📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
ชาตก-อฏฺกถา
(ฉฏฺโ ภาโค)
๒๒. มหานิปาโต
[๕๓๘] ๑. มูคปกฺขชาตกวณฺณนา
มา ¶ ¶ ¶ ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวยาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ภควโต เนกฺขมฺมปารมึ วณฺณยนฺตา นิสีทึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว, อิทานิ มม ปูริตปารมิสฺส รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา มหาภินิกฺขมนํ ¶ นาม อนจฺฉริยํ. อหฺหิ ปุพฺเพ อปริปกฺเก าเณ ปารมิโย ปูเรนฺโตปิ รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต กาสิรฏฺเ พาราณสิยํ กาสิราชา นาม ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส โสฬสสหสฺสา อิตฺถิโย อเหสุํ. ตาสุ เอกาปิ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา น ลภิ. นาครา ‘‘อมฺหากํ รฺโ วํสานุรกฺขโก เอโกปิ ปุตฺโต นตฺถี’’ติ ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาคตนเยเนว ราชานํ เอวมาหํสุ ‘‘เทว, ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ. ราชา ¶ เตสํ วจนํ สุตฺวา โสฬสสหสฺสา อิตฺถิโย ‘‘ตุมฺเห ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ อาณาเปสิ. ตา จนฺทาทีนํ เทวตานํ อายาจนอุปฏฺานาทีนิ กตฺวา ปตฺเถนฺติโยปิ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา น ลภึสุ. อคฺคมเหสี ปนสฺส มทฺทราชธีตา จนฺทาเทวี นาม สีลสมฺปนฺนา อโหสิ. ราชา ‘‘ภทฺเท, ตฺวมฺปิ ปุตฺตํ ปตฺเถหี’’ติ อาห. สา ปุณฺณมทิวเส อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา จูฬสยเน นิปนฺนาว อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชตฺวา ‘‘สจาหํ อขณฺฑสีลา อิมินา เม สจฺเจน ¶ ปุตฺโต อุปฺปชฺชตู’’ติ สจฺจกิริยํ อกาสิ.
ตสฺสา สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘จนฺทาเทวี ปุตฺตํ ปตฺเถติ, หนฺทาหํ ปุตฺตํ ทสฺสามี’’ติ ตสฺสานุจฺฉวิกํ ปุตฺตํ อุปธาเรนฺโต โพธิสตฺตํ ปสฺสิ. โพธิสตฺโตปิ ตทาวีสติวสฺสานิ พาราณสิยํ รชฺชํ กาเรตฺวา ตโต จุโต อุสฺสทนิรเย นิพฺพตฺติตฺวา อสีติวสฺสสหสฺสานิ ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ตโต จวิตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ตตฺถาปิ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จวิตฺวา อุปริเทวโลกํ คนฺตุกาโม อโหสิ. สกฺโก ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มาริส, ตยิ มนุสฺสโลเก อุปฺปนฺเน ปารมิโย จ เต ปูริสฺสนฺติ, มหาชนสฺส วุฑฺฒิ จ ภวิสฺสติ, อยํ กาสิรฺโ จนฺทาเทวี นาม อคฺคมเหสี ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ตสฺสา กุจฺฉิยํ อุปฺปชฺชาหี’’ติ วตฺวา อฺเสฺจ จวนธมฺมานํ ปฺจสตานํ เทวปุตฺตานํ ปฏิฺํ คเหตฺวา สกฏฺานเมว อคมาสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปฺจหิ เทวปุตฺตสเตหิ สทฺธึ เทวโลกโต จวิตฺวา สยํ จนฺทาเทวิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. อิตเร ปน เทวปุตฺตา อมจฺจภริยานํ กุจฺฉีสุ ปฏิสนฺธึ คณฺหึสุ.
ตทา จนฺทาเทวิยา กุจฺฉิ วชิรปุณฺณา วิย อโหสิ. สา คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา ราชา คพฺภสฺส ปริหารํ ทาเปสิ. สา ปริปุณฺณคพฺภา ทสมาสจฺจเยน ธฺปฺุลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ. ตํ ทิวสเมว อมจฺจเคเหสุ ปฺจ กุมารสตานิ ชายึสุ. ตสฺมึ ขเณ ราชา อมจฺจคณปริวุโต มหาตเล นิสินฺโน อโหสิ. อถสฺส ¶ ‘‘ปุตฺโต, เต เทว, ชาโต’’ติ อาโรจยึสุ. เตสํ วจนํ สุตฺวา รฺโ ปุตฺตเปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ฉวิยาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ ¶ อาหจฺจ อฏฺาสิ, อพฺภนฺตเร ปีติ อุปฺปชฺชิ, หทยํ สีตลํ ชาตํ. โส อมจฺเจ ปุจฺฉิ ‘‘ตุฏฺา นุ โข ตุมฺเห, มม ปุตฺโต ชาโต’’ติ? ‘‘กึ กเถถ, เทว, มยํ ปุพฺเพ อนาถา, อิทานิ ปน สนาถา ชาตา, สามิโก โน ลทฺโธ’’ติ อาหํสุ. ราชา มหาเสนคุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาณาเปสิ ‘‘มม ปุตฺตสฺส ปริวาโร ลทฺธุํ วฏฺฏติ, คจฺฉ ตฺวํ อมจฺจเคเหสุ อชฺช ชาตา ทารกา กิตฺตกา นามาติ โอโลเกหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อมจฺจเคหานิ คนฺตฺวา โอโลเกนฺโต ปฺจ กุมารสตานิ ทิสฺวา ปุนาคนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ.
ราชา ปฺจนฺนํ ทารกสตานํ กุมารปสาธนานิ เปเสตฺวา ปุน ปฺจ ธาติสตานิ จ ทาเปสิ. มหาสตฺตสฺส ปน อติทีฆาทิโทสวชฺชิตา ¶ อลมฺพตฺถนิโย มธุรถฺาโย จตุสฏฺิ ธาติโย อทาสิ. อติทีฆาย หิ อิตฺถิยา ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวโต ทารกสฺส คีวา ทีฆา โหติ, อติรสฺสาย ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวนฺโต ทารโก นิปฺปีฬิตขนฺธฏฺิโก โหติ, อติกิสาย ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวโต ทารกสฺส อูรู รุชฺชนฺติ, อติถูลาย ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวนฺโต ทารโก ปกฺขปาโท โหติ, อติกาฬิกาย ขีรํ อติสีตลํ โหติ, อติโอทาตาย ขีรํ อติอุณฺหํ โหติ, ลมฺพตฺถนิยา ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวนฺโต ทารโก นิปฺปีฬิตนาสิโก โหติ. กาสานฺจ ปน อิตฺถีนํ ขีรํ อติอมฺพิลํ โหติ, สาสานฺจ ปน อิตฺถีนํ ขีรํ อติกฏุกาทิเภทํ โหติ, ตสฺมา เต สพฺเพปิ โทเส วิวชฺเชตฺวา อลมฺพตฺถนิโย มธุรถฺาโย จตุสฏฺิ ธาติโย ทตฺวา มหนฺตํ สกฺการํ กตฺวา จนฺทาเทวิยาปิ วรํ อทาสิ. สาปิ คหิตกํ กตฺวา เปสิ.
ราชา กุมารสฺส นามคฺคหณทิวเส ลกฺขณปาเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ มหนฺตํ สกฺการํ กตฺวา กุมารสฺส อนฺตรายาภาวํ ปุจฺฉิ. เต ตสฺส ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘มหาราช, ธฺปฺุลกฺขณสมฺปนฺโน อยํ กุมาโร, ติฏฺตุ เอกทีโป, ทฺวิสหสฺสปริวารานํ จตุนฺนมฺปิ มหาทีปานํ รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺโถ โหติ, นาสฺส โกจิ อนฺตราโย ¶ ปฺายตี’’ติ วทึสุ. ราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา กุมารสฺส นามํ กโรนฺโต ยสฺมา กุมารสฺส ชาตทิวเส สกลกาสิรฏฺเ เทโว วสฺสิ, ยสฺมา จ รฺโ เจว อมจฺจานฺจ หทยํ สีตลํ ชาตํ, ยสฺมา จ เตมยมาโน ชาโต, ตสฺมา ‘‘เตมิยกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกาสิ. อถ นํ ธาติโย เอกมาสิกํ อลงฺกริตฺวา รฺโ สนฺติกํ อานยึสุ. ราชา ปิยปุตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา องฺเก นิสีทาเปตฺวา รมยมาโน นิสีทิ.
ตสฺมึ ¶ ขเณ จตฺตาโร โจรา อานีตา. ราชา เต ทิสฺวา ‘‘เตสุ เอกสฺส โจรสฺส สกณฺฏกาหิ กสาหิ ปหารสหสฺสํ กโรถ, เอกสฺส สงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา พนฺธนาคารปเวสนํ กโรถ, เอกสฺส สรีเร สตฺติปหารํ กโรถ, เอกสฺส สูลาโรปนํ กโรถา’’ติ อาณาเปสิ. อถ มหาสตฺโต ปิตุ วจนํ สุตฺวา ภีตตสิโต หุตฺวา ‘‘อโห มม ปิตา รชฺชํ นิสฺสาย อติภาริยํ นิรยคามิกมฺมํ อกาสี’’ติ จินฺเตสิ. ปุนทิวเส ปน ตํ เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา อลงฺกตสิริสยเน นิปชฺชาเปสุํ. โส โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เสตจฺฉตฺตํ โอโลเกนฺโต มหนฺตํ สิริวิภวํ ปสฺสิ. อถสฺส ปกติยาปิ ภีตตสิตสฺส อติเรกตรํ ภยํ อุปฺปชฺชิ. โส ‘‘กุโต นุ ¶ โข อหํ อิมํ โจรเคหํ อาคโตมฺหี’’ติ อุปธาเรนฺโต ชาติสฺสราเณน เทวโลกโต อาคตภาวํ ตฺวา ตโต ปรํ โอโลเกนฺโต อุสฺสทนิรเย ปกฺกภาวํ ปสฺสิ, ตโต ปรํ โอโลเกนฺโต ตสฺมึเยว นคเร ราชภาวํ อฺาสิ.
อถสฺส ‘‘อหํ วีสติวสฺสานิ พาราณสิยํ รชฺชํ กาเรตฺวา อสีติวสฺสสหสฺสานิ อุสฺสทนิรเย ปจฺจึ, อิทานิ ปุนปิ อิมสฺมึเยว โจรเคเห นิพฺพตฺโตมฺหิ, ปิตา เม หิยฺโย จตูสุ โจเรสุ อานีเตสุ ตถารูปํ ผรุสํ นิรยสํวตฺตนิกํ กถํ กเถสิ, สจาหํ รชฺชํ กาเรสฺสามิ, ปุนปิ นิรเย นิพฺพตฺติตฺวา มหาทุกฺขํ อนุภวิสฺสามี’’ติ อาวชฺเชนฺตสฺส มหนฺตํ ภยํ อุปฺปชฺชิ. โพธิสตฺตสฺส กฺจนวณฺณํ สรีรํ หตฺเถน ปริมทฺทิตํ ปทุมํ วิย มิลาตํ ทุพฺพณฺณํ อโหสิ. โส ‘‘กถํ นุ โข อิมมฺหา โจรเคหา มุจฺเจยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต นิปชฺชิ. อถ นํ เอกสฺมึ อตฺตภาเว มาตุภูตปุพฺพา ฉตฺเต ¶ อธิวตฺถา เทวธีตา อสฺสาเสตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, มา ภายิ, มา โสจิ, มา จินฺตยิ. สเจ อิโต มุจฺจิตุกาโมสิ, ตฺวํ อปีสปฺปีปิ ปีสปฺปี วิย โหหิ, อพธิโรปิ พธิโร วิย โหหิ, อมูโคปิ มูโค วิย โหหิ, อิมานิ ตีณิ องฺคานิ อธิฏฺาย อตฺตโน ปณฺฑิตภาวํ มา ปกาเสหี’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘มา ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวย, พาลมโต ภว สพฺพปาณินํ;
สพฺโพ ตํ ชโน โอจินายตุ, เอวํ ตว อตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ ปณฺฑิจฺจยนฺติ ปณฺฑิจฺจํ, อยเมว วา ปาโ. พาลมโตติ พาโล อิติ สมฺมโต. สพฺโพ ชโนติ สกโล อนฺโตชโน เจว พหิชโน จ. โอจินายตูติ ‘‘นีหรเถตํ กาฬกณฺณิ’’นฺติ อวมฺตุ, อวชานาตูติ อตฺโถ.
โส ตสฺสา วจเนน อสฺสาสํ ปฏิลภิตฺวา –
‘‘กโรมิ ¶ เต ตํ วจนํ, ยํ มํ ภณสิ เทวเต;
อตฺถกามาสิ เม อมฺม, หิตกามาสิ เทวเต’’ติ. –
อิมํ คาถํ วตฺวา ตานิ ตีณิ องฺคานิ อธิฏฺาสิ. สา จ เทวธีตา อนฺตรธายิ. ราชา ปุตฺตสฺส อนุกฺกณฺนตฺถาย ตานิ ปฺจ กุมารสตานิ ตสฺส สนฺติเกเยว เปสิ. เต ทารกา ถฺตฺถาย โรทนฺติ ปริเทวนฺติ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยตชฺชิโต ‘‘รชฺชโต เม สุสฺสิตฺวา มตเมว เสยฺโย’’ติ น โรทติ น ปริเทวติ. อถสฺส ธาติโย ตํ ปวตฺตึ ตฺวา จนฺทาเทวิยา ¶ อาโรจยึสุ. สาปิ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. อถ พฺราหฺมณา อาหํสุ ‘‘เทว, กุมารสฺส ปกติเวลํ อติกฺกมิตฺวา ถฺํ ทาตุํ วฏฺฏติ, เอวํ โส โรทมาโน ถนํ ทฬฺหํ คเหตฺวา สยเมว ปิวิสฺสตี’’ติ. ตโต ปฏฺาย ธาติโย กุมารสฺส ปกติเวลํ อติกฺกมิตฺวา ถฺํ เทนฺติ. ททมานา จ กทาจิ เอกวารํ อติกฺกมิตฺวา เทนฺติ, กทาจิ สกลทิวสํ ขีรํ น เทนฺติ.
วีมํสนกณฺฑํ
โส ¶ นิรยภยตชฺชิโต สุสฺสนฺโตปิ ถฺตฺถาย น โรทติ, น ปริเทวติ. อถ นํ อโรทนฺตมฺปิ ทิสฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ฉาโต’’ติ มาตา วา ถฺํ ปาเยติ, กทาจิ ธาติโย วา ปาเยนฺติ. เสสทารกา ถฺํ อลทฺธเวลายเมว โรทนฺติ ปริเทวนฺติ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยตชฺชิโต น โรทติ, น ปริเทวติ, น นิทฺทายติ, น หตฺถปาเท สมิฺชติ, น สทฺทํ กโรติ. อถสฺส ธาติโย ‘‘ปีสปฺปีนํ หตฺถปาทา นาม น เอวรูปา โหนฺติ, มูคานํ หนุกปริโยสานํ นาม น เอวรูปํ โหติ, พธิรานํ กณฺณโสตานิ นาม น เอวรูปานิ โหนฺติ, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณน, วีมํสิสฺสาม น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ขีเรน ตาว นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ สกลทิวสํ ขีรํ น เทนฺติ. โส สุสฺสนฺโตปิ ขีรตฺถาย สทฺทํ น กโรติ. อถสฺส มาตา ‘‘ปุตฺโต เม ฉาโต’’ติ สยเมว ถฺํ ปาเยติ. เอวํ อนฺตรนฺตรา ขีรํ อทตฺวา เอกสํวจฺฉรํ วีมํสนฺตาปิสฺส อนฺตรํ น ปสฺสึสุ.
ตโต อมจฺจาทโย รฺโ อาโรเจสุํ ‘‘เอกวสฺสิกทารกา นาม ปูวขชฺชกํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ปฺจ กุมารสตานิ ตสฺส สนฺติเกเยว นิสีทาเปตฺวา นานาปูวขชฺชกานิ อุปนาเมตฺวา โพธิสตฺตสฺส อวิทูเร เปตฺวา ‘‘ยถารุจิ ตานิ ปูวขชฺชกานิ ¶ คณฺหถา’’ติ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ติฏฺนฺติ. เสสทารกา กลหํ กโรนฺตา อฺมฺํ ปหรนฺตา ตํ ตํ คเหตฺวา ขาทนฺติ. มหาสตฺโต ปน อตฺตานํ โอวทิตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, นิรยภยํ อิจฺฉนฺโต ปูวขชฺชกํ อิจฺฉาหี’’ติ นิรยภยตชฺชิโต ปูวขชฺชกํ น โอโลเกสิ. เอวํ ปูวขชฺชเกนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ‘‘ทฺวิวสฺสิกทารกา นาม ผลาผลํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ นานาผลานิ อุปนาเมตฺวา โพธิสตฺตสฺส อวิทูเร เปตฺวา วีมํสึสุ. เสสทารกา ¶ กลหํ กตฺวา ยุชฺฌนฺตา ตํ ตํ คเหตฺวา ขาทนฺติ. โส นิรยภยตชฺชิโต ตมฺปิ น โอโลเกสิ. เอวํ ผลาผเลนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ‘‘ติวสฺสิกทารกา นาม กีฬนภณฺฑกํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ นานาสุวณฺณมยานิ หตฺถิอสฺสรูปกาทีนิ การาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส อวิทูเร เปสุํ. เสสทารกา อฺมฺํ วิลุมฺปนฺตา คณฺหึสุ. มหาสตฺโต ปน น กิฺจิ โอโลเกสิ. เอวํ กีฬนภณฺฑเกนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ¶ ‘‘จตุวสฺสิกทารกา นาม โภชนํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ นานาโภชนานิ อุปนาเมสุํ. เสสทารกา ตํ ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ กตฺวา ภฺุชนฺติ. มหาสตฺโต ปน อตฺตานํ โอวทิตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, อลทฺธโภชนานํ เต อตฺตภาวานํ คณนา นาม นตฺถี’’ติ นิรยภยตชฺชิโต ตมฺปิ น โอโลเกสิ. อถสฺส มาตา สยเมว หทเยน ภิชฺชมาเนน วิย อสหนฺเตน สหตฺเถน โภชนํ โภเชสิ. เอวํ โภชเนนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ‘‘ปฺจวสฺสิกทารกา นาม อคฺคิโน ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ราชงฺคเณ อเนกทฺวารยุตฺตํ มหนฺตํ เคหํ กาเรตฺวา ตาลปณฺเณหิ ฉาเทตฺวา ตํ เสสทารเกหิ ปริวุตํ ตสฺส มชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา อคฺคึ เทนฺติ. เสสทารกา อคฺคึ ทิสฺวา วิรวนฺตา ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน จินฺเตสิ ‘‘นิรยอคฺคิสนฺตาปนโต อิทเมว อคฺคิสนฺตาปนํ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน วรตร’’นฺติ นิโรธสมาปนฺโน มหาเถโร วิย นิจฺจโลว อโหสิ. อถ นํ อคฺคิมฺหิ อาคจฺฉนฺเต คเหตฺวา อปเนนฺติ. เอวํ อคฺคินาปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ¶ ‘‘ฉวสฺสิกทารกา นาม มตฺตหตฺถิโน ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ เอกํ หตฺถึ สุสิกฺขิตํ สิกฺขาเปตฺวา โพธิสตฺตํ เสสทารเกหิ ปริวุตํ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา ตํ หตฺถึ มฺุจนฺติ. โส โกฺจนาทํ นทนฺโต โสณฺฑาย ภูมิยํ โปเถนฺโต ภยํ ทสฺเสนฺโต อาคจฺฉติ. เสสทารกา ตํ ทิสฺวา มรณภยภีตา ทิสาวิทิสาสุ ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน มตฺตหตฺถึ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘จณฺฑนิรเย ปจฺจนโต จณฺฑหตฺถิโน หตฺเถ มรณเมว เสยฺโย’’ติ นิรยภยตชฺชิโต ตตฺเถว นิสีทิ. สุสิกฺขิโต หตฺถี มหาสตฺตํ ปุปฺผกลาปํ วิย อุกฺขิปิตฺวา อปราปรํ กตฺวา อกิลเมตฺวาว คจฺฉติ. เอวํ หตฺถินาปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ‘‘สตฺตวสฺสิกทารกา นาม สปฺปสฺส ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ โพธิสตฺตํ เสสทารเกหิ สทฺธึ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา อุทฺธฏทาเ กตมุขพนฺเธ สปฺเป วิสฺสชฺเชสุํ. เสสทารกา เต ทิสฺวา วิรวนฺตา ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยํ อาวชฺเชตฺวา ‘‘จณฺฑสปฺปสฺส ¶ มุเข วินาสเมว วรตร’’นฺติ นิโรธสมาปนฺโน มหาเถโร วิย นิจฺจโลว อโหสิ. อถสฺส สปฺโป สกลสรีรํ เวเตฺวา มตฺถเก ผณํ กตฺวา อจฺฉิ. ตทาปิ โส นิจฺจโลว อโหสิ. เอวํ สปฺเปนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ ¶ .
ตโต ‘‘อฏฺวสฺสิกทารกา นาม นฏสมชฺชํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ตํ ปฺจทารกสเตหิ สทฺธึ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา นฏสมชฺชํ การาเปสุํ. เสสทารกา ตํ นฏสมชฺชํ ทิสฺวา ‘‘สาธุ สาธู’’ติ วทนฺตา มหาหสิตํ หสนฺติ. มหาสตฺโต ปน ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตกาเล ตว ขณมตฺตมฺปิ หาโส วา โสมนสฺสํ วา นตฺถี’’ติ นิรยภยํ อาวชฺเชตฺวา นิจฺจโลว อโหสิ, ตํ น โอโลเกสิ. เอวํ นฏสมชฺเชนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ‘‘นววสฺสิกทารกา นาม อสิโน ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ตํ ปฺจทารกสเตหิ สทฺธึ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา ทารกานํ กีฬนกาเล เอโก ปุริโส ผลิกวณฺณํ อสึ คเหตฺวา ปริพฺภมนฺโต นทนฺโต วคฺคนฺโต ตาเสนฺโต ลงฺฆนฺโต อปฺโผเฏนฺโต มหาสทฺทํ กโรนฺโต ‘‘กาสิรฺโ กิร กาฬกณฺณี เอโก ปุตฺโต อตฺถิ, โส กุหึ, สีสมสฺส ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อภิธาวติ. ตํ ปุริสํ ทิสฺวา เสสทารกา ภีตตสิตา หุตฺวา วิรวนฺตา ทิสาวิทิสาสุ ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยํ อาวชฺเชตฺวา อชานนฺโต วิย นิสีทิ. อถ ¶ นํ โส ปุริโส อสินา สีเส ปรามสิตฺวา ‘‘สีสํ เต ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ตาเสนฺโตปิ ตาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อปคมิ. เอวํ ขคฺเคนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ทสวสฺสิกกาเล ปนสฺส พธิรภาววีมํสนตฺถํ สิริสยเน นิสีทาเปตฺวา สาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา จตูสุ ปสฺเสสุ ฉิทฺทานิ กตฺวา ตสฺส อทสฺเสตฺวา เหฏฺาสยเน สงฺขธมเก นิสีทาเปตฺวา เอกปฺปหาเรเนว สงฺเข ธมาเปนฺติ, เอกนินฺนาทํ อโหสิ. อมจฺจา จตูสุ ปสฺเสสุ ตฺวา สาณิยา ฉิทฺเทหิ โอโลเกนฺตาปิ มหาสตฺตสฺส เอกทิวสมฺปิ สติสมฺโมสํ วา หตฺถปาทวิการํ วา ผนฺทนมตฺตํ วา น ปสฺสึสุ. เอวํ เอกสํวจฺฉรํ สงฺขสทฺเทนปิ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ¶ ปรมฺปิ เอกาทสวสฺสิกกาเล เอกสํวจฺฉรํ ตเถว เภริสทฺเทน วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ทฺวาทสวสฺสิกกาเล ‘‘ทีเปน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ‘‘รตฺติภาเค อนฺธกาเร หตฺถํ วา ปาทํ วา ผนฺทาเปติ นุ โข, โน’’ติ ฆเฏสุ ทีเป ชาเลตฺวา เสสทีเป นิพฺพาเปตฺวา โถกํ อนฺธกาเร สยาเปตฺวา ฆเฏหิ ทีเป อุกฺขิปิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว อาโลกํ กตฺวา อิริยาปถํ อุปธาเรนฺติ. เอวํ ทีเปนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส กิฺจิ ผนฺทนมตฺตมฺปิ น ปสฺสึสุ.
ตโต เตรสวสฺสิกกาเล ‘‘ผาณิเตน ¶ นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ สกลสรีรํ ผาณิเตน มกฺเขตฺวา พหุมกฺขิเก าเน นิปชฺชาเปสุํ. มกฺขิกา อุฏฺหนฺติ, ตา ตสฺส สกลสรีรํ ปริวาเรตฺวา สูจีหิ วิชฺฌมานา วิย ขาทนฺติ. โส นิโรธสมาปนฺโน มหาเถโร วิย นิจฺจโลว อโหสิ. เอวํ ผาณิเตนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส กิฺจิ ผนฺทนมตฺตมฺปิ น ปสฺสึสุ.
อถสฺส จุทฺทสวสฺสิกกาเล ‘‘อิทานิ ปเนส มหลฺลโก ชาโต สุจิกาโม อสุจิชิคุจฺฉโก, อสุจินา นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ตโต ปฏฺาย นํ เนว นฺหาเปนฺติ น จ อาจมาเปนฺติ. โส อุจฺจารปสฺสาวํ กตฺวา ตตฺเถว ปลิปนฺโน สยติ. ทุคฺคนฺธภาเวน ปนสฺส อนฺตรุธีนํ นิกฺขมนกาโล วิย อโหสิ, อสุจิคนฺเธน มกฺขิกา ขาทนฺติ. โส นิจฺจโลว อโหสิ ¶ . อถ นํ ปริวาเรตฺวา ิตา ธาติโย อาหํสุ ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, ตฺวํ มหลฺลโก ชาโต, โก ตํ สพฺพทา ปฏิชคฺคิสฺสติ, กึ น ลชฺชสิ, กสฺมา นิปนฺโนสิ, อุฏฺาย เต สรีรํ ปฏิชคฺคาหี’’ติ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ. โส ตถารูเป ปฏิกูเล คูถราสิมฺหิ นิมุคฺโคปิ ทุคฺคนฺธภาเวน โยชนสตมตฺถเก ิตานมฺปิ หทยุปฺปตนสมตฺถสฺส คูถนิรยสฺส ทุคฺคนฺธภาวํ อาวชฺเชตฺวา นิจฺจโลว อโหสิ. เอวํ อสุจินาปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
ตโต ปนฺนรสวสฺสิกกาเล ‘‘องฺคาเรน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ อถสฺส เหฏฺามฺจเก อคฺคิกปลฺลานิ ปยึสุ ‘‘อปฺเปว นาม อุณฺเหน ปีฬิโต ¶ ทุกฺขเวทนํ อสหนฺโต วิปฺผนฺทนาการํ ทสฺเสยฺยา’’ติ. อถสฺส สรีเร โผฏานิ อุฏฺหนฺติ. มหาสตฺโต ‘‘อวีจินิรยสนฺตาโป โยชนสตมตฺถเก ผรติ, ตมฺหา ทุกฺขโต อิทํ ทุกฺขํ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน วรตร’’นฺติ อธิวาเสตฺวา นิจฺจโลว อโหสิ. อถสฺส มาตาปิตโร ภิชฺชมานหทยา วิย มนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตฺวา ตํ ตโต อคฺคิสนฺตาปนโต อปเนตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, มยํ ตว อปีสปฺปิอาทิภาวํ ชานาม. น หิ เอเตสํ เอวรูปานิ หตฺถปาทกณฺณโสตานิ โหนฺติ, ตฺวํ อมฺเหหิ ปตฺเถตฺวา ลทฺธปุตฺตโก, มา โน นาเสหิ, สกลชมฺพุทีเป วสนฺตานํ ราชูนํ สนฺติเก ครหโต โน โมเจหี’’ติ ยาจึสุ. เอวํ โส เตหิ ยาจิโตปิ อสุณนฺโต วิย หุตฺวา นิจฺจโลว นิปชฺชิ. อถสฺส มาตาปิตโร โรทมานา ปริเทวมานา ปฏิกฺกมนฺติ ¶ . เอกทา มาตา เอกิกา อุปสงฺกมิตฺวา ยาจติ, เอกทา ปิตา เอกโกว อุปสงฺกมิตฺวา ยาจติ. เอวํ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
อถสฺส โสฬสวสฺสิกกาเล อมจฺจพฺราหฺมณาทโย จินฺตยึสุ ‘‘ปีสปฺปี วา โหตุ, มูโค วา พธิโร วา โหตุ, วเย ปริณเต รชนีเย อรชฺชนฺตา นาม นตฺถิ, ทุสฺสนีเย อทุสฺสนฺตา นาม นตฺถิ, สมเย สมฺปตฺเต ปุปฺผวิกสนํ วิย หิ ธมฺมตา เอสา, นาฏกานมฺปิสฺส ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ตาหิ นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ. ตโต อุตฺตมรูปธรา เทวกฺาโย วิย วิลาสสมฺปนฺนา นาฏกิตฺถิโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ยา กุมารํ หสาเปตุํ วา กิเลเสหิ พนฺธิตุํ วา สกฺโกติ, สา ตสฺส อคฺคมเหสี ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา กุมารํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา เทวปุตฺตํ วิย อลงฺกริตฺวา เทววิมานสทิเส สิริคพฺเภ สุปฺตฺเต สิริสยเน อาโรเปตฺวา คนฺธทามปุปฺผทามธูมวาสจุณฺณาทีหิ อนฺโตคพฺภํ เอกคนฺธสโมทกํ กตฺวา ปฏิกฺกมึสุ. อถ นํ ตา อิตฺถิโย ปริวาเรตฺวา นจฺจคีเตหิ เจว มธุรวจนาทีหิ จ นานปฺปกาเรหิ อภิรมาเปตุํ วายมึสุ. โส พุทฺธิสมฺปนฺนตาย ตา อิตฺถิโย อโนโลเกตฺวา ‘‘อิมา อิตฺถิโย มม สรีรสมฺผสฺสํ มา ¶ วินฺทนฺตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา อสฺสาสปสฺสาเส สนฺนิรุมฺภิ, อถสฺส สรีรํ ถทฺธํ อโหสิ. ตา ตสฺส สรีรสมฺผสฺสํ อวินฺทนฺติโย หุตฺวา ‘‘ถทฺธสรีโร เอส, นายํ มนุสฺโส, ยกฺโข ¶ ภวิสฺสตี’’ติ ภีตตสิตา หุตฺวา อตฺตานํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺติโย ปลายึสุ. เอวํ นาฏเกนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.
เอวํ โสฬส สํวจฺฉรานิ โสฬสหิ มหาวีมํสาหิ เจว อเนกาหิ ขุทฺทกวีมํสาหิ จ วีมํสมานาปิ ตสฺส จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตุํ นาสกฺขึสุ.
วีมํสนกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
รชฺชยาจนกณฺฑํ
ตโต ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ลกฺขณปาเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตุมฺเห กุมารสฺส ชาตกาเล ‘ธฺปฺุลกฺขณสมฺปนฺโน อยํ กุมาโร, นาสฺส โกจิ อนฺตราโย ปฺายตี’ติ เม กถยิตฺถ, อิทานิ ปน โส ปีสปฺปี มูคพธิโร ชาโต, กถา โว น สเมตี’’ติ อาห. พฺราหฺมณา วทึสุ ‘‘มหาราช, อาจริเยหิ อทิฏฺกํ นาม นตฺถิ, อปิจ โข ปน, เทว, ‘ราชกุเลหิ ปตฺเถตฺวา ลทฺธปุตฺตโก กาฬกณฺณี’ติ ¶ วุตฺเต ‘ตุมฺหากํ โทมนสฺสํ สิยา’ติ น กถยิมฺหา’’ติ. อถ เน ราชา เอวมาห ‘‘อิทานิ ปน กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘มหาราช, อิมสฺมึ กุมาเร อิมสฺมึ เคเห วสนฺเต ตโย อนฺตรายา ปฺายิสฺสนฺติ – ชีวิตสฺส วา อนฺตราโย, เสตจฺฉตฺตสฺส วา อนฺตราโย, อคฺคมเหสิยา วา อนฺตราโย’’ติ. ‘‘ตสฺมา, เทว, ปปฺจํ อกตฺวา อวมงฺคลรเถ อวมงฺคลอสฺเส โยเชตฺวา ตตฺถ นํ นิปชฺชาเปตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน นีหริตฺวา อามกสุสาเน จตุพฺภิตฺติกํ อาวาฏํ ขณิตฺวา นิขณิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา อนฺตรายภเยน ภีโต เตสํ วจนํ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
ตทา จนฺทาเทวี ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตุริตตุริตาว เอกิกา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ มยฺหํ วโร ทินฺโน, มยา จ คหิตโก กตฺวา ปิโต, อิทานิ ตํ เม เทถา’’ติ ยาจิ. ‘‘คณฺหาหิ, เทวี’’ติ. ‘‘เทว, ปุตฺตสฺส เม รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘กึการณา, เทวา’’ติ. ‘‘ปุตฺโต, เต เทวิ, กาฬกณฺณี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ยาวชีวํ อททนฺตาปิ สตฺต วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ฉ ¶ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ปฺจ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, จตฺตาริ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ตีณิ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ทฺเว วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน ¶ หิ, เทว, เอกวสฺสํ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, สตฺต มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ฉ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ปฺจ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, จตฺตาริ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ตีณิ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ทฺเว มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, เอกมาสํ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, อฑฺฒมาสํ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, สตฺต ทิวสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ราชา ‘‘สาธุ, เทวิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. สา ตสฺมึ ขเณ ปุตฺตํ อลงฺการาเปตฺวา ‘‘เตมิยกุมารสฺส อิทํ รชฺช’’นฺติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา สกลนครํ อลงฺการาเปตฺวา ปุตฺตํ หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเปตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ตสฺส มตฺถเก การาเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา อนฺโตนครํ ปเวเสตฺวา ตํ สิริสยเน นิปชฺชาเปตฺวา ปิยปุตฺตํ สพฺพรตฺตึ ยาจิ ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, ตํ นิสฺสาย โสฬส วสฺสานิ นิทฺทํ อลภิตฺวา โรทมานาย เม อกฺขีนิ อุปกฺกานิ, โสเกน เม หทยํ ภิชฺชมานํ วิย อโหสิ, อหํ ตว อปีสปฺปิอาทิภาวํ ชานามิ, มา มํ อนาถํ กรี’’ติ. สา อิมินา อุปาเยเนว ปุนทิวเสปิ ปุนทิวเสปีติ ปฺจ ทิวสานิ ยาจิ.
รชฺชยาจนกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
อถ ฉฏฺเ ทิวเส ราชา สุนนฺทํ นาม สารถึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, สุนนฺทสารถิ สฺเว ปาโตว อวมงฺคลรเถ อวมงฺคลอสฺเส โยเชตฺวา กุมารํ ตตฺถ นิปชฺชาเปตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน นีหริตฺวา อามกสุสาเน จตุพฺภิตฺติกํ อาวาฏํ ขณิตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา กุทฺทาลปิฏฺเน มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อุปริ ปํสุํ ทตฺวา ปถวิวฑฺฒนกมฺมํ ¶ กตฺวา นฺหตฺวา เอหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ ฉฏฺมฺปิ รตฺตึ เทวี กุมารํ ยาจิตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, ตว ปิตา กาสิราชา ตํ สฺเว ปาโตว อามกสุสาเน นิขณิตุํ อาณาเปสิ, สฺเว ปาโตว มรณํ ปาปุณิสฺสสิ ปุตฺตา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา มหาสตฺตสฺส ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, โสฬส วสฺสานิ ตยา กโต วายาโม ¶ อิทานิ มตฺถกํ ปกฺโก’’ติ ¶ จินฺเตนฺตสฺส อพฺภนฺตเร ปีติ อุปฺปชฺชิ. มาตุยา ปนสฺส หทยํ ภิชฺชมานํ วิย อโหสิ, เอวํ สนฺเตปิ ‘‘มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ มาตุยา สทฺธึ นาลปิ.
อถสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปาโตว สุนนฺโท สารถิ รถํ โยเชนฺโต เทวตานุภาเวน มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน จ มงฺคลรเถ มงฺคลอสฺเส โยเชตฺวา รถํ ราชทฺวาเร เปตฺวา มหาตลํ อภิรุหิตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา เทวึ วนฺทิตฺวา เอวมาห – ‘‘เทวิ, มยฺหํ มา กุชฺฌ, รฺโ อาณา’’ติ วตฺวา ปุตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา นิปนฺนํ เทวึ ปิฏฺิหตฺเถน อปเนตฺวา ปุปฺผกลาปํ วิย กุมารํ อุกฺขิปิตฺวา ปาสาทา โอตริ. ตทา จนฺทาเทวี อุรํ ปหริตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวิตฺวา มหาตเล โอหียิ. อถ นํ มหาสตฺโต โอโลเกตฺวา ‘‘มยิ อกเถนฺเต มาตา หทเยน ผลิเตน มริสฺสตี’’ติ กเถตุกาโม หุตฺวาปิ ‘‘สเจ อหํ กเถสฺสามิ, โสฬส วสฺสานิ กโต วายาโม เม โมโฆ ภวิสฺสติ, อกเถนฺโต ปนาหํ อตฺตโน จ มาตาปิตูนฺจ มหาชนสฺส จ ปจฺจโย ภวิสฺสามี’’ติ อธิวาเสสิ.
อถ นํ สารถิ รถํ อาโรเปตฺวา ‘‘ปจฺฉิมทฺวาราภิมุขํ รถํ เปเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา รถํ เปเสสิ. ตทา มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน เทวตาวิคฺคหิโต หุตฺวา รถํ นิวตฺตาเปตฺวา ปาจีนทฺวาราภิมุขํ รถํ เปเสสิ, อถ รถจกฺกํ อุมฺมาเร ปติหฺิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘มโนรโถ เม มตฺถกํ ปตฺโต’’ติ สุฏฺุตรํ ตุฏฺจิตฺโต อโหสิ. รโถ นครา นิกฺขมิตฺวา เทวตานุภาเวน ติโยชนิกํ านํ คโต. ตตฺถ วนฆฏํ สารถิสฺส อามกสุสานํ วิย อุปฏฺาสิ. โส ‘‘อิทํ านํ ผาสุก’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา รถํ มคฺคา โอกฺกมาเปตฺวา มคฺคปสฺเส เปตฺวา รถา โอรุยฺห มหาสตฺตสฺส อาภรณภณฺฑํ โอมฺุจิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา เอกมนฺตํ เปตฺวา กุทฺทาลํ อาทาย รถสฺส อวิทูเร าเน จตุพฺภิตฺติกํ อาวาฏํ ขณิตุํ อารภิ.
ตโต โพธิสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ เม วายามกาโล, อหฺหิ โสฬส วสฺสานิ หตฺถปาเท น จาเลสึ, กึ นุ โข เม พลํ อตฺถิ, อุทาหุ โน’’ติ. โส อุฏฺาย วามหตฺเถน ทกฺขิณหตฺถํ, ทกฺขิณหตฺเถน วามหตฺถํ ¶ ¶ ปรามสนฺโต อุโภหิ หตฺเถหิ ปาเท สมฺพาหิตฺวา รถา โอตริตุํ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. ตาวเทวสฺส ปาทปติตฏฺาเน วาตปุณฺณภสฺตจมฺมํ วิย มหาปถวี อพฺภุคฺคนฺตฺวา รถสฺส ปจฺฉิมนฺตํ อาหจฺจ อฏฺาสิ. มหาสตฺโต รถา โอตริตฺวา กติปเย วาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ‘‘อิมินาว นิยาเมน เอกทิวสํ โยชนสตมฺปิ เม คนฺตุํ พลํ อตฺถี’’ติ ตฺวา ‘‘สเจ, สารถิ, มยา สทฺธึ วิรุชฺเฌยฺย, อตฺถิ นุ โข เม เตน สห ปฏิวิรุชฺฌิตุํ พล’’นฺติ อุปธาเรนฺโต รถสฺส ปจฺฉิมนฺตํ ¶ คเหตฺวา กุมารกานํ กีฬนยานกํ วิย อุกฺขิปิตฺวา รถํ ปริพฺภเมนฺโต อฏฺาสิ. อถสฺส ‘‘อตฺถิ เม เตน สห ปฏิวิรุชฺฌิตุํ พล’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ปสาธนตฺถาย จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ.
ตํขณฺเว สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘เตมิยกุมารสฺส มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, อิทานิ ปสาธนตฺถาย จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, กึ เอตสฺส มานุสเกน ปสาธเนนา’’ติ ทิพฺพปสาธนํ คาหาเปตฺวา วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต วิสฺสกมฺม เทวปุตฺต, ตฺวํ คจฺฉ, กาสิราชสฺส ปุตฺตํ เตมิยกุมารํ อลงฺกโรหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตาวตึสภวนโต โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทสหิ ทุสฺสสหสฺเสหิ เวนํ กตฺวา ทิพฺเพหิ เจว มานุสเกหิ จ อลงฺกาเรหิ สกฺกํ วิย ตํ อลงฺกริตฺวา สกฏฺานเมว คโต. โส เทวราชลีลาย สารถิสฺส ขณโนกาสํ คนฺตฺวา อาวาฏตีเร ตฺวา ปุจฺฉนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘กึ นุ สนฺตรมาโนว, กาสุํ ขณสิ สารถิ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ กาสุยา กริสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ กาสุนฺติ อาวาฏํ.
ตํ สุตฺวา สารถิ อาวาฏํ ขณนฺโต อุทฺธํ อโนโลเกตฺวาว จตุตฺถํ คาถามาห –
‘‘รฺโ มูโค จ ปกฺโข จ, ปุตฺโต ชาโต อเจตโส;
โสมฺหิ รฺา สมชฺฌิฏฺโ, ปุตฺตํ เม นิขณํ วเน’’ติ.
ตตฺถ ปกฺโขติ ปีสปฺปี. ‘‘มูโค’’ติ วจเนเนว ปนสฺส พธิรภาโวปิ สิชฺฌติ พธิรสฺส หิ ปฏิวจนํ กเถตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. อเจตโสติ อจิตฺตโก วิย ชาโต. โสฬส วสฺสานิ อกถิตตฺตา เอวมาห ¶ . สมชฺฌิฏฺโติ อาณตฺโต, เปสิโตติ อตฺโถ. นิขณํ วเนติ วเน นิขเณยฺยาสิ.
อถ นํ มหาสตฺโต อาห –
‘‘น ¶ พธิโร น มูโคสฺมิ, น ปกฺโข น จ วีกโล;
อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน.
‘‘อูรู ¶ พาหฺุจ เม ปสฺส, ภาสิตฺจ สุโณหิ เม;
อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน’’ติ.
ตตฺถ น พธิโรติ สมฺม สารถิ, สเจ ตํ ราชา เอวรูปํ ปุตฺตํ มาราเปตุํ อาณาเปสิ, อหํ ปน เอวรูโป น ภวามีติ ทีเปตุํ เอวมาห. มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเนติ สเจ พธิรภาวาทิวิรหิตํ เอวรูปํ มํ วเน นิขเณยฺยาสิ, อธมฺมํ กมฺมํ กเรยฺยาสีติ อตฺโถ. ‘‘อูรู’’ติ อิทํ โส ปุริมคาถํ สุตฺวาปิ นํ อโนโลเกนฺตเมว ทิสฺวา ‘‘อลงฺกตสรีรมสฺส ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห. ตสฺสตฺโถ – สมฺม สารถิ, อิเม กฺจนกทลิกฺขนฺธสทิเส อูรู, กนกจฺฉวึ พาหฺุจ เม ปสฺส, มธุรวจนฺจ เม สุณาหีติ.
ตโต สารถิ เอวํ จินฺเตสิ ‘‘โก นุ โข เอส, อาคตกาลโต ปฏฺาย อตฺตานเมว วณฺเณตี’’ติ. โส อาวาฏขณนํ ปหาย อุทฺธํ โอโลเกนฺโต ตสฺส รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘อยํ ปุริโส โก นุ โข, มนุสฺโส วา เทโว วา’’ติ อชานนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
อถสฺส มหาสตฺโต อตฺตานํ อาจิกฺขิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –
‘‘นมฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นมฺหิ สกฺโก ปุรินฺทโท;
กาสิรฺโ อหํ ปุตฺโต, ยํ กาสุยา นิหฺสิ.
‘‘ตสฺส รฺโ อหํ ปุตฺโต, ยํ ตฺวํ สมฺมูปชีวสิ;
อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน.
‘‘ยสฺส ¶ รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.
‘‘ยถา ¶ รุกฺโข ตถา ราชา, ยถา สาขา ตถา อหํ;
ยถา ฉายูปโค โปโส, เอวํ ตฺวมสิ สารถิ;
อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน’’ติ.
ตตฺถ นิหฺสีติ นิหนิสฺสสิ. ยํ ตฺวํ เอตฺถ นิหนิสฺสามีติ สฺาย กาสุํ ขณสิ, โส อหนฺติ ทีเปติ. โส ‘‘ราชปุตฺโต อห’’นฺติ วุตฺเตปิ น สทฺทหติเยว, มธุรกถาย ปนสฺส พชฺฌิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต อฏฺาสิ. มิตฺตทุพฺโภติ ปริภุตฺตฉายสฺส รุกฺขสฺส ปตฺตํ วา สาขํ วา องฺกุรํ วา ภฺชนฺโต มิตฺตฆาตโก โหติ ลามกปุริโส, กิมงฺคํ ปน สามิปุตฺตฆาตโก. ฉายูปโคติ ปริโภคตฺถาย ฉายํ อุปคโต ปุริโส วิย ราชานํ นิสฺสาย ชีวมาโน ตฺวนฺติ วทติ.
โส เอวํ ¶ กเถนฺเตปิ โพธิสตฺเต น สทฺทหติเยว. อถ มหาสตฺโต ‘‘สทฺทหาเปสฺสามิ น’’นฺติ เทวตานํ สาธุกาเรน เจว อตฺตโน โฆเสน จ วนฆฏํ อุนฺนาเทนฺโต ทส มิตฺตปูชคาถา นาม อารภิ –
‘‘ปหูตภกฺโข ภวติ, วิปฺปวุฏฺโ สกํฆรา;
พหู นํ อุปชีวนฺติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘ยํ ยํ ชนปทํ ยาติ, นิคเม ราชธานิโย;
สพฺพตฺถ ปูชิโต โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘นาสฺส โจรา ปสาหนฺติ, นาติมฺนฺติ ขตฺติยา;
สพฺเพ อมิตฺเต ตรติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘อกฺกุทฺโธ สฆรํ เอติ, สภายํ ปฏินนฺทิโต;
าตีนํ อุตฺตโม โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘สกฺกตฺวา สกฺกโต โหติ, ครุ โหติ สคารโว;
วณฺณกิตฺติภโต โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘ปูชโก ¶ ¶ ลภเต ปูชํ, วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ;
ยโสกิตฺติฺจ ปปฺโปติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘อคฺคิ ยถา ปชฺชลติ, เทวตาว วิโรจติ;
สิริยา อชหิโต โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘คาโว ตสฺส ปชายนฺติ, เขตฺเต วุตฺตํ วิรูหติ;
วุตฺตานํ ผลมสฺนาติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘ทริโต ปพฺพตาโต วา, รุกฺขโต ปติโต นโร;
จุโต ปติฏฺํ ลภติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
‘‘วิรูฬฺหมูลสนฺตานํ, นิคฺโรธมิว มาลุโต;
อมิตฺตา นปฺปสาหนฺติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภตี’’ติ.
ตตฺถ สกํ ฆราติ สกฆรา, อยเมว วา ปาโ. น ทุพฺภตีติ น ทุสฺสติ. มิตฺตานนฺติ พุทฺธาทีนํ กลฺยาณมิตฺตานํ น ทุพฺภติ. ‘‘สพฺพตฺถ ปูชิโต โหตี’’ติ อิทํ สีวลิวตฺถุนา วณฺเณตพฺพํ. น ปสาหนฺตีติ ปสยฺหการํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. อิทํ สํกิจฺจสามเณรวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ. ‘‘นาติมฺนฺติ ขตฺติยา’’ติ อิทํ โชติกเสฏฺิวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ. ตรตีติ อติกฺกมติ. สฆรนฺติ อตฺตฆรํ. มิตฺตานํ ทุพฺภนฺโต อตฺตโน ฆรํ อาคจฺฉนฺโตปิ ฆฏฺฏิตจิตฺโต กุทฺโธว อาคจฺฉติ, อยํ ปน อกุทฺโธว สกฆรํ เอติ. ปฏินนฺทิโตติ ¶ พหูนํ สนฺนิปาตฏฺาเน อมิตฺตทุพฺภิโน คุณกถํ กเถนฺติ, ตาย โส ปฏินนฺทิโต โหติ ปมุทิตจิตฺโต.
สกฺกตฺวา สกฺกโต โหตีติ ปรํ สกฺกตฺวา สยมฺปิ ปเรหิ สกฺกโต โหติ. ครุ โหติ สคารโวติ ปเรสุ สคารโว สยมฺปิ ปเรหิ ครุโก โหติ. วณฺณกิตฺติภโตติ ภตวณฺณกิตฺติ, คุณฺเจว กิตฺติสทฺทฺจ อุกฺขิปิตฺวา จรนฺโต นาม โหตีติ อตฺโถ. ปูชโกติ มิตฺตานํ ปูชโก หุตฺวา สยมฺปิ ปูชํ ลภติ. วนฺทโกติ พุทฺธาทีนํ กลฺยาณมิตฺตานํ วนฺทโก หุตฺวา ปุนพฺภเว ปฏิวนฺทนํ ลภติ. ยโสกิตฺติฺจาติ อิสฺสริยปริวารฺเจว คุณกิตฺติฺจ ปปฺโปติ. อิมาย คาถาย จิตฺตคหปติโน วตฺถุ (ธ. ป. ๗๓-๗๔) กเถตพฺพํ.
ปชฺชลตีติ ¶ ¶ อิสฺสริยปริวาเรน ปชฺชลติ. สิริยา อชหิโต โหตีติ เอตฺถ อนาถปิณฺฑิกสฺส วตฺถุ (ธ. ป. ๑๑๙-๑๒๐) กเถตพฺพํ. อสฺนาตีติ ปริภฺุชติ. ‘‘ปติฏฺํ ลภตี’’ติ อิทํ จูฬปทุมชาตเกน (ชา. ๑.๒.๘๕-๘๖) ทีเปตพฺพํ. วิรูฬฺหมูลสนฺตานนฺติ วฑฺฒิตมูลปาโรหํ. อมิตฺตา นปฺปสาหนฺตีติ เอตฺถ กุรรฆริยโสณตฺเถรสฺส มาตุ เคหํ ปวิฏฺโจรวตฺถุ กเถตพฺพํ.
สุนนฺโท สารถิ เอตฺตกาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสนฺตมฺปิ ตํ อสฺชานิตฺวา ‘‘โก นุ โข อย’’นฺติ อาวาฏขณนํ ปหาย รถสมีปํ คนฺตฺวา ตตฺถ ตฺจ ปสาธนภณฺฑฺจ อุภยํ อทิสฺวา ปุน อาคนฺตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ สฺชานิตฺวา ตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘เอหิ ตํ ปฏิเนสฺสามิ, ราชปุตฺต สกํ ฆรํ;
รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสี’’ติ.
อถ นํ มหาสตฺโต อาห –
‘‘อลํ เม เตน รชฺเชน, าตเกหิ ธเนน วา;
ยํ เม อธมฺมจริยาย, รชฺชํ ลพฺเภถ สารถี’’ติ.
ตตฺถ อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ.
สารถิ อาห –
‘‘ปุณฺณปตฺตํ มํ ลาเภหิ, ราชปุตฺต อิโต คโต;
ปิตา มาตา จ เม ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต.
‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
เตปิ อตฺตมนา ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต.
‘‘หตฺถาโรหา ¶ อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;
เตปิ อตฺตมนา ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต.
‘‘พหุธฺา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;
อุปายนานิ เม ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปุณฺณปตฺตนฺติ ตุฏฺิทายํ. ทชฺชุนฺติ สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสนฺตา วิย มม อชฺฌาสยปูรณํ ตุฏฺิทายํ ทเทยฺยุํ. อิทํ โส ‘‘อปฺเปว ¶ นาม มยิ อนุกมฺปาย คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา อาห. เวสิยานา จาติ เวสฺสา จ. อุปายนานีติ ปณฺณาการานิ.
อถ นํ มหาสตฺโต อาห –
‘‘ปิตุ มาตุ จหํ จตฺโต, รฏฺสฺส นิคมสฺส จ;
อโถ สพฺพกุมารานํ, นตฺถิ มยฺหํ สกํ ฆรํ.
‘‘อนฺุาโต อหํ มตฺยา, สฺจตฺโต ปิตรา มหํ;
เอโกรฺเ ปพฺพชิโต, น กาเม อภิปตฺถเย’’ติ.
ตตฺถ ปิตุ มาตุ จาติ ปิตรา จ มาตรา จ อหํ จตฺโต. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. มตฺยาติ สมฺม สารถิ, อหํ สตฺตาหํ รชฺชํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วรํ คณฺหนฺติยา มาตรา อนฺุาโต นาม. สฺฉตฺโตติ สุฏฺุ จตฺโต. ปพฺพชิโตติ ปพฺพชิตฺวา อรฺเ วสนตฺถาย นิกฺขนฺโตติ อตฺโถ.
เอวํ มหาสตฺตสฺส อตฺตโน คุเณ กเถนฺตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชิ, ตโต ปีติเวเคน อุทานํ อุทาเนนฺโต อาห –
‘‘อปิ อตรมานานํ, ผลาสาว สมิชฺฌติ;
วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, เอวํ ชานาหิ สารถิ.
‘‘อปิ ¶ อตรมานานํ, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ;
วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, นิกฺขนฺโต อกุโตภโย’’ติ.
ตตฺถ ผลาสาวาติ อตรมานสฺส มม โสฬสวสฺเสหิ กตวายามสฺส สมิทฺธํ อชฺฌาสยผลํ ทสฺเสตุํ เอวมาห. วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมีติ นิฏฺปฺปตฺตมโนรโถ. สมฺมทตฺโถ วิปจฺจตีติ สมฺมา อุปาเยน การเณน กตฺตพฺพกิจฺจํ สมฺปชฺชติ.
สารถิ อาห –
‘‘เอวํ วคฺคุกโถ สนฺโต, วิสฏฺวจโน จสิ;
กสฺมา ปิตุ จ มาตุจฺจ, สนฺติเก น ภณี ตทา’’ติ.
ตตฺถ วคฺคุกโถติ สขิลกโถ.
ตโต ¶ มหาสตฺโต อาห –
‘‘นาหํ อสนฺธิตา ปกฺโข, น พธิโร อโสตตา;
นาหํ อชิวฺหตา มูโค, มา มํ มูคมธารยิ.
‘‘ปุริมํ สรามหํ ชาตึ, ยตฺถ รชฺชมการยึ;
การยิตฺวา ตหึ รชฺชํ, ปาปตฺถํ นิรยํ ภุสํ.
‘‘วีสติฺเจว วสฺสานิ, ตหึ รชฺชมการยึ;
อสีติวสฺสสหสฺสานิ, นิรยมฺหิ อปจฺจิสํ.
‘‘ตสฺส ¶ รชฺชสฺสหํ ภีโต, มา มํ รชฺชาภิเสจยุํ;
ตสฺมา ปิตุ จ มาตุจฺจ, สนฺติเก น ภณึ ตทา.
‘‘อุจฺฉงฺเค ¶ มํ นิสาเทตฺวา, ปิตา อตฺถานุสาสติ;
เอกํ หนถ พนฺธถ, เอกํ ขาราปตจฺฉิกํ;
เอกํ สูลสฺมึ อุปฺเปถ, อิจฺจสฺส มนุสาสติ.
‘‘ตายาหํ ผรุสํ สุตฺวา, วาจาโย สมุทีริตา;
อมูโค มูควณฺเณน, อปกฺโข ปกฺขสมฺมโต;
สเก มุตฺตกรีสสฺมึ, อจฺฉาหํ สมฺปริปฺลุโต.
‘‘กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ;
โกมํ ชีวิตมาคมฺม, เวรํ กยิราถ เกนจิ.
‘‘ปฺาย จ อลาเภน, ธมฺมสฺส จ อทสฺสนา;
โกมํ ชีวิตมาคมฺม, เวรํ กยิราถ เกนจิ.
‘‘อปิ อตรมานานํ, ผลาสาว สมิชฺฌติ;
วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, เอวํ ชานาหิ สารถิ.
‘‘อปิ อตรมานานํ, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ;
วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, นิกฺขนฺโต อกุโตภโย’’ติ.
ตตฺถ อสนฺธิตาติ สนฺธีนํ อภาเวน. อโสตตาติ โสตานํ อภาเวน. อชิวฺหตาติ สมฺปริวตฺตนชิวฺหาย อภาเวน มูโค อหํ น ¶ ภวามิ. ยตฺถาติ ยาย ชาติยา พาราณสินคเร รชฺชํ อการยึ. ปาปตฺถนฺติ ปาปตํ. ปติโต อสฺมีติ วทติ. รชฺชาภิเสจยุนฺติ รชฺเช อภิเสจยุํ. นิสาเทตฺวาติ นิสีทาเปตฺวา. อตฺถานุสาสตีติ อตฺถํ อนุสาสติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สตฺตีหิ ปหริตฺวา ขาราหิ ปตจฺฉิกํ กโรถ. อุปฺเปถาติ อาวุนถ. อิจฺจสฺส มนุสาสตีติ เอวมสฺส อตฺถํ อนุสาสติ. ตายาหนฺติ ตาโย วาจาโย อหํ. ปกฺขสมฺมโตติ ปกฺโข อิติ สมฺมโต อโหสึ. อจฺฉาหนฺติ อจฺฉึ อหํ, อวสินฺติ อตฺโถ. สมฺปริปฺลุโตติ สมฺปริกิณฺโณ, นิมุคฺโค หุตฺวาติ อตฺโถ.
กสิรนฺติ ทุกฺขํ. ปริตฺตนฺติ อปฺปํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺมสารถิ, สเจปิ สตฺตานํ ชีวิตํ ¶ ทุกฺขมฺปิ สมานํ พหุจิรฏฺิติกํ ภเวยฺย, ปตฺเถยฺย, ปริตฺตมฺปิ สมานํ สเจ สุขํ ภเวยฺย, ปตฺเถยฺย, อิทํ ปน กสิรฺจ ปริตฺตฺจ สกเลน วฏฺฏทุกฺเขน สํยุตฺตํ สนฺนิหิตํ โอมทฺทิตํ. โกมนฺติ โก อิมํ. เวรนฺติ ปาณาติปาตาทิปฺจวิธํ เวรํ. เกนจีติ เกนจิ การเณน ¶ . ปฺายาติ วิปสฺสนาปฺาย อลาเภน. ธมฺมสฺสาติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อทสฺสเนน. ปุน อุทานคาถาโย อคนฺตุกามตาย ถิรภาวทสฺสนตฺถํ กเถสิ.
ตํ สุตฺวา สุนนฺโท สารถิ ‘‘อยํ กุมาโร เอวรูปํ รชฺชสิรึ กุณปํ วิย ฉฑฺเฑตฺวา อตฺตโน อธิฏฺานํ อภินฺทิตฺวา ‘‘ปพฺพชิสฺสามีติ อรฺํ ปวิฏฺโ, มม อิมินา ทุชฺชีวิเตน โก อตฺโถ, อหมฺปิ เตน สทฺธึ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, ราชปุตฺต ตวนฺติเก;
อวฺหายสฺสุ มํ ภทฺทนฺเต, ปพฺพชฺชา มม รุจฺจตี’’ติ.
ตตฺถ ตวนฺติเกติ ตว สนฺติเก. อวฺหายสฺสูติ ‘‘เอหิ ปพฺพชาหี’’ติ ปกฺโกสสฺสุ.
เอวํ เตน ยาจิโตปิ มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ อิทาเนว ตํ ปพฺพาเชสฺสามิ, มาตาปิตโร อิธ นาคจฺฉิสฺสนฺติ, อถ เนสํ ปริหานิ ภวิสฺสติ, อิเม อสฺสา จ รโถ จ ปสาธนภณฺฑฺจ อิเธว นสฺสิสฺสนฺติ, ‘ยกฺโข โส, ขาทิโต นุ โข เตน สารถี’ติ ครหาปิ ¶ เม อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน จ ครหาโมจนตฺถํ มาตาปิตูนฺจ วุฑฺฒึ สมฺปสฺสนฺโต อสฺเส จ รถฺจ ปสาธนภณฺฑฺจ ตสฺส อิณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘รถํ นิยฺยาทยิตฺวาน, อนโณ เอหิ สารถิ;
อนณสฺส หิ ปพฺพชฺชา, เอตํ อิสีหิ วณฺณิต’’นฺติ.
ตตฺถ เอตนฺติ เอตํ ปพฺพชฺชากรณํ พุทฺธาทีหิ อิสีหิ วณฺณิตํ ปสตฺถํ โถมิตํ.
ตํ สุตฺวา สารถิ ‘‘สเจ มยิ นครํ คเต เอส อฺตฺถ คจฺเฉยฺย, ปิตา จสฺส อิมํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘ปุตฺตํ เม ทสฺเสหี’ติ ปุน อาคโต อิมํ น ปสฺเสยฺย, ราชทณฺฑํ เม กเรยฺย, ตสฺมา อหํ อตฺตโน คุณํ กเถตฺวา อฺตฺถาคมนตฺถาย ปฏิฺํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘ยเทว ¶ ตฺยาหํ วจนํ, อกรํ ภทฺทมตฺถุ เต;
ตเทว เม ตฺวํ วจนํ, ยาจิโต กตฺตุมรหสิ.
‘‘อิเธว ตาว อจฺฉสฺสุ, ยาว ราชานมานเย;
อปฺเปว เต ปิตา ทิสฺวา, ปตีโต สุมโน สิยา’’ติ.
ตโต ¶ มหาสตฺโต อาห –
‘‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ มํ ภณสิ สารถิ;
อหมฺปิ ทฏฺุกาโมสฺมิ, ปิตรํ เม อิธาคตํ.
‘‘เอหิ สมฺม นิวตฺตสฺสุ, กุสลํ วชฺชาสิ าตินํ;
มาตรํ ปิตรํ มยฺหํ, วุตฺโต วชฺชาสิ วนฺทน’’นฺติ.
ตตฺถ กโรมิ เตตนฺติ กโรมิ เต เอตํ วจนํ. เอหิ สมฺม นิวตฺตสฺสูติ สมฺม สารถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา เอหิ, เอตฺโตว ขิปฺปเมว นิวตฺตสฺสุ. วุตฺโต วชฺชาสีติ มยา วุตฺโต หุตฺวา ‘‘ปุตฺโต โว เตมิยกุมาโร วนฺทตี’’ติ วนฺทนํ วเทยฺยาสีติ อตฺโถ.
อิติ วตฺวา มหาสตฺโต สุวณฺณกทลิ วิย โอนมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน พาราณสินคราภิมุโข มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา สารถิสฺส สาสนํ ¶ อทาสิ. โส สาสนํ คเหตฺวา กุมารํ ปทกฺขิณํ กตฺวา รถมารุยฺห นคราภิมุโข ปายาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตสฺส ปาเท คเหตฺวาน, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;
สารถิ รถมารุยฺห, ราชทฺวารํ อุปาคมี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ภิกฺขเว, เอวํ วุตฺโต โส สารถิ, ตสฺส กุมารสฺส ปาเท คเหตฺวา ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา รถํ อารุยฺห ราชทฺวารํ อุปาคมีติ.
ตสฺมึ ขเณ จนฺทาเทวี สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ‘‘กา นุ โข เม ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ สารถิสฺส ¶ อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี ตํ เอกกํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อุรํ ปหริตฺวา ปริเทวิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘สฺุํ มาตา รถํ ทิสฺวา, เอกํ สารถิมาคตํ;
อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, โรทนฺตี นํ อุทิกฺขติ.
‘‘อยํ โส สารถิ เอติ, นิหนฺตฺวา มม อตฺรชํ;
นิหโต นูน เม ปุตฺโต, ปถพฺยา ภูมิวฑฺฒโน.
‘‘อมิตฺตา นูน นนฺทนฺติ, ปตีตา นูน เวริโน;
อาคตํ สารถึ ทิสฺวา, นิหนฺตฺวา มม อตฺรชํ.
‘‘สฺุํ มาตา รถํ ทิสฺวา, เอกํ สารถิมาคตํ;
อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, โรทนฺตี ปริปุจฺฉิ นํ.
‘‘กึ นุ มูโค กึนุ ปกฺโข, กึนุ โส วิลปี ตทา;
นิหฺมาโน ภูมิยา, ตํ เม อกฺขาหิ สารถิ.
‘‘กถํ หตฺเถหิ ปาเทหิ, มูคปกฺโข วิวชฺชยิ;
นิหฺมาโน ภูมิยา, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
ตตฺถ มาตาติ เตมิยกุมารสฺส มาตา. ปถพฺยา ภูมิวฑฺฒโนติ โส มม ปุตฺโต ภูมิวฑฺฒโน หุตฺวา ปถพฺยา นิหโต นูน. โรทนฺตี ปริปุจฺฉิ นนฺติ ตํ รถํ เอกมนฺตํ เปตฺวา มหาตลํ ¶ อภิรุยฺห จนฺทาเทวึ วนฺทิตฺวา เอกมนฺเต ิตํ สารถึ ปริปุจฺฉิ. กินฺนูติ กึ นุ โส มม ¶ ปุตฺโต มูโค เอว ปกฺโข เอว. ตทาติ ยทา นํ ตฺวํ กาสุยํ ปกฺขิปิตฺวา กุทฺทาเลน มตฺถเก ปหริ, ตทา. นิหฺมาโน ภูมิยาติ ตยา ภูมิยํ นิหฺมาโน กึ นุ วิลปิ. ตํ เมติ ตํ สพฺพํ อปริหาเปตฺวา เม อกฺขาหิ. วิวชฺชยีติ ‘‘อเปหิ สารถิ, มา มํ มาเรหี’’ติ กถํ หตฺเถหิ ปาเทหิ จ ผนฺทนฺโต ตํ อปนุทิ, ตํ เม กเถหีติ อตฺโถ.
ตโต สารถิ อาห –
‘‘อกฺเขยฺยํ ¶ เต อหํ อยฺเย, ทชฺชาสิ อภยํ มม;
ยํ เม สุตํ วา ทิฏฺํ วา, ราชปุตฺตสฺส สนฺติเก’’ติ.
ตตฺถ ทชฺชาสีติ สเจ อภยํ ทเทยฺยาสิ, โส อิทํ ‘‘สจาหํ ‘ตว ปุตฺโต เนว มูโค น ปกฺโข มธุรกโถ ธมฺมกถิโก’ติ วกฺขามิ, อถ ‘กสฺมา ตํ คเหตฺวา นาคโตสี’ติ ราชา กุทฺโธ ราชทณฺฑมฺปิ เม กเรยฺย, อภยํ ตาว ยาจิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห.
อถ นํ จนฺทาเทวี อาห –
‘‘อภยํ สมฺม เต ทมฺมิ, อภีโต ภณ สารถิ;
ยํ เต สุตํ วา ทิฏฺํ วา, ราชปุตฺตสฺส สนฺติเก’’ติ.
ตโต สารถิ อาห –
‘‘น โส มูโค น โส ปกฺโข, วิสฏฺวจโน จ โส;
รชฺชสฺส กิร โส ภีโต, อกรา อาลเย พหู.
‘‘ปุริมํ สรติ โส ชาตึ, ยตฺถ รชฺชมการยิ;
การยิตฺวา ตหึ รชฺชํ, ปาปตฺถ นิรยํ ภุสํ.
‘‘วีสติฺเจว วสฺสานิ, ตหึ รชฺชมการยิ;
อสีติวสฺสสหสฺสานิ, นิรยมฺหิ อปจฺจิ โส.
‘‘ตสฺส รชฺชสฺส โส ภีโต, มา มํ รชฺชาภิเสจยุํ;
ตสฺมา ปิตุ จ มาตุจฺจ, สนฺติเก น ภณี ตทา.
‘‘องฺคปจฺจงฺคสมฺปนฺโน ¶ , อาโรหปริณาหวา;
วิสฏฺวจโน ปฺโ, มคฺเค สคฺคสฺส ติฏฺติ.
‘‘สเจ ¶ ตฺวํ ทฏฺุกามาสิ, ราชปุตฺตํ ตวตฺรชํ;
เอหิ ตํ ปาปยิสฺสามิ, ยตฺถ สมฺมติ เตมิโย’’ติ.
ตตฺถ วิสฏฺวจโนติ อปลิพุทฺธกโถ. อกรา อาลเย พหูติ ตุมฺหากํ วฺจนานิ พหูนิ อกาสิ. ปฺโติ ปฺวา. สเจ ตฺวนฺติ ราชานํ ธุรํ กตฺวา อุโภปิ เต เอวมาห. ยตฺถ สมฺมติ เตมิโยติ ยตฺถ โว ปุตฺโต มยา คหิตปฏิฺโ หุตฺวา อจฺฉติ, ตตฺถ ปาปยิสฺสามิ, อิทานิ ปปฺจํ อกตฺวา ลหุํ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อาห.
กุมาโร ¶ ปน สารถึ เปเสตฺวา ปพฺพชิตุกาโม อโหสิ. ตทา สกฺโก ตสฺส มนํ ตฺวา ตสฺมึ ขเณ วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต วิสฺสกมฺมเทวปุตฺต, เตมิยกุมาโร ปพฺพชิตุกาโม, ตฺวํ ตสฺส ปณฺณสาลฺจ ปพฺพชิตปริกฺขารฺจ มาเปตฺวา เอหี’’ติ เปเสสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ติโยชนิเก วนสณฺเฑ อตฺตโน อิทฺธิพเลน รมณียํ อสฺสมํ มาเปตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺานฺจ โปกฺขรณิฺจ อาวาฏฺจ อกาลผลสมฺปนฺนํ รุกฺขฺจ กตฺวา ปณฺณสาลสมีเป จตุวีสติหตฺถปฺปมาณํ จงฺกมํ มาเปตฺวา อนฺโตจงฺกเม จ ผลิกวณฺณํ รุจิรํ วาลุกํ โอกิริตฺวา สพฺเพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร มาเปตฺวา ‘‘เย ปพฺพชิตุกามา, เต อิเม คเหตฺวา ปพฺพชนฺตู’’ติ ภิตฺติยํ อกฺขรานิ ลิขิตฺวา จณฺฑวาเฬ จ อมนาปสทฺเท สพฺเพ มิคปกฺขิโน จ ปลาเปตฺวา สกฏฺานเมว คโต.
ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต ตํ ทิสฺวา สกฺกทตฺติยภาวํ ตฺวา, ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา วตฺถานิ อปเนตฺวา, รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อชินจมฺมํ เอกํเส กตฺวา ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา กาชํ อํเส กตฺวา กตฺตรทณฺฑมาทาย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตสิรึ สมุพฺพหนฺโต อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ อุทานํ อุทาเนนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรเณ นิสินฺโน ปฺจ อภิฺา อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา สายนฺหสมเย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ิตการรุกฺขโต ปณฺณานิ คเหตฺวา ¶ , สกฺกทตฺติยภาชเน อโลณเก อตกฺเก นิธูปเน อุทเก เสเทตฺวา อมตํ วิย ปริภฺุชิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา ตตฺถ วาสํ กปฺเปสิ.
กาสิราชาปิ สุนนฺทสารถิสฺส วจนํ สุตฺวา มหาเสนคุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตรมานรูโปว คมนสชฺชํ กาเรตุํ อาห –
‘‘โยชยนฺตุ ¶ รเถ อสฺเส, กจฺฉํ นาคาน พนฺธถ;
อุทีรยนฺตุ สงฺขปณวา, วาทนฺตุ เอกโปกฺขรา.
‘‘วาทนฺตุ เภรี สนฺนทฺธา, วคฺคู วาทนฺตุ ทุนฺทุภี;
เนคมา จ มํ อนฺเวนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก.
‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
ขิปฺปํ ยานานิ โยเชนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก.
‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;
ขิปฺปํ ยานานิ โยเชนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก.
‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;
ขิปฺปํ ยานานิ โยเชนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก’’ติ.
ตตฺถ ¶ อุทีรยนฺตูติ สทฺทํ มฺุจนฺตุ. วาทนฺตูติ วชฺชนฺตุ. เอกโปกฺขราติ เอกมุขเภริโย. สนฺนทฺธาติ สุฏฺุ นทฺธา. วคฺคูติ มธุรสฺสรา. คจฺฉนฺติ คมิสฺสามิ. ปุตฺตนิเวทโกติ ปุตฺตสฺส นิเวทโก โอวาทโก หุตฺวา คจฺฉามิ. ตํ โอวทิตฺวา มม วจนํ คาหาเปตฺวา ตตฺเถว ตํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิฺจิตฺวา อาเนตุํ คจฺฉามีติ อธิปฺปาเยเนวมาห. เนคมาติ กุฏุมฺพิกชนา. สมาคตาติ สนฺนิปติตา หุตฺวา.
เอวํ รฺา อาณตฺตา สารถิโน อสฺเส โยเชตฺวา รเถ ราชทฺวาเร เปตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘อสฺเส จ สารถี ยุตฺเต, สินฺธเว สีฆวาหเน;
ราชทฺวารํ อุปาคจฺฉุํ, ยุตฺตา เทว อิเม หยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ อสฺเสติ สินฺธเว สินฺธวชาติเก สีฆวาหเน ชวสมฺปนฺเน อสฺเส อาทาย. สารถีติ สารถิโน. ยุตฺเตติ รเถสุ โยชิเต. อุปาคจฺฉุนฺติ เต รเถสุ ยุตฺเต อสฺเส อาทาย อาคมํสุ, อาคนฺตฺวา จ ปน ‘‘ยุตฺตา, เทว, อิเม หยา’’ติ อาโรเจสุํ.
ตโต ¶ สารถีนํ วจนํ สุตฺวา ราชา อุปฑฺฒคาถมาห –
‘‘ถูลา ชเวน หายนฺติ, กิสา หายนฺติ ถามุนา’’ติ.
ตํ สุตฺวา สารถิโนปิ อุปฑฺฒคาถมาหํสุ –
‘‘กิเส ถูเล วิวชฺเชตฺวา, สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – เทว, กิเส จ ถูเล จ เอวรูเป อสฺเส อคฺคณฺหิตฺวา วเยน วณฺเณน ชเวน พเลน สทิสา หยา โยชิตาติ.
อถ ราชา ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺโต จตฺตาโร วณฺเณ อฏฺารส เสนิโย สพฺพฺจ พลกายํ สนฺนิปาตาเปสิ. ตสฺส สนฺนิปาเตนฺตสฺเสว ตโย ทิวสา อติกฺกนฺตา. อถ จตุตฺเถ ทิวเส กาสิราชา นครโต นิกฺขมิตฺวา คเหตพฺพยุตฺตกํ คาหาเปตฺวา อสฺสมปทํ คนฺตฺวา ปุตฺเตน สทฺธึ ปฏินนฺทิโต ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต ราชา ตรมาโน, ยุตฺตมารุยฺห สนฺทนํ;
อิตฺถาคารํ อชฺฌภาสิ, สพฺพาว อนุยาถ มํ.
‘‘วาฬพีชนิมุณฺหีสํ, ขคฺคํ ฉตฺตฺจ ปณฺฑรํ;
อุปาธี รถมารุยฺห, สุวณฺเณหิ อลงฺกตา.
‘‘ตโต ส ราชา ปายาสิ, ปุรกฺขตฺวาน สารถึ;
ขิปฺปเมว อุปาคจฺฉิ, ยตฺถ สมฺมติ เตมิโย.
‘‘ตฺจ ¶ ทิสฺวาน อายนฺตํ, ชลนฺตมิว เตชสา;
ขตฺตสงฺฆปริพฺยูฬฺหํ, เตมิโย เอตทพฺรวิ.
‘‘กจฺจิ นุ ตาต กุสลํ, กจฺจิ ตาต อนามยํ;
สพฺพา จ ราชกฺาโย, อโรคา มยฺห มาตโร.
‘‘กุสลฺเจว ¶ ¶ เม ปุตฺต, อโถ ปุตฺต อนามยํ;
สพฺพา จ ราชกฺาโย, อโรคา ตุยฺห มาตโร.
‘‘กจฺจิ อมชฺชโป ตาต, กจฺจิ เต สุรมปฺปิยํ;
กจฺจิ สจฺเจ จ ธมฺเม จ, ทาเน เต รมเต มโน.
‘‘อมชฺชโป อหํ ปุตฺต, อโถ เม สุรมปฺปิยํ;
อโถ สจฺเจ จ ธมฺเม จ, ทาเน เม รมเต มโน.
‘‘กจฺจิ อโรคํ โยคฺคํ เต, กจฺจิ วหติ วาหนํ;
กจฺจิ เต พฺยาธโย นตฺถิ, สรีรสฺสุปตาปนา.
‘‘อโถ อโรคํ โยคฺคํ เม, อโถ วหติ วาหนํ;
อโถ เม พฺยาธโย นตฺถิ, สรีรสฺสุปตาปนา.
‘‘กจฺจิ อนฺตา จ เต ผีตา, มชฺเฌ จ พหลา ตว;
โกฏฺาคารฺจ โกสฺจ, กจฺจิ เต ปฏิสนฺถตํ.
‘‘อโถ อนฺตา จ เม ผีตา, มชฺเฌ จ พหลา มม;
โกฏฺาคารฺจ โกสฺจ, สพฺพํ เม ปฏิสนฺถตํ.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
ปติฏฺเปนฺตุ ปลฺลงฺกํ, ยตฺถ ราชา นิสกฺกตี’’ติ.
ตตฺถ อุปาธี รถมารุยฺหาติ สุวณฺณปาทุกา จ รถํ อาโรเปนฺตูติ อตฺโถ. อิเม ตโย ปาเท ปุตฺตสฺส ตตฺเถว อภิเสกกรณตฺถาย ‘‘ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ คณฺหถา’’ติ อาณาเปนฺโต ราชา อาห. สุวณฺเณหิ อลงฺกตาติ อิทํ ปาทุกํ สนฺธายาห. อุปาคจฺฉีติ อุปาคโต อโหสิ. กาย เวลายาติ? มหาสตฺตสฺส การปณฺณานิ ปจิตฺวา นิพฺพาเปนฺตสฺส นิสินฺนเวลาย. ชลนฺตมิว เตชสาติ ราชเตเชน ชลนฺตํ วิย. ขตฺตสงฺฆปริพฺยูฬฺหนฺติ กถาผาสุเกน อมจฺจสงฺเฆน ปริวุตํ, ขตฺติยสมูเหหิ ¶ วา ปริวาริตํ. เอตทพฺรวีติ กาสิราชานํ พหิ ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ¶ ปทสาว ปณฺณสาลํ อาคนฺตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต เอตํ วจนํ อพฺรวิ.
กุสลํ อนามยนฺติ อุภเยนปิ ปเทน อาโรคฺยเมว ปุจฺฉติ. กจฺจิ อมชฺชโปติ กจฺจิ มชฺชํ น ปิวสีติ ปุจฺฉติ. ‘‘อปฺปมตฺโต’’ติปิ ปาโ, กุสลธมฺเมสุ นปฺปมชฺชสีติ อตฺโถ. สุรมปฺปิยนฺติ สุราปานํ อปฺปิยํ. ‘‘สุรมปฺปิยา’’ติปิ ปาโ, สุรา อปฺปิยาติ อตฺโถ. ธมฺเมติ ทสวิเธ ราชธมฺเม. โยคฺคนฺติ ยุเค ยฺุชิตพฺพํ เต ตว อสฺสโคณาทิกํ. กจฺจิ วหตีติ กจฺจิ อโรคํ หุตฺวา วหติ. วาหนนฺติ หตฺถิอสฺสาทิ สพฺพํ วาหนํ. สรีรสฺสุปตาปนาติ สรีรสฺส อุปตาปกรา. อนฺตาติ ปจฺจนฺตชนปทา. ผีตาติ อิทฺธา สุภิกฺขา, วตฺถาภรเณหิ วา อนฺนปาเนหิ วา ปริปุณฺณา คาฬฺหวาสา. มชฺเฌ จาติ รฏฺสฺส มชฺเฌ. พหลาติ คามนิคมา ฆนวาสา. ปฏิสนฺถตนฺติ ปฏิจฺฉาทิตํ คุตฺตํ, ปริปุณฺณํ วา. ยตฺถ ราชา นิสกฺกตีติ ยสฺมึ ปลฺลงฺเก ราชา นิสีทิสฺสติ, ตํ ปฺาเปนฺตูติ วทติ.
ราชา มหาสตฺเต คารเวน ปลฺลงฺเก น นิสีทติ. อถ ¶ มหาสตฺโต ‘‘สเจ ปลฺลงฺเก น นิสีทติ, ปณฺณสนฺถารํ ปฺาเปถา’’ติ วตฺวา ตสฺมึ ปฺตฺเต นิสีทนตฺถาย ราชานํ นิมนฺเตนฺโต คาถมาห –
‘‘อิเธว เต นิสีทสฺสุ, นิยเต ปณฺณสนฺถเร;
เอตฺโต อุทกมาทาย, ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เต’’ติ.
ตตฺถ นิยเตติ สุสนฺถเต. เอตฺโตติ ปริโภคอุทกํ ทสฺเสนฺโต อาห.
ราชา มหาสตฺเต คารเวน ปณฺณสนฺถาเรปิ อนิสีทิตฺวา ภูมิยํ เอว นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ตํ การปณฺณกํ นีหริตฺวา ราชานํ เตน นิมนฺเตนฺโต คาถมาห –
‘‘อิทมฺปิ ปณฺณกํ มยฺหํ, รนฺธํ ราช อโลณกํ;
ปริภฺุช มหาราช, ปาหุโน เมสิธาคโต’’ติ.
อถ ¶ นํ ราชา อาห –
‘‘น ¶ จาหํ ปณฺณํ ภฺุชามิ, น เหตํ มยฺห โภชนํ;
สาลีนํ โอทนํ ภฺุเช, สุจึ มํสูปเสจน’’นฺติ.
ตตฺถ น จาหนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ.
ราชา ตถารูปํ อตฺตโน ราชโภชนํ วณฺเณตฺวา ตสฺมึ มหาสตฺเต คารเวน โถกํ ปณฺณกํ หตฺถตเล เปตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ เอวรูปํ โภชนํ ภฺุชสี’’ติ ปุตฺเตน สทฺธึ ปิยกถํ กเถนฺโต นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ จนฺทาเทวี โอโรเธน ปริวุตา เอกมคฺเคน อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส อสฺสมปทํ ปตฺวา ปิยปุตฺตํ ทิสฺวา ตตฺเถว ปติตฺวา วิสฺี อโหสิ. ตโต ปฏิลทฺธสฺสาสา ปติตฏฺานโต อุฏฺหิตฺวา อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ปาเท ทฬฺหํ คเหตฺวา วนฺทิตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ โรทิตฺวา วนฺทนฏฺานโต อุฏฺาย เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ ราชา ‘‘ภทฺเท, ตว ปุตฺตสฺส โภชนํ ปสฺสาหี’’ติ วตฺวา โถกํ ปณฺณกํ ตสฺสา หตฺเถ เปตฺวา เสสอิตฺถีนมฺปิ โถกํ โถกํ อทาสิ. ตา สพฺพาปิ ‘‘สามิ, เอวรูปํ โภชนํ ภฺุชสี’’ติ วทนฺติโย ตํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สีเส กตฺวา ‘‘อติทุกฺกรํ กโรสิ, สามี’’ติ วตฺวา นมสฺสมานา นิสีทึสุ. ราชา ปุน ‘‘ตาต, อิทํ มยฺหํ อจฺฉริยํ หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อจฺเฉรกํ มํ ปฏิภาติ, เอกกมฺปิ รโหคตํ;
เอทิสํ ภฺุชมานานํ, เกน วณฺโณ ปสีทตี’’ติ.
ตตฺถ เอกกนฺติ ตาต, ตํ เอกกมฺปิ รโหคตํ อิมินา โภชเนน ยาเปนฺตํ ทิสฺวา มม อจฺฉริยํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. เอทิสนฺติ เอวรูปํ อโลณกํ อตกฺกํ นิธูปนํ รนฺธํ ปตฺตํ ภฺุชนฺตานํ เกน การเณน วณฺโณ ปสีทตีติ นํ ปุจฺฉิ.
อถสฺส ¶ โส อาจิกฺขนฺโต อาห –
‘‘เอโก ราช นิปชฺชามิ, นิยเต ปณฺณสนฺถเร;
ตาย เม เอกเสยฺยาย, ราช วณฺโณ ปสีทติ.
‘‘น ¶ จ เนตฺตึสพนฺธา เม, ราชรกฺขา อุปฏฺิตา;
ตาย เม สุขเสยฺยาย, ราชวณฺโณ ปสีทติ.
‘‘อตีตํ ¶ นานุโสจามิ, นปฺปชปฺปามินาคตํ;
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปมิ, เตน วณฺโณ ปสีทติ.
‘‘อนาคตปฺปชปฺปาย, อตีตสฺสานุโสจนา;
เอเตน พาลา สุสฺสนฺติ, นโฬว หริโต ลุโต’’ติ.
ตตฺถ เนตฺตึสพนฺธาติ ขคฺคพนฺธา. ราชรกฺขาติ ราชานํ รกฺขิตา. นปฺปชปฺปามีติ น ปตฺเถมิ. หริโตติ หริตวณฺโณ. ลุโตติ ลฺุจิตฺวา อาตเป ขิตฺตนโฬ วิย.
อถ ราชา ‘‘อิเธว นํ อภิสิฺจิตฺวา อาทาย คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา รชฺเชน นิมนฺเตนฺโต อาห –
‘‘หตฺถานีกํ รถานีกํ, อสฺเส ปตฺตี จ วมฺมิโน;
นิเวสนานิ รมฺมานิ, อหํ ปุตฺต ททามิ เต.
‘‘อิตฺถาคารมฺปิ เต ทมฺมิ, สพฺพาลงฺการภูสิตํ;
ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, ตฺวํ โน ราชา ภวิสฺสสิ.
‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺส, สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย;
กาเม ตํ รมยิสฺสนฺติ, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.
‘‘ปฏิราชูหิ เต กฺา, อานยิสฺสํ อลงฺกตา;
ตาสุ ปุตฺเต ชเนตฺวาน, อถ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสิ.
‘‘ยุวา จ ทหโร จาสิ, ปมุปฺปตฺติโก สุสุ;
รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ หตฺถานีกนฺติ ทสหตฺถิโต ปฏฺาย หตฺถานีกํ นาม, ตถา รถานีกํ. วมฺมิโนติ วมฺมพทฺธสูรโยเธ. กุสลาติ เฉกา. สิกฺขิตาติ อฺเสุปิ อิตฺถิกิจฺเจสุ สิกฺขิตา. จาตุริตฺถิโยติ จตุรา วิลาสา อิตฺถิโย, อถ วา จตุรา นาครา อิตฺถิโย, อถ วา จตุรา ¶ นาม ¶ นาฏกิตฺถิโย. ปฏิราชูหิ เต กฺาติ อฺเหิ ราชูหิ ตว ราชกฺาโย อานยิสฺสามิ. ยุวาติ โยพฺพนปฺปตฺโต. ทหโรติ ตรุโณ. ปมุปฺปตฺติโกติ ปมวเยน อุปฺปตฺติโต สมุคฺคโต. สุสูติ อติตรุโณ.
อิโต ปฏฺาย โพธิสตฺตสฺส ธมฺมกถา โหติ –
‘‘ยุวา จเร พฺรหฺมจริยํ, พฺรหฺมจารี ยุวา สิยา;
ทหรสฺส หิ ปพฺพชฺชา, เอตํ อิสีหิ วณฺณิตํ.
‘‘ยุวา ¶ จเร พฺรหฺมจริยํ, พฺรหฺมจารี ยุวา สิยา;
พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก.
‘‘ปสฺสามิ โวหํ ทหรํ, อมฺม ตาต วทนฺตรํ;
กิจฺฉาลทฺธํ ปิยํ ปุตฺตํ, อปฺปตฺวาว ชรํ มตํ.
‘‘ปสฺสามิ โวหํ ทหรึ, กุมารึ จารุทสฺสนึ;
นววํสกฬีรํว, ปลุคฺคํ ชีวิตกฺขยํ.
‘‘ทหราปิ หิ มียนฺติ, นรา จ อถ นาริโย;
ตตฺถ โก วิสฺสเส โปโส, ‘ทหโรมฺหี’ติ ชีวิเต.
‘‘ยสฺส รตฺยา วิวสาเน, อายุ อปฺปตรํ สิยา;
อปฺโปทเกว มจฺฉานํ, กึ นุ โกมารกํ ตหึ.
‘‘นิจฺจมพฺภาหโต โลโก, นิจฺจฺจ ปริวาริโต;
อโมฆาสุ วชนฺตีสุ, กึ มํ รชฺเชภิสิฺจสี’’ติ.
กาสิราชา อาห –
‘‘เกน ¶ มพฺภาหโต โลโก, เกน จ ปริวาริโต;
กาโย อโมฆา คจฺฉนฺติ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
โพธิสตฺโต อาห –
‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก, ชราย ปริวาริโต;
รตฺโย อโมฆา คจฺฉนฺติ, เอวํ ชานาหิ ขตฺติย.
‘‘ยถาปิ ¶ ตนฺเต วิตเต, ยํ ยเทวูปวียติ;
อปฺปกํ โหติ เวตพฺพํ, เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.
‘‘ยถา วาริวโห ปูโร, คจฺฉํ นุปนิวตฺตติ;
เอวมายุ มนุสฺสานํ, คจฺฉํ นุปนิวตฺตติ.
‘‘ยถา วาริวโห ปูโร, วเห รุกฺเขปกูลเช;
เอวํ ชรามรเณน, วุยฺหนฺเต สพฺพปาณิโน’’ติ.
ตตฺถ พฺรหฺมจารี ยุวา สิยาติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺโต ยุวา ภเวยฺย. อิสีหิ วณฺณิตนฺติ พุทฺธาทีหิ อิสีหิ โถมิตํ ปสตฺถํ. นาหํ รชฺเชน มตฺถิโกติ อหํ รชฺเชน อตฺถิโก น โหมิ. อมฺม ตาต วทนฺตรนฺติ ‘‘อมฺม, ตาตา’’ติ วทนฺตํ. ปลุคฺคนฺติ มจฺจุนา ลฺุจิตฺวา คหิตํ. ยสฺส รตฺยา วิวสาเนติ มหาราช, ยสฺส มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาลโต ปฏฺาย รตฺติทิวาติกฺกเมน อปฺปตรํ อายุ โหติ. โกมารกํ ตหินฺติ ตสฺมึ วเย ตรุณภาโว กึ กริสฺสติ.
เกน มพฺภาหโตติ เกน อพฺภาหโต. อิทํ ราชา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส อตฺถํ อชานนฺโตว ปุจฺฉติ. รตฺโยติ รตฺติโย. ตา หิ อิเมสํ สตฺตานํ อายฺุจ วณฺณฺจ พลฺจ เขเปนฺติโย เอว คจฺฉนฺตีติ อโมฆา คจฺฉนฺติ นามาติ เวทิตพฺพํ ¶ . ยํ ยเทวูปวียตีติ ยํ ยํ ตนฺตํ อุปวียติ. เวตพฺพนฺติ ตนฺตสฺมึ วีเต เสสํ เวตพฺพํ ยถา อปฺปกํ โหติ, เอวํ สตฺตานํ ชีวิตํ. นุปนิวตฺตตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ ขเณ คตํ คตเมว โหติ, น อุปนิวตฺตติ. วเห รุกฺเขปกูลเชติ อุปกูลเช รุกฺเข วเหยฺย.
ราชา ¶ มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘กึ เม ฆราวาเสนา’’ติ อติวิย อุกฺกณฺิโต ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ‘‘นาหํ ตาว ปุน นครํ คมิสฺสามิ, อิเธว ปพฺพชิสฺสามิ. สเจ ปน เม ปุตฺโต นครํ คจฺเฉยฺย, เสตจฺฉตฺตมสฺส ทเทยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ วีมํสิตุํ ปุน รชฺเชน นิมนฺเตนฺโต อาห –
‘‘หตฺถานีกํ รถานีกํ, อสฺเส ปตฺตี จ วมฺมิโน;
นิเวสนานิ รมฺมานิ, อหํ ปุตฺต ททามิ เต.
‘‘อิตฺถาคารมฺปิ ¶ เต ทมฺมิ, สพฺพาลงฺการภูสิตํ;
ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, ตฺวํ โน ราชา ภวิสฺสสิ.
‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺส, สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย;
กาเม ตํ รมยิสฺสนฺติ, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.
‘‘ปฏิราชูหิ เต กฺา, อานยิสฺสํ อลงฺกตา;
ตาสุ ปุตฺเต ชเนตฺวาน, อถ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสิ.
‘‘ยุวา จ ทหโร จาสิ, ปมุปฺปตฺติโก สุสุ;
รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.
‘‘โกฏฺาคารฺจ โกสฺจ, วาหนานิ พลานิ จ;
นิเวสนานิ รมฺมานิ, อหํ ปุตฺต ททามิ เต.
‘‘โคมณฺฑลปริพฺยูฬฺโห, ทาสิสงฺฆปุรกฺขโต;
รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ โคมณฺฑลปริพฺยูฬฺโหติ สุภงฺคีนํ ราชกฺานํ มณฺฑเลน ปุรกฺขโต.
อถ มหาสตฺโต รชฺเชน อนตฺถิกภาวํ ปกาเสนฺโต อาห –
‘‘กึ ¶ ธเนน ยํ ขีเยถ, กึ ภริยาย มริสฺสติ;
กึ โยพฺพเนน ชิณฺเณน, ยํ ชรายาภิภุยฺยติ.
‘‘ตตฺถ กา นนฺทิ กา ขิฑฺฑา, กา รตี กา ธเนสนา;
กึ เม ปุตฺเตหิ ทาเรหิ, ราช มุตฺโตสฺมิ พนฺธนา.
‘‘โยหํ เอวํ ปชานามิ, มจฺจุ เม นปฺปมชฺชติ;
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, กา รตี กา ธเนสนา.
‘‘ผลานมิว ¶ ปกฺกานํ, นิจฺจํ ปตนโต ภยํ;
เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.
‘‘สายเมเก น ทิสฺสนฺติ, ปาโต ทิฏฺา พหู ชนา;
ปาโต เอเต น ทิสฺสนฺติ, สายํ ทิฏฺา พหู ชนา.
‘‘อชฺเชว ¶ กิจฺจํ อาตปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘โจรา ธนสฺส ปตฺเถนฺติ, ราช มุตฺโตสฺมิ พนฺธนา;
เอหิ ราช นิวตฺตสฺสุ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก’’ติ.
ตตฺถ ยํ ขีเยถาติ มหาราช, กึ ตฺวํ มํ ธเนน นิมนฺเตสิ, ยํ ขีเยถ ขยํ คจฺเฉยฺย. ธนํ วา หิ ปุริสํ จชติ, ปุริโส วา ตํ ธนํ จชิตฺวา คจฺฉตีติ สพฺพถาปิ ขยคามีเยว โหติ, กึ ตฺวํ มํ เตน ธเนน นิมนฺเตสิ. กึ ภริยายาติ ภริยาย กึ กริสฺสามิ, ยา มยิ ิเตเยว มริสฺสติ. ชิณฺเณนาติ ชราย อนุปริเตน อนุภูเตน. อภิภุยฺยตีติ อภิภวิยฺยติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ เอวํ ชรามรณธมฺเม โลกสนฺนิวาเส. กา นนฺทีติ กา นาม ตุฏฺิ. ขิฑฺฑาติ กีฬา. รตีติ ปฺจกามคุณรติ. พนฺธนาติ กามพนฺธนา มุตฺโต อสฺมิ, มหาราชาติ ฌาเนน วิกฺขมฺภิตตฺตา เอวมาห. มจฺจุ เมติ มม มจฺจุ นปฺปมชฺชติ, นิจฺจํ มม วธาย อปฺปมโตเยวาติ. โย อหํ เอวํ ปชานามิ, ตสฺส มม อนฺตเกน อธิปนฺนสฺส วธิตสฺส ¶ กา นาม รติ, กา ธเนสนาติ. นิจฺจนฺติ ชาตกาลโต ปฏฺาย สทา ชรามรณโต ภยเมว อุปฺปชฺชติ.
อาตปนฺติ กุสลกมฺมวีริยํ. กิจฺจนฺติ กตฺตพฺพํ. โก ชฺา มรณํ สุเวติ สุเว วา ปรสุเว วา มรณํ วา ชีวิตํ วา โก ชาเนยฺย. สงฺครนฺติ สงฺเกตํ. มหาเสเนนาติ ปฺจวีสติภยพาตฺตึสกมฺมกรณฉนฺนวุติโรคปฺปมุขาทิวเสน ปุถุเสเนน. โจรา ธนสฺสาติ ธนตฺถาย ชีวิตํ จชนฺตา โจรา ธนสฺส ปตฺเถนฺติ นาม, อหํ ปน ธนปตฺถนาสงฺขาตา พนฺธนา มุตฺโต อสฺมิ, น เม ธเนนตฺโถติ อตฺโถ. นิวตฺตสฺสูติ มม วจเนน สมฺมา นิวตฺตสฺสุ, รชฺชํ ปหาย เนกฺขมฺมํ ปฏิสรณํ กตฺวา ปพฺพชสฺสุ. ยํ ปน จินฺเตสิ ‘‘อิมํ รชฺเช ปติฏฺาเปสฺสามี’’ติ, ตํ มา จินฺตยิ, นาหํ รชฺเชน อตฺถิโกติ. อิติ มหาสตฺตสฺส ธมฺมเทสนา สหานุสนฺธินา มตฺถกํ ปตฺตา.
ตํ สุตฺวา ราชานฺจ จนฺทาเทวิฺจ อาทึ กตฺวา โสฬสสหสฺสา โอโรธา จ อมจฺจาทโย จ สพฺเพ ปพฺพชิตุกามา อเหสุํ. ราชาปิ นคเร ¶ เภรึ จราเปสิ ‘‘เย มม ปุตฺตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตุํ อิจฺฉนฺติ, เต ปพฺพชนฺตู’’ติ ¶ . สพฺเพสฺจ สุวณฺณโกฏฺาคาราทีนํ ทฺวารานิ วิวราเปตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน จ มหานิธิกุมฺภิโย อตฺถิ, อตฺถิกา คณฺหนฺตู’’ติ สุวณฺณปฏฺเฏ อกฺขรานิ ลิขาเปตฺวา มหาถมฺเภ พนฺธาเปสิ. เต นาครา ยถาปสาริเต อาปเณ จ วิวฏทฺวารานิ เคหานิ จ ปหาย นครโต นิกฺขมิตฺวา รฺโ สนฺติกํ อาคมึสุ. ราชา มหาชเนน สทฺธึ มหาสตฺตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิ. สกฺกทตฺติยํ ติโยชนิกํ อสฺสมปทํ ปริปุณฺณํ อโหสิ. มหาสตฺโต ปณฺณสาลาโย วิจาเรสิ, มชฺเฌ ิตา ปณฺณสาลาโย อิตฺถีนํ ทาเปสิ. กึการณา? ภีรุกชาติกา เอตาติ. ปุริสานํ ปน พหิปณฺณสาลาโย ทาเปสิ. ตา สพฺพาปิ ปณฺณสาลาโย วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโตว มาเปสิ. เต จ ผลธรรุกฺเข วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโตเยว อตฺตโน อิทฺธิยา มาเปสิ. เต สพฺเพ วิสฺสกมฺเมน นิมฺมิเตสุ ผลธรรุกฺเขสุ อุโปสถทิวเส ภูมิยํ ปติตปติตานิ ผลานิ คเหตฺวา ปริภฺุชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. เตสุ โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส มนํ ชานิตฺวา มหาสตฺโต อากาเส นิสีทิตฺวา มธุรธมฺมํ กเถสิ. เต ชนา โพธิสตฺตสฺส มธุรธมฺมํ สุตฺวา เอกคฺคจิตฺตา หุตฺวา ขิปฺปเมว อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตสุํ.
ตทา เอโก สามนฺตราชา ‘‘กาสิราชา กิร พาราณสินครโต นิกฺขมิตฺวา วนํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา ‘‘พาราณสึ คณฺหิสฺสามี’’ติ นครา นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ ปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา อลงฺกตนครํ ทิสฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห สตฺตวิธํ วรรตนํ โอโลเกตฺวา ¶ ‘‘กาสิรฺโ อิมํ ธนํ นิสฺสาย เอเกน ภเยน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตนฺโต สุราโสณฺเฑ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺหากํ รฺโ อิธ นคเร ภยํ อุปฺปนฺนํ อตฺถี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, เทวา’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ. ‘‘อมฺหากํ รฺโ ปุตฺโต เตมิยกุมาโร ‘พาราณสึ รชฺชํ น กริสฺสามี’ติ อมูโคปิ มูโค วิย หุตฺวา อิมมฺหา นครา นิกฺขมิตฺวา วนํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ, เตน การเณน อมฺหากํ ราชา มหาชเนน สทฺธึ อิมมฺหา นครา นิกฺขมิตฺวา เตมิยกุมารสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิโต’’ติ อาโรเจสุํ. สามนฺตราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา ‘‘อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ¶ ‘‘ตาต, ตุมฺหากํ ราชา กตรทฺวาเรน นิกฺขนฺโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, ปาจีนทฺวาเรนา’’ติ วุตฺเต อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ เตเนว ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา นทีตีเรน ปายาสิ.
มหาสตฺโตปิ ตสฺส อาคมนํ ตฺวา วนนฺตรํ อาคนฺตฺวา อากาเส นิสีทิตฺวา มธุรธมฺมํ เทเสสิ. โส ปริสาย สทฺธึ ตสฺส สนฺติเกเยว ปพฺพชิ. เอวํ อปเรปิ สตฺต ราชาโน ‘‘พาราณสินครํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อาคตา. เตปิ ราชาโน สตฺต รชฺชานิ ฉฑฺเฑตฺวา โพธิสตฺตสฺส สนฺติเกเยว ปพฺพชึสุ. หตฺถีปิ อรฺหตฺถี ชาตา, อสฺสาปิ อรฺอสฺสา ชาตา, รถาปิ อรฺเเยว วินฏฺา, ภณฺฑาคาเรสุ กหาปเณ อสฺสมปเท วาลุกํ กตฺวา วิกิรึสุ. สพฺเพปิ อภิฺาสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ชีวิตปริโยสาเน พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ. ติรจฺฉานคตา หตฺถิอสฺสาปิ อิสิคเณ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา ฉกามาวจรโลเกสุ นิพฺพตฺตึสุ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ รชฺชํ ปหาย นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา ¶ อโหสิ, สุนนฺโท สารถิ สาริปุตฺโต, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, มูคปกฺขปณฺฑิโต ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ’’นฺติ.
มูคปกฺขชาตกวณฺณนา ปมา.
[๕๓๙] ๒. มหาชนกชาตกวณฺณนา
โกยํ ¶ ¶ มชฺเฌ สมุทฺทสฺมินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ตถาคตสฺส มหาภินิกฺขมนํ วณฺณยนฺตา นิสีทึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต วิเทหรฏฺเ มิถิลายํ มหาชนโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ อริฏฺชนโก จ โปลชนโก จาติ. เตสุ ราชา เชฏฺปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ, กนิฏฺสฺส เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. อปรภาเค มหาชนโก กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา รฺโ อจฺจเยน อริฏฺชนโก ราชา หุตฺวา อิตรสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. ตสฺเสโก ปาทมูลิโก อมจฺโจ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, อุปราชา ตุมฺเห ฆาเตตุกาโม’’ติ อาห. ราชา ตสฺส ปุนปฺปุนํ กถํ สุตฺวา กนิฏฺสฺส สิเนหํ ภินฺทิตฺวา โปลชนกํ สงฺขลิกาหิ พนฺธาเปตฺวา ราชนิเวสนโต อวิทูเร เอกสฺมึ เคเห วสาเปตฺวา อารกฺขํ เปสิ. กุมาโร ‘‘สจาหํ ภาตุ เวรีมฺหิ, สงฺขลิกาปิ เม หตฺถปาทา มา มุจฺจนฺตุ, ทฺวารมฺปิ มา วิวรียตุ, สเจ โน เวรีมฺหิ, สงฺขลิกาปิ เม หตฺถปาทา มุจฺจนฺตุ, ทฺวารมฺปิ วิวรียตู’’ติ สจฺจกิริยมกาสิ. ตาวเทว ¶ สงฺขลิกาปิ ขณฺฑาขณฺฑํ ฉิชฺชึสุ, ทฺวารมฺปิ วิวฏํ. โส นิกฺขมิตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสิ.
ปจฺจนฺตคามวาสิโน ตํ สฺชานิตฺวา อุปฏฺหึสุ. ราชาปิ ตํ คาหาเปตุํ นาสกฺขิ. โส อนุปุพฺเพน ปจฺจนฺตชนปทํ หตฺถคตํ กตฺวา มหาปริวาโร หุตฺวา ‘‘อหํ ปุพฺเพ ภาตุ น เวรี, อิทานิ ปน เวรีมฺหี’’ติ มหาชนปริวุโต มิถิลํ คนฺตฺวา พหินคเร ขนฺธาวารํ กตฺวา วาสํ กปฺเปสิ. นครวาสิโน โยธา ‘‘กุมาโร กิร อาคโต’’ติ สุตฺวา เยภุยฺเยน หตฺถิอสฺสวาหนาทีนิ คเหตฺวา ตสฺเสว สนฺติกํ อาคมึสุ, อฺเปิ นาครา อาคมึสุ. โส ภาตุ สาสนํ เปเสสิ ‘‘นาหํ ปุพฺเพ ตุมฺหากํ เวรี, อิทานิ ปน เวรีมฺหิ, ฉตฺตํ วา เม เทถ, ยุทฺธํ วา’’ติ. ราชา ตํ สุตฺวา ¶ ยุทฺธํ กาตุํ อิจฺฉนฺโต อคฺคมเหสึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ยุทฺเธ ชยปราชโย ¶ นาม น สกฺกา าตุํ, สเจ มม อนฺตราโย โหติ, ตฺวํ คพฺภํ รกฺเขยฺยาสี’’ติ วตฺวา มหติยา เสนาย ปริวุโต นครา นิกฺขมิ.
อถ นํ ยุทฺเธ โปลชนกสฺส โยธา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสุํ. ตทา ‘‘ราชา มโต’’ติ สกลนคเร เอกโกลาหลํ ชาตํ. เทวีปิ ตสฺส มตภาวํ ตฺวา สีฆํ สีฆํ สุวณฺณสาราทีนิ คเหตฺวา ปจฺฉิยํ ปกฺขิปิตฺวา มตฺถเก กิลิฏฺปิโลติกํ อตฺถริตฺวา อุปริ ตณฺฑุเล โอกิริตฺวา กิลิฏฺปิโลติกํ นิวาเสตฺวา สรีรํ วิรูปํ กตฺวา ปจฺฉึ สีเส เปตฺวา ทิวา ทิวสฺเสว นิกฺขมิ, น โกจิ นํ สฺชานิ. สา อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา กตฺถจิ อคตปุพฺพตฺตา มคฺคํ อชานนฺตี ทิสํ ววตฺถาเปตุํ อสกฺโกนฺตี เกวลํ ‘‘กาลจมฺปานครํ นาม อตฺถี’’ติ สุตตฺตา ‘‘กาลจมฺปานครํ คมิกา นาม อตฺถี’’ติ ปุจฺฉมานา เอกิกา สาลายํ นิสีทิ. กุจฺฉิมฺหิ ปนสฺสา นิพฺพตฺตสตฺโต น โย วา โส วา, ปูริตปารมี มหาสตฺโต นิพฺพตฺติ.
ตสฺส เตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตสตฺโต มหาปฺุโ, มยา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปฏิจฺฉนฺนโยคฺคํ มาเปตฺวา ตตฺถ มฺจํ ปฺาเปตฺวา มหลฺลกปุริโส วิย โยคฺคํ ปาเชนฺโต ตาย นิสินฺนสาลาย ทฺวาเร ตฺวา ‘‘กาลจมฺปานครํ คมิกา นาม อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ, ตาต, คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน ¶ หิ โยคฺคํ อารุยฺห นิสีท, อมฺมา’’ติ. ‘‘ตาต, อหํ ปริปุณฺณคพฺภา, น สกฺกา มยา โยคฺคํ อภิรุหิตุํ, ปจฺฉโต ปจฺฉโต คมิสฺสามิ, อิมิสฺสา ปน เม ปจฺฉิยา โอกาสํ เทหี’’ติ. ‘‘อมฺม, กึ วเทสิ, โยคฺคํ ปาเชตุํ ชานนสมตฺโถ นาม มยา สทิโส นตฺถิ. อมฺม, มา ภายิ, อารุยฺห นิสีทา’’ติ. สา ‘‘ตาต, สาธู’’ติ วทติ. โส ตสฺสา อาโรหนกาเล อตฺตโน อานุภาเวน วาตปุณฺณภสฺตจมฺมํ วิย ปถวึ อุนฺนาเมตฺวา โยคฺคสฺส ปจฺฉิมนฺเต ปหราเปสิ. สา อภิรุยฺห สยเน นิปชฺชิตฺวาว ‘‘อยํ เทวตา ภวิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. สา ทิพฺพสยเน นิปนฺนมตฺตาว นิทฺทํ โอกฺกมิ.
อถ ¶ นํ สกฺโก ตึสโยชนมตฺถเก เอกํ นทึ ปตฺวา ปโพเธตฺวา ‘‘อมฺม, โอตริตฺวา นทิยํ นฺหายิตฺวา อุสฺสีสเก สาฏกยุคํ อตฺถิ, ตํ นิวาเสหิ, อนฺโตโยคฺเค ปุฏภตฺตํ อตฺถิ, ตํ ภฺุชาหี’’ติ อาห. สา ตถา กตฺวา ปุน นิปชฺชิตฺวา สายนฺหสมเย กาลจมฺปานครํ ปตฺวา ทฺวารฏฺฏาลกปากาเร ทิสฺวา ‘‘ตาต, กึ นาม นครเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘กาลจมฺปานครํ, อมฺมา’’ติ. ‘‘กึ วเทสิ, ตาต, นนุ อมฺหากํ นครโต กาลจมฺปานครํ สฏฺิโยชนมตฺถเก โหตี’’ติ? ‘‘เอวํ, อมฺม, อหํ ปน อุชุมคฺคํ ชานามี’’ติ. อถ นํ ทกฺขิณทฺวารสมีเป โอตาเรตฺวา ¶ ‘‘อมฺม, อมฺหากํ คาโม ปุรโต อตฺถิ, ตฺวํ คนฺตฺวา นครํ ปวิสาหี’’ติ วตฺวา ปุรโต คนฺตฺวา วิย สกฺโก อนฺตรธายิตฺวา สกฏฺานเมว คโต.
เทวีปิ เอกิกาว สาลายํ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย กาลจมฺปานครวาสี มนฺตชฺฌายโก พฺราหฺมโณ ปฺจหิ มาณวกสเตหิ ปริวุโต นฺหานตฺถาย คจฺฉนฺโต ทูรโตว โอโลเกตฺวา ตํ อภิรูปํ โสภคฺคปฺปตฺตํ ตตฺถ นิสินฺนํ ทิสฺวา ตสฺสา กุจฺฉิยํ มหาสตฺตสฺสานุภาเวน สห ทสฺสเนเนว กนิฏฺภคินิสิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา มาณวเก พหิ เปตฺวา เอกโกว สาลํ ปวิสิตฺวา ‘‘ภคินิ, กตรคามวาสิกา ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตาต, มิถิลายํ อริฏฺชนกรฺโ อคฺคมเหสีมฺหี’’ติ. ‘‘อมฺม, อิธ กสฺมา อาคตาสี’’ติ? ‘‘ตาต, โปลชนเกน ราชา มาริโต, อถาหํ ภีตา ‘คพฺภํ อนุรกฺขิสฺสามี’ติ อาคตา’’ติ. ‘‘อมฺม, อิมสฺมึ ปน เต นคเร โกจิ าตโก อตฺถี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ตาตา’’ติ. เตน หิ มา จินฺตยิ, อหํ อุทิจฺจพฺราหฺมโณ มหาสาโล ทิสาปาโมกฺขอาจริโย, อหํ ตํ ภคินิฏฺาเน เปตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตฺวํ ‘‘ภาติกา’’ติ มํ วตฺวา ปาเทสุ คเหตฺวา ปริเทวาติ. สา มหาสทฺทํ กตฺวา ¶ ตสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา ปริเทวิ. เต ทฺเวปิ อฺมฺํ ปริเทวึสุ.
อถสฺส อนฺเตวาสิกา มหาสทฺทํ สุตฺวา ขิปฺปํ อุปธาวิตฺวา ‘‘อาจริย, กึ เต โหตี’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส อาห – ‘‘กนิฏฺภคินี เม เอสา, อสุกกาเล นาม มยา วินา ชาตา’’ติ. อถ มาณวา ‘‘ตว ภคินึ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย มา จินฺตยิตฺถ อาจริยา’’ติ อาหํสุ. โส มาณเว ปฏิจฺฉนฺนโยคฺคํ อาหราเปตฺวา ตํ ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา ‘‘ตาตา, โว ¶ คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา มม กนิฏฺภคินิภาวํ กเถตฺวา สพฺพกิจฺจานิ กาตุํ วเทถา’’ติ วตฺวา เคหํ เปเสสิ. เต คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา กเถสุํ. อถ นํ พฺราหฺมณีปิ อุณฺโหทเกน นฺหาเปตฺวา สยนํ ปฺาเปตฺวา นิปชฺชาเปสิ. อถ พฺราหฺมโณปิ นฺหาตฺวา อาคโต โภชนกาเล ‘‘ภคินึ เม ปกฺโกสถา’’ติ ปกฺโกสาเปตฺวา ตาย สทฺธึ เอกโต ภฺุชิตฺวา อนฺโตนิเวสเนเยว ตํ ปฏิชคฺคิ.
สา น จิรสฺเสว สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘มหาชนกกุมาโร’’ติสฺส อยฺยกสนฺตกํ นามมกาสิ. โส วฑฺฒมาโน ทารเกหิ สทฺธึ กีฬนฺโต เย ตํ โรเสนฺติ, เต อสมฺภินฺนขตฺติยกุเล ชาตตฺตา มหาพลวตาย เจว มานถทฺธตาย จ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปหรติ. ตทา เต มหาสทฺเทน โรทนฺตา ‘‘เกน ปหฏา’’ติ วุตฺเต ‘‘วิธวาปุตฺเตนา’’ติ วทนฺติ. อถ กุมาโร จินฺเตสิ ‘‘อิเม มํ ‘วิธวาปุตฺโต’ติ อภิณฺหํ วทนฺติ, โหตุ, มม มาตรํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส เอกทิวสํ ¶ มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, โก มยฺหํ ปิตา’’ติ? อถ นํ มาตา ‘‘ตาต, พฺราหฺมโณ เต ปิตา’’ติ วฺเจสิ. โส ปุนทิวเสปิ ทารเก ปหรนฺโต ‘‘วิธวาปุตฺโต’’ติ วุตฺเต ‘‘นนุ พฺราหฺมโณ เม ปิตา’’ติ วตฺวา ‘‘พฺราหฺมโณ กึ เต โหตี’’ติ วุตฺเต จินฺเตสิ ‘‘อิเม มํ, พฺราหฺมโณ เต กึ โหตี’ติ อภิณฺหํ วทนฺติ, มาตา เม อิทํ การณํ ยถาภูตํ น กเถสิ, สา อตฺตโน มเนน เม น กเถสฺสติ, โหตุ, กถาเปสฺสามิ น’’นฺติ. โส ถฺํ ปิวนฺโต ถนํ ทนฺเตหิ ฑํสิตฺวา ‘‘อมฺม, เม ปิตรํ กเถหิ, สเจ น กเถสฺสสิ, ถนํ เต ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อาห. สา ปุตฺตํ วฺเจตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘ตาต, ตฺวํ มิถิลายํ อริฏฺชนกรฺโ ปุตฺโต, ปิตา เต โปลชนเกน มาริโต, อหํ ตํ อนุรกฺขนฺตี อิมํ นครํ อาคตา, อยํ พฺราหฺมโณ มํ ภคินิฏฺาเน เปตฺวา ปฏิชคฺคตี’’ติ กเถสิ. โส ตํ สุตฺวา ตโต ปฏฺาย ‘‘วิธวาปุตฺโต’’ติ วุตฺเตปิ น กุชฺฌิ.
โส โสฬสวสฺสพฺภนฺตเรเยว ตโย เวเท จ สพฺพสิปฺปานิ จ อุคฺคณฺหิ ¶ , โสฬสวสฺสิกกาเล ปน อุตฺตมรูปธโร อโหสิ. อถ โส ‘‘ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, กิฺจิ ธนํ เต หตฺเถ อตฺถิ, อุทาหุ โน, อหํ โวหารํ กตฺวา ธนํ อุปฺปาเทตฺวา ¶ ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, นาหํ ตุจฺฉหตฺถา อาคตา, ตโย เม หตฺเถ ธนสารา อตฺถิ, มุตฺตสาโร, มณิสาโร, วชิรสาโรติ, เตสุ เอเกโก รชฺชคฺคหณปฺปมาโณ, ตํ คเหตฺวา รชฺชํ คณฺห, มา โวหารํ กรี’’ติ. ‘‘อมฺม, อิทมฺปิ ธนํ มยฺหเมว อุปฑฺฒํ กตฺวา เทหิ, ตํ ปน คเหตฺวา สุวณฺณภูมึ คนฺตฺวา พหุํ ธนํ อาหริตฺวา รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ. โส อุปฑฺฒํ อาหราเปตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา สุวณฺณภูมึ คมิเกหิ วาณิเชหิ สทฺธึ นาวาย ภณฺฑํ อาโรเปตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺม, อหํ สุวณฺณภูมึ คมิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, สมุทฺโท นาม อปฺปสิทฺธิโก พหุอนฺตราโย, มา คจฺฉ, รชฺชคฺคหณาย เต ธนํ พหู’’ติ. โส ‘‘คจฺฉิสฺสาเมว อมฺมา’’ติ มาตรํ วนฺทิตฺวา เคหา นิกฺขมฺม นาวํ อภิรุหิ.
ตํ ทิวสเมว โปลชนกสฺส สรีเร โรโค อุปฺปชฺชิ, อนุฏฺานเสยฺยํ สยิ. ตทา สตฺต ชงฺฆสตานิ นาวํ อภิรุหึสุ. นาวา สตฺตทิวเสหิ สตฺต โยชนสตานิ คตา. สา อติจณฺฑเวเคน คนฺตฺวา อตฺตานํ วหิตุํ นาสกฺขิ, ผลกานิ ภินฺนานิ, ตโต ตโต อุทกํ อุคฺคตํ, นาวา สมุทฺทมชฺเฌ นิมุคฺคา. มหาชนา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ, นานาเทวตาโย นมสฺสนฺติ. มหาสตฺโต ปน เนว โรทติ น ปริเทวติ, น เทวตาโย นมสฺสติ, นาวาย ปน นิมุชฺชนภาวํ ตฺวา สปฺปินา สกฺขรํ โอมทฺทิตฺวา กุจฺฉิปูรํ ขาทิตฺวา ทฺเว มฏฺกสาฏเก เตเลน เตเมตฺวา ทฬฺหํ นิวาเสตฺวา กูปกํ นิสฺสาย ิโต นาวาย นิมุชฺชนสมเย กูปกํ อภิรุหิ. มหาชนา ¶ มจฺฉกจฺฉปภกฺขา ชาตา, สมนฺตา อุทกํ อฑฺฒูสภมตฺตํ โลหิตํ อโหสิ. มหาสตฺโต กูปกมตฺถเก ิโตว ‘‘อิมาย นาม ทิสาย มิถิลนคร’’นฺติ ทิสํ ววตฺถเปตฺวา กูปกมตฺถกา อุปฺปติตฺวา มจฺฉกจฺฉเป อติกฺกมฺม มหาพลวตาย อุสภมตฺถเก ปติ. ตํ ทิวสเมว โปลชนโก กาลมกาสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺโต มณิวณฺณาสุ อูมีสุ ปริวตฺตนฺโต สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย สมุทฺทํ ¶ ตรติ. โส ยถา เอกทิวสํ, เอวํ สตฺตาหํ ตรติ, ‘‘อิทานิ ปุณฺณมีทิวโส’’ติ เวลํ ปน โอโลเกตฺวา โลโณทเกน มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก โหติ.
ตทา ¶ จ ‘‘เย มาตุปฏฺานาทิคุณยุตฺตา สมุทฺเท มริตุํ อนนุจฺฉวิกา สตฺตา, เต อุทฺธาเรหี’’ติ จตูหิ โลกปาเลหิ มณิเมขลา นาม เทวธีตา สมุทฺทรกฺขิกา ปิตา โหติ. สา สตฺต ทิวสานิ สมุทฺทํ น โอโลเกสิ, ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติยา กิรสฺสา สติ ปมุฏฺา. ‘‘เทวสมาคมํ คตา’’ติปิ วทนฺติ. อถ สา ‘‘อชฺช เม สตฺตโม ทิวโส สมุทฺทํ อโนโลเกนฺติยา, กา นุ โข ปวตฺตี’’ติ โอโลเกนฺตี มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘สเจ มหาชนกกุมาโร สมุทฺเท นสฺสิสฺส, เทวสมาคมปเวสนํ น ลภิสฺส’’นฺติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อวิทูเร อลงฺกเตน สรีเรน อากาเส ตฺวา มหาสตฺตํ วีมํสมานา ปมํ คาถมาห –
‘‘โกยํ มชฺเฌ สมุทฺทสฺมึ, อปสฺสํ ตีรมายุเห;
กํ ตฺวํ อตฺถวสํ ตฺวา, เอวํ วายมเส ภุส’’นฺติ.
