📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

ชาตก-อฏฺกถา

(ฉฏฺโ ภาโค)

๒๒. มหานิปาโต

[๕๓๘] ๑. มูคปกฺขชาตกวณฺณนา

มา ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวยาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ภควโต เนกฺขมฺมปารมึ วณฺณยนฺตา นิสีทึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว, อิทานิ มม ปูริตปารมิสฺส รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา มหาภินิกฺขมนํ นาม อนจฺฉริยํ. อหฺหิ ปุพฺเพ อปริปกฺเก าเณ ปารมิโย ปูเรนฺโตปิ รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต กาสิรฏฺเ พาราณสิยํ กาสิราชา นาม ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส โสฬสสหสฺสา อิตฺถิโย อเหสุํ. ตาสุ เอกาปิ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา น ลภิ. นาครา ‘‘อมฺหากํ รฺโ วํสานุรกฺขโก เอโกปิ ปุตฺโต นตฺถี’’ติ ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาคตนเยเนว ราชานํ เอวมาหํสุ ‘‘เทว, ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ. ราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา โสฬสสหสฺสา อิตฺถิโย ‘‘ตุมฺเห ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ อาณาเปสิ. ตา จนฺทาทีนํ เทวตานํ อายาจนอุปฏฺานาทีนิ กตฺวา ปตฺเถนฺติโยปิ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา น ลภึสุ. อคฺคมเหสี ปนสฺส มทฺทราชธีตา จนฺทาเทวี นาม สีลสมฺปนฺนา อโหสิ. ราชา ‘‘ภทฺเท, ตฺวมฺปิ ปุตฺตํ ปตฺเถหี’’ติ อาห. สา ปุณฺณมทิวเส อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา จูฬสยเน นิปนฺนาว อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชตฺวา ‘‘สจาหํ อขณฺฑสีลา อิมินา เม สจฺเจน ปุตฺโต อุปฺปชฺชตู’’ติ สจฺจกิริยํ อกาสิ.

ตสฺสา สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘จนฺทาเทวี ปุตฺตํ ปตฺเถติ, หนฺทาหํ ปุตฺตํ ทสฺสามี’’ติ ตสฺสานุจฺฉวิกํ ปุตฺตํ อุปธาเรนฺโต โพธิสตฺตํ ปสฺสิ. โพธิสตฺโตปิ ตทาวีสติวสฺสานิ พาราณสิยํ รชฺชํ กาเรตฺวา ตโต จุโต อุสฺสทนิรเย นิพฺพตฺติตฺวา อสีติวสฺสสหสฺสานิ ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ตโต จวิตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ตตฺถาปิ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จวิตฺวา อุปริเทวโลกํ คนฺตุกาโม อโหสิ. สกฺโก ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มาริส, ตยิ มนุสฺสโลเก อุปฺปนฺเน ปารมิโย จ เต ปูริสฺสนฺติ, มหาชนสฺส วุฑฺฒิ จ ภวิสฺสติ, อยํ กาสิรฺโ จนฺทาเทวี นาม อคฺคมเหสี ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ตสฺสา กุจฺฉิยํ อุปฺปชฺชาหี’’ติ วตฺวา อฺเสฺจ จวนธมฺมานํ ปฺจสตานํ เทวปุตฺตานํ ปฏิฺํ คเหตฺวา สกฏฺานเมว อคมาสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปฺจหิ เทวปุตฺตสเตหิ สทฺธึ เทวโลกโต จวิตฺวา สยํ จนฺทาเทวิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. อิตเร ปน เทวปุตฺตา อมจฺจภริยานํ กุจฺฉีสุ ปฏิสนฺธึ คณฺหึสุ.

