📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

๑๗. จตฺตาลีสนิปาโต

[๕๒๑] ๑. เตสกุณชาตกวณฺณนา

เวสฺสนฺตรํ ตํ ปุจฺฉามีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ โอวาทวเสน กเถสิ. ตฺหิ ราชานํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย อาคตํ สตฺถา อามนฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, รฺา นาม ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตพฺพํ, ยสฺมิฺหิ สมเย ราชาโน อธมฺมิกา โหนฺติ, ราชยุตฺตาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺตี’’ติ จตุกฺกนิปาเต (อ. นิ. ๔.๗๐) อาคตสุตฺตนเยน โอวทิตฺวา อคติคมเน อคติอคมเน จ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ กเถตฺวา ‘‘สุปินกูปมา กามา’’ติอาทินา นเยน กาเมสุ อาทีนวํ วิตฺถาเรตฺวา, ‘‘มหาราช, อิเมสฺหิ สตฺตานํ –

‘มจฺจุนา สงฺคโร นตฺถิ, ลฺชคฺคาโห น วิชฺชติ;

ยุทฺธํ นตฺถิ ชโย นตฺถิ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา’.

เตสํ ปรโลกํ คจฺฉนฺตานํ เปตฺวา อตฺตนา กตํ กลฺยาณกมฺมํ อฺา ปติฏฺา นาม นตฺถิ. เอวํ อิตฺตรปจฺจุปฏฺานํ อวสฺสํ ปหาตพฺพํ, น ยสํ นิสฺสาย ปมาทํ กาตุํ วฏฺฏติ, อปฺปมตฺเตเนว หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตุํ วฏฺฏติ. โปราณกราชาโน อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ ปณฺฑิตานํ โอวาเท ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา เทวนครํ ปูรยมานา คมึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรนฺโต อปุตฺตโก อโหสิ, ปตฺเถนฺโตปิ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา น ลภิ. โส เอกทิวสํ มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คนฺตฺวา ทิวสภาคํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา มงฺคลสาลรุกฺขมูเล สยนํ อตฺถราเปตฺวา โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ สาลรุกฺขํ โอโลเกตฺวา ตตฺถ สกุณกุลาวกํ ปสฺสิ, สห ทสฺสเนเนวสฺส สิเนโห อุปฺปชฺชิ. โส เอกํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา เอตสฺมึ กุลาวเก กสฺสจิ อตฺถิตํ วา นตฺถิตํ วา ชานาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วตฺวา อภิรุหิตฺวา ตตฺถ ตีณิ อณฺฑกานิ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘เตน หิ เอเตสํ อุปริ นาสวาตํ มา วิสฺสชฺเชสี’’ติ วตฺวา ‘‘จงฺโกฏเก กปฺปาสปิจุํ อตฺถริตฺวา ตตฺเถว ตานิ อณฺฑกานิ เปตฺวา สณิกํ โอตราหี’’ติ โอตาราเปตฺวา จงฺโกฏกํ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘กตรสกุณณฺฑกานิ นาเมตานี’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิ. เต ‘‘มยํ น ชานาม, เนสาทา ชานิสฺสนฺตี’’ติ วทึสุ. ราชา เนสาเท ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. เนสาทา, ‘‘มหาราช, เตสุ เอกํ อุลูกอณฺฑํ, เอกํ สาลิกาอณฺฑํ, เอกํ สุวกอณฺฑ’’นฺติ กถยึสุ. กึ ปน เอกสฺมึ กุลาวเก ติณฺณํ สกุณิกานํ อณฺฑานิ โหนฺตีติ. อาม, เทว, ปริปนฺเถ อสติ สุนิกฺขิตฺตานิ น นสฺสนฺตีติ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ‘‘อิเม มม ปุตฺตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ตานิ ตีณิ อณฺฑานิ ตโย อมจฺเจ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘อิเม มยฺหํ ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห สาธุกํ ปฏิชคฺคิตฺวา อณฺฑโกสโต นิกฺขนฺตกาเล มมาโรเจยฺยาถา’’ติ อาห. เต ตานิ สาธุกํ รกฺขึสุ.

เตสุ ปมํ อุลูกอณฺฑํ ภิชฺชิ. อมจฺโจ เอกํ เนสาทํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ อิตฺถิภาวํ วา ปุริสภาวํ วา ชานาหี’’ติ วตฺวา เตน ตํ วีมํสิตฺวา ‘‘ปุริโส’’ติ วุตฺเต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, ชาโต’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ปุตฺตกํ เม สาธุกํ ปฏิชคฺค, ‘เวสฺสนฺตโร’ติ จสฺส นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ตถา อกาสิ. ตโต กติปาหจฺจเยน สาลิกาอณฺฑํ ภิชฺชิ. โสปิ อมจฺโจ ตํ เนสาเทน วีมํสาเปตฺวา ‘‘อิตฺถี’’ติ สุตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ธีตา เต, เทว, ชาตา’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺสปิ พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ธีตรํ เม สาธุกํ ปฏิชคฺค, ‘กุณฺฑลินี’ติ จสฺสา นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โสปิ ตถา อกาสิ. ปุน กติปาหจฺจเยน สุวกอณฺฑํ ภิชฺชิ. โสปิ อมจฺโจ เนสาเทน ตํ วีมํสิตฺวา ‘‘ปุริโส’’ติ วุตฺเต รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, ชาโต’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺสปิ พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส เม มหนฺเตน ปริวาเรน มงฺคลํ กตฺวา ‘ชมฺพุโก’ติสฺส นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โสปิ ตถา อกาสิ. เต ตโยปิ สกุณา ติณฺณํ อมจฺจานํ เคเหสุ ราชกุมารปริหาเรเนว วฑฺฒนฺติ. ราชา ‘‘มม ปุตฺโต, มม ธีตา’’ติ โวหรติ. อถสฺส อมจฺจา อฺมฺํ อวหสนฺติ ‘‘ปสฺสถ, โภ, รฺโ กิริยํ, ติรจฺฉานคเตปิ ‘ปุตฺโต เม, ธีตา เม’ติ วทนฺโต วิจรตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม อมจฺจา เอเตสํ มม ปุตฺตานํ ปฺาสมฺปทํ น ชานนฺติ, ปากฏํ เนสํ กริสฺสามี’’ติ. อเถกํ อมจฺจํ เวสฺสนฺตรสฺส สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘ตุมฺหากํ ปิตา ปฺหํ ปุจฺฉิตุกาโม, กทา กิร อาคนฺตฺวา ปุจฺฉตู’’ติ. โส อมจฺโจ คนฺตฺวา เวสฺสนฺตรํ วนฺทิตฺวา ตํ สาสนํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร อตฺตโน ปฏิชคฺคกํ อมจฺจํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘มยฺหํ กิร ปิตา มํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุกาโม, ตสฺส อิธาคตสฺส สกฺการํ กาตุํ วฏฺฏติ, กทา อาคจฺฉตู’’ติ ปุจฺฉิ. อมจฺโจ ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส ตว ปิตา อาคจฺฉตู’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร ‘‘ปิตา เม อิโต สตฺตเม ทิวเส อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส อาคนฺตฺวา รฺโ อาจิกฺขิ. ราชา สตฺตเม ทิวเส นคเร เภรึ จราเปตฺวา ปุตฺตสฺส นิเวสนํ อคมาสิ. เวสฺสนฺตโร รฺโ มหนฺตํ สกฺการํ กาเรสิ, อนฺตมโส ทาสกมฺมการานมฺปิ สกฺการํ กาเรสิ. ราชา เวสฺสนฺตรสกุณสฺส เคเห ภุฺชิตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิตฺวา สกํ นิเวสนํ อาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ มหนฺตํ มณฺฑปํ การาเปตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา อลงฺกตมณฺฑปมชฺเฌ มหาชนปริวาโร นิสีทิตฺวา ‘‘เวสฺสนฺตรํ อาเนตู’’ติ อมจฺจสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. อมจฺโจ เวสฺสนฺตรํ สุวณฺณปีเ นิสีทาเปตฺวา อาเนสิ. เวสฺสนฺตรสกุโณ ปิตุ องฺเก นิสีทิตฺวา ปิตรา สห กีฬิตฺวา คนฺตฺวา ตตฺเถว สุวณฺณปีเ นิสีทิ. อถ นํ ราชา มหาชนมชฺเฌ ราชธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘เวสฺสนฺตรํ ตํ ปุจฺฉามิ, สกุณ ภทฺทมตฺถุ เต;

รชฺชํ กาเรตุกาเมน, กึ สุ กิจฺจํ กตํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ สกุณาติ ตํ อาลปติ. กึ สูติ กตรํ กิจฺจํ กตํ วรํ อุตฺตมํ โหติ, กเถหิ เม, ตาต, สกลํ ราชธมฺมนฺติ เอวํ กิร ตํ โส ปุจฺฉิ.

ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร ปฺหํ อกเถตฺวาว ราชานํ ตาว ปมาเทน โจเทนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘จิรสฺสํ วต มํ ตาโต, กํโส พาราณสิคฺคโห;

ปมตฺโต อปฺปมตฺตํ มํ, ปิตา ปุตฺตํ อโจทยี’’ติ.

ตตฺถ ตาโตติ ปิตา. กํโสติ อิทํ ตสฺส นามํ. พาราณสิคฺคโหติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ พาราณสึ สงฺคเหตฺวา วตฺตนฺโต. ปมตฺโตติ เอวรูปานํ ปณฺฑิตานํ สนฺติเก วสนฺโต ปฺหสฺส อปุจฺฉเนน ปมตฺโต. อปฺปมตฺตํ มนฺติ สีลาทิคุณโยเคน มํ อปฺปมตฺตํ. ปิตาติ โปสกปิตา. อโจทยีติ อมจฺเจหิ ‘‘ติรจฺฉานคเต ปุตฺเต กตฺวา โวหรตี’’ติ อวหสิยมาโน ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา จิรสฺสํ อชฺช โจเทสิ, ปฺหํ ปุจฺฉีติ วทติ.

เอวํ โส อิมาย คาถาย โจเทตฺวา ‘‘มหาราช, รฺา นาม ตีสุ ธมฺเมสุ ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ราชธมฺมํ กเถนฺโต อิมา คาถาโย อาห –

.

‘‘ปเมเนว วิตถํ, โกธํ หาสํ นิวารเย;

ตโต กิจฺจานิ กาเรยฺย, ตํ วตํ อาหุ ขตฺติย.

.

‘‘ยํ ตฺวํ ตาต ตโปกมฺมํ, ปุพฺเพ กตมสํสยํ;

รตฺโต ทุฏฺโ จ ยํ กยิรา, น ตํ กยิรา ตโต ปุน.

.

‘‘ขตฺติยสฺส ปมตฺตสฺส, รฏฺสฺมึ รฏฺวฑฺฒน;

สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, รฺโ ตํ วุจฺจเต อฆํ.

.

‘‘สิรี ตาต อลกฺขี จ, ปุจฺฉิตา เอตทพฺรวุํ;

อุฏฺานวีริเย โปเส, รมาหํ อนุสูยเก.

.

‘‘อุสูยเก ทุหทเย, ปุริเส กมฺมทุสฺสเก;

กาฬกณฺณี มหาราช, รมติ จกฺกภฺชนี.

.

‘‘โส ตฺวํ สพฺเพ สุหทโย, สพฺเพสํ รกฺขิโต ภว;

อลกฺขึ นุท มหาราช, ลกฺขฺยา ภว นิเวสนํ.

.

‘‘ส ลกฺขีธิติสมฺปนฺโน, ปุริโส หิ มหคฺคโต;

อมิตฺตานํ กาสิปติ, มูลํ อคฺคฺจ ฉินฺทติ.

๑๐.

‘‘สกฺโกปิ หิ ภูตปติ, อุฏฺาเน นปฺปมชฺชติ;

ส กลฺยาเณ ธิตึ กตฺวา, อุฏฺาเน กุรุเต มโน.

๑๑.

‘‘คนฺธพฺพา ปิตโร เทวา, สาชีวา โหนฺติ ตาทิโน;

อุฏฺาหโต อปฺปมชฺชโต, อนุติฏฺนฺติ เทวตา.

๑๒.

‘‘โส อปฺปมตฺโต อกฺกุทฺโธ, ตาต กิจฺจานิ การย;

วายมสฺสุ จ กิจฺเจสุ, นาลโส วินฺทเต สุขํ.

๑๓.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

อลํ มิตฺเต สุขาเปตุํ, อมิตฺตานํ ทุขาย จา’’ติ.

ตตฺถ ปเมเนว วิตถนฺติ, ตาต, ราชา นาม อาทิโตว มุสาวาทํ นิวารเย. มุสาวาทิโน หิ รฺโ รฏฺํ นิโรชํ โหติ, ปถวิยา โอชา กมฺมกรณฏฺานโต สตฺตรตนมตฺตํ เหฏฺา ภสฺสติ, ตโต อาหาเร วา เตลมธุผาณิตาทีสุ วา โอสเธสุ โอชา น โหติ. นิโรชาหารโภชนา มนุสฺสา พหฺวาพาธา โหนฺติ, รฏฺเ ถลชลปเถสุ อาโย นุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ อนุปฺปชฺชนฺเต ราชาโน ทุคฺคตา โหนฺติ. เต เสวเก สงฺคณฺหิตุํ น สกฺโกนฺติ, อสงฺคหิตา เสวกา ราชานํ ครุจิตฺเตน น โอโลเกนฺติ. เอวํ, ตาต, มุสาวาโท นาเมส นิโรโช, น โส ชีวิตเหตุปิ กาตพฺโพ, สจฺจํ ปน สาทุตรํ รสานนฺติ ตเทว ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อปิจ มุสาวาโท นาม คุณปริธํสโก วิปตฺติปริโยสาโน, ทุติยจิตฺตวาเร อวีจิปรายณํ กโรติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘ธมฺโม หเว หโต หนฺตี’’ติ เจติยชาตกํ (ชา. ๑.๘.๔๕ อาทโย) กเถตพฺพํ.

โกธนฺติ, ตาต, ราชา นาม ปมเมว กุชฺฌนลกฺขณํ โกธมฺปิ นิวาเรยฺย. ตาต, อฺเสฺหิ โกโธ ขิปฺปํ มตฺถกํ น ปาปุณาติ, ราชูนํ ปาปุณาติ. ราชาโน นาม วาจาวุธา กุชฺฌิตฺวา โอโลกิตมตฺเตนาปิ ปรํ วินาเสนฺติ, ตสฺมา รฺา อฺเหิ มนุสฺเสหิ อติเรกตรํ นิกฺโกเธน ภวิตพฺพํ, ขนฺติเมตฺตานุทฺทยาสมฺปนฺเนน อตฺตโน ปิยปุตฺตํ วิย โลกํ โวโลเกนฺเตน ภวิตพฺพํ. ตาต, อติโกธโน นาม ราชา อุปฺปนฺนํ ยสํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถํ ขนฺติวาทิชาตก- (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) จูฬธมฺมปาลชาตกานิ (ชา. ๑.๕.๔๔ อาทโย) กเถตพฺพานิ. จูฬธมฺมปาลชาตกสฺมิฺหิ มหาปตาปโน นาม ราชา ปุตฺตํ ฆาเตตฺวา ปุตฺตโสเกน หทเยน ผลิเตน มตาย เทวิยา สยมฺปิ เทวึ อนุโสจนฺโต หทเยน ผลิเตเนว มริ. อถ เต ตโยปิ เอกอาฬาหเนว ฌาเปสุํ. ตสฺมา รฺา ปมเมว มุสาวาทํ วชฺเชตฺวา ทุติยํ โกโธ วชฺเชตพฺโพ.

หาสนฺติ หสฺสํ, อยเมว วา ปาโ. เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ อุปฺปิลาวิตจิตฺตตาย เกฬิสีลตํ ปริหาสํ นิวาเรยฺย. ตาต, รฺา นาม เกฬิสีเลน น ภวิตพฺพํ, อปรปตฺติเยน หุตฺวา สพฺพานิ กิจฺจานิ อตฺตปจฺจกฺเขเนว กาตพฺพานิ. อุปฺปิลาวิตจิตฺโต หิ ราชา อตุเลตฺวา กมฺมานิ กโรนฺโต ลทฺธํ ยสํ วินาเสติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ สรภงฺคชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) ปุโรหิตสฺส วจนํ คเหตฺวา ทณฺฑกิรฺโ กิสวจฺเฉ อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน อุจฺฉิชฺชิตฺวา กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตภาโว จ มาตงฺคชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑ อาทโย) มชฺฌรฺโ พฺราหฺมณานํ กถํ คเหตฺวา มาตงฺคตาปเส อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน อุจฺฉิชฺชิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตภาโว จ ฆฏปณฺฑิตชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๑๖๕ อาทโย) ทสภาติกราชทารกานํ โมหมูฬฺหานํ วจนํ คเหตฺวา กณฺหทีปายเน อปรชฺฌิตฺวา วาสุเทวกุลสฺส นาสิตภาโว จ กเถตพฺโพ.

ตโต กิจฺจานิ กาเรยฺยาติ เอวํ, ตาต, ปมํ มุสาวาทํ ทุติยํ โกธํ ตติยํ อธมฺมหาสํ วชฺเชตฺวา ตโต ปจฺฉา ราชา รฏฺวาสีนํ กตฺตพฺพกิจฺจานิ กาเรยฺย. ตํ วตํ อาหุ ขตฺติยาติ, ขตฺติยมหาราช, ยํ มยา วุตฺตํ, เอตํ รฺโ วตสมาทานนฺติ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ.

น ตํ กยิราติ ยํ ตยา ราคาทิวเสน ปจฺฉา ตาปกรํ กมฺมํ กตํ โหติ, ตโต ปุพฺเพ กตโต ปุน ตาทิสํ กมฺมํ น กยิรา, มา กเรยฺยาสิ, ตาตาติ. วุจฺจเตติ ตํ รฺโ อฆนฺติ วุจฺจติ, เอวํ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ. สิรีติ อิทํ เวสฺสนฺตรสกุโณ ปุพฺเพ พาราณสิยํ ปวตฺติตการณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห. ตตฺถ อพฺรวุนฺติ สุจิปริวารเสฏฺินา ปุจฺฉิตา กถยึสุ. อุฏฺานวีริเยติ โย โปโส อุฏฺาเน วีริเย จ ปติฏฺิโต, น จ ปเรสํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา อุสูยติ, ตสฺมึ อหํ อภิรมามีติ อาห. เอวํ ตาว ตาต สิรี กเถสิ. อุสูยเกติ อลกฺขี ปน, ตาต, ปุจฺฉิตา อหํ ปรสมฺปตฺติอุสูยเก ทุหทเย ทุจิตฺเต กลฺยาณกมฺมทูสเก โย กลฺยาณกมฺมํ ทุสฺสนฺโต อปฺปิยายนฺโต อฏฺฏียนฺโต น กโรติ, ตสฺมึ อภิรมามีติ อาห. เอวํ สา กาฬกณฺณี, มหาราช, รมติ ปติรูปเทสวาสาทิโน กุสลจกฺกสฺส ภฺชนี.

สุหทโยติ สุนฺทรจิตฺโต หิตจิตฺตโก. นุทาติ นีหร. นิเวสนนฺติ ลกฺขิยา ปน นิเวสนํ ภว ปติฏฺา โหหิ. ส ลกฺขีธิติสมฺปนฺโนติ, มหาราช, กาสิปติ โส ปุริโส ปฺาย เจว วีริเยน จ สมฺปนฺโน. มหคฺคโตติ มหชฺฌาสโย โจรานํ ปจฺจยภูเต คณฺหนฺโต อมิตฺตานํ มูลํ โจเร คณฺหนฺโต อมิตฺตานํ อคฺคํ ฉินฺทตีติ วทติ. สกฺโกติ อินฺโท. ภูตปตีติ ราชานํ อาลปติ. อุฏฺาเนติ อุฏฺานวีริเย. นปฺปมชฺชตีติ น ปมชฺชติ, สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ส กลฺยาเณติ โส เทวราชา อุฏฺานวีริเย มนํ กโรนฺโต ปาปกมฺมํ อกตฺวา กลฺยาเณ ปุฺกมฺมสฺมิฺเว ธิตึ กตฺวา อปฺปมตฺโต อุฏฺาเน มนํ กโรติ, ตสฺส ปน กลฺยาณกมฺเม วีริยกรณภาวทสฺสนตฺถํ สรภงฺคชาตเก ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ สทฺธึ กปิฏฺารามํ อาคนฺตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมสฺส สุตภาโว, มหากณฺหชาตเก (ชา. ๑.๑๒.๖๑ อาทโย) อตฺตโน อานุภาเวน ชนํ ตาเสตฺวา โอสกฺกนฺตสฺส สาสนสฺส ปวตฺติตภาโว จาติ เอวมาทีนิ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.

คนฺธพฺพาติ จาตุมหาราชิกานํ เหฏฺา จตุโยนิกา เทวา, จตุโยนิกตฺตาเยว กิร เต คนฺธพฺพา นาม ชาตา. ปิตโรติ พฺรหฺมาโน. เทวาติ อุปปตฺติเทววเสน ฉ กามาวจรเทวา. ตาทิโนติ ตถาวิธสฺส กุสลาภิรตสฺส รฺโ. สาชีวา โหนฺตีติ สมานชีวิกา อุปชีวิตพฺพา. ตาทิสา หิ ราชาโน ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรนฺตา เทวตานํ ปตฺตึ เทนฺติ, ตา ตํ ปตฺตึ อนุโมทิตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทิพฺพยเสน วฑฺฒนฺติ. อนุติฏฺนฺตีติ ตาทิสสฺส รฺโ วีริยํ กโรนฺตสฺส อปฺปมาทํ อาปชฺชนฺตสฺส เทวตา อนุติฏฺนฺติ อนุคจฺฉนฺติ, ธมฺมิกํ รกฺขํ สํวิทหนฺตีติ อตฺโถ.

โสติ โส ตฺวํ. วายมสฺสูติ ตานิ รฏฺกิจฺจานิ กโรนฺโต ตุลนวเสน ตีรณวเสน ปจฺจกฺขกมฺมวเสน เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ วีริยํ กรสฺสุ. ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ, ตาต, ยํ มํ ตฺวํ กึสุ กิจฺจํ กตํ วรนฺติ ปุจฺฉิ, ตตฺถ ตว ปฺเหเยว เอเต มยา ‘‘ปเมเนว วิตถ’’นฺติอาทโย วุตฺตา, เอเต วตฺตปทา วตฺตโกฏฺาสา, เอวํ ตตฺถ วตฺตสฺสุ. เอสาติ ยา เต มยา กถิตา, เอสาว ตว อนุสาสนี. อลนฺติ เอวํ วตฺตมาโน หิ ราชา อตฺตโน มิตฺเต สุขาเปตุํ, อมิตฺตานฺจ ทุกฺขาย อลํ ปริยตฺโต สมตฺโถติ.

เอวํ เวสฺสนฺตรสกุเณน เอกาย คาถาย รฺโ ปมาทํ โจเทตฺวา เอกาทสหิ คาถาหิ ธมฺเม กถิเต ‘‘พุทฺธลีฬาย ปฺโห กถิโต’’ติ มหาชโน อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต สาธุการสตานิ ปวตฺเตสิ. ราชา โสมนสฺสปฺปตฺโต อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ปุตฺเตน เวสฺสนฺตเรน เอวํ กเถนฺเตน เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. มหาเสนคุตฺเตน, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺส มหาเสนคุตฺตฏฺานํ ทมฺมี’’ติ เวสฺสนฺตรํ านนฺตเร เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย มหาเสนคุตฺตฏฺาเน ิโต ปิตุ กมฺมํ อกาสีติ.

เวสฺสนฺตรปฺโห นิฏฺิโต.

ปุน ราชา กติปาหจฺจเยน ปุริมนเยเนว กุณฺฑลินิยา สนฺติกํ ทูตํ เปเสตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา ตตฺเถว มณฺฑปมชฺเฌ นิสีทิตฺวา กุณฺฑลินึ อาหราเปตฺวา สุวณฺณปีเ นิสินฺนํ ราชธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๔.

‘‘สกฺขิสิ ตฺวํ กุณฺฑลินิ, มฺสิ ขตฺตพนฺธุนิ;

รชฺชํ กาเรตุกาเมน, กึ สุ กิจฺจํ กตํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ สกฺขิสีติ มยา ปุฏฺปฺหํ กเถตุํ สกฺขิสฺสสีติ ปุจฺฉติ. กุณฺฑลินีติ ตสฺสา สลิงฺคโต อาคตนาเมนาลปติ. ตสฺสา กิร ทฺวีสุ กณฺณปิฏฺเสุ กุณฺฑลสณฺานา ทฺเว เลขา อเหสุํ, เตนสฺสา ‘‘กุณฺฑลินี’’ติ นามํ กาเรสิ. มฺสีติ ชานิสฺสสิ มยา ปุฏฺปฺหสฺส อตฺถนฺติ. ขตฺตพนฺธุนีติ ขตฺตสฺส มหาเสนคุตฺตสฺส ภคินิภาเวน นํ เอวํ อาลปติ. กสฺมา ปเนส เวสฺสนฺตรสกุณํ เอวํ อปุจฺฉิตฺวา อิมเมว ปุจฺฉตีติ? อิตฺถิภาเวน. อิตฺถิโย หิ ปริตฺตปฺา, ตสฺมา ‘‘สเจ สกฺโกติ, ปุจฺฉิสฺสามิ, โน เจ, น ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วีมํสนวเสน เอวํ ปุจฺฉิตฺวา ตฺเว ปฺหํ ปุจฺฉิ.

สา เอวํ รฺา ราชธมฺเม ปุจฺฉิเต, ‘‘ตาต, ตฺวํ มํ ‘อิตฺถิกา นาม กึ กเถสฺสตี’ติ วีมํสสิ มฺเ, สกลํ เต ราชธมฺมํ ทฺวีสุเยว ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕.

‘‘ทฺเวว ตาต ปทกานิ, ยตฺถ สพฺพํ ปติฏฺิตํ;

อลทฺธสฺส จ โย ลาโภ, ลทฺธสฺส จานุรกฺขณา.

๑๖.

‘‘อมจฺเจ ตาต ชานาหิ, ธีเร อตฺถสฺส โกวิเท;

อนกฺขากิตเว ตาต, อโสณฺเฑ อวินาสเก.

๑๗.

‘‘โย จ ตํ ตาต รกฺเขยฺย, ธนํ ยฺเจว เต สิยา;

สูโตว รถํ สงฺคณฺเห, โส เต กิจฺจานิ การเย.

๑๘.

‘‘สุสงฺคหิตนฺตชโน, สยํ วิตฺตํ อเวกฺขิย;

นิธิฺจ อิณทานฺจ, น กเร ปรปตฺติยา.

๑๙.

‘‘สยํ อายํ วยํ ชฺา, สยํ ชฺา กตากตํ;

นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ.

๒๐.

‘‘สยํ ชานปทํ อตฺถํ, อนุสาส รเถสภ;

มา เต อธมฺมิกา ยุตฺตา, ธนํ รฏฺฺจ นาสยุํ.

๒๑.

‘‘มา จ เวเคน กิจฺจานิ, กโรสิ การเยสิ วา;

เวคสา หิ กตํ กมฺมํ, มนฺโท ปจฺฉานุตปฺปติ.

๒๒.

‘‘มา เต อธิสเร มุฺจ, สุพาฬฺหมธิโกปิตํ;

โกธสา หิ พหู ผีตา, กุลา อกุลตํ คตา.

๒๓.

‘‘‘มา ตาต อิสฺสโรมฺหี’ติ, อนตฺถาย ปตารยิ;

อิตฺถีนํ ปุริสานฺจ, มา เต อาสิ ทุขุทฺรโย.

๒๔.

‘‘อเปตโลมหํสสฺส, รฺโ กามานุสาริโน;

สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, รฺโ ตํ วุจฺจเต อฆํ.

๒๕.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

ทกฺขสฺสุทานิ ปุฺกโร, อโสณฺโฑ อวินาสโก;

สีลวาสฺสุ มหาราช, ทุสฺสีโล วินิปาติโก’’ติ.

ตตฺถ ปทกานีติ การณปทานิ. ยตฺถาติ เยสุ ทฺวีสุ ปเทสุ สพฺพํ อตฺถชาตํ หิตสุขํ ปติฏฺิตํ. อลทฺธสฺสาติ โย จ ปุพฺเพ อลทฺธสฺส ลาภสฺส ลาโภ, ยา จ ลทฺธสฺส อนุรกฺขณา. ตาต, อนุปฺปนฺนสฺส หิ ลาภสฺส อุปฺปาทนํ นาม น ภาโร, อุปฺปนฺนสฺส ปน อนุรกฺขณเมว ภาโร. เอกจฺโจ หิ ยสํ อุปฺปาเทตฺวาปิ ยเส ปมตฺโต ปมาทํ อุปฺปาเทตฺวา ปาณาติปาตาทีนิ กโรติ, มหาโจโร หุตฺวา รฏฺํ วิลุมฺปมาโน จรติ. อถ นํ ราชาโน คาหาเปตฺวา มหาวินาสํ ปาเปนฺติ. อถ วา อุปฺปนฺนรูปาทีสุ กามคุเณสุ ปมตฺโต อโยนิโส ธนํ นาเสนฺโต สพฺพสาปเตยฺเย ขีเณ กปโณ หุตฺวา จีรกวสโน กปาลมาทาย จรติ. ปพฺพชิโต วา ปน คนฺถธุราทิวเสน ลาภสกฺการํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมตฺโต หีนายาวตฺตติ. อปโร ปมฌานาทีนิ นิพฺพตฺเตตฺวาปิ มุฏฺสฺสติตาย ตถารูเป อารมฺมเณ พชฺฌิตฺวา ฌานา ปริหายติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ยสสฺส วา ฌานาทิลาภสฺส วา รกฺขณเมว ทุกฺกรํ. ตทตฺถทีปนตฺถํ ปน เทวทตฺตสฺส วตฺถุ จ, มุทุลกฺขณ- (ชา. ๑.๑.๖๖) โลมสกสฺสป- (ชา. ๑.๙.๖๐ อาทโย) หริตจชาตก- (ชา. ๑.๙.๔๐ อาทโย) สงฺกปฺปชาตกาทีนิ (ชา. ๑.๓.๑ อาทโย) จ กเถตพฺพานิ. เอโก ปน ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทตฺวา อปฺปมาเท ตฺวา กลฺยาณกมฺมํ กโรติ, ตสฺส โส ยโส สุกฺกปกฺเข จนฺโท วิย วฑฺฒติ, ตสฺมา ตฺวํ, มหาราช, อปฺปมตฺโต ปโยคสมฺปตฺติยา ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ตว อุปฺปนฺนํ ยสํ อนุรกฺขาหีติ.

ชานาหีติ ภณฺฑาคาริกกมฺมาทีนํ กรณตฺถํ อุปธาเรหิ. อนกฺขากิตเวติ อนกฺเข อกิตเว อชุตกเร เจว อเกราฏิเก จ. อโสณฺเฑติ ปูวสุราคนฺธมาลาโสณฺฑภาวรหิเต. อวินาสเกติ ตว สนฺตกานํ ธนธฺาทีนํ อวินาสเก. โยติ โย อมจฺโจ. ยฺเจวาติ ยฺจ เต ฆเร ธนํ สิยา, ตํ รกฺเขยฺย. สูโตวาติ รถสารถิ วิย. ยถา สารถิ วิสมมคฺคนิวารณตฺถํ อสฺเส สงฺคณฺหนฺโต รถํ สงฺคณฺเหยฺย, เอวํ โย สห โภเคหิ ตํ รกฺขิตุํ สกฺโกติ, โส เต อมจฺโจ นาม ตาทิสํ สงฺคเหตฺวา ภณฺฑาคาริกาทิกิจฺจานิ การเย.

สุสงฺคหิตนฺตชโนติ, ตาต, ยสฺส หิ รฺโ อตฺตโน อนฺโตชโน อตฺตโน วลฺชนกปริชโน จ ทานาทีหิ อสงฺคหิโต โหติ, ตสฺส อนฺโตนิเวสเน สุวณฺณหิรฺาทีนิ เตสํ อสงฺคหิตมนุสฺสานํ วเสน นสฺสนฺติ, อนฺโตชนา พหิ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตฺวํ สุฏฺุสงฺคหิตอนฺโตชโน หุตฺวา ‘‘เอตฺตกํ นาม เม วิตฺต’’นฺติ สยํ อตฺตโน ธนํ อเวกฺขิตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม นิธึ นิเธม, อสุกสฺส อิณํ เทมา’’ติ อิทํ อุภยมฺปิ น กเร ปรปตฺติยา, ปรปตฺติยาปิ ตฺวํ มา กริ, สพฺพํ อตฺตปจฺจกฺขเมว กเรยฺยาสีติ วทติ.

อายํ วยนฺติ ตโต อุปฺปชฺชนกํ อายฺจ เตสํ เตสํ ทาตพฺพํ วยฺจ สยเมว ชาเนยฺยาสีติ. กตากตนฺติ สงฺคาเม วา นวกมฺเม วา อฺเสุ วา กิจฺเจสุ ‘‘อิมินา อิทํ นาม มยฺหํ กตํ, อิมินา น กต’’นฺติ เอตมฺปิ สยเมว ชาเนยฺยาสิ, มา ปรปตฺติโย โหหิ. นิคฺคณฺเหติ, ตาต, ราชา นาม สนฺธิจฺเฉทาทิการกํ นิคฺคหารหํ อาเนตฺวา ทสฺสิตํ อุปปริกฺขิตฺวา โสเธตฺวา โปราณกราชูหิ ปิตทณฺฑํ โอโลเกตฺวา โทสานุรูปํ นิคฺคณฺเหยฺย. ปคฺคณฺเหติ โย ปน ปคฺคหารโห โหติ, อภินฺนสฺส วา ปรพลสฺส เภเทตา, ภินฺนสฺส วา สกพลสฺส อาราธโก, อลทฺธสฺส วา รชฺชสฺส อาหรโก, ลทฺธสฺส วา ถาวรการโก, เยน วา ปน ชีวิตํ ทินฺนํ โหติ, เอวรูปํ ปคฺคหารหํ ปคฺคเหตฺวา มหนฺตํ สกฺการสมฺมานํ กเรยฺย. เอวํ หิสฺส กิจฺเจสุ อฺเปิ อุรํ ทตฺวา กตฺตพฺพํ กริสฺสนฺติ.

ชานปทนฺติ ชนปทวาสีนํ อตฺถํ สยํ อตฺตปจฺจกฺเขเนว อนุสาส. อธมฺมิกา ยุตฺตาติ อธมฺมิกา ตตฺถ ตตฺถ นิยุตฺตา อายุตฺตกา ลฺชํ คเหตฺวา วินิจฺฉยํ ภินฺทนฺตา ตว ธนฺจ รฏฺฺจ มา นาสยุํ. อิมินา การเณน อปฺปมตฺโต หุตฺวา สยเมว อนุสาส. เวเคนาติ สหสา อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา. เวคสาติ อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา ฉนฺทาทิวเสน สหสา กตํ กมฺมฺหิ น สาธุ น สุนฺทรํ. กึการณา? ตาทิสฺหิ กตฺวา มนฺโท ปจฺฉา วิปฺปฏิสารวเสน อิธ โลเก อปายทุกฺขํ อนุภวนฺโต ปรโลเก จ อนุตปฺปติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ ‘‘อิสีนมนฺตรํ กตฺวา, ภรุราชาติ เม สุต’’นฺติ ภรุชาตเกน (ชา. ๑.๒.๑๒๕-๑๒๖) ทีเปตพฺโพ.

มา เต อธิสเร มุฺจ, สุพาฬฺหมธิโกปิตนฺติ, ตาต, ตว หทยํ กุสลํ อธิสริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ปวตฺเต ปเรสํ อกุสลกมฺเม สุฏฺุ พาฬฺหํ อธิโกปิตํ กุชฺฌาปิตํ หุตฺวา มา มุฺจ, มา ปติฏฺายตูติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, ยทา เต วินิจฺฉเย ิตสฺส อิมินา ปุริโส วา หโต สนฺธิ วา ฉินฺโนติ โจรํ ทสฺเสนฺติ, ตทา เต ปเรสํ วจเนหิ สุฏฺุ โกปิตมฺปิ หทยํ โกธวเสน มา มุฺจ, อปริคฺคเหตฺวา มา ทณฺฑํ ปเณหิ. กึการณา? อโจรมฺปิ หิ ‘‘โจโร’’ติ คเหตฺวา อาเนนฺติ, ตสฺมา อกุชฺฌิตฺวา อุภินฺนํ อตฺตปจฺจตฺถิกานํ กถํ สุตฺวา สุฏฺุ โสเธตฺวา อตฺตปจฺจกฺเขน ตสฺส โจรภาวํ ตฺวา ปเวณิยา ปิตทณฺฑวเสน กตฺตพฺพํ กโรหิ. รฺา หิ อุปฺปนฺเนปิ โกเธ หทยํ สีตลํ อกตฺวา กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยทา ปนสฺส หทยํ นิพฺพุตํ โหติ มุทุกํ, ตทา วินิจฺฉยกมฺมํ กาตพฺพํ. ผรุเส หิ จิตฺเต ปกฺกุถิเต อุทเก มุขนิมิตฺตํ วิย การณํ น ปฺายติ. โกธสา หีติ, ตาต, โกเธน หิ พหูนิ ผีตานิ ราชกุลานิ อกุลภาวํ คตานิ มหาวินาสเมว ปตฺตานีติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถํ ขนฺติวาทิชาตก- (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) นาฬิเกรราชวตฺถุสหสฺสพาหุอชฺชุนวตฺถุอาทีนิ กเถตพฺพานิ.

มา, ตาต, อิสฺสโรมฺหีติ, อนตฺถาย ปตารยีติ, ตาต, ‘‘อหํ ปถวิสฺสโร’’ติ มา มหาชนํ กายทุจฺจริตาทิอนตฺถาย ปตารยิ มา โอตารยิ, ยถา ตํ อนตฺถํ สมาทาย วตฺตติ, มา เอวมกาสีติ อตฺโถ. มา เต อาสีติ, ตาต, ตว วิชิเต มนุสฺสชาติกานํ วา ติรจฺฉานชาติกานํ วา อิตฺถิปุริสานํ ทุขุทฺรโย ทุกฺขุปฺปตฺติ มา อาสิ. ยถา หิ อธมฺมิกราชูนํ วิชิเต มนุสฺสา กายทุจฺจริตาทีนิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชนฺติ, ตว รฏฺวาสีนํ ตํ ทุกฺขํ ยถา น โหติ, ตถา กโรหีติ อตฺโถ.

อเปตโลมหํสสฺสาติ อตฺตานุวาทาทิภเยหิ นิพฺภยสฺส. อิมินา อิมํ ทสฺเสติ – ตาต, โย ราชา กิสฺมิฺจิ อาสงฺกํ อกตฺวา อตฺตโน กามเมว อนุสฺสรติ, ฉนฺทวเสน ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ กโรติ, วิสฺสฏฺยฏฺิ วิย อนฺโธ นิรงฺกุโส วิย จ จณฺฑหตฺถี โหติ, ตสฺส สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, ตสฺส ตํ โภคพฺยสนํ อฆํ ทุกฺขนฺติ วุจฺจติ.

ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. ทกฺขสฺสุทานีติ, ตาต, ตฺวํ อิมํ อนุสาสนึ สุตฺวา อิทานิ ทกฺโข อนลโส ปุฺานํ กรเณน ปุฺกโร สุราทิปริหรเณน. อโสณฺโฑ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกสฺส อตฺถสฺส อวินาสเนน อวินาสโก ภเวยฺยาสีติ. สีลวาสฺสูติ สีลวา อาจารสมฺปนฺโน ภว, ทสสุ ราชธมฺเมสุ ปติฏฺาย รชฺชํ กาเรหิ. ทุสฺสีโล วินิปาติโกติ ทุสฺสีโล หิ, มหาราช, อตฺตานํ นิรเย วินิปาเตนฺโต วินิปาติโก นาม โหตีติ.

เอวํ กุณฺฑลินีปิ เอกาทสหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ. ราชา ตุฏฺโ อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ธีตาย กุณฺฑลินิยา เอวํ กถยมานาย เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. ภณฺฑาคาริเกน, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺสา ภณฺฑาคาริกฏฺานํ ทมฺมี’’ติ กุณฺฑลินึ านนฺตเร เปสิ. สา ตโต ปฏฺาย ภณฺฑาคาริกฏฺาเน ตฺวา ปิตุ กมฺมํ อกาสีติ.

กุณฺฑลินิปฺโห นิฏฺิโต.

ปุน ราชา กติปาหจฺจเยน ปุริมนเยเนว ชมฺพุกปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ ทูตํ เปเสตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ คนฺตฺวา สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ปจฺจาคโต ตตฺเถว มณฺฑปมชฺเฌ นิสีทิ. อมจฺโจ ชมฺพุกปณฺฑิตํ กฺจนภทฺทปีเ นิสีทาเปตฺวา ปีํ สีเสนาทาย อาคจฺฉิ. ปณฺฑิโต ปิตุ องฺเก นิสีทิตฺวา กีฬิตฺวา คนฺตฺวา กฺจนปีเเยว นิสีทิ. อถ นํ ราชา ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๒๖.

‘‘อปุจฺฉิมฺห โกสิยโคตฺตํ, กุณฺฑลินึ ตเถว จ;

ตฺวํ ทานิ วเทหิ ชมฺพุก, พลานํ พลมุตฺตม’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ตาต, ชมฺพุก, อหํ ตว ภาตรํ โกสิยโคตฺตํ เวสฺสนฺตรํ ภคินิฺจ เต กุณฺฑลินึ ราชธมฺมํ อปุจฺฉึ, เต อตฺตโน พเลน กเถสุํ, ยถา ปน เต ปุจฺฉึ, ตเถว อิทานิ, ปุตฺต ชมฺพุก, ตํ ปุจฺฉามิ, ตฺวํ เม ราชธมฺมฺจ พลานํ อุตฺตมํ พลฺจ กเถหีติ.

เอวํ ราชา มหาสตฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต อฺเสํ ปุจฺฉิตนิยาเมน อปุจฺฉิตฺวา วิเสเสตฺวา ปุจฺฉิ. อถสฺส ปณฺฑิโต ‘‘เตน หิ, มหาราช, โอหิตโสโต สุณาหิ, สพฺพํ เต กเถสฺสามี’’ติ ปสาริตหตฺเถ สหสฺสตฺถวิกํ เปนฺโต วิย ธมฺมเทสนํ อารภิ –

๒๗.

‘‘พลํ ปฺจวิธํ โลเก, ปุริสสฺมึ มหคฺคเต;

ตตฺถ พาหุพลํ นาม, จริมํ วุจฺจเต พลํ.

๒๘.

‘‘โภคพลฺจ ทีฆาวุ, ทุติยํ วุจฺจเต พลํ;

อมจฺจพลฺจ ทีฆาวุ, ตติยํ วุจฺจเต พลํ.

๒๙.

‘‘อภิชจฺจพลฺเจว, ตํ จตุตฺถํ อสํสยํ;

ยานิ เจตานิ สพฺพานิ, อธิคณฺหาติ ปณฺฑิโต.

๓๐.

‘‘ตํ พลานํ พลํ เสฏฺํ, อคฺคํ ปฺาพลํ พลํ;

ปฺาพเลนุปตฺถทฺโธ, อตฺถํ วินฺทติ ปณฺฑิโต.

๓๑.

‘‘อปิ เจ ลภติ มนฺโท, ผีตํ ธรณิมุตฺตมํ;

อกามสฺส ปสยฺหํ วา, อฺโ ตํ ปฏิปชฺชติ.

๓๒.

‘‘อภิชาโตปิ เจ โหติ, รชฺชํ ลทฺธาน ขตฺติโย;

ทุปฺปฺโ หิ กาสิปติ, สพฺเพนปิ น ชีวติ.

๓๓.

‘‘ปฺาว สุตํ วินิจฺฉินี, ปฺา กิตฺติสิโลกวฑฺฒนี;

ปฺาสหิโต นโร อิธ, อปิ ทุกฺเข สุขานิ วินฺทติ.

๓๔.

‘‘ปฺฺจ โข อสุสฺสูสํ, น โกจิ อธิคจฺฉติ;

พหุสฺสุตํ อนาคมฺม, ธมฺมฏฺํ อวินิพฺภุชํ.

๓๕.

‘‘โย จ ธมฺมวิภงฺคฺู, กาลุฏฺายี อตนฺทิโต;

อนุฏฺหติ กาเลน, กมฺมผลํ ตสฺสิชฺฌติ.

๓๖.

‘‘อนายตนสีลสฺส, อนายตนเสวิโน;

น นิพฺพินฺทิยการิสฺส, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ.

๓๗.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ ปยุตฺตสฺส, ตถายตนเสวิโน;

อนิพฺพินฺทิยการิสฺส, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ.

๓๘.

‘‘โยคปฺปโยคสงฺขาตํ, สมฺภตสฺสานุรกฺขณํ;

ตานิ ตฺวํ ตาต เสวสฺสุ, มา อกมฺมาย รนฺธยิ;

อกมฺมุนา หิ ทุมฺเมโธ, นฬาคารํว สีทตี’’ติ.

ตตฺถ มหคฺคเตติ, มหาราช, อิมสฺมึ สตฺตโลเก มหชฺฌาสเย ปุริเส ปฺจวิธํ พลํ โหติ. พาหุพลนฺติ กายพลํ. จริมนฺติ ตํ อติมหนฺตมฺปิ สมานํ ลามกเมว. กึการณา? อนฺธพาลภาเวน. สเจ หิ กายพลํ มหนฺตํ นาม ภเวยฺย, วารณพลโต ลฏุกิกาย พลํ ขุทฺทกํ ภเวยฺย, วารณพลํ ปน อนฺธพาลภาเวน มรณสฺส ปจฺจยํ ชาตํ, ลฏุกิกา อตฺตโน าณกุสลตาย วารณํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘น เหว สพฺพตฺถ พเลน กิจฺจํ, พลฺหิ พาลสฺส วธาย โหตี’’ติ สุตฺตํ (ชา. ๑.๕.๔๒) อาหริตพฺพํ.

โภคพลนฺติ อุปตฺถมฺภนวเสน สพฺพํ หิรฺสุวณฺณาทิ อุปโภคชาตํ โภคพลํ นาม, ตํ กายพลโต มหนฺตตรํ. อมจฺจพลนฺติ อเภชฺชมนฺตสฺส สูรสฺส สุหทยสฺส อมจฺจมณฺฑลสฺส อตฺถิตา, ตํ พลํ สงฺคามสูรตาย ปุริเมหิ พเลหิ มหนฺตตรํ. อภิชจฺจพลนฺติ ตีณิ กุลานิ อติกฺกมิตฺวา ขตฺติยกุลวเสน ชาติสมฺปตฺติ, ตํ อิตเรหิ พเลหิ มหนฺตตรํ. ชาติสมฺปนฺนา เอว หิ สุชฺฌนฺติ, น อิตเรติ. ยานิ เจตานีติ ยานิ จ เอตานิ จตฺตาริปิ พลานิ ปณฺฑิโต ปฺานุภาเวน อธิคณฺหาติ อภิภวติ, ตํ สพฺพพลานํ ปฺาพลํ เสฏฺนฺติ จ อคฺคนฺติ จ วุจฺจติ. กึการณา? เตน หิ พเลน อุปตฺถทฺโธ ปณฺฑิโต อตฺถํ วินฺทติ, วุฑฺฒึ ปาปุณาติ. ตทตฺถโชตนตฺถํ ‘‘ปุณฺณํ นทึ เยน จ เปยฺยมาหู’’ติ ปุณฺณนทีชาตกฺจ (ชา. ๑.๒.๑๒๗ อาทโย) สิรีกาฬกณฺณิปฺหํ ปฺจปณฺฑิตปฺหฺจ สตฺตุภสฺตชาตก- (ชา. ๑.๗.๔๖ อาทโย) สมฺภวชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๑๓๘ อาทโย) สรภงฺคชาตกาทีนิ (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) จ กเถตพฺพานิ.

มนฺโทติ มนฺทปฺโ พาโล. ผีตนฺติ, ตาต, มนฺทปฺโ ปุคฺคโล สตฺตรตนปุณฺณํ เจปิ อุตฺตมํ ธรณึ ลภติ, ตสฺส อนิจฺฉมานสฺเสว ปสยฺหการํ วา ปน กตฺวา อฺโ ปฺาสมฺปนฺโน ตํ ปฏิปชฺชติ. มนฺโท หิ ลทฺธํ ยสํ รกฺขิตุํ กุลสนฺตกํ วา ปน ปเวณิอาคตมฺปิ รชฺชํ อธิคนฺตุํ น สกฺโกติ. ตทตฺถโชตนตฺถํ ‘‘อทฺธา ปาทฺชลี สพฺเพ, ปฺาย อติโรจตี’’ติ ปาทฺชลีชาตกํ (ชา. ๑.๒.๑๙๔-๑๙๕) กเถตพฺพํ. ลทฺธานาติ ชาติสมฺปตฺตึ นิสฺสาย กุลสนฺตกํ รชฺชํ ลภิตฺวาปิ. สพฺเพนปีติ เตน สกเลนปิ รชฺเชน น ชีวติ, อนุปายกุสลตาย ทุคฺคโตว โหตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต เอตฺตเกน าเนน อปณฺฑิตสฺส อคุณํ กเถตฺวา อิทานิ ปฺํ ปสํสนฺโต ‘‘ปฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุตนฺติ สุตปริยตฺติ. ตฺหิ ปฺาว วินิจฺฉินติ. กิตฺติสิโลกวฑฺฒนีติ กิตฺติโฆสสฺส จ ลาภสกฺการสฺส จ วฑฺฒนี. ทุกฺเข สุขานิ วินฺทตีติ ทุกฺเข อุปฺปนฺเนปิ นิพฺภโย หุตฺวา อุปายกุสลตาย สุขํ ปฏิลภติ. ตทตฺถทีปนตฺถํ –

‘‘ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา, วานรินฺท ยถา ตว’’. (ชา. ๑.๑.๕๗);

อลเมเตหิ อมฺเพหิ, ชมฺพูหิ ปนเสหิ จา’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๑๕) –

อาทีนิ ชาตกานิ กเถตพฺพานิ.

อสุสฺสูสนฺติ ปณฺฑิตปุคฺคเล อปยิรุปาสนฺโต อสฺสุณนฺโต. ธมฺมฏฺนฺติ สภาวการเณ ิตํ พหุสฺสุตํ อนาคมฺม ตํ อสทฺทหนฺโต. อวินิพฺภุชนฺติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ อโนคาหนฺโต อตีเรนฺโต น โกจิ ปฺํ อธิคจฺฉติ, ตาตาติ.

ธมฺมวิภงฺคฺูติ ทสกุสลกมฺมปถวิภงฺคกุสโล. กาลุฏฺายีติ วีริยํ กาตุํ ยุตฺตกาเล วีริยสฺส การโก. อนุฏฺหตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ตํ ตํ กิจฺจํ กโรติ. ตสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส กมฺมผลํ สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชติ. อนายตนสีลสฺสาติ อนายตนํ วุจฺจติ ลาภยสสุขานํ อนากโร ทุสฺสีลฺยกมฺมํ, ตํสีลสฺส เตน ทุสฺสีลฺยกมฺเมน สมนฺนาคตสฺส, อนายตนภูตเมว ทุสฺสีลปุคฺคลํ เสวนฺตสฺส, กุสลสฺส กมฺมสฺส กรณกาเล นิพฺพินฺทิยการิสฺส นิพฺพินฺทิตฺวา อุกฺกณฺิตฺวา กโรนฺตสฺส เอวรูปสฺส, ตาต, ปุคฺคลสฺส กมฺมานํ อตฺโถ สมฺมา น วิปจฺจติ น สมฺปชฺชติ, ตีณิ กุลคฺคานิ จ ฉ กามสคฺคานิ จ น อุปเนตีติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตฺจาติ อตฺตโน นิยกชฺฌตฺตํ อนิจฺจภาวนาทิวเสน ปยุตฺตสฺส. ตถายตนเสวิโนติ ตเถว สีลวนฺเต ปุคฺคเล เสวมานสฺส. วิปจฺจตีติ สมฺปชฺชติ มหนฺตํ ยสํ เทติ.

โยคปฺปโยคสงฺขาตนฺติ โยเค ยุฺชิตพฺพยุตฺตเก การเณ ปโยคโกฏฺาสภูตํ ปฺํ. สมฺภตสฺสาติ ราสิกตสฺส ธนสฺส อนุรกฺขณํ. ตานิ ตฺวนฺติ เอตานิ จ ทฺเว ปุริมานิ จ มยา วุตฺตการณานิ สพฺพานิ, ตาต, ตฺวํ เสวสฺสุ, มยา วุตฺตํ โอวาทํ หทเย กตฺวา อตฺตโน ฆเร ธนํ รกฺข. มา อกมฺมาย รนฺธยีติ อยุตฺเตน อการเณน มา รนฺธยิ, ตํ ธนํ มา ฌาปยิ มา นาสยิ. กึการณา? อกมฺมุนา หีติ อยุตฺตกมฺมกรเณน ทุมฺเมโธ ปุคฺคโล สกํ ธนํ นาเสตฺวา ปจฺฉา ทุคฺคโต. นฬาคารํว สีทตีติ ยถา นฬาคารํ มูลโต ปฏฺาย ชีรมานํ อปฺปติฏฺํ ปตติ, เอวํ อการเณน ธนํ นาเสตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตตีติ.

เอวมฺปิ โพธิสตฺโต เอตฺตเกน าเนน ปฺจ พลานิ วณฺเณตฺวา ปฺาพลํ อุกฺขิปิตฺวา จนฺทมณฺฑลํ นีหรนฺโต วิย กเถตฺวา อิทานิ ทสหิ คาถาหิ รฺโ โอวาทํ เทนฺโต อาห –

๓๙.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๐.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๒.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๓.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๔.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเ ชนปเทสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๕.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมเณ พฺราหฺมเณสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๖.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๗.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๘.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;

สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.

ตตฺถ ปมคาถาย ตาว อิธ ธมฺมนฺติ มาตาปิตุปฏฺานธมฺมํ. ตํ กาลสฺเสว วุฏฺาย มาตาปิตูนํ มุโขทกทนฺตกฏฺทานมาทึ กตฺวา สพฺพสรีรกิจฺจปริหรณํ กโรนฺโตว ปูเรหีติ วทติ. ปุตฺตทาเรสูติ ปุตฺตธีตโร ตาว ปาปา นิวาเรตฺวา กลฺยาเณ นิเวเสนฺโต สิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปนฺโต วยปฺปตฺตกาเล ปติรูปกุลวํเสน อาวาหวิวาหํ กโรนฺโต สมเย ธนํ เทนฺโต ปุตฺเตสุ ธมฺมํ จรติ นาม, ภริยํ สมฺมาเนนฺโต อนวมาเนนฺโต อนติจรนฺโต อิสฺสริยํ โวสฺสชฺเชนฺโต อลงฺการํ อนุปฺปเทนฺโต ทาเรสุ ธมฺมํ จรติ นาม. มิตฺตามจฺเจสูติ มิตฺตามจฺเจ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคณฺหนฺโต อวิสํวาเทนฺโต เอเตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. วาหเนสุ พเลสุ จาติ หตฺถิอสฺสาทีนํ วาหนานํ พลกายสฺส จ ทาตพฺพยุตฺตกํ เทนฺโต สกฺการํ กโรนฺโต หตฺถิอสฺสาทโย มหลฺลกกาเล กมฺเมสุ อโยเชนฺโต เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม.

คาเมสุ นิคเมสุ จาติ คามนิคมวาสิโน ทณฺฑพลีหิ อปีเฬนฺโตว เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. รฏฺเ ชนปเทสุ จาติ รฏฺฺจ ชนปทฺจ อการเณน กิลเมนฺโต หิตจิตฺตํ อปจฺจุปฏฺเปนฺโต ตตฺถ อธมฺมํ จรติ นาม, อปีเฬนฺโต ปน หิตจิตฺเตน ผรนฺโต ตตฺถ ธมฺมํ จรติ นาม. สมเณ พฺราหฺมเณสุ จาติ เตสํ จตฺตาโร ปจฺจเย เทนฺโตว เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. มิคปกฺขีสูติ สพฺพจตุปฺปทสกุณานํ อภยํ เทนฺโต เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. ธมฺโม จิณฺโณติ สุจริตธมฺโม จิณฺโณ. สุขาวโหติ ตีสุ กุลสมฺปทาสุ ฉสุ กามสคฺเคสุ สุขํ อาวหติ. สุจิณฺเณนาติ อิธ จิณฺเณน กายสุจริตาทินา สุจิณฺเณน. ทิวํ ปตฺตาติ เทวโลกพฺรหฺมโลกสงฺขาตํ ทิวํ คตา, ตตฺถ ทิพฺพสมฺปตฺติลาภิโน ชาตา. มา ธมฺมํ ราช ปามโทติ ตสฺมา ตฺวํ, มหาราช, ชีวิตํ ชหนฺโตปิ ธมฺมํ มา ปมชฺชีติ.

เอวํ ทส ธมฺมจริยคาถาโย วตฺวา อุตฺตริปิ โอวทนฺโต โอสานคาถมาห –

๔๙.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

สปฺปฺเสวี กลฺยาณี, สมตฺตํ สาม ตํ วิทู’’ติ.

ตตฺถ ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ อิทํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. สปฺปฺเสวี กลฺยาณี, สมตฺตํ สาม ตํ วิทูติ, มหาราช, ตํ มยา วุตฺตํ โอวาทํ ตฺวํ นิจฺจกาลํ สปฺปฺปุคฺคลเสวี กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต หุตฺวา สมตฺตํ ปริปุณฺณํ สามํ วิทู อตฺตปจฺจกฺขโตว ชานิตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชาติ.

เอวํ มหาสตฺโต อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโน มหาสกฺการํ อกาสิ, สาธุการสหสฺสานิ อทาสิ. ราชา ตุฏฺโ อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ปุตฺเตน ตรุณชมฺพุผลสมานตุณฺเฑน ชมฺพุกปณฺฑิเตน เอวํ กเถนฺเตน เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. เสนาปตินา, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺส เสนาปติฏฺานํ ทมฺมี’’ติ ชมฺพุกํ านนฺตเร เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย เสนาปติฏฺาเน ตฺวา ปิตุ กมฺมานิ อกาสิ. ติณฺณํ สกุณานํ มหนฺโต สกฺกาโร อโหสิ. ตโยปิ ชนา รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสึสุ. มหาสตฺตสฺโสวาเท ตฺวา ราชา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. อมจฺจา รฺโ สรีรกิจฺจํ กตฺวา สกุณานํ อาโรเจตฺวา ‘‘สามิ, ชมฺพุกสกุณ ราชา ตุมฺหากํ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตพฺพํ อกาสี’’ติ วทึสุ. มหาสตฺโต ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, ตุมฺเห อปฺปมตฺตา รชฺชํ กาเรถา’’ติ มหาชนํ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘เอวํ วินิจฺฉยํ ปวตฺเตยฺยาถา’’ติ วินิจฺฉยธมฺมํ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขาเปตฺวา อรฺํ ปาวิสิ. ตสฺโสวาโท จตฺตาลีส วสฺสสหสฺสานิ ปวตฺตติ.

สตฺถา รฺโ โอวาทวเสน อิมํ ธมฺมเทสนํ เทเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, กุณฺฑลินี อุปฺปลวณฺณา, เวสฺสนฺตโร สาริปุตฺโต, ชมฺพุกสกุโณ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

เตสกุณชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๒๒] ๒. สรภงฺคชาตกวณฺณนา

อลงฺกตา กุณฺฑลิโน สุวตฺถาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปรินิพฺพานํ อารพฺภ กเถสิ. สาริปุตฺตตฺเถโร ตถาคตํ เชตวเน วิหรนฺตํ อตฺตโน ปรินิพฺพานํ อนุชานาเปตฺวา คนฺตฺวา นาฬกคามเก ชาโตวรเก ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ สุตฺวา สตฺถา ราชคหํ คนฺตฺวา เวฬุวเน วิหาสิ. ตทา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อิสิคิลิปสฺเส กาฬสิลายํ วิหรติ. โส ปน อิทฺธิพเลน โกฏิปฺปตฺตภาเวน เทวโลกจาริกฺจ อุสฺสทนิรยจาริกฺจ คจฺฉติ. เทวโลเก พุทฺธสาวกานํ มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทิสฺวา อุสฺสทนิรเยสุ จ ติตฺถิยสาวกานํ มหนฺตํ ทุกฺขํ ทิสฺวา มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา ‘‘อสุโก อุปาสโก อสุกา จ อุปาสิกา อสุกสฺมึ นาม เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา มหาสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ, ติตฺถิยสาวเกสุ อสุโก จ อสุกา จ นิรยาทีสุ อสุกอปาเย นาม นิพฺพตฺตา’’ติ มนุสฺสานํ กเถสิ. มนุสฺสา สาสเน ปสีทนฺติ, ติตฺถิเย ปริวชฺเชนฺติ. พุทฺธสาวกานํ สกฺกาโร มหนฺโต อโหสิ, ติตฺถิยานํ ปริหายติ.

เต เถเร อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ ชีวนฺเต อมฺหากํ อุปฏฺากา ภิชฺชนฺติ, สกฺกาโร จ ปริหายติ, มาราเปสฺสาม น’’นฺติ เถรสฺส มารณตฺถํ สมณคุตฺตกสฺส นาม โจรสฺส สหสฺสํ อทํสุ. โส ‘‘เถรํ มาเรสฺสามี’’ติ มหนฺเตน ปริวาเรน สทฺธึ กาฬสิลํ อคมาสิ. เถโร ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อิทฺธิยา อุปฺปติตฺวา ปกฺกามิ. โจโร ตํ ทิวสํ เถรํ อทิสฺวา นิวตฺติตฺวา ปุนทิวเสปีติ ฉ ทิวเส อคมาสิ. เถโรปิ ตเถว อิทฺธิยา ปกฺกามิ. สตฺตเม ปน ทิวเส เถรสฺส ปุพฺเพ กตํ อปราปริยเวทนียกมฺมํ โอกาสํ ลภิ. โส กิร ปุพฺเพ ภริยาย วจนํ คเหตฺวา มาตาปิตโร มาเรตุกาโม ยานเกน อรฺํ เนตฺวา โจรานํ อุฏฺิตาการํ กตฺวา มาตาปิตโร โปเถสิ ปหริ. เต จกฺขุทุพฺพลตาย รูปทสฺสนรหิตา ตํ อตฺตโน ปุตฺตํ อสฺชานนฺตา ‘‘โจรา เอว เอเต’’ติ สฺาย, ‘‘ตาต, อสุกา นาม โจรา โน ฆาเตนฺติ, ตฺวํ ปฏิกฺกมาหี’’ติ ตสฺเสวตฺถาย ปริเทวึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อิเม มยา โปถิยมานาปิ มยฺหํ เยวตฺถาย ปริเทวนฺติ, อยุตฺตํ กมฺมํ กโรมี’’ติ. อถ เน อสฺสาเสตฺวา โจรานํ ปลายนาการํ ทสฺเสตฺวา เตสํ หตฺถปาเท สมฺพาหิตฺวา ‘‘อมฺม, ตาตา, มา ภายิตฺถ, โจรา ปลาตา’’ติ วตฺวา ปุน อตฺตโน เคหเมว อาเนสิ. ตํ กมฺมํ เอตฺตกํ กาลํ โอกาสํ อลภิตฺวา ภสฺมปฏิจฺฉนฺโน องฺคารราสิ วิย ตฺวา อิมํ อนฺติมสรีรํ อุปธาวิตฺวา คณฺหิ. ยถา หิ ปน สุนขลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา สุนโข วิสฺสชฺชิโต มิคํ อนุพนฺธิตฺวา ยสฺมึ าเน ปาปุณาติ, ตสฺมึเยว คณฺหาติ, เอวํ อิทํ กมฺมํ ยสฺมึ าเน โอกาสํ ลภติ, ตสฺมึ วิปากํ เทติ, เตน มุตฺโต นาม นตฺถิ.

เถโร อตฺตนา กตกมฺมสฺส อากฑฺฒิตภาวํ ตฺวา น อปคจฺฉิ. เถโร ตสฺส นิสฺสนฺเทน อากาเส อุปฺปติตุํ นาสกฺขิ. นนฺโทปนนฺททมนสมตฺถเวชยนฺตกมฺปนสมตฺถาปิสฺส อิทฺธิ กมฺมพเลน ทุพฺพลตํ ปตฺตา. โจโร เถรํ คเหตฺวา เถรสฺส อฏฺีนิ ตณฺฑุลกณมตฺตานิ กโรนฺโต ภินฺทิตฺวา สฺจุณฺเณตฺวา ปลาลปิฏฺิกกรณํ นาม กตฺวา ‘‘มโต’’ติ สฺาย เอกสฺมึ คุมฺพปิฏฺเ ขิปิตฺวา สปริวาโร ปกฺกามิ. เถโร สตึ ปฏิลภิตฺวา ‘‘สตฺถารํ ปสฺสิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สรีรํ ฌานเวเนน เวเตฺวา ถิรํ กตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา อากาเสน สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อายุสงฺขาโร เม โอสฺสฏฺโ, ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ปรินิพฺพายิสฺสสิ, โมคฺคลฺลาน’’อาติ. ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กตฺถ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสสี’’ติ. ‘‘กาฬสิลาปฏฺเฏ, ภนฺเต’’ติ. เตน หิ, โมคฺคลฺลาน, ธมฺมํ มยฺหํ กเถตฺวา ยาหิ, ตาทิสสฺส สาวกสฺส อิทานิ ทสฺสนํ นตฺถีติ. โส ‘‘เอวํ กริสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ตาลปฺปมาณํ อากาเส อุปฺปติตฺวา ปรินิพฺพานทิวเส สาริปุตฺตตฺเถโร วิย นานปฺปการา อิทฺธิโย กตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา กาฬสิลายํ อฏวิยํ ปรินิพฺพายิ.

ตงฺขณฺเว ฉ เทวโลกา เอกโกลาหลา อเหสุํ, ‘‘อมฺหากํ กิร อาจริโย ปรินิพฺพุโต’’ติ ทิพฺพคนฺธมาลาวาสธูมจนฺทนจุณฺณานิ เจว นานาทารูนิ จ คเหตฺวา อาคมึสุ, เอกูนสตรตนจนฺทนจิตกา อโหสิ. สตฺถา เถรสฺส สนฺติเก ตฺวา สรีรนิกฺเขปํ กาเรสิ. อาฬาหนสฺส สมนฺตโต โยชนมตฺเต ปเทเส ปุปฺผวสฺสํ วสฺสิ. เทวานํ อนฺตเร มนุสฺสา, มนุสฺสานํ อนฺตเร เทวา อเหสุํ. ยถากฺกเมน เทวานํ อนฺตเร ยกฺขา ติฏฺนฺติ, ยกฺขานํ อนฺตเร คนฺธพฺพา ติฏฺนฺติ, คนฺธพฺพานํ อนฺตเร นาคา ติฏฺนฺติ, นาคานํ อนฺตเร เวนเตยฺยา ติฏฺนฺติ, เวนเตยฺยานํ อนฺตเร กินฺนรา ติฏฺนฺติ, กินฺนรานํ อนฺตเร ฉตฺตา ติฏฺนฺติ, ฉตฺตานํ อนฺตเร สุวณฺณจามรา ติฏฺนฺติ, เตสํ อนฺตเร ธชา ติฏฺนฺติ, เตสํ อนฺตเร ปฏากา ติฏฺนฺติ. สตฺต ทิวสานิ สาธุกีฬํ กีฬึสุ. สตฺถา เถรสฺส ธาตุํ คาหาเปตฺวา เวฬุวนทฺวารโกฏฺเก เจติยํ การาเปสิ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สาริปุตฺตตฺเถโร ตถาคตสฺส สนฺติเก อปรินิพฺพุตตฺตา พุทฺธานํ สนฺติกา มหนฺตํ สมฺมานํ น ลภิ, โมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน พุทฺธานํ สมีเป ปรินิพฺพุตตฺตา มหาสมฺมานํ ลภี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โมคฺคลฺลาโน มม สนฺติกา สมฺมานํ ลภติ, ปุพฺเพปิ ลภิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตฺวา ทสมาสจฺจเยน ปจฺจูสสมเย มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺมึ ขเณ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร สพฺพาวุธานิ ปชฺชลึสุ. ปุโรหิโต ปุตฺตสฺส ชาตกฺขเณ พหิ นิกฺขมิตฺวา อากาสํ โอโลเกนฺโต นกฺขตฺตโยคํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา นกฺขตฺเตน ชาตตฺตา เอโส กุมาโร สกลชมฺพุทีเป ธนุคฺคหานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา กาลสฺเสว ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ สุขสยิตภาวํ ปุจฺฉิ. ‘‘กุโต เม, อาจริย, สุขํ, อชฺช สกลนิเวสเน อาวุธานิ ปชฺชลิตานี’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ภายิ, เทว, น ตุมฺหากํ นิเวสเนเยว, สกลนคเรปิ ปชฺชลึสุเยว, อชฺช อมฺหากํ เคเห กุมารสฺส ชาตตฺตา เอวํ อโหสี’’ติ. ‘‘อาจริย, เอวํ ชาตกุมารสฺส ปน กึ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘น กิฺจิ, มหาราช, โส ปน สกลชมฺพุทีเป ธนุคฺคหานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริย, เตน หิ นํ ปฏิชคฺคิตฺวา วยปฺปตฺตกาเล อมฺหากํ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ วตฺวา ขีรมูลํ ตาว สหสฺสํ ทาเปสิ. ปุโรหิโต ตํ คเหตฺวา นิเวสนํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา ทตฺวา ปุตฺตสฺส นามคฺคหณทิวเส ชาตกฺขเณ อาวุธานํ ปชฺชลิตตฺตา ‘‘โชติปาโล’’ติสฺส นามํ อกาสิ.

โส มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒมาโน โสฬสวสฺสกาเล อุตฺตมรูปธโร อโหสิ. อถสฺส ปิตา สรีรสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา, ‘‘ตาต, ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุปฺปณฺหาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อาจริยภาคํ คเหตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา สตฺตาเหเนว นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. อถสฺส อาจริโย ตุสฺสิตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ ขคฺครตนํ สนฺธิยุตฺตํ เมณฺฑกสิงฺคธนุํ สนฺธิยุตฺตํ ตูณีรํ อตฺตโน สนฺนาหกฺจุกํ อุณฺหีสฺจ ทตฺวา ‘‘ตาต โชติโปล, อหํ มหลฺลโก, อิทานิ ตฺวํ อิเม มาณวเก สิกฺขาเปหี’’ติ ปฺจสตมาณวเกปิ ตสฺเสว นิยฺยาเทสิ. โพธิสตฺโต สพฺพํ อุปกรณํ คเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา พาราณสิเมว อาคนฺตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ วนฺทิตฺวา ิตํ ปิตา อโวจ ‘‘อุคฺคหิตํ เต, ตาต, สิปฺป’’นฺติ. ‘‘อาม, ตาตา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม, เทว, สิปฺปํ สิกฺขิตฺวา อาคโต, กึ กโรตู’’ติ อาห. ‘‘อาจริย, อมฺเห อุปฏฺหตู’’ติ. ‘‘ปริพฺพยมสฺส ชานาถ, เทวา’’ติ. ‘‘โส เทวสิกํ สหสฺสํ ลภตู’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา กุมารํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, ราชานํ อุปฏฺหา’’ติ อาห. โส ตโต ปฏฺาย เทวสิกํ สหสฺสํ ลภิตฺวา ราชานํ อุปฏฺหิ.

ราชปาทมูลิกา อุชฺฌายึสุ – ‘‘มยํ โชติปาเลน กตกมฺมํ น ปสฺสาม, เทวสิกํ สหสฺสํ คณฺหาติ, มยมสฺส สิปฺปํ ปสฺสิตุกามา’’ติ. ราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา ปุโรหิตสฺส กเถสิ. ปุโรหิโต ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ปุตฺตสฺสาโรเจสิ. โส ‘‘สาธุ, ตาต, อิโต สตฺตเม ทิวเส ทสฺเสสฺสามิ สิปฺปํ, อปิจ ราชา อตฺตโน วิชิเต ธนุคฺคเห สนฺนิปาตาเปตู’’ติ อาห. ปุโรหิโต คนฺตฺวา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปตฺวา ธนุคฺคเห สนฺนิปาตาเปสิ. สฏฺิสหสฺสา ธนุคฺคหา สนฺนิปตึสุ. ราชา เตสํ สนฺนิปติตภาวํ ตฺวา ‘‘นครวาสิโน โชติปาลสฺส สิปฺปํ ปสฺสนฺตู’’ติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา ราชงฺคณํ สชฺชาเปตฺวา มหาชนปริวุโต ปลฺลงฺกวเร นิสีทิตฺวา ธนุคฺคเห ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘โชติปาโล อาคจฺฉตู’’ติ เปเสสิ. โส อาจริเยน ทินฺนานิ ธนุตูณีรสนฺนาหกฺจุกอุณฺหีสานิ นิวาสนนฺตเร เปตฺวา ขคฺคํ คาหาเปตฺวา ปกติเวเสน รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

ธนุคฺคหา ‘‘โชติปาโล กิร ธนุสิปฺปํ ทสฺเสตุํ อาคโต, ธนุํ อคฺคเหตฺวา ปน อาคตตฺตา อมฺหากํ หตฺถโต ธนุํ คเหตุกาโม ภวิสฺสติ, นาสฺส ทสฺสามา’’ติ กติกํ กรึสุ. ราชา โชติปาลํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สิปฺปํ ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส สาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา อนฺโตสาณิยํ ิโต สาฏกํ อปเนตฺวา สนฺนาหกฺจุกํ ปเวเสตฺวา อุณฺหีสํ สีเส ปฏิมุฺจิตฺวา เมณฺฑกสิงฺคธนุมฺหิ ปวาลวณฺณํ ชิยํ อาโรเปตฺวา ตูณีรํ ปิฏฺเ พนฺธิตฺวา ขคฺคํ วามโต กตฺวา วชิรคฺคํ นาราจํ นขปิฏฺเน ปริวตฺเตตฺวา สาณึ วิวริตฺวา ปถวึ ภินฺทิตฺวา อลงฺกตนาคกุมาโร วิย นิกฺขมิตฺวา คนฺตฺวา รฺโ อปจิตึ ทสฺเสตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา มหาชนา วคฺคนฺติ นทนฺติ อปฺโผเฏนฺติ เสเฬนฺติ. ราชา ‘‘ทสฺเสหิ, โชติปาล, สิปฺป’’นฺติ อาห. เทว, ตุมฺหากํ ธนุคฺคเหสุ อกฺขณเวธิวาลเวธิสรเวธิสทฺทเวธิโน จตฺตาโร ธนุคฺคเห ปกฺโกสาเปหีติ. อถ ราชา ปกฺโกสาเปสิ.

มหาสตฺโต ราชงฺคเณ จตุรสฺสปริจฺเฉทพฺภนฺตเร มณฺฑลํ กตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ จตฺตาโร ธนุคฺคเห เปตฺวา เอเกกสฺส ตึส ตึส กณฺฑสหสฺสานิ ทาเปตฺวา เอเกกสฺส สนฺติเก เอเกกํ กณฺฑทายกํ เปตฺวา สยํ วชิรคฺคํ นาราจํ คเหตฺวา มณฺฑลมชฺเฌ ตฺวา ‘‘มหาราช, อิเม จตฺตาโร ธนุคฺคหา เอกปฺปหาเรเนว สเร ขิปิตฺวา มํ วิชฺฌนฺตุ, อหํ เอเตหิ ขิตฺตกณฺฑานิ นิวาเรสฺสามี’’ติ อาห. ราชา ‘‘เอวํ กโรถา’’ติ อาณาเปสิ. ธนุคฺคหา อาหํสุ, ‘‘มหาราช, มยํ อกฺขณเวธิวาลเวธิสรเวธิสทฺทเวธิโน, โชติปาโล ตรุณทารโก, น มยํ วิชฺฌิสฺสามา’’ติ. มหาสตฺโต ‘‘สเจ สกฺโกถ, วิชฺฌถ ม’’นฺติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว กณฺฑานิ ขิปึสุ. มหาสตฺโต ตานิ นาราเจน ปหริตฺวา ยถา วา ตถา วา น ปาเตสิ, โพธิโกฏฺกํ ปน ปริกฺขิปนฺโต วิย ตาเลน ตาลํ, วาเลน วาลํ, ทณฺฑเกน ทณฺฑกํ, วาเชน วาชํ อนติกฺกมนฺโต ขิปิตฺวา สรคพฺภํ อกาสิ. ธนุคฺคหานํ กณฺฑานิ ขีณานิ. โส เตสํ กณฺฑขีณภาวํ ตฺวา สรคพฺภํ อวินาเสนฺโตว อุปฺปติตฺวา คนฺตฺวา รฺโ สนฺติเก อฏฺาสิ. มหาชโน อุนฺนาเทนฺโต วคฺคนฺโต อปฺโผเฏนฺโต เสเฬนฺโต อจฺฉรํ ปหรนฺโต มหาโกลาหลํ กตฺวา วตฺถาภรณาทีนิ ขิปิ. เอวํ เอกราสิภูตํ อฏฺารสโกฏิสงฺขฺยํ ธนํ อโหสิ.

อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ สิปฺปํ นาเมตํ โชติปาลา’’ติ? สรปฏิพาหนํ นาม, เทวาติ. อฺเ เอตํ ชานนฺตา อตฺถีติ. สกลชมฺพุทีเป มํ เปตฺวา อฺโ นตฺถิ, เทวาติ. อปรํ ทสฺเสหิ, ตาตาติ. เทว, เอเต ตาว จตูสุ กณฺเณสุ ตฺวา จตฺตาโรปิ ชนา มํ วิชฺฌิตุํ น สกฺขึสุ, อหํ ปเนเต จตูสุ กณฺเณสุ ิเต เอเกเนว สเรน วิชฺฌิสฺสามีติ. ธนุคฺคหา าตุํ น อุสฺสหึสุ. มหาสตฺโต จตูสุ กณฺเณสุ จตสฺโส กทลิโย ปาเปตฺวา นาราจปุงฺเข รตฺตสุตฺตกํ พนฺธิตฺวา เอกํ กทลึ สนฺธาย ขิปิ. นาราโจ ตํ กทลึ วิชฺฌิตฺวา ตโต ทุติยํ, ตโต ตติยํ, ตโต จตุตฺถํ, ตโต ปมํ วิทฺธเมว วิชฺฌิตฺวา ปุน ตสฺส หตฺเถเยว ปติฏฺหิ. กทลิโย สุตฺตปริกฺขิตฺตา อฏฺํสุ. มหาชโน อุนฺนาทสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ. ราชา ‘‘กึ สิปฺปํ นาเมตํ, ตาตา’’ติ? จกฺกวิทฺธํ นาม, เทวาติ. อปรมฺปิ ทสฺเสหิ, ตาตาติ. มหาสตฺโต สรลฏฺึ นาม, สรรชฺชุํ นาม, สรเวธึ นาม ทสฺเสสิ, สรปาสาทํ นาม, สรโสปานํ นาม, สรมณฺฑปํ นาม, สรปาการํ นาม, สรโปกฺขรณึ นาม อกาสิ, สรปทุมํ นาม ปุปฺผาเปสิ, สรวสฺสํ นาม วสฺสาเปสิ. อิติ อฺเหิ อสาธารณานิ อิมานิ ทฺวาทส สิปฺปานิ ทสฺเสตฺวา ปุน อฺเหิ อสาธารเณเยว สตฺต มหากาเย ปทาเลสิ, อฏฺงฺคุลพหลํ อุทุมฺพรปทรํ วิชฺฌิ, จตุรงฺคุลพหลํ อสนปทรํ, ทฺวงฺคุลพหลํ ตมฺพปฏฺฏํ, เอกงฺคุลพหลํ อยปฏฺฏํ, เอกาพทฺธํ ผลกสตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปลาลสกฏวาลุกสกฏปทรสกฏานํ ปุริมภาเคน สรํ ขิปิตฺวา ปจฺฉาภาเคน นิกฺขมาเปสิ, ปจฺฉาภาเคน สรํ ขิปิตฺวา ปุริมภาเคน นิกฺขมาเปสิ, อุทเก จตุอุสภํ, ถเล อฏฺอุสภฏฺานํ กณฺฑํ เปเสสิ. วาติงฺคณสฺาย อุสภมตฺตเก วาลํ วิชฺฌิ. โพธิสตฺโต สเร ขิปิตฺวา อากาเส สรปาสาทาทีนิ กตฺวา ปุน เอเกน สเรน เต สเร ปาเตนฺโต ภงฺควิภงฺเค อกาสีติ ‘‘สรภงฺโค’’ติ นาม ปฺาโต. ตสฺส เอตฺตกานิ สิปฺปานิ ทสฺเสนฺตสฺเสว สูริโย อตฺถงฺคโต.

อถสฺส ราชา เสนาปติฏฺานํ ปฏิชานิตฺวา ‘‘โชติปาล, อชฺช วิกาโล, สฺเว ตฺวํ เสนาปติฏฺานํ สกฺการํ คณฺหิสฺสสิ, เกสมสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหตฺวา เอหี’’ติ ตํ ทิวสํ ปริพฺพยตฺถาย สตสหสฺสํ อทาสิ. มหาสตฺโต ‘‘อิมินา มยฺหํ อตฺโถ นตฺถี’’ติ อฏฺารสโกฏิสงฺขฺยํ ธนํ สามิกานฺเว ทตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นฺหายิตุํ นทึ คนฺตฺวา เกสมสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหตฺวา สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต อโนปมาย สิริยา นิเวสนํ ปวิสิตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา สิริสยนํ อภิรุยฺห นิปนฺโน ทฺเว ยาเม สยิตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปพุทฺโธ อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา สยนปิฏฺเ นิสินฺโนว อตฺตโน สิปฺปสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ โอโลเกนฺโต ‘‘มม สิปฺปสฺส อาทิโตว ปรมารณํ ปฺายติ, มชฺเฌ กิเลสปริโภโค, ปริโยสาเน นิรยมฺหิ ปฏิสนฺธิ, ปาณาติปาโต กิเลสปริโภเคสุ จ อธิมตฺตปฺปมาโท นิรเย ปฏิสนฺธึ เทติ, รฺา มยฺหํ มหนฺตํ เสนาปติฏฺานํ ทินฺนํ, มหนฺตํ เม อิสฺสริยํ ภวิสฺสติ, ภริยา จ ปุตฺตธีตโร จ พหู ภวิสฺสนฺติ. กิเลสวตฺถุ โข ปน เวปุลฺลคตํ ทุจฺจชํ โหติ, อิทาเนว นิกฺขมิตฺวา เอกโกว อรฺํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตุํ ยุตฺตํ มยฺห’’นฺติ มหาสยนโต อุฏฺาย กฺจิ อชานาเปนฺโต ปาสาทา โอรุยฺห อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เอกโกว อรฺํ ปวิสิตฺวา โคธาวรินทีตีเร ติโยชนิกํ กปิฏฺวนํ สนฺธาย ปายาสิ.

ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา สกฺโก วิสฺสกมฺมํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, ชาติปาโล อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, มหาสมาคโม ภวิสฺสติ, โคธาวรินทีตีเร กปิฏฺวเน อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาเทหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. มหาสตฺโต ตํ านํ ปตฺวา เอกปทิกมคฺคํ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพชิตานํ วสนฏฺาเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ เตน มคฺเคน ตตฺถ คนฺตฺวา กฺจิ อปสฺสนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทิสฺวา ‘‘สกฺโก เทวราชา มม นิกฺขนฺตภาวํ อฺาสิ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา สาฏกํ อปเนตฺวา รตฺตวากจิรํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ อชินจมฺมํ เอกํสคตํ อกาสิ, ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา ขาริกาชํ อํเส กตฺวา กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมํ อารุยฺห กติปยวาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชาสิริยา วนํ อุปโสภยมาโน กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปพฺพชิตโต สตฺตเม ทิวเส อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ อภิฺาโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อุฺฉาจริยาย วนมูลผลาหาโร เอกโกว วิหาสิ. มาตาปิตโร มิตฺตสุหชฺชาทโย าติวคฺคาปิสฺส ตํ อปสฺสนฺตา โรทนฺตา ปริเทวนฺตา วิจรนฺติ.

อเถโก วนจรโก อรฺํ ปวิสิตฺวา กปิฏฺกอสฺสมปเท นิสินฺนํ มหาสตฺตํ ทิสฺวา สฺชานิตฺวา คนฺตฺวา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นครํ คนฺตฺวา ตสฺส มาตาปิตูนํ อาโรเจสิ. เต รฺโ อาโรจยึสุ. ราชา ‘‘เอถ นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ตสฺส มาตาปิตโร คเหตฺวา มหาชนปริวุโต วนจรเกน เทสิเตน มคฺเคน โคธาวรินทีตีรํ ปาปุณิ. โพธิสตฺโต นทีตีรํ อาคนฺตฺวา อากาเส นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสตฺวา เต สพฺเพ อสฺสมปทํ ปเวเสตฺวา ตตฺรปิ เตสํ อากาเส นิสินฺโนว กาเมสุ อาทีนวํ ปกาเสตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ราชานํ อาทึ กตฺวา สพฺเพว ปพฺพชึสุ. โพธิสตฺโต อิสิคณปริวุโต ตตฺเถว วสิ. อถสฺส ตตฺถ วสนภาโว สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ. อฺเปิ ราชาโน รฏฺวาสีหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ, สมาคโม มหา อโหสิ. อนุปุพฺเพน อเนกสตสหสฺสปริสา อเหสุํ. โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, มหาสตฺโต คนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสติ, กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขติ. ตสฺโสวาเท ตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา ฌานนิปฺผตฺตึ ปตฺตา สาลิสฺสโร เมณฺฑิสฺสโร ปพฺพโต กาฬเทวิโล กิสวจฺโฉ อนุสิสฺโส นารโทติ สตฺต เชฏฺนฺเตวาสิโน อเหสุํ. อปรภาเค กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ. อิสิคณสฺส วสโนกาโส นปฺปโหติ.

อถ มหาสตฺโต สาลิสฺสรํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สาลิสฺสร, อยํ อสฺสโม อิสิคณสฺส นปฺปโหติ, ตฺวํ อิมํ อิสิคณํ คเหตฺวา มชฺฌรฺโ วิชิเต กลปฺปจุลฺลกนิคมํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อเนกสหสฺสํ อิสิคณํ คเหตฺวา คนฺตฺวา ตตฺถ วาสํ กปฺเปสิ. มนุสฺเสสุ อาคนฺตฺวา ปพฺพชนฺเตสุ ปุน อสฺสโม ปริปูริ. โพธิสตฺโต เมณฺฑิสฺสรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘เมณฺฑิสฺสร, ตฺวํ อิมํ อิสิคณํ อาทาย สุรฏฺชนปทสฺส สีมนฺตเร สาโตทิกา นาม นที อตฺถิ, ตสฺสา ตีเร วสาหี’’ติ อุยฺโยเชสิ, ปุน กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ. เอเตนุปาเยน ตติยวาเร ปพฺพตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ปพฺพต, ตฺวํ มหาอฏวิยํ อฺชนปพฺพโต นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ เปเสสิ. จตุตฺถวาเร กาฬเทวิลํ อามนฺเตตฺวา ‘‘กาฬเทวิล, ตฺวํ ทกฺขิณปเถ อวนฺติรฏฺเ ฆนเสลปพฺพโต นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ เปเสสิ. ปุน กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ, ปฺจสุ าเนสุ อเนกสตสหสฺสอิสิคโณ อโหสิ. กิสวจฺโฉ ปน มหาสตฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา ทณฺฑกิรฺโ วิชิเต กุมฺภวตินครํ นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย อุยฺยาเน วิหาสิ. นารโท มชฺฌิมเทเส อฺชนคิรินามเก ปพฺพตชาลนฺตเร วิหาสิ. อนุสิสฺโส ปน มหาสตฺตสฺส สนฺติเกว อโหสิ.

ตสฺมึ กาเล ทณฺฑกิราชา เอกํ ลทฺธสกฺการํ คณิกํ านา จาเวสิ. สา อตฺตโน ธมฺมตาย วิจรนฺตี อุยฺยานํ คนฺตฺวา กิสวจฺฉตาปสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ กาฬกณฺณี ภวิสฺสติ, อิมสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา นฺหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา สพฺพปมํ ตสฺสูปริ พหลเขฬํ นิฏฺุภนฺตี กิสวจฺฉตาปสสฺส ชฏนฺตเร นิฏฺุภิตฺวา ทนฺตกฏฺมฺปิสฺส สีเสเยว ขิปิตฺวา สยํ สีสํ นฺหายิตฺวา คตา. ราชาปิ ตํ สริตฺวา ปุน ปากติกเมว อกาสิ. สา โมหมูฬฺหา หุตฺวา ‘‘กาฬกณฺณิสรีเร กลึ ปวาเหตฺวา มมฺปิ ราชา ปุน าเน เปติ มยา ยโส ลทฺโธ’’ติ สฺมกาสิ. ตโต นจิรสฺเสว ราชา ปุโรหิตํ านโต จาเวสิ. โส ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตฺวํ เกน การเณน ปุน านํ ลภสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส สา ‘‘ราชุยฺยาเน กาฬกณฺณิสรีเร กลิสฺส ปวาหิตตฺตา’’ติ อาโรเจสิ. ปุโรหิโต คนฺตฺวา ตเถว ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหสิ, ตมฺปิ ราชา ปุน าเน เปสิ. อถสฺส อปรภาเค ปจฺจนฺโต กุปฺปิ. โส เสนงฺคปริวุโต ยุทฺธาย นิกฺขมิ. อถ นํ โมหมูฬฺโห ปุโรหิโต, ‘‘มหาราช, กึ ตุมฺเห ชยํ อิจฺฉถ, อุทาหุ ปราชย’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ชย’’นฺติ วุตฺเต – ‘‘เตน หิ ราชุยฺยาเน กาฬกณฺณี วสติ, ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา ยาหี’’ติ อาห. โส ตสฺส กถํ คเหตฺวา ‘‘เย มยา สทฺธึ อาคจฺฉนฺติ, เต อุยฺยาเน กาฬกณฺณิสรีเร กลึ ปวาเหนฺตู’’ติ วตฺวา อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา สพฺพปมํ สยเมว ตสฺส ชฏนฺตเร เขฬํ นิฏฺุภิตฺวา ทนฺตกฏฺฺจ ขิปิตฺวา สีสํ นฺหายิ. พลกาโยปิสฺส ตถา อกาสิ.

ตสฺมึ ปกฺกนฺเต เสนาปติ คนฺตฺวา ตาปสํ ทิสฺวา ทนฺตกฏฺาทีนิ นีหริตฺวา สาธุกํ นฺหาเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, รฺโ กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. อาวุสา มยฺหํ มโนปโทโส นตฺถิ, เทวตา ปน กุปิตา อิโต สตฺตเม ทิวเส สกลรฏฺํ อรฏฺํ กริสฺสนฺติ, ตฺวํ ปุตฺตทารํ คเหตฺวา สีฆํ ปลายิตฺวา อฺตฺถ ยาหีติ. โส ภีตตสิโต คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ, ราชา ตสฺส วจนํ น คณฺหิ. โส นิวตฺติตฺวา อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ปุตฺตทารํ อาทาย ปลายิตฺวา อฺํ รฏฺํ อคมาสิ. สรภงฺคสตฺถา ตํ การณํ ตฺวา ทฺเว ตรุณตาปเส เปเสตฺวา ‘‘กิสวจฺฉํ มฺจสิวิกาย อาเนถา’’ติ อากาเสน อาณาเปสิ. ราชา ยุชฺฌิตฺวา โจเร คเหตฺวา นครเมว ปจฺจาคมิ. ตสฺมึ อาคเต เทวตา ปมํ เทวํ วสฺสาเปสุํ, วสฺโสเฆน สพฺพกุณเปสุ อวหเฏสุ สุทฺธวาลุกวสฺสํ วสฺสิ, สุทฺธวาลุกมตฺถเก ทิพฺพปุปฺผวสฺสํ วสฺสิ, ทิพฺพปุปฺผมตฺถเก มาสกวสฺสํ, มาสกมตฺถเก กหาปณวสฺสํ, กหาปณมตฺถเก ทิพฺพาภรณวสฺสํ วสฺสิ, มนุสฺสา โสมนสฺสปฺปตฺตา หิรฺสุวณฺณาภรณานิ คณฺหิตุํ อารภึสุ. อถ เนสํ สรีเร สมฺปชฺชลิตํ นานปฺปการํ อาวุธวสฺสํ วสฺสิ, มนุสฺสา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉิชฺชึสุ. อถ เนสํ อุปริ มหนฺตมหนฺตา วีตจฺจิตงฺคารา ปตึสุ, เตสํ อุปริ มหนฺตมหนฺตานิ ปชฺชลิตปพฺพตกูฏานิ ปตึสุ, เตสํ อุปริ สฏฺิหตฺถฏฺานํ ปูรยนฺตํ สุขุมวาลุกวสฺสํ วสฺสิ. เอวํ สฏฺิโยชนฏฺานํ อรฏฺํ อโหสิ, ตสฺส เอวํ อรฏฺภาโว สกลชมฺพุทีเป ปฺายิ.

อถ ตสฺส รฏฺสฺส อนนฺตรรฏฺาธิปติโน กาลิงฺโค, อฏฺโก, ภีมรโถติ ตโย ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘ปุพฺเพ พาราณสิยํ กลาพุกาสิกราชา ขนฺติวาทิตาปเส อปรชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโติ สูยติ, ตถา ‘‘นาฬิเกรราชา ตาปเส สุนเขหิ ขาทาเปตฺวา, สหสฺสพาหุ อชฺชุโน จ องฺคีรเส อปรชฺฌิตฺวา, อิทานิ ทณฺฑกิราชา กิสวจฺเฉ อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน วินาสํ ปตฺโต’’ติ สูยติ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ราชูนํ นิพฺพตฺตฏฺานํ มยํ น ชานาม, ตํ โน เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ อฺโ กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ. เต ตโยปิ มหนฺเตน ปริวาเรน ปฺหปุจฺฉนตฺถาย นิกฺขมึสุ. เต ปน ‘‘อสุโกปิ นิกฺขนฺโต’’ติ น ชานนฺติ, เอเกโก ‘‘อหเมว คจฺฉามี’’ติ มฺติ, เตสํ โคธาวรินทิโต อวิทูเร สมาคโม อโหสิ. เต รเถหิ โอตริตฺวา ตโยปิ เอกเมว รถํ อภิรุยฺห โคธาวรินทีตีรํ สมฺปาปุณึสุ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺโก ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเน นิสินฺโน สตฺต ปฺเห จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ปฺเห เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ อฺโ สเทวเก โลเก กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตํ อิเม ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามิ, อิเมปิ ตโย ราชาโน สรภงฺคสตฺถารํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ โคธาวรินทีตีรํ ปตฺตา, เอเตสํ ปฺเหปิ อหเมว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ ปริวุโต เทวโลกโต โอตริ. ตํ ทิวสเมว กิสวจฺโฉ กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตุํ จตูสุ าเนสุ อเนกสหสฺสา อิสโย ตตฺเถว คนฺตฺวา ปฺจสุ าเนสุ มณฺฑปฺจ กาเรตฺวา อเนกสหสฺสา อิสิคณา กิสวจฺฉสฺส ตาปสสฺส จนฺทนจิตกํ กตฺวา สรีรํ ฌาเปสุํ. อาฬาหนสฺส สมนฺตา อฑฺฒโยชนมตฺเต าเน ทิพฺพกุสุมวสฺสํ วสฺสิ. มหาสตฺโต ตสฺส สรีรนิกฺเขปํ การาเปตฺวา อสฺสมํ ปวิสิตฺวา เตหิ อิสิคเณหิ ปริวุโต นิสีทิ. เตสมฺปิ ราชูนํ นทีตีรํ อาคตกาเล มหาเสนาวาหนตูริยสทฺโท อโหสิ. มหาสตฺโต ตํ สุตฺวา อนุสิสฺสํ ตาปสํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ คนฺตฺวา ตาว ชานาหิ, กึ สทฺโท นาเมโส’’ติ อาห. โส ปานียฆฏํ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา เต ราชาโน ทิสฺวา ปุจฺฉนวเสน ปมํ คาถมาห –

๕๐.

‘‘อลงฺกตา กุณฺฑลิโน สุวตฺถา, เวฬุริยมุตฺตาถรุขคฺคพนฺธา;

รเถสภา ติฏฺถ เก นุ ตุมฺเห, กถํ โว ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ เวฬุริยมุตฺตาถรุขคฺคพนฺธาติ เวฬุริยมณีหิ เจว มุตฺตาลมฺพเกหิ จ อลงฺกตถรูหิ ขคฺครตเนหิ สมนฺนาคตา. ติฏฺถาติ เอกสฺมึ รเถ ติฏฺถ. เก นูติ เก นาม ตุมฺเห, กถํ โว สฺชานนฺตีติ?

เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา รถา โอตริตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺํสุ. เตสุ อฏฺกราชา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๕๑.

‘‘อหมฏฺโก ภีมรโถ ปนายํ, กาลิงฺคราชา ปน อุคฺคโตยํ;

สุสฺตานํ อิสีนํ ทสฺสนาย, อิธาคตา ปุจฺฉิตาเยมฺห ปฺเห’’ติ.

ตตฺถ อุคฺคโตติ จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏ ปฺาโต. สุสฺตานํ อิสีนนฺติ, ภนฺเต, น มยํ วนกีฬาทีนํ อตฺถาย อาคตา, อถ โข กายาทีหิ สุสฺตานํ สีลสมฺปนฺนานํ อิสีนํ ทสฺสนตฺถาย อิธาคตา. ปุจฺฉิตาเยมฺห ปฺเหติ สรภงฺคสตฺถารํ ปฺเห ปุจฺฉิตุํ เอมฺห, อาคตามฺหาติ อตฺโถ. ย-กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโรติ เวทิตพฺโพ.

อถ เน ตาปโส ‘‘สาธุ มหาราชา, อาคนฺตพฺพฏฺานฺเว อาคตาตฺถ, เตน หิ นฺหตฺวา วิสฺสมิตฺวา อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา สรภงฺคสตฺถารเมว ปฺหํ ปุจฺฉถา’’ติ เตหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปานียฆฏํ อุกฺขิปิตฺวา อุทกเถเว ปุฺฉนฺโต อากาสํ โอโลเกนฺโต สกฺกํ เทวราชานํ เทวคณปริวุตํ เอราวณกฺขนฺธวรคตํ โอตรนฺตํ ทิสฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘เวหายสํ ติฏฺสิ อนฺตลิกฺเข, ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จนฺโท;

ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กตํ ตํ ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ เวหายสนฺติ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อนฺตลิกฺเข อากาเส ติฏฺสิ. ปถทฺธุโนติ ปถทฺธคโต, อทฺธปเถ คคนมชฺเฌ ิโตติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก จตุตฺถํ คาถมาห –

๕๓.

‘‘ยมาหุ เทเวสุ ‘สุชมฺปตี’ติ, ‘มฆวา’ติ ตํ อาหุ มนุสฺสโลเก;

ส เทวราชา อิทมชฺช ปตฺโต, สุสฺตานํ อิสีนํ ทสฺสนายา’’ติ.

ตตฺถ ส เทวราชาติ โส อหํ สกฺโก เทวราชา. อิทมชฺช ปตฺโตติ อิทํ านํ อชฺช อาคโต. ทสฺสนายาติ ทสฺสนตฺถาย วนฺทนตฺถาย สรภงฺคสตฺถารฺจ ปฺหํ ปุจฺฉนตฺถายาติ อาห.

อถ นํ อนุสิสฺโส ‘‘สาธุ, มหาราช, ตุมฺเห ปจฺฉา อาคจฺฉถา’’ติ วตฺวา ปานียฆฏํ อาทาย อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา ปานียฆฏํ ปฏิสาเมตฺวา ติณฺณํ ราชูนํ เทวราชสฺส จ ปฺหปุจฺฉนตฺถาย อาคตภาวํ มหาสตฺตสฺส อาโรเจสิ. โส อิสิคณปริวุโต มหาวิสาลมาฬเก นิสีทิ. ตโย ราชาโน อาคนฺตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สกฺโกปิ โอตริตฺวา อิสิคณํ อุปสงฺกมิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ิโต อิสิคณํ วณฺเณตฺวา วนฺทมาโน ปฺจมํ คาถมาห –

๕๔.

‘‘ทูเร สุตา โน อิสโย สมาคตา, มหิทฺธิกา อิทฺธิคุณูปปนฺนา;

วนฺทามิ เต อยิเร ปสนฺนจิตฺโต, เย ชีวโลเกตฺถ มนุสฺสเสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ ทูเร สุตา โนติ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ตุมฺเห ทูเร เทวโลเก ิเตหิเยว สุตาติ มมายนฺโต เอวมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม อิธ สมาคตา อมฺหากํ อิสโย ทูเร สุตา ยาว พฺรหฺมโลกา วิสฺสุตา ปากฏาติ. มหิทฺธิกาติ มหานุภาวา. อิทฺธิคุณูปปนฺนาติ ปฺจวิเธน อิทฺธิคุเณน สมนฺนาคตา. อยิเรติ, อยฺเย. เยติ เย ตุมฺเห อิมสฺมึ ชีวโลเก มนุสฺเสสุ เสฏฺาติ.

เอวํ อิสิคณํ วณฺเณตฺวา สกฺโก ฉ นิสชฺชโทเส ปริหรนฺโต เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ อิสีนํ อโธวาเต นิสินฺนํ ทิสฺวา อนุสิสฺโส ฉฏฺํ คาถมาห –

๕๕.

‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ, กายา จุโต คจฺฉติ มาลุเตน;

อิโต ปฏิกฺกมฺม สหสฺสเนตฺต, คนฺโธ อิสีนํ อสุจิ เทวราชา’’ติ.

ตตฺถ จิรทิกฺขิตานนฺติ จิรปพฺพชิตานํ. ปฏิกฺกมฺมาติ ปฏิกฺกม อเปหิ. สหสฺสเนตฺตาติ อาลปนเมตํ. สกฺโก หิ อมจฺจสหสฺเสหิ จินฺติตํ อตฺถํ เอกโกว ปสฺสติ, ตสฺมา ‘‘สหสฺสเนตฺโต’’ติ วุจฺจติ. อถ วา สหสฺสเนตฺตานํ ปน เทวานํ ทสฺสนูปจาราติกฺกมนสมตฺโถติ สหสฺสเนตฺตา. อสุจีติ เสทมลาทีหิ ปริภาวิตตฺตา ทุคฺคนฺโธ, ตุมฺเห จ สุจิกามา, เตน โว เอส คนฺโธ พาธตีติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก อิตรํ คาถมาห –

๕๖.

‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ, กายา จุโต คจฺฉตุ มาลุเตน;

วิจิตฺตปุปฺผํ สุรภึว มาลํ, คนฺธฺจ เอตํ ปาฏิกงฺขาม ภนฺเต;

น เหตฺถ เทวา ปฏิกฺกูลสฺิโน’’ติ.

ตตฺถ คจฺฉตูติ ยถาสุขํ ปวตฺตตุ, นาสปุฏํ โน ปหรตูติ อตฺโถ. ปาฏิกงฺขามาติ อิจฺฉาม ปตฺเถม. เอตฺถาติ เอตสฺมึ คนฺเธ เทวา ชิคุจฺฉสฺิโน น โหนฺติ. ทุสฺสีเลเยว หิ เทวา ชิคุจฺฉนฺติ, น สีลวนฺเตติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ภนฺเต, อนุสิสฺส อหํ มหนฺเตน อุสฺสาเหน ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคโต, โอกาสํ เม กโรหี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา อุฏฺายาสนา อิสิคณํ โอกาสํ กโรนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๕๗.

‘‘ปุรินฺทโท ภูตปตี ยสสฺสี, เทวานมินฺโท สกฺโก มฆวา สุชมฺปติ;

ส เทวราชา อสุรคณปฺปมทฺทโน, โอกาสมากงฺขติ ปฺห ปุจฺฉิตุํ.

๕๘.

‘‘โก เนวิเมสํ อิธ ปณฺฑิตานํ, ปฺเห ปุฏฺโ นิปุเณ พฺยากริสฺสติ;

ติณฺจ รฺํ มนุชาธิปานํ, เทวานมินฺทสฺส จ วาสวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ ‘‘ปุรินฺทโท’’ติอาทีนิ สกฺกสฺเสว คุณนามานิ. โส หิ ปุเร ทานํ ทินฺนตฺตา ปุรินฺทโท, ภูเตสุ เชฏฺกตฺตา ภูตปติ, ปริวารสมฺปทาย ยสสฺสี, ปรมิสฺสรตาย เทวานมินฺโท, สตฺตนฺนํ วตฺตปทานํ สุฏฺุ กตตฺตา สกฺโก, ปุริมชาติวเสน มฆวา, สุชาย อสุรกฺาย ปติภาเวน สุชมฺปติ, เทวานํ รฺชนตาย เทวราชา. โก เนวาติ โก นุ เอว. นิปุเณติ สณฺหสุขุเม ปฺเห. รฺนฺติ ราชูนํ. อิเมสํ จตุนฺนํ ราชูนํ มนํ คเหตฺวา โก อิเมสํ ปณฺฑิตานํ อิสีนํ ปฺเห กเถสฺสติ, ปฺหํ เนสํ กเถตุํ สมตฺถํ ชานาถาติ วทติ.

ตํ สุตฺวา อิสิคโณ, ‘‘มาริส, อนุสิสฺส ตฺวํ ปถวิยํ ตฺวา ปถวึ อปสฺสนฺโต วิย กเถสิ, เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ โก อฺโ เอเตสํ ปฺหํ กเถตุํ สมตฺโถ’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๕๙.

‘‘อยํ อิสิ สรภงฺโค ตปสฺสี, ยโต ชาโต วิรโต เมถุนสฺมา;

อาเจรปุตฺโต สุวินีตรูโป, โส เนสํ ปฺหานิ วิยากริสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ สรภงฺโคติ สเร ขิปิตฺวา อากาเส สรปาสาทาทีนิ กตฺวา ปุน เอเกน สเรน เต สเร ปาเตนฺโต ภงฺควิภงฺเค อกาสีติ สรภงฺโค. เมถุนสฺมาติ เมถุนธมฺมโต. โส กิร เมถุนํ อเสวิตฺวา ปพฺพชิโต. อาเจรปุตฺโตติ รฺโ อาจริยสฺส ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต.

เอวฺจ ปน วตฺวา อิสิคโณ อนุสิสฺสํ อาห – ‘‘มาริส, ตฺวเมว สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อิสิคณสฺส วจเนน สกฺเกน ปุจฺฉิตปฺหกถนาย โอกาสํ กาเรหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา โอกาสํ กาเรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๐.

‘‘โกณฺฑฺ ปฺหานิ วิยากโรหิ, ยาจนฺติ ตํ อิสโย สาธุรูปา;

โกณฺฑฺ เอโส มนุเชสุ ธมฺโม, ยํ วุทฺธมาคจฺฉติ เอส ภาโร’’ติ.

ตตฺถ โกณฺฑฺาติ ตํ โคตฺเตนาลปติ. ธมฺโมติ สภาโว. ยํ วุทฺธนฺติ ยํ ปฺาย วุทฺธํ ปุริสํ เอส ปฺหานํ วิสฺสชฺชนภาโร นาม อาคจฺฉติ, เอโส มนุเชสุ สภาโว, ตสฺมา จนฺทิมสูริยสหสฺสํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา เทวรฺโ ปฺเห กเถหีติ.

ตโต มหาปุริโส โอกาสํ กโรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๑.

‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉนฺตุ โภนฺโต, ยํ กิฺจิ ปฺหํ มนสาภิปตฺถิตํ;

อหฺหิ ตํ ตํ โว วิยากริสฺสํ, ตฺวา สยํ โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ.

ตตฺถ ยํ กิฺจีติ น เกวลํ ตุมฺหากํเยว, อถ โข สเทวกสฺสปิ โลกสฺส ยํ มนสาภิปตฺถิตํ, ตํ มํ ภวนฺโต ปุจฺฉนฺตุ. อหฺหิ โว อิธโลกนิสฺสิตํ วา ปรโลกนิสฺสิตํ วา สพฺพํ ปฺหํ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ สยํ ปฺาย สจฺฉิกตฺวา กเถสฺสามีติ สพฺพฺุปวารณํ สมฺปวาเรสิ.

เอวํ เตน โอกาเส กเต สกฺโก อตฺตนา อภิสงฺขตํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๒.

‘‘ตโต จ มฆวา สกฺโก, อตฺถทสฺสี ปุรินฺทโท;

อปุจฺฉิ ปมํ ปฺหํ, ยฺจาสิ อภิปตฺถิตํ.

๖๓.

‘‘กึ สู วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, กิสฺสปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;

กสฺสีธ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑฺ เอตมตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ ยฺจาสีติ ยํ ตสฺส มนสา อภิปตฺถิตํ อาสิ, ตํ ปุจฺฉีติ อตฺโถ. เอตนฺติ เอตํ มยา ปุจฺฉิตมตฺถํ อกฺขาหิ เมติ เอกคาถาย ตโย ปฺเห ปุจฺฉิ.

ตโต ปรํ พฺยากโรนฺโต อาห –

๖๔.

‘‘โกธํ วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, มกฺขปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;

สพฺเพสํ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’’ติ.

ตตฺถ โกธํ วธิตฺวาติ โกธํ มาเรตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา. โสจนฺโต หิ ปฏิฆจิตฺเตเนว โสจติ, โกธาภาวา กุโต โสโก. เตน วุตฺตํ ‘‘น กทาจิ โสจตี’’ติ. มกฺขปฺปหานนฺติ ปเรหิ อตฺตโน กตคุณมกฺขนลกฺขณสฺส อกตฺุภาวสงฺขาตสฺส มกฺขสฺส ปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ. สพฺเพสนฺติ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺานํ สพฺเพสมฺปิ ผรุสํ วจนํ ขเมถ. สนฺโตติ โปราณกา ปณฺฑิตา เอวํ กเถนฺติ.

สกฺโก อาห –

๖๕.

‘‘สกฺกา อุภินฺนํ วจนํ ติติกฺขิตุํ, สทิสสฺส วา เสฏฺตรสฺส วาปิ;

กถํ นุ หีนสฺส วโจ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑฺ เอตมตฺถ’’นฺติ.

สรภงฺโค อาห –

๖๖.

‘‘ภยา หิ เสฏฺสฺส วโจ ขเมถ, สารมฺภเหตู ปน สาทิสสฺส;

โย จีธ หีนสฺส วโจ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’’ติ. –

เอวมาทีนํ คาถานํ วจนปฺปฏิวจนวเสน สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ อกฺขาหิ เมติ, ภนฺเต โกณฺฑฺ, ตุมฺเหหิ ทฺเว ปฺหา สุกถิตา, เอโก เม จิตฺตํ น คณฺหาติ, กถํ สกฺกา อตฺตโน หีนตรสฺส วจนํ อธิวาเสตุํ, ตํ มม อกฺขาหีติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. เอตํ ขนฺตินฺติ ยเทตํ ชาติโคตฺตาทิหีนสฺส วจนํ ขมนํ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมนฺติ โปราณกปณฺฑิตา วทนฺติ. ยํ ปเนตํ ชาติอาทีหิ เสฏฺสฺส ภเยน, สทิสสฺส กรณุตฺตริยลกฺขเณ สารมฺเภ อาทีนวทสฺสเนน ขมนํ, เนสา อธิวาสนขนฺติ นามาติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเต สกฺโก มหาสตฺตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, ปมํ ตุมฺเห ‘สพฺเพสํ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’ติ วตฺวา อิทานิ ‘โย จีธ หีนสฺส วโจ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’ติ วทถ, น โว ปุริเมน ปจฺฉิมํ สเมตี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘สกฺก, ปจฺฉิมํ มยา ‘อยํ หีโน’ติ ตฺวา ผรุสวจนํ อธิวาเสนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, ยสฺมา ปน น สกฺกา รูปทสฺสนมตฺเตน สตฺตานํ เสฏฺาทิภาโว าตุํ, ตสฺมา ปุริมํ วุตฺต’’นฺติ วตฺวา สตฺตานํ อฺตฺร สํวาสา รูปทสฺสนมตฺเตน เสฏฺาทิภาวสฺส ทุวิฺเยฺยตํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –

๖๗.

‘‘กถํ วิชฺา จตุปตฺถรูปํ, เสฏฺํ สริกฺขํ อถวาปิ หีนํ;

วิรูปรูเปน จรนฺติ สนฺโต, ตสฺมา หิ สพฺเพสํ วโจ ขเมถา’’ติ.

ตตฺถ จตุปตฺถรูปนฺติ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนสภาวํ. วิรูปรูเปนาติ วิรูปานํ ลามกปุคฺคลานํ รูเปน อุตฺตมคุณา สนฺโตปิ วิจรนฺติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ มชฺฌนฺติกตฺเถรสฺส วตฺถุ กเถตพฺพํ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก นิกฺกงฺโข หุตฺวา, ‘‘ภนฺเต, เอตาย โน ขนฺติยา อานิสํสํ กเถหี’’ติ ยาจิ. อถสฺส มหาสตฺโต คาถมาห –

๖๘.

‘‘น เหตมตฺถํ มหตีปิ เสนา, สราชิกา ยุชฺฌมานา ลเภถ;

ยํ ขนฺติมา สปฺปุริโส ลเภถ, ขนฺตีพลสฺสูปสมนฺติ เวรา’’ติ.

ตตฺถ เอตมตฺถนฺติ เอตํ เวรวูปสมนิปฺปฏิฆสภาวสงฺขาตํ อตฺถํ.

เอวํ มหาสตฺเตน ขนฺติคุเณ กถิเต เต ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘สกฺโก อตฺตโนว ปฺเห ปุจฺฉติ, อมฺหากํ ปุจฺฉโนกาสํ น ทสฺสตี’’ติ. อถ เนสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา สกฺโก อตฺตนา อภิสงฺขเต จตฺตาโร ปฺเห เปตฺวาว เตสํ กงฺขํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๖๙.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

ยถา อหุํ ทณฺฑกี นาฬิเกโร, อถชฺชุโน กลาพุ จาปิ ราชา;

เตสํ คตึ พฺรูหิ สุปาปกมฺมินํ, กตฺถูปปนฺนา อิสีนํ วิเหกา’’ติ.

ตตฺถ อนุโมทิยานาติ อิทํ มยา ปุฏฺานํ ติณฺณํ ปฺหานํ วิสฺสชฺชนสงฺขาตํ ตว สุภาสิตํ อนุโมทิตฺวา. ยถา อหุนฺติ ยถา จตฺตาโร ชนา อเหสุํ. กลาพุ จาติ กลาพุราชา จ. อถชฺชุโนติ อถ อชฺชุนราชา.

อถสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๗๐.

‘‘กิสฺหิ วจฺฉํ อวกิริย ทณฺฑกี, อุจฺฉินฺนมูโล สชโน สรฏฺโ;

กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหิ ปจฺจติ, ตสฺส ผุลิงฺคานิ ปตนฺติ กาเย.

๗๑.

‘‘โย สฺเต ปพฺพชิเต อเหยิ, ธมฺมํ ภณนฺเต สมเณ อทูสเก;

ตํ นาฬิเกรํ สุนขา ปรตฺถ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมานํ.

๗๒.

‘‘อถชฺชุโน นิรเย สตฺติสูเล, อวํสิโร ปติโต อุทฺธํปาโท;

องฺคีรสํ โคตมํ เหยิตฺวา, ขนฺตึ ตปสฺสึ จิรพฺรหฺมจารึ.

๗๓.

‘‘โย ขณฺฑโส ปพฺพชิตํ อเฉทยิ, ขนฺตึ วทนฺตํ สมณํ อทูสกํ;

กลาพุวีจึ อุปปชฺช ปจฺจติ, มหาปตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.

๗๔.

‘‘เอตานิ สุตฺวา นิรยานิ ปณฺฑิโต, อฺานิ ปาปิฏฺตรานิ เจตฺถ;

ธมฺมํ จเร สมณพฺราหฺมเณสุ, เอวํกโร สคฺคมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ กิสนฺติ อปฺปมํสโลหิตตฺตา กิสสรีรํ. อวกิริยาติ อวกิริตฺวา นิฏฺุภนทนฺตกฏฺปาตเนน ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา. อุจฺฉินฺนมูโลติ อุจฺฉินฺนมูโล หุตฺวา. สชโนติ สปริโส. กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหีติ โยชนสตปฺปมาเณ กปฺปสณฺิเต อุณฺหฉาริกนิรเย. ผุลิงฺคานีติ วีตจฺจิตงฺคารา. ตสฺส กิร ตตฺถ อุณฺหกุกฺกุเฬ นิมุคฺคสฺส นวหิ วณมุเขหิ อุณฺหา ฉาริกา ปวิสนฺติ, สีเส มหนฺตมหนฺตา องฺคารา ปตนฺติ. เตสํ ปน ปตนกาเล สกลสรีรํ ทีปรุกฺโข วิย ชลติ, พลวเวทนา วตฺตนฺติ. โส อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต มหาวิรวํ รวติ. สรภงฺคสตฺถา ปถวึ ภินฺทิตฺวา ตํ ตตฺถ ตถาปจฺจมานํ ทสฺเสสิ, มหาชโน ภยสนฺตาสมาปชฺชิ. ตสฺส อติวิย ภีตภาวํ ตฺวา มหาสตฺโต ตํ นิรยํ อนฺตรธาเปสิ.

ธมฺมํ ภณนฺเตติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ ภาสนฺเต. สมเณติ สมิตปาเป. อทูสเกติ นิรปราเธ. นาฬิเกรนฺติ เอวํนามกํ ราชานํ. ปรตฺถาติ ปรโลเก นิรเย นิพฺพตฺตํ. สงฺคมฺมาติ อิโต จิโต จ สมาคนฺตฺวา ฉินฺทิตฺวา มหนฺตมหนฺตา สุนขา ขาทนฺติ. ตสฺมึ กิร กลิงฺครฏฺเ ทนฺตปุรนคเร นาฬิเกเร นาม รฺเ รชฺชํ การยมาเน เอโก มหาตาปโส ปฺจสตตาปสปริวุโต หิมวนฺตา อาคมฺม ราชุยฺยาเน วาสํ กปฺเปตฺวา มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. ‘‘ธมฺมิกตาปโส อุยฺยาเน วสตี’’ติ รฺโปิ อาโรจยึสุ. ราชา ปน อธมฺมิโก อธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. โส อมจฺเจสุ ตาปสํ ปสํสนฺเตสุ ‘‘อหมฺปิ ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตาปสํ วนฺทิตฺวา นิสีทิ. ตาปโส รฺา สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต ‘‘กึ, มหาราช, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ, ชนํ น ปีเฬสี’’ติ อาห. โส ตสฺส กุชฺฌิตฺวา ‘‘อยํ กูฏชฏิโล เอตฺตกํ กาลํ นาครานํ สนฺติเก มมฺเว อคุณํ กเถสิ มฺเ, โหตุ ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สฺเว อมฺหากํ ฆรทฺวารํ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส ปุราณคูถสฺส จาฏิโย ปริปูราเปตฺวา ตาปเสสุ อาคเตสุ เตสํ ภิกฺขาภาชนานิ คูถสฺส ปูราเปตฺวา ทฺวารํ ปิทหาเปตฺวา มุสลานิ จ โลหทณฺเฑ จ คาหาเปตฺวา อิสีนํ สีสานิ ภินฺทาเปตฺวา ชฏาสุ คาหาเปตฺวา กฑฺฒาเปตฺวา สุนเขหิ ขาทาเปตฺวา ตตฺเถว ภินฺนํ ปถวึ ปวิสิตฺวา สุนขมหานิรเย นิพฺพตฺตติ, ตตฺรสฺส ติคาวุตปฺปมาณสรีรํ อโหสิ. อถ นํ มหนฺตมหนฺตา มหาหตฺถิปฺปมาณา ปฺจวณฺณา สุนขา อนุพนฺธิตฺวา ฑํสิตฺวา นวโยชนาย ชลิตอยปถวิยา ปาเตตฺวา มุขปูรํ ลุฺจนฺตา วิปฺผนฺทมานํ ขาทึสุ. มหาสตฺโต ปถวึ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ตํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาชนสฺส ภีตภาวํ ตฺวา อนฺตรธาเปสิ.

อถชฺชุโนติ สหสฺสพาหุราชา. องฺคีรสนฺติ องฺเคหิ รํสีนํ นิจฺฉรณโต เอวํลทฺธนามํ. เหยิตฺวาติ วิเหเตฺวา วิสปีตกณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา. โส กิร อชฺชุโน นาม ราชา มหิสกรฏฺเ เกตกราชธานิยํ รชฺชํ กาเรนฺโต มิควํ คนฺตฺวา มิเค วธิตฺวา องฺคารปกฺกมํสํ ขาทนฺโต วิจริ. อเถกทิวสํ มิคานํ อาคมนฏฺาเน โกฏฺกํ กตฺวา มิเค โอโลกยมาโน อฏฺาสิ. ตทา โส ตาปโส ตสฺส รฺโ อวิทูเร เอกํ การรุกฺขํ อภิรุหิตฺวา ผลานิ โอจินนฺโต โอจินิตผลสาขํ มุฺจิ. ตสฺสา วิสฺสฏฺาย สทฺเทน ตํานํ ปตฺตา มิคา ปลายึสุ. ราชา กุชฺฌิตฺวา ตาปสํ วิสมิสฺสิเตน สลฺเลน วิชฺฌิ. โส ปริคลิตฺวา ปตนฺโต มตฺถเกน ขทิรขาณุกํ อาสาเทตฺวา สูลคฺเคเยว กาลมกาสิ. ราชา ตงฺขเณเยว ทฺวิธา ภินฺนํ ปถวึ ปวิสิตฺวา สตฺติสูลนิรเย นิพฺพตฺติ, ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ อโหสิ. ตตฺร ตํ นิรยปาลา ชลิเตหิ อาวุเธหิ โกฏฺเฏตฺวา ชลิตํ อยปพฺพตํ อาโรเปนฺติ. ปพฺพตมตฺถเก ิตกาเล วาโต ปหรติ, โส วาตปฺปหาเรน ปริคลิตฺวา ปตติ. ตสฺมึ ขเณ เหฏฺา นวโยชนาย ชลิตอยปถวิยา มหาตาลกฺขนฺธปฺปมาณํ ชลิตํ อยสูลํ อุฏฺหติ. โส สูลคฺคมตฺถเกเยว อาสาเทตฺวา สูลาวุโต ติฏฺติ. ตสฺมึ ขเณ ปถวี ชลติ, สูลํ ชลติ, ตสฺส สรีรํ ชลติ. โส ตตฺถ มหารวํ รวนฺโต ปจฺจติ. มหาสตฺโต ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา ตํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาชนสฺส ภีตภาวํ ตฺวา อนฺตรธาเปสิ.

ขณฺฑโสติ จตฺตาโร หตฺถปาเท กณฺณนาสฺจ ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา. อทูสกนฺติ นิรปราธํ. ตถา เฉทาเปตฺวา ทฺวีหิ กสาหิ ปหารสหสฺเสหิ ตาฬาเปตฺวา ชฏาสุ คเหตฺวา อากฑฺฒาเปตฺวา ปฏิกุชฺชํ นิปชฺชาเปตฺวา ปิฏฺิยํ ปณฺหิยา ปหริตฺวา มหาทุกฺขสมปฺปิตํ อกาสิ. กลาพุวีจินฺติ กลาพุ อวีจึ. กฏุกนฺติ ติขิณเวทนํ, เอวรูปํ นิรยํ อุปปชฺชิตฺวา ฉนฺนํ ชาลานํ อนฺตเร ปจฺจติ. วิตฺถารโต ปน กลาพุรฺโ วตฺถุ ขนฺติวาทิชาตเก (ชา. ๑.๔.๔๙-๕๒) กถิตเมว. อฺานิ ปาปิฏฺตรานิ เจตฺถาติ เอเตหิ นิรเยหิ ปาปิฏฺตรานิ จ อฺานิ นิรยานิ สุตฺวา. ธมฺมํ จเรติ, สกฺก เทวราช, ปณฺฑิโต กุลปุตฺโต น เกวลํ เอเตเยว จตฺตาโร นิรยา, เอเตเยว จ ราชาโน เนรยิกา, อถ โข อฺเปิ นิรยา, อฺเปิ จ ราชาโน นิรเยสุ อุปฺปนฺนาติ วิทิตฺวา จตุปจฺจยทานธมฺมิการกฺขาวรณสํวิธานสงฺขาตํ สมณพฺราหฺมเณสุ ธมฺมํ จเรยฺยาติ.

เอวํ มหาสตฺเตน จตุนฺนํ ราชูนํ นิพฺพตฺตฏฺาเน ทสฺสิเต ตโย ราชาโน นิกฺกงฺขา อเหสุํ. ตโต สกฺโก อวเสเส จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๗๕.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺติ;

กถํวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ, กถํวิธํ โน สิริ โน ชหาตี’’ติ.

ตตฺถ กถํวิธํ โน สิริ โน ชหาตีติ กถํวิธํ นุ ปุริสํ ปฏิลทฺธสิรี น ชหาตีติ.

อถสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๗๖.

‘‘กาเยน วาจาย จ โยธ สฺโต, มนสา จ กิฺจิ น กโรติ ปาปํ;

น อตฺตเหตู อลิกํ ภเณติ, ตถาวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ.

๗๗.

‘‘คมฺภีรปฺหํ มนสาภิจินฺตยํ, นาจฺจาหิตํ กมฺม กโรติ ลุทฺทํ;

กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริฺจติ, ตถาวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺติ.

๗๘.

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร, กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;

ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ, ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ.

๗๙.

‘‘เอเตหิ สพฺเพหิ คุเณหุเปโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู;

สงฺคาหกํ สขิลํ สณฺหวาจํ, ตถาวิธํ โน สิริ โน ชหาตี’’ติ.

ตตฺถ ‘‘กาเยนา’’ติอาทีนิ ปทานิ ติวิธสุจริตทฺวารวเสน วุตฺตานิ. น อตฺตเหตูติ เทสนาสีสเมเวตํ, อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา ยสเหตุ วา ธนเหตุ วา ลาภเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา อลิกํ น กเถตีติ อตฺโถ. กามฺเจส อตฺโถ ‘‘วาจาย สฺโต’’ติ อิมินาว สิทฺโธ, มุสาวาทิโน ปน อกตฺตพฺพํ ปาปํ นาม นตฺถีติ ครุภาวทีปนตฺถํ ปุน เอวมาหาติ เวทิตพฺโพ. ตํ ปุคฺคลํ สีลวนฺตํ วทนฺติ.

คมฺภีรปฺหนฺติ อตฺถโต จ ปาฬิโต จ คมฺภีรํ คุฬฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ สตฺตุภสฺตชาตก- (ชา. ๑.๗.๔๖ อาทโย) สมฺภวชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๑๓๘ อาทโย) มหาอุมงฺคชาตเกสุ (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาคตสทิสํ ปฺหํ. มนสาภิจินฺตยนฺติ มนสา อภิจินฺเตนฺโต อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา จนฺทสหสฺสํ สูริยสหสฺสํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา โย กเถตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ. นาจฺจาหิตนฺติ น อติอหิตํ, หิตาติกฺกนฺตํ ลุทฺทํ ผรุสํ สาหสิกกมฺมฺจ โย น กโรตีติ อตฺโถ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ –

‘‘น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ, ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ;

ทุกฺเขน ผุฏฺา ปิฬิตาปิ สนฺตา, ฉนฺทา โทสา จ น ชหนฺติ ธมฺม’’นฺติ. –

ภูริปฺโห กเถตพฺโพ.

กาลาคตนฺติ เอตฺถ ทานํ ทาตพฺพกาเล, สีลํ รกฺขณกาเล, อุโปสถํ อุปวาสกาเล, สรเณสุ ปติฏฺานกาเล, ปพฺพชิตกาเล, สมณธมฺมกรณกาเล, วิปสฺสนาจารสฺมึ ยุฺชนกาเล จาติ อิมานิ ทานาทีนิ สมฺปาเทนฺโต กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริฺจติ น หาเปติ น คฬาเปติ นาม. ตถาวิธนฺติ สกฺก สพฺพฺุพุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ โพธิสตฺตา จ ปฺวนฺตํ กเถนฺตา เอวรูปํ ปุคฺคลํ กเถนฺติ.

‘‘โย เว’’ติ คาถาย ปเรน อตฺตโน กตคุณํ ชานาตีติ กตฺู. เอวํ ตฺวา ปน เยนสฺส คุโณ กโต, ตสฺส คุณํ ปฏิกโรนฺโต กตเวที นาม. ทุขิตสฺสาติ อตฺตโน สหายสฺส ทุกฺขปฺปตฺตสฺส ทุกฺขํ อตฺตนิ อาโรเปตฺวา โย ตสฺส อุปฺปนฺนกิจฺจํ สหตฺเถน สกฺกจฺจํ กโรติ, พุทฺธาทโย เอวรูปํ สปฺปุริสํ นาม กเถนฺติ. อปิจ สปฺปุริสา นาม กตฺู กตเวทิโน โหนฺตีติ สตปตฺตชาตก- (ชา. ๑.๓.๘๕-๘๗) จูฬหํสชาตก- (ชา. ๑.๑๕.๑๓๓ อาทโย) มหาหํสชาตกาทีนิ (ชา. ๒.๒๑.๘๙ อาทโย) กเถตพฺพานิ. เอเตหิ สพฺเพหีติ สกฺก โย เอเตหิ เหฏฺา วุตฺเตหิ สีลาทีหิ สพฺเพหิปิ คุเณหิ อุเปโต. สทฺโธติ โอกปฺปนสทฺธาย สมนฺนาคโต. มุทูติ ปิยภาณี. สํวิภาคีติ สีลสํวิภาคทานสํวิภาคาภิรตตฺตา สํวิภาคี. ยาจกานํ วจนํ ตฺวา ทานวเสน วทฺู. จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ เตสํ เตสํ สงฺคณฺหนโต สงฺคาหกํ, มธุรวจนตาย สขิลํ, มฏฺวจนตาย สณฺหวาจํ ตถาวิธํ นุ ปุคฺคลํ อธิคตยสโสภคฺคสงฺขาตา สิรี โน ชหาติ, นาสฺส สิรี วินสฺสตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต คคนตเล ปุณฺณจนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย จตฺตาโร ปฺเห วิสฺสชฺเชสิ. ตโต ปรํ เสสปฺหานํ ปุจฺฉา จ วิสฺสชฺชนฺจ โหติ –

๘๐.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

สีลํ สิริฺจาปิ สตฺจ ธมฺมํ, ปฺฺจ กํ เสฏฺตรํ วทนฺติ.

๘๑.

‘‘ปฺา หิ เสฏฺา กุสลา วทนฺติ, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;

สีลํ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโม, อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺติ.

๘๒.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

กถํกโร กินฺติกโร กิมาจรํ, กึ เสวมาโน ลภตีธ ปฺํ;

ปฺาย ทานิปฺปฏิปทํ วเทหิ, กถํกโร ปฺวา โหติ มจฺโจ.

๘๓.

‘‘เสเวถ วุทฺเธ นิปุเณ พหุสฺสุเต, อุคฺคาหโก จ ปริปุจฺฉโก สิยา;

สุเณยฺย สกฺกจฺจ สุภาสิตานิ, เอวํกโร ปฺวา โหติ มจฺโจ.

๘๔.

‘‘ส ปฺวา กามคุเณ อเวกฺขติ, อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต จ;

เอวํ วิปสฺสี ปชหาติ ฉนฺทํ, ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ.

๘๕.

‘‘ส วีตราโค ปวิเนยฺย โทสํ, เมตฺตํ จิตฺตํ ภาวเย อปฺปมาณํ;

สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, อนินฺทิโต พฺรหฺมมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ สีลนฺติ อาจารสีลํ. สิรินฺติ อิสฺสริยสิรึ. สตฺจ ธมฺมนฺติ สปฺปุริสธมฺมํ. ปฺนฺติ สุปฺํ. เอวํ อิเมสํ จตุนฺนํ ธมฺมานํ กตรํ ธมฺมํ เสฏฺตรํ วทนฺตีติ ปุจฺฉติ. ปฺา หีติ, สกฺก, เอเตสุ จตูสุ ธมฺเมสุ ยา เอสา ปฺา นาม, สาว เสฏฺา, อิติ พุทฺธาทโย กุสลา วทนฺติ. ยถา หิ ตารกคณา จนฺทํ ปริวาเรนฺติ, จนฺโทว เตสํ อุตฺตโม. เอวํ สีลฺจ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโมติ เอเต ตโยปิ อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺติ ปฺวนฺตเมว อนุคจฺฉนฺติ, ปฺาย เอว ปริวารา โหนฺตีติ อตฺโถ.

‘‘กถํกโร’’ติอาทีนิ อฺมฺเววจนาเนว. กถํกโรติ กึ นาม กมฺมํ กโรนฺโต กึ อาจรนฺโต กึ เสวมาโน ภชมาโน ปยิรุปาสมาโน อิธโลเก ปฺํ ลภติ, ปฺายเมว ปฏิปทํ วเทหิ, ชานิตุกาโมมฺหิ, กถํกโร มจฺโจ ปฺวา นาม โหตีติ ปุจฺฉติ. วุทฺเธติ ปฺาวุทฺธิปฺปตฺเต ปณฺฑิเต. นิปุเณติ สุขุมการณชานนสมตฺเถ. เอวํกโรติ โย ปุคฺคโล เอวํ วุตฺตปฺปกาเร ปุคฺคเล เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ, ปาฬึ อุคฺคณฺหาติ, ปุนปฺปุนํ อตฺถํ ปุจฺฉติ, ปาสาเณ เลขํ ขณนฺโต วิย กฺจนนาฬิยา สีหวสํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต วิย โอหิตโสโต สกฺกจฺจํ สุภาสิตานิ สุณาติ, อยํ เอวํกโร มจฺโจ ปฺวา โหตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ปาจีนโลกธาตุโต สูริยํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปฺาย ปฏิปทํ กเถตฺวา อิทานิ ตสฺสา ปฺาย คุณํ กเถนฺโต ‘‘ส ปฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามคุเณติ กามโกฏฺาเส หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจโต, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขโต, อฏฺนวุติยา โรคมุขานํ กาเม นิสฺสาย อุปฺปตฺติสมฺภเวน โรคโต จ อเวกฺขติ โอโลเกติ, โส เอวํ วิปสฺสี เอเตหิ การเณหิ กามานํ อนิจฺจาทิตํ ปสฺสนฺโต ‘‘กาเม นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกทุกฺขานํ อนฺโต นตฺถิ, กามานํ ปหานเมว สุข’’นฺติ วิทิตฺวา ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ ฉนฺทํ ปชหาติ. ส วีตราโคติ, ‘‘สกฺก, โส ปุคฺคโล เอวํ วีตราโค นวาฆาตวตฺถุวเสน อุปฺปชฺชนกสภาวโทสํ วิเนตฺวา เมตฺตจิตฺตํ ภาเวยฺย, อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตฺตา อปฺปมาณํ ตํ ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌาโน อครหิโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ.

เอวํ มหาสตฺเต กามานํ โทสํ กเถนฺเตเยว เตสํ ติณฺณมฺปิ ราชูนํ สพลกายานํ ตทงฺคปฺปหาเนน ปฺจกามคุณราโค ปหีโน. ตํ ตฺวา มหาสตฺโต เตสํ ปหํสนวเสน คาถมาห –

๘๖.

‘‘มหตฺถิยํ อาคมนํ อโหสิ, ตวมฏฺกา ภีมรถสฺส จาปิ;

กาลิงฺคราชสฺส จ อุคฺคตสฺส, สพฺเพส โว กามราโค ปหีโน’’ติ.

ตตฺถ มหตฺถิยนฺติ มหตฺถํ มหาวิปฺผารํ มหาชุติกํ. ตวมฏฺกาติ ตว อฏฺกา. ปหีโนติ ตทงฺคปฺปหาเนน ปหีโน.

ตํ สุตฺวา ราชาโน มหาสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺตา คาถมาหํสุ –

๘๗.

‘‘เอวเมตํ ปรจิตฺตเวทิ, สพฺเพส โน กามราโค ปหีโน;

กโรหิ โอกาสมนุคฺคหาย, ยถา คตึ เต อภิสมฺภเวมา’’ติ.

ตตฺถ อนุคฺคหายาติ ปพฺพชฺชตฺถาย โอกาสํ โน กโรหิ. ยถา มยํ ปพฺพชิตฺวา ตว คตึ นิปฺผตฺตึ อภิสมฺภเวม ปาปุเณยฺยาม, ตยา ปฏิวิทฺธคุณํ ปฏิวิชฺเฌยฺยามาติ วทึสุ.

อถ เนสํ โอกาสํ กโรนฺโต มหาสตฺโต อิตรํ คาถมาห –

๘๘.

‘‘กโรมิ โอกาสมนุคฺคหาย, ตถา หิ โว กามราโค ปหีโน;

ผราถ กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คตึ เม อภิสมฺภเวถา’’ติ.

ตตฺถ ผราถ กายนฺติ ฌานปีติยา วิปุลาย กายํ ผรถาติ.

ตํ สุตฺวา เต สมฺปฏิจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –

๘๙.

‘‘สพฺพํ กริสฺสาม ตวานุสาสนึ, ยํ ยํ ตุวํ วกฺขสิ ภูริปฺ;

ผราม กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คตึ เต อภิสมฺภเวมา’’ติ.

อถ เนสํ สพลกายานํ มหาสตฺโต ปพฺพชฺชํ ทาเปตฺวา อิสิคณํ อุยฺโยเชนฺโต คาถมาห –

๙๐.

‘‘กตาย วจฺฉสฺส กิสสฺส ปูชา, คจฺฉนฺตุ โภนฺโต อิสโย สาธุรูปา;

ฌาเน รตา โหถ สทา สมาหิตา, เอสา รตี ปพฺพชิตสฺส เสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ คจฺฉนฺตูติ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานานิ คจฺฉนฺตุ.

อิสโย ตสฺส สรภงฺคสตฺถุโน วจนํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วนฺทิตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา สกานิ วสนฏฺานานิ คมึสุ. สกฺโกปิ อุฏฺายาสนา มหาสตฺตสฺส ถุตึ กตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สูริยํ นมสฺสนฺโต วิย มหาสตฺตํ นมสฺสมาโน สปริโส ปกฺกามิ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา สตฺถา อิมา คาถาโย อภาสิ –

๙๑.

‘‘สุตฺวาน คาถา ปรมตฺถสํหิตา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;

เต เวทชาตา อนุโมทมานา, ปกฺกามุ เทวา เทวปุรํ ยสสฺสิโน.

๙๒.

‘‘คาถา อิมา อตฺถวตี สุพฺยฺชนา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;

โย โกจิมา อฏฺิกตฺวา สุเณยฺย, ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;

ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ, อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ.

ตตฺถ ปรมตฺถสํหิตาติ อนิจฺจาทิทีปเนน นิพฺพานนิสฺสิตา. คาถา อิมาติ อิทํ สตฺถา สรภงฺคสตฺถุโน นิพฺพานทายกํ สุภาสิตํ วณฺเณนฺโต อาห. ตตฺถ อตฺถวตีติ นิพฺพานทายกฏฺเน ปรมตฺถนิสฺสิตา. สุพฺยฺชนาติ ปริสุทฺธพฺยฺชนา. สุภาสิตาติ สุกถิตา. อฏฺิกตฺวาติ อตฺตโน อตฺถิกภาวํ กตฺวา อตฺถิโก หุตฺวา สกฺกจฺจํ สุเณยฺย. ปุพฺพาปริยนฺติ ปมชฺฌานํ ปุพฺพวิเสโส, ทุติยชฺฌานํ อปรวิเสโส. ทุติยชฺฌานํ ปุพฺพวิเสโส, ตติยชฺฌานํ อปรวิเสโสติ เอวํ อฏฺสมาปตฺติจตุมคฺควเสน ปุพฺพาปรภาเวน ิตํ วิเสสํ. อทสฺสนนฺติ ปริโยสาเน อปรวิเสสํ อรหตฺตํ ลภิตฺวา นิพฺพานํ ปาปุเณยฺย. นิพฺพานปฺปตฺโต หิ ปุคฺคโล มจฺจุราชสฺส อทสฺสนํ คโต นาม โหตีติ.

เอวํ สตฺถา อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหิตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ โมคฺคลฺลานสฺส อาฬาหเน ปุปฺผวสฺสํ วสฺสี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนนฺโต อาห –

๙๓.

‘‘สาลิสฺสโร สาริปุตฺโต, เมณฺฑิสฺสโร จ กสฺสโป;

ปพฺพโต อนุรุทฺโธ จ, กจฺจายโน จ เทวโล;

๙๔.

‘‘อนุสิสฺโส จ อานนฺโท, กิสวจฺโฉ จ โกลิโต;

นารโท อุทายิตฺเถโร, ปริสา พุทฺธปริสา;

สรภงฺโค โลกนาโถ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

สรภงฺคชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๒๓] ๓. อลมฺพุสาชาตกวณฺณนา

อถพฺรวีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ อินฺทฺริยชาตเก (ชา. ๑.๘.๖๐ อาทโย) วิตฺถาริตเมว. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ เอสา อิตฺถี ตุยฺหํ อนตฺถการิกา, ตฺวํ เอตํ นิสฺสาย ฌานํ นาเสตฺวา ตีณิ สํวจฺฉรานิ มูฬฺโห วิสฺี นิปชฺชิตฺวา อุปฺปนฺนาย สฺาย มหาปริเทวํ ปริเทวี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺายตเน วนมูลผลาหาโร ยาเปสิ. อเถกา มิคี ตสฺส ปสฺสาวฏฺาเน สมฺภวมิสฺสกํ ติณํ ขาทิตฺวา อุทกํ ปิวิ. เอตฺตเกเนว จ ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ตโต ปฏฺาย กตฺถจิ อคนฺตฺวา ตตฺเถว ติณํ ขาทิตฺวา อสฺสมสฺส สามนฺเตเยว วิจรติ. มหาสตฺโต ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ การณํ อฺาสิ. สา อปรภาเค มนุสฺสทารกํ วิชายิ. มหาสตฺโต ตํ ปุตฺตสิเนเหน ปฏิชคฺคิ, ‘‘อิสิสิงฺโค’’ติสฺส นามํ อกาสิ. อถ นํ มหาสตฺโต วิฺุตปฺปตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา อตฺตโน มหลฺลกกาเล ตํ อาทาย นาริวนํ นาม คนฺตฺวา, ‘‘ตาต, อิมสฺมึ หิมวนฺเต อิเมหิ ปุปฺเผหิ สทิสา อิตฺถิโย นาม โหนฺติ, ตา อตฺตโน วสํ คเต มหาวินาสํ ปาเปนฺติ, น ตาสํ วสํ นาม คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ โอวทิตฺวา อปรภาเค พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

อิสิสิงฺโคปิ ฌานกีฬํ กีฬนฺโต หิมวนฺตปฺปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย อโหสิ. อถสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ, สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘อยํ มํ สกฺกตฺตา จาเวยฺย, เอกํ อจฺฉรํ เปเสตฺวา สีลมสฺส ภินฺทาเปสฺสามี’’ติ สกลเทวโลกํ อุปปริกฺขนฺโต อตฺตโน อฑฺฒเตยฺยโกฏิสงฺขานํ ปริจาริกานํ มชฺเฌ เอกํ อลมฺพุสํ นาม อจฺฉรํ เปตฺวา อฺํ ตสฺส สีลํ ภินฺทิตุํ สมตฺถํ อทิสฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส สีลเภทํ กาตุํ อาณาเปสิ. ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา ปมํ คาถมาห –

๙๕.

‘‘อถพฺรวิ พฺรหา อินฺโท, วตฺรภู ชยตํ ปิตา;

เทวกฺํ ปราเภตฺวา, สุธมฺมายํ อลมฺพุส’’นฺติ.

ตตฺถ พฺรหาติ มหา. วตฺรภูติ วตฺรสฺส นาม อสุรสฺส อภิภวิตา. ชยตํ ปิตาติ ชยนฺตานํ ชยปฺปตฺตานํ เสสานํ เตตฺตึสาย เทวปุตฺตานํ ปิตุกิจฺจสาธเนน ปิตา. ปราเภตฺวาติ หทยํ ภินฺทิตฺวา โอโลเกนฺโต วิย ตํ ‘‘ปฏิพลา อย’’นฺติ ตฺวาติ อตฺโถ. สุธมฺมายนฺติ สุธมฺมายํ เทวสภายํ.

ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเน นิสินฺโน ตํ อลมฺพุสํ ปกฺโกสาเปตฺวา อิทมาห –

๙๖.

‘‘มิสฺเส เทวา ตํ ยาจนฺติ, ตาวตึสา สอินฺทกา;

อิสิปฺปโลภเน คจฺฉ, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุเส’’ติ.

ตตฺถ มิสฺเสติ ตํ อาลปติ, อิทฺจ ตสฺสา นามํ, สพฺพา ปนิตฺถิโย ปุริเส กิเลสมิสฺสเนน มิสฺสนโต ‘‘มิสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตน สาธารเณน คุณนาเมนาลปนฺโต เอวมาห. อิสิปฺปโลภเนติ อิสีนํ ปโลภนสมตฺเถ. อิสิสิงฺคนฺติ ตสฺส กิร มตฺถเก มิคสิงฺคากาเรน ทฺเว จูฬา อุฏฺหึสุ, ตสฺมา เอวํ วุจฺจติ.

อิติ สกฺโก ‘‘คจฺฉ อิสิสิงฺคํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน วสํ อาเนตฺวา สีลมสฺส ภินฺทา’’ติ อลมฺพุสํ อาณาเปสิ.

๙๗.

‘‘ปุรายํ อมฺเห อจฺเจติ, วตฺตวา พฺรหฺมจริยวา;

นิพฺพานาภิรโต วุทฺโธ, ตสฺส มคฺคานิ อาวรา’’ติ. – วจนํ อาห;

ตตฺถ ปุรายนฺติ อยํ ตาปโส วตฺตสมฺปนฺโน จ พฺรหฺมจริยวา จ, โส ปเนส ทีฆายุกตาย นิพฺพานสงฺขาเต มคฺเค อภิรโต คุณวุทฺธิยา จ วุทฺโธ. ตสฺมา ยาว เอส อมฺเห นาติกฺกมติ, น อภิภวิตฺวา อิมมฺหา านา จาเวติ, ตาวเทว ตฺวํ คนฺตฺวา ตสฺส เทวโลกคมนานิ มคฺคานิ อาวร, ยถา อิธ นาคจฺฉติ, เอวํ กโรหีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา คาถาทฺวยมาห –

๙๘.

‘‘เทวราช กิเมว ตฺวํ, มเมว ตุวํ สิกฺขสิ;

อิสิปฺปโลภเน คจฺฉ, สนฺติ อฺาปิ อจฺฉรา.

๙๙.

‘‘มาทิสิโย ปวรา เจว, อโสเก นนฺทเน วเน;

ตาสมฺปิ โหตุ ปริยาโย, ตาปิ ยนฺตุ ปโลภนา’’ติ.

ตตฺถ กิเมว ตฺวนฺติ กึ นาเมตํ ตฺวํ กโรสีติ ทีเปติ. มเมว ตุวํ สิกฺขสีติ อิมสฺมึ สกลเทวโลเก มเมว ตุวํ อิกฺขสิ, อฺํ น ปสฺสสีติ อธิปฺปาเยน วทติ. -กาโร ปเนตฺถ พฺยฺชนสนฺธิกโร. อิสิปฺปโลภเน คจฺฉาติ กึการณา มฺเว เอวํ วเทสีติ อธิปฺปาโย. ปวรา เจวาติ มยา อุตฺตริตรา เจว. อโสเกติ โสกรหิเต. นนฺทเนติ นนฺทิชนเก. ปริยาโยติ คมนวาโร.

ตโต สกฺโก ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๐๐.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ ภณสิ, สนฺติ อฺาปิ อจฺฉรา;

ตาทิสิโย ปวรา เจว, อโสเก นนฺทเน วเน.

๑๐๑.

‘‘น ตา เอวํ ปชานนฺติ, ปาริจริยํ ปุมํ คตา;

ยาทิสํ ตฺวํ ปชานาสิ, นาริ สพฺพงฺคโสภเน.

๑๐๒.

‘‘ตฺวเมว คจฺฉ กลฺยาณิ, อิตฺถีนํ ปวรา จสิ;

ตเวว วณฺณรูเปน, สวสมานยิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ปุมํ คตาติ ปุริสํ อุปสงฺกมนฺตา สมานา ปุริสปโลภินิปาริจริยํ น ชานนฺติ. วณฺณรูเปนาติ สรีรวณฺเณน เจว รูปสมฺปตฺติยา จ. สวสมานยิสฺสสีติ ตํ ตาปสํ อตฺตโน วสํ อาเนสฺสสีติ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๐๓.

‘‘น วาหํ น คมิสฺสามิ, เทวราเชน เปสิตา;

วิเภมิ เจตํ อาสาทุํ, อุคฺคเตโช หิ พฺราหฺมโณ.

๑๐๔.

‘‘อเนเก นิรยํ ปตฺตา, อิสิมาสาทิยา ชนา;

อาปนฺนา โมหสํสารํ, ตสฺมา โลมานิ หํสเย’’ติ.

ตตฺถ น วาหนฺติ น เว อหํ. วิเภมีติ ภายามิ. อาสาทุนฺติ อาสาทิตุํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – นาหํ, เทว, ตยา เปสิตา น คมิสฺสามิ, อปิจาหํ ตํ อิสึ สีลเภทนตฺถาย อลฺลียิตุํ ภายามิ, อุคฺคเตโช หิ โสติ. อาสาทิยาติ อาสาเทตฺวา. โมหสํสารนฺติ โมเหน สํสารํ, โมเหน อิสึ ปโลเภตฺวา สํสารํ อาปนฺนา วฏฺฏทุกฺเข ปติฏฺิตา สตฺตา คณนปถํ อติกฺกนฺตา. ตสฺมาติ เตน การเณน. โลมานิ หํสเยติ อหํ โลมานิ อุฏฺเปมิ, ‘‘ตสฺส กิราหํ สีลํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ จินฺตยมานาย เม โลมานิ ปหํสนฺตีติ วทติ.

๑๐๕.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, อจฺฉรา กามวณฺณินี;

มิสฺสา มิสฺสิตุมิจฺฉนฺตี, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา.

๑๐๖.

‘‘สา จ ตํ วนโมคยฺห, อิสิสิงฺเคน รกฺขิตํ;

พิมฺพิชาลกสฺฉนฺนํ, สมนฺตา อทฺธโยชนํ.

๑๐๗.

‘‘ปาโตว ปาตราสมฺหิ, อุทณฺหสมยํ ปติ;

อคฺคิฏฺํ ปริมชฺชนฺตํ, อิสิสิงฺคํ อุปาคมี’’ติ. – อิมา อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ปกฺกามีติ เตน หิ, เทวราช, อาวชฺเชยฺยาสิ มนฺติ อตฺตโน สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา อลงฺกริตฺวา อิสิสิงฺคํ กิเลเสน มิสฺสิตุํ อิจฺฉนฺตี ปกฺกามิ, ภิกฺขเว, สา อจฺฉรา ตสฺส อสฺสมํ คตาติ. พิมฺพิชาลกสฺฉนฺนนฺติ รตฺตงฺกุรวเนน สฺฉนฺนํ. ปาโตว ปาตราสมฺหีติ, ภิกฺขเว, ปาตราสเวลาย ปาโตว ปเคเยว อติปเคว. อุทณฺหสมยํ ปตีติ สูริยุคฺคมนเวลายเมว. อคฺคิฏฺนฺติ อคฺคิสาลํ. รตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปาโตว นฺหตฺวา อุทกกิจฺจํ กตฺวา ปณฺณสาลายํ โถกํ ฌานสุเขน วีตินาเมตฺวา นิกฺขมิตฺวา อคฺคิสาลํ สมฺมชฺชนฺตํ ตํ อิสิสิงฺคํ สา อุปาคมิ, อิตฺถิวิลาสํ ทสฺเสนฺตี ตสฺส ปุรโต อฏฺาสิ.

อถ นํ ตาปโส ปุจฺฉนฺโต อาห –

๑๐๘.

‘‘กา นุ วิชฺชุริวาภาสิ, โอสธี วิย ตารกา;

วิจิตฺตหตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา.

๑๐๙.

‘‘อาทิจฺจวณฺณสงฺกาสา, เหมจนฺทนคนฺธินี;

สฺตูรู มหามายา, กุมารี จารุทสฺสนา.

๑๑๐.

‘‘วิลคฺคา มุทุกา สุทฺธา, ปาทา เต สุปฺปติฏฺิตา;

คมนา กามนียา เต, หรนฺติเยว เม มโน.

๑๑๑.

‘‘อนุปุพฺพา จ เต อูรู, นาคนาสสมูปมา;

วิมฏฺา ตุยฺหํ สุสฺโสณี, อกฺขสฺส ผลกํ ยถา.

๑๑๒.

‘‘อุปฺปลสฺเสว กิฺชกฺขา, นาภิ เต สาธุสณฺิตา;

ปุรา กณฺหฺชนสฺเสว, ทูรโต ปติทิสฺสติ.

๑๑๓.

‘‘ทุวิธา ชาตา อุรชา, อวณฺฏา สาธุปจฺจุทา;

ปโยธรา อปติตา, อฑฺฒลาพุสมา ถนา.

๑๑๔.

‘‘ทีฆา กมฺพุตลาภาสา, คีวา เอเณยฺยกา ยถา;

ปณฺฑราวรณา วคฺคุ, จตุตฺถมนสนฺนิภา.

๑๑๕.

‘‘อุทฺธคฺคา จ อธคฺคา จ, ทุมคฺคปริมชฺชิตา;

ทุวิชา เนลสมฺภูตา, ทนฺตา ตว สุทสฺสนา.

๑๑๖.

‘‘อปณฺฑรา โลหิตนฺตา, ชิฺชูกผลสนฺนิภา;

อายตา จ วิสาลา จ, เนตฺตา ตว สุทสฺสนา.

๑๑๗.

‘‘นาติทีฆา สุสมฺมฏฺา, กนกพฺยาสโมจิตา;

อุตฺตมงฺครุหา ตุยฺหํ, เกสา จนฺทนคนฺธิกา.

๑๑๘.

‘‘ยาวตา กสิโครกฺขา, วาณิชานฺจ ยา คติ;

อิสีนฺจ ปรกฺกนฺตํ, สฺตานํ ตปสฺสินํ.

๑๑๙.

‘‘น เต สมสมํ ปสฺเส, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

ตตฺถ วิจิตฺตหตฺถาภรณาติ วิจิตฺเตหิ หตฺถาภรเณหิ สมนฺนาคตา. เหมจนฺทนคนฺธินีติ สุวณฺณวณฺณจนฺทนคนฺธวิเลปนา. สฺตูรูติ สุวฏฺฏิตฆนอูรุ สมฺปนฺนอูรุลกฺขณา. วิลคฺคาติ สํขิตฺตมชฺฌา. มุทุกาติ มุทุ สุขุมาลา. สุทฺธาติ นิมฺมลา. สุปฺปติฏฺิตาติ สมํ ปถวึ ผุสนฺตา สุฏฺุ ปติฏฺิตา. คมนาติ คจฺฉมานา. กามนียาติ กนฺตา กามิตพฺพยุตฺตกา. หรนฺติเยว เม มโนติ เอเต เอวรูเปน ปรเมน อิตฺถิวิลาเสน จงฺกมนฺติยา ตว ปาทา มม จิตฺตํ หรนฺติเยว. วิมฏฺาติ วิสาลา. สุสฺโสณีติ สุนฺทรโสณี. อกฺขสฺสาติ สุนฺทรวณฺณสฺส อกฺขสฺส สุวณฺณผลกํ วิย วิสาลา เต โสณีติ วทติ. อุปฺปลสฺเสว กิฺชกฺขาติ นีลุปฺปลกณฺณิกา วิย. กณฺหฺชนสฺเสวาติ สุขุมกณฺหโลมจิตฺตตฺตา เอวมาห.

‘‘ทุวิธา’’ติคาถํ ถเน วณฺณยนฺโต อาห. เต หิ ทฺเว หุตฺวา อุเร ชาตา วณฺฏสฺส อภาวา อวณฺฏา, อุเร ลคฺคา เอว หุตฺวา สุฏฺุ นิกฺขนฺตตฺตา สาธุปจฺจุทา, ปยสฺส ธารณโต ปโยธรา, อปติตาติ น ปติตา, อมิลาตตาย วา อลมฺพนตาย วา น อนฺโต ปวิฏฺาติ อปติตา, สุวณฺณผลเก ปิตสุวณฺณมยวฏฺฏอลาพุโน อฑฺเฒน สทิสตาย อฑฺฒลาพุสมา ถนา. เอเณยฺยกา ยถาติ เอณีมิคสฺส หิ ทีฆา จ วฏฺฏา จ คีวา โสภติ ยถา, เอวํ ตว คีวา โถกํ ทีฆา. กมฺพุตลาภาสาติ สุวณฺณาลิงฺคตลสนฺนิภา คีวาติ อตฺโถ. ปณฺฑราวรณาติ ทนฺตาวรณา. จตุตฺถมนสนฺนิภาติ จตุตฺถมโน วุจฺจติ จตุตฺถมนวตฺถุภูตา ชิวฺหา. อภิรตฺตภาเวน ชิวฺหาสทิสํ เต โอฏฺปริโยสานนฺติ วทติ. อุทฺธคฺคาติ เหฏฺิมทนฺตา. อธคฺคาติ อุปริมทนฺตา. ทุมคฺคปริมชฺชิตาติ ทนฺตกฏฺปริมชฺชิตา ปริสุทฺธา. ทุวิชาติ ทฺวิชา. เนลสมฺภูตาติ นิทฺโทเสสุ หนุมํสปริโยสาเนสุ สมฺภูตา.

อปณฺฑราติ กณฺหา. โลหิตนฺตาติ รตฺตปริยนฺตา. ชิฺชูกผลสนฺนิภาติ รตฺตฏฺาเน ชิฺชุกผลสทิสา. สุทสฺสนาติ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกรา ปฺจปสาทสมนฺนาคตา. นาติทีฆาติ ปมาณยุตฺตา. สุสมฺมฏฺาติ สุฏฺุ สมฺมฏฺา. กนกพฺยาสโมจิตาติ กนกพฺยา วุจฺจติ สุวณฺณผณิกา, ตาย คนฺธเตลํ อาทาย ปหริตา สุรจิตา. กสิโครกฺขาติ อิมินา กสิฺจ โครกฺขฺจ นิสฺสาย ชีวนกสตฺเต ทสฺเสติ. ยา คตีติ ยตฺตกา นิปฺผตฺติ. ปรกฺกนฺตนฺติ ยตฺตกํ อิสีนํ ปรกฺกนฺตํ, วิตฺถารีกตา อิมสฺมึ หิมวนฺเต ยตฺตกา อิสโย วสนฺตีติ อตฺโถ. น เต สมสมนฺติ เตสุ สพฺเพสุ เอกมฺปิ รูปลีฬาวิลาสาทิสมตาย ตยา สมานํ น ปสฺสามิ. โก วา ตฺวนฺติ อิทํ ตสฺสา อิตฺถิภาวํ ชานนฺโต ปุริสโวหารวเสน ปุจฺฉติ.

เอวํ ปาทโต ปฏฺาย ยาว เกสา อตฺตโน วณฺณํ ภาสนฺเต ตาปเส อลมฺพุสา ตุณฺหี หุตฺวา ตสฺสา กถาย ยถานุสนฺธึ คตาย ตสฺส สมฺมูฬฺหภาวํ ตฺวา คาถมาห –

๑๒๐.

‘‘น ปฺหกาโล ภทฺทนฺเต, กสฺสเปวํ คเต สติ;

เอหิ สมฺม รมิสฺสาม, อุโภ อสฺมากมสฺสเม;

เอหิ ตํ อุปคูหิสฺสํ, รตีนํ กุสโล ภวา’’ติ.

ตตฺถ กสฺสเปวํ คเต สตีติ กสฺสปโคตฺต เอวํ ตว จิตฺเต ปวตฺเต สติ ปฺหกาโล น โหติ. สมฺมาติ วยสฺส, ปิยวจนาลปนเมตํ. รตีนนฺติ ปฺจกามคุณรตีนํ.

เอวํ วตฺวา อลมฺพุสา จินฺเตสิ – ‘‘นายํ มยิ ิตาย หตฺถปาสํ อาคมิสฺสติ, คจฺฉนฺตี วิย ภวิสฺสามี’’ติ. สา อิตฺถิมายากุสลตาย ตาปสํ อนุปสงฺกมิตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขี ปายาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๑.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, อจฺฉรา กามวณฺณินี;

มิสฺสา มิสฺสิตุมิจฺฉนฺตี, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา’’ติ.

อถ นํ ตาปโส คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘อยํ คจฺฉตี’’ติ อตฺตโน ทนฺธปรกฺกมํ มนฺทคมนํ ฉินฺทิตฺวา เวเคน ธาวิตฺวา เกเสสุ หตฺเถน ปรามสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๒.

‘‘โส จ เวเคน นิกฺขมฺม, เฉตฺวา ทนฺธปรกฺกมํ;

ตมุตฺตมาสุ เวณีสุ, อชฺฌปฺปตฺโต ปรามสิ.

๑๒๓.

‘‘ตมุทาวตฺต กลฺยาณี, ปลิสฺสชิ สุโสภนา;

จวิตมฺหิ พฺรหฺมจริยา, ยถา ตํ อถ โตสิตา.

๑๒๔.

‘‘มนสา อคมา อินฺทํ, วสนฺตํ นนฺทเน วเน;

ตสฺสา สงฺกปฺปมฺาย, มฆวา เทวกุฺชโร.

๑๒๕.

‘‘ปลฺลงฺกํ ปหิณี ขิปฺปํ, โสวณฺณํ โสปวาหนํ;

สอุตฺตรจฺฉทปฺาสํ, สหสฺสปฏิยตฺถตํ.

๑๒๖.

