📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

๑๗. จตฺตาลีสนิปาโต

[๕๒๑] ๑. เตสกุณชาตกวณฺณนา

เวสฺสนฺตรํ ตํ ปุจฺฉามีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ โอวาทวเสน กเถสิ. ตฺหิ ราชานํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย อาคตํ สตฺถา อามนฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, รฺา นาม ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตพฺพํ, ยสฺมิฺหิ สมเย ราชาโน อธมฺมิกา โหนฺติ, ราชยุตฺตาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺตี’’ติ จตุกฺกนิปาเต (อ. นิ. ๔.๗๐) อาคตสุตฺตนเยน โอวทิตฺวา อคติคมเน อคติอคมเน จ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ กเถตฺวา ‘‘สุปินกูปมา กามา’’ติอาทินา นเยน กาเมสุ อาทีนวํ วิตฺถาเรตฺวา, ‘‘มหาราช, อิเมสฺหิ สตฺตานํ –

‘มจฺจุนา สงฺคโร นตฺถิ, ลฺชคฺคาโห น วิชฺชติ;

ยุทฺธํ นตฺถิ ชโย นตฺถิ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา’.

เตสํ ปรโลกํ คจฺฉนฺตานํ เปตฺวา อตฺตนา กตํ กลฺยาณกมฺมํ อฺา ปติฏฺา นาม นตฺถิ. เอวํ อิตฺตรปจฺจุปฏฺานํ อวสฺสํ ปหาตพฺพํ, น ยสํ นิสฺสาย ปมาทํ กาตุํ วฏฺฏติ, อปฺปมตฺเตเนว หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตุํ วฏฺฏติ. โปราณกราชาโน อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ ปณฺฑิตานํ โอวาเท ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา เทวนครํ ปูรยมานา คมึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรนฺโต อปุตฺตโก อโหสิ, ปตฺเถนฺโตปิ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา น ลภิ. โส เอกทิวสํ มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คนฺตฺวา ทิวสภาคํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา มงฺคลสาลรุกฺขมูเล สยนํ อตฺถราเปตฺวา โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ สาลรุกฺขํ โอโลเกตฺวา ตตฺถ สกุณกุลาวกํ ปสฺสิ, สห ทสฺสเนเนวสฺส สิเนโห อุปฺปชฺชิ. โส เอกํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา เอตสฺมึ กุลาวเก กสฺสจิ อตฺถิตํ วา นตฺถิตํ วา ชานาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วตฺวา อภิรุหิตฺวา ตตฺถ ตีณิ อณฺฑกานิ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘เตน หิ เอเตสํ อุปริ นาสวาตํ มา วิสฺสชฺเชสี’’ติ วตฺวา ‘‘จงฺโกฏเก กปฺปาสปิจุํ อตฺถริตฺวา ตตฺเถว ตานิ อณฺฑกานิ เปตฺวา สณิกํ โอตราหี’’ติ โอตาราเปตฺวา จงฺโกฏกํ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘กตรสกุณณฺฑกานิ นาเมตานี’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิ. เต ‘‘มยํ น ชานาม, เนสาทา ชานิสฺสนฺตี’’ติ วทึสุ. ราชา เนสาเท ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. เนสาทา, ‘‘มหาราช, เตสุ เอกํ อุลูกอณฺฑํ, เอกํ สาลิกาอณฺฑํ, เอกํ สุวกอณฺฑ’’นฺติ กถยึสุ. กึ ปน เอกสฺมึ กุลาวเก ติณฺณํ สกุณิกานํ อณฺฑานิ โหนฺตีติ. อาม, เทว, ปริปนฺเถ อสติ สุนิกฺขิตฺตานิ น นสฺสนฺตีติ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ‘‘อิเม มม ปุตฺตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ตานิ ตีณิ อณฺฑานิ ตโย อมจฺเจ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘อิเม มยฺหํ ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห สาธุกํ ปฏิชคฺคิตฺวา อณฺฑโกสโต นิกฺขนฺตกาเล มมาโรเจยฺยาถา’’ติ อาห. เต ตานิ สาธุกํ รกฺขึสุ.

เตสุ ปมํ อุลูกอณฺฑํ ภิชฺชิ. อมจฺโจ เอกํ เนสาทํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ อิตฺถิภาวํ วา ปุริสภาวํ วา ชานาหี’’ติ วตฺวา เตน ตํ วีมํสิตฺวา ‘‘ปุริโส’’ติ วุตฺเต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, ชาโต’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ปุตฺตกํ เม สาธุกํ ปฏิชคฺค, ‘เวสฺสนฺตโร’ติ จสฺส นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ตถา อกาสิ. ตโต กติปาหจฺจเยน สาลิกาอณฺฑํ ภิชฺชิ. โสปิ อมจฺโจ ตํ เนสาเทน วีมํสาเปตฺวา ‘‘อิตฺถี’’ติ สุตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ธีตา เต, เทว, ชาตา’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺสปิ พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ธีตรํ เม สาธุกํ ปฏิชคฺค, ‘กุณฺฑลินี’ติ จสฺสา นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โสปิ ตถา อกาสิ. ปุน กติปาหจฺจเยน สุวกอณฺฑํ ภิชฺชิ. โสปิ อมจฺโจ เนสาเทน ตํ วีมํสิตฺวา ‘‘ปุริโส’’ติ วุตฺเต รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, ชาโต’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺสปิ พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส เม มหนฺเตน ปริวาเรน มงฺคลํ กตฺวา ‘ชมฺพุโก’ติสฺส นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โสปิ ตถา อกาสิ. เต ตโยปิ สกุณา ติณฺณํ อมจฺจานํ เคเหสุ ราชกุมารปริหาเรเนว วฑฺฒนฺติ. ราชา ‘‘มม ปุตฺโต, มม ธีตา’’ติ โวหรติ. อถสฺส อมจฺจา อฺมฺํ อวหสนฺติ ‘‘ปสฺสถ, โภ, รฺโ กิริยํ, ติรจฺฉานคเตปิ ‘ปุตฺโต เม, ธีตา เม’ติ วทนฺโต วิจรตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม อมจฺจา เอเตสํ มม ปุตฺตานํ ปฺาสมฺปทํ น ชานนฺติ, ปากฏํ เนสํ กริสฺสามี’’ติ. อเถกํ อมจฺจํ เวสฺสนฺตรสฺส สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘ตุมฺหากํ ปิตา ปฺหํ ปุจฺฉิตุกาโม, กทา กิร อาคนฺตฺวา ปุจฺฉตู’’ติ. โส อมจฺโจ คนฺตฺวา เวสฺสนฺตรํ วนฺทิตฺวา ตํ สาสนํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร อตฺตโน ปฏิชคฺคกํ อมจฺจํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘มยฺหํ กิร ปิตา มํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุกาโม, ตสฺส อิธาคตสฺส สกฺการํ กาตุํ วฏฺฏติ, กทา อาคจฺฉตู’’ติ ปุจฺฉิ. อมจฺโจ ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส ตว ปิตา อาคจฺฉตู’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร ‘‘ปิตา เม อิโต สตฺตเม ทิวเส อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส อาคนฺตฺวา รฺโ อาจิกฺขิ. ราชา สตฺตเม ทิวเส นคเร เภรึ จราเปตฺวา ปุตฺตสฺส นิเวสนํ อคมาสิ. เวสฺสนฺตโร รฺโ มหนฺตํ สกฺการํ กาเรสิ, อนฺตมโส ทาสกมฺมการานมฺปิ สกฺการํ กาเรสิ. ราชา เวสฺสนฺตรสกุณสฺส เคเห ภุฺชิตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิตฺวา สกํ นิเวสนํ อาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ มหนฺตํ มณฺฑปํ การาเปตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา อลงฺกตมณฺฑปมชฺเฌ มหาชนปริวาโร นิสีทิตฺวา ‘‘เวสฺสนฺตรํ อาเนตู’’ติ อมจฺจสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. อมจฺโจ เวสฺสนฺตรํ สุวณฺณปีเ นิสีทาเปตฺวา อาเนสิ. เวสฺสนฺตรสกุโณ ปิตุ องฺเก นิสีทิตฺวา ปิตรา สห กีฬิตฺวา คนฺตฺวา ตตฺเถว สุวณฺณปีเ นิสีทิ. อถ นํ ราชา มหาชนมชฺเฌ ราชธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘เวสฺสนฺตรํ ตํ ปุจฺฉามิ, สกุณ ภทฺทมตฺถุ เต;

รชฺชํ กาเรตุกาเมน, กึ สุ กิจฺจํ กตํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ สกุณาติ ตํ อาลปติ. กึ สูติ กตรํ กิจฺจํ กตํ วรํ อุตฺตมํ โหติ, กเถหิ เม, ตาต, สกลํ ราชธมฺมนฺติ เอวํ กิร ตํ โส ปุจฺฉิ.

ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร ปฺหํ อกเถตฺวาว ราชานํ ตาว ปมาเทน โจเทนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘จิรสฺสํ วต มํ ตาโต, กํโส พาราณสิคฺคโห;

ปมตฺโต อปฺปมตฺตํ มํ, ปิตา ปุตฺตํ อโจทยี’’ติ.

ตตฺถ ตาโตติ ปิตา. กํโสติ อิทํ ตสฺส นามํ. พาราณสิคฺคโหติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ พาราณสึ สงฺคเหตฺวา วตฺตนฺโต. ปมตฺโตติ เอวรูปานํ ปณฺฑิตานํ สนฺติเก วสนฺโต ปฺหสฺส อปุจฺฉเนน ปมตฺโต. อปฺปมตฺตํ มนฺติ สีลาทิคุณโยเคน มํ อปฺปมตฺตํ. ปิตาติ โปสกปิตา. อโจทยีติ อมจฺเจหิ ‘‘ติรจฺฉานคเต ปุตฺเต กตฺวา โวหรตี’’ติ อวหสิยมาโน ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา จิรสฺสํ อชฺช โจเทสิ, ปฺหํ ปุจฺฉีติ วทติ.

เอวํ โส อิมาย คาถาย โจเทตฺวา ‘‘มหาราช, รฺา นาม ตีสุ ธมฺเมสุ ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ราชธมฺมํ กเถนฺโต อิมา คาถาโย อาห –

.

‘‘ปเมเนว วิตถํ, โกธํ หาสํ นิวารเย;

ตโต กิจฺจานิ กาเรยฺย, ตํ วตํ อาหุ ขตฺติย.

.

‘‘ยํ ตฺวํ ตาต ตโปกมฺมํ, ปุพฺเพ กตมสํสยํ;

รตฺโต ทุฏฺโ จ ยํ กยิรา, น ตํ กยิรา ตโต ปุน.

.

‘‘ขตฺติยสฺส ปมตฺตสฺส, รฏฺสฺมึ รฏฺวฑฺฒน;

สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, รฺโ ตํ วุจฺจเต อฆํ.

.

‘‘สิรี ตาต อลกฺขี จ, ปุจฺฉิตา เอตทพฺรวุํ;

อุฏฺานวีริเย โปเส, รมาหํ อนุสูยเก.

.

‘‘อุสูยเก ทุหทเย, ปุริเส กมฺมทุสฺสเก;

กาฬกณฺณี มหาราช, รมติ จกฺกภฺชนี.

.

‘‘โส ตฺวํ สพฺเพ สุหทโย, สพฺเพสํ รกฺขิโต ภว;

อลกฺขึ นุท มหาราช, ลกฺขฺยา ภว นิเวสนํ.

.

‘‘ส ลกฺขีธิติสมฺปนฺโน, ปุริโส หิ มหคฺคโต;

อมิตฺตานํ กาสิปติ, มูลํ อคฺคฺจ ฉินฺทติ.

๑๐.

‘‘สกฺโกปิ หิ ภูตปติ, อุฏฺาเน นปฺปมชฺชติ;

ส กลฺยาเณ ธิตึ กตฺวา, อุฏฺาเน กุรุเต มโน.

๑๑.

‘‘คนฺธพฺพา ปิตโร เทวา, สาชีวา โหนฺติ ตาทิโน;

อุฏฺาหโต อปฺปมชฺชโต, อนุติฏฺนฺติ เทวตา.

๑๒.

‘‘โส อปฺปมตฺโต อกฺกุทฺโธ, ตาต กิจฺจานิ การย;

วายมสฺสุ จ กิจฺเจสุ, นาลโส วินฺทเต สุขํ.

๑๓.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

อลํ มิตฺเต สุขาเปตุํ, อมิตฺตานํ ทุขาย จา’’ติ.

ตตฺถ ปเมเนว วิตถนฺติ, ตาต, ราชา นาม อาทิโตว มุสาวาทํ นิวารเย. มุสาวาทิโน หิ รฺโ รฏฺํ นิโรชํ โหติ, ปถวิยา โอชา กมฺมกรณฏฺานโต สตฺตรตนมตฺตํ เหฏฺา ภสฺสติ, ตโต อาหาเร วา เตลมธุผาณิตาทีสุ วา โอสเธสุ โอชา น โหติ. นิโรชาหารโภชนา มนุสฺสา พหฺวาพาธา โหนฺติ, รฏฺเ ถลชลปเถสุ อาโย นุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ อนุปฺปชฺชนฺเต ราชาโน ทุคฺคตา โหนฺติ. เต เสวเก สงฺคณฺหิตุํ น สกฺโกนฺติ, อสงฺคหิตา เสวกา ราชานํ ครุจิตฺเตน น โอโลเกนฺติ. เอวํ, ตาต, มุสาวาโท นาเมส นิโรโช, น โส ชีวิตเหตุปิ กาตพฺโพ, สจฺจํ ปน สาทุตรํ รสานนฺติ ตเทว ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อปิจ มุสาวาโท นาม คุณปริธํสโก วิปตฺติปริโยสาโน, ทุติยจิตฺตวาเร อวีจิปรายณํ กโรติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘ธมฺโม หเว หโต หนฺตี’’ติ เจติยชาตกํ (ชา. ๑.๘.๔๕ อาทโย) กเถตพฺพํ.

โกธนฺติ, ตาต, ราชา นาม ปมเมว กุชฺฌนลกฺขณํ โกธมฺปิ นิวาเรยฺย. ตาต, อฺเสฺหิ โกโธ ขิปฺปํ มตฺถกํ น ปาปุณาติ, ราชูนํ ปาปุณาติ. ราชาโน นาม วาจาวุธา กุชฺฌิตฺวา โอโลกิตมตฺเตนาปิ ปรํ วินาเสนฺติ, ตสฺมา รฺา อฺเหิ มนุสฺเสหิ อติเรกตรํ นิกฺโกเธน ภวิตพฺพํ, ขนฺติเมตฺตานุทฺทยาสมฺปนฺเนน อตฺตโน ปิยปุตฺตํ วิย โลกํ โวโลเกนฺเตน ภวิตพฺพํ. ตาต, อติโกธโน นาม ราชา อุปฺปนฺนํ ยสํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถํ ขนฺติวาทิชาตก- (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) จูฬธมฺมปาลชาตกานิ (ชา. ๑.๕.๔๔ อาทโย) กเถตพฺพานิ. จูฬธมฺมปาลชาตกสฺมิฺหิ มหาปตาปโน นาม ราชา ปุตฺตํ ฆาเตตฺวา ปุตฺตโสเกน หทเยน ผลิเตน มตาย เทวิยา สยมฺปิ เทวึ อนุโสจนฺโต หทเยน ผลิเตเนว มริ. อถ เต ตโยปิ เอกอาฬาหเนว ฌาเปสุํ. ตสฺมา รฺา ปมเมว มุสาวาทํ วชฺเชตฺวา ทุติยํ โกโธ วชฺเชตพฺโพ.

หาสนฺติ หสฺสํ, อยเมว วา ปาโ. เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ อุปฺปิลาวิตจิตฺตตาย เกฬิสีลตํ ปริหาสํ นิวาเรยฺย. ตาต, รฺา นาม เกฬิสีเลน น ภวิตพฺพํ, อปรปตฺติเยน หุตฺวา สพฺพานิ กิจฺจานิ อตฺตปจฺจกฺเขเนว กาตพฺพานิ. อุปฺปิลาวิตจิตฺโต หิ ราชา อตุเลตฺวา กมฺมานิ กโรนฺโต ลทฺธํ ยสํ วินาเสติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ สรภงฺคชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) ปุโรหิตสฺส วจนํ คเหตฺวา ทณฺฑกิรฺโ กิสวจฺเฉ อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน อุจฺฉิชฺชิตฺวา กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตภาโว จ มาตงฺคชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑ อาทโย) มชฺฌรฺโ พฺราหฺมณานํ กถํ คเหตฺวา มาตงฺคตาปเส อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน อุจฺฉิชฺชิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตภาโว จ ฆฏปณฺฑิตชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๑๖๕ อาทโย) ทสภาติกราชทารกานํ โมหมูฬฺหานํ วจนํ คเหตฺวา กณฺหทีปายเน อปรชฺฌิตฺวา วาสุเทวกุลสฺส นาสิตภาโว จ กเถตพฺโพ.

ตโต กิจฺจานิ กาเรยฺยาติ เอวํ, ตาต, ปมํ มุสาวาทํ ทุติยํ โกธํ ตติยํ อธมฺมหาสํ วชฺเชตฺวา ตโต ปจฺฉา ราชา รฏฺวาสีนํ กตฺตพฺพกิจฺจานิ กาเรยฺย. ตํ วตํ อาหุ ขตฺติยาติ, ขตฺติยมหาราช, ยํ มยา วุตฺตํ, เอตํ รฺโ วตสมาทานนฺติ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ.

น ตํ กยิราติ ยํ ตยา ราคาทิวเสน ปจฺฉา ตาปกรํ กมฺมํ กตํ โหติ, ตโต ปุพฺเพ กตโต ปุน ตาทิสํ กมฺมํ น กยิรา, มา กเรยฺยาสิ, ตาตาติ. วุจฺจเตติ ตํ รฺโ อฆนฺติ วุจฺจติ, เอวํ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ. สิรีติ อิทํ เวสฺสนฺตรสกุโณ ปุพฺเพ พาราณสิยํ ปวตฺติตการณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห. ตตฺถ อพฺรวุนฺติ สุจิปริวารเสฏฺินา ปุจฺฉิตา กถยึสุ. อุฏฺานวีริเยติ โย โปโส อุฏฺาเน วีริเย จ ปติฏฺิโต, น จ ปเรสํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา อุสูยติ, ตสฺมึ อหํ อภิรมามีติ อาห. เอวํ ตาว ตาต สิรี กเถสิ. อุสูยเกติ อลกฺขี ปน, ตาต, ปุจฺฉิตา อหํ ปรสมฺปตฺติอุสูยเก ทุหทเย ทุจิตฺเต กลฺยาณกมฺมทูสเก โย กลฺยาณกมฺมํ ทุสฺสนฺโต อปฺปิยายนฺโต อฏฺฏียนฺโต น กโรติ, ตสฺมึ อภิรมามีติ อาห. เอวํ สา กาฬกณฺณี, มหาราช, รมติ ปติรูปเทสวาสาทิโน กุสลจกฺกสฺส ภฺชนี.

สุหทโยติ สุนฺทรจิตฺโต หิตจิตฺตโก. นุทาติ นีหร. นิเวสนนฺติ ลกฺขิยา ปน นิเวสนํ ภว ปติฏฺา โหหิ. ส ลกฺขีธิติสมฺปนฺโนติ, มหาราช, กาสิปติ โส ปุริโส ปฺาย เจว วีริเยน จ สมฺปนฺโน. มหคฺคโตติ มหชฺฌาสโย โจรานํ ปจฺจยภูเต คณฺหนฺโต อมิตฺตานํ มูลํ โจเร คณฺหนฺโต อมิตฺตานํ อคฺคํ ฉินฺทตีติ วทติ. สกฺโกติ อินฺโท. ภูตปตีติ ราชานํ อาลปติ. อุฏฺาเนติ อุฏฺานวีริเย. นปฺปมชฺชตีติ น ปมชฺชติ, สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ส กลฺยาเณติ โส เทวราชา อุฏฺานวีริเย มนํ กโรนฺโต ปาปกมฺมํ อกตฺวา กลฺยาเณ ปุฺกมฺมสฺมิฺเว ธิตึ กตฺวา อปฺปมตฺโต อุฏฺาเน มนํ กโรติ, ตสฺส ปน กลฺยาณกมฺเม วีริยกรณภาวทสฺสนตฺถํ สรภงฺคชาตเก ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ สทฺธึ กปิฏฺารามํ อาคนฺตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมสฺส สุตภาโว, มหากณฺหชาตเก (ชา. ๑.๑๒.๖๑ อาทโย) อตฺตโน อานุภาเวน ชนํ ตาเสตฺวา โอสกฺกนฺตสฺส สาสนสฺส ปวตฺติตภาโว จาติ เอวมาทีนิ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.

คนฺธพฺพาติ จาตุมหาราชิกานํ เหฏฺา จตุโยนิกา เทวา, จตุโยนิกตฺตาเยว กิร เต คนฺธพฺพา นาม ชาตา. ปิตโรติ พฺรหฺมาโน. เทวาติ อุปปตฺติเทววเสน ฉ กามาวจรเทวา. ตาทิโนติ ตถาวิธสฺส กุสลาภิรตสฺส รฺโ. สาชีวา โหนฺตีติ สมานชีวิกา อุปชีวิตพฺพา. ตาทิสา หิ ราชาโน ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรนฺตา เทวตานํ ปตฺตึ เทนฺติ, ตา ตํ ปตฺตึ อนุโมทิตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทิพฺพยเสน วฑฺฒนฺติ. อนุติฏฺนฺตีติ ตาทิสสฺส รฺโ วีริยํ กโรนฺตสฺส อปฺปมาทํ อาปชฺชนฺตสฺส เทวตา อนุติฏฺนฺติ อนุคจฺฉนฺติ, ธมฺมิกํ รกฺขํ สํวิทหนฺตีติ อตฺโถ.

โสติ โส ตฺวํ. วายมสฺสูติ ตานิ รฏฺกิจฺจานิ กโรนฺโต ตุลนวเสน ตีรณวเสน ปจฺจกฺขกมฺมวเสน เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ วีริยํ กรสฺสุ. ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ, ตาต, ยํ มํ ตฺวํ กึสุ กิจฺจํ กตํ วรนฺติ ปุจฺฉิ, ตตฺถ ตว ปฺเหเยว เอเต มยา ‘‘ปเมเนว วิตถ’’นฺติอาทโย วุตฺตา, เอเต วตฺตปทา วตฺตโกฏฺาสา, เอวํ ตตฺถ วตฺตสฺสุ. เอสาติ ยา เต มยา กถิตา, เอสาว ตว อนุสาสนี. อลนฺติ เอวํ วตฺตมาโน หิ ราชา อตฺตโน มิตฺเต สุขาเปตุํ, อมิตฺตานฺจ ทุกฺขาย อลํ ปริยตฺโต สมตฺโถติ.

เอวํ เวสฺสนฺตรสกุเณน เอกาย คาถาย รฺโ ปมาทํ โจเทตฺวา เอกาทสหิ คาถาหิ ธมฺเม กถิเต ‘‘พุทฺธลีฬาย ปฺโห กถิโต’’ติ มหาชโน อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต สาธุการสตานิ ปวตฺเตสิ. ราชา โสมนสฺสปฺปตฺโต อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ปุตฺเตน เวสฺสนฺตเรน เอวํ กเถนฺเตน เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. มหาเสนคุตฺเตน, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺส มหาเสนคุตฺตฏฺานํ ทมฺมี’’ติ เวสฺสนฺตรํ านนฺตเร เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย มหาเสนคุตฺตฏฺาเน ิโต ปิตุ กมฺมํ อกาสีติ.

เวสฺสนฺตรปฺโห นิฏฺิโต.

ปุน ราชา กติปาหจฺจเยน ปุริมนเยเนว กุณฺฑลินิยา สนฺติกํ ทูตํ เปเสตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา ตตฺเถว มณฺฑปมชฺเฌ นิสีทิตฺวา กุณฺฑลินึ อาหราเปตฺวา สุวณฺณปีเ นิสินฺนํ ราชธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๔.

‘‘สกฺขิสิ ตฺวํ กุณฺฑลินิ, มฺสิ ขตฺตพนฺธุนิ;

รชฺชํ กาเรตุกาเมน, กึ สุ กิจฺจํ กตํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ สกฺขิสีติ มยา ปุฏฺปฺหํ กเถตุํ สกฺขิสฺสสีติ ปุจฺฉติ. กุณฺฑลินีติ ตสฺสา สลิงฺคโต อาคตนาเมนาลปติ. ตสฺสา กิร ทฺวีสุ กณฺณปิฏฺเสุ กุณฺฑลสณฺานา ทฺเว เลขา อเหสุํ, เตนสฺสา ‘‘กุณฺฑลินี’’ติ นามํ กาเรสิ. มฺสีติ ชานิสฺสสิ มยา ปุฏฺปฺหสฺส อตฺถนฺติ. ขตฺตพนฺธุนีติ ขตฺตสฺส มหาเสนคุตฺตสฺส ภคินิภาเวน นํ เอวํ อาลปติ. กสฺมา ปเนส เวสฺสนฺตรสกุณํ เอวํ อปุจฺฉิตฺวา อิมเมว ปุจฺฉตีติ? อิตฺถิภาเวน. อิตฺถิโย หิ ปริตฺตปฺา, ตสฺมา ‘‘สเจ สกฺโกติ, ปุจฺฉิสฺสามิ, โน เจ, น ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วีมํสนวเสน เอวํ ปุจฺฉิตฺวา ตฺเว ปฺหํ ปุจฺฉิ.

สา เอวํ รฺา ราชธมฺเม ปุจฺฉิเต, ‘‘ตาต, ตฺวํ มํ ‘อิตฺถิกา นาม กึ กเถสฺสตี’ติ วีมํสสิ มฺเ, สกลํ เต ราชธมฺมํ ทฺวีสุเยว ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕.

‘‘ทฺเวว ตาต ปทกานิ, ยตฺถ สพฺพํ ปติฏฺิตํ;

อลทฺธสฺส จ โย ลาโภ, ลทฺธสฺส จานุรกฺขณา.

๑๖.

‘‘อมจฺเจ ตาต ชานาหิ, ธีเร อตฺถสฺส โกวิเท;

อนกฺขากิตเว ตาต, อโสณฺเฑ อวินาสเก.

๑๗.

‘‘โย จ ตํ ตาต รกฺเขยฺย, ธนํ ยฺเจว เต สิยา;

สูโตว รถํ สงฺคณฺเห, โส เต กิจฺจานิ การเย.

๑๘.

‘‘สุสงฺคหิตนฺตชโน, สยํ วิตฺตํ อเวกฺขิย;

นิธิฺจ อิณทานฺจ, น กเร ปรปตฺติยา.

๑๙.

‘‘สยํ อายํ วยํ ชฺา, สยํ ชฺา กตากตํ;

นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ.

๒๐.

‘‘สยํ ชานปทํ อตฺถํ, อนุสาส รเถสภ;

มา เต อธมฺมิกา ยุตฺตา, ธนํ รฏฺฺจ นาสยุํ.

๒๑.

‘‘มา จ เวเคน กิจฺจานิ, กโรสิ การเยสิ วา;

เวคสา หิ กตํ กมฺมํ, มนฺโท ปจฺฉานุตปฺปติ.

๒๒.

‘‘มา เต อธิสเร มุฺจ, สุพาฬฺหมธิโกปิตํ;

โกธสา หิ พหู ผีตา, กุลา อกุลตํ คตา.

๒๓.

‘‘‘มา ตาต อิสฺสโรมฺหี’ติ, อนตฺถาย ปตารยิ;

อิตฺถีนํ ปุริสานฺจ, มา เต อาสิ ทุขุทฺรโย.

๒๔.

‘‘อเปตโลมหํสสฺส, รฺโ กามานุสาริโน;

สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, รฺโ ตํ วุจฺจเต อฆํ.

๒๕.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

ทกฺขสฺสุทานิ ปุฺกโร, อโสณฺโฑ อวินาสโก;

สีลวาสฺสุ มหาราช, ทุสฺสีโล วินิปาติโก’’ติ.

ตตฺถ ปทกานีติ การณปทานิ. ยตฺถาติ เยสุ ทฺวีสุ ปเทสุ สพฺพํ อตฺถชาตํ หิตสุขํ ปติฏฺิตํ. อลทฺธสฺสาติ โย จ ปุพฺเพ อลทฺธสฺส ลาภสฺส ลาโภ, ยา จ ลทฺธสฺส อนุรกฺขณา. ตาต, อนุปฺปนฺนสฺส หิ ลาภสฺส อุปฺปาทนํ นาม น ภาโร, อุปฺปนฺนสฺส ปน อนุรกฺขณเมว ภาโร. เอกจฺโจ หิ ยสํ อุปฺปาเทตฺวาปิ ยเส ปมตฺโต ปมาทํ อุปฺปาเทตฺวา ปาณาติปาตาทีนิ กโรติ, มหาโจโร หุตฺวา รฏฺํ วิลุมฺปมาโน จรติ. อถ นํ ราชาโน คาหาเปตฺวา มหาวินาสํ ปาเปนฺติ. อถ วา อุปฺปนฺนรูปาทีสุ กามคุเณสุ ปมตฺโต อโยนิโส ธนํ นาเสนฺโต สพฺพสาปเตยฺเย ขีเณ กปโณ หุตฺวา จีรกวสโน กปาลมาทาย จรติ. ปพฺพชิโต วา ปน คนฺถธุราทิวเสน ลาภสกฺการํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมตฺโต หีนายาวตฺตติ. อปโร ปมฌานาทีนิ นิพฺพตฺเตตฺวาปิ มุฏฺสฺสติตาย ตถารูเป อารมฺมเณ พชฺฌิตฺวา ฌานา ปริหายติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ยสสฺส วา ฌานาทิลาภสฺส วา รกฺขณเมว ทุกฺกรํ. ตทตฺถทีปนตฺถํ ปน เทวทตฺตสฺส วตฺถุ จ, มุทุลกฺขณ- (ชา. ๑.๑.๖๖) โลมสกสฺสป- (ชา. ๑.๙.๖๐ อาทโย) หริตจชาตก- (ชา. ๑.๙.๔๐ อาทโย) สงฺกปฺปชาตกาทีนิ (ชา. ๑.๓.๑ อาทโย) จ กเถตพฺพานิ. เอโก ปน ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทตฺวา อปฺปมาเท ตฺวา กลฺยาณกมฺมํ กโรติ, ตสฺส โส ยโส สุกฺกปกฺเข จนฺโท วิย วฑฺฒติ, ตสฺมา ตฺวํ, มหาราช, อปฺปมตฺโต ปโยคสมฺปตฺติยา ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ตว อุปฺปนฺนํ ยสํ อนุรกฺขาหีติ.

ชานาหีติ ภณฺฑาคาริกกมฺมาทีนํ กรณตฺถํ อุปธาเรหิ. อนกฺขากิตเวติ อนกฺเข อกิตเว อชุตกเร เจว อเกราฏิเก จ. อโสณฺเฑติ ปูวสุราคนฺธมาลาโสณฺฑภาวรหิเต. อวินาสเกติ ตว สนฺตกานํ ธนธฺาทีนํ อวินาสเก. โยติ โย อมจฺโจ. ยฺเจวาติ ยฺจ เต ฆเร ธนํ สิยา, ตํ รกฺเขยฺย. สูโตวาติ รถสารถิ วิย. ยถา สารถิ วิสมมคฺคนิวารณตฺถํ อสฺเส สงฺคณฺหนฺโต รถํ สงฺคณฺเหยฺย, เอวํ โย สห โภเคหิ ตํ รกฺขิตุํ สกฺโกติ, โส เต อมจฺโจ นาม ตาทิสํ สงฺคเหตฺวา ภณฺฑาคาริกาทิกิจฺจานิ การเย.

สุสงฺคหิตนฺตชโนติ, ตาต, ยสฺส หิ รฺโ อตฺตโน อนฺโตชโน อตฺตโน วลฺชนกปริชโน จ ทานาทีหิ อสงฺคหิโต โหติ, ตสฺส อนฺโตนิเวสเน สุวณฺณหิรฺาทีนิ เตสํ อสงฺคหิตมนุสฺสานํ วเสน นสฺสนฺติ, อนฺโตชนา พหิ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตฺวํ สุฏฺุสงฺคหิตอนฺโตชโน หุตฺวา ‘‘เอตฺตกํ นาม เม วิตฺต’’นฺติ สยํ อตฺตโน ธนํ อเวกฺขิตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม นิธึ นิเธม, อสุกสฺส อิณํ เทมา’’ติ อิทํ อุภยมฺปิ น กเร ปรปตฺติยา, ปรปตฺติยาปิ ตฺวํ มา กริ, สพฺพํ อตฺตปจฺจกฺขเมว กเรยฺยาสีติ วทติ.

อายํ วยนฺติ ตโต อุปฺปชฺชนกํ อายฺจ เตสํ เตสํ ทาตพฺพํ วยฺจ สยเมว ชาเนยฺยาสีติ. กตากตนฺติ สงฺคาเม วา นวกมฺเม วา อฺเสุ วา กิจฺเจสุ ‘‘อิมินา อิทํ นาม มยฺหํ กตํ, อิมินา น กต’’นฺติ เอตมฺปิ สยเมว ชาเนยฺยาสิ, มา ปรปตฺติโย โหหิ. นิคฺคณฺเหติ, ตาต, ราชา นาม สนฺธิจฺเฉทาทิการกํ นิคฺคหารหํ อาเนตฺวา ทสฺสิตํ อุปปริกฺขิตฺวา โสเธตฺวา โปราณกราชูหิ ปิตทณฺฑํ โอโลเกตฺวา โทสานุรูปํ นิคฺคณฺเหยฺย. ปคฺคณฺเหติ โย ปน ปคฺคหารโห โหติ, อภินฺนสฺส วา ปรพลสฺส เภเทตา, ภินฺนสฺส วา สกพลสฺส อาราธโก, อลทฺธสฺส วา รชฺชสฺส อาหรโก, ลทฺธสฺส วา ถาวรการโก, เยน วา ปน ชีวิตํ ทินฺนํ โหติ, เอวรูปํ ปคฺคหารหํ ปคฺคเหตฺวา มหนฺตํ สกฺการสมฺมานํ กเรยฺย. เอวํ หิสฺส กิจฺเจสุ อฺเปิ อุรํ ทตฺวา กตฺตพฺพํ กริสฺสนฺติ.

ชานปทนฺติ ชนปทวาสีนํ อตฺถํ สยํ อตฺตปจฺจกฺเขเนว อนุสาส. อธมฺมิกา ยุตฺตาติ อธมฺมิกา ตตฺถ ตตฺถ นิยุตฺตา อายุตฺตกา ลฺชํ คเหตฺวา วินิจฺฉยํ ภินฺทนฺตา ตว ธนฺจ รฏฺฺจ มา นาสยุํ. อิมินา การเณน อปฺปมตฺโต หุตฺวา สยเมว อนุสาส. เวเคนาติ สหสา อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา. เวคสาติ อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา ฉนฺทาทิวเสน สหสา กตํ กมฺมฺหิ น สาธุ น สุนฺทรํ. กึการณา? ตาทิสฺหิ กตฺวา มนฺโท ปจฺฉา วิปฺปฏิสารวเสน อิธ โลเก อปายทุกฺขํ อนุภวนฺโต ปรโลเก จ อนุตปฺปติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ ‘‘อิสีนมนฺตรํ กตฺวา, ภรุราชาติ เม สุต’’นฺติ ภรุชาตเกน (ชา. ๑.๒.๑๒๕-๑๒๖) ทีเปตพฺโพ.

มา เต อธิสเร มุฺจ, สุพาฬฺหมธิโกปิตนฺติ, ตาต, ตว หทยํ กุสลํ อธิสริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ปวตฺเต ปเรสํ อกุสลกมฺเม สุฏฺุ พาฬฺหํ อธิโกปิตํ กุชฺฌาปิตํ หุตฺวา มา มุฺจ, มา ปติฏฺายตูติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, ยทา เต วินิจฺฉเย ิตสฺส อิมินา ปุริโส วา หโต สนฺธิ วา ฉินฺโนติ โจรํ ทสฺเสนฺติ, ตทา เต ปเรสํ วจเนหิ สุฏฺุ โกปิตมฺปิ หทยํ โกธวเสน มา มุฺจ, อปริคฺคเหตฺวา มา ทณฺฑํ ปเณหิ. กึการณา? อโจรมฺปิ หิ ‘‘โจโร’’ติ คเหตฺวา อาเนนฺติ, ตสฺมา อกุชฺฌิตฺวา อุภินฺนํ อตฺตปจฺจตฺถิกานํ กถํ สุตฺวา สุฏฺุ โสเธตฺวา อตฺตปจฺจกฺเขน ตสฺส โจรภาวํ ตฺวา ปเวณิยา ปิตทณฺฑวเสน กตฺตพฺพํ กโรหิ. รฺา หิ อุปฺปนฺเนปิ โกเธ หทยํ สีตลํ อกตฺวา กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยทา ปนสฺส หทยํ นิพฺพุตํ โหติ มุทุกํ, ตทา วินิจฺฉยกมฺมํ กาตพฺพํ. ผรุเส หิ จิตฺเต ปกฺกุถิเต อุทเก มุขนิมิตฺตํ วิย การณํ น ปฺายติ. โกธสา หีติ, ตาต, โกเธน หิ พหูนิ ผีตานิ ราชกุลานิ อกุลภาวํ คตานิ มหาวินาสเมว ปตฺตานีติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถํ ขนฺติวาทิชาตก- (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) นาฬิเกรราชวตฺถุสหสฺสพาหุอชฺชุนวตฺถุอาทีนิ กเถตพฺพานิ.

มา, ตาต, อิสฺสโรมฺหีติ, อนตฺถาย ปตารยีติ, ตาต, ‘‘อหํ ปถวิสฺสโร’’ติ มา มหาชนํ กายทุจฺจริตาทิอนตฺถาย ปตารยิ มา โอตารยิ, ยถา ตํ อนตฺถํ สมาทาย วตฺตติ, มา เอวมกาสีติ อตฺโถ. มา เต อาสีติ, ตาต, ตว วิชิเต มนุสฺสชาติกานํ วา ติรจฺฉานชาติกานํ วา อิตฺถิปุริสานํ ทุขุทฺรโย ทุกฺขุปฺปตฺติ มา อาสิ. ยถา หิ อธมฺมิกราชูนํ วิชิเต มนุสฺสา กายทุจฺจริตาทีนิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชนฺติ, ตว รฏฺวาสีนํ ตํ ทุกฺขํ ยถา น โหติ, ตถา กโรหีติ อตฺโถ.

อเปตโลมหํสสฺสาติ อตฺตานุวาทาทิภเยหิ นิพฺภยสฺส. อิมินา อิมํ ทสฺเสติ – ตาต, โย ราชา กิสฺมิฺจิ อาสงฺกํ อกตฺวา อตฺตโน กามเมว อนุสฺสรติ, ฉนฺทวเสน ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ กโรติ, วิสฺสฏฺยฏฺิ วิย อนฺโธ นิรงฺกุโส วิย จ จณฺฑหตฺถี โหติ, ตสฺส สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, ตสฺส ตํ โภคพฺยสนํ อฆํ ทุกฺขนฺติ วุจฺจติ.

ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. ทกฺขสฺสุทานีติ, ตาต, ตฺวํ อิมํ อนุสาสนึ สุตฺวา อิทานิ ทกฺโข อนลโส ปุฺานํ กรเณน ปุฺกโร สุราทิปริหรเณน. อโสณฺโฑ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกสฺส อตฺถสฺส อวินาสเนน อวินาสโก ภเวยฺยาสีติ. สีลวาสฺสูติ สีลวา อาจารสมฺปนฺโน ภว, ทสสุ ราชธมฺเมสุ ปติฏฺาย รชฺชํ กาเรหิ. ทุสฺสีโล วินิปาติโกติ ทุสฺสีโล หิ, มหาราช, อตฺตานํ นิรเย วินิปาเตนฺโต วินิปาติโก นาม โหตีติ.

เอวํ กุณฺฑลินีปิ เอกาทสหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ. ราชา ตุฏฺโ อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ธีตาย กุณฺฑลินิยา เอวํ กถยมานาย เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. ภณฺฑาคาริเกน, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺสา ภณฺฑาคาริกฏฺานํ ทมฺมี’’ติ กุณฺฑลินึ านนฺตเร เปสิ. สา ตโต ปฏฺาย ภณฺฑาคาริกฏฺาเน ตฺวา ปิตุ กมฺมํ อกาสีติ.

กุณฺฑลินิปฺโห นิฏฺิโต.

ปุน ราชา กติปาหจฺจเยน ปุริมนเยเนว ชมฺพุกปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ ทูตํ เปเสตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ คนฺตฺวา สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ปจฺจาคโต ตตฺเถว มณฺฑปมชฺเฌ นิสีทิ. อมจฺโจ ชมฺพุกปณฺฑิตํ กฺจนภทฺทปีเ นิสีทาเปตฺวา ปีํ สีเสนาทาย อาคจฺฉิ. ปณฺฑิโต ปิตุ องฺเก นิสีทิตฺวา กีฬิตฺวา คนฺตฺวา กฺจนปีเเยว นิสีทิ. อถ นํ ราชา ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๒๖.

‘‘อปุจฺฉิมฺห โกสิยโคตฺตํ, กุณฺฑลินึ ตเถว จ;

ตฺวํ ทานิ วเทหิ ชมฺพุก, พลานํ พลมุตฺตม’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ตาต, ชมฺพุก, อหํ ตว ภาตรํ โกสิยโคตฺตํ เวสฺสนฺตรํ ภคินิฺจ เต กุณฺฑลินึ ราชธมฺมํ อปุจฺฉึ, เต อตฺตโน พเลน กเถสุํ, ยถา ปน เต ปุจฺฉึ, ตเถว อิทานิ, ปุตฺต ชมฺพุก, ตํ ปุจฺฉามิ, ตฺวํ เม ราชธมฺมฺจ พลานํ อุตฺตมํ พลฺจ กเถหีติ.

เอวํ ราชา มหาสตฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต อฺเสํ ปุจฺฉิตนิยาเมน อปุจฺฉิตฺวา วิเสเสตฺวา ปุจฺฉิ. อถสฺส ปณฺฑิโต ‘‘เตน หิ, มหาราช, โอหิตโสโต สุณาหิ, สพฺพํ เต กเถสฺสามี’’ติ ปสาริตหตฺเถ สหสฺสตฺถวิกํ เปนฺโต วิย ธมฺมเทสนํ อารภิ –

๒๗.

‘‘พลํ ปฺจวิธํ โลเก, ปุริสสฺมึ มหคฺคเต;

ตตฺถ พาหุพลํ นาม, จริมํ วุจฺจเต พลํ.

๒๘.

‘‘โภคพลฺจ ทีฆาวุ, ทุติยํ วุจฺจเต พลํ;

อมจฺจพลฺจ ทีฆาวุ, ตติยํ วุจฺจเต พลํ.

๒๙.

‘‘อภิชจฺจพลฺเจว, ตํ จตุตฺถํ อสํสยํ;

ยานิ เจตานิ สพฺพานิ, อธิคณฺหาติ ปณฺฑิโต.

๓๐.

‘‘ตํ พลานํ พลํ เสฏฺํ, อคฺคํ ปฺาพลํ พลํ;

ปฺาพเลนุปตฺถทฺโธ, อตฺถํ วินฺทติ ปณฺฑิโต.

๓๑.

‘‘อปิ เจ ลภติ มนฺโท, ผีตํ ธรณิมุตฺตมํ;

อกามสฺส ปสยฺหํ วา, อฺโ ตํ ปฏิปชฺชติ.

๓๒.

‘‘อภิชาโตปิ เจ โหติ, รชฺชํ ลทฺธาน ขตฺติโย;

ทุปฺปฺโ หิ กาสิปติ, สพฺเพนปิ น ชีวติ.

๓๓.

‘‘ปฺาว สุตํ วินิจฺฉินี, ปฺา กิตฺติสิโลกวฑฺฒนี;

ปฺาสหิโต นโร อิธ, อปิ ทุกฺเข สุขานิ วินฺทติ.

๓๔.

‘‘ปฺฺจ โข อสุสฺสูสํ, น โกจิ อธิคจฺฉติ;

พหุสฺสุตํ อนาคมฺม, ธมฺมฏฺํ อวินิพฺภุชํ.

๓๕.

‘‘โย จ ธมฺมวิภงฺคฺู, กาลุฏฺายี อตนฺทิโต;

อนุฏฺหติ กาเลน, กมฺมผลํ ตสฺสิชฺฌติ.

๓๖.

‘‘อนายตนสีลสฺส, อนายตนเสวิโน;

น นิพฺพินฺทิยการิสฺส, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ.

๓๗.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ ปยุตฺตสฺส, ตถายตนเสวิโน;

อนิพฺพินฺทิยการิสฺส, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ.

๓๘.

‘‘โยคปฺปโยคสงฺขาตํ, สมฺภตสฺสานุรกฺขณํ;

ตานิ ตฺวํ ตาต เสวสฺสุ, มา อกมฺมาย รนฺธยิ;

อกมฺมุนา หิ ทุมฺเมโธ, นฬาคารํว สีทตี’’ติ.

ตตฺถ มหคฺคเตติ, มหาราช, อิมสฺมึ สตฺตโลเก มหชฺฌาสเย ปุริเส ปฺจวิธํ พลํ โหติ. พาหุพลนฺติ กายพลํ. จริมนฺติ ตํ อติมหนฺตมฺปิ สมานํ ลามกเมว. กึการณา? อนฺธพาลภาเวน. สเจ หิ กายพลํ มหนฺตํ นาม ภเวยฺย, วารณพลโต ลฏุกิกาย พลํ ขุทฺทกํ ภเวยฺย, วารณพลํ ปน อนฺธพาลภาเวน มรณสฺส ปจฺจยํ ชาตํ, ลฏุกิกา อตฺตโน าณกุสลตาย วารณํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘น เหว สพฺพตฺถ พเลน กิจฺจํ, พลฺหิ พาลสฺส วธาย โหตี’’ติ สุตฺตํ (ชา. ๑.๕.๔๒) อาหริตพฺพํ.

โภคพลนฺติ อุปตฺถมฺภนวเสน สพฺพํ หิรฺสุวณฺณาทิ อุปโภคชาตํ โภคพลํ นาม, ตํ กายพลโต มหนฺตตรํ. อมจฺจพลนฺติ อเภชฺชมนฺตสฺส สูรสฺส สุหทยสฺส อมจฺจมณฺฑลสฺส อตฺถิตา, ตํ พลํ สงฺคามสูรตาย ปุริเมหิ พเลหิ มหนฺตตรํ. อภิชจฺจพลนฺติ ตีณิ กุลานิ อติกฺกมิตฺวา ขตฺติยกุลวเสน ชาติสมฺปตฺติ, ตํ อิตเรหิ พเลหิ มหนฺตตรํ. ชาติสมฺปนฺนา เอว หิ สุชฺฌนฺติ, น อิตเรติ. ยานิ เจตานีติ ยานิ จ เอตานิ จตฺตาริปิ พลานิ ปณฺฑิโต ปฺานุภาเวน อธิคณฺหาติ อภิภวติ, ตํ สพฺพพลานํ ปฺาพลํ เสฏฺนฺติ จ อคฺคนฺติ จ วุจฺจติ. กึการณา? เตน หิ พเลน อุปตฺถทฺโธ ปณฺฑิโต อตฺถํ วินฺทติ, วุฑฺฒึ ปาปุณาติ. ตทตฺถโชตนตฺถํ ‘‘ปุณฺณํ นทึ เยน จ เปยฺยมาหู’’ติ ปุณฺณนทีชาตกฺจ (ชา. ๑.๒.๑๒๗ อาทโย) สิรีกาฬกณฺณิปฺหํ ปฺจปณฺฑิตปฺหฺจ สตฺตุภสฺตชาตก- (ชา. ๑.๗.๔๖ อาทโย) สมฺภวชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๑๓๘ อาทโย) สรภงฺคชาตกาทีนิ (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) จ กเถตพฺพานิ.

มนฺโทติ มนฺทปฺโ พาโล. ผีตนฺติ, ตาต, มนฺทปฺโ ปุคฺคโล สตฺตรตนปุณฺณํ เจปิ อุตฺตมํ ธรณึ ลภติ, ตสฺส อนิจฺฉมานสฺเสว ปสยฺหการํ วา ปน กตฺวา อฺโ ปฺาสมฺปนฺโน ตํ ปฏิปชฺชติ. มนฺโท หิ ลทฺธํ ยสํ รกฺขิตุํ กุลสนฺตกํ วา ปน ปเวณิอาคตมฺปิ รชฺชํ อธิคนฺตุํ น สกฺโกติ. ตทตฺถโชตนตฺถํ ‘‘อทฺธา ปาทฺชลี สพฺเพ, ปฺาย อติโรจตี’’ติ ปาทฺชลีชาตกํ (ชา. ๑.๒.๑๙๔-๑๙๕) กเถตพฺพํ. ลทฺธานาติ ชาติสมฺปตฺตึ นิสฺสาย กุลสนฺตกํ รชฺชํ ลภิตฺวาปิ. สพฺเพนปีติ เตน สกเลนปิ รชฺเชน น ชีวติ, อนุปายกุสลตาย ทุคฺคโตว โหตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต เอตฺตเกน าเนน อปณฺฑิตสฺส อคุณํ กเถตฺวา อิทานิ ปฺํ ปสํสนฺโต ‘‘ปฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุตนฺติ สุตปริยตฺติ. ตฺหิ ปฺาว วินิจฺฉินติ. กิตฺติสิโลกวฑฺฒนีติ กิตฺติโฆสสฺส จ ลาภสกฺการสฺส จ วฑฺฒนี. ทุกฺเข สุขานิ วินฺทตีติ ทุกฺเข อุปฺปนฺเนปิ นิพฺภโย หุตฺวา อุปายกุสลตาย สุขํ ปฏิลภติ. ตทตฺถทีปนตฺถํ –

‘‘ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา, วานรินฺท ยถา ตว’’. (ชา. ๑.๑.๕๗);

อลเมเตหิ อมฺเพหิ, ชมฺพูหิ ปนเสหิ จา’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๑๕) –

อาทีนิ ชาตกานิ กเถตพฺพานิ.

อสุสฺสูสนฺติ ปณฺฑิตปุคฺคเล อปยิรุปาสนฺโต อสฺสุณนฺโต. ธมฺมฏฺนฺติ สภาวการเณ ิตํ พหุสฺสุตํ อนาคมฺม ตํ อสทฺทหนฺโต. อวินิพฺภุชนฺติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ อโนคาหนฺโต อตีเรนฺโต น โกจิ ปฺํ อธิคจฺฉติ, ตาตาติ.

ธมฺมวิภงฺคฺูติ ทสกุสลกมฺมปถวิภงฺคกุสโล. กาลุฏฺายีติ วีริยํ กาตุํ ยุตฺตกาเล วีริยสฺส การโก. อนุฏฺหตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ตํ ตํ กิจฺจํ กโรติ. ตสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส กมฺมผลํ สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชติ. อนายตนสีลสฺสาติ อนายตนํ วุจฺจติ ลาภยสสุขานํ อนากโร ทุสฺสีลฺยกมฺมํ, ตํสีลสฺส เตน ทุสฺสีลฺยกมฺเมน สมนฺนาคตสฺส, อนายตนภูตเมว ทุสฺสีลปุคฺคลํ เสวนฺตสฺส, กุสลสฺส กมฺมสฺส กรณกาเล นิพฺพินฺทิยการิสฺส นิพฺพินฺทิตฺวา อุกฺกณฺิตฺวา กโรนฺตสฺส เอวรูปสฺส, ตาต, ปุคฺคลสฺส กมฺมานํ อตฺโถ สมฺมา น วิปจฺจติ น สมฺปชฺชติ, ตีณิ กุลคฺคานิ จ ฉ กามสคฺคานิ จ น อุปเนตีติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตฺจาติ อตฺตโน นิยกชฺฌตฺตํ อนิจฺจภาวนาทิวเสน ปยุตฺตสฺส. ตถายตนเสวิโนติ ตเถว สีลวนฺเต ปุคฺคเล เสวมานสฺส. วิปจฺจตีติ สมฺปชฺชติ มหนฺตํ ยสํ เทติ.

โยคปฺปโยคสงฺขาตนฺติ โยเค ยุฺชิตพฺพยุตฺตเก การเณ ปโยคโกฏฺาสภูตํ ปฺํ. สมฺภตสฺสาติ ราสิกตสฺส ธนสฺส อนุรกฺขณํ. ตานิ ตฺวนฺติ เอตานิ จ ทฺเว ปุริมานิ จ มยา วุตฺตการณานิ สพฺพานิ, ตาต, ตฺวํ เสวสฺสุ, มยา วุตฺตํ โอวาทํ หทเย กตฺวา อตฺตโน ฆเร ธนํ รกฺข. มา อกมฺมาย รนฺธยีติ อยุตฺเตน อการเณน มา รนฺธยิ, ตํ ธนํ มา ฌาปยิ มา นาสยิ. กึการณา? อกมฺมุนา หีติ อยุตฺตกมฺมกรเณน ทุมฺเมโธ ปุคฺคโล สกํ ธนํ นาเสตฺวา ปจฺฉา ทุคฺคโต. นฬาคารํว สีทตีติ ยถา นฬาคารํ มูลโต ปฏฺาย ชีรมานํ อปฺปติฏฺํ ปตติ, เอวํ อการเณน ธนํ นาเสตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตตีติ.

เอวมฺปิ โพธิสตฺโต เอตฺตเกน าเนน ปฺจ พลานิ วณฺเณตฺวา ปฺาพลํ อุกฺขิปิตฺวา จนฺทมณฺฑลํ นีหรนฺโต วิย กเถตฺวา อิทานิ ทสหิ คาถาหิ รฺโ โอวาทํ เทนฺโต อาห –

๓๙.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๐.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๒.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๓.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๔.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเ ชนปเทสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๕.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมเณ พฺราหฺมเณสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๖.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๗.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๘.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;

สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.

ตตฺถ ปมคาถาย ตาว อิธ ธมฺมนฺติ มาตาปิตุปฏฺานธมฺมํ. ตํ กาลสฺเสว วุฏฺาย มาตาปิตูนํ มุโขทกทนฺตกฏฺทานมาทึ กตฺวา สพฺพสรีรกิจฺจปริหรณํ กโรนฺโตว ปูเรหีติ วทติ. ปุตฺตทาเรสูติ ปุตฺตธีตโร ตาว ปาปา นิวาเรตฺวา กลฺยาเณ นิเวเสนฺโต สิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปนฺโต วยปฺปตฺตกาเล ปติรูปกุลวํเสน อาวาหวิวาหํ กโรนฺโต สมเย ธนํ เทนฺโต ปุตฺเตสุ ธมฺมํ จรติ นาม, ภริยํ สมฺมาเนนฺโต อนวมาเนนฺโต อนติจรนฺโต อิสฺสริยํ โวสฺสชฺเชนฺโต อลงฺการํ อนุปฺปเทนฺโต ทาเรสุ ธมฺมํ จรติ นาม. มิตฺตามจฺเจสูติ มิตฺตามจฺเจ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคณฺหนฺโต อวิสํวาเทนฺโต เอเตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. วาหเนสุ พเลสุ จาติ หตฺถิอสฺสาทีนํ วาหนานํ พลกายสฺส จ ทาตพฺพยุตฺตกํ เทนฺโต สกฺการํ กโรนฺโต หตฺถิอสฺสาทโย มหลฺลกกาเล กมฺเมสุ อโยเชนฺโต เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม.

คาเมสุ นิคเมสุ จาติ คามนิคมวาสิโน ทณฺฑพลีหิ อปีเฬนฺโตว เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. รฏฺเ ชนปเทสุ จาติ รฏฺฺจ ชนปทฺจ อการเณน กิลเมนฺโต หิตจิตฺตํ อปจฺจุปฏฺเปนฺโต ตตฺถ อธมฺมํ จรติ นาม, อปีเฬนฺโต ปน หิตจิตฺเตน ผรนฺโต ตตฺถ ธมฺมํ จรติ นาม. สมเณ พฺราหฺมเณสุ จาติ เตสํ จตฺตาโร ปจฺจเย เทนฺโตว เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. มิคปกฺขีสูติ สพฺพจตุปฺปทสกุณานํ อภยํ เทนฺโต เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. ธมฺโม จิณฺโณติ สุจริตธมฺโม จิณฺโณ. สุขาวโหติ ตีสุ กุลสมฺปทาสุ ฉสุ กามสคฺเคสุ สุขํ อาวหติ. สุจิณฺเณนาติ อิธ จิณฺเณน กายสุจริตาทินา สุจิณฺเณน. ทิวํ ปตฺตาติ เทวโลกพฺรหฺมโลกสงฺขาตํ ทิวํ คตา, ตตฺถ ทิพฺพสมฺปตฺติลาภิโน ชาตา. มา ธมฺมํ ราช ปามโทติ ตสฺมา ตฺวํ, มหาราช, ชีวิตํ ชหนฺโตปิ ธมฺมํ มา ปมชฺชีติ.

เอวํ ทส ธมฺมจริยคาถาโย วตฺวา อุตฺตริปิ โอวทนฺโต โอสานคาถมาห –

๔๙.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

สปฺปฺเสวี กลฺยาณี, สมตฺตํ สาม ตํ วิทู’’ติ.

ตตฺถ ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ อิทํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. สปฺปฺเสวี กลฺยาณี, สมตฺตํ สาม ตํ วิทูติ, มหาราช, ตํ มยา วุตฺตํ โอวาทํ ตฺวํ นิจฺจกาลํ สปฺปฺปุคฺคลเสวี กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต หุตฺวา สมตฺตํ ปริปุณฺณํ สามํ วิทู อตฺตปจฺจกฺขโตว ชานิตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชาติ.

เอวํ มหาสตฺโต อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโน มหาสกฺการํ อกาสิ, สาธุการสหสฺสานิ อทาสิ. ราชา ตุฏฺโ อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ปุตฺเตน ตรุณชมฺพุผลสมานตุณฺเฑน ชมฺพุกปณฺฑิเตน เอวํ กเถนฺเตน เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. เสนาปตินา, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺส เสนาปติฏฺานํ ทมฺมี’’ติ ชมฺพุกํ านนฺตเร เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย เสนาปติฏฺาเน ตฺวา ปิตุ กมฺมานิ อกาสิ. ติณฺณํ สกุณานํ มหนฺโต สกฺกาโร อโหสิ. ตโยปิ ชนา รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสึสุ. มหาสตฺตสฺโสวาเท ตฺวา ราชา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. อมจฺจา รฺโ สรีรกิจฺจํ กตฺวา สกุณานํ อาโรเจตฺวา ‘‘สามิ, ชมฺพุกสกุณ ราชา ตุมฺหากํ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตพฺพํ อกาสี’’ติ วทึสุ. มหาสตฺโต ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, ตุมฺเห อปฺปมตฺตา รชฺชํ กาเรถา’’ติ มหาชนํ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘เอวํ วินิจฺฉยํ ปวตฺเตยฺยาถา’’ติ วินิจฺฉยธมฺมํ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขาเปตฺวา อรฺํ ปาวิสิ. ตสฺโสวาโท จตฺตาลีส วสฺสสหสฺสานิ ปวตฺตติ.

สตฺถา รฺโ โอวาทวเสน อิมํ ธมฺมเทสนํ เทเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, กุณฺฑลินี อุปฺปลวณฺณา, เวสฺสนฺตโร สาริปุตฺโต, ชมฺพุกสกุโณ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

เตสกุณชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๒๒] ๒. สรภงฺคชาตกวณฺณนา

อลงฺกตา กุณฺฑลิโน สุวตฺถาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปรินิพฺพานํ อารพฺภ กเถสิ. สาริปุตฺตตฺเถโร ตถาคตํ เชตวเน วิหรนฺตํ อตฺตโน ปรินิพฺพานํ อนุชานาเปตฺวา คนฺตฺวา นาฬกคามเก ชาโตวรเก ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ สุตฺวา สตฺถา ราชคหํ คนฺตฺวา เวฬุวเน วิหาสิ. ตทา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อิสิคิลิปสฺเส กาฬสิลายํ วิหรติ. โส ปน อิทฺธิพเลน โกฏิปฺปตฺตภาเวน เทวโลกจาริกฺจ อุสฺสทนิรยจาริกฺจ คจฺฉติ. เทวโลเก พุทฺธสาวกานํ มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทิสฺวา อุสฺสทนิรเยสุ จ ติตฺถิยสาวกานํ มหนฺตํ ทุกฺขํ ทิสฺวา มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา ‘‘อสุโก อุปาสโก อสุกา จ อุปาสิกา อสุกสฺมึ นาม เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา มหาสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ, ติตฺถิยสาวเกสุ อสุโก จ อสุกา จ นิรยาทีสุ อสุกอปาเย นาม นิพฺพตฺตา’’ติ มนุสฺสานํ กเถสิ. มนุสฺสา สาสเน ปสีทนฺติ, ติตฺถิเย ปริวชฺเชนฺติ. พุทฺธสาวกานํ สกฺกาโร มหนฺโต อโหสิ, ติตฺถิยานํ ปริหายติ.

เต เถเร อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ ชีวนฺเต อมฺหากํ อุปฏฺากา ภิชฺชนฺติ, สกฺกาโร จ ปริหายติ, มาราเปสฺสาม น’’นฺติ เถรสฺส มารณตฺถํ สมณคุตฺตกสฺส นาม โจรสฺส สหสฺสํ อทํสุ. โส ‘‘เถรํ มาเรสฺสามี’’ติ มหนฺเตน ปริวาเรน สทฺธึ กาฬสิลํ อคมาสิ. เถโร ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อิทฺธิยา อุปฺปติตฺวา ปกฺกามิ. โจโร ตํ ทิวสํ เถรํ อทิสฺวา นิวตฺติตฺวา ปุนทิวเสปีติ ฉ ทิวเส อคมาสิ. เถโรปิ ตเถว อิทฺธิยา ปกฺกามิ. สตฺตเม ปน ทิวเส เถรสฺส ปุพฺเพ กตํ อปราปริยเวทนียกมฺมํ โอกาสํ ลภิ. โส กิร ปุพฺเพ ภริยาย วจนํ คเหตฺวา มาตาปิตโร มาเรตุกาโม ยานเกน อรฺํ เนตฺวา โจรานํ อุฏฺิตาการํ กตฺวา มาตาปิตโร โปเถสิ ปหริ. เต จกฺขุทุพฺพลตาย รูปทสฺสนรหิตา ตํ อตฺตโน ปุตฺตํ อสฺชานนฺตา ‘‘โจรา เอว เอเต’’ติ สฺาย, ‘‘ตาต, อสุกา นาม โจรา โน ฆาเตนฺติ, ตฺวํ ปฏิกฺกมาหี’’ติ ตสฺเสวตฺถาย ปริเทวึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อิเม มยา โปถิยมานาปิ มยฺหํ เยวตฺถาย ปริเทวนฺติ, อยุตฺตํ กมฺมํ กโรมี’’ติ. อถ เน อสฺสาเสตฺวา โจรานํ ปลายนาการํ ทสฺเสตฺวา เตสํ หตฺถปาเท สมฺพาหิตฺวา ‘‘อมฺม, ตาตา, มา ภายิตฺถ, โจรา ปลาตา’’ติ วตฺวา ปุน อตฺตโน เคหเมว อาเนสิ. ตํ กมฺมํ เอตฺตกํ กาลํ โอกาสํ อลภิตฺวา ภสฺมปฏิจฺฉนฺโน องฺคารราสิ วิย ตฺวา อิมํ อนฺติมสรีรํ อุปธาวิตฺวา คณฺหิ. ยถา หิ ปน สุนขลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา สุนโข วิสฺสชฺชิโต มิคํ อนุพนฺธิตฺวา ยสฺมึ าเน ปาปุณาติ, ตสฺมึเยว คณฺหาติ, เอวํ อิทํ กมฺมํ ยสฺมึ าเน โอกาสํ ลภติ, ตสฺมึ วิปากํ เทติ, เตน มุตฺโต นาม นตฺถิ.

เถโร อตฺตนา กตกมฺมสฺส อากฑฺฒิตภาวํ ตฺวา น อปคจฺฉิ. เถโร ตสฺส นิสฺสนฺเทน อากาเส อุปฺปติตุํ นาสกฺขิ. นนฺโทปนนฺททมนสมตฺถเวชยนฺตกมฺปนสมตฺถาปิสฺส อิทฺธิ กมฺมพเลน ทุพฺพลตํ ปตฺตา. โจโร เถรํ คเหตฺวา เถรสฺส อฏฺีนิ ตณฺฑุลกณมตฺตานิ กโรนฺโต ภินฺทิตฺวา สฺจุณฺเณตฺวา ปลาลปิฏฺิกกรณํ นาม กตฺวา ‘‘มโต’’ติ สฺาย เอกสฺมึ คุมฺพปิฏฺเ ขิปิตฺวา สปริวาโร ปกฺกามิ. เถโร สตึ ปฏิลภิตฺวา ‘‘สตฺถารํ ปสฺสิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สรีรํ ฌานเวเนน เวเตฺวา ถิรํ กตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา อากาเสน สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อายุสงฺขาโร เม โอสฺสฏฺโ, ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ปรินิพฺพายิสฺสสิ, โมคฺคลฺลาน’’อาติ. ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กตฺถ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสสี’’ติ. ‘‘กาฬสิลาปฏฺเฏ, ภนฺเต’’ติ. เตน หิ, โมคฺคลฺลาน, ธมฺมํ มยฺหํ กเถตฺวา ยาหิ, ตาทิสสฺส สาวกสฺส อิทานิ ทสฺสนํ นตฺถีติ. โส ‘‘เอวํ กริสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ตาลปฺปมาณํ อากาเส อุปฺปติตฺวา ปรินิพฺพานทิวเส สาริปุตฺตตฺเถโร วิย นานปฺปการา อิทฺธิโย กตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา กาฬสิลายํ อฏวิยํ ปรินิพฺพายิ.

ตงฺขณฺเว ฉ เทวโลกา เอกโกลาหลา อเหสุํ, ‘‘อมฺหากํ กิร อาจริโย ปรินิพฺพุโต’’ติ ทิพฺพคนฺธมาลาวาสธูมจนฺทนจุณฺณานิ เจว นานาทารูนิ จ คเหตฺวา อาคมึสุ, เอกูนสตรตนจนฺทนจิตกา อโหสิ. สตฺถา เถรสฺส สนฺติเก ตฺวา สรีรนิกฺเขปํ กาเรสิ. อาฬาหนสฺส สมนฺตโต โยชนมตฺเต ปเทเส ปุปฺผวสฺสํ วสฺสิ. เทวานํ อนฺตเร มนุสฺสา, มนุสฺสานํ อนฺตเร เทวา อเหสุํ. ยถากฺกเมน เทวานํ อนฺตเร ยกฺขา ติฏฺนฺติ, ยกฺขานํ อนฺตเร คนฺธพฺพา ติฏฺนฺติ, คนฺธพฺพานํ อนฺตเร นาคา ติฏฺนฺติ, นาคานํ อนฺตเร เวนเตยฺยา ติฏฺนฺติ, เวนเตยฺยานํ อนฺตเร กินฺนรา ติฏฺนฺติ, กินฺนรานํ อนฺตเร ฉตฺตา ติฏฺนฺติ, ฉตฺตานํ อนฺตเร สุวณฺณจามรา ติฏฺนฺติ, เตสํ อนฺตเร ธชา ติฏฺนฺติ, เตสํ อนฺตเร ปฏากา ติฏฺนฺติ. สตฺต ทิวสานิ สาธุกีฬํ กีฬึสุ. สตฺถา เถรสฺส ธาตุํ คาหาเปตฺวา เวฬุวนทฺวารโกฏฺเก เจติยํ การาเปสิ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สาริปุตฺตตฺเถโร ตถาคตสฺส สนฺติเก อปรินิพฺพุตตฺตา พุทฺธานํ สนฺติกา มหนฺตํ สมฺมานํ น ลภิ, โมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน พุทฺธานํ สมีเป ปรินิพฺพุตตฺตา มหาสมฺมานํ ลภี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โมคฺคลฺลาโน มม สนฺติกา สมฺมานํ ลภติ, ปุพฺเพปิ ลภิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตฺวา ทสมาสจฺจเยน ปจฺจูสสมเย มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺมึ ขเณ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร สพฺพาวุธานิ ปชฺชลึสุ. ปุโรหิโต ปุตฺตสฺส ชาตกฺขเณ พหิ นิกฺขมิตฺวา อากาสํ โอโลเกนฺโต นกฺขตฺตโยคํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา นกฺขตฺเตน ชาตตฺตา เอโส กุมาโร สกลชมฺพุทีเป ธนุคฺคหานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา กาลสฺเสว ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ สุขสยิตภาวํ ปุจฺฉิ. ‘‘กุโต เม, อาจริย, สุขํ, อชฺช สกลนิเวสเน อาวุธานิ ปชฺชลิตานี’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ภายิ, เทว, น ตุมฺหากํ นิเวสเนเยว, สกลนคเรปิ ปชฺชลึสุเยว, อชฺช อมฺหากํ เคเห กุมารสฺส ชาตตฺตา เอวํ อโหสี’’ติ. ‘‘อาจริย, เอวํ ชาตกุมารสฺส ปน กึ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘น กิฺจิ, มหาราช, โส ปน สกลชมฺพุทีเป ธนุคฺคหานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริย, เตน หิ นํ ปฏิชคฺคิตฺวา วยปฺปตฺตกาเล อมฺหากํ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ วตฺวา ขีรมูลํ ตาว สหสฺสํ ทาเปสิ. ปุโรหิโต ตํ คเหตฺวา นิเวสนํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา ทตฺวา ปุตฺตสฺส นามคฺคหณทิวเส ชาตกฺขเณ อาวุธานํ ปชฺชลิตตฺตา ‘‘โชติปาโล’’ติสฺส นามํ อกาสิ.

โส มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒมาโน โสฬสวสฺสกาเล อุตฺตมรูปธโร อโหสิ. อถสฺส ปิตา สรีรสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา, ‘‘ตาต, ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุปฺปณฺหาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อาจริยภาคํ คเหตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา สตฺตาเหเนว นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. อถสฺส อาจริโย ตุสฺสิตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ ขคฺครตนํ สนฺธิยุตฺตํ เมณฺฑกสิงฺคธนุํ สนฺธิยุตฺตํ ตูณีรํ อตฺตโน สนฺนาหกฺจุกํ อุณฺหีสฺจ ทตฺวา ‘‘ตาต โชติโปล, อหํ มหลฺลโก, อิทานิ ตฺวํ อิเม มาณวเก สิกฺขาเปหี’’ติ ปฺจสตมาณวเกปิ ตสฺเสว นิยฺยาเทสิ. โพธิสตฺโต สพฺพํ อุปกรณํ คเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา พาราณสิเมว อาคนฺตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ วนฺทิตฺวา ิตํ ปิตา อโวจ ‘‘อุคฺคหิตํ เต, ตาต, สิปฺป’’นฺติ. ‘‘อาม, ตาตา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม, เทว, สิปฺปํ สิกฺขิตฺวา อาคโต, กึ กโรตู’’ติ อาห. ‘‘อาจริย, อมฺเห อุปฏฺหตู’’ติ. ‘‘ปริพฺพยมสฺส ชานาถ, เทวา’’ติ. ‘‘โส เทวสิกํ สหสฺสํ ลภตู’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา กุมารํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, ราชานํ อุปฏฺหา’’ติ อาห. โส ตโต ปฏฺาย เทวสิกํ สหสฺสํ ลภิตฺวา ราชานํ อุปฏฺหิ.

ราชปาทมูลิกา อุชฺฌายึสุ – ‘‘มยํ โชติปาเลน กตกมฺมํ น ปสฺสาม, เทวสิกํ สหสฺสํ คณฺหาติ, มยมสฺส สิปฺปํ ปสฺสิตุกามา’’ติ. ราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา ปุโรหิตสฺส กเถสิ. ปุโรหิโต ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ปุตฺตสฺสาโรเจสิ. โส ‘‘สาธุ, ตาต, อิโต สตฺตเม ทิวเส ทสฺเสสฺสามิ สิปฺปํ, อปิจ ราชา อตฺตโน วิชิเต ธนุคฺคเห สนฺนิปาตาเปตู’’ติ อาห. ปุโรหิโต คนฺตฺวา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปตฺวา ธนุคฺคเห สนฺนิปาตาเปสิ. สฏฺิสหสฺสา ธนุคฺคหา สนฺนิปตึสุ. ราชา เตสํ สนฺนิปติตภาวํ ตฺวา ‘‘นครวาสิโน โชติปาลสฺส สิปฺปํ ปสฺสนฺตู’’ติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา ราชงฺคณํ สชฺชาเปตฺวา มหาชนปริวุโต ปลฺลงฺกวเร นิสีทิตฺวา ธนุคฺคเห ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘โชติปาโล อาคจฺฉตู’’ติ เปเสสิ. โส อาจริเยน ทินฺนานิ ธนุตูณีรสนฺนาหกฺจุกอุณฺหีสานิ นิวาสนนฺตเร เปตฺวา ขคฺคํ คาหาเปตฺวา ปกติเวเสน รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

ธนุคฺคหา ‘‘โชติปาโล กิร ธนุสิปฺปํ ทสฺเสตุํ อาคโต, ธนุํ อคฺคเหตฺวา ปน อาคตตฺตา อมฺหากํ หตฺถโต ธนุํ คเหตุกาโม ภวิสฺสติ, นาสฺส ทสฺสามา’’ติ กติกํ กรึสุ. ราชา โชติปาลํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สิปฺปํ ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส สาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา อนฺโตสาณิยํ ิโต สาฏกํ อปเนตฺวา สนฺนาหกฺจุกํ ปเวเสตฺวา อุณฺหีสํ สีเส ปฏิมุฺจิตฺวา เมณฺฑกสิงฺคธนุมฺหิ ปวาลวณฺณํ ชิยํ อาโรเปตฺวา ตูณีรํ ปิฏฺเ พนฺธิตฺวา ขคฺคํ วามโต กตฺวา วชิรคฺคํ นาราจํ นขปิฏฺเน ปริวตฺเตตฺวา สาณึ วิวริตฺวา ปถวึ ภินฺทิตฺวา อลงฺกตนาคกุมาโร วิย นิกฺขมิตฺวา คนฺตฺวา รฺโ อปจิตึ ทสฺเสตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา มหาชนา วคฺคนฺติ นทนฺติ อปฺโผเฏนฺติ เสเฬนฺติ. ราชา ‘‘ทสฺเสหิ, โชติปาล, สิปฺป’’นฺติ อาห. เทว, ตุมฺหากํ ธนุคฺคเหสุ อกฺขณเวธิวาลเวธิสรเวธิสทฺทเวธิโน จตฺตาโร ธนุคฺคเห ปกฺโกสาเปหีติ. อถ ราชา ปกฺโกสาเปสิ.

มหาสตฺโต ราชงฺคเณ จตุรสฺสปริจฺเฉทพฺภนฺตเร มณฺฑลํ กตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ จตฺตาโร ธนุคฺคเห เปตฺวา เอเกกสฺส ตึส ตึส กณฺฑสหสฺสานิ ทาเปตฺวา เอเกกสฺส สนฺติเก เอเกกํ กณฺฑทายกํ เปตฺวา สยํ วชิรคฺคํ นาราจํ คเหตฺวา มณฺฑลมชฺเฌ ตฺวา ‘‘มหาราช, อิเม จตฺตาโร ธนุคฺคหา เอกปฺปหาเรเนว สเร ขิปิตฺวา มํ วิชฺฌนฺตุ, อหํ เอเตหิ ขิตฺตกณฺฑานิ นิวาเรสฺสามี’’ติ อาห. ราชา ‘‘เอวํ กโรถา’’ติ อาณาเปสิ. ธนุคฺคหา อาหํสุ, ‘‘มหาราช, มยํ อกฺขณเวธิวาลเวธิสรเวธิสทฺทเวธิโน, โชติปาโล ตรุณทารโก, น มยํ วิชฺฌิสฺสามา’’ติ. มหาสตฺโต ‘‘สเจ สกฺโกถ, วิชฺฌถ ม’’นฺติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว กณฺฑานิ ขิปึสุ. มหาสตฺโต ตานิ นาราเจน ปหริตฺวา ยถา วา ตถา วา น ปาเตสิ, โพธิโกฏฺกํ ปน ปริกฺขิปนฺโต วิย ตาเลน ตาลํ, วาเลน วาลํ, ทณฺฑเกน ทณฺฑกํ, วาเชน วาชํ อนติกฺกมนฺโต ขิปิตฺวา สรคพฺภํ อกาสิ. ธนุคฺคหานํ กณฺฑานิ ขีณานิ. โส เตสํ กณฺฑขีณภาวํ ตฺวา สรคพฺภํ อวินาเสนฺโตว อุปฺปติตฺวา คนฺตฺวา รฺโ สนฺติเก อฏฺาสิ. มหาชโน อุนฺนาเทนฺโต วคฺคนฺโต อปฺโผเฏนฺโต เสเฬนฺโต อจฺฉรํ ปหรนฺโต มหาโกลาหลํ กตฺวา วตฺถาภรณาทีนิ ขิปิ. เอวํ เอกราสิภูตํ อฏฺารสโกฏิสงฺขฺยํ ธนํ อโหสิ.

อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ สิปฺปํ นาเมตํ โชติปาลา’’ติ? สรปฏิพาหนํ นาม, เทวาติ. อฺเ เอตํ ชานนฺตา อตฺถีติ. สกลชมฺพุทีเป มํ เปตฺวา อฺโ นตฺถิ, เทวาติ. อปรํ ทสฺเสหิ, ตาตาติ. เทว, เอเต ตาว จตูสุ กณฺเณสุ ตฺวา จตฺตาโรปิ ชนา มํ วิชฺฌิตุํ น สกฺขึสุ, อหํ ปเนเต จตูสุ กณฺเณสุ ิเต เอเกเนว สเรน วิชฺฌิสฺสามีติ. ธนุคฺคหา าตุํ น อุสฺสหึสุ. มหาสตฺโต จตูสุ กณฺเณสุ จตสฺโส กทลิโย ปาเปตฺวา นาราจปุงฺเข รตฺตสุตฺตกํ พนฺธิตฺวา เอกํ กทลึ สนฺธาย ขิปิ. นาราโจ ตํ กทลึ วิชฺฌิตฺวา ตโต ทุติยํ, ตโต ตติยํ, ตโต จตุตฺถํ, ตโต ปมํ วิทฺธเมว วิชฺฌิตฺวา ปุน ตสฺส หตฺเถเยว ปติฏฺหิ. กทลิโย สุตฺตปริกฺขิตฺตา อฏฺํสุ. มหาชโน อุนฺนาทสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ. ราชา ‘‘กึ สิปฺปํ นาเมตํ, ตาตา’’ติ? จกฺกวิทฺธํ นาม, เทวาติ. อปรมฺปิ ทสฺเสหิ, ตาตาติ. มหาสตฺโต สรลฏฺึ นาม, สรรชฺชุํ นาม, สรเวธึ นาม ทสฺเสสิ, สรปาสาทํ นาม, สรโสปานํ นาม, สรมณฺฑปํ นาม, สรปาการํ นาม, สรโปกฺขรณึ นาม อกาสิ, สรปทุมํ นาม ปุปฺผาเปสิ, สรวสฺสํ นาม วสฺสาเปสิ. อิติ อฺเหิ อสาธารณานิ อิมานิ ทฺวาทส สิปฺปานิ ทสฺเสตฺวา ปุน อฺเหิ อสาธารเณเยว สตฺต มหากาเย ปทาเลสิ, อฏฺงฺคุลพหลํ อุทุมฺพรปทรํ วิชฺฌิ, จตุรงฺคุลพหลํ อสนปทรํ, ทฺวงฺคุลพหลํ ตมฺพปฏฺฏํ, เอกงฺคุลพหลํ อยปฏฺฏํ, เอกาพทฺธํ ผลกสตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปลาลสกฏวาลุกสกฏปทรสกฏานํ ปุริมภาเคน สรํ ขิปิตฺวา ปจฺฉาภาเคน นิกฺขมาเปสิ, ปจฺฉาภาเคน สรํ ขิปิตฺวา ปุริมภาเคน นิกฺขมาเปสิ, อุทเก จตุอุสภํ, ถเล อฏฺอุสภฏฺานํ กณฺฑํ เปเสสิ. วาติงฺคณสฺาย อุสภมตฺตเก วาลํ วิชฺฌิ. โพธิสตฺโต สเร ขิปิตฺวา อากาเส สรปาสาทาทีนิ กตฺวา ปุน เอเกน สเรน เต สเร ปาเตนฺโต ภงฺควิภงฺเค อกาสีติ ‘‘สรภงฺโค’’ติ นาม ปฺาโต. ตสฺส เอตฺตกานิ สิปฺปานิ ทสฺเสนฺตสฺเสว สูริโย อตฺถงฺคโต.

