจิมาลีติ อจฺจีหิ ยุตฺโต. ชลมาโน วเน คจฺเฉติ คจฺฉสงฺขาเต มหาวเน ชลนฺโต จรติ. อนโลติ อติตฺโต. คตมคฺคสฺส กณฺหภาเวน กณฺหวตฺตนี. ยฺเ อาหุติวเสน อาหุตํ ฆตํ อสฺนาตีติ ฆตาสโน. ธูโม เกตุกิจฺจํ อสฺส สาเธตีติ ธูมเกตุ. อุตฺตมาเหวนนฺทโหติ อเหวนํ วุจฺจติ วนสณฺโฑ, อุตฺตมํ วนสณฺฑํ ทหตีติ อตฺโถ. นิสีเถติ รตฺติภาเค. ปพฺพตคฺคสฺมินฺติ ปพฺพตสิขเร. ปหูเตโธติ ปหูตอินฺธโน. วิโรจตีติ สพฺพทิสาสุ โอภาสติ. เอวนฺติ เอวํ มม กนิฏฺโ สมฺภวกุมาโร ทหโรปิ ปฺาโยเคน วิโรจติ. ภทฺรนฺติ ภทฺรํ อสฺสาชานียํ ชวสมฺปตฺติยา ชานนฺติ, น สรีเรน. วาหิเยติ วหิตพฺพภาเร สติ ภารวหตาย ‘‘อหํ อุตฺตโม’’ติ พลิพทฺทํ ชานนฺติ. โทเหนาติ โทหสมฺปตฺติยา เธนุํ ‘‘สุขีรา’’ติ ชานนฺติ. ภาสมานนฺติ เอตฺถ ‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิต’’นฺติ สุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๒๔๑) อาหริตพฺพํ.

สุจิรโต เอวํ ตสฺมึ สมฺภวํ วณฺเณนฺเต ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ‘‘กหํ ปน เต กุมาร กนิฏฺโ’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส โส สีหปฺชรํ วิวริตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘โย เอส ปาสาททฺวาเร อนฺตรวีถิยา กุมารเกหิ สทฺธึ สุวณฺณวณฺโณ กีฬติ, อยํ มม กนิฏฺโ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุจฺฉ, พุทฺธลีฬาย เต ปฺหํ กเถสฺสตี’’ติ อาห. สุจิรโต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห กุมารสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. กาย เวลายาติ? กุมารสฺส นิวตฺถสาฏกํ โมเจตฺวา ขนฺเธ ขิปิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ปํสุํ คเหตฺวา ิตเวลาย. ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา คาถมาห –

๑๗๐.

‘‘สฺวาธิปฺปาคา ภารทฺวาโช, สมฺภวสฺส อุปนฺติกํ;

ตมทฺทส มหาพฺรหฺมา, กีฬมานํ พหีปุเร’’ติ.

ตตฺถ พหีปุเรติ พหินิเวสเน.

มหาสตฺโตปิ พฺราหฺมณํ อาคนฺตฺวา ปุรโต ิตํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, เกนตฺเถนาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘ตาต, กุมาร อหํ ชมฺพุทีปตเล อาหิณฺฑนฺโต มยา ปุจฺฉิตํ ปฺหํ กเถตุํ สมตฺถํ อลภิตฺวา ตว สนฺติกํ อาคโตมฺหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สกลชมฺพุทีเป กิร อวินิจฺฉิโต ปฺโห มม สนฺติกํ อาคโต, อหํ าเณน มหลฺลโก’’ติ หิโรตฺตปฺปํ ปฏิลภิตฺวา หตฺถคตํ ปํสุํ ฉฑฺเฑตฺวา ขนฺธโต สาฏกํ อาทาย นิวาเสตฺวา ‘‘ปุจฺฉ, พฺราหฺมณ, พุทฺธลีฬาย เต กเถสฺสามี’’ติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ. ตโต พฺราหฺมโณ –

๑๗๑.

‘‘รฺโหํ ปหิโต ทูโต, โกรพฺยสฺส ยสสฺสิโน;

‘อตฺถํ ธมฺมฺจ ปุจฺเฉสิ’, อิจฺจพฺรวิ ยุธิฏฺิโล;

ตํ ตฺวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, สมฺภวกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ. –

คาถาย ปฺหํ ปุจฺฉิ.

ตสฺส อตฺโถ สมฺภวปณฺฑิตสฺส คคนมชฺเฌ ปุณฺณจนฺโท วิย ปากโฏ อโหสิ.

อถ นํ ‘‘เตน หิ สุโณหี’’ติ วตฺวา ธมฺมยาคปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต คาถมาห –

๑๗๒.

‘‘ตคฺฆ เต อหมกฺขิสฺสํ, ยถาปิ กุสโล ตถา;

ราชา จ โข ตํ ชานาติ, ยทิ กาหติ วา น วา’’ติ.

ตสฺส อนฺตรวีถิยํ ตฺวา มธุรสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สทฺโท ทฺวาทสโยชนิกํ สกลพาราณสินครํ อวตฺถริ. อถ ราชา จ อุปราชาทโย จ สพฺเพ สนฺนิปตึสุ. มหาสตฺโต มหาชนสฺส มชฺเฌ ธมฺมเทสนํ ปฏฺเปสิ.

ตตฺถ ตคฺฆาติ เอกํสวจนํ. ยถาปิ กุสโลติ ยถา อติกุสโล สพฺพฺุพุทฺโธ อาจิกฺขติ, ตถา เต เอกํเสเนว อหมกฺขิสฺสนฺติ อตฺโถ. ราชา จ โข ตนฺติ อหํ ตํ ปฺหํ ยถา ตุมฺหากํ ราชา ชานิตุํ สกฺโกติ, ตถา กเถสฺสามิ. ตโต อุตฺตริ ราชา เอว ตํ ชานาติ, ยทิ กริสฺสติ วา น วา กริสฺสติ, กโรนฺตสฺส วา อกโรนฺตสฺส วา ตสฺเสเวตํ ภวิสฺสติ, มยฺหํ ปน โทโส นตฺถีติ ทีเปติ.

เอวํ อิมาย คาถาย ปฺหกถนํ ปฏิชานิตฺวา อิทานิ ธมฺมยาคปฺหํ กเถนฺโต อาห –

๑๗๓.

‘‘อชฺช สุเวติ สํเสยฺย, รฺา ปุฏฺโ สุจีรต;

มา กตฺวา อวสี ราชา, อตฺเถ ชาเต ยุธิฏฺิโล.

๑๗๔.

‘‘อชฺฌตฺตฺเว สํเสยฺย, รฺา ปุฏฺโ สุจีรต;

กุมฺมคฺคํ น นิเวเสยฺย, ยถา มูฬฺโห อเจตโส.

๑๗๕.

‘‘อตฺตานํ นาติวตฺเตยฺย, อธมฺมํ น สมาจเร;

อติตฺเถ นปฺปตาเรยฺย, อนตฺเถ น ยุโต สิยา.

๑๗๖.

‘‘โย จ เอตานิ านานิ, กตฺตุํ ชานาติ ขตฺติโย;

สทา โส วฑฺฒเต ราชา, สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา.

๑๗๗.

‘‘าตีนฺจ ปิโย โหติ, มิตฺเตสุ จ วิโรจติ;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ สํเสยฺยาติ กเถยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, สุจิรต สเจ ตุมฺหากํ รฺา ‘‘อชฺช ทานํ เทม, สีลํ รกฺขาม, อุโปสถกมฺมํ กโรมา’’ติ โกจิ ปุฏฺโ, ‘‘มหาราช, อชฺช ตาว ปาณํ หนาม, กาเม ปริภุฺชาม, สุรํ ปิวาม, กุสลํ ปน กริสฺสาม สุเว’’ติ รฺโ กเถยฺย, ตสฺส อติมหนฺตสฺสปิ อมจฺจสฺส วจนํ กตฺวา ตุมฺหากํ ราชา ยุธิฏฺิลโคตฺโต ตถารูเป อตฺเถ ชาเต ตํ ทิวสํ ปมาเทน วีตินาเมนฺโต มา อวสิ, ตสฺส วจนํ อกตฺวา อุปฺปนฺนํ กุสลจิตฺตํ อปริหาเปตฺวา กุสลปฏิสํยุตฺตํ กมฺมํ กโรตุเยว, อิทมสฺส กเถยฺยาสีติ. เอวํ มหาสตฺโต อิมาย คาถาย –

‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว’’ติ. (ม. นิ. ๓.๒๗๒) –

ภทฺเทกรตฺตสุตฺตฺเจว,

‘‘อปฺปมาโท อมตปทํ, ปมาโท มจฺจุโน ปท’’นฺติ. (ธ. ป. ๒๑) –

อปฺปมาโทวาทฺจ กเถสิ.

อชฺฌตฺตฺเวาติ, ตาต, สุจิรต สมฺภวปณฺฑิโต ตยา ธมฺมยาคปฺเห ปุจฺฉิเต กึ กเถสีติ รฺา ปุฏฺโ สมาโน ตุมฺหากํ รฺโ อชฺฌตฺตฺเว สํเสยฺย, นิยกชฺฌตฺตสงฺขาตํ ขนฺธปฺจกํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจนฺติ กเถยฺยาสิ. เอตฺตาวตา มหาสตฺโต –

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ’’. (ธ. ป. ๒๗๗) –

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน’’ติ. (ที. นิ. ๒.๒๒๑) –

เอวํ วิภาวิตํ อนิจฺจตํ กเถสีติ.

กุมฺมคฺคนฺติ, พฺราหฺมณ, ยถา มูฬฺโห อเจตโน อนฺธพาลปุถุชฺชโน ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตสงฺขาตํ กุมฺมคฺคํ เสวติ, เอวํ ตว ราชา ตํ กุมฺมคฺคํ น เสเวยฺย, นิยฺยานิกํ ทสกุสลกมฺมปถมคฺคเมว เสวตุ, เอวมสฺส วเทยฺยาสีติ.

อตฺตานนฺติ อิมํ สุคติยํ ิตํ อตฺตภาวํ นาติวตฺเตยฺย, เยน กมฺเมน ติสฺโส กุสลสมฺปตฺติโย สพฺพกามสคฺเค อติกฺกมิตฺวา อปาเย นิพฺพตฺตนฺติ, ตํ กมฺมํ น กเรยฺยาติ อตฺโถ. อธมฺมนฺติ ติวิธทุจฺจริตสงฺขาตํ อธมฺมํ น สมาจเรยฺย. อติตฺเถติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิสงฺขาเต อติตฺเถ นปฺปตาเรยฺย น โอตาเรยฺย. ‘‘น ตาเรยฺยา’’ติปิ ปาโ, อตฺตโน ทิฏฺานุคติมาปชฺชนฺตํ ชนํ น โอตาเรยฺย. อนตฺเถติ อการเณ. น ยุโตติ ยุตฺตปยุตฺโต น สิยา. พฺราหฺมณ, ยทิ เต ราชา ธมฺมยาคปฺเห วตฺติตุกาโม, ‘‘อิมสฺมึ โอวาเท วตฺตตู’’ติ ตสฺส กเถยฺยาสีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

สทาติ สตตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘โย ขตฺติโย เอตานิ การณานิ กาตุํ ชานาติ, โส ราชา สุกฺกปกฺเข จนฺโท วิย สทา วฑฺฒตี’’ติ. วิโรจตีติ มิตฺตามจฺจานํ มชฺเฌ อตฺตโน สีลาจาราณาทีหิ คุเณหิ โสภติ วิโรจตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต คคนตเล จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย พุทฺธลีฬาย พฺราหฺมณสฺส ปฺหํ กเถสิ. มหาชโน นทนฺโต เสเลนฺโต อปฺโผเฏนฺโต สาธุการสหสฺสานิ อทาสิ, เจลุกฺเขเป จ องฺคุลิโผเฏ จ ปวตฺเตสิ, หตฺถปิฬนฺธนาทีนิ ขิปิ. เอวํ ขิตฺตธนํ โกฏิมตฺตํ อโหสิ. ราชาปิสฺส ตุฏฺโ มหนฺตํ ยสํ อทาสิ. สุจิรโตปิ นิกฺขสหสฺเสน ปูชํ กตฺวา สุวณฺณปฏฺเฏ ชาติหิงฺคุลเกน ปฺหวิสฺสชฺชนํ ลิขิตฺวา อินฺทปตฺถนครํ คนฺตฺวา รฺโ ธมฺมยาคปฺหํ กเถสิ. ราชา ตสฺมึ ธมฺเม วตฺติตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาปฺโเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ธนฺจยราชา อานนฺโท อโหสิ, สุจิรโต อนุรุทฺโธ, วิธุโร กสฺสโป, ภทฺรกาโร โมคฺคลฺลาโน, สฺจยมาณโว สาริปุตฺโต, สมฺภวปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สมฺภวชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๕๑๖] ๖. มหากปิชาตกวณฺณนา

พาราณสฺยํ อหู ราชาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส สิลาปวิชฺฌนํ อารพฺภ กเถสิ. เตน หิ ธนุคฺคเห ปโยเชตฺวา อปรภาเค สิลาย ปวิทฺธาย ภิกฺขูหิ เทวทตฺตสฺส อวณฺเณ กถิเต สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มยฺหํ สิลํ ปวิชฺฌิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต กาสิกคามเก เอโก กสฺสกพฺราหฺมโณ เขตฺตํ กสิตฺวา โคเณ วิสฺสชฺเชตฺวา กุทฺทาลกมฺมํ กาตุํ อารภิ. โคณา เอกสฺมึ คจฺเฉ ปณฺณานิ ขาทนฺตา อนุกฺกเมน อฏวึ ปวิสิตฺวา ปลายึสุ. โส เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา กุทฺทาลํ เปตฺวา โคเณ โอโลเกนฺโต อทิสฺวา โทมนสฺสปฺปตฺโต เต ปริเยสนฺโต อนฺโตอฏวึ ปวิสิตฺวา อาหิณฺฑนฺโต หิมวนฺตํ ปาวิสิ. โส ตตฺถ ทิสามูฬฺโห หุตฺวา สตฺตาหํ นิราหาโร วิจรนฺโต เอกํ ตินฺทุกรุกฺขํ ทิสฺวา อภิรุยฺห ผลานิ ขาทนฺโต ตินฺทุกรุกฺขโต ปริคฬิตฺวา สฏฺิหตฺเถ นรกปปาเต ปติ. ตตฺรสฺส ทส ทิวสา วีติวตฺตา. ตทา โพธิสตฺโต กปิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ผลาผลานิ ขาทนฺโต ตํ ปุริสํ ทิสฺวา สิลาย โยคฺคํ กตฺวา ตํ ปุริสํ อุทฺธริตฺวา สิลาย มตฺถเก นิสีทาเปตฺวา เอวมาห – ‘‘โภ พฺราหฺมณ, อหํ กิลมามิ, มุหุตฺตํ นิทฺทายิสฺสามิ, มํ รกฺขาหี’’ติ. โส ตสฺส นิทฺทายนฺตสฺส สิลาย มตฺถกํ ปทาเลสิ. มหาสตฺโต ตสฺส ตํ กมฺมํ ตฺวา อุปฺปติตฺวา สาขาย นิสีทิตฺวา ‘‘โภ ปุริส, ตฺวํ ภูมิยา คจฺฉ, อหํ สาขคฺเคน ตุยฺหํ มคฺคํ อาจิกฺขนฺโต คมิสฺสามี’’ติ ตํ ปุริสํ อรฺโต นีหริตฺวา มคฺเค เปตฺวา ปพฺพตปาทเมว ปาวิสิ. โส ปุริโส มหาสตฺเต อปรชฺฌิตฺวา กุฏฺี หุตฺวา ทิฏฺธมฺเมเยว มนุสฺสเปโต อโหสิ.

โส สตฺต วสฺสานิ ทุกฺขปีฬิโต วิจรนฺโต พาราณสิยํ มิคาชินํ นาม อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา ปาการนฺตเร กทลิปณฺณํ อตฺถริตฺวา เวทนาปฺปตฺโต นิปชฺชิ. ตทา พาราณสิราชา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตตฺถ วิจรนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘โกสิ ตฺวํ, กึ วา กตฺวา อิมํ ทุกฺขํ ปตฺโต’’ติ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส สพฺพํ วิตฺถารโต อาจิกฺขิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๗๘.

‘‘พาราณสฺยํ อหู ราชา, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;

มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺโห, อคมาสิ มิคาชินํ.

๑๗๙.

‘‘ตตฺถ พฺราหฺมณมทฺทกฺขิ, เสตํ จิตฺรํ กิลาสินํ;

วิทฺธสฺตํ โกวิฬารํว, กิสํ ธมนิสนฺถตํ.

๑๘๐.

‘‘ปรมการุฺตํ ปตฺตํ, ทิสฺวา กิจฺฉคตํ นรํ;

อวจ พฺยมฺหิโต ราชา, ยกฺขานํ กตโม นุสิ.

๑๘๑.

‘‘หตฺถปาทา จ เต เสตา, ตโต เสตตรํ สิโร;

คตฺตํ กมฺมาสวณฺณํ เต, กิลาสพหุโล จสิ.

๑๘๒.

‘‘วฏฺฏนาวฬิสงฺกาสา, ปิฏฺิ เต นินฺนตุนฺนตา;

กาฬปพฺพาว เต องฺคา, นาฺํ ปสฺสามิ เอทิสํ.

๑๘๓.

‘‘อุคฺฆฏฺฏปาโท ตสิโต, กิโส ธมนิสนฺถโต;

ฉาโต อาตตฺตรูโปสิ, กุโตสิ กตฺถ คจฺฉติ.

๑๘๔.

‘‘ทุทฺทสี อปฺปกาโรสิ, ทุพฺพณฺโณ ภีมทสฺสโน;

ชเนตฺติ ยาปิ เต มาตา, น ตํ อิจฺเฉยฺย ปสฺสิตุํ.

๑๘๕.

‘‘กึ กมฺมมกรํ ปุพฺเพ, กํ อวชฺฌํ อฆาตยิ;

กิพฺพิสํ ยํ กริตฺวาน, อิทํ ทุกฺขํ อุปาคมี’’ติ.