‘‘ตเมนํ ตตฺถ ธาเรสิ, อุเร กตฺวาน โสภนา;

ยถา เอกมุหุตฺตํว, ตีณิ วสฺสานิ ธารยิ.

๑๒๗.

‘‘วิมโท ตีหิ วสฺเสหิ, ปพุชฺฌิตฺวาน พฺราหฺมโณ;

อทฺทสาสิ หริตรุกฺเข, สมนฺตา อคฺคิยายนํ.

๑๒๘.

‘‘นวปตฺตวนํ ผุลฺลํ, โกกิลคฺคณโฆสิตํ;

สมนฺตา ปวิโลเกตฺวา, รุทํ อสฺสูนิ วตฺตยิ.

๑๒๙.

‘‘น ชุเห น ชเป มนฺเต, อคฺคิหุตฺตํ ปหาปิตํ;

โก นุ เม ปาริจริยาย, ปุพฺเพ จิตฺตํ ปโลภยิ.

๑๓๐.

‘‘อรฺเ เม วิหรโต, โย เม เตชา ห สมฺภุตํ;

นานารตนปริปูรํ, นาวํว คณฺหิ อณฺณเว’’ติ.

ตตฺถ อชฺฌปฺปตฺโตติ สมฺปตฺโต. ตมุทาวตฺต กลฺยาณีติ ตํ เกเส ปรามสิตฺวา ิตํ อิสึ อุทาวตฺติตฺวา นิวตฺติตฺวา กลฺยาณทสฺสนา สา สุฏฺุ โสภนา. ปลิสฺสชีติ อาลิงฺคิ. จวิตมฺหิ พฺรหฺมจริยา, ยถา ตํ อถ โตสิตาติ, ภิกฺขเว, ตสฺส อิสิโน ตาวเทว ฌานํ อนฺตรธายิ. ตสฺมึ ตมฺหา ฌานา พฺรหฺมจริยา จวิเต ยถา ตํ สกฺเกน ปตฺถิตํ, ตเถว อโหสิ. อถ สกฺกสฺส ปตฺถนาย สมิทฺธภาวํ วิทิตฺวา สา เทวกฺา โตสิตา, ตสฺส เตน พฺรหฺมจริยวินาเสน สฺชนิตปีติปาโมชฺชาติ อตฺโถ.

มนสา อคมาติ สา ตํ อาลิงฺคิตฺวา ิตา ‘‘อโห วต สกฺโก ปลฺลงฺกํ เม เปเสยฺยา’’ติ เอวํ ปวตฺเตน มนสา อินฺทํ อคมา. นนฺทเน วเนติ นนฺทิชนนสมตฺถตาย นนฺทนวนสงฺขาเต ตาวตึสภวเน วสนฺตํ. เทวกุฺชโรติ เทวเสฏฺโ. ปหิณีติ เปเสสิ. ‘‘ปาหิณี’’ติปิ ปาโ. โสปวาหนนฺติ สปริวารํ. สอุตฺตรจฺฉทปฺาสนฺติ ปฺาสาย อุตฺตรจฺฉเทหิ ปฏิจฺฉาทิตํ. สหสฺสปฏิยตฺถตนฺติ สหสฺสทิพฺพโกชวตฺถตํ. ตเมนํ ตตฺถาติ ตํ อิสิสิงฺคํ ตตฺถ ทิพฺพปลฺลงฺเก นิสินฺนา สา อุเร กตฺวา ธาเรสิ. ตีณิ วสฺสานีติ เอกมุหุตฺตํ วิย มนุสฺสคณนาย ตีณิ วสฺสานิ ตํ อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ตตฺถ นิสินฺนา ธาเรสิ.

วิมโทติ นิมฺมโท วิคตสฺภาโว. โส หิ ตีณิ สํวจฺฉรานิ วิสฺโ สยิตฺวา ปจฺฉา ปฏิลทฺธสฺโ ปพุชฺฌิ. ตสฺมึ ปพุชฺฌมาเน หตฺถาทิผนฺทนํ ทิสฺวาว อลมฺพุสา ตสฺส ปพุชฺฌนภาวํ ตฺวา ปลฺลงฺกํ อนฺตรธาเปตฺวา สยมฺปิ อนฺตรหิตา อฏฺาสิ. อทฺทสาสีติ โส อสฺสมปทํ โอโลเกนฺโต ‘‘เกน นุ โขมฺหิ สีลวินาสํ ปาปิโต’’ติ จินฺเตตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวมาโน อทฺทสาสิ. หริตรุกฺเขติ อคฺคิยายนสงฺขาตํ อคฺคิสาลํ สมนฺตา ปริวาเรตฺวา ิเต หริตปตฺตรุกฺเข. นวปตฺตวนนฺติ ตรุเณหิ นวปตฺเตหิ สฺฉนฺนํ วนํ. รุทนฺติ ปริเทวนฺโต.

ชุเห น ชเป มนฺเตติ อยมสฺส ปริเทวนคาถา. ปหาปิตนฺติ หาปิตํ, -กาโร อุปสคฺคมตฺตํ. ปาริจริยายาติ โก นุ กิเลสปาริจริยาย อิโต ปุพฺเพ มม จิตฺตํ ปโลภยีติ ปริเทวติ. โย เม เตชา ห สมฺภุตนฺติ -กาโร นิปาตมตฺตํ. โย มม สมณเตเชน สมฺภูตํ ฌานคุณํ นานารตนปริปุณฺณํ มหนฺตํ มหณฺณเว นาวํ วิย คณฺหิ, วินาสํ ปาเปสิ, โก นาเมโสติ ปริเทวตีติ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ น กเถสฺสามิ, อยํ เม อภิสปิสฺสติ, หนฺทสฺส กเถสฺสามี’’ติ. สา ทิสฺสมาเนน กาเยน ตฺวา คาถมาห –

๑๓๑.

‘‘อหํ เต ปาริจริยาย, เทวราเชน เปสิตา;

อวธึ จิตฺตํ จิตฺเตน, ปมาโท ตฺวํ น พุชฺฌสี’’ติ.

โส ตสฺสา กถํ สุตฺวา ปิตรา ทินฺนโอวาทํ สริตฺวา ‘‘ปิตุ วจนํ อกตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโตมฺหี’’ติ ปริเทวนฺโต จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๓๒.

‘‘อิมานิ กิร มํ ตาโต, กสฺสโป อนุสาสติ;

กมลาสทิสิตฺถิโย, ตาโย พุชฺเฌสิ มาณว.

๑๓๓.

‘‘อุเรคณฺฑาโย พุชฺเฌสิ, ตาโย พุชฺเฌสิ มาณว;

อิจฺจานุสาสิ มํ ตาโต, ยถา มํ อนุกมฺปโก.

๑๓๔.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ นากํ, ปิตุ วุทฺธสฺส สาสนํ;

อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, สฺวชฺช ฌายามิ เอกโก.

๑๓๕.

‘‘โสหํ ตถา กริสฺสามิ, ธิรตฺถุ ชีวิเตน เม;

ปุน วา ตาทิโส เหสฺสํ, มรณํ เม ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ อิมานีติ อิมานิ วจนานิ. กมลาสทิสิตฺถิโยติ กมลา วุจฺจติ นาริปุปฺผลตา, ตาสํ ปุปฺผสทิสา อิตฺถิโย. ตาโย พุชฺเฌสิ มาณวาติ มาณว ตฺวํ ตาโย ชาเนยฺยาสิ, ตฺวา ทสฺสนปถํ อคนฺตฺวา ปลาเปยฺยาสีติ ยานิ เอวรูปานิ วจนานิ ตทา มํ ตาโต อนุสาสติ, อิมานิ กิร ตานีติ. อุเรคณฺฑาโยติ อุรมฺหิ ทฺวีหิ คณฺเฑหิ สมนฺนาคตา. ตาโย พุชฺเฌสิ, มาณวาติ, มาณว, ตาโย อตฺตโน วสํ คเต วินาสํ ปาเปนฺตีติ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ. นากนฺติ นากรึ. ฌายามีติ ปชฺฌายามิ ปริเทวามิ. ธิรตฺถุ ชีวิเตน เมติ ธิรตฺถุ ครหิตํ มม ชีวิตํ, ชีวิเตน เม โก อตฺโถ. ปุน วาติ ตถา กริสฺสามิ, ยถา ปุน วา ตาทิโส ภวิสฺสามิ, นฏฺํ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา วีตราโค ภวิสฺสามิ, มรณํ วา เม ภวิสฺสตีติ.

โส กามราคํ ปหาย ปุน ฌานํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส สมณเตชํ ทิสฺวา ฌานสฺส จ อุปฺปาทิตภาวํ ตฺวา อลมฺพุสา ภีตา ขมาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

๑๓๖.

‘‘ตสฺส เตชํ วีริยฺจ, ธิตึ ตฺวา อวฏฺิตํ;

สิรสา อคฺคหี ปาเท, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา.

๑๓๗.

‘‘มา เม กุชฺฌ มหาวีร, มา เม กุชฺฌ มหาอิเส;

มหา อตฺโถ มยา จิณฺโณ, ติทสานํ ยสสฺสินํ;

ตยา ปกมฺปิตํ อาสิ, สพฺพํ เทวปุรํ ตทา’’ติ.

อถ นํ โส ‘‘ขมามิ เต, ภทฺเท, ยถาสุขํ คจฺฉา’’ติ วิสฺสชฺเชนฺโต คาถมาห –

๑๓๘.

‘‘ตาวตึสา จ เย เทวา, ติทสานฺจ วาสโว;

ตฺวฺจ ภทฺเท สุขี โหหิ, คจฺฉ กฺเ ยถาสุข’’นฺติ.

สา ตํ วนฺทิตฺวา เตเนว สุวณฺณปลฺลงฺเกน เทวปุรํ คตา. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๓๙.

‘‘ตสฺส ปาเท คเหตฺวาน, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, ตมฺหา านา อปกฺกมิ.

๑๔๐.

‘‘โย จ ตสฺสาสิ ปลฺลงฺโก, โสวณฺโณ โสปวาหโน;

สอุตฺตรจฺฉทปฺาโส, สหสฺสปฏิยตฺถโต;

ตเมว ปลฺลงฺกมารุยฺห, อคา เทวาน สนฺติเก.

๑๔๑.

‘‘ตโมกฺกมิว อายนฺตึ, ชลนฺตึ วิชฺชุตํ ยถา;

ปตีโต สุมโน วิตฺโต, เทวินฺโท อททา วร’’นฺติ.

ตตฺถ โอกฺกมิวาติ ทีปกํ วิย. ‘‘ปตีโต’’ติอาทีหิ ตุฏฺากาโรว ทสฺสิโต อททา วรนฺติ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิตาย ตุฏฺโ วรํ อทาสิ.

สา ตสฺส สนฺติเก วรํ คณฺหนฺตี โอสานคาถมาห –

๑๔๒.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

นิสิปฺปโลภิกา คจฺเฉ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ‘‘สกฺก เทวราช, สเจ เม ตฺวํ วรํ อโท, ปุน อิสิปโลภิกาย น คจฺเฉยฺยํ, มา มํ เอตทตฺถาย ปหิเณยฺยาสิ, เอตํ วรํ วเร ยาจามี’’ติ.

สตฺถา ตสฺส ภิกฺขุโน อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา อลมฺพุสา ปุราณทุติยิกา อโหสิ, อิสิสิงฺโค อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา มหาอิสิ ปน อหเมว อโหสินฺติ.

อลมฺพุสาชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๒๔] ๔. สงฺขปาลชาตกวณฺณนา

อริยาวกาโสสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา อุโปสถิเก อุปาสเก สมฺปหํเสตฺวา ‘‘โปราณกปณฺฑิตา มหตึ นาคสมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถวาสํ อุปวสึสุเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ‘‘ทุยฺโยธโน’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสสิ. อถ นํ ปิตา รชฺเช อภิสิฺจิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อุยฺยาเน วสิ. โพธิสตฺโต ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปิตุ สนฺติกํ อคมาสิ. ตสฺส มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ. โส เตเนว ปลิโพเธน กสิณปริกมฺมมตฺตมฺปิ กาตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มหา เม ลาภสกฺกาโร, น สกฺกา มยา อิธ วสนฺเตน อิมํ ชฏํ ฉินฺทิตุํ, ปุตฺตสฺส เม อนาโรเจตฺวาว อฺตฺถ คมิสฺสามี’’ติ. โส กฺจิ อชานาเปตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา มคธรฏฺํ อติกฺกมิตฺวา มหิสกรฏฺเ สงฺขปาลทหโต นาม นิกฺขนฺตาย กณฺณเวณฺณาย นทิยา นิวตฺตเน จนฺทกปพฺพตํ อุปนิสฺสาย ปณฺณสาลํ กตฺวา ตตฺถ วสนฺโต กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา อุฺฉาจริยาย ยาเปสิ. ตเมนํ สงฺขปาโล นาม นาคราชา มหนฺเตน ปริวาเรน กณฺณเวณฺณนทิโต นิกฺขมิตฺวา อนฺตรนฺตรา อุปสงฺกมติ. โส ตสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. อถสฺส ปุตฺโต ปิตรํ ทฏฺุกาโม คตฏฺานํ อชานนฺโต อนุวิจาราเปตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม วสตี’’ติ ตฺวา ตสฺส ทสฺสนตฺถาย มหนฺเตน ปริวาเรน ตตฺถ คนฺตฺวา เอกมนฺเต ขนฺธวารํ นิวาเสตฺวา กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ อสฺสมปทาภิมุโข ปายาสิ.

ตสฺมึ ขเณ สงฺขปาโล มหนฺเตน ปริวาเรน ธมฺมํ สุณนฺโต นิสีทิ. โส ตํ ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อิสึ วนฺทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ราชา ปิตรํ วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสีทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, กตรราชา นาเมส ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโต’’ติ. ตาต, สงฺขปาลนาคราชา นาเมโสติ. โส ตสฺส สมฺปตฺตึ นิสฺสาย นาคภวเน โลภํ กตฺวา กติปาหํ วสิตฺวา ปิตุ ภิกฺขาหารํ นิพทฺธํ ทาเปตฺวา อตฺตโน นครเมว คนฺตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานสาลาโย กาเรตฺวา สกลชมฺพุทีปํ สงฺโขเภนฺโต ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา นาคภวนํ ปตฺเถตฺวา อายุปริโยสาเน นาคภวเน นิพฺพตฺติตฺวา สงฺขปาลนาคราชา อโหสิ. โส คจฺฉนฺเต กาเล ตาย สมฺปตฺติยา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ตโต ปฏฺาย มนุสฺสโยนึ ปตฺเถนฺโต อุโปสถวาสํ วสิ. อถสฺส นาคภวเน วสนฺตสฺส อุโปสถวาโส น สมฺปชฺชติ, สีลวินาสํ ปาปุณาติ. โส ตโต ปฏฺาย นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา กณฺณเวณฺณาย นทิยา อวิทูเร มหามคฺคสฺส จ เอกปทิกมคฺคสฺส จ อนฺตเร เอกํ วมฺมิกํ ปริกฺขิปิตฺวา อุโปสถํ อธิฏฺาย สมาทินฺนสีโล ‘‘มม จมฺมมํสาทีหิ อตฺถิกา จมฺมมํสาทีนิ หรนฺตู’’ติ อตฺตานํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺโน สมณธมฺมํ กโรนฺโต จาตุทฺทเส ปนฺนรเส วสิตฺวา ปาฏิปเท นาคภวนํ คจฺฉติ.

ตสฺมึ เอกทิวสํ เอวํ สีลํ สมาทิยิตฺวา นิปนฺเน ปจฺจนฺตคามวาสิโน โสฬส ชนา ‘‘มํสํ อาหริสฺสามา’’ติ อาวุธหตฺถา อรฺเ วิจรนฺตา กิฺจิ อลภิตฺวา นิกฺขนฺตา ตํ วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘มยํ อชฺช โคธาโปตกมฺปิ น ลภิมฺหา, อิมํ นาคราชานํ วธิตฺวา ขาทิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มหา โข ปเนส คยฺหมาโน ปลาเยยฺย, ยถานิปนฺนเมว ตํ โภเคสุ สูเลหิ วิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ สูลานิ อาทาย อุปสงฺกมึสุ. โพธิสตฺตสฺส สรีรํ มหนฺตํ เอกโทณิกนาวปฺปมาณํ วฏฺเฏตฺวา ปิตสุมนปุปฺผทามํ วิย ชิฺชุกผลสนฺนิเภหิ อกฺขีหิ ชยสุมนปุปฺผสทิเสน จ สีเสน สมนฺนาคตํ อติวิย โสภติ. โส เตสํ โสฬสนฺนํ ชนานํ ปทสทฺเทน โภคนฺตรโต สีสํ นีหริตฺวา รตฺตกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เต สูลหตฺเถ อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อชฺช มยฺหํ มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อหํ อตฺตานํ ทานมุเข นิยฺยาเทตฺวา วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา นิปนฺโน, อิเม มม สรีรํ สตฺตีหิ โกฏฺเฏตฺวา ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กโรนฺเต โกธวเสน อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา น โอโลเกสฺสามี’’ติ อตฺตโน สีลเภทภเยน ทฬฺหํ อธิฏฺาย สีสํ โภคนฺตเรเยว ปเวเสตฺวา นิปชฺชิ. อถ นํ เต อุปคนฺตฺวา นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา กฑฺฒนฺตา ภูมิยํ โปเถตฺวา ติขิณสูเลหิ อฏฺสุ าเนสุ วิชฺฌิตฺวา สกณฺฏกกาฬเวตฺตยฏฺิโย ปหารมุเขหิ ปเวเสตฺวา อฏฺสุ าเนสุ กาเชนาทาย มหามคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ, มหาสตฺโต สูเลหิ วิชฺฌนโต ปฏฺาย เอกฏฺาเนปิ โกธวเสน อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เต น โอโลเกสิ. ตสฺส อฏฺหิ กาเชหิ อาทาย นียมานสฺส สีสํ โอลมฺเพตฺวา ภูมิยํ ปหริ. อถ นํ ‘‘สีสมสฺส โอลมฺพตี’’ติ มหามคฺเค นิปชฺชาเปตฺวา ตรุณสูเลน นาสาปุฏํ วิชฺฌิตฺวา รชฺชุกํ ปเวเสตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา กาชโกฏิยํ ลคฺคิตฺวา ปุนปิ อุกฺขิปิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ.

ตสฺมึ ขเณ วิเทหรฏฺเ มิถิลนครวาสี อาฬาโร นาม กุฏุมฺพิโก ปฺจ สกฏสตานิ อาทาย สุขยานเก นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺโต เต โภชปุตฺเต โพธิสตฺตํ ตถา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา เตสํ โสฬสนฺนมฺปิ โสฬสหิ วาหโคเณหิ สทฺธึ ปสตํ ปสตํ สุวณฺณมาสเก สพฺเพสํ นิวาสนปารุปนานิ ภริยานมฺปิ เนสํ วตฺถาภรณานิ ทตฺวา วิสฺสชฺชาเปสิ. อถ โส นาคภวนํ คนฺตฺวา ตตฺถ ปปฺจํ อกตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิตฺวา อาฬารํ อุปสงฺกมิตฺวา นาคภวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตํ อาทาย นาคภวนํ คนฺตฺวา ตีหิ นาคกฺาสเตหิ สทฺธึ มหนฺตมสฺส ยสํ ทตฺวา ทิพฺเพหิ กาเมหิ สนฺตปฺเปสิ. อาฬาโร นาคภวเน เอกวสฺสํ วสิตฺวา ทิพฺพกาเม ปริภุฺชิตฺวา ‘‘อิจฺฉามหํ, สมฺม, ปพฺพชิตุ’’นฺติ นาคราชสฺส กเถตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร คเหตฺวา นาคภวนโต หิมวนฺตปฺปเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ จิรํ วสิตฺวา อปรภาเค จาริกํ จรนฺโต พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขาย นครํ ปวิสิตฺวา ราชทฺวารํ อคมาสิ. อถ นํ พาราณสิราชา ทิสฺวา อิริยาปเถ ปสีทิตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา นานคฺครสโภชนํ โภเชตฺวา อฺตรสฺมึ นีเจ อาสเน นิสินฺโน วนฺทิตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๔๓.

‘‘อริยาวกาโสสิ ปสนฺนเนตฺโต, มฺเ ภวํ ปพฺพชิโต กุลมฺหา;

กถํ นุ วิตฺตานิ ปหาย โภเค, ปพฺพชิ นิกฺขมฺม ฆรา สปฺา’’ติ.

ตตฺถ อริยาวกาโสสีติ นิทฺโทสสุนฺทรสรีราวกาโสสิ, อภิรูโปสีติ อตฺโถ. ปสนฺนเนตฺโตติ ปฺจหิ ปสาเทหิ ยุตฺตเนตฺโต. กุลมฺหาติ ขตฺติยกุลา วา พฺราหฺมณกุลา วา เสฏฺิกุลา วา ปพฺพชิโตสีติ มฺามิ. กถํ นูติ เกน การเณน กึ อารมฺมณํ กตฺวา ธนฺจ อุปโภเค จ ปหาย ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโตสิ สปฺ ปณฺฑิตปุริสาติ ปุจฺฉติ.

ตโต ปรํ ตาปสสฺส จ รฺโ จ วจนปฺปฏิวจนวเสน คาถานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ –

๑๔๔.

‘‘สยํ วิมานํ นรเทว ทิสฺวา, มหานุภาวสฺส มโหรคสฺส;

ทิสฺวาน ปุฺาน มหาวิปากํ, สทฺธายหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๑๔๕.

‘‘น กามกามา น ภยา น โทสา, วาจํ มุสา ปพฺพชิตา ภณนฺติ;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, สุตฺวาน เม ชายิหิติปฺปสาโท.

๑๔๖.

‘‘วาณิชฺช รฏฺาธิป คจฺฉมาโน, ปเถ อทฺทสาสิมฺหิ โภชปุตฺเต;

ปวฑฺฒกายํ อุรคํ มหนฺตํ, อาทาย คจฺฉนฺเต ปโมทมาเน.

๑๔๗.

‘‘โสหํ สมาคมฺม ชนินฺท เตหิ, ปหฏฺโลโม อวจมฺหิ ภีโต;

กุหึ อยํ นียติ ภีมกาโย, นาเคน กึ กาหถ โภชปุตฺตา.

๑๔๘.

‘‘นาโค อยํ นียติ โภชนตฺถา, ปวฑฺฒกาโย อุรโค มหนฺโต;

สาทุฺจ ถูลฺจ มุทุฺจ มํสํ, น ตฺวํ รสฺาสิ วิเทหปุตฺต.

๑๔๙.

‘‘อิโต มยํ คนฺตฺวา สกํ นิเกตํ, อาทาย สตฺถานิ วิโกปยิตฺวา;

มํสานิ โภกฺขาม ปโมทมานา, มยฺหิ เว สตฺตโว ปนฺนคานํ.

๑๕๐.

‘‘สเจ อยํ นียติ โภชนตฺถา, ปวฑฺฒกาโย อุรโค มหนฺโต;

ททามิ โว พลิพทฺทานิ โสฬส, นาคํ อิมํ มุฺจถ พนฺธนสฺมา.

๑๕๑.

‘‘อทฺธา หิ โน ภกฺโข อยํ มนาโป, พหู จ โน อุรคา ภุตฺตปุพฺพา;

กโรม เต ตํ วจนํ อฬาร, มิตฺตฺจ โน โหหิ วิเทหปุตฺต.

๑๕๒.

‘‘ตทาสฺสุ เต พนฺธนา โมจยึสุ, ยํ นตฺถุโต ปฏิโมกฺกสฺส ปาเส;

มุตฺโต จ โส พนฺธนา นาคราชา, ปกฺกามิ ปาจีนมุโข มุหุตฺตํ.

๑๕๓.

‘‘คนฺตฺวาน ปาจีนมุโข มุหุตฺตํ, ปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ปโลกยี มํ;

ตทาสฺสหํ ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉึ, ทสงฺคุลึ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา.

๑๕๔.

‘‘คจฺเฉว โข ตฺวํ ตรมานรูโป, มา ตํ อมิตฺตา ปุนรคฺคเหสุํ;

ทุกฺโข หิ ลุทฺเทหิ ปุนา สมาคโม, อทสฺสนํ โภชปุตฺตาน คจฺฉ.

๑๕๕.

‘‘อคมาสิ โส รหทํ วิปฺปสนฺนํ, นีโลภาสํ รมณียํ สุติตฺถํ;

สโมตตํ ชมฺพุหิ เวตสาหิ, ปาเวกฺขิ นิตฺติณฺณภโย ปตีโต.

๑๕๖.

‘‘โส ตํ ปวิสฺส นจิรสฺส นาโค, ทิพฺเพน เม ปาตุรหู ชนินฺท;

อุปฏฺหี มํ ปิตรํว ปุตฺโต, หทยงฺคมํ กณฺณสุขํ ภณนฺโต.

๑๕๗.

‘‘ตฺวํ เมสิ มาตา จ ปิตา อฬาร, อพฺภนฺตโร ปาณทโท สหาโย;

สกฺจ อิทฺธึ ปฏิลาภโกสฺมิ, อฬาร ปสฺส เม นิเวสนานิ;

ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ วิมานนฺติ สงฺขปาลนาครฺโ อเนกสตนาฏกสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ กฺจนมณิวิมานํ. ปุฺานนฺติ เตน กตปุฺานํ มหนฺตํ วิปากํ ทิสฺวา กมฺมฺจ ผลฺจ ปรโลกฺจ สทฺทหิตฺวา ปวตฺตาย สทฺธาย อหํ ปพฺพชิโต. น กามกามาติ น วตฺถุกาเมนปิ ภเยนปิ โทเสนปิ มุสา ภณนฺติ. ชายิหิตีติ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ วจนํ สุตฺวา มยฺหมฺปิ ปสาโท โสมนสฺสํ ชายิสฺสติ. วาณิชฺชนฺติ วาณิชฺชกมฺมํ กริสฺสามีติ คจฺฉนฺโต. ปเถ อทฺทสาสิมฺหีติ ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ ปุรโต สุขยานเก นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺโต มหามคฺเค ชนปทมนุสฺเส อทฺทสํ. ปวฑฺฒกายนฺติ วฑฺฒิตกายํ. อาทายาติ อฏฺหิ กาเชหิ คเหตฺวา. อวจมฺหีติ อภาสึ. ภีมกาโยติ ภยชนกกาโย. โภชปุตฺตาติ ลุทฺทปุตฺตเก ปิยสมุทาจาเรนาลปติ. วิเทหปุตฺตาติ วิเทหรฏฺวาสิตาย อาฬารํ อาลปึสุ. วิโกปยิตฺวาติ ฉินฺทิตฺวา. มยฺหิ โว สตฺตโวติ มยํ ปน นาคานํ เวริโน นาม. โภชนตฺถาติ โภชนตฺถาย. มิตฺตฺจ โน โหหีติ ตฺวํ อมฺหากํ มิตฺโต โหหิ, กตคุณํ ชาน.

ตทาสฺสุ เตติ, มหาราช, เตหิ โภชปุตฺเตหิ เอวํ วุตฺเต อหํ เตสํ โสฬส วาหโคเณ นิวาสนปารุปนานิ ปสตํ ปสตํ สุวณฺณมาสเก ภริยานฺจ เนสํ วตฺถาลงฺการํ อทาสึ, อถ เต สงฺขปาลนาคราชานํ ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา อตฺตโน กกฺขฬตาย สกณฺฏกกาฬเวตฺตลตาย โกฏิยํ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ อารภึสุ. อถาหํ นาคราชานํ กิลมนฺตํ ทิสฺวา อกิลเมนฺโตว อสินา ตา ลตา ฉินฺทิตฺวา ทารกานํ กณฺณเวธโต วฏฺฏินีหรณนิยาเมน อทุกฺขาเปนฺโต สณิกํ นีหรึ, ตสฺมึ กาเล เต โภชปุตฺตา ยํ พนฺธนํ อสฺส นตฺถุโต ปเวเสตฺวา ปาเส ปฏิโมกฺกํ, ตสฺมา พนฺธนา ตํ อุรคํ โมจยึสุ. ตสฺส นาสโต สห ปาเสน ตํ รชฺชุกํ นีหรึสูติ ทีเปติ. อิติ เต อุรคํ วิสฺสชฺเชตฺวา โถกํ คนฺตฺวา ‘‘อยํ อุรโค ทุพฺพโล, มตกาเล นํ คเหตฺวา คมิสฺสามา’’ติ นิลียึสุ.

ปุณฺเณหีติ โสปิ มุหุตฺตํ ปาจีนาภิมุโข คนฺตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ มํ ปโลกยิ. ตทาสฺสหนฺติ ตทา อสฺส อหํ. คจฺเฉวาติ เอวํ ตํ อวจนฺติ วทติ. รหทนฺติ กณฺณเวณฺณทหํ. สโมตตนฺติ อุภยตีเรสุ ชมฺพุรุกฺขเวตสรุกฺเขหิ โอตตํ วิตตํ. นิตฺติณฺณภโย ปตีโตติ โส กิร ตํ ทหํ ปวิสนฺโต อาฬารสฺส นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา ยาว นงฺคุฏฺา โอตริ, อุทเก ปวิฏฺฏฺานเมวสฺส นิพฺภยํ อโหสิ, ตสฺมา นิตฺติณฺณภโย ปตีโต หฏฺตุฏฺโ ปาเวกฺขีติ. ปวิสฺสาติ ปวิสิตฺวา. ทิพฺเพน เมติ นาคภวเน ปมาทํ อนาปชฺชิตฺวา มยิ กณฺณเวณฺณตีรํ อนติกฺกนฺเตเยว ทิพฺเพน ปริวาเรน มม ปุรโต ปาตุรโหสิ. อุปฏฺหีติ อุปาคมิ. อพฺภนฺตโรติ หทยมํสสทิโส. ตฺวํ มม พหุปกาโร, สกฺการํ เต กริสฺสามิ. ปสฺส เม นิเวสนานีติ มม นาคภวนํ ปสฺส. มสกฺกสารํ วิยาติ มสกฺกสาโร วุจฺจติ โอสกฺกนปริสกฺกนาภาเวน ฆนสารตาย จ สิเนรุปพฺพตราชา. อยํ ตตฺถ มาปิตํ ตาวตึสภวนํ สนฺธาเยวมาห.

มหาราช! เอวํ วตฺวา โส นาคราชา อุตฺตริ อตฺตโน นาคภวนํ วณฺเณนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๕๘.

‘‘ตํ ภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, อสกฺขรา เจว มุทู สุภา จ;

นีจตฺติณา อปฺปรชา จ ภูมิ, ปาสาทิกา ยตฺถ ชหนฺติ โสกํ.

๑๕๙.

‘‘อนาวกุลา เวฬุริยูปนีลา, จตุทฺทิสํ อมฺพวนํ สุรมฺมํ;

ปกฺกา จ เปสี จ ผลา สุผุลฺลา, นิจฺโจตุกา ธารยนฺตี ผลานี’’ติ.

ตตฺถ อสกฺขราติ ยา ตตฺถ ภูมิ ปาสาณสกฺขรรหิตา มุทุ สุภา กฺจนรชตมณิมยา สตฺตรตนวาลุกากิณฺณา. นีจตฺติณาติ อินฺทโคปกปิฏฺิสทิสวณฺเณหิ นีจติเณหิ สมนฺนาคตา. อปฺปรชาติ ปํสุรหิตา. ยตฺถ ชหนฺติ โสกนฺติ ยตฺถ ปวิฏฺมตฺตาว นิสฺโสกา โหนฺติ. อนาวกุลาติ น อวกุลา อขาณุมา อุปริ อุกฺกุลวิกุลภาวรหิตา วา สมสณฺิตา. เวฬุริยูปนีลาติ เวฬุริเยน อุปนีลา, ตสฺมึ นาคภวเน เวฬุริยมยา ปสนฺนสลิลา นีโลภาสา อเนกวณฺณกมลุปฺปลสฺฉนฺนา โปกฺขรณีติ อตฺโถ. จตุทฺทิสนฺติ ตสฺสา โปกฺขรณิยา จตูสุ ทิสาสุ. ปกฺกา จาติ ตสฺมึ อมฺพวเน อมฺพรุกฺขา ปกฺกผลา จ อฑฺฒปกฺกผลา จ ตรุณผลา จ ผุลฺลิตาเยวาติ อตฺโถ. นิจฺโจตุกาติ ฉนฺนมฺปิ อุตูนํ อนุรูเปหิ ปุปฺผผเลหิ สมนฺนาคตาติ.

๑๖๐.

เตสํ วนานํ นรเทว มชฺเฌ, นิเวสนํ ภสฺสรสนฺนิกาสํ;

รชตคฺคฬํ โสวณฺณมยํ อุฬารํ, โอภาสตี วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๑๖๑.

‘‘มณีมยา โสณฺณมยา อุฬารา, อเนกจิตฺตา สตตํ สุนิมฺมิตา;

ปริปูรา กฺาหิ อลงฺกตาหิ, สุวณฺณกายูรธราหิ ราช.

๑๖๒.

‘‘โส สงฺขปาโล ตรมานรูโป, ปาสาทมารุยฺห อโนมวณฺโณ;

สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, ยตฺถสฺส ภริยา มเหสี อโหสิ.

๑๖๓.

‘‘เอกา จ นารี ตรมานรูปา, อาทาย เวฬุริยมยํ มหคฺฆํ;

สุภํ มณึ ชาติมนฺตูปปนฺนํ, อโจทิตา อาสนมพฺภิหาสิ.

๑๖๔.

‘‘ตโต มํ อุรโค หตฺเถ คเหตฺวา, นิสีทยี ปามุขอาสนสฺมึ;

อิทมาสนํ อตฺร ภวํ นิสีทตุ, ภวฺหิ เม อฺตโร ครูนํ.

๑๖๕.

‘‘อฺา จ นารี ตรมานรูปา, อาทาย วารึ อุปสงฺกมิตฺวา;

ปาทานิ ปกฺขาลยี เม ชนินฺท, ภริยาว ภตฺตู ปติโน ปิยสฺส.

๑๖๖.

‘‘อปรา จ นารี ตรมานรูปา, ปคฺคยฺห โสวณฺณมยาย ปาติยา;

อเนกสูปํ วิวิธํ วิยฺชนํ, อุปนามยี ภตฺต มนุฺรูปํ.

๑๖๗.

‘‘ตุริเยหิ มํ ภารต ภุตฺตวนฺตํ, อุปฏฺหุํ ภตฺตุ มโน วิทิตฺวา;

ตตุตฺตรึ มํ นิปตี มหนฺตํ, ทิพฺเพหิ กาเมหิ อนปฺปเกหี’’ติ.

ตตฺถ นิเวสนนฺติ ปาสาโท. ภสฺสรสนฺนิกาสนฺติ ปภสฺสรทสฺสนํ. รชตคฺคฬนฺติ รชตทฺวารกวาฏํ. มณีมยาติ เอวรูปา ตตฺถ กูฏาคารา จ คพฺภา จ. ปริปูราติ สมฺปุณฺณา. โส สงฺขปาโลติ, มหาราช, อหํ เอวํ ตสฺมึ นาคภวนํ วณฺเณนฺเต ตํ ทฏฺุกาโม อโหสึ, อถ มํ ตตฺถ เนตฺวา โส สงฺขปาโล หตฺเถ คเหตฺวา ตรมาโน เวฬุริยถมฺเภหิ สหสฺสถมฺภํ ปาสาทํ อารุยฺห ยสฺมึ าเน อสฺส มเหสี อโหสิ, ตํ านํ เนตีติ ทีเปติ. เอกา จาติ มยิ ปาสาทํ อภิรุฬฺเห เอกา อิตฺถี อฺเหิ มณีหิ ชาติมหนฺเตหิ อุเปตํ สุภํ เวฬุริยาสนํ เตน นาคราเชน อวุตฺตาว. อพฺภิหาสีติ อภิหริ, อตฺถรีติ วุตฺตํ โหติ.

ปามุขอาสนสฺมินฺติ ปมุขาสนสฺมึ, อุตฺตมาสเน นิสีทาเปสีติ อตฺโถ. ครูนนฺติ มาตาปิตูนํ เม ตฺวํ อฺตโรติ เอวํ วตฺวา นิสีทาเปสิ. วิวิธํ วิยฺชนนฺติ วิวิธํ พฺยฺชนํ. ภตฺต มนุฺรูปนฺติ ภตฺตํ มนุฺรูปํ. ภารตาติ ราชานํ อาลปติ. ภุตฺตวนฺตนฺติ ภุตฺตาวึ กตภตฺตกิจฺจํ. อุปฏฺหุนฺติ อเนกสเตหิ ตุริเยหิ คนฺธพฺพํ กุรุมานา อุปฏฺหึสุ. ภตฺตุ มโน วิทิตฺวาติ อตฺตโน ปติโน จิตฺตํ ชานิตฺวา. ตตุตฺตรินฺติ ตโต คนฺธพฺพกรณโต อุตฺตรึ. มํ นิปตีติ โส นาคราชา มํ อุปสงฺกมิ. มหนฺตํ ทิพฺเพหีติ มหนฺเตหิ อุฬาเรหิ ทิพฺเพหิ กาเมหิ เตหิ จ อนปฺปเกหิ.

เอวํ อุปสงฺกมิตฺวา จ ปน คาถมาห –

๑๖๘.

‘‘ภริยา มเมตา ติสตา อฬาร, สพฺพตฺตมชฺฌา ปทุมุตฺตราภา;

อฬาร เอตาสฺสุ เต กามการา, ททามิ เต ตา ปริจารยสฺสู’’ติ.

ตตฺถ สพฺพตฺตมชฺฌาติ สพฺพา อตฺตมชฺฌา, ปาณินา คหิตปฺปมาณมชฺฌาติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สุมชฺฌา’’ติ ปาโ. ปทุมุตฺตราภาติ ปทุมวณฺณอุตฺตราภา, ปทุมวณฺณอุตฺตรจฺฉวิโยติ อตฺโถ. ปริจารยสฺสูติ ตา อตฺตโน ปาทปริจาริกา กโรหีติ วตฺวา ตีหิ อิตฺถิสเตหิ สทฺธึ มหาสมฺปตฺตึ มยฺหํ อทาสิ.

โส อาห –

๑๖๙.

‘‘สํวจฺฉรํ ทิพฺพรสานุภุตฺวา, ตทาสฺสุหํ อุตฺตริมชฺฌภาสึ;

นาคสฺสิทํ กินฺติ กถฺจ ลทฺธํ, กถชฺฌคมาสิ วิมานเสฏฺํ.

๑๗๐.

‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํกตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, กถชฺฌคมาสิ วิมานเสฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ ทิพฺพรสานุภุตฺวาติ ทิพฺเพ กามคุณรเส อนุภวิตฺวา. ตทาสฺสุหนฺติ ตทา อสฺสุ อหํ. นาคสฺสิทนฺติ ภทฺรมุขสฺส สงฺขปาลนาคราชสฺส อิทํ สมฺปตฺติชาตํ กินฺติ กึ นาม กมฺมํ กตฺวา กถฺจ กตฺวา ลทฺธํ, กถเมตํ วิมานเสฏฺํ ตฺวํ อชฺฌคมาสิ, อิติ นํ อหํ ปุจฺฉึ. อธิจฺจลทฺธนฺติ อเหตุนา ลทฺธํ. ปริณามชํ เตติ เกนจิ ตว อตฺถาย ปริณามิตตฺตา ปริณามโต ชาตํ. สยํกตนฺติ การเก ปกฺโกสาเปตฺวา รตนานิ ทตฺวา การิตนฺติ.

ตโต ปรา ทฺวินฺนมฺปิ วจนปฺปฏิวจนคาถาว –

๑๗๑.

‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํกตํ นาปิ เทเวหิ ทินฺนํ;

สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๗๒.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อกฺขาหิ เม นาคราเชตมตฺถํ, กถํ นุ เต ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๗๓.

‘‘ราชา อโหสึ มคธานมิสฺสโร, ทุยฺโยธโน นาม มหานุภาโว;

โส อิตฺตรํ ชีวิตํ สํวิทิตฺวา, อสสฺสตํ วิปริณามธมฺมํ.

๑๗๔.

‘‘อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

๑๗๕.

‘‘มาลฺจ คนฺธฺจ วิเลปนฺจ, ปทีปิยํ ยานมุปสฺสยฺจ;

อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, สกฺกจฺจ ทานานิ อทมฺห ตตฺถ.

๑๗๖.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

เตเนว เม ลทฺธมิทํ วิมานํ, ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ;

นจฺเจหิ คีเตหิ จุเปตรูปํ, จิรฏฺิติกํ น จ สสฺสตายํ.

๑๗๗.

‘‘อปฺปานุภาวา ตํ มหานุภาวํ, เตชสฺสินํ หนฺติ อเตชวนฺโต;

กิเมว ทาาวุธ กึ ปฏิจฺจ, หตฺถตฺตมาคจฺฉิ วนิพฺพกานํ.

๑๗๘.

‘‘ภยํ นุ เต อนฺวคตํ มหนฺตํ, เตโช นุ เต นานฺวคํ ทนฺตมูลํ;

กิเมว ทาาวุธ กึ ปฏิจฺจ, กิเลสมาปชฺชิ วนิพฺพกานํ.

๑๗๙.

‘‘น เม ภยํ อนฺวคตํ มหนฺตํ, เตโช น สกฺกา มม เตหิ หนฺตุํ;

สตฺจ ธมฺมานิ สุกิตฺติตานิ, สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ.

๑๘๐.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ อฬาร, อุโปสถํ นิจฺจมุปาวสามิ;

อถาคมุํ โสฬส โภชปุตฺตา, รชฺชุํ คเหตฺวาน ทฬฺหฺจ ปาสํ.

๑๘๑.

‘‘เภตฺวาน นาสํ อติกสฺส รชฺชุํ, นยึสุ มํ สมฺปริคยฺห ลุทฺทา;

เอตาทิสํ ทุกฺขมหํ ติติกฺขํ, อุโปสถํ อปฺปฏิโกปยนฺโต.

๑๘๒.

‘‘เอกายเน ตํ ปเถ อทฺทสํสุ, พเลน วณฺเณน จุเปตรูปํ;

สิริยา ปฺาย จ ภาวิโตสิ, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๑๘๓.

‘‘น ปุตฺตเหตู น ธนสฺส เหตู, น อายุโน จาปิ อฬาร เหตุ;

มนุสฺสโยนึ อภิปตฺถยาโน, ตสฺมา ปรกฺกม ตโป กโรมิ.

๑๘๔.

‘‘ตฺวํ โลหิตกฺโข วิหตนฺตรํโส, อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสุ;

สุโรสิโต โลหิตจนฺทเนน, คนฺธพฺพราชาว ทิสา ปภาสสิ.

๑๘๕.

‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, เสยฺโย อิโต เกน มนุสฺสโลโก.

๑๘๖.

‘‘อฬาร นาฺตฺร มนุสฺสโลกา, สุทฺธีว สํวิชฺชติ สํยโม วา;

อหฺจ ลทฺธาน มนุสฺสโยนึ, กาหามิ ชาติมรณสฺส อนฺตํ.

๑๘๗.

‘‘สํวจฺฉโร เม วสโต ตวนฺติเก, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโตสฺมิ;

อามนฺตยิตฺวาน ปเลมิ นาค, จิรปฺปวุฏฺโสฺมิ อหํ ชนินฺท.

๑๘๘.

‘‘ปุตฺตา จ ทารา อนุชีวิโน จ, นิจฺจานุสิฏฺา อุปติฏฺเถตํ;

กจฺจินฺนุ ตํ นาภิสปิตฺถ โกจิ, ปิยฺหิ เม ทสฺสนํ ตุยฺหํ อฬาร.

๑๘๙.

‘‘ยถาปิ มาตู จ ปิตู อคาเร, ปุตฺโต ปิโย ปฏิวิหิโต วเสยฺย;

ตโตปิ มยฺหํ อิธเมว เสยฺโย, จิตฺตฺหิ เต นาค มยี ปสนฺนํ.

๑๙๐.

‘‘มณี มมํ วิชฺชติ โลหิตงฺโก, ธนาหโร มณิรตนํ อุฬารํ;

อาทาย ตฺวํ คจฺฉ สกํ นิเกตํ, ลทฺธา ธนํ ตํ มณิโมสฺสชสฺสู’’ติ.

ตตฺถ กึ เต วตนฺติ กึ ตว วตสมาทานํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. โอปานภูตนฺติ จตุมหาปเถ ขตโปกฺขรณี วิย ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ยถาสุขํ ปริภุฺชิตพฺพวิภวํ. น จ สสฺสตายนฺติ จิรฏฺิติกํ สมานมฺปิ เจ ตํ มยฺหํ สสฺสตํ น โหตีติ เม กเถติ.

อปฺปานุภาวาติ โภชปุตฺเต สนฺธายาห. หนฺตีติ อฏฺสุ าเนสุ สูเลหิ วิชฺฌนฺตา กึการณา หนึสุ. กึ ปฏิจฺจาติ กึ สนฺธาย ตฺวํ ตทา เตสํ หตฺถตฺตํ อาคจฺฉิ วสํ อุปคโต. วนิพฺพกานนฺติ โภชปุตฺตา อิธ ‘‘วนิพฺพกา’’ติ วุตฺตา. เตโช นุ เต นานฺวคํ ทนฺตมูลนฺติ กึ นุ ตว เตโช โภชปุตฺเต ทิสฺวา ตทา ภยํ มหนฺตํ อนฺวคตํ, อุทาหุ วิสํ ทนฺตมูลํ น อนฺวคตํ. กิเลสนฺติ ทุกฺขํ. วนิพฺพกานนฺติ โภชปุตฺตานํ สนฺติเก, โภชปุตฺเต นิสฺสายาติ อตฺโถ.

เตโช น สกฺกา มม เตหิ หนฺตุนฺติ มม วิสเตโช อฺสฺส เตเชน อภิหนฺตุมฺปิ น สกฺกา. สตนฺติ พุทฺธาทีนํ. ธมฺมานีติ สีลสมาธิปฺาขนฺติอนุทฺทยเมตฺตาภาวนาสงฺขาตานิ ธมฺมานิ. สุกิตฺติตานีติ สุวณฺณิตานิ สุกถิตานิ. กินฺติ กตฺวา? สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานีติ เตหิ สมุทฺทเวลา วิย สปฺปุริเสหิ ชีวิตตฺถมฺปิ ทุรจฺจยานีติ วณฺณิตานิ, ตสฺมา อหํ สีลเภทภเยน ขนฺติเมตฺตาทิสมนฺนาคโต หุตฺวา มม โกปสฺส สีลเวลนฺตํ อติกฺกมิตุํ น อทาสินฺติ อาห.

‘‘อิมิสฺสา ปน สงฺขปาลธมฺมเทสนาย ทสปิ ปารมิโย ลพฺภนฺติ. ตทา หิ มหาสตฺเตน สรีรสฺส ปริจฺจตฺตภาโว ทานปารมี นาม โหติ, ตถารูเปนาปิ วิสเตเชน สีลสฺส อภินฺนตา สีลปารมี, นาคภวนโต นิกฺขมิตฺวา สมณธมฺมกรณํ เนกฺขมฺมปารมี, ‘อิทฺจิทฺจ กาตุํ วฏฺฏตี’ติ สํวิทหนํ ปฺาปารมี, อธิวาสนวีริยํ วีริยปารมี, อธิวาสนขนฺติ ขนฺติปารมี, สจฺจสมาทานํ สจฺจปารมี, ‘มม สีลํ น ภินฺทิสฺสามี’ติ อธิฏฺานํ อธิฏฺานปารมี, อนุทฺทยภาโว เมตฺตาปารมี, เวทนาย มชฺฌตฺตภาโว อุเปกฺขาปารมี’’ติ.

อถาคมุนฺติ อเถกทิวสํ วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺนํ ทิสฺวา โสฬส โภชปุตฺตา ขรรชฺชุฺจ ทฬฺหปาสฺจ สูลานิ จ คเหตฺวา มม สนฺติกํ อาคตา. เภตฺวานาติ มม สรีรํ อฏฺสุ าเนสุ ภินฺทิตฺวา สกณฺฏกกาฬเวตฺตลตา ปเวเสตฺวา. นาสํ อติกสฺส รชฺชุนฺติ โถกํ คนฺตฺวา สีสํ เม โอลมฺพนฺตํ ทิสฺวา มหามคฺเค นิปชฺชาเปตฺวา ปุน นาสมฺปิ เม ภินฺทิตฺวา วฏฺฏรชฺชุํ อติกสฺส อาวุนิตฺวา กาชโกฏิยํ ลคฺเคตฺวา สมนฺตโต ปริคฺคเหตฺวา มํ นยึสุ.

อทฺทสํสูติ, สมฺม สงฺขปาล, เต โภชปุตฺตา เอกายเน เอกคมเน ชงฺฆปทิกมคฺเค ตํ พเลน จ วณฺเณน จ อุเปตรูปํ ปสฺสึสุ, ตฺวํ ปน อิสฺสริยโสภคฺคสิริยา จ ปฺาย จ ภาวิโต วฑฺฒิโต, โส ตฺวํ เอวรูโป สมาโนปิ กิมตฺถํ ตปํ กโรสิ, กิมิจฺฉนฺโต อุโปสถวาสํ วสสิ, สีลํ รกฺขสิ. ‘‘อทฺทสาสิ’’นฺติปิ ปาโ, อหํ เอกายเน มหามคฺเค ตํ อทฺทสินฺติ อตฺโถ. อภิปตฺถยาโนติ ปตฺเถนฺโต. ตสฺมาติ ยสฺมา มนุสฺสโยนึ ปตฺเถมิ, ตสฺมา วีริเยน ปรกฺกมิตฺวา ตโปกมฺมํ กโรมิ.

สุโรสิโตติ สุฏฺุ มนุลิตฺโต. อิโตติ อิมมฺหา นาคภวนา มนุสฺสโลโก เกน อุตฺตริตโร. สุทฺธีติ มคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตา วิสุทฺธิ. สํยโมติ สีลํ. อิทํ โส มนุสฺสโลเกเยว พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานํ อุปฺปตฺตึ สนฺธายาห. กาหามีติ อตฺตโน อปฺปฏิสนฺธิกภาวํ กโรนฺโต ชาติชรามรณสฺสนฺตํ กริสฺสามีติ. เอวํ, มหาราช, โส สงฺขปาโล มนุสฺสโลกํ วณฺเณสิ. สํวจฺฉโร เมติ เอวํ, มหาราช, ตสฺมึ มนุสฺสโลกํ วณฺเณนฺเต อหํ ปพฺพชฺชาย สิเนหํ กตฺวา เอตทโวจํ. ตตฺถ อุปฏฺิโตสฺมีติ อนฺนปาเนน เจว ทิพฺเพหิ จ กามคุเณหิ ปริจิณฺโณ มานิโต อสฺมิ. ปเลมีติ ปเรมิ คจฺฉามิ. จิรปฺปวุฏฺโสฺมีติ อหํ มนุสฺสโลกโต จิรปฺปวุฏฺโ อสฺมิ.

นาภิสปิตฺถาติ กจฺจิ นุ โข มม ปุตฺตาทีสุ โกจิ ตํ น อกฺโกสิ น ปริภาสีติ ปุจฺฉติ. ‘‘นาภิสชฺเชถา’’ติปิ ปาโ, น โกเปสีติ อตฺโถ. ปฏิวิหิโตติ ปฏิชคฺคิโต. มณี มมนฺติ สเจ, สมฺม อาฬาร, คจฺฉสิเยว, เอวํ สนฺเต มม โลหิตงฺโก ธนหารโก สพฺพกามทโท มณิ สํวิชฺชติ, ตํ อุฬารํ มณิรตนํ อาทาย ตว เคหํ คจฺฉ, ตตฺถ อิมสฺสานุภาเวน ยาวทิจฺฉกํ ธนํ ลทฺธา ปุน อิมํ มณึ โอสฺสชสฺสุ, โอสฺสชนฺโต จ อฺตฺถ อโนสฺสชิตฺวา อตฺตโน อุทกจาฏิยํ โอสฺสเชยฺยาสีติ วตฺวา มยฺหํ มณิรตนํ อุปเนสีติ วทติ.

เอวํ วตฺวา อาฬาโร ‘‘อถาหํ, มหาราช, นาคราชานํ เอตทโวจํ – ‘สมฺม, นาหํ ธเนนตฺถิโก, ปพฺพชิตุํ ปน อิจฺฉามี’ติ ปพฺพชิตปริกฺขารํ ยาจิตฺวา เตเนว สทฺธึ นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา ตํ นิวตฺเตตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิโตมฺหี’’ติ วตฺวา รฺโ ธมฺมกถํ กเถนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๙๑.

‘‘ทิฏฺา มยา มานุสกาปิ กามา, อสสฺสตา วิปริณามธมฺมา;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, สทฺธายหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๑๙๒.

‘‘ทุมปฺผลานีว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุทฺธา จ สรีรเภทา;

เอตมฺปิ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย’’ติ.

ตตฺถ สทฺธายาติ กมฺมฺจ ผลฺจ นิพฺพานฺจ สทฺทหิตฺวา. ทุมปฺผลานีว ปตนฺตีติ ยถา รุกฺขผลานิ ปกฺกานิปิ อปกฺกานิปิ ปตนฺติ, ตถา มาณวา ทหรา จ วุทฺธา จ ปตนฺติ. อปณฺณกนฺติ อวิรทฺธํ นิยฺยานิกํ. สามฺเมว เสยฺโยติ ปพฺพชฺชาว อุตฺตมาติ ปพฺพชฺชาย คุณํ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ, มหาราชาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๙๓.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาคฺจ สุตฺวาน ตวฺจฬาร, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ตตฺถ เย พหุานจินฺติโนติ เย พหูนิ การณานิ ชานนฺติ. นาคฺจาติ ตถา อปฺปมาทวิหารินํ นาคราชานฺจ ตว จ วจนํ สุตฺวา.

อถสฺส อุสฺสาหํ ชเนนฺโต ตาปโส โอสานคาถมาห –

๑๙๔.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาคฺจ สุตฺวาน มมฺจ ราช, กโรหิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

เอวํ โส รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ตตฺเถว จตฺตาโร วสฺสานมาเส วสิตฺวา ปุน หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ยาวชีวํ จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ. สงฺขปาโลปิ ยาวชีวํ อุโปสถวาสํ วสิตฺวา ราชา จ ทานาทีนิ ปุฺานิ กริตฺวา ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปิตา ตาปโส กสฺสโป อโหสิ, พาราณสิราชา อานนฺโท, อาฬาโร สาริปุตฺโต, สงฺขปาลนาคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สงฺขปาลชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๒๕] ๕. จูฬสุตโสมชาตกวณฺณนา

อามนฺตยามิ นิคมนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เนกฺขมฺมปารมึ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ มหานารทกสฺสปชาตกสทิสเมว (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓ อาทโย). อตีเต ปน พาราณสี สุทสฺสนํ นาม นครํ อโหสิ, ตตฺถ พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา อชฺฌาวสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ทสมาสจฺจเยน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺส ปน ปุณฺณจนฺทสสฺสิริกํ มุขํ อโหสิ, เตนสฺส ‘‘โสมกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. โส วิฺุตํ ปตฺโต สุตวิตฺตโก สวนสีโล อโหสิ, เตน นํ ‘‘สุตโสโม’’ติ สฺชานึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคเหตฺวา อาคโต ปิตุ สนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ ลภิตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ, มหนฺตํ อิสฺสริยํ อโหสิ. ตสฺส จนฺทาเทวิปฺปมุขานิ โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ. โส อปรภาเค ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒนฺโต ฆราวาเส อนภิรโต อรฺํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตุกาโม อโหสิ.

โส เอกทิวสํ กปฺปกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ยทา เม, สมฺม, สิรสฺมึ ปลิตํ ปสฺเสยฺยาสิ, ตทา เม อาโรเจยฺยาสี’’ติ อาห. กปฺปโก ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อปรภาเค ปลิตํ ทิสฺวา อาโรเจตฺวา ‘‘เตน หิ นํ, สมฺม กปฺปก, อุทฺธริตฺวา มม หตฺเถ ปติฏฺเปหี’’ติ วุตฺเต สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธริตฺวา รฺโ หตฺเถ เปสิ. ตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต ‘‘ชราย เม สรีรํ อภิภูต’’นฺติ ภีโต ตํ ปลิตํ คเหตฺวาว ปาสาทา โอตริตฺวา มหาชนสฺส ทสฺสนฏฺาเน ปฺตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา เสนาปติปฺปมุขานิ อสีติอมจฺจสหสฺสานิ ปุโรหิตปฺปมุขานิ สฏฺิพฺราหฺมณสหสฺสานิ อฺเ จ รฏฺิกชานปทเนคมาทโย พหู ชเน ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สิรสฺมึ เม ปลิตํ ชาตํ, อหํ มหลฺลโกสฺมิ, มม ปพฺพชิตภาวํ ชานาถา’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๑๙๕.

‘‘อามนฺตยามิ นิคมํ, มิตฺตามจฺเจ ปริสฺสเช;

สิรสฺมึ ปลิตํ ชาตํ, ปพฺพชฺชํ ทานิ โรจห’’นฺติ.

ตตฺถ อามนฺตยามีติ ชานาเปมิ. โรจหนฺติ ‘‘โรเจมิ อหํ, ตสฺส เม, โภนฺโต! ปพฺพชิตภาวํ ชานาถา’’ติ.

ตํ สุตฺวา เตสุ เอโก วิสารทปฺปตฺโต หุตฺวา คาถมาห –

๑๙๖.

‘‘อภุํ เม กถํ นุ ภณสิ, สลฺลํ เม เทว อุรสิ กปฺเปสิ;

สตฺตสตา เต ภริยา, กถํ นุ เต ตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อภุนฺติ อวฑฺฒึ. อุรสิ กปฺเปสีติ อุรสฺมึ สุนิสิตโธตสตฺตึ จาเรสิ. สตฺตสตาติ สมชาติกา ขตฺติยกฺา สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กถํ นุ เต ตา ภวิสฺสนฺตีติ ตา ตว ภริยา ตยิ ปพฺพชิเต อนาถา นิปฺปจฺจยา กถํ ภวิสฺสนฺติ, เอตา อนาถา กตฺวา ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา นาม น ยุตฺตาติ.

ตโต มหาสตฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๙๗.

‘‘ปฺายิหินฺติ เอตา, ทหรา อฺมฺปิ ตา คมิสฺสนฺติ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ ปฺายิหินฺตีติ อตฺตโน กมฺเมน ปฺายิสฺสนฺติ. อหํ เอตาสํ กึ โหมิ, สพฺพาเปตา ทหรา, โย อฺโ ราชา ภวิสฺสติ, ตํ เอตา คมิสฺสนฺตีติ.

อมจฺจาทโย โพธิสตฺตสฺส ปฏิวจนํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตา ตสฺส มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สา ตุริตตุริตา อาคนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ตาต, ปพฺพชิตุกาโมสี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

๑๙๘.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต โหมหํ มาตา;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๑๙๙.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยํ ตํ อหํ วิชายิสฺสํ;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ ทุลฺลทฺธนฺติ ยํ เอตํ มยา ลภนฺติยา ปุตฺตํ ชมฺมํ ลทฺธํ ทุลฺลทฺธํ. ยํ เมติ เยน การเณน มยิ นานปฺปการกํ วิปลนฺติยา ตฺวํ ปพฺพชิตุํ อิจฺฉสิ, เตน การเณน ตาทิสสฺส ปุตฺตสฺส ลภนํ มม ทุลฺลทฺธํ นามาติ.

โพธิสตฺโต เอวํ ปริเทวมานายปิ มาตรา สทฺธึ กิฺจิ น กเถสิ. สา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา สยเมว เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถสฺส ปิตุ อาโรเจสุํ. โส อาคนฺตฺวา เอกํ ตาว คาถมาห –

๒๐๐.

‘‘โก นาเมโส ธมฺโม, สุตโสม กา จ นาม ปพฺพชฺชา;

ยํ โน อมฺเห ชิณฺเณ, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ ยํ โน อมฺเหติ ยํ ตฺวํ อมฺหากํ ปุตฺโต สมาโน อมฺเห ชิณฺเณ ปฏิชคฺคิตพฺพกาเล อปฺปฏิชคฺคิตฺวา ปปาเต สิลํ ปวฏฺเฏนฺโต วิย ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, เตน ตํ วทามิ โก นาเมโส ตว ธมฺโมติ อธิปฺปาโย.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตุณฺหี อโหสิ. อถ นํ ปิตา, ‘‘ตาต สุตโสม, สเจปิ เต มาตาปิตูสุ สิเนโห นตฺถิ, ปุตฺตธีตโร เต พหู ตรุณา, ตยา วินา วตฺติตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, เตสํ วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล ปพฺพชิสฺสสี’’ติ วตฺวา สตฺตมํ คาถมาห –

๒๐๑.

‘‘ปุตฺตาปิ ตุยฺหํ พหโว, ทหรา อปฺปตฺตโยพฺพนา;

มฺชู เตปิตํ อปสฺสนฺตา, มฺเ ทุกฺขํ นิคจฺฉนฺตี’’ติ.

ตตฺถ มฺชูติ มธุรวจนา. นิคจฺฉนฺตีติ นิคจฺฉิสฺสนฺติ กายิกเจตสิกทุกฺขํ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ มฺามิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๒.

‘‘ปุตฺเตหิ จ เม เอเตหิ, ทหเรหิ อปฺปตฺตโยพฺพเนหิ;

มฺชูหิ สพฺเพหิปิ ตุมฺเหหิ, จิรมฺปิ ตฺวา วินาสภาโว’’ติ.

ตตฺถ สพฺเพหิปิ ตุมฺเหหีติ, ตาต, น เกวลํ ปุตฺเตเหว, อถ โข ตุมฺเหหิปิ อฺเหิปิ สพฺพสงฺขาเรหิ จิรํ ตฺวาปิ ทีฆมทฺธานํ ตฺวาปิ วินาสภาโวว นิยโต. สกลสฺมิมฺปิ หิ โลกสนฺนิวาเส เอกสงฺขาโรปิ นิจฺโจ นาม นตฺถีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ปิตุ ธมฺมกถํ กเถสิ. โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถสฺส สตฺตสตานํ ภริยานํ อาโรจยึสุ. ตา จ ปาสาทา โอรุยฺห ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา โคปฺผเกสุ คเหตฺวา ปริเทวมานา คาถมาหํสุ –

๒๐๓.

‘‘ฉินฺนํ นุ ตุยฺหํ หทยํ, อทุ เต กรุณา จ นตฺถิ อมฺเหสุ;

ยํ โน วิกนฺทนฺติโย, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สามิ สุตโสม, อมฺเห วิธวา กตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อปฺปมตฺตกสฺสปิ สิเนหสฺส อภาเวน ตว หทยํ อมฺเหสุ ฉินฺนํ นุ, อุทาหุ กรุณาย อภาเวน การุฺํ วา นตฺถิ, ยํ โน เอวํ วิกนฺทนฺติโย ปหาย ปพฺพชสีติ.

มหาสตฺโต ตาสํ ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวมานานํ ปริเทวนสทฺทํ สุตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๒๐๔.

‘‘น จ มยฺหํ ฉินฺนํ หทยํ, อตฺถิ กรุณาปิ มยฺหํ ตุมฺเหสุ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ สคฺคฺจาติ อหํ สคฺคฺจ ปตฺถยนฺโต ยสฺมา อยํ ปพฺพชฺชา นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิตา, ตสฺมา ปพฺพชิสฺสามิ, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถาติ ตา อสฺสาเสสิ.

อถสฺส อคฺคมเหสิยา อาโรเจสุํ. สา ครุภารา ปริปุณฺณคพฺภาปิ สมานา อาคนฺตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๒๐๕.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต อหํ ภริยา;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๒๐๖.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต อหํ ภริยา;

ยํ เม กุจฺฉิปฏิสนฺธึ, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๒๐๗.

‘‘ปริปกฺโก เม คพฺโภ, กุจฺฉิคโต ยาว นํ วิชายามิ;

มาหํ เอกา วิธวา, ปจฺฉา ทุกฺขานิ อทฺทกฺขิ’’นฺติ.

ตตฺถ ยํ เมติ ยสฺมา มม วิลปนฺติยา ตฺวํ อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, ตสฺมา ยํ มยา ตว สนฺติกา อคฺคมเหสิฏฺานํ ลทฺธํ, ตํ ทุลฺลทฺธเมว อาสิ. ทุติยคาถาย ยสฺมา มํ ตฺวํ กุจฺฉิปฏิสนฺธึ ปหาย อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, ตสฺมา ยํ มยา ตว ภริยตฺตํ ลทฺธํ, ตํ ทุลฺลทฺธํ เมติ อตฺโถ. ยาว นนฺติ ยาวาหํ ตํ คพฺภํ วิชายามิ, ตาว อธิวาเสหีติ.

ตโต มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๘.

‘‘ปริปกฺโก เต คพฺโภ, กุจฺฉิคโต อิงฺฆ ตฺวํ วิชายสฺสุ;

ปุตฺตํ อโนมวณฺณํ, ตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺตนฺติ, ภทฺเท, ตว คพฺโภ ปริปกฺโกติ ชานามิ, ตฺวํ ปน วิชายมานา ปุตฺตํ วิชายิสฺสสิ, น ธีตรํ, สา ตฺวํ โสตฺถินา วิชายสฺสุ ปุตฺตํ, อหํ ปน สทฺธึ ตยา ตํ ปุตฺตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามิเยวาติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘อิโต ทานิ ปฏฺาย, เทว, อมฺหากํ สิรี นาม นตฺถี’’ติ อุโภหิ หตฺเถหิ หทยํ ธารยมานา อสฺสูนิ มุฺจนฺตี มหาสทฺเทน ปริเทวิ. อถ นํ สมสฺสาเสนฺโต มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๙.

‘‘มา ตฺวํ จนฺเท รุทิ, มา โสจิ วนติมิรมตฺตกฺขิ;

อาโรห วรปาสาทํ, อนเปกฺโข อหํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ มา ตฺวํ จนฺเท รุทีติ, ภทฺเท จนฺทาเทวิ, ตฺวํ มา โรทิ มา โสจิ. วนติมิรมตฺตกฺขีติ คิริกณฺณิกปุปฺผสมานเนตฺเต. ปาฬิยํ ปน ‘‘โกวิฬารตมฺพกฺขี’’ติ ลิขิตํ, ตสฺสา โกวิฬารปุปฺผํ วิย ตมฺพเนตฺเตติ อตฺโถ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา าตุํ อสกฺโกนฺตี ปาสาทํ อารุยฺห โรทมานา นิสีทิ. อถ นํ โพธิสตฺตสฺส เชฏฺปุตฺโต ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เม มาตา โรทนฺตี นิสินฺนา’’ติ ตํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๒๑๐.

‘‘โก ตํ อมฺม โกเปสิ, กึ โรทสิ เปกฺขสิ จ มํ พาฬฺหํ;

กํ อวชฺฌํ ฆาเตมิ, าตีนํ อุทิกฺขมานาน’’นฺติ.

ตตฺถ โกเปสีติ, อมฺม! โก นาม ตํ โกเปสิ, โก เต อปฺปิยํ อกาสิ. เปกฺขสิ จาติ มํ พาฬฺหํ เปกฺขนฺตี กึการณา โรทสีติ อธิปฺปาโย. กํ อวชฺฌํ ฆาเตมีติ อฆาเตตพฺพมฺปิ กํ ฆาเตมิ อตฺตโน าตีนํ อุทิกฺขมานานฺเว, อกฺขาหิ เมติ ปุจฺฉติ.

ตโต เทวี คาถมาห –

๒๑๑.

‘‘น หิ โส สกฺกา หนฺตุํ, วิชิตาวี โย มํ ตาต โกเปสิ;

ปิตา เต มํ ตาต อวจ, อนเปกฺโข อหํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ วิชิตาวีติ, ตาต, โย มํ อิมิสฺสา ปถวิยา วิชิตาวี โกเปสิ, อปฺปิยสมุทาจาเรน เม หทเย โกปฺจ โสกฺจ ปเวเสสิ, โส ตยา หนฺตุํ น สกฺกา, มฺหิ, ตาต, ตว ปิตา ‘‘อหํ รชฺชสิริฺจ ตฺจ ปหาย อรฺํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อวจ, อิทํ เม โรทนการณนฺติ.

โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘อมฺม! กึ นาม ตฺวํ กเถสิ, นนุ เอวํ สนฺเต มยํ อนาถา นาม ภวิสฺสามา’’ติ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๒๑๒.

‘‘โยหํ ปุพฺเพ นิยฺยามิ, อุยฺยานํ มตฺตกุฺชเร จ โยเธมิ;

สุตโสเม ปพฺพชิเต, กถํ นุ ทานิ กริสฺสามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – โย อหํ ปุพฺเพ จตุอาชฺยุตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ รถํ อภิรุยฺห อุยฺยานํ คจฺฉามิ, มตฺตกุฺชเร จ โยเธมิ, อฺเหิ จ อสฺสกีฬาทีหิ กีฬามิ, สฺวาหํ อิทานิ สุตโสเม ปพฺพชิเต กถํ กริสฺสามีติ?

อถสฺส กนิฏฺภาตา สตฺตวสฺสิโก เต อุโภปิ โรทนฺเต ทิสฺวา มาตรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อมฺม! กึการณา ตุมฺเห โรทถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ มา โรทถ, อหํ ตาตสฺส ปพฺพชิตุํ น ทสฺสามี’’ติ อุโภปิ เต อสฺสาเสตฺวา ธาติยา สทฺธึ ปาสาทา โอรุยฺห ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ กิร อมฺเห อกามเก ปหาย ‘ปพฺพชามี’ติ วทสิ, อหํ เต ปพฺพชิตุํ น ทสฺสามี’’ติ ปิตรํ คีวาย ทฬฺหํ คเหตฺวา คาถมาห –

๒๑๓.

‘‘มาตุจฺจ เม รุทนฺตฺยา, เชฏฺสฺส จ ภาตุโน อกามสฺส;

หตฺเถปิ เต คเหสฺสํ, น หิ คจฺฉสิ โน อกามาน’’นฺติ.

มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เม ปริปนฺถํ กโรติ, เกน นุ โข นํ อุปาเยน ปฏิกฺกมาเปยฺย’’นฺติ. ตโต ธาตึ โอโลเกตฺวา, ‘‘อมฺม! ธาติ หนฺทิมํ มณิกฺขนฺธปิฬนฺธนํ, ตเวโส โหตุ หตฺเถ, ปุตฺตํ อปเนหิ, มา เม อนฺตรายํ กรี’’ติ สยํ ปุตฺตํ หตฺเถ คเหตฺวา อปเนตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺสา ลฺชํ ปฏิชาเนตฺวา คาถมาห –

๒๑๔.

‘‘อุฏฺเหิ ตฺวํ ธาติ, อิมํ กุมารํ รเมหิ อฺตฺถ;

มา เม ปริปนฺถมกาสิ, สคฺคํ มม ปตฺถยานสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อิมํ กุมารนฺติ, อมฺม! ธาติ ตฺวํ อุฏฺเหิ, อิมํ กุมารํ อปเนตฺวา อาคนฺตฺวา อิมํ มณึ คเหตฺวา อฺตฺถ นํ อภิรเมหีติ.

สา ลฺชํ ลภิตฺวา กุมารํ สฺาเปตฺวา อาทาย อฺตฺถ คนฺตฺวา ปริเทวมานา คาถมาห –

๒๑๕.

‘‘ยํ นูนิมํ ทเทยฺยํ ปภงฺกรํ, โก นุ เม อิมินาตฺโถ;

สุตโสเม ปพฺพชิเต, กึ นุ เมนํ กริสฺสามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยํ นูน อหํ อิมํ ลฺชตฺถาย คหิตํ ปภงฺกรํ สุปฺปภาสํ มณึ ทเทยฺยํ, โก นุ มยฺหํ สุตโสมนรินฺเท ปพฺพชิเต อิมินา อตฺโถ, กึ นุ เมนํ กริสฺสามิ, อหํ ตสฺมึ ปพฺพชิเต อิมํ ลภิสฺสามิ, ลภนฺตีปิ จ กึ นุ โข เอตํ กริสฺสามิ, ปสฺสถ เม กมฺมนฺติ.

ตโต มหาเสนคุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา ‘‘เคเห เม ธนํ มนฺท’นฺติ สฺํ กโรติ มฺเ, พหุภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ. โส อุฏฺาย วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๒๑๖.

‘‘โกโส จ ตุยฺหํ วิปุโล, โกฏฺาคารฺจ ตุยฺหํ ปริปูรํ;

ปถวี จ ตุยฺหํ วิชิตา, รมสฺสุ มา ปพฺพชิ เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๑๗.

‘‘โกโส จ มยฺหํ วิปุโล, โกฏฺาคารฺจ มยฺหํ ปริปูรํ;

ปถวี จ มยฺหํ วิชิตา, ตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ตสฺมึ อปคเต กุลวฑฺฒนเสฏฺิ นาม อุฏฺาย วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๒๑๘.

‘‘มยฺหมฺปิ ธนํ ปหูตํ, สงฺขฺยาตุํ โนปิ เทว สกฺโกมิ;

ตํ เต ททามิ สพฺพมฺปิ, รมสฺสุ มา ปพฺพชิ เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๑๙.

‘‘ชานามิ ธนํ ปหูตํ, กุลวฑฺฒน ปูชิโต ตยา จสฺมิ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา กุลวฑฺฒเน อปคเต มหาสตฺโต โสมทตฺตํ กนิฏฺภาตรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต, อหํ ปฺชรปกฺขิตฺโต วนกุกฺกุโฏ วิย อุกฺกณฺิโต, มํ ฆราวาเส อนภิรติ อภิภวติ, อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, ตฺวํ อิมํ รชฺชํ ปฏิปชฺชา’’ติ รชฺชํ นิยฺยาเทนฺโต คาถมาห –

๒๒๐.

‘‘อุกฺกณฺิโตสฺมิ พาฬฺหํ, อรติ มํ โสมทตฺต อาวิสติ;

พหุกาปิ เม อนฺตรายา, อชฺเชวาหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา โสปิ ปพฺพชิตุกาโม ตํ ทีเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๒๒๑.

‘‘อิทฺจ ตุยฺหํ รุจิตํ, สุตโสม อชฺเชว ทานิ ตฺวํ ปพฺพช;

อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, น อุสฺสเห ตยา วินา อหํ าตุ’’นฺติ.

อถ นํ โส ปฏิกฺขิปิตฺวา อุปฑฺฒํ คาถมาห –

๒๒๒.

‘‘น หิ สกฺกา ปพฺพชิตุํ, นคเร น หิ ปจฺจติ ชนปเท จา’’ติ.

ตตฺถ น หิ ปจฺจตีติ อิทาเนว ตาว มม ปพฺพชฺชาธิปฺปายํ สุตฺวาว อิมสฺมึ ทฺวาทสโยชนิเก สุทสฺสนนคเร จ สกลชนปเท จ น ปจฺจติ, โกจิ อุทฺธเน อคฺคึ น ชาเลติ, อมฺเหสุ ปน ทฺวีสุ ปพฺพชิเตสุ อนาถาว รฏฺวาสิโน ภวิสฺสนฺติ, ตสฺมา น หิ สกฺกา ตยา ปพฺพชิตุํ, อหเมว ปพฺพชิสฺสามีติ.

ตํ สุตฺวา มหาชโน มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวนฺโต อุปฑฺฒคาถมาห –

‘‘สุตโสเม ปพฺพชิเต, กถํ นุ ทานิ กริสฺสามา’’ติ.

ตโต มหาสตฺโต ‘‘อลํ มา โสจยิตฺถ, อหํ จิรมฺปิ ตฺวา ตุมฺเหหิ วินา ภวิสฺสามิ, อุปฺปนฺนสงฺขาโร หิ นิจฺโจ นาม นตฺถี’’ติ มหาชนสฺส ธมฺมํ กเถนฺโต อาห –

๒๒๓.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, ปริตฺตํ อุทกํว จงฺกวารมฺหิ;

เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต, น จ ปมชฺชิตุํ กาโล.

๒๒๔.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, ปริตฺตํ อุทกํว จงฺกวารมฺหิ;

เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต, อนฺธพาลา ปมชฺชนฺติ.

๒๒๕.

‘‘เต วฑฺฒยนฺติ นิรยํ, ติรจฺฉานโยนิฺจ เปตฺติวิสยฺจ;

ตณฺหาย พนฺธนพทฺธา, วฑฺเฒนฺติ อสุรกาย’’นฺติ.

ตตฺถ อุปนียติทํ มฺเติ, ตาต, ‘‘อิทํ ชีวิตํ อุปนียตี’’ติ อหํ มฺามิ. อฺเสุ สุตฺเตสุ อุปสํหรณตฺโถ อุปนิยฺยนตฺโถ, อิธ ปน ปริยาทานตฺโถ. ตสฺมา ยถา ปริตฺตํ อุทกํ รชกานํ ขารจงฺกวาเร ปกฺขิตฺตํ สีฆํ ปริยาทิยติ, ตถา ชีวิตมฺปิ. เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต ตํ ปริตฺตกํ อายุสงฺขารํ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สตฺตานํ น ปุฺกิริยาย ปมชฺชิตุํ กาโล, อปฺปมาโทว กาตุํ วฏฺฏตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อนฺธพาลา ปมชฺชนฺตีติ อชรามรา วิย หุตฺวา คูถกลเล สูกรา วิย หุตฺวา กามปงฺเก นิมุชฺชนฺตา ปมชฺชนฺติ. อสุรกายนฺติ กาฬกฺชิกอสุรโยนิฺจ วฑฺเฒนฺตีติ อตฺโถ.

เอวํ มหาสตฺโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ปุพฺพกํ นาม ปาสาทํ อารุยฺห สตฺตมาย ภูมิยา ิโต ขคฺเคน จูฬํ ฉินฺทิตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ กิฺจิ น โหมิ, อตฺตโน ราชานํ คณฺหถา’’ติ สเวนํ จูฬํ มหาชนสฺส อนฺตเร ขิปิ. ตํ คเหตฺวา มหาชโน ภูมิยํ ปริวฏฺเฏนฺโต ปริวฏฺเฏนฺโต ปริเทวิ. ตสฺมึ าเน มหนฺตํ รชคฺคํ อุฏฺหิ. ปฏิกฺกมิตฺวา ิตชโน ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘รฺา จูฬํ ฉินฺทิตฺวา สเวนา จูฬา มหาชนสฺส อนฺตเร ขิตฺตา ภวิสฺสติ, เตนายํ ปาสาทสฺส อวิทูเร รชวฏฺฏิ อุคฺคตา’’ติ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๒๒๖.

‘‘อูหฺเต รชคฺคํ อวิทูเร, ปุพฺพกมฺหิ จ ปาสาเท;

มฺเ โน เกสา ฉินฺนา, ยสสฺสิโน ธมฺมราชสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อูหฺเตติ อุฏฺหติ. รชคฺคนฺติ รชกฺขนฺโธ. อวิทูเรติ อิโต อมฺหากํ ิตฏฺานโต อวิทูเร. ปุพฺพกมฺหีติ ปุพฺพกปาสาทสฺส สมีเป. มฺเ โนติ อมฺหากํ ธมฺมราชสฺส เกสา ฉินฺนา ภวิสฺสนฺตีติ มฺาม.

มหาสตฺโต ปริจาริกํ เปเสตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร อาหราเปตฺวา กปฺปเกน เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา อลงฺการํ สยนปิฏฺเ ปาเตตฺวา รตฺตปฏานํ ทสานิ ฉินฺทิตฺวา ตานิ กาสายานิ นิวาเสตฺวา มตฺติกาปตฺตํ วามอํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา กตฺตรทณฺฑํ อาทาย มหาตเล อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ปาสาทา โอตริตฺวา อนฺตรวีถึ ปฏิปชฺชิ. คจฺฉนฺตํ ปน นํ น โกจิ สฺชานิ. อถสฺส สตฺตสตา ขตฺติยกฺา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ตํ อทิสฺวา อาภรณภณฺฑเมว ทิสฺวา โอตริตฺวา อวเสสานํ โสฬสสหสฺสานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปิยสามิโก สุตโสมมหิสฺสโร ปพฺพชิโต’’ติ มหาสทฺเทน ปริเทวมานาว พหิ นิกฺขมึสุ. ตสฺมึ ขเณ มหาชโน ตสฺส ปพฺพชิตภาวํ อฺาสิ, สกลนครํ สงฺขุภิตฺวา ‘‘ราชา กิร โน ปพฺพชิโต’’ติ ราชทฺวาเร สนฺนิปติ, มหาชโน ‘‘อิธ ราชา ภวิสฺสติ, เอตฺถ ภวิสฺสตี’’ติ ปาสาทาทีนิ รฺโ ปริโภคฏฺานานิ คนฺตฺวา ราชานํ อทิสฺวา –

๒๒๗.

‘‘อยมสฺส ปาสาโท, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺโณ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๒๘.

‘‘อยมสฺส ปาสาโท, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺโณ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๒๙.

‘‘อิทมสฺส กูฏาคารํ, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺณํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๐.

‘‘อิทมสฺส กูฏาคารํ, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺณํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๑.

‘‘อยมสฺส อโสกวนิกา, สุปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา รมฺมา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๒.

‘‘อยมสฺส อโสกวนิกา, สุปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา รมฺมา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๓.

‘‘อิทมสฺส อุยฺยานํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๔.

‘‘อิทมสฺส อุยฺยานํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๕.

‘‘อิทมสฺส กณิการวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๖.

‘‘อิทมสฺส กณิการวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๗.

‘‘อิทมสฺส ปาฏลิวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๘.

‘‘อิทมสฺส ปาฏลิวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๙.

‘‘อิทมสฺส อมฺพวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๔๐.

‘‘อิทมสฺส อมฺพวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๔๑.

‘‘อยมสฺส โปกฺขรณี, สฺฉนฺนา อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๔๒.

‘‘อยมสฺส โปกฺขรณี, สฺฉนฺนา อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆนา’’ติ. –

อิมาหิ คาถาหิ ปริเทวนฺโต วิจริ.

ตตฺถ วีติกิณฺโณติ โสวณฺณปุปฺเผหิ จ นานามาลฺเยหิ จ สโมกิณฺโณ. ปริกิณฺโณติ ปริวาริโต. อิตฺถาคาเรหีติ ทาสิโย อุปาทาย อิตฺถิโย อิตฺถาคารา นาม. าติสงฺเฆนาติ อมจฺจาปิ อิธ าตโย เอว. กูฏาคารนฺติ สตฺตรตนวิจิตฺโต สยนกูฏาคารคพฺโภ. อโสกวนิกาติ อโสกวนภูมิ. สพฺพกาลิกาติ สพฺพกาลปริโภคกฺขมา นิจฺจปุปฺผิตา วา. อุยฺยานนฺติ นนฺทนวนจิตฺตลตาวนสทิสํ อุยฺยานํ. สพฺพกาลิกนฺติ ฉสุปิ อุตูสุ อุปฺปชฺชนกปุปฺผผลสฺฉนฺนํ. กณิการวนาทีสุ สพฺพกาลิกนฺติ สพฺพกาเล สุปุปฺผิตผลิตเมว. สฺฉนฺนาติ นานาวิเธหิ ชลชถลชกุสุเมหิ สุฏฺุ สฺฉนฺนา. อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณาติ สกุณสงฺเฆหิ โอกิณฺณา.

เอวํ เตสุ เตสุ าเนสุ ปริเทวิตฺวา มหาชโน ปุน ราชงฺคณํ อาคนฺตฺวา –

๒๔๓.

‘‘ราชา โว โข ปพฺพชิโต, สุตโสโม รชฺชํ อิมํ ปหตฺวาน;

กาสายวตฺถวสโน, นาโคว เอกโก จรตี’’ติ. –

คาถํ วตฺวา อตฺตโน ฆเร วิภวํ ปหาย ปุตฺตธีตโร หตฺเถสุ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา โพธิสตฺตสฺเสว สนฺติกํ อคมาสิ, ตถา มาตาปิตโร ปุตฺตทารา โสฬสสหสฺสา จ นาฏกิตฺถิโย. สกลนครํ ตุจฺฉํ วิย อโหสิ, ชนปทวาสิโนปิ เตสํ ปจฺฉโต ปจฺฉโต คมึสุ. โพธิสตฺโต ทฺวาทสโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข ปายาสิ. อถสฺส อภินิกฺขมนํ ตฺวา สกฺโก วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต วิสฺสกมฺม, สุตโสมมหาราชา อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, วสนฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, สมาคโม จ มหา ภวิสฺสติ, คจฺฉ หิมวนฺตปเทเส คงฺคาตีเร ตึสโยชนายามํ ปฺจทสโยชนวิตฺถตํ อสฺสมปทํ มาเปหี’’ติ เปเสสิ. โส ตถา กตฺวา ตสฺมึ อสฺสมปเท ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาเทตฺวา เอกปทิกมคฺคํ มาเปตฺวา เทวโลกเมว คโต.

มหาสตฺโต เตน มคฺเคน คนฺตฺวา ตํ อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา ปมํ สยํ ปพฺพชิตฺวา ปจฺฉา เสเส ปพฺพาเชสิ, อปรภาเค พหู ปพฺพชึสุ. ตึสโยชนิกํ านํ ปริปูริ. วิสฺสกมฺเมน ปน อสฺสมมาปิตนิยาโม จ พหูนํ ปพฺพชิตนิยาโม จ โพธิสตฺตสฺส อสฺสมปทสํวิทหิตนิยาโม จ หตฺถิปาลชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๓๓๗ อาทโย) อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ มหาสตฺโต ยสฺส ยสฺเสว กามวิตกฺกาทิ มิจฺฉาวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, ตํ ตํ อากาเสน อุปสงฺกมิตฺวา อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา โอวทนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๒๔๔.

‘‘มาสฺสุ ปุพฺเพ รติกีฬิตานิ, หสิตานิ จ อนุสฺสริตฺถ;

มา โว กามา หนึสุ, รมฺมฺหิ สุทสฺสนํ นครํ.

๒๔๕.

‘‘เมตฺตจิตฺตฺจ ภาเวถ, อปฺปมาณํ ทิวา จ รตฺโต จ;

อคจฺฉิตฺถ เทวปุรํ, อาวาสํ ปุฺกมฺมิน’’นฺติ.

ตตฺถ รติกีฬิตานีติ กามรติโย จ กายวาจาขิฑฺฑาวเสน ปวตฺตกีฬิตานิ จ. มา โว กามา หนึสูติ มา ตุมฺเห วตฺถุกามกิเลสกามา หนึสุ. รมฺมํ หีติ สุทสฺสนนครํ นาม รมณียํ, ตํ มา อนุสฺสริตฺถ. เมตฺตจิตฺตนฺติ อิทํ เทสนามตฺตเมว, โส ปน จตฺตาโรปิ พฺรหฺมวิหาเร อาจิกฺขิ. อปฺปมาณนฺติ อปฺปมาณสตฺตารมฺมณํ. อคจฺฉิตฺถาติ คมิสฺสถ. เทวปุรนฺติ พฺรหฺมโลกํ.

โสปิ อิสิคโณ ตสฺโสวาเท ตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสีติ สพฺพํ หตฺถิปาลชาตเก อาคตนเยเนว กเถตพฺพํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, จนฺทาเทวี ราหุลมาตา, เชฏฺปุตฺโต สาริปุตฺโต, กนิฏฺปุตฺโต ราหุโล, ธาติ ขุชฺชุตฺตรา, กุลวฑฺฒนเสฏฺิ กสฺสโป, มหาเสนคุตฺโต โมคฺคลฺลาโน, โสมทตฺตกุมาโร อานนฺโท, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สุตโสมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬสุตโสมชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

ชาตกุทฺทานํ –

สุวปณฺฑิตชมฺพุกกุณฺฑลิโน, วรกฺมลมฺพุสชาตกฺจ;

ปวรุตฺตมสงฺขสิรีวฺหยโก, สุตโสมอรินฺทมราชวโร.

จตฺตาลีสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๘. ปณฺณาสนิปาโต

[๕๒๖] ๑. นิฬินิกาชาตกวณฺณนา

อุทฺทยฺหเต ชนปโทติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺพ กเถสิ. กเถนฺโต จ ตํ ภิกฺขุํ ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติ วุตฺเต ‘‘น เอสา โข, ภิกฺขุ, อิทาเนว ตว อนตฺถการิกา, ปุพฺเพปิ ตฺวํ เอตํ นิสฺสาย ฌานา ปริหายิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต อุทิจฺจพฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต อุคฺคหิตสิปฺโป อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพิชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา หิมวนฺตปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. อลมฺพุสาชาตเก วุตฺตนเยเนว ตํ ปฏิจฺจ เอกา มิคี คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘อิสิสิงฺโค’’ตฺเววสฺส นามํ อโหสิ. อถ นํ ปิตา วยปฺปตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา กสิณปริกมฺมํ อุคฺคณฺหาเปสิ. โส นจิรสฺเสว ฌานาภิฺา อุปฺปาเทตฺวา ฌานสุเขน กีฬิ, โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย อโหสิ. ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘อุปาเยนสฺส สีลํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตีณิ สํวจฺฉรานิ สกลกาสิรฏฺเ วุฏฺึ นิวาเรสิ, รฏฺํ อคฺคิทฑฺฒํ วิย อโหสิ. สสฺเส อสมฺปชฺชมาเน ทุพฺภิกฺขปีฬิตา มนุสฺสา สนฺนิปติตฺวา ราชงฺคเณ อุปกฺโกสึสุ. อถ เน ราชา วาตปาเน ิโต ‘‘กึ เอต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, ตีณิ สํวจฺฉรานิ เทวสฺส อวสฺสนฺตตฺตา สกลรฏฺํ อุทฺทยฺหติ, มนุสฺสา ทุกฺขิตา, เทวํ วสฺสาเปหิ, เทวา’’ติ. ราชา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถํ อุปวสนฺโตปิ วสฺสํ วสฺสาเปตุํ นาสกฺขิ.

ตสฺมึ กาเล สกฺโก อฑฺฒรตฺตสมเย ตสฺส สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา เอโกภาสํ กตฺวา เวหาเส อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘สกฺโกหมสฺมี’’ติ. ‘‘เกนตฺเถนาคโตสี’’ติ? ‘‘วสฺสติ เต, มหาราช, รฏฺเ เทโว’’ติ? ‘‘น วสฺสตี’’ติ. ‘‘ชานาสิ ปนสฺส อวสฺสนการณ’’นฺติ? ‘‘น ชานามิ, สกฺกา’’ติ. ‘‘มหาราช, หิมวนฺตปเทเส อิสิสิงฺโค นาม ตาปโส ปฏิวสติ โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย. โส นิพทฺธํ เทเว วสฺสนฺเต กุชฺฌิตฺวา อากาสํ โอโลเกสิ, ตสฺมา เทโว น วสฺสตี’’ติ. ‘‘อิทานิ ปเนตฺถ กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ตสฺส ตเป ภินฺเน เทโว วสฺสิสฺสตี’’ติ. ‘‘โก ปนสฺส ตปํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ’’ติ? ‘‘ธีตา เต, มหาราช, นิฬินิกา สมตฺถา, ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘อสุกฏฺานํ นาม คนฺตฺวา ตาปสสฺส ตปํ ภินฺทาหี’ติ เปเสหี’’ติ. เอวํ โส ราชานํ อนุสาสิตฺวา สกฏฺานเมว อคมาสิ. ราชา ปุนทิวเส อมจฺเจหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา ธีตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปมํ คาถมาห –

.

‘‘อุทฺทยฺหเต ชนปโท, รฏฺฺจาปิ วินสฺสติ;

เอหิ นิฬินิเก คจฺฉ, ตํ เม พฺราหฺมณมานยา’’ติ.

ตตฺถ ตํ เมติ ตํ มม อนตฺถการึ พฺราหฺมณํ อตฺตโน วสํ อาเนหิ, กิเลสรติวเสนสฺส สีลํ ภินฺทาหีติ.

ตํ สุตฺวา สา ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘นาหํ ทุกฺขกฺขมา ราช, นาหํ อทฺธานโกวิทา;

กถํ อหํ คมิสฺสามิ, วนํ กุฺชรเสวิต’’นฺติ.

ตตฺถ ทุกฺขกฺขมาติ อหํ, มหาราช, ทุกฺขสฺส ขมา น โหมิ, อทฺธานมฺปิ น ชานามิ, สาหํ กถํ คมิสฺสามีติ.

ตโต ราชา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

.

‘‘ผีตํ ชนปทํ คนฺตฺวา, หตฺถินา จ รเถน จ;

ทารุสงฺฆาฏยาเนน, เอวํ คจฺฉ นิฬินิเก.

.

‘‘หตฺถิอสฺสรเถ ปตฺตี, คจฺเฉวาทาย ขตฺติเย;

ตเวว วณฺณรูเปน, วสํ ตมานยิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ทารุสงฺฆาฏยาเนนาติ, อมฺม, นิฬินิเก น ตฺวํ ปทสา คมิสฺสสิ, ผีตํ ปน สุภิกฺขํ เขมํ อตฺตโน ชนปทํ หตฺถิวาหเนหิ จ รถวาหเนหิ จ คนฺตฺวา ตโต ปรมฺปิ อชฺโฌกาเส ปฏิจฺฉนฺเนน วยฺหาทินา อุทกฏฺาเน นาวาสงฺขาเตน ทารุสงฺฆาฏยาเนน คจฺฉ. วณฺณรูเปนาติ เอวํ อกิลมมานา คนฺตฺวา ตว วณฺเณน เจว รูปสมฺปทาย จ ตํ พฺราหฺมณํ อตฺตโน วสํ อานยิสฺสสีติ.

เอวํ โส ธีตรา สทฺธึ อกเถตพฺพมฺปิ รฏฺปริปาลนํ นิสฺสาย กเถสิ. สาปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺสา สพฺพํ ทาตพฺพยุตฺตกํ ทตฺวา อมจฺเจหิ สทฺธึ อุยฺโยเชสิ. อมจฺจา ตํ อาทาย ปจฺจนฺตํ ปตฺวา ตตฺถ ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ราชธีตรํ อุกฺขิปาเปตฺวา วนจรเกน เทสิเตน มคฺเคน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย ตสฺส อสฺสมปทสฺส สมีปํ ปาปุณึสุ. ตสฺมึ ขเณ โพธิสตฺโต ปุตฺตํ อสฺสมปเท นิวาสาเปตฺวา สยํ ผลาผลตฺถาย อรฺํ ปวิฏฺโ โหติ. วนจรโก สยํ อสฺสมํ อคนฺตฺวา ตสฺส ปน ทสฺสนฏฺาเน ตฺวา นิฬินิกาย ตํ ทสฺเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘กทลีธชปฺาโณ, อาภุชีปริวาริโต;

เอโส ปทิสฺสติ รมฺโม, อิสิสิงฺคสฺส อสฺสโม.

.

‘‘เอโส อคฺคิสฺส สงฺขาโต, เอโส ธูโม ปทิสฺสติ;

มฺเ โน อคฺคึ หาเปติ, อิสิสิงฺโค มหิทฺธิโก’’ติ.

ตตฺถ กทลีสงฺขาตา ธชา ปฺาณํ อสฺสาติ กทลีธชปฺาโณ. อาภุชีปริวาริโตติ ภุชปตฺตวนปริกฺขิตฺโต. สงฺขาโตติ เอโส อคฺคิ อสฺส อิสิสิงฺคสฺส ฌาเนน สงฺขาโต ปจฺจกฺขคโต ชลติ. มฺเ โน อคฺคินฺติ อคฺคึ โน หาเปติ ชุหติ ปริจรตีติ มฺามิ.

อมจฺจาปิ โพธิสตฺตสฺส อรฺํ ปวิฏฺเวลาย อสฺสมํ ปริวาเรตฺวา อารกฺขํ เปตฺวา ราชธีตรํ อิสิเวสํ คาหาเปตฺวา สุวณฺณจีรเกน นิวาสนปารุปนํ กตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา ตนฺตุพทฺธํ จิตฺตเคณฺฑุกํ คาหาเปตฺวา อสฺสมปทํ เปเสตฺวา สยํ พหิ รกฺขนฺตา อฏฺํสุ. สา เตน เคณฺฑุเกน กีฬนฺตี จงฺกมโกฏิยํ โอตริ. ตสฺมึ ขเณ อิสิสิงฺโค ปณฺณสาลทฺวาเร ปาสาณผลเก นิสินฺโน โหติ. โส ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ภีตตสิโต อุฏฺาย ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. สาปิสฺส ปณฺณสาลทฺวารํ คนฺตฺวา กีฬิเยว. สตฺถา ตฺจ ตโต อุตฺตริ จ อตฺถํ ปกาเสนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตึ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลํ;

อิสิสิงฺโค ปาวิสิ ภีโต, อสฺสมํ ปณฺณฉาทนํ.

.

‘‘อสฺสมสฺส จ สา ทฺวาเร, เคณฺฑุเกนสฺส กีฬติ;

วิทํสยนฺตี องฺคานิ, คุยฺหํ ปกาสิตานิ จ.

.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน กีฬนฺตึ, ปณฺณสาลคโต ชฏี;

อสฺสมา นิกฺขมิตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวี’’ติ.

ตตฺถ เคณฺฑุเกนสฺสาติ อสฺส อิสิสิงฺคสฺส อสฺสมทฺวาเร เคณฺฑุเกน กีฬติ. วิทํสยนฺตีติ ทสฺเสนฺตี. คุยฺหํ ปกาสิตานิ จาติ คุยฺหฺจ รหสฺสงฺคํ ปกาสิตานิ จ ปากฏานิ มุขหตฺถาทีนิ. อพฺรวีติ โส กิร ปณฺณสาลาย ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สจายํ ยกฺโข ภเวยฺย, ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา มํ มุรุมุราเปตฺวา ขาเทยฺย, นายํ ยกฺโข, ตาปโส ภวิสฺสตี’’ติ อสฺสมา นิกฺขมิตฺวา ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๐.

‘‘อมฺโภ โก นาม โส รุกฺโข, ยสฺส เตวํคตํ ผลํ;

ทูเรปิ ขิตฺตํ ปจฺเจติ, น ตํ โอหาย คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ยสฺส เตวํคตํ ผลนฺติ ยสฺส ตว รุกฺขสฺส เอวํคติกํ มโนรมํ ผลํ. โก นาม โส รุกฺโขติ จิตฺรเคณฺฑุกสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘รุกฺขผเลน เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ มฺมาโน เอวํ ปุจฺฉติ.

อถสฺส สา รุกฺขํ อาจิกฺขนฺตี คาถมาห –

๑๑.

‘‘อสฺสมสฺส มม พฺรหฺเม, สมีเป คนฺธมาทเน;

พหโว ตาทิสา รุกฺขา, ยสฺส เตวํคตํ ผลํ;

ทูเรปิ ขิตฺตํ ปจฺเจติ, น มํ โอหาย คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ สมีเป คนฺธมาทเนติ คนฺธมาทนปพฺพเต มม อสฺสมสฺส สมีเป. ยสฺส เตวํคตนฺติ ยสฺส เอวํคตํ, -กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโรติ.

อิติ สา มุสาวาทํ อภาสิ. อิตโรปิ สทฺทหิตฺวา ‘‘ตาปโส เอโส’’ติ สฺาย ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๒.

‘‘เอตู ภวํ อสฺสมิมํ อเทตุ, ปชฺชฺจ ภกฺขฺจ ปฏิจฺฉ ทมฺมิ;

อิทมาสนํ อตฺร ภวํ นิสีทตุ, อิโต ภวํ มูลผลานิ ภุฺชตู’’ติ.

ตตฺถ อสฺสมิมนฺติ อสฺสมํ อิมํ ภวํ ปวิสตุ. อเทตูติ ยถาสนฺนิหิตํ อาหารํ ปริภุฺชตุ. ปชฺชนฺติ ปาทพฺภฺชนํ. ภกฺขนฺติ มธุรผลาผลํ. ปฏิจฺฉาติ ปฏิคฺคณฺห. อิทมาสนนฺติ ปวิฏฺกาเล เอวมาห.

ตสฺสา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรเณ นิสีทนฺติยา สุวณฺณจีรเก ทฺวิธา คเต สรีรํ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ อโหสิ. ตาปโส มาตุคามสรีรสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา ตํ ทิสฺวา ‘‘วณฺโณ เอโส’’ติ สฺาย เอวมาห –

๑๓.

‘‘กึ เต อิทํ อูรูนมนฺตรสฺมึ, สุปิจฺฉิตํ กณฺหริวปฺปกาสติ;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, โกเส นุ เต อุตฺตมงฺคํ ปวิฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ สุปิจฺฉิตนฺติ ทฺวินฺนํ อูรูนํ สมาคมกาเล สุผุสิตํ สิปฺปิปุฏมุขสณฺานํ. สุภลกฺขเณน หิ อสมนฺนาคตาย ตํ านํ อาวาฏธาตุกํ โหติ, สมนฺนาคตาย อพฺภุนฺนตํ สิปฺปิปุฏมุขสณฺานํ. กณฺหริวปฺปกาสตีติ อุโภสุ ปสฺเสสุ กาฬกํ วิย ขายติ. โกเส นุ เต อุตฺตมงฺคํ ปวิฏฺนฺติ ตว อุตฺตมงฺคํ ลิงฺคสณฺานํ น ปฺายติ, กึ นุ ตํ ตว สรีรสงฺขาเต โกเส ปวิฏฺนฺติ ปุจฺฉติ.

อถ นํ สา วฺจยนฺตี คาถาทฺวยมาห –

๑๔.

‘‘อหํ วเน มูลผเลสนํ จรํ, อาสาทยึ อจฺฉํ สุโฆรรูปํ;

โส มํ ปติตฺวา สหสาชฺฌปตฺโต, ปนุชฺช มํ อพฺพหิ อุตฺตมงฺคํ.

๑๕.

‘‘สฺวายํ วโณ ขชฺชติ กณฺฑุวายติ, สพฺพฺจ กาลํ น ลภามิ สาตํ;

ปโห ภวํ กณฺฑุมิมํ วิเนตุํ, กุรุตํ ภวํ ยาจิโต พฺราหฺมณตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ อาสาทยินฺติ ฆฏฺเฏสึ, อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา เลฑฺฑุนา ปหรินฺติ อตฺโถ. ปติตฺวาติ อุปธาวิตฺวา. สหสาชฺฌปฺปตฺโตติ มมํ สหสา อชฺฌปฺปตฺโต สมฺปตฺโต. ปนุชฺชาติ อถ มํ โปเตตฺวา. อพฺพหีติ มุเขน มม อุตฺตมงฺคํ ลุฺจิตฺวา ปกฺกามิ, ตโต ปฏฺาย อิมสฺมึ าเน วโณ ชาโต. สฺวายนฺติ โส อยํ ตโต ปฏฺาย มยฺหํ วโณ ขชฺชติ เจว กณฺฑุวฺจ กโรติ, ตปฺปจฺจยา สาหํ สพฺพกาลํ กายิกเจตสิกสุขํ น ลภามิ. ปโหติ ปหุ สมตฺโถ. พฺราหฺมณตฺถนฺติ ภวํ มยา ยาจิโต อิมํ พฺราหฺมณสฺส อตฺถํ กโรตุ, อิทํ เม ทุกฺขํ หราหีติ วทติ.

โส ตสฺสา มุสาวาทํ ‘‘สภาโว’’ติ สทฺทหิตฺวา ‘‘สเจ เต เอวํ สุขํ โหติ, กริสฺสามี’’ติ ตํ ปเทสํ โอโลเกตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๖.

‘‘คมฺภีรรูโป เต วโณ สโลหิโต, อปูติโก วณคนฺโธ มหา จ;

กโรมิ เต กิฺจิ กสายโยคํ, ยถา ภวํ ปรมสุขี ภเวยฺยา’’ติ.

ตตฺถ สโลหิโตติ รตฺโตภาโส. อปูติโกติ ปูติมํสรหิโต. วณคนฺโธติ โถกํ ทุคฺคนฺโธ. กสายโยคนฺติ อหํ เกจิ รุกฺขกสาเย คเหตฺวา ตว เอกํ กสายโยคํ กโรมีติ.

ตโต นิฬินิกา คาถมาห

๑๗.

‘‘น มนฺตโยคา น กสายโยคา, น โอสธา พฺรหฺมจาริ กมนฺติ;

ยํ เต มุทุ เตน วิเนหิ กณฺฑุํ, ยถา อหํ ปรมสุขี ภเวยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ กมนฺตีติ, โภ พฺรหฺมจาริ, อิมสฺมึ มม วเณ เนว มนฺตโยคา, น กสายโยคา, น ปุปฺผผลาทีนิ โอสธานิ กมนฺติ, อเนกวารํ กเตหิปิ เตหิ เอตสฺส ผาสุกภาโว น ภูตปุพฺโพ. ยํ ปน เต เอตํ มุทุ องฺคชาตํ, เตน ฆฏฺฏิยมานสฺเสว ตสฺส กณฺฑุ น โหติ, ตสฺมา เตน วิเนหิ กณฺฑุนฺติ.

โส ‘‘สจฺจํ เอโส ภณตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เมถุนสํสคฺเคน สีลํ ภิชฺชติ, ฌานํ อนฺตรธายตี’’ติ อชานนฺโต มาตุคามสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา เมถุนธมฺมสฺส จ อชานนภาเวน ‘‘เภสชฺช’’นฺติ วทนฺติยา ตาย เมถุนํ ปฏิเสวิ. ตาวเทวสฺส สีลํ ภิชฺชิ, ฌานํ ปริหายิ. โส ทฺเว ตโย วาเร สํสคฺคํ กตฺวา กิลนฺโต หุตฺวา นิกฺขมิตฺวา สรํ โอรุยฺห นฺหตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลายํ นิสีทิตฺวา ปุนปิ ตํ ‘‘ตาปโส’’ติ มฺมาโน วสนฏฺานํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๘.

‘‘อิโต นุ โภโต กตเมน อสฺสโม, กจฺจิ ภวํ อภิรมสิ อรฺเ;

กจฺจิ นุ เต มูลผลํ ปหูตํ, กจฺจิ ภวนฺตํ น วิหึสนฺติ วาฬา’’ติ.

ตตฺถ กตเมนาติ อิโต กตเมน ทิสาภาเคน โภโต อสฺสโม. ภวนฺติ อาลปนเมตํ.

ตโต นิฬินิกา จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๙.

‘‘อิโต อุชุํ อุตฺตรายํ ทิสายํ, เขมา นที หิมวตา ปภาวี;

ตสฺสา ตีเร อสฺสโม มยฺห รมฺโม, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.

๒๐.

‘‘อมฺพา จ สาลา ติลกา จ ชมฺพุโย, อุทฺทาลกา ปาฏลิโย จ ผุลฺลา;

สมนฺตโต กิมฺปุริสาภิคีตํ, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.

๒๑.

‘‘ตาลา จ มูลา จ ผลา จ เมตฺถ, วณฺเณน คนฺเธน อุเปตรูปํ;

ตํ ภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.

๒๒.

‘‘ผลา จ มูลา จ ปหูตเมตฺถ, วณฺเณน คนฺเธน รเสนุเปตา;

อายนฺติ จ ลุทฺทกา ตํ ปเทสํ, มา เม ตโต มูลผลํ อหาสุ’’นฺติ.

ตตฺถ อุตฺตรายนฺติ อุตฺตราย. เขมาติ เอวํนามิกา นที. หิมวตา ปภาวีติ หิมวนฺตโต ปวตฺตติ. อโหติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต. อุทฺทาลกาติ วาตฆาตกา. กิมฺปุริสาภิคีตนฺติ สมนฺตโต ปริวาเรตฺวา มธุรสทฺเทน คายนฺเตหิ กิมฺปุริเสหิ อภิคีตํ. ตาลา จ มูลา จ ผลา จ เมตฺถาติ เอตฺถ มม อสฺสเม ปาสาทิกา ตาลรุกฺขา จ เตสฺเว วณฺณคนฺธาทิสมฺปนฺนา กนฺทสงฺขาตา มูลา จ ผลา จ. ปหูตเมตฺถาติ นานารุกฺขผลา จ รุกฺขวลฺลิมูลา จ ปหูตา เอตฺถ. มา เม ตโตติ ตํ มม อสฺสมปทํ สมฺพหุลา ลุทฺทกา อาคจฺฉนฺติ, มยา เจตฺถ อาหริตฺวา ปิตํ พหุ มธุรสมูลผลาผลํ อตฺถิ, เต มยิ จิรายนฺเต มูลผลาผลํ หเรยฺยุํ. เต ตโต มม มูลผลาผลํ มา หรึสุ, ตสฺมา สเจปิ มยา สทฺธึ อาคนฺตุกาโม, เอหิ, โน เจ, อหํ คมิสฺสามีติ อาห.

ตํ สุตฺวา ตาปโส ยาว ปิตุ อาคมนา อธิวาสาเปตุํ คาถมาห –

๒๓.

‘‘ปิตา มมํ มูลผเลสนํ คโต, อิทานิ อาคจฺฉติ สายกาเล;

อุโภว คจฺฉามเส อสฺสมํ ตํ, ยาว ปิตา มูลผลโต เอตู’’ติ.

ตตฺถ อุโภว คจฺฉามเสติ มม ปิตุ อาโรเจตฺวา อุโภว คมิสฺสาม.

ตโต สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ตาว อรฺเว วฑฺฒิตภาเวน มม อิตฺถิภาวํ น ชานาติ, ปิตา ปนสฺส มํ ทิสฺวาว ชานิตฺวา ‘ตฺวํ อิธ กึ กโรสี’ติ กาชโกฏิยา ปหริตฺวา สีสมฺปิ เม ภินฺเทยฺย, ตสฺมึ อนาคเตเยว มยา คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาคมนกมฺมมฺปิ เม นิฏฺิต’’นฺติ. สา ตสฺส อาคมนูปายํ อาจิกฺขนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๒๔.

‘‘อฺเ พหู อิสโย สาธุรูปา, ราชีสโย อนุมคฺเค วสนฺติ;

เตเยว ปุจฺเฉสิ มมสฺสมํ ตํ, เต ตํ นยิสฺสนฺติ มมํ สกาเส’’ติ.

ตตฺถ ราชีสโยติ, สมฺม, มยา น สกฺกา จิรายิตุํ, อฺเ ปน สาธุสภาวา ราชิสโย จ พฺราหฺมณิสโย จ อนุมคฺเค มม อสฺสมมคฺคปสฺเส วสนฺติ, อหํ เตสํ อาจิกฺขิตฺวา คมิสฺสามิ, ตฺวํ เต ปุจฺเฉยฺยาสิ, เต ตํ มม สนฺติกํ นยิสฺสนฺตีติ.

เอวํ สา อตฺตโน ปลายนูปายํ กตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ตํ โอโลเกนฺตเมว ‘‘ตฺวํ นิวตฺตา’’ติ วตฺวา อาคมนมคฺเคเนว อมจฺจานํ สนฺติกํ อคมาสิ. เต ตํ คเหตฺวา ขนฺธาวารํ คนฺตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปาปุณึสุ. สกฺโกปิ ตํ ทิวสเมว ตุสฺสิตฺวา สกลรฏฺเ เทวํ วสฺสาเปสิ, ตโต สุภิกฺขํ ชนปทํ อโหสิ. อิสิสิงฺคตาปสสฺสปิ ตาย ปกฺกนฺตมตฺตาย เอว กาเย ฑาโห อุปฺปชฺชิ. โส กมฺปนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา วากจีรํ ปารุปิตฺวา โสจนฺโต นิปชฺชิ. โพธิสตฺโต สายํ อาคนฺตฺวา ปุตฺตํ อปสฺสนฺโต ‘‘กหํ นุ โข คโต’’ติ กาชํ โอตาเรตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, กึ กโรสี’’ติ ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๕.

‘‘น เต กฏฺานิ ภินฺนานิ, น เต อุทกมาภตํ;

อคฺคีปิ เต น หาปิโต, กึ นุ มนฺโทว ฌายสิ.

๒๖.

‘‘ภินฺนานิ กฏฺานิ หุโต จ อคฺคิ, ตปนีปิ เต สมิตา พฺรหฺมจารี;

ปีฺจ มยฺหํ อุทกฺจ โหติ, รมสิ ตุวํ พฺรหฺมภูโต ปุรตฺถา.

๒๗.

‘‘อภินฺนกฏฺโสิ อนาภโตทโก, อหาปิตคฺคีสิ อสิทฺธโภชโน;

น เม ตุวํ อาลปสี มมชฺช, นฏฺํ นุ กึ เจตสิกฺจ ทุกฺข’’นฺติ.

ตตฺถ ภินฺนานีติ อรฺโต อุทฺธฏานิ. น หาปิโตติ น ชลิโต. ภินฺนานีติ ปุพฺเพ ตยา มมาคมนเวลาย กฏฺานิ อุทฺธฏาเนว โหนฺติ. หุโต จ อคฺคีติ อคฺคิ จ หุโต โหติ. ตปนีติ วิสิพฺพนอคฺคิสงฺขาตา ตปนีปิ เต สมิตาว สยเมว สํวิทหิตาว โหติ. ปีนฺติ มม อาสนตฺถาย ปีฺจ ปฺตฺตเมว โหติ. อุทกฺจาติ ปาทโธวนอุทกมฺปิ อุปฏฺาปิตเมว โหติ. พฺรหฺมภูโตติ ตุวมฺปิ อิโต ปุรตฺถา เสฏฺภูโต อิมสฺมึ อสฺสเม อภิรมสิ. อภินฺนกฏฺโสีติ โส ทานิ อชฺช อนุทฺธฏกฏฺโสิ. อสิทฺธโภชโนติ น เต กิฺจิ อมฺหากํ กนฺทมูลํ วา ปณฺณํ วา เสทิตํ. มมชฺชาติ, มม ปุตฺต, อชฺช น เม ตฺวํ อาลปสิ. นฏฺํ นุ กินฺติ กึ นุ เต นฏฺํ วา, กึ เจตสิกํ วา ทุกฺขํ, อกฺขาหิ เม นิปนฺนการณนฺติ ปุจฺฉติ.

โส ปิตุ วจนํ สุตฺวา ตํ การณํ กเถนฺโต อาห –

๒๘.

‘‘อิธาคมา ชฏิโล พฺรหฺมจารี, สุทสฺสเนยฺโย สุตนู วิเนติ;

เนวาติทีโฆ น ปนาติรสฺโส, สุกณฺหกณฺหจฺฉทเนหิ โภโต.

๒๙.

‘‘อมสฺสุชาโต อปุราณวณฺณี, อาธารรูปฺจ ปนสฺส กณฺเ;

ทฺเว ยมา คณฺฑา อุเร สุชาตา, สุวณฺณตินฺทุกนิภา ปภสฺสรา.

๓๐.

‘‘มุขฺจ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยํ, กณฺเณสุ ลมฺพนฺติ จ กุฺจิตคฺคา;

เต โชตเร จรโต มาณวสฺส, สุตฺตฺจ ยํ สํยมนํ ชฏานํ.

๓๑.

‘‘อฺา จ ตสฺส สํยมานิ จตสฺโส, นีลา ปีตา โลหิติกา จ เสตา;

ตา ปึสเร จรโต มาณวสฺส, ติริฏิสงฺฆาริว ปาวุสมฺหิ.

๓๒.

‘‘น มิขลํ มุฺชมยํ ธาเรติ, น สนฺถเร โน ปน ปพฺพชสฺส;

ตา โชตเร ชฆนนฺตเร วิลคฺคา, สเตรตา วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๓๓.

‘‘อขีลกานิ จ อวณฺฏกานิ, เหฏฺา นภฺยา กฏิสโมหิตานิ;

อฆฏฺฏิตา นิจฺจกีฬํ กโรนฺติ, หํ ตาต กึรุกฺขผลานิ ตานิ.

๓๔.

‘‘ชฏา จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยา, ปโรสตํ เวลฺลิตคฺคา สุคนฺธา;

ทฺเวธา สิโร สาธุ วิภตฺตรูโป, อโห นุ โข มยฺห ตถา ชฏาสฺสุ.

๓๕.

‘‘ยทา จ โส ปกิรติ ตา ชฏาโย, วณฺเณน คนฺเธน อุเปตรูปา;

นีลุปฺปลํ วาตสเมริตํว, ตเถว สํวาติ ปนสฺสโม อยํ.

๓๖.

‘‘ปงฺโก จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺโย, เนตาทิโส ยาทิโส มยฺหํ กาเย;

โส วายติ เอริโต มาลุเตน, วนํ ยถา อคฺคคิมฺเห สุผุลฺลํ.

๓๗.

‘‘นิหนฺติ โส รุกฺขผลํ ปถพฺยา, สุจิตฺตรูปํ รุจิรํ ทสฺสเนยฺยํ;

ขิตฺตฺจ ตสฺส ปุนเรหิ หตฺถํ, หํ ตาต กึรุกฺขผลํ นุ โข ตํ.

๓๘.

‘‘ทนฺตา จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยา, สุทฺธา สมา สงฺขวรูปปนฺนา;

มโน ปสาเทนฺติ วิวริยมานา, น หิ นูน โส สากมขาทิ เตหิ.

๓๙.

‘‘อกกฺกสํ อคฺคฬิตํ มุหุํ มุทุํ, อุชุํ อนุทฺธตํ อจปลมสฺส ภาสิตํ;

รุทํ มนุฺํ กรวีกสุสฺสรํ, หทยงฺคมํ รฺชยเตว เม มโน.

๔๐.

‘‘พินฺทุสฺสโร นาติวิสฏฺวากฺโย, น นูน สชฺฌายมติปฺปยุตฺโต;

อิจฺฉามิ โภ ตํ ปุนเทว ทฏฺุํ, มิตฺโต หิ เม มาณโวหุ ปุรตฺถา.

๔๑.

‘‘สุสนฺธิ สพฺพตฺถ วิมฏฺิมํ วณํ, ปุถู สุชาตํ ขรปตฺตสนฺนิภํ;

เตเนว มํ อุตฺตริยาน มาณโว, วิวริตํ อูรุํ ชฆเนน ปิฬยิ.

๔๒.

‘‘ตปนฺติ อาภนฺติ วิโรจเร จ, สเตรตา วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข;

พาหา มุทู อฺชนโลมสาทิสา, วิจิตฺรวฏฺฏงฺคุลิกาสฺส โสภเร.

๔๓.

‘‘อกกฺกสงฺโค น จ ทีฆโลโม, นขาสฺส ทีฆา อปิ โลหิตคฺคา;

มุทูหิ พาหาหิ ปลิสฺสชนฺโต, กลฺยาณรูโป รมยํ อุปฏฺหิ.

๔๔.

‘‘ทุมสฺส ตูลูปนิภา ปภสฺสรา, สุวณฺณกมฺพุตลวฏฺฏสุจฺฉวิ;

หตฺถา มุทู เตหิ มํ สมฺผุสิตฺวา, อิโต คโต เตน มํ ทหนฺติ ตาต.

๔๕.

‘‘น นูน โส ขาริวิธํ อหาสิ, น นูน โส กฏฺานิ สยํ อภฺชิ;

น นูน โส หนฺติ ทุเม กุาริยา, น หิสฺส หตฺเถสุ ขิลานิ อตฺถิ.

๔๖.

‘‘อจฺโฉ จ โข ตสฺส วณํ อกาสิ, โส มํพฺรวิ ‘สุขิตํ มํ กโรหิ’;

ตาหํ กรึ เตน มมาสิ โสขฺยํ, โส จพฺรวิ ‘สุขิโตสฺมี’ติ พฺรหฺเม.

๔๗.

‘‘อยฺจ เต มาลุวปณฺณสนฺถตา, วิกิณฺณรูปาว มยา จ เตน จ;

กิลนฺตรูปา อุทเก รมิตฺวา, ปุนปฺปุนํ ปณฺณกุฏึ วชาม.

๔๘.

‘‘น มชฺช มนฺตา ปฏิภนฺติ ตาต, น อคฺคิหุตฺตํ นปิ ยฺตนฺตํ;

น จาปิ เต มูลผลานิ ภุฺเช, ยาว น ปสฺสามิ ตํ พฺรหฺมจารึ.

๔๙.

‘‘อทฺธา ปชานาสิ ตุวมฺปิ ตาต, ยสฺสํ ทิสํ วสเต พฺรหฺมจารี;

ตํ มํ ทิสํ ปาปย ตาต ขิปฺปํ, มา เต อหํ อมริมสฺสมมฺหิ.

๕๐.

‘‘วิจิตฺรผุลฺลฺหิ วนํ สุตํ มยา, ทิชาภิฆุฏฺํ ทิชสงฺฆเสวิตํ;

ตํ มํ วนํ ปาปย ตาต ขิปฺปํ, ปุรา เต ปาณํ วิชหามิ อสฺสเม’’ติ.

ตตฺถ อิธาคมาติ, ตาต, อิมํ อสฺสมปทํ อาคโต. สุทสฺสเนยฺโยติ สุฏฺุ ทสฺสเนยฺโย. สุตนูติ สุฏฺุ ตนุโก นาติกิโส นาติถูโล. วิเนตีติ อตฺตโน สรีรปฺปภาย อสฺสมปทํ เอโกภาสํ วิย วิเนติ ปูเรติ. สุกณฺหกณฺหจฺฉทเนหิ โภโตติ, ตาต, ตสฺส โภโต สุกณฺเหหิ กณฺหจฺฉทเนหิ ภมรวณฺเณหิ เกเสหิ สุกณฺหสีสํ สุมชฺชิตมณิมยํ วิย ขายติ. อมสฺสูชาโตติ น ตาวสฺส มสฺสุ ชายติ, ตรุโณเยว. อปุราณวณฺณีติ อจิรปพฺพชิโต. อาธารรูปฺจ ปนสฺส กณฺเติ กณฺเ จ ปนสฺส อมฺหากํ ภิกฺขาภาชนฏฺปนํ ปตฺตาธารสทิสํ ปิฬนฺธนํ อตฺถีติ มุตฺตาหารํ สนฺธาย วทติ. คณฺฑาติ ถเน สนฺธายาห. อุเร สุชาตาติ อุรมฺหิ สุชาตา. ‘‘อุรโต’’ติปิ ปาโ. ปภสฺสราติ ปภาสมฺปนฺนา. ‘‘ปภาสเร’’ติปิ ปาโ, โอภาสนฺตีติ อตฺโถ.

ภุสทสฺสเนยฺยนฺติ อติวิย ทสฺสนียํ. กุฺจิตคฺคาติ สีหกุณฺฑลํ สนฺธาย วทติ. สุตฺตฺจาติ ยํ ตสฺส ชฏาพนฺธนสุตฺตํ, ตมฺปิ โชตติ ปภํ มุฺจติ. ‘‘สํยมานิ จตสฺโส’’ติ อิมินา มณิสุวณฺณปวาฬรชตมยานิ จตฺตาริ ปิฬนฺธนานิ ทสฺเสติ. ตา ปึสเรติ ตานิ ปิฬนฺธนานิ ปาวุสมฺหิ ปวุฏฺเ เทเว ติริฏิสงฺฆา วิย วิรวนฺติ. มิขลนฺติ เมขลํ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ นิวตฺถกฺจนจีรกํ สนฺธายาห. น สนฺถเรติ น วาเก. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, ยถา มยํ ติณมยํ วา วากมยํ วา จีรกํ ธาเรม, น ตถา โส, โส ปน สุวณฺณจีรกํ ธาเรตีติ. อขีลกานีติ อตจานิ นิปฺปณฺณานิ. กฏิสโมหิตานีติ กฏิยํ พทฺธานิ. นิจฺจกีฬํ กโรนฺตีติ อฆฏฺฏิตานิปิ นิจฺจกาลํ กีฬายนฺติ. หํ, ตาตาติ หมฺโภ, ตาต. กึ รุกฺขผลานิ ตานีติ ตานิ ตสฺส มาณวสฺส สุตฺตารุฬฺหานิ กฏิยํ พทฺธานิ กตรรุกฺขผลานิ นามาติ มณิสงฺฆาฏึ สนฺธายาห.

ชฏาติ ชฏามณฺฑลากาเรน พทฺธรตนมิสฺสกเกสวฏฺฏิโย สนฺธายาห. เวลฺลิตคฺคาติ กุฺจิตคฺคา. ทฺเวธาสิโรติ ตสฺส สีสํ ทฺเวธา กตฺวา พทฺธานํ ชฏานํ วเสน สุฏฺุ วิภตฺตรูปํ. ตถาติ ยถา ตสฺส มาณวสฺส ชฏา, ตถา ตุมฺเหหิ มม น พทฺธา, อโห วต มมปิ ตถา อสฺสูติ ปตฺเถนฺโต อาห. อุเปตรูปาติ อุเปตสภาวา. วาตสเมริตํวาติ ยถา นาม นีลุปฺปลํ วาเตน สมีริตํ, ตเถว อยํ อิมสฺมึ วนสณฺเฑ อสฺสโม สํวาติ. เนตาทิโสติ, ตาต, ยาทิโส มม กาเย ปงฺโก, เนตาทิโส ตสฺส สรีเร. โส หิ ทสฺสนีโย เจว สุคนฺโธ จ. อคฺคคิมฺเหติ วสนฺตสมเย.

นิหนฺตีติ ปหรติ. กึ รุกฺขผลํ นุ โข ตนฺติ กตรรุกฺขสฺส นุ โข ตํ ผลํ. สงฺขวรูปปนฺนาติ สุโธตสงฺขปฏิภาคา. น หิ นูน โส สากมขาทิ เตหีติ น นูน โส มาณโว มยํ วิย เตหิ ทนฺเตหิ รุกฺขปณฺณานิ เจว มูลผลาผลานิ จ ขาทิ. อมฺหากฺหิ ตานิ ขาทนฺตานํ สพลา ปณฺณวณฺณา ทนฺตาติ ทีเปติ.

อกกฺกสนฺติ, ตาต, ตสฺส ภาสิตํ อผรุสํ อคฬิตํ, ปุนปฺปุนํ วทนฺตสฺสาปิ มธุรตาย มุหุํ มุทุํ, อปมุสฺสตาย อุชุํ, อวิกฺขิตฺตตาย อนุทฺธฏํ, ปติฏฺิตตาย อจปลํ. รุทนฺติ ภาสมานสฺส สรสงฺขาตํ รุทมฺปิ มโนหรํ กรวีกสฺส วิย สุสฺสรํ สุมธุรํ. รฺชยเตวาติ มม มโน รฺชติเยว. พินฺทุสฺสโรติ ปิณฺฑิตสฺสโร. มาณโวหูติ โส หิ มาณโว ปุรตฺถา มม มิตฺโต อหุ.

สุสนฺธิ สพฺพตฺถ วิมฏฺิมํ วณนฺติ ตาต ตสฺส มาณวสฺส อูรูนํ อนฺตเร เอกํ วณํ อตฺถิ, ตํ สุสนฺธิ สุผุสิตํ สิปฺปิปุฏมุขสทิสํ, สพฺพตฺถ วิมฏฺํ สมนฺตโต มฏฺํ. ปุถูติ มหนฺตํ. สุชาตนฺติ สุสณฺิตํ. ขรปตฺตสนฺนิภนฺติ สุปุปฺผิตปทุมมกุฬสนฺนิภํ. อุตฺตริยานาติ อุตฺตริตฺวา อวตฺถริตฺวา. ปิฬยีติ ปีเฬสิ. ตปนฺตีติ ตสฺส มาณวสฺส สรีรโต นิจฺฉรนฺตา สุวณฺณวณฺณรํสิโย ชลนฺติ โอภาสนฺติ วิโรจนฺติ จ. พาหาติ พาหาปิสฺส มุทู. อฺชนโลมสาทิสาติ อฺชนสทิเสหิ โลเมหิ สมนฺนาคตา. วิจิตฺรวฏฺฏงฺคุลิกาสฺส โสภเรติ หตฺถาปิสฺส วรลกฺขณวิจิตฺราหิ ปวาลงฺกุรสทิสาหิ วฏฺฏงฺคุลีหิ สมนฺนาคตา โสภนฺติ.

อกกฺกสงฺโคติ กจฺฉุปีฬกาทิรหิตองฺคปจฺจงฺโค. รมยํ อุปฏฺหีติ มํ รมยนฺโต อุปฏฺหิ ปริจริ. ตูลูปนิภาติ มุทุภาวสฺส อุปมา. สุวณฺณกมฺพุตลวฏฺฏสุจฺฉวีติ สุวณฺณมยํ อาทาสตลํ วิย วฏฺฏา จ สุจฺฉวิ จ, ปริมณฺฑลตลา เจว สุนฺทรจฺฉวิ จาติ อตฺโถ. สมฺผุสิตฺวาติ สุฏฺุ ผุสิตฺวา อตฺตโน หตฺถสมฺผสฺสํ มม สรีเร ผราเปตฺวา. อิโต คโตติ มม โอโลเกนฺตสฺเสว อิโต คโต. เตน มํ ทหนฺตีติ เตน ตสฺส หตฺถสมฺผสฺเสน อิทานิ มํ ทหนฺติ. ตถา หิ ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย มม สรีเร ฑาโห อุฏฺิโต, เตนมฺหิ โทมนสฺสปฺปตฺโต นิปนฺโนติ.

นูน โส ขาริวิธนฺติ, ตาต, นูน โส มาณโว น ขาริภารํ อุกฺขิปิตฺวา วิจริ. ขิลานีติ กิลานิ, ‘‘อยเมว วา ปาโ. โสขฺยนฺติ สุขํ. มาลุวปณฺณสนฺถตา วิกิณฺณรูปาวาติ, ตาต, อยํ ตว มาลุวปณฺณสนฺถตา อชฺช มยา จ เตน จ อฺมฺํ ปรามสนาลิงฺคนวเสน ปริวตฺตนฺเตหิ วิกิณฺณา วิย อากุลพฺยากุลา ชาตา. ปุนปฺปุนํ ปณฺณกุฏึ วชามาติ, ตาต, อหฺจ โส จ อภิรมิตฺวา กิลนฺตรูปา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา อุทกํ ปวิสิตฺวา รมิตฺวา วิคตทรถา ปุนปฺปุนํ อิมเมว กุฏึ ปวิสามาติ วทติ.

น มชฺช มนฺตาติ อชฺช มม ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย เนว มนฺตา ปฏิภนฺติ น อุปฏฺหนฺติ น รุจฺจนฺติ. น อคฺคิหุตฺตํ นปิ ยฺตนฺตนฺติ มหาพฺรหฺมุโน อาราธนตฺถาย กตฺตพฺพโหมวิธูปนาทิยฺกิริยาปิ เม น ปฏิภาติ น อุปฏฺาติ น รุจฺจติ. น จาปิ เตติ ตยา อาภตมูลผลาผลานิปิ น ภุฺชามิ. ยสฺสํ ทิสนฺติ ยสฺสํ ทิสายํ. วนนฺติ ตสฺส มาณวสฺส อสฺสมํ ปริวาเรตฺวา ิตวนนฺติ.

ตสฺเสวํ วิลปนฺตสฺส ตํ วิลาปํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เอกาย อิตฺถิยา อิมสฺส สีลํ ภินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตํ โอวทนฺโต ฉ คาถาโย อภาสิ –

๕๑.

‘‘อิมสฺมาหํ โชติรเส วนมฺหิ, คนฺธพฺพเทวจฺฉรสงฺฆเสวิเต;

อิสีนมาวาเส สนนฺตนมฺหิ, เนตาทิสํ อรตึ ปาปุเณถ.

๕๒.

‘‘ภวนฺติ มิตฺตานิ อโถ น โหนฺติ, าตีสุ มิตฺเตสุ กโรนฺติ เปมํ;

อยฺจ ชมฺโม กิสฺส วา นิวิฏฺโ, โย เนว ชานาติ ‘กุโตมฺหิ อาคโต’.

๕๓.

‘‘สํวาเสน หิ มิตฺตานิ, สนฺธียนฺติ ปุนปฺปุนํ;

สฺเวว มิตฺโต อสํคนฺตุ, อสํวาเสน ชีรติ.

๕๔.

‘‘สเจ ตุวํ ทกฺขสิ พฺรหฺมจารึ, สเจ ตุวํ สลฺลเป พฺรหฺมจารินา;

สมฺปนฺนสสฺสํว มโหทเกน, ตโปคุณํ ขิปฺปมิมํ ปหิสฺสสิ.

๕๕.

‘‘ปุนปิ เจ ทกฺขสิ พฺรหฺมจารึ, ปุนปิ เจ สลฺลเป พฺรหฺมจารินา;

สมฺปนฺนสสฺสํว มโหทเกน, อุสฺมาคตํ ขิปฺปมิมํ ปหิสฺสสิ.

๕๖.

‘‘ภูตานิ เหตานิ จรนฺติ ตาต, วิรูปรูเปน มนุสฺสโลเก;

น ตานิ เสเวถ นโร สปฺโ, อาสชฺช นํ นสฺสติ พฺรหฺมจารี’’ติ.

ตตฺถ อิมสฺมาติ อิมสฺมึ. นฺติ นิปาตมตฺตํ. โชติรเสติ หูยมานสฺส โชติโน รํสิโอภาสิเต. สนนฺตนมฺหีติ โปราณเก. ปาปุเณถาติ ปาปุเณยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, เอวรูเป วเน วสนฺโต ยํ อรตึ ตฺวํ ปตฺโต, เอตาทิสํ น ปาปุเณยฺย ปณฺฑิโต กุลปุตฺโต, ปตฺตุํ นารหตีติ อตฺโถ.

‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมํ คาถํ มหาสตฺโต อนฺโตคตเมว ภาสติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – โลเก สตฺตานํ มิตฺตานิ นาม โหนฺติปิ น โหนฺติปิ ตตฺถ เยสํ โหนฺติ, เต อตฺตโน าตีสุ จ มิตฺเตสุ จ เปมํ กโรนฺติ. อยฺจ ชมฺโมติ มิคสิงฺโค ลามโก. กิสฺส วา นิวิฏฺโติ เกน นาม การเณน ตสฺมึ มาตุคาเม มิตฺตสฺาย นิวิฏฺโ, โส มิคิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา อรฺเ วฑฺฒิตตฺตา ‘‘กุโตมฺหิ อาคโต’’ติ อตฺตโน อาคตฏฺานมตฺตมฺปิ น ชานาติ, ปเคว าติมิตฺเตติ.

ปุนปฺปุนนฺติ, ตาต, มิตฺตานิ นาม ปุนปฺปุนํ สํวาเสน สํเสวเนน สนฺธียนฺติ ฆฏียนฺติ. สฺเวว มิตฺโตติ โส เอว มิตฺโต อสํคนฺตุ อสมาคจฺฉนฺตสฺส ปุริสสฺส เตน อสมาคมสงฺขาเตน อสํวาเสน ชีรติ วินสฺสติ. สเจติ ตสฺมา, ตาต, สเจ ตฺวํ ปุนปิ ตํ ทกฺขสิ, เตน วา สลฺลปิสฺสสิ, อถ ยถา นาม นิปฺผนฺนสสฺสํ มโหเฆน หรียติ, เอวํ อิมํ อตฺตโน ตโปคุณํ ปหิสฺสสิ หาเรสฺสสีติ อตฺโถ. อุสฺมาคตนฺติ สมณเตชํ.

วิรูปรูเปนาติ วิวิธรูเปน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, มนุสฺสโลกสฺมิฺหิ เอตานิ ยกฺขินิสงฺขาตานิ ภูตานิ วิวิธรูปปฏิจฺฉนฺเนน อตฺตโน รูเปน อตฺตโน วสํ คเต ขาทิตุํ จรนฺติ, ตานิ สปฺโ นโร น เสเวถ. ตาทิสฺหิ ภูตํ อาสชฺช นํ ปตฺวา นสฺสติ พฺรหฺมจารี, ทิฏฺโสิ ตาย ยกฺขินิยา น ขาทิโตติ ปุตฺตํ โอวทิ.

โส ปิตุ กถํ สุตฺวา ‘‘ยกฺขินี กิร สา’’ติ ภีโต จิตฺตํ นิวตฺเตตฺวา ‘‘ตาต, เอตฺโต น คมิสฺสามิ, ขมถ เม’’ติ ขมาเปสิ. โสปิ นํ สมสฺสาเสตฺวา ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาณว, เมตฺตํ ภาเวหิ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺข’’นฺติ พฺรหฺมวิหารภาวนํ อาจิกฺขิ. โส ตถา ปฏิปชฺชิตฺวา ปุน ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา นิฬินิกา ปุราณทุติยิกา อโหสิ, อิสิสิงฺโค อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

นิฬินิกาชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๒๗] ๒. อุมฺมาทนฺตีชาตกวณฺณนา

นิเวสนํ กสฺสนุทํ สุนนฺทาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิเรกทิวสํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ อุตฺตมรูปธรํ อิตฺถึ โอโลเกตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา จิตฺตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต วิหารเมว อาคนฺตฺวา ตโต ปฏฺาย สลฺลวิทฺโธ วิย ราคาตุโร ภนฺตมิคปฏิภาโค กิโส ธมนีสนฺถตคตฺโต อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต อนภิรโต เอกิริยาปเถปิ จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺโต อาจริยวตฺตาทีนิ ปหาย อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานานุโยครหิโต วิหาสิ. โส สหายภิกฺขูหิ ‘‘ปุพฺเพ ตฺวํ, อาวุโส, สนฺตินฺทฺริโย วิปฺปสนฺนมุขวณฺโณ, อิทานิ โน ตถา, กึ นุ โข การณ’’นฺติ ปุฏฺโ, ‘‘อาวุโส, อนภิรโตมฺหี’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘อภิรมาวุโส, สาสเน, พุทฺธุปฺปาโท นาม ทุลฺลโภ, ตถา สทฺธมฺมสฺสวนํ มนุสฺสปฏิลาโภ จ, โส ตฺวํ มนุสฺสปฏิลาภํ ปฏิลภิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ ปตฺถยมาโน อสฺสุมุขํ าติชนํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิตฺวา กึการณา กิเลสวสํ ยาสิ, กิเลสา นาเมเต คณฺฑุปฺปาทกปาณกํ อุปาทาย สพฺพพาลชนสาธารณา, เย เตสํ วตฺถุภูตา, เตปิ อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อฏฺิกงฺกลูปมา กามา, มํสเปสูปมา กามา, ติณุกฺกูปมา กามา, องฺคารกาสูปมา กามา, สุปินกูปมา กามา, ยาจิตกูปมา กามา, รุกฺขผลูปมา กามา, อสิสูนูปมา กามา, สตฺติสูลูปมา กามา, สปฺปสิรูปมา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา กามา, ตฺวํ นาม เอวรูเป พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา เอวํ อนตฺถการกานํ กิเลสานํ วสํ คโตสี’’ติ โอวทิตฺวา อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺตา สตฺถุ สนฺติกํ ธมฺมสภํ เนตฺวา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, อนิจฺฉมานกํ ภิกฺขุํ อานยิตฺถา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภนฺเต, อยํ กิร ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโต’’ติ อาหํสุ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา รชฺชํ อนุสาสนฺตาปิ กิเลเส อุปฺปนฺเน ตสฺส วสํ อคนฺตฺวา จิตฺตํ นิวาเรตฺวา น อยุตฺตกํ กรึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต สิวิรฏฺเ อริฏฺปุรนคเร สิวิ นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ, ‘‘สิวิกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. เสนาปติสฺสปิ ปุตฺโต ชายิ, ‘‘อภิปารโก’’ติสฺส นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ สหายา หุตฺวา อภิวฑฺฒนฺตา โสฬสวสฺสิกา หุตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคมึสุ. ราชา ปุตฺตสฺส รชฺชํ อทาสิ. โสปิ อภิปารกํ เสนาปติฏฺาเน เปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺมึเยว นคเร ติริฏิวจฺฉสฺส นาม อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน ธีตา นิพฺพตฺติ อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตา, ตสฺสา นามคฺคหณทิวเส ‘‘อุมฺมาทนฺตี’’ติ นามํ กรึสุ. สา โสฬสวสฺสิกกาเล อติกฺกนฺตมานุสวณฺณา เทวจฺฉรา วิย อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา อโหสิ. เย เย ปุถุชฺชนา ตํ ปสฺสนฺติ, เต เต สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตา สุราปานมทมตฺตา วิย กิเลสมเทน มตฺตา หุตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ สมตฺถา นาม นาเหสุํ.

อถสฺสา ปิตา ติริฏิวจฺโฉ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, มม เคเห อิตฺถิรตนํ อุปฺปนฺนํ, รฺโว อนุจฺฉวิกํ, ลกฺขณปาเก พฺราหฺมเณ เปเสตฺวา ตํ วีมํสาเปตฺวา ยถารุจิ กโรหี’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา พฺราหฺมเณ เปเสสิ. เต เสฏฺิเคหํ คนฺตฺวา กตสกฺการสมฺมานา ปายาสํ ปริภุฺชึสุ. ตสฺมึ ขเณ อุมฺมาทนฺตี สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. เต ตํ ทิสฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา กิเลสมทมตฺตา หุตฺวา อตฺตโน วิปฺปกตโภชนภาวํ น ชานึสุ. เอกจฺเจ อาโลปํ คเหตฺวา ‘‘ภุฺชิสฺสามา’’ติ สฺาย สีเส เปสุํ, เอกจฺเจ อุปกจฺฉนฺตเร ขิปึสุ, เอกจฺเจ ภิตฺตึ ปหรึสุ, สพฺเพว อุมฺมตฺตกา อเหสุํ. สา เต ทิสฺวา ‘‘อิเม กิร มม ลกฺขณํ วีมํสิสฺสนฺติ, คีวายํ เน คเหตฺวา นีหรถา’’ติ นีหราเปสิ. เต มงฺกุภูตา ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา อุมฺมาทนฺติยา กุทฺธา ‘‘เทว, สา อิตฺถี กาฬกณฺณี, น ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกา’’ติ วทึสุ. ราชา ‘‘กาฬกณฺณี กิรา’’ติ น ตํ อาณาเปสิ. สา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร กาฬกณฺณีติ รฺา น คหิตา, กาฬกณฺณิโย นาม น เอวรูปา โหนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘โหตุ, สเจ ปน ตํ ราชานํ ปสฺสิสฺสามิ, ชานิสฺสามี’’ติ ตสฺมึ อาฆาตํ พนฺธิ. อถ นํ ปิตา อภิปารกสฺส อทาสิ, สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา.

กสฺส ปน กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน สา เอวํ อภิรูปา อโหสีติ? รตฺตวตฺถทานสฺส นิสฺสนฺเทนาติ. สา กิร อตีเต พาราณสิยํ ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุสฺสวทิวเส ปุฺสมฺปนฺนา อิตฺถิโย กุสุมฺภรตฺตวตฺถํ นิวาเสตฺวา อลงฺกตา กีฬนฺติโย ทิสฺวา ตาทิสํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา กีฬิตุกามา หุตฺวา มาตาปิตูนํ อาโรเจตฺวา เตหิ, ‘‘อมฺม, มยํ ทลิทฺทา, กุโต โน เอวรูปํ วตฺถ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มํ เอกสฺมึ อฑฺฒกุเล ภตึ กาตุํ อนุชานาถ, เต มม คุณํ ตฺวา ทสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา เตหิ อนุฺาตา เอกํ กุลํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กุสุมฺภรตฺตวตฺเถน ภตึ กโรมี’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘ตีณิ สํวจฺฉรานิ กมฺเม กเต ตว คุณํ ตฺวา ทสฺสามา’’ติ วทึสุ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา กมฺมํ ปฏิปชฺชิ. เต ตสฺสา คุณํ ตฺวา อปริปุณฺเณสุเยว ตีสุ สํวจฺฉเรสุ ตสฺสา ฆนกุสุมฺภรตฺตวตฺเถน สทฺธึ อฺมฺปิ วตฺถํ ทตฺวา ‘‘ตว สหายิกาหิ สทฺธึ คนฺตฺวา นฺหตฺวา นิวาเสหี’’ติ ตํ เปสยึสุ. สา สหายิกา อาทาย คนฺตฺวา รตฺตวตฺถํ นทีตีเร เปตฺวา นฺหายิ.

ตสฺมึ ขเณ เอโก กสฺสปทสพลสฺส สาวโก อจฺฉินฺนจีวโร สาขาภงฺคํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ ตํ ปเทสํ ปาปุณิ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ภทนฺโต อจฺฉินฺนจีวโร ภวิสฺสติ, ปุพฺเพปิ อทินฺนภาเวน เม นิวาสนํ ทุลฺลภํ ชาต’’นฺติ ตํ วตฺถํ ทฺวิธา ผาเลตฺวา ‘‘เอกํ โกฏฺาสํ อยฺยสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุตฺตริตฺวา อตฺตโน นิวาสนํ นิวาเสตฺวา ‘‘ติฏฺถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา รตฺตวตฺถํ มชฺเฌ ผาเลตฺวา ตสฺเสกํ โกฏฺาสํ อทาสิ. โส เอกมนฺเต ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา สาขาภงฺคํ ฉฑฺเฑตฺวา ตสฺเสกํ กณฺณํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา นิกฺขมิ. อถสฺส วตฺโถภาเสน สกลสรีรํ ตรุณสูริโย วิย เอโกภาสํ อโหสิ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ อยฺโย ปมํ น โสภติ, อิทานิ ตรุณสูริโย วิย วิโรจติ, อิทมฺปิ เอตสฺเสว ทสฺสามี’’ติ ทุติยมฺปิ โกฏฺาสํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อหํ ภเว ภเว วิจรนฺตี อุตฺตมรูปธรา ภเวยฺยํ, มํ ทิสฺวา โกจิ ปุริโส สกภาเวน สณฺาตุํ มา อสกฺขิ, มยา อภิรูปตรา นาม อฺา มา โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. เถโรปิ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ.

สา เทวโลเก สํสรนฺตี ตสฺมึ กาเล อริฏฺปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตถา อภิรูปา อโหสิ. อถ ตสฺมึ นคเร กตฺติกฉณํ โฆสยึสุ, กตฺติกปุณฺณมายํ นครํ สชฺชยึสุ. อภิปารโก อตฺตโน อารกฺขฏฺานํ คจฺฉนฺโต ตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, อุมฺมาทนฺติ อชฺช กตฺติกรตฺติวาโร ฉโณ, ราชา นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ปมํ อิมํ เคหทฺวารํ อาคมิสฺสติ, มา โข ตสฺส อตฺตานํ ทสฺเสสิ, โสปิ ตํ ทิสฺวา สตึ อุปฏฺาเปตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ อาห. สา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, สามิ, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺมึ คเต ทาสึ อาณาเปสิ ‘‘รฺโ อิมํ เคหทฺวารํ อาคตกาเล มยฺหํ อาโรเจยฺยาสี’’ติ. อถ สูริเย อตฺถงฺคเต อุคฺคเห ปุณฺณจนฺเท เทวนคเร วิย นคเร อลงฺกเต สพฺพทิสาสุ ทีเปสุ ชลิเตสุ ราชา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อาชฺรถวรคโต อมจฺจคณปริวุโต มหนฺเตน ยเสน นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ปมเมว อภิปารกสฺส เคหทฺวารํ อคมาสิ. ตํ ปน เคหํ มโนสิลาวณฺณปาการปริกฺขิตฺตํ อลงฺกตทฺวารฏฺฏาลกํ โสภคฺคปฺปตฺตํ ปาสาทิกํ. ตสฺมึ ขเณ ทาสี อุมฺมาทนฺติยา อาโรเจสิ. สา ปุปฺผสมุคฺคํ คาหาเปตฺวา กินฺนริลีฬาย วาตปานํ นิสฺสาย ิตา รฺโ ปุปฺผานิ ขิปิ. โส ตํ อุลฺโลเกตฺวา กิเลสมทมตฺโต สตึ อุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อภิปารกสฺเสตํ เคห’’นฺติ สฺชานิตุมฺปิ นาสกฺขิ, อถ สารถึ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๕๗.

‘‘นิเวสนํ กสฺส นุทํ สุนนฺท, ปากาเรน ปณฺฑุมเยน คุตฺตํ;

กา ทิสฺสติ อคฺคิสิขาว ทูเร, เวหายสํ ปพฺพตคฺเคว อจฺจิ.

๕๘.

‘‘ธีตา นฺวยํ กสฺส สุนนฺท โหติ, สุณิสา นฺวยํ กสฺส อโถปิ ภริยา;

อกฺขาหิ เม ขิปฺปมิเธว ปุฏฺโ, อวาวฏา ยทิ วา อตฺถิ ภตฺตา’’ติ.

ตตฺถ กสฺส นุทนฺติ กสฺส นุ อิทํ. ปณฺฑุมเยนาติ รตฺติฏฺกมเยน. ทิสฺสตีติ วาตปาเน ิตา ปฺายติ. อจฺจีติ อนลชาลกฺขนฺโธ. ธีตา นฺวยนฺติ ธีตา นุ อยํ. อวาวฏาติ อเปตาวรณา อปริคฺคหา. ภตฺตาติ ยทิ วา อสฺสา สามิโก อตฺถิ, เอตํ เม อกฺขาหีติ.

อถสฺส โส อาจิกฺขนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๕๙.

‘‘อหฺหิ ชานามิ ชนินฺท เอตํ, มตฺยา จ เปตฺยา จ อโถปิ อสฺสา;

ตเวว โส ปุริโส ภูมิปาล, รตฺตินฺทิวํ อปฺปมตฺโต ตวตฺเถ.

๖๐.

‘‘อิทฺโธ จ ผีโต จ สุวฑฺฒิโต จ, อมจฺโจ จ เต อฺตโร ชนินฺท;

ตสฺเสสา ภริยาภิปารกสฺส, อุมฺมาทนฺตี นามเธยฺเยน ราชา’’ติ.

ตตฺถ มตฺยา จ เปตฺยา จาติ มาติโต จ ปิติโต เจตํ ชานามิ. อโถปิ อสฺสาติ อถ สามิกมฺปิ อสฺสา ชานามีติ วทติ. อิทฺโธติ สมิทฺโธ. ผีโตติ วตฺถาลงฺกาเรหิ สุปุปฺผิโต. สุวฑฺฒิโตติ สุฏฺุ วุทฺโธ. นามเธยฺเยนาติ นาเมน. อยฺหิ โย นํ ปสฺสติ, ตํ อุมฺมาเทติ, สติมสฺส ปจฺจุปฏฺาเปตุํ น เทติ, ตสฺมา อุมฺมาทนฺตีติ วุจฺจติ.

ตํ สุตฺวา ราชา นามมสฺสา โถเมนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๑.

‘‘อมฺโภ อมฺโภ นามมิทํ อิมิสฺสา, มตฺยา จ เปตฺยา จ กตํ สุสาธุ;

ตทา หิ มยฺหํ อวโลกยนฺตี, อุมฺมตฺตกํ อุมฺมทนฺตี อกาสี’’ติ.

ตตฺถ มตฺยา จ เปตฺยา จาติ มาตรา จ ปิตรา จ. มยฺหนฺติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ. อวโลกยนฺตีติ มยา อวโลกิตา สยมฺปิ มํ อวโลกยนฺตี มํ อุมฺมตฺตกํ อกาสีติ อตฺโถ.

สา ตสฺส กมฺปิตภาวํ ตฺวา วาตปานํ ถเกตฺวา สิริคพฺภเมว อคมาสิ. รฺโปิ ตสฺสา ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย นครํ ปทกฺขิณกรเณ จิตฺตเมว นาโหสิ. โส สารถึ อามนฺเตตฺวา, ‘‘สมฺม สุนนฺท, รถํ นิวตฺเตหิ, อยํ ฉโณ อมฺหากํ นานุจฺฉวิโก, อภิปารกสฺส เสนาปติสฺเสวานุจฺฉวิโก, รชฺชมฺปิ ตสฺเสวานุจฺฉวิก’’นฺติ รถํ นิวตฺตาเปตฺวา ปาสาทํ อภิรุยฺห สิริสยเน นิปชฺชิตฺวา วิปฺปลปนฺโต อาห –

๖๒.

‘‘ยา ปุณฺณมาเส มิคมนฺทโลจนา, อุปาวิสิ ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคี;

ทฺเว ปุณฺณมาโย ตทหู อมฺหํ, ทิสฺวาน ปาราวตรตฺตวาสินึ.

๖๓.

‘‘อฬารปมฺเหหิ สุเภหิ วคฺคุภิ, ปโลภยนฺตี มํ ยทา อุทิกฺขติ;

วิชมฺภมานา หรเตว เม มโน, ชาตา วเน กิมฺปุริสีว ปพฺพเต.

๖๔.

‘‘ตทา หิ พฺรหตี สามา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

เอกจฺจวสนา นารี, มิคี ภนฺตาวุทิกฺขติ.

๖๕.

‘‘กทาสฺสุ มํ ตมฺพนขา สุโลมา, พาหา มุทู จนฺทนสารลิตฺตา;

วฏฺฏงฺคุลี สนฺนตธีรกุตฺติยา, นารี อุปฺิสฺสติ สีสโต สุภา.

๖๖.

‘‘กทาสฺสุ มํ กฺจนชาลุรจฺฉทา, ธีตา ติรีฏิสฺส วิลคฺคมชฺฌา;

มุทูหิ พาหาหิ ปลิสฺสชิสฺสติ, พฺรหาวเน ชาตทุมํว มาลุวา.

๖๗.

‘‘กทาสฺสุ ลาขารสรตฺตสุจฺฉวี, พินฺทุตฺถนี ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคี;

มุขํ มุเขน อุปนามยิสฺสติ, โสณฺโฑว โสณฺฑสฺส สุราย ถาลํ.

๖๘.

‘‘ยทาทฺทสํ ตํ ติฏฺนฺตึ, สพฺพภทฺทํ มโนรมํ;

ตโต สกสฺส จิตฺตสฺส, นาวโพธามิ กฺจินํ.

๖๙.

‘‘อุมฺมาทนฺติมหํ ทฏฺา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลํ;

น สุปามิ ทิวารตฺตึ, สหสฺสํว ปราชิโต.

๗๐.

‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, โส จ ลพฺเภถ เม วโร;

เอกรตฺตํ ทิรตฺตํ วา, ภเวยฺยํ อภิปารโก;

อุมฺมาทนฺตฺยา รมิตฺวาน, สิวิราชา ตโต สิย’’นฺติ.

ตตฺถ ปุณฺณมาเสติ ปุณฺณจนฺทาย รตฺติยา. มิคมนฺทโลจนาติ กณฺฑสนฺตาเสน ปลายิตฺวา วนนฺตเร ตฺวา ลุทฺทํ โอโลเกนฺติยา มิคิยา วิย มนฺทานิ โลจนานิ อสฺสาติ มิคมนฺทโลจนา. อุปาวิสีติ ปทุมวณฺเณน กรตเลน ปุปฺผานิ ขิปิตฺวา มํ โอโลเกนฺตี วาตปาเน นิสีทิ. ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคีติ รตฺตปทุมวณฺณสรีรา. ทฺเว ปุณฺณมาโยติ อหํ ตทหุ ตสฺมึ ฉณทิวเส ตํ ปาราวตปาทสมานวณฺณรตฺตวตฺถนิวตฺถํ ทิสฺวา ตสฺสา มุขโสภํ โอโลเกนฺโต เอกสฺส ปาจีนโลกธาตุโต เอกสฺส อภิปารกสฺส เสนาปติโน นิเวสเนติ ทฺวินฺนํ ปุณฺณจนฺทานํ อุคฺคตตฺตา ทฺเว ปุณฺณมาโย อมฺึ. อฬารปมฺเหหีติ วิสาลปขุเมหิ. สุเภหีติ ปริสุทฺเธหิ. วคฺคุภีติ มธุรากาเรหิ. อุทิกฺขตีติ เอวรูเปหิ เนตฺเตหิ ยสฺมึ ขเณ โอโลเกติ. ปพฺพเตติ ยถา หิมวนฺตปพฺพเต สุปุปฺผิตวเน วีณํ อาทาย ตนฺติสฺสเรน อตฺตโน สรํ สํสนฺทนฺตี กิมฺปุริสี กิมฺปุริสสฺส มนํ หรติ, เอวํ หรเตว เม มโนติ วิปฺปลปติ.

พฺรหตีติ อุฬารา. สามาติ สุวณฺณวณฺณสามา. เอกจฺจวสนาติ เอกจฺจิกวสนา, เอกวตฺถนิวตฺถาติ อตฺโถ. ภนฺตาวุทิกฺขตีติ สณฺหเกสา ปุถุนลาฏา อายตภมู วิสาลกฺขี ตุงฺคนาสา รตฺโตฏฺา เสตทนฺตา ติขิณทาา สุวฏฺฏิตคีวา สุตนุพาหุ สุสณฺิตปโยธรา กรมิตมชฺฌา วิสาลโสณี สุวณฺณกทลิสมาโนรุ สา อุตฺตมิตฺถี ตสฺมึ ขเณ มํ อุทิกฺขนฺตี ภเยน วนํ ปวิสิตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา ลุทฺทํ อุทิกฺขนฺตี ภนฺตา มิคีว มํ อุทิกฺขตีติ วทติ. พาหามุทูติ มุทุพาหา. สนฺนตธีรกุตฺติยาติ สุผุสิตเฉกกรณา. อุปฺิสฺสติ นฺติ สา สุภา นารี กทา นุ มํ เตหิ ตมฺพนเขหิ สีสโต ปฏฺาย สนฺนเตน ธีเรน กรเณน ปริโตเสสฺสตีติ ปตฺเถนฺโต วิลปติ.

กฺจนชาลุรจฺฉทาติ กฺจนมยอุรจฺฉทาลงฺการา. วิลคฺคมชฺฌาติ วิลคฺคสรีรา ตนุมชฺฌิมา. พฺรหาวเนติ มหาวเน. ลาขารสรตฺตสุจฺฉวีติ หตฺถปาทตลอคฺคนขโอฏฺมํเสสุ ลาขารสรตฺตมณิปวาลวณฺณา. พินฺทุตฺถนีติ อุทกปุปฺผุฬปริมณฺฑลตฺถนี. ตโตติ ยทา ตํ ติฏฺนฺตึ อทฺทสํ, ตโต ปฏฺาย. สกสฺส จิตฺตสฺสาติ อตฺตโน จิตฺตสฺส อนิสฺสโร ชาโตมฺหีติ อธิปฺปาโย. กฺจินนฺติ กฺจิ ‘‘อยํ อสุโก นามา’’ติ น ชานามิ, อุมฺมตฺตโก ชาโตมฺหีติ วทติ. ทฏฺาติ ทิสฺวา. น สุปามีติ เนว รตฺตึ, น ทิวา นิทฺทํ ลภามิ. โส จ ลพฺเภถาติ ยํ เม สกฺโก วรํ ทเทยฺย, โส จ เม วโร ลพฺเภถ, ลเภยฺยาหํ ตํ วรนฺติ อตฺโถ.

อถ เต อมจฺจา อภิปารกสฺสปิ อาโรจยึสุ – ‘‘สามิ ราชา, นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ตุมฺหากํ ฆรทฺวารํ ปตฺวา นิวตฺติตฺวา ปาสาทํ อภิรุหี’’ติ. โส อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา อุมฺมาทนฺตึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, กจฺจิ รฺโ อตฺตานํ ทสฺเสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, เอโก มโหทโร มหาทาิโก รเถ ตฺวา อาคโต ปุริโส อตฺถิ, อหํ ตํ ราชา วา อราชา วาติ น ชานามิ, เอโก อิสฺสโรติ ปน วุตฺเต วาตปาเน ตฺวา ปุปฺผานิ ขิปึ, โส ตาวเทว นิวตฺติตฺวา คโต’’ติ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘นาสิโตมฺหิ ตยา’’ติ ปุนทิวเส ปาโตว ราชนิเวสนํ อารุยฺห สิริคพฺภทฺวาเร ตฺวา รฺโ อุมฺมาทนฺตึ นิสฺสาย วิปฺปลาปํ สุตฺวา ‘‘อยํ อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺโต ชาโต, ตํ อลภนฺโต มริสฺสติ, รฺโ จ มม จ อคุณํ โมเจตฺวา อิมสฺส มยา ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา เอกํ ทฬฺหมนฺตํ อุปฏฺากํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาต, อสุกฏฺาเน สุสิรเจติยรุกฺโข อตฺถิ, ตฺวํ กฺจิ อชานาเปตฺวา อตฺถงฺคเต สูริเย ตตฺถ คนฺตฺวา อนฺโตรุกฺเข นิสีท, อหํ ตตฺถ พลิกมฺมํ กโรนฺโต ตํ านํ ปตฺวา เทวตา นมสฺสนฺโต, ‘สามิ เทวราช, อมฺหากํ ราชา นครมฺหิ ฉเณ วตฺตมาเน อกีฬิตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา วิปฺปลปนฺโตว นิปนฺโน, มยํ ตตฺถ การณํ น ชานาม, ราชา เทวตานํ พหูปกาโร, อนุสํวจฺฉรํ สหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา พลิกมฺมํ กโรติ, อิทํ นาม นิสฺสาย ราชา วิปฺปลปตีติ อาจิกฺขถ, รฺโ โน ชีวิตทานํ เทถา’ติ ยาจิสฺสามิ, ตฺวํ ตสฺมึ ขเณ สทฺทํ ปริวตฺติตฺวา, ‘เสนาปติ, ตุมฺหากํ รฺโ พฺยาธิ นาม นตฺถิ, โส ปน ตว ภริยาย อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺโต. สเจ นํ ลภิสฺสติ, ชีวิสฺสติ, โน เจ, มริสฺสติ. สเจ ตสฺส ชีวิตํ อิจฺฉสิ, อุมฺมาทนฺติมสฺส เทหี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ เอวํ ตํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา อุยฺโยเชสิ.

โส คนฺตฺวา ตสฺมึ รุกฺเข นิสีทิตฺวา ปุนทิวเส เสนาปตินา อมจฺจคณปริวุเตน ตํ านํ คนฺตฺวา ยาจิโต ตถา อภาสิ. เสนาปติ ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เทวตํ วนฺทิตฺวา อมจฺเจ ชานาเปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห สิริคพฺภทฺวารํ อาโกเฏสิ. ราชา สตึ อุปฏฺเปตฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. อหํ, เทว, อภิปารโกติ. อถสฺส ราชา ทฺวารํ วิวริ. โส ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๗๑.

‘‘ภูตานิ เม ภูตปตี นมสฺสโต, อาคมฺม ยกฺโข อิทเมตทพฺรวิ;

รฺโ มโน อุมฺมทนฺตฺยา นิวิฏฺโ, ททามิ เต ตํ ปริจารยสฺสู’’ติ.