อถสฺส ราชา เสนาปติฏฺานํ ปฏิชานิตฺวา ‘‘โชติปาล, อชฺช วิกาโล, สฺเว ตฺวํ เสนาปติฏฺานํ สกฺการํ คณฺหิสฺสสิ, เกสมสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหตฺวา เอหี’’ติ ตํ ทิวสํ ปริพฺพยตฺถาย สตสหสฺสํ อทาสิ. มหาสตฺโต ‘‘อิมินา มยฺหํ อตฺโถ นตฺถี’’ติ อฏฺารสโกฏิสงฺขฺยํ ธนํ สามิกานฺเว ทตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นฺหายิตุํ นทึ คนฺตฺวา เกสมสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหตฺวา สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต อโนปมาย สิริยา นิเวสนํ ปวิสิตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา สิริสยนํ อภิรุยฺห นิปนฺโน ทฺเว ยาเม สยิตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปพุทฺโธ อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา สยนปิฏฺเ นิสินฺโนว อตฺตโน สิปฺปสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ โอโลเกนฺโต ‘‘มม สิปฺปสฺส อาทิโตว ปรมารณํ ปฺายติ, มชฺเฌ กิเลสปริโภโค, ปริโยสาเน นิรยมฺหิ ปฏิสนฺธิ, ปาณาติปาโต กิเลสปริโภเคสุ จ อธิมตฺตปฺปมาโท นิรเย ปฏิสนฺธึ เทติ, รฺา มยฺหํ มหนฺตํ เสนาปติฏฺานํ ทินฺนํ, มหนฺตํ เม อิสฺสริยํ ภวิสฺสติ, ภริยา จ ปุตฺตธีตโร จ พหู ภวิสฺสนฺติ. กิเลสวตฺถุ โข ปน เวปุลฺลคตํ ทุจฺจชํ โหติ, อิทาเนว นิกฺขมิตฺวา เอกโกว อรฺํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตุํ ยุตฺตํ มยฺห’’นฺติ มหาสยนโต อุฏฺาย กฺจิ อชานาเปนฺโต ปาสาทา โอรุยฺห อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เอกโกว อรฺํ ปวิสิตฺวา โคธาวรินทีตีเร ติโยชนิกํ กปิฏฺวนํ สนฺธาย ปายาสิ.

ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา สกฺโก วิสฺสกมฺมํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, ชาติปาโล อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, มหาสมาคโม ภวิสฺสติ, โคธาวรินทีตีเร กปิฏฺวเน อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาเทหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. มหาสตฺโต ตํ านํ ปตฺวา เอกปทิกมคฺคํ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพชิตานํ วสนฏฺาเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ เตน มคฺเคน ตตฺถ คนฺตฺวา กฺจิ อปสฺสนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทิสฺวา ‘‘สกฺโก เทวราชา มม นิกฺขนฺตภาวํ อฺาสิ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา สาฏกํ อปเนตฺวา รตฺตวากจิรํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ อชินจมฺมํ เอกํสคตํ อกาสิ, ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา ขาริกาชํ อํเส กตฺวา กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมํ อารุยฺห กติปยวาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชาสิริยา วนํ อุปโสภยมาโน กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปพฺพชิตโต สตฺตเม ทิวเส อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ อภิฺาโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อุฺฉาจริยาย วนมูลผลาหาโร เอกโกว วิหาสิ. มาตาปิตโร มิตฺตสุหชฺชาทโย าติวคฺคาปิสฺส ตํ อปสฺสนฺตา โรทนฺตา ปริเทวนฺตา วิจรนฺติ.

อเถโก วนจรโก อรฺํ ปวิสิตฺวา กปิฏฺกอสฺสมปเท นิสินฺนํ มหาสตฺตํ ทิสฺวา สฺชานิตฺวา คนฺตฺวา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นครํ คนฺตฺวา ตสฺส มาตาปิตูนํ อาโรเจสิ. เต รฺโ อาโรจยึสุ. ราชา ‘‘เอถ นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ตสฺส มาตาปิตโร คเหตฺวา มหาชนปริวุโต วนจรเกน เทสิเตน มคฺเคน โคธาวรินทีตีรํ ปาปุณิ. โพธิสตฺโต นทีตีรํ อาคนฺตฺวา อากาเส นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสตฺวา เต สพฺเพ อสฺสมปทํ ปเวเสตฺวา ตตฺรปิ เตสํ อากาเส นิสินฺโนว กาเมสุ อาทีนวํ ปกาเสตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ราชานํ อาทึ กตฺวา สพฺเพว ปพฺพชึสุ. โพธิสตฺโต อิสิคณปริวุโต ตตฺเถว วสิ. อถสฺส ตตฺถ วสนภาโว สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ. อฺเปิ ราชาโน รฏฺวาสีหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ, สมาคโม มหา อโหสิ. อนุปุพฺเพน อเนกสตสหสฺสปริสา อเหสุํ. โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, มหาสตฺโต คนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสติ, กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขติ. ตสฺโสวาเท ตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา ฌานนิปฺผตฺตึ ปตฺตา สาลิสฺสโร เมณฺฑิสฺสโร ปพฺพโต กาฬเทวิโล กิสวจฺโฉ อนุสิสฺโส นารโทติ สตฺต เชฏฺนฺเตวาสิโน อเหสุํ. อปรภาเค กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ. อิสิคณสฺส วสโนกาโส นปฺปโหติ.

อถ มหาสตฺโต สาลิสฺสรํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สาลิสฺสร, อยํ อสฺสโม อิสิคณสฺส นปฺปโหติ, ตฺวํ อิมํ อิสิคณํ คเหตฺวา มชฺฌรฺโ วิชิเต กลปฺปจุลฺลกนิคมํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อเนกสหสฺสํ อิสิคณํ คเหตฺวา คนฺตฺวา ตตฺถ วาสํ กปฺเปสิ. มนุสฺเสสุ อาคนฺตฺวา ปพฺพชนฺเตสุ ปุน อสฺสโม ปริปูริ. โพธิสตฺโต เมณฺฑิสฺสรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘เมณฺฑิสฺสร, ตฺวํ อิมํ อิสิคณํ อาทาย สุรฏฺชนปทสฺส สีมนฺตเร สาโตทิกา นาม นที อตฺถิ, ตสฺสา ตีเร วสาหี’’ติ อุยฺโยเชสิ, ปุน กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ. เอเตนุปาเยน ตติยวาเร ปพฺพตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ปพฺพต, ตฺวํ มหาอฏวิยํ อฺชนปพฺพโต นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ เปเสสิ. จตุตฺถวาเร กาฬเทวิลํ อามนฺเตตฺวา ‘‘กาฬเทวิล, ตฺวํ ทกฺขิณปเถ อวนฺติรฏฺเ ฆนเสลปพฺพโต นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ เปเสสิ. ปุน กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ, ปฺจสุ าเนสุ อเนกสตสหสฺสอิสิคโณ อโหสิ. กิสวจฺโฉ ปน มหาสตฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา ทณฺฑกิรฺโ วิชิเต กุมฺภวตินครํ นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย อุยฺยาเน วิหาสิ. นารโท มชฺฌิมเทเส อฺชนคิรินามเก ปพฺพตชาลนฺตเร วิหาสิ. อนุสิสฺโส ปน มหาสตฺตสฺส สนฺติเกว อโหสิ.

ตสฺมึ กาเล ทณฺฑกิราชา เอกํ ลทฺธสกฺการํ คณิกํ านา จาเวสิ. สา อตฺตโน ธมฺมตาย วิจรนฺตี อุยฺยานํ คนฺตฺวา กิสวจฺฉตาปสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ กาฬกณฺณี ภวิสฺสติ, อิมสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา นฺหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา สพฺพปมํ ตสฺสูปริ พหลเขฬํ นิฏฺุภนฺตี กิสวจฺฉตาปสสฺส ชฏนฺตเร นิฏฺุภิตฺวา ทนฺตกฏฺมฺปิสฺส สีเสเยว ขิปิตฺวา สยํ สีสํ นฺหายิตฺวา คตา. ราชาปิ ตํ สริตฺวา ปุน ปากติกเมว อกาสิ. สา โมหมูฬฺหา หุตฺวา ‘‘กาฬกณฺณิสรีเร กลึ ปวาเหตฺวา มมฺปิ ราชา ปุน าเน เปติ มยา ยโส ลทฺโธ’’ติ สฺมกาสิ. ตโต นจิรสฺเสว ราชา ปุโรหิตํ านโต จาเวสิ. โส ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตฺวํ เกน การเณน ปุน านํ ลภสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส สา ‘‘ราชุยฺยาเน กาฬกณฺณิสรีเร กลิสฺส ปวาหิตตฺตา’’ติ อาโรเจสิ. ปุโรหิโต คนฺตฺวา ตเถว ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหสิ, ตมฺปิ ราชา ปุน าเน เปสิ. อถสฺส อปรภาเค ปจฺจนฺโต กุปฺปิ. โส เสนงฺคปริวุโต ยุทฺธาย นิกฺขมิ. อถ นํ โมหมูฬฺโห ปุโรหิโต, ‘‘มหาราช, กึ ตุมฺเห ชยํ อิจฺฉถ, อุทาหุ ปราชย’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ชย’’นฺติ วุตฺเต – ‘‘เตน หิ ราชุยฺยาเน กาฬกณฺณี วสติ, ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา ยาหี’’ติ อาห. โส ตสฺส กถํ คเหตฺวา ‘‘เย มยา สทฺธึ อาคจฺฉนฺติ, เต อุยฺยาเน กาฬกณฺณิสรีเร กลึ ปวาเหนฺตู’’ติ วตฺวา อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา สพฺพปมํ สยเมว ตสฺส ชฏนฺตเร เขฬํ นิฏฺุภิตฺวา ทนฺตกฏฺฺจ ขิปิตฺวา สีสํ นฺหายิ. พลกาโยปิสฺส ตถา อกาสิ.

ตสฺมึ ปกฺกนฺเต เสนาปติ คนฺตฺวา ตาปสํ ทิสฺวา ทนฺตกฏฺาทีนิ นีหริตฺวา สาธุกํ นฺหาเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, รฺโ กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. อาวุสา มยฺหํ มโนปโทโส นตฺถิ, เทวตา ปน กุปิตา อิโต สตฺตเม ทิวเส สกลรฏฺํ อรฏฺํ กริสฺสนฺติ, ตฺวํ ปุตฺตทารํ คเหตฺวา สีฆํ ปลายิตฺวา อฺตฺถ ยาหีติ. โส ภีตตสิโต คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ, ราชา ตสฺส วจนํ น คณฺหิ. โส นิวตฺติตฺวา อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ปุตฺตทารํ อาทาย ปลายิตฺวา อฺํ รฏฺํ อคมาสิ. สรภงฺคสตฺถา ตํ การณํ ตฺวา ทฺเว ตรุณตาปเส เปเสตฺวา ‘‘กิสวจฺฉํ มฺจสิวิกาย อาเนถา’’ติ อากาเสน อาณาเปสิ. ราชา ยุชฺฌิตฺวา โจเร คเหตฺวา นครเมว ปจฺจาคมิ. ตสฺมึ อาคเต เทวตา ปมํ เทวํ วสฺสาเปสุํ, วสฺโสเฆน สพฺพกุณเปสุ อวหเฏสุ สุทฺธวาลุกวสฺสํ วสฺสิ, สุทฺธวาลุกมตฺถเก ทิพฺพปุปฺผวสฺสํ วสฺสิ, ทิพฺพปุปฺผมตฺถเก มาสกวสฺสํ, มาสกมตฺถเก กหาปณวสฺสํ, กหาปณมตฺถเก ทิพฺพาภรณวสฺสํ วสฺสิ, มนุสฺสา โสมนสฺสปฺปตฺตา หิรฺสุวณฺณาภรณานิ คณฺหิตุํ อารภึสุ. อถ เนสํ สรีเร สมฺปชฺชลิตํ นานปฺปการํ อาวุธวสฺสํ วสฺสิ, มนุสฺสา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉิชฺชึสุ. อถ เนสํ อุปริ มหนฺตมหนฺตา วีตจฺจิตงฺคารา ปตึสุ, เตสํ อุปริ มหนฺตมหนฺตานิ ปชฺชลิตปพฺพตกูฏานิ ปตึสุ, เตสํ อุปริ สฏฺิหตฺถฏฺานํ ปูรยนฺตํ สุขุมวาลุกวสฺสํ วสฺสิ. เอวํ สฏฺิโยชนฏฺานํ อรฏฺํ อโหสิ, ตสฺส เอวํ อรฏฺภาโว สกลชมฺพุทีเป ปฺายิ.

อถ ตสฺส รฏฺสฺส อนนฺตรรฏฺาธิปติโน กาลิงฺโค, อฏฺโก, ภีมรโถติ ตโย ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘ปุพฺเพ พาราณสิยํ กลาพุกาสิกราชา ขนฺติวาทิตาปเส อปรชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโติ สูยติ, ตถา ‘‘นาฬิเกรราชา ตาปเส สุนเขหิ ขาทาเปตฺวา, สหสฺสพาหุ อชฺชุโน จ องฺคีรเส อปรชฺฌิตฺวา, อิทานิ ทณฺฑกิราชา กิสวจฺเฉ อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน วินาสํ ปตฺโต’’ติ สูยติ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ราชูนํ นิพฺพตฺตฏฺานํ มยํ น ชานาม, ตํ โน เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ อฺโ กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ. เต ตโยปิ มหนฺเตน ปริวาเรน ปฺหปุจฺฉนตฺถาย นิกฺขมึสุ. เต ปน ‘‘อสุโกปิ นิกฺขนฺโต’’ติ น ชานนฺติ, เอเกโก ‘‘อหเมว คจฺฉามี’’ติ มฺติ, เตสํ โคธาวรินทิโต อวิทูเร สมาคโม อโหสิ. เต รเถหิ โอตริตฺวา ตโยปิ เอกเมว รถํ อภิรุยฺห โคธาวรินทีตีรํ สมฺปาปุณึสุ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺโก ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเน นิสินฺโน สตฺต ปฺเห จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ปฺเห เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ อฺโ สเทวเก โลเก กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตํ อิเม ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามิ, อิเมปิ ตโย ราชาโน สรภงฺคสตฺถารํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ โคธาวรินทีตีรํ ปตฺตา, เอเตสํ ปฺเหปิ อหเมว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ ปริวุโต เทวโลกโต โอตริ. ตํ ทิวสเมว กิสวจฺโฉ กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตุํ จตูสุ าเนสุ อเนกสหสฺสา อิสโย ตตฺเถว คนฺตฺวา ปฺจสุ าเนสุ มณฺฑปฺจ กาเรตฺวา อเนกสหสฺสา อิสิคณา กิสวจฺฉสฺส ตาปสสฺส จนฺทนจิตกํ กตฺวา สรีรํ ฌาเปสุํ. อาฬาหนสฺส สมนฺตา อฑฺฒโยชนมตฺเต าเน ทิพฺพกุสุมวสฺสํ วสฺสิ. มหาสตฺโต ตสฺส สรีรนิกฺเขปํ การาเปตฺวา อสฺสมํ ปวิสิตฺวา เตหิ อิสิคเณหิ ปริวุโต นิสีทิ. เตสมฺปิ ราชูนํ นทีตีรํ อาคตกาเล มหาเสนาวาหนตูริยสทฺโท อโหสิ. มหาสตฺโต ตํ สุตฺวา อนุสิสฺสํ ตาปสํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ คนฺตฺวา ตาว ชานาหิ, กึ สทฺโท นาเมโส’’ติ อาห. โส ปานียฆฏํ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา เต ราชาโน ทิสฺวา ปุจฺฉนวเสน ปมํ คาถมาห –

๕๐.

‘‘อลงฺกตา กุณฺฑลิโน สุวตฺถา, เวฬุริยมุตฺตาถรุขคฺคพนฺธา;

รเถสภา ติฏฺถ เก นุ ตุมฺเห, กถํ โว ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ เวฬุริยมุตฺตาถรุขคฺคพนฺธาติ เวฬุริยมณีหิ เจว มุตฺตาลมฺพเกหิ จ อลงฺกตถรูหิ ขคฺครตเนหิ สมนฺนาคตา. ติฏฺถาติ เอกสฺมึ รเถ ติฏฺถ. เก นูติ เก นาม ตุมฺเห, กถํ โว สฺชานนฺตีติ?

เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา รถา โอตริตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺํสุ. เตสุ อฏฺกราชา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๕๑.

‘‘อหมฏฺโก ภีมรโถ ปนายํ, กาลิงฺคราชา ปน อุคฺคโตยํ;

สุสฺตานํ อิสีนํ ทสฺสนาย, อิธาคตา ปุจฺฉิตาเยมฺห ปฺเห’’ติ.

ตตฺถ อุคฺคโตติ จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏ ปฺาโต. สุสฺตานํ อิสีนนฺติ, ภนฺเต, น มยํ วนกีฬาทีนํ อตฺถาย อาคตา, อถ โข กายาทีหิ สุสฺตานํ สีลสมฺปนฺนานํ อิสีนํ ทสฺสนตฺถาย อิธาคตา. ปุจฺฉิตาเยมฺห ปฺเหติ สรภงฺคสตฺถารํ ปฺเห ปุจฺฉิตุํ เอมฺห, อาคตามฺหาติ อตฺโถ. ย-กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโรติ เวทิตพฺโพ.

อถ เน ตาปโส ‘‘สาธุ มหาราชา, อาคนฺตพฺพฏฺานฺเว อาคตาตฺถ, เตน หิ นฺหตฺวา วิสฺสมิตฺวา อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา สรภงฺคสตฺถารเมว ปฺหํ ปุจฺฉถา’’ติ เตหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปานียฆฏํ อุกฺขิปิตฺวา อุทกเถเว ปุฺฉนฺโต อากาสํ โอโลเกนฺโต สกฺกํ เทวราชานํ เทวคณปริวุตํ เอราวณกฺขนฺธวรคตํ โอตรนฺตํ ทิสฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘เวหายสํ ติฏฺสิ อนฺตลิกฺเข, ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จนฺโท;

ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กตํ ตํ ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ เวหายสนฺติ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อนฺตลิกฺเข อากาเส ติฏฺสิ. ปถทฺธุโนติ ปถทฺธคโต, อทฺธปเถ คคนมชฺเฌ ิโตติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก จตุตฺถํ คาถมาห –

๕๓.

‘‘ยมาหุ เทเวสุ ‘สุชมฺปตี’ติ, ‘มฆวา’ติ ตํ อาหุ มนุสฺสโลเก;

ส เทวราชา อิทมชฺช ปตฺโต, สุสฺตานํ อิสีนํ ทสฺสนายา’’ติ.

ตตฺถ ส เทวราชาติ โส อหํ สกฺโก เทวราชา. อิทมชฺช ปตฺโตติ อิทํ านํ อชฺช อาคโต. ทสฺสนายาติ ทสฺสนตฺถาย วนฺทนตฺถาย สรภงฺคสตฺถารฺจ ปฺหํ ปุจฺฉนตฺถายาติ อาห.

อถ นํ อนุสิสฺโส ‘‘สาธุ, มหาราช, ตุมฺเห ปจฺฉา อาคจฺฉถา’’ติ วตฺวา ปานียฆฏํ อาทาย อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา ปานียฆฏํ ปฏิสาเมตฺวา ติณฺณํ ราชูนํ เทวราชสฺส จ ปฺหปุจฺฉนตฺถาย อาคตภาวํ มหาสตฺตสฺส อาโรเจสิ. โส อิสิคณปริวุโต มหาวิสาลมาฬเก นิสีทิ. ตโย ราชาโน อาคนฺตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สกฺโกปิ โอตริตฺวา อิสิคณํ อุปสงฺกมิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ิโต อิสิคณํ วณฺเณตฺวา วนฺทมาโน ปฺจมํ คาถมาห –

๕๔.

‘‘ทูเร สุตา โน อิสโย สมาคตา, มหิทฺธิกา อิทฺธิคุณูปปนฺนา;

วนฺทามิ เต อยิเร ปสนฺนจิตฺโต, เย ชีวโลเกตฺถ มนุสฺสเสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ ทูเร สุตา โนติ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ตุมฺเห ทูเร เทวโลเก ิเตหิเยว สุตาติ มมายนฺโต เอวมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม อิธ สมาคตา อมฺหากํ อิสโย ทูเร สุตา ยาว พฺรหฺมโลกา วิสฺสุตา ปากฏาติ. มหิทฺธิกาติ มหานุภาวา. อิทฺธิคุณูปปนฺนาติ ปฺจวิเธน อิทฺธิคุเณน สมนฺนาคตา. อยิเรติ, อยฺเย. เยติ เย ตุมฺเห อิมสฺมึ ชีวโลเก มนุสฺเสสุ เสฏฺาติ.

เอวํ อิสิคณํ วณฺเณตฺวา สกฺโก ฉ นิสชฺชโทเส ปริหรนฺโต เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ อิสีนํ อโธวาเต นิสินฺนํ ทิสฺวา อนุสิสฺโส ฉฏฺํ คาถมาห –

๕๕.

‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ, กายา จุโต คจฺฉติ มาลุเตน;

อิโต ปฏิกฺกมฺม สหสฺสเนตฺต, คนฺโธ อิสีนํ อสุจิ เทวราชา’’ติ.

ตตฺถ จิรทิกฺขิตานนฺติ จิรปพฺพชิตานํ. ปฏิกฺกมฺมาติ ปฏิกฺกม อเปหิ. สหสฺสเนตฺตาติ อาลปนเมตํ. สกฺโก หิ อมจฺจสหสฺเสหิ จินฺติตํ อตฺถํ เอกโกว ปสฺสติ, ตสฺมา ‘‘สหสฺสเนตฺโต’’ติ วุจฺจติ. อถ วา สหสฺสเนตฺตานํ ปน เทวานํ ทสฺสนูปจาราติกฺกมนสมตฺโถติ สหสฺสเนตฺตา. อสุจีติ เสทมลาทีหิ ปริภาวิตตฺตา ทุคฺคนฺโธ, ตุมฺเห จ สุจิกามา, เตน โว เอส คนฺโธ พาธตีติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก อิตรํ คาถมาห –

๕๖.

‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ, กายา จุโต คจฺฉตุ มาลุเตน;

วิจิตฺตปุปฺผํ สุรภึว มาลํ, คนฺธฺจ เอตํ ปาฏิกงฺขาม ภนฺเต;

น เหตฺถ เทวา ปฏิกฺกูลสฺิโน’’ติ.

ตตฺถ คจฺฉตูติ ยถาสุขํ ปวตฺตตุ, นาสปุฏํ โน ปหรตูติ อตฺโถ. ปาฏิกงฺขามาติ อิจฺฉาม ปตฺเถม. เอตฺถาติ เอตสฺมึ คนฺเธ เทวา ชิคุจฺฉสฺิโน น โหนฺติ. ทุสฺสีเลเยว หิ เทวา ชิคุจฺฉนฺติ, น สีลวนฺเตติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ภนฺเต, อนุสิสฺส อหํ มหนฺเตน อุสฺสาเหน ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคโต, โอกาสํ เม กโรหี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา อุฏฺายาสนา อิสิคณํ โอกาสํ กโรนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๕๗.

‘‘ปุรินฺทโท ภูตปตี ยสสฺสี, เทวานมินฺโท สกฺโก มฆวา สุชมฺปติ;

ส เทวราชา อสุรคณปฺปมทฺทโน, โอกาสมากงฺขติ ปฺห ปุจฺฉิตุํ.

๕๘.

‘‘โก เนวิเมสํ อิธ ปณฺฑิตานํ, ปฺเห ปุฏฺโ นิปุเณ พฺยากริสฺสติ;

ติณฺจ รฺํ มนุชาธิปานํ, เทวานมินฺทสฺส จ วาสวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ ‘‘ปุรินฺทโท’’ติอาทีนิ สกฺกสฺเสว คุณนามานิ. โส หิ ปุเร ทานํ ทินฺนตฺตา ปุรินฺทโท, ภูเตสุ เชฏฺกตฺตา ภูตปติ, ปริวารสมฺปทาย ยสสฺสี, ปรมิสฺสรตาย เทวานมินฺโท, สตฺตนฺนํ วตฺตปทานํ สุฏฺุ กตตฺตา สกฺโก, ปุริมชาติวเสน มฆวา, สุชาย อสุรกฺาย ปติภาเวน สุชมฺปติ, เทวานํ รฺชนตาย เทวราชา. โก เนวาติ โก นุ เอว. นิปุเณติ สณฺหสุขุเม ปฺเห. รฺนฺติ ราชูนํ. อิเมสํ จตุนฺนํ ราชูนํ มนํ คเหตฺวา โก อิเมสํ ปณฺฑิตานํ อิสีนํ ปฺเห กเถสฺสติ, ปฺหํ เนสํ กเถตุํ สมตฺถํ ชานาถาติ วทติ.

ตํ สุตฺวา อิสิคโณ, ‘‘มาริส, อนุสิสฺส ตฺวํ ปถวิยํ ตฺวา ปถวึ อปสฺสนฺโต วิย กเถสิ, เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ โก อฺโ เอเตสํ ปฺหํ กเถตุํ สมตฺโถ’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๕๙.

‘‘อยํ อิสิ สรภงฺโค ตปสฺสี, ยโต ชาโต วิรโต เมถุนสฺมา;

อาเจรปุตฺโต สุวินีตรูโป, โส เนสํ ปฺหานิ วิยากริสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ สรภงฺโคติ สเร ขิปิตฺวา อากาเส สรปาสาทาทีนิ กตฺวา ปุน เอเกน สเรน เต สเร ปาเตนฺโต ภงฺควิภงฺเค อกาสีติ สรภงฺโค. เมถุนสฺมาติ เมถุนธมฺมโต. โส กิร เมถุนํ อเสวิตฺวา ปพฺพชิโต. อาเจรปุตฺโตติ รฺโ อาจริยสฺส ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต.

เอวฺจ ปน วตฺวา อิสิคโณ อนุสิสฺสํ อาห – ‘‘มาริส, ตฺวเมว สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อิสิคณสฺส วจเนน สกฺเกน ปุจฺฉิตปฺหกถนาย โอกาสํ กาเรหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา โอกาสํ กาเรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๐.

‘‘โกณฺฑฺ ปฺหานิ วิยากโรหิ, ยาจนฺติ ตํ อิสโย สาธุรูปา;

โกณฺฑฺ เอโส มนุเชสุ ธมฺโม, ยํ วุทฺธมาคจฺฉติ เอส ภาโร’’ติ.

ตตฺถ โกณฺฑฺาติ ตํ โคตฺเตนาลปติ. ธมฺโมติ สภาโว. ยํ วุทฺธนฺติ ยํ ปฺาย วุทฺธํ ปุริสํ เอส ปฺหานํ วิสฺสชฺชนภาโร นาม อาคจฺฉติ, เอโส มนุเชสุ สภาโว, ตสฺมา จนฺทิมสูริยสหสฺสํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา เทวรฺโ ปฺเห กเถหีติ.

ตโต มหาปุริโส โอกาสํ กโรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๑.

‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉนฺตุ โภนฺโต, ยํ กิฺจิ ปฺหํ มนสาภิปตฺถิตํ;

อหฺหิ ตํ ตํ โว วิยากริสฺสํ, ตฺวา สยํ โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ.

ตตฺถ ยํ กิฺจีติ น เกวลํ ตุมฺหากํเยว, อถ โข สเทวกสฺสปิ โลกสฺส ยํ มนสาภิปตฺถิตํ, ตํ มํ ภวนฺโต ปุจฺฉนฺตุ. อหฺหิ โว อิธโลกนิสฺสิตํ วา ปรโลกนิสฺสิตํ วา สพฺพํ ปฺหํ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ สยํ ปฺาย สจฺฉิกตฺวา กเถสฺสามีติ สพฺพฺุปวารณํ สมฺปวาเรสิ.

เอวํ เตน โอกาเส กเต สกฺโก อตฺตนา อภิสงฺขตํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๒.

‘‘ตโต จ มฆวา สกฺโก, อตฺถทสฺสี ปุรินฺทโท;

อปุจฺฉิ ปมํ ปฺหํ, ยฺจาสิ อภิปตฺถิตํ.

๖๓.

‘‘กึ สู วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, กิสฺสปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;

กสฺสีธ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑฺ เอตมตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ ยฺจาสีติ ยํ ตสฺส มนสา อภิปตฺถิตํ อาสิ, ตํ ปุจฺฉีติ อตฺโถ. เอตนฺติ เอตํ มยา ปุจฺฉิตมตฺถํ อกฺขาหิ เมติ เอกคาถาย ตโย ปฺเห ปุจฺฉิ.

ตโต ปรํ พฺยากโรนฺโต อาห –

๖๔.

‘‘โกธํ วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, มกฺขปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;

สพฺเพสํ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’’ติ.

ตตฺถ โกธํ วธิตฺวาติ โกธํ มาเรตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา. โสจนฺโต หิ ปฏิฆจิตฺเตเนว โสจติ, โกธาภาวา กุโต โสโก. เตน วุตฺตํ ‘‘น กทาจิ โสจตี’’ติ. มกฺขปฺปหานนฺติ ปเรหิ อตฺตโน กตคุณมกฺขนลกฺขณสฺส อกตฺุภาวสงฺขาตสฺส มกฺขสฺส ปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ. สพฺเพสนฺติ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺานํ สพฺเพสมฺปิ ผรุสํ วจนํ ขเมถ. สนฺโตติ โปราณกา ปณฺฑิตา เอวํ กเถนฺติ.

สกฺโก อาห –

๖๕.

‘‘สกฺกา อุภินฺนํ วจนํ ติติกฺขิตุํ, สทิสสฺส วา เสฏฺตรสฺส วาปิ;

กถํ นุ หีนสฺส วโจ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑฺ เอตมตฺถ’’นฺติ.

สรภงฺโค อาห –

๖๖.

‘‘ภยา หิ เสฏฺสฺส วโจ ขเมถ, สารมฺภเหตู ปน สาทิสสฺส;

โย จีธ หีนสฺส วโจ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’’ติ. –

เอวมาทีนํ คาถานํ วจนปฺปฏิวจนวเสน สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ อกฺขาหิ เมติ, ภนฺเต โกณฺฑฺ, ตุมฺเหหิ ทฺเว ปฺหา สุกถิตา, เอโก เม จิตฺตํ น คณฺหาติ, กถํ สกฺกา อตฺตโน หีนตรสฺส วจนํ อธิวาเสตุํ, ตํ มม อกฺขาหีติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. เอตํ ขนฺตินฺติ ยเทตํ ชาติโคตฺตาทิหีนสฺส วจนํ ขมนํ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมนฺติ โปราณกปณฺฑิตา วทนฺติ. ยํ ปเนตํ ชาติอาทีหิ เสฏฺสฺส ภเยน, สทิสสฺส กรณุตฺตริยลกฺขเณ สารมฺเภ อาทีนวทสฺสเนน ขมนํ, เนสา อธิวาสนขนฺติ นามาติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเต สกฺโก มหาสตฺตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, ปมํ ตุมฺเห ‘สพฺเพสํ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’ติ วตฺวา อิทานิ ‘โย จีธ หีนสฺส วโจ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’ติ วทถ, น โว ปุริเมน ปจฺฉิมํ สเมตี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘สกฺก, ปจฺฉิมํ มยา ‘อยํ หีโน’ติ ตฺวา ผรุสวจนํ อธิวาเสนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, ยสฺมา ปน น สกฺกา รูปทสฺสนมตฺเตน สตฺตานํ เสฏฺาทิภาโว าตุํ, ตสฺมา ปุริมํ วุตฺต’’นฺติ วตฺวา สตฺตานํ อฺตฺร สํวาสา รูปทสฺสนมตฺเตน เสฏฺาทิภาวสฺส ทุวิฺเยฺยตํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –

๖๗.

‘‘กถํ วิชฺา จตุปตฺถรูปํ, เสฏฺํ สริกฺขํ อถวาปิ หีนํ;

วิรูปรูเปน จรนฺติ สนฺโต, ตสฺมา หิ สพฺเพสํ วโจ ขเมถา’’ติ.

ตตฺถ จตุปตฺถรูปนฺติ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนสภาวํ. วิรูปรูเปนาติ วิรูปานํ ลามกปุคฺคลานํ รูเปน อุตฺตมคุณา สนฺโตปิ วิจรนฺติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ มชฺฌนฺติกตฺเถรสฺส วตฺถุ กเถตพฺพํ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก นิกฺกงฺโข หุตฺวา, ‘‘ภนฺเต, เอตาย โน ขนฺติยา อานิสํสํ กเถหี’’ติ ยาจิ. อถสฺส มหาสตฺโต คาถมาห –

๖๘.

‘‘น เหตมตฺถํ มหตีปิ เสนา, สราชิกา ยุชฺฌมานา ลเภถ;

ยํ ขนฺติมา สปฺปุริโส ลเภถ, ขนฺตีพลสฺสูปสมนฺติ เวรา’’ติ.

ตตฺถ เอตมตฺถนฺติ เอตํ เวรวูปสมนิปฺปฏิฆสภาวสงฺขาตํ อตฺถํ.

เอวํ มหาสตฺเตน ขนฺติคุเณ กถิเต เต ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘สกฺโก อตฺตโนว ปฺเห ปุจฺฉติ, อมฺหากํ ปุจฺฉโนกาสํ น ทสฺสตี’’ติ. อถ เนสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา สกฺโก อตฺตนา อภิสงฺขเต จตฺตาโร ปฺเห เปตฺวาว เตสํ กงฺขํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๖๙.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

ยถา อหุํ ทณฺฑกี นาฬิเกโร, อถชฺชุโน กลาพุ จาปิ ราชา;

เตสํ คตึ พฺรูหิ สุปาปกมฺมินํ, กตฺถูปปนฺนา อิสีนํ วิเหกา’’ติ.

ตตฺถ อนุโมทิยานาติ อิทํ มยา ปุฏฺานํ ติณฺณํ ปฺหานํ วิสฺสชฺชนสงฺขาตํ ตว สุภาสิตํ อนุโมทิตฺวา. ยถา อหุนฺติ ยถา จตฺตาโร ชนา อเหสุํ. กลาพุ จาติ กลาพุราชา จ. อถชฺชุโนติ อถ อชฺชุนราชา.

อถสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๗๐.

‘‘กิสฺหิ วจฺฉํ อวกิริย ทณฺฑกี, อุจฺฉินฺนมูโล สชโน สรฏฺโ;

กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหิ ปจฺจติ, ตสฺส ผุลิงฺคานิ ปตนฺติ กาเย.

๗๑.

‘‘โย สฺเต ปพฺพชิเต อเหยิ, ธมฺมํ ภณนฺเต สมเณ อทูสเก;

ตํ นาฬิเกรํ สุนขา ปรตฺถ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมานํ.

๗๒.

‘‘อถชฺชุโน นิรเย สตฺติสูเล, อวํสิโร ปติโต อุทฺธํปาโท;

องฺคีรสํ โคตมํ เหยิตฺวา, ขนฺตึ ตปสฺสึ จิรพฺรหฺมจารึ.

๗๓.

‘‘โย ขณฺฑโส ปพฺพชิตํ อเฉทยิ, ขนฺตึ วทนฺตํ สมณํ อทูสกํ;

กลาพุวีจึ อุปปชฺช ปจฺจติ, มหาปตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.

๗๔.

‘‘เอตานิ สุตฺวา นิรยานิ ปณฺฑิโต, อฺานิ ปาปิฏฺตรานิ เจตฺถ;

ธมฺมํ จเร สมณพฺราหฺมเณสุ, เอวํกโร สคฺคมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ กิสนฺติ อปฺปมํสโลหิตตฺตา กิสสรีรํ. อวกิริยาติ อวกิริตฺวา นิฏฺุภนทนฺตกฏฺปาตเนน ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา. อุจฺฉินฺนมูโลติ อุจฺฉินฺนมูโล หุตฺวา. สชโนติ สปริโส. กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหีติ โยชนสตปฺปมาเณ กปฺปสณฺิเต อุณฺหฉาริกนิรเย. ผุลิงฺคานีติ วีตจฺจิตงฺคารา. ตสฺส กิร ตตฺถ อุณฺหกุกฺกุเฬ นิมุคฺคสฺส นวหิ วณมุเขหิ อุณฺหา ฉาริกา ปวิสนฺติ, สีเส มหนฺตมหนฺตา องฺคารา ปตนฺติ. เตสํ ปน ปตนกาเล สกลสรีรํ ทีปรุกฺโข วิย ชลติ, พลวเวทนา วตฺตนฺติ. โส อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต มหาวิรวํ รวติ. สรภงฺคสตฺถา ปถวึ ภินฺทิตฺวา ตํ ตตฺถ ตถาปจฺจมานํ ทสฺเสสิ, มหาชโน ภยสนฺตาสมาปชฺชิ. ตสฺส อติวิย ภีตภาวํ ตฺวา มหาสตฺโต ตํ นิรยํ อนฺตรธาเปสิ.

ธมฺมํ ภณนฺเตติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ ภาสนฺเต. สมเณติ สมิตปาเป. อทูสเกติ นิรปราเธ. นาฬิเกรนฺติ เอวํนามกํ ราชานํ. ปรตฺถาติ ปรโลเก นิรเย นิพฺพตฺตํ. สงฺคมฺมาติ อิโต จิโต จ สมาคนฺตฺวา ฉินฺทิตฺวา มหนฺตมหนฺตา สุนขา ขาทนฺติ. ตสฺมึ กิร กลิงฺครฏฺเ ทนฺตปุรนคเร นาฬิเกเร นาม รฺเ รชฺชํ การยมาเน เอโก มหาตาปโส ปฺจสตตาปสปริวุโต หิมวนฺตา อาคมฺม ราชุยฺยาเน วาสํ กปฺเปตฺวา มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. ‘‘ธมฺมิกตาปโส อุยฺยาเน วสตี’’ติ รฺโปิ อาโรจยึสุ. ราชา ปน อธมฺมิโก อธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. โส อมจฺเจสุ ตาปสํ ปสํสนฺเตสุ ‘‘อหมฺปิ ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตาปสํ วนฺทิตฺวา นิสีทิ. ตาปโส รฺา สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต ‘‘กึ, มหาราช, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ, ชนํ น ปีเฬสี’’ติ อาห. โส ตสฺส กุชฺฌิตฺวา ‘‘อยํ กูฏชฏิโล เอตฺตกํ กาลํ นาครานํ สนฺติเก มมฺเว อคุณํ กเถสิ มฺเ, โหตุ ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สฺเว อมฺหากํ ฆรทฺวารํ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส ปุราณคูถสฺส จาฏิโย ปริปูราเปตฺวา ตาปเสสุ อาคเตสุ เตสํ ภิกฺขาภาชนานิ คูถสฺส ปูราเปตฺวา ทฺวารํ ปิทหาเปตฺวา มุสลานิ จ โลหทณฺเฑ จ คาหาเปตฺวา อิสีนํ สีสานิ ภินฺทาเปตฺวา ชฏาสุ คาหาเปตฺวา กฑฺฒาเปตฺวา สุนเขหิ ขาทาเปตฺวา ตตฺเถว ภินฺนํ ปถวึ ปวิสิตฺวา สุนขมหานิรเย นิพฺพตฺตติ, ตตฺรสฺส ติคาวุตปฺปมาณสรีรํ อโหสิ. อถ นํ มหนฺตมหนฺตา มหาหตฺถิปฺปมาณา ปฺจวณฺณา สุนขา อนุพนฺธิตฺวา ฑํสิตฺวา นวโยชนาย ชลิตอยปถวิยา ปาเตตฺวา มุขปูรํ ลุฺจนฺตา วิปฺผนฺทมานํ ขาทึสุ. มหาสตฺโต ปถวึ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ตํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาชนสฺส ภีตภาวํ ตฺวา อนฺตรธาเปสิ.

อถชฺชุโนติ สหสฺสพาหุราชา. องฺคีรสนฺติ องฺเคหิ รํสีนํ นิจฺฉรณโต เอวํลทฺธนามํ. เหยิตฺวาติ วิเหเตฺวา วิสปีตกณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา. โส กิร อชฺชุโน นาม ราชา มหิสกรฏฺเ เกตกราชธานิยํ รชฺชํ กาเรนฺโต มิควํ คนฺตฺวา มิเค วธิตฺวา องฺคารปกฺกมํสํ ขาทนฺโต วิจริ. อเถกทิวสํ มิคานํ อาคมนฏฺาเน โกฏฺกํ กตฺวา มิเค โอโลกยมาโน อฏฺาสิ. ตทา โส ตาปโส ตสฺส รฺโ อวิทูเร เอกํ การรุกฺขํ อภิรุหิตฺวา ผลานิ โอจินนฺโต โอจินิตผลสาขํ มุฺจิ. ตสฺสา วิสฺสฏฺาย สทฺเทน ตํานํ ปตฺตา มิคา ปลายึสุ. ราชา กุชฺฌิตฺวา ตาปสํ วิสมิสฺสิเตน สลฺเลน วิชฺฌิ. โส ปริคลิตฺวา ปตนฺโต มตฺถเกน ขทิรขาณุกํ อาสาเทตฺวา สูลคฺเคเยว กาลมกาสิ. ราชา ตงฺขเณเยว ทฺวิธา ภินฺนํ ปถวึ ปวิสิตฺวา สตฺติสูลนิรเย นิพฺพตฺติ, ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ อโหสิ. ตตฺร ตํ นิรยปาลา ชลิเตหิ อาวุเธหิ โกฏฺเฏตฺวา ชลิตํ อยปพฺพตํ อาโรเปนฺติ. ปพฺพตมตฺถเก ิตกาเล วาโต ปหรติ, โส วาตปฺปหาเรน ปริคลิตฺวา ปตติ. ตสฺมึ ขเณ เหฏฺา นวโยชนาย ชลิตอยปถวิยา มหาตาลกฺขนฺธปฺปมาณํ ชลิตํ อยสูลํ อุฏฺหติ. โส สูลคฺคมตฺถเกเยว อาสาเทตฺวา สูลาวุโต ติฏฺติ. ตสฺมึ ขเณ ปถวี ชลติ, สูลํ ชลติ, ตสฺส สรีรํ ชลติ. โส ตตฺถ มหารวํ รวนฺโต ปจฺจติ. มหาสตฺโต ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา ตํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาชนสฺส ภีตภาวํ ตฺวา อนฺตรธาเปสิ.

ขณฺฑโสติ จตฺตาโร หตฺถปาเท กณฺณนาสฺจ ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา. อทูสกนฺติ นิรปราธํ. ตถา เฉทาเปตฺวา ทฺวีหิ กสาหิ ปหารสหสฺเสหิ ตาฬาเปตฺวา ชฏาสุ คเหตฺวา อากฑฺฒาเปตฺวา ปฏิกุชฺชํ นิปชฺชาเปตฺวา ปิฏฺิยํ ปณฺหิยา ปหริตฺวา มหาทุกฺขสมปฺปิตํ อกาสิ. กลาพุวีจินฺติ กลาพุ อวีจึ. กฏุกนฺติ ติขิณเวทนํ, เอวรูปํ นิรยํ อุปปชฺชิตฺวา ฉนฺนํ ชาลานํ อนฺตเร ปจฺจติ. วิตฺถารโต ปน กลาพุรฺโ วตฺถุ ขนฺติวาทิชาตเก (ชา. ๑.๔.๔๙-๕๒) กถิตเมว. อฺานิ ปาปิฏฺตรานิ เจตฺถาติ เอเตหิ นิรเยหิ ปาปิฏฺตรานิ จ อฺานิ นิรยานิ สุตฺวา. ธมฺมํ จเรติ, สกฺก เทวราช, ปณฺฑิโต กุลปุตฺโต น เกวลํ เอเตเยว จตฺตาโร นิรยา, เอเตเยว จ ราชาโน เนรยิกา, อถ โข อฺเปิ นิรยา, อฺเปิ จ ราชาโน นิรเยสุ อุปฺปนฺนาติ วิทิตฺวา จตุปจฺจยทานธมฺมิการกฺขาวรณสํวิธานสงฺขาตํ สมณพฺราหฺมเณสุ ธมฺมํ จเรยฺยาติ.

เอวํ มหาสตฺเตน จตุนฺนํ ราชูนํ นิพฺพตฺตฏฺาเน ทสฺสิเต ตโย ราชาโน นิกฺกงฺขา อเหสุํ. ตโต สกฺโก อวเสเส จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๗๕.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺติ;

กถํวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ, กถํวิธํ โน สิริ โน ชหาตี’’ติ.

ตตฺถ กถํวิธํ โน สิริ โน ชหาตีติ กถํวิธํ นุ ปุริสํ ปฏิลทฺธสิรี น ชหาตีติ.

อถสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๗๖.

‘‘กาเยน วาจาย จ โยธ สฺโต, มนสา จ กิฺจิ น กโรติ ปาปํ;

น อตฺตเหตู อลิกํ ภเณติ, ตถาวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ.

๗๗.

‘‘คมฺภีรปฺหํ มนสาภิจินฺตยํ, นาจฺจาหิตํ กมฺม กโรติ ลุทฺทํ;

กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริฺจติ, ตถาวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺติ.

๗๘.

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร, กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;

ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ, ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ.

๗๙.

‘‘เอเตหิ สพฺเพหิ คุเณหุเปโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู;

สงฺคาหกํ สขิลํ สณฺหวาจํ, ตถาวิธํ โน สิริ โน ชหาตี’’ติ.

ตตฺถ ‘‘กาเยนา’’ติอาทีนิ ปทานิ ติวิธสุจริตทฺวารวเสน วุตฺตานิ. น อตฺตเหตูติ เทสนาสีสเมเวตํ, อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา ยสเหตุ วา ธนเหตุ วา ลาภเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา อลิกํ น กเถตีติ อตฺโถ. กามฺเจส อตฺโถ ‘‘วาจาย สฺโต’’ติ อิมินาว สิทฺโธ, มุสาวาทิโน ปน อกตฺตพฺพํ ปาปํ นาม นตฺถีติ ครุภาวทีปนตฺถํ ปุน เอวมาหาติ เวทิตพฺโพ. ตํ ปุคฺคลํ สีลวนฺตํ วทนฺติ.

คมฺภีรปฺหนฺติ อตฺถโต จ ปาฬิโต จ คมฺภีรํ คุฬฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ สตฺตุภสฺตชาตก- (ชา. ๑.๗.๔๖ อาทโย) สมฺภวชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๑๓๘ อาทโย) มหาอุมงฺคชาตเกสุ (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาคตสทิสํ ปฺหํ. มนสาภิจินฺตยนฺติ มนสา อภิจินฺเตนฺโต อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา จนฺทสหสฺสํ สูริยสหสฺสํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา โย กเถตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ. นาจฺจาหิตนฺติ น อติอหิตํ, หิตาติกฺกนฺตํ ลุทฺทํ ผรุสํ สาหสิกกมฺมฺจ โย น กโรตีติ อตฺโถ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ –

‘‘น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ, ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ;

ทุกฺเขน ผุฏฺา ปิฬิตาปิ สนฺตา, ฉนฺทา โทสา จ น ชหนฺติ ธมฺม’’นฺติ. –

ภูริปฺโห กเถตพฺโพ.

กาลาคตนฺติ เอตฺถ ทานํ ทาตพฺพกาเล, สีลํ รกฺขณกาเล, อุโปสถํ อุปวาสกาเล, สรเณสุ ปติฏฺานกาเล, ปพฺพชิตกาเล, สมณธมฺมกรณกาเล, วิปสฺสนาจารสฺมึ ยุฺชนกาเล จาติ อิมานิ ทานาทีนิ สมฺปาเทนฺโต กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริฺจติ น หาเปติ น คฬาเปติ นาม. ตถาวิธนฺติ สกฺก สพฺพฺุพุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ โพธิสตฺตา จ ปฺวนฺตํ กเถนฺตา เอวรูปํ ปุคฺคลํ กเถนฺติ.

‘‘โย เว’’ติ คาถาย ปเรน อตฺตโน กตคุณํ ชานาตีติ กตฺู. เอวํ ตฺวา ปน เยนสฺส คุโณ กโต, ตสฺส คุณํ ปฏิกโรนฺโต กตเวที นาม. ทุขิตสฺสาติ อตฺตโน สหายสฺส ทุกฺขปฺปตฺตสฺส ทุกฺขํ อตฺตนิ อาโรเปตฺวา โย ตสฺส อุปฺปนฺนกิจฺจํ สหตฺเถน สกฺกจฺจํ กโรติ, พุทฺธาทโย เอวรูปํ สปฺปุริสํ นาม กเถนฺติ. อปิจ สปฺปุริสา นาม กตฺู กตเวทิโน โหนฺตีติ สตปตฺตชาตก- (ชา. ๑.๓.๘๕-๘๗) จูฬหํสชาตก- (ชา. ๑.๑๕.๑๓๓ อาทโย) มหาหํสชาตกาทีนิ (ชา. ๒.๒๑.๘๙ อาทโย) กเถตพฺพานิ. เอเตหิ สพฺเพหีติ สกฺก โย เอเตหิ เหฏฺา วุตฺเตหิ สีลาทีหิ สพฺเพหิปิ คุเณหิ อุเปโต. สทฺโธติ โอกปฺปนสทฺธาย สมนฺนาคโต. มุทูติ ปิยภาณี. สํวิภาคีติ สีลสํวิภาคทานสํวิภาคาภิรตตฺตา สํวิภาคี. ยาจกานํ วจนํ ตฺวา ทานวเสน วทฺู. จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ เตสํ เตสํ สงฺคณฺหนโต สงฺคาหกํ, มธุรวจนตาย สขิลํ, มฏฺวจนตาย สณฺหวาจํ ตถาวิธํ นุ ปุคฺคลํ อธิคตยสโสภคฺคสงฺขาตา สิรี โน ชหาติ, นาสฺส สิรี วินสฺสตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต คคนตเล ปุณฺณจนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย จตฺตาโร ปฺเห วิสฺสชฺเชสิ. ตโต ปรํ เสสปฺหานํ ปุจฺฉา จ วิสฺสชฺชนฺจ โหติ –

๘๐.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

สีลํ สิริฺจาปิ สตฺจ ธมฺมํ, ปฺฺจ กํ เสฏฺตรํ วทนฺติ.

๘๑.

‘‘ปฺา หิ เสฏฺา กุสลา วทนฺติ, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;

สีลํ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโม, อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺติ.

๘๒.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

กถํกโร กินฺติกโร กิมาจรํ, กึ เสวมาโน ลภตีธ ปฺํ;

ปฺาย ทานิปฺปฏิปทํ วเทหิ, กถํกโร ปฺวา โหติ มจฺโจ.

๘๓.

‘‘เสเวถ วุทฺเธ นิปุเณ พหุสฺสุเต, อุคฺคาหโก จ ปริปุจฺฉโก สิยา;

สุเณยฺย สกฺกจฺจ สุภาสิตานิ, เอวํกโร ปฺวา โหติ มจฺโจ.

๘๔.

‘‘ส ปฺวา กามคุเณ อเวกฺขติ, อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต จ;

เอวํ วิปสฺสี ปชหาติ ฉนฺทํ, ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ.

๘๕.

‘‘ส วีตราโค ปวิเนยฺย โทสํ, เมตฺตํ จิตฺตํ ภาวเย อปฺปมาณํ;

สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, อนินฺทิโต พฺรหฺมมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ สีลนฺติ อาจารสีลํ. สิรินฺติ อิสฺสริยสิรึ. สตฺจ ธมฺมนฺติ สปฺปุริสธมฺมํ. ปฺนฺติ สุปฺํ. เอวํ อิเมสํ จตุนฺนํ ธมฺมานํ กตรํ ธมฺมํ เสฏฺตรํ วทนฺตีติ ปุจฺฉติ. ปฺา หีติ, สกฺก, เอเตสุ จตูสุ ธมฺเมสุ ยา เอสา ปฺา นาม, สาว เสฏฺา, อิติ พุทฺธาทโย กุสลา วทนฺติ. ยถา หิ ตารกคณา จนฺทํ ปริวาเรนฺติ, จนฺโทว เตสํ อุตฺตโม. เอวํ สีลฺจ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโมติ เอเต ตโยปิ อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺติ ปฺวนฺตเมว อนุคจฺฉนฺติ, ปฺาย เอว ปริวารา โหนฺตีติ อตฺโถ.

‘‘กถํกโร’’ติอาทีนิ อฺมฺเววจนาเนว. กถํกโรติ กึ นาม กมฺมํ กโรนฺโต กึ อาจรนฺโต กึ เสวมาโน ภชมาโน ปยิรุปาสมาโน อิธโลเก ปฺํ ลภติ, ปฺายเมว ปฏิปทํ วเทหิ, ชานิตุกาโมมฺหิ, กถํกโร มจฺโจ ปฺวา นาม โหตีติ ปุจฺฉติ. วุทฺเธติ ปฺาวุทฺธิปฺปตฺเต ปณฺฑิเต. นิปุเณติ สุขุมการณชานนสมตฺเถ. เอวํกโรติ โย ปุคฺคโล เอวํ วุตฺตปฺปกาเร ปุคฺคเล เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ, ปาฬึ อุคฺคณฺหาติ, ปุนปฺปุนํ อตฺถํ ปุจฺฉติ, ปาสาเณ เลขํ ขณนฺโต วิย กฺจนนาฬิยา สีหวสํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต วิย โอหิตโสโต สกฺกจฺจํ สุภาสิตานิ สุณาติ, อยํ เอวํกโร มจฺโจ ปฺวา โหตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ปาจีนโลกธาตุโต สูริยํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปฺาย ปฏิปทํ กเถตฺวา อิทานิ ตสฺสา ปฺาย คุณํ กเถนฺโต ‘‘ส ปฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามคุเณติ กามโกฏฺาเส หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจโต, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขโต, อฏฺนวุติยา โรคมุขานํ กาเม นิสฺสาย อุปฺปตฺติสมฺภเวน โรคโต จ อเวกฺขติ โอโลเกติ, โส เอวํ วิปสฺสี เอเตหิ การเณหิ กามานํ อนิจฺจาทิตํ ปสฺสนฺโต ‘‘กาเม นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกทุกฺขานํ อนฺโต นตฺถิ, กามานํ ปหานเมว สุข’’นฺติ วิทิตฺวา ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ ฉนฺทํ ปชหาติ. ส วีตราโคติ, ‘‘สกฺก, โส ปุคฺคโล เอวํ วีตราโค นวาฆาตวตฺถุวเสน อุปฺปชฺชนกสภาวโทสํ วิเนตฺวา เมตฺตจิตฺตํ ภาเวยฺย, อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตฺตา อปฺปมาณํ ตํ ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌาโน อครหิโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ.

เอวํ มหาสตฺเต กามานํ โทสํ กเถนฺเตเยว เตสํ ติณฺณมฺปิ ราชูนํ สพลกายานํ ตทงฺคปฺปหาเนน ปฺจกามคุณราโค ปหีโน. ตํ ตฺวา มหาสตฺโต เตสํ ปหํสนวเสน คาถมาห –

๘๖.

‘‘มหตฺถิยํ อาคมนํ อโหสิ, ตวมฏฺกา ภีมรถสฺส จาปิ;

กาลิงฺคราชสฺส จ อุคฺคตสฺส, สพฺเพส โว กามราโค ปหีโน’’ติ.

ตตฺถ มหตฺถิยนฺติ มหตฺถํ มหาวิปฺผารํ มหาชุติกํ. ตวมฏฺกาติ ตว อฏฺกา. ปหีโนติ ตทงฺคปฺปหาเนน ปหีโน.

ตํ สุตฺวา ราชาโน มหาสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺตา คาถมาหํสุ –

๘๗.

‘‘เอวเมตํ ปรจิตฺตเวทิ, สพฺเพส โน กามราโค ปหีโน;

กโรหิ โอกาสมนุคฺคหาย, ยถา คตึ เต อภิสมฺภเวมา’’ติ.

ตตฺถ อนุคฺคหายาติ ปพฺพชฺชตฺถาย โอกาสํ โน กโรหิ. ยถา มยํ ปพฺพชิตฺวา ตว คตึ นิปฺผตฺตึ อภิสมฺภเวม ปาปุเณยฺยาม, ตยา ปฏิวิทฺธคุณํ ปฏิวิชฺเฌยฺยามาติ วทึสุ.

อถ เนสํ โอกาสํ กโรนฺโต มหาสตฺโต อิตรํ คาถมาห –

๘๘.

‘‘กโรมิ โอกาสมนุคฺคหาย, ตถา หิ โว กามราโค ปหีโน;

ผราถ กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คตึ เม อภิสมฺภเวถา’’ติ.

ตตฺถ ผราถ กายนฺติ ฌานปีติยา วิปุลาย กายํ ผรถาติ.

ตํ สุตฺวา เต สมฺปฏิจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –

๘๙.

‘‘สพฺพํ กริสฺสาม ตวานุสาสนึ, ยํ ยํ ตุวํ วกฺขสิ ภูริปฺ;

ผราม กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คตึ เต อภิสมฺภเวมา’’ติ.

อถ เนสํ สพลกายานํ มหาสตฺโต ปพฺพชฺชํ ทาเปตฺวา อิสิคณํ อุยฺโยเชนฺโต คาถมาห –

๙๐.

‘‘กตาย วจฺฉสฺส กิสสฺส ปูชา, คจฺฉนฺตุ โภนฺโต อิสโย สาธุรูปา;

ฌาเน รตา โหถ สทา สมาหิตา, เอสา รตี ปพฺพชิตสฺส เสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ คจฺฉนฺตูติ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานานิ คจฺฉนฺตุ.

อิสโย ตสฺส สรภงฺคสตฺถุโน วจนํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วนฺทิตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา สกานิ วสนฏฺานานิ คมึสุ. สกฺโกปิ อุฏฺายาสนา มหาสตฺตสฺส ถุตึ กตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สูริยํ นมสฺสนฺโต วิย มหาสตฺตํ นมสฺสมาโน สปริโส ปกฺกามิ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา สตฺถา อิมา คาถาโย อภาสิ –

๙๑.

‘‘สุตฺวาน คาถา ปรมตฺถสํหิตา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;

เต เวทชาตา อนุโมทมานา, ปกฺกามุ เทวา เทวปุรํ ยสสฺสิโน.

๙๒.

‘‘คาถา อิมา อตฺถวตี สุพฺยฺชนา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;

โย โกจิมา อฏฺิกตฺวา สุเณยฺย, ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;

ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ, อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ.

ตตฺถ ปรมตฺถสํหิตาติ อนิจฺจาทิทีปเนน นิพฺพานนิสฺสิตา. คาถา อิมาติ อิทํ สตฺถา สรภงฺคสตฺถุโน นิพฺพานทายกํ สุภาสิตํ วณฺเณนฺโต อาห. ตตฺถ อตฺถวตีติ นิพฺพานทายกฏฺเน ปรมตฺถนิสฺสิตา. สุพฺยฺชนาติ ปริสุทฺธพฺยฺชนา. สุภาสิตาติ สุกถิตา. อฏฺิกตฺวาติ อตฺตโน อตฺถิกภาวํ กตฺวา อตฺถิโก หุตฺวา สกฺกจฺจํ สุเณยฺย. ปุพฺพาปริยนฺติ ปมชฺฌานํ ปุพฺพวิเสโส, ทุติยชฺฌานํ อปรวิเสโส. ทุติยชฺฌานํ ปุพฺพวิเสโส, ตติยชฺฌานํ อปรวิเสโสติ เอวํ อฏฺสมาปตฺติจตุมคฺควเสน ปุพฺพาปรภาเวน ิตํ วิเสสํ. อทสฺสนนฺติ ปริโยสาเน อปรวิเสสํ อรหตฺตํ ลภิตฺวา นิพฺพานํ ปาปุเณยฺย. นิพฺพานปฺปตฺโต หิ ปุคฺคโล มจฺจุราชสฺส อทสฺสนํ คโต นาม โหตีติ.

เอวํ สตฺถา อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหิตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ โมคฺคลฺลานสฺส อาฬาหเน ปุปฺผวสฺสํ วสฺสี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนนฺโต อาห –

๙๓.

‘‘สาลิสฺสโร สาริปุตฺโต, เมณฺฑิสฺสโร จ กสฺสโป;

ปพฺพโต อนุรุทฺโธ จ, กจฺจายโน จ เทวโล;

๙๔.

‘‘อนุสิสฺโส จ อานนฺโท, กิสวจฺโฉ จ โกลิโต;

นารโท อุทายิตฺเถโร, ปริสา พุทฺธปริสา;

สรภงฺโค โลกนาโถ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

สรภงฺคชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๒๓] ๓. อลมฺพุสาชาตกวณฺณนา

อถพฺรวีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ อินฺทฺริยชาตเก (ชา. ๑.๘.๖๐ อาทโย) วิตฺถาริตเมว. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ เอสา อิตฺถี ตุยฺหํ อนตฺถการิกา, ตฺวํ เอตํ นิสฺสาย ฌานํ นาเสตฺวา ตีณิ สํวจฺฉรานิ มูฬฺโห วิสฺี นิปชฺชิตฺวา อุปฺปนฺนาย สฺาย มหาปริเทวํ ปริเทวี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺายตเน วนมูลผลาหาโร ยาเปสิ. อเถกา มิคี ตสฺส ปสฺสาวฏฺาเน สมฺภวมิสฺสกํ ติณํ ขาทิตฺวา อุทกํ ปิวิ. เอตฺตเกเนว จ ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ตโต ปฏฺาย กตฺถจิ อคนฺตฺวา ตตฺเถว ติณํ ขาทิตฺวา อสฺสมสฺส สามนฺเตเยว วิจรติ. มหาสตฺโต ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ การณํ อฺาสิ. สา อปรภาเค มนุสฺสทารกํ วิชายิ. มหาสตฺโต ตํ ปุตฺตสิเนเหน ปฏิชคฺคิ, ‘‘อิสิสิงฺโค’’ติสฺส นามํ อกาสิ. อถ นํ มหาสตฺโต วิฺุตปฺปตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา อตฺตโน มหลฺลกกาเล ตํ อาทาย นาริวนํ นาม คนฺตฺวา, ‘‘ตาต, อิมสฺมึ หิมวนฺเต อิเมหิ ปุปฺเผหิ สทิสา อิตฺถิโย นาม โหนฺติ, ตา อตฺตโน วสํ คเต มหาวินาสํ ปาเปนฺติ, น ตาสํ วสํ นาม คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ โอวทิตฺวา อปรภาเค พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

อิสิสิงฺโคปิ ฌานกีฬํ กีฬนฺโต หิมวนฺตปฺปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย อโหสิ. อถสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ, สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘อยํ มํ สกฺกตฺตา จาเวยฺย, เอกํ อจฺฉรํ เปเสตฺวา สีลมสฺส ภินฺทาเปสฺสามี’’ติ สกลเทวโลกํ อุปปริกฺขนฺโต อตฺตโน อฑฺฒเตยฺยโกฏิสงฺขานํ ปริจาริกานํ มชฺเฌ เอกํ อลมฺพุสํ นาม อจฺฉรํ เปตฺวา อฺํ ตสฺส สีลํ ภินฺทิตุํ สมตฺถํ อทิสฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส สีลเภทํ กาตุํ อาณาเปสิ. ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา ปมํ คาถมาห –

๙๕.

‘‘อถพฺรวิ พฺรหา อินฺโท, วตฺรภู ชยตํ ปิตา;

เทวกฺํ ปราเภตฺวา, สุธมฺมายํ อลมฺพุส’’นฺติ.

ตตฺถ พฺรหาติ มหา. วตฺรภูติ วตฺรสฺส นาม อสุรสฺส อภิภวิตา. ชยตํ ปิตาติ ชยนฺตานํ ชยปฺปตฺตานํ เสสานํ เตตฺตึสาย เทวปุตฺตานํ ปิตุกิจฺจสาธเนน ปิตา. ปราเภตฺวาติ หทยํ ภินฺทิตฺวา โอโลเกนฺโต วิย ตํ ‘‘ปฏิพลา อย’’นฺติ ตฺวาติ อตฺโถ. สุธมฺมายนฺติ สุธมฺมายํ เทวสภายํ.

ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเน นิสินฺโน ตํ อลมฺพุสํ ปกฺโกสาเปตฺวา อิทมาห –

๙๖.

‘‘มิสฺเส เทวา ตํ ยาจนฺติ, ตาวตึสา สอินฺทกา;

อิสิปฺปโลภเน คจฺฉ, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุเส’’ติ.

ตตฺถ มิสฺเสติ ตํ อาลปติ, อิทฺจ ตสฺสา นามํ, สพฺพา ปนิตฺถิโย ปุริเส กิเลสมิสฺสเนน มิสฺสนโต ‘‘มิสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตน สาธารเณน คุณนาเมนาลปนฺโต เอวมาห. อิสิปฺปโลภเนติ อิสีนํ ปโลภนสมตฺเถ. อิสิสิงฺคนฺติ ตสฺส กิร มตฺถเก มิคสิงฺคากาเรน ทฺเว จูฬา อุฏฺหึสุ, ตสฺมา เอวํ วุจฺจติ.

อิติ สกฺโก ‘‘คจฺฉ อิสิสิงฺคํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน วสํ อาเนตฺวา สีลมสฺส ภินฺทา’’ติ อลมฺพุสํ อาณาเปสิ.

๙๗.

‘‘ปุรายํ อมฺเห อจฺเจติ, วตฺตวา พฺรหฺมจริยวา;

นิพฺพานาภิรโต วุทฺโธ, ตสฺส มคฺคานิ อาวรา’’ติ. – วจนํ อาห;

ตตฺถ ปุรายนฺติ อยํ ตาปโส วตฺตสมฺปนฺโน จ พฺรหฺมจริยวา จ, โส ปเนส ทีฆายุกตาย นิพฺพานสงฺขาเต มคฺเค อภิรโต คุณวุทฺธิยา จ วุทฺโธ. ตสฺมา ยาว เอส อมฺเห นาติกฺกมติ, น อภิภวิตฺวา อิมมฺหา านา จาเวติ, ตาวเทว ตฺวํ คนฺตฺวา ตสฺส เทวโลกคมนานิ มคฺคานิ อาวร, ยถา อิธ นาคจฺฉติ, เอวํ กโรหีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา คาถาทฺวยมาห –

๙๘.

‘‘เทวราช กิเมว ตฺวํ, มเมว ตุวํ สิกฺขสิ;

อิสิปฺปโลภเน คจฺฉ, สนฺติ อฺาปิ อจฺฉรา.

๙๙.

‘‘มาทิสิโย ปวรา เจว, อโสเก นนฺทเน วเน;

ตาสมฺปิ โหตุ ปริยาโย, ตาปิ ยนฺตุ ปโลภนา’’ติ.

ตตฺถ กิเมว ตฺวนฺติ กึ นาเมตํ ตฺวํ กโรสีติ ทีเปติ. มเมว ตุวํ สิกฺขสีติ อิมสฺมึ สกลเทวโลเก มเมว ตุวํ อิกฺขสิ, อฺํ น ปสฺสสีติ อธิปฺปาเยน วทติ. -กาโร ปเนตฺถ พฺยฺชนสนฺธิกโร. อิสิปฺปโลภเน คจฺฉาติ กึการณา มฺเว เอวํ วเทสีติ อธิปฺปาโย. ปวรา เจวาติ มยา อุตฺตริตรา เจว. อโสเกติ โสกรหิเต. นนฺทเนติ นนฺทิชนเก. ปริยาโยติ คมนวาโร.

ตโต สกฺโก ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๐๐.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ ภณสิ, สนฺติ อฺาปิ อจฺฉรา;

ตาทิสิโย ปวรา เจว, อโสเก นนฺทเน วเน.

๑๐๑.

‘‘น ตา เอวํ ปชานนฺติ, ปาริจริยํ ปุมํ คตา;

ยาทิสํ ตฺวํ ปชานาสิ, นาริ สพฺพงฺคโสภเน.

๑๐๒.

‘‘ตฺวเมว คจฺฉ กลฺยาณิ, อิตฺถีนํ ปวรา จสิ;

ตเวว วณฺณรูเปน, สวสมานยิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ปุมํ คตาติ ปุริสํ อุปสงฺกมนฺตา สมานา ปุริสปโลภินิปาริจริยํ น ชานนฺติ. วณฺณรูเปนาติ สรีรวณฺเณน เจว รูปสมฺปตฺติยา จ. สวสมานยิสฺสสีติ ตํ ตาปสํ อตฺตโน วสํ อาเนสฺสสีติ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๐๓.

‘‘น วาหํ น คมิสฺสามิ, เทวราเชน เปสิตา;

วิเภมิ เจตํ อาสาทุํ, อุคฺคเตโช หิ พฺราหฺมโณ.

๑๐๔.

‘‘อเนเก นิรยํ ปตฺตา, อิสิมาสาทิยา ชนา;

อาปนฺนา โมหสํสารํ, ตสฺมา โลมานิ หํสเย’’ติ.

ตตฺถ น วาหนฺติ น เว อหํ. วิเภมีติ ภายามิ. อาสาทุนฺติ อาสาทิตุํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – นาหํ, เทว, ตยา เปสิตา น คมิสฺสามิ, อปิจาหํ ตํ อิสึ สีลเภทนตฺถาย อลฺลียิตุํ ภายามิ, อุคฺคเตโช หิ โสติ. อาสาทิยาติ อาสาเทตฺวา. โมหสํสารนฺติ โมเหน สํสารํ, โมเหน อิสึ ปโลเภตฺวา สํสารํ อาปนฺนา วฏฺฏทุกฺเข ปติฏฺิตา สตฺตา คณนปถํ อติกฺกนฺตา. ตสฺมาติ เตน การเณน. โลมานิ หํสเยติ อหํ โลมานิ อุฏฺเปมิ, ‘‘ตสฺส กิราหํ สีลํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ จินฺตยมานาย เม โลมานิ ปหํสนฺตีติ วทติ.

๑๐๕.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, อจฺฉรา กามวณฺณินี;

มิสฺสา มิสฺสิตุมิจฺฉนฺตี, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา.

๑๐๖.

‘‘สา จ ตํ วนโมคยฺห, อิสิสิงฺเคน รกฺขิตํ;

พิมฺพิชาลกสฺฉนฺนํ, สมนฺตา อทฺธโยชนํ.

๑๐๗.

‘‘ปาโตว ปาตราสมฺหิ, อุทณฺหสมยํ ปติ;

อคฺคิฏฺํ ปริมชฺชนฺตํ, อิสิสิงฺคํ อุปาคมี’’ติ. – อิมา อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ปกฺกามีติ เตน หิ, เทวราช, อาวชฺเชยฺยาสิ มนฺติ อตฺตโน สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา อลงฺกริตฺวา อิสิสิงฺคํ กิเลเสน มิสฺสิตุํ อิจฺฉนฺตี ปกฺกามิ, ภิกฺขเว, สา อจฺฉรา ตสฺส อสฺสมํ คตาติ. พิมฺพิชาลกสฺฉนฺนนฺติ รตฺตงฺกุรวเนน สฺฉนฺนํ. ปาโตว ปาตราสมฺหีติ, ภิกฺขเว, ปาตราสเวลาย ปาโตว ปเคเยว อติปเคว. อุทณฺหสมยํ ปตีติ สูริยุคฺคมนเวลายเมว. อคฺคิฏฺนฺติ อคฺคิสาลํ. รตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปาโตว นฺหตฺวา อุทกกิจฺจํ กตฺวา ปณฺณสาลายํ โถกํ ฌานสุเขน วีตินาเมตฺวา นิกฺขมิตฺวา อคฺคิสาลํ สมฺมชฺชนฺตํ ตํ อิสิสิงฺคํ สา อุปาคมิ, อิตฺถิวิลาสํ ทสฺเสนฺตี ตสฺส ปุรโต อฏฺาสิ.

อถ นํ ตาปโส ปุจฺฉนฺโต อาห –

๑๐๘.

‘‘กา นุ วิชฺชุริวาภาสิ, โอสธี วิย ตารกา;

วิจิตฺตหตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา.

๑๐๙.

‘‘อาทิจฺจวณฺณสงฺกาสา, เหมจนฺทนคนฺธินี;

สฺตูรู มหามายา, กุมารี จารุทสฺสนา.

๑๑๐.

‘‘วิลคฺคา มุทุกา สุทฺธา, ปาทา เต สุปฺปติฏฺิตา;

คมนา กามนียา เต, หรนฺติเยว เม มโน.

๑๑๑.

‘‘อนุปุพฺพา จ เต อูรู, นาคนาสสมูปมา;

วิมฏฺา ตุยฺหํ สุสฺโสณี, อกฺขสฺส ผลกํ ยถา.

๑๑๒.

‘‘อุปฺปลสฺเสว กิฺชกฺขา, นาภิ เต สาธุสณฺิตา;

ปุรา กณฺหฺชนสฺเสว, ทูรโต ปติทิสฺสติ.

๑๑๓.

‘‘ทุวิธา ชาตา อุรชา, อวณฺฏา สาธุปจฺจุทา;

ปโยธรา อปติตา, อฑฺฒลาพุสมา ถนา.

๑๑๔.

‘‘ทีฆา กมฺพุตลาภาสา, คีวา เอเณยฺยกา ยถา;

ปณฺฑราวรณา วคฺคุ, จตุตฺถมนสนฺนิภา.

๑๑๕.

‘‘อุทฺธคฺคา จ อธคฺคา จ, ทุมคฺคปริมชฺชิตา;

ทุวิชา เนลสมฺภูตา, ทนฺตา ตว สุทสฺสนา.

๑๑๖.

‘‘อปณฺฑรา โลหิตนฺตา, ชิฺชูกผลสนฺนิภา;

อายตา จ วิสาลา จ, เนตฺตา ตว สุทสฺสนา.

๑๑๗.

‘‘นาติทีฆา สุสมฺมฏฺา, กนกพฺยาสโมจิตา;

อุตฺตมงฺครุหา ตุยฺหํ, เกสา จนฺทนคนฺธิกา.

๑๑๘.

‘‘ยาวตา กสิโครกฺขา, วาณิชานฺจ ยา คติ;

อิสีนฺจ ปรกฺกนฺตํ, สฺตานํ ตปสฺสินํ.

๑๑๙.

‘‘น เต สมสมํ ปสฺเส, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

ตตฺถ วิจิตฺตหตฺถาภรณาติ วิจิตฺเตหิ หตฺถาภรเณหิ สมนฺนาคตา. เหมจนฺทนคนฺธินีติ สุวณฺณวณฺณจนฺทนคนฺธวิเลปนา. สฺตูรูติ สุวฏฺฏิตฆนอูรุ สมฺปนฺนอูรุลกฺขณา. วิลคฺคาติ สํขิตฺตมชฺฌา. มุทุกาติ มุทุ สุขุมาลา. สุทฺธาติ นิมฺมลา. สุปฺปติฏฺิตาติ สมํ ปถวึ ผุสนฺตา สุฏฺุ ปติฏฺิตา. คมนาติ คจฺฉมานา. กามนียาติ กนฺตา กามิตพฺพยุตฺตกา. หรนฺติเยว เม มโนติ เอเต เอวรูเปน ปรเมน อิตฺถิวิลาเสน จงฺกมนฺติยา ตว ปาทา มม จิตฺตํ หรนฺติเยว. วิมฏฺาติ วิสาลา. สุสฺโสณีติ สุนฺทรโสณี. อกฺขสฺสาติ สุนฺทรวณฺณสฺส อกฺขสฺส สุวณฺณผลกํ วิย วิสาลา เต โสณีติ วทติ. อุปฺปลสฺเสว กิฺชกฺขาติ นีลุปฺปลกณฺณิกา วิย. กณฺหฺชนสฺเสวาติ สุขุมกณฺหโลมจิตฺตตฺตา เอวมาห.

‘‘ทุวิธา’’ติคาถํ ถเน วณฺณยนฺโต อาห. เต หิ ทฺเว หุตฺวา อุเร ชาตา วณฺฏสฺส อภาวา อวณฺฏา, อุเร ลคฺคา เอว หุตฺวา สุฏฺุ นิกฺขนฺตตฺตา สาธุปจฺจุทา, ปยสฺส ธารณโต ปโยธรา, อปติตาติ น ปติตา, อมิลาตตาย วา อลมฺพนตาย วา น อนฺโต ปวิฏฺาติ อปติตา, สุวณฺณผลเก ปิตสุวณฺณมยวฏฺฏอลาพุโน อฑฺเฒน สทิสตาย อฑฺฒลาพุสมา ถนา. เอเณยฺยกา ยถาติ เอณีมิคสฺส หิ ทีฆา จ วฏฺฏา จ คีวา โสภติ ยถา, เอวํ ตว คีวา โถกํ ทีฆา. กมฺพุตลาภาสาติ สุวณฺณาลิงฺคตลสนฺนิภา คีวาติ อตฺโถ. ปณฺฑราวรณาติ ทนฺตาวรณา. จตุตฺถมนสนฺนิภาติ จตุตฺถมโน วุจฺจติ จตุตฺถมนวตฺถุภูตา ชิวฺหา. อภิรตฺตภาเวน ชิวฺหาสทิสํ เต โอฏฺปริโยสานนฺติ วทติ. อุทฺธคฺคาติ เหฏฺิมทนฺตา. อธคฺคาติ อุปริมทนฺตา. ทุมคฺคปริมชฺชิตาติ ทนฺตกฏฺปริมชฺชิตา ปริสุทฺธา. ทุวิชาติ ทฺวิชา. เนลสมฺภูตาติ นิทฺโทเสสุ หนุมํสปริโยสาเนสุ สมฺภูตา.

อปณฺฑราติ กณฺหา. โลหิตนฺตาติ รตฺตปริยนฺตา. ชิฺชูกผลสนฺนิภาติ รตฺตฏฺาเน ชิฺชุกผลสทิสา. สุทสฺสนาติ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกรา ปฺจปสาทสมนฺนาคตา. นาติทีฆาติ ปมาณยุตฺตา. สุสมฺมฏฺาติ สุฏฺุ สมฺมฏฺา. กนกพฺยาสโมจิตาติ กนกพฺยา วุจฺจติ สุวณฺณผณิกา, ตาย คนฺธเตลํ อาทาย ปหริตา สุรจิตา. กสิโครกฺขาติ อิมินา กสิฺจ โครกฺขฺจ นิสฺสาย ชีวนกสตฺเต ทสฺเสติ. ยา คตีติ ยตฺตกา นิปฺผตฺติ. ปรกฺกนฺตนฺติ ยตฺตกํ อิสีนํ ปรกฺกนฺตํ, วิตฺถารีกตา อิมสฺมึ หิมวนฺเต ยตฺตกา อิสโย วสนฺตีติ อตฺโถ. น เต สมสมนฺติ เตสุ สพฺเพสุ เอกมฺปิ รูปลีฬาวิลาสาทิสมตาย ตยา สมานํ น ปสฺสามิ. โก วา ตฺวนฺติ อิทํ ตสฺสา อิตฺถิภาวํ ชานนฺโต ปุริสโวหารวเสน ปุจฺฉติ.

เอวํ ปาทโต ปฏฺาย ยาว เกสา อตฺตโน วณฺณํ ภาสนฺเต ตาปเส อลมฺพุสา ตุณฺหี หุตฺวา ตสฺสา กถาย ยถานุสนฺธึ คตาย ตสฺส สมฺมูฬฺหภาวํ ตฺวา คาถมาห –

๑๒๐.

‘‘น ปฺหกาโล ภทฺทนฺเต, กสฺสเปวํ คเต สติ;

เอหิ สมฺม รมิสฺสาม, อุโภ อสฺมากมสฺสเม;

เอหิ ตํ อุปคูหิสฺสํ, รตีนํ กุสโล ภวา’’ติ.

ตตฺถ กสฺสเปวํ คเต สตีติ กสฺสปโคตฺต เอวํ ตว จิตฺเต ปวตฺเต สติ ปฺหกาโล น โหติ. สมฺมาติ วยสฺส, ปิยวจนาลปนเมตํ. รตีนนฺติ ปฺจกามคุณรตีนํ.

เอวํ วตฺวา อลมฺพุสา จินฺเตสิ – ‘‘นายํ มยิ ิตาย หตฺถปาสํ อาคมิสฺสติ, คจฺฉนฺตี วิย ภวิสฺสามี’’ติ. สา อิตฺถิมายากุสลตาย ตาปสํ อนุปสงฺกมิตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขี ปายาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๑.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, อจฺฉรา กามวณฺณินี;

มิสฺสา มิสฺสิตุมิจฺฉนฺตี, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา’’ติ.

อถ นํ ตาปโส คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘อยํ คจฺฉตี’’ติ อตฺตโน ทนฺธปรกฺกมํ มนฺทคมนํ ฉินฺทิตฺวา เวเคน ธาวิตฺวา เกเสสุ หตฺเถน ปรามสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๒.

‘‘โส จ เวเคน นิกฺขมฺม, เฉตฺวา ทนฺธปรกฺกมํ;

ตมุตฺตมาสุ เวณีสุ, อชฺฌปฺปตฺโต ปรามสิ.

๑๒๓.

‘‘ตมุทาวตฺต กลฺยาณี, ปลิสฺสชิ สุโสภนา;

จวิตมฺหิ พฺรหฺมจริยา, ยถา ตํ อถ โตสิตา.

๑๒๔.

‘‘มนสา อคมา อินฺทํ, วสนฺตํ นนฺทเน วเน;

ตสฺสา สงฺกปฺปมฺาย, มฆวา เทวกุฺชโร.

๑๒๕.

‘‘ปลฺลงฺกํ ปหิณี ขิปฺปํ, โสวณฺณํ โสปวาหนํ;

สอุตฺตรจฺฉทปฺาสํ, สหสฺสปฏิยตฺถตํ.

๑๒๖.

‘‘ตเมนํ ตตฺถ ธาเรสิ, อุเร กตฺวาน โสภนา;

ยถา เอกมุหุตฺตํว, ตีณิ วสฺสานิ ธารยิ.

๑๒๗.

‘‘วิมโท ตีหิ วสฺเสหิ, ปพุชฺฌิตฺวาน พฺราหฺมโณ;

อทฺทสาสิ หริตรุกฺเข, สมนฺตา อคฺคิยายนํ.

๑๒๘.

‘‘นวปตฺตวนํ ผุลฺลํ, โกกิลคฺคณโฆสิตํ;

สมนฺตา ปวิโลเกตฺวา, รุทํ อสฺสูนิ วตฺตยิ.

๑๒๙.

‘‘น ชุเห น ชเป มนฺเต, อคฺคิหุตฺตํ ปหาปิตํ;

โก นุ เม ปาริจริยาย, ปุพฺเพ จิตฺตํ ปโลภยิ.

๑๓๐.

‘‘อรฺเ เม วิหรโต, โย เม เตชา ห สมฺภุตํ;

นานารตนปริปูรํ, นาวํว คณฺหิ อณฺณเว’’ติ.