ตตฺถ พาราณสฺยนฺติ พาราณสิยํ. มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺโหติ มิตฺเตหิ จ ทฬฺหภตฺตีหิ อมจฺเจหิ จ ปริวุโต. มิคาชินนฺติ เอวํนามกํ อุยฺยานํ. เสตนฺติ เสตกุฏฺเน เสตํ กพรกุฏฺเน วิจิตฺรํ ปริภินฺเนน กณฺฑูยนกิลาสกุฏฺเน กิลาสินํ เวทนาปฺปตฺตํ กทลิปณฺเณ นิปนฺนํ อทฺทส. วิทฺธสฺตํ โกวิฬารํวาติ วณมุเขหิ ปคฺฆรนฺเตน มํเสน วิทฺธสฺตํ ปุปฺผิตโกวิฬารสทิสํ. กิสนฺติ เอกจฺเจสุ ปเทเสสุ อฏฺิจมฺมมตฺตสรีรํ สิราชาลสนฺถตํ. พฺยมฺหิโตติ ภีโต วิมฺหยมาปนฺโน วา. ยกฺขานนฺติ ยกฺขานํ อนฺตเร ตฺวํ กตรยกฺโข นามาสิ. วฏฺฏนาวฬิสงฺกาสาติ ปิฏฺิกณฺฏกฏฺาเน อาวุนิตฺวา ปิตาวฏฺฏนาวฬิสทิสา. องฺคาติ กาฬปพฺพวลฺลิสทิสานิ เต องฺคานิ. นาฺนฺติ อฺํ ปุริสํ เอทิสํ น ปสฺสามิ. อุคฺฆฏฺฏปาโทติ รโชกิณฺณปาโท. อาตตฺตรูโปติ สุกฺขสรีโร. ทุทฺทสีติ ทุกฺเขน ปสฺสิตพฺโพ. อปฺปกาโรสีติ สรีรปฺปการรหิโตสิ, ทุสฺสณฺาโนสีติ อตฺโถ. กึ กมฺมมกรนฺติ อิโต ปุพฺเพ กึ กมฺมํ อกรํ, อกาสีติ อตฺโถ. กิพฺพิสนฺติ ทารุณกมฺมํ.

ตโต ปรํ พฺราหฺมโณ อาห –

๑๘๖.

‘‘ตคฺฆ เต อหมกฺขิสฺสํ, ยถาปิ กุสโล ตถา;

สจฺจวาทิฺหิ โลกสฺมึ, ปสํสนฺตีธ ปณฺฑิตา.

๑๘๗.

‘‘เอโก จรํ โคคเวโส, มูฬฺโห อจฺจสรึ วเน;

อรฺเ อิรีเณ วิวเน, นานากุฺชรเสวิเต.

๑๘๘.

‘‘วาฬมิคานุจริเต, วิปฺปนฏฺโสฺมิ กานเน;

อจรึ ตตฺถ สตฺตาหํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิโต.

๑๘๙.

‘‘ตตฺถ ตินฺทุกมทฺทกฺขึ, วิสมฏฺํ พุภุกฺขิโต;

ปปาตมภิลมฺพนฺตํ, สมฺปนฺนผลธารินํ.

๑๙๐.

‘‘วาตสฺสิตานิ ภกฺเขสึ, ตานิ รุจฺจึสุ เม ภุสํ;

อติตฺโต รุกฺขมารูหึ, ตตฺถ เหสฺสามิ อาสิโต.

๑๙๑.

‘‘เอกํ เม ภกฺขิตํ อาสิ, ทุติยํ อภิปตฺถิตํ;

ตโต สา ภฺชถ สาขา, ฉินฺนา ผรสุนา วิย.

๑๙๒.

‘‘โสหํ สหาว สาขาหิ, อุทฺธํปาโท อวํสิโร;

อปฺปติฏฺเ อนาลมฺเพ, คิริทุคฺคสฺมิ ปาปตํ.

๑๙๓.

‘‘ยสฺมา จ วาริ คมฺภีรํ, ตสฺมา น สมปชฺชิสํ;

ตตฺถ เสสึ นิรานนฺโท, อนูนา ทส รตฺติโย.

๑๙๔.

‘‘อเถตฺถ กปิ มาคฺฉิ, โคนงฺคุโล ทรีจโร;

สาขาหิ สาขํ วิจรนฺโต, ขาทมาโน ทุมปฺผลํ.

๑๙๕.

‘‘โส มํ ทิสฺวา กิสํ ปณฺฑุํ, การุฺมกรํ มยิ;

อมฺโภ โก นาม โส เอตฺถ, เอวํ ทุกฺเขน อฏฺฏิโต.

๑๙๖.

‘‘มนุสฺโส อมนุสฺโส วา, อตฺตานํ เม ปเวทย;

ตสฺสฺชลึ ปณาเมตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวึ.

๑๙๗.

‘‘มนุสฺโสหํ พฺยสมฺปตฺโต, สา เม นตฺถิ อิโต คติ;

ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ตฺวฺจ เม สรณํ ภว.

๑๙๘.

‘‘ครุํ สิลํ คเหตฺวาน, วิจรี ปพฺพเต กปิ;

สิลาย โยคฺคํ กตฺวาน, นิสโภ เอตทพฺรวิ.

๑๙๙.

‘‘เอหิ เม ปิฏฺิมารุยฺห, คีวํ คณฺหาหิ พาหุภิ;

อหํ ตํ อุทฺธริสฺสามิ, คิริทุคฺคต เวคสา.

๒๐๐.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, วานรินฺทสฺส สิรีมโต;

ปิฏฺิมารุยฺห ธีรสฺส, คีวํ พาหาหิ อคฺคหึ.

๒๐๑.

‘‘โส มํ ตโต สมุฏฺาสิ, เตชสฺสี พลวา กปิ;

วิหฺมาโน กิจฺเฉน, คิริทุคฺคต เวคสา.

๒๐๒.

‘‘อุทฺธริตฺวาน มํ สนฺโต, นิสโภ เอตทพฺรวิ;

อิงฺฆ มํ สมฺม รกฺขสฺสุ, ปสุปิสฺสํ มุหุตฺตกํ.

๒๐๓.

‘‘สีหา พฺยคฺฆา จ ทีปี จ, อจฺฉโกกตรจฺฉโย;

เต มํ ปมตฺตํ หึเสยฺยุํ, เต ตฺวํ ทิสฺวา นิวารย.

๒๐๔.

‘‘เอวํ เม ปริตฺตาตูน, ปสุปี โส มุหุตฺตกํ;

ตทาหํ ปาปิกํ ทิฏฺึ, ปฏิลจฺฉึ อโยนิโส.

๒๐๕.

‘‘ภกฺโข อยํ มนุสฺสานํ, ยถา จฺเ วเน มิคา;

ยํ นูนิมํ วธิตฺวาน, ฉาโต ขาเทยฺย วานรํ.

๒๐๖.

‘‘อสิโต จ คมิสฺสามิ, มํสมาทาย สมฺพลํ;

กนฺตารํ นิตฺถริสฺสามิ, ปาเถยฺยํ เม ภวิสฺสติ.

๒๐๗.

‘‘ตโต สิลํ คเหตฺวาน, มตฺถกํ สนฺนิตาฬยึ;

มม คตฺตกิลนฺตสฺส, ปหาโร ทุพฺพโล อหุ.

๒๐๘.

‘‘โส จ เวเคนุทปฺปตฺโต, กปิ รุหิรมกฺขิโต;

อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, โรทนฺโต มํ อุทิกฺขติ.

๒๐๙.

‘‘มายฺโย มํ กริ ภทฺทนฺเต, ตฺวฺจ นาเมทิสํ กริ;

ตฺวฺจ โข นาม ทีฆาวุ, อฺเ วาเรตุมรหสิ.

๒๑๐.

‘‘อโห วต เร ปุริส, ตาวทุกฺกรการก;

เอทิสา วิสมา ทุคฺคา, ปปาตา อุทฺธโต มยา.

๒๑๑.

‘‘อานีโต ปรโลกาว, ทุพฺเภยฺยํ มํ อมฺถ;

ตํ เตน ปาปกมฺเมน, ปาปํ ปาเปน จินฺติตํ.

๒๑๒.

‘‘มา เหว ตฺวํ อธมฺมฏฺ, เวทนํ กฏุกํ ผุสิ;

มา เหว ปาปกมฺมํ ตํ, ผลํ เวฬุํว ตํ วธิ.

๒๑๓.

‘‘ตยิ เม นตฺถิ วิสฺสาโส, ปาปธมฺม อสฺต;

เอหิ เม ปิฏฺิโต คจฺฉ, ทิสฺสมาโนว สนฺติเก.

๒๑๔.

‘‘มุตฺโตสิ หตฺถา วาฬานํ, ปตฺโตสิ มานุสึ ปทํ;

เอส มคฺโค อธมฺมฏฺ, เตน คจฺฉ ยถาสุขํ.

๒๑๕.

‘‘อิทํ วตฺวา คิริจโร, รหเท ปกฺขลฺย มตฺถกํ;

อสฺสูนิ สมฺปมชฺชิตฺวา, ตโต ปพฺพตมารุหิ.

๒๑๖.

‘‘โสหํ เตนาภิสตฺโตสฺมิ, ปริฬาเหน อฏฺฏิโต;

ฑยฺหมาเนน คตฺเตน, วารึ ปาตุํ อุปาคมึ.

๒๑๗.

‘‘อคฺคินา วิย สนฺตตฺโต, รหโท รุหิรมกฺขิโต;

ปุพฺพโลหิตสงฺกาโส, สพฺโพ เม สมปชฺชถ.

๒๑๘.

‘‘ยาวนฺโต อุทพินฺทูนิ, กายสฺมึ นิปตึสุ เม;

ตาวนฺโต คณฺฑ ชาเยถ, อทฺธเพลุวสาทิสา.

๒๑๙.

‘‘ปภินฺนา ปคฺฆรึสุ เม, กุณปา ปุพฺพโลหิตา;

เยน เยเนว คจฺฉามิ, คาเมสุ นิคเมสุ จ.

๒๒๐.

‘‘ทณฺฑหตฺถา นิวาเรนฺติ, อิตฺถิโย ปุริสา จ มํ;

โอกฺกิตา ปูติคนฺเธน, มาสฺสุ โอเรน อาคมา.

๒๒๑.

‘‘เอตาทิสํ อิทํ ทุกฺขํ, สตฺต วสฺสานิ ทานิ เม;

อนุโภมิ สกํ กมฺมํ, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.

๒๒๒.

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทนฺเต, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

มาสฺสุ มิตฺตาน ทุพฺภิตฺโถ, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.

๒๒๓.

‘‘กุฏฺี กิลาสี ภวติ, โย มิตฺตานิธ ทุพฺภติ;

กายสฺส เภทา มิตฺตทฺทุ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ กุสโลติ ยถา เฉโก กุสโล กเถติ, ตถา โว กเถสฺสามิ. โคคเวโสติ นฏฺเ โคเณ คเวสนฺโต. อจฺจสรินฺติ มนุสฺสปถํ อติกฺกมิตฺวา หิมวนฺตํ ปาวิสึ. อรฺเติ อราชเก สุฺเ. อิรีเณติ สุกฺขกนฺตาเร. วิวเนติ วิวิตฺเต. วิปฺปนฏฺโติ มคฺคมูฬฺโห. พุภุกฺขิโตติ สฺชาตพุภุกฺโข ฉาตชฺฌตฺโต. ปปาตมภิลมฺพนฺตนฺติ ปปาตาภิมุขํ โอลมฺพนฺตํ. สมฺปนฺนผลธารินนฺติ มธุรผลธารินํ. วาตสฺสิตานีติ ปมํ ตาว วาตปติตานิ ขาทึ. ตตฺถ เหสฺสามีติ ตสฺมึ รุกฺเข สุหิโต ภวิสฺสามีติ อารุฬฺโหมฺหิ. ตโต สา ภฺชถ สาขาติ ตสฺส อภิปตฺถิตสฺส อตฺถาย หตฺเถ ปสาริเต สา มยา อภิรุฬฺหา สาขา ผรสุนา ฉินฺนา วิย อภฺชถ. อนาลมฺเพติ อาลมฺพิตพฺพฏฺานรหิเต. คิริทุคฺคสฺมินฺติ คิริวิสเม. เสสินฺติ สยิโตมฺหิ.

กปิ มาคฺฉีติ กปิ อาคฺฉิ. โคนงฺคุโลติ คุนฺนํ นงฺคุฏฺสทิสนงฺคุฏฺโ. ‘‘โคนงฺคุฏฺโ’’ติปิ ปาโ. ‘‘โคนงฺคุลี’’ติปิ ปนฺติ. อกรํ มยีติ อกรา มยิ. อมฺโภติ, มหาราช, โส กปิราชา ตสฺมึ นรกปปาเต มม อุทกโปถนสทฺทํ สุตฺวา มํ ‘‘อมฺโภ’’ติ อาลปิตฺวา ‘‘โก นาเมโส’’ติ ปุจฺฉิ. พฺยสมฺปตฺโตติ พฺยสนํ ปตฺโต, ปปาตสฺส วสํ ปตฺโตติ วา อตฺโถ. ภทฺทํ โวติ ตสฺมา ตุมฺเห วทามิ – ‘‘ภทฺทํ ตุมฺหากํ โหตู’’ติ. ครุํ สิลนฺติ, มหาราช, โส กปิราชา มยา เอวํ วุตฺเต ‘‘มา ภายี’’ติ มํ อสฺสาเสตฺวา ปมํ ตาว ครุํ สิลํ คเหตฺวา โยคฺคํ กโรนฺโต ปพฺพเต วิจริ. นิสโภติ ปุริสนิสโภ อุตฺตมวานรินฺโท ปพฺพตปปาเต ตฺวา มํ เอตทพฺรวีติ.

พาหุภีติ ทฺวีหิ พาหาหิ มม คีวํ สุคฺคหิตํ คณฺห. เวคสาติ เวเคน. สิรีมโตติ ปุฺวนฺตสฺส. อคฺคหินฺติ สฏฺิหตฺถํ นรกปปาตํ วาตเวเคน โอตริตฺวา อุทกปิฏฺเ ิตสฺส อหํ เวเคน ปิฏฺิมภิรุหิตฺวา อุโภหิ พาหาหิ คีวํ อคฺคเหสึ. วิหฺมาโนติ กิลมนฺโต. กิจฺเฉนาติ ทุกฺเขน. สนฺโตติ ปณฺฑิโต, อถ วา ปริสนฺโต กิลนฺโต. รกฺขสฺสูติ อหํ ตํ อุทฺธรนฺโต กิลนฺโต มุหุตฺตํ วิสฺสมนฺโต ปสุปิสฺสํ, ตสฺมา มํ รกฺขาหิ. ยถา จฺเ วเน มิคาติ สีหาทีหิ อฺเปิ เย อิมสฺมึ วเน วาฬมิคา. ปาฬิยํ ปน ‘‘อจฺฉโกกตรจฺฉโย’’ติ ลิขนฺติ. ปริตฺตาตูนาติ, มหาราช, เอวํ โส กปิราชา มํ อตฺตโน ปริตฺตาณํ กตฺวา มุหุตฺตํ ปสุปิ. อโยนิโสติ อโยนิโสมนสิกาเรน. ภกฺโขติ ขาทิตพฺพยุตฺตโก. อสิโต ธาโต สุหิโต. สมฺพลนฺติ ปาเถยฺยํ. มตฺถกํ สนฺนิตาฬยินฺติ ตสฺส วานรินฺทสฺส มตฺถกํ ปหรึ. ‘‘สนฺนิตาฬย’’นฺติปิ ปาโ. ทุพฺพโล อหูติ น พลวา อาสิ, ยถาธิปฺปายํ น อคมาสีติ.

เวเคนาติ มยา ปหฏปาสาณเวเคน. อุทปฺปตฺโตติ อุฏฺิโต. มายฺโยติ เตน มิตฺตทุพฺภิปุริเสน สิลาย ปวิทฺธาย มหาจมฺมํ ฉินฺทิตฺวา โอลมฺพิ, รุหิรํ ปคฺฆริ. มหาสตฺโต เวทนาปฺปตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺมึ าเน อฺโ นตฺถิ, อิทํ ภยํ อิมํ ปุริสํ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ. โส มรณภยภีโต โอลมฺพนฺตํ จมฺมพนฺธํ หตฺเถน คเหตฺวา อุปฺปติตฺวา สาขํ อภิรุยฺห เตน ปาปปุริเสน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ‘‘มายฺโย ม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มายฺโย มํ กริ ภทฺทนฺเตติ มา อกริ อยฺโย มํ ภทฺทนฺเตติ ตํ นิวาเรติ. ตฺวฺจ โข นามาติ ตฺวํ นาม เอวํ มยา ปปาตา อุทฺธโฏ เอทิสํ ผรุสกมฺมํ มยิ กริ, อโห เต อยุตฺตํ กตนฺติ. อโห วตาติ ตํ ครหนฺโต เอวมาห. ตาวทุกฺกรการกาติ มยิ อปรชฺฌเนน อติทุกฺกรกมฺมการก. ปรโลกาวาติ ปรโลกโต วิย อานีโต. ทุพฺเภยฺยนฺติ ทุพฺภิตพฺพํ วธิตพฺพํ. เวทนํ กฏุกนฺติ เอวํ สนฺเตปิ ตฺวํ อธมฺมฏฺ ยาทิสํ เวทนํ อหํ ผุสามิ, เอทิสํ เวทนํ กฏุกํ มา ผุสิ, ตํ ปาปกมฺมํ ผลํ เวฬุํว ตํ มา วธิ. อิติ มํ, มหาราช, โส ปิยปุตฺตกํ วิย อนุกมฺปิ.

อถ นํ อหํ เอตทโวจํ – ‘‘อยฺย, มยา กตํ โทสํ หทเย มา กริ, มา มํ อสปฺปุริสํ เอวรูเป อรฺเ นาสย, อหํ ทิสามูฬฺโห มคฺคํ น ชานามิ, อตฺตนา กตํ กมฺมํ มา นาเสถ, ชีวิตทานํ เม เทถ, อรฺา นีหริตฺวา มนุสฺสปเถ เปถา’’ติ. เอวํ วุตฺเต โส มยา สทฺธึ สลฺลปนฺโต ‘‘ตยิ เม นตฺถิ วิสฺสาโส’’ติ อาทิมาห. ตตฺถ ตยีติ อิโต ปฏฺาย มยฺหํ ตยิ วิสฺสาโส นตฺถิ. เอหีติ, โภ ปุริส, อหํ ตยา สทฺธึ มคฺเคน น คมิสฺสามิ, ตฺวํ ปน เอหิ มม ปิฏฺิโต อวิทูเร ทิสฺสมานสรีโรว คจฺฉ, อหํ รุกฺขคฺเคเหว คมิสฺสามีติ. มุตฺโตสีติ อถ โส มํ, มหาราช, อรฺา นีหริตฺวา, โภ ปุริส, วาฬมิคานํ หตฺถา มุตฺโตสิ. ปตฺโตสิ มานุสึ ปทนฺติ มนุสฺสูปจารํ ปตฺโต อาคโตสิ, เอส เต มคฺโค, เอเตน คจฺฉาติ อาห.