ตตฺถ นมสฺสโตติ ตุมฺหากํ วิปฺปลาปการณชานนตฺถํ พลิกมฺมํ กตฺวา นมสฺสนฺตสฺส. นฺติ อหํ ตํ อุมฺมาทนฺตึ ตุมฺหากํ ปริจาริกํ กตฺวา ททามีติ.

อถ นํ ราชา, ‘‘สมฺม อภิปารก, มม อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺตตาย วิปฺปลปิตภาวํ ยกฺขาปิ ชานนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. อาม, เทวาติ. โส ‘‘สพฺพโลเกน กิร เม ลามกภาโว าโต’’ติ ลชฺชิธมฺเม ปติฏฺาย อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๒.

‘‘ปุฺา จ ธํเส อมโร น จมฺหิ, ชโน จ เม ปาปมิทฺจ ชฺา;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา’’ติ.

ตตฺถ ธํเสติ, สมฺม อภิปารก, อหํ ตาย สทฺธึ กิเลสวเสน ปริจาเรนฺโต ปุฺโต จ ธํเสยฺยํ, ตาย สทฺธึ ปริจาริตมตฺเตน อมโร จ น โหมิ, มหาชโน จ เม อิมํ ลามกภาวํ ชาเนยฺย, ตโต ‘‘อยุตฺตํ รฺา กต’’นฺติ ครเหยฺย, ตฺจ มม ทตฺวา ปจฺฉา ปิยภริยํ อทฏฺา ตว มนโส วิฆาโต จสฺสาติ อตฺโถ.

เสสา อุภินฺนมฺปิ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –

๗๓.

‘‘ชนินฺท นาฺตฺร ตยา มยา วา, สพฺพาปิ กมฺมสฺส กตสฺส ชฺา;

ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.

๗๔.

‘‘โย ปาปกํ กมฺมกรํ มนุสฺโส, โส มฺติ มายิท มฺึสุ อฺเ;

ปสฺสนฺติ ภูตานิ กโรนฺตเมตํ, ยุตฺตา จ เย โหนฺติ นรา ปถพฺยา.

๗๕.

‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนุโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.

๗๖.

‘‘อทฺธา ปิยา มยฺห ชนินฺท เอสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;

คจฺเฉว ตฺวํ อุมฺมทนฺตึ ภทนฺเต, สีโหว เสลสฺส คุหํ อุเปติ.

๗๗.

‘‘น ปีฬิตา อตฺตทุเขน ธีรา, สุขปฺผลํ กมฺม ปริจฺจชนฺติ;

สมฺโมหิตา วาปิ สุเขน มตฺตา, น ปาปกมฺมฺจ สมาจรนฺติ.

๗๘.

‘‘ตุวฺหิ มาตา จ ปิตา จ มยฺหํ, ภตฺตา ปตี โปสโก เทวตา จ;

ทาโส อหํ ตุยฺห สปุตฺตทาโร, ยถาสุขํ สามิ กโรหิ กามํ.

๗๙.

‘‘โย ‘อิสฺสโรมฺหี’ติ กโรติ ปาปํ, กตฺวา จ โส นุตฺตสเต ปเรสํ;

น เตน โส ชีวติ ทีฆมายุ, เทวาปิ ปาเปน สเมกฺขเร นํ.

๘๐.

‘‘อฺาตกํ สามิเกหี ปทินฺนํ, ธมฺเม ิตา เย ปฏิจฺฉนฺติ ทานํ;

ปฏิจฺฉกา ทายกา จาปิ ตตฺถ, สุขปฺผลฺเว กโรนฺติ กมฺมํ.

๘๑.

‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.

๘๒.

‘‘อทฺธา ปิยา มยฺห ชนินฺท เอสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;

ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.

๘๓.

‘‘โย อตฺตทุกฺเขน ปรสฺส ทุกฺขํ, สุเขน วา อตฺตสุขํ ทหาติ;

ยเถวิทํ มยฺห ตถา ปเรสํ, โย เอวํ ชานาติ ส เวทิ ธมฺมํ.

๘๔.

‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.

๘๕.

‘‘ชนินฺท ชานาสิ ปิยา มเมสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;

ปิเยน เต ทมฺมิ ปิยํ ชนินฺท, ปิยทายิโน เทว ปิยํ ลภนฺติ.

๘๖.

‘‘โส นูนาหํ วธิสฺสามิ, อตฺตานํ กามเหตุกํ;

น หิ ธมฺมํ อธมฺเมน, อหํ วธิตุมุสฺสเห.

๘๗.

‘‘สเจ ตุวํ มยฺห สตึ ชนินฺท, น กามยาสิ นรวีร เสฏฺ;

จชามิ นํ สพฺพชนสฺส สิพฺยา, มยา ปมุตฺตํ ตโต อวฺหเยสิ นํ.

๘๘.

‘‘อทูสิยํ เจ อภิปารก ตฺวํ, จชาสิ กตฺเต อหิตาย ตฺยสฺส;

มหา จ เต อุปวาโทปิ อสฺส, น จาปิ ตฺยสฺส นครมฺหิ ปกฺโข.

๘๙.

‘‘อหํ สหิสฺสํ อุปวาทเมตํ, นินฺทํ ปสํสํ ครหฺจ สพฺพํ;

มเมตมาคจฺฉตุ ภูมิปาล, ยถาสุขํ สิวิ กโรหิ กามํ.

๙๐.

‘‘โย เนว นินฺทํ น ปนปฺปสํสํ, อาทิยติ ครหํ โนปิ ปูชํ;

สิรี จ ลกฺขี จ อเปติ ตมฺหา, อาโป สุวุฏฺีว ยถา ถลมฺหา.

๙๑.

‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขฺจ สุขฺจ เอตฺโต, ธมฺมาติสารฺจ มโนวิฆาตํ;

อุรสา อหํ ปจฺจุตฺตริสฺสามิ สพฺพํ, ปถวี ยถา ถาวรานํ ตสานํ.

๙๒.

‘‘ธมฺมาติสารฺจ มโนวิฆาตํ, ทุกฺขฺจ นิจฺฉามิ อหํ ปเรสํ;

เอโกวิมํ หารยิสฺสามิ ภารํ, ธมฺเม ิโต กิฺจิ อหาปยนฺโต.

๙๓.

‘‘สคฺคูปคํ ปุฺกมฺมํ ชนินฺท, มา เม ตุวํ อนฺตรายํ อกาสิ;

ททามิ เต อุมฺมทนฺตึ ปสนฺโน, ราชาว ยฺเ ธนํ พฺราหฺมณานํ.

๙๔.

‘‘อทฺธา ตุวํ กตฺเต หิเตสิ มยฺหํ, สขา มมํ อุมฺมทนฺตี ตุวฺจ;

นินฺเทยฺยุ เทวา ปิตโร จ สพฺเพ, ปาปฺจ ปสฺสํ อภิสมฺปรายํ.

๙๕.

‘‘น เหตธมฺมํ สิวิราช วชฺชุํ, สเนคมา ชานปทา จ สพฺเพ;

ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.

๙๖.

‘‘อทฺธา ตุวํ กตฺเต หิเตสิ มยฺหํ, สขา มมํ อุมฺมทนฺตี ตุวฺจ;

สตฺจ ธมฺมานิ สุกิตฺติตานิ, สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ.

๙๗.

‘‘อาหุเนยฺโย เมสิ หิตานุกมฺปี, ธาตา วิธาตา จสิ กามปาโล;

ตยี หุตา ราช มหปฺผลา หิ, กาเมน เม อุมฺมทนฺตึ ปฏิจฺฉ.

๙๘.

‘‘อทฺธา หิ สพฺพํ อภิปารก ตฺวํ, ธมฺมํ อจารี มม กตฺตุปุตฺต;

อฺโ นุ เต โก อิธ โสตฺถิกตฺตา, ทฺวิปโท นโร อรุเณ ชีวโลเก.

๙๙.

‘‘ตุวํ นุ เสฏฺโ ตฺวมนุตฺตโรสิ, ตฺวํ ธมฺมคุตฺโต ธมฺมวิทู สุเมโธ;

โส ธมฺมคุตฺโต จิรเมว ชีว, ธมฺมฺจ เม เทสย ธมฺมปาล.

๑๐๐.

‘‘ตทิงฺฆ อภิปารก, สุโณหิ วจนํ มม;

ธมฺมํ เต เทสยิสฺสามิ, สตํ อาเสวิตํ อหํ.

๑๐๑.

‘‘สาธุ ธมฺมรุจี ราชา, สาธุ ปฺาณวา นโร;

สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ, ปาปสฺสากรณํ สุขํ.

๑๐๒.

‘‘อกฺโกธนสฺส วิชิเต, ิตธมฺมสฺส ราชิโน;

สุขํ มนุสฺสา อาเสถ, สีตจฺฉายาย สงฺฆเร.

๑๐๓.

‘‘น จาหเมตํ อภิโรจยามิ, กมฺมํ อสเมกฺขกตํ อสาธุ;

เย วาปิ ตฺวาน สยํ กโรนฺติ, อุปมา อิมา มยฺหํ ตุวํ สุโณหิ.

๑๐๔.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.

๑๐๕.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ ทุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.

๑๐๖.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา คาวี อุชุํ ยนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.

๑๐๗.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส สเจ ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก.

๑๐๘.

‘‘น จาปาหํ อธมฺเมน, อมรตฺตมภิปตฺถเย;

อิมํ วา ปถวึ สพฺพํ, วิเชตุํ อภิปารก.

๑๐๙.

‘‘ยฺหิ กิฺจิ มนุสฺเสสุ, รตนํ อิธ วิชฺชติ;

คาโว ทาโส หิรฺฺจ, วตฺถิยํ หริจนฺทนํ.

๑๑๐.

‘‘อสฺสิตฺถิโย รตนํ มณิกฺจ, ยฺจาปิ เม จนฺทิมสูริยา อภิปาลยนฺติ;

น ตสฺส เหตุ วิสมํ จเรยฺยํ, มชฺเฌ สิวีนํ อุสโภมฺหิ ชาโต.

๑๑๑.

‘‘เนตา หิตา อุคฺคโต รฏฺปาโล, ธมฺมํ สิวีนํ อปจายมาโน;

โส ธมฺมเมวานุวิจินฺตยนฺโต, ตสฺมา สเก จิตฺตวเส น วตฺโต.

๑๑๒.

‘‘อทฺธา ตุวํ มหาราช, นิจฺจํ อพฺยสนํ สิวํ;

กริสฺสสิ จิรํ รชฺชํ, ปฺา หิ ตว ตาทิสี.

๑๑๓.

‘‘เอตํ เต อนุโมทาม, ยํ ธมฺมํ นปฺปมชฺชสิ;

ธมฺมํ ปมชฺช ขตฺติโย, รฏฺา จวติ อิสฺสโร.

๑๑๔.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๕.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๖.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๗.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๘.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๙.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเสุ ชนปเทสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๐.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๑.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๒.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๓.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;

สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.

ตตฺถ สพฺพาปีติ, ชนินฺท, อหเมตํ เอกโกว ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาเนสฺสามิ, ตสฺมา เปตฺวา มมฺจ ตุวฺจ อฺา สพฺพาปิ ปชา อิมสฺส กตสฺส อาการมตฺตมฺปิ น ชฺา น ชานิสฺสนฺติ. ภุเสหีติ ตาย สทฺธึ อภิรมนฺโต อตฺตโน ตณฺหาวนถํ ภุสํ กโรหิ วฑฺเฒหิ มโนรถํ ปูเรหิ. สชาหีติ มโนรถํ ปน ปูเรตฺวา สเจ เต น รุจฺจติ, อถ นํ สชาหิ มยฺหเมว ปฏิเทหิ. กมฺมกรนฺติ, สมฺม อภิปารก, โย มนุสฺโส ปาปกํ กมฺมํ กโรนฺโต, โส ปจฺฉา มา อิธ อฺเ อิทํ ปาปกมฺมํ มฺึสุ มา ชานนฺตูติ มฺติ จินฺเตติ, ทุจินฺติตเมตํ ตสฺส. กึการณา? ปสฺสนฺติ ภูตานิ กโรนฺตเมตนฺติ เย จ พุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธปุตฺตา อิทฺธิยา ยุตฺตา, เต จ นํ ปสฺสนฺติเยว. น เม ปิยาติ, สมฺม อภิปารก, อฺโ นุ เต โกจิ ‘‘อิธ โลกสฺมึ สกลายปิ ปถวิยา น เม อุมฺมาทนฺตี ปิยา’’ติ เอวํ สทฺทเหยฺย.

สีโหว เสลสฺส คุหนฺติ, มหาราช, สเจ ตฺวํ ตํ อิธ น อาเนสิ, อถ ยถา สีโห กิเลสปริฬาเห อุปฺปนฺเน สีหโปติกาย วสนฏฺานํ มณิคุหํ อุเปติ, เอวํ ตสฺสา วสนฏฺานํ คจฺฉ, ตตฺถ อตฺตโน ปตฺถนํ ปูเรหีติ. สุขปฺผลนฺติ, สมฺม อภิปารก, ปณฺฑิตา อตฺตโน ทุกฺเขน ผุฏฺา สมานา น สุขวิปากทายกกมฺมํ ปริจฺจชนฺติ, สมฺโมหิตา วาปิ หุตฺวา โมเหน มูฬฺหา สุเขน มตฺตา ปาปกมฺมํ นาม น สมาจรนฺติ. ยถาสุขํ, สามิ, กโรหิ กามนฺติ, สามิ สิวิราช, อตฺตโน ทาสึ ปริจาเรนฺตสฺส ครหา นาม นตฺถิ, ตฺวํ ยถาสุขํ ยถาชฺฌาสยํ กามํ กโรหิ, อตฺตโน อิจฺฉํ ปูเรหีติ. น เตน โส ชีวตีติ, สมฺม อภิปารก, โย ‘‘อิสฺสโรมฺหี’’ติ ปาปํ กโรติ, กตฺวา จ กึ มํ เทวมนุสฺสา วกฺขนฺตีติ น อุตฺตสติ น โอตฺตปฺปติ, โส เตน กมฺเมน น จ ทีฆกาลํ ชีวติ, ขิปฺปเมว มรติ, เทวตาปิ ปน ‘‘กึ อิมสฺส ปาปรฺโ รชฺเชน, วรมสฺส วาฬุกฆฏํ คเล พนฺธิตฺวา มรณ’’นฺติ ลามเกน จกฺขุนา โอโลเกนฺติ.

อฺาตกนฺติ, มหาราช, อฺเสํ สนฺตกํ เตหิ สามิเกหิ ปทินฺนํ ทานํ เย อตฺตโน ธมฺเม ิตา ปฏิจฺฉนฺติ, เต ตตฺถ ปฏิจฺฉกา จ ทายกา จ สพฺเพปิ สุขปฺผลเมว กมฺมํ กโรนฺติ. ปฏิคฺคาหเก หิ ปฏิคฺคณฺหนฺเต ตํ ทานํ ทายกสฺส มหนฺตํ วิปากํ เทตีติ. โย อตฺตทุกฺเขนาติ, สมฺม อภิปารก, โย อตฺตโน ทุกฺเขน ปีฬิโต ตํ ปรสฺส ทหติ, อตฺตโน สรีรโต อปเนตฺวา ปรสฺส สรีเร ขิปติ, ปรสฺส วา สุเขน อตฺตโน สุขํ ทหติ, ปรสฺส สุขํ คเหตฺวา อตฺตนิ ปกฺขิปติ, ‘‘อตฺตโน ทุกฺขํ หริสฺสามี’’ติ ปรํ ทุกฺขิตํ กโรติ, ‘‘อตฺตานํ สุเขสฺสามี’’ติ ปรํ ทุกฺขิตํ กโรติ, ‘‘อตฺตานํ สุเขสฺสามี’’ติ ปรสฺส สุขํ นาเสติ, น โส ธมฺมํ ชานาติ. โย ปน เอวํ ชานาติ ‘‘ยเถวิทํ มยฺหํ สุขทุกฺขํ, ตถา ปเรส’’นฺติ, ส เวทิ ธมฺมํ ชานาติ นามาติ อยเมติสฺสา คาถาย อตฺโถ.

ปิเยน เต ทมฺมีติ ปิเยน การณภูเตน ปิยํ ผลํ ปตฺเถนฺโต ทมฺมีติ อตฺโถ. ปิยํ ลภนฺตีติ สํสาเร สํสรนฺตา ปิยเมว ลภนฺติ. กามเหตุกนฺติ, สมฺม อภิปารก, กามเหตุกํ อยุตฺตํ กตฺวา ‘‘อตฺตานํ วธิสฺสามี’’ติ เม ปริวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ. มยฺห สตินฺติ มม สนฺตกํ. ‘‘มยฺห สตี’’ติปิ ปาโ, มม สนฺตกาติ เอวํ มฺมาโน สเจ ตฺวํ ตํ น กาเมสีติ อตฺโถ. สพฺพชนสฺสาติ สพฺพา เสนิโย สนฺนิปาตาเปตฺวา ตสฺส สพฺพชนสฺส อยํ มยฺหํ อหิตาติ ปริจฺจชิสฺสามิ. ตโต อวฺหเยสีติ ตโต ตํ อปริคฺคหิตตฺตา อาเนยฺยาสิ. อทูสิยนฺติ อนปราธํ. กตฺเตติ ตเมว อปเรน นาเมน อาลปติ. โส หิ รฺโ หิตํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘กตฺตา’’ติ วุจฺจติ. น จาปิ ตฺยสฺสาติ เอวํ อกิจฺจการีติ นคเร ตว โกจิ ปกฺโขปิ น ภเวยฺย.

นินฺทนฺติ น เกวลํ อุปวาทเมว, สเจปิ มํ โกจิ สมฺมุขา นินฺทิสฺสติ วา ปสํสิสฺสติ วา, โทสํ วา ปน อาโรเปนฺโต ครหิสฺสติ, ตมฺปาหํ นินฺทํ ปสํสํ ครหฺจ สพฺพํ สหิสฺสามิ, สพฺพเมตํ มม อาคจฺฉตูติ วทติ. ตมฺหาติ โย เอเต นินฺทาทโย น คณฺหาติ, ตมฺหา ปุริสา อิสฺสริยสงฺขาตา สิรี จ ปฺาสงฺขาตา ลกฺขี จ ถลฏฺานโต สุวุฏฺิสงฺขาโต อาโป วิย อเปติ น ปติฏฺาตีติ. เอตฺโตติ อิโต มม ตสฺสา ปริจฺจตฺตการณา. ธมฺมาติสารฺจาติ ธมฺมํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ อกุสลํ วา ยํ กิฺจิ โหติ. ปจฺจุตฺตริสฺสามีติ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามิ ธารยิสฺสามิ. ถาวรานํ ตสานนฺติ ยถา มหาปถวี ขีณาสวานฺจ ปุถุชฺชนานฺจ กิฺจิ สมฺปฏิจฺฉติ สพฺพํ อธิวาเสติ, ตเถวาหมฺปิ สพฺพเมตํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามิ อธิวาเสสฺสามีติ ทีเปติ. เอโกวิมนฺติ อหํ เอโกว อิมมฺปิ อตฺตโน ทุกฺขภารํ หารยิสฺสามิ ธารยิสฺสามิ วหิสฺสามิ. ธมฺเม ิโตติ วินิจฺฉยธมฺเม ปเวณิธมฺเม ติวิธสุจริตธมฺเม จ ิโต หุตฺวา.

สคฺคูปคนฺติ, เทว, ปุฺกมฺมํ นาเมตํ สคฺคูปคํ โหติ. ยฺเ ธนนฺติ ยฺธนํ, อยเมว วา ปาโ. สขาติ อุมฺมาทนฺตีปิ มม สหายิกา, ตฺวมฺปิ สหายโก. ปิตโรติ พฺรหฺมาโน. สพฺเพติ น เกวลํ เทวพฺรหฺมาโนว, สพฺเพ รฏฺวาสิโนปิ มํ ปสฺสถ, ‘‘โภ, สหายกสฺส ภริยา สหายิกา อิมินา เคเห กตา’’ติ นินฺเทยฺยุํ. น เหตธมฺมนฺติ น หิ เอตํ อธมฺมิกํ. ยํ เต มยาติ ยสฺมา มยา สา ตุยฺหํ ทินฺนา, ตสฺมา เอตํ อธมฺโมติ น วทิสฺสนฺติ. สตนฺติ สนฺตานํ พุทฺธาทีนํ ขนฺติเมตฺตาภาวนาสีลาจารสงฺขาตานิ ธมฺมานิ สุวณฺณิตานิ สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ, ตสฺมา ยถา สมุทฺโท เวลํ นาติกฺกมติ, เอวมหมฺปิ สีลเวลํ นาติกฺกมิสฺสามีติ วทติ.

อาหุเนยฺโย เมสีติ, มหาราช, ตฺวํ มม อาหุนปาหุนสกฺการสฺสานุจฺฉวิโก. ธาตา วิธาตา จสิ กามปาโลติ ตฺวํ มม, เทว, ธารณโต ธาตา อิสฺสริยสุขสฺส วิทหนโต วิธาตา อิจฺฉิตปตฺถิตานํ กามานํ ปาลนโต กามปาโล. ตยี หุตาติ ตุยฺหํ ทินฺนา. กาเมน เมติ มม กาเมน มม ปตฺถนาย อุมฺมาทนฺตึ ปฏิจฺฉาติ เอวํ อภิปารโก รฺโ เทติ. ราชา ‘‘น มยฺหํ อตฺโถ’’ติ ปฏิกฺขิปติ. ภูมิยํ ปติตํ สากุณิกปจฺฉึ ปิฏฺิปาเทน ปหริตฺวา อฏวิยํ ขิปนฺตา วิย อุโภปิ นํ ชหนฺเตว. อิทานิ ราชา ปุน อกถนตฺถาย ตํ สนฺตชฺเชนฺโต ‘‘อทฺธา หี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กตฺตุปุตฺตาติ ปิตาปิสฺส กตฺตาว, เตน นํ เอวํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อทฺธา ตฺวํ อิโต ปุพฺเพ มยฺหํ สพฺพธมฺมํ อจริ, หิตเมว วุฑฺฒิเมว อกาสิ, อิทานิ ปน ปฏิปกฺโข หุตฺวา พหุํ กเถสิ, ‘‘มา เอวํ วิปฺปลปสิ, อฺโ นุ เต ทฺวิปโท นโร, โก อิธ ชีวโลเก อรุเณเยว โสตฺถิกตฺตา, สเจ หิ อหํ วิย อฺโ ราชา ตว ภริยาย ปฏิพทฺธจิตฺโต อภวิสฺส, อนฺโตอรุเณเยว ตว สีสํ ฉินฺทาเปตฺวา ตํ อตฺตโน ฆเร กเรยฺย, อหํ ปน อกุสลภเยเนว น กโรมิ, ตุณฺหี โหหิ, น เม เอตาย อตฺโถ’’ติ ตํ สนฺตชฺเชสิ.

โส ตํ สุตฺวา ปุน กิฺจิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต รฺโ ถุติวเสน ‘‘ตุวํ นู’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ตฺวฺเว สกลชมฺพุทีเป สพฺเพสํ นรินฺทานํ เสฏฺโ, ตฺวํ อนุตฺตโร, ตฺวํ วินิจฺฉยธมฺมปเวณิธมฺมสุจริตธมฺมานํ โคปายเนน ธมฺมคุตฺโต, เตสํ วิทิตตฺตา ธมฺมวิทู ตฺวํ สุเมโธ, โส ตฺวํ ยํ ธมฺมํ โคเปสิ, เตเนว คุตฺโต จีรํ ชีว, ธมฺมฺจ เม เทเสหิ ธมฺมปาลก, ธมฺมโคปก, ราชวราติ.

อถ ราชา ธมฺมํ เทเสนฺโต ‘‘ตทิงฺฆา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต, ยสฺมา มํ ตฺวํ โจเทสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. สตนฺติ พุทฺธาทีหิ สปฺปุริเสหิ อาเสวิตํ. สาธูติ สุนฺทโร ปสตฺโถ. วินิจฺฉยปเวณิสุจริตธมฺเม โรเจตีติ ธมฺมรุจิ. ตาทิโส หิ ชีวิตํ ชหนฺโตปิ อกิจฺจํ น กโรติ, ตสฺมา สาธุ. ปฺาณวาติ าณสมฺปนฺโน. มิตฺตานมทฺทุพฺโภติ มิตฺตสฺส อทุสฺสนภาโว. ิตธมฺมสฺสาติ ปติฏฺิตติวิธธมฺมสฺส. อาเสถาติ อาเสยฺยุํ นิสีเทยฺยุํ. เทสนาสีสเมว เจตํ, จตฺตาโรปิ อิริยาปเถ สุขํ กปฺเปยฺยุนฺติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. สีตจฺฉายายาติ ปุตฺตทาราติมิตฺตานํ สีตลาย ฉายาย. สงฺฆเรติ สกฆเร, อตฺตโน เคเหติ อตฺโถ. อธมฺมพลิทณฺฑาทีหิ อนุปทฺทุตา สุขํ วเสยฺยุนฺติ ทสฺเสติ. น จาหเมตนฺติ, สมฺม อภิปารก, ยเมตํ อสเมกฺขิตฺวา กตํ อสาธุกมฺมํ, เอตํ อหํ น โรจยามิ. เย วาปิ ตฺวานาติ เย วา ปน ราชาโน ตฺวา ตุเลตฺวา ตีเรตฺวา สยํ กโรนฺติ, เตสาหํ กมฺมํ โรเจมีติ อธิปฺปาโย. อุปมา อิมาติ อิมสฺมึ ปนตฺเถ ตฺวํ มยฺหํ อิมา ทฺเว อุปมา สุโณหิ.

ชิมฺหนฺติ วงฺกํ. เนตฺเตติ โย คาวิโย เนติ, ตสฺมึ เชฏฺกอุสเภ. ปเควาติ ตสฺมึ อธมฺมํ จรนฺเต อิตรา ปชา ปเคว จรติ, อติวิย กโรตีติ อตฺโถ. ธมฺมิโกติ จตฺตาริ อคติคมนานิ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต. อมรตฺตนฺติ เทวตฺตํ. รตนนฺติ สวิฺาณกาวิฺาณกรตนํ. วตฺถิยนฺติ กาสิกวตฺถเมว. อสฺสิตฺถิโยติ วาตสมคติอสฺเสปิ อุตฺตมรูปธรา อิตฺถิโยปิ. รตนํ มณิกฺจาติ สตฺตวิธรตนฺจ มหคฺฆภณฺฑกฺจ. อภิปาลยนฺตีติ อาโลกํ กโรนฺตา รกฺขนฺติ. น ตสฺสาติ ตสฺส จกฺกวตฺติรชฺชสฺสปิ เหตุ น วิสมํ จเรยฺยํ. อุสโภมฺหีติ ยสฺมา อหํ สิวีนํ มชฺเฌ เชฏฺกราชา หุตฺวา ชาโต, ตสฺมา จกฺกวตฺติรชฺชการณมฺปิ น วิสมํ จรามีติ อตฺโถ. เนตาติ มหาชนํ กุสเล ปติฏฺาเปตฺวา เทวนครํ เนตา, หิตกรเณน ตสฺส หิตา, ‘‘สิวิราชา กิร ธมฺมจารี’’ติ สกลชมฺพุทีเป าตตฺตา อุคฺคโต, สเมน รฏฺปาลนโต รฏฺปาโล. อปจายมาโนติ สิวีนํ โปราณกราชูนํ ปเวณิธมฺมํ อปจายมาโน. โสติ โส อหํ ตเมว ธมฺมํ อนุวิจินฺตยนฺโต ตสฺมา เตน การเณน อตฺตโน จิตฺตสฺส วเส น วตฺตามิ.

เอวํ มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา อภิปารโก ถุตึ กโรนฺโต ‘‘อทฺธา’’ติอาทิมาห. นปฺปมชฺชสีติ อตฺตนา กถิตธมฺมํ นปฺปมชฺชสิ ตตฺเถว วตฺเตสิ. ธมฺมํ ปมชฺชาติ ธมฺมํ ปมุสฺสิตฺวา อคติวเสน คนฺตฺวา. เอวํ โส ตสฺส ถุตึ กตฺวา ‘‘ธมฺมํ จรา’’ติ ธมฺมจริยาย นิยฺโยเชนฺโต อุตฺตริปิ ทส โอวาทคาถา อภาสิ. ตาสมตฺโถ เหฏฺา เตสกุณชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑ อาทโย) วณฺณิโตว.

เอวํ อภิปารกเสนาปตินา รฺโ ธมฺเม เทสิเต ราชา อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺตํ วิโนเทสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. ตทา สุนนฺทสารถิ อานนฺโท อโหสิ, อภิปารโก สาริปุตฺโต, อุมฺมาทนฺตี อุปฺปลวณฺณา, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สิวิราชา อหเมว อโหสินฺติ.

อุมฺมาทนฺตีชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๒๘] ๓. มหาโพธิชาตกวณฺณนา

กึ นุ ทณฺฑํ กิมชินนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ มหาอุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต ปฺวา ปรปฺปวาทปฺปมทฺทโนเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ อสีติโกฏิวิภวสฺส อุทิจฺจพฺราหฺมณมหาสาลสฺส กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘โพธิกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ อุคฺคหิตสิปฺโป ปจฺจาคนฺตฺวา อคารมชฺเฌ วสนฺโต อปรภาเค กาเม ปหาย หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตตฺเถว วนมูลผลาหาโร จิรํ วสิตฺวา วสฺสารตฺตสมเย หิมวนฺตา โอรุยฺห จาริกํ จรนฺโต อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ปริพฺพาชกสารุปฺเปน นคเร ภิกฺขาย จรนฺโต ราชทฺวารํ ปาปุณิ ตเมนํ สีหปฺชเร ิโต ราชา ทิสฺวา ตสฺส อุปสเม ปสีทิตฺวา ตํ อตฺตโน ภวนํ ปเวเสตฺวา ราชปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา กตปฏิสนฺถาโร โถกํ ธมฺมกถํ สุตฺวา นานคฺครสโภชนํ ทาเปสิ. มหาสตฺโต ภตฺตํ คเหตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ ราชกุลํ นาม พหุโทสํ พหุปจฺจามิตฺตํ โหติ, โก นุ โข มม อุปฺปนฺนํ ภยํ นิตฺถริสฺสตี’’ติ. โส อวิทูเร ิตํ ราชวลฺลภํ เอกํ ปิงฺคลสุนขํ ทิสฺวา มหนฺตํ ภตฺตปิณฺฑํ คเหตฺวา ตสฺส ทาตุกามตาการํ ทสฺเสสิ. ราชา ตฺวา สุนขสฺส ภาชนํ อาหราเปตฺวา ภตฺตํ คาหาเปตฺวา ทาเปสิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส ทตฺวา ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺเปสิ. ราชาปิสฺส ปฏิฺํ คเหตฺวา อนฺโตนคเร ราชุยฺยาเน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทตฺวา ตํ ตตฺถ วาสาเปสิ, เทวสิกฺจสฺส ทฺเว ตโย วาเร อุปฏฺานํ อคมาสิ. โภชนกาเล ปน มหาสตฺโต นิจฺจํ ราชปลฺลงฺเกเยว นิสีทิตฺวา ราชโภชนเมว ภุฺชติ. เอวํ ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ อตีตานิ.

ตสฺส ปน รฺโ ปฺจ อมจฺจา อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสนฺติ. เตสุ เอโก อเหตุกวาที, เอโก อิสฺสรกตวาที, เอโก ปุพฺเพกตวาที, เอโก อุจฺเฉทวาที, เอโก ขตฺตวิชฺชวาที. เตสุ อเหตุกวาที ‘‘อิเม สตฺตา สํสารสุทฺธิกา’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. อิสฺสรกตวาที ‘‘อยํ โลโก อิสฺสรนิมฺมิโต’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. ปุพฺเพกตวาที ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อุปฺปชฺชมานํ ปุพฺเพกเตเนว อุปฺปชฺชตี’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. อุจฺเฉทวาที ‘‘อิโต ปรโลกํ คโต นาม นตฺถิ, อยํ โลโก อุจฺฉิชฺชตี’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. ขตฺตวิชฺชวาที ‘‘มาตาปิตโรปิ มาเรตฺวา อตฺตโนว อตฺโถ กาตพฺโพ’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. เต รฺโ วินิจฺฉเย นิยุตฺตา ลฺชขาทกา หุตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ, สามิกํ อสฺสามิกํ กโรนฺติ.

อเถกทิวสํ เอโก ปุริโส กูฏฏฺฏปราชิโต มหาสตฺตํ ภิกฺขาย จรนฺตํ ราชเคหํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ราชเคเห ภุฺชมานา วินิจฺฉยามจฺเจ ลฺชํ คเหตฺวา โลกํ วินาเสนฺเต กสฺมา อชฺฌุเปกฺขถ, อิทานิ ปฺจหิ อมจฺเจหิ กูฏฏฺฏการกสฺส หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา สามิโกว สมาโน อสฺสามิโก กโต’’ติ ปริเทวิ. โส ตสฺมึ การุฺวเสน วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา ธมฺเมน วินิจฺฉินิตฺวา สามิกฺเว สามิกํ อกาสิ. มหาชโน เอกปฺปหาเรเนว มหาสทฺเทน สาธุการํ อทาสิ. ราชา ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึสทฺโท นามาย’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ มหาสตฺตํ อุปนิสีทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, อชฺช กิร โว อฏฺโฏ วินิจฺฉิโต’’ติ. ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหสุ วินิจฺฉินนฺเตสุ มหาชนสฺส วุฑฺฒิ ภวิสฺสติ, อิโต ปฏฺาย ตุมฺเหว วินิจฺฉินถา’’ติ. ‘‘มหาราช, มยํ ปพฺพชิตา นาม, เนตํ กมฺมํ อมฺหากํ กมฺม’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต, มหาชเน การุฺเน กาตุํ วฏฺฏติ, ตุมฺเห สกลทิวสํ มา วินิจฺฉินถ, อุยฺยานโต ปน อิธาคจฺฉนฺตา วินิจฺฉยฏฺานํ คนฺตฺวา ปาโตว จตฺตาโร อฏฺเฏ วินิจฺฉินถ, ภุตฺวา อุยฺยานํ คจฺฉนฺตา จตฺตาโร, เอวํ มหาชนสฺส วุฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ. โส เตน ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตโต ปฏฺาย ตถา อกาสิ.

กูฏฏฺฏการกา โอกาสํ น ลภึสุ. เตปิ อมจฺจา ลฺชํ อลภนฺตา ทุคฺคตา หุตฺวา จินฺตยึสุ – ‘‘โพธิปริพฺพาชกสฺส วินิจฺฉินนกาลโต ปฏฺาย มยํ กิฺจิ น ลภาม, หนฺท นํ ‘ราชเวริโก’ติ วตฺวา รฺโ อนฺตเร ปริภินฺทิตฺวา มาราเปสฺสามา’’ติ. เต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘มหาราช, โพธิปริพฺพาชโก ตุมฺหากํ อนตฺถกาโม’’ติ วตฺวา อสทฺทหนฺเตน รฺา ‘‘สีลวา เอส าณสมฺปนฺโน, น เอวํ กริสฺสตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘มหาราช, เตน สกลนครวาสิโน อตฺตโน หตฺเถ กตฺวา เกวลํ อมฺเหเยว ปฺจ ชเน กาตุํ น สกฺกา, สเจ อมฺหากํ วจนํ น สทฺทหถ, ตสฺส อิธาคมนกาเล ปริสํ โอโลเกถา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สีหปฺชเร ิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ โอโลเกนฺโต ปริวารํ ทิสฺวา อตฺตโน อฺาเณน อฏฺฏการกมนุสฺเส ‘‘ตสฺส ปริวารา’’ติ มฺมาโน ภิชฺชิตฺวา เต อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กินฺติ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘คณฺหาเปถ นํ, เทวา’’ติ. ‘‘โอฬาริกํ อปราธํ อปสฺสนฺตา กถํ คณฺหามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ปกติปริหารมสฺส หาเปถ, ตํ ปริหายนฺตํ ทิสฺวา ปณฺฑิโต ปริพฺพาชโก กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา สยเมว ปลายิสฺสตี’’ติ.

ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา อนุปุพฺเพน ตสฺส ปริหารํ ปริหาเปสิ. ปมทิวสํ ตาว นํ ตุจฺฉปลฺลงฺเกเยว นิสีทาเปสุํ. โส ตุจฺฉปลฺลงฺกํ ทิสฺวาว รฺโ ปริภินฺนภาวํ ตฺวา สยเมว อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตํ ทิวสเมว ปกฺกมิตุกาโม หุตฺวาปิ ‘‘เอกนฺเตน ตฺวา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ น ปกฺกามิ. อถสฺส ปุนทิวเส ตุจฺฉปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส รฺโปกติภตฺตฺจ อฺฺจ คเหตฺวา มิสฺสกภตฺตํ อทํสุ. ตติยทิวเส มหาตลํ ปวิสิตุํ อทตฺวา โสปานสีเสเยว เปตฺวา มิสฺสกภตฺตํ อทํสุ. โส ตมฺปิ อาทาย อุยฺยานํ คนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. จตุตฺถทิวเส เหฏฺาปาสาเท เปตฺวา กณาชกภตฺตํ อทํสุ. โส ตมฺปิ คเหตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘โพธิปริพฺพาชโก สกฺกาเร ปริหาปิเตปิ น ปกฺกมติ, กินฺติ นํ กโรมา’’ติ? ‘‘เทว, น โส ภตฺตตฺถาย จรติ, ฉตฺตตฺถาย ปน จรติ. สเจ ภตฺตตฺถาย จเรยฺย, ปมทิวสํเยว ปลาเยยฺยา’’ติ. ‘‘อิทานิ กึ กโรมา’’ติ? ‘‘สฺเว ฆาตาเปถ นํ, มหาราชา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ เตสฺเว หตฺเถ ขคฺเค เปตฺวา ‘‘สฺเว อนฺตรทฺวาเร ตฺวา ปวิสนฺตสฺเสวสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวา วจฺจกุฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา นฺหตฺวา อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘สฺเว อาคนฺตฺวา เอวํ กริสฺสามา’’ติ อฺมฺํ วิจาเรตฺวา เอวํ อตฺตโน นิเวสนํ อคมํสุ.

ราชาปิ สายํ ภุตฺตโภชโน สิริสยเน นิปชฺชิตฺวา มหาสตฺตสฺส คุเณ อนุสฺสริ. อถสฺส ตาวเทว โสโก อุปฺปชฺชิ, สรีรโต เสทา มุจฺจึสุ, สยเน อสฺสาสํ อลภนฺโต อปราปรํ ปริวตฺติ. อถสฺส อคฺคมเหสี อุปนิปชฺชิ, โส ตาย สทฺธึ สลฺลาปมตฺตมฺปิ น กริ. อถ นํ สา ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, สลฺลาปมตฺตมฺปิ น กโรถ, อปิ นุ โข เม โกจิ อปราโธ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ เทวิ, อปิจ โข โพธิปริพฺพาชโก กิร อมฺหากํ ปจฺจตฺถิโก ชาโตติ ตสฺส สฺเว ฆาตนตฺถาย ปฺจ อมจฺเจ อาณาเปสึ, เต ปน นํ มาเรตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา วจฺจกูเป ปกฺขิปิสฺสนฺติ, โส ปน อมฺหากํ ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ พหุํ ธมฺมํ เทเสสิ, เอกาปราโธปิสฺส มยา ปจฺจกฺขโต น ทิฏฺปุพฺโพ, ปรปตฺติเยน หุตฺวา ตสฺส มยา วโธ อาณตฺโต, เตน การเณน โสจามี’’ติ. อถ นํ สา ‘‘สเจ เต เทว โส ปจฺจตฺถิโก ชาโต, ตํ ฆาเตนฺโต กึ โสจสิ, ปจฺจตฺถิกํ นาม ปุตฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อตฺตโน โสตฺถิภาโว กาตพฺโพว, มา โสจิตฺถา’’ติ อสฺสาเสสิ. โส ตสฺสา วจเนน ปฏิลทฺธสฺสาโส นิทฺทํ โอกฺกมิ.

ตสฺมึ ขเณ โกเลยฺยโก ปิงฺคลสุนโข ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘สฺเว มยา อตฺตโน พเลนสฺส ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว ปาสาทา โอรุยฺห มหาทฺวารํ อาคนฺตฺวา อุมฺมาเร สีสํ กตฺวา มหาสตฺตสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโตว นิปชฺชิ. เตปิ อมจฺจา ปาโตว ขคฺคหตฺถา อาคนฺตฺวา ทฺวารนฺตเร อฏฺํสุ. โพธิสตฺโตปิ เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมฺม ราชทฺวารํ อาคฺฉิ. อถ นํ สุนโข ทิสฺวา มุขํ วิวริตฺวา จตสฺโส ทาา ทสฺเสตฺวา ‘‘กึ ตฺวํ, ภนฺเต, ชมฺพุทีปตเล อฺตฺถ ภิกฺขํ น ลภสิ, อมฺหากํ ราชา ตว มารณตฺถาย ปฺจ อมจฺเจ ขคฺคหตฺเถ ทฺวารนฺตเร เปสิ, มา ตฺวํ นลาเฏน มจฺจุํ คเหตฺวา อาคมิ, สีฆํ ปกฺกมา’’ติ มหาสทฺเทน วิรวิ. โส สพฺพรุตฺุตาย ตมตฺถํ ตฺวา ตโตว นิวตฺติตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ปกฺกมนตฺถาย ปริกฺขาเร อาทิยิ. ราชา สีหปฺชเร ิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ คจฺฉนฺตฺจ ทิสฺวา ‘‘สเจ อยํ มม ปจฺจตฺถิโก ภเวยฺย, อุยฺยานํ คนฺตฺวา พลํ สนฺนิปาตาเปตฺวา กมฺมสชฺโช ภวิสฺสติ. โน เจ, อตฺตโน ปริกฺขาเร คเหตฺวา คมนสชฺโช ภวิสฺสติ, ชานิสฺสามิ ตาวสฺส กิริย’’นฺติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ อตฺตโน ปริกฺขาเร อาทาย ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลโต นิกฺขนฺตํ จงฺกมนโกฏิยํ ทิสฺวาว วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ปมํ คาถมาห –

๑๒๔.

‘‘กึ นุ ทณฺฑํ กิมชินํ, กึ ฉตฺตํ กิมุปาหนํ;

กิมงฺกุสฺจ ปตฺตฺจ, สงฺฆาฏิฺจาปิ พฺราหฺมณ;

ตรมานรูโปหาสิ, กึ นุ ปตฺถยเส ทิส’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ภนฺเต, ปุพฺเพ ตฺวํ อมฺหากํ ฆรํ อาคจฺฉนฺโต ทณฺฑาทีนิ น คณฺหาสิ, อชฺช ปน เกน การเณน ทณฺฑฺจ อชินฺจ ฉตฺตูปาหนฺจ มตฺติกปสิพฺพโกลมฺพนองฺกุสฺจ มตฺติกปตฺตฺจ สงฺฆาฏิฺจาติ สพฺเพปิเม ปริกฺขาเร ตรมานรูโป คณฺหาสิ, กตรํ นุ ทิสํ ปตฺเถสิ, กตฺถ คนฺตุกาโมสีติ ปุจฺฉิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ อตฺตนา กตกมฺมํ น ชานาตีติ มฺติ, ชานาเปสฺสามิ น’’นฺติ ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๕.

‘‘ทฺวาทเสตานิ วสฺสานิ, วุสิตานิ ตวนฺติเก;

นาภิชานามิ โสเณน, ปิงฺคเลนาภิกูชิตํ.

๑๒๖.

‘‘สฺวายํ ทิตฺโตว นทติ, สุกฺกทาํ วิทํสยํ;

ตว สุตฺวา สภริยสฺส, วีตสทฺธสฺส มํ ปตี’’ติ.

ตตฺถ อภิกูชิตนฺติ เอเตน ตว สุนเขน เอวํ มหาวิรเวน วิรวิตํ น ชานามิ. ทิตฺโต วาติ ทปฺปิโต วิย. สภริยสฺสาติ ตว สภริยสฺส มม มารณตฺถาย ปฺจนฺนํ อมจฺจานํ อาณตฺตภาวํ กเถนฺตสฺส สุตฺวา ‘‘กึ ตฺวํ อฺตฺถ ภิกฺขํ น ลภสิ, รฺา เต วโธ อาณตฺโต, อิธ มาคจฺฉี’’ติ ทิตฺโตว นทติ. วีตสทฺธสฺส มํ ปตีติ มมนฺตเร วิคตสทฺธสฺส ตว วจนํ สุตฺวา เอว นทตีติ อาห.

ตโต ราชา อตฺตโน โทสํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ขมาเปนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘อหุ เอส กโต โทโส, ยถา ภาสสิ พฺราหฺมณ;

เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, วส พฺราหฺมณ มาคมา’’ติ.

ตตฺถ ภิยฺโยติ สจฺจํ มยา เอวํ อาณตฺตํ, อยํ เม โทโส, เอส ปนาหํ อิทานิ อธิกตรํ ตยิ ปสีทามิ, อิเธว วส, มา อฺตฺถ คมีติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต, ‘‘มหาราช, ปณฺฑิตา นาม ตาทิเสน ปรปตฺติเยน อปจฺจกฺขการินา สทฺธึ น วสนฺตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อนาจารํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๒๘.

‘‘สพฺพเสโต ปุเร อาสิ, ตโตปิ สพโล อหุ;

สพฺพโลหิตโก ทานิ, กาโล ปกฺกมิตุํ มม.

๑๒๙.

‘‘อพฺภนฺตรํ ปุเร อาสิ, ตโต มชฺเฌ ตโต พหิ;

ปุรา นิทฺธมนา โหติ, สยเมว วชามหํ.

๑๓๐.

‘‘วีตสทฺธํ น เสเวยฺย, อุปทานํวโนทกํ;

สเจปิ นํ อนุขเณ, วาริ กทฺทมคนฺธิกํ.

๑๓๑.

‘‘ปสนฺนเมว เสเวยฺย, อปฺปสนฺนํ วิวชฺชเย;

ปสนฺนํ ปยิรุปาเสยฺย, รหทํวุทกตฺถิโก.

๑๓๒.

‘‘ภเช ภชนฺตํ ปุริสํ, อภชนฺตํ น ภชฺชเย;

อสปฺปุริสธมฺโม โส, โย ภชนฺตํ น ภชฺชติ.

๑๓๓.

‘‘โย ภชนฺตํ น ภชติ, เสวมานํ น เสวติ;

ส เว มนุสฺสปาปิฏฺโ, มิโค สาขสฺสิโต ยถา.

๑๓๔.

‘‘อจฺจาภิกฺขณสํสคฺคา, อสโมสรเณน จ;

เอเตน มิตฺตา ชีรนฺติ, อกาเล ยาจนาย จ.

๑๓๕.

‘‘ตสฺมา นาภิกฺขณํ คจฺเฉ, น จ คจฺเฉ จิราจิรํ;

กาเลน ยาจํ ยาเจยฺย, เอวํ มิตฺตา น ชียเร.

๑๓๖.

‘‘อติจิรํ นิวาเสน, ปิโย ภวติ อปฺปิโย;

อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, ปุรา เต โหม อปฺปิยา’’ติ.

ตตฺถ สพฺพเสโตติ, มหาราช, ปมเมว ตว นิเวสเน มม โอทโน สพฺพเสโต อโหสิ, ยํ ตฺวํ ภุฺชสิ, ตเมว ทาเปสีติ อตฺโถ. ตโตติ ตโต ปจฺฉา ปริเภทกานํ วจนํ คเหตฺวา ตว มยิ วิรตฺตกาเล สพโล มิสฺสโกทโน ชาโต. ทานีติ อิทานิ สพฺพโลหิตโก ชาโต. กาโลติ อคุณฺุสฺส ตว สนฺติกา อิทานิ มม ปกฺกมิตุํ กาโล. อพฺภนฺตรนฺติ ปมํ มม อพฺภนฺตรํ อาสนํ อาสิ, อลงฺกตมหาตลมฺหิ อุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเกเยว มํ นิสีทาเปสุํ. มชฺเฌติ โสปานมตฺถเก. ปุรา นิทฺธมนา โหตีติ ยาว คีวายํ คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒนา น โหติ.

อนุขเณติ สเจปิ อนุทกํ อุทปานํ ปตฺโต ปุริโส อุทกํ อปสฺสนฺโต กลลํ วิยูหิตฺวา อนุขเณยฺย, ตถาปิ ตํ วาริ กทฺทมคนฺธิกํ ภเวยฺย, อมนุฺตาย น ปิเวยฺย, ตเถว วีตสทฺธํ ปยิรุปาสนฺเตน ลทฺธปจฺจยาปิ ปริตฺตา เจว ลูขา จ, อมนุฺา อปริโภคารหาติ อตฺโถ. ปสนฺนนฺติ ปติฏฺิตสทฺธํ. รหทนฺติ คมฺภีรํ มหารหทํ. ภชนฺตนฺติ อตฺตานํ ภชนฺตเมว ภเชยฺย. อภชนฺตนฺติ ปจฺจตฺถิกํ. น ภชฺชเยติ น ภเชยฺย. น ภชฺชตีติ โย ปุริโส อตฺตานํ ภชนฺตํ หิตจิตฺตํ ปุคฺคลํ น ภชติ, โส อสปฺปุริสธมฺโม นามาติ. มนุสฺสปาปิฏฺโติ มนุสฺสลามโก ปติกุฏฺโ สพฺพปจฺฉิมโก. สาขสฺสิโตติ มกฺกโฏ.

อจฺจาภิกฺขณสํสคฺคาติ อติวิย อภิณฺหสํสคฺเคน. อกาเลติ อยุตฺตปฺปตฺตกาเล ปรสฺส ปิยภณฺฑํ ยาจนาย มิตฺตา ชีรนฺติ นาม, ตฺวมฺปิ อติจิรํ นิวาเสน มยิ มิตฺตึ ภินฺทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา อจฺจาภิกฺขณสํสคฺเคน อสโมสรเณน จ มิตฺตา ชีรนฺติ, ตสฺมา. จิราจิรนฺติ จิรกาลํ วีตินาเมตฺวา จิรํ น คจฺเฉ น อุปสงฺกเมยฺย. ยาจนฺติ ยาจิตพฺพํ ภณฺฑกํ ยุตฺตกาเล ยาเจยฺย. น ชียเรติ เอวํ มิตฺตา น ชีรนฺติ. ปุรา เต โหม อปฺปิยาติ ยาว ตว อปฺปิยา น โหม, ตาว อามนฺเตตฺวาว ตํ คจฺฉามาติ.

ราชา อาห –

๑๓๗.

‘‘เอวํ เจ ยาจมานานํ, อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ;

ปริจารกานํ สตํ, วจนํ น กโรสิ โน;

เอวํ ตํ อภิยาจาม, ปุน กยิราสิ ปริยาย’’นฺติ.

ตตฺถ นาวพุชฺฌสีติ สเจ, ภนฺเต, เอวํ ยาจนฺเตน มยา กตํ อฺชลึ น ชานาสิ, น ปฏิคฺคณฺหสีติ อตฺโถ. ปริยายนฺติ ปุน อิธาคมนาย เอกวารํ กเรยฺยาสีติ ยาจติ.

โพธิสตฺโต อาห –

๑๓๘.

‘‘เอวํ เจ โน วิหรตํ, อนฺตราโย น เหสฺสติ;

ตุยฺหํ วาปิ มหาราช, มยฺหํ วา รฏฺวทฺธน;

อปฺเปว นาม ปสฺเสม, อโหรตฺตานมจฺจเย’’ติ.

ตตฺถ เอวํ เจ โนติ สเจ, มหาราช, เอวํ นานา หุตฺวา วิหรนฺตานํ อมฺหากํ อนฺตราโย น เหสฺสติ, ตุยฺหํ วา มยฺหํ วา ชีวิตํ ปวตฺติสฺสตีติ ทีเปติ. ปสฺเสมาติ อปิ นาม ปสฺเสยฺยาม.

เอวํ วตฺวา มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา เอกสฺมึ สภาคฏฺาเน ภิกฺขาย จริตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมฺม อนุปุพฺเพน หิมวนฺโตกาสเมว คนฺตฺวา กิฺจิ กาลํ วสิตฺวา ปุน โอตริตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ นิสฺสาย อรฺเ วสิ. ตสฺส ปน คตกาลโต ปฏฺาย เต อมจฺจา ปุน วินิจฺฉเย นิสีทิตฺวา วิโลปํ กโรนฺตา จินฺตยึสุ – ‘‘สเจ มหาโพธิปริพฺพาชโก ปุนาคมิสฺสติ, ชีวิตํ โน นตฺถิ, กึ นุ ขฺวสฺส อนาคมนการณํ กเรยฺยามา’’ติ. อถ เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘อิเม สตฺตา ปฏิพทฺธฏฺานํ นาม ชหิตุํ น สกฺโกนฺติ, กึ นุ ขฺวสฺส อิธ ปฏิพทฺธฏฺาน’’นฺติ. ตโต ‘‘รฺโ อคฺคมเหสี’’ติ ตฺวา ‘‘านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส อิมํ นิสฺสาย อาคจฺเฉยฺย, ปฏิกจฺเจว นํ มาราเปสฺสามา’’ติ เต ราชานํ เอตทโวจุํ – ‘‘เทว, อิมสฺมึ ทิวเส นคเร เอกา กถา สูยตี’’ติ. ‘‘กึ กถา นามา’’ติ? ‘‘มหาโพธิปริพฺพาชโก จ กิร เทวี จ อฺมฺํ สาสนปฏิสาสนํ เปเสนฺตี’’ติ. ‘‘กินฺติ กตฺวา’’ติ? เตน กิร เทวิยา เปสิตํ ‘‘สกฺกา นุ โข อตฺตโน พเลน ราชานํ มาราเปตฺวา มม เสตจฺฉตฺตํ ทาตุ’’นฺติ. ตายปิสฺส เปสิตํ ‘‘รฺโ มารณํ นาม มม ภาโร, มหาโพธิปริพฺพาชโก ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ ราชา เตสํ ปุนปฺปุนํ กเถนฺตานํ สทฺทหิตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เทวึ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต อนุปปริกฺขิตฺวาว ‘‘เตน หิ นํ ตุมฺเหว มาเรตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา วจฺจกูเป ขิปถา’’ติ อาห. เต ตถา กรึสุ. ตสฺสา มาริตภาโว สกลนคเร ปากโฏ อโหสิ.

อถสฺสา จตฺตาโร ปุตฺตา ‘‘อิมินา โน นิรปราธา มาตา มาริตา’’ติ รฺโ ปจฺจตฺถิกา อเหสุํ. ราชา มหาภยปฺปตฺโต อโหสิ. มหาสตฺโต ปรมฺปราย ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ เต กุมาเร สฺาเปตฺวา ปิตรํ ขมาเปตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, รฺโ จ ชีวิตํ ทสฺสามิ, กุมาเร จ ปาปโต โมเจสฺสามี’’ติ. โส ปุนทิวเส ปจฺจนฺตคามํ ปวิสิตฺวา มนุสฺเสหิ ทินฺนํ มกฺกฏมํสํ ขาทิตฺวา ตสฺส จมฺมํ ยาจิตฺวา คเหตฺวา อสฺสมปเท สุกฺขาเปตฺวา นิคฺคนฺธํ กตฺวา นิวาเสสิปิ ปารุเปสิปิ อํเสปิ เปสิ. กึการณา? ‘‘พหูปกาโร เม’’ติ วจนตฺถาย. โส ตํ จมฺมํ อาทาย อนุปุพฺเพน พาราณสึ คนฺตฺวา กุมาเร อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปิตุฆาตกกมฺมํ นาม ทารุณํ, ตํ โว น กาตพฺพํ, อชรามโร สตฺโต นาม นตฺถิ, อหํ ตุมฺเห อฺมฺํ สมคฺเค กริสฺสามิจฺเจว อาคโต, ตุมฺเห มยา ปหิเต สาสเน อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ กุมาเร โอวทิตฺวา อนฺโตนคเร อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มกฺกฏจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิลาปฏฺเฏ นิสีทิ.

อถ นํ อุยฺยานปาลโก ทิสฺวา เวเคน คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สุตฺวาว สฺชาตโสมนสฺโส หุตฺวา เต อมจฺเจ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กาตุํ อารภิ. มหาสตฺโต เตน สทฺธึ อสมฺโมทิตฺวา มกฺกฏจมฺมเมว ปริมชฺชิ. อถ นํ เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห มํ อกเถตฺวา มกฺกฏจมฺมเมว ปริมชฺชถ, กึ โว อิทํ มยา พหูปการตร’’นฺติ? ‘‘อาม มหาราช, พหูปกาโร เม เอส วานโร, อหมสฺส ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา วิจรึ, อยํ เม ปานียฆฏํ อาหริ, วสนฏฺานํ สมฺมชฺชิ, อาภิสมาจาริกวตฺตปฏิวตฺตํ มม อกาสิ, อหํ ปน อตฺตโน ทุพฺพลจิตฺตตาย อสฺส มํสํ ขาทิตฺวา จมฺมํ สุกฺขาเปตฺวา อตฺถริตฺวา นิสีทามิ เจว นิปชฺชามิ จ, เอวํ พหูปกาโร เอส มยฺห’’นฺติ. อิติ โส เตสํ วาเท ภินฺทนตฺถาย วานรจมฺเม วานรโวหารํ อาโรเปตฺวา ตํ ตํ ปริยายํ สนฺธาย อิมํ กถํ กเถสิ. โส หิ ตสฺส นิวุตฺถปุพฺพตฺตา ‘‘ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา วิจริ’’นฺติ อาห; ตํ อํเส กตฺวา ปานียฆฏสฺส อาหฏปุพฺพตฺตา ‘‘ปานียฆฏํ อาหรี’’ติ อาห; เตน จมฺเมน ภูมิยํ สมฺมฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘วสนฏฺานํ สมฺมชฺชี’’ติ อาห; นิปนฺนกาเล เตน จมฺเมน ปิฏฺิยา, อกฺกนฺตกาเล ปาทานํ ผุฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘วตฺตปฏิวตฺตํ เม อกาสี’’ติ อาห. ฉาตกาเล ปน ตสฺส มํสํ ลภิตฺวา ขาทิตตฺตา ‘‘อหํ ปน อตฺตโน ทุพฺพลจิตฺตตาย ตสฺส มํสํ ขาทิ’’นฺติ อาห.

ตํ สุตฺวา เต อมจฺจา ‘‘ปาณาติปาโต เตน กโต’’ติ สฺาย ‘‘ปสฺสถ, โภ, ปพฺพชิตสฺส กมฺมํ, มกฺกฏํ กิร มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา จมฺมํ คเหตฺวา วิจรตี’’ติ ปาณึ ปหริตฺวา ปริหาสมกํสุ. มหาสตฺโต เต ตถา กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิเม อตฺตโน วาทเภทนตฺถาย มม จมฺมํ อาทาย อาคตภาวํ น ชานนฺติ, ชานาเปสฺสามิ เน’’ติ อเหตุกวาทึ ตาว อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, ตฺวํ กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ? ‘‘มิตฺตทุพฺภิกมฺมสฺส เจว ปาณาติปาตสฺส จ กตตฺตา’’ติ. ตโต มหาสตฺโต ‘‘โย ปน คติยา เจว ทิฏฺิยา จ เต สทฺทหิตฺวา เอวํ กเรยฺย, เตน กึ ทุกฺกฏ’’นฺติ ตสฺส วาทํ ภินฺทนฺโต อาห –

๑๓๙.

‘‘อุทีรณา เจ สํคตฺยา, ภาวายมนุวตฺตติ;

อกามา อกรณียํ วา, กรณียํ วาปิ กุพฺพติ;

อกามกรณียมฺหิ, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.

๑๔๐.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๔๑.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ อุทีรณาติ กถา. สํคตฺยาติ สํคติยา ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตํ ตํ อภิชาตึ อุปคมเนน. ภาวายมนุวตฺตตีติ ภาเวน อนุวตฺตติ, กรณตฺเถ สมฺปทานํ. อกามาติ อกาเมน อนิจฺฉาย. อกรณียํ วา กรณียํ วาปีติ อกตฺตพฺพํ ปาปํ วา กตฺตพฺพํ กุสลํ วา. กุพฺพตีติ กโรติ. กฺวิธาติ โก อิธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตฺวํ อเหตุกวาที ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติอาทิทิฏฺิโก, อยํ โลโก สํคติยา เจว สภาเวน จ อนุวตฺตติ ปริณมติ, ตตฺถ ตตฺถ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ. อกามโกว ปาปํ วา ปุฺํ วา กโรตีติ วทสิ, อยํ ตว อุทีรณา สเจ ตถา, เอวํ สนฺเต อกามกรณียสฺมึ อตฺตโน ธมฺมตาย ปวตฺตมาเน ปาเป โก อิธ สตฺโต ปาเปน ลิปฺปติ, สเจ หิ อตฺตนา อกเตน ปาเปน ลิปฺปติ, น โกจิ น ลิปฺเปยฺยาติ.

โส เจติ โส อเหตุกวาทสงฺขาโต ตว ภาสิตตฺโถ จ อตฺถโชตโก ธมฺโม จ กลฺยาโณ น จ ปาปโก. ‘‘อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ, สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวทิยนฺตี’’ติ อิทํ โภโต วจนํ สจฺจํ เจ, สุหโต วานโร มยา, โก เอตฺถ มม โทโสติ อตฺโถ. วิชานิยาติ, สมฺม, สเจ หิ ตฺวํ อตฺตโน วาทสฺส อปราธํ ชาเนยฺยาสิ, น มํ ครเหยฺยาสิ. กึการณา? โภโต วาโท หิ ตาทิโส, ตสฺมา อยํ มม วาทํ กโรตีติ มํ ปสํเสยฺยาสิ, อตฺตโน ปน วาทํ อชานนฺโต มํ ครหสีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ตํ นิคฺคณฺหิตฺวา อปฺปฏิภาณํ อกาสิ. โสปิ ราชปริสติ มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส วาทํ ภินฺทิตฺวา อิสฺสรกตวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, มํ กสฺมา ปริหสสิ, ยทิ อิสฺสรนิมฺมิตวาทํ สารโต ปจฺเจสี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๔๒.

‘‘อิสฺสโร สพฺพโลกสฺส, สเจ กปฺเปติ ชีวิตํ;

อิทฺธึ พฺยสนภาวฺจ, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;

นิทฺเทสการี ปุริโส, อิสฺสโร เตน ลิปฺปติ.

๑๔๓.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๔๔.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ กปฺเปติ ชีวิตนฺติ สเจ พฺรหฺมา วา อฺโ วา โกจิ อิสฺสโร ‘‘ตฺวํ กสิยา ชีว, ตฺวํ โครกฺเขนา’’ติ เอวํ สพฺพโลกสฺส ชีวิตํ สํวิทหติ วิจาเรติ. อิทฺธึ พฺยสนภาวฺจาติ อิสฺสริยาทิเภทา อิทฺธิโย จ าติวินาสาทิกํ พฺยสนภาวฺจ เสสฺจ กลฺยาณปาปกํ กมฺมํ สพฺพํ ยทิ อิสฺสโรว กปฺเปติ กโรติ. นิทฺเทสการีติ ยทิ ตสฺส นิทฺเทสํ อาณตฺติเมว เสโส โย โกจิ ปุริโส กโรติ, เอวํ สนฺเต โย โกจิ ปุริโส ปาปํ กโรติ, ตสฺส อิสฺสเรน กตตฺตา อิสฺสโรว เตน ปาเปน ลิปฺปติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ.

อิติ โส อมฺพโตว มุคฺครํ คเหตฺวา อมฺพํ ปาเตนฺโต วิย อิสฺสรกรเณเนว อิสฺสรกตวาทํ ภินฺทิตฺวา ปุพฺเพกตวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, มํ กึ ปริหสสิ, ยทิ ปุพฺเพกตวาทํ สจฺจํ มฺสี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๔๕.

‘‘สเจ ปุพฺเพกตเหตุ, สุขทุกฺขํ นิคจฺฉติ;

โปราณกํ กตํ ปาปํ, ตเมโส มุจฺจเต อิณํ;

โปราณก อิณโมกฺโข, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.

๑๔๖.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๔๗.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺพกตเหตุ ปุริมภเว กตกมฺมการเณเนว. ตเมโส มุจฺจเต อิณนฺติ โย วธพนฺธาทีหิ ทุกฺขํ ปาปุณาติ, ยทิ โส ยํ เตน โปราณกํ กตํ ปาปํ, ตํ อิทานิ อิณํ มุจฺจติ, เอวํ สนฺเต มมปิ เอส โปราณกอิณโต โมกฺโข, อเนน หิ มกฺกเฏน ปุพฺเพ ปริพฺพาชเกน หุตฺวา อหํ มกฺกโฏ สมาโน มาเรตฺวา ขาทิโต ภวิสฺสามิ, สฺวายํ อิธ มกฺกฏตฺตํ ปตฺโต มยา ปริพฺพาชกตฺตํ ปตฺเตน มาเรตฺวา ขาทิโต ภวิสฺสติ, โก อิธ ปาเปน ลิปฺปตีติ.

อิติ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา อุจฺเฉทวาทึ อภิมุขํ กตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ‘อิตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทีนิ วตฺวา ‘อิเธว สตฺตา อุจฺฉิชฺชนฺติ, ปรโลกํ คตา นาม นตฺถี’ติ มฺมาโน กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ สนฺตชฺเชตฺวา อาห –

๑๔๘.

‘‘จตุนฺนํเยวุปาทาย, รูปํ สมฺโภติ ปาณินํ;

ยโต จ รูปํ สมฺโภติ, ตตฺเถวานุปคจฺฉติ;

อิเธว ชีวติ ชีโว, เปจฺจ เปจฺจ วินสฺสติ.

๑๔๙.

‘‘อุจฺฉิชฺชติ อยํ โลโก, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;

อุจฺฉิชฺชมาเน โลกมฺหิ, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.

๑๕๐.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๕๑.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ จตุนฺนนฺติ ปถวีอาทีนํ ภูตานํ. รูปนฺติ รูปกฺขนฺโธ. ตตฺเถวาติ ยโต ตํ รูปํ สมฺโภติ, นิรุชฺฌนกาเลปิ ตตฺเถว อนุปคจฺฉติ. อิมินา ตสฺส ‘‘จาตุมหาภูติโก อยํ ปุริโส ยทา กาลํ กโรติ, ตทา ปถวี ปถวีกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อาโป… เตโช… วาโย วาโยกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อากาสํ อินฺทฺริยานิ สงฺกมนฺติ, อาสนฺธิปฺจมา ปุริสา มตํ อาทาย คจฺฉนฺติ, ยาว อาฬาหนา ปทานิ ปฺายนฺติ, กาโปตกานิ อฏฺีนิ ภวนฺติ, ภสฺมนฺตา อาหุติโย, ทตฺตุปฺตฺตํ ยทิทํ ทานํ, เตสํ ตุจฺฉา มุสา วิลาโป, เย เกจิ อตฺถิกวาทํ วทนฺติ, พาเล จ ปณฺฑิเต จ กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ, น โหนฺติ ปรํ มรณา’’ติ อิมํ ทิฏฺึ ปติฏฺาเปสิ. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว โลเก ชีโว ชีวติ. เปจฺจ เปจฺจ วินสฺสตีติ ปรโลเก นิพฺพตฺโต สตฺโต คติวเสน อิธ อนาคนฺตฺวา ตตฺเถว ปรโลเก วินสฺสติ อุจฺฉิชฺชติ. เอวํ อุจฺฉิชฺชมาเน โลกสฺมึ โก อิธ ปาเปน ลิปฺปตีติ.

อิติ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา ขตฺตวิชฺชวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ‘มาตาปิตโรปิ มาเรตฺวา อตฺตโน อตฺโถ กาตพฺโพ’ติ อิมํ ลทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา วิจรนฺโต กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕๒.

‘‘อาหุ ขตฺตวิทา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

มาตรํ ปิตรํ หฺเ, อโถ เชฏฺมฺปิ ภาตรํ;

หเนยฺย ปุตฺตทาเร จ, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.

ตตฺถ ขตฺตวิทาติ ขตฺตวิชฺชา, อยเมว วา ปาโ. ขตฺตวิชฺชาจริยานํ เอตํ นามํ. พาลา ปณฺฑิตมานิโนติ พาลา สมานาปิ ‘‘ปณฺฑิตา มยํ อตฺตโน ปณฺฑิตภาวํ ปกาเสมา’’ติ มฺมานา ปณฺฑิตมานิโน หุตฺวา เอวมาหุ. อตฺโถ เจติ สเจ อตฺตโน ยถารูโป โกจิ อตฺโถ สิยา, น กิฺจิ ปริวชฺเชยฺย, สพฺพํ หเนยฺเยวาติ วทนฺติ, ตฺวมฺปิ เนสํ อฺตโรติ.

เอวํ ตสฺส ลทฺธึ ปติฏฺเปตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๕๓.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.

๑๕๔.

‘‘อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สมูลมปิ อพฺพเห;

อตฺโถ เม สมฺพเลนาปิ, สุหโต วานโร มยา.

๑๕๕.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๕๖.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ อมฺโภ ขตฺตวิท อมฺหากํ ปน อาจริยา เอวํ วณฺณยนฺติ. อตฺตนา ปริภุตฺตจฺฉายสฺส รุกฺขสฺสปิ สาขํ วา ปณฺณํ วา น ภฺเชยฺย. กึการณา? มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก. ตฺวํ ปน เอวํ วเทสิ – ‘‘อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน สมูลมปิ อพฺพเห’’ติ, มม จ ปาเถยฺเยน อตฺโถ อโหสิ, ตสฺมา สเจเปส มยา หโต, ตถาปิ อตฺโถ เม สมฺพเลนาปิ, สุหโต วานโร มยา.

เอวํ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา ปฺจสุ เตสุ อปฏิภาเนสุ นิสินฺเนสุ ราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, ตฺวํ อิเม ปฺจ รฏฺวิโลปเก มหาโจเร คเหตฺวา วิจรสิ, อโห พาโล, เอวรูปานฺหิ สํสคฺเคน ปุริโส ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ มหาทุกฺขํ ปาปุเณยฺยา’’ติ วตฺวา รฺโ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

๑๕๗.

‘‘อเหตุวาโท ปุริโส, โย จ อิสฺสรกุตฺติโก;

ปุพฺเพกตี จ อุจฺเฉที, โย จ ขตฺตวิโท นโร.

๑๕๘.

‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;

อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย’’ติ.

ตตฺถ ตาทิโสติ, มหาราช, ยาทิสา เอเต ปฺจ ทิฏฺิคติกา, ตาทิโส ปุริโส สยมฺปิ ปาปํ กเรยฺย. ยฺวาสฺส วจนํ สุณาติ, ตํ อฺมฺปิ การเย. ทุกฺขนฺโตติ เอวรูเปหิ อสปฺปุริเสหิ สทฺธึ สํสคฺโค อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโยว โหติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ ‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต’’ติ สุตฺตํ (อ. นิ. ๓.๑) อาหริตพฺพํ. โคธชาตก- (ชา. ๑.๑.๑๓๘) สฺชีวชาตก- (ชา. ๑.๑.๑๕๐) อกิตฺติชาตกาทีหิ (ชา. ๑.๑๓.๘๓ อาทโย) จายมตฺโถ ทีเปตพฺโพ.

อิทานี โอปมฺมทสฺสนวเสน ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒนฺโต อาห –

๑๕๙.

‘‘อุรพฺภรูเปน วกสฺสุ ปุพฺเพ, อสํกิโต อชยูถํ อุเปติ;

หนฺตฺวา อุรณึ อชิกํ อชฺจ, อุตฺราสยิตฺวา เยนกามํ ปเลติ.

๑๖๐.

‘‘ตถาวิเธเก สมณพฺราหฺมณาเส, ฉทนํ กตฺวา วฺจยนฺติ มนุสฺเส;

อนาสกา ถณฺฑิลเสยฺยกา จ, รโชชลฺลํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ;

ปริยายภตฺตฺจ อปานกตฺตา, ปาปาจารา อรหนฺโต วทานา.

๑๖๑.

‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;

อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย.

๑๖๒.

‘‘ยมาหุ นตฺถิ วีริยนฺติ, อเหตุฺจ ปวทนฺติ เย;

ปรการํ อตฺตการฺจ, เย ตุจฺฉํ สมวณฺณยุํ.

๑๖๓.

‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;

อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย.

๑๖๔.

‘‘สเจ หิ วีริยํ นาสฺส, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;

น ภเร วฑฺฒกึ ราชา, นปิ ยนฺตานิ การเย.

๑๖๕.

‘‘ยสฺมา จ วีริยํ อตฺถิ, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;

ตสฺมา ยนฺตานิ กาเรติ, ราชา ภรติ วฑฺฒกึ.

๑๖๖.

‘‘ยทิ วสฺสสตํ เทโว, น วสฺเส น หิมํ ปเต;

อุจฺฉิชฺเชยฺย อยํ โลโก, วินสฺเสยฺย อยํ ปชา.

๑๖๗.

‘‘ยสฺมา จ วสฺสตี เทโว, หิมฺจานุผุสายติ;

ตสฺมา สสฺสานิ ปจฺจนฺติ, รฏฺฺจ ปาลิเต จิรํ.

๑๖๘.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.

๑๖๙.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ ทุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.

๑๗๐.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา คาวี อุชุํ ยนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.

๑๗๑.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส สเจ ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก.

๑๗๒.

‘‘มหารุกฺขสฺส ผลิโน, อามํ ฉินฺทติ โย ผลํ;

รสฺจสฺส น ชานาติ, พีชฺจสฺส วินสฺสติ.

๑๗๓.

‘‘มหารุกฺขูปมํ รฏฺํ, อธมฺเมน ปสาสติ;

รสฺจสฺส น ชานาติ, รฏฺฺจสฺส วินสฺสติ.

๑๗๔.

‘‘มหารุกฺขสฺส ผลิโน, ปกฺกํ ฉินฺทติ โย ผลํ;

รสฺจสฺส วิชานาติ, พีชฺจสฺส น นสฺสติ.

๑๗๕.

‘‘มหารุกฺขูปมํ รฏฺํ, ธมฺเมน โย ปสาสติ;

รสฺจสฺส วิชานาติ, รฏฺฺชสฺส น นสฺสติ.

๑๗๖.

‘‘โย จ ราชา ชนปทํ, อธมฺเมน ปสาสติ;

สพฺโพสธีหิ โส ราชา, วิรุทฺโธ โหติ ขตฺติโย.

๑๗๗.

‘‘ตเถว เนคเม หึสํ, เย ยุตฺตา กยวิกฺกเย;

โอชทานพลีกาเร, ส โกเสน วิรุชฺฌติ.

๑๗๘.

‘‘ปหารวรเขตฺตฺู, สงฺคาเม กตนิสฺสเม;

อุสฺสิเต หึสยํ ราชา, ส พเลน วิรุชฺฌติ.

๑๗๙.

‘‘ตเถว อิสโย หึสํ, สฺเต พฺรหฺมจาริโน;

อธมฺมจารี ขตฺติโย, โส สคฺเคน วิรุชฺฌติ.

๑๘๐.

‘‘โย จ ราชา อธมฺมฏฺโ, ภริยํ หนฺติ อทูสิกํ;

ลุทฺธํ ปสวเต านํ, ปุตฺเตหิ จ วิรุชฺฌติ.

๑๘๑.

‘‘ธมฺมํ จเร ชานปเท, เนคเมสุ พเลสุ จ;

อิสโย จ น หึเสยฺย, ปุตฺตทาเร สมํ จเร.

๑๘๒.

‘‘ส ตาทิโส ภูมิปติ, รฏฺปาโล อโกธโน;

สปตฺเต สมฺปกมฺเปติ, อินฺโทว อสุราธิโป’’ติ.

ตตฺถ วกสฺสูติ วโก อสฺสุ, อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ปุพฺเพ เอโก อุรพฺภรูโป วโก อโหสิ, ตสฺส นงฺคุฏฺมตฺตเมว ทีฆํ, ตํ ปน โส อนฺตรสตฺติมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา อุรพฺภรูเปน อสํกิโต อชยูถํ อุเปติ. ตตฺถ อุรณิกฺจ อชิกฺจ อชฺจ หนฺตฺวา เยนกามํ ปเลติ. ตถาวิเธเกติ ตถาวิธา เอเก สมณพฺราหฺมณา ปพฺพชฺชาลิงฺเคน ฉทนํ กตฺวา อตฺตานํ ฉาเทตฺวา มธุรวจนาทีหิ หิตกามา วิย หุตฺวา โลกํ วฺเจนฺติ. ‘‘อนาสกา’’ติอาทิ เตสํ ฉทนสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอกจฺเจ หิ ‘‘มยํ อนาสกา น กิฺจิ อาหาเรมา’’ติ มนุสฺเส วฺเจนฺติ, อปเร ‘‘มยํ ถณฺฑิลเสยฺยกา’’ติ. อฺเสํ ปน รโชชลฺลํ ฉทนํ, อฺเสํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ, เต คจฺฉนฺตาปิ อุปฺปติตฺวา อุกฺกุฏิกาว คจฺฉนฺติ. อฺเสํ สตฺตาหทสาหาทิวารโภชนสงฺขาตํ ปริยายภตฺตฉทนํ, อปเร อปานกตฺตา โหนฺติ, ‘‘มยํ ปานียํ น ปิวามา’’ติ วทนฺติ. อรหนฺโต วทานาติ ปาปาจารา หุตฺวาปิ ‘‘มยํ อรหนฺโต’’ติ วทนฺตา วิจรนฺติ. เอเตติ, มหาราช, อิเม วา ปฺจ ชนา โหนฺตุ อฺเ วา, ยาวนฺโต ทิฏฺิคติกา นาม, สพฺเพปิ เอเต อสปฺปุริสา. ยมาหูติ เย อาหุ, เย วทนฺติ.

สเจ หิ วีริยํ นาสฺสาติ, มหาราช, สเจ าณสมฺปยุตฺตํ กายิกเจตสิกวีริยํ น ภเวยฺย. กมฺมนฺติ กลฺยาณปาปกํ กมฺมมฺปิ ยทิ น ภเวยฺย. น ภเรติ เอวํ สนฺเต วฑฺฒกึ วา อฺเ วา การเก ราชา น โปเสยฺย, นปิ ยนฺตานีติ นปิ เตหิ สตฺตภูมิกปาสาทาทีนิ ยนฺตานิ กาเรยฺย. กึการณา? วีริยสฺส เจว กมฺมสฺส จ อภาวา. อุจฺฉิชฺเชยฺยาติ, มหาราช, ยทิ เอตฺตกํ กาลํ เนว เทโว วสฺเสยฺย, น หิมํ ปเตยฺย, อถ กปฺปุฏฺานกาโล วิย อยํ โลโก อุจฺฉิชฺเชยฺย. อุจฺเฉทวาทินา กถิตนิยาเมน ปน อุจฺเฉโท นาม นตฺถิ. ปาลิเตติ ปาลยติ.

‘‘ควํ เจ’’ติ จตสฺโส คาถา รฺโ ธมฺมเทสนายเมว วุตฺตา, ตถา ‘‘มหารุกฺขสฺสา’’ติอาทิกา. ตตฺถ มหารุกฺขสฺสาติ มธุรอมฺพรุกฺขสฺส. อธมฺเมนาติ อคติคมเนน. รสฺจสฺส น ชานาตีติ อธมฺมิโก ราชา รฏฺสฺส รสํ โอชํ น ชานาติ, อายสมฺปตฺตึ น ลภติ. วินสฺสตีติ สุฺํ โหติ, มนุสฺสา คามนิคเม ฉฑฺเฑตฺวา ปจฺจนฺตํ ปพฺพตวิสมํ ภชนฺติ, สพฺพานิ อายมุขานิ ปจฺฉิชฺชนฺติ. สพฺโพสธีหีติ สพฺเพหิ มูลตจปตฺตปุปฺผผลาทีหิ เจว สปฺปินวนีตาทีหิ จ โอสเธหิ วิรุชฺฌติ, ตานิ น สมฺปชฺชนฺติ. อธมฺมิกรฺโ หิ ปถวี นิโรชา โหติ, ตสฺสา นิโรชตาย โอสธานํ โอชา น โหติ, ตานิ โรคฺจ วูปสเมตุํ น สกฺโกนฺติ. อิติ โส เตหิ วิรุทฺโธ นาม โหติ.

เนคเมติ นิคมวาสิกุฏุมฺพิเก. หึสนฺติ หึสนฺโต ปีเฬนฺโต. เย ยุตฺตาติ เย กยวิกฺกเย ยุตฺตา อายานํ มุขา ถลชลปถวาณิชา, เต จ หึสนฺโต. โอชทานพลีกาเรติ ตโต ตโต ภณฺฑาหรณสุงฺกทานวเสน โอชทานฺเจว ฉภาคทสภาคาทิเภทํ พลิฺจ กโรนฺเต. ส โกเสนาติ โส เอเต หึสนฺโต อธมฺมิกราชา ธนธฺเหิ ปริหายนฺโต โกเสน วิรุชฺฌติ นาม. ปหารวรเขตฺตฺูติ ‘‘อิมสฺมึ าเน วิชฺฌิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอวํ ปหารวรานํ เขตฺตํ ชานนฺเต ธนุคฺคเห. สงฺคาเม กตนิสฺสเมติ ยุทฺเธ สุกตกมฺเม มหาโยเธ. อุสฺสิเตติ อุคฺคเต ปฺาเต มหามตฺเต. หิ สยนฺติ เอวรูเป สยํ วา หึสนฺโต ปเรหิ วา หึสาเปนฺโต. พเลนาติ พลกาเยน. ตถาวิธฺหิ ราชานํ ‘‘อยํ พหุกาเร อตฺตโน รชฺชทายเกปิ หึสติ, กิมงฺคํ ปน อมฺเห’’ติ อวเสสาปิ โยธา วิชหนฺติเยว. อิติ โส พเลน วิรุทฺโธ นาม โหติ.

ตเถว อิสโย หึสนฺติ ยถา จ เนคมาทโย, ตเถว เอสิตคุเณ ปพฺพชิเต อกฺโกสนปหรณาทีหิ หึสนฺโต อธมฺมจารี ราชา กายสฺส เภทา อปายเมว อุเปติ, สคฺเค นิพฺพตฺติตุํ น สกฺโกตีติ สคฺเคน วิรุทฺโธ นาม โหติ. ภริยํ หนฺติ อทูสิกนฺติ อตฺตโน พาหุจฺฉายาย วฑฺฒิตํ ปุตฺตธีตาหิ สํวฑฺฒํ สีลวตึ ภริยํ มิตฺตปติรูปกานํ โจรานํ วจนํ คเหตฺวา มาเรติ. ลุทฺธํ ปสวเต านนฺติ โส อตฺตโน นิรยูปปตฺตึ ปสวติ นิปฺผาเทติ. ปุตฺเตหิ จาติ อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว อตฺตโน ปุตฺเตหิ สทฺธึ วิรุชฺฌตีติ.

เอวมสฺส โส เตสํ ปฺจนฺนํ ชนานํ กถํ คเหตฺวา เทวิยา มาริตภาวฺจ ปุตฺตานํ วิรุทฺธภาวฺจ สนฺธิมุเข โจรํ จูฬายํ คณฺหนฺโต วิย กเถสิ. มหาสตฺโต หิ เตสํ อมจฺจานํ นิคฺคณฺหนฺจ ธมฺมเทสนฺจ เทวิยา เตหิ มาริตภาวสฺส อาวิกรณตฺถฺจ ตตฺถ อนุปุพฺเพน กถํ อาหริตฺวา โอกาสํ กตฺวา เอตมตฺถํ กเถสิ. ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อตฺตโน อปราธํ ชานิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘อิโต ปฏฺาย, มหาราช, เอวรูปานํ ปาปานํ กถํ คเหตฺวา มา ปุน เอวมกาสี’’ติ วตฺวา โอวทนฺโต ‘‘ธมฺมํ จเร’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ธมฺมํ จเรติ, มหาราช, ราชา นาม ชนปทํ อธมฺมิเกน พลินา อปีเฬนฺโต ชนปเท ธมฺมํ จเรยฺย, สามิเก อสามิเก อกโรนฺโต เนคเมสุ ธมฺมํ จเรยฺย, อฏฺาเน อกิลเมนฺโต พเลสุ ธมฺมํ จเรยฺย. วธพนฺธอกฺโกสปริภาเส ปริหรนฺโต ปจฺจเย จ เนสํ ททนฺโต อิสโย น วิหึเสยฺย, ธีตโร ยุตฺตฏฺาเน ปติฏฺาเปนฺโต ปุตฺเต จ สิปฺปานิ สิกฺขาเปตฺวา สมฺมา ปริหรนฺโต ภริยํ อิสฺสริยโวสฺสคฺคอลงฺการทานสมฺมานนาทีหิ อนุคฺคณฺหนฺโต ปุตฺตทาเร สมํ จเรยฺย. ส ตาทิโสติ โส ตาทิโส ราชา ปเวณึ อภินฺทิตฺวา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ราชาณาย ราชเตเชน สปตฺเต สมฺปกมฺเปติ ตาเสติ จาเลติ. ‘‘อินฺโทวา’’ติ อิทํ อุปมตฺถํ วุตฺตํ. ยถา อสุเร เชตฺวา อภิภวิตฺวา ิตกาลโต ปฏฺาย อสุราธิโปติ สงฺขฺยํ คโต อินฺโท อตฺตโน สปตฺตภูเต อสุเร กมฺเปสิ, ตถา กมฺเปตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา จตฺตาโรปิ กุมาเร ปกฺโกสาเปตฺวา โอวทิตฺวา รฺโ กตกมฺมํ ปกาเสตฺวา ราชานํ ขมาเปตฺวา ‘‘มหาราช, อิโต ปฏฺาย อตุเลตฺวา ปริเภทกานํ กถํ คเหตฺวา มา เอวรูปํ สาหสิกกมฺมํ อกาสิ, ตุมฺเหปิ กุมารา มา รฺโ ทุพฺภิตฺถา’’ติ สพฺเพสํ โอวาทํ อทาสิ. อถ นํ ราชา อาห – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ จ เทวิยา จ อปรชฺฌนฺโต อิเม นิสฺสาย เอเตสํ กถํ คเหตฺวา เอตํ ปาปกมฺมํ กรึ, อิเม ปฺจปิ มาเรมี’’ติ. น ลพฺภา, มหาราช, เอวํ กาตุนฺติ. เตน หิ เตสํ หตฺถปาเท เฉทาเปมีติ. อิทมฺปิ น ลพฺภา กาตุนฺติ. ราชา ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เต สพฺพสํหรเณ กตฺวา ปฺจจูฬากรณคทฺทูลพนฺธนโคมยาสิฺจเนหิ อวมาเนตฺวา รฏฺา ปพฺพาเชสิ. โพธิสตฺโต ตตฺถ กติปาหํ วสิตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ ราชานํ โอวทิตฺวา หิมวนฺตํเยว คนฺตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา ยาวชีวํ พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ เทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต ปฺวาเยว ปรปฺปวาทปฺปมทฺทโนเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ปฺจ ทิฏฺิคติกา ปูรณกสฺสปมกฺขลิโคสาลปกุธกจฺจานอชิตเกสกมฺพลนิคณฺนาฏปุตฺตา อเหสุํ, ปิงฺคลสุนโข อานนฺโท, มหาโพธิปริพฺพาชโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาโพธิชาตกวณฺณนา ตติยา.

ชาตกุทฺทานํ –

สนิฬีนิกมวฺหยโน ปโม, ทุติโย ปน สอุมฺมทนฺติวโร;

ตติโย ปน โพธิสิรีวฺหยโน, กถิตา ปน ตีณิ ชิเนน สุภาติ.

ปณฺณาสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙. สฏฺินิปาโต

[๕๒๙] ๑. โสณกชาตกวณฺณนา

กสฺส สุตฺวา สตํ ทมฺมีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เนกฺขมฺมปารมึ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ ภควา ธมฺมสภายํ เนกฺขมฺมปารมึ วณฺณยนฺตานํ ภิกฺขูนํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ, นามคฺคหณทิวเส จสฺส ‘‘อรินฺทมกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส ชาตทิวเสเยว ปุโรหิตสฺสปิ ปุตฺโต ชายิ, ‘‘โสณกกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ เอกโตว วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺตา อุตฺตมรูปธรา รูเปน นิพฺพิเสสา หุตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา อุคฺคหิตสิปฺปา ตโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘สพฺพสมยสิปฺปฺจ เทสจาริตฺตฺจ ชานิสฺสามา’’ติ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรนฺตา พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส นครํ ปวิสึสุ. ตํ ทิวสฺจ เอกจฺเจ มนุสฺสา ‘‘พฺราหฺมณวาจนกํ กริสฺสามา’’ติ ปายาสํ ปฏิยาเทตฺวา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา อาคจฺฉนฺเต เต กุมาเร ทิสฺวา ฆรํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปสุํ. ตตฺถ โพธิสตฺตสฺส ปฺตฺตาสเน สุทฺธวตฺถํ อตฺถตํ อโหสิ, โสณกสฺส รตฺตกมฺพลํ. โส ตํ นิมิตฺตํ ทิสฺวาว ‘‘อชฺช เม ปิยสหาโย อรินฺทมกุมาโร พาราณสิราชา ภวิสฺสติ, มยฺหํ ปน เสนาปติฏฺานํ ทสฺสตี’’ติ อฺาสิ. เต อุโภปิ กตภตฺตกิจฺจา อุยฺยานเมว อคมํสุ.

ตทา พาราณสิรฺโ กาลกตสฺส สตฺตโม ทิวโส โหติ, อปุตฺตกํ ราชกุลํ. อมจฺจาทโย ปาโตว สสีสํ นฺหาตา สนฺนิปติตฺวา ‘‘รชฺชารหสฺส สนฺติกํ คมิสฺสตี’’ติ ผุสฺสรถํ โยเชตฺวา วิสฺสชฺเชสุํ. โส นครา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ราชุยฺยานํ คนฺตฺวา อุยฺยานทฺวาเร นิวตฺติตฺวา อาโรหณสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. โพธิสตฺโต มงฺคลสิลาปฏฺเฏสสีสํ ปารุปิตฺวา นิปชฺชิ, โสณกกุมาโร ตสฺส สนฺติเก นิสีทิ. โส ตูริยสทฺทํ สุตฺวา ‘‘อรินฺทมสฺส ผุสฺสรโถ อาคจฺฉติ, อชฺเชส ราชา หุตฺวา มม เสนาปติฏฺานํ ทสฺสติ, น โข ปน มยฺหํ อิสฺสริเยนตฺโถ, เอตสฺมึ คเต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกมนฺเต ปฏิจฺฉนฺเน อฏฺาสิ. ปุโรหิโต อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มหาสตฺตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ. มหาสตฺโต ปพุชฺฌิตฺวา ปริวตฺติตฺวา โถกํ นิปชฺชิตฺวา อุฏฺาย สิลาปฏฺเฏ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อถ นํ ปุโรหิโต อฺชลึ ปคฺคณฺหิตฺวา อาห – ‘‘รชฺชํ เต, เทว, ปาปุณาตี’’ติ. ‘‘กึ อปุตฺตกํ ราชกุล’’นฺติ? ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ สาธู’’ติ. อถ นํ เต ตตฺเถว อภิสิฺจิตฺวา รถํ อาโรเปตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นครํ ปเวเสสุํ. โส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาสาทํ อภิรูหิ. โส ยสมหนฺตตาย โสณกกุมารํ น สริ.

โสปิ ตสฺมึ นครํ ปวิฏฺเ ปจฺฉา อาคนฺตฺวา สิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. อถสฺส ปุรโต พนฺธนา ปวุตฺตํ สาลรุกฺขโต ปณฺฑุปลาสํ ปติ. โส ตํ ทิสฺวาว ‘‘ยเถเวตํ, ตถา มมปิ สรีรํ ชรํ ปตฺวา ปติสฺสตี’’ติ อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ปจฺเจกโพธึ ปาปุณิ. ตํขณฺเวสฺส คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, ปพฺพชิตลิงฺคํ ปาตุรโหสิ. โส ‘‘นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ อุทานํ อุทาเนนฺโต นนฺทมูลกปพฺภารํ อคมาสิ. มหาสตฺโตปิ จตฺตาลีสมตฺตานํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน สริตฺวา ‘‘กหํ นุ โข เม สหาโย โสณโก’’ติ โสณกํ ปุนปฺปุนํ สรนฺโตปิ ‘‘มยา สุโต วา ทิฏฺโ วา’’ติ วตฺตารํ อลภิตฺวา อลงฺกตมหาตเล ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน คนฺธพฺพนาฏกนจฺจคีตาทีหิ ปริวุโต สมฺปตฺติมนุภวนฺโต ‘‘โย เม กสฺสจิ สนฺติเก สุตฺวา ‘อสุกฏฺาเน นาม โสณโก วสตี’ติ อาจิกฺขิสฺสติ, ตสฺส สตํ ทสฺสามิ, โย เม สามํ ทิสฺวา อาโรเจสฺสติ, ตสฺส สหสฺส’’นฺติ เอกํ อุทานํ อภิสงฺขริตฺวา คีตวเสน อุทาเนนฺโต ปมํ คาถมาห –

‘‘กสฺส สุตฺวา สตํ ทมฺมิ, สหสฺสํ ทิฏฺ โสณกํ;

โก เม โสณกมกฺขาติ, สหายํ ปํสุกีฬิต’’นฺติ.

อถสฺส มุขโต ลุฺจนฺตี วิย คเหตฺวา เอกา นาฏกีตฺถี ตํ คายิ. อถฺา อถฺาติ ‘‘อมฺหากํ รฺโ ปิยคีต’’นฺติ สพฺพา โอโรธา คายึสุ. อนุกฺกเมน นครวาสิโนปิ ชานปทาปิ ตเมว คีตํ คายึสุ. ราชาปิ ปุนปฺปุนํ ตเมว คีตํ คายติ. ปณฺณาสมตฺตานํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน ปนสฺส พหู ปุตฺตธีตโร อเหสุํ, เชฏฺปุตฺโต ทีฆาวุกุมาโร นาม อโหสิ. ตทา โสณกปจฺเจกพุทฺโธ ‘‘อรินฺทมราชา มํ ทฏฺุกาโม, อหํ ตตฺถ คนฺตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จานิสํสํ กเถตฺวา ปพฺพชฺชนาการํ กโรมี’’ติ จินฺเตตฺวา อิทฺธิยา อากาเสนาคนฺตฺวา อุยฺยาเน นิสีทิ. ตทา เอโก สตฺตวสฺสิโก ปฺจจูฬกกุมารโก มาตรา ปหิโต คนฺตฺวา อุยฺยานวเน ทารูนิ อุทฺธรนฺโต ปุนปฺปุนํ ตเมว คีตํ คายิ. อถ นํ โส ปกฺโกสิตฺวา ‘‘กุมารก, ตฺวํ อฺํ อคายิตฺวา เอกเมว คีตํ คายสิ, กึ อฺํ น ชานาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ชานามิ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปน รฺโ อิทเมว ปิยํ, เตน นํ ปุนฺนปฺปุนํ คายามี’’ติ. ‘‘เอตสฺส ปน เต คีตสฺส ปฏิคีตํ คายนฺโต โกจิ ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ. ‘‘น ทิฏฺปุพฺโพ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อหํ ตํ สิกฺขาเปสฺสามิ, สกฺขิสฺสสิ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฏิคีตํ คายิตุ’’นฺติ. ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. อถสฺส โส ปฏิคีตํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘มยฺหํ สุตฺวา’’ติอาทิมาห. อุคฺคณฺหาเปตฺวา จ ปน ตํ อุยฺโยเชสิ – ‘‘คจฺฉ, กุมารก, อิมํ ปฏิคีตํ รฺา สทฺธึ คายาหิ, ราชา เต มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทสฺสติ, กึ เต ทารูหิ, เวเคน ยาหี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ ตํ ปฏิคีตํ อุคฺคณฺหิตฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยาวาหํ ราชานํ อาเนมิ, ตาว อิเธว โหถา’’ติ วตฺวา เวเคน มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อมฺม, ขิปฺปํ มํ นฺหาเปตฺวา อลงฺกโรถ, อชฺช ตํ ทลิทฺทภาวโต โมเจสฺสามี’’ติ วตฺวา นฺหาตมณฺฑิโต ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘อยฺย โทวาริก, ‘เอโก ทารโก ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปฏิคีตํ คายิสฺสามีติ อาคนฺตฺวา ทฺวาเร ิโต’ติ รฺโ อโรเจหี’’ติ อาห. โส เวเคน คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘อาคจฺฉตู’’ติ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ มยา สทฺธึ ปฏิคีตํ คายิสฺสสี’’ติ อาห. ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ คายสฺสู’’ติ. ‘‘เทว, อิมสฺมึ าเน น คายามิ, นคเร ปน เภรึ จราเปตฺวา มหาชนํ สนฺนิปาตาเปถ, มหาชนมชฺเฌ คายิสฺสามี’’ติ. ราชา ตถา กาเรตฺวา อลงฺกตมณฺฑเป ปลฺลงฺกมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ตสฺสานุรูปํ อาสนํ ทาเปตฺวา ‘‘อิทานิ ตว คีตํ คายสฺสู’’ติ อาห. ‘‘เทว, ตุมฺเห ตาว คายถ, อถาหํ ปฏิคีตํ คายิสฺสามี’’ติ. ตโต ราชา ปมํ คายนฺโต คาถมาห –

.

‘‘กสฺส สุตฺวา สตํ ทมฺมิ, สหสฺสํ ทิฏฺ โสณกํ;

โส เม โสณกมกฺขาติ, สหายํ ปํสุกีฬิต’’นฺติ.

ตตฺถ สุตฺวาติ ‘‘อสุกฏฺาเน นาม เต ปิยสหาโย โสณโก วสตี’’ติ ตสฺส วสนฏฺานํ สุตฺวา อาโรเจนฺตสฺส กสฺส สตํ ทมฺมิ. ทิฏฺาติ ‘‘อสุกฏฺาเน นาม มยา ทิฏฺโ’’ติ ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺส กสฺส สหสฺสํ ทมฺมีติ.

เอวํ รฺา ปมํ อุทานคาถาย คีตาย ปฺจจูฬกทารเกน ปฏิคีตภาวํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ทียฑฺฒคาถา อภาสิ –

.

‘‘อถพฺรวี มาณวโก, ทหโร ปฺจจูฬโก;

มยฺหํ สุตฺวา สตํ เทหิ, สหสฺสํ ทิฏฺ โสณกํ;

อหํ เต โสณกกฺขิสฺสํ, สหายํ ปํสุกีฬิต’’นฺติ.

เตน วุตฺตคาถาย ปน อยมตฺโถ – มหาราช, ยํ ตฺวํ ‘‘สุตฺวา อาโรเจนฺตสฺส สตํ ทมฺมี’’ติ วทสิ, ตมฺปิ มเมว เทหิ, ยํ ‘‘ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺส สหสฺสํ ทมฺมี’’ติ วทสิ, ตมฺปิ มยฺหเมว เทหิ, อหํ เต ปิยสหายํ อิทาเนว ปจฺจกฺขโตว ‘‘อยํ โสณโก’’ติ อาจิกฺขิสฺสนฺติ.

อิโต ปรํ สุวิฺเยฺยา สมฺพุทฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –

.

‘‘กตมสฺมึ โส ชนปเท, รฏฺเสุ นิคเมสุ จ;

กตฺถ โสณกมทฺทกฺขิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต.

.

‘‘ตเวว เทว วิชิเต, ตเววุยฺยานภูมิยํ;

อุชุวํสา มหาสาลา, นีโลภาสา มโนรมา.

.

‘‘ติฏฺนฺติ เมฆสมานา, รมฺมา อฺโฺนิสฺสิตา;

เตสํ มูลมฺหิ โสณโก, ฌายตี อนุปาทโน;

อุปาทาเนสุ โลเกสุ, ฑยฺหมาเนสุ นิพฺพุโต.

.

‘‘ตโต จ ราชา ปายาสิ, เสนาย จตุรงฺคิยา;

การาเปตฺวา สมํ มคฺคํ, อคมา เยน โสณโก.

.

‘‘อุยฺยานภูมึ คนฺตฺวาน, วิจรนฺโต พฺรหาวเน;

อาสีนํ โสณกํ ทกฺขิ, ฑยฺหมาเนสุ นิพฺพุต’’นฺติ.

ตตฺถ อุชุวํสาติ อุชุกฺขนฺธา. มหาสาลาติ มหารุกฺขา. เมฆสมานาติ นีลเมฆสทิสา. รมฺมาติ รมณียา. อฺโฺนิสฺสิตาติ สาขาหิ สาขํ, มูเลน มูลํ สํสิพฺพิตฺวา ิตา. เตสนฺติ เตสํ เอวรูปานํ ตว อุยฺยานวเน สาลานํ เหฏฺา. ฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานอารมฺมณูปนิชฺฌานสงฺขาเตหิ ฌาเนหิ ฌายติ. อนุปาทโนติ กามุปาทานาทิวิรหิโต. ฑยฺหมาเนสูติ เอกาทสหิ อคฺคีหิ ฑยฺหมาเนสุ สตฺเตสุ. นิพฺพุโตติ เต อคฺคี นิพฺพาเปตฺวา สีตเลน หทเยน ฌายมาโน ตว อุยฺยาเน มงฺคลสาลรุกฺขมูเล สิลาปฏฺเฏ นิสินฺโน เอส เต สหาโย กฺจนปฏิมา วิย โสภมาโน ปฏิมาเนตีติ. ตโต จาติ, ภิกฺขเว, ตโต โส อรินฺทโม ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวาว ‘‘โสณกปจฺเจกพุทฺธํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ จตุรงฺคินิยา เสนาย ปายาสิ นิกฺขมิ. วิจรนฺโตติ อุชุกเมว อคนฺตฺวา ตสฺมึ มหนฺเต วนสณฺเฑ วิจรนฺโต ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาสีนํ อทฺทกฺขิ.

โส ตํ อวนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา อตฺตโน กิเลสาภิรตตฺตา ตํ ‘‘กปโณ’’ติ มฺมาโน อิมํ คาถมาห –

.

‘‘กปโณ วตยํ ภิกฺขุ, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;

อมาติโก อปิติโก, รุกฺขมูลสฺมิ ฌายตี’’ติ.

ตตฺถ ฌายตีติ นิมฺมาติโก นิปฺปิติโก การุฺปฺปตฺโต ฌายติ.

.

‘‘อิมํ วากฺยํ นิสาเมตฺวา, โสณโก เอตทพฺรวิ;

น ราช กปโณ โหติ, ธมฺมํ กาเยน ผสฺสยํ.

๑๐.

‘‘โย จ ธมฺมํ นิรํกตฺวา, อธมฺมมนุวตฺตติ;

ส ราช กปโณ โหติ, ปาโป ปาปปรายโณ’’ติ.

ตตฺถ อิมนฺติ ตสฺส กิเลสาภิรตสฺส ปพฺพชฺชํ อโรเจนฺตสฺส อิมํ ปพฺพชฺชาครหวจนํ สุตฺวา. เอตทพฺรวีติ ปพฺพชฺชาย คุณํ ปกาเสนฺโต เอตํ อพฺรวิ. ผสฺสยนฺติ ผสฺสยนฺโต เยน อริยมคฺคธมฺโม นามกาเยน ผสฺสิโต, โส กปโณ นาม น โหตีติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. นิรํกตฺวาติ อตฺตภาวโต นีหริตฺวา. ปาโป ปาปปรายโณติ สยํ ปาปานํ กรเณน ปาโป, อฺเสมฺปิ กโรนฺตานํ ปติฏฺาภาเวน ปาปปรายโณติ.

เอวํ โส โพธิสตฺตํ ครหิ. โส อตฺตโน ครหิตภาวํ อชานนฺโต วิย หุตฺวา นามโคตฺตํ กเถตฺวา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๑.

‘‘อรินฺทโมติ เม นามํ, กาสิราชาติ มํ วิทู;

กจฺจิ โภโต สุขสฺเสยฺยา, อิธ ปตฺตสฺส โสณกา’’ติ.

ตตฺถ กจฺจีติ อมฺหากํ ตาว น กิฺจิ อผาสุกํ, โภโต ปน กจฺจิ อิธ ปตฺตสฺส อิมสฺมึ อุยฺยาเน วสโต สุขวิหาโรติ ปุจฺฉติ.

อถ นํ ปจฺเจกพุทฺโธ, ‘‘มหาราช, น เกวลํ อิธ, อฺตฺราปิ วสนฺตสฺส เม อสุขํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา ตสฺส สมณภทฺรคาถาโย นาม อารภิ –

๑๒.

‘‘สทาปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

น เตสํ โกฏฺเ โอเปนฺติ, น กุมฺภึ น กโฬปิยํ;

ปรนิฏฺิตเมสานา, เตน ยาเปนฺติ สุพฺพตา.

๑๓.

‘‘ทุติยมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

อนวชฺชปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพ, น จ โกจูปโรธติ.

๑๔.

‘‘ตติยมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

นิพฺพุโต ปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพ, น จ โกจูปโรธติ.

๑๕.

‘‘จตุตฺถมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

มุตฺตสฺส รฏฺเ จรโต, สงฺโค ยสฺส น วิชฺชติ.

๑๖.

‘‘ปฺจมมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

นครมฺหิ ฑยฺหมานมฺหิ, นาสฺส กิฺจิ อฑยฺหถ.

๑๗.

‘‘ฉฏฺมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

รฏฺเ วิลุมฺปมานมฺหิ, นาสฺส กิฺจิ อหีรถ.

๑๘.

‘‘สตฺตมมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

โจเรหิ รกฺขิตํ มคฺคํ, เย จฺเ ปริปนฺถิกา;

ปตฺตจีวรมาทาย, โสตฺถึ คจฺฉติ สุพฺพโต.

๑๙.

‘‘อฏฺมมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

ยํ ยํ ทิสํ ปกฺกมติ, อนเปกฺโขว คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ อนาคารสฺสาติ, มหาราช, ฆราวาสํ ปหาย อนาคาริยภาวํ ปตฺตสฺส อธนสฺส อกิฺจนสฺส ภิกฺขุโน สพฺพกาลํ ภทฺรเมว. น เตสนฺติ, มหาราช, เตสํ อธนานํ ภิกฺขูนํ น โกฏฺาคาเร ธนธฺานิ โอเปนฺติ, น กุมฺภิยํ, น ปจฺฉิยํ, เต ปน สุพฺพตา ปรนิฏฺิตํ ปเรสํ ฆเร ปกฺกํ อาหารํ สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา กปาลมาทาย ฆรปฏิปาฏิยา เอสานา ปริเยสนฺตา เตน ตโต ลทฺเธน ปิณฺเฑน ตํ อาหารํ นวนฺนํ ปาฏิกุลฺยานํ วเสน ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชิตฺวา ชีวิตวุตฺตึ ยาเปนฺติ.

อนวชฺชปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพติ เวชฺชกมฺมาทิกาย อเนสนาย วา กุหนา ลปนา เนมิตฺติกตา นิปฺเปสิกตา ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตาติ เอวรูเปน มิจฺฉาชีเวน วา อุปฺปาทิตา จตฺตาโร ปจฺจยา, ธมฺเมน อุปฺปาทิตาปิ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุตฺตา สาวชฺชปิณฺโฑ นาม. อเนสนํ ปน ปหาย มิจฺฉาชีวํ วชฺเชตฺวา ธมฺเมน สเมน อุปฺปาทิตา ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามี’’ติ วุตฺตนเยเนว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุตฺตา อนวชฺชปิณฺโฑ นาม. เยน เอวรูโป อนวชฺชปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพ ปริภุฺชิตพฺโพ, ยฺจ เอวรูปํ อนวชฺชํ ปิณฺฑํ ภุฺชมานานํ ปจฺจเย นิสฺสาย โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส น อุปโรธติ น ปีเฬติ, ตสฺส ทุติยมฺปิ ภทฺรํ อธนสฺส อนาคารสฺส ภิกฺขุโน.

นิพฺพุโตติ ปุถุชฺชนภิกฺขุโน ธมฺเมน อุปฺปนฺนปิณฺโฑปิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชิยมาโน นิพฺพุตปิณฺโฑ นาม, เอกนฺตโต ปน ขีณาสวสฺส ปิณฺโฑว นิพฺพุตปิณฺโฑ นาม. กึการณา? โส หิ เถยฺยปริโภโค, อิณปริโภโค, ทายชฺชปริโภโค, สามิปริโภโคติ อิเมสุ จตูสุ ปริโภเคสุ สามิปริโภควเสน ตํ ภุฺชติ, ตณฺหาทาสพฺยํ อตีโต สามี หุตฺวา ปริภุฺชติ, น ตํ ตปฺปจฺจยา โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส อุปโรธติ.

มุตฺตสฺส รฏฺเ จรโตติ อุปฏฺากกุลาทีสุ อลคฺคมานสสฺส ฉินฺนวลาหกสฺส วิย ราหุมุขา ปมุตฺตสฺส วิมลจนฺทมณฺฑลสฺส วิย จ ยสฺส คามนิคมาทีสุ จรนฺตสฺส ราคสงฺคาทีสุ เอโกปิ สงฺโค นตฺถิ. เอกจฺโจ หิ กุเลหิ สํสฏฺโ วิหรติ สหโสกี สหนนฺที, เอกจฺโจ มาตาปิตูสุปิ อลคฺคมานโส วิจรติ โกรุนครคามวาสี ทหโร วิย, เอวรูปสฺส ปุถุชฺชนสฺสปิ ภทฺรเมว.

นาสฺส กิฺจีติ โย หิ พหุปริกฺขาโร โหติ, โส ‘‘มา เม โจรา ปริกฺขาเร หรึสู’’ติ อติเรกานิ จ จีวราทีนิ อนฺโตนคเร อุปฏฺากกุเล นิกฺขิปติ, อถ นครมฺหิ ฑยฺหมาเน ‘‘อสุกกุเล นาม อคฺคิ อุฏฺิโต’’ติ สุตฺวา โสจติ กิลมติ, เอวรูปสฺส ภทฺรํ นาม นตฺถิ. โย ปน, มหาราช, สกุณวตฺตํ ปูเรติ, กายปฏิพทฺธปริกฺขาโรว โหติ, ตสฺส ตาทิสสฺส น กิฺจิ อฑยฺหถ, เตนสฺส ปฺจมมฺปิ ภทฺรเมว.

วิลุมฺปมานมฺหีติ วิลุปฺปมานมฺหิ, อยเมว วา ปาโ. อหีรถาติ ยถา ปพฺพตคหนาทีหิ นิกฺขมิตฺวา รฏฺํ วิลุมฺปมาเนสุ โจเรสุ พหุปริกฺขารสฺส อนฺโตคาเม ปิตํ วิลุมฺปติ หรติ, ตถา ยสฺส อธนสฺส กายปฏิพทฺธปริกฺขารสฺส น กิฺจิ อหีรถ ตสฺส ฉฏฺมฺปิ ภทฺรเมว.

เย จฺเ ปริปนฺถิกาติ เย จ อฺเปิ เตสุ เตสุ าเนสุ สุงฺกคหณตฺถาย ปิตา ปริปนฺถิกา, เตหิ จ รกฺขิตํ. ปตฺตจีวรนฺติ โจรานํ อนุปการํ สุงฺกิกานํ อสุงฺการหํ มตฺติกาปตฺตฺเจว กตทฬฺหีกมฺมปริภณฺฑํ ปํสุกูลจีวรฺจ อปฺปคฺฆานิ กายพนฺธนปริสฺสาวนสูจิวาสิปตฺตตฺถวิกานิ จาติ สพฺเพปิ อฏฺ ปริกฺขาเร กายปฏิพทฺเธ กตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺโน เกนจิ อวิเหิยมาโน โสตฺถึ คจฺฉติ. สุพฺพโตติ โลภนียานิ หิ จีวราทีนิ ทิสฺวา โจรา หรนฺติ, สุงฺกิกาปิ ‘‘กึ นุ โข เอตสฺส หตฺเถ’’ติ ปตฺตตฺถวิกาทีนิ โสเธนฺติ, สุพฺพโต ปน สลฺลหุกวุตฺติ เตสํ ปสฺสนฺตานฺเว โสตฺถึ คจฺฉติ, เตนสฺส สตฺตมมฺปิ ภทฺรเมว.

อนเปกฺโขว คจฺฉตีติ กายปฏิพทฺธโต อติเรกสฺส วิหาเร ปฏิสามิตสฺส กสฺสจิ ปริกฺขารสฺส อภาวา วสนฏฺานํ นิวตฺติตฺวาปิ น โอโลเกติ. ยํ ยํ ทิสํ คนฺตุกาโม โหติ, ตํ ตํ คจฺฉนฺโต อนเปกฺโขว คจฺฉติ อนุราธปุรา นิกฺขมิตฺวา ถูปาราเม ปพฺพชิตานํ ทฺวินฺนํ กุลปุตฺตานํ วุฑฺฒตโร วิย.

อิติ โสณกปจฺเจกพุทฺโธ อฏฺ สมณภทฺรกานิ กเถสิ. ตโต อุตฺตรึ ปน สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ อปริมาณานิ สมณภทฺรกานิ เอส กเถตุํ สมตฺโถเยว. ราชา ปน กามาภิรตตฺตา ตสฺส กถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มยฺหํ สมณภทฺรเกหิ อตฺโถ นตฺถี’’ติ อตฺตโน กามาธิมุตฺตตํ ปกาเสนฺโต อาห –

๒๐.

‘‘พหูนิ สมณภทฺรานิ, เย ตฺวํ ภิกฺขุ ปสํสสิ;

อหฺจ คิทฺโธ กาเมสุ, กถํ กาหามิ โสณก.

๒๑.

‘‘ปิยา เม มานุสา กามา, อโถ ทิพฺยาปิ เม ปิยา;

อถ เกน นุ วณฺเณน, อุโภ โลเก ลภามเส’’ติ.

ตตฺถ วณฺเณนาติ การเณน.

อถ นํ ปจฺเจกพุทฺโธ อาห –

๒๒.

‘‘กาเม คิทฺธา กามรตา, กาเมสุ อธิมุจฺจิตา;

นรา ปาปานิ กตฺวาน, อุปปชฺชนฺติ ทุคฺคตึ.

๒๓.

‘‘เย จ กาเม ปหนฺตฺวาน, นิกฺขนฺตา อกุโตภยา;

เอโกทิภาวาธิคตา, น เต คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

๒๔.

‘‘อุปมํ เต กริสฺสามิ, ตํ สุโณหิ อรินฺทม;

อุปมาย มิเธกจฺเจ, อตฺถํ ชานนฺติ ปณฺฑิตา.

๒๕.

‘‘คงฺคาย กุณปํ ทิสฺวา, วุยฺหมานํ มหณฺณเว;

วายโส สมจินฺเตสิ, อปฺปปฺโ อเจตโส.

๒๖.

‘‘ยานฺจ วติทํ ลทฺธํ, ภกฺโข จายํ อนปฺปโก;

ตตฺถ รตฺตึ ตตฺถ ทิวา, ตตฺเถว นิรโต มโน.

๒๗.

‘‘ขาทํ นาคสฺส มํสานิ, ปิวํ ภาคีรโถทกํ;

สมฺปสฺสํ วนเจตฺยานิ, น ปเลตฺถ วิหงฺคโม.

๒๘.

‘‘ตฺจ โอตรณี คงฺคา, ปมตฺตํ กุณเป รตํ;

สมุทฺทํ อชฺฌคาหาสิ, อคตี ยตฺถ ปกฺขินํ.

๒๙.

‘‘โส จ ภกฺขปริกฺขีโณ, อุทปตฺวา วิหงฺคโม;

น ปจฺฉโต น ปุรโต, นุตฺตรํ โนปิ ทกฺขิณํ.

๓๐.

‘‘ทีปํ โส นชฺฌคาคฺฉิ, อคตี ยตฺถ ปกฺขินํ;

โส จ ตตฺเถว ปาปตฺถ, ยถา ทุพฺพลโก ตถา.

๓๑.

‘‘ตฺจ สามุทฺทิกา มจฺฉา, กุมฺภีลา มกรา สุสู;

ปสยฺหการา ขาทึสุ, ผนฺทมานํ วิปกฺขกํ.

๓๒.

‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, เย จฺเ กามโภคิโน;

คิทฺธา เจ น วมิสฺสนฺติ, กากปฺาว เต วิทู.

๓๓.

‘‘เอสา เต อุปมา ราช, อตฺถสนฺทสฺสนี กตา;

ตฺวฺจ ปฺายเส เตน, ยทิ กาหสิ วา น วา’’ติ.

ตตฺถ ปาปานีติ, มหาราช, ตฺวํ กามคิทฺโธ, นรา จ กาเม นิสฺสาย กายทุจฺจริตาทีนิ ปาปานิ กตฺวา ยตฺถ สุปินนฺเตปิ ทิพฺพา จ มานุสิกา จ กามา น ลพฺภนฺติ, ตํ ทุคฺคตึ อุปปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. ปหนฺตฺวานาติ เขฬปิณฺฑํ วิย ปหาย. อกุโตภยาติ ราคาทีสุ กุโตจิ อนาคตภยา. เอโกทิภาวาธิคตาติ เอโกทิภาวํ เอกวิหาริกตํ อธิคตา. น เตติ เต เอวรูปา ปพฺพชิตา ทุคฺคตึ น คจฺฉนฺติ.

อุปมํ เตติ, มหาราช, ทิพฺพมานุสเก กาเม ปตฺเถนฺตสฺส หตฺถิกุณเป ปฏิพทฺธกากสทิสสฺส ตว เอกํ อุปมํ กริสฺสามิ, ตํ สุโณหีติ อตฺโถ. กุณปนฺติ หตฺถิกเฬวรํ. มหณฺณเวติ คมฺภีรปุถุเล อุทเก. เอโก กิร มหาวารโณ คงฺคาตีเร จรนฺโต คงฺคายํ ปติตฺวา อุตฺตริตุํ อสกฺเกนฺโต ตตฺเถว มโต คงฺคาย วุยฺหิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. วายโสติ อากาเสน คจฺฉนฺโต เอโก กาโก. ยานฺจ วติทนฺติ โส เอวํ จินฺเตตฺวา ตตฺถ นิลียิตฺวา ‘‘อิทํ มยา หตฺถิยานํ ลทฺธํ, เอตฺถ นิลีโน สุขํ จริสฺสามิ, อยเมว จ เม อนปฺปโก ภกฺโข ภวิสฺสติ, อิทานิ มยา อฺตฺถ คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ สนฺนิฏฺานมกาสิ. ตตฺถ รตฺตินฺติ ตตฺถ รตฺติฺจ ทิวา จ ตตฺเถว มโน อภิรโต อโหสิ. น ปเลตฺถาติ น อุปฺปติตฺวา ปกฺกามิ.

โอตรณีติ สมุทฺทาภิมุขี โอตรมานา. ‘‘โอหาริณี’’ติปิ ปาโ, สา สมุทฺทาภิมุขี อวหาริณีติ อตฺโถ. อคตี ยตฺถาติ สมุทฺทมชฺฌํ สนฺธายาห. ภกฺขปริกฺขีโณติ ปริกฺขีณภกฺโข. อุทปตฺวาติ ขีเณ จมฺเม จ มํเส จ อฏฺิสงฺฆาโต อูมิเวเคน ภินฺโน อุทเก นิมุชฺชิ. อถ โส กาโก อุทเก ปติฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อุปฺปติ, เอวํ อุปฺปติตฺวาติ อตฺโถ. อคตี ยตฺถ ปกฺขินนฺติ ยสฺมึ สมุทฺทมชฺเฌ ปกฺขีนํ อคติ, ตตฺถ โส เอวํ อุปฺปติโต ปจฺฉิมํ ทิสํ คนฺตฺวา ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา ปุรตฺถิมํ, ตโต อุตฺตรํ, ตโต ทกฺขิณนฺติ จตสฺโสปิ ทิสา คนฺตฺวา อตฺตโน ปติฏฺานํ น อชฺฌคา นาคฺฉีติ อตฺโถ. อถ วา วายโส เอวํ อุปฺปติตฺวา ปจฺฉิมาทีสุ เอเกกํ ทิสํ อาคฺฉิ, ทีปํ ปน นชฺฌาคมาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปาปตฺถาติ ปปติโต. ยถา ทุพฺพลโกติ ยถา ทุพฺพลโก ปเตยฺย, ตเถว ปติโต. สุสูติ สุสุนามกา จณฺฑมจฺฉา. ปสยฺหการาติ อนิจฺฉมานกํเยว พลกฺกาเรน. วิปกฺขกนฺติ วิทฺธสฺตปกฺขกํ.

คิทฺธา เจ น วมิสฺสนฺตีติ ยทิ คิทฺธา หุตฺวา กาเม น วมิสฺสนฺติ, น ฉฑฺเฑสฺสนฺติ. กากปฺาว เตติ กากสฺส สมานปฺา อิติ เต พุทฺธาทโย ปณฺฑิตา วิทู วิทนฺติ, ชานนฺตีติ อตฺโถ. อตฺถสนฺทสฺสนีติ อตฺถปฺปกาสิกา. ตฺวฺจ ปฺายเสติ ตฺวฺจ ปฺายิสฺสสิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, มยา หิตกาเมน ตว โอวาโท ทินฺโน, ตํ ปน ตฺวํ ยทิ กาหสิ, เทวโลเก นิพฺพตฺติสฺสสิ, ยทิ น กาหสิ, กามปงฺเก นิมุคฺโค ชีวิตปริโยสาเน นิรเย นิพฺพตฺติสฺสสีติ เอวํ ตฺวเมว เตน การเณน วา อการเณน วา สคฺเค วา นิรเย วา ปฺายิสฺสสิ. อหํ ปน สพฺพภเวหิ มุตฺโต อปฺปฏิสนฺธิโกติ.

อิมํ ปน โอวาทํ เทนฺเตน ปจฺเจกพุทฺเธน นที ทสฺสิตา, ตาย วุยฺหมานํ หตฺถิกุณปํ ทสฺสิตํ, กุณปขาทโก กาโก ทสฺสิโต, ตสฺส กุณปํ ขาทิตฺวา ปานียปิวนกาโล ทสฺสิโต, รมณียวนสณฺฑทสฺสนกาโล ทสฺสิโต, กุณปสฺส นทิยา วุยฺหมานสฺส สมุทฺทปเวโส ทสฺสิโต, สมุทฺทมชฺเฌ กากสฺส หตฺถิกุณเป ปติฏฺํ อลภิตฺวา วินาสํ ปตฺตกาโล ทสฺสิโต. ตตฺถ นที วิย อนมตคฺโค สํสาโร ทฏฺพฺโพ, นทิยา วุยฺหมานํ หตฺถิกุณปํ วิย สํสาเร ปฺจ กามคุณา, กาโก วิย พาลปุถุชฺชโน, กากสฺส กุณปํ ขาทิตฺวา ปานียปิวนกาโล วิย ปุถุชฺชนสฺส กามคุเณ ปริภุฺชิตฺวา โสมนสฺสิกกาโล, กากสฺส กุณเป ลคฺคสฺเสว รมณียวนสณฺฑทสฺสนํ วิย ปุถุชฺชนสฺส กามคุเณสุ ลคฺคสฺเสว สวนวเสน อฏฺตึสารมฺมณทสฺสนํ, กุณเป สมุทฺทํ ปวิฏฺเ กากสฺส ปติฏฺํ ลภิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส วินาสํ ปตฺตกาโล วิย พาลปุถุชฺชนสฺส กามคุณคิทฺธสฺส ปาปปรายณสฺส กุสลธมฺเม ปติฏฺํ ลภิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส มหานิรเย มหาวินาสปตฺติ ทฏฺพฺพาติ.

เอวมสฺส โส อิมาย อุปมาย โอวาทํ ทตฺวา อิทานิ ตเมว โอวาทํ ถิรํ กตฺวา ปติฏฺเปตุํ คาถมาห –

๓๔.

‘‘เอกวาจมฺปิ ทฺวิวาจํ, ภเณยฺย อนุกมฺปโก;

ตตุตฺตรึ น ภาเสยฺย, ทาโสวยฺยสฺส สนฺติเก’’ติ.

ตตฺถ น ภาเสยฺยาติ วจนํ อคฺคณฺหนฺตสฺส หิ ตโต อุตฺตรึ ภาสมาโน สามิกสฺส สนฺติเก ทาโส วิย โหติ. ทาโส หิ สามิเก กถํ คณฺหนฺเตปิ อคฺคณฺหนฺเตปิ กเถติเยว. เตน วุตฺตํ ‘‘ตตุตฺตรึ น ภาเสยฺยา’’ติ.

๓๕.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, โสณโก อมิตพุทฺธิมา;

เวหาเส อนฺตลิกฺขสฺมึ, อนุสาสิตฺวาน ขตฺติย’’นฺติ. –

อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา.

ตตฺถ อิทํ วตฺวานาติ, ภิกฺขเว, โส ปจฺเจกพุทฺโธ อมิตาย โลกุตฺตรพุทฺธิยา อมิตพุทฺธิมา อิทํ วตฺวา อิทฺธิยา อุปฺปติตฺวา ‘‘สเจ ปพฺพชิสฺสสิ, ตเวว, โน เจ ปพฺพชิสฺสสิ, ตเวว, ทินฺโน เต มยา โอวาโท, อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ เอวํ อนุสาสิตฺวาน ขตฺติยํ ปกฺกามิ.

โพธิสตฺโตปิ ตํ อากาเสน คจฺฉนฺตํ ยาว ทสฺสนปถา โอโลเกนฺโต ตฺวา ตสฺมึ จกฺขุปเถ อติกฺกนฺเต สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ หีนชจฺโจ สมาโน อสมฺภินฺเน ขตฺติยวํเส ชาตสฺส มม มตฺถเก อตฺตโน ปาทรชํ โอกิรนฺโต อากาสํ อุปฺปติตฺวา คโต, มยาปิ อชฺเชว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา ปพฺพชิตุกาโม คาถาทฺวยมาห –

๓๖.

‘‘โก นุเม ราชกตฺตาโร, สุทฺทา เวยฺยตฺตมาคตา;

รชฺชํ นิยฺยาทยิสฺสามิ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก.

๓๗.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวค’’นฺติ.

ตตฺถ โก นุเมติ กุหึ นุ อิเม. ราชกตฺตาโรติ เย ราชารหํ อภิสิฺจิตฺวา ราชานํ กโรนฺติ. สุทฺทา เวยฺยตฺตมาคตาติ สุทฺทา จ เย จ อฺเ พฺยตฺตภาวํ อาคตา มุขมงฺคลิกา. รชฺเชน มตฺถิโกติ รชฺเชน อตฺถิโก. โก ชฺา มรณํ สุเวติ มรณํ อชฺช วา สุเว วาติ อิทํ โก ชานิตุํ สมตฺโถ.

เอวํ รชฺชํ นิยฺยาเทนฺตสฺส สุตฺวา อมจฺจา อาหํสุ –

๓๘.

‘‘อตฺถิ เต ทหโร ปุตฺโต, ทีฆาวุ รฏฺวฑฺฒโน;

ตํ รชฺเช อภิสิฺจสฺสุ, โส โน ราชา ภวิสฺสตี’’ติ.

ตโต ปรํ รฺา วุตฺตคาถมาทึ กตฺวา อุทานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –

๓๙.

‘‘ขิปฺปํ กุมารมาเนถ, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ;

ตํ รชฺเช อภิสิฺจิสฺสํ, โส โว ราชา ภวิสฺสติ.

๔๐.

‘‘ตโต กุมารมาเนสุํ, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ;

ตํ ทิสฺวา อาลปี ราชา, เอกปุตฺตํ มโนรมํ.

๔๑.

‘‘สฏฺิ คามสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๔๒.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโก ว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๔๓.

‘‘สฏฺิ นาคสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

สุวณฺณกจฺฉา มาตงฺคา, เหมกปฺปนวาสสา.

๔๔.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยภิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๔๕.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๔๖.

‘‘สฏฺิ อสฺสสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

อาชานียาว ชาติยา, สินฺธวา สีฆวาหิโน.

๔๗.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยภิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๔๘.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๔๙.

‘‘สฏฺิ รถสหสฺสานิ, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๕๐.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยภิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๕๑.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๕๒.

‘‘สฏฺิ เธนุสหสฺสานิ, โรหฺา ปุงฺควูสภา;

ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๕๓.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๕๔.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

วิจิตฺรวตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๕๕.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๕๖.

‘‘ทหรสฺเสว เม ตาต, มาตา มตาติ เม สุตํ;

ตยา วินา อหํ ตาต, ชีวิตุมฺปิ น อุสฺสเห.

๕๗.

‘‘ยถา อารฺกํ นาคํ, โปโต อนฺเวติ ปจฺฉโต;

เชสฺสนฺตํ คิริทุคฺเคสุ, สเมสุ วิสเมสุ จ.

๕๘.

‘‘เอวํ ตํ อนุคจฺฉามิ, ปตฺตมาทาย ปจฺฉโต;

สุภโร เต ภวิสฺสามิ, น เต เหสฺสามิ ทุพฺภโร.

๕๙.

‘‘ยถา สามุทฺทิกํ นาวํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

โวหาโร ตตฺถ คณฺเหยฺย, วาณิชา พฺยสนี สิยา.

๖๐.

‘‘เอวเมวายํ ปุตฺตกลิ, อนฺตรายกโร มม;

อิมํ กุมารํ ปาเปถ, ปาสาทํ รติวฑฺฒนํ.

๖๑.

‘‘ตตฺถ กมฺพุสหตฺถาโย, ยถา สกฺกํว อจฺฉรา;

ตา นํ ตตฺถ รเมสฺสนฺติ, ตาหิ เจโส รมิสฺสติ.

๖๒.

‘‘ตโต กุมารํ ปาเปสุํ, ปาสาทํ รติวฑฺฒนํ;

ตํ ทิสฺวา อวจุํ กฺา, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ.

๖๓.

‘‘เทวตานุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ.

๖๔.

‘‘นมฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

กาสิรฺโ อหํ ปุตฺโต, ทีฆาวุ รฏฺวฑฺฒโน;

มมํ ภรถ ภทฺทํ โว, อหํ ภตฺตา ภวามิ โว.

๖๕.

‘‘ตํ ตตฺถ อวจุํ กฺา, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ;

กุหึ ราชา อนุปฺปตฺโต, อิโต ราชา กุหึ คโต.

๖๖.

‘‘ปงฺกํ ราชา อติกฺกนฺโต, ถเล ราชา ปติฏฺิโต;

อกณฺฑกํ อคหนํ, ปฏิปนฺโน มหาปถํ.

๖๗.

‘‘อหฺจ ปฏิปนฺโนสฺมิ, มคฺคํ ทุคฺคติคามินํ;

สกณฺฏกํ สคหนํ, เยน คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

๖๘.

‘‘ตสฺส เต สฺวาคตํ ราช, สีหสฺเสว คิริพฺพชํ;

อนุสาส มหาราช, ตฺวํ โน สพฺพาสมิสฺสโร’’ติ.

ตตฺถ ขิปฺปนฺติ เตน หิ นํ สีฆํ อาเนถ. อาลปีติ ‘‘สฏฺิ คามสหสฺสานี’’ติอาทีนิ วทนฺโต อาลปิ. สพฺพาลงฺการภูสิตาติ เต นาคา สพฺเพหิ สีสูปคาทีหิ อลงฺกาเรหิ ภูสิตา. เหมกปฺปนวาสสาติ สุวณฺณขจิเตน กปฺปเนน ปฏิจฺฉนฺนสรีรา. คามณีเยภีติ หตฺถาจริเยหิ. อาชานียาวาติ การณาการณวิชานนกา ว. ชาติยาติ สินฺธวชาติยา สินฺธุรฏฺเ สินฺธุนทีตีเร ชาตา. คามณีเยภีติ อสฺสาจริเยหิ. อิลฺลิยา จาปธาริภีติ อิลฺลิยาวุธฺจ จาปาวุธฺจ ธาเรนฺเตหิ. ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆาติ ทีปิจมฺมพฺยคฺฆจมฺมปริวารา. คามณีเยภีติ รถิเกหิ. วมฺมิภีติ สนฺนทฺธวมฺเมหิ. โรหฺาติ รตฺตวณฺณา. ปุงฺควูสภาติ อุสภสงฺขาเตน เชฏฺกปุงฺคเวน สมนฺนาคตา.

ทหรสฺเสว เม, ตาตาติ อถ นํ กุมาโร, ตาต, มม ทหรสฺเสว สโต มาตา มตา อิติ มยา สุตํ, โสหํ ตยา วินา ชีวิตุํ น สกฺขิสฺสามีติ อาห. โปโตติ ตรุณโปตโก. เชสฺสนฺตนฺติ วิจรนฺตํ. สามุทฺทิกนฺติ สมุทฺเท วิจรนฺตํ. ธเนสินนฺติ ธนํ ปริเยสนฺตานํ. โวหาโรติ วิจิตฺรโวหาโร เหฏฺากฑฺฒนโก วาฬมจฺโฉ วา อุทกรกฺขโส วา อาวฏฺโฏ วา. ตตฺถาติ ตสฺมึ สมุทฺเท. วาณิชา พฺยสนี สิยาติ อถ เต วาณิชา พฺยสนปฺปตฺตา ภเวยฺยุํ. ‘‘สิยฺยุนฺติ’’ปิ ปาโ. ปุตฺตกลีติ ปุตฺตลามโก ปุตฺตกาฬกณฺณี. กุมาโร ปุน กิฺจิ วตฺตุํ น วิสหิ. อถ ราชา อมจฺเจ อาณาเปนฺโต ‘‘อิม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺพุสหตฺถาโยติ กมฺพุสํ วุจฺจติ สุวณฺณํ, สุวณฺณาภรณภูสิตหตฺถาโยติ อตฺโถ. ยถาติ ยถา อิจฺฉนฺติ, ตถา กโรนฺติ.

เอวํ วตฺวา มหาสตฺโต ตตฺเถว ตํ อภิสิฺจาเปตฺวา นครํ ปาเหสิ. สยํ ปน เอกโกว อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา รมณีเย ภูมิภาเค ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วนมูลผลาหาโร ยาเปสิ. มหาชโนปิ กุมารํ พาราณสึ ปเวเสสิ. โส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ‘‘ตโต’’ติอาทิมาห. ตํ ทิสฺวา อวจุํ กฺาติ ตํ มหนฺเตน ปริวาเรน สิริโสภคฺเคน อาคตํ ทิสฺวา ‘‘อสุโก นาเมโส’’ติ อชานนฺติโยว ตา นาฏกิตฺถิโย คนฺตฺวา อโวจุํ. มมํ ภรถาติ มมํ อิจฺฉถ. ปงฺกนฺติ ราคาทิกิเลสปงฺกํ. ถเลติ ปพฺพชฺชาย. อกณฺฏกนฺติ ราคกณฺฏกาทิวิรหิตํ. เตเหว คหเนหิ อคหนํ. มหาปถนฺติ สคฺคโมกฺขคามินํ มหามคฺคํ ปฏิปนฺโน. เยนาติ เยน มิจฺฉามคฺเคน ทุคฺคตึ คจฺฉนฺติ, ตํ อหํ ปฏิปนฺโนติ วทติ. ตโต ตา จินฺเตสุํ – ‘‘ราชา ตาว อมฺเห ปหาย ปพฺพชิโต, อยมฺปิ กาเมสุ วิรตฺตจิตฺตรูโป, สเจ นํ นาภิรเมสฺสาม, นิกฺขมิตฺวา ปพฺพเชยฺย, อภิรมนาการมสฺส กริสฺสามา’’ติ. อถ นํ อภินนฺทนฺติโย โอสานคาถมาหํสุ. ตตฺถ คิริพฺพชนฺติ สีหโปตกานํ วสนฏฺานํ กฺจนคุหํ เกสรสีหสฺส อาคตํ วิย ตสฺส ตว อาคตํ สุอาคตํ. ตฺวํ โนติ ตฺวํ สพฺพาสมฺปิ อมฺหากํ อิสฺสโร, สามีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา สพฺพา ตูริยานิ ปคฺคณฺหึสุ, นานปฺปการานิ นจฺจคีตานิ ปวตฺตึสุ. ยโส มหา อโหสิ, โส ยสมทมตฺโต ปิตรํ น สริ, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา ยถากมฺมํ คโต. โพธิสตฺโตปิ ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา อายุปริโยสาเน พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปจฺเจกพุทฺโธ ปรินิพฺพายิ, ปุตฺโต ราหุลกุมาโร อโหสิ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, อรินฺทมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

โสณกชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๐] ๒. สํกิจฺจชาตกวณฺณนา

ทิสฺวา นิสินฺนํ ราชานนฺติ อิทํ สตฺถา ชีวกมฺพวเน วิหรนฺโต อชาตสตฺตุสฺส ปิตุฆาตกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ เทวทตฺตํ นิสฺสาย ตสฺส วจเนน ปิตรํ ฆาตาเปตฺวา เทวทตฺตสฺส สงฺฆเภทาวสาเน ภินฺนปริสสฺส โรเค อุปฺปนฺเน ‘‘ตถาคตํ ขมาเปสฺสามี’’ติ มฺจสิวิกาย สาวตฺถึ คจฺฉนฺตสฺส เชตวนทฺวาเร ปถวึ ปวิฏฺภาวํ สุตฺวา ‘‘เทวทตฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิปกฺโข หุตฺวา ปถวึ ปวิสิตฺวา อวีจิปรายโณ ชาโต, มยาปิ ตํ นิสฺสาย ปิตา ธมฺมิโก ธมฺมราชา ฆาติโต, อหมฺปิ นุ โข ปถวึ ปวิสิสฺสามี’’ติ ภีโต รชฺชสิริยา จิตฺตสฺสาทํ น ลภิ, ‘‘โถกํ นิทฺทายิสฺสามี’’ติ นิทฺทํ อุปคตมตฺโตว นวโยชนพหลายํ อยมหาปถวิยํ ปาเตตฺวา อยสูเลหิ โกฏฺฏิยมาโน วิย สุนเขหิ ลุฺชิตฺวา ขชฺชมาโน วิย เภรวรเวน วิรวนฺโต อุฏฺาติ.

อเถกทิวสํ โกมุทิยา จาตุมาสินิยา อมจฺจคณปริวุโต อตฺตโน ยสํ โอโลเกตฺวา ‘‘มม ปิตุ ยโส อิโต มหนฺตตโร, ตถารูปํ นาม อหํ ธมฺมราชานํ เทวทตฺตํ นิสฺสาย ฆาเตสิ’’นฺติ จินฺเตสิ. ตสฺเสวํ จินฺเตนฺตสฺเสว กาเย ฑาโห อุปฺปชฺชิ, สกลสรีรํ เสทตินฺตํ อโหสิ. ตโต ‘‘โก นุ โข เม อิมํ ภยํ วิโนเทตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เปตฺวา ทสพลํ อฺโ นตฺถี’’ติ ตฺวา ‘‘อหํ ตถาคตสฺส มหาปราโธ, โก นุ โข มํ เนตฺวา ทสฺเสสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต ‘‘น อฺโ โกจิ อฺตฺร ชีวกา’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ตสฺส คเหตฺวา คมนูปายํ กโรนฺโต ‘‘รมณียา วต, โภ, โทสินา รตฺตี’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา ‘‘กํ นุ ขฺวชฺช สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปยิรุปาเสยฺยามี’’ติ วตฺวา ปูรณสาวกาทีหิ ปูรณาทีนํ คุเณ กถิเต เตสํ วจนํ อนาทิยิตฺวา ชีวกํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา เตน ตถาคตสฺส คุณํ กเถตฺวา ‘‘ตํ เทโว ภควนฺตํ ปยิรุปาสตู’’ติ วุตฺโต หตฺถิยานานิ กปฺปาเปตฺวา ชีวกมฺพวนํ คนฺตฺวา ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ตถาคเตน กตปฏิสนฺถาโร สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุจฺฉิตฺวา ตถาคตสฺส มธุรํ สามฺผลธมฺมเทสนํ (ที. นิ. ๑.๑๕๐ อาทโย) สุตฺวา สุตฺตปริโยสาเน อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทิตฺวา ตถาคตํ ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ. โส ตโต ปฏฺาย ทานํ เทนฺโต สีลํ รกฺขนฺโต ตถาคเตน สทฺธึ สํสคฺคํ กตฺวา มธุรธมฺมกถํ สุณนฺโต กลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน ปหีนภโย วิคตโลมหํโส หุตฺวา จิตฺตสฺสาทํ ปฏิลภิตฺวา สุเขน จตฺตาโร อิริยาปเถ กปฺเปสิ.

อเถกทิวสํ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อชาตสตฺตุ ปิตุฆาตกมฺมํ กตฺวา ภยปฺปตฺโต อโหสิ, รชฺชสิรึ นิสฺสาย จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺโต สพฺพอิริยาปเถสุ ทุกฺขํ อนุโภติ, โส ทานิ ตถาคตํ อาคมฺม กลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน วิคตภโย อิสฺสริยสุขํ อนุโภตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส ปิตุฆาตกมฺมํ กตฺวา มํ นิสฺสาย สุขํ สยี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรนฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมารํ นาม ปุตฺตํ ปฏิลภิ. ตทา โพธิสตฺโต ปุโรหิตสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ชาตสฺเสวสฺส ‘‘สํกิจฺจกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ ราชนิเวสเน เอกโตว วฑฺฒึสุ. อฺมฺํ สหายกา หุตฺวา วยปฺปตฺตา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคมึสุ. อถ ราชา ปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. โพธิสตฺโตปิ อุปราชสฺเสว สนฺติเก อโหสิ. อเถกทิวสํ อุปราชา ปิตุ อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺตสฺส มหนฺตํ ยสํ ทิสฺวา ตสฺมึ โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มยฺหํ ปิตา มม ภาติกสทิโส, สเจ เอตสฺส มรณํ โอโลเกสฺสามิ, มหลฺลกกาเล รชฺชํ ลภิสฺสามิ, ตทา ลทฺเธนปิ รชฺเชน โก อตฺโถ, ปิตรํ มาเรตฺวา รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา โพธิสตฺตสฺส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. โพธิสตฺโต, ‘‘สมฺม, ปิตุฆาตกมฺมํ นาม ภาริยํ, นิรยมคฺโค, น สกฺกา เอตํ กาตุํ, มา กรี’’ติ ปฏิพาหิ. โส ปุนปฺปุนมฺปิ กเถตฺวา ยาวตติยํ เตน ปฏิพาหิโต ปาทมูลิเกหิ สทฺธึ มนฺเตสิ. เตปิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รฺโ มารณูปายํ วีมํสึสุ. โพธิสตฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘นาหํ เอเตหิ สทฺธึ เอกโต ภวิสฺสามี’’ติ มาตาปิตโร อนาปุจฺฉิตฺวาว อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร วิหาสิ.

ราชกุมาโรปิ ตสฺมึ คเต ปิตรํ มาราเปตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิ. ‘‘สํกิจฺจกุมาโร กิร อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา พหู กุลปุตฺตา นิกฺขมิตฺวา ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ. โส มหตา อิสิคเณน ปริวุโต ตตฺถ วสิ. สพฺเพปิ สมาปตฺติลาภิโนเยว. ราชาปิ ปิตรํ มาเรตฺวา อปฺปมตฺตกํเยว กาลํ รชฺชสุขํ อนุภวิตฺวา ตโต ปฏฺาย ภีโต จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺโต นิรเย กมฺมกรณปฺปตฺโต วิย อโหสิ. โส โพธิสตฺตํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘สหาโย เม ‘ปิตุฆาตกมฺมํ ภาริยํ, มา กรี’ติ ปฏิเสเธตฺวา มํ อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตานํ นิทฺโทสํ กตฺวา ปลายิ. สเจ โส อิธ อภวิสฺส, น เม ปิตุฆาตกมฺมํ กาตุํ อทสฺส, อิทมฺปิ เม ภยํ หเรยฺย, กหํ นุ โข โส เอตรหิ วิหรติ. สเจ ตสฺส วสนฏฺานํ ชาเนยฺยํ, ปกฺโกสาเปยฺยํ, โก นุ โข เม ตสฺส วสนฏฺานํ อาโรเจยฺยา’’ติ จินฺเตสิ. โส ตโต ปฏฺาย อนฺเตปุเร จ ราชสภายฺจ โพธิสตฺตสฺเสว วณฺณํ ภาสติ.

เอวํ อทฺธาเน คเต โพธิสตฺโต ‘‘ราชา มํ สรติ, มยา ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ตํ นิพฺภยํ กตฺวา อาคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปณฺณาส วสฺสานิ หิมวนฺเต วสิตฺวา ปฺจสตตาปสปริวุโต อากาเสนาคนฺตฺวา ทายปสฺเส นาม อุยฺยาเน โอตริตฺวา อิสิคณปริวุโต สิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. อุยฺยานปาโล ตํ ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, คณสตฺถา โกนาโม’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สํกิจฺจปณฺฑิโต นามา’’ติ จ สุตฺวา สยมฺปิ สฺชานิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ยาวาหํ ราชานํ อาเนมิ, ตาว อิเธว โหถ, อมฺหากํ ราชา ตุมฺเห ทฏฺุกาโม’’ติ วตฺวา เวเคน ราชกุลํ คนฺตฺวา ตสฺส อาคตภาวํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กตฺตพฺพยุตฺตกํ อุปหารํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๙.

‘‘ทิสฺวา นิสินฺนํ ราชานํ, พฺรหฺมทตฺตํ รเถสภํ;

อถสฺส ปฏิเวเทสิ, ยสฺสาสิ อนุกมฺปโก.

๗๐.

‘‘สํกิจฺจายํ อนุปฺปตฺโต, อิสีนํ สาธุสมฺมโต;

ตรมานรูโป นิยฺยาหิ, ขิปฺปํ ปสฺส มเหสินํ.

๗๑.

‘‘ตโต จ ราชา ตรมาโน, ยุตฺตมารุยฺห สนฺทนํ;

มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺโห, อคมาสิ รเถสโภ.

๗๒.

‘‘นิกฺขิปฺป ปฺจ กกุธานิ, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;

วาลพีชนิมุณฺหีสํ, ขคฺคํ ฉตฺตฺจุปาหนํ.

๗๓.

‘‘โอรุยฺห ราชา ยานมฺหา, ปยิตฺวา ปฏิจฺฉทํ;

อาสีนํ ทายปสฺสสฺมึ, สํกิจฺจมุปสงฺกมิ.

๗๔.

‘‘อุปสงฺกมิตฺวา โส ราชา, สมฺโมทิ อิสินา สห;

ตํ กถํ วีติสาเรตฺวา, เอกมนฺตํ อุปาวิสิ.

๗๕.

‘‘เอกมนฺตํ นิสินฺโนว, อถ กาลํ อมฺถ;

ตโต ปาปานิ กมฺมานิ, ปุจฺฉิตุํ ปฏิปชฺชถ.

๗๖.

‘‘อิสึ ปุจฺฉาม สํกิจฺจํ, อิสีนํ สาธุสมฺมตํ;

อาสีนํ ทายปสฺสสฺมึ, อิสิสงฺฆปุรกฺขตํ.

๗๗.

‘‘กํ คตึ เปจฺจ คจฺฉนฺติ, นรา ธมฺมาติจาริโน;

อติจิณฺโณ มยา ธมฺโม, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตตฺถ ทิสฺวาติ, ภิกฺขเว, โส อุยฺยานปาโล ราชานํ ราชสภายํ นิสินฺนํ ทิสฺวา อถสฺส ปฏิเวเทสิ, ‘‘ยสฺสาสี’’ติ วทนฺโต อาโรเจสีติ อตฺโถ. ยสฺสาสีติ, มหาราช, ยสฺส ตฺวํ อนุกมฺปโก มุทุจิตฺโต อโหสิ, ยสฺส อภิณฺหํ วณฺณํ ปยิรุทาหาสิ, โส อยํ สํกิจฺโจ อิสีนํ อนฺตเร สาธุ ลทฺธโกติ สมฺมโต อนุปฺปตฺโต ตว อุยฺยาเน สิลาปฏฺเฏ อิสิคณปริวุโต กฺจนปฏิมา วิย นิสินฺโน. ตรมานรูโปติ, มหาราช, ปพฺพชิตา นาม กุเล วา คเณ วา อลคฺคา ตุมฺหากํ คจฺฉนฺตานฺเว ปกฺกเมยฺยุํ, ตสฺมา ตรมานรูโป ขิปฺปํ นิยฺยาหิ, มหนฺตานํ สีลาทิคุณานํ เอสิตตฺตา ปสฺส มเหสินํ.

ตโตติ, ภิกฺขเว, โส ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตโต ตสฺส วจนโต อนนฺตรเมว. นิกฺขิปฺปาติ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส กิร อุยฺยานทฺวารํ ปตฺวาว เอตทโหสิ – ‘‘ปพฺพชิตา นาม ครุฏฺานิยา, สํกิจฺจตาปสสฺส สนฺติกํ อุทฺธตเวเสน คนฺตุํ อยุตฺต’’นฺติ. โส มณิจิตฺตสุวณฺณทณฺฑํ วาลพีชนึ, กฺจนมยํ อุณฺหีสปฏฺฏํ, สุปริกฺขิตฺตํ มงฺคลขคฺคํ, เสตจฺฉตฺตํ, โสวณฺณปาทุกาติ อิมานิ ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ อปเนสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิกฺขิปฺปา’’ติ. ปฏิจฺฉทนฺติ ตเมว ราชกกุธภณฺฑํ ปยิตฺวา ภณฺฑาคาริกสฺส หตฺเถ ทตฺวา. ทายปสฺสสฺมินฺติ เอวํนามเก อุยฺยาเน. อถ กาลํ อมฺถาติ อถ โส อิทานิ เม ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ กาโลติ ชานิ. ปาฬิยํ ปน ‘‘ยถากาล’’นฺติ อาคตํ, ตสฺส กาลานุรูเปน ปฺหปุจฺฉนํ อมฺถาติ อตฺโถ. ปฏิปชฺชถาติ ปฏิปชฺชิ. เปจฺจาติ ปฏิคนฺตฺวา, ปรโลกสฺส วา นาเมตํ, ตสฺมา ปรโลเกติ อตฺโถ. มยาติ, ภนฺเต, มยา สุจริตธมฺโม อติจิณฺโณ ปิตุฆาตกมฺมํ กตํ, ตํ เม อกฺขาหิ, กํ คตึ ปิตุฆาตกา คจฺฉนฺติ, กตรสฺมึ นิรเย ปจฺจนฺตีติ ปุจฺฉติ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘เตน หิ, มหาราช, สุโณหี’’ติ วตฺวา โอวาทํ ตาว อทาสิ. สตฺถา ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห –

๗๘.

‘‘อิสี อวจ สํกิจฺโจ, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒนํ;

อาสีนํ ทายปสฺสสฺมึ, มหาราช สุโณหิ เม.

๗๙.

‘‘อุปฺปเถน วชนฺตสฺส, โย มคฺคมนุสาสติ;

ตสฺส เจ วจนํ กยิรา, นาสฺส มคฺเคยฺย กณฺฏโก.

๘๐.

‘‘อธมฺมํ ปฏิปนฺนสฺส, โย ธมฺมมนุสาสติ;

ตสฺส เจ วจนํ กยิรา, น โส คจฺเฉยฺย ทุคฺคติ’’นฺติ.

ตตฺถ อุปฺปเถนาติ โจเรหิ ปริยุฏฺิตมคฺเคน. มคฺคมนุสาสตีติ เขมมคฺคํ อกฺขาติ. นาสฺส มคฺเคยฺย กณฺฏโกติ ตสฺส โอวาทกรสฺส ปุริสสฺส มุขํ โจรกณฺฏโก น ปสฺเสยฺย. โย ธมฺมนฺติ โย สุจริตธมฺมํ. น โสติ โส ปุริโส นิรยาทิเภทํ ทุคฺคตึ น คจฺเฉยฺย. อุปฺปถสทิโส หิ, มหาราช, อธมฺโม, เขมมคฺคสทิโส สุจริตธมฺโม, ตฺวํ ปน ปุพฺเพ ‘‘ปิตรํ ฆาเตตฺวา ราชา โหมี’’ติ มยฺหํ กเถตฺวา มยา ปฏิพาหิโต มม วจนํ อกตฺวา ปิตรํ ฆาเตตฺวา อิทานิ โสจสิ, ปณฺฑิตานํ โอวาทํ อกโรนฺโต นาม โจรมคฺคปฏิปนฺโน วิย มหาพฺยสนํ ปาปุณาตีติ.

เอวมสฺส โอวาทํ ทตฺวา อุปริ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

๘๑.

‘‘ธมฺโม ปโถ มหาราช, อธมฺโม ปน อุปฺปโถ;

อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคตึ.

๘๒.

‘‘อธมฺมจาริโน ราช, นรา วิสมชีวิโน;

ยํ คตึ เปจฺจ คจฺฉนฺติ, นิรเย เต สุโณหิ เม.

๘๓.

‘‘สฺชีโว กาฬสุตฺโต จ, สงฺฆาโต ทฺเว จ โรรุวา;

อถาปโร มหาวีจิ, ตาปโน จ ปตาปโน.

๘๔.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ นิรยา, อกฺขาตา ทุรติกฺกมา;

อากิณฺณา ลุทฺทกมฺเมหิ, ปจฺเจกา โสฬสุสฺสทา.

๘๕.

‘‘กทริยตาปนา โฆรา, อจฺจิมนฺโต มหพฺภยา;

โลมหํสนรูปา จ, เภสฺมา ปฏิภยา ทุขา.

๘๖.

‘‘จตุกฺกณฺณา จตุทฺวารา, วิภตฺตา ภาคโส มิตา;

อโยปาการปริยนฺตา, อยสา ปฏิกุชฺชิตา.

๘๗.

‘‘เตสํ อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผุฏา ติฏฺนฺติ สพฺพทา.

๘๘.

‘‘เอเต ปตนฺติ นิรเย, อุทฺธํปาทา อวํสิรา;

อิสีนํ อติวตฺตาโร, สฺตานํ ตปสฺสินํ.

๘๙.

‘‘เต ภูนหุโน ปจฺจนฺติ, มจฺฉา พิลกตา ยถา;

สํวจฺฉเร อสงฺเขยฺเย, นรา กิพฺพิสการิโน.

๙๐.

‘‘ฑยฺหมาเนน คตฺเตน, นิจฺจํ สนฺตรพาหิรํ;

นิรยา นาธิคจฺฉนฺติ, ทฺวารํ นิกฺขมเนสิโน.

๙๑.

‘‘ปุรตฺถิเมน ธาวนฺติ, ตโต ธาวนฺติ ปจฺฉโต;

อุตฺตเรนปิ ธาวนฺติ, ตโต ธาวนฺติ ทกฺขิณํ;

ยํ ยฺหิ ทฺวารํ คจฺฉนฺติ, ตํ ตเทว ปิธียเร.

๙๒.

‘‘พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ, ชนา นิรยคามิโน;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ปตฺวา ทุกฺขํ อนปฺปกํ.

๙๓.

‘‘อาสีวิสํว กุปิตํ, เตชสฺสึ ทุรติกฺกมํ;

น สาธุรูเป อาสีเท, สฺตานํ ตปสฺสินํ.

๙๔.

‘‘อติกาโย มหิสฺสาโส, อชฺชุโน เกกกาธิโป;

สหสฺสพาหุ อุจฺฉินฺโน, อิสิมาสชฺช โคตมํ.

๙๕.

‘‘อรชํ รชสา วจฺฉํ, กิสํ อวกิริย ทณฺฑกี;

ตาโลว มูลโต ฉินฺโน, ส ราชา วิภวงฺคโต.

๙๖.

‘‘อุปหจฺจ มนํ มชฺโฌ, มาตงฺคสฺมึ ยสสฺสิเน;

สปาริสชฺโช อุจฺฉินฺโน, มชฺฌารฺํ ตทา อหุ.

๙๗.

‘‘กณฺหทีปายนาสชฺช, อิสึ อนฺธกเวณฺฑโย;

อฺโฺํ มุสลา หนฺตฺวา, สมฺปตฺตา ยมสาธนํ.

๙๘.

‘‘อถายํ อิสินา สตฺโต, อนฺตลิกฺขจโร ปุเร;

ปาเวกฺขิ ปถวึ เจจฺโจ, หีนตฺโต ปตฺตปริยายํ.

๙๙.

‘‘ตสฺมา หิ ฉนฺทาคมนํ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;

อทุฏฺจิตฺโต ภาเสยฺย, คิรํ สจฺจูปสํหิตํ.

๑๐๐.

‘‘มนสา เจ ปทุฏฺเน, โย นโร เปกฺขเต มุนึ;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, คนฺตา โส นิรยํ อโธ.

๑๐๑.

‘‘เย วุฑฺเฒ ปริภาสนฺติ, ผรุสูปกฺกมา ชนา;

อนปจฺจา อทายาทา, ตาลวตฺถุ ภวนฺติ เต.

๑๐๒.

‘‘โย จ ปพฺพชิตํ หนฺติ, กตกิจฺจํ มเหสินํ;

ส กาฬสุตฺเต นิรเย, จิรรตฺตาย ปจฺจติ.

๑๐๓.

‘‘โย จ ราชา อธมฺมฏฺโ, รฏฺวิทฺธํสโน มโค;

ตาปยิตฺวา ชนปทํ, ตาปเน เปจฺจ ปจฺจติ.

๑๐๔.

‘‘โส จ วสฺสสหสฺสานิ, สตํ ทิพฺพานิ ปจฺจติ;

อจฺจิสงฺฆปเรโต โส, ทุกฺขํ เวเทติ เวทนํ.

๑๐๕.

‘‘ตสฺส อคฺคิสิขา กายา, นิจฺฉรนฺติ ปภสฺสรา;

เตโชภกฺขสฺส คตฺตานิ, โลเมหิ จ นเขหิ จ.

๑๐๖.

‘‘ฑยฺหมาเนน คตฺเตน, นิจฺจํ สนฺตรพาหิรํ;

ทุกฺขาภิตุนฺโน นทติ, นาโค ตุตฺตฏฺฏิโต ยถา.

๑๐๗.

‘‘โย โลภา ปิตรํ หนฺติ, โทสา วา ปุริสาธโม;

ส กาฬสุตฺเต นิรเย, จิรรตฺตาย ปจฺจติ.

๑๐๘.

‘‘ส ตาทิโส ปจฺจติ โลหกุมฺภิยํ, ปกฺกฺจ สตฺตีหิ หนนฺติ นิตฺตจํ;

อนฺธํ กริตฺวา มุตฺตกรีสภกฺขํ, ขาเร นิมุชฺชนฺติ ตถาวิธํ นรํ.

๑๐๙.

‘‘ตตฺตํ ปกฺกุถิตมโยคุฬฺจ, ทีเฆ จ ผาเล จิรรตฺตตาปิเต;

วิกฺขมฺภมาทาย วิพนฺธรชฺชุภิ, วิวเฏ มุเข สมฺปวิสนฺติ รกฺขสา.

๑๑๐.

‘‘สามา จ โสณา สพลา จ คิชฺฌา, กาโกลสงฺฆา จ ทิชา อโยมุขา;

สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิปฺผนฺทมานํ, ชิวฺหํ วิภชฺช วิฆาสํ สโลหิตํ.

๑๑๑.

‘‘ตํ ทฑฺฒตาลํ ปริภินฺนคตฺตํ, นิปฺโปถยนฺตา อนุวิจรนฺติ รกฺขสา;

รตี หิ เตสํ ทุขิโน ปนีตเร, เอตาทิสสฺมึ นิรเย วสนฺติ;

เย เกจิ โลเก อิธ เปตฺติฆาติโน.

๑๑๒.

‘‘ปุตฺโต จ มาตรํ หนฺตฺวา, อิโต คนฺตฺวา ยมกฺขยํ;

ภุสมาปชฺชเต ทุกฺขํ, อตฺตกมฺมผลูปโค.

๑๑๓.

‘‘อมนุสฺสา อติพลา, หนฺตารํ ชนยนฺติยา;

อโยมเยหิ วาเลหิ, ปีฬยนฺติ ปุนปฺปุนํ.

๑๑๔.

‘‘ตมสฺสวํ สกา คตฺตา, รุธิรํ อตฺตสมฺภวํ;

ตมฺพโลหวิลีนํว, ตตฺตํ ปาเยนฺติ มตฺติฆํ.

๑๑๕.

‘‘ชิคุจฺฉํ กุณปํ ปูตึ, ทุคฺคนฺธํ คูถกทฺทมํ;

ปุพฺพโลหิตสงฺกาสํ, รหทโมคยฺห ติฏฺติ.

๑๑๖.

‘‘ตเมนํ กิมโย ตตฺถ, อติกายา อโยมุขา;

ฉวึ เภตฺวาน ขาทนฺติ, สํคิทฺธา มํสโลหิเต.

๑๑๗.

‘‘โส จ ตํ นิรยํ ปตฺโต, นิมุคฺโค สตโปริสํ;

ปูติกํ กุณปํ วาติ, สมนฺตา สตโยชนํ.

๑๑๘.

‘‘จกฺขุมาปิ หิ จกฺขูหิ, เตน คนฺเธน ชียติ;

เอตาทิสํ พฺรหฺมทตฺต, มาตุโฆ ลภเต ทุขํ.

๑๑๙.

‘‘ขุรธารมนุกฺกมฺม, ติกฺขํ ทุรภิสมฺภวํ;

ปตนฺติ คพฺภปาติโย, ทุคฺคํ เวตรณึ นทึ.

๑๒๐.

‘‘อโยมยา สิมฺพลิโย, โสฬสงฺคุลกณฺฏกา;

อุภโต อภิลมฺพนฺติ, ทุคฺคํ เวตรณึ นทึ.

๑๒๑.

‘‘เต อจฺจิมนฺโต ติฏฺนฺติ, อคฺคิกฺขนฺธาว อารกา;

อาทิตฺตา ชาตเวเทน, อุทฺธํ โยชนมุคฺคตา.

๑๒๒.

‘‘เอเต วชนฺติ นิรเย, ตตฺเต ติขิณกณฺฏเก;

นาริโย จ อติจารา, นรา จ ปรทารคู.

๑๒๓.

‘‘เต ปตนฺติ อโธกฺขนฺธา, วิวตฺตา วิหตา ปุถู;

สยนฺติ วินิวิทฺธงฺคา, ทีฆํ ชคฺคนฺติ สพฺพทา.

๑๒๔.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, มหตึ ปพฺพตูปมํ;

โลหกุมฺภึ ปวชฺชนฺติ, ตตฺตํ อคฺคิสมูทกํ.

๑๒๕.

‘‘เอวํ ทิวา จ รตฺโต จ, ทุสฺสีลา โมหปารุตา;

อนุโภนฺติ สกํ กมฺมํ, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.