ตตฺถ อชฺฌปฺปตฺโตติ สมฺปตฺโต. ตมุทาวตฺต กลฺยาณีติ ตํ เกเส ปรามสิตฺวา ิตํ อิสึ อุทาวตฺติตฺวา นิวตฺติตฺวา กลฺยาณทสฺสนา สา สุฏฺุ โสภนา. ปลิสฺสชีติ อาลิงฺคิ. จวิตมฺหิ พฺรหฺมจริยา, ยถา ตํ อถ โตสิตาติ, ภิกฺขเว, ตสฺส อิสิโน ตาวเทว ฌานํ อนฺตรธายิ. ตสฺมึ ตมฺหา ฌานา พฺรหฺมจริยา จวิเต ยถา ตํ สกฺเกน ปตฺถิตํ, ตเถว อโหสิ. อถ สกฺกสฺส ปตฺถนาย สมิทฺธภาวํ วิทิตฺวา สา เทวกฺา โตสิตา, ตสฺส เตน พฺรหฺมจริยวินาเสน สฺชนิตปีติปาโมชฺชาติ อตฺโถ.

มนสา อคมาติ สา ตํ อาลิงฺคิตฺวา ิตา ‘‘อโห วต สกฺโก ปลฺลงฺกํ เม เปเสยฺยา’’ติ เอวํ ปวตฺเตน มนสา อินฺทํ อคมา. นนฺทเน วเนติ นนฺทิชนนสมตฺถตาย นนฺทนวนสงฺขาเต ตาวตึสภวเน วสนฺตํ. เทวกุฺชโรติ เทวเสฏฺโ. ปหิณีติ เปเสสิ. ‘‘ปาหิณี’’ติปิ ปาโ. โสปวาหนนฺติ สปริวารํ. สอุตฺตรจฺฉทปฺาสนฺติ ปฺาสาย อุตฺตรจฺฉเทหิ ปฏิจฺฉาทิตํ. สหสฺสปฏิยตฺถตนฺติ สหสฺสทิพฺพโกชวตฺถตํ. ตเมนํ ตตฺถาติ ตํ อิสิสิงฺคํ ตตฺถ ทิพฺพปลฺลงฺเก นิสินฺนา สา อุเร กตฺวา ธาเรสิ. ตีณิ วสฺสานีติ เอกมุหุตฺตํ วิย มนุสฺสคณนาย ตีณิ วสฺสานิ ตํ อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ตตฺถ นิสินฺนา ธาเรสิ.

วิมโทติ นิมฺมโท วิคตสฺภาโว. โส หิ ตีณิ สํวจฺฉรานิ วิสฺโ สยิตฺวา ปจฺฉา ปฏิลทฺธสฺโ ปพุชฺฌิ. ตสฺมึ ปพุชฺฌมาเน หตฺถาทิผนฺทนํ ทิสฺวาว อลมฺพุสา ตสฺส ปพุชฺฌนภาวํ ตฺวา ปลฺลงฺกํ อนฺตรธาเปตฺวา สยมฺปิ อนฺตรหิตา อฏฺาสิ. อทฺทสาสีติ โส อสฺสมปทํ โอโลเกนฺโต ‘‘เกน นุ โขมฺหิ สีลวินาสํ ปาปิโต’’ติ จินฺเตตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวมาโน อทฺทสาสิ. หริตรุกฺเขติ อคฺคิยายนสงฺขาตํ อคฺคิสาลํ สมนฺตา ปริวาเรตฺวา ิเต หริตปตฺตรุกฺเข. นวปตฺตวนนฺติ ตรุเณหิ นวปตฺเตหิ สฺฉนฺนํ วนํ. รุทนฺติ ปริเทวนฺโต.

ชุเห น ชเป มนฺเตติ อยมสฺส ปริเทวนคาถา. ปหาปิตนฺติ หาปิตํ, -กาโร อุปสคฺคมตฺตํ. ปาริจริยายาติ โก นุ กิเลสปาริจริยาย อิโต ปุพฺเพ มม จิตฺตํ ปโลภยีติ ปริเทวติ. โย เม เตชา ห สมฺภุตนฺติ -กาโร นิปาตมตฺตํ. โย มม สมณเตเชน สมฺภูตํ ฌานคุณํ นานารตนปริปุณฺณํ มหนฺตํ มหณฺณเว นาวํ วิย คณฺหิ, วินาสํ ปาเปสิ, โก นาเมโสติ ปริเทวตีติ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ น กเถสฺสามิ, อยํ เม อภิสปิสฺสติ, หนฺทสฺส กเถสฺสามี’’ติ. สา ทิสฺสมาเนน กาเยน ตฺวา คาถมาห –

๑๓๑.

‘‘อหํ เต ปาริจริยาย, เทวราเชน เปสิตา;

อวธึ จิตฺตํ จิตฺเตน, ปมาโท ตฺวํ น พุชฺฌสี’’ติ.

โส ตสฺสา กถํ สุตฺวา ปิตรา ทินฺนโอวาทํ สริตฺวา ‘‘ปิตุ วจนํ อกตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโตมฺหี’’ติ ปริเทวนฺโต จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๓๒.

‘‘อิมานิ กิร มํ ตาโต, กสฺสโป อนุสาสติ;

กมลาสทิสิตฺถิโย, ตาโย พุชฺเฌสิ มาณว.

๑๓๓.

‘‘อุเรคณฺฑาโย พุชฺเฌสิ, ตาโย พุชฺเฌสิ มาณว;

อิจฺจานุสาสิ มํ ตาโต, ยถา มํ อนุกมฺปโก.

๑๓๔.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ นากํ, ปิตุ วุทฺธสฺส สาสนํ;

อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, สฺวชฺช ฌายามิ เอกโก.

๑๓๕.

‘‘โสหํ ตถา กริสฺสามิ, ธิรตฺถุ ชีวิเตน เม;

ปุน วา ตาทิโส เหสฺสํ, มรณํ เม ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ อิมานีติ อิมานิ วจนานิ. กมลาสทิสิตฺถิโยติ กมลา วุจฺจติ นาริปุปฺผลตา, ตาสํ ปุปฺผสทิสา อิตฺถิโย. ตาโย พุชฺเฌสิ มาณวาติ มาณว ตฺวํ ตาโย ชาเนยฺยาสิ, ตฺวา ทสฺสนปถํ อคนฺตฺวา ปลาเปยฺยาสีติ ยานิ เอวรูปานิ วจนานิ ตทา มํ ตาโต อนุสาสติ, อิมานิ กิร ตานีติ. อุเรคณฺฑาโยติ อุรมฺหิ ทฺวีหิ คณฺเฑหิ สมนฺนาคตา. ตาโย พุชฺเฌสิ, มาณวาติ, มาณว, ตาโย อตฺตโน วสํ คเต วินาสํ ปาเปนฺตีติ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ. นากนฺติ นากรึ. ฌายามีติ ปชฺฌายามิ ปริเทวามิ. ธิรตฺถุ ชีวิเตน เมติ ธิรตฺถุ ครหิตํ มม ชีวิตํ, ชีวิเตน เม โก อตฺโถ. ปุน วาติ ตถา กริสฺสามิ, ยถา ปุน วา ตาทิโส ภวิสฺสามิ, นฏฺํ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา วีตราโค ภวิสฺสามิ, มรณํ วา เม ภวิสฺสตีติ.

โส กามราคํ ปหาย ปุน ฌานํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส สมณเตชํ ทิสฺวา ฌานสฺส จ อุปฺปาทิตภาวํ ตฺวา อลมฺพุสา ภีตา ขมาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

๑๓๖.

‘‘ตสฺส เตชํ วีริยฺจ, ธิตึ ตฺวา อวฏฺิตํ;

สิรสา อคฺคหี ปาเท, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา.

๑๓๗.

‘‘มา เม กุชฺฌ มหาวีร, มา เม กุชฺฌ มหาอิเส;

มหา อตฺโถ มยา จิณฺโณ, ติทสานํ ยสสฺสินํ;

ตยา ปกมฺปิตํ อาสิ, สพฺพํ เทวปุรํ ตทา’’ติ.

อถ นํ โส ‘‘ขมามิ เต, ภทฺเท, ยถาสุขํ คจฺฉา’’ติ วิสฺสชฺเชนฺโต คาถมาห –

๑๓๘.

‘‘ตาวตึสา จ เย เทวา, ติทสานฺจ วาสโว;

ตฺวฺจ ภทฺเท สุขี โหหิ, คจฺฉ กฺเ ยถาสุข’’นฺติ.

สา ตํ วนฺทิตฺวา เตเนว สุวณฺณปลฺลงฺเกน เทวปุรํ คตา. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๓๙.

‘‘ตสฺส ปาเท คเหตฺวาน, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, ตมฺหา านา อปกฺกมิ.

๑๔๐.

‘‘โย จ ตสฺสาสิ ปลฺลงฺโก, โสวณฺโณ โสปวาหโน;

สอุตฺตรจฺฉทปฺาโส, สหสฺสปฏิยตฺถโต;

ตเมว ปลฺลงฺกมารุยฺห, อคา เทวาน สนฺติเก.

๑๔๑.

‘‘ตโมกฺกมิว อายนฺตึ, ชลนฺตึ วิชฺชุตํ ยถา;

ปตีโต สุมโน วิตฺโต, เทวินฺโท อททา วร’’นฺติ.

ตตฺถ โอกฺกมิวาติ ทีปกํ วิย. ‘‘ปตีโต’’ติอาทีหิ ตุฏฺากาโรว ทสฺสิโต อททา วรนฺติ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิตาย ตุฏฺโ วรํ อทาสิ.

สา ตสฺส สนฺติเก วรํ คณฺหนฺตี โอสานคาถมาห –

๑๔๒.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

นิสิปฺปโลภิกา คจฺเฉ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ‘‘สกฺก เทวราช, สเจ เม ตฺวํ วรํ อโท, ปุน อิสิปโลภิกาย น คจฺเฉยฺยํ, มา มํ เอตทตฺถาย ปหิเณยฺยาสิ, เอตํ วรํ วเร ยาจามี’’ติ.

สตฺถา ตสฺส ภิกฺขุโน อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา อลมฺพุสา ปุราณทุติยิกา อโหสิ, อิสิสิงฺโค อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา มหาอิสิ ปน อหเมว อโหสินฺติ.

อลมฺพุสาชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๒๔] ๔. สงฺขปาลชาตกวณฺณนา

อริยาวกาโสสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา อุโปสถิเก อุปาสเก สมฺปหํเสตฺวา ‘‘โปราณกปณฺฑิตา มหตึ นาคสมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถวาสํ อุปวสึสุเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ‘‘ทุยฺโยธโน’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสสิ. อถ นํ ปิตา รชฺเช อภิสิฺจิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อุยฺยาเน วสิ. โพธิสตฺโต ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปิตุ สนฺติกํ อคมาสิ. ตสฺส มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ. โส เตเนว ปลิโพเธน กสิณปริกมฺมมตฺตมฺปิ กาตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มหา เม ลาภสกฺกาโร, น สกฺกา มยา อิธ วสนฺเตน อิมํ ชฏํ ฉินฺทิตุํ, ปุตฺตสฺส เม อนาโรเจตฺวาว อฺตฺถ คมิสฺสามี’’ติ. โส กฺจิ อชานาเปตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา มคธรฏฺํ อติกฺกมิตฺวา มหิสกรฏฺเ สงฺขปาลทหโต นาม นิกฺขนฺตาย กณฺณเวณฺณาย นทิยา นิวตฺตเน จนฺทกปพฺพตํ อุปนิสฺสาย ปณฺณสาลํ กตฺวา ตตฺถ วสนฺโต กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา อุฺฉาจริยาย ยาเปสิ. ตเมนํ สงฺขปาโล นาม นาคราชา มหนฺเตน ปริวาเรน กณฺณเวณฺณนทิโต นิกฺขมิตฺวา อนฺตรนฺตรา อุปสงฺกมติ. โส ตสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. อถสฺส ปุตฺโต ปิตรํ ทฏฺุกาโม คตฏฺานํ อชานนฺโต อนุวิจาราเปตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม วสตี’’ติ ตฺวา ตสฺส ทสฺสนตฺถาย มหนฺเตน ปริวาเรน ตตฺถ คนฺตฺวา เอกมนฺเต ขนฺธวารํ นิวาเสตฺวา กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ อสฺสมปทาภิมุโข ปายาสิ.

ตสฺมึ ขเณ สงฺขปาโล มหนฺเตน ปริวาเรน ธมฺมํ สุณนฺโต นิสีทิ. โส ตํ ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อิสึ วนฺทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ราชา ปิตรํ วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสีทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, กตรราชา นาเมส ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโต’’ติ. ตาต, สงฺขปาลนาคราชา นาเมโสติ. โส ตสฺส สมฺปตฺตึ นิสฺสาย นาคภวเน โลภํ กตฺวา กติปาหํ วสิตฺวา ปิตุ ภิกฺขาหารํ นิพทฺธํ ทาเปตฺวา อตฺตโน นครเมว คนฺตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานสาลาโย กาเรตฺวา สกลชมฺพุทีปํ สงฺโขเภนฺโต ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา นาคภวนํ ปตฺเถตฺวา อายุปริโยสาเน นาคภวเน นิพฺพตฺติตฺวา สงฺขปาลนาคราชา อโหสิ. โส คจฺฉนฺเต กาเล ตาย สมฺปตฺติยา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ตโต ปฏฺาย มนุสฺสโยนึ ปตฺเถนฺโต อุโปสถวาสํ วสิ. อถสฺส นาคภวเน วสนฺตสฺส อุโปสถวาโส น สมฺปชฺชติ, สีลวินาสํ ปาปุณาติ. โส ตโต ปฏฺาย นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา กณฺณเวณฺณาย นทิยา อวิทูเร มหามคฺคสฺส จ เอกปทิกมคฺคสฺส จ อนฺตเร เอกํ วมฺมิกํ ปริกฺขิปิตฺวา อุโปสถํ อธิฏฺาย สมาทินฺนสีโล ‘‘มม จมฺมมํสาทีหิ อตฺถิกา จมฺมมํสาทีนิ หรนฺตู’’ติ อตฺตานํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺโน สมณธมฺมํ กโรนฺโต จาตุทฺทเส ปนฺนรเส วสิตฺวา ปาฏิปเท นาคภวนํ คจฺฉติ.

ตสฺมึ เอกทิวสํ เอวํ สีลํ สมาทิยิตฺวา นิปนฺเน ปจฺจนฺตคามวาสิโน โสฬส ชนา ‘‘มํสํ อาหริสฺสามา’’ติ อาวุธหตฺถา อรฺเ วิจรนฺตา กิฺจิ อลภิตฺวา นิกฺขนฺตา ตํ วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘มยํ อชฺช โคธาโปตกมฺปิ น ลภิมฺหา, อิมํ นาคราชานํ วธิตฺวา ขาทิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มหา โข ปเนส คยฺหมาโน ปลาเยยฺย, ยถานิปนฺนเมว ตํ โภเคสุ สูเลหิ วิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ สูลานิ อาทาย อุปสงฺกมึสุ. โพธิสตฺตสฺส สรีรํ มหนฺตํ เอกโทณิกนาวปฺปมาณํ วฏฺเฏตฺวา ปิตสุมนปุปฺผทามํ วิย ชิฺชุกผลสนฺนิเภหิ อกฺขีหิ ชยสุมนปุปฺผสทิเสน จ สีเสน สมนฺนาคตํ อติวิย โสภติ. โส เตสํ โสฬสนฺนํ ชนานํ ปทสทฺเทน โภคนฺตรโต สีสํ นีหริตฺวา รตฺตกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เต สูลหตฺเถ อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อชฺช มยฺหํ มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อหํ อตฺตานํ ทานมุเข นิยฺยาเทตฺวา วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา นิปนฺโน, อิเม มม สรีรํ สตฺตีหิ โกฏฺเฏตฺวา ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กโรนฺเต โกธวเสน อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา น โอโลเกสฺสามี’’ติ อตฺตโน สีลเภทภเยน ทฬฺหํ อธิฏฺาย สีสํ โภคนฺตเรเยว ปเวเสตฺวา นิปชฺชิ. อถ นํ เต อุปคนฺตฺวา นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา กฑฺฒนฺตา ภูมิยํ โปเถตฺวา ติขิณสูเลหิ อฏฺสุ าเนสุ วิชฺฌิตฺวา สกณฺฏกกาฬเวตฺตยฏฺิโย ปหารมุเขหิ ปเวเสตฺวา อฏฺสุ าเนสุ กาเชนาทาย มหามคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ, มหาสตฺโต สูเลหิ วิชฺฌนโต ปฏฺาย เอกฏฺาเนปิ โกธวเสน อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เต น โอโลเกสิ. ตสฺส อฏฺหิ กาเชหิ อาทาย นียมานสฺส สีสํ โอลมฺเพตฺวา ภูมิยํ ปหริ. อถ นํ ‘‘สีสมสฺส โอลมฺพตี’’ติ มหามคฺเค นิปชฺชาเปตฺวา ตรุณสูเลน นาสาปุฏํ วิชฺฌิตฺวา รชฺชุกํ ปเวเสตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา กาชโกฏิยํ ลคฺคิตฺวา ปุนปิ อุกฺขิปิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ.

ตสฺมึ ขเณ วิเทหรฏฺเ มิถิลนครวาสี อาฬาโร นาม กุฏุมฺพิโก ปฺจ สกฏสตานิ อาทาย สุขยานเก นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺโต เต โภชปุตฺเต โพธิสตฺตํ ตถา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา เตสํ โสฬสนฺนมฺปิ โสฬสหิ วาหโคเณหิ สทฺธึ ปสตํ ปสตํ สุวณฺณมาสเก สพฺเพสํ นิวาสนปารุปนานิ ภริยานมฺปิ เนสํ วตฺถาภรณานิ ทตฺวา วิสฺสชฺชาเปสิ. อถ โส นาคภวนํ คนฺตฺวา ตตฺถ ปปฺจํ อกตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิตฺวา อาฬารํ อุปสงฺกมิตฺวา นาคภวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตํ อาทาย นาคภวนํ คนฺตฺวา ตีหิ นาคกฺาสเตหิ สทฺธึ มหนฺตมสฺส ยสํ ทตฺวา ทิพฺเพหิ กาเมหิ สนฺตปฺเปสิ. อาฬาโร นาคภวเน เอกวสฺสํ วสิตฺวา ทิพฺพกาเม ปริภุฺชิตฺวา ‘‘อิจฺฉามหํ, สมฺม, ปพฺพชิตุ’’นฺติ นาคราชสฺส กเถตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร คเหตฺวา นาคภวนโต หิมวนฺตปฺปเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ จิรํ วสิตฺวา อปรภาเค จาริกํ จรนฺโต พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขาย นครํ ปวิสิตฺวา ราชทฺวารํ อคมาสิ. อถ นํ พาราณสิราชา ทิสฺวา อิริยาปเถ ปสีทิตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา นานคฺครสโภชนํ โภเชตฺวา อฺตรสฺมึ นีเจ อาสเน นิสินฺโน วนฺทิตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๔๓.

‘‘อริยาวกาโสสิ ปสนฺนเนตฺโต, มฺเ ภวํ ปพฺพชิโต กุลมฺหา;

กถํ นุ วิตฺตานิ ปหาย โภเค, ปพฺพชิ นิกฺขมฺม ฆรา สปฺา’’ติ.

ตตฺถ อริยาวกาโสสีติ นิทฺโทสสุนฺทรสรีราวกาโสสิ, อภิรูโปสีติ อตฺโถ. ปสนฺนเนตฺโตติ ปฺจหิ ปสาเทหิ ยุตฺตเนตฺโต. กุลมฺหาติ ขตฺติยกุลา วา พฺราหฺมณกุลา วา เสฏฺิกุลา วา ปพฺพชิโตสีติ มฺามิ. กถํ นูติ เกน การเณน กึ อารมฺมณํ กตฺวา ธนฺจ อุปโภเค จ ปหาย ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโตสิ สปฺ ปณฺฑิตปุริสาติ ปุจฺฉติ.

ตโต ปรํ ตาปสสฺส จ รฺโ จ วจนปฺปฏิวจนวเสน คาถานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ –

๑๔๔.

‘‘สยํ วิมานํ นรเทว ทิสฺวา, มหานุภาวสฺส มโหรคสฺส;

ทิสฺวาน ปุฺาน มหาวิปากํ, สทฺธายหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๑๔๕.

‘‘น กามกามา น ภยา น โทสา, วาจํ มุสา ปพฺพชิตา ภณนฺติ;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, สุตฺวาน เม ชายิหิติปฺปสาโท.

๑๔๖.

‘‘วาณิชฺช รฏฺาธิป คจฺฉมาโน, ปเถ อทฺทสาสิมฺหิ โภชปุตฺเต;

ปวฑฺฒกายํ อุรคํ มหนฺตํ, อาทาย คจฺฉนฺเต ปโมทมาเน.

๑๔๗.

‘‘โสหํ สมาคมฺม ชนินฺท เตหิ, ปหฏฺโลโม อวจมฺหิ ภีโต;

กุหึ อยํ นียติ ภีมกาโย, นาเคน กึ กาหถ โภชปุตฺตา.

๑๔๘.

‘‘นาโค อยํ นียติ โภชนตฺถา, ปวฑฺฒกาโย อุรโค มหนฺโต;

สาทุฺจ ถูลฺจ มุทุฺจ มํสํ, น ตฺวํ รสฺาสิ วิเทหปุตฺต.

๑๔๙.

‘‘อิโต มยํ คนฺตฺวา สกํ นิเกตํ, อาทาย สตฺถานิ วิโกปยิตฺวา;

มํสานิ โภกฺขาม ปโมทมานา, มยฺหิ เว สตฺตโว ปนฺนคานํ.

๑๕๐.

‘‘สเจ อยํ นียติ โภชนตฺถา, ปวฑฺฒกาโย อุรโค มหนฺโต;

ททามิ โว พลิพทฺทานิ โสฬส, นาคํ อิมํ มุฺจถ พนฺธนสฺมา.

๑๕๑.

‘‘อทฺธา หิ โน ภกฺโข อยํ มนาโป, พหู จ โน อุรคา ภุตฺตปุพฺพา;

กโรม เต ตํ วจนํ อฬาร, มิตฺตฺจ โน โหหิ วิเทหปุตฺต.

๑๕๒.

‘‘ตทาสฺสุ เต พนฺธนา โมจยึสุ, ยํ นตฺถุโต ปฏิโมกฺกสฺส ปาเส;

มุตฺโต จ โส พนฺธนา นาคราชา, ปกฺกามิ ปาจีนมุโข มุหุตฺตํ.

๑๕๓.

‘‘คนฺตฺวาน ปาจีนมุโข มุหุตฺตํ, ปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ปโลกยี มํ;

ตทาสฺสหํ ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉึ, ทสงฺคุลึ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา.

๑๕๔.

‘‘คจฺเฉว โข ตฺวํ ตรมานรูโป, มา ตํ อมิตฺตา ปุนรคฺคเหสุํ;

ทุกฺโข หิ ลุทฺเทหิ ปุนา สมาคโม, อทสฺสนํ โภชปุตฺตาน คจฺฉ.

๑๕๕.

‘‘อคมาสิ โส รหทํ วิปฺปสนฺนํ, นีโลภาสํ รมณียํ สุติตฺถํ;

สโมตตํ ชมฺพุหิ เวตสาหิ, ปาเวกฺขิ นิตฺติณฺณภโย ปตีโต.

๑๕๖.

‘‘โส ตํ ปวิสฺส นจิรสฺส นาโค, ทิพฺเพน เม ปาตุรหู ชนินฺท;

อุปฏฺหี มํ ปิตรํว ปุตฺโต, หทยงฺคมํ กณฺณสุขํ ภณนฺโต.

๑๕๗.

‘‘ตฺวํ เมสิ มาตา จ ปิตา อฬาร, อพฺภนฺตโร ปาณทโท สหาโย;

สกฺจ อิทฺธึ ปฏิลาภโกสฺมิ, อฬาร ปสฺส เม นิเวสนานิ;

ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ วิมานนฺติ สงฺขปาลนาครฺโ อเนกสตนาฏกสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ กฺจนมณิวิมานํ. ปุฺานนฺติ เตน กตปุฺานํ มหนฺตํ วิปากํ ทิสฺวา กมฺมฺจ ผลฺจ ปรโลกฺจ สทฺทหิตฺวา ปวตฺตาย สทฺธาย อหํ ปพฺพชิโต. น กามกามาติ น วตฺถุกาเมนปิ ภเยนปิ โทเสนปิ มุสา ภณนฺติ. ชายิหิตีติ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ วจนํ สุตฺวา มยฺหมฺปิ ปสาโท โสมนสฺสํ ชายิสฺสติ. วาณิชฺชนฺติ วาณิชฺชกมฺมํ กริสฺสามีติ คจฺฉนฺโต. ปเถ อทฺทสาสิมฺหีติ ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ ปุรโต สุขยานเก นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺโต มหามคฺเค ชนปทมนุสฺเส อทฺทสํ. ปวฑฺฒกายนฺติ วฑฺฒิตกายํ. อาทายาติ อฏฺหิ กาเชหิ คเหตฺวา. อวจมฺหีติ อภาสึ. ภีมกาโยติ ภยชนกกาโย. โภชปุตฺตาติ ลุทฺทปุตฺตเก ปิยสมุทาจาเรนาลปติ. วิเทหปุตฺตาติ วิเทหรฏฺวาสิตาย อาฬารํ อาลปึสุ. วิโกปยิตฺวาติ ฉินฺทิตฺวา. มยฺหิ โว สตฺตโวติ มยํ ปน นาคานํ เวริโน นาม. โภชนตฺถาติ โภชนตฺถาย. มิตฺตฺจ โน โหหีติ ตฺวํ อมฺหากํ มิตฺโต โหหิ, กตคุณํ ชาน.

ตทาสฺสุ เตติ, มหาราช, เตหิ โภชปุตฺเตหิ เอวํ วุตฺเต อหํ เตสํ โสฬส วาหโคเณ นิวาสนปารุปนานิ ปสตํ ปสตํ สุวณฺณมาสเก ภริยานฺจ เนสํ วตฺถาลงฺการํ อทาสึ, อถ เต สงฺขปาลนาคราชานํ ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา อตฺตโน กกฺขฬตาย สกณฺฏกกาฬเวตฺตลตาย โกฏิยํ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ อารภึสุ. อถาหํ นาคราชานํ กิลมนฺตํ ทิสฺวา อกิลเมนฺโตว อสินา ตา ลตา ฉินฺทิตฺวา ทารกานํ กณฺณเวธโต วฏฺฏินีหรณนิยาเมน อทุกฺขาเปนฺโต สณิกํ นีหรึ, ตสฺมึ กาเล เต โภชปุตฺตา ยํ พนฺธนํ อสฺส นตฺถุโต ปเวเสตฺวา ปาเส ปฏิโมกฺกํ, ตสฺมา พนฺธนา ตํ อุรคํ โมจยึสุ. ตสฺส นาสโต สห ปาเสน ตํ รชฺชุกํ นีหรึสูติ ทีเปติ. อิติ เต อุรคํ วิสฺสชฺเชตฺวา โถกํ คนฺตฺวา ‘‘อยํ อุรโค ทุพฺพโล, มตกาเล นํ คเหตฺวา คมิสฺสามา’’ติ นิลียึสุ.

ปุณฺเณหีติ โสปิ มุหุตฺตํ ปาจีนาภิมุโข คนฺตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ มํ ปโลกยิ. ตทาสฺสหนฺติ ตทา อสฺส อหํ. คจฺเฉวาติ เอวํ ตํ อวจนฺติ วทติ. รหทนฺติ กณฺณเวณฺณทหํ. สโมตตนฺติ อุภยตีเรสุ ชมฺพุรุกฺขเวตสรุกฺเขหิ โอตตํ วิตตํ. นิตฺติณฺณภโย ปตีโตติ โส กิร ตํ ทหํ ปวิสนฺโต อาฬารสฺส นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา ยาว นงฺคุฏฺา โอตริ, อุทเก ปวิฏฺฏฺานเมวสฺส นิพฺภยํ อโหสิ, ตสฺมา นิตฺติณฺณภโย ปตีโต หฏฺตุฏฺโ ปาเวกฺขีติ. ปวิสฺสาติ ปวิสิตฺวา. ทิพฺเพน เมติ นาคภวเน ปมาทํ อนาปชฺชิตฺวา มยิ กณฺณเวณฺณตีรํ อนติกฺกนฺเตเยว ทิพฺเพน ปริวาเรน มม ปุรโต ปาตุรโหสิ. อุปฏฺหีติ อุปาคมิ. อพฺภนฺตโรติ หทยมํสสทิโส. ตฺวํ มม พหุปกาโร, สกฺการํ เต กริสฺสามิ. ปสฺส เม นิเวสนานีติ มม นาคภวนํ ปสฺส. มสกฺกสารํ วิยาติ มสกฺกสาโร วุจฺจติ โอสกฺกนปริสกฺกนาภาเวน ฆนสารตาย จ สิเนรุปพฺพตราชา. อยํ ตตฺถ มาปิตํ ตาวตึสภวนํ สนฺธาเยวมาห.

มหาราช! เอวํ วตฺวา โส นาคราชา อุตฺตริ อตฺตโน นาคภวนํ วณฺเณนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๕๘.

‘‘ตํ ภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, อสกฺขรา เจว มุทู สุภา จ;

นีจตฺติณา อปฺปรชา จ ภูมิ, ปาสาทิกา ยตฺถ ชหนฺติ โสกํ.

๑๕๙.

‘‘อนาวกุลา เวฬุริยูปนีลา, จตุทฺทิสํ อมฺพวนํ สุรมฺมํ;

ปกฺกา จ เปสี จ ผลา สุผุลฺลา, นิจฺโจตุกา ธารยนฺตี ผลานี’’ติ.

ตตฺถ อสกฺขราติ ยา ตตฺถ ภูมิ ปาสาณสกฺขรรหิตา มุทุ สุภา กฺจนรชตมณิมยา สตฺตรตนวาลุกากิณฺณา. นีจตฺติณาติ อินฺทโคปกปิฏฺิสทิสวณฺเณหิ นีจติเณหิ สมนฺนาคตา. อปฺปรชาติ ปํสุรหิตา. ยตฺถ ชหนฺติ โสกนฺติ ยตฺถ ปวิฏฺมตฺตาว นิสฺโสกา โหนฺติ. อนาวกุลาติ น อวกุลา อขาณุมา อุปริ อุกฺกุลวิกุลภาวรหิตา วา สมสณฺิตา. เวฬุริยูปนีลาติ เวฬุริเยน อุปนีลา, ตสฺมึ นาคภวเน เวฬุริยมยา ปสนฺนสลิลา นีโลภาสา อเนกวณฺณกมลุปฺปลสฺฉนฺนา โปกฺขรณีติ อตฺโถ. จตุทฺทิสนฺติ ตสฺสา โปกฺขรณิยา จตูสุ ทิสาสุ. ปกฺกา จาติ ตสฺมึ อมฺพวเน อมฺพรุกฺขา ปกฺกผลา จ อฑฺฒปกฺกผลา จ ตรุณผลา จ ผุลฺลิตาเยวาติ อตฺโถ. นิจฺโจตุกาติ ฉนฺนมฺปิ อุตูนํ อนุรูเปหิ ปุปฺผผเลหิ สมนฺนาคตาติ.

๑๖๐.

เตสํ วนานํ นรเทว มชฺเฌ, นิเวสนํ ภสฺสรสนฺนิกาสํ;

รชตคฺคฬํ โสวณฺณมยํ อุฬารํ, โอภาสตี วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๑๖๑.

‘‘มณีมยา โสณฺณมยา อุฬารา, อเนกจิตฺตา สตตํ สุนิมฺมิตา;

ปริปูรา กฺาหิ อลงฺกตาหิ, สุวณฺณกายูรธราหิ ราช.

๑๖๒.

‘‘โส สงฺขปาโล ตรมานรูโป, ปาสาทมารุยฺห อโนมวณฺโณ;

สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, ยตฺถสฺส ภริยา มเหสี อโหสิ.

๑๖๓.

‘‘เอกา จ นารี ตรมานรูปา, อาทาย เวฬุริยมยํ มหคฺฆํ;

สุภํ มณึ ชาติมนฺตูปปนฺนํ, อโจทิตา อาสนมพฺภิหาสิ.

๑๖๔.

‘‘ตโต มํ อุรโค หตฺเถ คเหตฺวา, นิสีทยี ปามุขอาสนสฺมึ;

อิทมาสนํ อตฺร ภวํ นิสีทตุ, ภวฺหิ เม อฺตโร ครูนํ.

๑๖๕.

‘‘อฺา จ นารี ตรมานรูปา, อาทาย วารึ อุปสงฺกมิตฺวา;

ปาทานิ ปกฺขาลยี เม ชนินฺท, ภริยาว ภตฺตู ปติโน ปิยสฺส.

๑๖๖.

‘‘อปรา จ นารี ตรมานรูปา, ปคฺคยฺห โสวณฺณมยาย ปาติยา;

อเนกสูปํ วิวิธํ วิยฺชนํ, อุปนามยี ภตฺต มนุฺรูปํ.

๑๖๗.

‘‘ตุริเยหิ มํ ภารต ภุตฺตวนฺตํ, อุปฏฺหุํ ภตฺตุ มโน วิทิตฺวา;

ตตุตฺตรึ มํ นิปตี มหนฺตํ, ทิพฺเพหิ กาเมหิ อนปฺปเกหี’’ติ.

ตตฺถ นิเวสนนฺติ ปาสาโท. ภสฺสรสนฺนิกาสนฺติ ปภสฺสรทสฺสนํ. รชตคฺคฬนฺติ รชตทฺวารกวาฏํ. มณีมยาติ เอวรูปา ตตฺถ กูฏาคารา จ คพฺภา จ. ปริปูราติ สมฺปุณฺณา. โส สงฺขปาโลติ, มหาราช, อหํ เอวํ ตสฺมึ นาคภวนํ วณฺเณนฺเต ตํ ทฏฺุกาโม อโหสึ, อถ มํ ตตฺถ เนตฺวา โส สงฺขปาโล หตฺเถ คเหตฺวา ตรมาโน เวฬุริยถมฺเภหิ สหสฺสถมฺภํ ปาสาทํ อารุยฺห ยสฺมึ าเน อสฺส มเหสี อโหสิ, ตํ านํ เนตีติ ทีเปติ. เอกา จาติ มยิ ปาสาทํ อภิรุฬฺเห เอกา อิตฺถี อฺเหิ มณีหิ ชาติมหนฺเตหิ อุเปตํ สุภํ เวฬุริยาสนํ เตน นาคราเชน อวุตฺตาว. อพฺภิหาสีติ อภิหริ, อตฺถรีติ วุตฺตํ โหติ.

ปามุขอาสนสฺมินฺติ ปมุขาสนสฺมึ, อุตฺตมาสเน นิสีทาเปสีติ อตฺโถ. ครูนนฺติ มาตาปิตูนํ เม ตฺวํ อฺตโรติ เอวํ วตฺวา นิสีทาเปสิ. วิวิธํ วิยฺชนนฺติ วิวิธํ พฺยฺชนํ. ภตฺต มนุฺรูปนฺติ ภตฺตํ มนุฺรูปํ. ภารตาติ ราชานํ อาลปติ. ภุตฺตวนฺตนฺติ ภุตฺตาวึ กตภตฺตกิจฺจํ. อุปฏฺหุนฺติ อเนกสเตหิ ตุริเยหิ คนฺธพฺพํ กุรุมานา อุปฏฺหึสุ. ภตฺตุ มโน วิทิตฺวาติ อตฺตโน ปติโน จิตฺตํ ชานิตฺวา. ตตุตฺตรินฺติ ตโต คนฺธพฺพกรณโต อุตฺตรึ. มํ นิปตีติ โส นาคราชา มํ อุปสงฺกมิ. มหนฺตํ ทิพฺเพหีติ มหนฺเตหิ อุฬาเรหิ ทิพฺเพหิ กาเมหิ เตหิ จ อนปฺปเกหิ.

เอวํ อุปสงฺกมิตฺวา จ ปน คาถมาห –

๑๖๘.

‘‘ภริยา มเมตา ติสตา อฬาร, สพฺพตฺตมชฺฌา ปทุมุตฺตราภา;

อฬาร เอตาสฺสุ เต กามการา, ททามิ เต ตา ปริจารยสฺสู’’ติ.

ตตฺถ สพฺพตฺตมชฺฌาติ สพฺพา อตฺตมชฺฌา, ปาณินา คหิตปฺปมาณมชฺฌาติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สุมชฺฌา’’ติ ปาโ. ปทุมุตฺตราภาติ ปทุมวณฺณอุตฺตราภา, ปทุมวณฺณอุตฺตรจฺฉวิโยติ อตฺโถ. ปริจารยสฺสูติ ตา อตฺตโน ปาทปริจาริกา กโรหีติ วตฺวา ตีหิ อิตฺถิสเตหิ สทฺธึ มหาสมฺปตฺตึ มยฺหํ อทาสิ.

โส อาห –

๑๖๙.

‘‘สํวจฺฉรํ ทิพฺพรสานุภุตฺวา, ตทาสฺสุหํ อุตฺตริมชฺฌภาสึ;

นาคสฺสิทํ กินฺติ กถฺจ ลทฺธํ, กถชฺฌคมาสิ วิมานเสฏฺํ.

๑๗๐.

‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํกตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, กถชฺฌคมาสิ วิมานเสฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ ทิพฺพรสานุภุตฺวาติ ทิพฺเพ กามคุณรเส อนุภวิตฺวา. ตทาสฺสุหนฺติ ตทา อสฺสุ อหํ. นาคสฺสิทนฺติ ภทฺรมุขสฺส สงฺขปาลนาคราชสฺส อิทํ สมฺปตฺติชาตํ กินฺติ กึ นาม กมฺมํ กตฺวา กถฺจ กตฺวา ลทฺธํ, กถเมตํ วิมานเสฏฺํ ตฺวํ อชฺฌคมาสิ, อิติ นํ อหํ ปุจฺฉึ. อธิจฺจลทฺธนฺติ อเหตุนา ลทฺธํ. ปริณามชํ เตติ เกนจิ ตว อตฺถาย ปริณามิตตฺตา ปริณามโต ชาตํ. สยํกตนฺติ การเก ปกฺโกสาเปตฺวา รตนานิ ทตฺวา การิตนฺติ.

ตโต ปรา ทฺวินฺนมฺปิ วจนปฺปฏิวจนคาถาว –

๑๗๑.

‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํกตํ นาปิ เทเวหิ ทินฺนํ;

สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๗๒.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อกฺขาหิ เม นาคราเชตมตฺถํ, กถํ นุ เต ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๗๓.

‘‘ราชา อโหสึ มคธานมิสฺสโร, ทุยฺโยธโน นาม มหานุภาโว;

โส อิตฺตรํ ชีวิตํ สํวิทิตฺวา, อสสฺสตํ วิปริณามธมฺมํ.

๑๗๔.

‘‘อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

๑๗๕.

‘‘มาลฺจ คนฺธฺจ วิเลปนฺจ, ปทีปิยํ ยานมุปสฺสยฺจ;

อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, สกฺกจฺจ ทานานิ อทมฺห ตตฺถ.

๑๗๖.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

เตเนว เม ลทฺธมิทํ วิมานํ, ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ;

นจฺเจหิ คีเตหิ จุเปตรูปํ, จิรฏฺิติกํ น จ สสฺสตายํ.

๑๗๗.

‘‘อปฺปานุภาวา ตํ มหานุภาวํ, เตชสฺสินํ หนฺติ อเตชวนฺโต;

กิเมว ทาาวุธ กึ ปฏิจฺจ, หตฺถตฺตมาคจฺฉิ วนิพฺพกานํ.

๑๗๘.

‘‘ภยํ นุ เต อนฺวคตํ มหนฺตํ, เตโช นุ เต นานฺวคํ ทนฺตมูลํ;

กิเมว ทาาวุธ กึ ปฏิจฺจ, กิเลสมาปชฺชิ วนิพฺพกานํ.

๑๗๙.

‘‘น เม ภยํ อนฺวคตํ มหนฺตํ, เตโช น สกฺกา มม เตหิ หนฺตุํ;

สตฺจ ธมฺมานิ สุกิตฺติตานิ, สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ.

๑๘๐.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ อฬาร, อุโปสถํ นิจฺจมุปาวสามิ;

อถาคมุํ โสฬส โภชปุตฺตา, รชฺชุํ คเหตฺวาน ทฬฺหฺจ ปาสํ.

๑๘๑.

‘‘เภตฺวาน นาสํ อติกสฺส รชฺชุํ, นยึสุ มํ สมฺปริคยฺห ลุทฺทา;

เอตาทิสํ ทุกฺขมหํ ติติกฺขํ, อุโปสถํ อปฺปฏิโกปยนฺโต.

๑๘๒.

‘‘เอกายเน ตํ ปเถ อทฺทสํสุ, พเลน วณฺเณน จุเปตรูปํ;

สิริยา ปฺาย จ ภาวิโตสิ, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๑๘๓.

‘‘น ปุตฺตเหตู น ธนสฺส เหตู, น อายุโน จาปิ อฬาร เหตุ;

มนุสฺสโยนึ อภิปตฺถยาโน, ตสฺมา ปรกฺกม ตโป กโรมิ.

๑๘๔.

‘‘ตฺวํ โลหิตกฺโข วิหตนฺตรํโส, อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสุ;

สุโรสิโต โลหิตจนฺทเนน, คนฺธพฺพราชาว ทิสา ปภาสสิ.

๑๘๕.

‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, เสยฺโย อิโต เกน มนุสฺสโลโก.

๑๘๖.

‘‘อฬาร นาฺตฺร มนุสฺสโลกา, สุทฺธีว สํวิชฺชติ สํยโม วา;

อหฺจ ลทฺธาน มนุสฺสโยนึ, กาหามิ ชาติมรณสฺส อนฺตํ.

๑๘๗.

‘‘สํวจฺฉโร เม วสโต ตวนฺติเก, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโตสฺมิ;

อามนฺตยิตฺวาน ปเลมิ นาค, จิรปฺปวุฏฺโสฺมิ อหํ ชนินฺท.

๑๘๘.

‘‘ปุตฺตา จ ทารา อนุชีวิโน จ, นิจฺจานุสิฏฺา อุปติฏฺเถตํ;

กจฺจินฺนุ ตํ นาภิสปิตฺถ โกจิ, ปิยฺหิ เม ทสฺสนํ ตุยฺหํ อฬาร.

๑๘๙.

‘‘ยถาปิ มาตู จ ปิตู อคาเร, ปุตฺโต ปิโย ปฏิวิหิโต วเสยฺย;

ตโตปิ มยฺหํ อิธเมว เสยฺโย, จิตฺตฺหิ เต นาค มยี ปสนฺนํ.

๑๙๐.

‘‘มณี มมํ วิชฺชติ โลหิตงฺโก, ธนาหโร มณิรตนํ อุฬารํ;

อาทาย ตฺวํ คจฺฉ สกํ นิเกตํ, ลทฺธา ธนํ ตํ มณิโมสฺสชสฺสู’’ติ.

ตตฺถ กึ เต วตนฺติ กึ ตว วตสมาทานํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. โอปานภูตนฺติ จตุมหาปเถ ขตโปกฺขรณี วิย ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ยถาสุขํ ปริภุฺชิตพฺพวิภวํ. น จ สสฺสตายนฺติ จิรฏฺิติกํ สมานมฺปิ เจ ตํ มยฺหํ สสฺสตํ น โหตีติ เม กเถติ.

อปฺปานุภาวาติ โภชปุตฺเต สนฺธายาห. หนฺตีติ อฏฺสุ าเนสุ สูเลหิ วิชฺฌนฺตา กึการณา หนึสุ. กึ ปฏิจฺจาติ กึ สนฺธาย ตฺวํ ตทา เตสํ หตฺถตฺตํ อาคจฺฉิ วสํ อุปคโต. วนิพฺพกานนฺติ โภชปุตฺตา อิธ ‘‘วนิพฺพกา’’ติ วุตฺตา. เตโช นุ เต นานฺวคํ ทนฺตมูลนฺติ กึ นุ ตว เตโช โภชปุตฺเต ทิสฺวา ตทา ภยํ มหนฺตํ อนฺวคตํ, อุทาหุ วิสํ ทนฺตมูลํ น อนฺวคตํ. กิเลสนฺติ ทุกฺขํ. วนิพฺพกานนฺติ โภชปุตฺตานํ สนฺติเก, โภชปุตฺเต นิสฺสายาติ อตฺโถ.

เตโช น สกฺกา มม เตหิ หนฺตุนฺติ มม วิสเตโช อฺสฺส เตเชน อภิหนฺตุมฺปิ น สกฺกา. สตนฺติ พุทฺธาทีนํ. ธมฺมานีติ สีลสมาธิปฺาขนฺติอนุทฺทยเมตฺตาภาวนาสงฺขาตานิ ธมฺมานิ. สุกิตฺติตานีติ สุวณฺณิตานิ สุกถิตานิ. กินฺติ กตฺวา? สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานีติ เตหิ สมุทฺทเวลา วิย สปฺปุริเสหิ ชีวิตตฺถมฺปิ ทุรจฺจยานีติ วณฺณิตานิ, ตสฺมา อหํ สีลเภทภเยน ขนฺติเมตฺตาทิสมนฺนาคโต หุตฺวา มม โกปสฺส สีลเวลนฺตํ อติกฺกมิตุํ น อทาสินฺติ อาห.

‘‘อิมิสฺสา ปน สงฺขปาลธมฺมเทสนาย ทสปิ ปารมิโย ลพฺภนฺติ. ตทา หิ มหาสตฺเตน สรีรสฺส ปริจฺจตฺตภาโว ทานปารมี นาม โหติ, ตถารูเปนาปิ วิสเตเชน สีลสฺส อภินฺนตา สีลปารมี, นาคภวนโต นิกฺขมิตฺวา สมณธมฺมกรณํ เนกฺขมฺมปารมี, ‘อิทฺจิทฺจ กาตุํ วฏฺฏตี’ติ สํวิทหนํ ปฺาปารมี, อธิวาสนวีริยํ วีริยปารมี, อธิวาสนขนฺติ ขนฺติปารมี, สจฺจสมาทานํ สจฺจปารมี, ‘มม สีลํ น ภินฺทิสฺสามี’ติ อธิฏฺานํ อธิฏฺานปารมี, อนุทฺทยภาโว เมตฺตาปารมี, เวทนาย มชฺฌตฺตภาโว อุเปกฺขาปารมี’’ติ.

อถาคมุนฺติ อเถกทิวสํ วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺนํ ทิสฺวา โสฬส โภชปุตฺตา ขรรชฺชุฺจ ทฬฺหปาสฺจ สูลานิ จ คเหตฺวา มม สนฺติกํ อาคตา. เภตฺวานาติ มม สรีรํ อฏฺสุ าเนสุ ภินฺทิตฺวา สกณฺฏกกาฬเวตฺตลตา ปเวเสตฺวา. นาสํ อติกสฺส รชฺชุนฺติ โถกํ คนฺตฺวา สีสํ เม โอลมฺพนฺตํ ทิสฺวา มหามคฺเค นิปชฺชาเปตฺวา ปุน นาสมฺปิ เม ภินฺทิตฺวา วฏฺฏรชฺชุํ อติกสฺส อาวุนิตฺวา กาชโกฏิยํ ลคฺเคตฺวา สมนฺตโต ปริคฺคเหตฺวา มํ นยึสุ.

อทฺทสํสูติ, สมฺม สงฺขปาล, เต โภชปุตฺตา เอกายเน เอกคมเน ชงฺฆปทิกมคฺเค ตํ พเลน จ วณฺเณน จ อุเปตรูปํ ปสฺสึสุ, ตฺวํ ปน อิสฺสริยโสภคฺคสิริยา จ ปฺาย จ ภาวิโต วฑฺฒิโต, โส ตฺวํ เอวรูโป สมาโนปิ กิมตฺถํ ตปํ กโรสิ, กิมิจฺฉนฺโต อุโปสถวาสํ วสสิ, สีลํ รกฺขสิ. ‘‘อทฺทสาสิ’’นฺติปิ ปาโ, อหํ เอกายเน มหามคฺเค ตํ อทฺทสินฺติ อตฺโถ. อภิปตฺถยาโนติ ปตฺเถนฺโต. ตสฺมาติ ยสฺมา มนุสฺสโยนึ ปตฺเถมิ, ตสฺมา วีริเยน ปรกฺกมิตฺวา ตโปกมฺมํ กโรมิ.

สุโรสิโตติ สุฏฺุ มนุลิตฺโต. อิโตติ อิมมฺหา นาคภวนา มนุสฺสโลโก เกน อุตฺตริตโร. สุทฺธีติ มคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตา วิสุทฺธิ. สํยโมติ สีลํ. อิทํ โส มนุสฺสโลเกเยว พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานํ อุปฺปตฺตึ สนฺธายาห. กาหามีติ อตฺตโน อปฺปฏิสนฺธิกภาวํ กโรนฺโต ชาติชรามรณสฺสนฺตํ กริสฺสามีติ. เอวํ, มหาราช, โส สงฺขปาโล มนุสฺสโลกํ วณฺเณสิ. สํวจฺฉโร เมติ เอวํ, มหาราช, ตสฺมึ มนุสฺสโลกํ วณฺเณนฺเต อหํ ปพฺพชฺชาย สิเนหํ กตฺวา เอตทโวจํ. ตตฺถ อุปฏฺิโตสฺมีติ อนฺนปาเนน เจว ทิพฺเพหิ จ กามคุเณหิ ปริจิณฺโณ มานิโต อสฺมิ. ปเลมีติ ปเรมิ คจฺฉามิ. จิรปฺปวุฏฺโสฺมีติ อหํ มนุสฺสโลกโต จิรปฺปวุฏฺโ อสฺมิ.

นาภิสปิตฺถาติ กจฺจิ นุ โข มม ปุตฺตาทีสุ โกจิ ตํ น อกฺโกสิ น ปริภาสีติ ปุจฺฉติ. ‘‘นาภิสชฺเชถา’’ติปิ ปาโ, น โกเปสีติ อตฺโถ. ปฏิวิหิโตติ ปฏิชคฺคิโต. มณี มมนฺติ สเจ, สมฺม อาฬาร, คจฺฉสิเยว, เอวํ สนฺเต มม โลหิตงฺโก ธนหารโก สพฺพกามทโท มณิ สํวิชฺชติ, ตํ อุฬารํ มณิรตนํ อาทาย ตว เคหํ คจฺฉ, ตตฺถ อิมสฺสานุภาเวน ยาวทิจฺฉกํ ธนํ ลทฺธา ปุน อิมํ มณึ โอสฺสชสฺสุ, โอสฺสชนฺโต จ อฺตฺถ อโนสฺสชิตฺวา อตฺตโน อุทกจาฏิยํ โอสฺสเชยฺยาสีติ วตฺวา มยฺหํ มณิรตนํ อุปเนสีติ วทติ.

เอวํ วตฺวา อาฬาโร ‘‘อถาหํ, มหาราช, นาคราชานํ เอตทโวจํ – ‘สมฺม, นาหํ ธเนนตฺถิโก, ปพฺพชิตุํ ปน อิจฺฉามี’ติ ปพฺพชิตปริกฺขารํ ยาจิตฺวา เตเนว สทฺธึ นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา ตํ นิวตฺเตตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิโตมฺหี’’ติ วตฺวา รฺโ ธมฺมกถํ กเถนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๙๑.

‘‘ทิฏฺา มยา มานุสกาปิ กามา, อสสฺสตา วิปริณามธมฺมา;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, สทฺธายหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๑๙๒.

‘‘ทุมปฺผลานีว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุทฺธา จ สรีรเภทา;

เอตมฺปิ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย’’ติ.

ตตฺถ สทฺธายาติ กมฺมฺจ ผลฺจ นิพฺพานฺจ สทฺทหิตฺวา. ทุมปฺผลานีว ปตนฺตีติ ยถา รุกฺขผลานิ ปกฺกานิปิ อปกฺกานิปิ ปตนฺติ, ตถา มาณวา ทหรา จ วุทฺธา จ ปตนฺติ. อปณฺณกนฺติ อวิรทฺธํ นิยฺยานิกํ. สามฺเมว เสยฺโยติ ปพฺพชฺชาว อุตฺตมาติ ปพฺพชฺชาย คุณํ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ, มหาราชาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๙๓.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาคฺจ สุตฺวาน ตวฺจฬาร, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ตตฺถ เย พหุานจินฺติโนติ เย พหูนิ การณานิ ชานนฺติ. นาคฺจาติ ตถา อปฺปมาทวิหารินํ นาคราชานฺจ ตว จ วจนํ สุตฺวา.

อถสฺส อุสฺสาหํ ชเนนฺโต ตาปโส โอสานคาถมาห –

๑๙๔.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาคฺจ สุตฺวาน มมฺจ ราช, กโรหิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

เอวํ โส รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ตตฺเถว จตฺตาโร วสฺสานมาเส วสิตฺวา ปุน หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ยาวชีวํ จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ. สงฺขปาโลปิ ยาวชีวํ อุโปสถวาสํ วสิตฺวา ราชา จ ทานาทีนิ ปุฺานิ กริตฺวา ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปิตา ตาปโส กสฺสโป อโหสิ, พาราณสิราชา อานนฺโท, อาฬาโร สาริปุตฺโต, สงฺขปาลนาคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สงฺขปาลชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๒๕] ๕. จูฬสุตโสมชาตกวณฺณนา

อามนฺตยามิ นิคมนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เนกฺขมฺมปารมึ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ มหานารทกสฺสปชาตกสทิสเมว (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓ อาทโย). อตีเต ปน พาราณสี สุทสฺสนํ นาม นครํ อโหสิ, ตตฺถ พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา อชฺฌาวสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ทสมาสจฺจเยน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺส ปน ปุณฺณจนฺทสสฺสิริกํ มุขํ อโหสิ, เตนสฺส ‘‘โสมกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. โส วิฺุตํ ปตฺโต สุตวิตฺตโก สวนสีโล อโหสิ, เตน นํ ‘‘สุตโสโม’’ติ สฺชานึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคเหตฺวา อาคโต ปิตุ สนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ ลภิตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ, มหนฺตํ อิสฺสริยํ อโหสิ. ตสฺส จนฺทาเทวิปฺปมุขานิ โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ. โส อปรภาเค ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒนฺโต ฆราวาเส อนภิรโต อรฺํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตุกาโม อโหสิ.

โส เอกทิวสํ กปฺปกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ยทา เม, สมฺม, สิรสฺมึ ปลิตํ ปสฺเสยฺยาสิ, ตทา เม อาโรเจยฺยาสี’’ติ อาห. กปฺปโก ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อปรภาเค ปลิตํ ทิสฺวา อาโรเจตฺวา ‘‘เตน หิ นํ, สมฺม กปฺปก, อุทฺธริตฺวา มม หตฺเถ ปติฏฺเปหี’’ติ วุตฺเต สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธริตฺวา รฺโ หตฺเถ เปสิ. ตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต ‘‘ชราย เม สรีรํ อภิภูต’’นฺติ ภีโต ตํ ปลิตํ คเหตฺวาว ปาสาทา โอตริตฺวา มหาชนสฺส ทสฺสนฏฺาเน ปฺตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา เสนาปติปฺปมุขานิ อสีติอมจฺจสหสฺสานิ ปุโรหิตปฺปมุขานิ สฏฺิพฺราหฺมณสหสฺสานิ อฺเ จ รฏฺิกชานปทเนคมาทโย พหู ชเน ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สิรสฺมึ เม ปลิตํ ชาตํ, อหํ มหลฺลโกสฺมิ, มม ปพฺพชิตภาวํ ชานาถา’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๑๙๕.

‘‘อามนฺตยามิ นิคมํ, มิตฺตามจฺเจ ปริสฺสเช;

สิรสฺมึ ปลิตํ ชาตํ, ปพฺพชฺชํ ทานิ โรจห’’นฺติ.

ตตฺถ อามนฺตยามีติ ชานาเปมิ. โรจหนฺติ ‘‘โรเจมิ อหํ, ตสฺส เม, โภนฺโต! ปพฺพชิตภาวํ ชานาถา’’ติ.

ตํ สุตฺวา เตสุ เอโก วิสารทปฺปตฺโต หุตฺวา คาถมาห –

๑๙๖.

‘‘อภุํ เม กถํ นุ ภณสิ, สลฺลํ เม เทว อุรสิ กปฺเปสิ;

สตฺตสตา เต ภริยา, กถํ นุ เต ตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อภุนฺติ อวฑฺฒึ. อุรสิ กปฺเปสีติ อุรสฺมึ สุนิสิตโธตสตฺตึ จาเรสิ. สตฺตสตาติ สมชาติกา ขตฺติยกฺา สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กถํ นุ เต ตา ภวิสฺสนฺตีติ ตา ตว ภริยา ตยิ ปพฺพชิเต อนาถา นิปฺปจฺจยา กถํ ภวิสฺสนฺติ, เอตา อนาถา กตฺวา ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา นาม น ยุตฺตาติ.

ตโต มหาสตฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๙๗.

‘‘ปฺายิหินฺติ เอตา, ทหรา อฺมฺปิ ตา คมิสฺสนฺติ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ ปฺายิหินฺตีติ อตฺตโน กมฺเมน ปฺายิสฺสนฺติ. อหํ เอตาสํ กึ โหมิ, สพฺพาเปตา ทหรา, โย อฺโ ราชา ภวิสฺสติ, ตํ เอตา คมิสฺสนฺตีติ.

อมจฺจาทโย โพธิสตฺตสฺส ปฏิวจนํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตา ตสฺส มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สา ตุริตตุริตา อาคนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ตาต, ปพฺพชิตุกาโมสี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

๑๙๘.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต โหมหํ มาตา;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๑๙๙.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยํ ตํ อหํ วิชายิสฺสํ;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ ทุลฺลทฺธนฺติ ยํ เอตํ มยา ลภนฺติยา ปุตฺตํ ชมฺมํ ลทฺธํ ทุลฺลทฺธํ. ยํ เมติ เยน การเณน มยิ นานปฺปการกํ วิปลนฺติยา ตฺวํ ปพฺพชิตุํ อิจฺฉสิ, เตน การเณน ตาทิสสฺส ปุตฺตสฺส ลภนํ มม ทุลฺลทฺธํ นามาติ.

โพธิสตฺโต เอวํ ปริเทวมานายปิ มาตรา สทฺธึ กิฺจิ น กเถสิ. สา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา สยเมว เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถสฺส ปิตุ อาโรเจสุํ. โส อาคนฺตฺวา เอกํ ตาว คาถมาห –

๒๐๐.

‘‘โก นาเมโส ธมฺโม, สุตโสม กา จ นาม ปพฺพชฺชา;

ยํ โน อมฺเห ชิณฺเณ, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ ยํ โน อมฺเหติ ยํ ตฺวํ อมฺหากํ ปุตฺโต สมาโน อมฺเห ชิณฺเณ ปฏิชคฺคิตพฺพกาเล อปฺปฏิชคฺคิตฺวา ปปาเต สิลํ ปวฏฺเฏนฺโต วิย ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, เตน ตํ วทามิ โก นาเมโส ตว ธมฺโมติ อธิปฺปาโย.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตุณฺหี อโหสิ. อถ นํ ปิตา, ‘‘ตาต สุตโสม, สเจปิ เต มาตาปิตูสุ สิเนโห นตฺถิ, ปุตฺตธีตโร เต พหู ตรุณา, ตยา วินา วตฺติตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, เตสํ วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล ปพฺพชิสฺสสี’’ติ วตฺวา สตฺตมํ คาถมาห –

๒๐๑.

‘‘ปุตฺตาปิ ตุยฺหํ พหโว, ทหรา อปฺปตฺตโยพฺพนา;

มฺชู เตปิตํ อปสฺสนฺตา, มฺเ ทุกฺขํ นิคจฺฉนฺตี’’ติ.

ตตฺถ มฺชูติ มธุรวจนา. นิคจฺฉนฺตีติ นิคจฺฉิสฺสนฺติ กายิกเจตสิกทุกฺขํ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ มฺามิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๒.

‘‘ปุตฺเตหิ จ เม เอเตหิ, ทหเรหิ อปฺปตฺตโยพฺพเนหิ;

มฺชูหิ สพฺเพหิปิ ตุมฺเหหิ, จิรมฺปิ ตฺวา วินาสภาโว’’ติ.

ตตฺถ สพฺเพหิปิ ตุมฺเหหีติ, ตาต, น เกวลํ ปุตฺเตเหว, อถ โข ตุมฺเหหิปิ อฺเหิปิ สพฺพสงฺขาเรหิ จิรํ ตฺวาปิ ทีฆมทฺธานํ ตฺวาปิ วินาสภาโวว นิยโต. สกลสฺมิมฺปิ หิ โลกสนฺนิวาเส เอกสงฺขาโรปิ นิจฺโจ นาม นตฺถีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ปิตุ ธมฺมกถํ กเถสิ. โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถสฺส สตฺตสตานํ ภริยานํ อาโรจยึสุ. ตา จ ปาสาทา โอรุยฺห ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา โคปฺผเกสุ คเหตฺวา ปริเทวมานา คาถมาหํสุ –

๒๐๓.

‘‘ฉินฺนํ นุ ตุยฺหํ หทยํ, อทุ เต กรุณา จ นตฺถิ อมฺเหสุ;

ยํ โน วิกนฺทนฺติโย, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สามิ สุตโสม, อมฺเห วิธวา กตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อปฺปมตฺตกสฺสปิ สิเนหสฺส อภาเวน ตว หทยํ อมฺเหสุ ฉินฺนํ นุ, อุทาหุ กรุณาย อภาเวน การุฺํ วา นตฺถิ, ยํ โน เอวํ วิกนฺทนฺติโย ปหาย ปพฺพชสีติ.

มหาสตฺโต ตาสํ ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวมานานํ ปริเทวนสทฺทํ สุตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๒๐๔.

‘‘น จ มยฺหํ ฉินฺนํ หทยํ, อตฺถิ กรุณาปิ มยฺหํ ตุมฺเหสุ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ สคฺคฺจาติ อหํ สคฺคฺจ ปตฺถยนฺโต ยสฺมา อยํ ปพฺพชฺชา นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิตา, ตสฺมา ปพฺพชิสฺสามิ, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถาติ ตา อสฺสาเสสิ.

อถสฺส อคฺคมเหสิยา อาโรเจสุํ. สา ครุภารา ปริปุณฺณคพฺภาปิ สมานา อาคนฺตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๒๐๕.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต อหํ ภริยา;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๒๐๖.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต อหํ ภริยา;

ยํ เม กุจฺฉิปฏิสนฺธึ, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๒๐๗.

‘‘ปริปกฺโก เม คพฺโภ, กุจฺฉิคโต ยาว นํ วิชายามิ;

มาหํ เอกา วิธวา, ปจฺฉา ทุกฺขานิ อทฺทกฺขิ’’นฺติ.

ตตฺถ ยํ เมติ ยสฺมา มม วิลปนฺติยา ตฺวํ อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, ตสฺมา ยํ มยา ตว สนฺติกา อคฺคมเหสิฏฺานํ ลทฺธํ, ตํ ทุลฺลทฺธเมว อาสิ. ทุติยคาถาย ยสฺมา มํ ตฺวํ กุจฺฉิปฏิสนฺธึ ปหาย อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, ตสฺมา ยํ มยา ตว ภริยตฺตํ ลทฺธํ, ตํ ทุลฺลทฺธํ เมติ อตฺโถ. ยาว นนฺติ ยาวาหํ ตํ คพฺภํ วิชายามิ, ตาว อธิวาเสหีติ.

ตโต มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๘.

‘‘ปริปกฺโก เต คพฺโภ, กุจฺฉิคโต อิงฺฆ ตฺวํ วิชายสฺสุ;

ปุตฺตํ อโนมวณฺณํ, ตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺตนฺติ, ภทฺเท, ตว คพฺโภ ปริปกฺโกติ ชานามิ, ตฺวํ ปน วิชายมานา ปุตฺตํ วิชายิสฺสสิ, น ธีตรํ, สา ตฺวํ โสตฺถินา วิชายสฺสุ ปุตฺตํ, อหํ ปน สทฺธึ ตยา ตํ ปุตฺตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามิเยวาติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘อิโต ทานิ ปฏฺาย, เทว, อมฺหากํ สิรี นาม นตฺถี’’ติ อุโภหิ หตฺเถหิ หทยํ ธารยมานา อสฺสูนิ มุฺจนฺตี มหาสทฺเทน ปริเทวิ. อถ นํ สมสฺสาเสนฺโต มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๙.

‘‘มา ตฺวํ จนฺเท รุทิ, มา โสจิ วนติมิรมตฺตกฺขิ;

อาโรห วรปาสาทํ, อนเปกฺโข อหํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ มา ตฺวํ จนฺเท รุทีติ, ภทฺเท จนฺทาเทวิ, ตฺวํ มา โรทิ มา โสจิ. วนติมิรมตฺตกฺขีติ คิริกณฺณิกปุปฺผสมานเนตฺเต. ปาฬิยํ ปน ‘‘โกวิฬารตมฺพกฺขี’’ติ ลิขิตํ, ตสฺสา โกวิฬารปุปฺผํ วิย ตมฺพเนตฺเตติ อตฺโถ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา าตุํ อสกฺโกนฺตี ปาสาทํ อารุยฺห โรทมานา นิสีทิ. อถ นํ โพธิสตฺตสฺส เชฏฺปุตฺโต ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เม มาตา โรทนฺตี นิสินฺนา’’ติ ตํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๒๑๐.

‘‘โก ตํ อมฺม โกเปสิ, กึ โรทสิ เปกฺขสิ จ มํ พาฬฺหํ;

กํ อวชฺฌํ ฆาเตมิ, าตีนํ อุทิกฺขมานาน’’นฺติ.

ตตฺถ โกเปสีติ, อมฺม! โก นาม ตํ โกเปสิ, โก เต อปฺปิยํ อกาสิ. เปกฺขสิ จาติ มํ พาฬฺหํ เปกฺขนฺตี กึการณา โรทสีติ อธิปฺปาโย. กํ อวชฺฌํ ฆาเตมีติ อฆาเตตพฺพมฺปิ กํ ฆาเตมิ อตฺตโน าตีนํ อุทิกฺขมานานฺเว, อกฺขาหิ เมติ ปุจฺฉติ.

ตโต เทวี คาถมาห –

๒๑๑.

‘‘น หิ โส สกฺกา หนฺตุํ, วิชิตาวี โย มํ ตาต โกเปสิ;

ปิตา เต มํ ตาต อวจ, อนเปกฺโข อหํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ วิชิตาวีติ, ตาต, โย มํ อิมิสฺสา ปถวิยา วิชิตาวี โกเปสิ, อปฺปิยสมุทาจาเรน เม หทเย โกปฺจ โสกฺจ ปเวเสสิ, โส ตยา หนฺตุํ น สกฺกา, มฺหิ, ตาต, ตว ปิตา ‘‘อหํ รชฺชสิริฺจ ตฺจ ปหาย อรฺํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อวจ, อิทํ เม โรทนการณนฺติ.

โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘อมฺม! กึ นาม ตฺวํ กเถสิ, นนุ เอวํ สนฺเต มยํ อนาถา นาม ภวิสฺสามา’’ติ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๒๑๒.

‘‘โยหํ ปุพฺเพ นิยฺยามิ, อุยฺยานํ มตฺตกุฺชเร จ โยเธมิ;

สุตโสเม ปพฺพชิเต, กถํ นุ ทานิ กริสฺสามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – โย อหํ ปุพฺเพ จตุอาชฺยุตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ รถํ อภิรุยฺห อุยฺยานํ คจฺฉามิ, มตฺตกุฺชเร จ โยเธมิ, อฺเหิ จ อสฺสกีฬาทีหิ กีฬามิ, สฺวาหํ อิทานิ สุตโสเม ปพฺพชิเต กถํ กริสฺสามีติ?

อถสฺส กนิฏฺภาตา สตฺตวสฺสิโก เต อุโภปิ โรทนฺเต ทิสฺวา มาตรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อมฺม! กึการณา ตุมฺเห โรทถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ มา โรทถ, อหํ ตาตสฺส ปพฺพชิตุํ น ทสฺสามี’’ติ อุโภปิ เต อสฺสาเสตฺวา ธาติยา สทฺธึ ปาสาทา โอรุยฺห ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ กิร อมฺเห อกามเก ปหาย ‘ปพฺพชามี’ติ วทสิ, อหํ เต ปพฺพชิตุํ น ทสฺสามี’’ติ ปิตรํ คีวาย ทฬฺหํ คเหตฺวา คาถมาห –

๒๑๓.

‘‘มาตุจฺจ เม รุทนฺตฺยา, เชฏฺสฺส จ ภาตุโน อกามสฺส;

หตฺเถปิ เต คเหสฺสํ, น หิ คจฺฉสิ โน อกามาน’’นฺติ.

มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เม ปริปนฺถํ กโรติ, เกน นุ โข นํ อุปาเยน ปฏิกฺกมาเปยฺย’’นฺติ. ตโต ธาตึ โอโลเกตฺวา, ‘‘อมฺม! ธาติ หนฺทิมํ มณิกฺขนฺธปิฬนฺธนํ, ตเวโส โหตุ หตฺเถ, ปุตฺตํ อปเนหิ, มา เม อนฺตรายํ กรี’’ติ สยํ ปุตฺตํ หตฺเถ คเหตฺวา อปเนตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺสา ลฺชํ ปฏิชาเนตฺวา คาถมาห –

๒๑๔.

‘‘อุฏฺเหิ ตฺวํ ธาติ, อิมํ กุมารํ รเมหิ อฺตฺถ;

มา เม ปริปนฺถมกาสิ, สคฺคํ มม ปตฺถยานสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อิมํ กุมารนฺติ, อมฺม! ธาติ ตฺวํ อุฏฺเหิ, อิมํ กุมารํ อปเนตฺวา อาคนฺตฺวา อิมํ มณึ คเหตฺวา อฺตฺถ นํ อภิรเมหีติ.

สา ลฺชํ ลภิตฺวา กุมารํ สฺาเปตฺวา อาทาย อฺตฺถ คนฺตฺวา ปริเทวมานา คาถมาห –

๒๑๕.

‘‘ยํ นูนิมํ ทเทยฺยํ ปภงฺกรํ, โก นุ เม อิมินาตฺโถ;

สุตโสเม ปพฺพชิเต, กึ นุ เมนํ กริสฺสามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยํ นูน อหํ อิมํ ลฺชตฺถาย คหิตํ ปภงฺกรํ สุปฺปภาสํ มณึ ทเทยฺยํ, โก นุ มยฺหํ สุตโสมนรินฺเท ปพฺพชิเต อิมินา อตฺโถ, กึ นุ เมนํ กริสฺสามิ, อหํ ตสฺมึ ปพฺพชิเต อิมํ ลภิสฺสามิ, ลภนฺตีปิ จ กึ นุ โข เอตํ กริสฺสามิ, ปสฺสถ เม กมฺมนฺติ.

ตโต มหาเสนคุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา ‘‘เคเห เม ธนํ มนฺท’นฺติ สฺํ กโรติ มฺเ, พหุภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ. โส อุฏฺาย วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๒๑๖.

‘‘โกโส จ ตุยฺหํ วิปุโล, โกฏฺาคารฺจ ตุยฺหํ ปริปูรํ;

ปถวี จ ตุยฺหํ วิชิตา, รมสฺสุ มา ปพฺพชิ เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๑๗.

‘‘โกโส จ มยฺหํ วิปุโล, โกฏฺาคารฺจ มยฺหํ ปริปูรํ;

ปถวี จ มยฺหํ วิชิตา, ตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ตสฺมึ อปคเต กุลวฑฺฒนเสฏฺิ นาม อุฏฺาย วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๒๑๘.

‘‘มยฺหมฺปิ ธนํ ปหูตํ, สงฺขฺยาตุํ โนปิ เทว สกฺโกมิ;

ตํ เต ททามิ สพฺพมฺปิ, รมสฺสุ มา ปพฺพชิ เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๑๙.

‘‘ชานามิ ธนํ ปหูตํ, กุลวฑฺฒน ปูชิโต ตยา จสฺมิ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา กุลวฑฺฒเน อปคเต มหาสตฺโต โสมทตฺตํ กนิฏฺภาตรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต, อหํ ปฺชรปกฺขิตฺโต วนกุกฺกุโฏ วิย อุกฺกณฺิโต, มํ ฆราวาเส อนภิรติ อภิภวติ, อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, ตฺวํ อิมํ รชฺชํ ปฏิปชฺชา’’ติ รชฺชํ นิยฺยาเทนฺโต คาถมาห –

๒๒๐.

‘‘อุกฺกณฺิโตสฺมิ พาฬฺหํ, อรติ มํ โสมทตฺต อาวิสติ;

พหุกาปิ เม อนฺตรายา, อชฺเชวาหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา โสปิ ปพฺพชิตุกาโม ตํ ทีเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๒๒๑.

‘‘อิทฺจ ตุยฺหํ รุจิตํ, สุตโสม อชฺเชว ทานิ ตฺวํ ปพฺพช;

อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, น อุสฺสเห ตยา วินา อหํ าตุ’’นฺติ.

อถ นํ โส ปฏิกฺขิปิตฺวา อุปฑฺฒํ คาถมาห –

๒๒๒.

‘‘น หิ สกฺกา ปพฺพชิตุํ, นคเร น หิ ปจฺจติ ชนปเท จา’’ติ.

ตตฺถ น หิ ปจฺจตีติ อิทาเนว ตาว มม ปพฺพชฺชาธิปฺปายํ สุตฺวาว อิมสฺมึ ทฺวาทสโยชนิเก สุทสฺสนนคเร จ สกลชนปเท จ น ปจฺจติ, โกจิ อุทฺธเน อคฺคึ น ชาเลติ, อมฺเหสุ ปน ทฺวีสุ ปพฺพชิเตสุ อนาถาว รฏฺวาสิโน ภวิสฺสนฺติ, ตสฺมา น หิ สกฺกา ตยา ปพฺพชิตุํ, อหเมว ปพฺพชิสฺสามีติ.

ตํ สุตฺวา มหาชโน มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวนฺโต อุปฑฺฒคาถมาห –

‘‘สุตโสเม ปพฺพชิเต, กถํ นุ ทานิ กริสฺสามา’’ติ.

ตโต มหาสตฺโต ‘‘อลํ มา โสจยิตฺถ, อหํ จิรมฺปิ ตฺวา ตุมฺเหหิ วินา ภวิสฺสามิ, อุปฺปนฺนสงฺขาโร หิ นิจฺโจ นาม นตฺถี’’ติ มหาชนสฺส ธมฺมํ กเถนฺโต อาห –

๒๒๓.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, ปริตฺตํ อุทกํว จงฺกวารมฺหิ;

เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต, น จ ปมชฺชิตุํ กาโล.

๒๒๔.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, ปริตฺตํ อุทกํว จงฺกวารมฺหิ;

เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต, อนฺธพาลา ปมชฺชนฺติ.

๒๒๕.

‘‘เต วฑฺฒยนฺติ นิรยํ, ติรจฺฉานโยนิฺจ เปตฺติวิสยฺจ;

ตณฺหาย พนฺธนพทฺธา, วฑฺเฒนฺติ อสุรกาย’’นฺติ.

ตตฺถ อุปนียติทํ มฺเติ, ตาต, ‘‘อิทํ ชีวิตํ อุปนียตี’’ติ อหํ มฺามิ. อฺเสุ สุตฺเตสุ อุปสํหรณตฺโถ อุปนิยฺยนตฺโถ, อิธ ปน ปริยาทานตฺโถ. ตสฺมา ยถา ปริตฺตํ อุทกํ รชกานํ ขารจงฺกวาเร ปกฺขิตฺตํ สีฆํ ปริยาทิยติ, ตถา ชีวิตมฺปิ. เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต ตํ ปริตฺตกํ อายุสงฺขารํ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สตฺตานํ น ปุฺกิริยาย ปมชฺชิตุํ กาโล, อปฺปมาโทว กาตุํ วฏฺฏตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อนฺธพาลา ปมชฺชนฺตีติ อชรามรา วิย หุตฺวา คูถกลเล สูกรา วิย หุตฺวา กามปงฺเก นิมุชฺชนฺตา ปมชฺชนฺติ. อสุรกายนฺติ กาฬกฺชิกอสุรโยนิฺจ วฑฺเฒนฺตีติ อตฺโถ.

เอวํ มหาสตฺโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ปุพฺพกํ นาม ปาสาทํ อารุยฺห สตฺตมาย ภูมิยา ิโต ขคฺเคน จูฬํ ฉินฺทิตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ กิฺจิ น โหมิ, อตฺตโน ราชานํ คณฺหถา’’ติ สเวนํ จูฬํ มหาชนสฺส อนฺตเร ขิปิ. ตํ คเหตฺวา มหาชโน ภูมิยํ ปริวฏฺเฏนฺโต ปริวฏฺเฏนฺโต ปริเทวิ. ตสฺมึ าเน มหนฺตํ รชคฺคํ อุฏฺหิ. ปฏิกฺกมิตฺวา ิตชโน ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘รฺา จูฬํ ฉินฺทิตฺวา สเวนา จูฬา มหาชนสฺส อนฺตเร ขิตฺตา ภวิสฺสติ, เตนายํ ปาสาทสฺส อวิทูเร รชวฏฺฏิ อุคฺคตา’’ติ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๒๒๖.

‘‘อูหฺเต รชคฺคํ อวิทูเร, ปุพฺพกมฺหิ จ ปาสาเท;

มฺเ โน เกสา ฉินฺนา, ยสสฺสิโน ธมฺมราชสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อูหฺเตติ อุฏฺหติ. รชคฺคนฺติ รชกฺขนฺโธ. อวิทูเรติ อิโต อมฺหากํ ิตฏฺานโต อวิทูเร. ปุพฺพกมฺหีติ ปุพฺพกปาสาทสฺส สมีเป. มฺเ โนติ อมฺหากํ ธมฺมราชสฺส เกสา ฉินฺนา ภวิสฺสนฺตีติ มฺาม.

มหาสตฺโต ปริจาริกํ เปเสตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร อาหราเปตฺวา กปฺปเกน เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา อลงฺการํ สยนปิฏฺเ ปาเตตฺวา รตฺตปฏานํ ทสานิ ฉินฺทิตฺวา ตานิ กาสายานิ นิวาเสตฺวา มตฺติกาปตฺตํ วามอํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา กตฺตรทณฺฑํ อาทาย มหาตเล อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ปาสาทา โอตริตฺวา อนฺตรวีถึ ปฏิปชฺชิ. คจฺฉนฺตํ ปน นํ น โกจิ สฺชานิ. อถสฺส สตฺตสตา ขตฺติยกฺา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ตํ อทิสฺวา อาภรณภณฺฑเมว ทิสฺวา โอตริตฺวา อวเสสานํ โสฬสสหสฺสานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปิยสามิโก สุตโสมมหิสฺสโร ปพฺพชิโต’’ติ มหาสทฺเทน ปริเทวมานาว พหิ นิกฺขมึสุ. ตสฺมึ ขเณ มหาชโน ตสฺส ปพฺพชิตภาวํ อฺาสิ, สกลนครํ สงฺขุภิตฺวา ‘‘ราชา กิร โน ปพฺพชิโต’’ติ ราชทฺวาเร สนฺนิปติ, มหาชโน ‘‘อิธ ราชา ภวิสฺสติ, เอตฺถ ภวิสฺสตี’’ติ ปาสาทาทีนิ รฺโ ปริโภคฏฺานานิ คนฺตฺวา ราชานํ อทิสฺวา –

๒๒๗.

‘‘อยมสฺส ปาสาโท, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺโณ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๒๘.

‘‘อยมสฺส ปาสาโท, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺโณ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๒๙.

‘‘อิทมสฺส กูฏาคารํ, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺณํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๐.

‘‘อิทมสฺส กูฏาคารํ, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺณํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๑.

‘‘อยมสฺส อโสกวนิกา, สุปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา รมฺมา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๒.

‘‘อยมสฺส อโสกวนิกา, สุปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา รมฺมา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๓.

‘‘อิทมสฺส อุยฺยานํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๔.

‘‘อิทมสฺส อุยฺยานํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๕.

‘‘อิทมสฺส กณิการวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๖.

‘‘อิทมสฺส กณิการวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๗.

‘‘อิทมสฺส ปาฏลิวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๘.

‘‘อิทมสฺส ปาฏลิวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๙.

‘‘อิทมสฺส อมฺพวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๔๐.

‘‘อิทมสฺส อมฺพวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๔๑.

‘‘อยมสฺส โปกฺขรณี, สฺฉนฺนา อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๔๒.

‘‘อยมสฺส โปกฺขรณี, สฺฉนฺนา อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆนา’’ติ. –

อิมาหิ คาถาหิ ปริเทวนฺโต วิจริ.

ตตฺถ วีติกิณฺโณติ โสวณฺณปุปฺเผหิ จ นานามาลฺเยหิ จ สโมกิณฺโณ. ปริกิณฺโณติ ปริวาริโต. อิตฺถาคาเรหีติ ทาสิโย อุปาทาย อิตฺถิโย อิตฺถาคารา นาม. าติสงฺเฆนาติ อมจฺจาปิ อิธ าตโย เอว. กูฏาคารนฺติ สตฺตรตนวิจิตฺโต สยนกูฏาคารคพฺโภ. อโสกวนิกาติ อโสกวนภูมิ. สพฺพกาลิกาติ สพฺพกาลปริโภคกฺขมา นิจฺจปุปฺผิตา วา. อุยฺยานนฺติ นนฺทนวนจิตฺตลตาวนสทิสํ อุยฺยานํ. สพฺพกาลิกนฺติ ฉสุปิ อุตูสุ อุปฺปชฺชนกปุปฺผผลสฺฉนฺนํ. กณิการวนาทีสุ สพฺพกาลิกนฺติ สพฺพกาเล สุปุปฺผิตผลิตเมว. สฺฉนฺนาติ นานาวิเธหิ ชลชถลชกุสุเมหิ สุฏฺุ สฺฉนฺนา. อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณาติ สกุณสงฺเฆหิ โอกิณฺณา.