คิริจโรติ คิริจารี วานโร. ปกฺขลฺยาติ โธวิตฺวา. เตนาภิสตฺโตสฺมีติ โส อหํ, มหาราช, เตน วานเรน อภิสตฺโต, ปาปกมฺเม ปริณเต เตนาภิสตฺโตสฺมีติ มฺมาโน เอวมาห. อฏฺฏิโตติ อุปทฺทุโต. อุปาคมินฺติ เอกํ รหทํ อุปคโตสฺมิ. สมปชฺชถาติ ชาโต, เอวรูโป หุตฺวา อุปฏฺาสิ. ยาวนฺโตติ ยตฺตกานิ. คณฺฑ ชาเยถาติ คณฺฑา ชายึสุ. โส กิร ปิปาสํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุทกฺชลึ อุกฺขิปิตฺวา โถกํ ปิวิตฺวา เสสํ สรีเร สิฺจิ. อถสฺส ตาวเทว อุทกพินฺทุคณนาย อฑฺฒเพลุวปกฺกปฺปมาณา คณฺฑา อุฏฺหึสุ, ตสฺมา เอวมาห. ปภินฺนาติ เต คณฺฑา ตํ ทิวสเมว ภิชฺชิตฺวา กุณปา ปูติคนฺธิกา หุตฺวา ปุพฺพโลหิตานิ ปคฺฆรึสุ. เยน เยนาติ เยน เยน มคฺเคน. โอกฺกิตาติ ปูติคนฺเธน โอกิณฺณา ปริกฺขิตฺตา ปริวาริตา. มาสฺสุ โอเรน อาคมาติ ทุฏฺสตฺต โอเรน มาสฺสุ อาคมา, อมฺหากํ สนฺติกํ มา อาคมีติ เอวํ วทนฺตา มํ นิวาเรนฺตีติ อตฺโถ. สตฺต วสฺสานิ ทานิ เมติ, มหาราช, ตโต ปฏฺาย อิทานิ สตฺต วสฺสานิ มม เอตฺตกํ กาลํ สกํ กมฺมํ อนุโภมิ.

อิติ โส อตฺตโน มิตฺตทุพฺภิกมฺมํ วิตฺถาเรตฺวา, ‘‘มหาราช, มฺเว โอโลเกตฺวา เอวรูปํ กมฺมํ น เกนจิ กตฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ‘‘ตํ โว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นฺติ ตสฺมา. ยสฺมา เอวรูปํ กมฺมํ เอวํ ทุกฺขวิปากํ, ตสฺมาติ อตฺโถ.

๒๒๓.

‘‘กุฏฺี กิลาสี ภวติ, โย มิตฺตานิธ ทุพฺภติ;

กายสฺส เภทา มิตฺตทฺทุ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ. –

อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา. ภิกฺขเว, โย อิธ โลเก มิตฺตานิ ทุพฺภติ หึสติ, โส เอวรูโป โหตีติ อตฺโถ.

ตสฺสปิ ปุริสสฺส รฺา สทฺธึ กเถนฺตสฺเสว ปถวี วิวรํ อทาสิ. ตงฺขณฺเว จวิตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺโต. ราชา ตสฺมึ ปถวึ ปวิฏฺเ อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา นครํ ปวิฏฺโ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มยฺหํ สิลํ ปฏิวิชฺฌิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มิตฺตทุพฺภี ปุริโส เทวทตฺโต อโหสิ, กปิราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหากปิชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๕๑๗] ๗. ทกรกฺขสชาตกวณฺณนา

๒๒๔-๒๕๗. สเจ โว วุยฺหมานานนฺติ ทกรกฺขสชาตกํ. ตํ สพฺพํ มหาอุมงฺคชาตเก อาวิ ภวิสฺสตีติ.

ทกรกฺขสชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๕๑๘] ๘. ปณฺฑรนาคราชชาตกวณฺณนา

วิกิณฺณวาจนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มุสาวาทํ กตฺวา เทวทตฺตสฺส ปถวิปฺปเวสนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ภิกฺขูหิ ตสฺส อวณฺเณ กถิเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มุสาวาทํ กตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ปฺจสตวาณิชา นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตฺวา สตฺตเม ทิวเส อตีรทสฺสนิยา นาวาย สมุทฺทปิฏฺเ ภินฺนาย เปตฺวา เอกํ อวเสสา มจฺฉกจฺฉปภกฺขา อเหสุํ, เอโก ปน วาตเวเคน กรมฺปิยปฏฺฏนํ นาม ปาปุณิ. โส สมุทฺทโต อุตฺตริตฺวา นคฺคโภโค ตสฺมึ ปฏฺฏเนเยว ภิกฺขาย จริ. ตเมนํ มนุสฺสา ‘‘อยํ สมโณ อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ’’ติ สมฺภาเวตฺวา สกฺการํ กรึสุ. โส ‘‘ลทฺโธ เม ชีวิกูปาโย’’ติ เตสุ นิวาสนปารุปนํ เทนฺเตสุปิ น อิจฺฉิ. เต ‘‘นตฺถิ อิโต อุตฺตริ อปฺปิจฺโฉ สมโณ’’ติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปสีทิตฺวา ตสฺส อสฺสมปทํ กตฺวา ตตฺถ นํ นิวาสาเปสุํ. โส ‘‘กรมฺปิยอเจโล’’ติ ปฺายิ. ตสฺส ตตฺถ วสนฺตสฺส มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ.

เอโก นาคราชาปิสฺส สุปณฺณราชา จ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. เตสุ นาคราชา นาเมน ปณฺฑโร นาม. อเถกทิวสํ สุปณฺณราชา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ าตกา นาเค คณฺหนฺตา พหู วินสฺสนฺติ, เอเตสํ นาคานํ คหณนิยามํ มยํ น ชานาม, คุยฺหการณํ กิร เตสํ อตฺถิ, สกฺกุเณยฺยาถ นุ โข ตุมฺเห เอเต ปิยายมานา วิย ตํ การณํ ปุจฺฉิตุ’’นฺติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สุปณฺณราเช วนฺทิตฺวา ปกฺกนฺเต นาคราชสฺส อาคตกาเล วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ นาคราชานํ ปุจฺฉิ – ‘‘นาคราช, สุปณฺณา กิร ตุมฺเห คณฺหนฺตา พหู วินสฺสนฺติ, ตุมฺเห คณฺหนฺตา กถํ คณฺหิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ. ภนฺเต, อิทํ อมฺหากํ คุยฺหํ รหสฺสํ, มยา อิมํ กเถนฺเตน าติสงฺฆสฺส มรณํ อาหฏํ โหตีติ. กึ ปน ตฺวํ, อาวุโส, ‘‘อยํ อฺสฺส กเถสฺสตี’’ติ เอวํสฺี โหสิ, นาหํ อฺสฺส กเถสฺสามิ, อตฺตนา ปน ชานิตุกามตาย ปุจฺฉามิ, ตฺวํ มยฺหํ สทฺทหิตฺวา นิพฺภโย หุตฺวา กเถหีติ. นาคราชา ‘‘น กเถสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. ปุนทิวเสปิ ปุจฺฉิ, ตถาปิสฺส น กเถสิ.

อถ นํ ตติยทิวเส อาคนฺตฺวา นิสินฺนํ, ‘‘นาคราช, อชฺช ตติโย ทิวโส, มม ปุจฺฉนฺตสฺส กิมตฺถํ น กเถสี’’ติ อาห. ‘‘ตุมฺเห อฺสฺส อาจิกฺขิสฺสถา’’ติ ภเยน, ภนฺเตติ. กสฺสจิ น กเถสฺสามิ, นิพฺภโย กเถหีติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อฺสฺส มา กถยิตฺถา’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มยํ มหนฺเต มหนฺเต ปาสาเณ คิลิตฺวา ภาริยา หุตฺวา นิปชฺชิตฺวา สุปณฺณานํ อาคมนกาเล มุขํ นิพฺพาเหตฺวา ทนฺเต วิวริตฺวา สุปณฺเณ ฑํสิตุํ อจฺฉาม, เต อาคนฺตฺวา อมฺหากํ สีสํ คณฺหนฺติ, เตสํ อมฺเห ครุภาเร หุตฺวา นิปนฺเน อุทฺธริตุํ วายมนฺตานฺเว อุทกํ โอตฺถรติ. เต สีทนฺตา อนฺโตอุทเกเยว มรนฺติ, อิมินา การเณน พหู สุปณฺณา วินสฺสนฺติ, เตสํ อมฺเห คณฺหนฺตานํ กึ สีเสน คหิเตน, พาลา นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา อมฺเห เหฏฺาสีสเก กตฺวา คหิตํ โคจรํ มุเขน ฉฑฺฑาเปตฺวา ลหุเก กตฺวา คนฺตุํ สกฺโกนฺตี’’ติ โส อตฺตโน รหสฺสการณํ ตสฺส ทุสฺสีลสฺส กเถสิ.

อถ ตสฺมึ ปกฺกนฺเต สุปณฺณราชา อาคนฺตฺวา กรมฺปิยอเจลํ วนฺทิตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, ปุจฺฉิตํ เต นาคราชสฺส คุยฺหการณ’’นฺติ อาห. โส ‘‘อามาวุโส’’ติ วตฺวา สพฺพํ เตน กถิตนิยาเมเนว กเถสิ. ตํ สุตฺวา สุปณฺโณ ‘‘นาคราเชน อยุตฺตํ กตํ, าตีนํ นาม นสฺสนนิยาโม ปรสฺส น กเถตพฺโพ, โหตุ, อชฺเชว มยา สุปณฺณวาตํ กตฺวา ปมํ เอตเมว คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ สุปณฺณวาตํ กตฺวา ปณฺฑรนาคราชานํ นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา เหฏฺาสีสํ กตฺวา คหิตโคจรํ ฉฑฺฑาเปตฺวา อุปฺปติตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. ปณฺฑโร อากาเส เหฏฺาสีสกํ โอลมฺพนฺโต ‘‘มยาว มม ทุกฺขํ อาภต’’นฺติ ปริเทวนฺโต อาห –

๒๕๘.

‘‘วิกิณฺณวาจํ อนิคุยฺหมนฺตํ, อสฺตํ อปริจกฺขิตารํ;

ภยํ ตมนฺเวติ สยํ อโพธํ, นาคํ ยถา ปณฺฑรกํ สุปณฺโณ.

๒๕๙.

‘‘โย คุยฺหมนฺตํ ปริรกฺขเณยฺยํ, โมหา นโร สํสติ หาสมาโน;

ตํ ภินฺนมนฺตํ ภยมนฺเวติ ขิปฺปํ, นาคํ ยถา ปณฺฑรกํ สุปณฺโณ.

๒๖๐.

‘‘นานุมิตฺโต ครุํ อตฺถํ, คุยฺหํ เวทิตุมรหติ;

สุมิตฺโต จ อสมฺพุทฺธํ, สมฺพุทฺธํ วา อนตฺถวา.

๒๖๑.

‘‘วิสฺสาสมาปชฺชิมหํ อเจลํ, สมโณ อยํ สมฺมโต ภาวิตตฺโต;

ตสฺสาหมกฺขึ วิวรึ คุยฺหมตฺถํ, อตีตมตฺโถ กปณํ รุทามิ.

๒๖๒.

‘‘ตสฺสาหํ ปรมํ พฺรหฺเม คุยฺหํ, วาจํ หิมํ นาสกฺขึ สํยเมตุํ;

ตปฺปกฺขโต หิ ภยมาคตํ มมํ, อตีตมตฺโถ กปณํ รุทามิ.

๒๖๓.

‘‘โย เว นโร สุหทํ มฺมาโน, คุยฺหมตฺถํ สํสติ ทุกฺกุลีเน;

โทสา ภยา อถวา ราครตฺตา, ปลฺลตฺถิโต พาโล อสํสยํ โส.

๒๖๔.

‘‘ติโรกฺขวาโจ อสตํ ปวิฏฺโ, โย สงฺคตีสุ มุทีเรติ วากฺยํ;

อาสีวิโส ทุมฺมุโขตฺยาหุ ตํ นรํ, อารา อารา สํยเม ตาทิสมฺหา.

๒๖๕.

‘‘อนฺนํ ปานํ กาสิกจนฺทนฺจ, มนาปิตฺถิโย มาลมุจฺฉาทนฺจ;

โอหาย คจฺฉามเส สพฺพกาเม, สุปณฺณ ปาณูปคตาว ตฺยมฺหา’’ติ.

ตตฺถ วิกิณฺณวาจนฺติ ปตฺถฏวจนํ. อนิคุยฺหมนฺตนฺติ อปฺปฏิจฺฉนฺนมนฺตํ. อสฺตนฺติ กายทฺวาราทีนิ รกฺขิตุํ อสกฺโกนฺตํ. อปริจกฺขิตารนฺติ ‘‘อยํ มยา กถิตมนฺตํ รกฺขิตุํ สกฺขิสฺสติ, น สกฺขิสฺสตี’’ติ ปุคฺคลํ โอโลเกตุํ อุปปริกฺขิตุํ อสกฺโกนฺตํ. ภยํ ตมนฺเวตีติ ตํ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ อโพธํ ทุปฺปฺํ ปุคฺคลํ สยํกตเมว ภยํ อนฺเวติ, ยถา มํ ปณฺฑรกนาคํ สุปณฺโณ อนฺวาคโตติ. สํสติ หาสมาโนติ รกฺขิตุํ อสมตฺถสฺส ปาปปุริสสฺส หาสมาโน กเถติ. นานุมิตฺโตติ อนุวตฺตนมตฺเตน โย มิตฺโต, น หทเยน, โส คุยฺหํ อตฺถํ ชานิตุํ นารหตีติ ปริเทวติ. อสมฺพุทฺธนฺติ อสมฺพุทฺธนฺโต อชานนฺโต, อปฺปฺโติ อตฺโถ. สมฺพุทฺธนฺติ สมฺพุทฺธนฺโต ชานนฺโต, สปฺปฺโติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘โยปิ สุหทโย มิตฺโต วา อมิตฺโต วา อปฺปฺโ สปฺปฺโปิ วา โย อนตฺถวา อนตฺถจโร, โสปิ คุยฺหํ เวทิตุํ นารหเต’’ติ.

สมโณ อยนฺติ อยํ สมโณติ จ โลกสมฺมโตติ จ ภาวิตตฺโตติ จ มฺมาโน อหํ เอตสฺมึ วิสฺสาสมาปชฺชึ. อกฺขินฺติ กเถสึ. อตีตมตฺโถติ อตีตตฺโถ, อติกฺกนฺตตฺโถ หุตฺวา อิทานิ กปณํ รุทามีติ ปริเทวติ. ตสฺสาติ ตสฺส อเจลกสฺส. พฺรหฺเมติ สุปณฺณํ อาลปติ. สํยเมตุนฺติ อิมํ คุยฺหวาจํ รหสฺสการณํ รกฺขิตุํ นาสกฺขึ. ตปฺปกฺขโต หีติ อิทานิ อิทํ ภยํ มม ตสฺส อเจลกสฺส ปกฺขโต โกฏฺาสโต สนฺติกา อาคตํ, อิติ อตีตตฺโถ กปณํ รุทามีติ. สุหทนฺติ ‘‘สุหโท มม อย’’นฺติ มฺมาโน. ทุกฺกุลีเนติ อกุลเช นีเจ. โทสาติ เอเตหิ โทสาทีหิ การเณหิ โย เอวรูปํ คุยฺหํ สํสติ, โส พาโล อสํสยํ ปลฺลตฺถิโต ปริวตฺเตตฺวา ปาปิโต, หโตเยว นามาติ อตฺโถ.

ติโรกฺขวาโจติ อตฺตโน ยํ วาจํ กเถตุกาโม, ตสฺสา ติโรกฺขกตตฺตา ปฏิจฺฉนฺนวาโจ. อสตํ ปวิฏฺโติ อสปฺปุริสานํ อนฺตรํ ปวิฏฺโ อสปฺปุริเสสุ ปริยาปนฺโน. สงฺคตีสุ มุทีเรตีติ โย เอวรูโป ปเรสํ รหสฺสํ สุตฺวาว ปริสมชฺเฌสุ ‘‘อสุเกน อสุกํ นาม กตํ วา วุตฺตํ วา’’ติ วากฺยํ อุทีเรติ, ตํ นรํ ‘‘อาสีวิโส ทุมฺมุโข ปูติมุโข’’ติ อาหุ, ตาทิสมฺหา ปุริสา อารา อารา สํยเม, ทูรโต ทูรโตว วิรเมยฺย, ปริวชฺเชยฺย นนฺติ อตฺโถ. มาลมุจฺฉาทนฺจาติ มาลฺจ ทิพฺพํ จตุชฺชาติยคนฺธฺจ อุจฺฉาทนฺจ. โอหายาติ เอเต ทิพฺพอนฺนาทโย สพฺพกาเม อชฺช มยํ โอหาย ฉฑฺเฑตฺวา คมิสฺสาม. สุปณฺณ, ปาณูปคตาว ตฺยมฺหาติ, โภ สุปณฺณ, ปาเณหิ อุปคตาว เต อมฺหา, สรณํ โน โหหีติ.

เอวํ ปณฺฑรโก อากาเส เหฏฺาสีสโก โอลมฺพนฺโต อฏฺหิ คาถาหิ ปริเทวิ. สุปณฺโณ ตสฺส ปริเทวนสทฺทํ สุตฺวา, ‘‘นาคราช อตฺตโน รหสฺสํ อเจลกสฺส กเถตฺวา อิทานิ กิมตฺถํ ปริเทวสี’’ติ ตํ ครหิตฺวา คาถมาห –

๒๖๖.

‘‘โก นีธ ติณฺณํ ครหํ อุเปติ, อสฺมึธ โลเก ปาณภู นาคราช;

สมโณ สุปณฺโณ อถวา ตฺวเมว, กึการณา ปณฺฑรกคฺคหีโต’’ติ.