ตทา จนฺทาเทวิยา กุจฺฉิ วชิรปุณฺณา วิย อโหสิ. สา คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา ราชา คพฺภสฺส ปริหารํ ทาเปสิ. สา ปริปุณฺณคพฺภา ทสมาสจฺจเยน ธฺปุฺลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ. ตํ ทิวสเมว อมจฺจเคเหสุ ปฺจ กุมารสตานิ ชายึสุ. ตสฺมึ ขเณ ราชา อมจฺจคณปริวุโต มหาตเล นิสินฺโน อโหสิ. อถสฺส ‘‘ปุตฺโต, เต เทว, ชาโต’’ติ อาโรจยึสุ. เตสํ วจนํ สุตฺวา รฺโ ปุตฺตเปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ฉวิยาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ อฏฺาสิ, อพฺภนฺตเร ปีติ อุปฺปชฺชิ, หทยํ สีตลํ ชาตํ. โส อมจฺเจ ปุจฺฉิ ‘‘ตุฏฺา นุ โข ตุมฺเห, มม ปุตฺโต ชาโต’’ติ? ‘‘กึ กเถถ, เทว, มยํ ปุพฺเพ อนาถา, อิทานิ ปน สนาถา ชาตา, สามิโก โน ลทฺโธ’’ติ อาหํสุ. ราชา มหาเสนคุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาณาเปสิ ‘‘มม ปุตฺตสฺส ปริวาโร ลทฺธุํ วฏฺฏติ, คจฺฉ ตฺวํ อมจฺจเคเหสุ อชฺช ชาตา ทารกา กิตฺตกา นามาติ โอโลเกหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อมจฺจเคหานิ คนฺตฺวา โอโลเกนฺโต ปฺจ กุมารสตานิ ทิสฺวา ปุนาคนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ.

ราชา ปฺจนฺนํ ทารกสตานํ กุมารปสาธนานิ เปเสตฺวา ปุน ปฺจ ธาติสตานิ จ ทาเปสิ. มหาสตฺตสฺส ปน อติทีฆาทิโทสวชฺชิตา อลมฺพตฺถนิโย มธุรถฺาโย จตุสฏฺิ ธาติโย อทาสิ. อติทีฆาย หิ อิตฺถิยา ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวโต ทารกสฺส คีวา ทีฆา โหติ, อติรสฺสาย ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวนฺโต ทารโก นิปฺปีฬิตขนฺธฏฺิโก โหติ, อติกิสาย ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวโต ทารกสฺส อูรู รุชฺชนฺติ, อติถูลาย ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวนฺโต ทารโก ปกฺขปาโท โหติ, อติกาฬิกาย ขีรํ อติสีตลํ โหติ, อติโอทาตาย ขีรํ อติอุณฺหํ โหติ, ลมฺพตฺถนิยา ปสฺเส นิสีทิตฺวา ถฺํ ปิวนฺโต ทารโก นิปฺปีฬิตนาสิโก โหติ. กาสานฺจ ปน อิตฺถีนํ ขีรํ อติอมฺพิลํ โหติ, สาสานฺจ ปน อิตฺถีนํ ขีรํ อติกฏุกาทิเภทํ โหติ, ตสฺมา เต สพฺเพปิ โทเส วิวชฺเชตฺวา อลมฺพตฺถนิโย มธุรถฺาโย จตุสฏฺิ ธาติโย ทตฺวา มหนฺตํ สกฺการํ กตฺวา จนฺทาเทวิยาปิ วรํ อทาสิ. สาปิ คหิตกํ กตฺวา เปสิ.

ราชา กุมารสฺส นามคฺคหณทิวเส ลกฺขณปาเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ มหนฺตํ สกฺการํ กตฺวา กุมารสฺส อนฺตรายาภาวํ ปุจฺฉิ. เต ตสฺส ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘มหาราช, ธฺปุฺลกฺขณสมฺปนฺโน อยํ กุมาโร, ติฏฺตุ เอกทีโป, ทฺวิสหสฺสปริวารานํ จตุนฺนมฺปิ มหาทีปานํ รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺโถ โหติ, นาสฺส โกจิ อนฺตราโย ปฺายตี’’ติ วทึสุ. ราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา กุมารสฺส นามํ กโรนฺโต ยสฺมา กุมารสฺส ชาตทิวเส สกลกาสิรฏฺเ เทโว วสฺสิ, ยสฺมา จ รฺโ เจว อมจฺจานฺจ หทยํ สีตลํ ชาตํ, ยสฺมา จ เตมยมาโน ชาโต, ตสฺมา ‘‘เตมิยกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกาสิ. อถ นํ ธาติโย เอกมาสิกํ อลงฺกริตฺวา รฺโ สนฺติกํ อานยึสุ. ราชา ปิยปุตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา องฺเก นิสีทาเปตฺวา รมยมาโน นิสีทิ.