เอวํ เตสุ เตสุ าเนสุ ปริเทวิตฺวา มหาชโน ปุน ราชงฺคณํ อาคนฺตฺวา –

๒๔๓.

‘‘ราชา โว โข ปพฺพชิโต, สุตโสโม รชฺชํ อิมํ ปหตฺวาน;

กาสายวตฺถวสโน, นาโคว เอกโก จรตี’’ติ. –

คาถํ วตฺวา อตฺตโน ฆเร วิภวํ ปหาย ปุตฺตธีตโร หตฺเถสุ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา โพธิสตฺตสฺเสว สนฺติกํ อคมาสิ, ตถา มาตาปิตโร ปุตฺตทารา โสฬสสหสฺสา จ นาฏกิตฺถิโย. สกลนครํ ตุจฺฉํ วิย อโหสิ, ชนปทวาสิโนปิ เตสํ ปจฺฉโต ปจฺฉโต คมึสุ. โพธิสตฺโต ทฺวาทสโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข ปายาสิ. อถสฺส อภินิกฺขมนํ ตฺวา สกฺโก วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต วิสฺสกมฺม, สุตโสมมหาราชา อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, วสนฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, สมาคโม จ มหา ภวิสฺสติ, คจฺฉ หิมวนฺตปเทเส คงฺคาตีเร ตึสโยชนายามํ ปฺจทสโยชนวิตฺถตํ อสฺสมปทํ มาเปหี’’ติ เปเสสิ. โส ตถา กตฺวา ตสฺมึ อสฺสมปเท ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาเทตฺวา เอกปทิกมคฺคํ มาเปตฺวา เทวโลกเมว คโต.

มหาสตฺโต เตน มคฺเคน คนฺตฺวา ตํ อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา ปมํ สยํ ปพฺพชิตฺวา ปจฺฉา เสเส ปพฺพาเชสิ, อปรภาเค พหู ปพฺพชึสุ. ตึสโยชนิกํ านํ ปริปูริ. วิสฺสกมฺเมน ปน อสฺสมมาปิตนิยาโม จ พหูนํ ปพฺพชิตนิยาโม จ โพธิสตฺตสฺส อสฺสมปทสํวิทหิตนิยาโม จ หตฺถิปาลชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๓๓๗ อาทโย) อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ มหาสตฺโต ยสฺส ยสฺเสว กามวิตกฺกาทิ มิจฺฉาวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, ตํ ตํ อากาเสน อุปสงฺกมิตฺวา อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา โอวทนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๒๔๔.

‘‘มาสฺสุ ปุพฺเพ รติกีฬิตานิ, หสิตานิ จ อนุสฺสริตฺถ;

มา โว กามา หนึสุ, รมฺมฺหิ สุทสฺสนํ นครํ.

๒๔๕.

‘‘เมตฺตจิตฺตฺจ ภาเวถ, อปฺปมาณํ ทิวา จ รตฺโต จ;

อคจฺฉิตฺถ เทวปุรํ, อาวาสํ ปุฺกมฺมิน’’นฺติ.

ตตฺถ รติกีฬิตานีติ กามรติโย จ กายวาจาขิฑฺฑาวเสน ปวตฺตกีฬิตานิ จ. มา โว กามา หนึสูติ มา ตุมฺเห วตฺถุกามกิเลสกามา หนึสุ. รมฺมํ หีติ สุทสฺสนนครํ นาม รมณียํ, ตํ มา อนุสฺสริตฺถ. เมตฺตจิตฺตนฺติ อิทํ เทสนามตฺตเมว, โส ปน จตฺตาโรปิ พฺรหฺมวิหาเร อาจิกฺขิ. อปฺปมาณนฺติ อปฺปมาณสตฺตารมฺมณํ. อคจฺฉิตฺถาติ คมิสฺสถ. เทวปุรนฺติ พฺรหฺมโลกํ.

โสปิ อิสิคโณ ตสฺโสวาเท ตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสีติ สพฺพํ หตฺถิปาลชาตเก อาคตนเยเนว กเถตพฺพํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, จนฺทาเทวี ราหุลมาตา, เชฏฺปุตฺโต สาริปุตฺโต, กนิฏฺปุตฺโต ราหุโล, ธาติ ขุชฺชุตฺตรา, กุลวฑฺฒนเสฏฺิ กสฺสโป, มหาเสนคุตฺโต โมคฺคลฺลาโน, โสมทตฺตกุมาโร อานนฺโท, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สุตโสมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬสุตโสมชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

ชาตกุทฺทานํ –

สุวปณฺฑิตชมฺพุกกุณฺฑลิโน, วรกฺมลมฺพุสชาตกฺจ;

ปวรุตฺตมสงฺขสิรีวฺหยโก, สุตโสมอรินฺทมราชวโร.

จตฺตาลีสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๘. ปณฺณาสนิปาโต

[๕๒๖] ๑. นิฬินิกาชาตกวณฺณนา

อุทฺทยฺหเต ชนปโทติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺพ กเถสิ. กเถนฺโต จ ตํ ภิกฺขุํ ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติ วุตฺเต ‘‘น เอสา โข, ภิกฺขุ, อิทาเนว ตว อนตฺถการิกา, ปุพฺเพปิ ตฺวํ เอตํ นิสฺสาย ฌานา ปริหายิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต อุทิจฺจพฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต อุคฺคหิตสิปฺโป อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพิชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา หิมวนฺตปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. อลมฺพุสาชาตเก วุตฺตนเยเนว ตํ ปฏิจฺจ เอกา มิคี คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘อิสิสิงฺโค’’ตฺเววสฺส นามํ อโหสิ. อถ นํ ปิตา วยปฺปตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา กสิณปริกมฺมํ อุคฺคณฺหาเปสิ. โส นจิรสฺเสว ฌานาภิฺา อุปฺปาเทตฺวา ฌานสุเขน กีฬิ, โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย อโหสิ. ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘อุปาเยนสฺส สีลํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตีณิ สํวจฺฉรานิ สกลกาสิรฏฺเ วุฏฺึ นิวาเรสิ, รฏฺํ อคฺคิทฑฺฒํ วิย อโหสิ. สสฺเส อสมฺปชฺชมาเน ทุพฺภิกฺขปีฬิตา มนุสฺสา สนฺนิปติตฺวา ราชงฺคเณ อุปกฺโกสึสุ. อถ เน ราชา วาตปาเน ิโต ‘‘กึ เอต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, ตีณิ สํวจฺฉรานิ เทวสฺส อวสฺสนฺตตฺตา สกลรฏฺํ อุทฺทยฺหติ, มนุสฺสา ทุกฺขิตา, เทวํ วสฺสาเปหิ, เทวา’’ติ. ราชา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถํ อุปวสนฺโตปิ วสฺสํ วสฺสาเปตุํ นาสกฺขิ.

ตสฺมึ กาเล สกฺโก อฑฺฒรตฺตสมเย ตสฺส สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา เอโกภาสํ กตฺวา เวหาเส อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘สกฺโกหมสฺมี’’ติ. ‘‘เกนตฺเถนาคโตสี’’ติ? ‘‘วสฺสติ เต, มหาราช, รฏฺเ เทโว’’ติ? ‘‘น วสฺสตี’’ติ. ‘‘ชานาสิ ปนสฺส อวสฺสนการณ’’นฺติ? ‘‘น ชานามิ, สกฺกา’’ติ. ‘‘มหาราช, หิมวนฺตปเทเส อิสิสิงฺโค นาม ตาปโส ปฏิวสติ โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย. โส นิพทฺธํ เทเว วสฺสนฺเต กุชฺฌิตฺวา อากาสํ โอโลเกสิ, ตสฺมา เทโว น วสฺสตี’’ติ. ‘‘อิทานิ ปเนตฺถ กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ตสฺส ตเป ภินฺเน เทโว วสฺสิสฺสตี’’ติ. ‘‘โก ปนสฺส ตปํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ’’ติ? ‘‘ธีตา เต, มหาราช, นิฬินิกา สมตฺถา, ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘อสุกฏฺานํ นาม คนฺตฺวา ตาปสสฺส ตปํ ภินฺทาหี’ติ เปเสหี’’ติ. เอวํ โส ราชานํ อนุสาสิตฺวา สกฏฺานเมว อคมาสิ. ราชา ปุนทิวเส อมจฺเจหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา ธีตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปมํ คาถมาห –

.

‘‘อุทฺทยฺหเต ชนปโท, รฏฺฺจาปิ วินสฺสติ;

เอหิ นิฬินิเก คจฺฉ, ตํ เม พฺราหฺมณมานยา’’ติ.

ตตฺถ ตํ เมติ ตํ มม อนตฺถการึ พฺราหฺมณํ อตฺตโน วสํ อาเนหิ, กิเลสรติวเสนสฺส สีลํ ภินฺทาหีติ.

ตํ สุตฺวา สา ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘นาหํ ทุกฺขกฺขมา ราช, นาหํ อทฺธานโกวิทา;

กถํ อหํ คมิสฺสามิ, วนํ กุฺชรเสวิต’’นฺติ.

ตตฺถ ทุกฺขกฺขมาติ อหํ, มหาราช, ทุกฺขสฺส ขมา น โหมิ, อทฺธานมฺปิ น ชานามิ, สาหํ กถํ คมิสฺสามีติ.

ตโต ราชา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

.

‘‘ผีตํ ชนปทํ คนฺตฺวา, หตฺถินา จ รเถน จ;

ทารุสงฺฆาฏยาเนน, เอวํ คจฺฉ นิฬินิเก.

.

‘‘หตฺถิอสฺสรเถ ปตฺตี, คจฺเฉวาทาย ขตฺติเย;

ตเวว วณฺณรูเปน, วสํ ตมานยิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ทารุสงฺฆาฏยาเนนาติ, อมฺม, นิฬินิเก น ตฺวํ ปทสา คมิสฺสสิ, ผีตํ ปน สุภิกฺขํ เขมํ อตฺตโน ชนปทํ หตฺถิวาหเนหิ จ รถวาหเนหิ จ คนฺตฺวา ตโต ปรมฺปิ อชฺโฌกาเส ปฏิจฺฉนฺเนน วยฺหาทินา อุทกฏฺาเน นาวาสงฺขาเตน ทารุสงฺฆาฏยาเนน คจฺฉ. วณฺณรูเปนาติ เอวํ อกิลมมานา คนฺตฺวา ตว วณฺเณน เจว รูปสมฺปทาย จ ตํ พฺราหฺมณํ อตฺตโน วสํ อานยิสฺสสีติ.

เอวํ โส ธีตรา สทฺธึ อกเถตพฺพมฺปิ รฏฺปริปาลนํ นิสฺสาย กเถสิ. สาปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺสา สพฺพํ ทาตพฺพยุตฺตกํ ทตฺวา อมจฺเจหิ สทฺธึ อุยฺโยเชสิ. อมจฺจา ตํ อาทาย ปจฺจนฺตํ ปตฺวา ตตฺถ ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ราชธีตรํ อุกฺขิปาเปตฺวา วนจรเกน เทสิเตน มคฺเคน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย ตสฺส อสฺสมปทสฺส สมีปํ ปาปุณึสุ. ตสฺมึ ขเณ โพธิสตฺโต ปุตฺตํ อสฺสมปเท นิวาสาเปตฺวา สยํ ผลาผลตฺถาย อรฺํ ปวิฏฺโ โหติ. วนจรโก สยํ อสฺสมํ อคนฺตฺวา ตสฺส ปน ทสฺสนฏฺาเน ตฺวา นิฬินิกาย ตํ ทสฺเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘กทลีธชปฺาโณ, อาภุชีปริวาริโต;

เอโส ปทิสฺสติ รมฺโม, อิสิสิงฺคสฺส อสฺสโม.

.

‘‘เอโส อคฺคิสฺส สงฺขาโต, เอโส ธูโม ปทิสฺสติ;

มฺเ โน อคฺคึ หาเปติ, อิสิสิงฺโค มหิทฺธิโก’’ติ.

ตตฺถ กทลีสงฺขาตา ธชา ปฺาณํ อสฺสาติ กทลีธชปฺาโณ. อาภุชีปริวาริโตติ ภุชปตฺตวนปริกฺขิตฺโต. สงฺขาโตติ เอโส อคฺคิ อสฺส อิสิสิงฺคสฺส ฌาเนน สงฺขาโต ปจฺจกฺขคโต ชลติ. มฺเ โน อคฺคินฺติ อคฺคึ โน หาเปติ ชุหติ ปริจรตีติ มฺามิ.

อมจฺจาปิ โพธิสตฺตสฺส อรฺํ ปวิฏฺเวลาย อสฺสมํ ปริวาเรตฺวา อารกฺขํ เปตฺวา ราชธีตรํ อิสิเวสํ คาหาเปตฺวา สุวณฺณจีรเกน นิวาสนปารุปนํ กตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา ตนฺตุพทฺธํ จิตฺตเคณฺฑุกํ คาหาเปตฺวา อสฺสมปทํ เปเสตฺวา สยํ พหิ รกฺขนฺตา อฏฺํสุ. สา เตน เคณฺฑุเกน กีฬนฺตี จงฺกมโกฏิยํ โอตริ. ตสฺมึ ขเณ อิสิสิงฺโค ปณฺณสาลทฺวาเร ปาสาณผลเก นิสินฺโน โหติ. โส ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ภีตตสิโต อุฏฺาย ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. สาปิสฺส ปณฺณสาลทฺวารํ คนฺตฺวา กีฬิเยว. สตฺถา ตฺจ ตโต อุตฺตริ จ อตฺถํ ปกาเสนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตึ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลํ;

อิสิสิงฺโค ปาวิสิ ภีโต, อสฺสมํ ปณฺณฉาทนํ.

.

‘‘อสฺสมสฺส จ สา ทฺวาเร, เคณฺฑุเกนสฺส กีฬติ;

วิทํสยนฺตี องฺคานิ, คุยฺหํ ปกาสิตานิ จ.

.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน กีฬนฺตึ, ปณฺณสาลคโต ชฏี;

อสฺสมา นิกฺขมิตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวี’’ติ.

ตตฺถ เคณฺฑุเกนสฺสาติ อสฺส อิสิสิงฺคสฺส อสฺสมทฺวาเร เคณฺฑุเกน กีฬติ. วิทํสยนฺตีติ ทสฺเสนฺตี. คุยฺหํ ปกาสิตานิ จาติ คุยฺหฺจ รหสฺสงฺคํ ปกาสิตานิ จ ปากฏานิ มุขหตฺถาทีนิ. อพฺรวีติ โส กิร ปณฺณสาลาย ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สจายํ ยกฺโข ภเวยฺย, ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา มํ มุรุมุราเปตฺวา ขาเทยฺย, นายํ ยกฺโข, ตาปโส ภวิสฺสตี’’ติ อสฺสมา นิกฺขมิตฺวา ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๐.

‘‘อมฺโภ โก นาม โส รุกฺโข, ยสฺส เตวํคตํ ผลํ;

ทูเรปิ ขิตฺตํ ปจฺเจติ, น ตํ โอหาย คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ยสฺส เตวํคตํ ผลนฺติ ยสฺส ตว รุกฺขสฺส เอวํคติกํ มโนรมํ ผลํ. โก นาม โส รุกฺโขติ จิตฺรเคณฺฑุกสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘รุกฺขผเลน เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ มฺมาโน เอวํ ปุจฺฉติ.

อถสฺส สา รุกฺขํ อาจิกฺขนฺตี คาถมาห –

๑๑.

‘‘อสฺสมสฺส มม พฺรหฺเม, สมีเป คนฺธมาทเน;

พหโว ตาทิสา รุกฺขา, ยสฺส เตวํคตํ ผลํ;

ทูเรปิ ขิตฺตํ ปจฺเจติ, น มํ โอหาย คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ สมีเป คนฺธมาทเนติ คนฺธมาทนปพฺพเต มม อสฺสมสฺส สมีเป. ยสฺส เตวํคตนฺติ ยสฺส เอวํคตํ, -กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโรติ.

อิติ สา มุสาวาทํ อภาสิ. อิตโรปิ สทฺทหิตฺวา ‘‘ตาปโส เอโส’’ติ สฺาย ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๒.

‘‘เอตู ภวํ อสฺสมิมํ อเทตุ, ปชฺชฺจ ภกฺขฺจ ปฏิจฺฉ ทมฺมิ;

อิทมาสนํ อตฺร ภวํ นิสีทตุ, อิโต ภวํ มูลผลานิ ภุฺชตู’’ติ.

ตตฺถ อสฺสมิมนฺติ อสฺสมํ อิมํ ภวํ ปวิสตุ. อเทตูติ ยถาสนฺนิหิตํ อาหารํ ปริภุฺชตุ. ปชฺชนฺติ ปาทพฺภฺชนํ. ภกฺขนฺติ มธุรผลาผลํ. ปฏิจฺฉาติ ปฏิคฺคณฺห. อิทมาสนนฺติ ปวิฏฺกาเล เอวมาห.

ตสฺสา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรเณ นิสีทนฺติยา สุวณฺณจีรเก ทฺวิธา คเต สรีรํ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ อโหสิ. ตาปโส มาตุคามสรีรสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา ตํ ทิสฺวา ‘‘วณฺโณ เอโส’’ติ สฺาย เอวมาห –

๑๓.

‘‘กึ เต อิทํ อูรูนมนฺตรสฺมึ, สุปิจฺฉิตํ กณฺหริวปฺปกาสติ;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, โกเส นุ เต อุตฺตมงฺคํ ปวิฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ สุปิจฺฉิตนฺติ ทฺวินฺนํ อูรูนํ สมาคมกาเล สุผุสิตํ สิปฺปิปุฏมุขสณฺานํ. สุภลกฺขเณน หิ อสมนฺนาคตาย ตํ านํ อาวาฏธาตุกํ โหติ, สมนฺนาคตาย อพฺภุนฺนตํ สิปฺปิปุฏมุขสณฺานํ. กณฺหริวปฺปกาสตีติ อุโภสุ ปสฺเสสุ กาฬกํ วิย ขายติ. โกเส นุ เต อุตฺตมงฺคํ ปวิฏฺนฺติ ตว อุตฺตมงฺคํ ลิงฺคสณฺานํ น ปฺายติ, กึ นุ ตํ ตว สรีรสงฺขาเต โกเส ปวิฏฺนฺติ ปุจฺฉติ.

อถ นํ สา วฺจยนฺตี คาถาทฺวยมาห –

๑๔.

‘‘อหํ วเน มูลผเลสนํ จรํ, อาสาทยึ อจฺฉํ สุโฆรรูปํ;

โส มํ ปติตฺวา สหสาชฺฌปตฺโต, ปนุชฺช มํ อพฺพหิ อุตฺตมงฺคํ.

๑๕.

‘‘สฺวายํ วโณ ขชฺชติ กณฺฑุวายติ, สพฺพฺจ กาลํ น ลภามิ สาตํ;

ปโห ภวํ กณฺฑุมิมํ วิเนตุํ, กุรุตํ ภวํ ยาจิโต พฺราหฺมณตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ อาสาทยินฺติ ฆฏฺเฏสึ, อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา เลฑฺฑุนา ปหรินฺติ อตฺโถ. ปติตฺวาติ อุปธาวิตฺวา. สหสาชฺฌปฺปตฺโตติ มมํ สหสา อชฺฌปฺปตฺโต สมฺปตฺโต. ปนุชฺชาติ อถ มํ โปเตตฺวา. อพฺพหีติ มุเขน มม อุตฺตมงฺคํ ลุฺจิตฺวา ปกฺกามิ, ตโต ปฏฺาย อิมสฺมึ าเน วโณ ชาโต. สฺวายนฺติ โส อยํ ตโต ปฏฺาย มยฺหํ วโณ ขชฺชติ เจว กณฺฑุวฺจ กโรติ, ตปฺปจฺจยา สาหํ สพฺพกาลํ กายิกเจตสิกสุขํ น ลภามิ. ปโหติ ปหุ สมตฺโถ. พฺราหฺมณตฺถนฺติ ภวํ มยา ยาจิโต อิมํ พฺราหฺมณสฺส อตฺถํ กโรตุ, อิทํ เม ทุกฺขํ หราหีติ วทติ.

โส ตสฺสา มุสาวาทํ ‘‘สภาโว’’ติ สทฺทหิตฺวา ‘‘สเจ เต เอวํ สุขํ โหติ, กริสฺสามี’’ติ ตํ ปเทสํ โอโลเกตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๖.

‘‘คมฺภีรรูโป เต วโณ สโลหิโต, อปูติโก วณคนฺโธ มหา จ;

กโรมิ เต กิฺจิ กสายโยคํ, ยถา ภวํ ปรมสุขี ภเวยฺยา’’ติ.

ตตฺถ สโลหิโตติ รตฺโตภาโส. อปูติโกติ ปูติมํสรหิโต. วณคนฺโธติ โถกํ ทุคฺคนฺโธ. กสายโยคนฺติ อหํ เกจิ รุกฺขกสาเย คเหตฺวา ตว เอกํ กสายโยคํ กโรมีติ.

ตโต นิฬินิกา คาถมาห

๑๗.

‘‘น มนฺตโยคา น กสายโยคา, น โอสธา พฺรหฺมจาริ กมนฺติ;

ยํ เต มุทุ เตน วิเนหิ กณฺฑุํ, ยถา อหํ ปรมสุขี ภเวยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ กมนฺตีติ, โภ พฺรหฺมจาริ, อิมสฺมึ มม วเณ เนว มนฺตโยคา, น กสายโยคา, น ปุปฺผผลาทีนิ โอสธานิ กมนฺติ, อเนกวารํ กเตหิปิ เตหิ เอตสฺส ผาสุกภาโว น ภูตปุพฺโพ. ยํ ปน เต เอตํ มุทุ องฺคชาตํ, เตน ฆฏฺฏิยมานสฺเสว ตสฺส กณฺฑุ น โหติ, ตสฺมา เตน วิเนหิ กณฺฑุนฺติ.

โส ‘‘สจฺจํ เอโส ภณตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เมถุนสํสคฺเคน สีลํ ภิชฺชติ, ฌานํ อนฺตรธายตี’’ติ อชานนฺโต มาตุคามสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา เมถุนธมฺมสฺส จ อชานนภาเวน ‘‘เภสชฺช’’นฺติ วทนฺติยา ตาย เมถุนํ ปฏิเสวิ. ตาวเทวสฺส สีลํ ภิชฺชิ, ฌานํ ปริหายิ. โส ทฺเว ตโย วาเร สํสคฺคํ กตฺวา กิลนฺโต หุตฺวา นิกฺขมิตฺวา สรํ โอรุยฺห นฺหตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลายํ นิสีทิตฺวา ปุนปิ ตํ ‘‘ตาปโส’’ติ มฺมาโน วสนฏฺานํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๘.

‘‘อิโต นุ โภโต กตเมน อสฺสโม, กจฺจิ ภวํ อภิรมสิ อรฺเ;

กจฺจิ นุ เต มูลผลํ ปหูตํ, กจฺจิ ภวนฺตํ น วิหึสนฺติ วาฬา’’ติ.

ตตฺถ กตเมนาติ อิโต กตเมน ทิสาภาเคน โภโต อสฺสโม. ภวนฺติ อาลปนเมตํ.

ตโต นิฬินิกา จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๙.

‘‘อิโต อุชุํ อุตฺตรายํ ทิสายํ, เขมา นที หิมวตา ปภาวี;

ตสฺสา ตีเร อสฺสโม มยฺห รมฺโม, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.

๒๐.

‘‘อมฺพา จ สาลา ติลกา จ ชมฺพุโย, อุทฺทาลกา ปาฏลิโย จ ผุลฺลา;

สมนฺตโต กิมฺปุริสาภิคีตํ, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.

๒๑.

‘‘ตาลา จ มูลา จ ผลา จ เมตฺถ, วณฺเณน คนฺเธน อุเปตรูปํ;

ตํ ภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.

๒๒.

‘‘ผลา จ มูลา จ ปหูตเมตฺถ, วณฺเณน คนฺเธน รเสนุเปตา;

อายนฺติ จ ลุทฺทกา ตํ ปเทสํ, มา เม ตโต มูลผลํ อหาสุ’’นฺติ.

ตตฺถ อุตฺตรายนฺติ อุตฺตราย. เขมาติ เอวํนามิกา นที. หิมวตา ปภาวีติ หิมวนฺตโต ปวตฺตติ. อโหติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต. อุทฺทาลกาติ วาตฆาตกา. กิมฺปุริสาภิคีตนฺติ สมนฺตโต ปริวาเรตฺวา มธุรสทฺเทน คายนฺเตหิ กิมฺปุริเสหิ อภิคีตํ. ตาลา จ มูลา จ ผลา จ เมตฺถาติ เอตฺถ มม อสฺสเม ปาสาทิกา ตาลรุกฺขา จ เตสฺเว วณฺณคนฺธาทิสมฺปนฺนา กนฺทสงฺขาตา มูลา จ ผลา จ. ปหูตเมตฺถาติ นานารุกฺขผลา จ รุกฺขวลฺลิมูลา จ ปหูตา เอตฺถ. มา เม ตโตติ ตํ มม อสฺสมปทํ สมฺพหุลา ลุทฺทกา อาคจฺฉนฺติ, มยา เจตฺถ อาหริตฺวา ปิตํ พหุ มธุรสมูลผลาผลํ อตฺถิ, เต มยิ จิรายนฺเต มูลผลาผลํ หเรยฺยุํ. เต ตโต มม มูลผลาผลํ มา หรึสุ, ตสฺมา สเจปิ มยา สทฺธึ อาคนฺตุกาโม, เอหิ, โน เจ, อหํ คมิสฺสามีติ อาห.

ตํ สุตฺวา ตาปโส ยาว ปิตุ อาคมนา อธิวาสาเปตุํ คาถมาห –

๒๓.

‘‘ปิตา มมํ มูลผเลสนํ คโต, อิทานิ อาคจฺฉติ สายกาเล;

อุโภว คจฺฉามเส อสฺสมํ ตํ, ยาว ปิตา มูลผลโต เอตู’’ติ.

ตตฺถ อุโภว คจฺฉามเสติ มม ปิตุ อาโรเจตฺวา อุโภว คมิสฺสาม.

ตโต สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ตาว อรฺเว วฑฺฒิตภาเวน มม อิตฺถิภาวํ น ชานาติ, ปิตา ปนสฺส มํ ทิสฺวาว ชานิตฺวา ‘ตฺวํ อิธ กึ กโรสี’ติ กาชโกฏิยา ปหริตฺวา สีสมฺปิ เม ภินฺเทยฺย, ตสฺมึ อนาคเตเยว มยา คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาคมนกมฺมมฺปิ เม นิฏฺิต’’นฺติ. สา ตสฺส อาคมนูปายํ อาจิกฺขนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๒๔.

‘‘อฺเ พหู อิสโย สาธุรูปา, ราชีสโย อนุมคฺเค วสนฺติ;

เตเยว ปุจฺเฉสิ มมสฺสมํ ตํ, เต ตํ นยิสฺสนฺติ มมํ สกาเส’’ติ.

ตตฺถ ราชีสโยติ, สมฺม, มยา น สกฺกา จิรายิตุํ, อฺเ ปน สาธุสภาวา ราชิสโย จ พฺราหฺมณิสโย จ อนุมคฺเค มม อสฺสมมคฺคปสฺเส วสนฺติ, อหํ เตสํ อาจิกฺขิตฺวา คมิสฺสามิ, ตฺวํ เต ปุจฺเฉยฺยาสิ, เต ตํ มม สนฺติกํ นยิสฺสนฺตีติ.

เอวํ สา อตฺตโน ปลายนูปายํ กตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ตํ โอโลเกนฺตเมว ‘‘ตฺวํ นิวตฺตา’’ติ วตฺวา อาคมนมคฺเคเนว อมจฺจานํ สนฺติกํ อคมาสิ. เต ตํ คเหตฺวา ขนฺธาวารํ คนฺตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปาปุณึสุ. สกฺโกปิ ตํ ทิวสเมว ตุสฺสิตฺวา สกลรฏฺเ เทวํ วสฺสาเปสิ, ตโต สุภิกฺขํ ชนปทํ อโหสิ. อิสิสิงฺคตาปสสฺสปิ ตาย ปกฺกนฺตมตฺตาย เอว กาเย ฑาโห อุปฺปชฺชิ. โส กมฺปนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา วากจีรํ ปารุปิตฺวา โสจนฺโต นิปชฺชิ. โพธิสตฺโต สายํ อาคนฺตฺวา ปุตฺตํ อปสฺสนฺโต ‘‘กหํ นุ โข คโต’’ติ กาชํ โอตาเรตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, กึ กโรสี’’ติ ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๕.

‘‘น เต กฏฺานิ ภินฺนานิ, น เต อุทกมาภตํ;

อคฺคีปิ เต น หาปิโต, กึ นุ มนฺโทว ฌายสิ.

๒๖.

‘‘ภินฺนานิ กฏฺานิ หุโต จ อคฺคิ, ตปนีปิ เต สมิตา พฺรหฺมจารี;

ปีฺจ มยฺหํ อุทกฺจ โหติ, รมสิ ตุวํ พฺรหฺมภูโต ปุรตฺถา.

๒๗.

‘‘อภินฺนกฏฺโสิ อนาภโตทโก, อหาปิตคฺคีสิ อสิทฺธโภชโน;

น เม ตุวํ อาลปสี มมชฺช, นฏฺํ นุ กึ เจตสิกฺจ ทุกฺข’’นฺติ.

ตตฺถ ภินฺนานีติ อรฺโต อุทฺธฏานิ. น หาปิโตติ น ชลิโต. ภินฺนานีติ ปุพฺเพ ตยา มมาคมนเวลาย กฏฺานิ อุทฺธฏาเนว โหนฺติ. หุโต จ อคฺคีติ อคฺคิ จ หุโต โหติ. ตปนีติ วิสิพฺพนอคฺคิสงฺขาตา ตปนีปิ เต สมิตาว สยเมว สํวิทหิตาว โหติ. ปีนฺติ มม อาสนตฺถาย ปีฺจ ปฺตฺตเมว โหติ. อุทกฺจาติ ปาทโธวนอุทกมฺปิ อุปฏฺาปิตเมว โหติ. พฺรหฺมภูโตติ ตุวมฺปิ อิโต ปุรตฺถา เสฏฺภูโต อิมสฺมึ อสฺสเม อภิรมสิ. อภินฺนกฏฺโสีติ โส ทานิ อชฺช อนุทฺธฏกฏฺโสิ. อสิทฺธโภชโนติ น เต กิฺจิ อมฺหากํ กนฺทมูลํ วา ปณฺณํ วา เสทิตํ. มมชฺชาติ, มม ปุตฺต, อชฺช น เม ตฺวํ อาลปสิ. นฏฺํ นุ กินฺติ กึ นุ เต นฏฺํ วา, กึ เจตสิกํ วา ทุกฺขํ, อกฺขาหิ เม นิปนฺนการณนฺติ ปุจฺฉติ.

โส ปิตุ วจนํ สุตฺวา ตํ การณํ กเถนฺโต อาห –

๒๘.

‘‘อิธาคมา ชฏิโล พฺรหฺมจารี, สุทสฺสเนยฺโย สุตนู วิเนติ;

เนวาติทีโฆ น ปนาติรสฺโส, สุกณฺหกณฺหจฺฉทเนหิ โภโต.

๒๙.

‘‘อมสฺสุชาโต อปุราณวณฺณี, อาธารรูปฺจ ปนสฺส กณฺเ;

ทฺเว ยมา คณฺฑา อุเร สุชาตา, สุวณฺณตินฺทุกนิภา ปภสฺสรา.

๓๐.

‘‘มุขฺจ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยํ, กณฺเณสุ ลมฺพนฺติ จ กุฺจิตคฺคา;

เต โชตเร จรโต มาณวสฺส, สุตฺตฺจ ยํ สํยมนํ ชฏานํ.

๓๑.

‘‘อฺา จ ตสฺส สํยมานิ จตสฺโส, นีลา ปีตา โลหิติกา จ เสตา;

ตา ปึสเร จรโต มาณวสฺส, ติริฏิสงฺฆาริว ปาวุสมฺหิ.

๓๒.

‘‘น มิขลํ มุฺชมยํ ธาเรติ, น สนฺถเร โน ปน ปพฺพชสฺส;

ตา โชตเร ชฆนนฺตเร วิลคฺคา, สเตรตา วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๓๓.

‘‘อขีลกานิ จ อวณฺฏกานิ, เหฏฺา นภฺยา กฏิสโมหิตานิ;

อฆฏฺฏิตา นิจฺจกีฬํ กโรนฺติ, หํ ตาต กึรุกฺขผลานิ ตานิ.

๓๔.

‘‘ชฏา จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยา, ปโรสตํ เวลฺลิตคฺคา สุคนฺธา;

ทฺเวธา สิโร สาธุ วิภตฺตรูโป, อโห นุ โข มยฺห ตถา ชฏาสฺสุ.

๓๕.

‘‘ยทา จ โส ปกิรติ ตา ชฏาโย, วณฺเณน คนฺเธน อุเปตรูปา;

นีลุปฺปลํ วาตสเมริตํว, ตเถว สํวาติ ปนสฺสโม อยํ.

๓๖.

‘‘ปงฺโก จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺโย, เนตาทิโส ยาทิโส มยฺหํ กาเย;

โส วายติ เอริโต มาลุเตน, วนํ ยถา อคฺคคิมฺเห สุผุลฺลํ.

๓๗.

‘‘นิหนฺติ โส รุกฺขผลํ ปถพฺยา, สุจิตฺตรูปํ รุจิรํ ทสฺสเนยฺยํ;

ขิตฺตฺจ ตสฺส ปุนเรหิ หตฺถํ, หํ ตาต กึรุกฺขผลํ นุ โข ตํ.

๓๘.

‘‘ทนฺตา จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยา, สุทฺธา สมา สงฺขวรูปปนฺนา;

มโน ปสาเทนฺติ วิวริยมานา, น หิ นูน โส สากมขาทิ เตหิ.

๓๙.

‘‘อกกฺกสํ อคฺคฬิตํ มุหุํ มุทุํ, อุชุํ อนุทฺธตํ อจปลมสฺส ภาสิตํ;

รุทํ มนุฺํ กรวีกสุสฺสรํ, หทยงฺคมํ รฺชยเตว เม มโน.

๔๐.

‘‘พินฺทุสฺสโร นาติวิสฏฺวากฺโย, น นูน สชฺฌายมติปฺปยุตฺโต;

อิจฺฉามิ โภ ตํ ปุนเทว ทฏฺุํ, มิตฺโต หิ เม มาณโวหุ ปุรตฺถา.

๔๑.

‘‘สุสนฺธิ สพฺพตฺถ วิมฏฺิมํ วณํ, ปุถู สุชาตํ ขรปตฺตสนฺนิภํ;

เตเนว มํ อุตฺตริยาน มาณโว, วิวริตํ อูรุํ ชฆเนน ปิฬยิ.

๔๒.

‘‘ตปนฺติ อาภนฺติ วิโรจเร จ, สเตรตา วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข;

พาหา มุทู อฺชนโลมสาทิสา, วิจิตฺรวฏฺฏงฺคุลิกาสฺส โสภเร.

๔๓.

‘‘อกกฺกสงฺโค น จ ทีฆโลโม, นขาสฺส ทีฆา อปิ โลหิตคฺคา;

มุทูหิ พาหาหิ ปลิสฺสชนฺโต, กลฺยาณรูโป รมยํ อุปฏฺหิ.

๔๔.

‘‘ทุมสฺส ตูลูปนิภา ปภสฺสรา, สุวณฺณกมฺพุตลวฏฺฏสุจฺฉวิ;

หตฺถา มุทู เตหิ มํ สมฺผุสิตฺวา, อิโต คโต เตน มํ ทหนฺติ ตาต.

๔๕.

‘‘น นูน โส ขาริวิธํ อหาสิ, น นูน โส กฏฺานิ สยํ อภฺชิ;

น นูน โส หนฺติ ทุเม กุาริยา, น หิสฺส หตฺเถสุ ขิลานิ อตฺถิ.

๔๖.

‘‘อจฺโฉ จ โข ตสฺส วณํ อกาสิ, โส มํพฺรวิ ‘สุขิตํ มํ กโรหิ’;

ตาหํ กรึ เตน มมาสิ โสขฺยํ, โส จพฺรวิ ‘สุขิโตสฺมี’ติ พฺรหฺเม.

๔๗.

‘‘อยฺจ เต มาลุวปณฺณสนฺถตา, วิกิณฺณรูปาว มยา จ เตน จ;

กิลนฺตรูปา อุทเก รมิตฺวา, ปุนปฺปุนํ ปณฺณกุฏึ วชาม.

๔๘.

‘‘น มชฺช มนฺตา ปฏิภนฺติ ตาต, น อคฺคิหุตฺตํ นปิ ยฺตนฺตํ;

น จาปิ เต มูลผลานิ ภุฺเช, ยาว น ปสฺสามิ ตํ พฺรหฺมจารึ.

๔๙.

‘‘อทฺธา ปชานาสิ ตุวมฺปิ ตาต, ยสฺสํ ทิสํ วสเต พฺรหฺมจารี;

ตํ มํ ทิสํ ปาปย ตาต ขิปฺปํ, มา เต อหํ อมริมสฺสมมฺหิ.

๕๐.

‘‘วิจิตฺรผุลฺลฺหิ วนํ สุตํ มยา, ทิชาภิฆุฏฺํ ทิชสงฺฆเสวิตํ;

ตํ มํ วนํ ปาปย ตาต ขิปฺปํ, ปุรา เต ปาณํ วิชหามิ อสฺสเม’’ติ.

ตตฺถ อิธาคมาติ, ตาต, อิมํ อสฺสมปทํ อาคโต. สุทสฺสเนยฺโยติ สุฏฺุ ทสฺสเนยฺโย. สุตนูติ สุฏฺุ ตนุโก นาติกิโส นาติถูโล. วิเนตีติ อตฺตโน สรีรปฺปภาย อสฺสมปทํ เอโกภาสํ วิย วิเนติ ปูเรติ. สุกณฺหกณฺหจฺฉทเนหิ โภโตติ, ตาต, ตสฺส โภโต สุกณฺเหหิ กณฺหจฺฉทเนหิ ภมรวณฺเณหิ เกเสหิ สุกณฺหสีสํ สุมชฺชิตมณิมยํ วิย ขายติ. อมสฺสูชาโตติ น ตาวสฺส มสฺสุ ชายติ, ตรุโณเยว. อปุราณวณฺณีติ อจิรปพฺพชิโต. อาธารรูปฺจ ปนสฺส กณฺเติ กณฺเ จ ปนสฺส อมฺหากํ ภิกฺขาภาชนฏฺปนํ ปตฺตาธารสทิสํ ปิฬนฺธนํ อตฺถีติ มุตฺตาหารํ สนฺธาย วทติ. คณฺฑาติ ถเน สนฺธายาห. อุเร สุชาตาติ อุรมฺหิ สุชาตา. ‘‘อุรโต’’ติปิ ปาโ. ปภสฺสราติ ปภาสมฺปนฺนา. ‘‘ปภาสเร’’ติปิ ปาโ, โอภาสนฺตีติ อตฺโถ.

ภุสทสฺสเนยฺยนฺติ อติวิย ทสฺสนียํ. กุฺจิตคฺคาติ สีหกุณฺฑลํ สนฺธาย วทติ. สุตฺตฺจาติ ยํ ตสฺส ชฏาพนฺธนสุตฺตํ, ตมฺปิ โชตติ ปภํ มุฺจติ. ‘‘สํยมานิ จตสฺโส’’ติ อิมินา มณิสุวณฺณปวาฬรชตมยานิ จตฺตาริ ปิฬนฺธนานิ ทสฺเสติ. ตา ปึสเรติ ตานิ ปิฬนฺธนานิ ปาวุสมฺหิ ปวุฏฺเ เทเว ติริฏิสงฺฆา วิย วิรวนฺติ. มิขลนฺติ เมขลํ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ นิวตฺถกฺจนจีรกํ สนฺธายาห. น สนฺถเรติ น วาเก. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, ยถา มยํ ติณมยํ วา วากมยํ วา จีรกํ ธาเรม, น ตถา โส, โส ปน สุวณฺณจีรกํ ธาเรตีติ. อขีลกานีติ อตจานิ นิปฺปณฺณานิ. กฏิสโมหิตานีติ กฏิยํ พทฺธานิ. นิจฺจกีฬํ กโรนฺตีติ อฆฏฺฏิตานิปิ นิจฺจกาลํ กีฬายนฺติ. หํ, ตาตาติ หมฺโภ, ตาต. กึ รุกฺขผลานิ ตานีติ ตานิ ตสฺส มาณวสฺส สุตฺตารุฬฺหานิ กฏิยํ พทฺธานิ กตรรุกฺขผลานิ นามาติ มณิสงฺฆาฏึ สนฺธายาห.

ชฏาติ ชฏามณฺฑลากาเรน พทฺธรตนมิสฺสกเกสวฏฺฏิโย สนฺธายาห. เวลฺลิตคฺคาติ กุฺจิตคฺคา. ทฺเวธาสิโรติ ตสฺส สีสํ ทฺเวธา กตฺวา พทฺธานํ ชฏานํ วเสน สุฏฺุ วิภตฺตรูปํ. ตถาติ ยถา ตสฺส มาณวสฺส ชฏา, ตถา ตุมฺเหหิ มม น พทฺธา, อโห วต มมปิ ตถา อสฺสูติ ปตฺเถนฺโต อาห. อุเปตรูปาติ อุเปตสภาวา. วาตสเมริตํวาติ ยถา นาม นีลุปฺปลํ วาเตน สมีริตํ, ตเถว อยํ อิมสฺมึ วนสณฺเฑ อสฺสโม สํวาติ. เนตาทิโสติ, ตาต, ยาทิโส มม กาเย ปงฺโก, เนตาทิโส ตสฺส สรีเร. โส หิ ทสฺสนีโย เจว สุคนฺโธ จ. อคฺคคิมฺเหติ วสนฺตสมเย.

นิหนฺตีติ ปหรติ. กึ รุกฺขผลํ นุ โข ตนฺติ กตรรุกฺขสฺส นุ โข ตํ ผลํ. สงฺขวรูปปนฺนาติ สุโธตสงฺขปฏิภาคา. น หิ นูน โส สากมขาทิ เตหีติ น นูน โส มาณโว มยํ วิย เตหิ ทนฺเตหิ รุกฺขปณฺณานิ เจว มูลผลาผลานิ จ ขาทิ. อมฺหากฺหิ ตานิ ขาทนฺตานํ สพลา ปณฺณวณฺณา ทนฺตาติ ทีเปติ.

อกกฺกสนฺติ, ตาต, ตสฺส ภาสิตํ อผรุสํ อคฬิตํ, ปุนปฺปุนํ วทนฺตสฺสาปิ มธุรตาย มุหุํ มุทุํ, อปมุสฺสตาย อุชุํ, อวิกฺขิตฺตตาย อนุทฺธฏํ, ปติฏฺิตตาย อจปลํ. รุทนฺติ ภาสมานสฺส สรสงฺขาตํ รุทมฺปิ มโนหรํ กรวีกสฺส วิย สุสฺสรํ สุมธุรํ. รฺชยเตวาติ มม มโน รฺชติเยว. พินฺทุสฺสโรติ ปิณฺฑิตสฺสโร. มาณโวหูติ โส หิ มาณโว ปุรตฺถา มม มิตฺโต อหุ.

สุสนฺธิ สพฺพตฺถ วิมฏฺิมํ วณนฺติ ตาต ตสฺส มาณวสฺส อูรูนํ อนฺตเร เอกํ วณํ อตฺถิ, ตํ สุสนฺธิ สุผุสิตํ สิปฺปิปุฏมุขสทิสํ, สพฺพตฺถ วิมฏฺํ สมนฺตโต มฏฺํ. ปุถูติ มหนฺตํ. สุชาตนฺติ สุสณฺิตํ. ขรปตฺตสนฺนิภนฺติ สุปุปฺผิตปทุมมกุฬสนฺนิภํ. อุตฺตริยานาติ อุตฺตริตฺวา อวตฺถริตฺวา. ปิฬยีติ ปีเฬสิ. ตปนฺตีติ ตสฺส มาณวสฺส สรีรโต นิจฺฉรนฺตา สุวณฺณวณฺณรํสิโย ชลนฺติ โอภาสนฺติ วิโรจนฺติ จ. พาหาติ พาหาปิสฺส มุทู. อฺชนโลมสาทิสาติ อฺชนสทิเสหิ โลเมหิ สมนฺนาคตา. วิจิตฺรวฏฺฏงฺคุลิกาสฺส โสภเรติ หตฺถาปิสฺส วรลกฺขณวิจิตฺราหิ ปวาลงฺกุรสทิสาหิ วฏฺฏงฺคุลีหิ สมนฺนาคตา โสภนฺติ.

อกกฺกสงฺโคติ กจฺฉุปีฬกาทิรหิตองฺคปจฺจงฺโค. รมยํ อุปฏฺหีติ มํ รมยนฺโต อุปฏฺหิ ปริจริ. ตูลูปนิภาติ มุทุภาวสฺส อุปมา. สุวณฺณกมฺพุตลวฏฺฏสุจฺฉวีติ สุวณฺณมยํ อาทาสตลํ วิย วฏฺฏา จ สุจฺฉวิ จ, ปริมณฺฑลตลา เจว สุนฺทรจฺฉวิ จาติ อตฺโถ. สมฺผุสิตฺวาติ สุฏฺุ ผุสิตฺวา อตฺตโน หตฺถสมฺผสฺสํ มม สรีเร ผราเปตฺวา. อิโต คโตติ มม โอโลเกนฺตสฺเสว อิโต คโต. เตน มํ ทหนฺตีติ เตน ตสฺส หตฺถสมฺผสฺเสน อิทานิ มํ ทหนฺติ. ตถา หิ ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย มม สรีเร ฑาโห อุฏฺิโต, เตนมฺหิ โทมนสฺสปฺปตฺโต นิปนฺโนติ.

นูน โส ขาริวิธนฺติ, ตาต, นูน โส มาณโว น ขาริภารํ อุกฺขิปิตฺวา วิจริ. ขิลานีติ กิลานิ, ‘‘อยเมว วา ปาโ. โสขฺยนฺติ สุขํ. มาลุวปณฺณสนฺถตา วิกิณฺณรูปาวาติ, ตาต, อยํ ตว มาลุวปณฺณสนฺถตา อชฺช มยา จ เตน จ อฺมฺํ ปรามสนาลิงฺคนวเสน ปริวตฺตนฺเตหิ วิกิณฺณา วิย อากุลพฺยากุลา ชาตา. ปุนปฺปุนํ ปณฺณกุฏึ วชามาติ, ตาต, อหฺจ โส จ อภิรมิตฺวา กิลนฺตรูปา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา อุทกํ ปวิสิตฺวา รมิตฺวา วิคตทรถา ปุนปฺปุนํ อิมเมว กุฏึ ปวิสามาติ วทติ.

น มชฺช มนฺตาติ อชฺช มม ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย เนว มนฺตา ปฏิภนฺติ น อุปฏฺหนฺติ น รุจฺจนฺติ. น อคฺคิหุตฺตํ นปิ ยฺตนฺตนฺติ มหาพฺรหฺมุโน อาราธนตฺถาย กตฺตพฺพโหมวิธูปนาทิยฺกิริยาปิ เม น ปฏิภาติ น อุปฏฺาติ น รุจฺจติ. น จาปิ เตติ ตยา อาภตมูลผลาผลานิปิ น ภุฺชามิ. ยสฺสํ ทิสนฺติ ยสฺสํ ทิสายํ. วนนฺติ ตสฺส มาณวสฺส อสฺสมํ ปริวาเรตฺวา ิตวนนฺติ.

ตสฺเสวํ วิลปนฺตสฺส ตํ วิลาปํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เอกาย อิตฺถิยา อิมสฺส สีลํ ภินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตํ โอวทนฺโต ฉ คาถาโย อภาสิ –

๕๑.

‘‘อิมสฺมาหํ โชติรเส วนมฺหิ, คนฺธพฺพเทวจฺฉรสงฺฆเสวิเต;

อิสีนมาวาเส สนนฺตนมฺหิ, เนตาทิสํ อรตึ ปาปุเณถ.

๕๒.

‘‘ภวนฺติ มิตฺตานิ อโถ น โหนฺติ, าตีสุ มิตฺเตสุ กโรนฺติ เปมํ;

อยฺจ ชมฺโม กิสฺส วา นิวิฏฺโ, โย เนว ชานาติ ‘กุโตมฺหิ อาคโต’.

๕๓.

‘‘สํวาเสน หิ มิตฺตานิ, สนฺธียนฺติ ปุนปฺปุนํ;

สฺเวว มิตฺโต อสํคนฺตุ, อสํวาเสน ชีรติ.

๕๔.

‘‘สเจ ตุวํ ทกฺขสิ พฺรหฺมจารึ, สเจ ตุวํ สลฺลเป พฺรหฺมจารินา;

สมฺปนฺนสสฺสํว มโหทเกน, ตโปคุณํ ขิปฺปมิมํ ปหิสฺสสิ.

๕๕.

‘‘ปุนปิ เจ ทกฺขสิ พฺรหฺมจารึ, ปุนปิ เจ สลฺลเป พฺรหฺมจารินา;

สมฺปนฺนสสฺสํว มโหทเกน, อุสฺมาคตํ ขิปฺปมิมํ ปหิสฺสสิ.

๕๖.

‘‘ภูตานิ เหตานิ จรนฺติ ตาต, วิรูปรูเปน มนุสฺสโลเก;

น ตานิ เสเวถ นโร สปฺโ, อาสชฺช นํ นสฺสติ พฺรหฺมจารี’’ติ.

ตตฺถ อิมสฺมาติ อิมสฺมึ. นฺติ นิปาตมตฺตํ. โชติรเสติ หูยมานสฺส โชติโน รํสิโอภาสิเต. สนนฺตนมฺหีติ โปราณเก. ปาปุเณถาติ ปาปุเณยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, เอวรูเป วเน วสนฺโต ยํ อรตึ ตฺวํ ปตฺโต, เอตาทิสํ น ปาปุเณยฺย ปณฺฑิโต กุลปุตฺโต, ปตฺตุํ นารหตีติ อตฺโถ.

‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมํ คาถํ มหาสตฺโต อนฺโตคตเมว ภาสติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – โลเก สตฺตานํ มิตฺตานิ นาม โหนฺติปิ น โหนฺติปิ ตตฺถ เยสํ โหนฺติ, เต อตฺตโน าตีสุ จ มิตฺเตสุ จ เปมํ กโรนฺติ. อยฺจ ชมฺโมติ มิคสิงฺโค ลามโก. กิสฺส วา นิวิฏฺโติ เกน นาม การเณน ตสฺมึ มาตุคาเม มิตฺตสฺาย นิวิฏฺโ, โส มิคิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา อรฺเ วฑฺฒิตตฺตา ‘‘กุโตมฺหิ อาคโต’’ติ อตฺตโน อาคตฏฺานมตฺตมฺปิ น ชานาติ, ปเคว าติมิตฺเตติ.

ปุนปฺปุนนฺติ, ตาต, มิตฺตานิ นาม ปุนปฺปุนํ สํวาเสน สํเสวเนน สนฺธียนฺติ ฆฏียนฺติ. สฺเวว มิตฺโตติ โส เอว มิตฺโต อสํคนฺตุ อสมาคจฺฉนฺตสฺส ปุริสสฺส เตน อสมาคมสงฺขาเตน อสํวาเสน ชีรติ วินสฺสติ. สเจติ ตสฺมา, ตาต, สเจ ตฺวํ ปุนปิ ตํ ทกฺขสิ, เตน วา สลฺลปิสฺสสิ, อถ ยถา นาม นิปฺผนฺนสสฺสํ มโหเฆน หรียติ, เอวํ อิมํ อตฺตโน ตโปคุณํ ปหิสฺสสิ หาเรสฺสสีติ อตฺโถ. อุสฺมาคตนฺติ สมณเตชํ.

วิรูปรูเปนาติ วิวิธรูเปน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, มนุสฺสโลกสฺมิฺหิ เอตานิ ยกฺขินิสงฺขาตานิ ภูตานิ วิวิธรูปปฏิจฺฉนฺเนน อตฺตโน รูเปน อตฺตโน วสํ คเต ขาทิตุํ จรนฺติ, ตานิ สปฺโ นโร น เสเวถ. ตาทิสฺหิ ภูตํ อาสชฺช นํ ปตฺวา นสฺสติ พฺรหฺมจารี, ทิฏฺโสิ ตาย ยกฺขินิยา น ขาทิโตติ ปุตฺตํ โอวทิ.

โส ปิตุ กถํ สุตฺวา ‘‘ยกฺขินี กิร สา’’ติ ภีโต จิตฺตํ นิวตฺเตตฺวา ‘‘ตาต, เอตฺโต น คมิสฺสามิ, ขมถ เม’’ติ ขมาเปสิ. โสปิ นํ สมสฺสาเสตฺวา ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาณว, เมตฺตํ ภาเวหิ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺข’’นฺติ พฺรหฺมวิหารภาวนํ อาจิกฺขิ. โส ตถา ปฏิปชฺชิตฺวา ปุน ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา นิฬินิกา ปุราณทุติยิกา อโหสิ, อิสิสิงฺโค อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

นิฬินิกาชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๒๗] ๒. อุมฺมาทนฺตีชาตกวณฺณนา

นิเวสนํ กสฺสนุทํ สุนนฺทาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิเรกทิวสํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ อุตฺตมรูปธรํ อิตฺถึ โอโลเกตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา จิตฺตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต วิหารเมว อาคนฺตฺวา ตโต ปฏฺาย สลฺลวิทฺโธ วิย ราคาตุโร ภนฺตมิคปฏิภาโค กิโส ธมนีสนฺถตคตฺโต อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต อนภิรโต เอกิริยาปเถปิ จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺโต อาจริยวตฺตาทีนิ ปหาย อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานานุโยครหิโต วิหาสิ. โส สหายภิกฺขูหิ ‘‘ปุพฺเพ ตฺวํ, อาวุโส, สนฺตินฺทฺริโย วิปฺปสนฺนมุขวณฺโณ, อิทานิ โน ตถา, กึ นุ โข การณ’’นฺติ ปุฏฺโ, ‘‘อาวุโส, อนภิรโตมฺหี’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘อภิรมาวุโส, สาสเน, พุทฺธุปฺปาโท นาม ทุลฺลโภ, ตถา สทฺธมฺมสฺสวนํ มนุสฺสปฏิลาโภ จ, โส ตฺวํ มนุสฺสปฏิลาภํ ปฏิลภิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ ปตฺถยมาโน อสฺสุมุขํ าติชนํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิตฺวา กึการณา กิเลสวสํ ยาสิ, กิเลสา นาเมเต คณฺฑุปฺปาทกปาณกํ อุปาทาย สพฺพพาลชนสาธารณา, เย เตสํ วตฺถุภูตา, เตปิ อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อฏฺิกงฺกลูปมา กามา, มํสเปสูปมา กามา, ติณุกฺกูปมา กามา, องฺคารกาสูปมา กามา, สุปินกูปมา กามา, ยาจิตกูปมา กามา, รุกฺขผลูปมา กามา, อสิสูนูปมา กามา, สตฺติสูลูปมา กามา, สปฺปสิรูปมา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา กามา, ตฺวํ นาม เอวรูเป พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา เอวํ อนตฺถการกานํ กิเลสานํ วสํ คโตสี’’ติ โอวทิตฺวา อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺตา สตฺถุ สนฺติกํ ธมฺมสภํ เนตฺวา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, อนิจฺฉมานกํ ภิกฺขุํ อานยิตฺถา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภนฺเต, อยํ กิร ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโต’’ติ อาหํสุ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา รชฺชํ อนุสาสนฺตาปิ กิเลเส อุปฺปนฺเน ตสฺส วสํ อคนฺตฺวา จิตฺตํ นิวาเรตฺวา น อยุตฺตกํ กรึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต สิวิรฏฺเ อริฏฺปุรนคเร สิวิ นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ, ‘‘สิวิกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. เสนาปติสฺสปิ ปุตฺโต ชายิ, ‘‘อภิปารโก’’ติสฺส นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ สหายา หุตฺวา อภิวฑฺฒนฺตา โสฬสวสฺสิกา หุตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคมึสุ. ราชา ปุตฺตสฺส รชฺชํ อทาสิ. โสปิ อภิปารกํ เสนาปติฏฺาเน เปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺมึเยว นคเร ติริฏิวจฺฉสฺส นาม อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน ธีตา นิพฺพตฺติ อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตา, ตสฺสา นามคฺคหณทิวเส ‘‘อุมฺมาทนฺตี’’ติ นามํ กรึสุ. สา โสฬสวสฺสิกกาเล อติกฺกนฺตมานุสวณฺณา เทวจฺฉรา วิย อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา อโหสิ. เย เย ปุถุชฺชนา ตํ ปสฺสนฺติ, เต เต สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตา สุราปานมทมตฺตา วิย กิเลสมเทน มตฺตา หุตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ สมตฺถา นาม นาเหสุํ.

อถสฺสา ปิตา ติริฏิวจฺโฉ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, มม เคเห อิตฺถิรตนํ อุปฺปนฺนํ, รฺโว อนุจฺฉวิกํ, ลกฺขณปาเก พฺราหฺมเณ เปเสตฺวา ตํ วีมํสาเปตฺวา ยถารุจิ กโรหี’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา พฺราหฺมเณ เปเสสิ. เต เสฏฺิเคหํ คนฺตฺวา กตสกฺการสมฺมานา ปายาสํ ปริภุฺชึสุ. ตสฺมึ ขเณ อุมฺมาทนฺตี สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. เต ตํ ทิสฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา กิเลสมทมตฺตา หุตฺวา อตฺตโน วิปฺปกตโภชนภาวํ น ชานึสุ. เอกจฺเจ อาโลปํ คเหตฺวา ‘‘ภุฺชิสฺสามา’’ติ สฺาย สีเส เปสุํ, เอกจฺเจ อุปกจฺฉนฺตเร ขิปึสุ, เอกจฺเจ ภิตฺตึ ปหรึสุ, สพฺเพว อุมฺมตฺตกา อเหสุํ. สา เต ทิสฺวา ‘‘อิเม กิร มม ลกฺขณํ วีมํสิสฺสนฺติ, คีวายํ เน คเหตฺวา นีหรถา’’ติ นีหราเปสิ. เต มงฺกุภูตา ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา อุมฺมาทนฺติยา กุทฺธา ‘‘เทว, สา อิตฺถี กาฬกณฺณี, น ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกา’’ติ วทึสุ. ราชา ‘‘กาฬกณฺณี กิรา’’ติ น ตํ อาณาเปสิ. สา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร กาฬกณฺณีติ รฺา น คหิตา, กาฬกณฺณิโย นาม น เอวรูปา โหนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘โหตุ, สเจ ปน ตํ ราชานํ ปสฺสิสฺสามิ, ชานิสฺสามี’’ติ ตสฺมึ อาฆาตํ พนฺธิ. อถ นํ ปิตา อภิปารกสฺส อทาสิ, สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา.

กสฺส ปน กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน สา เอวํ อภิรูปา อโหสีติ? รตฺตวตฺถทานสฺส นิสฺสนฺเทนาติ. สา กิร อตีเต พาราณสิยํ ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุสฺสวทิวเส ปุฺสมฺปนฺนา อิตฺถิโย กุสุมฺภรตฺตวตฺถํ นิวาเสตฺวา อลงฺกตา กีฬนฺติโย ทิสฺวา ตาทิสํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา กีฬิตุกามา หุตฺวา มาตาปิตูนํ อาโรเจตฺวา เตหิ, ‘‘อมฺม, มยํ ทลิทฺทา, กุโต โน เอวรูปํ วตฺถ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มํ เอกสฺมึ อฑฺฒกุเล ภตึ กาตุํ อนุชานาถ, เต มม คุณํ ตฺวา ทสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา เตหิ อนุฺาตา เอกํ กุลํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กุสุมฺภรตฺตวตฺเถน ภตึ กโรมี’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘ตีณิ สํวจฺฉรานิ กมฺเม กเต ตว คุณํ ตฺวา ทสฺสามา’’ติ วทึสุ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา กมฺมํ ปฏิปชฺชิ. เต ตสฺสา คุณํ ตฺวา อปริปุณฺเณสุเยว ตีสุ สํวจฺฉเรสุ ตสฺสา ฆนกุสุมฺภรตฺตวตฺเถน สทฺธึ อฺมฺปิ วตฺถํ ทตฺวา ‘‘ตว สหายิกาหิ สทฺธึ คนฺตฺวา นฺหตฺวา นิวาเสหี’’ติ ตํ เปสยึสุ. สา สหายิกา อาทาย คนฺตฺวา รตฺตวตฺถํ นทีตีเร เปตฺวา นฺหายิ.

ตสฺมึ ขเณ เอโก กสฺสปทสพลสฺส สาวโก อจฺฉินฺนจีวโร สาขาภงฺคํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ ตํ ปเทสํ ปาปุณิ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ภทนฺโต อจฺฉินฺนจีวโร ภวิสฺสติ, ปุพฺเพปิ อทินฺนภาเวน เม นิวาสนํ ทุลฺลภํ ชาต’’นฺติ ตํ วตฺถํ ทฺวิธา ผาเลตฺวา ‘‘เอกํ โกฏฺาสํ อยฺยสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุตฺตริตฺวา อตฺตโน นิวาสนํ นิวาเสตฺวา ‘‘ติฏฺถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา รตฺตวตฺถํ มชฺเฌ ผาเลตฺวา ตสฺเสกํ โกฏฺาสํ อทาสิ. โส เอกมนฺเต ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา สาขาภงฺคํ ฉฑฺเฑตฺวา ตสฺเสกํ กณฺณํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา นิกฺขมิ. อถสฺส วตฺโถภาเสน สกลสรีรํ ตรุณสูริโย วิย เอโกภาสํ อโหสิ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ อยฺโย ปมํ น โสภติ, อิทานิ ตรุณสูริโย วิย วิโรจติ, อิทมฺปิ เอตสฺเสว ทสฺสามี’’ติ ทุติยมฺปิ โกฏฺาสํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อหํ ภเว ภเว วิจรนฺตี อุตฺตมรูปธรา ภเวยฺยํ, มํ ทิสฺวา โกจิ ปุริโส สกภาเวน สณฺาตุํ มา อสกฺขิ, มยา อภิรูปตรา นาม อฺา มา โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. เถโรปิ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ.

สา เทวโลเก สํสรนฺตี ตสฺมึ กาเล อริฏฺปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตถา อภิรูปา อโหสิ. อถ ตสฺมึ นคเร กตฺติกฉณํ โฆสยึสุ, กตฺติกปุณฺณมายํ นครํ สชฺชยึสุ. อภิปารโก อตฺตโน อารกฺขฏฺานํ คจฺฉนฺโต ตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, อุมฺมาทนฺติ อชฺช กตฺติกรตฺติวาโร ฉโณ, ราชา นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ปมํ อิมํ เคหทฺวารํ อาคมิสฺสติ, มา โข ตสฺส อตฺตานํ ทสฺเสสิ, โสปิ ตํ ทิสฺวา สตึ อุปฏฺาเปตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ อาห. สา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, สามิ, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺมึ คเต ทาสึ อาณาเปสิ ‘‘รฺโ อิมํ เคหทฺวารํ อาคตกาเล มยฺหํ อาโรเจยฺยาสี’’ติ. อถ สูริเย อตฺถงฺคเต อุคฺคเห ปุณฺณจนฺเท เทวนคเร วิย นคเร อลงฺกเต สพฺพทิสาสุ ทีเปสุ ชลิเตสุ ราชา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อาชฺรถวรคโต อมจฺจคณปริวุโต มหนฺเตน ยเสน นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ปมเมว อภิปารกสฺส เคหทฺวารํ อคมาสิ. ตํ ปน เคหํ มโนสิลาวณฺณปาการปริกฺขิตฺตํ อลงฺกตทฺวารฏฺฏาลกํ โสภคฺคปฺปตฺตํ ปาสาทิกํ. ตสฺมึ ขเณ ทาสี อุมฺมาทนฺติยา อาโรเจสิ. สา ปุปฺผสมุคฺคํ คาหาเปตฺวา กินฺนริลีฬาย วาตปานํ นิสฺสาย ิตา รฺโ ปุปฺผานิ ขิปิ. โส ตํ อุลฺโลเกตฺวา กิเลสมทมตฺโต สตึ อุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อภิปารกสฺเสตํ เคห’’นฺติ สฺชานิตุมฺปิ นาสกฺขิ, อถ สารถึ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๕๗.

‘‘นิเวสนํ กสฺส นุทํ สุนนฺท, ปากาเรน ปณฺฑุมเยน คุตฺตํ;

กา ทิสฺสติ อคฺคิสิขาว ทูเร, เวหายสํ ปพฺพตคฺเคว อจฺจิ.

๕๘.

‘‘ธีตา นฺวยํ กสฺส สุนนฺท โหติ, สุณิสา นฺวยํ กสฺส อโถปิ ภริยา;

อกฺขาหิ เม ขิปฺปมิเธว ปุฏฺโ, อวาวฏา ยทิ วา อตฺถิ ภตฺตา’’ติ.

ตตฺถ กสฺส นุทนฺติ กสฺส นุ อิทํ. ปณฺฑุมเยนาติ รตฺติฏฺกมเยน. ทิสฺสตีติ วาตปาเน ิตา ปฺายติ. อจฺจีติ อนลชาลกฺขนฺโธ. ธีตา นฺวยนฺติ ธีตา นุ อยํ. อวาวฏาติ อเปตาวรณา อปริคฺคหา. ภตฺตาติ ยทิ วา อสฺสา สามิโก อตฺถิ, เอตํ เม อกฺขาหีติ.

อถสฺส โส อาจิกฺขนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๕๙.

‘‘อหฺหิ ชานามิ ชนินฺท เอตํ, มตฺยา จ เปตฺยา จ อโถปิ อสฺสา;

ตเวว โส ปุริโส ภูมิปาล, รตฺตินฺทิวํ อปฺปมตฺโต ตวตฺเถ.

๖๐.

‘‘อิทฺโธ จ ผีโต จ สุวฑฺฒิโต จ, อมจฺโจ จ เต อฺตโร ชนินฺท;

ตสฺเสสา ภริยาภิปารกสฺส, อุมฺมาทนฺตี นามเธยฺเยน ราชา’’ติ.

ตตฺถ มตฺยา จ เปตฺยา จาติ มาติโต จ ปิติโต เจตํ ชานามิ. อโถปิ อสฺสาติ อถ สามิกมฺปิ อสฺสา ชานามีติ วทติ. อิทฺโธติ สมิทฺโธ. ผีโตติ วตฺถาลงฺกาเรหิ สุปุปฺผิโต. สุวฑฺฒิโตติ สุฏฺุ วุทฺโธ. นามเธยฺเยนาติ นาเมน. อยฺหิ โย นํ ปสฺสติ, ตํ อุมฺมาเทติ, สติมสฺส ปจฺจุปฏฺาเปตุํ น เทติ, ตสฺมา อุมฺมาทนฺตีติ วุจฺจติ.

ตํ สุตฺวา ราชา นามมสฺสา โถเมนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๑.

‘‘อมฺโภ อมฺโภ นามมิทํ อิมิสฺสา, มตฺยา จ เปตฺยา จ กตํ สุสาธุ;

ตทา หิ มยฺหํ อวโลกยนฺตี, อุมฺมตฺตกํ อุมฺมทนฺตี อกาสี’’ติ.

ตตฺถ มตฺยา จ เปตฺยา จาติ มาตรา จ ปิตรา จ. มยฺหนฺติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ. อวโลกยนฺตีติ มยา อวโลกิตา สยมฺปิ มํ อวโลกยนฺตี มํ อุมฺมตฺตกํ อกาสีติ อตฺโถ.

สา ตสฺส กมฺปิตภาวํ ตฺวา วาตปานํ ถเกตฺวา สิริคพฺภเมว อคมาสิ. รฺโปิ ตสฺสา ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย นครํ ปทกฺขิณกรเณ จิตฺตเมว นาโหสิ. โส สารถึ อามนฺเตตฺวา, ‘‘สมฺม สุนนฺท, รถํ นิวตฺเตหิ, อยํ ฉโณ อมฺหากํ นานุจฺฉวิโก, อภิปารกสฺส เสนาปติสฺเสวานุจฺฉวิโก, รชฺชมฺปิ ตสฺเสวานุจฺฉวิก’’นฺติ รถํ นิวตฺตาเปตฺวา ปาสาทํ อภิรุยฺห สิริสยเน นิปชฺชิตฺวา วิปฺปลปนฺโต อาห –

๖๒.

‘‘ยา ปุณฺณมาเส มิคมนฺทโลจนา, อุปาวิสิ ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคี;

ทฺเว ปุณฺณมาโย ตทหู อมฺหํ, ทิสฺวาน ปาราวตรตฺตวาสินึ.

๖๓.

‘‘อฬารปมฺเหหิ สุเภหิ วคฺคุภิ, ปโลภยนฺตี มํ ยทา อุทิกฺขติ;

วิชมฺภมานา หรเตว เม มโน, ชาตา วเน กิมฺปุริสีว ปพฺพเต.

๖๔.

‘‘ตทา หิ พฺรหตี สามา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

เอกจฺจวสนา นารี, มิคี ภนฺตาวุทิกฺขติ.

๖๕.

‘‘กทาสฺสุ มํ ตมฺพนขา สุโลมา, พาหา มุทู จนฺทนสารลิตฺตา;

วฏฺฏงฺคุลี สนฺนตธีรกุตฺติยา, นารี อุปฺิสฺสติ สีสโต สุภา.

๖๖.

‘‘กทาสฺสุ มํ กฺจนชาลุรจฺฉทา, ธีตา ติรีฏิสฺส วิลคฺคมชฺฌา;

มุทูหิ พาหาหิ ปลิสฺสชิสฺสติ, พฺรหาวเน ชาตทุมํว มาลุวา.

๖๗.

‘‘กทาสฺสุ ลาขารสรตฺตสุจฺฉวี, พินฺทุตฺถนี ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคี;

มุขํ มุเขน อุปนามยิสฺสติ, โสณฺโฑว โสณฺฑสฺส สุราย ถาลํ.

๖๘.

‘‘ยทาทฺทสํ ตํ ติฏฺนฺตึ, สพฺพภทฺทํ มโนรมํ;

ตโต สกสฺส จิตฺตสฺส, นาวโพธามิ กฺจินํ.

๖๙.

‘‘อุมฺมาทนฺติมหํ ทฏฺา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลํ;

น สุปามิ ทิวารตฺตึ, สหสฺสํว ปราชิโต.

๗๐.

‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, โส จ ลพฺเภถ เม วโร;

เอกรตฺตํ ทิรตฺตํ วา, ภเวยฺยํ อภิปารโก;

อุมฺมาทนฺตฺยา รมิตฺวาน, สิวิราชา ตโต สิย’’นฺติ.

ตตฺถ ปุณฺณมาเสติ ปุณฺณจนฺทาย รตฺติยา. มิคมนฺทโลจนาติ กณฺฑสนฺตาเสน ปลายิตฺวา วนนฺตเร ตฺวา ลุทฺทํ โอโลเกนฺติยา มิคิยา วิย มนฺทานิ โลจนานิ อสฺสาติ มิคมนฺทโลจนา. อุปาวิสีติ ปทุมวณฺเณน กรตเลน ปุปฺผานิ ขิปิตฺวา มํ โอโลเกนฺตี วาตปาเน นิสีทิ. ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคีติ รตฺตปทุมวณฺณสรีรา. ทฺเว ปุณฺณมาโยติ อหํ ตทหุ ตสฺมึ ฉณทิวเส ตํ ปาราวตปาทสมานวณฺณรตฺตวตฺถนิวตฺถํ ทิสฺวา ตสฺสา มุขโสภํ โอโลเกนฺโต เอกสฺส ปาจีนโลกธาตุโต เอกสฺส อภิปารกสฺส เสนาปติโน นิเวสเนติ ทฺวินฺนํ ปุณฺณจนฺทานํ อุคฺคตตฺตา ทฺเว ปุณฺณมาโย อมฺึ. อฬารปมฺเหหีติ วิสาลปขุเมหิ. สุเภหีติ ปริสุทฺเธหิ. วคฺคุภีติ มธุรากาเรหิ. อุทิกฺขตีติ เอวรูเปหิ เนตฺเตหิ ยสฺมึ ขเณ โอโลเกติ. ปพฺพเตติ ยถา หิมวนฺตปพฺพเต สุปุปฺผิตวเน วีณํ อาทาย ตนฺติสฺสเรน อตฺตโน สรํ สํสนฺทนฺตี กิมฺปุริสี กิมฺปุริสสฺส มนํ หรติ, เอวํ หรเตว เม มโนติ วิปฺปลปติ.

พฺรหตีติ อุฬารา. สามาติ สุวณฺณวณฺณสามา. เอกจฺจวสนาติ เอกจฺจิกวสนา, เอกวตฺถนิวตฺถาติ อตฺโถ. ภนฺตาวุทิกฺขตีติ สณฺหเกสา ปุถุนลาฏา อายตภมู วิสาลกฺขี ตุงฺคนาสา รตฺโตฏฺา เสตทนฺตา ติขิณทาา สุวฏฺฏิตคีวา สุตนุพาหุ สุสณฺิตปโยธรา กรมิตมชฺฌา วิสาลโสณี สุวณฺณกทลิสมาโนรุ สา อุตฺตมิตฺถี ตสฺมึ ขเณ มํ อุทิกฺขนฺตี ภเยน วนํ ปวิสิตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา ลุทฺทํ อุทิกฺขนฺตี ภนฺตา มิคีว มํ อุทิกฺขตีติ วทติ. พาหามุทูติ มุทุพาหา. สนฺนตธีรกุตฺติยาติ สุผุสิตเฉกกรณา. อุปฺิสฺสติ นฺติ สา สุภา นารี กทา นุ มํ เตหิ ตมฺพนเขหิ สีสโต ปฏฺาย สนฺนเตน ธีเรน กรเณน ปริโตเสสฺสตีติ ปตฺเถนฺโต วิลปติ.

กฺจนชาลุรจฺฉทาติ กฺจนมยอุรจฺฉทาลงฺการา. วิลคฺคมชฺฌาติ วิลคฺคสรีรา ตนุมชฺฌิมา. พฺรหาวเนติ มหาวเน. ลาขารสรตฺตสุจฺฉวีติ หตฺถปาทตลอคฺคนขโอฏฺมํเสสุ ลาขารสรตฺตมณิปวาลวณฺณา. พินฺทุตฺถนีติ อุทกปุปฺผุฬปริมณฺฑลตฺถนี. ตโตติ ยทา ตํ ติฏฺนฺตึ อทฺทสํ, ตโต ปฏฺาย. สกสฺส จิตฺตสฺสาติ อตฺตโน จิตฺตสฺส อนิสฺสโร ชาโตมฺหีติ อธิปฺปาโย. กฺจินนฺติ กฺจิ ‘‘อยํ อสุโก นามา’’ติ น ชานามิ, อุมฺมตฺตโก ชาโตมฺหีติ วทติ. ทฏฺาติ ทิสฺวา. น สุปามีติ เนว รตฺตึ, น ทิวา นิทฺทํ ลภามิ. โส จ ลพฺเภถาติ ยํ เม สกฺโก วรํ ทเทยฺย, โส จ เม วโร ลพฺเภถ, ลเภยฺยาหํ ตํ วรนฺติ อตฺโถ.

อถ เต อมจฺจา อภิปารกสฺสปิ อาโรจยึสุ – ‘‘สามิ ราชา, นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ตุมฺหากํ ฆรทฺวารํ ปตฺวา นิวตฺติตฺวา ปาสาทํ อภิรุหี’’ติ. โส อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา อุมฺมาทนฺตึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, กจฺจิ รฺโ อตฺตานํ ทสฺเสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, เอโก มโหทโร มหาทาิโก รเถ ตฺวา อาคโต ปุริโส อตฺถิ, อหํ ตํ ราชา วา อราชา วาติ น ชานามิ, เอโก อิสฺสโรติ ปน วุตฺเต วาตปาเน ตฺวา ปุปฺผานิ ขิปึ, โส ตาวเทว นิวตฺติตฺวา คโต’’ติ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘นาสิโตมฺหิ ตยา’’ติ ปุนทิวเส ปาโตว ราชนิเวสนํ อารุยฺห สิริคพฺภทฺวาเร ตฺวา รฺโ อุมฺมาทนฺตึ นิสฺสาย วิปฺปลาปํ สุตฺวา ‘‘อยํ อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺโต ชาโต, ตํ อลภนฺโต มริสฺสติ, รฺโ จ มม จ อคุณํ โมเจตฺวา อิมสฺส มยา ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา เอกํ ทฬฺหมนฺตํ อุปฏฺากํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาต, อสุกฏฺาเน สุสิรเจติยรุกฺโข อตฺถิ, ตฺวํ กฺจิ อชานาเปตฺวา อตฺถงฺคเต สูริเย ตตฺถ คนฺตฺวา อนฺโตรุกฺเข นิสีท, อหํ ตตฺถ พลิกมฺมํ กโรนฺโต ตํ านํ ปตฺวา เทวตา นมสฺสนฺโต, ‘สามิ เทวราช, อมฺหากํ ราชา นครมฺหิ ฉเณ วตฺตมาเน อกีฬิตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา วิปฺปลปนฺโตว นิปนฺโน, มยํ ตตฺถ การณํ น ชานาม, ราชา เทวตานํ พหูปกาโร, อนุสํวจฺฉรํ สหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา พลิกมฺมํ กโรติ, อิทํ นาม นิสฺสาย ราชา วิปฺปลปตีติ อาจิกฺขถ, รฺโ โน ชีวิตทานํ เทถา’ติ ยาจิสฺสามิ, ตฺวํ ตสฺมึ ขเณ สทฺทํ ปริวตฺติตฺวา, ‘เสนาปติ, ตุมฺหากํ รฺโ พฺยาธิ นาม นตฺถิ, โส ปน ตว ภริยาย อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺโต. สเจ นํ ลภิสฺสติ, ชีวิสฺสติ, โน เจ, มริสฺสติ. สเจ ตสฺส ชีวิตํ อิจฺฉสิ, อุมฺมาทนฺติมสฺส เทหี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ เอวํ ตํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา อุยฺโยเชสิ.

โส คนฺตฺวา ตสฺมึ รุกฺเข นิสีทิตฺวา ปุนทิวเส เสนาปตินา อมจฺจคณปริวุเตน ตํ านํ คนฺตฺวา ยาจิโต ตถา อภาสิ. เสนาปติ ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เทวตํ วนฺทิตฺวา อมจฺเจ ชานาเปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห สิริคพฺภทฺวารํ อาโกเฏสิ. ราชา สตึ อุปฏฺเปตฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. อหํ, เทว, อภิปารโกติ. อถสฺส ราชา ทฺวารํ วิวริ. โส ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๗๑.

‘‘ภูตานิ เม ภูตปตี นมสฺสโต, อาคมฺม ยกฺโข อิทเมตทพฺรวิ;

รฺโ มโน อุมฺมทนฺตฺยา นิวิฏฺโ, ททามิ เต ตํ ปริจารยสฺสู’’ติ.

ตตฺถ นมสฺสโตติ ตุมฺหากํ วิปฺปลาปการณชานนตฺถํ พลิกมฺมํ กตฺวา นมสฺสนฺตสฺส. นฺติ อหํ ตํ อุมฺมาทนฺตึ ตุมฺหากํ ปริจาริกํ กตฺวา ททามีติ.

อถ นํ ราชา, ‘‘สมฺม อภิปารก, มม อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺตตาย วิปฺปลปิตภาวํ ยกฺขาปิ ชานนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. อาม, เทวาติ. โส ‘‘สพฺพโลเกน กิร เม ลามกภาโว าโต’’ติ ลชฺชิธมฺเม ปติฏฺาย อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๒.

‘‘ปุฺา จ ธํเส อมโร น จมฺหิ, ชโน จ เม ปาปมิทฺจ ชฺา;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา’’ติ.

ตตฺถ ธํเสติ, สมฺม อภิปารก, อหํ ตาย สทฺธึ กิเลสวเสน ปริจาเรนฺโต ปุฺโต จ ธํเสยฺยํ, ตาย สทฺธึ ปริจาริตมตฺเตน อมโร จ น โหมิ, มหาชโน จ เม อิมํ ลามกภาวํ ชาเนยฺย, ตโต ‘‘อยุตฺตํ รฺา กต’’นฺติ ครเหยฺย, ตฺจ มม ทตฺวา ปจฺฉา ปิยภริยํ อทฏฺา ตว มนโส วิฆาโต จสฺสาติ อตฺโถ.

เสสา อุภินฺนมฺปิ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –

๗๓.

‘‘ชนินฺท นาฺตฺร ตยา มยา วา, สพฺพาปิ กมฺมสฺส กตสฺส ชฺา;

ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.

๗๔.

‘‘โย ปาปกํ กมฺมกรํ มนุสฺโส, โส มฺติ มายิท มฺึสุ อฺเ;

ปสฺสนฺติ ภูตานิ กโรนฺตเมตํ, ยุตฺตา จ เย โหนฺติ นรา ปถพฺยา.

๗๕.

‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนุโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.

๗๖.

‘‘อทฺธา ปิยา มยฺห ชนินฺท เอสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;

คจฺเฉว ตฺวํ อุมฺมทนฺตึ ภทนฺเต, สีโหว เสลสฺส คุหํ อุเปติ.

๗๗.

‘‘น ปีฬิตา อตฺตทุเขน ธีรา, สุขปฺผลํ กมฺม ปริจฺจชนฺติ;

สมฺโมหิตา วาปิ สุเขน มตฺตา, น ปาปกมฺมฺจ สมาจรนฺติ.

๗๘.