ตตฺถ โก นีธาติ อิธ อมฺเหสุ ตีสุ ชเนสุ โก นุ. อสฺมึธาติ เอตฺถ อิธาติ นิปาตมตฺตํ, อสฺมึ โลเกติ อตฺโถ. ปาณภูติ ปาณภูโต. อถวา ตฺวเมวาติ อุทาหุ ตฺวํเยว. ตตฺถ สมณํ ตาว มา ครห, โส หิ อุปาเยน ตํ รหสฺสํ ปุจฺฉิ. สุปณฺณมฺปิ มา ครห, อหฺหิ ตว ปจฺจตฺถิโกว. ปณฺฑรกคฺคหีโตติ, สมฺม ปณฺฑรก, ‘‘อหํ กึการณา สุปณฺเณน คหิโต’’ติ จินฺเตตฺวา จ ปน อตฺตานเมว ครห, ตยา หิ รหสฺสํ กเถนฺเตน อตฺตนาว อตฺตโน อนตฺโถ กโตติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

ตํ สุตฺวา ปณฺฑรโก อิตรํ คาถมาห –

๒๖๗.

‘‘สมโณติ เม สมฺมตตฺโต อโหสิ, ปิโย จ เม มนสา ภาวิตตฺโต;

ตสฺสาหมกฺขึ วิวรึ คุยฺหมตฺถํ, อตีตมตฺโถ กปณํ รุทามี’’ติ.

ตตฺถ สมฺมตตฺโตติ โส สมโณ มยฺหํ ‘‘สปฺปุริโส อย’’นฺติ สมฺมตภาโว อโหสิ. ภาวิตตฺโตติ สมฺภาวิตภาโว จ เม อโหสีติ.

ตโต สุปณฺโณ จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๖๘.

‘‘น จตฺถิ สตฺโต อมโร ปถพฺยา, ปฺาวิธา นตฺถิ น นินฺทิตพฺพา;

สจฺเจน ธมฺเมน ธิติยา ทเมน, อลพฺภมพฺยาหรตี นโร อิธ.

๒๖๙.

‘‘มาตา ปิตา ปรมา พนฺธวานํ, นาสฺส ตติโย อนุกมฺปกตฺถิ;

เตสมฺปิ คุยฺหํ ปรมํ น สํเส, มนฺตสฺส เภทํ ปริสงฺกมาโน.

๒๗๐.

‘‘มาตา ปิตา ภคินี ภาตโร จ, สหายา วา ยสฺส โหนฺติ สปกฺขา;

เตสมฺปิ คุยฺหํ ปรมํ น สํเส, มนฺตสฺส เภทํ ปริสงฺกมาโน.

๒๗๑.

‘‘ภริยา เจ ปุริสํ วชฺชา, โกมารี ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, าติสงฺฆปุรกฺขตา;

ตสฺสาปิ คุยฺหํ ปรมํ น สํเส, มนฺตสฺส เภทํ ปริสงฺกมาโน’’ติ.

ตตฺถ อมโรติ อมรณสภาโว สตฺโต นาม นตฺถิ. ปฺาวิธา นตฺถีติ -กาโร ปทสนฺธิกโร, ปฺาวิธา อตฺถีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – นาคราช, โลเก อมโรปิ นตฺถิ, ปฺาวิธาปิ อตฺถิ, สา อฺเสํ ปฺาโกฏฺาสสงฺขาตา ปฺาวิธา อตฺตโน ชีวิตเหตุ น นินฺทิตพฺพาติ. อถ วา ปฺาวิธาติ ปฺาสทิสา น นินฺทิตพฺพา นาม อฺา ธมฺมชาติ นตฺถิ, ตํ กสฺมา นินฺทสีติ. เยสํ ปน ‘‘ปฺาวิธานมฺปิ น นินฺทิตพฺพ’’นฺติปิ ปาโ, เตสํ อุชุกเมว. สจฺเจนาติอาทีสุ วจีสจฺเจน จ สุจริตธมฺเมน จ ปฺาสงฺขาตาย ธิติยา จ อินฺทฺริยทเมน จ อลพฺภํ ทุลฺลภํ อฏฺสมาปตฺติมคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตมฺปิ วิเสสํ อพฺยาหรติ อาวหติ ตํ นิปฺผาเทติ นโร อิธ, ตสฺมา นารหสิ อเจลํ นินฺทิตุํ, อตฺตานเมว ครห. อเจเลน หิ อตฺตโน ปฺวนฺตตาย อุปายกุสลตาย จ วฺเจตฺวา ตฺวํ รหสฺสํ คุยฺหํ มนฺตํ ปุจฺฉิโตติ อตฺโถ.

ปรมาติ เอเต อุโภ พนฺธวานํ อุตฺตมพนฺธวา นาม. นาสฺส ตติโยติ อสฺส ปุคฺคลสฺส มาตาปิตูหิ อฺโ ตติโย สตฺโต อนุกมฺปโก นาม นตฺถิ, มนฺตสฺส เภทํ ปริสงฺกมาโน ปณฺฑิโต เตสํ มาตาปิตูนมฺปิ ปรมํ คุยฺหํ น สํเสยฺย, ตฺวํ ปน มาตาปิตูนมฺปิ อกเถตพฺพํ อเจลกสฺส กเถสีติ อตฺโถ. สหายา วาติ สุหทยมิตฺตา วา. สปกฺขาติ เปตฺเตยฺยมาตุลปิตุจฺฉาทโย สมานปกฺขา าตโย. เตสมฺปีติ เอเตสมฺปิ าติมิตฺตานํ น กเถยฺย, ตฺวํ ปน อเจลกสฺส กเถสิ, อตฺตโนว กุชฺฌสฺสูติ ทีเปติ. ภริยา เจติ โกมารี ปิยภาณินี ปุตฺเตหิ จ รูเปน จ ยเสน จ อุเปตา เอวรูปา ภริยาปิ เจ ‘‘อาจิกฺขาหิ เม ตว คุยฺห’’นฺติ วเทยฺย, ตสฺสาปิ น สํเสยฺย.

ตโต ปรา –

๒๗๒.

‘‘น คุยฺหมตฺถํ วิวเรยฺย, รกฺเขยฺย นํ ยถา นิธึ;

น หิ ปาตุกโต สาธุ, คุยฺโห อตฺโถ ปชานตา.

๒๗๓.

‘‘ถิยา คุยฺหํ น สํเสยฺย, อมิตฺตสฺส จ ปณฺฑิโต;

โย จามิเสน สํหีโร, หทยตฺเถโน จ โย นโร.

๒๗๔.

‘‘คุยฺหมตฺถํ อสมฺพุทฺธํ, สมฺโพธยติ โย นโร;

มนฺตเภทภยา ตสฺส, ทาสภูโต ติติกฺขติ.

๒๗๕.

‘‘ยาวนฺโต ปุริสสฺสตฺถํ, คุยฺหํ ชานนฺติ มนฺตินํ;

ตาวนฺโต ตสฺส อุพฺเพคา, ตสฺมา คุยฺหํ น วิสฺสเช;

๒๗๖.

‘‘วิวิจฺจ ภาเสยฺย ทิวา รหสฺสํ, รตฺตึ คิรํ นาติเวลํ ปมุฺเจ;

อุปสฺสุติกา หิ สุณนฺติ มนฺตํ, ตสฺมา มนฺโต ขิปฺปมุเปติ เภท’’นฺติ. –

ปฺจ คาถา อุมงฺคชาตเก ปฺจปณฺฑิตปฺเห อาวิ ภวิสฺสนฺติ.

ตโต ปราสุ –

๒๗๗.

‘‘ยถาปิ อสฺส นครํ มหนฺตํ, อทฺวารกํ อายสํ ภทฺทสาลํ;

สมนฺตขาตาปริขาอุเปตํ, เอวมฺปิ เม เต อิธ คุยฺหมนฺตา.

๒๗๘.

‘‘เย คุยฺหมนฺตา อวิกิณฺณวาจา, ทฬฺหา สทตฺเถสุ นรา ทุชิวฺห;

อารา อมิตฺตา พฺยวชนฺติ เตหิ, อาสีวิสา วา ริว สตฺตุสงฺฆา’’ติ. –

ทฺวีสุ คาถาสุ ภทฺทสาลนฺติ อาปณาทีหิ สาลาหิ สมฺปนฺนํ. สมนฺตขาตาปริขาอุเปตนฺติ สมนฺตขาตาหิ ตีหิ ปริขาหิ อุปคตํ. เอวมฺปิ เมติ เอวมฺปิ มยฺหํ เต ปุริสา ขายนฺติ. กตเร? เย อิธ คุยฺหมนฺตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อทฺวารกสฺส อโยมยนครสฺส มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภโค อนฺโตว โหติ, น อพฺภนฺตริมา พหิ นิกฺขมนฺติ, น พาหิรา อนฺโต ปวิสนฺติ, อปราปรํ สฺจาโร ฉิชฺชติ, คุยฺหมนฺตา ปุริสา เอวรูปา โหนฺติ, อตฺตโน คุยฺหํ อตฺตโน อนฺโตเยว ชีราเปนฺติ, น อฺสฺส กเถนฺตีติ. ทฬฺหา สทตฺเถสูติ อตฺตโน อตฺเถสุ ถิรา. ทุชิวฺหาติ ปณฺฑรกนาคํ อาลปติ. พฺยวชนฺตีติ ปฏิกฺกมนฺติ. อาสีวิสา วา ริว สตฺตุสงฺฆาติ เอตฺถ วาติ นิปาตมตฺตํ, อาสีวิสา สตฺตุสงฺฆา ริวาติ อตฺโถ. ยถา อาสีวิสโต สตฺตุสงฺฆา ชีวิตุกามา มนุสฺสา อารา ปฏิกฺกมนฺติ, เอวํ เตหิ คุยฺหมนฺเตหิ นเรหิ อารา อมิตฺตา ปฏิกฺกมนฺติ, อุปคนฺตุํ โอกาสํ น ลภนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ สุปณฺเณน ธมฺเม กถิเต ปณฺฑรโก อาห –

๒๗๙.

‘‘หิตฺวา ฆรํ ปพฺพชิโต อเจโล, นคฺโค มุณฺโฑ จรติ ฆาสเหตุ;

ตมฺหิ นุ โข วิวรึ คุยฺหมตฺถํ, อตฺถา จ ธมฺมา จ อปคฺคตามฺหา.

๒๘๐.

‘‘กถํกโร โหติ สุปณฺณราช, กึสีโล เกน วเตน วตฺตํ;

สมโณ จรํ หิตฺวา มมายิตานิ, กถํกโร สคฺคมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ ฆาสเหตูติ นิสฺสิริโก กุจฺฉิปูรณตฺถาย ขาทนียโภชนีเย ปริเยสนฺโต จรติ. อปคฺคตามฺหาติ อปคตา ปริหีนามฺหา. กถํกโรติ อิทํ นาคราชา ตสฺส นคฺคสฺส สมณภาวํ ตฺวา สมณปฏิปตฺตึ ปุจฺฉนฺโต อาห. ตตฺถ กึสีโลติ กตเรน อาจาเรน สมนฺนาคโต. เกน วเตนาติ กตเรน วตสมาทาเนน วตฺตนฺโต. สมโณ จรนฺติ ปพฺพชฺชาย จรนฺโต ตณฺหามมายิตานิ หิตฺวา กถํ สมิตปาปสมโณ นาม โหติ. สคฺคนฺติ กถํ กโรนฺโต จ สุฏฺุ อคฺคํ เทวนครํ โส สมโณ อุเปตีติ.

สุปณฺโณ อาห –

๒๘๑.

‘‘หิริยา ติติกฺขาย ทเมนุเปโต, อกฺโกธโน เปสุณิยํ ปหาย;

สมโณ จรํ หิตฺวา มมายิตานิ, เอวํกโร สคฺคมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ หิริยาติ, สมฺม นาคราช, อชฺฌตฺตพหิทฺธาสมุฏฺาเนหิ หิโรตฺตปฺเปหิ ติติกฺขาสงฺขาตาย อธิวาสนขนฺติยา อินฺทฺริยทเมน จ อุเปโต อกุชฺฌนสีโล ปิสุณวาจํ ปหาย ตณฺหามมายิตานิ จ หิตฺวา ปพฺพชฺชาย จรนฺโต สมโณ นาม โหติ, เอวํกโรเยว จ เอตานิ หิรีอาทีนิ กุสลานิ กโรนฺโต สคฺคมุเปติ านนฺติ.

อิทํ สุปณฺณราชสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปณฺฑรโก ชีวิตํ ยาจนฺโต คาถมาห –

๒๘๒.

‘‘มาตาว ปุตฺตํ ตรุณํ ตนุชฺชํ, สมฺผสฺสตา สพฺพคตฺตํ ผเรติ;

เอวมฺปิ เม ตฺวํ ปาตุรหุ ทิชินฺท, มาตาว ปุตฺตํ อนุกมฺปมาโน’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยถา มาตา ตนุชํ อตฺตโน สรีรชาตํ ตรุณํ ปุตฺตํ สมฺผสฺสตํ ทิสฺวา ตํ อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ถฺํ ปาเยนฺตี ปุตฺตสมฺผสฺเสน สพฺพํ อตฺตโน คตฺตํ ผเรติ, นปิ มาตา ปุตฺตโต ภายติ นปิ ปุตฺโต มาติโต, เอวมฺปิ เม ตฺวํ ปาตุรหุ ปาตุภูโต ทิชินฺท ทิชราช, ตสฺมา มาตาว ปุตฺตํ มุทุเกน หทเยน อนุกมฺปมาโน มํ ปสฺส, ชีวิตํ เม เทหีติ.

อถสฺส สุปณฺโณ ชีวิตํ เทนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๒๘๓.

‘‘หนฺทชฺช ตฺวํ มุฺจ วธา ทุชิวฺห, ตโย หิ ปุตฺตา น หิ อฺโ อตฺถิ;

อนฺเตวาสี ทินฺนโก อตฺรโช จ, รชฺชสฺสุ ปุตฺตฺตโร เม อโหสี’’ติ.

ตตฺถ มุฺจาติ มุจฺจ, อยเมว วา ปาโ. ทุชิวฺหาติ ตํ อาลปติ. อฺโติ อฺโ จตุตฺโถ ปุตฺโต นาม นตฺถิ. อนฺเตวาสีติ สิปฺปํ วา อุคฺคณฺหมาโน ปฺหํ วา สุณนฺโต สนฺติเก นิวุตฺโถ. ทินฺนโกติ ‘‘อยํ เต ปุตฺโต โหตู’’ติ ปเรหิ ทินฺโน. รชฺชสฺสูติ อภิรมสฺสุ. อฺตโรติ ตีสุ ปุตฺเตสุ อฺตโร อนฺเตวาสี ปุตฺโต เม ตฺวํ ชาโตติ ทีเปติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา อากาสา โอตริตฺวา ตํ ภูมิยํ ปติฏฺาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๘๔.

‘‘อิจฺเจว วากฺยํ วิสชฺชี สุปณฺโณ, ภุมฺยํ ปติฏฺาย ทิโช ทุชิวฺหํ;

มุตฺตชฺช ตฺวํ สพฺพภยาติวตฺโต, ถลูทเก โหหิ มยาภิคุตฺโต.

๒๘๕.

‘‘อาตงฺกินํ ยถา กุสโล ภิสกฺโก, ปิปาสิตานํ รหโทว สีโต;

เวสฺมํ ยถา หิมสีตฏฺฏิตานํ, เอวมฺปิ เต สรณมหํ ภวามี’’ติ.

ตตฺถ อิจฺเจว วากฺยนฺติ อิติ เอวํ วจนํ วตฺวา ตํ นาคราชํ วิสฺสชฺชิ. ภุมฺยนฺติ โส สยมฺปิ ภูมิยํ ปติฏฺาย ทิโช ตํ ทุชิวฺหํ สมสฺสาเสนฺโต มุตฺโต อชฺช ตฺวํ อิโต ปฏฺาย สพฺพภยานิ อติวตฺโต ถเล จ อุทเก จ มยา อภิคุตฺโต รกฺขิโต โหหีติ อาห. อาตงฺกินนฺติ คิลานานํ. เอวมฺปิ เตติ เอวํ อหํ ตว สรณํ ภวามิ.

คจฺฉ ตฺวนฺติ อุยฺโยเชสิ. โส นาคราชา นาคภวนํ ปาวิสิ. อิตโรปิ สุปณฺณภวนํ คนฺตฺวา ‘‘มยา ปณฺฑรกนาโค สปถํ กตฺวา สทฺทหาเปตฺวา วิสฺสชฺชิโต, กีทิสํ นุ โข มยิ ตสฺส หทยํ, วีมํสิสฺสามิ น’’นฺติ นาคภวนํ คนฺตฺวา สุปณฺณวาตํ อกาสิ. ตํ ทิสฺวา นาโค ‘‘สุปณฺณราชา มํ คเหตุํ อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน พฺยามสหสฺสมตฺตํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา ปาสาเณ จ วาลุกฺจ คิลิตฺวา ภาริโย หุตฺวา นงฺคุฏฺํ เหฏฺากตฺวา โภคมตฺถเก ผณํ ธารยมาโน นิปชฺชิตฺวา สุปณฺณราชานํ ฑํสิตุกาโม วิย อโหสิ. ตํ ทิสฺวา สุปณฺโณ อิตรํ คาถมาห –

๒๘๖.

‘‘สนฺธึ กตฺวา อมิตฺเตน, อณฺฑเชน ชลาพุช;

วิวริย ทาํ เสสิ, กุโต ตํ ภยมาคต’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา นาคราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๘๗.

‘‘สงฺเกเถว อมิตฺตสฺมึ, มิตฺตสฺมิมฺปิ น วิสฺสเส;

อภยา ภยมุปฺปนฺนํ, อปิ มูลานิ กนฺตติ.

๒๘๘.

‘‘กถํ นุ วิสฺสเส ตฺยมฺหิ, เยนาสิ กลโห กโต;

นิจฺจยตฺเตน าตพฺพํ, โส ทิสพฺภิ น รชฺชติ.

๒๘๙.

‘‘วิสฺสาสเย น จ ตํ วิสฺสเยยฺย, อสงฺกิโต สงฺกิโต จ ภเวยฺย;

ตถา ตถา วิฺู ปรกฺกเมยฺย, ยถา ยถา ภาวํ ปโร น ชฺา’’ติ.