ตตฺถ อปสฺสํ ตีรมายุเหติ ตีรํ อปสฺสนฺโตว อายูหติ วีริยํ กโรติ.
อถ มหาสตฺโต ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘อชฺช เม สตฺตโม ทิวโส สมุทฺทํ ตรนฺตสฺส, น เม ทุติโย สตฺโต ทิฏฺปุพฺโพ, โก นุ มํ วทตี’’ติ อากาสํ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘นิสมฺม วตฺตํ โลกสฺส, วายามสฺส จ เทวเต;
ตสฺมา มชฺเฌ สมุทฺทสฺมึ, อปสฺสํ ตีรมายุเห’’ติ.
ตตฺถ นิสมฺม วตฺตํ โลกสฺสาติ อหํ โลกสฺส วตฺตกิริยํ ทิสฺวา อุปธาเรตฺวา วิหรามีติ อตฺโถ. วายามสฺส จาติ วายามสฺส จ อานิสํสํ นิสาเมตฺวา วิหรามีติ ทีเปติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ¶ นิสมฺม วิหรามิ, ‘‘ปุริสกาโร นาม น นสฺสติ, สุเข ปติฏฺาเปตี’’ติ ชานามิ, ตสฺมา ตีรํ อปสฺสนฺโตปิ อายูหามิ วีริยํ กโรมิ, น อุกฺกณฺามีติ.
สา ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา อุตฺตริ โสตุกามา หุตฺวา ปุน คาถมาห –
‘‘คมฺภีเร ¶ อปฺปเมยฺยสฺมึ, ตีรํ ยสฺส น ทิสฺสติ;
โมโฆ เต ปุริสวายาโม, อปฺปตฺวาว มริสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ อปฺปตฺวาติ ตีรํ อปฺปตฺวาเยว.
อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เทวเต, กึ นาเมตํ กเถสิ, วายามํ กตฺวา มรนฺโตปิ ครหโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘อนโณ ¶ าตินํ โหติ, เทวานํ ปิตุนฺจ โส;
กรํ ปุริสกิจฺจานิ, น จ ปจฺฉานุตปฺปตี’’ติ.
ตตฺถ อนโณติ วายามํ กโรนฺโต าตีนฺเจว เทวตานฺจ พฺรหฺมานฺจ อนฺตเร อนโณ โหติ อครหิโต อนินฺทิโต. กรํ ปุริสกิจฺจานีติ ยถา โส ปุคฺคโล ปุริเสหิ กตฺตพฺพานิ กมฺมานิ กรํ ปจฺฉากาเล น จ อนุตปฺปติ, ยถา นานุโสจติ, เอวาหมฺปิ วีริยํ กโรนฺโต ปจฺฉากาเล นานุตปฺปามิ นานุโสจามีติ อตฺโถ.
อถ นํ เทวธีตา คาถมาห –
‘‘อปารเนยฺยํ ยํ กมฺมํ, อผลํ กิลมถุทฺทยํ;
ตตฺถ โก วายาเมนตฺโถ, มจฺจุ ยสฺสาภินิปฺปต’’นฺติ.
ตตฺถ อปารเนยฺยนฺติ วายาเมน มตฺถกํ อปาเปตพฺพํ. มจฺจุ ยสฺสาภินิปฺปตนฺติ ยสฺส อฏฺาเน วายามกรณสฺส มรณเมว นิปฺผนฺนํ, ตตฺถ โก วายาเมนตฺโถติ.
เอวํ เทวธีตาย วุตฺเต ตํ อปฺปฏิภานํ กโรนฺโต มหาสตฺโต อุตฺตริ คาถา อาห –
‘‘อปารเนยฺยมจฺจนฺตํ ¶ , โย วิทิตฺวาน เทวเต;
น รกฺเข อตฺตโน ปาณํ, ชฺา โส ยทิ หาปเย.
‘‘อธิปฺปายผลํ เอเก, อสฺมึ โลกสฺมิ เทวเต;
ปโยชยนฺติ กมฺมานิ, ตานิ อิชฺฌนฺติ วา น วา.
‘‘สนฺทิฏฺิกํ กมฺมผลํ, นนุ ปสฺสสิ เทวเต;
สนฺนา อฺเ ตรามหํ, ตฺจ ปสฺสามิ สนฺติเก.
‘‘โส อหํ ¶ วายมิสฺสามิ, ยถาสตฺติ ยถาพลํ;
คจฺฉํ ปารํ สมุทฺทสฺส, กสฺสํ ปุริสการิย’’นฺติ.
ตตฺถ อจฺจนฺตนฺติ โย ‘‘อิทํ กมฺมํ วีริยํ กตฺวา นิปฺผาเทตุํ น สกฺกา, อจฺจนฺตเมว อปารเนยฺย’’นฺติ วิทิตฺวา จณฺฑหตฺถิอาทโย อปริหรนฺโต อตฺตโน ปาณํ น รกฺขติ. ชฺา โส ยทิ หาปเยติ โส ยทิ ตาทิเสสุ าเนสุ วีริยํ หาเปยฺย, ชาเนยฺย ตสฺส กุสีตภาวสฺส ผลํ. ตฺวํ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกํ วทสีติ ทีเปติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘ชฺา โส ยทิ หาปย’’นฺติ ลิขิตํ, ตํ อฏฺกถาสุ นตฺถิ. อธิปฺปายผลนฺติ อตฺตโน อธิปฺปายผลํ สมฺปสฺสมานา เอกจฺเจ ปุริสา กสิวณิชฺชาทีนิ กมฺมานิ ปโยชยนฺติ, ตานิ อิชฺฌนฺติ วา น วา อิชฺฌนฺติ. ‘‘เอตฺถ คมิสฺสามิ, อิทํ อุคฺคเหสฺสามี’’ติ ปน กายิกเจตสิกวีริยํ กโรนฺตสฺส ตํ อิชฺฌเตว, ตสฺมา ตํ กาตุํ วฏฺฏติเยวาติ ทสฺเสติ. สนฺนา อฺเ ตรามหนฺติ อฺเ ชนา มหาสมุทฺเท สนฺนา นิมุคฺคา วีริยํ อกโรนฺตา มจฺฉกจฺฉปภกฺขา ชาตา, อหํ ปน เอกโกว ตรามิ. ตฺจ ปสฺสามิ สนฺติเกติ อิทํ เม วีริยผลํ ปสฺส, มยา อิมินา อตฺตภาเวน เทวตา นาม ¶ น ทิฏฺปุพฺพา, โสหํ ตฺจ อิมินา ทิพฺพรูเปน มม สนฺติเก ิตํ ปสฺสามิ. ยถาสตฺติ ยถาพลนฺติ อตฺตโน สตฺติยา จ พลสฺส จ อนุรูปํ. กสฺสนฺติ กริสฺสามิ.
ตโต เทวตา ตสฺส ตํ ทฬฺหวจนํ สุตฺวา ถุตึ กโรนฺตี คาถมาห –
‘‘โย ตฺวํ เอวํ คเต โอเฆ, อปฺปเมยฺเย มหณฺณเว;
ธมฺมวายามสมฺปนฺโน, กมฺมุนา นาวสีทสิ;
โส ตฺวํ ตตฺเถว คจฺฉาหิ, ยตฺถ เต นิรโต มโน’’ติ.
ตตฺถ ¶ เอวํ คเตติ เอวรูเป คมฺภีเร วิตฺถเต มหาสมุทฺเท. ธมฺมวายามสมฺปนฺโนติ ธมฺมวายาเมน สมนฺนาคโต. กมฺมุนาติ อตฺตโน ปุริสการกมฺเมน. นาวสีทสีติ น อวสีทสิ. ยตฺถ เตติ ยสฺมึ าเน ตว มโน นิรโต, ตตฺเถว คจฺฉาหีติ.
สา เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ปณฺฑิต มหาปรกฺกม, กุหึ ตํ เนมี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มิถิลนคร’’นฺติ วุตฺเต สา มหาสตฺตํ ปุปฺผกลาปํ วิย อุกฺขิปิตฺวา อุโภหิ ¶ หตฺเถหิ ปริคฺคยฺห อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ปิยปุตฺตํ อาทาย คจฺฉนฺตี วิย อากาเส ปกฺขนฺทิ. มหาสตฺโต สตฺตาหํ โลโณทเกน อุปกฺกสรีโร หุตฺวา ทิพฺพผสฺเสน ผุฏฺโ นิทฺทํ โอกฺกมิ. อถ นํ สา มิถิลํ เนตฺวา อมฺพวนุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ ทกฺขิณปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา อุยฺยานเทวตาหิ ตสฺส อารกฺขํ คาหาเปตฺวา สกฏฺานเมว คตา.
ตทา โปลชนกสฺส ปุตฺโต นตฺถิ. เอกา ปนสฺส ธีตา อโหสิ, สา สีวลิเทวี นาม ปณฺฑิตา พฺยตฺตา. อมจฺจา ตเมนํ มรณมฺเจ นิปนฺนํ ปุจฺฉึสุ ‘‘มหาราช, ตุมฺเหสุ ทิวงฺคเตสุ รชฺชํ กสฺส ทสฺสามา’’ติ? อถ เน ราชา ‘‘ตาตา, มม ธีตรํ สีวลิเทวึ อาราเธตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถ, โย วา ปน จตุรสฺสปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสกํ ชานาติ, โย วา ปน สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ สกฺโกติ, โย วา ปน โสฬส มหานิธี นีหริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห. อมจฺจา ‘‘เทว, เตสํ โน นิธีนํ อุทฺทานํ กเถถา’’ติ อาหํสุ. อถ ราชา –
‘‘สูริยุคฺคมเน นิธิ, อโถ โอกฺกมเน นิธิ;
อนฺโต นิธิ พหิ นิธิ, น อนฺโต น พหิ นิธิ.
‘‘อาโรหเน ¶ มหานิธิ, อโถ โอโรหเน นิธิ;
จตูสุ มหาสาเลสุ, สมนฺตา โยชเน นิธิ.
‘‘ทนฺตคฺเคสุ มหานิธิ, วาลคฺเคสุ จ เกปุเก;
รุกฺขคฺเคสุ มหานิธิ, โสฬเสเต มหานิธี.
‘‘สหสฺสถาโม ปลฺลงฺโก, สีวลิอาราธเนน จา’’ติ. –
มหานิธีหิ สทฺธึ อิตเรสมฺปิ อุทฺทานํ กเถสิ. ราชา อิมํ กถํ วตฺวา กาลมกาสิ.
อมจฺจา ¶ รฺโ อจฺจเยน ตสฺส มตกิจฺจํ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส สนฺนิปติตฺวา มนฺตยึสุ ‘‘อมฺโภ รฺา ‘อตฺตโน ธีตรํ อาราเธตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ ทาตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ, โก ตํ อาราเธตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ. เต ‘‘เสนาปติ วลฺลโภ’’ติ วตฺวา ตสฺส สาสนํ เปเสสุํ. โส สาสนํ สุตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รชฺชตฺถาย ราชทฺวารํ คนฺตฺวา อตฺตโน ¶ อาคตภาวํ ราชธีตาย อาโรจาเปสิ. สา ตสฺส อาคตภาวํ ตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ ขฺวสฺส เสตจฺฉตฺตสิรึ ธาเรตุํ ธิตี’’ติ ตสฺส วีมํสนตฺถาย ‘‘ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ อาห. โส ตสฺสา สาสนํ สุตฺวา ตํ อาราเธตุกาโม โสปานปาทมูลโต ปฏฺาย ชเวนาคนฺตฺวา ตสฺสา สนฺติเก อฏฺาสิ. อถ นํ สา วีมํสมานา ‘‘มหาตเล ชเวน ธาวา’’ติ อาห. โส ‘‘ราชธีตรํ โตเสสฺสามี’’ติ เวเคน ปกฺขนฺทิ. อถ นํ ‘‘ปุน เอหี’’ติ อาห. โส ปุน เวเคน อาคโต. สา ตสฺส ธิติยา วิรหิตภาวํ ตฺวา ‘‘เอหิ สมฺม, ปาเท เม สมฺพาหา’’ติ อาห. โส ตสฺสา อาราธนตฺถํ นิสีทิตฺวา ปาเท สมฺพาหิ. อถ นํ สา อุเร ปาเทน ปหริตฺวา อุตฺตานกํ ปาเตตฺวา ‘‘อิมํ อนฺธพาลปุริสํ ธิติวิรหิตํ โปเถตฺวา คีวายํ คเหตฺวา นีหรถา’’ติ ทาสีนํ สฺํ อทาสิ. ตา ตถา กรึสุ. โส เตหิ ‘‘กึ เสนาปตี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘มา กเถถ, สา เนว มนุสฺสิตฺถี, ยกฺขินี’’ติ อาห. ตโต ภณฺฑาคาริโก คโต, ตมฺปิ ตเถว ลชฺชาเปสิ. ตถา เสฏฺึ, ฉตฺตคฺคาหํ, อสิคฺคาหนฺติ สพฺเพปิ เต ลชฺชาเปสิเยว.
อถ อมจฺจา สนฺนิปติตฺวา ‘‘ราชธีตรํ อาราเธตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห, ตมฺปิ โกจิ อาโรเปตุํ นาสกฺขิ. ตโต ‘‘จตุรสฺสปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสกํ ชานนฺตสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห, ตมฺปิ โกจิ น ชานาติ. ตโต โสฬส มหานิธี นีหริตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห, เตปิ โกจิ นีหริตุํ ¶ นาสกฺขิ. ตโต ‘‘อมฺโภ อราชิกํ นาม รฏฺํ ปาเลตุํ น สกฺกา, กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ มนฺตยึสุ. อถ เน ปุโรหิโต อาห – ‘‘โภ ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, ผุสฺสรถํ นาม วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏติ, ผุสฺสรเถน หิ ลทฺธราชา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นครํ อลงฺการาเปตฺวา มงฺคลรเถ จตฺตาโร กุมุทวณฺเณ อสฺเส โยเชตฺวา อุตฺตมปจฺจตฺถรณํ อตฺถริตฺวา ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ อาโรเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวาเรสุํ. ‘‘สสามิกสฺส รถสฺส ปุรโต ตูริยานิ วชฺชนฺติ, อสามิกสฺส ปจฺฉโต วชฺชนฺติ, ตสฺมา สพฺพตูริยานิ ¶ ปจฺฉโต วาเทถา’’ติ วตฺวา สุวณฺณภิงฺกาเรน รถธุรฺจ ปโตทฺจ อภิสิฺจิตฺวา ‘‘ยสฺส รชฺชํ กาเรตุํ ปฺุํ อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉตู’’ติ รถํ วิสฺสชฺเชสุํ. อถ รโถ ราชเคหํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เวเคน มหาวีถึ อภิรุหิ.
เสนาปติอาทโย ¶ ‘‘ผุสฺสรโถ มม สนฺติกํ อาคจฺฉตู’’ติ จินฺตยึสุ. โส สพฺเพสํ เคหานิ อติกฺกมิตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานาภิมุโข ปายาสิ. อถ นํ เวเคน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นิวตฺเตถา’’ติ อาหํสุ. ปุโรหิโต ‘‘มา นิวตฺตยิตฺถ, อิจฺฉนฺโต โยชนสตมฺปิ คจฺฉตุ, มา นิวาเรถา’’ติ อาห. รโถ อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺฏํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาโรหนสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. ปุโรหิโต มหาสตฺตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘อมฺโภ เอโก สิลาปฏฺเฏ นิปนฺนโก ปุริโส ทิสฺสติ, เสตจฺฉตฺตานุจฺฉวิกา ปนสฺส ธิติ อตฺถีติ วา นตฺถีติ วา น ชานาม, สเจ เอส ปฺุวา ภวิสฺสติ, อมฺเห น โอโลเกสฺสติ, กาฬกณฺณิสตฺโต สเจ ภวิสฺสติ, ภีตตสิโต อุฏฺาย กมฺปมาโน โอโลเกสฺสติ, ตสฺมา ขิปฺปํ สพฺพตูริยานิ ปคฺคณฺหถา’’ติ อาห. ตาวเทว อเนกสตานิ ตูริยานิ ปคฺคณฺหึสุ. ตทา ตูริยสทฺโท สาครโฆโส วิย อโหสิ.
มหาสตฺโต เตน สทฺเทน ปพุชฺฌิตฺวา สีสํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺโต มหาชนํ ทิสฺวา ‘‘เสตจฺฉตฺเตน เม อาคเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปุน สีสํ ปารุปิตฺวา ปริวตฺติตฺวา วามปสฺเสน นิปชฺชิ. ปุโรหิโต ตสฺส ปาเท วิวริตฺวา ลกฺขณานิ โอโลเกนฺโต ‘‘ติฏฺตุ อยํ เอโก ทีโป, จตุนฺนมฺปิ มหาทีปานํ รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ ปุน ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ. อถ มหาสตฺโต ¶ มุขํ วิวริตฺวา ปริวตฺติตฺวา ทกฺขิณปสฺเสน นิปชฺชิตฺวา มหาชนํ โอโลเกสิ. ตทา ปุโรหิโต ปริสํ อุสฺสาเรตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อวกุชฺโช หุตฺวา ‘‘อุฏฺเหิ, เทว, รชฺชํ เต ปาปุณาตี’’ติ อาห. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘ราชา โว กุหี’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘กาลกโต เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตสฺส ปุตฺโต วา ภาตา วา นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถิ เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สาธุ รชฺชํ กาเรสฺสามี’’ติ วตฺวา อุฏฺาย สิลาปฏฺเฏ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อถ นํ ตตฺเถว อภิสิฺจึสุ. โส มหาชนโก นาม ราชา อโหสิ. โส รถวรํ อภิรุยฺห มหนฺเตน สิริวิภเวน นครํ ปวิสิตฺวา ราชนิเวสนํ อภิรุหนฺโต ¶ ‘‘เสนาปติอาทีนํ ตาเนว านานิ โหนฺตู’’ติ วิจาเรตฺวา มหาตลํ อภิรุหิ.
ราชธีตา ปน ปุริมสฺาย เอว ตสฺส วีมํสนตฺถํ เอกํ ปุริสํ อาณาเปสิ ‘‘ตาต, ตฺวํ คจฺฉ, ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทหิ ‘เทว, สีวลิเทวี ตุมฺเห ปกฺโกสติ, ขิปฺปํ กิราคจฺฉตู’’’ติ. โส คนฺตฺวา ตถา อาโรเจสิ. ราชา ปณฺฑิโต ตสฺส วจนํ สุตฺวาปิ อสฺสุณนฺโต วิย ‘‘อโห โสภโน วตายํ ปาสาโท’’ติ ปาสาทเมว วณฺเณติ. โส ตํ สาเวตุํ อสกฺโกนฺโต คนฺตฺวา ราชธีตาย ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ ‘‘อยฺเย, ราชา ตุมฺหากํ วจนํ น สุณาติ, ปาสาทเมว วณฺเณติ, ตุมฺหากํ วจนํ ติณํ วิย น คเณตี’’ติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ¶ ‘‘โส มหชฺฌาสโย ปุริโส ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ เปเสสิ. ราชาปิ อตฺตโน รุจิยา ปกติคมเนน สีโห วิย วิชมฺภมาโน ปาสาทํ อภิรุหิ. ตสฺมึ อุปสงฺกมนฺเต ราชธีตา ตสฺส เตเชน สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี อาคนฺตฺวา หตฺถาลมฺพกํ อทาสิ.
โส ตสฺสา หตฺถํ โอลมฺพิตฺวา มหาตลํ อภิรุหิตฺวา สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘อมฺโภ, อตฺถิ ปน โว รฺา กาลํ กโรนฺเตน โกจิ โอวาโท ทินฺโน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ วเทถา’’ติ อาห. เทว ‘‘สีวลิเทวึ อาราเธตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. สีวลิเทวิยา อาคนฺตฺวา หตฺถาลมฺพโก ทินฺโน, อยํ ตาว อาราธิตา นาม, อฺํ วเทถาติ. เทว ‘‘จตุรสฺสปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสกํ ชานิตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. ราชา ‘‘อิทํ ทุชฺชานํ, อุปาเยน สกฺกา ชานิตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา สีสโต สุวณฺณสูจึ นีหริตฺวา สีวลิเทวิยา หตฺเถ เปสิ ‘‘อิมํ เปหี’’ติ ¶ . สา ตํ คเหตฺวา ปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสเก เปสิ. ‘‘ขคฺคํ อทาสี’’ติปิ วทนฺติเยว. โส ตาย สฺาย ‘‘อิทํ อุสฺสีสก’’นฺติ ตฺวา เตสํ กถํ อสฺสุณนฺโต วิย ‘‘กึ กเถถา’’ติ วตฺวา ปุน เตหิ ตถา วุตฺเต ‘‘อิทํ ชานิตุํ น ครุ, เอตํ อุสฺสีสก’’นฺติ วตฺวา ‘‘อฺํ วเทถา’’ติ อาห. เทว, ‘‘สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. ‘‘เตน หิ อาหรถ น’’นฺติ อาหราเปตฺวา โส ธนุํ ปลฺลงฺเก ยถานิสินฺโนว ¶ อิตฺถีนํ กปฺปาสโผฏนธนุํ วิย อาโรเปตฺวา ‘‘อฺํ วเทถา’’ติ อาห. ‘‘เทว, โสฬส มหานิธี นีหริตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. ‘‘เตสํ กิฺจิ อุทฺทานํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ นํ กเถถา’’ติ อาห. เต ‘‘สูริยุคฺคมเน นิธี’’ติ อุทฺทานํ กถยึสุ. ตสฺส ตํ สุณนฺตสฺเสว คคนตเล ปุณฺณจนฺโท วิย โส อตฺโถ ปากโฏ อโหสิ.
อถ เน ราชา อาห – ‘‘อชฺช, ภเณ, เวลา นตฺถิ, สฺเว นิธี คณฺหิสฺสามี’’ติ. โส ปุนทิวเส อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺหากํ ราชา ปจฺเจกพุทฺเธ โภเชสี’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. โส จินฺเตสิ ‘‘สูริโยติ นายํ สูริโย, สูริยสทิสตฺตา ปน ปจฺเจกพุทฺธา สูริยา นาม, เตสํ ปจฺจุคฺคมนฏฺาเน นิธินา ภวิตพฺพ’’นฺติ. ตโต ราชา ‘‘เตสุ ปจฺเจกพุทฺเธสุ อาคจฺฉนฺเตสุ ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺโต กตรํ านํ คจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกฏฺานํ นาม เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตํ านํ ขณิตฺวา นิธึ นีหรถา’’ติ นิธึ นีหราเปสิ. ‘‘คมนกาเล อนุคจฺฉนฺโต กตฺถ ตฺวา อุยฺโยเชสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตโตปิ นิธึ นีหรถา’’ติ นิธึ ¶ นีหราเปสิ. อถ มหาชนา อุกฺกุฏฺิสหสฺสานิ ปวตฺเตนฺตา ‘‘สูริยุคฺคมเน นิธี’’ติ วุตฺตตฺตา สูริยุคฺคมนทิสายํ ขณนฺตา วิจรึสุ. อโถ ‘‘โอกฺกมเน นิธี’’ติ วุตฺตตฺตา สูริยตฺถงฺคมนทิสายํ ขณนฺตา วิจรึสุ. ‘‘อิทํ ปน ธนํ อิเธว โหติ, อโห อจฺฉริย’’นฺติ ปีติโสมนสฺสํ ปวตฺตยึสุ. อนฺโตนิธีติ ราชเคเห มหาทฺวารสฺส อนฺโตอุมฺมารา นิธึ นีหราเปสิ. พหิ นิธีติ พหิอุมฺมารา นิธึ นีหราเปสิ. น อนฺโต น พหิ นิธีติ เหฏฺาอุมฺมารโต นิธึ นีหราเปสิ ¶ . อาโรหเน นิธีติ มงฺคลหตฺถึ อาโรหนกาเล สุวณฺณนิสฺเสณิยา อตฺถรณฏฺานโต นิธึ นีหราเปสิ. อโถ โอโรหเน นิธีติ หตฺถิกฺขนฺธโต โอโรหนฏฺานโต นิธึ นีหราเปสิ. จตูสุ มหาสาเลสูติ ภูมิยํ กตอุปฏฺานฏฺาเน สิริสยนสฺส จตฺตาโร มฺจปาทา สาลมยา, เตสํ เหฏฺา จตสฺโส นิธิกุมฺภิโย นีหราเปสิ. สมนฺตาโยชเน นิธีติ โยชนํ นาม รถยุคปมาณํ, สิริสยนสฺส สมนฺตา รถยุคปฺปมาณโต นิธึ นีหราเปสิ. ทนฺตคฺเคสุ มหานิธีติ มงฺคลหตฺถิฏฺาเน ตสฺส ทฺวินฺนํ ทนฺตานํ อภิมุขฏฺานโต ¶ นิธึ นีหราเปสิ. วาลคฺเคสูติ มงฺคลหตฺถิฏฺาเน ตสฺส วาลธิสมฺมุขฏฺานโต นิธึ นีหราเปสิ. เกปุเกติ เกปุกํ วุจฺจติ อุทกํ, มงฺคลโปกฺขรณิโต อุทกํ นีหราเปตฺวา นิธึ ทสฺเสสิ. รุกฺขคฺเคสุ มหานิธีติ อุยฺยาเน มหาสาลรุกฺขมูเล ิตมชฺฌนฺหิกสมเย ปริมณฺฑลาย รุกฺขจฺฉายาย อนฺโต นิธึ นีหราเปสิ. เอวํ โสฬส มหานิธโย นีหราเปตฺวา ‘‘อฺํ กิฺจิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ เทวา’’ติ วทึสุ. มหาชโน หฏฺตุฏฺโ อโหสิ.
อถ ราชา ‘‘อิทํ ธนํ ทานมุเข วิกิริสฺสามี’’ติ นครมชฺเฌ เจว จตูสุ นครทฺวาเรสุ จาติ ปฺจสุ าเนสุ ปฺจ ทานสาลาโย การาเปตฺวา มหาทานํ ปฏฺเปสิ, กาลจมฺปานครโต อตฺตโน มาตรฺจ พฺราหฺมณฺจ ปกฺโกสาเปตฺวา มหนฺตํ สกฺการํ อกาสิ. ตสฺส ตรุณรชฺเชเยว สกลํ วิเทหรฏฺํ ‘‘อริฏฺชนกรฺโ กิร ปุตฺโต มหาชนโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรติ, โส กิร ปณฺฑิโต อุปายกุสโล, ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ ทสฺสนตฺถาย สงฺขุภิตํ อโหสิ. ตโต ตโต พหุํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคมึสุ, นาคราปิ มหาฉณํ สชฺชยึสุ. ราชนิเวสเน อตฺถรณาทีนิ สนฺถริตฺวา คนฺธทามมาลาทามาทีนิ โอสาเรตฺวา วิปฺปกิณฺณลาชากุสุมวาสธูมคนฺธาการํ กาเรตฺวา นานปฺปการํ ปานโภชนํ อุปฏฺาเปสุํ. รฺโ ปณฺณาการตฺถาย รชตสุวณฺณภาชนาทีสุ อเนกปฺปการานิ ขาทนียโภชนียมธุผาณิตผลาทีนิ คเหตฺวา ¶ ตตฺถ ตตฺถ ปริวาเรตฺวา อฏฺํสุ. เอกโต อมจฺจมณฺฑลํ นิสีทิ, เอกโต พฺราหฺมณคโณ, เอกโต เสฏฺิอาทโย นิสีทึสุ, เอกโต อุตฺตมรูปธรา นาฏกิตฺถิโย นิสีทึสุ, พฺราหฺมณาปิ โสตฺถิกาเรน มุขมงฺคลิกานิ กเถนฺติ, นจฺจคีตาทีสุ กุสลา นจฺจคีตาทีนิ ปวตฺตยึสุ, อเนกสตานิ ตูริยานิ ¶ ปวชฺชึสู. ตทา ราชนิเวสนํ ยุคนฺธรวาตเวเคน ปหฏา สาครกุจฺฉิ วิย เอกนินฺนาทํ อโหสิ. โอโลกิโตโลกิตฏฺานํ กมฺปติ.
อถ มหาสตฺโต เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา ราชาสเน นิสินฺโนว สกฺกสิริสทิสํ มหนฺตํ สิริวิลาสํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน มหาสมุทฺเท กตวายามํ อนุสฺสริ. ตสฺส ‘‘วีริยํ นาม กตฺตพฺพยุตฺตกํ, สจาหํ มหาสมุทฺเท ¶ วีริยํ นากริสฺสํ, น อิมํ สมฺปตฺตึ อลภิสฺส’’นฺติ ตํ วายามํ อนุสฺสรนฺตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชิ. โส ปีติเวเคน อุทานํ อุทาเนนฺโต อาห –
‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.
‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.
‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.
‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.
‘‘ทุกฺขูปนีโตปิ นโร สปฺโ, อาสํ น ฉินฺเทยฺย สุขาคมาย;
พหู หิ ผสฺสา อหิตา หิตา จ, อวิตกฺกิตา มจฺจุมุปพฺพชนฺติ.
‘‘อจินฺติตมฺปิ ภวติ, จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ;
น หิ จินฺตามยา โภคา, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา’’ติ.
ตตฺถ อาสีเสเถวาติ อาสาเฉทกมฺมํ อกตฺวา อตฺตโน กมฺมํ อาสํ กโรเถว. น นิพฺพินฺเทยฺยาติ วีริยํ กโรนฺโต น นิพฺพินฺเทยฺย น อลเสยฺย. ยถา อิจฺฉินฺติ ยถา ราชภาวํ อิจฺฉึ, ตเถว ราชา ชาโตมฺหิ. อุพฺภตนฺติ นีหฏํ. ทุกฺขูปนีโตติ กายิกเจตสิกทุกฺเขน ผุฏฺโปีติ อตฺโถ. อหิตา หิตา จาติ ทุกฺขผสฺสา อหิตา, สุขผสฺสา หิตา. อวิตกฺกิตาติ ¶ อวิตกฺกิตาโร อจินฺติตาโร. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตสุ ผสฺเสสุ อหิตผสฺเสน ผุฏฺา สตฺตา ‘‘หิตผสฺโสปิ อตฺถีติ วีริยํ กโรนฺตา ตํ ¶ ปาปุณนฺตี’’ติ อจินฺเตตฺวา วีริยํ น กโรนฺติ, เต อิมสฺส อตฺถสฺส อวิตกฺกิตาโร หิตผสฺสํ อลภิตฺวาว มจฺจุมุปพฺพชนฺติ มรณํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา วีริยํ กตฺตพฺพเมวาติ.
อจินฺติตมฺปีติ ¶ อิเมสํ สตฺตานํ อจินฺติตมฺปิ โหติ, จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ. มยาปิ หิ ‘‘อยุชฺฌิตฺวาว รชฺชํ ลภิสฺสามี’’ติ อิทํ อจินฺติตํ, ‘‘สุวณฺณภูมิโต ธนํ อาหริตฺวา ยุชฺฌิตฺวา ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปน จินฺติตํ, อิทานิ เม จินฺติตํ นฏฺํ, อจินฺติตํ ชาตํ. น หิ จินฺตามยา โภคาติ อิเมสํ สตฺตานฺหิ โภคา จินฺตาย อนิปฺผชฺชนโต จินฺตามยา นาม น โหนฺติ, ตสฺมา วีริยเมว กตฺตพฺพํ. วีริยวโต หิ อจินฺติตมฺปิ โหตีติ.
โส ตโต ปฏฺาย ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรสิ, ปจฺเจกพุทฺเธ จ อุปฏฺาสิ. อปรภาเค สีวลิเทวี ธฺปฺุลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘ทีฆาวุกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. ตสฺส วยปฺปตฺตสฺส ราชา อุปรชฺชํ ทตฺวา สตฺตวสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ. โส เอกทิวสํ อุยฺยานปาเลน ผลาผเลสุ เจว นานาปุปฺเผสุ จ อาภเตสุ ตานิ ทิสฺวา ตุฏฺโ หุตฺวา ตสฺส สมฺมานํ กาเรตฺวา ‘‘สมฺม อุยฺยานปาล, อหํ อุยฺยานํ ปสฺสิสฺสามิ, ตฺวํ อลงฺกโรหิ น’’นฺติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา กตฺวา รฺโ ปฏิเวเทสิ. โส หตฺถิกฺขนฺธวรคโต มหนฺเตน ปริวาเรน นครา นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานทฺวารํ ปาปุณิ. ตตฺร จ ทฺเว อมฺพา อตฺถิ นีโลภาสา. เอโก อผโล, เอโก ผลธโร. โส ปน อติมธุโร, รฺา อคฺคผลสฺส อปริภุตฺตตฺตา ตโต โกจิ ผลํ คเหตุํ น อุสฺสหติ. ราชา หตฺถิกฺขนฺธวรคโตว ตโต เอกํ ผลํ คเหตฺวา ปริภฺุชิ, ตสฺส ตํ ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตเมว ทิพฺโพชํ วิย อุปฏฺาสิ. โส ‘‘นิวตฺตนกาเล พหู ขาทิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ‘‘รฺา อคฺคผลํ ปริภุตฺต’’นฺติ ตฺวา อุปราชานํ อาทึ กตฺวา อนฺตมโส หตฺถิเมณฺฑอสฺสเมณฺฑาทโยปิ ผลํ คเหตฺวา ปริภฺุชึสุ. อฺเ ผลํ อลภนฺตา ทณฺเฑหิ สาขํ ภินฺทิตฺวา นิปณฺณมกํสุ. รุกฺโข โอภคฺควิภคฺโค อฏฺาสิ, อิตโร ปน มณิปพฺพโต วิย วิลาสมาโน ิโต.
ราชา อุยฺยานา นิกฺขนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ อมจฺเจ ปุจฺฉติ. ‘‘เทเวน อคฺคผลํ ปริภุตฺตนฺติ มหาชเนน วิลุมฺปิโต เทวา’’ติ อาหํสุ. ‘‘กึ นุ โข ภเณ, อิมสฺส ¶ ปน เนว ปตฺตํ, น วณฺโณ ขีโณ’’ติ? ‘‘นิปฺผลตาย น ขีโณ, เทวา’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา ¶ ‘‘อยํ รุกฺโข นิปฺผลตาย ¶ นีโลภาโส ิโต, อยํ ปน สผลตาย โอภคฺควิภคฺโค ิโต. อิทมฺปิ รชฺชํ สผลรุกฺขสทิสํ, ปพฺพชฺชา ปน นิปฺผลรุกฺขสทิสา. สกิฺจนสฺเสว ภยํ, นากิฺจนสฺส. ตสฺมา อหํ ผลรุกฺโข วิย อหุตฺวา นิปฺผลรุกฺขสทิโส ภวิสฺสามิ, อิมํ สมฺปตฺตึ จชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ทฬฺหํ สมาทานํ กตฺวา มนํ อธิฏฺหิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาททฺวาเร ิโตว เสนาปตึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มหาเสนาปติ, อชฺช เม ปฏฺาย ภตฺตหารกฺเจว มุโขทกทนฺตกฏฺทายกฺจ เอกํ อุปฏฺากํ เปตฺวา อฺเ มํ ทฏฺุํ มา ลภนฺตุ, โปราณกวินิจฺฉยามจฺเจ คเหตฺวา รชฺชํ อนุสาสถ, อหํ อิโต ปฏฺาย อุปริปาสาทตเล สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ปาสาทมารุยฺห เอกโกว สมณธมฺมํ อกาสิ. เอวํ คเต กาเล มหาชโน ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา มหาสตฺตํ อทิสฺวา ‘‘น โน ราชา โปราณโก วิย โหตี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –
‘‘อโปราณํ วต โภ ราชา, สพฺพภุมฺโม ทิสมฺปติ;
นชฺช นจฺเจ นิสาเมติ, น คีเต กุรุเต มโน.
‘‘น มิเค นปิ อุยฺยาเน, นปิ หํเส อุทิกฺขติ;
มูโคว ตุณฺหิมาสีโน, น อตฺถมนุสาสตี’’ติ.
ตตฺถ มิเคติ สพฺพสงฺคาหิกวจนํ, ปุพฺเพ หตฺถี ยุชฺฌาเปติ, เมณฺเฑ ยุชฺฌาเปติ, อชฺช เตปิ น โอโลเกตีติ อตฺโถ. อุยฺยาเนติ อุยฺยานกีฬมฺปิ นานุโภติ. หํเสติ ปฺจปทุมสฺฉนฺนาสุ อุยฺยานโปกฺขรณีสุ หํสคณํ น โอโลเกติ. มูโควาติ ภตฺตหารกฺจ อุปฏฺากฺจ ปุจฺฉึสุ ‘‘โภ ราชา, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กิฺจิ อตฺถํ มนฺเตตี’’ติ. เต ‘‘น มนฺเตตี’’ติ วทึสุ. ตสฺมา เอวมาหํสุ.
ราชา กาเมสุ อนลฺลียนฺเตน วิเวกนินฺเนน จิตฺเตน อตฺตโน กุลูปกปจฺเจกพุทฺเธ อนุสฺสริตฺวา ‘‘โก นุ โข เม เตสํ สีลาทิคุณยุตฺตานํ อกิฺจนานํ วสนฏฺานํ อาจิกฺขิสฺสตี’’ติ ตีหิ คาถาหิ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุขกามา ¶ รโหสีลา, วธพนฺธา อุปารตา;
กสฺส นุ อชฺช อาราเม, ทหรา วุทฺธา จ อจฺฉเร.
‘‘อติกฺกนฺตวนถา ¶ ¶ ธีรา, นโม เตสํ มเหสินํ;
เย อุสฺสุกมฺหิ โลกมฺหิ, วิหรนฺติ มนุสฺสุกา.
‘‘เต เฉตฺวา มจฺจุโน ชาลํ, ตตํ มายาวิโน ทฬฺหํ;
ฉินฺนาลยตฺตา คจฺฉนฺติ, โก เตสํ คติมาปเย’’ติ.
ตตฺถ สุขกามาติ นิพฺพานสุขกามา. รโหสีลาติ ปฏิจฺฉนฺนสีลา น อตฺตโน คุณปฺปกาสนา. ทหรา วุฑฺฒา จาติ ทหรา เจว มหลฺลกา จ. อจฺฉเรติ วสนฺติ.
ตสฺเสวํ เตสํ คุเณ อนุสฺสรนฺตสฺส มหตี ปีติ อุปฺปชฺชิ. อถ มหาสตฺโต ปลฺลงฺกโต อุฏฺาย อุตฺตรสีหปฺชรํ วิวริตฺวา อุตฺตรทิสาภิมุโข สิรสิ อฺชลึ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ นมสฺสมาโน ‘‘อติกฺกนฺตวนถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อติกฺกนฺตวนถาติ ปหีนตณฺหา. มเหสินนฺติ มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทโย คุเณ เอสิตฺวา ิตานํ. อุสฺสุกมฺหีติ ราคาทีหิ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺเน โลกสฺมึ. มจฺจุโน ชาลนฺติ กิเลสมาเรน ปสาริตํ ตณฺหาชาลํ. ตตํ มายาวิโนติ อติมายาวิโน. โก เตสํ คติมาปเยติ โก มํ เตสํ ปจฺเจกพุทฺธานํ นิวาสฏฺานํ ปาเปยฺย, คเหตฺวา คจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ.
ตสฺส ปาสาเทเยว สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺส จตฺตาโร มาสา อตีตา. อถสฺส อติวิย ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ นมิ, อคารํ โลกนฺตริกนิรโย วิย ขายิ, ตโย ภวา อาทิตฺตา วิย อุปฏฺหึสุ. โส ปพฺพชฺชาภิมุเขน จิตฺเตน ‘‘กทา นุ โข อิมํ สกฺกภวนํ วิย อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ มิถิลํ ปหาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตเวสคหณกาโล มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา มิถิลวณฺณนํ นาม อารภิ –
‘‘กทาหํ ¶ มิถิลํ ผีตํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ มิถิลํ ผีตํ, วิสาลํ สพฺพโตปภํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, พหุปาการโตรณํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, สุวิภตฺตํ มหาปถํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, สุวิภตฺตนฺตราปณํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ควาสฺสรถปีฬิตํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ มิถิลํ ผีตํ, อารามวนมาลินึ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, อุยฺยานวนมาลินึ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ปาสาทวนมาลินึ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ติปุรํ ราชพนฺธุนึ;
มาปิตํ โสมนสฺเสน, เวเทเหน ยสสฺสินา;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ เวเทเห ผีเต, นิจิเต ธมฺมรกฺขิเต;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ เวเทเห ผีเต, อเชยฺเย ธมฺมรกฺขิเต;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ อนฺเตปุรํ รมฺมํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ อนฺเตปุรํ รมฺมํ, สุธามตฺติกเลปนํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ อนฺเตปุรํ รมฺมํ, สุจิคนฺธํ มโนรมํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, วิภตฺเต ภาคโส มิเต;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, สุธามตฺติกเลปเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, สุจิคนฺเธ มโนรเม;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, ลิตฺเต จนฺทนโผสิเต;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ โสณฺณปลฺลงฺเก, โคนเก จิตฺตสนฺถเต;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ มณิปลฺลงฺเก, โคนเก จิตฺตสนฺถเต;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ กปฺปาสโกเสยฺยํ, โขมโกฏุมฺพรานิ จ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ โปกฺขรณี รมฺมา, จกฺกวากปกูชิตา;
มนฺทาลเกหิ สฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ หตฺถิคุมฺเพ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
สุวณฺณกจฺเฉ มาตงฺเค, เหมกปฺปนวาสเส.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ อสฺสคุมฺเพ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
อาชานีเยว ชาติยา, สินฺธเว สีฆวาหเน.
‘‘อารูฬฺเห ¶ คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ รถเสนิโย, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ โสวณฺณรเถ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห ¶ คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ สชฺฌุรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ อสฺสรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ โอฏฺรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ โคณรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ อชรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห ¶ คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ เมณฺฑรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ มิครเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;
ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.
‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ หตฺถาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
นีลวมฺมธเร สูเร, โตมรงฺกุสปาณิเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ อสฺสาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
นีลวมฺมธเร สูเร, อิลฺลิยาจาปธาริเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ รถาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
นีลวมฺมธเร สูเร, จาปหตฺเถ กลาปิเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ ธนุคฺคเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
นีลวมฺมธเร สูเร, จาปหตฺเถ กลาปิเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ ราชปุตฺเต จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
จิตฺรวมฺมธเร สูเร, กฺจนาเวฬธาริเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ¶ อริยคเณ จ, วตวนฺเต อลงฺกเต;
หริจนฺทนลิตฺตงฺเค, กาสิกุตฺตมธาริเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ อมจฺจคเณ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
ปีตวมฺมธเร สูเร, ปุรโต คจฺฉมาลิเน;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ หตฺถิคุมฺพา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
สุวณฺณกจฺฉา มาตงฺคา, เหมกปฺปนวาสสา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ ¶ มํ อสฺสคุมฺพา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
อาชานียาว ชาติยา, สินฺธวา สีฆวาหนา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ รถเสนี, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ ¶ มํ โสณฺณรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ ¶ มํ สชฺฌุรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ ¶ มํ โอฏฺรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ โคณรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ อชรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ เมณฺฑรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา ¶ คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ มิครถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ ¶ มํ หตฺถาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
นีลวมฺมธรา สูรา, โตมรงฺกุสปาณิโน;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
นีลวมฺมธรา สูรา, อิลฺลิยาจาปธาริโน;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ รถาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
นีลวมฺมธรา สูรา, จาปหตฺถา กลาปิโน;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ ธนุคฺคหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
นีลวมฺมธรา สูรา, จาปหตฺถา กลาปิโน;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ ราชปุตฺตา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
จิตฺรวมฺมธรา สูรา, กฺจนาเวฬธาริโน;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ อริยคณา, วตวนฺตา อลงฺกตา;
หริจนฺทนลิตฺตงฺคา, กาสิกุตฺตมธาริโน;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ อมจฺจคณา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
ปีตวมฺมธรา สูรา, ปุรโต คจฺฉมาลิโน;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ ¶ มํ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ ¶ ¶ มํ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ปตฺตํ คเหตฺวาน, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;
ปิณฺฑิกาย จริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ ปํสุกูลานํ, อุชฺฌิตานํ มหาปเถ;
สงฺฆาฏึ ธารยิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ สตฺตาหสมฺเมเฆ, โอวฏฺโ อลฺลจีวโร;
ปิณฺฑิกาย จริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ สพฺพตฺถ คนฺตฺวา, รุกฺขา รุกฺขํ วนา วนํ;
อนเปกฺโข คมิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ คิริทุคฺเคสุ, ปหีนภยเภรโว;
อทุติโย คมิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ วีณํว รุชฺชโก, สตฺตตนฺตึ มโนรมํ;
จิตฺตํ อุชุํ กริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.
‘‘กทาหํ รถกาโรว, ปริกนฺตํ อุปาหนํ;
กามสฺโชเน เฉจฺฉํ, เย ทิพฺเพ เย จ มานุเส’’ติ.
ตตฺถ กทาติ กาลปริวิตกฺโก. ผีตนฺติ วตฺถาลงฺการาทีหิ สุปุปฺผิตํ. วิภตฺตํ ภาคโส มิตนฺติ เฉเกหิ นครมาปเกหิ ราชนิเวสนาทีนํ วเสน วิภตฺตํ ทฺวารวีถีนํ วเสน โกฏฺาสโต มิตํ. ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสตีติ ตํ เอวรูปํ นครํ ปหาย ปพฺพชนํ กุทา นาม เม ภวิสฺสติ ¶ . สพฺพโตปภนฺติ ¶ สมนฺตโต อลงฺกาโรภาเสน ยุตฺตํ. พหุปาการโตรณนฺติ พหเลน ปุถุเลน ปากาเรน เจว ทฺวารโตรเณหิ จ สมนฺนาคตํ. ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกนฺติ ทฬฺเหหิ อฏฺฏาลเกหิ ทฺวารโกฏฺเกหิ จ สมนฺนาคตํ. ปีฬิตนฺติ สมากิณฺณํ. ติปุรนฺติ ตีหิ ปุเรหิ สมนฺนาคตํ, ติปาการนฺติ อตฺโถ. อถ วา ติปุรนฺติ ติกฺขตฺตุํ ปุณฺณํ. ราชพนฺธุนีนฺติ ราชฺตเกเหว ปุณฺณํ. โสมนสฺเสนาติ เอวํนามเกน วิเทหราเชน.
นิจิเตติ ธนธฺนิจยาทินา สมฺปนฺเน. อเชยฺเยติ ปจฺจามิตฺเตหิ อเชตพฺเพ. จนฺทนโผสิเตติ โลหิตจนฺทเนน ปริปฺโผสิเต. โกฏุมฺพรานีติ โกฏุมฺพรรฏฺเ อุฏฺิตวตฺถานิ. หตฺถิคุมฺเพติ หตฺถิฆฏาโย. เหมกปฺปนวาสเสติ เหมมเยน สีสาลงฺการสงฺขาเตน กปฺปเนน จ เหมชาเลน จ สมนฺนาคเต. คามณีเยหีติ ¶ หตฺถาจริเยหิ. อาชานีเยว ชาติยาติ ชาติยา การณาการณชานนตาย อาชานีเยว, ตาทิสานํ อสฺสานํ คุมฺเพ. คามณีเยหีติ อสฺสาจริเยหิ. อิลฺลิยาจาปธาริภีติ อิลฺลิยฺจ จาปฺจ ธาเรนฺเตหิ. รถเสนิโยติ รถฆฏาโย. สนฺนนฺเธติ สุฏฺุ นทฺเธ. ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆติ ทีปิพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺเต. คามณีเยหีติ รถาจริเยหิ. สชฺฌุรเถติ รชตรเถ. อชรถเมณฺฑรถมิครเถ โสภนตฺถาย โยเชนฺติ.
อริยคเณติ พฺราหฺมณคเณ. เต กิร ตทา อริยาจารา อเหสุํ, เตน เต เอวมาห. หริจนฺทนลิตฺตงฺเคติ กฺจนวณฺเณน จนฺทเนน ลิตฺตสรีเร. สตฺตสตา ภริยาติ ปิยภริยาเยว สนฺธายาห. สุสฺาติ สุฏฺุ สฺิตา. อสฺสวาติ สามิกสฺส วจนการิกา. สตปลนฺติ ปลสเตน สุวณฺเณน การิตํ. กํสนฺติ ปาตึ. สตราชิกนฺติ ปิฏฺิปสฺเส ราชิสเตน สมนฺนาคตํ. ยนฺตํ มนฺติ อนิตฺถิคนฺธวนสณฺเฑ เอกเมว คจฺฉนฺตํ มํ กทา นุ เต นานุยิสฺสนฺติ. สตฺตาหสมฺเมเฆติ สตฺตาหํ สมุฏฺิเต มหาเมเฆ, สตฺตาหวทฺทลิเกติ อตฺโถ. โอวฏฺโติ โอนตสีโส. สพฺพตฺถาติ สพฺพทิสํ. รุชฺชโกติ วีณาวาทโก. กามสํโยชเนติ กามสํโยชนํ. ทิพฺเพติ ทิพฺพํ. มานุเสติ มานุสํ.
โส ¶ กิร ทสวสฺสสหสฺสายุกกาเล นิพฺพตฺโต สตฺตวสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรตฺวา ติวสฺสสหสฺสาวสิฏฺเ อายุมฺหิ ปพฺพชิโต. ปพฺพชนฺโต ปเนส อุยฺยานทฺวาเร อมฺพรุกฺขสฺส ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย จตฺตาโร มาเส อคาเร วสิตฺวา ‘‘อิมมฺหา ราชเวสา ปพฺพชิตเวโส วรตโร, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปฏฺากํ รหสฺเสน อาณาเปสิ ‘‘ตาต, กฺจิ อชานาเปตฺวา อนฺตราปณโต กาสายวตฺถานิ เจว มตฺติกาปตฺตฺจ กิณิตฺวา อาหรา’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ราชา กปฺปกํ ปกฺโกสาเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวา กปฺปกํ ¶ อุยฺโยเชตฺวา เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํเส กตฺวา มตฺติกาปตฺตมฺปิ ถวิกาย โอสาเรตฺวา อํเส ลคฺเคสิ. ตโต กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา มหาตเล กติปเย วาเร ปจฺเจกพุทฺธลีลาย อปราปรํ จงฺกมิ. โส ตํ ทิวสํ ตตฺเถว วสิตฺวา ปุนทิวเส สูริยุคฺคมนเวลาย ปาสาทา โอตริตุํ อารภิ.
ตทา สีวลิเทวี ตา สตฺตสตา วลฺลภิตฺถิโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘จิรํ ทิฏฺโ โน ราชา, จตฺตาโร มาสา อตีตา, อชฺช นํ ปสฺสิสฺสาม, สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา ยถาพลํ อิตฺถิกุตฺตหาสวิลาเส ทสฺเสตฺวา กิเลสพนฺธเนน พนฺธิตุํ วายเมยฺยาถา’’ติ วตฺวา อลงฺกตปฺปฏิยตฺตาหิ ตาหิ สทฺธึ ‘‘ราชานํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ปาสาทํ ¶ อภิรุหนฺตี ตํ โอตรนฺตํ ทิสฺวาปิ น สฺชานิ. ‘‘รฺโ โอวาทํ ทาตุํ อาคโต ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. มหาสตฺโตปิ ปาสาทา โอตริ. อิตราปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา สิริสยนปิฏฺเ ภมรวณฺณเกเส จ ปสาธนภณฺฑฺจ ทิสฺวา ‘‘น โส ปจฺเจกพุทฺโธ, อมฺหากํ ปิยสามิโก ภวิสฺสติ, เอถ นํ ยาจิตฺวา นิวตฺตาเปสฺสามี’’ติ มหาตลา โอตริตฺวา ราชงฺคณํ สมฺปาปุณิ. ปาปุณิตฺวา จ ปน สพฺพาหิ ตาหิ สทฺธึ เกเส โมเจตฺวา ปิฏฺิยํ วิกิริตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ สํสุมฺภิตฺวา ‘‘กสฺมา เอวรูปํ กมฺมํ กโรถ, มหาราชา’’ติ อติกรุณํ ปริเทวมานา ราชานํ อนุพนฺธิ, สกลนครํ สงฺขุภิตํ อโหสิ. เตปิ ‘‘ราชา กิร โน ปพฺพชิโต, กุโต ปน เอวรูปํ ธมฺมิกราชานํ ลภิสฺสามา’’ติ โรทมานา ราชานํ อนุพนฺธึสุ. ตตฺร ตาสํ อิตฺถีนํ ปริเทวนฺเจว ปริเทวนฺติโยปิ ตา ปหาย รฺโ คมนฺจ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตา ¶ จ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.
‘‘ตา ¶ จ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโต.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;
หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโต.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโต.
‘‘หิตฺวา ¶ สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;
อคฺคหี มตฺติกํ ปตฺตํ, ตํ ทุติยาภิเสจน’’นฺติ.
ตตฺถ พาหา ปคฺคยฺหาติ พาหา อุกฺขิปิตฺวา. สมฺปทฺทวีติ ภิกฺขเว, โส มหาชนโก ราชา, ตา จ สตฺตสตา ภริยา ‘‘กึ โน, เทว, ปหาย คจฺฉสิ, โก อมฺหากํ โทโส’’ติ วิลปนฺติโยว ฉฑฺเฑตฺวา สมฺปทฺทวี คโต, ‘‘ปพฺพชฺชาย ยาหี’’ติ โจทิยมาโน วิย ปุรกฺขโต หุตฺวา คโตติ อตฺโถ. ตํ ทุติยาภิเสจนนฺติ ภิกฺขเว, ตํ มตฺติกาปตฺตคฺคหณํ ทุติยาภิเสจนํ กตฺวา โส ราชา นิกฺขนฺโตติ.
สีวลิเทวีปิ ปริเทวมานา ราชานํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ จินฺเตตฺวา มหาเสนคุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, รฺโ ปุรโต คมนทิสาภาเค ชิณฺณฆรชิณฺณสาลาทีสุ อคฺคึ เทหิ, ติณปณฺณานิ สํหริตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ธูมํ กาเรหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ตถา กาเรสิ. สา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปาเทสุ ปติตฺวา มิถิลาย อาทิตฺตภาวํ อาโรเจนฺตี คาถาทฺวยมาห –
‘‘เภสฺมา ¶ อคฺคิสมา ชาลา, โกสา ฑยฺหนฺติ ภาคโส;
รชตํ ชาตรูปฺจ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.
‘‘มณโย สงฺขมุตฺตา จ, วตฺถิกํ หริจนฺทนํ;
อชินํ ทนฺตภณฺฑฺจ, โลหํ กาฬายสํ พหู;
เอหิ ราช นิวตฺตสฺสุ, มา เตตํ วินสา ธน’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ เภสฺมาติ ภยานกา. อคฺคิสมา ชาลาติ เตสํ เตสํ มนุสฺสานํ เคหานิ อคฺคิ คณฺหิ, โส เอส มหาชาโลติ อตฺโถ. โกสาติ สุวณฺณรชตโกฏฺาคาราทีนิ. ภาคโสติ โกฏฺาสโต สุวิภตฺตาปิ โน เอเต อคฺคินา ฑยฺหนฺติ, เทวาติ. โลหนฺติ ตมฺพโลหาทิกํ. มา เตตํ วินสา ธนนฺติ มา เต เอตํ ธนํ วินสฺสตุ, เอหิ นํ นิพฺพาเปติ, ปจฺฉา คมิสฺสสิ, ‘‘มหาชนโก นครํ ฑยฺหมานํ อโนโลเกตฺวาว นิกฺขนฺโต’’ติ ตุมฺหากํ ครหา ภวิสฺสติ, ตาย เต ลชฺชาปิ วิปฺปฏิสาโรปิ ภวิสฺสติ, เอหิ อมจฺเจ อาณาเปตฺวา อคฺคึ นิพฺพาเปหิ, เทวาติ.
อถ มหาสตฺโต ‘‘เทวิ, กึ กเถสิ, เยสํ กิฺจนํ อตฺถิ, เตสํ ตํ ฑยฺหติ, มยํ ปน อกิฺจนา’’ติ ทีเปนฺโต คาถมาห –
‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;
มิถิลา ฑยฺหมานาย, น เม กิฺจิ อฑยฺหถา’’ติ.
ตตฺถ ¶ กิฺจนนฺติ เยสํ อมฺหากํ ปลิพุทฺธกิเลสสงฺขาตํ กิฺจนํ นตฺถิ, เต มยํ เตน อกิฺจนภาเวน สุสุขํ วต ชีวาม. เตเนว การเณน มิถิลาย ฑยฺหมานาย น เม กิฺจิ อฑยฺหถ, อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺตโน ภณฺฑกํ ฑยฺหมานํ น ปสฺสามีติ วทติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิ. ตาปิสฺส สตฺตสตา ภริยา นิกฺขมึสุ. ปุน สีวลิเทวี เอกํ อุปายํ จินฺเตตฺวา ‘‘คามฆาตรฏฺวิลุมฺปนาการํ วิย ทสฺเสถา’’ติ อมจฺเจ อาณาเปสิ. ตํขณํเยว อาวุธหตฺเถ ปุริเส ตโต ตโต อาธาวนฺเต ปริธาวนฺเต วิลุมฺปนฺเต วิย ¶ สรีเร ลาขารสํ สิฺจิตฺวา ลทฺธปฺปหาเร วิย ผลเก นิปชฺชาเปตฺวา วุยฺหนฺเต มเต วิย จ รฺโ ทสฺเสสุํ. มหาชโน อุปกฺโกสิ ‘‘มหาราช, ตุมฺเหสุ ธรนฺเตสุเยว รฏฺํ วิลุมฺปนฺติ, มหาชนํ ฆาเตนฺตี’’ติ. อถ เทวีปิ ราชานํ วนฺทิตฺวา นิวตฺตนตฺถาย คาถมาห –
‘‘อฏวิโย สมุปฺปนฺนา, รฏฺํ วิทฺธํสยนฺติ ตํ;
เอหิ ราช นิวตฺตสฺสุ, มา รฏฺํ วินสา อิท’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อฏวิโยติ มหาราช, ตุมฺเหสุ ธรนฺเตสุเยว อฏวิโจรา สมุปฺปนฺนา สมุฏฺิตา, ตํ ตยา ธมฺมรกฺขิตํ ตว รฏฺํ วิทฺธํเสนฺติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มยิ ธรนฺเตเยว โจรา อุฏฺาย รฏฺํ วิทฺธํเสนฺตา นาม นตฺถิ, สีวลิเทวิยา กิริยา เอสา ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อปฺปฏิภานํ กโรนฺโต อาห –
‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;
รฏฺเ วิลุมฺปมานมฺหิ, น เม กิฺจิ อหีรถ.
‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;
ปีติภกฺขา ภวิสฺสาม, เทวา อาภสฺสรา ยถา’’ติ.
ตตฺถ วิลุมฺปมานมฺหีติ วิลุปฺปมาเน. อาภสฺสรา ยถาติ ยถา เต พฺรหฺมาโน ปีติภกฺขา หุตฺวา สมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺติ, ตถา วีตินาเมสฺสามาติ.
เอวํ วุตฺเตปิ มหาชโน ราชานํ อนุพนฺธิเยว. อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘อยํ มหาชโน นิวตฺติตุํ น อิจฺฉติ, นิวตฺเตสฺสามิ น’’นฺติ. โส อฑฺฒคาวุตมตฺตํ คตกาเล นิวตฺติตฺวา มหามคฺเค ิโตว อมจฺเจ ‘‘กสฺสิทํ รชฺช’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ¶ , เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อิมํ เลขํ อนฺตรํ กโรนฺตสฺส ราชทณฺฑํ กโรถา’’ติ กตฺตรทณฺเฑน ติริยํ เลขํ อากฑฺฒิ. เตน เตชวตา รฺา กตํ เลขํ โกจิ อนฺตรํ กาตุํ นาสกฺขิ. มหาชโน เลขํ อุสฺสีสเก กตฺวา พาฬฺหปริเทวํ ปริเทวิ. เทวีปิ ตํ เลขํ อนฺตรํ กาตุํ อสกฺโกนฺตี ราชานํ ปิฏฺึ ¶ ทตฺวา คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อุรํ ปหริตฺวา มหามคฺเค ติริยํ ปติตฺวา ปริวตฺตมานา อคมาสิ. มหาชโน ‘‘เลขสามิเกหิ เลขา ภินฺนา’’ติ วตฺวา เทวิยา คตมคฺเคเนว คโต. อถ มหาสตฺโตปิ อุตฺตรหิมวนฺตาภิมุโข อคมาสิ. เทวีปิ สพฺพํ เสนาวาหนํ อาทาย เตน สทฺธึเยว คตา. ราชา มหาชนํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโตเยว สฏฺิโยชนมคฺคํ คโต.
ตทา นารโท นาม ตาปโส หิมวนฺเต สุวณฺณคุหายํ วสิตฺวา ปฺจาภิฺโ ฌานสุเขน วีตินาเมตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกาเมตฺวา ฌานสุขโต วุฏฺาย ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ อุทานํ อุทาเนสิ. โส ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ ชมฺพุทีปตเล อิทํ สุขํ ปริเยสนฺโต’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต มหาชนกพุทฺธงฺกุรํ ทิสฺวา ‘‘ราชา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตปิ สีวลิเทวิปฺปมุขํ ¶ มหาชนํ นิวตฺเตตุํ น สกฺโกติ, อนฺตรายมฺปิสฺส กเรยฺย, อิทานิ คนฺตฺวา ภิยฺโยโส มตฺตาย ทฬฺหสมาทานตฺถํ โอวาทํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิทฺธิพเลน คนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อากาเส ิโตว ตสฺส อุสฺสาหํ ชเนตุํ อิมํ คาถมาห –
‘‘กิมฺเหโส มหโต โฆโส, กา นุ คาเมว กีฬิยา;
สมณ เตว ปุจฺฉาม, กตฺเถโส อภิสโฏ ชโน’’ติ.
ตสฺส ตํ สุตฺวา ราชา อาห –
‘‘มมํ โอหาย คจฺฉนฺตํ, เอตฺเถโส อภิสโฏ ชโน;
สีมาติกฺกมนํ ยนฺตํ, มุนิโมนสฺส ปตฺติยา;
มิสฺสํ นนฺทีหิ คจฺฉนฺตํ, กึ ชานมนุปุจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ กิมฺเหโสติ กิมฺหิ เกน การเณน เอโส หตฺถิกายาทิวเสน มหโต สมูหสฺส โฆโส. กา นุ คาเมว กีฬิยาติ กา นุ เอสา ตยา สทฺธึ อาคจฺฉนฺตานํ ¶ คาเม วิย กีฬิ. กตฺเถโสติ กิมตฺถํ เอส มหาชโน อภิสโฏ สนฺนิปติโต, ตํ ปริวาเรตฺวา อาคจฺฉตีติ ปุจฺฉิ. มมนฺติ โย อหํ เอตํ ชนํ โอหาย คจฺฉามิ, ตํ มํ โอหาย คจฺฉนฺตํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ าเน เอโส มหาชโน อภิสโฏ อนุพนฺธนฺโต อาคโต. สีมาติกฺกมนํ ยนฺตนฺติ ตฺวํ ปน ตํ มํ กิเลสสีมํ อติกฺกมฺม ¶ อนคาริยมุนิาณสงฺขาตสฺส โมนสฺส ปตฺติยา ยนฺตํ, ‘‘ปพฺพชิโต วตมฺหี’’ติ นนฺทึ อวิชหิตฺวา ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานาหิ นนฺทีหิ มิสฺสเมว คจฺฉนฺตํ กึ ชานนฺโต ปุจฺฉสิ, อุทาหุ อชานนฺโต. มหาชนโก กิร วิเทหรฏฺํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโตติ กึ น สุตํ ตยาติ.
อถสฺส โส ทฬฺหสมาทานตฺถาย ปุน คาถมาห –
‘‘มาสฺสุ ติณฺโณ อมฺิตฺถ, สรีรํ ธารยํ อิมํ;
อตีรเณยฺย ยมิทํ, พหู หิ ปริปนฺถโย’’ติ.
ตตฺถ มาสฺสุ ติณฺโณ อมฺิตฺถาติ อิมํ ภณฺฑุกาสาวนิวตฺถํ สรีรํ ธาเรนฺโต ‘‘อิมินา ปพฺพชิตลิงฺคคฺคหณมตฺเตเนว กิเลสสีมํ ติณฺโณ อติกฺกนฺโตสฺมี’’ติ มา อมฺิตฺถ. อตีรเณยฺย ¶ ยมิทนฺติ อิทํ กิเลสชาตํ นาม น เอตฺตเกน ตีเรตพฺพํ. พหู หิ ปริปนฺถโยติ สคฺคมคฺคํ อาวริตฺวา ิตา ตว พหู กิเลสปริปนฺถาติ.
ตโต มหาสตฺโต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ปริปนฺเถ ปุจฺฉนฺโต อาห –
‘‘โก นุ เม ปริปนฺถสฺส, มมํ เอวํวิหาริโน;
โย เนว ทิฏฺเ นาทิฏฺเ, กามานมภิปตฺถเย’’ติ.
ตตฺถ โย เนว ทิฏฺเ นาทิฏฺเติ โย อหํ เนว ทิฏฺเ มนุสฺสโลเก, นาทิฏฺเ เทวโลเก กามานํ อภิปตฺเถมิ, ตสฺส มม เอวํ เอกวิหาริโน โก นุ ปริปนฺโถ อสฺสาติ วทติ.
อถสฺส โส ปริปนฺเถ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –
‘‘นิทฺทา ตนฺที วิชมฺภิตา, อรตี ภตฺตสมฺมโท;
อาวสนฺติ สรีรฏฺา, พหู หิ ปริปนฺถโย’’ติ.
ตตฺถ นิทฺทาติ กปินิทฺทา. ตนฺทีติ อาลสิยํ. อรตีติ อุกฺกณฺิตา. ภตฺตสมฺมโทติ ภตฺตปริฬาโห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สมณ, ตฺวํ ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต’’ติ วุตฺเต ตุยฺหํ ปณีตํ โอชวนฺตํ ปิณฺฑปาตํ ทสฺสนฺติ, โส ตฺวํ ปตฺตปูรํ อาทาย ยาวทตฺถํ ปริภฺุชิตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรเณ นิปชฺชิตฺวา กากจฺฉมาโน นิทฺทํ ¶ โอกฺกมิตฺวา อนฺตรา ปพุทฺโธ อปราปรํ ปริวตฺติตฺวา หตฺถปาเท ปสาเรตฺวา อุฏฺาย จีวรวํสํ คเหตฺวา ลคฺคจีวรํ นิวาเสตฺวา อาลสิโย หุตฺวา เนว สมฺมชฺชนึ อาทาย สมฺมชฺชิสฺสสิ, น ปานียํ อาหริสฺสสิ, ปุน นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายิสฺสสิ ¶ , กามวิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสสิ, ตทา ปพฺพชฺชาย อุกฺกณฺิสฺสสิ, ภตฺตปริฬาโห เต ภวิสฺสตีติ. อาวสนฺติ สรีรฏฺาติ อิเม เอตฺตกา ปริปนฺถา ตว สรีรฏฺกา หุตฺวา นิวสนฺติ, สรีเรเยว เต นิพฺพตฺตนฺตีติ ทสฺเสติ.
อถสฺส มหาสตฺโต ถุตึ กโรนฺโต คาถมาห –
‘‘กลฺยาณํ วต มํ ภวํ, พฺราหฺมณ มนุสาสติ;
พฺราหฺมณ เตว ปุจฺฉามิ, โก นุ ตฺวมสิ มาริสา’’ติ.
ตตฺถ ¶ พฺราหฺมณ มนุสาสตีติ พฺราหฺมณ, กลฺยาณํ วต มํ ภวํ อนุสาสติ.
ตโต ตาปโส อาห –
‘‘นารโท อิติ เม นามํ, กสฺสโป อิติ มํ วิทู;
โภโต สกาสมาคจฺฉึ, สาธุ สพฺภิ สมาคโม.
‘‘ตสฺส เต สพฺโพ อานนฺโท, วิหาโร อุปวตฺตตุ;
ยํ อูนํ ตํ ปริปูเรหิ, ขนฺติยา อุปสเมน จ.
‘‘ปสารย สนฺนตฺจ, อุนฺนตฺจ ปสารย;
กมฺมํ วิชฺชฺจ ธมฺมฺจ, สกฺกตฺวาน ปริพฺพชา’’ติ.
ตตฺถ วิทูติ โคตฺเตน มํ ‘‘กสฺสโป’’ติ ชานนฺติ. สพฺภีติ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สมาคโม นาม สาธุ โหตีติ อาคโตมฺหิ. อานนฺโทติ ตสฺส ตว อิมิสฺสา ปพฺพชฺชาย อานนฺโท ตุฏฺิ โสมนสฺสเมว โหตุ มา อุกฺกณฺิ. วิหาโรติ จตุพฺพิโธ พฺรหฺมวิหาโร. อุปวตฺตตูติ นิพฺพตฺตตุ. ยํ อูนํ ตนฺติ ยํ เต สีเลน กสิณปริกมฺเมน ฌาเนน จ อูนํ, ตํ เอเตหิ สีลาทีหิ ปูรย. ขนฺติยา อุปสเมน จาติ ‘‘อหํ ราชปพฺพชิโต’’ติ มานํ อกตฺวา อธิวาสนขนฺติยา จ กิเลสูปสเมน จ สมนฺนาคโต โหหิ. ปสารยาติ มา อุกฺขิป มา ปตฺถร, ปชหาติ อตฺโถ. สนฺนตฺจ อุนฺนตฺจาติ ‘‘โก นามาห’’นฺติอาทินา นเยน ปวตฺตํ โอมานฺจ ‘‘อหมสฺมิ ¶ ชาติสมฺปนฺโน’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อติมานฺจ. กมฺมนฺติ ทสกุสลกมฺมปถํ. วิชฺชนฺติ ปฺจอภิฺา-อฏฺสมาปตฺติาณํ. ธมฺมนฺติ กสิณปริกมฺมสงฺขาตํ สมณธมฺมํ. สกฺกตฺวาน ปริพฺพชาติ เอเต คุเณ สกฺกตฺวา วตฺตสฺสุ, เอเต วา คุเณ สกฺกตฺวา ทฬฺหํ สมาทาย ปริพฺพช, ปพฺพชฺชํ ปาเลหิ, มา อุกฺกณฺีติ อตฺโถ.
เอวํ โส มหาสตฺตํ โอวทิตฺวา อากาเสน สกฏฺานเมว คโต. ตสฺมึ คเต อปโรปิ มิคาชิโน นาม ตาปโส ตเถว สมาปตฺติโต วุฏฺาย โอโลเกนฺโต โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘มหาชนํ นิวตฺตนตฺถาย ตสฺส โอวาทํ ทสฺสามี’’ติ ตตฺเถวาคนฺตฺวา อากาเส อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘พหู ¶ ¶ หตฺถี จ อสฺเส จ, นคเร ชนปทานิ จ;
หิตฺวา ชนก ปพฺพชิโต, กปาเล รติมชฺฌคา.
‘‘กจฺจิ นุ เต ชานปทา, มิตฺตามจฺจา จ าตกา;
ทุพฺภิมกํสุ ชนก, กสฺมา เตตํ อรุจฺจถา’’ติ.
ตตฺถ กปาเลติ มตฺติกาปตฺตํ สนฺธายาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ตฺวํ เอวรูปํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโต อิมสฺมึ กปาเล รตึ อชฺฌคา อธิคโตติ ปพฺพชฺชาการณํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. ทุพฺภินฺติ กึ นุ เอเต ตว อนฺตเร กิฺจิ อปราธํ กรึสุ, กสฺมา ตว เอวรูปํ อิสฺสริยสุขํ ปหาย เอตํ กปาลเมว อรุจฺจิตฺถาติ.
ตโต มหาสตฺโต อาห –
‘‘น มิคาชิน ชาตุจฺเฉ, อหํ กฺจิ กุทาจนํ;
อธมฺเมน ชิเน าตึ, น จาปิ าตโย มม’’นฺติ.
ตตฺถ น มิคาชินาติ อมฺโภ มิคาชิน ชาตุจฺเฉ เอกํเสเนว อหํ กฺจิ าตึ กุทาจนํ กิสฺมิฺจิ กาเล อธมฺเมน น ชินามิ. เตปิ จ าตโย มํ อธมฺเมน น ชินนฺเตว, อิติ น โกจิ มยิ ทุพฺภึ นาม อกาสีติ อตฺโถ.
เอวมสฺส ¶ ปฺหํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ เยน การเณน ปพฺพชิโต, ตํ ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘ทิสฺวาน โลกวตฺตนฺตํ, ขชฺชนฺตํ กทฺทมีกตํ;
หฺเร พชฺฌเร เจตฺถ, ยตฺถ สนฺโน ปุถุชฺชโน;
เอตาหํ อุปมํ กตฺวา, ภิกฺขโกสฺมิ มิคาชินา’’ติ.
ตตฺถ ทิสฺวาน โลกวตฺตนฺตนฺติ วฏฺฏานุคตสฺส พาลโลกสฺส วตฺตํ ตนฺตึ ปเวณึ อหมทฺทสํ, ตํ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหีติ ทีเปติ. ขชฺชนฺตํ กทฺทมีกตนฺติ กิเลเสหิ ขชฺชนฺตํ เตเหว จ กทฺทมีกตํ โลกํ ทิสฺวา. ยตฺถ สนฺโน ปุถุชฺชโนติ ยมฺหิ กิเลสวตฺถุมฺหิ สนฺโน ลคฺโค ปุถุชฺชโน, ตตฺถ ลคฺคา พหู สตฺตา หฺนฺติ เจว อนฺทุพนฺธนาทีหิ จ พชฺฌนฺติ. เอตาหนฺติ อหมฺปิ ¶ สเจ เอตฺถ พชฺฌิสฺสามิ, อิเม สตฺตา วิย หฺิสฺสามิ เจว พชฺฌิสฺสามิ จาติ เอวํ เอตเทว การณํ อตฺตโน อุปมํ กตฺวา กทฺทมีกตํ โลกํ ทิสฺวา ภิกฺขโก ชาโตติ อตฺโถ. มิคาชินาติ ตํ นาเมน อาลปติ. กถํ ปน เตน ตสฺส นามํ าตนฺติ? ปฏิสนฺถารกาเล ปมเมว ปุจฺฉิตตฺตา.
ตาปโส ¶ ตํ การณํ วิตฺถารโต โสตุกาโม หุตฺวา คาถมาห –
‘‘โก นุ เต ภควา สตฺถา, กสฺเสตํ วจนํ สุจิ;
น หิ กปฺปํ วา วิชฺชํ วา, ปจฺจกฺขาย รเถสภ;
สมณํ อาหุ วตฺตนฺตํ, ยถา ทุกฺขสฺสติกฺกโม’’ติ.
ตตฺถ กสฺเสตนฺติ เอตํ ตยา วุตฺตํ สุจิวจนํ กสฺส วจนํ นาม. กปฺปนฺติ กปฺเปตฺวา กปฺเปตฺวา ปวตฺติตานํ อภิฺาสมาปตฺตีนํ ลาภึ กมฺมวาทึ ตาปสํ. วิชฺชนฺติ อาสวกฺขยาณวิชฺชาย สมนฺนาคตํ ปจฺเจกพุทฺธํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – รเถสภ มหาราช, น หิ กปฺปสมณํ วา วิชฺชาสมณํ วา ปจฺจกฺขาย ตสฺโสวาทํ วินา เอวํ ปฏิปชฺชิตุํ สกฺกา. ยถา ทุกฺขสฺส อติกฺกโม โหติ, เอวํ วตฺตนฺตํ สมณํ อาหุ. เตสํ ปน วจนํ สุตฺวา สกฺกา เอวํ ปฏิปชฺชิตุํ, ตสฺมา วเทหิ, โก นุ เต ภควา สตฺถาติ.
มหาสตฺโต อาห –
‘‘น มิคาชิน ชาตุจฺเฉ, อหํ กฺจิ กุทาจนํ;
สมณํ พฺราหฺมณํ วาปิ, สกฺกตฺวา อนุปาวิสิ’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ สกฺกตฺวาติ ปพฺพชฺชาย คุณปุจฺฉนตฺถาย ปูเชตฺวา. อนุปาวิสินฺติ น กฺจิ อนุปวิฏฺปุพฺโพสฺมิ, น มยา อฺโ โกจิ สมโณ ปุจฺฉิตปุพฺโพติ วทติ. อิมินา หิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺเตนปิ น กทาจิ โอทิสฺสกวเสน ปพฺพชฺชาย คุโณ ปุจฺฉิตปุพฺโพ, ตสฺมา เอวมาห.
เอวฺจ ปน วตฺวา เยน การเณน ปพฺพชิโต, ตํ อาทิโต ปฏฺาย ทีเปนฺโต อาห –
‘‘มหตา ¶ จานุภาเวน, คจฺฉนฺโต สิริยา ชลํ;
คียมาเนสุ คีเตสุ, วชฺชมาเนสุ วคฺคุสุ.
‘‘ตูริยตาฬสงฺฆุฏฺเ, สมฺมตาลสมาหิเต;
ส มิคาชิน มทฺทกฺขึ, ผลึ อมฺพํ ติโรจฺฉทํ;
หฺมานํ มนุสฺเสหิ, ผลกาเมหิ ชนฺตุภิ.
‘‘โส โขหํ ตํ สิรึ หิตฺวา, โอโรหิตฺวา มิคาชิน;
มูลํ อมฺพสฺสุปาคจฺฉึ, ผลิโน นิปฺผลสฺส จ.
‘‘ผลึ อมฺพํ หตํ ทิสฺวา, วิทฺธสฺตํ วินฬีกตํ;
อเถกํ อิตรํ อมฺพํ, นีโลภาสํ มโนรมํ.
‘‘เอวเมว ¶ นูนมฺเหปิ, อิสฺสเร พหุกณฺฏเก;
อมิตฺตา โน วธิสฺสนฺติ, ยถา อมฺโพ ผลี หโต.
‘‘อชินมฺหิ หฺเต ทีปิ, นาโค ทนฺเตหิ หฺเต;
ธนมฺหิ ธนิโน หนฺติ, อนิเกตมสนฺถวํ;
ผลี อมฺโพ อผโล จ, เต สตฺถาโร อุโภ มมา’’ติ.
ตตฺถ วคฺคุสูติ มธุรสฺสเรสุ ตูริเยสุ วชฺชมาเนสุ. ตูริยตาฬสงฺฆุฏฺเติ ตูริยานํ ตาฬิเตหิ สงฺฆุฏฺเ อุยฺยาเน. สมฺมตาลสมาหิเตติ สมฺเมหิ จ ตาเลหิ จ สมนฺนาคเต. ส มิคาชินาติ มิคาชิน, โส อหํ อทกฺขึ. ผลึ อมฺพนฺติ ผลิตํ อมฺพรุกฺขนฺติ อตฺโถ. ติโรจฺฉทนฺติ ติโรปาการํ อุยฺยานสฺส อนฺโติตํ พหิปาการํ นิสฺสาย ชาตํ อมฺพรุกฺขํ. หฺมานนฺติ โปถิยมานํ. โอโรหิตฺวาติ หตฺถิกฺขนฺธา โอตริตฺวา. วินฬีกตนฺติ นิปตฺตนฬํ กตํ.
เอวเมวาติ ¶ เอวํ เอว. ผลีติ ผลสมฺปนฺโน. อชินมฺหีติ จมฺมตฺถาย จมฺมการณา. ทนฺเตหีติ อตฺตโน ทนฺเตหิ, หฺเต ทนฺตนิมิตฺตํ หฺเตติ อตฺโถ. หนฺตีติ หฺติ. อนิเกตมสนฺถวนฺติ โย ปน นิเกตํ ปหาย ปพฺพชิตตฺตา อนิเกโต นาม สตฺตสงฺขารวตฺถุกสฺส ตณฺหาสนฺถวสฺส ¶ อภาวา อสนฺถโว นาม, ตํ อนิเกตํ อสนฺถวํ โก หนิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. เต สตฺถาโรติ เต ทฺเว รุกฺขา มม สตฺถาโร อเหสุนฺติ วทติ.
ตํ สุตฺวา มิคาชิโน ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ รฺโ โอวาทํ ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ตสฺมึ คเต สีวลิเทวี รฺโ ปาทมูเล ปติตฺวา อาห –
‘‘สพฺโพ ชโน ปพฺยถิโต, ราชา ปพฺพชิโต อิติ;
หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา.
‘‘อสฺสาสยิตฺวา ชนตํ, ปยิตฺวา ปฏิจฺฉทํ;
ปุตฺตํ รชฺเช เปตฺวาน, อถ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ปพฺยถิโตติ ภีโต อุตฺรสฺโต. ปฏิจฺฉทนฺติ อมฺเห ฑยฺหมาเนปิ วิลุปฺปมาเนปิ ราชา น โอโลเกตีติ ปพฺยถิตสฺส มหาชนสฺส อาวรณํ รกฺขํ เปตฺวา ปุตฺตํ ทีฆาวุกุมารํ รชฺเช เปตฺวา อภิสิฺจิตฺวา ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสีติ อตฺโถ.
ตโต โพธิสตฺโต อาห –
‘‘จตฺตา มยา ชานปทา, มิตฺตามจฺจา จ าตกา;
สนฺติ ¶ ปุตฺตา วิเทหานํ, ทีฆาวุ รฏฺวฑฺฒโน;
เต รชฺชํ การยิสฺสนฺติ, มิถิลายํ ปชาปตี’’ติ.
ตตฺถ สนฺติ ปุตฺตาติ สีวลิ สมณานํ ปุตฺตา นาม นตฺถิ, วิเทหรฏฺวาสีนํ ปน ปุตฺตา ทีฆาวุ อตฺถิ, เต รชฺชํ การยิสฺสนฺติ. ปชาปตีติ เทวึ อาลปติ.
เทวี ¶ อาห ‘‘เทว, ตุมฺเหสุ ตาว ปพฺพชิเตสุ อหํ กึ กโรมี’’ติ. อถ นํ โส ‘‘ภทฺเท, อหํ ตํ อนุสิกฺขามิ, วจนํ เม กโรหี’’ติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘เอหิ ¶ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยํ วากฺยํ มม รุจฺจติ;
รชฺชํ ตุวํ การยสิ, ปาปํ ทุจฺจริตํ พหุํ;
กาเยน วาจา มนสา, เยน คจฺฉสิ ทุคฺคตึ.
‘‘ปรทินฺนเกน ปรนิฏฺิเตน, ปิณฺเฑน ยาเปหิ ส ธีรธมฺโม’’ติ.
ตตฺถ ตุวนฺติ ตฺวํ ปุตฺตสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ‘‘มม ปุตฺตสฺส รชฺช’’นฺติ รชฺชํ อนุสาสมานา พหุํ ปาปํ กริสฺสสิ. คจฺฉสีติ เยน กายาทีหิ กเตน พหุปาเปน ทุคฺคตึ คมิสฺสสิ. ส ธีรธมฺโมติ ปิณฺฑิยาโลเปน ยาเปตพฺพํ, เอส ปณฺฑิตานํ ธมฺโมติ.
เอวํ มหาสตฺโต ตสฺสา โอวาทํ อทาสิ. เตสํ อฺมฺํ สลฺลปนฺตานํ คจฺฉนฺตานฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต. เทวี ปติรูเป าเน ขนฺธาวารํ นิวาสาเปสิ. มหาสตฺโตปิ เอกํ รุกฺขมูลํ อุปคโต. โส ตตฺถ รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. เทวีปิ ‘‘เสนา ปจฺฉโตว อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา ตสฺส ปจฺฉโตว อโหสิ. เต ภิกฺขาจารเวลายํ ถูณํ นาม นครํ ปาปุณึสุ. ตสฺมึ ขเณ อนฺโตนคเร เอโก ปุริโส สูณโต มหนฺตํ มํสขณฺฑํ กิณิตฺวา สูเลน องฺคาเรสุ ปจาเปตฺวา นิพฺพาปนตฺถาย ผลกโกฏิยํ เปตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺส อฺวิหิตสฺส เอโก สุนโข ตํ อาทาย ปลายิ. โส ตฺวา ตํ อนุพนฺธนฺโต ยาว พหิทกฺขิณทฺวารํ คนฺตฺวา นิพฺพินฺโท นิวตฺติ. ราชา จ เทวี จ สุนขสฺส ปุรโต คจฺฉนฺตา ทฺวิธา อเหสุํ ¶ . โส ภเยน มํสขณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิ.
มหาสตฺโต ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ สุนโข ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺโข ปลาโต, อฺโปิสฺส สามิโก น ปฺายติ, เอวรูโป อนวชฺโช ปํสุกูลปิณฺฑปาโต นาม นตฺถิ, ปริภฺุชิสฺสามิ น’’นฺติ. โส มตฺติกาปตฺตํ นีหริตฺวา ¶ ตํ มํสขณฺฑํ อาทาย ปฺุฉิตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อุทกผาสุกฏฺานํ คนฺตฺวา ปริภฺุชิตุํ อารภิ. ตโต เทวี ‘‘สเจ เอส รชฺเชนตฺถิโก ภเวยฺย, เอวรูปํ เชคุจฺฉํ ปํสุมกฺขิตํ สุนขุจฺฉิฏฺกํ น ขาเทยฺย. สเจ ขาเทยฺย, อิทาเนส อมฺหากํ สามิโก น ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, เอวรูปํ เชคุจฺฉํ ขาทสี’’ติ อาห. ‘‘เทวิ, ตฺวํ อนฺธพาลตาย อิมสฺส ปิณฺฑปาตสฺส วิเสสํ น ชานาสี’’ติ วตฺวา ตสฺเสว ปติตฏฺานํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อมตํ วิย ปริภฺุชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา หตฺเถ โธวติ. ตสฺมึ ขเณ เทวี นินฺทมานา อาห –
‘‘โยปิ ¶ จตุตฺเถ ภตฺตกาเล น ภฺุเช, อชุฏฺมารีว ขุทาย มิยฺเย;
น ตฺเวว ปิณฺฑํ ลุฬิตํ อนริยํ, กุลปุตฺตรูโป สปฺปุริโส น เสเว;
ตยิทํ น สาธุ ตยิทํ น สุฏฺุ, สุนขุจฺฉิฏฺกํ ชนก ภฺุชเส ตุว’’นฺติ.
ตตฺถ อชุฏฺมารีวาติ อนาถมรณเมว. ลุฬิตนฺติ ปํสุมกฺขิตํ. อนริยนฺติ อสุนฺทรํ. น เสเวติ น-กาโร ปริปุจฺฉนตฺเถ นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ จตุตฺเถปิ ภตฺตกาเล น ภฺุเชยฺย, ขุทาย มเรยฺย, นนุ เอวํ สนฺเตปิ กุลปุตฺตรูโป สปฺปุริโส เอวรูปํ ปิณฺฑํ น ตฺเวว เสเวยฺยาติ. ตยิทนฺติ ตํ อิทํ.
มหาสตฺโต อาห –
‘‘น จาปิ เม สีวลิ โส อภกฺโข, ยํ โหติ จตฺตํ คิหิโน สุนสฺส วา;
เย ¶ เกจิ โภคา อิธ ธมฺมลทฺธา, สพฺโพ โส ภกฺโข อนวโยติ วุตฺโต’’ติ.
ตตฺถ อภกฺโขติ โส ปิณฺฑปาโต มม อภกฺโข นาม น โหติ. ยํ โหตีติ ยํ คิหิโน วา สุนสฺส วา จตฺตํ โหติ, ตํ ปํสุกูลํ นาม อสามิกตฺตา อนวชฺชเมว โหติ. เย เกจีติ ตสฺมา อฺเปิ เย ¶ เกจิ ธมฺเมน ลทฺธา โภคา, สพฺโพ โส ภกฺโข. อนวโยติ อนุอวโย, อนุปุนปฺปุนํ โอโลกิยมาโนปิ อวโย ปริปุณฺณคุโณ อนวชฺโช, อธมฺมลทฺธํ ปน สหสฺสคฺฆนกมฺปิ ชิคุจฺฉนียเมวาติ.
เอวํ เต อฺมฺํ กเถนฺตาว ถูณนครทฺวารํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺร ทาริกาสุ กีฬนฺตีสุ เอกา กุมาริกา ขุทฺทกกุลฺลเกน วาลุกํ ปปฺโผเฏติ. ตสฺสา เอกสฺมึ หตฺเถ เอกํ วลยํ, เอกสฺมึ ทฺเว วลยานิ. ตานิ อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏนฺติ, อิตรํ นิสฺสทฺทํ. ราชา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘สีวลิเทวี มม ปจฺฉโต จรติ, อิตฺถี จ นาม ปพฺพชิตสฺส มลํ, ‘อยํ ปพฺพชิตฺวาปิ ภริยํ ชหิตุํ น สกฺโกตี’ติ ครหิสฺสนฺติ มํ. สจายํ กุมาริกา ปณฺฑิตา ภวิสฺสติ, สีวลิเทวิยา นิวตฺตนการณํ กเถสฺสติ, อิมิสฺสา กถํ สุตฺวา สีวลิเทวึ อุยฺโยเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘กุมาริเก อุปเสนิเย, นิจฺจํ นิคฺคฬมณฺฑิเต;
กสฺมา เต เอโก ภุโช ชนติ, เอโก เต น ชนตี ภุโช’’ติ.
ตตฺถ ¶ อุปเสนิเยติ มาตรํ อุปคนฺตฺวา เสนิเก. นิคฺคฬมณฺฑิเตติ อคลิตมณฺฑเนน มณฺฑนสีลิเกติ วทติ. ชนตีติ สทฺทํ กโรติ.
กุมาริกา อาห –
‘‘อิมสฺมึ เม สมณ หตฺเถ, ปฏิมุกฺกา ทุนีวรา;
สงฺฆาตา ชายเต สทฺโท, ทุติยสฺเสว สา คติ.
‘‘อิมสฺมึ เม สมณ หตฺเถ, ปฏิมุกฺโก เอกนีวโร;
โส อทุติโย น ชนติ, มุนิภูโตว ติฏฺติ.
‘‘วิวาทปฺปตฺโต ทุติโย, เกเนโก วิวทิสฺสติ;
ตสฺส เต สคฺคกามสฺส, เอกตฺตมุปโรจต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ทุนีวราติ ทฺเว วลยานิ. สงฺฆาตาติ สํหนนโต สงฺฆฏฺฏนโตติ อตฺโถ. คตีติ นิพฺพตฺติ. ทุติยสฺเสว หิ เอวรูปา นิพฺพตฺติ โหตีติ อตฺโถ. โสติ โส นีวโร. มุนิภูโตวาติ ปหีนสพฺพกิเลโส อริยปุคฺคโล วิย ติฏฺติ. วิวาทปฺปตฺโตติ สมณ ทุติยโก นาม วิวาทมาปนฺโน โหติ, กลหํ กโรติ, นานาคาหํ คณฺหาติ. เกเนโกติ เอกโก ปน เกน สทฺธึ วิวทิสฺสติ. เอกตฺตมุปโรจตนฺติ เอกีภาโว เต รุจฺจตุ. สมณา นาม ภคินิมฺปิ อาทาย น จรนฺติ, กึ ปน ตฺวํ เอวรูปํ อุตฺตมรูปธรํ ภริยํ อาทาย วิจรสิ, อยํ เต อนฺตรายํ กริสฺสติ, อิมํ นีหริตฺวา เอกโกว สมณกมฺมํ กโรหีติ นํ โอวทติ.
โส ตสฺสา กุมาริกาย วจนํ สุตฺวา ปจฺจยํ ลภิตฺวา เทวิยา สทฺธึ กเถนฺโต อาห –
‘‘สุณาสิ สีวลิ กถา, กุมาริยา ปเวทิตา;
เปสิยา มํ ครหิตฺโถ, ทุติยสฺเสว สา คติ.
‘‘อยํ ทฺเวธาปโถ ภทฺเท, อนุจิณฺโณ ปถาวิหิ;
เตสํ ตฺวํ เอกํ คณฺหาหิ, อหเมกํ ปุนาปรํ.
‘‘มาวจ ¶ มํ ตฺวํ ‘ปติ เม’ติ, นาหํ ‘ภริยา’ติ วา ปุนา’’ติ.
ตตฺถ กุมาริยา ปเวทิตาติ กุมาริกาย กถิตา. เปสิยาติ สจาหํ รชฺชํ กาเรยฺยํ, เอสา เม เปสิยา วจนการิกา ภเวยฺย, โอโลเกตุมฺปิ มํ น วิสเหยฺย. อิทานิ ปน อตฺตโน เปสิยํ วิย จ มฺติ, ‘‘ทุติยสฺเสว สา คตี’’ติ มํ โอวทติ. อนุจิณฺโณติ อนุสฺจริโต. ปถาวิหีติ ปถิเกหิ. เอกนฺติ ตว รุจฺจนกํ เอกํ มคฺคํ คณฺห, อหํ ปน ตยา คหิตาวเสสํ อปรํ คณฺหิสฺสามิ. มาวจ มํ ตฺวนฺติ สีวลิ อิโต ปฏฺาย ปุน มํ ‘‘ปติ เม’’ติ มา อวจ, อหํ วา ตฺวํ ‘‘ภริยา เม’’ติ นาวจํ.
สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเห อุตฺตมา, ทกฺขิณมคฺคํ คณฺหถ, อหํ วามมคฺคํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา โถกํ คนฺตฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ปุนาคนฺตฺวา รฺา สทฺธึ กเถนฺตี เอกโตว นครํ ปาวิสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒคาถมาห –
‘‘อิมเมว ¶ กถยนฺตา, ถูณํ นครุปาคมุ’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ นครุปาคมุนฺติ นครํ ปวิฏฺา.
ปวิสิตฺวา จ ปน มหาสตฺโต ปิณฺฑตฺถาย จรนฺโต อุสุการสฺส เคหทฺวารํ ปตฺโต. สีวลิเทวีปิ เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ตสฺมึ สมเย อุสุกาโร องฺคารกปลฺเล อุสุํ ตาเปตฺวา กฺชิเยน เตเมตฺวา เอกํ อกฺขึ นิมีเลตฺวา เอเกน อกฺขินา โอโลเกนฺโต อุชุํ กโรติ. ตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘สจายํ ปณฺฑิโต ภวิสฺสติ, มยฺหํ เอกํ การณํ กเถสฺสติ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ. โส อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉติ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘โกฏฺเก อุสุการสฺส, ภตฺตกาเล อุปฏฺิเต;
ตตฺรา จ โส อุสุกาโร, เอกํ ทณฺฑํ อุชุํ กตํ;
เอกฺจ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขตี’’ติ.
ตตฺถ โกฏฺเกติ ภิกฺขเว, โส ราชา อตฺตโน ภตฺตกาเล อุปฏฺิเต อุสุการสฺส โกฏฺเก อฏฺาสิ. ตตฺรา จาติ ตสฺมิฺจ โกฏฺเก. นิคฺคยฺหาติ นิมีเลตฺวา. ชิมฺหเมเกนาติ เอเกน อกฺขินา วงฺกํ สรํ เปกฺขติ.
อถ ¶ นํ มหาสตฺโต อาห –
‘‘เอวํ โน สาธุ ปสฺสสิ, อุสุการ สุโณหิ เม;
ยเทกํ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขสี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – สมฺม อุสุการ, เอวํ นุ ตฺวํ สาธุ ปสฺสสิ, ยํ เอกํ จกฺขุํ นิมีเลตฺวา เอเกน จกฺขุนา วงฺกํ สรํ เปกฺขสีติ.
อถสฺส โส กเถนฺโต อาห –
‘‘ทฺวีหิ สมณ จกฺขูหิ, วิสาลํ วิย ขายติ;
อสมฺปตฺวา ปรมํ ลิงฺคํ, นุชุภาวาย กปฺปติ.
‘‘เอกฺจ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขโต;
สมฺปตฺวา ปรมํ ลิงฺคํ, อุชุภาวาย กปฺปติ.
‘‘วิวาทปฺปตฺโต ¶ ทุติโย, เกเนโก วิวทิสฺสติ;
ตสฺส เต สคฺคกามสฺส, เอกตฺตมุปโรจต’’นฺติ.
ตตฺถ วิสาลํ วิยาติ วิตฺถิณฺณํ วิย หุตฺวา ขายติ. อสมฺปตฺวา ปรมํ ลิงฺคนฺติ ปรโต วงฺกฏฺานํ อปฺปตฺวา. นุชุภาวายาติ น อุชุภาวาย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – วิสาเล ขายมาเน ปรโต อุชุฏฺานํ วา วงฺกฏฺานํ วา น ปาปุเณยฺย, ตสฺมึ อสมฺปตฺเต อทิสฺสมาเน อุชุภาวาย กิจฺจํ น กปฺปติ น สมฺปชฺชตีติ. สมฺปตฺวาติ จกฺขุนา ปตฺวา ¶ , ทิสฺวาติ อตฺโถ. วิวาทปฺปตฺโตติ ยถา ทุติเย อกฺขิมฺหิ อุมฺมีลิเต ลิงฺคํ น ปฺายติ, วงฺกฏฺานมฺปิ อุชุกํ ปฺายติ, อุชุฏฺานมฺปิ วงฺกํ ปฺายตีติ วิวาโท โหติ, เอวํ สมณสฺสปิ ทุติโย นาม วิวาทมาปนฺโน โหติ, กลหํ กโรติ, นานาคาหํ คณฺหาติ. เกเนโกติ เอโก ปน เกน สทฺธึ วิวทิสฺสติ. เอกตฺตมุปโรจตนฺติ เอกีภาโว เต รุจฺจตุ. สมณา นาม ภคินิมฺปิ อาทาย น จรนฺติ, กึ ปน ตฺวํ เอวรูปํ อุตฺตมรูปธรํ ภริยํ อาทาย วิจรสิ. อยํ เต อนฺตรายํ กริสฺสติ, อิมํ นีหริตฺวา เอกโกว สมณธมฺมํ กโรหีติ โส ตํ โอวทติ.
เอวมสฺส ¶ โส โอวาทํ ทตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. มหาสตฺโตปิ ปิณฺฑาย จริตฺวา มิสฺสกภตฺตํ สํกฑฺฒิตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อุทกผาสุกฏฺาเน นิสีทิตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ปตฺตํ ถวิกาย โอสาเรตฺวา สีวลิเทวึ อามนฺเตตฺวา อาห –
‘‘สุณาสิ สีวลิ กถา, อุสุกาเรน เวทิตา;
เปสิยา มํ ครหิตฺโถ, ทุติยสฺเสว สา คติ.
‘‘อยํ ทฺเวธาปโถ ภทฺเท, อนุจิณฺโณ ปถาวิหิ;
เตสํ ตฺวํ เอกํ คณฺหาหิ, อหเมกํ ปุนาปรํ.
‘‘มาวจ มํ ตฺวํ ‘ปติ เม’ติ, นาหํ ‘ภริยา’ติ วา ปุนา’’ติ.
ตตฺถ สุณาสีติ สุณ, ตฺวํ กถา. ‘‘เปสิยา ม’’นฺติ อิทํ ปน กุมาริกาย โอวาทเมว สนฺธายาห.
สา ¶ กิร ‘‘มาวจ มํ ตฺวํ ‘ปติ เม’ติ’’ วุตฺตาปิ มหาสตฺตํ อนุพนฺธิเยว. ราชา นํ นิวตฺเตตุํ น สกฺโกติ. มหาชโนปิ อนุพนฺธิ. ตโต ปน อฏวี อวิทูเร โหติ. มหาสตฺโต นีลวนราชึ ทิสฺวา ตํ นิวตฺเตตุกาโม หุตฺวา คจฺฉนฺโตเยว มคฺคสมีเป มฺุชติณํ อทฺทส. โส ตโต อีสิกํ ลฺุจิตฺวา ‘‘ปสฺสสิ สีวลิ, อยํ อิธ ปุน ฆเฏตุํ น สกฺกา, เอวเมว ปุน มยฺหํ ตยา สทฺธึ สํวาโส นาม ฆเฏตุํ น สกฺกา’’ติ วตฺวา อิมํ อุปฑฺฒคาถมาห –
‘‘มฺุชาเวสิกา ปวาฬฺหา, เอกา วิหร สีวลี’’ติ.
ตตฺถ เอกา วิหราติ อหํ เอกีภาเวน วิหริสฺสามิ, ตฺวมฺปิ เอกา วิหราหีติ ตสฺสา โอวาทมทาสิ.
ตํ สุตฺวา สีวลิเทวี ‘‘อิโตทานิ ปฏฺาย นตฺถิ มยฺหํ มหาชนกนรินฺเทน สทฺธึ สํวาโส’’ติ โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ ปหริตฺวา มหามคฺเค ¶ ปติ. มหาสตฺโต ตสฺสา วิสฺิภาวํ ตฺวา ปทํ วิโกเปตฺวา อรฺํ ปาวิสิ. อมจฺจา อาคนฺตฺวา ตสฺสา สรีรํ อุทเกน สิฺจิตฺวา หตฺถปาเท ปริมชฺชิตฺวา สฺํ ลภาเปสุํ. สา ‘‘ตาตา, กุหึ ราชา’’ติ ¶ ปุจฺฉิ. ‘‘นนุ ตุมฺเหว ชานาถา’’ติ? ‘‘อุปธาเรถ ตาตา’’ติ. เต อิโต จิโต ธาวิตฺวา วิจินนฺตาปิ มหาสตฺตํ น ปสฺสึสุ. เทวี มหาปริเทวํ ปริเทวิตฺวา รฺโ ิตฏฺาเน เจติยํ กาเรตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา นิวตฺติ. มหาสตฺโตปิ หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว ปฺจ อภิฺา จ, อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ปุน มนุสฺสปถํ นาคมิ. เทวีปิ อุสุกาเรน สทฺธึ กถิตฏฺาเน, กุมาริกาย สทฺธึ กถิตฏฺาเน, มํสปริโภคฏฺาเน, มิคาชิเนน สทฺธึ กถิตฏฺาเน, นารเทน สทฺธึ กถิตฏฺาเน จาติ สพฺพฏฺาเนสุ เจติยานิ กาเรตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา เสนงฺคปริวุตา มิถิลํ ปตฺวา อมฺพวนุยฺยาเน ปุตฺตสฺส อภิเสกํ กาเรตฺวา ตํ เสนงฺคปริวุตํ นครํ เปเสตฺวา สยํ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตตฺเถว อุยฺยาเน วสนฺตี กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายณา อโหสิ. มหาสตฺโตปิ อปริหีนชฺฌาโน หุตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ¶ – ‘‘ตทา สมุทฺทรกฺขิกา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, นารโท สาริปุตฺโต, มิคาชิโน โมคฺคลฺลาโน, กุมาริกา เขมา ภิกฺขุนี, อุสุกาโร อานนฺโท, สีวลิเทวี ราหุลมาตา, ทีฆาวุกุมาโร ราหุโล, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, มหาชนกนรินฺโท ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ’’นฺติ.
มหาชนกชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๕๔๐] ๓. สุวณฺณสามชาตกวณฺณนา
โก ¶ ¶ นุ มํ อุสุนา วิชฺฌีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิร อฏฺารสโกฏิวิภวสฺส เอกสฺส เสฏฺิกุลสฺส เอกปุตฺตโก อโหสิ มาตาปิตูนํ ปิโย มนาโป. โส เอกทิวสํ ปาสาทวรคโต สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา วีถึ โอโลเกนฺโต คนฺธมาลาทิหตฺถํ มหาชนํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย เชตวนํ คจฺฉนฺตํ ¶ ทิสฺวา ‘‘อหมฺปิ ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา คนฺธมาลาทีนิ คาหาเปตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วตฺถเภสชฺชปานกาทีนิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาเปตฺวา คนฺธมาลาทีหิ จ ภควนฺตํ ปูเชตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ธมฺมํ สุตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ปพฺพชฺชาย จ อานิสํสํ สลฺลกฺเขตฺวา ปริสาย วุฏฺิตาย ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา ‘‘มาตาปิตูหิ อนนฺุาตํ ปุตฺตํ ตถาคตา นาม น ปพฺพาเชนฺตี’’ติ สุตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปุน เคหํ คนฺตฺวา สคารเวน มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา เอวมาห – ‘‘อมฺมตาตา, อหํ ตถาคตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. อถสฺส มาตาปิตโร ตสฺส วจนํ สุตฺวา เอกปุตฺตกภาเวน สตฺตธา ภิชฺชมานหทยา วิย ปุตฺตสิเนเหน กมฺปมานา เอวมาหํสุ ‘‘ตาต ปิยปุตฺตก, ตาต กุลงฺกุร, ตาต นยน, ตาต หทย, ตาต ปาณสทิส, ตยา วินา กถํ ชีวาม, ตยิ ปฏิพทฺธํ โน ชีวิตํ. มยฺหิ ตาต, ชราชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลกา, อชฺช วา สุเว วา ปรสุเว วา มรณํ ปาปุณิสฺสาม, ตสฺมา มา อมฺเห โอหาย คจฺฉสิ. ตาต, ปพฺพชฺชา นาม อติทุกฺกรา, สีเตน อตฺเถ สติ อุณฺหํ ลภติ, อุณฺเหน อตฺเถ สติ สีตํ ลภติ, ตสฺมา ตาต, มา ปพฺพชาหี’’ติ.
ตํ สุตฺวา กุลปุตฺโต ทุกฺขี ทุมฺมโน โอนตสีโส ปชฺฌายนฺโตว นิสีทิ สตฺตาหํ นิราหาโร. อถสฺส มาตาปิตโร เอวํ จินฺเตสุํ ‘‘สเจ โน ปุตฺโต อนนฺุาโต, อทฺธา มริสฺสติ, ปุน น ปสฺสิสฺสาม, ปพฺพชฺชาย ชีวมานํ ปุน นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. จินฺเตตฺวา จ ปน ‘‘ตาต ปิยปุตฺตก, ตํ ปพฺพชฺชาย อนุชานาม, ปพฺพชาหี’’ติ อนุชานึสุ. ตํ สุตฺวา กุลปุตฺโต ตุฏฺมานโส หุตฺวา อตฺตโน สกลสรีรํ โอณาเมตฺวา ¶ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา เอกํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ กุมารํ ปพฺพาเชหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ตํ ปพฺพาเชสิ. ตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย มหาลาภสกฺกาโร นิพฺพตฺติ. โส อาจริยุปชฺฌาเย อาราเธตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท ปฺจ วสฺสานิ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา ‘‘อหํ อิธ อากิณฺโณ ¶ วิหรามิ, น เม อิทํ ปติรูป’’นฺติ วิปสฺสนาธุรํ ปูเรตุกาโม หุตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อุปชฺฌายํ วนฺทิตฺวา เชตวนา นิกฺขมิตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ นิสฺสาย อรฺเ วิหาสิ. โส ตตฺถ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ทฺวาทส วสฺสานิ ฆเฏนฺโต วายมนฺโตปิ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. มาตาปิตโรปิสฺส คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ทุคฺคตา อเหสุํ. เย หิ เตสํ เขตฺตํ วา วณิชฺชํ วา ปโยเชสุํ, เต ‘‘อิมสฺมึ กุเล ปุตฺโต วา ภาตา วา อิณํ โจเทตฺวา คณฺหนฺโต นาม นตฺถี’’ติ อตฺตโน อตฺตโน หตฺถคตํ คเหตฺวา ยถารุจิ ปลายึสุ. เคเห ทาสกมฺมกราทโยปิ หิรฺสุวณฺณาทีนิ คเหตฺวา ปลายึสุ.
อปรภาเค ทฺเว ชนา กปณา หุตฺวา หตฺเถ อุทกสิฺจนมฺปิ อลภิตฺวา เคหํ วิกฺกิณิตฺวา อฆรา หุตฺวา การฺุภาวํ ปตฺตา ปิโลติกํ นิวาเสตฺวา กปาลหตฺถา ภิกฺขาย จรึสุ. ตสฺมึ กาเล เอโก ภิกฺขุ เชตวนโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ตสฺส วสนฏฺานํ อคมาสิ. โส ตสฺส อาคนฺตุกวตฺตํ กตฺวา สุขนิสินฺนกาเล ‘‘ภนฺเต, กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เชตวนา อาคโต อาวุโส’’ติ วุตฺเต สตฺถุโน เจว มหาสาวกาทีนฺจ อาโรคฺยํ ปุจฺฉิตฺวา มาตาปิตูนฺจ ปวตฺตึ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ภนฺเต, สาวตฺถิยํ อสุกสฺส นาม เสฏฺิกุลสฺส อาโรคฺย’’นฺติ? ‘‘อาวุโส, มา ตสฺส กุลสฺส ปวตฺตึ ปุจฺฉา’’ติ. ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อาวุโส, ตสฺส กิร กุลสฺส เอโก ปุตฺโต อตฺถิ, โส พุทฺธสาสเน ปพฺพชิโต, ตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย เอตํ กุลํ ปริกฺขีณํ, อิทานิ ทฺเว ชนา ปรมการฺุภาวํ ปตฺตา ภิกฺขาย จรนฺตี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ โรทิตุํ อารภิ. ‘‘อาวุโส, กึ โรทสี’’ติ? ‘‘ภนฺเต, เต มยฺหํ มาตาปิตโร, อหํ เตสํ ปุตฺโต’’ติ. ‘‘อาวุโส, ตว มาตาปิตโร ตํ นิสฺสาย วินาสํ ปตฺตา, คจฺฉ, เต ปฏิชคฺคาหี’’ติ.
โส ¶ ‘‘อหํ ทฺวาทส วสฺสานิ ฆเฏนฺโต วายมนฺโตปิ มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึ ¶ , อภพฺโพ ภวิสฺสามิ, กึ เม ปพฺพชฺชาย, คิหี หุตฺวา มาตาปิตโร โปเสตฺวา ทานํ ทตฺวา สคฺคปรายโณ ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อรฺาวาสํ ตสฺส เถรสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปุนทิวเส อรฺา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน คจฺฉนฺโต สาวตฺถิโต อวิทูเร เชตวนปิฏฺิวิหารํ ปาปุณิ. ตตฺถ ทฺเว มคฺคา อเหสุํ. เตสุ เอโก มคฺโค เชตวนํ คจฺฉติ, เอโก สาวตฺถึ. โส ตตฺเถว ตฺวา ‘‘กึ นุ โข ปมํ มาตาปิตโร ปสฺสามิ, อุทาหุ ทสพล’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยา มาตาปิตโร จิรํ ทิฏฺปุพฺพา, อิโต ปฏฺาย ปน เม พุทฺธทสฺสนํ ทุลฺลภํ ภวิสฺสติ, ตสฺมา อชฺชเมว สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา ธมฺมํ สุตฺวา สฺเว ปาโตว มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามี’’ติ สาวตฺถิมคฺคํ ¶ ปหาย สายนฺหสมเย เชตวนํ ปาวิสิ. ตํ ทิวสํ ปน สตฺถา ปจฺจูสกาเล โลกํ โอโลเกนฺโต อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ อทฺทส. โส ตสฺสาคมนกาเล มาตุโปสกสุตฺเตน (สํ. นิ. ๑.๒๐๕) มาตาปิตูนํ คุณํ วณฺเณสิ. โส ปน ภิกฺขุ ปริสปริยนฺเต ตฺวา สตฺถุสฺส ธมฺมกถํ สุณนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อหํ คิหี หุตฺวา มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกมีติ จินฺเตสึ, สตฺถา ปน ‘ปพฺพชิโตว สมาโน ปฏิชคฺคิโต อุปการโก มาตาปิตูน’นฺติ วทติ. สจาหํ สตฺถารํ อทิสฺวา คโต, เอวรูปาย ปพฺพชฺชาย ปริหีโน ภเวยฺยํ. อิทานิ ปน คิหี อหุตฺวา ปพฺพชิโตว สมาโน มาตาปิตโร โปเสสฺสามี’’ติ.
โส สลากคฺคํ คนฺตฺวา สลากภตฺตฺเจว สลากยาคฺุจ คณฺหิตฺวา ทฺวาทส วสฺสานิ อรฺเ วุตฺถภิกฺขุ ปาราชิกปฺปตฺโต วิย อโหสิ. โส ปาโตว สาวตฺถิยํ ปวิสิตฺวา ‘‘กึ นุ โข ปมํ ยาคุํ คณฺหิสฺสามิ, อุทาหุ มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กปณานํ มาตาปิตูนํ สนฺติกํ ตุจฺฉหตฺเถน คนฺตุํ อยุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ยาคุํ คเหตฺวา เอเตสํ โปราณกเคหทฺวารํ คโต. มาตาปิตโรปิสฺส ยาคุภิกฺขํ จริตฺวา ปรภิตฺตึ นิสฺสาย วิหรนฺติ. โส อุปคนฺตฺวา นิสินฺนเก ทิสฺวา อุปฺปนฺนโสโก อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ เตสํ อวิทูเร อฏฺาสิ. เต ตํ ทิสฺวาปิ น สฺชานึสุ. อถ มาตา ‘‘ภิกฺขตฺถาย ิโต ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทาตพฺพยุตฺตกํ นตฺถิ, อติจฺฉถา’’ติ อาห. โส ตสฺสา ¶ กถํ สุตฺวา หทยปูรํ โสกํ คเหตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ตตฺเถว อฏฺาสิ. ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ‘‘อติจฺฉถา’’ติ วุจฺจมาโนปิ อฏฺาสิเยว. อถสฺส ปิตา มาตรํ อาห – ‘‘คจฺฉ, ภทฺเท, ชานาหิ, ปุตฺโต นุ โข โน เอโส’’ติ. สา อุฏฺาย อุปคนฺตฺวา โอโลเกนฺตี สฺชานิตฺวา ปาทมูเล ปติตฺวา ปริเทวิ, ปิตาปิสฺส ตเถว อกาสิ, มหนฺตํ การฺุํ อโหสิ.
โสปิ มาตาปิตโร ทิสฺวา สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ. โส โสกํ อธิวาเสตฺวา ‘‘อมฺมตาตา, มา จินฺตยิตฺถ, อหํ โว โปเสสฺสามี’’ติ ¶ มาตาปิตโร อสฺสาเสตฺวา ยาคุํ ปาเยตฺวา เอกมนฺเต นิสีทาเปตฺวา ปุน ภิกฺขํ อาหริตฺวา เต โภเชตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุน ภตฺเตนาปุจฺฉิตฺวา ปจฺฉา สยํ ปริภฺุชติ. โส ตโต ปฏฺาย อิมินา นิยาเมน มาตาปิตโร ปฏิชคฺคติ. อตฺตนา ลทฺธานิ ปกฺขิกภตฺตาทีนิ เตสํเยว ทตฺวา สยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลภมาโน ภฺุชติ, อลภมาโน น ภฺุชติ, วสฺสาวาสิกมฺปิ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา เตสํเยว เทติ. เตหิ ปริภุตฺตํ ชิณฺณปิโลติกํ คเหตฺวา อคฺคฬํ ทตฺวา รชิตฺวา สยํ ปริภฺุชติ. ภิกฺขลภนทิวเสหิ ปนสฺส อลภนทิวสา พหู อเหสุํ. อถสฺส นิวาสนปารุปนํ อติลูขํ โหติ.
อิติ ¶ โส มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺโตเยว อปรภาเค กิโส อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต อโหสิ. อถ นํ สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา ภิกฺขู ปุจฺฉึสุ ‘‘อาวุโส, ปุพฺเพ ตว สรีรวณฺโณ โสภติ, อิทานิ ปน กิโส อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต, พฺยาธิ เต นุ โข อุปฺปนฺโน’’ติ. โส ‘‘นตฺถิ เม, อาวุโส, พฺยาธิ, อปิจ ปน ปลิโพโธ เม อตฺถี’’ติ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อถ นํ เต ภิกฺขู อาหํสุ ‘‘อาวุโส, ภควา สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตุํ น เทติ, ตฺวํ ปน สทฺธาเทยฺยํ คเหตฺวา คิหีนํ ททมาโน อยุตฺตํ กโรสี’’ติ. โส เตสํ กถํ สุตฺวา ลชฺชิโต โอลียิ. เต เอตฺตเกนปิ อสนฺตุฏฺา ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อสุโก นาม ภิกฺขุ สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตฺวา คิหี โปเสตี’’ติ สตฺถุ อาโรเจสุํ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ สทฺธาเทยฺยํ คเหตฺวา คิหี โปเสสี’’ติ ¶ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ตํ กิริยํ วณฺเณตุกาโม อตฺตโน จ ปุพฺพจริยํ ปกาเสตุกาโม ‘‘ภิกฺขุ, คิหี โปเสนฺโต เก โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มาตาปิตโร เม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต สตฺถา ตสฺส อุสฺสาหํ ชเนตุํ ‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขู’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาธุการํ ทตฺวา ‘‘ตฺวํ มม คตมคฺเค ิโต, อหมฺปิ ปุพฺพจริยํ จรนฺโต มาตาปิตโร โปเสสิ’’นฺติ อาห. โส อสฺสาสํ ปฏิลภิ. สตฺถา ตาย ปุพฺพจริยาย อาวิกรณตฺถํ เตหิ ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสินครโต อวิทูเร นทิยา โอริมตีเร เอโก เนสาทคาโม อโหสิ, ปาริมตีเร เอโก เนสาทคาโม. เอเกกสฺมึ คาเม ปฺจ ปฺจ กุลสตานิ วสนฺติ. ทฺวีสุปิ คาเมสุ ทฺเว เนสาทเชฏฺกา สหายกา อเหสุํ. เต ทหรกาเลเยว กติกวตฺตํ กรึสุ ‘‘สเจ อมฺเหสุ เอกสฺส ธีตา โหติ, เอกสฺส ปุตฺโต โหติ, เตสํ อาวาหวิวาหํ กริสฺสามา’’ติ. อถ โอริมตีเร คามเชฏฺกสฺส ¶ เคเห ปุตฺโต ชายิ, ชาตกฺขเณเยว ทุกูเลน ปฏิคฺคหิตตฺตา ‘‘ทุกูโล’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. อิตรสฺส เคเห ธีตา ชายิ, ตสฺสา ปรตีเร ชาตตฺตา ‘‘ปาริกา’’ติ นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ อภิรูปา ปาสาทิกา อเหสุํ สุวณฺณวณฺณา. เต เนสาทกุเล ชาตาปิ ปาณาติปาตํ นาม น กรึสุ.
อปรภาเค โสฬสวสฺสุทฺเทสิกํ ทุกูลกุมารํ มาตาปิตโร อาหํสุ ‘‘ปุตฺต, กุมาริกํ เต อานยิสฺสามา’’ติ. โส ปน พฺรหฺมโลกโต อาคโต สุทฺธสตฺโต อุโภ กณฺเณ ปิธาย ‘‘น เม ฆราวาเสนตฺโถ อมฺมตาตา, มา เอวรูปํ อวจุตฺถา’’ติ วตฺวา ยาวตติยํ วุจฺจมาโนปิ น อิจฺฉิเยว. ปาริกาปิ มาตาปิตูหิ ‘‘อมฺม, อมฺหากํ สหายกสฺส ปุตฺโต อตฺถิ, โส อภิรูโป สุวณฺณวณฺโณ, ตสฺส ตํ ทสฺสามา’’ติ วุตฺตา ตเถว วตฺวา อุโภ กณฺเณ ปิทหิ. สาปิ พฺราหฺมโลกโต อาคตา ฆราวาสํ น อิจฺฉิ. ทุกูลกุมาโร ปน ตสฺสา รหสฺเสน สาสนํ ปหิณิ ‘‘สเจ ¶ ปาริเก เมถุนธมฺเมน อตฺถิกา, อฺสฺส เคหํ คจฺฉตุ, มยฺหํ เมถุนธมฺเม ฉนฺโท นตฺถี’’ติ. สาปิ ตสฺส ตเถว สาสนํ เปเสสิ.
อถ ¶ มาตาปิตโร เตสํ อนิจฺฉมานานฺเว อาวาหวิวาหํ กรึสุ. เต อุโภปิ กิเลสสมุทฺทํ อโนตริตฺวา ทฺเว มหาพฺรหฺมาโน วิย เอกโตว วสึสุ. ทุกูลกุมาโร ปน มจฺฉํ วา มิคํ วา น มาเรติ, อนฺตมโส อาหฏมํสมฺปิ น วิกฺกิณาติ. อถ นํ มาตาปิตโร วทึสุ ‘‘ตาต, ตฺวํ เนสาทกุเล นิพฺพตฺติตฺวาปิ เนว ฆราวาสํ อิจฺฉสิ, น ปาณวธํ กโรสิ, กึ นาม กมฺมํ กริสฺสสี’’ติ? ‘‘อมฺมตาตา, ตุมฺเหสุ อนุชานนฺเตสุ มยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. ตํ สุตฺวา มาตาปิตโร ‘‘เตน หิ ปพฺพชถา’’ติ ทฺเว ชเน อนุชานึสุ. เต ตุฏฺหฏฺา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา คามโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน คงฺคาตีเรน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ยสฺมึ าเน มิคสมฺมตา นาม นที หิมวนฺตโต โอตริตฺวา คงฺคํ ปตฺตา, ตํ านํ คนฺตฺวา คงฺคํ ปหาย มิคสมฺมตาภิมุขา อภิรุหึสุ.
ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก โอโลเกนฺโต ตํ การณํ ตฺวา วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต วิสฺสกมฺม, ทฺเว มหาปุริสา คามา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิฏฺา, เตสํ นิวาสฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, มิคสมฺมตานทิยา อฑฺฒโกสนฺตเร ¶ เอเตสํ ปณฺณสาลฺจ ปพฺพชิตปริกฺขาเร จ มาเปตฺวา เอหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มูคปกฺขชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑ อาทโย) วุตฺตนเยเนว สพฺพํ สํวิทหิตฺวา อมนาปสทฺเท มิคปกฺขิโน ปลาเปตฺวา เอกปทิกํ ชงฺฆมคฺคํ มาเปตฺวา สกฏฺานเมว คโต. เตปิ ตํ มคฺคํ ทิสฺวา เตน มคฺเคน คนฺตฺวา ตํ อสฺสมปทํ ปาปุณึสุ. ทุกูลปณฺฑิโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทิสฺวา ‘‘สกฺเกน มยฺหํ ทินฺนา’’ติ สกฺกทตฺติยภาวํ ตฺวา สาฏกํ โอมฺุจิตฺวา รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อชินจมฺมํ อํเส กตฺวา ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา อิสิเวสํ คเหตฺวา ปาริกายปิ ปพฺพชฺชํ อทาสิ. อุโภปิ กามาวจรเมตฺตํ ภาเวตฺวา ตตฺถ วสึสุ. เตสํ เมตฺตานุภาเวน สพฺเพปิ มิคปกฺขิโน อฺมฺํ เมตฺตจิตฺตเมว ปฏิลภึสุ, น โกจิ กฺจิ วิเหเสิ. ปาริกา ตโต ปฏฺาย ปานียํ ปริโภชนียํ อาหรติ, อสฺสมปทํ สมฺมชฺชติ, สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. อุโภปิ ผลาผลานิ อาหริตฺวา ปริภฺุชิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตา ตตฺถ วาสํ กปฺปยึสุ.
สกฺโก ¶ เตสํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉติ. โส เอกทิวสํ อนุโอโลเกนฺโต ‘‘อิเมสํ จกฺขูนิ ปริหายิสฺสนฺตี’’ติ อนฺตรายํ ทิสฺวา ทุกูลปณฺฑิตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ¶ เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ อนฺตราโย ปฺายติ, ปฏิชคฺคนกํ ปุตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, โลกธมฺมํ ปฏิเสวถา’’ติ. อถ นํ ทุกูลปณฺฑิโต อาห – ‘‘สกฺก, กินฺนาเมตํ กเถสิ, มยํ อคารมชฺเฌ วสนฺตาปิ เอตํ โลกธมฺมํ ปุฬวกคูถราสึ วิย ชิคุจฺฉิมฺหา, อิทานิ ปน อรฺํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กถํ เอวรูปํ กริสฺสามา’’ติ. อถ สกฺโก ตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, สเจ เอวํ น กโรถ, ปาริกาย ตาปสิยา อุตุนิกาเล นาภึ หตฺเถน ปรามเสยฺยาถา’’ติ. ทุกูลปณฺฑิโต ‘‘อิทํ สกฺกา กาตุ’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉิ. สกฺโก ตํ วนฺทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต.
ทุกูลปณฺฑิโตปิ ตํ การณํ ปาริกาย อาจิกฺขิตฺวา อสฺสา อุตุนิกาเล นาภึ หตฺเถน ปรามสิ. ตทา โพธิสตฺโต เทวโลกโต จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ ¶ คณฺหิ. สา ทสมาสจฺจเยน สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ, เตเนวสฺส ‘‘สุวณฺณสาโม’’ติ นามํ กรึสุ. ปาริกาย ผลาผลตฺถาย วนํ คตกาเล ปพฺพตนฺตเร กินฺนริโย ธาติกิจฺจํ กรึสุ. เต อุโภปิ โพธิสตฺตํ นฺหาเปตฺวา ปณฺณสาลายํ นิปชฺชาเปตฺวา ผลาผลตฺถาย อรฺํ คจฺฉนฺติ. ตสฺมึ ขเณ กินฺนรา กุมารํ คเหตฺวา คิริกนฺทราทีสุ นฺหาเปตฺวา ปพฺพตมตฺถกํ อารุยฺห นานาปุปฺเผหิ อลงฺกริตฺวา หริตาลมโนสิลาทีนิ สิลายํ ฆํสิตฺวา นลาเฏ ติลเก กตฺวา ปุน อาเนตฺวา ปณฺณสาลายํ นิปชฺชาเปสุํ. ปาริกาปิ อาคนฺตฺวา ปุตฺตํ ถฺํ ปาเยสิ. ตํ อปรภาเค วฑฺฒิตฺวา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกมฺปิ อนุรกฺขนฺตา มาตาปิตโร ปณฺณสาลายํ นิสีทาเปตฺวา สยเมว วนมูลผลาผลตฺถาย วนํ คจฺฉนฺติ. มหาสตฺโต ‘‘มม มาตาปิตูนํ กทาจิ โกจิเทว อนฺตราโย ภเวยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา เตสํ คตมคฺคํ สลฺลกฺเขสิ.
อเถกทิวสํ เตสํ วนมูลผลาผลํ อาทาย สายนฺหสมเย นิวตฺตนฺตานํ อสฺสมปทโต อวิทูเร มหาเมโฆ อุฏฺหิ. เต เอกํ รุกฺขมูลํ ปวิสิตฺวา วมฺมิกมตฺถเก อฏฺํสุ. ตสฺส จ อพฺภนฺตเร อาสีวิโส อตฺถิ. เตสํ สรีรโต เสทคนฺธมิสฺสกํ อุทกํ โอตริตฺวา ตสฺส ¶ นาสาปุฏํ ปาวิสิ. โส กุชฺฌิตฺวา นาสาวาเตน ปหริ. ทฺเวปิ อนฺธา หุตฺวา อฺมฺํ น ปสฺสึสุ. ทุกูลปณฺฑิโต ปาริกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ปาริเก มม จกฺขูนิ ปริหีนานิ, อหํ ตํ น ปสฺสามี’’ติ อาห. สาปิ ตเถว อาห. เต ‘‘นตฺถิ โน อิทานิ ชีวิต’’นฺติ มคฺคํ อปสฺสนฺตา ปริเทวมานา อฏฺํสุ. ‘‘กึ ปน เตสํ ปุพฺพกมฺม’’นฺติ? เต กิร ปุพฺเพ เวชฺชกุเล อเหสุํ. อถ โส เวชฺโช เอกสฺส มหาธนสฺส ปุริสสฺส อกฺขิโรคํ ปฏิชคฺคิ. โส ตสฺส กิฺจิ ธนํ น อทาสิ. อถ เวชฺโช กุชฺฌิตฺวา อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ภริยาย อาโรเจตฺวา ‘‘ภทฺเท, อหํ ตสฺส อกฺขิโรคํ ปฏิชคฺคามิ, อิทานิ มยฺหํ ธนํ น เทติ, กึ กโรมา’’ติ อาห ¶ . สาปิ กุชฺฌิตฺวา ‘‘น โน ตสฺส สนฺตเกนตฺโถ, เภสชฺชํ ตสฺส เอกโยคํ ทตฺวา อกฺขีนิ กาณานิ กโรหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. โส นจิรสฺเสว อนฺโธ โหติ. เตสํ อุภินฺนมฺปิ อิมินา กมฺเมน จกฺขูนิ อนฺธานิ ชายึสุ.
อถ มหาสตฺโต ‘‘มม มาตาปิตโร ¶ อฺเสุ ทิวเสสุ อิมาย เวลาย อาคจฺฉนฺติ, อิทานิ เตสํ ปวตฺตึ น ชานามิ, ปฏิมคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มคฺคํ คนฺตฺวา สทฺทมกาสิ. เต ตสฺส สทฺทํ สฺชานิตฺวา ปฏิสทฺทํ กริตฺวา ปุตฺตสิเนเหน ‘‘ตาต สุวณฺณสาม, อิธ ปริปนฺโถ อตฺถิ, มา อาคมี’’ติ วทึสุ. อถ เนสํ ‘‘เตน หิ อิมํ ลฏฺิโกฏึ คเหตฺวา มม สนฺติกํ เอถา’’ติ ทีฆลฏฺึ อทาสิ. เต ลฏฺิโกฏึ คเหตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อาคมึสุ. อถ เน ‘‘เกน การเณน โว จกฺขูนิ วินฏฺานี’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ มาตาปิตโร อาหํสุ ‘‘ตาต, มยํ เทเว วสฺสนฺเต อิธ รุกฺขมูเล วมฺมิกมตฺถเก ิตา, เตน การเณนา’’ติ. โส มาตาปิตูนํ กถํ สุตฺวาว อฺาสิ ‘‘ตตฺถ อาสีวิเสน ภวิตพฺพํ, เตน กุทฺเธน นาสาวาโต วิสฺสฏฺโ ภวิสฺสตี’’ติ. โส มาตาปิตโร ทิสฺวา โรทิ เจว หสิ จ. อถ นํ เต ปุจฺฉึสุ ‘‘กสฺมา, ตาต, โรทสิ เจว หสสิ จา’’ติ? อมฺมตาตา, ‘‘ตุมฺหากํ ทหรกาเลเยว เอวํ จกฺขูนิ วินฏฺานี’’ติ โรทึ, ‘‘อิทานิ ปฏิชคฺคิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ หสึ. อมฺมตาตา, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, อหํ โว ปฏิชคฺคิสฺสามีติ.
โส มาตาปิตโร อสฺสาเสตฺวา อสฺสมปทํ อาเนตฺวา เตสํ รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ จงฺกเม ปณฺณสาลายํ วจฺจฏฺาเน ปสฺสาวฏฺาเน จาติ ¶ สพฺพฏฺาเนสุ รชฺชุเก พนฺธิ, ตโต ปฏฺาย เต อสฺสมปเท เปตฺวา สยํ วนมูลผลาทีนิ อาหริตฺวา ปณฺณสาลายํ เปตฺวา ปาโตว เตสํ วสนฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ฆฏํ อาทาย มิคสมฺมตานทึ คนฺตฺวา ปานียปริโภชนียํ อาหริตฺวา อุปฏฺาเปติ, ทนฺตกฏฺมุโขทกาทีนิ ทตฺวา มธุรผลาผลํ เทติ, เตหิ ภฺุชิตฺวา มุเข วิกฺขาลิเต สยํ ขาทิตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา มิคคณปริวุโต ผลาผลตฺถาย อรฺํ ปาวิสิ. ปพฺพตปาเท กินฺนรปริวาโร ผลาผลํ คเหตฺวา สายนฺหสมเย อาคนฺตฺวา ฆเฏน อุทกํ อาหริตฺวา อุณฺโหทเกน เตสํ ยถารุจิ นฺหาปนํ ปาทโธวนํ วา กตฺวา องฺคารกปลฺลํ อุปเนตฺวา หตฺถปาเท เสเทตฺวา เตสํ นิสินฺนานํ ผลาผลํ ทตฺวา ขาทาเปตฺวา ปริโยสาเน สยํ ขาทิตฺวา เสสกํ เปสิ. อิมินา นิยาเมเนว มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิ.
ตสฺมึ สมเย พาราณสิยํ ปีฬิยกฺโข นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. โส มิคมํสโลเภน มาตรํ ¶ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา มิเค วธิตฺวา มํสํ ขาทนฺโต ¶ มิคสมฺมตานทึ ปตฺวา อนุปุพฺเพน สามสฺส ปานียคฺคหณติตฺถํ สมฺปตฺโต มิคปทวลฺชํ ทิสฺวา มณิวณฺณาหิ สาขาหิ โกฏฺกํ กตฺวา ธนุํ อาทาย วิสปีตํ สรํ สนฺนหิตฺวา นิลีโนว อจฺฉิ. มหาสตฺโตปิ สายนฺหสมเย ผลาผลํ อาหริตฺวา อสฺสมปเท เปตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ‘‘ปานียํ อาหริสฺสามี’’ติ ฆฏํ คเหตฺวา มิคคณปริวุโต ทฺเวปิ มิเค เอกโต กตฺวา เตสํ ปิฏฺิยํ ปานียฆฏํ เปตฺวา หตฺเถน คเหตฺวา นทีติตฺถํ อคมาสิ. ราชา โกฏฺเก ิโตว ตํ ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยา เอตฺตกํ กาลํ เอวํ วิจรนฺเตนปิ มนุสฺโส นาม น ทิฏฺปุพฺโพ, เทโว นุ โข เอส นาโค นุ โข, สเจ ปนาหํ เอตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสามิ. เทโว เจ ภวิสฺสติ, อากาสํ อุปฺปติสฺสติ. นาโค เจ, ภูมิยํ ปวิสิสฺสติ. น โข ปนาหํ สพฺพกาลํ หิมวนฺเตเยว วิจริสฺสามิ, พาราณสึ คมิสฺสามิ. ตตฺร มํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ ‘อปิ นุ โข เต, มหาราช, หิมวนฺเต วสนฺเตน กิฺจิ อฉริยํ ทิฏฺปุพฺพ’นฺติ? ตตฺราหํ ‘เอวรูโป เม สตฺโต ทิฏฺปุพฺโพ’ติ วกฺขามิ. ‘โก นาเมโส’ติ วุตฺเต สเจ ‘น ชานามี’ติ วกฺขามิ ¶ , อถ ครหิสฺสนฺติ มํ, ตสฺมา เอตํ วิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.
อถ เตสุ มิเคสุ ปมเมว โอตริตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา อุตฺติณฺเณสุ โพธิสตฺโต อุคฺคหิตวตฺโต มหาเถโร วิย สณิกํ โอตริตฺวา ปสฺสทฺธทรโถ ปจฺจุตฺตริตฺวา รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อชินจมฺมํ อํเส กตฺวา ปานียฆฏํ อุกฺขิปิตฺวา อุทกํ ปฺุฉิตฺวา วามอํสกูเฏ เปสิ. ตสฺมึ กาเล ‘‘อิทานิ วิชฺฌิตุํ สมโย’’ติ ราชา วิสปีตํ สรํ อุกฺขิปิตฺวา มหาสตฺตํ ทกฺขิณปสฺเส วิชฺฌิ, สโร วามปสฺเสน นิกฺขมิ. ตสฺส วิทฺธภาวํ ตฺวา มิคคณา ภีตา ปลายึสุ. สุวณฺณสามปณฺฑิโต ปน วิทฺโธปิ ปานียฆฏํ ยถา วา ตถา วา อนวสุมฺภิตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา สณิกํ โอตาเรตฺวา วาลุกํ วิยูหิตฺวา เปตฺวา ทิสํ ววตฺถเปตฺวา มาตาปิตูนํ วสนฏฺานทิสาภาเคน สีสํ กตฺวา รชตปฏฺฏวณฺณาย วาลุกาย ¶ สุวณฺณปฏิมา วิย นิปชฺชิตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ หิมวนฺตปฺปเทเส มม เวรี นาม นตฺถิ, มยฺหํ มาตาปิตูนฺจ เวรี นาม นตฺถี’’ติ มุเขน โลหิตํ ฉฑฺเฑตฺวา ราชานํ อทิสฺวาว ปมํ คาถมาห –
‘‘โก นุ มํ อุสุนา วิชฺฌิ, ปมตฺตํ อุทหารกํ;
ขตฺติโย พฺราหฺมโณ เวสฺโส, โก มํ วิทฺธา นิลียสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปมตฺตนฺติ เมตฺตาภาวนาย อนุปฏฺิตสตึ. อิทฺหิ โส สนฺธาย ตสฺมึ ขเณ อตฺตานํ ปมตฺตํ นาม อกาสิ. วิทฺธาติ วิชฺฌิตฺวา.
เอวฺจ ปน วตฺวา ปุน อตฺตโน สรีรมํสสฺส อภกฺขสมฺมตภาวํ ทสฺเสตุํ ทุติยํ คาถมาห –
‘‘น เม มํสานิ ขชฺชานิ, จมฺเมนตฺโถ น วิชฺชติ;
อถ เกน นุ วณฺเณน, วิทฺเธยฺยํ มํ อมฺถา’’ติ.
ทุติยคาถํ วตฺวา ตเมว นามาทิวเสน ปุจฺฉนฺโต อาห –
‘‘โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ มํ วิทฺธา นิลียสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อมฺถาติ อยํ ปุริโส เกน การเณน มํ วิชฺฌิตพฺพนฺติ อมฺิตฺถาติ อตฺโถ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ มยา วิสปีเตน สลฺเลน วิชฺฌิตฺวา ปาติโตปิ เนว มํ อกฺโกสติ น ปริภาสติ, มม หทยํ สมฺพาหนฺโต วิย ปิยวจเนน สมุทาจรติ, คจฺฉิสฺสามิสฺส สนฺติก’’นฺติ จินฺเตตฺวา คนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก ิโตว ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ราชาหมสฺมิ กาสีนํ, ปีฬิยกฺโขติ มํ วิทู;
โลภา รฏฺํ ปหิตฺวาน, มิคเมสํ จรามหํ.
‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;
นาโคปิ เม น มุจฺเจยฺย, อาคโต อุสุปาตน’’นฺติ.
ตตฺถ ราชาหมสฺมีติ เอวํ กิรสฺส วิตกฺโก อโหสิ ‘‘เทวาปิ นาคาปิ มนุสฺสภาสาย กเถนฺติเยว, อหเมตํ เทโวติ วา นาโคติ วา มนุสฺโสติ วา น ชานามิ. สเจ กุชฺเฌยฺย, นาเสยฺย ¶ มํ, ‘ราชา’ติ วุตฺเต ปน อภายนฺโต นาม นตฺถี’’ติ. ตสฺมา อตฺตโน ราชภาวํ ชานาเปตุํ ปมํ ‘‘ราชาหมสฺมี’’ติ อาห. โลภาติ มิคมํสโลเภน. มิคเมสนฺติ มิคํ เอสนฺโต. จรามหนฺติ จรามิ อหํ. ทุติยํ คาถํ ปน อตฺตโน ¶ พลํ ทีเปตุกาโม เอวมาห. ตตฺถ อิสฺสตฺเถติ ธนุสิปฺเป. ทฬฺหธมฺโมติ ทฬฺหธนุํ สหสฺสตฺถามธนุํ โอโรเปตฺุจ อาโรเปตฺุจ สมตฺโถ.
อิติ ราชา อตฺตโน พลํ วณฺเณตฺวา ตสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉนฺโต อาห –
‘‘โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ;
ปิตุโน อตฺตโน จาปิ, นามโคตฺตํ ปเวทยา’’ติ.
ตตฺถ ปเวทยาติ กถย.
ตํ ¶ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ‘เทวนาคกินฺนรขตฺติยาทีสุ อฺตโรหมสฺมี’ติ กเถยฺยํ, สทฺทเหยฺเยว เอส, สจฺจเมว ปนสฺส กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห –
‘‘เนสาทปุตฺโต ภทฺทนฺเต, สาโม อิติ มํ าตโย;
อามนฺตยึสุ ชีวนฺตํ, สฺวชฺเชวาหํ คโต สเย.
‘‘วิทฺโธสฺมิ ปุถุสลฺเลน, สวิเสน ยถา มิโค;
สกมฺหิ โลหิเต ราช, ปสฺส เสมิ ปริปฺลุโต.
‘‘ปฏิวามคตํ สลฺลํ, ปสฺส ธิมฺหามิ โลหิตํ;
อาตุโร ตฺยานุปุจฺฉามิ, กึ มํ วิทฺธา นิลียสิ.
‘‘อชินมฺหิ หฺเต ทีปิ, นาโค ทนฺเตหิ หฺเต;
อถ เกน นุ วณฺเณน, วิทฺเธยฺยํ มํ อมฺถา’’ติ.
ตตฺถ ชีวนฺตนฺติ มํ อิโต ปุพฺเพ ชีวมานํ ‘‘เอหิ สาม, ยาหิ สามา’’ติ าตโย อามนฺตยึสุ. สฺวชฺเชวาหํ คโตติ โส อหํ อชฺช เอวํ คโต มรณมุเข สมฺปตฺโต, ปวิฏฺโติ อตฺโถ ¶ . สเยติ สยามิ. ปริปฺลุโตติ นิมุคฺโค. ปฏิวามคตนฺติ ทกฺขิณปสฺเสน ปวิสิตฺวา วามปสฺเสน นิคฺคตนฺติ อตฺโถ. ปสฺสาติ โอโลเกหิ มํ. ธิมฺหามีติ นิฏฺุภามิ, อิทํ โส สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา อวิกมฺปมาโนว โลหิตํ มุเขน ฉฑฺเฑตฺวา อาห. อาตุโร ตฺยานุปุจฺฉามี’’ติ พาฬฺหคิลาโน หุตฺวา อหํ ตํ อนุปุจฺฉามิ. นิลียสีติ เอตสฺมึ วนคุมฺเพ นิลีโน อจฺฉสิ. วิทฺเธยฺยนฺติ วิชฺฌิตพฺพํ. อมฺถาติ อมฺิตฺถ.
ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ยถาภูตํ อนาจิกฺขิตฺวา มุสาวาทํ กเถนฺโต อาห –
‘‘มิโค อุปฏฺิโต อาสิ, อาคโต อุสุปาตนํ;
ตํ ทิสฺวา อุพฺพิชี สาม, เตน โกโธ มมาวิสี’’ติ.
ตตฺถ อาวิสีติ อชฺโฌตฺถริ. เตน การเณน เม โกโธ อุปฺปนฺโนติ ทีเปติ.
อถ ¶ ¶ นํ มหาสตฺโต ‘‘กึ วเทสิ, มหาราช, อิมสฺมึ หิมวนฺเต มํ ทิสฺวา ปลายนมิโค นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อาห –
‘‘ยโต สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;
น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรฺเ สาปทานิปิ.
‘‘ยโต นิธึ ปริหรึ, ยโต ปตฺโตสฺมิ โยพฺพนํ;
น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรฺเ สาปทานิปิ.
‘‘ภีรู กิมฺปุริสา ราช, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
สมฺโมทมานา คจฺฉาม, ปพฺพตานิ วนานิ จ.
‘‘น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรฺเ สาปทานิปิ;
อถ เกน นุ วณฺเณน, อุตฺราสนฺติ มิคา มม’’นฺติ.
ตตฺถ น มํ มิคาติ โภ มหาราช, ยโต กาลโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, ยโต กาลโต ปฏฺาย อหํ วิฺุภาวํ ปตฺโต อสฺมิ ภวามิ, ตโต กาลโต ปฏฺาย มํ ทิสฺวา มิคา ¶ นาม น อุตฺตสนฺติ. สาปทานิปีติ วาฬมิคาปิ. ยโต นิธินฺติ ยโต กาลโต ปฏฺาย อหํ วากจีรํ ปริหรึ. ภีรู กิมฺปุริสาติ มหาราช, มิคา ตาว ติฏฺนฺตุ, กิมฺปุริสา นาม อติภีรุกา โหนฺติ. เย อิมสฺมึ คนฺธมาทนปพฺพเต วิหรนฺติ, เตปิ มํ ทิสฺวา น อุตฺตสนฺติ, อถ โข มยํ อฺมฺํ สมฺโมทมานา คจฺฉาม. อุตฺราสนฺติ มิคา มมนฺติ มมํ ทิสฺวา มิคา อุตฺราเสยฺยุํ, เกน การเณน ตฺวํ มํ สทฺทหาเปสฺสสีติ ทีเปติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มยา อิมํ นิรปราธํ วิชฺฌิตฺวา มุสาวาโท กถิโต, สจฺจเมว กถยิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘น ตํ ตส มิโค สาม, กึ ตาหํ อลิกํ ภเณ;
โกธโลภาภิภูตาหํ, อุสุํ เต ตํ อวสฺสชิ’’นฺติ.
ตตฺถ น ตํ ตสาติ น ตํ ทิสฺวา มิโค ตส, น ภีโตติ อตฺโถ. กึ ตาหนฺติ กึ เต เอวํ กลฺยาณทสฺสนสฺส สนฺติเก อหํ อลิกํ ภณิสฺสามิ ¶ . โกธโลภาภิภูตาหนฺติ โกเธน จ โลเภน จ อภิภูโต หุตฺวา อหํ. โส หิ ปมเมว มิเคสุ อุปฺปนฺเนน โกเธน ‘‘มิเค วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ธนุํ อาโรเปตฺวา ิโต ปจฺฉา โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ตสฺส เทวตาทีสุ อฺตรภาวํ อชานนฺโต ‘‘ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ โลภํ อุปฺปาเทสิ, ตสฺมา เอวมาห.
เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘นายํ สุวณฺณสาโม อิมสฺมึ อรฺเ เอกโกว วสิสฺสติ, าตเกหิปิสฺส ภวิตพฺพํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อิตรํ คาถมาห –
‘‘กุโต นุ สาม อาคมฺม, กสฺส วา ปหิโต ตุวํ;
‘อุทหาโร นทึ คจฺฉ’, อาคโต มิคสมฺมต’’นฺติ.
ตตฺถ สามาติ มหาสตฺตํ อาลปติ. อาคมฺมาติ กุโต เทสา อิมํ วนํ อาคมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อุทหาโร อุทกํ อาหริตุํ นทึ คจฺฉา’’ติ กสฺส วา ปหิโตเกน ปุคฺคเลน เปสิโต หุตฺวา ตุวํ อิมํ มิคสมฺมตํ อาคโตติ อตฺโถ.
โส ¶ ตสฺส กถํ สุตฺวา มหนฺตํ ทุกฺขเวทนํ อธิวาเสตฺวา มุเขน โลหิตํ ฉฑฺเฑตฺวา คาถมาห –
‘‘อนฺธา ¶ มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรามิ พฺรหาวเน;
เตสาหํ อุทกาหาโร, อาคโต มิคสมฺมต’’นฺติ.
ตตฺถ ภรามีติ มูลผลาทีนิ อาหริตฺวา โปเสมิ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต มาตาปิตโร อารพฺภ วิลปนฺโต อาห –
‘‘อตฺถิ เนสํ อุสามตฺตํ, อถ สาหสฺส ชีวิตํ;
อุทกสฺส อลาเภน, มฺเ อนฺธา มริสฺสเร.
‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;
ยฺจ อมฺมํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโต.
‘‘น ¶ เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;
ยฺจ ตาตํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโต.
‘‘สา นูน กปณา อมฺมา, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;
อฑฺฒรตฺเตว รตฺเต วา, นทีว อวสุจฺฉติ.
‘‘โส นูน กปโณ ตาโต, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;
อฑฺฒรตฺเตว รตฺเต วา, นทีว อวสุจฺฉติ.
‘‘อุฏฺานปาทจริยาย, ปาทสมฺพาหนสฺส จ;
สาม ตาตวิลปนฺตา, หิณฺฑิสฺสนฺติ พฺรหาวเน.
อิทมฺปิ ทุติยํ สลฺลํ, กมฺเปติ หทยํ มมํ;
ยฺจ อนฺเธ น ปสฺสามิ, มฺเ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ อุสามตฺตนฺติ โภชนมตฺตํ. ‘‘อุสา’’ติ หิ โภชนสฺส นามํ ตสฺส จ อตฺถิตาย. สาหสฺส ชีวิตนฺติ ฉทิวสมตฺตํ ชีวิตนฺติ อตฺโถ. อิทํ อาหริตฺวา ปิตํ ผลาผลํ สนฺธายาห ¶ . อถ วา อุสาติ อุสฺมา. เตเนตํ ทสฺเสติ – เตสํ สรีเร อุสฺมามตฺตํ อตฺถิ, อถ มยา อาภเตน ผลาผเลน สาหสฺส ชีวิตํ อตฺถีติ. มริสฺสเรติ มริสฺสนฺตีติ มฺามิ. ปุมุนาติ ปุริเสน, เอวรูปฺหิ ทุกฺขํ ปุริเสน ลภิตพฺพเมวาติ อตฺโถ. จิรรตฺตาย รุจฺฉตีติ จิรรตฺตํ โรทิสฺสติ. อฑฺฒรตฺเต วาติ มชฺฌิมรตฺเต วา. รตฺเต วาติ ปจฺฉิมรตฺเต วา. อวสุจฺฉตีติ กุนฺนที วิย สุสฺสิสฺสตีติ อตฺโถ. อุฏฺานปาทจริยายาติ มหาราช, อหํ รตฺติมฺปิ ทิวาปิ ทฺเว ตโย วาเร อุฏฺาย อตฺตโน อุฏฺานวีริเยน เตสํ ปาทจริยํ กโรมิ, หตฺถปาเท สมฺพาหามิ, อิทานิ มํ อทิสฺวา มมตฺถาย เต ปริหีนจกฺขุกา ‘‘สามตาตา’’ติ วิลปนฺตา กณฺฏเกหิ วิชฺฌิยมานา วิย อิมสฺมึ ¶ วนปฺปเทเส หิณฺฑิสฺสนฺติ วิจริสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทุติยํ สลฺลนฺติ ปมวิทฺธวิสปีตสลฺลโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน ทุกฺขตรํ อิทํ ทุติยํ เตสํ อทสฺสนโสกสลฺลํ.
ราชา ¶ ตสฺส วิลาปํ สุตฺวา ‘‘อยํ อจฺจนฺตํ พฺรหฺมจารี ธมฺเม ิโต มาตาปิตโร ภรติ, อิทานิ เอวํ ทุกฺขปฺปตฺโตปิ เตสํเยว วิลปติ, เอวํ คุณสมฺปนฺเน นาม มยา อปราโธ กโต, กถํ นุ โข อิมํ สมสฺสาเสยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘นิรเย ปจฺจนกาเล รชฺชํ กึ กริสฺสติ, อิมินา ปฏิชคฺคิตนิยาเมเนวสฺส มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิสฺสามิ, อิมสฺส มรณมฺปิ อมรณํ วิย ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา อาห –
‘‘มา พาฬฺหํ ปริเทเวสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเน.
‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเน.
‘‘มิคานํ วิฆาสมนฺเวสํ, วนมูลผลานิ จ;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเน.
‘‘กตมํ ตํ วนํ สาม, ยตฺถ มาตาปิตา ตว;
อหํ เต ตถา ภริสฺสํ, ยถา เต อภรี ตุว’’นฺติ.
ตตฺถ ภริสฺสํ เตติ เต ตว มาตาปิตโร ภริสฺสามิ. มิคานนฺติ สีหาทีนํ มิคานํ วิฆาสํ ¶ อนฺเวสนฺโต. อิทํ โส ‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโลติ ถูลถูเล มิเค วธิตฺวา มธุรมํเสน ตว มาตาปิตโร ภริสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘มา, มหาราช, อมฺเห นิสฺสาย ปาณวธํ กรี’’ติ วุตฺเต เอวมาห. ยถา เตติ ยถา ตฺวํ เต อภริ, ตเถวาหมฺปิ ภริสฺสามีติ.
อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘สาธุ, มหาราช, เตน หิ เม มาตาปิตโร ภรสฺสู’’ติ วตฺวา มคฺคํ อาจิกฺขนฺโต อาห –
‘‘อยํ เอกปที ราช, โยยํ อุสฺสีสเก มม;
อิโต คนฺตฺวา อฑฺฒโกสํ, ตตฺถ เนสํ อคารกํ;
ยตฺถ มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรสฺสุ อิโต คโต’’ติ.
ตตฺถ เอกปทีติ เอกปทมคฺโค. อุสฺสีสเกติ โย เอส มม มตฺถกฏฺาเน. อฑฺฒโกสนฺติ อฑฺฒโกสนฺตเร.
เอวํ ¶ โส ตสฺส มคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา มาตาปิตูสุ พลวสิเนเหน ¶ ตถารูปํ เวทนํ อธิวาเสตฺวา เตสํ ภรณตฺถาย อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจนฺโต ปุน เอวมาห –
‘‘นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;
อนฺธา มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรสฺสุ พฺรหาวเน.
‘‘อฺชลึ เต ปคฺคณฺหามิ, กาสิราช นมตฺถุ เต;
มาตรํ ปิตรํ มยฺหํ, วุตฺโต วชฺชาสิ วนฺทน’’นฺติ.
ตตฺถ วุตฺโต วชฺชาสีติ ‘‘ปุตฺโต โว สุวณฺณสาโม นทีตีเรวิสปีเตน สลฺเลน วิทฺโธ รชตปฏฺฏสทิเส วาลุกาปุลิเน ทกฺขิณปสฺเสน นิปนฺโน อฺชลึ ปคฺคยฺห ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทตี’’ติ เอวํ มหาราช, มยา วุตฺโต หุตฺวา มาตาปิตูนํ เม วนฺทนํ วเทยฺยาสีติ อตฺโถ.
ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. มหาสตฺโตปิ มาตาปิตูนํ วนฺทนํ เปเสตฺวา วิสฺิตํ ปาปุณิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘อิทํ ¶ วตฺวาน โส สาโม, ยุวา กลฺยาณทสฺสโน;
มุจฺฉิโต วิสเวเคน, วิสฺี สมปชฺชถา’’ติ.
ตตฺถ สมปชฺชถาติ วิสฺี ชาโต.
โส หิ เหฏฺา เอตฺตกํ กเถนฺโต นิรสฺสาโส วิย อโหสิ. อิทานิ ปนสฺส วิสเวเคน มทฺทิตา ภวงฺคจิตฺตสนฺตติ หทยรูปํ นิสฺสาย ปวตฺติ, กถา ปจฺฉิชฺชิ, มุขํ ปิหิตํ, อกฺขีนิ นิมีลิตานิ, หตฺถปาทา ถทฺธภาวํ ปตฺตา, สกลสรีรํ โลหิเตน มกฺขิตํ. ราชา ‘‘อยํ อิทาเนว มยา สทฺธึ กเถสิ, กึ นุ โข’’ติ ตสฺส อสฺสาสปสฺสาเส อุปธาเรสิ. เต ปน นิรุทฺธา, สรีรํ ถทฺธํ ชาตํ. โส ตํ ทิสฺวา ‘‘นิรุทฺโธ ทานิ สาโม’’ติ โสกํ สทฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุโภ หตฺเถ มตฺถเก เปตฺวา มหาสทฺเทน ปริเทวิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ส ราชา ปริเทเวสิ, พหุํ การฺุสฺหิตํ;
อชรามโรหํ อาสึ, อชฺเชตํ ามิ โน ปุเร;
สามํ กาลงฺกตํ ทิสฺวา, นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโม.
‘‘ยสฺสุ ¶ มํ ปฏิมนฺเตติ, สวิเสน สมปฺปิโต;
สฺวชฺช ¶ เอวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสติ.
‘‘นิรยํ นูน คจฺฉามิ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย;
ตทา หิ ปกตํ ปาปํ, จิรรตฺตาย กิพฺพิสํ.
‘‘ภวนฺติ ตสฺส วตฺตาโร, คาเม กิพฺพิสการโก;
อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, โก มํ วตฺตุมรหติ.
‘‘สารยนฺติ หิ กมฺมานิ, คาเม สํคจฺฉ มาณวา;
อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, โก นุ มํ สารยิสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ อาสินฺติ อหํ เอตฺตกํ กาลํ อชรามโรมฺหีติ สฺี อโหสึ. อชฺเชตนฺติ อชฺช อหํ อิมํ สามํ กาลกตํ ทิสฺวา มมฺเจว อฺเสฺจ นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโมติ ตํ มจฺจุสฺส อาคมนํ ¶ อชฺช ชานามิ, อิโต ปุพฺเพ น ชานามีติ วิลปติ. สฺวชฺช เอวํ คเต กาเลติ โย สวิเสน สลฺเลน สมปฺปิโต อิทาเนว มํ ปฏิมนฺเตติ, โส อชฺช เอวํ คเต กาเล เอวํ มรณกาเล สมฺปตฺเต กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ น ภาสติ. ตทา หีติ ตสฺมึ ขเณ สามํ วิชฺฌนฺเตน มยา ปาปํ กตํ. จิรรตฺตาย กิพฺพิสนฺติ ตํ ปน จิรรตฺตํ วิปจฺจนสมตฺถํ ทารุณํ ผรุสํ.
ตสฺสาติ ตสฺส เอวรูปํ ปาปกมฺมํ กตฺวา วิจรนฺตสฺส. วตฺตาโรติ นินฺทิตาโร ภวนฺติ ‘‘กุหึ คาเม กินฺติ กิพฺพิสการโก’’ติ. อิมสฺมึ ปน อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ โก มํ วตฺตุมรหติ, สเจ หิ ภเวยฺย, วเทยฺยาติ วิลปติ. สารยนฺตีติ คาเม วา นิคมาทีสุ วา สํคจฺฉ มาณวา ตตฺถ ตตฺถ พหู ปุริสา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อมฺโภ ปุริสฆาตก, ทารุณํ เต กมฺมํ กตํ, อสุกทณฺฑํ ปตฺโต นาม ตฺว’’นฺติ เอวํ กมฺมานิ สาเรนฺติ โจเทนฺติ. อิมสฺมึ ปน นิมฺมนุสฺเส อรฺเ มํ โก สารยิสฺสตีติ อตฺตานํ โจเทนฺโต วิลปติ.
ตทา พหุสุนฺทรี นาม เทวธีตา คนฺธมาทนวาสินี มหาสตฺตสฺส สตฺตเม อตฺตภาเว มาตุภูตปุพฺพา. สา ปุตฺตสิเนเหน โพธิสตฺตํ นิจฺจํ อาวชฺเชติ, ตํ ทิวสํ ปน ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมานา น ตํ อาวชฺเชติ. ‘‘เทวสมาคมํ คตา’’ติปิ วทนฺติเยว. สา ตสฺส วิสฺิภูตกาเล ‘‘กึ ¶ นุ โข เม ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ อาวชฺชมานา อทฺทส ‘‘อยํ ปีฬิยกฺโข นาม ราชา มม ปุตฺตํ วิสปีเตน สลฺเลน วิชฺฌิตฺวา มิคสมฺมตานทีตีเร วาลุกาปุลิเน ฆาเตตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวติ. สจาหํ น คมิสฺสามิ, มม ปุตฺโต สุวณฺณสาโม เอตฺเถว มริสฺสติ, รฺโปิ หทยํ ผลิสฺสติ, สามสฺส มาตาปิตโรปิ นิราหารา ปานียมฺปิ อลภนฺตา สุสฺสิตฺวา มริสฺสนฺติ. มยิ ปน คตาย ราชา ปานียฆฏํ อาทาย ตสฺส มาตาปิตูนํ สนฺติกํ คมิสฺสติ, คนฺตฺวา จ ปน ‘‘ปุตฺโต โว มยา หโต’ติ กเถสฺสติ. เอวฺจ วตฺวา เตสํ วจนํ สุตฺวา ¶ เต ปุตฺตสฺส สนฺติกํ อานยิสฺสติ. อถ โข เต จ อหฺจ สจฺจกิริยํ กริสฺสาม, สจฺจพเลน สามสฺส วิสํ วินสฺสิสฺสติ. เอวํ เม ปุตฺโต ชีวิตํ ลภิสฺสติ, มาตาปิตโร จ จกฺขูนิ ลภิสฺสนฺติ, ราชา จ สามสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา นครํ คนฺตฺวา มหาทานํ ทตฺวา สคฺคปรายโณ ภวิสฺสติ, ตสฺมา คจฺฉามหํ ตตฺถา’’ติ. สา คนฺตฺวา มิคสมฺมตานทีตีเร อทิสฺสมาเนน กาเยน อากาเส ตฺวา รฺา สทฺธึ กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘สา เทวตา อนฺตรหิตา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
รฺโว อนุกมฺปาย, อิมา คาถา อภาสถ.
‘‘อาคุํ ¶ กิร มหาราช, อกริ กมฺมทุกฺกฏํ;
อทูสกา ปิตาปุตฺตา, ตโย เอกูสุนา หตา.
‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยถา เต สุคตี สิยา;
ธมฺเมนนฺเธ วเน โปส, มฺเหํ สุคตี ตยา’’ติ.
ตตฺถ รฺโวาติ รฺโเยว. อาคุํ กิราติ มหาราช, ตฺวํ มหาปราธํ มหาปาปํ อกริ. ทุกฺกฏนฺติ ยํ กตํ ทุกฺกฏํ โหติ, ตํ ลามกกมฺมํ อกริ. อทูสกาติ นิทฺโทสา. ปิตาปุตฺตาติ มาตา จ ปิตา จ ปุตฺโต จ อิเม ตโย ชนา เอกอุสุนา หตา. ตสฺมิฺหิ หเต ตปฺปฏิพทฺธา ตสฺส มาตาปิตโรปิ หตาว โหนฺติ. อนุสิกฺขามีติ สิกฺขาเปมิ อนุสาสามิ. โปสาติ สามสฺส าเน ตฺวา สิเนหํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา สาโม วิย เต อุโภ อนฺเธ โปเสหิ. มฺเหํ สุคตี ตยาติ เอวํ ตยา สุคติเยว คนฺตพฺพา ภวิสฺสตีติ อหํ มฺามิ.
โส ¶ เทวตาย วจนํ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร ตสฺส มาตาปิตโร โปเสตฺวา สคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ สทฺทหิตฺวา ‘‘กึ เม รชฺเชน, เตเยว โปเสสฺสามี’’ติ ทฬฺหํ อธิฏฺาย พลวปริเทวํ ปริเทวนฺโต โสกํ ตนุกํ กตฺวา ‘‘สุวณฺณสาโม มโต ภวิสฺสตี’’ติ นานาปุปฺเผหิ ตสฺส สรีรํ ปูเชตฺวา อุทเกน สิฺจิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา เตน ปูริตํ อุทกฆฏํ อาทาย โทมนสฺสปฺปตฺโต ทกฺขิณทิสาภิมุโข อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ส ราชา ปริเทวิตฺวา, พหุํ การฺุสฺหิตํ;
อุทกกุมฺภมาทาย, ปกฺกามิ ทกฺขิณามุโข’’ติ.
ปกติยาปิ ¶ มหาถาโม ราชา ปานียฆฏํ อาทาย คจฺฉนฺโต อสฺสมปทํ โกฏฺเฏนฺโต วิย ปวิสิตฺวา ทุกูลปณฺฑิตสฺส ปณฺณสาลาทฺวารํ สมฺปาปุณิ. ทุกูลปณฺฑิโต อนฺโต นิสินฺโนว ตสฺส ปทสทฺทํ สุตฺวา ‘‘นายํ สามสฺส ปทสทฺโท, กสฺส นุ โข’’ติ ปุจฺฉนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘กสฺส นุ เอโส ปทสทฺโท, มนุสฺสสฺเสว อาคโต;
เนโส สามสฺส นิคฺโฆโส, โก นุ ตฺวมสิ มาริส.
‘‘สนฺตฺหิ ¶ สาโม วชติ, สนฺตํ ปาทานิ เนยติ;
เนโส สามสฺส นิคฺโฆโส, โก นุ ตฺวมสิ มาริสา’’ติ.
ตตฺถ มนุสฺสสฺเสวาติ นายํ สีหพฺยคฺฆทีปิยกฺขนาคกินฺนรานํ, อาคจฺฉโต ปน มนุสฺสสฺเสวายํ ปทสทฺโท, เนโส สามสฺสาติ. สนฺตํ หีติ อุปสมยุตฺตํ เอว. วชตีติ จงฺกมติ. เนยตีติ ปติฏฺาเปติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ อตฺตโน ราชภาวํ อกเถตฺวา ‘มยา ตุมฺหากํ ปุตฺโต มาริโต’ติ วกฺขามิ, อิเม กุชฺฌิตฺวา มยา สทฺธึ ผรุสํ กเถสฺสนฺติ. เอวํ เม เตสุ โกโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, อถ เน วิเหเสฺสามิ, ตํ มม อกุสลํ ภวิสฺสติ, ‘ราชา’ติ ปน วุตฺเต อภายนฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ราชภาวํ ตาว กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปานียมาฬเก ปานียฆฏํ เปตฺวา ปณฺณสาลาทฺวาเร ตฺวา อาห –
‘‘ราชาหมสฺมิ ¶ กาสีนํ, ปีฬิยกฺโขติ มํ วิทู;
โลภา รฏฺํ ปหิตฺวาน, มิคเมสํ จรามหํ.
‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;
นาโคปิ เม น มุจฺเจยฺย, อาคโต อุสุปาตน’’นฺติ.
ทุกูลปณฺฑิโตปิ เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห –
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.
‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภฺุช ราช วรํ วรํ.
‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสี’’ติ;
ตสฺสตฺโถ ¶ ¶ สตฺติคุมฺพชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑๕๙ อาทโย) กถิโต. อิธ ปน ‘‘คิริคพฺภรา’’ติ มิคสมฺมตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สา หิ นที คิริคพฺภรา นิกฺขนฺตตฺตา ‘‘คิริคพฺภรา’’ ตฺเวว ชาตา.
เอวํ เตน ปฏิสนฺถาเร กเต ราชา ‘‘ปุตฺโต โว มยา มาริโต’’ติ ปมเมว วตฺตุํ อยุตฺตํ, อชานนฺโต วิย กถํ สมุฏฺาเปตฺวา กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘นาลํ อนฺธา วเน ทฏฺุํ, โก นุ โว ผลมาหริ;
อนนฺธสฺเสวยํ สมฺมา, นิวาโป มยฺห ขายตี’’ติ.
ตตฺถ นาลนฺติ ตุมฺเห อนฺธา อิมสฺมึ วเน กิฺจิ ทฏฺุํ น สมตฺถา. โก นุ โว ผลมาหรีติ โก นุ ตุมฺหากํ อิมานิ ผลาผลานิ อาหริ. นิวาโปติ อยํ สมฺมา นเยน อุปาเยน การเณน กโต ขาทิตพฺพยุตฺตกานํ ปริสุทฺธานํ ผลาผลานํ นิวาโป สนฺนิจโย อนนฺธสฺส วิย มยฺหํ ขายติ ปฺายติ อุปฏฺาติ.
ตํ สุตฺวา ทุกูลปณฺฑิโต ‘‘มหาราช, น มยํ ผลาผลานิ อาหราม, ปุตฺโต ปน โน อาหรตี’’ติ ทสฺเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘ทหโร ¶ ยุวา นาติพฺรหา, สาโม กลฺยาณทสฺสโน;
ทีฆสฺส เกสา อสิตา, อโถ สูนคฺคเวลฺลิตา.
‘‘โส หเว ผลมาหริตฺวา, อิโต อาทาย กมณฺฑลุํ;
นทึ คโต อุทหาโร, มฺเ น ทูรมาคโต’’ติ.
ตตฺถ นาติพฺรหาติ นาติทีโฆ นาติรสฺโส. สูนคฺคเวลฺลิตาติ สูนสงฺขาตาย มํสโกฏฺฏนโปตฺถนิยา อคฺคํ วิย วินตา. กมณฺฑลุนฺติ ฆฏํ. น ทูรมาคโตติ อิทานิ น ทูรํ อาคโต, อาสนฺนฏฺานํ อาคโต ภวิสฺสตีติ มฺามีติ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา ราชา อาห –
‘‘อหํ ¶ ตํ อวธึ สามํ, โย ตุยฺหํ ปริจารโก;
ยํ กุมารํ ปเวเทถ, สามํ กลฺยาณทสฺสนํ.
‘‘ทีฆสฺส เกสา อสิตา, อโถ สูนคฺคเวลฺลิตา;
เตสุ โลหิตลิตฺเตสุ, เสติ สาโม มหา หโต’’ติ.
ตตฺถ อวธินฺติ วิสปีเตน สเรน วิชฺฌิตฺวา มาเรสึ. ปเวเทถาติ กเถถ. เสตีติ มิคสมฺมตานทีตีเร วาลุกาปุลิเน สยติ.
ทุกูลปณฺฑิตสฺส ปน อวิทูเร ปาริกาย ปณฺณสาลา โหติ. สา ตตฺถ นิสินฺนาว รฺโ วจนํ สุตฺวา ตํ ปวตฺตึ โสตุกามา ¶ อตฺตโน ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา รชฺชุกสฺาย ทุกูลปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาห –
‘‘เกน ทุกูล มนฺเตสิ, ‘หโต สาโม’ติ วาทินา;
‘หโต สาโม’ติ สุตฺวาน, หทยํ เม ปเวธติ.
‘‘อสฺสตฺถสฺเสว ตรุณํ, ปวาฬํ มาลุเตริตํ;
‘หโต สาโม’ติ สุตฺวาน, หทยํ เม ปเวธตี’’ติ.
ตตฺถ วาทินาติ ‘‘มยา สาโม หโต’’ติ วทนฺเตน. ปวาฬนฺติ ปลฺลวํ. มาลุเตริตนฺติ วาเตน ปหฏํ.
ทุกูลปณฺฑิโต ¶ โอวทนฺโต อาห –
‘‘ปาริเก กาสิราชายํ, โส สามํ มิคสมฺมเต;
โกธสา อุสุนา วิชฺฌิ, ตสฺส มา ปาปมิจฺฉิมฺหา’’ติ.
ตตฺถ มิคสมฺมเตติ มิคสมฺมตานทีตีเร. โกธสาติ มิเคสุ อุปฺปนฺเนน โกเธน. มา ปาปมิจฺฉิมฺหาติ ตสฺส มยํ อุโภปิ ปาปํ มา อิจฺฉิมฺหา.
ปุน ¶ ปาริกา อาห –
‘‘กิจฺฉา ลทฺโธ ปิโย ปุตฺโต, โย อนฺเธ อภรี วเน;
ตํ เอกปุตฺตํ ฆาติมฺหิ, กถํ จิตฺตํ น โกปเย’’ติ.
ตตฺถ ฆาติมฺหีติ ฆาตเก.
ทุกูลปณฺฑิโต อาห –
‘‘กิจฺฉา ลทฺโธ ปิโย ปุตฺโต, โย อนฺเธ อภรี วเน;
ตํ เอกปุตฺตํ ฆาติมฺหิ, อกฺโกธํ อาหุ ปณฺฑิตา’’ติ.
ตตฺถ อกฺโกธนฺติ โกโธ นาม นิรยสํวตฺตนิโก, ตสฺมา ตํ โกธํ อกตฺวา ปุตฺตฆาตกมฺหิ อกฺโกโธ เอว กตฺตพฺโพติ ปณฺฑิตา อาหุ กเถนฺติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา เต อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ ปหริตฺวา มหาสตฺตสฺส คุเณ วณฺเณตฺวา ภุสํ ปริเทวึสุ. อถ เน ราชา สมสฺสาเสนฺโต อาห –
‘‘มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, ‘หโต สาโม’ติ วาทินา;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเน.
‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเน.
‘‘มิคานํ วิฆาสมนฺเวสํ, วนมูลผลานิ จ;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเน’’ติ.
ตตฺถ ¶ วาทินาติ ตุมฺเห ‘‘สาโม หโต’’ติ วทนฺเตน มยา สทฺธึ ‘‘ตยา โน เอวํ คุณสมฺปนฺโน ปุตฺโต มาริโต, อิทานิ โก อมฺเห ภริสฺสตี’’ติอาทีนิ ¶ วตฺวา มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, อหํ ตุมฺหากํ กมฺมกโร หุตฺวา สาโม วิย ตุมฺเห ภริสฺสามีติ.
เอวํ ¶ ราชา ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, อหํ โว ยาวชีวํ ภริสฺสามี’’ติ เต อสฺสาเสสิ. เต เตน สทฺธึ สลฺลปนฺตา อาหํสุ –
‘‘เนส ธมฺโม มหาราช, เนตํ อมฺเหสุ กปฺปติ;
ราชา ตฺวมสิ อมฺหากํ, ปาเท วนฺทาม เต มย’’นฺติ.
ตตฺถ ธมฺโมติ สภาโว การณํ วา. เนตํ อมฺเหสุ กปฺปตีติ เอตํ ตว กมฺมกรณํ อมฺเหสุ น กปฺปติ น โสภติ. ‘‘ปาเท วนฺทาม เต มย’’นฺติ อิทํ ปน เต ปพฺพชิตลิงฺเค ิตาปิ ปุตฺตโสเกน สมพฺภาหตาย เจว นิหตมานตาย จ วทึสุ. ‘‘รฺโ วิสฺสาสํ อุปฺปาเทตุํ เอวมาหํสู’’ติปิ วทนฺติ.
ตํ สุตฺวา ราชา อติวิย ตุสฺสิตฺวา ‘‘อโห อจฺฉริยํ, เอวํ โทสการเก นาม มยิ ผรุสวจนมตฺตมฺปิ นตฺถิ, ปคฺคณฺหนฺติเยว มม’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –
‘‘ธมฺมํ เนสาทา ภณถ, กตา อปจิตี ตยา;
ปิตา ตฺวมสิ อมฺหากํ, มาตา ตฺวมสิ ปาริเก’’ติ.
ตตฺถ ตยาติ เอเกกํ วทนฺโต เอวมาห. ปิตาติ ทุกูลปณฺฑิต, อชฺช ปฏฺาย ตฺวํ มยฺหํ ปิตุฏฺาเน ติฏฺ, อมฺม ปาริเก, ตฺวมฺปิ เม มาตุฏฺาเน ติฏฺ, อหํ ปน โว ปุตฺตสฺส สามสฺส าเน ตฺวา ปาทโธวนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กริสฺสามิ, มํ ราชาติ อสลฺลกฺเขตฺวา สาโมติ สลฺลกฺเขถาติ.
เต อฺชลึ ปคฺคยฺห วนฺทิตฺวา ‘‘มหาราช, ตว อมฺหากํ กมฺมกรณกิจฺจํ นตฺถิ, อปิจ โข ปน ลฏฺิโกฏิยา โน คเหตฺวา อาเนตฺวา สามํ ทสฺเสหี’’ติ ยาจนฺตา คาถาทฺวยมาหํสุ –
‘‘นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;
อฺชลึ เต ปคฺคณฺหาม, ยาว สามานุปาปย.
‘‘ตสฺส ¶ ¶ ปาเท สมชฺชนฺตา, มุขฺจ ภุชทสฺสนํ;
สํสุมฺภมานา อตฺตานํ, กาลมาคมยามเส’’ติ.
ตตฺถ ยาว สามานุปาปยาติ ยาว สาโม ยตฺถ, ตตฺถ อมฺเห อนุปาปย. ภุชทสฺสนนฺติ ¶ กลฺยาณทสฺสนํ อภิรูปํ. สํสุมฺภมานาติ โปเถนฺตา. กาลมาคมยามเสติ กาลกิริยํ อาคเมสฺสาม.
เตสํ เอวํ กเถนฺตานฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต. อถ ราชา ‘‘สจาหํ อิทาเนว อิเม ตตฺถ เนสฺสามิ, ตํ ทิสฺวาว เนสํ หทยํ ผลิสฺสติ, อิติ ติณฺณมฺปิ เอเตสํ มตกาเล อหํ นิรเย อุปฺปชฺชนฺโตเยว นาม, ตสฺมา เตสํ คนฺตุํ น ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา จตสฺโส คาถาโย อชฺฌภาสิ –
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
ยตฺถ สาโม หโต เสติ, จนฺโทว ปติโต ฉมา.
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
ยตฺถ สาโม หโต เสติ, สูริโยว ปติโต ฉมา.
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
ยตฺถ สาโม หโต เสติ, ปํสุนา ปติกุนฺถิโต.
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
ยตฺถ สาโม หโต เสติ, อิเธว วสถสฺสเม’’ติ.
ตตฺถ พฺรหาติ อจฺจุคฺคตํ. อากาสนฺตํวาติ เอตํ วนํ อากาสสฺส อนฺโต วิย หุตฺวา ทิสฺสติ. อถ วา อากาสนฺตนฺติ อากาสมานํ, ปกาสมานนฺติ อตฺโถ. ฉมาติ ฉมายํ, ปถวิยนฺติ อตฺโถ. ‘‘ฉม’’นฺติปิ ปาโ, ปถวึ ปติโต วิยาติ อตฺโถ. ปติกุนฺถิโตติ ปริกิณฺโณ, ปลิเวิโตติ อตฺโถ.
อถ ¶ เต อตฺตโน วาฬมิคภยาภาวํ ทสฺเสตุํ คาถมาหํสุ –
‘‘ยทิ ¶ ตตฺถ สหสฺสานิ, สตานิ นิยุตานิ จ;
เนวมฺหากํ ภยํ โกจิ, วเน วาเฬสุ วิชฺชตี’’ติ.
ตตฺถ โกจีติ อิมสฺมึ วเน กตฺถจิ เอกสฺมึ ปเทเสปิ อมฺหากํ วาเฬสุ ภยํ นาม นตฺถิ.
ราชา เต ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺโต หตฺเถสุ คเหตฺวา ตตฺถ เนสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต อนฺธานมาทาย, กาสิราชา พฺรหาวเน;
หตฺเถ คเหตฺวา ปกฺกามิ, ยตฺถ สาโม หโต อหู’’ติ.
ตตฺถ ¶ ตโตติ ตทา. อนฺธานนฺติ อนฺเธ. อหูติ อโหสิ. ยตฺถาติ ยสฺมึ าเน โส นิปนฺโน, ตตฺถ เนสีติ อตฺโถ.
โส อาเนตฺวา จ ปน สามสฺส สนฺติเก เปตฺวา ‘‘อยํ โว ปุตฺโต’’ติ อาจิกฺขิ. อถสฺส ปิตา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา มาตา ปาเท คเหตฺวา อูรูสุ เปตฺวา นิสีทิตฺวา วิลปึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
อปวิทฺธํ พฺรหารฺเ, จนฺทํว ปติตํ ฉมา.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
อปวิทฺธํ พฺรหารฺเ, สูริยํว ปติตํ ฉมา.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
อปวิทฺธํ พฺรหารฺเ, กลูนํ ปริเทวยุํ.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘อธมฺโม กิร โภ’อิติ.
‘‘พาฬฺหํ ¶ โข ตฺวํ ปมตฺโตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.
‘‘พาฬฺหํ ¶ โข ตฺวํ ปทิตฺโตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปกุทฺโธสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสติ.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปสุตฺโตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ วิมโนสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.
‘‘ชฏํ วลินํ ปํสุคตํ, โกทานิ สณฺเปสฺสติ;
สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก.
‘‘โก เม สมฺมชฺชมาทาย, สมฺมชฺชิสฺสติ อสฺสมํ;
สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก.
‘‘โกทานิ นฺหาปยิสฺสติ, สีเตนุณฺโหทเกน จ;
สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก.
‘‘โกทานิ ¶ โภชยิสฺสติ, วนมูลผลานิ จ;
สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก’’ติ.
ตตฺถ อปวิทฺธนฺติ รฺา นิรตฺถกํ ฉฑฺฑิตํ. อธมฺโม กิร โภ อิตีติ อยุตฺตํ กิร โภ, อชฺช อิมสฺมึ โลเก วตฺตติ. ปมตฺโตติ ติขิณสุรํ ปิวิตฺวา วิย มตฺโต ปมตฺโต ปมาทํ อาปนฺโน. ปทิตฺโตติ ทปฺปิโต. ‘‘ปกุทฺโธสิ วิมโนสี’’ติ สพฺพํ วิลาปวเสน ภณนฺติ. ชฏนฺติ ตาต ¶ , อมฺหากํ ชฏามณฺฑลํ. วลินํ ปํสุคตนฺติ ยทา อากุลํ มลคฺคหิตํ ภวิสฺสติ. โกทานีติ อิทานิ โก สณฺเปสฺสติ, โสเธตฺวา อุชุํ กริสฺสตีติ.
อถสฺส มาตา พหุํ วิลปิตฺวา ตสฺส อุเร หตฺถํ เปตฺวา สนฺตาปํ อุปธาเรนฺตี ‘‘ปุตฺตสฺส เม สนฺตาโป ปวตฺตติเยว, วิสเวเคน วิสฺิตํ อาปนฺโน ภวิสฺสติ, นิพฺพิสภาวตฺถาย จสฺส สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สจฺจกิริยมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ทิสฺวาน ¶ ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
อฏฺฏิตา ปุตฺตโสเกน, มาตา สจฺจํ อภาสถ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, ธมฺมจารี ปุเร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, พฺรหฺมจารี ปุเร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, สจฺจวาที ปุเร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, มาตาเปตฺติภโร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, กุเล เชฏฺาปจายิโก;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, ปาณา ปิยตโร มม;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘ยํ กิฺจิตฺถิ กตํ ปฺุํ, มยฺหฺเจว ปิตุจฺจ เต;
สพฺเพน เตน กุสเลน, วิสํ สามสฺส หฺตู’’ติ.
ตตฺถ ¶ เยน สจฺเจนาติ เยน ภูเตน สภาเวน. ธมฺมจารีติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมจารี. สจฺจวาทีติ หสิตวเสนปิ มุสาวาทํ น วทติ. มาตาเปตฺติภโรติ ¶ อนลโส หุตฺวา รตฺตินฺทิวํ มาตาปิตโร ภริ. กุเล เชฏฺาปจายิโกติ เชฏฺานํ มาตาปิตูนํ สกฺการการโก โหติ.
เอวํ มาตรา สตฺตหิ คาถาหิ สจฺจกิริยาย กตาย สาโม ปริวตฺติตฺวา นิปชฺชิ. อถสฺส ปิตา ‘‘ชีวติ เม ปุตฺโต, อหมฺปิสฺส สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ ตเถว สจฺจกิริยมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
อฏฺฏิโต ปุตฺตโสเกน, ปิตา สจฺจํ อภาสถ.
‘‘เยน ¶ สจฺเจนยํ สาโม, ธมฺมจารี ปุเร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, พฺรหฺมจารี ปุเร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, สจฺจวาที ปุเร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, มาตาเปตฺติภโร อหุ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, กุเล เชฏฺาปจายิโก;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, ปาณา ปิยตโร มม;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘ยํ ¶ กิฺจิตฺถิ กตํ ปฺุํ, มยฺหฺเจว มาตุจฺจ เต;
สพฺเพน เตน กุสเลน, วิสํ สามสฺส หฺตู’’ติ.
เอวํ ปิตริ สจฺจกิริยํ กโรนฺเต มหาสตฺโต ปริวตฺติตฺวา อิตเรน ปสฺเสน นิปชฺชิ. อถสฺส ตติยํ สจฺจกิริยํ เทวตา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อห –
‘‘สา เทวตา อนฺตรหิตา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
สามสฺส อนุกมฺปาย, อิมํ สจฺจํ อภาสถ.
‘‘ปพฺพตฺยาหํ คนฺธมาทเน, จิรรตฺตนิวาสินี;
น เม ปิยตโร โกจิ, อฺโ สาเมน วิชฺชติ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘สพฺเพ วนา คนฺธมยา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.
‘‘เตสํ ลาลปฺปมานานํ, พหุํ การฺุสฺหิตํ;
ขิปฺปํ สาโม สมุฏฺาสิ, ยุวา กลฺยาณทสฺสโน’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปพฺพตฺยาหนฺติ ปพฺพเต อหํ. สพฺเพ วนา คนฺธมยาติ สพฺเพ รุกฺขา คนฺธมยา. น หิ ตตฺถ อคนฺโธ นาม โกจิ รุกฺโข อตฺถิ. เตสนฺติ ภิกฺขเว, เตสํ อุภินฺนํ ลาลปฺปมานานฺเว เทวตาย สจฺจกิริยาย ปริโยสาเน ขิปฺปํ สาโม อุฏฺาสิ, ปทุมปตฺตโต อุทกํ วิยสฺส วิสํ วินิวตฺเตตฺวา อาพาโธ วิคโต, อิธ นุ โข วิทฺโธ, เอตฺถ นุ โข วิทฺโธติ วิทฺธฏฺานมฺปิ น ปฺายิ.
อิติ มหาสตฺตสฺส นิโรคภาโว, มาตาปิตูนฺจ จกฺขุปฏิลาโภ, อรุณุคฺคมนฺจ, เทวตานุภาเวน เตสํ จตุนฺนํ อสฺสเมเยว ปากฏภาโว ¶ จาติ สพฺพํ เอกกฺขเณเยว อโหสิ. มาตาปิตโร ‘‘จกฺขูนิ โน ลทฺธานิ, สุวณฺณสาโม จ อโรโค ชาโต’’ติ อติเรกตรํ ตุสฺสึสุ. อถ เน สามปณฺฑิโต คาถํ อภาสิ –
‘‘สาโมหมสฺมิ ¶ ภทฺทํ โว, โสตฺถินามฺหิ สมุฏฺิโต;
มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, มฺจุนาภิวเทถ ม’’นฺติ.
ตตฺถ โสตฺถินามฺหิ สมุฏฺิโตติ โสตฺถินา สุเขน อุฏฺิโต อมฺหิ ภวามิ. มฺชุนาติ มธุรสฺสเรน มํ อภิวเทถ.
อถ โส ราชานํ ทิสฺวา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห –
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.
‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภฺุช ราช วรํ วรํ.
‘‘อตฺถิ เม ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสี’’ติ.
ราชาปิ ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา อาห –
‘‘สมฺมุยฺหามิ ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;
เปตํ ตํ สาม มทฺทกฺขึ, โก นุ ตฺวํ สาม ชีวสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ เปตนฺติ สาม อหํ ตํ มตํ อทฺทสํ. โก นุ ตฺวนฺติ กถํ นุ ตฺวํ ชีวิตํ ปฏิลภสีติ ปุจฺฉิ.
มหาสตฺโต ‘‘อยํ ราชา มํ ‘มโต’ติ สลฺลกฺเขสิ, อมตภาวมสฺส ปกาเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘อปิ ชีวํ มหาราช, ปุริสํ คาฬฺหเวทนํ;
อุปนีตมนสงฺกปฺปํ, ชีวนฺตํ มฺเต มตํ.
‘‘อปิ ¶ ชีวํ มหาราช, ปุริสํ คาฬฺหเวทนํ;
ตํ นิโรธคตํ สนฺตํ, ชีวนฺตํ มฺเต มต’’นฺติ.
ตตฺถ อปิ ชีวนฺติ ชีวมานํ อปิ. อุปนีตมนสงฺกปฺปนฺติ ภวงฺคโอติณฺณจิตฺตาจารํ. ชีวนฺตนฺติ ชีวมานเมว ‘‘เอโส มโต’’ติ มฺติ. นิโรธคตนฺติ อสฺสาสปสฺสาสนิโรธํ สมาปนฺนํ สนฺตํ วิชฺชมานํ มํ เอวํ โลโก มตํ วิย ชีวนฺตเมว มฺติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต ราชานํ อตฺเถ โยเชตุกาโม ธมฺมํ เทเสนฺโต ปุน ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘โย ¶ มาตรํ ปิตรํ วา, มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ;
เทวาปิ นํ ติกิจฺฉนฺติ, มาตาเปตฺติภรํ นรํ.
‘‘โย มาตรํ ปิตรํ วา, มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ;
อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, มาตาเปตฺติภรสฺส ชนฺตุโน อุปฺปนฺนโรคํ เทวตาปิ ติกิจฺฉนฺติ, อติวิย อยํ สาโม โสภตี’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจนฺโต อาห –
‘‘เอส ภิยฺโย ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;
สรณํ ตํ สาม คจฺฉามิ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ.
ตตฺถ ภิยฺโยติ ยสฺมา ตาทิเส ปริสุทฺธสีลคุณสมฺปนฺเน ตยิ อปรชฺฌึ, ตสฺมา อติเรกตรํ สมฺมุยฺหามิ. ตฺวฺจ เม สรณํ ภวาติ สรณํ คจฺฉนฺตสฺส เม ตฺวํ สรณํ ภว, ปติฏฺา โหหิ, เทวโลกคามิมคฺคํ กโรหีติ.
อถ ¶ นํ มหาสตฺโต ‘‘สเจปิ, มหาราช, เทวโลกํ คนฺตุกาโมสิ, มหนฺตํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปริภฺุชิตุกาโมสิ, อิมาสุ ทสราชธมฺมจริยาสุ วตฺตสฺสู’’ติ ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต ทส ราชธมฺมจริยคาถา อภาสิ –
‘‘ธมฺมํ ¶ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเสุ ชนปเทสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;
สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.
ตาสํ ¶ ¶ อตฺโถ เตสกุณชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑ อาทโย) วิตฺถาริโตว. เอวํ ¶ มหาสตฺโต ตสฺส ทส ราชธมฺเม เทเสตฺวา อุตฺตริปิ โอวทิตฺวา ปฺจ สีลานิ อทาสิ. โส ตสฺส โอวาทํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. โพธิสตฺโตปิ ยาวชีวํ มาตาปิตโร ปริจริตฺวา มาตาปิตูหิ สทฺธึ ปฺจ อภิฺา จ อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.
สตฺถา อิทํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ โปสนํ นาม ปณฺฑิตานํ วํโส’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ.
ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา, สกฺโก อนุรุทฺโธ, ทุกูลปณฺฑิโต มหากสฺสโป, ปาริกา ภทฺทกาปิลานี ภิกฺขุนี, สุวณฺณสามปณฺฑิโต ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสินฺติ.
สุวณฺณสามชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๕๔๑] ๔. นิมิชาตกวณฺณนา
อจฺเฉรํ ¶ ¶ วต โลกสฺมินฺติ อิทํ สตฺถา มิถิลํ อุปนิสฺสาย มฆเทวอมฺพวเน วิหรนฺโต สิตปาตุกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ สตฺถา สายนฺหสมเย สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตสฺมึ อมฺพวเน จาริกํ จรมาโน เอกํ รมณียํ ภูมิปฺปเทสํ ทิสฺวา อตฺตโน ปุพฺพจริยํ กเถตุกาโม หุตฺวา สิตปาตุกมฺมํ กตฺวา อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน สิตปาตุกมฺมการณํ ปุฏฺโ ‘‘อานนฺท, อยํ ภูมิปฺปเทโส ปุพฺเพ มยา มฆเทวราชกาเล ฌานกีฬฺหํ กีฬนฺเตน อชฺฌาวุฏฺปุพฺโพ’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต วิเทหรฏฺเ มิถิลนคเร มฆเทโว นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. โส จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ กุมารกีฬฺหํ กีฬิ, จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ อุปรชฺชํ กาเรสิ, จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรนฺโต ‘‘ยทา เม สมฺม กปฺปก, สิรสฺมึ ปลิตานิ ปสฺเสยฺยาสิ, ตทา เม อาโรเจยฺยาสี’’ติ อาห. อปรภาเค กปฺปโก ปลิตานิ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ปลิตํ สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธราเปตฺวา หตฺถตเล ปติฏฺาเปตฺวา ปลิตํ โอโลเกตฺวา มจฺจุราเชน อาคนฺตฺวา นลาเฏ ลคฺคํ วิย มรณํ สมฺปสฺสมาโน ¶ ‘‘อิทานิ เม ปพฺพชิตกาโล’’ติ กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวา เชฏฺปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, รชฺชํ ปฏิจฺฉ, อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กึ การณา เทวา’’ติ วุตฺเต –
‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺหํ, อิเม ชาตา วโยหรา;
ปาตุภูตา เทวทูตา, ปพฺพชฺชาสมโย มมา’’ติ. –
วตฺวา ปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจิตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวมฺปิ เอวรูปํ ปลิตํ ทิสฺวาว ปพฺพเชยฺยาสี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อมฺพวเน อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. ปุตฺโตปิสฺส เอเตเนว อุปาเยน ปพฺพชิตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ. ตถา ตสฺส ปุตฺโต, ตถา ตสฺส ปุตฺโตติ เอวํ ทฺวีหิ อูนานิ จตุราสีติขตฺติยสหสฺสานิ สีเส ปลิตํ ทิสฺวาว อิมสฺมึ อมฺพวเน ¶ ปพฺพชิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.
เตสํ ¶ สพฺพปมํ นิพฺพตฺโต มฆเทวราชา พฺรหฺมโลเก ิโตว อตฺตโน วํสํ โอโลเกนฺโต ทฺวีหิ อูนานิ จตุราสีติขตฺติยสหสฺสานิ ปพฺพชิตานิ ทิสฺวา ตุฏฺมานโส หุตฺวา ‘‘อิโต นุ โข ปรํ ปวตฺติสฺสติ, น ปวตฺติสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต อปฺปวตฺตนภาวํ ตฺวา ‘‘มม วํสํ อหเมว ฆเฏสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตโต จวิตฺวา มิถิลนคเร รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตฺวา ทสมาสจฺจเยน มาตุ กุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ราชา ตสฺส นามคฺคหณทิวเส เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. เต ตสฺส ลกฺขณานิ โอโลเกตฺวา ‘‘มหาราช, อยํ กุมาโร ตุมฺหากํ วํสํ ฆเฏนฺโต อุปฺปนฺโน. ตุมฺหากฺหิ วํโส ปพฺพชิตวํโส, อิมสฺส ปรโต นาคมิสฺสตี’’ติ วทึสุ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ กุมาโร รถจกฺกเนมิ วิย มม วํสํ ฆเฏนฺโต ชาโต, ตสฺมา ตสฺส ‘นิมิกุมาโร’ติ นามํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘นิมิกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกาสิ.
โส ทหรกาลโต ปฏฺาย ทาเน สีเล อุโปสถกมฺเม จ อภิรโต อโหสิ. อถสฺส ปิตา ปุริมนเยเนว ปลิตํ ทิสฺวา กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวา ปุตฺตสฺส รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา อมฺพวเน ปพฺพชิตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ. นิมิราชา ปน ทานชฺฌาสยตาย จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ จาติ ปฺจสุ าเนสุ ปฺจ ทานสาลาโย การาเปตฺวา มหาทานํ ¶ ปวตฺเตสิ. เอเกกาย ทานสาลาย สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ กตฺวา เทวสิกํ ปฺจ ปฺจ กหาปณสตสหสฺสานิ ปริจฺจชิ, นิจฺจํ ปฺจ สีลานิ รกฺขิ, ปกฺขทิวเสสุ อุโปสถํ สมาทิยิ, มหาชนมฺปิ ทานาทีสุ ปฺุเสุ สมาทเปสิ, สคฺคมคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา นิรยภเยน ตชฺเชตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ตสฺส โอวาเท ิตา มนุสฺสา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา ตโต จุตา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ, เทวโลโก ปริปูริ, นิรโย ตุจฺโฉ วิย อโหสิ. ตทา ตาวตึสภวเน เทวสงฺฆา สุธมฺมายํ เทวสภายํ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อโห, วต อมฺหากํ อาจริโย นิมิราชา, ตํ นิสฺสาย มยํ อิมํ พุทฺธฺเณนปิ อปริจฺฉินฺทนียํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวามา’’ติ วตฺวา มหาสตฺตสฺส คุเณ วณฺณยึสุ ¶ . มนุสฺสโลเกปิ มหาสมุทฺทปิฏฺเ อาสิตฺตเตลํ วิย มหาสตฺตสฺส คุณกถา ปตฺถริ. สตฺถา ตมตฺถํ อาวิภูตํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กเถนฺโต อาห –
‘‘อจฺเฉรํ วต โลกสฺมึ, อุปฺปชฺชนฺติ วิจกฺขณา;
ยทา อหุ นิมิราชา, ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโก.
‘‘ราชา ¶ สพฺพวิเทหานํ, อทา ทานํ อรินฺทโม;
ตสฺส ตํ ททโต ทานํ, สงฺกปฺโป อุทปชฺชถ;
ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํ สุ มหปฺผล’’นฺติ.
ตตฺถ ยทา อหูติ ภิกฺขเว, ยทา ปณฺฑิโต อตฺตโน จ ปเรสฺจ กุสลตฺถิโก นิมิราชา อโหสิ, ตทา เทวมนุสฺสา ‘‘อจฺเฉรํ วต, โภ, เอวรูปาปิ นาม อนุปฺปนฺเน พุทฺธาเณ มหาชนสฺส พุทฺธกิจฺจํ สาธยมานา โลกสฺมึ วิจกฺขณา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ เอวํ ตสฺส คุณกถํ กเถสุนฺติ อตฺโถ. ‘‘ยถา อหู’’ติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ยถา อหุ นิมิราชา ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโกเยว, ตถารูปา มหาชนสฺส พุทฺธกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชนฺติ วิจกฺขณา. ยํ เตสํ อุปฺปนฺนํ, ตํ อจฺเฉรํ วต โลกสฺมินฺติ. อิติ สตฺถา สยเมว อจฺฉริยชาโต เอวมาห. สพฺพวิเทหานนฺติ สพฺพวิเทหรฏฺวาสีนํ. กตมํ สูติ เอเตสุ ทฺวีสุ กตมํ นุ โข มหปฺผลนฺติ อตฺโถ.
โส กิร ปนฺนรสีอุโปสถทิวเส อุโปสถิโก หุตฺวา สพฺพาภรณานิ โอมฺุจิตฺวา สิริสยนปิฏฺเ นิปนฺโนว ทฺเว ยาเม นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปพุทฺโธ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ‘‘อหํ มหาชนสฺส อปริมาณํ ทานมฺปิ เทมิ, สีลมฺปิ รกฺขามิ, ทานสฺส นุ โข มหนฺตํ ผลํ, อุทาหุ พฺรหฺมจริยสฺสา’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน กงฺขํ ฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ ตถา วิตกฺเกนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กงฺขมสฺส ¶ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ เอกโกว สีฆํ อาคนฺตฺวา สกลนิเวสนํ เอโกภาสํ กตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา โอภาสํ ผริตฺวา อากาเส ตฺวา เตน ปุฏฺโ พฺยากาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตสฺส ¶ สงฺกปฺปมฺาย, มฆวา เทวกฺุชโร;
สหสฺสเนตฺโต ปาตุรหุ, วณฺเณน วิหนํ ตมํ.
‘‘สโลมหฏฺโ มนุชินฺโท, วาสวํ อวจา นิมิ;
เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท.
‘‘น จ เม ตาทิโส วณฺโณ, ทิฏฺโ วา ยทิ วา สุโต;
อาจิกฺข เม ตฺวํ ภทฺทนฺเต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ.
‘‘สโลมหฏฺํ ¶ ตฺวาน, วาสโว อวจา นิมึ;
สกฺโกหมสฺมิ เทวินฺโท, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;
อโลมหฏฺโ มนุชินฺท, ปุจฺฉ ปฺหํ ยมิจฺฉสิ.
‘‘โส จ เตน กโตกาโส, วาสวํ อวจา นิมิ;
ปุจฺฉามิ ตํ มหาราช, สพฺพภูตานมิสฺสร;
‘ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํสุ มหปฺผลํ’.
‘‘โส ปุฏฺโ นรเทเวน, วาสโว อวจา นิมึ;
วิปากํ พฺรหฺมจริยสฺส, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;
มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌติ.
‘‘น เหเต สุลภา กายา, ยาจโยเคน เกนจิ;
เย กาเย อุปปชฺชนฺติ, อนาคารา ตปสฺสิโน’’ติ.
ตตฺถ สโลมหฏฺโติ ภิกฺขเว, โส นิมิราชา โอภาสํ ทิสฺวา อากาสํ โอโลเกนฺโต ตํ ทิพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตํ ทิสฺวาว ภเยน โลมหฏฺโ หุตฺวา ‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ’’ติอาทินา ปุจฺฉิ. อโลมหฏฺโติ นิพฺภโย อหฏฺโลโม หุตฺวา ปุจฺฉ, มหาราชาติ. วาสวํ อวจาติ ตุฏฺมานโส หุตฺวา สกฺกํ อโวจ. ชานํ อกฺขาสิชานโตติ ภิกฺขเว, โส สกฺโก อตีเต อตฺตนา ปจฺจกฺขโต ทิฏฺปุพฺพํ พฺรหฺมจริยสฺส วิปากํ ชานนฺโต ตสฺส อชานโต อกฺขาสิ.
หีเนนาติอาทีสุ ปุถุติตฺถายตเน เมถุนวิรติมตฺตํ สีลํ หีนํ นาม, เตน ขตฺติยกุเล อุปปชฺชติ. ฌานสฺส อุปจารมตฺตํ มชฺฌิมํ นาม, เตน ¶ เทวตฺตํ อุปปชฺชติ. อฏฺสมาปตฺตินิพฺพตฺตนํ ปน อุตฺตมํ นาม, เตน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, ตํ พาหิรกา นิพฺพานนฺติ กเถนฺติ. เตนาห ‘‘วิสุชฺฌตี’’ติ. อิมสฺมึ ปน พุทฺธสาสเน ปริสุทฺธสีลสฺส ภิกฺขุโน อฺตรํ เทวนิกายํ ปตฺเถนฺตสฺส พฺรหฺมจริยเจตนา หีนตาย หีนํ นาม, เตน ยถาปตฺถิเต เทวโลเก นิพฺพตฺตติ. ปริสุทฺธสีลสฺส ภิกฺขุโน อฏฺสมาปตฺตินิพฺพตฺตนํ มชฺฌิมํ นาม, เตน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ ¶ . ปริสุทฺธสีลสฺส วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตุปฺปตฺติ อุตฺตมํ นาม, เตน วิสุชฺฌตีติ ¶ . อิติ สกฺโก ‘‘มหาราช, ทานโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน พฺรหฺมจริยวาโสว มหปฺผโล’’ติ วณฺเณติ. กายาติ พฺรหฺมฆฏา. ยาจโยเคนาติ ยาจนยุตฺตเกน ยฺยุตฺตเกน วาติ อุภยตฺถาปิ ทายกสฺเสเวตํ นามํ. ตปสฺสิโนติ ตปนิสฺสิตกา.
อิมาย คาถาย พฺรหฺมจริยวาสสฺเสว มหปฺผลภาวํ ทีเปตฺวา อิทานิ เย อตีเต มหาทานํ ทตฺวา กามาวจรํ อติกฺกมิตุํ นาสกฺขึสุ, เต ราชาโน ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘ทุทีโป สาคโร เสโล, มุชกินฺโท ภคีรโส;
อุสินฺทโร กสฺสโป จ, อสโก จ ปุถุชฺชโน.
‘‘เอเต จฺเ จ ราชาโน, ขตฺติยา พฺราหฺมณา พหู;
ปุถุยฺํ ยชิตฺวาน, เปตตฺตํ นาติวตฺติสุ’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ปุพฺเพ พาราณสิยํ ทุทีโป นาม ราชา ทานํ ทตฺวา มรณจกฺเกน ฉินฺโน กามาวจเรเยว นิพฺพตฺติ. ตถา สาคราทโย อฏฺาติ เอเต จ อฺเ จ พหู ราชาโน เจว ขตฺติยา พฺราหฺมณา จ ปุถุยฺํ ยชิตฺวาน อเนกปฺปการํ ทานํ ทตฺวา กามาวจรภูมิสงฺขาตํ เปตตฺตํ นาติวตฺตึสูติ อตฺโถ. กามาวจรเทวตา หิ รูปาทิโน กิเลสวตฺถุสฺส การณา ปรํ ปจฺจาสีสนโต กปณตาย ‘‘เปตา’’ติ วุจฺจนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘เย ¶ อทุติยา น รมนฺติ เอกิกา, วิเวกชํ เย น ลภนฺติ ปีตึ;
กิฺจาปิ เต อินฺทสมานโภคา, เต เว ปราธีนสุขา วรากา’’ติ.
เอวมฺปิ ทานผลโต พฺรหฺมจริยผลสฺเสว มหนฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ พฺรหฺมจริยวาเสน เปตภวนํ อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตตาปเส ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘อถ ยีเม อวตฺตึสุ, อนาคารา ตปสฺสิโน;
สตฺติสโย ยามหนุ, โสมยาโม มโนชโว.
‘‘สมุทฺโท มาโฆ ภรโต จ, อิสิ กาลปุรกฺขโต;
องฺคีรโส กสฺสโป จ, กิสวจฺโฉ อกตฺติ จา’’ติ.
ตตฺถ ¶ อวตฺตึสูติ กามาวจรํ อติกฺกมึสุ. ตปสฺสิโนติ สีลตปฺเจว สมาปตฺติตปฺจ นิสฺสิตา. สตฺติสโยติ ยามหนุอาทโย สตฺต ภาตโรว สนฺธายาห. องฺคีรสาทีหิ จตูหิ สทฺธึ เอกาทเสเต อวตฺตึสุ อติกฺกมึสูติ อตฺโถ.
เอวํ ¶ ตาว สุตวเสเนว ทานผลโต พฺรหฺมจริยวาสสฺเสว มหปฺผลตํ วณฺเณตฺวา อิทานิ อตฺตนา ทิฏฺปุพฺพํ อาหรนฺโต อาห –
‘‘อุตฺตเรน นที สีทา, คมฺภีรา ทุรติกฺกมา;
นฬคฺคิวณฺณา โชตนฺติ, สทา กฺจนปพฺพตา.
‘‘ปรูฬฺหกจฺฉา ตครา, รูฬฺหกจฺฉา วนา นคา;
ตตฺราสุํ ทสสหสฺสา, โปราณา อิสโย ปุเร.
‘‘อหํ เสฏฺโสฺมิ ทาเนน, สํยเมน ทเมน จ;
อนุตฺตรํ วตํ กตฺวา, ปกิรจารี สมาหิเต.
‘‘ชาติมนฺตํ อชจฺจฺจ, อหํ อุชุคตํ นรํ;
อติเวลํ นมสฺสิสฺสํ, กมฺมพนฺธู หิ มาณวา.
‘‘สพฺเพ ¶ วณฺณา อธมฺมฏฺา, ปตนฺติ นิรยํ อโธ;
สพฺเพ วณฺณา วิสุชฺฌนฺติ, จริตฺวา ธมฺมมุตฺตม’’นฺติ.
ตตฺถ อุตฺตเรนาติ มหาราช, อตีเต อุตฺตรหิมวนฺเต ทฺวินฺนํ สุวณฺณปพฺพตานํ อนฺตเร ปวตฺตา สีทา นาม นที คมฺภีรา นาวาหิปิ ทุรติกฺกมา อโหสิ. กึ การณา? สา หิ อติสุขุโมทกา, สุขุมตฺตา อุทกสฺส อนฺตมโส โมรปิฺฉ-มตฺตมฺปิ ตตฺถ ปติตํ นํ สณฺาติ, โอสีทิตฺวา เหฏฺาตลเมว คจฺฉติ. เตเนว สา สีทา นาม อโหสิ. เต ปน ตสฺสา ตีเรสุ กฺจนปพฺพตา สทา นฬคฺคิวณฺณา หุตฺวา โชตนฺติ โอภาสนฺติ. ปรูฬฺหกจฺฉา ตคราติ ตสฺสา ปน นทิยา ตีเร กจฺฉา ปรูฬฺหตครา อเหสุํ ตครคนฺธสุคนฺธิโน. รูฬฺหกจฺฉา วนา นคาติ เย ตตฺถ อฺเปิ ปพฺพตา, เตสมฺปิ อนฺตเร กจฺฉา รูฬฺหวนา อเหสุํ, ปุปฺผผลูปครุกฺขสฺฉนฺนาติ อตฺโถ. ตตฺราสุนฺติ ตสฺมึ เอวํ รมณีเย ภูมิภาเค ทสสหสฺสา อิสโย ¶ อเหสุํ. เต สพฺเพปิ อภิฺาสมาปตฺติลาภิโนว. เตสุ ภิกฺขาจารเวลาย เกจิ อุตฺตรกุรุํ คจฺฉนฺติ, เกจิ มหาชมฺพุทีเป ชมฺพุผลํ อาหรนฺติ, เกจิ หิมวนฺเตเยว มธุรผลาผลานิ อาหริตฺวา ขาทนฺติ, เกจิ ชมฺพุทีปตเล ตํ ตํ นครํ คจฺฉนฺติ. เอโกปิ รสตณฺหาภิภูโต นตฺถิ, ฌานสุเขเนว วีตินาเมนฺติ. ตทา เอโก ตาปโส อากาเสน พาราณสึ คนฺตฺวา สุนิวตฺโถ สุปารุโต ปิณฺฑาย จรนฺโต ปุโรหิตสฺส เคหทฺวารํ ปาปุณิ. โส ตสฺส อุปสเม ปสีทิตฺวา อนฺโตนิเวสนํ อาเนตฺวา โภเชตฺวา กติปาหํ ปฏิชคฺคนฺโต วิสฺสาเส อุปฺปนฺเน ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห กุหึ วสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อสุกฏฺาเน นามาวุโส’’ติ. ‘‘กึ ปน ตุมฺเห เอกโกว ตตฺถ วสถ, อุทาหุ อฺเปิ อตฺถี’’ติ? ‘‘กึ วเทสิ, อาวุโส, ตสฺมึ ปเทเส ทสสหสฺสา อิสโย วสนฺติ, สพฺเพว อภิฺาสมาปตฺติลาภิโน’’ติ. ตสฺส เตสํ คุณํ สุตฺวา ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ นมิ. อถ นํ โส อาห – ‘‘ภนฺเต, มมฺปิ ตตฺถ เนตฺวา ปพฺพาเชถา’’ติ. ‘‘อาวุโส, ตฺวํ ราชปุริโส, น ตํ สกฺกา ปพฺพาเชตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อชฺชาหํ ราชานํ อาปุจฺฉิสฺสามิ, ตุมฺเห สฺเวปิ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ. โส อธิวาเสสิ.
อิตโรปิ ภุตฺตปาตราโส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิจฺฉามหํ, เทว ¶ , ปพฺพชิตุ’’นฺติ อาห. ‘‘กึ การณา ปพฺพชิสฺสสี’’ติ? ‘‘กาเมสุ โทสํ เนกฺขมฺเม จ ¶ อานิสํสํ ทิสฺวา’’ติ. ‘‘เตน หิ ปพฺพชาหิ, ปพฺพชิโตปิ มํ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ปุตฺตทารํ อนุสาสิตฺวา สพฺพํ สาปเตยฺยํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน ปพฺพชิตปริกฺขารํ คเหตฺวา ตาปสสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโตว นิสีทิ. ตาปโสปิ ตเถว อากาเสนาคนฺตฺวา อนฺโตนครํ ปวิสิตฺวา ตสฺส เคหํ ปาวิสิ. โส ตํ สกฺกจฺจํ ปริวิสิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยา กถํ กาตพฺพ’’นฺติ อาห. โส ตํ พหินครํ เนตฺวา หตฺเถ อาทาย อตฺตโน อานุภาเวน ตตฺถ เนตฺวา ปพฺพาเชตฺวา ปุนทิวเส ตํ ตตฺเถว เปตฺวา ภตฺตํ อาหริตฺวา ทตฺวา กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ. โส กติปาเหเนว อภิฺาสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สยเมว ปิณฺฑาย จรติ.
โส อปรภาเค ‘‘อหํ รฺโ อตฺตานํ ทสฺเสตุํ ปฏิฺํ อทาสึ, ทสฺเสสฺสามสฺส อตฺตาน’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตาปเส วนฺทิตฺวา อากาเสน พาราณสึ คนฺตฺวา ภิกฺขํ จรนฺโต ราชทฺวารํ ปาปุณิ. ราชา ตํ ทิสฺวา สฺชานิตฺวา อนฺโตนิเวสนํ ปเวเสตฺวา สกฺการํ กตฺวา ‘‘ภนฺเต, กุหึ วสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อุตฺตรหิมวนฺตปเทเส กฺจนปพฺพตนฺตเร ปวตฺตาย สีทานทิยา ตีเร, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, เอกโกว ตตฺถ วสถ, อุทาหุ อฺเปิ อตฺถี’’ติ. ‘‘กึ วเทสิ, มหาราช, ตตฺถ ทสสหสฺสา อิสโย วสนฺติ, สพฺเพว อภิฺาสมาปตฺติลาภิโน’’ติ? ราชา ¶ เตสํ คุณํ สุตฺวา สพฺเพสํ ภิกฺขํ ทาตุกาโม อโหสิ. อถ นํ ราชา อาห – ‘‘ภนฺเต, อหํ เตสํ อิสีนํ ภิกฺขํ ทาตุกาโมมฺหิ, กึ กโรมี’’ติ? ‘‘มหาราช, เต อิสโย ชิวฺหาวิฺเยฺยรเส อคิทฺธา, น สกฺกา อิธาเนตุ’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห นิสฺสาย เต โภเชสฺสามิ, อุปายํ เม อาจิกฺขถา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, สเจ เตสํ ทานํ ทาตุกาโมสิ, อิโต นิกฺขมิตฺวา สีทานทีตีเร วสนฺโต เตสํ ทานํ เทหี’’ติ.
โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพูปกรณานิ คาหาเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา อตฺตโน รชฺชสีมํ ปาปุณิ. อถ นํ ตาปโส อตฺตโน อานุภาเวน สทฺธึ เสนาย สีทานทีตีรํ เนตฺวา นทีตีเร ขนฺธาวารํ การาเปตฺวา อากาเสน อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปุนทิวเส ปจฺจาคมิ. อถ นํ ราชา สกฺกจฺจํ โภเชตฺวา ‘‘สฺเว, ภนฺเต, ทสสหสฺเส อิสโย อาทาย อิเธว อาคจฺฉถา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ ¶ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขาจารเวลาย เตสํ อิสีนํ อาโรเจสิ ‘‘มาริสา, พาราณสิราชา ‘ตุมฺหากํ ภิกฺขํ ทสฺสามี’ติ อาคนฺตฺวา สีทานทีตีเร นิสินฺโน สฺเว โว นิมนฺเตติ, ตสฺสานุกมฺปาย ขนฺธาวารํ คนฺตฺวา ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา ขนฺธาวารสฺส อวิทูเร โอตรึสุ. ราชา เต ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ขนฺธาวารํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเนสุ นิสีทาเปตฺวา อิสิคณํ ปณีเตนาหาเรน สนฺตปฺเปตฺวา เตสํ อิริยาปเถ ปสนฺโน สฺวาตนายปิ นิมนฺเตสิ. เอเตนุปาเยน ทสนฺนํ ตาปสสหสฺสานํ ทสวสฺสสหสฺสานิ ทานํ อทาสิ. ททนฺโต จ ตสฺมึเยว ปเทเส นครํ มาเปตฺวา สสฺสกมฺมํ กาเรสิ. น โข ปน, มหาราช, ตทา โส ราชา อฺโ อโหสิ, อถ โข อหํ เสฏฺโสฺมิ ทาเนน, อหเมว หิ ตทา ทาเนน เสฏฺโ หุตฺวา ตํ มหาทานํ ทตฺวา อิมํ เปตโลกํ อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตุํ นาสกฺขึ. มยา ทินฺนํ ปน ทานํ ภฺุชิตฺวา สพฺเพว เต ตาปสา กามาวจรํ อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา, อิมินาเปตํ เวทิตพฺพํ ‘‘พฺรหฺมจริยวาโสว มหปฺผโล’’ติ.
เอวํ ทาเนน อตฺตโน เสฏฺภาวํ ปกาเสตฺวา ¶ อิตเรหิ ตีหิ ปเทหิ เตสํ อิสีนํ คุณํ ปกาเสติ. ตตฺถ สํยเมนาติ สีเลน. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน. อนุตฺตรนฺติ เอเตหิ คุเณหิ นิรนฺตรํ อุตฺตมํ วตํ สมาทานํ จริตฺวา. ปกิรจารีติ คณํ ปกิริตฺวา ปฏิกฺขิปิตฺวา ปหาย เอกจาริเก, เอกีภาวํ คเตติ อตฺโถ. สมาหิเตติ อุปจารปฺปนาสมาธีหิ สมาหิตจิตฺเต. เอวรูเป อหํ ตปสฺสิโน อุปฏฺหินฺติ ทสฺเสติ. อหํ อุชุคตนฺติ อหํ, มหาราช, เตสํ ทสสหสฺสานํ อิสีนํ อนฺตเร กายวงฺกาทีนํ อภาเวน อุชุคตํ เอกมฺปิ นรํ หีนชจฺโจ วา โหตุ ชาติสมฺปนฺโน วา, ชาตึ อวิจาเรตฺวา เตสํ คุเณสุ ปสนฺนมานโส หุตฺวา สพฺพเมว อติเวลํ ¶ นมสฺสิสฺสํ, นิจฺจกาลเมว นมสฺสิสฺสนฺติ วทติ. กึ การณา? กมฺมพนฺธู หิ มาณวาติ, สตฺตา หิ นาเมเต กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, เตเนว การเณน สพฺเพ วณฺณาติ เวทิตพฺพา.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ‘‘กิฺจาปิ, มหาราช, ทานโต พฺรหฺมจริยเมว มหปฺผลํ, ทฺเวปิ ปเนเต มหาปุริสวิตกฺกาว, ตสฺมา ทฺวีสุปิ อปฺปมตฺโตว หุตฺวา ทานฺจ เทหิ, สีลฺจ รกฺขาหี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘อิทํ วตฺวาน มฆวา, เทวราชา สุชมฺปติ;
เวเทหมนุสาสิตฺวา, สคฺคกายํ อปกฺกมี’’ติ.
ตตฺถ อปกฺกมีติ ปกฺกมิ, สุธมฺมาเทวสภายํ นิสินฺนเมว อตฺตานํ ทสฺเสสีติ อตฺโถ.
อถ นํ เทวคณา อาหํสุ ‘‘มหาราช, นนุ น ปฺายิตฺถ, กุหึ คตตฺถา’’ติ? ‘‘มาริสา มิถิลายํ นิมิรฺโ เอกา กงฺขา อุปฺปชฺชิ, ตสฺส ปฺหํ กเถตฺวา ตํ ราชานํ นิกฺกงฺขํ กตฺวา อาคโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ตํ การณํ คาถาย กเถตุํ อาห –
‘‘อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;
ธมฺมิกานํ มนุสฺสานํ, วณฺณํ อุจฺจาวจํ พหุํ.
‘‘ยถา อยํ นิมิราชา, ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโก;
ราชา สพฺพวิเทหานํ, อทา ทานํ อรินฺทโม.
‘‘ตสฺส ตํ ททโต ทานํ, สงฺกปฺโป อุทปชฺชถ;
ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํ สุ มหปฺผล’’นฺติ.
ตตฺถ อิมนฺติ ธมฺมิกานํ กลฺยาณธมฺมานํ มนุสฺสานํ มยา วุจฺจมานํ สีลวเสน อุจฺจํ ทานวเสน อวจํ พหุํ อิมํ วณฺณํ นิสาเมถ สุณาถาติ อตฺโถ. ยถา อยนฺติ อยํ นิมิราชา ยถา อติวิย ปณฺฑิโตติ.
อิติ ¶ ¶ โส อปริหาเปตฺวา รฺโ วณฺณํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา เทวสงฺฆา ราชานํ ทฏฺุกามา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ นิมิราชา อาจริโย, ตสฺโสวาเท ตฺวา ตํ นิสฺสาย อมฺเหหิ อยํ ทิพฺพสมฺปตฺติ ลทฺธา, มยํ ทฏฺุกามมฺหา, ตํ ปกฺโกสาเปหิ, มหาราชา’’ติ วทึสุ. สกฺโก ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มาตลึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺม มาตลิ, เวชยนฺตรถํ โยเชตฺวา มิถิลํ คนฺตฺวา นิมิราชานํ ทิพฺพยาเน อาโรเปตฺวา อาเนหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รถํ โยเชตฺวา ปายาสิ. สกฺกสฺส ¶ ปน เทเวหิ สทฺธึ กเถนฺตสฺส มาตลึ อาณาเปนฺตสฺส จ รถํ โยเชนฺตสฺส จ มนุสฺสคณนาย มาโส อติกฺกนฺโต. อิติ นิมิรฺโ ปุณฺณมายํ อุโปสถิกสฺส ปาจีนสีหปฺชรํ วิวริตฺวา มหาตเล นิสีทิตฺวา อมจฺจคณปริวุตสฺส สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปาจีนโลกธาตุโต อุคฺคจฺฉนฺเตน จนฺทมณฺฑเลน สทฺธึเยว โส รโถ ปฺายติ. มนุสฺสา ภุตฺตสายมาสา ฆรทฺวาเรสุ นิสีทิตฺวา สุขกถํ กเถนฺตา ‘‘อชฺช ทฺเว จนฺทา อุคฺคตา’’ติ อาหํสุ. อถ เนสํ สลฺลปนฺตานฺเว รโถ ปากโฏ อโหสิ. มหาชโน ‘‘นายํ, จนฺโท, รโถ’’ติ วตฺวา อนุกฺกเมน สินฺธวสหสฺสยุตฺเต มาตลิสงฺคาหเก เวชยนฺตรเถ จ ปากเฏ ชาเต ‘‘กสฺส นุ โข อิทํ ทิพฺพยานํ อาคจฺฉตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘น กสฺสจิ อฺสฺส, อมฺหากํ ราชา ธมฺมิโก, สกฺเกน เวชยนฺตรโถ เปสิโต ภวิสฺสติ, อมฺหากํ รฺโว อนุจฺฉวิโก’’ติ ตุฏฺปฺปหฏฺโ คาถมาห –
‘‘อพฺภุโต วต โลกสฺมึ, อุปฺปชฺชิ โลมหํสโน;
ทิพฺโพ รโถ ปาตุรหุ, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน’’ติ.
ตตฺถ อพฺภุโตติ อภูตปุพฺโพ. อจฺฉริโยติ เต วิมฺหยวเสเนวมาหํสุ.
ตสฺส ปน มหาชนสฺส เอวํ กเถนฺตสฺเสว มาตลิ วาตเวเคน อาคนฺตฺวา รถํ นิวตฺเตตฺวา สีหปฺชรอุมฺมาเร ปจฺฉาภาเคน เปตฺวา อาโรหณสชฺชํ กตฺวา อาโรหณตฺถาย ราชานํ นิมนฺเตสิ ¶ . ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘เทวปุตฺโต มหิทฺธิโก, มาตลิ เทวสารถิ;
นิมนฺตยิตฺถ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ.
‘‘เอหิมํ ¶ รถมารุยฺห, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;
เทวา ทสฺสนกามา เต, ตาวตึสา สอินฺทกา;
สรมานา หิ เต เทวา, สุธมฺมายํ สมจฺฉเร’’ติ.
ตตฺถ มิถิลคฺคหนฺติ มิถิลายํ ปติฏฺิตเคหํ, จตูหิ วา สงฺคหวตฺถูหิ มิถิลายํ สงฺคาหกํ. สมจฺฉเรติ ตเวว คุณกถํ กเถนฺตา นิสินฺนาติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา ‘‘อทิฏฺปุพฺพํ เทวโลกฺจ ปสฺสิสฺสามิ, มาตลิสฺส จ เม สงฺคโห กโต ภวิสฺสติ, คจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อนฺเตปุรฺจ มหาชนฺจ อามนฺเตตฺวา ‘‘อหํ นจิรสฺเสว อาคมิสฺสามิ, ตุมฺเห อปฺปมตฺตา ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรถา’’ติ วตฺวา รถํ อภิรุหิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต ราชา ตรมาโน, เวเทโห มิถิลคฺคโห;
อาสนา วุฏฺหิตฺวาน, ปมุโข รถมารุหิ.
‘‘อภิรูฬฺหํ รถํ ทิพฺพํ, มาตลิ เอตทพฺรวิ;
เกน ตํ เนมิ มคฺเคน, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;
เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปฺุกมฺมา จ เย นรา’’ติ.
ตตฺถ ปมุโขติ อุตฺตโม, อภิมุโข วา, มหาชนสฺส ปิฏฺึ ทตฺวา อารูฬฺโหติ อตฺโถ. เยน วาติ เยน มคฺเคน คนฺตฺวา ยตฺถ ปาปกมฺมนฺตา วสนฺติ, ตํ านํ สกฺกา ทฏฺุํ, เยน วา คนฺตฺวา เย ปฺุกมฺมา นรา วสนฺติ, เตสํ านํ สกฺกา ทฏฺุํ, เอเตสุ ทฺวีสุ เกน มคฺเคน ตํ เนมิ. อิทํ โส สกฺเกน อนาณตฺโตปิ อตฺตโน ทูตวิเสสทสฺสนตฺถํ อาห.
อถ นํ ราชา ‘‘มยา ทฺเว านานิ อทิฏฺปุพฺพานิ, ทฺเวปิ ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘อุภเยเนว มํ เนหิ, มาตลิ เทวสารถิ;
เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปฺุกมฺมา จ เย นรา’’ติ.
ตโต ¶ มาตลิ ‘‘ทฺเวปิ เอกปหาเรเนว น สกฺกา ทสฺเสตุํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ปุน คาถมาห –
‘‘เกน ตํ ปมํ เนมิ, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;
เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปฺุกมฺมา จ เย นรา’’ติ.
นิรยกณฺฑํ
ตโต ¶ ราชา ‘‘อหํ อวสฺสํ เทวโลกํ คมิสฺสามิ, นิรยํ ตาว ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘นิรเย ตาว ปสฺสามิ, อาวาเส ปาปกมฺมินํ;
านานิ ลุทฺทกมฺมานํ, ทุสฺสีลานฺจ ยา คตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ยา คตีติ ยา เอเตสํ นิพฺพตฺติ, ตฺจ ปสฺสามีติ.
อถสฺส เวตรณึ นทึ ตาว ทสฺเสสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ทสฺเสสิ มาตลิ รฺโ, ทุคฺคํ เวตรณึ นทึ;
กุถิตํ ขารสํยุตฺตํ, ตตฺตํ อคฺคิสิขูปม’’นฺติ.
ตตฺถ เวตรณินฺติ ภิกฺขเว, มาตลิ รฺโ กถํ สุตฺวา นิรยาภิมุขํ รถํ เปเสตฺวา กมฺมปจฺจเย อุตุนา สมุฏฺิตํ เวตรณึ นทึ ตาว ทสฺเสสิ. ตตฺถ นิรยปาลา ชลิตานิ อสิสตฺติโตมรภินฺทิวาลมุคฺคราทีนิ อาวุธานิ คเหตฺวา เนรยิกสตฺเต ปหรนฺติ วิชฺฌนฺติ วิเหเนฺติ. เต ตํ ทุกฺขํ อสหนฺตา เวตรณิยํ ปตนฺติ. สา อุปริ ภินฺทิวาลปฺปมาณาหิ สกณฺฏกาหิ เวตฺตลตาหิ สฺฉนฺนา. เต ตตฺถ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ ปจฺจึสุ. เตสุ ปชฺชลนฺเตสุ ขุรธาราติขิเณสุ กณฺฏเกสุ ขณฺฑาขณฺฑิกา โหนฺติ. เตสํ เหฏฺา ตาลกฺขนฺธปฺปมาณานิ ปชฺชลิตอยสูลานิ อุฏฺหนฺติ. เนรยิกสตฺตา พหุํ อทฺธานํ วีตินาเมตฺวา เวตฺตลตาหิ คฬิตฺวา สูเลสุ ปติตฺวา วิทฺธสรีรา สูเลสุ อาวุณิตมจฺฉา วิย จิรํ ปจฺจนฺติ. ตานิ สูลานิปิ ปชฺชลนฺติ, เนรยิกสตฺตาปิ ปชฺชลนฺติ. สูลานํ เหฏฺา อุทกปิฏฺเ ชลิตานิ ขุรธาราสทิสานิ ¶ ติขิณานิ อโยโปกฺขรปตฺตานิ โหนฺติ. เต สูเลหิ คฬิตฺวา อยโปกฺขรปตฺเตสุ ปติตฺวา จิรํ ทุกฺขเวทนํ อนุภวนฺติ. ตโต ขาโรทเก ปตนฺติ, อุทกํ ปชฺชลติ, เนรยิกสตฺตาปิ ปชฺชลนฺติ, ธูโมปิ อุฏฺหติ. อุทกสฺส ปน เหฏฺา นทีตลํ ขุรธาราหิ สฺฉนฺนํ. เต ‘‘เหฏฺา นุ โข กีทิส’’นฺติ อุทเก นิมุชฺชิตฺวา ขุรธาราสุ ขณฺฑาขณฺฑิกา โหนฺติ. เต ตํ มหาทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺตา มหนฺตํ เภรวํ วิรวนฺตา วิจรนฺติ. กทาจิ อนุโสตํ วุยฺหนฺติ, กทาจิ ปฏิโสตํ. อถ เน ตีเร ิตา นิรยปาลา อุสุสตฺติโตมราทีนิ อุกฺขิปิตฺวา มจฺเฉ วิย วิชฺฌนฺติ. เต ทุกฺขเวทนาปฺปตฺตา มหาวิรวํ รวนฺติ. อถ เน ปชฺชลิเตหิ อยพฬิเสหิ อุทฺธริตฺวา ปริกฑฺฒิตฺวา ปชฺชลิตอยปถวิยํ นิปชฺชาเปตฺวา เตสํ มุเข ตตฺตํ อโยคุฬฺหํ ปกฺขิปนฺติ.
อิติ นิมิราชา เวตรณิยํ มหาทุกฺขปีฬิเต เนรยิกสตฺเต ทิสฺวา ภีตตสิโต สงฺกมฺปิตหทโย หุตฺวา ‘‘กึ นาเมเต สตฺตา ปาปกมฺมํ ¶ อกํสู’’ติ มาตลึ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส พฺยากาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห –
‘‘นิมี หเว มาตลิมชฺฌภาสถ, ทิสฺวา ชนํ ปตมานํ วิทุคฺเค;
ภยฺหิ ¶ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา เวตรณึ ปตนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย ทุพฺพเล พลวนฺตา ชีวโลเก, หึ สนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา;
เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา เวตรณึ ปตนฺตี’’ติ.
ตตฺถ วินฺทตีติ อหํ อตฺตโน อนิสฺสโร หุตฺวา ภยสนฺตโก วิย ชาโต. ทิสฺวาติ ปตมานํ ทิสฺวา. ชานนฺติ ภิกฺขเว, โส มาตลิ สยํ ชานนฺโต ตสฺส อชานโต อกฺขาสิ. ทุพฺพเลติ สรีรพลโภคพลอาณาพลวิรหิเต. พลวนฺตาติ เตหิ พเลหิ สมนฺนาคตา. หึสนฺตีติ ปาณิปฺปหาราทีหิ กิลเมนฺติ. โรเสนฺตีติ นานปฺปกาเรหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ ฆเฏนฺติ. ปสเวตฺวาติ ชเนตฺวา, กตฺวาติ อตฺโถ.
เอวํ ¶ มาตลิ ตสฺส ปฺหํ พฺยากริตฺวา รฺา เวตรณินิรเย ทิฏฺเ ตํ ปเทสํ อนฺตรธาเปตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา สุนขาทีหิ ขาทนฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ตํ ทิสฺวา ภีเตน รฺา ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘สามา ¶ จ โสณา สพลา จ คิชฺฌา, กาโกลสงฺฆา อทนฺติ เภรวา;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กึมกํสุ ปาปํ, เยเม ชเน กาโกลสงฺฆา อทนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย เกจิเม มจฺฉริโน กทริยา, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;
หึ สนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;
เตเม ชเน กาโกลสงฺฆา อทนฺตี’’ติ.
อิโต ¶ ปเรสุ ปฺเหสุ เจว พฺยากรเณสุ จ เอเสว นโย. ตตฺถ สามาติ รตฺตวณฺณา. โสณาติ สุนขา. สพลา จาติ กพรวณฺณา จ, เสตกาฬปีตโลหิตวณฺณา จาติ เอวํ ปฺจวณฺณสุนเข ทสฺเสติ. เต กิร มหาหตฺถิปฺปมาณา ชลิตอยปถวิยํ เนรยิกสตฺเต มิเค วิย อนุพนฺธิตฺวา ปิณฺฑิกมํเสสุ ฑํสิตฺวา เตสํ ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ ชลิตอยปถวิยํ ปาเตตฺวา มหารวํ รวนฺตานํ ทฺวีหิ ปุริมปาเทหิ อุรํ อกฺกมิตฺวา อฏฺิเมว เสเสตฺวา มํสํ ลฺุจิตฺวา ขาทนฺติ. คิชฺฌาติ มหาภณฺฑสกฏปฺปมาณา โลหตุณฺฑา คิชฺฌา. เอเต เตสํ กณยสทิเสหิ ตุณฺเฑหิ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ ขาทนฺติ. กาโกลสงฺฆาติ โลหตุณฺฑกากคณา. เต อติวิย ภยานกา ทิฏฺเ ทิฏฺเ ขาทนฺติ. เยเม ชเนติ เย อิเม เนรยิกสตฺเต กาโกลสงฺฆา ขาทนฺติ, อิเม นุ มจฺจา กึ นาม ปาปํ อกํสูติ ปุจฺฉิ. มจฺฉริโนติ อฺเสํ อทายกา. กทริยาติ ปเร เทนฺเตปิ ปฏิเสธกา ถทฺธมจฺฉริโน. สมณพฺราหฺมณานนฺติ สมิตพาหิตปาปานํ.
‘‘สโชติภูตา ¶ ปถวึ กมนฺติ, ตตฺเตหิ ขนฺเธหิ จ โปถยนฺติ;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา ขนฺธหตา สยนฺติ.
‘‘ตสฺส ¶ ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย ชีวโลกสฺมิ สุปาปธมฺมิโน, นรฺจ นาริฺจ อปาปธมฺมํ;
หึ สนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;
เตเม ชนา ขนฺธหตา สยนฺตี’’ติ.
ตตฺถ สโชติภูตาติ ปชฺชลิตสรีรา. ปถวินฺติ ปชฺชลิตํ นวโยชนพหลํ อยปถวึ. กมนฺตีติ อกฺกมนฺติ. ขนฺเธหิ จ โปถยนฺตีติ นิรยปาลา อนุพนฺธิตฺวา ตาลปฺปมาเณหิ ชลิตอยกฺขนฺเธหิ ชงฺฆาทีสุ ปหริตฺวา ปาเตตฺวา เตเหว ขนฺเธหิ โปถยนฺติ, จุณฺณวิจุณฺณํ กโรนฺติ. สุปาปธมฺมิโนติ อตฺตนา สุฏฺุ ปาปธมฺมา หุตฺวา. อปาปธมฺมนฺติ สีลาจาราทิสมฺปนฺนํ, นิรปราธํ วา.
‘‘องฺคารกาสุํ อปเร ผุณนฺติ, นรา รุทนฺตา ปริทฑฺฒคตฺตา;
ภยฺหิ ¶ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กึ มกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา องฺคารกาสุํ ผุณนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย เกจิ ¶ ปูคาย ธนสฺส เหตุ, สกฺขึ กริตฺวา อิณํ ชาปยนฺติ;
เต ชาปยิตฺวา ชนตํ ชนินฺท, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;
เตเม ชนา องฺคารกาสุํ ผุณนฺตี’’ติ.
ตตฺถ องฺคารกาสุนฺติ สมฺม มาตลิ, เก นาเมเต อปเร วชํ อปวิสนฺติโย คาโว วิย สมฺปริวาเรตฺวา นิรยปาเลหิ ชลิตอยคุเฬหิ โปถิยมานา องฺคารกาสุํ ปตนฺติ. ตตฺร จ เนสํ ยาว กฏิปฺปมาณา นิมุคฺคานํ มหตีหิ อยปจฺฉีหิ อาทาย อุปริองฺคาเร โอกิรนฺติ, อถ เน องฺคาเร สมฺปฏิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺตา โรทนฺตา ทฑฺฒคตฺตา ผุณนฺติ วิธุนนฺติ, กมฺมพเลน วา อตฺตโน สีเส องฺคาเร ผุณนฺติ โอกิรนฺตีติ อตฺโถ. ปูคาย ธนสฺสาติ โอกาเส สติ ทานํ วา ทสฺสาม, ปูชํ วา ปวตฺเตสฺสาม, วิหารํ วา กริสฺสามาติ สํกฑฺฒิตฺวา ปิตสฺส ปูคสนฺตกสฺส ¶ ธนสฺส เหตุ. ชาปยนฺตีติ ตํ ธนํ ยถารุจิ ขาทิตฺวา คณเชฏฺกานํ ลฺชํ ทตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน เอตฺตกํ วยกรณํ คตํ, อสุกฏฺาเน อมฺเหหิ เอตฺตกํ ทินฺน’’นฺติ กูฏสกฺขึ กริตฺวา ตํ อิณํ ชาปยนฺติ วินาเสนฺติ.
‘‘สโชติภูตา ชลิตา ปทิตฺตา, ปทิสฺสติ มหตี โลหกุมฺภี;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา อวํสิรา โลหกุมฺภึ ปตนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย สีลวนฺตํ สมณํ พฺราหฺมณํ วา, หึสนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา;
เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา อวํสิรา โลหกุมฺภึ ปตนฺตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ปทิตฺตาติอาทิตฺตา. มหตีติ ปพฺพตปฺปมาณา กปฺเปน สณฺิตโลหรเสน สมฺปุณฺณา. อวํสิราติ ภยานเกหิ นิรยปาเลหิ อุทฺธํปาเท อโธสิเร กตฺวา ขิปิยมานา ตํ โลหกุมฺภึ ปตนฺติ. สีลวนฺตนฺติ สีลอาจารคุณสมฺปนฺนํ.
‘‘ลฺุจนฺติ คีวํ อถ เวยิตฺวา, อุณฺโหทกสฺมึ ปกิเลทยิตฺวา;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา ลุตฺตสิรา สยนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย ชีวโลกสฺมิ สุปาปธมฺมิโน, ปกฺขี คเหตฺวาน วิเหยนฺติ เต;
วิเหยิตฺวา สกุณํ ชนินฺท, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;
เตเม ชนา ลุตฺตสิรา สย’’นฺติ.
ตตฺถ ลฺุจนฺตีติ อุปฺปาเฏนฺติ. อถ เวยิตฺวาติ ชลิตโลหโยตฺเตหิ อโธมุขํ เวยิตฺวา. อุณฺโหทกสฺมินฺติ ¶ กปฺเปน สณฺิตโลหอุทกสฺมึ. ปกิเลทยิตฺวาติ เตเมตฺวา ขิปิตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม มาตลิ, เยสํ อิเม นิรยปาลา ชลิตโลหโยตฺเตหิ คีวํ เวเตฺวา ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ โอนาเมตฺวา ตํ คีวํ สมฺปริวตฺตกํ ลฺุจิตฺวา ชลิตอยทณฺเฑหิ อาทาย เอกสฺมึ ชลิตโลหรเส ปกฺขิปิตฺวา ตุฏฺหฏฺา โหนฺติ, ตาย จ คีวาย ลฺุจิตาย ปุน สีเสน สทฺธึ คีวา อุปฺปชฺชติเยว. กึ นาเมเต กมฺมํ กรึสุ? เอเต หิ เม ทิสฺวา ภยํ อุปฺปชฺชตีติ. ปกฺขี คเหตฺวาน วิเหยนฺตีติ มหาราช, เย ชีวโลกสฺมึ สกุเณ คเหตฺวา ปกฺเข ลฺุจิตฺวา คีวํ เวเตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ขาทนฺติ วา วิกฺกิณนฺติ วา, เต อิเม ลุตฺตสิรา สยนฺตีติ.
‘‘ปหูตโตยา ¶ อนิคาธกูลา, นที อยํ สนฺทติ สุปฺปติตฺถา;
ฆมฺมาภิตตฺตา มนุชา ปิวนฺติ, ปีตฺจ เตสํ ภุส โหติ ปานิ.
‘‘ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, ปีตฺจ เตสํ ภุส โหติ ปานิ.
‘‘ตสฺส ¶ ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย สุทฺธธฺํ ปลาเสน มิสฺสํ, อสุทฺธกมฺมา กยิโน ททนฺติ;
ฆมฺมาภิตตฺตาน ปิปาสิตานํ, ปีตฺจ เตสํ ภุส โหติ ปานี’’ติ.
ตตฺถ อนิคาธกูลาติ อคมฺภีรตีรา. สุปฺปติตฺถาติ โสภเนหิ ติตฺเถหิ อุเปตา. ภุส โหตีติ วีหิภุสํ สมฺปชฺชติ. ปานีติ ปานียํ. ตสฺมึ กิร ปเทเส ปหูตสลิลา รมณียา นที สนฺทติ, เนรยิกสตฺตา อคฺคิสนฺตาเปน ตตฺตา ปิปาสํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตา พาหา ปคฺคยฺห ชลิตโลหปถวึ มทฺทนฺตา ตํ นทึ โอตรนฺติ, ตงฺขณฺเว ตีรา ปชฺชลนฺติ, ปานียํ ภุสปลาสภาวํ อาปชฺชิตฺวา ปชฺชลติ. เต ปิปาสํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตา ตํ ชลิตํ ภุสปลาสํ ขาทนฺติ. ตํ เตสํ สกลสรีรํ ฌาเปตฺวา อโธภาเคน นิกฺขมติ. เต ตํ ทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺตา พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ. สุทฺธธฺนฺติ วีหิอาทิสตฺตวิธํ ปริสุทฺธธฺํ. ปลาเสน มิสฺสนฺติ ปลาเสน วา ภุเสน วา วาลุกามตฺติกาทีหิ วา มิสฺสกํ กตฺวา ¶ . อสุทฺธกมฺมาติ กิลิฏฺกายวจีมโนกมฺมา. กยิโนติ ‘‘สุทฺธธฺํ ทสฺสามี’’ติ กยิกสฺส หตฺถโต มูลํ คเหตฺวา ตถารูปํ อสุทฺธธฺํ ททนฺติ.
‘‘อุสูหิ ¶ สตฺตีหิ จ โตมเรหิ, ทุภยานิ ปสฺสานิ ตุทนฺติ กนฺทตํ;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา สตฺติหตา สยนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย ชีวโลกสฺมึ อสาธุกมฺมิโน, อทินฺนมาทาย กโรนฺติ ชีวิกํ;
ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ, อเชฬกฺจาปิ ปสุํ มหึสํ;
เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา สตฺติหตา สยนฺตี’’ติ.
ตตฺถ ทุภยานีติ อุภยานิ. ตุทนฺตีติ วิชฺฌนฺติ. กนฺทตนฺติ กนฺทนฺตานํ. ผรุสา นิรยปาลา อรฺเ ลุทฺทา มิคํ วิย สมฺปริวาเรตฺวา อุสุอาทีหิ นานาวุเธหิ ¶ ทฺเว ปสฺสานิ ตุทนฺติ, สรีรํ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ ปุราณปณฺณํ วิย ขายติ. อทินฺนมาทายาติปรสนฺตกํ สวิฺาณกาวิฺาณกํ สนฺธิจฺเฉทาทีหิ เจว วฺจนาย จ คเหตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺติ.
‘‘คีวาย พทฺธา กิสฺส อิเม ปุเนเก, อฺเ วิกนฺตา พิลกตา สยนฺติ;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา พิลกตา สยนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘โอรพฺภิกา ¶ สูกริกา จ มจฺฉิกา, ปสุํ มหึสฺจ อเชฬกฺจ;
หนฺตฺวาน สูเนสุ ปสารยึสุ, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;
เตเม ชนา พิลกตา สยนฺตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ คีวาย พทฺธาติ มหนฺเตหิ ชลิตโลหโยตฺเตหิ คีวาย พนฺธิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา อยปถวิยํ ปาเตตฺวา นานาวุเธหิ โกฏฺฏิยมาเน ทิสฺวา ปุจฺฉิ. อฺเ วิกนฺตาติ อฺเ ปน ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺนา. พิลกตาติ ชลิเตสุ อยผลเกสุ เปตฺวา มํสํ วิย โปตฺถนิยา โกฏฺเฏตฺวา ปฺุชกตา หุตฺวา สยนฺติ. มจฺฉิกาติ มจฺฉฆาตกา. ปสุนฺติ คาวึ. สูเนสุ ปสารยึสูติ มํสํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปนตฺถํ สูนาปเณสุ เปสุํ.