‘‘ตุวฺหิ มาตา จ ปิตา จ มยฺหํ, ภตฺตา ปตี โปสโก เทวตา จ;

ทาโส อหํ ตุยฺห สปุตฺตทาโร, ยถาสุขํ สามิ กโรหิ กามํ.

๗๙.

‘‘โย ‘อิสฺสโรมฺหี’ติ กโรติ ปาปํ, กตฺวา จ โส นุตฺตสเต ปเรสํ;

น เตน โส ชีวติ ทีฆมายุ, เทวาปิ ปาเปน สเมกฺขเร นํ.

๘๐.

‘‘อฺาตกํ สามิเกหี ปทินฺนํ, ธมฺเม ิตา เย ปฏิจฺฉนฺติ ทานํ;

ปฏิจฺฉกา ทายกา จาปิ ตตฺถ, สุขปฺผลฺเว กโรนฺติ กมฺมํ.

๘๑.

‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.

๘๒.

‘‘อทฺธา ปิยา มยฺห ชนินฺท เอสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;

ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.

๘๓.

‘‘โย อตฺตทุกฺเขน ปรสฺส ทุกฺขํ, สุเขน วา อตฺตสุขํ ทหาติ;

ยเถวิทํ มยฺห ตถา ปเรสํ, โย เอวํ ชานาติ ส เวทิ ธมฺมํ.

๘๔.

‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;

ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.

๘๕.

‘‘ชนินฺท ชานาสิ ปิยา มเมสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;

ปิเยน เต ทมฺมิ ปิยํ ชนินฺท, ปิยทายิโน เทว ปิยํ ลภนฺติ.

๘๖.

‘‘โส นูนาหํ วธิสฺสามิ, อตฺตานํ กามเหตุกํ;

น หิ ธมฺมํ อธมฺเมน, อหํ วธิตุมุสฺสเห.

๘๗.

‘‘สเจ ตุวํ มยฺห สตึ ชนินฺท, น กามยาสิ นรวีร เสฏฺ;

จชามิ นํ สพฺพชนสฺส สิพฺยา, มยา ปมุตฺตํ ตโต อวฺหเยสิ นํ.

๘๘.

‘‘อทูสิยํ เจ อภิปารก ตฺวํ, จชาสิ กตฺเต อหิตาย ตฺยสฺส;

มหา จ เต อุปวาโทปิ อสฺส, น จาปิ ตฺยสฺส นครมฺหิ ปกฺโข.

๘๙.

‘‘อหํ สหิสฺสํ อุปวาทเมตํ, นินฺทํ ปสํสํ ครหฺจ สพฺพํ;

มเมตมาคจฺฉตุ ภูมิปาล, ยถาสุขํ สิวิ กโรหิ กามํ.

๙๐.

‘‘โย เนว นินฺทํ น ปนปฺปสํสํ, อาทิยติ ครหํ โนปิ ปูชํ;

สิรี จ ลกฺขี จ อเปติ ตมฺหา, อาโป สุวุฏฺีว ยถา ถลมฺหา.

๙๑.

‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขฺจ สุขฺจ เอตฺโต, ธมฺมาติสารฺจ มโนวิฆาตํ;

อุรสา อหํ ปจฺจุตฺตริสฺสามิ สพฺพํ, ปถวี ยถา ถาวรานํ ตสานํ.

๙๒.

‘‘ธมฺมาติสารฺจ มโนวิฆาตํ, ทุกฺขฺจ นิจฺฉามิ อหํ ปเรสํ;

เอโกวิมํ หารยิสฺสามิ ภารํ, ธมฺเม ิโต กิฺจิ อหาปยนฺโต.

๙๓.

‘‘สคฺคูปคํ ปุฺกมฺมํ ชนินฺท, มา เม ตุวํ อนฺตรายํ อกาสิ;

ททามิ เต อุมฺมทนฺตึ ปสนฺโน, ราชาว ยฺเ ธนํ พฺราหฺมณานํ.

๙๔.

‘‘อทฺธา ตุวํ กตฺเต หิเตสิ มยฺหํ, สขา มมํ อุมฺมทนฺตี ตุวฺจ;

นินฺเทยฺยุ เทวา ปิตโร จ สพฺเพ, ปาปฺจ ปสฺสํ อภิสมฺปรายํ.

๙๕.

‘‘น เหตธมฺมํ สิวิราช วชฺชุํ, สเนคมา ชานปทา จ สพฺเพ;

ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.

๙๖.

‘‘อทฺธา ตุวํ กตฺเต หิเตสิ มยฺหํ, สขา มมํ อุมฺมทนฺตี ตุวฺจ;

สตฺจ ธมฺมานิ สุกิตฺติตานิ, สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ.

๙๗.

‘‘อาหุเนยฺโย เมสิ หิตานุกมฺปี, ธาตา วิธาตา จสิ กามปาโล;

ตยี หุตา ราช มหปฺผลา หิ, กาเมน เม อุมฺมทนฺตึ ปฏิจฺฉ.

๙๘.

‘‘อทฺธา หิ สพฺพํ อภิปารก ตฺวํ, ธมฺมํ อจารี มม กตฺตุปุตฺต;

อฺโ นุ เต โก อิธ โสตฺถิกตฺตา, ทฺวิปโท นโร อรุเณ ชีวโลเก.

๙๙.

‘‘ตุวํ นุ เสฏฺโ ตฺวมนุตฺตโรสิ, ตฺวํ ธมฺมคุตฺโต ธมฺมวิทู สุเมโธ;

โส ธมฺมคุตฺโต จิรเมว ชีว, ธมฺมฺจ เม เทสย ธมฺมปาล.

๑๐๐.

‘‘ตทิงฺฆ อภิปารก, สุโณหิ วจนํ มม;

ธมฺมํ เต เทสยิสฺสามิ, สตํ อาเสวิตํ อหํ.

๑๐๑.

‘‘สาธุ ธมฺมรุจี ราชา, สาธุ ปฺาณวา นโร;

สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ, ปาปสฺสากรณํ สุขํ.

๑๐๒.

‘‘อกฺโกธนสฺส วิชิเต, ิตธมฺมสฺส ราชิโน;

สุขํ มนุสฺสา อาเสถ, สีตจฺฉายาย สงฺฆเร.

๑๐๓.

‘‘น จาหเมตํ อภิโรจยามิ, กมฺมํ อสเมกฺขกตํ อสาธุ;

เย วาปิ ตฺวาน สยํ กโรนฺติ, อุปมา อิมา มยฺหํ ตุวํ สุโณหิ.

๑๐๔.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.

๑๐๕.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ ทุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.

๑๐๖.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา คาวี อุชุํ ยนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.

๑๐๗.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส สเจ ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก.

๑๐๘.

‘‘น จาปาหํ อธมฺเมน, อมรตฺตมภิปตฺถเย;

อิมํ วา ปถวึ สพฺพํ, วิเชตุํ อภิปารก.

๑๐๙.

‘‘ยฺหิ กิฺจิ มนุสฺเสสุ, รตนํ อิธ วิชฺชติ;

คาโว ทาโส หิรฺฺจ, วตฺถิยํ หริจนฺทนํ.

๑๑๐.

‘‘อสฺสิตฺถิโย รตนํ มณิกฺจ, ยฺจาปิ เม จนฺทิมสูริยา อภิปาลยนฺติ;

น ตสฺส เหตุ วิสมํ จเรยฺยํ, มชฺเฌ สิวีนํ อุสโภมฺหิ ชาโต.

๑๑๑.

‘‘เนตา หิตา อุคฺคโต รฏฺปาโล, ธมฺมํ สิวีนํ อปจายมาโน;

โส ธมฺมเมวานุวิจินฺตยนฺโต, ตสฺมา สเก จิตฺตวเส น วตฺโต.

๑๑๒.

‘‘อทฺธา ตุวํ มหาราช, นิจฺจํ อพฺยสนํ สิวํ;

กริสฺสสิ จิรํ รชฺชํ, ปฺา หิ ตว ตาทิสี.

๑๑๓.

‘‘เอตํ เต อนุโมทาม, ยํ ธมฺมํ นปฺปมชฺชสิ;

ธมฺมํ ปมชฺช ขตฺติโย, รฏฺา จวติ อิสฺสโร.

๑๑๔.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๕.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๖.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๗.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๘.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๑๙.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเสุ ชนปเทสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๐.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๑.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๒.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๑๒๓.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;

สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.

ตตฺถ สพฺพาปีติ, ชนินฺท, อหเมตํ เอกโกว ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาเนสฺสามิ, ตสฺมา เปตฺวา มมฺจ ตุวฺจ อฺา สพฺพาปิ ปชา อิมสฺส กตสฺส อาการมตฺตมฺปิ น ชฺา น ชานิสฺสนฺติ. ภุเสหีติ ตาย สทฺธึ อภิรมนฺโต อตฺตโน ตณฺหาวนถํ ภุสํ กโรหิ วฑฺเฒหิ มโนรถํ ปูเรหิ. สชาหีติ มโนรถํ ปน ปูเรตฺวา สเจ เต น รุจฺจติ, อถ นํ สชาหิ มยฺหเมว ปฏิเทหิ. กมฺมกรนฺติ, สมฺม อภิปารก, โย มนุสฺโส ปาปกํ กมฺมํ กโรนฺโต, โส ปจฺฉา มา อิธ อฺเ อิทํ ปาปกมฺมํ มฺึสุ มา ชานนฺตูติ มฺติ จินฺเตติ, ทุจินฺติตเมตํ ตสฺส. กึการณา? ปสฺสนฺติ ภูตานิ กโรนฺตเมตนฺติ เย จ พุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธปุตฺตา อิทฺธิยา ยุตฺตา, เต จ นํ ปสฺสนฺติเยว. น เม ปิยาติ, สมฺม อภิปารก, อฺโ นุ เต โกจิ ‘‘อิธ โลกสฺมึ สกลายปิ ปถวิยา น เม อุมฺมาทนฺตี ปิยา’’ติ เอวํ สทฺทเหยฺย.

สีโหว เสลสฺส คุหนฺติ, มหาราช, สเจ ตฺวํ ตํ อิธ น อาเนสิ, อถ ยถา สีโห กิเลสปริฬาเห อุปฺปนฺเน สีหโปติกาย วสนฏฺานํ มณิคุหํ อุเปติ, เอวํ ตสฺสา วสนฏฺานํ คจฺฉ, ตตฺถ อตฺตโน ปตฺถนํ ปูเรหีติ. สุขปฺผลนฺติ, สมฺม อภิปารก, ปณฺฑิตา อตฺตโน ทุกฺเขน ผุฏฺา สมานา น สุขวิปากทายกกมฺมํ ปริจฺจชนฺติ, สมฺโมหิตา วาปิ หุตฺวา โมเหน มูฬฺหา สุเขน มตฺตา ปาปกมฺมํ นาม น สมาจรนฺติ. ยถาสุขํ, สามิ, กโรหิ กามนฺติ, สามิ สิวิราช, อตฺตโน ทาสึ ปริจาเรนฺตสฺส ครหา นาม นตฺถิ, ตฺวํ ยถาสุขํ ยถาชฺฌาสยํ กามํ กโรหิ, อตฺตโน อิจฺฉํ ปูเรหีติ. น เตน โส ชีวตีติ, สมฺม อภิปารก, โย ‘‘อิสฺสโรมฺหี’’ติ ปาปํ กโรติ, กตฺวา จ กึ มํ เทวมนุสฺสา วกฺขนฺตีติ น อุตฺตสติ น โอตฺตปฺปติ, โส เตน กมฺเมน น จ ทีฆกาลํ ชีวติ, ขิปฺปเมว มรติ, เทวตาปิ ปน ‘‘กึ อิมสฺส ปาปรฺโ รชฺเชน, วรมสฺส วาฬุกฆฏํ คเล พนฺธิตฺวา มรณ’’นฺติ ลามเกน จกฺขุนา โอโลเกนฺติ.

อฺาตกนฺติ, มหาราช, อฺเสํ สนฺตกํ เตหิ สามิเกหิ ปทินฺนํ ทานํ เย อตฺตโน ธมฺเม ิตา ปฏิจฺฉนฺติ, เต ตตฺถ ปฏิจฺฉกา จ ทายกา จ สพฺเพปิ สุขปฺผลเมว กมฺมํ กโรนฺติ. ปฏิคฺคาหเก หิ ปฏิคฺคณฺหนฺเต ตํ ทานํ ทายกสฺส มหนฺตํ วิปากํ เทตีติ. โย อตฺตทุกฺเขนาติ, สมฺม อภิปารก, โย อตฺตโน ทุกฺเขน ปีฬิโต ตํ ปรสฺส ทหติ, อตฺตโน สรีรโต อปเนตฺวา ปรสฺส สรีเร ขิปติ, ปรสฺส วา สุเขน อตฺตโน สุขํ ทหติ, ปรสฺส สุขํ คเหตฺวา อตฺตนิ ปกฺขิปติ, ‘‘อตฺตโน ทุกฺขํ หริสฺสามี’’ติ ปรํ ทุกฺขิตํ กโรติ, ‘‘อตฺตานํ สุเขสฺสามี’’ติ ปรํ ทุกฺขิตํ กโรติ, ‘‘อตฺตานํ สุเขสฺสามี’’ติ ปรสฺส สุขํ นาเสติ, น โส ธมฺมํ ชานาติ. โย ปน เอวํ ชานาติ ‘‘ยเถวิทํ มยฺหํ สุขทุกฺขํ, ตถา ปเรส’’นฺติ, ส เวทิ ธมฺมํ ชานาติ นามาติ อยเมติสฺสา คาถาย อตฺโถ.

ปิเยน เต ทมฺมีติ ปิเยน การณภูเตน ปิยํ ผลํ ปตฺเถนฺโต ทมฺมีติ อตฺโถ. ปิยํ ลภนฺตีติ สํสาเร สํสรนฺตา ปิยเมว ลภนฺติ. กามเหตุกนฺติ, สมฺม อภิปารก, กามเหตุกํ อยุตฺตํ กตฺวา ‘‘อตฺตานํ วธิสฺสามี’’ติ เม ปริวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ. มยฺห สตินฺติ มม สนฺตกํ. ‘‘มยฺห สตี’’ติปิ ปาโ, มม สนฺตกาติ เอวํ มฺมาโน สเจ ตฺวํ ตํ น กาเมสีติ อตฺโถ. สพฺพชนสฺสาติ สพฺพา เสนิโย สนฺนิปาตาเปตฺวา ตสฺส สพฺพชนสฺส อยํ มยฺหํ อหิตาติ ปริจฺจชิสฺสามิ. ตโต อวฺหเยสีติ ตโต ตํ อปริคฺคหิตตฺตา อาเนยฺยาสิ. อทูสิยนฺติ อนปราธํ. กตฺเตติ ตเมว อปเรน นาเมน อาลปติ. โส หิ รฺโ หิตํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘กตฺตา’’ติ วุจฺจติ. น จาปิ ตฺยสฺสาติ เอวํ อกิจฺจการีติ นคเร ตว โกจิ ปกฺโขปิ น ภเวยฺย.

นินฺทนฺติ น เกวลํ อุปวาทเมว, สเจปิ มํ โกจิ สมฺมุขา นินฺทิสฺสติ วา ปสํสิสฺสติ วา, โทสํ วา ปน อาโรเปนฺโต ครหิสฺสติ, ตมฺปาหํ นินฺทํ ปสํสํ ครหฺจ สพฺพํ สหิสฺสามิ, สพฺพเมตํ มม อาคจฺฉตูติ วทติ. ตมฺหาติ โย เอเต นินฺทาทโย น คณฺหาติ, ตมฺหา ปุริสา อิสฺสริยสงฺขาตา สิรี จ ปฺาสงฺขาตา ลกฺขี จ ถลฏฺานโต สุวุฏฺิสงฺขาโต อาโป วิย อเปติ น ปติฏฺาตีติ. เอตฺโตติ อิโต มม ตสฺสา ปริจฺจตฺตการณา. ธมฺมาติสารฺจาติ ธมฺมํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ อกุสลํ วา ยํ กิฺจิ โหติ. ปจฺจุตฺตริสฺสามีติ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามิ ธารยิสฺสามิ. ถาวรานํ ตสานนฺติ ยถา มหาปถวี ขีณาสวานฺจ ปุถุชฺชนานฺจ กิฺจิ สมฺปฏิจฺฉติ สพฺพํ อธิวาเสติ, ตเถวาหมฺปิ สพฺพเมตํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามิ อธิวาเสสฺสามีติ ทีเปติ. เอโกวิมนฺติ อหํ เอโกว อิมมฺปิ อตฺตโน ทุกฺขภารํ หารยิสฺสามิ ธารยิสฺสามิ วหิสฺสามิ. ธมฺเม ิโตติ วินิจฺฉยธมฺเม ปเวณิธมฺเม ติวิธสุจริตธมฺเม จ ิโต หุตฺวา.

สคฺคูปคนฺติ, เทว, ปุฺกมฺมํ นาเมตํ สคฺคูปคํ โหติ. ยฺเ ธนนฺติ ยฺธนํ, อยเมว วา ปาโ. สขาติ อุมฺมาทนฺตีปิ มม สหายิกา, ตฺวมฺปิ สหายโก. ปิตโรติ พฺรหฺมาโน. สพฺเพติ น เกวลํ เทวพฺรหฺมาโนว, สพฺเพ รฏฺวาสิโนปิ มํ ปสฺสถ, ‘‘โภ, สหายกสฺส ภริยา สหายิกา อิมินา เคเห กตา’’ติ นินฺเทยฺยุํ. น เหตธมฺมนฺติ น หิ เอตํ อธมฺมิกํ. ยํ เต มยาติ ยสฺมา มยา สา ตุยฺหํ ทินฺนา, ตสฺมา เอตํ อธมฺโมติ น วทิสฺสนฺติ. สตนฺติ สนฺตานํ พุทฺธาทีนํ ขนฺติเมตฺตาภาวนาสีลาจารสงฺขาตานิ ธมฺมานิ สุวณฺณิตานิ สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ, ตสฺมา ยถา สมุทฺโท เวลํ นาติกฺกมติ, เอวมหมฺปิ สีลเวลํ นาติกฺกมิสฺสามีติ วทติ.

อาหุเนยฺโย เมสีติ, มหาราช, ตฺวํ มม อาหุนปาหุนสกฺการสฺสานุจฺฉวิโก. ธาตา วิธาตา จสิ กามปาโลติ ตฺวํ มม, เทว, ธารณโต ธาตา อิสฺสริยสุขสฺส วิทหนโต วิธาตา อิจฺฉิตปตฺถิตานํ กามานํ ปาลนโต กามปาโล. ตยี หุตาติ ตุยฺหํ ทินฺนา. กาเมน เมติ มม กาเมน มม ปตฺถนาย อุมฺมาทนฺตึ ปฏิจฺฉาติ เอวํ อภิปารโก รฺโ เทติ. ราชา ‘‘น มยฺหํ อตฺโถ’’ติ ปฏิกฺขิปติ. ภูมิยํ ปติตํ สากุณิกปจฺฉึ ปิฏฺิปาเทน ปหริตฺวา อฏวิยํ ขิปนฺตา วิย อุโภปิ นํ ชหนฺเตว. อิทานิ ราชา ปุน อกถนตฺถาย ตํ สนฺตชฺเชนฺโต ‘‘อทฺธา หี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กตฺตุปุตฺตาติ ปิตาปิสฺส กตฺตาว, เตน นํ เอวํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อทฺธา ตฺวํ อิโต ปุพฺเพ มยฺหํ สพฺพธมฺมํ อจริ, หิตเมว วุฑฺฒิเมว อกาสิ, อิทานิ ปน ปฏิปกฺโข หุตฺวา พหุํ กเถสิ, ‘‘มา เอวํ วิปฺปลปสิ, อฺโ นุ เต ทฺวิปโท นโร, โก อิธ ชีวโลเก อรุเณเยว โสตฺถิกตฺตา, สเจ หิ อหํ วิย อฺโ ราชา ตว ภริยาย ปฏิพทฺธจิตฺโต อภวิสฺส, อนฺโตอรุเณเยว ตว สีสํ ฉินฺทาเปตฺวา ตํ อตฺตโน ฆเร กเรยฺย, อหํ ปน อกุสลภเยเนว น กโรมิ, ตุณฺหี โหหิ, น เม เอตาย อตฺโถ’’ติ ตํ สนฺตชฺเชสิ.

โส ตํ สุตฺวา ปุน กิฺจิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต รฺโ ถุติวเสน ‘‘ตุวํ นู’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ตฺวฺเว สกลชมฺพุทีเป สพฺเพสํ นรินฺทานํ เสฏฺโ, ตฺวํ อนุตฺตโร, ตฺวํ วินิจฺฉยธมฺมปเวณิธมฺมสุจริตธมฺมานํ โคปายเนน ธมฺมคุตฺโต, เตสํ วิทิตตฺตา ธมฺมวิทู ตฺวํ สุเมโธ, โส ตฺวํ ยํ ธมฺมํ โคเปสิ, เตเนว คุตฺโต จีรํ ชีว, ธมฺมฺจ เม เทเสหิ ธมฺมปาลก, ธมฺมโคปก, ราชวราติ.

อถ ราชา ธมฺมํ เทเสนฺโต ‘‘ตทิงฺฆา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต, ยสฺมา มํ ตฺวํ โจเทสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. สตนฺติ พุทฺธาทีหิ สปฺปุริเสหิ อาเสวิตํ. สาธูติ สุนฺทโร ปสตฺโถ. วินิจฺฉยปเวณิสุจริตธมฺเม โรเจตีติ ธมฺมรุจิ. ตาทิโส หิ ชีวิตํ ชหนฺโตปิ อกิจฺจํ น กโรติ, ตสฺมา สาธุ. ปฺาณวาติ าณสมฺปนฺโน. มิตฺตานมทฺทุพฺโภติ มิตฺตสฺส อทุสฺสนภาโว. ิตธมฺมสฺสาติ ปติฏฺิตติวิธธมฺมสฺส. อาเสถาติ อาเสยฺยุํ นิสีเทยฺยุํ. เทสนาสีสเมว เจตํ, จตฺตาโรปิ อิริยาปเถ สุขํ กปฺเปยฺยุนฺติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. สีตจฺฉายายาติ ปุตฺตทาราติมิตฺตานํ สีตลาย ฉายาย. สงฺฆเรติ สกฆเร, อตฺตโน เคเหติ อตฺโถ. อธมฺมพลิทณฺฑาทีหิ อนุปทฺทุตา สุขํ วเสยฺยุนฺติ ทสฺเสติ. น จาหเมตนฺติ, สมฺม อภิปารก, ยเมตํ อสเมกฺขิตฺวา กตํ อสาธุกมฺมํ, เอตํ อหํ น โรจยามิ. เย วาปิ ตฺวานาติ เย วา ปน ราชาโน ตฺวา ตุเลตฺวา ตีเรตฺวา สยํ กโรนฺติ, เตสาหํ กมฺมํ โรเจมีติ อธิปฺปาโย. อุปมา อิมาติ อิมสฺมึ ปนตฺเถ ตฺวํ มยฺหํ อิมา ทฺเว อุปมา สุโณหิ.

ชิมฺหนฺติ วงฺกํ. เนตฺเตติ โย คาวิโย เนติ, ตสฺมึ เชฏฺกอุสเภ. ปเควาติ ตสฺมึ อธมฺมํ จรนฺเต อิตรา ปชา ปเคว จรติ, อติวิย กโรตีติ อตฺโถ. ธมฺมิโกติ จตฺตาริ อคติคมนานิ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต. อมรตฺตนฺติ เทวตฺตํ. รตนนฺติ สวิฺาณกาวิฺาณกรตนํ. วตฺถิยนฺติ กาสิกวตฺถเมว. อสฺสิตฺถิโยติ วาตสมคติอสฺเสปิ อุตฺตมรูปธรา อิตฺถิโยปิ. รตนํ มณิกฺจาติ สตฺตวิธรตนฺจ มหคฺฆภณฺฑกฺจ. อภิปาลยนฺตีติ อาโลกํ กโรนฺตา รกฺขนฺติ. น ตสฺสาติ ตสฺส จกฺกวตฺติรชฺชสฺสปิ เหตุ น วิสมํ จเรยฺยํ. อุสโภมฺหีติ ยสฺมา อหํ สิวีนํ มชฺเฌ เชฏฺกราชา หุตฺวา ชาโต, ตสฺมา จกฺกวตฺติรชฺชการณมฺปิ น วิสมํ จรามีติ อตฺโถ. เนตาติ มหาชนํ กุสเล ปติฏฺาเปตฺวา เทวนครํ เนตา, หิตกรเณน ตสฺส หิตา, ‘‘สิวิราชา กิร ธมฺมจารี’’ติ สกลชมฺพุทีเป าตตฺตา อุคฺคโต, สเมน รฏฺปาลนโต รฏฺปาโล. อปจายมาโนติ สิวีนํ โปราณกราชูนํ ปเวณิธมฺมํ อปจายมาโน. โสติ โส อหํ ตเมว ธมฺมํ อนุวิจินฺตยนฺโต ตสฺมา เตน การเณน อตฺตโน จิตฺตสฺส วเส น วตฺตามิ.

เอวํ มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา อภิปารโก ถุตึ กโรนฺโต ‘‘อทฺธา’’ติอาทิมาห. นปฺปมชฺชสีติ อตฺตนา กถิตธมฺมํ นปฺปมชฺชสิ ตตฺเถว วตฺเตสิ. ธมฺมํ ปมชฺชาติ ธมฺมํ ปมุสฺสิตฺวา อคติวเสน คนฺตฺวา. เอวํ โส ตสฺส ถุตึ กตฺวา ‘‘ธมฺมํ จรา’’ติ ธมฺมจริยาย นิยฺโยเชนฺโต อุตฺตริปิ ทส โอวาทคาถา อภาสิ. ตาสมตฺโถ เหฏฺา เตสกุณชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑ อาทโย) วณฺณิโตว.

เอวํ อภิปารกเสนาปตินา รฺโ ธมฺเม เทสิเต ราชา อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺตํ วิโนเทสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. ตทา สุนนฺทสารถิ อานนฺโท อโหสิ, อภิปารโก สาริปุตฺโต, อุมฺมาทนฺตี อุปฺปลวณฺณา, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สิวิราชา อหเมว อโหสินฺติ.

อุมฺมาทนฺตีชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๒๘] ๓. มหาโพธิชาตกวณฺณนา

กึ นุ ทณฺฑํ กิมชินนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ มหาอุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต ปฺวา ปรปฺปวาทปฺปมทฺทโนเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ อสีติโกฏิวิภวสฺส อุทิจฺจพฺราหฺมณมหาสาลสฺส กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘โพธิกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ อุคฺคหิตสิปฺโป ปจฺจาคนฺตฺวา อคารมชฺเฌ วสนฺโต อปรภาเค กาเม ปหาย หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตตฺเถว วนมูลผลาหาโร จิรํ วสิตฺวา วสฺสารตฺตสมเย หิมวนฺตา โอรุยฺห จาริกํ จรนฺโต อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ปริพฺพาชกสารุปฺเปน นคเร ภิกฺขาย จรนฺโต ราชทฺวารํ ปาปุณิ ตเมนํ สีหปฺชเร ิโต ราชา ทิสฺวา ตสฺส อุปสเม ปสีทิตฺวา ตํ อตฺตโน ภวนํ ปเวเสตฺวา ราชปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา กตปฏิสนฺถาโร โถกํ ธมฺมกถํ สุตฺวา นานคฺครสโภชนํ ทาเปสิ. มหาสตฺโต ภตฺตํ คเหตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ ราชกุลํ นาม พหุโทสํ พหุปจฺจามิตฺตํ โหติ, โก นุ โข มม อุปฺปนฺนํ ภยํ นิตฺถริสฺสตี’’ติ. โส อวิทูเร ิตํ ราชวลฺลภํ เอกํ ปิงฺคลสุนขํ ทิสฺวา มหนฺตํ ภตฺตปิณฺฑํ คเหตฺวา ตสฺส ทาตุกามตาการํ ทสฺเสสิ. ราชา ตฺวา สุนขสฺส ภาชนํ อาหราเปตฺวา ภตฺตํ คาหาเปตฺวา ทาเปสิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส ทตฺวา ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺเปสิ. ราชาปิสฺส ปฏิฺํ คเหตฺวา อนฺโตนคเร ราชุยฺยาเน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทตฺวา ตํ ตตฺถ วาสาเปสิ, เทวสิกฺจสฺส ทฺเว ตโย วาเร อุปฏฺานํ อคมาสิ. โภชนกาเล ปน มหาสตฺโต นิจฺจํ ราชปลฺลงฺเกเยว นิสีทิตฺวา ราชโภชนเมว ภุฺชติ. เอวํ ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ อตีตานิ.

ตสฺส ปน รฺโ ปฺจ อมจฺจา อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสนฺติ. เตสุ เอโก อเหตุกวาที, เอโก อิสฺสรกตวาที, เอโก ปุพฺเพกตวาที, เอโก อุจฺเฉทวาที, เอโก ขตฺตวิชฺชวาที. เตสุ อเหตุกวาที ‘‘อิเม สตฺตา สํสารสุทฺธิกา’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. อิสฺสรกตวาที ‘‘อยํ โลโก อิสฺสรนิมฺมิโต’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. ปุพฺเพกตวาที ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อุปฺปชฺชมานํ ปุพฺเพกเตเนว อุปฺปชฺชตี’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. อุจฺเฉทวาที ‘‘อิโต ปรโลกํ คโต นาม นตฺถิ, อยํ โลโก อุจฺฉิชฺชตี’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. ขตฺตวิชฺชวาที ‘‘มาตาปิตโรปิ มาเรตฺวา อตฺตโนว อตฺโถ กาตพฺโพ’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. เต รฺโ วินิจฺฉเย นิยุตฺตา ลฺชขาทกา หุตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ, สามิกํ อสฺสามิกํ กโรนฺติ.

อเถกทิวสํ เอโก ปุริโส กูฏฏฺฏปราชิโต มหาสตฺตํ ภิกฺขาย จรนฺตํ ราชเคหํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ราชเคเห ภุฺชมานา วินิจฺฉยามจฺเจ ลฺชํ คเหตฺวา โลกํ วินาเสนฺเต กสฺมา อชฺฌุเปกฺขถ, อิทานิ ปฺจหิ อมจฺเจหิ กูฏฏฺฏการกสฺส หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา สามิโกว สมาโน อสฺสามิโก กโต’’ติ ปริเทวิ. โส ตสฺมึ การุฺวเสน วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา ธมฺเมน วินิจฺฉินิตฺวา สามิกฺเว สามิกํ อกาสิ. มหาชโน เอกปฺปหาเรเนว มหาสทฺเทน สาธุการํ อทาสิ. ราชา ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึสทฺโท นามาย’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ มหาสตฺตํ อุปนิสีทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, อชฺช กิร โว อฏฺโฏ วินิจฺฉิโต’’ติ. ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหสุ วินิจฺฉินนฺเตสุ มหาชนสฺส วุฑฺฒิ ภวิสฺสติ, อิโต ปฏฺาย ตุมฺเหว วินิจฺฉินถา’’ติ. ‘‘มหาราช, มยํ ปพฺพชิตา นาม, เนตํ กมฺมํ อมฺหากํ กมฺม’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต, มหาชเน การุฺเน กาตุํ วฏฺฏติ, ตุมฺเห สกลทิวสํ มา วินิจฺฉินถ, อุยฺยานโต ปน อิธาคจฺฉนฺตา วินิจฺฉยฏฺานํ คนฺตฺวา ปาโตว จตฺตาโร อฏฺเฏ วินิจฺฉินถ, ภุตฺวา อุยฺยานํ คจฺฉนฺตา จตฺตาโร, เอวํ มหาชนสฺส วุฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ. โส เตน ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตโต ปฏฺาย ตถา อกาสิ.

กูฏฏฺฏการกา โอกาสํ น ลภึสุ. เตปิ อมจฺจา ลฺชํ อลภนฺตา ทุคฺคตา หุตฺวา จินฺตยึสุ – ‘‘โพธิปริพฺพาชกสฺส วินิจฺฉินนกาลโต ปฏฺาย มยํ กิฺจิ น ลภาม, หนฺท นํ ‘ราชเวริโก’ติ วตฺวา รฺโ อนฺตเร ปริภินฺทิตฺวา มาราเปสฺสามา’’ติ. เต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘มหาราช, โพธิปริพฺพาชโก ตุมฺหากํ อนตฺถกาโม’’ติ วตฺวา อสทฺทหนฺเตน รฺา ‘‘สีลวา เอส าณสมฺปนฺโน, น เอวํ กริสฺสตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘มหาราช, เตน สกลนครวาสิโน อตฺตโน หตฺเถ กตฺวา เกวลํ อมฺเหเยว ปฺจ ชเน กาตุํ น สกฺกา, สเจ อมฺหากํ วจนํ น สทฺทหถ, ตสฺส อิธาคมนกาเล ปริสํ โอโลเกถา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สีหปฺชเร ิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ โอโลเกนฺโต ปริวารํ ทิสฺวา อตฺตโน อฺาเณน อฏฺฏการกมนุสฺเส ‘‘ตสฺส ปริวารา’’ติ มฺมาโน ภิชฺชิตฺวา เต อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กินฺติ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘คณฺหาเปถ นํ, เทวา’’ติ. ‘‘โอฬาริกํ อปราธํ อปสฺสนฺตา กถํ คณฺหามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ปกติปริหารมสฺส หาเปถ, ตํ ปริหายนฺตํ ทิสฺวา ปณฺฑิโต ปริพฺพาชโก กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา สยเมว ปลายิสฺสตี’’ติ.

ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา อนุปุพฺเพน ตสฺส ปริหารํ ปริหาเปสิ. ปมทิวสํ ตาว นํ ตุจฺฉปลฺลงฺเกเยว นิสีทาเปสุํ. โส ตุจฺฉปลฺลงฺกํ ทิสฺวาว รฺโ ปริภินฺนภาวํ ตฺวา สยเมว อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตํ ทิวสเมว ปกฺกมิตุกาโม หุตฺวาปิ ‘‘เอกนฺเตน ตฺวา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ น ปกฺกามิ. อถสฺส ปุนทิวเส ตุจฺฉปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส รฺโปกติภตฺตฺจ อฺฺจ คเหตฺวา มิสฺสกภตฺตํ อทํสุ. ตติยทิวเส มหาตลํ ปวิสิตุํ อทตฺวา โสปานสีเสเยว เปตฺวา มิสฺสกภตฺตํ อทํสุ. โส ตมฺปิ อาทาย อุยฺยานํ คนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. จตุตฺถทิวเส เหฏฺาปาสาเท เปตฺวา กณาชกภตฺตํ อทํสุ. โส ตมฺปิ คเหตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘โพธิปริพฺพาชโก สกฺกาเร ปริหาปิเตปิ น ปกฺกมติ, กินฺติ นํ กโรมา’’ติ? ‘‘เทว, น โส ภตฺตตฺถาย จรติ, ฉตฺตตฺถาย ปน จรติ. สเจ ภตฺตตฺถาย จเรยฺย, ปมทิวสํเยว ปลาเยยฺยา’’ติ. ‘‘อิทานิ กึ กโรมา’’ติ? ‘‘สฺเว ฆาตาเปถ นํ, มหาราชา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ เตสฺเว หตฺเถ ขคฺเค เปตฺวา ‘‘สฺเว อนฺตรทฺวาเร ตฺวา ปวิสนฺตสฺเสวสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวา วจฺจกุฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา นฺหตฺวา อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘สฺเว อาคนฺตฺวา เอวํ กริสฺสามา’’ติ อฺมฺํ วิจาเรตฺวา เอวํ อตฺตโน นิเวสนํ อคมํสุ.

ราชาปิ สายํ ภุตฺตโภชโน สิริสยเน นิปชฺชิตฺวา มหาสตฺตสฺส คุเณ อนุสฺสริ. อถสฺส ตาวเทว โสโก อุปฺปชฺชิ, สรีรโต เสทา มุจฺจึสุ, สยเน อสฺสาสํ อลภนฺโต อปราปรํ ปริวตฺติ. อถสฺส อคฺคมเหสี อุปนิปชฺชิ, โส ตาย สทฺธึ สลฺลาปมตฺตมฺปิ น กริ. อถ นํ สา ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, สลฺลาปมตฺตมฺปิ น กโรถ, อปิ นุ โข เม โกจิ อปราโธ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ เทวิ, อปิจ โข โพธิปริพฺพาชโก กิร อมฺหากํ ปจฺจตฺถิโก ชาโตติ ตสฺส สฺเว ฆาตนตฺถาย ปฺจ อมจฺเจ อาณาเปสึ, เต ปน นํ มาเรตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา วจฺจกูเป ปกฺขิปิสฺสนฺติ, โส ปน อมฺหากํ ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ พหุํ ธมฺมํ เทเสสิ, เอกาปราโธปิสฺส มยา ปจฺจกฺขโต น ทิฏฺปุพฺโพ, ปรปตฺติเยน หุตฺวา ตสฺส มยา วโธ อาณตฺโต, เตน การเณน โสจามี’’ติ. อถ นํ สา ‘‘สเจ เต เทว โส ปจฺจตฺถิโก ชาโต, ตํ ฆาเตนฺโต กึ โสจสิ, ปจฺจตฺถิกํ นาม ปุตฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อตฺตโน โสตฺถิภาโว กาตพฺโพว, มา โสจิตฺถา’’ติ อสฺสาเสสิ. โส ตสฺสา วจเนน ปฏิลทฺธสฺสาโส นิทฺทํ โอกฺกมิ.

ตสฺมึ ขเณ โกเลยฺยโก ปิงฺคลสุนโข ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘สฺเว มยา อตฺตโน พเลนสฺส ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว ปาสาทา โอรุยฺห มหาทฺวารํ อาคนฺตฺวา อุมฺมาเร สีสํ กตฺวา มหาสตฺตสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโตว นิปชฺชิ. เตปิ อมจฺจา ปาโตว ขคฺคหตฺถา อาคนฺตฺวา ทฺวารนฺตเร อฏฺํสุ. โพธิสตฺโตปิ เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมฺม ราชทฺวารํ อาคฺฉิ. อถ นํ สุนโข ทิสฺวา มุขํ วิวริตฺวา จตสฺโส ทาา ทสฺเสตฺวา ‘‘กึ ตฺวํ, ภนฺเต, ชมฺพุทีปตเล อฺตฺถ ภิกฺขํ น ลภสิ, อมฺหากํ ราชา ตว มารณตฺถาย ปฺจ อมจฺเจ ขคฺคหตฺเถ ทฺวารนฺตเร เปสิ, มา ตฺวํ นลาเฏน มจฺจุํ คเหตฺวา อาคมิ, สีฆํ ปกฺกมา’’ติ มหาสทฺเทน วิรวิ. โส สพฺพรุตฺุตาย ตมตฺถํ ตฺวา ตโตว นิวตฺติตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ปกฺกมนตฺถาย ปริกฺขาเร อาทิยิ. ราชา สีหปฺชเร ิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ คจฺฉนฺตฺจ ทิสฺวา ‘‘สเจ อยํ มม ปจฺจตฺถิโก ภเวยฺย, อุยฺยานํ คนฺตฺวา พลํ สนฺนิปาตาเปตฺวา กมฺมสชฺโช ภวิสฺสติ. โน เจ, อตฺตโน ปริกฺขาเร คเหตฺวา คมนสชฺโช ภวิสฺสติ, ชานิสฺสามิ ตาวสฺส กิริย’’นฺติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ อตฺตโน ปริกฺขาเร อาทาย ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลโต นิกฺขนฺตํ จงฺกมนโกฏิยํ ทิสฺวาว วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ปมํ คาถมาห –

๑๒๔.

‘‘กึ นุ ทณฺฑํ กิมชินํ, กึ ฉตฺตํ กิมุปาหนํ;

กิมงฺกุสฺจ ปตฺตฺจ, สงฺฆาฏิฺจาปิ พฺราหฺมณ;

ตรมานรูโปหาสิ, กึ นุ ปตฺถยเส ทิส’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ภนฺเต, ปุพฺเพ ตฺวํ อมฺหากํ ฆรํ อาคจฺฉนฺโต ทณฺฑาทีนิ น คณฺหาสิ, อชฺช ปน เกน การเณน ทณฺฑฺจ อชินฺจ ฉตฺตูปาหนฺจ มตฺติกปสิพฺพโกลมฺพนองฺกุสฺจ มตฺติกปตฺตฺจ สงฺฆาฏิฺจาติ สพฺเพปิเม ปริกฺขาเร ตรมานรูโป คณฺหาสิ, กตรํ นุ ทิสํ ปตฺเถสิ, กตฺถ คนฺตุกาโมสีติ ปุจฺฉิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ อตฺตนา กตกมฺมํ น ชานาตีติ มฺติ, ชานาเปสฺสามิ น’’นฺติ ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๕.

‘‘ทฺวาทเสตานิ วสฺสานิ, วุสิตานิ ตวนฺติเก;

นาภิชานามิ โสเณน, ปิงฺคเลนาภิกูชิตํ.

๑๒๖.

‘‘สฺวายํ ทิตฺโตว นทติ, สุกฺกทาํ วิทํสยํ;

ตว สุตฺวา สภริยสฺส, วีตสทฺธสฺส มํ ปตี’’ติ.

ตตฺถ อภิกูชิตนฺติ เอเตน ตว สุนเขน เอวํ มหาวิรเวน วิรวิตํ น ชานามิ. ทิตฺโต วาติ ทปฺปิโต วิย. สภริยสฺสาติ ตว สภริยสฺส มม มารณตฺถาย ปฺจนฺนํ อมจฺจานํ อาณตฺตภาวํ กเถนฺตสฺส สุตฺวา ‘‘กึ ตฺวํ อฺตฺถ ภิกฺขํ น ลภสิ, รฺา เต วโธ อาณตฺโต, อิธ มาคจฺฉี’’ติ ทิตฺโตว นทติ. วีตสทฺธสฺส มํ ปตีติ มมนฺตเร วิคตสทฺธสฺส ตว วจนํ สุตฺวา เอว นทตีติ อาห.

ตโต ราชา อตฺตโน โทสํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ขมาเปนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘อหุ เอส กโต โทโส, ยถา ภาสสิ พฺราหฺมณ;

เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, วส พฺราหฺมณ มาคมา’’ติ.

ตตฺถ ภิยฺโยติ สจฺจํ มยา เอวํ อาณตฺตํ, อยํ เม โทโส, เอส ปนาหํ อิทานิ อธิกตรํ ตยิ ปสีทามิ, อิเธว วส, มา อฺตฺถ คมีติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต, ‘‘มหาราช, ปณฺฑิตา นาม ตาทิเสน ปรปตฺติเยน อปจฺจกฺขการินา สทฺธึ น วสนฺตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อนาจารํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๒๘.

‘‘สพฺพเสโต ปุเร อาสิ, ตโตปิ สพโล อหุ;

สพฺพโลหิตโก ทานิ, กาโล ปกฺกมิตุํ มม.

๑๒๙.

‘‘อพฺภนฺตรํ ปุเร อาสิ, ตโต มชฺเฌ ตโต พหิ;

ปุรา นิทฺธมนา โหติ, สยเมว วชามหํ.

๑๓๐.

‘‘วีตสทฺธํ น เสเวยฺย, อุปทานํวโนทกํ;

สเจปิ นํ อนุขเณ, วาริ กทฺทมคนฺธิกํ.

๑๓๑.

‘‘ปสนฺนเมว เสเวยฺย, อปฺปสนฺนํ วิวชฺชเย;

ปสนฺนํ ปยิรุปาเสยฺย, รหทํวุทกตฺถิโก.

๑๓๒.

‘‘ภเช ภชนฺตํ ปุริสํ, อภชนฺตํ น ภชฺชเย;

อสปฺปุริสธมฺโม โส, โย ภชนฺตํ น ภชฺชติ.

๑๓๓.

‘‘โย ภชนฺตํ น ภชติ, เสวมานํ น เสวติ;

ส เว มนุสฺสปาปิฏฺโ, มิโค สาขสฺสิโต ยถา.

๑๓๔.

‘‘อจฺจาภิกฺขณสํสคฺคา, อสโมสรเณน จ;

เอเตน มิตฺตา ชีรนฺติ, อกาเล ยาจนาย จ.

๑๓๕.

‘‘ตสฺมา นาภิกฺขณํ คจฺเฉ, น จ คจฺเฉ จิราจิรํ;

กาเลน ยาจํ ยาเจยฺย, เอวํ มิตฺตา น ชียเร.

๑๓๖.

‘‘อติจิรํ นิวาเสน, ปิโย ภวติ อปฺปิโย;

อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, ปุรา เต โหม อปฺปิยา’’ติ.

ตตฺถ สพฺพเสโตติ, มหาราช, ปมเมว ตว นิเวสเน มม โอทโน สพฺพเสโต อโหสิ, ยํ ตฺวํ ภุฺชสิ, ตเมว ทาเปสีติ อตฺโถ. ตโตติ ตโต ปจฺฉา ปริเภทกานํ วจนํ คเหตฺวา ตว มยิ วิรตฺตกาเล สพโล มิสฺสโกทโน ชาโต. ทานีติ อิทานิ สพฺพโลหิตโก ชาโต. กาโลติ อคุณฺุสฺส ตว สนฺติกา อิทานิ มม ปกฺกมิตุํ กาโล. อพฺภนฺตรนฺติ ปมํ มม อพฺภนฺตรํ อาสนํ อาสิ, อลงฺกตมหาตลมฺหิ อุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเกเยว มํ นิสีทาเปสุํ. มชฺเฌติ โสปานมตฺถเก. ปุรา นิทฺธมนา โหตีติ ยาว คีวายํ คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒนา น โหติ.

อนุขเณติ สเจปิ อนุทกํ อุทปานํ ปตฺโต ปุริโส อุทกํ อปสฺสนฺโต กลลํ วิยูหิตฺวา อนุขเณยฺย, ตถาปิ ตํ วาริ กทฺทมคนฺธิกํ ภเวยฺย, อมนุฺตาย น ปิเวยฺย, ตเถว วีตสทฺธํ ปยิรุปาสนฺเตน ลทฺธปจฺจยาปิ ปริตฺตา เจว ลูขา จ, อมนุฺา อปริโภคารหาติ อตฺโถ. ปสนฺนนฺติ ปติฏฺิตสทฺธํ. รหทนฺติ คมฺภีรํ มหารหทํ. ภชนฺตนฺติ อตฺตานํ ภชนฺตเมว ภเชยฺย. อภชนฺตนฺติ ปจฺจตฺถิกํ. น ภชฺชเยติ น ภเชยฺย. น ภชฺชตีติ โย ปุริโส อตฺตานํ ภชนฺตํ หิตจิตฺตํ ปุคฺคลํ น ภชติ, โส อสปฺปุริสธมฺโม นามาติ. มนุสฺสปาปิฏฺโติ มนุสฺสลามโก ปติกุฏฺโ สพฺพปจฺฉิมโก. สาขสฺสิโตติ มกฺกโฏ.

อจฺจาภิกฺขณสํสคฺคาติ อติวิย อภิณฺหสํสคฺเคน. อกาเลติ อยุตฺตปฺปตฺตกาเล ปรสฺส ปิยภณฺฑํ ยาจนาย มิตฺตา ชีรนฺติ นาม, ตฺวมฺปิ อติจิรํ นิวาเสน มยิ มิตฺตึ ภินฺทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา อจฺจาภิกฺขณสํสคฺเคน อสโมสรเณน จ มิตฺตา ชีรนฺติ, ตสฺมา. จิราจิรนฺติ จิรกาลํ วีตินาเมตฺวา จิรํ น คจฺเฉ น อุปสงฺกเมยฺย. ยาจนฺติ ยาจิตพฺพํ ภณฺฑกํ ยุตฺตกาเล ยาเจยฺย. น ชียเรติ เอวํ มิตฺตา น ชีรนฺติ. ปุรา เต โหม อปฺปิยาติ ยาว ตว อปฺปิยา น โหม, ตาว อามนฺเตตฺวาว ตํ คจฺฉามาติ.

ราชา อาห –

๑๓๗.

‘‘เอวํ เจ ยาจมานานํ, อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ;

ปริจารกานํ สตํ, วจนํ น กโรสิ โน;

เอวํ ตํ อภิยาจาม, ปุน กยิราสิ ปริยาย’’นฺติ.

ตตฺถ นาวพุชฺฌสีติ สเจ, ภนฺเต, เอวํ ยาจนฺเตน มยา กตํ อฺชลึ น ชานาสิ, น ปฏิคฺคณฺหสีติ อตฺโถ. ปริยายนฺติ ปุน อิธาคมนาย เอกวารํ กเรยฺยาสีติ ยาจติ.

โพธิสตฺโต อาห –

๑๓๘.

‘‘เอวํ เจ โน วิหรตํ, อนฺตราโย น เหสฺสติ;

ตุยฺหํ วาปิ มหาราช, มยฺหํ วา รฏฺวทฺธน;

อปฺเปว นาม ปสฺเสม, อโหรตฺตานมจฺจเย’’ติ.

ตตฺถ เอวํ เจ โนติ สเจ, มหาราช, เอวํ นานา หุตฺวา วิหรนฺตานํ อมฺหากํ อนฺตราโย น เหสฺสติ, ตุยฺหํ วา มยฺหํ วา ชีวิตํ ปวตฺติสฺสตีติ ทีเปติ. ปสฺเสมาติ อปิ นาม ปสฺเสยฺยาม.

เอวํ วตฺวา มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา เอกสฺมึ สภาคฏฺาเน ภิกฺขาย จริตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมฺม อนุปุพฺเพน หิมวนฺโตกาสเมว คนฺตฺวา กิฺจิ กาลํ วสิตฺวา ปุน โอตริตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ นิสฺสาย อรฺเ วสิ. ตสฺส ปน คตกาลโต ปฏฺาย เต อมจฺจา ปุน วินิจฺฉเย นิสีทิตฺวา วิโลปํ กโรนฺตา จินฺตยึสุ – ‘‘สเจ มหาโพธิปริพฺพาชโก ปุนาคมิสฺสติ, ชีวิตํ โน นตฺถิ, กึ นุ ขฺวสฺส อนาคมนการณํ กเรยฺยามา’’ติ. อถ เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘อิเม สตฺตา ปฏิพทฺธฏฺานํ นาม ชหิตุํ น สกฺโกนฺติ, กึ นุ ขฺวสฺส อิธ ปฏิพทฺธฏฺาน’’นฺติ. ตโต ‘‘รฺโ อคฺคมเหสี’’ติ ตฺวา ‘‘านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส อิมํ นิสฺสาย อาคจฺเฉยฺย, ปฏิกจฺเจว นํ มาราเปสฺสามา’’ติ เต ราชานํ เอตทโวจุํ – ‘‘เทว, อิมสฺมึ ทิวเส นคเร เอกา กถา สูยตี’’ติ. ‘‘กึ กถา นามา’’ติ? ‘‘มหาโพธิปริพฺพาชโก จ กิร เทวี จ อฺมฺํ สาสนปฏิสาสนํ เปเสนฺตี’’ติ. ‘‘กินฺติ กตฺวา’’ติ? เตน กิร เทวิยา เปสิตํ ‘‘สกฺกา นุ โข อตฺตโน พเลน ราชานํ มาราเปตฺวา มม เสตจฺฉตฺตํ ทาตุ’’นฺติ. ตายปิสฺส เปสิตํ ‘‘รฺโ มารณํ นาม มม ภาโร, มหาโพธิปริพฺพาชโก ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ ราชา เตสํ ปุนปฺปุนํ กเถนฺตานํ สทฺทหิตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เทวึ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต อนุปปริกฺขิตฺวาว ‘‘เตน หิ นํ ตุมฺเหว มาเรตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา วจฺจกูเป ขิปถา’’ติ อาห. เต ตถา กรึสุ. ตสฺสา มาริตภาโว สกลนคเร ปากโฏ อโหสิ.

อถสฺสา จตฺตาโร ปุตฺตา ‘‘อิมินา โน นิรปราธา มาตา มาริตา’’ติ รฺโ ปจฺจตฺถิกา อเหสุํ. ราชา มหาภยปฺปตฺโต อโหสิ. มหาสตฺโต ปรมฺปราย ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ เต กุมาเร สฺาเปตฺวา ปิตรํ ขมาเปตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, รฺโ จ ชีวิตํ ทสฺสามิ, กุมาเร จ ปาปโต โมเจสฺสามี’’ติ. โส ปุนทิวเส ปจฺจนฺตคามํ ปวิสิตฺวา มนุสฺเสหิ ทินฺนํ มกฺกฏมํสํ ขาทิตฺวา ตสฺส จมฺมํ ยาจิตฺวา คเหตฺวา อสฺสมปเท สุกฺขาเปตฺวา นิคฺคนฺธํ กตฺวา นิวาเสสิปิ ปารุเปสิปิ อํเสปิ เปสิ. กึการณา? ‘‘พหูปกาโร เม’’ติ วจนตฺถาย. โส ตํ จมฺมํ อาทาย อนุปุพฺเพน พาราณสึ คนฺตฺวา กุมาเร อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปิตุฆาตกกมฺมํ นาม ทารุณํ, ตํ โว น กาตพฺพํ, อชรามโร สตฺโต นาม นตฺถิ, อหํ ตุมฺเห อฺมฺํ สมคฺเค กริสฺสามิจฺเจว อาคโต, ตุมฺเห มยา ปหิเต สาสเน อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ กุมาเร โอวทิตฺวา อนฺโตนคเร อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มกฺกฏจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิลาปฏฺเฏ นิสีทิ.

อถ นํ อุยฺยานปาลโก ทิสฺวา เวเคน คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สุตฺวาว สฺชาตโสมนสฺโส หุตฺวา เต อมจฺเจ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กาตุํ อารภิ. มหาสตฺโต เตน สทฺธึ อสมฺโมทิตฺวา มกฺกฏจมฺมเมว ปริมชฺชิ. อถ นํ เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห มํ อกเถตฺวา มกฺกฏจมฺมเมว ปริมชฺชถ, กึ โว อิทํ มยา พหูปการตร’’นฺติ? ‘‘อาม มหาราช, พหูปกาโร เม เอส วานโร, อหมสฺส ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา วิจรึ, อยํ เม ปานียฆฏํ อาหริ, วสนฏฺานํ สมฺมชฺชิ, อาภิสมาจาริกวตฺตปฏิวตฺตํ มม อกาสิ, อหํ ปน อตฺตโน ทุพฺพลจิตฺตตาย อสฺส มํสํ ขาทิตฺวา จมฺมํ สุกฺขาเปตฺวา อตฺถริตฺวา นิสีทามิ เจว นิปชฺชามิ จ, เอวํ พหูปกาโร เอส มยฺห’’นฺติ. อิติ โส เตสํ วาเท ภินฺทนตฺถาย วานรจมฺเม วานรโวหารํ อาโรเปตฺวา ตํ ตํ ปริยายํ สนฺธาย อิมํ กถํ กเถสิ. โส หิ ตสฺส นิวุตฺถปุพฺพตฺตา ‘‘ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา วิจริ’’นฺติ อาห; ตํ อํเส กตฺวา ปานียฆฏสฺส อาหฏปุพฺพตฺตา ‘‘ปานียฆฏํ อาหรี’’ติ อาห; เตน จมฺเมน ภูมิยํ สมฺมฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘วสนฏฺานํ สมฺมชฺชี’’ติ อาห; นิปนฺนกาเล เตน จมฺเมน ปิฏฺิยา, อกฺกนฺตกาเล ปาทานํ ผุฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘วตฺตปฏิวตฺตํ เม อกาสี’’ติ อาห. ฉาตกาเล ปน ตสฺส มํสํ ลภิตฺวา ขาทิตตฺตา ‘‘อหํ ปน อตฺตโน ทุพฺพลจิตฺตตาย ตสฺส มํสํ ขาทิ’’นฺติ อาห.

ตํ สุตฺวา เต อมจฺจา ‘‘ปาณาติปาโต เตน กโต’’ติ สฺาย ‘‘ปสฺสถ, โภ, ปพฺพชิตสฺส กมฺมํ, มกฺกฏํ กิร มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา จมฺมํ คเหตฺวา วิจรตี’’ติ ปาณึ ปหริตฺวา ปริหาสมกํสุ. มหาสตฺโต เต ตถา กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิเม อตฺตโน วาทเภทนตฺถาย มม จมฺมํ อาทาย อาคตภาวํ น ชานนฺติ, ชานาเปสฺสามิ เน’’ติ อเหตุกวาทึ ตาว อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, ตฺวํ กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ? ‘‘มิตฺตทุพฺภิกมฺมสฺส เจว ปาณาติปาตสฺส จ กตตฺตา’’ติ. ตโต มหาสตฺโต ‘‘โย ปน คติยา เจว ทิฏฺิยา จ เต สทฺทหิตฺวา เอวํ กเรยฺย, เตน กึ ทุกฺกฏ’’นฺติ ตสฺส วาทํ ภินฺทนฺโต อาห –

๑๓๙.

‘‘อุทีรณา เจ สํคตฺยา, ภาวายมนุวตฺตติ;

อกามา อกรณียํ วา, กรณียํ วาปิ กุพฺพติ;

อกามกรณียมฺหิ, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.

๑๔๐.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๔๑.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ อุทีรณาติ กถา. สํคตฺยาติ สํคติยา ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตํ ตํ อภิชาตึ อุปคมเนน. ภาวายมนุวตฺตตีติ ภาเวน อนุวตฺตติ, กรณตฺเถ สมฺปทานํ. อกามาติ อกาเมน อนิจฺฉาย. อกรณียํ วา กรณียํ วาปีติ อกตฺตพฺพํ ปาปํ วา กตฺตพฺพํ กุสลํ วา. กุพฺพตีติ กโรติ. กฺวิธาติ โก อิธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตฺวํ อเหตุกวาที ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติอาทิทิฏฺิโก, อยํ โลโก สํคติยา เจว สภาเวน จ อนุวตฺตติ ปริณมติ, ตตฺถ ตตฺถ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ. อกามโกว ปาปํ วา ปุฺํ วา กโรตีติ วทสิ, อยํ ตว อุทีรณา สเจ ตถา, เอวํ สนฺเต อกามกรณียสฺมึ อตฺตโน ธมฺมตาย ปวตฺตมาเน ปาเป โก อิธ สตฺโต ปาเปน ลิปฺปติ, สเจ หิ อตฺตนา อกเตน ปาเปน ลิปฺปติ, น โกจิ น ลิปฺเปยฺยาติ.

โส เจติ โส อเหตุกวาทสงฺขาโต ตว ภาสิตตฺโถ จ อตฺถโชตโก ธมฺโม จ กลฺยาโณ น จ ปาปโก. ‘‘อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ, สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวทิยนฺตี’’ติ อิทํ โภโต วจนํ สจฺจํ เจ, สุหโต วานโร มยา, โก เอตฺถ มม โทโสติ อตฺโถ. วิชานิยาติ, สมฺม, สเจ หิ ตฺวํ อตฺตโน วาทสฺส อปราธํ ชาเนยฺยาสิ, น มํ ครเหยฺยาสิ. กึการณา? โภโต วาโท หิ ตาทิโส, ตสฺมา อยํ มม วาทํ กโรตีติ มํ ปสํเสยฺยาสิ, อตฺตโน ปน วาทํ อชานนฺโต มํ ครหสีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ตํ นิคฺคณฺหิตฺวา อปฺปฏิภาณํ อกาสิ. โสปิ ราชปริสติ มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส วาทํ ภินฺทิตฺวา อิสฺสรกตวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, มํ กสฺมา ปริหสสิ, ยทิ อิสฺสรนิมฺมิตวาทํ สารโต ปจฺเจสี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๔๒.

‘‘อิสฺสโร สพฺพโลกสฺส, สเจ กปฺเปติ ชีวิตํ;

อิทฺธึ พฺยสนภาวฺจ, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;

นิทฺเทสการี ปุริโส, อิสฺสโร เตน ลิปฺปติ.

๑๔๓.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๔๔.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ กปฺเปติ ชีวิตนฺติ สเจ พฺรหฺมา วา อฺโ วา โกจิ อิสฺสโร ‘‘ตฺวํ กสิยา ชีว, ตฺวํ โครกฺเขนา’’ติ เอวํ สพฺพโลกสฺส ชีวิตํ สํวิทหติ วิจาเรติ. อิทฺธึ พฺยสนภาวฺจาติ อิสฺสริยาทิเภทา อิทฺธิโย จ าติวินาสาทิกํ พฺยสนภาวฺจ เสสฺจ กลฺยาณปาปกํ กมฺมํ สพฺพํ ยทิ อิสฺสโรว กปฺเปติ กโรติ. นิทฺเทสการีติ ยทิ ตสฺส นิทฺเทสํ อาณตฺติเมว เสโส โย โกจิ ปุริโส กโรติ, เอวํ สนฺเต โย โกจิ ปุริโส ปาปํ กโรติ, ตสฺส อิสฺสเรน กตตฺตา อิสฺสโรว เตน ปาเปน ลิปฺปติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ.

อิติ โส อมฺพโตว มุคฺครํ คเหตฺวา อมฺพํ ปาเตนฺโต วิย อิสฺสรกรเณเนว อิสฺสรกตวาทํ ภินฺทิตฺวา ปุพฺเพกตวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, มํ กึ ปริหสสิ, ยทิ ปุพฺเพกตวาทํ สจฺจํ มฺสี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๔๕.

‘‘สเจ ปุพฺเพกตเหตุ, สุขทุกฺขํ นิคจฺฉติ;

โปราณกํ กตํ ปาปํ, ตเมโส มุจฺจเต อิณํ;

โปราณก อิณโมกฺโข, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.

๑๔๖.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๔๗.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺพกตเหตุ ปุริมภเว กตกมฺมการเณเนว. ตเมโส มุจฺจเต อิณนฺติ โย วธพนฺธาทีหิ ทุกฺขํ ปาปุณาติ, ยทิ โส ยํ เตน โปราณกํ กตํ ปาปํ, ตํ อิทานิ อิณํ มุจฺจติ, เอวํ สนฺเต มมปิ เอส โปราณกอิณโต โมกฺโข, อเนน หิ มกฺกเฏน ปุพฺเพ ปริพฺพาชเกน หุตฺวา อหํ มกฺกโฏ สมาโน มาเรตฺวา ขาทิโต ภวิสฺสามิ, สฺวายํ อิธ มกฺกฏตฺตํ ปตฺโต มยา ปริพฺพาชกตฺตํ ปตฺเตน มาเรตฺวา ขาทิโต ภวิสฺสติ, โก อิธ ปาเปน ลิปฺปตีติ.

อิติ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา อุจฺเฉทวาทึ อภิมุขํ กตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ‘อิตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทีนิ วตฺวา ‘อิเธว สตฺตา อุจฺฉิชฺชนฺติ, ปรโลกํ คตา นาม นตฺถี’ติ มฺมาโน กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ สนฺตชฺเชตฺวา อาห –

๑๔๘.

‘‘จตุนฺนํเยวุปาทาย, รูปํ สมฺโภติ ปาณินํ;

ยโต จ รูปํ สมฺโภติ, ตตฺเถวานุปคจฺฉติ;

อิเธว ชีวติ ชีโว, เปจฺจ เปจฺจ วินสฺสติ.

๑๔๙.

‘‘อุจฺฉิชฺชติ อยํ โลโก, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;

อุจฺฉิชฺชมาเน โลกมฺหิ, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.

๑๕๐.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๕๑.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ จตุนฺนนฺติ ปถวีอาทีนํ ภูตานํ. รูปนฺติ รูปกฺขนฺโธ. ตตฺเถวาติ ยโต ตํ รูปํ สมฺโภติ, นิรุชฺฌนกาเลปิ ตตฺเถว อนุปคจฺฉติ. อิมินา ตสฺส ‘‘จาตุมหาภูติโก อยํ ปุริโส ยทา กาลํ กโรติ, ตทา ปถวี ปถวีกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อาโป… เตโช… วาโย วาโยกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อากาสํ อินฺทฺริยานิ สงฺกมนฺติ, อาสนฺธิปฺจมา ปุริสา มตํ อาทาย คจฺฉนฺติ, ยาว อาฬาหนา ปทานิ ปฺายนฺติ, กาโปตกานิ อฏฺีนิ ภวนฺติ, ภสฺมนฺตา อาหุติโย, ทตฺตุปฺตฺตํ ยทิทํ ทานํ, เตสํ ตุจฺฉา มุสา วิลาโป, เย เกจิ อตฺถิกวาทํ วทนฺติ, พาเล จ ปณฺฑิเต จ กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ, น โหนฺติ ปรํ มรณา’’ติ อิมํ ทิฏฺึ ปติฏฺาเปสิ. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว โลเก ชีโว ชีวติ. เปจฺจ เปจฺจ วินสฺสตีติ ปรโลเก นิพฺพตฺโต สตฺโต คติวเสน อิธ อนาคนฺตฺวา ตตฺเถว ปรโลเก วินสฺสติ อุจฺฉิชฺชติ. เอวํ อุจฺฉิชฺชมาเน โลกสฺมึ โก อิธ ปาเปน ลิปฺปตีติ.

อิติ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา ขตฺตวิชฺชวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ‘มาตาปิตโรปิ มาเรตฺวา อตฺตโน อตฺโถ กาตพฺโพ’ติ อิมํ ลทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา วิจรนฺโต กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕๒.

‘‘อาหุ ขตฺตวิทา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

มาตรํ ปิตรํ หฺเ, อโถ เชฏฺมฺปิ ภาตรํ;

หเนยฺย ปุตฺตทาเร จ, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.

ตตฺถ ขตฺตวิทาติ ขตฺตวิชฺชา, อยเมว วา ปาโ. ขตฺตวิชฺชาจริยานํ เอตํ นามํ. พาลา ปณฺฑิตมานิโนติ พาลา สมานาปิ ‘‘ปณฺฑิตา มยํ อตฺตโน ปณฺฑิตภาวํ ปกาเสมา’’ติ มฺมานา ปณฺฑิตมานิโน หุตฺวา เอวมาหุ. อตฺโถ เจติ สเจ อตฺตโน ยถารูโป โกจิ อตฺโถ สิยา, น กิฺจิ ปริวชฺเชยฺย, สพฺพํ หเนยฺเยวาติ วทนฺติ, ตฺวมฺปิ เนสํ อฺตโรติ.

เอวํ ตสฺส ลทฺธึ ปติฏฺเปตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๕๓.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.

๑๕๔.

‘‘อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สมูลมปิ อพฺพเห;

อตฺโถ เม สมฺพเลนาปิ, สุหโต วานโร มยา.

๑๕๕.

‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;

โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.

๑๕๖.

‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;

น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.

ตตฺถ อมฺโภ ขตฺตวิท อมฺหากํ ปน อาจริยา เอวํ วณฺณยนฺติ. อตฺตนา ปริภุตฺตจฺฉายสฺส รุกฺขสฺสปิ สาขํ วา ปณฺณํ วา น ภฺเชยฺย. กึการณา? มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก. ตฺวํ ปน เอวํ วเทสิ – ‘‘อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน สมูลมปิ อพฺพเห’’ติ, มม จ ปาเถยฺเยน อตฺโถ อโหสิ, ตสฺมา สเจเปส มยา หโต, ตถาปิ อตฺโถ เม สมฺพเลนาปิ, สุหโต วานโร มยา.

เอวํ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา ปฺจสุ เตสุ อปฏิภาเนสุ นิสินฺเนสุ ราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, ตฺวํ อิเม ปฺจ รฏฺวิโลปเก มหาโจเร คเหตฺวา วิจรสิ, อโห พาโล, เอวรูปานฺหิ สํสคฺเคน ปุริโส ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ มหาทุกฺขํ ปาปุเณยฺยา’’ติ วตฺวา รฺโ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

๑๕๗.

‘‘อเหตุวาโท ปุริโส, โย จ อิสฺสรกุตฺติโก;

ปุพฺเพกตี จ อุจฺเฉที, โย จ ขตฺตวิโท นโร.

๑๕๘.

‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;

อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย’’ติ.

ตตฺถ ตาทิโสติ, มหาราช, ยาทิสา เอเต ปฺจ ทิฏฺิคติกา, ตาทิโส ปุริโส สยมฺปิ ปาปํ กเรยฺย. ยฺวาสฺส วจนํ สุณาติ, ตํ อฺมฺปิ การเย. ทุกฺขนฺโตติ เอวรูเปหิ อสปฺปุริเสหิ สทฺธึ สํสคฺโค อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโยว โหติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ ‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต’’ติ สุตฺตํ (อ. นิ. ๓.๑) อาหริตพฺพํ. โคธชาตก- (ชา. ๑.๑.๑๓๘) สฺชีวชาตก- (ชา. ๑.๑.๑๕๐) อกิตฺติชาตกาทีหิ (ชา. ๑.๑๓.๘๓ อาทโย) จายมตฺโถ ทีเปตพฺโพ.

อิทานี โอปมฺมทสฺสนวเสน ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒนฺโต อาห –

๑๕๙.

‘‘อุรพฺภรูเปน วกสฺสุ ปุพฺเพ, อสํกิโต อชยูถํ อุเปติ;

หนฺตฺวา อุรณึ อชิกํ อชฺจ, อุตฺราสยิตฺวา เยนกามํ ปเลติ.

๑๖๐.

‘‘ตถาวิเธเก สมณพฺราหฺมณาเส, ฉทนํ กตฺวา วฺจยนฺติ มนุสฺเส;

อนาสกา ถณฺฑิลเสยฺยกา จ, รโชชลฺลํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ;

ปริยายภตฺตฺจ อปานกตฺตา, ปาปาจารา อรหนฺโต วทานา.

๑๖๑.

‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;

อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย.

๑๖๒.

‘‘ยมาหุ นตฺถิ วีริยนฺติ, อเหตุฺจ ปวทนฺติ เย;

ปรการํ อตฺตการฺจ, เย ตุจฺฉํ สมวณฺณยุํ.

๑๖๓.

‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;

กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;

อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย.

๑๖๔.

‘‘สเจ หิ วีริยํ นาสฺส, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;

น ภเร วฑฺฒกึ ราชา, นปิ ยนฺตานิ การเย.

๑๖๕.

‘‘ยสฺมา จ วีริยํ อตฺถิ, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;

ตสฺมา ยนฺตานิ กาเรติ, ราชา ภรติ วฑฺฒกึ.

๑๖๖.

‘‘ยทิ วสฺสสตํ เทโว, น วสฺเส น หิมํ ปเต;

อุจฺฉิชฺเชยฺย อยํ โลโก, วินสฺเสยฺย อยํ ปชา.

๑๖๗.

‘‘ยสฺมา จ วสฺสตี เทโว, หิมฺจานุผุสายติ;

ตสฺมา สสฺสานิ ปจฺจนฺติ, รฏฺฺจ ปาลิเต จิรํ.

๑๖๘.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.

๑๖๙.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ ทุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.

๑๗๐.

‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา คาวี อุชุํ ยนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.

๑๗๑.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส สเจ ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก.

๑๗๒.

‘‘มหารุกฺขสฺส ผลิโน, อามํ ฉินฺทติ โย ผลํ;

รสฺจสฺส น ชานาติ, พีชฺจสฺส วินสฺสติ.

๑๗๓.

‘‘มหารุกฺขูปมํ รฏฺํ, อธมฺเมน ปสาสติ;

รสฺจสฺส น ชานาติ, รฏฺฺจสฺส วินสฺสติ.

๑๗๔.

‘‘มหารุกฺขสฺส ผลิโน, ปกฺกํ ฉินฺทติ โย ผลํ;

รสฺจสฺส วิชานาติ, พีชฺจสฺส น นสฺสติ.

๑๗๕.

‘‘มหารุกฺขูปมํ รฏฺํ, ธมฺเมน โย ปสาสติ;

รสฺจสฺส วิชานาติ, รฏฺฺชสฺส น นสฺสติ.

๑๗๖.

‘‘โย จ ราชา ชนปทํ, อธมฺเมน ปสาสติ;

สพฺโพสธีหิ โส ราชา, วิรุทฺโธ โหติ ขตฺติโย.

๑๗๗.

‘‘ตเถว เนคเม หึสํ, เย ยุตฺตา กยวิกฺกเย;

โอชทานพลีกาเร, ส โกเสน วิรุชฺฌติ.

๑๗๘.

‘‘ปหารวรเขตฺตฺู, สงฺคาเม กตนิสฺสเม;

อุสฺสิเต หึสยํ ราชา, ส พเลน วิรุชฺฌติ.

๑๗๙.

‘‘ตเถว อิสโย หึสํ, สฺเต พฺรหฺมจาริโน;

อธมฺมจารี ขตฺติโย, โส สคฺเคน วิรุชฺฌติ.

๑๘๐.

‘‘โย จ ราชา อธมฺมฏฺโ, ภริยํ หนฺติ อทูสิกํ;

ลุทฺธํ ปสวเต านํ, ปุตฺเตหิ จ วิรุชฺฌติ.

๑๘๑.

‘‘ธมฺมํ จเร ชานปเท, เนคเมสุ พเลสุ จ;

อิสโย จ น หึเสยฺย, ปุตฺตทาเร สมํ จเร.

๑๘๒.

‘‘ส ตาทิโส ภูมิปติ, รฏฺปาโล อโกธโน;

สปตฺเต สมฺปกมฺเปติ, อินฺโทว อสุราธิโป’’ติ.

ตตฺถ วกสฺสูติ วโก อสฺสุ, อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ปุพฺเพ เอโก อุรพฺภรูโป วโก อโหสิ, ตสฺส นงฺคุฏฺมตฺตเมว ทีฆํ, ตํ ปน โส อนฺตรสตฺติมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา อุรพฺภรูเปน อสํกิโต อชยูถํ อุเปติ. ตตฺถ อุรณิกฺจ อชิกฺจ อชฺจ หนฺตฺวา เยนกามํ ปเลติ. ตถาวิเธเกติ ตถาวิธา เอเก สมณพฺราหฺมณา ปพฺพชฺชาลิงฺเคน ฉทนํ กตฺวา อตฺตานํ ฉาเทตฺวา มธุรวจนาทีหิ หิตกามา วิย หุตฺวา โลกํ วฺเจนฺติ. ‘‘อนาสกา’’ติอาทิ เตสํ ฉทนสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอกจฺเจ หิ ‘‘มยํ อนาสกา น กิฺจิ อาหาเรมา’’ติ มนุสฺเส วฺเจนฺติ, อปเร ‘‘มยํ ถณฺฑิลเสยฺยกา’’ติ. อฺเสํ ปน รโชชลฺลํ ฉทนํ, อฺเสํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ, เต คจฺฉนฺตาปิ อุปฺปติตฺวา อุกฺกุฏิกาว คจฺฉนฺติ. อฺเสํ สตฺตาหทสาหาทิวารโภชนสงฺขาตํ ปริยายภตฺตฉทนํ, อปเร อปานกตฺตา โหนฺติ, ‘‘มยํ ปานียํ น ปิวามา’’ติ วทนฺติ. อรหนฺโต วทานาติ ปาปาจารา หุตฺวาปิ ‘‘มยํ อรหนฺโต’’ติ วทนฺตา วิจรนฺติ. เอเตติ, มหาราช, อิเม วา ปฺจ ชนา โหนฺตุ อฺเ วา, ยาวนฺโต ทิฏฺิคติกา นาม, สพฺเพปิ เอเต อสปฺปุริสา. ยมาหูติ เย อาหุ, เย วทนฺติ.

สเจ หิ วีริยํ นาสฺสาติ, มหาราช, สเจ าณสมฺปยุตฺตํ กายิกเจตสิกวีริยํ น ภเวยฺย. กมฺมนฺติ กลฺยาณปาปกํ กมฺมมฺปิ ยทิ น ภเวยฺย. น ภเรติ เอวํ สนฺเต วฑฺฒกึ วา อฺเ วา การเก ราชา น โปเสยฺย, นปิ ยนฺตานีติ นปิ เตหิ สตฺตภูมิกปาสาทาทีนิ ยนฺตานิ กาเรยฺย. กึการณา? วีริยสฺส เจว กมฺมสฺส จ อภาวา. อุจฺฉิชฺเชยฺยาติ, มหาราช, ยทิ เอตฺตกํ กาลํ เนว เทโว วสฺเสยฺย, น หิมํ ปเตยฺย, อถ กปฺปุฏฺานกาโล วิย อยํ โลโก อุจฺฉิชฺเชยฺย. อุจฺเฉทวาทินา กถิตนิยาเมน ปน อุจฺเฉโท นาม นตฺถิ. ปาลิเตติ ปาลยติ.

‘‘ควํ เจ’’ติ จตสฺโส คาถา รฺโ ธมฺมเทสนายเมว วุตฺตา, ตถา ‘‘มหารุกฺขสฺสา’’ติอาทิกา. ตตฺถ มหารุกฺขสฺสาติ มธุรอมฺพรุกฺขสฺส. อธมฺเมนาติ อคติคมเนน. รสฺจสฺส น ชานาตีติ อธมฺมิโก ราชา รฏฺสฺส รสํ โอชํ น ชานาติ, อายสมฺปตฺตึ น ลภติ. วินสฺสตีติ สุฺํ โหติ, มนุสฺสา คามนิคเม ฉฑฺเฑตฺวา ปจฺจนฺตํ ปพฺพตวิสมํ ภชนฺติ, สพฺพานิ อายมุขานิ ปจฺฉิชฺชนฺติ. สพฺโพสธีหีติ สพฺเพหิ มูลตจปตฺตปุปฺผผลาทีหิ เจว สปฺปินวนีตาทีหิ จ โอสเธหิ วิรุชฺฌติ, ตานิ น สมฺปชฺชนฺติ. อธมฺมิกรฺโ หิ ปถวี นิโรชา โหติ, ตสฺสา นิโรชตาย โอสธานํ โอชา น โหติ, ตานิ โรคฺจ วูปสเมตุํ น สกฺโกนฺติ. อิติ โส เตหิ วิรุทฺโธ นาม โหติ.

เนคเมติ นิคมวาสิกุฏุมฺพิเก. หึสนฺติ หึสนฺโต ปีเฬนฺโต. เย ยุตฺตาติ เย กยวิกฺกเย ยุตฺตา อายานํ มุขา ถลชลปถวาณิชา, เต จ หึสนฺโต. โอชทานพลีกาเรติ ตโต ตโต ภณฺฑาหรณสุงฺกทานวเสน โอชทานฺเจว ฉภาคทสภาคาทิเภทํ พลิฺจ กโรนฺเต. ส โกเสนาติ โส เอเต หึสนฺโต อธมฺมิกราชา ธนธฺเหิ ปริหายนฺโต โกเสน วิรุชฺฌติ นาม. ปหารวรเขตฺตฺูติ ‘‘อิมสฺมึ าเน วิชฺฌิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอวํ ปหารวรานํ เขตฺตํ ชานนฺเต ธนุคฺคเห. สงฺคาเม กตนิสฺสเมติ ยุทฺเธ สุกตกมฺเม มหาโยเธ. อุสฺสิเตติ อุคฺคเต ปฺาเต มหามตฺเต. หิ สยนฺติ เอวรูเป สยํ วา หึสนฺโต ปเรหิ วา หึสาเปนฺโต. พเลนาติ พลกาเยน. ตถาวิธฺหิ ราชานํ ‘‘อยํ พหุกาเร อตฺตโน รชฺชทายเกปิ หึสติ, กิมงฺคํ ปน อมฺเห’’ติ อวเสสาปิ โยธา วิชหนฺติเยว. อิติ โส พเลน วิรุทฺโธ นาม โหติ.

ตเถว อิสโย หึสนฺติ ยถา จ เนคมาทโย, ตเถว เอสิตคุเณ ปพฺพชิเต อกฺโกสนปหรณาทีหิ หึสนฺโต อธมฺมจารี ราชา กายสฺส เภทา อปายเมว อุเปติ, สคฺเค นิพฺพตฺติตุํ น สกฺโกตีติ สคฺเคน วิรุทฺโธ นาม โหติ. ภริยํ หนฺติ อทูสิกนฺติ อตฺตโน พาหุจฺฉายาย วฑฺฒิตํ ปุตฺตธีตาหิ สํวฑฺฒํ สีลวตึ ภริยํ มิตฺตปติรูปกานํ โจรานํ วจนํ คเหตฺวา มาเรติ. ลุทฺธํ ปสวเต านนฺติ โส อตฺตโน นิรยูปปตฺตึ ปสวติ นิปฺผาเทติ. ปุตฺเตหิ จาติ อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว อตฺตโน ปุตฺเตหิ สทฺธึ วิรุชฺฌตีติ.