ตตฺถ อภยาติ อภยฏฺานภูตา มิตฺตมฺหา ภยํ อุปฺปนฺนํ ชีวิตสงฺขาตานิ มูลาเนว กนฺตติ. ตฺยมฺหีติ ตสฺมึ. เยนาสีติ เยน สทฺธึ กลโห กโต อโหสิ. นิจฺจยตฺเตนาติ นิจฺจปฏิยตฺเตน. โส ทิสพฺภิ น รชฺชตีติ โย นิจฺจยตฺเตน อภิติฏฺติ, โส อตฺตโน สตฺตูหิ สทฺธึ วิสฺสาสวเสน น รชฺชติ, ตโต เตสํ ยถากามกรณีโย น โหตีติ อตฺโถ. วิสฺสาสเยติ ปรํ อตฺตนิ วิสฺสาสเย, ตํ ปน สยํ น วิสฺสเสยฺย. ปเรน อสงฺกิโต อตฺตนา จ โส สงฺกิโต ภเวยฺย. ภาวํ ปโรติ ยถา ยถา ปณฺฑิโต ปรกฺกมติ, ตถา ตถา ตสฺส ปโร ภาวํ น ชานาติ, ตสฺมา ปณฺฑิเตน วีริยํ กาตพฺพเมวาติ ทีเปติ.

อิติ เต อฺมฺํ สลฺลปิตฺวา สมคฺคา สมฺโมทมานา อุโภปิ อเจลกสฺส อสฺสมํ อคมึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๙๐.

‘‘เต เทววณฺณา สุขุมาลรูปา, อุโภ สมา สุชยา ปุฺขนฺธา;

อุปาคมุํ กรมฺปิยํ อเจลํ, มิสฺสีภูตา อสฺสวาหาว นาคา’’ติ.

ตตฺถ สมาติ สมานรูปา สทิสสณฺานา หุตฺวา. สุชยาติ สุวยา ปริสุทฺธา, อยเมว วา ปาโ. ปุฺขนฺธาติ กตกุสลตาย ปุฺกฺขนฺธา วิย. มิสฺสีภูตาติ หตฺเถน หตฺถํ คเหตฺวา กายมิสฺสีภาวํ อุปคตา. อสฺสวาหาว นาคาติ ธุเร ยุตฺตกา รถวาหา ทฺเว อสฺสา วิย ปุริสนาคา ตสฺส อสฺสมํ อคมึสุ.

คนฺตฺวา จ ปน สุปณฺณราชา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ นาคราชา อเจลกสฺส ชีวิตํ น ทสฺสติ, เอตํ ทุสฺสีลํ น วนฺทิสฺสามี’’ติ. โส พหิ ตฺวา นาคราชานเมว ตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. ตํ สนฺธาย สตฺถา อิตรํ คาถมาห.

๒๙๑.

‘‘ตโต หเว ปณฺฑรโก อเจลํ, สยเมวุปาคมฺม อิทํ อโวจ;

มุตฺตชฺชหํ สพฺพภยาติวตฺโต, น หิ นูน ตุยฺหํ มนโส ปิยมฺหา’’ติ.

ตตฺถ ปิยมฺหาติ ทุสฺสีลนคฺคโภคฺคมุสาวาทิ นูน มยํ ตว มนโส น ปิยา อหุมฺหาติ ปริภาสิ.

ตโต อเจโล อิตรํ คาถมาห –

๒๙๒.

‘‘ปิโย หิ เม อาสิ สุปณฺณราชา, อสํสยํ ปณฺฑรเกน สจฺจํ;

โส ราครตฺโตว อกาสิเมตํ, ปาปกมฺมํ สมฺปชาโน น โมหา’’ติ.

ตตฺถ ปณฺฑรเกนาติ ตยา ปณฺฑรเกน โส มม ปิยตโร อโหสิ, สจฺจเมตํ. โสติ โส อหํ ตสฺมึ สุปณฺเณ ราเคน รตฺโต หุตฺวา เอตํ ปาปกมฺมํ ชานนฺโตว อกาสึ, น โมเหน อชานนฺโตติ.

ตํ สุตฺวา นาคราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๙๓.

‘‘น เม ปิยํ อปฺปิยํ วาปิ โหติ, สมฺปสฺสโต โลกมิมํ ปรฺจ;

สุสฺตานฺหิ วิยฺชเนน, อสฺโต โลกมิมํ จราสิ.

๒๙๔.

‘‘อริยาวกาโสสิ อนริโยวาสิ, อสฺโต สฺตสนฺนิกาโส;

กณฺหาภิชาติโกสิ อนริยรูโป, ปาปํ พหุํ ทุจฺจริตํ อจารี’’ติ.

ตตฺถ น เมติ อมฺโภ ทุสฺสีลนคฺคมุสาวาทิ ปพฺพชิตสฺส หิ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ สมฺปสฺสโต ปิยํ วา เม อปฺปิยํ วาปิ เมติ น โหติ, ตฺวํ ปน สุสฺตานํ สีลวนฺตานํ พฺยฺชเนน ปพฺพชิตลิงฺเคน อสฺโต หุตฺวา อิมํ โลกํ วฺเจนฺโต จรสิ. อริยาวกาโสสีติ อริยปฏิรูปโกสิ. อสฺโตติ กายาทีหิ อสฺโตสิ. กณฺหาภิชาติโกติ กาฬกสภาโว. อนริยรูโปติ อหิริกสภาโว. อจารีติ อกาสิ.

อิติ ตํ ครหิตฺวา อิทานิ อภิสปนฺโต อิมํ คาถมาห –

๒๙๕.

‘‘อทุฏฺสฺส ตุวํ ทุพฺภิ, ทุพฺภี จ ปิสุโณ จสิ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, มุทฺธา เต ผลตุ สตฺตธา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อมฺโภ ทุพฺภิ ตฺวํ อทุฏฺสฺส มิตฺตสฺส ทุพฺภี จาสิ, ปิสุโณ จาสิ, เอเตน สจฺจวชฺเชน มุทฺธา เต สตฺตธา ผลตูติ.

อิติ นาคราชสฺส สปนฺตสฺเสว อเจลกสฺส สีสํ สตฺตธา ผลิ. นิสินฺนฏฺาเนเยวสฺส ภูมิ วิวรํ อทาสิ. โส ปถวึ ปวิสิตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติ, นาคราชสุปณฺณราชาโนปิ อตฺตโน ภวนเมว อคมึสุ. สตฺถา ตสฺส ปถวึ ปวิฏฺภาวํ ปกาเสนฺโต โอสานคาถมาห –

๒๙๖.

‘‘ตสฺมา หิ มิตฺตานํ น ทุพฺภิตพฺพํ, มิตฺตทุพฺภา ปาปิโย นตฺถิ อฺโ;

อาสิตฺตสตฺโต นิหโต ปถพฺยา, อินฺทสฺส วากฺเยน หิ สํวโร หโต’’ติ.

ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา มิตฺตทุพฺภิกมฺมสฺส ผรุโส วิปาโก, ตสฺมา. อาสิตฺตสตฺโตติ อาสิตฺตวิเสน สตฺโต. อินฺทสฺสาติ นาคินฺทสฺส วากฺเยน. สํวโรติ ‘‘อหํ สํวเร ิโตสฺมี’’ติ ปฏิฺาย เอวํ ปฺาโต อาชีวโก หโตติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มุสาวาทํ กตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อเจลโก เทวทตฺโต อโหสิ, นาคราชา สาริปุตฺโต, สุปณฺณราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ปณฺฑรนาคราชชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๕๑๙] ๙. สมฺพุลาชาตกวณฺณนา

กา เวธมานาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มลฺลิกํ เทวึ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ กุมฺมาสปิณฺฑิชาตเก (ชา. ๑.๗.๑๔๒ อาทโย) วิตฺถาริตเมว. สา ปน ตถาคตสฺส ติณฺณํ กุมฺมาสปิณฺฑิกานํ ทานานุภาเวน ตํ ทิวสฺเว รฺโ อคฺคมเหสิภาวํ ปตฺวา ปุพฺพุฏฺายิตาทีหิ ปฺจหิ กลฺยาณธมฺเมหิ สมนฺนาคตา าณสมฺปนฺนา พุทฺธุปฏฺายิกา ปติเทวตา อโหสิ. ตสฺสา ปติเทวตาภาโว สกลนคเร ปากโฏ อโหสิ. อเถกทิวสํ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, มลฺลิกา เทวี กิร วตฺตสมฺปนฺนา าณสมฺปนฺนา ปติเทวตา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปสา วตฺตสมฺปนฺนา ปติเทวตาเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺตสฺส รฺโ โสตฺถิเสโน นาม ปุตฺโต อโหสิ. ตํ ราชา วยปฺปตฺตํ อุปรชฺเช ปติฏฺเปสิ, สมฺพุลา นามสฺส อคฺคมเหสี อโหสิ อุตฺตมรูปธรา สรีรปฺปภาสมฺปนฺนา, นิวาเต ชลมานา ทีปสิขา วิย ขายติ. อปรภาเค โสตฺถิเสนสฺส สรีเร กุฏฺํ อุปฺปชฺชติ, เวชฺชา ติกิจฺฉิตุํ นาสกฺขึสุ. โส ภิชฺชมาเน กุฏฺเ ปฏิกูโล หุตฺวา วิปฺปฏิสารํ ปตฺวา ‘‘โก เม รชฺเชน อตฺโถ, อรฺเ อนาถมรณํ มริสฺสามี’’ติ รฺโ อาโรจาเปตฺวา อิตฺถาคารํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมิ. สมฺพุลา พหูหิ อุปาเยหิ นิวตฺติยมานาปิ อนิวตฺติตฺวาว ‘‘อหํ ตํ สามิกํ อรฺเ ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ วตฺวา สทฺธิฺเว นิกฺขมิ. โส อรฺํ ปวิสิตฺวา สุลภมูลผลาผเล ฉายูทกสมฺปนฺเน ปเทเส ปณฺณสาลํ กตฺวา วาสํ กปฺเปสิ. ราชธีตา ตํ ปฏิชคฺคิ. กถํ? สา หิ ปาโต วุฏฺาย อสฺสมปทํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา ทนฺตกฏฺฺจ มุขโธวนฺจ อุปนาเมตฺวา มุเข โธเต นานาโอสธานิ ปิสิตฺวา ตสฺส วเณ มกฺเขตฺวา มธุรมธุรานิ ผลาผลานิ ขาทาเปตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา หตฺเถสุ โธเตสุ ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ เทวา’’ติ วตฺวา วนฺทิตฺวา ปจฺฉิขณิตฺติองฺกุสเก อาทาย ผลาผลตฺถาย อรฺํ ปวิสิตฺวา ผลาผลานิ อาหริตฺวา เอกมนฺเต เปตฺวา ฆเฏน อุทกํ อาหริตฺวา นานาจุณฺเณหิ จ มตฺติกาหิ จ โสตฺถิเสนํ นฺหาเปตฺวา ปุน มธุรผลาผลานิ อุปนาเมติ. ปริโภคาวสาเน วาสิตปานียํ อุปเนตฺวา สยํ ผลาผลานิ ปริภุฺชิตฺวา ปทรสนฺถรํ สํวิทหิตฺวา ตสฺมึ ตตฺถ นิปนฺเน ตสฺส ปาเท โธวิตฺวา สีสปริกมฺมปิฏฺิปริกมฺมปาทปริกมฺมานิ กตฺวา สยนปสฺสํ อุปคนฺตฺวา นิปชฺชติ. เอเตนุปาเยน สามิกํ ปฏิชคฺคิ.

สา เอกทิวสํ อรฺเ ผลาผลํ อาหรนฺตี เอกํ คิริกนฺทรํ ทิสฺวา สีสโต ปจฺฉึ โอตาเรตฺวา กนฺทรตีเร เปตฺวา ‘‘นฺหายิสฺสามี’’ติ โอตริตฺวา หลิทฺทาย สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหตฺวา สุโธตสรีรา อุตฺตริตฺวา วากจีรํ นิวาเสตฺวา กนฺทรตีเร อฏฺาสิ. อถสฺสา สรีรปฺปภาย วนํ เอโกภาสํ อโหสิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก ทานโว โคจรตฺถาย จรนฺโต ตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา คาถาทฺวยํ อาห –

๒๙๗.

‘‘กา เวธมานา คิริกนฺทรายํ, เอกา ตุวํ ติฏฺสิ สํหิตูรุ;

ปุฏฺาสิ เม ปาณิปเมยฺยมชฺเฌ, อกฺขาหิ เม นามฺจ พนฺธเว จ.

๒๙๘.

‘‘โอภาสยํ วนํ รมฺมํ, สีหพฺยคฺฆนิเสวิตํ;

กา วา ตฺวมสิ กลฺยาณิ, กสฺส วา ตฺวํ สุมชฺฌิเม;

อภิวาเทมิ ตํ ภทฺเท, ทานวาหํ นมตฺถุ เต’’ติ.

ตตฺถ กา เวธมานาติ นฺหานมตฺตตาย สีตภาเวน กมฺปมานา. สํหิตูรูติ สมฺปิณฺฑิตูรุ อุตฺตมอูรุลกฺขเณ. ปาณิปเมยฺยมชฺเฌติ หตฺเถน มินิตพฺพมชฺเฌ. กา วา ตฺวนฺติ กา นาม วา ตฺวํ ภวสิ. อภิวาเทมีติ วนฺทามิ. ทานวาหนฺติ อหํ เอโก ทานโว, อยํ นมกฺกาโร ตว อตฺถุ, อฺชลึ เต ปคฺคณฺหามีติ อวจ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๙๙.

‘‘โย ปุตฺโต กาสิราชสฺส, โสตฺถิเสโนติ ตํ วิทู;

ตสฺสาหํ สมฺพุลา ภริยา, เอวํ ชานาหิ ทานว;

อภิวาเทมิ ตํ ภนฺเต, สมฺพุลาหํ นมตฺถุ เต.

๓๐๐.

‘‘เวเทหปุตฺโต ภทฺทนฺเต, วเน วสติ อาตุโร;

ตมหํ โรคสมฺมตฺตํ, เอกา เอกํ อุปฏฺหํ.

๓๐๑.

‘‘อหฺจ วนมุฺฉาย, มธุมํสํ มิคาพิลํ;

ยทาหรามิ ตํ ภกฺโข, ตสฺส นูนชฺช นาธตี’’ติ.

ตตฺถ เวเทหปุตฺโตติ เวเทหราชธีตาย ปุตฺโต. โรคสมฺมตฺตนฺติ โรคปีฬิตํ. อุปฏฺหนฺติ อุปฏฺหามิ ปฏิชคฺคามิ. ‘‘อุปฏฺิตา’’ติปิ ปาโ. วนมุฺฉายาติ วนํ อุฺเฉตฺวา อุฺฉาจริยํ จริตฺวา. มธุมํสนฺติ นิมฺมกฺขิกํ มธุฺจ มิคาพิลมํสฺจ สีหพฺยคฺฆมิเคหิ ขาทิตมํสโต อติริตฺตโกฏฺาสํ. ตํ ภกฺโขติ ยํ อหํ อาหรามิ, ตํ ภกฺโขว โส มม สามิโก. ตสฺส นูนชฺชาติ ตสฺส มฺเ อชฺช อาหารํ อลภมานสฺส สรีรํ อาตเป ปกฺขิตฺตปทุมํ วิย นาธติ อุปตปฺปติ มิลายติ.

ตโต ปรํ ทานวสฺส จ ตสฺสา จ วจนปฏิวจนคาถาโย โหนฺติ –

๓๐๒.

‘‘กึ วเน ราชปุตฺเตน, อาตุเรน กริสฺสสิ;

สมฺพุเล ปริจิณฺเณน, อหํ ภตฺตา ภวามิ เต.

๓๐๓.

‘‘โสกฏฺฏาย ทุรตฺตาย, กึ รูปํ วิชฺชเต มม;

อฺํ ปริเยส ภทฺทนฺเต, อภิรูปตรํ มยา.

๓๐๔.

‘‘เอหิมํ คิริมารุยฺห, ภริยา เม จตุสฺสตา;

ตาสํ ตฺวํ ปวรา โหหิ, สพฺพกามสมิทฺธินี.

๓๐๕.

‘‘นูน ตารกวณฺณาเภ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;

สพฺพํ ตํ ปจุรํ มยฺหํ, รมสฺสฺวชฺช มยา สห.

๓๐๖.

‘‘โน เจ ตุวํ มเหเสยฺยํ, สมฺพุเล การยิสฺสสิ;

อลํ ตฺวํ ปาตราสาย, ปณฺเห ภกฺขา ภวิสฺสสิ.

๓๐๗.

‘‘ตฺจ สตฺตชโฏ ลุทฺโท, กฬาโร ปุริสาทโก;

วเน นาถํ อปสฺสนฺตึ, สมฺพุลํ อคฺคหี ภุเช.

๓๐๘.

‘‘อธิปนฺนา ปิสาเจน, ลุทฺเทนามิสจกฺขุนา;

สา จ สตฺตุวสํ ปตฺตา, ปติเมวานุโสจติ.

๓๐๙.

‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ยํ มํ ขาเทยฺย รกฺขโส;

ยฺจ เม อยฺยปุตฺตสฺส, มโน เหสฺสติ อฺถา.

๓๑๐.

‘‘น สนฺติ เทวา ปวสนฺติ นูน, น หิ นูน สนฺติ อิธ โลกปาลา;

สหสา กโรนฺตานมสฺตานํ, น หิ นูน สนฺติ ปฏิเสธิตาโร’’ติ.

ตตฺถ ปริจิณฺเณนาติ เตน อาตุเรน ปริจิณฺเณน กึ กริสฺสสิ. โสกฏฺฏายาติ โสกาตุราย. ‘‘โสกฏฺายา’’ติปิ ปาโ, โสเก ิตายาติ อตฺโถ. ทุรตฺตายาติ ทุคฺคตกปณภาวปฺปตฺตาย อตฺตภาวาย. เอหิมนฺติ มา ตฺวํ ทุรตฺตามฺหีติ จินฺตยิ, เอตํ มม คิริมฺหิ ทิพฺพวิมานํ, เอหิ อิมํ คิรึ อารุห. จตุสฺสตาติ ตสฺมึ เม วิมาเน อปราปิ จตุสฺสตา ภริยาโย อตฺถิ. สพฺพํ ตนฺติ ยํ กิฺจิ อุปโภคปริโภควตฺถาภรณาทิกํ อิจฺฉสิ, สพฺพํ ตํ นูน มยฺหํ ปจุรํ พหุํ สุลภํ, ตสฺมา มา กปณามฺหีติ จินฺตยิ, เอหิ มยา สห รมสฺสูติ วทติ.