‘‘รหโท อยํ มุตฺตกรีสปูโร, ทุคฺคนฺธรูโป อสุจิ ปูติ วาติ;
ขุทาปเรตา มนุชา อทนฺติ, ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา;
ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ, อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ;
เยเม ชนา มุตฺตกรีสภกฺขา.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิ ชานโต.
‘‘เย เกจิเม การณิกา วิโรสกา, ปเรสํ หึสาย สทา นิวิฏฺา;
เต ¶ ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, มิตฺตทฺทุโน มีฬฺหมทนฺติ พาลา’’ติ;
ตตฺถ ขุทาปเรตา มนุชา อทนฺตีติ เอเต เนรยิกา สตฺตา ฉาตเกน ผุฏฺา ขุทํ สหิตุํ อสกฺโกนฺตา ปกฺกุถิตํ ธูมายนฺตํ ปชฺชลนฺตํ กปฺเปน สณฺิตํ ปุราณมีฬฺหํ ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ กตฺวา อทนฺติ ขาทนฺติ. การณิกาติ ¶ การณการกา. วิโรสกาติ มิตฺตสุหชฺชานมฺปิ วิเหกา. มิตฺตทฺทุโนติ เย เตสฺเว เคเห ขาทิตฺวา ภฺุชิตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา สยิตฺวา ปุน มาสกหาปณํ นาม อาหราเปนฺติ, ลฺชํ คณฺหนฺติ, เต มิตฺตทูสกา พาลา เอวรูปํ มีฬฺหํ ขาทนฺติ, มหาราชาติ.
‘‘รหโท อยํ โลหิตปุพฺพปูโร, ทุคฺคนฺธรูโป อสุจิ ปูติ วาติ;
ฆมฺมาภิตตฺตา มนุชา ปิวนฺติ, ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา;
ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ, อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ;
เยเม ชนา โลหิตปุพฺพภกฺขา.
‘‘ตสฺส ¶ ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย มาตรํ วา ปิตรํ วา ชีวโลเก, ปาราชิกา อรหนฺเต หนนฺติ;
เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา โลหิตปุพฺพภกฺขา’’ติ.
ตตฺถ ฆมฺมาภิตตฺตาติ สนฺตาเปน ปีฬิตา. ปาราชิกาติ ปราชิตา ชราชิณฺเณ มาตาปิตโร ฆาเตตฺวา คิหิภาเวเยว ปาราชิกํ ปตฺตา. อรหนฺเตติ ปูชาวิเสสสฺส อนุจฺฉวิเก. หนนฺตีติ ทุกฺกรการเก มาตาปิตโร มาเรนฺติ. อปิจ ‘‘อรหนฺเต’’ติ ปเทน พุทฺธสาวเกปิ สงฺคณฺหาติ.
อปรสฺมิมฺปิ อุสฺสทนิรเย นิรยปาลา เนรยิกานํ ตาลปฺปมาเณน ชลิตอยพฬิเสน ชิวฺหํ วิชฺฌิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา เต สตฺเต ชลิตอยปถวิยํ ปาเตตฺวา อุสภจมฺมํ วิย ปตฺถริตฺวา สงฺกุสเตน หนนฺติ. เต ถเล ขิตฺตมจฺฉา วิย ผนฺทนฺติ, ตฺจ ทุกฺขํ สหิตุํ อสกฺโกนฺตา โรทนฺตา ปริเทวนฺตา มุเขน เขฬํ มฺุจนฺติ. ตสฺมึ ราชา มาตลินา ทสฺสิเต อาห –
‘‘ชิวฺห ¶ จ ปสฺส พฬิเสน วิทฺธํ, วิหตํ ยถา สงฺกุสเตน จมฺมํ;
ผนฺทนฺติ ¶ มจฺฉาว ถลมฺหิ ขิตฺตา, มฺุจนฺติ เขฬํ รุทมานา กิเมเต.
‘‘ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา วงฺกฆสฺตา สยนฺตี’’ติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย เกจิ สนฺธานคตา มนุสฺสา, อคฺเฆน อคฺฆํ กยํ หาปยนฺติ;
กูเฏน กูฏํ ธนโลภเหตุ, ฉนฺนํ ยถา วาริจรํ วธาย.
‘‘น หิ กูฏการิสฺส ภวนฺติ ตาณา, สเกหิ กมฺเมหิ ปุรกฺขตสฺส;
เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา วงฺกฆสฺตา สยนฺตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ กิเมเตติ กึการณา เอเต. วงฺกฆสฺตาติ คิลิตพฬิสา. สนฺธานคตาติ สนฺธานํ มริยาทํ คตา, อคฺฆาปนกฏฺาเน ิตาติ อตฺโถ. อคฺเฆน อคฺฆนฺติ ตํ ตํ อคฺฆํ ลฺชํ คเหตฺวา หตฺถิอสฺสาทีนํ วา ชาตรูปรชตาทีนํ วา เตสํ เตสํ สวิฺาณกาวิฺาณกานํ อคฺฆํ หาเปนฺติ. กยนฺติ ตํ หาเปนฺตา กายิกานํ กยํ หาเปนฺติ, สเต ทาตพฺเพ ปณฺณาสํ ทาเปนฺติ, อิตรํ เตหิ สทฺธึ วิภชิตฺวา คณฺหนฺติ. กูเฏน กูฏนฺติ ตุลากูฏาทีสุ ตํ ตํ กูฏํ. ธนโลภเหตูติ ธนโลเภน เอตํ กูฏกมฺมํ กโรนฺติ. ฉนฺนํ ยถา วาริจรํ วธายาติ ตํ ปน กมฺมํ กโรนฺตาปิ มธุรวาจาย ตถา กตภาวํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ยถา ¶ วาริจรํ มจฺฉํ วธาย อุปคจฺฉนฺตา พฬิสํ อามิเสน ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ตํ วเธนฺติ, เอวํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ตํ กมฺมํ กโรนฺติ. น หิ กูฏการิสฺสาติ ปฏิจฺฉนฺนํ มม กมฺมํ, น ตํ โกจิ ชานาตีติ มฺมานสฺส หิ กูฏการิสฺส ตาณา นาม น โหนฺติ. โส เตหิ กมฺเมหิ ปุรกฺขโต ปติฏฺํ น ลภติ.
‘‘นารี อิมา สมฺปริภินฺนคตฺตา, ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ ภุเช ทุชจฺจา;
สมฺมกฺขิตา โลหิตปุพฺพลิตฺตา, คาโว ยถา อาฆาตเน วิกนฺตา;
ตา ภูมิภาคสฺมึ สทา นิขาตา, ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตา.
‘‘ภยฺหิ ¶ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิมา นุ นาริโย กิมกํสุ ปาปํ, ยา ภูมิภาคสฺมึ สทา นิขาตา;
ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตา.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘โกลิตฺถิยาโย อิธ ชีวโลเก, อสุทฺธกมฺมา อสตํ อจารุํ;
ตา ทิตฺตรูปา ปติ วิปฺปหาย, อฺํ อจารุํ รติขิฑฺฑเหตุ;
ตา ชีวโลกสฺมึ รมาปยิตฺวา, ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตา’’ติ.
ตตฺถ นารีติ อิตฺถิโย. สมฺปริภินฺนคตฺตาติ สุฏฺุ สมนฺตโต ภินฺนสรีรา. ทุชจฺจาติ ทุชฺชาติกา วิรูปา เชคุจฺฉา. อาฆาตเนติ คาวฆาตฏฺาเน. วิกนฺตาติ ฉินฺนสีสา คาโว วิย ปุพฺพโลหิตลิตฺตา หุตฺวา ¶ . สทา นิขาตาติ นิจฺจํ ชลิตอยปถวิยํ กฏิมตฺตํ ปเวเสตฺวา นิขณิตฺวา ¶ ปิตา วิย ิตา. ขนฺธาติวตฺตนฺตีติ สมฺม มาตลิ, ตา นาริโย เอเต ปพฺพตกฺขนฺธา อติกฺกมนฺติ. ตาสํ กิร เอวํ กฏิปฺปมาณํ ปวิสิตฺวา ิตกาเล ปุรตฺถิมาย ทิสาย ชลิตอยปพฺพโต สมุฏฺหิตฺวา อสนิ วิย วิรวนฺโต อาคนฺตฺวา สรีรํ สณฺหกรณี วิย ปิสนฺโต คจฺฉติ. ตสฺมึ อติวตฺติตฺวา ปจฺฉิมปสฺเส ิเต ปุน จ ตาสํ สรีรํ ปาตุ ภวติ. ตา ทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺติโย พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ. เสสทิสาสุ วุฏฺิเตสุ ชลิตปพฺพเตสุปิ เอเสว นโย. ทฺเว ปพฺพตา สมุฏฺาย อุจฺฉุฆฏิกํ วิย ปีเฬนฺติ, โลหิตํ ปกฺกุถิตํ สนฺทติ. กทาจิ ตโย ปพฺพตา สมุฏฺาย ปีเฬนฺติ. กทาจิ จตฺตาโร ปพฺพตา สมุฏฺาย ตาสํ สรีรํ ปีเฬนฺติ. เตนาห ‘‘ขนฺธาติวตฺตนฺตี’’ติ.
โกลิตฺถิยาโยติ กุเล ปติฏฺิตา กุลธีตโร. อสตํ อจารุนฺติ อสฺตกมฺมํ กรึสุ. ทิตฺตรูปาติ สรูปา ธุตฺตชาติกา หุตฺวา. ปติ วิปฺปหายาติ อตฺตโน ปตึ ปชหิตฺวา. อจารุนฺติ อคมํสุ. รติขิฑฺฑเหตูติ กามรติเหตุ เจว ขิฑฺฑาเหตุ จ. รมาปยิตฺวาติ ปรปุริเสหิ สทฺธึ อตฺตโน จิตฺตํ รมาปยิตฺวา อิธ อุปปนฺนา. อถ ตาสํ สรีรํ อิเม ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตาติ.
‘‘ปาเท คเหตฺวา กิสฺส อิเม ปุเนเก, อวํสิรา นรเก ปาตยนฺติ;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม ¶ นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา อวํสิรา นรเก ปาตยนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย ¶ ชีวโลกสฺมึ อสาธุกมฺมิโน, ปรสฺส ทารานิ อติกฺกมนฺติ;
เต ตาทิสา อุตฺตมภณฺฑเถนา, เตเม ชนา อวํสิรา นรเก ปาตยนฺติ.
‘‘เต วสฺสปูคานิ พหูนิ ตตฺถ, นิรเยสุ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยนฺติ;
น หิ ปาปการิสฺส ภวนฺติ ตาณา, สเกหิ กมฺเมหิ ปุรกฺขตสฺส;
เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา อวํสิรา นรเก ปาตยนฺตี’’ติ.
ตตฺถ นรเกติ ชลิตองฺคารปุณฺเณ มหาอาวาเฏ. เต กิร วชํ อปวิสนฺติโย คาโว วิย ¶ นิรยปาเลหิ นานาวุธานิ คเหตฺวา วิชฺฌิยมานา โปถิยมานา ยทา ตํ นรกํ อุปคจฺฉนฺติ, อถ เต นิรยปาลา อุทฺธํปาเท กตฺวา ตตฺถ ปาตยนฺติ ขิปนฺติ. เอวํ เต ปาติยมาเน ทิสฺวา ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. อุตฺตมภณฺฑเถนาติ มนุสฺเสหิ ปิยายิตสฺส วรภณฺฑสฺส เถนกา.
เอวฺจ ปน วตฺวา มาตลิสงฺคาหโก ตํ นิรยํ อนฺตรธาเปตฺวา รถํ ปุรโต เปเสตฺวา มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ปจฺจนฏฺานํ นิรยํ ทสฺเสสิ. เตน ปุฏฺโ จสฺส วิยากาสิ.
‘‘อุจฺจาวจาเม วิวิธา อุปกฺกมา, นิรเยสุ ทิสฺสนฺติ สุโฆรรูปา;
ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา อธิมตฺตา ทุกฺขา ติพฺพา;
ขรา กฏุกา เวทนา เวทยนฺติ.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย ¶ ชีวโลกสฺมึ สุปาปทิฏฺิโน, วิสฺสาสกมฺมานิ กโรนฺติ โมหา;
ปรฺจ ทิฏฺีสุ สมาทเปนฺติ, เต ¶ ปาปทิฏฺึ ปสเวตฺว ปาปํ;
เตเม ชนา อธิมตฺตา ทุกฺขา ติพฺพา, ขรา กฏุกา เวทนา เวทยนฺตี’’ติ.
ตตฺถ อุจฺจาวจาเมติ อุจฺจา อวจา อิเม, ขุทฺทกา จ มหนฺตา จาติ อตฺโถ. อุปกฺกมาติ การณปฺปโยคา. สุปาปทิฏฺิโนติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาย ทสวตฺถุกาย มิจฺฉาทิฏฺิยา สุฏฺุ ปาปทิฏฺิโน. วิสฺสาสกมฺมานีติ ตาย ทิฏฺิยา วิสฺสาเสน ตนฺนิสฺสิตา หุตฺวา นานาวิธานิ ปาปกมฺมานิ กโรนฺติ. เตเมติ เต อิเม ชนา เอวรูปํ ทุกฺขํ อนุภวนฺติ.
อิติ รฺโ มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ปจฺจนนิรยํ อาจิกฺขิ. เทวโลเกปิ เทวคณา รฺโ อาคมนมคฺคํ โอโลกยมานา สุธมฺมายํ เทวสภายํ นิสีทึสุเยว. สกฺโกปิ ‘‘กึ นุ โข, มาตลิ, จิรายตี’’ติ อุปธาเรนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘มาตลิ, อตฺตโน ทูตวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘มหาราช, อสุกกมฺมํ กตฺวา อสุกนิรเย นาม ปจฺจนฺตี’ติ นิรเย ทสฺเสนฺโต วิจรติ, นิมิรฺโ ปน อปฺปเมว อายุ ขีเยถ, นิรยทสฺสนํ นาสฺส ปริยนฺตํ คจฺเฉยฺยา’’ติ เอกํ มหาชวํ ¶ เทวปุตฺตํ เปเสสิ ‘‘ตฺวํ ‘สีฆํ ราชานํ คเหตฺวา อาคจฺฉตู’ติ มาตลิสฺส วเทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ชเวน คนฺตฺวา อาโรเจสิ. มาตลิ, ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา จิรายิตุ’’นฺติ รฺโ เอกปหาเรเนว จตูสุ ทิสาสุ พหู นิรเย ทสฺเสตฺวา คาถมาห –
‘‘วิทิตานิ เต มหาราช, อาวาสํ ปาปกมฺมินํ;
านานิ ลุทฺทกมฺมานํ, ทุสฺสีลานฺจ ยา คติ;
อุยฺยาหิ ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – มหาราช, อิมํ ปาปกมฺมีนํ สตฺตานํ อาวาสํ ทิสฺวา ลุทฺทกมฺมานฺจ านานิ ตยา วิทิตานิ. ทุสฺสีลานฺจ ยา คติ นิพฺพตฺติ, สาปิ เต ¶ วิทิตา. อิทานิ เทวราชสฺส สนฺติเก ทิพฺพสมฺปตฺตึ ทสฺสนตฺถํ อุยฺยาหิ คจฺฉาหิ, มหาราชาติ.
นิรยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
สคฺคกณฺฑํ
เอวฺจ ปน วตฺวา มาตลิ เทวโลกาภิมุขํ รถํ เปเสสิ. ราชา เทวโลกํ คจฺฉนฺโต ทฺวาทสโยชนิกํ มณิมยํ ปฺจถูปิกํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ อุยฺยานโปกฺขรณิสมฺปนฺนํ ¶ กปฺปรุกฺขปริวุตํ พีรณิยา เทวธีตาย อากาสฏฺกวิมานํ ทิสฺวา, ตฺจ เทวธีตรํ อนฺโตกูฏาคาเร สยนปิฏฺเ นิสินฺนํ อจฺฉราสหสฺสปริวุตํ มณิสีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตึ ทิสฺวา มาตลึ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห. อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.
‘‘ปฺจถูปํ ทิสฺสติทํ วิมานํ, มาลาปิฬนฺธา สยนสฺส มชฺเฌ;
ตตฺถจฺฉติ นารี มหานุภาวา, อุจฺจาวจํ อิทฺธิ วิกุพฺพมานา.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อยํ นุ นารี กิมกาสิ สาธุํ, ยา โมทติ สคฺคปตฺตา วิมาเน.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘ยทิ ¶ เต สุตา พีรณี ชีวโลเก, อามายทาสี อหุ พฺราหฺมณสฺส;
สา ปตฺตกาลํ อติถึ วิทิตฺวา, มาตาว ปุตฺตํ สกิมาภินนฺที;
สํยมา สํวิภาคา จ, สา วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.
ตตฺถ ปฺจถูปนฺติ ปฺจหิ กูฏาคาเรหิ สมนฺนาคตํ. มาลาปิฬนฺธาติ มาลาทีหิ สพฺพาภรเณหิ ปฏิมณฺฑิตาติ อตฺโถ. ตตฺถจฺฉตีติ ตสฺมึ ¶ วิมาเน อจฺฉติ. อุจฺจาวจํ อิทฺธิ วิกุพฺพมานาติ นานปฺปการํ เทวิทฺธึ ทสฺสยมานา. ทิสฺวาติ เอตํ ทิสฺวา ิตํ มํ วิตฺติ วินฺทติ ปฏิลภติ, วิตฺติสนฺตโก วิย โหมิ ตุฏฺิยา อติภูตตฺตาติ อตฺโถ. อามายทาสีติ เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาตทาสี. อหุ พฺราหฺมณสฺสาติ สา กิร กสฺสปทสพลสฺส กาเล เอกสฺส พฺราหฺมณสฺส ทาสี อโหสิ. สา ปตฺตกาลนฺติ เตน พฺราหฺมเณน อฏฺ สลากภตฺตานิ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺตานิ อเหสุํ. โส เคหํ คนฺตฺวา ‘‘สฺเว ปฏฺาย เอเกกสฺส ภิกฺขุสฺส เอเกกํ กหาปณคฺฆนกํ กตฺวา อฏฺ สลากภตฺตานิ สมฺปาเทยฺยาสี’’ติ พฺราหฺมณึ อาห. สา ‘‘สามิ, ภิกฺขุ นาม ธุตฺโต, นาหํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. ธีตโรปิสฺส ปฏิกฺขิปึสุ. โส ทาสึ ‘‘สกฺขิสฺสสิ อมฺมา’’ติ อาห. สา ‘‘สกฺขิสฺสามิ อยฺยา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สกฺกจฺจํ ยาคุขชฺชกภตฺตาทีนิ สมฺปาเทตฺวา สลากํ ลภิตฺวา อาคตํ ปตฺตกาลํ อติถึ วิทิตฺวา หริตโคมยุปลิตฺเต กตปุปฺผุปหาเร สุปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา ยถา นาม วิปฺปวาสา อาคตํ ปุตฺตํ มาตา สกึ อภินนฺทติ, ตถา นิจฺจกาลํ อภินนฺทติ, สกฺกจฺจํ ปริวิสติ, อตฺตโน สนฺตกมฺปิ กิฺจิ ¶ เทติ. สํยมา สํวิภาคา จาติ สา สีลวตี อโหสิ จาควตี จ, ตสฺมา เตน สีเลน เจว จาเคน จ อิมสฺมึ วิมาเน โมทติ. อถ วา สํยมาติ อินฺทฺริยทมนา.
เอวฺจ ปน วตฺวา มาตลิ ปุรโต รถํ เปเสตฺวา โสณทินฺนเทวปุตฺตสฺส สตฺต กนกวิมานานิ ทสฺเสสิ. โส ตานิ จ ตสฺส จ สิริสมฺปตฺตึ ทิสฺวา เตน กตกมฺมํ ปุจฺฉิ. อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.
‘‘ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ, วิมานา สตฺต นิมฺมิตา;
ตตฺถ ยกฺโข มหิทฺธิโก, สพฺพาภรณภูสิโต;
สมนฺตา อนุปริยาติ, นารีคณปุรกฺขโต.
‘‘วิตฺตี ¶ หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อยํ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน.
‘‘ตสฺส ¶ ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘โสณทินฺโน คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;
เอส ปพฺพชิตุทฺทิสฺส, วิหาเร สตฺต การยิ.
‘‘สกฺกจฺจํ เต อุปฏฺาสิ, ภิกฺขโว ตตฺถ วาสิเก;
อจฺฉาทนฺจ ภตฺตฺจ, เสนาสนํ ปทีปิยํ;
อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;
สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.
ตตฺถ ททฺทลฺลมานาติ ชลมานา. อาเภนฺตีติ ตรุณสูริโย วิย โอภาสนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ ปฏิปาฏิยา ิเตสุ สตฺตสุ วิมาเนสุ. ยกฺโขติ เอโก เทวปุตฺโต. โสณทินฺโนติ มหาราช, อยํ ปุพฺเพ กสฺสปทสพลสฺส กาเล กาสิรฏฺเ อฺตรสฺมึ นิคเม โสณทินฺโน นาม คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส ปพฺพชิเต อุทฺทิสฺส สตฺต วิหารกุฏิโย กาเรตฺวา ตตฺถ วาสิเก ภิกฺขู จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺาสิ, อุโปสถฺจ อุปวสิ, นิจฺจํ สีเลสุ จ สํวุโต อโหสิ. โส ตโต จวิตฺวา อิธูปปนฺโน โมทตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปาฏิหาริยปกฺขนฺติ อิทํ ปน อฏฺมีอุโปสถสฺส ปจฺจุคฺคมนานุคมนวเสน สตฺตมินวมิโย, จาตุทฺทสีปนฺนรสีนํ ปจฺจุคฺคมนานุคมนวเสน เตรสีปาฏิปเท จ สนฺธาย วุตฺตํ.
เอวํ ¶ โสณทินฺนสฺส กตกมฺมํ กเถตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา ผลิกวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ อุพฺเพธโต ปฺจวีสติโยชนํ อเนกสเตหิ สตฺตรตนมยตฺถมฺเภหิ สมนฺนาคตํ, อเนกสตกูฏาคารปฏิมณฺฑิตํ ¶ , กิงฺกิณิกชาลาปริกฺขิตฺตํ, สมุสฺสิตสุวณฺณรชตมยธชํ, นานาปุปฺผวิจิตฺตอุยฺยานวนวิภูสิตํ, รมณียโปกฺขรณิสมนฺนาคตํ, นจฺจคีตวาทิตาทีสุ เฉกาหิ อจฺฉราหิ สมฺปริกิณฺณํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ตาสํ อจฺฉรานํ กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.
‘‘ปภาสติ ¶ มิทํ พฺยมฺหํ, ผลิกาสุ สุนิมฺมิตํ;
นารีวรคณากิณฺณํ, กูฏาคารวโรจิตํ;
อุเปตํ อนฺนปาเนหิ, นจฺจคีเตหิ จูภยํ.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ สาธุํ, ยา โมทเร สคฺคปตฺตา วิมาเน.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘ยา กาจิ นาริโย อิธ ชีวโลเก, สีลวนฺติโย อุปาสิกา;
ทาเน รตา นิจฺจํ ปสนฺนจิตฺตา, สจฺเจ ิตา อุโปสเถ อปฺปมตฺตา;
สํยมา สํวิภาคา จ, ตา วิมานสฺมิ โมทเร’’ติ.
ตตฺถ พฺยมฺหนฺติ วิมานํ, ปาสาโทติ วุตฺตํ โหติ. ผลิกาสูติ ผลิกภิตฺตีสุ. นารีวรคณากิณฺณนฺติ วรนาริคเณหิ อากิณฺณํ. กูฏาคารวโรจิตนฺติ วรกูฏาคาเรหิ โอจิตํ สโมจิตํ, วฑฺฒิตนฺติ อตฺโถ. อุภยนฺติ อุภเยหิ. ‘‘ยา กาจี’’ติ อิทํ กิฺจาปิ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ, ตา ปน กสฺสปพุทฺธสาสเน พาราณสิยํ อุปาสิกา หุตฺวา คณพนฺธเนน เอตานิ วุตฺตปฺปการานิ ปฺุานิ กตฺวา ตํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อถสฺส โส ปุรโต รถํ เปเสตฺวา เอกํ รมณียํ มณิวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ สเม ภูมิภาเค ปติฏฺิตํ อุพฺเพธสมฺปนฺนํ มณิปพฺพโต วิย โอภาสมานํ ติฏฺติ, ทิพฺพคีตวาทิตนินฺนาทิตํ พหูหิ เทวปุตฺเตหิ สมฺปริกิณฺณํ. ตํ ทิสฺวา ราชา เตสํ เทวปุตฺตานํ กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.
‘‘ปภาสติ ¶ ¶ มิทํ พฺยมฺหํ, เวฬุริยาสุ นิมฺมิตํ;
อุเปตํ ภูมิภาเคหิ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ.
‘‘อาฬมฺพรา ¶ มุทิงฺคา จ, นจฺจคีตา สุวาทิตา;
ทิพฺพา สทฺทา นิจฺฉรนฺติ, สวนียา มโนรมา.
‘‘นาหํ เอวํคตํ ชาตุ, เอวํสุรุจิรํ ปุเร;
สทฺทํ สมภิชานามิ, ทิฏฺํ วา ยทิ วา สุตํ.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ สาธุํ, เย โมทเร สคฺคปตฺตา วิมาเน.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘เย เกจิ มจฺจา อิธ ชีวโลเก, สีลวนฺตา อุปาสกา;
อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;
อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยุํ.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อทํสุ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสุํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
สํยมา สํวิภาคา จ, เต วิมานสฺมิ โมทเร’’ติ.
ตตฺถ เวฬุริยาสูติ เวฬุริยภิตฺตีสุ. ภูมิภาเคหีติ รมณีเยหิ ภูมิภาเคหิ อุเปตํ. อาฬมฺพรา มุทิงฺคา จาติ เอเต ทฺเว เอตฺถ วชฺชนฺติ. นจฺจคีตา สุวาทิตาติ นานปฺปการานิ นจฺจานิ ¶ เจว คีตานิ จ อปเรสมฺปิ ตูริยานํ สุวาทิตานิ เจตฺถ ปวตฺตนฺติ. เอวํคตนฺติ เอวํ มโนรมภาวํ คตํ. ‘‘เย เกจี’’ติ อิทมฺปิ กามํ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ, เต ปน กสฺสปพุทฺธกาเล พาราณสิวาสิโน อุปาสกา หุตฺวา คณพนฺธเนน เอตานิ ปฺุานิ กตฺวา ตํ สมฺปตฺตึ ปตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปฏิปาทยุนฺติ ¶ ปฏิปาทยึสุ, เตสํ อทํสูติ อตฺโถ. ปจฺจยนฺติ คิลานปจฺจยํ. อทํสูติ เอวํ นานปฺปการกํ ทานํ อทํสูติ.
อิติสฺส โส เตสํ กตกมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา อปรมฺปิ ผลิกวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ อเนกกูฏาคารปฏิมณฺฑิตํ, นานากุสุมสฺฉนฺนทิพฺพตรุณวนปฏิมณฺฑิตตีราย, วิวิธวิหงฺคมนินฺนาทิตาย นิมฺมลสลิลาย นทิยา ปริกฺขิตฺตํ ¶ , อจฺฉราคณปริวุตสฺเสกสฺส ปฺุวโต นิวาสภูตํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ตสฺส กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.
‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, ผลิกาสุ สุนิมฺมิตํ;
นารีวรคณากิณฺณํ, กูฏาคารวโรจิตํ.
‘‘อุเปตํ อนฺนปาเนหิ, นจฺจคีเตหิ จูภยํ;
นชฺโช จานุปริยาติ, นานาปุปฺผทุมายุตา.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อยํ นุ มจฺโจ กึมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘มิถิลายํ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;
อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;
อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ¶ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ ¶ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;
สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.
ตตฺถ นชฺโชติ วจนวิปลฺลาโส, เอกา นที ตํ วิมานํ ปริกฺขิปิตฺวา คตาติ อตฺโถ. นานาปุปฺผทุมายุตาติ สา นที นานาปุปฺเผหิ ทุเมหิ อายุตา. มิถิลายนฺติ เอส มหาราช, กสฺสปพุทฺธกาเล มิถิลนคเร เอโก คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส เอตานิ อารามโรปนาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ปตฺโตติ.
เอวมสฺส เตน กตกมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา อปรมฺปิ ผลิกวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ ปุริมวิมานโต อติเรกาย นานาปุปฺผผลสฺฉนฺนาย ตรุณวนฆฏาย สมนฺนาคตํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ตาย สมฺปตฺติยา สมนฺนาคตสฺส เทวปุตฺตสฺส กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.
‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, ผลิกาสุ สุนิมฺมิตํ;
นารีวรคณากิณฺณํ, กูฏาคารวโรจิตํ.
‘‘อุเปตํ ¶ อนฺนปาเนหิ, นจฺจคีเตหิ จูภยํ;
นชฺโช จานุปริยาติ, นานาปุปฺผทุมายุตา.
‘‘ราชายตนา กปิตฺถา จ, อมฺพา สาลา จ ชมฺพุโย;
ตินฺทุกา จ ปิยาลา จ, ทุมา นิจฺจผลา พหู.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อยํ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘มิถิลายํ ¶ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;
อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;
อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.
‘‘จีวรํ ¶ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;
สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.
ตตฺถ มิถิลายนฺติ เอส, มหาราช, กสฺสปพุทฺธกาเล วิเทหรฏฺเ มิถิลนคเร เอโก คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส เอตานิ ปฺุานิ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ปตฺโตติ.
เอวมสฺส เตน กตกมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา ปุริมสทิสเมว อปรมฺปิ เวฬุริยวิมานํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส เทวปุตฺตสฺส กตกมฺมํ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ.
‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, เวฬุริยาสุ นิมฺมิตํ;
อุเปตํ ภูมิภาเคหิ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ.
‘‘อาฬมฺพรา มุทิงฺคา จ, นจฺจคีตา สุวาทิตา;
ทิพฺยา สทฺทา นิจฺฉรนฺติ, สวนียา มโนรมา.
‘‘นาหํ เอวํคตํ ชาตุ, เอวํสุรุจิรํ ปุเร;
สทฺทํ สมภิชานามิ, ทิฏฺํ วา ยทิ วา สุตํ.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อยํ ¶ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.
‘‘ตสฺส ¶ ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘พาราณสิยํ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;
อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;
อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.
‘‘จีวรํ ¶ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;
สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.
อถสฺส ปุรโต รถํ เปเสตฺวา พาลสูริยสนฺนิภํ กนกวิมานํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ นิวาสิโน เทวปุตฺตสฺส สมฺปตฺตึ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ.
‘‘ยถา อุทยมาทิจฺโจ, โหติ โลหิตโก มหา;
ตถูปมํ อิทํ พฺยมฺหํ, ชาตรูปสฺส นิมฺมิตํ.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อยํ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘สาวตฺถิยํ ¶ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;
อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;
อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;
สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อุทยมาทิจฺโจติ อุคฺคจฺฉนฺโต อาทิจฺโจ. สาวตฺถิยนฺติ กสฺสปพุทฺธกาเล สาวตฺถินคเร เอโก คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส เอตานิ ปฺุานิ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ปตฺโตติ.
เอวํ ¶ เตน อิเมสํ อฏฺนฺนํ วิมานานํ กถิตกาเล สกฺโก เทวราชา ‘‘มาตลิ, อติวิย จิรายตี’’ติ อปรมฺปิ ชวนเทวปุตฺตํ เปเสสิ. โส เวเคน คนฺตฺวา อาโรเจสิ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา อิทานิ จิรายิตุ’’นฺติ จตูสุ ทิสาสุ เอกปฺปหาเรเนว พหูนิ วิมานานิ ทสฺเสสิ. รฺา จ ตตฺถ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตานํ เทวปุตฺตานํ กตกมฺมํ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ.
‘‘เวหายสาเม พหุกา, ชาตรูปสฺส นิมฺมิตา;
ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ, วิชฺชุวพฺภฆนนฺตเร.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ สาธุํ, เย โมทเร สคฺคปตฺตา วิมาเน.
‘‘ตสฺส ¶ ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘สทฺธาย สุนิวิฏฺาย, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต;
อกํสุ สตฺถุ วจนํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน;
เตสํ เอตานิ านานิ, ยานิ ตฺวํ ราช ปสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ เวหายสาเมติ เวหายสา อิเม อากาเสเยว สณฺิตา. อากาสฏฺกวิมานา อิเมติ วทติ. วิชฺชุวพฺภฆนนฺตเรติ ฆนวลาหกนฺตเร ชลมานา วิชฺชุ วิย. สุนิวิฏฺายาติ มคฺเคน อาคตตฺตา สุปฺปติฏฺิตาย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, เอเต ปุเร นิยฺยานิเก กสฺสปพุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา ปริสุทฺธสีลา สมณธมฺมํ กโรนฺตา โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกตฺวา อรหตฺตํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา ตโต จุตา อิเมสุ กนกวิมาเนสุ อุปฺปนฺนา. เอเตสํ กสฺสปพุทฺธสาวกานํ ตานิ านานิ, ยานิ ตฺวํ, มหาราช, ปสฺสสีติ.
เอวมสฺส ¶ อากาสฏฺกวิมานานิ ทสฺเสตฺวา สกฺกสฺส สนฺติกํ คมนตฺถาย อุสฺสาหํ กโรนฺโต อาห –
‘‘วิทิตานิ เต มหาราช, อาวาสํ ปาปกมฺมินํ;
อโถ กลฺยาณกมฺมานํ, านานิ วิทิตานิ เต;
อุยฺยาหิ ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก’’ติ.
ตตฺถ อาวาสนฺติ มหาราช, ตยา ปมเมว เนรยิกานํ อาวาสํ ทิสฺวา ปาปกมฺมานํ านานิ วิทิตานิ, อิทานิ ปน อากาสฏฺกวิมานานิ ปสฺสนฺเตน อโถ กลฺยาณกมฺมานํ านานิ วิทิตานิ, อิทานิ เทวราชสฺส สนฺติเก สมฺปตฺตึ ทฏฺุํ อุยฺยาหิ คจฺฉาหีติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา สิเนรุํ ปริวาเรตฺวา ิเต สตฺต ปริภณฺฑปพฺพเต ทสฺเสสิ. เต ทิสฺวา รฺา มาตลิสฺส ปุฏฺภาวํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘สหสฺสยุตฺตํ ¶ หยวาหึ, ทิพฺพยานมธิฏฺิโต;
ยายมาโน มหาราชา, อทฺทา สีทนฺตเร นเค;
ทิสฺวานามนฺตยี สูตํ, อิเม เก นาม ปพฺพตา’’ติ.
ตตฺถ หยวาหินฺติ หเยหิ วาหิยมานํ. ทิพฺพยานมธิฏฺิโตติ ทิพฺพยาเน ิโต หุตฺวา. อทฺทาติ อทฺทส. สีทนฺตเรติ สีทามหาสมุทฺทสฺส อนฺตเร. ตสฺมึ กิร มหาสมุทฺเท อุทกํ สุขุมํ, โมรปิฺฉมตฺตมฺปิ ปกฺขิตฺตํ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ สีทเตว, ตสฺมา โส ‘‘สีทามหาสมุทฺโท’’ติ วุจฺจติ. ตสฺส อนฺตเร. นเคติ ปพฺพเต. เก นามาติ เก นาม นาเมน อิเม ปพฺพตาติ.
เอวํ นิมิรฺา ปุฏฺโ มาตลิ เทวปุตฺโต อาห –
‘‘สุทสฺสโน กรวีโก, อีสธโร ยุคนฺธโร;
เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิรี พฺรหา.
‘‘เอเต สีทนฺตเร นคา, อนุปุพฺพสมุคฺคตา;
มหาราชานมาวาสา, ยานิ ตฺวํ ราช ปสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ สุทสฺสโนติ อยํ, มหาราช, เอเตสํ สพฺพพาหิโร สุทสฺสโน ปพฺพโต นาม, ตทนนฺตเร กรวีโก นาม, โส สุทสฺสนโต อุจฺจตโร ¶ . อุภินฺนมฺปิ ปน เตสํ อนฺตเร เอโกปิ สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. กรวีกสฺส อนนฺตเร อีสธโร นาม, โส กรวีกโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. อีสธรสฺส อนนฺตเร ยุคนฺธโร นาม, โส อีสธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. ยุคนฺธรสฺส อนนฺตเร เนมินฺธโร นาม, โส ยุคนฺธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. เนมินฺธรสฺส อนนฺตเร วินตโก นาม, โส เนมินฺธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. วินตกสฺส อนนฺตเร อสฺสกณฺโณ นาม, โส วินตกโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. อนุปุพฺพสมุคฺคตาติ เอเต สีทนฺตรมหาสมุทฺเท สตฺต ปพฺพตา อนุปฏิปาฏิยา สมุคฺคตา โสปานสทิสา หุตฺวา ิตา. ยานีติ เย ตฺวํ, มหาราช, อิเม ปพฺพเต ปสฺสสิ, เอเต จตุณฺณํ มหาราชานํ อาวาสาติ.
เอวมสฺส ¶ จาตุมหาราชิกเทวโลกํ ทสฺเสตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา ตาวตึสภวนสฺส จิตฺตกูฏทฺวารโกฏฺกํ ปริวาเรตฺวา ิตา อินฺทปฏิมา ทสฺเสสิ. ตํ ทิสฺวา ราชา ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.
‘‘อเนกรูปํ รุจิรํ, นานาจิตฺรํ ปกาสติ;
อากิณฺณํ อินฺทสทิเสหิ, พฺยคฺเฆเหว สุรกฺขิตํ.
‘‘วิตฺตี ¶ หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิมํ นุ ทฺวารํ กิมภฺมาหุ, มโนรมํ ทิสฺสติ ทูรโตว.
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘‘จิตฺรกูโฏ’ติ ยํ อาหุ, เทวราชปเวสนํ;
สุทสฺสนสฺส คิริโน, ทฺวารฺเหตํ ปกาสติ.
‘‘อเนกรูปํ ¶ รุจิรํ, นานาจิตฺรํ ปกาสติ;
อากิณฺณํ อินฺทสทิเสหิ, พฺยคฺเฆเหว สุรกฺขิตํ;
ปวิเสเตน ราชีสิ, อรชํ ภูมิมกฺกมา’’ติ.
ตตฺถ อเนกรูปนฺติ อเนกชาติกํ. นานาจิตฺรนฺติ นานารตนจิตฺรํ. ปกาสตีติ กึ นาม เอตํ ปฺายติ. อากิณฺณนฺติ สมฺปริปุณฺณํ. พฺยคฺเฆเหว สุรกฺขิตนฺติ ยถา นาม พฺยคฺเฆหิ วา สีเหหิ วา มหาวนํ, เอวํ อินฺทสทิเสเหว สุรกฺขิตํ. ตาสฺจ ปน อินฺทปฏิมานํ อารกฺขณตฺถาย ปิตภาโว เอกกนิปาเต กุลาวกชาตเก (ชา. ๑.๑.๓๑) วุตฺตนเยน คเหตพฺโพ. กึมภฺมาหูติ กินฺนามํ วทนฺติ. ปเวสนนฺติ นิกฺขมนปฺปเวสนตฺถาย นิมฺมิตํ. สุทสฺสนสฺสาติ โสภนทสฺสนสฺส สิเนรุคิริโน. ทฺวารํ เหตนฺติ เอตํ สิเนรุมตฺถเก ปติฏฺิตสฺส ทสสหสฺสโยชนิกสฺส เทวนครสฺส ทฺวารํ ปกาสติ, ทฺวารโกฏฺโก ปฺายตีติ อตฺโถ. ปวิเสเตนาติ เอเตน ทฺวาเรน เทวนครํ ปวิส. อรชํ ภูมิมกฺกมาติ อรชํ สุวณฺณรชตมณิมยํ นานาปุปฺเผหิ สมากิณฺณํ ทิพฺพภูมึ ทิพฺพยาเนน อกฺกม, มหาราชาติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา มาตลิ ราชานํ เทวนครํ ปเวเสสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สหสฺสยุตฺตํ หยวาหึ, ทิพฺพยานมธิฏฺิโต;
ยายมาโน มหาราชา, อทฺทา เทวสภํ อิท’’นฺติ.
โส ทิพฺพยาเน ิโตว คจฺฉนฺโต สุธมฺมาเทวสภํ ทิสฺวา มาตลึ ปุจฺฉิ, โสปิสฺส อาจิกฺขิ.
‘‘ยถา สรเท อากาเส, นีโลภาโส ปทิสฺสติ;
ตถูปมํ อิทํ พฺยมฺหํ, เวฬุริยาสุ นิมฺมิตํ.
‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;
อิมํ นุ พฺยมฺหํ กิมภฺมาหุ, มโนรมํ ทิสฺสติ ทูรโตว.
‘‘ตสฺส ¶ ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;
วิปากํ ปฺุกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.
‘‘‘สุธมฺมา’ ¶ อิติ ยํ อาหุ, ปสฺเสสา ทิสฺสเต สภา;
เวฬุริยารุจิรา จิตฺรา, ธารยนฺติ สุนิมฺมิตา.
‘‘อฏฺํสา สุกตา ถมฺภา, สพฺเพ เวฬุริยามยา;
ยตฺถ เทวา ตาวตึสา, สพฺเพ อินฺทปุโรหิตา.
‘‘อตฺถํ เทวมนุสฺสานํ, จินฺตยนฺตา สมจฺฉเร;
ปวิเสเตน ราชีสิ, เทวานํ อนุโมทนนฺติ.
ตตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ, เทวสภํ อทฺทสาติ อตฺโถ. ปสฺเสสาติ ปสฺส เอสา. เวฬุริยา รุจิราติ รุจิรเวฬุริยา. จิตฺราติ นานารตนวิจิตฺรา. ธารยนฺตีติ อิมํ สภํ เอเต อฏฺํสาทิเภทา สุกตา ถมฺภา ธารยนฺติ. อินฺทปุโรหิตาติ อินฺทํ ปุโรหิตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา ปริวาเรตฺวา ¶ ิตา เทวมนุสฺสานํ อตฺถํ จินฺตยนฺตา อจฺฉนฺติ. ปวิเสเตนาติ อิมินา มคฺเคน ยตฺถ เทวา อฺมฺํ อนุโมทนฺตา อจฺฉนฺติ, ตํ านํ เทวานํ อนุโมทนํ ปวิส.
เทวาปิ โข ตสฺสาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตาว นิสีทึสุ. เต ‘‘ราชา อาคโต’’ติ สุตฺวา ทิพฺพคนฺธวาสปุปฺผหตฺถา ยาว จิตฺตกูฏทฺวารโกฏฺกา ปฏิมคฺคํ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ ทิพฺพคนฺธมาลาทีหิ ปูชยนฺตา สุธมฺมาเทวสภํ อานยึสุ. ราชา รถา โอตริตฺวา เทวสภํ ปาวิสิ. เทวา อาสเนน นิมนฺตยึสุ. สกฺโกปิ อาสเนน เจว กาเมหิ จ นิมนฺเตสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตํ เทวา ปฏินนฺทึสุ, ทิสฺวา ราชานมาคตํ;
สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
นิสีท ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก.
‘‘สกฺโกปิ ปฏินนฺทิตฺถ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ;
นิมนฺตยิตฺถ กาเมหิ, อาสเนน จ วาสโว.
‘‘สาธุ ¶ โขสิ อนุปฺปตฺโต, อาวาสํ วสวตฺตินํ;
วส เทเวสุ ราชีสิ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ;
ตาวตึเสสุ เทเวสุ, ภฺุช กาเม อมานุเส’’ติ.
ตตฺถ ปฏินนฺทึสูติ สมฺปิยายึสุ, หฏฺตุฏฺาว หุตฺวา สมฺปฏิจฺฉึสุ. สพฺพกามสมิทฺธิสูติ สพฺเพสํ กามานํ สมิทฺธิยุตฺเตสุ.
เอวํ สกฺเกน ทิพฺพกาเมหิ เจว อาสเนน จ นิมนฺติโต ราชา ปฏิกฺขิปนฺโต อาห –
‘‘ยถา ยาจิตกํ ยานํ, ยถา ยาจิตกํ ธนํ;
เอวํ สมฺปทเมเวตํ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา.
‘‘น ¶ จาหเมตมิจฺฉามิ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา;
สยํกตานิ ปฺุานิ, ตํ เม อาเวณิกํ ธนํ.
‘‘โสหํ ¶ คนฺตฺวา มนุสฺเสสุ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;
ยํ กตฺวา สุขิโต โหติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปตี’’ติ.
ตตฺถ ยํ ปรโต ทานปจฺจยาติ ยํ ปรโต ตสฺส ปรสฺส ทานปจฺจยา เตน ทินฺนตฺตา ลพฺภติ, ตํ ยาจิตกสทิสํ โหติ, ตสฺมา นาหํ เอตํ อิจฺฉามิ. สยํกตานีติ ยานิ ปน มยา อตฺตนา กตานิ ปฺุานิ, ตเมว มม ปเรหิ อสาธารณตฺตา อาเวณิกํ ธนํ อนุคามิยธนํ. สมจริยายาติ ตีหิ ทฺวาเรหิ สมจริยาย. สํยเมนาติ สีลรกฺขเณน. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน.
เอวํ มหาสตฺโต เทวานํ มธุรสทฺเทน ธมฺมํ เทเสสิ. ธมฺมํ เทเสนฺโตเยว มนุสฺสคณนาย สตฺต ทิวสานิ ตฺวา เทวคณํ โกเสตฺวา เทวคณมชฺเฌ ิโตว มาตลิสฺส คุณํ กเถนฺโต อาห –
‘‘พหูปกาโร โน ภวํ, มาตลิ เทวสารถิ;
โย เม กลฺยาณกมฺมานํ, ปาปานํ ปฏิทสฺสยี’’ติ.
ตตฺถ ¶ โย เม กลฺยาณกมฺมานํ, ปาปานํ ปฏิทสฺสยีติ โย เอส มยฺหํ กลฺยาณกมฺมานํ เทวานฺจ านานิ ปาปกมฺมานํ เนรยิกานฺจ ปาปานิ านานิ ทสฺเสสีติ อตฺโถ.
สคฺคกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
อถ ราชา สกฺกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘อิจฺฉามหํ, มหาราช, มนุสฺสโลกํ คนฺตุ’’นฺติ อาห. สกฺโก ‘‘เตน หิ, สมฺม มาตลิ, นิมิราชานํ ตตฺเถว มิถิลํ เนหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รถํ อุปฏฺาเปสิ. ราชา เทวคเณหิ สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา เทเว นิวตฺตาเปตฺวา รถํ อภิรุหิ. มาตลิ รถํ เปเสนฺโต ปาจีนทิสาภาเคน มิถิลํ ปาปุณิ. มหาชโน ทิพฺพรถํ ทิสฺวา ‘‘ราชา โน อาคโต’’ติ ปมุทิโต อโหสิ. มาตลิ มิถิลํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ตสฺมึเยว สีหปฺชเร มหาสตฺตํ โอตาเรตฺวา ‘‘คจฺฉามหํ, มหาราชา’’ติ อาปุจฺฉิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. มหาชโนปิ ราชานํ ปริวาเรตฺวา ‘‘กีทิโส, เทว, เทวโลโก’’ติ ปุจฺฉิ. ราชา เทวตานฺจ สกฺกสฺส จ เทวรฺโ สมฺปตฺตึ วณฺเณตฺวา ‘‘ตุมฺเหปิ ทานาทีนิ ¶ ปฺุานิ กโรถ, เอวํ ตสฺมึ เทวโลเก นิพฺพตฺติสฺสถา’’ติ มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ.
โส อปรภาเค กปฺปเกน ปลิตสฺส ชาตภาเว อาโรจิเต ปลิตํ สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธราเปตฺวา หตฺเถ เปตฺวา กปฺปกสฺส ¶ คามวรํ ทตฺวา ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ปุตฺตสฺส รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปสิ. เตน จ ‘‘กสฺมา, เทว, ปพฺพชิสฺสสี’’ติ วุตฺเต –
‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺหํ, อิเม ชาตา วโยหรา;
ปาหุภูตา เทวทูตา, ปพฺพชฺชาสมโย มมา’’ติ. –
คาถํ วตฺวา ปุริมราชาโน วิย ปพฺพชิตฺวา ตสฺมึเยว อมฺพวเน วิหรนฺโต จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ. ตสฺเสวํ ปพฺพชิตภาวํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –
‘‘อิทํ วตฺวา นิมิราชา, เวเทโห มิถิลคฺคโห;
ปุถุยฺํ ยชิตฺวาน, สํยมํ อชฺฌุปาคมี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อิทํ วตฺวาติ ‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺห’’นฺติ อิมํ คาถํ วตฺวา. ปุถุยฺํ ยชิตฺวานาติ มหาทานํ ทตฺวา. สํยมํ อชฺฌุปาคมีติ สีลสํยมํ อุปคโต.
ปุตฺโต ปนสฺส กาฬารชนโก นาม ตํ วํสํ อุปจฺฉินฺทิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, มาตลิ อานนฺโท, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ พุทฺธปริสา, นิมิราชา ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ’’นฺติ.
นิมิชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๕๔๒] ๕. อุมงฺคชาตกวณฺณนา
ปฺจาโล ¶ ¶ สพฺพเสนายาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ตถาคตสฺส ปฺาปารมึ วณฺณยนฺตา นิสีทึสุ ‘‘มหาปฺโ, อาวุโส, ตถาคโต ปุถุปฺโ คมฺภีรปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ปรปฺปวาทมทฺทโน, อตฺตโน ปฺานุภาเวน กูฏทนฺตาทโย พฺราหฺมเณ, สภิยาทโย ปริพฺพาชเก, องฺคุลิมาลาทโย โจเร, อาฬวกาทโย ยกฺเข, สกฺกาทโย เทเว, พกาทโย พฺรหฺมาโน จ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวเน อกาสิ, พหุชนกาเย ปพฺพชฺชํ ทตฺวา มคฺคผเลสุ ปติฏฺาเปสิ, เอวํ มหาปฺโ, อาวุโส, สตฺถา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ปฺวา, อตีเตปิ อปริปกฺเก าเณ โพธิาณตฺถาย จริยํ จรนฺโตปิ ปฺวาเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต วิเทหรฏฺเ มิถิลายํ เวเทโห นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสกา จตฺตาโร ปณฺฑิตา อเหสุํ เสนโก, ปุกฺกุโส, กามินฺโท, เทวินฺโท จาติ. ตทา ราชา โพธิสตฺตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส ปจฺจูสกาเล เอวรูปํ สุปินํ อทฺทส – ราชงฺคเณ จตูสุ โกเณสุ จตฺตาโร อคฺคิกฺขนฺธา มหาปาการปฺปมาณา อุฏฺาย ปชฺชลนฺติ. เตสํ มชฺเฌ ขชฺโชปนกปฺปมาโณ อคฺคิกฺขนฺโท อุฏฺหิตฺวา ตงฺขณฺเว จตฺตาโร อคฺคิกฺขนฺเธ อติกฺกมิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุฏฺาย สกลจกฺกวาฬํ โอภาเสตฺวา ิโต, ภูมิยํ ปติโต สาสปพีชมตฺตมฺปิ ปฺายติ. ตํ สเทวกา โลกา สมารกา สพฺรหฺมกา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชนฺติ, มหาชโน ชาลนฺตเรเนว จรติ, โลมกูปมตฺตมฺปิ อุณฺหํ น คณฺหาติ. ราชา อิมํ สุปินํ ทิสฺวา ภีตตสิโต อุฏฺาย ‘‘กึ นุ โข เม ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต นิสินฺนโกว อรุณํ อุฏฺาเปสิ.
จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา ปาโตวาคนฺตฺวา ‘‘กจฺจิ, เทว, สุขํ สยิตฺถา’’ติ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉึสุ. โส ‘‘กุโต เม สุขเสยฺยํ ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา ‘‘เอวรูโป ¶ เม สุปิโน ทิฏฺโ’’ติ สพฺพํ กเถสิ. อถ นํ เสนกปณฺฑิโต ‘‘มา ภายิ, มหาราช, มงฺคลสุปิโน เอส, วุทฺธิ โว ภวิสฺสตี’’ติ ¶ วตฺวา ‘‘กึ การณา อาจริยา’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาราช, อมฺเห จตฺตาโร ปณฺฑิเต อภิภวิตฺวา อฺโ โว ปฺจโม ปณฺฑิโต อุปฺปชฺชิสฺสติ, มยฺหิ จตฺตาโร ปณฺฑิตา จตฺตาโร อคฺคิกฺขนฺธา วิย, เตสํ มชฺเฌ อุปฺปนฺโน อคฺคิกฺขนฺโธ วิย อฺโ ปฺจโม ปณฺฑิโต อุปฺปชฺชิสฺสติ, โส สเทวเก โลเก อสทิโส ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘อิทานิ ปเนส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘มหาราช, อชฺช ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหเณน วา มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเนน วา ภวิตพฺพ’’นฺติ อตฺตโน สิปฺปพเลน ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺโ วิย พฺยากาสิ. ราชาปิ ตโต ปฏฺาย ตํ วจนํ อนุสฺสริ.
มิถิลายํ ปน จตูสุ ทฺวาเรสุ ปาจีนยวมชฺฌโก, ทกฺขิณยวมชฺฌโก, ปจฺฉิมยวมชฺฌโก, อุตฺตรยวมชฺฌโกติ จตฺตาโร คามา อเหสุํ. เตสุ ปาจีนยวมชฺฌเก ¶ สิริวฑฺฒโน นาม เสฏฺิ ปฏิวสติ, สุมนเทวี นามสฺส ภริยา อโหสิ. มหาสตฺโต ตํ ทิวสํ รฺา สุปินสฺส ทิฏฺเวลาย ตาวตึสภวนโต จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺมึเยว กาเล อปเรปิ เทวปุตฺตสหสฺสา ตาวตึสภวนโต จวิตฺวา ตสฺมึเยว คาเม เสฏฺานุเสฏฺีนํ กุเลสุ ปฏิสนฺธึ คณฺหึสุ. สุมนเทวีปิ ทสมาสจฺจเยน สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก มนุสฺสโลกํ โอโลเกนฺโต มหาสตฺตสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนภาวํ ตฺวา ‘‘อิมํ พุทฺธงฺกุรํ สเทวเก โลเก ปากฏํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาสตฺตสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตกฺขเณ อทิสฺสมานกาเยน คนฺตฺวา ตสฺส หตฺเถ เอกํ โอสธฆฏิกํ เปตฺวา สกฏฺานเมว คโต. มหาสตฺโต ตํ มุฏฺึ กตฺวา คณฺหิ. ตสฺมึ ปน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺเต มาตุ อปฺปมตฺตกมฺปิ ทุกฺขํ นาโหสิ, ธมกรณโต อุทกมิว สุเขน นิกฺขมิ.
สา ตสฺส หตฺเถ โอสธฆฏิกํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, กึ เต ลทฺธ’’นฺติ อาห. ‘‘โอสธํ, อมฺมา’’ติ ทิพฺโพสธํ มาตุ หตฺเถ เปสิ. เปตฺวา จ ปน ‘‘อมฺม, อิทํ โอสธํ เยน เกนจิ อาพาเธน อาพาธิกานํ เทถา’’ติ อาห. สา ตุฏฺปหฏฺา สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน อาโรเจสิ. ตสฺส ปน สตฺตวสฺสิโก สีสาพาโธ อตฺถิ. โส ตุฏฺปหฏฺโ หุตฺวา ‘‘อยํ มาตุกุจฺฉิโต ¶ ชายมาโน โอสธํ คเหตฺวา อาคโต, ชาตกฺขเณเยว มาตรา สทฺธึ กเถสิ, เอวรูเปน ปฺุวตา ทินฺนํ โอสธํ มหานุภาวํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ โอสธํ คเหตฺวา นิสทายํ ฆํสิตฺวา โถกํ นลาเฏ มกฺเขสิ. ตสฺมึ ขเณ ตสฺส สตฺตวสฺสิโก สีสาพาโธ ปทุมปตฺตโต อุทกํ วิย นิวตฺติตฺวา คโต. โส ‘‘มหานุภาวํ โอสธ’’นฺติ โสมนสฺสปฺปตฺโต อโหสิ. มหาสตฺตสฺส โอสธํ คเหตฺวา อาคตภาโว สพฺพตฺถ ปากโฏ ชาโต. เย เกจิ อาพาธิกา, สพฺเพ เสฏฺิสฺส เคหํ คนฺตฺวา โอสธํ ยาจนฺติ. สพฺเพสํ นิสทายํ ฆํสิตฺวา โถกํ คเหตฺวา อุทเกน อาโฬเลตฺวา เทติ ¶ . ทิพฺโพสเธน สรีเร มกฺขิตมตฺเตเยว สพฺพาพาธา วูปสมฺมนฺติ. สุขิตา มนุสฺสา ‘‘สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน เคเห โอสธสฺส มหนฺโต อานุภาโว’’ติ วณฺณยนฺตา ปกฺกมึสุ. มหาสตฺตสฺส ปน นามคฺคหณทิวเส ¶ มหาเสฏฺิ ‘‘มม ปุตฺตสฺส อยฺยกาทีนํ น นาเมน อตฺโถ อตฺถิ, ชายมานสฺส โอสธํ คเหตฺวา อาคตตฺตา โอสธนามโกว โหตู’’ติ วตฺวา ‘‘มโหสธกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามมกาสิ.
อิทฺจสฺส อโหสิ ‘‘มม ปุตฺโต มหาปฺุโ, น เอกโกว นิพฺพตฺติสฺสติ, อิมินา สทฺธึ ชาตทารเกหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ. โส โอโลกาเปนฺโต ทารกสหสฺสานํ นิพฺพตฺตภาวํ สุตฺวา สพฺเพสมฺปิ กุมารกานํ ปิฬนฺธนานิ ทตฺวา ธาติโย ทาเปสิ ‘‘ปุตฺตสฺส เม อุปฏฺากา ภวิสฺสนฺตี’’ติ. โพธิสตฺเตน สทฺธึเยว เตสํ มงฺคลฏฺาเน มงฺคลํ กาเรสิ. ทารเก อลงฺกริตฺวา มหาสตฺตสฺส อุปฏฺาตุํ อาเนนฺติ. โพธิสตฺโต เตหิ สทฺธึ กีฬนฺโต วฑฺฒิตฺวา สตฺตวสฺสิกกาเล สุวณฺณปฏิมา วิย อภิรูโป อโหสิ. อถสฺส คามมชฺเฌ เตหิ สทฺธึ กีฬนฺตสฺส หตฺถิอสฺสาทีสุ อาคจฺฉนฺเตสุ กีฬามณฺฑลํ ภิชฺชติ. วาตาตปปหรณกาเล ทารกา กิลมนฺติ. เอกทิวสฺจ เตสํ กีฬนฺตานํเยว อกาลเมโฆ อุฏฺหิ. ตํ ทิสฺวา นาคพโล โพธิสตฺโต ธาวิตฺวา เอกสาลํ ปาวิสิ. อิตเร ทารกา ปจฺฉโต ธาวนฺตา อฺมฺสฺส ปาเทสุ ปหริตฺวา อุปกฺขลิตฺวา ปติตา ชณฺณุกเภทาทีนิ ปาปุณึสุ. โพธิสตฺโตปิ ‘‘อิมสฺมึ าเน กีฬาสาลํ กาตุํ วฏฺฏติ, เอวํ วาเต วา วสฺเส ¶ วา อาตเป วา อาคเต น กิลมิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา เต ทารเก อาห – ‘‘สมฺมา, อิมสฺมึ าเน วาเต วา วสฺเส วา อาตเป วา อาคเต านนิสชฺชสยนกฺขมํ เอกํ สาลํ กาเรสฺสาม, เอเกกํ กหาปณํ อาหรถา’’ติ. เต ตถา กรึสุ.
มหาสตฺโต มหาวฑฺฒกึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน สาลํ กโรหี’’ติ สหสฺสํ อทาสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สหสฺสํ คเหตฺวา ขาณุกณฺฏเก โกฏฺเฏตฺวา ภูมึ สมํ กาเรตฺวา สุตฺตํ ปสาเรสิ. มหาสตฺโต ตสฺส สุตฺตปสารณวิธานํ อนาราเธนฺโต ‘‘อาจริย, เอวํ อปสาเรตฺวา สาธุกํ ปสาเรหี’’ติ อาห. สามิ, อหํ อตฺตโน สิปฺปานุรูเปน ปสาเรสึ, อิโต อฺํ น ชานามีติ. ‘เอตฺตกํ อชานนฺโต ตฺวํ อมฺหากํ ธนํ คเหตฺวา สาลํ กถํ กริสฺสสิ, อาหร, สุตฺตํ ปสาเรตฺวา เต ทสฺสามี’’ติ อาหราเปตฺวา สยํ สุตฺตํ ปสาเรสิ. ตํ วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตสฺส ปสาริตํ วิย ¶ อโหสิ. ตโต วฑฺฒกึ อาห ‘‘เอวํ ปสาเรตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ? ‘‘น สกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘มม วิจารณาย ปน กาตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. ‘‘สกฺขิสฺสามิ, สามี’’ติ. มหาสตฺโต ยถา ตสฺสา สาลาย เอกสฺมึ ปเทเส อนาถานํ วสนฏฺานํ ¶ โหติ, เอกสฺมึ อนาถานํ อิตฺถีนํ วิชายนฏฺานํ, เอกสฺมึ อาคนฺตุกสมณพฺราหฺมณานํ วสนฏฺานํ, เอกสฺมึ อาคนฺตุกมนุสฺสานํ วสนฏฺานํ, เอกสฺมึ อาคนฺตุกวาณิชานํ ภณฺฑฏฺปนฏฺานํ โหติ, ตถา สพฺพานิ านานิ พหิมุขานิ กตฺวา สาลํ วิจาเรสิ. ตตฺเถว กีฬามณฺฑลํ, ตตฺเถว วินิจฺฉยํ, ตตฺเถว ธมฺมสภํ กาเรสิ. กติปาเหเนว นิฏฺิตาย สาลาย จิตฺตกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา สยํ วิจาเรตฺวา รมณียํ จิตฺตกมฺมํ กาเรสิ. สาลา สุธมฺมาเทวสภาปฏิภาคา อโหสิ.
ตโต ‘‘น เอตฺตเกน สาลา โสภติ, โปกฺขรณึ ปน กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ โปกฺขรณึ ขณาเปตฺวา อิฏฺกวฑฺฒกึ ปกฺโกสาเปตฺวา สยํ วิจาเรตฺวา สหสฺสวงฺกํ สตติตฺถํ โปกฺขรณึ กาเรสิ. สา ปฺจวิธปทุมสฺฉนฺนา นนฺทาโปกฺขรณี วิย อโหสิ. ตสฺสา ตีเร ปุปฺผผลธเร นานารุกฺเข โรปาเปตฺวา นนฺทนวนกปฺปํ อุยฺยานํ กาเรสิ. ตเมว จ สาลํ นิสฺสาย ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺเจว อาคนฺตุกคมิกาทีนฺจ ทานวตฺตํ ปฏฺเปสิ. ตสฺส สา กิริยา สพฺพตฺถ ปากฏา อโหสิ ¶ . พหู มนุสฺสา โอสรนฺติ. มหาสตฺโต สาลาย นิสีทิตฺวา สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ การณาการณํ ยุตฺตายุตฺตํ กเถสิ, วินิจฺฉยํ เปสิ, พุทฺธุปฺปาทกาโล วิย อโหสิ.
เวเทหราชาปิ สตฺตวสฺสจฺจเยน ‘‘จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘อมฺเห อภิภวิตฺวา ปฺจโม ปณฺฑิโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ เม กถยึสุ, กตฺถ โส เอตรหี’’ติ สริตฺวา ‘‘ตสฺส วสนฏฺานํ ชานาถา’’ติ จตูหิ ทฺวาเรหิ จตฺตาโร อมจฺเจ เปเสสิ. เสสทฺวาเรหิ นิกฺขนฺตา อมจฺจา มหาสตฺตํ น ปสฺสึสุ. ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขนฺโต อมจฺโจ ปน สาลาทีนิ ทิสฺวา ‘‘ปณฺฑิเตน นาม อิมิสฺสา สาลาย การเกน วา การาปเกน วา ภวิตพฺพ’’นฺติ ¶ จินฺเตตฺวา มนุสฺเส ปุจฺฉิ ‘‘อยํ สาลา กตรวฑฺฒกินา กตา’’ติ? มนุสฺสา ‘‘นายํ วฑฺฒกินา กตา, สิริวฑฺฒนเสฏฺิปุตฺเตน มโหสธปณฺฑิเตน อตฺตโน ปฺาพเลน วิจาเรตฺวา กตา’’ติ วทึสุ. ‘‘กติวสฺโส ปน ปณฺฑิโต’’ติ? ‘‘ปริปุณฺณสตฺตวสฺโส’’ติ. อมจฺโจ รฺา ทิฏฺสุปินทิวสโต ปฏฺาย วสฺสํ คเณตฺวา ‘‘รฺโ ทิฏฺสุปิเนน สเมติ, อยเมว โส ปณฺฑิโต’’ติ รฺโ ทูตํ เปเสสิ ‘‘เทว, ปาจีนยวมชฺฌกคาเม สิริวฑฺฒนเสฏฺิปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต นาม สตฺตวสฺสิโกว สมาโน เอวรูปํ นาม สาลํ วิจาเรสิ, โปกฺขรณึ อุยฺยานฺจ กาเรสิ, อิมํ ปณฺฑิตํ คเหตฺวา อาเนมี’’ติ. ราชา ตํ กถํ สุตฺวาว ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา เสนกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘กึ, อาจริย, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ลาภํ มจฺฉรายนฺโต ‘‘มหาราช, สาลาทีนํ การาปิตมตฺเตน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, โย โกจิ เอตานิ กาเรติ, อปฺปมตฺตกํ เอต’’นฺติ อาห. โส ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘ภวิตพฺพเมตฺถ ¶ การเณนา’’ติ ตุณฺหี หุตฺวา ‘‘ตตฺเถว วสนฺโต ปณฺฑิตํ วีมํสตู’’ติ อมจฺจสฺส ทูตํ ปฏิเปเสสิ. ตํ สุตฺวา อมจฺโจ ตตฺเถว วสนฺโต ปณฺฑิตํ วีมํสิ.
สตฺตทารกปฺโห
ตตฺริทํ วีมํสนุทฺทานํ –
‘‘มํสํ โคโณ คนฺถิ สุตฺตํ, ปุตฺโต โคโต รเถน จ;
ทณฺโฑ สีสํ อหี เจว, กุกฺกุโฏ มณิ วิชายนํ;
โอทนํ วาลุกฺจาปิ, ตฬากุยฺยานํ คทฺรโภ มณี’’ติ.
ตตฺถ ¶ มํสนฺติ เอกทิวสํ โพธิสตฺเต กีฬามณฺฑลํ คจฺฉนฺเต เอโก เสโน สูนผลกโต มํสเปสึ คเหตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. ตํ ทิสฺวา ทารกา ‘‘มํสเปสึ ฉฑฺฑาเปสฺสามา’’ติ เสนํ อนุพนฺธึสุ. เสโน อิโต จิโต จ ธาวติ. เต อุทฺธํ โอโลเกตฺวา ตสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉโต คจฺฉนฺตา ปาสาณาทีสุ อุปกฺขลิตฺวา กิลมนฺติ. อถ เน ปณฺฑิโต อาห ‘‘ฉฑฺฑาเปสฺสามิ น’’นฺติ. ‘‘ฉฑฺฑาเปหิ สามี’’ติ. ‘‘เตน หิ ปสฺสถา’’ติ โส อุทฺธํ อโนโลเกตฺวาว วาตเวเคน ธาวิตฺวา เสนสฺส ฉายํ อกฺกมิตฺวา ปาณึ ปหริตฺวา มหารวํ รวิ. ตสฺส เตเชน โส สทฺโท เสนสฺส กุจฺฉิยํ วินิวิชฺฌิตฺวา นิจฺฉาริโต วิย อโหสิ. โส ภีโต มํสํ ฉฑฺเฑสิ. มหาสตฺโต ฉฑฺฑิตภาวํ ตฺวา ฉายํ โอโลเกนฺโตว ภูมิยํ ปติตุํ ¶ อทตฺวา อากาเสเยว สมฺปฏิจฺฉิ. ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา มหาชโน นทนฺโต วคฺคนฺโต อปฺโผเฏนฺโต มหาสทฺทํ อกาสิ. อมจฺโจ ตํ ปวตฺตึ ตฺวา รฺโ ทูตํ เปเสสิ ‘‘ปณฺฑิโต อิมินา อุปาเยน มํสเปสึ ฉฑฺฑาเปสิ, อิทํ เทโว ชานาตู’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ? โส จินฺเตสิ ‘‘ตสฺส อิธาคตกาลโต ปฏฺาย มยํ นิปฺปภา ภวิสฺสาม, อตฺถิภาวมฺปิ โน ราชา น ชานิสฺสติ, น ตํ อาเนตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส พลวลาภมจฺฉริยตาย ‘‘มหาราช, เอตฺตเกน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, อปฺปมตฺตกํ กิฺจิ เอต’’นฺติ อาห. ราชา มชฺฌตฺโตว หุตฺวา ‘‘ตตฺเถว นํ วีมํสตู’’ติ ปุน เปเสสิ.
โคโณติ เอโก ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสี ปุริโส ‘‘วสฺเส ปติเต กสิสฺสามี’’ติ คามนฺตรโต โคเณ กิณิตฺวา อาเนตฺวา เคเห วสาเปตฺวา ปุนทิวเส โคจรตฺถาย ติณภูมึ อาเนตฺวา โคณปิฏฺเ นิสินฺโน กิลนฺตรูโป โอตริตฺวา รุกฺขมูเล นิปนฺโนว นิทฺทํ โอกฺกมิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก โจโร โคเณ คเหตฺวา ปลายิ. โส ปพุชฺฌิตฺวา โคเณ อปสฺสนฺโต อิโต จิโต ¶ จ โอโลเกตฺวา โคเณ คเหตฺวา ปลายนฺตํ โจรํ ทิสฺวา เวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ‘‘กุหึ เม โคเณ เนสี’’ติ อาห. ‘‘มม โคเณ อตฺตโน อิจฺฉิตฏฺานํ เนมี’’ติ. เตสํ วิวาทํ สุตฺวา มหาชโน สนฺนิปติ. ปณฺฑิโต เตสํ สาลาทฺวาเรน คจฺฉนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา อุโภปิ ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ กิริยํ ทิสฺวาว ‘‘อยํ ¶ โจโร, อยํ โคณสามิโก’’ติ ชานาติ. ชานนฺโตปิ ‘‘กสฺมา วิวทถา’’ติ ปุจฺฉิ. โคณสามิโก อาห – ‘‘สามิ, อิเม อหํ อสุกคามโต อสุกสฺส นาม หตฺถโต กิณิตฺวา อาเนตฺวา เคเห วสาเปตฺวา โคจรตฺถาย ติณภูมึ เนสึ, ตตฺถ มม ปมาทํ ทิสฺวา อยํ โคเณ คเหตฺวา ปลายิ. สฺวาหํ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต อิมํ ทิสฺวา อนุพนฺธิตฺวา คณฺหึ, อสุกคามวาสิโน มยา เอเตสํ กิณิตฺวา คหิตภาวํ ชานนฺตี’’ติ. โจโร ปน ‘‘มเมเต ฆรชาติกา, อยํ มุสา ภณตี’’ติ อาห.
อถ เน ปณฺฑิโต ‘‘อหํ โว อฑฺฑํ ธมฺเมน วินิจฺฉินิสฺสามิ, สฺสถ เม วินิจฺฉเย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, สามิ, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาชนสฺส มนํ คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปมํ โจรํ ปุจฺฉิ ‘‘ตยา อิเม โคณา กึ ขาทาปิตา กึ ปายิตา’’ติ? ‘‘ยาคุํ ปายิตา ติลปิฏฺฺจ มาเส จ ขาทาปิตา’’ติ. ตโต โคณสามิกํ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘สามิ, กุโต เม ทุคฺคตสฺส ยาคุอาทีนิ ลทฺธานิ, ติณเมว ขาทาปิตา’’ติ. ปณฺฑิโต เตสํ กถํ ปริสํ คาหาเปตฺวา ปิยงฺคุปตฺตานิ อาหราเปตฺวา โกฏฺฏาเปตฺวา อุทเกน มทฺทาเปตฺวา โคเณ ปาเยสิ. โคณา ติณเมว ฉฑฺฑยึสุ. ปณฺฑิโต ‘‘ปสฺสเถต’’นฺติ มหาชนสฺส ทสฺเสตฺวา โจรํ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ โจโรสิ, น โจโรสี’’ติ? โส ‘‘โจโรมฺหี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ ตฺวํ อิโต ปฏฺาย มา เอวรูปมกาสี’’ติ โอวทิ. โพธิสตฺตสฺส ปริสา ปน ตํ หตฺถปาเทหิ โกฏฺเฏตฺวา ทุพฺพลมกาสิ. อถ นํ ปณฺฑิโต ‘‘ทิฏฺธมฺเมเยว ตาว อิมํ ทุกฺขํ ลภสิ, สมฺปราเย ปน นิรยาทีสุ มหาทุกฺขํ อนุภวิสฺสสิ, สมฺม, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย ปชเหตํ กมฺม’’นฺติ วตฺวา ตสฺส ปฺจ สีลานิ อทาสิ. อมจฺโจ ตํ ปวตฺตึ ยถาภูตํ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. ‘‘โคณอฑฺฑํ นาม, มหาราช, เย เกจิ วินิจฺฉินนฺติ, อาคเมหิ ตาวา’’ติ วุตฺเต ราชา มชฺฌตฺโต หุตฺวา ปุน ตเถว สาสนํ เปเสสิ. สพฺพฏฺาเนสุปิ เอวํ เวทิตพฺพํ. อิโต ปรํ ปน อุทฺทานมตฺตเมว วิภชิตฺวา ทสฺสยิสฺสามาติ.
คนฺถีติ เอกา ทุคฺคติตฺถี นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ คนฺถิเก พนฺธิตฺวา กตํ สุตฺตคนฺถิตปิฬนฺธนํ คีวโต โมเจตฺวา สาฏกสฺส อุปริ เปตฺวา นฺหายิตุํ ¶ ปณฺฑิเตน การิตโปกฺขรณึ โอตริ. อปรา ตรุณิตฺถี ตํ ทิสฺวา โลภํ อุปฺปาเทตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ‘‘อมฺม, อติวิย โสภนํ อิทํ กิตฺตเกน เต กตํ, อหมฺปิ อตฺตโน เอวรูปํ ¶ กริสฺสามิ, คีวาย ¶ ปิฬนฺธิตฺวา ปมาณํ ตาวสฺส อุปธาเรมี’’ติ วตฺวา ตาย อุชุจิตฺตตาย ‘‘อุปธาเรหี’’ติ วุตฺเต คีวาย ปิฬนฺธิตฺวา ปกฺกามิ. อิตรา ตํ ทิสฺวา สีฆํ อุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา อุปธาวิตฺวา ‘‘กหํ เม ปิฬนฺธนํ คเหตฺวา ปลายิสฺสสี’’ติ สาฏเก คณฺหิ. อิตรา ‘‘นาหํ ตว สนฺตกํ คณฺหามิ, มม คีวายเมว ปิฬนฺธน’’นฺติ อาห. มหาชโน ตํ สุตฺวา สนฺนิปติ. ปณฺฑิโต ทารเกหิ สทฺธึ กีฬนฺโต ตาสํ กลหํ กตฺวา สาลาทฺวาเรน คจฺฉนฺตีนํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ สทฺโท เอโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อุภินฺนํ กลหการณํ สุตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา อากาเรเนว โจริฺจ อโจริฺจ ตฺวาปิ ตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ โว ธมฺเมน วินิจฺฉินิสฺสามิ, มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสาม, สามี’’ติ วุตฺเต ปมํ โจรึ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ อิมํ ปิฬนฺธนํ ปิฬนฺธนฺตี กตรคนฺธํ วิลิมฺปสี’’ติ? ‘‘อหํ นิจฺจํ สพฺพสํหารกํ วิลิมฺปามี’’ติ. สพฺพสํหารโก นาม สพฺพคนฺเธหิ โยเชตฺวา กตคนฺโธ. ตโต อิตรํ ปุจฺฉิ. สา อาห ‘‘กุโต, สามิ, ลทฺโธ ทุคฺคตาย มยฺหํ สพฺพสํหารโก, อหํ นิจฺจํ ปิยงฺคุปุปฺผคนฺธเมว วิลิมฺปามี’’ติ. ปณฺฑิโต อุทกปาตึ อาหราเปตฺวา ตํ ปิฬนฺธนํ ตตฺถ ปกฺขิปาเปตฺวา คนฺธิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอตํ คนฺธํ อุปสิงฺฆิตฺวา อสุกคนฺธภาวํ ชานาหี’’ติ อาห. โส อุปสิงฺฆนฺโต ปิยงฺคุปุปฺผภาวํ ตฺวา อิมํ เอกกนิปาเต คาถมาห –
‘‘สพฺพสํหารโก นตฺถิ, สุทฺธํ กงฺคุ ปวายติ;
อลิกํ ภาสติยํ ธุตฺตี, สจฺจมาหุ มหลฺลิกา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๑๐);
ตตฺถ ธุตฺตีติ ธุตฺติกา. อาหูติ อาห, อยเมว วา ปาโ.
เอวํ มหาสตฺโต ตํ การณํ มหาชนํ ชานาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ โจรีสิ, น โจรีสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา โจริภาวํ ปฏิชานาเปสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺตสฺส ปณฺฑิตภาโว ปากโฏ ชาโต.
สุตฺตนฺติ เอกา กปฺปาสกฺเขตฺตรกฺขิกา อิตฺถี กปฺปาสกฺเขตฺตํ รกฺขนฺตี ตตฺเถว ปริสุทฺธํ กปฺปาสํ คเหตฺวา สุขุมสุตฺตํ กนฺติตฺวา คุฬํ กตฺวา อุจฺฉงฺเค ¶ เปตฺวา คามํ อาคจฺฉนฺตี ‘‘ปณฺฑิตสฺส โปกฺขรณิยํ นฺหายิสฺสามี’’ติ ตีรํ คนฺตฺวา สาฏกํ มฺุจิตฺวา สาฏกสฺส อุปริ สุตฺตคุฬํ เปตฺวา โอตริตฺวา โปกฺขรณิยํ นฺหายติ. อปรา ตํ ทิสฺวา ลุทฺธจิตฺตตาย ตํ คเหตฺวา ‘‘อโห มนาปํ สุตฺตํ, อมฺม, ตยา กต’’นฺติ อจฺฉรํ ปหริตฺวา โอโลเกนฺตี วิย อุจฺฉงฺเค กตฺวา ปกฺกามิ. เสสํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. ปณฺฑิโต ปมํ โจรึ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ คุฬํ กโรนฺตี อนฺโต กึ ปกฺขิปิตฺวา อกาสี’’ติ? ‘‘กปฺปาสผลฏฺิเมว สามี’’ติ. ตโต อิตรํ ¶ ปุจฺฉิ. สา ‘‘สามิ ติมฺพรุอฏฺิ’’นฺติ อาห. โส อุภินฺนํ วจนํ ปริสํ คาหาเปตฺวา สุตฺตคุฬํ นิพฺเพาเปตฺวา ติมฺพรุอฏฺึ ทิสฺวา ตํ โจริภาวํ สํปฏิจฺฉาเปสิ. มหาชโน หฏฺตุฏฺโ ‘‘สุวินิจฺฉิโต อฑฺโฑ’’ติ สาธุการสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ.
ปุตฺโตติ เอกทิวสํ เอกา อิตฺถี ปุตฺตํ อาทาย มุขโธวนตฺถาย ปณฺฑิตสฺส โปกฺขรณึ คนฺตฺวา ปุตฺตํ นฺหาเปตฺวา อตฺตโน สาฏเก นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน มุขํ โธวิตุํ โอตริ. ตสฺมึ ขเณ เอกา ยกฺขินี ตํ ทารกํ ทิสฺวา ขาทิตุกามา หุตฺวา อิตฺถิเวสํ คเหตฺวา ‘‘สหายิเก, โสภติ วตายํ ทารโก, ตเวโส ปุตฺโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ปาเยมิ น’’นฺติ วตฺวา ‘‘ปาเยหี’’ติ วุตฺตา ตํ คเหตฺวา โถกํ กีฬาเปตฺวา อาทาย ปลายิ. อิตรา ตํ ทิสฺวา ธาวิตฺวา ‘‘กุหึ เม ปุตฺตํ เนสี’’ติ คณฺหิ. ยกฺขินี ‘‘กุโต ตยา ปุตฺโต ลทฺโธ, มเมโส ปุตฺโต’’ติ อาห. ตา กลหํ กโรนฺติโย สาลาทฺวาเรน คจฺฉนฺติ. ปณฺฑิโต ตํ กลหสทฺทํ สุตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา ตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต อกฺขีนํ อนิมิสตาย เจว ¶ รตฺตตาย จ นิราสงฺกตาย จ ฉายาย อภาวตาย จ ‘‘อยํ ยกฺขินี’’ติ ตฺวาปิ ‘‘มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ภูมิยํ เลขํ กฑฺฒยิตฺวา เลขามชฺเฌ ทารกํ นิปชฺชาเปตฺวา ยกฺขินึ หตฺเถสุ, มาตรํ ปาเทสุ คาหาเปตฺวา ‘‘ทฺเวปิ กฑฺฒิตฺวา คณฺหถ, กฑฺฒิตุํ สกฺโกนฺติยา เอว ปุตฺโต’’ติ อาห.
ตา อุโภปิ กฑฺฒึสุ. ทารโก กฑฺฒิยมาโน ทุกฺขปฺปตฺโต หุตฺวา วิรวิ. มาตา หทเยน ผลิเตน วิย หุตฺวา ปุตฺตํ มฺุจิตฺวา โรทมานา อฏฺาสิ. ปณฺฑิโต มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺโภ, ทารเก, มาตุ หทยํ มุทุกํ โหติ, อุทาหุ อมาตู’’ติ. ‘‘มาตุ หทยํ มุทุกํ โหตี’’ติ. ‘‘กึ ทานิ ทารกํ ¶ คเหตฺวา ิตา มาตา โหติ, อุทาหุ วิสฺสชฺเชตฺวา ิตา’’ติ? ‘‘วิสฺสชฺเชตฺวา ิตา ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘อิมํ ปน ทารกโจรึ ตุมฺเห ชานาถา’’ติ? ‘‘น ชานาม, ปณฺฑิตา’’ติ. อถ เน ปณฺฑิโต อาห – ‘‘ยกฺขินี เอสา, เอตํ ขาทิตุํ คณฺหี’’ติ. ‘‘กถํ ชานาสิ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘อกฺขีนํ อนิมิสตาย เจว รตฺตตาย จ นิราสงฺกตาย จ ฉายาย อภาเวน จ นิกฺกรุณตาย จา’’ติ. อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ? ‘‘ยกฺขินีมฺหิ สามี’’ติ. ‘‘กสฺมา อิมํ ทารกํ คณฺหี’’ติ? ‘‘ขาทิตุํ คณฺหามิ, สามี’’ติ. ‘‘อนฺธพาเล, ตฺวํ ปุพฺเพปิ ปาปกมฺมํ กตฺวา ยกฺขินี ชาตาสิ, อิทานิ ปุนปิ ปาปํ กโรสิ, อโห อนฺธพาลาสี’’ติ วตฺวา ตํ ปฺจสีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย เอวรูปํ ปาปกมฺมํ มา อกาสี’’ติ วตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. ทารกมาตาปิ ทารกํ ลภิตฺวา ‘‘จิรํ ชีวตุ สามี’’ติ ปณฺฑิตํ โถเมตฺวา ปุตฺตํ อาทาย ปกฺกามิ.
โคโตติ ¶ เอโก กิร ลกุณฺฑกตฺตา โคโต, กาฬวณฺณตา จ กาโฬติ โคตกาโฬ นาม ปุริโส สตฺตสํวจฺฉรานิ กมฺมํ กตฺวา ภริยํ ลภิ. สา นาเมน ทีฆตาลา นาม. โส เอกทิวสํ ตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปูวขาทนียํ ปจาหิ, มาตาปิตโร ทฏฺุํ คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา ‘‘กึ เต มาตาปิตูหี’’ติ ตาย ปฏิกฺขิตฺโตปิ ยาวตติยํ วตฺวา ปูวขาทนียํ ปจาเปตฺวา ปาเถยฺยฺเจว ปณฺณาการฺจ อาทาย ตาย สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค อุตฺตานวาหินึ เอกํ นทึ อทฺทส. เต ปน ทฺเวปิ อุทกภีรุกชาติกาว, ตสฺมา ตํ อุตฺตริตุํ อวิสหนฺตา ตีเร อฏฺํสุ. ตทา ทีฆปิฏฺิ นาเมโก ทุคฺคตปุริโส อนุวิจรนฺโต ตํ านํ ปาปุณิ. อถ นํ เต ทิสฺวา ปุจฺฉึสุ ‘‘สมฺม, อยํ นที คมฺภีรา อุตฺตานา’’ติ. โส เตสํ กถํ สุตฺวา อุทกภีรุกภาวํ ตฺวา ‘‘สมฺม, อยํ นที คมฺภีรา พหุจณฺฑมจฺฉากิณฺณา’’ติ อาห. ‘‘สมฺม, กถํ ตฺวํ คมิสฺสสี’’ติ? โส อาห – ‘‘สํสุมารมกรานํ อมฺเหหิ ปริจโย อตฺถิ, เตน เต อมฺเห น วิเหเนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม, อมฺเหปิ เนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺส เต ขชฺชโภชนํ อทํสุ. โส กตภตฺตกิจฺโจ ‘‘สมฺม, กํ ปมํ เนมี’’ติ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘ตว สหายิกํ ปมํ เนหิ, มํ ปจฺฉา เนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ขนฺเธ กตฺวา ปาเถยฺยฺเจว ปณฺณาการฺจ คเหตฺวา นทึ โอตริตฺวา โถกํ คนฺตฺวา อุกฺกุฏิโก นิสีทิตฺวา ปกฺกามิ.
โคตกาโฬ ¶ ตีเร ิโตว ‘‘คมฺภีราวตายํ นที, เอวํ ทีฆสฺสปิ นาม เอวรูปา, มยฺหํ ปน อปสยฺหาว ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสิ. อิตโรปิ ตํ นทีมชฺฌํ เนตฺวา ‘‘ภทฺเท, อหํ ตํ โปเสสฺสามิ, สมฺปนฺนวตฺถาลงฺการา ทาสิทาสปริวุตา วิจริสฺสสิ, กึ เต อยํ ลกุณฺฑกวามนโก กริสฺสติ, มม วจนํ กโรหี’’ติ อาห. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวาว อตฺตโน สามิเก สิเนหํ ภินฺทิตฺวา ตํขณฺเว ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา ‘‘สามิ, สเจ มํ น ฉฑฺเฑสฺสสิ, กริสฺสามิ เต วจน’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉิ. ‘‘ภทฺเท, กึ วเทสิ, อหํ ตํ โปเสสฺสามี’’ติ. เต ปรตีรํ คนฺตฺวา อุโภปิ สมคฺคา สมฺโมทมานา ‘‘โคตกาฬํ ปหาย ติฏฺ ตฺว’’นฺติ วตฺวา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ขาทนียํ ขาทนฺตา ปกฺกมึสุ. โส ทิสฺวา ‘‘อิเม เอกโต หุตฺวา มํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺติ ¶ มฺเ’’ติ อปราปรํ ธาวนฺโต โถกํ โอตริตฺวา ภเยน นิวตฺติตฺวา ปุน เตสุ โกเปน ‘‘ชีวามิ วา มรามิ วา’’ติ อุลฺลงฺฆิตฺวา นทิยํ ปติโต อุตฺตานภาวํ ตฺวา นทึ อุตฺตริตฺวา เวเคน ตํ ปาปุณิตฺวา ‘‘อมฺโภ ทุฏฺโจร, กุหึ เม ภริยํ เนสี’’ติ อาห. อิตโรปิ ตํ ‘‘อเร ทุฏฺวามนก, กุโต ตว ภริยา, มเมสา ภริยา’’ติ วตฺวา คีวายํ คเหตฺวา ขิปิ. โส ทีฆตาลํ หตฺเถ คเหตฺวา’’ติฏฺ ตฺวํ กุหึ คจฺฉสิ, สตฺต สํวจฺฉรานิ ¶ กมฺมํ กตฺวา ลทฺธภริยา เมสี’’ติ วตฺวา เตน สทฺธึ กลหํ กโรนฺโต สาลาย สนฺติกํ ปาปุณิ. มหาชโน สนฺนิปติ.
ปณฺฑิโต ‘‘กึ สทฺโท นาเมโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เต อุโภปิ ปกฺโกสาเปตฺวา วจนปฺปฏิวจนํ สุตฺวา ‘‘มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ปมํ ทีฆปิฏฺึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ โกนาโมสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ทีฆปิฏฺิโก นาม, สามี’’ติ. ‘‘ภริยา เต กา นามา’’ติ? โส ตสฺสา นามํ อชานนฺโต อฺํ กเถสิ. ‘‘มาตาปิตโร เต เก นามา’’ติ? ‘‘อสุกา นามา’’ติ. ‘‘ภริยาย ปน เต มาตาปิตโร เก นามา’’ติ? โส อชานิตฺวา อฺํ กเถสิ. ตสฺส กถํ ปริสํ คาหาเปตฺวา ตํ อปเนตฺวา อิตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุริมนเยเนว สพฺเพสํ นามานิ ปุจฺฉิ. โส ยถาภูตํ ชานนฺโต อวิรชฺฌิตฺวา กเถสิ. ตมฺปิ อปเนตฺวา ทีฆตาลํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ กา นามา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ทีฆตาลา นาม สามี’’ติ. ‘‘สามิโก เต โกนาโม’’ติ? สา อชานนฺตี อฺํ กเถสิ. ‘‘มาตาปิตโร เต เก นามา’’ติ. ‘‘อสุกา นาม สามี’’ติ. ‘‘สามิกสฺส ปน เต มาตาปิตโร เก นามา’’ติ? สาปิ วิลปนฺตี อฺํ กเถสิ ¶ . อิตเร ทฺเว ปกฺโกสาเปตฺวา มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ อิมิสฺสา ทีฆปิฏฺิสฺส วจเนน สเมติ, อุทาหุ โคตกาฬสฺสา’’ติ. ‘‘โคตกาฬสฺส ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘อยํ เอติสฺสา สามิโก, อิตโร โจโร’’ติ. อถ นํ ‘‘โจโรสิ, น โจโรสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, สามิ, โจโรมฺหี’’ติ โจรภาวํ สมฺปฏิจฺฉิ. ปณฺฑิตสฺส วินิจฺฉเยน โคตกาโฬ อตฺตโน ภริยํ ลภิตฺวา มหาสตฺตํ โถเมตฺวา ตํ อาทาย ปกฺกามิ. ปณฺฑิโต ทีฆปิฏฺิมาห ‘‘มา ปุน เอวมกาสี’’ติ.
รเถน จาติ เอกทิวสํ เอโก ปน ปุริโส รเถ นิสีทิตฺวา มุขโธวนตฺถาย นิกฺขมิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ปณฺฑิตํ ทิสฺวา ‘‘มโหสธพุทฺธงฺกุรสฺส ปฺานุภาวํ ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มนุสฺสเวเสนาคนฺตฺวา รถสฺส ปจฺฉาภาคํ คเหตฺวา ปายาสิ. รเถ นิสินฺโน ปุริโส ‘‘ตาต, เกนตฺเถนาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุมฺเห อุปฏฺาตุ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ยานา โอรุยฺห สรีรกิจฺจตฺถาย คโต. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก รถํ อภิรุหิตฺวา เวเคน ปาเชสิ. รถสามิโก ปน สรีรกิจฺจํ กตฺวา นิกฺขนฺโต สกฺกํ รถํ คเหตฺวา ปลายนฺตํ ทิสฺวา เวเคน คนฺตฺวา ‘‘ติฏฺ ติฏฺ, กุหึ เม รถํ เนสี’’ติ วตฺวา ‘‘ตว รโถ อฺโ ภวิสฺสติ, อยํ ปน มม รโถ’’ติ วุตฺเต เตน สทฺธึ กลหํ กโรนฺโต สาลาทฺวารํ ปตฺโต. ปณฺฑิโต ‘‘กึ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา เต ปกฺโกสาเปตฺวา อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา นิพฺภยตาย เจว อกฺขีนํ อนิมิสตาย จ ‘‘อยํ สกฺโก, อยํ รถสามิโก’’ติ อฺาสิ, เอวํ สนฺเตปิ วิวาทการณํ ¶ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ รถํ ปาเชสฺสามิ, ตุมฺเห ทฺเวปิ รถํ ปจฺฉโต คเหตฺวา คจฺฉถ, รถสามิโก น วิสฺสชฺเชสฺสติ, อิตโร วิสฺสชฺเชสฺสตี’’ติ วตฺวา ปุริสํ อาณาเปสิ ‘‘รถํ ปาเชหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ.
อิตเรปิ ทฺเว ปจฺฉโต คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. รถสามิโก โถกํ คนฺตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา ิโต, สกฺโก ปน รเถน สทฺธึ คนฺตฺวา รเถเนว สทฺธึ นิวตฺติ. ปณฺฑิโต มนุสฺเส อาจิกฺขิ ‘‘อยํ ปุริโส โถกํ คนฺตฺวา รถํ ¶ วิสฺสชฺเชตฺวา ิโต, อยํ ปน รเถน สทฺธึ ธาวิตฺวา รเถเนว สทฺธึ นิวตฺติ, เนวสฺส สรีเร เสทพินฺทุมตฺตมฺปิ อตฺถิ, อสฺสาสปสฺสาโสปิ นตฺถิ, ¶ อภีโต อนิมิสเนตฺโต, เอส สกฺโก เทวราชา’’ติ. อถ นํ ‘‘สกฺโก เทวราชาสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ตเวว ปฺาปกาสนตฺถํ ปณฺฑิตา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มา ปุน เอวมกาสี’’ติ โอวทติ. สกฺโกปิ สกฺกานุภาวํ ทสฺเสนฺโต อากาเส ตฺวา ‘‘สุวินิจฺฉิโต ปณฺฑิเตน อฑฺโฑ’’ติ ปณฺฑิตสฺส ถุตึ กตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ตทา โส อมจฺโจ สยเมว รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, ปณฺฑิเตน เอวํ รถอฑฺโฑ สุวินิจฺฉิโต, สกฺโกปิ เตน ปราชิโต, กสฺมา ปุริสวิเสสํ น ชานาสิ, เทวา’’ติ อาห. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. โส ลาภมจฺฉเรน ‘‘มหาราช, เอตฺตเกน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, อาคเมถ ตาว วีมํสิตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ อาห.
สตฺตทารกปฺโห นิฏฺิโต.
คทฺรภปฺโห
ทณฺโฑติ อเถกทิวสํ ราชา ‘‘ปณฺฑิตํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ขทิรทณฺฑํ อาหราเปตฺวา ตโต วิทตฺถึ คเหตฺวา จุนฺทกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา สุฏฺุ ลิขาเปตฺวา ปาจีนยวมชฺฌกคามํ เปเสสิ ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กิร ปณฺฑิตา, ‘อิมสฺส ขทิรทณฺฑสฺส อิทํ อคฺคํ, อิทํ มูล’นฺติ ชานนฺตุ, อชานนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ. คามวาสิโน สนฺนิปติตฺวา ชานิตุํ อสกฺโกนฺตา เสฏฺิโน กถยึสุ ‘‘กทาจิ มโหสธปณฺฑิโต ชาเนยฺย, ปกฺโกสาเปตฺวา ตํ ปุจฺฉถา’’ติ. เสฏฺิ ปณฺฑิตํ กีฬามณฺฑลา ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตาต, มยํ ชานิตุํ น สกฺโกม, อปิ นุ ตฺวํ สกฺขิสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘รฺโ ¶ อิมสฺส อคฺเคน วา มูเลน วา ปโยชนํ นตฺถิ, มม วีมํสนตฺถาย เปสิตํ ภวิสฺสตี’’ติ. จินฺเตตฺวา จ ปน ‘‘อาหรถ, ตาต, ชานิสฺสามี’’ติ อาหราเปตฺวา หตฺเถน คเหตฺวาว ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ ตฺวาปิ มหาชนสฺส หทยคฺคหณตฺถํ อุทกปาตึ อาหราเปตฺวา ขทิรทณฺฑกสฺส มชฺเฌ สุตฺเตน พนฺธิตฺวา สุตฺตโกฏิยํ คเหตฺวา ขทิรทณฺฑกํ อุทกปิฏฺเ เปสิ. มูลํ ภาริยตาย ปมํ อุทเก นิมุชฺชิ. ตโต มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘รุกฺขสฺส นาม มูลํ ภาริยํ โหติ, อุทาหุ อคฺค’’นฺติ? ‘‘มูลํ ปณฺฑิตา’’ติ. เตน หิ อิมสฺส ปมํ นิมุคฺคํ ปสฺสถ, เอตํ มูลนฺติ อิมาย สฺาย ¶ อคฺคฺจ มูลฺจ อาจิกฺขิ. คามวาสิโน ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ รฺโ ปหิณึสุ. ราชา ‘‘โก อิมํ ชานาตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน ปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต’’ติ สุตฺวา ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ ปุจฺฉิ. อธิวาเสหิ, เทว, อฺเนปิ อุปาเยน นํ วีมํสิสฺสามาติ.
สีสนฺติ อเถกทิวสํ อิตฺถิยา จ ปุริสสฺส จาติ ทฺเว สีสานิ อาหราเปตฺวา ‘‘อิทํ อิตฺถิสีสํ, อิทํ ปุริสสีสนฺติ ชานนฺตุ, อชานนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ ปหิณึสุ. คามวาสิโน อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ทิสฺวาว อฺาสิ. กถํ ชานาติ? ปุริสสีเส กิร สิพฺพินี อุชุกาว โหติ, อิตฺถิสีเส สิพฺพินี วงฺกา โหติ, ปริวตฺติตฺวา คจฺฉติ. โส อิมินา อภิฺาเณน ‘‘อิทํ อิตฺถิยา สีสํ, อิทํ ปุริสสฺส สีส’’นฺติ อาจิกฺขิ. คามวาสิโนปิ รฺโ ปหิณึสุ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
อหีติ อเถกทิวสํ สปฺปฺจ สปฺปินิฺจ อาหราเปตฺวา ‘‘อยํ สปฺโป, อยํ สปฺปินีติ ชานนฺตุ, อชานนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ วตฺวา คามวาสีนํ เปเสสุํ. คามวาสิโน อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ทิสฺวาว ชานาติ. สปฺปสฺส หิ นงฺคุฏฺํ ถูลํ โหติ, สปฺปินิยา ตนุกํ โหติ, สปฺปสฺส สีสํ ปุถุลํ โหติ, สปฺปินิยา ตนุกํ โหติ, สปฺปสฺส อกฺขีนิ มหนฺตานิ, สปฺปินิยา ขุทฺทกานิ, สปฺปสฺส โสวตฺติโก ปราพทฺโธ โหติ, สปฺปินิยา วิจฺฉินฺนโก. โส อิเมหิ อภิฺาเณหิ ‘‘อยํ ¶ สปฺโป, อยํ สปฺปินี’’ติ อาจิกฺขิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
กุกฺกุโฏติ อเถกทิวสํ ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน อมฺหากํ สพฺพเสตํ ปาทวิสาณํ สีสกกุธํ ตโย กาเล อนติกฺกมิตฺวา นทนฺตํ อุสภํ เปเสนฺตุ, โน เจ เปเสนฺติ, สหสฺสทณฺโฑ’’ติ ปหิณึสุ. เต อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส อาห – ‘‘ราชา โว สพฺพเสตํ กุกฺกุฏํ อาหราเปสิ, โส หิ ปาทนขสิขตาย ปาทวิสาโณ นาม, สีสจูฬตาย สีสกกุโธ ¶ นาม, ติกฺขตฺตุํ วสฺสนโต ตโย กาเล อนติกฺกมิตฺวา นทติ นาม, ตสฺมา เอวรูปํ กุกฺกุฬํ เปเสถา’’ติ อาห. เต เปสยึสุ.
มณีติ ¶ สกฺเกน กุสรฺโ ทินฺโน มณิกฺขนฺโธ อฏฺสุ าเนสุ วงฺโก โหติ. ตสฺส ปุราณสุตฺตํ ฉินฺนํ, โกจิ ปุราณสุตฺตํ นีหริตฺวา นวสุตฺตํ ปเวเสตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เอกทิวสํ ‘‘อิมสฺมา มณิกฺขนฺธา ปุราณสุตฺตํ นีหริตฺวา นวสุตฺตํ ปเวเสนฺตู’’ติ เปสยึสุ. คามวาสิโน ปุราณสุตฺตํ นีหริตฺวา นวสุตฺตํ ปเวเสตุํ อสกฺโกนฺตา ปณฺฑิตสฺส อาจิกฺขึสุ. โส ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มธุํ อาหรถา’’ติ อาหราเปตฺวา มณิโน ทฺวีสุ ปสฺเสสุ มธุนา ฉิทฺทํ มกฺเขตฺวา กมฺพลสุตฺตํ วฏฺเฏตฺวา โกฏิยํ มธุนา มกฺเขตฺวา โถกํ ฉิทฺเท ปเวเสตฺวา กิปิลฺลิกานํ นิกฺขมนฏฺาเน เปสิ. กิปิลฺลิกา มธุคนฺเธน นิกฺขมิตฺวา มณิมฺหิ ปุราณสุตฺตํ ขาทมานา คนฺตฺวา กมฺพลสุตฺตโกฏิยํ ฑํสิตฺวา กฑฺฒนฺตา เอเกน ปสฺเสน นีหรึสุ. ปณฺฑิโต ปเวสิตภาวํ ตฺวา ‘‘รฺโ เทถา’’ติ คามวาสีนํ อทาสิ. เต รฺโ เปสยึสุ. โส ปเวสิตอุปายํ สุตฺวา ตุสฺสิ.
วิชายนนฺติ อเถกทิวสํ รฺโ มงฺคลอุสภํ พหู มาเส ขาทาเปตฺวา มโหทรํ กตฺวา วิสาณานิ โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา หลิทฺทิยา นฺหาเปตฺวา คามวาสีนํ ปหิณึสุ ‘‘ตุมฺเห กิร ปณฺฑิตา, อยฺจ รฺโ มงฺคลอุสโภ ปติฏฺิตคพฺโภ, เอตํ วิชายาเปตฺวา สวจฺฉกํ เปเสถ, อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ. คามวาสิโน ‘‘น สกฺกา อิทํ กาตุํ, กึ นุ โข กริสฺสามา’’ติ ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ‘‘อิมินา เอเกน ปฺหปฏิภาเคน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสถ ปเนกํ รฺา สทฺธึ กถนสมตฺถํ วิสารทํ ปุริสํ ลทฺธุ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘น ครุ เอตํ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘เตน หิ นํ ปกฺโกสถา’’ติ. เต ปกฺโกสึสุ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เอหิ, โภ ปุริส, ตฺวํ ตว เกเส ปิฏฺิยํ วิกิริตฺวา นานปฺปการํ พลวปริเทวํ ปริเทวนฺโต ราชทฺวารํ คจฺฉ, อฺเหิ ปุจฺฉิโตปิ กิฺจิ อวตฺวาว ปริเทว, รฺา ปน ปกฺโกสาเปตฺวา ปริเทวการณํ ปุจฺฉิโตว สมาโน ‘ปิตา เม เทว วิชายิตุํ น สกฺโกติ, อชฺช สตฺตโม ทิวโส, ปฏิสรณํ เม โหหิ, วิชายนุปายมสฺส กโรหี’ติ วตฺวา รฺา ‘กึ วิลปสิ อฏฺานเมตํ, ปุริสา นาม วิชายนฺตา นตฺถี’ติ วุตฺเต ‘สเจ เทว, เอวํ นตฺถิ, อถ กสฺมา ¶ ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กถํ มงฺคลอุสภํ วิชายาเปสฺสนฺตี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา อกาสิ. ราชา ‘‘เกนิทํ ปฺหปฏิภาคํ จินฺติต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิเตนา’’ติ สุตฺวา ตุสฺสิ.
โอทนนฺติ ¶ อปรสฺมึ ทิวเส ‘‘ปณฺฑิตํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน อมฺหากํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อมฺพิโลทนํ ปจิตฺวา เปเสนฺตุ. ตตฺริมานิ อฏฺงฺคานิ ¶ – น ตณฺฑุเลหิ, น อุทเกน, น อุกฺขลิยา, น อุทฺธเนน, น อคฺคินา, น ทารูหิ, น อิตฺถิยา น ปุริเสน, น มคฺเคนาติ. อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ ปหิณึสุ. คามวาสิโน ตํ การณํ อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ‘‘มา จินฺตยิตฺถา’’ติ วตฺวา ‘‘น ตณฺฑุเลหีติ กณิกํ คาหาเปตฺวา, น อุทเกนาติ หิมํ คาหาเปตฺวา, น อุกฺขลิยาติ อฺํ นวมตฺติกาภาชนํ คาหาเปตฺวา, น อุทฺธเนนาติ ขาณุเก โกฏฺฏาเปตฺวา, น อคฺคินาติ ปกติอคฺคึ ปหาย อรณิอคฺคึ คาหาเปตฺวา, น ทารูหีติ ปณฺณานิ คาหาเปตฺวา อมฺพิโลทนํ ปจาเปตฺวา นวภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ลฺฉิตฺวา, น อิตฺถิยา น ปุริเสนาติ ปณฺฑเกน อุกฺขิปาเปตฺวา, น มคฺเคนาติ มหามคฺคํ ปหาย ชงฺฆมคฺเคน รฺโ เปเสถา’’ติ อาห. เต ตถา กรึสุ. ราชา ‘‘เกน ปเนส ปฺโห าโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิเตนา’’ติ สุตฺวา ตุสฺสิ.
วาลุกนฺติ อปรสฺมึ ทิวเส ปณฺฑิตสฺส วีมํสนตฺถํ คามวาสีนํ ปหิณึสุ ‘‘ราชา โทลาย กีฬิตุกาโม, ราชกุเล ปุราณโยตฺตํ ฉินฺนํ, เอกํ วาลุกโยตฺตํ วฏฺเฏตฺวา เปเสนฺตุ, อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ. เต ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. ปณฺฑิโต ‘‘อิมินาปิ ปฺหปฏิภาเคเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ คามวาสิโน อสฺสาเสตฺวา วจนกุสเล ทฺเว ตโย ปุริเส ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห, ราชานํ วเทถ ‘เทว, คามวาสิโน ตสฺส โยตฺตสฺส ตนุกํ วา ถูลํ วา ปมาณํ น ชานนฺติ, ปุราณวาลุกโยตฺตโต วิทตฺถิมตฺตํ วา จตุรงฺคุลมตฺตํ วา ขณฺฑํ เปเสถ, ตํ โอโลเกตฺวา เตน ปมาเณน วฏฺเฏสฺสนฺตี’ติ. สเจ, โว ราชา ‘อมฺหากํ ฆเร วาลุกโยตฺตํ นาม น กทาจิ สุตปุพฺพ’นฺติ วทติ, อถ นํ ‘สเจ, มหาราช, โว เอวรูปํ น สกฺกา กาตุํ, ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กถํ กริสฺสนฺตี’ติ วเทยฺยาถา’’ติ เปเสสิ. เต ตถา กรึสุ. ราชา ‘‘เกน ¶ จินฺติตํ ปฺหปฏิภาค’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิเตนา’’ติ สุตฺวา ตุสฺสิ.
ตฬากนฺติ อปรสฺมึ ทิวเส ปณฺฑิตสฺส วีมํสนตฺถํ ‘‘ราชา อุทกกีฬํ กีฬิตุกาโม, ปฺจวิธปทุมสจฺฉนฺนํ โปกฺขรณึ เปเสนฺตุ, อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ คามวาสีนํ เปสยึสุ. เต ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ. โส ‘‘อิมินาปิ ปฺหปฏิภาเคเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา วจนกุสเล กติปเย มนุสฺเส ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอถ ตุมฺเห อุทกกีฬํ กีฬิตฺวา อกฺขีนิ รตฺตานิ กตฺวา อลฺลเกสา อลฺลวตฺถา กทฺทมมกฺขิตสรีรา โยตฺตทณฺฑเลฑฺฑุหตฺถา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ทฺวาเร ิตภาวํ รฺโ อาโรจาเปตฺวา กโตกาสา ปวิสิตฺวา ‘มหาราช, ตุมฺเหหิ กิร ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน ¶ โปกฺขรณึ เปเสนฺตูติ ปหิตา มยํ ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกํ มหนฺตํ โปกฺขรณึ อาทาย อาคตา. สา ปน อรฺวาสิกตฺตา นครํ ทิสฺวา ทฺวารปาการปริขาอฏฺฏาลกาทีนิ โอโลเกตฺวา ภีตตสิตา โยตฺตานิ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา อรฺเมว ปวิฏฺา, มยํ เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ โปเถนฺตาปิ นิวตฺเตตุํ น สกฺขิมฺหา, ตุมฺหากํ อรฺา อานีตํ ปุราณโปกฺขรณึ เปเสถ, ตาย สทฺธึ โยเชตฺวา หริสฺสามา’ติ วตฺวา รฺาน กทาจิ มม อรฺโต อานีตโปกฺขรณี นาม ¶ ภูตปุพฺพา, น จ มยา กสฺสจิ โยเชตฺวา อาหรณตฺถาย โปกฺขรณี เปสิตปุพฺพา’ติ วุตฺเต ‘สเจ, เทว, โว เอวํ น สกฺกา กาตุํ, ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กถํ โปกฺขรณึ เปเสสฺสนฺตี’ติ วเทยฺยาถา’’ติ วตฺวา เปเสสิ. เต ตถา กรึสุ. ราชา ปณฺฑิเตน าตภาวํ สุตฺวา ตุสฺสิ.
อุยฺยานนฺติ ปุเนกทิวสํ ‘‘มยํ อุยฺยานกีฬํ กีฬิตุกามา, อมฺหากฺจ ปุราณอุยฺยานํ ปริชิณฺณํ, โอภคฺคํ ชาตํ, ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน สุปุปฺผิตตรุณรุกฺขสฺฉนฺนํ นวอุยฺยานํ เปเสนฺตู’’ติ ปหิณึสุ. คามวาสิโน ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ. ปณฺฑิโต ‘‘อิมินาปิ ปฺหปฏิภาเคเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ เต สมสฺสาเสตฺวา มนุสฺเส เปเสตฺวา ปุริมนเยเนว กถาเปสิ.
ตทาปิ ¶ ราชา ตุสฺสิตฺวา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. โส ลาภมจฺฉริเยน ‘‘เอตฺตเกน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, อาคเมถ, เทวา’’ติ อาห. ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ ‘‘มโหสธปณฺฑิโต สตฺตทารกปฺเหหิ มม มนํ คณฺหิ, เอวรูเปสุปิสฺส คุยฺหปฺหวิสฺสชฺชเนสุ เจว ปฺหปฏิภาเคสุ จ พุทฺธสฺส วิย พฺยากรณํ, เสนโก เอวรูปํ ปณฺฑิตํ อาเนตุํ น เทติ, กึ เม เสนเกน, อาเนสฺสามิ น’’นฺติ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ คามํ ปายาสิ. ตสฺส มงฺคลอสฺสํ อภิรุหิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อสฺสสฺส ปาโท ผลิตภูมิยา อนฺตรํ ปวิสิตฺวา ภิชฺชิ. ราชา ตโตว นิวตฺติตฺวา นครํ ปาวิสิ. อถ นํ เสนโก อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘มหาราช, ปณฺฑิตํ กึ อาเนตุํ ปาจีนยวมชฺฌกคามํ อคมิตฺถา’’ติ. ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘มหาราช, ตุมฺเห มํ อนตฺถกามํ กตฺวา ปสฺสถ, ‘อาคเมถ ตาวา’ติ วุตฺเตปิ อติตุริตา นิกฺขมิตฺถ, ปมคมเนเนว มงฺคลอสฺสสฺส ปาโท ภินฺโน’’ติ.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุณฺหี หุตฺวา ปุเนกทิวสํ เตน สทฺธึ มนฺเตสิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. เทว, สยํ อคนฺตฺวา ทูตํ เปเสถ ‘‘ปณฺฑิต, อมฺหากํ ตว สนฺติกํ อาคจฺฉนฺตานํ อสฺสสฺส ปาโท ภินฺโน, อสฺสตรํ วา โน เปเสตุ เสฏฺตรํ วา’’ติ. ‘‘ยทิ อสฺสตรํ ¶ เปเสสฺสติ, สยํ อาคมิสฺสติ. เสฏฺตรํ เปเสนฺโต ปิตรํ เปเสสฺสติ, อยเมโก โน ปฺโห ภวิสฺสตี’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา กตฺวา ทูตํ เปเสสิ. ปณฺฑิโต ทูตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ราชา มมฺเจว ปิตรฺจ ปสฺสิตุกาโม’’ติ จินฺเตตฺวา ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, ราชา ตุมฺเห เจว มมฺจ ทฏฺุกาโม, ตุมฺเห ปมตรํ เสฏฺิสหสฺสปริวุตา คจฺฉถ, คจฺฉนฺตา จ ตุจฺฉหตฺถา อคนฺตฺวา นวสปฺปิปูรํ จนฺทนกรณฺฑกํ อาทาย คจฺฉถ. ราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘คหปติ ปติรูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีทาหี’ติ วกฺขติ, อถ ตุมฺเห ตถารูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีเทยฺยาถ. ตุมฺหากํ นิสินฺนกาเล อหํ อาคมิสฺสามิ, ราชา มยาปิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘ปณฺฑิต, ตวานุรูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีทา’ติ วกฺขติ, อถาหํ ตุมฺเห โอโลเกสฺสามิ, ตุมฺเห ตาย สฺาย อาสนา วุฏฺาย ‘ตาต มโหสธ, อิมสฺมึ อาสเน นิสีทา’ติ วเทยฺยาถ, อชฺช โน เอโก ปฺโห มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ ¶ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา อตฺตโน ทฺวาเร ิตภาวํ รฺโ อาโรจาเปตฺวา ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.
ราชา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘คหปติ, ตวปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปจฺฉโต อาคจฺฉติ, เทวา’’ติ. ราชา ‘‘ปจฺฉโต อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา ตุฏฺมานโส หุตฺวา ‘‘มหาเสฏฺิ อตฺตโน ยุตฺตาสนํ ตฺวา นิสีทา’’ติ อาห. โส อตฺตโน ยุตฺตาสนํ ตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ อลงฺกตปฏิยตฺโต ทารกสหสฺสปริวุโต อลงฺกตรเถ นิสีทิตฺวา นครํ ปวิสนฺโต ปริขาปิฏฺเ จรมานํ เอกํ คทฺรภํ ทิสฺวา ถามสมฺปนฺเน มาณเว เปเสสิ ‘‘อมฺโภ, เอตํ คทฺรภํ อนุพนฺธิตฺวา ยถา สทฺทํ น กโรติ, เอวมสฺส มุขพนฺธนํ กตฺวา กิลฺเชน เวเตฺวา ตสฺมึ เอเกนตฺถรเณน ปฏิจฺฉาเทตฺวา อํเสนาทาย อาคจฺฉถา’’ติ. เต ตถา กรึสุ. โพธิสตฺโตปิ มหนฺเตน ปริวาเรน นครํ ปาวิสิ. มหาชโน ‘‘เอส กิร สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน ปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต นาม, เอส กิร ชายมาโน โอสธฆฏิกํ หตฺเถน คเหตฺวา ชาโต, อิมินา กิร เอตฺตกานํ วีมํสนปฺหานํ ปฺหปฏิภาโค าโต’’ติ มหาสตฺตํ อภิตฺถวนฺโต โอโลเกนฺโตปิ ติตฺตึ น คจฺฉติ. โส ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ปฏิเวเทสิ. ราชา สุตฺวาว หฏฺตุฏฺโ ‘‘มม ปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ อาห. โส ทารกสหสฺสปริวุโต ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวาว โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, ปติรูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีทา’’ติ อาห. อถ โส ปิตรํ โอโลเกสิ. อถสฺส ปิตาปิ โอโลกิตสฺาย อุฏฺาย ‘‘ปณฺฑิต, อิมสฺมึ อาสเน นิสีทา’’ติ อาห. โส ตสฺมึ อาสเน นิสีทิ.
ตํ ¶ ตตฺถ นิสินฺนํ ทิสฺวาว เสนกปุกฺกุสกามินฺทเทวินฺทา เจว อฺเ จ อนฺธพาลา ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสิตฺวา ‘‘อิมํ อนฺธพาลํ ‘ปณฺฑิโต’ติ วทึสุ, โส ปิตรํ อาสนา วุฏฺาเปตฺวา สยํ นิสีทติ, อิมํ ‘ปณฺฑิโต’ติ วตฺตุํ อยุตฺต’’นฺติ ปริหาสํ กรึสุ. ราชาปิ ทุมฺมุโข อนตฺตมโน อโหสิ. อถ นํ มหาสตฺโต ปุจฺฉิ ‘‘กึ, มหาราช, ทุมฺมุขตฺถา’’ติ ¶ ? ‘‘อาม ปณฺฑิต, ทุมฺมุโขมฺหิ, สวนเมว เต มนาปํ, ทสฺสนํ ปน อมนาปํ ชาต’’นฺติ. ‘‘กึ การณา, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปิตรํ อาสนา วุฏฺาเปตฺวา นิสินฺนตฺตา’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, มหาราช, ‘สพฺพฏฺาเนสุ ปุตฺเตหิ ปิตโรว อุตฺตมา’ติ มฺสี’’ติ. ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. อถ มหาสตฺโต ‘‘นนุ, มหาราช, ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ‘อสฺสตรํ วา เปเสตุ เสฏฺตรํ วา’ติ สาสนํ ปหิต’’นฺติ วตฺวา อาสนา วุฏฺาย เต มาณเว โอโลเกตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ คหิตํ คทฺรภํ อาเนถา’’ติ อาณาเปตฺวา รฺโ ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘มหาราช, อยํ คทฺรโภ กึ อคฺฆตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปณฺฑิต, สเจ อุปการโก, อฏฺ กหาปเณ อคฺฆตี’’ติ. ‘‘อิมํ ปฏิจฺจ ชาโต อาชานียวฬวาย กุจฺฉิมฺหิ วุฏฺอสฺสตโร กึ อคฺฆตี’’ติ? ‘‘อนคฺโฆ ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘เทว, กสฺมา เอวํ กเถถ, นนุ ตุมฺเหหิ อิทาเนว วุตฺตํ ‘สพฺพฏฺาเนสุ ปุตฺเตหิ ปิตโรว อุตฺตมา’ติ. สเจ ตํ สจฺจํ, ตุมฺหากํ วาเท อสฺสตรโต คทฺรโภว อุตฺตโม โหติ, กึ ปน, มหาราช, ตุมฺหากํ ปณฺฑิตา เอตฺตกมฺปิ ชานิตุํ อสกฺโกนฺตา ปาณึ ปหริตฺวา หสนฺติ, อโห ตุมฺหากํ ปณฺฑิตานํ ปฺาสมฺปตฺติ, กุโต โว เอเต ลทฺธา’’ติ จตฺตาโร ปณฺฑิเต ปริหสิตฺวา ราชานํ อิมาย เอกกนิปาเต คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘หํจิ ตุวํ เอวมฺสิ ‘เสยฺโย, ปุตฺเตน ปิตา’ติ ราชเสฏฺ;
หนฺทสฺสตรสฺส เต อยํ, อสฺสตรสฺส หิ คทฺรโภ ปิตา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๑๑);
ตสฺสตฺโถ – ยทิ, ตฺวํ ราชเสฏฺ, สพฺพฏฺาเนสุ เสยฺโย ปุตฺเตน ปิตาติ เอวํ มฺสิ, ตว อสฺสตรโตปิ อยํ คทฺรโภ เสยฺโย โหตุ. กึ การณา? อสฺสตรสฺส หิ คทฺรโภ ปิตาติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต อาห – ‘‘มหาราช ¶ , สเจ ปุตฺตโต ปิตา เสยฺโย, มม ปิตรํ คณฺหถ. สเจ ปิติโต ปุตฺโต เสยฺโย, มํ คณฺหถ ตุมฺหากํ อตฺถายา’’ติ. ราชา โสมนสฺสปฺปตฺโต อโหสิ. สพฺพา ราชปริสาปิ ‘‘สุกถิโต ปณฺฑิเตน ปฺโห’’ติ อุนฺนทนฺตา สาธุการสหสฺสานิ อทํสุ, องฺคุลิโผฏา เจว เจลุกฺเขปา จ ปวตฺตึสุ ¶ . จตฺตาโร ปณฺฑิตาปิ ทุมฺมุขา ปชฺฌายนฺตาว อเหสุํ. นนุ มาตาปิตูนํ คุณํ ชานนฺโต โพธิสตฺเตน สทิโส นาม นตฺถิ ¶ , อถ โส กสฺมา เอวมกาสีติ? น โส ปิตุ อวมานนตฺถาย, รฺา ปน ‘‘อสฺสตรํ วา เปเสตุ เสฏฺตรํ วา’’ติ เปสิตํ, ตสฺมา ตสฺเสว ปฺหสฺส อาวิภาวตฺถํ อตฺตโน จ ปณฺฑิตภาวสฺส าปนตฺถํ จตุนฺนฺจ ปณฺฑิตานํ อปฺปฏิภานกรณตฺถํ เอวมกาสีติ.
คทฺรภปฺโห นิฏฺิโต.