เอวมสฺส โส เตสํ ปฺจนฺนํ ชนานํ กถํ คเหตฺวา เทวิยา มาริตภาวฺจ ปุตฺตานํ วิรุทฺธภาวฺจ สนฺธิมุเข โจรํ จูฬายํ คณฺหนฺโต วิย กเถสิ. มหาสตฺโต หิ เตสํ อมจฺจานํ นิคฺคณฺหนฺจ ธมฺมเทสนฺจ เทวิยา เตหิ มาริตภาวสฺส อาวิกรณตฺถฺจ ตตฺถ อนุปุพฺเพน กถํ อาหริตฺวา โอกาสํ กตฺวา เอตมตฺถํ กเถสิ. ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อตฺตโน อปราธํ ชานิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘อิโต ปฏฺาย, มหาราช, เอวรูปานํ ปาปานํ กถํ คเหตฺวา มา ปุน เอวมกาสี’’ติ วตฺวา โอวทนฺโต ‘‘ธมฺมํ จเร’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ธมฺมํ จเรติ, มหาราช, ราชา นาม ชนปทํ อธมฺมิเกน พลินา อปีเฬนฺโต ชนปเท ธมฺมํ จเรยฺย, สามิเก อสามิเก อกโรนฺโต เนคเมสุ ธมฺมํ จเรยฺย, อฏฺาเน อกิลเมนฺโต พเลสุ ธมฺมํ จเรยฺย. วธพนฺธอกฺโกสปริภาเส ปริหรนฺโต ปจฺจเย จ เนสํ ททนฺโต อิสโย น วิหึเสยฺย, ธีตโร ยุตฺตฏฺาเน ปติฏฺาเปนฺโต ปุตฺเต จ สิปฺปานิ สิกฺขาเปตฺวา สมฺมา ปริหรนฺโต ภริยํ อิสฺสริยโวสฺสคฺคอลงฺการทานสมฺมานนาทีหิ อนุคฺคณฺหนฺโต ปุตฺตทาเร สมํ จเรยฺย. ส ตาทิโสติ โส ตาทิโส ราชา ปเวณึ อภินฺทิตฺวา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ราชาณาย ราชเตเชน สปตฺเต สมฺปกมฺเปติ ตาเสติ จาเลติ. ‘‘อินฺโทวา’’ติ อิทํ อุปมตฺถํ วุตฺตํ. ยถา อสุเร เชตฺวา อภิภวิตฺวา ิตกาลโต ปฏฺาย อสุราธิโปติ สงฺขฺยํ คโต อินฺโท อตฺตโน สปตฺตภูเต อสุเร กมฺเปสิ, ตถา กมฺเปตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา จตฺตาโรปิ กุมาเร ปกฺโกสาเปตฺวา โอวทิตฺวา รฺโ กตกมฺมํ ปกาเสตฺวา ราชานํ ขมาเปตฺวา ‘‘มหาราช, อิโต ปฏฺาย อตุเลตฺวา ปริเภทกานํ กถํ คเหตฺวา มา เอวรูปํ สาหสิกกมฺมํ อกาสิ, ตุมฺเหปิ กุมารา มา รฺโ ทุพฺภิตฺถา’’ติ สพฺเพสํ โอวาทํ อทาสิ. อถ นํ ราชา อาห – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ จ เทวิยา จ อปรชฺฌนฺโต อิเม นิสฺสาย เอเตสํ กถํ คเหตฺวา เอตํ ปาปกมฺมํ กรึ, อิเม ปฺจปิ มาเรมี’’ติ. น ลพฺภา, มหาราช, เอวํ กาตุนฺติ. เตน หิ เตสํ หตฺถปาเท เฉทาเปมีติ. อิทมฺปิ น ลพฺภา กาตุนฺติ. ราชา ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เต สพฺพสํหรเณ กตฺวา ปฺจจูฬากรณคทฺทูลพนฺธนโคมยาสิฺจเนหิ อวมาเนตฺวา รฏฺา ปพฺพาเชสิ. โพธิสตฺโต ตตฺถ กติปาหํ วสิตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ ราชานํ โอวทิตฺวา หิมวนฺตํเยว คนฺตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา ยาวชีวํ พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ เทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต ปฺวาเยว ปรปฺปวาทปฺปมทฺทโนเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ปฺจ ทิฏฺิคติกา ปูรณกสฺสปมกฺขลิโคสาลปกุธกจฺจานอชิตเกสกมฺพลนิคณฺนาฏปุตฺตา อเหสุํ, ปิงฺคลสุนโข อานนฺโท, มหาโพธิปริพฺพาชโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาโพธิชาตกวณฺณนา ตติยา.

ชาตกุทฺทานํ –

สนิฬีนิกมวฺหยโน ปโม, ทุติโย ปน สอุมฺมทนฺติวโร;

ตติโย ปน โพธิสิรีวฺหยโน, กถิตา ปน ตีณิ ชิเนน สุภาติ.

ปณฺณาสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙. สฏฺินิปาโต

[๕๒๙] ๑. โสณกชาตกวณฺณนา

กสฺส สุตฺวา สตํ ทมฺมีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เนกฺขมฺมปารมึ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ ภควา ธมฺมสภายํ เนกฺขมฺมปารมึ วณฺณยนฺตานํ ภิกฺขูนํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ, นามคฺคหณทิวเส จสฺส ‘‘อรินฺทมกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส ชาตทิวเสเยว ปุโรหิตสฺสปิ ปุตฺโต ชายิ, ‘‘โสณกกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ เอกโตว วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺตา อุตฺตมรูปธรา รูเปน นิพฺพิเสสา หุตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา อุคฺคหิตสิปฺปา ตโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘สพฺพสมยสิปฺปฺจ เทสจาริตฺตฺจ ชานิสฺสามา’’ติ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรนฺตา พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส นครํ ปวิสึสุ. ตํ ทิวสฺจ เอกจฺเจ มนุสฺสา ‘‘พฺราหฺมณวาจนกํ กริสฺสามา’’ติ ปายาสํ ปฏิยาเทตฺวา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา อาคจฺฉนฺเต เต กุมาเร ทิสฺวา ฆรํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปสุํ. ตตฺถ โพธิสตฺตสฺส ปฺตฺตาสเน สุทฺธวตฺถํ อตฺถตํ อโหสิ, โสณกสฺส รตฺตกมฺพลํ. โส ตํ นิมิตฺตํ ทิสฺวาว ‘‘อชฺช เม ปิยสหาโย อรินฺทมกุมาโร พาราณสิราชา ภวิสฺสติ, มยฺหํ ปน เสนาปติฏฺานํ ทสฺสตี’’ติ อฺาสิ. เต อุโภปิ กตภตฺตกิจฺจา อุยฺยานเมว อคมํสุ.

ตทา พาราณสิรฺโ กาลกตสฺส สตฺตโม ทิวโส โหติ, อปุตฺตกํ ราชกุลํ. อมจฺจาทโย ปาโตว สสีสํ นฺหาตา สนฺนิปติตฺวา ‘‘รชฺชารหสฺส สนฺติกํ คมิสฺสตี’’ติ ผุสฺสรถํ โยเชตฺวา วิสฺสชฺเชสุํ. โส นครา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ราชุยฺยานํ คนฺตฺวา อุยฺยานทฺวาเร นิวตฺติตฺวา อาโรหณสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. โพธิสตฺโต มงฺคลสิลาปฏฺเฏสสีสํ ปารุปิตฺวา นิปชฺชิ, โสณกกุมาโร ตสฺส สนฺติเก นิสีทิ. โส ตูริยสทฺทํ สุตฺวา ‘‘อรินฺทมสฺส ผุสฺสรโถ อาคจฺฉติ, อชฺเชส ราชา หุตฺวา มม เสนาปติฏฺานํ ทสฺสติ, น โข ปน มยฺหํ อิสฺสริเยนตฺโถ, เอตสฺมึ คเต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกมนฺเต ปฏิจฺฉนฺเน อฏฺาสิ. ปุโรหิโต อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มหาสตฺตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ. มหาสตฺโต ปพุชฺฌิตฺวา ปริวตฺติตฺวา โถกํ นิปชฺชิตฺวา อุฏฺาย สิลาปฏฺเฏ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อถ นํ ปุโรหิโต อฺชลึ ปคฺคณฺหิตฺวา อาห – ‘‘รชฺชํ เต, เทว, ปาปุณาตี’’ติ. ‘‘กึ อปุตฺตกํ ราชกุล’’นฺติ? ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ สาธู’’ติ. อถ นํ เต ตตฺเถว อภิสิฺจิตฺวา รถํ อาโรเปตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นครํ ปเวเสสุํ. โส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาสาทํ อภิรูหิ. โส ยสมหนฺตตาย โสณกกุมารํ น สริ.

โสปิ ตสฺมึ นครํ ปวิฏฺเ ปจฺฉา อาคนฺตฺวา สิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. อถสฺส ปุรโต พนฺธนา ปวุตฺตํ สาลรุกฺขโต ปณฺฑุปลาสํ ปติ. โส ตํ ทิสฺวาว ‘‘ยเถเวตํ, ตถา มมปิ สรีรํ ชรํ ปตฺวา ปติสฺสตี’’ติ อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ปจฺเจกโพธึ ปาปุณิ. ตํขณฺเวสฺส คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, ปพฺพชิตลิงฺคํ ปาตุรโหสิ. โส ‘‘นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ อุทานํ อุทาเนนฺโต นนฺทมูลกปพฺภารํ อคมาสิ. มหาสตฺโตปิ จตฺตาลีสมตฺตานํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน สริตฺวา ‘‘กหํ นุ โข เม สหาโย โสณโก’’ติ โสณกํ ปุนปฺปุนํ สรนฺโตปิ ‘‘มยา สุโต วา ทิฏฺโ วา’’ติ วตฺตารํ อลภิตฺวา อลงฺกตมหาตเล ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน คนฺธพฺพนาฏกนจฺจคีตาทีหิ ปริวุโต สมฺปตฺติมนุภวนฺโต ‘‘โย เม กสฺสจิ สนฺติเก สุตฺวา ‘อสุกฏฺาเน นาม โสณโก วสตี’ติ อาจิกฺขิสฺสติ, ตสฺส สตํ ทสฺสามิ, โย เม สามํ ทิสฺวา อาโรเจสฺสติ, ตสฺส สหสฺส’’นฺติ เอกํ อุทานํ อภิสงฺขริตฺวา คีตวเสน อุทาเนนฺโต ปมํ คาถมาห –

‘‘กสฺส สุตฺวา สตํ ทมฺมิ, สหสฺสํ ทิฏฺ โสณกํ;

โก เม โสณกมกฺขาติ, สหายํ ปํสุกีฬิต’’นฺติ.

อถสฺส มุขโต ลุฺจนฺตี วิย คเหตฺวา เอกา นาฏกีตฺถี ตํ คายิ. อถฺา อถฺาติ ‘‘อมฺหากํ รฺโ ปิยคีต’’นฺติ สพฺพา โอโรธา คายึสุ. อนุกฺกเมน นครวาสิโนปิ ชานปทาปิ ตเมว คีตํ คายึสุ. ราชาปิ ปุนปฺปุนํ ตเมว คีตํ คายติ. ปณฺณาสมตฺตานํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน ปนสฺส พหู ปุตฺตธีตโร อเหสุํ, เชฏฺปุตฺโต ทีฆาวุกุมาโร นาม อโหสิ. ตทา โสณกปจฺเจกพุทฺโธ ‘‘อรินฺทมราชา มํ ทฏฺุกาโม, อหํ ตตฺถ คนฺตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จานิสํสํ กเถตฺวา ปพฺพชฺชนาการํ กโรมี’’ติ จินฺเตตฺวา อิทฺธิยา อากาเสนาคนฺตฺวา อุยฺยาเน นิสีทิ. ตทา เอโก สตฺตวสฺสิโก ปฺจจูฬกกุมารโก มาตรา ปหิโต คนฺตฺวา อุยฺยานวเน ทารูนิ อุทฺธรนฺโต ปุนปฺปุนํ ตเมว คีตํ คายิ. อถ นํ โส ปกฺโกสิตฺวา ‘‘กุมารก, ตฺวํ อฺํ อคายิตฺวา เอกเมว คีตํ คายสิ, กึ อฺํ น ชานาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ชานามิ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปน รฺโ อิทเมว ปิยํ, เตน นํ ปุนฺนปฺปุนํ คายามี’’ติ. ‘‘เอตสฺส ปน เต คีตสฺส ปฏิคีตํ คายนฺโต โกจิ ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ. ‘‘น ทิฏฺปุพฺโพ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อหํ ตํ สิกฺขาเปสฺสามิ, สกฺขิสฺสสิ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฏิคีตํ คายิตุ’’นฺติ. ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. อถสฺส โส ปฏิคีตํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘มยฺหํ สุตฺวา’’ติอาทิมาห. อุคฺคณฺหาเปตฺวา จ ปน ตํ อุยฺโยเชสิ – ‘‘คจฺฉ, กุมารก, อิมํ ปฏิคีตํ รฺา สทฺธึ คายาหิ, ราชา เต มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทสฺสติ, กึ เต ทารูหิ, เวเคน ยาหี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ ตํ ปฏิคีตํ อุคฺคณฺหิตฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยาวาหํ ราชานํ อาเนมิ, ตาว อิเธว โหถา’’ติ วตฺวา เวเคน มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อมฺม, ขิปฺปํ มํ นฺหาเปตฺวา อลงฺกโรถ, อชฺช ตํ ทลิทฺทภาวโต โมเจสฺสามี’’ติ วตฺวา นฺหาตมณฺฑิโต ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘อยฺย โทวาริก, ‘เอโก ทารโก ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปฏิคีตํ คายิสฺสามีติ อาคนฺตฺวา ทฺวาเร ิโต’ติ รฺโ อโรเจหี’’ติ อาห. โส เวเคน คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘อาคจฺฉตู’’ติ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ มยา สทฺธึ ปฏิคีตํ คายิสฺสสี’’ติ อาห. ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ คายสฺสู’’ติ. ‘‘เทว, อิมสฺมึ าเน น คายามิ, นคเร ปน เภรึ จราเปตฺวา มหาชนํ สนฺนิปาตาเปถ, มหาชนมชฺเฌ คายิสฺสามี’’ติ. ราชา ตถา กาเรตฺวา อลงฺกตมณฺฑเป ปลฺลงฺกมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ตสฺสานุรูปํ อาสนํ ทาเปตฺวา ‘‘อิทานิ ตว คีตํ คายสฺสู’’ติ อาห. ‘‘เทว, ตุมฺเห ตาว คายถ, อถาหํ ปฏิคีตํ คายิสฺสามี’’ติ. ตโต ราชา ปมํ คายนฺโต คาถมาห –

.

‘‘กสฺส สุตฺวา สตํ ทมฺมิ, สหสฺสํ ทิฏฺ โสณกํ;

โส เม โสณกมกฺขาติ, สหายํ ปํสุกีฬิต’’นฺติ.

ตตฺถ สุตฺวาติ ‘‘อสุกฏฺาเน นาม เต ปิยสหาโย โสณโก วสตี’’ติ ตสฺส วสนฏฺานํ สุตฺวา อาโรเจนฺตสฺส กสฺส สตํ ทมฺมิ. ทิฏฺาติ ‘‘อสุกฏฺาเน นาม มยา ทิฏฺโ’’ติ ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺส กสฺส สหสฺสํ ทมฺมีติ.

เอวํ รฺา ปมํ อุทานคาถาย คีตาย ปฺจจูฬกทารเกน ปฏิคีตภาวํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ทียฑฺฒคาถา อภาสิ –

.

‘‘อถพฺรวี มาณวโก, ทหโร ปฺจจูฬโก;

มยฺหํ สุตฺวา สตํ เทหิ, สหสฺสํ ทิฏฺ โสณกํ;

อหํ เต โสณกกฺขิสฺสํ, สหายํ ปํสุกีฬิต’’นฺติ.

เตน วุตฺตคาถาย ปน อยมตฺโถ – มหาราช, ยํ ตฺวํ ‘‘สุตฺวา อาโรเจนฺตสฺส สตํ ทมฺมี’’ติ วทสิ, ตมฺปิ มเมว เทหิ, ยํ ‘‘ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺส สหสฺสํ ทมฺมี’’ติ วทสิ, ตมฺปิ มยฺหเมว เทหิ, อหํ เต ปิยสหายํ อิทาเนว ปจฺจกฺขโตว ‘‘อยํ โสณโก’’ติ อาจิกฺขิสฺสนฺติ.

อิโต ปรํ สุวิฺเยฺยา สมฺพุทฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –

.

‘‘กตมสฺมึ โส ชนปเท, รฏฺเสุ นิคเมสุ จ;

กตฺถ โสณกมทฺทกฺขิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต.

.

‘‘ตเวว เทว วิชิเต, ตเววุยฺยานภูมิยํ;

อุชุวํสา มหาสาลา, นีโลภาสา มโนรมา.

.

‘‘ติฏฺนฺติ เมฆสมานา, รมฺมา อฺโฺนิสฺสิตา;

เตสํ มูลมฺหิ โสณโก, ฌายตี อนุปาทโน;

อุปาทาเนสุ โลเกสุ, ฑยฺหมาเนสุ นิพฺพุโต.

.

‘‘ตโต จ ราชา ปายาสิ, เสนาย จตุรงฺคิยา;

การาเปตฺวา สมํ มคฺคํ, อคมา เยน โสณโก.

.

‘‘อุยฺยานภูมึ คนฺตฺวาน, วิจรนฺโต พฺรหาวเน;

อาสีนํ โสณกํ ทกฺขิ, ฑยฺหมาเนสุ นิพฺพุต’’นฺติ.

ตตฺถ อุชุวํสาติ อุชุกฺขนฺธา. มหาสาลาติ มหารุกฺขา. เมฆสมานาติ นีลเมฆสทิสา. รมฺมาติ รมณียา. อฺโฺนิสฺสิตาติ สาขาหิ สาขํ, มูเลน มูลํ สํสิพฺพิตฺวา ิตา. เตสนฺติ เตสํ เอวรูปานํ ตว อุยฺยานวเน สาลานํ เหฏฺา. ฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานอารมฺมณูปนิชฺฌานสงฺขาเตหิ ฌาเนหิ ฌายติ. อนุปาทโนติ กามุปาทานาทิวิรหิโต. ฑยฺหมาเนสูติ เอกาทสหิ อคฺคีหิ ฑยฺหมาเนสุ สตฺเตสุ. นิพฺพุโตติ เต อคฺคี นิพฺพาเปตฺวา สีตเลน หทเยน ฌายมาโน ตว อุยฺยาเน มงฺคลสาลรุกฺขมูเล สิลาปฏฺเฏ นิสินฺโน เอส เต สหาโย กฺจนปฏิมา วิย โสภมาโน ปฏิมาเนตีติ. ตโต จาติ, ภิกฺขเว, ตโต โส อรินฺทโม ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวาว ‘‘โสณกปจฺเจกพุทฺธํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ จตุรงฺคินิยา เสนาย ปายาสิ นิกฺขมิ. วิจรนฺโตติ อุชุกเมว อคนฺตฺวา ตสฺมึ มหนฺเต วนสณฺเฑ วิจรนฺโต ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาสีนํ อทฺทกฺขิ.

โส ตํ อวนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา อตฺตโน กิเลสาภิรตตฺตา ตํ ‘‘กปโณ’’ติ มฺมาโน อิมํ คาถมาห –

.

‘‘กปโณ วตยํ ภิกฺขุ, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;

อมาติโก อปิติโก, รุกฺขมูลสฺมิ ฌายตี’’ติ.

ตตฺถ ฌายตีติ นิมฺมาติโก นิปฺปิติโก การุฺปฺปตฺโต ฌายติ.

.

‘‘อิมํ วากฺยํ นิสาเมตฺวา, โสณโก เอตทพฺรวิ;

น ราช กปโณ โหติ, ธมฺมํ กาเยน ผสฺสยํ.

๑๐.

‘‘โย จ ธมฺมํ นิรํกตฺวา, อธมฺมมนุวตฺตติ;

ส ราช กปโณ โหติ, ปาโป ปาปปรายโณ’’ติ.

ตตฺถ อิมนฺติ ตสฺส กิเลสาภิรตสฺส ปพฺพชฺชํ อโรเจนฺตสฺส อิมํ ปพฺพชฺชาครหวจนํ สุตฺวา. เอตทพฺรวีติ ปพฺพชฺชาย คุณํ ปกาเสนฺโต เอตํ อพฺรวิ. ผสฺสยนฺติ ผสฺสยนฺโต เยน อริยมคฺคธมฺโม นามกาเยน ผสฺสิโต, โส กปโณ นาม น โหตีติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. นิรํกตฺวาติ อตฺตภาวโต นีหริตฺวา. ปาโป ปาปปรายโณติ สยํ ปาปานํ กรเณน ปาโป, อฺเสมฺปิ กโรนฺตานํ ปติฏฺาภาเวน ปาปปรายโณติ.

เอวํ โส โพธิสตฺตํ ครหิ. โส อตฺตโน ครหิตภาวํ อชานนฺโต วิย หุตฺวา นามโคตฺตํ กเถตฺวา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๑.

‘‘อรินฺทโมติ เม นามํ, กาสิราชาติ มํ วิทู;

กจฺจิ โภโต สุขสฺเสยฺยา, อิธ ปตฺตสฺส โสณกา’’ติ.

ตตฺถ กจฺจีติ อมฺหากํ ตาว น กิฺจิ อผาสุกํ, โภโต ปน กจฺจิ อิธ ปตฺตสฺส อิมสฺมึ อุยฺยาเน วสโต สุขวิหาโรติ ปุจฺฉติ.

อถ นํ ปจฺเจกพุทฺโธ, ‘‘มหาราช, น เกวลํ อิธ, อฺตฺราปิ วสนฺตสฺส เม อสุขํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา ตสฺส สมณภทฺรคาถาโย นาม อารภิ –

๑๒.

‘‘สทาปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

น เตสํ โกฏฺเ โอเปนฺติ, น กุมฺภึ น กโฬปิยํ;

ปรนิฏฺิตเมสานา, เตน ยาเปนฺติ สุพฺพตา.

๑๓.

‘‘ทุติยมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

อนวชฺชปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพ, น จ โกจูปโรธติ.

๑๔.

‘‘ตติยมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

นิพฺพุโต ปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพ, น จ โกจูปโรธติ.

๑๕.

‘‘จตุตฺถมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

มุตฺตสฺส รฏฺเ จรโต, สงฺโค ยสฺส น วิชฺชติ.

๑๖.

‘‘ปฺจมมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

นครมฺหิ ฑยฺหมานมฺหิ, นาสฺส กิฺจิ อฑยฺหถ.

๑๗.

‘‘ฉฏฺมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

รฏฺเ วิลุมฺปมานมฺหิ, นาสฺส กิฺจิ อหีรถ.

๑๘.

‘‘สตฺตมมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

โจเรหิ รกฺขิตํ มคฺคํ, เย จฺเ ปริปนฺถิกา;

ปตฺตจีวรมาทาย, โสตฺถึ คจฺฉติ สุพฺพโต.

๑๙.

‘‘อฏฺมมฺปิ ภทฺรมธนสฺส, อนาคารสฺส ภิกฺขุโน;

ยํ ยํ ทิสํ ปกฺกมติ, อนเปกฺโขว คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ อนาคารสฺสาติ, มหาราช, ฆราวาสํ ปหาย อนาคาริยภาวํ ปตฺตสฺส อธนสฺส อกิฺจนสฺส ภิกฺขุโน สพฺพกาลํ ภทฺรเมว. น เตสนฺติ, มหาราช, เตสํ อธนานํ ภิกฺขูนํ น โกฏฺาคาเร ธนธฺานิ โอเปนฺติ, น กุมฺภิยํ, น ปจฺฉิยํ, เต ปน สุพฺพตา ปรนิฏฺิตํ ปเรสํ ฆเร ปกฺกํ อาหารํ สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา กปาลมาทาย ฆรปฏิปาฏิยา เอสานา ปริเยสนฺตา เตน ตโต ลทฺเธน ปิณฺเฑน ตํ อาหารํ นวนฺนํ ปาฏิกุลฺยานํ วเสน ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชิตฺวา ชีวิตวุตฺตึ ยาเปนฺติ.

อนวชฺชปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพติ เวชฺชกมฺมาทิกาย อเนสนาย วา กุหนา ลปนา เนมิตฺติกตา นิปฺเปสิกตา ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตาติ เอวรูเปน มิจฺฉาชีเวน วา อุปฺปาทิตา จตฺตาโร ปจฺจยา, ธมฺเมน อุปฺปาทิตาปิ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุตฺตา สาวชฺชปิณฺโฑ นาม. อเนสนํ ปน ปหาย มิจฺฉาชีวํ วชฺเชตฺวา ธมฺเมน สเมน อุปฺปาทิตา ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามี’’ติ วุตฺตนเยเนว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุตฺตา อนวชฺชปิณฺโฑ นาม. เยน เอวรูโป อนวชฺชปิณฺโฑ โภตฺตพฺโพ ปริภุฺชิตพฺโพ, ยฺจ เอวรูปํ อนวชฺชํ ปิณฺฑํ ภุฺชมานานํ ปจฺจเย นิสฺสาย โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส น อุปโรธติ น ปีเฬติ, ตสฺส ทุติยมฺปิ ภทฺรํ อธนสฺส อนาคารสฺส ภิกฺขุโน.

นิพฺพุโตติ ปุถุชฺชนภิกฺขุโน ธมฺเมน อุปฺปนฺนปิณฺโฑปิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชิยมาโน นิพฺพุตปิณฺโฑ นาม, เอกนฺตโต ปน ขีณาสวสฺส ปิณฺโฑว นิพฺพุตปิณฺโฑ นาม. กึการณา? โส หิ เถยฺยปริโภโค, อิณปริโภโค, ทายชฺชปริโภโค, สามิปริโภโคติ อิเมสุ จตูสุ ปริโภเคสุ สามิปริโภควเสน ตํ ภุฺชติ, ตณฺหาทาสพฺยํ อตีโต สามี หุตฺวา ปริภุฺชติ, น ตํ ตปฺปจฺจยา โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กิเลโส อุปโรธติ.

มุตฺตสฺส รฏฺเ จรโตติ อุปฏฺากกุลาทีสุ อลคฺคมานสสฺส ฉินฺนวลาหกสฺส วิย ราหุมุขา ปมุตฺตสฺส วิมลจนฺทมณฺฑลสฺส วิย จ ยสฺส คามนิคมาทีสุ จรนฺตสฺส ราคสงฺคาทีสุ เอโกปิ สงฺโค นตฺถิ. เอกจฺโจ หิ กุเลหิ สํสฏฺโ วิหรติ สหโสกี สหนนฺที, เอกจฺโจ มาตาปิตูสุปิ อลคฺคมานโส วิจรติ โกรุนครคามวาสี ทหโร วิย, เอวรูปสฺส ปุถุชฺชนสฺสปิ ภทฺรเมว.

นาสฺส กิฺจีติ โย หิ พหุปริกฺขาโร โหติ, โส ‘‘มา เม โจรา ปริกฺขาเร หรึสู’’ติ อติเรกานิ จ จีวราทีนิ อนฺโตนคเร อุปฏฺากกุเล นิกฺขิปติ, อถ นครมฺหิ ฑยฺหมาเน ‘‘อสุกกุเล นาม อคฺคิ อุฏฺิโต’’ติ สุตฺวา โสจติ กิลมติ, เอวรูปสฺส ภทฺรํ นาม นตฺถิ. โย ปน, มหาราช, สกุณวตฺตํ ปูเรติ, กายปฏิพทฺธปริกฺขาโรว โหติ, ตสฺส ตาทิสสฺส น กิฺจิ อฑยฺหถ, เตนสฺส ปฺจมมฺปิ ภทฺรเมว.

วิลุมฺปมานมฺหีติ วิลุปฺปมานมฺหิ, อยเมว วา ปาโ. อหีรถาติ ยถา ปพฺพตคหนาทีหิ นิกฺขมิตฺวา รฏฺํ วิลุมฺปมาเนสุ โจเรสุ พหุปริกฺขารสฺส อนฺโตคาเม ปิตํ วิลุมฺปติ หรติ, ตถา ยสฺส อธนสฺส กายปฏิพทฺธปริกฺขารสฺส น กิฺจิ อหีรถ ตสฺส ฉฏฺมฺปิ ภทฺรเมว.

เย จฺเ ปริปนฺถิกาติ เย จ อฺเปิ เตสุ เตสุ าเนสุ สุงฺกคหณตฺถาย ปิตา ปริปนฺถิกา, เตหิ จ รกฺขิตํ. ปตฺตจีวรนฺติ โจรานํ อนุปการํ สุงฺกิกานํ อสุงฺการหํ มตฺติกาปตฺตฺเจว กตทฬฺหีกมฺมปริภณฺฑํ ปํสุกูลจีวรฺจ อปฺปคฺฆานิ กายพนฺธนปริสฺสาวนสูจิวาสิปตฺตตฺถวิกานิ จาติ สพฺเพปิ อฏฺ ปริกฺขาเร กายปฏิพทฺเธ กตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺโน เกนจิ อวิเหิยมาโน โสตฺถึ คจฺฉติ. สุพฺพโตติ โลภนียานิ หิ จีวราทีนิ ทิสฺวา โจรา หรนฺติ, สุงฺกิกาปิ ‘‘กึ นุ โข เอตสฺส หตฺเถ’’ติ ปตฺตตฺถวิกาทีนิ โสเธนฺติ, สุพฺพโต ปน สลฺลหุกวุตฺติ เตสํ ปสฺสนฺตานฺเว โสตฺถึ คจฺฉติ, เตนสฺส สตฺตมมฺปิ ภทฺรเมว.

อนเปกฺโขว คจฺฉตีติ กายปฏิพทฺธโต อติเรกสฺส วิหาเร ปฏิสามิตสฺส กสฺสจิ ปริกฺขารสฺส อภาวา วสนฏฺานํ นิวตฺติตฺวาปิ น โอโลเกติ. ยํ ยํ ทิสํ คนฺตุกาโม โหติ, ตํ ตํ คจฺฉนฺโต อนเปกฺโขว คจฺฉติ อนุราธปุรา นิกฺขมิตฺวา ถูปาราเม ปพฺพชิตานํ ทฺวินฺนํ กุลปุตฺตานํ วุฑฺฒตโร วิย.

อิติ โสณกปจฺเจกพุทฺโธ อฏฺ สมณภทฺรกานิ กเถสิ. ตโต อุตฺตรึ ปน สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ อปริมาณานิ สมณภทฺรกานิ เอส กเถตุํ สมตฺโถเยว. ราชา ปน กามาภิรตตฺตา ตสฺส กถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มยฺหํ สมณภทฺรเกหิ อตฺโถ นตฺถี’’ติ อตฺตโน กามาธิมุตฺตตํ ปกาเสนฺโต อาห –

๒๐.

‘‘พหูนิ สมณภทฺรานิ, เย ตฺวํ ภิกฺขุ ปสํสสิ;

อหฺจ คิทฺโธ กาเมสุ, กถํ กาหามิ โสณก.

๒๑.

‘‘ปิยา เม มานุสา กามา, อโถ ทิพฺยาปิ เม ปิยา;

อถ เกน นุ วณฺเณน, อุโภ โลเก ลภามเส’’ติ.

ตตฺถ วณฺเณนาติ การเณน.

อถ นํ ปจฺเจกพุทฺโธ อาห –

๒๒.

‘‘กาเม คิทฺธา กามรตา, กาเมสุ อธิมุจฺจิตา;

นรา ปาปานิ กตฺวาน, อุปปชฺชนฺติ ทุคฺคตึ.

๒๓.

‘‘เย จ กาเม ปหนฺตฺวาน, นิกฺขนฺตา อกุโตภยา;

เอโกทิภาวาธิคตา, น เต คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

๒๔.

‘‘อุปมํ เต กริสฺสามิ, ตํ สุโณหิ อรินฺทม;

อุปมาย มิเธกจฺเจ, อตฺถํ ชานนฺติ ปณฺฑิตา.

๒๕.

‘‘คงฺคาย กุณปํ ทิสฺวา, วุยฺหมานํ มหณฺณเว;

วายโส สมจินฺเตสิ, อปฺปปฺโ อเจตโส.

๒๖.

‘‘ยานฺจ วติทํ ลทฺธํ, ภกฺโข จายํ อนปฺปโก;

ตตฺถ รตฺตึ ตตฺถ ทิวา, ตตฺเถว นิรโต มโน.

๒๗.

‘‘ขาทํ นาคสฺส มํสานิ, ปิวํ ภาคีรโถทกํ;

สมฺปสฺสํ วนเจตฺยานิ, น ปเลตฺถ วิหงฺคโม.

๒๘.

‘‘ตฺจ โอตรณี คงฺคา, ปมตฺตํ กุณเป รตํ;

สมุทฺทํ อชฺฌคาหาสิ, อคตี ยตฺถ ปกฺขินํ.

๒๙.

‘‘โส จ ภกฺขปริกฺขีโณ, อุทปตฺวา วิหงฺคโม;

น ปจฺฉโต น ปุรโต, นุตฺตรํ โนปิ ทกฺขิณํ.

๓๐.

‘‘ทีปํ โส นชฺฌคาคฺฉิ, อคตี ยตฺถ ปกฺขินํ;

โส จ ตตฺเถว ปาปตฺถ, ยถา ทุพฺพลโก ตถา.

๓๑.

‘‘ตฺจ สามุทฺทิกา มจฺฉา, กุมฺภีลา มกรา สุสู;

ปสยฺหการา ขาทึสุ, ผนฺทมานํ วิปกฺขกํ.

๓๒.

‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, เย จฺเ กามโภคิโน;

คิทฺธา เจ น วมิสฺสนฺติ, กากปฺาว เต วิทู.

๓๓.

‘‘เอสา เต อุปมา ราช, อตฺถสนฺทสฺสนี กตา;

ตฺวฺจ ปฺายเส เตน, ยทิ กาหสิ วา น วา’’ติ.

ตตฺถ ปาปานีติ, มหาราช, ตฺวํ กามคิทฺโธ, นรา จ กาเม นิสฺสาย กายทุจฺจริตาทีนิ ปาปานิ กตฺวา ยตฺถ สุปินนฺเตปิ ทิพฺพา จ มานุสิกา จ กามา น ลพฺภนฺติ, ตํ ทุคฺคตึ อุปปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. ปหนฺตฺวานาติ เขฬปิณฺฑํ วิย ปหาย. อกุโตภยาติ ราคาทีสุ กุโตจิ อนาคตภยา. เอโกทิภาวาธิคตาติ เอโกทิภาวํ เอกวิหาริกตํ อธิคตา. น เตติ เต เอวรูปา ปพฺพชิตา ทุคฺคตึ น คจฺฉนฺติ.

อุปมํ เตติ, มหาราช, ทิพฺพมานุสเก กาเม ปตฺเถนฺตสฺส หตฺถิกุณเป ปฏิพทฺธกากสทิสสฺส ตว เอกํ อุปมํ กริสฺสามิ, ตํ สุโณหีติ อตฺโถ. กุณปนฺติ หตฺถิกเฬวรํ. มหณฺณเวติ คมฺภีรปุถุเล อุทเก. เอโก กิร มหาวารโณ คงฺคาตีเร จรนฺโต คงฺคายํ ปติตฺวา อุตฺตริตุํ อสกฺเกนฺโต ตตฺเถว มโต คงฺคาย วุยฺหิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. วายโสติ อากาเสน คจฺฉนฺโต เอโก กาโก. ยานฺจ วติทนฺติ โส เอวํ จินฺเตตฺวา ตตฺถ นิลียิตฺวา ‘‘อิทํ มยา หตฺถิยานํ ลทฺธํ, เอตฺถ นิลีโน สุขํ จริสฺสามิ, อยเมว จ เม อนปฺปโก ภกฺโข ภวิสฺสติ, อิทานิ มยา อฺตฺถ คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ สนฺนิฏฺานมกาสิ. ตตฺถ รตฺตินฺติ ตตฺถ รตฺติฺจ ทิวา จ ตตฺเถว มโน อภิรโต อโหสิ. น ปเลตฺถาติ น อุปฺปติตฺวา ปกฺกามิ.

โอตรณีติ สมุทฺทาภิมุขี โอตรมานา. ‘‘โอหาริณี’’ติปิ ปาโ, สา สมุทฺทาภิมุขี อวหาริณีติ อตฺโถ. อคตี ยตฺถาติ สมุทฺทมชฺฌํ สนฺธายาห. ภกฺขปริกฺขีโณติ ปริกฺขีณภกฺโข. อุทปตฺวาติ ขีเณ จมฺเม จ มํเส จ อฏฺิสงฺฆาโต อูมิเวเคน ภินฺโน อุทเก นิมุชฺชิ. อถ โส กาโก อุทเก ปติฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อุปฺปติ, เอวํ อุปฺปติตฺวาติ อตฺโถ. อคตี ยตฺถ ปกฺขินนฺติ ยสฺมึ สมุทฺทมชฺเฌ ปกฺขีนํ อคติ, ตตฺถ โส เอวํ อุปฺปติโต ปจฺฉิมํ ทิสํ คนฺตฺวา ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา ปุรตฺถิมํ, ตโต อุตฺตรํ, ตโต ทกฺขิณนฺติ จตสฺโสปิ ทิสา คนฺตฺวา อตฺตโน ปติฏฺานํ น อชฺฌคา นาคฺฉีติ อตฺโถ. อถ วา วายโส เอวํ อุปฺปติตฺวา ปจฺฉิมาทีสุ เอเกกํ ทิสํ อาคฺฉิ, ทีปํ ปน นชฺฌาคมาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปาปตฺถาติ ปปติโต. ยถา ทุพฺพลโกติ ยถา ทุพฺพลโก ปเตยฺย, ตเถว ปติโต. สุสูติ สุสุนามกา จณฺฑมจฺฉา. ปสยฺหการาติ อนิจฺฉมานกํเยว พลกฺกาเรน. วิปกฺขกนฺติ วิทฺธสฺตปกฺขกํ.

คิทฺธา เจ น วมิสฺสนฺตีติ ยทิ คิทฺธา หุตฺวา กาเม น วมิสฺสนฺติ, น ฉฑฺเฑสฺสนฺติ. กากปฺาว เตติ กากสฺส สมานปฺา อิติ เต พุทฺธาทโย ปณฺฑิตา วิทู วิทนฺติ, ชานนฺตีติ อตฺโถ. อตฺถสนฺทสฺสนีติ อตฺถปฺปกาสิกา. ตฺวฺจ ปฺายเสติ ตฺวฺจ ปฺายิสฺสสิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, มยา หิตกาเมน ตว โอวาโท ทินฺโน, ตํ ปน ตฺวํ ยทิ กาหสิ, เทวโลเก นิพฺพตฺติสฺสสิ, ยทิ น กาหสิ, กามปงฺเก นิมุคฺโค ชีวิตปริโยสาเน นิรเย นิพฺพตฺติสฺสสีติ เอวํ ตฺวเมว เตน การเณน วา อการเณน วา สคฺเค วา นิรเย วา ปฺายิสฺสสิ. อหํ ปน สพฺพภเวหิ มุตฺโต อปฺปฏิสนฺธิโกติ.

อิมํ ปน โอวาทํ เทนฺเตน ปจฺเจกพุทฺเธน นที ทสฺสิตา, ตาย วุยฺหมานํ หตฺถิกุณปํ ทสฺสิตํ, กุณปขาทโก กาโก ทสฺสิโต, ตสฺส กุณปํ ขาทิตฺวา ปานียปิวนกาโล ทสฺสิโต, รมณียวนสณฺฑทสฺสนกาโล ทสฺสิโต, กุณปสฺส นทิยา วุยฺหมานสฺส สมุทฺทปเวโส ทสฺสิโต, สมุทฺทมชฺเฌ กากสฺส หตฺถิกุณเป ปติฏฺํ อลภิตฺวา วินาสํ ปตฺตกาโล ทสฺสิโต. ตตฺถ นที วิย อนมตคฺโค สํสาโร ทฏฺพฺโพ, นทิยา วุยฺหมานํ หตฺถิกุณปํ วิย สํสาเร ปฺจ กามคุณา, กาโก วิย พาลปุถุชฺชโน, กากสฺส กุณปํ ขาทิตฺวา ปานียปิวนกาโล วิย ปุถุชฺชนสฺส กามคุเณ ปริภุฺชิตฺวา โสมนสฺสิกกาโล, กากสฺส กุณเป ลคฺคสฺเสว รมณียวนสณฺฑทสฺสนํ วิย ปุถุชฺชนสฺส กามคุเณสุ ลคฺคสฺเสว สวนวเสน อฏฺตึสารมฺมณทสฺสนํ, กุณเป สมุทฺทํ ปวิฏฺเ กากสฺส ปติฏฺํ ลภิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส วินาสํ ปตฺตกาโล วิย พาลปุถุชฺชนสฺส กามคุณคิทฺธสฺส ปาปปรายณสฺส กุสลธมฺเม ปติฏฺํ ลภิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส มหานิรเย มหาวินาสปตฺติ ทฏฺพฺพาติ.

เอวมสฺส โส อิมาย อุปมาย โอวาทํ ทตฺวา อิทานิ ตเมว โอวาทํ ถิรํ กตฺวา ปติฏฺเปตุํ คาถมาห –

๓๔.

‘‘เอกวาจมฺปิ ทฺวิวาจํ, ภเณยฺย อนุกมฺปโก;

ตตุตฺตรึ น ภาเสยฺย, ทาโสวยฺยสฺส สนฺติเก’’ติ.

ตตฺถ น ภาเสยฺยาติ วจนํ อคฺคณฺหนฺตสฺส หิ ตโต อุตฺตรึ ภาสมาโน สามิกสฺส สนฺติเก ทาโส วิย โหติ. ทาโส หิ สามิเก กถํ คณฺหนฺเตปิ อคฺคณฺหนฺเตปิ กเถติเยว. เตน วุตฺตํ ‘‘ตตุตฺตรึ น ภาเสยฺยา’’ติ.

๓๕.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, โสณโก อมิตพุทฺธิมา;

เวหาเส อนฺตลิกฺขสฺมึ, อนุสาสิตฺวาน ขตฺติย’’นฺติ. –

อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา.

ตตฺถ อิทํ วตฺวานาติ, ภิกฺขเว, โส ปจฺเจกพุทฺโธ อมิตาย โลกุตฺตรพุทฺธิยา อมิตพุทฺธิมา อิทํ วตฺวา อิทฺธิยา อุปฺปติตฺวา ‘‘สเจ ปพฺพชิสฺสสิ, ตเวว, โน เจ ปพฺพชิสฺสสิ, ตเวว, ทินฺโน เต มยา โอวาโท, อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ เอวํ อนุสาสิตฺวาน ขตฺติยํ ปกฺกามิ.

โพธิสตฺโตปิ ตํ อากาเสน คจฺฉนฺตํ ยาว ทสฺสนปถา โอโลเกนฺโต ตฺวา ตสฺมึ จกฺขุปเถ อติกฺกนฺเต สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ หีนชจฺโจ สมาโน อสมฺภินฺเน ขตฺติยวํเส ชาตสฺส มม มตฺถเก อตฺตโน ปาทรชํ โอกิรนฺโต อากาสํ อุปฺปติตฺวา คโต, มยาปิ อชฺเชว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา ปพฺพชิตุกาโม คาถาทฺวยมาห –

๓๖.

‘‘โก นุเม ราชกตฺตาโร, สุทฺทา เวยฺยตฺตมาคตา;

รชฺชํ นิยฺยาทยิสฺสามิ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก.

๓๗.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวค’’นฺติ.

ตตฺถ โก นุเมติ กุหึ นุ อิเม. ราชกตฺตาโรติ เย ราชารหํ อภิสิฺจิตฺวา ราชานํ กโรนฺติ. สุทฺทา เวยฺยตฺตมาคตาติ สุทฺทา จ เย จ อฺเ พฺยตฺตภาวํ อาคตา มุขมงฺคลิกา. รชฺเชน มตฺถิโกติ รชฺเชน อตฺถิโก. โก ชฺา มรณํ สุเวติ มรณํ อชฺช วา สุเว วาติ อิทํ โก ชานิตุํ สมตฺโถ.

เอวํ รชฺชํ นิยฺยาเทนฺตสฺส สุตฺวา อมจฺจา อาหํสุ –

๓๘.

‘‘อตฺถิ เต ทหโร ปุตฺโต, ทีฆาวุ รฏฺวฑฺฒโน;

ตํ รชฺเช อภิสิฺจสฺสุ, โส โน ราชา ภวิสฺสตี’’ติ.

ตโต ปรํ รฺา วุตฺตคาถมาทึ กตฺวา อุทานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –

๓๙.

‘‘ขิปฺปํ กุมารมาเนถ, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ;

ตํ รชฺเช อภิสิฺจิสฺสํ, โส โว ราชา ภวิสฺสติ.

๔๐.

‘‘ตโต กุมารมาเนสุํ, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ;

ตํ ทิสฺวา อาลปี ราชา, เอกปุตฺตํ มโนรมํ.

๔๑.

‘‘สฏฺิ คามสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๔๒.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโก ว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๔๓.

‘‘สฏฺิ นาคสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

สุวณฺณกจฺฉา มาตงฺคา, เหมกปฺปนวาสสา.

๔๔.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยภิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๔๕.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๔๖.

‘‘สฏฺิ อสฺสสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

อาชานียาว ชาติยา, สินฺธวา สีฆวาหิโน.

๔๗.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยภิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๔๘.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๔๙.

‘‘สฏฺิ รถสหสฺสานิ, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๕๐.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยภิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

เต ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๕๑.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๕๒.

‘‘สฏฺิ เธนุสหสฺสานิ, โรหฺา ปุงฺควูสภา;

ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๕๓.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๕๔.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

วิจิตฺรวตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, รชฺชํ นิยฺยาทยามิ เต.

๕๕.

‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

มาหํ กาโกว ทุมฺเมโธ, กามานํ วสมนฺวคํ.

๕๖.

‘‘ทหรสฺเสว เม ตาต, มาตา มตาติ เม สุตํ;

ตยา วินา อหํ ตาต, ชีวิตุมฺปิ น อุสฺสเห.

๕๗.

‘‘ยถา อารฺกํ นาคํ, โปโต อนฺเวติ ปจฺฉโต;

เชสฺสนฺตํ คิริทุคฺเคสุ, สเมสุ วิสเมสุ จ.

๕๘.

‘‘เอวํ ตํ อนุคจฺฉามิ, ปตฺตมาทาย ปจฺฉโต;

สุภโร เต ภวิสฺสามิ, น เต เหสฺสามิ ทุพฺภโร.

๕๙.

‘‘ยถา สามุทฺทิกํ นาวํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;

โวหาโร ตตฺถ คณฺเหยฺย, วาณิชา พฺยสนี สิยา.

๖๐.

‘‘เอวเมวายํ ปุตฺตกลิ, อนฺตรายกโร มม;

อิมํ กุมารํ ปาเปถ, ปาสาทํ รติวฑฺฒนํ.

๖๑.

‘‘ตตฺถ กมฺพุสหตฺถาโย, ยถา สกฺกํว อจฺฉรา;

ตา นํ ตตฺถ รเมสฺสนฺติ, ตาหิ เจโส รมิสฺสติ.

๖๒.

‘‘ตโต กุมารํ ปาเปสุํ, ปาสาทํ รติวฑฺฒนํ;

ตํ ทิสฺวา อวจุํ กฺา, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ.

๖๓.

‘‘เทวตานุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ.

๖๔.

‘‘นมฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

กาสิรฺโ อหํ ปุตฺโต, ทีฆาวุ รฏฺวฑฺฒโน;

มมํ ภรถ ภทฺทํ โว, อหํ ภตฺตา ภวามิ โว.

๖๕.

‘‘ตํ ตตฺถ อวจุํ กฺา, ทีฆาวุํ รฏฺวฑฺฒนํ;

กุหึ ราชา อนุปฺปตฺโต, อิโต ราชา กุหึ คโต.

๖๖.

‘‘ปงฺกํ ราชา อติกฺกนฺโต, ถเล ราชา ปติฏฺิโต;

อกณฺฑกํ อคหนํ, ปฏิปนฺโน มหาปถํ.

๖๗.

‘‘อหฺจ ปฏิปนฺโนสฺมิ, มคฺคํ ทุคฺคติคามินํ;

สกณฺฏกํ สคหนํ, เยน คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

๖๘.

‘‘ตสฺส เต สฺวาคตํ ราช, สีหสฺเสว คิริพฺพชํ;

อนุสาส มหาราช, ตฺวํ โน สพฺพาสมิสฺสโร’’ติ.

ตตฺถ ขิปฺปนฺติ เตน หิ นํ สีฆํ อาเนถ. อาลปีติ ‘‘สฏฺิ คามสหสฺสานี’’ติอาทีนิ วทนฺโต อาลปิ. สพฺพาลงฺการภูสิตาติ เต นาคา สพฺเพหิ สีสูปคาทีหิ อลงฺกาเรหิ ภูสิตา. เหมกปฺปนวาสสาติ สุวณฺณขจิเตน กปฺปเนน ปฏิจฺฉนฺนสรีรา. คามณีเยภีติ หตฺถาจริเยหิ. อาชานียาวาติ การณาการณวิชานนกา ว. ชาติยาติ สินฺธวชาติยา สินฺธุรฏฺเ สินฺธุนทีตีเร ชาตา. คามณีเยภีติ อสฺสาจริเยหิ. อิลฺลิยา จาปธาริภีติ อิลฺลิยาวุธฺจ จาปาวุธฺจ ธาเรนฺเตหิ. ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆาติ ทีปิจมฺมพฺยคฺฆจมฺมปริวารา. คามณีเยภีติ รถิเกหิ. วมฺมิภีติ สนฺนทฺธวมฺเมหิ. โรหฺาติ รตฺตวณฺณา. ปุงฺควูสภาติ อุสภสงฺขาเตน เชฏฺกปุงฺคเวน สมนฺนาคตา.

ทหรสฺเสว เม, ตาตาติ อถ นํ กุมาโร, ตาต, มม ทหรสฺเสว สโต มาตา มตา อิติ มยา สุตํ, โสหํ ตยา วินา ชีวิตุํ น สกฺขิสฺสามีติ อาห. โปโตติ ตรุณโปตโก. เชสฺสนฺตนฺติ วิจรนฺตํ. สามุทฺทิกนฺติ สมุทฺเท วิจรนฺตํ. ธเนสินนฺติ ธนํ ปริเยสนฺตานํ. โวหาโรติ วิจิตฺรโวหาโร เหฏฺากฑฺฒนโก วาฬมจฺโฉ วา อุทกรกฺขโส วา อาวฏฺโฏ วา. ตตฺถาติ ตสฺมึ สมุทฺเท. วาณิชา พฺยสนี สิยาติ อถ เต วาณิชา พฺยสนปฺปตฺตา ภเวยฺยุํ. ‘‘สิยฺยุนฺติ’’ปิ ปาโ. ปุตฺตกลีติ ปุตฺตลามโก ปุตฺตกาฬกณฺณี. กุมาโร ปุน กิฺจิ วตฺตุํ น วิสหิ. อถ ราชา อมจฺเจ อาณาเปนฺโต ‘‘อิม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺพุสหตฺถาโยติ กมฺพุสํ วุจฺจติ สุวณฺณํ, สุวณฺณาภรณภูสิตหตฺถาโยติ อตฺโถ. ยถาติ ยถา อิจฺฉนฺติ, ตถา กโรนฺติ.

เอวํ วตฺวา มหาสตฺโต ตตฺเถว ตํ อภิสิฺจาเปตฺวา นครํ ปาเหสิ. สยํ ปน เอกโกว อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา รมณีเย ภูมิภาเค ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วนมูลผลาหาโร ยาเปสิ. มหาชโนปิ กุมารํ พาราณสึ ปเวเสสิ. โส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ‘‘ตโต’’ติอาทิมาห. ตํ ทิสฺวา อวจุํ กฺาติ ตํ มหนฺเตน ปริวาเรน สิริโสภคฺเคน อาคตํ ทิสฺวา ‘‘อสุโก นาเมโส’’ติ อชานนฺติโยว ตา นาฏกิตฺถิโย คนฺตฺวา อโวจุํ. มมํ ภรถาติ มมํ อิจฺฉถ. ปงฺกนฺติ ราคาทิกิเลสปงฺกํ. ถเลติ ปพฺพชฺชาย. อกณฺฏกนฺติ ราคกณฺฏกาทิวิรหิตํ. เตเหว คหเนหิ อคหนํ. มหาปถนฺติ สคฺคโมกฺขคามินํ มหามคฺคํ ปฏิปนฺโน. เยนาติ เยน มิจฺฉามคฺเคน ทุคฺคตึ คจฺฉนฺติ, ตํ อหํ ปฏิปนฺโนติ วทติ. ตโต ตา จินฺเตสุํ – ‘‘ราชา ตาว อมฺเห ปหาย ปพฺพชิโต, อยมฺปิ กาเมสุ วิรตฺตจิตฺตรูโป, สเจ นํ นาภิรเมสฺสาม, นิกฺขมิตฺวา ปพฺพเชยฺย, อภิรมนาการมสฺส กริสฺสามา’’ติ. อถ นํ อภินนฺทนฺติโย โอสานคาถมาหํสุ. ตตฺถ คิริพฺพชนฺติ สีหโปตกานํ วสนฏฺานํ กฺจนคุหํ เกสรสีหสฺส อาคตํ วิย ตสฺส ตว อาคตํ สุอาคตํ. ตฺวํ โนติ ตฺวํ สพฺพาสมฺปิ อมฺหากํ อิสฺสโร, สามีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา สพฺพา ตูริยานิ ปคฺคณฺหึสุ, นานปฺปการานิ นจฺจคีตานิ ปวตฺตึสุ. ยโส มหา อโหสิ, โส ยสมทมตฺโต ปิตรํ น สริ, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา ยถากมฺมํ คโต. โพธิสตฺโตปิ ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา อายุปริโยสาเน พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปจฺเจกพุทฺโธ ปรินิพฺพายิ, ปุตฺโต ราหุลกุมาโร อโหสิ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, อรินฺทมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

โสณกชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๐] ๒. สํกิจฺจชาตกวณฺณนา

ทิสฺวา นิสินฺนํ ราชานนฺติ อิทํ สตฺถา ชีวกมฺพวเน วิหรนฺโต อชาตสตฺตุสฺส ปิตุฆาตกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ เทวทตฺตํ นิสฺสาย ตสฺส วจเนน ปิตรํ ฆาตาเปตฺวา เทวทตฺตสฺส สงฺฆเภทาวสาเน ภินฺนปริสสฺส โรเค อุปฺปนฺเน ‘‘ตถาคตํ ขมาเปสฺสามี’’ติ มฺจสิวิกาย สาวตฺถึ คจฺฉนฺตสฺส เชตวนทฺวาเร ปถวึ ปวิฏฺภาวํ สุตฺวา ‘‘เทวทตฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิปกฺโข หุตฺวา ปถวึ ปวิสิตฺวา อวีจิปรายโณ ชาโต, มยาปิ ตํ นิสฺสาย ปิตา ธมฺมิโก ธมฺมราชา ฆาติโต, อหมฺปิ นุ โข ปถวึ ปวิสิสฺสามี’’ติ ภีโต รชฺชสิริยา จิตฺตสฺสาทํ น ลภิ, ‘‘โถกํ นิทฺทายิสฺสามี’’ติ นิทฺทํ อุปคตมตฺโตว นวโยชนพหลายํ อยมหาปถวิยํ ปาเตตฺวา อยสูเลหิ โกฏฺฏิยมาโน วิย สุนเขหิ ลุฺชิตฺวา ขชฺชมาโน วิย เภรวรเวน วิรวนฺโต อุฏฺาติ.

อเถกทิวสํ โกมุทิยา จาตุมาสินิยา อมจฺจคณปริวุโต อตฺตโน ยสํ โอโลเกตฺวา ‘‘มม ปิตุ ยโส อิโต มหนฺตตโร, ตถารูปํ นาม อหํ ธมฺมราชานํ เทวทตฺตํ นิสฺสาย ฆาเตสิ’’นฺติ จินฺเตสิ. ตสฺเสวํ จินฺเตนฺตสฺเสว กาเย ฑาโห อุปฺปชฺชิ, สกลสรีรํ เสทตินฺตํ อโหสิ. ตโต ‘‘โก นุ โข เม อิมํ ภยํ วิโนเทตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เปตฺวา ทสพลํ อฺโ นตฺถี’’ติ ตฺวา ‘‘อหํ ตถาคตสฺส มหาปราโธ, โก นุ โข มํ เนตฺวา ทสฺเสสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต ‘‘น อฺโ โกจิ อฺตฺร ชีวกา’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ตสฺส คเหตฺวา คมนูปายํ กโรนฺโต ‘‘รมณียา วต, โภ, โทสินา รตฺตี’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา ‘‘กํ นุ ขฺวชฺช สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปยิรุปาเสยฺยามี’’ติ วตฺวา ปูรณสาวกาทีหิ ปูรณาทีนํ คุเณ กถิเต เตสํ วจนํ อนาทิยิตฺวา ชีวกํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา เตน ตถาคตสฺส คุณํ กเถตฺวา ‘‘ตํ เทโว ภควนฺตํ ปยิรุปาสตู’’ติ วุตฺโต หตฺถิยานานิ กปฺปาเปตฺวา ชีวกมฺพวนํ คนฺตฺวา ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ตถาคเตน กตปฏิสนฺถาโร สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุจฺฉิตฺวา ตถาคตสฺส มธุรํ สามฺผลธมฺมเทสนํ (ที. นิ. ๑.๑๕๐ อาทโย) สุตฺวา สุตฺตปริโยสาเน อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทิตฺวา ตถาคตํ ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ. โส ตโต ปฏฺาย ทานํ เทนฺโต สีลํ รกฺขนฺโต ตถาคเตน สทฺธึ สํสคฺคํ กตฺวา มธุรธมฺมกถํ สุณนฺโต กลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน ปหีนภโย วิคตโลมหํโส หุตฺวา จิตฺตสฺสาทํ ปฏิลภิตฺวา สุเขน จตฺตาโร อิริยาปเถ กปฺเปสิ.

อเถกทิวสํ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อชาตสตฺตุ ปิตุฆาตกมฺมํ กตฺวา ภยปฺปตฺโต อโหสิ, รชฺชสิรึ นิสฺสาย จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺโต สพฺพอิริยาปเถสุ ทุกฺขํ อนุโภติ, โส ทานิ ตถาคตํ อาคมฺม กลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน วิคตภโย อิสฺสริยสุขํ อนุโภตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส ปิตุฆาตกมฺมํ กตฺวา มํ นิสฺสาย สุขํ สยี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรนฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมารํ นาม ปุตฺตํ ปฏิลภิ. ตทา โพธิสตฺโต ปุโรหิตสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ชาตสฺเสวสฺส ‘‘สํกิจฺจกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ ราชนิเวสเน เอกโตว วฑฺฒึสุ. อฺมฺํ สหายกา หุตฺวา วยปฺปตฺตา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคมึสุ. อถ ราชา ปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. โพธิสตฺโตปิ อุปราชสฺเสว สนฺติเก อโหสิ. อเถกทิวสํ อุปราชา ปิตุ อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺตสฺส มหนฺตํ ยสํ ทิสฺวา ตสฺมึ โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มยฺหํ ปิตา มม ภาติกสทิโส, สเจ เอตสฺส มรณํ โอโลเกสฺสามิ, มหลฺลกกาเล รชฺชํ ลภิสฺสามิ, ตทา ลทฺเธนปิ รชฺเชน โก อตฺโถ, ปิตรํ มาเรตฺวา รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา โพธิสตฺตสฺส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. โพธิสตฺโต, ‘‘สมฺม, ปิตุฆาตกมฺมํ นาม ภาริยํ, นิรยมคฺโค, น สกฺกา เอตํ กาตุํ, มา กรี’’ติ ปฏิพาหิ. โส ปุนปฺปุนมฺปิ กเถตฺวา ยาวตติยํ เตน ปฏิพาหิโต ปาทมูลิเกหิ สทฺธึ มนฺเตสิ. เตปิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รฺโ มารณูปายํ วีมํสึสุ. โพธิสตฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘นาหํ เอเตหิ สทฺธึ เอกโต ภวิสฺสามี’’ติ มาตาปิตโร อนาปุจฺฉิตฺวาว อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร วิหาสิ.

ราชกุมาโรปิ ตสฺมึ คเต ปิตรํ มาราเปตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิ. ‘‘สํกิจฺจกุมาโร กิร อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา พหู กุลปุตฺตา นิกฺขมิตฺวา ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ. โส มหตา อิสิคเณน ปริวุโต ตตฺถ วสิ. สพฺเพปิ สมาปตฺติลาภิโนเยว. ราชาปิ ปิตรํ มาเรตฺวา อปฺปมตฺตกํเยว กาลํ รชฺชสุขํ อนุภวิตฺวา ตโต ปฏฺาย ภีโต จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺโต นิรเย กมฺมกรณปฺปตฺโต วิย อโหสิ. โส โพธิสตฺตํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘สหาโย เม ‘ปิตุฆาตกมฺมํ ภาริยํ, มา กรี’ติ ปฏิเสเธตฺวา มํ อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตานํ นิทฺโทสํ กตฺวา ปลายิ. สเจ โส อิธ อภวิสฺส, น เม ปิตุฆาตกมฺมํ กาตุํ อทสฺส, อิทมฺปิ เม ภยํ หเรยฺย, กหํ นุ โข โส เอตรหิ วิหรติ. สเจ ตสฺส วสนฏฺานํ ชาเนยฺยํ, ปกฺโกสาเปยฺยํ, โก นุ โข เม ตสฺส วสนฏฺานํ อาโรเจยฺยา’’ติ จินฺเตสิ. โส ตโต ปฏฺาย อนฺเตปุเร จ ราชสภายฺจ โพธิสตฺตสฺเสว วณฺณํ ภาสติ.

เอวํ อทฺธาเน คเต โพธิสตฺโต ‘‘ราชา มํ สรติ, มยา ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ตํ นิพฺภยํ กตฺวา อาคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปณฺณาส วสฺสานิ หิมวนฺเต วสิตฺวา ปฺจสตตาปสปริวุโต อากาเสนาคนฺตฺวา ทายปสฺเส นาม อุยฺยาเน โอตริตฺวา อิสิคณปริวุโต สิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. อุยฺยานปาโล ตํ ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, คณสตฺถา โกนาโม’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สํกิจฺจปณฺฑิโต นามา’’ติ จ สุตฺวา สยมฺปิ สฺชานิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ยาวาหํ ราชานํ อาเนมิ, ตาว อิเธว โหถ, อมฺหากํ ราชา ตุมฺเห ทฏฺุกาโม’’ติ วตฺวา เวเคน ราชกุลํ คนฺตฺวา ตสฺส อาคตภาวํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กตฺตพฺพยุตฺตกํ อุปหารํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๙.

‘‘ทิสฺวา นิสินฺนํ ราชานํ, พฺรหฺมทตฺตํ รเถสภํ;

อถสฺส ปฏิเวเทสิ, ยสฺสาสิ อนุกมฺปโก.

๗๐.

‘‘สํกิจฺจายํ อนุปฺปตฺโต, อิสีนํ สาธุสมฺมโต;

ตรมานรูโป นิยฺยาหิ, ขิปฺปํ ปสฺส มเหสินํ.

๗๑.

‘‘ตโต จ ราชา ตรมาโน, ยุตฺตมารุยฺห สนฺทนํ;

มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺโห, อคมาสิ รเถสโภ.

๗๒.

‘‘นิกฺขิปฺป ปฺจ กกุธานิ, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;

วาลพีชนิมุณฺหีสํ, ขคฺคํ ฉตฺตฺจุปาหนํ.

๗๓.

‘‘โอรุยฺห ราชา ยานมฺหา, ปยิตฺวา ปฏิจฺฉทํ;

อาสีนํ ทายปสฺสสฺมึ, สํกิจฺจมุปสงฺกมิ.

๗๔.

‘‘อุปสงฺกมิตฺวา โส ราชา, สมฺโมทิ อิสินา สห;

ตํ กถํ วีติสาเรตฺวา, เอกมนฺตํ อุปาวิสิ.

๗๕.

‘‘เอกมนฺตํ นิสินฺโนว, อถ กาลํ อมฺถ;

ตโต ปาปานิ กมฺมานิ, ปุจฺฉิตุํ ปฏิปชฺชถ.

๗๖.

‘‘อิสึ ปุจฺฉาม สํกิจฺจํ, อิสีนํ สาธุสมฺมตํ;

อาสีนํ ทายปสฺสสฺมึ, อิสิสงฺฆปุรกฺขตํ.

๗๗.

‘‘กํ คตึ เปจฺจ คจฺฉนฺติ, นรา ธมฺมาติจาริโน;

อติจิณฺโณ มยา ธมฺโม, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตตฺถ ทิสฺวาติ, ภิกฺขเว, โส อุยฺยานปาโล ราชานํ ราชสภายํ นิสินฺนํ ทิสฺวา อถสฺส ปฏิเวเทสิ, ‘‘ยสฺสาสี’’ติ วทนฺโต อาโรเจสีติ อตฺโถ. ยสฺสาสีติ, มหาราช, ยสฺส ตฺวํ อนุกมฺปโก มุทุจิตฺโต อโหสิ, ยสฺส อภิณฺหํ วณฺณํ ปยิรุทาหาสิ, โส อยํ สํกิจฺโจ อิสีนํ อนฺตเร สาธุ ลทฺธโกติ สมฺมโต อนุปฺปตฺโต ตว อุยฺยาเน สิลาปฏฺเฏ อิสิคณปริวุโต กฺจนปฏิมา วิย นิสินฺโน. ตรมานรูโปติ, มหาราช, ปพฺพชิตา นาม กุเล วา คเณ วา อลคฺคา ตุมฺหากํ คจฺฉนฺตานฺเว ปกฺกเมยฺยุํ, ตสฺมา ตรมานรูโป ขิปฺปํ นิยฺยาหิ, มหนฺตานํ สีลาทิคุณานํ เอสิตตฺตา ปสฺส มเหสินํ.

ตโตติ, ภิกฺขเว, โส ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตโต ตสฺส วจนโต อนนฺตรเมว. นิกฺขิปฺปาติ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส กิร อุยฺยานทฺวารํ ปตฺวาว เอตทโหสิ – ‘‘ปพฺพชิตา นาม ครุฏฺานิยา, สํกิจฺจตาปสสฺส สนฺติกํ อุทฺธตเวเสน คนฺตุํ อยุตฺต’’นฺติ. โส มณิจิตฺตสุวณฺณทณฺฑํ วาลพีชนึ, กฺจนมยํ อุณฺหีสปฏฺฏํ, สุปริกฺขิตฺตํ มงฺคลขคฺคํ, เสตจฺฉตฺตํ, โสวณฺณปาทุกาติ อิมานิ ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ อปเนสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิกฺขิปฺปา’’ติ. ปฏิจฺฉทนฺติ ตเมว ราชกกุธภณฺฑํ ปยิตฺวา ภณฺฑาคาริกสฺส หตฺเถ ทตฺวา. ทายปสฺสสฺมินฺติ เอวํนามเก อุยฺยาเน. อถ กาลํ อมฺถาติ อถ โส อิทานิ เม ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ กาโลติ ชานิ. ปาฬิยํ ปน ‘‘ยถากาล’’นฺติ อาคตํ, ตสฺส กาลานุรูเปน ปฺหปุจฺฉนํ อมฺถาติ อตฺโถ. ปฏิปชฺชถาติ ปฏิปชฺชิ. เปจฺจาติ ปฏิคนฺตฺวา, ปรโลกสฺส วา นาเมตํ, ตสฺมา ปรโลเกติ อตฺโถ. มยาติ, ภนฺเต, มยา สุจริตธมฺโม อติจิณฺโณ ปิตุฆาตกมฺมํ กตํ, ตํ เม อกฺขาหิ, กํ คตึ ปิตุฆาตกา คจฺฉนฺติ, กตรสฺมึ นิรเย ปจฺจนฺตีติ ปุจฺฉติ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘เตน หิ, มหาราช, สุโณหี’’ติ วตฺวา โอวาทํ ตาว อทาสิ. สตฺถา ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห –

๗๘.

‘‘อิสี อวจ สํกิจฺโจ, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒนํ;

อาสีนํ ทายปสฺสสฺมึ, มหาราช สุโณหิ เม.

๗๙.

‘‘อุปฺปเถน วชนฺตสฺส, โย มคฺคมนุสาสติ;

ตสฺส เจ วจนํ กยิรา, นาสฺส มคฺเคยฺย กณฺฏโก.

๘๐.

‘‘อธมฺมํ ปฏิปนฺนสฺส, โย ธมฺมมนุสาสติ;

ตสฺส เจ วจนํ กยิรา, น โส คจฺเฉยฺย ทุคฺคติ’’นฺติ.

ตตฺถ อุปฺปเถนาติ โจเรหิ ปริยุฏฺิตมคฺเคน. มคฺคมนุสาสตีติ เขมมคฺคํ อกฺขาติ. นาสฺส มคฺเคยฺย กณฺฏโกติ ตสฺส โอวาทกรสฺส ปุริสสฺส มุขํ โจรกณฺฏโก น ปสฺเสยฺย. โย ธมฺมนฺติ โย สุจริตธมฺมํ. น โสติ โส ปุริโส นิรยาทิเภทํ ทุคฺคตึ น คจฺเฉยฺย. อุปฺปถสทิโส หิ, มหาราช, อธมฺโม, เขมมคฺคสทิโส สุจริตธมฺโม, ตฺวํ ปน ปุพฺเพ ‘‘ปิตรํ ฆาเตตฺวา ราชา โหมี’’ติ มยฺหํ กเถตฺวา มยา ปฏิพาหิโต มม วจนํ อกตฺวา ปิตรํ ฆาเตตฺวา อิทานิ โสจสิ, ปณฺฑิตานํ โอวาทํ อกโรนฺโต นาม โจรมคฺคปฏิปนฺโน วิย มหาพฺยสนํ ปาปุณาตีติ.

เอวมสฺส โอวาทํ ทตฺวา อุปริ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

๘๑.

‘‘ธมฺโม ปโถ มหาราช, อธมฺโม ปน อุปฺปโถ;

อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคตึ.

๘๒.

‘‘อธมฺมจาริโน ราช, นรา วิสมชีวิโน;

ยํ คตึ เปจฺจ คจฺฉนฺติ, นิรเย เต สุโณหิ เม.

๘๓.

‘‘สฺชีโว กาฬสุตฺโต จ, สงฺฆาโต ทฺเว จ โรรุวา;

อถาปโร มหาวีจิ, ตาปโน จ ปตาปโน.

๘๔.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ นิรยา, อกฺขาตา ทุรติกฺกมา;

อากิณฺณา ลุทฺทกมฺเมหิ, ปจฺเจกา โสฬสุสฺสทา.

๘๕.

‘‘กทริยตาปนา โฆรา, อจฺจิมนฺโต มหพฺภยา;

โลมหํสนรูปา จ, เภสฺมา ปฏิภยา ทุขา.

๘๖.

‘‘จตุกฺกณฺณา จตุทฺวารา, วิภตฺตา ภาคโส มิตา;

อโยปาการปริยนฺตา, อยสา ปฏิกุชฺชิตา.

๘๗.

‘‘เตสํ อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผุฏา ติฏฺนฺติ สพฺพทา.

๘๘.

‘‘เอเต ปตนฺติ นิรเย, อุทฺธํปาทา อวํสิรา;

อิสีนํ อติวตฺตาโร, สฺตานํ ตปสฺสินํ.

๘๙.

‘‘เต ภูนหุโน ปจฺจนฺติ, มจฺฉา พิลกตา ยถา;

สํวจฺฉเร อสงฺเขยฺเย, นรา กิพฺพิสการิโน.

๙๐.

‘‘ฑยฺหมาเนน คตฺเตน, นิจฺจํ สนฺตรพาหิรํ;

นิรยา นาธิคจฺฉนฺติ, ทฺวารํ นิกฺขมเนสิโน.

๙๑.

‘‘ปุรตฺถิเมน ธาวนฺติ, ตโต ธาวนฺติ ปจฺฉโต;

อุตฺตเรนปิ ธาวนฺติ, ตโต ธาวนฺติ ทกฺขิณํ;

ยํ ยฺหิ ทฺวารํ คจฺฉนฺติ, ตํ ตเทว ปิธียเร.

๙๒.

‘‘พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ, ชนา นิรยคามิโน;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ปตฺวา ทุกฺขํ อนปฺปกํ.

๙๓.

‘‘อาสีวิสํว กุปิตํ, เตชสฺสึ ทุรติกฺกมํ;

น สาธุรูเป อาสีเท, สฺตานํ ตปสฺสินํ.

๙๔.

‘‘อติกาโย มหิสฺสาโส, อชฺชุโน เกกกาธิโป;

สหสฺสพาหุ อุจฺฉินฺโน, อิสิมาสชฺช โคตมํ.

๙๕.

‘‘อรชํ รชสา วจฺฉํ, กิสํ อวกิริย ทณฺฑกี;

ตาโลว มูลโต ฉินฺโน, ส ราชา วิภวงฺคโต.

๙๖.

‘‘อุปหจฺจ มนํ มชฺโฌ, มาตงฺคสฺมึ ยสสฺสิเน;

สปาริสชฺโช อุจฺฉินฺโน, มชฺฌารฺํ ตทา อหุ.

๙๗.

‘‘กณฺหทีปายนาสชฺช, อิสึ อนฺธกเวณฺฑโย;

อฺโฺํ มุสลา หนฺตฺวา, สมฺปตฺตา ยมสาธนํ.

๙๘.

‘‘อถายํ อิสินา สตฺโต, อนฺตลิกฺขจโร ปุเร;

ปาเวกฺขิ ปถวึ เจจฺโจ, หีนตฺโต ปตฺตปริยายํ.

๙๙.

‘‘ตสฺมา หิ ฉนฺทาคมนํ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;

อทุฏฺจิตฺโต ภาเสยฺย, คิรํ สจฺจูปสํหิตํ.

๑๐๐.

‘‘มนสา เจ ปทุฏฺเน, โย นโร เปกฺขเต มุนึ;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, คนฺตา โส นิรยํ อโธ.

๑๐๑.

‘‘เย วุฑฺเฒ ปริภาสนฺติ, ผรุสูปกฺกมา ชนา;

อนปจฺจา อทายาทา, ตาลวตฺถุ ภวนฺติ เต.

๑๐๒.

‘‘โย จ ปพฺพชิตํ หนฺติ, กตกิจฺจํ มเหสินํ;

ส กาฬสุตฺเต นิรเย, จิรรตฺตาย ปจฺจติ.

๑๐๓.

‘‘โย จ ราชา อธมฺมฏฺโ, รฏฺวิทฺธํสโน มโค;

ตาปยิตฺวา ชนปทํ, ตาปเน เปจฺจ ปจฺจติ.

๑๐๔.

‘‘โส จ วสฺสสหสฺสานิ, สตํ ทิพฺพานิ ปจฺจติ;

อจฺจิสงฺฆปเรโต โส, ทุกฺขํ เวเทติ เวทนํ.

๑๐๕.

‘‘ตสฺส อคฺคิสิขา กายา, นิจฺฉรนฺติ ปภสฺสรา;

เตโชภกฺขสฺส คตฺตานิ, โลเมหิ จ นเขหิ จ.

๑๐๖.

‘‘ฑยฺหมาเนน คตฺเตน, นิจฺจํ สนฺตรพาหิรํ;

ทุกฺขาภิตุนฺโน นทติ, นาโค ตุตฺตฏฺฏิโต ยถา.

๑๐๗.

‘‘โย โลภา ปิตรํ หนฺติ, โทสา วา ปุริสาธโม;

ส กาฬสุตฺเต นิรเย, จิรรตฺตาย ปจฺจติ.

๑๐๘.

‘‘ส ตาทิโส ปจฺจติ โลหกุมฺภิยํ, ปกฺกฺจ สตฺตีหิ หนนฺติ นิตฺตจํ;

อนฺธํ กริตฺวา มุตฺตกรีสภกฺขํ, ขาเร นิมุชฺชนฺติ ตถาวิธํ นรํ.

๑๐๙.

‘‘ตตฺตํ ปกฺกุถิตมโยคุฬฺจ, ทีเฆ จ ผาเล จิรรตฺตตาปิเต;

วิกฺขมฺภมาทาย วิพนฺธรชฺชุภิ, วิวเฏ มุเข สมฺปวิสนฺติ รกฺขสา.

๑๑๐.

‘‘สามา จ โสณา สพลา จ คิชฺฌา, กาโกลสงฺฆา จ ทิชา อโยมุขา;

สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิปฺผนฺทมานํ, ชิวฺหํ วิภชฺช วิฆาสํ สโลหิตํ.

๑๑๑.

‘‘ตํ ทฑฺฒตาลํ ปริภินฺนคตฺตํ, นิปฺโปถยนฺตา อนุวิจรนฺติ รกฺขสา;

รตี หิ เตสํ ทุขิโน ปนีตเร, เอตาทิสสฺมึ นิรเย วสนฺติ;

เย เกจิ โลเก อิธ เปตฺติฆาติโน.

๑๑๒.

‘‘ปุตฺโต จ มาตรํ หนฺตฺวา, อิโต คนฺตฺวา ยมกฺขยํ;

ภุสมาปชฺชเต ทุกฺขํ, อตฺตกมฺมผลูปโค.

๑๑๓.

‘‘อมนุสฺสา อติพลา, หนฺตารํ ชนยนฺติยา;

อโยมเยหิ วาเลหิ, ปีฬยนฺติ ปุนปฺปุนํ.

๑๑๔.

‘‘ตมสฺสวํ สกา คตฺตา, รุธิรํ อตฺตสมฺภวํ;

ตมฺพโลหวิลีนํว, ตตฺตํ ปาเยนฺติ มตฺติฆํ.

๑๑๕.

‘‘ชิคุจฺฉํ กุณปํ ปูตึ, ทุคฺคนฺธํ คูถกทฺทมํ;

ปุพฺพโลหิตสงฺกาสํ, รหทโมคยฺห ติฏฺติ.

๑๑๖.

‘‘ตเมนํ กิมโย ตตฺถ, อติกายา อโยมุขา;

ฉวึ เภตฺวาน ขาทนฺติ, สํคิทฺธา มํสโลหิเต.

๑๑๗.

‘‘โส จ ตํ นิรยํ ปตฺโต, นิมุคฺโค สตโปริสํ;

ปูติกํ กุณปํ วาติ, สมนฺตา สตโยชนํ.

๑๑๘.

‘‘จกฺขุมาปิ หิ จกฺขูหิ, เตน คนฺเธน ชียติ;

เอตาทิสํ พฺรหฺมทตฺต, มาตุโฆ ลภเต ทุขํ.

๑๑๙.

‘‘ขุรธารมนุกฺกมฺม, ติกฺขํ ทุรภิสมฺภวํ;

ปตนฺติ คพฺภปาติโย, ทุคฺคํ เวตรณึ นทึ.

๑๒๐.

‘‘อโยมยา สิมฺพลิโย, โสฬสงฺคุลกณฺฏกา;

อุภโต อภิลมฺพนฺติ, ทุคฺคํ เวตรณึ นทึ.

๑๒๑.

‘‘เต อจฺจิมนฺโต ติฏฺนฺติ, อคฺคิกฺขนฺธาว อารกา;

อาทิตฺตา ชาตเวเทน, อุทฺธํ โยชนมุคฺคตา.

๑๒๒.

‘‘เอเต วชนฺติ นิรเย, ตตฺเต ติขิณกณฺฏเก;

นาริโย จ อติจารา, นรา จ ปรทารคู.

๑๒๓.

‘‘เต ปตนฺติ อโธกฺขนฺธา, วิวตฺตา วิหตา ปุถู;

สยนฺติ วินิวิทฺธงฺคา, ทีฆํ ชคฺคนฺติ สพฺพทา.

๑๒๔.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, มหตึ ปพฺพตูปมํ;

โลหกุมฺภึ ปวชฺชนฺติ, ตตฺตํ อคฺคิสมูทกํ.

๑๒๕.

‘‘เอวํ ทิวา จ รตฺโต จ, ทุสฺสีลา โมหปารุตา;

อนุโภนฺติ สกํ กมฺมํ, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.

๑๒๖.

‘‘ยา จ ภริยา ธนกฺกีตา, สามิกํ อติมฺติ;

สสฺสุํ วา สสุรํ วาปิ, เชฏฺํ วาปิ นนนฺทรํ.

๑๒๗.

‘‘ตสฺสา วงฺเกน ชิวฺหคฺคํ, นิพฺพหนฺติ สพนฺธนํ;

พฺยามมตฺตํ กิมินํ, ชิวฺหํ ปสฺสติ อตฺตนิ;

วิฺาเปตุํ น สกฺโกติ, ตาปเน เปจฺจ ปจฺจติ.

๑๒๘.

‘‘โอรพฺภิกา สูกริกา, มจฺฉิกา มิคพนฺธกา;

โจรา โคฆาตกา ลุทฺทา, อวณฺเณ วณฺณการกา.

๑๒๙.

‘‘สตฺตีหิ โลหกูเฏหิ, เนตฺตึเสหิ อุสูหิ จ;

หฺมานา ขารนทึ, ปปตนฺติ อวํสิรา.

๑๓๐.

‘‘สายํ ปาโต กูฏการี, อโยกูเฏหิ หฺติ;

ตโต วนฺตํ ทุรตฺตานํ, ปเรสํ ภุฺชเร สทา.

๑๓๑.

‘‘ธงฺกา เภรณฺฑกา คิชฺฌา, กาโกลา จ อโยมุขา;

วิปฺผนฺทมานํ ขาทนฺติ, นรํ กิพฺพิสการกํ.

๑๓๒.

‘‘เย มิเคน มิคํ หนฺติ, ปกฺขึ วา ปน ปกฺขินา;

อสนฺโต รชสา ฉนฺนา, คนฺตา เต นิรยุสฺสท’’นฺติ.

ตตฺถ ธมฺโม ปโถติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม เขโม อปฺปฏิภโย สุคติมคฺโค. วิสมชีวิโนติ อธมฺเมน กปฺปิตชีวิกา. นิรเย เตติ เต เอเตสํ นิพฺพตฺตนิรเย กเถมิ. สุโณหิ เมติ มหาสตฺโต รฺา ปิตุฆาตกานํ นิพฺพตฺตนิรยํ ปุจฺฉิโตปิ ปถมํ ตํ อทสฺเสตฺวา อฏฺ มหานิรเย โสฬส จ อุสฺสทนิรเย ทสฺเสตุํ เอวมาห. กึการณา? ปมฺหิ ตสฺมึ ทสฺสิยมาเน ราชา ผลิเตน หทเยน ตตฺเถว มเรยฺย, อิเมสุ ปน นิรเยสุ ปจฺจมานสตฺเต ทิสฺวา ทิฏฺานุคติโก หุตฺวา ‘‘อหํ วิย อฺเปิ พหู ปาปกมฺมิโน อตฺถิ, อหํ เอเตสํ อนฺตเร ปจฺจิสฺสามี’’ติ สฺชาตุปตฺถมฺโภ อโรโค ภวิสฺสตีติ เต ปน นิรเย ทสฺเสนฺโต มหาสตฺโต ปมํ อิทฺธิพเลน ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา ปจฺฉา ทสฺเสสิ.