มเหเสยฺยนฺติ, ‘‘ภทฺเท, สมฺพุเล โน เจ เม ตฺวํ มเหสิภาวํ กาเรสฺสสิ, ปริยตฺตา ตฺวํ มม ปาตราสาย, เตน ตํ พลกฺกาเรน วิมานํ เนสฺสามิ, ตตฺร มํ อสงฺคณฺหนฺตี มม สฺเว ปาโตว ภกฺขา ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ วตฺวา โส สตฺตหิ ชฏาหิ สมนฺนาคโต ลุทฺทโก ทารุโณ นิกฺขนฺตทนฺโต ตํ ตสฺมึ วเน กิฺจิ อตฺตโน นาถํ อปสฺสนฺตึ สมฺพุลํ ภุเช อคฺคเหสิ. อธิปนฺนาติ อชฺโฌตฺถฏา. อามิสจกฺขุนาติ กิเลสโลเลน. ปติเมวาติ อตฺตโน อจินฺเตตฺวา ปติเมว อนุโสจติ. มโน เหสฺสตีติ มํ จิรายนฺตึ วิทิตฺวา อฺถา จิตฺตํ ภวิสฺสติ. น สนฺติ เทวาติ อิทํ สา ทานเวน ภุเช คหิตา เทวตุชฺฌาปนํ กโรนฺตี อาห. โลกปาลาติ เอวรูปานํ สีลวนฺตีนํ ปติเทวตานํ ปาลกา โลกปาลา นูน อิธ โลเก น สนฺตีติ ปริเทวติ.

อถสฺสา สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ, ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา วชิรํ อาทาย เวเคน คนฺตฺวา ทานวสฺส มตฺถเก ตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๓๑๑.

‘‘อิตฺถีนเมสา ปวรา ยสสฺสินี, สนฺตา สมา อคฺคิริวุคฺคเตชา;

ตฺเจ ตุวํ รกฺขสาเทสิ กฺํ, มุทฺธา จ หิ สตฺตธา เต ผเลยฺย;

มา ตฺวํ ทหี มุฺจ ปติพฺพตายา’’ติ.

ตตฺถ สนฺตาติ อุปสนฺตา, อถ วา ปณฺฑิตา าณสมฺปนฺนา. สมาติ กายวิสมาทิวิรหิตา. อเทสีติ ขาทสิ. ผเลยฺยาติ อิมินา เม อินฺทวชิเรน ปหริตฺวา มุทฺธา ภิชฺเชถ. มา ตฺวํ ทหีติ ตฺวํ อิมํ ปติพฺพตํ มา ตาเปยฺยาสีติ.

ตํ สุตฺวา ทานโว สมฺพุลํ วิสฺสชฺเชสิ. สกฺโก ‘‘ปุนปิ เอส เอวรูปํ กเรยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา ทานวํ เทวสงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา ปุน อนาคมนาย ตติเย ปพฺพตนฺตเร วิสฺสชฺเชสิ, ราชธีตรํ อปฺปมาเทน โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ราชธีตาปิ อตฺถงฺคเต สูริเย จนฺทาโลเกน อสฺสมํ ปาปุณิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อฏฺ คาถา อภาสิ –

๓๑๒.

‘‘สา จ อสฺสมมาคจฺฉิ, ปมุตฺตา ปุริสาทกา;

นีฬํ ปฬินํ สกุณีว, คตสิงฺคํว อาลยํ.

๓๑๓.

‘‘สา ตตฺถ ปริเทเวสิ, ราชปุตฺตี ยสสฺสินี;

สมฺพุลา อุตุมตฺตกฺขา, วเน นาถํ อปสฺสนฺตี.

๓๑๔.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วนฺเท, สมฺปนฺนจรเณ อิเส;

ราชปุตฺตํ อปสฺสนฺตี, ตุมฺหํมฺหิ สรณํ คตา.

๓๑๕.

‘‘วนฺเท สีเห จ พฺยคฺเฆ จ, เย จ อฺเ วเน มิคา;

ราชปุตฺตํ อปสฺสนฺตี, ตุมฺหํมฺหิ สรณํ คตา.

๓๑๖.

‘‘ติณา ลตานิ โอสโฌ, ปพฺพตานิ วนานิ จ;

ราชปุตฺตํ อปสฺสนฺตี, ตุมฺหํมฺหิ สรณํ คตา.

๓๑๗.

‘‘วนฺเท อินฺทีวรีสามํ, รตฺตึ นกฺขตฺตมาลินึ;

ราชปุตฺตํ อปสฺสนฺตี, ตุมฺหํมฺหิ สรณํ คตา.

๓๑๘.

‘‘วนฺเท ภาคีรถึ คงฺคํ, สวนฺตีนํ ปฏิคฺคหํ;

ราชปุตฺตํ อปสฺสนฺตี, ตุมฺหํมฺหิ สรณํ คตา.

๓๑๙.

‘‘วนฺเท อหํ ปพฺพตราชเสฏฺํ, หิมวนฺตํ สิลุจฺจยํ;

ราชปุตฺตํ อปสฺสนฺตี, ตุมฺหํมฺหิ สรณํ คตา’’ติ.

ตตฺถ นีฬํ ปฬินํ สกุณีวาติ ยถา สกุณิกา มุขตุณฺฑเกน โคจรํ คเหตฺวา เกนจิ อุปทฺทเวน สกุณโปตกานํ ปฬินตฺตา ปฬินํ สกุณินีฬํ อาคจฺเฉยฺย, ยถา วา คตสิงฺคํ นิกฺขนฺตวจฺฉกํ อาลยํ สุฺํ วจฺฉกสาลํ วจฺฉคิทฺธินี เธนุ อาคจฺเฉยฺย, เอวํ สุฺํ อสฺสมํ อาคจฺฉีติ อตฺโถ. ตทา หิ โสตฺถิเสโน สมฺพุลาย จิรมานาย ‘‘อิตฺถิโย นาม โลลา, ปจฺจามิตฺตมฺปิ เม คเหตฺวา อาคจฺเฉยฺยา’’ติ ปริสงฺกนฺโต ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา คจฺฉนฺตรํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ. เตเนตํ วุตฺตํ. อุตุมตฺตกฺขาติ โสกเวคสฺชาเตน อุณฺเหน อุตุนา มนฺทโลจนา. อปสฺสนฺตีติ ตสฺมึ วเน นาถํ อตฺตโน ปตึ อปสฺสนฺตี อิโต จิโต จ สนฺธาวมานา ปริเทเวสิ.

ตตฺถ สมเณ พฺราหฺมเณติ สมิตปาปพาหิตปาเป สมเณ พฺราหฺมเณ. สมฺปนฺนจรเณติ สห สีเลน อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ วเสน จ สมฺปนฺนจรเณ อิเส วนฺเทติ เอวํ วตฺวา ราชปุตฺตํ อปสฺสนฺตี ตุมฺหากํ สรณํ คตา อมฺหิ. สเจ เม สามิกสฺส นิสินฺนฏฺานํ ชานาถ, อาจิกฺขถาติ ปริเทเวสีติ อตฺโถ. เสสคาถาสุปิ เอเสว นโย. ติณา ลตานิ โอสโฌติ อนฺโตเผคฺคุพหิสารติณานิ จ ลตานิ จ อนฺโตสารโอสธิโย จ. อิมํ คาถํ ติณาทีสุ นิพฺพตฺตเทวตา สนฺธายาห. อินฺทีวรีสามนฺติ อินฺทีวรีปุปฺผสมานวณฺณํ. นกฺขตฺตมาลินินฺติ นกฺขตฺตปฏิปาฏิสมนฺนาคตํ. ตุมฺหํมฺหีติ รตฺตึ สนฺธาย ตมฺปิ อมฺหีติ อาห. ภาคีรถึ คงฺคนฺติ เอวํปริยายนามิกํ คงฺคํ. สวนฺตีนนฺติ อฺาสํ พหูนํ นทีนํ ปฏิคฺคาหิกํ. คงฺคาย นิพฺพตฺตเทวตํ สนฺธาเยวมาห. หิมวนฺเตปิ เอเสว นโย.

ตํ เอวํ ปริเทวมานํ ทิสฺวา โสตฺถิเสโน จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อติวิย ปริเทวติ, น โข ปนสฺสา ภาวํ ชานามิ, สเจ มยิ สิเนเหน เอวํ กโรติ, หทยมฺปิสฺสา ผเลยฺย, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ คนฺตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ. สาปิ ปริเทวมานาว ปณฺณสาลทฺวารํ คนฺตฺวา ตสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา ‘‘กุหึ คโตสิ, เทวา’’ติ อาห. อถ นํ โส, ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ อฺเสุ ทิวเสสุ น อิมาย เวลาย อาคจฺฉสิ, อชฺช อติสายํ อาคตาสี’’ติ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๓๒๐.

‘‘อติสายํ วตาคฺฉิ, ราชปุตฺติ ยสสฺสินิ;

เกน นุชฺช สมาคจฺฉิ, โก เต ปิยตโร มยา’’ติ.

อถ นํ สา ‘‘อหํ, อยฺยปุตฺต, ผลาผลานิ อาทาย อาคจฺฉนฺตี เอกํ ทานวํ ปสฺสึ, โส มยิ ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา มํ หตฺเถ คณฺหิตฺวา ‘สเจ มม วจนํ น กโรสิ, ขาทิสฺสามิ ต’นฺติ อาห, อหํ ตาย เวลาย ตฺเว อนุโสจนฺตี เอวํ ปริเทวิ’’นฺติ วตฺวา คาถมาห –

๓๒๑.

‘‘อิทํ โขหํ ตทาโวจํ, คหิตา เตน สตฺตุนา;

น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ยํ มํ ขาเทยฺย รกฺขโส;

ยฺจ เม อยฺยปุตฺตสฺส, มโน เหสฺสติ อฺถา’’ติ.

อถสฺส เสสมฺปิ ปวตฺตึ อาโรเจนฺตี ‘‘เตน ปนาหํ, เทว, ทานเวน คหิตา อตฺตานํ วิสฺสชฺชาเปตุํ อสกฺโกนฺตี เทวตุชฺฌาปนกมฺมํ อกาสึ, อถ สกฺโก วชิรหตฺโถ อาคนฺตฺวา อากาเส ิโต ทานวํ สนฺตชฺเชตฺวา มํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา ตํ เทวสงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา ตติเย ปพฺพตนฺตเร ขิปิตฺวา ปกฺกามิ, เอวาหํ สกฺกํ นิสฺสาย ชีวิตํ ลภิ’’นฺติ อาห. ตํ สุตฺวา โสตฺถิเสโน, ‘‘ภทฺเท, โหตุ, มาตุคามสฺส อนฺตเร สจฺจํ นาม ทุลฺลภํ, หิมวนฺเต หิ พหู วนจรกตาปสวิชฺชาธราทโย สนฺติ, โก ตุยฺหํ สทฺทหิสฺสตี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๒๒.

‘‘โจรีนํ พหุพุทฺธีนํ, ยาสุ สจฺจํ สุทุลฺลภํ;

ถีนํ ภาโว ทุราชาโน, มจฺฉสฺเสโวทเก คต’’นฺติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘อยฺยปุตฺต, อหํ ตํ อสทฺทหนฺตํ มม สจฺจพเลเนว ติกิจฺฉิสฺสามี’’ติ อุทกสฺส กลสํ ปูเรตฺวา สจฺจกิริยํ กตฺวา ตสฺส สีเส อุทกํ อาสิฺจนฺตี คาถมาห –

๓๒๓.

‘‘ตถา มํ สจฺจํ ปาเลตุ, ปาลยิสฺสติ เจ มมํ;

ยถาหํ นาภิชานามิ, อฺํ ปิยตรํ ตยา;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, พฺยาธิ เต วูปสมฺมตู’’ติ.

ตตฺถ ตถา-สทฺโท ‘‘เจ มม’’นฺติ อิมินา สทฺธึ โยเชตพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาหํ วทามิ, ตถา เจ มม วจนํ สจฺจํ, อถ มํ อิทานิปิ ปาเลตุ, อายติมฺปิ ปาเลสฺสติ, อิทานิ เม วจนํ สุณาถ ‘‘ยถาหํ นาภิชานามี’’ติ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ตถา มํ สจฺจํ ปาเลตี’’ติ ลิขิตํ, ตํ อฏฺกถายํ นตฺถิ.

เอวํ ตาย สจฺจกิริยํ กตฺวา อุทเก อาสิตฺตมตฺเตเยว โสตฺถิเสนสฺส กุฏฺํ อมฺพิเลน โธตํ วิย ตมฺพมลํ ตาวเทว อปคจฺฉิ. เต กติปาหํ ตตฺถ วสิตฺวา อรฺา นิกฺขมฺม พาราณสึ ปตฺวา อุยฺยานํ ปวิสึสุ. ราชา เตสํ อาคตภาวํ ตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตตฺเถว โสตฺถิเสนสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา สมฺพุลํ อคฺคมเหสิฏฺาเน อภิสิฺจาเปตฺวา นครํ ปเวเสตฺวา สยํ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อุยฺยาเน วาสํ กปฺเปสิ, ราชนิเวสเนเยว จ นิพทฺธํ ภุฺชิ. โสตฺถิเสโนปิ สมฺพุลาย อคฺคมเหสิฏฺานมตฺตเมว อทาสิ, น ปุนสฺสา โกจิ สกฺกาโร อโหสิ, อตฺถิภาวมฺปิสฺสา น อฺาสิ, อฺาเหว อิตฺถีหิ สทฺธึ อภิรมิ. สมฺพุลา สปตฺติโทสวเสน กิสา อโหสิ อุปณฺฑุปณฺฑุกชาตา ธมนีสนฺถตคตฺตา. สา เอกทิวสํ โสกวิโนทนตฺถํ ภุฺชิตุํ อาคตสฺส สสุรตาปสสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ กตภตฺตกิจฺจํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. โส ตํ มิลาตินฺทฺริยํ ทิสฺวา คาถมาห –

๓๒๔.

‘‘เย กุฺชรา สตฺตสตา อุฬารา, รกฺขนฺติ รตฺตินฺทิวมุยฺยุตาวุธา;

ธนุคฺคหานฺจ สตานิ โสฬส, กถํวิเธ ปสฺสสิ ภทฺเท สตฺตโว’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท, สมฺพุเล เย อมฺหากํ สตฺตสตา กุฺชรา, เตสฺเว ขนฺธคตานํ โยธานํ วเสน อุยฺยุตฺตาวุธา, อปรานิ จ โสฬสธนุคฺคหสตานิ รตฺตินฺทิวํ พาราณสึ รกฺขนฺติ. เอวํ สุรกฺขิเต นคเร กถํวิเธ ตฺวํ สตฺตโว ปสฺสสิ. ภทฺเท, ยสฺสา ตว สาสงฺกา สปฺปฏิภยา อรฺา อาคตกาเลปิ ปภาสมฺปนฺนํ สรีรํ, อิทานิ ปน มิลาตา ปณฺฑุปลาสวณฺณา อติวิย กิลนฺตินฺทฺริยาสิ, กสฺส นาม ตฺวํ ภายสี’’ติ ปุจฺฉิ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, มยิ น ปุริมสทิโส’’ติ วตฺวา ปฺจ คาถา อภาสิ –

๓๒๕.

‘‘อลงฺกตาโย ปทุมุตฺตรตฺตจา, วิราคิตา ปสฺสติ หํสคคฺครา;

ตาสํ สุณิตฺวา มิตคีตวาทิตํ, น ทานิ เม ตาต ตถา ยถา ปุเร.

๓๒๖.

‘‘สุวณฺณสํกจฺจธรา สุวิคฺคหา, อลงฺกตา มานุสิยจฺฉรูปมา;

เสโนปิยา ตาต อนินฺทิตงฺคิโย, ขตฺติยกฺา ปฏิโลภยนฺติ นํ.

๓๒๗.

‘‘สเจ อหํ ตาต ตถา ยถา ปุเร, ปตึ ตมุฺฉาย ปุนา วเน ภเร;

สมฺมานเย มํ น จ มํ วิมานเย, อิโตปิ เม ตาต ตโต วรํ สิยา.

๓๒๘.

‘‘ยมนฺนปาเน วิปุลสฺมิ โอหิเต, นารี วิมฏฺาภรณา อลงฺกตา;

สพฺพงฺคุเปตา ปติโน จ อปฺปิยา, อพชฺฌ ตสฺสา มรณํ ตโต วรํ.

๓๒๙.

‘‘อปิ เจ ทลิทฺทา กปณา อนาฬฺหิยา, กฏาทุตียา ปติโน จ สา ปิยา;

สพฺพงฺคุเปตายปิ อปฺปิยาย, อยเมว เสยฺยา กปณาปิ ยา ปิยา’’ติ.

ตตฺถ ปทุมุตฺตรตฺตจาติ ปทุมคพฺภสทิสอุตฺตรตฺตจา. สพฺพาสํ สรีรโต สุวณฺณปภา นิจฺฉรนฺตีติ ทีเปติ. วิราคิตาติ วิลคฺคสรีรา, ตนุมชฺฌาติ อตฺโถ. หํสคคฺคราติ เอวรูปา หํสา วิย มธุรสฺสรา นาริโย ปสฺสติ. ตาสนฺติ โส ตว ปุตฺโต ตาสํ นารีนํ มิตคีตวาทิตาทีนิ สุณิตฺวา อิทานิ เม, ตาต, ยถา ปุเร, ตถา น ปวตฺตตีติ วทติ. สุวณฺณสํกจฺจธราติ สุวณฺณมยสํกจฺจาลงฺการธรา. อลงฺกตาติ นานาลงฺการปฏิมณฺฑิตา. มานุสิยจฺฉรูปมาติ มานุสิโย อจฺฉรูปมา. เสโนปิยาติ โสตฺถิเสนสฺส ปิยา. ปฏิโลภยนฺติ นนฺติ นํ ตว ปุตฺตํ ปฏิโลภยนฺติ.

สเจ อหนฺติ, ตาต, ยถา ปุเร สเจ อหํ ปุนปิ ตํ ปตึ ตเถว กุฏฺโรเคน วนํ ปวิฏฺํ อุฺฉาย ตสฺมึ วเน ภเรยฺยํ, ปุนปิ มํ โส สมฺมาเนยฺย น วิมาเนยฺย, ตโต เม อิโตปิ พาราณสิรชฺชโต ตํ อรฺเมว วรํ สิยา สปตฺติโทเสน สุสฺสนฺติยาติ ทีเปติ. ยมนฺนปาเนติ ยํ อนฺนปาเน. โอหิเตติ ปิเต ปฏิยตฺเต. อิมินา พหุนฺนปานฆรํ ทสฺเสติ. อยํ กิรสฺสา อธิปฺปาโย – ยา นารี วิปุลนฺนปาเน ฆเร เอกิกาว อสปตฺติ สมานา วิมฏฺาภรณา นานาลงฺกาเรหิ อลงฺกตา สพฺเพหิ คุณงฺเคหิ อุเปตา ปติโน จ อปฺปิยา โหติ, อพชฺฌ คีวาย วลฺลิยา วา รชฺชุยา วา พนฺธิตฺวา ตสฺสา ตโต ฆราวาสโต มรณเมว วรตรนฺติ. อนาฬฺหียาติ อนาฬฺหา. กฏาทุตียาติ นิปชฺชนกฏสารกทุติยา. เสยฺยาติ กปณาปิ สมานา ยา ปติโน ปิยา, อยเมว อุตฺตมาติ.