เอกูนวีสติมปฺโห
ราชา ตุสฺสิตฺวา คนฺโธทกปุณฺณํ สุวณฺณภิงฺการํ อาทาย ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามํ ราชโภเคน ปริภฺุชตู’’ติ เสฏฺิสฺส หตฺเถ อุทกํ ปาเตตฺวา ‘‘เสสเสฏฺิโน เอตสฺเสว อุปฏฺากา โหนฺตู’’ติ วตฺวา โพธิสตฺตสฺส มาตุ จ สพฺพาลงฺกาเร เปเสตฺวา คทฺรภปฺเห ปสนฺโน โพธิสตฺตํ ปุตฺตํ กตฺวา คณฺหิตุํ เสฏฺึ อโวจ – ‘‘คหปติ, มโหสธปณฺฑิตํ มม ปุตฺตํ กตฺวา เทหี’’ติ. ‘‘เทว, อติตรุโณ อยํ, อชฺชาปิสฺส มุเข ขีรคนฺโธ วายติ, มหลฺลกกาเล ตุมฺหากํ สนฺติเก ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘คหปติ, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย เอตสฺมึ นิราลโย โหหิ, อยํ อชฺชตคฺเค มม ปุตฺโต, อหํ มม ปุตฺตํ โปเสตุํ สกฺขิสฺสามิ, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ ตํ อุยฺโยเชสิ. โส ราชานํ วนฺทิตฺวา ปณฺฑิตํ อาลิงฺคิตฺวา อุเร นิปชฺชาเปตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา ‘‘ตาต, อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ โอวาทมสฺส อทาสิ. โสปิ ปิตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, มา จินฺตยิตฺถา’’ติ อสฺสาเสตฺวา ปิตรํ อุยฺโยเชสิ. ราชา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, อนฺโตภตฺติโก ภวิสฺสสิ, อุทาหุ พหิภตฺติโก’’ติ. โส ‘‘มหา เม ปริวาโร, ตสฺมา พหิภตฺติเกน มยา ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘พหิภตฺติโก ภวิสฺสามิ, เทวา’’ติ อาห. อถสฺส ราชา อนุรูปํ เคหํ ทาเปตฺวา ทารกสหสฺสํ อาทึ กตฺวา ปริพฺพยํ ทาเปตฺวา สพฺพปริโภเค ทาเปสิ. โส ตโต ปฏฺาย ราชานํ อุปฏฺาสิ.
ราชาปิ นํ วีมํสิตุกาโม อโหสิ. ตทา จ นครสฺส ทกฺขิณทฺวารโต อวิทูเร โปกฺขรณิตีเร เอกสฺมึ ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก มณิรตนํ อโหสิ. ตสฺส ฉายา โปกฺขรณิยํ ปฺายิ. มหาชโน ‘‘โปกฺขรณิยํ ¶ มณิ อตฺถี’’ติ รฺโ อาโรเจสิ. โส เสนกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘โปกฺขรณิยํ ¶ กิร มณิรตนํ ปฺายติ, กถํ ตํ คณฺหาเปสฺสามา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มหาราช, อุทกํ นีหราเปตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ, อาจริย, เอวํ กโรหี’’ติ ตสฺเสว ภารมกาสิ. โส พหู มนุสฺเส สนฺนิปาตาเปตฺวา อุทกฺจ กทฺทมฺจ นีหราเปตฺวา ภูมึ ภินฺทิตฺวาปิ มณึ นาทฺทส. ปุน ปุณฺณาย โปกฺขรณิยา มณิจฺฉายา ปฺายิ ¶ . โส ปุนปิ ตถา กตฺวา น จ อทฺทส. ตโต ราชา ปณฺฑิตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, โปกฺขรณิยํ เอโก มณิ ปฺายติ, เสนโก อุทกฺจ กทฺทมฺจ นีหราเปตฺวา ภูมึ ภินฺทิตฺวาปิ นาทฺทส, ปุน ปุณฺณาย โปกฺขรณิยา ปฺายติ, สกฺขิสฺสสิ ตํ มณึ คณฺหาเปตุ’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘เนตํ, มหาราช, ครุ, เอถ ทสฺเสสฺสามี’’ติ อาห. ราชา ตสฺส วจนํ ตุสฺสิตฺวา ‘‘ปสฺสิสฺสามิ อชฺช ปณฺฑิตสฺส าณพล’’นฺติ มหาชนปริวุโต โปกฺขรณิตีรํ คโต.
มหาสตฺโต ตีเร ตฺวา มณึ โอโลเกนฺโต ‘‘นายํ มณิ โปกฺขรณิยํ, ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก มณินา ภวิตพฺพ’’นฺติ ตฺวา ‘‘นตฺถิ, เทว, โปกฺขรณิยํ มณี’’ติ วตฺวา ‘‘นนุ อุทเก ปฺายตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อุทกปาตึ อาหรา’’ติ อุทกปาตึ อาหราเปตฺวา ‘‘ปสฺสถ, เทว, นายํ มณิ โปกฺขรณิยํเยว ปฺายติ, ปาติยมฺปิ ปฺายตี’’ติ วตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, กตฺถ ปน มณินา ภวิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว, โปกฺขรณิยมฺปิ ปาติยมฺปิ ฉายาว ปฺายติ, น มณิ, มณิ ปน ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก อตฺถิ, ปุริสํ อาณาเปตฺวา อาหราเปหี’’ติ อาห. ราชา ตถา กตฺวา มณึ อาหราเปสิ. โส อาหริตฺวา ปณฺฑิตสฺส อทาสิ. ปณฺฑิโต ตํ คเหตฺวา รฺโ หตฺเถ เปสิ. ตํ ทิสฺวา มหาชโน ปณฺฑิตสฺส สาธุการํ ทตฺวา เสนกํ ปริภาสนฺโต ‘‘มณิรตนํ ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก อตฺถิ, เสนกพาโล พหู มนุสฺเส โปกฺขรณิเมว ภินฺทาเปสิ, ปณฺฑิเตน นาม มโหสธสทิเสน ภวิตพฺพ’’นฺติ มหาสตฺตสฺส ถุติมกาสิ. ราชาปิสฺส ตุฏฺโ อตฺตโน คีวาย ปิฬนฺธนํ มุตฺตาหารํ ทตฺวา ทารกสหสฺสานมฺปิ มุตฺตาวลิโย ทาเปสิ. โพธิสตฺตสฺส จ ปริวารสฺส จ อิมินา ปริหาเรน อุปฏฺานํ อนุชานีติ.
เอกูนวีสติมปฺโห นิฏฺิโต.
กกณฺฏกปฺโห
ปุเนกทิวสํ ¶ ราชา ปณฺฑิเตน สทฺธึ อุยฺยานํ อคมาสิ. ตทา ¶ เอโก กกณฺฏโก โตรณคฺเค วสติ. โส ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. ราชา ตสฺส ตํ กิริยํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, อยํ กกณฺฏโก กึ กโรตี’’ติ ปุจฺฉิ. มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, ตุมฺเห เสวตี’’ติ อาห. ‘‘สเจ เอวํ อมฺหากํ เสวติ, เอตสฺส มา นิปฺผโล โหตุ, โภคมสฺส ทาเปหี’’ติ. ‘‘เทว, ตสฺส โภเคน กิจฺจํ นตฺถิ, ขาทนียมตฺตํ อลเมตสฺสา’’ติ ¶ . ‘‘กึ ปเนส, ขาทตี’’ติ? ‘‘มํสํ เทวา’’ติ. ‘‘กิตฺตกํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘กากณิกมตฺตคฺฆนกํ เทวา’’ติ. ราชา เอกํ ปุริสํ อาณาเปสิ ‘‘ราชทาโย นาม กากณิกมตฺตํ น วฏฺฏติ, อิมสฺส นิพทฺธํ อฑฺฒมาสคฺฆนกํ มํสํ อาหริตฺวา เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตโต ปฏฺาย ตถา อกาสิ. โส เอกทิวสํ อุโปสเถ มาฆาเต มํสํ อลภิตฺวา ตเมว อฑฺฒมาสกํ วิชฺฌิตฺวา สุตฺเตน อาวุนิตฺวา ตสฺส คีวายํ ปิฬนฺธิ. อถสฺส ตํ นิสฺสาย มาโน อุปฺปชฺชิ. ตํ ทิวสเมว ราชา ปุน มโหสเธน สทฺธึ อุยฺยานํ อคมาสิ. โส ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาปิ ธนํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนมานวเสน ‘‘เวเทห, ตฺวํ นุ โข มหทฺธโน, อหํ นุ โข’’ติ รฺา สทฺธึ อตฺตานํ สมํ กโรนฺโต อโนตริตฺวา โตรณคฺเคเยว สีสํ จาเลนฺโต นิปชฺชิ. ราชา ตสฺส ตํ กิริยํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, เอส ปุพฺเพ วิย อชฺช น โอตรติ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘นายํ ปุเร อุนฺนมติ, โตรณคฺเค กกณฺฏโก;
มโหสธ วิชานาหิ, เกน ถทฺโธ กกณฺฏโก’’ติ. (ชา. ๑.๒.๓๙);
ตตฺถ อุนฺนมตีติ ยถา อชฺช อโนตริตฺวา โตรณคฺเคเยว สีสํ จาเลนฺโต อุนฺนมติ, เอวํ ปุเร น อุนฺนมติ. เกน ถทฺโธติ เกน การเณน ถทฺธภาวํ อาปนฺโนติ.
ปณฺฑิโต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘มหาราช, อุโปสเถ มาฆาเต มํสํ อลภนฺเตน ราชปุริเสน คีวาย พทฺธํ อฑฺฒมาสกํ นิสฺสาย ตสฺส มาเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ ตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อลทฺธปุพฺพํ ลทฺธาน, อฑฺฒมาสํ กกณฺฏโก;
อติมฺติ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคห’’นฺติ. (ชา. ๑.๒.๔๐);
ราชา ¶ ¶ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. โส ยถาภูตํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘กฺจิ อปุจฺฉิตฺวาว สพฺพฺุพุทฺเธน วิย ปณฺฑิเตน กกณฺฏกสฺส อชฺฌาสโย าโต’’ติ อติวิย ปสีทิตฺวา ปณฺฑิตสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ สุงฺกํ ทาเปสิ. กกณฺฏกสฺส ปน กุชฺฌิตฺวา วตฺตํ หาเรตุํ อารภิ. ปณฺฑิโต ปน ‘‘มา หาเรหิ มหาราชา’’ติ ตํ นิวาเรสิ.
กกณฺฏกปฺโห นิฏฺิโต.
สิริกาฬกณฺณิปฺโห
อเถโก ¶ มิถิลวาสี ปิงฺคุตฺตโร นาม มาณโว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺขนฺโต ขิปฺปเมว สิกฺขิ. โส อนุโยคํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉามห’’นฺติ อาจริยํ อาปุจฺฉิ. ตสฺมึ ปน กุเล ‘‘สเจ วยปฺปตฺตา ธีตา โหติ, เชฏฺนฺเตวาสิกสฺส ทาตพฺพา’’ติ วตฺตํว, ตสฺมา ตสฺส อาจริยสฺส วยปฺปตฺตา เอกา ธีตา อตฺถิ, สา อภิรูปา เทวจฺฉราปฏิภาคา. อถ นํ อาจริโย ‘‘ธีตรํ เต, ตาต, ทสฺสามิ, ตํ อาทาย คมิสฺสสี’’ติ อาห. โส ปน มาณโว ทุพฺภโค กาฬกณฺณี, กุมาริกา ปน มหาปฺุา. ตสฺส ตํ ทิสฺวา จิตฺตํ น อลฺลียติ. โส ตํ อโรเจนฺโตปิ ‘‘อาจริยสฺส วจนํ น ภินฺทิสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อาจริโย ธีตรํ ตสฺส อทาสิ. โส รตฺติภาเค อลงฺกตสิริสยเน นิปนฺโน ตาย อาคนฺตฺวา สยนํ อภิรุฬฺหมตฺตาย อฏฺฏียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน ปกมฺปมาโน โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. สาปิ โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นิปชฺชิ, โส อุฏฺาย สยนํ อภิรุหิ. สาปิ ปุน สยนํ อภิรุหิ, โส ปุน สยนา โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. กาฬกณฺณี นาม สิริยา สทฺธึ น สเมติ. กุมาริกา สยเนเยว นิปชฺชิ, โส ภูมิยํ สยิ.
เอวํ สตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา ตํ อาทาย อาจริยํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ, อนฺตรามคฺเค อาลาปสลฺลาปมตฺตมฺปิ นตฺถิ. อนิจฺฉมานาว อุโภปิ มิถิลํ สมฺปตฺตา. อถ ปิงฺคุตฺตโร นครา อวิทูเร ผลสมฺปนฺนํ อุทุมฺพรรุกฺขํ ทิสฺวา ขุทาย ปีฬิโต ตํ อภิรุหิตฺวา ผลานิ ขาทิ. สาปิ ฉาตชฺฌตฺตา รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา ‘‘สามิ, มยฺหมฺปิ ผลานิ ปาเตถา’’ติ อาห. กึ ตว หตฺถปาทา นตฺถิ, สยํ อภิรุหิตฺวา ขาทาติ. สา อภิรุหิตฺวา ขาทิ. โส ตสฺสา อภิรุฬฺหภาวํ ¶ ตฺวา ขิปฺปํ โอตริตฺวา รุกฺขํ ¶ กณฺฏเกหิ ปริกฺขิปิตฺวา ‘‘มุตฺโตมฺหิ กาฬกณฺณิยา’’ติ วตฺวา ปลายิ. สาปิ โอตริตุํ อสกฺโกนฺตี ตตฺเถว นิสีทิ. อถ ราชา อุยฺยาเน กีฬิตฺวา หตฺถิกฺขนฺเธ นิสินฺโน สายนฺหสมเย นครํ ปวิสนฺโต ตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘สปริคฺคหา, อปริคฺคหา’’ติ ปุจฺฉาเปสิ. สาปิ ‘‘อตฺถิ เม, สามิ, กุลทตฺติโก ปติ, โส ปน มํ อิธ นิสีทาเปตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา ปลาโต’’ติ อาห. อมจฺโจ ตํ การณํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘อสามิกภณฺฑํ นาม รฺโ ปาปุณาตี’’ติ ตํ โอตาเรตฺวา หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเปตฺวา นิเวสนํ เนตฺวา อภิสิฺจิตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา. อุทุมฺพรรุกฺเข ลทฺธตฺตา ‘‘อุทุมฺพรเทวี’’ตฺเววสฺสา นามํ สฺชานึสุ.
อเถกทิวสํ ¶ รฺโ อุยฺยานคมนตฺถาย ทฺวารคามวาสิเกหิ มคฺคํ ปฏิชคฺคาเปสุํ. ปิงฺคุตฺตโรปิ ภตึ กโรนฺโต กจฺฉํ พนฺธิตฺวา กุทฺทาเลน มคฺคํ ตจฺฉิ. มคฺเค อนิฏฺิเตเยว ราชา อุทุมฺพรเทวิยา สทฺธึ รเถ นิสีทิตฺวา นิกฺขมิ. อุทุมฺพรเทวี กาฬกณฺณึ มคฺคํ ตจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปํ สิรึ ธาเรตุํ นาสกฺขิ อยํ กาฬกณฺณี’’ติ ตํ โอโลเกนฺตี หสิ. ราชา หสมานํ ทิสฺวา กุชฺฌิตฺวา ‘‘กสฺมา หสี’’ติ ปุจฺฉิ. เทว, อยํ มคฺคตจฺฉโก ปุริโส มยฺหํ โปราณกสามิโก, เอส มํ อุทุมฺพรรุกฺขํ อาโรเปตฺวา กณฺฏเกหิ ปริกฺขิปิตฺวา คโต, อิมาหํ โอโลเกตฺวา ‘‘เอวรูปํ สิรึ ธาเรตุํ นาสกฺขิ กาฬกณฺณี อย’’นฺติ จินฺเตตฺวา หสินฺติ. ราชา ‘‘ตฺวํ มุสาวาทํ กเถสิ, อฺํ กฺจิ ปุริสํ ทิสฺวา ตยา หสิตํ ภวิสฺสติ, ตํ มาเรสฺสามี’’ติ อสึ อคฺคเหสิ. สา ภยปฺปตฺตา ‘‘เทว, ปณฺฑิเต ตาว ปุจฺฉถา’’ติ อาห. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘เสนก, อิมิสฺสา วจนํ ตฺวํ สทฺทหสี’’ติ. ‘‘น สทฺทหามิ, เทว, โก นาม เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ ปหาย คมิสฺสตี’’ติ. สา ตสฺส กถํ สุตฺวา อติเรกตรํ ภีตา อโหสิ. อถ ราชา ‘‘เสนโก กึ ชานาติ, ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อิตฺถี สิยา รูปวตี, สา จ สีลวตี สิยา;
ปุริโส ตํ น อิจฺเฉยฺย, สทฺทหาสิ มโหสธา’’ติ. (ชา. ๑.๒.๘๓);
ตตฺถ ¶ สีลวตีติ อาจารคุณสมฺปนฺนา.
ตํ ¶ สุตฺวา ปณฺฑิโต คาถมาห –
‘‘สทฺทหามิ มหาราช, ปุริโส ทุพฺภโค สิยา;
สิรี จ กาฬกณฺณี จ, น สเมนฺติ กุทาจน’’นฺติ. (ชา. ๑.๒.๘๔);
ตตฺถ น สเมนฺตีติ สมุทฺทสฺส โอริมตีรปาริมตีรานิ วิย จ คคนตลปถวิตลานิ วิย จ น สมาคจฺฉนฺติ.
ราชา ตสฺส วจเนน ตํ การณํ สุตฺวา ตสฺสา น กุชฺฌิ, หทยมสฺส นิพฺพายิ. โส ตสฺส ตุสฺสิตฺวา ‘‘สเจ ปณฺฑิโต นาภวิสฺส, อชฺชาหํ พาลเสนกสฺส กถาย เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ หีโน อสฺสํ, ตํ นิสฺสาย มยา เอสา ลทฺธา’’ติ สตสหสฺเสน ปูชํ กาเรสิ. เทวีปิ ¶ ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘เทว, ปณฺฑิตํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, อิมาหํ กนิฏฺภาติกฏฺาเน เปตุํ วรํ ยาจามี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, เทวิ, คณฺหาหิ, ทมฺมิ เต วร’’นฺติ. ‘‘เทว, อชฺช ปฏฺาย มม กนิฏฺํ วินา กิฺจิ มธุรรสํ น ขาทิสฺสามิ, อิโต ปฏฺาย เวลาย วา อเวลาย วา ทฺวารํ วิวราเปตฺวา อิมสฺส มธุรรสํ เปเสตุํ ลภนกวรํ คณฺหามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภทฺเท, อิมฺจ วรํ คณฺหาหี’’ติ.
สิริกาฬกณฺณิปฺโห นิฏฺิโต.
เมณฺฑกปฺโห
อปรสฺมึ ทิวเส ราชา กตปาตราโส ปาสาทสฺส ทีฆนฺตเร จงฺกมนฺโต วาตปานนฺตเรน โอโลเกนฺโต เอกํ เอฬกฺจ สุนขฺจ มิตฺตสนฺถวํ กโรนฺตํ อทฺทส. โส กิร เอฬโก หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิสฺส ปุรโต ขิตฺตํ อนามฏฺติณํ ขาทิ. อถ นํ หตฺถิโคปกา โปเถตฺวา นีหรึสุ. โส วิรวิตฺวา ปลายิ. อถ นํ เอโก ปุริโส เวเคนาคนฺตฺวา ปิฏฺิยํ ทณฺเฑน ติริยํ ปหริ. โส ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา เวทนาปฺปตฺโต หุตฺวา คนฺตฺวา ราชเคหสฺส มหาภิตฺตึ นิสฺสาย ปิฏฺิกาย นิปชฺชิ. ตํ ทิวสเมว รฺโ มหานเส อฏฺิจมฺมาทีนิ ขาทิตฺวา วฑฺฒิตสุนโข ภตฺตการเก ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา พหิ ตฺวา สรีเร เสทํ นิพฺพาเปนฺเต มจฺฉมํสคนฺธํ ฆายิตฺวา ตณฺหํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต มหานสํ ¶ ปวิสิตฺวา ภาชนปิธานํ ปาเตตฺวา มํสํ ¶ ขาทิ. อถ ภตฺตการโก ภาชนสทฺเทน ปวิสิตฺวา ตํ ทิสฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา ตํ เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ โปเถสิ. โส ขาทิตมํสํ มุเขเนว ฉฑฺเฑตฺวา วิรวิตฺวา นิกฺขมิ. ภตฺตการโกปิ ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา อนุพนฺธิตฺวา ปิฏฺิยํ ทณฺเฑน ติริยํ ปหริ. โส เวทนาปฺปตฺโต ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา เอกํ ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา เอฬกสฺส นิปนฺนฏฺานเมว ปาวิสิ. อถ นํ เอฬโก ‘‘สมฺม, กึ ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา อาคจฺฉสิ, กึ เต วาโต วิชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉิ. สุนโขปิ ‘‘ตฺวมฺปิ ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา นิปนฺโนสิ, กึ เต วาโต วิชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉิ. เต อฺมฺํ อตฺตโน ปวตฺตึ อาโรเจสุํ.
อถ นํ เอฬโก ปุจฺฉิ ‘‘กึ ปน ตฺวํ ปุน ภตฺตเคหํ คนฺตุํ สกฺขิสฺสสิ สมฺมา’’ติ? ‘‘น สกฺขิสฺสามิ, สมฺม, คตสฺส เม ชีวิตํ นตฺถี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน ปุน หตฺถิสาลํ คนฺตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. ‘‘มยาปิ ตตฺถ คนฺตุํ น สกฺกา, คตสฺส เม ชีวิตํ นตฺถี’’ติ. เต ‘‘กถํ นุ โข มยํ อิทานิ ชีวิสฺสามา’’ติ อุปายํ จินฺเตสุํ. อถ นํ เอฬโก อาห – ‘‘สเจ มยํ สมคฺควาสํ ¶ วสิตุํ สกฺโกม, อตฺเถโก อุปาโย’’ติ. ‘‘เตน หิ กเถหี’’ติ. ‘‘สมฺม, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย หตฺถิสาลํ ยาหิ, ‘‘นายํ ติณํ ขาทตี’’ติ ตยิ หตฺถิโคปกา อาสงฺกํ น กริสฺสนฺติ, ตฺวํ มม ติณํ อาหเรยฺยาสิ. อหมฺปิ ภตฺตเคหํ ปวิสิสฺสามิ, ‘‘นายํ มํสขาทโก’’ติ ภตฺตการโก มยิ อาสงฺกํ น กริสฺสติ, อหํ เต มํสํ อาหริสฺสามี’’ติ. เต ‘‘สุนฺทโร อุปาโย’’ติ อุโภปิ สมฺปฏิจฺฉึสุ. สุนโข หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา ติณกลาปํ ฑํสิตฺวา อาคนฺตฺวา มหาภิตฺติปิฏฺิกาย เปสิ. อิตโรปิ ภตฺตเคหํ คนฺตฺวา มํสขณฺฑํ มุขปูรํ ฑํสิตฺวา อาเนตฺวา ตตฺเถว เปสิ. สุนโข มํสํ ขาทิ, เอฬโก ติณํ ขาทิ. เต อิมินา อุปาเยน สมคฺคา สมฺโมทมานา มหาภิตฺติปิฏฺิกาย วสนฺติ. ราชา เตสํ มิตฺตสนฺถวํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อทิฏฺปุพฺพํ วต เม การณํ ทิฏฺํ, อิเม ปจฺจามิตฺตา หุตฺวาปิ สมคฺควาสํ วสนฺติ. อิทํ การณํ คเหตฺวา ปฺหํ กตฺวา ปฺจ ปณฺฑิเต ปุจฺฉิสฺสามิ, อิมํ ปฺหํ อชานนฺตํ รฏฺา ปพฺพาเชสฺสามิ, ตํ ชานนฺตสฺส ‘เอวรูโป ปณฺฑิโต นตฺถี’ติ ¶ มหาสกฺการํ กริสฺสามิ. อชฺช ตาว อเวลา, สฺเว อุปฏฺานํ อาคตกาเล ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส ปุนทิวเส ปณฺฑิเตสุ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘เยสํ ¶ น กทาจิ ภูตปุพฺพํ, สขฺยํ สตฺตปทมฺปิมสฺมิ โลเก;
ชาตา อมิตฺตา ทุเว สหายา, ปฏิสนฺธาย จรนฺติ กิสฺส เหตู’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๔);
ตตฺถ ปฏิสนฺธายาติ สทฺทหิตฺวา ฆฏิตา หุตฺวา.
อิทฺจ ปน วตฺวา ปุน เอวมาห –
‘‘ยทิ เม อชฺช ปาตราสกาเล, ปฺหํ น สกฺกุเณยฺยาถ วตฺตุเมตํ;
รฏฺา ปพฺพาชยิสฺสามิ โว สพฺเพ, น หิ มตฺโถ ทุปฺปฺชาติเกหี’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๕);
ตทา ปน เสนโก อคฺคาสเน นิสินฺโน อโหสิ, ปณฺฑิโต ปน ปริยนฺเต นิสินฺโน. โส ตํ ปฺหํ อุปธาเรนฺโต ตมตฺถํ อทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราชา ทนฺธธาตุโก อิมํ ปฺหํ จินฺเตตฺวา สงฺขริตุํ อสมตฺโถ, กิฺจิเทว, เตน ทิฏฺํ ภวิสฺสติ, เอกทิวสํ โอกาสํ ลภนฺโต อิมํ ปฺหํ นีหริสฺสามิ, เสนโก เกนจิ อุปาเยน อชฺเชกทิวสมตฺตํ อธิวาสาเปตู’’ติ. อิตเรปิ จตฺตาโร ¶ ปณฺฑิตา อนฺธการคพฺภํ ปวิฏฺา วิย น กิฺจิ ปสฺสึสุ. เสนโก ‘‘กา นุ โข มโหสธสฺส ปวตฺตี’’ติ โพธิสตฺตํ โอโลเกสิ. โสปิ ตํ โอโลเกสิ. เสนโก โพธิสตฺตสฺส โอโลกิตากาเรเนว ตสฺส อธิปฺปายํ ตฺวา ‘‘ปณฺฑิตสฺสปิ น อุปฏฺาติ, เตเนกทิวสํ โอกาสํ อิจฺฉติ, ปูเรสฺสามิสฺส มโนรถ’’นฺติ จินฺเตตฺวา รฺา สทฺธึ วิสฺสาเสน มหาหสิตํ หสิตฺวา ‘‘กึ, มหาราช, สพฺเพว อมฺเห ปฺหํ กเถตุํ อสกฺโกนฺเต รฏฺา ปพฺพาเชสฺสสิ, เอตมฺปิ ‘เอโก คณฺิปฺโห’ติ ตฺวํ สลฺลกฺเขสิ, น มยํ เอตํ กเถตุํ น สกฺโกม, อปิจ โข โถกํ อธิวาเสหิ. คณฺิปฺโห เอส, น สกฺโกม มหาชนมชฺเฌ กเถตุํ, เอกมนฺเต จินฺเตตฺวา ปจฺฉา ตุมฺหากํ กเถสฺสาม ¶ , โอกาสํ โน เทหี’’ติ มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘มหาชนสมาคมมฺหิ ¶ โฆเร, ชนโกลาหลสงฺคมมฺหิ ชาเต;
วิกฺขิตฺตมนา อเนกจิตฺตา, ปฺหํ น สกฺกุโณม วตฺตุเมตํ.
‘‘เอกคฺคจิตฺตาว เอกเมกา, รหสิ คตา อตฺถํ นิจินฺตยิตฺวา;
ปวิเวเก สมฺมสิตฺวาน ธีรา, อถ วกฺขนฺติ ชนินฺท เอตมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๖-๙๗);
ตตฺถ สมฺมสิตฺวานาติ กายจิตฺตวิเวเก ิตา อิเม ธีรา อิมํ ปฺหํ สมฺมสิตฺวา อถ โว เอตํ อตฺถํ วกฺขนฺติ.
ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา อนตฺตมโน หุตฺวาปิ ‘‘สาธุ จินฺเตตฺวา กเถถ, อกเถนฺเต ปน โว ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ ตชฺเชสิเยว. จตฺตาโร ปณฺฑิตา ปาสาทา โอตรึสุ. เสนโก อิตเร อาห – ‘‘สมฺมา, ราชา สุขุมปฺหํ ปุจฺฉิ, อกถิเต มหนฺตํ ภยํ ภวิสฺสติ, สปฺปายโภชนํ ภฺุชิตฺวา สมฺมา อุปธาเรถา’’ติ. เต อตฺตโน อตฺตโน เคหํ คตา. ปณฺฑิโตปิ อุฏฺาย อุทุมฺพรเทวิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทวิ, อชฺช วา หิยฺโย วา ราชา กตฺถ จิรํ อฏฺาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตาต, ทีฆนฺตเร วาตปาเนน โอโลเกนฺโต จงฺกมตี’’ติ. ตโต ปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘รฺา อิมินา ปสฺเสน กิฺจิ ทิฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา พหิ โอโลเกนฺโต เอฬกสุนขานํ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘อิเม ทิสฺวา รฺา ปฺโห อภิสงฺขโต’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา เคหํ คโต. อิตเรปิ ตโย จินฺเตตฺวา กิฺจิ อทิสฺวา เสนกสฺส สนฺติกํ อคมํสุ. โส เต ปุจฺฉิ ‘‘ทิฏฺโ โว ปฺโห’’ติ. ‘‘น ทิฏฺโ อาจริยา’’ติ. ‘‘ยทิ เอวํ ราชา โว ปพฺพาเชสฺสติ, กึ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตุมฺเหหิ ปน ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘อหมฺปิ น ปสฺสามี’’ติ. ‘‘ตุมฺเหสุ ¶ อปสฺสนฺเตสุ มยํ กึ ปสฺสาม, รฺโ ปน สนฺติเก ‘จินฺเตตฺวา กเถสฺสามา’ติ สีหนาทํ นทิตฺวา อาคตมฺหา, อกถิเต อมฺเห ราชา กุชฺฌิสฺสติ, กึ กโรม, อยํ ปฺโห น สกฺกา อมฺเหหิ ทฏฺุํ ¶ , ปณฺฑิเตน ปน สตคุณํ สหสฺสคุณํ สตสหสฺสคุณํ กตฺวา จินฺติโต ภวิสฺสติ, เอถ ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ เต จตฺตาโร ปณฺฑิตา โพธิสตฺตสฺส ฆรทฺวารํ อาคตภาวํ ¶ อาโรจาเปตฺวา ‘‘ปวิสนฺตุ ปณฺฑิตา’’ติ วุตฺเต เคหํ ปวิสิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ ิตา มหาสตฺตํ ปุจฺฉึสุ ‘‘กึ ปน, ปณฺฑิต, จินฺติโต ปฺโห’’ติ? ‘‘อาม, จินฺติโต, มยิ อจินฺเตนฺเต อฺโ โก จินฺตยิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ ปณฺฑิต อมฺหากมฺปิ กเถถา’’ติ.
ปณฺฑิโต ‘‘สจาหํ เอเตสํ น กเถสฺสามิ, ราชา เต รฏฺา ปพฺพาเชสฺสติ, มํ ปน สตฺตหิ รตเนหิ ปูเชสฺสติ, อิเม อนฺธพาลา มา วินสฺสนฺตุ, กเถสฺสามิ เตส’’นฺติ จินฺเตตฺวา เต จตฺตาโรปิ นีจาสเน นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา รฺา ทิฏฺตํ อชานาเปตฺวา ‘‘รฺา ปุจฺฉิตกาเล เอวํ กเถยฺยาถา’’ติ จตุนฺนมฺปิ จตสฺโส คาถาโย พนฺธิตฺวา ปาฬิเมว อุคฺคณฺหาเปตฺวา อุยฺโยเชสิ. เต ทุติยทิวเส ราชุปฏฺานํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทึสุ. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘าโต เต, เสนก, ปฺโห’’ติ? ‘‘มหาราช, มยิ อชานนฺเต อฺโ โก ชานิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ กเถหี’’ติ. ‘‘สุณาถ เทวา’’ติ โส อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –
‘‘อุคฺคปุตฺตราชปุตฺติยานํ, อุรพฺภสฺส มํสํ ปิยํ มนาปํ;
น สุนขสฺส เต อเทนฺติ มํสํ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๘);
ตตฺถ อุคฺคปุตฺตราชปุตฺติยานนฺติ อุคฺคตานํ อมจฺจปุตฺตานฺเจว ราชปุตฺตานฺจ.
คาถํ วตฺวาปิ เสนโก อตฺถํ น ชานาติ. ราชา ปน อตฺตโน ทิฏฺภาเวน ปชานาติ, ตสฺมา ‘‘เสนเกน ตาว าโต’’ติ ปุกฺกุสํ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส ‘‘กึ อหมฺปิ อปณฺฑิโต’’ติ วตฺวา อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –
‘‘จมฺมํ วิหนนฺติ เอฬกสฺส, อสฺสปิฏฺตฺถรสฺสุขสฺส เหตุ;
น จ เต สุนขสฺส อตฺถรนฺติ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๙);
ตสฺสปิ ¶ ¶ ¶ อตฺโถ อปากโฏเยว. ราชา ปน อตฺตโน ปากฏตฺตา ‘‘อิมินาปิ ปุกฺกุเสน าโต’’ติ กามินฺทํ ปุจฺฉิ. โสปิ อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –
‘‘อาเวลฺลิตสิงฺคิโก หิ เมณฺโฑ, น จ สุนขสฺส วิสาณกานิ อตฺถิ;
ติณภกฺโข มํสโภชโน จ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๐);
ราชา ‘‘อิมินาปิ าโต’’ติ เทวินฺทํ ปุจฺฉิ. โสปิ อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –
‘‘ติณมาสิ ปลาสมาสิ เมณฺโฑ, น จ สุนโข ติณมาสิ โน ปลาสํ;
คณฺเหยฺย สุโณ สสํ พิฬารํ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๑);
ตตฺถ ติณมาสิ ปลาสมาสีติ ติณขาทโก เจว ปณฺณขาทโก จ. โน ปลาสนฺติ ปณฺณมฺปิ น ขาทติ.
อถ ราชา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตาต, ตฺวมฺปิ อิมํ ปฺหํ ชานาสี’’ติ? ‘‘มหาราช, อวีจิโต ยาว ภวคฺคา มํ เปตฺวา โก อฺโ เอตํ ชานิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ กเถหี’’ติ. ‘‘สุณ มหาราชา’’ติ ตสฺส ปฺหสฺส อตฺตโน ปากฏภาวํ ปกาเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘อฏฺฑฺฒปโท จตุปฺปทสฺส, เมณฺโฑ อฏฺนโข อทิสฺสมาโน;
ฉาทิยมาหรตี อยํ อิมสฺส, มํสํ อาหรตี อยํ อมุสฺส.
‘‘ปาสาทวรคโต วิเทหเสฏฺโ, วีติหารํ อฺมฺโภชนานํ;
อทฺทกฺขิ กิร สกฺขิกํ ชนินฺโท, พุภุกฺกสฺส ปุณฺณํมุขสฺส เจต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๒-๑๐๓);
ตตฺถ ¶ อฏฺฑฺฒปโทติ พฺยฺชนกุสลตาย เอฬกสฺส จตุปฺปาทํ สนฺธายาห. เมณฺโฑติ เอฬโก. อฏฺนโขติ เอเกกสฺมึ ปาเท ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ขุรานํ วเสเนตํ วุตฺตํ. อทิสฺสมาโนติ มํสํ อาหรณกาเล อปฺายมาโน. ฉาทิยนฺติ เคหจฺฉทนํ. ติณนฺติ อตฺโถ. อยํ อิมสฺสาติ ¶ สุนโข ¶ เอฬกสฺส. วีติหารนฺติ วีติหรณํ. อฺมฺโภชนานนฺติ อฺมฺสฺส โภชนานํ. เมณฺโฑ หิ สุนขสฺส โภชนํ หรติ, โส ตสฺส วีติหรติ, สุนโขปิ ตสฺส หรติ, อิตโร วีติหรติ. อทฺทกฺขีติ ตํ เตสํ อฺมฺโภชนานํ วีติหรณํ สกฺขิกํ อตฺตโน ปจฺจกฺขํ กตฺวา อทฺทส. พุภุกฺกสฺสาติ ภุภูติ สทฺทกรณสุนขสฺส. ปุณฺณํมุขสฺสาติ เมณฺฑสฺส. อิเมสํ เอตํ มิตฺตสนฺถวํ ราชา สยํ ปสฺสีติ.
ราชา อิตเรหิ โพธิสตฺตํ นิสฺสาย าตภาวํ อชานนฺโต ‘‘ปฺจ ปณฺฑิตา อตฺตโน อตฺตโน าณพเลน ชานึสู’’ติ มฺมาโน โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ลาภา วต เม อนปฺปรูปา, ยสฺส เมทิสา ปณฺฑิตา กุลมฺหิ;
ปฺหสฺส คมฺภีรคตํ นิปุณมตฺถํ, ปฏิวิชฺฌนฺติ สุภาสิเตน ธีรา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๔);
ตตฺถ ปฏิวิชฺฌนฺตีติ สุภาสิเตน เต วิทิตฺวา กเถนฺติ.
อถ เนสํ ‘‘ตุฏฺเน นาม ตุฏฺากาโร กตฺตพฺโพ’’ติ ตํ กโรนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อสฺสตริรถฺจ เอกเมกํ, ผีตํ คามวรฺจ เอกเมกํ;
สพฺเพสํ โว ทมฺมิ ปณฺฑิตานํ, ปรมปฺปตีตมโน สุภาสิเตนา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๕);
อิติ วตฺวา เตสํ ตํ สพฺพํ ทาเปสิ.
ทฺวาทสนิปาเต เมณฺฑกปฺโห นิฏฺิโต.
สิริมนฺตปฺโห
อุทุมฺพรเทวี ¶ ปน อิตเรหิ ปณฺฑิตํ นิสฺสาย ปฺหสฺส าตภาวํ ตฺวา ‘‘รฺา มุคฺคํ มาเสน นิพฺพิเสสกํ กโรนฺเตน วิย ปฺจนฺนํ สมโกว สกฺกาโร กโต, นนุ มยฺหํ กนิฏฺสฺส วิเสสํ สกฺการํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘เทว, เกน โว ปฺโห ¶ กถิโต’’ติ? ‘‘ปฺจหิ ปณฺฑิเตหิ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เทว, จตฺตาโร ชนา ตํ ปฺหํ กํ นิสฺสาย ชานึสู’’ติ? ‘‘น ชานามิ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘มหาราช, กึ เต ชานนฺติ, ปณฺฑิโต ปน ‘มา นสฺสนฺตุ อิเม พาลา’ติ ปฺหํ อุคฺคณฺหาเปสิ, ตุมฺเห สพฺเพสํ ¶ สมกํ สกฺการํ กโรถ, อยุตฺตเมตํ, ปณฺฑิตสฺส วิเสสกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา ‘‘อตฺตานํ นิสฺสาย าตภาวํ น กเถสี’’ติ ปณฺฑิตสฺส ตุสฺสิตฺวา อติเรกตรํ สกฺการํ กาตุกาโม จินฺเตสิ ‘‘โหตุ มม ปุตฺตํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา กถิตกาเล มหนฺตํ สกฺการํ กริสฺสามี’’ติ. โส ปฺหํ จินฺเตนฺโต สิริมนฺตปฺหํ จินฺเตตฺวา เอกทิวสํ ปฺจนฺนํ ปณฺฑิตานํ อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา สุขนิสินฺนกาเล เสนกํ อาห – ‘‘เสนก, ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. ‘‘ปุจฺฉ เทวา’’ติ. ราชา สิริมนฺตปฺเห ปมํ คาถมาห –
‘‘ปฺายุเปตํ สิริยา วิหีนํ, ยสสฺสินํ วาปิ อเปตปฺํ;
ปุจฺฉามิ ตํ เสนก เอตมตฺถํ, กเมตฺถ เสยฺโย กุสลา วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๓);
ตตฺถ กเมตฺถ เสยฺโยติ อิเมสุ ทฺวีสุ กตรํ ปณฺฑิตา เสยฺโยติ วทนฺติ.
อยฺจ กิร ปฺโห เสนกสฺส วํสานุคโต, เตน นํ ขิปฺปเมว กเถสิ –
‘‘ธีรา จ พาลา จ หเว ชนินฺท, สิปฺปูปปนฺนา จ อสิปฺปิโน จ;
สุชาติมนฺโตปิ อชาติมสฺส, ยสสฺสิโน เปสกรา ภวนฺติ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๔);
ตตฺถ ¶ ปฺโ นิหีโนติ ปฺวา นิหีโน, อิสฺสโรว อุตฺตโมติ อตฺโถ.
ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อิตเร ตโย อปุจฺฉิตฺวา สงฺฆนวกํ หุตฺวา นิสินฺนํ มโหสธปณฺฑิตํ อาห –
‘‘ตุวมฺปิ ปุจฺฉามิ อโนมปฺ, มโหสธ เกวลธมฺมทสฺสิ;
พาลํ ยสสฺสึ ปณฺฑิตํ อปฺปโภคํ, กเมตฺถ เสยฺโย กุสลา วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๕);
ตตฺถ ¶ เกวลธมฺมทสฺสีติ สพฺพธมฺมทสฺสิ.
อถสฺส ¶ มหาสตฺโต ‘‘สุณ, มหาราชา’’ติ วตฺวา กเถสิ –
‘‘ปาปานิ กมฺมานิ กโรติ พาโล, อิธเมว เสยฺโย อิติ มฺมาโน;
อิธโลกทสฺสี ปรโลกมทสฺสี, อุภยตฺถ พาโล กลิมคฺคเหสิ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๖);
ตตฺถ อิธเมว เสยฺโยติ อิธโลเก อิสฺสริยเมว มยฺหํ เสฏฺนฺติ มฺมาโน. กลิมคฺคเหสีติ พาโล อิสฺสริยมาเนน ปาปกมฺมํ กตฺวา นิรยาทึ อุปปชฺชนฺโต ปรโลเก จ ปุน ตโต อาคนฺตฺวา นีจกุเล ทุกฺขภาวํ ปตฺวา นิพฺพตฺตมาโน อิธโลเก จาติ อุภยตฺถ ปราชยเมว คณฺหาติ. เอตมฺปิ การณํ อหํ ทิสฺวา ปฺาสมฺปนฺโนว อุตฺตโม, อิสฺสโร ปน พาโล น อุตฺตโมติ วทามิ.
เอวํ วุตฺเต ราชา เสนกํ โอโลเกตฺวา ‘‘นนุ มโหสโธ ปฺวนฺตเมว อุตฺตโมติ วทตี’’ติ อาห. เสนโก ‘‘มหาราช, มโหสโธ ทหโร, อชฺชาปิสฺส มุเข ขีรคนฺโธ วายติ, กิเมส ชานาตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘นิสิปฺปเมตํ ¶ วิทธาติ โภคํ, น พนฺธุวา น สรีรวณฺโณ โย;
ปสฺเสฬมูคํ สุขเมธมานํ, สิรี หิ นํ ภชเต โครวินฺทํ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ.
ตตฺถ เอฬมูคนฺติ ปคฺฆริตลาลมุขํ. โครวินฺทนฺติ โส กิร ตสฺมึเยว นคเร อสีติโกฏิวิภโว เสฏฺิ วิรูโป. นาสฺส ปุตฺโต น จ ธีตา, น กิฺจิ สิปฺปํ ชานาติ. กเถนฺตสฺสปิสฺส หนุกสฺส อุโภหิปิ ปสฺเสหิ ลาลาธารา ปคฺฆรติ. เทวจฺฉรา วิย ทฺเว อิตฺถิโย สพฺพาลงฺกาเรหิ วิภูสิตา สุปุปฺผิตานิ นีลุปฺปลานิ คเหตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ ิตา ตํ ลาลํ นีลุปฺปเลหิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นีลุปฺปลานิ วาตปาเนน ฉฑฺเฑนฺติ. สุราโสณฺฑาปิ ปานาคารํ ปวิสนฺตา นีลุปฺปเลหิ อตฺเถ สติ ตสฺส เคหทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘สามิ โครวินฺท, เสฏฺี’’ติ วทนฺติ. โส เตสํ สทฺทํ สุตฺวา วาตปาเน ตฺวา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ วทติ. อถสฺส ลาลาธารา ปคฺฆรติ ¶ . ตา อิตฺถิโย ตํ นีลุปฺปเลหิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นีลุปฺปลานิ อนฺตรวีถิยํ ขิปนฺติ. สุราธุตฺตา ตานิ คเหตฺวา ¶ อุทเกน วิกฺขาเลตฺวา ปิฬนฺธิตฺวา ปานาคารํ ปวิสนฺติ. เอวํ สิริสมฺปนฺโน อโหสิ. เสนโก ตํ อุทาหรณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต เอวมาห.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กีทิสํ, ตาต, มโหสธปณฺฑิตา’’ติ อาห. ปณฺฑิโต ‘‘เทว, กึ เสนโก ชานาติ, โอทนสิตฺถฏฺาเน กาโก วิย ทธึ ปาตุํ อารทฺธสุนโข วิย จ ยสเมว ปสฺสติ, สีเส ปตนฺตํ มหามุคฺครํ น ปสฺสติ, สุณ, เทวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ลทฺธา สุขํ มชฺชติ อปฺปปฺโ, ทุกฺเขน ผุฏฺโปิ ปโมหเมติ;
อาคนฺตุนา ทุกฺขสุเขน ผุฏฺโ, ปเวธติ วาริจโรว ฆมฺเม;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๘);
ตตฺถ ¶ สุขนฺติ อิสฺสริยสุขํ ลภิตฺวา พาโล ปมชฺชติ, ปมตฺโต สมาโน ปาปํ กโรติ. ทุกฺเขนาติ กายิกเจตสิกทุกฺเขน. อาคนฺตุนาติ น อชฺฌตฺติเกน. สตฺตานฺหิ สุขมฺปิ ทุกฺขมฺปิ อาคนฺตุกเมว, น นิจฺจปวตฺตํ. ฆมฺเมติ อุทกา อุทฺธริตฺวา อาตเป ขิตฺตมจฺโฉ วิย.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กีทิสํ อาจริยา’’ติ อาห. เสนโก ‘‘เทว, กิเมส ชานาติ, ติฏฺนฺตุ ตาว มนุสฺสา, อรฺเ ชาตรุกฺเขสุปิ ผลสมฺปนฺนเมว พหู วิหงฺคมา ภชนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ทุมํ ยถา สาทุผลํ อรฺเ, สมนฺตโต สมภิสรนฺติ ปกฺขี;
เอวมฺปิ อฑฺฒํ สธนํ สโภคํ, พหุชฺชโน ภชติ อตฺถเหตุ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๙);
ตตฺถ พหุชฺชโนติ มหาชโน.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กีทิสํ ตาตา’’ติ อาห. ปณฺฑิโต ‘‘กิเมส มโหทโร ชานาติ, สุณ, เทวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘น ¶ สาธุ พลวา พาโล, สาหสา วินฺทเต ธนํ;
กนฺทนฺตเมตํ ทุมฺเมธํ, กฑฺฒนฺติ นิรยํ ภุสํ;
เอตมฺปิ ¶ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๐);
ตตฺถ สาหสาติ สาหเสน สาหสิกกมฺมํ กตฺวา ชนํ ปีเฬตฺวา ธนํ วินฺทติ. อถ นํ นิรยปาลา กนฺทนฺตเมว ทุมฺเมธํ พลวเวทนํ นิรยํ กฑฺฒนฺติ.
ปุน ¶ รฺา ‘‘กึ เสนกา’’ติ วุตฺเต เสนโก อิมํ คาถมาห –
‘‘ยา กาจิ นชฺโช คงฺคมภิสฺสวนฺติ, สพฺพาว ตา นามโคตฺตํ ชหนฺติ;
คงฺคา สมุทฺทํ ปฏิปชฺชมานา, น ขายเต อิทฺธึ ปฺโปิ โลเก;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๑);
ตตฺถ นชฺโชติ นินฺนา หุตฺวา สนฺทมานา อนฺตมโส กุนฺนทิโยปิ คงฺคํ อภิสฺสวนฺติ. ชหนฺตีติ คงฺคาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, อตฺตโน นามโคตฺตํ ชหนฺติ. น ขายเตติ สาปิ คงฺคา สมุทฺทํ ปฏิปชฺชมานา น ปฺายติ, สมุทฺโทตฺเวว นามํ ลภติ. เอวเมว มหาปฺโปิ อิสฺสรสนฺติกํ ปตฺโต น ขายติ น ปฺายติ,สมุทฺทํ ปวิฏฺคงฺคา วิย โหติ.
ปุน ราชา ‘‘กึ ปณฺฑิตา’’ติ อาห. โส ‘‘สุณ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘ยเมตมกฺขา อุทธึ มหนฺตํ, สวนฺติ นชฺโช สพฺพกาลมสงฺขฺยํ;
โส สาคโร นิจฺจมุฬารเวโค, เวลํ น อจฺเจติ มหาสมุทฺโท.
‘‘เอวมฺปิ พาลสฺส ปชปฺปิตานิ, ปฺํ น อจฺเจติ สิรี กทาจิ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๒-๙๓);
ตตฺถ ¶ ยเมตมกฺขาติ ยํ เอตํ อกฺขาสิ วเทสิ. อสงฺขฺยนฺติ อคณนํ. เวลํ น อจฺเจตีติ อุฬารเวโคปิ หุตฺวา อูมิสหสฺสํ อุกฺขิปิตฺวาปิ เวลํ อติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ, เวลํ ปตฺวา อวสฺสํ สพฺพา อูมิโย ภิชฺชนฺติ. เอวมฺปิ พาลสฺส ปชปฺปิตานีติ พาลสฺส วจนานิปิ เอวเมว ปฺวนฺตํ อติกฺกมิตุํ น ¶ สกฺโกนฺติ, ตํ ปตฺวาว ภิชฺชนฺติ. ปฺํ น อจฺเจตีติ ปฺวนฺตํ สิริมา นาม นาติกฺกมติ. น หิ โกจิ มนุโช อตฺถานตฺเถ อุปฺปนฺนกงฺโข ตํฉินฺทนตฺถาย ¶ ปฺวนฺตํ อติกฺกมิตฺวา พาลสฺส อิสฺสรสฺส ปาทมูลํ คจฺฉติ, ปฺวนฺตสฺส ปน ปาทมูเลเยว วินิจฺฉโย นาม ลพฺภตีติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กถํ เสนกา’’ติ อาห. โส ‘‘สุณ, เทวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อสฺโต เจปิ ปเรสมตฺถํ, ภณาติ สนฺธานคโต ยสสฺสี;
ตสฺเสว ตํ รูหติ าติมชฺเฌ, สิรี หิ นํ การยเต น ปฺา;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๔);
ตตฺถ อสฺโต เจปีติ อิสฺสโร หิ สเจปิ กายาทีหิ อสฺโต ทุสฺสีโล. สนฺธานคโตติ วินิจฺฉเย ิโต หุตฺวา ปเรสํ อตฺถํ ภณติ, ตสฺมึ วินิจฺฉยมณฺฑเล มหาปริวารปริวุตสฺส มุสาวาทํ วตฺวา สามิกมฺปิ อสฺสามิกํ กโรนฺตสฺส ตสฺเสว ตํ วจนํ รุหติ. สิรี หิ นํ ตถา การยเต น ปฺา, ตสฺมา ปฺโ นิหีโน, สิริมาว เสยฺโยติ วทามิ.
ปุน รฺา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ วุตฺเต ปณฺฑิโต ‘‘สุณ, เทว, พาลเสนโก กึ ชานาตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ, พาโล มุสา ภาสติ อปฺปปฺโ;
โส นินฺทิโต โหติ สภาย มชฺเฌ, ปจฺฉาปิ โส ทุคฺคติคามี โหติ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๕);
ตโต ¶ เสนโก อิมํ คาถมาห –
‘‘อตฺถมฺปิ ¶ เจ ภาสติ ภูริปฺโ, อนาฬฺหิโย อปฺปธโน ทลิทฺโท;
น ตสฺส ตํ รูหติ าติมชฺเฌ, สิรี ¶ จ ปฺาณวโต น โหติ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๖);
ตตฺถ อตฺถมฺปีติ การณมฺปิ เจ ภาสติ. าติมชฺเฌติ ปริสมชฺเฌ. ปฺาณวโตติ มหาราช, ปฺาณวนฺตสฺส สิริโสภคฺคปฺปตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปกติยา วิชฺชมานาปิ สิรี นาม น โหติ. โส หิ ตสฺส สนฺติเก สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนโก วิย ขายตีติ ทสฺเสติ.
ปุน รฺา ‘‘กีทิสํ, ตาตา’’ติ วุตฺเต ปณฺฑิโต ‘‘กึ ชานาติ, เสนโก, อิธโลกมตฺตเมว โอโลเกติ, น ปรโลก’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ, น ภาสติ อลิกํ ภูริปฺโ;
โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ, ปจฺฉาปิ โส สุคฺคติคามี โหติ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๗);
ตโต เสนโก คาถมาห –
‘‘หตฺถี ควาสฺสา มณิกุณฺฑลา จ, ถิโย จ อิทฺเธสุ กุเลสุ ชาตา;
สพฺพาว ตา อุปโภคา ภวนฺติ, อิทฺธสฺส โปสสฺส อนิทฺธิมนฺโต;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๘);
ตตฺถ ¶ อิทฺธสฺสาติ อิสฺสรสฺส. อนิทฺธิมนฺโตติ น เกวลํ ตา นาริโยว, อถ โข สพฺเพ อนิทฺธิมนฺโตปิ สตฺตา ตสฺส อุปโภคา ภวนฺติ.
ตโต ปณฺฑิโต ‘‘กึ เอส ชานาตี’’ติ วตฺวา เอกํ การณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อสํวิหิตกมฺมนฺตํ ¶ , พาลํ ทุมฺเมธมนฺตินํ;
สิรี ชหติ ทุมฺเมธํ, ชิณฺณํว อุรโค ตจํ;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ;
ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๙);
ตตฺถ ¶ ‘‘สิรี ชหตี’’ติ ปทสฺส เจติยชาตเกน (ชา. ๑.๘.๔๕ อาทโย) อตฺโถ วณฺเณตพฺโพ.
อถ เสนโก รฺา ‘‘กีทิส’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว, กึ เอส ตรุณทารโก ชานาติ, สุณาถา’’ติ วตฺวา ‘‘ปณฺฑิตํ อปฺปฏิภานํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ปฺจ ปณฺฑิตา มยํ ภทฺทนฺเต, สพฺเพ ปฺชลิกา อุปฏฺิตา;
ตฺวํ โน อภิภุยฺย อิสฺสโรสิ, สกฺโกว ภูตปติ เทวราชา;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๐);
อิทํ กิร สุตฺวา ราชา ‘‘สาธุรูปํ เสนเกน การณํ อาภตํ, สกฺขิสฺสติ นุ โข เม ปุตฺโต อิมสฺส วาทํ ภินฺทิตฺวา อฺํ การณํ อาหริตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘กีทิสํ ปณฺฑิตา’’ติ อาห. เสนเกน กิร อิมสฺมึ การเณ อาภเต เปตฺวา โพธิสตฺตํ อฺโ ตํ วาทํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตสฺมา มหาสตฺโต อตฺตโน าณพเลน ตสฺส วาทํ ภินฺทนฺโต ‘‘มหาราช, กิเมส พาโล ชานาติ, ยสเมว โอโลเกติ, ปฺาย วิเสสํ น ชานาติ, สุณาถา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ทาโสว ¶ ปฺสฺส ยสสฺสิ พาโล, อตฺเถสุ ชาเตสุ ตถาวิเธสุ;
ยํ ปณฺฑิโต นิปุณํ สํวิเธติ, สมฺโมหมาปชฺชติ ตตฺถ พาโล;
เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๑);
ตตฺถ อตฺเถสูติ กิจฺเจสุ ชาเตสุ. สํวิเธตีติ สํวิทหติ.
อิติ ¶ มหาสตฺโต สิเนรุปาทโต สุวณฺณวาลุกํ อุทฺธรนฺโต วิย คคนตเล ปุณฺณจนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย จ นยการณํ ทสฺเสสิ. เอวํ มหาสตฺเตน ปฺานุภาวํ ทสฺเสตฺวา กถิเต ราชา เสนกํ อาห – ‘‘กีทิสํ, เสนก, สกฺโกนฺโต อุตฺตริปิ กเถหี’’ติ. โส โกฏฺเ ปิตธฺํ วิย อุคฺคหิตกํ เขเปตฺวา อปฺปฏิภาโน มงฺกุภูโต ปชฺฌายนฺโต ¶ นิสีทิ. สเจ หิ โส อฺํ การณํ อาหเรยฺย, น คาถาสหสฺเสนปิ อิมํ ชาตกํ นิฏฺาเยถ. ตสฺส ปน อปฺปฏิภานสฺส ิตกาเล คมฺภีรํ โอฆํ อาเนนฺโต วิย มหาสตฺโต อุตฺตริปิ ปฺเมว วณฺเณนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อทฺธา หิ ปฺาว สตํ ปสตฺถา, กนฺตา สิรี โภครตา มนุสฺสา;
าณฺจ พุทฺธานมตุลฺยรูปํ, ปฺํ น อจฺเจติ สิรี กทาจี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๒);
ตตฺถ สตนฺติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ. โภครตาติ มหาราช, ยสฺมา อนฺธพาลมนุสฺสา โภครตาว, ตสฺมา เตสํ สิรี กนฺตา. ยโส นาเมส ปณฺฑิเตหิ ครหิโต พาลานํ กนฺโตติ จายํ อตฺโถ ภิสชาตเกน (ชา. ๑.๑๔.๗๘ อาทโย) วณฺเณตพฺโพ. พุทฺธานนฺติ สพฺพฺุพุทฺธานฺจ าณํ. กทาจีติ กิสฺมิฺจิ กาเล าณวนฺตํ สิรี นาม นาติกฺกมติ, เทวาติ.
ตํ สุตฺวา ราชา มหาสตฺตสฺส ปฺหพฺยากรเณน ตุฏฺโ ฆนวสฺสํ วสฺเสนฺโต วิย มหาสตฺตํ ธเนน ปูเชนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ยํ ¶ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน, มโหสธ เกวลธมฺมทสฺสี;
ควํ สหสฺสํ อุสภฺจ นาคํ, อาชฺยุตฺเต จ รเถ ทส อิเม;
ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน ตุฏฺโ, ททามิ เต คามวรานิ โสฬสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๓);
ตตฺถ อุสภฺจ นาคนฺติ ตสฺส ควํ สหสฺสสฺส อุสภํ กตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตํ อาโรหนียํ นาคํ ทมฺมีติ.
วีสตินิปาเต สิริมนฺตปฺโห นิฏฺิโต.
ฉนฺนปถปฺโห
ตโต ¶ ปฏฺาย โพธิสตฺตสฺส ยโส มหา อโหสิ. ตํ สพฺพํ อุทุมฺพรเทวีเยว วิจาเรสิ. สา ตสฺส โสฬสวสฺสิกกาเล จินฺเตสิ ‘‘มม กนิฏฺโ มหลฺลโก ชาโต, ยโสปิสฺส มหา อโหสิ, อาวาหมสฺส กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘สาธุ ชานาเปหิ น’’นฺติ อาห. สา ตํ ชานาเปตฺวา ¶ เตน สมฺปฏิจฺฉิเต ‘‘เตน หิ, ตาต, เต กุมาริกํ อาเนมี’’ติ อาห. อถ มหาสตฺโต ‘‘กทาจิ อิเมหิ อานีตา มม น รุจฺเจยฺย, สยเมว ตาว อุปธาเรมี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห – ‘‘เทวิ, กติปาหํ มา กิฺจิ รฺโ วเทถ, อหํ เอกํ กุมาริกํ สยํ ปริเยสิตฺวา มม จิตฺตรุจิตํ ตุมฺหากํ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ กโรหิ, ตาตา’’ติ. โส เทวึ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ฆรํ คนฺตฺวา สหายกานํ สฺํ ทตฺวา อฺาตกเวเสน ตุนฺนวายอุปกรณานิ คเหตฺวา เอกโกว อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อุตฺตรยวมชฺฌกํ ปายาสิ. ตทา ปน ตตฺถ เอกํ โปราณเสฏฺิกุลํ ปริกฺขีณํ อโหสิ. ตสฺส กุลสฺส ธีตา อมราเทวี นาม อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนา ปฺุวตี. สา ตํ ทิวสํ ปาโตว ยาคุํ ปจิตฺวา อาทาย ‘‘ปิตุ กสนฏฺานํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. มหาสตฺโต ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนายํ อิตฺถี, สเจ อปริคฺคหา, อิมาย เม ปาทปริจาริกาย ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตสิ.
สาปิ ¶ ตํ ทิสฺวาว ‘‘สเจ เอวรูปสฺส ปุริสสฺส เคเห ภเวยฺยํ, สกฺกา มยา กุฏุมฺพํ สณฺาเปตุ’’นฺติ จินฺเตสิ.
อถ มหาสตฺโต – ‘‘อิมิสฺสา สปริคฺคหาปริคฺคหภาวํ น ชานามิ, หตฺถมุฏฺิยา นํ ปุจฺฉิสฺสามิ, สเจ เอสา ปณฺฑิตา ภวิสฺสติ, ชานิสฺสติ. โน เจ, น ชานิสฺสติ, อิเธว นํ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทูเร ิโตว หตฺถมุฏฺิมกาสิ. สาปิ ‘‘อยํ มม สสามิกาสามิกภาวํ ปุจฺฉตี’’ติ ตฺวา หตฺถํ ปสาเรสิ. โส อปริคฺคหภาวํ ตฺวา สมีปํ คนฺตฺวา ‘‘ภทฺเท, กา นาม ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, อหํ อตีเต วา อนาคเต วา เอตรหิ วา ยํ นตฺถิ, ตนฺนามิกา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, โลเก อมรา นาม นตฺถิ, ตฺวํ อมรา นาม ภวิสฺสสี’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, กสฺส ยาคุํ หริสฺสสี’’ติ? ‘‘ปุพฺพเทวตาย, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ปุพฺพเทวตา นาม มาตาปิตโร, ตว ปิตุ ยาคุํ หริสฺสสิ มฺเ’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ตว ปิตา กึ กโรตี’’ติ? ‘‘สามิ, เอกํ ทฺวิธา กโรตี’’ติ. ‘‘เอกสฺส ¶ ทฺวิธากรณํ นาม กสนํ, ตว ปิตา กสตี’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘กตรสฺมึ ปน าเน เต ปิตา กสตี’’ติ? ‘‘ยตฺถ สกึ คตา น เอนฺติ, ตสฺมึ าเน, สามี’’ติ. ‘‘สกึ คตานํ น ปจฺจาคมนฏฺานํ นาม สุสานํ, สุสานสนฺติเก กสติ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, อชฺเชว เอสฺสสี’’ติ. ‘‘สเจ เอสฺสติ, น เอสฺสา’’มิ. ‘‘โน เจ เอสฺสติ, เอสฺสามิ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ปิตา เต มฺเ นทีปาเร กสติ, อุทเก เอนฺเต น เอสฺสสิ, อเนนฺเต เอสฺสสี’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. เอตฺตกํ นาม มหาสตฺโต อาลาปสลฺลาปํ กโรติ.
อถ นํ อมราเทวี ‘‘ยาคุํ ปิวิสฺสสิ, สามี’’ติ นิมนฺเตสิ. มหาสตฺโต ‘‘ปมเมว ปฏิกฺขิปนํ นาม อวมงฺคล’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘อาม, ปิวิสฺสามี’’ติ อาห. สา ปน ยาคุฆฏํ โอตาเรสิ. มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘สเจ ปาตึ อโธวิตฺวา หตฺถโธวนํ อทตฺวา ทสฺสติ, เอตฺเถว นํ ปหาย คมิสฺสามี’’ติ. สา ปน ปาตึ โธวิตฺวา ปาติยา อุทกํ อาหริตฺวา หตฺถโธวนํ ทตฺวา ตุจฺฉปาตึ หตฺเถ อฏฺเปตฺวา ภูมิยํ เปตฺวา ฆฏํ อาลุเฬตฺวา ยาคุยา ปูเรสิ, ตตฺถ ปน สิตฺถานิ มหนฺตานิ. อถ นํ มหาสตฺโต อาห ‘‘กึ, ภทฺเท, อติพหลา ยาคู’’ติ. ‘‘อุทกํ น ลทฺธํ, สามี’’ติ ¶ . ‘‘เกทาเร อุทกํ น ลทฺธํ ภวิสฺสติ มฺเ’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. สา ปิตุ ยาคุํ เปตฺวา โพธิสตฺตสฺส อทาสิ. โส ยาคุํ ปิวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตุยฺหํ มาตุ เคหํ คมิสฺสามิ, มคฺคํ เม อาจิกฺขา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา มคฺคํ อาจิกฺขนฺตี เอกกนิปาเต อิมํ คาถมาห –
‘‘เยน สตฺตุพิลงฺคา จ, ทิคุณปลาโส จ ปุปฺผิโต;
เยน ททามิ เตน วทามิ, เยน น ททามิ น เตน วทามิ;
เอส มคฺโค ยวมชฺฌกสฺส, เอตํ อนฺนปถํ วิชานาหี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๑๒);
ตสฺสตฺโถ – ‘‘สามิ, อนฺโตคามํ ปวิสิตฺวา เอกํ สตฺตุอาปณํ ปสฺสิสฺสสิ, ตโต กฺชิกาปณํ, เตสํ ปุรโต ทิคุณปณฺโณ โกวิฬาโร สุปุปฺผิโต, ตสฺมา ตฺวํ เยน สตฺตุพิลงฺคา ¶ จ โกวิฬาโร จ ปุปฺผิโต, เตน คนฺตฺวา โกวิฬารมูเล ตฺวา ทกฺขิณํ คณฺห วามํ มฺุจ, เอส มคฺโค ยวมชฺฌกสฺส ยวมชฺฌกคาเม ิตสฺส อมฺหากํ เคหสฺส, เอตํ เอวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา มยา วุตฺตํ ฉนฺนปถํ ปฏิจฺฉนฺนปถํ ฉนฺนปถํ วา ปฏิจฺฉนฺนการณํ วิชานาหี’’ติ. เอตฺถ หิ เยน ททามีติ ¶ เยน หตฺเถน ททามิ, อิทํ ทกฺขิณหตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, อิตรํ วามหตฺถํ. เอวํ สา ตสฺส มคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา ปิตุ ยาคุํ คเหตฺวา อคมาสิ.
ฉนฺนปถปฺโห นิฏฺิโต.
อมราเทวิปริเยสนา
โสปิ ตาย กถิตมคฺเคเนว ตํ เคหํ คโต. อถ นํ อมราเทวิยา มาตา ทิสฺวา อาสนํ ทตฺวา ‘‘ยาคุํ ปิวิสฺสสิ, สามี’’ติ อาห. ‘‘อมฺม, กนิฏฺภคินิยา เม อมราเทวิยา โถกา ยาคุ เม ทินฺนา’’ติ. ตํ สุตฺวา สา ‘‘ธีตุ เม อตฺถาย อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. มหาสตฺโต เตสํ ทุคฺคตภาวํ ชานนฺโตปิ ‘‘อมฺม, อหํ ตุนฺนวาโย, กิฺจิ สิพฺพิตพฺพยุตฺตกํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, สามิ, มูลํ ปน นตฺถี’’ติ? ‘‘อมฺม มูเลน กมฺมํ นตฺถิ, อาเนหิ, สิพฺพิสฺสามิ น’’นฺติ. สา ชิณฺณสาฏกานิ อาหริตฺวา อทาสิ. โพธิสตฺโต อาหฏาหฏํ นิฏฺาเปสิเยว. ปฺุวโต หิ กิริยา นาม สมิชฺฌติเยว. อถ นํ อาห ‘‘อมฺม, วีถิภาเคน ¶ อาโรเจยฺยาสี’’ติ. สา สกลคามํ อาโรเจสิ. มหาสตฺโต ตุนฺนวายกมฺมํ กตฺวา เอกาเหเนว สหสฺสํ กหาปณํ อุปฺปาเทสิ. มหลฺลิกาปิสฺส ปาตราสภตฺตํ ปจิตฺวา ทตฺวา ‘‘ตาต, สายมาสํ กิตฺตกํ ปจามี’’ติ อาห. ‘‘อมฺม, ยตฺตกา อิมสฺมึ เคเห ภฺุชนฺติ, เตสํ ปมาเณนา’’ติ. สา อเนกสูปพฺยฺชนํ พหุภตฺตํ ปจิ. อมราเทวีปิ สายํ สีเสน ทารุกลาปํ, อุจฺฉงฺเคน ปณฺณํ อาทาย อรฺโต อาคนฺตฺวา ปุรเคหทฺวาเร ทารุกลาปํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน เคหํ ปาวิสิ. ปิตาปิสฺสา สายตรํ อาคมาสิ. มหาสตฺโต นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิ. อิตรา มาตาปิตโร โภเชตฺวา ปจฺฉา สยํ ภฺุชิตฺวา มาตาปิตูนํ ปาเท โธวิตฺวา มหาสตฺตสฺส ปาเท โธวิ.
โส ตํ ปริคฺคณฺหนฺโต กติปาหํ ตตฺเถว วสิ. อถ นํ วีมํสนฺโต เอกทิวสํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อฑฺฒนาฬิกตณฺฑุเล คเหตฺวา ตโต มยฺหํ ยาคฺุจ ปูวฺจ ภตฺตฺจ ปจาหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตณฺฑุเล โกฏฺเฏตฺวา มูลตณฺฑุเลหิ ภตฺตํ, มชฺฌิมตณฺฑุเลหิ ยาคุํ, กณกาหิ ปูวํ ปจิตฺวา ตทนุรูปํ สูปพฺยฺชนํ สมฺปาเทตฺวา มหาสตฺตสฺส สพฺยฺชนํ ยาคุํ อทาสิ. สา ยาคุ มุเข ปิตมตฺตาว ¶ สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ ผริตฺวา อฏฺาสิ. โส ตสฺสา วีมํสนตฺถเมว ‘‘ภทฺเท, ยาคุํ ปจิตุํ อชานนฺตี กิมตฺถํ มม ตณฺฑุเล นาเสสี’’ติ กุทฺโธ วิย สห เขเฬน นิฏฺุภิตฺวา ภูมิยํ ปาเตสิ. สา ตสฺส อกุชฺฌิตฺวาว ‘‘สามิ, สเจ ¶ ยาคุ น สุนฺทรา, ปูวํ ขาทา’’ติ ปูวํ อทาสิ. ตมฺปิ ตเถว อกาสิ. ‘‘สเจ, สามิ, ปูวํ น สุนฺทรํ, ภตฺตํ ภฺุชา’’ติ ภตฺตํ อทาสิ. ภตฺตมฺปิ ตเถว กตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ ปจิตุํ อชานนฺตี มม สนฺตกํ กิมตฺถํ นาเสสี’’ติ กุทฺโธ วิย ตีณิปิ เอกโต มทฺทิตฺวา สีสโต ปฏฺาย สกลสรีรํ ลิมฺปิตฺวา ‘‘คจฺฉ, ทฺวาเร นิสีทาหี’’ติ อาห. สา อกุชฺฌิตฺวาว ‘‘สาธุ, สามี’’ติ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. โส ตสฺสา นิหตมานภาวํ ตฺวา ‘‘ภทฺเท, เอหี’’ติ อาห. สา อกุชฺฌิตฺวา เอกวจเนเนว อาคตา. มหาสตฺโต ปน อาคจฺฉนฺโต กหาปณสหสฺเสน สทฺธึ เอกสาฏกยุคํ ตมฺพูลปสิพฺพเก เปตฺวา อาคโต. อถ ¶ โส ตํ สาฏกํ นีหริตฺวา ตสฺสา หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตว สหายิกาหิ สทฺธึ นฺหายิตฺวา อิมํ สาฏกํ นิวาเสตฺวา เอหี’’ติ อาห. สา ตถา อกาสิ.
ปณฺฑิโต อุปฺปาทิตธนฺจ, อาภตธนฺจ สพฺพํ ตสฺสา มาตาปิตูนํ ทตฺวา สมสฺสาเสตฺวา สสุเร อาปุจฺฉิตฺวา ตํ อาทาย นคราภิมุโข อคมาสิ. อนฺตรามคฺเค ตสฺสา วีมํสนตฺถาย ฉตฺตฺจ อุปาหนฺจ ทตฺวา เอวมาห – ‘‘ภทฺเท, อิมํ ฉตฺตํ คเหตฺวา อตฺตานํ ธาเรหิ, อุปาหนํ อภิรุหิตฺวา ยาหี’’ติ. สา ตํ คเหตฺวา ตถา อกตฺวา อพฺโภกาเส สูริยสนฺตาเป ฉตฺตํ อธาเรตฺวา วนนฺเต ธาเรตฺวา คจฺฉติ, ถลฏฺาเน อุปาหนํ ปฏิมฺุจิตฺวา อุทกฏฺานํ สมฺปตฺตกาเล อภิรุหิตฺวา คจฺฉติ. โพธิสตฺโต ตํ การณํ ทิสฺวา ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ภทฺเท, ถลฏฺาเน อุปาหนํ ปฏิมฺุจิตฺวา อุทกฏฺาเน อภิรุหิตฺวา คจฺฉสิ, สูริยสนฺตาเป ฉตฺตํ อธาเรตฺวา วนนฺเต ธาเรตฺวา’’ติ? สา อาห – ‘‘สามิ, ถลฏฺาเน กณฺฏกาทีนิ ปสฺสามิ, อุทกฏฺาเน มจฺฉกจฺฉปกณฺฏกาทีนิ น ปสฺสามิ, เตสุ ปาเท ปวิฏฺเสุ ทุกฺขเวทนา ภเวยฺย, อพฺโภกาเส สุกฺขรุกฺขกณฺฏกาทีนิ นตฺถิ, วนนฺตรํ ปวิฏฺานํ ปน สุกฺขรุกฺขทณฺฑาทิเกสุ มตฺถเก ปติเตสุ ทุกฺขเวทนา ภเวยฺย, ตสฺมา ตานิ ปฏิฆาตนตฺถาย เอวํ กโรมี’’ติ.
โพธิสตฺโต ทฺวีหิ การเณหิ ตสฺสา กถํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา คจฺฉนฺโต เอกสฺมึ าเน ผลสมฺปนฺนํ เอกํ พทรรุกฺขํ ทิสฺวา พทรรุกฺขมูเล นิสีทิ. สา พทรรุกฺขมูเล นิสินฺนํ มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘สามิ, อภิรุหิตฺวา พทรผลํ คเหตฺวา ขาทาหิ, มยฺหมฺปิ เทหี’’ติ อาห. ‘‘ภทฺเท, อหํ กิลมามิ, อภิรุหิตุํ น สกฺโกมิ, ตฺวเมว อภิรุหา’’ติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา พทรรุกฺขํ อภิรุยฺห สาขนฺตเร นิสีทิตฺวา ผลํ โอจินิ. โพธิสตฺโต ตํ อาห – ‘‘ภทฺเท, ผลํ มยฺหํ เทหี’’ติ. สา ‘‘อยํ ปุริโส ปณฺฑิโต วา อปณฺฑิโต วา วีมํสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อาห ‘‘สามิ, อุณฺหผลํ ขาทิสฺสสิ, อุทาหุ สีตผล’’นฺติ? โส ตํ การณํ อชานนฺโต วิย เอวมาห – ‘‘ภทฺเท, อุณฺหผเลน เม อตฺโถ’’ติ ¶ . สา ผลานิ ภูมิยํ ขิปิตฺวา ‘‘สามิ, ขาทา’’ติ อาห. โพธิสตฺโต ตํ คเหตฺวา ธเมนฺโต ขาทิ. ปุน วีมํสมาโน นํ เอวมาห – ‘‘ภทฺเท, สีตลํ เม เทหี’’ติ. อถ สา ¶ พทรผลานิ ติณภูมิยา อุปริ ขิปิ. โส ตํ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ‘‘อยํ ทาริกา อติวิย ปณฺฑิตา’’ติ จินฺเตตฺวา ตุสฺสิ. อถ มหาสตฺโต ตํ อาห – ‘‘ภทฺเท, พทรรุกฺขโต โอตราหี’’ติ. สา มหาสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา รุกฺขโต โอตริตฺวา ฆฏํ คเหตฺวา นทึ คนฺตฺวา อุทกํ อาเนตฺวา มหาสตฺตสฺส อทาสิ. มหาสตฺโต ปิวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ตโต อุฏฺาย คจฺฉนฺโต นครเมว สมฺปตฺโต.
อถ โส ตํ วีมํสนตฺถาย โทวาริกสฺส เคเห เปตฺวา โทวาริกสฺส ภริยาย อาจิกฺขิตฺวา อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา ปุริเส อามนฺเตตฺวา ‘‘อสุกเคเห อิตฺถึ เปตฺวา อาคโตมฺหิ, อิมํ สหสฺสํ อาทาย คนฺตฺวา ตํ วีมํสถา’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา เปเสสิ. เต ตถา กรึสุ. สา อาห – ‘‘อิทํ มม สามิกสฺส ปาทรชมฺปิ น อคฺฆตี’’ติ. เต อาคนฺตฺวา ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ. ปุนปิ ยาวตติยํ เปเสตฺวา จตุตฺเถ วาเร มหาสตฺโต เตเยว ‘‘เตน หิ นํ หตฺเถ คเหตฺวา กฑฺฒนฺตา อาเนถา’’ติ อาห. เต ตถา กรึสุ. สา มหาสตฺตํ มหาสมฺปตฺติยํ ิตํ น สฺชานิ, นํ โอโลเกตฺวา จ ปน หสิ เจว โรทิ จ. โส อุภยการณํ ปุจฺฉิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘สามิ, อหํ หสมานา ตว สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา ‘อยํ อการเณน น ลทฺธา, ปุริมภเว กุสลํ กตฺวา ลทฺธา, อโห ปฺุานํ ผลํ นามา’ติ หสึ. โรทมานา ปน ‘อิทานิ ปรสฺส รกฺขิตโคปิตวตฺถุมฺหิ อปรชฺฌิตฺวา ¶ นิรยํ คมิสฺสตี’ติ ตยิ การฺุเน โรทิ’’นฺติ.
โส ตํ วีมํสิตฺวา สุทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘คจฺฉถ นํ ตตฺเถว เนถา’’ติ วตฺวา เปเสตฺวา ปุน ตุนฺนวายเวสํ คเหตฺวา คนฺตฺวา ตาย สทฺธึ สยิตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว ราชกุลํ ปวิสิตฺวา อุทุมฺพรเทวิยา อาโรเจสิ. สา รฺโ อาโรเจตฺวา อมราเทวึ สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา มหาโยคฺเค นิสีทาเปตฺวา มหนฺเตน สกฺกาเรน มหาสตฺตสฺส เคหํ เนตฺวา มงฺคลํ กาเรสิ. ราชา โพธิสตฺตสฺส สหสฺสมูลํ ปณฺณาการํ เปเสสิ. โทวาริเก อาทึ กตฺวา สกลนครวาสิโน ปณฺณากาเร ปหิณึสุ. อมราเทวีปิ รฺา ปหิตํ ปณฺณาการํ ทฺวิธา ¶ ภินฺทิตฺวา เอกํ โกฏฺาสํ รฺโ เปเสสิ. เอเตนุปาเยน สกลนครวาสีนมฺปิ ปณฺณาการํ เปเสตฺวา นครํ สงฺคณฺหิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺโต ตาย สทฺธึ สมคฺควาสํ วสนฺโต รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสิ.
อมราเทวิปริเยสนา นิฏฺิตา.
สพฺพรตนเถนวณฺณนา
อเถกทิวสํ ¶ เสนโก อิตเร ตโย อตฺตโน สนฺติกํ อาคเต อามนฺเตสิ ‘‘อมฺโภ, มยํ คหปติปุตฺตสฺส มโหสธสฺเสว นปฺปโหม, อิทานิ ปน เตน อตฺตนา พฺยตฺตตรา ภริยา อานีตา, กินฺติ นํ รฺโ อนฺตเร ปริภินฺเทยฺยามา’’ติ. ‘‘อาจริย, มยํ กึ ชานาม, ตฺวํเยว ชานาหี’’ติ. ‘‘โหตุ มา จินฺตยิตฺถ, อตฺเถโก อุปาโย, อหํ รฺโ จูฬามณึ เถเนตฺวา อาหริสฺสามิ, ปุกฺกุส, ตฺวํ สุวณฺณมาลํ อาหร, กามินฺท, ตฺวํ กมฺพลํ, เทวินฺท, ตฺวํ สุวณฺณปาทุกนฺติ เอวํ มยํ จตฺตาโรปิ อุปาเยน ตานิ อาหริสฺสาม, ตโต อมฺหากํ เคเห อฏฺเปตฺวา คหปติปุตฺตสฺส เคหํ เปเสสฺสามา’’ติ. อถ โข เต จตฺตาโรปิ ตถา กรึสุ. เตสุ เสนโก ตาว จูฬามณึ ตกฺกฆเฏ ปกฺขิปิตฺวา ทาสิยา หตฺเถ เปตฺวา เปเสสิ ‘‘อิมํ ตกฺกฆฏํ อฺเสํ คณฺหนฺตานํ อทตฺวา สเจ มโหสธสฺส เคเห คณฺหาติ, ฆเฏเนว สทฺธึ เทหี’’ติ. สา ปณฺฑิตสฺส ฆรทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘ตกฺกํ คณฺหถ, ตกฺกํ คณฺหถา’’ติ อปราปรํ จรติ.
อมราเทวี ทฺวาเร ิตา ตสฺสา กิริยํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อฺตฺถ น คจฺฉติ, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณนา’’ติ อิงฺคิตสฺาย ทาสิโย ปฏิกฺกมาเปตฺวา สยเมว ‘‘อมฺม, เอหิ ตกฺกํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ¶ ปกฺโกสิตฺวา ตสฺสา อาคตกาเล ทาสีนํ สฺํ ทตฺวา ตาสุ อนาคจฺฉนฺตีสุ ‘‘คจฺฉ, อมฺม, ทาสิโย ปกฺโกสาหี’’ติ ตเมว เปเสตฺวา ตกฺกฆเฏ หตฺถํ โอตาเรตฺวา มณึ ทิสฺวา ตํ ทาสึ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, ตฺวํ กสฺส สนฺตกา’’ติ? ‘‘อยฺเย, เสนกปณฺฑิตสฺส ทาสีมฺหี’’ติ. ตโต ตสฺสา นามํ ตสฺสา จ มาตุยา นามํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกา นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อมฺม, อิมํ ตกฺกํ กติมูล’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อยฺเย, จตุนาฬิก’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, อมฺม, อิมํ ตกฺกํ เม เทหี’’ติ วตฺวา ‘‘อยฺเย, ตุมฺเหสุ คณฺหนฺตีสุ มูเลน เม โก อตฺโถ, ฆเฏเนว สทฺธึ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ ยาหี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา สา ‘‘อสุกมาเส อสุกทิวเส ¶ เสนกาจริโย อสุกาย นาม ทาสิยา ธีตาย อสุกาย นาม หตฺเถ รฺโ จูฬามณึ ปเหนกตฺถาย ปหิณี’’ติ ปณฺเณ ลิขิตฺวา ตกฺกํ คณฺหิ. ปุกฺกุโสปิ สุวณฺณมาลํ สุมนปุปฺผจงฺโกฏเก เปตฺวา สุมนปุปฺเผน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ตเถว เปเสสิ. กามินฺโทปิ กมฺพลํ ปณฺณปจฺฉิยํ เปตฺวา ปณฺเณหิ ฉาเทตฺวา เปเสสิ. เทวินฺโทปิ สุวณฺณปาทุกํ ยวกลาปนฺตเร พนฺธิตฺวา เปเสสิ. สา สพฺพานิปิ ตานิ คเหตฺวา ปณฺเณ อกฺขรานิ อาโรเปตฺวา มหาสตฺตสฺส อาจิกฺขิตฺวา เปสิ.
เตปิ ¶ จตฺตาโร ปณฺฑิตา ราชกุลํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, เทว, ตุมฺเห จูฬามณึ น ปิฬนฺธถา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘ปิฬนฺธิสฺสามิ อาหรถา’’ติ ปุริเส อาห. เต มณึ น ปสฺสึสุ, อิตรานิปิ น ปสฺสึสุเยว. อถ เต จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อาภรณานิ มโหสธสฺส เคเห อตฺถิ, โส ตานิ สยํ วฬฺเชติ, ปฏิสตฺตุ เต มหาราช, คหปติปุตฺโต’’ติ ตํ ภินฺทึสุ. อถสฺส อตฺถจรกา มนุสฺสา สีฆํ คนฺตฺวา อาโรเจสุํ. โส ‘‘ราชานํ ทิสฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ราชุปฏฺานํ อคมาสิ. ราชา กุชฺฌิตฺวา ‘‘โก ชานิสฺสติ, กึ ภวิสฺสติ กึ กริสฺสตี’’ติ อตฺตานํ ปสฺสิตุํ นาทาสิ. ปณฺฑิโต รฺโ กุทฺธภาวํ ตฺวา อตฺตโน นิเวสนเมว คโต. ราชา ‘‘นํ คณฺหถา’’ติ อาณาเปสิ. ปณฺฑิโต อตฺถจรกานํ วจนํ สุตฺวา ‘‘มยา อปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อมราเทวิยา สฺํ ทตฺวา อฺาตกเวเสน นครา นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณยวมชฺฌกคามํ คนฺตฺวา ตสฺมึ กุมฺภการกมฺมํ อกาสิ. นคเร ‘‘ปณฺฑิโต ปลาโต’’ติ เอกโกลาหลํ ชาตํ.
เสนกาทโยปิ จตฺตาโร ชนา ตสฺส ปลาตภาวํ ตฺวา ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มยํ กึ อปณฺฑิตา’’ติ อฺมฺํ อชานาเปตฺวาว อมราเทวิยา ปณฺณาการํ ปหิณึสุ ¶ สา เตหิ จตูหิ เปสิตปณฺณาการํ คเหตฺวา ‘‘อสุก-อสุกเวลาย อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา เอกํ กูปํ ขณาเปตฺวา คูถราสิโน สห อุทเกน ตตฺถ ปูเรตฺวา คูถกูปสฺส อุปริตเล ยนฺตผลกาหิ ปิทหิตฺวา กิฬฺเชน ปฏิจฺฉาเทตฺวา สพฺพํ นิฏฺาเปสิ. อถ เสนโก สายนฺหสมเย นฺหตฺวา อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา โพธิสตฺตสฺส เคหํ อคมาสิ. โส ฆรทฺวาเร ตฺวา ¶ อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. สา ‘‘เอหิ, อาจริยา’’ติ อาห. โส คนฺตฺวา ตสฺสา สนฺติเก อฏฺาสิ. สา เอวมาห – ‘‘สามิ, อิทานิ อหํ ตว วสํ คตา, อตฺตโน สรีรํ อนฺหายิตฺวา สยิตุํ อยุตฺต’’นฺติ. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. สา นิกฺขมิตฺวา อุทกปูรํ ฆฏํ คเหตฺวา อาสิตฺตา วิย ‘‘เอหิ, อาจริย, นฺหานตฺถาย ผลกานิ อารุหา’’ติ วตฺวา ตสฺส ผลกานิ อภิรุยฺห ิตกาเล เคหํ ปวิสิตฺวา ผลกโกฏิยํ อกฺกมิตฺวา คูถกูเป ปาเตสิ.
ปุกฺกุโสปิ สายนฺหสมเย นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา โพธิสตฺตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ฆรทฺวาเร ตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. เอกา ปริจาริกา อิตฺถี อมราเทวิยา อาโรเจสิ. สา ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘เอหิ, อาจริย, อตฺตโน สรีรํ อนฺหายิตฺวา สยิตุํ อยุตฺต’’นฺติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. สา นิกฺขมิตฺวา อุทกปูรํ ฆฏํ คเหตฺวา อาสิฺจมานา วิย ‘‘เอหิ, อาจริย, นฺหานตฺถาย ผลกานิ อภิรุหา’’ติ อาห. ตสฺส ผลกานิ อภิรุยฺห ิตกาเล สา เคหํ ปวิสิตฺวา ผลกานิ อากฑฺฒิตฺวา ¶ คูถกูเป ปาเตสิ. ปุกฺกุสํ เสนโก ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ ปุกฺกุโส’’ติ. ‘‘ตฺวํ โก นาม มนุสฺโส’’ติ? ‘‘อหํ เสนโก’’ติ อฺมฺํ ปุจฺฉิตฺวา อฏฺํสุ. ตถา อิตเร ทฺเวปิ ตตฺเถว ปาเตสิ. สพฺเพปิ เต เชคุจฺเฉ คูถกูเป อฏฺํสุ. สา วิภาตาย รตฺติยา ตโต อุกฺขิปาเปตฺวา, จตฺตาโรปิ ชเน ขุรมุณฺเฑ การาเปตฺวา ตณฺฑุลานิ คาหาเปตฺวา อุทเกน เตเมตฺวา โกฏฺฏาเปตฺวา จุณฺณํ พหลยาคุํ ปจาเปตฺวา มทฺทิตฺวา สีสโต ปฏฺาย สกลสรีรํ วิลิมฺปาเปตฺวา ตูลปิจูนิ คาหาเปตฺวา ตเถว สีสโต ปฏฺาย โอกิราเปตฺวา มหาทุกฺขํ ปาเปตฺวา กิลฺชกุจฺฉิยํ นิปชฺชาเปตฺวา เวเตฺวา รฺโ อาโรเจตุกามา หุตฺวา เตหิ สทฺธึ จตฺตาริ รตนานิ คาหาเปตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา – ‘‘เทว, เสตวานรํ นาม มหาปณฺณาการํ ปฏิคฺคณฺหถา’’ติ วตฺวา จตฺตาริ กิลฺชานิ รฺโ ปาทมูเล ปาเปสิ. อถ ราชา วิวราเปตฺวา เสตมกฺกฏสทิเส จตฺตาโรปิ ชเน ปสฺสิ. อถ สพฺเพ มนุสฺสา ‘‘อโห อทิฏฺปุพฺพา, อโห มหาเสตวานรา’’ติ วตฺวา มหาหสิตํ หสึสุ. เต จตฺตาโรปิ มหาลชฺชา อเหสุํ.
อถ ¶ อมราเทวี อตฺตโน สามิโน นิทฺโทสภาวํ กเถนฺตี ราชานํ อาห – ‘‘เทว, มโหสธปณฺฑิโต น โจโร, อิเม จตฺตาโรว โจรา. เอเตสุ หิ เสนโก มณิโจโร, ปุกฺกุโส สุวณฺณมาลาโจโร, กามินฺโท กมฺพลโจโร, เทวินฺโท สุวณฺณปาทุกาโจโร. อิเม โจรา อสุกมาเส อสุกทิวเส อสุกทาสิธีตานํ อสุกทาสีนํ หตฺเถ อิมานิ รตนานิ ปหิณนฺติ. อิมํ ปณฺณํ ปสฺสถ, อตฺตโน สนฺตกฺจ คณฺหถ, โจเร จ, เทว, ปฏิจฺฉถา’’ติ. สา จตฺตาโรปิ ชเน มหาวิปฺปการํ ปาเปตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน เคหเมว คตา. ราชา โพธิสตฺตสฺส ปลาตภาเวน ตสฺมึ อาสงฺกาย จ อฺเสํ ปณฺฑิตปติมนฺตีนํ อภาเวน จ เตสํ กิฺจิ อวตฺวา ‘‘ปณฺฑิตา นฺหาเปตฺวา อตฺตโน เคหานิ คจฺฉถา’’ติ เปเสสิ. จตฺตาโร ชนา มหาวิปฺปการํ ปตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน เคหเมว คตา.
สพฺพรตนเถนา นิฏฺิตา.
ขชฺโชปนกปฺโห
อถสฺส ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา โพธิสตฺตสฺส ธมฺมเทสนํ อสฺสุณนฺตี ‘‘กึ นุ โข การณ’’นฺติ อาวชฺชมานา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘ปณฺฑิตสฺส อานยนการณํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา รตฺติภาเค ฉตฺตปิณฺฑิกํ วิวริตฺวา ราชานํ จตุกฺกนิปาเต เทวตาย ปุจฺฉิตปฺเห อาคเต ¶ ‘‘หนฺติ หตฺเถหิ ปาเทหี’’ติอาทิเก จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉิ. ราชา อชานนฺโต ‘‘อหํ น ชานามิ, อฺเ ปณฺฑิเต ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ เอกทิวสํ โอกาสํ ยาจิตฺวา ปุนทิวเส ‘‘อาคจฺฉนฺตู’’ติ จตุนฺนํ ปณฺฑิตานํ สาสนํ เปเสสิ. เตหิ ‘‘มยํ ขุรมุณฺฑา วีถึ โอตรนฺตา ลชฺชามา’’ติ วุตฺเต ราชา จตฺตาโร นาฬิปฏฺเฏ เปเสสิ ‘‘อิเม สีเสสุ กตฺวา อาคจฺฉนฺตู’’ติ. ตทา กิร เต นาฬิปฏฺฏา อุปฺปนฺนา. เต อาคนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทึสุ. อถ ราชา ‘‘เสนก, อชฺช รตฺติภาเค ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา มํ จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉิ, อหํ ปน อชานนฺโต ‘ปณฺฑิเต ปุจฺฉิสฺสามี’ติ อวจํ, กเถหิ เม เต ปฺเห’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘หนฺติ หตฺเถหิ ปาเทหิ, มุขฺจ ปริสุมฺภติ;
ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๗);
เสนโก ¶ อชานนฺโต ‘‘กึ หนฺติ, กถํ หนฺตี’’ติ ตํ ตํ วิลปิตฺวา เนว อนฺตํ ¶ ปสฺสิ, น โกฏึ ปสฺสิ. เสสาปิ อปฺปฏิภานา อเหสุํ. อถ ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ปุน รตฺติภาเค เทวตาย ‘‘ปฺโห เต าโต’’ติ ปุฏฺโ ‘‘มยา จตฺตาโร ปณฺฑิตา ปุฏฺา, เตปิ น ชานึสู’’ติ อาห. เทวตา ‘‘กึ เต ชานิสฺสนฺติ, เปตฺวา มโหสธปณฺฑิตํ อฺโ โกจิ เอเต ปฺเห กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. สเจ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา เอเต ปฺเห น กถาเปสฺสสิ, อิมินา เต ชลิเตน อยกูเฏน สีสํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ราชานํ ตชฺเชตฺวา ‘‘มหาราช, อคฺคินา อตฺเถ สติ ขชฺโชปนกํ ธมิตุํ น วฏฺฏติ, ขีเรน อตฺเถ สติ วิสาณํ ทุหิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา อิมํ ปฺจกนิปาเต ขชฺโชปนกปฺหํ อุทาหริ –
‘‘โก นุ สนฺตมฺหิ ปชฺโชเต, อคฺคิปริเยสนํ จรํ;
อทฺทกฺขิ รตฺติ ขชฺโชตํ, ชาตเวทํ อมฺถ.
‘‘สฺวสฺส โคมยจุณฺณานิ, อภิมตฺถํ ติณานิ จ;
วิปรีตาย สฺาย, นาสกฺขิ ปชฺชเลตเว.
‘‘เอวมฺปิ อนุปาเยน, อตฺถํ น ลภเต มิโค;
วิสาณโต ควํ โทหํ, ยตฺถ ขีรํ น วินฺทติ.
‘‘วิวิเธหิ ¶ อุปาเยหิ, อตฺถํ ปปฺโปนฺติ มาณวา;
นิคฺคเหน อมิตฺตานํ, มิตฺตานํ ปคฺคเหน จ.
‘‘เสนาโมกฺขปลาเภน, วลฺลภานํ นเยน จ;
ชคตึ ชคติปาลา, อาวสนฺติ วสุนฺธร’’นฺติ. (ชา. ๑.๕.๗๕-๗๙);
ตตฺถ สนฺตมฺหิ ปชฺโชเตติ อคฺคิมฺหิ สนฺเต. จรนฺติ จรนฺโต. อทฺทกฺขีติ ปสฺสิ, ทิสฺวา จ ปน วณฺณสามฺตาย ขชฺโชปนกํ ‘‘ชาตเวโท อยํ ภวิสฺสตี’’ติ อมฺิตฺถ. สฺวสฺสาติ โส อสฺส ขชฺโชปนกสฺส อุปริ สุขุมานิ โคมยจุณฺณานิ เจว ติณานิ จ. อภิมตฺถนฺติ หตฺเถหิ ฆํสิตฺวา อากิรนฺโต ชณฺณุเกหิ ภูมิยํ ปติฏฺาย มุเขน ธมนฺโต ชาเลสฺสามิ นนฺติ วิปรีตาย สฺาย วายมนฺโตปิ ชาเลตุํ นาสกฺขิ. มิโคติ มิคสทิโส อนฺธพาโล เอวํ อนุปาเยน ปริเยสนฺโต อตฺถํ น ลภติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ วิสาเณ ขีรเมว นตฺถิ, ตโต คาวึ ทุหนฺโต ¶ วิย จ อตฺถํ น วินฺทติ. เสนาโมกฺขปลาเภนาติ เสนาโมกฺขานํ อมจฺจานํ ลาเภน. วลฺลภานนฺติ ปิยมนาปานํ ¶ วิสฺสาสิกานํ อมจฺจานํ นเยน จ. วสุนฺธรนฺติ วสุสงฺขาตานํ รตนานํ ธารณโต วสุนฺธรนฺติ ลทฺธนามํ ชคตึ ชคติปาลา ราชาโน อาวสนฺติ.
น เต ตยา สทิสา หุตฺวา อคฺคิมฺหิ วิชฺชมาเนเยว ขชฺโชปนกํ ธมนฺติ. มหาราช, ตฺวํ ปน อคฺคิมฺหิ สติ ขชฺโชปนกํ ธมนฺโต วิย, ตุลํ ฉฑฺเฑตฺวา หตฺเถน ตุลยนฺโต วิย, ขีเรน อตฺเถ ชาเต วิสาณโต ทุหนฺโต วิย จ, เสนกาทโย ปุจฺฉสิ, เอเต กึ ชานนฺติ. ขชฺโชปนกสทิสา เหเต. อคฺคิกฺขนฺธสทิโส มโหสโธ ปฺาย ชลติ, ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉ. อิเม เต ปฺเห อชานนฺตสฺส ชีวิตํ นตฺถีติ ราชานํ ตชฺเชตฺวา อนฺตรธายิ.
ขชฺโชปนกปฺโห นิฏฺิโต.
ภูริปฺโห
อถ ราชา มรณภยตชฺชิโต ปุนทิวเส จตฺตาโร อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา, ตุมฺเห จตฺตาโร จตูสุ รเถสุ ตฺวา จตูหิ นครทฺวาเรหิ นิกฺขมิตฺวา ยตฺถ มม ปุตฺตํ มโหสธปณฺฑิตํ ปสฺสถ, ตตฺเถวสฺส สกฺการํ กตฺวา ขิปฺปํ อาเนถา’’ติ อาณาเปสิ. เตปิ จตฺตาโร เอเกเกน ทฺวาเรน ¶ นิกฺขมึสุ. เตสุ ตโย ชนา ปณฺฑิตํ น ปสฺสึสุ. ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขนฺโต ปน ทกฺขิณยวมชฺฌกคาเม มหาสตฺตํ มตฺติกํ อาหริตฺวา อาจริยสฺส จกฺกํ วฏฺเฏตฺวา มตฺติกามกฺขิตสรีรํ ปลาลปิฏฺเก นิสีทิตฺวา มุฏฺึ มุฏฺึ กตฺวา อปฺปสูปํ ยวภตฺตํ ภฺุชมานํ ปสฺสิ. กสฺมา ปเนส เอตํ กมฺมํ อกาสีติ? ราชา กิร ‘‘นิสฺสํสยํ ปณฺฑิโต รชฺชํ คณฺหิสฺสตี’’ติ อาสงฺกติ. ‘‘โส ‘กุมฺภการกมฺเมน ชีวตี’ติ สุตฺวา นิราสงฺโก ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมกาสีติ. โส อมจฺจํ ทิสฺวา อตฺตโน สนฺติกํ อาคตภาวํ ตฺวา ‘‘อชฺช มยฺหํ ยโส ปุน ปากติโก ภวิสฺสติ, อมราเทวิยา สมฺปาทิตํ นานคฺครสโภชนเมว ภฺุชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คหิตํ ยวภตฺตปิณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา อุฏฺาย มุขํ วิกฺขาเลตฺวา นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ โส อมจฺโจ ตํ อุปสงฺกมิ. โส ปน เสนกปกฺขิโก, ตสฺมา นํ ฆเฏนฺโต ‘‘ปณฺฑิต, อาจริยเสนกสฺส วจนํ นิยฺยานิกํ, ตว นาม ยเส ปริหีเน ตถารูปา ¶ ปฺา ปติฏฺา โหตุํ นาสกฺขิ, อิทานิ มตฺติกามกฺขิโต ปลาลปิฏฺเ นิสีทิตฺวา เอวรูปํ ภตฺตํ ภฺุชสี’’ติ วตฺวา ทสกนิปาเต ภูริปฺเห ปมํ คาถมาห –
‘‘สจฺจํ ¶ กิร, ตฺวํ อปิ ภูริปฺ, ยา ตาทิสี สิรี ธิตี มตี จ;
น ตายเตภาววสูปนิตํ, โย ยวกํ ภฺุชสิ อปฺปสูป’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๕);
ตตฺถ สจฺจํ กิราติ ยํ อาจริยเสนโก อาห, ตํ กิร สจฺจเมว. สิรีติ อิสฺสริยํ. ธิตีติ อพฺโภจฺฉินฺนวีริยํ. น ตายเตภาววสูปนิตนฺติ อภาวสฺส อวุฑฺฒิยา วสํ อุปนีตํ ตํ น รกฺขติ น โคเปติ, ปติฏฺา โหตุํ น สกฺโกติ. ยวกนฺติ ยวภตฺตํ.
อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘อนฺธพาล, อหํ อตฺตโน ปฺาพเลน ปุน ตํ ยสํ ปากติกํ กาตุกาโม เอวํ กโรมี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘สุขํ ทุกฺเขน ปริปาจยนฺโต, กาลากาลํ วิจินํ ฉนฺทฉนฺโน;
อตฺถสฺส ทฺวารานิ อวาปุรนฺโต, เตนาหํ ตุสฺสามิ ยโวทเนน.
‘‘กาลฺจ ตฺวา อภิชีหนาย, มนฺเตหิ อตฺถํ ปริปาจยิตฺวา;
วิชมฺภิสฺสํ สีหวิชมฺภิตานิ, ตายิทฺธิยา ทกฺขสิ มํ ปุนาปี’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๖-๑๔๗);
ตตฺถ ¶ ทุกฺเขนาติ อิมินา กายิกเจตสิกทุกฺเขน อตฺตโน โปราณกสุขํ ปฏิปากติกกรเณน ปริปาจยนฺโตวฑฺเฒนฺโต. กาลากาลนฺติ อยํ ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา จรณกาโล, อยํ อปฺปฏิจฺฉนฺโนติ เอวํ กาลฺจ อกาลฺจ วิจินนฺโต รฺโ กุทฺธกาเล ฉนฺเนน จริตพฺพนฺติ ตฺวา ฉนฺเทน อตฺตโน รุจิยา ฉนฺโน ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา กุมฺภการกมฺเมน ชีวนฺโต อตฺตโน อตฺถสฺส การณสงฺขาตานิ ทฺวารานิ ¶ อวาปุรนฺโต วิหรามิ, เตน การเณนาหํ ยโวทเนน ตุสฺสามีติ อตฺโถ. อภิชีหนายาติ วีริยกรณสฺส. มนฺเตหิ อตฺถํ ปริปาจยิตฺวาติ อตฺตโน าณพเลน มม ยสํ วฑฺเฒตฺวา มโนสิลาตเล วิชมฺภมาโน สีโห วิย วิชมฺภิสฺสํ, ตาย อิทฺธิยา มํ ปุนปิ ตฺวํ ปสฺสิสฺสสีติ.
อถ นํ อมจฺโจ อาห – ‘‘ปณฺฑิต, ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา ราชานํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. ราชา จตฺตาโร ปณฺฑิเต ปุจฺฉิ. เตสุ เอโกปิ ตํ ปฺหํ กเถตุํ นาสกฺขิ, ตสฺมา ราชา ตว สนฺติกํ มํ ปหิณี’’ติ. ‘‘เอวํ ¶ สนฺเต ปฺาย อานุภาวํ กสฺมา น ปสฺสสิ, เอวรูเป หิ กาเล น อิสฺสริยํ ปติฏฺา โหติ, ปฺาสมฺปนฺโนว ปติฏฺา โหตี’’ติ มหาสตฺโต ปฺาย อานุภาวํ วณฺเณสิ. อมจฺโจ รฺา ‘‘ปณฺฑิตํ ทิฏฺฏฺาเนเยว สกฺการํ กตฺวา อาเนถา’’ติ ทินฺนํ กหาปณสหสฺสํ มหาสตฺตสฺส หตฺเถ เปสิ. กุมฺภกาโร ‘‘มโหสธปณฺฑิโต กิร มยา เปสการกมฺมํ การิโต’’ติ ภยํ อาปชฺชิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มา ภายิ, อาจริย, พหูปกาโร ตฺวํ อมฺหาก’’นฺติ อสฺสาเสตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา มตฺติกามกฺขิเตเนว สรีเรน รเถ นิสีทิตฺวา นครํ ปาวิสิ. อมจฺโจ รฺโ อาโรเจตฺวา ‘‘ตาต, กุหึ ปณฺฑิโต ทิฏฺโ’’ติ วุตฺเต ‘‘เทว, ทกฺขิณยวมชฺฌกคาเม กุมฺภการกมฺมํ กตฺวา ชีวติ, ตุมฺเห ปกฺโกสถาติ สุตฺวาว อนฺหายิตฺวา มตฺติกามกฺขิเตเนว สรีเรน อาคโต’’ติ อาห. ราชา ‘‘สเจ มยฺหํ ปจฺจตฺถิโก อสฺส, อิสฺสริยวิธินา จเรยฺย, นายํ มม ปจฺจตฺถิโก’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มม ปุตฺตสฺส ‘อตฺตโน ฆรํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา มยา ทินฺนวิธาเนน อาคจฺฉตู’ติ วเทยฺยาถา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต ตถา กตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ราชา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปณฺฑิตํ วีมํสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘สุขีปิ เหเก น กโรนฺติ ปาปํ, อวณฺณสํสคฺคภยา ปุเนเก;
ปหู สมาโน วิปุลตฺถจินฺตี, กึ การณา เม น กโรสิ ทุกฺข’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๘);
ตตฺถ ¶ ¶ สุขีติ ปณฺฑิต, เอกจฺเจ ‘‘มยํ สุขิโน สมฺปนฺนอิสฺสริยา, อลํ โน เอตฺตเกนา’’ติ อุตฺตริ อิสฺสริยการณา ปาปํ น กโรนฺติ, เอกจฺเจ ‘‘เอวรูปสฺส โน ยสทายกสฺส สามิกสฺส อปรชฺฌนฺตานํ อวณฺโณ ภวิสฺสตี’’ติ อวณฺณสํสคฺคภยา น กโรนฺติ. เอโก น สมตฺโถ โหติ, เอโก มนฺทปฺโ, ตฺวํ ปน สมตฺโถ จ วิปุลตฺถจินฺตี จ, อิจฺฉนฺโต ปน สกลชมฺพุทีเป รชฺชมฺปิ กาเรยฺยาสิ. กึ การณา มม รชฺชํ คเหตฺวา ทุกฺขํ น กโรสีติ.
อถ นํ โพธิสตฺโต อาห –
‘‘น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ, ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ;
ทุกฺเขน ¶ ผุฏฺา ขลิตาปิ สนฺตา, ฉนฺทา จ โทสา น ชหนฺติ ธมฺม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๙);
ตตฺถ ขลิตาปีติ สมฺปตฺติโต ขลิตฺวา วิปตฺติยํ ิตสภาวา หุตฺวาปิ. น ชหนฺติ ธมฺมนฺติ ปเวณิยธมฺมมฺปิ สุจริตธมฺมมฺปิ น ชหนฺติ.
ปุน ราชา ตสฺส วีมํสนตฺถํ ขตฺติยมายํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘เยน เกนจิ วณฺเณน, มุทุนา ทารุเณน วา;
อุทฺธเร ทีนมตฺตานํ, ปจฺฉา ธมฺมํ สมาจเร’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๐);
ตตฺถ ทีนนฺติ ทุคฺคตํ อตฺตานํ อุทฺธริตฺวา สมฺปตฺติยํ เปยฺยาติ.
อถสฺส มหาสตฺโต รุกฺขูปมํ ทสฺเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๑);
เอวฺจ ปน วตฺวา – ‘‘มหาราช, ยทิ ปริภุตฺตรุกฺขสฺส สาขํ ภฺชนฺโตปิ มิตฺตทุพฺภี โหติ ¶ , เยหิ ตุมฺเหหิ มม ปิตา อุฬาเร อิสฺสริเย ปติฏฺาปิโต, อหฺจ มหนฺเตน อนุคฺคเหน อนุคฺคหิโต, เตสุ ตุมฺเหสุ อปรชฺฌนฺโต อหํ กถํ นาม มิตฺตทุพฺโภ น ภเวยฺย’’นฺติ สพฺพถาปิ อตฺตโน อมิตฺตทุพฺภิภาวํ กเถตฺวา รฺโ จิตฺตาจารํ โจเทนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ยสฺสาปิ ¶ ธมฺมํ ปุริโส วิชฺา, เย จสฺส กงฺขํ วินยนฺติ สนฺโต;
ตํ หิสฺส ทีปฺจ ปรายณฺจ, น เตน เมตฺตึ ชรเยถ ปฺโ’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๒);
ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ยสฺส อาจริยสฺส สนฺติกา โย ปุริโส อปฺปมตฺตกมฺปิ ธมฺมํ การณํ ชาเนยฺย, เย จสฺส สนฺโต อุปฺปนฺนํ กงฺขํ วินยนฺติ, ตํ ตสฺส ปติฏฺานฏฺเน ทีปฺเจว ปรายณฺจ, ตาทิเสน อาจริเยน สทฺธึ ปณฺฑิโต มิตฺตภาวํ นาม น ชีเรยฺย น นาเสยฺย.
อิทานิ ตํ โอวทนฺโต อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ, อสฺโต ปพฺพชิโต น สาธุ;
ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี, โย ปณฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ.
‘‘นิสมฺม ¶ ขตฺติโย กยิรา, นานิสมฺม ทิสมฺปติ;
นิสมฺมการิโน ราช, ยโส กิตฺติ จ วฑฺฒตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๓-๑๕๔);
ตตฺถ น สาธูติ น สุนฺทโร. อนิสมฺมการีติ กิฺจิ สุตฺวา อนุปธาเรตฺวา อตฺตโน ปจฺจกฺขํ อกตฺวา การโก. ยโส กิตฺติ จาติ อิสฺสริยปริวาโร จ คุณกิตฺติ จ เอกนฺเตน วฑฺฒตีติ.
ภูริปฺโห นิฏฺิโต.
เทวตาปฺโห
เอวํ ¶ วุตฺเต ราชา มหาสตฺตํ สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา สยํ นีจาสเน นิสีทิตฺวา อาห – ‘‘ปณฺฑิต, เสตจฺฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา มํ จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉิ, เต อหํ น ชานามิ. จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา น ชานึสุ, กเถหิ เม, ตาต, เต ปฺเห’’ติ. มหาราช, ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา วา โหตุ, จาตุมหาราชิกาทโย วา โหนฺตุ, เยน เกนจิ ปุจฺฉิตปฺหํ อหํ กเถตุํ สกฺโกมิ. วท, มหาราช, เทวตาย ปุจฺฉิตปฺเหติ. อถ ราชา เทวตาย ปุจฺฉิตนิยาเมเนว กเถนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘หนฺติ ¶ หตฺเถหิ ปาเทหิ, มุขฺจ ปริสุมฺภติ;
ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๗);
ตตฺถ หนฺตีติ ปหรติ. ปริสุมฺภตีติ ปหรติเยว. ส เวติ โส เอวํ กโรนฺโต ปิโย โหติ. กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสีติ เตน ปหรณการเณน ปิยํ กตมํ ปุคฺคลํ ตฺวํ, ราช, อภิปสฺสสีติ.
มหาสตฺตสฺส ตํ กถํ สุตฺวาว คคนตเล ปุณฺณจนฺโท วิย อตฺโถ ปากโฏ อโหสิ. อถ มหาสตฺโต ‘‘สุณ, มหาราช, ยทา หิ มาตุองฺเก นิปนฺโน ทหรกุมาโร หฏฺตุฏฺโ กีฬนฺโต มาตรํ หตฺถปาเทหิ ปหรติ, เกเส ลฺุจติ, มุฏฺินา มุขํ ปหรติ, ตทา นํ มาตา ‘โจรปุตฺตก, กถํ ตฺวํ โน เอวํ ปหรสี’ติอาทีนิ เปมสิเนหวเสเนว วตฺวา เปมํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อาลิงฺคิตฺวา ถนนฺตเร นิปชฺชาเปตฺวา มุขํ ปริจุมฺพติ. อิติ โส ตสฺสา เอวรูเป กาเล ปิยตโร โหติ, ตถา ปิตุโนปี’’ติ เอวํ คคนมชฺเฌ สูริยํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา ปฺหํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา เทวตา ฉตฺตปิณฺฑิกํ วิวริตฺวา นิกฺขมิตฺวา อุปฑฺฒํ สรีรํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สุกถิโต ปณฺฑิเตน ปฺโห’’ติ มธุรสฺสเรน สาธุการํ ทตฺวา รตนจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา ทิพฺพปุปฺผคนฺธวาเสหิ โพธิสตฺตํ ปูเชตฺวา อนฺตรธายิ. ราชาปิ ปณฺฑิตํ ปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา ¶ อิตรํ ปฺหํ ยาจิตฺวา ‘‘วท, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘อกฺโกสติ ยถากามํ, อาคมฺจสฺส อิจฺฉติ;
ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๘);
อถสฺส ¶ มหาสตฺโต – ‘‘มหาราช, มาตา วจนเปสนํ กาตุํ สมตฺถํ สตฺตฏฺวสฺสิกํ ปุตฺตํ ‘ตาต, เขตฺตํ คจฺฉ, อนฺตราปณํ คจฺฉา’ติอาทีนิ วตฺวา ‘อมฺม, สเจ อิทฺจิทฺจ ขาทนียํ โภชนียํ ทสฺสสิ, คมิสฺสามี’ติ วุตฺเต ‘สาธุ, ปุตฺต, คณฺหาหี’ติ วตฺวา เทติ. โส ทารโก ตํ ขาทิตฺวา พหิ คนฺตฺวา ทารเกหิ สทฺธึ กีฬิตฺวา มาตุเปสนํ น คจฺฉติ. มาตรา ‘‘ตาต, คจฺฉาหี’ติ วุตฺเต โส มาตรํ ‘อมฺม, ตฺวํ สีตาย ฆรจฺฉายาย นิสีทสิ, กึ ปน อหํ ตว พหิ ¶ เปสนกมฺมํ กริสฺสามิ, อหํ ตํ วฺเจมี’ติ วตฺวา หตฺถวิการมุขวิกาเร กตฺวา คโต. สา คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา กุชฺฌิตฺวา ทณฺฑกํ คเหตฺวา ‘ตฺวํ มม สนฺตกํ ขาทิตฺวา เขตฺเต กิจฺจํ กาตุํ น อิจฺฉสี’ติ ตชฺเชนฺตี เวเคน ปลายนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตี ‘โจรา ตํ ขณฺฑาขณฺฑํ ฉินฺทนฺตู’ติอาทีนิ วตฺวา ยถากามํ อกฺโกสติ ปริภาสติ. ยํ ปน มุเขน ภณติ, ตถา หทเย อปฺปมตฺตกมฺปิ น อิจฺฉติ, อาคมนฺจสฺส อิจฺฉติ, โส ทิวสภาคํ กีฬิตฺวา สายํ เคหํ ปวิสิตุํ อวิสหนฺโต าตกานํ สนฺติกํ คจฺฉติ. มาตาปิสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี อนาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘ปวิสิตุํ น วิสหติ มฺเ’ติ โสกสฺส หทยํ ปูเรตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ าติฆเร อุปธาเรนฺตี ปุตฺตํ ทิสฺวา อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ คเหตฺวา ‘ตาต ปิยปุตฺตก, มม วจนํ หทเย เปสี’ติ อติเรกตรํ เปมํ อุปฺปาเทสิ. เอวํ, มหาราช, มาตุยา กุทฺธกาเล ปุตฺโต ปิยตโร นาม โหตี’’ติ ทุติยํ ปฺหํ กเถสิ. เทวตา ตเถว ปูเชสิ.
ราชาปิ ปูเชตฺวา ตติยํ ปฺหํ ยาจิตฺวา ‘‘วท, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ตติยํ คาถมาห –
‘‘อพฺภกฺขาติ อภูเตน, อลิเกนาภิสารเย;
ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๙);
อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘ราช, ยทา อุโภ ชยมฺปติกา รโหคตา โลกสฺสาทรติยา ¶ กีฬนฺตา ‘ภทฺเท, ตว มยิ เปมํ นตฺถิ, หทยํ เต พหิ คต’นฺติ เอวํ อฺมฺํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, อลิเกน สาเรนฺติ โจเทนฺติ, ตทา เต อติเรกตรํ อฺมฺํ ปิยายนฺติ. เอวมสฺส ปฺหสฺส อตฺถํ ชานาหี’’ติ กเถสิ. เทวตา ตเถว ปูเชสิ.
ราชาปิ ปูเชตฺวา อิตรํ ปฺหํ ยาจิตฺวา ‘‘วท, มหาราชา’’ติ วุตฺเต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘หรํ ¶ ¶ อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
อฺทตฺถุหรา สนฺตา, เต เว ราช ปิยา โหนฺติ;
กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๒๐๐);
อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, อยํ ปฺโห ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ สนฺธาย วุตฺโต. สทฺธานิ หิ กุลานิ อิธโลกปรโลกํ สทฺทหิตฺวา เทนฺติ เจว ทาตุกามานิ จ โหนฺติ, ตานิ ตถารูเป สมณพฺราหฺมเณ ยาจนฺเตปิ ลทฺธํ หรนฺเต ภฺุชนฺเตปิ ทิสฺวา ‘อมฺเหเยว ยาจนฺติ, อมฺหากํเยว สนฺตกานิ อนฺนปานาทีนิ ปริภฺุชนฺตี’ติ เตสุ อติเรกตรํ เปมํ กโรนฺติ. เอวํ โข, มหาราช, อฺทตฺถุหรา สนฺตา เอกํเสน ยาจนฺตา เจว ลทฺธํ หรนฺตา จ สมานา ปิยา โหนฺตี’’ติ กเถสิ. อิมสฺมึ ปน ปฺเห กถิเต เทวตา ตเถว ปูเชตฺวา สาธุการํ ทตฺวา สตฺตรตนปูรํ รตนจงฺโกฏกํ ‘‘คณฺห, มหาปณฺฑิตา’’ติ มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล ขิปิ. ราชาปิสฺส อติเรกตรํ ปูชํ กโรนฺโต อติวิย ปสีทิตฺวา เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺตสฺส ยโส มหา อโหสิ.
เทวตาปฺโห นิฏฺิโต.
ปฺจปณฺฑิตปฺโห
ปุน เต จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘‘อมฺโภ, คหปติปุตฺโต อิทานิ มหนฺตตโร ชาโต, กึ กโรมา’’ติ มนฺตยึสุ. อถ เน เสนโก อาห – ‘‘โหตุ ทิฏฺโ เม อุปาโย, มยํ คหปติปุตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘รหสฺสํ นาม กสฺส กเถตุํ วฏฺฏตี’ติ ปุจฺฉิสฺสาม, โส ‘น กสฺสจิ กเถตพฺพ’นฺติ วกฺขติ. อถ นํ ‘คหปติปุตฺโต เต, เทว, ปจฺจตฺถิโก ชาโต’ติ ปริภินฺทิสฺสามา’’ติ. เต จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา ตสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, ปฺหํ ปุจฺฉิตุกามมฺหา’’ติ วตฺวา ‘‘ปุจฺฉถา’’ติ วุตฺเต เสนโก ปุจฺฉิ ‘‘ปณฺฑิต, ปุริเสน นาม กตฺถ ปติฏฺาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘สจฺเจ ปติฏฺาตพฺพ’’นฺติ. ‘‘สจฺเจ ปติฏฺิเตน ¶ กึ อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ธนํ อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ. ‘‘ธนํ อุปฺปาเทตฺวา กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘มนฺโต คเหตพฺโพ’’ติ. ‘‘มนฺตํ คเหตฺวา กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อตฺตโน รหสฺสํ ปรสฺส น กเถตพฺพ’’นฺติ. เต ‘‘สาธุ ปณฺฑิตา’’ติ วตฺวา ตุฏฺมานสา หุตฺวา ‘‘อิทานิ คหปติปุตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, คหปติปุตฺโต ¶ เต ปจฺจตฺถิโก ชาโต’’ติ วทึสุ. ‘‘นาหํ ตุมฺหากํ วจนํ สทฺทหามิ, น โส มยฺหํ ปจฺจตฺถิโก ภวิสฺสตี’’ติ ¶ . สจฺจํ, มหาราช, สทฺทหถ, อสทฺทหนฺโต ปน ตเมว ปุจฺฉถ ‘‘ปณฺฑิต, อตฺตโน รหสฺสํ นาม กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? สเจ ปจฺจตฺถิโก น ภวิสฺสติ, ‘‘อสุกสฺส นาม กเถตพฺพ’’นฺติ วกฺขติ. สเจ ปจฺจตฺถิโก ภวิสฺสติ, ‘‘กสฺสจิ น กเถตพฺพํ, มโนรเถ ปริปุณฺเณ กเถตพฺพ’’นฺติ วกฺขติ. ตทา อมฺหากํ วจนํ สทฺทหิตฺวา นิกฺกงฺขา ภเวยฺยาถาติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกทิวสํ สพฺเพสุ สมาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ วีสตินิปาเต ปฺจปณฺฑิตปฺเห ปมํ คาถมาห –
‘‘ปฺจ ปณฺฑิตา สมาคตาตฺถ, ปฺหา เม ปฏิภาติ ตํ สุณาถ;
นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, กสฺเสวาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๕);
เอวํ วุตฺเต เสนโก ‘‘ราชานมฺปิ อมฺหากํเยว อพฺภนฺตเร ปกฺขิปิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ตฺวํ อาวิกโรหิ ภูมิปาล, ภตฺตา ภารสโห ตุวํ วเทตํ;
ตว ฉนฺทรุจีนิ สมฺมสิตฺวา, อถ วกฺขนฺติ ชนินฺท ปฺจ ธีรา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๖);
ตตฺถ ภตฺตาติ ตฺวํ อมฺหากํ สามิโก เจว อุปฺปนฺนสฺส จ ภารสฺส สโห, ปมํ ตาว ตฺวเมว เอตํ วเทหิ. ตว ฉนฺทรุจีนีติ ปจฺฉา ตว ฉนฺทฺเจว รุจฺจนการณานิ จ สมฺมสิตฺวา อิเม ปฺจ ปณฺฑิตา วกฺขนฺติ.