เตสํ วจนตฺโถ – นิรยปาเลหิ ปชฺชลิตานิ นานาวุธานิ คเหตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺนา หีรํ หีรํ กตา เนรยิกสตฺตา ปุนปฺปุนํ สฺชีวนฺติ เอตฺถาติ สฺชีโว. นิรยปาลา ปุนปฺปุนํ นทนฺตา วคฺคนฺตา ปชฺชลิตานิ นานาวุธานิ คเหตฺวา ชลิตาย โลหปถวิยํ เนรยิเก สตฺเต อปราปรํ อนุพนฺธิตฺวา ปหริตฺวา ชลิตปถวิยํ ปติเต ชลิตกาฬสุตฺตํ ปาเตตฺวา ชลิตผรสุํ คเหตฺวา สยํ อุนฺนทนฺตา มหนฺเตน อฏฺฏสฺสเรน วิรวนฺเต อฏฺํเส โสฬสํเส กโรนฺตา เอตฺถ ตจฺฉนฺตีติ กาฬสุตฺโต. มหนฺตา ชลิตอยปพฺพตา ฆาเตนฺติ เอตฺถาติ สงฺฆาโต. ตตฺถ กิร สตฺเต นวโยชนาย ชลิตาย อยปถวิยา ยาว กฏิโต ปเวเสตฺวา นิจฺจเล กโรนฺติ. อถ ปุรตฺถิมโต ชลิโต อยปพฺพโต สมุฏฺาย อสนิ วิย วิรวนฺโต อาคนฺตฺวา เต สตฺเต สณฺหกรณิยํ ติเล ปิสนฺโต วิย คนฺตฺวา ปจฺฉิมทิสาย ติฏฺติ, ปจฺฉิมทิสโต สมุฏฺิโตปิ ตเถว คนฺตฺวา ปุรตฺถิมทิสาย ติฏฺติ. ทฺเว ปน เอกโต สมาคนฺตฺวา อุจฺฉุยนฺเต อุจฺฉุขณฺฑานิ วิย ปีเฬนฺติ. เอวํ ตตฺถ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ทุกฺขํ อนุโภนฺติ.

ทฺเว จ โรรุวาติ ชาลโรรุโว, ธูมโรรุโว จาติ ทฺเว. ตตฺถ ชาลโรรุโว กปฺเปน สณฺิตาหิ รตฺตโลหชาลาหิ ปุณฺโณ, ธูมโรรุโว ขารธูเมน ปุณฺโณ. เตสุ ชาลโรรุเว ปจฺจนฺตานํ นวหิ วณฺณมุเขหิ ชาลา ปวิสิตฺวา สรีรํ ทหนฺติ, ธูมโรรุเว ปจฺจนฺตานํ นวหิ วณมุเขหิ ขารธูโม ปวิสิตฺวา ปิฏฺํ วิย สรีรํ เสเทติ. อุภยตฺถปิ ปจฺจนฺตา สตฺตา มหาวิรวํ วิรวนฺตีติ ทฺเวปิ ‘‘โรรุวา’’ติ วุตฺตา. ชาลานํ วา ปจฺจนสตฺตานํ วา เตสํ ทุกฺขสฺส วา วีจิ อนฺตรํ นตฺถิ เอตฺถาติ อวีจิ, มหนฺโต อวีจิ มหาวีจิ. ตตฺถ หิ ปุรตฺถิมาทีหิ ภิตฺตีหิ ชาลา อุฏฺหิตฺวา ปจฺฉิมาทีสุ ปฏิหฺติ, ตา จ ภิตฺติโย วินิวิชฺฌิตฺวา ปุรโต โยชนสตํ คณฺหาติ. เหฏฺา อุฏฺิตา ชาลา อุปริ ปฏิหฺติ, อุปริ อุฏฺิตา เหฏฺา ปฏิหฺติ. เอวํ ตาเวตฺถ ชาลานํ วีจิ นาม นตฺถิ. ตสฺส ปน อนฺโต โยชนสตํ านํ ขีรวลฺลิปิฏฺสฺส ปูริตนาฬิ วิย สตฺเตหิ นิรนฺตรํ ปูริตํ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปจฺจนฺตานํ สตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ, น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ, สกฏฺาเนเยว ปจฺจนฺติ. เอวเมตฺถ สตฺตานํ วีจิ นาม นตฺถิ. ยถา ปน ชิวฺหคฺเค ฉ มธุพินฺทูนิ สตฺตมสฺส ตมฺพโลหพินฺทุโน อนุทหนพลวตาย อพฺโพหาริกานิ โหนฺติ, ตถา ตตฺถ อนุทหนพลวตาย เสสา ฉ อกุสลวิปากุเปกฺขา อพฺโพหาริกา โหนฺติ, ทุกฺขเมว นิรนฺตรํ ปฺายติ. เอวเมตฺถ ทุกฺขสฺส วีจิ นาม นตฺถิ. สฺวายํ สห ภิตฺตีหิ วิกฺขมฺภโต อฏฺารสาธิกติโยชนสโต, อาวฏฺฏโต ปน จตุปณฺณาสาธิกนวโยชนสโต, สห อุสฺสเทหิ ทส โยชนสหสฺสานิ. เอวมสฺส มหนฺตตา เวทิตพฺพา.

นิจฺจเล สตฺเต ตปตีติ ตาปโน. อติวิย ตาเปตีติ ปตาปโน. ตตฺถ ตาปนสฺมึ ตาว สตฺเต ตาลกฺขนฺธปฺปมาเณ ชลิตอยสูเล นิสีทาเปนฺติ. ตโต เหฏฺา ปถวี ชลติ, สูลานิ ชลนฺติ, สตฺตา ชลนฺติ. เอวํ โส นิรโย นิจฺจเล สตฺเต ตปติ. อิตรสฺมึ ปน นิพฺพตฺตสตฺเต ชลนฺเตหิ อาวุเธหิ ปหริตฺวา ชลิตํ อยปพฺพตํ อาโรเปนฺติ. เตสํ ปพฺพตมตฺถเก ิตกาเล กมฺมปจฺจโย วาโต ปหรติ. เต ตตฺถ สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตา อุทฺธํปาทา อโธสิรา ปตนฺติ. อถ เหฏฺา อยปถวิโต ชลิตานิ อยสูลานิ อุฏฺหนฺติ. เต ตานิ มตฺถเกเนว ปหริตฺวา เตสุ วินิวิทฺธสรีรา ชลนฺตา ปจฺจนฺติ. เอวเมส อติวิย ตาเปตีติ.

โพธิสตฺโต ปน เอเต นิรเย ทสฺเสนฺโต ปมํ สฺชีวํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ ปจฺจนฺเต เนรยิกสตฺเต ทิสฺวา มหาชนสฺส มหาภเย อุปฺปนฺเน ตํ อนฺตรธาเปตฺวา ปุน ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา กาฬสุตฺตํ ทสฺเสสิ, ตตฺถปิ ปจฺจมาเน สตฺเต ทิสฺวา มหาชนสฺส มหาภเย อุปฺปนฺเน ตมฺปิ อนฺตรธาเปสีติ เอวํ ปฏิปาฏิยา ทสฺเสสิ. ตโต ราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, ตยา อิเมสุ อฏฺสุ มหานิรเยสุ ปจฺจมาเน สตฺเต ทิสฺวา อปฺปมาทํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ปุน เตสฺเว มหานิรยานํ กิจฺจํ กเถตุํ ‘‘อิจฺเจเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อกฺขาตาติ มยา จ ตุยฺหํ กถิตา, โปราณเกหิ จ กถิตาเยว. อากิณฺณาติ ปริปุณฺณา. ปจฺเจกา โสฬสุสฺสทาติ เอเตสํ นิรยานํ เอเกกสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ เอเกกสฺมึ จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา โสฬส โสฬส อุสฺสทนิรยาติ สพฺเพปิ สตํ อฏฺวีสติ จ อุสฺสทนิรยา อฏฺ จ มหานิรยาติ ฉตฺตึสนิรยสตํ. กทริยตาปนาติ สพฺเพเต กทริยานํ ตาปนา. พลวทุกฺขตาย โฆรา. กมฺมนิพฺพตฺตานํ อจฺจีนํ อตฺถิตาย อจฺจิมนฺโต. ภยสฺส มหนฺตตาย มหพฺภยา. ทิฏฺมตฺตา วา สุตมตฺตา วา โลมานิ หํสนฺตีติ โลมหํสนรูปา จ. ภีสนตาย เภสฺมา. ภยชนนตาย ปฏิภยา. สุขาภาเวน ทุขา. จตุกฺกณฺณาติ สพฺเพปิ จตุรสฺสมฺชูสสทิสา. วิภตฺตาติ จตุทฺวารวเสน วิภตฺตา. ภาคโส มิตาติ ทฺวารวีถีนํ วเสน โกฏฺาเส เปตฺวา มิตา. อยสา ปฏิกุชฺชิตาติ สพฺเพปิ นวโยชนิเกน อยกปาเลน ปฏิจฺฉนฺนา. ผุฏา ติฏฺนฺตีติ สพฺเพปิ เอตฺตกํ านํ อนุผริตฺวา ติฏฺนฺติ.

อุทฺธํปาทา อวํสิราติ เอวํ เตสุ เตสุ นิรเยสุ สมฺปริวตฺติตฺวา ปุนปฺปุนํ ปตมาเน สนฺธายาห. อติวตฺตาโรติ ผรุสวาจาหิ อติกฺกมิตฺวา วตฺตาโร. มหานิรเยสุ กิร เยภุยฺเยน ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณสุ กตาปราธาว ปจฺจนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. เต ภูนหุโนติ เต อิสีนํ อติวตฺตาโร อตฺตโน วุฑฺฒิยา หตตฺตา ภูนหุโน โกฏฺาสกตา มจฺฉา วิย ปจฺจนฺติ. อสงฺเขยฺเยติ คเณตุํ อสกฺกุเณยฺเย. กิพฺพิสการิโนติ ทารุณกมฺมการิโน. นิกฺขมเนสิโนติ นิรยา นิกฺขมนํ เอสนฺตาปิ คเวสนฺตาปิ นิกฺขมนทฺวารํ นาธิคจฺฉนฺติ. ปุรตฺถิเมนาติ ยทา ตํ ทฺวารํ อปารุตํ โหติ, อถ ตทภิมุขา ธาวนฺติ, เตสํ ตตฺถ ฉวิอาทีนิ ฌายนฺติ. ทฺวารสมีปํ ปตฺตานฺจ เตสํ ตํ ปิธียติ, ปจฺฉิมทฺวารํ อปารุตํ วิย ขายติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. น สาธุรูเปติ วุตฺตปฺปการํ สปฺปํ วิย สาธุรูเป อิสโย น อาสีเท, น ผรุสวจเนน กายกมฺเมน วา ฆฏฺเฏนฺโต อุปคจฺเฉยฺย. กึการณา? สฺตานํ ตปสฺสีนํ อาสาทิตตฺตา อฏฺสุ มหานิรเยสุ มหาทุกฺขสฺส อนุภวิตพฺพตฺตา.

อิทานิ เย ราชาโน ตถารูเป อาสาเทตฺวา ตํ ทุกฺขํ ปตฺตา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘อติกาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อติกาโยติ พลสมฺปนฺโน มหากาโย. มหิสฺสาโสติ มหาธนุคฺคโห. เกกกาธิโปติ เกกกรฏฺาธิปติ. สหสฺสพาหูติ ปฺจหิ ธนุคฺคหสเตหิ พาหุสหสฺเสน อาโรเปตพฺพํ ธนุํ อาโรปนสมตฺถตาย สหสฺสพาหุ. วิภวงฺคโตติ วินาสํ ปตฺโต. วตฺถูนิ ปน สรภงฺคชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) วิตฺถาริตานิ. อุปหจฺจ มนนฺติ อตฺตโน จิตฺตํ ปทูเสตฺวา. มาตงฺคสฺมินฺติ มาตงฺคปณฺฑิเต. วตฺถุ มาตงฺคชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑ อาทโย) วณฺณิตํ. กณฺหทีปายนาสชฺชาติ กณฺหทีปายนํ อาสชฺช. ยมสาธนนฺติ นิรยปาลกรฺโ อาณาปวตฺตฏฺานํ. วตฺถุ ฆฏปณฺฑิตชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๑๖๕ อาทโย) วิตฺถาริตํ. อิสินาติ กปิลตาปเสน. ปาเวกฺขีติ ปวิฏฺโ. เจจฺโจติ เจติยราชา. หีนตฺโตติ ปริหีนตฺตภาโว อนฺตรหิตอิทฺธิ. ปตฺตปริยายนฺติ ปริยายํ มรณกาลํ ปตฺวา. วตฺถุ เจติยชาตเก (ชา. ๑.๘.๔๕ อาทโย) กถิตํ.

ตสฺมา หีติ ยสฺมา จิตฺตวสิโก หุตฺวา อิสีสุ อปรชฺฌิตฺวา อฏฺสุ มหานิรเยสุ ปจฺจติ, ตสฺมา หิ. ฉนฺทาคมนนฺติ ฉนฺทาทิจตุพฺพิธมฺปิ อคติคมนํ. ปทุฏฺเนาติ กุทฺเธน. คนฺตา โส นิรยํ อโธติ โส เตน อโธคมนิเยน กมฺเมน อโธนิรยเมว คจฺฉติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘นิรยุสฺสท’’นฺติ ลิขิตํ, ตสฺส อุสฺสทนิรยํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. วุฑฺเฒติ วโยวุฑฺเฒ จ คุณวุฑฺเฒ จ. อนปจฺจาติ ภวนฺตเรปิ อปจฺจํ วา ทายาทํ วา น ลภนฺตีติ อตฺโถ. ตาลวตฺถูติ ทิฏฺธมฺเมปิ ฉินฺนมูลตาโล วิย มหาวินาสํ ปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตนฺติ. โย จ ปพฺพชิตํ หนฺตีติ โย พาลชโน สมณํ หนติ. จิรรตฺตายาติ จิรํ กาลํ.

เอวํ มหาสตฺโต อิสิวิเหกานํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสตฺวา อุปริ อธมฺมิกราชูนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสนฺโต ‘‘โย จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ รฏฺวิทฺธํสโนติ ฉนฺทาทิวเสน คนฺตฺวา รฏฺสฺส วิทฺธํสโน. อจฺจิสงฺฆปเรโตติ อจฺจิสมูหปริกฺขิตฺโต. เตโชภกฺขสฺสาติ อคฺคิเมว ขาทนฺตสฺส. คตฺตานีติ ติคาวุเต สรีเร สพฺพงฺคปจฺจงฺคานิ. โลเมหิ จ นเขหิ จาติ เอเตหิ สทฺธึ สพฺพานิ เอกชาลานิ โหนฺติ. ตุตฺตฏฺฏีโตติ อาเนฺชการณํ การิยมาโน ตุตฺเตหิ วิทฺโธ นาโค ยถา นทติ.

เอวํ มหาสตฺโต อธมฺมิกราชูนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปิตุฆาตกาทีนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสตุํ ‘‘โย โลภา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โลภาติ ยสธนโลเภน. โทสา วาติ ทุฏฺจิตฺตตาย วา. นิตฺตจนฺติ โลหกุมฺภิยํ พหูนิ วสสหสฺสานิ ปกฺกํ นีหริตฺวา ติคาวุตมสฺส สรีรํ นิตฺตจํ กตฺวา ชลิตาย โลหปถวิยํ ปาเตตฺวา ติณฺเหหิ อยสูเลหิ โกฏฺเฏตฺวา จุณวิจุณฺณํ กโรนฺติ. อนฺธํ กริตฺวาติ, มหาราช, ตํ ปิตุฆาตกํ นิรยปาลา ชลิตโลหปถวิยํ อุตฺตานํ ปาเตตฺวา ชลิเตหิ อยสูเลหิ อกฺขีนิ ภินฺทิตฺวา อนฺธํ กริตฺวา มุเข อุณฺหํ มุตฺตกรีสํ ปกฺขิปิตฺวา ปลาลปีํ วิย นํ ปริวตฺเตตฺวา กปฺเปน สณฺิเต ขาเร โลหอุทเก นิมุชฺชาเปนฺติ. ตตฺตํ ปกฺกุถิตมโยคุฬฺจาติ ปุน ปกฺกุถิตํ คูถกลลฺเจว ชลิตอโยคุฬฺจ ขาทาเปนฺติ. โส ปน ตํ อาหริยมานํ ทิสฺวา มุขํ ปิเธติ. อถสฺส ทีเฆ จิรตาปิเต ชลมาเน ผาเล อาทาย มุขํ วิกฺขมฺเภตฺวา วิวริตฺวา รชฺชุพทฺธํ อยพลิสํ ขิปิตฺวา ชิวฺหํ นีหริตฺวา ตสฺมึ วิวเฏ มุเข ตํ อโยคุฬํ สมฺปวิสนฺติ ปกฺขิปนฺติ. รกฺขสาติ นิรยปาลา.

สามา จาติ, มหาราช, ตสฺส ปิตุฆาตกสฺส ชิวฺหํ พลิเสน นิกฺกฑฺฒิตฺวา อยสงฺกูหิ ปถวิยํ นีหตํ ชิวฺหํ สามา โสณา สพลวณฺณา สุนขา จ โลหตุณฺฑา คิชฺฌา จ กาโกลสงฺฆา จ อฺเ จ นานปฺปการา สกุณา สมาคนฺตฺวา อาวุเธหิ ฉินฺทนฺตา วิย วิภชฺช กากปทากาเรน โกฏฺาเส กตฺวา วิปฺผนฺทมานํ สโลหิตํ วิฆาสํ ขาทนฺตา วิย สตฺเต ภกฺขยนฺตีติ อตฺโถ. ตํ ทฑฺฒตาลนฺติ ตํ ปิตุฆาตกํ ฌายมานตาลํ วิย ชลิตสรีรํ. ปริภินฺนคตฺตนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปริภินฺนคตฺตํ. นิปฺโปถยนฺตาติ ชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ ปหรนฺตา. รตี หิ เตสนฺติ เตสํ นิรยปาลานํ สา รติ กีฬา โหติ. ทุขิโน ปนีตเรติ อิตเร ปน เนรยิกสตฺตา ทุกฺขิตา โหนฺติ. เปตฺติฆาติโนติ ปิตุฆาตกา. อิติ อิมํ ปิตุฆาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทิสฺวา ราชา ภีตตสิโต อโหสิ.

อถ นํ มหาสตฺโต สมสฺสาเสตฺวา มาตุฆาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสสิ. ยมกฺขยนฺติ ยมนิเวสนํ, นิรยนฺติ อตฺโถ. อตฺตกมฺมผลูปโคติ อตฺตโน กมฺมผเลน อุปคโต. อมนุสฺสาติ นิรยปาลา. หนฺตารํ ชนยนฺติยาติ มาตุฆาตกํ. วาเลหีติ อยมกจิวาเลหิ เวเตฺวา อยยนฺเตน ปีฬยนฺติ. นฺติ ตํ มาตุฆาตกํ. ปาเยนฺตีติ ตสฺส ปีฬิยมานสฺส รุหิรํ คฬิตฺวา อยกปลฺลํ ปูเรติ. อถ นํ ยนฺตโต นีหรนฺติ, ตาวเทวสฺส สรีรํ ปากติกํ โหติ. ตํ ปถวิยํ อุตฺตานํ นิปชฺชาเปตฺวา วิลีนํ ตมฺพโลหํ วิย ปกฺกุถิตํ โลหิตํ ปาเยนฺติ. โอคยฺห ติฏฺตีติ ตํ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ อยยนฺเตหิ ปีเฬตฺวา เชคุจฺเฉ ทุคฺคนฺเธ ปฏิกูเล มหนฺเต คูถกลลอาวาเฏ ขิปนฺติ, โส ตํ รหทํ โอคยฺห โอคาหิตฺวา ติฏฺติ. อติกายาติ เอกโทณิกนาวปฺปมาณสรีรา. อโยมุขาติ อยสูจิมุขา. ฉวึ เภตฺวานาติ ฉวิมาทึ กตฺวา ยาว อฏฺิมฺปิ เภตฺวา อฏฺิมิฺชมฺปิ ขาทนฺติ. สํคิทฺธาติ คธิตา มุจฺฉิตา. น เกวลฺจ ขาทนฺเตว, อโธมคฺคาทีหิ ปน ปวิสิตฺวา มุขาทีหิ นิกฺขมนฺติ, วามปสฺสาทีหิ ปวิสิตฺวา ทกฺขิณปสฺสาทีหิ นิกฺขมนฺติ, สกลมฺปิ สรีรํ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กโรนฺติ, โส ตตฺถ อติทุกฺขปเรโต วิรวนฺโต ปจฺจติ. โส จาติ โส มาตุฆาตโก จ ตํ สตโปริสํ นิรยํ ปตฺโต สสีสโก นิมุคฺโคว โหติ, ตฺจ กุณปํ สมนฺตา โยชนสตํ ปูติกํ หุตฺวา วายติ. มาตุโฆติ มาตุฆาตโก.

เอวํ มหาสตฺโต มาตุฆาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสตฺวา ปุน คพฺภปาตกานํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห. ขุรธารมนุกฺกมฺมาติ ขุรธารนิรยํ อติกฺกมิตฺวา. ตตฺถ กิร นิรยปาลา มหนฺตมหนฺเต ขุเร อุปริ ธาเร กตฺวา สนฺถรนฺติ, ตโต ยาหิ คพฺภปาตนขรเภสชฺชานิ ปิวิตฺวา คพฺภา ปาติตา, ตา คพฺภปาตินิโย อิตฺถิโย ชลิเตหิ อาวุเธหิ โปเถนฺตา อนุพนฺธนฺติ, ตา ติขิณขุรธาราสุ ขณฺฑาขณฺฑิกา หุตฺวา ปุนปฺปุนํ อุฏฺาย ตํ ทุรภิสมฺภวํ ขุรธารนิรยํ อกฺกมนฺติโย อติกฺกมิตฺวา นิรยปาเลหิ อนุพทฺธา ทุคฺคํ ทุรติกฺกมํ วิสมํ เวตรณึ นทึ ปตนฺติ. ตตฺถ กมฺมการณํ นิมิชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๔๒๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.

เอวํ คพฺภปาตินีนํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาสตฺโต ยตฺถ ปรทาริกา จ อติจารินิโย จ ปตนฺตา ปจฺจนฺติ, ตํ กณฺฏกสิมฺพลินิรยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อโยมยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุภโต อภิลมฺพนฺตีติ เวตรณิยา อุโภสุ ตีเรสุ ตาสํ สิมฺพลีนํ สาขา โอลมฺพนฺติ. เต อจฺจิมนฺโตติ เต ปชฺชลิตสรีรา สตฺตา อจฺจิมนฺโต หุตฺวา ติฏฺนฺติ. โยชนนฺติ ติคาวุตํ เตสํ สรีรํ, ตโต อุฏฺิตชาลาย ปน สทฺธึ โยชนอุพฺเพธา โหนฺติ. เอเต วชนฺตีติ เต ปรทาริกา สตฺตา นานาวิเธหิ อาวุเธหิ โกฏฺฏิยมานา เอเต สิมฺพลินิรเย อภิรุหนฺติ. เต ปตนฺตีติ เต พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ รุกฺขวิฏเปสุ ลคฺคา ฌายิตฺวา ปุน นิรยปาเลหิ อาวุเธหิ วิหตา วิวตฺตา หุตฺวา ปริวตฺติตฺวา อโธสีสกา ปตนฺติ. ปุถูติ พหู. วินิวิทฺธงฺคาติ เตสํ ตโต ปตนกาเล เหฏฺา อยปถวิโต สูลานิ อุฏฺหิตฺวา เตสํ มตฺถกํ ปฏิจฺฉนฺติ, ตานิ เตสํ อโธมคฺเคน นิกฺขมนฺติ, เต เอวํ สูเลสุ วิทฺธสรีรา จิรรตฺตา สยนฺติ. ทีฆนฺติ สุปิเนปิ นิทฺทํ อลภนฺตา ทีฆรตฺตํ ชคฺคนฺตีติ อตฺโถ. รตฺยา วิวสาเนติ รตฺตีนํ อจฺจเยน, จิรกาลาติกฺกเมนาติ อตฺโถ. ปวชฺชนฺตีติ สฏฺิโยชนิกํ ชลิตํ โลหกุมฺภึ กปฺเปน สณฺิตํ ชลิตตมฺพโลหรสปุณฺณํ โลหกุมฺภึ นิรยปาเลหิ ขิตฺตา ปจฺจนฺติ. ทุสฺสีลาติ ปรทาริกา.

เอวํ มหาสตฺโต ปรทาริกอติจาริกานํ ปจฺจนสิมฺพลินิรยํ ทสฺเสตฺวา อิโต ปรํ สามิกวตฺตสสฺสุสสุรวตฺตาทีนิ อปูเรนฺตีนํ ปจฺจนฏฺานํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยา จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อติมฺตีติ ภิสชาตเก (ชา. ๑.๑๔.๗๘ อาทโย) วุตฺตํ สามิกวตฺตํ อกโรนฺตี อติกฺกมิตฺวา มฺติ. เชฏฺํ วาติ สามิกสฺส เชฏฺภาตรํ. นนนฺทรนฺติ สามิกสฺส ภคินึ. เอเตสมฺปิ หิ อฺตรสฺส หตฺถปาทปิฏฺิปริกมฺมนฺหาปนโภชนาทิเภทํ วตฺตํ อปูเรนฺตี เตสุ หิโรตฺตปฺปํ อนุปฏฺเปนฺตี เต อติมฺติ นาม, สาปิ นิรเย นิพฺพตฺติ. วงฺเกนาติ ตสฺสา สามิกวตฺตาทีนํ อปริปูริกาย สามิกาทโย อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตาย โลหปถวิยํ นิปชฺชาเปตฺวา อยสงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา พลิเสน ชิวฺหคฺคํ นิพฺพหนฺติ, รชฺชุพนฺธเนน สพนฺธนํ กฑฺฒนฺติ. กิมินนฺติ กิมิภริตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, โส เนรยิกสตฺโต เอวํ นิกฺกฑฺฒิตํ อตฺตโน พฺยาเมน พฺยามมตฺตํ ชิวฺหํ อาวุเธหิ โกฏฺฏิตโกฏฺฏิตฏฺาเน สฺชาเตหิ มหาโทณิปฺปมาเณหิ กิมีหิ ภริตํ ปสฺสติ. วิฺาเปตุํ น สกฺโกตีติ นิรยปาเล ยาจิตุกาโมปิ กิฺจิ วตฺตุํ น สกฺโกติ. ตาปเนติ เอวํ สา ตตฺถ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ ปจฺจิตฺวา ปุน ตาปนมหานิรเย ปจฺจติ.

เอวํ มหาสตฺโต สามิกวตฺตสสฺสุสสุรวตฺตาทีนิ อปูเรนฺตีนํ ปจฺจนนิรยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สูกริกาทีนํ ปจฺจนนิรเย ทสฺเสนฺโต ‘‘โอรพฺภิกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวณฺเณ วณฺณการกาติ เปสุฺการกา. ขารนทินฺติ เอเต โอรพฺภิกาทโย เอเตหิ สตฺติอาทีหิ หฺมานา เวตรณึ นทึ ปตนฺตีติ อตฺโถ. เสสานิ โอรพฺภิกาทีนํ ปจฺจนฏฺานานิ นิมิชาตเก อาวิ ภวิสฺสนฺติ. กุฏการีติ กูฏวินิจฺฉยสฺส เจว ตุลากูฏาทีนฺจ การเก สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺถ กูฏวินิจฺฉยกูฏฏฺฏการกกูฏอคฺฆาปนิกานํ ปจฺจนนิรยา นิมิชาตเก อาวิ ภวิสฺสนฺติ. วนฺตนฺติ วมิตกํ. ทุรตฺตานนฺติ ทุคฺคตตฺตภาวานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, เต ทุรตฺตภาวา สตฺตา อยกูเฏหิ มตฺถเก ภิชฺชมาเน วมนฺติ, ตโต ตํ วนฺตํ ชลิตอยกปลฺเลหิ เตสุ เอกจฺจานํ มุเข ขิปนฺติ, อิติ เต ปเรสํ วนฺตํ ภุฺชนฺติ นาม. เภรณฺฑกาติ สิงฺคาลา. วิปฺผนฺทมานนฺติ อโธมุขํ นิปชฺชาปิตํ นิกฺกฑฺฒิตชิวฺหํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทมานํ. มิเคนาติ โอกจารกมิเคน. ปกฺขินาติ ตถารูเปเนว. คนฺตา เตติ คนฺตาโร เต. นิรยุสฺสทนฺติ อุสฺสทนิรยํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘นิรยํ อโธ’’ติ ลิขิตํ. อยํ ปน นิรโย นิมิชาตเก อาวิ ภวิสฺสตีติ.

อิติ มหาสตฺโต เอตฺตเก นิรเย ทสฺเสตฺวา อิทานิ เทวโลกวิวรณํ กตฺวา รฺโ เทวโลเก ทสฺเสนฺโต อาห –

๑๓๓.

‘‘สนฺโต จ อุทฺธํ คจฺฉนฺติ, สุจิณฺเณนิธ กมฺมุนา;

สุจิณฺณสฺส ผลํ ปสฺส, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา.

๑๓๔.

‘‘ตํ ตํ พฺรูมิ มหาราช, ธมฺมํ รฏฺปตี จร;

ตถา ราช จราหิ ธมฺมํ, ยถา ตํ สุจิณฺณํ นานุตปฺเปยฺย ปจฺฉา’’ติ.

ตตฺถ สนฺโตติ กายาทีหิ อุปสนฺตา. อุทฺธนฺติ เทวโลกํ. สอินฺทาติ ตตฺถ ตตฺถ อินฺเทหิ สทฺธึ. มหาสตฺโต หิสฺส จาตุมหาราชาทิเก เทเว ทสฺเสนฺโต, ‘‘มหาราช, จาตุมหาราชิเก เทเว ปสฺส, จตฺตาโร มหาราชาโน ปสฺส, ตาวตึเส ปสฺส, สกฺกํ ปสฺสา’’ติ เอวํ สพฺเพปิ สอินฺทเก สพฺรหฺมเก จ เทเว ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทมฺปิ สุจิณฺณสฺส ผลํ อิทมฺปิ ผล’’นฺติ ทสฺเสสิ. ตํ ตํ พฺรูมีติ ตสฺมา ตํ ภณามิ. ธมฺมนฺติ อิโต ปฏฺาย ปาณาติปาตาทีนิ ปฺจ เวรานิ ปหาย ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรหีติ. ยถา ตํ สุจิณฺณํ นานุตปฺเปยฺยาติ ยถา ตํ ทานาทิปุฺกมฺมํ สุจิณฺณํ ปิตุฆาตกมฺมปจฺจยํ วิปฺปฏิสารํ ปฏิจฺฉาเทตุํ สมตฺถตาย ตํ นานุตปฺเปยฺย, ตถา ตํ สุจิณฺณํ จร, พหุํ ปุฺํ กโรหีติ อตฺโถ.

โส มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตโต ปฏฺาย อสฺสาสํ ปฏิลภิ. โพธิสตฺโต ปน กิฺจิ กาลํ ตตฺถ วสิตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานฺเว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มยา อสฺสาสิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ราชา อชาตสตฺตุ อโหสิ, อิสิคโณ พุทฺธปริสา, สํกิจฺจปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สํกิจฺจชาตกวณฺณนา ทุติยา.

ชาตกุทฺทานํ –

อถ สฏฺินิปาตมฺหิ, สุณาถ มม ภาสิตํ;

ชาตกสวฺหยโน ปวโร, โสณกอรินฺทมสวฺหยโน;

ตถา วุตฺตรเถสภกิจฺจวโรติ.

สฏฺินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๐. สตฺตตินิปาโต

[๕๓๑] ๑. กุสชาตกวณฺณนา

อิทํ เต รฏฺนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. เอโก กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุตฺโต สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิโต เอกทิวสํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกํ อลงฺกตอิตฺถึ ทิสฺวา สุภนิมิตฺตคฺคาหวเสน โอโลเกตฺวา กิเลสาภิภูโต อนภิรโต วิหาสิ ทีฆเกสนโข กิลิฏฺจีวโร อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนีสนฺถตคตฺโต. ยถา หิ เทวโลกา จวนธมฺมานํ เทวปุตฺตานํ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, สรีเร ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, อุโภหิ กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, เทโว เทวาสเน นาภิรมติ, เอวเมว สาสนา จวนธมฺมานํ อุกฺกณฺิตภิกฺขูนํ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, สทฺธาปุปฺผานิ มิลายนฺติ, สีลวตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, สรีเร มงฺกุตาย เจว อยสวเสน จ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, กิเลสเสทา มุจฺจนฺติ, อรฺรุกฺขมูลสุฺาคาเรสุ นาภิรมนฺติ. ตสฺสปิ ตานิ ปฺายึสุ. อถ นํ ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, อุกฺกณฺิโต’’ติ ทสฺเสสุํ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ตํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘มา, ภิกฺขุ, กิเลสวสิโก โหหิ, มาตุคาโม นาเมส ปาโป, ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตตํ วิโนเทหิ, สาสเน อภิรม, มาตุคาเม ปฏิพทฺธจิตฺตตาย หิ เตชวนฺโตปิ โปราณกปณฺฑิตา นิตฺเตชา หุตฺวา อนยพฺยสนํ ปาปุณึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต มลฺลรฏฺเ กุสาวตีราชธานิยํ โอกฺกาโก นาม ราชา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา สีลวตี นาม อคฺคมเหสี อโหสิ, สา เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภิ. อถสฺส นาครา เจว รฏฺวาสิโน จ ราชนิเวสนทฺวาเร สนฺนิปติตฺวา ‘‘รฏฺํ นสฺสิสฺสติ, รฏฺํ นสฺสิสฺสตี’’ติ อุปกฺโกสึสุ. ราชา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา ‘‘มยิ รชฺชํ กาเรนฺเต อธมฺมกาโร นาม นตฺถิ, กสฺมา อุปกฺโกสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สจฺจํ, เทว, อธมฺมกาโร นาม นตฺถิ, อปิจ วํสานุรกฺขโก ปน โว ปุตฺโต นตฺถิ, อฺโ รชฺชํ คเหตฺวา รฏฺํ นาเสสฺสติ, ตสฺมา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺถํ ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ. ‘‘ปุตฺตํ ปตฺเถนฺโต กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ปมํ ตาว เอกํ สตฺตาหํ จุลฺลนาฏกํ ธมฺมนาฏกํ กตฺวา วิสฺสชฺเชถ, สเจ สา ปุตฺตํ ลภิสฺสติ, สาธุ, โน เจ, อถ มชฺฌิมนาฏกํ วิสฺสชฺเชถ, ตโต เชฏฺนาฏกํ, อวสฺสํ เอตฺตกาสุ อิตฺถีสุ เอกา ปุฺวตี ปุตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ. ราชา เตสํ วจเนน ตถา กตฺวา สตฺต ทิวเส ยถาสุขํ อภิรมิตฺวา อาคตาคตํ ปุจฺฉิ – ‘‘กจฺจิ โว ปุตฺโต ลทฺโธ’’ติ? สพฺพา ‘‘น ลภาม, เทวา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘น เม ปุตฺโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อนตฺตมโน อโหสิ. นาครา ปุน ตเถว อุปกฺโกสึสุ. ราชา ‘‘กึ อุปกฺโกสถ, มยา ตุมฺหากํ วจเนน นาฏกานิ วิสฺสฏฺานิ, เอกาปิ ปุตฺตํ น ลภติ, อิทานิ กึ กโรมา’’ติ อาห. ‘‘เทว, เอตา ทุสฺสีลา ภวิสฺสนฺติ นิปฺปุฺา, นตฺถิ เอตาสํ ปุตฺตลาภาย ปุฺํ, ตุมฺเห เอตาสุ ปุตฺตํ อลภนฺตีสุปิ มา อปฺโปสฺสุกฺกตํ อาปชฺชถ, อคฺคมเหสี โว สีลวตี เทวี สีลสมฺปนฺนา, ตํ วิสฺสชฺเชถ, ตสฺสา ปุตฺโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘อิโต กิร สตฺตเม ทิวเส ราชา สีลวตึ เทวึ ธมฺมนาฏกํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสติ, ปุริสา สนฺนิปตนฺตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา สตฺตเม ทิวเส เทวึ อลงฺการาเปตฺวา ราชนิเวสนา โอตาเรตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. ตสฺสา สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก ‘‘กึ นุ โข’’ติ อาวชฺเชนฺโต เทวิยา ปุตฺตปตฺถนภาวํ ตฺวา ‘‘เอติสฺสา มยา ปุตฺตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, อตฺถิ นุ โข เทวโลเก เอติสฺสา อนุจฺฉวิโก ปุตฺโต’’ติ อุปธาเรนฺโต โพธิสตฺตํ อทฺทส. โส กิร ตทา ตาวตึสภวเน อายุํ เขเปตฺวา อุปริเทวโลเก นิพฺพตฺติตุกาโม อโหสิ. สกฺโก ตสฺส วิมานทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘มาริส, ตยา มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา โอกฺกากรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อปรมฺปิ เทวปุตฺตํ ‘‘ตฺวมฺปิ เอติสฺสา เอว ปุตฺโต ภวิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘มา โข ปนสฺสา โกจิ สีลํ ภินฺทตู’’ติ มหลฺลกพฺราหฺมณเวเสน รฺโ นิเวสนทฺวารํ อคมาสิ.

มหาชโนปิ นฺหาโต อลงฺกโต ‘‘อหํ เทวึ คณฺหิสฺสามิ, อหํ เทวึ คณฺหิสฺสามี’’ติ ราชทฺวาเร สนฺนิปติตฺวา สกฺกฺจ ทิสฺวา ‘‘ตฺวํ กสฺมา อาคโตสี’’ติ ปริหาสมกาสิ. สกฺโก ‘‘กึ มํ ตุมฺเห ครหถ, สเจปิ เม สรีรํ ชิณฺณํ, ราโค ปน น ชีรติ, สเจ สีลวตึ ลภิสฺสามิ, อาทาย นํ คมิสฺสามีติ อาคโตมฺหี’’ติ วตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน สพฺเพสํ ปุรโตว อฏฺาสิ. อฺโ โกจิ ตสฺส เตเชน ปุรโต ภวิตุํ นาสกฺขิ. โส ตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ นิเวสนา นิกฺขมนฺติฺเว หตฺเถ คเหตฺวา ปกฺกามิ. อถ นํ ตตฺถ ตตฺถ ิตา ครหึสุ ‘‘ปสฺสถ, โภ, มหลฺลกพฺราหฺมโณ เอวํ อุตฺตมรูปธรํ เทวึ อาทาย คจฺฉติ, อตฺตโน ยุตฺตํ น ชานาตี’’ติ. เทวีปิ ‘‘มหลฺลโก มํ คเหตฺวา คจฺฉตี’’ติ น อฏฺฏียติ น หรายติ. ราชาปิ วาตปาเน ตฺวา ‘‘โก นุ โข เทวึ คเหตฺวา คจฺฉตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา อนตฺตมโน อโหสิ.

สกฺโก ตํ อาทาย นครทฺวารโต นิกฺขมิตฺวา ทฺวารสมีเป เอกํ ฆรํ มาเปสิ วิวฏทฺวารํ ปฺตฺตกฏฺตฺถริกํ. อถ นํ สา ‘‘อิทํ เต นิเวสน’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘อาม, ภทฺเท, ปุพฺเพ ปนาหํ เอโก, อิทานิมฺหา มยํ ทฺเว ชนา, อหํ ภิกฺขาย จริตฺวา ตณฺฑุลาทีนิ อาหริสฺสามิ, ตฺวํ อิมิสฺสา กฏฺตฺถริกาย นิปชฺชาหี’’ติ วตฺวา ตํ มุทุนา หตฺเถน ปรามสนฺโต ทิพฺพสมฺผสฺสํ ผราเปตฺวา ตตฺถ นิปชฺชาเปสิ. สา ทิพฺพสมฺผสฺสผรเณน สฺํ วิสฺสชฺเชสิ. อถ นํ อตฺตโน อานุภาเวน ตาวตึสภวนํ เนตฺวา อลงฺกตวิมาเน ทิพฺพสยเน นิปชฺชาเปสิ. สา สตฺตเม ทิวเส ปพุชฺฌิตฺวา ตํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘น โส พฺราหฺมโณ มนุสฺโส, สกฺโก ภวิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. สกฺโกปิ ตสฺมึ สมเย ปาริจฺฉตฺตกมูเล ทิพฺพนาฏกปริวุโต นิสินฺโน อโหสิ. สา สยนา อุฏฺาย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ สกฺโก ‘‘วรํ เต, เทวิ, ททามิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, เทว, เอกํ ปุตฺตํ เม เทหี’’ติ. ‘‘เทวิ, ติฏฺตุ เอโก ปุตฺโต, อหํ เต ทฺเว ปุตฺเต ทสฺสามิ. เตสุ ปน เอโก ปฺวา ภวิสฺสติ วิรูปวา, เอโก รูปวา น ปฺวา. เตสุ กตรํ ปมํ อิจฺฉสี’’ติ? ‘‘ปฺวนฺตํ, เทวา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ตสฺสา กุสติณํ ทิพฺพวตฺถํ ทิพฺพจนฺทนํ ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ โกกนุทฺจ นาม วีณํ ทตฺวา ตํ อาทาย รฺโ สยนฆรํ ปวิสิตฺวา รฺา สทฺธึ เอกสยเน นิปชฺชาเปตฺวา องฺคุฏฺเกน ตสฺสา นาภึ ปรามสิ. ตสฺมึ ขเณ โพธิสตฺโต ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สกฺโกปิ สกฏฺานเมว คโต. ปณฺฑิตา เทวี คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ชานิ.

อถ นํ ปพุทฺโธ ราชา ทิสฺวา, ‘‘เทวิ, เกน นีตาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สกฺเกน, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ปจฺจกฺขโต เอกํ มหลฺลกพฺราหฺมณํ ตํ อาทาย คจฺฉนฺตํ อทฺทสํ, กสฺมา มํ วฺเจสี’’ติ? ‘‘สทฺทหถ, เทว, สกฺโก มํ คเหตฺวา เทวโลกํ เนสี’’ติ. ‘‘น สทฺทหามิ, เทวี’’ติ. อถสฺส สา สกฺกทตฺติยํ กุสติณํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สทฺทหถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘กุสติณํ นาม ยโต กุโตจิ ลพฺภตี’’ติ น สทฺทหิ. อถสฺส สา ทิพฺพวตฺถาทีนิ ทสฺเสสิ. ราชา ตานิ ทิสฺวา สทฺทหิตฺวา, ‘‘ภทฺเท, สกฺโก ตาว ตํ เนตุ, ปุตฺโต ปน เต ลทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ลทฺโธ มหาราช, คพฺโภ เม ปติฏฺิโต’’ติ. โส ตุฏฺโ ตสฺสา คพฺภปริหารํ อทาสิ. สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส อฺํ นามํ อกตฺวา กุสติณนามเมว อกํสุ. กุสกุมารสฺส ปทสา คมนกาเล อิตโร เทวปุตฺโต ตสฺสา กุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ทสมาเส ปริปุณฺเณ ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘ชยมฺปตี’’ติ นามํ กรึสุ. เต มหนฺเตน ยเสน วฑฺฒึสุ. โพธิสตฺโต ปฺวา อาจริยสฺส สนฺติเก กิฺจิ สิปฺปํ อนุคฺคเหตฺวา อตฺตโนว ปฺาย สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ.

อถสฺส โสฬสวสฺสกาเล ราชา รชฺชํ ทาตุกาโม เทวึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปุตฺตสฺส เต รชฺชํ ทตฺวา นาฏกานิ อุปฏฺเปสฺสาม, มยํ ชีวนฺตาเยว นํ รชฺเช ปติฏฺิตํ ปสฺสิสฺสาม, สกลชมฺพุทีเป โข ปน ยสฺส รฺโ ธีตรํ อิจฺฉติ, ตมสฺส อาเนตฺวา อคฺคมเหสึ กริสฺสาม, จิตฺตมสฺส ชานาหิ, กตรํ ราชธีตรํ โรเจสี’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘กุมารสฺส อิมํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา จิตฺตํ ชานาหี’’ติ เอกํ ปริจาริกํ เปเสสิ. สา คนฺตฺวา ตสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อหํ น รูปวา, รูปสมฺปนฺนา ราชธีตา อานีตาปิ มํ ทิสฺวา ‘กึ เม อิมินา วิรูเปนา’ติ ปลายิสฺสติ อิติ โน ลชฺชิตพฺพกํ ภวิสฺสติ, กึ เม ฆราวาเสน, ธรมาเน มาตาปิตโร อุปฏฺหิตฺวา เตสํ อจฺจเยน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ‘‘มยฺหํ เนว รชฺเชนตฺโถ, น นาฏเกหิ, อหํ มาตาปิตูนํ อจฺจเยน ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. สา คนฺตฺวา ตสฺส กถํ เทวิยา อาโรเจสิ, เทวีปิ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา อนตฺตมโน หุตฺวา ปุน กติปาหจฺจเยน สาสนํ เปเสสิ. โสปิ ปฏิพาหติเยว. เอวํ ยาวตติยํ ปฏิพาหิตฺวา จตุตฺถวาเร จินฺเตสิ – ‘‘มาตาปิตูหิ สทฺธึ เอกนฺเตน ปฏิปกฺขภาโว นาม น ยุตฺโต, เอกํ อุปายํ กริสฺสามี’’ติ.

โส กมฺมารเชฏฺกํ ปกฺโกสาเปตฺวา พหุํ สุวณฺณํ ทตฺวา ‘‘เอกํ อิตฺถิรูปกํ กโรหี’’ติ อุยฺโยเชตฺวา ตสฺมึ ปกฺกนฺเต อฺํ สุวณฺณํ คเหตฺวา สยมฺปิ อิตฺถิรูปกํ อกาสิ. โพธิสตฺตานฺหิ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติ. ตํ สุวณฺณรูปกํ ชิวฺหาย อวณฺณนียโสภํ อโหสิ. อถ นํ มหาสตฺโต โขมํ นิวาสาเปตฺวา สิริคพฺเภ ปาเปสิ. โส กมฺมารเชฏฺเกน อาภตรูปกํ ทิสฺวา ตํ ครหิตฺวา ‘‘คจฺฉ อมฺหากํ สิริคพฺเภ ปิตรูปกํ อาหรา’’ติ อาห. โส สิริคพฺภํ ปวิฏฺโ ตํ ทิสฺวา ‘‘กุมาเรน สทฺธึ อภิรมิตุํ เอกา เทวจฺฉรา, อาคตา ภวิสฺสตี’’ติ หตฺถํ ปสาเรตุํ อวิสหนฺโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘เทว, สิริคพฺเภ อยฺยา เอกิกาว ิตา, อุปคนฺตุํ น สกฺโกมี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, คจฺฉ, สุวณฺณรูปกํ เอตํ, อาหรา’’ติ ปุน เปสิโต อาหริ. กุมาโร กมฺมาเรน กตํ รูปกํ สุวณฺณคพฺเภ นิกฺขิปาเปตฺวา อตฺตนา กตํ อลงฺการาเปตฺวา รเถ ปาเปตฺวา ‘‘เอวรูปํ ลภนฺโต คณฺหามี’’ติ มาตุ สนฺติกํ ปหิณิ.

สา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาตา, มยฺหํ ปุตฺโต มหาปุฺโ สกฺกทตฺติโย อนุจฺฉวิกํ กุมาริกํ ลภิสฺสติ, ตุมฺเห เอวรูปํ ลภนฺตา คณฺหิสฺสถ, อิมํ รูปกํ ปฏิจฺฉนฺนยาเน เปตฺวา สกลชมฺพุทีปํ จรนฺตา ยสฺส รฺโ เอวรูปํ ธีตรํ ปสฺสถ, ตสฺเสตํ ทตฺวา ‘โอกฺกากราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ อาวาหํ กริสฺสตี’ติ ทิวสํ ววตฺถเปตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ ตํ อาทาย มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิตฺวา วิจรนฺตา ยํ ราชธานึ ปาปุณนฺติ, ตตฺถ สายนฺหสมเย มหาชนสฺส สโมสรณฏฺาเน ตํ รูปกํ วตฺถปุปฺผาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา สุวณฺณสิวิกํ อาโรเปตฺวา ติตฺถมคฺเค เปตฺวา อมจฺจา สยํ ปฏิกฺกมิตฺวา อาคตาคตานํ กถาสวนตฺถํ เอกมนฺเต ติฏฺนฺติ. มหาชโน ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ สฺํ อกตฺวา ‘‘อยํ มนุสฺสิตฺถี สมานาปิ เทวจฺฉรปฏิภาคา อติวิย โสภติ, กึ นุ โข เอตฺถ ิตา, กุโต วา อาคตา, อมฺหากํ นคเร เอวรูปา นตฺถี’’ติ วณฺเณนฺโต ปกฺกมติ. ตํ สุตฺวา อมจฺจา ‘‘สเจ อิธ เอวรูปา ทาริกา ภเวยฺย, ‘อสุกา ราชธีตา วิย อสุกา อมจฺจธีตา วิยา’ติ วเทยฺยุํ, อทฺธา อิธ เอวรูปา นตฺถี’’ติ ตํ อาทาย อฺํ นครํ คจฺฉนฺติ.

เต เอวํ วิจรนฺตา อนุปุพฺเพน มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺถ มทฺทรฺโ อฏฺ ธีตโร อุตฺตมรูปธรา เทวจฺฉรปฏิภาคา, ตาสํ สพฺพเชฏฺิกา ปภาวตี นาม. ตสฺสา สรีรโต พาลสูริยสฺส ปภา วิย ปภา นิจฺฉรนฺติ, อนฺธกาเรปิ จตุหตฺเถ อนฺโตคพฺเภ ปทีปกิจฺจํ นตฺถิ, สพฺโพ คพฺโภ เอโกภาโสว โหติ. ธาตี ปนสฺสา ขุชฺชา, สา ปภาวตึ โภเชตฺวา ตสฺสา สีสนฺหาปนตฺถํ อฏฺหิ วณฺณทาสีหิ อฏฺ ฆเฏ คาหาเปตฺวา สายนฺหสมเย อุทกตฺถาย คจฺฉนฺตี ติตฺถมคฺเค ิตํ ตํ รูปกํ ทิสฺวา ‘‘ปภาวตี’’ติ สฺาย ‘‘อยํ ทุพฺพินีตา ‘สีสํ นฺหายิสฺสามี’ติ อมฺเห อุทกตฺถาย เปเสตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา ติตฺถมคฺเค ิตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘อเร กุลลชฺชาปนิเก อมฺเหหิ ปุริมตรํ อาคนฺตฺวา กสฺมา อิธ ิตาสิ, สเจ ราชา ชานิสฺสติ, นาเสสฺสติ โน’’ติ วตฺวา หตฺเถน คณฺฑปสฺเส ปหริ, หตฺถตลํ ภิชฺชมานํ วิย ชาตํ. ตโต ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ ตฺวา หสมานา ตาสํ วณฺณทาสีนํ สนฺติกํ คจฺฉนฺตี ‘‘ปสฺสเถตํ เม กมฺมํ, มม ธีตาติสฺาย ปหารํ อทาสึ, อยํ มม ธีตุ สนฺติเก กิมคฺฆติ, เกวลํ เม หตฺโถ ทุกฺขาปิโต’’ติ อาห.

อถ นํ ราชทูตา คเหตฺวา ‘‘ตฺวํ ‘มม ธีตา อิโต อภิรูปตรา’ติ วทนฺตี กํ นาม กเถสี’’ติ อาหํสุ. ‘‘มทฺทรฺโ ธีตรํ ปภาวตึ, อิทํ รูปกํ ตสฺสา โสฬสิมฺปิ กลํ น อคฺฆตี’’ติ. เต ตุฏฺมานสา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘โอกฺกากรฺโ ทูตา ทฺวาเร ิตา’’ติ ปฏิหาเรสุํ. ราชา อาสนา วุฏฺาย ิตโกว ‘‘ปกฺโกสถา’’ติ อาห. เต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘มหาราช, อมฺหากํ ราชา ตุมฺหากํ อาโรคฺยํ ปุจฺฉตี’’ติ วตฺวา กตสกฺการสมฺมานา ‘‘กิมตฺถํ อาคตตฺถา’’ติ ปุฏฺา ‘‘อมฺหากํ รฺโ สีหสฺสโร ปุตฺโต กุสกุมาโร นาม, ราชา ตสฺส รชฺชํ ทาตุกาโม อมฺเห ตุมฺหากํ สนฺติกํ ปหิณิ, ตุมฺหากํ กิร ธีตา ปภาวตี, ตํ ตสฺส เทถ, อิมฺจ สุวณฺณรูปกํ เทยฺยธมฺมํ คณฺหถา’’ติ ตํ รูปกํ ตสฺส อทํสุ. โสปิ ‘‘เอวรูเปน มหาราเชน สทฺธึ วิวาหมงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ ตุฏฺจิตฺโต สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ ทูตา อาหํสุ – ‘‘มหาราช, อมฺเหหิ น สกฺกา ปปฺจํ กาตุํ, กุมาริกาย ลทฺธภาวํ รฺโ อาโรเจสฺสาม, อถ นํ โส อาคนฺตฺวา อาทาย คมิสฺสตี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เตสํ สกฺการํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. เต คนฺตฺวา รฺโ จ เทวิยา จ อาโรเจสุํ. ราชา มหนฺเตน ปริวาเรน กุสาวติโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน สาคลนครํ ปาปุณิ. มทฺทราชา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ตํ นครํ ปเวเสตฺวา มหนฺตํ สกฺการมกาสิ.

สีลวตี เทวี ปณฺฑิตตฺตา ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ เอกาหทฺวีหจฺจเยน มทฺทราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, สุณิสํ ทฏฺุกามามฺหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปสิ. ปภาวตี สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา ธาติคณปริวุตา อาคนฺตฺวา สสฺสุํ วนฺทิ. สา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ กุมาริกา อภิรูปา, มยฺหํ ปุตฺโต วิรูโป. สเจ เอสา ตํ ปสฺสิสฺสติ, เอกาหมฺปิ อวสิตฺวา ปลายิสฺสติ, อุปายํ กริสฺสามี’’ติ. สา มทฺทราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, สุณิสา เม ปุตฺตสฺส อนุจฺฉวิกา, อปิจ โข ปน อมฺหากํ กุลปเวณิยา อาคตํ จาริตฺตํ อตฺถิ, สเจ อยํ ตสฺมึ จาริตฺเต วตฺติสฺสติ, เนสฺสามิ น’’นฺติ อาห. ‘‘กึ ปน โว จาริตฺต’’นฺติ. ‘‘อมฺหากํ วํเส ยาว เอกสฺส คพฺภสฺส ปติฏฺานํ โหติ, ตาว ทิวา สามิกํ ปสฺสิตุํ น ลภติ. สเจ เอสา ตถา กริสฺสติ, เนสฺสามิ น’’นฺติ. ราชา ‘‘กึ, อมฺม, สกฺขิสฺสสิ เอวํ วตฺติตุ’’นฺติ ธีตรํ ปุจฺฉิ. สา ‘‘อาม ตาตา’’ติ อาห. ตโต โอกฺกากราชา มทฺทรฺโ พหุํ ธนํ ทตฺวา ตํ อาทาย ปกฺกามิ. มทฺทราชาปิ มหนฺเตน ปริวาเรน ธีตรํ อุยฺโยเชสิ.

โอกฺกาโก กุสาวตึ คนฺตฺวา นครํ อลงฺการาเปตฺวา สพฺพพนฺธนานิ โมเจตฺวา ปุตฺตสฺส อภิเสกํ กตฺวา รชฺชํ ทตฺวา ปภาวตึ อคฺคมเหสึ กาเรตฺวา นคเร ‘‘กุสราชสฺส อาณา’’ติ เภรึ จราเปสิ. สกลชมฺพุทีปตเล ราชาโน เยสํ ธีตโร อตฺถิ, เต กุสรฺโ ธีตโร ปหิณึสุ. เยสํ ปุตฺตา อตฺถิ, เต เตน สทฺธึ มิตฺตภาวํ อากงฺขนฺตา ปุตฺเต อุปฏฺาเก กตฺวา ปหิณึสุ. โพธิสตฺตสฺส นาฏกปริวาโร มหา อโหสิ, มหนฺเตน ยเสน รชฺชํ กาเรสิ. โส ปภาวตึ ทิวา ปสฺสิตุํ น ลภติ, สาปิ ตํ ทิวา ปสฺสิตุํ น ลภติ, อุภินฺนํ รตฺติทสฺสนเมว โหติ. ตตฺถ ปภาวติยา สรีรปฺปภาปิ อพฺโพหาริกา อโหสิ. โพธิสตฺโต สิริคพฺภโต รตฺตึเยว นิกฺขมติ.

โส กติปาหจฺจเยน ปภาวตึ ทิวา ทฏฺุกาโม มาตุยา อาโรเจสิ. สา ‘‘มา เต ตาต, รุจฺจิ, ยาว เอกํ ปุตฺตํ ลภสิ, ตาว อาคเมหี’’ติ, ปฏิกฺขิปิ. โส ปุนปฺปุนํ ยาจิเยว. อถ นํ สา อาห – ‘‘เตน หิ หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิเมณฺฑเวเสน ติฏฺ, อหํ ตํ ตตฺถ อาเนสฺสามิ, อถ นํ อกฺขีนิ ปูเรตฺวา โอโลเกยฺยาสิ, มา จ อตฺตานํ ชานาเปหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา หตฺถิสาลํ อคมาสิ. อถสฺส มาตา หตฺถิสาลํ อลงฺการาเปตฺวา ปภาวตึ ‘‘เอหิ สามิกสฺส หตฺถิโน ปสฺสามา’’ติ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘อยํ หตฺถี อสุโก นาม, อยํ หตฺถี อสุโก นามา’’ติ ตสฺสา ทสฺเสสิ. ตตฺถ ตํ ราชา มาตุ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา หตฺถิโคปกเวเสน หตฺถิฉกณปิณฺเฑน ปิฏฺิยํ ปหริ. สา กุทฺธา ‘‘รฺโ กเถตฺวา เต หตฺถํ ฉินฺทาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา เทวึ อุชฺฌาเปสิ. ราชมาตา ‘‘มา อมฺม กุชฺฌี’’ติ สุณิสํ สฺาเปตฺวา ปิฏฺึ ปริมชฺชิ. ปุนปิ ราชา ตํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา อสฺสสาลาย อสฺสโคปกเวเสน ตํ ทิสฺวา ตเถว อสฺสฉกณปิณฺเฑน ปหริ. ตทาปิ ตํ กุทฺธํ สสฺสุ สฺาเปสิ.

ปุเนกทิวเส ปภาวตี มหาสตฺตํ ปสฺสิตุกามา หุตฺวา สสฺสุยา อาโรเจตฺวา ‘‘อลํ มา เต รุจฺจี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตาปิ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘เตน หิ สฺเว มม ปุตฺโต นครํ ปทกฺขิณํ กริสฺสติ, ตฺวํ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ตํ ปสฺเสยฺยาสี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุนทิวเส นครํ อลงฺการาเปตฺวา ชยมฺปติกุมารํ ราชเวสํ คาหาเปตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา โพธิสตฺตํ ปจฺฉิมาสเน นิสีทาเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ การาเปสิ. สา ปภาวตึ อาทาย สีหปฺชเร ตฺวา ‘‘ปสฺส ตว สามิกสฺส สิริโสภคฺค’’นฺติ อาห. สา ‘‘อนุจฺฉวิโก เม สามิโก ลทฺโธ’’ติ อตฺตมนา อโหสิ. ตํ ทิวสํ ปน มหาสตฺโต หตฺถิเมณฺฑเวเสน ชยมฺปติสฺส ปจฺฉิมาสเน นิสีทิตฺวา ยถาธิปฺปาเยน ปภาวตึ โอโลเกนฺโต หตฺถวิการาทิวเสน จิตฺตรุจิยา เกฬึ ทสฺเสสิ. หตฺถิมฺหิ อติกฺกนฺเต ราชมาตา ปภาวตึ ปุจฺฉิ – ‘‘ทิฏฺโ เต, อมฺม, สามิโก’’ติ. ‘‘อาม อยฺเย, ปจฺฉิมาสเน ปนสฺส นิสินฺโน หตฺถิเมณฺโฑ อติวิย ทุพฺพินีโต, มยฺหํ หตฺถวิการาทีนิ ทสฺเสสิ, กสฺมา เอวรูปํ อลกฺขิกํ รฺโ ปจฺฉิมาสเน นิสีทาเปสุํ, นีหราเปหิ น’’นฺติ? ‘‘อมฺม, รฺโ ปจฺฉิมาสเน รกฺขา นาม อิจฺฉิตพฺพา’’ติ.

สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ หตฺถิเมณฺโฑ อติวิย นิพฺภโย, ราชานํ ‘ราชา’ติปิ น มฺติ, กึ นุ โข เอโสว กุสราชา, อทฺธา หิ เอโส อติวิย วิรูโป เอว ภวิสฺสติ, เตเนว มํ น ทสฺเสนฺตี’’ติ. สา ขุชฺชํ กณฺณมูเล อาห – ‘‘อมฺม, คจฺฉ ตาว ชานาหิ, กึ ปุริมาสเน นิสินฺนโก ราชา, อุทาหุ ปจฺฉิมาสเน’’ติ? ‘‘กถํ ปนาหํ ชานิสฺสามี’’ติ. ‘‘สเจ หิ โส ราชา ภวิสฺสติ, ปมตรํ หตฺถิปิฏฺิโต โอตริสฺสติ, อิมาย สฺาย ชานาหี’’ติ. สา คนฺตฺวา เอกมนฺเต ิตา ปมํ มหาสตฺตํ โอตรนฺตํ อทฺทส, ปจฺฉา ชยมฺปติกุมารํ. มหาสตฺโตปิ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ขุชฺชํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา นาม การเณน เอสา อาคตา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ อนฺตรํ ปภาวติยา มา กเถหี’’ติ ทฬฺหํ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. สา คนฺตฺวา ‘‘ปุริมาสเน นิสินฺโน ปมํ โอตรี’’ติ อาห. ปภาวตี ตสฺสา วจนํ สทฺทหิ.

มหาสตฺโตปิ ปุน ทฏฺุกาโม หุตฺวา มาตรํ ยาจิ. สา ปฏิกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘เตน หิ อฺาตกเวเสน อุยฺยานํ คจฺฉาหี’’ติ อาห. โส อุยฺยานํ คนฺตฺวา โปกฺขรณิยํ คลปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ปทุมินิปตฺเตน สีสํ ฉาเทตฺวา ปุปฺผิตปทุเมน มุขํ อาวริตฺวา อฏฺาสิ. มาตาปิสฺส ปภาวตึ อุยฺยานํ เนตฺวา สายนฺหสมเย ‘‘อิเม รุกฺเข ปสฺส, สกุเณ ปสฺส, มิเค ปสฺสา’’ติ ปโลภยมานา โปกฺขรณีตีรํ ปายาสิ. สา ปฺจวิธปทุมสฺฉนฺนํ โปกฺขรณึ ทิสฺวา นฺหายิตุกามา ปริจาริกาหิ สทฺธึ โปกฺขรณึ โอตริตฺวา กีฬนฺตี ตํ ปทุมํ ทิสฺวา วิจินิตุกามา หตฺถํ ปสาเรสิ. อถ นํ ราชา ปทุมินิปตฺตํ อปเนตฺวา ‘‘อหํ กุสราชา’’ติ วตฺวา หตฺเถ คณฺหิ. สา ตสฺส มุขํ ทิสฺวา ‘‘ยกฺโข มํ คณฺหี’’ติ วิรวิตฺวา ตตฺเถว วิสฺิตํ ปตฺตา. อถสฺสา ราชา หตฺถํ มุฺจิ. สา สฺํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘กุสราชา กิร มํ หตฺเถ คณฺหิ, อิมินาวาหํ หตฺถิสาลาย หตฺถิฉกณปิณฺเฑน, อสฺสสาลาย อสฺสฉกณปิณฺเฑน ปหฏา, อยเมว มํ หตฺถิสฺส ปจฺฉิมาสเน นิสีทิตฺวา อุปฺปณฺเฑสิ, กึ เม เอวรูเปน ทุมฺมุเขน ปตินา, อิมํ ชหิตฺวา อหํ ชีวนฺตี อฺํ ปตึ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตนา สทฺธึ อาคเต อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มม ยานวาหนํ สชฺชํ กโรถ, อชฺเชว คมิสฺสามี’’ติ อาหํ. เต รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา จินฺเตสิ – ‘‘สเจ คนฺตุํ น ลภิสฺสติ, หทยมสฺสา ผลิสฺสติ, คจฺฉตุ ปุน ตํ อตฺตโน พเลน อาเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อถสฺสา คมนํ อนุชานิ. สา ปิตุนครเมว อคมาสิ.

มหาสตฺโตปิ อุยฺยานโต นครํ ปวิสิตฺวา อลงฺกตปาสาทํ อภิรุหิ. โพธิสตฺตฺหิ สา ปุพฺพปตฺถนาวเสน น อิจฺฉิ, โสปิ ปุพฺพกมฺมวเสเนว วิรูโป อโหสิ. อตีเต กิร พาราณสิยํ ทฺวารคาเม อุปริมวีถิยา จ เหฏฺิมวีถิยา จ ทฺเว กุลานิ วสึสุ. เอกสฺส กุลสฺส ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เอกสฺส เอกาว ธีตา อโหสิ. ทฺวีสุ ปุตฺเตสุ โพธิสตฺโต กนิฏฺโ. ตํ กุมาริกํ เชฏฺกสฺส อทํสุ. กนิฏฺโ อทารภรโณ ภาตุ สนฺติเกเยว วสิ. อเถกทิวสํ ตสฺมึ ฆเร อติรสกปูเว ปจึสุ. โพธิสตฺโต อรฺํ คโต โหติ. ตสฺส ปูวํ เปตฺวา อวเสเส ภาเชตฺวา ขาทึสุ. ตสฺมึ ขเณ ปจฺเจกพุทฺโธ ภิกฺขาย ฆรทฺวารํ อคมาสิ. โพธิสตฺตสฺส ภาตุชายา ‘‘จูฬปติโน อฺํ ปูวํ ปจิสฺสามี’’ติ ตํ คเหตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส อทาสิ. โสปิ ตํ ขณฺเว อรฺโต อาคจฺฉิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘สามิ, จิตฺตํ ปสาเทหิ, ตว โกฏฺาโส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทินฺโน’’ติ. โส ‘‘ตว โกฏฺาสํ ขาทิตฺวา มม โกฏฺาสํ เทสิ, อหํ กึ ขาทิสฺสามี’’ติ กุทฺโธ ปจฺเจกพุทฺธํ อนุคนฺตฺวา ปตฺตโต ปูวํ คณฺหิ. สา มาตุ ฆรํ คนฺตฺวา นววิลีนํ จมฺปกปุปฺผวณฺณํ สปฺปึ อาหริตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺตํ ปูเรสิ, ตํ โอภาสํ มุฺจิ. สา ตํ ทิสฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ – ‘‘ภนฺเต, อิมินา ทานพเลน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม สรีรํ โอภาสชาตํ โหตุ, อุตฺตมรูปธรา จ ภเวยฺยํ, อิมินา จ เม อสปฺปุริเสน สทฺธึ เอกฏฺาเน วาโส มา อโหสี’’ติ. อิติ สา อิมิสฺสา ปุพฺพปตฺถนาย วเสน ตํ น อิจฺฉิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ปูว ตสฺมึ สปฺปิปตฺเต โอสีทาเปตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ – ‘‘ภนฺเต, อิมํ โยชนสเต วสนฺติมฺปิ อาเนตฺวา มม ปาทปริจาริกํ กาตุํ สมตฺโถ ภเวยฺย’’นฺติ. ตตฺถ ยํ โส กุทฺโธ คนฺตฺวา ปูวํ คณฺหิ, ตสฺส ปุพฺพกมฺมสฺส วเสน วิรูโป อโหสิ, ปุพฺพปตฺถนาย สา จ ตํ น อิจฺฉีติ.

โส ปภาวติยา คตาย โสกปฺปตฺโต อโหสิ, นานากาเรหิ ปริจารยมานาปิ นํ เสสิตฺถิโย โอโลกาเปตุมฺปิ นาสกฺขึสุ,, ปภาวติรหิตมสฺส สกลมฺปิ นิเวสนํ ตุจฺฉํ วิย ขายิ. โส ‘‘อิทานิ สาคลนครํ ปตฺตา ภวิสฺสตี’’ติ ปจฺจูสสมเย มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อมฺม, อหํ ปภาวตึ อาเนสฺสามิ, ตุมฺเห รชฺชํ อนุสาสถา’’ติ วทนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘อิทํ เต รฏฺํ สธนํ สโยคฺคํ, สกายุรํ สพฺพกามูปปนฺนํ;

อิทํ เต รชฺชํ อนุสาส อมฺม, คจฺฉามหํ ยตฺถ ปิยา ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ สโยคฺคนฺติ หตฺถิโยคฺคาทิสหิตํ. สกายุรนฺติ สปฺจราชกกุธภณฺฑํ. อนุสาส, อมฺมาติ โส กิร ปุริสสฺส รชฺชํ ทตฺวา ปุน คณฺหนํ นาม น ยุตฺตนฺติ ปิตุ วา ภาตุ วา อนิยฺยาเทตฺวา มาตุ นิยฺยาเทนฺโต เอวมาห.

สา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ, ตาต, อปฺปมตฺโต ภเวยฺยาสิ, มาตุคาโม นาม อปริสุทฺธหทโย’’ติ วตฺวา นานคฺครสโภชนสฺส สุวณฺณกโรฏึ ปูเรตฺวา ‘‘อิทํ อนฺตรามคฺเค ภุฺเชยฺยาสี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ตํ อาทาย มาตรํ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ‘‘ชีวนฺโต ปุน ตุมฺเห ปสฺสิสฺสามี’’ติ วตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปฺจาวุธํ สนฺนยฺหิตฺวา ภตฺตกโรฏิยา สทฺธึ กหาปณสหสฺสํ ปสิพฺพเก กตฺวา โกกนุทฺจ วีณํ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา มหพฺพโล มหาถาโม ยาว มชฺฌนฺหิกา ปณฺณาส โยชนานิ คนฺตฺวา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา เสสทิวสภาเคน ปุน ปณฺณาส โยชนานิ คนฺตฺวา เอกาเหเนว โยชนสติกํ มคฺคํ เขเปตฺวา สายนฺหสมเย นฺหตฺวา สาคลนครํ ปาวิสิ. ตสฺมึ ปวิฏฺมตฺเตเยว ตสฺส เตเชน ปภาวตี สยนปิฏฺเ สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. โพธิสตฺตํ กิลนฺตินฺทฺริยํ วีถิยา คจฺฉนฺตํ อฺตรา อิตฺถี ทิสฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา ปาเท โธวาเปตฺวา สยนํ ทาเปสิ. โส กิลนฺตกาโย นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ.

อถ สา ตสฺมึ นิทฺทมุปคเต ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ตํ ปโพเธตฺวา ภตฺตํ โภเชสิ. โส ตุฏฺโ ตสฺสา สทฺธึ ภตฺตกโรฏิยา กหาปณสหสฺสํ อทาสิ. โส ปฺจาวุธํ ตตฺเถว เปตฺวา ‘‘คนฺตพฺพฏฺานํ เม อตฺถี’’ติ วตฺวา วีณํ อาทาย หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา ‘‘อชฺช เม อิธ วสิตุํ เทถ, คนฺธพฺพํ โว กริสฺสามี’’ติ วตฺวา หตฺถิโคปเกหิ อนุฺาโต เอกมนฺเต นิปชฺชิตฺวา โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ อุฏฺาย วีณํ มุฺจิตฺวา ‘‘สาคลนครวาสิโน อิมํ สทฺทํ สุณนฺตู’’ติ วีณํ วาเทนฺโต คายิ. ปภาวตี ภูมิยํ นิปนฺนา ตํ สทฺทํ สุตฺวาว ‘‘อยํ น อฺสฺส วีณาสทฺโท, นิสฺสํสยํ กุสราชา มมตฺถาย อาคโต’’ติ อฺาสิ. มทฺทราชาปิ ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อติวิย มธุรํ วาเทติ, สฺเว เอตํ ปกฺโกสาเปตฺวา มม คนฺธพฺพํ กาเรสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

โพธิสตฺโต ‘‘น สกฺกา อิธ วสมาเนน ปภาวตี ทฏฺุํ, อฏฺานเมต’’นฺติ ปาโตว นิกฺขมิตฺวา สายํ ภุตฺตเคเหเยว ปาตราสํ ภุฺชิตฺวา วีณํ เปตฺวา ราชกุมฺภการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคนฺตฺวา เอกทิวเสเนว ฆรํ มตฺติกาย ปูเรตฺวา ‘‘ภาชนานิ กโรมิ อาจริยา’’ติ วตฺวา, ‘‘อาม, กาโรหี’’ติ วุตฺเต เอกํ มตฺติกาปิณฺฑํ จกฺเก เปตฺวา จกฺกํ อาวิฺฉิ, สกึ อาวิทฺธเมว ยาว มชฺฌนฺหิกาติกฺกมา ภมิเยว. โส นานาวณฺณานิ ขุทฺทกมหนฺตานิ ภาชนานิ กตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย ภาชนํ กโรนฺโต นานารูปานิ สมุฏฺาเปสิ. โพธิสตฺตานฺหิ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติ, ‘‘ตานิ รูปานิ ปภาวตีเยว ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺาสิ. โส สพฺพภาชนานิ สุกฺขาเปตฺวา ปจิตฺวา เคหํ ปูเรสิ. กุมฺภกาโร นานาภาชนานิ คเหตฺวา ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ กตานี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยา, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ตยา กตานิ ชานามิ, กเถหิ, เกน กตานี’’ติ? ‘‘อนฺเตวาสิเกน เม เทวา’’ติ. ‘‘น เต โส อนฺเตวาสี, อาจริโย เต โส, ตฺวํ ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺข, อิโต ปฏฺาย จ โส มม ธีตานํ ภาชนานิ กโรตุ, อิมฺจสฺส สหสฺสํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทาเปตฺวา ‘‘นานาวณฺณานิ อิมานิ ขุทฺทกภาชนานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห.

โส ตานิ ตาสํ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อิมานิ โว กีฬนตฺถาย ขุทฺทกภาชนานี’’ติ อาห. ตา สพฺพา อาคมึสุ. กุมฺภกาโร มหาสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตภาชนเมว ตสฺสา อทาสิ. สา จ ภาชนํ คเหตฺวา ตตฺถ อตฺตโน จ มหาสตฺตสฺส จ ขุชฺชาย จ รูปํ ปสฺสิตฺวา ‘‘อิทํ น อฺเน กตํ, กุสราเชเนว กต’’นฺติ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ภูมิยํ ขิปิตฺวา ‘‘อิมินา มยฺหํ อตฺโถ นตฺถิ, อิจฺฉนฺตานํ เทหี’’ติ อาห. อถสฺสา ภคินิโย กุทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘ขุทฺทกภาชนํ กุสรฺา กตนฺติ มฺสิ, อิทํ เตน น กตํ, กุมฺภกาเรเนว กตํ, คณฺหาหิ น’’นฺติ อวหสึสุ. สา เตน กตภาวํ ตสฺส จ อาคตภาวํ ตาสํ น กเถสิ. กุมฺภกาโร สหสฺสํ โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ‘‘ตาต, ราชา เต ตุฏฺโ, อิโต กิร ปฏฺาย ราชธีตานํ ภาชนานิ กเรยฺยาสิ, อหํ ตาสํ หริสฺสามี’’ติ อาห.

โส ‘‘อิธาปิ วสนฺเตน น สกฺกา ปภาวตี ทฏฺุ’’นฺติ ตํ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ราชุปฏฺากสฺส นฬการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส อนฺเตวาสิโก หุตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย ตาลวณฺฏํ กตฺวา ตตฺเถว เสตจฺฉตฺตฺจ อาปานภูมิฺจ วตฺถํ คเหตฺวา ิตํ ปภาวติฺจาติ นานารูปานิ ทสฺเสสิ. นฬกาโร ตฺจ อฺฺจ เตน กตภณฺฑกํ อาทาย ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ กตานี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปุริมนเยเนว สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิมานิ นฬการภณฺฑานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห. โสปิ โพธิสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตํ ตาลวณฺฏํ ตสฺสาเยว อทาสิ. ตตฺรปิ รูปานิ อฺโ ชโน น ปสฺสติ, ปภาวตี ปน ทิสฺวา กุสรฺา กตภาวํ ตฺวา ‘‘คณฺหิตุกามา คณฺหนฺตู’’ติ กุทฺธา ภูมิยํ ขิปิ. อถ นํ เสสา อวหสึสุ. นฬกาโร สหสฺสํ อาหริตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ.

โส ‘‘อิทมฺปิ มยฺหํ อวสนฏฺาน’’นฺติ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ราชมาลาการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคนฺตฺวา นานาวิธํ มาลาวิกตึ คนฺถิตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย นานารูปวิจิตฺรํ เอกํ จุมฺพฏกํ อกาสิ. มาลากาโร ตํ สพฺพํ อาทาย ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ คนฺถิตานี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยา, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ตยา คนฺถิตานิ ชานามิ, กเถหิ, เกน คนฺถิตานี’’ติ? ‘‘อนฺเตวาสิเกน เม, เทวา’’ติ. ‘‘น โส อนฺเตวาสี, อาจริโย เต โส, ตฺวํ ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺข, อิโต ปฏฺาย จ โส มม ธีตานํ ปุปฺผานิ คนฺถตุ, อิมฺจสฺส สหสฺสํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิมานิ ปุปฺผานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห. โสปิ โพธิสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตํ จุมฺพฏกํ ตสฺสาเยว อทาสิ. สา ตตฺถ อตฺตโน จ รฺโ จ รูเปหิ สทฺธึ นานารูปานิ ทิสฺวา เตน กตภาวํ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ภูมิยํ ขิปิ. เสสา ภคินิโย ตํ ตเถว อวหสึสุ. มาลากาโรปิ สหสฺสํ อาหริตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ.

โส ‘‘อิทมฺปิ มยฺหํ อวสนฏฺาน’’นฺติ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา รฺโ สูทสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคจฺฉิ. อเถกทิวสํ สูโท รฺโ โภชนวิกตึ หรนฺโต อตฺตโน อตฺถาย ปจิตุํ โพธิสตฺตสฺส อฏฺิมํสํ อทาสิ. โส ตํ ตถา สมฺปาเทสิ, ยถาสฺส คนฺโธ สกลนครํ อวตฺถริ. ราชา ตํ ฆายิตฺวา ‘‘กึ เต มหานเส อฺมฺปิ มํสํ ปจสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ, เทว, อปิจ โข ปน เม อนฺเตวาสิกสฺส อฏฺิมํสํ ปจนตฺถาย ทินฺนํ, ตสฺเสว โส คนฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ. ราชา อาหราเปตฺวา ตโต โถกํ ชิวฺหคฺเค เปสิ, ตาวเทว สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ โขเภนฺตํ ผริ. ราชา รสตณฺหาย พชฺฌิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ตว อนฺเตวาสินา มม จ ธีตานฺจ เม ภตฺตํ ปจาเปตฺวา ตฺวํ มยฺหํ อาหร, โส เม ธีตานํ หรตู’’ติ อาห. สูโท คนฺตฺวา ตสฺส อาโรเจสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, อิทานิ ปนาหํ ปภาวตึ ทฏฺุํ ลภิสฺสามี’’ติ ตุฏฺโ ตํ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ปุนทิวเส ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา รฺโ ภตฺตภาชนานิ เปเสตฺวา ราชธีตานํ ภตฺตกาชํ สยํ คเหตฺวา ปภาวติยา วสนปาสาทํ อภิรุหิ. สา ตํ ภตฺตกาชํ อาทาย ปาสาทํ อภิรุหนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อตฺตโน อนนุจฺฉวิกํ ทาสกมฺมกเรหิ กตฺตพฺพํ กโรติ. สเจ ปนาหํ กติปาหํ ตุณฺหี ภวิสฺสามิ, ‘อิทานิ มํ เอสา โรจตี’ติ สฺี หุตฺวา กตฺถจิ อคนฺตฺวา มํ โอโลเกนฺโต อิเธว วสิสฺสติ, อิทาเนว ตํ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา มุหุตฺตมฺปิ อิธ วสิตุํ อทตฺวา ปลาเปสฺสามี’’ติ. สา ทฺวารํ อฑฺฒวิวฏํ กตฺวา เอกํ หตฺถํ กวาเฏ ลคฺเคตฺวา เอเกน หตฺเถน อคฺคฬํ อุปฺปีเฬตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘อนุชฺชุภูเตน หรํ มหนฺตํ, ทิวา จ รตฺโต จ นิสีถกาเล;

ปฏิคจฺฉ ตฺวํ ขิปฺปํ กุสาวตึ กุส, นิจฺฉามิ ทุพฺพณฺณมหํ วสนฺต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ตฺวํ ภตฺตการโก หุตฺวา อุชุเกน จิตฺเตน โยปิ เต สีสํ ภินฺเทยฺย, ตสฺสเปตํ กมฺมํ น กโรสิ, อนุชุภูเตน ปน จิตฺเตน มมตฺถาย เอตํ มหนฺตํ กาชํ หรนฺโต ทิวา จ รตฺโต จ นิสีถกาเล จ มหนฺตํ ทุกฺขํ อนุภวิสฺสสิ, กึ เต เตน อนุภูเตน ทุกฺเขน, ตฺวํ อตฺตโน นครํ กุสาวติเมว ปฏิคจฺฉ, อฺํ อตฺตนา สทิสึ อติรสกปูวสณฺานมุขึ ยกฺขินึ อคฺคมเหสึ กตฺวา รชฺชํ กาเรหีติ. นิจฺฉามิ ทุพฺพณฺณมหํ วสนฺตนฺติ อหํ ปน ตํ ทุพฺพณฺณํ ทุสฺสณฺิตํ อิธ วสนฺตํ น อิจฺฉามีติ.