เอวํ ตาย อตฺตโน ปริสุสฺสนการเณ ตาปสสฺส กถิเต ตาปโส ราชานํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, โสตฺถิเสน ตยิ กุฏฺโรคาภิภูเต อรฺํ ปวิสนฺเต ตยา สทฺธึ ปวิสิตฺวา ตํ อุปฏฺหนฺตี อตฺตโน สจฺจพเลน ตว โรคํ วูปสเมตฺวา ยา เต รชฺเช ปติฏฺานการณมกาสิ, ตสฺสา นาม ตฺวํ เนว ิตฏฺานํ, น นิสินฺนฏฺานํ ชานาสิ, อยุตฺตํ เต กตํ, มิตฺตทุพฺภิกมฺมํ นาเมตํ ปาปก’’นฺติ วตฺวา ปุตฺตํ โอวทนฺโต คาถมาห –

๓๓๐.

‘‘สุทุลฺลภิตฺถี ปุริสสฺส ยา หิตา, ภตฺติตฺถิยา ทุลฺลโภ โย หิโต จ;

หิตา จ เต สีลวตี จ ภริยา, ชนินฺท ธมฺมํ จร สมฺพุลายา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ตาต, ยา ปุริสสฺส หิตา มุทุจิตฺตา อนุกมฺปิกา อิตฺถี, โย จ ภตฺตา อิตฺถิยา หิโต กตคุณํ ชานาติ, อุโภเปเต สุทุลฺลภา. อยฺจ สมฺพุลา ตุยฺหํ หิตา เจว สีลสมฺปนฺนา จ, ตสฺมา เอติสฺสา ธมฺมํ จร, กตคุณํ ชานิตฺวา มุทุจิตฺโต โหหิ, จิตฺตมสฺสา ปริโตเสหีติ.

เอวํ โส ปุตฺตสฺส โอวาทํ ทตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ราชา ปิตริ คเต สมฺพุลํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ภทฺเท, เอตฺตกํ กาลํ มยา กตํ โทสํ ขม, อิโต ปฏฺาย สพฺพิสฺสริยํ ตุยฺหเมว ทมฺมี’’ติ วตฺวา โอสานคาถมาห –

๓๓๑.

‘‘สเจ ตุวํ วิปุเล ลทฺธโภเค, อิสฺสาวติณฺณา มรณํ อุเปสิ;

อหฺจ เต ภทฺเท อิมา ราชกฺา, สพฺเพ เต วจนกรา ภวามา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท, สมฺพุเล สเจ ตฺวํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิตฺตา อคฺคมเหสิฏฺานวเสน วิปุเล โภเค ลภิตฺวาปิ อิสฺสาย โอติณฺณา มรณํ อุเปสิ, อหฺจ อิมา จ ราชกฺา สพฺเพ ตว วจนกรา ภวาม, ตฺวํ ยถาธิปฺปายํ อิมํ รชฺชํ วิจาเรหีติ สพฺพิสฺสริยํ ตสฺสา อทาสิ.

ตโต ปฏฺาย อุโภ สมคฺควาสํ วสนฺตา ทานาทีนิ ปุฺานิ กริตฺวา ยถากมฺมํ คมึสุ. ตาปโส ฌานาภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ มลฺลิกา ปติเทวตาเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา สมฺพุลา มลฺลิกา อโหสิ, โสตฺถิเสโน โกสลราชา, ปิตา ตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สมฺพุลาชาตกวณฺณนา นวมา.

[๕๒๐] ๑๐. คนฺธตินฺทุกชาตกวณฺณนา

อปฺปมาโทติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ราโชวาทํ อารพฺภ กเถสิ. ราโชวาโท เหฏฺา วิตฺถาริโตว. อตีเต ปน กปิลรฏฺเ อุตฺตรปฺจาลนคเร ปฺจาโล นาม ราชา อคติคมเน ิโต อธมฺเมน ปมตฺโต รชฺชํ กาเรสิ. อถสฺส อมจฺจาทโย สพฺเพปิ อธมฺมิกาว ชาตา. พลิปีฬิตา รฏฺวาสิโน ปุตฺตทาเร อาทาย อรฺเ มิคา วิย จรึสุ, คามฏฺาเน คาโม นาม นาโหสิ. มนุสฺสา ราชปุริสานํ ภเยน ทิวา เคเห วสิตุํ อสกฺโกนฺตา เคหานิ กณฺฏกสาขาหิ ปริกฺขิปิตฺวา เคเห รตฺตึ วสิตฺวา อรุเณ อุคฺคจฺฉนฺเตเยว อรฺํ ปวิสนฺติ. ทิวา ราชปุริสา วิลุมฺปนฺติ, รตฺตึ โจรา. ตทา โพธิสตฺโต พหินคเร คนฺธตินฺทุกรุกฺเข เทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อนุสํวจฺฉรํ รฺโ สนฺติกา สหสฺสคฺฆนกํ พลิกมฺมํ ลภติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา ปมตฺโต รชฺชํ กาเรติ, สกลรฏฺํ วินสฺสติ, เปตฺวา มํ อฺโ ราชานํ ปติรูเป นิเวเสตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อุปการโก จาปิ เม อนุสํวจฺฉรํ สหสฺสคฺฆนกพลินา ปูเชติ, โอวทิสฺสามิ น’’นฺติ.

โส รตฺติภาเค รฺโ สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา อุสฺสีสกปสฺเส ตฺวา โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา อากาเส อฏฺาสิ. ราชา ตํ พาลสูริยํ วิย ชลมานํ ทิสฺวา ‘‘โกสิ ตฺวํ, เกน วา การเณน อิธาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘มหาราช, อหํ คนฺธตินฺทุกเทวตา, ‘ตุยฺหํ โอวาทํ ทสฺสามี’ติ อาคโตมฺหี’’ติ อาห. ‘‘กึ นาม โอวาทํ ทสฺสสี’’ติ เอวํ วุตฺเต มหาสตฺโต, ‘‘มหาราช, ตฺวํ ปมตฺโต หุตฺวา รชฺชํ กาเรสิ, เตน เต สกลรฏฺํ หตวิลุตฺตํ วิย วินฏฺํ, ราชาโน นาม ปมาเทน รชฺชํ กาเรนฺตา สกลรฏฺสฺส สามิโน น โหนฺติ, ทิฏฺเว ธมฺเม วินาสํ ปตฺวา สมฺปราเย ปุน มหานิรเย นิพฺพตฺตนฺติ. เตสุ จ ปมาทํ อาปนฺเนสุ อนฺโตชนา พหิชนาปิสฺส ปมตฺตาว โหนฺติ, ตสฺมา รฺา อติเรเกน อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ธมฺมเทสนํ ปฏฺเปนฺโต อิมา เอกาทส คาถา อาห –

๓๓๒.

‘‘อปฺปมาโท อมตปทํ, ปมาโท มจฺจุโน ปทํ;

อปฺปมตฺตา น มียนฺติ, เย ปมตฺตา ยถา มตา.

๓๓๓.

‘‘มทา ปมาโท ชาเยถ, ปมาทา ชายเต ขโย;

ขยา ปโทสา ชายนฺติ, มา มโท ภรตูสภ.

๓๓๔.

‘‘พหู หิ ขตฺติยา ชีนา, อตฺถํ รฏฺํ ปมาทิโน;

อโถปิ คามิโน คามา, อนคารา อคาริโน.

๓๓๕.

‘‘ขตฺติยสฺส ปมตฺตสฺส, รฏฺสฺมึ รฏฺวฑฺฒน;

สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, รฺโ ตํ วุจฺจเต อฆํ.

๓๓๖.

‘‘เนส ธมฺโม มหาราช, อติเวลํ ปมชฺชสิ;

อิทฺธํ ผีตํ ชนปทํ, โจรา วิทฺธํสยนฺติ นํ.

๓๓๗.

‘‘น เต ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ, น หิรฺํ น ธานิยํ;

รฏฺเ วิลุปฺปมานมฺหิ, สพฺพโภเคหิ ชียสิ.

๓๓๘.

‘‘สพฺพโภคา ปริชิณฺณํ, ราชานํ วาปิ ขตฺติยํ;

าติมิตฺตา สุหชฺชา จ, น ตํ มฺนฺติ มานิยํ.

๓๓๙.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

ตเมวมุปชีวนฺตา, น ตํ มฺนฺติ มานิยํ.

๓๔๐.

‘‘อสํวิหิตกมฺมนฺตํ, พาลํ ทุมฺมนฺติมนฺตินํ;

สิรี ชหติ ทุมฺเมธํ, ชิณฺณํว อุรโค ตจํ.

๓๔๑.

‘‘สุสํวิหิตกมฺมนฺตํ, กาลุฏฺายึ อตนฺทิตํ;

สพฺเพ โภคาภิวฑฺฒนฺติ, คาโว สอุสภามิว.

๓๔๒.

‘‘อุปสฺสุตึ มหาราช, รฏฺเ ชนปเท จร;

ตตฺถ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ, ตโต ตํ ปฏิปชฺชสี’’ติ.

ตตฺถ อปฺปมาโทติ สติยา อวิปฺปวาโส. อมตปทนฺติ อมตสฺส นิพฺพานสฺส ปทํ อธิคมการณํ. มจฺจุโน ปทนฺติ มรณสฺส การณํ. ปมตฺตา หิ วิปสฺสนํ อวฑฺเฒตฺวา อปฺปฏิสนฺธิกภาวํ ปตฺตุํ อสกฺโกนฺตา ปุนปฺปุนํ สํสาเร ชายนฺติ เจว มียนฺติ จ, ตสฺมา ปมาโท มจฺจุโน ปทํ นาม. น มียนฺตีติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อปฺปฏิสนฺธิกภาวํ ปตฺตา ปุน สํสาเร อนิพฺพตฺตตฺตา น มียนฺติ นาม. เย ปมตฺตาติ, มหาราช, เย ปุคฺคลา ปมตฺตา, เต ยถา มตา, ตเถว ทฏฺพฺพา. กสฺมา? อกิจฺจสาธนตาย. มตสฺสปิ หิ ‘‘อหํ ทานํ ทสฺสามิ, สีลํ รกฺขิสฺสามิ, อุโปสถกมฺมํ กริสฺสามิ, กลฺยาณกมฺมํ ปูเรสฺสามี’’ติ อาโภโค วา ปตฺถนา วา ปริยุฏฺานํ วา นตฺถิ อปคตวิฺาณตฺตา, ปมตฺตสฺสปิ อปฺปมาทาภาวาติ ตสฺมา อุโภเปเต เอกสทิสาว.

มทาติ, มหาราช, อาโรคฺยโยพฺพนชีวิตมทสงฺขาตา ติวิธา มทา ปมาโท นาม ชายติ. โส มทปฺปตฺโต ปมาทาปนฺโน ปาณาติปาตาทีนิ ปาปกมฺมานิ กโรติ. อถ นํ ราชาโน ฉินฺทาเปนฺติ วา หนาเปนฺติ วา, สพฺพํ วา ธนมสฺส หรนฺติ, เอวมสฺส ปมาทา าติธนชีวิตกฺขโย ชายติ. ปุน โส ธนกฺขยํ วา ยสกฺขยํ วา ปตฺโต ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต ชีวิตวุตฺตตฺถาย กายทุจฺจริตาทีนิ กโรติ, อิจฺจสฺส ขยา ปโทสา ชายนฺติ, เตน ตํ วทามิ มา มโท ภรตูสภาติ, รฏฺภารกเชฏฺก ภรตูสภ มา ปมาทมาปชฺชีติ อตฺโถ. อตฺถํ รฏฺนฺติ ชนปทวาสีนํ วุทฺธิฺเจว สกลรฏฺฺจ พหู ปมาทิโน ชีนา. เตสํ อาวิภาวตฺถาย ขนฺติวาทิชาตก-มาตงฺคชาตก-ภรุชาตก-สรภงฺคชาตก-เจติยชาตกานิ กเถตพฺพานิ. คามิโนติ คามโภชกาปิ เต คามาปิ พหู ปมาทโทเสน ชีนา ปริหีนา วินฏฺา. อนคารา อคาริโนติ ปพฺพชิตาปิ ปพฺพชิตปฏิปตฺติโต, คิหีปิ ฆราวาสโต เจว ธนธฺาทีหิ จ พหู ชีนา ปริหีนาติ วทติ. ตํ วุจฺจเต อฆนฺติ, มหาราช, ยสโภคปริหานิ นาเมตํ รฺโ ทุกฺขํ วุจฺจติ. โภคาภาเวน หิ นิทฺธนสฺส ยโส หายติ, หีนยโส มหนฺตํ กายิกเจตสิกทุกฺขํ ปาปุณาติ.

เนส ธมฺโมติ, มหาราช, เอส โปราณกราชูนํ ธมฺโม น โหติ. อิทฺธํ ผีตนฺติ อนฺนปานาทินา สมิทฺธํ หิรฺสุวณฺณาทินา ผีตํ ปุปฺผิตํ. น เต ปุตฺตาติ, มหาราช, ปเวณิปาลกา เต ปุตฺตา น ภวิสฺสนฺติ. รฏฺวาสิโน หิ ‘‘อธมฺมิกรฺโ เอส ปุตฺโต, กึ อมฺหากํ วุฑฺฒึ กริสฺสติ, นาสฺส ฉตฺตํ ทสฺสามา’’ติ ฉตฺตํ น เทนฺติ. เอวเมเตสํ ปเวณิปาลกา ปุตฺตา น โหนฺติ นาม. ปริชิณฺณนฺติ ปริหีนํ. ราชานํ วาปีติ สเจปิ โส ราชา โหติ, อถ นํ ราชานํ สมานมฺปิ. มานิยนฺติ ‘‘อยํ ราชา’’ติ ครุจิตฺเตน สมฺมาเนตพฺพํ กตฺวา น มฺนฺติ. อุปชีวนฺตาติ อุปนิสฺสาย ชีวนฺตาปิ เอเต เอตฺตกา ชนา ครุจิตฺเตน มฺิตพฺพํ น มฺนฺติ. กึการณา? อธมฺมิกภาเวน.

สิรีติ ยสวิภโว. ตจนฺติ ยถา อุรโค ชิณฺณตจํ ชิคุจฺฉนฺโต ชหติ, น ปุน โอโลเกติ, เอวํ ตาทิสํ ราชานํ สิรี ชหติ. สุสํวิหิตกมฺมนฺตนฺติ กายทฺวาราทีหิ ปาปกมฺมํ อกโรนฺตํ. อภิวฑฺฒนฺตีติ อภิมุขํ คจฺฉนฺตา วฑฺฒนฺติ. สอุสภามิวาติ สอุสภา อิว. อปฺปมตฺตสฺส หิ สอุสภเชฏฺโก โคคโณ วิย โภคา วฑฺฒนฺติ. อุปสฺสุตินฺติ ชนปทจาริตฺตสวนาย จาริกํ อตฺตโน สกลรฏฺเ จ ชนปเท จ จร. ตตฺถาติ ตสฺมึ รฏฺเ จรนฺโต ทฏฺพฺพํ ทิสฺวา โสตพฺพํ สุตฺวา อตฺตโน คุณาคุณํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ตโต อตฺตโน หิตปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชิสฺสสีติ.

อิติ มหาสตฺโต เอกาทสหิ คาถาหิ ราชานํ โอวทิตฺวา ‘‘คจฺฉ ปปฺจํ อกตฺวา ปริคฺคณฺห รฏฺํ, มา นาสยี’’ติ วตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ราชาปิ ตสฺส วจนํ สุตฺวา สํเวคปฺปตฺโต ปุนทิวเส รชฺชํ อมจฺเจ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ปุโรหิเตน สทฺธึ กาลสฺเสว ปาจีนทฺวาเรน นครา นิกฺขมิตฺวา โยชนมตฺตํ คโต. ตตฺเถโก คามวาสี มหลฺลโก อฏวิโต กณฺฏกสาขํ อาหริตฺวา เคหทฺวารํ ปริกฺขิปิตฺวา ปิทหิตฺวา ปุตฺตทารํ อาทาย อรฺํ ปวิสิตฺวา สายํ ราชปุริเสสุ ปกฺกนฺเตสุ อตฺตโน ฆรํ อาคจฺฉนฺโต เคหทฺวาเร ปาเท กณฺฏเกน วิทฺโธ อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา กณฺฏกํ นีหรนฺโต –

๓๔๓.

‘‘เอวํ เวเทตุ ปฺจาโล, สงฺคาเม สรมปฺปิโต;

ยถาหมชฺช เวเทมิ, กณฺฏเกน สมปฺปิโต’’ติ. –

อิมาย คาถาย ราชานํ อกฺโกสิ. ตํ ปนสฺส อกฺโกสนํ โพธิสตฺตานุภาเวน อโหสิ. โพธิสตฺเตน อธิคฺคหิโตว โส อกฺโกสีติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ปน สมเย ราชา จ ปุโรหิโต จ อฺาตกเวเสน ตสฺส สนฺติเกว อฏฺํสุ. อถสฺส วจนํ สุตฺวา ปุโรหิโต อิตรํ คาถมาห –

๓๔๔.

‘‘ชิณฺโณ ทุพฺพลจกฺขูสิ, น รูปํ สาธุ ปสฺสสิ;

กึ ตตฺถ พฺรหฺมทตฺตสฺส, ยํ ตํ มคฺเคยฺย กณฺฏโก’’ติ.

ตตฺถ มคฺเคยฺยาติ วิชฺเฌยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ ตฺวํ อตฺตโน อพฺยตฺตตาย กณฺฏเกน วิทฺโธ, โก เอตฺถ รฺโ โทโส. เยน ราชานํ อกฺโกสิ, กึ เต รฺา กณฺฏโก โอโลเกตฺวาว อาจิกฺขิตพฺโพติ.

ตํ สุตฺวา มหลฺลโก ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๓๔๕.

‘‘พหฺเวตฺถ พฺรหฺมทตฺตสฺส, โสหํ มคฺคสฺมิ พฺราหฺมณ;

อรกฺขิตา ชานปทา, อธมฺมพลินา หตา.

๓๔๖.

‘‘รตฺติฺหิ โจรา ขาทนฺติ, ทิวา ขาทนฺติ ตุณฺฑิยา;

รฏฺสฺมึ กูฏราชสฺส, พหุ อธมฺมิโก ชโน.

๓๔๗.

‘‘เอตาทิเส ภเย ชาเต, ภยฏฺฏา ตาต มาณวา;

นิลฺเลนกานิ กุพฺพนฺติ, วเน อาหตฺว กณฺฏก’’นฺติ.

ตตฺถ พหฺเวตฺถาติ, พฺราหฺมณ, โสหํ สกณฺฏเก มคฺเค ปติโต สนฺนิสินฺโน, พหุ เอตฺถ พฺรหฺมทตฺตสฺส โทโส, ตฺวํ เอตฺตกํ กาลํ รฺโ โทเสน มม สกณฺฏเก มคฺเค วิจรณภาวํ น ชานาสิ. ตสฺส หิ อรกฺขิตา ชานปทา…เป… กณฺฏกนฺติ. ตตฺถ ขาทนฺตีติ วิลุมฺปนฺติ. ตุณฺฑิยาติ วธพนฺธาทีหิ ปีเฬตฺวา อธมฺเมน พลิสาธกา. กูฏราชสฺสาติ ปาปรฺโ. อธมฺมิโกติ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต. ตาตาติ ปุโรหิตํ อาลปติ. มาณวาติ มนุสฺสา. นิลฺเลนกานีติ นิลียนฏฺานานิ. วเน อาหตฺว กณฺฏกนฺติ กณฺฏกํ อาหริตฺวา ทฺวารานิ ปิทหิตฺวา ฆรํ ฉฑฺเฑตฺวา ปุตฺตทารํ อาทาย วนํ ปวิสิตฺวา ตสฺมึ วเน อตฺตโน นิลียนฏฺานานิ กโรนฺติ. อถ วา วเน โย กณฺฏโก, ตํ อาหริตฺวา ฆรานิ ปริกฺขิปนฺติ. อิติ รฺโ โทเสเนวมฺหิ กณฺฏเกน วิทฺโธ, มา เอวรูปสฺส รฺโ อุปตฺถมฺโภ โหหีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ปุโรหิตํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘อาจริย, มหลฺลโก ยุตฺตํ ภณติ, อมฺหากเมว โทโส, เอหิ นิวตฺตาม, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสฺสามา’’ติ อาห. โพธิสตฺโต ปุโรหิตสฺส สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา ปุรโต คนฺตฺวา ‘‘ปริคฺคณฺหิสฺสาม ตาว, มหาราชา’’ติ อาห. เต ตมฺหา คามา อฺํ คามํ คจฺฉนฺตา อนฺตรามคฺเค เอกิสฺสา มหลฺลิกาย สทฺทํ อสฺโสสุํ. สา กิเรกา ทลิทฺทิตฺถี ทฺเว ธีตโร วยปฺปตฺตา รกฺขมานา ตาสํ อรฺํ คนฺตุํ น เทติ. สยํ อรฺโต ทารูนิ เจว สากฺจ อาหริตฺวา ธีตโร ปฏิชคฺคติ. สา ตํ ทิวสํ เอกํ คุมฺพํ อารุยฺห สากํ คณฺหนฺตี ปวฏฺฏมานา ภูมิยํ ปติตฺวา ราชานํ มรเณน อกฺโกสนฺตี คาถมาห –

๓๔๘.

‘‘กทาสฺสุ นามยํ ราชา, พฺรหฺมทตฺโต มริสฺสติ;

ยสฺส รฏฺมฺหิ ชียนฺติ, อปฺปติกา กุมาริกา’’ติ.

ตตฺถ อปฺปติกาติ อสฺสามิกา. สเจ หิ ตาสํ สามิกา อสฺสุ, มํ โปเสยฺยุํ. ปาปรฺโ ปน รชฺเช อหํ ทุกฺขํ อนุโภมิ, กทา นุ โข เอส มริสฺสตีติ.

เอวํ โพธิสตฺตานุภาเวเนว สา อกฺโกสิ. อถ นํ ปุโรหิโต ปฏิเสเธนฺโต คาถมาห –

๓๔๙.

‘‘ทุพฺภาสิตฺหิ เต ชมฺมิ, อนตฺถปทโกวิเท;

กุหึ ราชา กุมารีนํ, ภตฺตารํ ปริเยสตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหลฺลิกา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๓๕๐.

‘‘น เม ทุพฺภาสิตํ พฺรหฺเม, โกวิทตฺถปทา อหํ;

อรกฺขิตา ชานปทา, อธมฺมพลินา หตา.

๓๕๑.

‘‘รตฺติฺหิ โจรา ขาทนฺติ, ทิวา ขาทนฺติ ตุณฺฑิยา;

รฏฺสฺมึ กูฏราชสฺส, พหุ อธมฺมิโก ชโน;

ทุชฺชีเว ทุพฺภเร ทาเร, กุโต ภตฺตา กุมาริโย’’ติ.

ตตฺถ โกวิทตฺถปทาติ อหํ อตฺถปเท การณปเท โกวิทา เฉกา, มา ตฺวํ เอตํ ปาปราชานํ ปสํสิ. ทุชฺชีเวติ ทุชฺชีเว รฏฺเ ทุพฺภเร ทาเร ชาเต มนุสฺเสสุ ภีตตสิเตสุ อรฺเ วสนฺเตสุ กุโต ภตฺตา กุมาริโย, กุโต กุมาริโย ภตฺตารํ ลภิสฺสนฺตีติ อตฺโถ.

เต ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ยุตฺตํ สา กเถตี’’ติ ตโต ปรํ คจฺฉนฺตา เอกสฺส กสฺสกสฺส สทฺทํ อสฺโสสุํ. ตสฺส กิร กสนฺตสฺส สาลิโย นาม พลิพทฺโท ผาเลน ปหโฏ สยิ. โส ราชานํ อกฺโกสนฺโต คาถมาห –

๓๕๒.

‘‘เอวํ สยตุ ปฺจาโล, สงฺคาเม สตฺติยา หโต;

ยถายํ กปโณ เสติ, หโต ผาเลน สาลิโย’’ติ.

ตตฺถ ยถาติ ยถา อยํ เวทนาปฺปตฺโต สาลิยพลิพทฺโท เสติ, เอวํ สยตูติ อตฺโถ.

อถ นํ ปุโรหิโต ปฏิเสเธนฺโต คาถมาห –

๓๕๓.

‘‘อธมฺเมน ตุวํ ชมฺม, พฺรหฺมทตฺตสฺส กุชฺฌสิ;

โย ตฺวํ สปสิ ราชานํ, อปรชฺฌิตฺวาน อตฺตโน’’ติ.

ตตฺถ อธมฺเมนาติ อการเณน อสภาเวน.

ตํ สุตฺวา โส ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๓๕๔.

‘‘ธมฺเมน พฺรหฺมทตฺตสฺส, อหํ กุชฺฌามิ พฺราหฺมณ;

อรกฺขิตา ชานปทา อธมฺมพลินา หตา.

๓๕๕.

‘‘รตฺติฺหิ โจรา ขาทนฺติ, ทิวา ขาทนฺติ ตุณฺฑิยา;

รฏฺสฺมึ กูฏราชสฺส, พหุ อธมฺมิโก ชโน.

๓๕๖.

‘‘สา นูน ปุน เร ปกฺกา, วิกาเล ภตฺตมาหริ;

ภตฺตหารึ อเปกฺขนฺโต, หโต ผาเลน สาลิโย’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมนาติ การเณเนว, อการเณน อกฺโกสตีติ สฺํ มา กริ. สา นูน ปุน เร ปกฺกา, วิกาเล ภตฺตมาหรีติ, พฺราหฺมณ, สา ภตฺตหาริกา อิตฺถี ปาโตว มม ภตฺตํ ปจิตฺวา อาหรนฺตี อธมฺมพลิสาธเกหิ พฺรหฺมทตฺตสฺส ทาเสหิ ปลิพุทฺธา ภวิสฺสติ, เต ปริวิสิตฺวา ปุน มยฺหํ ภตฺตํ ปกฺกํ ภวิสฺสติ, เตน การเณน วิกาเล ภตฺตํ อาหริ, ‘‘อชฺช วิกาเล ภตฺตํ อาหรี’’ติ จินฺเตตฺวา ฉาตชฺฌตฺโต อหํ ตํ ภตฺตหารึ โอโลเกนฺโต โคณํ อฏฺาเน ปโตเทน วิชฺฌึ, เตเนส ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา ผาลํ ปหรนฺโต หโต ผาเลน สาลิโย. ตสฺมา ‘‘เอส มยา หโต’’ติ สฺํ มา กริ, ปาปรฺโเยว หโต นาเมส, มา ตสฺส วณฺณํ ภณีติ.

เต ปุรโต คนฺตฺวา เอกสฺมึ คาเม วสึสุ. ปุนทิวเส ปาโตว เอกา กูฏเธนุ โคโทหกํ ปาเทน ปหริตฺวา สทฺธึ ขีเรน ปวฏฺเฏสิ. โส พฺรหฺมทตฺตํ อกฺโกสนฺโต คาถมาห –

๓๕๗.

‘‘เอวํ หฺตุ ปฺจาโล, สงฺคาเม อสินา หโต;

ยถาหมชฺช ปหโต, ขีรฺจ เม ปวฏฺฏิต’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา ปุโรหิโต ปฏิเสเธนฺโต คาถมาห –

๓๕๘.

‘‘ยํ ปสุ ขีรํ ฉฑฺเฑติ, ปสุปาลํ วิหึสติ;

กึ ตตฺถ พฺรหฺมทตฺตสฺส, ยํ โน ครหเต ภว’’นฺติ.

พฺราหฺมเณน คาถาย วุตฺตาย ปุน โส ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๓๕๙.

‘‘คารยฺโห พฺรหฺเม ปฺจาโล, พฺรหฺมทตฺตสฺส ราชิโน;

อรกฺขิตา ชานปทา, อธมฺมพลินา หตา.

๓๖๐.

‘‘รตฺติฺหิ โจรา ขาทนฺติ, ทิวา ขาทนฺติ ตุณฺฑิยา;

รฏฺสฺมึ กูฏราชสฺส, พหุ อธมฺมิโก ชโน.

๓๖๑.

‘‘จณฺฑา อฏนกา คาวี, ยํ ปุเร น ทุหามเส;

ตํ ทานิ อชฺช โทหาม, ขีรกาเมหุปทฺทุตา’’ติ.

ตตฺถ จณฺฑาติ ผรุสา. อฏนกาติ ปลายนสีลา. ขีรกาเมหีติ อธมฺมิกรฺโ ปุริเสหิ พหุํ ขีรํ อาหราเปนฺเตหิ อุปทฺทุตา ทุหาม. สเจ หิ โส ธมฺเมน รชฺชํ กาเรยฺย, น โน เอวรูปํ ภยํ อาคจฺเฉยฺยาติ.

เต ‘‘โส ยุตฺตํ กเถตี’’ติ ตมฺหา คามา นิกฺขมฺม มหามคฺคํ อารุยฺห นคราภิมุขา คมึสุ. เอกสฺมิฺจ คาเม พลิสาธกา อสิโกสตฺถาย เอกํ ตรุณํ กพรวจฺฉกํ มาเรตฺวา จมฺมํ คณฺหึสุ. วจฺฉกมาตา เธนุ ปุตฺตโสเกน ติณํ น ขาทติ ปานียํ น ปิวติ, ปริเทวมานา อาหิณฺฑติ. ตํ ทิสฺวา คามทารกา ราชานํ อกฺโกสนฺตา คาถมาหํสุ –

๓๖๒.

‘‘เอวํ กนฺทตุ ปฺจาโล, วิปุตฺโต วิปฺปสุกฺขตุ;

ยถายํ กปณา คาวี, วิปุตฺตา ปริธาวตี’’ติ.

ตตฺถ ปริธาวตีติ ปริเทวมาโน ธาวติ.

ตโต ปุโรหิโต อิตรํ คาถมาห –

๓๖๓.

‘‘ยํ ปสุ ปสุปาลสฺส, สมฺภเมยฺย รเวยฺย วา;

โกนีธ อปราธตฺถิ, พฺรหฺมทตฺตสฺส ราชิโน’’ติ.

ตตฺถ สมฺภเมยฺย รเวยฺย วาติ ภเมยฺย วา วิรเวยฺย วา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาตา, ปสุ นาม ปสุปาลสฺส รกฺขนฺตสฺเสว ธาวติปิ วิรวติปิ, ติณมฺปิ น ขาทติ ปานียมฺปิ น ปิวติ, อิธ รฺโ โก นุ อปราโธติ.

ตโต คามทารกา ทฺเว คาถา อภาสึสุ –

๓๖๔.

‘‘อปราโธ มหาพฺรหฺเม, พฺรหฺมทตฺตสฺส ราชิโน;

อรกฺขิตา ชานปทา, อธมฺมพลินา หตา.

๓๖๕.

‘‘รตฺติฺหิ โจรา ขาทนฺติ, ทิวา ขาทนฺติ ตุณฺฑิยา;

รฏฺสฺมึ กูฏราชสฺส, พหุ อธมฺมิโก ชโน;

กถํ โน อสิโกสตฺถา, ขีรปา หฺเต ปชา’’ติ.

ตตฺถ มหาพฺรหฺเมติ มหาพฺราหฺมณ. ราชิโนติ รฺโ. กถํ โนติ กถํ นุ เกน นาม การเณน. ขีรปา หฺเต ปชาติ ปาปราชสฺส เสวเกหิ ขีรปโก วจฺฉโก หฺติ, อิทานิ สา เธนุ ปุตฺตโสเกน ปริเทวติ, โสปิ ราชา อยํ เธนุ วิย ปริเทวตูติ ราชานํ อกฺโกสึสุเยว.

เต ‘‘สาธุ โว การณํ วทถา’’ติ วตฺวา ปกฺกมึสุ. อถนฺตรามคฺเค เอกิสฺสา สุกฺขโปกฺขรณิยา กากา ตุณฺเฑหิ วิชฺฌิตฺวา มณฺฑูเก ขาทนฺติ. โพธิสตฺโต เตสุ ตํ านํ สมฺปตฺเตสุ อตฺตโน อานุภาเวน มณฺฑูเกน –

๓๖๖.

‘‘เอวํ ขชฺชตุ ปฺจาโล, หโต ยุทฺเธ สปุตฺตโก;

ยถาหมชฺช ขชฺชามิ, คามิเกหิ อรฺโช’’ติ. –

ราชานํ อกฺโกสาเปสิ.

ตตฺถ คามิเกหีติ คามวาสีหิ.

ตํ สุตฺวา ปุโรหิโต มณฺฑูเกน สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถมาห –

๓๖๗.

‘‘น สพฺพภูเตสุ วิเธนฺติ รกฺขํ, ราชาโน มณฺฑูก มนุสฺสโลเก;

เนตฺตาวตา ราชา อธมฺมจารี, ยํ ตาทิสํ ชีวมเทยฺยุ ธงฺกา’’ติ.

ตตฺถ ชีวนฺติ ชีวนฺตํ. อเทยฺยุนฺติ ขาเทยฺยุํ. ธงฺกาติ กากา. เอตฺตาวตา ราชา อธมฺมิโก นาม น โหติ, กึ สกฺกา อรฺํ ปวิสิตฺวา รฺา ตํ รกฺขนฺเตน จริตุนฺติ.

ตํ สุตฺวา มณฺฑูโก ทฺเว คาถา อภาสิ –

๓๖๘.

‘‘อธมฺมรูโป วต พฺรหฺมจารี, อนุปฺปิยํ ภาสสิ ขตฺติยสฺส;

วิลุปฺปมานาย ปุถุปฺปชาย, ปูเชสิ ราชํ ปรมปฺปมาทํ.

๓๖๙.

‘‘สเจ อิทํ พฺรหฺเม สุรชฺชกํ สิยา, ผีตํ รฏฺํ มุทิตํ วิปฺปสนฺนํ;

ภุตฺวา พลึ อคฺคปิณฺฑฺจ กากา, น มาทิสํ ชีวมเทยฺยุ ธงฺกา’’ติ.

ตตฺถ พฺรหฺมจารีติ ปุโรหิตํ ครหนฺโต อาห. ขตฺติยสฺสาติ เอวรูปสฺส ปาปรฺโ. วิลุปฺปมานายาติ วิลุมฺปมานาย, อยเมว วา ปาโ. ปุถุปฺปชายาติ วิปุลาย ปชาย วินาสิยมานาย. ปูเชสีติ ปสํสิ. สุรชฺชกนฺติ ฉนฺทาทิวเสน อคนฺตฺวา ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺเตน อปฺปมตฺเตน รฺา รกฺขิยมานํ สเจ อิทํ สุรชฺชกํ ภเวยฺย. ผีตนฺติ เทเวสุ สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺฉนฺเตสุ สมฺปนฺนสสฺสํ. น มาทิสนฺติ เอวํ สนฺเต มาทิสํ ชีวมานฺเว กากา น ขาเทยฺยุํ.

เอวํ ฉสุปิ าเนสุ อกฺโกสนํ โพธิสตฺตสฺเสว อานุภาเวน อโหสิ;

ตํ สุตฺวา ราชา จ ปุโรหิโต จ ‘‘อรฺวาสึ ติรจฺฉานคตํ มณฺฑูกํ อุปาทาย สพฺเพ อมฺเหเยว อกฺโกสนฺตี’’ติ วตฺวา ตโต นครํ คนฺตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา มหาสตฺตสฺโสวาเท ิตา ทานาทีนิ ปุฺานิ กรึสุ.

สตฺถา โกสลรฺโ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา, ‘‘มหาราช, รฺา นาม อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา คนฺธตินฺทุกเทวตา อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

คนฺธตินฺทุกชาตกวณฺณนา ทสมา.

ชาตกุทฺทานํ

กึฉนฺท กุมฺภ ชยทฺทิส ฉทฺทนฺต, อถ ปณฺฑิตสมฺภว สิรกปิ;

ทกรกฺขส ปณฺฑรนาควโร, อถ สมฺพุล ตินฺทุกเทวสุโตติ.

ตึสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.