อถ ราชา อตฺตโน กิเลสวสิกตาย อิมํ คาถมาห –
‘‘ยา สีลวตี อนฺเถยฺยา, ภตฺตุจฺฉนฺทวสานุคา ปิยา มนาปา;
นินฺทิยมตฺถํ ¶ ปสํสิยํ วา, ภริยายาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๗);
ตตฺถ อนฺเถยฺยาติ กิเลสวเสน อฺเน น เถนิตพฺพา.
ตโต ¶ ¶ เสนโก ‘‘อิทานิ ราชานํ อมฺหากํ อพฺภนฺตเร ปกฺขิปิมฺหา’’ติ ตุสฺสิตฺวา สยํกตการณเมว ทีเปนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘โย กิจฺฉคตสฺส อาตุรสฺส, สรณํ โหติ คตี ปรายณฺจ;
นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, สขิโนวาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๘);
อถ ราชา ปุกฺกุสํ ปุจฺฉิ ‘‘กถํ, ปุกฺกุส, ปสฺสสิ, นินฺทิยํ วา ปสํสิยํ วา รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? โส กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘เชฏฺโ อถ มชฺฌิโม กนิฏฺโ, โย เจ สีลสมาหิโต ิตตฺโต;
นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, ภาตุวาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๙);
ตตฺถ ิตตฺโตติ ิตสภาโว นิพฺพิเสวโน.
ตโต ราชา กามินฺทํ ปุจฺฉิ ‘‘กถํ กามินฺท ปสฺสสิ, รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? โส กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘โย เว ปิตุหทยสฺส ปทฺธคู, อนุชาโต ปิตรํ อโนมปฺโ;
นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, ปุตฺตสฺสาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๐);
ตตฺถ ปทฺธคูติ เปสนการโก โย ปิตุสฺส เปสนํ กโรติ, ปิตุ จิตฺตสฺส วเส วตฺตติ, โอวาทกฺขโม โหตีติ อตฺโถ. อนุชาโตติ ตโย ปุตฺตา อติชาโต จ อนุชาโต จ อวชาโต จาติ. อนุปฺปนฺนํ ยสํ อุปฺปาเทนฺโต อติชาโต, กุลภาโร อวชาโต, กุลปเวณิรกฺขโก ปน อนุชาโต. ตํ สนฺธาย เอวมาห.
ตโต ¶ ราชา เทวินฺทํ ปุจฺฉิ – ‘‘กถํ เทวินฺท, ปสฺสสิ, รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? โส อตฺตโน กตการณเมว กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘มาตา ¶ ทฺวิปทาชนินฺทเสฏฺ, ยา นํ โปเสติ ฉนฺทสา ปิเยน;
นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, มาตุยาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๑);
ตตฺถ ¶ ทฺวิปทาชนินฺทเสฏฺาติ ทฺวิปทานํ เสฏฺ, ชนินฺท. ฉนฺทสา ปิเยนาติ ฉนฺเทน เจว เปเมน จ.
เอวํ เต ปุจฺฉิตฺวา ราชา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิ ‘‘กถํ ปสฺสสิ, ปณฺฑิต, รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ. ‘‘มหาราช, ยาว อตฺตโน อิจฺฉิตํ น นิปฺผชฺชติ, ตาว ปณฺฑิโต อธิวาเสยฺย, กสฺสจิ น กเถยฺยา’’ติ โส อิมํ คาถมาห –
‘‘คุยฺหสฺส หิ คุยฺหเมว สาธุ, น หิ คุยฺหสฺส ปสตฺถมาวิกมฺมํ;
อนิปฺผนฺนตา สเหยฺย ธีโร, นิปฺผนฺโนว ยถาสุขํ ภเณยฺยา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๒);
ตตฺถ อนิปฺผนฺนตาติ มหาราช, ยาว อตฺตโน อิจฺฉิตํ น นิปฺผชฺชติ, ตาว ปณฺฑิโต อธิวาเสยฺย, น กสฺสจิ กเถยฺยาติ.
ปณฺฑิเตน ปน เอวํ วุตฺเต ราชา อนตฺตมโน อโหสิ. เสนโก ราชานํ โอโลเกสิ, ราชาปิ เสนกมุขํ โอโลเกสิ. โพธิสตฺโต เตสํ กิริยํ ทิสฺวาว ชานิ ‘‘อิเม จตฺตาโร ชนา ปมเมว มํ รฺโ อนฺตเร ปริภินฺทึสุ, วีมํสนวเสน ปฺโห ปุจฺฉิโต ภวิสฺสตี’’ติ. เตสํ ปน กเถนฺตานฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต, ทีปา ชลิตา. ปณฺฑิโต ‘‘ราชกมฺมานิ นาม ภาริยานิ, น ปฺายติ ‘กึ ภวิสฺสตี’ติ, ขิปฺปเมว คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุฏฺายาสนา ราชานํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิเมสุ เอโก ‘สหายกสฺส กเถตุํ วฏฺฏตี’ติ อาห ¶ , เอโก ‘ภาตุสฺส, เอโก ปุตฺตสฺส, เอโก มาตุ กเถตุํ วฏฺฏตี’ติ อาห. อิเมหิ เอตํ กตเมว ภวิสฺสติ, ทิฏฺเมว กถิตนฺติ มฺามิ, โหตุ อชฺเชว เอตํ ชานิสฺสามี’’ติ. เต ปน จตฺตาโรปิ อฺเสุ ทิวเสสุ ราชกุลา นิกฺขมิตฺวา ราชนิเวสนทฺวาเร เอกสฺส ภตฺตอมฺพณสฺส ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา กิจฺจกรณียานิ มนฺเตตฺวา ฆรานิ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา ปณฺฑิโต ‘‘อหํ เอเตสํ จตุนฺนํ รหสฺสํ อมฺพณสฺส เหฏฺา นิปชฺชิตฺวา ชานิตุํ สกฺกุเณยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ อมฺพณํ อุกฺขิปาเปตฺวา อตฺถรณํ อตฺถราเปตฺวา อมฺพณสฺส เหฏฺา ปวิสิตฺวา ปุริสานํ สฺํ อทาสิ ‘‘ตุมฺเห ¶ จตูสุ ปณฺฑิเตสุ มนฺเตตฺวา คเตสุ อาคนฺตฺวา มํ อาเนยฺยาถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปกฺกมึสุ. เสนโกปิ ราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, อมฺหากํ วจนํ น สทฺทหถ, อิทานิ ¶ กึ กริสฺสถา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ คเหตฺวา อนิสาเมตฺวาว ภีตตสิโต หุตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กโรม, เสนก ปณฺฑิตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, ปปฺจํ อกตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวา คหปติปุตฺตํ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา ‘‘เสนก, เปตฺวา ตุมฺเห อฺโ มม อตฺถกาโม นาม นตฺถิ, ตุมฺเห อตฺตโน สุหเท คเหตฺวา ทฺวารนฺตเร ตฺวา คหปติปุตฺตสฺส ปาโตว อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตสฺส ขคฺเคน สีสํ ฉินฺทถา’’ติ อตฺตโน ขคฺครตนํ อทาสิ. เต ‘‘สาธุ, เทว, มา ภายิ, มยํ ตํ มาเรสฺสามา’’ติ วตฺวา นิกฺขมิตฺวา ‘‘ทิฏฺา โน ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺี’’ติ ภตฺตอมฺพณสฺส ปิฏฺเ นิสีทึสุ. ตโต เสนโก อาห ‘‘อมฺโภ, โก คหปติปุตฺตํ มาเรสฺสตี’’ติ. อิตเร ‘‘ตุมฺเหเยว อาจริย, มาเรถา’’ติ ตสฺเสว ภารํ กรึสุ.
อถ เน เสนโก ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺเห ‘รหสฺสํ นาม อสุกสฺส อสุกสฺส กเถตพฺพ’นฺติ วทถ, กึ โว เอตํ กตํ, อุทาหุ ทิฏฺํ สุต’’นฺติ? ‘‘กตํ เอตํ, อาจริยา’’ติ. ตุมฺเห ‘‘รหสฺสํ นาม สหายกสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ วทถ, ‘‘กึ โว เอตํ กตํ, อุทาหุ ทิฏฺํ สุต’’นฺติ? ‘‘กตํ เอตํ มยา’’ติ? ‘‘กเถถ, อาจริยา’’ติ. ‘‘อิมสฺมึ รหสฺเส รฺา าเต ชีวิตํ เม นตฺถี’’ติ. ‘‘มา ภายถ อาจริย, อิธ ตุมฺหากํ รหสฺสเภทโก นตฺถิ, กเถถา’’ติ. โส นเขน อมฺพณํ โกฏฺเฏตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺส เหฏฺา คหปติปุตฺโต’’ติ อาห. ‘‘อาจริย, คหปติปุตฺโต อตฺตโน อิสฺสริเยน เอวรูปํ านํ น ปวิสิสฺสติ, อิทานิ ยเสน มตฺโต ภวิสฺสติ, กเถถ ¶ ¶ ตุมฺเห’’ติ. เสนโก ตาว อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘ตุมฺเห อิมสฺมึ นคเร อสุกํ นาม เวสึ ชานาถา’’ติ? ‘‘อาม, อาจริยา’’ติ. ‘‘อิทานิ สา ปฺายตี’’ติ. ‘‘น ปฺายติ, อาจริยา’’ติ. ‘‘อหํ สาลวนุยฺยาเน ตาย สทฺธึ ปุริสกิจฺจํ กตฺวา ตสฺสา ปิฬนฺธเนสุ โลเภน ตํ มาเรตฺวา ตสฺสาเยว สาฏเกน ภณฺฑิกํ กตฺวา อาหริตฺวา อมฺหากํ ฆเร อสุกภูมิกาย อสุเก นาม คพฺเภ นาคทนฺตเก ลคฺเคสึ, วฬฺเชตุํ ๓ วิสหามิ, ปุราณภาวมสฺส โอโลเกมิ, เอวรูปํ อปราธกมฺมํ กตฺวา มยา เอกสฺส สหายกสฺส กถิตํ, น เตน กสฺสจิ กถิตปุพฺพํ, อิมินา การเณน ‘สหายกสฺส คุยฺหํ กเถตพฺพ’นฺติ มยา กถิต’’นฺติ. ปณฺฑิโต ตสฺส รหสฺสํ สาธุกํ ววตฺถเปตฺวา สลฺลกฺเขสิ.
ปุกฺกุโสปิ อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘มม อูรุยา กุฏฺํ อตฺถิ, กนิฏฺโ เม ปาโตว กฺจิ อชานาเปตฺวา ตํ โธวิตฺวา เภสชฺเชน มกฺเขตฺวา อุปริ ปิโลติกํ ทตฺวา พนฺธติ. ราชา มยิ มุทุจิตฺโต ‘เอหิ ปุกฺกุสา’ติ มํ ปกฺโกสิตฺวา เยภุยฺเยน มม อูรุยาเยว สยติ ¶ , สเจ ปน เอตํ ราชา ชาเนยฺย, มํ มาเรยฺย. ตํ มม กนิฏฺํ เปตฺวา อฺโ ชานนฺโต นาม นตฺถิ, เตน การเณน ‘รหสฺสํ นาม ภาตุ กเถตพฺพ’นฺติ มยา วุตฺต’’นฺติ. กามินฺโทปิ อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘มํ กาฬปกฺเข อุโปสถทิวเส นรเทโว นาม ยกฺโข คณฺหาติ, อหํ อุมฺมตฺตกสุนโข วิย วิรวามิ, สฺวาหํ ตมตฺถํ ปุตฺตสฺส กเถสึ. โส มม ยกฺเขน คหิตภาวํ ตฺวา มํ อนฺโตเคหคพฺเภ นิปชฺชาเปตฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา นิกฺขมิตฺวา มม สทฺทํ ปฏิจฺฉาทนตฺถํ ทฺวาเร สมชฺชํ กาเรสิ, อิมินา การเณน ‘รหสฺสํ นาม ปุตฺตสฺส กเถตพฺพ’นฺติ มยา วุตฺต’’นฺติ. ตโต ตโยปิ เทวินฺทํ ปุจฺฉึสุ. โส อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘มยา มณิปหํสนกมฺมํ กโรนฺเตน รฺโ สนฺตกํ สกฺเกน กุสรฺโ ทินฺนํ, สิริปเวสนํ มงฺคลมณิรตนํ เถเนตฺวา มาตุยา ทินฺนํ. สา กฺจิ อชานาเปตฺวา มม ราชกุลํ ปวิสนกาเล ตํ มยฺหํ เทติ, อหํ เตน มณินา สิรึ ปเวเสตฺวา ราชนิเวสนํ คจฺฉามิ. ราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ อกเถตฺวา ปมตรํ มยา สทฺธึ กเถสิ. เทวสิกํ อฏฺ, โสฬส, ทฺวตฺตึส, จตุสฏฺิ กหาปเณ มม ปริพฺพยตฺถาย เทติ ¶ . สเจ ตสฺส มณิรตนสฺส ฉนฺนภาวํ ราชา ชาเนยฺย, มยฺหํ ชีวิตํ นตฺถิ, อิมินา การเณน ‘รหสฺสํ นาม มาตุ กเถตพฺพ’นฺติ มยา วุตฺต’’นฺติ.
มหาสตฺโต สพฺเพสมฺปิ คุยฺหํ อตฺตโน ปจฺจกฺขํ อกาสิ ¶ . เต ปน อตฺตโน อุทรํ ผาเลตฺวา อนฺตํ พาหิรํ กโรนฺตา วิย รหสฺสํ อฺมฺํ กเถตฺวา ‘‘ตุมฺเห อปฺปมตฺตา ปาโตว อาคจฺฉถ, คหปติปุตฺตํ มาเรสฺสามา’’ติ อุฏฺาย ปกฺกมึสุ. เตสํ คตกาเล ปณฺฑิตสฺส ปุริสา อาคนฺตฺวา อมฺพณํ อุกฺขิปิตฺวา มหาสตฺตํ อาทาย ปกฺกมึสุ. โส ฆรํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา สุโภชนํ ภฺุชิตฺวา ‘‘อชฺช เม ภคินี อุทุมฺพรเทวี ราชเคหโต สาสนํ เปเสสฺสตี’’ติ ตฺวา ทฺวาเร ปจฺจายิกํ ปุริสํ เปสิ ‘‘ราชเคหโต อาคตํ สีฆํ ปเวเสตฺวา มม ทสฺเสยฺยาสี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา สยนปิฏฺเ นิปชฺชิ. ตสฺมึ ขเณ ราชาปิ สยนปิฏฺเ นิปนฺโนว ปณฺฑิตสฺส คุณํ สริตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิโต สตฺตวสฺสิกกาลโต ปฏฺาย มํ อุปฏฺหนฺโต น กิฺจิ มยฺหํ อนตฺถํ อกาสิ, เทวตาย ปุจฺฉิตปฺเหปิ ปณฺฑิเต อสติ ชีวิตํ เม ลทฺธํ น สิยา. เวริปจฺจามิตฺตานํ วจนํ คเหตฺวา ‘อสมธุรํ ปณฺฑิตํ มาเรถา’ติ ขคฺคํ เทนฺเตน อยุตฺตํ มยา กตํ, สฺเว ทานิ นํ ปสฺสิตุํ น ลภิสฺสามี’’ติ โสกํ อุปฺปาเทสิ. สรีรโต เสทา มุจฺจึสุ. โส โสกสมปฺปิโต จิตฺตสฺสาทํ น ลภิ. อุทุมฺพรเทวีปิ เตน สทฺธึ เอกสยนคตา ตํ อาการํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข มยฺหํ โกจิ อปราโธ อตฺถิ, อุทาหุ เทวสฺส กิฺจิ โสกการณํ อุปฺปนฺนํ, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ อิมํ คาถมาห –
‘‘กึ ¶ ตฺวํ วิมโนสิ ราชเสฏฺ, ทฺวิปทชนินฺท วจนํ สุโณม เมตํ;
กึ จินฺตยมาโน ทุมฺมโนสิ, นูน เทว อปราโธ อตฺถิ มยฺห’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๓);
อถ ราชา กเถนฺโต คาถมาห –
‘‘ปณฺเห วชฺโฌ มโหสโธติ, อาณตฺโต เม วมาย ภูริปฺโ;
ตํ จินฺตยมาโน ทุมฺมโนสฺมิ, น หิ เทวี อปราโธ อตฺถิ ตุยฺห’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๔);
ตตฺถ ¶ อาณตฺโตติ ภทฺเท, จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘‘มโหสโธ มม ปจฺจตฺถิโก’’ติ กถยึสุ. มยา ตถโต อวิจินิตฺวา ‘‘วเธถ น’’นฺติ ภูริปฺโ วธาย อาณตฺโต. ตํ การณํ จินฺตยมาโน ทุมฺมโนสฺมีติ.
ตสฺสา ¶ ตสฺส วจนํ สุตฺวาว มหาสตฺเต สิเนเหน ปพฺพตมตฺโต โสโก อุปฺปชฺชิ. ตโต สา จินฺเตสิ ‘‘เอเกน อุปาเยน ราชานํ อสฺสาเสตฺวา รฺโ นิทฺทํ โอกฺกมนกาเล มม กนิฏฺสฺส สาสนํ ปหิณิสฺสามี’’ติ. อถ สา ‘‘มหาราช, ตยาเวตํ กตํ คหปติปุตฺตํ มหนฺเต อิสฺสริเย ปติฏฺาเปนฺเตน, ตุมฺเหหิ โส เสนาปติฏฺาเน ปิโต, อิทานิ กิร โส ตุมฺหากํเยว ปจฺจตฺถิโก ชาโต, น โข ปน ปจฺจตฺถิโก ขุทฺทโก นาม อตฺถิ, มาเรตพฺโพว, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถา’’ติ ราชานํ อสฺสาเสสิ. โส ตนุภูตโสโก นิทฺทํ โอกฺกมิ. เทวี อุฏฺาย คพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘ตาต มโหสธ, จตฺตาโร ปณฺฑิตา ตํ ปริภินฺทึสุ, ราชา กุทฺโธ สฺเว ทฺวารนฺตเร ตํ วธาย อาณาเปสิ, สฺเว ราชกุลํ มา อาคจฺเฉยฺยาสิ, อาคจฺฉนฺโต ปน นครํ หตฺถคตํ กตฺวา สมตฺโถ หุตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ ปณฺณํ ลิขิตฺวา โมทกสฺส อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา โมทกํ สุตฺเตน เวเตฺวา นวภาชเน กตฺวา ฉาเทตฺวา ลฺเฉตฺวา อตฺถจาริกาย ทาสิยา อทาสิ ‘‘อิมํ โมทกํ คเหตฺวา มม กนิฏฺสฺส เทหี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. ‘‘รตฺตึ กถํ นิกฺขนฺตา’’ติ น จินฺเตตพฺพํ. รฺา ปมเมว เทวิยา วโร ทินฺโน, เตน น นํ โกจิ นิวาเรสิ. โพธิสตฺโต ปณฺณาการํ คเหตฺวา นํ อุยฺโยเชสิ. สา ปุน อาคนฺตฺวา ทินฺนภาวํ อาโรเจสิ. ตสฺมึ ขเณ เทวี อาคนฺตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิ. มหาสตฺโตปิ โมทกํ ภินฺทิตฺวา ปณฺณํ วาเจตฺวา ตมตฺถํ ตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจํ วิจาเรตฺวา สยเน นิปชฺชิ.
อิตเรปิ ¶ จตฺตาโร ชนา ปาโตว ขคฺคํ คเหตฺวา ทฺวารนฺตเร ตฺวา ปณฺฑิตํ อปสฺสนฺตา ทุมฺมนา หุตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ ปณฺฑิตา มาริโต โว คหปติปุตฺโต’’ติ วุตฺเต ‘‘น ปสฺสาม, เทวา’’ติ อาหํสุ. มหาสตฺโตปิ อรุณุคฺคมเนเยว นครํ อตฺตโน หตฺถคตํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อารกฺขํ เปตฺวา มหาชนปริวุโต รถํ อารุยฺห มหนฺเตน ปริวาเรน ราชทฺวารํ อคมาสิ. ราชา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา พหิ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. อถ มหาสตฺโต รถา โอตริตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘สเจ อยํ มม ปจฺจตฺถิโก ภเวยฺย ¶ ¶ , น มํ วนฺเทยฺยา’’ติ. อถ นํ ปกฺโกสาเปตฺวา ราชา อาสเน นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ เอกมนฺตํ นิสีทิ. จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา ตตฺเถว นิสีทึสุ. อถ นํ ราชา กิฺจิ อชานนฺโต วิย ‘‘ตาต, ตฺวํ หิยฺโย คนฺตฺวา อิทานิ อาคจฺฉสิ, กึ มํ ปริจฺจชสี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อภิโทสคโต ทานิ เอหิสิ, กึ สุตฺวา กึ สงฺกเต มโน เต;
โก เต กิมโวจ ภูริปฺ, อิงฺฆ วจนํ สุโณม พฺรูหิ เมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๕);
ตตฺถ อภิโทสคโตติ หิยฺโย ปมยาเม คโต อิทานิ อาคโต. กึ สงฺกเตติ กึ อาสงฺกเต. กิมโวจาติ กึ รฺโ สนฺติกํ มา คมีติ ตํ โกจิ อโวจ.
อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, ตยา เม จตุนฺนํ ปณฺฑิตานํ วจนํ คเหตฺวา วโธ อาณตฺโต, เตนาหํ น เอมี’’ติ โจเทนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ปณฺเห วชฺโฌ มโหสโธติ, ยทิ เต มนฺตยิตํ ชนินฺท โทสํ;
ภริยาย รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๖);
ตตฺถ ยทิ เตติ ยสฺมา ตยา. มนฺตยิตนฺติ กถิตํ. โทสนฺติ อภิโทสํ, รตฺติภาเคติ อตฺโถ. กสฺส กถิตนฺติ? ภริยาย. ตฺวฺหิ หิยฺโย ตสฺสา อิมมตฺถํ รโหคโต อสํสิ. คุยฺหํ ปาตุกตนฺติ ตสฺสา เอวรูปํ อตฺตโน รหสฺสํ ปาตุกตํ. สุตํ มเมตนฺติ มยา ปเนตํ ตสฺมึ ขเณเยว สุตํ.
ราชา ¶ ตํ สุตฺวา ‘‘อิมาย ตงฺขณฺเว สาสนํ ปหิตํ ภวิสฺสตี’’ติ กุทฺโธ เทวึ โอโลเกสิ. ตํ ตฺวา มหาสตฺโต ‘‘กึ, เทว, เทวิยา กุชฺฌถ, อหํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ สพฺพํ ชานามิ. เทว, ตุมฺหากํ ตาว รหสฺสํ เทวิยา กถิตํ โหตุ, อาจริยเสนกสฺส ปุกฺกุสาทีนํ วา รหสฺสํ มม เกน กถิตํ, อหํ เอเตสมฺปิ รหสฺสํ ชานามิเยวา’’ติ ¶ เสนกสฺส ตาว รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ยํ สาลวนสฺมึ เสนโก, ปาปกมฺมํ อกาสิ อสพฺภิรูปํ;
สขิโนว ¶ รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๗);
ตตฺถ อสพฺภิรูปนฺติ อสาธุชาติกํ ลามกํ อกุสลกมฺมํ อกาสิ. อิมสฺมึเยว หิ นคเร อสุกํ นาม เวสึ สาลวนุยฺยาเน ปุริสกิจฺจํ กตฺวา ตํ มาเรตฺวา อลงฺการํ คเหตฺวา ตสฺสาเยว สาฏเกน ภณฺฑิกํ กตฺวา อตฺตโน ฆเร อสุกฏฺาเน นาคทนฺตเก ลคฺเคตฺวา เปสิ. สขิโนวาติ อถ นํ, มหาราช, เอกสฺส สหายกสฺส รโหคโต หุตฺวา อกฺขาสิ, ตมฺปิ มยา สุตํ. นาหํ เทวสฺส ปจฺจตฺถิโก, เสนโกเยว. ยทิ เต ปจฺจตฺถิเกน กมฺมํ อตฺถิ, เสนกํ คณฺหาเปหีติ.
ราชา เสนกํ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ, เสนกา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, เทวา’’ติ วุตฺเต ตสฺส พนฺธนาคารปฺปเวสนํ อาณาเปสิ. ปณฺฑิโต ปุกฺกุสสฺส รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ปุกฺกุสปุริสสฺส เต ชนินฺท, อุปฺปนฺโน โรโค อราชยุตฺโต;
ภาตุจฺจ รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๘);
ตตฺถ อราชยุตฺโตติ มหาราช, เอตสฺส กุฏฺโรโค อุปฺปนฺโน, โส ราชานํ ปตฺตุํ อยุตฺโต, ฉุปนานุจฺฉวิโก น โหติ. ตุมฺเห จ ‘‘ปุกฺกุสสฺส อูรุ มุทุโก’’ติ เยภุยฺเยน ตสฺส อูรุมฺหิ นิปชฺชถ. โส ปเนส วณพนฺธปิโลติกาย ผสฺโส, เทวาติ.
ราชา ตมฺปิ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ ปุกฺกุสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวา’’ติ วุตฺเต ตมฺปิ พนฺธนาคารํ ปเวสาเปสิ. ปณฺฑิโต กามินฺทสฺสปิ รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อาพาโธยํ ¶ ¶ อสพฺภิรูโป, กามินฺโท นรเทเวน ผุฏฺโ;
ปุตฺตสฺส รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๙);
ตตฺถ อสพฺภิรูโปติ เยน โส อาพาเธน ผุฏฺโ อุมฺมตฺตกสุนโข วิย วิรวติ, โส นรเทวยกฺขาพาโธ อสพฺภิชาติโก ลามโก, ราชกุลํ ปวิสิตุํ น ยุตฺโต, มหาราชาติ วทติ.
ราชา ¶ ตมฺปิ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ กามินฺทา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวา’’ติ วุตฺเต ตมฺปิ พนฺธนาคารํ ปเวสาเปสิ. ปณฺฑิโต เทวินฺทสฺสปิ รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อฏฺวงฺกํ มณิรตนํ อุฬารํ, สกฺโก เต อททา ปิตามหสฺส;
เทวินฺทสฺส คตํ ตทชฺช หตฺถํ, มาตุจฺจ รโหคโต อสํสิ;
คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๓๐);
ตตฺถ ปิตามหสฺสาติ ตว ปิตามหสฺส กุสราชสฺส. ตทชฺช หตฺถนฺติ ตํ มงฺคลสมฺมตํ มณิรตนํ อชฺช เทวินฺทสฺส หตฺถคตํ, มหาราชาติ.
ราชา ตมฺปิ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวินฺทา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวา’’ติ วุตฺเต ตมฺปิ พนฺธนาคารํ ปเวสาเปสิ. เอวํ ‘‘โพธิสตฺตํ วธิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา สพฺเพปิ เต พนฺธนาคารํ ปวิฏฺา. โพธิสตฺโต ‘‘มหาราช, อิมินา การเณนาหํ ‘อตฺตโน คุยฺหํ ปรสฺส น กเถตพฺพ’นฺติ วทามิ, วทนฺตา ปน มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา อุตฺตริ ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘คุยฺหสฺส หิ คุยฺหเมว สาธุ, น คุยฺหสฺส ปสตฺถมาวิกมฺมํ;
อนิปฺผนฺนตา สเหยฺย ธีโร, นิปฺผนฺโนว ยถาสุขํ ภเณยฺย.
‘‘น ¶ คุยฺหมตฺถํ วิวเรยฺย, รกฺเขยฺย นํ ยถา นิธึ;
น หิ ปาตุกโต สาธุ, คุยฺโห อตฺโถ ปชานตา.
‘‘ถิยา ¶ คุยฺหํ น สํเสยฺย, อมิตฺตสฺส จ ปณฺฑิโต;
โย จามิเสน สํหีโร, หทยตฺเถโน จ โย นโร.
‘‘คุยฺหมตฺถํ อสมฺพุทฺธํ, สมฺโพธยติ โย นโร;
มนฺตเภทภยา ตสฺส, ทาสภูโต ติติกฺขติ.
‘‘ยาวนฺโต ปุริสสฺสตฺถํ, คุยฺหํ ชานนฺติ มนฺตินํ;
ตาวนฺโต ตสฺส อุพฺเพคา, ตสฺมา คุยฺหํ น วิสฺสเช.
‘‘วิวิจฺจ ภาเสยฺย ทิวา รหสฺสํ, รตฺตึ คิรํ นาติเวลํ ปมฺุเจ;
อุปสฺสุติกา ¶ หิ สุณนฺติ มนฺตํ, ตสฺมา มนฺโต ขิปฺปมุเปติ เภท’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๓๑-๓๓๖);
ตตฺถ อมิตฺตสฺส จาติ อิตฺถิยา จ ปจฺจตฺถิกสฺส จ น กเถยฺย. สํหีโรติ โย จ เยน เกนจิ อามิเสน สํหีรติ อุปลาปติ สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺสปิ น สํเสยฺย. หทยตฺเถโนติ โย จ อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก มุเขน อฺํ กเถติ, หทเยน อฺํ จินฺเตติ, ตสฺสปิ น สํเสยฺย. อสมฺพุทฺธนฺติ ปเรหิ อฺาตํ. ‘‘อสมฺโพธ’’นฺติปิ ปาโ, ปเรสํ โพเธตุํ อยุตฺตนฺติ อตฺโถ. ติติกฺขตีติ ตสฺส อกฺโกสมฺปิ ปริภาสมฺปิ ปหารมฺปิ ทาโส วิย หุตฺวา อธิวาเสติ. มนฺตินนฺติ มนฺติตํ, มนฺตีนํ วา อนฺตเร ยาวนฺโต ชานนฺตีติ อตฺโถ. ตาวนฺโตติ เต คุยฺหชานนเก ปฏิจฺจ ตตฺตกา ตสฺส อุพฺเพคา สนฺตาสา อุปฺปชฺชนฺติ. น วิสฺสเชติ น วิสฺสชฺเชยฺย ปรํ น ชานาเปยฺย. วิวิจฺจาติ สเจ ทิวา รหสฺสํ มนฺเตตุกาโม โหติ, วิวิตฺตํ โอกาสํ กาเรตฺวา สุปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน มนฺเตยฺย. นาติเวลนฺติ รตฺตึ รหสฺสํ กเถนฺโต ปน อติเวลํ มริยาทาติกฺกนฺตํ มหาสทฺทํ กโรนฺโต คิรํ นปฺปมฺุเจยฺย. อุปสฺสุติกา หีติ มนฺตนฏฺานํ อุปคนฺตฺวา ติโรกุฏฺฏาทีสุ ตฺวา โสตาโร. ตสฺมาติ มหาราช, เตน การเณน โส มนฺโต ขิปฺปเมว เภทมุปาคมีติ.
ราชา ¶ มหาสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘เอเต สยํ ราชเวริโน หุตฺวา ปณฺฑิตํ มม เวรึ กโรนฺตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘คจฺฉถ เน นครา นิกฺขมาเปตฺวา สูเลสุ วา อุตฺตาเสถ, สีสานิ วา เตสํ ฉินฺทถา’’ติ อาณาเปสิ. เตสุ ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา จตุกฺเก จตุกฺเก กสาหิ ปหารสหสฺสํ ทตฺวา นียมาเนสุ ปณฺฑิโต ‘‘เทว, อิเม ตุมฺหากํ โปราณกา อมจฺจา, ขมถ เนสํ อปราธ’’นฺติ ¶ ราชานํ ขมาเปสิ. ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สาธู’’ติ เต ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺเสว ทาเส กตฺวา อทาสิ. โส ปน เต ตตฺเถว ภุชิสฺเส อกาสิ. ราชา ‘‘เตน หิ มม วิชิเต มา วสนฺตู’’ติ ปพฺพาชนียกมฺมํ อาณาเปสิ. ปณฺฑิโต ‘‘ขมถ, เทว, เอเตสํ อนฺธพาลานํ โทส’’นฺติ ขมาเปตฺวา เตสํ านนฺตรานิ ปุน ปากติกานิ กาเรสิ. ราชา ‘‘ปจฺจามิตฺเตสุปิ ตาวสฺส เอวรูปา เมตฺตา ภวติ, อฺเสุ ชเนสุ กถํ น ภวิสฺสตี’’ติ ปณฺฑิตสฺส อติวิย ปสนฺโน อโหสิ. ตโต ปฏฺาย จตฺตาโร ปณฺฑิตา อุทฺธตทาา วิย สปฺปา นิพฺพิสา หุตฺวา กิฺจิ กเถตุํ นาสกฺขึสุ.
ปฺจปณฺฑิตปฺโห นิฏฺิโต.
นิฏฺิตา จ ปริภินฺทกถา.
ยุทฺธปราชยกณฺฑํ
ตโต ¶ ปฏฺาย ปณฺฑิโตว รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสติ. โส จินฺเตสิ ‘‘รฺโ เสตฉตฺตมตฺตเมว, รชฺชํ ปน อหเมว วิจาเรมิ ¶ , มยา อปฺปมตฺเตน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส นคเร มหาปาการํ นาม กาเรสิ, ตถา อนุปาการฺจ ทฺวารฏฺฏาลเก อนฺตรฏฺฏาลเก อุทกปริขํ กทฺทมปริขํ สุกฺขปริขนฺติ ติสฺโส ปริขาโย กาเรสิ, อนฺโตนคเร ชิณฺณเคหานิ ปฏิสงฺขราเปสิ, มหาโปกฺขรณิโย กาเรตฺวา ตาสุ อุทกนิธานํ กาเรสิ, นคเร สพฺพโกฏฺาคารานิ ธฺสฺส ปูราเปสิ, หิมวนฺตปฺปเทสโต กุลุปกตาปเสหิ กุทฺรูสกุมุทพีชานิ อาหราเปสิ, อุทกนิทฺธมนานิ โสธาเปตฺวา ตตฺถ โรปาเปสิ, พหินคเรปิ ชิณฺณสาลาปฏิสงฺขรณกมฺมํ กาเรสิ. กึ การณา? อนาคตภยปฏิพาหนตฺถํ. ตโต ตโต อาคตวาณิชเกปิ ‘‘สมฺมา, ตุมฺเห กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกฏฺานโต’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุมฺหากํ รฺา กึ ปิย’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกํ นามา’’ติ วุตฺเต เตสํ สมฺมานํ กาเรตฺวา อุยฺโยเชตฺวา ¶ อตฺตโน เอกสเต โยเธ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺมา, มยา ทินฺเน ปณฺณากาเร คเหตฺวา เอกสตราชธานิโย คนฺตฺวา อิเม ปณฺณากาเร อตฺตโน ปิยกามตาย เตสํ ราชูนํ ทตฺวา เตเยว อุปฏฺหนฺตา เตสํ กิริยํ วา มนฺตํ วา ตฺวา มยฺหํ สาสนํ เปเสนฺตา ตตฺเถว วสถ, อหํ โว ปุตฺตทารํ โปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา เกสฺจิ กุณฺฑเล, เกสฺจิ ปาทุกาโย, เกสฺจิ ขคฺเค, เกสฺจิ สุวณฺณมาลาโย อกฺขรานิ ฉินฺทิตฺวา ‘‘ยทา มม กิจฺจํ อตฺถิ, ตทา ปฺายนฺตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา เปเสสิ. เต ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา เตสํ เตสํ ราชูนํ ปณฺณาการํ ทตฺวา ‘‘เกนตฺเถนาคตา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุมฺเหว อุปฏฺาตุํ อาคตมฺหา’’ติ วตฺวา ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุฏฺา อาคตฏฺานํ อวตฺวา อฺานิ านานิ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘เตน หิ สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิเต อุปฏฺหนฺตา เตสํ อพฺภนฺตริกา อเหสุํ.
ตทา กปิลรฏฺเ สงฺขพลโก นาม ราชา อาวุธานิ สชฺชาเปสิ, เสนํ สงฺกฑฺฒิ. ตสฺส สนฺติเก อุปนิกฺขิตฺตกปุริโส ปณฺฑิตสฺส สาสนํ เปเสสิ ‘‘สามิ, มยํ อิธ ปวตฺตึ ‘อิทํ นาม กริสฺสตี’ติ น ชานาม, อาวุธานิ สชฺชาเปติ, เสนํ สงฺกฑฺฒติ, ตุมฺเห ปุริสวิเสเส เปเสตฺวา อิทํ ปวตฺตึ ตถโต ชานาถา’’ติ. อถ มหาสตฺโต สุวโปตกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, กปิลรฏฺเ สงฺขพลโก นาม ราชา อาวุธานิ สชฺชาเปสิ, ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา ‘อิมํ นาม กโรตี’ติ ตถโต ตฺวา สกลชมฺพุทีปํ ¶ อาหิณฺฑิตฺวา มยฺหํ ปวตฺตึ อาหราหี’’ติ วตฺวา มธุลาเช ขาทาเปตฺวา มธุปานียํ ปาเยตฺวา สตปากสหสฺสปาเกหิ เตเลหิ ปกฺขนฺตรํ มกฺเขตฺวา ปาจีนสีหปฺชเร ¶ ตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. โสปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส สนฺติกา ตสฺส รฺโ ปวตฺตึ ตถโต ตฺวา สกลชมฺพุทีปํ ปริคฺคณฺหนฺโต กปิลรฏฺเ อุตฺตรปฺจาลนครํ ปาปุณิ. ตทา ตตฺถ จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส เกวฏฺโฏ นาม พฺราหฺมโณ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสติ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต. โส ปจฺจูสกาเล ปพุชฺฌิตฺวา ทีปาโลเกน อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สิริคพฺภํ โอโลเกนฺโต อตฺตโน มหนฺตํ ยสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มม ยโส, กสฺส สนฺตโก’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘น อฺสฺส สนฺตโก จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส ¶ , เอวรูปํ ปน ยสทายกํ ราชานํ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชานํ กาตุํ วฏฺฏติ, อหฺจ อคฺคปุโรหิโต ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปาโตว นฺหตฺวา ภฺุชิตฺวา อลงฺกริตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, สุขํ สยถา’’ติ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ วุตฺเต ราชานํ ‘‘เทว, มนฺเตตพฺพํ อตฺถี’’ติ อาห. ‘‘วท, อาจริยา’’ติ. ‘‘เทว, อนฺโตนคเร รโห นาม น สกฺกา ลทฺธุํ, อุยฺยานํ คจฺฉามา’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริยา’’ติ ราชา เตน สทฺธึ อุยฺยานํ คนฺตฺวา พลกายํ พหิ เปตฺวา อารกฺขํ กาเรตฺวา พฺราหฺมเณน สทฺธึ อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิ.
ตทา สุวโปตโกปิ ตํ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘ภวิตพฺพเมตฺถ การเณน, อชฺช ปณฺฑิตสฺส อาจิกฺขิตพฺพยุตฺตกํ กิฺจิ สุณิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มงฺคลสาลรุกฺขสฺส ปตฺตนฺตเร นิลียิตฺวา นิสีทิ. ราชา ‘‘กเถถ, อาจริยา’’ติ อาห. ‘‘มหาราช, ตว กณฺเณ อิโต กโรหิ, จตุกฺกณฺโณว มนฺโต ภวิสฺสติ. สเจ, มหาราช, มม วจนํ กเรยฺยาสิ, สกลชมฺพุทีเป ตํ อคฺคราชานํ กโรมี’’ติ. โส มหาตณฺหตาย ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘กเถถ, อาจริย, กริสฺสามิ เต วจน’’นฺติ อาห. ‘‘เทว, มยํ เสนํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปมํ ขุทฺทกนครํ รุมฺภิตฺวา คณฺหิสฺสาม, อหฺหิ จูฬทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ราชานํ วกฺขามิ – มหาราช, ตว ยุทฺเธน กิจฺจํ นตฺถิ, เกวลํ อมฺหากํ รฺโ สนฺตโก โหหิ, ตว รชฺชํ ตเวว ภวิสฺสติ, ยุชฺฌนฺโต ปน อมฺหากํ พลวาหนสฺส มหนฺตตาย ¶ เอกนฺเตน ปราชิสฺสสี’’ติ. ‘‘สเจ เม วจนํ กริสฺสติ, สงฺคณฺหิสฺสาม นํ. โน เจ, ยุชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ทฺเว เสนา คเหตฺวา อฺํ นครํ คณฺหิสฺสาม, ตโต อฺนฺติ เอเตนุปาเยน สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คเหตฺวา ‘ชยปานํ ปิวิสฺสามา’ติ วตฺวา เอกสตราชาโน อมฺหากํ นครํ อาเนตฺวา อุยฺยาเน อาปานมณฺฑปํ กาเรตฺวา ตตฺถ นิสินฺเน วิสมิสฺสกํ สุรํ ปาเยตฺวา สพฺเพปิ เต ราชาโน ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา เอกสตราชธานีสุ รชฺชํ อมฺหากํ หตฺถคตํ กริสฺสาม. เอวํ ตฺวํ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา ภวิสฺสสี’’ติ. โสปิ ‘‘สาธุ, อาจริย, เอวํ กริสฺสามี’’ติ วทติ. ‘‘มหาราช, จตุกฺกณฺโณ มนฺโต นาม, อยฺหิ มนฺโต ¶ น สกฺกา อฺเน ชานิตุํ, ตสฺมา ¶ ปปฺจํ อกตฺวา สีฆํ นิกฺขมถา’’ติ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
สุวโปตโก ตํ สุตฺวา เตสํ มนฺตปริโยสาเน สาขายํ โอลมฺพกํ โอตาเรนฺโต วิย เกวฏฺฏสฺส สีเส ฉกณปิณฺฑํ ปาเตตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ มุขํ วิวริตฺวา อุทฺธํ โอโลเกนฺตสฺส อปรมฺปิ มุเข ปาเตตฺวา ‘‘กิริ กิรี’’ติ สทฺทํ วิรวนฺโต สาขโต อุปฺปติตฺวา ‘‘เกวฏฺฏ, ตฺวํ จตุกฺกณฺณมนฺโตติ มฺสิ, อิทาเนว ฉกฺกณฺโณ ชาโต, ปุน อฏฺกณฺโณ ภวิตฺวา อเนกสตกณฺโณปิ ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘คณฺหถ, คณฺหถา’’ติ วทนฺตานฺเว วาตเวเคน มิถิลํ คนฺตฺวา ปณฺฑิตสฺส นิเวสนํ ปาวิสิ. ตสฺส ปน อิทํ วตฺตํ – สเจ กุโตจิ อาภตสาสนํ ปณฺฑิตสฺเสว กเถตพฺพํ โหติ, อถสฺส อํสกูเฏ โอตรติ, สเจ อมราเทวิยาปิ โสตุํ วฏฺฏติ, อุจฺฉงฺเค โอตรติ, สเจ มหาชเนน โสตพฺพํ, ภูมิยํ โอตรติ. ตทา โส ปณฺฑิตสฺส อํสกูเฏ โอตริ. ตาย สฺาย ‘‘รหสฺเสน ภวิตพฺพ’’นฺติ มหาชโน ปฏิกฺกมิ. ปณฺฑิโต ตํ คเหตฺวา อุปริปาสาทตลํ อภิรุยฺห ‘‘กึ เต, ตาต, ทิฏฺํ สุต’’นฺติ ปุจฺฉิ. อถสฺส โส ‘‘อหํ, เทว, สกลชมฺพุทีเป วิจรนฺโต อฺสฺส รฺโ สนฺติเก กิฺจิ คุยฺหํ น ปสฺสามิ, อุตฺตรปฺจาลนคเร ปน จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส ปุโรหิโต เกวฏฺโฏ นาม พฺราหฺมโณ ราชานํ อุยฺยานํ เนตฺวา จตุกฺกณฺณมนฺตํ คณฺหิ. อถาหํ สาขนฺตเร นิสีทิตฺวา เตสํ มนฺตํ สุณิตฺวา มนฺตปริโยสาเน ตสฺส สีเส จ มุเข จ ฉกณปิณฺฑํ ปาเตตฺวา อาคโตมฺหี’’ติ วตฺวา สพฺพํ กเถสิ. ‘รฺา สมฺปฏิจฺฉิต’’นฺติ ¶ วุตฺเต ‘‘สมฺปฏิจฺฉิ, เทวา’’ติ อาห.
อถสฺส ปณฺฑิโต กตฺตพฺพยุตฺตกํ สกฺการํ กริตฺวา ตํ มุทุปจฺจตฺถรเณ สุวณฺณปฺชเร สุฏฺุ สยาเปตฺวา ‘‘เกวฏฺโฏ มม มโหสธสฺส ปณฺฑิตภาวํ น ชานาติ มฺเ, อหํ น ทานิสฺส มนฺตสฺส มตฺถกํ ปาปุณิตุํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นครโต ทุคฺคตกุลานิ นีหราเปตฺวา พหิ นิวาสาเปสิ, รฏฺชนปททฺวารคาเมสุ สมิทฺธานิ อิสฺสริยกุลานิ อาหริตฺวา อนฺโตนคเร นิวาสาเปสิ, พหุํ ธนธฺํ กาเรสิ. จูฬนิพฺรหฺมทตฺโตปิ เกวฏฺฏสฺส วจนํ คเหตฺวา เสนงฺคปริวุโต คนฺตฺวา เอกํ ขุทฺทกนครํ ปริกฺขิปิ. เกวฏฺโฏปิ วุตฺตนเยเนว ตตฺถ ¶ ปวิสิตฺวา ตํ ราชานํ สฺาเปตฺวา อตฺตโน สนฺตกมกาสิ. ทฺเว เสนา เอกโต กตฺวา ตโต อฺํ นครํ รุมฺภติ. เอเตนุปาเยน ปฏิปาฏิยา สพฺพานิ ตานิ นครานิ คณฺหิ. เอวํ จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต เกวฏฺฏสฺส โอวาเท ิโต, เปตฺวา เวเทหราชานํ เสสราชาโน สกลชมฺพุทีเป อตฺตโน สนฺตเก อกาสิ. โพธิสตฺตสฺส ปน อุปนิกฺขิตฺตกปุริสา ‘‘จูฬนิพฺรหฺมทตฺเตน เอตฺตกานิ นครานิ คหิตานิ ¶ , อปฺปมตฺโต โหตู’’ติ นิจฺจํ สาสนํ ปหิณึสุ. โสปิ เตสํ ‘‘อหํ อิธ อปฺปมตฺโต วสามิ, ตุมฺเหปิ อนุกฺกณฺนฺตา อปฺปมตฺโต หุตฺวา วสถา’’ติ ปฏิเปเสสิ.
จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต สตฺตทิวสสตฺตมาสาธิเกหิ สตฺตสํวจฺฉเรหิ วิเทหรชฺชํ วชฺเชตฺวา เสสํ สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คเหตฺวา เกวฏฺฏํ อาห – ‘‘อาจริย, มิถิลายํ วิเทหรชฺชํ คณฺหามา’’ติ. ‘‘มหาราช, มโหสธปณฺฑิตสฺส วสนนคเร รชฺชํ คณฺหิตุํ น สกฺขิสฺสาม. โส หิ เอวํ าณสมฺปนฺโน เอวํ อุปายกุสโล’’ติ โส วิตฺถาเรตฺวา จนฺทมณฺฑลํ อุฏฺาเปนฺโต วิย มโหสธสฺส คุเณ กเถสิ. อยฺหิ สยมฺปิ อุปายกุสโลว, ตสฺมา ‘‘มิถิลนครํ นาม เทว อปฺปมตฺตกํ, สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ อมฺหากํ ปโหติ, กึ โน เอเตนา’’ติ อุปาเยเนว ราชานํ สลฺลกฺขาเปสิ. เสสราชาโนปิ ‘‘มยํ มิถิลรชฺชํ คเหตฺวาว ชยปานํ ปิวิสฺสามา’’ติ วทนฺติ. เกวฏฺโฏ เตปิ นิวาเรตฺวา ‘‘วิเทหรชฺชํ คเหตฺวา กึ กริสฺสาม, โสปิ ราชา อมฺหากํ สนฺตโกว, ตสฺมา นิวตฺตถา’’ติ เต อุปาเยเนว โพเธสิ. เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา นิวตฺตึสุ. มหาสตฺตสฺส อุปนิกฺขิตฺตกปุริสา สาสนํ เปสยึสุ ‘‘พฺรหฺมทตฺโต เอกสตราชปริวุโต มิถิลํ อาคจฺฉนฺโตว นิวตฺติตฺวา อตฺตโน นครเมว ¶ คโต’’ติ. โสปิ เตสํ ‘‘อิโต ปฏฺาย ตสฺส กิริยํ ชานนฺตู’’ติ ปฏิเปเสสิ. พฺรหฺมทตฺโตปิ เกวฏฺเฏน สทฺธึ ‘‘อิทานิ กึ กริสฺสามี’’ติ มนฺเตตฺวา ‘‘ชยปานํ ปิวิสฺสามา’’ติ วุตฺเต อุยฺยานํ อลงฺกริตฺวา จาฏิสเตสุ จาฏิสหสฺเสสุ สุรํ เปถ, นานาวิธานิ จ มจฺฉมํสาทีนิ อุปเนถา’’ติ เสวเก อาณาเปสิ. อุปนิกฺขิตฺตกปุริสา ตํ ปวตฺตึ ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ. เต ปน ‘‘วิเสน สุรํ โยเชตฺวา ราชาโน มาเรตุกาโม’’ติ น ชานึสุ. มหาสตฺโต ปน สุวโปตกสฺส สนฺติกา สุตตฺตา ¶ ตถโต ชานิตฺวา ‘‘เนสํ สุราปานทิวสํ ตถโต ชานิตฺวา มม เปเสถา’’ติ ปฏิสาสนํ เปเสสิ. เต ตถา กรึสุ.
ปณฺฑิโต ‘‘มาทิเส ธรมาเน เอตฺตกานํ ราชูนํ มรณํ อยุตฺตํ, อวสฺสโย เนสํ ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สหชาตํ โยธสหสฺสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺมา, จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต กิร อุยฺยานํ อลงฺการาเปตฺวา เอกสตราชปริวุโต สุรํ ปาตุกาโม, ตุมฺเห ตตฺถ คนฺตฺวา ราชูนํ อาสเนสุ ปฺตฺเตสุ กิสฺมิฺจิ อนิสินฺเนเยว ‘จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส อนนฺตรํ มหารหํ อาสนํ อมฺหากํ รฺโว เทถา’ติ วทนฺตา คเหตฺวา เตสํ ปุริเสหิ ‘ตุมฺเห กสฺส ปุริสา’ติ วุตฺเต ‘วิเทหราชสฺสา’ติ วเทยฺยาถ. เต ตุมฺเหหิ สทฺธึ ‘มยํ สตฺตทิวสสตฺตมาสาธิกานิ สตฺตวสฺสานิ รชฺชํ คณฺหนฺตา เอกทิวสมฺปิ วิเทหราชานํ น ปสฺสาม, กึ ราชา นาเมส, คจฺฉถ ปริยนฺเต อาสนํ คณฺหถา’ติ วทนฺตา กลหํ กริสฺสนฺติ. อถ ตุมฺเห ‘เปตฺวา พฺรหฺมทตฺตํ อฺโ อมฺหากํ รฺโ อุตฺตริตโร อิธ นตฺถี’ติ กลหํ วฑฺเฒตฺวา อมฺหากํ รฺโ อาสนมตฺตมฺปิ อลภนฺตา ‘น ทานิ ¶ โว สุรํ ปาตุํ มจฺฉมํสํ ขาทิตุํ ทสฺสามา’ติ นทนฺตา วคฺคนฺตา มหาโฆสํ กโรนฺตา เตสํ สนฺตาสํ ชเนนฺตา มหนฺเตหิ เลฑฺฑุทณฺเฑหิ สพฺพจาฏิโย ภินฺทิตฺวา มจฺฉมํสํ วิปฺปกิริตฺวา อปริโภคํ กตฺวา ชเวน เสนาย อนฺตรํ ปวิสิตฺวา เทวนครํ ปวิฏฺา อสุรา วิย อุลฺโลฬํ อุฏฺาเปตฺวา ‘มยํ มิถิลนคเร มโหสธปณฺฑิตสฺส ปุริสา, สกฺโกนฺตา อมฺเห คณฺหถา’ติ ตุมฺหากํ อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ เปเสสิ. เต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ¶ วนฺทิตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุธา นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา นนฺทนวนมิว อลงฺกตอุยฺยานํ ปวิสิตฺวา สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต เอกสตราชปลฺลงฺเก อาทึ กตฺวา อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สิริวิภวํ ทิสฺวา มหาสตฺเตน วุตฺตนิยาเมเนว สพฺพํ กตฺวา มหาชนํ สงฺโขเภตฺวา มิถิลาภิมุขา ปกฺกมึสุ. ราชปุริสาปิ ตํ ปวตฺตึ เตสํ ราชูนํ อาโรเจสุํ. จูฬนิพฺรหฺมทตฺโตปิ ‘‘เอวรูปสฺส นาม เม วิสโยคสฺส อนฺตราโย กโต’’ติ กุชฺฌิ. ราชาโนปิ ‘‘อมฺหากํ ชยปานํ ปาตุํ นาทาสี’’ติ กุชฺฌึสุ. พลกายาปิ ‘‘มยํ อมูลกํ สุรํ ปาตุํ น ลภิมฺหา’’ติ กุชฺฌึสุ.
จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต ¶ เต ราชาโน อามนฺเตตฺวา ‘‘เอถ, โภ, มิถิลํ คนฺตฺวา วิเทหราชสฺส ขคฺเคน สีสํ ฉินฺทิตฺวา ปาเทหิ อกฺกมิตฺวา นิสินฺนา ชยปานํ ปิวิสฺสาม, เสนํ คมนสชฺชํ กโรถา’’ติ วตฺวา ปุน รโหคโต เกวฏฺฏสฺสปิ เอตมตฺถํ กเถตฺวา ‘‘อมฺหากํ เอวรูปสฺส มนฺตสฺส อนฺตรายกรํ ปจฺจามิตฺตํ คณฺหิสฺสาม, เอกสตราชูนํ อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขาย เสนาย ปริวุตา คจฺฉาม, เอถ, อาจริยา’’ติ อาห. พฺราหฺมโณ อตฺตโน ปณฺฑิตภาเวน จินฺเตสิ ‘‘มโหสธปณฺฑิตํ ชินิตุํ นาม น สกฺกา, อมฺหากํเยว ลชฺชิตพฺพํ ภวิสฺสติ, นิวตฺตาเปสฺสามิ น’’นฺติ. อถ นํ เอวมาห – ‘‘มหาราช, น เอส วิเทหราชสฺส ถาโม, มโหสธปณฺฑิตสฺส สํวิธานเมตํ, มหานุภาโว ปเนส, เตน รกฺขิตา มิถิลา สีหรกฺขิตคุหา วิย น สกฺกา เกนจิ คเหตุํ, เกวลํ อมฺหากํ ลชฺชนกํ ภวิสฺสติ, อลํ ตตฺถ คมเนนา’’ติ. ราชา ปน ขตฺติยมาเนน อิสฺสริยมเทน มตฺโต หุตฺวา ‘‘กึ โส กริสฺสตี’’ติ วตฺวา เอกสตราชปริวุโต อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขาย เสนาย สทฺธึ นิกฺขมิ. เกวฏฺโฏปิ อตฺตโน กถํ คณฺหาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘รฺโ ปจฺจนีกวุตฺติ นาม อยุตฺตา’’ติ เตน สทฺธึเยว นิกฺขมิ. เตปิ โยธา เอกรตฺเตเนว มิถิลํ ปตฺวา อตฺตนา กตกิจฺจํ ปณฺฑิตสฺส กถยึสุ. ปมํ อุปนิกฺขิตฺตกปุริสาปิสฺส สาสนํ ปหิณึสุ. ‘‘จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต ‘วิเทหราชานํ คณฺหิสฺสามี’ติ เอกสตราชปริวุโต อาคจฺฉติ, ปณฺฑิโต อปฺปมตฺโต โหตุ, อชฺช อสุกฏฺานํ นาม อาคโต, อชฺช ¶ อสุกฏฺานํ, อชฺช นครํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ ปณฺฑิตสฺส นิพทฺธํ เปเสนฺติเยว. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต อปฺปมตฺโต อโหสิ. วิเทหราชา ปน ‘‘พฺรหฺมทตฺโต กิร อิมํ นครํ คเหตุํ อาคจฺฉตี’’ติ ปรมฺปรโฆเสน อสฺโสสิ.
อถ ¶ พฺรหฺมทตฺโต อคฺคปโทเสเยว อุกฺกาสตสหสฺเสน ธาริยมาเนน อาคนฺตฺวา สกลนครํ ปริวาเรสิ. อถ นํ หตฺถิปาการรถปาการาทีหิ ปริกฺขิปาเปตฺวา เตสุ เตสุ าเนสุ พลคุมฺพํ เปสิ. มนุสฺสา อุนฺนาเทนฺตา อปฺโผเฏนฺตา เสเฬนฺตา นจฺจนฺตา คชฺชนฺตา ตชฺเชนฺตา มหาโฆสํ กโรนฺตา อฏฺํสุ. ทีโปภาเสน เจว อลงฺกาโรภาเสน จ สกลสตฺตโยชนิกา มิถิลา เอโกภาสา อโหสิ. หตฺถิอสฺสรถตูริยานํ ¶ สทฺเทน ปถวิยา ภิชฺชนกาโล วิย อโหสิ. จตฺตาโร ปณฺฑิตา อุลฺโลฬสทฺทํ สุตฺวา อชานนฺตา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, อุลฺโลฬสทฺโท ชาโต, น โข ปน มยํ ชานาม, กึ นาเมตํ, วีมํสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต นุ โข อาคโต ภเวยฺยา’’ติ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺโต ตสฺสาคมนภาวํ ตฺวา ภีตตสิโต ‘‘นตฺถิ อมฺหากํ ชีวิตํ, สพฺเพ โน ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสตี’’ติ เตหิ สทฺธึ สลฺลปนฺโต นิสีทิ. มหาสตฺโต ปน ตสฺสาคตภาวํ ตฺวา สีโห วิย อฉมฺภิโต สกลนคเร อารกฺขํ สํวิทหิตฺวา ‘‘ราชานํ อสฺสาเสสฺสามี’’ติ ราชนิเวสนํ อภิรุหิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวาว ปฏิลทฺธสฺสาโส หุตฺวา ‘‘เปตฺวา มม ปุตฺตํ มโหสธปณฺฑิตํ อฺโ มํ อิมมฺหา ทุกฺขา โมเจตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –
‘‘ปฺจาโล สพฺพเสนาย, พฺรหฺมทตฺโตยมาคโต;
สายํ ปฺจาลิยา เสนา, อปฺปเมยฺโย มโหสธ.
‘‘วีถิมตี ปตฺติมตี, สพฺพสงฺคามโกวิทา;
โอหารินี สทฺทวตี, เภริสงฺขปฺปโพธนา.
‘‘โลหวิชฺชาลงฺการาภา, ธชินี วามโรหินี;
สิปฺปิเยหิ สุสมฺปนฺนา, สูเรหิ สุปฺปติฏฺิตา.
‘‘ทเสตฺถ ปณฺฑิตา อาหุ, ภูริปฺา รโหคมา;
มาตา เอกาทสี รฺโ, ปฺจาลิยํ ปสาสติ.
‘‘อเถตฺเถกสตํ ¶ ขตฺยา, อนุยนฺตา ยสสฺสิโน;
อจฺฉินฺนรฏฺา พฺยถิตา, ปฺจาลิยํ วสํ คตา.
‘‘ยํวทา ¶ ตกฺกรา รฺโ, อกามา ปิยภาณิโน;
ปฺจาลมนุยายนฺติ, อกามา วสิโน คตา.
‘‘ตาย เสนาย มิถิลา, ติสนฺธิปริวาริตา;
ราชธานี วิเทหานํ, สมนฺตา ปริขฺติ.
‘‘อุทฺธํ ¶ ตารกชาตาว, สมนฺตา ปริวาริตา;
มโหสธ วิชานาหิ, กถํ โมกฺโข ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ สพฺพเสนายาติ สพฺพาย เอกสตราชนายิกาย อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขาย เสนาย สทฺธึ อาคโต กิร, ตาตาติ วทติ. ปฺจาลิยาติ ปฺจาลรฺโ สนฺตกา. วีถิมตีติ วีถิยา อานีเต ทพฺพสมฺภาเร คเหตฺวา วิจรนฺเตน วฑฺฒกิคเณน สมนฺนาคตา. ปตฺติมตีติ ปทสฺจเรน พลกาเยน สมนฺนาคตา. สพฺพสงฺคามโกวิทาติ สพฺพสงฺคาเม กุสลา. โอหารินีติ ปรเสนาย อนฺตรํ ปวิสิตฺวา อปฺายนฺตาว ปรสีสํ อาหริตุํ สมตฺถา. สทฺทวตีติ ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตา. เภริสงฺขปฺปโพธนาติ ‘‘เอถ ยาถ ยุชฺฌถา’’ติอาทีนิ ตตฺถ วจีเภเทน ชานาเปตุํ น สกฺกา, ตาทิสานิ ปเนตฺถ กิจฺจานิ เภริสงฺขสทฺเทเหว โพเธนฺตีติ เภริสงฺขปฺปโพธนา. โลหวิชฺชาลงฺการาภาติ เอตฺถ โลหวิชฺชาติ โลหสิปฺปานิ. สตฺตรตนปฏิมณฺฑิตานํ กวจจมฺมชาลิกาสีสกเรณิกาทีนํ เอตํ นามํ. อลงฺการาติ ราชมหามตฺตาทีนํ อลงฺการา. ตสฺมา โลหวิชฺชาหิ เจว อลงฺกาเรหิ จ ภาสตีติ โลหวิชฺชาลงฺการาภาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ธชินีติ สุวณฺณาทิปฏิมณฺฑิเตหิ นานาวตฺถสมุชฺชเลหิ รถาทีสุ สมุสฺสิตธเชหิ สมนฺนาคตา. วามโรหินีติ หตฺถี จ อสฺเส จ อาโรหนฺตา วามปสฺเสน อาโรหนฺติ, เตน ‘‘วามโรหินี’’ติ วุจฺจนฺติ, เตหิ สมนฺนาคตา, อปริมิตหตฺถิอสฺสสมากิณฺณาติ อตฺโถ. สิปฺปิเยหีติ หตฺถิสิปฺปอสฺสสิปฺปาทีสุ อฏฺารสสุ สิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺเตหิ สุฏฺุ สมนฺนาคตา สุสมากิณฺณา. สูเรหีติ ตาต, เอสา กิร เสนา สีหสมานปรกฺกเมหิ สูรโยเธหิ สุปฺปติฏฺิตา.
อาหูติ ทส กิเรตฺถ เสนาย ปณฺฑิตาติ วทนฺติ. ภูริปฺาติ ปถวิสมาย วิปุลาย ปฺาย สมนฺนาคตา. รโหคมาติ รโห คมนสีลา รโห นิสีทิตฺวา มนฺตนสีลา. เต กิร เอกาหทฺวีหํ จินฺเตตุํ ลภนฺตา ปถวึ ปริวตฺเตตุํ อากาเส คณฺหิตุํ สมตฺถา. เอกาทสีติ เตหิ ¶ กิร ¶ ปณฺฑิเตหิ อติเรกตรปฺา ปฺจาลรฺโ มาตา. สา เตสํ เอกาทสี หุตฺวา ปฺจาลิยํ เสนํ ปสาสติ อนุสาสติ.
เอกทิวสํ กิเรโก ปุริโส เอกํ ตณฺฑุลนาฬิฺจ ปุฏกภตฺตฺจ กหาปณสหสฺสฺจ คเหตฺวา ‘‘นทึ ตริสฺสามี’’ติ โอติณฺโณ นทิมชฺฌํ ปตฺวา ตริตุํ อสกฺโกนฺโต ตีเร ิเต มนุสฺเส เอวมาห – ‘‘อมฺโภ, มม หตฺเถ เอกา ตณฺฑุลนาฬิ ปุฏกภตฺตํ กหาปณสหสฺสฺจ อตฺถิ, อิโต ยํ มยฺหํ รุจฺจติ, ตํ ทสฺสามิ. โย สกฺโกติ, โส มํ อุตฺตาเรตู’’ติ. อเถโก ถามสมฺปนฺโน ปุริโส คาฬฺหํ นิวาเสตฺวา นทึ โอคาเหตฺวา ตํ หตฺเถ คเหตฺวา ปรตีรํ อุตฺตาเรตฺวา ‘‘เทหิ เม ทาตพฺพ’’นฺติ อาห. ‘‘โส ตณฺฑุลนาฬึ วา ปุฏกภตฺตํ วา คณฺหาหี’’ติ ¶ . ‘‘สมฺม, อหํ ชีวิตํ อคเณตฺวา ตํ อุตฺตาเรสึ, น เม เอเตหิ อตฺโถ, กหาปณํ เม เทหี’’ติ. อหํ ‘‘อิโต มยฺหํ ยํ รุจฺจติ, ตํ ทสฺสามี’’ติ อวจํ, อิทานิ มยฺหํ ยํ รุจฺจติ, ตํ ทมฺมิ, อิจฺฉนฺโต คณฺหาติ. โส สมีเป ิตสฺส เอกสฺส กเถสิ. โสปิ ตํ ‘‘เอส อตฺตโน รุจฺจนกํ ตว เทติ, คณฺหา’’ติ อาห. โส ‘‘อหํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ ตํ อาทาย วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา วินิจฺฉยามจฺจานํ อาโรเจสิ. เตปิ สพฺพํ สุตฺวา ตเถวาหํสุ. โส เตสํ วินิจฺฉเยน อตุฏฺโ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชาปิ วินิจฺฉยามจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ สนฺติเก อุภินฺนํ วจนํ สุตฺวา วินิจฺฉินิตุํ อชานนฺโต อตฺตโน ชีวิตํ ปหาย นทึ โอติณฺณํ ปรชฺชาเปสิ.
ตสฺมึ ขเณ รฺโ มาตา จลากเทวี นาม อวิทูเร นิสินฺนา อโหสิ. สา รฺโ ทุพฺพินิจฺฉิตภาวํ ตฺวา ‘‘ตาต, อิมํ อฑฺฑํ ตฺวาว สุฏฺุ วินิจฺฉิต’’นฺติ อาห. ‘‘อมฺม, อหํ เอตฺตกํ ชานามิ. สเจ ตุมฺเห อุตฺตริตรํ ชานาถ, ตุมฺเหว วินิจฺฉินถา’’ติ. สา ‘‘เอวํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอหิ, ตาต, ตว หตฺถคตานิ ตีณิปิ ภูมิยํ เปหี’’ติ ปฏิปาฏิยา ปาเปตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ อุทเก วุยฺหมาโน อิมสฺส กึ กเถสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิทํ นามยฺเย’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ ตว รุจฺจนกํ คณฺหา’’ติ อาห. โส สหสฺสตฺถวิกํ คณฺหิ. อถ นํ สา โถกํ คตกาเล ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, สหสฺสํ เต รุจฺจตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, รุจฺจตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตาต, ตยา ‘อิโต ¶ ยํ มยฺหํ รุจฺจติ, ตํ ทสฺสามี’ติ อิมสฺส วุตฺตํ, น วุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วุตฺตํ เทวี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อิมํ สหสฺสํ เอตสฺส เทหี’’ติ วตฺวา ทาเปสิ. โส โรทนฺโต ปริเทวนฺโต อทาสิ. ตสฺมึ ขเณ ราชา อมจฺจา จ ตุสฺสิตฺวา สาธุการํ ปวตฺตยึสุ. ตโต ปฏฺาย ตสฺสา ปณฺฑิตภาโว สพฺพตฺถ ปากโฏ ชาโต. ตํ สนฺธาย วิเทหราชา ‘‘มาตา เอกาทสี รฺโ’’ติ อาห.
ขตฺยาติ ¶ ขตฺติยา. อจฺฉินฺนรฏฺาติ จูฬนิพฺรหฺมทตฺเตน อจฺฉินฺทิตฺวา คหิตรฏฺา. พฺยถิตาติ มรณภยภีตา อฺํ คเหตพฺพคหณํ อปสฺสนฺตา. ปฺจาลิยํ วสํ คตาติ เอตสฺส ปฺจาลรฺโ วสํ คตาติ อตฺโถ. สามิวจนตฺเถ หิ เอตํ อุปโยควจนํ. ยํวทา ตกฺกราติ ยํ มุเขน วทนฺติ, ตํ รฺโ กาตุํ สกฺโกนฺตาว. วสิโน คตาติ ปุพฺเพ สยํวสิโน อิทานิ ปนสฺส วสํ คตาติ อตฺโถ. ติสนฺธีติ ปมํ หตฺถิปากาเรน ปริกฺขิตฺตา, ตโต รถปากาเรน, ตโต อสฺสปากาเรน, ตโต โยธปตฺติปากาเรน ปริกฺขิตฺตาติ อิเมหิ จตูหิ สงฺเขเปหิ ติสนฺธีหิ ปริวาริตา. หตฺถิรถานฺหิ อนฺตรํ เอโก สนฺธิ, รถอสฺสานํ อนฺตรํ เอโก สนฺธิ, อสฺสปตฺตีนํ อนฺตรํ เอโก สนฺธิ. ปริขฺตีติ ขนียติ. อิมฺหิ อิทานิ อุปฺปาเฏตฺวา คณฺหิตุกามา วิย สมนฺตโต ขนนฺติ. อุทฺธํ ตารกชาตาวาติ ตาต, ยาย เสนาย สมนฺตา ปริวาริตา, สา อเนกสตสหสฺสทณฺฑทีปิกาหิ อุทฺธํ ตารกชาตา วิย ขายติ. วิชานาหีติ ตาต มโหสธปณฺฑิต, อวีจิโต ยาว ภวคฺคา อฺโ ตยา สทิโส อุปายกุสโล ปณฺฑิโต นาม นตฺถิ, ปณฺฑิตภาโว นาม เอวรูเปสุ าเนสุ ปฺายติ, ตสฺมา ตฺวเมว ชานาหิ, กถํ อมฺหากํ อิโต ทุกฺขา ปโมกฺโข ภวิสฺสตีติ.
อิมํ รฺโ กถํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราชา อติวิย มรณภยภีโต, คิลานสฺส โข ปน เวชฺโช ปฏิสรณํ, ฉาตสฺส ¶ โภชนํ, ปิปาสิตสฺส ปานียํ, อิมสฺสปิ มํ เปตฺวา อฺํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ. อถ มหาสตฺโต มโนสิลาตเล นทนฺโต สีโห วิย ‘‘มา ภายิ, มหาราช, รชฺชสุขํ อนุภว, อหํ เลฑฺฑุํ
คเหตฺวา ¶ กากํ วิย, ธนุํ คเหตฺวา มกฺกฏํ วิย จ, อิมํ อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขํ เสนํ อุทเร พนฺธสาฏกานมฺปิ อสฺสามิกํ กตฺวา ปลาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา นวมํ คาถมาห –
‘‘ปาเท เทว ปสาเรหิ, ภฺุช กาเม รมสฺสุ จ;
หิตฺวา ปฺจาลิยํ เสนํ, พฺรหฺมทตฺโต ปลายิตี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ‘‘เทว, ตฺวํ ยถาสุขํ อตฺตโน รชฺชสุขสงฺขาเต เต ปาเท ปสาเรหิ, ปสาเรนฺโต จ สงฺคาเม จิตฺตํ อกตฺวา ภฺุช, กาเม รมสฺสุ จ, เอส พฺรหฺมทตฺโต อิมํ เสนํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิสฺสตี’’ติ.
เอวํ ปณฺฑิโต ราชานํ สมสฺสาเสตฺวา วนฺทิตฺวา ราชนิเวสนา นิกฺขมิตฺวา นคเร ฉณเภรึ ¶ จราเปตฺวา นาคเร อาห – ‘‘อมฺโภ, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, สตฺตาหํ มาลาคนฺธวิเลปนปานโภชนาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ฉณกีฬํ ปฏฺเปถ. ตตฺถ ตตฺถ มนุสฺสา ยถารูปํ มหาปานํ ปิวนฺตุ, คนฺธพฺพํ กโรนฺตุ, วาเทนฺตุ วคฺคนฺตุ เสเฬนฺตุ นทนฺตุ นจฺจนฺตุ คายนฺตุ อปฺโผเฏนฺตุ, ปริพฺพโย ปน โว มม สนฺตโกว โหตุ, อหํ มโหสธปณฺฑิโต นาม, ปสฺสิสฺสถ เม อานุภาว’’นฺติ. เต ตถา กรึสุ. ตทา คีตวาทิตาทิสทฺทํ พหินคเร ิตา สุณนฺติ, จูฬทฺวาเรน มนุสฺสา นครํ ปวิสนฺติ. เปตฺวา ปฏิสตฺตุํ ทิฏฺํ ทิฏฺํ น คณฺหนฺติ, ตสฺมา สฺจาโร น ฉิชฺชติ, นครํ ปวิฏฺมนุสฺสา ฉณกีฬนิสฺสิตํ ชนํ ปสฺสนฺติ.
จูฬนิพฺรหฺมทตฺโตปิ นคเร โกลาหลํ สุตฺวา อมจฺเจ เอวมาห – ‘‘อมฺโภ, อมฺเหสุ อฏฺารสอกฺโขภณิยา เสนาย นครํ ปริวาเรตฺวา ิเตสุ นครวาสีนํ ภยํ วา สารชฺชํ วา นตฺถิ, อานนฺทิตา โสมนสฺสปฺปตฺตา อปฺโผเฏนฺติ นทนฺติ เสเฬนฺติ นจฺจนฺติ คายนฺติ, กึ นาเมต’’นฺติ? อถ นํ อุปนิกฺขิตฺตกปุริสา มุสาวาทํ กตฺวา เอวมาหํสุ ‘‘เทว, มยํ เอเกน กมฺเมน จูฬทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ฉณนิสฺสิตํ มหาชนํ ทิสฺวา ปุจฺฉิมฺหา ‘อมฺโภ ¶ , สกลชมฺพุทีปราชาโน อาคนฺตฺวา ตุมฺหากํ นครํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตา, ตุมฺเห ปน อติปมตฺตา, กึ นาเมต’นฺติ? เต เอวมาหํสุ ‘อมฺโภ, อมฺหากํ รฺโ กุมารกาเล เอโก มโนรโถ อโหสิ สกลชมฺพุทีปราชูหิ นคเร ปริวาริเต ฉณํ กริสฺสามีติ, ตสฺส อชฺช มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, ตสฺมา ฉณเภรึ จราเปตฺวา สยํ มหาตเล มหาปานํ ปิวตี’’’ติ.
ราชา ¶ เตสํ กถํ สุตฺวา กุชฺฌิตฺวา เสนํ อาณาเปสิ – ‘‘โภนฺโต, คจฺฉถ, ขิปฺปํ อิโต จิโต จ นครํ อวตฺถริตฺวา ปริขํ ภินฺทิตฺวา ปาการํ มทฺทนฺตา ทฺวารฏฺฏาลเก ภินฺทนฺตา นครํ ปวิสิตฺวา สกเฏหิ กุมฺภณฺฑานิ วิย มหาชนสฺส สีสานิ คณฺหถ, วิเทหรฺโ สีสํ อาหรถา’’ติ. ตํ สุตฺวา สูรโยธา นานาวุธหตฺถา ทฺวารสมีปํ คนฺตฺวา ปณฺฑิตสฺส ปุริเสหิ สกฺขรวาลุกกลลสิฺจนปาสาณปตนาทีหิ อุปทฺทุตา ปฏิกฺกมนฺติ. ‘‘ปาการํ ภินฺทิสฺสามา’’ติ ปริขํ โอติณฺเณปิ อนฺตรฏฺฏาลเกสุ ิตา อุสุสตฺติโตมราทีหิ วิชฺฌนฺตา มหาวินาสํ ปาเปนฺติ. ปณฺฑิตสฺส โยธา จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส โยเธ หตฺถวิการาทีนิ ทสฺเสตฺวา นานปฺปกาเรหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ ตชฺเชนฺติ. ‘‘ตุมฺเห กิลมนฺตา ภตฺตํ อลภนฺตา โถกํ ปิวิสฺสถ ขาทิสฺสถา’’ติ สุราปิฏฺกานิ เจว มจฺฉมํสสูลานิ จ ปสาเรตฺวา สยเมว ปิวนฺติ ขาทนฺติ, อนุปากาเร จงฺกมนฺติ. อิตเร กิฺจิ กาตุํ อสกฺโกนฺตา จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, เปตฺวา อิทฺธิมนฺเต อฺเหิ นิทฺธริตุํ น สกฺกา’’ติ วทึสุ.
ราชา ¶ จตุปฺจาหํ วสิตฺวา คเหตพฺพยุตฺตกํ อปสฺสนฺโต เกวฏฺฏํ ปุจฺฉิ ‘‘อาจริย, นครํ คณฺหิตุํ น สกฺโกม, เอโกปิ อุปสงฺกมิตุํ สมตฺโถ นตฺถิ, กึ กาตพฺพ’’นฺติ. เกวฏฺโฏ ‘‘โหตุ, มหาราช, นครํ นาม พหิอุทกํ โหติ, อุทกกฺขเยน นํ คณฺหิสฺสาม, มนุสฺสา อุทเกน กิลมนฺตา ทฺวารํ วิวริสฺสนฺตี’’ติ อาห. โส ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ตโต ปฏฺาย อุทกํ ปเวเสตุํ น เทนฺติ. ปณฺฑิตสฺส อุปนิกฺขิตฺตกปุริสา ปณฺณํ ลิขิตฺวา กณฺเฑ พนฺธิตฺวา ตํ ปวตฺตึ เปเสสุํ. เตนปิ ปมเมว อาณตฺตํ ‘‘โย โย กณฺเฑ ปณฺณํ ปสฺสติ, โส ¶ โส เม อาหรตู’’ติ. อเถโก ปุริโส ตํ ทิสฺวา ปณฺฑิตสฺส ทสฺเสสิ. โส ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘น เม ปณฺฑิตภาวํ ชานนฺตี’’ติ สฏฺิหตฺถํ เวฬุํ ทฺวิธา ผาเลตฺวา ปริสุทฺธํ โสธาเปตฺวา ปุน เอกโต กตฺวา จมฺเมน พนฺธิตฺวา อุปริ กลเลน มกฺเขตฺวา หิมวนฺตโต อิทฺธิมนฺตตาปเสหิ อานีตํ กุทฺรูสกุมุทพีชํ โปกฺขรณิตีเร กลเลสุ โรปาเปตฺวา อุปริ เวฬุํ ปาเปตฺวา อุทกสฺส ปูราเปสิ. เอกรตฺเตเนว วฑฺฒิตฺวา ปุปฺผํ เวฬุมตฺถกโต อุคฺคนฺตฺวา รตนมตฺตํ อฏฺาสิ.
อถ ¶ นํ อุปฺปาเฏตฺวา ‘‘อิทํ จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส เทถา’’ติ อตฺตโน ปุริสานํ ทาเปสิ. เต ตสฺส ทณฺฑกํ วลยํ กตฺวา ‘‘อมฺโภ, พฺรหฺมทตฺตสฺส ปาทมูลิกา ฉาตเกน มา มริตฺถ, คณฺหเถตํ อุปฺปลํ ปิฬนฺธิตฺวา ทณฺฑกํ กุจฺฉิปูรํ ขาทถา’’ติ วตฺวา ขิปึสุ. ตเมโก ปณฺฑิตสฺส อุปนิกฺขิตฺตกปุริโส อุฏฺาย คณฺหิ, อถ ตํ รฺโ สนฺติกํ อาหริตฺวา ‘‘ปสฺสถ, เทว, อิมสฺส ทณฺฑกํ, น โน อิโต ปุพฺเพ เอวํ ทีฆทณฺฑโก ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ วตฺวา ‘‘มินถ น’’นฺติ วุตฺเต ปณฺฑิตสฺส ปุริสา สฏฺิหตฺถํ ทณฺฑกํ อสีติหตฺถํ กตฺวา มินึสุ. ปุน รฺา ‘‘กตฺเถตํ ชาต’’นฺติ วุตฺเต เอโก มุสาวาทํ กตฺวา เอวมาห – ‘‘เทว, อหํ เอกทิวสํ ปิปาสิโต หุตฺวา ‘สุรํ ปิวิสฺสามี’ติ จูฬทฺวาเรน นครํ ปวิฏฺโ, นาครานํ อุทกกีฬตฺถาย กตํ มหาโปกฺขรณึ ปสฺสึ, มหาชโน นาวาย นิสีทิตฺวา ปุปฺผานิ คณฺหาติ. ตตฺถ อิทํ ตีรปฺปเทเส ชาตํ, คมฺภีรฏฺาเน ชาตสฺส ปน ทณฺฑโก สตหตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ.
ตํ สุตฺวา ราชา เกวฏฺฏํ อาห – ‘‘อาจริย, น สกฺกา อุทกกฺขเยน อิทํ คณฺหิตุํ, หรเถกํ อุปาย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ธฺกฺขเยน คณฺหิสฺสาม, นครํ นาม พหิธฺํ โหตี’’ติ. เอวํ โหตุ อาจริยาติ, ปณฺฑิโต ปุริมนเยเนว ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘น เม เกวฏฺฏพฺราหฺมโณ ปณฺฑิตภาวํ ชานาตี’’ติ อนุปาการมตฺถเก กลลํ กตฺวา วีหึ ตตฺถ โรปาเปสิ. โพธิสตฺตานํ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌตีติ วีหี เอกรตฺเตเนว วุฏฺาย ปาการมตฺถเก นีลา หุตฺวา ปฺายนฺติ. ตํ ¶ ทิสฺวา จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต ‘‘อมฺโภ, กิเมตํ ปาการมตฺถเก นีลํ หุตฺวา ปฺายตี’’ติ ปุจฺฉิ. ปณฺฑิตสฺส อุปนิกฺขิตฺตกปุริโส รฺโ วจนํ มุขโต ชิวฺหํ ลฺุจนฺโต ¶ วิย คเหตฺวา ‘‘เทว, คหปติปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต อนาคตภยํ ทิสฺวา ปุพฺเพว รฏฺโต ธฺํ อาหราเปตฺวา โกฏฺาคาราทีนิ ปูราเปตฺวา เสสธฺํ ปาการปสฺเส นิกฺขิปาเปสิ. เต กิร วีหโย อาตเปน สุกฺขนฺตา วสฺเสน เตเมนฺตา ตตฺเถว สสฺสํ ชเนสุํ. อหํ เอกทิวสํ เอเกน กมฺเมน จูฬทฺวาเรน ปวิสิตฺวา ปาการมตฺถเก วีหิราสิโต วีหึ หตฺเถน คเหตฺวา วีถิยํ ฉฑฺเฑนฺเต ปสฺสึ. อถ เต มํ ปริหาสนฺตา ‘ฉาโตสิ มฺเ, วีหึสาฏกทสนฺเต ¶ พนฺธิตฺวา ตว เคหํ หริตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปจาเปตฺวา ภฺุชาหี’ติ วทึสู’’ติ อาโรเจสิ.
ตํ สุตฺวา ราชา เกวฏฺฏํ ‘‘อาจริย, ธฺกฺขเยนปิ คณฺหิตุํ น สกฺกา, อยมฺปิ อนุปาโย’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, เทว, ทารุกฺขเยน คณฺหิสฺสาม, นครํ นาม พหิทารุกํ โหตี’’ติ. ‘‘เอวํ โหตุ, อาจริยา’’ติ. ปณฺฑิโต ปุริมนเยเนว ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ปาการมตฺถเก วีหึ อติกฺกมิตฺวา ปฺายมานํ ทารุราสึ กาเรสิ. ปณฺฑิตสฺส มนุสฺสา จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส ปุริเสหิ สทฺธึ ปริหาสํ กโรนฺตา ‘‘สเจ ฉาตตฺถ, ยาคุภตฺตํ ปจิตฺวา ภฺุชถา’’ติ มหนฺตมหนฺตานิ ทารูนิ ขิปึสุ. ราชา ‘‘ปาการมตฺถเกน ทารูนิ ปฺายนฺติ, กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เทว, คหปติปุตฺโต กิร มโหสธปณฺฑิโต อนาคตภยํ ทิสฺวา ทารูนิ อาหราเปตฺวา กุลานํ ปจฺฉาเคเหสุ ปาเปตฺวา อติเรกานิ ปาการํ นิสฺสาย ปาเปสี’’ติ อุปนิกฺขิตฺตกานฺเว สนฺติกา วจนํ สุตฺวา เกวฏฺฏํ อาห – ‘‘อาจริย, ทารุกฺขเยนปิ น สกฺกา อมฺเหหิ คณฺหิตุํ, อาหรเถกํ อุปาย’’นฺติ. ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มหาราช, อฺโ อุปาโย อตฺถี’’ติ. ‘‘อาจริย, กึ อุปาโย นาเมส, นาหํ ตว อุปายสฺส อนฺตํ ปสฺสามิ, น สกฺกา อมฺเหหิ เวเทหํ คณฺหิตุํ, อมฺหากํ นครเมว คมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เทว, ‘จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต เอกสตขตฺติเยหิ สทฺธึ เวเทหํ คณฺหิตุํ นาสกฺขี’ติ อมฺหากํ ลชฺชนกํ ภวิสฺสติ, กึ ปน มโหสโธว ปณฺฑิโต, อหมฺปิ ปณฺฑิโตเยว, เอกํ เลสํ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘กึ เลโส นาม, อาจริยา’’ติ. ‘‘ธมฺมยุทฺธํ นาม กริสฺสาม, เทวา’’ติ. ‘‘กิเมตํ ¶ ธมฺมยุทฺธํ นามา’’ติ? ‘‘มหาราช น เสนา ยุชฺฌิสฺสนฺติ, ทฺวินฺนํ ปน ราชูนํ ทฺเว ปณฺฑิตา เอกฏฺาเน ภวิสฺสนฺติ. เตสุ โย วนฺทิสฺสติ, ตสฺส ปราชโย ภวิสฺสติ. มโหสโธ ปน อิมํ มนฺตํ น ชานาติ, อหํ มหลฺลโก, โส ทหโร, มํ ทิสฺวาว วนฺทิสฺสติ, ตทา วิเทโห ปราชิโต นาม ภวิสฺสติ, อถ มยํ วิเทหํ ปราเชตฺวา อตฺตโน นครเมว คมิสฺสาม, เอวํ โน ลชฺชนกํ น ภวิสฺสติ. อิทํ ธมฺมยุทฺธํ นามา’’ติ.
ปณฺฑิโต ตมฺปิ รหสฺสํ ปุริมนเยเนว ตฺวา ‘‘สเจ เกวฏฺฏสฺส ปรชฺชามิ, นาหํ ปณฺฑิโตสฺมี’’ติ จินฺเตสิ. จูฬนิพฺรหฺมทตฺโตปิ ‘‘โสภโน, อาจริย, อุปาโย’’ติ วตฺวา ‘‘สฺเว ธมฺมยุทฺธํ ¶ ภวิสฺสติ, ทฺวินฺนมฺปิ ปณฺฑิตานํ ธมฺเมน ¶ ชยปราชโย ภวิสฺสติ. โย ธมฺมยุทฺธํ น กริสฺสติ, โสปิ ปราชิโต นาม ภวิสฺสตี’’ติ ปณฺณํ ลิขาเปตฺวา จูฬทฺวาเรน เวเทหสฺส เปเสสิ. ตํ สุตฺวา เวเทโห ปณฺฑิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาจิกฺขิ. ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปณฺฑิโต ‘‘สาธุ, เทว, สฺเว ปาโตว ปจฺฉิมทฺวาเร ธมฺมยุทฺธมณฺฑลํ สชฺเชสฺสนฺติ, ‘ธมฺมยุทฺธมณฺฑลํ อาคจฺฉตู’ติ เปเสถา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ราชา อาคตทูตสฺเสว หตฺเถ ปณฺณกํ อทาสิ. ปณฺฑิโต ปุนทิวเส ‘‘เกวฏฺฏสฺเสว ปราชโย โหตู’’ติ ปจฺฉิมทฺวาเร ธมฺมยุทฺธมณฺฑลํ สชฺชาเปสิ. เตปิ โข เอกสตปุริสา ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปณฺฑิตสฺส อารกฺขตฺถาย เกวฏฺฏํ ปริวารยึสุ. เตปิ เอกสตราชาโน ธมฺมยุทฺธมณฺฑลํ คนฺตฺวา ปาจีนทิสํ โอโลเกนฺตา อฏฺํสุ, ตถา เกวฏฺฏพฺราหฺมโณปิ.
โพธิสตฺโต ปน ปาโตว คนฺโธทเกน นฺหตฺวา สตสหสฺสคฺฆนกํ กาสิกวตฺถํ นิวาเสตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘ปวิสตุ เม ปุตฺโต’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ตฺวา ‘‘กุหึ คมิสฺสสิ, ตาตา’’ติ วุตฺเต ‘‘ธมฺมยุทฺธมณฺฑลํ คมิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เทว, เกวฏฺฏพฺราหฺมณํ มณิรตเนน วฺเจตุกาโมมฺหิ, อฏฺวงฺกํ มณิรตนํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘คณฺห, ตาตา’’ติ. โส ตํ คเหตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา ราชนิเวสนา โอติณฺโณ สหชาเตหิ โยธสหสฺเสหิ ปริวุโต นวุติกหาปณสหสฺสคฺฆนกํ ¶ เสตสินฺธวยุตฺตํ รถวรมารุยฺห ปาตราสเวลาย ทฺวารสมีปํ ปาปุณิ. เกวฏฺโฏ ปน ‘‘อิทานิ อาคมิสฺสติ, อิทานิ อาคมิสฺสตี’’ติ ตสฺสาคมนํ โอโลเกนฺโตเยว อฏฺาสิ, โอโลกเนน ทีฆคีวตํ ปตฺโต วิย อโหสิ, สูริยเตเชน เสทา มุจฺจนฺติ. มหาสตฺโตปิ มหาปริวารตาย มหาสมุทฺโท วิย อชฺโฌตฺถรนฺโต เกสรสีโห วิย อฉมฺภิโต วิคตโลมหํโส ทฺวารํ วิวราเปตฺวา นครา นิกฺขมฺม รถา โอรุยฺห สีโห วิย วิชมฺภมาโน ปายาสิ. เอกสตราชาโนปิ ตสฺส รูปสิรึ ทิสฺวา ‘‘เอส กิร สิริวฑฺฒนเสฏฺิปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต ปฺาย สกลชมฺพุทีเป อทุติโย’’ติ อุกฺกุฏฺิสหสฺสานิ ปวตฺตยึสุ.
โสปิ มรุคณปริวุโต วิย สกฺโก อโนเมน สิริวิภเวน ตํ มณิรตนํ หตฺเถน คเหตฺวา เกวฏฺฏาภิมุโข อคมาสิ. เกวฏฺโฏปิ ตํ ทิสฺวาว ¶ สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา เอวมาห – ‘‘ปณฺฑิต มโหสธ, มยํ ทฺเว ปณฺฑิตา, อมฺหากํ ตุมฺเห นิสฺสาย เอตฺตกํ กาลํ วสนฺตานํ ตุมฺเหหิ ปณฺณาการมตฺตมฺปิ น เปสิตปุพฺพํ, กสฺมา เอวมกตฺถา’’ติ? อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘ปณฺฑิต, ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกํ ปณฺณาการํ โอโลเกนฺตา อชฺช มยํ อิมํ มณิรตนํ ¶ ลภิมฺหา, หนฺท, อิมํ มณิรตนํ คณฺหถ, เอวรูปํ นาม อฺํ มณิรตนํ นตฺถี’’ติ อาห. โส ตสฺส หตฺเถ ชลมานํ มณิรตนํ ทิสฺวา ‘‘ทาตุกาโม เม ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เตน หิ, ปณฺฑิต, เทหี’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. มหาสตฺโต ‘‘คณฺหาหิ, อาจริยา’’ติ ขิปิตฺวา ปสาริตหตฺถสฺส องฺคุลีสุ ปาเตสิ. พฺราหฺมโณ ครุํ มณิรตนํ องฺคุลีหิ ธาเรตุํ นาสกฺขิ. มณิรตนํ ปริคฬิตฺวา มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล ปติ. พฺราหฺมโณ โลเภน ‘‘คณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ ตสฺส ปาทมูเล โอณโต อโหสิ. อถสฺส มหาสตฺโต อุฏฺาตุํ อทตฺวา เอเกน หตฺเถน ขนฺธฏฺิเก, เอเกน ปิฏฺิกจฺฉายํ คเหตฺวา ‘‘อุฏฺเถ อาจริย, อุฏฺเถ อาจริย, อหํ อติทหโร ตุมฺหากํ นตฺตุมตฺโต, มา มํ วนฺทถา’’ติ วทนฺโต อปราปรํ กตฺวา มุขํ ภูมิยํ ฆํสิตฺวา โลหิตมกฺขิตํ กตฺวา ‘‘อนฺธพาล, ตฺวํ มม สนฺติกา วนฺทนํ ปจฺจาสีสสี’’ติ คีวายํ ¶ คเหตฺวา ขิปิ. โส อุสภมตฺเต าเน ปติตฺวา อุฏฺาย ปลายิ. มณิรตนํ ปน มหาสตฺตสฺส มนุสฺสาเยว คณฺหึสุ.
โพธิสตฺตสฺส ปน ‘‘อุฏฺเถ อาจริย, อุฏฺเถ อาจริย, มา มํ วนฺทถา’’ติ วจีโฆโส สกลปริสํ ฉาเทตฺวา อฏฺาสิ. ‘‘เกวฏฺฏพฺราหฺมโณ มโหสธสฺส ปาเท วนฺทตี’’ติ ปุริสาปิสฺส เอกปฺปหาเรเนว อุนฺนาทาทีนิ อกํสุ. พฺรหฺมทตฺตํ อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ เต ราชาโน เกวฏฺฏํ มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล โอณตํ อทฺทสํสุเยว. เต ‘‘อมฺหากํ ปณฺฑิเตน มโหสโธ วนฺทิโต, อิทานิ ปราชิตมฺหา, น โน ชีวิตํ ทสฺสตี’’ติ อตฺตโน อตฺตโน อสฺเส อภิรุหิตฺวา อุตฺตรปฺจาลาภิมุขา ปลายิตุํ อารภึสุ. เต ปลายนฺเต ทิสฺวา โพธิสตฺตสฺส ปุริสา ‘‘จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต เอกสตขตฺติเย คเหตฺวา ปลายตี’’ติ ปุน อุกฺกุฏฺิมกํสุ. ตํ สุตฺวา เต ราชาโน มรณภยภีตา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปลายนฺตา เสนงฺคํ ภินฺทึสุ. โพธิสตฺตสฺส ปุริสาปิ นทนฺตา วคฺคนฺตา สุฏฺุตรํ โกลาหลมกํสุ ¶ . มหาสตฺโต เสนงฺคปริวุโต นครเมว ปาวิสิ. จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส เสนาปิ ติโยชนมตฺตํ ปกฺขนฺทิ.
เกวฏฺโฏ อสฺสํ อภิรุยฺห นลาเฏ โลหิตํ ปฺุฉมาโน เสนํ ปตฺวา อสฺสปิฏฺิยํ นิสินฺโนว ‘‘โภนฺโต มา ปลายถ, โภนฺโต มา ปลายถ, นาหํ คหปติปุตฺตํ วนฺทามิ, ติฏฺถ ติฏฺถา’’ติ อาห. เสนา อสทฺทหนฺตา อฏฺตฺวา อาคจฺฉนฺตํ เกวฏฺฏํ อกฺโกสนฺตา ปริภาสนฺตา ‘‘ปาปธมฺม ทุฏฺพฺราหฺมณ, ‘ธมฺมยุทฺธํ นาม กริสฺสามี’ติ วตฺวา นตฺตุมตฺตํ อปฺปโหนฺตมฺปิ วนฺทติ, นตฺถิ ตว กตฺตพฺพ’’นฺติ กถํ อสุณนฺตา วิย คจฺฉนฺเตว. โส เวเคน คนฺตฺวา เสนํ ปาปุณิตฺวา ‘‘โภนฺโต วจนํ สทฺทหถ มยฺหํ, นาหํ ตํ วนฺทามิ, มณิรตเนน มํ วฺเจสี’’ติ สพฺเพปิ เต ราชาโน นานาการเณหิ สมฺโพเธตฺวา อตฺตโน กถํ คณฺหาเปตฺวา ตถา ภินฺนํ เสนํ ปฏินิวตฺเตสิ. สา ปน ตาว ¶ มหตี เสนา สเจ เอเกกปํสุมุฏฺึ วา เอเกกเลฑฺฑุํ วา คเหตฺวา นคราภิมุขา ขิเปยฺย, ปริขํ ปูเรตฺวา ปาการปฺปมาณา ราสิ ภเวยฺย. โพธิสตฺตานํ ปน อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติเยว, ตสฺมา เอโกปิ ปํสุมุฏฺึ วา เลฑฺฑุํ วา นคราภิมุขํ ขิปนฺโต นาม นาโหสิ. สพฺเพปิ เต นิวตฺติตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ขนฺธาวารฏฺานเมว ปจฺจาคมึสุ ¶ .
ราชา เกวฏฺฏํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ กโรม, อาจริยา’’ติ. ‘‘เทว, กสฺสจิ จูฬทฺวาเรน นิกฺขมิตุํ อทตฺวา สฺจารํ ฉินฺทาม, มนุสฺสา นิกฺขมิตุํ อลภนฺตา อุกฺกณฺิตฺวา ทฺวารํ วิวริสฺสนฺติ, อถ มยํ ปจฺจามิตฺตํ คณฺหิสฺสามา’’ติ. ปณฺฑิโต ตํ ปวตฺตึ ปุริมนเยเนว ตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิเมสุ จิรํ อิเธว วสนฺเตสุ ผาสุกํ นาม นตฺถิ. อุปาเยเนว เต ปลาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ‘‘มนฺเตน เต ปลาเปสฺสามี’’ติ เอกํ มนฺตกุสลํ อุปธาเรนฺโต อนุเกวฏฺฏํ นาม พฺราหฺมณํ ทิสฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อาจริย, อมฺหากํ เอกํ กมฺมํ นิทฺธริตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ‘‘กึ กโรม, ปณฺฑิต, วเทหี’’ติ. ‘‘อาจริย, ตุมฺเห อนุปากาเร ตฺวา อมฺหากํ มนุสฺสานํ ปมาทํ โอโลเกตฺวา อนฺตรนฺตรา พฺรหฺมทตฺตสฺส มนุสฺสานํ ปูวมจฺฉมํสาทีนิ ขิปิตฺวา ‘‘อมฺโภ, อิทฺจิทฺจ ขาทถ มา อุกฺกณฺถ, อฺํ กติปาหํ วสิตุํ วายมถ, นครวาสิโน ปฺชเร พทฺธกุกฺกุฏา วิย อุกฺกณฺิตา นจิรสฺเสว โว ทฺวารํ วิวริสฺสนฺติ. อถ ตุมฺเห เวเทหฺจ ทุฏฺคหปติปุตฺตฺจ คณฺหิสฺสถา’’ติ วเทยฺยาถ ¶ . อมฺหากํ มนุสฺสา ตํ กถํ สุตฺวา ตุมฺเห อกฺโกสิตฺวา ตชฺเชตฺวา พฺรหฺมทตฺตสฺส มนุสฺสานํ ปสฺสนฺตานฺเว ตุมฺเห หตฺถปาเทสุ คเหตฺวา เวฬุเปสิกาทีหิ ปหรนฺตา วิย หุตฺวา เกเส โอหาเรตฺวา ปฺจ จูฬา คาหาเปตฺวา อิฏฺกจุณฺเณน โอกิราเปตฺวา กณวีรมาลํ กณฺเณ กตฺวา กติปยปหาเร ทตฺวา ปิฏฺิยํ ราชิโย ทสฺเสตฺวา ปาการํ อาโรเปตฺวา สิกฺกาย ปกฺขิปิตฺวา โยตฺเตน โอตาเรตฺวา ‘‘คจฺฉ มนฺตเภทก, โจรา’’ติ จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส มนุสฺสานํ ทสฺสนฺติ. เต ตํ รฺโ สนฺติกํ อาเนสฺสนฺติ. ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘โก เต อปราโธ’’ติ ปุจฺฉิสฺสติ. อถสฺส เอวํ วเทยฺยาถ ‘‘มหาราช, มยฺหํ ปุพฺเพ ยโส มหนฺโต, คหปติปุตฺโต มนฺตเภทโก’’ติ มํ กุชฺฌิตฺวา รฺโ กเถตฺวา สพฺพํ เม วิภวํ อจฺฉินฺทิ, ‘‘อหํ มม ยสเภทกสฺส คหปติปุตฺตสฺส สีสํ คณฺหาเปสฺสามี’’ติ ตุมฺหากํ มนุสฺสานํ อุกฺกณฺิตโมจเนน เอเตสํ ¶ ิตานํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา เทมิ. เอตฺตเกน มํ โปราณเวรํ หทเย กตฺวา อิมํ พฺยสนํ ปาเปสิ. ‘‘ตํ สพฺพํ ตุมฺหากํ มนุสฺสา ชานนฺติ, มหาราชา’’ติ นานปฺปกาเรหิ ตํ สทฺทหาเปตฺวา วิสฺสาเส อุปฺปนฺเน วเทยฺยาถ ‘‘มหาราช, ตุมฺเห มมํ ลทฺธกาลโต ปฏฺาย มา จินฺตยิตฺถ. อิทานิ เวเทหสฺส จ คหปติปุตฺตสฺส จ ชีวิตํ นตฺถิ, อหํ อิมสฺมึ นคเร ปาการสฺส ถิรฏฺานทุพฺพลฏฺานฺจ ปริขายํ กุมฺภีลาทีนํ อตฺถิฏฺานฺจ นตฺถิฏฺานฺจ ชานามิ, น จิรสฺเสว โว นครํ คเหตฺวา ทสฺสามี’’ติ. อถ โส ราชา สทฺทหิตฺวา ¶ ตุมฺหากํ สกฺการํ กริสฺสติ, เสนาวาหนฺจ ปฏิจฺฉาเปสฺสติ. อถสฺส เสนํ วาฬกุมฺภีลฏฺาเนสุเยว โอตาเรยฺยาถ. ตสฺส เสนา กุมฺภีลภเยน น โอตริสฺสติ, ตทา ตุมฺเห ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เสนาย, เทว, คหปติปุตฺเตน ลฺโช ทินฺโน, สพฺเพ ราชาโน จ อาจริยเกวฏฺฏฺจ อาทึ กตฺวา น เกนจิ ลฺโช อคฺคหิโต นาม อตฺถิ. เกวลํ เอเต ตุมฺเห ปริวาเรตฺวา จรนฺติ, สพฺเพ ปน คหปติปุตฺตสฺส สนฺตกาว, อหเมโกว ตุมฺหากํ ปุริโส. สเจ เม น สทฺทหถ, สพฺเพ ราชาโน อลงฺกริตฺวา มํ ทสฺสนาย อาคจฺฉนฺตู’’ติ เปเสถ. ‘‘อถ เนสํ คหปติปุตฺเตน อตฺตโน นามรูปํ ลิขิตฺวา ทินฺเนสุ วตฺถาลงฺการขคฺคาทีสุ อกฺขรานิ ทิสฺวา นิฏฺํ คจฺเฉยฺยาถา’’ติ วเทยฺยาถ. โส ตถา กตฺวา ตานิ ¶ ทิสฺวา นิฏฺํ คนฺตฺวา ภีตตสิโต เต ราชาโน อุยฺโยเชตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กโรม ปณฺฑิตา’’ติ ตุมฺเห ปุจฺฉิสฺสติ. ตเมนํ ตุมฺเห เอวํ วเทยฺยาถ ‘‘มหาราช, คหปติปุตฺโต พหุมาโย. สเจ อฺานิ กติปยทิวสานิ วสิสฺสถ, สพฺพํ โว เสนํ อตฺตโน หตฺถคตํ กตฺวา ตุมฺเห คณฺหิสฺสติ. ตสฺมา ปปฺจํ อกตฺวา อชฺเชว มชฺฌิมยามานนฺตเร อสฺสปิฏฺิยํ นิสีทิตฺวา ปลายิสฺสาม, มา โน ปรหตฺเถ มรณํ โหตู’’ติ. โส ตุมฺหากํ วจนํ สุตฺวา ตถา กริสฺสติ. ตุมฺเห ตสฺส ปลายนเวลาย นิวตฺติตฺวา อมฺหากํ มนุสฺเส ชานาเปยฺยาถาติ.
ตํ สุตฺวา อนุเกวฏฺฏพฺราหฺมโณ ‘‘สาธุ ปณฺฑิต, กริสฺสามิ เต วจน’’นฺติ อาห. ‘‘เตน หิ กติปยปหาเร สหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ปณฺฑิต ¶ , มม ชีวิตฺจ หตฺถปาเท จ เปตฺวา เสสํ อตฺตโน รุจิวเสน กโรหี’’ติ. โส ตสฺส เคเห มนุสฺสานํ สกฺการํ กาเรตฺวา อนุเกวฏฺฏํ วุตฺตนเยน วิปฺปการํ ปาเปตฺวา โยตฺเตน โอตาเรตฺวา พฺรหฺมทตฺตมนุสฺสานํ ทาเปสิ. อถ เต ตํ คเหตฺวา ตสฺส ทสฺเสสุํ. ราชา ตํ วีมํสิตฺวา สทฺทหิตฺวา สกฺการมสฺส กตฺวา เสนํ ปฏิจฺฉาเปสิ. โสปิ ตํ วาฬกุมฺภีลฏฺาเนสุเยว โอตาเรติ. มนุสฺสา กุมฺภีเลหิ ขชฺชมานา อฏฺฏาลกฏฺิเตหิ มนุสฺเสหิ อุสุสตฺติโตมเรหิ วิชฺฌิยมานา มหาวินาสํ ปาปุณนฺติ. ตโต ปฏฺาย โกจิ ภเยน อุปคนฺตุํ น สกฺโกติ. อนุเกวฏฺโฏ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อตฺถาย ยุชฺฌนกา นาม นตฺถิ, สพฺเพหิ ลฺโช คหิโต, อสทฺทหนฺโต ปกฺโกสาเปตฺวา นิวตฺถวตฺถาทีสุ อกฺขรานิ โอโลเกถา’’ติ อาห. ราชา ตถา กตฺวา สพฺเพสํ วตฺถาทีสุ อกฺขรานิ ทิสฺวา ‘‘อทฺธา อิเมหิ ลฺโช คหิโต’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ‘‘อาจริย, อิทานิ กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เทว, อฺํ กาตพฺพํ นตฺถิ. สเจ ปปฺจํ กริสฺสถ, คหปติปุตฺโต โว คณฺหิสฺสติ, อาจริยเกวฏฺโฏปิ เกวลํ นลาเฏ วณํ กตฺวา จรติ, ลฺโช ปน เอเตนปิ คหิโต. อยฺหิ มณิรตนํ คเหตฺวา ตุมฺเห ติโยชนํ ปลาเปสิ, ปุน สทฺทหาเปตฺวา นิวตฺเตสิ, อยมฺปิ ปริภินฺทโกว. เอกรตฺติวาโสปิ มยฺหํ น รุจฺจติ, อชฺเชว มชฺฌิมยามสมนนฺตเร ปลายิตุํ ¶ วฏฺฏติ, มํ เปตฺวา อฺโ ตว สุหทโย นาม นตฺถี’’ติ วุตฺเต ¶ ‘‘เตน หิ อาจริย ตุมฺเหเยว เม อสฺสํ กปฺเปตฺวา ยานสชฺชํ กโรถา’’ติ อาห.
พฺราหฺมโณ ตสฺส นิจฺฉเยน ปลายนภาวํ ตฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราชา’’ติ อสฺสาเสตฺวา พหิ นิกฺขมิตฺวา อุปนิกฺขิตฺตกปุริสานํ ‘‘อชฺช ราชา ปลายิสฺสติ, มา นิทฺทายิตฺถา’’ติ โอวาทํ ทตฺวา รฺโ อสฺโส ยถา อากฑฺฒิโต สุฏฺุตรํ ปลายติ, เอวํ อวกปฺปนาย กปฺเปตฺวา มชฺฌิมยามสมนนฺตเร ‘‘กปฺปิโต, เทว, อสฺโส, เวลํ ชานาหี’’ติ อาห. ราชา อสฺสํ อภิรุหิตฺวา ปลายิ. อนุเกวฏฺโฏปิ อสฺสํ อภิรุหิตฺวา เตน สทฺธึ คจฺฉนฺโต วิย โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต. อวกปฺปนาย กปฺปิตอสฺโส ¶ อากฑฺฒิยมาโนปิ ราชานํ คเหตฺวา ปลายิ. อนุเกวฏฺโฏ เสนาย อนฺตรํ ปวิสิตฺวา ‘‘จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต ปลาโต’’ติ อุกฺกุฏฺิมกาสิ. อุปนิกฺขิตฺตกปุริสาปิ อตฺตโน มนุสฺเสหิ สทฺธึ อุปโฆสึสุ. เสสราชาโน ตํ สุตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิโต ทฺวารํ วิวริตฺวา นิกฺขนฺโต ภวิสฺสติ, น โน ทานิ ชีวิตํ ทสฺสตี’’ติ ภีตตสิตา อุปโภคปริโภคภณฺฑานิปิ อโนโลเกตฺวา อิโต จิโต จ ปลายึสุ. มนุสฺสา ‘‘ราชาโน ปลายนฺตี’’ติ สุฏฺุตรํ อุปโฆสึสุ. ตํ สุตฺวา ทฺวารฏฺฏาลกาทีสุ ิตาปิ อุนฺนาทึสุ อปฺโผฏยึสุ. อิติ ตสฺมึ ขเณ ปถวี วิย ภิชฺชมานา สมุทฺโท วิย สงฺขุภิโต สกลนครํ อนฺโต จ พหิ จ เอกนินฺนาทํ อโหสิ. อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขา มนุสฺสา ‘‘มโหสธปณฺฑิเตน กิร พฺรหฺมทตฺโต เอกสตราชาโน จ คหิตา’’ติ มรณภยภีตา อตฺตโน อตฺตโน อุทรพทฺธสาฏกมฺปิ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายึสุ. ขนฺธาวารฏฺานํ ตุจฺฉํ อโหสิ. จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต เอกสเต ขตฺติเย คเหตฺวา อตฺตโน นครเมว คโต. ปุนทิวเส ปน ปาโตว นครทฺวารานิ วิวริตฺวา พลกายา นครา นิกฺขมิตฺวา มหาวิโลปํ ทิสฺวา ‘‘กึ กโรม, ปณฺฑิตา’’ติ มหาสตฺตสฺส อาโรจยึสุ. โส อาห – ‘‘เอเตหิ ฉฑฺฑิตํ ธนํ อมฺหากํ ปาปุณาติ, สพฺเพสํ ราชูนํ สนฺตกํ อมฺหากํ รฺโ, เทถ, เสฏฺีนฺจ เกวฏฺฏพฺราหฺมณสฺส จ สนฺตกํ อมฺหากํ อาหรถ, อวเสสํ ปน นครวาสิโน คณฺหนฺตู’’ติ. เตสํ มหคฺฆรตนภณฺฑเมว อาหรนฺตานํ อฑฺฒมาโส วีติวตฺโต. เสสํ ปน จตูหิ มาเสหิ ¶ อาหรึสุ. มหาสตฺโต อนุเกวฏฺฏสฺส มหนฺตํ สกฺการมกาสิ. ตโต ปฏฺาย จ กิร มิถิลวาสิโน พหู หิรฺสุวณฺณา ชาตา. พฺรหฺมทตฺตสฺสปิ เตหิ ราชูหิ สทฺธึ อุตฺตรปฺจาลนคเร วสนฺตสฺส เอกวสฺสํ อตีตํ.
พฺรหฺมทตฺตสฺส ยุทฺธปราชยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
สุวกณฺฑํ
อเถกทิวสํ ¶ เกวฏฺโฏ อาทาเส มุขํ โอโลเกนฺโต นลาเฏ วณํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ คหปติปุตฺตสฺส กมฺมํ, เตนาหํ เอตฺตกานํ ราชูนํ อนฺตเร ลชฺชาปิโต’’ติ จินฺเตตฺวา สมุปฺปนฺนโกโธ หุตฺวา ‘‘กทา นุ ขฺวสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต ‘‘อตฺเถโส อุปาโย, อมฺหากํ รฺโ ธีตา ปฺจาลจนฺที นาม อุตฺตมรูปธรา ¶ เทวจฺฉราปฏิภาคา, ตํ วิเทหรฺโ ทสฺสามา’’ติ วตฺวา ‘‘เวเทหํ กาเมน ปโลเภตฺวา คิลิตพฬิสํ วิย มจฺฉํ สทฺธึ มโหสเธน อาเนตฺวา อุโภ เต มาเรตฺวา ชยปานํ ปิวิสฺสามา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘เทว, เอโก มนฺโต อตฺถี’’ติ. ‘‘อาจริย, ตว มนฺตํ นิสฺสาย อุทรพทฺธสาฏกสฺสปิ อสฺสามิโน ชาตมฺหา, อิทานิ กึ กริสฺสสิ, ตุณฺหี โหหี’’ติ. ‘‘มหาราช, อิมินา อุปาเยน สทิโส อฺโ นตฺถี’’ติ. ‘‘เตน หิ ภณาหี’’ติ. ‘‘มหาราช, อมฺเหหิ ทฺวีหิเยว เอกโต ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘เอวํ โหตู’’ติ. อถ นํ พฺราหฺมโณ อุปริปาสาทตลํ อาโรเปตฺวา อาห – ‘‘มหาราช, วิเทหราชานํ กิเลเสน ปโลเภตฺวา อิธาเนตฺวา สทฺธึ คหปติปุตฺเตน มาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘สุนฺทโร, อาจริย, อุปาโย, กถํ ปน ตํ ปโลเภตฺวา อาเนสฺสามา’’ติ? ‘‘มหาราช, ธีตา โว ปฺฉาลจนฺที อุตฺตมรูปธรา, ตสฺสา รูปสมฺปตฺตึ จาตุริยวิลาเสน กวีหิ คีตํ พนฺธาเปตฺวา ตานิ กพฺพานิ มิถิลายํ คายาเปตฺวา ‘เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ อลภนฺตสฺส วิเทหนรินฺทสฺส กึ รชฺเชนา’ติ ตสฺส สวนสํสคฺเคเนว ปฏิพทฺธภาวํ ตฺวา อหํ ตตฺถ คนฺตฺวา ทิวสํ ววตฺถเปสฺสามิ. โส มยิ ทิวสํ ววตฺถเปตฺวา อาคเต คิลิตพฬิโส วิย มจฺโฉ คหปติปุตฺตํ คเหตฺวา อาคมิสฺสติ, อถ เน มาเรสฺสามา’’ติ.
ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา ‘‘สุนฺทโร อุปาโย, อาจริย, เอวํ กริสฺสามา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ตํ ปน มนฺตํ จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส สยนปาลิกา สาฬิกา ¶ สุตฺวา ปจฺจกฺขมกาสิ. ราชา นิปุเณ กพฺพกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา พหุํ ธนํ ทตฺวา ธีตรํ เตสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตาตา, เอติสฺสา รูปสมฺปตฺตึ นิสฺสาย กพฺพํ กโรถา’’ติ อาห. เต อติมโนหรานิ คีตานิ พนฺธิตฺวา ราชานํ สาวยึสุ. ราชา ตุสฺสิตฺวา พหุํ ธนํ เตสํ อทาสิ. กวีนํ สนฺติกา นฏา สิกฺขิตฺวา สมชฺชมณฺฑเล คายึสุ. อิติ ตานิ วิตฺถาริตานิ อเหสุํ. เตสุ มนุสฺสานํ อนฺตเร วิตฺถาริตตฺตํ คเตสุ ราชา คายเก ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘ตาตา, ตุมฺเห มหาสกุเณ คเหตฺวา รตฺติภาเค รุกฺขํ อภิรุยฺห ตตฺถ นิสินฺนา คายิตฺวา ปจฺจูสกาเล เตสํ คีวาสุ ¶ กํสตาเล พนฺธิตฺวา เต อุปฺปาเตตฺวา โอตรถา’’ติ. โส กิร ¶ ‘‘ปฺจาลรฺโ ธีตุ สรีรวณฺณํ เทวตาปิ คายนฺตี’’ติ ปากฏภาวกรณตฺถํ ตถา กาเรสิ. ปุน ราชา กวี ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา, อิทานิ ตุมฺเห ‘เอวรูปา กุมาริกา ชมฺพุทีปตเล อฺสฺส รฺโ นานุจฺฉวิกา, มิถิลายํ เวเทหรฺโ อนุจฺฉวิกา’ติ รฺโ จ อิสฺสริยํ อิมาย จ รูปํ วณฺเณตฺวา คีตานิ พนฺธถา’’ติ อาห. เต ตถา กตฺวา รฺโ อาโรจยึสุ.
ราชา เตสํ ธนํ ทตฺวา ปุน คายเก ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา, มิถิลํ คนฺตฺวา ตตฺถ อิมินาว อุปาเยน คายถา’’ติ เปเสสิ. เต ตานิ คายนฺตา อนุปุพฺเพน มิถิลํ คนฺตฺวา สมชฺชมณฺฑเล คายึสุ. ตานิ สุตฺวา มหาชโน อุกฺกุฏฺิสหสฺสานิ ปวตฺเตตฺวา เตสํ พหุํ ธนํ อทาสิ. เต รตฺติสมเย รุกฺเขสุปิ คายิตฺวา ปจฺจูสกาเล สกุณานํ คีวาสุ กํสตาเล พนฺธิตฺวา โอตรนฺติ. อากาเส กํสตาลสทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปฺจาลราชธีตุ สรีรวณฺณํ เทวตาปิ คายนฺตี’’ติ สกลนคเร เอกโกลาหลํ อโหสิ. ราชา สุตฺวา คายเก ปกฺโกสาเปตฺวา อนฺโตนิเวสเน สมชฺชํ กาเรตฺวา ‘‘เอวรูปํ กิร อุตฺตมรูปธรํ ธีตรํ จูฬนิราชา มยฺหํ ทาตุกาโม’’ติ ตุสฺสิตฺวา เตสํ พหุํ ธนํ อทาสิ. เต อาคนฺตฺวา พฺรหฺมทตฺตสฺส อาโรเจสุํ. อถ นํ เกวฏฺโฏ อาห – ‘‘อิทานิ, มหาราช, ทิวสํ ววตฺถปนตฺถาย คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริย, กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘โถกํ ปณฺณาการ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ คณฺหา’’ติ ทาเปสิ. โส ตํ อาทาย มหนฺเตน ปริวาเรน เวเทหรฏฺํ ปาปุณิ. ตสฺสาคมนํ สุตฺวา นคเร เอกโกลาหลํ ชาตํ ‘‘จูฬนิราชา กิร เวเทโห จ มิตฺตสนฺถวํ กริสฺสนฺติ, จูฬนิราชา อตฺตโน ธีตรํ อมฺหากํ รฺโ ทสฺสติ ¶ , เกวฏฺโฏ ทิวสํ ววตฺถเปตุํ เอตี’’ติ. เวเทหราชาปิ สุณิ, มหาสตฺโตปิ, สุตฺวาน ปนสฺส เอตทโหสิ ‘‘ตสฺสาคมนํ มยฺหํ น รุจฺจติ, ตถโต นํ ชานิสฺสามี’’ติ. โส จูฬนิสนฺติเก อุปนิกฺขิตฺตกปุริสานํ สาสนํ เปเสสิ ‘‘อิมมตฺถํ ตถโต ชานิตฺวา เปเสนฺตู’’ติ. อถ เต ‘‘มยเมตํ ตถโต น ชานาม, ราชา จ เกวฏฺโฏ จ สยนคพฺเภ นิสีทิตฺวา มนฺเตนฺติ, รฺโ ปน สยนปาลิกา สาฬิกา สกุณิกา เอตมตฺถํ ชาเนยฺยา’’ติ ปฏิเปสยึสุ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘ยถา ปจฺจามิตฺตานํ โอกาโส ¶ น โหติ, เอวํ สุวิภตฺตํ กตฺวา สุสชฺชิตํ นครํ อหํ เกวฏฺฏสฺส ทฏฺุํ น ทสฺสามี’’ติ. โส นครทฺวารโต ยาว ราชเคหา, ราชเคหโต จ ยาว อตฺตเคหา, คมนมคฺคํ อุโภสุ ปสฺเสสุ กิลฺเชหิ ปริกฺขิปาเปตฺวา มตฺถเกปิ กิลฺเชหิ ปฏิจฺฉาทาเปตฺวา จิตฺตกมฺมํ การาเปตฺวา ภูมิยํ ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา ปุณฺณฆเฏ ปาเปตฺวา กทลิโย พนฺธาเปตฺวา ธเช ปคฺคณฺหาเปสิ. เกวฏฺโฏ นครํ ปวิสิตฺวา ¶ สุวิภตฺตํ นครํ อปสฺสนฺโต ‘‘รฺา เม มคฺโค อลงฺการาปิโต’’ติ จินฺเตตฺวา นครสฺส อทสฺสนตฺถํ กตภาวํ น ชานิ. โส คนฺตฺวา ราชานํ ทิสฺวา ปณฺณาการํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา รฺา กตสกฺการสมฺมาโน อาคตการณํ อาโรเจนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ราชา สนฺถวกาโม เต, รตนานิ ปเวจฺฉติ;
อาคจฺฉนฺตุ อิโต ทูตา, มฺชุกา ปิยภาณิโน.