๑๒๖.

‘‘ยา จ ภริยา ธนกฺกีตา, สามิกํ อติมฺติ;

สสฺสุํ วา สสุรํ วาปิ, เชฏฺํ วาปิ นนนฺทรํ.

๑๒๗.

‘‘ตสฺสา วงฺเกน ชิวฺหคฺคํ, นิพฺพหนฺติ สพนฺธนํ;

พฺยามมตฺตํ กิมินํ, ชิวฺหํ ปสฺสติ อตฺตนิ;

วิฺาเปตุํ น สกฺโกติ, ตาปเน เปจฺจ ปจฺจติ.

๑๒๘.

‘‘โอรพฺภิกา สูกริกา, มจฺฉิกา มิคพนฺธกา;

โจรา โคฆาตกา ลุทฺทา, อวณฺเณ วณฺณการกา.

๑๒๙.

‘‘สตฺตีหิ โลหกูเฏหิ, เนตฺตึเสหิ อุสูหิ จ;

หฺมานา ขารนทึ, ปปตนฺติ อวํสิรา.

๑๓๐.

‘‘สายํ ปาโต กูฏการี, อโยกูเฏหิ หฺติ;

ตโต วนฺตํ ทุรตฺตานํ, ปเรสํ ภุฺชเร สทา.

๑๓๑.

‘‘ธงฺกา เภรณฺฑกา คิชฺฌา, กาโกลา จ อโยมุขา;

วิปฺผนฺทมานํ ขาทนฺติ, นรํ กิพฺพิสการกํ.

๑๓๒.

‘‘เย มิเคน มิคํ หนฺติ, ปกฺขึ วา ปน ปกฺขินา;

อสนฺโต รชสา ฉนฺนา, คนฺตา เต นิรยุสฺสท’’นฺติ.

ตตฺถ ธมฺโม ปโถติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม เขโม อปฺปฏิภโย สุคติมคฺโค. วิสมชีวิโนติ อธมฺเมน กปฺปิตชีวิกา. นิรเย เตติ เต เอเตสํ นิพฺพตฺตนิรเย กเถมิ. สุโณหิ เมติ มหาสตฺโต รฺา ปิตุฆาตกานํ นิพฺพตฺตนิรยํ ปุจฺฉิโตปิ ปถมํ ตํ อทสฺเสตฺวา อฏฺ มหานิรเย โสฬส จ อุสฺสทนิรเย ทสฺเสตุํ เอวมาห. กึการณา? ปมฺหิ ตสฺมึ ทสฺสิยมาเน ราชา ผลิเตน หทเยน ตตฺเถว มเรยฺย, อิเมสุ ปน นิรเยสุ ปจฺจมานสตฺเต ทิสฺวา ทิฏฺานุคติโก หุตฺวา ‘‘อหํ วิย อฺเปิ พหู ปาปกมฺมิโน อตฺถิ, อหํ เอเตสํ อนฺตเร ปจฺจิสฺสามี’’ติ สฺชาตุปตฺถมฺโภ อโรโค ภวิสฺสตีติ เต ปน นิรเย ทสฺเสนฺโต มหาสตฺโต ปมํ อิทฺธิพเลน ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา ปจฺฉา ทสฺเสสิ.

เตสํ วจนตฺโถ – นิรยปาเลหิ ปชฺชลิตานิ นานาวุธานิ คเหตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺนา หีรํ หีรํ กตา เนรยิกสตฺตา ปุนปฺปุนํ สฺชีวนฺติ เอตฺถาติ สฺชีโว. นิรยปาลา ปุนปฺปุนํ นทนฺตา วคฺคนฺตา ปชฺชลิตานิ นานาวุธานิ คเหตฺวา ชลิตาย โลหปถวิยํ เนรยิเก สตฺเต อปราปรํ อนุพนฺธิตฺวา ปหริตฺวา ชลิตปถวิยํ ปติเต ชลิตกาฬสุตฺตํ ปาเตตฺวา ชลิตผรสุํ คเหตฺวา สยํ อุนฺนทนฺตา มหนฺเตน อฏฺฏสฺสเรน วิรวนฺเต อฏฺํเส โสฬสํเส กโรนฺตา เอตฺถ ตจฺฉนฺตีติ กาฬสุตฺโต. มหนฺตา ชลิตอยปพฺพตา ฆาเตนฺติ เอตฺถาติ สงฺฆาโต. ตตฺถ กิร สตฺเต นวโยชนาย ชลิตาย อยปถวิยา ยาว กฏิโต ปเวเสตฺวา นิจฺจเล กโรนฺติ. อถ ปุรตฺถิมโต ชลิโต อยปพฺพโต สมุฏฺาย อสนิ วิย วิรวนฺโต อาคนฺตฺวา เต สตฺเต สณฺหกรณิยํ ติเล ปิสนฺโต วิย คนฺตฺวา ปจฺฉิมทิสาย ติฏฺติ, ปจฺฉิมทิสโต สมุฏฺิโตปิ ตเถว คนฺตฺวา ปุรตฺถิมทิสาย ติฏฺติ. ทฺเว ปน เอกโต สมาคนฺตฺวา อุจฺฉุยนฺเต อุจฺฉุขณฺฑานิ วิย ปีเฬนฺติ. เอวํ ตตฺถ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ทุกฺขํ อนุโภนฺติ.

ทฺเว จ โรรุวาติ ชาลโรรุโว, ธูมโรรุโว จาติ ทฺเว. ตตฺถ ชาลโรรุโว กปฺเปน สณฺิตาหิ รตฺตโลหชาลาหิ ปุณฺโณ, ธูมโรรุโว ขารธูเมน ปุณฺโณ. เตสุ ชาลโรรุเว ปจฺจนฺตานํ นวหิ วณฺณมุเขหิ ชาลา ปวิสิตฺวา สรีรํ ทหนฺติ, ธูมโรรุเว ปจฺจนฺตานํ นวหิ วณมุเขหิ ขารธูโม ปวิสิตฺวา ปิฏฺํ วิย สรีรํ เสเทติ. อุภยตฺถปิ ปจฺจนฺตา สตฺตา มหาวิรวํ วิรวนฺตีติ ทฺเวปิ ‘‘โรรุวา’’ติ วุตฺตา. ชาลานํ วา ปจฺจนสตฺตานํ วา เตสํ ทุกฺขสฺส วา วีจิ อนฺตรํ นตฺถิ เอตฺถาติ อวีจิ, มหนฺโต อวีจิ มหาวีจิ. ตตฺถ หิ ปุรตฺถิมาทีหิ ภิตฺตีหิ ชาลา อุฏฺหิตฺวา ปจฺฉิมาทีสุ ปฏิหฺติ, ตา จ ภิตฺติโย วินิวิชฺฌิตฺวา ปุรโต โยชนสตํ คณฺหาติ. เหฏฺา อุฏฺิตา ชาลา อุปริ ปฏิหฺติ, อุปริ อุฏฺิตา เหฏฺา ปฏิหฺติ. เอวํ ตาเวตฺถ ชาลานํ วีจิ นาม นตฺถิ. ตสฺส ปน อนฺโต โยชนสตํ านํ ขีรวลฺลิปิฏฺสฺส ปูริตนาฬิ วิย สตฺเตหิ นิรนฺตรํ ปูริตํ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปจฺจนฺตานํ สตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ, น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ, สกฏฺาเนเยว ปจฺจนฺติ. เอวเมตฺถ สตฺตานํ วีจิ นาม นตฺถิ. ยถา ปน ชิวฺหคฺเค ฉ มธุพินฺทูนิ สตฺตมสฺส ตมฺพโลหพินฺทุโน อนุทหนพลวตาย อพฺโพหาริกานิ โหนฺติ, ตถา ตตฺถ อนุทหนพลวตาย เสสา ฉ อกุสลวิปากุเปกฺขา อพฺโพหาริกา โหนฺติ, ทุกฺขเมว นิรนฺตรํ ปฺายติ. เอวเมตฺถ ทุกฺขสฺส วีจิ นาม นตฺถิ. สฺวายํ สห ภิตฺตีหิ วิกฺขมฺภโต อฏฺารสาธิกติโยชนสโต, อาวฏฺฏโต ปน จตุปณฺณาสาธิกนวโยชนสโต, สห อุสฺสเทหิ ทส โยชนสหสฺสานิ. เอวมสฺส มหนฺตตา เวทิตพฺพา.

นิจฺจเล สตฺเต ตปตีติ ตาปโน. อติวิย ตาเปตีติ ปตาปโน. ตตฺถ ตาปนสฺมึ ตาว สตฺเต ตาลกฺขนฺธปฺปมาเณ ชลิตอยสูเล นิสีทาเปนฺติ. ตโต เหฏฺา ปถวี ชลติ, สูลานิ ชลนฺติ, สตฺตา ชลนฺติ. เอวํ โส นิรโย นิจฺจเล สตฺเต ตปติ. อิตรสฺมึ ปน นิพฺพตฺตสตฺเต ชลนฺเตหิ อาวุเธหิ ปหริตฺวา ชลิตํ อยปพฺพตํ อาโรเปนฺติ. เตสํ ปพฺพตมตฺถเก ิตกาเล กมฺมปจฺจโย วาโต ปหรติ. เต ตตฺถ สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตา อุทฺธํปาทา อโธสิรา ปตนฺติ. อถ เหฏฺา อยปถวิโต ชลิตานิ อยสูลานิ อุฏฺหนฺติ. เต ตานิ มตฺถเกเนว ปหริตฺวา เตสุ วินิวิทฺธสรีรา ชลนฺตา ปจฺจนฺติ. เอวเมส อติวิย ตาเปตีติ.

โพธิสตฺโต ปน เอเต นิรเย ทสฺเสนฺโต ปมํ สฺชีวํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ ปจฺจนฺเต เนรยิกสตฺเต ทิสฺวา มหาชนสฺส มหาภเย อุปฺปนฺเน ตํ อนฺตรธาเปตฺวา ปุน ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา กาฬสุตฺตํ ทสฺเสสิ, ตตฺถปิ ปจฺจมาเน สตฺเต ทิสฺวา มหาชนสฺส มหาภเย อุปฺปนฺเน ตมฺปิ อนฺตรธาเปสีติ เอวํ ปฏิปาฏิยา ทสฺเสสิ. ตโต ราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, ตยา อิเมสุ อฏฺสุ มหานิรเยสุ ปจฺจมาเน สตฺเต ทิสฺวา อปฺปมาทํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ปุน เตสฺเว มหานิรยานํ กิจฺจํ กเถตุํ ‘‘อิจฺเจเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อกฺขาตาติ มยา จ ตุยฺหํ กถิตา, โปราณเกหิ จ กถิตาเยว. อากิณฺณาติ ปริปุณฺณา. ปจฺเจกา โสฬสุสฺสทาติ เอเตสํ นิรยานํ เอเกกสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ เอเกกสฺมึ จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา โสฬส โสฬส อุสฺสทนิรยาติ สพฺเพปิ สตํ อฏฺวีสติ จ อุสฺสทนิรยา อฏฺ จ มหานิรยาติ ฉตฺตึสนิรยสตํ. กทริยตาปนาติ สพฺเพเต กทริยานํ ตาปนา. พลวทุกฺขตาย โฆรา. กมฺมนิพฺพตฺตานํ อจฺจีนํ อตฺถิตาย อจฺจิมนฺโต. ภยสฺส มหนฺตตาย มหพฺภยา. ทิฏฺมตฺตา วา สุตมตฺตา วา โลมานิ หํสนฺตีติ โลมหํสนรูปา จ. ภีสนตาย เภสฺมา. ภยชนนตาย ปฏิภยา. สุขาภาเวน ทุขา. จตุกฺกณฺณาติ สพฺเพปิ จตุรสฺสมฺชูสสทิสา. วิภตฺตาติ จตุทฺวารวเสน วิภตฺตา. ภาคโส มิตาติ ทฺวารวีถีนํ วเสน โกฏฺาเส เปตฺวา มิตา. อยสา ปฏิกุชฺชิตาติ สพฺเพปิ นวโยชนิเกน อยกปาเลน ปฏิจฺฉนฺนา. ผุฏา ติฏฺนฺตีติ สพฺเพปิ เอตฺตกํ านํ อนุผริตฺวา ติฏฺนฺติ.

อุทฺธํปาทา อวํสิราติ เอวํ เตสุ เตสุ นิรเยสุ สมฺปริวตฺติตฺวา ปุนปฺปุนํ ปตมาเน สนฺธายาห. อติวตฺตาโรติ ผรุสวาจาหิ อติกฺกมิตฺวา วตฺตาโร. มหานิรเยสุ กิร เยภุยฺเยน ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณสุ กตาปราธาว ปจฺจนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. เต ภูนหุโนติ เต อิสีนํ อติวตฺตาโร อตฺตโน วุฑฺฒิยา หตตฺตา ภูนหุโน โกฏฺาสกตา มจฺฉา วิย ปจฺจนฺติ. อสงฺเขยฺเยติ คเณตุํ อสกฺกุเณยฺเย. กิพฺพิสการิโนติ ทารุณกมฺมการิโน. นิกฺขมเนสิโนติ นิรยา นิกฺขมนํ เอสนฺตาปิ คเวสนฺตาปิ นิกฺขมนทฺวารํ นาธิคจฺฉนฺติ. ปุรตฺถิเมนาติ ยทา ตํ ทฺวารํ อปารุตํ โหติ, อถ ตทภิมุขา ธาวนฺติ, เตสํ ตตฺถ ฉวิอาทีนิ ฌายนฺติ. ทฺวารสมีปํ ปตฺตานฺจ เตสํ ตํ ปิธียติ, ปจฺฉิมทฺวารํ อปารุตํ วิย ขายติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. น สาธุรูเปติ วุตฺตปฺปการํ สปฺปํ วิย สาธุรูเป อิสโย น อาสีเท, น ผรุสวจเนน กายกมฺเมน วา ฆฏฺเฏนฺโต อุปคจฺเฉยฺย. กึการณา? สฺตานํ ตปสฺสีนํ อาสาทิตตฺตา อฏฺสุ มหานิรเยสุ มหาทุกฺขสฺส อนุภวิตพฺพตฺตา.

อิทานิ เย ราชาโน ตถารูเป อาสาเทตฺวา ตํ ทุกฺขํ ปตฺตา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘อติกาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อติกาโยติ พลสมฺปนฺโน มหากาโย. มหิสฺสาโสติ มหาธนุคฺคโห. เกกกาธิโปติ เกกกรฏฺาธิปติ. สหสฺสพาหูติ ปฺจหิ ธนุคฺคหสเตหิ พาหุสหสฺเสน อาโรเปตพฺพํ ธนุํ อาโรปนสมตฺถตาย สหสฺสพาหุ. วิภวงฺคโตติ วินาสํ ปตฺโต. วตฺถูนิ ปน สรภงฺคชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) วิตฺถาริตานิ. อุปหจฺจ มนนฺติ อตฺตโน จิตฺตํ ปทูเสตฺวา. มาตงฺคสฺมินฺติ มาตงฺคปณฺฑิเต. วตฺถุ มาตงฺคชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑ อาทโย) วณฺณิตํ. กณฺหทีปายนาสชฺชาติ กณฺหทีปายนํ อาสชฺช. ยมสาธนนฺติ นิรยปาลกรฺโ อาณาปวตฺตฏฺานํ. วตฺถุ ฆฏปณฺฑิตชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๑๖๕ อาทโย) วิตฺถาริตํ. อิสินาติ กปิลตาปเสน. ปาเวกฺขีติ ปวิฏฺโ. เจจฺโจติ เจติยราชา. หีนตฺโตติ ปริหีนตฺตภาโว อนฺตรหิตอิทฺธิ. ปตฺตปริยายนฺติ ปริยายํ มรณกาลํ ปตฺวา. วตฺถุ เจติยชาตเก (ชา. ๑.๘.๔๕ อาทโย) กถิตํ.

ตสฺมา หีติ ยสฺมา จิตฺตวสิโก หุตฺวา อิสีสุ อปรชฺฌิตฺวา อฏฺสุ มหานิรเยสุ ปจฺจติ, ตสฺมา หิ. ฉนฺทาคมนนฺติ ฉนฺทาทิจตุพฺพิธมฺปิ อคติคมนํ. ปทุฏฺเนาติ กุทฺเธน. คนฺตา โส นิรยํ อโธติ โส เตน อโธคมนิเยน กมฺเมน อโธนิรยเมว คจฺฉติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘นิรยุสฺสท’’นฺติ ลิขิตํ, ตสฺส อุสฺสทนิรยํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. วุฑฺเฒติ วโยวุฑฺเฒ จ คุณวุฑฺเฒ จ. อนปจฺจาติ ภวนฺตเรปิ อปจฺจํ วา ทายาทํ วา น ลภนฺตีติ อตฺโถ. ตาลวตฺถูติ ทิฏฺธมฺเมปิ ฉินฺนมูลตาโล วิย มหาวินาสํ ปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตนฺติ. โย จ ปพฺพชิตํ หนฺตีติ โย พาลชโน สมณํ หนติ. จิรรตฺตายาติ จิรํ กาลํ.

เอวํ มหาสตฺโต อิสิวิเหกานํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสตฺวา อุปริ อธมฺมิกราชูนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสนฺโต ‘‘โย จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ รฏฺวิทฺธํสโนติ ฉนฺทาทิวเสน คนฺตฺวา รฏฺสฺส วิทฺธํสโน. อจฺจิสงฺฆปเรโตติ อจฺจิสมูหปริกฺขิตฺโต. เตโชภกฺขสฺสาติ อคฺคิเมว ขาทนฺตสฺส. คตฺตานีติ ติคาวุเต สรีเร สพฺพงฺคปจฺจงฺคานิ. โลเมหิ จ นเขหิ จาติ เอเตหิ สทฺธึ สพฺพานิ เอกชาลานิ โหนฺติ. ตุตฺตฏฺฏีโตติ อาเนฺชการณํ การิยมาโน ตุตฺเตหิ วิทฺโธ นาโค ยถา นทติ.

เอวํ มหาสตฺโต อธมฺมิกราชูนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปิตุฆาตกาทีนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสตุํ ‘‘โย โลภา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โลภาติ ยสธนโลเภน. โทสา วาติ ทุฏฺจิตฺตตาย วา. นิตฺตจนฺติ โลหกุมฺภิยํ พหูนิ วสสหสฺสานิ ปกฺกํ นีหริตฺวา ติคาวุตมสฺส สรีรํ นิตฺตจํ กตฺวา ชลิตาย โลหปถวิยํ ปาเตตฺวา ติณฺเหหิ อยสูเลหิ โกฏฺเฏตฺวา จุณวิจุณฺณํ กโรนฺติ. อนฺธํ กริตฺวาติ, มหาราช, ตํ ปิตุฆาตกํ นิรยปาลา ชลิตโลหปถวิยํ อุตฺตานํ ปาเตตฺวา ชลิเตหิ อยสูเลหิ อกฺขีนิ ภินฺทิตฺวา อนฺธํ กริตฺวา มุเข อุณฺหํ มุตฺตกรีสํ ปกฺขิปิตฺวา ปลาลปีํ วิย นํ ปริวตฺเตตฺวา กปฺเปน สณฺิเต ขาเร โลหอุทเก นิมุชฺชาเปนฺติ. ตตฺตํ ปกฺกุถิตมโยคุฬฺจาติ ปุน ปกฺกุถิตํ คูถกลลฺเจว ชลิตอโยคุฬฺจ ขาทาเปนฺติ. โส ปน ตํ อาหริยมานํ ทิสฺวา มุขํ ปิเธติ. อถสฺส ทีเฆ จิรตาปิเต ชลมาเน ผาเล อาทาย มุขํ วิกฺขมฺเภตฺวา วิวริตฺวา รชฺชุพทฺธํ อยพลิสํ ขิปิตฺวา ชิวฺหํ นีหริตฺวา ตสฺมึ วิวเฏ มุเข ตํ อโยคุฬํ สมฺปวิสนฺติ ปกฺขิปนฺติ. รกฺขสาติ นิรยปาลา.

สามา จาติ, มหาราช, ตสฺส ปิตุฆาตกสฺส ชิวฺหํ พลิเสน นิกฺกฑฺฒิตฺวา อยสงฺกูหิ ปถวิยํ นีหตํ ชิวฺหํ สามา โสณา สพลวณฺณา สุนขา จ โลหตุณฺฑา คิชฺฌา จ กาโกลสงฺฆา จ อฺเ จ นานปฺปการา สกุณา สมาคนฺตฺวา อาวุเธหิ ฉินฺทนฺตา วิย วิภชฺช กากปทากาเรน โกฏฺาเส กตฺวา วิปฺผนฺทมานํ สโลหิตํ วิฆาสํ ขาทนฺตา วิย สตฺเต ภกฺขยนฺตีติ อตฺโถ. ตํ ทฑฺฒตาลนฺติ ตํ ปิตุฆาตกํ ฌายมานตาลํ วิย ชลิตสรีรํ. ปริภินฺนคตฺตนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปริภินฺนคตฺตํ. นิปฺโปถยนฺตาติ ชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ ปหรนฺตา. รตี หิ เตสนฺติ เตสํ นิรยปาลานํ สา รติ กีฬา โหติ. ทุขิโน ปนีตเรติ อิตเร ปน เนรยิกสตฺตา ทุกฺขิตา โหนฺติ. เปตฺติฆาติโนติ ปิตุฆาตกา. อิติ อิมํ ปิตุฆาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทิสฺวา ราชา ภีตตสิโต อโหสิ.

อถ นํ มหาสตฺโต สมสฺสาเสตฺวา มาตุฆาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสสิ. ยมกฺขยนฺติ ยมนิเวสนํ, นิรยนฺติ อตฺโถ. อตฺตกมฺมผลูปโคติ อตฺตโน กมฺมผเลน อุปคโต. อมนุสฺสาติ นิรยปาลา. หนฺตารํ ชนยนฺติยาติ มาตุฆาตกํ. วาเลหีติ อยมกจิวาเลหิ เวเตฺวา อยยนฺเตน ปีฬยนฺติ. นฺติ ตํ มาตุฆาตกํ. ปาเยนฺตีติ ตสฺส ปีฬิยมานสฺส รุหิรํ คฬิตฺวา อยกปลฺลํ ปูเรติ. อถ นํ ยนฺตโต นีหรนฺติ, ตาวเทวสฺส สรีรํ ปากติกํ โหติ. ตํ ปถวิยํ อุตฺตานํ นิปชฺชาเปตฺวา วิลีนํ ตมฺพโลหํ วิย ปกฺกุถิตํ โลหิตํ ปาเยนฺติ. โอคยฺห ติฏฺตีติ ตํ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ อยยนฺเตหิ ปีเฬตฺวา เชคุจฺเฉ ทุคฺคนฺเธ ปฏิกูเล มหนฺเต คูถกลลอาวาเฏ ขิปนฺติ, โส ตํ รหทํ โอคยฺห โอคาหิตฺวา ติฏฺติ. อติกายาติ เอกโทณิกนาวปฺปมาณสรีรา. อโยมุขาติ อยสูจิมุขา. ฉวึ เภตฺวานาติ ฉวิมาทึ กตฺวา ยาว อฏฺิมฺปิ เภตฺวา อฏฺิมิฺชมฺปิ ขาทนฺติ. สํคิทฺธาติ คธิตา มุจฺฉิตา. น เกวลฺจ ขาทนฺเตว, อโธมคฺคาทีหิ ปน ปวิสิตฺวา มุขาทีหิ นิกฺขมนฺติ, วามปสฺสาทีหิ ปวิสิตฺวา ทกฺขิณปสฺสาทีหิ นิกฺขมนฺติ, สกลมฺปิ สรีรํ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กโรนฺติ, โส ตตฺถ อติทุกฺขปเรโต วิรวนฺโต ปจฺจติ. โส จาติ โส มาตุฆาตโก จ ตํ สตโปริสํ นิรยํ ปตฺโต สสีสโก นิมุคฺโคว โหติ, ตฺจ กุณปํ สมนฺตา โยชนสตํ ปูติกํ หุตฺวา วายติ. มาตุโฆติ มาตุฆาตโก.

เอวํ มหาสตฺโต มาตุฆาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสตฺวา ปุน คพฺภปาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห. ขุรธารมนุกฺกมฺมาติ ขุรธารนิรยํ อติกฺกมิตฺวา. ตตฺถ กิร นิรยปาลา มหนฺตมหนฺเต ขุเร อุปริ ธาเร กตฺวา สนฺถรนฺติ, ตโต ยาหิ คพฺภปาตนขรเภสชฺชานิ ปิวิตฺวา คพฺภา ปาติตา, ตา คพฺภปาตินิโย อิตฺถิโย ชลิเตหิ อาวุเธหิ โปเถนฺตา อนุพนฺธนฺติ, ตา ติขิณขุรธาราสุ ขณฺฑาขณฺฑิกา หุตฺวา ปุนปฺปุนํ อุฏฺาย ตํ ทุรภิสมฺภวํ ขุรธารนิรยํ อกฺกมนฺติโย อติกฺกมิตฺวา นิรยปาเลหิ อนุพทฺธา ทุคฺคํ ทุรติกฺกมํ วิสมํ เวตรณึ นทึ ปตนฺติ. ตตฺถ กมฺมการณํ นิมิชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๔๒๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.

เอวํ คพฺภปาตินีนํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาสตฺโต ยตฺถ ปรทาริกา จ อติจารินิโย จ ปตนฺตา ปจฺจนฺติ, ตํ กณฺฏกสิมฺพลินิรยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อโยมยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุภโต อภิลมฺพนฺตีติ เวตรณิยา อุโภสุ ตีเรสุ ตาสํ สิมฺพลีนํ สาขา โอลมฺพนฺติ. เต อจฺจิมนฺโตติ เต ปชฺชลิตสรีรา สตฺตา อจฺจิมนฺโต หุตฺวา ติฏฺนฺติ. โยชนนฺติ ติคาวุตํ เตสํ สรีรํ, ตโต อุฏฺิตชาลาย ปน สทฺธึ โยชนอุพฺเพธา โหนฺติ. เอเต วชนฺตีติ เต ปรทาริกา สตฺตา นานาวิเธหิ อาวุเธหิ โกฏฺฏิยมานา เอเต สิมฺพลินิรเย อภิรุหนฺติ. เต ปตนฺตีติ เต พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ รุกฺขวิฏเปสุ ลคฺคา ฌายิตฺวา ปุน นิรยปาเลหิ อาวุเธหิ วิหตา วิวตฺตา หุตฺวา ปริวตฺติตฺวา อโธสีสกา ปตนฺติ. ปุถูติ พหู. วินิวิทฺธงฺคาติ เตสํ ตโต ปตนกาเล เหฏฺา อยปถวิโต สูลานิ อุฏฺหิตฺวา เตสํ มตฺถกํ ปฏิจฺฉนฺติ, ตานิ เตสํ อโธมคฺเคน นิกฺขมนฺติ, เต เอวํ สูเลสุ วิทฺธสรีรา จิรรตฺตา สยนฺติ. ทีฆนฺติ สุปิเนปิ นิทฺทํ อลภนฺตา ทีฆรตฺตํ ชคฺคนฺตีติ อตฺโถ. รตฺยา วิวสาเนติ รตฺตีนํ อจฺจเยน, จิรกาลาติกฺกเมนาติ อตฺโถ. ปวชฺชนฺตีติ สฏฺิโยชนิกํ ชลิตํ โลหกุมฺภึ กปฺเปน สณฺิตํ ชลิตตมฺพโลหรสปุณฺณํ โลหกุมฺภึ นิรยปาเลหิ ขิตฺตา ปจฺจนฺติ. ทุสฺสีลาติ ปรทาริกา.

เอวํ มหาสตฺโต ปรทาริกอติจาริกานํ ปจฺจนสิมฺพลินิรยํ ทสฺเสตฺวา อิโต ปรํ สามิกวตฺตสสฺสุสสุรวตฺตาทีนิ อปูเรนฺตีนํ ปจฺจนฏฺานํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยา จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อติมฺตีติ ภิสชาตเก (ชา. ๑.๑๔.๗๘ อาทโย) วุตฺตํ สามิกวตฺตํ อกโรนฺตี อติกฺกมิตฺวา มฺติ. เชฏฺํ วาติ สามิกสฺส เชฏฺภาตรํ. นนนฺทรนฺติ สามิกสฺส ภคินึ. เอเตสมฺปิ หิ อฺตรสฺส หตฺถปาทปิฏฺิปริกมฺมนฺหาปนโภชนาทิเภทํ วตฺตํ อปูเรนฺตี เตสุ หิโรตฺตปฺปํ อนุปฏฺเปนฺตี เต อติมฺติ นาม, สาปิ นิรเย นิพฺพตฺติ. วงฺเกนาติ ตสฺสา สามิกวตฺตาทีนํ อปริปูริกาย สามิกาทโย อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตาย โลหปถวิยํ นิปชฺชาเปตฺวา อยสงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา พลิเสน ชิวฺหคฺคํ นิพฺพหนฺติ, รชฺชุพนฺธเนน สพนฺธนํ กฑฺฒนฺติ. กิมินนฺติ กิมิภริตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, โส เนรยิกสตฺโต เอวํ นิกฺกฑฺฒิตํ อตฺตโน พฺยาเมน พฺยามมตฺตํ ชิวฺหํ อาวุเธหิ โกฏฺฏิตโกฏฺฏิตฏฺาเน สฺชาเตหิ มหาโทณิปฺปมาเณหิ กิมีหิ ภริตํ ปสฺสติ. วิฺาเปตุํ น สกฺโกตีติ นิรยปาเล ยาจิตุกาโมปิ กิฺจิ วตฺตุํ น สกฺโกติ. ตาปเนติ เอวํ สา ตตฺถ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ ปจฺจิตฺวา ปุน ตาปนมหานิรเย ปจฺจติ.

เอวํ มหาสตฺโต สามิกวตฺตสสฺสุสสุรวตฺตาทีนิ อปูเรนฺตีนํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สูกริกาทีนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสนฺโต ‘‘โอรพฺภิกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวณฺเณ วณฺณการกาติ เปสุฺการกา. ขารนทินฺติ เอเต โอรพฺภิกาทโย เอเตหิ สตฺติอาทีหิ หฺมานา เวตรณึ นทึ ปตนฺตีติ อตฺโถ. เสสานิ โอรพฺภิกาทีนํ ปจฺจนฏฺานานิ นิมิชาตเก อาวิ ภวิสฺสนฺติ. กุฏการีติ กูฏวินิจฺฉยสฺส เจว ตุลากูฏาทีนฺจ การเก สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺถ กูฏวินิจฺฉยกูฏฏฺฏการกกูฏอคฺฆาปนิกานํ ปจฺจนนิรยา นิมิชาตเก อาวิ ภวิสฺสนฺติ. วนฺตนฺติ วมิตกํ. ทุรตฺตานนฺติ ทุคฺคตตฺตภาวานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, เต ทุรตฺตภาวา สตฺตา อยกูเฏหิ มตฺถเก ภิชฺชมาเน วมนฺติ, ตโต ตํ วนฺตํ ชลิตอยกปลฺเลหิ เตสุ เอกจฺจานํ มุเข ขิปนฺติ, อิติ เต ปเรสํ วนฺตํ ภุฺชนฺติ นาม. เภรณฺฑกาติ สิงฺคาลา. วิปฺผนฺทมานนฺติ อโธมุขํ นิปชฺชาปิตํ นิกฺกฑฺฒิตชิวฺหํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทมานํ. มิเคนาติ โอกจารกมิเคน. ปกฺขินาติ ตถารูเปเนว. คนฺตา เตติ คนฺตาโร เต. นิรยุสฺสทนฺติ อุสฺสทนิรยํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘นิรยํ อโธ’’ติ ลิขิตํ. อยํ ปน นิรโย นิมิชาตเก อาวิ ภวิสฺสตีติ.

อิติ มหาสตฺโต เอตฺตเก นิรเย ทสฺเสตฺวา อิทานิ เทวโลกวิวรณํ กตฺวา รฺโ เทวโลเก ทสฺเสนฺโต อาห –

๑๓๓.

‘‘สนฺโต จ อุทฺธํ คจฺฉนฺติ, สุจิณฺเณนิธ กมฺมุนา;

สุจิณฺณสฺส ผลํ ปสฺส, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา.

๑๓๔.

‘‘ตํ ตํ พฺรูมิ มหาราช, ธมฺมํ รฏฺปตี จร;

ตถา ราช จราหิ ธมฺมํ, ยถา ตํ สุจิณฺณํ นานุตปฺเปยฺย ปจฺฉา’’ติ.

ตตฺถ สนฺโตติ กายาทีหิ อุปสนฺตา. อุทฺธนฺติ เทวโลกํ. สอินฺทาติ ตตฺถ ตตฺถ อินฺเทหิ สทฺธึ. มหาสตฺโต หิสฺส จาตุมหาราชาทิเก เทเว ทสฺเสนฺโต, ‘‘มหาราช, จาตุมหาราชิเก เทเว ปสฺส, จตฺตาโร มหาราชาโน ปสฺส, ตาวตึเส ปสฺส, สกฺกํ ปสฺสา’’ติ เอวํ สพฺเพปิ สอินฺทเก สพฺรหฺมเก จ เทเว ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทมฺปิ สุจิณฺณสฺส ผลํ อิทมฺปิ ผล’’นฺติ ทสฺเสสิ. ตํ ตํ พฺรูมีติ ตสฺมา ตํ ภณามิ. ธมฺมนฺติ อิโต ปฏฺาย ปาณาติปาตาทีนิ ปฺจ เวรานิ ปหาย ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรหีติ. ยถา ตํ สุจิณฺณํ นานุตปฺเปยฺยาติ ยถา ตํ ทานาทิปุฺกมฺมํ สุจิณฺณํ ปิตุฆาตกมฺมปจฺจยํ วิปฺปฏิสารํ ปฏิจฺฉาเทตุํ สมตฺถตาย ตํ นานุตปฺเปยฺย, ตถา ตํ สุจิณฺณํ จร, พหุํ ปุฺํ กโรหีติ อตฺโถ.

โส มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตโต ปฏฺาย อสฺสาสํ ปฏิลภิ. โพธิสตฺโต ปน กิฺจิ กาลํ ตตฺถ วสิตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานฺเว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มยา อสฺสาสิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ราชา อชาตสตฺตุ อโหสิ, อิสิคโณ พุทฺธปริสา, สํกิจฺจปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สํกิจฺจชาตกวณฺณนา ทุติยา.

ชาตกุทฺทานํ –

อถ สฏฺินิปาตมฺหิ, สุณาถ มม ภาสิตํ;

ชาตกสวฺหยโน ปวโร, โสณกอรินฺทมสวฺหยโน;

ตถา วุตฺตรเถสภกิจฺจวโรติ.

สฏฺินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๐. สตฺตตินิปาโต

[๕๓๑] ๑. กุสชาตกวณฺณนา

อิทํ เต รฏฺนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. เอโก กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุตฺโต สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิโต เอกทิวสํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกํ อลงฺกตอิตฺถึ ทิสฺวา สุภนิมิตฺตคฺคาหวเสน โอโลเกตฺวา กิเลสาภิภูโต อนภิรโต วิหาสิ ทีฆเกสนโข กิลิฏฺจีวโร อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนีสนฺถตคตฺโต. ยถา หิ เทวโลกา จวนธมฺมานํ เทวปุตฺตานํ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, สรีเร ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, อุโภหิ กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, เทโว เทวาสเน นาภิรมติ, เอวเมว สาสนา จวนธมฺมานํ อุกฺกณฺิตภิกฺขูนํ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, สทฺธาปุปฺผานิ มิลายนฺติ, สีลวตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, สรีเร มงฺกุตาย เจว อยสวเสน จ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, กิเลสเสทา มุจฺจนฺติ, อรฺรุกฺขมูลสุฺาคาเรสุ นาภิรมนฺติ. ตสฺสปิ ตานิ ปฺายึสุ. อถ นํ ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, อุกฺกณฺิโต’’ติ ทสฺเสสุํ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ตํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘มา, ภิกฺขุ, กิเลสวสิโก โหหิ, มาตุคาโม นาเมส ปาโป, ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตตํ วิโนเทหิ, สาสเน อภิรม, มาตุคาเม ปฏิพทฺธจิตฺตตาย หิ เตชวนฺโตปิ โปราณกปณฺฑิตา นิตฺเตชา หุตฺวา อนยพฺยสนํ ปาปุณึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต มลฺลรฏฺเ กุสาวตีราชธานิยํ โอกฺกาโก นาม ราชา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา สีลวตี นาม อคฺคมเหสี อโหสิ, สา เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภิ. อถสฺส นาครา เจว รฏฺวาสิโน จ ราชนิเวสนทฺวาเร สนฺนิปติตฺวา ‘‘รฏฺํ นสฺสิสฺสติ, รฏฺํ นสฺสิสฺสตี’’ติ อุปกฺโกสึสุ. ราชา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา ‘‘มยิ รชฺชํ กาเรนฺเต อธมฺมกาโร นาม นตฺถิ, กสฺมา อุปกฺโกสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สจฺจํ, เทว, อธมฺมกาโร นาม นตฺถิ, อปิจ วํสานุรกฺขโก ปน โว ปุตฺโต นตฺถิ, อฺโ รชฺชํ คเหตฺวา รฏฺํ นาเสสฺสติ, ตสฺมา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺถํ ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ. ‘‘ปุตฺตํ ปตฺเถนฺโต กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ปมํ ตาว เอกํ สตฺตาหํ จุลฺลนาฏกํ ธมฺมนาฏกํ กตฺวา วิสฺสชฺเชถ, สเจ สา ปุตฺตํ ลภิสฺสติ, สาธุ, โน เจ, อถ มชฺฌิมนาฏกํ วิสฺสชฺเชถ, ตโต เชฏฺนาฏกํ, อวสฺสํ เอตฺตกาสุ อิตฺถีสุ เอกา ปุฺวตี ปุตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ. ราชา เตสํ วจเนน ตถา กตฺวา สตฺต ทิวเส ยถาสุขํ อภิรมิตฺวา อาคตาคตํ ปุจฺฉิ – ‘‘กจฺจิ โว ปุตฺโต ลทฺโธ’’ติ? สพฺพา ‘‘น ลภาม, เทวา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘น เม ปุตฺโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อนตฺตมโน อโหสิ. นาครา ปุน ตเถว อุปกฺโกสึสุ. ราชา ‘‘กึ อุปกฺโกสถ, มยา ตุมฺหากํ วจเนน นาฏกานิ วิสฺสฏฺานิ, เอกาปิ ปุตฺตํ น ลภติ, อิทานิ กึ กโรมา’’ติ อาห. ‘‘เทว, เอตา ทุสฺสีลา ภวิสฺสนฺติ นิปฺปุฺา, นตฺถิ เอตาสํ ปุตฺตลาภาย ปุฺํ, ตุมฺเห เอตาสุ ปุตฺตํ อลภนฺตีสุปิ มา อปฺโปสฺสุกฺกตํ อาปชฺชถ, อคฺคมเหสี โว สีลวตี เทวี สีลสมฺปนฺนา, ตํ วิสฺสชฺเชถ, ตสฺสา ปุตฺโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘อิโต กิร สตฺตเม ทิวเส ราชา สีลวตึ เทวึ ธมฺมนาฏกํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสติ, ปุริสา สนฺนิปตนฺตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา สตฺตเม ทิวเส เทวึ อลงฺการาเปตฺวา ราชนิเวสนา โอตาเรตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. ตสฺสา สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก ‘‘กึ นุ โข’’ติ อาวชฺเชนฺโต เทวิยา ปุตฺตปตฺถนภาวํ ตฺวา ‘‘เอติสฺสา มยา ปุตฺตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, อตฺถิ นุ โข เทวโลเก เอติสฺสา อนุจฺฉวิโก ปุตฺโต’’ติ อุปธาเรนฺโต โพธิสตฺตํ อทฺทส. โส กิร ตทา ตาวตึสภวเน อายุํ เขเปตฺวา อุปริเทวโลเก นิพฺพตฺติตุกาโม อโหสิ. สกฺโก ตสฺส วิมานทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘มาริส, ตยา มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา โอกฺกากรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อปรมฺปิ เทวปุตฺตํ ‘‘ตฺวมฺปิ เอติสฺสา เอว ปุตฺโต ภวิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘มา โข ปนสฺสา โกจิ สีลํ ภินฺทตู’’ติ มหลฺลกพฺราหฺมณเวเสน รฺโ นิเวสนทฺวารํ อคมาสิ.

มหาชโนปิ นฺหาโต อลงฺกโต ‘‘อหํ เทวึ คณฺหิสฺสามิ, อหํ เทวึ คณฺหิสฺสามี’’ติ ราชทฺวาเร สนฺนิปติตฺวา สกฺกฺจ ทิสฺวา ‘‘ตฺวํ กสฺมา อาคโตสี’’ติ ปริหาสมกาสิ. สกฺโก ‘‘กึ มํ ตุมฺเห ครหถ, สเจปิ เม สรีรํ ชิณฺณํ, ราโค ปน น ชีรติ, สเจ สีลวตึ ลภิสฺสามิ, อาทาย นํ คมิสฺสามีติ อาคโตมฺหี’’ติ วตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน สพฺเพสํ ปุรโตว อฏฺาสิ. อฺโ โกจิ ตสฺส เตเชน ปุรโต ภวิตุํ นาสกฺขิ. โส ตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ นิเวสนา นิกฺขมนฺติฺเว หตฺเถ คเหตฺวา ปกฺกามิ. อถ นํ ตตฺถ ตตฺถ ิตา ครหึสุ ‘‘ปสฺสถ, โภ, มหลฺลกพฺราหฺมโณ เอวํ อุตฺตมรูปธรํ เทวึ อาทาย คจฺฉติ, อตฺตโน ยุตฺตํ น ชานาตี’’ติ. เทวีปิ ‘‘มหลฺลโก มํ คเหตฺวา คจฺฉตี’’ติ น อฏฺฏียติ น หรายติ. ราชาปิ วาตปาเน ตฺวา ‘‘โก นุ โข เทวึ คเหตฺวา คจฺฉตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา อนตฺตมโน อโหสิ.

สกฺโก ตํ อาทาย นครทฺวารโต นิกฺขมิตฺวา ทฺวารสมีเป เอกํ ฆรํ มาเปสิ วิวฏทฺวารํ ปฺตฺตกฏฺตฺถริกํ. อถ นํ สา ‘‘อิทํ เต นิเวสน’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘อาม, ภทฺเท, ปุพฺเพ ปนาหํ เอโก, อิทานิมฺหา มยํ ทฺเว ชนา, อหํ ภิกฺขาย จริตฺวา ตณฺฑุลาทีนิ อาหริสฺสามิ, ตฺวํ อิมิสฺสา กฏฺตฺถริกาย นิปชฺชาหี’’ติ วตฺวา ตํ มุทุนา หตฺเถน ปรามสนฺโต ทิพฺพสมฺผสฺสํ ผราเปตฺวา ตตฺถ นิปชฺชาเปสิ. สา ทิพฺพสมฺผสฺสผรเณน สฺํ วิสฺสชฺเชสิ. อถ นํ อตฺตโน อานุภาเวน ตาวตึสภวนํ เนตฺวา อลงฺกตวิมาเน ทิพฺพสยเน นิปชฺชาเปสิ. สา สตฺตเม ทิวเส ปพุชฺฌิตฺวา ตํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘น โส พฺราหฺมโณ มนุสฺโส, สกฺโก ภวิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. สกฺโกปิ ตสฺมึ สมเย ปาริจฺฉตฺตกมูเล ทิพฺพนาฏกปริวุโต นิสินฺโน อโหสิ. สา สยนา อุฏฺาย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ สกฺโก ‘‘วรํ เต, เทวิ, ททามิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, เทว, เอกํ ปุตฺตํ เม เทหี’’ติ. ‘‘เทวิ, ติฏฺตุ เอโก ปุตฺโต, อหํ เต ทฺเว ปุตฺเต ทสฺสามิ. เตสุ ปน เอโก ปฺวา ภวิสฺสติ วิรูปวา, เอโก รูปวา น ปฺวา. เตสุ กตรํ ปมํ อิจฺฉสี’’ติ? ‘‘ปฺวนฺตํ, เทวา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ตสฺสา กุสติณํ ทิพฺพวตฺถํ ทิพฺพจนฺทนํ ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ โกกนุทฺจ นาม วีณํ ทตฺวา ตํ อาทาย รฺโ สยนฆรํ ปวิสิตฺวา รฺา สทฺธึ เอกสยเน นิปชฺชาเปตฺวา องฺคุฏฺเกน ตสฺสา นาภึ ปรามสิ. ตสฺมึ ขเณ โพธิสตฺโต ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สกฺโกปิ สกฏฺานเมว คโต. ปณฺฑิตา เทวี คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ชานิ.

อถ นํ ปพุทฺโธ ราชา ทิสฺวา, ‘‘เทวิ, เกน นีตาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สกฺเกน, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ปจฺจกฺขโต เอกํ มหลฺลกพฺราหฺมณํ ตํ อาทาย คจฺฉนฺตํ อทฺทสํ, กสฺมา มํ วฺเจสี’’ติ? ‘‘สทฺทหถ, เทว, สกฺโก มํ คเหตฺวา เทวโลกํ เนสี’’ติ. ‘‘น สทฺทหามิ, เทวี’’ติ. อถสฺส สา สกฺกทตฺติยํ กุสติณํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สทฺทหถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘กุสติณํ นาม ยโต กุโตจิ ลพฺภตี’’ติ น สทฺทหิ. อถสฺส สา ทิพฺพวตฺถาทีนิ ทสฺเสสิ. ราชา ตานิ ทิสฺวา สทฺทหิตฺวา, ‘‘ภทฺเท, สกฺโก ตาว ตํ เนตุ, ปุตฺโต ปน เต ลทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ลทฺโธ มหาราช, คพฺโภ เม ปติฏฺิโต’’ติ. โส ตุฏฺโ ตสฺสา คพฺภปริหารํ อทาสิ. สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส อฺํ นามํ อกตฺวา กุสติณนามเมว อกํสุ. กุสกุมารสฺส ปทสา คมนกาเล อิตโร เทวปุตฺโต ตสฺสา กุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ทสมาเส ปริปุณฺเณ ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘ชยมฺปตี’’ติ นามํ กรึสุ. เต มหนฺเตน ยเสน วฑฺฒึสุ. โพธิสตฺโต ปฺวา อาจริยสฺส สนฺติเก กิฺจิ สิปฺปํ อนุคฺคเหตฺวา อตฺตโนว ปฺาย สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ.

อถสฺส โสฬสวสฺสกาเล ราชา รชฺชํ ทาตุกาโม เทวึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปุตฺตสฺส เต รชฺชํ ทตฺวา นาฏกานิ อุปฏฺเปสฺสาม, มยํ ชีวนฺตาเยว นํ รชฺเช ปติฏฺิตํ ปสฺสิสฺสาม, สกลชมฺพุทีเป โข ปน ยสฺส รฺโ ธีตรํ อิจฺฉติ, ตมสฺส อาเนตฺวา อคฺคมเหสึ กริสฺสาม, จิตฺตมสฺส ชานาหิ, กตรํ ราชธีตรํ โรเจสี’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘กุมารสฺส อิมํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา จิตฺตํ ชานาหี’’ติ เอกํ ปริจาริกํ เปเสสิ. สา คนฺตฺวา ตสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อหํ น รูปวา, รูปสมฺปนฺนา ราชธีตา อานีตาปิ มํ ทิสฺวา ‘กึ เม อิมินา วิรูเปนา’ติ ปลายิสฺสติ อิติ โน ลชฺชิตพฺพกํ ภวิสฺสติ, กึ เม ฆราวาเสน, ธรมาเน มาตาปิตโร อุปฏฺหิตฺวา เตสํ อจฺจเยน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ‘‘มยฺหํ เนว รชฺเชนตฺโถ, น นาฏเกหิ, อหํ มาตาปิตูนํ อจฺจเยน ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. สา คนฺตฺวา ตสฺส กถํ เทวิยา อาโรเจสิ, เทวีปิ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา อนตฺตมโน หุตฺวา ปุน กติปาหจฺจเยน สาสนํ เปเสสิ. โสปิ ปฏิพาหติเยว. เอวํ ยาวตติยํ ปฏิพาหิตฺวา จตุตฺถวาเร จินฺเตสิ – ‘‘มาตาปิตูหิ สทฺธึ เอกนฺเตน ปฏิปกฺขภาโว นาม น ยุตฺโต, เอกํ อุปายํ กริสฺสามี’’ติ.

โส กมฺมารเชฏฺกํ ปกฺโกสาเปตฺวา พหุํ สุวณฺณํ ทตฺวา ‘‘เอกํ อิตฺถิรูปกํ กโรหี’’ติ อุยฺโยเชตฺวา ตสฺมึ ปกฺกนฺเต อฺํ สุวณฺณํ คเหตฺวา สยมฺปิ อิตฺถิรูปกํ อกาสิ. โพธิสตฺตานฺหิ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติ. ตํ สุวณฺณรูปกํ ชิวฺหาย อวณฺณนียโสภํ อโหสิ. อถ นํ มหาสตฺโต โขมํ นิวาสาเปตฺวา สิริคพฺเภ ปาเปสิ. โส กมฺมารเชฏฺเกน อาภตรูปกํ ทิสฺวา ตํ ครหิตฺวา ‘‘คจฺฉ อมฺหากํ สิริคพฺเภ ปิตรูปกํ อาหรา’’ติ อาห. โส สิริคพฺภํ ปวิฏฺโ ตํ ทิสฺวา ‘‘กุมาเรน สทฺธึ อภิรมิตุํ เอกา เทวจฺฉรา, อาคตา ภวิสฺสตี’’ติ หตฺถํ ปสาเรตุํ อวิสหนฺโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘เทว, สิริคพฺเภ อยฺยา เอกิกาว ิตา, อุปคนฺตุํ น สกฺโกมี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, คจฺฉ, สุวณฺณรูปกํ เอตํ, อาหรา’’ติ ปุน เปสิโต อาหริ. กุมาโร กมฺมาเรน กตํ รูปกํ สุวณฺณคพฺเภ นิกฺขิปาเปตฺวา อตฺตนา กตํ อลงฺการาเปตฺวา รเถ ปาเปตฺวา ‘‘เอวรูปํ ลภนฺโต คณฺหามี’’ติ มาตุ สนฺติกํ ปหิณิ.

สา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาตา, มยฺหํ ปุตฺโต มหาปุฺโ สกฺกทตฺติโย อนุจฺฉวิกํ กุมาริกํ ลภิสฺสติ, ตุมฺเห เอวรูปํ ลภนฺตา คณฺหิสฺสถ, อิมํ รูปกํ ปฏิจฺฉนฺนยาเน เปตฺวา สกลชมฺพุทีปํ จรนฺตา ยสฺส รฺโ เอวรูปํ ธีตรํ ปสฺสถ, ตสฺเสตํ ทตฺวา ‘โอกฺกากราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ อาวาหํ กริสฺสตี’ติ ทิวสํ ววตฺถเปตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ ตํ อาทาย มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิตฺวา วิจรนฺตา ยํ ราชธานึ ปาปุณนฺติ, ตตฺถ สายนฺหสมเย มหาชนสฺส สโมสรณฏฺาเน ตํ รูปกํ วตฺถปุปฺผาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา สุวณฺณสิวิกํ อาโรเปตฺวา ติตฺถมคฺเค เปตฺวา อมจฺจา สยํ ปฏิกฺกมิตฺวา อาคตาคตานํ กถาสวนตฺถํ เอกมนฺเต ติฏฺนฺติ. มหาชโน ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ สฺํ อกตฺวา ‘‘อยํ มนุสฺสิตฺถี สมานาปิ เทวจฺฉรปฏิภาคา อติวิย โสภติ, กึ นุ โข เอตฺถ ิตา, กุโต วา อาคตา, อมฺหากํ นคเร เอวรูปา นตฺถี’’ติ วณฺเณนฺโต ปกฺกมติ. ตํ สุตฺวา อมจฺจา ‘‘สเจ อิธ เอวรูปา ทาริกา ภเวยฺย, ‘อสุกา ราชธีตา วิย อสุกา อมจฺจธีตา วิยา’ติ วเทยฺยุํ, อทฺธา อิธ เอวรูปา นตฺถี’’ติ ตํ อาทาย อฺํ นครํ คจฺฉนฺติ.

เต เอวํ วิจรนฺตา อนุปุพฺเพน มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺถ มทฺทรฺโ อฏฺ ธีตโร อุตฺตมรูปธรา เทวจฺฉรปฏิภาคา, ตาสํ สพฺพเชฏฺิกา ปภาวตี นาม. ตสฺสา สรีรโต พาลสูริยสฺส ปภา วิย ปภา นิจฺฉรนฺติ, อนฺธกาเรปิ จตุหตฺเถ อนฺโตคพฺเภ ปทีปกิจฺจํ นตฺถิ, สพฺโพ คพฺโภ เอโกภาโสว โหติ. ธาตี ปนสฺสา ขุชฺชา, สา ปภาวตึ โภเชตฺวา ตสฺสา สีสนฺหาปนตฺถํ อฏฺหิ วณฺณทาสีหิ อฏฺ ฆเฏ คาหาเปตฺวา สายนฺหสมเย อุทกตฺถาย คจฺฉนฺตี ติตฺถมคฺเค ิตํ ตํ รูปกํ ทิสฺวา ‘‘ปภาวตี’’ติ สฺาย ‘‘อยํ ทุพฺพินีตา ‘สีสํ นฺหายิสฺสามี’ติ อมฺเห อุทกตฺถาย เปเสตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา ติตฺถมคฺเค ิตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘อเร กุลลชฺชาปนิเก อมฺเหหิ ปุริมตรํ อาคนฺตฺวา กสฺมา อิธ ิตาสิ, สเจ ราชา ชานิสฺสติ, นาเสสฺสติ โน’’ติ วตฺวา หตฺเถน คณฺฑปสฺเส ปหริ, หตฺถตลํ ภิชฺชมานํ วิย ชาตํ. ตโต ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ ตฺวา หสมานา ตาสํ วณฺณทาสีนํ สนฺติกํ คจฺฉนฺตี ‘‘ปสฺสเถตํ เม กมฺมํ, มม ธีตาติสฺาย ปหารํ อทาสึ, อยํ มม ธีตุ สนฺติเก กิมคฺฆติ, เกวลํ เม หตฺโถ ทุกฺขาปิโต’’ติ อาห.

อถ นํ ราชทูตา คเหตฺวา ‘‘ตฺวํ ‘มม ธีตา อิโต อภิรูปตรา’ติ วทนฺตี กํ นาม กเถสี’’ติ อาหํสุ. ‘‘มทฺทรฺโ ธีตรํ ปภาวตึ, อิทํ รูปกํ ตสฺสา โสฬสิมฺปิ กลํ น อคฺฆตี’’ติ. เต ตุฏฺมานสา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘โอกฺกากรฺโ ทูตา ทฺวาเร ิตา’’ติ ปฏิหาเรสุํ. ราชา อาสนา วุฏฺาย ิตโกว ‘‘ปกฺโกสถา’’ติ อาห. เต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘มหาราช, อมฺหากํ ราชา ตุมฺหากํ อาโรคฺยํ ปุจฺฉตี’’ติ วตฺวา กตสกฺการสมฺมานา ‘‘กิมตฺถํ อาคตตฺถา’’ติ ปุฏฺา ‘‘อมฺหากํ รฺโ สีหสฺสโร ปุตฺโต กุสกุมาโร นาม, ราชา ตสฺส รชฺชํ ทาตุกาโม อมฺเห ตุมฺหากํ สนฺติกํ ปหิณิ, ตุมฺหากํ กิร ธีตา ปภาวตี, ตํ ตสฺส เทถ, อิมฺจ สุวณฺณรูปกํ เทยฺยธมฺมํ คณฺหถา’’ติ ตํ รูปกํ ตสฺส อทํสุ. โสปิ ‘‘เอวรูเปน มหาราเชน สทฺธึ วิวาหมงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ ตุฏฺจิตฺโต สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ ทูตา อาหํสุ – ‘‘มหาราช, อมฺเหหิ น สกฺกา ปปฺจํ กาตุํ, กุมาริกาย ลทฺธภาวํ รฺโ อาโรเจสฺสาม, อถ นํ โส อาคนฺตฺวา อาทาย คมิสฺสตี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เตสํ สกฺการํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. เต คนฺตฺวา รฺโ จ เทวิยา จ อาโรเจสุํ. ราชา มหนฺเตน ปริวาเรน กุสาวติโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน สาคลนครํ ปาปุณิ. มทฺทราชา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ตํ นครํ ปเวเสตฺวา มหนฺตํ สกฺการมกาสิ.

สีลวตี เทวี ปณฺฑิตตฺตา ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ เอกาหทฺวีหจฺจเยน มทฺทราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, สุณิสํ ทฏฺุกามามฺหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปสิ. ปภาวตี สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา ธาติคณปริวุตา อาคนฺตฺวา สสฺสุํ วนฺทิ. สา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ กุมาริกา อภิรูปา, มยฺหํ ปุตฺโต วิรูโป. สเจ เอสา ตํ ปสฺสิสฺสติ, เอกาหมฺปิ อวสิตฺวา ปลายิสฺสติ, อุปายํ กริสฺสามี’’ติ. สา มทฺทราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, สุณิสา เม ปุตฺตสฺส อนุจฺฉวิกา, อปิจ โข ปน อมฺหากํ กุลปเวณิยา อาคตํ จาริตฺตํ อตฺถิ, สเจ อยํ ตสฺมึ จาริตฺเต วตฺติสฺสติ, เนสฺสามิ น’’นฺติ อาห. ‘‘กึ ปน โว จาริตฺต’’นฺติ. ‘‘อมฺหากํ วํเส ยาว เอกสฺส คพฺภสฺส ปติฏฺานํ โหติ, ตาว ทิวา สามิกํ ปสฺสิตุํ น ลภติ. สเจ เอสา ตถา กริสฺสติ, เนสฺสามิ น’’นฺติ. ราชา ‘‘กึ, อมฺม, สกฺขิสฺสสิ เอวํ วตฺติตุ’’นฺติ ธีตรํ ปุจฺฉิ. สา ‘‘อาม ตาตา’’ติ อาห. ตโต โอกฺกากราชา มทฺทรฺโ พหุํ ธนํ ทตฺวา ตํ อาทาย ปกฺกามิ. มทฺทราชาปิ มหนฺเตน ปริวาเรน ธีตรํ อุยฺโยเชสิ.

โอกฺกาโก กุสาวตึ คนฺตฺวา นครํ อลงฺการาเปตฺวา สพฺพพนฺธนานิ โมเจตฺวา ปุตฺตสฺส อภิเสกํ กตฺวา รชฺชํ ทตฺวา ปภาวตึ อคฺคมเหสึ กาเรตฺวา นคเร ‘‘กุสราชสฺส อาณา’’ติ เภรึ จราเปสิ. สกลชมฺพุทีปตเล ราชาโน เยสํ ธีตโร อตฺถิ, เต กุสรฺโ ธีตโร ปหิณึสุ. เยสํ ปุตฺตา อตฺถิ, เต เตน สทฺธึ มิตฺตภาวํ อากงฺขนฺตา ปุตฺเต อุปฏฺาเก กตฺวา ปหิณึสุ. โพธิสตฺตสฺส นาฏกปริวาโร มหา อโหสิ, มหนฺเตน ยเสน รชฺชํ กาเรสิ. โส ปภาวตึ ทิวา ปสฺสิตุํ น ลภติ, สาปิ ตํ ทิวา ปสฺสิตุํ น ลภติ, อุภินฺนํ รตฺติทสฺสนเมว โหติ. ตตฺถ ปภาวติยา สรีรปฺปภาปิ อพฺโพหาริกา อโหสิ. โพธิสตฺโต สิริคพฺภโต รตฺตึเยว นิกฺขมติ.

โส กติปาหจฺจเยน ปภาวตึ ทิวา ทฏฺุกาโม มาตุยา อาโรเจสิ. สา ‘‘มา เต ตาต, รุจฺจิ, ยาว เอกํ ปุตฺตํ ลภสิ, ตาว อาคเมหี’’ติ, ปฏิกฺขิปิ. โส ปุนปฺปุนํ ยาจิเยว. อถ นํ สา อาห – ‘‘เตน หิ หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิเมณฺฑเวเสน ติฏฺ, อหํ ตํ ตตฺถ อาเนสฺสามิ, อถ นํ อกฺขีนิ ปูเรตฺวา โอโลเกยฺยาสิ, มา จ อตฺตานํ ชานาเปหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา หตฺถิสาลํ อคมาสิ. อถสฺส มาตา หตฺถิสาลํ อลงฺการาเปตฺวา ปภาวตึ ‘‘เอหิ สามิกสฺส หตฺถิโน ปสฺสามา’’ติ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘อยํ หตฺถี อสุโก นาม, อยํ หตฺถี อสุโก นามา’’ติ ตสฺสา ทสฺเสสิ. ตตฺถ ตํ ราชา มาตุ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา หตฺถิโคปกเวเสน หตฺถิฉกณปิณฺเฑน ปิฏฺิยํ ปหริ. สา กุทฺธา ‘‘รฺโ กเถตฺวา เต หตฺถํ ฉินฺทาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา เทวึ อุชฺฌาเปสิ. ราชมาตา ‘‘มา อมฺม กุชฺฌี’’ติ สุณิสํ สฺาเปตฺวา ปิฏฺึ ปริมชฺชิ. ปุนปิ ราชา ตํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา อสฺสสาลาย อสฺสโคปกเวเสน ตํ ทิสฺวา ตเถว อสฺสฉกณปิณฺเฑน ปหริ. ตทาปิ ตํ กุทฺธํ สสฺสุ สฺาเปสิ.

ปุเนกทิวเส ปภาวตี มหาสตฺตํ ปสฺสิตุกามา หุตฺวา สสฺสุยา อาโรเจตฺวา ‘‘อลํ มา เต รุจฺจี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตาปิ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘เตน หิ สฺเว มม ปุตฺโต นครํ ปทกฺขิณํ กริสฺสติ, ตฺวํ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ตํ ปสฺเสยฺยาสี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุนทิวเส นครํ อลงฺการาเปตฺวา ชยมฺปติกุมารํ ราชเวสํ คาหาเปตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา โพธิสตฺตํ ปจฺฉิมาสเน นิสีทาเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ การาเปสิ. สา ปภาวตึ อาทาย สีหปฺชเร ตฺวา ‘‘ปสฺส ตว สามิกสฺส สิริโสภคฺค’’นฺติ อาห. สา ‘‘อนุจฺฉวิโก เม สามิโก ลทฺโธ’’ติ อตฺตมนา อโหสิ. ตํ ทิวสํ ปน มหาสตฺโต หตฺถิเมณฺฑเวเสน ชยมฺปติสฺส ปจฺฉิมาสเน นิสีทิตฺวา ยถาธิปฺปาเยน ปภาวตึ โอโลเกนฺโต หตฺถวิการาทิวเสน จิตฺตรุจิยา เกฬึ ทสฺเสสิ. หตฺถิมฺหิ อติกฺกนฺเต ราชมาตา ปภาวตึ ปุจฺฉิ – ‘‘ทิฏฺโ เต, อมฺม, สามิโก’’ติ. ‘‘อาม อยฺเย, ปจฺฉิมาสเน ปนสฺส นิสินฺโน หตฺถิเมณฺโฑ อติวิย ทุพฺพินีโต, มยฺหํ หตฺถวิการาทีนิ ทสฺเสสิ, กสฺมา เอวรูปํ อลกฺขิกํ รฺโ ปจฺฉิมาสเน นิสีทาเปสุํ, นีหราเปหิ น’’นฺติ? ‘‘อมฺม, รฺโ ปจฺฉิมาสเน รกฺขา นาม อิจฺฉิตพฺพา’’ติ.

สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ หตฺถิเมณฺโฑ อติวิย นิพฺภโย, ราชานํ ‘ราชา’ติปิ น มฺติ, กึ นุ โข เอโสว กุสราชา, อทฺธา หิ เอโส อติวิย วิรูโป เอว ภวิสฺสติ, เตเนว มํ น ทสฺเสนฺตี’’ติ. สา ขุชฺชํ กณฺณมูเล อาห – ‘‘อมฺม, คจฺฉ ตาว ชานาหิ, กึ ปุริมาสเน นิสินฺนโก ราชา, อุทาหุ ปจฺฉิมาสเน’’ติ? ‘‘กถํ ปนาหํ ชานิสฺสามี’’ติ. ‘‘สเจ หิ โส ราชา ภวิสฺสติ, ปมตรํ หตฺถิปิฏฺิโต โอตริสฺสติ, อิมาย สฺาย ชานาหี’’ติ. สา คนฺตฺวา เอกมนฺเต ิตา ปมํ มหาสตฺตํ โอตรนฺตํ อทฺทส, ปจฺฉา ชยมฺปติกุมารํ. มหาสตฺโตปิ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ขุชฺชํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา นาม การเณน เอสา อาคตา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ อนฺตรํ ปภาวติยา มา กเถหี’’ติ ทฬฺหํ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. สา คนฺตฺวา ‘‘ปุริมาสเน นิสินฺโน ปมํ โอตรี’’ติ อาห. ปภาวตี ตสฺสา วจนํ สทฺทหิ.

มหาสตฺโตปิ ปุน ทฏฺุกาโม หุตฺวา มาตรํ ยาจิ. สา ปฏิกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘เตน หิ อฺาตกเวเสน อุยฺยานํ คจฺฉาหี’’ติ อาห. โส อุยฺยานํ คนฺตฺวา โปกฺขรณิยํ คลปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ปทุมินิปตฺเตน สีสํ ฉาเทตฺวา ปุปฺผิตปทุเมน มุขํ อาวริตฺวา อฏฺาสิ. มาตาปิสฺส ปภาวตึ อุยฺยานํ เนตฺวา สายนฺหสมเย ‘‘อิเม รุกฺเข ปสฺส, สกุเณ ปสฺส, มิเค ปสฺสา’’ติ ปโลภยมานา โปกฺขรณีตีรํ ปายาสิ. สา ปฺจวิธปทุมสฺฉนฺนํ โปกฺขรณึ ทิสฺวา นฺหายิตุกามา ปริจาริกาหิ สทฺธึ โปกฺขรณึ โอตริตฺวา กีฬนฺตี ตํ ปทุมํ ทิสฺวา วิจินิตุกามา หตฺถํ ปสาเรสิ. อถ นํ ราชา ปทุมินิปตฺตํ อปเนตฺวา ‘‘อหํ กุสราชา’’ติ วตฺวา หตฺเถ คณฺหิ. สา ตสฺส มุขํ ทิสฺวา ‘‘ยกฺโข มํ คณฺหี’’ติ วิรวิตฺวา ตตฺเถว วิสฺิตํ ปตฺตา. อถสฺสา ราชา หตฺถํ มุฺจิ. สา สฺํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘กุสราชา กิร มํ หตฺเถ คณฺหิ, อิมินาวาหํ หตฺถิสาลาย หตฺถิฉกณปิณฺเฑน, อสฺสสาลาย อสฺสฉกณปิณฺเฑน ปหฏา, อยเมว มํ หตฺถิสฺส ปจฺฉิมาสเน นิสีทิตฺวา อุปฺปณฺเฑสิ, กึ เม เอวรูเปน ทุมฺมุเขน ปตินา, อิมํ ชหิตฺวา อหํ ชีวนฺตี อฺํ ปตึ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตนา สทฺธึ อาคเต อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มม ยานวาหนํ สชฺชํ กโรถ, อชฺเชว คมิสฺสามี’’ติ อาหํ. เต รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา จินฺเตสิ – ‘‘สเจ คนฺตุํ น ลภิสฺสติ, หทยมสฺสา ผลิสฺสติ, คจฺฉตุ ปุน ตํ อตฺตโน พเลน อาเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อถสฺสา คมนํ อนุชานิ. สา ปิตุนครเมว อคมาสิ.

มหาสตฺโตปิ อุยฺยานโต นครํ ปวิสิตฺวา อลงฺกตปาสาทํ อภิรุหิ. โพธิสตฺตฺหิ สา ปุพฺพปตฺถนาวเสน น อิจฺฉิ, โสปิ ปุพฺพกมฺมวเสเนว วิรูโป อโหสิ. อตีเต กิร พาราณสิยํ ทฺวารคาเม อุปริมวีถิยา จ เหฏฺิมวีถิยา จ ทฺเว กุลานิ วสึสุ. เอกสฺส กุลสฺส ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เอกสฺส เอกาว ธีตา อโหสิ. ทฺวีสุ ปุตฺเตสุ โพธิสตฺโต กนิฏฺโ. ตํ กุมาริกํ เชฏฺกสฺส อทํสุ. กนิฏฺโ อทารภรโณ ภาตุ สนฺติเกเยว วสิ. อเถกทิวสํ ตสฺมึ ฆเร อติรสกปูเว ปจึสุ. โพธิสตฺโต อรฺํ คโต โหติ. ตสฺส ปูวํ เปตฺวา อวเสเส ภาเชตฺวา ขาทึสุ. ตสฺมึ ขเณ ปจฺเจกพุทฺโธ ภิกฺขาย ฆรทฺวารํ อคมาสิ. โพธิสตฺตสฺส ภาตุชายา ‘‘จูฬปติโน อฺํ ปูวํ ปจิสฺสามี’’ติ ตํ คเหตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส อทาสิ. โสปิ ตํ ขณฺเว อรฺโต อาคจฺฉิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘สามิ, จิตฺตํ ปสาเทหิ, ตว โกฏฺาโส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทินฺโน’’ติ. โส ‘‘ตว โกฏฺาสํ ขาทิตฺวา มม โกฏฺาสํ เทสิ, อหํ กึ ขาทิสฺสามี’’ติ กุทฺโธ ปจฺเจกพุทฺธํ อนุคนฺตฺวา ปตฺตโต ปูวํ คณฺหิ. สา มาตุ ฆรํ คนฺตฺวา นววิลีนํ จมฺปกปุปฺผวณฺณํ สปฺปึ อาหริตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺตํ ปูเรสิ, ตํ โอภาสํ มุฺจิ. สา ตํ ทิสฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ – ‘‘ภนฺเต, อิมินา ทานพเลน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม สรีรํ โอภาสชาตํ โหตุ, อุตฺตมรูปธรา จ ภเวยฺยํ, อิมินา จ เม อสปฺปุริเสน สทฺธึ เอกฏฺาเน วาโส มา อโหสี’’ติ. อิติ สา อิมิสฺสา ปุพฺพปตฺถนาย วเสน ตํ น อิจฺฉิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ปูว ตสฺมึ สปฺปิปตฺเต โอสีทาเปตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ – ‘‘ภนฺเต, อิมํ โยชนสเต วสนฺติมฺปิ อาเนตฺวา มม ปาทปริจาริกํ กาตุํ สมตฺโถ ภเวยฺย’’นฺติ. ตตฺถ ยํ โส กุทฺโธ คนฺตฺวา ปูวํ คณฺหิ, ตสฺส ปุพฺพกมฺมสฺส วเสน วิรูโป อโหสิ, ปุพฺพปตฺถนาย สา จ ตํ น อิจฺฉีติ.

โส ปภาวติยา คตาย โสกปฺปตฺโต อโหสิ, นานากาเรหิ ปริจารยมานาปิ นํ เสสิตฺถิโย โอโลกาเปตุมฺปิ นาสกฺขึสุ,, ปภาวติรหิตมสฺส สกลมฺปิ นิเวสนํ ตุจฺฉํ วิย ขายิ. โส ‘‘อิทานิ สาคลนครํ ปตฺตา ภวิสฺสตี’’ติ ปจฺจูสสมเย มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อมฺม, อหํ ปภาวตึ อาเนสฺสามิ, ตุมฺเห รชฺชํ อนุสาสถา’’ติ วทนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘อิทํ เต รฏฺํ สธนํ สโยคฺคํ, สกายุรํ สพฺพกามูปปนฺนํ;

อิทํ เต รชฺชํ อนุสาส อมฺม, คจฺฉามหํ ยตฺถ ปิยา ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ สโยคฺคนฺติ หตฺถิโยคฺคาทิสหิตํ. สกายุรนฺติ สปฺจราชกกุธภณฺฑํ. อนุสาส, อมฺมาติ โส กิร ปุริสสฺส รชฺชํ ทตฺวา ปุน คณฺหนํ นาม น ยุตฺตนฺติ ปิตุ วา ภาตุ วา อนิยฺยาเทตฺวา มาตุ นิยฺยาเทนฺโต เอวมาห.

สา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ, ตาต, อปฺปมตฺโต ภเวยฺยาสิ, มาตุคาโม นาม อปริสุทฺธหทโย’’ติ วตฺวา นานคฺครสโภชนสฺส สุวณฺณกโรฏึ ปูเรตฺวา ‘‘อิทํ อนฺตรามคฺเค ภุฺเชยฺยาสี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ตํ อาทาย มาตรํ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ‘‘ชีวนฺโต ปุน ตุมฺเห ปสฺสิสฺสามี’’ติ วตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปฺจาวุธํ สนฺนยฺหิตฺวา ภตฺตกโรฏิยา สทฺธึ กหาปณสหสฺสํ ปสิพฺพเก กตฺวา โกกนุทฺจ วีณํ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา มหพฺพโล มหาถาโม ยาว มชฺฌนฺหิกา ปณฺณาส โยชนานิ คนฺตฺวา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา เสสทิวสภาเคน ปุน ปณฺณาส โยชนานิ คนฺตฺวา เอกาเหเนว โยชนสติกํ มคฺคํ เขเปตฺวา สายนฺหสมเย นฺหตฺวา สาคลนครํ ปาวิสิ. ตสฺมึ ปวิฏฺมตฺเตเยว ตสฺส เตเชน ปภาวตี สยนปิฏฺเ สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. โพธิสตฺตํ กิลนฺตินฺทฺริยํ วีถิยา คจฺฉนฺตํ อฺตรา อิตฺถี ทิสฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา ปาเท โธวาเปตฺวา สยนํ ทาเปสิ. โส กิลนฺตกาโย นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ.

อถ สา ตสฺมึ นิทฺทมุปคเต ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ตํ ปโพเธตฺวา ภตฺตํ โภเชสิ. โส ตุฏฺโ ตสฺสา สทฺธึ ภตฺตกโรฏิยา กหาปณสหสฺสํ อทาสิ. โส ปฺจาวุธํ ตตฺเถว เปตฺวา ‘‘คนฺตพฺพฏฺานํ เม อตฺถี’’ติ วตฺวา วีณํ อาทาย หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา ‘‘อชฺช เม อิธ วสิตุํ เทถ, คนฺธพฺพํ โว กริสฺสามี’’ติ วตฺวา หตฺถิโคปเกหิ อนุฺาโต เอกมนฺเต นิปชฺชิตฺวา โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ อุฏฺาย วีณํ มุฺจิตฺวา ‘‘สาคลนครวาสิโน อิมํ สทฺทํ สุณนฺตู’’ติ วีณํ วาเทนฺโต คายิ. ปภาวตี ภูมิยํ นิปนฺนา ตํ สทฺทํ สุตฺวาว ‘‘อยํ น อฺสฺส วีณาสทฺโท, นิสฺสํสยํ กุสราชา มมตฺถาย อาคโต’’ติ อฺาสิ. มทฺทราชาปิ ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อติวิย มธุรํ วาเทติ, สฺเว เอตํ ปกฺโกสาเปตฺวา มม คนฺธพฺพํ กาเรสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

โพธิสตฺโต ‘‘น สกฺกา อิธ วสมาเนน ปภาวตี ทฏฺุํ, อฏฺานเมต’’นฺติ ปาโตว นิกฺขมิตฺวา สายํ ภุตฺตเคเหเยว ปาตราสํ ภุฺชิตฺวา วีณํ เปตฺวา ราชกุมฺภการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคนฺตฺวา เอกทิวเสเนว ฆรํ มตฺติกาย ปูเรตฺวา ‘‘ภาชนานิ กโรมิ อาจริยา’’ติ วตฺวา, ‘‘อาม, กาโรหี’’ติ วุตฺเต เอกํ มตฺติกาปิณฺฑํ จกฺเก เปตฺวา จกฺกํ อาวิฺฉิ, สกึ อาวิทฺธเมว ยาว มชฺฌนฺหิกาติกฺกมา ภมิเยว. โส นานาวณฺณานิ ขุทฺทกมหนฺตานิ ภาชนานิ กตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย ภาชนํ กโรนฺโต นานารูปานิ สมุฏฺาเปสิ. โพธิสตฺตานฺหิ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติ, ‘‘ตานิ รูปานิ ปภาวตีเยว ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺาสิ. โส สพฺพภาชนานิ สุกฺขาเปตฺวา ปจิตฺวา เคหํ ปูเรสิ. กุมฺภกาโร นานาภาชนานิ คเหตฺวา ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ กตานี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยา, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ตยา กตานิ ชานามิ, กเถหิ, เกน กตานี’’ติ? ‘‘อนฺเตวาสิเกน เม เทวา’’ติ. ‘‘น เต โส อนฺเตวาสี, อาจริโย เต โส, ตฺวํ ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺข, อิโต ปฏฺาย จ โส มม ธีตานํ ภาชนานิ กโรตุ, อิมฺจสฺส สหสฺสํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทาเปตฺวา ‘‘นานาวณฺณานิ อิมานิ ขุทฺทกภาชนานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห.

โส ตานิ ตาสํ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อิมานิ โว กีฬนตฺถาย ขุทฺทกภาชนานี’’ติ อาห. ตา สพฺพา อาคมึสุ. กุมฺภกาโร มหาสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตภาชนเมว ตสฺสา อทาสิ. สา จ ภาชนํ คเหตฺวา ตตฺถ อตฺตโน จ มหาสตฺตสฺส จ ขุชฺชาย จ รูปํ ปสฺสิตฺวา ‘‘อิทํ น อฺเน กตํ, กุสราเชเนว กต’’นฺติ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ภูมิยํ ขิปิตฺวา ‘‘อิมินา มยฺหํ อตฺโถ นตฺถิ, อิจฺฉนฺตานํ เทหี’’ติ อาห. อถสฺสา ภคินิโย กุทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘ขุทฺทกภาชนํ กุสรฺา กตนฺติ มฺสิ, อิทํ เตน น กตํ, กุมฺภกาเรเนว กตํ, คณฺหาหิ น’’นฺติ อวหสึสุ. สา เตน กตภาวํ ตสฺส จ อาคตภาวํ ตาสํ น กเถสิ. กุมฺภกาโร สหสฺสํ โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ‘‘ตาต, ราชา เต ตุฏฺโ, อิโต กิร ปฏฺาย ราชธีตานํ ภาชนานิ กเรยฺยาสิ, อหํ ตาสํ หริสฺสามี’’ติ อาห.

โส ‘‘อิธาปิ วสนฺเตน น สกฺกา ปภาวตี ทฏฺุ’’นฺติ ตํ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ราชุปฏฺากสฺส นฬการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส อนฺเตวาสิโก หุตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย ตาลวณฺฏํ กตฺวา ตตฺเถว เสตจฺฉตฺตฺจ อาปานภูมิฺจ วตฺถํ คเหตฺวา ิตํ ปภาวติฺจาติ นานารูปานิ ทสฺเสสิ. นฬกาโร ตฺจ อฺฺจ เตน กตภณฺฑกํ อาทาย ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ กตานี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปุริมนเยเนว สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิมานิ นฬการภณฺฑานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห. โสปิ โพธิสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตํ ตาลวณฺฏํ ตสฺสาเยว อทาสิ. ตตฺรปิ รูปานิ อฺโ ชโน น ปสฺสติ, ปภาวตี ปน ทิสฺวา กุสรฺา กตภาวํ ตฺวา ‘‘คณฺหิตุกามา คณฺหนฺตู’’ติ กุทฺธา ภูมิยํ ขิปิ. อถ นํ เสสา อวหสึสุ. นฬกาโร สหสฺสํ อาหริตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ.

โส ‘‘อิทมฺปิ มยฺหํ อวสนฏฺาน’’นฺติ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ราชมาลาการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคนฺตฺวา นานาวิธํ มาลาวิกตึ คนฺถิตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย นานารูปวิจิตฺรํ เอกํ จุมฺพฏกํ อกาสิ. มาลากาโร ตํ สพฺพํ อาทาย ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ คนฺถิตานี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยา, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ตยา คนฺถิตานิ ชานามิ, กเถหิ, เกน คนฺถิตานี’’ติ? ‘‘อนฺเตวาสิเกน เม, เทวา’’ติ. ‘‘น โส อนฺเตวาสี, อาจริโย เต โส, ตฺวํ ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺข, อิโต ปฏฺาย จ โส มม ธีตานํ ปุปฺผานิ คนฺถตุ, อิมฺจสฺส สหสฺสํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิมานิ ปุปฺผานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห. โสปิ โพธิสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตํ จุมฺพฏกํ ตสฺสาเยว อทาสิ. สา ตตฺถ อตฺตโน จ รฺโ จ รูเปหิ สทฺธึ นานารูปานิ ทิสฺวา เตน กตภาวํ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ภูมิยํ ขิปิ. เสสา ภคินิโย ตํ ตเถว อวหสึสุ. มาลากาโรปิ สหสฺสํ อาหริตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ.

โส ‘‘อิทมฺปิ มยฺหํ อวสนฏฺาน’’นฺติ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา รฺโ สูทสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคจฺฉิ. อเถกทิวสํ สูโท รฺโ โภชนวิกตึ หรนฺโต อตฺตโน อตฺถาย ปจิตุํ โพธิสตฺตสฺส อฏฺิมํสํ อทาสิ. โส ตํ ตถา สมฺปาเทสิ, ยถาสฺส คนฺโธ สกลนครํ อวตฺถริ. ราชา ตํ ฆายิตฺวา ‘‘กึ เต มหานเส อฺมฺปิ มํสํ ปจสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ, เทว, อปิจ โข ปน เม อนฺเตวาสิกสฺส อฏฺิมํสํ ปจนตฺถาย ทินฺนํ, ตสฺเสว โส คนฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ. ราชา อาหราเปตฺวา ตโต โถกํ ชิวฺหคฺเค เปสิ, ตาวเทว สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ โขเภนฺตํ ผริ. ราชา รสตณฺหาย พชฺฌิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ตว อนฺเตวาสินา มม จ ธีตานฺจ เม ภตฺตํ ปจาเปตฺวา ตฺวํ มยฺหํ อาหร, โส เม ธีตานํ หรตู’’ติ อาห. สูโท คนฺตฺวา ตสฺส อาโรเจสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, อิทานิ ปนาหํ ปภาวตึ ทฏฺุํ ลภิสฺสามี’’ติ ตุฏฺโ ตํ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ปุนทิวเส ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา รฺโ ภตฺตภาชนานิ เปเสตฺวา ราชธีตานํ ภตฺตกาชํ สยํ คเหตฺวา ปภาวติยา วสนปาสาทํ อภิรุหิ. สา ตํ ภตฺตกาชํ อาทาย ปาสาทํ อภิรุหนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อตฺตโน อนนุจฺฉวิกํ ทาสกมฺมกเรหิ กตฺตพฺพํ กโรติ. สเจ ปนาหํ กติปาหํ ตุณฺหี ภวิสฺสามิ, ‘อิทานิ มํ เอสา โรจตี’ติ สฺี หุตฺวา กตฺถจิ อคนฺตฺวา มํ โอโลเกนฺโต อิเธว วสิสฺสติ, อิทาเนว ตํ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา มุหุตฺตมฺปิ อิธ วสิตุํ อทตฺวา ปลาเปสฺสามี’’ติ. สา ทฺวารํ อฑฺฒวิวฏํ กตฺวา เอกํ หตฺถํ กวาเฏ ลคฺเคตฺวา เอเกน หตฺเถน อคฺคฬํ อุปฺปีเฬตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘อนุชฺชุภูเตน หรํ มหนฺตํ, ทิวา จ รตฺโต จ นิสีถกาเล;

ปฏิคจฺฉ ตฺวํ ขิปฺปํ กุสาวตึ กุส, นิจฺฉามิ ทุพฺพณฺณมหํ วสนฺต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ตฺวํ ภตฺตการโก หุตฺวา อุชุเกน จิตฺเตน โยปิ เต สีสํ ภินฺเทยฺย, ตสฺสเปตํ กมฺมํ น กโรสิ, อนุชุภูเตน ปน จิตฺเตน มมตฺถาย เอตํ มหนฺตํ กาชํ หรนฺโต ทิวา จ รตฺโต จ นิสีถกาเล จ มหนฺตํ ทุกฺขํ อนุภวิสฺสสิ, กึ เต เตน อนุภูเตน ทุกฺเขน, ตฺวํ อตฺตโน นครํ กุสาวติเมว ปฏิคจฺฉ, อฺํ อตฺตนา สทิสึ อติรสกปูวสณฺานมุขึ ยกฺขินึ อคฺคมเหสึ กตฺวา รชฺชํ กาเรหีติ. นิจฺฉามิ ทุพฺพณฺณมหํ วสนฺตนฺติ อหํ ปน ตํ ทุพฺพณฺณํ ทุสฺสณฺิตํ อิธ วสนฺตํ น อิจฺฉามีติ.

โส ‘‘ปภาวติยา เม สนฺติกา กถา ลทฺธา’’ติ ตุฏฺจิตฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

.

‘‘นาหํ คมิสฺสามิ อิโต กุสาวตึ, ปภาวตี วณฺณปโลภิโต ตว;

รมามิ มทฺทสฺส นิเกตรมฺเม, หิตฺวาน รฏฺํ ตว ทสฺสเน รโต.

.

‘‘ปภาวตี วณฺณปโลภิโต ตว, สมฺมูฬฺหรูโป วิจรามิ เมทินึ;

ทิสํ น ชานามิ กุโตมฺหิ อาคโต, ตยมฺหิ มตฺโต มิคมนฺทโลจเน.

.

‘‘สุวณฺณจีรวสเน, ชาตรูปสุเมขเล;

สุสฺโสณิ ตว กามา หิ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก’’ติ.

ตตฺถ รมามีติ อภิรมามิ น อุกฺกณฺามิ. สมฺมูฬฺหรูโปติ กิเลสสมฺมูฬฺโห หุตฺวา. ตยมฺหิ มตฺโตติ ตยิ มตฺโตมฺหิ, ตยา วา มตฺโตมฺหิ. สุวณฺณจีรวสเนติ สุวณฺณขจิตวตฺถวสเน. นาหํ รชฺเชน มตฺถิโกติ น อหํ รชฺเชน อตฺถิโก.

เอวํ วุตฺเต สา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เอตํ ‘วิปฺปฏิสารี ภวิสฺสตี’ติ ปริภาสามิ, อยํ ปน รชฺชิตฺวาว กเถติ, สเจ โข ปน มํ ‘อหํ กุสราชา’ติ วตฺวา หตฺเถ คณฺเหยฺย, โก ตํ นิวาเรยฺย, โกจิ โน อิมํ กถํ สุเณยฺยา’’ติ ทฺวารํ ถเกตฺวา สูจึ ทตฺวา อนฺโต อฏฺาสิ. โสปิ ภตฺตกาชํ อาหริตฺวา ภตฺตํ วฑฺเฒตฺวา ราชธีตโร โภเชสิ. ปภาวตี ‘‘คจฺฉ กุสราเชน ปกฺกภตฺตํ อาหรา’’ติ ขุชฺชํ เปเสสิ. สา อาหริตฺวา ‘‘ภุฺชาหี’’ติ อาห. นาหํ เตน ปกฺกภตฺตํ ภุฺชามิ, ตฺวํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน ลทฺธนิวาปํ คเหตฺวา ภตฺตํ ปจิตฺวา อาหร, กุสรฺโ อาคตภาวฺจ มา กสฺสจิ อาโรเจสีติ. ขุชฺชา ตโต ปฏฺาย ตสฺสา โกฏฺาสํ อาหริตฺวา สยํ ภุฺชติ, อตฺตโน โกฏฺาสํ ตสฺสา อุปเนติ. กุสราชาปิ ตโต ปฏฺาย ตํ ปสฺสิตุํ อลภนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข ปภาวติยา มยิ สิเนโห, อุทาหุ นตฺถิ, วีมํสิสฺสามิ น’’นฺติ. โส ปน ราชธีตโร โภเชตฺวา ภตฺตกาชํ อาทาย นิกฺขนฺโต ตสฺสา คพฺภทฺวาเร ปาสาทตลํ ปาเทน ปหริตฺวา ภาชนานิ ฆฏฺเฏตฺวา นิตฺถุนิตฺวา วิสฺี หุตฺวา วิย อวกุชฺโช ปติ. สา ตสฺส นิตฺถุนิตสทฺเทน ทฺวารํ วิวริตฺวา ตํ ภตฺตกาเชน โอตฺถตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา มํ นิสฺสาย รตฺตินฺทิวํ ทุกฺขํ อนุโภติ, สุขุมาลตาย ภตฺตกาเชน อวตฺถโต ปตติ, ชีวติ นุ โข, โน วา’’ติ. สา คพฺภโต นิกฺขมิตฺวา ตสฺส นาสวาตํ อุปธาเรตุํ คีวํ ปสาเรตฺวา มุขํ โอโลเกสิ. โส มุขปูรํ เขฬํ คเหตฺวา ตสฺสา สรีเร ปาเตสิ. สา ตํ ปริภาสิตฺวา คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ อฑฺฒวิวฏํ ถเกตฺวา ิตา คาถมาห –

.

‘‘อพฺภูติ ตสฺส โภ โหติ, โย อนิจฺฉนฺตมิจฺฉติ;

อกามํ ราช กาเมสิ, อกนฺตํ กนฺตุมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ อพฺภูตีติ อภูติ, อวุฑฺฒีติ อตฺโถ.

โส ปน ปฏิพทฺธจิตฺตตาย อกฺโกสิยมาโนปิ ปริภาสิยมาโนปิ วิปฺปฏิสารํ อนุปฺปาเทตฺวาว อนนฺตรํ คาถมาห –

.

‘‘อกามํ วา สกามํ วา, โย นโร ลภเต ปิยํ;

ลาภเมตฺถ ปสํสาม, อลาโภ ตตฺถ ปาปโก’’ติ.

สาปิ ตสฺมึ เอวํ กเถนฺเตปิ อโนสกฺกิตฺวา ถทฺธตรวจนํ วตฺวา ปลาเปตุกามา อิตรํ คาถมาห –

.

‘‘ปาสาณสารํ ขณสิ, กณิการสฺส ทารุนา;

วาตํ ชาเลน พาเธสิ, โย อนิจฺฉนฺตมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ กณิการสฺส ทารุนาติ กณิการกฏฺเน. พาเธสีติ พนฺธสีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

.

‘‘ปาสาโณ นูน เต หทเย, โอหิโต มุทุลกฺขเณ;

โย เต สาตํ น วินฺทามิ, ติโรชนปทาคโต.

๑๐.

‘‘ยทา มํ ภกุฏึ กตฺวา, ราชปุตฺตี อุทิกฺขติ;

อาฬาริโก ตทา โหมิ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร.

๑๑.

‘‘ยทา อุมฺหยมานา มํ, ราชปุตฺตี อุทิกฺขติ;

นาฬาริโก ตทา โหมิ, ราชา โหมิ ตทา กุโส’’ติ.

ตตฺถ มุทุลกฺขเณติ มุทุนา อิตฺถิลกฺขเณน สมนฺนาคเต. โยติ โย อหํ ติโรรฏฺา อาคโต ตว สนฺติเก วสนฺโต ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ สาตํ น ลภามิ, โส เอวํ มฺามิ, มยิ สิเนหุปฺปตฺตินิวารณาย นูน ตว หทเย ปาสาโณ ปิโต. ภกุฏึ กตฺวาติ โกธวเสน วลิวิสมํ นลาฏํ กตฺวา. อาฬาริโกติ ภตฺตการโก. ตสฺมึ ขเณ อหํ มทฺทรฺโ อนฺเตปุเร ภตฺตการกทาโส วิย โหมีติ วทติ. อุมฺหยมานาติ ปหฏฺาการํ ทสฺเสตฺวา หสมานา. ราชา โหมีติ ตสฺมึ ขเณ อหํ กุสาวตีนคเร รชฺชํ กาเรนฺโต ราชา วิย โหมิ, กสฺมาสิ เอวํ ผรุสา, อิโต ปฏฺาย มา เอวรูปํ กริ, ภทฺเทติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อติวิย อลฺลียิตฺวา กเถติ, มุสาวาทํ กตฺวา อุปาเยน นํ อิโต ปลาเปสฺสามี’’ติ คาถมาห –

๑๒.

‘‘สเจ หิ วจนํ สจฺจํ, เนมิตฺตานํ ภวิสฺสติ;

เนว เม ตฺวํ ปตี อสฺส, กามํ ฉินฺทนฺตุ สตฺตธา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, มยา ‘‘อยํ กุสราชา มยฺหํ ปติ ภวิสฺสติ, น ภวิสฺสตี’’ติ พหู นิมิตฺตปากา ปุจฺฉิตา, เต ‘‘กามํ กิร มํ สตฺตธา ฉินฺทนฺตุ, เนว เม ตฺวํ ปติ ภวิสฺสสี’’ติ วทึสูติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตํ ปฏิพาหนฺโต ‘‘ภทฺเท, มยาปิ อตฺตโน รฏฺเ เนมิตฺตกา ปุจฺฉิตา, เต ‘อฺตฺร สีหสฺสรกุสราชโต ตว ปติ นาม อฺโ นตฺถี’ติ พฺยากรึสุ, อหมฺปิ อตฺตโน าณพลนิมิตฺเตน เอวเมว กเถสิ’’นฺติ วตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๓.

‘‘สเจ หิ วจนํ สจฺจํ, อฺเสํ ยทิ วา มม;

เนว ตุยฺหํ ปตี อตฺถิ, อฺโ สีหสฺสรา กุสา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยทิ หิ อฺเสํ เนมิตฺตานํ วจนํ สจฺจํ, ยทิ วา มม วจนํ สจฺจํ, ตว อฺโ ปติ นาม นตฺถีติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา อิมํ ลชฺชาเปตุํ วา ปลาเปตุํ วา, กึ เม อิมินา’’ติ ทฺวารํ ปิธาย อตฺตานํ น ทสฺเสสิ. โสปิ กาชํ คเหตฺวา โอตริ, ตโต ปฏฺาย ตํ ทฏฺุํ น ลภติ, ภตฺตการกกมฺมํ กโรนฺโต อติวิย กิลมติ, ภุตฺตปาตราโส ทารูนิ ผาเลติ, ภาชนานิ โธวติ, กาเชน อุทกํ อาหรติ, สยนฺโต อมฺพณปิฏฺเ สยติ, ปาโต วุฏฺาย ยาคุอาทีนิ ปจติ หรติ โภเชติ, นนฺทิราคํ นิสฺสาย อติทุกฺขํ อนุโภติ. โส เอกทิวสํ ภตฺตเคหทฺวาเรน คจฺฉนฺตึ ขุชฺชํ ทิสฺวา ปกฺโกสิ. สา ปภาวติยา ภเยน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุํ อวิสหนฺตี ตุริตตุริตา วิย คจฺฉติ. อถ นํ เวเคน อุปคนฺตฺวา ‘‘ขุชฺเช’’ติ อาห.

สา นิวตฺติตฺวา ิตา ‘‘โก เอโส’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ สทฺทํ น สุณามี’’ติ อาห. อถ นํ ‘‘ขุชฺเช ตฺวมฺปิ สามินีปิ เต อุโภปิ อติวิย ถทฺธา, เอตฺตกํ กาลํ ตุมฺหากํ สนฺติเก วสนฺโต อาโรคฺยสาสนมตฺตมฺปิ น ลภามิ, เทยฺยธมฺมํ ปน กึ ทสฺสถ, ติฏฺตุ ตาเวตํ, อปิ เม ปภาวตึ มุทุกํ กตฺวา ทสฺเสตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ ‘‘สเจ เม ตํ ทสฺเสตุํ สกฺขิสฺสสิ, ขุชฺชภาวํ เต อุชุกํ กตฺวา คีเวยฺยกํ ทสฺสามี’’ติ ปโลเภนฺโต ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๑๔.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, โอโลเกยฺย ปภาวตี.

๑๕.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, อาลเปยฺย ปภาวตี.

๑๖.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, อุมฺหาเยยฺย ปภาวตี.

๑๗.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, ปมฺหาเยยฺย ปภาวตี.

๑๘.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, ปาณีหิ อุปสมฺผุเส’’ติ.

ตตฺถ เนกฺขํ คีวํ เตติ ตว คีเวยฺยํ สพฺพสุวณฺณมยเมว กาเรสฺสามีติ อตฺโถ. ‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กริสฺสามี’’ติปิ ปาโ, ตว คีวาย เนกฺขมยํ ปิฬนฺธนํ ปิฬนฺเธสฺสามีติ อตฺโถ. โอโลเกยฺยาติ สเจ ตว วจเนน มํ ปภาวตี โอโลเกยฺย, สเจ มํ ตาย โอโลกาเปตุํ สกฺขิสฺสสีติ อตฺโถ. ‘‘อาลเปยฺยา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อุมฺหาเยยฺยาติ มนฺทหสิตวเสน ปริหาเสยฺย. ปมฺหาเยยฺยาติ มหาหสิตวเสน ปริหาเสยฺย.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห, เทว, กติปาหจฺจเยน นํ ตุมฺหากํ วเส กริสฺสามิ, ปสฺสถ เม ปรกฺกม’’นฺติ วตฺวา ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา ปภาวติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺสา วสนคพฺภํ โสเธนฺตี วิย ปหรณโยคฺคํ เลฑฺฑุขณฺฑมฺปิ อเสเสตฺวา อนฺตมโส ปาทุกาปิ นีหริตฺวา สกลคพฺภํ สมฺมชฺชิตฺวา คพฺภทฺวาเร อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา อุจฺจาสนํ ปฺเปตฺวา ปภาวติยา เอกํ นีจปีกํ อตฺถริตฺวา ‘‘เอหิ, อมฺม, สีเส เต อูกา วิจินิสฺสามี’’ติ ตํ ตตฺถ ปีเก นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน อูรุอนฺตเร ตสฺสา สีสํ เปตฺวา โถกํ กณฺฑุยิตฺวา ‘‘อโห อิมิสฺสา สีเส พหู อูกา’’ติ สกสีสโต อูกา คเหตฺวา ตสฺสา หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ปสฺส กิตฺตกา เต สีเส อูกา’’ติ ปิยกถํ กเถตฺวา มหาสตฺตสฺส คุณํ กเถนฺตี คาถมาห –

๑๙.

‘‘น หิ นูนายํ ราชปุตฺตี, กุเส สาตมฺปิ วินฺทติ;

อาฬาริเก ภเต โปเส, เวตเนน อนตฺถิเก’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – เอกํเสน อยํ ราชปุตฺตี ปุพฺเพ กุสาวตีนคเร กุสนรินฺทสฺส สนฺติเก มาลาคนฺธวิเลปนวตฺถาลงฺการวเสน อปฺปมตฺตกมฺปิ สาตํ น วินฺทติ น ลภติ, ตมฺพูลมตฺตมฺปิ เอเตน เอติสฺสา ทินฺนปุพฺพํ น ภวิสฺสติ. กึการณา? อิตฺถิโย นาม เอกทิวสมฺปิ องฺกํ อวตฺถริตฺวา นิปนฺนสามิกมฺหิ หทยํ ภินฺทิตุํ น สกฺโกนฺติ, อยํ ปน อาฬาริเก ภเต โปเส อาฬาริกตฺตฺจ ภตกตฺตฺจ อุปคเต เอตสฺมึ ปุริเส มูเลนปิ อนตฺถิเก เกวลํ ตํเยว นิสฺสาย รชฺชํ ปหาย อาคนฺตฺวา เอวํ ทุกฺขํ อนุภวนฺเต ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ น กโรติ, สเจปิ เต, อมฺม, ตสฺมึ สิเนโห นตฺถิ, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา มํ นิสฺสาย กิลมตีติ ตสฺส กิฺจิเทว ทาตุํ อรหสีติ.

สา ตํ สุตฺวา ขุชฺชาย กุชฺฌิ. อถ นํ ขุชฺชา คีวายํ คเหตฺวา อนฺโตคพฺเภ ขิปิตฺวา สยํ พหิ หุตฺวา ทฺวารํ ปิธาย อาวิฺฉนรชฺชุมฺหิ โอลมฺพนฺตี อฏฺาสิ. ปภาวตี ตํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตี ทฺวารมูเล ตฺวา อกฺโกสนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๒๐.

‘‘น หิ นูนายํ สา ขุชฺชา, ลภติ ชิวฺหาย เฉทนํ;

สุนิสิเตน สตฺเถน, เอวํ ทุพฺภาสิตํ ภณ’’นฺติ.

ตตฺถ สุนิสิเตนาติ สุฏฺุ นิสิเตน ติขิณสตฺเถน. เอวํ ทุพฺภาสิตนฺติ เอวํ อโสตพฺพยุตฺตกํ ทุพฺภาสิตํ ภณนฺตี.

อถ ขุชฺชา อาวิฺจนรชฺชุํ คเหตฺวา ิตาว ‘‘นิปฺปฺเ ทุพฺพินีเต ตว รูปํ กึ กริสฺสติ, กึ มยํ ตว รูปํ ขาทิตฺวา ยาเปสฺสามา’’ติ วตฺวา เตรสหิ คาถาหิ โพธิสตฺตสฺส คุณํ ปกาเสนฺตี ขุชฺชาคชฺชิตํ นาม คชฺชิ –

๒๑.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหายโสติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๒.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหทฺธโนติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๓.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหพฺพโลติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๔.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหารฏฺโติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๕.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหาราชาติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๖.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

สีหสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๗.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

วคฺคุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๘.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

พินฺทุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๙.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มฺชุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๐.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มธุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๑.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

สตสิปฺโปติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๒.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

ขตฺติโยติปิ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๓.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

กุสราชาติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิย’’นฺติ.

ตตฺถ มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน, ปภาวตีติ อเร ปภาวติ, มา ตฺวํ เอตํ กุสนรินฺทํ อตฺตโน รูเปน อาโรหปริณาเหน ปมินิ, เอวํ ปมาณํ คณฺหิ. มหายโสติ มหานุภาโว โสติ เอวํ หทเย กตฺวาน รุจิเร ปิยทสฺสเน กรสฺสุ ตสฺส ปิยํ. อานุภาโวเยว หิสฺส รูปนฺติ วทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปิ จ มหายโสติ มหาปริวาโร. มหทฺธโนติ มหาโภโค. มหพฺพโลติ มหาถาโม. มหารฏฺโติ วิปุลรฏฺโ. มหาราชาติ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา. สีหสฺสโรติ สีหสทฺทสมานสทฺโท. วคฺคุสฺสโรติ ลีลายุตฺตสฺสโร. พินฺทุสฺสโรติ สมฺปิณฺฑิตฆนสฺสโร. มฺชุสฺสโรติ สุนฺทรสฺสโร. มธุสฺสโรติ มธุรยุตฺตสฺสโร. สตสิปฺโปติ ปเรสํ สนฺติเก อสิกฺขิตฺวา อตฺตโน พเลเนว นิปฺผนฺนอเนกสตสิปฺโป. ขตฺติโยติ โอกฺกากปเวณิยํ ชาโต อสมฺภินฺนขตฺติโย. กุสราชาติ สกฺกทตฺติยกุสติณสมานนาโม ราชา. เอวรูโป หิ อฺโ ราชา นาม นตฺถีติ ชานิตฺวา เอตสฺส ปิยํ กโรหีติ ขุชฺชา เอตฺตกาหิ คาถาหิ ตสฺส คุณํ กเถสิ.

ปภาวตี ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ขุชฺเช อติวิย คชฺชสิ, หตฺเถน ปาปุณนฺตี สสามิกภาวํ เต ชานาเปสฺสามี’’ติ ขุชฺชํ ตชฺเชสิ. สาปิ ตํ ‘‘อหํ ตํ รกฺขมานา ปิตุโน เต กุสราชสฺส อาคตภาวํ นาโรเจสึ, โหตุ, อชฺช รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ มหนฺเตน สทฺเทน ภายาเปสิ. สาปิ ‘‘โกจิเทว สุเณยฺยา’’ติ ขุชฺชํ สฺาเปสิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ปสฺสิตุํ อลภนฺโต สตฺต มาเส ทุพฺโภชเนน ทุกฺขเสยฺยาย กิลมนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘โก เม เอตาย อตฺโถ, สตฺต มาเส วสนฺโต เอตํ ปสฺสิตุมฺปิ น ลภามิ, อติวิย กกฺขฬา สาหสิกา, คนฺตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามี’’ติ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตสฺส อุกฺกณฺิตภาวํ ตฺวา ‘‘ราชา สตฺต มาเส ปภาวตึ ทฏฺุมฺปิ น ลภิ, ลภนาการมสฺส กริสฺสามี’’ติ มทฺทรฺโ ทูเต กตฺวา สตฺตนฺนํ ราชูนํ ทูตํ ปาเหนฺโต ‘‘ปภาวตี, กุสราชํ ฉฑฺเฑตฺวา อาคตา, อาคจฺฉนฺตุ ปภาวตึ คณฺหนฺตู’’ติ เอเกกสฺส วิสุํ วิสุํ สาสนํ ปหิณิ. เต มหาปริวาเรน คนฺตฺวา นครํ ปตฺวา อฺมฺสฺส อาคตการณํ น ชานนฺติ. เต ‘‘ตฺวํ กสฺมา อาคโต, ตฺวํ กสฺมา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ‘‘เอกํ กิร ธีตรํ สตฺตนฺนํ ทสฺสติ, ปสฺสถสฺส อนาจารํ, อุปฺปณฺเฑติ โน, คณฺหถ น’’นฺติ ‘‘สพฺเพสมฺปิ อมฺหากํ ปภาวตึ เทตุ ยุทฺธํ วา’’ติ สาสนานิ ปหิณิตฺวา นครํ ปริวารยึสุ. มทฺทราชา สาสนํ สุตฺวา ภีตตสิโต อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ อมจฺจา ‘‘เทว, สตฺตปิ ราชาโน ปภาวตึ นิสฺสาย อาคตา, ‘สเจ น ทสฺสติ, ปาการํ ภินฺทิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ตํ คณฺหิสฺสามา’ติ วทนฺติ, ปากาเร อภินฺเนเยว เตสํ ปภาวตึ เปเสสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาหํสุ –

๓๔.

‘‘เอเต นาคา อุปตฺถทฺธา, สพฺเพ ติฏฺนฺติ วมฺมิตา;

ปุรา มทฺทนฺติ ปาการํ, อาเนนฺเตตํ ปภาวติ’’นฺติ.

ตตฺถ อุปตฺถทฺธาติ อติถทฺธา ทปฺปิตา. อาเนนฺเตตํ ปภาวตินฺติ อาเนนฺตุ เอตํ ปภาวตินฺติ สาสนานิ ปหิณึสุ. ตสฺมา ยาว เอเต นาคา ปาการํ น มทฺทนฺติ, ตาว เนสํ ปภาวตึ เปเสหิ, มหาราชาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ เอกสฺส ปภาวตึ เปเสสฺสามิ, เสสา ยุทฺธํ กริสฺสนฺติ, น สกฺกา เอกสฺส ทาตุํ, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชานํ ‘วิรูโป’ติ ฉฑฺเฑตฺวา อาคตา อาคมนสฺส ผลํ ลภตุ, วธิตฺวาน นํ สตฺต ขณฺฑานิ กตฺวา สตฺตนฺนํ ขตฺติยานํ เปเสสฺสามี’’ติ วทนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๓๕.

‘‘สตฺต พิเล กริตฺวาน, อหเมตํ ปภาวตึ;

ขตฺติยานํ ปทสฺสามิ, เย มํ หนฺตุํ อิธาคตา’’ติ.

ตสฺส สา กถา สกลนิเวสเน ปากฏา อโหสิ. ปริจาริกา คนฺตฺวา ‘‘ราชา กิร ตํ สตฺต ขณฺฑานิ กตฺวา สตฺตนฺนํ ราชูนํ เปเสสฺสตี’’ติ ปภาวติยา อาโรเจสุํ. สา มรณภยภีตา อาสนา วุฏฺาย ภคินีหิ ปริวุตา มาตุ สิริคพฺภํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๖.

‘‘อวุฏฺหิ ราชปุตฺตี, สามา โกเสยฺยวาสินี;

อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, ทาสีคณปุรกฺขตา’’ติ.

ตตฺถ สามาติ สุวณฺณวณฺณา. โกเสยฺยวาสินีติ สุวณฺณขจิตโกเสยฺยนิวสนา.

สา มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา ปริเทวมานา อาห –

๓๗.

‘‘ตํ นูน กกฺกูปนิเสวิตํ มุขํ, อาทาสทนฺตาถรุปจฺจเวกฺขิตํ;

สุภํ สุเนตฺตํ วิรชํ อนงฺคณํ, ฉุทฺธํ วเน สฺสติ ขตฺติเยหิ.

๓๘.

‘‘เต นูน เม อสิเต เวลฺลิตคฺเค, เกเส มุทู จนฺทนสารลิตฺเต;

สมากุเล สีวถิกาย มชฺเฌ, ปาเทหิ คิชฺฌา ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ.

๓๙.

‘‘ตา นูน เม ตมฺพนขา สุโลมา, พาหา มุทู จนฺทนสารลิตฺตา;

ฉินฺนา วเน อุชฺฌิตา ขตฺติเยหิ, คยฺห ธงฺโก คจฺฉติ เยนกามํ.

๔๐.

‘‘เต นูน ตาลูปนิเภ อลมฺเพ, นิเสวิเต กาสิกจนฺทเนน;

ถเนสุ เม ลมฺพิสฺสติ สิงฺคาโล, มาตูว ปุตฺโต ตรุโณ ตนูโช.

๔๑.

‘‘ตํ นูน โสณึ ปุถุลํ สุโกฏฺฏิตํ, นิเสวิตํ กฺจนเมขลาหิ;

ฉินฺนํ วเน ขตฺติเยหี อวตฺถํ, สิงฺคาลสงฺฆา ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ.

๔๒.

‘‘โสณา ธงฺกา สิงฺคาลา จ, เย จฺเ สนฺติ ทาิโน;

อชรา นูน เหสฺสนฺติ, ภกฺขยิตฺวา ปภาวตึ.

๔๓.

‘‘สเจ มํสานิ หรึสุ, ขตฺติยา ทูรคามิโน;

อฏฺีนิ อมฺม ยาจิตฺวา, อนุปเถ ทหาถ นํ.

๔๔.

‘‘เขตฺตานิ อมฺม กาเรตฺวา, กณิกาเรตฺถ โรปย;

ยทา เต ปุปฺผิตา อสฺสุ, เหมนฺตานํ หิมจฺจเย;

สเรยฺยาถ มมํ อมฺม, เอวํวณฺณา ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ กกฺกูปนิเสวิตนฺติล กกฺกูปนิเสวิตนฺติ สาสปกกฺกโลณกกฺกมตฺติกกกฺกติลกกฺกหลิทฺทิกกฺกมุขจุณฺณเกหิ อิเมหิ ปฺจหิ กกฺเกหิ อุปนิเสวิตํ. อาทาสทนฺตาถรุปจฺจเวกฺขิตนฺติ ทนฺตมยถรุมฺหิ อาทาเส ปจฺจเวกฺขิตํ ตตฺถ โอโลเกตฺวา มณฺฑิตํ. สุภนฺติ สุภมุขํ. วิรชนฺติ วิคตรชํ นิมฺมลํ. อนงฺคณนฺติ คณฺฑปิฬกาทิโทสรหิตํ. ฉุทฺธนฺติ อมฺม เอวรูปํ มม มุขํ อทฺธา อิทานิ ขตฺติเยหิ ฉฑฺฑิตํ วเน อรฺเ สฺสตีติ ปริเทวติ. อสิเตติ กาฬเก. เวลฺลิตคฺเคติ อุนฺนตคฺเค. สีวถิกายาติ สุสานมฺหิ. ปริกฑฺฒิสฺสนฺตีติ เอวรูเป มม เกเส มนุสฺสมํสขาทกา คิชฺฌา ปาเทหิ ปหริตฺวา นูน ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ. คยฺห ธงฺโก คจฺฉติ เยนกามนฺติ อมฺม มม เอวรูปํ พาหํ นูน ธงฺโก คเหตฺวา ลุฺชิตฺวา ขาทนฺโต เยนกามํ คจฺฉิสฺสติ.

ตาลูปนิเภติ สุวณฺณตาลผลสทิเส. กาสิกจนฺทเนนาติ สุขุมจนฺทเนน นิเสวิเต. ถเนสุ เมติ อมฺม มม สุสาเน ปติตาย เอวรูเป ถเน ทิสฺวา มุเขน ฑํสิตฺวา เตสุ เม ถเนสุ อตฺตโน ตนุโช มาตุ ตรุณปุตฺโต วิย นูน สิงฺคาโล ลมฺพิสฺสติ. โสณินฺติ กฏึ. สุโกฏฺฏิตนฺติ โคหนุเกน ปหริตฺวา สุวฑฺฒิตํ. อวตฺถนฺติ ฉฑฺฑิตํ. ภกฺขยิตฺวาติ อมฺม เอเต เอตฺตกา นูน มม มํสํ ขาทิตฺวา อชรา ภวิสฺสนฺติ.

สเจ มํสานิ หรึสูติ อมฺม สเจ เต ขตฺติยา มยึ ปฏิพทฺธจิตฺตา มม มํสานิ หเรยฺยุํ, อถ ตุมฺเห อฏฺีนิ ยาจิตฺวา อนุปเถ ทหาถนํ, ชงฺฆมคฺคมหามคฺคานํ อนฺตเร ทเหยฺยาถาติ วทติ. เขตฺตานีติ อมฺม มม ฌาปิตฏฺาเน มาลาทิวตฺถูนิ กาเรตฺวา เอตฺถ เอเตสุ เขตฺเตสุ กณิการรุกฺเข โรปย. หิมจฺจเยติ หิมปาตาติกฺกเม ผคฺคุณมาเส. สเรยฺยาถาติ เตสํ ปุปฺผานํ สุวณฺณจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา อูรูสุ เปตฺวา มม ธีตา ปภาวตี เอวํวณฺณาติ สเรยฺยาถ.

อิติ สา มรณภยตชฺชิตา มาตุ สนฺติเก วิลปิ. มทฺทราชาปิ ‘‘ผรสุฺจ คณฺฑิกฺจ คเหตฺวา โจรฆาตโก อิเธว อาคจฺฉตู’’ติ อาณาเปสิ. ตสฺส อาคมนํ สกลราชเคเห ปากฏํ อโหสิ. อถสฺส อาคตภาวํ สุตฺวา ปภาวติยา มาตา อุฏฺายาสนา โสกสมปฺปิตา รฺโ สนฺติกํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๕.

‘‘ตสฺสา มาตา อุทฏฺาสิ, ขตฺติยา เทววณฺณินี;

ทิสฺวา อสิฺจ สูนฺจ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร’’ติ.

ตตฺถ อุทฏฺาสีติ อาสนา อุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา อฏฺาสิ. ทิสฺวา อสิฺจ สูนฺจาติ อนฺเตปุรมฺหิ อลงฺกตมหาตเล รฺโ ปุรโต นิกฺขิตฺตํ ผรสุฺจ คณฺฑิกฺจ ทิสฺวา วิลปนฺตี คาถมาห –

๔๖.

‘‘อิมินา นูน อสินา, สุสฺํ ตนุมชฺฌิมํ;

ธีตรํ มทฺท หนฺตฺวาน, ขตฺติยานํ ปทสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ อสินาติ ผรสุํ สนฺธายาห. โส หิ อิมสฺมึ าเน อสิ นาม ชาโต. สุสฺํ ตนุมชฺฌิมนฺติ สุฏฺุ สฺาตํ ตนุมชฺฌิมํ.

อถ นํ ราชา สฺาเปนฺโต อาห – ‘‘เทวิ, กึ กเถสิ, ตว ธีตา สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชานํ ‘วิรูโป’ติ ฉฑฺเฑตฺวา คตมคฺเค ปทวลฺเช อวินฏฺเเยว มจฺจุํ นลาเฏนาทาย อาคตา, อิทานิ อตฺตโน รูปํ นิสฺสาย อีทิสํ ผลํ ลภตู’’ติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ธีตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วิลปนฺตี อาห –

๔๗.

‘‘น เม อกาสิ วจนํ, อตฺถกามาย ปุตฺติเก;

สาชฺช โลหิตสฺฉนฺนา, คจฺฉสิ ยมสาธนํ.

๔๘.

‘‘เอวมาปชฺชตี โปโส, ปาปิยฺจ นิคจฺฉติ;

โย เว หิตานํ วจนํ, น กโรติ อตฺถทสฺสินํ.

๔๙.

‘‘สเจ จ อชฺช ธาเรสิ, กุมารํ จารุทสฺสนํ;

กุเสน ชาตํ ขตฺติยํ, สุวณฺณมณิเมขลํ;

ปูชิตํ าติสงฺเฆหิ, น คจฺฉสิ ยมกฺขยํ.

๕๐.

‘‘ยตฺถสฺสุ เภรี นทติ, กุฺชโร จ นิกูชติ;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต.

๕๑.

‘‘อสฺโส จ สิสติ ทฺวาเร, กุมาโร อุปโรทติ;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต.

๕๒.

‘‘มยูรโกฺจาภิรุเท, โกกิลาภินิกูชิเต;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺติเกติ ตํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺม, อิธ กึ กริสฺสสิ, สามิกสฺส สนฺติกํ คจฺฉ, มา รูปมเทน มชฺชีติ เอวํ ยาจนฺติยาปิ เม วจนํ น อกาสิ, สา ตฺวํ อชฺช โลหิตสฺฉนฺนา คจฺฉสิ ยมสาธนํ, มจฺจุราชสฺส ภวนํ คมิสฺสสีติ. ปาปิยฺจาติ อิโต ปาปตรฺจ นิคจฺฉติ. สเจ จ อชฺช ธาเรสีติ, อมฺม, สเจ ตฺวํ จิตฺตสฺส วสํ อคนฺตฺวา กุสนรินฺทํ ปฏิจฺจ ลทฺธํ อตฺตโน รูเปน สทิสํ จารุทสฺสนํ กุมารํ อชฺช ธารยิสฺสสิ. ยมกฺขยนฺติ เอวํ สนฺเต ยมนิเวสนํ น คจฺเฉยฺยาสิ. ตโต ยมฺหิ ขตฺติยกุเล อยํ วิภูติ, ตมฺหา นานาเภริสทฺเทน เจว มตฺตวารณโกฺจนาเทน จ นินฺนาทิตา กุสาวตีราชกุลา กึ นุ สุขตรํ ทิสฺวา อิธาคตาสีติ อตฺโถ. สิสตีติ หสติ. กุมาโรติ สุสิกฺขิโต คนฺธพฺพกุมาโร. อุปโรทตีติ นานาตูริยานิ คเหตฺวา อุปหารํ กโรติ. โกกิลาภินิกูชิเตติ กุสราชกุเล สายํ ปาโต ปวตฺตนจฺจคีตวาทิตูปหารํ ปฏิปฺผรนฺตี วิย โกกิเลหิ อภินิกูชิเต.

อิติ สาปิ เอตฺตกาหิ คาถาหิ ตาย สทฺธึ สลฺลปิตฺวา ‘‘สเจ อชฺช กุสนรินฺโท อิธ อสฺส, อิเม สตฺต ราชาโน ปลาเปตฺวา มม ธีตรํ ทุกฺขา ปโมเจตฺวา อาทาย คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๓.

‘‘กหํ นุ โข สตฺตุมทฺทโน, ปรรฏฺปฺปมทฺทโน;

กุโส โสฬารปฺาโณ, โย โน ทุกฺขา ปโมจเย’’ติ.

ตตฺถ โสฬารปฺาโณติ อุฬารปฺโ.

ตโต ปภาวตี ‘‘มม มาตุ กุสสฺส วณฺณํ ภณนฺติยา มุขํ นปฺปโหติ, อาจิกฺขิสฺสามิ ตาวสฺสา ตสฺส อิเธว อาฬาริกกมฺมํ กตฺวา วสนภาว’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๔.

‘‘อิเธว โส สตฺตุมทฺทโน, ปรรฏฺปฺปมทฺทโน;

กุโส โสฬารปฺาโณ, โย เต สพฺเพ วธิสฺสตี’’ติ.

อถสฺสา มาตา ‘‘อยํ มรณภยภีตา วิปฺปลปตี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๕.

‘‘อุมฺมตฺติกา นุ ภณสิ, อนฺธพาลา ปภาสสิ;

กุโส เจ อาคโต อสฺส, กึ น ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

ตตฺถ อนฺธพาลาติ สมฺมูฬฺหา อฺาณา หุตฺวา. กึ น ชาเนมูติ เกน การเณน ตํ น ชาเนยฺยาม. โส หิ อนฺตรามคฺเค ิโตว อมฺหากํ สาสนํ เปเสยฺย, สมุสฺสิตทฺธชา จตุรงฺคินีเสนา ปฺาเยถ, ตฺวํ ปน มรณภเยน กเถสีติ.

สา เอวํ วุตฺเต ‘‘น เม มาตา สทฺทหติ, ตสฺส อิธาคนฺตฺวา สตฺต มาเส วสนภาวํ น ชานาติ, ทสฺเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา มาตรํ หตฺเถ คเหตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ทสฺเสนฺตี คาถมาห –

๕๖.

‘‘เอโส อาฬาริโก โปโส, กุมารีปุรมนฺตเร;

ทฬฺหํ กตฺวาน สํเวลฺลึ, กุมฺภึ โธวติ โอณโต’’ติ.

ตตฺถ กุมารีปุรมนฺตเรติ วาตปาเน ิตา ตว ธีตานํ กุมารีนํ วสนฏฺานนฺตเร นํ โอโลเกหิ. สํเวลฺลินฺติ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา กุมฺภึ โธวติ.

โส กิร ตทา ‘‘อชฺช เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อทฺธา มรณภยตชฺชิตา, ปภาวตี, มม อาคตภาวํ กเถสฺสติ, ภาชนานิ โธวิตฺวา ปฏิสาเมสฺสามี’’ติ อุทกํ อาหริตฺวา ภาชนานิ โธวิตุํ อารภิ. อถ นํ มาตา ปริภาสนฺตี คาถมาห –

๕๗.

‘‘เวณี ตฺวมสิ จณฺฑาลี, อทูสิ กุลคนฺธินี;

กถํ มทฺทกุเล ชาตา, ทาสํ กยิราสิ กามุก’’นฺติ.

ตตฺถ เวณีติ ตจฺฉิกา. อทูสิ กุลคนฺธินีติ อุทาหุ ตฺวํ กุลทูสิกา. กามุกนฺติ กถํ นาม ตฺวํ เอวรูเป กุเล ชาตา อตฺตโน สามิกํ ทาสํ กเรยฺยาสีติ.

ตโต ปภาวตี ‘‘มม มาตา อิมสฺส มํ นิสฺสาย เอวํ วสนภาวํ น ชานาติ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๕๘.

‘‘นมฺหิ เวณี น จณฺฑาลี, น จมฺหิ กุลคนฺธินี;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสี’’ติ.

ตตฺถ โอกฺกากปุตฺโตติ, อมฺม, เอส โอกฺกากปุตฺโต, ตฺวํ ปน ‘‘ทาโส’’ติ มฺสิ, กสฺมา นํ อหํ ‘‘ทาโส’’ติ กเถสฺสามีติ.

อิทานิสฺส ยสํ วณฺเณนฺตี อาห –

๕๙.

‘‘โย พฺราหฺมณสหสฺสานิ, สทา โภเชติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๐.

ยสฺส นาคสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๑.

‘‘ยสฺส อสฺสสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๒.

‘‘ยสฺส รถสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ;

ยสฺส อุสภสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๓.

‘‘ยสฺส เธนุสหสฺสานิ, สทา ทุหนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสี’’ติ.

เอวํ ตาย ปฺจหิ คาถาหิ มหาสตฺตสฺส ยโส วณฺณิโต. อถสฺสา มาตา ‘‘อยํ อสมฺภิตา กถํ กเถติ, อทฺธา เอวเมต’’นฺติ สทฺทหิตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. โส เวเคน ปภาวติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร, อมฺม, กุสราชา อิธาคโต’’ติ. ‘‘อาม ตาต, อชฺชสฺส สตฺต มาสา อติกฺกนฺตา ตว ธีตานํ อาฬาริกตฺตํ กโรนฺตสฺสา’’ติ. โส ตสฺสา อสทฺทหนฺโต ขุชฺชํ ปุจฺฉิตฺวา ยถาภูตํ สุตฺวา ธีตรํ ครหนฺโต คาถมาห –

๖๔.

‘‘ตคฺฆ เต ทุกฺกฏํ พาเล, ยํ ขตฺติยํ มหพฺพลํ;

นาคํ มณฺฑูกวณฺเณน, น ตํ อกฺขาสิธาคต’’นฺติ.

ตตฺถ ตคฺฆาติ เอกํเสเนว.

โส ธีตรํ ครหิตฺวา เวเคน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กตปฏิสนฺถาโร อฺชลึ ปคฺคยฺห อตฺตโน อจฺจยํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๖๕.

‘‘อปราธํ มหาราช, ตฺวํ โน ขม รเถสภ;

ยํ ตํ อฺาตเวเสน, นาฺาสิมฺหา อิธาคต’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ผรุสํ วกฺขามิ, อิเธวสฺส หทยํ ผลิสฺสติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภาชนนฺตเร ิโตว อิตรํ คาถมาห –

๖๖.

‘‘มาทิสสฺส น ตํ ฉนฺนํ, โยหํ อาฬาริโก ภเว;

ตฺวฺเว เม ปสีทสฺสุ, นตฺถิ เต เทว ทุกฺกฏ’’นฺติ.

ราชา ตสฺส สนฺติกา ปฏิสนฺถารํ ลภิตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ปภาวตึ ปกฺโกสาเปตฺวา ขมาปนตฺถาย เปเสตุํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘คจฺฉ พาเล ขมาเปหิ, กุสราชํ มหพฺพลํ;

ขมาปิโต กุโส ราชา, โส เต ทสฺสติ ชีวิต’’นฺติ.

สา ปิตุ วจนํ สุตฺวา ภคินีหิ เจว ปริจาริกาหิ จ ปริวุตา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โสปิ กมฺมการเวเสน ิโตว ตสฺสา อตฺตโน สนฺติกํ อาคมนํ ตฺวา ‘‘อชฺช ปภาวติยา มานํ ภินฺทิตฺวา ปาทมูเล นํ กลเล นิปชฺชาเปสฺสามี’’ติ สพฺพํ อตฺตนา อาภตํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา ขลมณฺฑลมตฺตํ านํ มทฺทิตฺวา เอกกลลํ อกาสิ. สา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา กลลปิฏฺเ นิปนฺนา ตํ ขมาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๘.

‘‘ปิตุสฺส วจนํ สุตฺวา, เทววณฺณี ปภาวตี;

สิรสา อคฺคหี ปาเท, กุสราชํ มหพฺพล’’นฺติ.

ตตฺถ สิรสาติ สิรสา นิปติตฺวา กุสราชานํ ปาเท อคฺคเหสีติ.

คเหตฺวา จ ปน นํ ขมาเปนฺตี ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๖๙.

‘‘ยามา รตฺโย อติกฺกนฺตา, ตามา เทว ตยา วินา;

วนฺเท เต สิรสา ปาเท, มา เม กุชฺฌ รเถสภ.

๗๐.

‘‘สพฺพํ เต ปฏิชานามิ, มหาราช สุโณหิ เม;

น จาปิ อปฺปิยํ ตุยฺหํ, กเรยฺยามิ อหํ ปุน.

๗๑.

‘‘เอวํ เจ ยาจมานาย, วจนํ เม น กาหสิ;

อิทานิ มํ ตาโต หนฺตฺวา, ขตฺติยานํ ปทสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ รตฺโยติ รตฺติโย. ตามาติ ตา อิมา สพฺพาปิ ตยา วินา อติกฺกนฺตา. สพฺพํ เต ปฏิชานามีติ, มหาราช, เอตฺตกํ กาลํ มยา ตว อปฺปิยเมว กตํ, อิทํ เต อหํ สพฺพํ ปฏิชานามิ, อปรมฺปิ สุโณหิ เม, อิโต ปฏฺายาหํ ปุน ตุยฺหํ อปฺปิยํ น กริสฺสามิ. เอวํ เจติ สเจ เอวํ ยาจมานาย มม ตฺวํ วจนํ น กริสฺสสีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ ‘อิมํ ตฺวฺเจว ชานิสฺสสี’ติ วกฺขามิ, หทยมสฺสา ผลิสฺสติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห –

๗๒.

‘‘เอวํ เต ยาจมานาย, กึ น กาหามิ เต วโจ;

วิกุทฺโธ ตฺยสฺมิ กลฺยาณิ, มา ตฺวํ ภายิ ปภาวติ.

๗๓.

‘‘สพฺพํ เต ปฏิชานามิ, ราชปุตฺติ สุโณหิ เม;

น จาปิ อปฺปิยํ ตุยฺหํ, กเรยฺยามิ อหํ ปุน.

๗๔.

‘‘ตว กามา หิ สุสฺโสณิ, ปหุ ทุกฺขํ ติติกฺขิสํ;

พหุํ มทฺทกุลํ หนฺตฺวา, นยิตุํ ตํ ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ กึ น กาหามีติ กึการณา ตว วจนํ น กริสฺสามิ. วิกุทฺโธ ตฺยสฺมีติ วิกุทฺโธ นิกฺโกโป เต อสฺมึ. สพฺพํ เตติ วิกุทฺธภาวฺจ อิทานิ อปฺปิยกรณฺจ อุภยํ เต อิทํ สพฺพเมว ปฏิชานามิ. ตว กามาติ ตว กาเมน ตํ อิจฺฉมาโน. ติติกฺขิสนฺติ อธิวาเสมิ. พหุํ มทฺทกุลํ หนฺตฺวา นยิตุํ ตนฺติ พหุมทฺทราชกุลํ หนิตฺวา พลกฺกาเรน ตํ เนตุํ สมตฺโถติ.

อถ โส สกฺกสฺส เทวรฺโ ปริจาริกํ วิย ตํ อตฺตโน ปริจาริกํ ทิสฺวา ขตฺติยมานํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มยิ กิร ธรมาเนเยว มม ภริยํ อฺเ คเหตฺวา คมิสฺสนฺตี’’ติ สีโห วิย ราชงฺคเณ วิชมฺภมาโน ‘‘สกลนครวาสิโน เม อาคตภาวํ ชานนฺตู’’ติ วคฺคนฺโต นทนฺโต เสเฬนฺโต อปฺโผเฏนฺโต ‘‘อิทานิ เต ชีวคฺคาหํ คเหสฺสามิ, รถาทโย เม โยเชนฺตู’’ติ อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๕.

‘‘โยชยนฺตุ รเถ อสฺเส, นานาจิตฺเต สมาหิเต;

อถ ทกฺขถ เม เวคํ, วิธมนฺตสฺส สตฺตโว’’ติ.

ตตฺถ นานาจิตฺเตติ นานาลงฺการวิจิตฺเต. สมาหิเตติ อสฺเส สนฺธาย วุตฺตํ, สุสิกฺขิเต นิพฺพิเสวเนติ อตฺโถ. อถ ทกฺขถ เม เวคนฺติ อถ เม ปรกฺกมํ ปสฺสิสฺสถาติ.

สตฺตูนํ คณฺหนํ นาม มยฺหํ ภาโร, คจฺฉ ตฺวํ นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา ปาสาทํ อารุหาติ ตํ อุยฺโยเชสิ. มทฺทราชาปิสฺส ปริหารกรณตฺถํ อมจฺเจ ปหิณิ. เต ตสฺส มหานสทฺวาเรเยว สาณึ ปริกฺขิปิตฺวา กปฺปเก อุปฏฺเปสุํ. โส กตมสฺสุกมฺโม สีสํนฺหาโต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อมจฺจาทีหิ ปริวุโต ‘‘ปาสาทํ อภิรุหิสฺสามี’’ติ ทิสา วิโลเกตฺวา อปฺโผเฏสิ. โอโลกิตโอโลกิตฏฺานํ วิกมฺปิ. โส ‘‘อิทานิ เม ปรกฺกมํ ปสฺสิสฺสถา’’ติ อาห. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๖.

‘‘ตฺจ ตตฺถ อุทิกฺขึสุ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร;

วิชมฺภมานํ สีหํว, โผเฏนฺตํ ทิคุณํ ภุช’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ตฺจ ตตฺถ วิชมฺภนฺตํ อปฺโผเฏนฺตํ รฺโ อนฺเตปุเร วาตปานานิ วิวริตฺวา อิตฺถิโย อุทิกฺขึสูติ.

อถสฺส มทฺทราชา กตอาเนฺชการณํ อลงฺกตวรวารณํ เปเสสิ. โส สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺตํ หตฺถิกฺขนฺธํ อารุยฺห ‘‘ปภาวตึ อาเนถา’’ติ ตมฺปิ ปจฺฉโต นิสีทาเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปรเสนํ โอโลเกตฺวา ‘‘อหํ กุสราชา, ชีวิตตฺถิกา อุเรน นิปชฺชนฺตู’’ติ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา สตฺตุมทฺทนํ อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๗๗.

‘‘หตฺถิกฺขนฺธฺจ อารุยฺห, อาโรเปตฺวา ปภาวตึ;

สงฺคามํ โอตริตฺวาน, สีหนาทํ นที กุโส.

๗๘.

‘‘ตสฺส ตํ นทโต สุตฺวา, สีหสฺเสวิตเร มิคา;

ขตฺติยา วิปลายึสุ, กุสสทฺทภยฏฺฏิตา.

๗๙.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

อฺมฺสฺส ฉินฺทนฺติ, กุสสทฺทภยฏฺฏิตา.

๘๐.

‘‘ตสฺมึ สงฺคามสีสสฺมึ, ปสฺสิตฺวา หฏฺมานโส;

กุสสฺส รฺโ เทวินฺโท, อทา เวโรจนํ มณึ.

๘๑.

‘‘โส ตํ วิชฺฌิตฺวา สงฺคามํ, ลทฺธา เวโรจนํ มณึ;

หตฺถิกฺขนฺธคโต ราชา, ปาเวกฺขิ นครํ ปุรํ.

๘๒.

‘‘ชีวคฺคาหํ คเหตฺวาน, พนฺธิตฺวา สตฺต ขตฺติเย;

สสุรสฺสูปนาเมสิ, อิเม เต เทว สตฺตโว.

๘๓.

‘‘สพฺเพว เต วสํ คตา, อมิตฺตา วิหตา ตว;

กามํ กโรหิ เต ตยา, มุฺจ วา เต หนสฺสุ วา’’ติ.

ตตฺถ วิปลายึสูติ สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา วิปลฺลตฺถจิตฺตา ภิชฺชึสุ. กุสสทฺทภยฏฺฏิตาติ กุสรฺโ สทฺทํ นิสฺสาย ชาเตน ภเยน อุปทฺทุตา มูฬฺหจิตฺตา. อฺมฺสฺส ฉินฺทนฺตีติ อฺมฺํ ฉินฺทนฺติ มทฺทนฺติ. ‘‘ภินฺทึสู’’ติปิ ปาโ. ตสฺมินฺติ เอวํ โพธิสตฺตสฺส สทฺทสวเนเนว สงฺคาเม ภินฺเน ตสฺมึ สงฺคามสีเส ตํ มหาสตฺตสฺส ปรกฺกมํ ปสฺสิตฺวา ตุฏฺหทโย สกฺโก เวโรจนํ นาม มณิกฺขนฺธํ ตสฺส อทาสิ. นครํ ปุรนฺติ นครสงฺขาตํ ปุรํ. พนฺธิตฺวาติ เตสฺเว อุตฺตริ สาฏเกน ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา. กามํ กโรหิ เต ตยาติ ตฺวํ อตฺตโน กามํ อิจฺฉํ รุจึ กโรหิ, เอเต หิ ตยา ทาสา กตาเยวาติ.

ราชา อาห –

๘๔.

‘‘ตุยฺเหว สตฺตโว เอเต, น หิ เต มยฺห สตฺตโว;

ตฺวฺเว โน มหาราช, มุฺจ วา เต หนสฺสุ วา’’ติ.

ตตฺถ ตฺวฺเว โนติ, มหาราช, ตฺวํเยว อมฺหากํ อิสฺสโรติ.

เอวํ วุตฺเต มหาสตฺโต ‘‘กึ อิเมหิ มาริเตหิ, มา เตสํ อาคมนํ นิรตฺถกํ โหตุ, ปภาวติยา กนิฏฺา สตฺต มทฺทราชธีตโร อตฺถิ, ตา เนสํ ทาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๘๕.

‘‘อิมา เต ธีตโร สตฺต, เทวกฺูปมา สุภา;

ททาหิ เนสํ เอเกกํ, โหนฺตุ ชามาตโร ตวา’’ติ.

อถ นํ ราชา อาห –

๘๖.

‘‘อมฺหากฺเจว ตาสฺจ, ตฺวํ โน สพฺเพสมิสฺสโร;

ตฺวฺเว โน มหาราช, เทหิ เนสํ ยทิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ ตฺวํ โน สพฺเพสนฺติ, มหาราช กุสนรินฺท, กึ วเทสิ, ตฺวฺเว เอเตสฺจ สตฺตนฺนํ ราชูนํ มมฺจ อิมาสฺจ สพฺเพสํ โน อิสฺสโร. ยทิจฺฉสีติ ยทิ อิจฺฉสิ, ยสฺส วา ยํ ทาตุํ อิจฺฉสิ, ตสฺส ตํ เทหีติ.

เอวํ วุตฺเต โส ตา สพฺพาปิ อลงฺการาเปตฺวา เอเกกสฺส รฺโ เอเกกํ อทาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๘๗.

‘‘เอกเมกสฺส เอเกกํ, อทา สีหสฺสโร กุโส;

ขตฺติยานํ ตทา เตสํ, รฺโ มทฺทสฺส ธีตโร.

๘๘.

‘‘ปีณิตา เตน ลาเภน, ตุฏฺา สีหสฺสเร กุเส;

สกรฏฺานิ ปายึสุ, ขตฺติยา สตฺต ตาวเท.

๘๙.

‘‘ปภาวติฺจ อาทาย, มณึ เวโรจนํ สุภํ;

กุสาวตึ กุโส ราชา, อคมาสิ มหพฺพโล.

๙๐.

‘‘ตฺยสฺสุ เอกรเถ ยนฺตา, ปวิสนฺตา กุสาวตึ;

สมานา วณฺณรูเปน, นาฺมฺาติโรจิสุํ.

๙๑.

‘‘มาตา ปุตฺเตน สํคจฺฉิ, อุภโย จ ชยมฺปตี;

สมคฺคา เต ตทา อาสุํ, ผีตํ ธรณิมาวสุ’’นฺติ.

ตตฺถ ปีณิตาติ สนฺตปฺปิตา. ปายึสูติ อิทานิ อปฺปมตฺตา ภเวยฺยาถาติ กุสนรินฺเทน โอวทิตา อคมํสุ. อคมาสีติ กติปาหํ วสิตฺวา ‘‘อมฺหากํ รฏฺํ คมิสฺสามา’’ติ สสุรํ อาปุจฺฉิตฺวา คโต. เอกรเถ ยนฺตาติ ทฺเวปิ เอกรถํ อภิรุยฺห คจฺฉนฺตา. สมานา วณฺณรูเปนาติ วณฺเณน จ รูเปน จ สมานา หุตฺวา. นาฺมฺาติโรจิสุนฺติ เอโก เอกํ นาติกฺกมิ. มณิรตนานุภาเวน กิร มหาสตฺโต อภิรูโป อโหสิ สุวณฺณวณฺโณ โสภคฺคปฺปตฺโต, โส กิร ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาตนิสฺสนฺเทน พุทฺธปฏิมากรณนิสฺสนฺเทน จ เอวํ เตชวนฺโต อโหสิ. สํคจฺฉีติ อถสฺส มาตา มหาสตฺตสฺส อาคมนํ สุตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาสตฺตสฺส พหุํ ปณฺณาการํ อาทาย ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา สมาคจฺฉิ. โสปิ มาตรา สทฺธึเยว นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา สตฺตาหํ ฉณกีฬํ กีฬิตฺวา อลงฺกตปาสาทตลํ อภิรุหิ. เตปิ อุโภ ชยมฺปติกา สมคฺคา อเหสุํ, ตโต ปฏฺาย ยาวชีวํ สมคฺคา สมฺโมทมานา ผีตํ ธรณึ อชฺฌาวสึสูติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, กนิฏฺโ อานนฺโท, ขุชฺชา ขุชฺชุตฺตรา, ปภาวตี ราหุลมาตา, ปริสา พุทฺธปริสา, กุสราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

กุสชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๒] ๒. โสณนนฺทชาตกวณฺณนา

เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ สามชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย) วตฺถุสทิสํ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘มา, ภิกฺขเว, อิมํ ภิกฺขุํ อุชฺฌายิตฺถ, โปราณกปณฺฑิตา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ ลภมานาปิ ตํ อคฺคเหตฺวา มาตาปิตโร โปสึสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสี พฺรหฺมวฑฺฒนํ นาม นครํ อโหสิ. ตตฺถ มโนโช นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตตฺถ อฺตโร อสีติโกฏิวิภโว พฺราหฺมณมหาสาโล อปุตฺตโก อโหสิ. ตสฺส พฺราหฺมณี เตเนว ‘‘โภติ ปุตฺตํ ปตฺเถหี’’ติ วุตฺตา ปตฺเถสิ. อถ โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ชาตสฺส จสฺส ‘‘โสณกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล อฺโปิ สตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสาเยว กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ตสฺส ชาตสฺส ‘‘นนฺทกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. เตสํ อุคฺคหิตเวทานํ สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺตานํ วยปฺปตฺตานํ รูปสมฺปทํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ อามนฺเตตฺวา ‘‘โภติ ปุตฺตํ โสณกุมารํ ฆรพนฺธเนน พนฺธิสฺสามา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุตฺตสฺส ตมตฺถํ อาจิกฺขิ. โส ‘‘อลํ, อมฺม, มยฺหํ ฆราวาเสน, อหํ ยาวชีวํ ตุมฺเห ปฏิชคฺคิตฺวา ตุมฺหากํ อจฺจเยน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. สา พฺราหฺมณสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิ.

เต ปุนปฺปุนํ กเถนฺตาปิ ตสฺส จิตฺตํ อลภิตฺวา นนฺทกุมารํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, เตน หิ ตฺวํ กุฏุมฺพํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ วตฺวา ‘‘นาหํ ภาตรา ฉฑฺฑิตเขฬํ สีเสน อุกฺขิปามิ, อหมฺปิ ตุมฺหากํ อจฺจเยน ภาตราว สทฺธึ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วุตฺเต เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘อิเม ทฺเว เอวํ ตรุณาว กาเม ปชหนฺติ, กิมงฺคํ ปน มยํ, สพฺเพเยว ปพฺพชิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ตาตา, กึ โว อมฺหากํ อจฺจเยน ปพฺพชฺชาย, อิทาเนว สพฺเพ มยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ รฺโ อาโรเจตฺวา สพฺพํ ธนํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา ทาสชนํ ภุชิสฺสํ กตฺวา าตีนํ ทาตพฺพยุตฺตกํ ทตฺวา จตฺตาโรปิ ชนา พฺรหฺมวฑฺฒนนครา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตปเทเส ปฺจปทุมสฺฉนฺนํ สรํ นิสฺสาย รมณีเย วนสณฺเฑ อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ วสึสุ. อุโภปิ ภาตโร มาตาปิตโร ปฏิชคฺคึสุ, เตสํ ปาโตว ทนฺตกฏฺฺจ มุขโธวนฺจ ทตฺวา ปณฺณสาลฺจ ปริเวณฺจ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา อรฺโต มธุรผลาผลานิ อาหริตฺวา มาตาปิตโร ขาทาเปนฺติ, อุณฺเหน วา สีเตน วา วารินา นฺหาเปนฺติ, ชฏา โสเธนฺติ, ปาทปริกมฺมาทีนิ เตสํ กโรนฺติ.

เอวํ อทฺธาเน คเต นนฺทปณฺฑิโต ‘‘มยา อาภตผลาผลาเนว ปมํ มาตาปิตโร ขาทาเปสฺสามี’’ติ ปุรโต คนฺตฺวา หิยฺโย จ ปรหิยฺโย จ คหิตฏฺานโต ยานิ วา ตานิ วา ปาโตว อาหริตฺวา มาตาปิตโร ขาทาเปสิ. เต ตานิ ขาทิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิกา ภวนฺติ. โสณปณฺฑิโต ปน ทูรํ คนฺตฺวา มธุรมธุรานิ สุปกฺกสุปกฺกานิ อาหริตฺวา อุปนาเมสิ. อถ นํ, ‘‘ตาต, กนิฏฺเน เต อาภตานิ มยํ ปาโตว ขาทิตฺวา อุโปสถิกา ชาตา, น อิทานิ โน อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. อิติ ตสฺส ผลาผลานิ ปริโภคํ น ลภนฺติ วินสฺสนฺติ, ปุนทิวเสสุปิ ตเถวาติ. เอวํ โส ปฺจาภิฺตาย ทูรํ คนฺตฺวาปิ อาหรติ, เต ปน น ขาทนฺติ.

อถ มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มาตาปิตโร เม สุขุมาลา, นนฺโท จ ยานิ วา ตานิ วา อปกฺกทุปฺปกฺกานิ ผลาผลานิ อาหริตฺวา ขาทาเปติ, เอวํ สนฺเต อิเม น จีรํ ปวตฺติสฺสนฺติ, วาเรสฺสามิ น’’นฺติ. อถ นํ โส อามนฺเตตฺวา ‘‘นนฺท, อิโต ปฏฺาย ผลาผลํ อาหริตฺวา มมาคมนํ ปฏิมาเนหิ, อุโภปิ เอกโตว ขาทาเปสฺสามา’’ติ อาห. โส เอวํ วุตฺเตปิ อตฺตโน ปุฺํ ปจฺจาสีสนฺโต น ตสฺส วจนมกาสิ. มหาสตฺโต ‘‘นนฺโท มม วจนํ อกโรนฺโต อยุตฺตํ กโรติ, ปลาเปสฺสามิ นํ, ตโต เอกโกว มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘นนฺท, ตฺวํ อโนวาทโก ปณฺฑิตานํ วจนํ น กโรสิ, อหํ เชฏฺโ, มาตาปิตโร มเมว ภาโร, อหเมว เนสํ ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตฺวํ อิธ วสิตุํ น ลจฺฉสิ, อฺตฺถ ยาหี’’ติ ตสฺส อจฺฉรํ ปหริ.

โส เตน ปลาปิโต ตสฺส สนฺติเก าตุํ อสกฺโกนฺโต ตํ วนฺทิตฺวา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา อตฺตโน ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กสิณํ โอโลเกตฺวา ตํ ทิวสเมว ปฺจ อภิฺาโย อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สีเนรุปาทโต รตนวาลุกา อาหริตฺวา มม ภาตุ ปณฺณสาลาย ปริเวเณ โอกิริตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, อโนตตฺตโต อุทกํ อาหริตฺวา มม ภาตุ ปณฺณสาลาย ปริเวเณ โอสิฺจิตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, สเจ เม ภาตรํ เทวตานํ วเสน ขมาเปยฺยํ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน สกฺกฺจ อาเนตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, สกลชมฺพุทีเป มโนชํ อคฺคราชานํ อาทึ กตฺวา ราชาโน อาเนตฺวา ขมาเปสฺสามิ, เอวํ สนฺเต มม ภาตุ คุโณ สกลชมฺพุทีเป อวตฺถริตฺวา คมิสฺสติ, จนฺทิมสูริโย วิย ปฺายิสฺสตี’’ติ. โส ตาวเทว อิทฺธิยา คนฺตฺวา พฺรหฺมวฑฺฒนนคเร ตสฺส รฺโ นิเวสนทฺวาเร โอตริตฺวา ิโต ‘‘เอโก กิร โว ตาปโส ทฏฺุกาโม’’ติ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา ‘‘กึ ปพฺพชิตสฺส มยา ทิฏฺเน, อาหารตฺถาย อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ภตฺตํ ปหิณิ, โส ภตฺตํ น อิจฺฉิ. ตณฺฑุลํ ปหิณิ, ตณฺฑุลํ น อิจฺฉิ. วตฺถานิ ปหิณิ, วตฺถานิ น อิจฺฉิ. ตมฺพูลํ ปหิณิ, ตมฺพูลํ น อิจฺฉิ. อถสฺส สนฺติเก ทูตํ เปเสสิ, ‘‘กิมตฺถํ อาคโตสี’’ติ. โส ทูเตน ปุฏฺโ ‘‘ราชานํ อุปฏฺหิตุํ อาคโตมฺหี’’ติ อาห. ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘พหู มม อุปฏฺากา, อตฺตโนว ตาปสธมฺมํ กโรตู’’ติ เปเสสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อตฺตโน พเลน สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสามี’’ติ อาห.

ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ – ‘‘ปพฺพชิตา นาม ปณฺฑิตา, กิฺจิ อุปายํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาสเน นิสีทาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห กิร มยฺหํ สกลชมฺพุทีปรชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม มหาราชา’’ติ. ‘‘กถํ คณฺหิสฺสถา’’ติ? ‘‘มหาราช, อนฺตมโส ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ กสฺสจิ อนุปฺปาเทตฺวา ตว ธนจฺเฉทํ อกตฺวา อตฺตโน อิทฺธิยาว คเหตฺวา ทสฺสามิ, อปิจ เกวลํ ปปฺจํ อกตฺวา อชฺเชว นิกฺขมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา เสนงฺคปริวุโต นครา นิกฺขมิ. สเจ เสนาย อุณฺหํ โหติ, นนฺทปณฺฑิโต อตฺตโน อิทฺธิยา ฉายํ กตฺวา สีตํ กโรติ, เทเว วสฺสนฺเต เสนาย อุปริ วสฺสิตุํ น เทติ, สีตํ วา อุณฺหํ วา วาเรติ, มคฺเค ขาณุกณฺฏกาทโย สพฺพปริสฺสเย อนฺตรธาเปติ, มคฺคํ กสิณมณฺฑลํ วิย สมํ กตฺวา สยํ อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน เสนาย ปริวุโต คจฺฉติ.

เอวํ เสนํ อาทาย ปมํ โกสลรฏฺํ คนฺตฺวา นครสฺสาวิทูเร ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ‘‘ยุทฺธํ วา โน เทตุ เสตจฺฉตฺตํ วา’’ติ โกสลรฺโ ทูตํ ปาเหสิ. โส กุชฺฌิตฺวา ‘‘กึ อหํ น ราชา’’ติ ‘‘ยุทฺธํ ทมฺมี’’ติ เสนาย ปุรกฺขโต นิกฺขมิ. ทฺเว เสนา ยุชฺฌิตุํ อารภึสุ. นนฺทปณฺฑิโต ทฺวินฺนมฺปิ อนฺตเร อตฺตโน นิสีทนํ อชินจมฺมํ มหนฺตํ กตฺวา ปสาเรตฺวา ทฺวีหิปิ เสนาหิ ขิตฺตสเร จมฺเมเนว สมฺปฏิจฺฉิ. เอกเสนายปิ โกจิ กณฺเฑน วิทฺโธ นาม นตฺถิ, หตฺถคตานํ ปน กณฺฑานํ ขเยน ทฺเวปิ เสนา นิรุสฺสาหา อฏฺํสุ. นนฺทปณฺฑิโต มโนชราชสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราชา’’ติ อสฺสาเสตฺวา โกสลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, มา ภายิ, นตฺถิ เต ปริปนฺโถ, ตว รชฺชํ ตเวว ภวิสฺสติ, เกวลํ มโนชรฺโ วสวตฺตี โหหี’’ติ อาห. โส ตสฺส สทฺทหิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ มโนชสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘มหาราช, โกสลราชา เต วเส วตฺตติ, อิมสฺส รชฺชํ อิมสฺเสว โหตู’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ทฺเว เสนา อาทาย องฺครฏฺํ คนฺตฺวา องฺคํ คเหตฺวา ตโต มคธรฏฺนฺติ เอเตนุปาเยน สกลชมฺพุทีเป ราชาโน อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ตโต เตหิ ปริวุโต พฺรหฺมวฑฺฒนนครเมว คโต. รชฺชํ คณฺหนฺโต ปเนส สตฺตนฺนํ สํวจฺฉรานํ อุปริ สตฺตทิวสาธิเกหิ สตฺตมาเสหิ คณฺหิ. โส เอเกกราชธานิโต นานปฺปการํ ขชฺชโภชนํ อาหราเปตฺวา เอกสตราชาโน คเหตฺวา เตหิ สทฺธึ สตฺตาหํ มหาปานํ ปิวิ.

นนฺทปณฺฑิโต ‘‘ยาว ราชา สตฺตาหํ อิสฺสริยสุขํ อนุโภติ, ตาวสฺส อตฺตานํ น ทสฺเสสฺสามี’’ติ อุตฺตรกุรุมฺหิ ปิณฺฑาย จริตฺวา หิมวนฺเต กฺจนคุหาทฺวาเร สตฺตาหํ วสิ. มโนโชปิ สตฺตเม ทิวเส อตฺตโน มหนฺตํ สิริวิภวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ ยโส น มยฺหํ มาตาปิตูหิ, น อฺเหิ ทินฺโน, นนฺทตาปสํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน, ตํ โข ปน เม อปสฺสนฺตสฺส อชฺช สตฺตโม ทิวโส, กหํ นุ โข เม ยสทายโก’’ติ นนฺทปณฺฑิตํ สริ. โส ตสฺส อนุสฺสรณภาวํ ตฺวา อาคนฺตฺวา ปุรโต อากาเส อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อิมสฺส ตาปสสฺส เทวตาภาวํ วา มนุสฺสภาวํ วา น ชานามิ, สเจ เอส มนุสฺโส ภเวยฺย, สกลชมฺพุทีปรชฺชํ เอตสฺเสว ทสฺสามิ. อถ เทโว, สกฺการมสฺส กริสฺสามี’’ติ. โส ตํ วีมํสนฺโต ปมํ คาถมาห –

๙๒.

‘‘เทวตา นุติ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

มนุสฺสภูโต อิทฺธิมา, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สภาวเมว กเถนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๙๓.

‘‘นาปิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

มนุสฺสภูโต อิทฺธิมา, เอวํ ชานาหิ ภารธา’’ติ.

ตตฺถ ภารธาติ รฏฺภารธาริตาย นํ เอวํ อาลปติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มนุสฺสภูโต กิรายํ มยฺหํ เอวํ พหุปกาโร, มหนฺเตน ยเสน นํ สนฺตปฺเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๙๔.

‘‘กตรูปมิทํ โภโต, เวยฺยาวจฺจํ อนปฺปกํ;

เทวมฺหิ วสฺสมานมฺหิ, อโนวสฺสํ ภวํ อกา.

๙๕.

‘‘ตโต วาตาตเป โฆเร, สีตจฺฉายํ ภวํ อกา;

ตโต อมิตฺตมชฺเฌสุ, สรตาณํ ภวํ อกา.

๙๖.

‘‘ตโต ผีตานิ รฏฺานิ, วสิโน เต ภวํ อกา;

ตโต เอกสตํ ขตฺเย, อนุยนฺเต ภวํ อกา.

๙๗.

‘‘ปตีตาสฺสุ มยํ โภโต, วท ตํ ภฺชมิจฺฉสิ;

หตฺถิยานํ อสฺสรถํ, นาริโย จ อลงฺกตา;

นิเวสนานิ รมฺมานิ, มยํ โภโต ททามเส.

๙๘.

‘‘อถ วงฺเค วา มคเธ, มยํ โภโต ททามเส;

อถ วา อสฺสกาวนฺตี, สุมนา ทมฺม เต มยํ.

๙๙.

‘‘อุปฑฺฒํ วาปิ รชฺชสฺส, มยํ โภโต ททามเส;

สเจ เต อตฺโถ รชฺเชน, อนุสาส ยทิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ กตรูปมิทนฺติ กตสภาวํ. เวยฺยาวจฺจนฺติ กายเวยฺยาวติกกมฺมํ. อโนวสฺสนฺติ อวสฺสํ, ยถา เทโว น วสฺสติ, ตถา กตนฺติ อตฺโถ. สีตจฺฉายนฺติ สีตลํ ฉายํ. วสิโน เตติ เต รฏฺวาสิโน อมฺหากํ วสวตฺติโน. ขตฺเยติ ขตฺติเย, อฏฺกถายํ ปน อยเมว ปาโ. ปตีตาสฺสุ มยนฺติ ตุฏฺา มยํ. วท ตํ ภฺชมิจฺฉสีติ ภฺชนฺติ รตนสฺเสตํ นามํ, วรํ เต ททามิ, ยํ รตนํ อิจฺฉสิ, ตํ วเทหีติ อตฺโถ. ‘‘หตฺถิยาน’’นฺติอาทีหิ สรูปโต ตํ ตํ รตนํ ทสฺเสติ . อสฺสกาวนฺตีอสฺสกรฏฺํ วา อวนฺติรฏฺํ วา. รชฺเชนาติ สเจปิ เต สกลชมฺพุทีปรชฺเชน อตฺโถ, ตมฺปิ เต ทตฺวา อหํ ผลกาวุธหตฺโถ ตุมฺหากํ รถสฺส ปุรโต คมิสฺสามีติ ทีเปติ. ยทิจฺฉสีติ เอเตสุ มยา วุตฺตปฺปกาเรสุ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ อนุสาส อาณาเปหีติ.

ตํ สุตฺวา นนฺทปณฺฑิโต อตฺตโน อธิปฺปายํ อาวิกโรนฺโต อาห –

๑๐๐.

‘‘น เม อตฺโถปิ รชฺเชน, นคเรน ธเนน วา;

อโถปิ ชนปเทน, อตฺโถ มยฺหํ น วิชฺชตี’’ติ.

‘‘สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, เอกํ เม วจนํ กโรหี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๑๐๑.

‘‘โภโตว รฏฺเ วิชิเต, อรฺเ อตฺถิ อสฺสโม;

ปิตา มยฺหํ ชเนตฺตี จ, อุโภ สมฺมนฺติ อสฺสเม.

๑๐๒.

‘‘เตสาหํ ปุพฺพาจริเยสุ, ปุฺํ น ลภามิ กาตเว;

ภวนฺตํ อชฺฌาวรํ กตฺวา, โสณํ ยาเจมุ สํวร’’นฺติ.

ตตฺถ รฏฺเติ รชฺเช. วิชิเตติ อาณาปวตฺติฏฺาเน. อสฺสโมติ หิมวนฺตารฺเ เอโก อสฺสโม อตฺถิ. สมฺมนฺตีติ ตสฺมึ อสฺสเม วสนฺติ. เตสาหนฺติ เตสุ อหํ. กาตเวติ วตฺตปฏิวตฺตผลาผลาหรณสงฺขาตํ ปุฺํ กาตุํ น ลภามิ, ภาตา เม โสณปณฺฑิโต นาม มเมกสฺมึ อปราเธ มา อิธ วสีติ มํ ปลาเปสิ. อชฺฌาวรนฺติ อธิอาวรํ เต มยํ ภวนฺตํ สปริวารํ กตฺวา โสณปณฺฑิตํ สํวรํ ยาเจมุ, อายตึ สํวรํ ยาจามาติ อตฺโถ. ‘‘ยาเจมิมํ วร’’นฺติปิ ปาโ, มยํ ตยา สทฺธึ โสณํ ยาเจยฺยาม ขมาเปยฺยาม, อิมํ วรํ ตว สนฺติกา คณฺหามีติ อตฺโถ.

อถ นํ ราชา อาห –

๑๐๓.

‘‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ มํ ภณสิ พฺราหฺมณ;

เอตฺจ โข โน อกฺขาหิ, กีวนฺโต โหนฺตุ ยาจกา’’ติ.

ตตฺถ กโรมีติ อหํ สกลชมฺพุทีปรชฺชํ ททมาโน เอตฺตกํ กึ น กริสฺสามิ, กโรมีติ วทติ. กีวนฺโตติ กิตฺตกา.

นนฺทปณฺฑิโต อาห –

๑๐๔.

‘‘ปโรสตํ ชานปทา, มหาสาลา จ พฺราหฺมณา;

อิเม จ ขตฺติยา สพฺเพ, อภิชาตา ยสสฺสิโน;

ภวฺจ ราชา มโนโช, อลํ เหสฺสนฺติ ยาจกา’’ติ.

ตตฺถ ชานปทาติ คหปตี. มหาสาลา จ พฺราหฺมณาติ สารปฺปตฺตา พฺราหฺมณา จ ปโรสตาเยว. อลํ เหสฺสนฺตีติ ปริยตฺตา ภวิสฺสนฺติ. ยาจกาติ มมตฺถาย โสณปณฺฑิตสฺส ขมาปกา.

อถ นํ ราชา อาห –

๑๐๕.

‘‘หตฺถี อสฺเส จ โยเชนฺตุ, รถํ สนฺนยฺห สารถิ;

อาพนฺธนานิ คณฺหาถ, ปาทาสุสฺสารยทฺธเช;

อสฺสมํ ตํ คมิสฺสามิ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ.

ตตฺถ โยเชนฺตูติ หตฺถาโรหา หตฺถี, อสฺสาโรหา จ อสฺเส กปฺเปนฺตุ. รถํ สนฺนยฺห สารถีติ สมฺมสารถิ ตฺวมฺปิ รถํ สนฺนยฺห. อาพนฺธนานีติ หตฺถิอสฺสรเถสุ อาพนฺธิตพฺพานิ ภณฺฑานิ จ คณฺหถ. ปาทาสุสฺสารยทฺธเชติ รเถ ปิตธชปาทาสุ ธเช อุสฺสารยนฺตุ อุสฺสาเปนฺตุ. โกสิโยติ ยสฺมึ อสฺสเม โกสิยโคตฺโต วสตีติ.

๑๐๖.