ตสฺมึ ขเณ จตฺตาโร โจรา อานีตา. ราชา เต ทิสฺวา ‘‘เตสุ เอกสฺส โจรสฺส สกณฺฏกาหิ กสาหิ ปหารสหสฺสํ กโรถ, เอกสฺส สงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา พนฺธนาคารปเวสนํ กโรถ, เอกสฺส สรีเร สตฺติปหารํ กโรถ, เอกสฺส สูลาโรปนํ กโรถา’’ติ อาณาเปสิ. อถ มหาสตฺโต ปิตุ วจนํ สุตฺวา ภีตตสิโต หุตฺวา ‘‘อโห มม ปิตา รชฺชํ นิสฺสาย อติภาริยํ นิรยคามิกมฺมํ อกาสี’’ติ จินฺเตสิ. ปุนทิวเส ปน ตํ เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา อลงฺกตสิริสยเน นิปชฺชาเปสุํ. โส โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เสตจฺฉตฺตํ โอโลเกนฺโต มหนฺตํ สิริวิภวํ ปสฺสิ. อถสฺส ปกติยาปิ ภีตตสิตสฺส อติเรกตรํ ภยํ อุปฺปชฺชิ. โส ‘‘กุโต นุ โข อหํ อิมํ โจรเคหํ อาคโตมฺหี’’ติ อุปธาเรนฺโต ชาติสฺสราเณน เทวโลกโต อาคตภาวํ ตฺวา ตโต ปรํ โอโลเกนฺโต อุสฺสทนิรเย ปกฺกภาวํ ปสฺสิ, ตโต ปรํ โอโลเกนฺโต ตสฺมึเยว นคเร ราชภาวํ อฺาสิ.

อถสฺส ‘‘อหํ วีสติวสฺสานิ พาราณสิยํ รชฺชํ กาเรตฺวา อสีติวสฺสสหสฺสานิ อุสฺสทนิรเย ปจฺจึ, อิทานิ ปุนปิ อิมสฺมึเยว โจรเคเห นิพฺพตฺโตมฺหิ, ปิตา เม หิยฺโย จตูสุ โจเรสุ อานีเตสุ ตถารูปํ ผรุสํ นิรยสํวตฺตนิกํ กถํ กเถสิ, สจาหํ รชฺชํ กาเรสฺสามิ, ปุนปิ นิรเย นิพฺพตฺติตฺวา มหาทุกฺขํ อนุภวิสฺสามี’’ติ อาวชฺเชนฺตสฺส มหนฺตํ ภยํ อุปฺปชฺชิ. โพธิสตฺตสฺส กฺจนวณฺณํ สรีรํ หตฺเถน ปริมทฺทิตํ ปทุมํ วิย มิลาตํ ทุพฺพณฺณํ อโหสิ. โส ‘‘กถํ นุ โข อิมมฺหา โจรเคหา มุจฺเจยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต นิปชฺชิ. อถ นํ เอกสฺมึ อตฺตภาเว มาตุภูตปุพฺพา ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวธีตา อสฺสาเสตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, มา ภายิ, มา โสจิ, มา จินฺตยิ. สเจ อิโต มุจฺจิตุกาโมสิ, ตฺวํ อปีสปฺปีปิ ปีสปฺปี วิย โหหิ, อพธิโรปิ พธิโร วิย โหหิ, อมูโคปิ มูโค วิย โหหิ, อิมานิ ตีณิ องฺคานิ อธิฏฺาย อตฺตโน ปณฺฑิตภาวํ มา ปกาเสหี’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

.

‘‘มา ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวย, พาลมโต ภว สพฺพปาณินํ;

สพฺโพ ตํ ชโน โอจินายตุ, เอวํ ตว อตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ปณฺฑิจฺจยนฺติ ปณฺฑิจฺจํ, อยเมว วา ปาโ. พาลมโตติ พาโล อิติ สมฺมโต. สพฺโพ ชโนติ สกโล อนฺโตชโน เจว พหิชโน จ. โอจินายตูติ ‘‘นีหรเถตํ กาฬกณฺณิ’’นฺติ อวมฺตุ, อวชานาตูติ อตฺโถ.

โส ตสฺสา วจเนน อสฺสาสํ ปฏิลภิตฺวา –

.