โส ‘‘ปภาวติยา เม สนฺติกา กถา ลทฺธา’’ติ ตุฏฺจิตฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

.

‘‘นาหํ คมิสฺสามิ อิโต กุสาวตึ, ปภาวตี วณฺณปโลภิโต ตว;

รมามิ มทฺทสฺส นิเกตรมฺเม, หิตฺวาน รฏฺํ ตว ทสฺสเน รโต.

.

‘‘ปภาวตี วณฺณปโลภิโต ตว, สมฺมูฬฺหรูโป วิจรามิ เมทินึ;

ทิสํ น ชานามิ กุโตมฺหิ อาคโต, ตยมฺหิ มตฺโต มิคมนฺทโลจเน.

.

‘‘สุวณฺณจีรวสเน, ชาตรูปสุเมขเล;

สุสฺโสณิ ตว กามา หิ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก’’ติ.

ตตฺถ รมามีติ อภิรมามิ น อุกฺกณฺามิ. สมฺมูฬฺหรูโปติ กิเลสสมฺมูฬฺโห หุตฺวา. ตยมฺหิ มตฺโตติ ตยิ มตฺโตมฺหิ, ตยา วา มตฺโตมฺหิ. สุวณฺณจีรวสเนติ สุวณฺณขจิตวตฺถวสเน. นาหํ รชฺเชน มตฺถิโกติ น อหํ รชฺเชน อตฺถิโก.

เอวํ วุตฺเต สา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เอตํ ‘วิปฺปฏิสารี ภวิสฺสตี’ติ ปริภาสามิ, อยํ ปน รชฺชิตฺวาว กเถติ, สเจ โข ปน มํ ‘อหํ กุสราชา’ติ วตฺวา หตฺเถ คณฺเหยฺย, โก ตํ นิวาเรยฺย, โกจิ โน อิมํ กถํ สุเณยฺยา’’ติ ทฺวารํ ถเกตฺวา สูจึ ทตฺวา อนฺโต อฏฺาสิ. โสปิ ภตฺตกาชํ อาหริตฺวา ภตฺตํ วฑฺเฒตฺวา ราชธีตโร โภเชสิ. ปภาวตี ‘‘คจฺฉ กุสราเชน ปกฺกภตฺตํ อาหรา’’ติ ขุชฺชํ เปเสสิ. สา อาหริตฺวา ‘‘ภุฺชาหี’’ติ อาห. นาหํ เตน ปกฺกภตฺตํ ภุฺชามิ, ตฺวํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน ลทฺธนิวาปํ คเหตฺวา ภตฺตํ ปจิตฺวา อาหร, กุสรฺโ อาคตภาวฺจ มา กสฺสจิ อาโรเจสีติ. ขุชฺชา ตโต ปฏฺาย ตสฺสา โกฏฺาสํ อาหริตฺวา สยํ ภุฺชติ, อตฺตโน โกฏฺาสํ ตสฺสา อุปเนติ. กุสราชาปิ ตโต ปฏฺาย ตํ ปสฺสิตุํ อลภนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข ปภาวติยา มยิ สิเนโห, อุทาหุ นตฺถิ, วีมํสิสฺสามิ น’’นฺติ. โส ปน ราชธีตโร โภเชตฺวา ภตฺตกาชํ อาทาย นิกฺขนฺโต ตสฺสา คพฺภทฺวาเร ปาสาทตลํ ปาเทน ปหริตฺวา ภาชนานิ ฆฏฺเฏตฺวา นิตฺถุนิตฺวา วิสฺี หุตฺวา วิย อวกุชฺโช ปติ. สา ตสฺส นิตฺถุนิตสทฺเทน ทฺวารํ วิวริตฺวา ตํ ภตฺตกาเชน โอตฺถตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา มํ นิสฺสาย รตฺตินฺทิวํ ทุกฺขํ อนุโภติ, สุขุมาลตาย ภตฺตกาเชน อวตฺถโต ปตติ, ชีวติ นุ โข, โน วา’’ติ. สา คพฺภโต นิกฺขมิตฺวา ตสฺส นาสวาตํ อุปธาเรตุํ คีวํ ปสาเรตฺวา มุขํ โอโลเกสิ. โส มุขปูรํ เขฬํ คเหตฺวา ตสฺสา สรีเร ปาเตสิ. สา ตํ ปริภาสิตฺวา คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ อฑฺฒวิวฏํ ถเกตฺวา ิตา คาถมาห –

.

‘‘อพฺภูติ ตสฺส โภ โหติ, โย อนิจฺฉนฺตมิจฺฉติ;

อกามํ ราช กาเมสิ, อกนฺตํ กนฺตุมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ อพฺภูตีติ อภูติ, อวุฑฺฒีติ อตฺโถ.

โส ปน ปฏิพทฺธจิตฺตตาย อกฺโกสิยมาโนปิ ปริภาสิยมาโนปิ วิปฺปฏิสารํ อนุปฺปาเทตฺวาว อนนฺตรํ คาถมาห –

.

‘‘อกามํ วา สกามํ วา, โย นโร ลภเต ปิยํ;

ลาภเมตฺถ ปสํสาม, อลาโภ ตตฺถ ปาปโก’’ติ.

สาปิ ตสฺมึ เอวํ กเถนฺเตปิ อโนสกฺกิตฺวา ถทฺธตรวจนํ วตฺวา ปลาเปตุกามา อิตรํ คาถมาห –

.

‘‘ปาสาณสารํ ขณสิ, กณิการสฺส ทารุนา;

วาตํ ชาเลน พาเธสิ, โย อนิจฺฉนฺตมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ กณิการสฺส ทารุนาติ กณิการกฏฺเน. พาเธสีติ พนฺธสีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

.

‘‘ปาสาโณ นูน เต หทเย, โอหิโต มุทุลกฺขเณ;

โย เต สาตํ น วินฺทามิ, ติโรชนปทาคโต.

๑๐.

‘‘ยทา มํ ภกุฏึ กตฺวา, ราชปุตฺตี อุทิกฺขติ;

อาฬาริโก ตทา โหมิ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร.

๑๑.

‘‘ยทา อุมฺหยมานา มํ, ราชปุตฺตี อุทิกฺขติ;

นาฬาริโก ตทา โหมิ, ราชา โหมิ ตทา กุโส’’ติ.

ตตฺถ มุทุลกฺขเณติ มุทุนา อิตฺถิลกฺขเณน สมนฺนาคเต. โยติ โย อหํ ติโรรฏฺา อาคโต ตว สนฺติเก วสนฺโต ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ สาตํ น ลภามิ, โส เอวํ มฺามิ, มยิ สิเนหุปฺปตฺตินิวารณาย นูน ตว หทเย ปาสาโณ ปิโต. ภกุฏึ กตฺวาติ โกธวเสน วลิวิสมํ นลาฏํ กตฺวา. อาฬาริโกติ ภตฺตการโก. ตสฺมึ ขเณ อหํ มทฺทรฺโ อนฺเตปุเร ภตฺตการกทาโส วิย โหมีติ วทติ. อุมฺหยมานาติ ปหฏฺาการํ ทสฺเสตฺวา หสมานา. ราชา โหมีติ ตสฺมึ ขเณ อหํ กุสาวตีนคเร รชฺชํ กาเรนฺโต ราชา วิย โหมิ, กสฺมาสิ เอวํ ผรุสา, อิโต ปฏฺาย มา เอวรูปํ กริ, ภทฺเทติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อติวิย อลฺลียิตฺวา กเถติ, มุสาวาทํ กตฺวา อุปาเยน นํ อิโต ปลาเปสฺสามี’’ติ คาถมาห –

๑๒.

‘‘สเจ หิ วจนํ สจฺจํ, เนมิตฺตานํ ภวิสฺสติ;

เนว เม ตฺวํ ปตี อสฺส, กามํ ฉินฺทนฺตุ สตฺตธา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, มยา ‘‘อยํ กุสราชา มยฺหํ ปติ ภวิสฺสติ, น ภวิสฺสตี’’ติ พหู นิมิตฺตปากา ปุจฺฉิตา, เต ‘‘กามํ กิร มํ สตฺตธา ฉินฺทนฺตุ, เนว เม ตฺวํ ปติ ภวิสฺสสี’’ติ วทึสูติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตํ ปฏิพาหนฺโต ‘‘ภทฺเท, มยาปิ อตฺตโน รฏฺเ เนมิตฺตกา ปุจฺฉิตา, เต ‘อฺตฺร สีหสฺสรกุสราชโต ตว ปติ นาม อฺโ นตฺถี’ติ พฺยากรึสุ, อหมฺปิ อตฺตโน าณพลนิมิตฺเตน เอวเมว กเถสิ’’นฺติ วตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๓.

‘‘สเจ หิ วจนํ สจฺจํ, อฺเสํ ยทิ วา มม;

เนว ตุยฺหํ ปตี อตฺถิ, อฺโ สีหสฺสรา กุสา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยทิ หิ อฺเสํ เนมิตฺตานํ วจนํ สจฺจํ, ยทิ วา มม วจนํ สจฺจํ, ตว อฺโ ปติ นาม นตฺถีติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา อิมํ ลชฺชาเปตุํ วา ปลาเปตุํ วา, กึ เม อิมินา’’ติ ทฺวารํ ปิธาย อตฺตานํ น ทสฺเสสิ. โสปิ กาชํ คเหตฺวา โอตริ, ตโต ปฏฺาย ตํ ทฏฺุํ น ลภติ, ภตฺตการกกมฺมํ กโรนฺโต อติวิย กิลมติ, ภุตฺตปาตราโส ทารูนิ ผาเลติ, ภาชนานิ โธวติ, กาเชน อุทกํ อาหรติ, สยนฺโต อมฺพณปิฏฺเ สยติ, ปาโต วุฏฺาย ยาคุอาทีนิ ปจติ หรติ โภเชติ, นนฺทิราคํ นิสฺสาย อติทุกฺขํ อนุโภติ. โส เอกทิวสํ ภตฺตเคหทฺวาเรน คจฺฉนฺตึ ขุชฺชํ ทิสฺวา ปกฺโกสิ. สา ปภาวติยา ภเยน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุํ อวิสหนฺตี ตุริตตุริตา วิย คจฺฉติ. อถ นํ เวเคน อุปคนฺตฺวา ‘‘ขุชฺเช’’ติ อาห.

สา นิวตฺติตฺวา ิตา ‘‘โก เอโส’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ สทฺทํ น สุณามี’’ติ อาห. อถ นํ ‘‘ขุชฺเช ตฺวมฺปิ สามินีปิ เต อุโภปิ อติวิย ถทฺธา, เอตฺตกํ กาลํ ตุมฺหากํ สนฺติเก วสนฺโต อาโรคฺยสาสนมตฺตมฺปิ น ลภามิ, เทยฺยธมฺมํ ปน กึ ทสฺสถ, ติฏฺตุ ตาเวตํ, อปิ เม ปภาวตึ มุทุกํ กตฺวา ทสฺเสตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ ‘‘สเจ เม ตํ ทสฺเสตุํ สกฺขิสฺสสิ, ขุชฺชภาวํ เต อุชุกํ กตฺวา คีเวยฺยกํ ทสฺสามี’’ติ ปโลเภนฺโต ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๑๔.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, โอโลเกยฺย ปภาวตี.

๑๕.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, อาลเปยฺย ปภาวตี.

๑๖.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, อุมฺหาเยยฺย ปภาวตี.

๑๗.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, ปมฺหาเยยฺย ปภาวตี.

๑๘.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, ปาณีหิ อุปสมฺผุเส’’ติ.

ตตฺถ เนกฺขํ คีวํ เตติ ตว คีเวยฺยํ สพฺพสุวณฺณมยเมว กาเรสฺสามีติ อตฺโถ. ‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กริสฺสามี’’ติปิ ปาโ, ตว คีวาย เนกฺขมยํ ปิฬนฺธนํ ปิฬนฺเธสฺสามีติ อตฺโถ. โอโลเกยฺยาติ สเจ ตว วจเนน มํ ปภาวตี โอโลเกยฺย, สเจ มํ ตาย โอโลกาเปตุํ สกฺขิสฺสสีติ อตฺโถ. ‘‘อาลเปยฺยา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อุมฺหาเยยฺยาติ มนฺทหสิตวเสน ปริหาเสยฺย. ปมฺหาเยยฺยาติ มหาหสิตวเสน ปริหาเสยฺย.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห, เทว, กติปาหจฺจเยน นํ ตุมฺหากํ วเส กริสฺสามิ, ปสฺสถ เม ปรกฺกม’’นฺติ วตฺวา ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา ปภาวติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺสา วสนคพฺภํ โสเธนฺตี วิย ปหรณโยคฺคํ เลฑฺฑุขณฺฑมฺปิ อเสเสตฺวา อนฺตมโส ปาทุกาปิ นีหริตฺวา สกลคพฺภํ สมฺมชฺชิตฺวา คพฺภทฺวาเร อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา อุจฺจาสนํ ปฺเปตฺวา ปภาวติยา เอกํ นีจปีกํ อตฺถริตฺวา ‘‘เอหิ, อมฺม, สีเส เต อูกา วิจินิสฺสามี’’ติ ตํ ตตฺถ ปีเก นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน อูรุอนฺตเร ตสฺสา สีสํ เปตฺวา โถกํ กณฺฑุยิตฺวา ‘‘อโห อิมิสฺสา สีเส พหู อูกา’’ติ สกสีสโต อูกา คเหตฺวา ตสฺสา หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ปสฺส กิตฺตกา เต สีเส อูกา’’ติ ปิยกถํ กเถตฺวา มหาสตฺตสฺส คุณํ กเถนฺตี คาถมาห –

๑๙.

‘‘น หิ นูนายํ ราชปุตฺตี, กุเส สาตมฺปิ วินฺทติ;

อาฬาริเก ภเต โปเส, เวตเนน อนตฺถิเก’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – เอกํเสน อยํ ราชปุตฺตี ปุพฺเพ กุสาวตีนคเร กุสนรินฺทสฺส สนฺติเก มาลาคนฺธวิเลปนวตฺถาลงฺการวเสน อปฺปมตฺตกมฺปิ สาตํ น วินฺทติ น ลภติ, ตมฺพูลมตฺตมฺปิ เอเตน เอติสฺสา ทินฺนปุพฺพํ น ภวิสฺสติ. กึการณา? อิตฺถิโย นาม เอกทิวสมฺปิ องฺกํ อวตฺถริตฺวา นิปนฺนสามิกมฺหิ หทยํ ภินฺทิตุํ น สกฺโกนฺติ, อยํ ปน อาฬาริเก ภเต โปเส อาฬาริกตฺตฺจ ภตกตฺตฺจ อุปคเต เอตสฺมึ ปุริเส มูเลนปิ อนตฺถิเก เกวลํ ตํเยว นิสฺสาย รชฺชํ ปหาย อาคนฺตฺวา เอวํ ทุกฺขํ อนุภวนฺเต ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ น กโรติ, สเจปิ เต, อมฺม, ตสฺมึ สิเนโห นตฺถิ, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา มํ นิสฺสาย กิลมตีติ ตสฺส กิฺจิเทว ทาตุํ อรหสีติ.

สา ตํ สุตฺวา ขุชฺชาย กุชฺฌิ. อถ นํ ขุชฺชา คีวายํ คเหตฺวา อนฺโตคพฺเภ ขิปิตฺวา สยํ พหิ หุตฺวา ทฺวารํ ปิธาย อาวิฺฉนรชฺชุมฺหิ โอลมฺพนฺตี อฏฺาสิ. ปภาวตี ตํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตี ทฺวารมูเล ตฺวา อกฺโกสนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๒๐.

‘‘น หิ นูนายํ สา ขุชฺชา, ลภติ ชิวฺหาย เฉทนํ;

สุนิสิเตน สตฺเถน, เอวํ ทุพฺภาสิตํ ภณ’’นฺติ.

ตตฺถ สุนิสิเตนาติ สุฏฺุ นิสิเตน ติขิณสตฺเถน. เอวํ ทุพฺภาสิตนฺติ เอวํ อโสตพฺพยุตฺตกํ ทุพฺภาสิตํ ภณนฺตี.

อถ ขุชฺชา อาวิฺจนรชฺชุํ คเหตฺวา ิตาว ‘‘นิปฺปฺเ ทุพฺพินีเต ตว รูปํ กึ กริสฺสติ, กึ มยํ ตว รูปํ ขาทิตฺวา ยาเปสฺสามา’’ติ วตฺวา เตรสหิ คาถาหิ โพธิสตฺตสฺส คุณํ ปกาเสนฺตี ขุชฺชาคชฺชิตํ นาม คชฺชิ –

๒๑.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหายโสติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๒.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหทฺธโนติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๓.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหพฺพโลติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๔.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหารฏฺโติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๕.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหาราชาติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๖.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

สีหสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๗.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

วคฺคุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๘.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

พินฺทุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๙.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มฺชุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๐.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มธุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๑.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

สตสิปฺโปติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๒.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

ขตฺติโยติปิ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๓.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

กุสราชาติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิย’’นฺติ.

ตตฺถ มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน, ปภาวตีติ อเร ปภาวติ, มา ตฺวํ เอตํ กุสนรินฺทํ อตฺตโน รูเปน อาโรหปริณาเหน ปมินิ, เอวํ ปมาณํ คณฺหิ. มหายโสติ มหานุภาโว โสติ เอวํ หทเย กตฺวาน รุจิเร ปิยทสฺสเน กรสฺสุ ตสฺส ปิยํ. อานุภาโวเยว หิสฺส รูปนฺติ วทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปิ จ มหายโสติ มหาปริวาโร. มหทฺธโนติ มหาโภโค. มหพฺพโลติ มหาถาโม. มหารฏฺโติ วิปุลรฏฺโ. มหาราชาติ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา. สีหสฺสโรติ สีหสทฺทสมานสทฺโท. วคฺคุสฺสโรติ ลีลายุตฺตสฺสโร. พินฺทุสฺสโรติ สมฺปิณฺฑิตฆนสฺสโร. มฺชุสฺสโรติ สุนฺทรสฺสโร. มธุสฺสโรติ มธุรยุตฺตสฺสโร. สตสิปฺโปติ ปเรสํ สนฺติเก อสิกฺขิตฺวา อตฺตโน พเลเนว นิปฺผนฺนอเนกสตสิปฺโป. ขตฺติโยติ โอกฺกากปเวณิยํ ชาโต อสมฺภินฺนขตฺติโย. กุสราชาติ สกฺกทตฺติยกุสติณสมานนาโม ราชา. เอวรูโป หิ อฺโ ราชา นาม นตฺถีติ ชานิตฺวา เอตสฺส ปิยํ กโรหีติ ขุชฺชา เอตฺตกาหิ คาถาหิ ตสฺส คุณํ กเถสิ.

ปภาวตี ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ขุชฺเช อติวิย คชฺชสิ, หตฺเถน ปาปุณนฺตี สสามิกภาวํ เต ชานาเปสฺสามี’’ติ ขุชฺชํ ตชฺเชสิ. สาปิ ตํ ‘‘อหํ ตํ รกฺขมานา ปิตุโน เต กุสราชสฺส อาคตภาวํ นาโรเจสึ, โหตุ, อชฺช รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ มหนฺเตน สทฺเทน ภายาเปสิ. สาปิ ‘‘โกจิเทว สุเณยฺยา’’ติ ขุชฺชํ สฺาเปสิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ปสฺสิตุํ อลภนฺโต สตฺต มาเส ทุพฺโภชเนน ทุกฺขเสยฺยาย กิลมนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘โก เม เอตาย อตฺโถ, สตฺต มาเส วสนฺโต เอตํ ปสฺสิตุมฺปิ น ลภามิ, อติวิย กกฺขฬา สาหสิกา, คนฺตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามี’’ติ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตสฺส อุกฺกณฺิตภาวํ ตฺวา ‘‘ราชา สตฺต มาเส ปภาวตึ ทฏฺุมฺปิ น ลภิ, ลภนาการมสฺส กริสฺสามี’’ติ มทฺทรฺโ ทูเต กตฺวา สตฺตนฺนํ ราชูนํ ทูตํ ปาเหนฺโต ‘‘ปภาวตี, กุสราชํ ฉฑฺเฑตฺวา อาคตา, อาคจฺฉนฺตุ ปภาวตึ คณฺหนฺตู’’ติ เอเกกสฺส วิสุํ วิสุํ สาสนํ ปหิณิ. เต มหาปริวาเรน คนฺตฺวา นครํ ปตฺวา อฺมฺสฺส อาคตการณํ น ชานนฺติ. เต ‘‘ตฺวํ กสฺมา อาคโต, ตฺวํ กสฺมา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ‘‘เอกํ กิร ธีตรํ สตฺตนฺนํ ทสฺสติ, ปสฺสถสฺส อนาจารํ, อุปฺปณฺเฑติ โน, คณฺหถ น’’นฺติ ‘‘สพฺเพสมฺปิ อมฺหากํ ปภาวตึ เทตุ ยุทฺธํ วา’’ติ สาสนานิ ปหิณิตฺวา นครํ ปริวารยึสุ. มทฺทราชา สาสนํ สุตฺวา ภีตตสิโต อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ อมจฺจา ‘‘เทว, สตฺตปิ ราชาโน ปภาวตึ นิสฺสาย อาคตา, ‘สเจ น ทสฺสติ, ปาการํ ภินฺทิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ตํ คณฺหิสฺสามา’ติ วทนฺติ, ปากาเร อภินฺเนเยว เตสํ ปภาวตึ เปเสสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาหํสุ –

๓๔.

‘‘เอเต นาคา อุปตฺถทฺธา, สพฺเพ ติฏฺนฺติ วมฺมิตา;

ปุรา มทฺทนฺติ ปาการํ, อาเนนฺเตตํ ปภาวติ’’นฺติ.

ตตฺถ อุปตฺถทฺธาติ อติถทฺธา ทปฺปิตา. อาเนนฺเตตํ ปภาวตินฺติ อาเนนฺตุ เอตํ ปภาวตินฺติ สาสนานิ ปหิณึสุ. ตสฺมา ยาว เอเต นาคา ปาการํ น มทฺทนฺติ, ตาว เนสํ ปภาวตึ เปเสหิ, มหาราชาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ เอกสฺส ปภาวตึ เปเสสฺสามิ, เสสา ยุทฺธํ กริสฺสนฺติ, น สกฺกา เอกสฺส ทาตุํ, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชานํ ‘วิรูโป’ติ ฉฑฺเฑตฺวา อาคตา อาคมนสฺส ผลํ ลภตุ, วธิตฺวาน นํ สตฺต ขณฺฑานิ กตฺวา สตฺตนฺนํ ขตฺติยานํ เปเสสฺสามี’’ติ วทนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๓๕.

‘‘สตฺต พิเล กริตฺวาน, อหเมตํ ปภาวตึ;

ขตฺติยานํ ปทสฺสามิ, เย มํ หนฺตุํ อิธาคตา’’ติ.

ตสฺส สา กถา สกลนิเวสเน ปากฏา อโหสิ. ปริจาริกา คนฺตฺวา ‘‘ราชา กิร ตํ สตฺต ขณฺฑานิ กตฺวา สตฺตนฺนํ ราชูนํ เปเสสฺสตี’’ติ ปภาวติยา อาโรเจสุํ. สา มรณภยภีตา อาสนา วุฏฺาย ภคินีหิ ปริวุตา มาตุ สิริคพฺภํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๖.

‘‘อวุฏฺหิ ราชปุตฺตี, สามา โกเสยฺยวาสินี;

อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, ทาสีคณปุรกฺขตา’’ติ.

ตตฺถ สามาติ สุวณฺณวณฺณา. โกเสยฺยวาสินีติ สุวณฺณขจิตโกเสยฺยนิวสนา.

สา มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา ปริเทวมานา อาห –

๓๗.

‘‘ตํ นูน กกฺกูปนิเสวิตํ มุขํ, อาทาสทนฺตาถรุปจฺจเวกฺขิตํ;

สุภํ สุเนตฺตํ วิรชํ อนงฺคณํ, ฉุทฺธํ วเน สฺสติ ขตฺติเยหิ.

๓๘.

‘‘เต นูน เม อสิเต เวลฺลิตคฺเค, เกเส มุทู จนฺทนสารลิตฺเต;

สมากุเล สีวถิกาย มชฺเฌ, ปาเทหิ คิชฺฌา ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ.

๓๙.

‘‘ตา นูน เม ตมฺพนขา สุโลมา, พาหา มุทู จนฺทนสารลิตฺตา;

ฉินฺนา วเน อุชฺฌิตา ขตฺติเยหิ, คยฺห ธงฺโก คจฺฉติ เยนกามํ.

๔๐.

‘‘เต นูน ตาลูปนิเภ อลมฺเพ, นิเสวิเต กาสิกจนฺทเนน;

ถเนสุ เม ลมฺพิสฺสติ สิงฺคาโล, มาตูว ปุตฺโต ตรุโณ ตนูโช.

๔๑.

‘‘ตํ นูน โสณึ ปุถุลํ สุโกฏฺฏิตํ, นิเสวิตํ กฺจนเมขลาหิ;

ฉินฺนํ วเน ขตฺติเยหี อวตฺถํ, สิงฺคาลสงฺฆา ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ.

๔๒.

‘‘โสณา ธงฺกา สิงฺคาลา จ, เย จฺเ สนฺติ ทาิโน;

อชรา นูน เหสฺสนฺติ, ภกฺขยิตฺวา ปภาวตึ.

๔๓.

‘‘สเจ มํสานิ หรึสุ, ขตฺติยา ทูรคามิโน;

อฏฺีนิ อมฺม ยาจิตฺวา, อนุปเถ ทหาถ นํ.

๔๔.

‘‘เขตฺตานิ อมฺม กาเรตฺวา, กณิกาเรตฺถ โรปย;

ยทา เต ปุปฺผิตา อสฺสุ, เหมนฺตานํ หิมจฺจเย;

สเรยฺยาถ มมํ อมฺม, เอวํวณฺณา ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ กกฺกูปนิเสวิตนฺติล กกฺกูปนิเสวิตนฺติ สาสปกกฺกโลณกกฺกมตฺติกกกฺกติลกกฺกหลิทฺทิกกฺกมุขจุณฺณเกหิ อิเมหิ ปฺจหิ กกฺเกหิ อุปนิเสวิตํ. อาทาสทนฺตาถรุปจฺจเวกฺขิตนฺติ ทนฺตมยถรุมฺหิ อาทาเส ปจฺจเวกฺขิตํ ตตฺถ โอโลเกตฺวา มณฺฑิตํ. สุภนฺติ สุภมุขํ. วิรชนฺติ วิคตรชํ นิมฺมลํ. อนงฺคณนฺติ คณฺฑปิฬกาทิโทสรหิตํ. ฉุทฺธนฺติ อมฺม เอวรูปํ มม มุขํ อทฺธา อิทานิ ขตฺติเยหิ ฉฑฺฑิตํ วเน อรฺเ สฺสตีติ ปริเทวติ. อสิเตติ กาฬเก. เวลฺลิตคฺเคติ อุนฺนตคฺเค. สีวถิกายาติ สุสานมฺหิ. ปริกฑฺฒิสฺสนฺตีติ เอวรูเป มม เกเส มนุสฺสมํสขาทกา คิชฺฌา ปาเทหิ ปหริตฺวา นูน ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ. คยฺห ธงฺโก คจฺฉติ เยนกามนฺติ อมฺม มม เอวรูปํ พาหํ นูน ธงฺโก คเหตฺวา ลุฺชิตฺวา ขาทนฺโต เยนกามํ คจฺฉิสฺสติ.

ตาลูปนิเภติ สุวณฺณตาลผลสทิเส. กาสิกจนฺทเนนาติ สุขุมจนฺทเนน นิเสวิเต. ถเนสุ เมติ อมฺม มม สุสาเน ปติตาย เอวรูเป ถเน ทิสฺวา มุเขน ฑํสิตฺวา เตสุ เม ถเนสุ อตฺตโน ตนุโช มาตุ ตรุณปุตฺโต วิย นูน สิงฺคาโล ลมฺพิสฺสติ. โสณินฺติ กฏึ. สุโกฏฺฏิตนฺติ โคหนุเกน ปหริตฺวา สุวฑฺฒิตํ. อวตฺถนฺติ ฉฑฺฑิตํ. ภกฺขยิตฺวาติ อมฺม เอเต เอตฺตกา นูน มม มํสํ ขาทิตฺวา อชรา ภวิสฺสนฺติ.

สเจ มํสานิ หรึสูติ อมฺม สเจ เต ขตฺติยา มยึ ปฏิพทฺธจิตฺตา มม มํสานิ หเรยฺยุํ, อถ ตุมฺเห อฏฺีนิ ยาจิตฺวา อนุปเถ ทหาถนํ, ชงฺฆมคฺคมหามคฺคานํ อนฺตเร ทเหยฺยาถาติ วทติ. เขตฺตานีติ อมฺม มม ฌาปิตฏฺาเน มาลาทิวตฺถูนิ กาเรตฺวา เอตฺถ เอเตสุ เขตฺเตสุ กณิการรุกฺเข โรปย. หิมจฺจเยติ หิมปาตาติกฺกเม ผคฺคุณมาเส. สเรยฺยาถาติ เตสํ ปุปฺผานํ สุวณฺณจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา อูรูสุ เปตฺวา มม ธีตา ปภาวตี เอวํวณฺณาติ สเรยฺยาถ.

อิติ สา มรณภยตชฺชิตา มาตุ สนฺติเก วิลปิ. มทฺทราชาปิ ‘‘ผรสุฺจ คณฺฑิกฺจ คเหตฺวา โจรฆาตโก อิเธว อาคจฺฉตู’’ติ อาณาเปสิ. ตสฺส อาคมนํ สกลราชเคเห ปากฏํ อโหสิ. อถสฺส อาคตภาวํ สุตฺวา ปภาวติยา มาตา อุฏฺายาสนา โสกสมปฺปิตา รฺโ สนฺติกํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๕.

‘‘ตสฺสา มาตา อุทฏฺาสิ, ขตฺติยา เทววณฺณินี;

ทิสฺวา อสิฺจ สูนฺจ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร’’ติ.

ตตฺถ อุทฏฺาสีติ อาสนา อุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา อฏฺาสิ. ทิสฺวา อสิฺจ สูนฺจาติ อนฺเตปุรมฺหิ อลงฺกตมหาตเล รฺโ ปุรโต นิกฺขิตฺตํ ผรสุฺจ คณฺฑิกฺจ ทิสฺวา วิลปนฺตี คาถมาห –

๔๖.

‘‘อิมินา นูน อสินา, สุสฺํ ตนุมชฺฌิมํ;

ธีตรํ มทฺท หนฺตฺวาน, ขตฺติยานํ ปทสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ อสินาติ ผรสุํ สนฺธายาห. โส หิ อิมสฺมึ าเน อสิ นาม ชาโต. สุสฺํ ตนุมชฺฌิมนฺติ สุฏฺุ สฺาตํ ตนุมชฺฌิมํ.

อถ นํ ราชา สฺาเปนฺโต อาห – ‘‘เทวิ, กึ กเถสิ, ตว ธีตา สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชานํ ‘วิรูโป’ติ ฉฑฺเฑตฺวา คตมคฺเค ปทวลฺเช อวินฏฺเเยว มจฺจุํ นลาเฏนาทาย อาคตา, อิทานิ อตฺตโน รูปํ นิสฺสาย อีทิสํ ผลํ ลภตู’’ติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ธีตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วิลปนฺตี อาห –

๔๗.

‘‘น เม อกาสิ วจนํ, อตฺถกามาย ปุตฺติเก;

สาชฺช โลหิตสฺฉนฺนา, คจฺฉสิ ยมสาธนํ.

๔๘.

‘‘เอวมาปชฺชตี โปโส, ปาปิยฺจ นิคจฺฉติ;

โย เว หิตานํ วจนํ, น กโรติ อตฺถทสฺสินํ.

๔๙.

‘‘สเจ จ อชฺช ธาเรสิ, กุมารํ จารุทสฺสนํ;

กุเสน ชาตํ ขตฺติยํ, สุวณฺณมณิเมขลํ;

ปูชิตํ าติสงฺเฆหิ, น คจฺฉสิ ยมกฺขยํ.

๕๐.

‘‘ยตฺถสฺสุ เภรี นทติ, กุฺชโร จ นิกูชติ;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต.

๕๑.

‘‘อสฺโส จ สิสติ ทฺวาเร, กุมาโร อุปโรทติ;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต.

๕๒.

‘‘มยูรโกฺจาภิรุเท, โกกิลาภินิกูชิเต;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺติเกติ ตํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺม, อิธ กึ กริสฺสสิ, สามิกสฺส สนฺติกํ คจฺฉ, มา รูปมเทน มชฺชีติ เอวํ ยาจนฺติยาปิ เม วจนํ น อกาสิ, สา ตฺวํ อชฺช โลหิตสฺฉนฺนา คจฺฉสิ ยมสาธนํ, มจฺจุราชสฺส ภวนํ คมิสฺสสีติ. ปาปิยฺจาติ อิโต ปาปตรฺจ นิคจฺฉติ. สเจ จ อชฺช ธาเรสีติ, อมฺม, สเจ ตฺวํ จิตฺตสฺส วสํ อคนฺตฺวา กุสนรินฺทํ ปฏิจฺจ ลทฺธํ อตฺตโน รูเปน สทิสํ จารุทสฺสนํ กุมารํ อชฺช ธารยิสฺสสิ. ยมกฺขยนฺติ เอวํ สนฺเต ยมนิเวสนํ น คจฺเฉยฺยาสิ. ตโต ยมฺหิ ขตฺติยกุเล อยํ วิภูติ, ตมฺหา นานาเภริสทฺเทน เจว มตฺตวารณโกฺจนาเทน จ นินฺนาทิตา กุสาวตีราชกุลา กึ นุ สุขตรํ ทิสฺวา อิธาคตาสีติ อตฺโถ. สิสตีติ หสติ. กุมาโรติ สุสิกฺขิโต คนฺธพฺพกุมาโร. อุปโรทตีติ นานาตูริยานิ คเหตฺวา อุปหารํ กโรติ. โกกิลาภินิกูชิเตติ กุสราชกุเล สายํ ปาโต ปวตฺตนจฺจคีตวาทิตูปหารํ ปฏิปฺผรนฺตี วิย โกกิเลหิ อภินิกูชิเต.

อิติ สาปิ เอตฺตกาหิ คาถาหิ ตาย สทฺธึ สลฺลปิตฺวา ‘‘สเจ อชฺช กุสนรินฺโท อิธ อสฺส, อิเม สตฺต ราชาโน ปลาเปตฺวา มม ธีตรํ ทุกฺขา ปโมเจตฺวา อาทาย คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๓.

‘‘กหํ นุ โข สตฺตุมทฺทโน, ปรรฏฺปฺปมทฺทโน;

กุโส โสฬารปฺาโณ, โย โน ทุกฺขา ปโมจเย’’ติ.

ตตฺถ โสฬารปฺาโณติ อุฬารปฺโ.

ตโต ปภาวตี ‘‘มม มาตุ กุสสฺส วณฺณํ ภณนฺติยา มุขํ นปฺปโหติ, อาจิกฺขิสฺสามิ ตาวสฺสา ตสฺส อิเธว อาฬาริกกมฺมํ กตฺวา วสนภาว’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๔.

‘‘อิเธว โส สตฺตุมทฺทโน, ปรรฏฺปฺปมทฺทโน;

กุโส โสฬารปฺาโณ, โย เต สพฺเพ วธิสฺสตี’’ติ.

อถสฺสา มาตา ‘‘อยํ มรณภยภีตา วิปฺปลปตี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๕.

‘‘อุมฺมตฺติกา นุ ภณสิ, อนฺธพาลา ปภาสสิ;

กุโส เจ อาคโต อสฺส, กึ น ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

ตตฺถ อนฺธพาลาติ สมฺมูฬฺหา อฺาณา หุตฺวา. กึ น ชาเนมูติ เกน การเณน ตํ น ชาเนยฺยาม. โส หิ อนฺตรามคฺเค ิโตว อมฺหากํ สาสนํ เปเสยฺย, สมุสฺสิตทฺธชา จตุรงฺคินีเสนา ปฺาเยถ, ตฺวํ ปน มรณภเยน กเถสีติ.

สา เอวํ วุตฺเต ‘‘น เม มาตา สทฺทหติ, ตสฺส อิธาคนฺตฺวา สตฺต มาเส วสนภาวํ น ชานาติ, ทสฺเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา มาตรํ หตฺเถ คเหตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ทสฺเสนฺตี คาถมาห –

๕๖.

‘‘เอโส อาฬาริโก โปโส, กุมารีปุรมนฺตเร;

ทฬฺหํ กตฺวาน สํเวลฺลึ, กุมฺภึ โธวติ โอณโต’’ติ.

ตตฺถ กุมารีปุรมนฺตเรติ วาตปาเน ิตา ตว ธีตานํ กุมารีนํ วสนฏฺานนฺตเร นํ โอโลเกหิ. สํเวลฺลินฺติ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา กุมฺภึ โธวติ.

โส กิร ตทา ‘‘อชฺช เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อทฺธา มรณภยตชฺชิตา, ปภาวตี, มม อาคตภาวํ กเถสฺสติ, ภาชนานิ โธวิตฺวา ปฏิสาเมสฺสามี’’ติ อุทกํ อาหริตฺวา ภาชนานิ โธวิตุํ อารภิ. อถ นํ มาตา ปริภาสนฺตี คาถมาห –

๕๗.

‘‘เวณี ตฺวมสิ จณฺฑาลี, อทูสิ กุลคนฺธินี;

กถํ มทฺทกุเล ชาตา, ทาสํ กยิราสิ กามุก’’นฺติ.

ตตฺถ เวณีติ ตจฺฉิกา. อทูสิ กุลคนฺธินีติ อุทาหุ ตฺวํ กุลทูสิกา. กามุกนฺติ กถํ นาม ตฺวํ เอวรูเป กุเล ชาตา อตฺตโน สามิกํ ทาสํ กเรยฺยาสีติ.

ตโต ปภาวตี ‘‘มม มาตา อิมสฺส มํ นิสฺสาย เอวํ วสนภาวํ น ชานาติ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๕๘.

‘‘นมฺหิ เวณี น จณฺฑาลี, น จมฺหิ กุลคนฺธินี;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสี’’ติ.

ตตฺถ โอกฺกากปุตฺโตติ, อมฺม, เอส โอกฺกากปุตฺโต, ตฺวํ ปน ‘‘ทาโส’’ติ มฺสิ, กสฺมา นํ อหํ ‘‘ทาโส’’ติ กเถสฺสามีติ.

อิทานิสฺส ยสํ วณฺเณนฺตี อาห –

๕๙.

‘‘โย พฺราหฺมณสหสฺสานิ, สทา โภเชติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๐.

ยสฺส นาคสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๑.

‘‘ยสฺส อสฺสสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๒.

‘‘ยสฺส รถสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ;

ยสฺส อุสภสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๓.

‘‘ยสฺส เธนุสหสฺสานิ, สทา ทุหนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสี’’ติ.

เอวํ ตาย ปฺจหิ คาถาหิ มหาสตฺตสฺส ยโส วณฺณิโต. อถสฺสา มาตา ‘‘อยํ อสมฺภิตา กถํ กเถติ, อทฺธา เอวเมต’’นฺติ สทฺทหิตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. โส เวเคน ปภาวติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร, อมฺม, กุสราชา อิธาคโต’’ติ. ‘‘อาม ตาต, อชฺชสฺส สตฺต มาสา อติกฺกนฺตา ตว ธีตานํ อาฬาริกตฺตํ กโรนฺตสฺสา’’ติ. โส ตสฺสา อสทฺทหนฺโต ขุชฺชํ ปุจฺฉิตฺวา ยถาภูตํ สุตฺวา ธีตรํ ครหนฺโต คาถมาห –

๖๔.

‘‘ตคฺฆ เต ทุกฺกฏํ พาเล, ยํ ขตฺติยํ มหพฺพลํ;

นาคํ มณฺฑูกวณฺเณน, น ตํ อกฺขาสิธาคต’’นฺติ.

ตตฺถ ตคฺฆาติ เอกํเสเนว.

โส ธีตรํ ครหิตฺวา เวเคน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กตปฏิสนฺถาโร อฺชลึ ปคฺคยฺห อตฺตโน อจฺจยํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๖๕.

‘‘อปราธํ มหาราช, ตฺวํ โน ขม รเถสภ;

ยํ ตํ อฺาตเวเสน, นาฺาสิมฺหา อิธาคต’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ผรุสํ วกฺขามิ, อิเธวสฺส หทยํ ผลิสฺสติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภาชนนฺตเร ิโตว อิตรํ คาถมาห –

๖๖.

‘‘มาทิสสฺส น ตํ ฉนฺนํ, โยหํ อาฬาริโก ภเว;

ตฺวฺเว เม ปสีทสฺสุ, นตฺถิ เต เทว ทุกฺกฏ’’นฺติ.

ราชา ตสฺส สนฺติกา ปฏิสนฺถารํ ลภิตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ปภาวตึ ปกฺโกสาเปตฺวา ขมาปนตฺถาย เปเสตุํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘คจฺฉ พาเล ขมาเปหิ, กุสราชํ มหพฺพลํ;

ขมาปิโต กุโส ราชา, โส เต ทสฺสติ ชีวิต’’นฺติ.

สา ปิตุ วจนํ สุตฺวา ภคินีหิ เจว ปริจาริกาหิ จ ปริวุตา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โสปิ กมฺมการเวเสน ิโตว ตสฺสา อตฺตโน สนฺติกํ อาคมนํ ตฺวา ‘‘อชฺช ปภาวติยา มานํ ภินฺทิตฺวา ปาทมูเล นํ กลเล นิปชฺชาเปสฺสามี’’ติ สพฺพํ อตฺตนา อาภตํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา ขลมณฺฑลมตฺตํ านํ มทฺทิตฺวา เอกกลลํ อกาสิ. สา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา กลลปิฏฺเ นิปนฺนา ตํ ขมาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๘.

‘‘ปิตุสฺส วจนํ สุตฺวา, เทววณฺณี ปภาวตี;

สิรสา อคฺคหี ปาเท, กุสราชํ มหพฺพล’’นฺติ.

ตตฺถ สิรสาติ สิรสา นิปติตฺวา กุสราชานํ ปาเท อคฺคเหสีติ.

คเหตฺวา จ ปน นํ ขมาเปนฺตี ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๖๙.

‘‘ยามา รตฺโย อติกฺกนฺตา, ตามา เทว ตยา วินา;

วนฺเท เต สิรสา ปาเท, มา เม กุชฺฌ รเถสภ.

๗๐.

‘‘สพฺพํ เต ปฏิชานามิ, มหาราช สุโณหิ เม;

น จาปิ อปฺปิยํ ตุยฺหํ, กเรยฺยามิ อหํ ปุน.

๗๑.

‘‘เอวํ เจ ยาจมานาย, วจนํ เม น กาหสิ;

อิทานิ มํ ตาโต หนฺตฺวา, ขตฺติยานํ ปทสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ รตฺโยติ รตฺติโย. ตามาติ ตา อิมา สพฺพาปิ ตยา วินา อติกฺกนฺตา. สพฺพํ เต ปฏิชานามีติ, มหาราช, เอตฺตกํ กาลํ มยา ตว อปฺปิยเมว กตํ, อิทํ เต อหํ สพฺพํ ปฏิชานามิ, อปรมฺปิ สุโณหิ เม, อิโต ปฏฺายาหํ ปุน ตุยฺหํ อปฺปิยํ น กริสฺสามิ. เอวํ เจติ สเจ เอวํ ยาจมานาย มม ตฺวํ วจนํ น กริสฺสสีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ ‘อิมํ ตฺวฺเจว ชานิสฺสสี’ติ วกฺขามิ, หทยมสฺสา ผลิสฺสติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห –

๗๒.

‘‘เอวํ เต ยาจมานาย, กึ น กาหามิ เต วโจ;

วิกุทฺโธ ตฺยสฺมิ กลฺยาณิ, มา ตฺวํ ภายิ ปภาวติ.

๗๓.

‘‘สพฺพํ เต ปฏิชานามิ, ราชปุตฺติ สุโณหิ เม;

น จาปิ อปฺปิยํ ตุยฺหํ, กเรยฺยามิ อหํ ปุน.

๗๔.

‘‘ตว กามา หิ สุสฺโสณิ, ปหุ ทุกฺขํ ติติกฺขิสํ;

พหุํ มทฺทกุลํ หนฺตฺวา, นยิตุํ ตํ ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ กึ น กาหามีติ กึการณา ตว วจนํ น กริสฺสามิ. วิกุทฺโธ ตฺยสฺมีติ วิกุทฺโธ นิกฺโกโป เต อสฺมึ. สพฺพํ เตติ วิกุทฺธภาวฺจ อิทานิ อปฺปิยกรณฺจ อุภยํ เต อิทํ สพฺพเมว ปฏิชานามิ. ตว กามาติ ตว กาเมน ตํ อิจฺฉมาโน. ติติกฺขิสนฺติ อธิวาเสมิ. พหุํ มทฺทกุลํ หนฺตฺวา นยิตุํ ตนฺติ พหุมทฺทราชกุลํ หนิตฺวา พลกฺกาเรน ตํ เนตุํ สมตฺโถติ.

อถ โส สกฺกสฺส เทวรฺโ ปริจาริกํ วิย ตํ อตฺตโน ปริจาริกํ ทิสฺวา ขตฺติยมานํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มยิ กิร ธรมาเนเยว มม ภริยํ อฺเ คเหตฺวา คมิสฺสนฺตี’’ติ สีโห วิย ราชงฺคเณ วิชมฺภมาโน ‘‘สกลนครวาสิโน เม อาคตภาวํ ชานนฺตู’’ติ วคฺคนฺโต นทนฺโต เสเฬนฺโต อปฺโผเฏนฺโต ‘‘อิทานิ เต ชีวคฺคาหํ คเหสฺสามิ, รถาทโย เม โยเชนฺตู’’ติ อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๕.

‘‘โยชยนฺตุ รเถ อสฺเส, นานาจิตฺเต สมาหิเต;

อถ ทกฺขถ เม เวคํ, วิธมนฺตสฺส สตฺตโว’’ติ.

ตตฺถ นานาจิตฺเตติ นานาลงฺการวิจิตฺเต. สมาหิเตติ อสฺเส สนฺธาย วุตฺตํ, สุสิกฺขิเต นิพฺพิเสวเนติ อตฺโถ. อถ ทกฺขถ เม เวคนฺติ อถ เม ปรกฺกมํ ปสฺสิสฺสถาติ.

สตฺตูนํ คณฺหนํ นาม มยฺหํ ภาโร, คจฺฉ ตฺวํ นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา ปาสาทํ อารุหาติ ตํ อุยฺโยเชสิ. มทฺทราชาปิสฺส ปริหารกรณตฺถํ อมจฺเจ ปหิณิ. เต ตสฺส มหานสทฺวาเรเยว สาณึ ปริกฺขิปิตฺวา กปฺปเก อุปฏฺเปสุํ. โส กตมสฺสุกมฺโม สีสํนฺหาโต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อมจฺจาทีหิ ปริวุโต ‘‘ปาสาทํ อภิรุหิสฺสามี’’ติ ทิสา วิโลเกตฺวา อปฺโผเฏสิ. โอโลกิตโอโลกิตฏฺานํ วิกมฺปิ. โส ‘‘อิทานิ เม ปรกฺกมํ ปสฺสิสฺสถา’’ติ อาห. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๖.

‘‘ตฺจ ตตฺถ อุทิกฺขึสุ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร;

วิชมฺภมานํ สีหํว, โผเฏนฺตํ ทิคุณํ ภุช’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ตฺจ ตตฺถ วิชมฺภนฺตํ อปฺโผเฏนฺตํ รฺโ อนฺเตปุเร วาตปานานิ วิวริตฺวา อิตฺถิโย อุทิกฺขึสูติ.

อถสฺส มทฺทราชา กตอาเนฺชการณํ อลงฺกตวรวารณํ เปเสสิ. โส สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺตํ หตฺถิกฺขนฺธํ อารุยฺห ‘‘ปภาวตึ อาเนถา’’ติ ตมฺปิ ปจฺฉโต นิสีทาเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปรเสนํ โอโลเกตฺวา ‘‘อหํ กุสราชา, ชีวิตตฺถิกา อุเรน นิปชฺชนฺตู’’ติ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา สตฺตุมทฺทนํ อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๗๗.

‘‘หตฺถิกฺขนฺธฺจ อารุยฺห, อาโรเปตฺวา ปภาวตึ;

สงฺคามํ โอตริตฺวาน, สีหนาทํ นที กุโส.

๗๘.

‘‘ตสฺส ตํ นทโต สุตฺวา, สีหสฺเสวิตเร มิคา;

ขตฺติยา วิปลายึสุ, กุสสทฺทภยฏฺฏิตา.

๗๙.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

อฺมฺสฺส ฉินฺทนฺติ, กุสสทฺทภยฏฺฏิตา.

๘๐.

‘‘ตสฺมึ สงฺคามสีสสฺมึ, ปสฺสิตฺวา หฏฺมานโส;

กุสสฺส รฺโ เทวินฺโท, อทา เวโรจนํ มณึ.

๘๑.

‘‘โส ตํ วิชฺฌิตฺวา สงฺคามํ, ลทฺธา เวโรจนํ มณึ;

หตฺถิกฺขนฺธคโต ราชา, ปาเวกฺขิ นครํ ปุรํ.

๘๒.

‘‘ชีวคฺคาหํ คเหตฺวาน, พนฺธิตฺวา สตฺต ขตฺติเย;

สสุรสฺสูปนาเมสิ, อิเม เต เทว สตฺตโว.

๘๓.

‘‘สพฺเพว เต วสํ คตา, อมิตฺตา วิหตา ตว;

กามํ กโรหิ เต ตยา, มุฺจ วา เต หนสฺสุ วา’’ติ.

ตตฺถ วิปลายึสูติ สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา วิปลฺลตฺถจิตฺตา ภิชฺชึสุ. กุสสทฺทภยฏฺฏิตาติ กุสรฺโ สทฺทํ นิสฺสาย ชาเตน ภเยน อุปทฺทุตา มูฬฺหจิตฺตา. อฺมฺสฺส ฉินฺทนฺตีติ อฺมฺํ ฉินฺทนฺติ มทฺทนฺติ. ‘‘ภินฺทึสู’’ติปิ ปาโ. ตสฺมินฺติ เอวํ โพธิสตฺตสฺส สทฺทสวเนเนว สงฺคาเม ภินฺเน ตสฺมึ สงฺคามสีเส ตํ มหาสตฺตสฺส ปรกฺกมํ ปสฺสิตฺวา ตุฏฺหทโย สกฺโก เวโรจนํ นาม มณิกฺขนฺธํ ตสฺส อทาสิ. นครํ ปุรนฺติ นครสงฺขาตํ ปุรํ. พนฺธิตฺวาติ เตสฺเว อุตฺตริ สาฏเกน ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา. กามํ กโรหิ เต ตยาติ ตฺวํ อตฺตโน กามํ อิจฺฉํ รุจึ กโรหิ, เอเต หิ ตยา ทาสา กตาเยวาติ.

ราชา อาห –

๘๔.

‘‘ตุยฺเหว สตฺตโว เอเต, น หิ เต มยฺห สตฺตโว;

ตฺวฺเว โน มหาราช, มุฺจ วา เต หนสฺสุ วา’’ติ.

ตตฺถ ตฺวฺเว โนติ, มหาราช, ตฺวํเยว อมฺหากํ อิสฺสโรติ.

เอวํ วุตฺเต มหาสตฺโต ‘‘กึ อิเมหิ มาริเตหิ, มา เตสํ อาคมนํ นิรตฺถกํ โหตุ, ปภาวติยา กนิฏฺา สตฺต มทฺทราชธีตโร อตฺถิ, ตา เนสํ ทาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๘๕.

‘‘อิมา เต ธีตโร สตฺต, เทวกฺูปมา สุภา;

ททาหิ เนสํ เอเกกํ, โหนฺตุ ชามาตโร ตวา’’ติ.

อถ นํ ราชา อาห –

๘๖.

‘‘อมฺหากฺเจว ตาสฺจ, ตฺวํ โน สพฺเพสมิสฺสโร;

ตฺวฺเว โน มหาราช, เทหิ เนสํ ยทิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ ตฺวํ โน สพฺเพสนฺติ, มหาราช กุสนรินฺท, กึ วเทสิ, ตฺวฺเว เอเตสฺจ สตฺตนฺนํ ราชูนํ มมฺจ อิมาสฺจ สพฺเพสํ โน อิสฺสโร. ยทิจฺฉสีติ ยทิ อิจฺฉสิ, ยสฺส วา ยํ ทาตุํ อิจฺฉสิ, ตสฺส ตํ เทหีติ.

เอวํ วุตฺเต โส ตา สพฺพาปิ อลงฺการาเปตฺวา เอเกกสฺส รฺโ เอเกกํ อทาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๘๗.

‘‘เอกเมกสฺส เอเกกํ, อทา สีหสฺสโร กุโส;

ขตฺติยานํ ตทา เตสํ, รฺโ มทฺทสฺส ธีตโร.

๘๘.

‘‘ปีณิตา เตน ลาเภน, ตุฏฺา สีหสฺสเร กุเส;

สกรฏฺานิ ปายึสุ, ขตฺติยา สตฺต ตาวเท.

๘๙.

‘‘ปภาวติฺจ อาทาย, มณึ เวโรจนํ สุภํ;

กุสาวตึ กุโส ราชา, อคมาสิ มหพฺพโล.

๙๐.

‘‘ตฺยสฺสุ เอกรเถ ยนฺตา, ปวิสนฺตา กุสาวตึ;

สมานา วณฺณรูเปน, นาฺมฺาติโรจิสุํ.

๙๑.

‘‘มาตา ปุตฺเตน สํคจฺฉิ, อุภโย จ ชยมฺปตี;

สมคฺคา เต ตทา อาสุํ, ผีตํ ธรณิมาวสุ’’นฺติ.

ตตฺถ ปีณิตาติ สนฺตปฺปิตา. ปายึสูติ อิทานิ อปฺปมตฺตา ภเวยฺยาถาติ กุสนรินฺเทน โอวทิตา อคมํสุ. อคมาสีติ กติปาหํ วสิตฺวา ‘‘อมฺหากํ รฏฺํ คมิสฺสามา’’ติ สสุรํ อาปุจฺฉิตฺวา คโต. เอกรเถ ยนฺตาติ ทฺเวปิ เอกรถํ อภิรุยฺห คจฺฉนฺตา. สมานา วณฺณรูเปนาติ วณฺเณน จ รูเปน จ สมานา หุตฺวา. นาฺมฺาติโรจิสุนฺติ เอโก เอกํ นาติกฺกมิ. มณิรตนานุภาเวน กิร มหาสตฺโต อภิรูโป อโหสิ สุวณฺณวณฺโณ โสภคฺคปฺปตฺโต, โส กิร ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาตนิสฺสนฺเทน พุทฺธปฏิมากรณนิสฺสนฺเทน จ เอวํ เตชวนฺโต อโหสิ. สํคจฺฉีติ อถสฺส มาตา มหาสตฺตสฺส อาคมนํ สุตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาสตฺตสฺส พหุํ ปณฺณาการํ อาทาย ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา สมาคจฺฉิ. โสปิ มาตรา สทฺธึเยว นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา สตฺตาหํ ฉณกีฬํ กีฬิตฺวา อลงฺกตปาสาทตลํ อภิรุหิ. เตปิ อุโภ ชยมฺปติกา สมคฺคา อเหสุํ, ตโต ปฏฺาย ยาวชีวํ สมคฺคา สมฺโมทมานา ผีตํ ธรณึ อชฺฌาวสึสูติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, กนิฏฺโ อานนฺโท, ขุชฺชา ขุชฺชุตฺตรา, ปภาวตี ราหุลมาตา, ปริสา พุทฺธปริสา, กุสราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

กุสชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๒] ๒. โสณนนฺทชาตกวณฺณนา

เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ สามชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย) วตฺถุสทิสํ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘มา, ภิกฺขเว, อิมํ ภิกฺขุํ อุชฺฌายิตฺถ, โปราณกปณฺฑิตา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ ลภมานาปิ ตํ อคฺคเหตฺวา มาตาปิตโร โปสึสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสี พฺรหฺมวฑฺฒนํ นาม นครํ อโหสิ. ตตฺถ มโนโช นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตตฺถ อฺตโร อสีติโกฏิวิภโว พฺราหฺมณมหาสาโล อปุตฺตโก อโหสิ. ตสฺส พฺราหฺมณี เตเนว ‘‘โภติ ปุตฺตํ ปตฺเถหี’’ติ วุตฺตา ปตฺเถสิ. อถ โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ชาตสฺส จสฺส ‘‘โสณกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล อฺโปิ สตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสาเยว กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ตสฺส ชาตสฺส ‘‘นนฺทกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. เตสํ อุคฺคหิตเวทานํ สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺตานํ วยปฺปตฺตานํ รูปสมฺปทํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ อามนฺเตตฺวา ‘‘โภติ ปุตฺตํ โสณกุมารํ ฆรพนฺธเนน พนฺธิสฺสามา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุตฺตสฺส ตมตฺถํ อาจิกฺขิ. โส ‘‘อลํ, อมฺม, มยฺหํ ฆราวาเสน, อหํ ยาวชีวํ ตุมฺเห ปฏิชคฺคิตฺวา ตุมฺหากํ อจฺจเยน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. สา พฺราหฺมณสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิ.

เต ปุนปฺปุนํ กเถนฺตาปิ ตสฺส จิตฺตํ อลภิตฺวา นนฺทกุมารํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, เตน หิ ตฺวํ กุฏุมฺพํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ วตฺวา ‘‘นาหํ ภาตรา ฉฑฺฑิตเขฬํ สีเสน อุกฺขิปามิ, อหมฺปิ ตุมฺหากํ อจฺจเยน ภาตราว สทฺธึ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วุตฺเต เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘อิเม ทฺเว เอวํ ตรุณาว กาเม ปชหนฺติ, กิมงฺคํ ปน มยํ, สพฺเพเยว ปพฺพชิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ตาตา, กึ โว อมฺหากํ อจฺจเยน ปพฺพชฺชาย, อิทาเนว สพฺเพ มยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ รฺโ อาโรเจตฺวา สพฺพํ ธนํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา ทาสชนํ ภุชิสฺสํ กตฺวา าตีนํ ทาตพฺพยุตฺตกํ ทตฺวา จตฺตาโรปิ ชนา พฺรหฺมวฑฺฒนนครา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตปเทเส ปฺจปทุมสฺฉนฺนํ สรํ นิสฺสาย รมณีเย วนสณฺเฑ อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ วสึสุ. อุโภปิ ภาตโร มาตาปิตโร ปฏิชคฺคึสุ, เตสํ ปาโตว ทนฺตกฏฺฺจ มุขโธวนฺจ ทตฺวา ปณฺณสาลฺจ ปริเวณฺจ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา อรฺโต มธุรผลาผลานิ อาหริตฺวา มาตาปิตโร ขาทาเปนฺติ, อุณฺเหน วา สีเตน วา วารินา นฺหาเปนฺติ, ชฏา โสเธนฺติ, ปาทปริกมฺมาทีนิ เตสํ กโรนฺติ.

เอวํ อทฺธาเน คเต นนฺทปณฺฑิโต ‘‘มยา อาภตผลาผลาเนว ปมํ มาตาปิตโร ขาทาเปสฺสามี’’ติ ปุรโต คนฺตฺวา หิยฺโย จ ปรหิยฺโย จ คหิตฏฺานโต ยานิ วา ตานิ วา ปาโตว อาหริตฺวา มาตาปิตโร ขาทาเปสิ. เต ตานิ ขาทิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิกา ภวนฺติ. โสณปณฺฑิโต ปน ทูรํ คนฺตฺวา มธุรมธุรานิ สุปกฺกสุปกฺกานิ อาหริตฺวา อุปนาเมสิ. อถ นํ, ‘‘ตาต, กนิฏฺเน เต อาภตานิ มยํ ปาโตว ขาทิตฺวา อุโปสถิกา ชาตา, น อิทานิ โน อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. อิติ ตสฺส ผลาผลานิ ปริโภคํ น ลภนฺติ วินสฺสนฺติ, ปุนทิวเสสุปิ ตเถวาติ. เอวํ โส ปฺจาภิฺตาย ทูรํ คนฺตฺวาปิ อาหรติ, เต ปน น ขาทนฺติ.

อถ มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มาตาปิตโร เม สุขุมาลา, นนฺโท จ ยานิ วา ตานิ วา อปกฺกทุปฺปกฺกานิ ผลาผลานิ อาหริตฺวา ขาทาเปติ, เอวํ สนฺเต อิเม น จีรํ ปวตฺติสฺสนฺติ, วาเรสฺสามิ น’’นฺติ. อถ นํ โส อามนฺเตตฺวา ‘‘นนฺท, อิโต ปฏฺาย ผลาผลํ อาหริตฺวา มมาคมนํ ปฏิมาเนหิ, อุโภปิ เอกโตว ขาทาเปสฺสามา’’ติ อาห. โส เอวํ วุตฺเตปิ อตฺตโน ปุฺํ ปจฺจาสีสนฺโต น ตสฺส วจนมกาสิ. มหาสตฺโต ‘‘นนฺโท มม วจนํ อกโรนฺโต อยุตฺตํ กโรติ, ปลาเปสฺสามิ นํ, ตโต เอกโกว มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘นนฺท, ตฺวํ อโนวาทโก ปณฺฑิตานํ วจนํ น กโรสิ, อหํ เชฏฺโ, มาตาปิตโร มเมว ภาโร, อหเมว เนสํ ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตฺวํ อิธ วสิตุํ น ลจฺฉสิ, อฺตฺถ ยาหี’’ติ ตสฺส อจฺฉรํ ปหริ.

โส เตน ปลาปิโต ตสฺส สนฺติเก าตุํ อสกฺโกนฺโต ตํ วนฺทิตฺวา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา อตฺตโน ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กสิณํ โอโลเกตฺวา ตํ ทิวสเมว ปฺจ อภิฺาโย อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สีเนรุปาทโต รตนวาลุกา อาหริตฺวา มม ภาตุ ปณฺณสาลาย ปริเวเณ โอกิริตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, อโนตตฺตโต อุทกํ อาหริตฺวา มม ภาตุ ปณฺณสาลาย ปริเวเณ โอสิฺจิตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, สเจ เม ภาตรํ เทวตานํ วเสน ขมาเปยฺยํ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน สกฺกฺจ อาเนตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, สกลชมฺพุทีเป มโนชํ อคฺคราชานํ อาทึ กตฺวา ราชาโน อาเนตฺวา ขมาเปสฺสามิ, เอวํ สนฺเต มม ภาตุ คุโณ สกลชมฺพุทีเป อวตฺถริตฺวา คมิสฺสติ, จนฺทิมสูริโย วิย ปฺายิสฺสตี’’ติ. โส ตาวเทว อิทฺธิยา คนฺตฺวา พฺรหฺมวฑฺฒนนคเร ตสฺส รฺโ นิเวสนทฺวาเร โอตริตฺวา ิโต ‘‘เอโก กิร โว ตาปโส ทฏฺุกาโม’’ติ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา ‘‘กึ ปพฺพชิตสฺส มยา ทิฏฺเน, อาหารตฺถาย อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ภตฺตํ ปหิณิ, โส ภตฺตํ น อิจฺฉิ. ตณฺฑุลํ ปหิณิ, ตณฺฑุลํ น อิจฺฉิ. วตฺถานิ ปหิณิ, วตฺถานิ น อิจฺฉิ. ตมฺพูลํ ปหิณิ, ตมฺพูลํ น อิจฺฉิ. อถสฺส สนฺติเก ทูตํ เปเสสิ, ‘‘กิมตฺถํ อาคโตสี’’ติ. โส ทูเตน ปุฏฺโ ‘‘ราชานํ อุปฏฺหิตุํ อาคโตมฺหี’’ติ อาห. ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘พหู มม อุปฏฺากา, อตฺตโนว ตาปสธมฺมํ กโรตู’’ติ เปเสสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อตฺตโน พเลน สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสามี’’ติ อาห.

ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ – ‘‘ปพฺพชิตา นาม ปณฺฑิตา, กิฺจิ อุปายํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาสเน นิสีทาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห กิร มยฺหํ สกลชมฺพุทีปรชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม มหาราชา’’ติ. ‘‘กถํ คณฺหิสฺสถา’’ติ? ‘‘มหาราช, อนฺตมโส ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ กสฺสจิ อนุปฺปาเทตฺวา ตว ธนจฺเฉทํ อกตฺวา อตฺตโน อิทฺธิยาว คเหตฺวา ทสฺสามิ, อปิจ เกวลํ ปปฺจํ อกตฺวา อชฺเชว นิกฺขมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา เสนงฺคปริวุโต นครา นิกฺขมิ. สเจ เสนาย อุณฺหํ โหติ, นนฺทปณฺฑิโต อตฺตโน อิทฺธิยา ฉายํ กตฺวา สีตํ กโรติ, เทเว วสฺสนฺเต เสนาย อุปริ วสฺสิตุํ น เทติ, สีตํ วา อุณฺหํ วา วาเรติ, มคฺเค ขาณุกณฺฏกาทโย สพฺพปริสฺสเย อนฺตรธาเปติ, มคฺคํ กสิณมณฺฑลํ วิย สมํ กตฺวา สยํ อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน เสนาย ปริวุโต คจฺฉติ.

เอวํ เสนํ อาทาย ปมํ โกสลรฏฺํ คนฺตฺวา นครสฺสาวิทูเร ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ‘‘ยุทฺธํ วา โน เทตุ เสตจฺฉตฺตํ วา’’ติ โกสลรฺโ ทูตํ ปาเหสิ. โส กุชฺฌิตฺวา ‘‘กึ อหํ น ราชา’’ติ ‘‘ยุทฺธํ ทมฺมี’’ติ เสนาย ปุรกฺขโต นิกฺขมิ. ทฺเว เสนา ยุชฺฌิตุํ อารภึสุ. นนฺทปณฺฑิโต ทฺวินฺนมฺปิ อนฺตเร อตฺตโน นิสีทนํ อชินจมฺมํ มหนฺตํ กตฺวา ปสาเรตฺวา ทฺวีหิปิ เสนาหิ ขิตฺตสเร จมฺเมเนว สมฺปฏิจฺฉิ. เอกเสนายปิ โกจิ กณฺเฑน วิทฺโธ นาม นตฺถิ, หตฺถคตานํ ปน กณฺฑานํ ขเยน ทฺเวปิ เสนา นิรุสฺสาหา อฏฺํสุ. นนฺทปณฺฑิโต มโนชราชสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราชา’’ติ อสฺสาเสตฺวา โกสลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, มา ภายิ, นตฺถิ เต ปริปนฺโถ, ตว รชฺชํ ตเวว ภวิสฺสติ, เกวลํ มโนชรฺโ วสวตฺตี โหหี’’ติ อาห. โส ตสฺส สทฺทหิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ มโนชสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘มหาราช, โกสลราชา เต วเส วตฺตติ, อิมสฺส รชฺชํ อิมสฺเสว โหตู’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ทฺเว เสนา อาทาย องฺครฏฺํ คนฺตฺวา องฺคํ คเหตฺวา ตโต มคธรฏฺนฺติ เอเตนุปาเยน สกลชมฺพุทีเป ราชาโน อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ตโต เตหิ ปริวุโต พฺรหฺมวฑฺฒนนครเมว คโต. รชฺชํ คณฺหนฺโต ปเนส สตฺตนฺนํ สํวจฺฉรานํ อุปริ สตฺตทิวสาธิเกหิ สตฺตมาเสหิ คณฺหิ. โส เอเกกราชธานิโต นานปฺปการํ ขชฺชโภชนํ อาหราเปตฺวา เอกสตราชาโน คเหตฺวา เตหิ สทฺธึ สตฺตาหํ มหาปานํ ปิวิ.

นนฺทปณฺฑิโต ‘‘ยาว ราชา สตฺตาหํ อิสฺสริยสุขํ อนุโภติ, ตาวสฺส อตฺตานํ น ทสฺเสสฺสามี’’ติ อุตฺตรกุรุมฺหิ ปิณฺฑาย จริตฺวา หิมวนฺเต กฺจนคุหาทฺวาเร สตฺตาหํ วสิ. มโนโชปิ สตฺตเม ทิวเส อตฺตโน มหนฺตํ สิริวิภวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ ยโส น มยฺหํ มาตาปิตูหิ, น อฺเหิ ทินฺโน, นนฺทตาปสํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน, ตํ โข ปน เม อปสฺสนฺตสฺส อชฺช สตฺตโม ทิวโส, กหํ นุ โข เม ยสทายโก’’ติ นนฺทปณฺฑิตํ สริ. โส ตสฺส อนุสฺสรณภาวํ ตฺวา อาคนฺตฺวา ปุรโต อากาเส อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อิมสฺส ตาปสสฺส เทวตาภาวํ วา มนุสฺสภาวํ วา น ชานามิ, สเจ เอส มนุสฺโส ภเวยฺย, สกลชมฺพุทีปรชฺชํ เอตสฺเสว ทสฺสามิ. อถ เทโว, สกฺการมสฺส กริสฺสามี’’ติ. โส ตํ วีมํสนฺโต ปมํ คาถมาห –

๙๒.

‘‘เทวตา นุติ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

มนุสฺสภูโต อิทฺธิมา, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สภาวเมว กเถนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๙๓.

‘‘นาปิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

มนุสฺสภูโต อิทฺธิมา, เอวํ ชานาหิ ภารธา’’ติ.

ตตฺถ ภารธาติ รฏฺภารธาริตาย นํ เอวํ อาลปติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มนุสฺสภูโต กิรายํ มยฺหํ เอวํ พหุปกาโร, มหนฺเตน ยเสน นํ สนฺตปฺเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๙๔.

‘‘กตรูปมิทํ โภโต, เวยฺยาวจฺจํ อนปฺปกํ;

เทวมฺหิ วสฺสมานมฺหิ, อโนวสฺสํ ภวํ อกา.

๙๕.

‘‘ตโต วาตาตเป โฆเร, สีตจฺฉายํ ภวํ อกา;

ตโต อมิตฺตมชฺเฌสุ, สรตาณํ ภวํ อกา.

๙๖.

‘‘ตโต ผีตานิ รฏฺานิ, วสิโน เต ภวํ อกา;

ตโต เอกสตํ ขตฺเย, อนุยนฺเต ภวํ อกา.

๙๗.

‘‘ปตีตาสฺสุ มยํ โภโต, วท ตํ ภฺชมิจฺฉสิ;

หตฺถิยานํ อสฺสรถํ, นาริโย จ อลงฺกตา;

นิเวสนานิ รมฺมานิ, มยํ โภโต ททามเส.

๙๘.

‘‘อถ วงฺเค วา มคเธ, มยํ โภโต ททามเส;

อถ วา อสฺสกาวนฺตี, สุมนา ทมฺม เต มยํ.

๙๙.

‘‘อุปฑฺฒํ วาปิ รชฺชสฺส, มยํ โภโต ททามเส;

สเจ เต อตฺโถ รชฺเชน, อนุสาส ยทิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ กตรูปมิทนฺติ กตสภาวํ. เวยฺยาวจฺจนฺติ กายเวยฺยาวติกกมฺมํ. อโนวสฺสนฺติ อวสฺสํ, ยถา เทโว น วสฺสติ, ตถา กตนฺติ อตฺโถ. สีตจฺฉายนฺติ สีตลํ ฉายํ. วสิโน เตติ เต รฏฺวาสิโน อมฺหากํ วสวตฺติโน. ขตฺเยติ ขตฺติเย, อฏฺกถายํ ปน อยเมว ปาโ. ปตีตาสฺสุ มยนฺติ ตุฏฺา มยํ. วท ตํ ภฺชมิจฺฉสีติ ภฺชนฺติ รตนสฺเสตํ นามํ, วรํ เต ททามิ, ยํ รตนํ อิจฺฉสิ, ตํ วเทหีติ อตฺโถ. ‘‘หตฺถิยาน’’นฺติอาทีหิ สรูปโต ตํ ตํ รตนํ ทสฺเสติ . อสฺสกาวนฺตีอสฺสกรฏฺํ วา อวนฺติรฏฺํ วา. รชฺเชนาติ สเจปิ เต สกลชมฺพุทีปรชฺเชน อตฺโถ, ตมฺปิ เต ทตฺวา อหํ ผลกาวุธหตฺโถ ตุมฺหากํ รถสฺส ปุรโต คมิสฺสามีติ ทีเปติ. ยทิจฺฉสีติ เอเตสุ มยา วุตฺตปฺปกาเรสุ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ อนุสาส อาณาเปหีติ.

ตํ สุตฺวา นนฺทปณฺฑิโต อตฺตโน อธิปฺปายํ อาวิกโรนฺโต อาห –

๑๐๐.

‘‘น เม อตฺโถปิ รชฺเชน, นคเรน ธเนน วา;

อโถปิ ชนปเทน, อตฺโถ มยฺหํ น วิชฺชตี’’ติ.

‘‘สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, เอกํ เม วจนํ กโรหี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๑๐๑.

‘‘โภโตว รฏฺเ วิชิเต, อรฺเ อตฺถิ อสฺสโม;

ปิตา มยฺหํ ชเนตฺตี จ, อุโภ สมฺมนฺติ อสฺสเม.

๑๐๒.

‘‘เตสาหํ ปุพฺพาจริเยสุ, ปุฺํ น ลภามิ กาตเว;

ภวนฺตํ อชฺฌาวรํ กตฺวา, โสณํ ยาเจมุ สํวร’’นฺติ.

ตตฺถ รฏฺเติ รชฺเช. วิชิเตติ อาณาปวตฺติฏฺาเน. อสฺสโมติ หิมวนฺตารฺเ เอโก อสฺสโม อตฺถิ. สมฺมนฺตีติ ตสฺมึ อสฺสเม วสนฺติ. เตสาหนฺติ เตสุ อหํ. กาตเวติ วตฺตปฏิวตฺตผลาผลาหรณสงฺขาตํ ปุฺํ กาตุํ น ลภามิ, ภาตา เม โสณปณฺฑิโต นาม มเมกสฺมึ อปราเธ มา อิธ วสีติ มํ ปลาเปสิ. อชฺฌาวรนฺติ อธิอาวรํ เต มยํ ภวนฺตํ สปริวารํ กตฺวา โสณปณฺฑิตํ สํวรํ ยาเจมุ, อายตึ สํวรํ ยาจามาติ อตฺโถ. ‘‘ยาเจมิมํ วร’’นฺติปิ ปาโ, มยํ ตยา สทฺธึ โสณํ ยาเจยฺยาม ขมาเปยฺยาม, อิมํ วรํ ตว สนฺติกา คณฺหามีติ อตฺโถ.

อถ นํ ราชา อาห –

๑๐๓.

‘‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ มํ ภณสิ พฺราหฺมณ;

เอตฺจ โข โน อกฺขาหิ, กีวนฺโต โหนฺตุ ยาจกา’’ติ.

ตตฺถ กโรมีติ อหํ สกลชมฺพุทีปรชฺชํ ททมาโน เอตฺตกํ กึ น กริสฺสามิ, กโรมีติ วทติ. กีวนฺโตติ กิตฺตกา.

นนฺทปณฺฑิโต อาห –

๑๐๔.

‘‘ปโรสตํ ชานปทา, มหาสาลา จ พฺราหฺมณา;

อิเม จ ขตฺติยา สพฺเพ, อภิชาตา ยสสฺสิโน;

ภวฺจ ราชา มโนโช, อลํ เหสฺสนฺติ ยาจกา’’ติ.

ตตฺถ ชานปทาติ คหปตี. มหาสาลา จ พฺราหฺมณาติ สารปฺปตฺตา พฺราหฺมณา จ ปโรสตาเยว. อลํ เหสฺสนฺตีติ ปริยตฺตา ภวิสฺสนฺติ. ยาจกาติ มมตฺถาย โสณปณฺฑิตสฺส ขมาปกา.

อถ นํ ราชา อาห –

๑๐๕.

‘‘หตฺถี อสฺเส จ โยเชนฺตุ, รถํ สนฺนยฺห สารถิ;

อาพนฺธนานิ คณฺหาถ, ปาทาสุสฺสารยทฺธเช;

อสฺสมํ ตํ คมิสฺสามิ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ.

ตตฺถ โยเชนฺตูติ หตฺถาโรหา หตฺถี, อสฺสาโรหา จ อสฺเส กปฺเปนฺตุ. รถํ สนฺนยฺห สารถีติ สมฺมสารถิ ตฺวมฺปิ รถํ สนฺนยฺห. อาพนฺธนานีติ หตฺถิอสฺสรเถสุ อาพนฺธิตพฺพานิ ภณฺฑานิ จ คณฺหถ. ปาทาสุสฺสารยทฺธเชติ รเถ ปิตธชปาทาสุ ธเช อุสฺสารยนฺตุ อุสฺสาเปนฺตุ. โกสิโยติ ยสฺมึ อสฺสเม โกสิยโคตฺโต วสตีติ.

๑๐๖.

‘‘ตโต จ ราชา ปายาสิ, เสนาย จตุรงฺคินี;

อคมา อสฺสมํ รมฺมํ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ. – อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ตโต จาติ, ภิกฺขเว, เอวํ วตฺวา ตโต โส ราชา เอกสตขตฺติเย คเหตฺวา มหติยา เสนาย ปริวุโต นนฺทปณฺฑิตํ ปุรโต กตฺวา นครา นิกฺขมิ. จตุรงฺคีนีติ จตุรงฺคินิยา เสนาย อคมาสิ, อนฺตรมคฺเค วตฺตมาโนปิ อวสฺสํ คามิตาย เอวํ วุตฺโต. จตุวีสติอกฺโขภณิสงฺขาเตน พลกาเยน สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส ตสฺส นนฺทปณฺฑิโต อิทฺธานุภาเวน อฏฺุสภวิตฺถตํ มคฺคํ สมํ มาเปตฺวา อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เสนาย ปริวุโต อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺเธ นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตน รฺา สทฺธึ ธมฺมยุตฺตกถํ กเถนฺโต สีตอุณฺหาทิปริสฺสเย วาเรนฺโต อคมาสิ.

อถสฺส อสฺสมํ ปาปุณนทิวเส โสณปณฺฑิโต ‘‘มม กนิฏฺสฺส อติเรกสตฺตมาสสตฺตทิวสาธิกานิ สตฺต วสฺสานิ นิกฺขนฺตสฺสา’’ติ อาวชฺเชตฺวา ‘‘กหํ นุ โข โส เอตรหี’’ติ ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกนฺโต ‘‘จตุวีสติอกฺโขภณิปริวาเรน สทฺธึ เอกสตราชาโน คเหตฺวา มมฺเว ขมาเปตุํ อาคจฺฉตี’’ติ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมหิ ราชูหิ เจว ปริสาหิ จ มม กนิฏฺสฺส พหูนิ ปาฏิหาริยานิ ทิฏฺานิ, มมานุภาวํ อชานิตฺวา ‘อยํ กูฏชฏิโล อตฺตโน ปมาณํ น ชานาติ, อมฺหากํ อยฺเยน สทฺธึ ปโยเชสี’ติ มํ วมฺเภนฺตา กเถนฺตา อวีจิปรายณา ภเวยฺยุํ, อิทฺธิปาฏิหาริยํ เนสํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ. โส จตุรงฺคุลมตฺเตน อํสํ อผุสนฺตํ อากาเส กาชํ เปตฺวา อโนตตฺตโต อุทกํ อาหริตุํ รฺโ อวิทูเร อากาเสน ปายาสิ. นนฺทปณฺฑิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อตฺตานํ ทสฺเสตุํ อวิสหนฺโต นิสินฺนฏฺาเนเยว อนฺตรธายิตฺวา ปลายิตฺวา หิมวนฺตํ ปาวิสิ. มโนชราชา ปน ตํ รมณีเยน อิสิเวเสน ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา คาถมาห –

๑๐๗.

‘‘กสฺส กาทมฺพโย กาโช, เวหาสํ จตุรงฺคุลํ;

อํสํ อสมฺผุสํ เอติ, อุทหาราย คจฺฉโต’’ติ.

ตตฺถ กาทมฺพโยติ กทมฺพรุกฺขมโย. อํสํ อสมฺผุสํ เอตีติ อํสํ อสมฺผุสนฺโต สยเมว อาคจฺฉติ. อุทหารายาติ อุทกํ อาหริตุํ คจฺฉนฺตสฺส กสฺส เอส กาโช เอวํ เอติ, โก นาม ตฺวํ, กุโต วา อาคจฺฉสีติ.

เอวํ วุตฺเต มหาสตฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๐๘.

‘‘อหํ โสโณ มหาราช, ตาปโส สหิตพฺพโต;

ภรามิ มาตาปิตโร, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.

๑๐๙.

‘‘วเน ผลฺจ มูลฺจ, อาหริตฺวา ทิสมฺปติ;

โปเสมิ มาตาปิตโร, ปุพฺเพ กตมนุสฺสร’’นฺติ.

ตตฺถ สหิตพฺพโตติ สหิตวโต สีลาจารสมฺปนฺโน เอโก ตาปโส อหนฺติ วทติ. ภรามีติ โปเสมิ. อตนฺทิโตติ อนลโส หุตฺวา. ปุพฺเพ กตมนุสฺสรนฺติ เตหิ ปุพฺเพ กตํ มยฺหํ คุณํ อนุสฺสรนฺโตติ.

ตํ สุตฺวา ราชา เตน สทฺธึ วิสฺสาสํ กตฺตุกาโม อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๑๐.

‘‘อิจฺฉาม อสฺสมํ คนฺตุํ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย;

มคฺคํ โน โสณ อกฺขาหิ, เยน คจฺเฉมุ อสฺสม’’นฺติ.

ตตฺถ อสฺสมนฺติ ตุมฺหากํ อสฺสมปทํ.

อถ มหาสตฺโต อตฺตโน อานุภาเวน อสฺสมปทคามิม