‘‘ตโต จ ราชา ปายาสิ, เสนาย จตุรงฺคินี;

อคมา อสฺสมํ รมฺมํ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ. – อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ตโต จาติ, ภิกฺขเว, เอวํ วตฺวา ตโต โส ราชา เอกสตขตฺติเย คเหตฺวา มหติยา เสนาย ปริวุโต นนฺทปณฺฑิตํ ปุรโต กตฺวา นครา นิกฺขมิ. จตุรงฺคีนีติ จตุรงฺคินิยา เสนาย อคมาสิ, อนฺตรมคฺเค วตฺตมาโนปิ อวสฺสํ คามิตาย เอวํ วุตฺโต. จตุวีสติอกฺโขภณิสงฺขาเตน พลกาเยน สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส ตสฺส นนฺทปณฺฑิโต อิทฺธานุภาเวน อฏฺุสภวิตฺถตํ มคฺคํ สมํ มาเปตฺวา อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เสนาย ปริวุโต อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺเธ นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตน รฺา สทฺธึ ธมฺมยุตฺตกถํ กเถนฺโต สีตอุณฺหาทิปริสฺสเย วาเรนฺโต อคมาสิ.

อถสฺส อสฺสมํ ปาปุณนทิวเส โสณปณฺฑิโต ‘‘มม กนิฏฺสฺส อติเรกสตฺตมาสสตฺตทิวสาธิกานิ สตฺต วสฺสานิ นิกฺขนฺตสฺสา’’ติ อาวชฺเชตฺวา ‘‘กหํ นุ โข โส เอตรหี’’ติ ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกนฺโต ‘‘จตุวีสติอกฺโขภณิปริวาเรน สทฺธึ เอกสตราชาโน คเหตฺวา มมฺเว ขมาเปตุํ อาคจฺฉตี’’ติ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมหิ ราชูหิ เจว ปริสาหิ จ มม กนิฏฺสฺส พหูนิ ปาฏิหาริยานิ ทิฏฺานิ, มมานุภาวํ อชานิตฺวา ‘อยํ กูฏชฏิโล อตฺตโน ปมาณํ น ชานาติ, อมฺหากํ อยฺเยน สทฺธึ ปโยเชสี’ติ มํ วมฺเภนฺตา กเถนฺตา อวีจิปรายณา ภเวยฺยุํ, อิทฺธิปาฏิหาริยํ เนสํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ. โส จตุรงฺคุลมตฺเตน อํสํ อผุสนฺตํ อากาเส กาชํ เปตฺวา อโนตตฺตโต อุทกํ อาหริตุํ รฺโ อวิทูเร อากาเสน ปายาสิ. นนฺทปณฺฑิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อตฺตานํ ทสฺเสตุํ อวิสหนฺโต นิสินฺนฏฺาเนเยว อนฺตรธายิตฺวา ปลายิตฺวา หิมวนฺตํ ปาวิสิ. มโนชราชา ปน ตํ รมณีเยน อิสิเวเสน ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา คาถมาห –

๑๐๗.

‘‘กสฺส กาทมฺพโย กาโช, เวหาสํ จตุรงฺคุลํ;

อํสํ อสมฺผุสํ เอติ, อุทหาราย คจฺฉโต’’ติ.

ตตฺถ กาทมฺพโยติ กทมฺพรุกฺขมโย. อํสํ อสมฺผุสํ เอตีติ อํสํ อสมฺผุสนฺโต สยเมว อาคจฺฉติ. อุทหารายาติ อุทกํ อาหริตุํ คจฺฉนฺตสฺส กสฺส เอส กาโช เอวํ เอติ, โก นาม ตฺวํ, กุโต วา อาคจฺฉสีติ.

เอวํ วุตฺเต มหาสตฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๐๘.

‘‘อหํ โสโณ มหาราช, ตาปโส สหิตพฺพโต;

ภรามิ มาตาปิตโร, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.

๑๐๙.

‘‘วเน ผลฺจ มูลฺจ, อาหริตฺวา ทิสมฺปติ;

โปเสมิ มาตาปิตโร, ปุพฺเพ กตมนุสฺสร’’นฺติ.

ตตฺถ สหิตพฺพโตติ สหิตวโต สีลาจารสมฺปนฺโน เอโก ตาปโส อหนฺติ วทติ. ภรามีติ โปเสมิ. อตนฺทิโตติ อนลโส หุตฺวา. ปุพฺเพ กตมนุสฺสรนฺติ เตหิ ปุพฺเพ กตํ มยฺหํ คุณํ อนุสฺสรนฺโตติ.

ตํ สุตฺวา ราชา เตน สทฺธึ วิสฺสาสํ กตฺตุกาโม อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๑๐.

‘‘อิจฺฉาม อสฺสมํ คนฺตุํ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย;

มคฺคํ โน โสณ อกฺขาหิ, เยน คจฺเฉมุ อสฺสม’’นฺติ.

ตตฺถ อสฺสมนฺติ ตุมฺหากํ อสฺสมปทํ.

อถ มหาสตฺโต อตฺตโน อานุภาเวน อสฺสมปทคามิมคฺคํ มาเปตฺวา คาถมาห –

๑๑๑.

‘‘อยํ เอกปที ราช, เยเนตํ เมฆสนฺนิภํ;

โกวิฬาเรหิ สฺฉนฺนํ, เอตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, อยํ เอกปทิโก ชงฺฆมคฺโค, อิมินา คจฺฉถ, เยน ทิสาภาเคน เอตํ เมฆวณฺณํ สุปุปฺผิตโกวิฬารสฺฉนฺนํ วนํ ทิสฺสติ, เอตฺถ มม ปิตา โกสิยโคตฺโต วสติ, เอตสฺส โส อสฺสโมติ.

๑๑๒.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, ตรมาโน มหาอิสิ;

เวหาเส อนฺตลิกฺขสฺมึ, อนุสาสิตฺวาน ขตฺติเย.

๑๑๓.

‘‘อสฺสมํ ปริมชฺชิตฺวา, ปฺาเปตฺวาน อาสนํ;

ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา, ปิตรํ ปติโพธยิ.

๑๑๔.

‘‘อิเม อายนฺติ ราชาโน, อภิชาตา ยสสฺสิโน;

อสฺสมา นิกฺขมิตฺวาน, นิสีท ตฺวํ มหาอิเส.

๑๑๕.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ตรมาโน มหาอิสิ;

อสฺสมา นิกฺขมิตฺวาน, สทฺวารมฺหิ อุปาวิสี’’ติ. – อิมา อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ปกฺกามีติ อโนตตฺตํ อคมาสิ. อสฺสมํ ปริมชฺชิตฺวาติ, ภิกฺขเว, โส อิสิ เวเคน อโนตตฺตํ คนฺตฺวา ปานียํ อาทาย เตสุ ราชูสุ อสฺสมํ อสมฺปตฺเตสุเยว อาคนฺตฺวา ปานียฆเฏ ปานียมาฬเก เปตฺวา ‘‘มหาชโน ปิวิสฺสตี’’ติ วนกุสุเมหิ วาเสตฺวา สมฺมชฺชนึ อาทาย อสฺสมํ สมฺมชฺชิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร ปิตุ อาสนํ ปฺาเปตฺวา ปวิสิตฺวา ปิตรํ ชานาเปสีติ อตฺโถ. อุปาวิสีติ อุจฺจาสเน นิสีทิ.

โพธิสตฺตสฺส มาตา ปน ตสฺส ปจฺฉโต นีจฏฺาเน เอกมนฺตํ นิสีทิ. มหาสตฺโต นีจาสเน นิสีทิ. นนฺทปณฺฑิโตปิ โพธิสตฺตสฺส อโนตตฺตโต ปานียํ อาทาย อสฺสมํ อาคตกาเล รฺโ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา อสฺสมสฺส อวิทูเร ขนฺธาวารํ นิวาเสสิ. อถ ราชา นฺหตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต เอกสตราชปริวุโต นนฺทปณฺฑิตํ คเหตฺวา มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน โพธิสตฺตํ ขมาเปตุํ อสฺสมํ ปาวิสิ. อถ นํ ตถา อาคจฺฉนฺตํ โพธิสตฺตสฺส ปิตา ทิสฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ, โสปิสฺส อาจิกฺขิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๖.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตํ, ชลนฺตํริว เตชสา;

ขตฺยสงฺฆปริพฺยูฬฺหํ, โกสิโย เอตทพฺรวิ.

๑๑๗.

‘‘กสฺส เภรี มุทิงฺคา จ, สงฺขา ปณวทินฺทิมา;

ปุรโต ปฏิปนฺนานิ, หาสยนฺตา รเถสภํ.

๑๑๘.

‘‘กสฺส กฺจนปฏฺเฏน, ปุถุนา วิชฺชุวณฺณินา;

ยุวา กลาปสนฺนทฺโธ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๑๙.

‘‘อุกฺกามุขปหฏฺํว, ขทิรงฺคารสนฺนิภํ;

มุขฺจ รุจิรา ภาติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๐.

‘‘กสฺส ปคฺคหิตํ ฉตฺตํ, สสลากํ มโนรมํ;

อาทิจฺจรํสาวรณํ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๑.

‘‘กสฺส องฺคํ ปริคฺคยฺห, วาลพีชนิมุตฺตมํ;

จรนฺติ วรปุฺสฺส, หตฺถิกฺขนฺเธน อายโต.

๑๒๒.

‘‘กสฺส เสตานิ ฉตฺตานิ, อาชานียา จ วมฺมิตา;

สมนฺตา ปริกีเรนฺติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๓.

‘‘กสฺส เอกสตํ ขตฺยา, อนุยนฺตา ยสสฺสิโน;

สมนฺตานุปริยนฺติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๔.

‘‘หตฺถิอสฺสรถปตฺติ, เสนา จ จตุรงฺคินี;

สมนฺตานุปริยนฺติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๕.

‘‘กสฺเสสา มหตี เสนา, ปิฏฺิโต อนุวตฺตติ;

อกฺโขภณี อปริยนฺตา, สาครสฺเสว อูมิโย.

๑๒๖.

‘‘ราชาภิราชา มโนโช, อินฺโทว ชยตํ ปติ;

นนฺทสฺสชฺฌาวรํ เอติ, อสฺสมํ พฺรหฺมจารินํ.

๑๒๗.

‘‘ตสฺเสสา มหตี เสนา, ปิฏฺิโต อนุวตฺตติ;

อกฺโขภณี อปริยนฺตา, สาครสฺเสว อูมิโย’’ติ.

ตตฺถ ชลนฺตํริวาติ ชลนฺตํ วิย. ปฏิปนฺนานีติ เอตานิ ตูริยานิ กสฺส ปุรโต อาคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. หาสยนฺตาติ โตเสนฺตา. กฺจนปฏฺเฏนาติ, ตาต, กสฺส กฺจนมเยน วิชฺชุวณฺเณน อุณฺหีสปฏฺเฏน นลาฏนฺโต ปริกฺขิตฺโตติ ปุจฺฉติ. ยุวาติ ตรุโณ. กลาปสนฺนทฺโธติ สนฺนทฺธสรตูณีโร. อุกฺกามุขปหฏฺํ วาติ กมฺมารานํ อุทฺธเน ปหฏฺํ สุวณฺณํ วิย. ขทิรงฺคารสนฺนิภนฺติ วีตจฺจิตขทิรงฺคารวณฺณํ. อาทิจฺจรํสาวรณนฺติอาทิจฺจรํสีนํ อาวรณํ. องฺคํ ปริคฺคยฺหาติ องฺคํ ปริคฺคเหตฺวา, สรีรํ ปริกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. วาลพีชนิมุตฺตมนฺติ วาลพีชนึ อุตฺตมํ. จรนฺตีติ สฺจรนฺติ. ฉตฺตานีติ อาชานียปิฏฺเ นิสินฺนานํ ธาริตฉตฺตานิ. ปริกีเรนฺตีติ ตสฺส สมนฺตา สพฺพทิสาภาเคสุ ปริกีรยนฺติ. จตุรงฺคินีติ เอเตหิ หตฺถิอาทีหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา. อกฺโขภณีติ โขเภตุํ น สกฺกา. สาครสฺเสวาติ สาครสฺส อูมิโย วิย อปริยนฺตา. ราชาภิราชาติ เอกสตราชูนํ ปูชิโต, เตสํ วา อธิโก ราชาติ ราชาภิราชา. ชยตํ ปตีติ ชยปฺปตฺตานํ ตาวตึสานํ เชฏฺโก. อชฺฌาวรนฺติ มมํ ขมาปนตฺถาย นนฺทสฺส ปริสภาวํ อุปคนฺตฺวา เอติ.

สตฺถา อาห –

๑๒๘.

‘‘อนุลิตฺตา จนฺทเนน, กาสิกุตฺตมธาริโน;

สพฺเพ ปฺชลิกา หุตฺวา, อิสีนํ อชฺฌุปาคมุ’’นฺติ.

ตตฺถ อิสีนํ อชฺฌุปาคมุนฺติ, ภิกฺขเว, สพฺเพปิ เต ราชาโน สุรภิจนฺทเนน อนุลิตฺตา อุตฺตมกาสิกวตฺถธาริโน สิรสิ ปติฏฺาปิตอฺชลี หุตฺวา อิสีนํ สนฺติกํ อุปคตา.

ตโต มโนโช ราชา ตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๒๙.

‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;

กจฺจิ อุฺเฉน ยาเปถ, กจฺจิ มูลผลา พหู.

๑๓๐.

‘‘กจฺจิ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;

วเน วาฬมิคากิณฺเณ, กจฺจิ หึสา น วิชฺชตี’’ติ.

ตโต ปรํ อุภินฺนํ เตสํ วจนปฏิวจนวเสน กถิตคาถา โหนฺติ –

๑๓๑.

‘‘กุสลฺเจว โน ราช, อโถ ราช อนามยํ;

อโถ อุฺเฉน ยาเปม, อโถ มูลผลา พหู.

๑๓๒.

‘‘อโถ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;

วเน วาฬมิคากิณฺเณ, หึสา มยฺหํ น วิชฺชติ.

๑๓๓.

‘‘พหูนิ วสฺสปูคานิ, อสฺสเม สมฺมตํ อิธ;

นาภิชานามิ อุปฺปนฺนํ, อาพาธํ อมโนรมํ.

๑๓๔.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.

๑๓๕.

‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;

ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุฺช ราช วรํ วรํ.

๑๓๖.

‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;

ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสิ.

๑๓๗.

‘‘ปฏิคฺคหิตํ ยํ ทินฺนํ, สพฺพสฺส อคฺฆิยํ กตํ;

นนฺทสฺสาปิ นิสาเมถ, วจนํ โส ปวกฺขติ.

๑๓๘.

‘‘อชฺฌาวรมฺหา นนฺทสฺส, โภโต สนฺติกมาคตา;

สุณาตุ ภวํ วจนํ, นนฺทสฺส ปริสาย จา’’ติ.

อิมา เยภุยฺเยน ปากฏสมฺพนฺธาเยว, ยํ ปเนตฺถ อปากฏํ, ตเทว วกฺขาม. ปเวทยาติ ยํ อิมสฺมึ าเน ตว อภิรุจิตํ อตฺถิ, ตํ โน กเถหีติ วทติ. ขุทฺทกปฺปานีติ เอตานิ นานารุกฺขผลานิ ขุทฺทกมธุปฏิภาคานิ มธุรานิ. วรํ วรนฺติ อิโต อุตฺตมุตฺตมํ คเหตฺวา ภุฺช. คิริคพฺภราติ อโนตตฺตโต. สพฺพสฺส อคฺฆิยนฺติ เยน มยํ อาปุจฺฉิตา, ตํ อมฺเหหิ ปฏิคฺคหิตํ นาม ตุมฺเหหิ จ ทินฺนเมว นาม, เอตฺตาวตา อิมสฺส ชนสฺส สพฺพสฺส อคฺฆิยํ ตุมฺเหหิ กตํ. นนฺทสฺสาปีติ อมฺหากํ ตาว สพฺพํ กตํ, อิทานิ ปน นนฺทปณฺฑิโต กิฺจิ วตฺตุกาโม, ตสฺสปิ ตาว วจนํ สุณาถ. อชฺฌาวรมฺหาติ มยฺหิ น อฺเน กมฺเมน อาคตา, นนฺทสฺส ปน ปริสา หุตฺวา ตุมฺหากํ ขมาปนตฺถาย อาคตาติ วทติ. ภวนฺติ ภวํ โสณปณฺฑิโต สุณาตุ.

เอวํ วุตฺเต นนฺทปณฺฑิโต อุฏฺายาสนา มาตาปิตโร จ ภาตรฺจ วนฺทิตฺวา สกปริสาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๑๓๙.

‘‘ปโรสตํ ชานปทา, มหาสาลา จ พฺราหฺมณา;

อิเม จ ขตฺติยา สพฺเพ, อภิชาตา ยสสฺสิโน;

ภวฺจ ราชา มโนโช, อนุมฺนฺตุ เม วโจ.

๑๔๐.

‘‘เย จ สนฺติ สมีตาโร, ยกฺขานิ อิธ มสฺสเม;

อรฺเ ภูตภพฺยานิ, สุณนฺตุ วจนํ มม.

๑๔๑.

‘‘นโม กตฺวาน ภูตานํ, อิสึ วกฺขามิ สุพฺพตํ;

โส ตฺยาหํ ทกฺขิณา พาหุ, ตว โกสิย สมฺมโต.

๑๔๒.

‘‘ปิตรํ เม ชเนตฺติฺจ, ภตฺตุกามสฺส เม สโต;

วีร ปุฺมิทํ านํ, มา มํ โกสิย วารย.

๑๔๓.

‘‘สพฺภิ เหตํ อุปฺาตํ, มเมตํ อุปนิสฺสช;

อุฏฺานปาริจริยาย, ทีฆรตฺตํ ตยา กตํ;

ธาตาปิตูสุ ปุฺานิ, มม โลกทโท ภว.

๑๔๔.

‘‘ตเถว สนฺติ มนุชา, ธมฺเม ธมฺมปทํ วิทู;

มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺส, ยถา ชานาสิ ตฺวํ อิเส.

๑๔๕.

‘‘อุฏฺานปาริจริยาย, มาตาปิตุสุขาวหํ;

ตํ มํ ปุฺา นิวาเรติ, อริยมคฺคาวโร นโร’’ติ.

ตตฺถ อนุมฺนฺตูติ อนุพุชฺฌนฺตุ, สาธุกํ สุตฺวา ปจฺจกฺขํ กโรนฺตูติ อตฺโถ. สมีตาโรติ สมาคตา. อรฺเ ภูตภพฺยานีติ อสฺมึ หิมวนฺตารฺเ ยานิ ภูตานิ เจว วุฑฺฒิมริยาทปฺปตฺตานิ ภพฺยานิ จ ตรุณเทวตานิ, ตานิปิ สพฺพานิ มม วจนํ สุณนฺตูติ อตฺโถ. ‘‘นโม กตฺวานา’’ติ อิทํ โส ปริสาย สฺํ ทตฺวา ตสฺมึ วนสณฺเฑ นิพฺพตฺตเทวตานํ นมกฺการํ กตฺวา อาห. ตสฺสตฺโถ – อชฺช พหูหิ เทวตาหิ มม ภาติกสฺส ธมฺมกถาสวนตฺถํ อาคตาหิ ภวิตพฺพํ, อหํ โว นมกฺกาโร, ตุมฺเหปิ มยฺหํ สหายา โหถาติ. โส เทวตานํ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ปริสํ ชานาเปตฺวา ‘‘อิสึ วกฺขามี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิสินฺติ โสณปณฺฑิตํ สนฺธาย วทติ. สมฺมโตติ ภาตโร นาม องฺคสมา โหนฺติ, ตสฺมา โส เต อหํ ทกฺขิณา พาหูติ สมฺมโต. เตน เม ขมิตุํ อรหถาติ ทีเปติ.

วีราติ วีริยวนฺต มหาปรกฺกม. ปุฺมิทํ านนฺติ อิทํ มาตาปิตุอุปฏฺานํ นาม ปุฺํ สคฺคสํวตฺตนิกการณํ, ตํ กโรนฺตํ มํ มา วารยาติ วทติ. สพฺภิ เหตนฺติ เอตฺหิ มาตาปิตุอุปฏฺานํ นาม ปณฺฑิเตหิ อุปฺาตํ อุปคนฺตฺวา าตฺเจว วณฺณิตฺจ. มเมตํ อุปนิสฺสชาติ อิทํ ตฺวํ มยฺหํ นิสฺสช วิสฺสชฺเชหิ เทหิ. อุฏฺานปาริจริยายาติ อุฏฺาเนน จ ปาริจริยาย จ. กตนฺติ ทีฆรตฺตํ ตยา กุสลํ กตํ. ปุฺานีติ อิทานิ อหํ มาตาปิตูสุ ปุฺานิ กตฺตุกาโม. มม โลกทโทติ ตสฺส มม ตฺวํ สคฺคโลกทโท โหติ, อหฺหิ เตสํ วตฺตํ อุปฏฺานํ กตฺวา เทวโลเก อปริมาณํ ยสํ ลภิสฺสามิ, ตสฺส เม ตฺวํ ทายโก โหหีติ วทติ.

ตเถวาติ ยถา ตฺวํ ชานาสิ, ตเถว อฺเปิ มนุชา อิมิสฺสํ ปริสายํ สนฺติ, เต นานปฺปกาเร ธมฺเม อิทํ เชฏฺาปจายิกภาวสงฺขาตํ ธมฺมโกฏฺาสํ วทนฺติ. กินฺติ? มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺสาติ. สุขาวหนฺติ อุฏฺาเนน จ ปาริจริยาย จ มาตาปิตูนํ สุขาวหํ. ตํ มนฺติ ตํ มํ เอวํ สมฺมาปฏิปนฺนมฺปิ ภาตา โสณปณฺฑิโต ตมฺหา ปุฺา อภิวาเรติ. อริยมคฺคาวโรติ โส เอวํ วาเรนฺโต อยํ นโร มม ปิยทสฺสนตาย อริยสงฺขาตสฺส เวทโลกสฺส มคฺคาวรโณ นาม โหตีติ.

เอวํ นนฺทปณฺฑิเตน วุตฺเต มหาสตฺโต ‘‘อิมสฺส ตาว ตุมฺเหหิ วจนํ สุตํ, อิทานิ มมปิ สุณาถา’’ติ สาเวนฺโต อาห –

๑๔๖.

‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต วจนํ, ภาตุรชฺฌาวรา มม;

กุลวํสํ มหาราช, โปราณํ ปริหาปยํ;

อธมฺมจารี เชฏฺเสุ, นิรยํ โสปปชฺชติ.

๑๔๗.

‘‘เย จ ธมฺมสฺส กุสลา, โปราณสฺส ทิสมฺปติ;

จาริตฺเตน จ สมฺปนฺนา, น เต คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

๑๔๘.

‘‘มาตา ปิตา จ ภาตา จ, ภคินี าติ พนฺธวา;

สพฺเพ เชฏฺสฺส เต ภารา, เอวํ ชานาหิ ภารธ.

๑๔๙.

‘‘อาทิยิตฺวา ครุํ ภารํ, นาวิโก วิย อุสฺสเห;

ธมฺมฺจ นปฺปมชฺชามิ, เชฏฺโ จสฺมิ รเถสภา’’ติ.

ตตฺถ ภาตุรชฺฌาวราติ มม ภาตุ ปริสา หุตฺวา อาคตา โภนฺโต สพฺเพปิ ราชาโน มมปิ ตาว วจนํ สุณนฺตุ. ปริหาปยนฺติ ปริหาเปนฺโต. ธมฺมสฺสาติ เชฏฺาปจายนธมฺมสฺส ปเวณีธมฺมสฺส. กุสลาติ เฉกา. จาริตฺเตน จาติ อาจารสีเลน สมฺปนฺนา. ภาราติ สพฺเพ เอเต เชฏฺเน วหิตพฺพา ปฏิชคฺคิตพฺพาติ ตสฺส ภารา นาม. นาวิโก วิยาติ ยถา นาวาย ครุํ ภารํ อาทิยิตฺวา สมุทฺทมชฺเฌ นาวํ โสตฺถินา เนตุํ นาวิโก อุสฺสเหติ วายมติ, สห นาวาย สพฺพภณฺฑฺจ ชโน จ ตสฺเสว ภาโร โหติ, ตถา มเมว สพฺเพ าตกา ภาโรติ, อหฺจ เต อุสฺสหามิ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกมิ, ตฺจ เชฏฺาปจายนธมฺมํ นปฺปมชฺชามิ, น เกวลฺจ เอเตสฺเว, สกลสฺสปิ โลกสฺส เชฏฺโ จ อสฺมิ, ตสฺมา อหเมว สทฺธึ นนฺเทน ปฏิชคฺคิตุํ ยุตฺโตติ.

ตํ สุตฺวา สพฺเพปิ เต ราชาโน อตฺตมนา หุตฺวา ‘‘เชฏฺภาติกสฺส กิร อวเสสา ภาราติ อชฺช อมฺเหหิ าต’’นฺติ นนฺทปณฺฑิตํ ปหาย มหาสตฺตํ สนฺนิสฺสิตา หุตฺวา ตสฺส ถุตึ กโรนฺตา ทฺเว คาถา อภาสึสุ –

๑๕๐.

‘‘อธิคมา ตเม าณํ, ชาลํว ชาตเวทโต;

เอวเมว โน ภวํ ธมฺมํ, โกสิโย ปวิทํสยิ.

๑๕๑.

‘‘ยถา อุทยมาทิจฺโจ, วาสุเทโว ปภงฺกโร;

ปาณีนํ ปวิทํเสติ, รูปํ กลฺยาณปาปกํ;

เอวเมว โน ภวํ ธมฺมํ, โกสิโย ปวิทํสยี’’ติ.

ตตฺถ อธิคมาติ มยํ อิโต ปุพฺเพ เชฏฺาปจายนธมฺมปฏิจฺฉาทเก ตเม วตฺตมานา น ชานาม, อชฺช ชาตเวทโต ชาลํว าณํ อธิคตา. เอวเมว โนติ ยถา มหนฺธกาเร ปพฺพตมตฺถเก ชลิโต ชาตเวโท สมนฺตา อาโลกํ ผรนฺโต รูปานิ ทสฺเสติ, ตถา โน ภวํ โกสิยโคตฺโต ธมฺมํ ปวิทํสยีติ อตฺโถ. วาสุเทโวติ วสุเทโว วสุโชตโน, ธนปกาสโนติ อตฺโถ.

อิติ มหาสตฺโต เอตฺตกํ กาลํ นนฺทปณฺฑิตสฺส ปาฏิหาริยานิ ทิสฺวา ตสฺมึ ปสนฺนจิตฺเต เต ราชาโน าณพเลน ตสฺมึ ปสาทํ ภินฺทิตฺวา อตฺตโน กถํ คาหาเปตฺวา สพฺเพว อตฺตโน มุขํ อุลฺโลกิเต อกาสิ. อถ นนฺทปณฺฑิโต ‘‘ภาตา เม ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ธมฺมกถิโก สพฺเพปิเม ราชาโน ภินฺทิตฺวา อตฺตโน ปกฺเข กริ, เปตฺวา อิมํ อฺโ มยฺหํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, อิมเมว ยาจิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๕๒.

‘‘เอวํ เม ยาจมานสฺส, อฺชลึ นาวพุชฺฌถ;

ตว พทฺธจโร เหสฺสํ, วุฏฺิโต ปริจารโก’’ติ.

ตสฺสตฺถา – สเจ ตุมฺเห มม เอวํ ยาจมานสฺส ขมาปนตฺถาย ปคฺคหิตํ อฺชลึ นาวพุชฺฌถ น ปฏิคฺคณฺหถ, ตุมฺเหว มาตาปิตโร อุปฏฺหถ, อหํ ปน ตุมฺหากํ พทฺธจโร เวยฺยาวจฺจกโร เหสฺสํ, รตฺตินฺทิวํ อนลสภาเวน วุฏฺิโต ปริจารโก อหํ ตุมฺเห ปฏิชคฺคิสฺสามีติ.

มหาสตฺตสฺส ปกติยาปิ นนฺทปณฺฑิเต โทโส วา เวรํ วา นตฺถิ, อติถทฺธํ วจนํ กเถนฺตสฺส ปนสฺส มานหาปนตฺถํ นิคฺคหวเสน ตถา กตฺวา อิทานิสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺจิตฺโต ตสฺมึ ปสาทํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อิทานิ เต ขมามิ, มาตาปิตโร จ ปฏิชคฺคิตุํ ลภิสฺสสี’’ติ ตสฺส คุณํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๕๓.

‘‘อทฺธา นนฺท วิชานาสิ, สทฺธมฺมํ สพฺภิ เทสิตํ;

อริโย อริยสมาจาโร, พาฬฺหํ ตฺวํ มม รุจฺจสิ.

๑๕๔.

‘‘ภวนฺตํ วทามิ โภติฺจ, สุณาถ วจนํ มม;

นายํ ภาโร ภารมโต, อหุ มยฺหํ กุทาจนํ.

๑๕๕.

‘‘ตํ มํ อุปฏฺิตํ สนฺตํ, มาตาปิตุ สุขาวหํ;

นนฺโท อชฺฌาวรํ กตฺวา, อุปฏฺานาย ยาจติ.

๑๕๖.

‘‘โย เว อิจฺฉติ กาเมน, สนฺตานํ พฺรหฺมจารินํ;

นนฺทํ โว วรถ เอโก, กํ นนฺโท อุปติฏฺตู’’ติ.

ตตฺถ อริโยติ สุนฺทโร. อริยสมาจาโรติ สุนฺทรสมาจาโรปิ ชาโต. พาฬฺหนฺติ อิทานิ ตฺวํ มม อติวิย รุจฺจสิ. สุณาถาติ อมฺม ตาตา ตุมฺเห มม วจนํ สุณาถ. นายํ ภาโรติ อยํ ตุมฺหากํ ปฏิชคฺคนภาโร น กทาจิ มม ภารมโต อหุ. ตํ มนฺติ ตํ ภาโรติ อมฺิตฺวาว มํ ตุมฺเห อุปฏฺิตํ สมานํ. อุปฏฺานาย ยาจตีติ ตุมฺเห อุปฏฺาตุํ มํ ยาจติ. โย เว อิจฺฉตีติ มยฺหฺหิ ตฺวํ เม มาตรํ วา ปิตรํ วา อุปฏฺหาติ วตฺตุํ น ยุตฺตํ, ตุมฺหากํ ปน สนฺตานํ พฺรหฺมจารีนํ โย เอโก อิจฺฉติ, ตํ วทามิ กาเมน นนฺทํ โว วรถ, ตํ มม กนิฏฺํ นนฺทํ โรเจถ, ตุมฺเหสุ กํ เอส อุปฏฺาตุ, อุโภปิ หิ มยํ ตุมฺหากํ ปุตฺตาเยวาติ.

อถสฺส มาตา อาสนา วุฏฺาย, ‘‘ตาต โสณปณฺฑิต, จิรปฺปวุตฺโถ เต กนิฏฺโ, เอวํ จิราคตมฺปิ ตํ ยาจิตุํ น วิสหามิ, มยฺหิ ตํ นิสฺสิตา, อิทานิ ปน ตยา อนุฺาตา อหํ เอตํ พฺรหฺมจารินํ พาหาหิ อุปคูหิตฺวา สีเส อุปสิงฺฆายิตุํ ลเภยฺย’’นฺติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺตี คาถมาห –

๑๕๗.

‘‘ตยา ตาต อนุฺาตา, โสณ ตํ นิสฺสิตา มยํ;

อุปฆาตุํ ลเภ นนฺทํ, มุทฺธนิ พฺรหฺมจาริน’’นฺติ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ, อมฺม, อนุชานามิ, ตฺวํ คจฺฉ, ปุตฺตํ นนฺทํ อาลิงฺคิตฺวา สีเส ฆายิตฺวา จุมฺพิตฺวา ตว หทเย โสกํ นิพฺพาเปหี’’ติ อาห. สา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นนฺทปณฺฑิตํ ปริสมชฺเฌเยว อาลิงฺคิตฺวา สีสํ ฆายิตฺวา จุมฺพิตฺวา หทเย โสกํ นิพฺพาเปตฺวา มหาสตฺเตน สทฺธึ สลฺลปนฺตี อาห –

๑๕๘.

‘‘อสฺสตฺถสฺเสว ตรุณํ, ปวาฬํ มาลุเตริตํ;

จิรสฺสํ นนฺทํ ทิสฺวาน, หทยํ เม ปเวธติ.

๑๕๙.

‘‘ยทา สุตฺตาปิ สุปิเน, นนฺทํ ปสฺสามิ อาคตํ;

อุทคฺคา สุมนา โหมิ, นนฺโท โน อาคโต อยํ.

๑๖๐.

‘‘ยทา จ ปฏิพุชฺฌิตฺวา, นนฺทํ ปสฺสามิ นาคตํ;

ภิยฺโย อาวิสตี โสโก, โทมนสฺสฺจนปฺปกํ.

๑๖๑.

‘‘สาหํ อชฺช จิรสฺสมฺปิ, นนฺทํ ปสฺสามิ อาคตํ;

ภตฺตุจฺจ มยฺหฺจ ปิโย, นนฺโท โน ปาวิสี ฆรํ.

๑๖๒.

‘‘ปิตุปิ นนฺโท สุปฺปิโย, ยํ นนฺโท นปฺปวเส ฆรา;

ลภตู ตาต นนฺโท ตํ, มํ นนฺโท อุปติฏฺตู’’ติ.

ตตฺถ มาลุเตริตนฺติ ยถา วาตาหตํ อสฺสตฺถสฺส ปลฺลวํ กมฺปติ, เอวํ จิรสฺสํ นนฺทํ ทิสฺวา อชฺช มม หทยํ กมฺปตีติ วทติ. สุตฺตาติ, ตาต โสณ, ยทาหํ สุตฺตาปิ สุปิเน นนฺทํ อาคตํ ปสฺสามิ, ตทาปิ อุทคฺคา โหมิ. ภตฺตุจฺจาติ สามิกสฺส จ เม มยฺหฺจ ปิโย. นนฺโท โน ปาวิสี ฆรนฺติ, ตาต, ปุตฺโต โน นนฺโท ปณฺณสาลํ ปวิสตุ. นฺติ ยสฺมา ปิตุปิ สุฏฺุ ปิโย, ตสฺมา ปุน อิมมฺหา ฆรา น วิปฺปวเสยฺย. นนฺโท นฺติ, ตาต, นนฺโท ยํ อิจฺฉติ, ตํ ลภตุ. มํ นนฺโทติ, ตาต โสณ, ตว ปิตรํ ตฺวํ อุปฏฺห, มํ นนฺโท อุปฏฺาตุ.

มหาสตฺโต ‘‘เอวํ โหตู’’ติ มาตุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘นนฺท, ตยา เชฏฺกโกฏฺาโส ลทฺโธ, มาตา นาม อติคุณการิกา, อปฺปมตฺโต หุตฺวา ปฏิชคฺเคยฺยาสี’’ติ โอวทิตฺวา มาตุ คุณํ ปกาเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๖๓.

‘‘อนุกมฺปิกา ปติฏฺา จ, ปุพฺเพ รสทที จ โน;

มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺส, มาตา ตํ วรเต อิเส.

๑๖๔.

‘‘ปุพฺเพ รสทที โคตฺตี, มาตา ปุฺูปสํหิตา;

มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺส, มาตา ตํ วรเต อิเส’’ติ.

ตตฺถ อนุกมฺปิกาติ มุทุหทยา. ปุพฺเพ รสททีติ ปมเมว อตฺตโน ขีรสงฺขาตสฺส รสสฺส ทายิกา. มาตา ตนฺติ มม มาตา มํ น อิจฺฉติ, ตํ วรติ อิจฺฉติ. โคตฺตีติ โคปายิกา. ปุฺูปสํหิตาติ ปุฺูปนิสฺสิตา ปุฺทายิกา.

เอวํ มหาสตฺโต ทฺวีหิ คาถาหิ มาตุ คุณํ กเถตฺวา ปุนาคนฺตฺวา ตสฺสา อาสเน นิสินฺนกาเล ‘‘นนฺท, ตฺวํ ทุกฺกรการิกํ มาตรํ ลภสิ, อุโภปิ มยํ มาตรา ทุกฺเขน สํวฑฺฒิตา, ตํ อิทานิ ตฺวํ อปฺปมตฺโต ปฏิชคฺคาหิ, อมธุรานิ ผลาผลานิ มา ขาทาเปหี’’ติ วตฺวา ปริสมชฺเฌเยว มาตุ ทุกฺกรการิกตํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๖๕.

‘‘อากงฺขมานา ปุตฺตผลํ, เทวตาย นมสฺสติ;

นกฺขตฺตานิ จ ปุจฺฉติ, อุตุสํวจฺฉรานิ จ.

๑๖๖.

‘‘ตสฺสา อุตุมฺหิ นฺหาตาย, โหติ คพฺภสฺส โวกฺกโม;

เตน โทหฬินี โหติ, สุหทา เตน วุจฺจติ.

๑๖๗.

‘‘สํวจฺฉรํ วา อูนํ วา, ปริหริตฺวา วิชายติ;

เตน สา ชนยนฺตีติ, ชเนตฺติ เตน วุจฺจติ.

๑๖๘.

‘‘ถนขีเรน คีเตน, องฺคปาวุรเณน จ;

โรทนฺตํ ปุตฺตํ โตเสติ, โตเสนฺตี เตน วุจฺจติ.

๑๖๙.

‘‘ตโต วาตาตเป โฆเร, มมํ กตฺวา อุทิกฺขติ;

ทารกํ อปฺปชานนฺตํ, โปเสนฺตี เตน วุจฺจติ.

๑๗๐.

‘‘ยฺจ มาตุธนํ โหติ, ยฺจ โหติ ปิตุทฺธนํ;

อุภยมฺเปตสฺส โคเปติ, อปิ ปุตฺตสฺส โน สิยา.

๑๗๑.

‘‘เอวํ ปุตฺต อทุํ ปุตฺต, อิติ มาตา วิหฺติ;

ปมตฺตํ ปรทาเรสุ, นิสีเถ ปตฺตโยพฺพเน;

สายํ ปุตฺตํ อนายนฺตํ, อิติ มาตา วิหฺติ.

๑๗๒.

‘‘เอวํ กิจฺฉา ภโต โปโส, มาตุ อปริจารโก;

มาตริ มิจฺฉา จริตฺวาน, นิรยํ โสปปชฺชติ.

๑๗๓.

‘‘เอวํ กิจฺฉา ภโต โปโส, ปิตุ อปริจารโก;

ปิตริ มิจฺฉา จริตฺวาน, นิรยํ โสปปชฺชติ.

๑๗๔.

‘‘ธนาปิ ธนกามานํ, นสฺสติ อิติ เม สุตํ;

มาตรํ อปริจริตฺวาน, กิจฺฉํ วา โส นิคจฺฉติ.

๑๗๕.

‘‘ธนาปิ ธนกามานํ, นสฺสติ อิติ เม สุตํ;

ปิตรํ อปริจริตฺวาน, กิจฺฉํ วา โส นิคจฺฉติ.

๑๗๖.

‘‘อานนฺโท จ ปโมโท จ, สทา หสิตกีฬิตํ;

มาตรํ ปริจริตฺวาน, ลพฺภเมตํ วิชานโต.

๑๗๗.

‘‘อานนฺโท จ ปโมโท จ, สทา หสิตกีฬิตํ;

ปิตรํ ปริจริตฺวาน, ลพฺภเมตํ วิชานโต.

๑๗๘.

‘‘ทานฺจ ปิยวาจา จ, อตฺถจริยา จ ยา อิธ;

สมานตฺตตา จ ธมฺเมสุ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;

เอเต โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโต.

๑๗๙.

‘‘เอเต จ สงฺคหา นาสฺสุ, น มาตา ปุตฺตการณา;

ลเภถ มานํ ปูชํ วา, ปิตา วา ปุตฺตการณา.

๑๘๐.

‘‘ยสฺมา จ สงฺคหา เอเต, สมฺมเปกฺขนฺติ ปณฺฑิตา;

ตสฺมา มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ, ปาสํสา จ ภวนฺติ เต.

๑๘๑.

‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร, ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร;

อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ, ปชาย อนุกมฺปกา.

๑๘๒.

‘‘ตสฺมา หิ เน นมสฺเสยฺย, สกฺกเรยฺย จ ปณฺฑิโต;

อนฺเนน อโถ ปาเนน, วตฺเถน สยเนน จ;

อุจฺฉาทเนน นฺหาปเนน, ปาทานํ โธวเนน จ.

๑๘๓.

‘‘ตาย นํ ปาริจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;

อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺตผลนฺติ ปุตฺตสงฺขาตํ ผลํ. เทวตาย นมสฺสตีติ ‘‘ปุตฺโต เม อุปฺปชฺชตู’’ติ เทวตาย นมกฺการํ กโรติ อายาจติ. ปุจฺฉตีติ ‘‘กตเรน นกฺขตฺเตน ชาโต ปุตฺโต ทีฆายุโก โหติ, กตเรน อปฺปายุโก’’ติ เอวํ นกฺขตฺตานิ จ ปุจฺฉติ. อุตุสํวจฺฉรานิ จาติ ‘‘ฉนฺนํ อุตูนํ กตรสฺมึ อุตุมฺหิ ชาโต ทีฆายุโก โหติ, กตรสฺมึ อุตุมฺหิ อปฺปายุโก, กติวสฺสาย วา มาตุยา ชาโต ปุตฺโต ทีฆายุโก โหติ, กติวสฺสาย อปฺปายุโก’’ติ เอวํ อุตุสํวจฺฉรานิ จ ปุจฺฉติ. อุตุมฺหิ นฺหาตายาติ ปุปฺเผ อุปฺปนฺเน อุตุมฺหิ นฺหาตาย. โวกฺกโมติ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ, กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺาติ. เตนาติ เตน คพฺเภน สา โทหฬินี โหติ. เตนาติ ตทา ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตปชาย สิเนโห อุปฺปชฺชติ, เตน การเณน ‘‘สุหทา’’ติ วุจฺจติ. เตนาติ เตน การเณน สา ‘‘ชนยนฺตี’’ติ จ ‘‘ชเนตฺตี’’ติ จ วุจฺจติ.

องฺคปาวุรเณน จาติ ถนนฺตเร นิปชฺชาเปตฺวา สรีรสมฺผสฺสํ ผราเปนฺตี องฺคสงฺขาเตเนว ปาวุรเณน. โตเสนฺตีติ สฺาเปนฺตี หาเสนฺตี. มมํ กตฺวา อุทิกฺขตีติ ‘‘ปุตฺตสฺส เม อุปริ วาโต ปหรติ, อาตโป ผรตี’’ติ เอวํ มมํการํ กตฺวา สินิทฺเธน หทเยน อุทิกฺขติ. อุภยมฺเปตสฺสาติ อุภยมฺปิ เอตํ ธนํ เอตสฺส ปุตฺตสฺส อตฺถาย อฺเสํ อทสฺเสตฺวา สารคพฺภาทีสุ มาตา โคเปติ. เอวํ ปุตฺต, อทุํ ปุตฺตาติ ‘‘อนฺธพาล ปุตฺต, เอวํ ราชกุลาทีสุ อปฺปมตฺโต โหหิ, อทุฺจ กมฺมํ มา กโรหี’’ติ สิกฺขาเปนฺตี อิติ มาตา วิหฺติ กิลมติ. ปตฺตโยพฺพเนติ ปุตฺเต ปตฺตโยพฺพเน ตํ ปุตฺตํ นิสีเถ ปรทาเรสุ ปมตฺตํ สายํ อนาคจฺฉนฺตํ ตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ มคฺคํ โอโลเกนฺตี วิหฺติ กิลมติ.

กิจฺฉา ภโตติ กิจฺเฉน ภโต ปฏิชคฺคิโต. มิจฺฉา จริตฺวานาติ มาตรํ อปฏิชคฺคิตฺวา. ธนาปีติ ธนมฺปิ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ธนกามานํ อุปฺปนฺนํ ธนมฺปิ มาตรํ อปฏิชคฺคนฺตานํ นสฺสตีติ เม สุตนฺติ. กิจฺฉํ วา โสติ อิติ ธนํ วา ตสฺส นสฺสติ, ทุกฺขํ วาโส ปุริโส นิคจฺฉติ. ลพฺภเมตนฺติ เอตํ อิธโลเก จ ปรโลเก จ อานนฺทาทิสุขํ มาตรํ ปริจริตฺวา วิชานโต ปณฺฑิตสฺส ลพฺภํ, สกฺกา ลทฺธุํ ตาทิเสนาติ อตฺโถ.

ทานฺจาติ มาตาปิตูนํ ทานํ ทาตพฺพํ, ปิยวจนํ ภณิตพฺพํ, อุปฺปนฺนกิจฺจสาธนวเสน อตฺโถ จริตพฺโพ. ธมฺเมสูติ เชฏฺาปจายนธมฺเมสุ ตตฺถ ตตฺถ ปริสมชฺเฌ วา รโหคตานํ วา อภิวาทนาทิวเสน สมานตฺตตา กาตพฺพา, น รโห อภิวาทนาทีนิ กตฺวา ปริสติ น กาตพฺพานิ, สพฺพตฺถ สมาเนเนว ภวิตพฺพํ. เอเต จ สงฺคหา นาสฺสูติ สเจ เอเต จตฺตาโร สงฺคหา น ภเวยฺยุํ. สมฺมเปกฺขนฺตีติ สมฺมา นเยน การเณน เปกฺขนฺติ. มหตฺตนฺติ เสฏฺตฺตํ. พฺรหฺมาติ ปุตฺตานํ พฺรหฺมสมา อุตฺตมา เสฏฺา. ปุพฺพาจริยาติ ปมาจริยา. อาหุเนยฺยาติ อาหุนปฏิคฺคาหกา ยสฺส กสฺสจิ สกฺการสฺส อนุจฺฉวิกา. อนฺเนน อโถติ อนฺเนน เจว อตฺโถ ปาเนน จ. เปจฺจาติ กาลกิริยาย ปริโยสาเน อิโต คนฺตฺวา สคฺเค ปโมทตีติ.

เอวํ มหสตฺโต สิเนรุํ ปวฏฺเฏนฺโต วิย ธมฺมเทสนํ นิฏฺาเปสิ. ตํ สุตฺวา สพฺเพปิ เต ราชาโน พลกายา จ ปสีทึสุ. อถ เน ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘ทานาทีสุ อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. สพฺเพปิ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อายุปริโยสาเน เทวนครํ ปูรยึสุ. โสณปณฺฑิตนนฺทปณฺฑิตาปิ ยาวตายุกํ มาตาปิตโร ปริจริตฺวา พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มาหาราชกุลานิ อเหสุํ, นนฺทปณฺฑิโต อานนฺโท, มโนชราชา สาริปุตฺโต, เอกสตราชาโน อสีติมหาเถรา เจว อฺตรเถรา จ, จตุวีสติ อกฺโขภณิโย พุทฺธปริสา, โสณปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.

โสณนนฺทชาตกวณฺณนา ทุติยา.

ชาตกุทฺทานํ –

อถ สตฺตติมมฺหิ นิปาตวเร, สภาวนฺตุ กุสาวติราชวโร;

อถ โสณสุนนฺทวโร จ ปุน, อภิวาสิตสตฺตติมมฺหิ สุเตติ.

สตฺตตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๑. อสีตินิปาโต

[๕๓๓] ๑. จูฬหํสชาตกวณฺณนา

สุมุขาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ชีวิตปริจฺจาคํ อารพฺภ กเถสิ. เทวทตฺเตน หิ ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ ปโยชิเตสุ ธนุคฺคเหสุ สพฺพปมํ เปสิเตน อาคนฺตฺวา ‘‘นาหํ, ภนฺเต, สกฺโกมิ ตํ ภควนฺตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, มหิทฺธิโก โส ภควา มหานุภาโว’’ติ วุตฺเต เทวทตฺโต ‘‘อลํ, อาวุโส, มา ตฺวํ สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปหิ, อหเมว สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสามี’’ติ วตฺวา ตถาคเต คิชฺฌกูฏปพฺพตสฺส ปจฺฉิมฉายาย จงฺกมนฺเต สยํ คิชฺฌกูฏํ ปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ยนฺตเวเคน มหตึ สิลํ ปวิชฺฌิ, ‘‘อิมาย สิลาย สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสามี’’ติ. ตทา ทฺเว ปพฺพตกูฏา สมาคนฺตฺวา ตํ สิลํ สมฺปฏิจฺฉึสุ. ตโต ปปฏิกา อุปฺปติตฺวา ภควโต ปาทํ ปหริตฺวา รุหิรํ อุปฺปาเทสิ, พลวเวทนา ปวตฺตึสุ. ชีวโก ตถาคตสฺส ปาทํ สตฺถเกน ผาเลตฺวา ทุฏฺโลหิตํ วเมตฺวา ปูติมํสํ อปเนตฺวา โธวิตฺวา เภสชฺชํ อาลิมฺปิตฺวา นิโรคมกาสิ. สตฺถา ปุริมสทิสเมว ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต มหติยา พุทฺธลีลาย วิจริ.

อถ นํ ทิสฺวา เทวทตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส รูปโสภคฺคปฺปตฺตํ สรีรํ ทิสฺวา โกจิ มนุสฺสภูโต อุปสงฺกมิตุํ น สกฺโกติ, รฺโ โข ปน นาฬาคิริ นาม หตฺถี จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ น ชานาติ, โส ตํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสตี’’ติ. โส คนฺตฺวา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา หตฺถาจริยํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺม, สฺเว นาฬาคิรึ มตฺตํ กตฺวา ปาโตว สมเณน โคตเมน ปฏิปนฺนวีถิยํ วิสฺสชฺเชหี’’ติ อาห. เทวทตฺโตปิ นํ ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ หตฺถี กิตฺตกํ สุรํ ปิวตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อฏฺ ฆเฏ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สฺเว ตฺวํ ตํ โสฬส ฆเฏ ปาเยตฺวา สมเณน โคตเมน ปฏิปนฺนวีถิยํ อภิมุขํ กเรยฺยาสี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘สฺเว นาฬาคิรึ มตฺตํ กตฺวา นคเร วิสฺสชฺเชสฺสติ, นาครา ปาโตว สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา อนฺตรวีถึ มา ปฏิปชฺชึสู’’ติ. เทวทตฺโตปิ ราชนิเวสนา โอรุยฺห หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิโคปเก อามนฺเตตฺวา ‘‘มยํ ภเณ อุจฺจฏฺานิยํ นีจฏฺาเน, นีจฏฺานิยํ วา อุจฺจฏฺาเน กาตุํ สมตฺถา, สเจ โว ยเสน อตฺโถ, สฺเว ปาโตว นาฬาคิรึ ติขิณสุราย โสฬส ฆเฏ ปาเยตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส อาคมนเวลาย ตุตฺตโตมเรหิ วิชฺฌิตฺวา กุชฺฌาเปตฺวา หตฺถิสาลํ ภินฺทาเปตฺวา สมเณน โคตเมน ปฏิปนฺนวีถิยํ อภิมุขํ กตฺวา สมณํ โคตมํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ.

สา ปวตฺติ สกลนคเร วิตฺถาริกา อโหสิ. พุทฺธธมฺมสงฺฆมามกา อุปาสกา ตํ สุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, เทวทตฺโต รฺา สทฺธึ เอกโต หุตฺวา สฺเว ตุมฺเหหิ ปฏิปนฺนวีถิยํ นาฬาคิรึ วิสฺสชฺชาเปสฺสติ, สฺเว ปิณฺฑาย อปวิสิตฺวา อิเธว โหถ, มยํ วิหาเรเยว พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามา’’ติ วทึสุ. สตฺถาปิ ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย น ปวิสิสฺสามี’’ติ อวตฺวาว ‘‘อหํ สฺเว นาฬาคิรึ ทเมตฺวา ปาฏิหาริยํ กตฺวา ติตฺถิเย มทฺทิตฺวา ราชคเห ปิณฺฑาย อจริตฺวาว ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นครา นิกฺขมิตฺวา เวฬุวนเมว อาคมิสฺสามิ, ราชคหวาสิโนปิ พหูนิ ภตฺตภาชนานิ คเหตฺวา เวฬุวนเมว อาคมิสฺสนฺติ, สฺเว วิหาเรเยว ภตฺตคฺคํ ภวิสฺสตี’’ติ อิมินา การเณน เตสํ อธิวาเสสิ. เต ตถาคตสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา ภตฺตภาชนานิ อาหริตฺวา ‘‘วิหาเรเยว ทานํ ทสฺสามา’’ติ ปกฺกมึสุ.

สตฺถาปิ ปมยาเม ธมฺมํ เทเสตฺวา มชฺฌิมยาเม เทวตานํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปจฺฉิมยามสฺส ปมโกฏฺาเส สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา ทุติยโกฏฺาเส ผลสมาปตฺติยา วีตินาเมตฺวา ตติยโกฏฺาเส มหากรุณาสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย โพธเนยฺยพนฺธเว โอโลเกนฺโต นาฬาคิริทมเน จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมยํ ทิสฺวา วิภาตาย รตฺติยา กตสรีรปฏิชคฺคโน หุตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘อานนฺท, อชฺช ราชคหปริวตฺตเกสุ อฏฺารสสุ มหาวิหาเรสุ สพฺเพสมฺปิ ภิกฺขูนํ มยาสทฺธึ ราชคหํ ปวิสิตุํ อาโรเจหี’’ติ อาห. เถโร ตถา อกาสิ. สพฺเพปิ ภิกฺขู เวฬุวเน สนฺนิปตึสุ. สตฺถา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ราชคหํ ปาวิสิ. อถ หตฺถิเมณฺฑา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชึสุ, มหนฺโต สมาคโม อโหสิ. สทฺธาสมฺปนฺนา มนุสฺสา ‘‘อชฺช กิร พุทฺธนาคสฺส ติรจฺฉานนาเคน สงฺคาโม ภวิสฺสติ, อนูปมาย พุทฺธลีลาย นาฬาคิริทมนํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ปาสาทหมฺมิยเคหจฺฉทนาทีนิ อภิรุหิตฺวา อฏฺํสุ. อสทฺธา ปน มิจฺฉาทิฏฺิกา ‘‘อยํ นาฬาคิริ จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก พุทฺธาทีนํ คุณํ น ชานาติ, โส อชฺช สมณสฺส โคตมสฺส สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ วิทฺธํเสตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสติ, อชฺช ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ปาสาทาทีสุ อฏฺํสุ.

หตฺถีปิ ภควนฺตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มนุสฺเส ตาเสนฺโต เคหานิ วิทฺธํเสนฺโต สกฏานิ สํจุณฺเณนฺโต โสณฺฑํ อุสฺสาเปตฺวา ปหฏฺกณฺณวาโล ปพฺพโต วิย อชฺโฌตฺถรนฺโต เยน ภควา เตนาภิธาวิ. ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, นาฬาคิริ จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก อิมํ รจฺฉํ ปฏิปนฺโน, น โข ปนายํ พุทฺธาทิคุณํ ชานาติ, ปฏิกฺกมตุ, ภนฺเต, ภควา, ปฏิกฺกมตุ สุคโต’’ติ. มา, ภิกฺขเว, ภายิตฺถ, ปฏิพโล อหํ นาฬาคิรึ ทเมตุนฺติ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต สตฺถารํ ยาจิ – ‘‘ภนฺเต, ปิตุ อุปฺปนฺนกิจฺจํ นาม เชฏฺปุตฺตสฺส ภาโร, อหเมว ตํ ทเมมี’’ติ. อถ นํ สตฺถา, ‘‘สาริปุตฺต, พุทฺธพลํ นาม อฺํ, สาวกพลํ อฺํ, ติฏฺ ตฺว’’นฺติ ปฏิพาหิ. เอวํ เยภุยฺเยน อสีติ มหาเถรา ยาจึสุ. สตฺถา สพฺเพปิ ปฏิพาหิ. อถ อายสฺมา อานนฺโท สตฺถริ พลวสิเนเหน อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยํ หตฺถี ปมํ มํ มาเรตู’’ติ ตถาคตสฺสตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา คนฺตฺวา สตฺถุ ปุรโต อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘อเปหิ, อานนฺท, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, อยํ หตฺถี จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก กปฺปุฏฺานคฺคิสทิโส ปมํ มํ มาเรตฺวา ปจฺฉา ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺฉตู’’ติ เถโร อวจ. ยาวตติยํ วุจฺจมาโนปิ ตเถว อฏฺาสิ น ปฏิกฺกมิ. อถ นํ ภควา อิทฺธิพเลน ปฏิกฺกมาเปตฺวา ภิกฺขูนํ อนฺตเร เปสิ.

ตสฺมึ ขเณ เอกา อิตฺถี นาฬาคิรึ ทิสฺวา มรณภยภีตา ปลายมานา องฺเกน คหิตํ ทารกํ หตฺถิโน จ ตถาคตสฺส จ อนฺตเร ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิ. หตฺถี ตํ อนุพนฺธิตฺวา นิวตฺติตฺวา ทารกสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ตทา ทารโก มหารวํ รวิ. สตฺถา นาฬาคิรึ โอทิสฺสกเมตฺตาย ผริตฺวา สุมธุรํ พฺรหฺมสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา ‘‘อมฺโภ นาฬาคิริ ตํ โสฬส สุราฆเฏ ปาเยตฺวา มตฺตํ กโรนฺตา น ‘อฺํ คณฺหิสฺสตี’ติ กรึสุ, ‘มํ คณฺหิสฺสตี’ติ ปน กรึสุ, มา อการเณน ชงฺฆาโย กิลเมนฺโต วิจริ, อิโต เอหี’’ติ ปกฺโกสิ. โส สตฺถุ วจนํ สุตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ภควโต รูปสิรึ โอโลเกตฺวา ปฏิลทฺธสํเวโค พุทฺธเตเชน ปจฺฉินฺนสุรามโท โสณฺฑํ โอลมฺเพนฺโต กณฺเณ จาเลนฺโต อาคนฺตฺวา ตถาคตสฺส ปาเทสุ ปติ. อถ นํ สตฺถา, ‘‘นาฬาคิริ, ตฺวํ ติรจฺฉานหตฺถี, อหํ พุทฺธวารโณ, อิโต ปฏฺาย มา จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก ภว, สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภา’’ติ วตฺวา ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา กุมฺเภ ปรามสิตฺวา –

‘‘มา กุฺชร นาคมาสโท, ทุกฺโข หิ กุฺชร นาคมาสโท;

น หิ นาคหตสฺส กุฺชร, สุคติ โหติ อิโต ปรํ ยโต.

‘‘มา จ มโท มา จ ปมาโท, น หิ ปมตฺตา สุคตึ วชนฺติ เต;

ตฺวฺเว ตถา กริสฺสสิ, เยน ตฺวํ สุคตึ คมิสฺสสี’’ติ. (จูฬว. ๓๔๒) –

ธมฺมํ เทเสสิ.

ตสฺส สกลสรีรํ ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏํ อโหสิ. สเจ กิร ติรจฺฉานคโต นาภวิสฺสา, โสตาปตฺติผลํ อธิคมิสฺสา. มนุสฺสา ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา อุนฺนทึสุ อปฺโผฏึสุ, สฺชาตโสมนสฺสา นานาภรณานิ ขิปึสุ, ตานิ หตฺถิสฺส สรีรํ ปฏิจฺฉาทยึสุ. ตโต ปฏฺาย นาฬาคิริ ธนปาลโก นาม ชาโต. ตสฺมึ โข ปน ธนปาลกสมาคเม จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตํ ปิวึสุ. สตฺถา ธนปาลกํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. โส โสณฺฑาย ภควโต ปาเท ปํสูนิ คเหตฺวา อุปริ มุทฺธนิ อากิริตฺวา ปฏิกุฏิโตว ปฏิกฺกมิตฺวา ทสฺสนูปจาเร ิโต ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิวตฺติตฺวา หตฺถิสาลํ ปาวิสิ. ตโต ปฏฺาย ทนฺตสุทนฺโต หุตฺวา น กฺจิ วิเหเติ. สตฺถา นิปฺผนฺนมโนรโถ ‘‘เยหิ ยํ ธนํ ขิตฺตํ, เตสฺเว ตํ โหตู’’ติ อธิฏฺาย ‘‘อชฺช มยา มหนฺตํ ปาฏิหาริยํ กตํ, อิมสฺมึ นคเร ปิณฺฑาย จรณํ อปฺปฏิรูป’’นฺติ ติตฺถิเย มทฺทิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ชยปฺปตฺโต วิย ขตฺติโย นครา นิกฺขมิตฺวา เวฬุวนเมว คโต. นครวาสิโน พหุํ อนฺนปานขาทนียํ อาทาย วิหารํ คนฺตฺวา มหาทานํ ปวตฺตยึสุ.

ตํ ทิวสํ สายนฺหสมเย ธมฺมสภํ ปูเรตฺวา สนฺนิสินฺนา ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อายสฺมตา อานนฺเทน ตถาคตสฺสตฺถาย อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, นาฬาคิรึ ทิสฺวา สตฺถารา ติกฺขตฺตุํ ปฏิพาหิยมาโนปิ นาปคโต, อโห ทุกฺกรการโก, อาวุโส, อายสฺมา อานนฺโท’’ติ. สตฺถา ‘‘อานนฺทสฺส คุณกถา ปวตฺตติ, คนฺตพฺพํ มยา เอตฺถา’’ติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชิเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต มหึสกรฏฺเ สาคลนคเร สาคโล นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตทา นครโต อวิทูเร เอกสฺมึ เนสาทคามเก อฺตโร เนสาโท ปาเสหิ สกุเณ พนฺธิตฺวา นคเร วิกฺกิณนฺโต ชีวิกํ กปฺเปสิ. นครโต จ อวิทูเร อาวฏฺฏโต ทฺวาทสโยชโน มานุสิโย นาม ปทุมสโร อโหสิ ปฺจวณฺณปทุมสฺฉนฺโน. ตตฺถ นานปฺปกาโร สกุณสงฺโฆ โอตริ. โส เนสาโท ตตฺถ อนิยาเมน ปาเส โอฑฺเฑสิ. ตสฺมึ กาเล ธตรฏฺโ หํสราชา ฉนฺนวุติหํสสหสฺสปริวาโร จิตฺตกูฏปพฺพเต สุวณฺณคุหายํ วสติ, สุมุโข นามสฺส เสนาปติ อโหสิ. อเถกทิวสํ ตโต หํสยูถา กติปยา สุวณฺณหํสา มานุสิยํ สรํ คนฺตฺวา ปหูตโคจเร ตสฺมึ ยถาสุขํ วิจริตฺวา สุหิตา จิตฺตกูฏํ อาคนฺตฺวา ธตรฏฺสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘มหาราช, มนุสฺสปเถ มานุสิโย นาม ปทุมสโร สมฺปนฺนโคจโร, ตตฺถ โคจรํ คณฺหิตุํ คจฺฉามา’’ติ. โส ‘‘มนุสฺสปโถ นาม สาสงฺโก สปฺปฏิภโย, มา โว รุจฺจิตฺถา’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวาปิ เตหิ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโน ‘‘สเจ ตุมฺหากํ รุจฺจติ, คจฺฉามา’’ติ สปริวาโร ตํ สรํ อคมาสิ. โส อากาสา โอตรนฺโต ปาทํ ปาเส ปเวเสนฺโตเยว โอตริ. อถสฺส ปาโส ปาทํ อยปฏฺฏเกน กฑฺฒนฺโต วิย อาพนฺธิตฺวา คณฺหิ. อถสฺส ‘‘ฉินฺทิสฺสามิ น’’นฺติ อากฑฺฒนฺตสฺส ปมวาเร จมฺมํ ฉิชฺชิ, ทุติยวาเร มํสํ ฉิชฺชิ, ตติยวาเร นฺหารุ ฉิชฺชิ, ปาโส อฏฺึ อาหจฺจ อฏฺาสิ, โลหิตํ ปคฺฆริ, พลวเวทนา ปวตฺตึสุ.

โส จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าตกา เม อุตฺรสฺตา หุตฺวา โคจรํ อคฺคณฺหิตฺวา ฉาตชฺฌตฺตาว ปลายนฺตา ทุพฺพลตาย มหาสมุทฺเท ปติสฺสนฺตี’’ติ. โส เวทนํ อธิวาเสตฺวา าตีนํ ยาวทตฺถํ จริตฺวา หํสานํ กีฬนกาเล มหนฺเตน สทฺเทน พทฺธรวํ รวิ. ตํ สุตฺวา เต หํสา มรณภยตชฺชิตา วคฺควคฺคา หุตฺวา จิตฺตกูฏาภิมุขา ปกฺกมึสุ. เตสุ ปกฺกนฺเตสุ สุมุโข หํสเสนาปติ ‘‘กจฺจิ นุ โข อิทํ ภยํ มหาราชสฺส อุปฺปนฺนํ, ชานิสฺสามิ น’’นฺติ เวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส หํสคณสฺส อนฺตเร มหาสตฺตํ อทิสฺวา มชฺฌิมหํสคณํ วิจินิ, ตตฺถปิ อทิสฺวา ปจฺฉิมหํสคณํ วิจินิ, ตตฺถปิ อทิสฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ ตสฺเสเวทํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ นิวตฺติตฺวา อาคจฺฉนฺโต มหาสตฺตํ ปาเส พทฺธํ โลหิตมกฺขิตํ ทุกฺขาตุรํ ปงฺกปิฏฺเ นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ มม ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ตุมฺเห ปาสโต โมเจสฺสามี’’ติ วทนฺโต โอตริตฺวา มหาสตฺตํ อสฺสาเสนฺโตว ปงฺกปิฏฺเ นิสีทิ. อถ นํ วีมํสนฺโต มหาสตฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘สุมุข อนุปจินนฺตา, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;

คจฺฉ ตุวมฺปิ มา กงฺขิ, นตฺถิ พทฺเธ สหายตา’’ติ.

ตตฺถ อนุปจินนฺตาติ สิเนเหน อาลยวเสน อโนโลเกนฺตา. ปกฺกมนฺตีติ เอเต ฉนฺนวุติ หํสสหสฺสา าติวิหงฺคมา มํ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, ตฺวมฺปิ คจฺฉ, มา อิธ วาสํ อากงฺขิ, เอวฺหิ ปาเสน พทฺเธ มยิ สหายตา นาม นตฺถิ, น หิ เต อหํ อิทานิ กิฺจิ สหายกิจฺจํ กาตุํ สกฺขิสฺสามิ, กึ เต มยา นิรูปกาเรน, ปปฺจํ อกตฺวา คจฺเฉวาติ วทติ.

อิโต ปรํ –

.

‘‘คจฺเฉ วาหํ น วา คจฺเฉ, น เตน อมโร สิยํ;

สุขิตํ ตํ อุปาสิตฺวา, ทุกฺขิตํ ตํ กถํ ชเห.

.

‘‘มรณํ วา ตยา สทฺธึ, ชีวิตํ วา ตยา วินา;

ตเทว มรณํ เสยฺโย, ยฺเจ ชีเว ตยา วินา.

.

‘‘เนส ธมฺโม มหาราช, ยํ ตํ เอวํ คตํ ชเห;

ยา คติ ตุยฺหํ สา มยฺหํ, รุจฺจเต วิหคาธิป.

.

‘‘กา นุ ปาเสน พทฺธสฺส, คติ อฺา มหานสา;

สา กถํ เจตยานสฺส, มุตฺตสฺส ตว รุจฺจติ.

.

‘‘กํ วา ตฺวํ ปสฺสเส อตฺถํ, มม ตุยฺหฺจ ปกฺขิม;

าตีนํ วาวสิฏฺานํ, อุภินฺนํ ชีวิตกฺขเย.

.

‘‘ยํ น กฺจนเทปิฺฉ, อนฺเธน ตมสา คตํ;

ตาทิเส สฺจชํ ปาณํ, กมตฺถมภิโชตเย.

.

‘‘กถํ นุ ปตตํ เสฏฺ, ธมฺเม อตฺถํ น พุชฺฌสิ;

ธมฺโม อปจิโต สนฺโต, อตฺถํ ทสฺเสติ ปาณินํ.

.

‘‘โสหํ ธมฺมํ อเปกฺขาโน, ธมฺมา จตฺถํ สมุฏฺิตํ;

ภตฺติฺจ ตยิ สมฺปสฺสํ, นาวกงฺขามิ ชีวิตํ.

๑๐. ‘‘อทฺธา เอโส สตํ ธมฺโม, โย มิตฺโต มิตฺตมาปเท.

น จเช ชีวิตสฺสาปิ, เหตุธมฺมมนุสฺสรํ.

๑๑.

‘‘สฺวายํ ธมฺโม จ เต จิณฺโณ, ภตฺติ จ วิทิตา มยิ;

กามํ กรสฺสุ มยฺเหตํ, คจฺเฉวานุมโต มยา.

๑๒.

‘‘อปิ ตฺเววํ คเต กาเล, ยํ ขณฺฑํ าตินํ มยา;

ตยา ตํ พุทฺธิสมฺปนฺนํ, อสฺส ปรมสํวุตํ.

๑๓.

‘‘อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานํ, อริยานํ อริยวุตฺตินํ;

ปจฺจทิสฺสถ เนสาโท, อาตุรานมิวนฺตโก.

๑๔.

‘‘เต สตฺตุมภิสฺจิกฺข, ทีฆรตฺตํ หิตา ทิชา;

ตุณฺหีมาสิตฺถ อุภโย, น สฺจเลสุมาสนา.

๑๕.

‘‘ธตรฏฺเ จ ทิสฺวาน, สมุฑฺเฑนฺเต ตโต ตโต;

อภิกฺขมถ เวเคน, ทิชสตฺตุ ทิชาธิเป.

๑๖.

‘‘โส จ เวเคนภิกฺกมฺม, อาสชฺช ปรเม ทิเช;

ปจฺจกมิตฺถ เนสาโท, พทฺธา อิติ วิจินฺตยํ.

๑๗.

‘‘เอกํว พทฺธมาสีนํ, อพทฺธฺจ ปุนาปรํ;

อาสชฺช พทฺธมาสีนํ, เปกฺขมานมทีนวํ.

๑๘.

‘‘ตโต โส วิมโตเยว, ปณฺฑเร อชฺฌภาสถ;

ปวฑฺฒกาเย อาสีเน, ทิชสงฺฆคณาธิเป.

๑๙.

‘‘ยํ นุ ปาเสน มหตา, พทฺโธ น กุรุเต ทิสํ;

อถ กสฺมา อพทฺโธ ตฺวํ, พลี ปกฺขิ น คจฺฉสิ.

๒๐.

‘‘กึ นุ ตฺยายํ ทิโช โหติ, มุตฺโต พทฺธํ อุปาสสิ;

โอหาย สกุณา ยนฺติ, กึ เอโก อวหียสิ.

๒๑.

‘‘ราชา เม โส ทิชามิตฺต, สขา ปาณสโม จ เม;

เนว นํ วิชหิสฺสามิ, ยาว กาลสฺส ปริยายํ.

๒๒.

‘‘กถํ ปนายํ วิหงฺโค, นาทฺทส ปาสโมฑฺฑิตํ;

ปทฺเหตํ มหนฺตานํ, โพทฺธุมรหนฺติ อาปทํ.

๒๓.

‘‘ยทา ปราภโว โหติ, โปโส ชีวิตสงฺขเย;

อถ ชาลฺจ ปาสฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌติ.

๒๔.

‘‘อปิ ตฺเวว มหาปฺ, ปาสา พหุวิธา ตตา;

คุยฺหมาสชฺช พชฺฌนฺติ, อเถวํ ชีวิตกฺขเย’’ติ. –

อิมาสํ คาถานํ สมฺพนฺโธ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ คจฺเฉ วาติ, มหาราช, อหํ อิโต คจฺเฉยฺยํ วา น วา, นาหํ เตน คมเนน วา อคมเนน วา อมโร สิยํ, อหฺหิ อิโต คโตปิ อคโตปิ มรณโต อมุตฺโตว, อิโต ปุพฺเพ ปน สุขิตํ ตํ อุปาสิตฺวา อิทานิ ทุกฺขิตํ ตํ กถํ ชเหยฺยนฺติ วทติ. มรณํ วาติ มม อคจฺฉนฺตสฺส วา ตยา สทฺธึ มรณํ ภเวยฺย, คจฺฉนฺตสฺส วา ตยา วินา ชีวิตํ. เตสุ ทฺวีสุ ยํ ตยา สทฺธึ มรณํ, ตเทว เม วรํ, ยํ ตยา วินา ชีเวยฺยํ, น เม ตํ วรนฺติ อตฺโถ. รุจฺจเตติ ยา ตว คติ นิปฺผตฺติ, สาว มยฺหํ รุจฺจติ. สา กถนฺติ สมฺม สุมุข มม ตาว ทฬฺเหน วาลปาเสน พทฺธสฺส ปรหตฺถํ คตสฺส สา คติ รุจฺจตุ, ตว ปน เจตยานสฺส สเจตนสฺส ปฺวโต มุตฺตสฺส กถํ รุจฺจติ.

ปกฺขิมาติ ปกฺขสมฺปนฺน. อุภินฺนนฺติ อมฺหากํ ทฺวินฺนํ ชีวิตกฺขเย สติ ตฺวํ มม วา ตว วา อวสิฏฺาตีนํ วา กํ อตฺถํ ปสฺสสิ. ยํ นาติ เอตฺถ -กาโร อุปมาเน. กฺจนเทปิฺฉาติ กฺจนทฺเวปิฺฉ, อยเมว วา ปาโ, กฺจนสทิสอุภยปกฺขาติ อตฺโถ. ตมสาติ ตมสิ. คตนฺติ กตํ, อยเมว วา ปาโ. ปุริมสฺส -การสฺส อิมินา สมฺพนฺโธ, ‘‘น กต’’นฺติ กตํ วิยาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตยิ ปาณํ จชนฺเตปิ อจชนฺเตปิ มม ชีวิตสฺส อภาวา ยํ ตว ปาณสฺจชนํ, ตํ อนฺเธน ตมสิ กตํ วิย กิฺจิเทว รูปกมฺมํ อปจฺจกฺขคุณํ, ตาทิเส ตว อปจฺจกฺขคุเณ ปาณสฺจชเน ตฺวํ ปาณํ สฺจชนฺโต กมตฺถํ โชเตยฺยาสีติ.

ธมฺโม อปจิโต สนฺโตติ ธมฺโม ปูชิโต มานิโต สมาโน. อตฺถํ ทสฺเสตีติ วุทฺธึ ทสฺเสติ. อเปกฺขาโนติ อเปกฺขนฺโต. ธมฺมา จตฺถนฺติ ธมฺมโต จ อตฺถํ สมุฏฺิตํ ปสฺสนฺโต. ภตฺตินฺติ สิเนหํ. สตํ ธมฺโมติ ปณฺฑิตานํ สภาโว. โย มิตฺโตติ โย มิตฺโต อาปทาสุ มิตฺตํ น จเช, ตสฺส อจชนฺตสฺส มิตฺตสฺส เอส สภาโว นาม อทฺธา สตํ ธมฺโม. วิทิตาติ ปากฏา ชาตา. กามํ กรสฺสูติ เอตํ มม กามํ มยา อิจฺฉิตํ มม วจนํ กรสฺสุ. อปิ ตฺเววํ คเต กาเลติ อปิ ตุ เอวํ คเต กาเล มยิ อิมสฺมึ าเน ปาเสน พทฺเธ. ปรมสํวุตนฺติ ปรมปริปุณฺณํ.

อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานนฺติ ‘‘คจฺฉ, น คจฺฉามี’’ติ เอวํ กเถนฺตานํ อริยานนฺติ อาจารอริยานํ. ปจฺจทิสฺสถาติ กาสายานิ นิวาเสตฺวา รตฺตมาลํ ปิฬนฺธิตฺวา มุคฺครํ อาทาย อาคจฺฉนฺโต อทิสฺสถ. อาตุรานนฺติ คิลานานํ มจฺจุ วิย. อภิสฺจิกฺขาติ, ภิกฺขเว, เต อุโภปิ สตฺตุํ อายนฺตํ ปสฺสิตฺวา. หิตาติ ทีฆรตฺตํ อฺมฺสฺส หิตา มุทุจิตฺตา. น สฺจเลสุมาสนาติ อาสนโต น จลึสุ, ยถานิสินฺนาว อเหสุํ. สุมุโข ปน ‘‘อยํ เนสาโท อาคนฺตฺวา ปหรนฺโต มํ ปมํ ปหรตู’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตํ ปจฺฉโต กตฺวา นิสีทิ.

ธตรฏฺเติ หํเส. สมุฑฺเฑนฺเตติ มรณภเยน อิโต จิโต จ อุปฺปตนฺเต ทิสฺวา. อาสชฺชาติ อิตเร ทฺเว ชเน อุปคนฺตฺวา. ปจฺจกมิตฺถาติ ‘‘พทฺธา, น พทฺธา’’ติ จินฺเตนฺโต อุปธาเรนฺโต อกมิตฺถ, เวคํ หาเปตฺวา สณิกํ อคมาสิ. อาสชฺช พทฺธมาสีนนฺติ พทฺธํ มหาสตฺตํ อุปคนฺตฺวา นิสินฺนํ สุมุขํ. อทีนวนฺติอาทีนวเมว หุตฺวา มหาสตฺตํ โอโลเกนฺตํ ทิสฺวา. วิมโตติ กึ นุ โข อพทฺโธ พทฺธสฺส สนฺติเก นิสินฺโน, การณํ ปุจฺฉิสฺสามีติ วิมติชาโต หุตฺวาติ อตฺโถ. ปณฺฑเรติ หํเส, อถ วา ปริสุทฺเธ นิมฺมเล, สมฺปหฏฺกฺจนวณฺเณติ อตฺโถ. ปวฑฺฒกาเยติ วฑฺฒิตกาเย มหาสรีเร. ยํ นูติ ยํ ตาว เอโส มหาปาเสน พทฺโธ. น กุรุเต ทิสนฺติ ปลายนตฺถาย เอกํ ทิสํ น ภชติ, ตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. พลีติ พลสมฺปนฺโน หุตฺวาปิ. ปกฺขีติ ตํ อาลปติ. โอหายาติ ฉฑฺเฑตฺวา. ยนฺตีติ เสสสกุณา คจฺฉนฺติ. อวหียสีติ โอหียสิ.

ทิชามิตฺตาติ ทิชานํ อมิตฺต. ยาว กาลสฺส ปริยายนฺติ ยาว มรณสฺส วาโร อาคจฺฉติ. กถํ ปนายนฺติ ตฺวํ ราชา เม โสติ วทสิ, ราชาโน จ นาม ปณฺฑิตา โหนฺติ, อิติปิ ปณฺฑิโต สมาโน เกน การเณน โอฑฺฑิตํ ปาสํ น อทฺทส. ปทํ เหตนฺติ ยสมหตฺตํ วา าณมหตฺตํ วา ปตฺตานํ อตฺตโน อาปทพุชฺฌนํ นาม ปทํ การณํ, ตสฺมา เต อาปทํ โพทฺธุมรหนฺติ. ปราภโวติ อวฑฺฒิ. อาสชฺชาปีติ อุปคนฺตฺวาปิ น พุชฺฌติ. ตตาติ วิตตา โอฑฺฑิตา. คุยฺหมาสชฺชาติ เตสุ ปาเสสุ โย คุฬฺโห ปฏิจฺฉนฺโน ปาโส, ตํ อาสชฺช พชฺฌนฺติ. อเถวนฺติ อถ เอวํ ชีวิตกฺขเย พชฺฌนฺเตวาติ อตฺโถ.

อิติ นํ โส กถาสลฺลาเปน มุทุหทยํ กตฺวา มหาสตฺตสฺส ชีวิตํ ยาจนฺโต คาถมาห –

๒๕.

‘‘อปิ นายํ ตยา สทฺธึ, สํวาสสฺส สุขุทฺรโย;

อปิ โน อนุมฺาสิ, อปิ โน ชีวิตํ ทเท’’ติ.

ตตฺถ อปิ นายนฺติ อปิ นุ อยํ. สุขุทฺรโยติ สุขผโล. อปิ โน อนุมฺาสีติ จิตฺตกูฏํ คนฺตฺวา าตเก ปสฺสิตุํ ตฺวํ อปิ โน อนุชาเนยฺยาสิ. อปิ โน ชีวิตํ ทเทติ อปิ โน อิมาย กถาย อุปฺปนฺนวิสฺสาโส น มาเรยฺยาสีติ.

โส ตสฺส มธุรกถาย พชฺฌิตฺวา คาถมาห –

๒๖.

‘‘น เจว เม ตฺวํ พทฺโธสิ, นปิ อิจฺฉามิ เต วธํ;

กามํ ขิปฺปมิโต คนฺตฺวา, ชีว ตฺวํ อนิโฆ จิร’’นฺติ.

ตโต สุมุโข จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๗.

‘‘เนวาหเมตมิจฺฉามิ, อฺตฺเรตสฺส ชีวิตา;

สเจ เอเกน ตุฏฺโสิ, มุฺเจตํ มฺจ ภกฺขย.

๒๘.

‘‘อาโรหปริณาเหน, ตุลฺยาสฺมา วยสา อุโภ;

น เต ลาเภน ชีวตฺถิ, เอเตน นิมินา ตุวํ.

๒๙.

‘‘ตทิงฺฆ สมเปกฺขสฺสุ, โหตุ คิทฺธิ ตวมฺหสุ;

มํ ปุพฺเพ พนฺธ ปาเสน, ปจฺฉา มุฺจ ทิชาธิปํ.

๓๐.

‘‘ตาวเทว จ เต ลาโภ, กตาสฺส ยาจนาย จ;

มิตฺติ จ ธตรฏฺเหิ, ยาวชีวาย เต สิยา’’ติ.

ตตฺถ เอตนฺติ ยํ อฺตฺร เอตสฺส ชีวิตา มม ชีวิตํ, เอตํ อหํ เนว อิจฺฉามิ. ตุลฺยาสฺมาติ สมานา โหม. นิมินา ตุวนฺติ ปริวตฺเตหิ ตฺวํ. ตวมฺหสูติ ตว อมฺเหสุ คิทฺธิ โหตุ, กึ เต เอเตน, มยิ โลภํ อุปฺปาเทหีติ วทติ. ตาวเทวาติ ตตฺตโกเยว. ยาจนาย จาติ ยา มม ยาจนา, สาว กตา อสฺสาติ อตฺโถ.

อิติ โส ตาย ธมฺมเทสนาย เตเล ปกฺขิตฺตกปฺปาสปิจุ วิย มุทุคตหทโย มหาสตฺตํ ตสฺส ทายํ กตฺวา ททนฺโต อาห –

๓๑.

‘‘ปสฺสนฺตุ โน มหาสงฺฆา, ตยา มุตฺตํ อิโต คตํ;

มิตฺตามจฺจา จ ภจฺจา จ, ปุตฺตทารา จ พนฺธวา.

๓๒.

‘‘น จ เต ตาทิสา มิตฺตา, พหูนํ อิธ วิชฺชติ;

ยถา ตฺวํ ธตรฏฺสฺส, ปาณสาธารโณ สขา.

๓๓.

‘‘โส เต สหายํ มุฺจามิ, โหตุ ราชา ตวานุโค;

กามํ ขิปฺปมิโต คนฺตฺวา, าติมชฺเฌ วิโรจถา’’ติ.

ตตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ. ตยา มุตฺตนฺติ อิมฺหิ ตฺวฺเว มุฺจสิ นาม, ตสฺมา อิมํ ตยา มุตฺตํ อิโต จิตฺตกูฏปพฺพตํ คตํ มหนฺตา าติสงฺฆา เอเต จ มิตฺตาทโย ปสฺสนฺตุ. เอตฺถ จ พนฺธวาติ เอกโลหิตสมฺพนฺธา. วิชฺชตีติ วิชฺชนฺติ. ปาณสาธารโณติ สาธารณปาโณ อวิภตฺตชีวิโก, ยถา ตฺวํ เอตสฺส สขา, เอตาทิสา อฺเสํ พหูนํ มิตฺตา นาม น วิชฺชนฺติ. ตวานุโคติ เอตํ ทุกฺขิตํ อาทาย ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส ตว อยํ อนุโค โหตูติ.

เอวํ วตฺวา ปน เนสาทปุตฺโต เมตฺตจิตฺเตน มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา อาลิงฺคิตฺวา สรโต นิกฺขาเมตฺวา สรตีเร ตรุณทพฺพติณปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา ปาเท พนฺธนปาสํ มุทุจิตฺเตน สณิกํ โมเจตฺวา ทูเร ขิปิตฺวา มหาสตฺเต พลวสิเนหํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา เมตฺตจิตฺเตน อุทกํ อาทาย โลหิตํ โธวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชิ. ตสฺส เมตฺตจิตฺตานุภาเวน โพธิสตฺตสฺส ปาเท สิรา สิราหิ, มํสํ มํเสน, จมฺมํ จมฺเมน ฆฏิตํ, ตาวเทว ปาโท สํรุฬฺโห สฺชาตฉวิสฺชาตโลโม อโหสิ อพทฺธปาเทน นิพฺพิเสโส. โพธิสตฺโต สุขิโต ปกติภาเวเนว นิสีทิ. อถ สุมุโข อตฺตานํ นิสฺสาย มหาสตฺตสฺส สุขิตภาวํ ทิสฺวา สฺชาตโสมนสฺโส เนสาทสฺส ถุติมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๔.

‘‘โส ปตีโต ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารโว;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺโค, วาจํ กณฺณสุขํ ภณํ.

๓๕.

‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา ทิชาธิป’’นฺติ.

ตตฺถ วกฺกงฺโคติ วงฺกคีโว.

เอวํ ลุทฺทสฺส ถุตึ กตฺวา สุมุโข โพธิสตฺตํ อาห – ‘‘มหาราช, อิมินา อมฺหากํ มหาอุปกาโร กโต, อยฺหิ อมฺหากํ วจนํ อกตฺวา กีฬาหํเส โน กตฺวา อิสฺสรานํ เทนฺโต พหุํ ธนํ ลเภยฺย, มาเรตฺวา มํสํ วิกฺกิณนฺโต มูลมฺปิ ลเภถ, อตฺตโน ปน ชีวิตํ อโนโลเกตฺวา อมฺหากํ วจนํ อกริ, อิมํ รฺโ สนฺติกํ เนตฺวา สุขชีวิตํ กโรมา’’ติ. มหาสตฺโต สมฺปฏิจฺฉิ. สุมุโข อตฺตโน ภาสาย มหาสตฺเตน สทฺธึ กเถตฺวา ปุน มนุสฺสภาสาย ลุทฺทปุตฺตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ กิมตฺถํ ปาเส โอฑฺเฑสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธนตฺถ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เอวํ สนฺเต อมฺเห อาทาย นครํ ปวิสิตฺวา รฺโ ทสฺเสหิ, พหุํ เต ธนํ ทาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา อาห –

๓๖.

‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยถา ตฺวมปิ ลจฺฉเส;

ลาภํ ตวายํ ธตรฏฺโ, ปาปํ กิฺจิ น ทกฺขติ.

๓๗.

‘‘ขิปฺปมนฺเตปุรํ เนตฺวา, รฺโ ทสฺเสหิ โน อุโภ;

อพทฺเธ ปกติภูเต, กาเช อุภยโต ิเต.

๓๘.

‘‘ธตรฏฺา มหาราช, หํสาธิปติโน อิเม;

อยฺหิ ราชา หํสานํ, อยํ เสนาปตีตโร.

๓๙. ‘‘อสํสยํ อิมํ ทิสฺวา, หํสราชํ นราธิโป.

ปตีโต สุมโน วิตฺโต, พหุํ ทสฺสติ เต ธน’’นฺติ.

ตตฺถ อนุสิกฺขามีติ อนุสาสามิ. ปาปนฺติ ลามกํ. รฺโ ทสฺเสหิ โน อุโภติ อมฺเห อุโภปิ รฺโ ทสฺเสหิ. อยํ โพธิสตฺตสฺส ปฺาปภาวทสฺสนตฺถํ, อตฺตโน มิตฺตธมฺมสฺส อาวิภาวนตฺถํ, ลุทฺทสฺส ธนลาภตฺถํ, รฺโ สีเลสุ ปติฏฺาปนตฺถฺจาติ จตูหิ การเณหิ เอวมาห. ธตรฏฺาติ เนตฺวา จ ปน รฺโ เอวํ อาจิกฺเขยฺยาสิ, ‘‘มหาราช, อิเม ธตรฏฺกุเล ชาตา ทฺเว หํสาธิปติโน, เอเตสุ อยํ ราชา, อิตโร เสนาปตี’’ติ. อิติ นํ สิกฺขาเปสิ. ‘‘ปตีโต’’ติอาทีนิ ตีณิปิ ตุฏฺาการเววจนาเนว.

เอวํ วุตฺเต ลุทฺโท, ‘‘สามิ, มา โว ราชทสฺสนํ รุจฺจิ, ราชาโน นาม จลจิตฺตา, กีฬาหํเส วา โว กเรยฺยุํ มาราเปยฺยุํ วา’’ติ วตฺวา, ‘‘สมฺม, มา ภายิ, อหํ ตาทิสํ กกฺขฬํ ลุทฺทํ โลหิตปาณึ ธมฺมกถาย มุทุกํ กตฺวา มม ปาเทสุ ปาเตสึ, ราชาโน นาม ปุฺวนฺโต ปฺวนฺโต จ สุภาสิตทุพฺภาสิตฺู จ, ขิปฺปํ อมฺเห รฺโ ทสฺเสหี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มา มยฺหํ กุชฺฌิตฺถ, อหํ อวสฺสํ ตุมฺหากํ รุจิยา เนมี’’ติ วตฺวา อุโภปิ กาชํ อาโรเปตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา รฺโ ทสฺเสตฺวา รฺา ปุฏฺโ ยถาภูตํ อาโรเจสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๐.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, กมฺมุนา อุปปาทยิ;

ขิปฺปมนฺเตปุรํ คนฺตฺวา, รฺโ หํเส อทสฺสยิ;

อพทฺเธ ปกติภูเต, กาเช อุภยโต ิเต.

๔๑.

‘‘ธตรฏฺา มหาราช, หํสาธิปติโน อิเม;

อยฺหิ ราชา หํสานํ, อยํ เสนาปตีตโร;

๔๒.

‘‘กถํ ปนิเม วิหงฺคา, ตว หตฺถตฺตมาคตา;

กถํ ลุทฺโท มหนฺตานํ, อิสฺสเร อิธ อชฺฌคา.

๔๓.

‘‘วิหิตา สนฺติเม ปาสา, ปลฺลเลสุ ชนาธิป;

ยํ ยทายตนํ มฺเ, ทิชานํ ปาณโรธนํ.

๔๔.

‘‘ตาทิสํ ปาสมาสชฺช, หํสราชา อพชฺฌถ;

ตํ อพทฺโธ อุปาสิโน, มมายํ อชฺฌภาสถ.

๔๕.

‘‘สุทุกฺกรํ อนริเยภิ, ทหเต ภาวมุตฺตมํ;

ภตฺตุรตฺเถ ปรกฺกนฺโต, ธมฺมยุตฺโต วิหงฺคโม.

๔๖.

‘‘อตฺตนายํ จชิตฺวาน, ชีวิตํ ชีวิตารโห;

อนุตฺถุนนฺโต อาสีโน, ภตฺตุ ยาจิตฺถ ชีวิตํ.

๔๗.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ปสาทมหมชฺฌคา;

ตโต นํ ปามุจึ ปาสา, อนุฺาสึ สุเขน จ.

๔๘.

‘‘โส ปตีโต ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารโว;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺโค, วาจํ กณฺณสุขํ ภณํ.

๔๙.

‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา ทิชาธิปํ.

๕๐.

‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยถา ตฺวมปิ ลจฺฉเส;

ลาภํ ตวายํ ธตรฏฺโ, ปาปํ กิฺจิ น ทกฺขติ.

๕๑.

‘‘ขิปฺปมนฺเตปุรํ เนตฺวา, รฺโ ทสฺเสหิ โน อุโภ;

อพทฺเธ ปกติภูเต, กาเช อุภยโต ิเต.

๕๒.

‘‘ธตรฏฺา มหาราช, หํสาธิปติโน อิเม;

อยฺหิ ราชา หํสานํ, อยํ เสนาปตีตโร.

๕๓.

‘‘อสํสยํ อิมํ ทิสฺวา, หํสราชํ นราธิโป;

ปตีโต สุมโน วิตฺโต, พหุํ ทสฺสติ เต ธนํ.

๕๔.

‘‘เอวเมตสฺส วจนา, อานีตาเม อุโภ มยา;

เอตฺเถว หิ อิเม อาสุํ, อุโภ อนุมตา มยา.

๕๕.

‘‘โสยํ เอวํ คโต ปกฺขี, ทิโช ปรมธมฺมิโก;

มาทิสสฺส หิ ลุทฺทสฺส, ชนเยยฺยาถ มทฺทวํ.

๕๖.

‘‘อุปายนฺจ เต เทว, นาฺํ ปสฺสามิ เอทิสํ;

สพฺพสากุณิกาคาเม, ตํ ปสฺส มนุชาธิปา’’ติ.

ตตฺถ กมฺมุนา อุปปาทยีติ ยํ โส อวจ, ตํ กโรนฺโต กายกมฺเมน สมฺปาเทสิ. คนฺตฺวาติ หํสราเชน นิสินฺนกาชโกฏึ อุจฺจตรํ, เสนาปตินา นิสินฺนกาชโกฏึ โถกํ นีจํ กตฺวา อุโภปิ เต อุกฺขิปิตฺวา ‘‘หํสราชา จ เสนาปติ จ ราชานํ ปสฺสิตุํ คจฺฉนฺติ, อุสฺสรถ อุสฺสรถา’’ติ ชนํ อุสฺสาเรนฺโต ‘‘เอวรูปา นาม โสภคฺคปฺปตฺตา สุวณฺณวณฺณา หํสราชาโน น ทิฏฺปุพฺพา’’ติ มุทุหทเยสุ มนุสฺเสสุ ปสํสนฺเตสุ ขิปฺปมนฺเตปุรํ คนฺตฺวา. อทสฺสยีติ ‘‘หํสราชาโน ตุมฺเห ทฏฺุํ อาคตา’’ติ รฺโ อาโรจาเปตฺวา เตน ตุฏฺจิตฺเตน ‘‘อาคจฺฉนฺตู’’ติ ปกฺโกสาปิโต อภิหริตฺวา ทสฺเสสิ. หตฺถตฺตนฺติ หตฺเถสุ อาคตํ, ปตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. มหนฺตานนฺติ ยสมหนฺตปฺปตฺตานํ สุวณฺณวณฺณานํ ธตรฏฺหํสานํ อิสฺสเร สามิโน กถํ ตฺวํ ลุทฺโท หุตฺวา อธิคโตติ ปุจฺฉติ. ‘‘อิสฺสรมิธมชฺฌคา’’ติปิ ปาโ, เอเตสํ อิสฺสริยํ ตฺวํ กถํ อชฺฌคาติ อตฺโถ.

วิหิตาติ โยชิตา. ยํ ยทายตนํ มฺเติ, มหาราช, ยํ ยํ สโมสรณฏฺานํ ทิชานํ ปาณโรธนํ ชีวิตกฺขยกรํ มฺามิ, ตตฺถ ตตฺถ มยา ปลฺลเลสุ ปาสา วิหิตา. ตาทิสนฺติ มานุสิยสเร ตถาวิธํ ปาณโรธนํ มยา วิหิตํ ปาสํ. นฺติ ตํ เอตํ ตตฺถ พทฺธํ. อุปาสิโนติ อตฺตโน ชีวิตํ อคเณตฺวา อุปคนฺตฺวา นิสินฺโน. มมายนฺติ มํ อยํ เสนาปติ อชฺฌภาสถ, มยา สทฺธึ กเถสิ. สุทุกฺกรนฺติ ตสฺมึ ขเณ เอส อมฺหาทิเสหิ อนริเยหิ สุทุกฺกรํ อกาสิ. กึ ตนฺติ? ทหเต ภาวมุตฺตมํ, อตฺตโน อุตฺตมํ อชฺฌาสยํ ทหติ วิทหติ ปกาเสติ. อตฺตนายนฺติ อตฺตโน อยํ. อนุตฺถุนนฺโตติ ภตฺตุคุเณ วณฺเณนฺโต ตสฺส ชีวิตํ มุฺจาติ มํ ยาจิ.

ตสฺสาติ ตสฺส ตถา ยาจนฺตสฺส. สุเขน จาติ ยถาสุเขน จิตฺตกูฏํ คนฺตฺวา าติสงฺฆํ ปสฺสถาติ จ อนุชานึ. เอตฺเถว หีติ มยา ปน อิเม ทฺเว เอตฺถ มานุสิยสเรเยว จิตฺตกูฏคมนาย อนุมตา อเหสุํ. เอวํ คโตติ เอวํ สตฺตุ หตฺถคโต. ชนเยยฺยาถ มทฺทวนฺติ อตฺตนิ เมตฺตจิตฺตํ ชเนสิ. อุปายนนฺติ ปณฺณาการํ. สพฺพสากุณิกาคาเมติ สพฺพสฺมิมฺปิ สากุณิกคาเม นาหํ อฺํ ตว เอวรูปํ เกนจิ สากุณิเกน อาภตปุพฺพํ อุปายนํ ปสฺสามิ. ตํ ปสฺสาติ ตํ มยา อาภตํ อุปายนํ ปสฺส มนุชาธิปาติ.

เอวํ โส ิตโกว สุมุขสฺส คุณํ กเถสิ. ตโต ราชา หํสรฺโ มหารหํ อาสนํ, สุมุขสฺส จ สุวณฺณภทฺทปีกํ ทาเปตฺวา เตสํ ตตฺถ นิสินฺนานํ สุวณฺณภาชเนหิ ลาชมธุผาณิตาทีนิ ทาเปตฺวา นิฏฺิเต ปานโภชนกิจฺเจ อฺชลึ ปคฺคยฺห มหาสตฺตํ ธมฺมกถํ ยาจิตฺวา สุวณฺณปีเก นิสีทิ. โส เตน ยาจิโต ปฏิสนฺถารํ ตาว อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๕๗.

‘‘ทิสฺวา นิสินฺนํ ราชานํ, ปีเ โสวณฺณเย สุเภ;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺโค, วาจํ กณฺณสุขํ ภณํ.

๕๘.

‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;

กจฺจิ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสสิ.

๕๙.

‘‘กุสลฺเจว เม หํส, อโถ หํส อนามยํ;

อโถ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสหํ.

๖๐.

‘‘กจฺจิ โภโต อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

กจฺจิ จ เต ตวตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๖๑.

‘‘อโถปิ เม อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

อโถปิ เต มมตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๖๒.

‘‘กจฺจิ เต สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, ตว ฉนฺทวสานุคา.

๖๓.

‘‘อโถ เม สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, มม ฉนฺทวสานุคา’’ติ.

ตตฺถ ราชานนฺติ สาคลราชานํ. วกฺกงฺโคติ หํสราชา. ธมฺเมน มนุสาสสีติ ธมฺเมน อนุสาสสิ. โทโสติ อปราโธ. ตวตฺเถสูติ อุปฺปนฺเนสุ ตว ยุทฺธาทีสุ อตฺเถสุ. นาวกงฺขนฺตีติ อุรํ ทตฺวา ปริจฺจชนฺตา กิจฺจิ อตฺตโน ชีวิตํ น ปตฺเถนฺติ, ชีวิตฺจ จชิตฺวา ตเววตฺถํ กโรนฺติ. สาทิสีติ สมานชาติกา. อสฺสวาติ วจนสมฺปฏิจฺฉิกา. ปุตฺตรูปยสูเปตาติ ปุตฺเตหิ จ รูเปน จ ยเสน จ อุเปตา. ตว ฉนฺทวสานุคาติ กจฺจิ ตว อชฺฌาสยํ ตว วสํ อนุวตฺตติ, น อตฺตโน จิตฺตวเสน วตฺตตีติ ปุจฺฉติ.

เอวํ โพธิสตฺเตน ปฏิสนฺถาเร กเต ปุน ราชา เตน สทฺธึ กเถนฺโต อาห –

๖๔.

‘‘ภวนฺตํ กจฺจิ นุ มหา-สตฺตุหตฺถตฺตตํ คโต;

ทุกฺขมาปชฺชิ วิปุลํ, ตสฺมึ ปมมาปเท.

๖๕.

‘‘กจฺจิ ยนฺตาปติตฺวาน, ทณฺเฑน สมโปถยิ;

เอวเมเตสํ ชมฺมานํ, ปาติกํ ภวติ ตาวเท.

๖๖.

‘‘เขมมาสิ มหาราช, เอวมาปทิยา สติ;

น จายํ กิฺจิ รสฺมาสุ, สตฺตูว สมปชฺชถ.

๖๗.

‘‘ปจฺจคมิตฺถ เนสาโท, ปุพฺเพว อชฺฌภาสถ;

ตทายํ สุมุโขเยว, ปณฺฑิโต ปจฺจภาสถ.

๖๘.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ปสาทมยมชฺฌคา;

ตโต มํ ปามุจี ปาสา, อนุฺาสิ สุเขน จ.

๖๙.

‘‘อิทฺจ สุมุเขเนว, เอตทตฺถาย จินฺติตํ;

โภโต สกาเสคมนํ, เอตสฺส ธนมิจฺฉตา.

๗๐.

‘‘สฺวาคตฺเจวิทํ ภวตํ, ปตีโต จสฺมิ ทสฺสนา;

เอโส จาปิ พหุํ วิตฺตํ, ลภตํ ยาวทิจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ มหาสตฺตุหตฺถตฺตตํ คโตติ มหนฺตสฺส สตฺตุโน หตฺถตฺตํ คโต. อาปติตฺวานาติ อุปธาวิตฺวา. ปาติกนฺติ ปากติกํ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอเตสฺหิ ชมฺมานํ ตาวเทว เอวํ ปากติกํ โหติ, สกุเณ ทณฺเฑน โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺโต ธนเวตนํ ลภตีติ. กิฺจิ รสฺมาสูติ กิฺจิ อมฺเหสุ. สตฺตูวาติ สตฺตุ วิย. ปจฺจคมิตฺถาติ, มหาราช, เอส อมฺเห ทิสฺวา พทฺธาติ สฺาย โถกํ โอสกฺกิตฺถ. ปุพฺเพวาติ อยเมว ปมํ อชฺฌภาสิ. ตทาติ ตสฺมึ กาเล. เอตทตฺถายาติ เอตสฺส เนสาทปุตฺตสฺส อตฺถาย จินฺติตํ. ธนมิจฺฉตาติ เอตสฺส ธนํ อิจฺฉนฺเตน ตว สนฺติกํ อมฺหากํ อาคมนํ จินฺติตํ. สฺวาคตฺเจวิทนฺติ มา โภนฺโต จินฺตยนฺตุ, ภวตํ อิทํ อิธาคมนํ สฺวาคตเมว. ลภตนฺติ ลภตุ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ราชา อฺตรํ อมจฺจํ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ กโรมิ เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิมํ เนสาทํ กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ กาเรตฺวา อาเนหี’’ติ วตฺวา เตน ตถา กตฺวา อานีตสฺส ตสฺส สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร สตสหสฺสุฏฺานกํ คามํ, ทฺเว วีถิโย คเหตฺวา ิตํ มหนฺตํ เคหํ, รถวรฺจ, อฺฺจ พหุํ หิรฺสุวณฺณํ อทาสิ. ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อาห –

๗๑.

‘‘สนฺตปฺปยิตฺวา เนสาทํ, โภเคหิ มนุชาธิโป;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺคํ, วาจํ กณฺณสุขํ ภณ’’นฺติ.

อถ มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสสิ. โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตุฏฺหทโย ‘‘ธมฺมกถิกสฺส สกฺการํ กริสฺสามี’’ติ เสตจฺฉตฺตํ ทตฺวา รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปนฺโต อาห –

๗๒.

‘‘ยํ ขลุ ธมฺมมาธีนํ, วโส วตฺตติ กิฺจนํ;

สพฺพตฺถิสฺสริยํ ภวตํ, ปสาสถ ยทิจฺฉถ.

๗๓.

‘‘ทานตฺถํ อุปโภตฺตุํ วา, ยํ จฺํ อุปกปฺปติ;

เอตํ ททามิ โว วิตฺตํ, อิสฺสริยํ วิสฺสชามิ โว’’ติ.

ตตฺถ วโส วตฺตตีติ ยตฺถ มม วโส วตฺตติ. กิฺจนนฺติ ตํ อปฺปมตฺตกมฺปิ. สพฺพตฺถิสฺสริยนฺติ สพฺพํ ภวตํเยว อิสฺสริยํ อตฺถุ. ยํ จฺํ อุปกปฺปตีติ ปุฺกามตาย ทานตฺถํ วา ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชเมว อุปโภตฺตุํ วา ยํ วา อฺํ ตุมฺหากํ รุจฺจติ, ตํ กโรถ, เอตํ ททามิ โว วิตฺตํ, สทฺธึเยว เสตจฺฉตฺเตน มม สนฺตกํ อิสฺสริยํ วิสฺสชฺชามิ โวติ.

อถ มหาสตฺโต รฺา ทินฺนํ เสตจฺฉตฺตํ ปุน ตสฺเสว อทาสิ. ราชาปิ จินฺเตสิ – ‘‘หํสรฺโ ตาว เม ธมฺมกถา สุตา, ลุทฺทปุตฺเตน ปน ‘อยํ สุมุโข มุธุรกโถ’ติ อติวิย วณฺณิโต, อิมสฺสปิ ธมฺมกถํ โสสฺสามี’’ติ. โส เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๔.

‘‘ยถา จ มฺยายํ สุมุโข, อชฺฌภาเสยฺย ปณฺฑิโต;

กามสา พุทฺธิสมฺปนฺโน, ตํ มฺยาสฺส ปรมปฺปิย’’นฺติ.

ตตฺถ ยถาติ ยทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ จ เม อยํ สุมุโข ปณฺฑิโต พุทฺธิสมฺปนฺโน กามสา อตฺตโน รุจิยา อชฺฌภาเสยฺย, ตํ เม ปรมปฺปิยํ อสฺสาติ.

ตโต สุมุโข อาห –

๗๕.

‘‘อหํ ขลุ มหาราช, นาคราชาริวนฺตรํ;

ปฏิวตฺตุํ น สกฺโกมิ, น เม โส วินโย สิยา.

๗๖.

‘‘อมฺหากฺเจว โส เสฏฺโ, ตฺวฺจ อุตฺตมสตฺตโว;

ภูมิปาโล มนุสฺสินฺโท, ปูชา พหูหิ เหตุภิ.

๗๗.

‘‘เตสํ อุภินฺนํ ภณตํ, วตฺตมาเน วินิจฺฉเย;

นนฺตรํ ปติวตฺตพฺพํ, เปสฺเสน มนุชาธิปา’’ติ.

ตตฺถ นาคราชาริวนฺตรนฺติ เปฬาย อพฺภนฺตรํ ปวิฏฺโ นาคราชา วิย. ปฏิวตฺตุนฺติ ตุมฺหากํ ทฺวินฺนํ อนฺตเร วตฺตุํ น สกฺโกมิ. น เม โสติ สเจ วเทยฺยํ, น เม โส วินโย ภเวยฺย. อมฺหากฺเจวาติ ฉนฺนวุติยา หํสสหสฺสานํ. อุตฺตมสตฺตโวติ อุตฺตมสตฺโต. ปูชาติ อุโภ ตุมฺเห มยฺหํ พหูหิ การเณหิ ปูชารหา เจว ปสํสารหา จ. เปสฺเสนาติ เวยฺยาวจฺจกเรน เสวเกน.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺหทโย ‘‘เนสาทปุตฺโต ตํ วณฺเณติ, น อฺเน ตุมฺหาทิเสน มธุรธมฺมกถิเกน นาม ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อาห –

๗๘.

‘‘ธมฺเมน กิร เนสาโท, ปณฺฑิโต อณฺฑโช อิติ;

นเหว อกตตฺตสฺส, นโย เอตาทิโส สิยา.

๗๙.

‘‘เอวํ อคฺคปกติมา, เอวํ อุตฺตมสตฺตโว;

ยาวตตฺถิ มยา ทิฏฺา, นาฺํ ปสฺสามิ เอทิสํ.

๘๐.

‘‘ตุฏฺโสฺมิ โว ปกติยา, วากฺเยน มธุเรน จ;

เอโส จาปิ มมจฺฉนฺโท, จิรํ ปสฺเสยฺย โว อุโภ’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมนาติ สภาเวน การเณน. อกตตฺตสฺสาติ อสมฺปาทิตอตฺตภาวสฺส มิตฺตทุพฺภิสฺส. นโยติ ปฺา. อคฺคปกติมาติ อคฺคสภาโว. อุตฺตมสตฺตโวติ อุตฺตมสตฺโต. ยาวตตฺถีติ ยาวตา มยา ทิฏฺา นาม อตฺถิ. นาฺนฺติ ตสฺมึ มยา ทิฏฺฏฺาเน อฺํ เอวรูปํ น ปสฺสามิ. ตุฏฺโสฺมิ โว ปกติยาติ สมฺม หํสราช อหํ ปกติยา ปมเมว ตุมฺหากํ ทสฺสเนน ตุฏฺโ. วากฺเยนาติ อิทานิ ปน โว มธุรวจเนน ตุฏฺโสฺมิ. จิรํ ปสฺเสยฺย โวติ อิเธว วสาเปตฺวา มุหุตฺตมฺปิ อวิปฺปวาสนฺโต จิรํ ตุมฺเห ปสฺเสยฺยนฺติ เอส เม ฉนฺโทติ วทติ.

ตโต มหาสตฺโต ราชานํ ปสํสนฺโต อาห –

๘๑.

‘‘ยํ กิจฺจํ ปรเม มิตฺเต, กตมสฺมาสุ ตํ ตยา;

ปตฺตา นิสฺสํสยํ ตฺยามฺหา, ภตฺติรสฺมาสุ ยา ตว.

๘๒.

‘‘อทุฺจ นูน สุมหา, าติสงฺฆสฺส มนฺตรํ;

อทสฺสเนน อสฺมากํ, ทุกฺขํ พหูสุ ปกฺขิสุ.

๘๓.

‘‘เตสํ โสกวิฆาตาย, ตยา อนุมตา มยํ;

ตํ ปทกฺขิณโต กตฺวา, าตึ ปสฺเสมุรินฺทม.

๘๔.

‘‘อทฺธาหํ วิปุลํ ปีตึ, ภวตํ วินฺทามิ ทสฺสนา;

เอโส จาปิ มหา อตฺโถ, าติวิสฺสาสนา สิยา’’ติ.

ตตฺถ กตมสฺมาสูติ กตํ อมฺเหสุ. ปตฺตา นิสฺสํสยํ ตฺยามฺหาติ มยํ นิสฺสํสเยน ตยา ปตฺตาเยว. ภตฺติรสฺมาสุ ยา ตวาติ ยา ตว อมฺเหสุ ภตฺติ, ตาย ภตฺติยา มยํ ตยา อสํสเยน ปตฺตาเยว, น จ วิปฺปยุตฺตา, วิปฺปวุฏฺาปิ สหวาสิโนเยว นาม มยนฺติ ทีเปติ. อทุฺจ นูน สุมหาติ เอตฺจ เอกํเสเนว สุมหนฺตํ. าติสงฺฆสฺส มนฺตรนฺติ อมฺเหหิ ทฺวีหิ ชเนหิ วิรหิตสฺส มม าติสงฺฆสฺส อนฺตรํ ฉิทฺทํ. อสฺมากนฺติ อมฺหากํ ทฺวินฺนํ อทสฺสเนน พหูสุ ปกฺขีสุ ทุกฺขํ อุปฺปนฺนํ. ปสฺเสมุรินฺทมาติ ปสฺเสยฺยาม อรินฺทม. ภวตนฺติ โภโต ทสฺสเนน. เอโส จาปิ มหา อตฺโถติ ยา เอสา าติสงฺฆสงฺขาตา าติวิสฺสาสนา สิยา, เอโส จาปิ มหนฺโต อตฺโถปิ.

เอวํ วุตฺเต ราชา เตสํ คมนํ อนุชานิ. มหาสตฺโตปิ รฺโ ปฺจวิเธ ทุสฺสีลฺเย อาทีนวํ, สีเล จ อานิสํสํ กเถตฺวา ‘‘อิมํ สีลํ รกฺข, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหิ, จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ สงฺคณฺหาหี’’ติ โอวทิตฺวา จิตฺตกูฏํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๕.

‘‘อิทํ วตฺวา ธตรฏฺโ, หํสราชา นราธิปํ;

อุตฺตมํ ชวมนฺวาย, าติสงฺฆํ อุปาคมุํ.

๘๖.

‘‘เต อโรเค อนุปฺปตฺเต, ทิสฺวาน ปรเม ทิเช;

เกกาติ มกรุํ หํสา, ปุถุสทฺโท อชายถ.

๘๗.

‘‘เต ปตีตา ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารวา;

สมนฺตา ปริกิรึสุ, อณฺฑชา ลทฺธปจฺจยา’’ติ.

ตตฺถ อุปาคมุนฺติ อรุณุคฺคมนเวลายเมว ลาชมธุผาณิตาทีนิ ปริภุฺชิตฺวา รฺา จ เทวิยา จ ทฺวีหิ สุวณฺณตาลวณฺเฏหิ อุกฺขิปิตฺวา คนฺธมาลาทีหิ กตสกฺการา ตาลวณฺเฏหิ โอตริตฺวา ราชานํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา รฺา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘คจฺฉถ สามิโน’’ติ วุตฺเต สีหปฺชเรน นิกฺขนฺตา อุตฺตเมน ชเวน คนฺตฺวา าติคณํ อุปาคมึสุ. ปรเมติ อุตฺตเม. เกกาติ อตฺตโน สภาเวน ‘‘เกกา’’ติ สทฺทมกํสุ. ภตฺตุคารวาติ ภตฺตริ สคารวา. ปริกิรึสูติ ภตฺตุโน มุตฺตภาเวน ตุฏฺา ตํ ภตฺตารํ สมนฺตา ปริวารยึสุ. ลทฺธปจฺจยาติ ลทฺธปติฏฺา.

เอวํ ปริวาเรตฺวา ปน เต หํสา ‘‘กถํ มุตฺโตสิ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉึสุ. มหาสตฺโต สุมุขํ นิสฺสาย มุตฺตภาวํ, สาคลราชลุทฺทปุตฺเตหิ กตกมฺมฺจ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ตุฏฺโ หํสคโณ ‘‘สุมุขเสนาปติ จ ราชา จ ลุทฺทปุตฺโต จ สุขิตา นิทฺทุกฺขา จิรํ ชีวนฺตู’’ติ ถุติมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๘๘.

‘‘เอวํ มิตฺตวตํ อตฺถา, สพฺเพ โหนฺติ ปทกฺขิณา;

หํสา ยถา ธตรฏฺา, าติสงฺฆํ อุปาคมุ’’นฺติ.

ตตฺถ มิตฺตวตนฺติ กลฺยาณมิตฺตสมฺปนฺนานํ. ปทกฺขิณาติ สุขนิปฺผตฺติโน วุฑฺฒิยุตฺตา. ธตรฏฺาติ หํสราชา สุมุโข รฺา เจว ลุทฺทปุตฺเตน จาติ ทฺวีหิ เอวํ อุโภปิ เต ธตรฏฺา กลฺยาณมิตฺตสมฺปนฺนา ยถา าติสงฺฆํ อุปาคมุํ, าติสงฺฆอุปคมนสงฺขาโต เนสํ อตฺโถ ปทกฺขิโณ ชาโต, เอวํ อฺเสมฺปิ มิตฺตวตํ อตฺถา ปทกฺขิณา โหนฺตีติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น ภิกฺขเว อิทาเนว, ปุพฺเพปานนฺโท มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา เนสาโท ฉนฺโน อโหสิ, ราชา สาริปุตฺโต, สุมุโข อานนฺโท, ฉนฺนวุติ หํสสหสฺสา พุทฺธปริสา, หํสราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬหํสชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๔] ๒. มหาหํสชาตกวณฺณนา

เอเต หํสา ปกฺกมนฺตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อานนฺทเถรสฺส ชีวิตปริจฺจาคเมว อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว, อิธ ปน สตฺถา อตีตํ อาหรนฺโต อิทมาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ สํยมสฺส นาม พาราณสิรฺโ เขมา นาม อคฺคมเหสี อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต นวุติหํสสหสฺสปริวุโต จิตฺตกูเฏ วิหาสิ. อเถกทิวสํ เขมา เทวี ปจฺจูสสมเย สุปินํ อทฺทส. สุวณฺณวณฺณา หํสา อาคนฺตฺวา ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา มธุรสฺสเรน ธมฺมกถํ กเถสุํ. เทวิยา สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติยา ธมฺมสฺสวเนน อติตฺตาย เอว รตฺติ วิภายิ. หํสา ธมฺมํ กเถตฺวา สีหปฺชเรน นิกฺขมิตฺวา อคมํสุ. สา เวเคนุฏฺาย ‘‘ปลายมาเน หํเส คณฺหถ คณฺหถา’’ติ วตฺวา หตฺถํ ปสาเรนฺตีเยว ปพุชฺฌิ. ตสฺสา กถํ สุตฺวา ปริจาริกาโย ‘‘กุหึ หํสา’’ติ โถกํ อวหสึสุ. สา ตสฺมึ ขเณ สุปินภาวํ ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อภูตํ น ปสฺสามิ, อทฺธา อิมสฺมึ โลเก สุวณฺณวณฺณา หํสา ภวิสฺสนฺติ, สเจ โข ปน ‘สุวณฺณหํสานํ ธมฺมํ โสตุกามามฺหี’ติ ราชานํ วกฺขามิ, ‘อมฺเหหิ สุวณฺณหํสา นาม น ทิฏฺปุพฺพา, หํสานฺจ กถา นาม อภูตาเยวา’ติ วตฺวา นิรุสฺสุกฺโก ภวิสฺสติ, ‘โทหโฬ’ติ วุตฺเต ปน เยน เกนจิ อุปาเยน ปริเยสิสฺสติ, เอวํ เม มโนรโถ สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ. สา คิลานาลยํ ทสฺเสตฺวา ปริจาริกานํ สฺํ ทตฺวา นิปชฺชิ.

ราชา ราชาสเน นิสินฺโน ตสฺสา ทสฺสนเวลาย ตํ อทิสฺวา ‘‘กหํ, เขมา เทวี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา สยเนกเทเส นิสีทิตฺวา ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺโต ‘‘กึ เต อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว อฺํ อผาสุกํ นตฺถิ, โทหโฬ ปน เม อุปฺปนฺโน’’ติ. เตน หิ ‘‘ภณ, เทวิ, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ สีฆํ เต อุปนาเมสฺสามี’’ติ. ‘‘มหาราช, อหเมกสฺส สุวณฺณหํสสฺส สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กตฺวา สาธุการํ ททมานา ธมฺมกถํ โสตุมิจฺฉามิ, สเจ ลภามิ, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ, ชีวิตํ เม นตฺถี’’ติ. อถ นํ ราชา ‘‘สเจ มนุสฺสโลเก อตฺถิ, ลภิสฺสสิ, มา จินฺตยี’’ติ อสฺสาเสตฺวา สิริคพฺภโต นิกฺขมฺม อมจฺเจหิ สทฺธึ มนฺเตสิ – ‘‘อมฺโภ, เขมา เทวี, ‘สุวณฺณหํสสฺส ธมฺมกถํ โสตุํ ลภนฺตี ชีวิสฺสามิ, อลภนฺติยา เม ชีวิตํ นตฺถี’ติ วทติ, อตฺถิ นุ โข สุวณฺณวณฺณา หํสา’’ติ. ‘‘เทว อมฺเหหิ เนว ทิฏฺปุพฺพา น สุตปุพฺพา’’ติ. ‘‘เก ปน ชาเนยฺยุ’’นฺติ? ‘‘พฺราหฺมณา, เทวา’’ติ. ราชา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา สกฺการํ กตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โหนฺติ นุ โข อาจริยา สุวณฺณวณฺณา หํสา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช อมฺหากํ มนฺเตสุมจฺฉา, กกฺกฏกา, กจฺฉปา, มิคา, โมรา, หํสาติ ฉ เอเต ติรจฺฉานคตา สุวณฺณวณฺณา โหนฺตีติ อาคตา, ตตฺถ ธตรฏฺกุลหํสา นาม ปณฺฑิตา าณสมฺปนฺนา, อิติ มนุสฺเสหิ สทฺธึ สตฺต สุวณฺณวณฺณา โหนฺตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อตฺตมโน หุตฺวา ‘‘กหํ นุ โข อาจริยา ธตรฏฺหํสา วสนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘น ชานาม, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘อถ เก ปน ชานิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ลุทฺทปุตฺตา’’ติ วุตฺเต สพฺเพ อตฺตโน วิชิเต ลุทฺทเก สนฺนิปาตาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ตาตา, สุวณฺณวณฺณา ธตรฏฺกุลหํสา นาม กหํ วสนฺตี’’ติ? อเถโก ลุทฺโท ‘‘หิมวนฺเต กิร, เทว, จิตฺตกูฏปพฺพเตติ โน กุลปรมฺปราย กเถนฺตี’’ติ อาห. ‘‘ชานาสิ ปน เนสํ คหณูปาย’’นฺติ? ‘‘น ชานามิ, เทวา’’ติ. ‘‘เก ปน ชานิสฺสนฺตี’’ติ? พฺราหฺมณาติ. โส พฺราหฺมณปณฺฑิเต ปกฺโกสาเปตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพเต สุวณฺณวณฺณานํ หํสานํ อตฺถิภาวํ อาโรเจตฺวา ‘‘ชานาถ นุ โข เตสํ คหณูปาย’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, กึ เตหิ คนฺตฺวา คหิเตหิ, อุปาเยน เต นครสมีปํ อาเนตฺวา คเหสฺสามา’’ติ. ‘‘โก ปน อุปาโย’’ติ? ‘‘มหาราช, นครโต อวิทูเร อุตฺตเรน ติคาวุตมตฺเต ติคาวุตปฺปมาณํ เขมํ นาม สรํ การาเปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นานาธฺานิ โรเปตฺวา ปฺจวณฺณปทุมสฺฉนฺนํ การาเปตฺวา เอกํ ปณฺฑิตํ เนสาทํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา มนุสฺสานํ อุปคนฺตุํ อทตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ ิเตหิ อภยํ โฆสาเปถ, ตํ สุตฺวา นานาสกุณา ทส ทิสา โอตริสฺสนฺติ, เตปิ หํสา ปรมฺปราย ตสฺส สรสฺส เขมภาวํ สุตฺวา อาคจฺฉิสฺสนฺติ, อถ เน วาลปาเสหิ พนฺธาเปตฺวา คณฺหาเปยฺยาถา’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา เตหิ วุตฺตปเทเส วุตฺตปฺปการํ สรํ การาเปตฺวา เฉกํ เนสาทํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส สหสฺสํ ทาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ อิโต ปฏฺาย อตฺตโน กมฺมํ มา กริ, ปุตฺตทารํ เต อหํ โปเสสฺสามิ, ตฺวํ อปฺปมตฺโต เขมํ สรํ รกฺขนฺโต มนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ อภยํ โฆสาเปตฺวา อาคตาคเต สกุเณ มม อาจิกฺเขยฺยาสิ, สุวณฺณหํเสสุ อาคเตสุ มหนฺตํ สกฺการํ ลภิสฺสสี’’ติ ตมสฺสาเสตฺวา เขมํ สรํ ปฏิจฺฉาเปสิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺา วุตฺตนเยเนว ตตฺถ ปฏิปชฺชิ, ‘‘เขมํ สรํ รกฺขตี’’ติ จสฺส ‘‘เขมเนสาโท’’ตฺเวว นามํ อุทปาทิ. ตโต ปฏฺาย จ นานปฺปการา สกุณา โอตรึสุ, ‘‘เขมํ นิพฺภยํ สร’’นฺติ ปรมฺปราโฆเสน นานาหํสา อาคมึสุ. ปมํ ตาว ติณหํสา อาคมึสุ, เตสํ โฆเสน ปณฺฑุหํสา, เตสํ โฆเสน มโนสิลาวณฺณา หํสา, เตสํ โฆเสน เสตหํสา, เตสํ โฆเสน ปากหํสา อาคมึสุ. เตสุ อาคเตสุ เขมโก รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘เทว, ปฺจวณฺณา หํสา อาคนฺตฺวา สเร โคจรํ คณฺหนฺติ, ปากหํสานํ อาคตตฺตา อิทานิ กติปาเหเนว สุวณฺณหํสา อาคมิสฺสนฺติ, มา จินฺตยิตฺถ, เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อฺเน ตตฺถ น คนฺตพฺพํ, โย คจฺฉิสฺสติ, หตฺถปาทเฉทนฺจ ฆรวิโลปฺจ ปาปุณิสฺสตี’’ติ นคร เภรึ จราเปสิ. ตโต ปฏฺาย ตตฺถ โกจิ น คจฺฉติ. จิตฺตกูฏสฺส ปนาวิทูเร กฺจนคุหายํปากหํสา วสนฺติ, เตปิ มหพฺพลา. ธตรฏฺกุเลน สทฺธึ เตสํ สรีรวณฺโณว วิเสโส. ปากหํสรฺโ ปน ธีตา สุวณฺณวณฺณา อโหสิ. โส ตํ ธตรฏฺมหิสฺสรสฺส อนุรูปาติ ตสฺส ปาทปริจาริกํ กตฺวา เปเสสิ. สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา, เตเนว จ การเณน ตานิ ทฺเว หํสกุลานิ อฺมฺํ วิสฺสาสิกานิ ชาตานิ.

อเถกทิวสํ โพธิสตฺตสฺส ปริวารหํสา ปากหํเส ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตุมฺเห อิเมสุ ทิวเสสุ กหํ โคจรํ คณฺหถา’’ติ? ‘‘มยํ พาราณสิโต อวิทูเร เขมสเร โคจรํ คณฺหาม, ตุมฺเห ปน กุหึ อาหิณฺฑถา’’ติ. ‘‘อสุกํ นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา เขมสรํ น คจฺฉถ, โส หิ สโร รมณีโย นานาสกุณสมากิณฺโณ ปฺจวณฺณปทุมสฺฉนฺโน นานาธฺผลสมฺปนฺโน นานปฺปการภมรคณนิกูชิโต จตูสุ กณฺเณสุ นิจฺจํ ปวตฺตอภยโฆสโน, โกจิ นํ อุปสงฺกมิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ปเคว อฺํ อุปทฺทวํ กาตุํ, เอวรูโป โส สโร’’ติ เขมสรํ วณฺณยึสุ. เต เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘พาราณสิยา สมีเป กิร เอวรูโป เขโม นาม สโร อตฺถิ, ปากหํสา ตตฺถ คนฺตฺวา โคจรํ คณฺหนฺติ, ตุมฺเหปิ ธตรฏฺมหิสฺสรสฺส อาโรเจถ, สเจ อนุชานาติ, มยมฺปิ ตตฺถ คนฺตฺวา โคจรํ คณฺเหยฺยามา’’ติ สุมุขสฺส กเถสุํ. สุมุโข รฺโ อาโรเจสิ. โส จินฺเตสิ – ‘‘มนุสฺสา นาม พหุมายา ขรมนฺตา อุปายกุสลา, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณน, เอตฺตกํ กาลํ เอโส สโร นตฺถิ, อิทานิ อมฺหากํ คหณตฺถาย กโต ภวิสฺสตี’’ติ. โส สุมุขํ อาห – ‘‘มา โว ตตฺถ คมนํ รุจฺจถ, น โส สโร เตหิ สุธมฺมตาย กโต, อมฺหากํ คหณตฺถาเยว กโต, มนุสฺสา นาม พหุมายา ขรมนฺตา อุปายกุสลา, ตุมฺเห สเกเยว โคจเร จรถา’’ติ.

สุวณฺณหํสา ‘‘เขมํ สรํ คนฺตุกามมฺหา’’ติ ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ สุมุขสฺส อาโรเจสุํ. โส เตสํ ตตฺถ คนฺตุกามตํ มหาสตฺตสฺส อาโรเจสิ. อถ มหาสตฺโต ‘‘มม าตกา มํ นิสฺสาย มา กิลมนฺตุ, เตน หิ คจฺฉามา’’ติ นวุติหํสสหสฺสปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา โคจรํ คเหตฺวา หํสกีฬํ กีฬิตฺวา จิตฺตกูฏเมว ปจฺจาคมิ. เขมโก เตสํ โคจรํ จริตฺวา คตกาเล คนฺตฺวา เตสํ อาคตภาวํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา, ‘‘สมฺม เขมก, เอกํ วา ทฺเว วา หํเส คณฺหิตุํ วายม, มหนฺตํ เต ยสํ ทสฺสามี’’ติ วตฺวา ปริพฺพยํ ทตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา จาฏิปฺชเร นิสีทิตฺวา หํสานํ จรณฏฺานํ วีมํสิ. โพธิสตฺตา นาม นิลฺโลลุปฺปจาริโน โหนฺติ, ตสฺมา มหาสตฺโต โอติณฺณฏฺานโต ปฏฺาย สปทานํ สาลึ ขาทนฺโต อคมาสิ. เสสา อิโต จิโต จ ขาทนฺตา วิจรึสุ.

อถ ลุทฺทปุตฺโต ‘‘อยํ หํโส นิลฺโลลุปฺปจารี, อิมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุนทิวเส หํเสสุ สรํ อโนติณฺเณสุเยว จาฏิปฺชเร นิสินฺโน ตํ านํ คนฺตฺวา อวิทูเร ปฺชเร อตฺตานํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ฉิทฺเทน โอโลเกนฺโต อจฺฉิ. ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต นวุติหํสสหสฺสปุรกฺขโต หิยฺโย โอติณฺณฏฺาเนเยว โอตริตฺวา โอธิยํ นิสีทิตฺวา สาลึ ขาทนฺโต ปายาสิ. เนสาโท ปฺชรฉิทฺเทน โอโลเกนฺโต ตสฺส รูปโสภคฺคปฺปตฺตํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ หํโส สกฏนาภิปฺปมาณสรีโร สุวณฺณวณฺโณ, ตีหิ รตฺตราชีหิ คีวายํ ปริกฺขิตฺโต, ติสฺโส ราชิโย คเลน โอตริตฺวา อุรนฺตเรน คตา, ติสฺโส ปจฺฉาภาเคน นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตา, รตฺตกมฺพลสุตฺตสิกฺกาย ปิตกฺจนกฺขนฺโธ วิย อติโรจติ, อิมินา เอเตสํ รฺา ภวิตพฺพํ, อิมเมว คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. หํสราชาปิ พหุํ โคจรํ จริตฺวา ชลกีฬํ กีฬิตฺวา หํสคณปริวุโต จิตฺตกูฏเมว อคมาสิ. อิมินา นิยาเมเนว ปฺจ ทิวเส โคจรํ คณฺหิ. ฉฏฺเ ทิวเส เขมโก กาฬอสฺสวาลมยํ ทฬฺหํ มหารชฺชุํ วฏฺฏิตฺวา ยฏฺิยา ปาสํ กตฺวา ‘‘สฺเว หํสราชา อิมสฺมึ โอกาเส โอตริสฺสตี’’ติ ตถโต ตฺวา อนฺโตอุทเก ยฏฺิปาสํ โอฑฺฑิ.

ปุนทิวเส หํสราชา โอตรนฺโต ปาทํ ปาเส ปเวสนฺโตเยว โอตริ. อถสฺส ปาโส ปาทํ อยปฏฺฏเกน กฑฺฒนฺโต วิย อาพนฺธิตฺวา คณฺหิ. โส ‘‘ฉินฺทิสฺสามิ น’’นฺติ เวคํ ชเนตฺวา กฑฺฒิตฺวา ปาเตสิ. ปมวาเร สุวณฺณวณฺณํ จมฺมํ ฉิชฺชิ, ทุติยวาเร กมฺพลวณฺณํ มํสํ ฉิชฺชิ, ตติยวาเร นฺหารุ ฉิชฺชิ, จตุตฺถวาเร ปน ‘‘ปาทา ฉิชฺเชยฺยุํ, รฺโ ปน หีนงฺคตา นาม อนนุจฺฉวิกา’’ติ น วายามํ อกาสิ, พลวเวทนา จ ปวตฺตึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าตกา เม ตฺรสฺตา หุตฺวา โคจรํ อคฺคเหตฺวา ฉาตชฺฌตฺตาว ปลายนฺตา ทุพฺพลตฺตา สมุทฺเท ปติสฺสนฺตี’’ติ. โส เวทนํ อธิวาเสตฺวา ปาสวเส วตฺเตตฺวา สาลึ ขาทนฺโต วิย หุตฺวา เตสํ ยาวทตฺถํ จริตฺวา หํสกีฬํ กีฬนกาเล มหนฺเตน สทฺเทน พทฺธรวํ รวิ. ตํ สุตฺวา หํสา มรณภยตชฺชิตา วคฺควคฺคา จิตฺตกูฏาภิมุขา ปุริมนเยเนว ปกฺกมึสุ.

สุมุโขปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว จินฺเตตฺวา วิจินิตฺวา ตีสุปิ โกฏฺาเสสุ มหาสตฺตํ อทิสฺวา ‘‘อทฺธา ตสฺเสเวทํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ นิวตฺติตฺวา อาคโต มหาสตฺตํ ปาเสน พทฺธํ โลหิตมกฺขิตํ ทุกฺขาตุรํ ปงฺกปิฏฺเ นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ มม ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ตุมฺเห โมเจสฺสามี’’ติ วทนฺโต โอตริตฺวา มหาสตฺตํ อสฺสาเสนฺโต ปงฺกปิฏฺเ นิสีทิ. มหาสตฺโต ‘‘นวุติหํสสหสฺเสสุ มํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺเตสุ อยํ สุมุโข เอกโกว อาคโต, กึ นุ โข ลุทฺทปุตฺตสฺส อาคตกาเล มํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิสฺสติ, อุทาหุ โน’’ติ วีมํสนวเสน โลหิตมกฺขิโต ปาสยฏฺิยํ โอลมฺพนฺโตเยว ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๘๙.

‘‘เอเต หํสา ปกฺกมนฺติ, วกฺกงฺคา ภยเมริตา;

หริตฺตจ เหมวณฺณ, กามํ สุมุข ปกฺกม.

๙๐.

‘‘โอหาย มํ าติคณา, เอกํ ปาสวสํ คตํ;

อนเปกฺขมานา คจฺฉนฺติ, กึ เอโก อวหียสิ.

๙๑.

‘‘ปเตว ปตตํ เสฏฺ, นตฺถิ พทฺเธ สหายตา;

มา อนีฆาย หาเปสิ, กามํ สุมุข ปกฺกมา’’ติ.

ตตฺถ ภยเมริตาติ ภเยน เอริตา ภยฏฺฏิตา ภยจลิตา. ตติยปเท ‘‘หรี’’ติปิ ‘‘เหม’’นฺติปิ สุวณฺณสฺเสว นามํ. โส จ หริตฺตจตาย เหมวณฺโณ, เตน ตํ เอวํ อาลปติ. สุมุขาติ สุนฺทรมุข. อนเปกฺขมานาติ ตว าตกา มํ อโนโลเกนฺตา นิราลยา หุตฺวา. ปเตวาติ อุปฺปตาหิเยว. มา อนีฆายาติ อิโต คนฺตฺวา ปตฺตพฺพาย นิทุกฺขภาวาย วีริยํ มา หาเปสิ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘อยํ หํสราชา มม ปิยมิตฺตภาวํ น ชานาติ, อนุปฺปิยภาณี มิตฺโตติ มํ สลฺลกฺเขติ, สิเนหภาวมสฺส ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๙๒.

‘‘นาหํ ทุกฺขปเรโตปิ, ธตรฏฺ ตุวํ ชเห;

ชีวิตํ มรณํ วา เม, ตยา สทฺธึ ภวิสฺสติ.

๙๓.

‘‘นาหํ ทุกฺขปเรโตปิ, ธตรฏฺ ตุวํ ชเห;

น มํ อนริยสํยุตฺเต, กมฺเม โยเชตุมรหสิ.

๙๔.

‘‘สกุมาโร สขาตฺยสฺมิ, สจิตฺเต จสฺมิ เต ิโต;

าโต เสนาปตี ตฺยาหํ, หํสานํ ปวรุตฺตม.

๙๕.

‘‘กถํ อหํ วิกตฺติสฺสํ, าติมชฺเฌ อิโต คโต;

ตํ หิตฺวา ปตตํ เสฏฺ, กึ เต วกฺขามิโต คโต;

อิธ ปาณํ จชิสฺสามิ, นานริยํ กตฺตุมุสฺสเห’’ติ.

ตตฺถ นาหนฺติ อหํ, มหาราช, กายิกเจตสิเกน ทุกฺเขน ผุฏฺโปิ ตํ น ชหามิ. อนริยสํยุตฺเตติ มิตฺตทุพฺภีหิ อหิริเกหิ กตฺตพฺพตาย อนริยภาเวน สํยุตฺเต. กมฺเมติ ตํ ชหิตฺวา ปกฺกมนกมฺเม. สกุมาโรติ สมานกุมาโร, เอกทิวเสเนว ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา เอกทิวเส อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา เอกโต วฑฺฒิตกุมาโรติ อตฺโถ. สขาตฺยสฺมีติ อหํ เต ทกฺขิณกฺขิสโม ปิยสหาโย. สจิตฺเตติ ตว สเก จิตฺเต อหํ ิโต ตว วเส วตฺตามิ, ตยิ ชีวนฺเต ชีวามิ, น ชีวนฺเต น ชีวามีติ อตฺโถ. ‘‘สํจิตฺเต’’ติปิ ปาโ, ตว จิตฺเต อหํ สณฺิโต สุฏฺุ ิโตติ อตฺโถ. าโตติ สพฺพหํสานํ อนฺตเร ปฺาโต. วิกตฺติสฺสนฺติ ‘‘กุหึ หํสราชา’’ติ ปุจฺฉิโต อหํ กินฺติ กเถสฺสามิ. กึ เต วกฺขามีติ เต ตว ปวตฺตึ ปุจฺฉนฺเต หํสคเณ กึ วกฺขามิ.

เอวํ สุมุเขน จตูหิ คาถาหิ สีหนาเท นทิเต ตสฺส คุณํ ปกาเสนฺโต มหาสตฺโต อาห –

๙๖.

‘‘เอโส หิ ธมฺโม สุมุข, ยํ ตฺวํ อริยปเถ ิโต;

โย ภตฺตารํ สขารํ มํ, น ปริจฺจตฺตุมุสฺสเห.

๙๗.

‘‘ตฺหิ เม เปกฺขมานสฺส, ภยํ น ตฺเวว ชายติ;

อธิคจฺฉสิ ตฺวํ มยฺหํ, เอวํภูตสฺส ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ เอโส ธมฺโมติ เอส โปราณกปณฺฑิตานํ สภาโว. ภตฺตารํ สขารํ มนฺติ สามิกฺจ สหายฺจ มํ. ภยนฺติ จิตฺตุตฺราโส มยฺหํ น ชายติ, จิตฺตกูฏปพฺพเต หํสคณมชฺเฌ ิโต วิย โหมิ. มยฺหนฺติ มม ชีวิตํ ตฺวํ ลภาเปสฺสสิ.

เอวํ เตสํ กเถนฺตานฺเว ลุทฺทปุตฺโต สรปริยนฺเต ิโต หํเส ตีหิ ขนฺเธหิ ปลายนฺเต ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข’’ติ ปาสฏฺานํ โอโลเกนฺโต โพธิสตฺตํ ปาสยฏฺิยํ โอลมฺพนฺตํ ทิสฺวา สฺชาตโสมนสฺโส กจฺฉํ ทฬฺหํ พนฺธิตฺวา มุคฺครํ คเหตฺวา กปฺปุฏฺานคฺคิ วิย อวตฺถรมาโน ปณฺหิยา อกฺกนฺตกลเล อุปริสีเสน คนฺตฺวา ปุรโต ปตนฺเต เวเคน อุปสงฺกมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๙๘.

‘‘อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานํ, อริยานํ อริยวุตฺตินํ;

ทณฺฑมาทาย เนสาโท, อาปตี ตุริโต ภุสํ.

๙๙.

‘‘ตมาปตนฺตํ ทิสฺวาน, สุมุโข อติพฺรูหยิ;

อฏฺาสิ ปุรโต รฺโ, หํโส วิสฺสาสยํ พฺยถํ.

๑๐๐.

‘‘มา ภายิ ปตตํ เสฏฺ, น หิ ภายนฺติ ตาทิสา;

อหํ โยคํ ปยุฺชิสฺสํ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสฺหิตํ;

เตน ปริยาปทาเนน, ขิปฺปํ ปาสา ปโมกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ อริยวุตฺตินนฺติ อริยาจาเร วตฺตมานานํ. ภุสนฺติ ทฬฺหํ พลวํ. อติพฺรูหยีติ อนนฺตรคาถาย อาคตํ ‘‘มา ภายี’’ติ วจนํ วทนฺโต อติพฺรูเหสิ มหาสทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. อฏฺาสีติ สเจ เนสาโท ราชานํ ปหริสฺสติ, อหํ ปหารํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามีติ ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ปุรโต อฏฺาสิ. วิสฺสาสยนฺติ วิสฺสาเสนฺโต อสฺสาเสนฺโต. พฺยถนฺติ พฺยถิตํ ภีตํ ราชานํ ‘‘มา ภายี’’ติ อิมินา วจเนน วิสฺสาเสนฺโต. ตาทิสาติ ตุมฺหาทิสา าณวีริยสมฺปนฺนา. โยคนฺติ าณวีริยโยคํ. ยุตฺตนฺติ อนุจฺฉวิกํ. ธมฺมูปสฺหิตนฺติ การณนิสฺสิตํ. เตน ปริยาปทาเนนาติ เตน มยา ปยุตฺเตน โยเคน ปริสุทฺเธน. ปโมกฺขสีติ มุจฺจิสฺสสิ.

เอวํ สุมุโข มหาสตฺตํ อสฺสาเสตฺวา ลุทฺทปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา มธุรํ มานุสึ วาจํ นิจฺฉาเรนฺโต, ‘‘สมฺม, ตฺวํ โกนาโมสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณหํสราช, อหํ เขมโก นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘สมฺม เขมก, ‘ตยา โอฑฺฑิตวาลปาเส โย วา โส วา หํโส พทฺโธ’ติ สฺํ มา กริ, นวุติยา หํสสหสฺสานํ ปวโร ธตรฏฺหํสราชา เต ปาเส พทฺโธ, าณสีลาจารสมฺปนฺโน สงฺคาหกปกฺเข ิโต, น ตํ มาเรตุํ ยุตฺโต, อหํ ตว อิมินา กตฺตพฺพกิจฺจํ กริสฺสามิ, อยมฺปิ สุวณฺณวณฺโณ, อหมฺปิ ตเถว, อหํ เอตสฺสตฺถาย อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชิสฺสามิ, สเจ ตฺวํ เอตสฺส ปตฺตานิ คณฺหิตุกาโมสิ, มม ปตฺตานิ คณฺห, อโถปิ จมฺมมํสนฺหารุอฏฺีนมฺตรํ คณฺหิตุกาโมสิ, มเมว สรีรโต คณฺห, อถ นํ กีฬาหํสํ กาตุกาโมสิ, มฺเว กร, ชีวนฺตเมว วิกฺกิณิตฺวา สเจ ธนํ อุปฺปาเทตุกาโมสิ, มํ ชีวนฺตเมว วิกฺกิณิตฺวา ธนํ อุปฺปาเทหิ, มา เอตํ าณาทิคุณสํยุตฺตํ หํสราชานํ อวธิ, สเจ หิ นํ วธิสฺสสิ, นิรยาทีหิ น มุจฺจิสฺสสี’’ติ ตํ นิรยาทิภเยน สนฺตชฺเชตฺวา อตฺตโน มธุรกถํ คณฺหาเปตฺวา ปุน โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อสฺสาเสนฺโต อฏฺาสิ. เนสาโท ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘อยํ ติรจฺฉานคโต สมาโน มนุสฺเสหิปิ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยํ เอวรูปํ มิตฺตธมฺมํ กโรติ, มนุสฺสาปิ เอวํ มิตฺตธมฺเม าตุํ น สกฺโกนฺติ, อโห เอส าณสมฺปนฺโน มธุรกโถ ธมฺมิโก’’ติ สกลสรีรํ ปีติโสมนสฺสปริปุณฺณํ กตฺวา ปหฏฺโลโม ทณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปติฏฺเปตฺวา สูริยํ นมสฺสนฺโต วิย สุมุขสฺส คุณํ กิตฺเตนฺโต อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๐๑.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, สุมุขสฺส สุภาสิตํ;

ปหฏฺโลโม เนสาโท, อฺชลิสฺส ปณามยิ.

๑๐๒.

‘‘น เม สุตํ วา ทิฏฺํ วา, ภาสนฺโต มานุสึ ทิโช;

อริยํ พฺรุวาโน วกฺกงฺโค, จชนฺโต มานุสึ คิรํ.

๑๐๓.

‘‘กึ นุ ตายํ ทิโช โหติ, มุตฺโต พทฺธํ อุปาสสิ;

โอหาย สกุณา ยนฺติ, กึ เอโก อวหียสี’’ติ.

ตตฺถ อฺชลิสฺส ปณามยีติ อฺชลึ อสฺส อุปนามยิ, ‘‘น เม’’ติ คาถายสฺส ถุตึ กโรติ. ตตฺถ มานุสินฺติ มนุสฺสวาจํ. อริยนฺติ สุนฺทรํ นิทฺโทสํ. จชนฺโตติ วิสฺสชฺเชนฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม, ตฺวํ ทิโช สมาโน อชฺช มยา สทฺธึ มานุสึ วาจํ ภาสนฺโต นิทฺโทสํ พฺรุวาโน มานุสึ คิรํ จชนฺโต ปจฺจกฺขโต ทิฏฺโ, อิโต ปุพฺเพ ปน อิทํ อจฺฉริยํ มยา เนว สุตํ น ทิฏฺนฺติ. กึ นุ ตายนฺติ ยํ เอตํ ตฺวํ อุปาสสิ, กึ นุ เต อยํ โหติ.

เอวํ ตุฏฺจิตฺเตน เนสาเทน ปุฏฺโ สุมุโข ‘‘อยํ มุทุโก ชาโต, อิทานิสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย มุทุภาวตฺถํ มม คุณํ ทสฺเสสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๑๐๔.

‘‘ราชา เม โส ทิชามิตฺต, เสนาปจฺจสฺส การยึ;

ตมาปเท ปริจฺจตุํ, นุสฺสเห วิหคาธิปํ.

๑๐๕.

‘‘มหาคณาย ภตฺตา เม, มา เอโก พฺยสนํ อคา;

ตถา ตํ สมฺม เนสาท, ภตฺตายํ อภิโต รเม’’ติ.

ตตฺถ นุสฺสเหติ น สมตฺโถมฺหิ. มหาคณายาติ มหโต หํสคณสฺส. มา เอโกติ มาทิเส เสวเก วิชฺชมาเน มา เอกโก พฺยสนํ อคา. ตถา ตนฺติ ยถา อหํ วทามิ, ตเถว ตํ. สมฺมาติ วยสฺส. ภตฺตายํ อภิโต รเมติ ภตฺตา อยํ มม, อหมสฺส อภิโต รเม สนฺติเก รมามิ น อุกฺกณฺามีติ.

เนสาโท ตํ ตสฺส ธมฺมนิสฺสิตํ มธุรกถํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต ปหฏฺโลโม ‘‘สจาหํ เอตํ สีลาทิคุณสํยุตฺตํ หํสราชานํ วธิสฺสามิ, จตูหิ อปาเยหิ น มุจฺจิสฺสามิ, ราชา มํ ยทิจฺฉติ, ตํ กโรตุ, อหเมตํ สุมุขสฺส ทายํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๐๖.

‘‘อริยวตฺตสิ วกฺกงฺค, โย ปิณฺฑมปจายสิ;

จชามิ เต ตํ ภตฺตารํ, คจฺฉถูโภ ยถาสุข’’นฺติ.

ตตฺถ อริยวตฺตสีติ มิตฺตธมฺมรกฺขณสงฺขาเตน อาจารอริยานํ วตฺเตน สมนฺนาคโตสิ. ปิณฺฑมปจายสีติ ภตฺตุ สนฺติกา ลทฺธํ ปิณฺฑํ เสนาปติฏฺานํ ปูเชสิ. คจฺฉถูโภติ ทฺเวปิ ชนา อสฺสุมุเข าติสงฺเฆ หาสยมานา ยถาสุขํ คจฺฉถาติ.

เอวํ วตฺวา เนสาโท มุทุจิตฺเตน มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ยฏฺึ โอนาเมตฺวา ปงฺกปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา ปาสยฏฺิยา โมเจตฺวา ตํ อุกฺขิปิตฺวา สรโต นีหริตฺวา ตรุณทพฺพติณปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา ปาเท พทฺธปาสํ สณิกํ โมเจตฺวา มหาสตฺเต พลวสิเนหํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา เมตฺตจิตฺเตน อุทกํ อาทาย โลหิตํ โธวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชิ, อถสฺส เมตฺตานุภาเวน สิราย สิรา, มํเสน มํสํ, จมฺเมน จมฺมํ ฆฏิตํ, ปาโท ปากติโก อโหสิ, อิตเรน นิพฺพิเสโส. โพธิสตฺโต สุขปฺปตฺโต หุตฺวา ปกติภาเวน นิสีทิ. สุมุโข อตฺตานํ นิสฺสาย รฺโ สุขิตภาวํ ทิสฺวา สฺชาตโสมนสฺโส จินฺเตสิ – ‘‘อิมินา อมฺหากํ มหาอุปกาโร กโต, อมฺเหหิ เอตสฺส กโต อุปกาโร นาม นตฺถิ, สเจ เอส ราชราชมหามตฺตานํ อตฺถาย อมฺเห คณฺหิ, เตสํ สนฺติกํ เนตฺวา พหุํ ธนํ ลภิสฺสติ, สเจ อตฺตโน อตฺถาย คณฺหิ, อมฺเห วิกฺกิณิตฺวา ธนํ ลภิสฺสเตว, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ. อถ นํ อุปการํ กาตุกามตาย ปุจฺฉนฺโต อาห –

๑๐๗.

‘‘สเจ อตฺตปฺปโยเคน, โอหิโต หํสปกฺขินํ;

ปฏิคฺคณฺหาม เต สมฺม, เอตํ อภยทกฺขิณํ.

๑๐๘.

‘‘โน เจ อตฺตปฺปโยเคน, โอหิโต หํสปกฺขินํ;

อนิสฺสโร มุฺจมมฺเห, เถยฺยํ กยิราสิ ลุทฺทกา’’ติ.

ตตฺถ สเจติ, สมฺม เนสาท, สเจ ตยา อตฺตโน ปโยเคน อตฺตโน อตฺถาย หํสานฺเจว เสสปกฺขีนฺจ ปาโส โอหิโต. อนิสฺสโรติ อนิสฺสโร หุตฺวา อมฺเห มุฺจนฺโต เยนาสิ อาณตฺโต, ตสฺสสนฺตกํ คณฺหนฺโต เถยฺยํ กยิราสิ.

ตํ สุตฺวา เนสาโท ‘‘นาหํ ตุมฺเห อตฺตโน อตฺถาย คณฺหึ, พาราณสิรฺา ปน สํยเมน คณฺหาปิโตมฺหี’’ติ วตฺวา เทวิยา ทิฏฺสุปินกาลโต ปฏฺาย ยาว รฺา เตสํ อาคตภาวํ สุตฺวา, ‘‘สมฺม เขมก, เอกํ วา ทฺเว วา หํเส คณฺหิตุํ วายม, มหนฺตํ เต ยสํ ทสฺสามี’’ติ วตฺวา ปริพฺพยํ ทตฺวา อุยฺโยชิตภาโว, ตาว สพฺพํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘อิมินา เนสาเทน อตฺตโน ชีวิตํ อคเณตฺวา อมฺเห วิสฺสชฺเชนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, สเจ มยํ อิโต จิตฺตกูฏํ คมิสฺสาม, เนว ธตรฏฺรฺโ ปฺานุภาโว, น มยฺหํ มิตฺตธมฺโม ปากโฏ ภวิสฺสติ, น ลุทฺทปุตฺโต มหนฺตํ ยสํ ลจฺฉติ, น ราชา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺหิสฺสติ, น เทวิยา มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘สมฺม, เอวํ สนฺเต อมฺเห วิสฺสชฺเชตุํ น ลภสิ, รฺโ โน ทสฺเสหิ, โส อมฺเห ยถารุจึ กริสฺสตี’’ติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –

๑๐๙.

‘‘ยสฺส ตฺวํ ภตโก รฺโ, กามํ ตสฺเสว ปาปย;

ตตฺถ สํยมโน ราชา, ยถาภิฺํ กริสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ตสฺเสวาติ ตสฺเสว สนฺติกํ เนหิ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ราชนิเวสเน. ยถาภิฺนฺติ ยถาธิปฺปายํ ยถารุจึ.

ตํ สุตฺวา เนสาโท ‘‘มา โว ภทฺทนฺเต ราชทสฺสนํ รุจฺจิตฺถ, ราชาโน นาม สปฺปฏิภยา, กีฬาหํเส วา โว กเรยฺยุํ มาเรยฺยุํ วา’’ติ อาห. อถ นํ สุมุโข, ‘‘สมฺม ลุทฺทก มา อมฺหากํ จินฺตยิ, อหํ ตาทิสสฺส กกฺขฬสฺส ธมฺมกถาย มทฺทวํ ชเนสึ, รฺโ กึ น ชเนสฺสามิ, ราชาโน หิ ปณฺฑิตา สุภาสิตทุพฺภาสิตฺุ, ขิปฺปํ โน รฺโ สนฺติกํ เนหิ, นยนฺโต จ มา พนฺธเนน นยิ, ปุปฺผปฺชเร ปน นิสีทาเปตฺวา เนหิ, ปุปฺผปฺชรํ กโรนฺโต ธตรฏฺสฺส มหนฺตํ เสตปทุมสฺฉนฺนํ, มม ขุทฺทกํ รตฺตปทุมสฺฉนฺนํ กตฺวา ธตรฏฺํ ปุรโต, มมํ ปจฺฉโต นีจตรํ กตฺวา อาทาย ขิปฺปํ เนตฺวา รฺโ ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สุมุโข ราชานํ ทิสฺวา มม มหนฺตํ ยสํ ทาตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ สฺชาตโสมนสฺโส มุทูหิ ลตาหิ ปฺชเร กตฺวา ปทุเมหิ ฉาเทตฺวา วุตฺตนเยเนว เต คเหตฺวา อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๐.

‘‘อิจฺเจวํ วุตฺโต เนสาโท, เหมวณฺเณ หริตฺตเจ;

อุโภ หตฺเถหิ สงฺคยฺห, ปฺชเร อชฺฌโวทหิ.

๑๑๑.

‘‘เต ปฺชรคเต ปกฺขี, อุโภ ภสฺสรวณฺณิเน;

สุมุขํ ธตรฏฺฺจ, ลุทฺโท อาทาย ปกฺกมี’’ติ.

ตตฺถ อชฺฌโวทหีติ โอทหิ เปสิ. ภสฺสรวณฺณิเนติ ปภาสมฺปนฺนวณฺเณ.

เอวํ ลุทฺทสฺส เต อาทาย ปกฺกมนกาเล ธตรฏฺโ ปากหํสราชธีตรํ อตฺตโน ภริยํ สริตฺวา สุมุขํ อามนฺเตตฺวา กิเลสวเสน วิลปิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๒.

‘‘หรียมาโน ธตรฏฺโ, สุมุขํ เอตทพฺรวิ;

พาฬฺหํ ภายามิ สุมุข, สามาย ลกฺขณูรุยา;

อสฺมากํ วธมฺาย, อถตฺตานํ วธิสฺสติ.

๑๑๓.

‘‘ปากหํสา จ สุมุข, สุเหมา เหมสุตฺตจา;

โกฺจี สมุทฺทตีเรว, กปณา นูน รุจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ภายามีติ มรณโต ภายามิ. สามายาติ สุวณฺณวณฺณาย. ลกฺขณูรุยาติ ลกฺขณสมฺปนฺนอูรุยา. วจมฺายาติ วธํ ชานิตฺวา ‘‘มม ปิยสามิโก มาริโต’’ติ สฺี หุตฺวา. วธิสฺสตีติ กึ เม ปิยสามิเก มเต ชีวิเตนาติ มริสฺสติ. ปากหํสาติ ปากหํสราชธีตา. สุเหมาติ เอวํนามิกา. เหมสุตฺตจาติ เหมสทิสสุนฺทรตจา. รุจฺฉตีติ ยถา โลณิสงฺขาตํ สมุทฺทํ โอตริตฺวา มเต ปติมฺหิ โกฺจี สกุณิกา กปณา โรทติ, เอวํ นูน สา โรทิสฺสตีติ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘อยํ หํสราชา อฺเ โอวทิตุํ ยุตฺโต มาตุคามํ นิสฺสาย กิเลสวเสน วิลปติ, อุทกสฺส อาทิตฺตกาโล วิย วติยา อุฏฺาย เกทารขาทนกาโล วิย จ ชาโต, ยํนูนาหํ อตฺตโน พเลน มาตุคามสฺส โทสํ ปกาเสตฺวา เอตํ สฺาเปยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๑๔.

‘‘เอวํ มหนฺโต โลกสฺส, อปฺปเมยฺโย มหาคณี;

เอกิตฺถิมนุโสเจยฺย, นยิทํ ปฺวตามิว.

๑๑๕.

‘‘วาโตว คนฺธมาเทติ, อุภยํ เฉกปาปกํ;

พาโล อามกปกฺกํว, โลโล อนฺโธว อามิสํ.

๑๑๖.

‘‘อวินิจฺฉยฺุ อตฺเถสุ, มนฺโทว ปฏิภาสิ มํ;

กิจฺจากิจฺจํ น ชานาสิ, สมฺปตฺโต กาลปริยายํ.

๑๑๗.

‘‘อฑฺฒุมฺมตฺโต อุทีเรสิ, โย เสยฺยา มฺสิตฺถิโย;

พหุสาธารณา เหตา, โสณฺฑานํว สุราฆรํ.

๑๑๘.

‘‘มายา เจตา มรีจี จ, โสกา โรคา จุปทฺทวา;

ขรา จ พนฺธนา เจตา, มจฺจุปาสา คุหาสยา;

ตาสุ โย วิสฺสเส โปโส, โส นเรสุ นราธโม’’ติ.

ตตฺถ มหนฺโตติ มหนฺโต สมาโน. โลกสฺสาติ หํสโลกสฺส. อปฺปเมยฺโยติ คุเณหิ ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺโย. มหาคณีติ มหนฺเตน คเณน สมนฺนาคโต คณสตฺถา. เอกิตฺถินฺติ ยํ เอวรูโป ภวํ เอกํ อิตฺถึ อนุโสเจยฺย, อิทํ อนุโสจนํ น ปฺวตํ อิว, เตนาหํ อชฺช ตํ พาโลติ มฺามีติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

อาเทตีติ คณฺหาติ. เฉกปาปกนฺติ สุนฺทราสุนฺทรํ. อามกปกฺกติ อามกฺจ ปกฺกฺจ. โลโลติ รสโลโล. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ยถา นาม วาโต ปทุมสราทีนิ ปหริตฺวา สุคนฺธมฺปิ สงฺการฏฺานาทีนิ ปหริตฺวา ทุคฺคนฺธมฺปีติ อุภยํ เฉกปาปกํ คนฺธํ อาทิยติ, ยถา จ พาโล กุมารโก อมฺพชมฺพูนํ เหฏฺา นิสินฺโน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ปติตปติตํ อามกมฺปิ ปกฺกมฺปิ ผลํ คเหตฺวา ขาทติ, ยถา จ รสโลโล อนฺโธ ภตฺเต อุปนีเต ยํกิฺจิ สมกฺขิกมฺปิ นิมฺมกฺขิกมฺปิ อามิสํ อาทิยติ, เอวํ อิตฺถิโย นาม กิเลสวเสน อฑฺฒมฺปิ ทุคฺคตมฺปิ กุลีนมฺปิ อกุลีนมฺปิ อภิรูปมฺปิ วิรูปมฺปิ คณฺหนฺติ ภชนฺติ, ตาทิสานํ ปาปธมฺมานํ อิตฺถีนํ กึการณา วิปฺปลปสิ, มหาราชาติ.

อตฺเถสูติ การณาการเณสุ. มนฺโทติ อนฺธพาโล. ปฏิภาสิ มนฺติ มม อุปฏฺาสิ. กาลปริยายนฺติ เอวรูปํ มรณกาลํ ปตฺโต ‘‘อิมสฺมึ กาเล อิทํ กตฺตพฺพํ, อิทํ นกตฺตพฺพํ, อิทํ วตฺตพฺพํ, อิทํ น วตฺตพฺพ’’นฺติ น ชานาสิ เทวาติ. อฑฺฒุมฺมตฺโตติ อฑฺฒุมฺมตฺตโก มฺเ หุตฺวา. อุทีเรสีติ ยถา สุรํ ปิวิตฺวา นาติมตฺโต ปุริโส ยํ วา ตํ วา ปลปติ, เอวํ ปลปสีติ อตฺโถ. เสยฺยาติ วรา อุตฺตมา.

‘‘มายา จา’’ติอาทีสุ, เทว, อิตฺถิโย นาเมตา วฺจนฏฺเน มายา, อคยฺหุปคฏฺเน มรีจี, โสกาทีนํ ปจฺจยตฺตา โสกา, โรคา, อเนกปฺปการา อุปทฺทวา, โกธาทีหิ ถทฺธภาเวเนว ขรา. ตา หิ นิสฺสาย อนฺทุพนฺธนาทีหิ พนฺธนโต พนฺธนา เจตา, อิตฺถิโย นาม สรีรคุหาสยวเสเนว มจฺจุ นาม เอตา, เทวาติ. ‘‘กามเหตุ, กามนิทานํ, กามาธิกรณํ, กามานเมว เหตุ ราชาโน โจรํ คเหตฺวา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๘-๑๖๙) สุตฺเตนเปส อตฺโถ ทีเปตพฺโพ.

ตโต ธตรฏฺโ มาตุคาเม ปฏิพทฺธจิตฺตตาย ‘‘ตฺวํ มาตุคามสฺส คุณํ น ชานาสิ, ปณฺฑิตา เอว เอตํ ชานนฺติ, น เหตา ครหิตพฺพา’’ติ ทีเปนฺโต อาห –

๑๑๙.

‘‘ยํ วุทฺเธหิ อุปฺาตํ, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;

มหาภูติตฺถิโย นาม, โลกสฺมึ อุทปชฺชิสุํ.

๑๒๐.