‘‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ มํ ภณสิ เทวเต;

อตฺถกามาสิ เม อมฺม, หิตกามาสิ เทวเต’’ติ. –

อิมํ คาถํ วตฺวา ตานิ ตีณิ องฺคานิ อธิฏฺาสิ. สา จ เทวธีตา อนฺตรธายิ. ราชา ปุตฺตสฺส อนุกฺกณฺนตฺถาย ตานิ ปฺจ กุมารสตานิ ตสฺส สนฺติเกเยว เปสิ. เต ทารกา ถฺตฺถาย โรทนฺติ ปริเทวนฺติ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยตชฺชิโต ‘‘รชฺชโต เม สุสฺสิตฺวา มตเมว เสยฺโย’’ติ น โรทติ น ปริเทวติ. อถสฺส ธาติโย ตํ ปวตฺตึ ตฺวา จนฺทาเทวิยา อาโรจยึสุ. สาปิ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. อถ พฺราหฺมณา อาหํสุ ‘‘เทว, กุมารสฺส ปกติเวลํ อติกฺกมิตฺวา ถฺํ ทาตุํ วฏฺฏติ, เอวํ โส โรทมาโน ถนํ ทฬฺหํ คเหตฺวา สยเมว ปิวิสฺสตี’’ติ. ตโต ปฏฺาย ธาติโย กุมารสฺส ปกติเวลํ อติกฺกมิตฺวา ถฺํ เทนฺติ. ททมานา จ กทาจิ เอกวารํ อติกฺกมิตฺวา เทนฺติ, กทาจิ สกลทิวสํ ขีรํ น เทนฺติ.

วีมํสนกณฺฑํ

โส นิรยภยตชฺชิโต สุสฺสนฺโตปิ ถฺตฺถาย น โรทติ, น ปริเทวติ. อถ นํ อโรทนฺตมฺปิ ทิสฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ฉาโต’’ติ มาตา วา ถฺํ ปาเยติ, กทาจิ ธาติโย วา ปาเยนฺติ. เสสทารกา ถฺํ อลทฺธเวลายเมว โรทนฺติ ปริเทวนฺติ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยตชฺชิโต น โรทติ, น ปริเทวติ, น นิทฺทายติ, น หตฺถปาเท สมิฺชติ, น สทฺทํ กโรติ. อถสฺส ธาติโย ‘‘ปีสปฺปีนํ หตฺถปาทา นาม น เอวรูปา โหนฺติ, มูคานํ หนุกปริโยสานํ นาม น เอวรูปํ โหติ, พธิรานํ กณฺณโสตานิ นาม น เอวรูปานิ โหนฺติ, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณน, วีมํสิสฺสาม น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ขีเรน ตาว นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ สกลทิวสํ ขีรํ น เทนฺติ. โส สุสฺสนฺโตปิ ขีรตฺถาย สทฺทํ น กโรติ. อถสฺส มาตา ‘‘ปุตฺโต เม ฉาโต’’ติ สยเมว ถฺํ ปาเยติ. เอวํ อนฺตรนฺตรา ขีรํ อทตฺวา เอกสํวจฺฉรํ วีมํสนฺตาปิสฺส อนฺตรํ น ปสฺสึสุ.