‘‘ภาสนฺตุ มุทุกา วาจา, ยา วาจา ปฏินนฺทิตา;
ปฺจาโล จ วิเทโห จ, อุโภ เอกา ภวนฺตุ เต’’ติ.
ตตฺถ สนฺถวกาโมติ มหาราช, อมฺหากํ ราชา ตยา สทฺธึ มิตฺตสนฺถวํ กาตุกาโม. รตนานีติ อิตฺถิรตนํ อตฺตโน ธีตรํ อาทึ กตฺวา ตุมฺหากํ สพฺพรตนานิ ทสฺสติ. อาคจฺฉนฺตูติ อิโต ปฏฺาย กิร อุตฺตรปฺจาลนครโต ปณฺณาการํ คเหตฺวา มธุรวจนา ปิยภาณิโน ทูตา อิธ อาคจฺฉนฺตุ, อิโต จ ตตฺถ คจฺฉนฺตุ. เอกา ภวนฺตูติ คงฺโคทกํ วิย ยมุโนทเกน สทฺธึ สํสนฺทนฺตา เอกสทิสาว โหนฺตูติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ‘‘มหาราช, อมฺหากํ ราชา อฺํ มหามตฺตํ เปเสตุกาโม หุตฺวาปิ ‘อฺโ มนาปํ กตฺวา สาสนํ อาโรเจตุํ น สกฺขิสฺสตี’ติ มํ เปเสสิ ‘อาจริย, ตุมฺเห ราชานํ สาธุกํ ปโพเธตฺวา อาทาย อาคจฺฉถา’ติ, คจฺฉถ ราชเสฏฺ อภิรูปฺจ กุมาริกํ ลภิสฺสถ, อมฺหากฺจ รฺา สทฺธึ มิตฺตภาโว ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺมานโส ‘‘อุตฺตมรูปธรํ กิร กุมาริกํ ลภิสฺสามี’’ติ สวนสํสคฺเคน พชฺฌิตฺวา ‘‘อาจริย, ตุมฺหากฺจ กิร มโหสธปณฺฑิตสฺส จ ธมฺมยุทฺเธ วิวาโท อโหสิ, คจฺฉถ ปุตฺตํ เม ปสฺสถ, อุโภปิ ปณฺฑิตา อฺมฺํ ¶ ขมาเปตฺวา มนฺเตตฺวา เอถา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เกวฏฺโฏ ‘‘ปสฺสิสฺสามิ ปณฺฑิต’’นฺติ ตํ ปสฺสิตุํ อคมาสิ. มหาสตฺโตปิ ตํ ทิวสํ ‘‘เตน เม ปาปธมฺเมน สทฺธึ สลฺลาโป มา โหตู’’ติ ปาโตว โถกํ สปฺปึ ปิวิ, เคหมฺปิสฺส พหเลน อลฺลโคมเยน เลปาเปสิ, ถมฺเภ เตเลน มกฺเขสิ, ตสฺส นิปนฺนมฺจกํ เปตฺวา เสสานิ มฺจปีาทีนิ นีหราเปสิ.
โส มนุสฺสานํ สฺมทาสิ ‘‘ตาตา, พฺราหฺมเณ กเถตุํ อารทฺเธ เอวํ วเทยฺยาถ ‘พฺราหฺมณ, มา ¶ ปณฺฑิเตน สทฺธึ กถยิตฺถ, อชฺช เตน ติขิณสปฺปิ ปิวิต’นฺติ. มยิ จ เตน สทฺธึ กถนาการํ กโรนฺเตปิ ‘เทว ติขิณสปฺปิ เต ปิวิตํ, มา กเถถา’ติ มํ นิวาเรถา’’ติ. เอวํ วิจาเรตฺวา มหาสตฺโต รตฺตปฏํ นิวาเสตฺวา สตฺตสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ มนุสฺเส เปตฺวา สตฺตเม ทฺวารโกฏฺเก ปฏมฺจเก นิปชฺชิ. เกวฏฺโฏปิสฺส ปมทฺวารโกฏฺเก ตฺวา ‘‘กหํ ปณฺฑิโต’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ เต มนุสฺสา ‘‘พฺราหฺมณ, มา สทฺทมกริ, สเจปิ อาคจฺฉิตุกาโม, ตุณฺหี หุตฺวา เอหิ, อชฺช ปณฺฑิเตน ติขิณสปฺปิ ปีตํ, มหาสทฺทํ กาตุํ น ลพฺภตี’’ติ อาหํสุ. เสสทฺวารโกฏฺเกสุปิ นํ ตเถว อาหํสุ. โส สตฺตมทฺวารโกฏฺกํ อติกฺกมิตฺวา ปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ปณฺฑิโต กถนาการํ ทสฺเสสิ. อถ นํ มนุสฺสา ‘‘เทว, มา กถยิตฺถ, ติขิณสปฺปิ เต ปีตํ, กึ เต อิมินา ทุฏฺพฺราหฺมเณน สทฺธึ กถิเตนา’’ติ วตฺวา วารยึสุ. อิติ โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เนว นิสีทิตุํ, น อาสนํ นิสฺสาย ิตฏฺานํ ลภิ, อลฺลโคมยํ อกฺกมิตฺวา อฏฺาสิ.
อถ ¶ นํ โอโลเกตฺวา เอโก อกฺขีนิ นิมีลิ, เอโก ภมุกํ อุกฺขิปิ, เอโก กปฺปรํ กณฺฑูยิ. โส เตสํ กิริยํ โอโลเกตฺวา มงฺกุภูโต ‘‘คจฺฉามหํ ปณฺฑิตา’’ติ วตฺวา อปเรน ‘‘อเร ทุฏฺพฺราหฺมณ, ‘มา สทฺทมกาสี’ติ วุตฺโต สทฺทเมว กโรสิ, อฏฺีนิ เต ภินฺทิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ภีตตสิโต หุตฺวา นิวตฺติตฺวา โอโลเกสิ. อถ นํ อฺโ เวฬุเปสิกาย ปิฏฺิยํ ตาเลสิ, อฺโ คีวายํ คเหตฺวา ขิปิ, อฺโ ปิฏฺิยํ หตฺถตเลน ปหริ. โส ทีปิมุขา มุตฺตมิโค วิย ภีตตสิโต นิกฺขมิตฺวา ราชเคหํ คโต. ราชา จินฺเตสิ ‘‘อชฺช ¶ มม ปุตฺโต อิมํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตุฏฺโ ภวิสฺสติ, ทฺวินฺนํ ปณฺฑิตานํ มหติยา ธมฺมสากจฺฉาย ภวิตพฺพํ, อชฺช อุโภ อฺมฺํ ขมาเปสฺสนฺติ, ลาภา วต เม’’ติ. โส เกวฏฺฏํ ทิสฺวา ปณฺฑิเตน สทฺธึ สํสนฺทนาการํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –
‘‘กถํ นุ เกวฏฺฏ มโหสเธน, สมาคโม อาสิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;
กจฺจิ เต ปฏินิชฺฌตฺโต, กจฺจิ ตุฏฺโ มโหสโธ’’ติ.
ตตฺถ ปฏินิชฺฌตฺโตติ ธมฺมยุทฺธมณฺฑเล ปวตฺตวิคฺคหสฺส วูปสมนตฺถํ กจฺจิ ตฺวํ เตน, โส จ ตยา นิชฺฌตฺโต ขมาปิโต. กจฺจิ ตุฏฺโติ กจฺจิ ตุมฺหากํ รฺา เปสิตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตุฏฺโติ.
ตํ สุตฺวา เกวฏฺโฏ ‘‘มหาราช, ตุมฺเห ‘ปณฺฑิโต’ติ ตํ คเหตฺวา วิจรถ, ตโต อสปฺปุริสตโร นาม นตฺถี’’ติ คาถมาห –
‘‘อนริยรูโป ¶ ปุริโส ชนินฺท, อสมฺโมทโก ถทฺโธ อสพฺภิรูโป;
ยถา มูโค จ พธิโร จ, น กิฺจิตฺถํ อภาสถา’’ติ.
ตตฺถ อสพฺภิรูโปติ อปณฺฑิตชาติโก. น กิฺจิตฺถนฺติ มยา สห กิฺจิ อตฺถํ น ภาสิตฺถ, เตเนว นํ อปณฺฑิโตติ มฺามีติ โพธิสตฺตสฺส อคุณํ กเถสิ.
ราชา ¶ ตสฺส วจนํ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตสฺส จ เตน สทฺธึ อาคตานฺจ ปริพฺพยฺเจว นิวาสเคหฺจ ทาเปตฺวา ‘‘คจฺฉถาจริย, วิสฺสมถา’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา ‘‘มม ปุตฺโต ปณฺฑิโต ปฏิสนฺถารกุสโล, อิมินา กิร สทฺธึ เนว ปฏิสนฺถารํ อกาสิ, น ตุฏฺึ ปเวเทสิ. กิฺจิ เตน อนาคตภยํ ทิฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว กถํ สมุฏฺาเปสิ –
‘‘อทฺธา อิทํ มนฺตปทํ สุทุทฺทสํ, อตฺโถ สุทฺโธ นรวิริเยน ทิฏฺโ;
ตถา หิ กาโย มม สมฺปเวธติ, หิตฺวา สยํ โก ปรหตฺถเมสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ อิทนฺติ ยํ มม ปุตฺเตน ทิฏฺํ, อทฺธา อิทํ มนฺตปทํ อฺเน อิตรปุริเสน สุทุทฺทสํ. นรวิริเยนาติ วีริยวนฺเตน มโหสธปณฺฑิเตน สุทฺโธ อตฺโถ ทิฏฺโ ภวิสฺสติ. สยนฺติ สกํ รฏฺํ หิตฺวา โก ปรหตฺถํ คมิสฺสติ.
‘‘มม ¶ ปุตฺเตน พฺราหฺมณสฺส อาคมเน โทโส ทิฏฺโ ภวิสฺสติ. อยฺหิ อาคจฺฉนฺโต น มิตฺตสนฺถวตฺถาย อาคมิสฺสติ, มํ ปน กาเมน ปโลเภตฺวา นครํ เนตฺวา คณฺหนตฺถาย อาคเตน ภวิตพฺพํ. ตํ อนาคตภยํ ทิฏฺํ ภวิสฺสติ ปณฺฑิเตนา’’ติ ตสฺส ตมตฺถํ อาวชฺเชตฺวา ภีตตสิตสฺส นิสินฺนกาเล จตฺตาโร ปณฺฑิตา อาคมึสุ. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘เสนก, รุจฺจติ เต อุตฺตรปฺจาลนครํ คนฺตฺวา จูฬนิราชสฺส ธีตุ อานยน’’นฺติ? กึ กเถถ มหาราช, น หิ สิรึ อาคจฺฉนฺตึ ทณฺเฑน ปหริตฺวา ปลาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ตุมฺเห ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ คณฺหิสฺสถ, เปตฺวา จูฬนิพฺรหฺมทตฺตํ อฺโ ตุมฺเหหิ สโม ชมฺพุทีปตเล น ภวิสฺสติ. กึ การณา? เชฏฺราชธีตาย คหิตตฺตา. โส หิ ‘‘เสสราชาโน มม มนุสฺสา, เวเทโห เอโกว มยา สทิโส’’ติ สกลชมฺพุทีเป อุตฺตมรูปธรํ ธีตรํ ตุมฺหากํ ทาตุกาโม ชาโต, กโรถสฺส วจนํ. มยมฺปิ ตุมฺเห นิสฺสาย วตฺถาลงฺกาเร ลภิสฺสามาติ. ราชา เสเสปิ ปุจฺฉิ. เตปิ ตเถว กเถสุํ. ตสฺส เตหิ สทฺธึ กเถนฺตสฺเสว เกวฏฺฏพฺราหฺมโณ อตฺตโน นิวาสเคหา นิกฺขมิตฺวา ¶ ‘‘ราชานํ อามนฺเตตฺวา คมิสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา ‘‘มหาราช, น สกฺกา อมฺเหหิ ปปฺจํ กาตุํ, คมิสฺสาม มยํ ¶ นรินฺทา’’ติ อาห. ราชา ตสฺส สกฺการํ กตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. มหาสตฺโต ตสฺส คมนภาวํ ตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา ราชุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ราชา จินฺเตสิ ‘‘ปุตฺโต เม มโหสธปณฺฑิโต มหามนฺตี มนฺตปารงฺคโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อตฺถํ ชานาติ. อมฺหากํ ตตฺถ คนฺตุํ ยุตฺตภาวํ วา อยุตฺตภาวํ วา ปณฺฑิโต ชานิสฺสตี’’ติ. โส อตฺตนา ปมํ จินฺติตํ อวตฺวา ราครตฺโต โมหมูฬฺโห หุตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –
‘‘ฉนฺนฺหิ เอกาว มตี สเมติ, เย ปณฺฑิตา อุตฺตมภูริปตฺตา;
ยานํ อยานํ อถ วาปิ านํ, มโหสธ ตฺวมฺปิ มตึ กโรหี’’ติ.
ตตฺถ ฉนฺนนฺติ ปณฺฑิต, เกวฏฺฏพฺราหฺมณสฺส จ มม จ อิเมสฺจ จตุนฺนนฺติ ฉนฺนํ อมฺหากํ เอกาว มติ เอโกเยว อชฺฌาสโย คงฺโคทกํ วิย ยมุโนทเกน ¶ สํสนฺทติ สเมติ. เย มยํ ฉปิ ชนา ปณฺฑิตา อุตฺตมภูริปตฺตา, เตสํ โน ฉนฺนมฺปิ จูฬนิราชธีตุ อานยนํ รุจฺจตีติ. านนฺติ อิเธว วาโส. มตึ กโรหีติ อมฺหากํ รุจฺจนกํ นาม อปฺปมาณํ, ตฺวมฺปิ จินฺเตหิ, กึ อมฺหากํ อาวาหตฺถาย ตตฺถ ยานํ, อุทาหุ อยานํ, อทุ อิเธว วาโส รุจฺจตีติ.
ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต ‘‘อยํ ราชา อติวิย กามคิทฺโธ อนฺธพาลภาเวน อิเมสํ จตุนฺนํ วจนํ คณฺหาติ, คมเน โทสํ กเถตฺวา นิวตฺเตสฺสามิ น’’นิ จินฺเตตฺวา จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –
‘‘ชานาสิ โข ราช มหานุภาโว, มหพฺพโล จูฬนิพฺรหฺมทตฺโต;
ราชา จ ตํ อิจฺฉติ มารณตฺถํ, มิคํ ยถา โอกจเรน ลุทฺโท.
‘‘ยถาปิ มจฺโฉ พฬิสํ, วงฺกํ มํเสน ฉาทิตํ;
อามคิทฺโธ น ชานาติ, มจฺโฉ มรณมตฺตโน.
‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, จูฬเนยฺยสฺส ธีตรํ;
กามคิทฺโธ น ชานาสิ, มจฺโฉว มรณมตฺตโน.
‘‘สเจ ¶ ¶ คจฺฉสิ ปฺจาลํ, ขิปฺปมตฺตํ ชหิสฺสสิ;
มิคํ ปนฺถานุพนฺธํว, มหนฺตํ ภยเมสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ ราชาติ วิเทหํ อาลปติ. มหานุภาโวติ มหายโส. มหพฺพโลติ อฏฺรสอกฺโขภณิสงฺเขน พเลน สมนฺนาคโต. มารณตฺถนฺติ มารณสฺส อตฺถาย. โอกจเรนาติ โอกจาริกาย มิคิยา. ลุทฺโท หิ เอกํ มิคึ สิกฺขาเปตฺวา รชฺชุเกน พนฺธิตฺวา อรฺํ เนตฺวา มิคานํ โคจรฏฺาเน เปสิ. สา พาลมิคํ อตฺตโน สนฺติกํ อาเนตุกามา สกสฺาย ราคํ ชเนนฺตี วิรวติ. ตสฺสา สทฺทํ สุตฺวา พาลมิโค มิคคณปริวุโต วนคุมฺเพ นิปนฺโน เสสมิคีสุ สฺํ อกตฺวา ตสฺสา สทฺทสฺสวนสํสคฺเคน พทฺโธ วุฏฺาย นิกฺขมิตฺวา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา กิเลสวเสน ตํ มิคึ อุปคนฺตฺวา ลุทฺทสฺส ปสฺสํ ทตฺวา ติฏฺติ. ตเมนํ โส ติขิณาย สตฺติยา วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปติ. ตตฺถ ลุทฺโท วิย จูฬนิราชา, โอกจาริกา วิย อสฺส ธีตา, ลุทฺทสฺส หตฺเถ อาวุธํ วิย เกวฏฺฏพฺราหฺมโณ. อิติ ยถา โอกจเรน ลุทฺโท มิคํ มารณตฺถาย อิจฺฉติ, เอวํ โสปิ ราชา ตํ อิจฺฉตีติ อตฺโถ.
อามคิทฺโธติ พฺยามสตคมฺภีเร อุทเก วสนฺโตปิ ตสฺมึ พฬิสสฺส วงฺกฏฺานํ ฉาเทตฺวา ิเต อามสงฺขาเต อามิเส คิทฺโธ หุตฺวา พฬิสํ คิลติ, อตฺตโน มรณํ น ชานาติ. ธีตรนฺติ จูฬนิพาฬิสิกสฺส เกวฏฺฏพฺราหฺมณสฺส วจนพฬิสํ ฉาเทตฺวา ิตํ อามิสสทิสํ. ตสฺส รฺโ ¶ ธีตรํ กามคิทฺโธ หุตฺวา มจฺโฉ อตฺตโน มรณสงฺขาตํ อามิสํ วิย น ชานาสิ. ปฺจาลนฺติ อุตฺตรปฺจาลนครํ. อตฺตนฺติ อตฺตานํ. ปนฺถานุพนฺธนฺติ ยถา คามทฺวารมคฺคํ อนุพนฺธมิคํ มหนฺตํ ภยเมสฺสติ, ตฺหิ มิคํ มารณตฺถาย อาวุธานิ คเหตฺวา นิกฺขนฺเตสุ มนุสฺเสสุ เย เย ปสฺสนฺติ, เต เต มาเรนฺติ, เอวํ อุตฺตรปฺจาลนครํ คจฺฉนฺตมฺปิ ตํ มหนฺตํ มรณภยํ เอสฺสติ อุปคมิสฺสตีติ.
เอวํ มหาสตฺโต จตูหิ คาถาหิ ราชานํ นิคฺคณฺหิตฺวา กเถสิ. โส ราชา เตน อติวิย นิคฺคหิโตว ‘‘อยํ มํ อตฺตโน ทาสํ วิย มฺติ, ราชาติ ¶ สฺมฺปิ น กโรติ, อคฺคราเชน ‘ธีตรํ ทสฺสามี’ติ มม สนฺติกํ เปสิตํ ตฺวา เอกมฺปิ มงฺคลปฏิสํยุตฺตํ กถํ อกเถตฺวา มํ ‘พาลมิโค วิย, คิลิตพฬิสมจฺโฉ วิย ปนฺถานุพนฺธมิโค วิย, มรณํ ปาปุณิสฺสตี’ติ วทตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘มยเมว ¶ พาลมฺหเส เอฬมูคา, เย อุตฺตมตฺถานิ ตยี ลปิมฺหา;
กิเมว ตฺวํ นงฺคลโกฏิวฑฺโฒ, อตฺถานิ ชานาสิ ยถาปิ อฺเ’’ติ.
ตตฺถ พาลมฺหเสติ พาลามฺห. เอฬมูคาติ ลาลมุขา มยเมว. อุตฺตมตฺถานีติ อุตฺตมอิตฺถิรตนปฏิลาภการณานิ. ตยี ลวิมฺหาติ ตว สนฺติเก กถยิมฺหา. กิเมวาติ ครหตฺเถ นิปาโต. นงฺคลโกฏิวฑฺโฒติ คหปติปุตฺโต ทหรกาลโต ปฏฺาย นงฺคลโกฏึ วหนฺโตเยว วฑฺฒติ, ตมตฺถํ สนฺธาย ‘‘ตฺวํ คหปติกมฺมเมว ชานาสิ, น ขตฺติยานํ มงฺคลกมฺม’’นฺติ อิมินา อธิปฺปาเยเนวมาห. อฺเติ ยถา เกวฏฺโฏ วา เสนกาทโย วา อฺเ ปณฺฑิตา อิมานิ ขตฺติยานํ มงฺคลตฺถานิ ชานนฺติ, ตถา ตฺวํ ตานิ กึ ชานาสิ, คหปติกมฺมชานนเมว ตวานุจฺฉวิกนฺติ.
อิติ นํ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา ‘‘คหปติปุตฺโต มม มงฺคลนฺตรายํ กโรติ, นีหรถ น’’นฺติ นีหราเปตุํ คาถมาห –
‘‘อิมํ คเล คเหตฺวาน, นาเสถ วิชิตา มม;
โย เม รตนลาภสฺส, อนฺตรายาย ภาสตี’’ติ.
โส รฺโ กุทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘สเจ โข ปน มํ โกจิ รฺโ วจนํ คเหตฺวา หตฺเถ วา คีวาย วา ปรามเสยฺย, ตํ เม อลํ อสฺส ยาวชีวํ ลชฺชิตุํ, ตสฺมา สยเมว นิกฺขมิสฺสามี’’ติ ¶ จินฺเตตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน เคหํ คโต. ราชาปิ เกวลํ โกธวเสเนว วทติ, โพธิสตฺเต ปน ครุจิตฺตตาย น กฺจิ ตถา กาตุํ อาณาเปสิ. อถ มหาสตฺโต ‘‘อยํ ราชา พาโล อตฺตโน หิตาหิตํ น ชานาติ ¶ , กามคิทฺโธ หุตฺวา ‘ตสฺส ธีตรํ ลภิสฺสามิเยวา’ติ อนาคตภยํ อชานิตฺวา คจฺฉนฺโต มหาวินาสํ ปาปุณิสฺสติ. นาสฺส กถํ หทเย กาตุํ วฏฺฏติ, พหุปกาโร เม เอส มหายสทายโก, อิมสฺส มยา ปจฺจเยน ภวิตุํ วฏฺฏติ. ปมํ โข ปน สุวโปตกํ เปเสตฺวา ตถโต ตฺวา ปจฺฉา อหํ คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สุวโปตกํ เปเสสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต จ โส อปกฺกมฺม, เวเทหสฺส อุปนฺติกา;
อถ อามนฺตยี ทูตํ, มาธรํ สุวปณฺฑิตํ.
‘‘เอหิ ¶ สมฺม หริตปกฺข, เวยฺยาวจฺจํ กโรหิ เม;
อตฺถิ ปฺจาลราชสฺส, สาฬิกา สยนปาลิกา.
‘‘ตํ พนฺธเนน ปุจฺฉสฺสุ, สา หิ สพฺพสฺส โกวิทา;
สา เตสํ สพฺพํ ชานาติ, รฺโ จ โกสิยสฺส จ.
‘‘อาโมติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, มาธโร สุวปณฺฑิโต;
อคมาสิ หริตปกฺโข, สาฬิกาย อุปนฺติกํ.
‘‘ตโต จ โข โส คนฺตฺวาน, มาธโร สุวปณฺฑิโต;
อถามนฺตยิ สุฆรํ, สาฬิกํ มฺชุภาณิกํ.
‘‘กจฺจิ เต สุฆเร ขมนียํ, กจฺจิ เวสฺเส อนามยํ;
กจฺจิ เต มธุนา ลาชา, ลพฺภเต สุฆเร ตุวํ.
‘‘กุสลฺเจว เม สมฺม, อโถ สมฺม อนามยํ;
อโถ เม มธุนา ลาชา, ลพฺภเต สุวปณฺฑิต.
‘‘กุโต นุ สมฺม อาคมฺม, กสฺส วา ปหิโต ตุวํ;
น จ เมสิ อิโต ปุพฺเพ, ทิฏฺโ วา ยทิ วา สุโต’’ติ.
ตตฺถ หริตปกฺขาติ หริตปตฺตสมานปกฺขา. เวยฺยาวจฺจนฺติ ‘‘เอหิ, สมฺมา’’ติ วุตฺเต อาคนฺตฺวา องฺเก นิสินฺนํ ‘‘สมฺม, อฺเน มนุสฺสภูเตน กาตุํ อสกฺกุเณยฺยํ มเมกํ เวยฺยาวฏิกํ กโรหี’’ติ อาห.
‘‘กึ ¶ กโรมิ, เทวา’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘สมฺม, เกวฏฺฏพฺราหฺมณสฺส ทูเตยฺเยนาคตการณํ เปตฺวา ราชานฺจ เกวฏฺฏฺจ อฺเ น ชานนฺติ, อุโภว รฺโ สยนคพฺเภ นิสินฺนา มนฺตยึสุ. ตสฺส ปน อตฺถิ ปฺจาลราชสฺส สาฬิกา สยนปาลิกา. สา กิร ตํ รหสฺสํ ชานาติ, ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา ตาย สทฺธึ เมถุนปฏิสํยุตฺตํ วิสฺสาสํ กตฺวา เตสํ ตํ รหสฺสํ พนฺธเนน ปุจฺฉสฺสุ. ตํ สาฬิกํ ปฏิจฺฉนฺเน ปเทเส ยถา ตํ โกจิ น ชานาติ, เอวํ ปุจฺฉ. สเจ หิ เต ¶ โกจิ สทฺทํ สุณาติ, ชีวิตํ เต นตฺถิ, ตสฺมา ปฏิจฺฉนฺเน าเน สณิกํ ปุจฺฉา’’ติ. สา เตสํ สพฺพนฺติ สา เตสํ รฺโ จ โกสิยโคตฺตสฺส จ เกวฏฺฏสฺสาติ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ สพฺพํ รหสฺสํ ชานาติ.
อาโมตีติ ภิกฺขเว, โส สุวโปตโก ปณฺฑิเตน ปุริมนเยเนว สกฺการํ กตฺวา เปสิโต ‘‘อาโม’’ติ ตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา วิวฏสีหปฺชเรน นิกฺขมิตฺวา วาตเวเคน สิวิรฏฺเ อริฏฺปุรํ นาม คนฺตฺวา ตตฺถ ปวตฺตึ สลฺลกฺเขตฺวา สาฬิกาย สนฺติกํ คโต. กถํ? โส หิ ราชนิเวสนสฺส กฺจนถุปิกาย นิสีทิตฺวา ราคนิสฺสิตํ มธุรรวํ รวิ. กึ การณา? อิมํ สทฺทํ สุตฺวา สาฬิกา ปฏิรวิสฺสติ, ตาย สฺาย ตสฺสา สนฺติกํ คมิสฺสามีติ. สาปิ ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ราชสยนสฺส สนฺติเก สุวณฺณปฺชเร นิสินฺนา ราครตฺตจิตฺตา หุตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปฏิรวิ. โส โถกํ คนฺตฺวา ปุนปฺปุนํ สทฺทํ กตฺวา ตาย กตสทฺทานุสาเรน กเมน สีหปฺชรอุมฺมาเร ตฺวา ปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตฺวา ตสฺสา สนฺติกํ คโต. อถ นํ สา ‘‘เอหิ, สมฺม, สุวณฺณปฺชเร นิสีทา’’ติ อาห. โส คนฺตฺวา นิสีทิ. อามนฺตยีติ เอวํ โส คนฺตฺวา เมถุนปฏิสํยุตฺตํ วิสฺสาสํ กตฺตุกาโม หุตฺวา ตํ อามนฺเตสิ. สุฆรนฺติ กฺจนปฺชเร วสนตาย สุนฺทรฆรํ. เวสฺเสติ เวสฺสิเก เวสฺสชาติเก. สาฬิกา กิร สกุเณสุ เวสฺสชาติกา นาม, เตน ตํ เอวํ อาลปติ. ตุวนฺติ สุฆเร ตํ ปุจฺฉามิ ‘‘กจฺจิ เต มธุนา สทฺธึ ลาชา ลพฺภตี’’ติ. อาคมฺมาติ สมฺม, กุโต อาคนฺตฺวา อิธ ปวิฏฺโติ ปุจฺฉติ. กสฺส วาติ เกน วา เปสิโต ตฺวํ อิธาคโตติ.
โส ¶ ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘สจาหํ ‘มิถิลโต อาคโต’ติ วกฺขามิ, เอสา มรณมาปนฺนาปิ มยา สทฺธึ วิสฺสาสํ น กริสฺสติ. สิวิรฏฺเ โข ปน อริฏฺปุรํ สลฺลกฺเขตฺวา อาคโต, ตสฺมา มุสาวาทํ กตฺวา สิวิราเชน เปสิโต หุตฺวา ตโต อาคตภาวํ กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘อโหสึ สิวิราชสฺส, ปาสาเท สยนปาลโก;
ตโต โส ธมฺมิโก ราชา, พทฺเธ โมเจสิ พนฺธนา’’ติ.
ตตฺถ พทฺเธติ อตฺตโน ธมฺมิกตาย สพฺเพ พทฺธเก พนฺธนา โมเจสิ. เอวํ โมเจนฺโต มมฺปิ สทฺทหิตฺวา ‘‘มฺุจถ น’’นฺติ โมจาเปสิ. โสหํ วิวฏา สุวณฺณปฺชรา นิกฺขมิตฺวาปิ พหิปาสาเท ¶ ยตฺถิจฺฉามิ, ตตฺถ โคจรํ คเหตฺวา สุวณฺณปฺชเรเยว วสามิ. ยถา ตฺวํ, น เอวํ นิจฺจกาลํ ปฺชเรเยว อจฺฉามีติ.
อถสฺส ¶ สา อตฺตโน อตฺถาย สุวณฺณตฏฺฏเก ปิเต มธุลาเช เจว มธุโรทกฺจ ทตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ ทูรโต อาคโต, เกนตฺเถน อิธาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา รหสฺสํ โสตุกาโม มุสาวาทํ กตฺวา อาห –
‘‘ตสฺส เมกา ทุติยาสิ, สาฬิกา มฺชุภาณิกา;
ตํ ตตฺถ อวธี เสโน, เปกฺขโต สุฆเร มมา’’ติ.
ตตฺถ ตสฺส เมกาติ ตสฺส มยฺหํ เอกา. ทุติยาสีติ ปุราณทุติยิกา อโหสิ.
อถ นํ สา ปุจฺฉิ ‘‘กถํ ปน เต ภริยํ เสโน อวธี’’ติ? โส ตสฺสา อาจิกฺขนฺโต ‘‘สุณ ภทฺเท, เอกทิวสํ อมฺหากํ ราชา อุทกกีฬํ คจฺฉนฺโต มมฺปิ ปกฺโกสิ. อถาหํ ภริยํ อาทาย เตน สทฺธึ คนฺตฺวา กีฬิตฺวา สายนฺหสมเย เตเนว สทฺธึ ปจฺจาคนฺตฺวา รฺา สทฺธึเยว ปาสาทํ อภิรุยฺห สรีรํ สุกฺขาปนตฺถาย ภริยํ อาทาย สีหปฺชเรน นิกฺขมิตฺวา กูฏาคารกุจฺฉิยํ นิสีทึ. ตสฺมึ ขเณ เอโก เสโน กูฏาคารา นิกฺขนฺโต อมฺเห คณฺหิตุํ ปกฺขนฺทิ. อหํ มรณภยภีโต เวเคน ปลายึ. สา ปน ตทา ครุคพฺภา อโหสิ, ตสฺมา เวเคน ปลายิตุํ นาสกฺขิ. อถ โส มยฺหํ ปสฺสนฺตสฺเสว ตํ มาเรตฺวา อาทาย ¶ คโต. อถ มํ ตสฺสา โสเกน โรทมานํ ทิสฺวา อมฺหากํ ราชา ‘สมฺม, กึ โรทสี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘มา พาฬฺหํ, สมฺม, โรทสิ, อฺํ ภริยํ ปริเยสาหี’ติ วตฺวา ‘กึ, เทว, อฺาย อนาจาราย ทุสฺสีลาย ภริยาย อานีตาย, ตโตปิ เอกเกเนว จริตุํ วร’นฺติ วุตฺเต ‘สมฺม, อหํ เอกํ สกุณิกํ สีลาจารสมฺปนฺนํ อสฺโสสึ, ตว ภริยาย สทิสเมว. จูฬนิราชสฺส หิ สยนปาลิกา สาฬิกา เอวรูปา, ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺสา มนํ ปุจฺฉิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา สเจ เต รุจฺจติ, อาคนฺตฺวา อมฺหากํ อาจิกฺข. อถาหํ โว วิวาหํ กตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ อาเนสฺสามา’ติ วตฺวา มํ อิธ ปหิณิ, เตนมฺหิ การเณนาคโต’’ติ วตฺวา คาถํ อาห –
‘‘ตสฺสา กามา หิ สมฺมตฺโต, อาคโตสฺมิ ตวนฺติ เก;
สเจ กเรยฺย โอกาสํ, อุภโยว วสามเส’’ติ.
สา ¶ ¶ ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺตา อโหสิ. เอวํ สนฺเตปิ อตฺตโน ปิยภาวํ อชานาเปตฺวา อนิจฺฉมานา วิย อาห –
‘‘สุโวว สุวึ กาเมยฺย, สาฬิโก ปน สาฬิกํ;
สุวสฺส สาฬิกาเยว, สํวาโส โหติ กีทิโส’’ติ.
ตตฺถ สุโวติ สมฺม สุวปณฺฑิต, สุโวว สุวึ กาเมยฺย. กีทิโสติ อสมานชาติกานํ สํวาโส นาม กีทิโส โหติ. สุโว หิ สมานชาติกํ สุวึ ทิสฺวา จิรสนฺถวมฺปิ สาฬิกํ ชหิสฺสติ, โส ปิยวิปฺปโยโค มหโต ทุกฺขาย ภวิสฺสติ, อสมานชาติกานํ สํวาโส นาม น สเมตีติ.
อิตโร ตํ สุตฺวา ‘‘อยํ มํ น ปฏิกฺขิปติ, ปริหารเมว กโรติ, อทฺธา มํ อิจฺฉิสฺสติ, นานาวิธาหิ นํ อุปมาหิ สทฺทหาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘โยยํ กาเม กามยติ, อปิ จณฺฑาลิกามปิ;
สพฺโพ หิ สทิโส โหติ, นตฺถิ กาเม อสาทิโส’’ติ.
ตตฺถ ¶ จณฺฑาลิกามปีติ จณฺฑาลิกํ อปิ. สทิโสติ จิตฺตสทิสตาย สพฺโพ สํวาโส สทิโสว โหติ. กามสฺมิฺหิ จิตฺตเมว ปมาณํ, น ชาตีติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มนุสฺเสสุ ตาว นานาชาติกานํ สมานภาวทสฺสนตฺถํ อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘อตฺถิ ชมฺปาวตี นาม, มาตา สิวิสฺส ราชิโน;
สา ภริยา วาสุเทวสฺส, กณฺหสฺส มเหสี ปิยา’’ติ.
ตตฺถ ชมฺปาวตีติ สิวิรฺโ มาตา ชมฺปาวตี นาม จณฺฑาลี อโหสิ. สา กณฺหายนโคตฺตสฺส ทสภาติกานํ เชฏฺกสฺส วาสุเทวสฺส ปิยา มเหสี อโหสิ. โส กิเรกทิวสํ ทฺวารวติโต นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานํ คจฺฉนฺโต นครํ ปวิสนฺตึ เอกมนฺเต ิตํ อภิรูปํ เอกํ จณฺฑาลิกํ ทิสฺวาว ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘กึ ชาติกา’’ติ ปุจฺฉาเปตฺวา ‘‘จณฺฑาลชาติกา’’ติ ¶ สุตฺวาปิ ปฏิพทฺธจิตฺตตาย อสามิกภาวํ ปุจฺฉาเปตฺวา ‘‘อสามิกา’’ติ สุตฺวา ตํ อาทาย ตโต นิวตฺติตฺวา นิเวสนํ เนตฺวา อคฺคมเหสึ อกาสิ. สา สิวึ นาม ปุตฺตํ วิชายิ. โส ปิตุ อจฺจเยน ทฺวารวติยํ รชฺชํ กาเรสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
อิติ ¶ โส อิมํ อุทาหรณํ อาหริตฺวา ‘‘เอวรูโปปิ นาม ขตฺติโย จณฺฑาลิยา สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ, อมฺเหสุ ติรจฺฉานคเตสุ กึ วตฺตพฺพํ, อฺมฺํ สํวาสโรจนํเยว ปมาณ’’นฺติ วตฺวา อปรมฺปิ อุทาหรณํ อาหรนฺโต อาห –
‘‘รฏฺวตี กิมฺปุริสี, สาปิ วจฺฉํ อกามยิ;
มนุสฺโส มิคิยา สทฺธึ, นตฺถิ กาเม อสาทิโส’’ติ.
ตตฺถ วจฺฉนฺติ เอวํนามกํ ตาปสํ. กถํ ปน สา ตํ กาเมสีติ? อตีตสฺมิฺหิ เอโก พฺราหฺมโณ กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา มหนฺตํ ยสํ ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา หิมวนฺเต ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา วสิ. ตสฺส ปณฺณสาลโต อวิทูเร เอกิสฺสา คุหาย พหู กินฺนรา วสนฺติ. ตตฺเถว เอโก ¶ มกฺกฏโก ทฺวาเร วสติ. โส ชาลํ วิเนตฺวา เตสํ สีสํ ภินฺทิตฺวา โลหิตํ ปิวติ. กินฺนรา นาม ทุพฺพลา โหนฺติ ภีรุกชาติกา. โสปิ มกฺกฏโก อติวิสาโล. เต ตสฺส กิฺจิ กาตุํ อสกฺโกนฺตา ตํ ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา กตปฏิสนฺถารา อาคตการณํ ปุฏฺา ‘‘เทว, เอโก มกฺกฏโก ชีวิตํ โน หนติ, ตุมฺเห เปตฺวา อมฺหากํ อฺํ ปฏิสรณํ น ปสฺสาม, ตํ มาเรตฺวา อมฺหากํ โสตฺถิภาวํ กโรหี’’ติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวา ตาปโส ‘‘อเปถ น มาทิสา ปาณาติปาตํ กโรนฺตี’’ติ อปสาเทสิ. เตสุ รฏฺวตี นาม กินฺนรี อภิรูปา ปาสาทิกา อสามิกา อโหสิ. เต ตํ อลงฺกริตฺวา ตาปสสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘เทว, อยํ เต ปาทปริจาริกา โหตุ, อมฺหากํ ปจฺจามิตฺตํ วเธหี’’ติ อาหํสุ. ตาปโส ตํ ทิสฺวาว ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ตาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปตฺวา คุหาทฺวาเร ตฺวา โคจรตฺถาย นิกฺขนฺตํ มกฺกฏกํ มุคฺคเรน โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. โส ตาย สทฺธึ สมคฺควาสํ วสนฺโต ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิตฺวา ตตฺเถว กาลมกาสิ. เอวํ สา ตํ กาเมสิ. สุวโปตโก อิมํ อุทาหรณํ อาหริตฺวา ‘‘วจฺฉตาปโส ตาว มนุสฺโส หุตฺวา ติรจฺฉานคตาย กินฺนริยา สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ, กิมงฺคํ ปน อมฺหากํ? มยฺหิ อุโภ ปกฺขิโนว ติรจฺฉานคตาวา’’ติ ทีเปนฺโต ‘‘มนุสฺโส มิคิยา สทฺธิ’’นฺติ อาห. เอวํ มนุสฺสา ติรจฺฉานคตาหิ สทฺธึ สมคฺควาสํ วสนฺติ, นตฺถิ กาเม อสาทิโส นาม, จิตฺตเมว ปมาณนฺติ กเถสิ.
สา ¶ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สามิ, จิตฺตํ นาม สพฺพกาลํ เอกสทิสํ น โหติ, ปิยวิปฺปโยคสฺส ภายามี’’ติ อาห. โสปิ สุวโปตโก อิตฺถิมายาสุ กุสโล, เตน ตํ วีมํสนฺโต ปุน คาถมาห –
‘‘หนฺท ขฺวาหํ คมิสฺสามิ, สาฬิเก มฺชุภาณิเก;
ปจฺจกฺขานุปทฺเหตํ, อติมฺสิ นูน ม’’นฺติ.
ตตฺถ ปจฺจกฺขานุปทํ เหตนฺติ ยํ ตฺวํ วเทสิ, สพฺพเมตํ ปจฺจกฺขานสฺส อนุปทํ, ปจฺจกฺขานการณํ ปจฺจกฺขานโกฏฺาโส ปเนส. อติมฺสิ นูน มนฺติ ‘‘นูน มํ อิจฺฉติ อย’’นฺติ ตฺวํ มํ อติกฺกมิตฺวา มฺสิ, มยฺหํ ¶ สารํ น ชานาสิ ¶ . อหฺหิ ราชปูชิโต, น มยฺหํ ภริยา ทุลฺลภา, อฺํ ภริยํ ปริเยสิสฺสามีติ.
สา ตสฺส วจนํ สุตฺวาว ภิชฺชมานหทยา วิย ตสฺส สห ทสฺสเนเนว อุปฺปนฺนกามรติยา อนุฑยฺหมานา วิย หุตฺวาปิ อตฺตโน อิตฺถิมายาย อนิจฺฉมานา วิย หุตฺวา ทิยฑฺฒํ คาถมาห –
‘‘น สิรี ตรมานสฺส, มาธร สุวปณฺฑิต;
อิเธว ตาว อจฺฉสฺสุ, ยาว ราชาน ทกฺขสิ;
โสสฺสิ สทฺทํ มุทิงฺคานํ, อานุภาวฺจ ราชิโน’’ติ.
ตตฺถ น สิรีติ สมฺม สุวปณฺฑิต, ตรมานสฺส สิรี นาม น โหติ, ตรมาเนน กตกมฺมํ น โสภติ, ‘‘ฆราวาโส จ นาเมส อติครุโก’’ติ จินฺเตตฺวา ตุเลตฺวา กาตพฺโพ. อิเธว ตาว อจฺฉสฺสุ, ยาว มหนฺเตน ยเสน สมนฺนาคตํ อมฺหากํ ราชานํ ปสฺสิสฺสสิ. โสสฺสีติ สายนฺหสมเย กินฺนริสมานลีลาหิ อุตฺตมรูปธราหิ นารีหิ วชฺชมานานํ มุทิงฺคานํ อฺเสฺจ คีตวาทิตานํ สทฺทํ ตฺวํ สุณิสฺสสิ, รฺโ จ อานุภาวํ มหนฺตํ สิริโสภคฺคํ ปสฺสิสฺสสิ. ‘‘สมฺม, กึ ตฺวํ ตุริโตสิ, กึ เลสมฺปิ น ชานาสิ, อจฺฉสฺสุ ตาว, ปจฺฉา ชานิสฺสามา’’ติ.
อถ เต สายนฺหสมนนฺตเร เมถุนสํวาสํ กรึสุ, สมคฺคา สมฺโมทมานา ปิยสํวาสํ วสึสุ. อถ นํ สุวโปตโก ‘‘น อิทาเนสา มยฺหํ รหสฺสํ คุหิสฺสติ, อิทานิ นํ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ ¶ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สาฬิเก’’ติ อาห. ‘‘กึ, สามี’’ติ? ‘‘อหํ กิฺจิ เต วตฺตุกาโมมฺหี’’ติ. ‘‘วท, สามี’’ติ. ‘‘โหตุ, อชฺช อมฺหากํ มงฺคลทิวโส, อฺตรสฺมึ ทิวเส ชานิสฺสามี’’ติ. ‘‘สเจ มงฺคลปฏิสํยุตฺตา กถา ภวิสฺสติ, กเถหิ. โน เจ, มา กเถหิ สามี’’ติ. ‘‘มงฺคลกถาเวสา, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เตน หิ กเถหี’’ติ. อถ นํ ‘‘ภทฺเท, สเจ โสตุกามา ภวิสฺสสิ, กเถสฺสามิ เต’’ติ วตฺวา ตํ รหสฺสํ ปุจฺฉนฺโต ทิยฑฺฒํ คาถมาห –
‘‘โย นุ ขฺวายํ ติพฺโพ สทฺโท, ติโรชนปเท สุโต;
ธีตา ปฺจาลราชสฺส, โอสธี วิย วณฺณินี;
ตํ ทสฺสติ วิเทหานํ, โส วิวาโห ภวิสฺสตี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – โย นุ โข อยํ สทฺโท ติพฺโพ พหโล, ติโรชนปเท สุโต ปรรฏฺเสุ ชนปเทสุ วิสฺสุโต ปฺาโต ปากโฏ ปตฺถโฏ. กินฺติ? ธีตา ปฺจาลราชสฺส โอสธีตารกา วิย วิโรจมานา ตาย เอว สมานวณฺณินี อตฺถิ, ตํ โส วิเทหานํ ทสฺสติ, โส วิวาโห ภวิสฺสติ. โย โส เอวํ ปตฺถโฏ สทฺโท, อหํ ตํ สุตฺวา จินฺเตสึ ‘‘อยํ ¶ กุมาริกา อุตฺตมรูปธรา, วิเทหราชาปิ จูฬนิรฺโ ปฏิสตฺตุ อโหสิ. อฺเ พหู ราชาโน จูฬนิพฺรหฺมทตฺตสฺส วสวตฺติโน สนฺติ, เตสํ อทตฺวา กึ การณา วิเทหสฺส ธีตรํ ทสฺสตี’’ติ?
สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา เอวมาห – ‘‘สามิ, กึ การณา มงฺคลทิวเส อวมงฺคลํ กเถสี’’ติ? ‘‘อหํ, ภทฺเท, ‘มงฺคล’นฺติ กเถมิ, ตฺวํ ‘อวมงฺคล’นฺติ กเถสิ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ? ‘‘สามิ, อมิตฺตานมฺปิ เตสํ เอวรูปา มงฺคลกิริยา มา โหตู’’ติ. ‘‘กเถหิ ตาว ภทฺเท’’ติ. ‘‘สามิ, น สกฺกา กเถตุ’’นฺติ. ‘‘ภทฺเท, ตยา วิทิตํ รหสฺสํ มม อกถิตกาลโต ปฏฺาย นตฺถิ อมฺหากํ สมคฺคสํวาโส’’ติ. สา เตน นิปฺปีฬิยมานา ‘‘เตน หิ, สามิ, สุณาหี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘เอทิโส มา อมิตฺตานํ, วิวาโห โหตุ มาธร;
ยถา ปฺจาลราชสฺส, เวเทเหน ภวิสฺสตี’’ติ.
อิมํ คาถํ วตฺวา ปุน เตน ‘‘ภทฺเท, กสฺมา เอวรูปํ กถํ กเถสี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สุณาหิ, เอตฺถ โทสํ เต กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อานยิตฺวาน ¶ เวเทหํ, ปฺจาลานํ รเถสโภ;
ตโต นํ ฆาตยิสฺสติ, นสฺส สขี ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ ตโต นํ ฆาตยิสฺสตีติ ยทา โส อิมํ นครํ อาคโต ภวิสฺสติ, ตทา เตน สทฺธึ สขิภาวํ มิตฺตธมฺมํ น กริสฺสติ, ทฏฺุมฺปิสฺส ธีตรํ น ทสฺสติ. เอโก กิรสฺส ปน อตฺถธมฺมานุสาสโก มโหสธปณฺฑิโต นาม อตฺถิ, เตน สทฺธึ ตํ ฆาเตสฺสติ. เต อุโภ ชเน ฆาเตตฺวา ชยปานํ ปิวิสฺสามาติ เกวฏฺโฏ รฺา สทฺธึ มนฺเตตฺวา ตํ คณฺหิตฺวา อาคนฺตุํ คโตติ.
เอวํ ¶ สา คุยฺหมนฺตํ นิสฺเสสํ กตฺวา สุวปณฺฑิตสฺส กเถสิ. ตํ สุตฺวา สุวปณฺฑิโต ‘‘อาจริโย เกวฏฺโฏ อุปายกุสโล, อจฺฉริยํ ตสฺส รฺโ เอวรูเปน อุปาเยน ฆาตน’’นฺติ เกวฏฺฏํ วณฺเณตฺวา ‘‘เอวรูเปน อวมงฺคเลน อมฺหากํ โก อตฺโถ, ตุณฺหีภูตา สยามา’’ติ วตฺวา อาคมนกมฺมสฺส นิปฺผตฺตึ ตฺวา ตํ รตฺตึ ตาย สทฺธึ วสิตฺวา ‘‘ภทฺเท, อหํ สิวิรฏฺํ คนฺตฺวา มนาปาย ภริยาย ลทฺธภาวํ สิวิรฺโ เทวิยา จ อาโรเจสฺสามี’’ติ คมนํ อนุชานาเปตุํ อาห –
‘‘หนฺท ¶ โข มํ อนุชานาหิ, รตฺติโย สตฺตมตฺติโย;
ยาวาหํ สิวิราชสฺส, อาโรเจมิ มเหสิโน;
ลทฺโธ จ เม อาวสโถ, สาฬิกาย อุปนฺติก’’นฺติ.
ตตฺถ มเหสิโนติ มเหสิยา จสฺส. อาวสโถติ วสนฏฺานํ. อุปนฺติกนฺติ อถ เน ‘‘เอถ ตสฺสา สนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ วตฺวา อฏฺเม ทิวเส อิธาเนตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ คเหตฺวา คมิสฺสามิ, ยาว มมาคมนํ, ตาว มา อุกฺกณฺีติ.
ตํ สุตฺวา สาฬิกา เตน วิโยคํ อนิจฺฉมานาปิ ตสฺส วจนํ ปฏิกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตี อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘หนฺท โข ตํ อนุชานามิ, รตฺติโย สตฺตมตฺติโย;
สเจ ตฺวํ สตฺตรตฺเตน, นาคจฺฉสิ มมนฺติเก;
มฺเ โอกฺกนฺตสตฺตํ มํ, มตาย อาคมิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ มฺเ โอกฺกนฺตสตฺตํ มนฺติ เอวํ สนฺเต อหํ มํ อปคตชีวิตํ สลฺลกฺเขมิ. โส ตฺวํ อฏฺเม ทิวเส อนาคจฺฉนฺโต มยิ มตาย อาคมิสฺสสิ, ตสฺมา มา ปปฺจํ อกาสีติ.
อิตโรปิ ‘‘ภทฺเท, กึ วเทสิ, มยฺหมฺปิ อฏฺเม ทิวเส ตํ อปสฺสนฺตสฺส กุโต ชีวิต’’นฺติ วาจาย วตฺวา หทเยน ปน ‘‘ชีว วา ตฺวํ มร วา, กึ ตยา มยฺห’’นฺติ จินฺเตตฺวา อุฏฺาย โถกํ สิวิรฏฺาภิมุโข คนฺตฺวา นิวตฺติตฺวา มิถิลํ คนฺตฺวา ปณฺฑิตสฺส อํสกูเฏ โอตริตฺวา มหาสตฺเตน ปน ตาย สฺาย อุปริปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปุฏฺโ สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ ปณฺฑิตสฺส ¶ อาโรเจสิ. โสปิสฺส ปุริมนเยเนว สพฺพํ สกฺการมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต จ โข โส คนฺตฺวาน, มาธโร สุวปณฺฑิโต;
มโหสธสฺส อกฺขาสิ, สาฬิกาวจนํ อิท’’นฺติ.
ตตฺถ สาฬิกาวจนํ อิทนฺติ อิทํ สาฬิกาย วจนนฺติ สพฺพํ วิตฺถาเรตฺวา กเถสีติ.
สุวขณฺฑํ นิฏฺิตํ.
มหาอุมงฺคกณฺฑํ
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘ราชา มม อนิจฺฉมานสฺเสว คมิสฺสติ, คนฺตฺวา จ ปน มหาวินาสํ ปาปุณิสฺสติ. อถ มยฺหํ ‘เอวรูปสฺส ¶ นาม ยสทายกสฺส รฺโ วจนํ หทเย กตฺวา ตสฺส สงฺคหํ นากาสี’ติ ครหาปิ อุปฺปชฺชิสฺสติ, มาทิเส ปณฺฑิเต วิชฺชมาเน กึการณา เอส นสฺสิสฺสติ, อหํ รฺโ ปุเรตรเมว คนฺตฺวา จูฬนึ ทิสฺวา สุวิภตฺตํ กตฺวา วิเทหรฺโ นิวาสตฺถาย นครํ มาเปตฺวา คาวุตมตฺตํ ชงฺฆอุมงฺคํ, อฑฺฒโยชนิกฺจ มหาอุมงฺคํ, กาเรตฺวา จูฬนิรฺโ ธีตรํ อภิสิฺจิตฺวา อมฺหากํ รฺโปาทปริจาริกํ กตฺวา อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺเขหิ พเลหิ เอกสตราชูสุ ปริวาเรตฺวา ิเตสฺเวว อมฺหากํ ราชานํ ราหุมุขโต จนฺทํ วิย โมเจตฺวา อาทายาคมนํ นาม มม ภาโร’’ติ. ตสฺเสวํ จินฺเตนฺตสฺส สรีเร ปีติ อุปฺปชฺชิ. โส ปีติเวเคน อุทานํ อุทาเนนฺโต อิมํ อุปฑฺฒคาถมาห –
‘‘ยสฺเสว ¶ ฆเร ภฺุเชยฺย โภคํ, ตสฺเสว อตฺถํ ปุริโส จเรยฺยา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ยสฺส รฺโ สนฺติเก ปุริโส มหนฺตํ อิสฺสริยํ ลภิตฺวา โภคํ ภฺุเชยฺย, อกฺโกสนฺตสฺสปิ ปหรนฺตสฺสปิ คเล คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสปิ ตสฺเสว อตฺถํ หิตํ วุฑฺฒึ ปณฺฑิโต กายทฺวาราทีหิ ตีหิ ทฺวาเรหิ จเรยฺย. น หิ มิตฺตทุพฺภิกมฺมํ ปณฺฑิเตหิ กาตพฺพนฺติ.
อิติ ¶ จินฺเตตฺวา โส นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา มหนฺเตน ยเสน ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต อาห – ‘‘กึ, เทว, คจฺฉิสฺสถ อุตฺตรปฺจาลนคร’’นฺติ? ‘‘อาม, ตาต, ปฺจาลจนฺทึ อลภนฺตสฺส มม กึ รชฺเชน, มา มํ ปริจฺจชิ, มยา สทฺธึเยว เอหิ. ตตฺถ อมฺหากํ คตการณา ทฺเว อตฺถา นิปฺผชฺชิสฺสนฺติ, อิตฺถิรตนฺจ ลจฺฉามิ, รฺา จ เม สทฺธึ เมตฺติ ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ. อถ นํ ปณฺฑิโต ‘‘เตน หิ, เทว, อหํ ปุเร คนฺตฺวา ตุมฺหากํ นิเวสนานิ มาเปสฺสามิ, ตุมฺเห มยา ปหิตสาสเนน อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ วทนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘หนฺทาหํ คจฺฉามิ ปุเร ชนินฺท, ปฺจาลราชสฺส ปุรํ สุรมฺมํ;
นิเวสนานิ มาเปตุํ, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน.
‘‘นิเวสนานิ มาเปตฺวา, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน;
ยทา เต ปหิเณยฺยามิ, ตทา เอยฺยาสิ ขตฺติยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ เวเทหสฺสาติ ตว วิเทหราชสฺส. เอยฺยาสีติ อาคจฺเฉยฺยาสีติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘น กิร มํ ปณฺฑิโต ปริจฺจชตี’’ติ หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา อาห – ‘‘ตาต, ตว ปุเร คจฺฉนฺตสฺส กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘พลวาหนํ, เทวา’’ติ. ‘‘ยตฺตกํ อิจฺฉสิ, ตตฺตกํ คณฺห, ตาตา’’ติ. ‘‘จตฺตาริ พนฺธนาคารานิ วิวราเปตฺวา โจรานํ สงฺขลิกพนฺธนานิ ภินฺทาเปตฺวา เตปิ มยา สทฺธึ เปเสถ เทวา’’ติ. ‘‘ยถารุจิ กโรหิ, ตาตา’’ติ. มหาสตฺโต พนฺธนาคารทฺวารานิ วิวราเปตฺวา สูเร มหาโยเธ คตฏฺาเน กมฺมํ นิปฺผาเทตุํ สมตฺเถ นีหราเปตฺวา ‘‘มํ อุปฏฺหถา’’ติ วตฺวา เตสํ สกฺการํ กาเรตฺวา วฑฺฒกิกมฺมารจมฺมการอิฏฺกปาสาณการจิตฺตการาทโย นานาสิปฺปกุสลา อฏฺารส เสนิโย อาทาย ¶ วาสิผรสุกุทฺทาลขณิตฺติอาทีนิ พหูนิ อุปกรณานิ คาหาเปตฺวา มหาพลกายปริวุโต นครา นิกฺขมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต ¶ จ ปายาสิ ปุเร มโหสโธ, ปฺจาลราชสฺส ปุรํ สุรมฺมํ;
นิเวสนานิ มาเปตุํ, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน’’ติ.
มหาสตฺโตปิ คจฺฉนฺโต โยชนนฺตเร โยชนนฺตเร เอเกกํ คามํ นิเวเสตฺวา เอเกกํ อมจฺจํ ‘‘ตุมฺเห รฺโ ปฺจาลจนฺทึ คเหตฺวา นิวตฺตนกาเล หตฺถิอสฺสรเถ กปฺเปตฺวา ราชานํ อาทาย ปจฺจามิตฺเต ปฏิพาหนฺตา ขิปฺปํ มิถิลํ ปาเปยฺยาถา’’ติ วตฺวา เปสิ. คงฺคาตีรํ ปน ปตฺวา อานนฺทกุมารํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อานนฺท, ตฺวํ ตีณิ วฑฺฒกิสตานิ อาทาย อุทฺธํคงฺคํ คนฺตฺวา สารทารูนิ คาหาเปตฺวา ติสตมตฺตา นาวา มาเปตฺวา นครสฺสตฺถาย ตตฺเถว ตจฺฉาเปตฺวา สลฺลหุกานํ ทารูนํ นาวาย ปูราเปตฺวา ขิปฺปํ อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ เปเสสิ. สยํ ปน นาวาย คงฺคํ ตริตฺวา โอติณฺณฏฺานโต ปฏฺาย ปทสฺาเยว คเณตฺวา ‘‘อิทํ อฑฺฒโยชนฏฺานํ, เอตฺถ มหาอุมงฺโค ภวิสฺสติ, อิมสฺมึ าเน รฺโ นิเวสนนครํ ภวิสฺสติ, อิโต ปฏฺาย ยาว ราชเคหา คาวุตมตฺเต าเน ¶ ชงฺฆอุมงฺโค ภวิสฺสตี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา นครํ ปาวิสิ. จูฬนิราชา โพธิสตฺตสฺส อาคมนํ สุตฺวา ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, ปจฺจามิตฺตานํ ปิฏฺึ ปสฺสิสฺสามิ, อิมสฺมึ อาคเต เวเทโหปิ น จิรสฺเสว อาคมิสฺสติ, อถ เน อุโภปิ มาเรตฺวา สกลชมฺพุทีปตเล เอกรชฺชํ กริสฺสามี’’ติ ปรมตุฏฺึ ปตฺโต อโหสิ. สกลนครํ สงฺขุภิ ‘‘เอส กิร มโหสธปณฺฑิโต, อิมินา กิร เอกสตราชาโน เลฑฺฑุนา กากา วิย ปลาปิตา’’ติ.
มหาสตฺโต นาคเรสุ อตฺตโน รูปสมฺปตฺตึ ปสฺสนฺเตสุเยว ราชทฺวารํ คนฺตฺวา รฺโ ปฏิเวเทตฺวา ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ ราชา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘ตาต, ราชา กทา อาคมิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยา เปสิตกาเล, เทวา’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน กิมตฺถํ อาคโตสี’’ติ. ‘‘อมฺหากํ รฺโ นิเวสนํ มาเปตุํ, เทวา’’ติ. ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ. อถสฺส เสนาย ปริพฺพยํ ทาเปตฺวา มหาสตฺตสฺส มหนฺตํ สกฺการํ กาเรตฺวา นิเวสนเคหํ ทาเปตฺวา ‘‘ตาต, ยาว เต ราชา นาคจฺฉติ, ตาว อนุกฺกณฺมาโน อมฺหากมฺปิ กตฺตพฺพยุตฺตกํ ¶ กโรนฺโตว วสาหิ ตฺว’’นฺติ อาห. โส กิร ราชนิเวสนํ อภิรุหนฺโตว มหาโสปานปาทมูเล ตฺวา ‘‘อิธ ชงฺฆอุมงฺคทฺวารํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขสิ. อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘ราชา ‘อมฺหากมฺปิ กตฺตพฺพยุตฺตกํ กโรหี’ติ วทติ, อุมงฺเค ขณิยมาเน ยถา อิทํ โสปานํ น ¶ โอสกฺกติ, ตถา กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อถ ราชานํ เอวมาห – ‘‘เทว, อหํ ปวิสนฺโต โสปานปาทมูเล ตฺวา นวกมฺมํ โอโลเกนฺโต มหาโสปาเน โทสํ ปสฺสึ. สเจ เต รุจฺจติ, อหํ ทารูนิ ลภนฺโต มนาปํ กตฺวา อตฺถเรยฺย’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ปณฺฑิต, อตฺถราหี’’ติ. โส ‘‘อิธ อุมงฺคทฺวารํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ตํ โปราณโสปานํ หริตฺวา ยตฺถ อุมงฺคทฺวารํ ภวิสฺสติ, ตตฺถ ปํสุโน อปตนตฺถาย ผลกสนฺถารํ กาเรตฺวา ยถา โสปานํ น โอสกฺกติ, เอวํ นิจฺจลํ กตฺวา โสปานํ อตฺถริ. ราชา ตํ การณํ อชานนฺโต ‘‘มม สิเนเหน กโรตี’’ติ มฺิ.
เอวํ ตํ ทิวสํ เตเนว นวกมฺเมน ¶ วีตินาเมตฺวา ปุนทิวเส ราชานํ อาห – ‘‘เทว, สเจ อมฺหากํ รฺโ วสนฏฺานํ ชาเนยฺยาม, มนาปํ กตฺวา ปฏิชคฺเคยฺยามา’’ติ. สาธุ, ปณฺฑิต, เปตฺวา มม นิเวสนํ สกลนคเร ยํ นิเวสนํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺหาติ. มหาราช, มยํ อาคนฺตุกา, ตุมฺหากํ พหู วลฺลภา โยธา, เต อตฺตโน อตฺตโน เคเหสุ คยฺหมาเนสุ อมฺเหหิ สทฺธึ กลหํ กริสฺสนฺติ. ‘‘ตทา, เทว, เตหิ สทฺธึ มยํ กึ กริสฺสามา’’ติ? ‘‘เตสํ วจนํ มา คณฺห. ยํ อิจฺฉสิ, ตํ านเมว คณฺหาเปหี’’ติ. ‘‘เทว, เต ปุนปฺปุนํ อาคนฺตฺวา ตุมฺหากํ กเถสฺสนฺติ, เตน ตุมฺหากํ จิตฺตสุขํ น ลภิสฺสติ. สเจ ปน อิจฺเฉยฺยาถ, ยาว มยํ นิเวสนานิ คณฺหาม, ตาว อมฺหากํเยว มนุสฺสา โทวาริกา อสฺสุ. ตโต เต ทฺวารํ อลภิตฺวา นาคมิสฺสนฺติ. เอวํ สนฺเต ตุมฺหากมฺปิ จิตฺตสุขํ ลภิสฺสตี’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
มหาสตฺโต โสปานปาทมูเล โสปานสีเส มหาทฺวาเรติ สพฺพตฺถ อตฺตโน มนุสฺเสเยว เปตฺวา ‘‘กสฺสจิ ปวิสิตุํ มา อทตฺถา’’ติ วตฺวา อถ รฺโ มาตุ นิเวสนํ คนฺตฺวา ‘‘ภินฺทนาการํ ทสฺเสถา’’ติ มนุสฺเส อาณาเปสิ. เต ทฺวารโกฏฺกาลินฺทโต ปฏฺาย อิฏฺกา จ มตฺติกา จ อปเนตุํ อารภึสุ. ราชมาตา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘กิสฺส, ¶ ตาตา, มม เคหํ ภินฺทถา’’ติ อาห. ‘‘มโหสธปณฺฑิโต ภินฺทาเปตฺวา อตฺตโน รฺโ นิเวสนํ กาตุกาโม’’ติ. ‘‘ยทิ เอวํ อิเธว วสถา’’ติ. ‘‘อมฺหากํ รฺโ มหนฺตํ พลวาหนํ, อิทํ นปฺปโหติ, อฺํ มหนฺตํ เคหํ กริสฺสามา’’ติ. ‘‘ตุมฺเห มํ น ชานาถ, อหํ ราชมาตา, อิทานิ ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ. ‘‘มยํ รฺโ วจเนน ภินฺทาม, สกฺโกนฺตี วาเรหี’’ติ. สา กุชฺฌิตฺวา ‘‘อิทานิ โว กตฺตพฺพํ ชานิสฺสามี’’ติ ราชทฺวารํ อคมาสิ. อถ นํ ‘‘มา ปวิสา’’ติ โทวาริกา วารยึสุ. ‘‘อหํ ราชมาตา’’ติ. ‘‘น มยํ ตํ ชานาม, มยํ รฺา ‘กสฺสจิ ปวิสิตุํ มา อทตฺถา’ติ อาณตฺตา, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ. สา คเหตพฺพคหณํ อปสฺสนฺตี นิวตฺติตฺวา ¶ อตฺตโน นิเวสนํ โอโลเกนฺตี อฏฺาสิ. อถ นํ เอโก ปุริโส ‘‘กึ อิธ ¶ กโรสิ, คจฺฉสิ, น คจฺฉสี’’ติ คีวาย คเหตฺวา ภูมิยํ ปาเตสิ.
สา จินฺเตสิ ‘‘อทฺธา อิเม รฺโ อาณตฺตา ภวิสฺสนฺติ, อิตรถา เอวํ กาตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, ปณฺฑิตสฺเสว สนฺติกํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ. สา คนฺตฺวา ‘‘ตาต มโหสธ, กสฺมา มม นิเวสนํ ภินฺทาเปสี’’ติ อาห. โส ตาย สทฺธึ น กเถสิ, สนฺติเก ิโต ปุริโส ปนสฺส ‘‘เทวิ, กึ กเถสี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, มโหสธปณฺฑิโต กสฺมา มม เคหํ ภินฺทาเปตี’’ติ? ‘‘เวเทหรฺโ วสนฏฺานํ กาตุ’’นฺติ. ‘‘กึ, ตาต, เอวํ มหนฺเต นคเร อฺตฺถ นิเวสนฏฺานํ น ลพฺภตี’’ติ มฺติ. ‘‘อิมํ สตสหสฺสํ ลฺชํ คเหตฺวา อฺตฺถ เคหํ กาเรตู’’ติ. ‘‘สาธุ, เทวิ, ตุมฺหากํ เคหํ วิสฺสชฺชาเปสฺสามิ, ลฺชสฺส คหิตภาวํ มา กสฺสจิ กถยิตฺถ. มา โน อฺเปิ ลฺชํ ทตฺวา เคหานิ วิสฺสชฺชาเปตุกามา อเหสุ’’นฺติ. สาธุ, ตาต, ‘‘รฺโ มาตา ลฺชํ อทาสี’’ติ มยฺหมฺปิ ลชฺชนกเมว, ตสฺมา น กสฺสจิ กเถสฺสามีติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ตสฺสา สนฺติกา สตสหสฺสํ คเหตฺวา เคหํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา เกวฏฺฏสฺส เคหํ อคมาสิ. โสปิ ทฺวารํ คนฺตฺวา เวฬุเปสิกาหิ ปิฏฺิจมฺมุปฺปาฏนํ ลภิตฺวา คเหตพฺพคหณํ อปสฺสนฺโต ปุน เคหํ คนฺตฺวา สตสหสฺสเมว อทาสิ. เอเตนุปาเยน สกลนคเร เคหฏฺานํ คณฺหนฺเตน ลฺชํ คเหตฺวา ลทฺธกหาปณานฺเว นว โกฏิโย ชาตา.
มหาสตฺโต สกลนครํ วิจริตฺวา ราชกุลํ อคมาสิ. อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ปณฺฑิต, ลทฺธํ เต วสนฏฺาน’’นฺติ? ‘‘มหาราช, อเทนฺตา นาม ¶ นตฺถิ, อปิจ โข ปน เคเหสุ คยฺหมาเนสุ กิลมนฺติ. เตสํ ปิยวิปฺปโยคํ กาตุํ อมฺหากํ อยุตฺตํ. พหินคเร คาวุตมตฺเต าเน คงฺคาย จ นครสฺส จ อนฺตเร อสุกฏฺาเน อมฺหากํ รฺโ วสนนครํ กริสฺสามี’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อนฺโตนคเร ยุชฺฌิตุมฺปิ ทุกฺขํ, เนว สกเสนา, น ปรเสนา าตุํ สกฺกา. พหินคเร ปน สุขํ ยุทฺธํ กาตุํ, ตสฺมา พหินคเรเยว เต โกฏฺเฏตฺวา ¶ มาเรสฺสามา’’ติ ตุสฺสิตฺวา ‘‘สาธุ, ปณฺฑิต, ตยา สลฺลกฺขิตฏฺาเนเยว กาเรหี’’ติ อาห. ‘‘มหาราช, อหํ กาเรสฺสามิ, ตุมฺหากํ ปน มนุสฺเสหิ ทารุปณฺณาทีนํ อตฺถาย อมฺหากํ นวกมฺมฏฺานํ นาคนฺตพฺพํ. อาคจฺฉนฺตา หิ กลหํ กริสฺสนฺติ, เตเนว ตุมฺหากฺจ อมฺหากฺจ จิตฺตสุขํ น ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ปณฺฑิต, เตน ปสฺเสน นิสฺจารํ กาเรหี’’ติ. ‘‘เทว, อมฺหากํ หตฺถี อุทกาภิรตา อุทเกเยว กีฬิสฺสนฺติ. อุทเก อาวิเล ชาเต ‘มโหสธสฺส อาคตกาลโต ปฏฺาย ปสนฺนํ อุทกํ ปาตุํ น ลภามา’ติ สเจ นาครา กุชฺฌิสฺสนฺติ, ตมฺปิ สหิตพฺพ’’นฺติ ¶ . ราชา ‘‘วิสฺสตฺถา ตุมฺหากํ หตฺถี กีฬนฺตู’’ติ วตฺวา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘โย อิโต นิกฺขมิตฺวา มโหสธสฺส นครมาปิตฏฺานํ คจฺฉติ, ตสฺส สหสฺสทณฺโฑ’’ติ.
มหาสตฺโต ราชานํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ปริสํ อาทาย นิกฺขมิตฺวา ยถาปริจฺฉินฺนฏฺาเน นครํ มาเปตุํ อารภิ. ปารคงฺคาย วคฺคุลึ นาม คามํ กาเรตฺวา หตฺถิอสฺสรถวาหนฺเจว โคพลิพทฺทฺจ ตตฺถ เปตฺวา นครกรณํ วิจาเรนฺโต ‘‘เอตฺตกา อิทํ กโรนฺตู’’ติ สพฺพกมฺมานิ วิภชิตฺวา อุมงฺคกมฺมํ ปฏฺเปสิ. มหาอุมงฺคทฺวารํ คงฺคาติตฺเถ อโหสิ. สฏฺิมตฺตานิ โยธสตานิ มหาอุมงฺคํ ขณนฺติ. มหนฺเตหิ จมฺมปสิพฺพเกหิ วาลุกปํสุํ หริตฺวา คงฺคาย ปาเตนฺติ. ปาติตปาติตํ ปํสุํ หตฺถี มทฺทนฺติ, คงฺคา อาฬุลา สนฺทติ. นครวาสิโน ‘‘มโหสธสฺส อาคตกาลโต ปฏฺาย ปสนฺนํ อุทกํ ปาตุํ น ลภาม, คงฺคา อาฬุลา สนฺทติ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ วทนฺติ. อถ เนสํ ปณฺฑิตสฺส อุปนิกฺขิตฺตกปุริสา อาโรเจนฺติ ‘‘มโหสธสฺส กิร หตฺถี อุทกํ กีฬนฺตา คงฺคาย กทฺทมํ กโรนฺติ, เตน คงฺคา อาฬุลา สนฺทตี’’ติ.
โพธิสตฺตานํ ¶ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติ, ตสฺมา อุมงฺเค มูลานิ วา ขาณุกานิ วา มรุมฺพานิ วา ปาสาณานิ วา สพฺเพปิ ภูมิยํ ปวิสึสุ. ชงฺฆอุมงฺคสฺส ทฺวารํ ตสฺมึเยว นคเร อโหสิ. ตีณิ ปุริสสตานิ ชงฺฆอุมงฺคํ ขณนฺติ ¶ , จมฺมปสิพฺพเกหิ ปํสุํหริตฺวา ตสฺมึ นคเร ปาเตนฺติ. ปาติตปาติตํ อุทเกน มทฺทาเปตฺวา ปาการํ จินนฺติ, อฺานิ วา กมฺมานิ กโรนฺติ. มหาอุมงฺคสฺส ปวิสนทฺวารํ นคเร อโหสิ อฏฺารสหตฺถุพฺเพเธน ยนฺตยุตฺตทฺวาเรน สมนฺนาคตํ. ตฺหิ เอกาย อาณิยา อกฺกนฺตาย ปิธียติ, เอกาย อาณิยา อกฺกนฺตาย วิวรียติ. มหาอุมงฺคสฺส ทฺวีสุ ปสฺเสสุ อิฏฺกาหิ จินิตฺวา สุธากมฺมํ กาเรสิ, มตฺถเก ผลเกน ฉนฺนํ กาเรตฺวา อุลฺโลกํ มตฺติกาย ลิมฺปาเปตฺวา เสตกมฺมํ กาเรตฺวา จิตฺตกมฺมํ กาเรสิ. สพฺพานิ ปเนตฺถ อสีติ มหาทฺวารานิ จตุสฏฺิ จูฬทฺวารานิ อเหสุํ, สพฺพานิ ยนฺตยุตฺตาเนว. เอกาย อาณิยา อกฺกนฺตาย สพฺพาเนว ปิธียนฺติ, เอกาย อาณิยา อกฺกนฺตาย สพฺพาเนว วิวรียนฺติ. ทฺวีสุ ปสฺเสสุ อเนกสตทีปาลยา อเหสุํ, เตปิ ยนฺตยุตฺตาเยว. เอกสฺมึ วิวริยมาเน สพฺเพ วิวรียนฺติ, เอกสฺมึ ปิธียมาเน สพฺเพ ปิธียนฺติ. ทฺวีสุ ปสฺเสสุ เอกสตานํ ขตฺติยานํ เอกสตสยนคพฺภา อเหสุํ. เอเกกสฺมึ คพฺเภ นานาวณฺณปจฺจตฺถรณตฺถตํ เอเกกํ มหาสยนํ สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺตํ, เอเกกํ มหาสยนํ นิสฺสาย เอเกกํ มาตุคามรูปกํ อุตฺตมรูปธรํ ปติฏฺิตํ. ตํ หตฺเถน อปรามสิตฺวา ‘‘มนุสฺสรูป’’นฺติ น สกฺกา าตุํ, อปิจ อุมงฺคสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ กุสลา จิตฺตการา นานปฺปการํ จิตฺตกมฺมํ กรึสุ. สกฺกวิลาสสิเนรุสตฺตปริภณฺฑจกฺกวาฬสาครสตฺตมหาสร- จตุมหาทีป-หิมวนฺต-อโนตตฺตสร-มโนสิลาตล จนฺทิมสูริย-จาตุมหาราชิกาทิฉกามาวจรสมฺปตฺติโยปิ ¶ สพฺพา อุมงฺเคเยว ทสฺสยึสุ. ภูมิยํ รชตปฏฺฏวณฺณา วาลุกา โอกิรึสุ, อุปริ อุลฺโลกปทุมานิ ทสฺเสสุํ. อุโภสุ ปสฺเสสุ นานปฺปกาเร อาปเณปิ ทสฺสยึสุ. เตสุ เตสุ าเนสุ คนฺธทามปุปฺผทามาทีนิ โอลมฺเพตฺวา สุธมฺมาเทวสภํ วิย อุมงฺคํ อลงฺกรึสุ.
ตานิปิ โข ตีณิ วฑฺฒกิสตานิ ตีณิ นาวาสตานิ พนฺธิตฺวา นิฏฺิตปริกมฺมานํ ทพฺพสมฺภารานํ ปูเรตฺวา คงฺคาย อาหริตฺวา ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ ¶ . ตานิ โส นคเร อุปโยคํ เนตฺวา ‘‘มยา อาณตฺตทิวเสเยว อาหเรยฺยาถา’’ติ วตฺวา นาวา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ปาเปสิ. นคเร อุทกปริขา, กทฺทมปริขา, สุกฺขปริขาติ ติสฺโส ปริขาโย กาเรสิ. อฏฺารสหตฺโถ ปากาโร โคปุรฏฺฏาลโก ¶ ราชนิเวสนานิ หตฺถิสาลาทโย โปกฺขรณิโยติ สพฺพเมตํ นิฏฺํ อคมาสิ. อิติ มหาอุมงฺโค ชงฺฆอุมงฺโค นครนฺติ สพฺพเมตํ จตูหิ มาเสหิ นิฏฺิตํ. อถ มหาสตฺโต จตุมาสจฺจเยน รฺโ อาคมนตฺถาย ทูตํ ปาเหสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘นิเวสนานิ มาเปตฺวา, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน;
อถสฺส ปาหิณี ทูตํ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ;
เอหิ ทานิ มหาราช, มาปิตํ เต นิเวสน’’นฺติ.
ตตฺถ ปาหิณีติ เปเสสิ.
ราชา ทูตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นครา นิกฺขมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต จ ราชา ปายาสิ, เสนาย จตุรงฺคิยา;
อนนฺตวาหนํ ทฏฺุํ, ผีตํ กปิลิยํ ปุร’’นฺติ.
ตตฺถ อนนฺตวาหนนฺติ อปริมิตหตฺถิอสฺสาทิวาหนํ. กปิลิยํ ปุรนฺติ กปิลรฏฺเ มาปิตํ นครํ.
โส อนุปุพฺเพน คนฺตฺวา คงฺคาตีรํ ปาปุณิ. อถ นํ มหาสตฺโต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อตฺตนา กตนครํ ปเวเสสิ. โส ตตฺถ ปาสาทวรคโต นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา โถกํ วิสฺสมิตฺวา สายนฺหสมเย ¶ อตฺตโน อาคตภาวํ าเปตุํ จูฬนิรฺโ ทูตํ เปเสสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต จ โข โส คนฺตฺวาน, พฺรหฺมทตฺตสฺส ปาหิณิ;
อาคโตสฺมิ มหาราช, ตว ปาทานิ วนฺทิตุํ.
‘‘ททาหิ ทานิ เม ภริยํ, นารึ สพฺพงฺคโสภินึ;
สุวณฺเณน ปฏิจฺฉนฺนํ, ทาสีคณปุรกฺขต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ วนฺทิตุนฺติ เวเทโห มหลฺลโก, จูฬนิราชา ตสฺส ปุตฺตนตฺตมตฺโตปิ น โหติ, กิเลสวเสน มุจฺฉิโต ปน หุตฺวา ‘‘ชามาตเรน นาม สสุโร วนฺทนีโย’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส จิตฺตํ อชานนฺโตว วนฺทนสาสนํ ปหิณิ. ททาหิ ทานีติ อหํ ตยา ‘‘ธีตรํ ทสฺสามี’’ติ ปกฺโกสาปิโต, ตํ เม อิทานิ เทหีติ ปหิณิ. สุวณฺเณน ปฏิจฺฉนฺนนฺติ สุวณฺณาลงฺกาเรน ปฏิมณฺฑิตํ.
จูฬนิราชา ¶ ทูตสฺส วจนํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต ‘‘อิทานิ เม ปจฺจามิตฺโต กุหึ คมิสฺสติ, อุภินฺนมฺปิ เนสํ สีสานิ ฉินฺทิตฺวา ชยปานํ ปิวิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา เกวลํ โสมนสฺสํ ทสฺเสนฺโต ทูตสฺส สกฺการํ กตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘สฺวาคตํ เตว เวเทห, อโถ เต อทุราคตํ;
นกฺขตฺตฺเว ปริปุจฺฉ, อหํ กฺํ ททามิ เต;
สุวณฺเณน ปฏิจฺฉนฺนํ, ทาสีคณปุรกฺขต’’นฺติ.
ตตฺถ เวเทหาติ เวเทหสฺส สาสนํ สุตฺวา ตํ ปุรโต ิตํ วิย อาลปติ. อถ วา ‘‘เอวํ พฺรหฺมทตฺเตน วุตฺตนฺติ วเทหี’’ติ ทูตํ อาณาเปนฺโต เอวมาห.
ตํ สุตฺวา ทูโต เวเทหสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, มงฺคลกิริยาย อนุจฺฉวิกํ นกฺขตฺตํ กิร ชานาหิ, ราชา เต ธีตรํ เทตี’’ติ อาห. โส ‘‘อชฺเชว นกฺขตฺตํ โสภน’’นฺติ ปุน ทูตํ ปหิณิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต ¶ จ ราชา เวเทโห, นกฺขตฺตํ ปริปุจฺฉถ;
นกฺขตฺตํ ปริปุจฺฉิตฺวา, พฺรหฺมทตฺตสฺส ปาหิณิ.
‘‘ททาหิ ทานิ เม ภริยํ, นารึ สพฺพงฺคโสภินึ;
สุวณฺเณน ปฏิจฺฉนฺนํ, ทาสีคณปุรกฺขต’’นฺติ.
จูฬนิราชาปิ –
‘‘ททามิ ทานิ เต ภริยํ, นารึ สพฺพงฺคโสภินึ;
สุวณฺเณน ปฏิจฺฉนฺนํ, ทาสีคณปุรกฺขต’’นฺติ. –
อิมํ ¶ คาถํ วตฺวา ‘‘อิทานิ เปเสมิ, อิทานิ เปเสมี’’ติ มุสาวาทํ กตฺวา เอกสตราชูนํ สฺํ อทาสิ ‘‘อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขาย เสนาย สทฺธึ สพฺเพ ยุทฺธสชฺชา หุตฺวา นิกฺขมนฺตุ, อชฺช อุภินฺนมฺปิ ปจฺจตฺถิกานํ สีสานิ ฉินฺทิตฺวา สฺเว ชยปานํ ปิวิสฺสามา’’ติ. เต สพฺเพปิ นิกฺขมึสุ. สยํ นิกฺขนฺโต ปน มาตรํ จลากเทวิฺจ อคฺคมเหสึ, นนฺทาเทวิฺจ, ปุตฺตํ ปฺจาลจนฺทฺจ, ธีตรํ ปฺจาลจนฺทิฺจาติ จตฺตาโร ชเน โอโรเธหิ สทฺธึ ปาสาเท นิวาสาเปตฺวา นิกฺขมิ. โพธิสตฺโตปิ เวเทหรฺโ เจว เตน สทฺธึ อาคตเสนาย จ มหนฺตํ สกฺการํ กาเรสิ ¶ . เกจิ มนุสฺสา สุรํ ปิวนฺติ, เกจิ มจฺฉมํสาทีนิ ขาทนฺติ, เกจิ ทูรมคฺคา อาคตตฺตา กิลนฺตา สยนฺติ. วิเทหราชา ปน เสนกาทโย จตฺตาโร ปณฺฑิเต คเหตฺวา อมจฺจคณปริวุโต อลงฺกตมหาตเล นิสีทิ.
จูฬนิราชาปิ อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขาย เสนาย สพฺพํ ตํ นครํ ติสนฺตึ จตุสงฺเขปํ ปริกฺขิปิตฺวา อเนกสตสหสฺสาหิ อุกฺกาหิ ธาริยมานาหิ อรุเณ อุคฺคจฺฉนฺเตเยว คหณสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ตฺวา มหาสตฺโต อตฺตโน โยธานํ ตีณิ สตานิ เปเสสิ ‘‘ตุมฺเห ชงฺฆอุมงฺเคน คนฺตฺวา รฺโ มาตรฺจ อคฺคมเหสิฺจ ปุตฺตฺจ ธีตรฺจ ชงฺฆอุมงฺเคน อาเนตฺวา มหาอุมงฺเคน เนตฺวา อุมงฺคทฺวารโต พหิ อกตฺวา อนฺโตอุมงฺเคเยว เปตฺวา ยาว อมฺหากํ อาคมนา รกฺขนฺตา ตตฺถ ตฺวา อมฺหากํ อาคมนกาเล อุมงฺคา นีหริตฺวา อุมงฺคทฺวาเร มหาวิสาลมาฬเก เปถา’’ติ. เต ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ชงฺฆอุมงฺเคน คนฺตฺวา โสปานปาทมูเล ผลกสนฺถรณํ อุคฺฆาเฏตฺวา โสปานปาทมูเล โสปานสีเส มหาตเลติ เอตฺตเก าเน อารกฺขมนุสฺเส จ ขุชฺชาทิปริจาริกาโย จ หตฺถปาเทสุ พนฺธิตฺวา มุขฺจ ปิทหิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ¶ เปตฺวา รฺโ ปฏิยตฺตํ ขาทนียโภชนียํ กิฺจิ ขาทิตฺวา กิฺจิ ภินฺทิตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ กตฺวา อปริโภคํ กตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา อุปริปาสาทํ อภิรุหึสุ. ตทา จลากเทวี นนฺทาเทวิฺจ ราชปุตฺตฺจ ราชธีตรฺจ คเหตฺวา ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ มฺมานา อตฺตนา สทฺธึ เอกสยเนเยว สยาเปสิ. เต โยธา คพฺภทฺวาเร ตฺวา ปกฺโกสึสุ. สา นิกฺขมิตฺวา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ อาห. ‘‘เทวิ, อมฺหากํ ราชา เวเทหฺจ มโหสธฺจ ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา สกลชมฺพุทีเป ¶ เอกรชฺชํ กตฺวา เอกสตราชปริวุโต มหนฺเตน ยเสน อชฺช มหาชยปานํ ปิวนฺโต ตุมฺเห จตฺตาโรปิ ชเน คเหตฺวา อาเนหี’’ติ อมฺเห ปหิณีติ.
เตปิ เตสํ วจนํ สทฺทหิตฺวา ปาสาทา โอตริตฺวา โสปานปาทมูลํ อคมึสุ. อถ เน คเหตฺวา ชงฺฆอุมงฺคํ ปวิสึสุ. เต อาหํสุ ‘‘มยํ เอตฺตกํ กาลํ อิธ วสนฺตา อิมํ วีถึ น โอติณฺณปุพฺพา’’ติ. ‘‘เทวิ, อิมํ วีถึ น สพฺพทา โอตรนฺติ, มงฺคลวีถิ นาเมสา, อชฺช มงฺคลทิวสภาเวน ราชา อิมินา มคฺเคน ¶ อาเนตุํ อาณาเปสี’’ติ. เต เตสํ วจนํ สทฺทหึสุ. อเถกจฺเจ เต จตฺตาโร คเหตฺวา คจฺฉึสุ. เอกจฺเจ นิวตฺติตฺวา ราชนิเวสเน รตนคพฺเภ วิวริตฺวา ยถิจฺฉิตํ รตนสารํ คเหตฺวา อาคมึสุ. อิตเรปิ จตฺตาโร ขตฺติยา ปุรโต มหาอุมงฺคํ ปตฺวา อลงฺกตเทวสภํ วิย อุมงฺคํ ทิสฺวา ‘‘รฺโ อตฺถาย สชฺชิต’’นฺติ สฺํ กรึสุ. อถ เน คงฺคาย อวิทูรานํ เนตฺวา อนฺโตอุมงฺเคเยว อลงฺกตคพฺเภ นิสีทาเปตฺวา เอกจฺเจ อารกฺขํ คเหตฺวา อจฺฉึสุ. เอกจฺเจ เตสํ อานีตภาวํ าเปตุํ คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส อาโรเจสุํ. โส เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ โสมนสฺสชาโต รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ราชาปิ กิเลสาตุรตาย ‘‘อิทานิ เม ธีตรํ เปเสสฺสติ, อิทานิ เม ธีตรํ เปเสสฺสตี’’ติ ปลฺลงฺกโต อุฏฺาย วาตปาเนน โอโลเกนฺโต อเนเกหิ อุกฺกาสตสหสฺเสหิ เอโกภาสํ ชาตํ นครํ มหติยา เสนาย ปริวุตํ ทิสฺวา อาสงฺกิตปริสงฺกิโต ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ มนฺเตนฺโต คาถมาห –
‘‘หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตี, เสนา ติฏฺนฺติ วมฺมิตา;
อุกฺกา ปทิตฺตา ฌายนฺติ, กึ นุ มฺนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ.
ตตฺถ กึ นุ มฺนฺตีติ จูฬนิราชา อมฺหากํ ตุฏฺโ, อุทาหุ กุทฺโธ, กึ นุ ปณฺฑิตา มฺนฺตีติ ปุจฺฉิ.
ตํ สุตฺวา เสนโก อาห – ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มหาราช, อติพหู อุกฺกา ปฺายนฺติ, ราชา ¶ ตุมฺหากํ ทาตุํ ธีตรํ คเหตฺวา เอติ มฺเ’’ติ. ปุกฺกุโสปิ ¶ ‘‘ตุมฺหากํ อาคนฺตุกสกฺการํ กาตุํ อารกฺขํ คเหตฺวา ิโต ภวิสฺสตี’’ติ อาห. เอวํ เตสํ ยํ ยํ รุจฺจติ, ตํ ตํ กถยึสุ. ราชา ปน ‘‘อสุกฏฺาเน เสนา ติฏฺนฺตุ, อสุกฏฺาเน อารกฺขํ คณฺหถ, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ วทนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา โอโลเกนฺโต สนฺนทฺธปฺจาวุธํ เสนํ ปสฺสิตฺวา มรณภยภีโต หุตฺวา มหาสตฺตสฺส กถํ ปจฺจาสีสนฺโต อิตรํ คาถมาห –
‘‘หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตี, เสนา ติฏฺนฺติ วมฺมิตา;
อุกฺกา ปทิตฺตา ฌายนฺติ, กึ นุ กาหนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ.
ตตฺถ กึ นุ กาหนฺติ ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิต, กึ นาม จินฺเตสิ, อิมา เสนา อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตีติ.
ตํ ¶ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อิมํ อนฺธพาลํ โถกํ สนฺตาเสตฺวา ปจฺฉา มม ปฺาพลํ ทสฺเสตฺวา อสฺสาเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘รกฺขติ ตํ มหาราช, จูฬเนยฺโย มหพฺพโล;
ปทุฏฺโ พฺรหฺมทตฺเตน, ปาโต ตํ ฆาตยิสฺสตี’’ติ.
ตํ สุตฺวา สพฺเพ มรณภยตชฺชิตา ชาตา. รฺโ กณฺโฑ สุสฺสิ มุเข เขโฬ ปริฉิชฺชิ, สรีเร ทาโห อุปฺปชฺชิ. โส มรณภยภีโต ปริเทวนฺโต ทฺเว คาถา อาห –
‘‘อุพฺเพธติ เม หทยํ, มุขฺจ ปริสุสฺสติ;
นิพฺพุตึ นาธิคจฺฉามิ, อคฺคิทฑฺโฒว อาตเป.
‘‘กมฺมารานํ ยถา อุกฺกา, อตฺโถ ฌายติ โน พหิ;
เอวมฺปิ หทยํ มยฺหํ, อนฺโต ฌายติ โน พหี’’ติ.
ตตฺถ อุพฺเพธตีติ ตาต มโหสธปณฺฑิต, หทยํ เม มหาวาตปฺปหริตํ วิย ปลฺลวํ กมฺปติ. อนฺโต ฌายตีติ โส ‘‘อุกฺกา วิย มยฺหํ หทยมํสํ อพฺภนฺตเร ฌายติ, พหิ ปน น ฌายตี’’ติ ปริเทวติ.
มหาสตฺโต ¶ ตสฺส ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ อนฺธพาโล อฺเสุ ทิวเสสุ มม วจนํ น อกาสิ, ภิยฺโย นํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘ปมตฺโต ¶ มนฺตนาตีโต, ภินฺนมนฺโตสิ ขตฺติย;
อิทานิ โข ตํ ตายนฺตุ, ปณฺฑิตา มนฺติโน ชนา.
‘‘อกตฺวามจฺจสฺส วจนํ, อตฺถกามหิเตสิโน;
อตฺตปีติรโต ราชา, มิโค กูเฏว โอหิโต.
‘‘ยถาปิ มจฺโฉ พฬิสํ, วงฺกํ มํเสน ฉาทิตํ;
อามคิทฺโธ น ชานาติ, มจฺโฉ มรณมตฺตโน.
‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, จูฬเนยฺยสฺส ธีตรํ;
กามคิทฺโธ น ชานาสิ, มจฺโฉว มรณมตฺตโน.
‘‘สเจ คจฺฉสิ ปฺจาลํ, ขิปฺปมตฺตํ ชหิสฺสสิ;
มิคํ ปนฺถานุพนฺธํว, มหนฺตํ ภยเมสฺสติ.
‘‘อนริยรูโป ปุริโส ชนินฺท, อหีว อุจฺฉงฺคคโต ฑเสยฺย;
น เตน มิตฺตึ กยิราถ ธีโร, ทุกฺโข หเว กาปุริเสน สงฺคโม.
‘‘ยเทว ¶ ชฺา ปุริสํ ชนินฺท, สีลวายํ พหุสฺสุโต;
เตเนว มิตฺตึ กยิราถ ธีโร, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติ.
ตตฺถ ปมตฺโตติ มหาราช, ตฺวํ กาเมน ปมตฺโต. มนฺตนาตีโตติ มยา อนาคตภยํ ทิสฺวา ปฺาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา มนฺติตมนฺตนํ อติกฺกมนฺโต. ภินฺนมนฺโตติ มนฺตนาติกฺกนฺตตฺตาเยว ภินฺนมนฺโต, โย วา เต เสนกาทีหิ สทฺธึ มนฺโต คหิโต, เอโส ภินฺโนติปิ ภินฺนมนฺโตสิ ชาโต. ปณฺฑิตาติ อิเม เสนกาทโย จตฺตาโร ชนา อิทานิ ตํ รกฺขนฺตุ, ปสฺสามิ เนสํ พลนฺติ ทีเปติ. อกตฺวามจฺจสฺสาติ มม อุตฺตมอมจฺจสฺส วจนํ อกตฺวา. อตฺตปีติรโตติ อตฺตโน กิเลสปีติยา อภิรโต หุตฺวา. มิโค กูเฏว โอหิโตติ ยถา นาม นิวาปโลเภน อาคโต มิโค ¶ กูฏปาเส พชฺฌติ, เอวํ มม วจนํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ปฺจาลจนฺทึ ¶ ลภิสฺสามี’’ติ กิเลสโลเภน อาคนฺตฺวา อิทานิ กูฏปาเส พทฺโธ มิโค วิย ชาโตสีติ.
‘‘ยถาปิ มจฺโจ’’ติ คาถาทฺวยํ ‘‘ตทา มยา อยํ อุปมา อาภตา’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ‘‘สเจ คจฺฉสี’’ติ คาถาปิ ‘‘น เกวลํ เอตฺตกเมว, อิมมฺปิ อหํ อาหริ’’นฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตา. อนริยรูโปติ เกวฏฺฏพฺราหฺมณสทิโส อสปฺปุริสชาติโก นิลฺลชฺชปุริโส. น เตน มิตฺตินฺติ ตาทิเสน สทฺธึ มิตฺติธมฺมํ น กยิราถ, ตฺวํ ปน เกวฏฺเฏน สทฺธึ มิตฺติธมฺมํ กตฺวา ตสฺส วจนํ คณฺหิ. ทุกฺโขติ เอวรูเปน สทฺธึ สงฺคโม นาม เอกวารมฺปิ กโต อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ มหาทุกฺขาวหนโต ทุกฺโข นาม โหติ. ยเทวาติ ยํ เอว, อยเมว วา ปาโ. สุโขติ อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ สุโขเยว.
อถ นํ ‘‘ปุน เอวรูปํ กริสฺสตี’’ติ สุฏฺุตรํ นิคฺคณฺหนฺโต ปุพฺเพ รฺา กถิตกถํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต –
‘‘พาโล ตุวํ เอฬมูโคสิ ราช, โย อุตฺตมตฺถานิ มยี ลปิตฺโถ;
กิเมวหํ นงฺคลโกฏิวฑฺโฒ, อตฺถานิ ชานามิ ยถาปิ อฺเ.
‘‘อิมํ คเล คเหตฺวาน, นาเสถ วิชิตา มม;
โย เม รตนลาภสฺส, อนฺตรายาย ภาสตี’’ติ. –
อิมา ทฺเว คาถา วตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ คหปติปุตฺโต, ยถา ตว อฺเ เสนกาทโย ปณฺฑิตา อตฺถานิ ชานนฺติ, ตถา กิเมว อหํ ชานิสฺสํ, อโคจโร เอส มยฺหํ, คหปติสิปฺปเมวาหํ ชานามิ, อยํ อตฺโถ เสนกาทีนํ ปณฺฑิตานํ ปากโฏ โหติ, อชฺช เต อฏฺารสอกฺโขภณิสงฺขาย ¶ เสนาย ปริวาริตสฺส เสนกาทโย อวสฺสยา โหนฺตุ, มํ ปน คีวายํ คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒิตุํ อาณาเปสิ, อิทานิ มํ กสฺมา ปุจฺฉสี’’ติ เอวํ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหิ.
ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ ‘‘ปณฺฑิโต มยา กถิตโทสเมว กเถติ. ปุพฺเพว หิ อิทํ อนาคตภยํ ชานิ, เตน มํ อติวิย นิคฺคณฺหาติ, น โข ¶ ปนายํ เอตฺตกํ กาลํ นิกฺกมฺมโกว ¶ อจฺฉิสฺสติ, อวสฺสํ อิมินา มยฺหํ โสตฺถิภาโว กโต ภวิสฺสตี’’ติ. อถ นํ ปริคฺคณฺหนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘มโหสธ อตีเตน, นานุวิชฺฌนฺติ ปณฺฑิตา,
กึ มํ อสฺสํว สมฺพทฺธํ, ปโตเทเนว วิชฺฌสิ.
‘‘สเจ ปสฺสสิ โมกฺขํ วา, เขมํ วา ปน ปสฺสสิ;
เตเนว มํ อนุสาส, กึ อตีเตน วิชฺฌสี’’ติ.
ตตฺถ นานุวิชฺฌนฺตีติ อตีตโทสํ คเหตฺวา มุขสตฺตีหิ น วิชฺฌนฺติ. อสฺสํว สมฺพทฺธนฺติ สตฺตุเสนาย ปริวุตตฺตา สุฏฺุ พนฺธิตฺวา ปิตํ อสฺสํ วิย กึ มํ วิชฺฌสิ. เตเนว มนฺติ เอวํ เต โมกฺโข ภวิสฺสติ, เอวํ เขมนฺติ เตเนว โสตฺถิภาเวน มํ อนุสาส อสฺสาเสหิ, ตฺหิ เปตฺวา อฺํ เม ปฏิสรณํ นตฺถีติ.
อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘อยํ ราชา อติวิย อนฺธพาโล, ปุริสวิเสสํ น ชานาติ, โถกํ กิลเมตฺวา ปจฺฉา ตสฺส อวสฺสโย ภวิสฺสมี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘อตีตํ มานุสํ กมฺมํ, ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวํ;
น ตํ สกฺโกปิ โมเจตุํ, ตฺวํ ปชานสฺสุ ขตฺติย.
‘‘สนฺติ เวหายสา นาคา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;
เตปิ อาทาย คจฺเฉยฺยุํ, ยสฺส โหนฺติ ตถาวิธา.
‘‘สนฺติ เวหายสา อสฺสา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;
เตปิ อาทาย คจฺเฉยฺยุํ, ยสฺส โหนฺติ ตถาวิธา.
‘‘สนฺติ เวหายสา ปกฺขี, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;
เตปิ อาทาย คจฺเฉยฺยุํ, ยสฺส โหนฺติ ตถาวิธา.
‘‘สนฺติ เวหายสา ยกฺขา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;
เตปิ อาทาย คจฺเฉยฺยุํ, ยสฺส โหนฺติ ตถาวิธา.
‘‘อตีตํ ¶ มานุสํ กมฺมํ, ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวํ;
น ตํ สกฺโกมิ โมเจตุํ, อนฺตลิกฺเขน ขตฺติยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ กมฺมนฺติ มหาราช, อิทํ อิโต ตว โมจนํ นาม อตีตํ, มนุสฺเสหิ กตฺตพฺพกมฺมํ อตีตํ. ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวนฺติ เนว กาตุํ, น สมฺภวิตุํ สกฺกา. น ตํ สกฺโกมีติ อหํ ตํ อิโต โมเจตุํ น สกฺโกมิ. ตฺวํ ปชานสฺสุ ขตฺติยาติ มหาราช, ตฺวเมเวตฺถ กตฺตพฺพํ ชานสฺสุ. เวหายสาติ อากาเสน คมนสมตฺถา. นาคาติ หตฺถิโน. ยสฺสาติ ยสฺส รฺโ. ตถาวิธาติ ฉทฺทนฺตกุเล วา อุโปสถกุเล วา ชาตา นาคา โหนฺติ, ตํ ราชานํ เต อาทาย คจฺเฉยฺยุํ. อสฺสาติ วลาหกอสฺสราชกุเล ชาตา อสฺสา. ปกฺขีติ ครุฬฺหํ สนฺธายาห. ยกฺขาติ สาตาคิราทโย ยกฺขา. อนฺตลิกฺเขนาติ อนฺตลิกฺเขน โมเจตุํ น สกฺโกมิ, ตํ อาทาย อากาเสน มิถิลํ เนตุํ น สกฺโกมีติ อตฺโถ.
ราชา ตํ สุตฺวา อปฺปฏิภาโน นิสีทิ. อถ เสนโก จินฺเตสิ ‘‘อิทานิ รฺโ เจว อมฺหากฺจ เปตฺวา ปณฺฑิตํ อฺํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, ราชา ปนสฺส กถํ สุตฺวา มรณภยตชฺชิโต กิฺจิ วตฺตุํ น สกฺโกติ, อหํ ปณฺฑิตํ ยาจิสฺสามี’’ติ. โส ยาจนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อตีรทสฺสี ปุริโส, มหนฺเต อุทกณฺณเว;
ยตฺถ โส ลภเต คาธํ, ตตฺถ โส วินฺทเต สุขํ.
‘‘เอวํ อมฺหฺจ รฺโ จ, ตฺวํ ปติฏฺา มโหสธ;
ตฺวํ โนสิ มนฺตินํ เสฏฺโ, อมฺเห ทุกฺขา ปโมจยา’’ติ.
ตตฺถ อตีรทสฺสีติ สมุทฺเท ภินฺนนาโว ตีรํ อปสฺสนฺโต. ยตฺถาติ อูมิเวคพฺภาหโต วิจรนฺโต ยมฺหิ ปเทเส ปติฏฺํ ลภติ. ปโมจยาติ ปุพฺเพปิ มิถิลํ ปริวาเรตฺวา ิตกาเล ตยาว ปโมจิตมฺหา, อิทานิปิ ตฺวเมว อมฺเห ทุกฺขา โมเจหีติ ยาจิ.
อถ นํ นิคฺคณฺหนฺโต มหาสตฺโต คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อตีตํ ¶ มานุสํ กมฺมํ, ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวํ;
น ตํ สกฺโกมิ โมเจตุํ, ตฺวํ ปชานสฺสุ เสนกา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปชานสฺสุ เสนกาติ เสนก, อหํ น สกฺโกมิ, ตฺวํ ปน อิมํ ราชานํ อากาเสน มิถิลํ เนหีติ.
ราชา คเหตพฺพคหณํ อปสฺสนฺโต มรณภยตชฺชิโต มหาสตฺเตน สทฺธึ กเถตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘กทาจิ เสนโกปิ กิฺจิ อุปายํ ชาเนยฺย, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –
‘‘สุโณหิ เมตํ วจนํ, ปสฺส เสนํ มหพฺภยํ;
เสนกํ ทานิ ปุจฺฉามิ, กึ กิจฺจํ อิธ มฺสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ กึ กิจฺจนฺติ กึ กาตพฺพยุตฺตกํ อิธ มฺสิ, มโหสเธนมฺหิ ปริจฺจตฺโต, ยทิ ตฺวํ ชานาสิ, วเทหีติ.
ตํ สุตฺวา เสนโก ‘‘มํ ราชา อุปายํ ปุจฺฉติ, โสภโน วา โหตุ มา วา, กเถสฺสามิ เอกํ อุปาย’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –
‘‘อคฺคึ วา ทฺวารโต เทม, คณฺหามเส วิกนฺตนํ;
อฺมฺํ วธิตฺวาน, ขิปฺปํ หิสฺสาม ชีวิตํ;
มา โน ราชา พฺรหฺมทตฺโต, จิรํ ทุกฺเขน มารยี’’ติ.
ตตฺถ ทฺวารโตติ ทฺวารํ ปิทหิตฺวา ตตฺถ อคฺคึ เทม. วิกนฺตนนฺติ อฺมฺํ วิกนฺตนํ สตฺถํ คณฺหาม. หิสฺสามาติ ชีวิตํ ขิปฺปํ ชหิสฺสาม, อลงฺกตปาสาโทเยว โน ทารุจิตโก ภวิสฺสติ.
ตํ สุตฺวา ราชา อนตฺตมโน ‘‘อตฺตโน ปุตฺตทารสฺส เอวรูปํ จิตกํ กโรหี’’ติ วตฺวา ปุกฺกุสาทโย ปุจฺฉิ. เตปิ อตฺตโน ปติรูปา พาลกถาเยว กถยึสุ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สุโณหิ ¶ เมตํ วจนํ, ปสฺส เสนํ มหพฺภยํ;
ปุกฺกุสํ ทานิ ปุจฺฉามิ, กึ กิจฺจํ อิธ มฺสิ.
‘‘วิสํ ขาทิตฺวา มียาม, ขิปฺปํ หิสฺสาม ชีวิตํ;
มา โน ราชา พฺรหฺมทตฺโต, จิรํ ทุกฺเขน มารยิ.
‘‘สุโณหิ เมตํ วจนํ, ปสฺส เสนํ มหพฺภยํ;
กามินฺทํ ทานิ ปุจฺฉามิ, กึ กิจฺจํ อิธ มฺสิ.
‘‘รชฺชุยา ¶ พชฺฌ มียาม, ปปาตา ปปตามเส;
มา โน ราชา พฺรหฺมทตฺโต, จิรํ ทุกฺเขน มารยิ.
‘‘สุโณหิ เมตํ วจนํ, ปสฺส เสนํ มหพฺภยํ;
เทวินฺทํ ทานิ ปุจฺฉามิ, กึ กิจฺจํ อิธ มฺสิ.
‘‘อคฺคึ วา ทฺวารโต เทม, คณฺหามเส วิกนฺตนํ;
อฺมฺํ วธิตฺวาน, ขิปฺปํ หิสฺสาม ชีวิตํ;
น โน สกฺโกติ โมเจตุํ, สุเขเนว มโหสโธ’’ติ.
อปิจ เอเตสุ เทวินฺโท ‘‘อยํ ราชา กึ กโรติ, อคฺคิมฺหิ สนฺเต ขชฺโชปนกํ ธมติ, เปตฺวา มโหสธํ อฺโ อิธ โสตฺถิภาวํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อยํ ตํ อปุจฺฉิตฺวา ¶ อมฺเห ปุจฺฉติ, มยํ กึ ชานามา’’ติ จินฺเตตฺวา อฺํ อุปายํ อปสฺสนฺโต เสนเกน กถิตเมว กเถตฺวา มหาสตฺตํ วณฺเณนฺโต ทฺเว ปาเท อาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ‘‘มหาราช, มยํ สพฺเพปิ ปณฺฑิตเมว ยาจาม. สเจ ปน ยาจิยมาโนปิ น โน สกฺโกติ โมเจตุํ สุเขเนว มโหสโธ, อถ เสนกสฺส วจนํ กริสฺสามา’’ติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ปุพฺเพ โพธิสตฺตสฺส กถิตโทสํ สริตฺวา เตน สทฺธึ กเถตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺส สุณนฺตสฺเสว ปริเทวนฺโต อาห –
‘‘ยถา ¶ กทลิโน สารํ, อนฺเวสํ นาธิคจฺฉติ;
เอวํ อนฺเวสมานา นํ, ปฺหํ นชฺฌคมามเส.
‘‘ยถา สิมฺพลิโน สารํ, อนฺเวสํ นาธิคจฺฉติ;
เอวํ อนฺเวสมานา นํ, ปฺหํ นชฺฌคมามเส.
‘‘อเทเส วต โน วุฏฺํ, กฺุชรานํ วโนทเก;
สกาเส ทุมฺมนุสฺสานํ, พาลานํ อวิชานตํ.
‘‘อุพฺเพธติ เม หทยํ, มุขฺจ ปริสุสฺสติ;
นิพฺพุตึ นาธิคจฺฉามิ, อคฺคิทฑฺโฒว อาตเป.
‘‘กมฺมารานํ ¶ ยถา อุกฺกา, อนฺโต ฌายติ โน พหิ;
เอวมฺปิ หทยํ มยฺหํ, อนฺโต ฌายติ โน พหี’’ติ.
ตตฺถ กทลิโนติ ยถา กทลิกฺขนฺธสฺส นิสฺสารตฺตา สารตฺถิโก ปุริโส อนฺเวสนฺโตปิ ตโต สารํ นาธิคจฺฉติ, เอวํ มยํ อิมมฺหา ทุกฺขา มุจฺจนุปายํ ปฺหํ ปฺจ ปณฺฑิเต ปุจฺฉิตฺวา อนฺเวสมานาปิ ปฺหํ นชฺฌคมามเส. อมฺเหหิ ปุจฺฉิตํ อุปายํ อชานนฺตา อสฺสุณนฺตา วิย ชาตา, มยํ ตํ ปฺหํ นาธิคจฺฉาม. ทุติยคาถายปิ เอเสว นโย. กฺุชรานํ วโนทเกติ ยถา กฺุชรานํ นิรุทเก าเน วุฏฺํ อเทเส วุฏฺํ นาม โหติ, เต หิ ตถารูเป นิรุทเก วนคหเน ปเทเส วสนฺตา ขิปฺปเมว ปจฺจามิตฺตานํ วสํ คจฺฉนฺติ, เอวํ อมฺเหหิปิ อิเมสํ ทุมฺมนุสฺสานํ พาลานํ สนฺติเก วสนฺเตหิ อเทเส วุฏฺํ. เอตฺตเกสุ หิ ปณฺฑิเตสุ เอโกปิ เม อิทานิ ปฏิสรณํ นตฺถีติ นานาวิเธน วิลปติ.
ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต ‘‘อยํ ราชา อติวิย กิลมติ. สเจ นํ น อสฺสาเสสฺสามิ, หทเยน ผลิเตน มริสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อสฺสาเสสิ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตโต โส ปณฺฑิโต ธีโร, อตฺถทสฺสี มโหสโธ;
เวเทหํ ทุกฺขิตํ ทิสฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘มา ¶ ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
อหํ ตํ โมจยิสฺสามิ, ราหุคฺคหํว จนฺทิมํ.
‘‘มา ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
อหํ ตํ โมจยิสฺสามิ, ราหุคฺคหํว สูริยํ.
‘‘มา ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
อหํ ตํ โมจยิสฺสามิ, ปงฺเก สนฺนํว กฺุชรํ.
‘‘มา ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
อหํ ตํ โมจยิสฺสามิ, เปฬาพทฺธํว ปนฺนคํ.
‘‘มา ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
อหํ ตํ โมจยิสฺสามิ, ปกฺขึ พทฺธํว ปฺชเร.
‘‘มา ¶ ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
อหํ ตํ โมจยิสฺสามิ, มจฺเฉ ชาลคเตริว.
‘‘มา ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
อหํ ตํ โมจยิสฺสามิ, สโยคฺคพลวาหนํ.
‘‘มา ตฺวํ ภายิ มหาราช, มา ตฺวํ ภายิ รเถสภ;
ปฺจาลํ วาหยิสฺสามิ, กากเสนํว เลฑฺฑุนา.
‘‘อทุ ปฺา กิมตฺถิยา, อมจฺโจ วาปิ ตาทิโส;
โย ตํ สมฺพาธปกฺขนฺทํ, ทุกฺขา น ปริโมจเย’’ติ.
ตตฺถ อิทนฺติ ทวฑาหทฑฺเฒ อรฺเ ฆนวสฺสํ วสฺสาเปนฺโต วิย นํ อสฺสาเสนฺโต อิทํ ‘‘มา ตฺวํ ภายิ, มหาราชา’’ติอาทิกํ วจนํ อพฺรวิ. ตตฺถ สนฺนนฺติ ลคฺคํ. เปฬาพทฺธนฺติ เปฬาย อพฺภนฺตรคตํ สปฺปํ. ปฺจาลนฺติ เอตํ เอวํ มหนฺติมฺปิ ปฺจาลรฺโ เสนํ. วาหยิสฺสามีติ ปลาเปสฺสามิ ¶ . อทูติ นามตฺเถ นิปาโต, ปฺา นาม กิมตฺถิยาติ อตฺโถ. อมจฺโจ วาปิ ตาทิโสติ ตาทิโส ปฺาย สมฺปนฺโน อมจฺโจ วาปิ กิมตฺถิโย, โย ตํ เอวํ มรณสมฺพาธปฺปตฺตํ ทุกฺขา น ปริโมจเย. มหาราช, อหํ ปมตรํ อาคจฺฉนฺโต นาม กิมตฺถํ อาคโตติ มฺสิ. มา ภายิ, อหํ ตํ อิมมฺหา ทุกฺขา โมจยิสฺสามีติ อสฺสาเสสิ.
โสปิ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อิทานิ เม ชีวิตํ ลทฺธ’’นฺติ อสฺสาสํ ปฏิลภิ. โพธิสตฺเตน สีหนาเท กเต สพฺเพ จ ตุสฺสึสุ. อถ นํ เสนโก ปุจฺฉิ ‘‘ปณฺฑิต, ตฺวํ สพฺเพ อมฺเห คเหตฺวา คจฺฉนฺโต เกนุปาเยน คมิสฺสสี’’ติ? ‘‘อลงฺกตอุมงฺเคน เนสฺสามิ, ตุมฺเห คมนสชฺชา โหถา’’ติ วตฺวา อุมงฺคทฺวารวิวรณตฺถํ โยเธ อาณาเปนฺโต คาถมาห –
‘‘เอถ ¶ มาณวา อุฏฺเถ, มุขํ โสเธถ สนฺธิโน;
เวเทโห สหมจฺเจหิ, อุมงฺเคน คมิสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ มาณวาติ ตรุณาธิวจนํ. มุขํ โสเธถาติ อุมงฺคทฺวารํ วิวรถ. สนฺธิโนติ ฆรสนฺธิโน จ ทฺวารํ โสเธถ, เอกสตานํ สยนคพฺภานํ ทฺวารํ วิวรถ, อเนกสตานํ ทีปาลยานํ ทฺวารํ วิวรถาติ.
เต ¶ อุฏฺาย อุมงฺคทฺวารํ วิวรึสุ. สกโล อุมงฺโค เอโกภาโส อลงฺกตเทวสภา วิย วิโรจิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ปณฺฑิตสฺสานุจาริโน;
อุมงฺคทฺวารํ วิวรึสุ, ยนฺตยุตฺเต จ อคฺคเฬ’’ติ.
ตตฺถ อนุจาริโนติ เวยฺยาวจฺจกรา. ยนฺตยุตฺเต จ อคฺคเฬติ สูจิฆฏิกสมฺปนฺนานิ จ ทฺวารกวาฏานิ.
เต อุมงฺคทฺวารํ วิวริตฺวา มหาสตฺตสฺส อาโรเจสุํ. โส รฺโ สฺมทาสิ ‘‘กาโล, เทว, ปาสาทา โอตรถา’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา โอตริ. อถ เสนโก สีสโต นาฬิปฏฺฏํ อปเนตฺวา สาฏกํ โอมฺุจิตฺวา กจฺฉํ ทฬฺหํ พนฺธิ. อถ นํ มหาสตฺโต ทิสฺวา ‘‘เสนก, กึ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปณฺฑิต, อุมงฺเคน คจฺฉนฺเตหิ นาม เวนํ โมเจตฺวา กจฺฉํ ทฬฺหํ พนฺธิตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ ¶ . ‘‘เสนก, ‘อุมงฺคํ ปวิสนฺโต โอนมิตฺวา ชณฺณุเกหิ ปติฏฺาย ปวิสิสฺสามี’ติ มา สฺมกาสิ. สเจ หตฺถินา คนฺตุกาโมสิ, หตฺถึ อภิรุยฺห คจฺฉาหิ. สเจ อสฺเสน คนฺตุกาโมสิ, อสฺสํ อภิรุยฺห คจฺฉาหิ. อุจฺโจ อุมงฺโค อฏฺารสหตฺถุพฺเพโธ วิสาลทฺวาโร, ตฺวํ ยถารุจิยา อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต รฺโ ปุรโต คจฺฉาหี’’ติ อาห. โพธิสตฺโต กิร เสนกสฺส คมนํ ปุรโต วิจาเรตฺวา ราชานํ มชฺเฌ กตฺวา สยํ ปจฺฉโต อโหสิ. กึ การณา? ราชา อลงฺกตอุมงฺคํ โอโลเกนฺโต มา สณิกํ อคมาสีติ. อุมงฺเค มหาชนสฺส ยาคุภตฺตขาทนียาทีนิ อปฺปมาณานิ อเหสุํ. เต มนุสฺสา ขาทนฺตา ปิวนฺตา อุมงฺคํ โอโลเกนฺตา คจฺฉนฺติ. มหาสตฺโต ‘‘ยาถ มหาราช, ยาถ มหาราชา’’ติ โจเทนฺโต ปจฺฉโต ยาติ. ราชา อลงฺกตเทวสภํ วิย อุมงฺคํ โอโลเกนฺโต ยาติ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘ปุรโต เสนโก ยาติ, ปจฺฉโต จ มโหสโธ;
มชฺเฌ จ ราชา เวเทโห, อมจฺจปริวาริโต’’ติ.
รฺโ ¶ อาคตภาวํ ตฺวา เต มาณวา ราชมาตรฺจ เทวิฺจ ปุตฺตฺจ ธีตรฺจ อุมงฺคา นีหริตฺวา มหาวิสาลมาฬเก เปสุํ. ราชาปิ โพธิสตฺเตน สทฺธึ อุมงฺคา นิกฺขมิ. เต ราชานฺจ ปณฺฑิตฺจ ทิสฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ ปรหตฺถํ คตมฺหา, อมฺเห คเหตฺวา อาคเตหิ ปณฺฑิตสฺส ปุริเสหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ มรณภยตชฺชิตา มหาวิรวํ วิรวึสุ. จูฬนิราชาปิ กิร เวเทหรฺโ ปลายนภเยน คงฺคาโต คาวุตมตฺตฏฺาเน อฏฺาสิ. โส สนฺนิสินฺนาย รตฺติยา เตสํ วิรวํ สุตฺวา ‘‘นนฺทาเทวิยา วิย สทฺโท’’ติ วตฺตุกาโมปิ ‘‘กุหึ นนฺทาเทวึ ปสฺสิสฺสสี’’ติ ปริหาสภเยน น กิฺจิ อาห. มหาสตฺโต ปน ตสฺมึ าเน ปฺจาลจนฺทึ กุมาริกํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิฺจิตฺวา ‘‘มหาราช, ตฺวํ อิมิสฺสา การณา อาคโต, อยํ เต อคฺคมเหสี โหตู’’ติ อาห. ตีณิ นาวาสตานิ อุปฏฺาเปสุํ, ราชา วิสาลมาฬกา โอตริตฺวา อลงฺกตนาวํ อภิรุหิ. เตปิ จตฺตาโร ขตฺติยา นาวํ อภิรุหึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘อุมงฺคา นิกฺขมิตฺวาน, เวเทโห นาวมารุหิ;
อภิรุฬฺหฺจ ตํ ตฺวา, อนุสาสิ มโหสโธ.
‘‘อยํ เต สสุโร เทว, อยํ สสฺสุ ชนาธิป;
ยถา มาตุ ปฏิปตฺติ, เอวํ เต โหตุ สสฺสุยา.
‘‘ยถาปิ ¶ นิยโก ภาตา, สอุทริโย เอกมาตุโก;
เอวํ ปฺจาลจนฺโท เต, ทยิตพฺโพ รเถสภ.
‘‘อยํ ปฺจาลจนฺที เต, ราชปุตฺตี อภิจฺฉิตา;
กามํ กโรหิ เต ตาย, ภริยา เต รเถสภา’’ติ.
ตตฺถ อนุสาสีติ เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘กทาจิ เอโส กุชฺฌิตฺวา จูฬนิรฺโ มาตรํ มาเรยฺย, อภิรูปาย นนฺทาเทวิยา สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปยฺย, ราชกุมารํ วา มาเรยฺย, ปฏิฺมสฺส คณฺหิสฺสามี’’ติ. ตสฺมา ‘‘อยํ เต’’ติอาทีนิ วทนฺโต อนุสาสิ. ตตฺถ อยํ เต สสุโรติ อยํ ตว สสุรสฺส จูฬนิรฺโ ปุตฺโต ปฺจาลจนฺทิยา กนิฏฺภาติโก, อยํ เต อิทานิ สสุโร. อยํ สสฺสูติ อยํ อิมิสฺสา มาตา นนฺทาเทวี นาม ตว สสฺสุ. ยถามาตูติ ยถา มาตุ ปุตฺตา วตฺตปฺปฏิวตฺตํ กโรนฺติ ¶ , เอวํ ¶ เต เอติสฺสา โหตุ, พลวตึ มาตุสฺํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา มา นํ กทาจิ โลภจิตฺเตน โอโลเกหิ. นิยโกติ อชฺฌตฺติโก เอกปิตรา ชาโต. เอกมาตุโกติ เอกมาตรา ชาโต. ทยิตพฺโพติ ปิยายิตพฺโพ. ภริยาติ อยํ เต ภริยา, มา เอติสฺสา อวมานํ อกาสีติ รฺโ ปฏิฺํ คณฺหิ.
ราชาปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ราชมาตรํ ปน อารพฺภ กิฺจิ น กเถสิ. กึ การณา? ตสฺสา มหลฺลกภาเวเนว. อิทํ ปน สพฺพํ โพธิสตฺโต ตีเร ตฺวาว กเถสิ. อถ นํ ราชา มหาทุกฺขโต มุตฺตตาย คนฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ ตีเร ิโตว กเถสี’’ติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘อารุยฺห นาวํ ตรมาโน, กึ นุ ตีรมฺหิ ติฏฺสิ;
กิจฺฉา มุตฺตามฺห ทุกฺขโต, ยาม ทานิ มโหสธา’’ติ.
มหาสตฺโต ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ สทฺธึ คมนํ นาม มยฺหํ อยุตฺต’’นฺติ วตฺวา อาห –
‘‘เนส ธมฺโม มหาราช, โยหํ เสนาย นายโก;
เสนงฺคํ ปริหาเปตฺวา, อตฺตานํ ปริโมจเย.
‘‘นิเวสนมฺหิ ¶ เต เทว, เสนงฺคํ ปริหาปิตํ;
ตํ ทินฺนํ พฺรหฺมทตฺเตน, อานยิสฺสํ รเถสภา’’ติ.
ตตฺถ ธมฺโมติ สภาโว. นิเวสนมฺหีติ ตํ นครํ สนฺธายาห. ปริโมจเยติ ปริโมเจยฺยํ. ปริหาปิตนฺติ ฉฑฺฑิตํ. เตสุ หิ มนุสฺเสสุ ทูรมคฺคํ อาคตตฺตา เกจิ กิลนฺตา นิทฺทํ โอกฺกนฺตา เกจิ ขาทนฺตา ปิวนฺตา อมฺหากํ นิกฺขนฺตภาวมฺปิ น ชานึสุ, เกจิ คิลานา. มยา สทฺธึ จตฺตาโร มาเส กมฺมํ กตฺวา มม อุปการกา มนุสฺสา เจตฺถ พหู, น สกฺกา มยา เอกมนุสฺสมฺปิ ฉฑฺเฑตฺวา คนฺตุํ, อหํ ปน นิวตฺติตฺวา สพฺพมฺปิ ตํ ตว เสนํ พฺรหฺมทตฺเตน ทินฺนํ อปฺปฏิวิทฺธํ อาเนสฺสามิ. ตุมฺเห, มหาราช, กตฺถจิ อวิลมฺพนฺตา สีฆํ คจฺฉถ. มยา เอวา อนฺตรามคฺเค หตฺถิวาหนาทีนิ ปิตานิ, กิลนฺตกิลนฺตานิ ปหาย สมตฺถสมตฺเถหิ สีฆํ มิถิลเมว ปวิสถาติ.
ตโต ¶ ราชา คาถมาห –
‘‘อปฺปเสโน มหาเสนํ, กถํ วิคฺคยฺห สฺสสิ;
ทุพฺพโล พลวนฺเตน, วิหฺิสฺสสิ ปณฺฑิตา’’ติ.
ตตฺถ ¶ วิคฺคยฺหาติ ปริปฺผริตฺวา. วิหฺิสฺสสีติ หฺิสฺสสิ.
ตโต โพธิสตฺโต อาห –
‘‘อปฺปเสโนปิ เจ มนฺตี, มหาเสนํ อมนฺตินํ;
ชินาติ ราชา ราชาโน, อาทิจฺโจวุทยํ ตม’’นฺติ.
ตตฺถ มนฺตีติ มนฺตาย สมนฺนาคโต ปฺวา อุปายกุสโล. อมนฺตินนฺติ อนุปายกุสลํ ชินาติ, ปฺวา ทุปฺปฺํ ชินาติ. ราชา ราชาโนติ เอโกปิ จ เอวรูโป ราชา พหูปิ ทุปฺปฺราชาโน ชินาติเยว. ยถา กินฺติ? อาทิจฺโจวุทยํ ตมนฺติ, ยถา อาทิจฺโจ อุทยนฺโต ตมํ วิทฺธํเสตฺวา อาโลกํ ทสฺเสติ, เอวํ ชินาติ เจว สูริโย วิย วิโรจติ จ.
อิทํ วตฺวา มหาสตฺโต ราชานํ ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ วนฺทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ‘‘มุตฺโต วตมฺหิ ¶ อมิตฺตหตฺถโต, อิมิสฺสา จ ลทฺธตฺตา มโนรโถปิ เม มตฺถกํ ปตฺโต’’ติ โพธิสตฺตสฺส คุเณ อาวชฺเชตฺวา อุปฺปนฺนปีติปาโมชฺโช ปณฺฑิตสฺส คุเณ เสนกสฺส กเถนฺโต คาถมาห –
‘‘สุสุขํ วต สํวาโส, ปณฺฑิเตหีติ เสนก;
ปกฺขีว ปฺชเร พทฺเธ, มจฺเฉ ชาลคเตริว;
อมิตฺตหตฺถตฺตคเต, โมจยี โน มโหสโธ’’ติ.
ตตฺถ สุสุขํ วตาติ อติสุขํ วต อิทํ, โย สํวาโส ปณฺฑิเตหิ. อิตีติ การณตฺเถ นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา อมิตฺตหตฺถคเต โมจยิ โน มโหสโธ, ตสฺมา, เสนก, วทามิ. สุสุขํ วต อิทํ, โย เอส ปณฺฑิเตหิ สํวาโสติ.
ตํ ¶ สุตฺวา เสนโกปิ ปณฺฑิตสฺส คุเณ กเถนฺโต อาห –
‘‘เอวเมตํ มหาราช, ปณฺฑิตา หิ สุขาวหา;
ปกฺขีว ปฺชเร พทฺเธ, มจฺเฉ ชาลคเตริว;
อมิตฺตหตฺถตฺตคเต, โมจยี โน มโหสโธ’’ติ.
อถ เวเทหราชา นทึ อุตฺตริตฺวา โยชนนฺตเร โยชนนฺตเร มหาสตฺเตน การิตคามํ สมฺปตฺโต. ตตฺรสฺส โพธิสตฺเตน ปิตมนุสฺสา หตฺถิวาหนาทีนิ เจว อนฺนปานาทีนิ จ อทํสุ. โส กิลนฺเต หตฺถิอสฺสรถาทโย เปตฺวา อิตเร อาทาย เตหิ สทฺธึ อฺํ คามํ ปาปุณิ. เอเตนุปาเยน โยชนสติกํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว มิถิลํ ปาวิสิ. มหาสตฺโตปิ อุมงฺคทฺวารํ คนฺตฺวา ¶ อตฺตนา สนฺนทฺธขคฺคํ โอมฺุจิตฺวา อุมงฺคทฺวาเร วาลุกํ วิยูหิตฺวา เปสิ. เปตฺวา จ ปน อุมงฺคํ ปวิสิตฺวา อุมงฺเคน คนฺตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทํ อภิรุยฺห คนฺโธทเกน นฺหตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา สยนวรคโต ‘‘มโนรโถ เม มตฺถกํ ปตฺโต’’ติ อาวชฺเชนฺโต นิปชฺชิ. อถ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน จูฬนิราชา เสนงฺคํ วิจารยมาโน ตํ นครํ อุปาคมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘รกฺขิตฺวา กสิณํ รตฺตึ, จูฬเนยฺโย มหพฺพโล;
อุเทนฺตํ อรุณุคฺคสฺมึ, อุปการึ อุปาคมิ.
‘‘อารุยฺห ¶ ปวรํ นาคํ, พลวนฺตํ สฏฺิหายนํ;
ราชา อโวจ ปฺจาโล, จูฬเนยฺโย มหพฺพโล.
‘‘สนฺนทฺโธ มณิวมฺเมน, สรมาทาย ปาณินา;
เปสิเย อชฺฌภาสิตฺถ, ปุถุคุมฺเพ สมาคเต’’ติ.
ตตฺถ กสิณนฺติ สกลํ นิสฺเสสํ. อุเทนฺตนฺติ อุเทนฺเต. อุปการินฺติ ปฺจาลนครํ อุปาทาย มหาสตฺเตนการิตตฺตา ‘‘อุปการี’’ติ ลทฺธนามกํ ตํ นครํ อุปาคมิ. อโวจาติ อตฺตโน เสนํ อโวจ. เปสิเยติ อตฺตโน เปสนการเก. อชฺฌภาสิตฺถาติ อธิอภาสิตฺถ, ปุเรตรเมว อภาสิตฺถ, ปุถุคุมฺเพติ พหูสุ สิปฺเปสุ ปติฏฺิเต อเนกสิปฺปชานนเกติ.
อิทานิ ¶ เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห –
‘‘หตฺถาโรเห อนีกฏฺเ, รถิเก ปตฺติการเก;
อุปาสนมฺหิ กตหตฺเถ, วาลเวเธ สมาคเต’’ติ.
ตตฺถ อุปาสนมฺหีติ ธนุสิปฺเป. กตหตฺเถติ อวิรชฺฌนเวธิตาย สมฺปนฺนหตฺเถ.
อิทานิ ราชา เวเทหํ ชีวคฺคาหํ คณฺหาเปตุํ อาณาเปนฺโต อาห –
‘‘เปเสถ กฺุชเร ทนฺตี, พลวนฺเต สฏฺิหายเน;
มทฺทนฺตุ กฺุชรา นครํ, เวเทเหน สุมาปิตํ.
‘‘วจฺฉทนฺตมุขา เสตา, ติกฺขคฺคา อฏฺิเวธิโน;
ปณุนฺนา ธนุเวเคน, สมฺปตนฺตุตรีตรา.
‘‘มาณวา วมฺมิโน สูรา, จิตฺรทณฺฑยุตาวุธา;
ปกฺขนฺทิโน มหานาคา, หตฺถีนํ โหนฺตุ สมฺมุขา.
‘‘สตฺติโย ¶ เตลโธตาโย, อจฺจิมนฺตา ปภสฺสรา;
วิชฺโชตมานา ติฏฺนฺตุ, สตรํสีว ตารกา.
‘‘อาวุธพลวนฺตานํ ¶ , คุณิกายูรธารินํ;
เอตาทิสานํ โยธานํ, สงฺคาเม อปลายินํ;
เวเทโห กุโต มุจฺจิสฺสติ, สเจ ปกฺขีว กาหิติ.
‘‘ตึส เม ปุริสนาวุตฺโย, สพฺเพเวเกกนิจฺจิตา;
เยสํ สมํ น ปสฺสามิ, เกวลํ มหีมํ จรํ.
‘‘นาคา จ กปฺปิตา ทนฺตี, พลวนฺโต สฏฺิหายนา;
เยสํ ขนฺเธสุ โสภนฺติ, กุมารา จารุทสฺสนา.
‘‘ปีตาลงฺการา ปีตวสนา, ปีตุตฺตรนิวาสนา;
นาคขนฺเธสุ โสภนฺติ, เทวปุตฺตาว นนฺทเน.
‘‘ปาีนวณฺณา เนตฺตึสา, เตลโธตา ปภสฺสรา;
นิฏฺิตา นรธีเรภิ, สมธารา สุนิสฺสิตา.
‘‘เวลฺลาลิโน ¶ วีตมลา, สิกฺกายสมยา ทฬา;
คหิตา พลวนฺเตภิ, สุปฺปหารปฺปหาริภิ.
‘‘สุวณฺณถรุสมฺปนฺนา, โลหิตกจฺฉุปธาริตา;
วิวตฺตมานา โสภนฺติ, วิชฺชูวพฺภฆนนฺตเร.
‘‘ปฏากา วมฺมิโน สูรา, อสิจมฺมสฺส โกวิทา;
ธนุคฺคหา สิกฺขิตรา, นาคขนฺเธ นิปาติโน.
‘‘เอตาทิเสหิ ปริกฺขิตฺโต, นตฺถิ โมกฺโข อิโต ตว;
ปภาวํ เต น ปสฺสามิ, เยน ตฺวํ มิถิลํ วเช’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทนฺตีติ สมฺปนฺนทนฺเต. วจฺฉทนฺตมุขาติ นิขาทนสทิสมุขา. ปณุนฺนาติ วิสฺสฏฺา. สมฺปตนฺตุตรีตราติ เอวรูปา สรา อิตรีตรา สมฺปตนฺตุ สมาคจฺฉนฺตุ. ฆนเมฆวสฺสํ วิย สรวสฺสํ วสฺสถาติ อาณาเปสิ. มาณวาติ ตรุณโยธา. วมฺมิโนติ วมฺมหตฺถา. จิตฺรทณฺฑยุตาวุธาติ จิตฺรทณฺฑยุตฺเตหิ อาวุเธหิ สมนฺนาคตา. ปกฺขนฺทิโนติ สงฺคามปกฺขนฺทิกา. มหานาคาติ มหานาเคสุ โกฺจนาทํ กตฺวา อาคจฺฉนฺเตสุปิ นิจฺจลา ตฺวา เตสํ ทนฺเต คเหตฺวา ลฺุจิตุํ สมตฺถา โยธา. สตรํสีว ตารกาติ สตรํสี วิย โอสธิตารกา. อาวุธพลวนฺตานนฺติ อาวุธพเลน ยุตฺตานํ สมนฺนาคตานํ. คุณิกายูรธารินนฺติ คุณิ วุจฺจติ กวจํ, กวจานิ เจว กายูราภรณานิ จ ธาเรนฺตานํ, กวจสงฺขาตานิ วา กายูรานิ ธาเรนฺตานํ. สเจ ปกฺขีว กาหิตีติ สเจปิ ปกฺขี วิย อากาเส ปกฺขนฺทนํ กริสฺสติ, ตถาปิ กึ มุจฺจิสฺสตีติ วทติ.
ตึส เม ปุริสนาวุตฺโยติ ปุริสานํ ตึสสหสฺสานิ นวุติสตานิ ตึสนาวุตฺโยติ วุจฺจนฺติ. สพฺเพเวเกกนิจฺจิตาติ ¶ เอตฺตกา มยฺหํ ปเรสํ หตฺถโต อาวุธํ คเหตฺวา ปจฺจามิตฺตานํ สีสปาตนสมตฺถา เอเกกํ วิจินิตฺวา คหิตา อนิวตฺติโน โยธาติ ทสฺเสติ. เกวลํ มหีมํ จรนฺติ สกลมฺปิ อิมํ มหึ จรนฺโต เยสํ สมํ สทิสํ น ปสฺสามิ, กุโต อุตฺตริตรํ, เตเยว เม โยธา เอตฺตกาติ ทสฺเสติ. จารุทสฺสนาติ ¶ จารุ วุจฺจติ สุวณฺณํ, สุวณฺณวณฺณาติ อตฺโถ. ปีตาลงฺการาติ ปีตวณฺณสุวณฺณาลงฺการา. ปีตวสนาติ ปีตวณฺณสุวณฺณวตฺถา. ปีตุตฺตรนิวาสนาติ ปีตอุตฺตราสงฺคนิวตฺถา. ปาีนวณฺณาติ ปาสาณมจฺฉสทิสา. เนตฺตึสาติ ขคฺคา. นรธีเรภีติ ปณฺฑิตปุริเสหิ. สุนิสฺสิตาติ สุนิสิตา อติติขิณา.
เวลฺลาลิโนติ ิตมชฺฌนฺหิเก สูริโย วิย วิชฺโชตมานา. สิกฺกายสมยาติ สตฺต วาเร โกฺจสกุเณ ขาทาเปตฺวา คหิเตน สิกฺกายเสน กตา. สุปฺปหารปฺปหาริภีติ ทฬฺหปฺปหาเรหิ โยเธหิ. โลหิตกจฺฉุปธาริตาติ โลหิตวณฺณาย โกสิยา สมนฺนาคตา. ปฏากาติ อากาเส ปริวตฺตนสมตฺถา. สูราติ ชาติสูรา. อสิจมฺมสฺส โกวิทาติ เอเตสํ คหเณ กุสลา. ธนุคฺคหาติ ธนุคฺคหกา. สิกฺขิตราติ เอตสฺมึ ธนุคฺคหเณ อติวิย สิกฺขิตา. นาคขนฺเธ นิปาติโนติ หตฺถิกฺขนฺเธ ขคฺเคน ฉินฺทิตฺวา นิปาตนสมตฺถา. นตฺถิ โมกฺโขติ อมฺโภ, เวเทห, ตฺวํ ปมํ ตาว คหปติปุตฺตสฺสานุภาเวน มุตฺโตสิ, อิทานิ ปน นตฺถิ ตว โมกฺโขติ วทติ. ปภาวํ เตติ อิทานิ เต ราชานุภาวํ น ปสฺสามิ, เยน ตฺวํ มิถิลํ คมิสฺสสิ ขิปฺปํ, ชาเล ปวิฏฺมจฺโฉ วิย ชาโตสีติ.
จูฬนิราชา ¶ เวเทหํ ตชฺเชนฺโต ‘‘อิทานิ นํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วชิรงฺกุเสน นาคํ โจเทนฺโต ‘‘คณฺหถ, ภินฺทถ, วิชฺฌถา’’ติ เสนํ อาณาเปนฺโต อุปการินครํ อวตฺถรนฺโต วิย อุปาคมิ. อถ นํ มหาสตฺตสฺส อุปนิกฺขิตฺตกปุริสา ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ อตฺตโน อุปฏฺาเก คเหตฺวา ปริวารยึสุ. ตสฺมึ ขเณ โพธิสตฺโต สิริสยนา วุฏฺาย กตสรีรปฺปฏิชคฺคโน ภุตฺตปาตราโส อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต สตสหสฺสคฺฆนกํ กาสิกวตฺถํ นิวาเสตฺวา รตฺตกมฺพลํ เอกํเส กริตฺวา สตฺตรตนวิจิตฺตํ วลฺชนทณฺฑกํ อาทาย สุวณฺณปาทุกํ อารุยฺห เทวจฺฉราย วิย อลงฺกตอิตฺถิยา วาลพีชนิยา พีชิยมาโน อลงฺกตปาสาเท สีหปฺชรํ วิวริตฺวา จูฬนิรฺโ อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต สกฺกเทวราชลีลาย อปราปรํ จงฺกมิ. จูฬนิราชาปิ ตสฺส รูปสิรึ โอโลเกตฺวา จิตฺตํ ปสาเทตุํ นาสกฺขิ, ‘‘อิทานิ นํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ¶ ตุริตตุริโตว ¶ หตฺถึ เปเสสิ. ปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ ‘เวเทโห เม ลทฺโธ’ติ สฺาย ตุริตตุริโตว อาคจฺฉติ, น ชานาติ อตฺตโน ปุตฺตทารํ คเหตฺวา อมฺหากํ รฺโ คตภาวํ, สุวณฺณาทาสสทิสํ มม มุขํ ทสฺเสตฺวา กเถสฺสามิ เตน สทฺธิ’’นฺติ. โส วาตปาเน ิโตว มธุรสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา เตน สทฺธึ กเถนฺโต อาห –
‘‘กึ นุ สนฺตรมาโนว, นาคํ เปเสสิ กฺุชรํ;
ปหฏฺรูโป อาปตสิ, สิทฺธตฺโถสฺมีติ มฺสิ.
‘‘โอหเรตํ ธนุํ จาปํ, ขุรปฺปํ ปฏิสํหร;
โอหเรตํ สุภํ วมฺมํ, เวฬุริยมณิสนฺถต’’นฺติ.
ตตฺถ กฺุชรนฺติ เสฏฺํ. ปหฏฺรูโปติ หฏฺตุฏฺจิตฺโต โสมนสฺสชาโต. อาปตสีติ อาคจฺฉสิ. สิทฺธตฺโถสฺมีติ นิปฺผนฺนตฺโถสฺมิ, มโนรโถ เม มตฺถกํ ปตฺโตติ มฺสิ. โอหเรตนฺติ อิมํ จาปสงฺขาตํ ธนุํ โอหร, อวหร, ฉฑฺเฑหิ, โก นุ เต เอเตนตฺโถ. ปฏิสํหราติ อปเนตฺวา อฺสฺส วา เทหิ, ปฏิจฺฉนฺเน วา าเน เปหิ, กึ ขุรปฺเปน กริสฺสสิ. วมฺมนฺติ เอตํ วมฺมมฺปิ อปเนหิ. อิทํ ตยา หิยฺโย ปฏิมุกฺกํ ภวิสฺสติ, ฉฑฺเฑหิ นํ, มา เต สรีรํ อุปฺปณฺฑุกํ อโหสิ, อกิลเมตฺวา ปาโตว นครํ ปวิสาหีติ รฺา สทฺธึ เกฬิมกาสิ.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘คหปติปุตฺโต มยา สทฺธึ เกฬึ กโรติ, อชฺช เต กตฺตพฺพํ ชานิสฺสามี’’ติ ตํ ตชฺเชนฺโต คาถมาห –
‘‘ปสนฺนมุขวณฺโณสิ ¶ , มฺหิตปุพฺพฺจ ภาสสิ;
โหติ โข มรณกาเล, เอทิสี วณฺณสมฺปทา’’ติ.
ตตฺถ มฺหิตปุพฺพฺจาติ ปมํ มฺหิตํ กตฺวา ปจฺฉา ภาสนฺโต มฺหิตปุพฺพเมว ภาสสิ, มํ กิสฺมิฺจิ น คเณสิ. โหติ โขติ มรณกาเล นาม วณฺณสมฺปทา โหติเยว, ตสฺมา ตฺวํ วิโรจสิ, อชฺช เต สีสํ ฉินฺทิตฺวา ชยปานํ ปิวิสฺสามาติ.
เอวํ ตสฺส เตน สทฺธึ กถนกาเล มหาพลกาโย มหาสตฺตสฺส รูปสิรึ ทิสฺวา ‘‘อมฺโภ, อมฺหากํ ราชา มโหสธปณฺฑิเตน สทฺธึ มนฺเตติ ¶ , กึ นุ โข กเถสิ, เอเตสํ กถํ สุณิสฺสามา’’ติ รฺโ สนฺติกเมว อคมาสิ. ปณฺฑิโตปิ ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘น มํ ‘มโหสธปณฺฑิโต’ติ ชานาสิ. นาหํ อตฺตานํ มาเรตุํ ทสฺสามิ, มนฺโต เต ¶ , เทว, ภินฺโน, เกวฏฺเฏน จ ตยา จ หทเยน จินฺติตํ น ชาตํ, มุเขน กถิตเมว ชาต’’นฺติ ปกาเสนฺโต อาห –
โมฆํ เต คชฺชิตํ ราช, ภินฺนมนฺโตสิ ขตฺติย;
ทุคฺคณฺโหสิ ตยา ราชา, ขฬุงฺเกเนว สินฺธโว.
‘‘ติณฺโณ หิยฺโย ราชา คงฺคํ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
หํสราชํ ยถา ธงฺโก, อนุชฺชวํ ปติสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ภินฺนมนฺโตสีติ โย ตยา เกวฏฺเฏน สทฺธึ สยนคพฺเภ มนฺโต คหิโต, ตํ มนฺตํ น ชานาตีติ มา สฺํ กริ, ปเคว โส มยา าโต, ภินฺนมนฺโต อสิ ชาโต. ทุคฺคณฺโหสิ ตยาติ มหาราช, ตยา อมฺหากํ ราชา อสฺสขฬุงฺเกน สินฺธโว วิย ทุคฺคณฺโหสิ, ขฬุงฺกํ อารุฬฺเหน ชวสมฺปนฺนํ อาชานียํ อารุยฺห คจฺฉนฺโต วิย คเหตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ. ขฬุงฺโก วิย หิ เกวฏฺโฏ, ตํ อารุฬฺหปุริโส วิย ตฺวํ, ชวสมฺปนฺโน สินฺธโว วิย อหํ, ตํ อารุฬฺหปุริโส วิย อมฺหากํ ราชาติ ทสฺเสติ. ติณฺโณ หิยฺโยติ หิยฺโยว อุตฺติณฺโณ. โส จ โข สามจฺโจ สปริชโน, น เอกโกว ปลายิตฺวา คโต. อนุชฺชวนฺติ สเจ ปน ตฺวํ ตํ อนุชวิสฺสสิ อนุพนฺธิสฺสสิ, อถ ยถา สุวณฺณหํสราชํ อนุชวนฺโต ธงฺโก อนฺตราว ปติสฺสติ, เอวํ ปติสฺสสิ, อนฺตราว วินาสํ ปาปุณิสฺสสีติ วทติ.
อิทานิ ¶ โส อฉมฺภิตเกสรสีโห วิย อุทาหรณํ อาหรนฺโต อาห –
‘‘สิงฺคาลา รตฺติภาเคน, ผุลฺลํ ทิสฺวาน กึสุกํ;
มํสเปสีติ มฺนฺตา, ปริพฺยูฬฺหา มิคาธมา.
‘‘วีติวตฺตาสุ ¶ รตฺตีสุ, อุคฺคตสฺมึ ทิวากเร;
กึ สุกํ ผุลฺลิตํ ทิสฺวา, อาสจฺฉินฺนา มิคาธมา.
‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, เวเทหํ ปริวาริย;
อาสจฺฉินฺโน คมิสฺสสิ, สิงฺคาลา กึสุกํ ยถา’’ติ.
ตตฺถ ทิสฺวานาติ จนฺทาโลเกน โอโลเกตฺวา. ปริพฺยูฬฺหาติ ปาโตว มํสเปสึ ขาทิตฺวา คมิสฺสามาติ ปริวาเรตฺวา อฏฺํสุ. วีติวตฺตาสูติ เต ยาสุ ยาสุ รตฺตีสุ เอวํ อฏฺํสุ, ตาสุ ตาสุ รตฺตีสุ อตีตาสุ. ทิสฺวาติ สูริยาโลเกน กึสุกํ ทิสฺวา ‘‘น อิทํ มํส’’นฺติ ตฺวา ฉินฺนาสา หุตฺวา ปลายึสุ. สิงฺคาลาติ ยถา สิงฺคาลา กึสุกํ ปริวาเรตฺวา อาสจฺฉินฺนา คตา, เอวํ ตุวมฺปิ อิธ เวเทหรฺโ นตฺถิภาวํ ตฺวา อาสจฺฉินฺโน หุตฺวา คมิสฺสสิ, เสนํ คเหตฺวา ปลายิสฺสสีติ ทีเปติ.
ราชา ตสฺส อฉมฺภิตวจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ คหปติปุตฺโต อติสูโร หุตฺวา กเถสิ, นิสฺสํสยํ เวเทโห ปลาโต ภวิสฺสตี’’ติ. โส อติวิย กุชฺฌิตฺวา ‘‘ปุพฺเพ มยํ คหปติปุตฺตํ ¶ นิสฺสาย อุทรสาฏกสฺสปิ อสฺสามิกา ชาตา, อิทานิ เตน อมฺหากํ หตฺถคโต ปจฺจามิตฺโต ปลาปิโต, พหุสฺส วต โน อนตฺถสฺส การโก, อุภินฺนํ กตฺตพฺพการณํ อิมสฺเสว กริสฺสามี’’ติ ตสฺส การณํ กาตุํ อาณาเปนฺโต อาห –
‘‘อิมสฺส หตฺเถ ปาเท จ, กณฺณนาสฺจ ฉินฺทถ;
โย เม อมิตฺตํ หตฺถคตํ, เวเทหํ ปริโมจยิ.
‘‘อิมํ มํสํว ปาตพฺยํ, สูเล กตฺวา ปจนฺตุ นํ;
โย เม อมิตฺตํ หตฺถคตํ, เวเทหํ ปริโมจยิ.
‘‘ยถาปิ ¶ อาสภํ จมฺมํ, ปถพฺยา วิตนียติ;
สีหสฺส อโถ พฺยคฺฆสฺส, โหติ สงฺกุสมาหตํ.
‘‘เอวํ ตํ วิตนิตฺวาน, เวธยิสฺสามิ สตฺติยา;
โย เม อมิตฺตํ หตฺถคตํ, เวเทหํ ปริโมจยี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปาตพฺยนฺติ ปาจยิตพฺพํ ปจิตพฺพยุตฺตกํ มิคาทีนํ มํสํ วิย อิมํ คหปติปุตฺตํ สูเล อาวุณิตฺวา ปจนฺตุ. สีหสฺส อโถ พฺยคฺฆสฺสาติ เอเตสฺจ ยถา จมฺมํ สงฺกุสมาหตํ โหติ, เอวํ โหตุ. เวธยิสฺสามีติ วิชฺฌาเปสฺสามิ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต หสิตํ กตฺวา ‘‘อยํ ราชา อตฺตโน เทวิยา จ พนฺธวานฺจ มยา มิถิลํ ปหิตภาวํ น ชานาติ, เตน เม อิมํ กมฺมการณํ วิจาเรติ, โกธวเสน โข ปน มํ อุสุนา วา วิชฺเฌยฺย, อฺํ วา อตฺตโน รุจฺจนกํ กเรยฺย, โสกาตุรํ อิมํ เวทนาปฺปตฺตํ กตฺวา หตฺถิปิฏฺเเยว วิสฺึ นํ นิปชฺชาเปตุํ ตํ การณํ อาโรเจสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘สเจ เม หตฺเถ ปาเท จ, กณฺณนาสฺจ เฉจฺฉสิ;
เอวํ ปฺจาลจนฺทสฺส, เวเทโห เฉทยิสฺสติ.
‘‘สเจ เม หตฺเถ ปาเท จ, กณฺณนาสฺจ เฉจฺฉสิ;
เอวํ ปฺจาลจนฺทิยา, เวเทโห เฉทยิสฺสติ.
‘‘สเจ เม หตฺเถ ปาเท จ, กณฺณนาสฺจ เฉจฺฉสิ;
เอวํ นนฺทาย เทวิยา, เวเทโห เฉทยิสฺสติ.
‘‘สเจ เม หตฺเถ ปาเท จ, กณฺณนาสฺจ เฉจฺฉสิ;
เอวํ เต ปุตฺตทารสฺส, เวเทโห เฉทยิสฺสติ.
‘‘สเจ ¶ มํสํว ปาตพฺยํ, สูเล กตฺวา ปจิสฺสสิ;
เอวํ ปฺจาลจนฺทสฺส, เวเทโห ปาจยิสฺสติ.
‘‘สเจ ¶ มํสํว ปาตพฺยํ, สูเล กตฺวา ปจิสฺสสิ;
เอวํ ปฺจาลจนฺทิยา, เวเทโห ปาจยิสฺสติ.
‘‘สเจ มํสํว ปาตพฺยํ, สูเล กตฺวา ปจิสฺสสิ;
เอวํ นนฺทาย เทวิยา, เวเทโห ปาจยิสฺสติ.
‘‘สเจ มํสํว ปาตพฺยํ, สูเล กตฺวา ปจิสฺสสิ;
เอวํ เต ปุตฺตทารสฺส, เวเทโห ปาจยิสฺสติ.
‘‘สเจ ¶ มํ วิตนิตฺวาน, เวธยิสฺสสิ สตฺติยา;
เอวํ ปฺจาลจนฺทสฺส, เวเทโห เวธยิสฺสติ.
‘‘สเจ มํ วิตนิตฺวาน, เวธยิสฺสสิ สตฺติยา;
เอวํ ปฺจาลจนฺทิยา, เวเทโห เวธยิสฺสติ.
‘‘สเจ มํ วิตนิตฺวาน, เวธยิสฺสสิ สตฺติยา;
เอวํ นนฺทาย เทวิยา, เวเทโห เวธยิสฺสติ.
‘‘สเจ มํ วิตนิตฺวาน, เวธยิสฺสสิ สตฺติยา;
เอวํ เต ปุตฺตทารสฺส, เวเทโห เวธยิสฺสติ;
เอวํ โน มนฺติตํ รโห, เวเทเหน มยา สห.
‘‘ยถาปิ ปลสตํ จมฺมํ, โกนฺติมนฺตาสุนิฏฺิตํ;
อุเปติ ตนุตาณาย, สรานํ ปฏิหนฺตเว.
‘‘สุขาวโห ทุกฺขนุโท, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน;
มตึ เต ปฏิหฺามิ, อุสุํ ปลสเตน วา’’ติ.
ตตฺถ เฉทยิสฺสตีติ ‘‘ปณฺฑิตสฺส กิร จูฬนินา หตฺถปาทา ฉินฺนา’’ติ สุตฺวาว เฉทยิสฺสติ. ปุตฺตทารสฺสาติ มม เอกสฺส ฉินฺทนปจฺจยา ตว ทฺวินฺนํ ปุตฺตานฺเจว อคฺคมเหสิยา ¶ จาติ ติณฺณมฺปิ ชนานํ อมฺหากํ ราชา เฉทยิสฺสติ. เอวํ โน มนฺติตํ รโหติ มหาราช, มยา จ เวเทหราเชน จ เอวํ รหสิ มนฺติตํ ‘‘ยํ ยํ อิธ มยฺหํ จูฬนิราชา กาเรติ, ตํ ตํ ตตฺถ ตสฺส ปุตฺตทารานํ กาตพฺพ’’นฺติ. ปลสตนฺติ ปลสตปฺปมาณํ พหู ขาเร ขาทาเปตฺวา มุทุภาวํ อุปนีตํ จมฺมํ. โกนฺติมนฺตาสุนิฏฺิตนฺติ โกนฺติมนฺตา วุจฺจติ จมฺมการสตฺถํ, ตาย กนฺตนลิขิตานํ วเสน กตตฺตา สุฏฺุ นิฏฺิตํ. ตนุตาณายาติ ยถา ตํ จมฺมํ สงฺคาเม สรานํ ปฏิหนฺตเว สรีรตาณํ อุเปติ, สเร ปฏิหนิตฺวา สรีรํ รกฺขติ. สุขาวโหติ มหาราช, อหมฺปิ อมฺหากํ ¶ รฺโ ปจฺจามิตฺตานํ วารณตฺเถน ตํ สรปริตฺตาณจมฺมํ วิย สุขาวโห. ทุกฺขนุโทติ กายิกสุขเจตสิกสุขฺจ อาวหามิ, ทุกฺขฺจ นุเทมิ. มตินฺติ ตสฺมา ตว มตึ ปฺํ อุสุํ เตน ปลสตจมฺเมน วิย อตฺตโน มติยา ปฏิหนิสฺสามีติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ ‘‘คหปติปุตฺโต กึ กเถติ, ยถา กิร อหํ เอตสฺส กริสฺสามิ, เอวํ เวเทหราชา มม ปุตฺตทารานํ กมฺมการณํ กริสฺสติ, น ชานาติ มม ปุตฺตทารานํ อารกฺขสฺส สุสํวิหิตภาวํ, ‘อิทานิ มาเรสฺสตี’ติ มรณภเยน วิลปติ, นาสฺส วจนํ สทฺทหามี’’ติ. มหาสตฺโต ‘‘อยํ มํ มรณภเยน กเถตีติ มฺติ, ชานาเปสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘อิงฺฆ ปสฺส มหาราช, สฺุํ อนฺเตปุรํ ตว;
โอโรธา จ กุมารา จ, ตว มาตา จ ขตฺติย;
อุมงฺคา นีหริตฺวาน, เวเทหสฺสุปนามิตา’’ติ.
ตตฺถ อุมงฺคาติ มหาราช, มยา อตฺตโน มาณเว เปเสตฺวา ปาสาทา โอตราเปตฺวา ชงฺฆอุมงฺเคน อาหราเปตฺวา มหาอุมงฺคา นีหริตฺวา พนฺธวา เต เวเทหสฺส อุปนามิตาติ.
ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ ‘‘ปณฺฑิโต อติวิย ทฬฺหํ กตฺวา กเถติ, มยา จ รตฺติภาเค คงฺคาปสฺเส นนฺทาเทวิยา สทฺโท วิย สุโต, มหาปฺโ ปณฺฑิโต กทาจิ สจฺจํ ภเณยฺยา’’ติ. โส อุปฺปนฺนพลวโสโกปิ สตึ อุปฏฺาเปตฺวา อโสจนฺโต วิย เอกํ อมจฺจํ ปกฺโกสาเปตฺวา ชานนตฺถาย เปเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อิงฺฆ ¶ อนฺเตปุรํ มยฺหํ, คนฺตฺวาน วิจินาถ นํ;
ยถา อิมสฺส วจนํ, สจฺจํ วา ยทิ วา มุสา’’ติ.
โส สปริวาโร ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา หตฺถปาเท พนฺธิตฺวา มุขฺจ ปิทหิตฺวา นาคทนฺตเกสุ โอลคฺคิเต อนฺเตปุรปาลเก จ ขุชฺชวามนกาทโย จ ภาชนานิ ภินฺทิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วิปฺปกิณฺณขาทนียโภชนียฺจ รตนฆรทฺวารานิ วิวริตฺวา กตรตนวิโลปํ วิวฏทฺวารํ สิริคพฺภฺจ ยถาวิวเฏหิ เอว วาตปาเนหิ ปวิสิตฺวา จรมานํ กากคณฺจ ¶ ฉฑฺฑิตคามสทิสํ สุสานภูมิยํ วิย จ นิสฺสิริกํ ราชนิเวสนฺจ ทิสฺวา ปุนาคนฺตฺวา รฺโ อาโรเจนฺโต อาห –
‘‘เอวเมตํ มหาราช, ยถา อาห มโหสโธ;
สฺุํ อนฺเตปุรํ สพฺพํ, กากปฏฺฏนกํ ยถา’’ติ.
ตตฺถ ¶ กากปฏฺฏนกํ ยถาติ มจฺฉคนฺเธน อาคเตหิ กากคเณหิ สมากิณฺโณ สมุทฺทตีเร ฉฑฺฑิตคามโก วิย.
ตํ สุตฺวา ราชา จตุนฺนํ ชนานํ ปิยวิปฺปโยคสมฺภเวน โสเกน กมฺปมาโน ‘‘อิทํ มม ทุกฺขํ คหปติปุตฺตํ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ ทณฺเฑน ฆฏฺฏิโต อาสีวิโส วิย โพธิสตฺตสฺส อติวิย กุชฺฌิ. มหาสตฺโต ตสฺสาการํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ราชา มหายโส กทาจิ โกธวเสน ‘กึ มม เอเตหี’ติ ขตฺติยมาเนน มํ วิเหเยฺย, ยํนูนาหํ นนฺทาเทวึ อิมินา อทิฏฺปุพฺพํ วิย กโรนฺโต ตสฺสา สรีรวณฺณํ วณฺเณยฺยํ. อถ โส ตํ อนุสฺสริตฺวา ‘สจาหํ มโหสธํ มาเรสฺสามิ, เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ น ลภิสฺสามิ, อมาเรนฺโต ปุน ตํ ลภิสฺสามี’ติ อตฺตโน ภริยาย สิเนเหน น กิฺจิ มยฺหํ กริสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน อนุรกฺขณตฺถํ ปาสาเท ิโตว รตฺตกมฺพลนฺตรา สุวณฺณวณฺณํ พาหุํ นีหริตฺวา ตสฺสา คตมคฺคาจิกฺขนวเสน วณฺเณนฺโต อาห –
‘‘อิโต คตา มหาราช, นารี สพฺพงฺคโสภนา;
โกสมฺพผลกสุสฺโสณี, หํสคคฺครภาณินี.
‘‘อิโต นีตา มหาราช, นารี สพฺพงฺคโสภนา;
โกเสยฺยวสนา สามา, ชาตรูปสุเมขลา.
‘‘สุรตฺตปาทา ¶ กลฺยาณี, สุวณฺณมณิเมขลา;
ปาเรวตกฺขี สุตนู, พิมฺโพฏฺา ตนุมชฺฌิมา.
‘‘สุชาตา ภุชลฏฺีว, เวทีว ตนุมชฺฌิมา;
ทีฆสฺสา เกสา อสิตา, อีสกคฺคปเวลฺลิตา.
‘‘สุชาตา มิคฉาปาว, เหมนฺตคฺคิสิขาริว;
นทีว คิริทุคฺเคสุ, สฺฉนฺนา ขุทฺทเวฬุภิ.
‘‘นาคนาสูรุ ¶ กลฺยาณี, ปรมา ติมฺพรุตฺถนี;
นาติทีฆา นาติรสฺสา, นาโลมา นาติโลมสา’’ติ.
ตตฺถ อิโตติ อุมงฺคํ ทสฺเสติ. โกสมฺพผลกสุสฺโสณีติ วิสาลกฺจนผลกํ วิย สุนฺทรโสณี. หํสคคฺครภาณินีติ โคจรตฺถาย วิจรนฺตานํ ¶ หํสโปตกานํ วิย คคฺคเรน มธุเรน สเรน สมนฺนาคตา. โกเสยฺยวสนาติ กฺจนขจิตโกเสยฺยวตฺถวสนา. สามาติ สุวณฺณสามา. ปาเรวตกฺขีติ ปฺจสุ ปสาเทสุ รตฺตฏฺาเน ปาเรวตสกุณิสทิสกฺขี. สุตนูติ โสภนสรีรา. พิมฺโพฏฺาติ พิมฺพผลํ วิย สุรชฺชิตมฏฺโฏฺปริโยสานา. ตนุมชฺฌิมาติ กรมิตตนุมชฺฌิมา. สุชาตา ภุชลฏฺีวาติ วิชมฺภนกาเล วาเตริตรตฺตปลฺลววิลาสินี สุชาตา ภุชลตา วิย วิโรจติ. เวทีวาติ กฺจนเวทิ วิย ตนุมชฺฌิมา. อีสกคฺคปเวลฺลิตาติ อีสกํ อคฺเคสุ โอนตา. อีสกคฺคปเวลฺลิตา วา เนตฺตึสาย อคฺคํ วิย วินตา.
มิคฉาปาวาติ ปพฺพตสานุมฺหิ สุชาตา เอกวสฺสิกพฺยคฺฆโปติกา วิย วิลาสกุตฺติยุตฺตา. เหมนฺตคฺคิสิขาริวาติ โอภาสสมฺปนฺนตาย เหมนฺเต อคฺคิสิขา วิย โสภติ. ขุทฺทเวฬุภีติ ยถา ขุทฺทเกหิ อุทกเวฬูหิ สฺฉนฺนา นที โสภติ, เอวํ ตนุกโลมาย โลมราชิยา โสภติ. กลฺยาณีติ ฉวิมํสเกสนฺหารุอฏฺีนํ วเสน ปฺจวิเธน กลฺยาเณน สมนฺนาคตา. ปรมา ติมฺพรุตฺถนีติ ติมฺพรุตฺถนี ปรมา อุตฺตมา, สุวณฺณผลเก ปิตสุวณฺณวณฺณติมฺพรุผลทฺวยมิวสฺสา สุสณฺานสมฺปนฺนํ นิรนฺตรํ ถนยุคลํ.
เอวํ มหาสตฺเต ตสฺสา รูปสิรึ วณฺเณนฺเตว ตสฺส สา ปุพฺเพ อทิฏฺปุพฺพา วิย อโหสิ, พลวสิเนหํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส สิเนหุปฺปตฺติภาวํ ตฺวา มหาสตฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘นนฺทาย ¶ นูน มรเณน, นนฺทสิ สิริวาหน;
อหฺจ นูน นนฺทา จ, คจฺฉาม สมสาธน’’นฺติ.
ตตฺถ สิริวาหนาติ สิริสมฺปนฺนวาหน มหาราช, นูน ตฺวํ เอวํ อุตฺตมรูปธราย นนฺทาย มรเณน นนฺทสีติ วทติ. คจฺฉามาติ สเจ หิ ตฺวํ มํ มาเรสฺสสิ, เอกํเสเนว อมฺหากํ ราชา นนฺทํ มาเรสฺสติ. อิติ นนฺทา จ อหฺจ ยมสฺส สนฺติกํ คมิสฺสาม, ยโม อมฺเห อุโภ ทิสฺวา นนฺทํ ¶ มยฺหเมว ทสฺสติ, ตสฺส ตุยฺหํ มํ มาเรตฺวา ตาทิสํ อิตฺถิรตนํ อลภนฺตสฺส กึ รชฺเชน, นาหํ อตฺตโน มรเณน ปริหานึ ปสฺสามิ, เทวาติ.
อิติ ¶ มหาสตฺโต เอตฺตเก าเน นนฺทเมว วณฺเณสิ, น อิตเร ตโย ชเน. กึการณา? สตฺตา หิ นาม ปิยภริยาสุ วิย เสเสสุ อาลยํ น กโรนฺติ, มาตรํ วา สรนฺโต ปุตฺตธีตโรปิ สริสฺสตีติ ตสฺมา ตเมว วณฺเณสิ, ราชมาตรํ ปน มหลฺลิกาภาเวน น วณฺเณสิ. าณสมฺปนฺเน มหาสตฺเต มธุรสฺสเรน วณฺเณนฺเตเยว นนฺทาเทวี อาคนฺตฺวา รฺโ ปุรโต ิตา วิย อโหสิ. ตโต ราชา จินฺเตสิ ‘‘เปตฺวา มโหสธํ อฺโ มม ภริยํ อาเนตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ. อถสฺส นํ สรนฺตสฺส โสโก อุปฺปชฺชิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มหาราช, เทวี จ เต ปุตฺโต จ มาตา จ ตโยปิ อาคจฺฉิสฺสนฺติ, มม คมนเมเวตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา ตฺวํ อสฺสาสํ ปฏิลภ, นรินฺทา’’ติ ราชานํ อสฺสาเสสิ. อถ ราชา จินฺเตสิ ‘‘อหํ อตฺตโน นครํ สุรกฺขิตํ สุโคปิตํ การาเปตฺวา อิมํ อุปการินครํ เอตฺตเกน พลวาหเนน ปริกฺขิปิตฺวาว ิโต. อยํ ปน ปณฺฑิโต เอวํ สุโคปิตาปิ มม นครา เทวิฺจ เม ปุตฺตฺจ มาตรฺจ อาเนตฺวา เวเทหสฺส ทาเปสิ. อมฺเหสุ จ เอวํ ปริวาเรตฺวา ิเตสฺเวว เอกสฺสปิ อชานนฺตสฺส เวเทหํ สเสนาวาหนํ ปลาเปสิ. กึ นุ โข ทิพฺพมายํ ชานาติ, อุทาหุ จกฺขุโมหน’’นฺติ. อถ นํ ปุจฺฉนฺโต อาห –
‘‘ทิพฺพํ อธียเส มายํ, อกาสิ จกฺขุโมหนํ;
โย เม อมิตฺตํ หตฺถคตํ, เวเทหํ ปริโมจยี’’ติ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อหํ ทิพฺพมายํ ชานามิ, ปณฺฑิตา หิ นาม ทิพฺพมายํ อุคฺคณฺหิตฺวา ภเย สมฺปตฺเต อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ทุกฺขโต โมจยนฺติเยวา’’ติ วตฺวา อาห –
‘‘อธียนฺติ ¶ มหาราช, ทิพฺพมายิธ ปณฺฑิตา;
เต โมจยนฺติ อตฺตานํ, ปณฺฑิตา มนฺติโน ชนา.
‘‘สนฺติ ¶ มาณวปุตฺตา เม, กุสลา สนฺธิเฉทกา;
เยสํ กเตน มคฺเคน, เวทโห มิถิลํ คโต’’ติ.
ตตฺถ ทิพฺพมายิธาติ ทิพฺพมายํ อิธ. มาณวปุตฺตาติ อุปฏฺากตรุณโยธา. เยสํ กเตนาติ เยหิ กเตน. มคฺเคนาติ อลงฺกตอุมงฺเคน.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา ‘‘อลงฺกตอุมงฺเคน กิร คโต, กีทิโส นุ โข อุมงฺโค’’ติ อุมงฺคํ ทฏฺุกาโม อโหสิ. อถสฺส อิจฺฉิตํ ตฺวา มหาสตฺโต ‘‘ราชา อุมงฺคํ ทฏฺุกาโม, ทสฺเสสฺสามิสฺส อุมงฺค’’นฺติ ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘อิงฺฆ ปสฺส มหาราช, อุมงฺคํ สาธุ มาปิตํ;
หตฺถีนํ อถ อสฺสานํ, รถานํ อถ ปตฺตินํ;
อาโลกภูตํ ติฏฺนฺตํ, อุมงฺคํ สาธุ มาปิต’’นฺติ.
ตตฺถ หตฺถีนนฺติ อิฏฺกกมฺมจิตฺตกมฺมวเสน กตานํ เอเตสํ หตฺถิอาทีนํ ปนฺตีหิ อุปโสภิตํ อลงฺกตเทวสภาสทิสํ เอโกภาสํ หุตฺวา ติฏฺนฺตํ อุมงฺคํ ปสฺส, เทวาติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘มหาราช, มม ปฺาย มาปิเต จนฺทสฺส จ สูริยสฺส จ อุฏฺิตฏฺาเน วิย ปากเฏ อลงฺกตอุมงฺเค อสีติมหาทฺวารานิ จตุสฏฺิจูฬทฺวารานิ เอกสตสยนคพฺเภ อเนกสตทีปคพฺเภ จ ปสฺส, มยา สทฺธึ สมคฺโค สมฺโมทมาโน หุตฺวา อตฺตโน พเลน สทฺธึ อุปการินครํ ปวิส, เทวา’’ติ นครทฺวารํ วิวราเปสิ. ราชา เอกสตราชปริวาโร นครํ ปาวิสิ. มหาสตฺโต ปาสาทา โอรุยฺห ราชานํ วนฺทิตฺวา สปริวารํ อาทาย อุมงฺคํ ปาวิสิ. ราชา อลงฺกตเทวสภํ วิย อุมงฺคํ ทิสฺวา โพธิสตฺตสฺส คุเณ วณฺเณนฺโต อาห –
‘‘ลาภา วต วิเทหานํ, ยสฺสิเมทิสา ปณฺฑิตา;
ฆเร วสนฺติ วิชิเต, ยถา ตฺวํสิ มโหสธา’’ติ.
ตตฺถ ¶ วิเทหานนฺติ เอวรูปานํ ปณฺฑิตานํ อากรสฺส อุฏฺานฏฺานภูตสฺส วิเทหานํ ชนปทสฺส ลาภา วต. ยสฺสิเมทิสาติ ยสฺส อิเม ¶ เอวรูปา ปณฺฑิตา อุปายกุสลา สนฺติเก วา เอกฆเร วา เอกชนปเท วา เอกรฏฺเ วา วสนฺติ, ตสฺสปิ ลาภา วต. ยถา ตฺวํสีติ ยถา ตฺวํ อสิ, ตาทิเสน ปณฺฑิเตน สทฺธึเยว เอกรฏฺเ วา เอกชนปเท วา เอกนคเร วา เอกฆเร วา วสิตุํ ลภนฺติ. เตสํ วิเทหรฏฺวาสีนฺเจว มิถิลนครวาสีนฺจ ตยา สทฺธึ เอกโต วสิตุํ ลภนฺตานํ ลาภา วตาติ วทติ.
อถสฺส ¶ มหาสตฺโต เอกสตสยนคพฺเภ ทสฺเสติ. เอกสฺส ทฺวาเร วิวเฏ สพฺเพสํ วิวรียติ. เอกสฺส ทฺวาเร ปิทหิเต สพฺเพสํ ปิธียติ. ราชา อุมงฺคํ โอโลเกนฺโต ปุรโต คจฺฉติ, ปณฺฑิโต ปน ปจฺฉโต. สพฺพา เสนา อุมงฺคเมว ปาวิสิ. ราชา อุมงฺคโต นิกฺขมิ. ปณฺฑิโต ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา สยํ นิกฺขมิตฺวา อฺเสํ นิกฺขมิตุํ อทตฺวา อุมงฺคทฺวารํ ปิทหนฺโต อาณึ อกฺกมิ. ตาวเทว อสีติมหาทฺวารานิ จตุสฏฺิจูฬทฺวารานิ เอกสตสยนคพฺภทฺวารานิ อเนกสตทีปคพฺภทฺวารานิ จ เอกปฺปหาเรเนว ปิทหึสุ. สกโล อุมงฺโค โลกนฺตริยนิรโย วิย อนฺธกาโร อโหสิ. มหาชโน ภีตตสิโต อโหสิ. มหาสตฺโต หิยฺโย อุมงฺคํ ปวิสนฺโต ยํ ขคฺคํ วาลุเก เปสิ, ตํ คเหตฺวา ภูมิโต อฏฺารสหตฺถุพฺเพธํ อากาสํ อุลฺลงฺฆิตฺวา โอรุยฺห ราชานํ หตฺเถ คเหตฺวา อสึ อุคฺคิริตฺวา ตาเสตฺวา ‘‘มหาราช, สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ กสฺส รชฺช’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ภีโต ‘‘ตุยฺหเมว ปณฺฑิตา’’ติ วตฺวา ‘‘อภยํ เม เทหี’’ติ อาห. ‘‘มา ภายิตฺถ, มหาราช, นาหํ ตํ มาเรตุกามตาย ขคฺคํ ปรามสึ, มม ปฺานุภาวํ ทสฺเสตุํ ปรามสิ’’นฺติ ขคฺคํ รฺโ อทาสิ. อถ นํ ขคฺคํ คเหตฺวา ิตํ ‘‘มหาราช, สเจ มํ มาเรตุกาโมสิ, อิทาเนว อิมินา ขคฺเคน มาเรหิ. อถ อภยํ ทาตุกาโม, อภยํ เทหี’’ติ อาห. ‘‘ปณฺฑิต, มยา ตุยฺหมฺปิ อภยํ ทินฺนเมว, ตฺวํ มา จินฺตยี’’ติ อสึ เปตฺวา อุโภปิ อฺมฺํ อทุพฺภาย สปถํ กรึสุ.
อถ ราชา โพธิสตฺตํ อาห – ‘‘ปณฺฑิต, เอวํ าณพลสมฺปนฺโน หุตฺวา รชฺชํ กสฺมา น คณฺหาสี’’ติ? ‘‘มหาราช, อหํ อิจฺฉมาโน อชฺเชว สกลชมฺพุทีเป ราชาโน มาเรตฺวา รชฺชํ คณฺเหยฺยํ, ปรํ มาเรตฺวา จ ยสคฺคหณํ นาม ปณฺฑิเตหิ น ปสตฺถ’’นฺติ. ‘‘ปณฺฑิต, มหาชโน ทฺวารํ อลภมาโน ปริเทวติ, อุมงฺคทฺวารํ วิวริตฺวา มหาชนสฺส ชีวิตทานํ เทหี’’ติ ¶ . โส ทฺวารํ วิวริ, สกโล อุมงฺโค เอโกภาโส อโหสิ. มหาชโน อสฺสาสํ ปฏิลภิ. สพฺเพ ราชาโน อตฺตโน เสนาย สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ อาคมึสุ. โส รฺา สทฺธึ วิสาลมาฬเก อฏฺาสิ. อถ ¶ นํ เต ราชาโน อาหํสุ ‘‘ปณฺฑิต, ตํ นิสฺสาย ชีวิตํ ¶ ลทฺธํ, สเจ มุหุตฺตํ อุมงฺคทฺวารํ น วิวริตฺถ, สพฺเพสํ โน ตตฺเถว มรณํ อภวิสฺสา’’ติ. ‘‘น มหาราชาโน อิทาเนว ตุมฺเหหิ มฺเว นิสฺสาย ชีวิตํ ลทฺธํ, ปุพฺเพปิ ลทฺธํเยวา’’ติ. ‘‘กทา, ปณฺฑิตา’’ติ? ‘‘เปตฺวา อมฺหากํ นครํ สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คเหตฺวา อุตฺตรปฺจาลนครํ คนฺตฺวา อุยฺยาเน ชยปานํ ปาตุํ สุราย ปฏิยตฺตกาลํ สรถา’’ติ? ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. ตทา เอส ราชา เกวฏฺเฏน สทฺธึ ทุมฺมนฺติเตน วิสโยชิตาย สุราย เจว มจฺฉมํเสหิ จ ตุมฺเห มาเรตุํ กิจฺจมกาสิ. อถาหํ ‘‘มาทิเส ปณฺฑิเต ธรมาเน อิเม อนาถมรณํ มา มรนฺตู’’ติ อตฺตโน โยเธ เปเสตฺวา สพฺพภาชนานิ ภินฺทาเปตฺวา เอเตสํ มนฺตํ ภินฺทิตฺวา ตุมฺหากํ ชีวิตทานํ อทาสินฺติ.
เต สพฺเพปิ อุพฺพิคฺคมานสา หุตฺวา จูฬนิราชานํ ปุจฺฉึสุ ‘‘สจฺจํ กิร, มหาราชา’’ติ? ‘‘อาม, มยา เกวฏฺฏสฺส กถํ คเหตฺวา กตํ, สจฺจเมว ปณฺฑิโต กเถตี’’ติ. เต สพฺเพปิ มหาสตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, ตฺวํ สพฺเพสํ โน ปติฏฺา ชาโต, ตํ นิสฺสาย มยํ ชีวิตํ ลภิมฺหา’’ติ สพฺพปสาธเนหิ มหาสตฺตสฺส ปูชํ กรึสุ. ปณฺฑิโต ราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, ปาปมิตฺตสํสคฺคสฺเสว เอส โทโส, อิเม ราชาโน ขมาเปถา’’ติ. ราชา ‘‘มยา ทุปฺปุริสํ นิสฺสาย ตุมฺหากํ เอวรูปํ กตํ, เอส มยฺหํ โทโส, ขมถ เม โทสํ, ปุน เอวรูปํ น กริสฺสามี’’ติ ขมาเปสิ. เต อฺมฺํ อจฺจยํ เทเสตฺวา สมคฺคา สมฺโมทมานา อเหสุํ. อถ ราชา พหูนิ ขาทนียโภชนียคนฺธมาลาทีนิ อาหราเปตฺวา สพฺเพหิ สทฺธึ สตฺตาหํ อุมงฺเคเยว กีฬิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา มหาสตฺตสฺส มหาสกฺการํ กาเรตฺวา เอกสตราชปริวุโต มหาตเล นิสีทิตฺวา ปณฺฑิตํ อตฺตโน สนฺติเก วสาเปตุกามตาย อาห –
‘‘วุตฺติฺจ ¶ ปริหารฺจ, ทิคุณํ ภตฺตเวตนํ;
ททามิ วิปุเล โภเค, ภฺุช กาเม รมสฺสุ จ;
มา วิเทหํ ปจฺจคมา, กึ วิเทโห กริสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ วุตฺตินฺติ ยสนิสฺสิตํ ชีวิตวุตฺตึ. ปริหารนฺติ คามนิคมทานํ. ภตฺตนฺติ นิวาปํ. เวตนนฺติ ปริพฺพยํ. โภเคติ อฺเปิ เต วิปุเล โภเค ททามิ.
ปณฺฑิโต ¶ ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห –
‘‘โย ¶ จเชถ มหาราช, ภตฺตารํ ธนการณา;
อุภินฺนํ โหติ คารยฺโห, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ยาว ชีเวยฺย เวเทโห, นาฺสฺส ปุริโส สิยา.
‘‘โย จเชถ มหาราช, ภตฺตารํ ธนการณา;
อุภินฺนํ โหติ คารยฺโห, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ยาว ติฏฺเยฺย เวเทโห, นาฺสฺส วิชิเต วเส’’ติ.
ตตฺถ อตฺตโน จ ปรสฺส จาติ เอวรูปฺหิ ‘‘ธนการณา มยา อตฺตโน ภตฺตารํ ปริจฺจชนฺเตน ปาปํ กต’’นฺติ อตฺตาปิ อตฺตานํ ครหติ, ‘‘อิมินา ธนการณา อตฺตโน ภตฺตา ปริจฺจตฺโต, ปาปธมฺโม อย’’นฺติ ปโรปิ ครหติ. ตสฺมา น สกฺกา ตสฺมึ ธรนฺเต มยา อฺสฺส วิชิเต วสิตุนฺติ.
อถ นํ ราชา อาห – ‘‘เตน หิ, ปณฺฑิต, ตว รฺโ ทิวงฺคตกาเล อิธาคนฺตุํ ปฏิฺํ เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, เทว, อหํ ชีวนฺโต อาคมิสฺสามี’’ติ อาห. อถสฺส ราชา สตฺตาหํ มหาสกฺการํ กตฺวา สตฺตาหจฺจเยน ปุน อาปุจฺฉนกาเล ‘‘อหํ เต, ปณฺฑิต, อิทฺจิทฺจ ทมฺมี’’ติ วทนฺโต คาถมาห –
‘‘ทมฺมิ นิกฺขสหสฺสํ เต, คามาสีติฺจ กาสิสุ;
ทาสิสตานิ จตฺตาริ, ทมฺมิ ภริยาสตฺจ เต;
สพฺพํ เสนงฺคมาทาย, โสตฺถึ คจฺฉ มโหสธา’’ติ.
ตตฺถ นิกฺขสหสฺสนฺติ ปฺจสุวณฺเณน นิกฺเขน นิกฺขานํ สหสฺสํ. คามาติ เย คามา สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร สหสฺสสหสฺสุฏฺานกา, เต จ คาเม ¶ เต ทมฺมิ. กาสิสูติ กาสิรฏฺเ. ตํ วิเทหรฏฺสฺส อาสนฺนํ, ตสฺมา ตตฺถสฺส อสีติคาเม อทาสิ.
โสปิ ราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, ตุมฺเห พนฺธวานํ มา จินฺตยิตฺถ, อหํ มม รฺโ คมนกาเลเยว ‘มหาราช, นนฺทาเทวึ มาตุฏฺาเน เปยฺยาสิ, ปฺจาลจนฺทํ กนิฏฺฏฺาเน’ติ วตฺวา ธีตาย เต อภิเสกํ ทาเปตฺวา ราชานํ อุยฺโยเชสึ, มาตรฺจ เทวิฺจ ปุตฺตฺจ สีฆเมว เปเสสฺสามี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, ปณฺฑิตา’’ติ อตฺตโน ธีตุ ทาตพฺพานิ ทาสิทาสวตฺถาลงฺการสุวณฺณหิรฺอลงฺกตหตฺถิอสฺสรถาทีนิ ¶ ‘‘อิมานิ ตสฺสา ทเทยฺยาสี’’ติ มหาสตฺตํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา เสนาวาหนสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ วิจาเรนฺโต อาห –
‘‘ยาว ¶ ททนฺตุ หตฺถีนํ, อสฺสานํ ทิคุณํ วิธํ;
ตปฺเปนฺตุ อนฺนปาเนน, รถิเก ปตฺติการเก’’ติ.
ตตฺถ ยาวาติ น เกวลํ ทิคุณเมว, ยาว ปโหติ, ตาว หตฺถีนฺจ อสฺสานฺจ ยวโคธุมาทิวิธํ เทถาติ วทติ. ตปฺเปนฺตูติ ยตฺตเกน เต อนฺตรามคฺเค อกิลนฺตา คจฺฉนฺติ, ตตฺตกํ เทนฺตา ตปฺเปนฺตุ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ปณฺฑิตํ อุยฺโยเชนฺโต อาห –
‘‘หตฺถี อสฺเส รเถ ปตฺตี, คจฺเฉวาทาย ปณฺฑิต;
ปสฺสตุ ตํ มหาราชา, เวเทโห มิถิลํ คต’’นฺติ.
ตตฺถ มิถิลํ คตนฺติ โสตฺถินา ตํ มิถิลนครํ สมฺปตฺตํ ปสฺสตุ.
อิติ โส ปณฺฑิตสฺส มหนฺตํ สกฺการํ กตฺวา อุยฺโยเชสิ. เตปิ เอกสตราชาโน มหาสตฺตสฺส สกฺการํ กตฺวา พหุํ ปณฺณาการํ อทํสุ. เตสํ สนฺติเก อุปนิกฺขิตฺตกปุริสาปิ ปณฺฑิตเมว ปริวารยึสุ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน ปริวุโต มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา อนฺตรามคฺเคเยว จูฬนิรฺา ทินฺนคามโต อายํ อาหราเปตุํ ปุริเส เปเสตฺวา วิเทหรฏฺํ สมฺปาปุณิ. เสนโกปิ กินฺตรามคฺเค อตฺตโน ปุริสํ เปสิ ‘‘จูฬนิรฺโ ปุน อาคมนํ วา อนาคมนํ วา ชานิตฺวา ยสฺส กสฺสจิ อาคมนฺจ มยฺหํ อาโรเจยฺยาสี’’ติ. โส ติโยชนมตฺถเกเยว มหาสตฺตํ ทิสฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘ปณฺฑิโต มหนฺเตน ปริวาเรน อาคจฺฉตี’’ติ เสนกสฺส อาโรเจสิ. โส ตํ สุตฺวา ราชกุลํ อคมาสิ ¶ . ราชาปิ ปาสาทตเล ิโต วาตปาเนน โอโลเกนฺโต มหตึ เสนํ ทิสฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิตสฺส เสนา มนฺทา, อยํ อติวิย มหตี เสนา ทิสฺสติ, กึ นุ โข จูฬนิราชา อาคโต สิยา’’ติ ภีตตสิโต ตมตฺถํ ปุจฺฉนฺโต อาห –
‘‘หตฺถี ¶ อสฺสา รถา ปตฺตี, เสนา ปทิสฺสเต มหา;
จตุรงฺคินี ภีสรูปา, กึ นุ มฺสิ ปณฺฑิตา’’ติ.
อถสฺส เสนโก ตมตฺถํ อาโรเจนฺโต อาห –
‘‘อานนฺโท เต มหาราช, อุตฺตโม ปฏิทิสฺสติ;
สพฺพํ เสนงฺคมาทาย, โสตฺถึ ปตฺโต มโหสโธ’’ติ.
ตํ สุตฺวา ราชา อาห – ‘‘เสนก, ปณฺฑิตสฺส เสนา มนฺทา, อยํ ปน ¶ มหตี’’ติ. ‘‘มหาราช, จูฬนิราชา เตน ปสาทิโต ภวิสฺสติ, เตนสฺส ปสนฺเนน ทินฺนา ภวิสฺสตี’’ติ. ราชา นคเร เภรึ จราเปสิ ‘‘นครํ อลงฺกริตฺวา ปณฺฑิตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺตู’’ติ. นาครา ตถา กรึสุ. ปณฺฑิโต นครํ ปวิสิตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ ราชา อุฏฺาย อาลิงฺคิตฺวา ปลฺลงฺกวรคโต ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห –
‘‘ยถา เปตํ สุสานสฺมึ, ฉฑฺเฑตฺวา จตุโร ชนา;
เอวํ กปิลยฺเย ตฺยมฺห, ฉฑฺฑยิตฺวา อิธาคตา.
‘‘อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน, เกน วา ปน เหตุนา;
เกน วา อตฺถชาเตน, อตฺตานํ ปริโมจยี’’ติ.
ตตฺถ จตุโร ชนาติ ปณฺฑิต, ยถา นาม กาลกตํ จตุโร ชนา มฺจเกน สุสานํ เนตฺวา ตตฺถ ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺขา คจฺฉนฺติ, เอวํ กปิลยฺเย รฏฺเ ตํ ฉฑฺเฑตฺวา มยํ อิมาคตาติ อตฺโถ. เกน วณฺเณนาติ เกน การเณน. เหตุนาติ ปจฺจเยน. อตฺถชาเตนาติ อตฺเถน. อตฺตานํ ปริโมจยีติ อมิตฺตหตฺถคโต เกน การเณน ปจฺจเยน เกน อตฺเถน ตฺวํ อตฺตานํ ปริโมเจสีติ ปุจฺฉติ.
ตโต ¶ มหาสตฺโต อาห –
‘‘อตฺถํ อตฺเถน เวเทห, มนฺตํ มนฺเตน ขตฺติย;
ปริวารยึ ราชานํ, ชมฺพุทีปํว สาคโร’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – อหํ, มหาราช, เตน จินฺติตํ อตฺถํ อตฺตโน จินฺติเตน อตฺเถน, เตน จ มนฺติตํ มนฺตํ อตฺตโน มนฺติเตน มนฺเตน ปริวาเรสึ. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, เอกสตราชปริวารํ ปน ตํ ราชานํ ชมฺพุทีปํ สาคโร วิย ปริวารยิสฺสนฺติ. สพฺพํ อตฺตโน กตกมฺมํ วิตฺถาเรตฺวา กเถสิ.
ตํ สุตฺวา ราชา อติวิย ตุสฺสิ. อถสฺส ปณฺฑิโต จูฬนิรฺา อตฺตโน ทินฺนํ ปณฺณาการํ อาจิกฺขนฺโต อาห –
‘‘ทินฺนํ นิกฺขสหสฺสํ เม, คามาสีติ จ กาสิสุ;
ทาสิสตานิ จตฺตาริ, ทินฺนํ ภริยาสตฺจ เม;
สพฺพํ เสนงฺคมาทาย, โสตฺถินามฺหิ อิธาคโต’’ติ.
ตโต ราชา อติวิย ตุฏฺปหฏฺโ มหาสตฺตสฺส คุณํ วณฺเณนฺโต ตเมว อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุสุขํ ¶ วต สํวาโส, ปณฺฑิเตหีติ เสนก;
ปกฺขีว ปฺชเร พทฺเธ มจฺเฉ ชาลคเตริว;
อมิตฺตหตฺถตฺตคเต, โมจยี โน มโหสโธ’’ติ.
เสนโกปิ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ตเมว คาถมาห –
‘‘เอวเมตํ มหาราช, ปณฺฑิตา หิ สุขาวหา;
ปกฺขีว ปฺชเร พทฺเธ, มจฺเฉ ชาลคเตริว;
อมิตฺตหตฺถตฺตคเต, โมจยี โน มโหสโธ’’ติ.
อถ ราชา นคเร ฉณเภรึ จราเปตฺวา ‘‘สตฺตาหํ มหาฉณํ กโรนฺตุ, เยสํ มยิ สิเนโห อตฺถิ, เต สพฺเพ ปณฺฑิตสฺส สกฺการํ สมฺมานํ กโรนฺตู’’ติ อาณาเปนฺโต อาห –
‘‘อาหฺนฺตุ ¶ สพฺพวีณา, เภริโย ทินฺทิมานิ จ;
ธเมนฺตุ มาคธา สงฺขา, วคฺคู นทนฺตุ ทุนฺทุภี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อาหฺนฺตูติ วาทิยนฺตุ. มาคธา สงฺขาติ มคธรฏฺเ สฺชาตา สงฺขา. ทุนฺทุภีติ มหาเภริโย.
อถ เต นาครา จ ชานปทา จ ปกติยาปิ ปณฺฑิตสฺส สกฺการํ กาตุกามา เภริสทฺทํ สุตฺวา อติเรกตรํ อกํสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;
พหุํ อนฺนฺจ ปานฺจ, ปณฺฑิตสฺสาภิหารยุํ.
‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;
พหุํ อนฺนฺจ ปานฺจ, ปณฺฑิตสฺสาภิหารยุํ.
‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;
พหุํ อนฺนฺจ ปานฺจ, ปณฺฑิตสฺสาภิหารยุํ.
‘‘พหุชโน ปสนฺโนสิ, ทิสฺวา ปณฺฑิตมาคตํ;
ปณฺฑิตมฺหิ อนุปฺปตฺเต, เจลุกฺเขโป อวตฺตถา’’ติ.
ตตฺถ โอโรธาติ อุทุมฺพรเทวึ อาทึ กตฺวา อนฺเตปุริกา. อภิหารยุนฺติ อภิหาราเปสุํ, ปหิณึสูติ อตฺโถ. พหุชโนติ ภิกฺขเว, นครวาสิโน จ จตุทฺวารคามวาสิโน จ ชนปทวาสิโน จาติ พหุชโน ปสนฺโน อโหสิ. ทิสฺวา ปณฺฑิตมาคตนฺติ ปณฺฑิตํ มิถิลํ อาคตํ ทิสฺวา. อวตฺตถาติ ปณฺฑิตมฺหิ มิถิลํ อนุปฺปตฺเต ‘‘อยํ โน ปมเมว ปจฺจามิตฺตวสํ คตํ ราชานํ ¶ โมเจตฺวา เปเสตฺวา ปจฺฉา เอกสตราชาโน อฺมฺํ ขมาเปตฺวา สมคฺเค กตฺวา จูฬนึ ปสาเทตฺวา เตน ทินฺนํ มหนฺตํ ยสํ อาทาย อาคโต’’ติ ตุฏฺจิตฺเตน ชเนน ปวตฺติโต เจลุกฺเขโป ปวตฺตถ.
อถ มหาสตฺโต ฉณาวสาเน ราชกุลํ อาคนฺตฺวา ‘‘มหาราช, จูฬนิรฺโ มาตรฺจ เทวิฺจ ปุตฺตฺจ สีฆํ เปเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, ตาต, เปเสหี’’ติ. โส เตสํ ติณฺณํ ชนานํ มหนฺตํ สกฺการํ กตฺวา ¶ อตฺตนา สทฺธึ อาคตเสนายปิ สกฺการํ สมฺมานํ กาเรตฺวา เต ตโย ชเน มหนฺเตน ปริวาเรน อตฺตโน ปุริเสหิ สทฺธึ เปเสสิ. รฺา อตฺตโน ทินฺนา สตภริยา ¶ จ จตฺตาริ ทาสิสตานิ จ นนฺทาเทวิยา สทฺธึ เปเสสิ, อตฺตนา สทฺธึ อาคตเสนมฺปิ เตหิ สทฺธึเยว เปเสสิ. เต มหนฺเตน ปริวาเรน อุตฺตรปฺจาลนครํ ปาปุณึสุ. อถ ราชา มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, อมฺม, เวเทหราเชน เต สงฺคโห กโต’’ติ? ‘‘กึ ตาต, กเถสิ, มํ เทวตาาเน เปตฺวา สกฺการมกาสิ, นนฺทาเทวิมฺปิ มาตุฏฺาเน เปสิ, ปฺจาลจนฺทํ กนิฏฺภาติกฏฺาเน เปสี’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา อติวิย ตุสฺสิตฺวา พหุํ ปณฺณาการํ เปเสสิ. ตโต ปฏฺาย เต อุโภปิ สมคฺคา สมฺโมทมานา วสึสูติ.
มหาอุมงฺคขณฺฑํ นิฏฺิตํ.
ทกรกฺขสปฺโห
ปฺจาลจนฺที วิเทหรฺา ปิยา อโหสิ มนาปา. สา ทุติเย สํวจฺฉเร ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺส ทสเม สํวจฺฉเร เวเทหราชา กาลมกาสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ‘‘เทว, อหํ ตว อยฺยกสฺส จูฬนิรฺโ สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ อาปุจฺฉิ. ปณฺฑิต, มา มํ ทหรํ ฉฑฺเฑตฺวา คมิตฺถ, อหํ ตํ ปิตุฏฺาเน เปตฺวา สกฺการํ กริสฺสามีติ. ปฺจาลจนฺทีปิ นํ ‘‘ปณฺฑิต, ตุมฺหากํ คตกาเล อฺํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, มา คมิตฺถา’’ติ ยาจิ. โสปิ ‘‘มยา รฺโ ปฏิฺา ทินฺนา, น สกฺกา อคนฺตุ’’นฺติ มหาชนสฺส กลุนํ ปริเทวนฺตสฺเสว อตฺตโน อุปฏฺาเก คเหตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อุตฺตรปฺจาลนครํ คโต. ราชา ตสฺสาคมนํ สุตฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา มหนฺเตน สกฺกาเรน นครํ ปเวเสตฺวา มหนฺตํ เคหํ ทตฺวา เปตฺวา ปมทินฺเน ¶ อสีติคาเม น อฺํ โภคํ อทาสิ. โส ตํ ราชานํ อุปฏฺาสิ.
ตทา เภรี นาม ปริพฺพาชิกา ราชเคเห ภฺุชติ, สา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา. ตาย มหาสตฺโต น ทิฏฺปุพฺโพ, ‘‘มโหสธปณฺฑิโต กิร ราชานํ อุปฏฺาตี’’ติ สทฺทเมว สุณาติ. เตนปิ สา น ทิฏฺปุพฺพา, ‘‘เภรี นาม ปริพฺพาชิกา ราชเคเห ภฺุชตี’’ติ สทฺทเมว สุณาติ. นนฺทาเทวี ปน ‘‘ปิยวิปฺปโยคํ กตฺวา อมฺเห กิลมาเปสี’’ติ โพธิสตฺเต อนตฺตมนา อโหสิ. สา ปฺจสตา วลฺลภิตฺถิโย อาณาเปสิ ‘‘มโหสธสฺส เอกํ โทสํ อุปธาเรตฺวา ¶ รฺโ อนฺตเร ปริภินฺทิตุํ วายมถา’’ติ. ตา ตสฺส อนฺตรํ โอโลเกนฺติโย วิจรนฺติ.
อเถกทิวสํ สา ปริพฺพาชิกา ภฺุชิตฺวา ราชเคหา นิกฺขนฺตี โพธิสตฺตํ ราชุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตํ ราชงฺคเณ ปสฺสิ. โส ตํ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. สา ‘‘อยํ กิร ปณฺฑิโต, ชานิสฺสามิ ¶ ตาวสฺส ปณฺฑิตภาวํ วา อปณฺฑิตภาวํ วา’’ติ หตฺถมุทฺทาย ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี โพธิสตฺตํ โอโลเกตฺวา หตฺถํ ปสาเรสิ. สา กิร ‘‘กีทิสํ, ปณฺฑิต, ราชา ตํ ปรเทสโต อาเนตฺวา อิทานิ ปฏิชคฺคติ, น ปฏิชคฺคตี’’ติ มนสาว ปฺหํ ปุจฺฉิ. โพธิสตฺโต ‘‘อยํ หตฺถมุทฺทาย มํ ปฺหํ ปุจฺฉตี’’ติ ตฺวา ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต หตฺถมุฏฺึ อกาสิ. โส กิร ‘‘อยฺเย, มม ปฏิฺํ คเหตฺวา ปกฺโกสิตฺวา อิทานิ ราชา คาฬฺหมุฏฺิว ชาโต, น เม อปุพฺพํ กิฺจิ เทตี’’ติ มนสาว ปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ. สา ตํ การณํ ตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา อตฺตโน สีสํ ปรามสิ. เตน อิทํ ทสฺเสติ ‘‘ปณฺฑิต, สเจ กิลมสิ, มยํ วิย กสฺมา น ปพฺพชสี’’ติ? ตํ ตฺวา มหาสตฺโต อตฺตโน กุจฺฉึ ปรามสิ. เตน อิทํ ทสฺเสติ ‘‘อยฺเย, มม โปสิตพฺพา ปุตฺตทารา พหุตรา, เตน น ปพฺพชามี’’ติ. อิติ สา หตฺถมุทฺทาย ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน อาวาสเมว อคมาสิ. มหาสตฺโตปิ ตํ วนฺทิตฺวา ราชุปฏฺานํ คโต.
นนฺทาเทวิยา ปยุตฺตา วลฺลภิตฺถิโย สีหปฺชเร ิตา ตํ กิริยํ ทิสฺวา จูฬนิรฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, มโหสโธ เภริปริพฺพาชิกาย สทฺธึ เอกโต หุตฺวา ตุมฺหากํ รชฺชํ คณฺหิตุกาโม, ตุมฺหากํ ปจฺจตฺถิโก โหตี’’ติ ปริภินฺทึสุ. ราชา อาห – ‘‘กึ โว ทิฏฺํ วา สุตํ วา’’ติ? มหาราช ¶ , ปริพฺพาชิกา ภฺุชิตฺวา โอตรนฺตี มโหสธํ ทิสฺวา ราชานํ หตฺถตลํ วิย ขลมณฺฑลํ วิย จ สมํ กตฺวา ‘‘รชฺชํ อตฺตโน หตฺถคตํ กาตุํ สกฺโกสี’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. มโหสโธปิ ขคฺคคฺคหณาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กติปาหจฺจเยน สีสํ ฉินฺทิตฺวา รชฺชํ อตฺตโน หตฺถคตํ กริสฺสามี’’ติ มุฏฺึ อกาสิ. สา ‘‘สีสเมว ฉินฺทาหี’’ติ อตฺตโน หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา สีสํ ปรามสิ. มโหสโธ ‘‘มชฺเฌเยว นํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ กุจฺฉึ ปรามสิ. อปฺปมตฺตา, มหาราช, โหถ, มโหสธํ ฆาเตตุํ วฏฺฏตีติ. โส ตาสํ กถํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘น สกฺกา ปณฺฑิเตน มยิ ทุสฺสิตุํ, ปริพฺพาชิกํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ.
โส ¶ ปุนทิวเส ปริพฺพาชิกาย ภุตฺตกาเล ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘อยฺเย, กจฺจิ เต มโหสธปณฺฑิโต ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, หิยฺโย อิโต ภฺุชิตฺวา นิกฺขนฺติยา ทิฏฺโ’’ติ. ‘‘โกจิ ปน โว กถาสลฺลาโป อโหสี’’ติ. ‘‘มหาราช, สลฺลาโป นตฺถิ, ‘โส ปน ปณฺฑิโต’ติ สุตฺวา ‘สเจ ปณฺฑิโต, อิทํ ชานิสฺสตี’ติ หตฺถมุทฺทาย นํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี ‘‘ปณฺฑิต, กจฺจิ เต ราชา ปสาริตหตฺโถ, น สงฺกุจิตหตฺโถ, กจฺจิ เต สงฺคณฺหาตี’’ติ หตฺถํ ปสาเรสึ. ปณฺฑิโต – ‘‘ราชา มม ปฏิฺํ คเหตฺวา ปกฺโกสิตฺวา อิทานิ กิฺจิ น เทตี’’ติ มุฏฺิมกาสิ. อถาหํ – ‘‘สเจ กิลมสิ, มยํ วิย กสฺมา น ปพฺพชสี’’ติ สีสํ ปรามสึ. โส – ‘‘มม โปเสตพฺพา ปุตฺตทารา พหุตรา, เตน น ปพฺพชามี’’ติ อตฺตโน กุจฺฉึ ¶ ปรามสีติ. ‘‘ปณฺฑิโต, อยฺเย, มโหสโธ’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ปถวิตเล ปฺาย เตน สทิโส นาม นตฺถี’’ติ. ราชา ตสฺสา กถํ สุตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. ตสฺสา คตกาเล ปณฺฑิโต ราชุปฏฺานํ ปวิฏฺโ. อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘กจฺจิ เต, ปณฺฑิต, เภรี นาม ปริพฺพาชิกา ทิฏฺา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, หิยฺโย อิโต นิกฺขนฺตึ ปสฺสึ, สา หตฺถมุทฺทาย เอวํ มํ ปฺหํ ปุจฺฉิ, อหฺจสฺสา ตเถว วิสฺสชฺเชสิ’’นฺติ ตาย กถิตนิยาเมเนว กเถสิ. ราชา ตํ ทิวสํ ปสีทิตฺวา ปณฺฑิตสฺส เสนาปติฏฺานํ อทาสิ, สพฺพกิจฺจานิ ตเมว ปฏิจฺฉาเปสิ. ตสฺส ยโส มหา อโหสิ.
รฺโ ทินฺนยสานนฺตรเมว โส จินฺเตสิ ‘‘รฺา เอกปฺปหาเรเนว ¶ มยฺหํ อติมหนฺตํ อิสฺสริยํ ทินฺนํ, ราชาโน โข ปน มาเรตุกามาปิ เอวํ กโรนฺติเยว, ยํนูนาหํ ‘มม สุหทโย วา โน วา’ติ ราชานํ วีมํเสยฺยํ, น โข ปนฺโ ชานิตุํ สกฺขิสฺสติ, เภรี ปริพฺพาชิกา าณสมฺปนฺนา, สา เอเกนุปาเยน ชานิสฺสตี’’ติ. โส พหูนิ คนฺธมาลาทีนิ คเหตฺวา ปริพฺพาชิกาย อาวาสํ คนฺตฺวา ตํ ปูชยิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘อยฺเย, ตุมฺเหหิ รฺโ มม คุณกถาย กถิตทิวสโต ปฏฺาย ราชา อชฺโฌตฺถริตฺวา มยฺหํ อติมหนฺตํ ยสํ เทติ, ตํ โข ปน ‘สภาเวน วา เทติ, โน วา’ติ น ชานามิ, สาธุ วตสฺส, สเจ เอเกนุปาเยน รฺโ มยิ สิเนหภาวํ ชาเนยฺยาถา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ปุนทิวเส ราชเคหํ คจฺฉมานา ทกรกฺขสปฺหํ นาม จินฺเตสิ. เอวํ กิรสฺสา อโหสิ ‘‘อหํ จรปุริโส วิย หุตฺวา อุปาเยน ¶ ราชานํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘ปณฺฑิตสฺส สุหทโย วา, โน วา’ติ ชานิสฺสามี’’ติ. สา คนฺตฺวา กตภตฺตกิจฺจา นิสีทิ. ราชาปิ นํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตสฺสา เอตทโหสิ ‘‘สเจ ราชา ปณฺฑิตสฺส อุปริ ทุหทโย ภวิสฺสติ, ปฺหํ ปุฏฺโ อตฺตโน ทุหทยภาวํ มหาชนมชฺเฌเยว กเถสฺสติ, ตํ อยุตฺตํ, เอกมนฺเต นํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. สา ‘‘รโห ปจฺจาสีสามิ, มหาราชา’’ติ อาห. ราชา มนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปสิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘มหาราช, ตํ ปฺหํ ปุจฺฉามี’’ติ. ‘‘ปุจฺฉ, อยฺเย, ชานนฺโต กเถสฺสามี’’ติ. อถ สา ทกรกฺขสปฺเห ปมํ คาถมาห –
‘‘สเจ โว วุยฺหมานานํ, สตฺตนฺนํ อุทกณฺณเว;
มนุสฺสพลิเมสาโน, นาวํ คณฺเหยฺย รกฺขโส;
อนุปุพฺพํ กถํ ทตฺวา, มฺุเจสิ ทกรกฺขสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๒๔);
ตตฺถ สตฺตนฺนนฺติ ตุมฺหากํ มาตา จ นนฺทาเทวี จ ติขิณมนฺติกุมาโร จ ธนุเสขสหาโย จ ¶ ปุโรหิโต จ มโหสโธ จ ตุมฺเห จาติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ. อุทกณฺณเวติ คมฺภีรวิตฺถเต อุทเก. มนุสฺสพลิเมสาโนติ มนุสฺสพลึ คเวสนฺโต. คณฺเหยฺยาติ ถามสมฺปนฺโน ทกรกฺขโส อุทกํ ทฺวิธา กตฺวา นิกฺขมิตฺวา ตํ นาวํ คณฺเหยฺย, คเหตฺวา จ ปน ‘‘มหาราช, อิเม ฉ ชเน มม อนุปฏิปาฏิยา เทหิ, ตํ วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ วเทยฺย. อถ ตฺวํ อนุปุพฺพํ กถํ ทตฺวา มฺุเจสิ ทกรกฺขสา, กํ ปมํ ทตฺวา…เป… กํ ฉฏฺํ ทตฺวา ทกรกฺขสโต มฺุเจยฺยาสีติ?
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา อตฺตโน ยถาชฺฌาสยํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘มาตรํ ปมํ ทชฺชํ, ภริยํ ทตฺวาน ภาตรํ;
ตโต สหายํ ทตฺวาน, ปฺจมํ ทชฺชํ พฺราหฺมณํ;
ฉฏฺาหํ ทชฺชมตฺตานํ, เนว ทชฺชํ มโหสธ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๒๕);
ตตฺถ ฉฏฺาหนฺติ อยฺเย, ปฺจเม ขาทิเต อถาหํ ‘‘โภ ทกรกฺขส, มุขํ วิวรา’’ติ วตฺวา เตน มุเข วิวเฏ ทฬฺหํ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา อิมํ รชฺชสิรึ อคเณตฺวา ‘‘อิทานิ มํ ขาทา’’ติ ตสฺส มุเข ปเตยฺยํ, น ตฺเวว ชีวมาโน มโหสธปณฺฑิตํ ทเทยฺยนฺติ, เอตฺตเกน อยํ ปฺโห นิฏฺิโต.
เอวํ ¶ าตํ ปริพฺพาชิกาย รฺโ มหาสตฺเต สุหทยตํ, น ปน เอตฺตเกเนว ปณฺฑิตสฺส คุโณ จนฺโท วิย ปากโฏ โหติ. เตนสฺสา เอตทโหสิ ‘‘อหํ มหาชนมชฺเฌ เอเตสํ คุณํ กถยิสฺสามิ, ราชา เตสํ อคุณํ กเถตฺวา ปณฺฑิตสฺส คุณํ กเถสฺสติ, เอวํ ปณฺฑิตสฺส คุโณ นเภ ปุณฺณจนฺโท วิย ปากโฏ ภวิสฺสตี’’ติ. สา สพฺพํ อนฺเตปุรชนํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ปุน ราชานํ ตเมว ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา เตน ตเถว วุตฺเต ‘‘มหาราช, ตฺวํ ‘มาตรํ ปมํ ทสฺสามี’ติ วทสิ, มาตา นาม มหาคุณา, ตุยฺหฺจ มาตา น อฺเสํ มาตุสทิสา. พหูปการา เต เอสา’’ติ ตสฺสา คุณํ กเถนฺตี คาถาทฺวยมาห –
‘‘โปเสตา เต ชเนตฺตี จ, ทีฆรตฺตานุกมฺปิกา;
ฉพฺภี ตยิ ปทุสฺสติ, ปณฺฑิตา อตฺถทสฺสินี;
อฺํ อุปนิสํ กตฺวา, วธา ตํ ปริโมจยิ.
‘‘ตํ ¶ ตาทิสึ ปาณททึ, โอรสํ คพฺภธารินึ;
มาตรํ เกน โทเสน, ทชฺชาสิ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๒๖-๒๒๗);
ตตฺถ โปเสตาติ ทหรกาเล ทฺเว ตโย วาเร นฺหาเปตฺวา ปาเยตฺวา โภเชตฺวา ตํ โปเสสิ. ทีฆรตฺตานุกมฺปิกาติ จิรกาลํ มุทุนา หิตจิตฺเตน อนุกมฺปิกา. ฉมฺภี ตยิ ปทุสฺสตีติ ยทา ตยิ ฉมฺภี นาม พฺราหฺมโณ ปทุสฺสิ, ตทา สา ปณฺฑิตา อตฺถทสฺสินี อฺํ ตว ปฏิรูปกํ กตฺวา ตํ วธา ปริโมจยิ.
จูฬนิสฺส กิร มหาจูฬนี นาม ปิตา อโหสิ. สา อิมสฺส ทหรกาเล ปุโรหิเตน สทฺธึ เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ราชานํ วิเสน มาราเปตฺวา พฺราหฺมณสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ตสฺส อคฺคมเหสี หุตฺวา เอกทิวสํ ‘‘อมฺม, ฉาโตมฺหี’’ติ ¶ วุตฺเต ปุตฺตสฺส ผาณิเตน สทฺธึ ปูวขชฺชกํ ทาเปสิ. อถ นํ มกฺขิกา ปริวารยึสุ, โส ‘‘อิมํ นิมฺมกฺขิกํ กตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ โถกํ ปฏิกฺกมิตฺวา ภูมิยํ ผาณิตพินฺทูนิ ปาเตตฺวา อตฺตโน สนฺติเก มกฺขิกา โปเถตฺวา ปลาเปสิ. ตา คนฺตฺวา อิตรํ ผาณิตํ ปริวารยึสุ. โส นิมฺมกฺขิกํ กตฺวา ขชฺชกํ ขาทิตฺวา หตฺถํ ¶ โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ปกฺกามิ. พฺราหฺมโณ ตสฺส ตํ กิริยํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ ทารโก อิทาเนว นิมฺมกฺขิกํ ผาณิตํ ขาทติ, วุฑฺฒิปฺปตฺโต มม รชฺชํ น ทสฺสติ, อิทาเนว นํ มาเรสฺสามี’’ติ. โส เทวิยา ตมตฺถํ อาโรเจสิ.
สา ‘‘สาธู, เทว, อหํ ตยิ สิเนเหน อตฺตโน สามิกมฺปิ มาเรสึ, อิมินา เม โก อตฺโถ, มหาราช, เอกมฺปิ อชานาเปตฺวา รหสฺเสน นํ มาเรสฺสามี’’ติ พฺราหฺมณํ วฺเจตฺวา ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ ปณฺฑิตํ อุปายกุสลํ ภตฺตการกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺม, มม ปุตฺโต จูฬนิกุมาโร จ ตว ปุตฺโต ธนุเสขกุมาโร จ เอกทิวสํ ชาตา เอกโต กุมารปริหาเรน วฑฺฒิตา ปิยสหายกา, ฉพฺภิพฺราหฺมโณ มม ปุตฺตํ มาเรตุกาโม, ตฺวํ ตสฺส ชีวิตทานํ เทหี’’ติ วตฺวา ‘‘สาธุ, เทวิ, กึ กโรมี’’ติ วุตฺเต ‘‘มม ปุตฺโต อภิณฺหํ ตว เคเห โหตุ, ตฺวฺจ เต จ กติปาหํ นิราสงฺกภาวตฺถาย มหานเสเยว สุปถ. ตโต นิราสงฺกภาวํ ตฺวา ตุมฺหากํ สยนฏฺาเน เอฬกฏฺีนิ เปตฺวา มนุสฺสานํ สยนเวลาย มหานเส อคฺคึ ทตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวา มม ปุตฺตฺจ ตว ปุตฺตฺจ คเหตฺวา อคฺคทฺวาเรเนว นิกฺขมิตฺวา ติโรรฏฺํ คนฺตฺวา มม ปุตฺตสฺส ราชปุตฺตภาวํ อนาจิกฺขิตฺวา ชีวิตํ อนุรกฺขาหี’’ติ อาห.
โส ¶ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺส สา รตนสารํ อทาสิ. โส ตถา กตฺวา กุมารฺจ ปุตฺตฺจ อาทาย มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ คนฺตฺวา ราชานํ อุปฏฺาสิ. โส โปราณภตฺตการกํ อปเนตฺวา ตสฺส ตํ านํ อทาสิ. ทฺเวปิ กุมารา เตน สทฺธึเยว ราชนิเวสนํ คจฺฉนฺติ. ราชา ‘‘กสฺเสเต ปุตฺตา กุมารา’’ติ ปุจฺฉิ. ภตฺตการโก ‘‘มยฺหํ ปุตฺตา’’ติ อาห. ‘‘นนุ ทฺเว อสทิสา’’ติ? ‘‘ทฺวินฺนํ อิตฺถีนํ ปุตฺตา, เทวา’’ติ. เต คจฺฉนฺเต กาเล วิสฺสาสิกา หุตฺวา มทฺทรฺโ ธีตาย สทฺธึ ราชนิเวสเนเยว กีฬนฺติ. อถ จูฬนิกุมาโร จ ราชธีตา จ อภิณฺหทสฺสเนน อฺมฺํ ปฏิพทฺธจิตฺตา อเหสุํ. กีฬนฏฺาเน กุมาโร ราชธีตรํ เคณฺฑุกมฺปิ ปาสกมฺปิ อาหราเปติ. อนาหรนฺตึ สีเส ปหรติ, สา โรทติ. อถสฺสา สทฺทํ สุตฺวา ราชา ‘‘เกน เม ธีตา ปหฏา’’ติ วทติ. ธาติโย อาคนฺตฺวา ปุจฺฉนฺติ. กุมาริกา ‘‘สจาหํ ‘อิมินา ปหฏามฺหี’ติ วกฺขามิ ¶ , ปิตา เม เอตสฺส ราชทณฺฑํ กริสฺสตี’’ติ สิเนเหน น กเถติ, ‘‘นาหํ เกนจิ ปหฏา’’ติ วทติ.
อเถกทิวสํ มทฺทราชา นํ ปหรนฺตํ อทฺทส. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ ‘‘อยํ กุมาโร น จ ภตฺตการเกน สทิโส อภิรูโป ปาสาทิโก อติวิย อฉมฺภิโต, น อิมินา เอตสฺส ปุตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ. โส ตโต ปฏฺาย ตํ ปริคฺคณฺหิ. ธาติโย กีฬนฏฺาเน ขาทนียํ อาหริตฺวา ราชธีตาย เทนฺติ, สา อฺเสมฺปิ ทารกานํ เทติ. เต ชณฺณุนา ปติฏฺาย โอนตา คณฺหนฺติ. จูฬนิกุมาโร ปน ิตโกว ตสฺสา หตฺถโต อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหาติ. ราชาปิ ตํ กิริยํ อทฺทส. อเถกทิวสํ จูฬนิกุมารสฺส เคณฺฑุโก รฺโ จูฬสยนสฺส เหฏฺา ปาวิสิ. กุมาโร ตํ คณฺหนฺโต อตฺตโน อิสฺสรมาเนน ‘‘อิมสฺส ปจฺจนฺตรฺโ เหฏฺาสยเน น ปวิสามี’’ติ ¶ ตํ ทณฺฑเกน นีหริตฺวา คณฺหิ. ราชา ตมฺปิ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘นิจฺฉเยเนส น ภตฺตการกสฺส ปุตฺโต’’ติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กสฺเสโส ปุตฺโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ตว ปุตฺตฺจ อปุตฺตฺจ ชานามิ, สภาวํ เม กเถหิ, โน เจ กเถสิ, ชีวิตํ เต นตฺถี’’ติ ขคฺคํ อุคฺคิริ. โส มรณภยภีโต ‘‘กเถมิ, เทว, รโห ปน ปจฺจาสีสามี’’ติ วตฺวา รฺา โอกาเส กเต อภยํ ยาจิตฺวา ยถาภูตํ อาโรเจสิ. ราชา ตถโต ตฺวา อตฺตโน ธีตรํ อลงฺกริตฺวา ตสฺส ปาทปริจาริกํ กตฺวา อทาสิ.
อิเมสํ ปน ปลาตทิวเส ‘‘ภตฺตการโก จ จูฬนิกุมาโร จ ภตฺตการกสฺส ปุตฺโต จ มหานเส ปทิตฺเตเยว ทฑฺฒา’’ติ สกลนคเร เอกโกลาหลํ อโหสิ. จลากเทวีปิ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา พฺราหฺมณสฺส อาโรเจสิ ‘‘เทว, ตุมฺหากํ มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, เต กิร ตโยปิ ภตฺตเคเหเยว ทฑฺฒา’’ติ. โส ตุฏฺหฏฺโ อโหสิ. จลากเทวีปิ ‘‘จูฬนิกุมารสฺส อฏฺีนี’’ติ เอฬกสฺส ¶ อฏฺีนิ อาหราเปตฺวา พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสตฺวา ฉฑฺฑาเปสิ. อิมมตฺถํ สนฺธาย ปริพฺพาชิกา ‘‘อฺํ อุปนิสํ กตฺวา, วธา ตํ ปริโมจยี’’ติ อาห. สา หิ เอฬกสฺส อฏฺีนิ ‘‘มนุสฺสอฏฺีนี’’ติ ทสฺเสตฺวา ตํ วธา โมเจสิ. โอรสนฺติ ยาย ตฺวํ อุเร กตฺวา วฑฺฒิโต, ตํ โอรสํ ปิยํ มนาปํ. คพฺภธารินินฺติ ยาย ตฺวํ กุจฺฉินา ธาริโต, ตํ เอวรูปํ มาตรํ เกน โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทสฺสสีติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา ‘‘อยฺเย, พหู มม มาตุ คุณา, อหฺจสฺสา มม อุปการภาวํ ชานามิ, ตโตปิ ปน มเมว คุณา พหุตรา’’ติ มาตุ อคุณํ กเถนฺโต อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘ทหรา วิยลงฺการํ, ธาเรติ อปิฬนฺธนํ;
โทวาริเก อนีกฏฺเ, อติเวลํ ปชคฺฆติ.
‘‘อโถปิ ปฏิราชูนํ, สยํ ทูตานิ สาสติ;
มาตรํ เตน โทเสน, ทชฺชาหํ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๒๘-๒๒๙);
ตตฺถ ทหรา วิยาติ มหลฺลิกาปิ หุตฺวา ตรุณี วิย. ธาเรติ อปิฬนฺธนนฺติ ปิฬนฺธิตุํ อยุตฺตํ อลงฺการํ ธาเรติ. สา กิร วชิรปูริตํ กฺจนเมขลํ ปิฬนฺธิตฺวา รฺโ อมจฺเจหิ สทฺธึ มหาตเล นิสินฺนกาเล อปราปรํ จงฺกมติ, เมขลาสทฺเทน ราชนิเวสนํ เอกนินฺนาทํ โหติ. ปชคฺฆตีติ เอสา โทวาริเก จ หตฺถิอาจริยาทิเก อนีกฏฺเ จ, เย เอติสฺสา อุจฺฉิฏฺกมฺปิ ภฺุชิตุํ อยุตฺตรูปา, เตปิ อามนฺเตตฺวา เตหิ สทฺธึ อติเวลํ มหาหสิตํ หสติ. ปฏิราชูนนฺติ อฺเสํ ราชูนํ. สยํ ทูตานิ สาสตีติ มม วจเนน สยํ ปณฺณํ ลิขิตฺวา ทูเตปิ เปเสติ ‘‘มม มาตา กาเม ปริภฺุชนวยสฺมึเยว ิตา, อสุกราชา กิร อาคนฺตฺวา ตํ อาเนตู’’ติ. เต ‘‘มยํ รฺโ อุปฏฺากา, กสฺมา โน เอวํ วเทสี’’ติ ปฏิปณฺณานิ เปเสนฺติ. เตสุ ปริสมชฺเฌ วาจิยมาเนสุ มม สีสํ ฉินฺทนกาโล วิย โหติ, มาตรํ เตน โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทสฺสามีติ.
อถ ปริพฺพาชิกา ‘‘มหาราช ¶ , มาตรํ ตาว อิมินา โทเสน เทหิ, ภริยา ปน เต พหูปการา’’ติ ตสฺสา คุณํ กเถนฺตี ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อิตฺถิคุมฺพสฺส ¶ ปวรา, อจฺจนฺตํ ปิยภาณินี;
อนุคฺคตา สีลวตี, ฉายาว อนปายินี.
‘‘อกฺโกธนา ปฺุวตี, ปณฺฑิตา อตฺถทสฺสินี;
อุพฺพรึ เกน โทเสน, อชฺชาสิ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๓๐-๒๓๑);
ตตฺถ ¶ อิตฺถิคุมฺพสฺสาติ อิตฺถิคณสฺส. อนุคฺคตาติ ทหรกาลโต ปฏฺาย อนุคตา. ‘‘อกฺโกธนา’’ติอาทิเกน ปนสฺสา คุเณ กเถติ. มทฺทรฏฺเ สาคลนคเร วสนกาเล ปหฏาปิ ตว อาณากรณภเยน ตยิ สิเนเหน มาตาปิตูนํ น กเถสิ, เอวเมสา อกฺโกธนา ปฺุวตี ปณฺฑิตา อตฺถทสฺสินีติ. อิทํ ทหรกาเล อกฺโกธนาทิภาวํ สนฺธายาห. อุพฺพรินฺติ โอโรธํ. เอวํ คุณสมฺปนฺนํ นนฺทาเทวึ เกน โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทสฺสสีติ วทติ.
โส ตสฺสา อคุณํ กเถนฺโต อาห –
‘‘ขิฑฺฑารติสมาปนฺนํ, อนตฺถวสมาคตํ;
สา มํ สกาน ปุตฺตานํ, อยาจํ ยาจเต ธนํ.
‘‘โสหํ ททามิ สารตฺโต, พหุํ อุจฺจาวจํ ธนํ;
สุทุจฺจชํ จชิตฺวาน, ปจฺฉา โสจามิ ทุมฺมโน;
อุพฺพรึ เตน โทเสน, ทชฺชาหํ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๓๒-๒๓๓);
ตตฺถ อนตฺถวสมาคตนฺติ ตาย ขิฑฺฑารติยา กามกีฬาย อนตฺถการกานํ กิเลสานํ วสํ อาคตํ มํ วิทิตฺวา. สา มนฺติ สา นนฺทาเทวี มํ. สกาน ปุตฺตานนฺติ ยํ มยา อตฺตโน ปุตฺตธีตานฺจ ภริยานฺจ ทินฺนํ ปิฬนฺธนํ, ตํ อยาจิตพฺพรูปํ ‘‘มยฺหํ เทหี’’ติ ยาจติ. ปจฺฉา โสจามีติ สา ทุติยทิวเส ‘‘อิมานิ ปิฬนฺธนานิ รฺา เม ทินฺนานิ, อาหรเถตานี’’ติ เตสํ โรทนฺตานํ โอมฺุจิตฺวา คณฺหาติ. อถาหํ เต โรทมาเน มม สนฺติกํ อาคเต ทิสฺวา ปจฺฉา โสจามิ. เอวํ โทสการิกา เอสา. อิมินา นํ โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทสฺสามีติ.
อถ ¶ นํ ปริพฺพาชิกา ‘‘อิมํ ตาว อิมินา โทเสน เทหิ, กนิฏฺโ ปน เต ติขิณมนฺติกุมาโร อุปการโก, ตํ เกน โทเสน ทสฺสตี’’ติ ปุจฺฉนฺตี อาห –
‘‘เยโนจิตา ¶ ชนปทา, อานีตา จ ปฏิคฺคหํ;
อาภตํ ปรรชฺเชภิ, อภิฏฺาย พหุํ ธนํ.
ธนุคฺคหานํ ปวรํ, สูรํ ติขิณมนฺตินํ;
ภาตรํ เกน โทเสน, ทชฺชาสิ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๓๔-๒๓๕);
ตตฺถ ¶ โอจิตาติ วฑฺฒิตา. ปฏิคฺคหนฺติ เยน จ ตุมฺเห ปรเทเส วสนฺตา ปุน เคหํ อานีตา. อภิฏฺายาติ อภิภวิตฺวา. ติขิณมนฺตินนฺติ ติขิณปฺํ.
โส กิร มาตุ พฺราหฺมเณน สทฺธึ วสนกาเล ชาโต. อถสฺส วยปฺปตฺตสฺส พฺราหฺมโณ ขคฺคํ หตฺเถ ทตฺวา ‘‘อิมํ คเหตฺวา มํ อุปฏฺหา’’ติ อาห. โส พฺราหฺมณํ ‘‘ปิตา เม’’ติ สฺาย อุปฏฺาสิ. อถ นํ เอโก อมจฺโจ ‘‘กุมาร, น ตฺวํ เอตสฺส ปุตฺโต, ตว กุจฺฉิคตกาเล จลากเทวี ราชานํ มาเรตฺวา เอตสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปสิ, ตฺวํ มหาจูฬนิรฺโ ปุตฺโต’’ติ อาห. โส กุชฺฌิตฺวา ‘‘เอเกน อุปาเยน นํ มาเรสฺสามี’’ติ ราชกุลํ ปวิสนฺโต ตํ ขคฺคํ เอกสฺส ปาทมูลิกสฺส ทตฺวา อปรํ ‘‘ตฺวํ ราชทฺวาเร ‘มเมโส ขคฺโค’ติ อิมินา สทฺธึ วิวาทํ กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา ปาวิสิ. เต กลหํ กรึสุ. โส ‘‘กึ เอส กลโห’’ติ เอกํ ปุริสํ เปเสสิ. โส อาคนฺตฺวา ‘‘ขคฺคตฺถายา’’ติ อาห. พฺราหฺมโณ ตํ สุตฺวา ‘‘กึ เอต’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส กิร ตุมฺเหหิ มม ทินฺนขคฺโค ปรสฺส สนฺตโกติ. ‘‘กึ วเทสิ, ตาต, เตน หิ อาหราเปหิ, สฺชานิสฺสามิ น’’นฺติ อาห. โส ตํ อาหราเปตฺวา โกสโต นิกฺกฑฺฒิตฺวา ‘‘ปสฺสถา’’ติ ตํ สฺฌานาเปนฺโต วิย อุปคนฺตฺวา เอกปฺปหาเรเนว ตสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา อตฺตโน ปาทมูเล ปาเตสิ. ตโต ราชเคหํ ปฏิชคฺคิตฺวา นครํ อลงฺกริตฺวา ตสฺส อภิเสเก อุปนีเต มาตา จูฬนิกุมารสฺส มทฺทรฏฺเ วสนภาวํ อาจิกฺขิ. ตํ สุตฺวา กุมาโร เสนงฺคปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา ภาตรํ อาเนตฺวา รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปสิ. ตโต ปฏฺาย ตํ ‘‘ติขิณมนฺตี’’ติ สฺชานึสุ. ปริพฺพาชิกา ตํ ‘‘เอวรูปํ ภาตรํ เกน โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทชฺชาสี’’ติ ปุจฺฉิ.
ราชา ¶ ตสฺส โทสํ กเถนฺโต อาห –
‘‘เยโนจิตา ชนปทา, อานีตา จ ปฏิคฺคหํ;
อาภตํ ปรรชฺเชภิ, อภิฏฺาย พหุํ ธนํ.
‘‘ธนุคฺคหานํ ปวโร, สูโร ติขิณมนฺติ จ;
มยายํ สุขิโต ราชา, อติมฺติ ทารโก.
‘‘อุปฏฺานมฺปิ ¶ เม อยฺเย, น โส เอติ ยถา ปุเร;
ภาตรํ เตน โทเสน, ทชฺชาหํ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๓๖-๒๓๘);
ตตฺถ ปรรชฺเชภีติ อิมสฺส ปรรชฺชโต จ พหุ ธนํ อาภตํ, อยฺจ ปรรชฺเช วสนฺโต ปุน อิมํ เคหํ อาเนตฺวา ‘‘เอส มยา มหติ ยเส ปติฏฺาปิโต’’ติ ¶ วทติ. ยถา ปุเรติ ปุพฺเพ ปาโตว อาคจฺฉติ, อิทานิ ปน น ตถา เอติ. อิมินา นํ โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทสฺสามีติ.
อถ ปริพฺพาชิกา ‘‘ภาตุ ตาว โก โทโส โหตุ, ธนุเสขกุมาโร ปน ตยิ สิเนหคุณยุตฺโต พหูปกาโร’’ติ ตสฺส คุณํ กเถนฺตี อาห –
‘‘เอกรตฺเตน อุภโย, ตฺวฺเจว ธนุเสข จ;
อุโภ ชาเตตฺถ ปฺจาลา, สหายา สุสมาวยา.
‘‘จริยา ตํ อนุพนฺธิตฺโถ, เอกทุกฺขสุโข ตว;
อุสฺสุกฺโก เต ทิวารตฺตึ, สพฺพกิจฺเจสุ พฺยาวโฏ;
สหายํ เกน โทเสน, ทชฺชาสิ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๓๙-๒๔๐);
ตตฺถ ธนุเสขจาติ ธนุเสโข จ, ธนุเสขกุมาโร จาติ อตฺโถ. เอตฺถาติ อิเธว นคเร. ปฺจาลาติ อุตฺตรปฺจาลนคเร ชาตตฺตา เอวํโวหารา. สุสมาวยาติ สุฏฺุ สมวยา. จริยา ตํ อนุพนฺธิตฺโถติ ทหรกาเล ชนปทจาริกาย ปกฺกนฺตํ ตํ อนุพนฺธิ, ฉายาว น วิชหิ. อุสฺสุกฺโกติ ¶ ตว กิจฺเจสุ รตฺถินฺทิวํ อุสฺสุกฺโก ฉนฺทชาโต นิจฺจํ พฺยาวโฏ. ตํ เกน โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทสฺสสีติ.
อถสฺส ราชา โทสํ กเถนฺโต อาห –
‘‘จริยา มํ อยํ อยฺเย, ปชคฺฆิตฺโถ มยา สห;
อชฺชาปิ เตน วณฺเณน, อติเวลํ ปชคฺฆติ.
‘‘อุพฺพริยาปิหํ อยฺเย, มนฺตยามิ รโหคโต;
อนามนฺโต ปวิสติ, ปุพฺเพ อปฺปฏิเวทิโต.
‘‘ลทฺธทฺวาโร กโตกาโส, อหิริกํ อนาทรํ;
สหายํ เตน โทเสน, ทชฺชาหํ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๔๑-๒๔๓);
ตตฺถ ¶ อชฺชาปิ เตน วณฺเณนาติ ยถา จริยาย ปุพฺเพ มํ อนุพนฺธนฺโต มยา อนาเถน สทฺธึ เอกโตว ภฺุชนฺโต สยนฺโต หตฺถํ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสิ, อชฺชาปิ ตเถว หสติ, ทุคฺคตกาเล วิย มํ มฺติ. อนามนฺโตติ รโห นนฺทาเทวิยา สทฺธึ มนฺเตนฺเตปิ มยิ อชานาเปตฺวา สหสาว ปวิสติ. อิมินา โทเสน ตํ อหิริกํ อนาทรํ ทกรกฺขสสฺส ทสฺสามีติ.
อถ ปริพฺพาชิกา ‘‘มหาราช, ตว สหายกสฺส ตาว เอโส โทโส โหตุ, ปุโรหิโต ปน ตว พหูปกาโร’’ติ ตสฺส คุณํ กเถนฺตี อาห –
‘‘กุสโล สพฺพนิมิตฺตานํ, รุตฺู อาคตาคโม;
อุปฺปาเต สุปิเน ยุตฺโต, นิยฺยาเน จ ปเวสเน.
‘‘ปฏฺโ ¶ ภูมนฺตลิกฺขสฺมึ, นกฺขตฺตปทโกวิโท;
พฺราหฺมณํ เกน โทเสน, ทชฺชาสิ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๔๔-๒๔๕);
ตตฺถ ¶ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ ‘‘อิมินา นิมิตฺเตน อิทํ ภวิสฺสติ, อิมินา อิท’’นฺติ เอวํ สพฺพนิมิตฺเตสุ กุสโล. รุตฺูติ สพฺพรวํ ชานาติ. อุปฺปาเตติ จนฺทคฺคาหสูริยคฺคาหอุกฺกาปาตทิสาฑาหาทิเก อุปฺปาเต. สุปิเน ยุตฺโตติ สุปิเน จ ตสฺส นิปฺผตฺติชานนวเสน ยุตฺโต. นิยฺยาเน จ ปเวสเนติ อิมินา นกฺขตฺเตน นิยฺยายิตพฺพํ, อิมินา ปวิสิตพฺพนฺติ ชานาติ. ปฏฺโติ เฉโก ปฏิพโล, ภูมิยฺจ อนฺตลิกฺเข จ โทสคุเณ ชานิตุํ สมตฺโถ. นกฺขตฺตปทโกวิโทติ อฏฺวีสติยา นกฺขตฺตโกฏฺาเสสุ เฉโก. ตํ เกน โทเสน ทกรกฺขสสฺส ทสฺสสีติ.
ราชา ตสฺส โทสํ กเถนฺโต อาห –
‘‘ปริสายมฺปิ เม อยฺเย, อุมฺมีเลตฺวา อุทิกฺขติ;
ตสฺมา อจฺจภมุํ ลุทฺทํ, ทชฺชาหํ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๔๖);
ตสฺสตฺโถ – อยฺเย, เอส มํ ปริสมชฺเฌ โอโลเกนฺโตปิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา กุทฺโธ วิย อุทิกฺขติ, ตสฺมา เอวํ อติกฺกมิตฺวา ิตภมุํ อมนาเปน อุกฺขิตฺตภมุกํ วิย ลุทฺทํ ภยานกํ ตํ อหํ ทกรกฺขสสฺส ทสฺสามีติ.
ตโต ¶ ปริพฺพาชิกา ‘‘มหาราช, ตฺวํ ‘มาตรํ อาทึ กตฺวา อิเม ปฺจ ทกรกฺขสสฺส ทมฺมี’ติ วทสิ, ‘เอวรูปฺจ สิริวิภวํ อคเณตฺวา อตฺตโน ชีวิตมฺปิ มโหสธสฺส ทมฺมี’ติ วทสิ, กํ ตสฺส คุณํ ปสฺสสี’’ติ ปุจฺฉนฺตี อิมา คาถาโย อาห –
‘‘สสมุทฺทปริยายํ, มหึ สาครกุณฺฑลํ;
วสุนฺธรํ อาวสติ, อมจฺจปริวาริโต.
‘‘จาตุรนฺโต มหารฏฺโ, วิชิตาวี มหพฺพโล;
ปถพฺยา เอกราชาสิ, ยโส เต วิปุลํ คโต.
‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
นานาชนปทา นารี, เทวกฺูปมา สุภา.
‘‘เอวํ ¶ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ, สพฺพกามสมิทฺธินํ;
สุขิตานํ ปิยํ ทีฆํ, ชีวิตํ อาหุ ขตฺติย.
‘‘อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน, เกน วา ปน เหตุนา;
ปณฺฑิตํ อนุรกฺขนฺโต, ปาณํ จชสิ ทุจฺจช’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๔๗-๒๕๑);
ตตฺถ ¶ สสมุทฺทปริยายนฺติ สมุทฺทมริยาทสงฺขาเตน สมุทฺทปริกฺเขเปน สมนฺนาคตํ. สาครกุณฺฑลนฺติ ปริกฺขิปิตฺวา ิตสฺส สาครสฺส กุณฺฑลภูตํ. วิชิตาวีติ วิชิตสงฺคาโม. เอกราชาติ อฺสฺส อตฺตโน สทิสสฺส รฺโ อภาวโต เอโกว ราชา. สพฺพกามสมิทฺธินนฺติ สพฺเพสมฺปิ วตฺถุกามกิเลสกามานํ สมิทฺธิยา สมนฺนาคตานํ. สุขิตานนฺติ เอวรูปานํ สุขิตานํ สตฺตานํ เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ ชีวิตํ ทีฆเมว ปิยํ, น เต อปฺปํ ชีวิตมิจฺฉนฺตีติ ปณฺฑิตา วทนฺติ. ปาณนฺติ เอวรูปํ อตฺตโน ชีวิตํ กสฺมา ปณฺฑิตํ อนุรกฺขนฺโต จชสีติ.
ราชา ตสฺสา กถํ สุตฺวา ปณฺฑิตสฺส คุณํ กเถนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘ยโตปิ อาคโต อยฺเย, มม หตฺถํ มโหสโธ;
นาภิชานามิ ธีรสฺส, อณุมตฺตมฺปิ ทุกฺกฏํ.
‘‘สเจ จ กิสฺมิจิ กาเล, มรณํ เม ปุเร สิยา;
โส เม ปุตฺเต ปปุตฺเต จ, สุขาเปยฺย มโหสโธ.
‘‘อนาคตํ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนํ, สพฺพมตฺถมฺปิ ปสฺสติ;
อนาปราธกมฺมนฺตํ, น ทชฺชํ ทกรกฺขิโน’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๕๒-๒๕๔);
ตตฺถ กิสฺมิจีติ กิสฺมิฺจิ กาเล. สุขาเปยฺยาติ สุขสฺมึเยว ปติฏฺาเปยฺย. สพฺพมตฺถนฺติ เอส อนาคตฺจ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ อตีตฺจ สพฺพํ อตฺถํ สพฺพฺุพุทฺโธ วิย ปสฺสติ. อนาปราธกมฺมนฺตนฺติ กายกมฺมาทีสุ อปราธรหิตํ. น ทชฺชนฺติ อยฺเย, เอวํ อสมธุรํ ¶ ปณฺฑิตํ นาหํ ทกรกฺขสสฺส ทสฺสามีติ เอวํ โส มหาสตฺตสฺส คุเณ จนฺทมณฺฑลํ อุทฺธรนฺโต วิย อุกฺขิปิตฺวา กเถสิ.
อิติ อิมํ ชาตกํ ยถานุสนฺธิปฺปตฺตํ. อถ ปริพฺพาชิกา จินฺเตสิ ‘‘เอตฺตเกนปิ ปณฺฑิตสฺส คุณา ปากฏา น โหนฺติ, สกลนครวาสีนํ มชฺเฌ สาครปิฏฺเ อาสิตฺตเตลํ วิปฺปกิรนฺตี วิย ตสฺส คุเณ ปากเฏ กริสฺสามี’’ติ ราชานํ คเหตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห ราชงฺคเณ อาสนํ ปฺเปตฺวา ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา นาคเร สนฺนิปาตาเปตฺวา ปุน ราชานํ อาทิโต ปฏฺาย ทกรกฺขสสฺส ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา เตน เหฏฺา กถิตนิยาเมเนว กถิตกาเล นาคเร อามนฺเตตฺวา อาห –
‘‘อิทํ สุณาถ ปฺจาลา, จูฬเนยฺยสฺส ภาสิตํ;
ปณฺฑิตํ อนุรกฺขนฺโต, ปาณํ จชติ ทุจฺจชํ.
‘‘มาตุ ¶ ภริยาย ภาตุจฺจ, สขิโน พฺราหฺมณสฺส จ;
อตฺตโน จาปิ ปฺจาโล, ฉนฺนํ จชติ ชีวิตํ.
‘‘เอวํ มหตฺถิกา ปฺา, นิปุณา สาธุจินฺตินี;
ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จา’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๒๕๕-๒๕๗);
ตตฺถ มหตฺถิกาติ มหนฺตํ อตฺถํ คเหตฺวา ิตา. ทิฏฺธมฺมหิตตฺถายาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว หิตตฺถาย จ ปรโลเก สุขตฺถาย จ โหตีติ.
อิติ สา รตนฆรสฺส มณิกฺขนฺเธน กูฏํ คณฺหนฺตี วิย มหาสตฺตสฺส คุเณหิ เทสนากูฏํ คณฺหีติ.
ทกรกฺขสปฺโห นิฏฺิโต.
สตฺถา ¶ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว ตถาคโต ปฺวา, ปุพฺเพปิ ปฺวาเยวา’’ติ ชาตกํ สโมธาเนนฺโต โอสานคาถา อาห –
‘‘เภรี อุปฺปลวณฺณาสิ, ปิตา สุทฺโธทโน อหุ;
มาตา อาสิ มหามายา, อมรา พิมฺพสุนฺทรี.
‘‘สุโว อโหสิ อานนฺโท, สาริปุตฺโต จ จูฬนี;
เทวทตฺโต จ เกวฏฺโฏ, จลากา ถุลฺลนนฺทินี.
‘‘ปฺจาลจนฺที สุนฺทรี, สาฬิกา มลฺลิกา อหุ;
อมฺพฏฺโ อาสิ กามินฺโท, โปฏฺปาโท จ ปุกฺกุโส.
‘‘ปิโลติโก จ เทวินฺโท, เสนโก อาสิ กสฺสโป;
อุทุมฺพรา มงฺคลิกา, เวเทโห กาฬุทายโก;
มโหสโธ โลกนาโถ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.
อุมงฺคชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
(ฉฏฺโ ภาโค นิฏฺิโต.)