‘‘ขิฑฺฑา ปณิหิตา ตฺยาสุ, รติ ตฺยาสุ ปติฏฺิตา;

พีชานิ ตฺยาสุ รูหนฺติ, ยทิทํ สตฺตา ปชายเร;

ตาสุ โก นิพฺพิเท โปโส, ปาณมาสชฺช ปาณิภิ.

๑๒๑.

‘‘ตฺวเมว นฺโ สุมุข, ถีนํ อตฺเถสุ ยุฺชสิ;

ตสฺส ตฺยชฺช ภเย ชาเต, ภีเต น ชายเต มติ.

๑๒๒.

‘‘สพฺโพ หิ สํสยํ ปตฺโต, ภยํ ภีรู ติติกฺขติ;

ปณฺฑิตา จ มหนฺตาโน, อตฺเถ ยุฺชนฺติ ทุยฺยุเช.

๑๒๓.

‘‘เอตทตฺถาย ราชาโน, สูรมิจฺฉนฺติ มนฺตินํ;

ปฏิพาหติ ยํ สูโร, อาปทํ อตฺตปริยายํ.

๑๒๔.

‘‘มา โน อชฺช วิกนฺตึสุ, รฺโ สูทา มหานเส;

ตถา หิ วณฺโณ ปตฺตานํ, ผลํ เวฬุํว ตํ วธิ.

๑๒๕.

‘‘มุตฺโตปิ น อิจฺฉิ อุฑฺเฑตุํ, สยํ พนฺธํ อุปาคมิ;

โสปชฺช สํสยํ ปตฺโต, อตฺถํ คณฺหาหิ มา มุข’’นฺติ.

ตตฺถ นฺติ ยํ มาตุคามสงฺขาตํ วตฺถุ ปฺาวุทฺเธหิ าตํ, เตสเมว ปากฏํ, น พาลานํ. มหาภูตาติ มหาคุณา มหานิสํสา. อุทปชฺชิสุนฺติ ปมกปฺปิกกาเล อิตฺถิลิงฺคสฺเสว ปมํ ปาตุภูตตฺตา ปมํ นิพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ตฺยาสูติ สุมุข ตาสุ อิตฺถีสุ กายวจีขิฑฺฑา จ ปณิหิตา โอหิตา ปิตา, กามคุณรติ จ ปติฏฺิตา. พีชานีติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวกจกฺกวตฺติอาทิพีชานิ ตาสุ รุหนฺติ. ยทิทนฺติ เย เอเต สพฺเพปิ สตฺตา. ปชายเรติ สพฺเพ ตาสฺเว กุจฺฉิมฺหิ สํวทฺธาติ ทีเปติ. นิพฺพิเทติ นิพฺพินฺเทยฺย. ปาณมาสชฺช ปาณิภีติ อตฺตโน ปาเณหิปิ ตาสํ ปาณํ อาสาเทตฺวา อตฺตโน ชีวิตํ จชนฺโตปิ ตา ลภิตฺวา โก นิพฺพินฺเทยฺยาติ อตฺโถ.

นฺโติ น อฺโ, สุมุข, มยา จิตฺตกูฏตเล หํสคณมชฺเฌ นิสินฺเนน ตํ อทิสฺวา ‘‘กหํ นุ สุมุโข’’ติ วุตฺเต ‘‘เอส มาตุคามํ คเหตฺวา กฺจนคุหายํ อุตฺตมรตึ อนุโภตี’’ติ วทนฺติ, เอวํ ตฺวเมว ถีนํ อตฺเถสุ ยุฺชสิ ยุตฺตปยุตฺโต โหสิ, น อฺโติ อตฺโถ. ตสฺส ตฺยชฺชาติ ตสฺส เต อชฺช มรณภเย ชาเต อิมินา ภีเตน มรณภเยน ภีโต มฺเ, อยํ มาตุคามสฺส โทสทสฺสเน นิปุณา มติ ชายเตติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

สพฺโพ หีติ โย หิ โกจิ. สํสยํ ปตฺโตติ ชีวิตสํสยปฺปตฺโต. ภีรูติ ภีรู หุตฺวาปิ ภยํ อธิวาเสติ. มหนฺตาโนติ เย ปน ปณฺฑิตา จ โหนฺติ มหนฺเต จ าเน ิตา มหนฺตาโน, เต ทุยฺยุเช อตฺเถ ยุฺชนฺติ ฆเฏนฺติ วายมนฺติ, ตสฺมา ‘‘มา ภายิ, ธีโร โหหี’’ติ ตํ อุสฺสาเหนฺโต เอวมาห. อาปทนฺติ สามิโน อาคตํ อาปทํ เอส สูโร ปฏิพาหติ, เอตทตฺถาย สูรํ มนฺตินํ อิจฺฉนฺติ. อตฺตปริยายนฺติ อตฺตโน ปริตฺตาณมฺปิ จ กาตุํ สกฺโกตีติ อธิปฺปาโย.

วิกนฺตึสูติ ฉินฺทึสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม สุมุข, ตฺวํ มยา อตฺตโน อนนฺตเร าเน ปิโต, ตสฺมา ยถา อชฺช รฺโ สูทา อมฺเห มํสตฺถาย น วิกนฺตึสุ, ตถา กโรหิ, ตาทิโส หิ อมฺหากํ ปตฺตวณฺโณ. ตํ วธีติ สฺวายํ วณฺโณ ยถา นาม เวฬุํ นิสฺสาย ชาตํ ผลํ เวฬุเมว วธติ, ตถา มา ตํ วธิ, ตฺจ มฺจ มา วธีติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

มุตฺโตปีติ ยถาสุขํ จิตฺตกูฏปพฺพตํ คจฺฉาติ เอวํ ลุทฺทปุตฺเตน มยา สทฺธึ มุตฺโต วิสฺสชฺชิโต สมาโนปิ อุฑฺฑิตุํ น อิจฺฉิ. สยนฺติ ราชานํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา สยเมว พนฺธํ อุปคโตติ เอวมิทํ อมฺหากํ ภยํ ตํ นิสฺสาย อาคตํ. โสปชฺชาติ โสปิ อชฺช ชีวิตสํสยํ ปตฺโต. อตฺถํ คณฺหาหิ มา มุขนฺติ อิทานิ อมฺหากํ มุฺจนการณํ คณฺห, ยถา มุจฺจาม, ตถา วายม, ‘‘วาโตว คนฺธมาเทตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต อิตฺถิครหตฺถาย มุขํ มา ปสารยิ.

เอวํ มหาสตฺโต มาตุคามํ วณฺเณตฺวา สุมุขํ อปฺปฏิภาณํ กตฺวา ตสฺส อนตฺตมนภาวํ วิทิตฺวา อิทานิ นํ ปคฺคณฺหนฺโต คาถมาห –

๑๒๖.

‘‘โส ตํ โยคํ ปยุฺชสฺสุ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิตํ;

ตว ปริยาปทาเนน, มม ปาเณสนํ จรา’’ติ.

ตตฺถ โสติ, สมฺม สุมุข, โส ตฺวํ. ตํ โยคนฺติ ยํ ปุพฺเพ ‘‘อหํ โยคํ ปยุฺชิสฺสํ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิต’’นฺติ อวจาสิ, ตํ อิทานิ ปยุฺชสฺสุ. ตว ปริยาปทาเนนาติ ตว เตน โยเคน ปริสุทฺเธน. ‘‘ปริโยทาเตนา’’ติปิ ปาโ, ปริตฺตาเณนาติ อตฺโถ, ตยา กตตฺตา ตว สนฺตเกน ปริตฺตาเณน มม ชีวิตปริเยสนํ จราติ อธิปฺปาโย.

อถ สุมุโข ‘‘อยํ อติวิย มรณภยภีโต มม าณพลํ น ชานาติ, ราชานํ ทิสฺวา โถกํ กถํ ลภิตฺวา ชานิสฺสามิ, อสฺสาเสสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘มา ภายิ ปตตํ เสฏฺ, น หิ ภายนฺติ ตาทิสา;

อหํ โยคํ ปยุฺชิสฺสํ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิตํ;

มม ปริยาปทาเนน, ขิปฺปํ ปาสา ปโมกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ ปาสาติ ทุกฺขปาสโต.

อิติ เตสํ สกุณภาสาย กเถนฺตานํ ลุทฺทปุตฺโต น กิฺจิ อฺาสิ, เกวลํ ปน เต กาเชนาทาย พาราณสึ ปาวิสิ. อจฺฉริยพฺภุตชาเตน อฺชลินา มหาชเนน อนุคฺคจฺฉมาโน โส ราชทฺวารํ ปตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ รฺโ อาโรจาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๘.

‘‘โส ลุทฺโท หํสกาเชน, ราชทฺวารํ อุปาคมิ;

ปฏิเวเทถ มํ รฺโ, ธตรฏฺายมาคโต’’ติ.

ตตฺถ ปฏิเวเทถ มนฺติ เขมโก อาคโตติ เอวํ มํ รฺโ นิเวเทถ. ธตรฏฺายนฺติ อยํ ธตรฏฺโ อาคโตติ ปฏิเวเทถ.

โทวาริโก คนฺตฺวา ปฏิเวเทสิ. ราชา สฺชาตโสมนสฺโส ‘‘ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา อมจฺจคณปริวุโต สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน เขมกํ หํสกาชํ อาทาย มหาตลํ อภิรุฬฺหํ ทิสฺวา สุวณฺณวณฺเณ หํเส โอโลเกตฺวา ‘‘สมฺปุณฺโณ เม มโนรโถ’’ติ ตสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ อมจฺเจ อาณาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๙.

‘‘เต ทิสฺวา ปุฺสงฺกาเส, อุโภ ลกฺขณสมฺมเต;

ขลุ สํยมโน ราชา, อมจฺเจ อชฺฌภาสถ.

๑๓๐.

‘‘เทถ ลุทฺทสฺส วตฺถานิ, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;

กามํกโร หิรฺสฺส, ยาวนฺโต เอส อิจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ปุฺสงฺกาเสติ อตฺตโน ปุฺสทิเส. ลกฺขณสมฺมเตติ เสฏฺสมฺมเต อภิฺาเต. ขลูติ นิปาโต, ตสฺส ‘‘เต ขลุ ทิสฺวา’’ติ ปุริมปเทน สมฺพนฺโธ. ‘‘เทถา’’ติอาทีนิ ราชา ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อาห. ตตฺถ กามํกโร หิรฺสฺสาติ หิรฺํ อสฺส กามกิริยา อตฺถุ. ยาวนฺโตติ ยตฺตกํ เอส อิจฺฉติ, ตตฺตกํ หิรฺมสฺส เทถาติ อตฺโถ.

เอวํ ปสนฺนาการํ กาเรตฺวา ปีติโสมนสฺสาสมุสฺสหิโต ‘‘คจฺฉถ นํ อลงฺกริตฺวา อาเนถา’’ติ อาห. อถ นํ อมจฺจา ราชนิเวสนา โอตาเรตฺวา กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ กตฺวา รฺโ ทสฺเสสุํ. อถสฺส ราชา สํวจฺฉเร สตสหสฺสุฏฺานเก ทฺวาทส คาเม อาชฺยุตฺตํ รถํ อลงฺกตมหาเคหฺจาติ มหนฺตํ ยสํ ทาเปสิ. โส มหนฺตํ ยสํ ลภิตฺวา อตฺตโน กมฺมํ ปกาเสตุํ ‘‘น เต, เทว, มยา โย วา โส วา หํโส อานีโต, อยํ ปน นวุติยา หํสสหสฺสานํ ราชา ธตรฏฺโ นาม, อยํ เสนาปติ สุมุโข นามา’’ติ อาห. อถ นํ ราชา ‘‘กถํ เต, สมฺม, เอเต คหิตา’’ติ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๑.

‘‘ทิสฺวา ลุทฺทํ ปสนฺนตฺตํ, กาสิราชา ตทพฺรวิ;

ยทฺยายํ สมฺม เขมก, ปุณฺณา หํเสหิ ติฏฺติ.

๑๓๒.

‘‘กถํ รุจิมชฺฌคตํ, ปาสหตฺโถ อุปาคมิ;

โอกิณฺณํ าติสงฺเฆหิ, นิมฺมชฺฌิมํ กถํ คหี’’ติ.

ตตฺถ ปสนฺนตฺตนฺติ ปสนฺนภาวํ โสมนสฺสปฺปตฺตํ. ยทฺยายนฺติ, สมฺม เขมก, ยทิ อยํ อมฺหากํ โปกฺขรณี นวุติหํสสหสฺเสหิ ปุณฺณา ติฏฺติ. กถํ รุจิมชฺฌคตนฺติ เอวํ สนฺเต ตฺวํ เตสํ รุจีนํ ปิยทสฺสนานํ หํสานํ มชฺฌคตํ เอตํ าติสงฺเฆหิ โอกิณฺณํ. นิมฺมชฺฌิมนฺติ เนว มชฺฌิมํ เนว กนิฏฺํ อุตฺตมํ หํสราชานํ กถํ ปาสหตฺโถ อุปาคมิ กถํ คณฺหีติ.

โส ตสฺส กเถนฺโต อาห –

๑๓๓.

‘‘อชฺช เม สตฺตมา รตฺติ, อทนานิ อุปาสโต;

ปทเมตสฺส อนฺเวสํ, อปฺปมตฺโต ฆฏสฺสิโต.

๑๓๔.

‘‘อถสฺส ปทมทฺทกฺขึ, จรโต อทเนสนํ;

ตตฺถาหํ โอทหึ ปาสํ, เอวํ ตํ ทิชมคฺคหิ’’นฺติ.

ตตฺถ อทนานีติ อาทานานิ, โคจรคฺคหณฏฺานานีติ อตฺโถ, อยเมว วา ปาโ. อุปาสโตติ อุปคจฺฉนฺตสฺส. ปทนฺติ โคจรภูมิยํ อกฺกนฺตปทํ. ฆฏสฺสิโตติ จาฏิปฺชเร นิสฺสิโต หุตฺวา. อถสฺสาติ อถ ฉฏฺเ ทิวเส เอตสฺส อทเนสนํ จรนฺตสฺส ปทํ อทฺทกฺขึ. เอวํ ตนฺติ เอวํ ตํ ทิชํ อคฺคหินฺติ สพฺพํ คหิโตปายํ อาจิกฺขิ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ ทฺวาเร ตฺวา ปฏิเวเทนฺโตปิ ธตรฏฺสฺเสวาคมนํ ปฏิเวเทสิ, อิทานิปิ เอตํ เอกเมว คณฺหินฺติ วทติ, กึ นุ โข เอตฺถ การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๓๕.

‘‘ลุทฺท ทฺเว อิเม สกุณา, อถ เอโกติ ภาสสิ;

จิตฺตํ นุ เต วิปริยตฺตํ, อทุ กึ นุ ชิคีสสี’’ติ.

ตตฺถ วิปริยตฺตนฺติ วิปลฺลตฺถํ. อทุ กึ นุ ชิคีสสีติ อุทาหุ กึ นุ จินฺเตสิ, กึ อิตรํ คเหตฺวา อฺสฺส ทาตุกาโม หุตฺวา จินฺเตสีติ ปุจฺฉติ.

ตโต ลุทฺโท ‘‘น เม, เทว, จิตฺตํ วิปลฺลตฺถํ, นาปิ อหํ อิตรํ อฺสฺส ทาตุกาโม, อปิจ โข ปน มยา โอหิเต ปาเส เอโกว พทฺโธ’’ติ อาวิ กโรนฺโต อาห –

๑๓๖.

‘‘ยสฺส โลหิตกา ตาลา, ตปนียนิภา สุภา;

อุรํ สํหจฺจ ติฏฺนฺติ, โส เม พนฺธํ อุปาคมิ.

๑๓๗.

‘‘อถายํ ภสฺสโร ปกฺขี, อพทฺโธ พทฺธมาตุรํ;

อริยํ พฺรุวาโน อฏฺาสิ, จชนฺโต มานุสึ คิร’’นฺติ.

ตตฺถ โลหิตกาติ รตฺตวณฺณา. ลาตาติ ราชิโย. อุรํ สํหจฺจาติ อุรํ อาหจฺจ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ยสฺเสตา รตฺตสุวณฺณสปฺปฏิภาคา ติสฺโส โลหิตกา ราชิโย คีวํ ปริกฺขิปิตฺวา อุรํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ, โส เอโกว มม ปาเส พนฺธํ อุปาคโตติ. ภสฺสโรติ ปริสุทฺโธ ปภาสมฺปนฺโน. อาตุรนฺติ คิลานํ ทุกฺขิตํ อฏฺาสีติ.

อถ ธตรฏฺสฺส พทฺธภาวํ ตฺวา นิวตฺติตฺวา เอตํ สมสฺสาเสตฺวา มมาคมนกาเล จ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อากาเสเยว มยา สทฺธึ มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา มนุสฺสภาสาย ธตรฏฺสฺส คุณํ กเถนฺโต อฏฺาสิ, มม หทยํ มุทุกํ กตฺวา ปุน เอตสฺเสว ปุรโต อฏฺาสิ. อถาหํ, เทว, สุมุขสฺส สุภาสิตํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ธตรฏฺํ วิสฺสชฺเชสึ, อิติ ธตรฏฺสฺส ปาสโต โมกฺโข, อิเม หํเส อาทาย มม อิธาคมนฺจ สุมุเขเนว กตนฺติ. เอวํ โส สุมุขสฺส คุณกถํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ราชา สุมุขสฺส ธมฺมกถํ โสตุกาโม อโหสิ. ลุทฺทปุตฺตสฺส สกฺการํ กโรนฺตสฺเสว สูริโย อตฺถงฺคโต, ทีปา ปชฺชลิตา, พหู ขตฺติยาทโย สนฺนิปติตา, เขมา เทวีปิ วิวิธนาฏกปริวารา รฺโ ทกฺขิณปสฺเส นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ ราชา สุมุขํ กถาเปตุกาโม คาถมาห –

๑๓๘.

‘‘อถ กึ ทานิ สุมุข, หนุํ สํหจฺจ ติฏฺสิ;

อทุ เม ปริสํ ปตฺโต, ภยา ภีโต น ภาสสี’’ติ.

ตตฺถ หนุํ สํหจฺจาติ มธุรกโถ กิร ตฺวํ, อถ กสฺมา อิทานิ มุขํ ปิธาย ติฏฺสิ. อทูติ กจฺจิ. ภยา ภีโตติ ปริสสารชฺชภเยน ภีโต หุตฺวา.

ตํ สุตฺวา สุมุโข อภีตภาวํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๑๓๙.

‘‘นาหํ กาสิปติ ภีโต, โอคยฺห ปริสํ ตว;

นาหํ ภยา น ภาสิสฺสํ, วากฺยํ อตฺถสฺมึ ตาทิเส’’ติ.

ตตฺถ ตาทิเสติ อปิจ โข ปน ตถารูเป อตฺเถ อุปฺปนฺเน วากฺยํ ภาสิสฺสามีติ วจโนกาสํ โอโลเกนฺโต นิสินฺโนมฺหีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตสฺส กถํ วฑฺเฒตุกามตาย ปริหาสํ กโรนฺโต อาห –

๑๔๐.

‘‘น เต อภิสรํ ปสฺเส, น รเถ นปิ ปตฺติเก;

นาสฺส จมฺมํว กีฏํ วา, วมฺมิเต จ ธนุคฺคเห.

๑๔๑.

‘‘น หิรฺํ สุวณฺณํ วา, นครํ วา สุมาปิตํ;

โอกิณฺณปริขํ ทุคฺคํ, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ;

ยตฺถ ปวิฏฺโ สุมุข, ภายิตพฺพํ น ภายสี’’ติ.

ตตฺถ อภิสรนฺติ รกฺขณตฺถาย ปริวาเรตฺวา ิตํ อาวุธหตฺถํ ปริสํ เต น ปสฺสามิ. นาสฺสาติ เอตฺถ อสฺสาติ นิปาตมตฺตํ. จมฺมนฺติ สรปริตฺตาณจมฺมํ. กีฏนฺติ กีฏํ จาฏิกปาลาทิ วุจฺจติ. จาฏิกปาลหตฺถาปิ เต สนฺติเก นตฺถีติ ทีเปติ. วมฺมิเตติ จมฺมสนฺนทฺเธ. น หิรฺนฺติ ยํ นิสฺสาย น ภายสิ, ตํ หิรฺมฺปิ เต น ปสฺสามิ.

เอวํ รฺา ‘‘กึ เต อภายนการณ’’นฺติ วุตฺเต ตํ กเถนฺโต อาห –

๑๔๒.

‘‘น เม อภิสเรนตฺโถ, นคเรน ธเนน วา;

อปเถน ปถํ ยาม, อนฺตลิกฺเขจรา มยํ.

๑๔๓.

‘‘สุตา จ ปณฺฑิตา ตฺยมฺหา, นิปุณา จตฺถจินฺตกา;

ภาเสมตฺถวตึ วาจํ, สจฺเจ จสฺส ปติฏฺิโต.

๑๔๔.

‘‘กิฺจ ตุยฺหํ อสจฺจสฺส, อนริยสฺส กริสฺสติ;

มุสาวาทิสฺส ลุทฺทสฺส, ภณิตมฺปิ สุภาสิต’’นฺติ.

ตตฺถ อภิสเรนาติ อารกฺขปริวาเรน. อตฺโถติ เอเตน มม กิจฺจํ นตฺถิ. กสฺมา? ยสฺมา อปเถน ตุมฺหาทิสานํ อมคฺเคน ปถํ มาเปตฺวา ยาม, อากาสจาริโน มยนฺติ. ปณฺฑิตา ตฺยมฺหาติ ปณฺฑิตาติ ตยา สุตามฺหา, เตเนว การเณน อมฺหากํ สนฺติกา ธมฺมํ โสตุกาโม กิร โน คาหาเปสิ. สจฺเจ จสฺสาติ สเจ ปน ตฺวํ สจฺเจ ปติฏฺิโต อสฺส, อตฺถวตึ การณนิสฺสิตํ วาจํ ภาเสยฺยาม. อสจฺจสฺสาติ วจีสจฺจรหิตสฺส ตว สุภาสิตํ มุณฺฑสฺส ทนฺตสูจิ วิย กึ กริสฺสติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กสฺมา มํ มุสาวาที อนริโยติ วทสิ, กึ มยา กต’’นฺติ อาห. อถ นํ สุมุโข ‘‘เตน หิ, มหาราช, สุณาหี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๔๕.

‘‘ตํ พฺราหฺมณานํ วจนา, อิมํ เขมมการยิ;

อภยฺจ ตยา ฆุฏฺํ, อิมาโย ทสธา ทิสา.

๑๔๖.

‘‘โอคยฺห เต โปกฺขรณึ, วิปฺปสนฺโนทกํ สุจึ;

ปหูตํ จาทนํ ตตฺถ, อหึสา เจตฺถ ปกฺขินํ.

๑๔๗.

‘‘อิทํ สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, อาคตมฺห ตวนฺติเก;

เต เต พทฺธสฺม ปาเสน, เอตํ เต ภาสิตํ มุสา.

๑๔๘.

‘‘มุสาวาทํ ปุรกฺขตฺวา, อิจฺฉาโลภฺจ ปาปกํ;

อุโภสนฺธิมติกฺกมฺม, อสาตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ นฺติ ตฺวํ. เขมนฺติ เอวํนามิกํ โปกฺขรณึ. ฆุฏฺนฺติ จตูสุ กณฺเณสุ ตฺวา โฆสาปิตํ. ทสธาติ อิมาสุ ทสธา ิตาสุ ทิสาสุ ตยา อภยํ ฆุฏฺํ. โอคยฺหาติ โอคาเหตฺวา อาคตานํ สนฺติกา. ปหูตํ จาทนนฺติ ปหูตฺจ ปทุมปุปฺผสาลิอาทิกํ อทนํ. อิทํ สุตฺวานาติ เตสํ ตํ โปกฺขรณึ โอคาเหตฺวา อาคตานํ สนฺติกา อิทํ อภยํ สุตฺวา ตวนฺติเก ตว สมีเป ตยา การิตโปกฺขรณึ อาคตามฺหาติ อตฺโถ. เต เตติ เต มยํ ตว ปาเสน พทฺธา. ปุรกฺขตฺวาติ ปุรโต กตฺวา. อิจฺฉาโลภนฺติ อิจฺฉาสงฺขาตํ ปาปกํ โลภํ. อุโภสนฺธินฺติ อุภยํ เทวโลเก จ มนุสฺสโลเก จ ปฏิสนฺธึ อิเม ปาปธมฺเม ปุรโต กตฺวา จรนฺโต ปุคฺคโล สุคติปฏิสนฺธึ อติกฺกมิตฺวา อสาตํ นิรยํ อุปปชฺชตีติ.

เอวํ ปริสมชฺเฌเยว ราชานํ ลชฺชาเปสิ. อถ นํ ราชา ‘‘นาหํ, สุมุข, ตุมฺเห มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตุกาโม คณฺหาเปสึ, ปณฺฑิตภาวํ ปน โว สุตฺวา สุภาสิตํ โสตุกาโม คณฺหาเปสิ’’นฺติ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๔๙.

‘‘นาปรชฺฌาม สุมุข, นปิ โลภาว มคฺคหึ;

สุตา จ ปณฺฑิตาตฺยตฺถ, นิปุณา อตฺถจินฺตกา.

๑๕๐.

‘‘อปฺเปวตฺถวตึ วาจํ, พฺยาหเรยฺยุํ อิธาคตา;

ตถา ตํ สมฺม เนสาโท, วุตฺโต สุมุข มคฺคหี’’ติ.

ตตฺถ นาปรชฺฌามาติ มาเรนฺโต อปรชฺฌติ นาม, มยํ น มาเรม. โลภาว มคฺคหินฺติ มํสํ ขาทิตุกาโม หุตฺวา โลภาว ตุมฺเห นาหํ อคฺคหึ. ปณฺฑิตาตฺยตฺถาติ ปณฺฑิตาติ สุตา อตฺถ. อตฺถจินฺตกาติ ปฏิจฺฉนฺนานํ อตฺถานํ จินฺตกา. อตฺถวตินฺติ การณนิสฺสิตํ. ตถาติ เตน การเณน. วุตฺโตติ มยา วุตฺโต หุตฺวา. สุมุข, มคฺคหีติ, สุมุขาติ อาลปติ, -กาโร ปทสนฺธิกโร. อคฺคหีติ ธมฺมํ เทเสตุํ ตุมฺเห คณฺหิ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘สุภาสิตํ โสตุกาเมน อยุตฺตํ เต กตํ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕๑.

‘‘เนว ภีตา กาสิปติ, อุปนีตสฺมึ ชีวิเต;

ภาเสมตฺถวตึ วาจํ, สมฺปตฺตา กาลปริยายํ.

๑๕๒.

‘‘โย มิเคน มิคํ หนฺติ, ปกฺขึ วา ปน ปกฺขินา;

สุเตน วา สุตํ กิณฺยา, กึ อนริยตรํ ตโต.

๑๕๓.

‘‘โย จาริยรุทํ ภาเส, อนริยธมฺมวสฺสิโต;

อุโภ โส ธํสเต โลกา, อิธ เจว ปรตฺถ จ.

๑๕๔.

‘‘น มชฺเชถ ยสํ ปตฺโต, น พฺยาเธ ปตฺตสํสยํ;

วายเมเถว กิจฺเจสุ, สํวเร วิวรานิ จ.

๑๕๕.

‘‘เย วุทฺธา อพฺภติกฺกนฺตา, สมฺปตฺตา กาลปริยายํ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, เอวํเต ติทิวํ คตา.

๑๕๖.

‘‘อิทํ สุตฺวา กาสิปติ, ธมฺมมตฺตนิ ปาลย;

ธตรฏฺฺจ มุฺจาหิ, หํสานํ ปวรุตฺตม’’นฺติ.

ตตฺถ อุปนีตสฺมินฺติ มรณสนฺติกํ อุปนีเต. กาลปริยายนฺติ มรณกาลวารํ สมฺปตฺตา สมานา น ภาสิสฺสาม. น หิ ธมฺมกถิกํ พนฺธิตฺวา มรณภเยน ตชฺเชตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติ, อยุตฺตํ เต กตนฺติ. มิเคนาติ สุฏฺุ สิกฺขาปิเตน ทีปกมิเคน. หนฺตีติ หนติ. ปกฺขินาติ ทีปกปกฺขินา. สุเตนาติ เขมํ นิพฺภยนฺติ วิสฺสุเตน ทีปกมิคปกฺขิสทิเสน ปทุมสเรน. สุตนฺติ ‘‘ปณฺฑิโต จิตฺรกถี’’ติ เอวํ สุตํ ธมฺมกถิกํ. กิณฺยาติ ‘‘ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ ปาสพนฺธเนน โย กิเณยฺย หึเสยฺย พาเธยฺย. ตโตติ เตสํ กิริยโต อุตฺตริ อฺํ อนริยตรํ นาม กิมตฺถิ.

อริยรุทนฺติ มุเขน อริยวจนํ สุนฺทรวจนํ ภาสติ. อนริยธมฺมวสฺสิโตติ กมฺเมน อนริยธมฺมํ อวสฺสิโต. อุโภติ เทวโลกา จ มนุสฺสโลกา จาติ อุภยมฺหา. อิธ เจวาติ อิธ อุปฺปนฺโนปิ ปรตฺถ อุปฺปนฺโนปิ เอวรูโป ทฺวีหิ สุคติโลเกหิ ธํสิตฺวา นิรยเมว อุปปชฺชติ. ปตฺตสํสยนฺติ ชีวิตสํสยมาปนฺนมฺปิ ทุกฺขํ ปตฺวา น กิลเมยฺย. สํวเร วิวรานิ จาติ อตฺตโน ฉิทฺทานิ ทฺวารานิ สํวเรยฺย ปิทเหยฺย. วุทฺธาติ คุณวุทฺธา ปณฺฑิตา. อพฺภติกฺกนฺตาติ อิมํ มนุสฺสโลกํ อติกฺกนฺตา. กาลปริยายนฺติ มรณกาลปริยายํ ปตฺตา หุตฺวา. เอวํเตติ เอวํ เอเต. อิทนฺติ อิทํ มยา วุตฺตํ อตฺถนิสฺสิตํ วจนํ. ธมฺมนฺติ ปเวณิยธมฺมมฺปิ สุจริตธมฺมมฺปิ.

ตํ สุตฺวา ราชา อาห –

๑๕๗.

‘‘อาหรนฺตุทกํ ปชฺชํ, อาสนฺจ มหารหํ;

ปฺชรโต ปโมกฺขามิ, ธตรฏฺํ ยสสฺสินํ.

๑๕๘.

‘‘ตฺจ เสนาปตึ ธีรํ, นิปุณํ อตฺถจินฺตกํ;

โย สุเข สุขิโต รฺโ, ทุกฺขิเต โหติ ทุกฺขิโต.

๑๕๙.

‘‘เอทิโส โข อรหติ, ปิณฺฑมสฺนาตุ ภตฺตุโน;

ยถายํ สุมุโข รฺโ, ปาณสาธารโณ สขา’’ติ.

ตตฺถ อุทกนฺติ ปาทโธวนํ. ปชฺชนฺติ ปาทพฺภฺชนํ. สุเขติ สุขมฺหิ สติ.

รฺโ วจนํ สุตฺวา เตสํ อาสนานิ อาหริตฺวา ตตฺถ นิสินฺนานํ คนฺโธทเกน ปาเท โธวิตฺวา สตปาเกน เตเลน อพฺภฺชึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๐.

‘‘ปีฺจ สพฺพโสวณฺณํ, อฏฺปาทํ มโนรมํ;

มฏฺํ กาสิกมตฺถนฺนํ, ธตรฏฺโ อุปาวิสิ.

๑๖๑.

‘‘โกจฺฉฺจ สพฺพโสวณฺณํ, เวยฺยคฺฆปริสิพฺพิตํ;

สุมุโข อชฺฌุปาเวกฺขิ, ธตรฏฺสฺสนนฺตรา.

๑๖๒.

‘‘เตสํ กฺจนปตฺตหิ, ปุถู อาทาย กาสิโย;

หํสานํ อภิหาเรสุ, อคฺครฺโ ปวาสิต’’นฺติ.

ตตฺถ มฏฺนฺติ กรณปรินิฏฺิตํ. กาสิกมตฺถนฺนนฺติ กาสิกวตฺเถน อตฺถตํ. โกจฺฉนฺติ มชฺเฌ สํขิตฺตํ. เวยฺยคฺฆปริสิพฺพิตนฺติ พฺยคฺฆจมฺมปริสิพฺพิตํ มงฺคลทิวเส อคฺคมเหสิยา นิสินฺนปีํ. กฺจนปตฺเตหีติ สุวณฺณภาชเนหิ. ปุถูติ พหู ชนา. กาสิโยติ กาสิรฏฺวาสิโน. อภิหาเรสุนฺติ อุปนาเมสุํ. อคฺครฺโ ปวาสิตนฺติ อฏฺสตปลสุวณฺณปาติปริกฺขิตฺตํ หํสรฺโ ปณฺณาการตฺถาย กาสิรฺา เปสิตํ นานคฺครสโภชนํ.

เอวํ อุปนีเต ปน ตสฺมึ กาสิราชา เตสํ สมฺปคฺคหตฺถํ สยํ สุวณฺณปาตึ คเหตฺวา อุปนาเมสิ. เต ตโต มธุลาเช ขาทิตฺวา มธุโรทกฺจ ปิวึสุ. อถ มหาสตฺโต รฺโ อภิหารฺจ ปสาทฺจ ทิสฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๓.

‘‘ทิสฺวา อภิหฏํ อคฺคํ, กาสิราเชน เปสิตํ;

กุสโล ขตฺตธมฺมานํ, ตโต ปุจฺฉิ อนนฺตรา.

๑๖๔.

‘‘กจฺจินฺนุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;

กจฺจิ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสสิ.

๑๖๕.

‘‘กุสลฺเจว เม หํส, อโถ หํส อนามยํ;

อโถ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสหํ.

๑๖๖.

‘‘กจฺจิ โภโต อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

กจฺจิ จ เต ตวตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๑๖๗.

‘‘อโถปิ เม อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

อโถปิ เต มมตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๑๖๘.

‘‘กจฺจิ เต สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, ตว ฉนฺทวสานุคา.

๑๖๙.

‘‘อโถ เม สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, มม ฉนฺทวสานุคา.

๑๗๐.

‘‘กจฺจิ รฏฺํ อนุปฺปีฬํ, อกุโตจิอุปทฺทวํ;

อสาหเสน ธมฺเมน, สเมน มนุสาสสิ.

๑๗๑.

‘‘อโถ รฏฺํ อนุปฺปีฬํ, อกุโตจิอุปทฺทวํ;

อสาหเสน ธมฺเมน, สเมน มนุสาสหํ.

๑๗๒.

‘‘กจฺจิ สนฺโต อปจิตา, อสนฺโต ปริวชฺชิตา;

โน เจ ธมฺมํ นิรํกตฺวา, อธมฺมมนุวตฺตสิ.

๑๗๓.

‘‘สนฺโต จ เม อปจิตา, อสนฺโต ปริวชฺชิตา;

ธมฺมเมวานุวตฺตามิ, อธมฺโม เม นิรํกโต.

๑๗๔.

‘‘กจฺจิ นานาคตํ ทีฆํ, สมเวกฺขสิ ขตฺติย;

กจฺจิมตฺโต มทนีเย, ปรโลกํ น สนฺตสิ.

๑๗๕.

‘‘นาหํ อนาคตํ ทีฆํ, สมเวกฺขามิ ปกฺขิม;

ิโต ทสสุ ธมฺเมสุ, ปรโลกํ น สนฺตเส.

๑๗๖.

‘‘ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;

อกฺโกธํ อวิหึสฺจ, ขนฺติฺจ อวิโรธนํ.

๑๗๗.

‘‘อิจฺเจเต กุสเล ธมฺเม, ิเต ปสฺสามิ อตฺตนิ;

ตโต เม ชายเต ปีติ, สามนสฺสฺจนปฺปกํ.

๑๗๘.

‘‘สุมุโข จ อจินฺเตตฺวา, วิสชฺชิ ผรุสํ คิรํ;

ภาวโทสมนฺาย, อสฺมากายํ วิหงฺคโม.

๑๗๙.

‘‘โส กุทฺโธ ผรุสํ วาจํ, นิจฺฉาเรสิ อโยนิโส;

ยานสฺเมสุ น วิชฺชนฺติ, นยิทํ ปฺวตามิวา’’ติ.

ตตฺถ ทิสฺวาติ ตํ พหุํ อคฺคปานโภชนํ ทิสฺวา. เปสิตนฺติ อาหราเปตฺวา อุปนีตํ. ขตฺตธมฺมานนฺติ ปมการเณสุ ปฏิสนฺถารธมฺมานํ. ตโต ปุจฺฉิ อนนฺตราติ ตสฺมึ กาเล ‘‘กจฺจิ นุ, โภโต’’ติ อนุปฏิปาฏิยา ปุจฺฉิ. ตา ปเนตา ฉ คาถา เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. อนุปฺปีฬนฺติ กจฺจิ รฏฺวาสิโน ยนฺเต อุจฺฉุํ วิย น ปีเฬสีติ ปุจฺฉติ. อกุโตจิอุปทฺทวนฺติ กุโตจิ อนุปทฺทวํ. ธมฺเมน สเมน มนุสาสสีติ กจฺจิ ตว รฏฺํ ธมฺเมน สเมน อนุสาสสิ. สนฺโตติ สีลาทิคุณสํยุตฺตา สปฺปุริสา. นิรํกตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. นานาคตํ ทีฆนฺติ อนาคตํ อตฺตโน ชีวิตปวตฺตึ ‘‘กจฺจิ ทีฆ’’นฺติ น สมเวกฺขสิ, อายุสงฺขารานํ ปริตฺตภาวํ ชานาสีติ ปุจฺฉติ. มทนีเยติ มทารเห รูปาทิอารมฺมเณ. น สนฺตสีติ น ภายสิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กจฺจิ รูปาทีสุ กามคุเณสุ อมตฺโต อปฺปมตฺโต หุตฺวา ทานาทีนํ กุสลานํ กตตฺตา ปรโลกํ น ภายสีติ.

ทสสูติ ทสสุ ราชธมฺเมสุ. ทานาทีสุ ทสวตฺถุกา เจตนา ทานํ, ปฺจสีลทสสีลานิ สีลํ, เทยฺยธมฺมจาโค ปริจฺจาโค, อุชุภาโว อชฺชวํ, มุทุภาโว มทฺทวํ, อุโปสถกมฺมํ ตโป, เมตฺตาปุพฺพภาโค อกฺโกโธ, กรุณาปุพฺพภาโค อวิหึสา, อธิวาสนา ขนฺติ, อวิโรโธ อวิโรธนํ. อจินฺเตตฺวาติ มม อิมํ คุณสมฺปตฺตึ อจินฺเตตฺวา. ภาวโทสนฺติ จิตฺตโทสํ. อนฺายาติ อชานิตฺวา. อสฺมากฺหิ จิตฺตโทโส นาม นตฺถิ, ยเมส ชาเนยฺย, ตํ อชานิตฺวาว ผรุสํ กกฺขฬํ คิรํ วิสฺสชฺเชสิ. อโยนิโสติ อนุปาเยน. ยานสฺเมสูติ ยานิ วชฺชานิ อมฺเหสุ น วิชฺชนฺติ, ตานิ วทติ. นยิทนฺติ ตสฺมาสฺส อิทํ วจนํ ปฺวตํ อิว น โหติ, เตเนส มม น ปณฺฑิโต วิย อุปฏฺาติ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘มยา คุณสมฺปนฺโนว ราชา อปสาทิโต, โส เม กุทฺโธ, ขมาเปสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห –

๑๘๐.

‘‘อตฺถิ เม ตํ อติสารํ, เวเคน มนุชาธิป;

ธตรฏฺเ จ พทฺธสฺมึ, ทุกฺขํ เม วิปุลํ อหุ.

๑๘๑.

‘‘ตฺวํ โน ปิตาว ปุตฺตานํ, ภูตานํ ธรณีริว;

อสฺมากํ อธิปนฺนานํ, ขมสฺสุ ราชกุฺชรา’’ติ.

ตตฺถ อติสารนฺติ ปกฺขลิตํ. เวเคนาติ อหํ เอตํ กถํ กเถนฺโต เวเคน สหสา กเถสึ. ทุกฺขนฺติ เจตสิกํ ทุกฺขํ มม วิปุลํ อโหสิ, ตสฺมา โกธวเสน ยํ มยา วุตฺตํ, ตํ เม ขมถ, มหาราชาติ. ปุตฺตานนฺติ ตฺวํ อมฺหากํ ปุตฺตานํ ปิตา วิย. ธรณีริวาติ ปาณภูตานํ ปติฏฺา ปถวี วิย ตฺวํ อมฺหากํ อวสฺสโย. อธิปนฺนานนฺติ โทเสน อปราเธน อชฺโฌตฺถฏานํ ขมสฺสูติ อิทํ โส อาสนา โอรุยฺห ปกฺเขหิ อฺชลึ กตฺวา อาห.

อถ นํ ราชา อาลิงฺคิตฺวา อาทาย สุวณฺณปีเ นิสีทาเปตฺวา อจฺจยเทสนํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต อาห –

๑๘๒.

‘‘เอตํ เต อนุโมทาม, ยํ ภาวํ น นิคูหสิ;

ขิลํ ปภินฺทสิ ปกฺขิ, อุชุโกสิ วิหงฺคมา’’ติ.

ตตฺถ อนุโมทามาติ เอตํ เต โทสํ ขมาม. นฺติ ยสฺมา ตฺวํ อตฺตโน จิตฺตปฏิจฺฉนฺนภาวํ น นิคูหสิ. ขิลนฺติ จิตฺตขิลํ จิตฺตขาณุกํ.

อิทฺจ ปน วตฺวา ราชา มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถาย สุมุขสฺส จ อุชุภาเว ปสีทิตฺวา ‘‘ปสนฺเนน นาม ปสนฺนากาโร กาตพฺโพ’’ติ อุภินฺนมฺปิ เตสํ อตฺตโน รชฺชสิรึ นิยฺยาเทนฺโต อาห –

๑๘๓.

‘‘ยํ กิฺจิ รตนํ อตฺถิ, กาสิราชนิเวสเน;

รชตํ ชาตรูปฺจ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.

๑๘๔.

‘‘มณโย สงฺขมุตฺตา จ, วตฺถกํ หริจนฺทนํ;

อชินํ ทนฺตภณฺฑฺจ, โลหํ กาฬายสํ พหุํ;

เอตํ ททามิ โว วิตฺตํ, อิสฺสรํ วิสฺสชามิ โว’’ติ.

ตตฺถ มุตฺตาติ วิทฺธาวิทฺธมุตฺตา. มณโยติ มณิภณฺฑกานิ. สงฺขมุตฺตา จาติ ทกฺขิณาวฏฺฏสงฺขรตนฺจ อามลกวฏฺฏมุตฺตรตนฺจ. วตฺถกนฺติ สุขุมกาสิกวตฺถานิ. อชินนฺติ อชินมิคจมฺมํ. โลหํ กาฬายสนฺติ ตมฺพโลหฺจ กาฬโลหฺจ. อิสฺสรนฺติ กฺจนมาเลน เสตจฺฉตฺเตน สทฺธึ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร รชฺชํ.

เอวฺจ ปน วตฺวา อุโภปิ เต เสตจฺฉตฺเตน ปูเชตฺวา รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปสิ. อถ มหาสตฺโต รฺา สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๑๘๕.

‘‘อทฺธา อปจิตา ตฺยมฺหา, สกฺกตา จ รเถสภ;

ธมฺเมสุ วตฺตมานานํ, ตฺวํ โน อาจริโย ภว.

๑๘๖.

‘‘อาจริย มนุฺาตา, ตยา อนุมตา มยํ;

ตํ ปทกฺขิณโต กตฺวา, าตึ ปสฺเสมุรินฺทมา’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมสูติ กุสลกมฺมปถธมฺเมสุ. อาจริโยติ ตฺวํ อมฺเหหิ พฺยตฺตตโร, ตสฺมา โน อาจริโย โหติ, อปิจ ทสนฺนํ ราชธมฺมานํ กถิตตฺตา สุมุขสฺส โทสํ ทสฺเสตฺวา อจฺจยปฏิคฺคหณสฺส กตตฺตาปิ ตฺวํ อมฺหากํ อาจริโยว, ตสฺมา อิทานิปิ โน อาจารสิกฺขาปเนน อาจริโย ภวาติ อาห. ปสฺเสมุรินฺทมาติ ปสฺเสมุ อรินฺทม.

โส เตสํ คมนํ อนุชานิ, โพธิสตฺตสฺสปิ ธมฺมํ กเถนฺตสฺเสว อรุณํ อุฏฺหิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๘๗.

‘‘สพฺพรตฺตึ จินฺตยิตฺวา, มนฺตยิตฺวา ยถากถํ;

กาสิราชา อนุฺาสิ, หํสานํ ปวรุตฺตม’’นฺติ.

ตตฺถ ยถากถนฺติ ยํกิฺจิ อตฺถํ เตหิ สทฺธึ จินฺเตตพฺพํ มนฺเตตพฺพฺจ, สพฺพํ ตํ จินฺเตตฺวา จ มนฺเตตฺวา จาติ อตฺโถ. อนุฺาสีติ คจฺฉถาติ อนุฺาสิ.

เอวํ เตน อนุฺาโต โพธิสตฺโต ราชานํ ‘‘อปฺปมตฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหี’’ติ โอวทิตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. ราชา เตสํ กฺจนภาชเนหิ มธุลาชฺจ มธุโรทกฺจ อุปนาเมตฺวา นิฏฺิตาหารกิจฺเจ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา โพธิสตฺตํ สุวณฺณจงฺโกฏเกน สยํ อุกฺขิปิ, เขมา เทวี สุมุขํ อุกฺขิปิ. อถ เน สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา สูริยุคฺคมนเวลาย ‘‘คจฺฉถ สามิโน’’ติ วิสฺสชฺเชสุํ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๘๘.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

เปกฺขโต กาสิราชสฺส, ภวนา เต วิคาหิสุ’’นฺติ.

ตตฺถ วิคาหิสุนฺติ อากาสํ ปกฺขนฺทึสุ.

เตสุ มหาสตฺโต สุวณฺณจงฺโกฏกโต อุปฺปติตฺวา อากาเส ตฺวา ‘‘มา จินฺทยิ, มหาราช, อปฺปมตฺโต อมฺหากํ โอวาเท วตฺเตยฺยาสี’’ติ ราชานํ สมสฺสาเสตฺวา สุมุขํ อาทาย จิตฺตกูฏเมว คโต. ตานิปิ โข นวุติ หํสสหสฺสานิ กฺจนคุหโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพตตเล นิสินฺนานิ เต อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปริวาเรสุํ. เต าติคณปริวุตา จิตฺตกูฏตลํ ปวิสึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๘๙.

‘‘เต อโรเค อนุปฺปตฺเต, ทิสฺวาน ปรเม ทิเช;

เกกาติ มกรุํ หํสา, ปุถุสทฺโท อชายถ.

๑๙๐.

‘‘เต ปตีตา ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารวา;

สมนฺตา ปริกิรึสุ, อณฺฑชา ลทฺธปจฺจยา’’ติ.

เอวํ ปริวาเรตฺวา จ ปน เต หํสา ‘‘กถํ มุตฺโตสิ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉึสุ. มหาสตฺโต สุมุขํ นิสฺสาย มุตฺตภาวํ สํยมราชลุทฺทปุตฺเตหิ กตกมฺมฺจ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ตุฏฺา หํสคณา ‘‘สุมุโข เสนาปติ จ ราชา จ ลุทฺทปุตฺโต จ สุขิตา นิทฺทุกฺขา จิรํ ชีวนฺตู’’ติ อาหํสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๙๑.

‘‘เอวํ มิตฺตวตํ อตฺถา, สพฺเพ โหนฺติ ปทกฺขิณา;

หํสา ยถา ธตรฏฺา, าติสงฺฆมุปาคมุ’’นฺติ.

ตํ จูฬหํสชาตเก วุตฺตตฺถเมว.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท มมตฺถาย อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ลุทฺทปุตฺโต ฉนฺโน อโหสิ, เขมา เทวี, เขมา ภิกฺขุนี, ราชา สาริปุตฺโต, สุมุโข อานนฺโท, เสสปริสา พุทฺธปริสา, ธตรฏฺหํสราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาหํสชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๓๕] ๓. สุธาโภชนชาตกวณฺณนา

เนว กิณามิ นปิ วิกฺกิณามีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทานชฺฌาสยํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิยํ เอโก กุลปุตฺโต หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปพฺพชิตฺวา สีเลสุ ปริปูรการี ธุตงฺคคุณสมนฺนาคโต สพฺรหฺมจารีสุ ปวตฺตเมตฺตจิตฺโต ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ พุทฺธธมฺมสงฺฆุปฏฺาเน อปฺปมตฺโต อาจารสมฺปนฺโน ทานชฺฌาสโย อโหสิ. สารณียธมฺมปูรโก อตฺตนา ลทฺธํ ปฏิคฺคาหเกสุ วิชฺชมาเนสุ ฉินฺนภตฺโต หุตฺวาปิ เทติเยว, ตสฺมา ตสฺส ทานชฺฌาสยทานาภิรตภาโว ภิกฺขุสงฺเฆ ปากโฏ อโหสิ. อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ, ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม ภิกฺขุ ทานชฺฌาสโย ทานาภิรโต อตฺตนา ลทฺธํ ปสตมตฺตปานียมฺปิ โลภํ ฉินฺทิตฺวา สพฺรหฺมจารีนํ เทติ, โพธิสตฺตสฺเสวสฺส อชฺฌาสโย’’ติ. สตฺถา ตํ กถํ ทิพฺพาย โสตธาตุยา สุตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปุพฺเพ อทานสีโล มจฺฉรี ติณคฺเคน เตลพินฺทุมฺปิ อทาตา อโหสิ, อถ นํ อหํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทานผลํ วณฺเณตฺวา ทาเน ปติฏฺาเปสึ, โส ‘ปสตมตฺตํ อุทกมฺปิ ลภิตฺวา อทตฺวา น ปิวิสฺสามี’ติ มม สนฺติเก วรํ อคฺคเหสิ, ตสฺส ผเลน ทานชฺฌาสโย ทานาภิรโต ชาโต’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก คหปติ อฑฺโฒ อโหสิ อสีติโกฏิวิภโว. อถสฺส ราชา เสฏฺิฏฺานํ อทาสิ. โส ราชปูชิโต นาครชานปทปูชิโต หุตฺวา เอกทิวสํ อตฺตโน สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ยโส มยา อตีตภเว เนว นิทฺทายนฺเตน, น กายทุจฺจริตาทีนิ กโรนฺเตน ลทฺโธ, สุจริตานิ ปน ปูเรตฺวา ลทฺโธ, อนาคเตปิ มยา มม ปติฏฺํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, มม ฆเร อสีติโกฏิธนํ อตฺถิ, ตํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา ‘‘น มยฺหํ ตว ธเนนตฺโถ, พหุํ เม ธนํ, อิโตปิ ยทิจฺฉสิ, ตํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ นุ, เทว, มม ธนํ ทาตุํ ลภามี’’ติ อาห. อถ รฺา ‘‘ยถารุจิ กโรหี’’ติ วุตฺเต จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสปริจฺจาคํ กโรนฺโต มหาทานํ ปวตฺเตสิ. โส ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา ‘‘อิมํ มม ทานวํสํ มา อุปจฺฉินฺทถา’’ติ ปุตฺเต อนุสาสิตฺวา ชีวิตปริโยสาเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ปุตฺโตปิสฺส ตเถว ทานํ ทตฺวา จนฺโท หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต มาตลิ หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปน ปุตฺโต ฉฏฺโ เสฏฺิฏฺานํ ลทฺธา มจฺฉริยโกสิโย นาม อโหสิ อสีติโกฏิวิภโวเยว. โส ‘‘มม ปิตุปิตามหา พาลา อเหสุํ, ทุกฺเขน สมฺภตํ ธนํ ฉฑฺเฑสุํ, อหํ ปน ธนํ รกฺขิสฺสามิ, กสฺสจิ กิฺจิ น ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทานสาลา วิทฺธํเสตฺวา อคฺคินา ฌาเปตฺวา ถทฺธมจฺฉรี อโหสิ.

อถสฺส เคหทฺวาเร ยาจกา สนฺนิปติตฺวา พาหา ปคฺคยฺห, ‘‘มหาเสฏฺิ, มา อตฺตโน ปิตุปิตามหานํ ทานวํสํ นาสยิ, ทานํ เทหี’’ติ มหาสทฺเทน ปริเทวึสุ. ตํ สุตฺวา มหาชโน ‘‘มจฺฉริยโกสิเยน อตฺตโน ทานวํโส อุปจฺฉินฺโน’’ติ ตํ ครหิ. โส ลชฺชิโต นิเวสนทฺวาเร ยาจกานํ อาคตาคตฏฺานํ นิวาเรตุํ อารกฺขํ เปสิ. เต นิปฺปจฺจยา หุตฺวา ปุน ตสฺส เคหทฺวารํ น โอโลเกสุํ. โส ตโต ปฏฺาย ธนเมว สํหรติ, เนว อตฺตนา ปริภุฺชติ, น ปุตฺตทาราทีนํ เทติ, กฺชิกพิลงฺคทุติยํ สกุณฺฑกภตฺตํ ภุฺชติ, มูลผลมตฺตตนฺตานิ ถูลวตฺถานิ นิวาเสติ, ปณฺณฉตฺตํ มตฺถเก ธาเรตฺวา ชรคฺโคณยุตฺเตน ชชฺชรรถเกน ยาติ. อิติ ตสฺส อสปฺปุริสสฺส ตตฺตกํ ธนํ สุนเขน ลทฺธํ นาฬิเกรํ วิย อโหสิ.

โส เอกทิวสํ ราชูปฏฺานํ คจฺฉนฺโต ‘‘อนุเสฏฺึ อาทาย คมิสฺสามี’’ติ ตสฺส เคหํ อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ อนุเสฏฺิ ปุตฺตธีตาทีหิ ปริวุโต นวสปฺปิปกฺกมธุสกฺขรจุณฺเณหิ สงฺขตํ ปายาสํ ภุฺชมาโน นิสินฺโน โหติ. โส มจฺฉริยโกสิยํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาย ‘‘เอหิ, มหาเสฏฺิ, อิมสฺมึ ปลฺลงฺเก นิสีท, ปายาสํ ภุฺชิสฺสามา’’ติ อาห. ตสฺส ปายาสํ ทิสฺวาว มุเข เขฬา อุปฺปชฺชิ, ภุฺชิตุกาโม อโหสิ, เอวํ ปน จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ ภุฺชิสฺสามิ, อนุเสฏฺิโน มม เคหํ อาคตกาเล ปฏิสกฺกาโร กาตพฺโพ ภวิสฺสติ, เอวํ เม ธนํ นสฺสิสฺสติ, น ภุฺชิสฺสามี’’ติ. อถ ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโนปิ ‘‘อิทานิ เม ภุตฺตํ, สุหิโตสฺมี’’ติ น อิจฺฉิ. อนุเสฏฺิมฺหิ ภุฺชนฺเต ปน โอโลเกนฺโต มุเข สฺชายมาเนน เขเฬน นิสีทิตฺวา ตสฺส ภตฺตกิจฺจาวสาเน เตน สทฺธึ ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา ราชานํ ปสฺสิตฺวา ราชนิเวสนโต โอตริตฺวา อตฺตโน เคหํ อนุปฺปตฺโต ปายาสตณฺหาย ปีฬิยมาโน จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ ‘ปายาสํ ภุฺชิตุกาโมมฺหี’ติ วกฺขามิ, มหาชโน ภุฺชิตุกาโม ภวิสฺสติ, พหู ตณฺฑุลาทโย นสฺสิสฺสนฺติ, น กสฺสจิ กเถสฺสามี’’ติ. โส รตฺตินฺทิวํ ปายาสเมว จินฺเตนฺโต วีตินาเมตฺวาปิ ธนนาสนภเยน กสฺสจิ อกเถตฺวาว ปิปาสํ อธิวาเสสิ, อนุกฺกเมน อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต อโหสิ. เอวํ สนฺเตปิ ธนนาสนภเยน อกเถนฺโต อปรภาเค ทุพฺพโล หุตฺวา สยนํ อุปคูหิตฺวา นิปชฺชิ.

อถ นํ ภริยา อุปคนฺตฺวา หตฺเถน ปิฏฺึ ปริมชฺชมานา ‘‘กึ เต, สามิ, อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตเวว สรีเร อผาสุกํ กโรหิ, มม อผาสุกํ นตฺถี’’ติ. ‘‘สามิ, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโตสิ, กึ นุ เต กาจิ จินฺตา อตฺถิ, อุทาหุ ราชา เต กุปิโต, อทุ ปุตฺเตหิ อวมาโน กโต, อถ วา ปน กาจิ ตณฺหา อุปฺปนฺนา’’ติ? ‘‘อาม, ตณฺหา เม อุปฺปนฺนา’’ติ. ‘‘กเถหิ, สามี’’ติ? ‘‘กเถสฺสามิ, สกฺขิสฺสสิ นํ รกฺขิตุ’’นฺติ. ‘‘รกฺขิตพฺพยุตฺตกา เจ, รกฺขิสฺสามี’’ติ. เอวมฺปิ ธนนาสนภเยน กเถตุํ น อุสฺสหิ. ตาย ปุนปฺปุนํ ปีฬิยมาโน กเถสิ – ‘‘ภทฺเท, อหํ เอกทิวสํ อนุเสฏฺึ นวสปฺปิมธุสกฺขรจุณฺเณหิ สงฺขตํ ปายาสํ ภุฺชนฺตํ ทิสฺวา ตโต ปฏฺาย ตาทิสํ ปายาสํ ภุฺชิตุกาโม ชาโต’’ติ. ‘‘อสปฺปุริส, กึ ตฺวํ ทุคฺคโต, สกลมาราณสิวาสีนํ ปโหนกํ ปายาสํ ปจิสฺสามี’’ติ. อถสฺส สีเส ทณฺเฑน ปหรณกาโล วิย อโหสิ. โส ตสฺสา กุชฺฌิตฺวา ‘‘ชานามหํ ตว มหทฺธนภาวํ, สเจ เต กุลฆรา อาภตํ อตฺถิ, ปายาสํ ปจิตฺวา นาครานํ เทหี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ เอกวีถิวาสีนํ ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตหิ, อตฺตโน ปน สนฺตกํ ขาทนฺตู’’ติ? ‘‘เตน หิ อิโต จิโต จ สตฺตสตฺตฆรวาสีนํ ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตหี’’ติ. ‘‘เตน หิ อิมสฺมึ เคเห ปริชนสฺสา’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตนา’’ติ? ‘‘เตน หิ พนฺธุชนสฺเสว ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตนา’’ติ? ‘‘เตน หิ ตุยฺหฺจ มยฺหฺจ ปจามิ สามี’’ติ. ‘‘กาสิ ตฺวํ, น ตุยฺหํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เตน หิ เอกสฺเสว เต ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘มยฺหฺจ ตฺวํ มา ปจิ, เคเห ปน ปจนฺเต พหู ปจฺจาสีสนฺติ, มยฺหํ ปน ปตฺถํ ตณฺฑุลานํ จตุภาคํ ขีรสฺส อจฺฉรํ สกฺขราย กรณฺฑกํ สปฺปิสฺส กรณฺฑกํ มธุสฺส เอกฺจ ปจนภาชนํ เทหิ, อหํ อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปจิตฺวา ภุฺชามี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. โส ตํ สพฺพํ เจฏเกน คาหาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ อสุกฏฺาเน ติฏฺาหี’’ติ ตํ ปุรโต เปเสตฺวา เอกโกว โอคุณฺิกํ กตฺวา อฺาตกเวเสน ตตฺถ คนฺตฺวา นทีตีเร เอกสฺมึ คจฺฉมูเล อุทฺธนํ กาเรตฺวา ทารุทกํ อาหราเปตฺวา ‘‘ตฺวํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ มคฺเค ตฺวา กฺจิเทว ทิสฺวา มม สฺํ ทเทยฺยาสิ, มยา ปกฺโกสิตกาเลว อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ ตํ เปเสตฺวา อคฺคึ กตฺวา ปายาสํ ปจิ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺโก เทวราชา ทสสหสฺสโยชนํ อลงฺกตเทวนครํ, สฏฺิโยชนํ สุวณฺณวีถึ, โยชนสหสฺสุพฺเพธํ เวชยนฺตํ, ปฺจโยชนสติกํ สุธมฺมสภํ, สฏฺิโยชนํ ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ, ปฺจโยชนาวฏฺฏํ กฺจนมาลเสตจฺฉตฺตํ, อฑฺฒเตยฺยโกฏิสงฺขา เทวจฺฉรา, อลงฺกตปฏิยตฺตํ อตฺตภาวนฺติ อิมํ อตฺตโน สิรึ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ นุ โข กตฺวา มยา อยํ ยโส ลทฺโธ’’ติ จินฺเตตฺวา พาราณสิยํ เสฏฺิภูเตน ปวตฺติตํ ทานํ อทฺทส. ตโต ‘‘มม ปุตฺตาทโย กุหึ นิพฺพตฺตา’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘ปุตฺโต เม จนฺโท เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย, ตสฺส ปุตฺโต, มาตลิ, ตสฺส ปุตฺโต, ปฺจสิโข’’ติ สพฺเพสํ นิพฺพตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ปฺจสิขสฺส ปุตฺโต กีทิโส’’ติ โอโลเกนฺโต อตฺตโน วํสสฺส อุปจฺฉินฺนภาวํ ปสฺสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ อสปฺปุริโส มจฺฉรี หุตฺวา เนว อตฺตนา ปริภุฺชติ, น ปเรสํ เทติ, มม วํโส เตน อุปจฺฉินฺโน, กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, โอวาทมสฺส ทตฺวา มม วํสํ ปติฏฺาเปตฺวา เอตสฺส อิมสฺมึ เทวนคเร นิพฺพตฺตนาการํ กริสฺสามี’’ติ. โส จนฺทาทโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอถ มนุสฺสปถํ คมิสฺสาม, มจฺฉริยโกสิเยน อมฺหากํ วํโส อุปจฺฉินฺโน, ทานสาลา ฌาปิตา, เนว อตฺตนา ปริภุฺชติ, น ปเรสํ เทติ, อิทานิ ปน ปายาสํ ภุฺชิตุกาโม หุตฺวา ‘ฆเร ปจฺจนฺเต อฺสฺสปิ ปายาโส ทาตพฺโพ ภวิสฺสตี’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา เอกโกว ปจติ, เอตํ ทเมตฺวา ทานผลํ ชานาเปตฺวา อาคมิสฺสาม, อปิจ โข ปน อมฺเหหิ สพฺเพหิ เอกโต ยาจิยมาโน ตตฺเถว มเรยฺย. มม ปมํ คนฺตฺวา ปายาสํ ยาจิตฺวา นิสินฺนกาเล ตุมฺเห พฺราหฺมณวณฺเณน ปฏิปาฏิยา อาคนฺตฺวา ยาเจยฺยาถา’’ติ วตฺวา สยํ ตาว พฺราหฺมณวณฺเณน ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘โภ, กตโร พาราณสิคมนมคฺโค’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ มจฺฉริยโกสิโย ‘‘กึ อุมฺมตฺตโกสิ, พาราณสิมคฺคมฺปิ น ชานาสิ, กึ อิโต เอสิ, เอตฺโต ยาหี’’ติ อาห.

สกฺโก ตสฺส วจนํ สุตฺวา อสุณนฺโต วิย ‘‘กึ กเถสี’’ติ ตํ อุปคจฺฉเตว. โสปิ, ‘‘อเร, พธิร พฺราหฺมณ, กึ อิโต เอสิ, ปุรโต ยาหี’’ติ วิรวิ. อถ นํ สกฺโก, ‘‘โภ, กสฺมา วิรวสิ, ธูโม ปฺายติ, อคฺคิ ปฺายติ, ปายาโส ปจฺจติ, พฺราหฺมณานํ นิมนฺตนฏฺาเนน ภวิตพฺพํ, อหมฺปิ พฺราหฺมณานํ โภชนกาเล โถกํ ลภิสฺสามิ, กึ มํ นิจฺฉุภสี’’ติ วตฺวา ‘‘นตฺเถตฺถ พฺราหฺมณานํ นิมนฺตนํ, ปุรโต ยาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ กสฺมา กุชฺฌสิ, ตว โภชนกาเล โถกํ ลภิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘อหํ เต เอกสิตฺถมฺปิ น ทสฺสามิ, โถกํ อิทํ มม ยาปนมตฺตเมว, มยาปิ เจตํ ยาจิตฺวาว ลทฺธํ, ตฺวํ อฺโต อาหารํ ปริเยสาหี’’ติ วตฺวา ภริยํ ยาจิตฺวา ลทฺธภาวํ สนฺธาเยว วตฺวา คาถมาห –

๑๙๒.

‘‘เนว กิณามิ นปิ วิกฺกิณามิ, น จาปิ เม สนฺนิจโย จ อตฺถิ;

สุกิจฺฉรูปํ วติทํ ปริตฺตํ, ปตฺโถทโน นาลมยํ ทุวินฺน’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘อหมฺปิ เต มธุรสทฺเทน เอกํ สิโลกํ กเถสฺสามิ, ตํ สุณาหี’’ติ วตฺวา ‘‘น เม ตว สิโลเกน อตฺโถ’’ติ ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๑๙๓.

‘‘อปฺปมฺหา อปฺปกํ ทชฺชา, อนุมชฺฌโต มชฺฌกํ;

พหุมฺหา พหุกํ ทชฺชา, อทานํ นูปปชฺชติ.

๑๙๔.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตตฺถ อนุมชฺฌโต มชฺฌกนฺติ อปฺปมตฺตกมฺปิ มชฺเฌ เฉตฺวา ทฺเว โกฏฺาเส กริตฺวา เอกํ โกฏฺาสํ ทตฺวา ตโต อวเสสโต อนุมชฺฌโตปิ ปุน มชฺเฌ เฉตฺวา เอโก โกฏฺาโส ทาตพฺโพเยว. อทานํ นูปปชฺชตีติ อปฺปํ วา พหุํ วา ทินฺนํ โหตุ, อทานํ นาม น โหติ, ตมฺปิ ทานเมว มหปฺผลเมว.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘มนาปํ เต, พฺราหฺมณ, กถิตํ, ปายาเส ปกฺเก โถกํ ลภิสฺสสิ, นิสีทาหี’’ติ อาห. สกฺโก เอกมนฺเต นิสีทิ. ตสฺมึ นิสินฺเน จนฺโท เตเนว นิยาเมน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๑๙๕.

‘‘โมฆฺจสฺส หุตํ โหติ, โมฆฺจาปิ สมีหิตํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เอโก ภุฺชติ โภชนํ.

๑๙๖.

ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตตฺถ สมีหิตนฺติ ธนุปฺปาทนวีริยํ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โส คนฺตฺวา สกฺกสฺส สนฺติเก นิสีทิ. ตโต สูริโย เตเนว นเยน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๑๙๗.

‘‘สจฺจฺจสฺส หุตํ โหติ, สจฺจฺจาปิ สมีหิตํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เนโก ภุฺชติ โภชนํ.

๑๙๘.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตสฺสปิ วจนํ สุตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โส คนฺตฺวา จนฺทสฺส สนฺติเก นิสีทิ. อถ นํ มาตลิ เตเนว นเยน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว อิมา คาถา อภาสิ –

๑๙๙.

‘‘สรฺจ ชุหติ โปโส, พหุกาย คยาย จ;

โทเณ ติมฺพรุติตฺถสฺมึ, สีฆโสเต มหาวเห.

๒๐๐.

‘‘อตฺร จสฺส หุตํ โหติ, อตฺร จสฺส สมีหิตํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เนโก ภุฺชติ โภชนํ.

๒๐๑.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตาสํ อตฺโถ – โย ปุริโส ‘‘นาคยกฺขาทีนํ พลิกมฺมํ กโรมี’’ติ สมุทฺทโสณฺฑิโปกฺขรณีอาทีสุ ยํ กิฺจิ สรฺจ อุปคนฺตฺวา ชุหติ, ตตฺถ พลิกมฺมํ กโรติ, ตถา พหุกาย นทิยา คยาย โปกฺขรณิยา โทณนามเก จ ติมฺพรุนามเก จ ติตฺเถ สีฆโสเต มหนฺเต วาริวเห. อตฺร จสฺสาติ ยทิ อตฺราปิ เอเตสุ สราทีสุ อสฺส ปุริสสฺส หุตฺเจว สมีหิตฺจ โหติ, สผลํ สุขุทฺรยํ สมฺปชฺชติ. อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ เนโก ภุฺชติ โภชนํ, เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, เตน ตํ วทามิ – โกสิย, ทานานิ จ เทหิ, สยฺจ ภุฺช, อริยานํ ทานาภิรตานํ พุทฺธาทีนํ มคฺคํ อภิรุห. น หิ เอกาสี เอโกว ภุฺชมาโน สุขํ นาม ลภตีติ.

โส ตสฺสปิ วจนํ สุตฺวา ปพฺพตกูเฏน โอตฺถโฏ วิย กิจฺเฉน กสิเรน ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. มาตลิ คนฺตฺวา สูริยสฺส สนฺติเก นิสีทิ. ตโต ปฺจสิโข เตเนว นเยน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๒๐๒.

‘‘พฬิสฺหิ โส นิคิลติ, ทีฆสุตฺตํ สพนฺธนํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เอโก ภุฺชติ โภชนํ.

๒๐๓.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

มจฺฉริยโกสิโย ตํ สุตฺวา ทุกฺขเวทโน นิตฺถุนนฺโต ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. ปฺจสิโข คนฺตฺวา มาตลิสฺส สนฺติเก นิสีทิ. อิติ เตสุ ปฺจสุ พฺราหฺมเณสุ นิสินฺนมตฺเตสฺเวว ปายาโส ปจฺจิ. อถ นํ โกสิโย อุทฺธนา โอตาเรตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตานิ อาหรถา’’ติ อาห. เต อนุฏฺาย ยถานิสินฺนาว หตฺเถ ปสาเรตฺวา หิมวนฺตโต มาลุวปตฺตานิ อาหรึสุ. โกสิโย ตานิ ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เอเตสุ ปตฺเตสุ ทาตพฺพปายาโส นตฺถิ, ขทิราทีนํ ปตฺตานิ อาหรถา’’ติ อาห. เต ตานิปิ อาหรึสุ. เอเกกํ ปตฺตํ โยธผลกปฺปมาณํ อโหสิ. โส สพฺเพสํ ทพฺพิยา ปายาสํ อทาสิ, สพฺพนฺติมสฺส ทานกาเลปิ อุกฺขลิยา อูนํ น ปฺายิ, ปฺจนฺนมฺปิ ทตฺวา สยํ อุกฺขลึ คเหตฺวา นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ ปฺจสิโข อุฏฺาย อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สุนโข หุตฺวา เตสํ ปุรโต ปสฺสาวํ กโรนฺโต อคมาสิ. พฺราหฺมณา อตฺตโน ปายาสํ ปตฺเตน ปิทหึสุ. โกสิยสฺส หตฺถปิฏฺเ ปสฺสาวพินฺทุ ปติ. พฺราหฺมณา กุณฺฑิกาหิ อุทกํ คเหตฺวา ปายาสํ อพฺภุกิริตฺวา ภุฺชมานา วิย อเหสุํ. โกสิโย ‘‘มยฺหมฺปิ อุทกํ เทถ, หตฺถํ โธวิตฺวา ภุฺชิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ตว อุทกํ อาหริตฺวา หตฺถํ โธวา’’ติ. ‘‘มยา ตุมฺหากํ ปายาโส ทินฺโน, มยฺหํ โถกํ อุทกํ เทถา’’ติ. ‘‘มยํ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑกมฺมํ นาม น กโรมา’’ติ. ‘‘เตน หิ อิมํ อุกฺขลึ โอโลเกถ, หตฺถํ โธวิตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ นทึ โอตริ. ตสฺมึ ขเณ สุนโข อุกฺขลึ ปสฺสาวสฺส ปูเรสิ. โส ตํ ปสฺสาวํ กโรนฺตํ ทิสฺวา มหนฺตํ ทณฺฑมาทาย ตํ ตชฺเชนฺโต อาคจฺฉิ. โส อสฺสาชานียมตฺโต หุตฺวา ตํ อนุพนฺธนฺโต นานาวณฺโณ อโหสิ, กาโฬปิ โหติ เสโตปิ สุวณฺณวณฺโณปิ กพโรปิ อุจฺโจปิ นีโจปิ, เอวํ นานาวณฺโณ หุตฺวา มจฺฉริยโกสิยํ อนุพนฺธิ. โส มรณภยภีโต พฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิ. เตปิ อุปฺปติตฺวา อากาเส ิตา. โส เตสํ ตํ อิทฺธึ ทิสฺวา คาถมาห –

๒๐๔.

‘‘อุฬารวณฺณา วต พฺราหฺมณา อิเม, อยฺจ โว สุนโข กิสฺส เหตุ;

อุจฺจาวจํ วณฺณนิภํ วิกุพฺพติ, อกฺขาถ โน พฺราหฺมณา เก นุ ตุมฺเห’’ติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก เทวราชา –

๒๐๕.

‘‘จนฺโท จ สูริโย จ อุโภ อิธาคตา, อยํ ปน มาตลิ เทวสารถิ;

สกฺโกหมสฺมิ ติทสานมินฺโท; เอโส จ โข ปฺจสิโขติ วุจฺจตี’’ติ.

คาถํ วตฺวา ตสฺส ยสํ วณฺเณนฺโต คาถมาห –

๒๐๖.

‘‘ปาณิสฺสรา มุทิงฺคา จ, มุรชาลมฺพรานิ จ;

สุตฺตเมนํ ปโพเธนฺติ, ปฏิพุทฺโธ จ นนฺทตี’’ติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สกฺก, เอวรูปํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ กินฺติ กตฺวา ลภสี’’ติ ปุจฺฉิ. สกฺโก ‘‘อทานสีลา ตาว ปาปธมฺมา มจฺฉริโน เทวโลกํ น คจฺฉนฺติ, นิรเย นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ ทสฺเสนฺโต –

๒๐๗.

‘‘เย เกจิเม มจฺฉริโน กทริยา, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;

อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺตี’’ติ. –

อิมํ คาถํ วตฺวา ธมฺเม ิตานํ เทวโลกปฏิลาภํ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๒๐๘.

‘‘เย เกจิเม สุคฺคติมาสมานา, ธมฺเม ิตา สํยเม สํวิภาเค;

อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อาสมานาติ อาสีสนฺตา. เย เกจิ สุคตึ อาสีสนฺติ, สพฺเพ เต สํยมสงฺขาเต ทสสีลธมฺเม สํวิภาคสงฺขาเต ทานธมฺเม จ ิตา หุตฺวา อิธ สรีรสงฺขาตํ เทหํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺตีติ อตฺโถ.

เอวํ วตฺวา จ ปน, ‘‘โกสิย, น มยํ ตว สนฺติเก ปายาสตฺถาย อาคตา, การุฺเน ปน ตํ อนุกมฺปมานา อาคตามฺหา’’ติ ตสฺส ปกาเสตุํ อาห –

๒๐๙.

‘‘ตฺวํ โนสิ าติ ปุริมาสุ ชาติสุ, โส มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม;

ตเวว อตฺถาย อิธาคตมฺหา, มา ปาปธมฺโม นิรยํ คมิตฺถา’’ติ.

ตตฺถ โสติ โส ตฺวํ. มา ปาปธมฺโมติ อยํ อมฺหากํ าติ ปาปธมฺโม มา นิรยํ อคมาติ เอตทตฺถํ อาคตมฺหาติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา โกสิโย ‘‘อตฺถกามา กิร เม, เอเต มํ นิรยา อุทฺธริตฺวา สคฺเค ปติฏฺาเปตุกามา’’ติ ตุฏฺจิตฺโต อาห –

๒๑๐.

‘‘อทฺธา มํ โว หิตกามา, ยํ มํ สมนุสาสถ;

โสหํ ตถา กริสฺสามิ, สพฺพํ วุตฺตํ หิเตสิภิ.

๒๑๑.

‘‘เอสาหมชฺเชว อุปรมามิ, น จาหํ กิฺจิ กเรยฺย ปาปํ;

จาปิ เม กิฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, น จาปิทตฺวา อุทกํ ปิวามิ.

๒๑๒.

‘‘เอวฺจ เม ททโต สพฺพกาลํ, โภคา อิเม วาสว ขียิสฺสนฺติ;

ตโต อหํ ปพฺพชิสฺสามิ สกฺก, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานี’’ติ.

ตตฺถ นฺติ มม. โวติ ตุมฺเห. ยํ มนฺติ เยน มํ สมนุสาสถ, เตน เม ตุมฺเห หิตกามา. ตถาติ ยถา วทถ, ตเถว กริสฺสามิ. อุปรมามีติ มจฺฉริภาวโต อุปรมามิ. อเทยฺยมตฺถีติ อิโต ปฏฺาย จ มม อาโลปโต อุปฑฺฒมฺปิ อเทยฺยํ นาม นตฺถิ, น จาปิทตฺวาติ อุทกปสตมฺปิ จาหํ ลภิตฺวา อทตฺวา น ปิวิสฺสามิ. ขียิสฺสนฺตีติ วิกฺขียิสฺสนฺติ. ยโถธิกานีติ วตฺถุกามกิเลสกามวเสน ยถาิตโกฏฺาสานิเยว.

สกฺโก มจฺฉริยโกสิยํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทานผลํ ชานาเปตฺวา ธมฺมเทสนาย ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา สทฺธึ เตหิ เทวนครเมว คโต. มจฺฉริยโกสิโยปิ นครํ ปวิสิตฺวา ราชานํ อนุชานาเปตฺวา ‘‘คหิตคหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ ยาจกานํ ธนํ ทตฺวา ตสฺมึ ขีเณ นิกฺขมฺม หิมวนฺตโต ทกฺขิณปสฺเส คงฺคาย เจว เอกสฺส จ ชาตสฺสรสฺส อนฺตเร ปณฺณสาลํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา วนมูลผลาหาโร ตตฺถ จิรํ วิหาสิ, ชรํ ปาปุณิ. ตทา สกฺกสฺส อาสา สทฺธา สิรี หิรีติ จตสฺโส ธีตโร โหนฺติ. ตา พหุํ ทิพฺพคนฺธมาลํ อาทาย อุทกกีฬนตฺถาย อโนตตฺตทหํ คนฺตฺวา ตตฺถ กีฬิตฺวา มโนสิลาตเล นิสีทึสุ. ตสฺมึ ขเณ นารโท นาม พฺราหฺมณตาปโส ตาวตึสภวนํ ทิวาวิหารตฺถาย คนฺตฺวา นนฺทนวนจิตฺตลตาวเนสุ ทิวาวิหารํ กตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ ฉตฺตํ วิย ฉายตฺถาย ธารยมาโน มโนสิลาตลมตฺถเกน อตฺตโน วสนฏฺานํ กฺจนคุหํ คจฺฉติ. อถ ตา ตสฺส หตฺเถ ตํ ปุปฺผํ ทิสฺวา ยาจึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๑๓.

‘‘นคุตฺตเม คิริวเร คนฺธมาทเน, โมทนฺติ ตา เทววราภิปาลิตา;

อถาคมา อิสิวโร สพฺพโลกคู, สุปุปฺผิตํ ทุมวรสาขมาทิย.

๒๑๔.

‘‘สุจึ สุคนฺธํ ติทเสหิ สกฺกตํ, ปุปฺผุตฺตมํ อมรวเรหิ เสวิตํ;

อลทฺธ มจฺเจหิว ทานเวหิ วา, อฺตฺร เทเวหิ ตทารหํ หิทํ.

๒๑๕.

‘‘ตโต จตสฺโส กนกตฺตจูปมา, อุฏฺาย นาริโย ปมทาธิปา มุนึ;

อาสา จ สทฺธา จ สิรี ตโต หิรี, อิจฺจพฺรวุํ นารทเทว พฺราหฺมณํ.

๒๑๖.

‘‘สเจ อนุทฺทิฏฺํ ตยา มหามุนิ, ปุปฺผํ อิมํ ปาริฉตฺตสฺส พฺรมฺเห;

ททาหิ โน สพฺพา คติ เต อิชฺฌตุ, ตุวมฺปิ โน โหหิ ยเถว วาสโว.

๒๑๗.

‘‘ตํ ยาจมานาภิสเมกฺข นารโท, อิจฺจพฺรวี สํกลหํ อุทีรยิ;

น มยฺหมตฺถตฺถิ อิเมหิ โกจิ นํ, ยาเยว โว เสยฺยสิ สา ปิฬนฺธถา’’ติ.

ตตฺถ คิริวเรติ ปุริมสฺส เววจนํ. เทววราภิปาลิตาติ สกฺเกน รกฺขิตา. สพฺพโลกคูติ เทวโลเก จ มนุสฺสโลเก จ สพฺพตฺถ คมนสมตฺโถ. ทุมวรสาขมาทิยาติ สาขาย ชาตตฺตา ทุมวรสาขนฺติ ลทฺธนามํ ปุปฺผํ คเหตฺวา. สกฺกตนฺติ กตสกฺการํ. อมรวเรหีติ สกฺกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฺตฺร เทเวหีติ เปตฺวา เทเว จ อิทฺธิมนฺเต จ อฺเหิ มนุสฺเสหิ วา ยกฺขาทีหิ วา อลทฺธํ. ตทารหํ หิทนฺติ เตสํเยว หิ ตํ อรหํ อนุจฺฉวิกํ. กนกตฺตจูปมาติ กนกูปมา ตจา. อุฏฺายาติ อยฺโย มาลาคนฺธวิเลปนาทิปฏิวิรโต ปุปฺผํ น ปิฬนฺธิสฺสติ, เอกสฺมึ ปเทเส ฉฑฺเฑสฺสติ, เอถ ตํ ยาจิตฺวา ปุปฺผํ ปิฬนฺธิสฺสามาติ หตฺเถ ปสาเรตฺวา ยาจมานา เอกปฺปหาเรเนว อุฏฺหิตฺวา. ปมทาธิปาติ ปมทานํ อุตฺตมา. มุนินฺติ อิสึ.

อนุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘อสุกสฺส นาม ทสฺสามี’’ติ น อุทฺทิฏฺํ. สพฺพา คติ เต อิชฺฌตูติ สพฺพา เต จิตฺตคติ อิชฺฌตุ, ปตฺถิตปตฺถิตสฺส ลาภี โหหีติ ตสฺส ถุลิมงฺคลํ วทนฺติ. ยเถว วาสโวติ ยถา อมฺหากํ ปิตา วาสโว อิจฺฉิติจฺฉิตํ เทติ, ตเถว โน ตฺวมฺปิ โหหีติ. นฺติ ตํ ปุปฺผํ. อภิสเมกฺขาติ ทิสฺวา. สํกลหนฺติ นานาคาหํ กลหวฑฺฒนํ กถํ อุทีรยิ. อิเมหีติ อิเมหิ ปุปฺเผหิ นาม มยฺหํ อตฺโถ นตฺถิ, ปฏิวิรโต อหํ มาลาธารณโตติ ทีเปติ. ยาเยว โว เสยฺยสีติ ยา ตุมฺหากํ อนฺตเร เชฏฺิกา. สา ปิฬนฺธถาติ สา เอตํ ปิฬนฺธตูติ อตฺโถ.

ตา จตสฺโสปิ ตสฺส วจนํ สุตฺวา คาถมาหํสุ –

๒๑๘.

‘‘ตฺวํ โนตฺตเมวาภิสเมกฺข นารท, ยสฺสิจฺฉสิ ตสฺสา อนุปฺปเวจฺฉสุ;

ยสฺสา หิ โน นารท ตฺวํ ปทสฺสสิ, สาเยว โน เหหิติ เสฏฺสมฺมตา’’ติ.

ตตฺถ ตฺวํ โนตฺตเมวาติ อุตฺตมมหามุนิ ตฺวเมว โน อุปธาเรหิ. ตาสํ วจนํ สุตฺวา นารโท ตา อาลปนฺโต คาถมาห –

๒๑๙.

‘‘อกลฺลเมตํ วจนํ สุคตฺเต, โก พฺราหฺมโณ สํกลหํ อุทีรเย;

คนฺตฺวาน ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถ, สเจ น ชานาถ อิธุตฺตมาธเม’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท สุคตฺเต, อิทํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ วจนํ มม อยุตฺตํ, เอวฺหิ สติ มยา ตุมฺเหสุ เอกํ เสฏฺํ, เสสา หีนา กโรนฺเตน กลโห วฑฺฒิโต ภวิสฺสติ, โก พาหิตปาโป พฺราหฺมโณ กลหํ อุทีรเย วฑฺเฒยฺย. เอวรูปสฺส หิ กลหวฑฺฒนํ นาม อยุตฺตํ, ตสฺมา อิโต คตฺวา อตฺตโน ปิตรํ ภูตาธิปํ สกฺกเมว ปุจฺฉถ, สเจ อตฺตโน อุตฺตมํ อธมฺจ น ชานาถาติ.

ตโต สตฺถา คาถมาห –

๒๒๐.

‘‘ตา นารเทน ปรมปฺปโกปิตา, อุทีริตา วณฺณมเทน มตฺตา;

สกาเส คนฺตฺวาน สหสฺสจกฺขุโน, ปุจฺฉึสุ ภูตาธิปํ กา นุ เสยฺยสี’’ติ.

ตตฺถ ปรมปฺปโกปิตาติ ปุปฺผํ อททนฺเตน อติวิย โกปิตา ตสฺส กุปิตา หุตฺวา. อุทีริตาติ ‘‘ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถา’’ติ วุตฺตา. สหสฺสจกฺขุโนติ สกฺกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา. กา นูติ อมฺหากํ อนฺตเร กตมา อุตฺตมาติ ปุจฺฉึสุ.

เอวํ ปุจฺฉิตฺวา ิตา –

๒๒๑.

‘‘ตา ทิสฺวา อายตฺตมนา ปุรินฺทโท, อิจฺจพฺรวี เทววโร กตฺชลี;

สพฺพาว โว โหถ สุคตฺเต สาทิสี, โกเนว ภทฺเท กลหํ อุทีรยี’’ติ.

ตตฺถ ตา ทิสฺวาติ, ภิกฺขเว, จตสฺโสปิ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตา ทิสฺวา. อายตฺตมนาติ อุสฺสุกฺกมนา พฺยาวฏจิตฺตา. กตฺชลีติ นมสฺสมานาหิ เทวตาหิ ปคฺคหิตฺชลี. สาทิสีติ สพฺพาว ตุมฺเห สาทิสิโย. โก เนวาติ โก นุ เอวํ. กลหํ อุทีรยีติ อิทํ นานาคาหํ วิคฺคหํ กเถสิ วฑฺเฒสิ.

อถสฺส ตา กถยมานา คาถมาหํสุ –

๒๒๒.

‘‘โย สพฺพโลกจฺจริโต มหามุนิ, ธมฺเม ิโต นารโท สจฺจนิกฺกโม;

โส โนพฺรวิ คิริวเร คนฺธมาทเน, คนฺตฺวาน ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถ;

สเจ น ชานาถ อิธุตฺตมาธม’’นฺติ.

ตตฺถ สจฺจนิกฺกโมติ ตถปรกฺกโม.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘อิมา จตสฺโสปิ มยฺหํ ธีตโรว, สจาหํ ‘เอตาสุ เอกา คุณสมฺปนฺนา อุตฺตมา’ติ วกฺขามิ, เสสา กุชฺฌิสฺสนฺติ, น สกฺกา อยํ อฑฺโฑ วินิจฺฉินิตุํ, อิมา หิมวนฺเต โกสิยตาปสสฺส สนฺติกํ เปเสสามิ, โส เอตาสํ อฑฺฑํ วินิจฺฉินิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อฑฺฑํ น วินิจฺฉินิสฺสามิ, หิมวนฺเต โกสิโย นาม ตาปโส อตฺถิ, ตสฺสาหํ อตฺตโน สุธาโภชนํ เปเสสฺสามิ, โส ปรสฺส อทตฺวา น ภุฺชติ, ททนฺโต จ วิจินิตฺวา คุณวนฺตานํ เทติ, ยา ตุมฺเหสุ ตสฺส หตฺถโต ภตฺตํ ลภิสฺสติ, สา อุตฺตมา ภวิสฺสตี’’ติ อาจิกฺขนฺโต คาถมาห –

๒๒๓.

‘‘อสุ พฺรหารฺจโร มหามุนิ, นาทตฺวา ภตฺตํ วรคตฺเต ภุฺชติ;

วิเจยฺย ทานานิ ททาติ โกสิโย,

ยสฺสา หิ โส ทสฺสติ สาว เสยฺยสี’’ติ.

ตตฺถ พฺรหารฺธโรติ มหาอรฺวาสี.

อิติ โส ตาปสสฺส สนฺติกํ เปเสตฺวา มาตลึ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส สนฺติกํ เปเสนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๒๒๔.

‘‘อสู หิ โย สมฺมติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คงฺคาย ตีเร หิมวนฺตปสฺสนิ;

ส โกสิโย ทุลฺลภปานโภชโน, ตสฺส สุธํ ปาปย เทวสารถี’’ติ.

ตตฺถ สมฺมตีติ วสติ. ทกฺขิณนฺติ หิมวนฺตสฺส ทกฺขิณาย ทิสาย. ปสฺสนีติ ปสฺเส.

ตโต สตฺถา อาห –

๒๒๕.

‘‘ส มาตลี เทววเรน เปสิโต, สหสฺสยุตฺตํ อภิรุยฺห สนฺทนํ;

สุขิปฺปเมว อุปคมฺม อสฺสมํ, อทิสฺสมาโน มุนิโน สุธํ อทา’’ติ.

ตตฺถ อทิสฺสมาโนติ, ภิกฺขเว, โส มาตลิ เทวราชสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา อทิสฺสมานกาโย หุตฺวา ตสฺส สุธํ อทาสิ, ททมาโน จ รตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปจฺจูสสมเย อคฺคึ ปริจริตฺวา วิภาตาย รตฺติยา อุเทนฺตํ สูริยํ นมสฺสมานสฺส ิตสฺส ตสฺส หตฺเถ สุธาโภชนปาตึ เปสิ.

โกสิโย ตํ คเหตฺวา ิตโกว คาถาทฺวยมาห –

๒๒๖.

‘‘อุทคฺคิหุตฺตํ อุปติฏฺโต หิ เม, ปภงฺกรํ โลกตโมนุทุตฺตมํ;

สพฺพานิ ภูตานิ อธิจฺจ วาสโว;

โก เนว เม ปาณิสุ กึ สุโธทหิ.

๒๒๗.

‘‘สงฺขูปมํ เสตมตุลฺยทสฺสนํ, สุจึ สุคนฺธํ ปิยรูปมพฺภุตํ;

อทิฏฺปุพฺพํ มม ชาตุ จกฺขุภิ, กา เทวตา ปาณิสุ กึ สุโธทหี’’ติ.

ตตฺถ อุทคฺคิหุตฺตนฺติ อุทกอคฺคิหุตฺตํ ปริจริตฺวา อคฺคิสาลโต นิกฺขมฺม ปณฺณสาลทฺวาเร ตฺวา ปภงฺกรํ โลกตโมนุทํ อุตฺตมํ อาทิจฺจํ อุปติฏฺโต มม สพฺพานิ ภูตานิ อธิจฺจ อติกฺกมิตฺวา วตฺตมาโน วาสโว นุ โข เอวํ มม ปาณีสุ กึ สุธํ กึ นาเมตํ โอทหิ. ‘‘สงฺขูปม’’นฺติอาทีหิ ิตโกว สุธํ วณฺเณติ.

ตโต มาตลิ อาห –

๒๒๘.

‘‘อหํ มหินฺเทน มเหสิ เปสิโต, สุธาภิหาสึ ตุริโต มหามุนิ;

ชานาสิ มํ มาตลิ เทวสารถิ, ภุฺชสฺสุ ภตฺตุตฺตม มาภิวารยิ.

๒๒๙.

‘‘ภุตฺตา จ สา ทฺวาทส หนฺติ ปาปเก, ขุทํ ปิปาสํ อรตึ ทรกฺลมํ;

โกธูปนาหฺจ วิวาทเปสุณํ, สีตุณฺห ตนฺทิฺจ รสุตฺตมํ อิท’’นฺติ.

ตตฺถ สุธาภิหาสินฺติ อิมํ สุธาโภชนํ ตุยฺหํ อภิหรึ. ชานาสีติ ชานาหิ มํ ตฺวํ, อหํ มาตลิ นาม เทวสารถีติ อตฺโถ. มาภิวารยีติ น ภุฺชามีติ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ภุฺช มา ปปฺจ กริ. ปาปเกติ อยฺหิ สุธา ภุตฺตา ทฺวาทส ปาปธมฺเม หนติ. ขุทนฺติ ปมํ ตาว ฉาตภาวํ หนติ, ทุติยํ ปานียปิปาสํ, ตติยํ อุกฺกณฺิตํ, จตุตฺถํ กายทรถํ, ปฺจมํ กิลนฺตภาวํ, ฉฏฺํ โกธํ, สตฺตมํ อุปนาหํ, อฏฺมํ วิวาทํ, นวมํ เปสุณํ, ทสมํ สีตํ, เอกาทสมํ อุณฺหํ, ทฺวาทสมํ ตนฺทึ อาลสิยภาวํ, อิทํ รสุตฺตมํ อุตฺตมรสํ สุธาโภชนํ อิเม ทฺวาทส ปาปธมฺเม หนติ.

ตํ สุตฺวา โกสิโย อตฺตโน วตสมาทานํ อาวิกโรนฺโต –

๒๓๐.

‘‘น กปฺปตี มาตลิ มยฺห ภุฺชิตุํ, ปุพฺเพ อทตฺวา อิติ เม วตุตฺตมํ;

น จาปิ เอกาสฺนมริยปูชิตํ, อสํวิภาคี จ สุขํ น วินฺทตี’’ติ. –

คาถํ วตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ ปรสฺส อทตฺวา โภชเน กํ โทสํ ทิสฺวา อิทํ วตํ สมาทินฺน’’นฺติ มาตลินา ปุฏฺโ อาห –

๒๓๑.

‘‘ถีฆาตกา เย จิเม ปารทาริกา, มิตฺตทฺทุโน เย จ สปนฺติ สุพฺพเต;

สพฺเพ จ เต มจฺฉริปฺจมาธมา, ตสฺมา อทตฺวา อุทกมฺปิ นาสฺนิเย.

๒๓๒.

‘‘โสหิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ปน, ทสฺสามิ ทานํ วิทุสมฺปวณฺณิตํ;

สทฺธา วทฺู อิธ วีตมจฺฉรา, ภวนฺติ เหเต สุจิสจฺจสมฺมตา’’ติ.

ตตฺถ ปุพฺเพติ ปมํ อทตฺวา, อถ วา อิติ เม ปุพฺเพ วตุตฺตมํ อิทํ ปุพฺเพว มยา วตํ สมาทินฺนนฺติ ทสฺเสติ. น จาปิ เอกาสฺนมริยปูชิตนฺติ เอกกสฺส อสนํ น อริเยหิ พุทฺธาทีหิ ปูชิตํ. สุขนฺติ ทิพฺพมานุสิกํ สุขํ น ลภติ. ถีฆาตกาติ อิตฺถิฆาตกา. เย จิเมติ เย จ อิเม. สปนฺตีติ อกฺโกสนฺติ. สุพฺพเตติ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ. มจฺฉริปฺจมาติ มจฺฉรี ปฺจโม เอเตสนฺติ มจฺฉริปฺจมา. อธมาติ อิเม ปฺจ อธมา นาม. ตสฺมาติ ยสฺมา อหํ ปฺจมอธมภาวภเยน อทตฺวา อุทกมฺปิ นาสฺนิเย ปริภุฺชิสฺสามีติ อิมํ วตํ สมาทิยึ. โสหิตฺถิยา วาติ โส อหํ อิตฺถิยา วา. วิทุสมฺปวณฺณิตนฺติ วิทูหิ ปณฺฑิเตหิ พุทฺธาทีหิ วณฺณิตํ. สุจิสจฺจสมฺมตาติ เอเต โอกปฺปนิยสทฺธาย สมนฺนาคตา วทฺู วีตมจฺฉรา ปุริสา สุจี เจว อุตฺตมสมฺมตา จ โหนฺตีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา มาตลิ ทิสฺสมานกาเยน อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ ตา จตสฺโส เทวกฺาโย จตุทฺทิสํ อฏฺํสุ, สิรี ปาจีนทิสาย อฏฺาสิ, อาสา ทกฺขิณทิสาย, สทฺธา ปจฺฉิมทิสาย, หิรี อุตฺตรทิสาย. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๓๓.

‘‘อโต มตา เทววเรน เปสิตา, กฺา จตสฺโส กนกตฺตจูปมา;

อาสา จ สทฺธา จ สิรี ตโต หิรี, ตํ อสฺสมํ อาคมุ ยตฺถ โกสิโย.

๒๓๔.

‘‘ตา ทิสฺวา สพฺโพ ปรมปฺปโมทิโต, สุเภน วณฺเณน สิขาริวคฺคิโน;

กฺา จตสฺโส จตุโร จตุทฺทิสา, อิจฺจพฺรวี มาตลิโน จ สมฺมุขา.

๒๓๕.

‘‘ปุริมํ ทิสํ กา ตฺวํ ปภาสิ เทวเต, อลงฺกตา ตารวราว โอสธี;

ปุจฺฉามิ ตํ กฺจนเวลฺลิวิคฺคเห, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ เทวตา.

๒๓๖.

‘‘สิราห เทวี มนุเชหิ ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;

สุธาวิวาเทน ตวนฺติมาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชย.

๒๓๗.

‘‘ยสฺสาหมิจฺฉามิ สุธํ มหามุนิ, โส สพฺพกาเมหิ นโร ปโมทติ;

สิรีติ มํ ชานหิ ชูหตุตฺตม, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชยา’’ติ.

ตตฺถ อโตติ ตโต. มตาติ อนุมตา, อถ เทววเรน อนุมตา เจว เปสิตา จาติ อตฺโถ. สพฺโพ ปรมปฺปโมทิโตติ อนวเสโส หุตฺวา อติปโมทิโต. ‘‘สาม’’นฺติปิ ปาโ, ตา เทวตา สามํ ทิสฺวาติ อตฺโถ. จตุโรติ จตุรา. อยเมว วา ปาโ, จาตุริเยน สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ตารวราติ ตารกานํ วรา. กฺจนเวลฺลิวิคฺคเหติ กฺจนรูปสทิสสรีเร. สิราหาติ สิรี อหํ. ตวนฺติมาคตาติ ตว สนฺติกํ อาคตา. ภาชยาติ ยถา มํ สุธา ภชติ, ตถา กโรหิ, สุธํ เม เทหีติ อตฺโถ. ชานหีติ ชาน. ชูหตุตฺตมาติ อคฺคึ ชุหนฺตานํ อุตฺตม.

ตํ สุตฺวา โกสิโย อาห –

๒๓๘.

‘‘สิปฺเปน วิชฺชาจรเณน พุทฺธิยา, นรา อุเปตา ปคุณา สกมฺมุนา;

ตยา วิหีนา น ลภนฺติ กิฺจนํ, ตยิทํ น สาธุ ยทิทํ ตยา กตํ.

๒๓๙.

‘‘ปสฺสามิ โปสํ อลสํ มหคฺฆสํ, สุทุกฺกุลีนมฺปิ อรูปิมํ นรํ;

ตยานุคุตฺโต สิริ ชาติมามปิ, เปเสติ ทาสํ วิย โภควา สุขี.

๒๔๐.

‘‘ตํ ตํ อสจฺจํ อวิภชฺชเสวินึ, ชานามิ มูฬฺหํ วิทุรานุปาตินึ;

น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสี’’ติ.

ตตฺถ สิปฺเปนาติ หตฺถิอสฺสรถธนุสิปฺปาทินา. วิชฺชาจรเณนาติ เวทตฺตยสงฺขาตาย วิชฺชาย เจว สีเลน จ. ปคุณา สกมฺมุนาติ อตฺตโน ปุริสกาเรน ปธานคุณสมนฺนาคตา. กิฺจนนฺติ กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ ยสํ วา สุขํ วา น ลภนฺติ. ยทิทนฺติ ยํ เอตํ อิสฺสริยตฺถาย สิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา จรนฺตานํ ตยา เวกลฺลํ กตํ, ตํ เต น สาธุ. อรูปิมนฺติ วิรูปํ. ตยานุคุตฺโตติ ตยา อนุรกฺขิโต. ชาติมามปีติ ชาติสมฺปนฺนมฺปิ สิปฺปวิชฺชาจรณพุทฺธิกมฺเมหิ สมฺปนฺนมฺปิ. เปเสตีติ เปสนการกํ กโรติ. ตํ ตนฺติ ตสฺมา ตํ. อสจฺจนฺติ สภาวสงฺขาเต สจฺเจ อวตฺตนตาย อสจฺจํ อุตฺตมภาวรหิตํ. อวิภชฺชเสวินินฺติ อวิภชิตฺวา ยุตฺตายุตฺตํ อชานิตฺวา สิปฺปาทิสมฺปนฺเนปิ อิตเรปิ เสวมานํ. วิทุรานุปาตินินฺติ ปณฺฑิตานุปาตินึ ปณฺฑิเต ปาเตตฺวา โปเถตฺวา วิเหเตฺวา จรมานํ. กุโต สุธาติ ตาทิสาย นิคฺคุณาย กุโต สุธาโภชนํ, น เม รุจฺจสิ, คจฺฉ มา อิธ ติฏฺาติ.

สา เตน ปฏิกฺขิตฺตา ตตฺเถวนฺตรธายิ. ตโต โส อาสาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๒๔๑.

‘‘กา สุกฺกทาา ปฏิมุกฺกกุณฺฑลา, จิตฺตงฺคทา กมฺพุวิมฏฺธารินี;

โอสิตฺตวณฺณํ ปริทยฺห โสภสิ, กุสคฺคิรตฺตํ อปิฬยฺห มฺชรึ.

๒๔๒.

‘‘มิคีว ภนฺตา สรจาปธารินา, วิราธิตา มนฺทมิว อุทิกฺขสิ;

โก เต ทุตีโย อิท มนฺทโลจเน, น ภายสิ เอกิกา กานเน วเน’’ติ.

ตตฺถ จิตฺตงฺคทาติ จิตฺเรหิ องฺคเทหิ สมนฺนาคตา. กมฺพุวิมฏฺธารินีติ กรณปรินิฏฺิเตน วิมฏฺสุวณฺณาลงฺการธารินี. โอสิตฺตวณฺณนฺติ อวสิตฺตอุทกธารวณฺณํ ทิพฺพทุกูลํ. ปริทยฺหาติ นิวาเสตฺวา เจว ปารุปิตฺวา จ. กุสคฺคิรตฺตนฺติ กุสติณคฺคิสิขาวณฺณํ. อปิฬยฺห มฺชรินฺติ สปลฺลวํ อโสกกณฺณิกํ กณฺเณ ปิฬนฺธิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สรจาปธารินาติ ลุทฺเทน. วิราธิตาติ วิรทฺธปหารา. มนฺทมิวาติ ยถา สา มิคี ภีตา วนนฺตเร ตฺวา ตํ มนฺทํ มนฺทํ โอโลเกติ, เอวํ โอโลเกสิ.

ตโต อาสา อาห –

๒๔๓.

‘‘น เม ทุตีโย อิธ มตฺถิ โกสิย, มสกฺกสารปฺปภวมฺหิ เทวตา;

อาสา สุธาสาย ตวนฺติมาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชยา’’ติ.

ตตฺถ มสกฺกสารปฺปภวาติ ตาวตึสภวเน สมฺภวา.

ตํ สุตฺวา โกสิโย ‘‘ตฺวํ กิร โย เต รุจฺจติ, ตสฺส อาสาผลนิปฺผาทเนน อาสํ เทสิ, โย เต น รุจฺจติ, ตสฺส น เทสิ, นตฺถิ ตยา สมา ปตฺถิตตฺถวินาสิกา’’ติ ทีเปนฺโต อาห –

๒๔๔.

‘‘อาสาย ยนฺติ วาณิชา ธเนสิโน, นาวํ สมารุยฺห ปเรนฺติ อณฺณเว;

เต ตตฺถ สีทนฺติ อโถปิ เอกทา, ชีนาธนา เอนฺติ วินฏฺปาภตา.

๒๔๕.

‘‘อาสาย เขตฺตานิ กสนฺติ กสฺสกา, วปนฺติ พีชานิ กโรนฺตุปายโส;

อีตีนิปาเตน อวุฏฺิตาย วา, น กิฺจิ วินฺทนฺติ ตโต ผลาคมํ.

๒๔๖.

‘‘อถตฺตการานิ กโรนฺติ ภตฺตุสุ, อาสํ ปุรกฺขตฺวา นรา สุเขสิโน;

เต ภตฺตุรตฺถา อติคาฬฺหิตา ปุน, ทิสา ปนสฺสนฺติ อลทฺธ กิฺจนํ.

๒๔๗.

‘‘หิตฺวาน ธฺฺจ ธนฺจ าตเก, อาสาย สคฺคาธิมนา สุเขสิโน;

ตปนฺติ ลูขมฺปิ ตปํ จิรนฺตรํ, กุมคฺคมารุยฺห ปเรนฺติ ทุคฺคตึ.

๒๔๘.

‘‘อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา อิเม, อาเส สุธาสํ วินยสฺสุ อตฺตนิ;

น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสี’’ติ.

ตตฺถ ปเรนฺตีติ ปกฺขนฺทนฺติ. ชีนาธนาติ ชีนธนา. อิติ ตว วเสน เอเก สมฺปชฺชนฺติ เอเก วิปชฺชนฺติ, นตฺถิ ตยา สทิสา ปาปธมฺมาติ วทติ. กโรนฺตุปายโสติ ตํ ตํ กิจฺจํ อุปาเยน กโรนฺติ. อีตีนิปาเตนาติ วิสมวาตมูสิกสลภสุกปาณกเสตฏฺิกโรคาทีนํ สสฺสุปทฺทวานํ อฺตรนิปาเตน วา. ตโตติ ตโต สสฺสโต เต กิฺจิ ผลํ น วินฺทนฺติ, เตสมฺปิ อาสจฺเฉทนกมฺมํ ตฺวเมว กโรสีติ วทติ. อถตฺตการานีติ ยุทฺธภูมีสุ ปุริสกาเร. อาสํ ปุรกฺขตฺวาติ อิสฺสริยาสํ ปุรโต กตฺวา. ภตฺตุรตฺถาติ สามิโน อตฺถาย. อติคาฬิตาติ ปจฺจตฺถิเกหิ อติปีฬิตา วิลุตฺตสาปเตยฺยา ทฺธสฺตเสนวาหนา หุตฺวา. ปนสฺสนฺตีติ ปลายนฺติ. อลทฺธ กิฺจนนฺติ กิฺจิ อิสฺสริยํ อลภิตฺวา. อิติ เอเตสมฺปิ อิสฺสริยาลาภํ ตฺวเมว กโรสีติ วทติ. สคฺคาธิมนาติ สคฺคํ อธิคนฺตุมนา. ลูขนฺติ นิโรชํ ปฺจตปาทิกํ กายกิลมถํ. จิรนฺตรนฺติ จิรกาลํ. อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา อิเมติ เอวํ อิเม สตฺตา สคฺคาสาย ทุคฺคตึ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตฺวํ อาสา นาม วิสํวาทิกสมฺมตา วิสํวาทิกาติ สงฺขํ คตา. อาเสติ ตํ อาลปติ.

สาปิ เตน ปฏิกฺขิตฺตา อนฺตรธายิ. ตโต สทฺธาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถมาห –

๒๔๙.

‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, ชิฆฺนามวฺหยนํ ทิสํ ปติ;

ปุจฺฉามิ ตํ กฺจนเวลฺลิวิคฺคเห, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ เทวเต’’ติ.

ตตฺถ ททฺทลฺลมานาติ ชลมานา. ชิฆฺนามวฺหยนนฺติ อปราติ จ ปจฺฉิมาติ จ เอวํ ชิฆฺเน ลามเกน นาเมน วุจฺจมานํ ทิสํ ปติ ททฺทลฺลมานา ติฏฺสิ.

ตโต สา คาถมาห –

๒๕๐.

‘‘สทฺธาห เทวี มนุเชหิ ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;

สุธาวิวาเทน ตวนฺติ มาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชยา’’ติ.

ตตฺถ สทฺธาติ ยสฺส กสฺสจิ วจนปตฺติยายนา สาวชฺชาปิ โหติ อนวชฺชาปิ. ปูชิตาติ อนวชฺชโกฏฺาสวเสน ปูชิตา. อปาปสตฺตูปนิเสวินีติ อนวชฺชสทฺธาย จ เอกนฺตปตฺติยายนุสภาวาร ปเรสุปิ ปตฺติยายนวิทหนสมตฺถาย เทวตาเยตํ นามํ.

อถํ นํ โกสิโย ‘‘อิเม สตฺตา ยสฺส กสฺสจิ วจนํ สทฺทหิตฺวา ตํ ตํ กโรนฺตา กตฺตพฺพโต อกตฺตพฺพเมว พหุตรํ กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ตยา การิตํ นาม โหตี’’ติ วตฺวา เอวมาห –

๒๕๑.

‘‘ทานํ ทมํ จาคมโถปิ สํยมํ, อาทาย สทฺธาย กโรนฺติ เหกทา;

เถยฺยํ มุสา กูฏมโถปิ เปสุณํ, กโรนฺติ เหเก ปุน วิจฺจุตา ตยา.

๒๕๒.

‘‘ภริยาสุ โปโส สทิสีสุ เปกฺขวา, สีลูปปนฺนาสุ ปติพฺพตาสุปิ;

วิเนตฺวาน ฉนฺทํ กุลิตฺถิราสุปิ, กโรติ สทฺธํ ปุน กุมฺภทาสิยา.

๒๕๓.

‘‘ตฺวเมว สทฺเธ ปรทารเสวินี, ปาปํ กโรสิ กุสลมฺปิ ริฺจสิ;

น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสี’’ติ.

ตตฺถ ทานนฺติ ทสวตฺถุกํ ปุฺเจตนํ. ทมนฺติ อินฺทฺริยทมนํ. จาคนฺติ เทยฺยธมฺมปริจฺจาคํ. สํยมนฺติ สีลํ. อาทาย สทฺธายาติ ‘‘เอตานิ ทานาทีนิ มหานิสํสานิ กตฺตพฺพานี’’ติ วทตํ วจนํ สทฺธาย อาทิยิตฺวาปิ กโรนฺติ เอกทา. กูฏนฺติ ตุลากูฏาทิกํ วา คามกูฏาทิกํ กมฺมํ วา. กโรนฺติ เหเกติ เอเก มนุสฺสา เอวรูเปสุ นาม กาเลสุ อิเมสฺจ อตฺถาย เถยฺยาทีนิ กตฺตพฺพานีติ เกสฺจิ วจนํ สทฺทหิตฺวา เอตานิปิ กโรนฺติ. ปุน วิจฺจุตา ตยาติ ปุน ตยา วิสุตฺตา สาวชฺชทุกฺขวิปากาเนตานิ น กตฺตพฺพานีติ วทตํ วจนํ อปตฺติยายิตฺวาปิ กโรนฺติ. อิติ ตว วเสน สาวชฺชมฺปิ อนวชฺชมฺปิ กเรยฺยาสิ วทติ.

สทิสีสูติ ชาติโคตฺตสีลาทีหิ สทิสีสุ. เปกฺขวาติ เปกฺขา วุจฺจติ ตณฺหา, สตณฺโหติ อตฺโถ. ฉนฺทนฺติ ฉนฺทราคํ. กโรติ สทฺธนฺติ กุมฺภทาสิยาปิ วจเน สทฺธํ กโรติ, ตสฺสา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อิทํ นาม อุปการํ กริสฺสามี’’ติ วทนฺติยา ปตฺติยายิตฺวา กุลิตฺถิโยปิ ฉฑฺเฑตฺวา ตเมว ปฏิเสวติ, อสุกา นาม ตุมฺเหสุ ปฏิพทฺธจิตฺตาติ กุมฺภทาสิยาปิ วจเน สทฺธํ กตฺวาว ปรทารํ เสวติ. ตฺวเมว สทฺเธ ปรทารเสวินีติ ยสฺมา ตํ ตํ ปตฺติยายิตฺวา ตว วเสน ปรทารํ เสวนฺติ ปาปํ กโรนฺติ กุสลํ ชหนฺติ, ตสฺมา ตฺวเมว ปรทารเสวินี ตฺวํ ปาปานิ กโรสิ, กุสลมฺปิ ริฺจสิ, นตฺถิ ตยา สมา โลกวินาสิกา ปาปธมฺมา, คจฺฉ น เม รุจฺจสีติ.

สา ตตฺเถว อนฺตรธายิ. โกสิโยปิ อุตฺตรโต ิตาย หิริยา สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๒๕๔.

‘‘ชิฆฺรตฺตึ อรุณสฺมิมูหเต, ยา ทิสฺสติ อุตฺตมรูปวณฺณินี;

ตถูปมา มํ ปฏิภาสิ เทวเต, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ อจฺฉรา.

๒๕๕.

‘‘กาฬา นิทาเฆริว อคฺคิชาริว, อนิเลริตา โลหิตปตฺตมาลินี;

กา ติฏฺสิ มนฺทมิคาวโลกยํ, ภาเสสมานาว คิรํ น มุฺจสี’’ติ.

ตตฺถ ชิฆฺรตฺตินฺติ ปจฺฉิมรตฺตึ, รตฺติปริโยสาเนติ อตฺโถ. อูหเตติ อรุเณ อุคฺคเต. ยาติ ยา ปุรตฺถิมา ทิสา รตฺตสุวณฺณตาย อุปฺปมรูปธรา หุตฺวา ทิสฺสติ. กาฬา นิทาเฆริวาติ นิทาฆสมเย กาฬวลฺลิ วิย. อคฺคิชาริวาติ อคฺคิชาลา อิว, สาปิ นิชฺฌามเขตฺเตสุ ตรุณอุฏฺิตกาฬวลฺลิ วิยาติ อตฺโถ. โลหิตปตฺตมาลินีติ โลหิตวณฺเณหิ ปตฺเตหิ ปริวุตา. กา ติฏฺสีติ ยถา สา ตรุณกาฬวลฺลิ วาเตริตา วิลาสมานา โสภมานา ติฏฺติ, เอวํ กา นาม ตฺวํ ติฏฺสิ. ภาเสสมานาวาติ มยา สทฺธึ ภาสิตุกามา วิย โหสิ, น จ คิรํ มุฺจสิ.

ตโต สา คาถมาห –

๒๕๖.

‘‘หิราห เทวี มนุเชหิ ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;

สุธาวิวาเทน ตวนฺติมาคตา, สาหํ น สกฺโกมิ สุธมฺปิ ยาจิตุํ;

โกปีนรูปา วิย ยาจนิตฺถิยา’’ติ.

ตตฺถ หิราหนฺติ หิรี อหํ. สุธมฺปีติ สา อหํ สุธาโภชนํ ตํ ยาจิตุมฺปิ น สกฺโกมิ. กึการณา? โกปีนรูปา วิย ยาจนิตฺถิยา, ยสฺมา อิตฺถิยา ยาจนา นาม โกปีนรูปา วิย รหสฺสงฺควิวรณสทิสา โหติ, นิลฺลชฺชา วิย โหตีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ตาปโส ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๕๗.

‘‘ธมฺเมน าเยน สุคตฺเต ลจฺฉสิ, เอโส หิ ธมฺโม น หิ ยาจนา สุธา.

ตํ ตํ อยาจนฺติมหํ นิมนฺตเย, สุธาย ยฺจิจฺฉสิ ตมฺปิ ทมฺมิ เต.

๒๕๘.

‘‘สา ตฺวํ มยา อชฺช สกมฺหิ อสฺสเม, นิมนฺติตา กฺจนเวลฺลิวิคฺคเห;

ตุวฺหิ เม สพฺพรเสหิ ปูชิยา, ตํ ปูชยิตฺวาน สุธมฺปิ อสฺนิเย’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมนาติ สภาเวน. าเยนาติ การเณน. น หิ ยาจนา สุธาติ น หิ ยาจนาย สุธา ลพฺภติ, เตเนว การเณน อิตรา ติสฺโส นลภึสุ. ตํ ตนฺติ ตสฺมา ตํ. ยฺจิจฺฉสีติ น เกวลํ นิมนฺเตมิเยว, ยฺจ สุธํ อิจฺฉสิ, ตมฺปิ ทมฺมิ เต. กฺจนเวลฺลิวิคฺคเหติ กฺจนราสิสสฺสิริกสรีเร. ปูชิยาติ น เกวลํ สุธาย, อฺเหิปิ สพฺพรเสหิ ตฺวํ มยา ปูเชตพฺพยุตฺตกาว. อสฺนิเยติ ตํ ปูเชตฺวา สเจ สุธาย อวเสสํ ภวิสฺสติ, อหมฺปิ ภุฺชิสฺสามิ.

ตโต อปรา อภิสมฺพุทฺธคาถา –

๒๕๙.

‘‘สา โกสิเยนานุมตา ชุตีมตา, อทฺธา หิริ รมฺมํ ปาวิสิ ยสฺสมํ;

อุทกวนฺตํ ผลมริยปูชิตํ, อปาปสตฺตูปนิเสวิตํ สทา.

๒๖๐.

‘‘รุกฺขคฺคหานา พหุเกตฺถ ปุปฺผิตา, อมฺพา ปิยาลา ปนสา จ กึสุกา;

โสภฺชนา โลทฺทมโถปิ ปทฺธกา, เกกา จ ภงฺคา ติลกา สุปุปฺผิตา.

๒๖๑.

‘‘สาลา กเรรี พหุเกตฺถ ชมฺพุโย, อสฺสตฺถนิคฺโรธมธุกเวตสา;

อุทฺทาลกา ปาฏลิ สินฺทุวารกา, มนุฺคนฺธา มุจลินฺทเกตกา.

๒๖๒.

‘‘หเรณุกา เวฬุกา เกณุ ตินฺทุกา, สามากนีวารมโถปิ จีนกา;

โมจา กทลี พหุเกตฺถ สาลิโย, ปวีหโย อาภูชิโน จ ตณฺฑุลา.

๒๖๓.

‘‘ตสฺเสวุตฺตรปสฺเสน, ชาตา โปกฺขรณี สิวา;

อกกฺกสา อปพฺภารา, สาธุ อปฺปฏิคนฺธิกา.

๒๖๔.

‘‘ตตฺถ มจฺฉา สนฺนิรตา, เขมิโน พหุโภชนา;

สิงฺคู สวงฺกา สํกุลา, สตวงฺกา จ โรหิตา;

อาฬิคคฺครกากิณฺณา, ปาีนา กากมจฺฉกา.

๒๖๕.

‘‘ตตฺถ ปกฺขี สนฺนิรตา, เขมิโน พหุโภชนา;

หํสา โกฺจา มยูรา จ, จกฺกวากา จ กุกฺกุหา;

กุณาลกา พหู จิตฺรา, สิขณฺฑี ชีวชีวกา.

๒๖๖.

‘‘ตตฺถ ปานาย มายนฺติ, นานา มิคคณา พหู;

สีหา พฺยคฺฆา วราหา จ, อจฺฉโกกตรจฺฉโย.

๒๖๗.

‘‘ปลาสาทา ควชา จ, มหึสา โรหิตา รุรู;

เอเณยฺยา จ วราหา จ, คณิโน นีกสูกรา;

กทลิมิคา พหุเกตฺถ, พิฬารา สสกณฺณิกา.

๒๖๘.

‘‘ฉมาคิรี ปุปฺผวิจิตฺรสนฺถตา, ทิชาภิฆุฏฺา ทิชสงฺฆเสวิตา’’ติ.

ตตฺถ ชุตีมตาติ อานุภาวสมฺปนฺเนน. ปาวิสิ ยสฺสมนฺติ ปาวิสิ อสฺสมํ, -กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโร. อุทกวนฺตนฺติ เตสุ เตสุ าเนสุ อุทกสมฺปนฺนํ. ผลนฺติ อเนกผลสมฺปนฺนํ. อริยปูชิตนฺติ นีวรณโทสรหิเตหิ ฌานลาภีหิ อริเยหิ ปูชิตํ ปสตฺถํ. รุกฺขคฺคหานาติ ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขคหนา. โสภฺชนาติ สิคฺคุรุกฺขา. โลทฺทมโถปิ ปทฺธกาติ โลทฺทรุกฺขา จ ปทุมรุกฺขา จ. เกกา จ ภงฺคาติ เอวํนามกา รุกฺขา เอว. กเรรีติ กเรริรุกฺขา. อุทฺทาลกาติ วาตฆาตกา. มุจลินฺทเกตกาติ มุจลินฺทา จ ปฺจวิธเกตกา จ. หเรณุกาติ อปรณฺณชาติ. เวฬุกาติ วํสเภทกา. เกณูติ อรฺมาสา. ตินฺทุกาติ ติมฺพรุรุกฺขา. จีนกาติ ขุทฺทกราชมาสา. โมจาติ อฏฺิกกทลิโย. สาลิโยติ นานปฺปการา ชาตสฺสรํ อุปนิสฺสาย ชาตา สาลิโย. ปวีหโยติ นานปฺปการา วีหโย. อาภูชิโนติ ภุชปตฺตา. ตณฺฑุลาติ นิกฺกุณฺฑกถุสานิ สยํชาตตณฺฑุลสีสานิ.

ตสฺเสวาติ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว อสฺสมสฺส อุตฺตรทิสาภาเค. โปกฺขรณีติ ปฺจวิธปทุมสฺฉนฺนา ชาตสฺสรโปกฺขรณี. อกกฺกสาติ มจฺฉสิปฺปิกเสวาลาทิกกฺกสรหิตา. อปพฺภาราติ อจฺฉินฺนตฏา สมติตฺถา. อปฺปฏิคนฺธิกาติ อปฏิกฺกูลคนฺเธน อุทเกน สมนฺนาคตา. ตตฺถาติ ตสฺสา โปกฺขรณิยา. เขมิโนติ อภยา. ‘‘สิงฺคู’’ติอาทีนิ เตสํ มจฺฉานํ นามานิ. กุณาลกาติ โกกิลา. จิตฺราติ จิตฺรปตฺตา. สิขณฺฑีติ อุฏฺิตสิขา โมรา, อฺเปิ วา มตฺถเก ชาตสิขา ปกฺขิโน. ปานาย มายนฺตีติ ปานาย อายนฺติ. ปลาสาทาติ ขคฺคา. ควชาติ ควยา. คณิโนติ โคกณฺณา. กณฺณิกาติ กณฺณิกมิคา. ฉมาคิรีติ ภูมิสมปตฺถฏา ปิฏฺิปาสาณา. ปุปฺผวิจิตฺรสนฺถตาติ วิจิตฺรปุปฺผสนฺถตา. ทิชาภิฆุฏฺาติ มธุรสฺสเรหิ ทิเชหิ อภิฆุฏฺา. เอวรูปา ตตฺถ ภูมิปพฺพตาติ เอวํ ภควา โกสิยสฺส อสฺสมํ วณฺเณติ.

อิทานิ หิริเทวิยา ตตฺถ ปวิสนาทีนิ ทสฺเสตุํ อาห –

๒๖๙.

‘‘สา สุตฺตจา นีลทุมาภิลมฺพิตา, วิชฺชู มหาเมฆริวานุปชฺชถ;

ตสฺสา สุสมฺพนฺธสิรํ กุสามยํ, สุจึ สุคนฺธํ อชินูปเสวิตํ;

อตฺริจฺจ โกจฺฉํ หิริเมตทพฺรวิ, นิสีท กลฺยาณิ สุขยิทมาสนํ.

๒๗๐.

‘‘ตสฺสา ตทา โกจฺฉคตาย โกสิโย, ยทิจฺฉมานาย ชฏาชินนฺธโร;

นเวหิ ปตฺเตหิ สยํ สหูทกํ, สุธาภิหาสี ตุริโต มหามุนิ.

๒๗๑.

‘‘สา ตํ ปฏิคฺคยฺห อุโภหิ ปาณิภิ, อิจฺจพฺรวิ อตฺตมนา ชฏาธรํ;

หนฺทาหํ เอตรหิ ปูชิตา ตยา, คจฺเฉยฺยํ พฺรหฺเม ติทิวํ ชิตาวินี.

๒๗๒.

‘‘สา โกสิเยนานุมตา ชุตีมตา, อุทีริตา วณฺณมเทน มตฺตา;

สกาเส คนฺตฺวาน สหสฺสจกฺขุโน, อยํ สุธา วาสว เทหิ เม ชยํ.

๒๗๓.

‘‘ตเมน สกฺโกปิ ตทา อปูชยิ, สหินฺทเทวา สุรกฺมุตฺตมํ;

สา ปฺชลี เทวมนุสฺสปูชิตา, นวมฺหิ โกจฺฉมฺหิ ยทา อุปาวิสี’’ติ.

ตตฺถ สุตฺตจาติ สุจฺฉวี. นีลทุมาภิลมฺพิตาติ นีเลสุ ทุเมสุ อภิลมฺพิตา หุตฺวา, ตํ ตํ นีลทุมสาขํ ปรามสนฺตีติ อตฺโถ. มหาเมฆริวาติ เตน นิมนฺติตา มหาเมฆวิชฺชุ วิย ตสฺส ตํ อสฺสมํ ปาวิสิ. ตสฺสาติ ตสฺสา หิริยา. สุสมฺพนฺธสิรนฺติ สุฏฺุ สมฺพนฺธสีสํ. กุสามยนฺติ อุสีราทิมิสฺสกกุสติณมยํ. สุคนฺธนฺติ อุสีเรน เจว อฺเน สุคนฺธติเณน จ มิสฺสกตฺตา สุคนฺธํ. อชินูปเสวิตนฺติ อุปริอตฺถเตน อชินจมฺเมน อุปเสวิตํ. อตฺริจฺจ โกจฺฉนฺติ เอวรูปํ โกจฺฉาสนํ ปณฺณสาลทฺวาเร อตฺถริตฺวา. สุขยิทมาสนนฺติ สุขํ นิสีท อิทมาสนํ.

นฺติ ยาวทตฺถํ. อิจฺฉมานายาติ สุธํ อิจฺฉนฺติยา. นเวหิ ปตฺเตหีติ ตงฺขณฺเว โปกฺขรณิโต อาภเตหิ อลฺลปทุมินิปตฺเตหิ. สยนฺติ สหตฺเถน. สหูทกนฺติ ทกฺขิโณทกสหิตํ. สุธาภิหาสีติ สุธํ อภิหริ. ตุริโตติ โสมนสฺสเวเคน ตุริโต. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. ชิตาวินีติ วิชยปฺปตฺตา หุตฺวา.

อนุมตาติ อิทานิ ยถารุจึ คจฺฉาติ อนุฺาตา. อุทีริตาติ ติทสปุรํ คนฺตฺวา สกฺกสฺส สนฺติเก อยํ สุธาติ อุทีรยิ. สุรกฺนฺติ เทวธีตรํ. อุตฺตมนฺติ ปวรํ. สา ปฺชลี เทวมนุสฺสปูชิตาติ ปฺชลี เทเวหิ จ มนุสฺเสหิ จ ปูชิตา. ยทาติ ยทา นิสีทนตฺถาย สกฺเกน ทาปิเต นเว กฺจนปีสงฺขาเต โกจฺเฉ สา อุปาวิสิ, ตทา นํ ตตฺถ นิสินฺนํ สกฺโก จ เสสเทวตา จ ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผาทีหิ ปูชยึสุ.

เอวํ สกฺโก ตํ ปูเชตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เกน นุ โข การเณน โกสิโย เสสานํ อทตฺวา อิมิสฺสาว สุธํ อทาสี’’ติ. โส ตสฺส การณสฺส ชานนตฺถาย ปุน มาตลึ เปเสสิ. ตมตฺถํ อาวิ กโรนฺโต สตฺถา อาห –

๒๗๔.

‘‘ตเมว สํสี ปุนเทว มาตลึ, สหสฺสเนตฺโต ติทสานมินฺโท;

คนฺตฺวาน วากฺยํ มม พฺรูหิ โกสิยํ, อาสาย สทฺธา สิริยา จ โกสิย;

หิรี สุธํ เกน มลตฺถ เหตุนา’’ติ.

ตตฺถ สํสีติ อภาสิ. วากฺยํ มมาติ มม วากฺยํ โกสิยํ พฺรูหิ. อาสาย สทฺธา สิริยา จาติ อาสาโต จ สทฺธาโต จ สิริโต จ หิรีเยว เกน เหตุนา สุธมลตฺถาติ.

โส ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เวชยนฺตรถมารุยฺห อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๗๕.

‘‘ตํ สุปฺลวตฺถํ อุทตารยี รถํ, ททฺทลฺลมานํ อุปการิยสาทิสํ;

ชมฺโพนทีสํ ตปเนยฺยสนฺนิภํ, อลงฺกตํ กฺจนจิตฺตสนฺนิภํ.

๒๗๖.

‘‘สุวณฺณจนฺเทตฺถ พหู นิปาติตา, หตฺถี ควาสฺสา กิกิพฺยคฺฆทีปิโย;

เอเณยฺยกา ลงฺฆมเยตฺถ ปกฺขิโน, มิเคตฺถ เวฬุริยมยา ยุธา ยุตา.

๒๗๗.

‘‘ตตฺถสฺสราชหรโย อโยชยุํ, ทสสตานิ สุสุนาคสาทิเส;

อลงฺกเต กฺจนชาลุรจฺฉเท, อาเวฬิเน สทฺทคเม อสงฺคิเต.

๒๗๘.

‘‘ตํ ยานเสฏฺํ อภิรุยฺห มาตลิ, ทิสา อิมาโย อภินาทยิตฺถ;

นภฺจ เสลฺจ วนปฺปตินิฺจ, สสาครํ ปพฺยถยิตฺถ เมทินึ.

๒๗๙.

‘‘ส ขิปฺปเมว อุปคมฺม อสฺสมํ, ปาวารเมกํสกโต กตฺชลี;

พหุสฺสุตํ วุทฺธํ วินีตวนฺตํ, อิจฺจพฺรวิ มาตลิ เทวพฺราหฺมณํ.

๒๘๐.

‘‘อินฺทสฺส วากฺยํ นิสาเมหิ โกสิย, ทูโต อหํ ปุจฺฉติ ตํ ปุรินฺทโท;

อาสาย สทฺธา สิริยา จ โกสิย, หิรี สุธํ เกน มลตฺถ เหตุนา’’ติ.

ตตฺถ ตํ สุปฺลวตฺถนฺติ ตํ เวชยนฺตรถํ สุเขน ปฺลวนตฺถํ. อุทตารยีติ อุตฺตาเรสิ อุกฺขิปิตฺวา คมนสชฺชมกาสิ. อุปการิยสาทิสนฺติ อุปกรณภณฺเฑหิ สทิสํ, ยถา ตสฺส อคฺคิสิขาย สมานวณฺณานิ อุปกรณานิ ชลนฺติ, ตเถว ชลิตนฺติ อตฺโถ. ชมฺโพนทีสนฺติ ชมฺพุนทสงฺขาตํ รตฺตสุวณฺณมยํ อีสํ. กฺจนจิตฺตสนฺนิภนฺติ, กฺจนมเยน สตฺตรตนวิจิตฺเตน อฏฺมงฺคเลน สมนฺนาคตํ. สุวณฺณจนฺเทตฺถาติ สุวณฺณมยา จนฺทกา เอตฺถ รเถ. หตฺถีติ สุวณฺณรชตมณิมยา หตฺถี. ควาทีสุปิ เอเสว นโย. ลงฺฆมเยตฺถ ปกฺขิโนติ เอตฺถ รเถ ลงฺฆมยา นานารตนมยา ปกฺขิคณาปิ ปฏิปาฏิยา ิตา. ยุธา ยุตาติ อตฺตโน อตฺตโน ยุเธน สทฺธึ ยุตฺตา หุตฺวา ทสฺสิตา.

อสฺสราชหรโยติ หริวณฺณมโนมยอสฺสราชาโน. สุสุนาคสาทิเสติ พลสมฺปตฺติยา ตรุณนาคสทิเส. กฺจนชาลุรจฺฉเทติ กฺจนชาลมเยน อุรจฺฉทาลงฺกาเรน สมนฺนาคเต. อาเวฬิเนติ อาเวฬสงฺขาเตหิ กณฺณาลงฺกาเรหิ ยุตฺเต. สทฺทคเมติ ปโตทปฺปหารํ วินา สทฺทมตฺเตเนว คมนสีเล. อสงฺคีเตติ นิสฺสงฺเค สีฆชเว เอวรูเป อสฺสราเช ตตฺถ โยเชสุนฺติ อตฺโถ.

อภินาทยิตฺถาติ ยานสทฺเทน เอกนินฺนาทํ อกาสิ. วนปฺปตินิฺจาติ วนปฺปตินี จ วนสณฺเฑ จาติ อตฺโถ. ปพฺยถยิตฺถาติ กมฺปยิตฺถ. ตตฺถ อากาสฏฺกวิมานกมฺปเนน นภกมฺปนํ เวทิตพฺพํ. ปาวารเมกํสกโตติ เอกํสกตปาวารทิพฺพวตฺโถ. วุทฺธนฺติ คุณวุทฺธํ. วินีตวนฺตนฺติ วินีเตน อาจารวตฺเตน สมนฺนาคตํ. อิจฺจพฺรวีติ รถํ อากาเส เปตฺวา โอตริตฺวา เอวํ อพฺรวิ. เทวพฺราหฺมณนฺติ เทวสมํ พฺราหฺมณํ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา คาถมาห –

๒๘๑.

‘‘อนฺธา สิรี มํ ปฏิภาติ มาตลิ, สทฺธา อนิจฺจา ปน เทวสารถิ.

อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา หิ เม, หิรี จ อริยมฺหิ คุเณ ปติฏฺิตา’’ติ.

ตตฺถ อนฺธาติ สิปฺปาทิสมฺปนฺเนปิ อสมฺปนฺเนปิ ภชนโต ‘‘อนฺธา’’ติ มํ ปฏิภาติ. อนิจฺจาติ สทฺธา ปน ตํ ตํ วตฺถุํ ปหาย อฺสฺมึ อฺสฺมึ อุปฺปชฺชนโต หุตฺวา อภาวากาเรน ‘‘อนิจฺจา’’ติ มํ ปฏิภาติ. วิสํวาทิกสมฺมตาติ อาสา ปน ยสฺมา ธนตฺถิกา นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตฺวา วินฏฺปาภตา เอนฺติ, ตสฺมา ‘‘วิสํวาทิกา’’ติ มํ ปฏิภาติ. อริยมฺหิ คุเณติ หิรี ปน หิโรตฺตปฺปสภาวสงฺขาเต ปริสุทฺเธ อริยคุเณ ปติฏฺิตาติ.

อิทานิ ตสฺสา คุณํ วณฺเณนฺโต อาห –

๒๘๒.

‘‘กุมาริโย ยาจิมา โคตฺตรกฺขิตา, ชิณฺณา จ ยา ยา จ สภตฺตุอิตฺถิโย;

ตา ฉนฺทราคํ ปุริเสสุ อุคฺคตํ, หิริยา นิวาเรนฺติ สจิตฺตมตฺตโน.

๒๘๓.

‘‘สงฺคามสีเส สรสตฺติสํยุเต, ปราชิตานํ ปตตํ ปลายินํ;

หิริยา นิวตฺตนฺติ ชหิตฺว ชีวิตํ, เต สมฺปฏิจฺฉนฺติ ปุนา หิรีมนา.

๒๘๔.

‘‘เวลา ยถา สาครเวควารินี, หิราย หิ ปาปชนํ นิวารินี;

ตํ สพฺพโลเก หิริมริยปูชิตํ, อินฺทสฺส ตํ เวทย เทวสารถี’’ติ.

ตตฺถ ชิณฺณาติ วิธวา. สภตฺตูติ สสามิกา ตรุณิตฺถิโย. อตฺตโนติ ตา สพฺพาปิ ปรปุริเสสุ อตฺตโน ฉนฺทราคํ อุคฺคตํ วิทิตฺวา ‘‘อยุตฺตเมตํ อมฺหาก’’นฺติ หิริยา สจิตฺตํ นิวาเรนฺติ, ปาปกมฺมํ น กโรนฺติ. ปตตํ ปลายินนฺติ ปตนฺตานฺจ ปลายนฺตานฺจ อนฺตเร. ชหิตฺว ชีวิตนฺติ เย หิริมนฺโต โหนฺติ, เต อตฺตโน ชีวิตํ จชิตฺวา หิริยา นิวตฺตนฺติ, เอวํ นิวตฺตา จ ปน เต หิรีมนา ปุน อตฺตโน สามิกํ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อมิตฺตหตฺถโต โมเจตฺวา คณฺหนฺติ. ปาปชนํ นิวารินีติ ปาปโต ชนํ นิวารินี, อยเมว วา ปาโ. นฺติ ตํ หิรึ. อริยปูชิตนฺติ อริเยหิ พุทฺธาทีหิ ปูชิตํ. อินฺทสฺส ตํ เวทยาติ ยสฺมา เอวํ มหาคุณา อริยปูชิตาเวสา, ตสฺมา ตํ เอวํ อุตฺตมา นาเมสาติ อินฺทสฺส กเถหีติ.

ตํ สุตฺวา มาตลิ คาถมาห –

๒๘๕.

‘‘โก เต อิมํ โกสิย ทิฏฺิโมทหิ, พฺรหฺมา มหินฺโท อถ วา ปชาปติ;

หิราย เทเวสุ หิ เสฏฺสมฺมตา, ธีตา มหินฺทสฺส มเหสิ ชายถา’’ติ.

ตตฺถ ทิฏฺินฺติ ‘‘หิรี นาม มหาคุณา อริยปูชิตา’’ติ ลทฺธึ. โอทหีติ หทเย ปเวเสสิ. เสฏฺสมฺมตาติ ตว สนฺติเก สุธาย ลทฺธกาลโต ปฏฺาย อินฺทสฺส สนฺติเก กฺจนาสนํ ลภิตฺวา สพฺพเทวตาหิ ปูชิยมานา อุตฺตมสมฺมตา ชายถ.

เอวํ ตสฺมึ กเถนฺเตเยว โกสิยสฺส ตงฺขณฺเว จวนธมฺโม ชาโต. อถ นํ, มาตลิ, ‘‘โกสิย อายุสงฺขาโร เต โอสฺสฏฺโ, จวนธมฺโมปิ เต สมฺปตฺโต, กึ เต มนุสฺสโลเกน, เทวโลกํ คจฺฉามา’’ติ ตตฺถ เนตุกาโม หุตฺวา คาถมาห –

๒๘๖.

‘‘หนฺเทหิ ทานิ ติทิวํ อปกฺกม, รถํ สมารุยฺห มมายิตํ อิมํ;

อินฺโท จ ตํ อินฺทสโคตฺต กงฺขติ, อชฺเชว ตฺวํ อินฺทสหพฺยตํ วชา’’ติ.

ตตฺถ มมายิตนฺติ ปิยํ มนาปํ. อินฺทสโคตฺตาติ ปุริมภเว อินฺเทน สมานโคตฺต. กงฺขตีติ ตวาคมนํ อิจฺฉนฺโต กงฺขติ.

อิติ ตสฺมึ โกสิเยน สทฺธึ กเถนฺเตเยว โกสิโย จวิตฺวา โอปปาติโก เทวปุตฺโต หุตฺวา อารุยฺห ทิพฺพรเถ อฏฺาสิ. อถ นํ, มาตลิ, สกฺกสฺส สนฺติกํ เนสิ. สกฺโก ตํ ทิสฺวาว ตุฏฺมานโส อตฺตโน ธีตรํ หิริเทวึ ตสฺส อคฺคมเหสึ กตฺวา อทาสิ, อปริมาณมสฺส อิสฺสริยํ อโหสิ. ตมตฺถํ วิทิตฺวา ‘‘อโนมสตฺตานํ กมฺมํ นาม เอวํ วิสุชฺฌตี’’ติ สตฺถา โอสานคาถมาห –

๒๘๗.

‘‘เอวํ วิสุชฺฌนฺติ อปาปกมฺมิโน, อโถ สุจิณฺณสฺส ผลํ น นสฺสติ;

เย เกจิ มทฺทกฺขุ สุธาย โภชนํ, สพฺเพว เต อินฺทสหพฺยตํ คตา’’ติ.

ตตฺถ อปาปกมฺมิโนติ อปาปกมฺมา สตฺตา เอวํ วิสุชฺฌนฺติ เย เกจิ มทฺทกฺขูติ เย เกจิ สตฺตา ตสฺมึ หิมวนฺตปเทเส ตทา โกสิเยน หิริยา ทียมานํ สุธาโภชนํ อทฺทสํสุ. สพฺเพว เตติ เต สพฺเพปิ ตํ ทานํ อนุโมทิตฺวา จิตฺตํ ปสาเทตฺวา อินฺทสหพฺยตํ คตาติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปตํ อทานาภิรตํ ถทฺธมจฺฉริยํ สมานํ อหํ ทเมสึเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา หิรี เทวตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, โกสิโย ทานปติ ภิกฺขุ, ปฺจสิโข อนุรุทฺโธ, มาตลิ อานนฺโท, สูริโย กสฺสโป, จนฺโท โมคฺคลฺลาโน, นารโท สาริปุตฺโต, สกฺโก อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สุธาโภชนชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๓๖] ๔. กุณาลชาตกวณฺณนา

เอวมกฺขายตีติ อิทํ สตฺถา กุณาลทเห วิหรนฺโต อนภิรติปีฬิเต ปฺจสเต ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – สากิยโกลิยา กิร กปิลวตฺถุนครสฺส จ โกลิยนครสฺส จ อนฺตเร โรหิณึ นาม นทึ เอเกเนวาวรเณน พนฺธาเปตฺวา สสฺสานิ กาเรนฺติ. อถ เชฏฺมูลมาเส สสฺเสสุ มิลายนฺเตสุ อุภยนครวาสีนมฺปิ กมฺมการา สนฺนิปตึสุ. ตตฺถ โกลิยนครวาสิโน วทึสุ – ‘‘อิทํ อุทกํ อุภยโต นีหริยมานํ เนว ตุมฺหากํ, น อมฺหากํ ปโหสฺสติ, อมฺหากํ ปน สสฺสํ เอกอุทเกเนว นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. กปิลวตฺถุวาสิโน วทึสุ – ‘‘ตุมฺเหสุ โกฏฺเ ปูเรตฺวา ิเตสุ มยํ รตฺตสุวณฺณนีลมณิกาฬกหาปเณ คเหตฺวา น สกฺขิสฺสาม ปจฺฉิปสิพฺพกาทิหตฺถา ตุมฺหากํ ฆรทฺวาเร วิจริตุํ, อมฺหากมฺปิ สสฺสํ เอเกเนว อุทเกน นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. ‘‘น มยํ ทสฺสามา’’ติ? ‘‘มยมฺปิ น ทสฺสามา’’ติ. เอวํ กลหํ วฑฺเฒตฺวา เอโก อุฏฺาย เอกสฺส ปหารํ อทาสิ, โสปิ อฺสฺสาติ เอวํ อฺมฺํ ปหริตฺวา ราชกุลานํ ชาตึ ฆฏฺเฏตฺวา กลหํ ปวตฺเตสุํ.

โกลิยกมฺมการา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห กปิลวตฺถุวาสิเก สากิยทารเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย โสณสิงฺคาลาทโย วิย อตฺตโน ภคินีหิ สทฺธึ วสึสุ, เอเตสํ หตฺถิอสฺสาทโย วา ผลกาวุธานิ วา อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? สากิยกมฺมการา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห ทานิ กุฏฺิโน ทารเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย อนาถา นิคฺคติกา ติรจฺฉานา วิย โกลรุกฺเข วสึสุ, เอเตสํ หตฺถิอสฺสาทโย วา ผลกาวุธานิ วา อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? เต คนฺตฺวา ตสฺมึ กมฺเม นิยุตฺตอมจฺจานํ กเถสุํ, อมจฺจา ราชกุลานํ กเถสุํ. ตโต สากิยา ‘‘ภคินีหิ สทฺธึ สํวาสิกานํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ. โกลิยาปิ ‘‘โกลรุกฺขวาสีนํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ. อปเร ปนาจริยา ‘‘สากิยโกลิยานํ ทาสีสุ อุทกตฺถาย นทึ คนฺตฺวา จุมฺพฏานิ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา สุขกถาย สนฺนิสินฺนาสุ เอกิสฺสา จุมฺพฏํ เอกา สกสฺาย คณฺหิ, ตํ นิสฺสาย ‘มม จุมฺพฏํ, ตว จุมฺพฏ’นฺติ กลเห ปวตฺเต กเมน อุภยนครวาสิโน ทาสกมฺมการา เจว เสวกคามโภชกามจฺจอุปราชาโน จาติ สพฺเพ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสู’’ติ วทนฺติ. อิมมฺหา ปน นยา ปุริมนโยว พหูสุ อฏฺกถาสุ อาคโต, ยุตฺตรูโป จาติ สฺเวว คเหตพฺโพ.

เต ปน สายนฺหสมเย ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมิสฺสนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ภควา สาวตฺถิยํ วิหรนฺโต ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต อิเม เอวํ ยุทฺธสชฺเช นิกฺขนฺเต อทฺทส, ทิสฺวา จ ‘‘มยิ คเต เอส กลโห วูปสมิสฺสติ นุ โข, โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘อหเมตฺถ คนฺตฺวา กลหวูปสมตฺถํ ตีณิ ชาตกานิ กเถสฺสามิ, ตโต กลโห วูปสมิสฺสติ, อถ สามคฺคิทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถตฺวา อตฺตทณฺฑสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๔๑ อาทโย) เทเสสฺสามิ, เทสนํ สุตฺวา อุภยนครวาสิโน อฑฺฒเตยฺยานิ อฑฺฒเตยฺยานิ กุมารสตานิ ทสฺสนฺติ, อหํ เต ปพฺพาเชสฺสามิ, มหนฺโต สมาคโม ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สายนฺหสมเย คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย ทฺวินฺนํ เสนานํ อนฺตเร อากาเส ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา เตสํ สํเวคชนนตฺถํ ทิวา อนฺธการํ กาตุํ เกสรํสิโย วิสฺสชฺเชนฺโต นิสีทิ. อถ เนสํ สํวิคฺคมานสานํ อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต ฉพฺพณฺณา พุทฺธรํสิโย วิสฺสชฺเชสิ. กปิลวตฺถุวาสิโนปิ ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺโ สตฺถา อาคโต, ทิฏฺโ นุ โข เตน อมฺหากํ กลหกรณภาโว’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘น โข ปน สกฺกา สตฺถริ อาคเต อมฺเหหิ ปรสฺส สรีเร สตฺถํ ปาเตตุํ, โกลิยนครวาสิโน อมฺเห หนนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา’’ติ อาวุธานิ ฉฑฺเฑสุํ. โกลิยนครวาสิโนปิ ตเถว อกํสุ.

อถ ภควา โอตริตฺวา รมณีเย ปเทเส วาลุกปุลิเน ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิ อโนปมาย พุทฺธสิริยา วิโรจมาโน. เตปิ ราชาโน ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา นิสีทึสุ. อถ เน สตฺถา ชานนฺโตว ‘‘กสฺมา อาคตตฺถ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เนว, ภนฺเต, นทิทสฺสนตฺถาย, น กีฬนตฺถาย, อปิจ โข ปน อิมสฺมึ าเน สงฺคามํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา อาคตมฺหา’’ติ. ‘‘กึ นิสฺสาย โว กลโห, มหาราชา’’ติ? ‘‘อุทกํ นิสฺสาย ภนฺเต’’ติ. ‘‘อุทกํ กึ อคฺฆติ มหาราชา’’ติ? ‘‘อปฺปคฺฆํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปถวี นาม กึ อคฺฆติ, มหาราชา’’ติ? ‘‘อนคฺฆา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ขตฺติยา กึ อคฺฆนฺติ, มหาราชา’’ติ? ‘‘ขตฺติยา นาม อนคฺฆา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อปฺปคฺฆํ อุทกํ นิสฺสาย กสฺมา อนคฺเฆ ขตฺติเย นาเสถ, มหาราช, กลหสฺมิฺหิ อสฺสาโท นาม นตฺถิ, กลหวเสน หิ มหาราชา เอกาย รุกฺขเทวตาย กาฬสีเหน สทฺธึ พทฺธาฆาโต สกลมฺปิ อิมํ กปฺปํ อนุปฺปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ผนฺทนชาตกํ (ชา. ๑.๑๓.๑๔ อาทโย) กเถสิ. ตโต ‘‘ปรปตฺติเยน นาม มหาราชา น ภวิตพฺพํ, ปรปตฺติยา หิ หุตฺวา เอกสฺส สสสฺส กถาย ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต หิมวนฺเต จตุปฺปทคณา มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทิโน อเหสุํ, ตสฺมา ปรปตฺติเยน น ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ททฺทรชาตกํ (ชา. ๑.๒๔๓-๔๔; ๑.๔.๑๓-๑๖; ๑.๙.๑๐๕ อาทโย) กเถสิ. ตโต ‘‘กทาจิ มหาราชา ทุพฺพโลปิ มหพฺพลสฺส รนฺธํ ปสฺสติ, กทาจิ มหพฺพโลปิ ทุพฺพลสฺส รนฺธํ ปสฺสติ, ลฏุกิกาปิ หิ สกุณิกา หตฺถินาคํ ฆาเตสี’’ติ วตฺวา ลฏุกิกชาตกํ (ชา. ๑.๕.๓๙ อาทโย) กเถสิ. เอวํ กลหวูปสมนตฺถาย ตีณิ ชาตกานิ กเถตฺวา สามคฺคิปริทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถสิ. ‘‘สมคฺคานฺหิ มหาราชา โกจิ โอตารํ นาม ปสฺสิตุํ น สกฺโกตี’’ติ วตฺวา รุกฺขธมฺมชาตกํ (ชา. ๑.๑.๗๔) กเถสิ. ตโต ‘‘สมคฺคานํ มหาราชา โกจิ วิวรํ ปสฺสิตุํ นาสกฺขิ, ยทา ปน อฺมฺํ วิวาทมกํสุ, อถ เน เอโก เนสาทปุตฺโต ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อาทาย คโต, วิวาเท อสฺสาโท นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา วฏฺฏกชาตกํ (ชา. ๑.๑.๓๕, ๑๑๘; ๑.๖.๑๒๘-๑๓๓) กเถสิ. เอวํ อิมานิ ปฺจ ชาตกานิ กเถตฺวา อวสาเน อตฺตทณฺฑสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๔๑ อาทโย) กเถสิ.

อถ ราชาโน ปสนฺนา ‘‘สเจ สตฺถา นาคมิสฺส, มยํ อฺมฺํ วธิตฺวา โลหิตนทึ ปวตฺตยิสฺสาม, สตฺถารํ นิสฺสาย โน ชีวิตํ ลทฺธํ. สเจ ปน สตฺถา อคารํ อชฺฌาวสิสฺส, ทฺวิสหสฺสทีปปริวารํ จตุมหาทีปรชฺชํ หตฺถคตํ อภวิสฺส, อติเรกสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา อภวิสฺสํสุ, ตโต ขตฺติยปริวาโรว อวิจริสฺส, ตํ โข ปเนส สมฺปตฺตึ ปหาย นิกฺขมิตฺวา สมฺโพธึ ปตฺโต, อิทานิปิ ขตฺติยปริวาโรว วิจรตู’’ติ อุภยนครวาสิโน อฑฺฒเตยฺยานิ อฑฺฒเตยฺยานิ กุมารสตานิ อทํสุ. ภควา เต ปพฺพาเชตฺวา มหาวนํ อคมาสิ. ปุนทิวสโต ปฏฺาย เตหิ ปริวุโต เอกทา กปิลวตฺถุนคเร เอกทา โกลิยนคเรติ ทฺวีสุ นคเรสุ ปิณฺฑาย จรติ. อุภยนครวาสิโน มหาสกฺการํ กรึสุ. เตสํ ครุคารเวน น อตฺตโน รุจิยา ปพฺพชิตานํ อนภิรติ อุปฺปชฺชิ. ปุราณทุติยิกาโยปิ เนสํ อนภิรติชนนตฺถาย ตํ ตํ วตฺวา สาสนํ เปเสสุํ. เต อติเรกตรํ อุกฺกณฺึสุ. ภควา อาวชฺเชนฺโต เตสํ อนภิรตภาวํ ตฺวา ‘‘อิเม ภิกฺขู มาทิเสน พุทฺเธน สทฺธึ เอกโต วสนฺตา อุกฺกณฺนฺติ, กถํ รูปา นุ โข เตสํ ธมฺมกถา สปฺปายา’’ติ อุปธาเรนฺโต กุณาลธมฺมเทสนํ ปสฺสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ อิเม ภิกฺขู หิมวนฺตํ เนตฺวา กุณาลกถาย เนสํ มาตุคามโทสํ ปกาเสตฺวา อนภิรตึ หริตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ทสฺสามี’’ติ.

โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย กปิลวตฺถุํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ภตฺตกิจฺจเวลายเมว เต ปฺจสเต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ทิฏฺปุพฺโพ โว, ภิกฺขเว, รมณีโย หิมวนฺตปเทโส’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘โนเหตํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘คจฺฉิสฺสถ ปน หิมวนฺตจาริก’’นฺติ? ‘‘ภนฺเต, อนิทฺธิมนฺโต มยํ กถํ คมิสฺสามา’’ติ. ‘‘สเจ ปน โว โกจิ คเหตฺวา คจฺเฉยฺย, คจฺเฉยฺยาถา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. สตฺถา สพฺเพปิ เต อตฺตโน อิทฺธิยา คเหตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตํ คนฺตฺวา คคนตเล ิโตว รมณีเย หิมวนฺตปเทเส กฺจนปพฺพตํ รชตปพฺพตํ มณิปพฺพตํ หิงฺคุลิกปพฺพตํ อฺชนปพฺพตํ สานุปพฺพตํ ผลิกปพฺพตนฺติ นานาวิเธ ปพฺพเต, ปฺจ มหานทิโย, กณฺณมุณฺฑกํ รถการํ สีหปปาตํ ฉทฺทนฺตํ ติยคฺคฬํ อโนตตฺตํ กุณาลทหนฺติ สตฺต ทเห ทสฺเสสิ. หิมวนฺโต จ นาม มหา ปฺจโยชนสตุพฺเพโธ ติโยชนสหสฺสวิตฺถโต, ตสฺส อิมํ รมณียํ เอกเทสํ อตฺตโน อานุภาเวน ทสฺเสสิ. ตตฺถ กตนิวาสานิ สีหพฺยคฺฆหตฺถิกุลาทีนิ จตุปฺปทานิปิ เอกเทสโต ทสฺเสสิ. ตตฺถ อารามรามเณยฺยกาทีนิ ปุปฺผูปคผลูปเค รุกฺเข นานาวิเธ สกุณสงฺเฆ ชลชถลชปุปฺผานิ หิมวนฺตสฺส ปุรตฺถิมปสฺเส สุวณฺณตลํ, ปุจฺฉิมปสฺเส หิงฺคุลตลํ ทสฺเสสิ. อิเมสํ รามเณยฺยกานํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย เตสํ ภิกฺขูนํ ปุราณทุติยิกาสุ ฉนฺทราโค ปหีโน.

อถ สตฺถา เต ภิกฺขู คเหตฺวา อากาสโต โอตริตฺวา หิมวนฺตปจฺฉิมปสฺเส สฏฺิโยชนิเก มโนสิลาตเล สตฺตโยชนิกสฺส กปฺปฏฺิกสาลรุกฺขสฺส เหฏฺา ติโยชนิกาย มโนสิลาตลาย เตหิ ภิกฺขูหิ ปริวุโต ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชนฺโต อณฺณวกุจฺฉึ โขเภตฺวา ชลมาโน สูริโย วิย นิสีทิตฺวา มธุรสฺสรํ นิจฺฉาเรนฺโต เต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขเว, อิมสฺมึ หิมวนฺเต ตุมฺเหหิ อทิฏฺปุพฺพํ ปุจฺฉถา’’ติ. ตสฺมึ ขเณ ทฺเว จิตฺรโกกิลา อุโภสุ โกฏีสุ ทณฺฑกํ มุเขน ฑํสิตฺวา มชฺเฌ อตฺตโน สามิกํ นิสีทาเปตฺวา อฏฺ จิตฺรโกกิลา ปุรโต, อฏฺ ปจฺฉโต, อฏฺ วามโต, อฏฺ ทกฺขิณโต, อฏฺ เหฏฺา, อฏฺ อุปริ ฉายํ กตฺวา เอวํ จิตฺรโกกิลํ ปริวาเรตฺวา อากาเสนาคจฺฉนฺติ. อถ เต ภิกฺขู ตํ สกุณสงฺฆํ ทิสฺวา สตฺถารํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘เก นาเมเต, ภนฺเต สกุณา’’ติ? ‘‘ภิกฺขเว, เอส มม โปราณโก วํโส, มยา ปิตา ปเวณี, มํ ตาว ปุพฺเพ เอวํ ปริจรึสุ, ตทา ปเนส สกุณคโณ มหา อโหสิ, อฑฺฒุฑฺฒานิ ทิชกฺาสหสฺสานิ มํ ปริจรึสุ. อนุปุพฺเพน ปริหายิตฺวา อิทานิ เอตฺตโก ชาโต’’ติ. ‘‘กถํ เอวรูเป ปน, ภนฺเต, วนสณฺเฑ เอตา ทิชกฺาโย ตุมฺเห ปริจรึสู’’ติ? อถ เนสํ สตฺถา ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถา’’ติ สตึ อุปฏฺาเปตฺวา อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห –

‘‘เอวมกฺขายติ เอวมนุสูยติ, สพฺโพสธธรณิธเร เนกปุปฺผมาลฺยวิตเต คชควชมหึสรุรุจมรปสทขคฺคโคกณฺณสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉโกกตรจฺฉอุทฺทารกทลิ- มิคพิฬารสสกณฺณิกานุจริเต อากิณฺณเนลมณฺฑลมหาวราหนาคกุลกเรณุสงฺฆาธิวุฏฺเ อิสฺสมิคสาขมิคสรภมิคเอณีมิควาตมิคปสทมิคปุริสาลุกิมฺปุริสยกฺขรกฺข- สนิเสวิเต อมชฺชวมฺชรีธรปหฏฺปุปฺผผุสิตคฺคาเนกปาทปคณวิตเก กุรรจโกรวารณมยูรปรภตชีวฺชีวกเจลาวกภิงฺการกรวีกมตฺตวิหงฺคคณสตตสมฺปฆุฏฺเ อฺชนมโนสิลาหริตาลหิงฺคุลกเหมรชตกนกาเนกธาตุ- สตวินทฺธปฏิมณฺฑิตปเทเส เอวรูเป ขลุ, โภ, รมฺเม วนสณฺเฑ กุณาโล นาม สกุโณ ปฏิวสติ อติวิย จิตฺโต อติวิย จิตฺตปตฺตจฺฉทโน’’.

‘‘ตสฺเสว ขลุ, โภ, กุณาลสฺส สกุณสฺส อฑฺฒุฑฺฒานิ อิตฺถิสหสฺสานิ ปริจาริกา ทิชกฺาโย, อถ ขลุ, โภ, ทฺเว ทิชกฺาโย กฏฺํ มุเขน ฑํสิตฺวา ตํ กุณาลํ สกุณํ มชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา อุฑฺเฑนฺติมา นํ กุณาลํ สกุณํ อทฺธานปริยายปเถ กิลมโถ อุพฺพาเหตฺถา’’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย เหฏฺโต เหฏฺโต อุฑฺเฑนฺติ ‘สจายํ กุณาโล สกุโณ อาสนา ปริปติสฺสติ, มยํ ตํ ปกฺเขหิ ปฏิคฺคเหสฺสามา’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย อุปรูปริ อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ กุณาลํ สกุณํ อาตโป ปริตาเปสี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย อุภโตปสฺเสน อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ กุณาลํ สกุณํ สีตํ วา อุณฺหํ วา ติณํ วา รโช วา วาโต วา อุสฺสาโว วา อุปปฺผุสี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย ปุรโต ปุรโต อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ กุณาลํ สกุณํ โคปาลกา วา ปสุปาลกา วา ติณหารกา วา กฏฺหารกา วา วนกมฺมิกา วา กฏฺเน วา กเลน วา ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา สกฺขราหิ วา ปหารํ อทํสุ, มายํ กุณาโล สกุโณ คจฺเฉหิ วา ลตาหิ วา รุกฺเขหิ วา สาขาหิ วา ถมฺเภหิ วา ปาสาเณหิ วา พลวนฺเตหิ วา ปกฺขีหิ สงฺคเมสี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย ปจฺฉโต ปจฺฉโต อุฑฺเฑนฺติ สณฺหาหิ สขิลาหิ มฺชูหิ มธุราหิ วาจาหิ สมุทาจรนฺติโย ‘มายํ กุณาโล สกุโณ อาสเน ปริยุกฺกณฺี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย ทิโสทิสํ อุฑฺเฑนฺติ อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลมาหรนฺติโย ‘มายํ กุณาโล สกุโณ ขุทาย ปริกิลมิตฺถา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ตา ทิชกฺาโย ตํ กุณาลํ สกุณํ อาราเมเนว อารามํ, อุยฺยาเนเนว อุยฺยานํ, นทีติตฺเถเนว นทีติตฺถํ, ปพฺพตสิขเรเนว ปพฺพตสิขรํ, อมฺพวเนเนว อมฺพวนํ, ชมฺพุวเนเนว ชมฺพุวนํ, ลพุชวเนเนว ลพุชวนํ, นาฬิเกรสฺจาริเยเนว นาฬิเกรสฺจาริยํ ขิปฺปเมว อภิสมฺโภนฺติ รติตฺถาย.

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตาหิ ทิชกฺาหิ ทิวสํ ปริพฺยูฬฺโห เอวํ อปสาเทติ ‘นสฺสถ ตุมฺเห วสลิโย, วินสฺสถ ตุมฺเห วสิลิโย โจริโย ธุตฺติโย อสติโย ลหุจิตฺตาโย กตสฺส อปฺปฏิการิกาโย อนิโล วิย เยนกามํคมาโย’’’ ติ.