ตโต อมจฺจาทโย รฺโ อาโรเจสุํ ‘‘เอกวสฺสิกทารกา นาม ปูวขชฺชกํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ปฺจ กุมารสตานิ ตสฺส สนฺติเกเยว นิสีทาเปตฺวา นานาปูวขชฺชกานิ อุปนาเมตฺวา โพธิสตฺตสฺส อวิทูเร เปตฺวา ‘‘ยถารุจิ ตานิ ปูวขชฺชกานิ คณฺหถา’’ติ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ติฏฺนฺติ. เสสทารกา กลหํ กโรนฺตา อฺมฺํ ปหรนฺตา ตํ ตํ คเหตฺวา ขาทนฺติ. มหาสตฺโต ปน อตฺตานํ โอวทิตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, นิรยภยํ อิจฺฉนฺโต ปูวขชฺชกํ อิจฺฉาหี’’ติ นิรยภยตชฺชิโต ปูวขชฺชกํ น โอโลเกสิ. เอวํ ปูวขชฺชเกนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘ทฺวิวสฺสิกทารกา นาม ผลาผลํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ นานาผลานิ อุปนาเมตฺวา โพธิสตฺตสฺส อวิทูเร เปตฺวา วีมํสึสุ. เสสทารกา กลหํ กตฺวา ยุชฺฌนฺตา ตํ ตํ คเหตฺวา ขาทนฺติ. โส นิรยภยตชฺชิโต ตมฺปิ น โอโลเกสิ. เอวํ ผลาผเลนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘ติวสฺสิกทารกา นาม กีฬนภณฺฑกํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ นานาสุวณฺณมยานิ หตฺถิอสฺสรูปกาทีนิ การาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส อวิทูเร เปสุํ. เสสทารกา อฺมฺํ วิลุมฺปนฺตา คณฺหึสุ. มหาสตฺโต ปน น กิฺจิ โอโลเกสิ. เอวํ กีฬนภณฺฑเกนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘จตุวสฺสิกทารกา นาม โภชนํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ นานาโภชนานิ อุปนาเมสุํ. เสสทารกา ตํ ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ กตฺวา ภุฺชนฺติ. มหาสตฺโต ปน อตฺตานํ โอวทิตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, อลทฺธโภชนานํ เต อตฺตภาวานํ คณนา นาม นตฺถี’’ติ นิรยภยตชฺชิโต ตมฺปิ น โอโลเกสิ. อถสฺส มาตา สยเมว หทเยน ภิชฺชมาเนน วิย อสหนฺเตน สหตฺเถน โภชนํ โภเชสิ. เอวํ โภชเนนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘ปฺจวสฺสิกทารกา นาม อคฺคิโน ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ราชงฺคเณ อเนกทฺวารยุตฺตํ มหนฺตํ เคหํ กาเรตฺวา ตาลปณฺเณหิ ฉาเทตฺวา ตํ เสสทารเกหิ ปริวุตํ ตสฺส มชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา อคฺคึ เทนฺติ. เสสทารกา อคฺคึ ทิสฺวา วิรวนฺตา ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน จินฺเตสิ ‘‘นิรยอคฺคิสนฺตาปนโต อิทเมว อคฺคิสนฺตาปนํ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน วรตร’’นฺติ นิโรธสมาปนฺโน มหาเถโร วิย นิจฺจโลว อโหสิ. อถ นํ อคฺคิมฺหิ อาคจฺฉนฺเต คเหตฺวา อปเนนฺติ. เอวํ อคฺคินาปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘ฉวสฺสิกทารกา นาม มตฺตหตฺถิโน ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ เอกํ หตฺถึ สุสิกฺขิตํ สิกฺขาเปตฺวา โพธิสตฺตํ เสสทารเกหิ ปริวุตํ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา ตํ หตฺถึ มุฺจนฺติ. โส โกฺจนาทํ นทนฺโต โสณฺฑาย ภูมิยํ โปเถนฺโต ภยํ ทสฺเสนฺโต อาคจฺฉติ. เสสทารกา ตํ ทิสฺวา มรณภยภีตา ทิสาวิทิสาสุ ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน มตฺตหตฺถึ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘จณฺฑนิรเย ปจฺจนโต จณฺฑหตฺถิโน หตฺเถ มรณเมว เสยฺโย’’ติ นิรยภยตชฺชิโต ตตฺเถว นิสีทิ. สุสิกฺขิโต หตฺถี มหาสตฺตํ ปุปฺผกลาปํ วิย อุกฺขิปิตฺวา อปราปรํ กตฺวา อกิลเมตฺวาว คจฺฉติ. เอวํ หตฺถินาปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘สตฺตวสฺสิกทารกา นาม สปฺปสฺส ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ โพธิสตฺตํ เสสทารเกหิ สทฺธึ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา อุทฺธฏทาเ กตมุขพนฺเธ สปฺเป วิสฺสชฺเชสุํ. เสสทารกา เต ทิสฺวา วิรวนฺตา ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยํ อาวชฺเชตฺวา ‘‘จณฺฑสปฺปสฺส มุเข วินาสเมว วรตร’’นฺติ นิโรธสมาปนฺโน มหาเถโร วิย นิจฺจโลว อโหสิ. อถสฺส สปฺโป สกลสรีรํ เวเตฺวา มตฺถเก ผณํ กตฺวา อจฺฉิ. ตทาปิ โส นิจฺจโลว อโหสิ. เอวํ สปฺเปนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘อฏฺวสฺสิกทารกา นาม นฏสมชฺชํ ปิยายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ตํ ปฺจทารกสเตหิ สทฺธึ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา นฏสมชฺชํ การาเปสุํ. เสสทารกา ตํ นฏสมชฺชํ ทิสฺวา ‘‘สาธุ สาธู’’ติ วทนฺตา มหาหสิตํ หสนฺติ. มหาสตฺโต ปน ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตกาเล ตว ขณมตฺตมฺปิ หาโส วา โสมนสฺสํ วา นตฺถี’’ติ นิรยภยํ อาวชฺเชตฺวา นิจฺจโลว อโหสิ, ตํ น โอโลเกสิ. เอวํ นฏสมชฺเชนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ‘‘นววสฺสิกทารกา นาม อสิโน ภายนฺติ, เตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ตํ ปฺจทารกสเตหิ สทฺธึ ราชงฺคเณ นิสีทาเปตฺวา ทารกานํ กีฬนกาเล เอโก ปุริโส ผลิกวณฺณํ อสึ คเหตฺวา ปริพฺภมนฺโต นทนฺโต วคฺคนฺโต ตาเสนฺโต ลงฺฆนฺโต อปฺโผเฏนฺโต มหาสทฺทํ กโรนฺโต ‘‘กาสิรฺโ กิร กาฬกณฺณี เอโก ปุตฺโต อตฺถิ, โส กุหึ, สีสมสฺส ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อภิธาวติ. ตํ ปุริสํ ทิสฺวา เสสทารกา ภีตตสิตา หุตฺวา วิรวนฺตา ทิสาวิทิสาสุ ปลายึสุ. มหาสตฺโต ปน นิรยภยํ อาวชฺเชตฺวา อชานนฺโต วิย นิสีทิ. อถ นํ โส ปุริโส อสินา สีเส ปรามสิตฺวา ‘‘สีสํ เต ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ตาเสนฺโตปิ ตาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อปคมิ. เอวํ ขคฺเคนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ทสวสฺสิกกาเล ปนสฺส พธิรภาววีมํสนตฺถํ สิริสยเน นิสีทาเปตฺวา สาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา จตูสุ ปสฺเสสุ ฉิทฺทานิ กตฺวา ตสฺส อทสฺเสตฺวา เหฏฺาสยเน สงฺขธมเก นิสีทาเปตฺวา เอกปฺปหาเรเนว สงฺเข ธมาเปนฺติ, เอกนินฺนาทํ อโหสิ. อมจฺจา จตูสุ ปสฺเสสุ ตฺวา สาณิยา ฉิทฺเทหิ โอโลเกนฺตาปิ มหาสตฺตสฺส เอกทิวสมฺปิ สติสมฺโมสํ วา หตฺถปาทวิการํ วา ผนฺทนมตฺตํ วา น ปสฺสึสุ. เอวํ เอกสํวจฺฉรํ สงฺขสทฺเทนปิ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ปรมฺปิ เอกาทสวสฺสิกกาเล เอกสํวจฺฉรํ ตเถว เภริสทฺเทน วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ทฺวาทสวสฺสิกกาเล ‘‘ทีเปน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ‘‘รตฺติภาเค อนฺธกาเร หตฺถํ วา ปาทํ วา ผนฺทาเปติ นุ โข, โน’’ติ ฆเฏสุ ทีเป ชาเลตฺวา เสสทีเป นิพฺพาเปตฺวา โถกํ อนฺธกาเร สยาเปตฺวา ฆเฏหิ ทีเป อุกฺขิปิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว อาโลกํ กตฺวา อิริยาปถํ อุปธาเรนฺติ. เอวํ ทีเปนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส กิฺจิ ผนฺทนมตฺตมฺปิ น ปสฺสึสุ.

ตโต เตรสวสฺสิกกาเล ‘‘ผาณิเตน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ สกลสรีรํ ผาณิเตน มกฺเขตฺวา พหุมกฺขิเก าเน นิปชฺชาเปสุํ. มกฺขิกา อุฏฺหนฺติ, ตา ตสฺส สกลสรีรํ ปริวาเรตฺวา สูจีหิ วิชฺฌมานา วิย ขาทนฺติ. โส นิโรธสมาปนฺโน มหาเถโร วิย นิจฺจโลว อโหสิ. เอวํ ผาณิเตนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส กิฺจิ ผนฺทนมตฺตมฺปิ น ปสฺสึสุ.

อถสฺส จุทฺทสวสฺสิกกาเล ‘‘อิทานิ ปเนส มหลฺลโก ชาโต สุจิกาโม อสุจิชิคุจฺฉโก, อสุจินา นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ตโต ปฏฺาย นํ เนว นฺหาเปนฺติ น จ อาจมาเปนฺติ. โส อุจฺจารปสฺสาวํ กตฺวา ตตฺเถว ปลิปนฺโน สยติ. ทุคฺคนฺธภาเวน ปนสฺส อนฺตรุธีนํ นิกฺขมนกาโล วิย อโหสิ, อสุจิคนฺเธน มกฺขิกา ขาทนฺติ. โส นิจฺจโลว อโหสิ. อถ นํ ปริวาเรตฺวา ิตา ธาติโย อาหํสุ ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, ตฺวํ มหลฺลโก ชาโต, โก ตํ สพฺพทา ปฏิชคฺคิสฺสติ, กึ น ลชฺชสิ, กสฺมา นิปนฺโนสิ, อุฏฺาย เต สรีรํ ปฏิชคฺคาหี’’ติ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ. โส ตถารูเป ปฏิกูเล คูถราสิมฺหิ นิมุคฺโคปิ ทุคฺคนฺธภาเวน โยชนสตมตฺถเก ิตานมฺปิ หทยุปฺปตนสมตฺถสฺส คูถนิรยสฺส ทุคฺคนฺธภาวํ อาวชฺเชตฺวา นิจฺจโลว อโหสิ. เอวํ อสุจินาปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

ตโต ปนฺนรสวสฺสิกกาเล ‘‘องฺคาเรน นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ อถสฺส เหฏฺามฺจเก อคฺคิกปลฺลานิ ปยึสุ ‘‘อปฺเปว นาม อุณฺเหน ปีฬิโต ทุกฺขเวทนํ อสหนฺโต วิปฺผนฺทนาการํ ทสฺเสยฺยา’’ติ. อถสฺส สรีเร โผฏานิ อุฏฺหนฺติ. มหาสตฺโต ‘‘อวีจินิรยสนฺตาโป โยชนสตมตฺถเก ผรติ, ตมฺหา ทุกฺขโต อิทํ ทุกฺขํ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน วรตร’’นฺติ อธิวาเสตฺวา นิจฺจโลว อโหสิ. อถสฺส มาตาปิตโร ภิชฺชมานหทยา วิย มนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตฺวา ตํ ตโต อคฺคิสนฺตาปนโต อปเนตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, มยํ ตว อปีสปฺปิอาทิภาวํ ชานาม. น หิ เอเตสํ เอวรูปานิ หตฺถปาทกณฺณโสตานิ โหนฺติ, ตฺวํ อมฺเหหิ ปตฺเถตฺวา ลทฺธปุตฺตโก, มา โน นาเสหิ, สกลชมฺพุทีเป วสนฺตานํ ราชูนํ สนฺติเก ครหโต โน โมเจหี’’ติ ยาจึสุ. เอวํ โส เตหิ ยาจิโตปิ อสุณนฺโต วิย หุตฺวา นิจฺจโลว นิปชฺชิ. อถสฺส มาตาปิตโร โรทมานา ปริเทวมานา ปฏิกฺกมนฺติ. เอกทา มาตา เอกิกา อุปสงฺกมิตฺวา ยาจติ, เอกทา ปิตา เอกโกว อุปสงฺกมิตฺวา ยาจติ. เอวํ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

อถสฺส โสฬสวสฺสิกกาเล อมจฺจพฺราหฺมณาทโย จินฺตยึสุ ‘‘ปีสปฺปี วา โหตุ, มูโค วา พธิโร วา โหตุ, วเย ปริณเต รชนีเย อรชฺชนฺตา นาม นตฺถิ, ทุสฺสนีเย อทุสฺสนฺตา นาม นตฺถิ, สมเย สมฺปตฺเต ปุปฺผวิกสนํ วิย หิ ธมฺมตา เอสา, นาฏกานมฺปิสฺส ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ตาหิ นํ วีมํสิสฺสามา’’ติ. ตโต อุตฺตมรูปธรา เทวกฺาโย วิย วิลาสสมฺปนฺนา นาฏกิตฺถิโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ยา กุมารํ หสาเปตุํ วา กิเลเสหิ พนฺธิตุํ วา สกฺโกติ, สา ตสฺส อคฺคมเหสี ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา กุมารํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา เทวปุตฺตํ วิย อลงฺกริตฺวา เทววิมานสทิเส สิริคพฺเภ สุปฺตฺเต สิริสยเน อาโรเปตฺวา คนฺธทามปุปฺผทามธูมวาสจุณฺณาทีหิ อนฺโตคพฺภํ เอกคนฺธสโมทกํ กตฺวา ปฏิกฺกมึสุ. อถ นํ ตา อิตฺถิโย ปริวาเรตฺวา นจฺจคีเตหิ เจว มธุรวจนาทีหิ จ นานปฺปกาเรหิ อภิรมาเปตุํ วายมึสุ. โส พุทฺธิสมฺปนฺนตาย ตา อิตฺถิโย อโนโลเกตฺวา ‘‘อิมา อิตฺถิโย มม สรีรสมฺผสฺสํ มา วินฺทนฺตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา อสฺสาสปสฺสาเส สนฺนิรุมฺภิ, อถสฺส สรีรํ ถทฺธํ อโหสิ. ตา ตสฺส สรีรสมฺผสฺสํ อวินฺทนฺติโย หุตฺวา ‘‘ถทฺธสรีโร เอส, นายํ มนุสฺโส, ยกฺโข ภวิสฺสตี’’ติ ภีตตสิตา หุตฺวา อตฺตานํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺติโย ปลายึสุ. เอวํ นาฏเกนปิ เอกสํวจฺฉรํ อนฺตรนฺตรา วีมํสนฺตาปิสฺส เนว อนฺตรํ ปสฺสึสุ.