ตตฺรายํ อตฺถวณฺณนา – ภิกฺขเว, โส วนสณฺโฑ เอวํ อกฺขายติ เอวฺจ อนุสูยติ. กินฺติ? สพฺโพสธธรณิธเรติ วิตฺถาโร. ตตฺถ สพฺโพสธธรณิธเรติ มูลตจปตฺตปุปฺผาทิสพฺโพสธธราย ธรณิยา สมนฺนาคเตติ อตฺโถ, สพฺโพสธยุตฺโต วา ธรณิธโร. โส หิ ปเทโส สพฺโพสธธรณิธโรติ เอวมกฺขายติ เอวฺจ อนุสูยติ, ตสฺมึ วนสณฺเฑติ วุตฺตํ โหติ. เสสปทโยชนายปิ เอเสว นโย. เนกปุปฺผมาลฺยวิตเตติ อเนเกหิ ผลตฺถาย อุปฺปนฺนปุปฺเผหิ เจว ปิฬนฺธนมาลฺเยหิ จ วิตเต. รุรูติ สุวณฺณวณฺณา มิคา. อุทฺทาราติ อุทฺทา. พิฬาราติ มหาพิฬารา. เนลมณฺฑลํ วุจฺจติ ตรุณภิงฺกจฺฉาปมณฺฑลํ. มหาวราหาติ มหาหตฺถิโน, อากิณฺณเนลมณฺฑลมหาวราเหน โคจริยาทิเภเทน ทสวิเธน นาคกุเลน เจว กเรณุสงฺเฆน จ อธิวุฏฺเติ อตฺโถ. อิสฺสมิคาติ กาฬสีหา. วาตมิคาติ มหาวาตมิคา. ปสทมิคาติ จิตฺรมิคา. ปุริสาลูติ วฬวามุขยกฺขินิโย. กิมฺปุริสาติ เทวกินฺนรจนฺทกินฺนรทุมกินฺนรทณฺฑมาณวกโกนฺติ- สกุณกณฺณปาวุรณาทิเภทา กินฺนรา. อมชฺชวมฺชรีธรปหฏฺปุปฺผผุสิตคฺคาเนกปาทปคณวิตเตติ มกุลธเรหิ เจว มฺชรีธเรหิ จ สุปุปฺผิเตหิ จ อคฺคมตฺตปุปฺผิเตหิ จ อเนเกหิ ปาทปคเณหิ วิตเต. วารณา นาม หตฺถิลิงฺคสกุณา. เจลาวกาติปิ เอเต สกุณาเยว. เหมฺจ กนกฺจาติ ทฺเว สุวณฺณชาติโย. เอเตหิ อฺชนาทีหิ อเนกธาตุสเตหิ อเนเกหิ วณฺณธาตุราสีหิ วินทฺธปฏิมณฺฑิตปเทเส. โภติ ธมฺมาลปนมตฺตเมตํ. จิตฺโตติ มุขตุณฺฑเกปิ เหฏฺาอุทรภาเคปิ จิตฺโรว.

อฑฺฒุฑฺฒานีติ อฑฺฒจตุตฺถานิ, ตีณิ สหสฺสานิ ปฺเจว สตานีติ อตฺโถ. อทฺธานปริยายปเถติ อทฺธานสงฺขาเต คมนมคฺเค. อุพฺพาเหตฺถาติ พาธยิตฺถ. อุปปฺผุสีติ อุปคนฺตฺวา ผุสิ. ปหารํ อทํสูติ เอตฺถ ‘‘มา น’’นฺติ ปทสฺส สามิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สงฺคเมสีติ สมาคจฺฉิ. สณฺหาหีติ มฏฺาหิ. สขิลาหีติ ปิยาหิ. มฺชูหีติ สขิลาหิ. มธุราหีติ มธุรสฺสราหิ. สมุทาจรนฺติโยติ คนฺธพฺพกรณวเสน ปริจรนฺติโย. อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลนฺติ อเนเกหิ รุกฺเขหิ วิวิธวิกติผลํ. อาราเมเนว อารามนฺติ ปุปฺผารามาทีสุ อฺตเรน อาราเมเนว อฺตรํ อารามํ เนนฺตีติ อตฺโถ. อุยฺยานาทีสุปิ เอเสว นโย. นาฬิเกรสฺจาริเยเนวาติ นาฬิเกรวเนเนว อฺํ นาฬิเกรวนํ. อติสมฺโภนฺตีติ เอวํ เนตฺวา ตตฺถ นํ ขิปฺปฺเว รติตฺถาย ปาปุณนฺติ.

ทิวสํ ปริพฺยูฬฺโหติ สกลทิวสํ ปริพฺยูฬฺโห. อปสาเทตีติ ตา กิร ตํ เอวํ ทิวสํ ปริจริตฺวา นิวาสรุกฺเข โอตาเรตฺวา ปริวาเรตฺวา รุกฺขสาขาสุ นิสีทิตฺวา ‘‘อปฺเปว นาม มธุรวจนํ ลเภยฺยามา’’ติ ปตฺถยนฺติโย อิมินา อุยฺโยชิตกาเล อตฺตโน วสนฏฺานํ คมิสฺสามาติ วสนฺติ. กุณาลราชา ปน ตา อุยฺโยเชนฺโต ‘‘นสฺสถา’’ติอาทิวจเนหิ อปสาเทติ. ตตฺถ นสฺสถาติ คจฺฉถ. วินสฺสถาติ สพฺพโตภาเคน นสฺสถ. เคเห ธนธฺาทีนํ นาสเนน โจริโย, พหุมายตาย ธุตฺติโย, นฏฺสฺสติตาย อสติโย, อนวฏฺิตจิตฺตตาย ลหุจิตฺตาโย, กตวินาสเนน มิตฺตทุพฺภิตาย กตสฺส อปฺปฏิการิกาโยติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อหํ ติรจฺฉานคโตปิ อิตฺถีนํ อกตฺุตํ พหุมายตํ อนาจารตํ ทุสฺสีลตฺจ ชานามิ, ตทาปาหํ ตาสํ วเส อวตฺติตฺวา ตา เอว อตฺตโน วเส วตฺเตมี’’ติ อิมาย กถาย เตสํ ภิกฺขูนํ อนภิรตึ หริตฺวา สตฺถา ตุณฺหี อโหสิ. ตสฺมึ ขเณ ทฺเว กาฬโกกิลา สามิกํ ทณฺฑเกน อุกฺขิปิตฺวา เหฏฺาภาคาทีสุ จตสฺโส จตสฺโส หุตฺวา ตํ ปเทสํ อาคมึสุ. เต ภิกฺขู ตาปิ ทิสฺวา สตฺถารํ ปุจฺฉึสุ. สตฺถา ‘‘ปุพฺเพ, ภิกฺขเว, มม สหาโย ปุณฺณมุโข นาม ผุสฺสโกกิโล อโหสิ, ตสฺสายํ วํโส’’ติ วตฺวา ปุริมนเยเนว เตหิ ภิกฺขูหิ ปุจฺฉิโต อาห –

‘‘ตสฺเสว ขลุ, โภ, หิมวโต ปพฺพตราชสฺส ปุรตฺถิมทิสาภาเค สุสุขุมสุนิปุณคิริปฺปภวหริตุปยนฺติโย’’ติ.

ตตฺถ สุฏฺุ สุขุมสณฺหสลิลตาย สุสุขุมสุนิปุณา, คิริ เอตาสํ ปภโวติ คิริปฺปภวา, หิมวนฺตโต สนฺทมานหริตติณมิสฺสโอฆตาย หริตา, กุณาลทหํ อุปคมเนน อุปยนฺติโยติ สุสุขุมสุนิปุณคิริปฺปภวหริตุปยนฺติโย, เอวรูปา นทิโย ยสฺมึ สนฺทนฺตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ยํ กุณาลทหํ ตา อุปยนฺติ, ตตฺถ ปุปฺผานิ วณฺเณนฺโต อาห –

‘‘อุปฺปลปทุมกุมุทนลินสตปตฺตโสคนฺธิกมนฺทาลกสมฺปติวิรุฬฺหสุจิคนฺธมนุฺมาวกปฺปเทเส’’ติ.

ตตฺถ อุปฺปลนฺติ นีลุปฺปลํ. นลินนฺติ เสตปทุมํ. สตปตฺตนฺติ ปริปุณฺณสตปตฺตปทุมํ. สมฺปตีติ เอเตหิ สมฺปติวิรุฬฺเหหิ อภินวชาเตหิ สุจิคนฺเธน เจว มนุฺเน จ หทยพนฺธนสมตฺถตาย มาวเกน จ ปเทเสน สมนฺนาคเตติ อตฺโถ.

อิทานิ ตสฺมึ ทเห รุกฺขาทโย วณฺเณนฺโต อาห –

‘‘กุรวกมุจลินฺทเกตกเวทิสวฺชุลปุนฺนาคพกุลติลกปิยกหสนสาลสฬล- จมฺปกอโสกนาครุกฺขติรีฏิภุชปตฺตโลทฺทจนฺทโนฆวเน กาฬาครุปทฺมกปิยงฺคุเทวทารุกโจจคหเน กกุธกุฏชองฺโกลกจฺจิการกณิการกณฺณิการ- กนเวรโกรณฺฑกโกวิฬารกึสุกโยธิกวนมลฺลิกมนงฺคณมนวชฺชภณฺฑิสุรุจิร- ภคินิมาลามลฺยธเร ชาติสุมนมธุคนฺธิกธนุตกฺการิตาลีสตครมุสีรโกฏฺกจฺฉวิตเต อติมุตฺตกสํกุสุมิตลตาวิตตปฏิมณฺฑิตปฺปเทเส หํสปิลวกาทมฺพการณฺฑวาภินทิเต วิชฺชาธรสิทฺธสมณตาปสคณาธิวุฏฺเ วรเทวยกฺขรกฺขสทานวคนฺธพฺพกินฺนรมโหรคานุจิณฺณปฺปเทเส – เอวรูเป ขลุ, โภ, รมฺเม วนสณฺเฑ ปุณฺณมุโข นาม ผุสฺสโกกิโล ปติวสติ อติวิย มธุรคิโร วิลาสิตนยโน มตฺตกฺโข.

‘‘ตสฺเสว ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส อฑฺฒุฑฺฒานิ อิตฺถิสตานิ ปริจาริกา ทิชกฺาโย. อถ ขลุ, โภ, ทฺเว ทิชกฺาโย กฏฺํ มุเขน ฑํสิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ มชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อทฺธานปริยายปเถ กิลมโถ อุพฺพาเหตฺถา’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย เหฏฺโต เหฏฺโต อุฑฺเฑนฺติ ‘สจายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล สกุโณ อาสนา ปริปติสฺสติ, มยํ ตํ ปกฺเขหิ ปฏิคฺคเหสฺสามา’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย อุปรูปริ อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อาตโป ปริตาเปสี’ติ.

‘‘ปฺาส ปฺาส ทิชกฺาโย อุภโตปสฺเสน อุฑฺเฑนฺติ ‘มานํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ สีตํ วา อุณฺหํ วา ติณํ วา รโช วา วาโต วา อุสฺสาโว วา อุปปฺผุสี’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย ปุรโต ปุรโต อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ โคปาลกา วา ปสุปาลกา วา ติณหารกา วา กฏฺหารกา วา วนกมฺมิกา วา กฏฺเน วา กลาย วา ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา สกฺขราหิ วา ปหารมทํสุ, มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล คจฺเฉหิ วา ลตาหิ วา รุกฺเขหิ วา สาขาหิ วา ถมฺเภหิ วา ปาสาเณหิ วา พลวนฺเตหิ วา ปกฺขีหิ สงฺคเมสี’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย ปจฺฉโต ปจฺฉโต อุฑฺเฑนฺติ สณฺหาหิ สขิลาหิ มฺชูหิ มธุราหิ วาจาหิ สมุทาจรนฺติโย ‘มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล อาสเน ปริยุกฺกณฺี’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย ทิโสทิสํ อุฑฺเฑนฺติ อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลมาหรนฺติโย ‘มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ขุทาย ปริกิลมิตฺถา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ตา ทิชกฺาโย ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อาราเมเนว อารามํ, อุยฺยาเนเนว อุยฺยานํ, นทีติตฺเถเนว นทีติตฺถํ, ปพฺพตสิขเรเนว ปพฺพตสิขรํ, อมฺพวเนเนว อมฺพวนํ, ชมฺพุวเนเนว ชมฺพุวนํ, ลพุชวเนเนว ลพุชวนํ, นาฬิเกรสฺจาริเยเนว นาฬิเกรสฺจาริยํ ขิปฺปเมว อภิสมฺโภนฺติ รติตฺถาย.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตาหิ ทิชกฺาหิ ทิวสํ ปริพฺยูฬฺโห เอวํ ปสํสติ ‘สาธุ สาธุ, ภคินิโย, เอตํ โข ภคินิโย ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลธีตานํ, ยํ ตุมฺเห ภตฺตารํ ปริจเรยฺยาถา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสํสุ โข กุณาลสฺส สกุณสฺส ปริจาริกา ทิชกฺาโย ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน เยน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอตทโวจุํ – ‘อยํ, สมฺม ปุณฺณมุข, กุณาโล สกุโณ อติวิย ผรุโส อติวิย ผรุสวาโจ, อปฺเปว นาม ตวมฺปิ อาคมฺม ปิยวาจํ ลเภยฺยามา’ติ. ‘อปฺเปว นาม ภคินิโย’ติ วตฺวา เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา กุณาเลน สกุเณน สทฺธึ ปฏิสมฺโมทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตํ กุณาลํ สกุณํ เอตทโวจ – ‘กิสฺส ตฺวํ, สมฺม กุณาล, อิตฺถีนํ สุชาตานํ กุลธีตานํ สมฺมาปฏิปนฺนานํ มิจฺฉาปฏิปนฺโนสิ, อมนาปภาณีนมฺปิ กิร, สมฺม กุณาล, อิตฺถีนํ มนาปภาณินา ภวิตพฺพํ, กิมงฺคํ ปน มนาปภาณีน’นฺติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอวํ อปสาเทสิ – ‘นสฺส ตฺวํ, สมฺม ชมฺม วสล, วินสฺส ตฺวํ, สมฺม ชมฺม วสล, โก นุ ตยา วิยตฺโต ชายาชิเนนา’ติ. เอวํ อปสาทิโต จ ปน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตโตเยว ปฏินิวตฺติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส อปเรน สมเยน นจิรสฺเสว ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, โลหิตปกฺขนฺทิกา พาฬฺหา เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส ปริจาริกานํ ทิชกฺานํ เอตทโหสิ – ‘อาพาธิโก โข อยํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล, อปฺเปว นาม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’ติ เอกํ อทุติยํ โอหาย เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมึสุ. อทฺทสา โข กุณาโล สกุโณ ตา ทิชกฺาโย ทูรโตว อาคจฺฉนฺติโย, ทิสฺวาน ตา ทิชกฺาโย เอตทโวจ – ‘กหํ ปน ตุมฺหํ วสลิโย ภตฺตา’ติ. ‘อาพาธิโก โข, สมฺม กุณาล, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล อปฺเปว นาม ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’ติ. เอวํ วุตฺเต กุณาโล สกุโณ ตา ทิชกฺาโย เอวํ อปสาเทสิ – ‘นสฺสถ ตุมฺเห วสลิโย, วินสฺสถ ตุมฺเห วสลิโย โจริโย ธุตฺติโย อสติโย ลหุจิตฺตาโย กตสฺส อปฺปฏิการิกาโย อนิโล วิย เยนกามํคมาโย’ติ วตฺวา เยน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอตทโวจ – ‘หํ, สมฺม, ปุณฺณมุขา’ติ. ‘หํ, สมฺม, กุณาลา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ ปกฺเขหิ จ มุขตุณฺฑเกน จ ปริคฺคเหตฺวา วุฏฺาเปตฺวา นานาเภสชฺชานิ ปายาเปสิ. อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส โส อาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภี’’ติ.

ตตฺถ ปิยกาติ เสตปุปฺผา. หสนาติ -กาโร สนฺธิกโร, อสนาเยว. ติรีฏีติ เอกา รุกฺขชาติ. จนฺทนาติ รตฺตสุรภิจนฺทนา. โอฆวเนติ เอเตสํ โอเฆน ฆฏาย สมนฺนาคตวเน. เทวทารุกโจจคหเนติ เทวทารุรุกฺเขหิ เจว กทลีหิ จ คหเน. กจฺจิการาติ เอกา รุกฺขชาติ. กณิการาติ มหาปุปฺผา. กณฺณิการาติ ขุทฺทกปุปฺผา. กึสุกาติ วาตฆาตกา. โยธิกาติ ยูถิกา. วนมลฺลิกมนงฺคณมนวชฺชภณฺฑิสุรุจิรภคินิมาลามลฺยธเรติ มลฺลิกานฺจ อนงฺคณานํ อนวชฺชานฺจ ภณฺฑีนํ สุรุจิรานฺจ ภคินีนํ ปุปฺเผหิ มาลฺยธารยมาเน. ธนุตกฺการีติ ธนุปาฏลิ. ตาลีสาติ ตาลีสปตฺตรุกฺขา. กจฺฉวิตเตติ เอเตหิ ชาติสุมนาทีหิ วิตเต นทิกจฺฉปพฺพตกจฺเฉ. สํกุสุมิตลตาติ เตสุ เตสุ าเนสุ สุฏฺุ กุสุมิตอติมุตฺตเกหิ เจว นานาวิธลตาหิ จ วิตตปฏิมณฺฑิตปเทเส. คณาธิวุฏฺเติ เอเตสํ วิชฺชาธราทีนํ คเณหิ อธิวุฏฺเ. ปุณฺณมุโขติ มุขปริปุณฺณตาย ปุณฺณมุโข. ปเรหิ ผุฏฺตาย ผุสฺสโกกิโล. วิลาสิตนยโนติ วิลาสิตเนตฺโต. มตฺตกฺโขติ ยถา มตฺตานํ อกฺขีนิ รตฺตานิ โหนฺติ, เอวํ รตฺตกฺโข, ปมาณยุตฺตเนตฺโต วา.

ภคินิโยติ อริยโวหาเรน อาลปนํ. ปริจเรยฺยาถาติ สกลทิวสํ คเหตฺวา วิจเรยฺยาถ. อิติ โส ปิยกถํ กเถตฺวา อุยฺโยเชติ. กทาจิ ปน กุณาโล สปริวาโร ปุณฺณมุขํ ทสฺสนาย คจฺฉติ, กทาจิ ปุณฺณมุโข กุณาลสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉติ. เตนาห ‘‘อถ ขลุ, โภ’’ติ. สมฺมาติ วยสฺส. อาคมฺมาติ ปฏิจฺจ อุปนิสฺสาย. ลเภยฺยามาติ กุณาลสฺส สนฺติกา ปิยวจนํ ลเภยฺยาม. อปฺเปว นามาติ อปิ นาม ลเภยฺยาถ, วกฺขามิ นนฺติ. สุชาตานนฺติ สมชาติกานํ.

นสฺสาติ ปลาย. ชมฺมาติ ลามก. วิยตฺโตติ โก นุ ตยา สทิโส อฺโ พฺยตฺโต นาม อตฺถิ. ชายาชิเนนาติ ชายาชิเตน, อยเมว วา ปาโ. เอวํ อิตฺถิปราชิเตน ตยา สทิโส โก นาม พฺยตฺโต อตฺถีติ ตํ ปุน เอวรูปสฺส วจนสฺส อภณนตฺถาย อปสาเทติ. ตโตเยวาติ ‘‘กุทฺโธ เม กุณาโล’’ติ จินฺเตตฺวา ตโตเยว ปฏินิวตฺติ, โส นิวตฺติตฺวา สปริวาโร อตฺตโน นิวาสฏฺานเมว อคมาสิ.

อปฺเปว นามาติ สํสยปริวิตกฺโก, อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺย วา โน วาติ เอวํ จินฺเตตฺวา ตํ โอหาย ปกฺกมึสุ. ตุมฺหนฺติ ตุมฺหากํ. อปฺเปว นามาติ ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺย วา โน วา, อมฺหากํ อาคตกาเล มโต ภวิสฺสติ. มยฺหิ อิทาเนว โส มริสฺสตีติ ตฺวา ตุมฺหากํ ปาทปริจาริกา ภวิตุํ อาคตา. เตนุปสงฺกมีติ อิมา อิตฺถิโย สามิกสฺส มตกาเล อาคตา ปฏิกฺกูลา ภวิสฺสามาติ ตํ ปหาย อาคตา, อหํ คนฺตฺวา มม สหายกํ ปุปฺผผลาทีนิ นานาเภสชฺชานิ สํหริตฺวา อโรคํ กริสฺสามีติ จินฺเตตฺวา นาคพโล มหาสตฺโต อากาเส อุปฺปติตฺวา เยน โส เตนุปสงฺกมิ. นฺติ นิปาโต, ‘‘ชีวสิ, สมฺมา’’ติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. อิตโรปิสฺส ‘‘ชีวามี’’ติ วทนฺโต ‘‘หํ สมฺมา’’ติ อาห. ปายาเปสีติ ปาเยสิ. ปฏิปฺปสฺสมฺภีติ วูปสมีติ.

ตาปิ ทิชกฺาโย อสฺมึ อโรเค ชาเต อาคตา. กุณาโลปิ ปุณฺณมุขํ กติปาหํ ผลาผลานิ ขาทาเปตฺวา ตสฺส พลปฺปตฺตกาเล, ‘‘สมฺม, อิทานิ ตฺวํ อโรโค, อตฺตโน ปริจาริกาหิ สทฺธึ วส, อหมฺปิ อตฺตโน วสนฏฺานํ คมิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘อิมา, สมฺม, มํ พาฬฺหคิลานํ ปหาย ปลายนฺติ, น เม เอตาหิ ธุตฺตีหิ อตฺโถ’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ เต, สมฺม, อิตฺถีนํ ปาปภาวํ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ ปุณฺณมุขํ คเหตฺวา หิมวนฺตปสฺเส มโนสิลาตลํ เนตฺวา สตฺตโยชนิกสาลรุกฺขมูเล มโนสิลาสเน นิสีทิ. เอกสฺมึ ปสฺเส ปุณฺณมุโข สปริวาโร นิสีทิ. สกลหิมวนฺเต เทวโฆสนา จริ – ‘‘อชฺช กุณาโล สกุณราชา หิมวนฺเต มโนสิลาสเน นิสีทิตฺวา พุทฺธลีลาย ธมฺมํ เทเสสฺสติ, ตํ สุณาถา’’ติ. ปรมฺปรโฆเสน ฉ กามาวจรเทวา สุตฺวา เยภุยฺเยน ตตฺถ สนฺนิปตึสุ. พหุนาคสุปณฺณกินฺนรวิชฺชาธราทีนมฺปิ เทวตา ตมตฺถํ อุคฺโฆเสสุํ. ตทา อานนฺโท นาม คิชฺฌราชา ทสสหสฺสคิชฺฌปริวาโร คิชฺฌปพฺพเต ปฏิวสติ. โสปิ ตํ โกลาหลํ สุตฺวา ‘‘ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ สปริวาโร อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. นารโทปิ ปฺจาภิฺโ ตาปโส ทสสหสฺสตาปสปริวุโต หิมวนฺตปเทเส วิหรนฺโต ตํ เทวโฆสนํ สุตฺวา ‘‘สหาโย กิร เม กุณาโล อิตฺถีนํ อคุณํ กเถสฺสติ, มหาสมาคโม ภวิสฺสติ, มยาปิ ตํ เทสนํ โสตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตาปสทสสหสฺเสน สทฺธึ อิทฺธิยา ตตฺถ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. พุทฺธานํ เทสนาสนฺนิปาตสทิโส มหาสมาคโม อโหสิ. อถ มหาสตฺโต ชาติสฺสราเณน อิตฺถิโทสปฏิสํยุตฺตํ อตีตภเว ทิฏฺการณํ ปุณฺณมุขํ กายสกฺขึ กตฺวา กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ คิลานวุฏฺิตํ อจิรวุฏฺิตํ เคลฺา เอตทโวจ –

‘‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, กณฺหา ทฺเวปิติกา ปฺจปติกาย ฉฏฺเ ปุริเส จิตฺตํ ปฏิพนฺธนฺติยา, ยทิทํ กพนฺเธ ปีสปฺปิมฺหี’’’ติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๐.

‘‘อถชฺชุโน นกุโล ภีมเสโน, ยุธิฏฺิโล สหเทโว จ ราชา;

เอเต ปตี ปฺจ มติจฺจ นารี, อกาสิ ขุชฺชวามนเกน ปาป’นฺติ.

‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, สจฺจตปาปี นาม สมณี สุสานมชฺเฌ วสนฺตี จตุตฺถภตฺตํ ปริณามยมานา สุราธุตฺตเกน ปาปมกาสิ.

‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, กากวตี นาม เทวี สมุทฺทมชฺเฌ วสนฺตี ภริยา เวนเตยฺยสฺส นฏกุเวเรน ปาปมกาสิ.

‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, กุรุงฺคเทวี นาม โลมสุทฺทรี เอฬิกกุมารํ กามยมานา ฉฬงฺคกุมารธนนฺเตวาสินา ปาปมกาสิ.

‘‘เอวฺเหตํ มยา าตํ, พฺรหฺมทตฺตสฺส มาตรํ;

โอหาย โกสลราชํ, ปฺจาลจณฺเฑน ปาปมกาสิ.

๒๙๑.

‘‘เอตา จ อฺา จ อกํสุ ปาปํ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสเส นปฺปสํเส;

มหี ยถา ชคติ สมานรตฺตา, วสุนฺธรา อิตรีตราปติฏฺา;

สพฺพสหา อผนฺทนา อกุปฺปา, ตถิตฺถิโย ตาโย น วิสฺสเส นโร.

๒๙๒.

‘‘สีโห ยถา โลหิตมํสโภชโน, วาฬมิโค ปฺจาวุโธ สุรุทฺโธ;

ปสยฺหขาที ปรหึสเน รโต, ตถิตฺถิโย ตาโย น วิสฺสเส นโร.

‘‘น ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, เวสิโย นาริโย คมนิโย, น เหตา พนฺธกิโย นาม, วธิกาโย นาม เอตาโย, ยทิทํ เวสิโย นาริโย คมนิโย’’ติ.

‘‘โจโร วิย เวณิกตา มทิราว ทิทฺธา วาณิโช วิย วาจาสนฺถุติโย อิสฺสสิงฺคมิว วิปริวตฺตาโย อุรคมิว ทุชิวฺหาโย. โสพฺภมิว ปฏิจฺฉนฺนา ปาตาลมิว ทุปฺปูรา รกฺขสี วิย ทุตฺโตสา ยโมเวกนฺตหาริโย. สิขีริว สพฺพภกฺขา นทีริว สพฺพวาหี อนิโล วิย เยนกามํจรา เนรุ วิย อวิเสสกรา วิสรุกฺโข วิย นิจฺจผลิตาโยติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๓.

‘‘‘ยถา โจโร ยถา ทิทฺโธ, วาณิโชว วิกตฺถนี;

อิสฺสสิงฺคมิว ปริวตฺตา, ทุชิวฺหา อุรโค วิย.

๒๙๔.

‘‘‘โสพฺภมิว ปฏิจฺฉนฺนา, ปาตาลมิว ทุปฺปุรา;

รกฺขสี วิย ทุตฺโตสา, ยโมเวกนฺตหาริโย.

๒๙๕.

‘‘ยถา สิขี นที วาโต, เนรุนาว สมาคตา;

วิสรุกฺโข วิย นิจฺจผลา, นาสยนฺติ ฆเร โภคํ;

รตนนฺตกริตฺถิโย’’’ติ.

ตตฺถ คิลานวุฏฺิตนฺติ ปมํ คิลานํ ปจฺฉา วุฏฺิตํ. ทิฏฺา มยาติ อตีเต กิร พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา สมฺปนฺนพลวาหนตาย โกสลรชฺชํ คเหตฺวา โกสลราชานํ มาเรตฺวา ตสฺส อคฺคมเหสึ สคพฺภํ คเหตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ตํ อตฺตโน อคฺคมเหสึ อกาสิ. สา อปรภาเค ธีตรํ วิชายิ. รฺโ ปน ปกติยา ธีตา วา ปุตฺโต วา นตฺถิ, โส ตุสฺสิตฺวา, ‘‘ภทฺเท, วรํ คณฺหาหี’’ติ อาห. สา คหิตกํ กตฺวา เปสิ. ตสฺสา ปน กุมาริกาย ‘‘กณฺหา’’ติ นามํ กรึสุ. อถสฺสา วยปฺปตฺตาย มาตา ตํ อาห – ‘‘อมฺม, ปิตรา ตว วโร ทินฺโน, ตมหํ คเหตฺวา เปสึ, ตว รุจฺจนกํ วรํ คณฺหา’’ติ. สา ‘‘อมฺม, มยฺหํ อฺํ อวิชฺชมานํ นตฺถิ, ปติคฺคหณตฺถาย เม สยํ วรํ กาเรหี’’ติ กิเลสพหุลตาย หิโรตฺตปฺปํ ภินฺทิตฺวา มาตรํ อาห. สา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘ยถารุจิตํ ปตึ คณฺหตู’’ติ วตฺวา สยํ วรํ โฆสาเปสิ. ราชงฺคเณ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา พหู ปุริสา สนฺนิปตึสุ. กณฺหา ปุปฺผสมุคฺคํ อาทาย อุตฺตรสีหปฺชเร ิตา โอโลเกนฺตี เอกมฺปิ น โรเจสิ.

ตทา ปณฺฑุราชโคตฺตโต อชฺชุโน นกุโล ภีมเสโน ยุธิฏฺิโล สหเทโวติ อิเม ปฺจ ปณฺฑุราชปุตฺตา ตกฺกสิลายํ ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคเหตฺวา ‘‘เทสจาริตฺตํ ชานิสฺสามา’’ติ วิจรนฺตา พาราณสึ ปตฺวา อนฺโตนคเร โกลาหลํ สุตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ ตฺวา ‘‘มยมฺปิ คมิสฺสามา’’ติ กฺจนรูปสมานรูปา ตตฺถ คนฺตฺวา ปฏิปาฏิยา อฏฺํสุ. กณฺหา เต ทิสฺวา ปฺจสุปิ เตสุ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา ปฺจนฺนมฺปิ สีเสสุ มาลาจุมฺพฏกานิ ขิปิตฺวา, ‘‘อมฺม, อิเม ปฺจ ชเน วเรมี’’ติ อาห. สาปิ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา วรสฺส ทินฺนตฺตา ‘‘น ลภิสฺสตี’’ติ อวตฺวา อนตฺตมโนว ‘‘กึชาติกา กสฺส ปุตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปณฺฑุราชปุตฺตภาวํ ตฺวา เตสํ สกฺการํ กตฺวา ตํ ปาทปริจาริกํ อทาสิ.

สา สตฺตภูมิกปาสาเท เต กิเลสวเสน สงฺคณฺหิ. เอโก ปนสฺสา ปริจารโก ขุชฺโช ปีสปฺปี อตฺถิ. สา ปฺจ ราชปุตฺเต กิเลสวเสน สงฺคณฺหิตฺวา เตสํ พหิ นิกฺขนฺตกาเล โอกาสํ ลภิตฺวา กิเลเสน อนุฑยฺหมานา ขุชฺเชน สทฺธึ ปาปํ กโรติ, เตน จ สทฺธึ กเถนฺตี – ‘‘มยฺหํ ตยา สทิโส ปิโย นตฺถิ, ราชปุตฺเต มาราเปตฺวา เตสํ คลโลหิเตน ตว ปาเท มกฺขาเปสฺสามี’’ติ วทติ. อิตเรสุปิ เชฏฺภาติเกน มิสฺสีภูตกาเล – ‘‘อิเมหิ จตูหิ ตฺวเมว มยฺหํ ปิยตโร, มยา ชีวิตมฺปิ ตวตฺถาย ปริจฺจตฺตํ, มม ปิตุ อจฺจเยน ตุยฺหฺเว รชฺชํ ทาเปสฺสามี’’ติ วทติ. อิตเรหิ สทฺธึ มิสฺสีภูตกาเลปิ เอเสว นโย. เต ‘‘อยํ อมฺเห ปิยายติ, อิสฺสริยฺจ โน เอตํ นิสฺสาย ชาต’’นฺติ ตสฺสา อติวิย ตุสฺสนฺติ.

สา เอกทิวสํ อาพาธิกา อโหสิ. อถ นํ เต ปริวาเรตฺวา เอโก สีสํ สมฺพาหนฺโต นิสีทิ, เสสา เอเกกํ หตฺถฺจ ปาทฺจ. ขุชฺโช ปน ปาทมูเล นิสีทิ. สา สีสํ สมฺพาหมานสฺส เชฏฺภาติกสฺส อชฺชุนกุมารสฺส – ‘‘มยฺหํ ตยา ปิยตโร นตฺถิ, ชีวมานา ตุยฺหํ ชีวิสฺสามิ, ปิตุ อจฺจเยน ตุยฺหํ รชฺชํ ทาเปสฺสามี’’ติ สีเสน สฺํ ททมานา ตํ สงฺคณฺหิ, อิตเรสมฺปิ หตฺถปาเทหิ ตเถว สฺํ อทาสิ. ขุชฺชสฺส ปน – ‘‘ตฺวฺเว มม ปิโย, ตวตฺถาย อหํ ชีวิสฺสามี’’ติ ชิวฺหาย สฺํ อทาสิ. เต สพฺเพปิ ปุพฺเพ กถิตภาเวน ตาย สฺาย ตมตฺถํ ชานึสุ. เตสุ เสสา อตฺตโน ทินฺนสฺาเยว ชานึสุ. อชฺชุนกุมาโร ปน ตสฺสา หตฺถปาทชิวฺหาวิกาเร ทิสฺวา – ‘‘ยถา มยฺหํ, เอวํ เสสานมฺปิ อิมาย สฺา ทินฺนา ภวิสฺสติ, ขุชฺเชน จาปิ สทฺธึ เอติสฺสาย สนฺถเวน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภาตโร คเหตฺวา พหิ นิกฺขมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ทิฏฺา โว ปฺจปติกา มม สีสวิการํ ทสฺเสนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ทิฏฺา’’ติ. ‘‘กึการณํ ชานาถา’’ติ? ‘‘น ชานามา’’ติ. ‘‘อิทํ นาเมตฺถ การณํ, ตุมฺหากํ ปน หตฺถปาเทหิ ทินฺนสฺาย การณํ ชานาถา’’ติ? ‘‘อาม, ชานามา’’ติ. ‘‘อมฺหากมฺปิ เตเนว การเณน อทาสิ, ขุชฺชสฺส ชิวฺหาวิกาเรน สฺาทานสฺส การณํ ชานาถา’’ติ? ‘‘น ชานามา’’ติ. อถ เนสํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อิมินาปิ สทฺธึ เอตาย ปาปกมฺมํ กต’’นฺติ วตฺวา เตสุ อสทฺทหนฺเตสุ ขุชฺชํ ปกฺโกสิตฺวา ปุจฺฉิ. โส สพฺพํ ปวตฺตึ กเถสิ.

เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตสฺสา วิคตจฺฉนฺทราคา หุตฺวา – ‘‘อโห มาตุคาโม นาม ปาโป ทุสฺสีโล, มาทิเส นาม ชาติสมฺปนฺเน โสภคฺคปฺปตฺเต ปหาย เอวรูเปน เชคุจฺฉปฏิกูเลน ขุชฺเชน สทฺธึ ปาปกมฺมํ กโรติ, โก นาม ปณฺฑิตชาติโก เอวํ นิลฺลชฺชาหิ ปาปธมฺมาหิ อิตฺถีหิ สทฺธึ รมิสฺสตี’’ติ อเนกปริยาเยน มาตุคามํ ครหิตฺวา ‘‘อลํ โน ฆราวาเสนา’’ติ ปฺจ ชนา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อายุปริโยสาเน ยถากมฺมํ คตา. กุณาโล ปน สกุณราชา ตทา อชฺชุนกุมาโร อโหสิ. ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺการณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ทฺเวปิติกาติ โกสลรฺโ จ กาสิรฺโ จ วเสเนตํ วุตฺตํ. ปฺจปติกายาติ ปฺจปติกา, -กาโร นิปาตมตฺโต. ปฏิพนฺธนฺติยาติ ปฏิพนฺธมานา. กพนฺเธติ ตสฺส กิร คีวา โอนมิตฺวา อุรํ อลฺลีนา, ตสฺมา ฉินฺนสีโส วิย ขายติ. ปฺจ มติจฺจาติ เอเต ปฺจ อติกฺกมิตฺวา. ขุชฺชวามนเกนาติ ขุชฺเชน วามนเกน.

อิทํ วตฺวา อปรานิปิ ทิฏฺปุพฺพานิ ทสฺเสนฺโต ปุน ‘‘ทิฏฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทุติยวตฺถุสฺมึ ตาว อยํ วิภาวนา – อตีเต กิร พาราณสึ นิสฺสาย สจฺจตปาปี นาม เสตสมณี สุสาเน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ตตฺถ วสมานา จตฺตาริ ภตฺตานิ อติกฺกมิตฺวา ภุฺชติ, สกลนคเร จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากฏา อโหสิ. พาราณสิวาสิโน ขิปิตฺวาปิ ขลิตฺวาปิ ‘‘นโม สจฺจตปาปิยา’’ติ วทนฺติ. อเถกสฺมึ ฉณกาเล ปมทิวเส ตาว สุวณฺณการา คณพนฺเธน เอกสฺมึ ปเทเส มณฺฑปํ กตฺวา มจฺฉมํสสุราคนฺธมาลาทีนิ อาหริตฺวา สุราปานํ อารภึสุ. อเถโก สุวณฺณกาโร สุราปิฏฺกํ ฉฑฺเฑนฺโต – ‘‘นโม สจฺจตปาปิยา’’ติ วตฺวา เอเกน ปณฺฑิเตน – ‘‘อมฺโภ อนฺธพาล, จลจิตฺตาย อิตฺถิยา นโม กโรสิ, อโห พาโล’’ติ วุตฺเต – ‘‘สมฺม, มา เอวํ อวจ, มา นิรยสํวตฺตนิกํ กมฺมํ กรี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘ทุพฺพุทฺธิ ตุณฺหี โหหิ, สหสฺเสน อพฺภุตํ กโรหิ, อหํ เต สจฺจตปาปึ อิโต สตฺตเม ทิวเส อลงฺกตปฏิยตฺตํ อิมสฺมึเยว าเน นิสินฺโน สุราปิฏฺกํ คาหาเปตฺวา สุรํ ปิวิสฺสามิ, มาตุคาโม ธุวสีโล นาม นตฺถี’’ติ อาห. โส ‘‘น สกฺขิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตน สทฺธึ สหสฺเสน อพฺภุตมกาสิ. โส ตํ อฺเสํ สุวณฺณการานํ อาโรเจตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว ตาปสเวเสน สุสานํ ปวิสิตฺวา ตสฺสา วสนฏฺานสฺส อวิทูเร สูริยํ นมสฺสนฺโต อฏฺาสิ.

สา ภิกฺขาย คจฺฉมานา นํ ทิสฺวา – ‘‘มหิทฺธิโก ตาปโส ภวิสฺสติ, อหํ ตาว สุสานปสฺเส วสามิ, อยํ มชฺเฌ สุสานสฺส วสติ, ภวิตพฺพมสฺสพฺภนฺตเร สนฺตธมฺเมน, วนฺทิสฺสามิ น’’นฺติ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิ. โส เนว โอโลเกสิ น อาลปิ. ทุติยทิวเสปิ ตเถว อกาสิ. ตติยทิวเส ปน วนฺทิตกาเล อโธมุโขว ‘‘คจฺฉาหี’’ติ อาห. จตุตฺถทิวเส ‘‘กจฺจิ ภิกฺขาย น กิลมสี’’ติ ปฏิสนฺถารมกาสิ. สา ‘‘ปฏิสนฺถาโร เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺา ปกฺกามิ. ปฺจมทิวเส พหุตรํ ปฏิสนฺถารํ ลภิตฺวา โถกํ นิสีทิตฺวา คตา. ฉฏฺเ ทิวเส ปน ตํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ – ‘‘ภคินิ, กึ นุ โข อชฺช พาราณสิยํ มหาคีตวาทิตสทฺโท’’ติ วตฺวา – ‘‘อยฺย, ตุมฺเห น ชานาถ, นคเร ฉโณ ฆุฏฺโ, ตตฺถ กีฬนฺตานํ เอส สทฺโท’’ติ วุตฺเต – ‘‘เอตฺถ นาเมโส สทฺโท’’ติ อชานนฺโต วิย หุตฺวา – ‘‘ภคินิ, กติ ภตฺตานิ อติกฺกเมสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘จตฺตาริ, อยฺย, ตุมฺเห ปน กติ อติกฺกเมถา’’ติ? ‘‘สตฺต ภคินี’’ติ. อิทํ โส มุสา อภาสิ. เทวสิกํ เหส รตฺตึ ภุฺชติ. โส ตํ ‘‘กติ เต ภคินิ วสฺสานิ ปพฺพชิตายา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตาย ‘‘ทฺวาทส วสฺสานี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ กติ วสฺสานี’’ติ วุตฺโต ‘‘อิทํ เม ฉฏฺํ วสฺส’’นฺติ อาห. อถ นํ ‘‘อตฺถิ ปน เต ภคินิ สนฺตธมฺมาธิคโม’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถิ, อยฺย, ตุมฺหากํ ปน อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหมฺปิ นตฺถี’’ติ วตฺวา – ‘‘ภคินิ, มยํ เนว กามสุขํ ลภาม, น เนกฺขมฺมสุขํ, กึ อมฺหากํเยว อุณฺโห นิรโย, มหาชนสฺส กิริยํ กโรม, อหํ คิหี ภวิสฺสามิ, อตฺถิ เม มาตุ สนฺตกํ ธนํ, น สกฺโกมิ ทุกฺขํ อนุภวิตุ’’นฺติ อาห. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อตฺตโน จลจิตฺตตาย ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา – ‘‘อยฺย, อหมฺปิ อุกฺกณฺิตา, สเจ ปน มํ น ฉฑฺเฑสฺสถ, อหมฺปิ คิหินี ภวิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘เอหิ ตํ น ฉฑฺเฑสฺสามิ, ภริยา เม ภวิสฺสสี’’ติ ตํ นครํ ปเวเสตฺวา สํวสิตฺวา สุราปานมณฺฑปํ คนฺตฺวา ตาย สุราปิฏฺกํ คาหาเปตฺวา สุรํ ปิวิ. อิตโร สหสฺสํ ชิโต. สา ตํ ปฏิจฺจ ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิ. ตทา กุณาโล สุราธุตฺตโก อโหสิ. ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺํ ปกาเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

ตติยวตฺถุสฺมึ อตีตกถา จตุกฺกนิปาเต กากวตีชาตกวณฺณนายํ (ชา. อฏฺ. ๓.๔.กากวตีชาตกวณฺณนา) วิตฺถาริตา. ตทา ปน กุณาโล ครุโฬ อโหสิ. ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺํ ปกาเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

จตุตฺถวตฺถุสฺมึ อตีเต พฺรหฺมทตฺโต โกสลราชานํ วธิตฺวา รชฺชํ คเหตฺวา ตสฺส อคฺคมเหสึ คพฺภินึ อาทาย พาราณสึ ปจฺจาคนฺตฺวา ตสฺสา คพฺภินิภาวํ ชานนฺโตปิ ตํ อคฺคมเหสึ อกาสิ. สา ปริปกฺกคพฺภา สุวณฺณรูปกสทิสํ ปุตฺตํ วิชายิตฺวา – ‘‘วุทฺธิปฺปตฺตมฺปิ นํ พาราณสิราชา ‘เอส เม ปจฺจามิตฺตสฺส ปุตฺโต, กึ อิมินา’ติ มาราเปสฺสติ, มา เม ปุตฺโต ปรหตฺเถ มรตู’’ติ จินฺเตตฺวา ธาตึ อาห – ‘‘อมฺม, อิมํ ทารกํ ปิโลติกํ อตฺถริตฺวา อามกสุสาเน นิปชฺชาเปตฺวา เอหี’’ติ. ธาตี ตถา กตฺวา นฺหตฺวา ปจฺจาคมิ. โกสลราชาปิ มริตฺวา ปุตฺตสฺส อารกฺขเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสานุภาเวน เอกสฺส เอฬกปาลกสฺส ตสฺมึ ปเทเส เอฬเก จาเรนฺตสฺส เอกา เอฬิกา ตํ กุมารํ ทิสฺวา สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ขีรํ ปาเยตฺวา โถกํ จริตฺวา ปุน คนฺตฺวา ทฺเว ตโย จตฺตาโร วาเร ปาเยสิ. เอฬกปาลโก ตสฺสา กิริยํ ทิสฺวา ตํ านํ คนฺตฺวา ตํ ทารกํ ทิสฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา เนตฺวา อตฺตโน ภริยาย อทาสิ. สา ปน อปุตฺติกา, เตนสฺสา ถฺํ นตฺถิ, อถ นํ เอฬิกขีรเมว ปาเยสิ. ตโต ปฏฺาย ปน เทวสิกํ ทฺเว ติสฺโส เอฬิกา มรนฺติ. เอฬกปาโล – ‘‘อิมสฺมึ ปฏิชคฺคิยมาเน สพฺพา เอฬิกา มริสฺสนฺติ, กึ โน อิมินา’’ติ ตํ เอกสฺมึ มตฺติกาภาชเน นิปชฺชาเปตฺวา อปเรน ปิทหิตฺวา มาสจุณฺเณน มุขํ นิพฺพิวรํ วิลิมฺปิตฺวา นทิยํ วิสฺสชฺเชสิ. ตเมนํ วุยฺหมานํ เหฏฺาติตฺเถ ราชนิเวสเน ชิณฺณปฏิสงฺขารโก เอโก จณฺฑาโล สปชาปติโก มกจึ โธวนฺโต ทิสฺวาว เวเคน คนฺตฺวา อาหริตฺวา ตีเร เปตฺวา ‘‘กิเมตฺถา’’ติ วิวริตฺวา โอโลเกนฺโต ทารกํ ปสฺสิ. ภริยาปิสฺส อปุตฺติกา, ตสฺสา ตสฺมึ ปุตฺตสิเนโห นิพฺพตฺติ, อถ นํ เคหํ เนตฺวา ปฏิชคฺคิ. ตํ สตฺตฏฺวสฺสกาลโต ปฏฺาย มาตาปิตโร ราชกุลํ คจฺฉนฺตา อาทาย คจฺฉนฺติ. โสฬสวสฺสกาลโต ปน ปฏฺาย สฺเวว พหุลํ คนฺตฺวา ชิณฺณปฏิสงฺขรณํ กโรติ.

รฺโ จ อคฺคมเหสิยา กุรุงฺคเทวี นาม ธีตา อโหสิ อุตฺตมรูปธรา. สา ตสฺส ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา อฺตฺถ อนภิรตา ตสฺส กมฺมกรณฏฺานเมว อาคจฺฉติ. เตสํ อภิณฺหทสฺสเนน อฺมฺํ ปฏิพทฺธจิตฺตานํ อนฺโตราชกุเลเยว ปฏิจฺฉนฺโนกาเส อชฺฌาจาโร ปวตฺติ. คจฺฉนฺเต กาเล ปริจาริกาโย ตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา กุชฺฌิตฺวา อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา – ‘‘อิมินา จณฺฑาลปุตฺเตน อิทํ นาม กตํ, อิมสฺส กตฺตพฺพํ ชานาถา’’ติ อาห. อมจฺจา ‘‘มหาปราโธ เอส, นานาวิธกมฺมการณา กาเรตฺวา ปจฺฉา มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทึสุ. ตสฺมึ ขเณ กุมารสฺส ปิตา อารกฺขเทวตา ตสฺเสว กุมารสฺส มาตุ สรีเร อธิมุจฺจิ. สา เทวตานุภาเวน ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘มหาราช, นายํ กุมาโร จณฺฑาโล, เอส กุมาโร มม กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต โกสลรฺโ ปุตฺโต, อหํ ‘ปุตฺโต เม มโต’ติ ตุมฺหากํ มุสา อวจํ, อหเมตํ ‘ตุมฺหากํ ปจฺจามิตฺตสฺส ปุตฺโต’ติ ธาติยา ทตฺวา อามกสุสาเน ฉฑฺฑาเปสึ, อถ นํ เอโก เอฬกปาลโก ปฏิชคฺคิ, โส อตฺตโน เอฬิกาสุ มรนฺตีสุ นทิยา ปวาเหสิ, อถ นํ วุยฺหมานํ ตุมฺหากํ เคเห ชิณฺณปฏิสงฺขารโก จณฺฑาโล ทิสฺวา โปเสสิ, สเจ น สทฺทหถ, เต สพฺเพ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉถา’’ติ.

ราชา ธาตึ อาทึ กตฺวา สพฺเพ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ตเถว ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘ชาติสมฺปนฺโนยํ กุมาโร’’ติ ตุฏฺโ ตํ นฺหาเปตฺวา อลงฺการาเปตฺวา ตสฺเสว ธีตรํ อทาสิ. ตสฺส ปน เอฬิกานํ มาริตตฺตา ‘‘เอฬิกกุมาโร’’ติ นามํ อกํสุ. อถสฺส ราชา สเสนวาหนํ ทตฺวา – ‘‘คจฺฉ อตฺตโน ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหา’’ติ ตํ อุยฺโยเชสิ. โสปิ กุรุงฺคเทวึ อาทาย คนฺตฺวา รชฺเช ปติฏฺาสิ. อถสฺส พาราณสิราชา ‘‘อนุคฺคหิตสิปฺโป อย’’นฺติ สิปฺปสิกฺขาปนตฺถํ ฉฬงฺคกุมารํ นาม อาจริยํ เปเสสิ. โส ตสฺส ‘‘อาจริโย เม’’ติ เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. อปรภาเค กุรุงฺคเทวี เตน สทฺธึ อนาจารมกาสิ. เสนาปติโนปิ ปริจารโก ธนนฺเตวาสี นาม อตฺถิ. โส ตสฺส หตฺเถ กุรุงฺคเทวิยา วตฺถาลงฺการาทีนิ เปเสสิ. สา เตนปิ สทฺธึ ปาปมกาสิ. กุณาโล ตํ การณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ โลมสุทฺทรีติ โลมราชิยา มณฺฑิตอุทรา. ฉฬงฺคกุมารธนนฺเตวาสินาติ เอฬิกกุมารกํ ปตฺถยมานาปิ ฉฬงฺคกุมารเสนาปตินา จ ตสฺเสว ปริจารเกน ธนนฺเตวาสินา จ สทฺธึ ปาปมกาสิ. เอวํ อนาจารา อิตฺถิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, เตนาหํ ตา นปฺปสํสามีติ อิทํ มหาสตฺโต อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. โส หิ ตทา ฉฬงฺคกุมาโร อโหสิ, ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺการณํ อาหริ.

ปฺจมวตฺถุสฺมิมฺปิ อตีเต โกสลราชา พาราณสิรชฺชํ คเหตฺวา พาราณสิรฺโ อคฺคมเหสึ คพฺภินิมฺปิ อคฺคมเหสึ กตฺวา สกนครเมว คโต. สา อปรภาเค ปุตฺตํ วิชายิ. ราชา อปุตฺตกตฺตา ตํ ปุตฺตสิเนเหน โปเสตฺวา สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขาเปตฺวา วยปฺปตฺตํ ‘‘อตฺตโน ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหา’’ติ เปเสสิ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา รชฺชํ กาเรสิ. อถสฺส มาตา ‘‘ปุตฺตํ ปสฺสิตุกามามฺหี’’ติ โกสลราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา มหาปริวารา พาราณสึ คจฺฉนฺตี ทฺวินฺนํ รฏฺานํ อนฺตเร เอกสฺมึ นิคเม นิวาสํ คณฺหิ. ตตฺเถเวโก ปฺจาลจณฺโฑ นาม พฺราหฺมณกุมาโร อตฺถิ อภิรูโป. โส ตสฺสา ปณฺณาการํ อุปนาเมสิ. สา ตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา เตน สทฺธึ ปาปกมฺมํ กตฺวา กติปาหํ ตตฺเถว วีตินาเมตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ปุตฺตํ ทิสฺวา ขิปฺปํ นิวตฺติตฺวา ปุน ตสฺมึเยว นิคเม นิวาสํ คเหตฺวา กติปาหํ เตน สทฺธึ อนาจารํ จริตฺวา โกสลนครํ คตา. สา ตโต ปฏฺาย นจิรสฺเสว ตํ ตํ การณํ วตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คจฺฉามี’’ติ ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺตี จ อาคจฺฉนฺตี จ ตสฺมึ นิคเม อฑฺฒมาสมตฺตํ เตน สทฺธึ อนาจารํ จริ. สมฺม ปุณฺณมุข, อิตฺถิโย นาเมตา ทุสฺสีลา มุสาวาทินิโยติ อิทมฺปิ อตีตํ ทสฺเสนฺโต มหาสตฺโต ‘‘เอวฺเหต’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ พฺรหฺมทตฺตสฺส มาตรนฺติ พาราณสิรชฺชํ กาเรนฺตสฺส พฺรหฺมทตฺตกุมารสฺส มาตรํ. ตทา กิร กุณาโล ปฺจาลจณฺโฑ อโหสิ, ตสฺมา ตํ อตฺตนา าตการณํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

เอตา จาติ, สมฺม ปุณฺณมุข, เอตาว ปฺจ อิตฺถิโย ปาปมกํสุ, น อฺาติ สฺํ มา กริ, อถ โข เอตา จ อฺา จ พหู ปาปกมฺมการิกาติ. อิมสฺมึ าเน ตฺวา โลเก อติจารินีนํ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ. ชคตีติ ยถา ชคติสงฺขาตา มหี สมานรตฺตา ปฏิฆาภาเวน สพฺเพสุ สมานรตฺตา หุตฺวา สา วสุนฺธรา อิตรีตราปติฏฺา อุตฺตมานฺจ อธมานฺจ ปติฏฺา โหติ, ตถา อิตฺถิโยปิ กิเลสวเสน สพฺเพสมฺปิ อุตฺตมาธมานํ ปติฏฺา โหนฺติ. อิตฺถิโย หิ โอกาสํ ลภมานา เกนจิ สทฺธึ ปาปกํ กโรนฺติ นาม. สพฺพสหาติ ยถา จ สา สพฺพเมว สหติ น ผนฺทติ น กุปฺปติ น จลติ, ตถา อิตฺถิโย สพฺเพปิ ปุริเส โลกสฺสาทวเสน สหนฺติ. สเจ ตาสํ โกจิ ปุริโส จิตฺเต ปติฏฺิโต โหติ, ตสฺส รกฺขณตฺถํ น ผนฺทนฺติ น จลนฺติ น โกลาหลํ กโรนฺติ. ยถา จ สา น กุปฺปติ น จลติ, เอวํ อิตฺถิโยปิ เมถุนธมฺเมน น กุปฺปนฺติ น จลนฺติ, น สกฺกา เตน ปูเรตุํ.

วาฬมิโคติ ทุฏฺมิโค. ปฺจาวุโธติ มุขสฺส เจว จตุนฺนฺจ จรณานํ วเสเนตํ วุตฺตํ. สุรุทฺโธติ สุลุทฺโธ สุผรุโส. ตถิตฺถิโยติ ยถา หิ สีหสฺส มุขฺเจว จตฺตาโร จ หตฺถปาทาติ ปฺจาวุธานิ, ตถา อิตฺถีนมฺปิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานิ ปฺจาวุธานิ. ยถา โส อตฺตโน ภกฺขํ คณฺหนฺโต เตหิปิ ปฺจหิ คณฺหาติ, ตถา ตาปิ กิเลสภกฺขํ คณฺหมานา รูปาทีหิ อาวุเธหิ ปหริตฺวา คณฺหนฺติ. ยถา โส กกฺขโฬ ปสยฺห ขาทติ, เอวํ เอตาปิ กกฺขฬา ปสยฺห ขาทิกา. ตถา เหตา ถิรสีเลปิ ปุริเส อตฺตโน พเลน ปสยฺหการํ กตฺวา สีลวินาสํ ปาเปนฺติ. ยถา โส ปรหึสเน รโต, เอวเมตาปิ กิเลสวเสน ปรหึสเน รตา. ตาโยติ ตา เอวํ อคุณสมฺมนฺนาคตา น วิสฺสเส นโร.

คมนิโยติ คณิกาโย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม ปุณฺณมุข, ยาเนตานิ อิตฺถีนํ ‘‘เวสิโย’’ติอาทีนิ นามานิ, น เอตานิ ตาสํ สภาวนามานิ. น เหตา เวสิโย นาม คมนิโย นาม พนฺธกิโย นาม, สภาวนามโต ปน วธิกาโย นาม เอตาโย, ยา เอตา เวสิโย นาริโย คมนิโยติ วุจฺจนฺติ. วธิกาโยติ สามิกฆาติกาโย. สฺวายมตฺโถ มหาหํสชาตเกน ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘มายา เจตา มรีจี จ, โสกา โรคา จุปทฺทวา;

ขรา จ พนฺธนา เจตา, มจฺจุปาสา คุหาสยา;

ตาสุ โย วิสฺสเส โปโส, โส นเรสุ นราธโม’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๑๑๘);

เวณิกตาติ กตเวณิโย. ยถา หิ โมฬึ พนฺธิตฺวา อฏวิยํ ิตโจโร ธนํ วิลุมฺปติ, เอวเมตาปิ กิเลสวสํ เนตฺวา ธนํ วิลุมฺปนฺติ. มทิราว ทิทฺธาติ วิสมิสฺสกา สุรา วิย. ยถา สา วิการํ ทสฺเสติ, เอวเมตาปิ อฺเสุ ปุริเสสุ สารตฺตา กิจฺจากิจฺจํ อชานนฺติโย อฺสฺมึ กตฺตพฺเพ อฺเมว กโรนฺติโย วิการํ ทสฺเสนฺติ. วาจาสนฺถุติโยติ ยถา วาณิโช อตฺตโน ภณฺฑสฺส วณฺณเมว ภณติ, เอวเมตาปิ อตฺตโน อคุณํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา คุณเมว ปกาเสนฺติ. วิปริวตฺตาโยติ ยถา อิสฺสมิคสฺส สิงฺคํ ปริวตฺติตฺวา ิตํ, เอวํ ลหุจิตฺตตาย วิปริวตฺตาโยว โหนฺติ. อุรคมิวาติ อุรโค วิย มุสาวาทิตาย ทุชิวฺหา นาม. โสพฺภมิวาติ ยถา ปทรปฏิจฺฉนฺโน คูถกูโป, เอวํ วตฺถาลงฺการปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา วิจรนฺติ. ยถา จ กจวเรหิ ปฏิจฺฉนฺโน อาวาโฏ อกฺกนฺโต ปาททุกฺขํ ชเนติ, เอวเมตาปิ วิสฺสาเสน อุปเสวิยมานา. ปาตาลมิวาติ ยถา มหาสมุทฺเท ปาตาลํ ทุปฺปูรํ, เอวเมตาปิ เมถุเนน วิชายเนน อลงฺกาเรนาติ ตีหิ ทุปฺปูรา. เตเนวาห – ‘‘ติณฺณํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อติตฺโต มาตุคาโม’’ติอาทิ.

รกฺขสี วิยาติ ยถา รกฺขสี นาม มํสคิทฺธตาย ธเนน น สกฺกา โตเสตุํ, พหุมฺปิ ธนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มํสเมว ปตฺเถติ, เอวเมตาปิ เมถุนคิทฺธตาย พหุนาปิ ธเนน น ตุสฺสนฺติ, ธนํ อคเณตฺวา เมถุนเมว ปตฺเถนฺติ. ยโมวาติ ยถา ยโม เอกนฺตหโร น กิฺจิ ปริหรติ, เอวเมตาปิ ชาติสมฺปนฺนาทีสุ น กฺจิ ปริหรนฺติ, สพฺพํ กิเลสวเสน สีลาทิวินาสํ ปาเปตฺวา ทุติยจิตฺตวาเร นิรยํ อุปเนนฺติ. สิขีริวาติ ยถา สิขี สุจิมฺปิ อสุจิมฺปิ สพฺพํ ภกฺขยติ, ตเถตาปิ หีนุตฺตเม สพฺเพ เสวนฺติ. นทีอุปมายมฺปิ เอเสว นโย. เยนกา มํจราติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ, ยตฺถ เอตาสํ กาโม โหติ, ตตฺเถว ธาวนฺติ. เนรูติ หิมวติ เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตํ อุปคตา กากาปิ สุวณฺณวณฺณาว โหนฺติ. ยถา โส, เอวํ เอตาปิ นิพฺพิเสสกรา อตฺตานํ อุปคตํ เอกสทิสํ กตฺวา ปสฺสนฺติ.

วิสรุกฺโขติ อมฺพสทิโส กึปกฺกรุกฺโข. โส นิจฺจเมว ผลติ, วณฺณาทิสมฺปนฺโน จ โหติ, เตน นํ นิราสงฺกา ปริภุฺชิตฺวา มรนฺติ, เอวเมว ตาปิ รูปาทิวเสน นิจฺจผลิตา รมณียา วิย ขายนฺติ. เสวิยมานา ปน ปมาทํ อุปฺปาเทตฺวา อปาเยสุ ปาเตนฺติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘อายตึ โทสํ นฺาย, โย กาเม ปฏิเสวติ;

วิปากนฺเต หนนฺติ นํ, กึปกฺกมิว ภกฺขิต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๘๕);

ยถา วา วิสรุกฺโข นิจฺจผลิโต สทา อนตฺถาวโห โหติ, เอวเมตาปิ สีลาทิวินาสนวเสน. ยถา วิสรุกฺขสฺส มูลมฺปิ ตโจปิ ปตฺตมฺปิ ปุปฺผมฺปิ ผลมฺปิ วิสเมวาติ นิจฺจผโล, ตเถว ตาสํ รูปมฺปิ…เป… โผฏฺพฺพมฺปิ วิสเมวาติ วิสรุกฺโข วิย นิจฺจผลิตาโยติ.

‘‘ปนุตฺตเรตฺถา’’ติ คาถาพนฺเธน ตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ เอวมาห. ตตฺถ รตนนฺตกริตฺถิโยติ สามิเกหิ ทุกฺขสมฺภตานํ รตนานํ อนฺตรายกรา อิตฺถิโย เอตานิ ปเรสํ ทตฺวา อนาจารํ จรนฺติ.

อิโต ปรํ นานปฺปกาเรน อตฺตโน ธมฺมกถาวิลาสํ ทสฺเสนฺโต อาห –

‘‘จตฺตาริมานิ, สมฺม ปุณฺณมุข, ยานิ วตฺถูนิ กิจฺเจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภวนฺติ, ตานิ ปรกุเล น วาเสตพฺพานิ, โคณํ เธนุํ ยานํ ภริยา. จตฺตาริ เอตานิ ปณฺฑิโต ธนานิ ฆรา น วิปฺปวาสเย. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๖.

‘โคณํ เธนุฺจ ยานฺจ, ภริยํ าติกุเล น วาสเย;

ภฺชนฺติ รถํ อยานกา, อติวาเหน หนนฺติ ปุงฺควํ;

โทเหน หนนฺติ วจฺฉกํ, ภริยา าติกุเล ปทุสฺสตี’’’ติ.

‘‘ฉ อิมานิ, สมฺม ปุณฺณมุข, ยานิ วตฺถูนิ กิจฺเจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภวนฺติ –

๒๙๗.

‘อคุณํ ธนุ าติกุเล จ ภริยา, ปารํ นาวา อกฺขภคฺคฺจ ยานํ;

ทูเร มิตฺโต ปาปสหายโก จ, กิจฺเจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภวนฺตี’’’ติ.

‘‘อฏฺหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข าเนหิ อิตฺถี สามิกํ อวชานาติ – ทลิทฺทตา, อาตุรตา, ชิณฺณตา, สุราโสณฺฑตา, มุทฺธตา, ปมตฺตตา, สพฺพกิจฺเจสุ อนุวตฺตนตา, สพฺพธนอนุปฺปทาเนน. อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, อฏฺหิ าเนหิ อิตฺถี สามิกํ อวชานาติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๘.

‘‘‘ทลิทฺทํ อาตุรฺจาปิ, ชิณฺณกํ สุรโสณฺฑกํ;

ปมตฺตํ มุทฺธปตฺตฺจ, สพฺพกิจฺเจสุ หาปนํ;

สพฺพกามปฺปทาเนน, อวชานาติ สามิก’’’นฺติ.

‘‘นวหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข าเนหิ อิตฺถี ปโทสมาหรติ – อารามคมนสีลา จ โหติ, อุยฺยานคมนสีลา จ โหติ, นทีติตฺถคมนสีลา จ โหติ, าติกุลคมนสีลา จ โหติ, ปรกุลคมนสีลา จ โหติ, อาทาสทุสฺสมณฺฑนานุโยคมนุยุตฺตสีลา จ โหติ, มชฺชปายินี จ โหติ, นิลฺโลกนสีลา จ โหติ, สทฺวารฏฺายินี จ โหติ. อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, นวหิ าเนหิ อิตฺถี ปโทสมาหรติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๙.

‘อารามสีลา จ อุยฺยานํ, นที าติ ปรกุลํ;

อาทาสทุสฺสมณฺฑนมนุยุตฺตา, ยา จิตฺถี มชฺชปายินี.

๓๐๐.

‘‘‘ยา จ นิลฺโลกนสีลา, ยา จ สทฺวารายินี;

นวเหเตหิ าเนหิ, ปโทสมาหรนฺติ อิตฺถิโย’’’ติ.

‘‘จตฺตาลีสาย ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, าเนหิ อิตฺถี ปุริสํ อจฺจาจรติ – วิชมฺภติ, วินมติ, วิลสติ, วิลชฺชติ, นเขน นขํ ฆฏฺเฏติ, ปาเทน ปาทํ อกฺกมติ, กฏฺเน ปถวึ วิลิขติ, ทารกํ อุลฺลงฺฆติ อุลฺลงฺฆาเปติ, กีฬติ กีฬาเปติ, จุมฺพติ จุมฺพาเปติ, ภุฺชติ ภุฺชาเปติ, ททาติ, ยาจติ, กตมนุกโรติ, อุจฺจํ ภาสติ, นีจํ ภาสติ, อวิจฺจํ ภาสติ, วิวิจฺจํ ภาสติ, นจฺเจน คีเตน วาทิเตน โรทเนน วิลสิเตน วิภูสิเตน ชคฺฆติ, เปกฺขติ, กฏึ จาเลติ, คุยฺหภณฺฑกํ สฺจาเลติ, อูรุํ วิวรติ, อูรุํ ปิทหติ, ถนํ ทสฺเสติ, กจฺฉํ ทสฺเสติ, นาภึ ทสฺเสติ, อกฺขึ นิขนติ, ภมุกํ อุกฺขิปติ, โอฏฺํ อุปลิขติ, ชิวฺหํ นิลฺลาเลติ, ทุสฺสํ มุฺจติ, ทุสฺสํ ปฏิพนฺธติ, สิรสํ มุฺจติ, สิรสํ พนฺธติ. อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, จตฺตาลีสาย าเนหิ อิตฺถี ปุริสํ อจฺจาจรติ.

‘‘ปฺจวีสาย ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, าเนหิ อิตฺถี ปทุฏฺา เวทิตพฺพา ภวติ – สามิกสฺส ปวาสํ วณฺเณติ, ปวุฏฺํ น สรติ, อาคตํ นาภินนฺทติ, อวณฺณํ ตสฺส ภณติ, วณฺณํ ตสฺส น ภณติ, อนตฺถํ ตสฺส จรติ, อตฺถํ ตสฺส น จรติ, อกิจฺจํ ตสฺส กโรติ, กิจฺจํ ตสฺส น กโรติ, ปริทหิตฺวา สยติ, ปรมฺมุขี นิปชฺชติ, ปริวตฺตกชาตา โข ปน โหติ กุงฺกุมิยชาตา, ทีฆํ อสฺสสติ, ทุกฺขํ เวทยติ, อุจฺจารปสฺสาวํ อภิณฺหํ คจฺฉติ, วิโลมมาจรติ, ปรปุริสสทฺทํ สุตฺวา กณฺณโสตํ วิวรโมทหติ, นิหตโภคา โข ปน โหติ, ปฏิวิสฺสเกหิ สนฺถวํ กโรติ, นิกฺขนฺตปาทา โข ปน โหติ วิสิขานุจารินี, อติจารินี โข ปน โหติ นิจฺจํ สามิเก อคารวา ปทุฏฺมนสงฺกปฺปา, อภิณฺหํ ทฺวาเร ติฏฺติ, กจฺฉานิ องฺคานิ ถนานิ ทสฺเสติ, ทิโสทิสํ คนฺตฺวา เปกฺขติ. อิเมหิ ขลุ สมฺม ปุณฺณมุข, ปฺจวีสาย าเนหิ อิตฺถี ปทุฏฺา เวทิตพฺพา ภวติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๓๐๑.

‘ปวาสํ ตสฺส วณฺเณติ, คตํ ตสฺส น โสจติ;

ทิสฺวาน ปติมาคตํ นาภินนฺทติ, ภตฺตารวณฺณํ น กทาจิ ภาสติ;

เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๒.

‘อนตฺถํ ตสฺส จรติ อสฺตา, อตฺถฺจ หาเปติ อกิจฺจการินี;

ปริทหิตฺวา สยติ ปรมฺมุขี, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๓.

‘ปริวตฺตชาตา จ ภวติ กุงฺกุมี, ทีฆฺจ อสฺสสติ ทุกฺขเวทินี;

อุจฺจารปสฺสาวมภิณฺหํ คจฺฉติ, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๔.

‘วิโลมมาจรติ อกิจฺจการินี, สทฺทํ นิสาเมติ ปรสฺส ภาสโต;

นิหตโภคา จ กโรติ สนฺถวํ, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๕.

‘กิจฺเฉน ลทฺธํ กสิราภตํ ธนํ, วิตฺตํ วินาเสติ ทุกฺเขน สมฺภตํ;

ปฏิวิสฺสเกหิ จ กโรติ สนฺถวํ, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๖.

‘นิกฺขนฺตปาทา วิสิขานุจารินี, นิจฺจฺจ สามิมฺหิ ปทุฏฺมานสา;

อติจารินี โหติ อเปตคารวา, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๗.

‘อภิกฺขณํ ติฏฺติ ทฺวารมูเล, ถนานิ กจฺฉานิ จ ทสฺสยนฺตี;

ทิโสทิสํ เปกฺขติ ภนฺตจิตฺตา, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๘.

‘สพฺพา นที วงฺกคตี, สพฺเพ กฏฺมยา วนา;

สพฺพิตฺถิโย กเร ปาปํ, ลภมาเน นิวาตเก.

๓๐๙.

‘สเจ ลเภถ ขณํ วา รโห วา, นิวาตกํ วาปิ ลเภถ ตาทิสํ;

สพฺพาว อิตฺถี กยิรุํ นุ ปาปํ, อฺํ อลตฺถ ปีสปฺปินาปิ สทฺธึ.

๓๑๐.

‘นรานมารามกราสุ นาริสุ, อเนกจิตฺตาสุ อนิคฺคหาสุ จ;

สพฺพตฺถ นาปีติกราปิ เจ สิยา, น วิสฺสเส ติตฺถสมา หิ นาริโย’’’ติ.

ตตฺถ โคณํ เธนุนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. าติกุเล ปทุสฺสตีติ ตตฺถ สา นิพฺภยา หุตฺวา ตรุณกาลโต ปฏฺาย วิสฺสาสเกหิ ทาสาทีหิปิ สทฺธึ อนาจารํ จรติ, าตกา ตฺวาปิ นิคฺคหํ น กโรนฺติ, อตฺตโน อกิตฺตึ ปริหรมานา อชานนฺตา วิย โหนฺติ. อนตฺถจรานีติ อจริตพฺพานิ อตฺถานิ, อกิจฺจการานีติ อตฺโถ. อคุณนฺติ ชิยารหิตํ. ปาปสหายโกติ ทุมฺมิตฺโต.

ทลิทฺทตาติ ทลิทฺทตาย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ทลิทฺโท อลงฺการาทีนํ อภาวโต กิเลเสน สงฺคณฺหิตุํ น สกฺโกตีติ ตํ อวชานาติ. คิลาโน วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ สงฺคณฺหิตุํ น สกฺโกติ. ชราชิณฺโณ กายิกวาจสิกขิฑฺฑารติสมตฺโถ น โหติ. สุราโสณฺโฑ ตสฺสา หตฺถปิฬนฺธนาทีนิปิ สุราฆรฺเว ปเวเสติ. มุทฺโธ อนฺธพาโล รติกุสโล น โหติ. ปมตฺโต ทาสิโสณฺโฑ หุตฺวา ฆรทาสีหิ สทฺธึ สํวสติ, ภริยํ ปน อกฺโกสติ ปริภาสติ, เตน นํ อวชานาติ. สพฺพกิจฺเจสุ อนุวตฺตนฺตํ ‘‘อยํ นิตฺเตโช, มเมว อนุวตฺตตี’’ติ ตํ อกฺโกสติ ปริภาสติ. โย ปน สพฺพํ ธนํ อนุปฺปเทติ กุฏุมฺพํ ปฏิจฺฉาเปติ, ตสฺส ภริยา สพฺพํ ธนสารํ หตฺเถ กตฺวา ตํ ทาสํ วิย อวชานาติ, อิจฺฉมานา ‘‘โก ตยา อตฺโถ’’ติ ฆรโตปิ นํ นิกฺกฑฺฒติ. มุทฺธปตฺตนฺติ มุทฺธภาวปฺปตฺตํ.

ปโทสมาหรตีติ สามิเก ปโทสํ อาหรติ ทุสฺสติ, ปาปกมฺมํ กโรตีติ อตฺโถ. อารามคมนสีลาติ สามิกํ อาปุจฺฉา วา อนาปุจฺฉา วา อภิณฺหํ ปุปฺผารามาทีสุ อฺตรํ คนฺตฺวา ตตฺถ อนาจารํ จริตฺวา ‘‘อชฺช มยา อาราเม รุกฺขเทวตาย พลิกมฺมํ กต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา พาลสามิกํ สฺาเปติ. ปณฺฑิโต ปน ‘‘อทฺธา เอสา ตตฺถ อนาจารํ จรตี’’ติ ปุน ตสฺสา คนฺตุํ น เทติ. เอวํ สพฺพปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปรกุลนฺติ สนฺทิฏฺสมฺภตฺตาทีนํ เคหํ. ตํ สา ‘‘อสุกกุเล เม วฑฺฒิ ปโยชิตา อตฺถิ, ตาวกาลิกํ ทินฺนกํ อตฺถิ, ตํ สาเธมี’’ติอาทีนิ วตฺวา คจฺฉติ. นิลฺโลกนสีลาติ วาตปานนฺตราทีหิ โอโลกนสีลา. สทฺวารฏฺายินีติ อตฺตโน องฺคปจฺจงฺคานิ ทสฺเสนฺตี สทฺวาเร ติฏฺติ.

อจฺจาจรตีติ อติกฺกมฺม จรติ, สามิกสฺส สนฺติเก ิตาว อฺสฺส นิมิตฺตํ ทสฺเสตีติ อตฺโถ. วิชมฺภตีติ ‘‘อหํ ตํ ทิสฺวา วิชมฺภิสฺสามิ, ตาย สฺาย โอกาสสฺส อตฺถิภาวํ วา นตฺถิภาวํ วา ชาเนยฺยาสี’’ติ ปมเมว กตสงฺเกตา วา หุตฺวา อกตสงฺเกตา วาปิ ‘‘เอวํ เอส มยิ พชฺฌิสฺสตี’’ติ สามิกสฺส ปสฺเส ิตาว วิชมฺภติ วิชมฺภนํ ทสฺเสติ. วินมตีติ กิฺจิเทว ภูมิยํ ปาเตตฺวา ตํ อุกฺขิปนฺตี วิย โอนมิตฺวา ปิฏฺึ ทสฺเสติ. วิลสตีติ คมนาทีหิ วา อิริยาปเถหิ อลงฺกาเรน วา วิลาสํ ทสฺเสติ. วิลชฺชตีติ ลชฺชนฺตี วิย วตฺเถน สรีรํ ฉาเทติ, กวาฏํ วา ภิตฺตึ วา อลฺลียติ. นเขนาติ ปาทนเขน ปาทนขํ, หตฺถนเขน หตฺถนขํ ฆฏฺเฏติ. กฏฺเนาติ ทณฺฑเกน. ทารกนฺติ อตฺตโน วา ปุตฺตํ อฺสฺส วา ปุตฺตํ คเหตฺวา อุกฺขิปติ วา อุกฺขิปาเปติ วา. กีฬตีติ สยํ วา กีฬติ, ทารกํ วา กีฬาเปติ. จุมฺพนาทีสุปิ เอเสว นโย. ททาตีติ ตสฺส กิฺจิเทว ผลํ วา ปุปฺผํ วา เทติ. ยาจตีติ ตเมว ปฏิยาจติ. อนุกโรตีติ ทารเกน กตํ กตํ อนุกโรติ. อุจฺจนฺติ มหาสทฺทวเสน วา โถมนวเสน วา อุจฺจํ. นีจนฺติ มนฺทสทฺทวเสน วา อมนาปวจเนน วา ปริภววจเนน วา นีจํ. อวิจฺจนฺติ พหุชนมชฺเฌ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ. วิวิจฺจนฺติ รโห ปฏิจฺฉนฺนํ. นจฺเจนาติ เอเตหิ นจฺจาทีหิ นิมิตฺตํ กโรติ. ตตฺถ โรทิเตน นิมิตฺตกรเณน รตฺตึ เทเว วสฺสนฺเต วาตปาเนน หตฺถึ อาโรเปตฺวา เสฏฺิปุตฺเตน นีตาย ปุโรหิตพฺราหฺมณิยา วตฺถุ กเถตพฺพํ. ชคฺฆตีติ มหาหสิตํ หสติ, เอวมฺปิ นิมิตฺตํ กโรติ. กจฺฉนฺติ อุปกจฺฉกํ. อุปลิขตีติ ทนฺเตหิ อุปลิขติ. สิรสนฺติ เกสวฏฺฏึ. เอวํ เกสานํ โมจนพนฺธเนหิปิ ปรปุริสานํ นิมิตฺตํ กโรติ, นิยาเมตฺวา วา อนิยาเมตฺวา วา โกจิเทว สารชฺชิสฺสตีติปิ กโรติเยว.

ปทุฏฺา เวทิตพฺพา ภวตีติ อยํ มยิ ปทุฏฺา กุทฺธา, กุชฺฌิตฺวา จ ปน มิจฺฉาจารํ จรตีติ ปณฺฑิเตน เวทิตพฺพา ภวติ. ปวาสนฺติ ‘‘อสุกคาเม ปยุตฺตํ ธนํ นสฺสติ, คจฺฉ ตํ สาเธหิ, โวหารํ กโรหี’’ติอาทีนิ วตฺวา ตสฺมึ คเต อนาจารํ จริตุกามา ปวาสํ วณฺเณติ. อนตฺถนฺติ อวฑฺฒึ. อกิจฺจนฺติ อกตฺตพฺพยุตฺตกํ. ปริทหิตฺวาติ คาฬฺหํ นิวาเสตฺวา. ปริวตฺตกชาตาติ อิโต จิโต จ ปริวตฺตมานา. กุงฺกุมิยชาตาติ โกลาหลชาตา ปาทมูเล นิปนฺนา ปริจาริกา อุฏฺาเปติ, ทีปํ ชาลาเปติ, นานปฺปการํ โกลาหลํ กโรติ, ตสฺส กิเลสรตึ นาเสติ. ทุกฺขํ เวทยตีติ สีสํ เม รุชฺชตีติอาทีนิ วทติ. วิโลมมาจรตีติ อาหารํ สีตลํ อิจฺฉนฺตสฺส อุณฺหํ เทตีติอาทีนํ วเสน ปจฺจนีกวุตฺติ โหติ. นิหตโภคาติ สามิเกน ทุกฺขสมฺภตานํ โภคานํ สุราโลลตาทีหิ วินาสิกา. สนฺถวนฺติ กิเลสวเสน สนฺถวํ กโรติ. นิกฺขนฺตปาทาติ ชารสฺส อุปธารณตฺถาย นิกฺขนฺตปาทา. สามิเกติ ปติมฺหิ อคารเวน จ ปทุฏฺมานสาย จ อติจารินี โหติ.

สพฺพิตฺถิโยติ เปตฺวา วิปสฺสนาย ตนุกตกิเลสา เสสา สพฺพา อิตฺถิโย ปาปํ กเรยฺยุํ. ลภมาเนติ ลพฺภมาเน, สํวิชฺชมาเนติ อตฺโถ. นิวาตเกติ รโหมนฺตนเก ปริเภทเก. ขณํ วา รโห วาติ ปาปกรณตฺถาย โอกาสํ วา ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ วา. กยิรุํ นูติ เอตฺถ นู-ติ นิปาตมตฺตํ. อลตฺถาติ อลทฺธา. อยเมว วา ปาโ, อฺํ สมฺปนฺนปุริสํ อลภิตฺวา ปีสปฺปินาปิ ตโต ปฏิกฺกูลตเรนาปิ ปาปํ กเรยฺยุํ. อารามกราสูติ อภิรติการิกาสุ. อนิคฺคหาสูติ นิคฺคเหน วิเนตุํ อสกฺกุเณยฺยาสุ. ติตฺถสมาติ ยถา ติตฺถํ อุตฺตมาธเมสุ น กฺจิ นฺหายนฺตํ วาเรติ, ตถา เอตาปิ รโห วา ขเณ วา นิวาตเก วา สติ น กฺจิ ปฏิกฺขิปนฺติ.

ตถา หิ อตีเต พาราณสิยํ กณฺฑรี นาม ราชา อโหสิ อุตฺตมรูปธโร. ตสฺส เทวสิกํ อมจฺจา คนฺธกรณฺฑกสหสฺสํ อาหรนฺติ. เตนสฺส นิเวสเน ปริภณฺฑํ กตฺวา คนฺธกรณฺฑเก ผาเลตฺวา คนฺธทารูนิ กตฺวา อาหารํ ปจนฺติ. ภริยาปิสฺส อภิรูปา อโหสิ นาเมน กินฺนรา นาม. ปุโรหิโตปิสฺส สมวโย ปฺจาลจณฺโฑ นาม พุทฺธิสมฺปนฺโน อโหสิ. รฺโ ปน ปาสาทํ นิสฺสาย อนฺโตปากาเร ชมฺพุรุกฺโข นิพฺพตฺติ, ตสฺส สาขา ปาการมตฺถเก โอลมฺพติ. ตสฺส ฉายาย เชคุจฺโฉ ทุสฺสณฺาโน ปีสปฺปี วสติ. อเถกทิวสํ กินฺนรา เทวี วาตปาเนน โอโลเกนฺตี ตํ ทิตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา รตฺตึ ราชานํ รติยา สงฺคณฺหิตฺวา ตสฺมึ นิทฺทํ โอกฺกนฺเต สณิกํ อุฏฺายาสนา นานคฺครสโภชนํ สุวณฺณสรเก ปกฺขิปิตฺวา อุจฺฉงฺเค กตฺวา สาฏกรชฺชุยา วาตปาเนน โอตริตฺวา ชมฺพุํ อารุยฺห สาขาย โอรุยฺห ปีสปฺปึ โภเชตฺวา ปาปํ กตฺวา อาคตมคฺเคเนว ปาสาทํ อารุยฺห คนฺเธหิ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิ. เอเตนุปาเยน นิพทฺธํ เตน สทฺธึ ปาปํ กโรติ. ราชา ปน น ชานาติ.

โส เอกทิวสํ นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา นิเวสนํ ปเวสนฺโต ชมฺพุฉายาย สยิตํ ปรมการุฺปฺปตฺตํ ปีสปฺปึ ทิสฺวา ปุโรหิตํ อาห – ‘‘ปสฺเสตํ มนุสฺสเปต’’นฺติ. ‘‘อาม, ปสฺสามิ เทวา’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข, สมฺม, เอวรูปํ ปฏิกฺกูลํ กาจิ อิตฺถี ฉนฺทราควเสน อุปคจฺเฉยฺยา’’ติ. ตํ กถํ สุตฺวา ปีสปฺปี มานํ ชเนตฺวา ‘‘อยํ ราชา กึ กเถติ, อตฺตโน เทวิยา มม สนฺติกํ อาคมนํ น ชานาติ มฺเ’’ติ ชมฺพุรุกฺขสฺส อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘สุณ สามิ, ชมฺพุรุกฺเข นิพฺพตฺตเทวเต, เปตฺวา ตํ อฺโ เอตํ การณํ น ชานาตี’’ติ อาห. ปุโรหิโต ตสฺส กิริยํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อทฺธา รฺโ อคฺคมเหสี ชมฺพุรุกฺเขน คนฺตฺวา อิมินา สทฺธึ ปาปํ กโรตี’’ติ. โส ราชานํ ปุจฺฉิ – ‘‘มหาราช, เทวิยา เต รตฺติภาเค สรีรสมฺผสฺโส กีทิโส โหตี’’ติ? ‘‘สมฺม, อฺํ น ปสฺสามิ, มชฺฌิมยาเม ปนสฺสา สรีรํ สีตลํ โหตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ติฏฺตุ อฺา อิตฺถี, อคฺคมเหสี เต กินฺนราเทวี อิมินา สทฺธึ ปาปํ กโรตี’’ติ. ‘‘สมฺม, กึ วเทสิ, เอวรูปา ปรมวิลาสสมฺปนฺนา กึ อิมินา ปรมเชคุจฺเฉน สทฺธึ อภิรมิสฺสตี’’ติ? ‘‘เตน หิ นํ, เทว, ปริคฺคณฺหาหี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ รตฺตึ ภุตฺตสายมาโส ตาย สทฺธึ นิปฺปชฺชิตฺวา ‘‘ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ ปกติยา นิทฺทุปคมนเวลาย นิทฺทุปคโต วิย อโหสิ. สาปิ อุฏฺาย ตเถว อกาสิ. ราชา ตสฺสา อนุปทฺเว คนฺตฺวา ชมฺพุฉายํ นิสฺสาย อฏฺาสิ. ปีสปฺปี เทวิยา กุชฺฌิตฺวา ‘‘ตฺวํ อชฺช อติจิรายิตฺวา อาคตา’’ติ หตฺเถน กณฺณสงฺขลิกํ ปหริ. อถ นํ ‘‘มา มํ กุชฺฌิ, สามิ, รฺโ นิทฺทุปคมนํ โอโลเกสิ’’นฺติ วตฺวา ตสฺส เคเห ปาทปริจาริกา วิย อโหสิ. เตน ปนสฺสา ปหาเรน สีหมุขกุณฺฑลํ กณฺณโต คฬิตฺวา รฺโ ปาทมูเล ปติ. ราชา ‘‘วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตก’’นฺติ ตํ คเหตฺวา คโต. สาปิ เตน สทฺธึ อติจริตฺวา ปุริมนิยาเมเนว คนฺตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิตุํ อารภิ. ราชา ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ‘‘กินฺนราเทวี มยา ทินฺนํ สพฺพาลงฺการํ อลงฺกริตฺวา เอตู’’ติ อาณาเปสิ. สา ‘‘สีหมุขกุณฺฑลํ เม สุวณฺณการสฺส สนฺติเก’’ติ วตฺวา นาคมิ, ปุน เปสิเต จ ปน เอกกุณฺฑลาว อาคมาสิ. ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ เต กุณฺฑล’’นฺติ? ‘‘สุวณฺณการสฺส สนฺติเก’’ติ. สุวณฺณการํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กึการณา อิมิสฺสา กุณฺฑลํ น เทสี’’ติ อาห. ‘‘นาหํ คณฺหามิ เทวา’’ติ. ราชา ตสฺสา กุชฺฌิตฺวา ‘‘ปาเป จณฺฑาลิ มาทิเสน เต สุวณฺณกาเรน ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตํ กุณฺฑลํ ตสฺสา ปุรโถ ขิปิตฺวา ปุโรหิตํ อาห – ‘‘สมฺม, สจฺจํ ตยา วุตฺตํ, คจฺฉ สีสมสฺสา เฉทาเปหี’’ติ. โส ตํ ราชเคเหเยว เอกสฺมึ ปเทเส เปตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘เทว, มา กินฺนราเทวิยา กุชฺฌิตฺถ, สพฺพา อิตฺถิโย เอวรูปาเยว. สเจปิ อิตฺถีนํ ทุสฺสีลภาวํ าตุกาโมสิ, ทสฺเสสฺสามิ เต เอตาสํ ปาปกฺเจว พหุมายาภาวฺจ, เอหิ อฺาตกเวเสน ชนปทํ จรามา’’ติ อาห.

ราชา ‘‘สาธู’’ติ มาตรํ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา เตน สทฺธึ จาริกํ ปกฺกามิ. เตสํ โยชนํ มคฺคํ คนฺตฺวา มหามคฺเค นิสินฺนานํเยว เอโก กุฏุมฺพิโก ปุตฺตสฺสตฺถาย มงฺคลํ กตฺวา เอกํ กุมาริกํ ปฏิจฺฉนฺนยาเน นิสีทาเปตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน คจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา ปุโรหิโต ราชานํ อาห – ‘‘สเจ อิจฺฉสิ, อิมํ กุมาริกํ ตยา สทฺธึ ปาปํ กาเรตุํ สกฺกา เทวา’’ติ. ‘‘กึ กเถสิ, มหาปริวารา เอสา, น สกฺกา สมฺมา’’ติ? ปุโรหิโต ‘‘เตน หิ ปสฺส, เทวา’’ติ ปุรโต คนฺตฺวา มคฺคโต อวิทูเร สาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา ราชานํ อนฺโตสาณิยํ กตฺวา สยํ มคฺคปสฺเส โรทนฺโต นิสีทิ. อถ นํ โส กุฏุมฺพิโก ทิสฺวา ‘‘ตาต, กสฺมา โรทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภริยา เม ครุภารา, ตํ กุลฆรํ เนตุํ มคฺคปฏิปนฺโนสฺมิ, ตสฺสา อนฺตรามคฺเคเยว คพฺโภ จลิ, เอสา อนฺโตสาณิยํ กิลมติ, กาจิสฺสา อิตฺถี สนฺติเก นตฺถิ, มยาปิ ตตฺถ คนฺตุํ น สกฺกา, น ชานามิ ‘กึ ภวิสฺสตี’ติ, เอกํ อิตฺถึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘มา โรทิ, พหู เม อิตฺถิโย, เอกา คมิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ อยเมว กุมาริกา คจฺฉตุ, เอติสฺสาปิ มงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สจฺจํ วทติ, สุณิสายปิ เม มงฺคลเมว, อิมินา หิ นิมิตฺเตน สา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ตเมว เปเสสิ. สา ตตฺถ ปวิสิตฺวา ราชานํ ทิสฺวาว ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา ปาปมกาสิ. ราชาปิสฺสา องฺคุลิมุทฺทิกํ อทาสิ. อถ นํ กตกิจฺจํ นิกฺขมิตฺวา อาคตํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘กึ วิชาตา’’ติ? ‘‘สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺต’’นฺติ. กุฏุมฺพิโก ตํ อาทาย ปายาสิ. ปุโรหิโตปิ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ทิฏฺา เต, เทว, กุมาริกาปิ เอวํ ปาปา, กิมงฺคํ ปน อฺา, อปิ ปน เต กิฺจิ ทินฺน’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, องฺคุลิมุทฺทิกา ทินฺนา’’ติ. ‘‘นาสฺสา ตํ ทสฺสามี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา ยานกํ คณฺหิตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อยํ เม พฺราหฺมณิยา อุสฺสีสเก ปิตํ มุทฺทิกํ คเหตฺวา อาคตา, เทหิ, อมฺม, มุทฺทิก’’นฺติ อาห. สา ตํ ททมานา พฺราหฺมณํ หตฺเถ นเขน วิชฺฌิตฺวา ‘‘คณฺห โจรา’’ติ อทาสิ.

เอวํ พฺราหฺมโณ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ อฺาปิ พหู อติจารินิโย รฺโ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิธ ตาว เอตฺตกํ โหตุ, อฺตฺถ คมิสฺสาม, เทวา’’ติ อาห. ราชา ‘‘สกลชมฺพุทีเป จริเตปิ สพฺพา อิตฺถิโย เอวรูปาว ภวิสฺสนฺติ, กึ โน เอตาหิ, นิวตฺตามา’’ติ พาราณสิเมว ปจฺจาคนฺตฺวา – ‘‘มหาราช, อิตฺถิโย นาม เอวํ ปาปธมฺมา, ปกติ เอสา เอตาสํ, ขมถ, เทว, กินฺนราเทวิยา’’ติ ปุโรหิเตน ยาจิโต ขมิตฺวา ราชนิเวสนโต นํ นิกฺกฑฺฒาเปสิ, านโต ปน ตํ อปเนตฺวา อฺํ อคฺคมเหสึ อกาสิ. ตฺจ ปีสปฺปึ นิกฺกฑฺฒาเปตฺวา ชมฺพุสาขํ เฉทาเปสิ. ตทา กุณาโล ปฺจาลจณฺโฑ อโหสิ. อิติ อตฺตนา ทิฏฺการณเมว อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๓๑๑.

‘‘ยํ เว ทิสฺวา กณฺฑรีกินฺนรานํ, สพฺพิตฺถิโย น รมนฺติ อคาเร;

ตํ ตาทิสํ มจฺจํ จชิตฺวา ภริยา, อฺํ ทิสฺวา ปุริสํ ปีสปฺปิ’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ยํ เว กณฺฑริสฺส รฺโ กินฺนราย เทวิยา จาติ อิเมสํ กณฺฑริกินฺนรานํ วิราคการณํ อโหสิ, ตํ ทิสฺวา ชานิตพฺพํ – สพฺพิตฺถิโย อตฺตโน สามิกานํ น รมนฺติ อคาเร. ตถา หิ อฺํ ปีสปฺปึ ปุริสํ ทิสฺวา ตํ ราชานํ ตาทิสํ รติกุสลํ มจฺจํ จชิตฺวา ภริยา เตน มนุสฺสเปเตน สทฺธึ ปาปมกาสีติ.

อปโรปิ อตีเต พาราณสิยํ พโก นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตทา พาราณสิยา ปาจีนทฺวารวาสิโน เอกสฺส ทลิทฺทสฺส ปฺจปาปี นาม ธีตา อโหสิ. สา กิร ปุพฺเพปิ เอกา ทลิทฺทธีตา มตฺติกํ มทฺทิตฺวา เคเห ภิตฺตึ วิลิมฺปติ. อเถโก ปจฺเจกพุทฺโธ อตฺตโน ปพฺภารปริภณฺฑกรณตฺถํ ‘‘กหํ มตฺติกํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘พาราณสิยํ ลทฺธุํ สกฺกา’’ติ จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตหตฺโถ นครํ ปวิสิตฺวา ตสฺสา อวิทูเร อฏฺาสิ. สา กุชฺฌิตฺวา อุลฺโลเกนฺตี ปทุฏฺเน มนสา ‘‘มตฺติกมฺปิ ภิกฺขตี’’ติ อโวจ. ปจฺเจกพุทฺโธ นิจฺจโลว อโหสิ. อถ สา ปจฺเจกพุทฺธํ นิจฺจลิตํ ทิสฺวา ปุน จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ‘‘สมณ, มตฺติกมฺปิ น ลภสี’’ติ วตฺวา มหนฺตํ มตฺติกาปิณฺฑํ อาหริตฺวา ปตฺเต เปสิ. โส ตาย มตฺติกาย ปพฺภาเร ปริภณฺฑมกาสิ. สา นจิรสฺเสว ตโต จวิตฺวา ตสฺมึเยว นคเร พหิทฺวารคาเม ทุคฺคติตฺถิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ทสมาสจฺจเยน มาตุ กุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺสา มตฺติกาปิณฺฑผเลน สรีรํ ผสฺสสมฺปนฺนํ อโหสิ, กุชฺฌิตฺวา อุลฺโลกิตตฺตา ปน หตฺถปาทมุขอกฺขินาสานิ ปาปานิ วิรูปานิ อเหสุํ. เตน ตํ ‘‘ปฺจปาปี’’ตฺเวว สฺชานึสุ.

อเถกทิวสํ พาราณสิราชา รตฺตึ อฺาตกเวเสน นครํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ ปเทสํ คโต. สาปิ คามทาริกาหิ สทฺธึ กีฬนฺตี อชานิตฺวาว ราชานํ หตฺเถ คณฺหิ. โส ตสฺสา หตฺถสมฺผสฺเสน สกภาเวน สณฺาตุํ นาสกฺขิ, ทิพฺพสมฺผสฺเสน ผุฏฺโ วิย อโหสิ. โส ผสฺสราครตฺโต ตถาวิรูปมฺปิ ตํ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘กสฺส ธีตาสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทฺวารวาสิโน’’ติ วุตฺเต อสฺสามิกภาวํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ เต สามิโก ภวิสฺสามิ, คจฺฉ มาตาปิตโร อนุชานาเปหี’’ติ อาห. สา มาตาปิตโร อุปคนฺตฺวา ‘‘เอโก, อมฺม, ปุริโส มํ อิจฺฉตี’’ติ วตฺวา ‘‘โสปิ ทุคฺคโต ภวิสฺสติ, สเจ ตาทิสมฺปิ อิจฺฉติ, สาธู’’ติ วุตฺเต คนฺตฺวา มาตาปิตูหิ อนุฺาตภาวํ อาโรเจสิ. โส ตสฺมึเยว เคเห ตาย สทฺธึ วสิตฺวา ปาโตว ราชนิเวสนํ ปาวิสิ. ตโต ปฏฺาเยว อฺาตกเวเสน นิพทฺธํ ตตฺถ คจฺฉติ, อฺํ อิตฺถึ โอโลเกตุมฺปิ น อิจฺฉติ.

อเถกทิวสํ ตสฺสา ปิตุ โลหิตปกฺขนฺทิกา อุปฺปชฺชิ. อสมฺภินฺนขีรสปฺปิมธุสกฺขรยุตฺตปายาโสว เอตสฺส เภสชฺชํ, ตํ เต ทลิทฺทตาย อุปฺปาเทตุํ น สกฺโกนฺติ. ตโต ปฺจปาปิมาตา ธีตรํ อาห – ‘‘กึ, อมฺม, ตว สามิโก ปายาสํ อุปฺปาเทตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ? ‘‘อมฺม, มม สามิเกน อมฺเหหิปิ ทุคฺคตตเรน ภวิตพฺพํ, เอวํ สนฺเตปิ ปุจฺฉิสฺสามิ นํ, มา จินฺตยี’’ติ วตฺวา ตสฺสาคมนเวลายํ ทุมฺมนา หุตฺวา นิสีทิ. อถ นํ ราชา อาคนฺตฺวา ‘‘กึ ทุมฺมนาสี’’ติ ปุจฺฉิ. สา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ภทฺเท อิทํ อติรสเภสชฺชํ, กุโต ลภิสฺสามี’’ติ วตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘น สกฺกา มยา นิจฺจกาลํ เอวํ จริตุํ, อนฺตรามคฺเค ปริสฺสโยปิ ทฏฺพฺโพ, สเจ โข ปน เอตํ อนฺเตปุรํ เนสฺสามิ, เอติสฺสา ผสฺสสมฺปทํ อชานนฺตา ‘อมฺหากํ ราชา ยกฺขินึ คเหตฺวา อาคโต’ติ เกฬึ กริสฺสนฺติ, สกลนครวาสิโน เอติสฺสา สมฺผสฺสํ ชานาเปตฺวา ครหํ โมเจสฺสามี’’ติ. อถ นํ ราชา – ‘‘ภทฺเท, มา จินฺตยิ, อาหริสฺสามิ เต ปิตุ ปายาส’’นฺติ วตฺวา ตาย สทฺธึ อภิรมิตฺวา ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา ปุนทิวเส ตาทิสํ ปายาสํ ปจาเปตฺวา ปณฺณานิ อาหราเปตฺวา ทฺเว ปุเฏ กตฺวา เอกสฺมึ ปายาสํ ปกฺขิปิตฺวา เอกสฺมึ จูฬามณึ เปตฺวา พนฺธิตฺวา รตฺติภาเค คนฺตฺวา, ‘‘ภทฺเท, มยํ ทลิทฺทา, กิจฺเฉน สมฺปาทิตํ, ตว ปิตรํ ‘อชฺช อิมมฺหา ปุฏา ปายาสํ ภุฺช, สฺเว อิมมฺหา’ติ วเทยฺยาสี’’ติ อาห. สา ตถา อกาสิ. อถสฺสา ปิตา โอชสมฺปนฺนตฺตา ปายาสสฺส โถกเมว ภุฺชิตฺวา สุหิโต ชาโต. เสสํ มาตุ ทตฺวา สยมฺปิ ภุฺชิ. ตโยปิ สุหิตา อเหสุํ. จูฬามณิปุฏํ ปน ปุนทิวสตฺถาย เปสุํ.

ราชา นิเวสนํ คนฺตฺวา มุขํ โธวิตฺวาว ‘‘จูฬามณึ เม อาหรถา’’ติ วตฺวา ‘‘น ปสฺสาม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘สกลนครํ วิจินถา’’ติ อาห. เต วิจินิตฺวาปิ น ปสฺสึสุ. เตน หิ พหินคเร ทลิทฺทเคเหสุ ภตฺตปณฺณปุเฏ อุปาทาย วิจินถาติ. วิจินนฺตา ตสฺมึ ฆเฏ จูฬามณึ ทิสฺวา ตสฺสา มาตาปิตโร ‘‘โจรา’’ติ พนฺธิตฺวา นยึสุ. อถสฺสา ปิตา, ‘‘สามิ, น มยํ โจรา, อฺเนายํ มณิ อาภโต’’ติ วตฺวา ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ชามาตรา เม’’ติ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘กหํ โส’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘ธีตา เม ชานาตี’’ติ อาห. ตโต ธีตาย สทฺธึ กเถสิ – ‘‘อมฺม, สามิกํ เต ชานาสี’’ติ? ‘‘น ชานามี’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต อมฺหากํ ชีวิตํ นตฺถี’’ติ. ‘‘ตาต, โส อนฺธกาเร อาคนฺตฺวา อนฺธกาเร เอว ยาติ, เตนสฺส รูปํ น ชานามิ, หตฺถสมฺผสฺเสน ปน นํ ชานิตุํ สกฺโกมี’’ติ. โส ราชปุริสานํ อาโรเจสิ. เตปิ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา อชานนฺโต วิย หุตฺวา ‘‘เตน หิ ตํ อิตฺถึ ราชงฺคเณ อนฺโตสาณิยํ เปตฺวา สาณิยา หตฺถปฺปมาณํ ฉิทฺทํ กตฺวา นครวาสิโน สนฺนิปาเตตฺวา หตฺถสมฺผสฺเสน โจรํ คณฺหถา’’ติ อาห. ราชปุริสา ตถา กาตุํ ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา รูปํ ทิสฺวาว วิปฺปฏิสาริโน หุตฺวา – ‘‘ธี, ธี ปิสาจี’’ติ ชิคุจฺฉิตฺวา ผุสิตุํ น อุสฺสหึสุ, อาเนตฺวา ปน นํ ราชงฺคเณ อนฺโตสาณิยํ เปตฺวา สกลนครวาสิโน สนฺนิปาเตสุํ. สา อาคตาคตสฺส ฉิทฺเทน ปสาริตหตฺถํ คเหตฺวาว ‘‘โน เอโส’’ติ วทติ. ปุริสา ตสฺสา ทิพฺพผสฺสสทิเส ผสฺเส พชฺฌิตฺวา อปคนฺตุํ น สกฺขึสุ, ‘‘สจายํ ทณฺฑารหา, ทณฺฑํ ทตฺวาปิ ทาสกมฺมการภาวํ อุปคนฺตฺวาปิ เอตํ ฆเร กริสฺสามา’’ติ จินฺตยึสุ. อถ เน ราชปุริสา ทณฺเฑหิ โกฏฺเฏตฺวา ปลาเปสุํ. อุปราชานํ อาทึ กตฺวา สพฺเพ อุมฺมตฺตกา วิย อเหสุํ.

อถ ราชา – ‘‘กจฺจิ อหํ ภเวยฺย’’นฺติ หตฺถํ ปสาเรสิ. ตํ หตฺเถ คเหตฺวาว ‘‘โจโร เม คหิโต’’ติ มหาสทฺทํ กริ. ราชา เตปิ ปุจฺฉิ – ‘‘ตุมฺเห เอตาย หตฺเถ คหิตา กึ จินฺตยิตฺถา’’ติ. เต ยถาภูตํ อาโรเจสุํ. อถ เน ราชา อาห – ‘‘อหํ เอตํ อตฺตโน เคหํ อาเนตุํ เอวํ กาเรสึ ‘เอติสฺสา ผสฺสํ อชานนฺตา มํ ปริภเวยฺยุ’นฺติ จินฺเตตฺวา, ตสฺมา มยา สพฺเพ ตุมฺเห ชานาปิตา, วทถ, โภ ทานิ, สา กสฺส เคเห ภวิตุํ ยุตฺตา’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ, เทวา’’ติ. อถ นํ อภิสิฺจิตฺวา อคฺคมเหสึ อกาสิ. มาตาปิตูนมฺปิสฺสา อิสฺสริยํ ทาเปสิ. ตโต ปฏฺาย จ ปน ตาย สมฺมตฺโต เนว วินิจฺฉยํ ปฏฺเปสิ, น อฺํ อิตฺถึ โอโลเกสิ. ตา ตสฺสา อนฺตรํ ปริเยสึสุ. สา เอกทิวสํ ทฺวินฺนํ ราชูนํ อคฺคมเหสิภาวสฺส สุปิเน นิมิตฺตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สุปินปาเก ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอวรูเป สุปิเน ทิฏฺเ กึ โหตี’’ติ ปุจฺฉิ. เต อิตราสํ อิตฺถีนํ สนฺติกา ลฺชํ คเหตฺวา – ‘‘มหาราช, เทวิยา สพฺพเสตสฺส หตฺถิโน ขนฺเธ นิสินฺนภาโว ตุมฺหากํ มรณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, หตฺถิขนฺธคตาย ปน จนฺทปรามสนํ ตุมฺหากํ ปจฺจามิตฺตราชานยนสฺส ปุพฺพนิมิตฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว อิมํ มาเรตุํ น สกฺกา, นาวาย ปน นํ เปตฺวา นทิยํ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทึสุ. ราชา อาหารวตฺถาลงฺกาเรหิ สทฺธึ รตฺติภาเค นํ นาวาย เปตฺวา นทิยํ วิสฺสชฺเชสิ.

สา นทิยา วุยฺหมานา เหฏฺานทิยา นาวาย อุทกํ กีฬนฺตสฺส พาวริกรฺโ อภิมุขฏฺานํ ปตฺตา. ตสฺส เสนาปติ นาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ นาวา มยฺห’’นฺติ อาห. ราชา ‘‘นาวาย ภณฺฑํ มยฺห’’นฺติ วตฺวา อาคตาย นาวาย ตํ ทิสฺวา ‘‘กา นาม ตฺวํ ปิสาจีสทิสา’’ติ ปุจฺฉิ. สา สิตํ กตฺวา พกสฺส รฺโ อคฺคมเหสิภาวํ กเถตฺวา สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ ตสฺส กเถสิ. สา ปน ปฺจปาปีติ สกลชมฺพุทีเป ปากฏา. อถ นํ ราชา หตฺเถ คเหตฺวา อุกฺขิปิ, สห คหเณเนว ผสฺสราครตฺโต อฺาสุ อิตฺถีสุ อิตฺถิสฺํ อกตฺวา ตํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา ตสฺส ปาณสมา อโหสิ. พโก ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘นาหํ ตสฺส อคฺคมเหสึ กาตุํ ทสฺสามี’’ติ เสนํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ตสฺส ปฏิติตฺเถ นิเวสนํ กตฺวา ปณฺณํ เปเสสิ – ‘‘ภริยํ วา เม เทตุ ยุทฺธํ วา’’ติ. โส ‘‘ยุทฺธํ ทสฺสามิ, น ภริย’’นฺติ วตฺวา ยุทฺธสชฺโช อโหสิ. อุภินฺนํ อมจฺจา ‘‘มาตุคามํ นิสฺสาย มรณกิจฺจํ นตฺถิ, ปุริมสามิกตฺตา เอสา พกสฺส ปาปุณาติ, นาวาย ลทฺธตฺตา พาวริกสฺส, ตสฺมา เอเกกสฺส เคเห สตฺต สตฺต ทิวสานิ โหตู’’ติ มนฺเตตฺวา ทฺเวปิ ราชาโน สฺาเปสุํ. เต อุโภปิ อตฺตมนา หุตฺวา ติตฺถปฏิติตฺเถ นครานิ มาเปตฺวา วสึสุ. สา ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ อคฺคมเหสิตฺตํ กาเรสิ. ทฺเวปิ ตสฺสา สมฺมตฺตา อเหสุํ. สา ปน เอกสฺส ฆเร สตฺตาหํ วสิตฺวา นาวาย อิตรสฺส ฆรํ คจฺฉนฺตี นาวํ ปาเชตฺวา เนนฺเตน เอเกน มหลฺลกขุชฺชเกวฏฺเฏน สทฺธึ นทีมชฺเฌ ปาปํ กโรติ. ตทา กุณาโล สกุณราชา พโก อโหสิ, ตสฺมา อิทํ อตฺตนา ทิฏฺการณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๓๑๒.

‘‘พกสฺส จ พาวริกสฺส จ รฺโ, อจฺจนฺตกามานุคตสฺส ภริยา;

อวาจรี ปฏฺวสานุคสฺส, กํ วาปิ อิตฺถี นาติจเร ตทฺ’’นฺติ.

ตตฺถ อจฺจนฺตกามานุคตสฺสาติ อจฺจนฺตํ กามํ อนุคตสฺส. อวาจรีติ อนาจารํ จริ. ปฏฺวสานุคสฺสาติ ปฏฺสฺส อตฺตโน วสานุคตสฺส, อตฺตโน เปสนการสฺส สนฺติเกติ อตฺโถ. กรณตฺเถ วา สามิวจนํ, เตน สทฺธึ ปาปมกาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตทฺนฺติ กตรํ ตํ อฺํ ปุริสํ นาติจเรยฺยาติ อตฺโถ.

อปราปิ อตีเต พฺรหฺมทตฺตสฺส ภริยา ปิงฺคิยานี นาม อคฺคมเหสี สีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตี มงฺคลอสฺสโคปกํ ทิสฺวา รฺโ นิทฺทุปคมนกาเล วาตปาเนน โอรุยฺห เตน สทฺธึ อติจริตฺวา ปุน ปาสาทํ อารุยฺห คนฺเธหิ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิ. อเถกทิวสํ ราชา ‘‘กึ นุ โข เทวิยา อฑฺฒรตฺตสมเย นิจฺจํ สรีรํ สีตํ โหติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ เอกทิวสํ นิทฺทุปคโต วิย หุตฺวา ตํ อุฏฺาย คจฺฉนฺตึ อนุคนฺตฺวา อสฺสพนฺเธน สทฺธึ อติจรนฺตึ ทิสฺวา นิวตฺติตฺวา สยนํ อภิรุหิ. สาปิ อติจริตฺวา อาคนฺตฺวา จูฬสยนเก นิปชฺชิ. ปุนทิวเส ราชา อมจฺจคณมชฺเฌเยว ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตํ กิจฺจํ อาวิกตฺวา ‘‘สพฺพาว อิตฺถิโย ปาปธมฺมา’’ติ ตสฺสา วธพนฺธเฉชฺชเภชฺชารหํ โทสํ ขมิตฺวา านา จาเวตฺวา อฺํ อคฺคมเหสึ อกาสิ. ตทา กุณาโล ราชา พฺรหฺมทตฺโต อโหสิ, เตน ตํ อตฺตนา ทิฏฺํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๓๑๓.

‘‘ปิงฺคิยานี สพฺพโลกิสฺสรสฺส, รฺโ ปิยา พฺรหฺมทตฺตสฺส ภริยา;

อวาจรี ปฏฺวสานุคสฺส, ตํ วาปิ สา นาชฺฌคา กามกามินี’’ติ.

ตตฺถ ตํ วาติ สา เอวํ อติจรนฺตี ตํ วา อสฺสพนฺธํ ตํ วา อคฺคมเหสิฏฺานนฺติ อุภยมฺปิ นาชฺฌคา, อุภโต ภฏฺา อโหสิ. กามกามินีติ กาเม ปตฺถยมานา.

เอวํ ปาปธมฺมา อิตฺถิโยติ อตีตวตฺถูหิ อิตฺถีนํ โทสํ กเถตฺวา อปเรนปิ ปริยาเยน ตาสํ โทสเมว กเถนฺโต อาห –

๓๑๔.

‘‘ลุทฺธานํ ลหุจิตฺตานํ, อกตฺูน ทุพฺภินํ;

นาเทวสตฺโต ปุริโส, ถีนํ สทฺธาตุมรหติ.

๓๑๕.

‘‘น ตา ปชานนฺติ กตํ น กิจฺจํ, น มาตรํ ปิตรํ ภาตรํ วา;

อนริยา สมติกฺกนฺตธมฺมา, สสฺเสว จิตฺตสฺส วสํ วชนฺติ.

๓๑๖.

‘‘จิรานุวุฏฺมฺปิ ปิยํ มนาปํ, อนุกมฺปกํ ปาณสมมฺปิ ภตฺตุํ;

อาวาสุ กิจฺเจสุ จ นํ ชหนฺติ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสสามิ.

๓๑๗.

‘‘ถีนฺหิ จิตฺตํ ยถา วานรสฺส, กนฺนปฺปกนฺนํ ยถา รุกฺขฉายา;

จลาจลํ หทยมิตฺถิยานํ, จกฺกสฺส เนมิ วิย ปริวตฺตติ.

๓๑๘.

‘‘ยทา ตา ปสฺสนฺติ สเมกฺขมานา, อาเทยฺยรูปํ ปุริสสฺส วิตฺตํ;

สณฺหาหิ วาจาหิ นยนฺติ เมนํ, กมฺโพชกา ชลเชเนว อสฺสํ.

๓๑๙.

‘‘ยทา น ปสฺสนฺติ สเมกฺขมานา, อาเทยฺยรูปํ ปุริสสฺส วิตฺตํ;

สมนฺตโต นํ ปริวชฺชยนฺติ, ติณฺโณ นทีปารคโตว กุลฺลํ.

๓๒๐.

‘‘สิเลสูปมา สิขิริว สพฺพภกฺขา, ติกฺขมายา นทีริว สีฆโสตา;

เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยฺจ, นาวา ยถา โอรกุลํ ปรฺจ.

๓๒๑.

‘‘น ตา เอกสฺส น ทฺวินฺนํ, อาปโณว ปสาริโต;

โย ตา มยฺหนฺติ มฺเยฺย, วาตํ ชาเลน พาธเย.

๓๒๒.

‘‘ยถา นที จ ปนฺโถ จ, ปานาคารํ สภา ปปา;

เอวํ โลกิตฺถิโย นาม, เวลา ตาสํ น วิชฺชติ.

๓๒๓.

‘‘ฆตาสนสมา เอตา, กณฺหสปฺปสิรูปมา;

คาโว พหิ ติณสฺเสว, โอมสนฺติ วรํ วรํ.

๓๒๔.

‘‘ฆตาสนํ กุฺชรํ กณฺหสปฺปํ, มุทฺธาภิสิตฺตํ ปมทา จ สพฺพา;

เอเต นโร นิจฺจยโต ภเชถ, เตสํ หเว ทุพฺพิทุ สพฺพภาโว.

๓๒๕.

‘‘นจฺจนฺตวณฺณา น พหูน กนฺตา, น ทกฺขิณา ปมทา เสวิตพฺพา;

น ปรสฺส ภริยา น ธนสฺส เหตุ, เอติตฺถิโย ปฺจ น เสวิตพฺพา’’ติ.

ตตฺถ ลุทฺธานนฺติ ลุพฺภานํ. กณเวรชาตเก (ชา. ๑.๔.๖๙-๗๒) วิย พทฺธโจเรปิ สารชฺชนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ลหุจิตฺตานนฺติ มุหุตฺตเมว ปริวตฺตนจิตฺตานํ. จูฬธนุคฺคหชาตเกน (ชา. ๑.๕.๑๒๘ อาทโย) เอตํ ทีเปตพฺพํ. อกตฺุตา ปน เอตาสํ เอกกนิปาเต ตกฺการิยชาตเกน (ชา. ๑.๑๓.๑๐๔ อาทโย) ทีเปตพฺพา. นาเทวสตฺโตติ น อเทวสตฺโต เทเวน อนาสตฺโต อยกฺขคหิตโก อภูตวิฏฺโ ปุริโส ถีนํ สีลวนฺตตํ สทฺธาตุํ นารหติ, ภูตวิฏฺโ ปน สทฺทเหยฺย. กตนฺติ อตฺตโน กตํ อุปการํ. กิจฺจนฺติ อตฺตนา กตฺตพฺพํ กิจฺจํ. น มาตรนฺติ สพฺเพปิ าตเก ฉฑฺเฑตฺวา ยสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา โหนฺติ, ตฺเว อนุพนฺธนโต เอเต มาตาทโย น ชานนฺติ นาม มหาปนฺถกมาตา วิย. อนริยาติ นิลฺลชฺชา. สสฺเสวาติ สกสฺส. อาวาสูติ อาปทาสุ. กิจฺเจสูติ เตสุ เตสุ กรณีเยสุ.

กนฺนปฺปกนฺนนฺติ โอติณฺโณติณฺณํ. ยถา หิ วิสเม ปเทเส รุกฺขฉายา นินฺนมฺปิโอโรหติ, ถลมฺปิ อภิรุหติ, ตถา เอตาสมฺปิ จิตฺตํ น กฺจิ อุตฺตมาธมํ วชฺเชติ. จลาจลนฺติ เอกสฺมึเยว อปติฏฺิตํ. เนมิ วิยาติ สกฏสฺส คจฺฉโต จกฺกเนมิ วิย. อาเทยฺยรูปนฺติ คเหตพฺพชาติกํ. วิตฺตนฺติ ธนํ. นยนฺตีติ อตฺตโน วสํ เนนฺติ. ชลเชนาติ ชลชาตเสวาเลน. กมฺโพชรฏฺวาสิโน กิร ยทา อฏวิโต อสฺเส คณฺหิตุกามา โหนฺติ, ตทา เอกสฺมึ าเน วตึ ปริกฺขิปิตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อสฺสานํ อุทกปานติตฺเถ เสวาลํ มธุนา มกฺเขตฺวา เสวาลสมฺพนฺธานิ ตีเร ติณานิ อาทึ กตฺวา ยาว ปริกฺเขปทฺวารา มกฺเขนฺติ, อสฺสา ปานียํ ปิวิตฺวา รสคิทฺเธน มธุนา มกฺขิตานิ ตานิ ติณานิ ขาทนฺตา อนุกฺกเมน ตํ านํ ปวิสนฺติ. อิติ ยถา เต ชลเชน ปโลเภตฺวา อสฺเส วสํ เนนฺติ, ตถา เอตาปิ ธนํ ทิสฺวา ตสฺส คหณตฺถาย สณฺหาหิ วาจาหิปิ ปุริสํ วสํ เนนฺตีติ อตฺโถ. กุลฺลนฺติ ตรณตฺถาย คหิตํ ยํ กิฺจิ.

สิเลสูปมาติ ปุริสานํ จิตฺตพนฺธเนน สิเลสสทิสา. ติกฺขมายาติ ติขิณมายา สีฆมายา. นทีริวาติ ยถา ปพฺพเตยฺยา นที สีฆโสตา, เอวํ สีฆมายาติ อตฺโถ. อาปโณวาติ ยถา จ ปสาริตาปโณ เยสํ มูลํ อตฺถิ, เตสฺเว อุปกาโร, ตเถว ตาปิ. โย ตาติ โย ปุริโส ตา อิตฺถิโย. พาธเยติ โส วาตํ ชาเลน พาเธยฺย. เวลา ตาสํ น วิชฺชตีติ ยถา เอเตสํ นทีอาทีนํ ‘‘อสุกเวลายเมว เอตฺถ คนฺตพฺพ’’นฺติ เวลา นตฺถิ, รตฺติมฺปิ ทิวาปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ อุปคนฺตพฺพาเนว, อสุเกเนวาติปิ มริยาทา นตฺถิ, อตฺถิเกน อุปคนฺตพฺพาเนว, ตถา ตาสมฺปีติ อตฺโถ.

ฆตาสนสมา เอตาติ ยถา อคฺคิ อินฺธเนน น ตปฺปติ, เอวเมตาปิ กิเลสรติยา. กณฺหสปฺปสิรูปมาติ โกธนตาย อุปนาหิตาย โฆรวิสตาย ทุชิวฺหตาย มิตฺตทุพฺภิตายาติ ปฺจหิ การเณหิ กณฺหสปฺปสิรสทิสา. ตตฺถ พหุลราคตาย โฆรวิสตา, ปิสุณตาย ทุชิวฺหตา, อติจาริตาย มิตฺตทุพฺภิตา เวทิตพฺพา. คาโว พหิ ติณสฺเสวาติ ยถา คาโว ขาทิตฏฺานํ ฉฑฺเฑตฺวา พหิ มนาปมนาปสฺส ติณสฺส วรํ วรํ โอมสนฺติ ขาทนฺติ, เอวเมตาปิ นิทฺธนํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ สธนเมว ภชนฺตีติ อตฺโถ. มุทฺธาภิสิตฺตนฺติ ราชานํ. ปมทา จ สพฺพาติ สพฺพา จ อิตฺถิโย. เอเตติ เอเต ปฺจ ชเน. นิจฺจยโตติ นิจฺจสฺโต, อุปฏฺิตสฺสติ อปฺปมตฺโตว หุตฺวาติ อตฺโถ. ทุพฺพิทูติ ทุชฺชาโน. สพฺพภาโวติ อชฺฌาสโย. จิรปริจิณฺโณปิ หิ อคฺคิ ทหติ, จิรวิสฺสาสิโกปิ กุฺชโร ฆาเตติ, จิรปริจิโตปิ สปฺโป ฑํสติ, จิรวิสฺสาสิโกปิ ราชา อนตฺถกโร โหติ, เอวํ จิราจิณฺณาปิ อิตฺถิโย วิการํ ทสฺเสนฺตีติ.

นจฺจนฺตวณฺณาติ อภิรูปวตี. น พหูน กนฺตาติ อฑฺฒกาสิคณิกา วิย พหูนํ ปิยา มนาปา. น ทกฺขิณาติ นจฺจคีตกุสลา. ตถารูปา หิ พหุปตฺถิตา พหุมิตฺตา โหนฺติ, ตสฺมา น เสวิตพฺพา. น ธนสฺส เหตูติ ยา ธนเหตุเยว ภชติ, สา อปริคฺคหาปิ น เสวิตพฺพา. สา หิ ธนํ อลภมานา กุชฺฌตีติ.

เอวํ วุตฺเต มหาชโน มหาสตฺตสฺส ‘‘อโห สุกถิต’’นฺติ สาธุการมทาสิ. โสปิ เอตฺตเกหิ การเณหิ อิตฺถีนํ อคุณํ กเถตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตํ สุตฺวา อานนฺโท คิชฺฌราชา, ‘‘สมฺม กุณาล, อหมฺปิ อตฺตโน าณพเลน อิตฺถีนํ อคุณํ กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา อคุณกถํ อารภิ. ตํ ทสฺเสนฺโต สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, อานนฺโท คิชฺฌราชา กุณาลสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถา อภาสิ –

๓๒๖.

‘‘ปุณฺณมฺปิ เจมํ ปถวึ ธเนน, ทชฺชิตฺถิยา ปุริโส สมฺมตาย;

ลทฺธา ขณํ อติมฺเยฺย ตมฺปิ, ตาสํ วสํ อสตีนํ น คจฺเฉ.

๓๒๗.

‘‘อุฏฺาหกํ เจปิ อลีนวุตฺตึ, โกมารภตฺตารํ ปิยํ มนาปํ;

อาวาสุ กิจฺเจสุ จ นํ ชหนฺติ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสสามิ.

๓๒๘.

‘‘น วิสฺสเส ‘อิจฺฉติ ม’นฺติ โปโส, น วิสฺสเส ‘โรทติ เม สกาเส’;

เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยฺจ, นาวา ยถา โอรกูลํ ปรฺจ.

๓๒๙.

‘‘น วิสฺสเส สาขปุราณสนฺถตํ, น วิสฺสเส มิตฺตปุราณโจรํ;

น วิสฺสเส ราชานํ ‘สขา มม’นฺติ, น วิสฺสเส อิตฺถิ ทสนฺน มาตรํ.

๓๓๐.

‘‘น วิสฺสเส รามกราสุ นาริสุ, อจฺจนฺตสีลาสุ อสฺตาสุ;

อจฺจนฺตเปมานุคตสฺส ภริยา, น วิสฺสเส ติตฺถสมา หิ นาริโย.

๓๓๑.

‘‘หเนยฺยุํ ฉินฺเทยฺยุํ เฉทาเปยฺยุมฺปิ, กณฺเปิ เฉตฺวา รุธิรํ ปิเวยฺยุํ;

มา ทีนกามาสุ อสฺตาสุ, ภาวํ กเร คงฺคติตฺถูปมาสุ.

๓๓๒.

‘‘มุสา ตาสํ ยถา สจฺจํ, สจฺจํ ตาสํ ยถา มุสา;

คาโว พหิ ติณสฺเสว, โอมสนฺติ วรํ วรํ.

๓๓๓.

‘‘คเตเนตา ปโลเภนฺติ, เปกฺขิเตน มฺหิเตน จ;

อโถปิ ทุนฺนิวตฺเถน, มฺชุนา ภณิเตน จ.

๓๓๔.

‘‘โจริโย กถินา เหตา, วาฬา จ ลปสกฺขรา;

น ตา กิฺจิ น ชานนฺติ, ยํ มนุสฺเสสุ วฺจนํ.

๓๓๕.

‘‘อสา โลกิตฺถิโย นาม, เวลา ตาสํ น วิชฺชติ;

สารตฺตา จ ปคพฺภา จ, สิขี สพฺพฆโส ยถา.

๓๓๖.

‘‘นตฺถิตฺถีนํ ปิโย นาม, อปฺปิโยปิ น วิชฺชติ;

เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยฺจ, นาวา ยถา โอรกูลํ ปรฺจ.

๓๓๗.

‘‘นตฺถิตฺถีนํ ปิโย นาม, อปฺปิโยปิ น วิชฺชติ;

ธนตฺตา ปฏิวลฺลนฺติ, ลตาว ทุมนิสฺสิตา.

๓๓๘.

‘‘หตฺถิพนฺธํ อสฺสพนฺธํ, โคปุริสฺจ มณฺฑลํ;

ฉวฑาหกํ ปุปฺผฉฑฺฑกํ, สธนมนุปตนฺติ นาริโย.

๓๓๙.

‘‘กุลปุตฺตมฺปิ ชหนฺติ อกิฺจนํ, ฉวกสมสทิสมฺปิ;

อนุคจฺฉนฺติ อนุปตนฺติ, ธนเหตุ หิ นาริโย’’ติ.

ตตฺถ อาทิมชฺฌกถาปริโยสานนฺติ กถาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ. ลทฺธา ขณนฺติ โอกาสํ ลภิตฺวา. อิจฺฉติ มนฺติ มํ เอสา อิจฺฉตีติ ปุริโส อิตฺถึ น วิสฺสเสยฺย. สาขปุราณสนฺถตนฺติ หิยฺโย วา ปเร วา สนฺถตํ ปุราณสาขาสนฺถตํ น วิสฺสเส, อปปฺโผเฏตฺวา อปจฺจเวกฺขิตฺวา น ปริภุฺเชยฺย. ตตฺร หิ ทีฆชาติโก วา ปวิสิตฺวา ติฏฺเยฺเย, ปจฺจามิตฺโต วา สตฺถํ นิกฺขิเปยฺย. มิตฺตปุราณโจรนฺติ ปนฺถทูหนฏฺาเน ิตํ โจรํ ‘‘ปุราณมิตฺโต เม’’ติ น วิสฺสเสยฺย. โจรา หิ เย สฺชานนฺติ เตเยว มาเรนฺติ. สขา มมนฺติ โส หิ ขิปฺปเมว กุชฺฌติ, ตสฺมา ราชานํ ‘‘สขา เม’’ติ น วิสฺสเส. ทสนฺนมาตรนฺติ ‘‘อยํ มหลฺลิกา อิทานิ มํ น อติจริสฺสติ, อตฺตานํ รกฺขิสฺสตี’’ติ น วิสฺสเสตพฺพา. รามกราสูติ พาลานํ รติกราสุ. อจฺจนฺตสีลาสูติ อติกฺกนฺตสีลาสุ. อจฺจนฺตเปมานุคตสฺสาติ สเจปิ อจฺจนฺตํ อนุคตเปมา อสฺส, ตถาปิ ตํ น วิสฺสเส. กึการณา? ติตฺถสมา หิ นาริโยติ สมฺพนฺโธ, ติตฺถํ วิย สพฺพสาธารณาติ อตฺโถ.

หเนยฺยุนฺติ กุทฺธา วา อฺปุริสสารตฺตา วา หุตฺวา สพฺพเมตํ หนนาทึ กเรยฺยุํ. มา ทีนกามาสูติ หีนชฺฌาสยาสุ สํกิลิฏฺอาสยาสุ. ภาวนฺติ เอวรูปาสุ สิเนหํ มา กเร. คงฺคติตฺถูปมาสูติ สพฺพสาธารณฏฺเน คงฺคาติตฺถสทิสาสุ. มุสาติ มุสาวาโท ตาสํ สจฺจสทิโสว. คเตนาติอาทีสุ เปกฺขิเตน ปโลภเน อุมฺมาทนฺตีชาตกํ, (ชา. ๒.๑๘.๕๗ อาทโย) ทุนฺนิวตฺเถน นิฬินิกาชาตกํ, (ชา. ๒.๑๘.๑ อาทโย) มฺชุนา ภณิเตน ‘‘ตุวฏํ โข, อยฺยปุตฺต, อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ นนฺทตฺเถรสฺส วตฺถุ (อุทา. ๒๒) กเถตพฺพํ. โจริโยติ สมฺภตสฺส ธนสฺส วินาสเนน โจริโย. กถินาติ ถทฺธหทยา. วาฬาติ ทุฏฺา อปฺปเกเนว กุชฺฌนสีลา. ลปสกฺขราติ นิรตฺถกลปเนน สกฺขรา วิย มธุรา. อสาติ อสติโย ลามกา. สารตฺตาติ สพฺพทา สารตฺตา. ปคพฺภาติ กายปาคพฺภิยาทีหิ ปคพฺภา. ยถาติ ยถา สิขี สพฺพฆโส, เอวเมตาปิ สพฺพฆสา. ปฏิวลฺลนฺตีติ ปริสฺสชนฺติ อุปคูหนฺติ เวเนฺติ. ลตาวาติ ยถา ลตา รุกฺขนิสฺสิตา รุกฺขํ เวเนฺติ, เอวเมตา ปุริสํ ปริสฺสชนฺติ นาม.

หตฺถิพนฺธนฺติอาทีสุ โคปุริโส วุจฺจติ โคปาลโก. ฉวฑาหกนฺติ ฉวานํ ฑาหกํ, สุสานปาลนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปุปฺผฉฑฺฑกนฺติ วจฺจฏฺานโสธกํ. สธนนฺติ เอเตสุปิ สธนํ อนุคจฺฉนฺติเยว. อกิฺจนนฺติ อธนํ. ฉวกสมสทิสนฺติ สุนขมํสขาทจณฺฑาเลน สมํ สทิสํ, เตน นิพฺพิเสสมฺปิ ปุริสํ คจฺฉนฺติ ภชนฺติ. กสฺมา? ยสฺมา อนุปตนฺติ ธนเหตุ นาริโยติ.

เอวํ อตฺตโน าเณ ตฺวา อานนฺโท คิชฺฌราชา อิตฺถีนํ อคุณํ กเถตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตสฺส วจนํ สุตฺวา นารโทปิ อตฺตโน าเณ ตฺวา ตาสํ อคุณํ กเถสิ. ตํ ทสฺเสนฺโต สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, นารโท เทวพฺราหฺมโณ อานนฺทสฺส คิชฺฌราชสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถา อภาสิ –

๓๔๐.

‘‘‘จตฺตาโรเม น ปูเรนฺติ, เต เม สุณาถ ภาสโต;

สมุทฺโท พฺราหฺมโณ ราชา, อิตฺถี จาปิ ทิชมฺปติ.

๓๔๑.

‘‘สริตา สาครํ ยนฺติ, ยา กาจิ ปถวิสฺสิตา;

ตา สมุทฺทํ น ปูเรนฺติ, อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๒.

‘‘พฺราหฺมโณ จ อธียาน, เวทมกฺขานปฺจมํ;

ภิยฺโยปิ สุตมิจฺเฉยฺย, อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๓.

‘‘ราชา จ ปถวึ สพฺพํ, สสมุทฺทํ สปพฺพตํ;

อชฺฌาวสํ วิชินิตฺวา, อนนฺตรตโนจิตํ;

ปารํ สมุทฺทํ ปตฺเถติ อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๔.

‘‘เอกเมกาย อิตฺถิยา, อฏฺฏฺ ปติโน สิยา;

สูรา จ พลวนฺโต จ, สพฺพกามรสาหรา;

กเรยฺย นวเม ฉนฺทํ, อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๕.

‘‘สพฺพิตฺถิโย สิขีริว สพฺพภกฺขา, สพฺพิตฺถิโย นทีริว สพฺพวาหี;

สพฺพิตฺถิโย กณฺฏกานํว สาขา, สพฺพิตฺถิโย ธนเหตุ วชนฺติ.

๓๔๖.

‘‘วาตฺจ ชาเลน นโร ปรามเส, โอสิฺจเย สาครเมกปาณินา;

สเกน หตฺเถน กเรยฺย โฆสํ, โย สพฺพภาวํ ปมทาสุ โอสฺสเช.

๓๔๗.

‘‘โจรีนํ พหุพุทฺธีนํ, ยาสุ สจฺจํ สุทุลฺลภํ;

ถีนํ ภาโว ทุราชาโน, มจฺฉสฺเสโวทเก คตํ.

๓๔๘.

‘‘อนลา มุทุสมฺภาสา, ทุปฺปูรา ตา นทีสมา;

สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.

๓๔๙.

‘‘อาวฏฺฏนี มหามายา, พฺรหฺมจริยวิโกปนา;

สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.

๓๕๐.

‘‘ยํ เอตา อุปเสวนฺติ, ฉนฺทสา วา ธเนน วา;

ชาตเวโทว สํานํ, ขิปฺปํ อนุทหนฺติ น’’’นฺติ.

ตตฺถ ทิชมฺปตีติ ทิชเชฏฺกํ กุณาลํ อาลปติ. ‘‘สริตา’’ติอาทิ ปิตมาติกาย ภาชนตฺถํ วุตฺตํ. อูนตฺตาติ อุทกปติฏฺานสฺส มหนฺตตาย อูนา เอว. อธียานาติ สชฺฌายิตฺวา. เวทมกฺขานปฺจมนฺติ อิติหาสปฺจมํ เวทจตุกฺกํ. อูนตฺตาติ โส หิ อชฺฌาสยมหนฺตตาย สิกฺขิตพฺพสฺส น ปูรติ. อนนฺตรตโนจิตนฺติ นานารตเนหิ โอจิตํ ปริปุณฺณํ. อูนตฺตาติ โส หิ ตณฺหามหนฺตตาย น ปูรติ. สิยาติ สิยุํ, อยเมว วา ปาโ. สพฺพกามรสาหราติ สพฺเพสํ กามรสานํ อาหรกา. ‘‘นวเม’’ติ อฏฺหิ อติตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สา ปน ทสเมปิ วีสติเมปิ ตโต อุตฺตริตเรปิ ฉนฺทํ กโรเตว. อูนตฺตาติ สา หิ กามตณฺหาย มหนฺตตาย น ปูรติ. กณฺฑกานํว สาขาติ สมฺพาธมคฺเค กณฺฏกสาขสทิสา. ยถา หิ สาขา ลคฺคิตฺวา อากฑฺฒติ, เอวํ เอตาปิ รูปาทีหิ กฑฺฒนฺติ. ยถา สาขา หตฺถาทีสุ วิชฺฌิตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, เอวํ เอตาปิ ผุฏฺมตฺตา สรีรสมฺผสฺเสน วิชฺฌิตฺวา มหาวินาสํ ปาเปนฺติ. วชนฺตีติ ปรปุริสํ วชนฺติ.

ปรามเสติ คณฺเหยฺย. โอสิฺจเยติ นฺหายิตุํ โอติณฺโณ เอเกน ปาณินา สกลสมุทฺทอุทกํ โอสิฺเจยฺย คเหตฺวา ฉฑฺเฑยฺย. สเกนาติ เอเกน อตฺตโน หตฺเถน ตเมว หตฺถํ หริตฺวา โฆสํ อุปฺปาเทยฺย. สพฺพภาวนฺติ ‘‘ตฺวเมว อิฏฺโ กนฺโต ปิโย มนาโป’’ติ วุจฺจมาโน โย ปุริโส ‘‘เอวเมต’’นฺติ สทฺทหนฺโต สพฺพํ อตฺตโน อชฺฌาสยํ ปมทาสุ โอสฺสเชยฺย, โส ชาลาทีหิ วาตคฺคหณาทีนิ กเรยฺยาติ อตฺโถ. คตนฺติ คมนํ. อนลาติ ตีหิ ธมฺเมหิ อลนฺติ วจนวิรหิตา. ทุปฺปุรา ตาติ ยถา มหานที อุทเกน, เอวํ กิเลสรติยา ตา ทุปฺปูรา. สีทนฺติ นํ วิทิตฺวานาติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, อิตฺถิโย อลฺลีนา จตูสุ อปาเยสุ สีทนฺตีติ วิทิตฺวา. อาวฏฺฏนีติ ยถา อาวฏฺฏนี มหาชนสฺส หทยํ โมเหตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตติ, เอวเมตาปีติ อตฺโถ. วิโกปนาติ นาสนตฺเถน จ ครหตฺเถน จ พฺรหฺมจริยสฺส โกปิกา. ฉนฺทสา วาติ ปิยสํวาเสน วา. ธเนน วาติ ธนเหตุ วา. สํานนฺติ ยถา ชาตเวโท อตฺตโน านํ ยํ ยํ ปเทสํ อลฺลียติ, ตํ ตํ ทหติ, ตถา เอตาปิ ยํ ยํ ปุริสํ กิเลสวเสน อลฺลียนฺติ, ตํ ตํ อนุทหนฺติ มหาวินาสํ ปาเปนฺติ.

เอวํ นารเทน อิตฺถีนํ อคุเณ ปกาสิเต ปุน มหาสตฺโต วิเสเสตฺวา ตาสํ อคุณํ ปกาเสติ. ตํ ทสฺเสตุํ สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ นารทสฺส เทวพฺราหฺมณสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อชฺฌภาสิ –

๓๕๑.

‘‘‘สลฺลเป นิสิตขคฺคปาณินา, ปณฺฑิโต อปิ ปิสาจโทสินา;

อุคฺคเตชมุรคมฺปิ อาสิเท, เอโก เอกาย ปมทาย นาลเป.

๓๕๒.

‘‘โลกจิตฺตมถนา หิ นาริโย, นจฺจคีตภณิตมฺหิตาวุธา;

พาธยนฺติ อนุปฏฺิตสฺสตึ, ทีเป รกฺขสิคโณว วาณิเช.

๓๕๓.

‘‘นตฺถิ ตาสํ วินโย น สํวโร, มชฺชมํสนิรตา อสฺตา;

ตา คิลนฺติ ปุริสสฺส ปาภตํ, สาคเรว มกรํ ติมิงฺคโล.

๓๕๔.

‘‘ปฺจกามคุณสาตโคจรา, อุทฺธตา อนิยตา อสฺตา;

โอสรนฺติ ปมทา ปมาทินํ, โลณโตยวติยํว อาปกา.

๓๕๕.

‘‘ยํ นรํ อุปลเปนฺติ นาริโย, ฉนฺทสา วา รติยา ธเนน วา;

ชาตเวทสทิสมฺปิ ตาทิสํ, ราคโทสวธิโย ทหนฺติ นํ.

๓๕๖.

‘‘อฑฺฒํ ตฺวา ปุริสํ มหทฺธนํ, โอสรนฺติ สธนํ สหตฺตนา;

รตฺตจิตฺตมติเวยนฺติ นํ, สาล มาลุวลตาว กานเน.

๓๕๗.

‘‘ตา อุเปนฺติ วิวิเธน ฉนฺทสา, จิตฺรพิมฺพมุขิโย อลงฺกตา;

อุหสนฺติ ปหสนฺติ นาริโย, สมฺพโรว สตมายโกวิทา.

๓๕๘.

‘‘ชาตรูปมณิมุตฺตภูสิตา, สกฺกตา ปติกุเลสุ นาริโย;

รกฺขิตา อติจรนฺติ สามิกํ, ทานวํว หทยนฺตรสฺสิตา.

๓๕๙.

‘‘เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ, สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต;

นารินํ วสคโต น ภาสติ, ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมา.

๓๖๐.

‘‘ยํ กเรยฺย กุปิโต ทิโส ทิสํ, ทุฏฺจิตฺโต วสมาคตํ อรึ;

เตน ภิยฺโย พฺยสนํ นิคจฺฉติ, นารินํ วสคโต อเปกฺขวา.

๓๖๑.

‘‘เกสลูนนขฉินฺนตชฺชิตา, ปาทปาณิกสทณฺฑตาฬิตา;

หีนเมวุปคตา หิ นาริโย, ตา รมนฺติ กุณเปว มกฺขิกา.

๓๖๒.

‘‘ตา กุเลสุ วิสิขนฺตเรสุ วา, ราชธานินิคเมสุ วา ปุน;

โอฑฺฑิตํ นมุจิปาสวากรํ, จกฺขุมา ปริวชฺเช สุขตฺถิโก.

๓๖๓.

‘‘โอสฺสชิตฺว กุสลํ ตโปคุณํ, โย อนริยจริตานิ มาจริ;

เทวตาหิ นิรยํ นิมิสฺสติ, เฉทคามิมณิยํว วาณิโช.

๓๖๔.

‘‘โส อิธ ครหิโต ปรตฺถ จ, ทุมฺมตี อุปหโต สกมฺมุนา;

คจฺฉตี อนิยโต คฬาคฬํ, ทุฏฺคทฺรภรโถว อุปฺปเถ.

๓๖๕.

‘‘โส อุเปติ นิรยํ ปตาปนํ, สตฺติสิมฺพลิวนฺจ อายสํ;

อาวสิตฺวา ติรจฺฉานโยนิยํ, เปตราชวิสยํ น มุฺจติ.

๓๖๖.

‘‘ทิพฺยขิฑฺฑรติโย จ นนฺทเน, จกฺกวตฺติจริตฺจ มานุเส;

นาสยนฺติ ปมทา ปมาทินํ, ทุคฺคติฺจ ปฏิปาทยนฺติ นํ.

๓๖๗.

‘‘ทิพฺยขิฑฺฑรติโย น ทุลฺลภา, จกฺกวตฺติจริตฺจ มานุเส;

โสณฺณพฺยมฺหนิลยา จ อจฺฉรา, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกา.

๓๖๘.

‘‘กามธาตุสมติกฺกมา คติ, รูปธาตุยา ภาโว น ทุลฺลโภ;

วีตราควิสยูปปตฺติ ยา, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกา.

๓๖๙.

‘‘สพฺพทุกฺขสมตฺติกฺกมํ สิวํ, อจฺจนฺตมจลิตํ อสงฺขตํ;

นิพฺพุเตหิ สุจิหี น ทุลฺลภํ, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกา’’’ติ.

ตตฺถ สลฺลเปติ ‘‘สเจ มยา สทฺธึ สลฺลเปสฺสสิ, สีสํ เต ปาเตสฺสามี’’ติ วตฺวา ขคฺคํ อาทาย ิเตนาปิ, ‘‘สลฺลปิตมตฺเตเยว ตํ ขาทิตฺวา ชีวิตวินาสํ ปาเปสฺสามี’’ติ โทสินา หุตฺวา ิเตนาปิ ปิสาเจน สทฺธึ สลฺลเป. ‘‘อุปคตํ ฑํสิตฺวา นาเสสฺสามี’’ติ ิตํ อุคฺคเตชํ อุรคมฺปิ อาสิเท. เอโก ปน หุตฺวา รโห เอกาย ปมทาย น หิ อาลเป. โลกจิตฺตมถนาติ โลกสฺส จิตฺตฆาติกา. ทีเป รกฺขสิคโณติ ยถา ทีเป รกฺขสิคโณ มนุสฺสเวเสน วาณิเช อุปลาเปตฺวา อตฺตโน วเส คเต กตฺวา ขาทติ, เอวํ อิมาปิ ปฺจหิ กามคุเณหิ อตฺตโน วเส กตฺวา สตฺเต มหาวินาสํ ปาเปนฺตีติ อตฺโถ. วินโยติ อาจาโร. สํวโรติ มริยาโท. ปุริสสฺส ปาภตนฺติ ทุกฺขสมฺภตํ ธนํ คิลนฺติ นาเสนฺติ.

อนิยตาติ อนิยตจิตฺตา. โลณโตยวติยนฺติ โลณโตยวนฺตํ สมุทฺทนฺติ อตฺโถ. อาปกาติ อาปคา, อยเมว วา ปาโ. ยถา สมุทฺทํ นทิโย โอสรนฺติ, เอวํ ปมาทินํ ปมทาติ อตฺโถ. ฉนฺทสาติ เปเมน. รติยาติ ปฺจกามคุณรติยา. ธเนน วาติ ธนเหตุ วา. ชาตเวทสทิสนฺติ คุณสมฺปตฺติยา อคฺคิมิว ชลิตมฺปิ. ราคโทสวธิโยติ กามราคโทเสหิ วธิกา. ราคโทสคติโยติปิ ปาโ. โอสรนฺตีติ ธนคหณตฺถาย มธุรวจเนน ตํ พนฺธนฺติโย อุปคจฺฉนฺติ. สธนนฺติ สธนา. อยเมว วา ปาโ, วตฺถาลงฺการตฺถาย กิฺจิ อตฺตโน ธนํ ทตฺวาปิ โอสรนฺตีติ อตฺโถ. สหตฺตนาติ อตฺตภาเวน สทฺธึ อตฺตภาวมฺปิ ตสฺเสว ปริจฺจชนฺติโย วิย โหนฺติ. อติเวยนฺตีติ ธนคหณตฺถาย อติวิย เวเนฺติ ปีเฬนฺติ.

วิวิเธน ฉนฺทสาติ นานาวิเธน อากาเรน. จิตฺรพิมฺพมุขิโยติ อลงฺการวเสน จิตฺรสรีรา จิตฺรมุขิโย หุตฺวา. อุหสนฺตีติ มหาหสิตํ หสนฺติ. ปหสนฺตีติ มนฺทหสิตํ หสนฺติ. สมฺพโรวาติ มายาการปุริโส วิย อสุรินฺโท วิย จ. ทานวํว หทยนฺตรสฺสิตาติ ยถา ‘‘กุโต นุ อาคจฺฉถ, โภ, ตโย ชนา’’ติ กรณฺฑกชาตเก (ชา. ๑.๙.๘๗ อาทโย) หทยนฺตรนิสฺสิตา อนฺโตอุทรคตาปิ ทานวํ อติจริ, เอวํ อติจรนฺติ. อรกฺขิตา เหตาติ ทีเปติ. น ภาสตีติ น วิโรจติ หริตจโลมสกสฺสปกุสราชาโน วิย. เตนาติ ตมฺหา อมิตฺเตน กตา พฺยสนา อติเรกตรํ พฺยสนนฺติ อตฺโถ. อเปกฺขวาติ สตณฺโห.

เกสลูนนขฉินฺนตชฺชิตาติ อากฑฺฒิตฺวา ลูนเกสา นเขหิ ฉินฺนคตฺตา ตชฺชิตา ปาทาทีหิ จ ตาฬิตาว หุตฺวา. โย กิเลสวเสน เอเตปิ วิปฺปกาเร กโรติ, ตาทิสํ หีนเมว อุปคตา นาริโย รมนฺติ, น เอเต วิปฺปกาเร ปริหรนฺติ, มธุรสมาจาเร กึการณา ตา น รมนฺติ. กุณเปว มกฺขิกาติ ยสฺมา เชคุจฺฉหตฺถิกุณปาทิมฺหิ มกฺขิกา วิย ตา หีเนเยว รมนฺตีติ อตฺโถ. โอฑฺฑิตนฺติ น เอตา อิตฺถิโย นาม, อถ โข อิเมสุ าเนสุ นมุจิโน กิเลสมารสฺส มิคปกฺขิคหณตฺถํ ลุทฺทเกหิ โอฑฺฑิตํ ปาสฺจ วากรฺจาติ มฺมาโน ปฺาจกฺขุมา ปุริโส ทิพฺพมานุสิเกน สุเขน อตฺถิโก ปริวชฺเชยฺย.

โอสฺสชิตฺวาติ เทวมนุสฺเสสุ มหาสมฺปตฺติทายกํ ตโปคุณํ ฉฑฺเฑตฺวา. โยติ โย ปุริโส อนริเยสุ อปริสุทฺเธสุ กามคุเณสุ กามรติจริตานิ อาจรติ. เทวตาหิ นิรยํ นิมิสฺสตีติ โส เทวโลเกน ปริวตฺติตฺวา นิรยํ คณฺหิสฺสติ. เฉทคามิมณิยํว วาณิโชติ ยถา พาลวาณิโช สตสหสฺสคฺฆภณฺฑํ ทตฺวา เฉทคามิมณิกํ คณฺหาติ, ตถารูโป อยํ โหตีติ อตฺโถ. โสติ โส อิตฺถีนํ วสํ คโต. อนิยโตติ เอตฺตกํ นาม กาลํ อปาเยสุ ปจฺจิสฺสตีติ อนิยโต. คฬาคฬนฺติ เทวโลกา วา มนุสฺสโลกา วา คฬิตฺวา อปายเมว คจฺฉตีติ อตฺโถ. ยถา กึ? ทุฏฺคทฺรภรโถว อุปฺปเถติ, ยถา กูฏคทฺรภยุตฺตรโถ มคฺคา โอกฺกมิตฺวา อุปฺปเถเยว คจฺฉติ, ตถา. สตฺติสิมฺพลิวนนฺติ สตฺติสทิเสหิ กณฺฏเกหิ ยุตฺตํ อายสํ สิมฺพลิวนํ. เปตราชวิสยนฺติ เปตวิสยฺจ กาลกฺจิกอสุรวิสยฺจ.

ปมาทินนฺติ ปมตฺตานํ. เต หิ ปมทาสุ ปมตฺตา ตาสํ สมฺปตฺตีนํ มูลภูตํ กุสลํ น กโรนฺติ, อิติ เตสํ ปมทา สพฺพา ตา นาเสนฺติ นาม. ปฏิปาทยนฺตีติ ตถาวิธํ ปุริสํ ตา ปมาทวเสเนว อกุสลํ กาเรตฺวา ทุคฺคตึ ปฏิปาเทนฺติ นาม. โสณฺณพฺยมฺหนิลยาติ สุวณฺณมยวิมานวาสินิโย. ปมทาหนตฺถิกาติ เย ปุริสา ปมทาหิ อนตฺถิกา หุตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. กามธาตุสมติกฺกมาติ กามธาตุสมติกฺกมา ยา คติ. รูปธาตุยา ภาโวติ โย กามธาตุสมติกฺกมคติสงฺขาโต รูปธาตุยา ภาโว, โส เตสํ น ทุลฺลโภ. วีตราควิสยูปปตฺติ ยาติ ยา วีตราควิสเย สุทฺธาวาสโลเก อุปปตฺติ, สาปิ เตสํ น ทุลฺลภาติ อตฺโถ. อจฺจนฺตนฺติ อนฺตาตีตํ อวินาสธมฺมํ. อจลิตนฺติ กิเลเสหิ อกมฺปิตํ. นิพฺพุเตหีติ นิพฺพุตกิเลเสหิ. สุจิหีติ สุจีหิ ปริสุทฺเธหิ เอวรูปํ นิพฺพานํ น ทุลฺลภนฺติ.

เอวํ มหาสตฺโต อมตมหานิพฺพานํ ปาเปตฺวา เทสนํ นิฏฺาเปสิ. หิมวนฺเต กินฺนรมโหรคาทโย อากาเส ิตา เทวตา จ ‘‘อโห พุทฺธลีลาย กถิตา’’ติ สาธุการํ อทํสุ. อานนฺโท คิชฺฌราชา นารโท เทวพฺราหฺมโณ ปุณฺณมุโข จ ผุสฺสโกกิโล อตฺตโน อตฺตโน ปริสํ อาทาย ยถาานเมว คมึสุ. มหาสตฺโตปิ สกฏฺานเมว คโต. อิตเร ปน อนฺตรนฺตรา คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส สนฺติเก โอวาทํ คเหตฺวา ตสฺมึ โอวาเท ตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนนฺโต โอสานคาถา อภาสิ –

๓๗๐.

‘‘กุณาโลหํ ตทา อาสึ, อุทายี ผุสฺสโกกิโล;

อานนฺโท คิชฺฌราชาสิ, สาริปุตฺโต จ นารโท;

ปริสา พุทฺธปริสา, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

เต ปน ภิกฺขู คมนกาเล สตฺถานุภาเวน คนฺตฺวา อาคมนกาเล อตฺตโน อตฺตโนว อานุภาเวน อาคตา. เตสํ สตฺถา มหาวเนเยว กมฺมฏฺานํ กเถสิ. สพฺเพปิ เต ตํ ทิวสเมว อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. มหาเทวตาสมาคโม อโหสิ. อถสฺส ภควา มหาสมยสุตฺตํ (ที. นิ. ๒.๓๓๑ อาทโย) กเถสิ.

กุณาลชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๓๗] ๕. มหาสุตโสมชาตกวณฺณนา

กสฺมา ตุวํ รสก เอทิสานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต องฺคุลิมาลตฺเถรทมนํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺส อุปฺปตฺติ จ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๔ อาทโย) วุตฺตนเยน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา. โส ปน สจฺจกิริยาย มูฬฺหคพฺภาย อิตฺถิยา โสตฺถิภาวํ กตฺวา ตโต ปฏฺาย สุลภปิณฺโฑ หุตฺวา วิเวกมนุพฺรูหนฺโต อปรภาเค อรหตฺตํ ปตฺวา อภิฺาโตว อสีติยา มหาเถรานํ อพฺภนฺตโร อโหสิ. ตสฺมึ กาเล ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อโห วต ภควตา ตถารูปํ ลุทฺทํ โลหิตปาณึ มหาโจรํ องฺคุลิมาลํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กโรนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, อโห พุทฺธา นาม ทุกฺกรการิโน’’ติ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ ิโตว ทิพฺพโสเตน ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘อชฺช มม คมนํ พหุปการํ ภวิสฺสติ, มหาธมฺมเทสนา ปวตฺติสฺสตี’’ติ ตฺวา อโนปมาย พุทฺธลีลาย ธมฺมสภํ คนฺตฺวา วรปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, อิทาเนว ปรมาภิสมฺโพธึ ปตฺเตน มยา เอตสฺส ทมนํ, สฺวาหํ ปุพฺพจริยํ จรนฺโต ปเทสาเณ ิโตปิ เอตํ ทเมสิ’’นฺติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต กุรุรฏฺเ อินฺทปตฺถนคเร โกรพฺโย นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. ทสมาเส อติกฺกนฺเต สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ, สุตวิตฺตตาย ปน นํ ‘‘สุตโสโม’’ติ สฺชานึสุ. ตเมนํ ราชา วยปฺปตฺตํ นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปุคฺคหณตฺถาย ตกฺกสิลํ เปเสสิ. โส อาจริยภาคํ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตทา พาราณสิยํ กาสิรฺโ ปุตฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมาโรปิ ตเถว วตฺวา ปิตรา เปสิโต นครา นิกฺขมิตฺวา ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. อถ สุตโสโม มคฺคํ คนฺตฺวา นครทฺวาเร สาลาย ผลเก วิสฺสมตฺถาย นิสีทิ. พฺรหฺมทตฺตกุมาโรปิ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ เอกผลเก นิสีทิ. อถ นํ สุตโสโม ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต ‘‘สมฺม, มคฺคกิลนฺโตสิ, กุโต อาคจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘พาราณสิโต’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺส ปุตฺโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘กาสิรฺโ ปุตฺโตมฺหี’’ติ วุตฺเต ‘‘โก นาโมสี’’ติ วตฺวา ‘‘อหํ พฺรหฺมทตฺตกุมาโร นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน การเณน อิธาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘สิปฺปุคฺคหณตฺถายา’’ติ วตฺวา ‘‘ตฺวมฺปิ มคฺคกิลนฺโตสิ, กุโต อาคจฺฉสี’’ติ เตเนว นเยน อิตรํ ปุจฺฉิ. โสปิ ตสฺส สพฺพํ อาจิกฺขิ. เต อุโภปิ ‘‘มยํ ขตฺติยา, เอกาจริยสฺเสว สนฺติเก สิปฺปุคฺคหณตฺถาย คจฺฉามา’’ติ อฺมฺํ มิตฺตภาวํ กตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา อาจริยกุลํ คนฺตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ชาติอาทึ กเถตฺวา สิปฺปุคฺคหณตฺถาย อาคตภาวํ กเถสุํ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. เต อาจริยภาคํ ทตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปสุํ.

น เกวลฺจ เต ทฺเวว, อฺเปิ ตทา ชมฺพุทีเป เอกสตมตฺตา ราชปุตฺตา ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ. สุตโสโม เตสํ เชฏฺนฺเตวาสิโก หุตฺวา สิปฺปํ อุปทิสนฺโต นจิรสฺเสว นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. โส อฺสฺส สนฺติกํ อคนฺตฺวา ‘‘สหาโย เม’’ติ พฺรหฺมทตฺตสฺส กุมารสฺเสว สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปิฏฺิอาจริโย หุตฺวา สิปฺปํ สิกฺขาเปสิ. อิตเรสมฺปิ อนุกฺกเมน สิปฺปํ นิฏฺิตํ. เต อนุโยคํ ทตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา สุตโสมํ ปริวาเรตฺวา นิกฺขมึสุ. อถ เน สุตโสโม มคฺคนฺตเร ตฺวา อุยฺโยเชนฺโต ‘‘ตุมฺเห อตฺตโน อตฺตโน ปิตูนํ สิปฺปํ ทสฺเสตฺวา รชฺเชสุ ปติฏฺหิสฺสถ, ปติฏฺิตา จ ปน มโมวาทํ กเรยฺยาถา’’ติ อาห. ‘‘กึ, อาจริยา’’ติ? ‘‘ปกฺขทิวเสสุ อุโปสถิกา หุตฺวา มา ฆาตํ กเรยฺยาถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ. โพธิสตฺโตปิ องฺควิชฺชาปากตฺตา ‘‘อนาคเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺตกุมารํ นิสฺสาย มหาภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ตฺวา เต เอวํ โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. เต สพฺเพปิ อตฺตโน อตฺตโน ชนปทํ คนฺตฺวา ปิตูนํ สิปฺปํ ทสฺเสตฺวา รชฺเชสุ ปติฏฺาย ปติฏฺิตภาวฺเจว โอวาเท วตฺตนภาวฺจ ชานาเปตุํ ปณฺณากาเรน สทฺธึ ปณฺณานิ ปหิณึสุ. มหาสตฺโต ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตาว โหถา’’ติ ปณฺณานิ ปฏิเปเสสิ.

เตสุ พาราณสิราชา วินา มํเสน ภตฺตํ น ภุฺชติ. อุโปสถทิวสตฺถายปิสฺส มํสํ คเหตฺวา เปสิ. อเถกทิวสํ เอวํ ปิตมํสํ ภตฺตการกสฺส ปมาเทน ราชเคเห โกเลยฺยกสุนขา ขาทึสุ. ภตฺตการโก ตํ มํสํ อทิตฺวา กหาปณมุฏฺึ อาทาย จรนฺโตปิ มํสํ อุปฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สเจ อมํสกภตฺตํ อุปนาเมสฺสามิ, ชีวิตํ เม นตฺถิ, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ วิกาเล อามกสุสานํ คนฺตฺวา มุหุตฺตมตสฺส ปุริสสฺส อูรุมํสํ อาหริตฺวา สุปกฺกํ ปจิตฺวา ภตฺตํ อุปนาเมสิ. รฺโ มํสขณฺฑํ ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตเมว สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ ผริ, สกลสรีรํ โขเภตฺวา อฏฺาสิ. กึการณา? ปุพฺเพ จสฺส เสวนตาย. โส กิร อตีตานนฺตเร อตฺตภาเว ยกฺโข หุตฺวา พหุํ มนุสฺสมํสํ ขาทิตปุพฺโพ, เตนสฺส ตํ ปิยํ อโหสิ. โส ‘‘สจาหํ ตุณฺหีเยว ภุฺชิสฺสามิ, น เม อยํ อิมํ มํสํ กเถสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา สห เขเฬน ภูมิยํ ปาเตสิ. ‘‘นิทฺโทสํ, เทว, ขาทาหี’’ติ วุตฺเต มนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตฺวา ‘‘อหเมตสฺส นิทฺโทสภาวํ ชานามิ, กึ นาเมตํ มํส’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปุริมทิวเสสุ ปริโภคมํสเมว, เทวา’’ติ. ‘‘นนุ อฺสฺมึ กาเล อยํ รโส นตฺถี’’ติ? ‘‘อชฺช สุปกฺกํ, เทวา’’ติ. ‘‘นนุ ปุพฺเพปิ เอวเมว ปจสี’’ติ. อถ นํ ตุณฺหีภูตํ ตฺวา ‘‘สภาวํ กเถหิ, โน เจ กเถสิ, ชีวิตํ เต นตฺถี’’ติ อาห. โส อภยํ ยาจิตฺวา ยถาภูตํ กเถสิ. ราชา ‘‘มา สทฺทมกาสิ, ปกติยา ปจนกมํสํ ตฺวํ ขาทิตฺวา มยฺหํ มนุสฺสมํสเมว ปจาหี’’ติ อาห. ‘‘นนุ ทุกฺกรํ, เทวา’’ติ? ‘‘มา ภายิ, น ทุกฺกร’’นฺติ. ‘‘นิพทฺธํ กุโต ลภิสฺสามิ, เทวา’’ติ? ‘‘นนุ พนฺธนาคาเร พหู มนุสฺสา’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ตถา อกาสิ.

อปรภาเค พนฺธนาคาเร มนุสฺเสสุ ขีเณสุ ‘‘อิทานิ กึ กริสฺสามิ, เทวา’’ติ อาห. ‘‘อนฺตรามคฺเค สหสฺสภณฺฑิกํ ขิปิตฺวา โย ตํ คณฺหาติ, ตํ ‘โจโร’ติ คเหตฺวา มาเรหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. อปรภาเค ราชภเยน สหสฺสภณฺฑิกํ โอโลเกนฺตมฺปิ อทิสฺวา ‘‘อิทานิ กึ กริสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ยทา เภริเวลาย นครํ อากุลํ โหติ, ตทา ตฺวํ ปน เอกสฺมึ ฆรสนฺธิมฺหิ วา วีถิยํ วา จตุกฺเก วา ตฺวา มนุสฺเส มาเรตฺวา มํสํ คณฺหาหี’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ตถา กตฺวา ถูลมํสํ อาทาย คจฺฉติ. เตสุ เตสุ าเนสุ กเฬวรานิ ทิสฺสนฺติ. มม มาตา น ปฺายติ, มม ปิตา น ปฺายติ, มม ภาตา ภคินี จ น ปฺายติ, มนุสฺสานํ ปริเทวนสทฺโท สูยติ. นาครา ภีตตสิตา ‘‘อิเม มนุสฺเส สีโห นุ โข ขาทติ, พฺยคฺโฆ นุ โข ขาทติ, ยกฺโข นุ โข ขาทตี’’ติ โอโลเกนฺตา ปหารมุขํ ทิสฺวา ‘‘เอโก มนุสฺสขาทโก โจโร อิเม ขาทตี’’ติ มฺนฺติ. มหาชนา ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา อุปกฺโกสึสุ. ราชา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว อิมสฺมึ นคเร มนุสฺสขาทโก โจโร อตฺถิ, ตํ คณฺหาเปถา’’ติ อาหํสุ. ‘‘อหํ กถํ ตํ ชานิสฺสามิ, กึ อหํ นครํ รกฺขนฺโตปิ จรามี’’ติ.

มหาชนา ‘‘ราชา นคเรน อนตฺถิโก, กาฬหตฺถิเสนาปติสฺส อาจิกฺขิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา ตสฺส ตํ กเถตฺวา ‘‘โจรํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทึสุ. โส ‘‘สาธุ สตฺตาหํ อาคเมถ, ปริเยสิตฺวา โจรํ ทสฺสามี’’ติ มหาชเน อุยฺโยเชตฺวา ปุริเส อาณาเปสิ, ‘‘ตาตา, นคเร กิร มนุสฺสขาทโก โจโร อตฺถิ, ตุมฺเห เตสุ เตสุ าเนสุ นิลียิตฺวา ตํ คณฺหถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตโต ปฏฺาย นครํ ปริคฺคณฺหนฺติ. ภตฺตการโกปิ เอกสฺมึ ฆรสนฺธิมฺหิ สมฺปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา เอกํ อิตฺถึ มาเรตฺวา ฆนฆนมํสํ อาทาย ปจฺฉิยํ ปูเรตุํ อารภิ. อถ นํ เต ปุริสา คเหตฺวา โปเถตฺวา ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา ‘‘คหิโต มนุสฺสขาทโก โจโร’’ติ มหาสทฺทํ กรึสุ. มหาชโน ตํ ปริวาเรสิ. อถ นํ สุฏฺุ พนฺธิตฺวา มํสปจฺฉึ คีวาย พนฺธิตฺวา อาทาย เสนาปติสฺส ทสฺเสสุํ. เสนาปติ ตํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เอส อิมํ มํสํ ขาทติ, อุทาหุ อฺเน มํเสน มิสฺเสตฺวา วิกฺกิณาติ, อุทาหุ อฺสฺส วจเนน มาเรตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๓๗๑.

‘‘กสฺมา ตุวํ รสก เอทิสานิ, กโรสิ กมฺมานิ สุทารุณานิ;

หนาสิ อิตฺถี ปุริเส จ มูฬฺโห, มํสสฺส เหตุ อทุ ธนสฺส การณา’’ติ.

ตตฺถ รสกาติ ภตฺตการณํ อาลปติ.

อิโต ปรํ อุตฺตานสมฺพนฺธานิ วจนปฏิวจนานิ ปาฬิวเสเนว เวทิตพฺพานิ –

๓๗๒.

‘‘น อตฺตเหตู น ธนสฺส การณา, น ปุตฺตทารสฺส สหายาตินํ;

ภตฺตา จ เม ภควา ภูมิปาโล, โส ขาทติ มํสํ ภทนฺเตทิสํ.

๓๗๓.

‘‘สเจ ตุวํ ภตฺตุรตฺเถ ปยุตฺโต, กโรสิ กมฺมานิ สุทารุณานิ;

ปาโตว อนฺเตปุรํ ปาปุณิตฺวา, ลเปยฺยาสิ เม ราชิโน สมฺมุเข ตํ.

๓๗๔.

‘‘ตถา กริสฺสามิ อหํ ภทนฺเต, ยถา ตุวํ ภาสสิ กาฬหตฺถิ;

ปาโตว อนฺเตปุรํ ปาปุณิตฺวา, วกฺขามิ เต ราชิโน สมฺมุเข ต’’นฺติ.

ตตฺถ ภควาติ คารวาธิวจนํ. สเจ ตุวนฺติ ‘‘สจฺจํ นุ โข ภณติ, อุทาหุ มรณภเยน มุสา ภณตี’’ติ วีมํสนฺโต เอวมาห. ตตฺถ สุทารุณานีติ มนุสฺสฆาตกมฺมานิ. สมฺมุเข ตนฺติ สมฺมุเข ตฺวา เอวํ วเทยฺยาสีติ. โส สมฺปฏิจฺฉนฺโต คาถมาห.

อถ นํ เสนาปติ คาฬฺหพนฺธนเมว สยาเปตฺวา วิภาตาย รตฺติยา อมจฺเจหิ จ นาคเรหิ จ สทฺธึ มนฺเตตฺวา สพฺเพสุ เอกจฺฉนฺเทสุ ชาเตสุ สพฺพฏฺาเนสุ อารกฺขํ เปตฺวา นครํ หตฺถคตํ กตฺวา รสกสฺส คีวายํ มํสปจฺฉึ พนฺธิตฺวา อาทาย ราชนิเวสนํ ปายาสิ. สกลนครํ วิรวิ. ราชา หิยฺโย ภุตฺตปาตราโส สายมาสมฺปิ อลภิตฺวา ‘‘รสโก อิทานิ อาคจฺฉิสฺสติ, อิทานิ อาคจฺฉสฺสตี’’ติ นิสินฺโนว ตํ รตฺตึ วีตินาเมตฺวา ‘‘อชฺชปิ รสโก นาคจฺฉติ, นาครานฺจ มหาสทฺโท สูยติ, กึ นู โข เอต’’นฺติ วาตปาเนน โอโลเกนฺโต ตํ ตถา อานียมานํ ทิสฺวา ‘‘ปากฏํ อิทํ การณํ ชาต’’นฺติ จินฺเตตฺวา สตึ อุปฏฺเปตฺวา ปลฺลงฺเกเยว นิสีทิ. กาฬหตฺถิปิ นํ อุปสงฺกมิตฺวา อนุยุฺชิ, โสปิสฺส กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๗๕.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

กาโฬ รสกมาทาย, ราชานํ อุปสงฺกมิ;

อุปสงฺกมฺม ราชานํ, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๓๗๖.

‘‘สจฺจํ กิร มหาราช, รสโก เปสิโต ตยา.

หนติ อิตฺถิปุริเส, ตุวํ มํสานิ ขาทสิ.

๓๗๗.

‘‘เอวเมว ตถา กาฬ, รสโก เปสิโต มยา;

มม อตฺถํ กโรนฺตสฺส, กิเมตํ ปริภาสสี’’ติ.

ตตฺถ กาฬาติ กาฬหตฺถิ. เอวเมวาติ เตน เสนาปตินา เตชวนฺเตน อนุยุตฺโต ราชา มุสา วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต เอวมาห. ตตฺถ ตถาติ อิทํ ปุริมสฺส เววจนํ. มม อตฺถนฺติ มม วุฑฺฒึ. กโรนฺตสฺสาติ กโรนฺตํ. กิเมตนฺติ กสฺมา เอตํ. ปริภาสสีติ อโห ทุกฺกรํ กโรสิ, กาฬหตฺถิ ตฺวํ นาม อฺํ โจรํ อคฺคเหตฺวา มม เปสนการกํ คณฺหาสีติ ตสฺส ภยํ ชเนนฺโต กเถสิ.

ตํ สุตฺวา เสนาปติ ‘‘อยํ สเกเนว มุเขน ปฏิชานาติ, อโห สาหสิโก, เอตฺตกํ นาม กาลํ อิเม มนุสฺสา เอเตน ขาทิตา, วาเรสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห – ‘‘มหาราช, มา เอวํ กริ, มา มนุสฺสมํสํ ขาทสี’’ติ. ‘‘กาฬหตฺถิ กึ กเถสิ, นาหํ วิรมิตุํ สกฺโกมี’’ติ. ‘‘มหาราช, สเจ น วิรมิสฺสสิ, อตฺตานฺจ รฏฺฺจ นาเสสฺสสี’’ติ. ‘‘เอวํ นสฺสนฺเตปิ อหํ เนว ตโต วิรมิตุํ สกฺโกมี’’ติ. ตโต เสนาปติ ตสฺส สฺาปนตฺถาย วตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสติ – อตีตสฺมิฺหิ กาเล มหาสมุทฺเท ฉ มหามจฺฉา อเหสุํ. เตสุ อานนฺโท ติมินนฺโท อชฺฌาโรโหติ อิเม ตโย มจฺฉา ปฺจโยชนสติกา, ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล มหาติมิรปิงฺคโลติ อิเม ตโย มจฺฉา สหสฺสโยชนิกา โหนฺติ. เต สพฺเพปิ ปาสาณเสวาลภกฺขา อเหสุํ. เตสุ อานนฺโท มหาสมุทฺทสฺส เอกปสฺเส วสติ. ตํ พหู มจฺฉา ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺติ, เอกทิวสํ ‘‘สพฺเพสํ ทฺวิปทจตุปฺปทานํ สตฺตานํ ราชา ปฺายติ, อมฺหากํ ราชา นตฺถิ, มยมฺเปตํ ราชานํ กริสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา สพฺเพ เอกจฺฉนฺทา หุตฺวา อานนฺทํ ราชานํ กรึสุ. เต มจฺฉา ตโต ปฏฺาย ตสฺส สายํ ปาโตว อุปฏฺานํ คจฺฉนฺติ.

อเถกทิวสํ อานนฺโท เอกสฺมึ ปพฺพเต ปาสาณเสวาลํ ขาทนฺโต อชานิตฺวา ‘‘เสวาโล’’ติ สฺาย เอกํ มจฺฉํ ขาทิ. ตสฺส ตํ มํสํ ขาทนฺตสฺส สกลสรีรํ สงฺโขเภสิ. โส ‘‘กึ นุ โข อิทํ อติวิย มธุร’’นฺติ นีหริตฺวา โอโลเกนฺโต มจฺฉมํสขณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตกํ กาลํ อชานิตฺวา น ขาทามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สายํ ปาโตปิ มจฺฉานํ อาคนฺตฺวา คมนกาเล เอกํ ทฺเว มจฺเฉ ขาทิสฺสามิ, ปากฏํ กตฺวา ขาทิยมาเน เอโกปิ มํ น อุปสงฺกมิสฺสติ, สพฺเพ ปลายิสฺสนฺติ, ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา ปจฺฉา โอสกฺกิโตสกฺกิตํ ปหริตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ ตถา กตฺวา ขาทิ. มจฺฉา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺตา จินฺตยึสุ. ‘‘กุโต นุ โข าตีนํ ภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ. อเถโก ปณฺฑิโต มจฺโฉ ‘‘มยฺหํ อานนฺทสฺส กิริยา น รุจฺจติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ มจฺเฉสุ อุปฏฺานํ คเตสุ อานนฺทสฺส กณฺณปตฺเต ปฏิจฺฉนฺโน อฏฺาสิ. อานนฺโท มจฺเฉ อุยฺโยเชตฺวา สพฺพปจฺฉโต คจฺฉนฺตํ มจฺฉํ ขาทิ. โส ปณฺฑิตมจฺโฉ ตสฺส กิริยํ ทิสฺวา อิตเรสํ อาโรเจสิ. เต สพฺเพปิ ภีตตสิตา ปลายึสุ.

อานนฺโท ตโต ปฏฺาย มจฺฉมํสคิทฺเธน อฺํ โคจรํ น คณฺหิ. โส ชิฆจฺฉาย ปีฬิโต กิลนฺโต ‘‘กหํ นุ โข อิเม คตา’’ติ เต มจฺเฉ ปริเยสนฺโต เอกํ ปพฺพตํ ทิสฺวา ‘‘มม ภเยน อิมํ ปพฺพตํ นิสฺสาย วสนฺติ มฺเ, ปพฺพตํ ปริกฺขิปิตฺวา อุปธาเรสฺสามี’’ติ นงฺคุฏฺเน จ สีเสน จ อุโภ ปสฺเส ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหิ. ตโต ‘‘สเจ อิธ วสนฺติ, ปลายิสฺสนฺตี’’ติ ปพฺพตํ ปริกฺขิปนฺตํ อตฺตโน นงฺคุฏฺํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มจฺโฉ มํ วฺเจตฺวา ปพฺพตํ นิสฺสาย วสตี’’ติ กุทฺโธ ปณฺณาสโยชนมตฺตํ สกนงฺคุฏฺขณฺฑํ อฺมจฺฉสฺาย ทฬฺหํ คเหตฺวา มุรุมุรายนฺโต ขาทิ, ทุกฺขเวทนา อุปฺปชฺชิ. โลหิตคนฺเธน มจฺฉา สนฺนิปติตฺวา ลุฺชิตฺวา ขาทนฺตา ยาว สีสา อาคมํสุ. มหาสรีรตาย ปริวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ, ปพฺพตราสิ วิย อฏฺิราสิ อโหสิ. อากาสจาริโน ตาปสปริพฺพาชกา มนุสฺสานํ กถยึสุ. สกลชมฺพุทีเป มนุสฺสา ชานึสุ. ตํ วตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต กาฬหตฺถิ อาห –

๓๗๘.

‘‘อานนฺโท สพฺพมจฺฉานํ, ขาทิตฺวา รสคิทฺธิมา;

ปริกฺขีณาย ปริสาย, อตฺตานํ ขาทิยา มโต.

๓๗๙.

‘‘เอวํ ปมตฺโต รสคารเว รตฺโต, พาโล ยที อายติ นาวพุชฺฌติ;

วิธมฺม ปุตฺเต จชิ าตเก จ, ปริวตฺติย อตฺตานฺเว ขาทติ.

๓๘๐.

‘‘อิทํ เต สุตฺวาน วิเคตุ ฉนฺโท, มา ภกฺขยี ราช มนุสฺสมํสํ;

มา ตฺวํ อิมํ เกวลํ วาริโชว, ทฺวิปทาธิป สุฺมกาสิ รฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ อานนฺโทติ, มหาราช, อตีตสฺมึ กาเล มหาสมุทฺเท ปฺจสตโยชนิโก อานนฺโท นาม มหามจฺโฉ สพฺเพสํ มจฺฉานํ ราชา มหาสมุทฺทสฺส เอกปสฺเส ิโต. ขาทิตฺวาติ สกชาติกานํ มจฺฉานํ รสคิทฺธิมา มจฺเฉ ขาทิตฺวา. ปริกฺขีณายาติ มจฺฉปริสาย ขยปฺปตฺตาย. อตฺตานนฺติ อฺํ โคจรํ อคฺคเหตฺวา ปพฺพตํ ปริกฺขิปนฺโต ปณฺณาสโยชนมตฺตํ อตฺตโน นงฺคุฏฺขณฺฑํ อฺมจฺฉสฺาย ขาทิตฺวา มโต มรณปฺปตฺโต หุตฺวา อิทานิ มหาสมุทฺเท ปพฺพตมตฺโต อฏฺิราสิ อโหสิ. เอวํ ปมตฺโตติ ยถา มหามจฺโฉ อานนฺโท, เอวมฺปิ ตถา ตฺวํ ตณฺหารสคิทฺธิโก หุตฺวา ปมตฺโต ปมาทภาวปฺปตฺโต.

รสคารเว รตฺโตติ มนุสฺสมํสสฺส รสคารเว รตฺโต อติรตฺตจิตฺโต โหติ. พาโลติ ยทิ พาโล ทุปฺปฺโ อายตึ อนาคเต กาเล อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ นาวพุชฺฌติ น ชานาติ. วิธมฺมาติ วิธเมตฺวา วินาเสตฺวา. ปุตฺเตติ ปุตฺตธีตโร จ. าตเก จาติ เสสาตเก จ สหาเย จ, วิธมฺม ปุตฺเต จ จชิตฺวา าตเก จาติ อตฺโถ. ปริวตฺติยาติ อฺํ อาหารํ อลภิตฺวา ชิฆจฺฉาย ปีฬิโต สกลนครํ ปริวตฺติย วิจริตฺวา มนุสฺสมํสํ อลภิตฺวา อตฺตานํ ขาทนฺโต อานนฺโท มจฺโฉ วิย อตฺตานฺเว ขาทติ.

อิทํ เต สุตฺวานาติ, มหาราช, เต ตุยฺหํ มยา อานีตํ อิทํ อุทาหรณํ สุตฺวา ฉนฺโท มนุสฺสมํสขาทนจฺฉนฺโท วิเคตุ วิคจฺฉตุ วิรมตุ. มา ภกฺขยีติ ราช มนุสฺสมํสํ มา ภกฺขยิ มา ขาทิ. มา ตฺวํ อิมํ เกวลนฺติ มหาสมุทฺทํ สุฺํ กโรนฺโต วาริโช อานนฺโท มจฺโฉ อิว, โภ ทฺวิปทาธิป, ทฺวิปทานํ มนุสฺสานํ, อิสฺสร มหาราช, ตฺวํ เกวลํ สจฺจโต อิมํ ตว กาสิรฏฺํ นครํ สุฺํ มา อกาสีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา, ‘‘โภ กาฬหตฺถิ, น ตฺวเมว อุปมํ ชานาสิ, อหมฺปิ ชานามี’’ติ มนุสฺสมํสคิทฺธตาย โปราณกวตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห –

๓๘๑.

‘‘สุชาโต นาม นาเมน, โอรโส ตสฺส อตฺรโช;

ชมฺพุเปสิมลทฺธาน, มโต โส ตสฺส สงฺขเย.

๓๘๒.

‘‘เอวเมว อหํ กาฬ, ภุตฺวา ภกฺขํ รสุตฺตมํ;

อลทฺธา มานุสํ มํสํ, มฺเ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ สุชาโต นามาติ กาฬหตฺถิ กุฏุมฺพิโก นาเมน สุชาโต นาม, ตสฺส อตฺรโช ปุตฺโต โอรโส ชมฺพุเปสึ อลทฺธาน อลภิตฺวาน. มโตติ ยถา ตสฺสา ชมฺพุเปสิยา สงฺขเย โส กุฏุมฺพิกปุตฺโต มโต, เอวเมว อหํ รสุตฺตมํ อฺรสานํ อุตฺตมํ มนุสฺสานํ มํสํ ภุตฺวา ภุฺชิตฺวา อลทฺธา มนุสฺสมํสํ ชีวิตํ หิสฺสามีติ มฺเ มฺามิ.

อตีเต กิร พาราณสิยํ สุชาโต นาม กุฏุมฺพิโก โลณมฺพิลเสวนตฺถาย หิมวนฺตโต อาคตานิ ปฺจ อิสิสตานิ อตฺตโน อุยฺยาเน วสาเปตฺวา อุปฏฺาสิ. ฆเร จสฺส นิพทฺธํ ปฺจสตมตฺตา ภิกฺขา อโหสิ. เต ปน ตาปสา กทาจิ ชนปเทปิ ภิกฺขาย จรนฺติ, กทาจิ มหาชมฺพุเปสึ อาหริตฺวา ขาทนฺติ. เตสํ ชมฺพุเปสึ อาหริตฺวา ขาทนกาเล สุชาโต จินฺเตสิ – ‘‘อชฺช ภทฺทนฺตานํ ตโย จตฺตาโร ทิวสา อนาคจฺฉนฺตานํ, กหํ นุ โข คตา’’ติ. โส อตฺตโน ปุตฺตกํ องฺคุลิยํ คาหาเปตฺวา เตสํ ภตฺตกิจฺจกาเล ตตฺถ อคมาสิ. ตสฺมึ สมเย มหลฺลกานํ มุขวิกฺขาลนกาเล อุทกํ ทตฺวา สพฺพนวโก ชมฺพุเปสึ ขาทติ. สุชาโต ตาปเส วนฺทิตฺวา นิสินฺโน – ‘‘กึ, ภนฺเต, ขาทถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาชมฺพุเปสึ, อาวุโส’’ติ. ตํ สุตฺวา กุมาโร ปิปาสํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส คณเชฏฺโก ตาปโส โถกํ ทาเปสิ. โส ตํ ขาทิตฺวา มธุรรเส พชฺฌิตฺวา – ‘‘ชมฺพุเปสึ เม เทถา’’ติ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. กุฏุมฺพิโก ธมฺมํ สุณนฺโต, ‘‘ปุตฺตก, มา วิรวิ, เคหํ คนฺตฺวา ขาทิสฺสสี’’ติ ตํ วฺเจตฺวา ‘‘อิมํ นิสฺสาย ภทนฺตา อุกฺกณฺเยฺยุ’’นฺติ ตํ สมสฺสาเสนฺโต อิสิคณํ อนาปุจฺฉิตฺวา เคหํ คโต. คตกาลโต ปฏฺาย จสฺส ปุตฺโต ‘‘ชมฺพุเปสึ เม เทถา’’ติ ปริเทวิ. สุชาโต ‘‘อิสโยปิ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คโต. เต อิสโยปิ ‘‘อิธ จิรํ วสิมฺหา’’ติ หิมวนฺตเมว คตา. อาราเม อิสโย อปสฺสนฺโต ตสฺส ชมฺพุอมฺพปนสโมจาทีนํ เปสิโย มธุสกฺขรจุณฺณสํยุตฺตา อทาสิ. ตา ตสฺส ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตา หลาหลวิสสทิสา โหนฺติ. โส สตฺตาหํ นิราหาโร หุตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. ราชา อิทํ การณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

ตโต กาฬหตฺถิ ‘‘อยํ ราชา อติวิย รสคิทฺโธ, อปรานิปิสฺส อุทาหรณานิ อาหริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, วิรมาหี’’ติ อาห. ‘‘อหํ วิรมิตุํ น สกฺโกมี’’ติ. เทว, สเจ น วิรมิสฺสสิ, ตุวํ าติมณฺฑลโต เจว รชฺชสิริโต จ ปริหายิสฺสสิ. อตีตสฺมิฺหิ, มหาราช, อิเธว พาราณสิยํ ปฺจสีลรกฺขกํ โสตฺถิยกุลํ อโหสิ. ตสฺส กุลสฺส เอกปุตฺตโก อโหสิ. โส มาตาปิตูนํ ปิโย มนาโป อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ติณฺณํ เวทานํ ปารคู. โส สมวเยหิ ตรุเณหิ สทฺธึ คณพนฺธเนน วิจริ. เสสา คณพนฺธา มจฺฉมํสาทีนิ ขาทนฺตา สุรํ ปิวนฺติ. มาณโว มํสาทีนิ น ขาทติ, สุรํ น ปิวติ. เต มนฺตยึสุ – ‘‘อยํ สุราย อปิวนโต อมฺหากํ มูลํ น เทติ, อุปาเยน นํ สุรํ ปาเยสฺสามา’’ติ. เต สนฺนิปติตฺวา, ‘‘สมฺม, ฉณกีฬํ กีฬิสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ‘‘สมฺม, ตุมฺเห สุรํ ปิวถ, อหํ สุรํ น ปิวามิ, ตุมฺเหว คจฺฉถา’’ติ. ‘‘สมฺม, ตว ปิวนตฺถาย ขีรํ คณฺหาเปสฺสามา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ธุตฺตา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ปทุมินิปตฺเตสุ ติขิณสุรํ พนฺธาเปตฺวา ปยึสุ. อถ เนสํ ปานกาเล มาณวสฺส ขีรํ อุปนยึสุ. อถ เอโก ธุตฺโต ‘‘โปกฺขรมธุํ, โภ, อาหรา’’ติ อาหราเปตฺวา ปทุมินิปตฺตปุฏํ เหฏฺา ฉิทฺทํ กตฺวา องฺคุลีหิ มุเข เปตฺวา อากฑฺฒิ. เอวํ อิตเรปิ อาหราเปตฺวา ปิวึสุ. มาณโว ‘‘กึ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘โปกฺขรมธุนามา’’ติ. ‘‘อหมฺปิ โถกํ ลภิสฺสามิ, เทถ โภนฺโต’’ติ. ตสฺสปิ ทาปยึสุ. โส โปกฺขรมธุสฺาย สุรํ ปิวิ. อถสฺส องฺคารปกฺกมํสํ อทํสุ, ตมฺปิ ขาทิ.

เอวมสฺส ปุนปฺปุนํ ปิวนฺตสฺส มตฺตกาเล ‘‘น เอตํ โปกฺขรมธุ, สุรา เอสา’’ติ วทึสุ. โส ‘‘เอตฺตกํ กาลํ เอวํ มธุรรสํ น ชานึ, อาหรถ, โภ, สุร’’นฺติ อาห. เต อาหริตฺวา ปุนปิ อทํสุ. ปิปาสา มหตี อโหสิ. อถสฺส ปุนปิ ยาจนฺตสฺส ‘‘ขีณา’’ติ วทึสุ. โส ‘‘หนฺท ตํ, โภ, อาหราเปถา’’ติ องฺคุลิมุทฺทิกํ อทาสิ, โส สกลทิวสํ เตหิ สทฺธึ ปิวิตฺวา มตฺโต รตฺตกฺโข กมฺปนฺโต วิลปนฺโต เคหํ คนฺตฺวา นิปชฺชิ. อถสฺส ปิตา สุราย ปิวิตภาวํ ตฺวา วิคเต มตฺเต, ‘‘ตาต, อยุตฺตํ เต กตํ โสตฺติยกุเล ชาเตน สุรํ ปิวนฺเตน, มา ปุน เอวํ อกาสี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, โก มยฺหํ โทโส’’ติ. ‘‘สุราย ปิวิตภาโว’’ติ. ‘‘ตาต, กึ กเถสิ, มยา เอวรูปํ มธุรรสํ เอตฺตกํ กาลํ อลทฺธปุพฺพ’’นฺติ. พฺราหฺมโณ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. โสปิ ‘‘น สกฺโกมิ วิรมิตุ’’นฺติ อาห. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘เอวํ สนฺเต อมฺหากํ กุลวํโส จ อุจฺฉิชฺชิสฺสติ, ธนฺจ วินสฺสิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๓๘๓.

‘‘มาณว อภิรูโปสิ, กุเล ชาโตสิ โสตฺถิเย;

น ตฺวํ อรหสิ ตาต, อภกฺขํ ภกฺขเยตเว’’ติ.

ตตฺถ, มาณวาติ, มาณว, ตฺวํ อภิรูโป อสิ, โสตฺถิเย กุเล ชาโตปิ อสิ. อภกฺขํ ภกฺขเยตเวติ, ตาต, ตฺวํ อภกฺขิตพฺพยุตฺตกํ ภกฺขยิตุํ น อรหสิ.

เอวฺจ ปน วตฺวา, ‘‘ตาต, วิรม, สเจ น วิรมสิ, อหํ ตํ อิโต เคหา นิกฺขาเมสฺสามิ, ตว รฏฺา ปพฺพาชนียกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อาห. มาณโว ‘‘เอวํ สนฺเตปิ อหํ สุรํ ชหิตุํ น สกฺโกมี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๓๘๔.

‘‘รสานํ อฺตรํ เอตํ, กสฺมา มํ ตฺวํ นิวารเย;

โสหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ, ยตฺถ ลจฺฉามิ เอทิสํ.

๓๘๕.

‘‘โสวาหํ นิปฺปติสฺสามิ, นเต วจฺฉามิ สนฺติเก;

ยสฺส เม ทสฺสเนน ตฺวํ, นาภินนฺทสิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ รสานนฺติ โลณมฺพิลติตฺตกกฏุกขาริกมธุรกสาวสงฺขาตานํ สตฺตนฺนํ รสานํ อฺตรํ อุตฺตมรสเมตํ มชฺชํ นาม. โสวาหนฺติ โส อหํ เอว. นิปฺปติสฺสามีติ นิกฺขมิสฺสามิ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘นาหํ สุราปานา วิรมิสฺสามิ, ยํ เต รุจฺจติ, ตํ กโรหี’’ติ อาห. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘ตยิ อมฺเห ปริจฺจชนฺเต มยมฺปิ ตํ ปริจฺจชิสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๘๖.

‘‘อทฺธา อฺเปิ ทายาเท, ปุตฺเต ลจฺฉาม มาณว;

ตฺวฺจ ชมฺม วินสฺสสุ, ยตฺถ ปตฺตํ น ตํ สุเณ’’ติ.

ตตฺถ ยตฺถ ปตฺตนฺติ ยตฺถ คตํ ตํ ‘‘อสุกฏฺาเน นาม วสตี’’ติ น สุโณม, ตตฺถ คจฺฉาหีติ อตฺโถ.

อถ นํ วินิจฺฉยํ เนตฺวา อปุตฺตภาวํ กตฺวา นีหราเปสิ. โส อปรภาเค นิปฺปจฺจโย กปโณ ชิณฺณปิโลติกํ นิวาเสตฺวา กปาลหตฺโถ ปิณฺฑาย จรนฺโต อฺตรํ กุฏฺฏํ นิสฺสาย กาลมกาสิ. อิทํ การณํ อาหริตฺวา กาฬหตฺถิ รฺโ ทสฺเสตฺวา, ‘‘มหาราช, สเจ ตฺวํ อมฺหากํ วจนํ น กริสฺสสิ, ปพฺพาชนียกมฺมํ เต กริสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๘๗.

‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, ทฺวิปทินฺท สุโณหิ เม;

ปพฺพาเชสฺสนฺติ ตํ รฏฺา, โสณฺฑํ มาณวกํ ยถา’’ติ.

ตตฺถ ทฺวิปทินฺทาติ ทฺวิปทานํ อินฺท, โภ มหาราช, เม มม วจนํ สุโณหิ ตุวํ, เอวเมว โสณฺฑํ มาณวกํ ยถา ตํ ภวนฺตํ รฏฺโต ปพฺพาเชสฺสนฺติ.

เอวํ กาฬหตฺถินา อุปมาย อาหฏายปิ ราชา ตโต วิรมิตุํ อสกฺโกนฺโต อปรมฺปิ อุทาหรณํ ทสฺเสตุํ อาห –

๓๘๘.

‘‘สุชาโต นาม นาเมน, ภาวิตตฺตาน สาวโก;

อจฺฉรํ กามยนฺโตว, น โส ภุฺชิ น โส ปิวิ.

๓๘๙.

‘‘กุสคฺเคนุทกมาทาย, สมุทฺเท อุทกํ มิเน;

เอวํ มานุสกา กามา, ทิพฺพกามาน สนฺติเก.

๓๙๐.

‘‘เอวเมว อหํ กาฬ, ภุตฺวา ภกฺขํ รสุตฺตมํ;

อลทฺธา มานุสํ มํสํ, มฺเ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

วตฺถุ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว.

ตตฺถ ภาวิตตฺตานาติ ภาวิตจิตฺตานํ เตสํ ปฺจนฺนํ อิสิสตานํ. อจฺฉรํ กามยนฺโตวาติ โส กิร เตสํ อิสีนํ มหาชมฺพุเปสิยา ขาทนกาเล อนาคมนํ วิทิตฺวา ‘‘กึ นุ โข การณา น อาคจฺฉนฺติ, สเจ กตฺถจิ คตา, ชานิสฺสามิ, โน เจ, อถ เนสํ สนฺติเก ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา อิสิคเณ วนฺทิตฺวา คณเชฏฺกสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต นิสินฺโนว สูริเย อตฺถงฺคเต อุยฺโยชิยมาโนปิ ‘‘อชฺช อิเธว วสิสฺสามี’’ติ วตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิ. รตฺติภาเค สกฺโก เทวราชา เทวจฺฉราสงฺฆปริวุโต สทฺธึ อตฺตโน ปริจาริกาหิ อิสิคณํ วนฺทิตุํ อาคโต, สกลาราโม เอโกภาโส อโหสิ. สุชาโต ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อุฏฺาย ปณฺณสาลฉิทฺเทน โอโลเกนฺโต สกฺกํ อิสิคณํ วนฺทิตุํ อาคตํ เทวจฺฉราปริวุตํ ทิสฺวา อจฺฉรานํ สห ทสฺสเนน ราครตฺโต อโหสิ. สกฺโก นิสีทิตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา สกฏฺานเมว คโต. กุฏุมฺพิโกปิ ปุนทิวเส อิสิคณํ วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, โก นาเมส รตฺติภาเค ตุมฺหากํ วนฺทนตฺถาย อาคโต’’ติ? ‘‘สกฺโก, อาวุโส’’ติ. ‘‘ตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา กา นาเมตา’’ติ? ‘‘เทวจฺฉรา นาเมตา’’ติ. โส อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา คตกาลโต ปฏฺาย ‘‘อจฺฉรํ เม เทถ, อจฺฉรํ เม เทถา’’ติ วิลปิ. าตกา ปริวาเรตฺวา ‘‘ภูตาวิฏฺโ นุ โข’’ติ อจฺฉรํ ปหรึสุ. โส ‘‘นาหํ เอตํ อจฺฉรํ กเถมิ, เทวจฺฉรํ กเถมี’’ติ วตฺวา ‘‘อยํ อจฺฉรา’’ติ อลงฺกริตฺวา อานีตํ ภริยมฺปิ คณิกมฺปิ โอโลเกนฺโต ‘‘นายํ อจฺฉรา, ยกฺขินี เอสา, เทวจฺฉรํ เม เทถา’’ติ วิลปนฺโต นิราหาโร หุตฺวา ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘อจฺฉรํ กามยนฺโตว, น โส ภุฺชิ น โส ปิวี’’ติ.

กุสคฺเคนุทกมาทาย, สมุทฺเท อุทกํ มิเนติ, สมฺม กาฬหตฺถิ, โย กุสคฺเคเนว อุทกํ คเหตฺวา ‘‘เอตฺตกํ สิยา มหาสมุทฺเท อุทก’’นฺติ เตน สทฺธึ อุปมาย มิเนยฺย, โส เกวลํ มิเนยฺเยว, กุสคฺเค ปน อุทกํ อติปริตฺตกเมว. ยถา ตํ, เอวํ มานุสกา กามา ทิพฺพกามานํ สนฺติเก, ตสฺมา โส สุชาโต อฺํ อิตฺถึ น โอโลเกสิ, อจฺฉรเมว ปตฺเถนฺโต มโต. เอวเมวาติ ยถา โส ทิพฺพกามํ อลภนฺโต ชีวิตํ ชหิ, เอวํ อหมฺปิ อุตฺตมรสํ มนุสฺสมํสํ อลภนฺโต ชีวิตํ ชหิสฺสามีติ วทติ.

ตํ สุตฺวา กาฬหตฺถิ ‘‘อยํ ราชา อติวิย รสคิทฺโธ, สฺาเปสฺสามิ น’’นฺติ สกชาติกานํ มํสํ ขาทิตฺวา อากาสจรา สุวณฺณหํสาปิ ตาว วินฏฺาติ ทสฺเสตุํ คาถาทฺวยมาห –

๓๙๑.

‘‘ยถาปิ เต ธตรฏฺา, หํสา เวหายสงฺคมา;

อภุตฺตปริโภเคน, สพฺเพ อพฺภตฺถตํ คตา.

๓๙๒.

‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, ทฺวิปทินฺท สุโณหิ เม;

อภกฺขํ ราช ภกฺเขสิ, ตสฺมา ปพฺพาชยนฺติ ต’’นฺติ.

ตตฺถ อภุตฺตปริโภเคนาติ อตฺตโน สมานชาติกานํ ปริโภเคน. อพฺภตฺถตํ คตาติ สพฺเพ มรณเมว ปตฺตา. อตีเต กิร จิตฺตกูเฏ สุวณฺณคุหายํ นวุติ หํสสหสฺสานิ วสนฺติ. เต วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส น นิกฺขมนฺติ, สเจ นิกฺขเมยฺยุํ, อุทกปุณฺเณหิ ปตฺเตหิ อุปฺปติตุํ อสกฺโกนฺตา มหาสมุทฺเทเยว ปเตยฺยุํ, ตสฺมา น จ นิกฺขมนฺติ. อุปกฏฺเ ปน วสฺสกาเล ชาตสฺสรโต สยํชาตสาลิโย อาหริตฺวา คุหํ ปูเรตฺวา สาลึ ขาทนฺตา วสนฺติ. เตสํ ปน คุหํ ปวิฏฺกาเล คุหทฺวาเร เอโก รถจกฺกปฺปมาโณ อุณฺณนาภิ นาม มกฺกฏโก เอเกกสฺมึ มาเส เอเกกํ ชาลํ วินนฺธติ. ตสฺส เอเกกํ สุตฺตํ โครชฺชุปฺปมาณํ โหติ. หํสา ‘‘ตํ ชาลํ ภินฺทิสฺสตี’’ติ เอกสฺส ตรุณหํสสฺส ทฺเว โกฏฺาเส เทนฺติ. โส วิคเต เทเว ปุรโต คนฺตฺวา ตํ ชาลํ ภินฺทติ. เตน มคฺเคน เสสา คจฺฉนฺติ. อเถกสฺมึ กาเล ปฺจ มาเส วสฺโส วุฏฺโ อโหสิ. หํสา ขีณโคจรา ‘‘กึ นุ โข กตฺตพฺพ’’นฺติ มนฺเตตฺวา ‘‘มยํ ชีวนฺตา อณฺฑานิ ลภิสฺสามา’’ติ ปมํ อณฺฑานิ ขาทึสุ, ตโต โปตเก, ตโต ชิณฺณหํเส. ปฺจมาสจฺจเยน วสฺสํ อปคตํ. มกฺกฏโก ปฺจ ชาลานิ วินนฺธิ. หํสา สกชาติกานํ มํสํ ขาทิตฺวา อปฺปถามา ชาตา. ทฺวิคุณโกฏฺาสลาภี หํสตรุโณ ชาเล ปหริตฺวา จตฺตาริ ภินฺทิ, ปฺจมํ ฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ, ตตฺเถว ลคฺคิ. อถสฺส สีสํ วิชฺฌิตฺวา มกฺกฏโก โลหิตํ ปิวิ. อฺโปิ อาคนฺตฺวา ชาลํ ปหริ, โสปิ ตตฺเถว ลคฺคีติ เอวํ สพฺเพสํ มกฺกฏโก โลหิตํ ปิวิ. ตทา ธตรฏฺกุลํ อุจฺฉินฺนนฺติ วทนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ อพฺภตฺถตํคตา’’ติ.

เอวเมว ตุวนฺติ ยถา เอเต หํสา อภกฺขํ สกชาติกมํสํ ขาทึสุ, ตถา ตฺวมฺปิ ขาทสิ, สกลนครํ ภยปฺปตฺตํ, วิรม, มหาราชาติ. ตสฺมา ปพฺพาชยนฺติ ตนฺติ ยสฺมา อภกฺขํ สกชาติกมํสํ ภกฺเขสิ, ตสฺมา อิเม นครวาสิโน ตํ รฏฺา ปพฺพาชยนฺติ.

ราชา อฺมฺปิ อุปมํ วตฺตุกาโม อโหสิ. นาครา ปน อุฏฺาย, ‘‘สามิ เสนาปติ, กึ กโรสิ, กึ มนุสฺสมํสขาทกํ โจรํ คเหตฺวา วิจรสิ, สเจ น วิรมิสฺสติ, รฏฺโต นํ ปพฺพาเชหี’’ติ วตฺวา นาสฺส กเถตุํ อทํสุ. ราชา พหูนํ กถํ สุตฺวา ภีโต ปุน วตฺตุํ นาสกฺขิ. ปุนปิ นํ เสนาปติ ‘‘กึ มหาราช วิรมิตุํ สกฺขิสฺสสิ, อุทาหุ น สกฺขิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘น สกฺโกมี’’ติ วุตฺเต สพฺพํ โอโรธคณฺจ ปุตฺตธีตโร จ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเต ปสฺเส เปตฺวา, ‘‘มหาราช, อิเม าติมณฺฑเล เจว อมจฺจคณฺจ รชฺชสิริฺจ โอโลเกหิ, มา วินสฺสิ, วิรม มนุสฺสมํสโต’’ติ อาห. ราชา ‘‘น มยฺหํ เอเต มนุสฺสมํสโต ปิยตรา’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ, มหาราช, อิมมฺหา นครา จ รฏฺา จ นิกฺขมถา’’ติ วุตฺเต, ‘‘กาฬหตฺถิ, น เม รชฺเชนตฺโถ, นครา นิกฺขมามิ, เอกํ ปน เม ขคฺคฺจ รสกฺจ ภาชนฺจ เทหี’’ติ อาห. อถสฺส ขคฺคฺจ มํสปจนภาชนฺจ ปจฺฉิฺจ อุกฺขิปาเปตฺวา รสกฺจ ทตฺวา รฏฺา ปพฺพาชนียกมฺมํ กรึสุ.

โส ขคฺคฺจ รสกฺจ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา เอกสฺมึ นิคฺโรธมูเล วสนฏฺานํ กตฺวา ตตฺถ วสนฺโต อฏวิมคฺเค ตฺวา มนุสฺเส มาเรตฺวา อาหริตฺวา รสกสฺส เทติ. โสปิสฺส มํสํ ปจิตฺวา อุปนาเมติ. เอวํ อุโภปิ ชีวนฺติ. มนุสฺสคหณกาเล ‘‘อหํ อเร มนุสฺสโจโร โปริสาโท’’ติ วตฺวา ตสฺมึ ปกฺขนฺเต โกจิ สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกติ, สพฺเพ ภูมิยํ ปตนฺติ. เตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ อุทฺธํปาทํ อโธสีสํ กตฺวา อาหริตฺวา รสกสฺส เทติ. โส เอกทิวสํ อรฺเ กฺจิ มนุสฺสํ อลภิตฺวา อาคโต รสเกน ‘‘กึ เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘อุทฺธเน อุกฺขลึ อาโรเปหี’’ติ อาห. ‘‘มํสํ กหํ, เทวา’’ติ? ‘‘ลภิสฺสามหํ มํส’’นฺติ. โส ‘‘นตฺถิ เม ทานิ ชีวิต’’นฺติ กมฺปมาโน อุทฺธเน อคฺคึ กตฺวา อุกฺขลึ อาโรเปสิ. อถ นํ โปริสาโท อสินา มาเรตฺวา มํสํ ปจิตฺวา ขาทิ. ตโต ปฏฺาย เอกโกว ชาโต สยเมว ปจิตฺวา ขาทติ. ‘‘โปริสาโท มคฺเค มคฺคปฏิปนฺเน หนตี’’ติ สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ.

ตทา เอโก สมฺปนฺนวิภโว พฺราหฺมโณ ปฺจหิ สกฏสเตหิ โวหารํ กโรนฺโต ปุพฺพนฺตโต อปรนฺตํ สฺจรติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘โปริสาโท นาม กิร โจโร อนฺตรามคฺเค มนุสฺเส มาเรสิ, ธนํ ทตฺวา ตํ อฏวึ อติกฺกมิสฺสามี’’ติ. โส อฏวิมุขวาสีนํ มนุสฺสานํ ‘‘ตุมฺเห มํ อฏวิโต อติกฺกาเมถา’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา เตหิ สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. คจฺฉนฺโต จ พฺราหฺมโณ สพฺพสตฺถํ ปุรโต กตฺวา สยํ นฺหาตานุลิตฺโต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต เสตโคณยุตฺเต สุขยานเก นิสินฺโน เตหิ อฏวิวาสิกปุริเสหิ ปริวุโต สพฺพปจฺฉโต อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ โปริสาโท รุกฺขํ อารุยฺห ปุริเส อุปธาเรนฺโต เสสมนุสฺเสสุ ‘‘กึ อิเมสุ มยา ขาทิตพฺพํ อตฺถี’’ติ วิคตจฺฉนฺโท หุตฺวา พฺราหฺมณํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ตํ ขาทิตุกามตาย ปคฺฆริตเขโฬ อโหสิ. โส ตสฺมึ อตฺตโน สนฺติกํ อาคเต รุกฺขโต โอรุยฺห ‘‘อหํ อเร โปริสาโท’’ติ นามํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา ขคฺคํ ปริวตฺเตนฺโต วาลุกาย เตสํ อกฺขีนิ ปูเรนฺโต วิย ปกฺขนฺทิ. เอโกปิ าตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สพฺเพ ภูมิยํ อุเรน นิปชฺชึสุ. โส สุขยานเก นิสินฺนํ พฺราหฺมณํ ปาเท คเหตฺวา ปิฏฺิยํ อโธสีสกํ โอลมฺเพตฺวา สีสํ โคปฺผเกหิ ปหรนฺโต อุกฺขิปิตฺวา ปายาสิ.

ตทา เต ปุริสา อุฏฺาย, ‘‘โภ, ปุริสา มยํ พฺราหฺมณสฺส หตฺถโต กหาปณสหสฺสํ คณฺหิมฺหา, โก นาม อมฺหากํ ปุริสกาโร, สกฺโกนฺตา วา อสกฺโกนฺตา วา โถกํ อนุพนฺธามา’’ติ วตฺวา อนุพนฺธึสุ. โปริสาโทปิ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต กฺจิ อทิตฺวา สณิกํ ปายาสิ. ตสฺมึ ขเณ ถามสมฺปนฺโน เอโก สูรปุริโส เวเคน ตํ ปาปุณิ. โส ตํ ทิสฺวา เอกํ วตึ ลงฺฆนฺโต ขทิรขาณุกํ อกฺกมิ, ขาณุโก ปิฏฺิปาเทน นิกฺขมิ. โลหิเตน ปคฺฆรนฺเตน ลงฺฆมาโน ยาติ. อถ นํ โส ทิสฺวา, ‘‘โภ, มยา เอส วิทฺโธ, เกวลํ ตุมฺเห ปจฺฉโต เอถ, คณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ อาห. เต ทุพฺพลภาวํ ตฺวา ตํ อนุพนฺธึสุ. โส เตหิ อนุพทฺธภาวํ ตฺวา พฺราหฺมณํ วิสฺสชฺเชตฺวา อตฺตานํ โสตฺถิมกาสิ. อถ อฏวิวาสิกปุริสา พฺราหฺมณสฺส ลทฺธกาลโต ปฏฺาย ‘‘กึ อมฺหากํ โจเรนา’’ติ ตโต นิวตฺตึสุ.

โปริสาโทปิ อตฺตโน นิคฺโรธมูลํ คนฺตฺวา ปาโรหนฺตรํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน, ‘‘อยฺเย รุกฺขเทวเต, สเจ เม สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว วณํ ผาสุกํ กาตุํ สกฺขิสฺสสิ, สกลชมฺพุทีเป เอกสตขตฺติยานํ คลโลหิเตน ตว ขนฺธํ โธวิตฺวา อนฺเตหิ ปริกฺขิปิตฺวา ปฺจมธุรมํเสน พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อายาจนํ กริ. ตสฺส อนฺนปานมํสํ อลภนฺตสฺส สรีรํ สุสฺสิตฺวา อนฺโตสตฺตาเหเยว วโณ ผาสุโก อโหสิ. โส เทวตานุภาเวน ตสฺส ผาสุกภาวํ สลฺลกฺเขสิ. โส กติปาหํ มนุสฺสมํสํ ขาทิตฺวา พลํ คเหตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘พหุปการา เม เทวตา, อายาจนา อสฺสา มุจฺจิสฺสามี’’ติ. โส ขคฺคํ อาทาย รุกฺขมูลโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘ราชาโน อาเนสฺสามี’’ติ ปายาสิ. อถ นํ ปุริมภเว ยกฺขกาเล เอกโต มนุสฺสมํสขาทโก สหายกยกฺโข อนุวิจรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มม อตีตภเว สหาโย’’ติ ตฺวา, ‘‘สมฺม, มํ สฺชานาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘น สฺชานามี’’ติ. อถสฺส ปุริมภเว กตการณํ กเถสิ. โส ตํ สฺชานิตฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. ‘‘กหํ นิพฺพตฺโตสี’’ติ ปุฏฺโ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ รฏฺา ปพฺพาชิตการณฺจ อิทานิ วสนฏฺานฺจ ขาณุนา วิทฺธการณฺจ เทวตาย อายาจนาโมจนตฺถํ คมนการณฺจ สพฺพํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตยาปิ มเมตํ กิจฺจํ นิตฺถริตพฺพํ, อุโภปิ คจฺฉาม, สมฺมา’’ติ อาห. ‘‘สมฺม น คจฺเฉยฺยาหํ, เอกํ ปน เม กมฺมํ อตฺถิ, อหํ โข ปน อนคฺฆํ ปทลกฺขณํ นาม เอกํ มนฺตํ ชานามิ, โส พลฺจ ชวฺจ สทฺทฺจ กโรติ, ตํ มนฺตํ คณฺหาหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ยกฺโขปิสฺส ตํ ทตฺวา ปกฺกามิ.

โปริสาโท มนฺตํ อุคฺคเหตฺวา ตโต ปฏฺาย วาตชโว อติสูโร อโหสิ. โส สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว เอกสตราชาโน อุยฺยานาทีนิ คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วาตเวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ‘‘อหํ อเร มนุสฺสโจโร โปริสาโท’’ติ นามํ สาเวตฺวา วคฺคนฺโต นทนฺโต ภยปฺปตฺเต กตฺวา ปาเท คเหตฺวา อโธสีสเก กตฺวา ปณฺหิยา สีสํ ปหรนฺโต วาตเวเคน เนตฺวา หตฺถตเลสุ ฉิทฺทานิ กตฺวา รชฺชุยา อาวุนิตฺวา นิคฺโรธรุกฺเข โอลมฺเพสิ อคฺคปาทงฺคุลีหิ ภูมิยํ ผุสมานาหิ. เต สพฺเพ ราชาโน วาเต ปหรนฺเต มิลาตกุรณฺฑกทามานิ วิย ปริวตฺตนฺตา โอลมฺพึสุ. ‘‘สุตโสโม ปน เม ปิฏฺิอาจริโย โหติ, สเจ คณฺหิสฺสามิ, สกลชมฺพุทีโป ตุจฺโฉ ภวิสฺสตี’’ติ ตํ น เนสิ. โส ‘‘พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อคฺคึ กตฺวา สูเล ตจฺฉนฺโต นิสีทิ. รุกฺขเทวตา ตํ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ กิเรส พลิกมฺมํ กโรติ, วณมฺปิสฺส มยา กิฺจิ ผาสุกํ กตํ นตฺถิ, อิทานิ อิเมสํ มหาวินาสํ กริสฺสติ, กึ นุ โข กตฺตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘อหํ เอตํ วาเรตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ จาตุมหาราชิกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ กเถตฺวา ‘‘นิวาเรถ น’’นฺติ อาห. เตหิปิ ‘‘น มยํ โปริสาทสฺส กมฺมํ นิวาเรตุํ สกฺขิสฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘โก สกฺขิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สกฺโก, เทวราชา’’ติ สุตฺวา สกฺกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ กเถตฺวา ‘‘นิวาเรถ น’’นฺติ อาห. โสปิ ‘‘นาหํ สกฺโกมิ นิวาเรตุํ, สมตฺถํ ปน อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘โกนาโม’’ติ วุตฺเต ‘‘สเทวเก โลเก อฺโ นตฺถิ, กุรุรฏฺเ ปน อินฺทปตฺถนคเร โกรพฺยราชปุตฺโต สุตโสโม นาม ตํ นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทเมสฺสติ, ราชูนฺจ ชีวิตํ ทสฺสติ, ตฺจ มนุสฺสมํสา โอรมาเปสฺสติ, สกลชมฺพุทีเป อมตํ วิย ธมฺมํ อภิสิฺจิสฺสติ, สเจปิ ราชูนํ ชีวิตํ ทาตุกาโม, ‘สุตโสมํ อาเนตฺวา พลิกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’ติ วเทหี’’ติ อาห.

สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ขิปฺปํ อาคนฺตฺวา ปพฺพชิตเวเสน ตสฺส อวิทูเร ปายาสิ. โส ปทสทฺเทน ‘‘ราชา นุ โข โกจิ ปลาโต ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพชิตา นาม ขตฺติยาว, อิมํ คเหตฺวา เอกสตํ ปูเรตฺวา พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อุฏฺาย อสิหตฺโถ อนุพนฺธิ, ติโยชนํ อนุพนฺธิตฺวาปิ ตํ ปาปุณิตุํ นาสกฺขิ, คตฺเตหิ เสทา มุจฺจึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ปุพฺเพ หตฺถิมฺปิ อสฺสมฺปิ รถมฺปิ ธาวนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา คณฺหามิ, อชฺช อิมํ ปพฺพชิตํ สกาย คติยา คจฺฉนฺตํ สพฺพถาเมน ธาวนฺโตปิ คณฺหิตุํ น สกฺโกมิ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ. ตโต โส ‘‘ปพฺพชิตา นาม วจนกรา โหนฺติ, ‘ติฏฺา’ติ นํ วตฺวา ิตํ คเหสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ติฏฺ, สมณา’’ติ อาห. ‘‘อหํ ตาว ิโต, ตฺวํ ปน ธาวิตุํ วายามมกาสี’’ติ. อถ นํ, ‘‘โภ, ปพฺพชิตา นาม ชีวิตเหตุปิ อลิกํ น ภณนฺติ, ตฺวํ ปน มุสาวาทํ กเถสี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๙๓.

‘‘ติฏฺาหีติ มยา วุตฺโต, โส ตฺวํ คจฺฉสิ ปมฺมุโข;

อฏฺิโต ตฺวํ ิโตมฺหีติ, ลปสิ พฺรหฺมจารินิ;

อิทํ เต สมณายุตฺตํ, อสิฺจ เม มฺสิ กงฺกปตฺต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – สมณ, ติฏฺาหิ อิติ วจนํ มยา วุตฺโต โส ตฺวํ ปมฺมุโข ปรมฺมุโข หุตฺวา คจฺฉสิ, พฺรหฺมจารินิ อฏฺิโต สมาโน ตฺวํ ิโต อมฺหิ อิติ ลปสิ, อสิฺจ เม กงฺกปตฺตํ มฺสีติ.

ตโต เทวตา คาถาทฺวยมาห –

๓๙๔.

‘‘ิโตหมสฺมี สธมฺเมสุ ราช, น นามโคตฺตํ ปริวตฺตยามิ;

โจรฺจ โลเก อิตํ วทนฺติ;

อาปายิกํ เนรยิกํ อิโต จุตํ.

๓๙๕.

‘‘สเจ ตฺวํ สทฺทหสิ ราช, สุตํ คณฺหาหิ ขตฺติย;

เตน ยฺํ ยชิตฺวาน, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ สธมฺเมสูติ, มหาราช, อหํ สเกสุ ทสสุ กุสลกมฺมปถธมฺเมสุ ิโต อสฺมิ ภวามิ. น นามโคตฺตนฺติ ตฺวํ ปุพฺเพ ทหรกาเล พฺรหฺมทตฺโต หุตฺวา ปิตริ กาลกเต พาราณสึ รชฺชํ ลภิตฺวา พาราณสิราชา ชาโต, ตํ นามํ ชหิตฺวา โปริสาโท หุตฺวา อิทานิ กมฺมาสปาโท ชาโต, ขตฺติยกุเล ชาโตปิ อภกฺขํ มนุสฺสมํสํ ยสฺมา ภกฺเขสิ, ตสฺมา อตฺตโน นามโคตฺตํ ยถา ปริวตฺเตสิ, ตถา อหํ อตฺตโน นามโคตฺตํ น ปริวตฺตยามิ. โจรฺจาติ โลเก โจรฺจ ทสกุสลกมฺมปเถสุ อิตํ นาม วทนฺติ. อิโต จุตนฺติ อิโต จุตํ หุตฺวา อปาเย นิรเย ปติฏฺิตํ. ขตฺติย, ภูมิปาล มหาราช, ตฺวํ มม วจนํ สเจ สทฺทหสิ, สุตโสมํ คณฺหาหิ, เตน สุตโสเมน ยฺํ ยชิตฺวาน เอวํ สคฺคํ คมิสฺสสิ. โภ, โปริสาท มุสาวาทิ ตยา มยฺหํ ‘‘สกลชมฺพุทีเป ราชาโน อาเนตฺวา พหิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ ปฏิสฺสุตํ, อิทานิ เย วา เต วา ทุพฺพลราชาโน อาเนสิ, ชมฺพุทีปตเล เชฏฺกํ สุตโสมราชานํ สเจ ตฺวํ น อาเนสฺสสิ, วจนํ เต มุสา นาม โหติ, ตสฺมา สุตโสมํ คณฺหาหีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา เทวตา ปพฺพชิตเวสํ อนฺตรธาเปตฺวา สเกน วณฺเณน อากาเส ตรุณสูริโย วิย ชลมานา อฏฺาสิ. โส ตสฺสา กถํ สุตฺวา รูปฺจ โอโลเกตฺวา ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ อาห. อิมสฺมึ ‘‘รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา’’ติ. โส ‘‘ทิฏฺา เม อตฺตโน, เทวตา’’ติ ตุสฺสิตฺวา, ‘‘สามิ เทวราช, มา สุตโสมสฺส การณา จินฺตยิ, อตฺตโน รุกฺขํ ปวิสา’’ติ อาห. เทวตา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว รุกฺขํ ปาวิสิ. ตสฺมึ ขเณ สูริโย อตฺถงฺคโต, จนฺโท อุคฺคโต. โปริสาโท เวทงฺคกุสโล นกฺขตฺตจารํ ชานาติ. โส นภํ โอโลเกตฺวา ‘‘สฺเว ผุสฺสนกฺขตฺตํ ภวิสฺสติ, สุตโสโม นฺหายิตุํ อุยฺยานํ คมิสฺสติ, ตตฺถ คณฺหิสฺสามิ, อารกฺโข ปนสฺส มหา ภวิสฺสติ, สมนฺตา ติโยชนํ สกลนครวาสิโน รกฺขนฺตา จริสฺสนฺติ, อสํวิหิเต อารกฺเข ปมยาเมเยว มิคาชินํ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มงฺคลโปกฺขรณึ โอตริตฺวา สฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา โปกฺขรณึ โอรุยฺห ปทุมปตฺเตน สีสํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺส เตเชน มจฺฉกจฺฉปาทโย โอสกฺกิตฺวา อุทกปริยนฺเต วคฺควคฺคา หุตฺวา วิจรึสุ.

กุโต ปน ลทฺโธยํ เตโชติ? ปุพฺพโยควเสน. โส หิ กสปทสพลสฺส กาเล ขีรสลากภตฺตํ ปฏฺเปสิ, เตน มหาถาโม อโหสิ. อคฺคิสาลฺจ กาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส สีตวิโนทนตฺถํ อคฺคิฺจ ทารูนิ จ ทารุจฺเฉทนวาสิฺจ ผรสุฺจ อทาสิ, เตน เตชวา อโหสิ.

เอวํ ตสฺมึ อนฺโตอุยฺยานํ คเตเยว พลวปจฺจูสสมเย สมนฺตา ติโยชนํ อารกฺขํ คณฺหึสุ. ราชาปิ ปาโตว ภุตฺตปาตราโส อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวรคโต จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต นครโต นิกฺขมิ. ตทา ตกฺกสิลโต นนฺโท นาม พฺราหฺมโณ จตสฺโส สตารหา คาถาโย อาทาย วีสติโยนชสตํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา ตํ นครํ ปตฺวา ทฺวารคาเม วสิตฺวา สูริเย อุคฺคเต นครํ ปวิสนฺโต ราชานํ ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ชยาเปสิ. ราชา ทิสาจกฺขุโก หุตฺวา คจฺฉนฺโต อุนฺนตปฺปเทเส ิตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปสาริตหตฺถํ ทิสฺวา หตฺถินา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ –

๓๙๖.

‘‘กิสฺมึ นุ รฏฺเ ตว ชาติภูมิ, อถ เกน อตฺเถน อิธานุปตฺโต;

อกฺขาหิ เม พฺราหฺมณ เอตมตฺถํ, กิมิจฺฉสี เทมิ ตยชฺช ปตฺถิต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – โภ พฺราหฺมณ, ตว ชาติภูมิ กิสฺมึ รฏฺเ อตฺถิ นุ, เกน อตฺเถน ปโยชเนน เหตุภูเตน อิท อิมสฺมึ นคเร อนุปฺปตฺโต, โภ พฺราหฺมณ, มยา ปุจฺฉิโต โส ตฺวํ เอตมตฺถํ เอตํ ปโยชนํ เม มยฺหํ อกฺขาหิ กเถหิ, ตยา ปตฺถิตวตฺถุํ เต ตุยฺหํ อชฺช อิทานิ ททามิ, กึ วตฺถุํ อิจฺฉสีติ.

อถ นํ โส คาถมาห –

๓๙๗.

‘‘คาถา จตสฺโส ธรณีมหิสฺสร, สุคมฺภีรตฺถา วรสาครูปมา;

ตเวว อตฺถาย อิธาคโตสฺมิ, สุโณหิ คาถา ปรมตฺถสํหิตา’’ติ.

ตตฺถ ธรณีมหิสฺสราติ ภูมิปาล จตสฺโส คาถา กึ ภูตา?. สุคมฺภีรตฺถา วรสาครูปมา, ตเวว ตว เอว อตฺถาย อิธ านํ อนุปฺปตฺโต อสฺมิ ภวามิ. สุโณหีติ กสฺสปทสพเลน เทสิตา ปรมตฺถสํหิตา อิมา สตารหา คาถาโย สุโณหีติ อตฺโถ.

อิติ วตฺวา, ‘‘มหาราช, อิมา กสฺสปทสพเลน เทสิตา จตสฺโส สตารหา คาถาโย ‘‘ตุมฺเห สุตวิตฺตกา’ติ สุตฺวา ตุมฺหากํ เทเสตุํ อาคโตมฺหี’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺมานโส หุตฺวา, ‘‘อาจริย, สุฏฺุ เต อาคตํ, มยา ปน นิวตฺติตุํ น สกฺกา, อชฺช ผุสฺสนกฺขตฺตโยเคน สีสํ นฺหายิตุํ อาคโตมฺหิ, อหํ ปุนทิวเส อาคนฺตฺวา โสสฺสามิ, ตฺวํ มา อุกฺกณฺี’’ติ วตฺวา ‘‘คจฺฉถ พฺราหฺมณสฺส อสุกเคเห สยนํ ปฺาเปตฺวา ฆาสจฺฉาทนํ สํวิทหถา’’ติ อมจฺเจ อาณาเปตฺวา อุยฺยานํ ปาวิสิ. ตํ อฏฺารสหตฺเถน ปากาเรน ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ. ตํ อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏนฺตา สมนฺตา หตฺถิโน ปริกฺขิปึสุ, ตโต อสฺสา, ตโต รถา, ตโต ธนุคฺคหา, ตโต ปตฺตีติ, สงฺขุภิตมหาสมุทฺโท วิย อุนฺนาเทนฺโต พลกาโย อโหสิ. อถ ราชา โอฬาริกานิ อาภรณานิ โอมุฺจิตฺวา มสฺสุกมฺมํ กาเรตฺวา อุพฺพฏฺฏิตสรีโร โปกฺขรณิยา อนฺโต ราชวิภเวน นฺหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อุทกคฺคหณสาฏเกน นิวาเสตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺส ทุสฺสคนฺธมาลาลงฺกาเร อุปนยึสุ. โปริสาโท จินฺเตสิ – ‘‘ราชา อลงฺกตกาเล ภาริโก ภวิสฺสติ, สลฺลหุกกาเลเยว นํ คณฺหิสฺสามี’’ติ. โส นทนฺโต วคฺคนฺโต อุทเก มจฺฉํ อาลุเฬนฺโต วิชฺชุลตา วิย มตฺถเก ขคฺคํ ปริพฺภเมนฺโต ‘‘อหํ อเร มนุสฺสโจโร โปริสาโท’’ติ นามํ สาเวตฺวา องฺคุลึ นลาเฏ เปตฺวา อุทกา อุตฺตริ. ตสฺส สทฺทํ สุตฺวาว หตฺถาโรหา หตฺถีหิ, อสฺสาโรหา อสฺเสหิ, รถาโรหา รเถหิ ภสฺสึสุ. พลกาโย คหิตคหิตานิ อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา อุเรน ภูมิยํ นิปชฺชิ.

โปริสาโท สุตโสมํ อุกฺขิปิตฺวา คณฺหิ, เสสราชาโน ปาเท คเหตฺวา อโธสีสเก กตฺวา ปณฺหิยา สีสํ ปหรนฺโต คจฺฉติ. โพธิสตฺตํ ปน อุปคนฺตฺวา โอนโต อุกฺขิปิตฺวา ขนฺเธ นิสีทาเปสิ. โส ‘‘ทฺวาเรน คมนํ ปปฺโจ ภวิสฺสตี’’ติ สมฺมุขฏฺาเนเยว อฏฺารสหตฺถํ ปาการํ ลงฺฆิตฺวา ปุรโต คลิตมทมตฺตวารณกุมฺเภ อกฺกมิตฺวา ปพฺพตกูฏานิ ปาเตนฺโต วิย วาตชวานํ อสฺสตรานํ ปิฏฺเ อกฺกมนฺโต ปาเตตฺวา รถธุรรถสีเสสุ อกฺกมิตฺวา ภมิกํ ภมนฺโต วิย นีลผลกานิ นิคฺโรธปตฺตานิ มทฺทนฺโต วิย เอกเวเคเนว ติโยชนมตฺตํ มคฺคํ คนฺตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ สุตโสมสฺสตฺถาย ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต’’ติ โอโลเกตฺวา กฺจิ อทิตฺวา สณิกํ คจฺฉนฺโต สุตโสมสฺส เกเสหิ อุทกพินฺทูนิ อตฺตโน อุเร ปติตานิ ทิสฺวา ‘‘มรณสฺส อภายนฺโต นาม นตฺถิ, สุตโสโมปิ มรณภเยน โรทติ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๓๙๘.

‘‘น เว รุทนฺติ มติมนฺโต สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

ทีปฺหิ เอตํ ปรมํ นรานํ, ยํ ปณฺฑิตา โสกนุทา ภวนฺติ.

๓๙๙.

‘‘อตฺตานํ าตี อุทาหุ ปุตฺตทารํ, ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ;

กิเมว ตฺวํ สุตโสมานุตปฺเป, โกรพฺยเสฏฺ วจนํ สุโณม เตต’’นฺติ.

ตตฺถ, โภ สุตโสม มหาราช, เย ปณฺฑิตา กึ ภูตา? มติมนฺโต อตฺถานตฺถํ การณาการณํ ชานนปฺาย สมนฺนาคตา, สปฺปฺา วิจรณปฺาย สมนฺนาคตา, พหุสฺสุตา พหุสฺสุตธรา พหุฏฺานจินฺติโน พหุการณจินฺตนสีลา, เต ปณฺฑิตา มรณภเย อุปฺปนฺเน สติ ภีตา หุตฺวา เว เอกนฺเตน น รุทนฺติ น ปริเทวนฺติ. ทีปํ หีติ, โภ สุตโสม มหาราช หิ กสฺมา ปน วทามิ, มหาสมุทฺเท ภินฺนนาวานํ วาณิชกานํ ชนานํ ปติฏฺาภูตํ มหาทีปํ อิว, เอวมฺปิ ตถา เอตํ ปณฺฑิตํ อปฺปฏิสรณานํ นรานํ ปรมํ. ยํ เยน การเณน เย ปณฺฑิตา โสกีนํ ชนานํ โสกนุทา ภวนฺติ, โภ สุตโสม มหาราช, ตฺวํ มรณภเยน ปริเทวีติ มฺเ มฺามิ. อตฺตานนฺติ, โภ สุตโสม มหาราช, อตฺตเหตุ อุทาหุ าติเหตุ ปุตฺตทารเหตุ อุทาหุ ธฺธนรชตชาตรูปเหตุ กิเมว ตฺวํ กิเมว ธมฺมชาตํ ตฺวํ อนุตปฺเป อนุตปฺเปยฺยาสิ. โกรพฺยเสฏฺ กุรุรฏฺวาสีนํ เสฏฺ อุตฺตม, โภ มหาราช, เอตํ ตว วจนํ สุโณมาติ.

สุตโสโม อาห –

๔๐๐.

‘‘เนวาหมตฺตานมนุตฺถุนามิ, น ปุตฺตทารํ น ธนํ น รฏฺํ;

สตฺจ ธมฺโม จริโต ปุราโณ, ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺสานุตปฺเป.

๔๐๑.

‘‘กโต มยา สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ เนวาหมตฺตานมนุตฺถุนามีติ อหํ ตาว อตฺตตฺถาย เนว โรทามิ น โสจามิ, อิเมสมฺปิ ปุตฺตาทีนํ อตฺถาย น โรทามิ น โสจามิ, อปิจ โข ปน สตํ ปณฺฑิตานํ จริโต ปุราณธมฺโม อตฺถิ, ยํ สงฺครํ กตฺวา ปจฺฉา อนุตปฺปนํ นาม, ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺส อหํ อนุโสจามีติ อตฺโถ. สจฺจานุรกฺขีติ สจฺจํ อนุรกฺขนฺโต. โส หิ พฺราหฺมโณ ตกฺกสิลโต กสฺสปทสพเลน เทสิตา จตสฺโส สตารหา คาถาโย อาทาย อาคโต, ตสฺสาหํ อาคนฺตุกวตฺตํ กาเรตฺวา ‘‘นฺหตฺวา อาคโต สุณิสฺสามิ, ยาว มมาคมนา อาคเมหี’’ติ สงฺครํ กตฺวา อาคโต, ตฺวํ ตา คาถาโย โสตุํ อทตฺวาว มํ คณฺหิ. สเจ มํ วิสฺสชฺเชสิ, ตํ ธมฺมํ สุตฺวา สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺสามีติ วทติ.

อถ นํ โปริสาโท อาห –

๔๐๑.

‘‘เนวาหเมตํ อภิสทฺทหามิ, สุขี นโร มจฺจุมุขา ปมุตฺโต;

อมิตฺตหตฺถํ ปุนราวเชยฺย, โกรพฺยเสฏฺ น หิ มํ อุเปสิ.

๔๐๓.

‘‘มุตฺโต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

มธุรํ ปิยํ ชีวิตํ ลทฺธ ราช, กุโต ตุวํ เอหิสิ เม สกาส’’นฺติ.

ตตฺถ สุขีติ สุขปฺปตฺโต หุตฺวา. มจฺจุมุขา ปมุตฺโตติ มาทิสสฺส โจรสฺส หตฺถโต มุตฺตตาย มรณมุขา มุตฺโต นาม หุตฺวา อมิตฺตหตฺถํ ปุนราวเชยฺย อาคจฺเฉยฺย, อหํ เอตํ วจนํ เนว อภิสทฺทหามิ, โกรพฺยเสฏฺ ตฺวํ มม สนฺติกํ น หิ อุเปสิ. มุตฺโตติ สุตโสม ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถโต มุตฺโต. สกํ มนฺทิรนฺติ ราชธานิเคหํ คนฺตฺวา. กามกามีติ กามํ กามยมาโน. ลทฺธาติ อติวิย ปิยํ ชีวิตํ ลภิตฺวา ตุวํ เม มม สนฺติเก กุโต เกน นาม การเณน เอหิสิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต สีโห วิย อสมฺภิโต อาห –

๔๐๔.

‘‘มตํ วเรยฺย ปริสุทฺธสีโล, น ชีวิตํ ครหิโต ปาปธมฺโม;

น หิ ตํ นรํ ตายติ ทุคฺคตีหิ, ยสฺสาปิ เหตุ อลิกํ ภเณยฺย.

๔๐๕.

‘‘สเจปิ วาโต คิริมาวเหยฺย, จนฺโท จ สูริโย จ ฉมา ปเตยฺยุํ;

สพฺพา จ นชฺโช ปฏิโสตํ วเชยฺยุํ, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺยํ.

๔๐๖.

‘‘นภํ ผเลยฺย อุทธีปิ สุสฺเส, สํวตฺตเย ภูตธรา วสุนฺธรา;

สิลุจฺจโย เมรุ สมูลมุปฺปเต, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ มตํ วเรยฺยาติ โปริสาท โย นโร ปริสุทฺธสีโล ชีวิตเหตุ อณุมตฺตมฺปิ ปาปํ น กโรติ, สีลสมฺปนฺโน หุตฺวา วเรยฺย ตํ มรณํ อิจฺเฉยฺย, ครหิโต ปาปธมฺโม ตํ ชีวิตํ น เสยฺโย, ทุสฺสีโล ปุคฺคโล ยสฺสาปิ เหตุ อตฺตาทิโนปิ เหตุ อลิกํ วจนํ ภเณยฺย, ตํ นรํ เอวรูปํ ทุคฺคตีหิ ตํ อลิกํ น ตายเต. สเจปิ วาโต คิริมาวเหยฺยาติ, สมฺม โปริสาท, ตยา สทฺธึ เอกาจริยกุเล สิกฺขิโต เอวรูโป สหายโก หุตฺวา อหํ ชีวิตเหตุ มุสา น กเถมิ, กึ น สทฺทหสิ. สเจ ปุรตฺถิมาทิเภโท วาโต อุฏฺาย มหนฺตํ คิรึ ตูลปิจุํ วิย อากาเส อาวเหยฺย, จนฺโท จ สูริโย จ อตฺตโน อตฺตโน วิมาเนน สทฺธึ ฉมา ปถวิยํ ปเตยฺยุํ, สพฺพาปิ นชฺโช ปติโสตํ วเชยฺยุํ, โภ โปริสาท, เอวรูปํ วจนํ สเจ ภเณยฺย, ตํ สทฺทหิตพฺพํ, อหํ มุสา ภเณยฺยํ อิติ วจนํ ตุยฺหํ ชเนหิ วุตฺตํ, น ตฺเวว ตํ สทฺทหิตพฺพํ.

เอวํ วุตฺเตปิ โส น สทฺทหิเยว. อถ โพธิสตฺโต ‘‘อยํ มยฺหํ น สทฺทหติ, สปเถนปิ นํ สทฺทหาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, ขนฺธโต ตาว มํ โอตาเรหิ, สปถํ กตฺวา ตํ สทฺทหาเปสฺสามี’’ติ วุตฺเต เตน โอตาเรตฺวา ภูมิยํ ปิโต สปถํ กโรนฺโต อาห –

๔๐๗.

‘‘อสิฺจ สตฺติฺจ ปรามสามิ, สปถมฺปิ เต สมฺม อหํ กโรมิ;

ตยา ปมุตฺโต อนโณ ภวิตฺวา, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – สมฺม โปริสาท, สเจ อิจฺฉสิ, เอวรูเปหิ อาวุเธหิ สํวิหิตารกฺเข ขตฺติยกุเล เม นิพฺพตฺติ นาม มา โหตูติ อสิฺจ สตฺติฺจ ปรามสามิ. สเจ อฺเหิ ราชูหิ อกตฺตพฺพํ อฺํ วา ยํ อิจฺฉสิ, ตํ สปถมฺปิ เต, สมฺม, อหํ กโรมิ. ยถาหํ ตยา ปมุตฺโต คนฺตฺวา พฺราหฺมณสฺส อนโณ หุตฺวา สจฺจมนุรกฺขนฺโต ปุนราคมิสฺสามีติ.

ตโต โปริสาโท ‘‘อยํ สุตโสโม ขตฺติเยหิ อกตฺตพฺพํ สปถํ กโรติ, กึ เม อิมินา, เอส เอตุ วา มา วา, อหมฺปิ ขตฺติยราชา, มเมว พาหุโลหิตํ คเหตฺวา เทวตาย พลิกมฺมํ กริสฺสามิ, อยํ อติวิย กิลมตี’’ติ จินฺเตตฺวา –

๔๐๘.

‘‘โย เต กโต สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชสฺสู’’ติ.

ตตฺถ ปุนราวชสฺสูติ ปุน อาคจฺเฉยฺยาสิ.

อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘สมฺม, มา จินฺตยิ, จตสฺโส สตารหา คาถา สุตฺวา ธมฺมกถิกสฺส ปูชํ กตฺวา ปาโตวาคมิสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๐๙.

‘‘โย เม กโต สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

อถ นํ โปริสาโท, ‘‘มหาราช, ตุมฺเห ขตฺติเยหิ อกตฺตพฺพํ สปถํ กริตฺถ, ตํ อนุสฺสเรยฺยาถา’’ติ วตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, ตฺวํ มํ ทหรกาลโต ปฏฺาย ชานาสิ, หาเสนปิ เม มุสา น กถิตปุพฺพา, โสหํ อิทานิ รชฺเช ปติฏฺิโต ธมฺมาธมฺมํ ชานนฺโต กึ มุสา กเถสฺสามิ, สทฺทหสิ มยฺหํ, อหํ เต สฺเว พลิกมฺมํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ สทฺทหาปิโต ‘‘เตน หิ คจฺฉ, มหาราช, ตุมฺเหสุ อนาคเตสุ พลิกมฺมํ น ภวิสฺสติ, เทวตาปิ ตุมฺเหหิ วินา น สมฺปฏิจฺฉติ, มา เม พลิกมฺมสฺส อนฺตรายํ กริตฺถา’’ติ มหาสตฺตํ อุยฺโยเชสิ. โส ราหุมุขา มุตฺตจนฺโท วิย นาคพโล ถามสมฺปนฺโน ขิปฺปเมว นครํ สมฺปาปุณิ. เสนาปิสฺส ‘‘สุตโสโม ราชา ปณฺฑิโต มธุรธมฺมกถิโก เอกํ ทฺเว กถา กเถตุํ ลภนฺโต โปริสาทํ ทเมตฺวา สีหมุขา มุตฺตมตฺตวารโณ วิย อาคมิสฺสติ, ‘อิเม ราชานํ โปริสาทสฺส ทตฺวา อาคตา’ติ มหาชโน ครหิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา พหินคเรเยว ขนฺธาวารํ กตฺวา ิตา ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กจฺจิ, มหาราช, โปริสาเทน กิลมิโต’’ติ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘โปริสาเทน มยฺหํ มาตาปิตูหิปิ ทุกฺกรํ กตํ, ตถารูโป นาม จณฺโฑ สาหสิโก โปริสาโท มม ธมฺมกถํ สุตฺวา มํ วิสฺสชฺเชสี’’ติ วุตฺเต ราชานํ อลงฺกริตฺวา หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเปตฺวา ปริวาเรตฺวา นครํ ปาวิสิ. ตํ ทิสฺวา สพฺเพ นาครา ตุสฺสึสุ.

โสปิ ธมฺมครุตาย ธมฺมโสณฺฑตาย มาตาปิตโร อทิสฺวาว ‘‘ปจฺฉาปิ เน ปสฺสิสฺสามี’’ติ ราชนิเวสนํ ปวิสิตฺวา ราชาสเน นิสีทิตฺวา พฺราหฺมณํ ปกฺโกสาเปตฺวา มสฺสุกมฺมาทีนิสฺส อาณาเปตฺวา ตํ กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตํ วตฺถาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ กตฺวา อาเนตฺวา ทสฺสิตกาเล สยํ ปจฺฉา นฺหตฺวา ตสฺส อตฺตโน โภชนํ ทาเปตฺวา ตสฺมึ ภุตฺเต สยํ ภุฺชิตฺวา ตํ มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา ธมฺมครุกตาย อสฺส คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กตฺวา สยํ นีเจ อาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ มยฺหํ อาภตา สตารหา คาถา สุโณม อาจริยา’’ติ ยาจิ. ตมตฺถํ ทีเปนฺโต สตฺถา คาถมาห –

๔๑๐.

‘‘มุตฺโต จ โส โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวาน ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ;

สุโณมิ คาถาโย สตารหาโย, ยา เม สุตา อสฺสุ หิตาย พฺรหฺเม’’ติ.

ตตฺถ เอตทโวจาติ เอตํ อโวจ.

อถ พฺราหฺมโณ โพธิสตฺเตน ยาจิตกาเล คนฺเธหิ หตฺเถ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ปสิพฺพกา มโนรมํ โปตฺถกํ นีหริตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา ‘‘เตน หิ, มหาราช, กสฺสปทสพเลน เทสิตา ราคมทาทินิมฺมทนา อมตมหานิพฺพานสมฺปาปิกา จตสฺโส สตารหา คาถาโย สุโณหี’’ติ วตฺวา โปตฺถกํ โอโลเกนฺโต อาห –

๔๑๑.

‘‘สกิเทว สุตโสม, สพฺภิ โหติ สมาคโม;

สา นํ สงฺคติ ปาเลติ, นาสพฺภิ พหุ สงฺคโม.

๔๑๒.

‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;

สตํ สทฺธมฺมมฺาย, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.

๔๑๓.

‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา, อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;

สตฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ, สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ.

๔๑๔.

‘‘นภฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตฺจ ธมฺโม อสตฺจ ราชา’’ติ.

ตตฺถ สกิเทวาติ เอกวารเมว. สพฺภีติ สปฺปุริเสหิ. สา นนฺติ สา สพฺภิ สปฺปุริเสหิ สงฺคติ สมาคโม เอกวารํ ปวตฺโตปิ ตํ ปุคฺคลํ ปาเลติ รกฺขติ. นาสพฺภีติ อสปฺปุริเสหิ ปน พหุ สุจิรมฺปิ กโต สงฺคโม เอกฏฺาเน นิวาโส น ปาเลติ, น ถาวโร โหตีติ อตฺโถ. สมาเสถาติ สทฺธึ นิสีเทยฺย, สพฺเพปิ อิริยาปเถ ปณฺฑิเตเหว สทฺธึ ปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ. สนฺถวนฺติ มิตฺตสนฺถวํ. สตํ สทฺธมฺมนฺติ ปณฺฑิตานํ พุทฺธาทีนํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมสงฺขาตํ สทฺธมฺมํ. เสยฺโยติ เอตํ ธมฺมํ ตฺวา วฑฺฒิเยว โหติ, หานิ นาม นตฺถีติ อตฺโถ. ราชรถาติ ราชูนํ อาโรหนียรถา. สุจิตฺตาติ สุปริกมฺมกตา. สพฺภิ ปเวทยนฺตีติ พุทฺธาทโย สนฺโต ‘‘สพฺภี’’ติ สงฺขํ คตํ โสภนํ อุตฺตมํ นิพฺพานํ ปเวเทนฺติ โถเมนฺติ, โส นิพฺพานสงฺขาโต สตํ ธมฺโม ชรํ น อุเปติ น ชีรติ. นภนฺติ อากาโส. ทูเรติ ปถวี หิ สปฺปติฏฺา สคหณา, อากาโส นิราลมฺโพ อปฺปติฏฺโ, อิติ อุโภ เอเต เอกาพทฺธาปิ วิสํโยคฏฺเน อนุปลิตฺตฏฺเน จ ทูเร นาม โหนฺติ. ปารนฺติ โอริมตีรโต ปรตีรํ. ตทาหูติ ตํ อาหุ.

อิติ พฺราหฺมโณ จตสฺโส สตารหา คาถา กสฺสปทสพเลน เทสิตนิยาเมน เทเสตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สปฺผลํ วต เม อาคมน’’นฺติ ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา ‘‘อิมา คาถา เนว สาวกภาสิตา, น อิสิภาสิตา, น เกนจิ ภาสิตา, สพฺพฺุนาว ภาสิตา, กึ นุ โข อคฺฆนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อิมาสํ สกลมฺปิ จกฺกวาฬํ ยาว พฺรหฺมโลกา สตฺตรตนปุณฺณํ กตฺวา ททมาโนปิ เนว อนุจฺฉวิกํ กาตุํ สกฺโกติ, อหํ โข ปนสฺส ติโยชนสเต กุรุรฏฺเ สตฺตโยชนิเก อินฺทปตฺถนคเร รชฺชํ ทาตุํ ปโหมิ, อตฺถิ นุ ขฺวสฺส รชฺชํ กาเรตุํ ภาคฺย’’นฺติ องฺควิชฺชานุภาเวน โอโลเกนฺโต นาทฺทส. ตโต เสนาปติฏฺานาทีนิ โอโลเกนฺโต เอกคามโภชกมตฺตสฺสปิ ภาคฺยํ อทิสฺวา ธนลาภสฺส โอโลเกนฺโต โกฏิธนโต ปฏฺาย โอโลเกตฺวา จตุนฺนํเยว กหาปณสหสฺสานํ ภาคฺยํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตเกน นํ ปูเชสฺสามี’’ติ จตสฺโส สหสฺสตฺถวิกา ทาเปตฺวา, ‘‘อาจริย, ตุมฺเห อฺเสํ ขตฺติยานํ อิมา คาถา เทเสตฺวา กิตฺตกํ ธนํ ลภถา’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘เอเกกาย คาถาย สตํ สตํ, มหาราช, เตเนว ตา สตารหา นาม ชาตา’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘อาจริย, ตฺวํ อตฺตนา คเหตฺวา วิกฺเกยฺยภณฺฑสฺส อคฺฆมฺปิ น ชานาสิ, อิโต ปฏฺาย เอเกกา คาถา สหสฺสารหา นาม โหนฺตู’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๑๕.

‘‘สหสฺสิยา อิมา คาถา, นหิมา คาถา สตารหา;

จตฺตาริ ตฺวํ สหสฺสานิ, ขิปฺปํ คณฺหาหิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – พฺราหฺมณ, อิมา คาถา สหสฺสิยา สหสฺสารหา, อิมา คาถา สตารหา น หิ โหนฺตุ, พฺราหฺมณ, ตฺวํ จตฺตาริ สหสฺสานิ ขิปฺปํ คณฺหาติ.

อถสฺส เอกํ สุขยานกํ ทตฺวา ‘‘พฺราหฺมณํ โสตฺถินา เคหํ สมฺปาเปถา’’ติ ปุริเส อาณาเปตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. ตสฺมึ ขเณ ‘‘สุตโสมรฺา สตารหา คาถา สหสฺสารหา กตฺวา ปูชิตา สาธุ สาธู’’ติ มหาสาธุการสทฺโท อโหสิ. ตสฺส มาตาปิตโร ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ สทฺโท นาเมสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ยถาภูตํ สุตฺวา อตฺตโน ธนโลภตาย มหาสตฺตสฺส กุชฺฌึสุ. โสปิ พฺราหฺมณํ อุยฺโยเชตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺส ปิตา ‘‘กถํ, ตาต, เอวรูปสฺส สาหสิกสฺส โจรสฺส หตฺถโต มุตฺโตสี’’ติ ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ อกตฺวา อตฺตโน ธนโลภตาย ‘‘สจฺจํ กิร, ตาต, ตยา จตสฺโส คาถา สุตฺวา จตฺตาริ สหสฺสานิ ทินฺนานี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุตฺเต คาถมาห –

๔๑๖.

‘‘อาสีติยา นาวุติยา จ คาถา, สตารหา จาปิ ภเวยฺย คาถา;

ปจฺจตฺตเมว สุตโสม ชานหิ, สหสฺสิยา นาม กา อตฺถิ คาถา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – คาถา นาม, ตาต, อาสีติยา จ นาวุติยา จ สตารหา จาปิ ภเวยฺย, ปจฺจตฺตเมว อตฺตนาว ชานาหิ, สหสฺสารหา นาม คาถา กา กสฺส สนฺติเก อตฺถีติ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘นาหํ, ตาต, ธเนน วุทฺธึ อิจฺฉามิ, สุเตน ปน อิจฺฉามี’’ติ สฺาเปนฺโต อาห –

๔๑๗.

‘‘อิจฺฉามิ โวหํ สุตวุทฺธิมตฺตโน, สนฺโตติ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;

อหํ สวนฺตีหิ มโหทธีว, น หิ ตาต ตปฺปามิ สุภาสิเตน.

๔๑๘.

‘‘อคฺคิ ยถา ติณกฏฺํ ทหนฺโต, น กปฺปตี สาคโรว นทีภิ;

เอวมฺปิ เต ปณฺฑิตา ราชเสฏฺ, สุตฺวา น ตปฺปนฺติ สุภาสิเตน.

๔๑๙.

‘‘สกสฺส ทาสสฺส ยทา สุโณมิ, คาถํ อหํ อตฺถวตึ ชนินฺท;

ตเมว สกฺกจฺจ นิสามยามิ, น หิ ตาต ธมฺเมสุ มมตฺถิ ติตฺตี’’ติ.

ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ. ‘‘สนฺโต’’ติ เอเต จ มํ ภเชยฺยุํ อิติ อิจฺฉามิ. สวนฺตีหีติ นทีหิ. สกสฺสาติ ติฏฺตุ, นนฺท, พฺราหฺมโณ, ยทา อหํ อตฺตโน ทาสสฺสปิ สนฺติเก สุโณมิ, ตาต, ธมฺเมสุ มม ติตฺติ น หิ อตฺถีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘มา มํ, ตาต, ธนเหตุ ปริภาสสิ, อหํ ธมฺมํ สุตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ สปถํ กตฺวา อาคโต, อิทานาหํ โปริสาทสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามิ, อิทํ เต รชฺชํ คณฺหถา’’ติ รชฺชํ นิยฺยาเทนฺโต คาถมาห –

๔๒๐.

‘‘อิทํ เต รฏฺํ สธนํ สโยคฺคํ, สกายุรํ สพฺพกามูปปนฺนํ;

กึ กามเหตุ ปริภาสสิ มํ, คจฺฉามหํ โปริสาทสฺส ตฺเต’’ติ.

ตตฺถ ตฺเตติ สนฺติเก.

ตสฺมึ สมเย ปิตุรฺโ หทยํ อุณฺหํ อโหสิ. โส, ‘‘ตาต สุตโสม, กึ นาเมตํ กเถสิ, มยํ จตุรงฺคินิยา เสนาย โจรํ คเหสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๒๑.

‘‘อตฺตานุรกฺขาย ภวนฺติ เหเต, หตฺถาโรหา รถิกา ปตฺติกา จ;

อสฺสาโรหา เย จ ธนุคฺคหาเส, เสนํ ปยุฺชาม หนาม สตฺตุ’’นฺติ.

ตตฺถ หนามาติ สเจ เอวํ ปโยชิตา เสนา ตํ คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, อถ นํ สกลรฏฺวาสิโน คเหตฺวา คนฺตฺวา หนาม สตฺตุํ, มาเรม ตํ อมฺหากํ ปจฺจามิตฺตนฺติ อตฺโถ.

อถ นํ มาตาปิตโร อสฺสุปุณฺณมุขา โรทมานา วิลปนฺตา, ‘‘ตาต, มา คจฺฉ, คนฺตุํ น ลพฺภา’’ติ ยาจึสุ. โสฬสสหสฺสา นาฏกิตฺถิโยปิ เสสปริชโนปิ ‘‘อมฺเห อนาเถ กตฺวา กุหึ คจฺฉสิ, เทวา’’ติ ปริเทวึสุ. สกลนคเร โกจิ สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สุตโสโม โปริสาทสฺส กิร ปฏิฺํ ทตฺวา อาคโต, อิทานิ จตสฺโส สตารหา คาถา สุตฺวา ธมฺมกถิกสฺส สกฺการํ กตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ปุนปิ กิร โจรสฺส สนฺติกํ คมิสฺสตี’’ติ สกลนครํ เอกโกลาหลํ อโหสิ. โสปิ มาตาปิตูนํ วจนํ สุตฺวา คาถมาห –

๔๒๒.

‘‘สุทุกฺกรํ โปริสาโท อกาสิ, ชีวํ คเหตฺวาน อวสฺสชี มํ;

ตํ ตาทิสํ ปุพฺพกิจฺจํ สรนฺโต, ทุพฺเภ อหํ ตสฺส กถํ ชนินฺทา’’ติ.

ตตฺถ ชีวํ คเหตฺวานาติ ชีวคฺคาหํ คเหตฺวา. ตํ ตาทิสนฺติ ตํ เตน กตํ ตถารูปํ. ปุพฺพกิจฺจนฺติ ปุริมํ อุปการํ. ชนินฺทาติ ปิตรํ อาลปติ.

โส มาตาปิตโร อสฺสาเสตฺวา, ‘‘อมฺม ตาตา, ตุมฺเห มยฺหํ มา จินฺตยิตฺถ, กตกลฺยาโณ อหํ, มม ฉกามสฺสคฺคิสฺสริยํ น ทุลฺลภ’’นฺติ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อาปุจฺฉิตฺวา เสสชนํ อนุสาสิตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๒๓.

‘‘วนฺทิตฺวา โส ปิตรํ มาตรฺจ, อนุสาสิตฺวา เนคมฺจ พลฺจ;

สจฺจวาที สจฺจานุรกฺขมาโน, อคมาสิ โส ยตฺถ โปริสาโท’’ติ.

ตตฺถ สจฺจานุรกฺขมาโนติ สจฺจํ อนุรกฺขมาโน. อคมาสีติ ตํ รตฺตึ นิเวสเนเยว วสิตฺวา ปุนทิวเส อรุณุคฺคมนเวลาย มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อาปุจฺฉิตฺวา เสสชนํ อนุสาสิตฺวา อสฺสุมุเขน นานปฺปการํ ปริเทวนฺเตน อิตฺถาคาราทินา มหาชเนน อนุคโต นครา นิกฺขมฺม ตํ ชนํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต มหามคฺเค ทณฺฑเกน ติริยํ เลขํ กฑฺฒิตฺวา ‘‘สเจ มยิ สิเนโห อตฺถิ, อิมํ มา อติกฺกมึสู’’ติ อาห. มหาชโน สีลวโต เตชวนฺตสฺส อาณํ อติกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺโต มหาสทฺเทน ปริเทวมาโน ตํ สีหวิชมฺภิเตน คจฺฉนฺตํ โอโลเกตฺวา ตสฺมึ ทสฺสนูปจารํ อติกฺกนฺเต เอกรวํ รวนฺโต นครํ ปาวิสิ. โสปิ อาคตมคฺเคเนว ตสฺส สนฺติกํ คโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อคมาสิ โส ยตฺถ โปริสาโท’’ติ.

ตโต โปริสาโท จินฺเตสิ – ‘‘สเจ มม สหาโย สุตโสโม อาคนฺตุกาโม, อาคจฺฉตุ, อนาคนฺตุกาโม, อนาคจฺฉตุ, รุกฺขเทวตา ยํ มยฺหํ อิจฺฉติ, ตํ กโรตุ, อิเม ราชาโน มาเรตฺวา ปฺจมธุรมํเสน พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ จิตกํ กตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา ‘‘องฺคารราสิ ตาว โหตู’’ติ ตสฺส สูเล ตจฺฉนฺตสฺส นิสินฺนกาเล สุตโสโม อาคโต. อถ นํ โปริสาโท ทิสฺวา ตุฏฺจิตฺโต, ‘‘สมฺม, คนฺตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจํ เต กต’’นฺติ ปุจฺฉิ. มหาสตฺโต, ‘‘อาม มหาราช, กสฺสปทสพเลน เทสิตา คาถา เม สุตา, ธมฺมกถิกสฺส จ สกฺกาโร กโต, ตสฺมา คนฺตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจํ กตํ นาม โหตี’’ติ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๔๒๔.

‘‘กโต มยา สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราคโตสฺมิ;

ยชสฺสุ ยฺํ ขาท มํ โปริสาทา’’ติ.

ตตฺถ ยชสฺสูติ มํ มาเรตฺวา เทวตาย วา ยฺํ ยชสฺสุ, มํสํ วา เม ขาทาหีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา โปริสาโท ‘‘อยํ ราชา น ภายติ, วิคตมรณภโย หุตฺวา กเถติ, กิสฺส นุ โข เอส อานุภาโว’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อฺํ นตฺถิ, อยํ ‘กสฺสปทสพเลน เทสิตา คาถา เม สุตา’ติ วทติ, ตาสํ เอเตน อาสุภาเวน ภวิตพฺพํ, อหมฺปิ ตํ กถาเปตฺวา ตา คาถาโย โสสฺสามิ, เอวํ อหมฺปิ นิพฺภโย ภวิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา คาถมาห –

๔๒๕.

‘‘น หายเต ขาทิตํ มยฺหํ ปจฺฉา, จิตกา อยํ ตาว สธูมิกาว;

นิทฺธูมเก ปจิตํ สาธุปกฺกํ, สุโณมิ คาถาโย สตารหาโย’’ติ.

ตตฺถ ขาทิตนฺติ ขาทนํ. ตํ ขาทนํ มยฺหํ ปจฺฉา วา ปุเร วา น ปริหายติ, ปจฺฉาปิ หิ ตฺวํ มยา ขาทิตพฺโพว. นิทฺธูมเก ปจิตนฺติ นิทฺธูเม นิชฺฌาเล อคฺคิมฺหิ ปกฺกมํสํ สาธุปกฺกํ นาม โหติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ โปริสาโท ปาปธมฺโม, อิมํ โถกํ นิคฺคเหตฺวา ลชฺชาเปตฺวา กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๔๒๖.

‘‘อธมฺมิโก ตฺวํ โปริสาทกาสิ, รฏฺา จ ภฏฺโ อุทรสฺส เหตุ;

ธมฺมฺจิมา อภิวทนฺติ คาถา, ธมฺโม จ อธมฺโม จ กุหึ สเมติ.

๔๒๗.

‘‘อธมฺมิกสฺส ลุทฺทสฺส, นิจฺจํ โลหิตปาณิโน;

นตฺถิ สจฺจํ กุโต ธมฺโม, กึ สุเตน กริสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมฺจิมาติ อิมา จ คาถา นวโลกุตฺตรธมฺมํ อภิวทนฺติ. กุหึ สเมตีติ กตฺถ สมาคจฺฉติ. ธมฺโม หิ สุคตึ ปาเปติ นิพฺพานํ วา, อธมฺโม ทุคฺคตึ. กุโต ธมฺโมติ วจีสจฺจมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต ธมฺโม. กึ สุเตนาติ ตฺวํ เอเตน สุเตน กึ กริสฺสสิ, มตฺติกาภาชนํ วิย หิ สีหวสาย อภาชนํ ตฺวํ ธมฺมสฺส.

โส เอวํ กถิเตปิ เนว กุชฺฌิ. กสฺมา? มหาสตฺตสฺส เมตฺตาภาวนาย มหตฺเตน. อถ นํ ‘‘กึ ปน สมฺม สุตโสม อหเมว อธมฺมิโก’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๒๘.

‘‘โย มํสเหตุ มิควํ จเรยฺย, โย วา หเน ปุริสมตฺตเหตุ;

อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ, กสฺมา โน อธมฺมิกํ พฺรูสิ มํ ตฺว’’นฺติ.

ตตฺถ กสฺมา โนติ เย ชมฺพุทีปตเล ราชาโน อลงฺกตปฏิยตฺตา มหาพลปริวารา รถวรคตา มิควํ จรนฺตา ติขิเณหิ สเรหิ มิเค วิชฺฌิตฺวา มาเรนฺติ, เต อวตฺวา กสฺมา ตฺวํ มฺเว อธมฺมิกนฺติ วทติ. ยทิ เต นิทฺโทสา, อหมฺปิ นิทฺโทโส เอวาติ ทีเปติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตสฺส ลทฺธึ ภินฺทนฺโต คาถมาห –

๔๒๙.

‘‘ปฺจ ปฺจ น ขา ภกฺขา, ขตฺติเยน ปชานตา;

อภกฺขํ ราช ภกฺเขสิ, ตสฺมา อธมฺมิโก ตุว’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – สมฺม โปริสาท, ขตฺติเยน นาม ขตฺติยธมฺมํ ชานนฺเตน ปฺจ ปฺจ หตฺถิอาทโย ทเสว สตฺตา มํสวเสน น ขา ภกฺขา น โข ขาทิตพฺพยุตฺตกา. ‘‘น โข’’ตฺเวว วา ปาโ. อปโร นโย ขตฺติเยน ขตฺติยธมฺมํ ชานนฺเตน ปฺจนเขสุ สตฺเตสุ สสโก, สลฺลโก, โคธา, กปิ กุมฺโมติ อิเม ปฺเจว สตฺตา ภกฺขิตพฺพยุตฺตกา, น อฺเ, ตฺวํ ปน อภกฺขํ มนุสฺสมํสํ ภกฺเขสิ, เตน อธมฺมิโกติ.

อิติ โส นิคฺคหํ ปตฺวา อฺํ นิสฺสรณํ อทิสฺวา อตฺตโน ปาปํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต คาถมาห –

๔๓๐.

‘‘มุตฺโต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

อมิตฺตหตฺถํ ปุนราคโตสิ, น ขตฺตธมฺเม กุสโลสิ ราชา’’ติ.

ตตฺถ น ขตฺตธมฺเมติ ตฺวํ ขตฺติยธมฺมสงฺขาเต นีติสตฺเถ น กุสโลสิ, อตฺตโน อตฺถานตฺถํ น ชานาสิ, อการเณเนว เต โลเก ปณฺฑิโตติ กิตฺติ ปตฺถฏา, อหํ ปน เต ปณฺฑิตภาวํ น ปสฺสามิ น ชานามิ, อติพาโลสีหิ วทติ.

อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘สมฺม, ขตฺติยธมฺเม กุสเลน นาม มาทิเสเนว ภวิตพฺพํ. อหฺหิ ตํ ชานามิ, น ปน ตทตฺถาย ปฏิปชฺชามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๓๑.

‘‘เย ขตฺตธมฺเม กุสลา ภวนฺติ, ปาเยน เต เนรยิกา ภวนฺติ;

ตสฺมา อหํ ขตฺตธมฺมํ ปหาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราคโตสฺมิ;

ยชสฺสุ ยฺํ ขาท มํ โปริสาทา’’ติ.

ตตฺถ กุสลาติ ตทตฺถาย ปฏิปชฺชนกุสลา. ปาเยนาติ เยภุยฺเยน เนรยิกา. เย ปน ตตฺถ น นิพฺพตฺตนฺติ, เต เสสาปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺติ.

โปริสาโท อาห –

๔๓๒.

‘‘ปาสาทวาสา ปถวีควาสฺสา, กามิตฺถิโย กาสิกจนฺทนฺจ;

สพฺพํ ตหึ ลภสิ สามิตาย, สจฺเจน กึ ปสฺสสิ อานิสํส’’นฺติ.

ตตฺถ ปาสาทวาสาติ, สมฺม สุตโสม, ตว ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิกา ทิพฺพวิมานกปฺปา ตโย นิวาสปาสาทา. ปถวีควาสฺสาติ ปถวี จ คาโว จ อสฺสา จ พหู. กามิตฺถิโยติ กามวตฺถุภูตา อิตฺถิโย. กาสิกจนฺทนฺจาติ กาสิกวตฺถฺจ โลหิตจนฺทนฺจ. สพฺพํ ตหินฺติ เอตฺจ อฺฺจ อุปโภคปริโภคํ สพฺพํ ตฺวํ ตหึ อตฺตโน นคเร สามิตาย ลภสิ, สามี หุตฺวา ยถา อิจฺฉสิ, ตถา ปริภุฺชิตุํ ลภติ, โส ตฺวํ สพฺพเมตํ ปหาย สจฺจานุรกฺขี อิธาคจฺฉนฺโต สจฺเจน กึ อานิสํสํ ปสฺสสีติ.

โพธิสตฺโต อาห –

๔๓๓.

‘‘เย เกจิเม อตฺถิ รสา ปถพฺยา, สจฺจํ เตสํ สาทุตรํ รสานํ;

สจฺเจ ิตา สมณพฺราหฺมณา จ, ตรนฺติ ชาติมรณสฺส ปาร’’นฺติ.

ตตฺถ สาทุตรนฺติ ยสฺมา สพฺเพปิ รสา สตฺตานํ สจฺจกาเลเยว ปณีตา มธุรา โหนฺติ, ตสฺมา สจฺจํ เตสํ สาทุตรํ รสานํ, ยสฺมา วา วิรติสจฺจวจีสจฺเจ ิตา ชาติมรณสงฺขาตสฺส เตภูมกวฏฺฏสฺส ปารํ อมตมหานิพฺพานํ ตรนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมาปิ ตํ สาทุตรนฺติ.

เอวมสฺส มหาสตฺโต สจฺเจ อานิสํสํ กเถสิ. ตโต โปริสาโท วิกสิตปทุมปุณฺณจนฺทสสฺสิริกเมวสฺส มุขํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ สุตโสโม องฺคารจิตกํ มฺจ สูลํ ตจฺฉนฺตํ ปสฺสติ, จิตฺตุตฺราสมตฺตมฺปิสฺส นตฺถิ, กึ นุ โข เอส สตารหคาถานํ อานุภาโว, อุทาหุ สจฺจสฺส, อฺสฺเสว วา กสฺสจี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๔๓๔.

‘‘มุตฺโต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

อมิตฺตหตฺถํ ปุนราคโตสิ, น หิ นูน เต มรณภยํ ชนินฺท;

อลีนจิตฺโต อสิ สจฺจวาที’’ติ.

มหาสตฺโตปิสฺส อาจิกฺขนฺโต อาห –

๔๓๕.

‘‘กตา เม กลฺยาณา อเนกรูปา, ยฺา ยิฏฺา เย วิปุลา ปสตฺถา;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๓๖.

‘‘กตา เม กลฺยาณา อเนกรูปา, ยฺา ยิฏฺา เย วิปุลา ปสตฺถา;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาท.

๔๓๗.

‘‘ปิตา จ มาตา จ อุปฏฺิตา เม, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๓๘.

‘‘ปิตา จ มาตา จ อุปฏฺิตา เม, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาท.

๔๓๙.

‘‘าตีสุ มิตฺเตสุ กตา เม การา, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๔๐.

‘‘าตีสุ มิตฺเตสุ กตา เม การา, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาท.

๔๔๑.

‘‘ทินฺนํ เม ทานํ พหุธา พหูนํ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๔๒.

‘‘ทินฺนํ เม ทานํ พหุธา พหูนํ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาทา’’ติ.

ตตฺถ กลฺยาณาติ กลฺยาณกมฺมา. อเนกรูปาติ ทานาทิวเสน อเนกวิธา. ยฺาติ ทสวิธทานวตฺถุปริจฺจาควเสน อติวิปุลา ปณฺฑิเตหิ ปสตฺถา ยฺาปิ ยิฏฺา ปวตฺติตา. ธมฺเม ิโตติ เอวํ ธมฺเม ปติฏฺิโต มาทิโส โก นาม มรณสฺส ภาเยยฺย. อนานุตปฺปนฺติ อนานุตปฺปมาโน. ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถนฺติ ทสวิธํ ราชธมฺมํ อโกเปตฺวา ธมฺเมเนว มยา รชฺชํ ปสาสิตํ. การาติ าตีสุ าติกิจฺจานิ, มิตฺเตสุ จ มิตฺตกิจฺจานิ. ทานนฺติ สวตฺถุกเจตนา. พหุธาติ พหูหิ อากาเรหิ. พหูนนฺติ น ปฺจนฺนํ, น ทสนฺนํ, สตสฺสปิ สหสฺสสฺสปิ สตสหสฺสสฺสปิ ทินฺนเมว. สนฺตปฺปิตาติ คหิตคหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา สุฏฺุ ตปฺปิตา.

ตํ สุตฺวา โปริสาโท ‘‘อยํ สุตโสมมหาราชา สปฺปุริโส าณสมฺปนฺโน มธุรธมฺมกถิโก, สจาหํ เอตํ ขาเทยฺยํ, มุทฺธา เม สตฺตธา ผเลยฺย, ปถวี วา ปน เม วิวรํ ทเทยฺยา’’ติ ภีตตสิโต หุตฺวา, ‘‘สมฺม, น ตฺวํ มยา ขาทิตพฺพรูโป’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๔๓.

‘‘วิสํ ปชานํ ปุริโส อเทยฺย, อาสีวิสํ ชลิตมุคฺคเตชํ;

มุทฺธาปิ ตสฺส วิผเลยฺย สตฺตธา, โย ตาทิสํ สจฺจวาทึ อเทยฺยา’’ติ.

ตตฺถ วิสนฺติ ตตฺเถว มารณสมตฺถํ หลาหลวิสํ. ชลิตนฺติ อตฺตโน วิสเตเชน ชลิตํ เตเนว อุคฺคเตชํ อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จรนฺตํ อาสีวิสํ วา ปน โส คีวาย คณฺเหยฺย.

อิติ โส มหาสตฺตํ ‘‘หลาหลวิสสทิโส ตฺวํ, โก ตํ ขาทิสฺสตี’’ติ วตฺวา คาถา โสตุกาโม ตํ ยาจิตฺวา เตน ธมฺมคารวชนนตฺถํ ‘‘เอวรูปานํ อนวชฺชคาถานํ ตฺวํ อภาชน’’นฺติ ปฏิกฺขิตฺโตปิ ‘‘สกลชมฺพุทีเป อิมินา สทิโส ปณฺฑิโต นตฺถิ, อยํ มม หตฺถา มุจฺจิตฺวา คนฺตฺวา ตา คาถา สุตฺวา ธมฺมกถิกสฺส สกฺการํ กตฺวา นลาเฏน มจฺจุํ อาทาย ปุนาคโต, อติวิย สาธุรูปา คาถา ภวิสฺสนฺตี’’ติ สุฏฺุตรํ สฺชาตธมฺมสฺสวนาทโร หุตฺวา ตํ ยาจนฺโต คาถมาห –

๔๔๔.

‘‘สุตฺวา ธมฺมํ วิชานนฺติ, นรา กลฺยาณปาปกํ;

อปิ คาถา สุณิตฺวาน, ธมฺเม เม รมเต มโน’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ‘‘สมฺม สุตโสม, นรา นาม ธมฺมํ สุตฺวา กลฺยาณมฺปิ ปาปกมฺปิ ชานนฺติ, อปฺเปว นาม ตา คาถา สุตฺวา มมปิ กุสลกมฺมปถธมฺเม มโน รเมยฺยา’’ติ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘โสตุกาโม ทานิ โปริสาโท, กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เตน หิ, สมฺม, สาธุกํ สุณาหี’’ติ ตํ โอหิตโสตํ กตฺวา นนฺทพฺราหฺมเณน กถิตนิยาเมเนว คาถานํ ถุตึ กตฺวา ฉสุ กามาวจรเทเวสุ เอกโกลาหลํ กตฺวา เทวตาสุ สาธุการํ ททมานาสุ โปริสาทสฺส ธมฺมํ กเถสิ –

๔๔๕.

‘‘สกิเทว มหาราช, สพฺภิ โหติ สมาคโม;

สา นํ สงฺคติ ปาเลติ, นาสพฺภิ พหุ สงฺคโม.

๔๔๖.

‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;

สตํ สนฺธมฺมมฺาย, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.

๔๔๗.

‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา, อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;

สตฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ, สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ.

๔๔๘.

‘‘นภฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตฺจ ธมฺโม อสตฺจ ราชา’’ติ.

ตสฺส เตน สุกถิตตฺตา เจว อตฺตโน ปณฺฑิตภาเวน จ ตา คาถา สพฺพฺุพุทฺธกถิตา วิยาติ จินฺเตนฺตสฺส สกลสรีรํ ปฺจวณฺณาย ปีติยา ปริปูริ, โพธิสตฺเต มุทุจิตฺตํ อโหสิ, เสตจฺฉตฺตทายกํ ปิตรํ วิย นํ อมฺิ. โส ‘‘อหํ สุตโสมสฺส ทาตพฺพํ กิฺจิ หิรฺสุวณฺณํ น ปสฺสามิ, เอเกกาย ปนสฺส คาถาย เอเกกํ วรํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๔๔๙.

‘‘คาถา อิมา อตฺถวตี สุพฺยฺชนา, สุภาสิตา ตุยฺห ชนินฺท สุตฺวา;

อานนฺทิ วิตฺโต สุมโน ปตีโต, จตฺตาริ เต สมฺม วเร ททามี’’ติ.

ตตฺถ อานนฺทีติ อานนฺทชาโต. เสสานิ ตสฺเสว เววจนานิ. จตฺตาโรปิ เหเต ตุฏฺาการา เอว.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘กึ นาม ตฺวํ วรํ ทสฺสสี’’ติ อปสาเทนฺโต คาถมาห –

๔๕๐.

‘‘โย นตฺตโน มรณํ พุชฺฌสิ ตุวํ, หิตาหิตํ วินิปาตฺจ สคฺคํ;

คิทฺโธ รเส ทุจฺจริเต นิวิฏฺโ, กึ ตฺวํ วรํ ทสฺสสิ ปาปธมฺม.

๔๕๑.

‘‘อหฺจ ตํ ‘เทหิ วร’นฺติ วชฺชํ, ตฺวํ จาปิ ทตฺวา น อวากเรยฺย;

สนฺทิฏฺิกํ กลหมิมํ วิวาทํ, โก ปณฺฑิโต ชานมุปพฺพเชยฺยา’’ติ.

ตตฺถ โยติ โย ตฺวํ ‘‘มรณธมฺโมหมสฺมี’’ติ อตฺตโนปิ มรณํ น พุชฺฌสิ น ชานาสิ, ปาปกมฺมเมว กโรสิ. หิตาหิตนฺติ ‘‘อิทํ เม กมฺมํ หิตํ, อิทํ อหิตํ, อิทํ วินิปาตํ เนสฺสติ, อิทํ สคฺค’’นฺติ น ชานาสิ. รเสติ มนุสฺสมํสรเส. วชฺชนฺติ วเทยฺยํ. น อวากเรยฺยาติ วาจาย ทตฺวา ‘‘เทหิ เม วร’’นฺติ วุจฺจมาโน น อวากเรยฺยาสิ น ทเทยฺยาสิ. อุปพฺพเชยฺยาติ โก อิมํ กลหํ ปณฺฑิโต อุปคจฺเฉยฺย.

ตโต โปริสาโท ‘‘นายํ มยฺหํ สทฺทหติ, สทฺทหาเปสฺสามิ น’’นฺติ คาถมาห –

๔๕๒.

‘‘น ตํ วรํ อรหติ ชนฺตุ ทาตุํ, ยํ วาปิ ทตฺวา น อวากเรยฺย;

วรสฺสุ สมฺม อวิกมฺปมาโน, ปาณํ จชิตฺวานปิ ทสฺสเมวา’’ติ.

ตตฺถ อวิกมฺปมาโนติ อโนลียมาโน.

อถ มหาสตฺโต ‘‘อยํ อติวิย สูโร หุตฺวา กเถติ, กริสฺสติ เม วจนํ, วรํ คณฺหิสฺสามิ, สเจ ปน ‘‘มนุสฺสมํสํ น ขาทิตพฺพ’นฺติ ปมเมว วรํ วารยิสฺสํ, อติวิย กิลมิสฺสติ, ปมํ อฺเ ตโย วเร คเหตฺวา ปจฺฉา เอตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๔๕๓.

‘‘อริยสฺส อริเยน สเมติ สขฺยํ, ปฺสฺส ปฺาณวตา สเมติ;

ปสฺเสยฺย ตํ วสฺสสตํ อโรคํ, เอตํ วรานํ ปมํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ อริยสฺสาติ อาจารอริยสฺส. สขฺยนฺติ สขิธมฺโม มิตฺตธมฺโม. ปฺาณวตาติ าณสมฺปนฺเนน. สเมตีติ คงฺโคทกํ วิย ยมุโนทเกน สํสนฺทติ. ธาตุโส หิ สตฺตา สํสนฺทนฺติ. ปสฺเสยฺย ตนฺติ สุตโสโม โปริสาทสฺส จิรํ ชีวิตํ อิจฺฉนฺโต วิย ปมํ อตฺตโน ชีวิตวรํ ยาจติ. ปณฺฑิตสฺส หิ ‘‘มม ชีวิตํ เทหี’’ติ วตฺตุํ อยุตฺตํ, อปิจ โส ‘มยฺหเมว เอส อาโรคฺยํ อิจฺฉตี’ติ จินฺเตตฺวา ตุสฺสิสฺสตีติ เอวมาห.

โสปิ ตํ สุตฺวาว ‘‘อยํ อิสฺสริยา ธํเสตฺวา อิทานิ มํสํ ขาทิตุกามสฺส เอวํ มหาอนตฺถกรสฺส มหาโจรสฺส มยฺหเมว ชีวิตํ อิจฺฉติ, อโห มม หิตกาโม’’ติ ตุฏฺมานโส วฺเจตฺวา วรสฺส คหิตภาวํ อชานิตฺวา ตํ วรํ ททมาโน คาถมาห –

๔๕๔.

‘‘อริยสฺส อริเยน สเมติ สขฺยํ, ปฺสฺส ปฺาณวตา สเมติ;

ปสฺสาสิ มํ วสฺสสตํ อโรคํ, เอตํ วรานํ ปมํ ททามี’’ติ.

ตตฺถ วรานนฺติ จตุนฺนํ วรานํ ปมํ.

ตโต โพธิสตฺโต อาห –

๔๕๕.

‘‘เย ขตฺติยาเส อิธ ภูมิปาลา, มุทฺธาภิสิตฺตา กตนามเธยฺยา;

น ตาทิเส ภูมิปตี อเทสิ, เอตํ วรานํ ทุติยํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ กตนามเธยฺยาติ มุทฺธนิ อภิสิตฺตตฺตาว ‘‘มุทฺธาภิสิตฺตา’’ติ กตนามเธยฺยา. น ตาทิเสติ ตาทิเส ขตฺติเย น อเทสิ มา ขาทิ.

อิติ โส ทุติยํ วรํ คณฺหนฺโต ปโรสตานํ ขตฺติยานํ ชีวิตวรํ คณฺหิ. โปริสาโทปิสฺส ททมาโน อาห –

๔๕๖.

‘‘เย ขตฺติยาเส อิธ ภูมิปาลา, มุทฺธาภิสิตฺตา กตนามเธยฺยา;

น ตาทิเส ภูมิปตี อเทมิ, เอตํ วรานํ ทุติยํ ททามี’’ติ.

กึ ปน เต เตสํ สทฺทํ สุณนฺติ, น สุณนฺตีติ? น สพฺพํ สุณนฺติ. โปริสาเทน หิ รุกฺขสฺส ธูมชาลอุปทฺทวภเยน ปฏิกฺกมิตฺวา อคฺคิ กโต, อคฺคิโน จ รุกฺขสฺส จ อนฺตเร นิสีทิตฺวา มหาสตฺโต เตน สทฺธึ กเถสิ, ตสฺมา สพฺพํ อสุตฺวา อุปฑฺฒุปฑฺฒํ สุณึสุ. เต ‘‘อิทานิ สุตโสโม โปริสาทํ ทเมสฺสติ, มา ภายถา’’ติ อฺมฺํ สมสฺสาเสสุํ. ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต อิมํ คาถมาห –

๔๕๗.

‘‘ปโรสตํ ขตฺติยา เต คหีตา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

สเก เต รฏฺเ ปฏิปาทยาหิ, เอตํ วรานํ ตติยํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ ปโรสตนฺติ อติเรกสตํ. เต คหีตาติ ตยา คหิตา. ตลาวุตาติ หตฺถตเลสุ อาวุตา.

อิติ มหาสตฺโต ตติยํ วรํ คณฺหนฺโต เตสํ ขตฺติยานํ สกรฏฺนิยฺยาตนวรํ คณฺหิ. กึการณา? โส อขาทนฺโตปิ เวรภเยน สพฺเพ เต ทาเส กตฺวา อรฺเเยว วาเสยฺย, มาเรตฺวา วา ฉฑฺเฑยฺย, ปจฺจนฺตํ เนตฺวา วา วิกฺกิเณยฺย, ตสฺมา เตสํ สกรฏฺนิยฺยาตนวรํ คณฺหิ. อิตโรปิสฺส ททมาโน อิมํ คาถมาห –

๔๕๘.

‘‘ปโรสตํ ขตฺติยา เม คหีตา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

สเก เต รฏฺเ ปฏิปาทยามิ, เอตํ วรานํ ตติยํ ททามี’’ติ.

จตุตฺถํ ปน วรํ คณฺหนฺโต โพธิสตฺโต อิมํ คาถมาห –

๔๕๙.

‘‘ฉิทฺทํ เต รฏฺํ พฺยถิตา ภยา หิ, ปุถู นรา เลณมนุปฺปวิฏฺา;

มนุสฺสมํสํ วิรเมหิ ราช, เอตํ วรานํ จตุตฺถํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ ฉิทฺทนฺติ น ฆนวาสํ ตตฺถ ตตฺถ คามาทีนํ อุฏฺิตตฺตา สวิวรํ. พฺยถิตา ภยาหีติ ‘‘โปริสาโท อิทานิ อาคมิสฺสตี’’ติ ตว ภเยน กมฺปิตา. เลณมนุปฺปวิฏฺาติ ทารเก หตฺเถสุ คเหตฺวา ติณคหนาทินิลียนฏฺานํ ปวิฏฺา. มนุสฺสมํสนฺติ ทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ ปฏิกฺกูลํ มนุสฺสมํสํ ปชห. นิสฺสกฺกตฺเถ วา อุปโยคํ, มนุสฺสมํสโต วิรมาหีติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเต โปริสาโท ปาณึ ปหริตฺวา หสนฺโต ‘‘สมฺม สุตโสม กึ นาเมตํ กเถสิ, กถาหํ ตุมฺหากํ เอตํ วรํ ทสฺสามิ, สเจ คณฺหิตุกาโม, อฺํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๖๐.

‘‘อทฺธา หิ โส ภกฺโข มม มนาโป, เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิฏฺโ;

โสหํ กถํ เอตฺโต อุปารเมยฺยํ, อฺํ วรานํ จตุตฺถํ วรสฺสู’’ติ.

ตตฺถ วนนฺติ รชฺชํ ปหาย อิมํ วนํ ปวิฏฺโ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘ตฺวํ ‘มนุสฺสมํสสฺส ปิยตรตฺตา ตโต วิรมิตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทสิ. โย หิ ปิยํ นิสฺสาย ปาปํ กโรติ, อยํ พาโล’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๖๑.

‘‘น เว ‘ปิยํ เม’ติ ชนินฺท ตาทิโส, อตฺตํ นิรํกจฺจ ปิยานิ เสวติ;

อตฺตาว เสยฺโย ปรมา จ เสยฺโย, ลพฺภา ปิยา โอจิตตฺเถน ปจฺฉา’’ติ.

ตตฺถ ตาทิโสติ ชนินฺท ตาทิโส ยุวา อภิรูโป มหายโส ‘‘อิทํ นาม เม ปิย’’นฺติ ปิยวตฺถุโลเภน ตตฺถ อตฺตานํ นิรํกตฺวา สพฺพสุคตีหิ เจว สุขวิเสเสหิ จ จวิตฺวา นิรเย ปาเตตฺวา น เว ปิยานิ เสวติ. ปรมา จ เสยฺโยติ ปุริสสฺส หิ ปรมา ปิยวตฺถุมฺหา อตฺตาว วรตโร. กึการณา? ลพฺภา ปิยาติ, ปิยา นาม วิสยวเสน เจว ปุฺเน จ โอจิตตฺเถน วฑฺฒิตตฺเถน ทิฏฺธมฺเม เจว ปรตฺถ จ เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ ปตฺวา สกฺกา ลทฺธุํ.

เอวํ วุตฺเต โปริสาโท ภยปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อหํ สุตโสเมน คหิตํ วรํ วิสฺสชฺชาเปตุมฺปิ มนุสฺสมํสโต วิรมิตุมฺปิ น สกฺโกมิ, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ คาถมาห –

๔๖๒.

‘‘ปิยํ เม มานุสํ มํสํ, สุตโสม วิชานหิ;

นมฺหิ สกฺกา นิวาเรตุํ, อฺํ วรํ สมฺม วรสฺสู’’ติ.

ตตฺถ วิชานหีติ ตฺวมฺปิ ชานาหิ.

ตโต โพธิสตฺโต อาห –

๔๖๓.

‘‘โย เว ‘ปิยํ เม’ติ ปิยานุรกฺขี, อตฺตํ นิรํกจฺจ ปิยานิ เสวติ;

โสณฺโฑว ปิตฺวา วิสมิสฺสปานํ, เตเนว โส โหติ ทุกฺขี ปรตฺถ.

๔๖๔.

‘‘โย จีธ สงฺขาย ปิยานิ หิตฺวา, กิจฺเฉนปิ เสวติ อริยธมฺเม;

ทุกฺขิโตว ปิตฺวาน ยโถสธานิ, เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ.

ตตฺถ โย เวติ, สมฺม โปริสาท, โย ปุริโส ‘‘อิทํ เม ปิย’’นฺติ ปาปกิริยาย อตฺตานํ นิรํกตฺวา ปิยานิ วตฺถูนิ เสวติ, โส สุราเปเมน วิสมิสฺสํ สุรํ ปิตฺวา โสณฺโฑ วิย เตน ปาปกมฺเมน ปรตฺถ นิรยาทีสุ ทุกฺขี โหติ. สงฺขายาติ ชานิตฺวา ตุเลตฺวา. ปิยานิ หิตฺวาติ อธมฺมปฏิสํยุตฺตานิ ปิยานิ ฉฑฺเฑตฺวา.

เอวํ วุตฺเต โปริสาโท กลูนํ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๔๖๕.

‘‘โอหายหํ ปิตรํ มาตรฺจ, มนาปิเย กามคุเณ จ ปฺจ;

เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิฏฺโ, ตํ เต วรํ กินฺติ มหํ ททามี’’ติ.

ตตฺถ เอตสฺสาติ มนุสฺสมํสสฺส. กินฺติ มหนฺติ กินฺติ กตฺวา อหํ ตํ วรํ เทมิ.

ตโต มหาสตฺโต อิมํ คาถมาห –

๔๖๖.

‘‘น ปณฺฑิตา ทิคุณมาหุ วากฺยํ, สจฺจปฺปฏิฺาว ภวนฺติ สนฺโต;

‘วรสฺสุ สมฺม’ อิติ มํ อโวจ, อิจฺจพฺรวี ตฺวํ น หิ เต สเมตี’’ติ.

ตตฺถ ทิคุณนฺติ, สมฺม โปริสาท, ปณฺฑิตา นาม เอกํ วตฺวา ปุน ตํ วิสํวาเทนฺตา ทุติยํ วจนํ น กเถนฺติ. อิติ มํ อโวจาติ, ‘‘สมฺม สุตโสม วรสฺสุ วร’’นฺติ เอวํ มํ อภาสสิ. อิจฺจพฺรวีติ ตสฺมา ยํ ตฺวํ อิติ อพฺรวิ, ตํ เต อิทานิ น สเมติ.

โส ปุน โรทนฺโต เอว คาถมาห –

๔๖๗.

‘‘อปุฺลาภํ อยสํ อกิตฺตึ, ปาปํ พหุํ ทุจฺจริตํ กิเลสํ;

มนุสฺสมํสสฺส กเต อุปาคา, ตํ เต วรํ กินฺติ มหํ ทเทยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ ปาปนฺติ กมฺมปถํ อปฺปตฺตํ. ทุจฺจริตนฺติ กมฺมปถปฺปตฺตํ. กิเลสนฺติ ทุกฺขํ. มนุสฺสมํสสฺส กเตติ มนุสฺสมํสสฺส เหตุ. อุปาคาติ อุปคโตมฺหิ. ตํ เตติ ตํ ตุยฺหํ กถาหํ วรํ เทมิ, มา มํ วารยิ, อนุกมฺปํ การุฺํ มยิ กโรหิ, อฺํ วรํ คณฺหาหีติ อาห.

อถ มหาสตฺโต อาห –

๔๖๘.

‘‘น ตํ วรํ อรหติ ชนฺตุ ทาตุํ, ยํ วาปิ ทตฺวา น อวากเรยฺย;

วรสฺสุ สมฺม อวิกมฺปมาโน, ปาณํ จชิตฺวานปิ ทสฺสเมวา’’ติ.

เอวํ เตน ปมํ วุตฺตคาถํ อาหริตฺวา ทสฺเสตฺวา วรทาเน อุสฺสาเหนฺโต คาถา อาห –

๔๖๙.

‘‘ปาณํ จชนฺติ สนฺโต นาปิ ธมฺมํ, สจฺจปฺปฏิฺาว ภวนฺติ สนฺโต;

ทตฺวา วรํ ขิปฺปมวากโรหิ, เอเตน สมฺปชฺช สุราชเสฏฺ.

๔๗๐.

‘‘จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ, องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน;

องฺคํ ธนํ ชีวิตฺจาปิ สพฺพํ, จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต’’ติ.

ตตฺถ ปาณนฺติ ชีวิตํ. สนฺโต นาม อปิ ชีวิตํ จชนฺติ, น ธมฺมํ. ขิปฺปมวากโรหีติ อิธ ขิปฺปํ มยฺหํ เทหีติ อตฺโถ. เอเตนาติ เอเตน ธมฺเมน เจว สจฺเจน จ สมฺปชฺช สมฺปนฺโน อุปปนฺโน โหหิ. สุราชเสฏฺาติ ตํ ปคฺคณฺหนฺโต อาลปติ. จเช ธนนฺติ, สมฺม โปริสาท, ปณฺฑิโต ปุริโส หตฺถปาทาทิมฺหิ องฺเค ฉิชฺชมาเน ตสฺส รกฺขณตฺถาย พหุมฺปิ ธนํ จเชยฺย. ธมฺมมนุสฺสรนฺโตติ องฺคธนชีวิตานิ ปริจฺจชนฺโตปิ ‘‘สตํ ธมฺมํ น วีติกฺกมิสฺสามี’’ติ เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรนฺโต.

เอวํ มหาสตฺโต อิเมหิ การเณหิ ตํ สจฺเจ ปติฏฺาเปตฺวา อิทานิ อตฺตโน คุรุภาวํ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๔๗๑.

‘‘ยสฺมา หิ ธมฺมํ ปุริโส วิชฺา, เย จสฺส กงฺขํ วินยนฺติ สนฺโต;

ตํ หิสฺส ทีปฺจ ปรายณฺจ, น เตน มิตฺตึ ชิรเยถ ปฺโ’’ติ.

ตตฺถ ยสฺมาติ ยมฺหา ปุริสา. ธมฺมนฺติ กุสลากุสลโชตกํ การณํ. วิชฺาติ วิชาเนยฺย. ตํ หิสฺสาติ ตํ อาจริยกุลํ เอตสฺส ปุคฺคลสฺส ปติฏฺานฏฺเน ทีปํ, อุปฺปนฺเน ภเย คนฺตพฺพฏฺานฏฺเน ปรายณฺจ. น เตน มิตฺตินฺติ เตน อาจริยปุคฺคเลน สห โส ปณฺฑิโต เกนจิปิ การเณน มิตฺตึ น ชีรเยถ น วินาเสยฺย.

เอวฺจ ปน วตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, คุณวนฺตสฺส อาจริยสฺส วจนํ นาม ภินฺทิตุํ น วฏฺฏติ, อหฺจ ตรุณกาเลปิ ตว ปิฏฺิอาจริโย หุตฺวา พหุํ สิกฺขํ สิกฺขาเปสึ, อิทานิปิ พุทฺธลีลาย สตารหา คาถา เต กเถสึ, เตน เม วจนํ กาตุํ อรหสี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา โปริสาโท ‘‘อยํ สุตโสโม มยฺหํ อาจริโย เจว ปณฺฑิโต จ, วโร จสฺส มยา ทินฺโน, กึ สกฺกา กาตุํ, เอกสฺมึ อตฺตภาเว มรณํ นาม ธุวํ, มนุสฺสมํสํ น ขาทิสฺสามิ, ทสฺสามิสฺส วร’’นฺติ อสฺสุธาราหิ ปวตฺตมานาหิ อุฏฺาย สุตโสมนรินฺทสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา วรํ ททมาโน อิมํ คาถมาห –

๔๗๒.

‘‘อทฺธา หิ โส ภกฺโข มม มนาโป, เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิฏฺโ;

สเจ จ มํ ยาจสิ เอตมตฺถํ, เอตมฺปิ เต สมฺม วรํ ททามี’’ติ.

อถ นํ มหาสตฺโต เอวมาห – ‘‘สมฺม, สีเล ิตสฺส มรณมฺปิ วรํ, คณฺหามิ, มหาราช, ตยา ทินฺนํ วรํ, อชฺช ปฏฺาย อริยปเถ ปติฏฺิโตสิ, เอวํ สนฺเตปิ ตํ ยาจามิ, สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, ปฺจ สีลานิ คณฺห, มหาราชา’’ติ. ‘‘สาธุ, สมฺม, เทหิ เม สีลานี’’ติ. ‘‘คณฺห มหาราชา’’ติ. โส มหาสตฺตํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ นํ ปฺจสีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. ตสฺมึ ขเณ ตตฺถ สนฺนิปติตา ภุมฺมา เทวา มหาสตฺเต ปีตึ ชเนตฺวา ‘‘อวีจิโต ยาว ภวคฺคา อฺโ โปริสาทํ มนุสฺสมํสโต นิวาเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อโห สุตโสเมน ทุกฺกรตรํ กต’’นฺติ มหนฺเตน สทฺเทน วนํ อุนฺนาเทนฺตา สาธุการํ อทํสุ. เตสํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกาติ เอวํ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ อโหสิ. รุกฺเข ลคฺคิตราชาโนปิ ตํ เทวตานํ สาธุการสทฺทํ สุณึสุ. รุกฺขเทวตาปิ สกวิมาเน ิตาว สาธุการมทาสิ. อิติ เทวตานํ สทฺโทว สูยติ, รูปํ น ทิสฺสติ. เทวตานํ สาธุการสทฺทํ สุตฺวา ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘สุตโสมํ นิสฺสาย โน ชีวิตํ ลทฺธํ, ทุกฺกรํ กตํ สุตโสเมน โปริสาทํ ทเมนฺเตนา’’ติ โพธิสตฺตสฺส ถุตึ กรึสุ. โปริสาโท มหาสตฺตสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ โพธิสตฺโต – ‘‘สมฺม, ขตฺติเย โมเจหี’’ติ อาห. โส จินฺเตสิ ‘‘อหํ เอเตสํ ปจฺจามิตฺโต, เอเต มยา โมจิตา ‘คณฺหถ โน ปจฺจามิตฺต’นฺติ มํ หึเสยฺยุํ, มยา ชีวิตํ จชนฺเตนปิ น สกฺกา สุตโสมสฺส สนฺติกา คหิตํ สีลํ ภินฺทิตุํ, อิมินา สทฺธิเยว คนฺตฺวา โมเจสฺสามิ, เอวํ เม ภยํ น ภวิสฺสตี’’ติ. อถ โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา, ‘‘สุตโสม, อุโภปิ คนฺตฺวา ขตฺติเย โมเจสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๗๓.

‘‘สตฺถา จ เม โหสิ สขา จ เมสิ, วจนมฺปิ เต สมฺม อหํ อกาสึ;

ตุวมฺปิ เม สมฺม กโรหิ วากฺยํ, อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยามา’’ติ.

ตตฺถ สตฺถาติ สคฺคมคฺคสฺส เทสิตตฺตา สตฺถา จ, ตรุณกาลโต ปฏฺาย สขา จ.

อถ นํ โพธิสตฺโต อาห –

๔๗๔.

‘‘สตฺถา จ เต โหมิ สขา จ ตฺยมฺหิ, วจนมฺปิ เม สมฺม ตุวํ อกาสิ;

อหมฺปิ เต สมฺม กโรมิ วากฺยํ, อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยามา’’ติ.

เอวํ วตฺวา เต อุปสงฺกมิตฺวา อาห –

๔๗๕.

‘‘กมฺมาสปาเทน วิเหิตตฺถ, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

น ชาตุ ทุพฺเภถ อิมสฺส รฺโ, สจฺจปฺปฏิฺํ เม ปฏิสฺสุณาถา’’ติ.

ตตฺถ กมฺมาสปาเทนาติ อิทํ มหาสตฺโต ‘‘อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยามา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘ขตฺติยา นาม มานถทฺธา โหนฺติ, มุตฺตมตฺตาว ‘อิมินา มยํ วิเหิตมฺหา’ติ โปริสาทํ โปเถยฺยุมฺปิ หเนยฺยุมฺปิ, น โข ปเนส เตสุ ทุพฺภิสฺสติ, อหํ เอกโกว คนฺตฺวา ปฏิฺํ ตาว เนสํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา เต หตฺถตเล อาวุนิตฺวา อคฺคปาทงฺคุลีหิ ภูมึ ผุสมานาหิ รุกฺขสาขาสุ โอลคฺคิเต วาตปฺปหรณกาเล นาคทนฺเตสุ โอลคฺคิตกุรณฺฑกทามานิ วิย สมฺปริวตฺตนฺเต อทฺทส. เตปิ ตํ ทิสฺวา ‘‘อิทานิมฺหา มยํ อโรคา’’ติ เอกปฺปหาเรเนว มหาวิรวํ รวึสุ. อถ เน มหาสตฺโต ‘‘มา ภายิตฺถา’’ติ อสฺสาเสตฺวา ‘‘มยา โปริสาโท ทมิโต, ตุมฺหากํ อภยํ คหิตํ, ตุมฺเห ปน เม วจนํ กโรถา’’ติ วตฺวา เอวมาห. ตตฺถ น ชาตูติ เอกํเสเนว น ทุพฺเภถ.

เต อาหํสุ –

๔๗๖.

‘‘กมฺมาสปาเทน วิเหิตมฺหา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

น ชาตุ ทุพฺเภม อิมสฺส รฺโ, สจฺจปฺปฏิฺํ เต ปฏิสฺสุณามา’’ติ.

ตตฺถ ปฏิสฺสุณามาติ ‘‘เอวํ ปฏิฺํ อธิวาเสม สมฺปฏิจฺฉาม, อปิจ โข ปน มยํ กิลนฺตา กเถตุํ น สกฺโกม, ตุมฺเห สพฺพสตฺตานํ สรณํ, ตุมฺเหว กเถถ, มยํ โว วจนํ สุตฺวา ปฏิฺํ ทสฺสามา’’ติ.

อถ เน โพธิสตฺโต ‘‘เตน หิ ปฏิฺํ เทถา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๗๗.

‘‘ยถา ปิตา วา อถ วาปิ มาตา, อนุกมฺปกา อตฺถกามา ปชานํ,.

เอวเมว โว โหตุ อยฺจ ราชา, ตุมฺเห จ โว โหถ ยเถว ปุตฺตา’’ติ.

อถ นํ เตปิ สมฺปฏิจฺฉมานา อิมํ คาถมาหํสุ –

๔๗๘.

‘‘ยถา ปิตา วา อถ วาปิ มาตา, อนุกมฺปกา อตฺถกามา ปชานํ;

เอวเมว โน โหตุ อยฺจ ราชา, มยมฺปิ เหสฺสาม ยเถว ปุตฺตา’’ติ.

ตตฺถ ตุมฺเห จ โวติ โว-กาโร นิปาตมตฺตํ.

อิติ มหาสตฺโต เตสํ ปฏิฺํ คเหตฺวา โปริสาทํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘เอหิ, สมฺม, ขตฺติเย โมเจหี’’ติ อาห. โส ขคฺคํ คเหตฺวา เอกสฺส รฺโ พนฺธนํ ฉินฺทิ. ราชา สตฺตาหํ นิราหาโร เวทนปฺปตฺโต สห พนฺธนเฉทา มุจฺฉิโต ภูมิยํ ปติ. ตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต การุฺํ กตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, มา เอวํ ฉินฺที’’ติ เอกํ ราชานํ อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ คเหตฺวา อุเร กตฺวา ‘‘อิทานิ พนฺธนํ ฉินฺทาหี’’ติ อาห. โปริสาโท ขคฺเคน ฉินฺทิ. มหาสตฺโต ถามสมฺปนฺนตาย นํ อุเร นิปชฺชาเปตฺวา โอรสปุตฺตํ วิย มุทุจิตฺเตน โอตาเรตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชาเปสิ. เอวํ สพฺเพปิ เต ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา วเณ โธวิตฺวา ทารกานํ กณฺณโต สุตฺตกํ วิย สณิกํ รชฺชุโย นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปุพฺพโลหิตํ โธวิตฺวา วเณ นิทฺโทเส กตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, เอกํ รุกฺขตจํ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา อาหรา’’ติ อาหราเปตฺวา สจฺจกิริยํ กตฺวา เตสํ หตฺถตลานิ มกฺเขสิ. ตงฺขณฺเว วโณ ผาสุกํ อโหสิ. โปริสาโท ตณฺฑุลํ คเหตฺวา ตรลํ ปจิ, อุโภ ชนา ปโรสตํ ขตฺติเย ปาเยสุํ. อิติ เต สพฺเพว สนฺตปฺปิตา, สูริโย อตฺถงฺคโต. ปุนทิวเส ปาโต จ มชฺฌนฺหิเก จ สายฺจ ตรลเมว ปาเยตฺวา ตติยทิวเส สสิตฺถกยาคุํ ปาเยสุํ, ตาวตา เต อโรคา อเหสุํ.

อถ เน มหาสตฺโต ‘‘คนฺตุํ สกฺขิสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ‘‘เอหิ, สมฺม โปริสาท, สกํ รฏฺํ คจฺฉามา’’ติ อาห. โส โรทมาโน ตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘ตฺวํ, สมฺม, ราชาโน คเหตฺวา คจฺฉ, อหํ อิเธว วนมูลผลานิ ขาทนฺโต วสิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘สมฺม, อิธ กึ กริสฺสสิ, รมณียํ เต รฏฺํ, พาราณสิยํ รชฺชํ กาเรหี’’ติ. ‘‘สมฺม กึ กเถสิ, น สกฺกา มยา ตตฺถ คนฺตุํ, สกลนครวาสิโน หิ เม เวริโน, เต ‘อิมินา มยฺหํ มาตา ขาทิตา, มยฺหํ ปิตา, มยฺหํ ภาตา’ติ มํ ปริภาสิสฺสนฺติ, ‘คณฺหถ อิมํ โจร’นฺติ เอเกกทณฺเฑน วา เอเกกเลฑฺฑุนา วา มํ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺติ, อหฺจ ตุมฺหากํ สนฺติเก สีเลสุ ปติฏฺิโต, ชีวิตเหตุปิ น สกฺกา มยา ปรํ มาเรตุํ, ตสฺมา นาหํ คจฺฉามิ, อหํ มนุสฺสมํสโต วิรตตฺตา กิตฺตกํ ชีวิสฺสามิ, อิทานิ มม ตุมฺหากํ ทสฺสนํ นตฺถี’’ติ โรทิตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ อาห. อถ มหาสตฺโต ตสฺส ปิฏฺึ ปริมชฺชิตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, มา จินฺตยิ, สุตโสโม นามาหํ, มยา ตาทิโส กกฺขโฬ ผรุโส วินีโต, พาราณสิวาสิเกสุ กึ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, อหํ ตํ ตตฺถ ปติฏฺาเปสฺสามิ, อสกฺโกนฺโต อตฺตโน รชฺชํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ทสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากมฺปิ นคเร มม เวริโน อตฺถิเยวา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิมินา มม วจนํ กโรนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, เยน เกนจิ อุปาเยน โปราณกยเส ปติฏฺเปตพฺโพ เอส มยา’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส ปโลภนตฺถาย นครสมฺปตฺตึ วณฺเณนฺโต อาห –

๔๗๙.

‘‘จตุปฺปทํ สกุณฺจาปิ มํสํ, สูเทหิ รนฺธํ สุกตํ สุนิฏฺิตํ;

สุธํว อินฺโท ปริภุฺชิยาน, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๐.

‘‘ตา ขตฺติยา เวลฺลิวิลากมชฺฌา, อลงฺกตา สมฺปริวารยิตฺวา;

อินฺทํว เทเวสุ ปโมทยึสุ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๑.

‘‘ตมฺพูปธาเน พหุโคณกมฺหิ, สุภมฺหิ สพฺพสฺสยนมฺหิ สงฺเค;

เสยฺยสฺส มชฺฌมฺหิ สุขํ สยิตฺวา

หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๒.

‘‘ปาณิสฺสรํ กุมฺภถูณํ นิสีเถ, อโถปิ เว นิปฺปุริสมฺปิ ตูริยํ;

พหุํ สุคีตฺจ สุวาทิตฺจ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๓.

‘‘อุยฺยานสมฺปนฺนํ ปหูตมาลฺยํ, มิคาชินูเปตํ ปุรํ สุรมฺมํ;

หเยหิ นาเคหิ รเถหุเปตํ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ’’ติ.

ตตฺถ สุกตนฺติ นานปฺปกาเรหิ สุฏฺุ กตํ. สุนิฏฺิตนฺติ นานาสมฺภารโยชเนน สุฏฺุ นิฏฺิตํ. กเถโกติ กถํ เอโก. รมสีติ มูลผลาทีนิ ขาทนฺโต กถํ รมิสฺสสิ, ‘‘เอหิ, มหาราช, คมิสฺสามา’’ติ. เวลฺลิวิลากมชฺฌาติ เอตฺถ เวลฺลีติ ราสิ, วิลากมชฺฌาติ วิลคฺคมชฺฌา. อุตฺตตฺตฆนสุวณฺณราสิปภา เจว ตนุทีฆมชฺฌา จาติ ทสฺเสติ. เทเวสูติ เทวโลเกสุ อจฺฉรา อินฺทํ วิย รมณีเย พาราณสินคเร ปุพฺเพ ตํ ปโมทยึสุ, ตา หิตฺวา อิธ กึ กริสฺสสิ, ‘‘เอหิ, สมฺม, คจฺฉามา’’ติ. ตมฺพูปธาเนติ รตฺตูปธาเน. สพฺพสฺสยนมฺหีติ สพฺพตฺถรณตฺถเต สยเน. สงฺเคติ อเนกภูมิเก ทสฺเสตฺวา อทฺธรตฺตองฺคยุตฺเต ตตฺถ ตฺวํ ปุพฺเพ สยีติ อตฺโถ. สุขนฺติ ตาทิสสฺส สยนสฺส มชฺฌมฺหิ สุขํ สยิตฺวาน อิทานิ กถํ อรฺเ รมิสฺสสิ, ‘‘เอหิ คจฺฉาม, สมฺมา’’ติ. นิสีเถติ รตฺติภาเค. หิตฺวาติ เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ฉฑฺเฑตฺวา. อุยฺยานสมฺปนฺนํ ปหูตมาลฺยนฺติ, มหาราช, ตว อุยฺยานสมฺปนฺนํ นานาวิธปุปฺผํ. มิคาชินูเปตํ ปุรํ สุรมฺมนฺติ ตํ อุยฺยานํ มิคาชินํ นาม นาเมน, เตน อุเปตํ ปุรมฺปิ เต สุฏฺุ รมฺมํ. หิตฺวาติ เอวรูปํ มโนรมํ นครํ ฉฑฺเฑตฺวา.

อิติ มหาสตฺโต ‘‘อปฺเปว นาเมส ปุพฺเพ อุปภุตฺตปริโภครสํ สริตฺวา คนฺตุกาโม ภเวยฺยา’’ติ ปมํ โภชเนน ปโลเภสิ, ทุติยํ กิเลเสน, ตติยํ สยเนน, จตุตฺถํ นจฺจคีตวาทิเตน, ปฺจมํ อุยฺยาเนน เจว นคเรน จาติ อิเมหิ เอตฺตเกหิ ปโลเภตฺวา ‘‘เอหิ, มหาราช, อหํ ตํ อาทาย คนฺตฺวา พาราณสิยํ ปติฏฺาเปตฺวา ปจฺฉา สกรฏฺํ คมิสฺสามิ, สเจ พาราณสิรชฺชํ น ลภิสฺสสิ, อุปฑฺฒรชฺชํ เต ทสฺสามิ, กึ เต อรฺวาเสน, มม วจนํ กโรหี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา คนฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘สุตโสโม มยฺหํ อตฺถกาโม อนุกมฺปโก, ปมํ มํ กลฺยาเณ ปติฏฺาเปตฺวา ‘อิทานิ โปราณกยเสว ปติฏฺาเปสฺสามี’ติ วทติ, สกฺขิสฺสติ เจส ปติฏฺาเปตุํ, อิมินา สทฺธึเยว คนฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เม อรฺวาเสนา’’ติ จินฺเตตฺวา ตุฏฺจิตฺโต ตสฺส คุณํ นิสฺสาย วณฺณํ กเถตุกาโม ‘‘สมฺม, สุตโสม, กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคโต สาธุตรํ, ปาปมิตฺตสํสคฺคโต วา ปาปตรํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อาห –

๔๘๔.

‘‘กาฬปกฺเข ยถา จนฺโท, หายเตว สุเว สุเว;

กาฬปกฺขูปโม ราช, อสตํ โหติ สมาคโม.

๔๘๕.

‘‘ยถาหํ รสกมาคมฺม, สูทํ กาปุริสาธมํ;

อกาสึ ปาปกํ กมฺมํ, เยน คจฺฉามิ ทุคฺคตึ.

๔๘๖.

‘‘สุกฺกปกฺเข ยถา จนฺโท, วฑฺฒเตว สุเว สุเว;

สุกฺกปกฺขูปโม ราช, สตํ โหติ สมาคโม.

๔๘๗.

‘‘ยถาหํ ตุวมาคมฺม, สุตโสม วิชานหิ;

กาหามิ กุสลํ กมฺมํ, เยน คจฺฉามิ สุคฺคตึ.

๔๘๘.

‘‘ถเล ยถา วาริ ชนินฺท วุฏฺํ, อนทฺธเนยฺยํ น จิรฏฺิตีกํ;

เอวมฺปิ โหติ อสตํ สมาคโม, อนทฺธเนยฺโย อุทกํ ถเลว.

๔๘๙.

‘‘สเร ยถา วาริ ชนินฺท วุฏฺํ, จิรฏฺิตีกํ นรวีรเสฏฺ;

เอวมฺปิ เว โหติ สตํ สมาคโม, จิรฏฺิตีโก อุทกํ สเรว.

๔๙๐.

‘‘อพฺยายิโก โหติ สตํ สมาคโม, ยาวมฺปิ ติฏฺเยฺย ตเถว โหติ;

ขิปฺปฺหิ เวติ อสตํ สมาคโม, ตสฺมา สตํ ธมฺโม อสพฺภิ อารกา’’ติ.

ตตฺถ สุเว สุเวติ ทิวเส ทิวเส. อนทฺธเนยฺยนฺติ น อทฺธานกฺขมํ. สเรติ สมุทฺเท. นรวีรเสฏฺาติ นเรสุ วีริเยน เสฏฺ. อุทกํ สเรวาติ สมุทฺเท วุฏฺอุทกํ วิย. อพฺยายิโกติ อวิคจฺฉนโก. ยาวมฺปิ ติฏฺเยฺยาติ ยตฺตกํ กาลํ ชีวิตํ ติฏฺเยฺย, ตตฺตกํ กาลํ ตเถว โหติ, น ชีรติ สปฺปุริเสหิ มิตฺตภาโวติ.

อิติ โปริสาโท สตฺตหิ คาถาหิ มหาสตฺตสฺเสว วณฺณํ กเถสิ. มหาสตฺโตปิ โปริสาทฺจ เต จ ราชาโน คเหตฺวา อตฺตโน ปจฺจนฺตคามํ อคมาสิ. ปจฺจนฺตคามวาสิโน มหาสตฺตํ ทิสฺวา นครํ คนฺตฺวา อมจฺจานํ อาจิกฺขึสุ. อมจฺจา พลกายํ อาทาย คนฺตฺวา ปริวารยึสุ. มหาสตฺโต เตน ปริวาเรน พาราณสิรชฺชํ อคมาสิ. อนฺตรามคฺเค ชนปทวาสิโน โพธิสตฺตสฺส ปณฺณาการํ ทตฺวา อนุคจฺฉึสุ, มหนฺโต ปริวาโร อโหสิ, เตน สทฺธึ พาราณสึ ปาปุณิ. ตทา โปริสาทสฺส ปุตฺโต ราชา โหติ, เสนาปติ กาฬหตฺถิเยว. นาครา รฺโ อาโรจยึสุ – ‘‘มหาราช, สุตโสโม กิร โปริสาทํ ทเมตฺวา อาทาย อิธาคจฺฉติ, นครมสฺส ปวิสิตุํ น ทสฺสามา’’ติ สีฆํ นครทฺวารานิ ปิทหิตฺวา อาวุธหตฺถา อฏฺํสุ. มหาสตฺโต ทฺวารานํ ปิหิตภาวํ ตฺวา โปริสาทฺจ ปโรสตฺจ ราชาโน โอหาย กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ‘‘อหํ สุตโสมราชา, ทฺวารํ วิวรถา’’ติ อาห. ปุริสา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. โส ‘‘ขิปฺปํ วิวรถา’’ติ วิวราเปสิ. มหาสตฺโต นครํ ปาวิสิ. ราชา จ กาฬหตฺถิ จสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อาทาย ปาสาทํ อาโรปยึสุ.

โส ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา โปริสาทสฺส อคฺคมเหสึ เสสามจฺเจ จ ปกฺโกสาเปตฺวา กาฬหตฺถึ อาห – ‘‘กาฬหตฺถิ, กสฺมา รฺโ นครํ ปวิสิตุํ น เทถา’’ติ? ‘‘โส รชฺชํ กาเรนฺโต อิมสฺมึ นคเร พหู มนุสฺเส ขาทิ, ขตฺติเยหิ อกตฺตพฺพํ กริ, สกลชมฺพุทีปํ ฉิทฺทมกาสิ, เอวรูโป ปาปธมฺโม, เตน การเณนา’’ติ. ‘‘อิทานิ ‘โส เอวรูปํ กริสฺสตี’ติ มา จินฺตยิตฺถ, อหํ ตํ ทเมตฺวา สีเลสุ ปติฏฺาเปสึ, ชีวิตเหตุปิ กฺจิ น วิเหเสฺสติ, นตฺถิ โว ตโต ภยํ, เอวํ มา กริตฺถ, ปุตฺเตหิ นาม มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิตพฺพา, มาตาปิตุโปสกา หิ สคฺคํ คจฺฉนฺติ, อิตเร นิรย’’นฺติ เอวํ โส นิจาสเน นิสินฺนสฺส ปุตฺตราชสฺส โอวาทํ ทตฺวา, ‘‘กาฬหตฺถิ, ตฺวํ รฺโ สหาโย เจว เสวโก จ, รฺาปิ มหนฺเต อิสฺสริเย ปติฏฺาปิโต, ตยาปิ รฺโ อตฺถํ จริตุํ วฏฺฏตี’’ติ เสนาปติมฺปิ อนุสาสิตฺวา, ‘‘เทวิ, ตฺวมฺปิ กุลเคหา อาคนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก อคฺคมเหสิฏฺานํ ปตฺวา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิปฺปตฺตา, ตยาปิ ตสฺส อตฺถํ จริตุํ วฏฺฏตี’’ติ เทวิยาปิ โอวาทํ ทตฺวา ตเมวตฺถํ มตฺถกํ ปาเปตุํ ธมฺมํ เทเสนฺโต คาถา อาห –

๔๙๑.

‘‘น โส ราชา โย อเชยฺยํ ชินาติ, น โส สขา โย สขารํ ชินาติ;

น สา ภริยา ยา ปติโน น วิเภติ, น เต ปุตฺตา เย น ภรนฺติ ชิณฺณํ.

๔๙๒.

‘‘น สา สภา ยตฺถ น สนฺติ สนฺโต, น เต สนฺโต เย น ภณนฺติ ธมฺมํ;

ราคฺจ โทสฺจ ปหาย โมหํ, ธมฺมํ ภณนฺตาว ภวนฺติ สนฺโต.

๔๙๓.

‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;

ภาสมานฺจ ชานนฺติ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.

๔๙๔.

‘‘ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคณฺเห อิสินํ ธชํ;

สุภาสิตทฺธชา อิสโย, ธมฺโม หิ อิสินํ ธโช’’ติ.

ตตฺถ อเชยฺยนฺติ อเชยฺยา นาม มาตาปิตโร, เต ชินนฺโต ราชา นาม น โหติ. สเจ ตฺวมฺปิ ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ ลภิตฺวา ตสฺส ปฏิสตฺตุ โหสิ, อกิจฺจการี นาม ภวิสฺสสิ. สขารํ ชินาตีติ กูฏฑฺเฑน ชินาติ. สเจ ตฺวํ, กาฬหตฺถิ, รฺา สทฺธึ มิตฺตธมฺมํ น ปูเรสิ, อธมฺมฏฺโ หุตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสสิ. น วิเภตีติ น ภายติ. สเจ ตฺวํ รฺโ น ภายสิ, ภริยาธมฺเม ิตา นาม น โหสิ, อกิจฺจการี นาม ภวิสฺสสิ. ชิณฺณนฺติ มหลฺลกํ. ตสฺมิฺหิ กาเล อภรนฺตา ปุตฺตา ปุตฺตา นาม น โหนฺติ.

สนฺโตติ ปณฺฑิตา. เย น ภณนฺติ ธมฺมนฺติ เย ปุจฺฉิตา สจฺจสภาวํ น วทนฺติ, น เต ปณฺฑิตา นาม. ธมฺมํ ภณนฺตาวาติ เอเต ราคาทโย ปหาย ปรสฺส หิตานุกมฺปกา หุตฺวา สภาวํ ภณนฺตาว ปณฺฑิตา นาม โหนฺติ. นาภาสมานนฺติ น อภาสมานํ. อมตํ ปทนฺติ อมตมหานิพฺพานํ เทเสนฺตํ ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ ชานนฺติ, เตเนว โปริสาโท มํ ตฺวา ปสนฺนจิตฺโต จตฺตาโร วเร ทตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺิโต. ภาสเยติ ปณฺฑิโต ปุริโส ธมฺมํ ภาเสยฺย โชเตยฺย, พุทฺธาทโย อิสโย ยสฺมา ธมฺโม เอเตสํ ธโช, ตสฺมา สุภาสิตทฺธชา นาม สุภาสิตํ ปคฺคณฺหนฺติ, พาลา ปน สุภาสิตํ ปคฺคณฺหนฺตา นาม นตฺถีติ.

อิมสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ราชา จ เสนาปติ จ เทวี จ ตุฏฺา ‘‘คจฺฉาม, มหาราช, อาเนมา’’ติ วตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา นาคเร สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘ตุมฺเห มา ภายิตฺถ, ราชา กิร ธมฺเม ปติฏฺิโต, เอถ นํ อาเนมา’’ติ มหาชนํ อาทาย มหาสตฺตํ ปุรโต กตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา กปฺปเก อุปฏฺาเปตฺวา กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตปสาธิตํ ราชานํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิฺจิตฺวา นครํ ปเวเสสุํ. โปริสาโท ราชา หุตฺวา ปโรสตานํ ขตฺติยานํ มหาสตฺตสฺส จ มหาสกฺการํ กาเรสิ. ‘‘สุตโสมนรินฺเทน กิร โปริสาทํ ทเมตฺวา รชฺเช ปติฏฺาปิโต’’ติ สกลชมฺพุทีเป มหาโกลาหลํ อุทปาทิ. อินฺทปตฺถนครวาสิโนปิ ‘‘ราชา โน อาคจฺฉตู’’ติ ทูตํ ปหิณึสุ. โส ตตฺถ มาสมตฺตํ วสิตฺวา, ‘‘สมฺม, คจฺฉามหํ, ตฺวํ อปฺปมตฺโต โหหิ, นครทฺวาเรสุ จ มชฺเฌ จาติ ปฺจ ทานสาลาโย กาเรหิ, ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา อคติคมนํ ปริหรา’’ติ โปริสาทํ โอวทิ. ปโรสตาหิ ราชธานีหิ พลกาโย เยภุยฺเยน สนฺนิปติ. โส เตน พลกาเยน ปริวุโต พาราณสิโต นิกฺขมิ. โปริสาโทปิ นิกฺขมิตฺวา อุปฑฺฒปถา นิวตฺติ. มหาสตฺโต อวาหนานํ ราชูนํ วาหนานิ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ. เตปิ ราชาโน เตน สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทนาทีนิ กตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ชนปทํ อคมึสุ.

มหาสตฺโตปิ นครํ ปตฺวา อินฺทปตฺถนครวาสีหิ เทวนครํ วิย อลงฺกตนครํ ปวิสิตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา มหาตลํ อภิรุหิ. โส ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘รุกฺขเทวตา มยฺหํ พหูปการา, พลิกมฺมลาภมสฺสา กริสฺสามี’’ติ. โส ตสฺส นิคฺโรธสฺส อวิทูเร มหนฺตํ ตฬากํ กาเรตฺวา พหูนิ กุลานิ เปเสตฺวา คามํ นิเวเสสิ. คาโม มหา อโหสิ อสีติมตฺตอาปณสหสฺสปฏิมณฺฑิโต. ตมฺปิ รุกฺขมูลํ สาขนฺตโต ปฏฺาย สมตลํ กาเรตฺวา ปริกฺขิตฺตเวทิกโตรณทฺวารยุตฺตํ อกาสิ, เทวตา อภิปฺปสีทิ. กมฺมาสปาทสฺส ทมิตฏฺาเน นิวุฏฺตฺตา ปน โส คาโม กมฺมาสทมฺมนิคโม นาม ชาโต. เตปิ สพฺเพ ราชาโน มหาสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน สคฺคํ ปูรยึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนวาหํ องฺคุลิมาลํ ทเมมิ, ปุพฺเพเปส มยา ทมิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา โปริสาโท ราชา องฺคุลิมาโล อโหสิ, กาฬหตฺถิ สาริปุตฺโต, นนฺทพฺราหฺมโณ อานนฺโท, รุกฺขเทวตา กสฺสโป, สกฺโก อนุรุทฺโธ, เสสราชาโน พุทฺธปริสา, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, สุตโสมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาสุตโสมชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

ชาตกุทฺทานํ –

สุมุโข ปน หํสวโร จ มหา, สุธโภชนิโก จ ปโร ปวโร;

สกุณาลทิชาธิปติวฺหยโน, สุตโสมวรุตฺตมสวฺหยโนติ.

อสีตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจโม ภาโค นิฏฺิโต.