เอวํ โสฬส สํวจฺฉรานิ โสฬสหิ มหาวีมํสาหิ เจว อเนกาหิ ขุทฺทกวีมํสาหิ จ วีมํสมานาปิ ตสฺส จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตุํ นาสกฺขึสุ.

วีมํสนกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

รชฺชยาจนกณฺฑํ

ตโต ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ลกฺขณปาเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตุมฺเห กุมารสฺส ชาตกาเล ‘ธฺปุฺลกฺขณสมฺปนฺโน อยํ กุมาโร, นาสฺส โกจิ อนฺตราโย ปฺายตี’ติ เม กถยิตฺถ, อิทานิ ปน โส ปีสปฺปี มูคพธิโร ชาโต, กถา โว น สเมตี’’ติ อาห. พฺราหฺมณา วทึสุ ‘‘มหาราช, อาจริเยหิ อทิฏฺกํ นาม นตฺถิ, อปิจ โข ปน, เทว, ‘ราชกุเลหิ ปตฺเถตฺวา ลทฺธปุตฺตโก กาฬกณฺณี’ติ วุตฺเต ‘ตุมฺหากํ โทมนสฺสํ สิยา’ติ น กถยิมฺหา’’ติ. อถ เน ราชา เอวมาห ‘‘อิทานิ ปน กึ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘มหาราช, อิมสฺมึ กุมาเร อิมสฺมึ เคเห วสนฺเต ตโย อนฺตรายา ปฺายิสฺสนฺติ – ชีวิตสฺส วา อนฺตราโย, เสตจฺฉตฺตสฺส วา อนฺตราโย, อคฺคมเหสิยา วา อนฺตราโย’’ติ. ‘‘ตสฺมา, เทว, ปปฺจํ อกตฺวา อวมงฺคลรเถ อวมงฺคลอสฺเส โยเชตฺวา ตตฺถ นํ นิปชฺชาเปตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน นีหริตฺวา อามกสุสาเน จตุพฺภิตฺติกํ อาวาฏํ ขณิตฺวา นิขณิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา อนฺตรายภเยน ภีโต เตสํ วจนํ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.

ตทา จนฺทาเทวี ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตุริตตุริตาว เอกิกา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ มยฺหํ วโร ทินฺโน, มยา จ คหิตโก กตฺวา ปิโต, อิทานิ ตํ เม เทถา’’ติ ยาจิ. ‘‘คณฺหาหิ, เทวี’’ติ. ‘‘เทว, ปุตฺตสฺส เม รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘กึการณา, เทวา’’ติ. ‘‘ปุตฺโต, เต เทวิ, กาฬกณฺณี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ยาวชีวํ อททนฺตาปิ สตฺต วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ฉ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ปฺจ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, จตฺตาริ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ตีณิ วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ทฺเว วสฺสานิ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, เอกวสฺสํ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, สตฺต มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ฉ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ปฺจ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, จตฺตาริ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ตีณิ มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ทฺเว มาสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, เอกมาสํ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, อฑฺฒมาสํ รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, สตฺต ทิวสานิ รชฺชํ เทถา’’ติ. ราชา ‘‘สาธุ, เทวิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. สา ตสฺมึ ขเณ ปุตฺตํ อลงฺการาเปตฺวา ‘‘เตมิยกุมารสฺส อิทํ รชฺช’’นฺติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา สกลนครํ อลงฺการาเปตฺวา ปุตฺตํ หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเปตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ตสฺส มตฺถเก การาเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา อนฺโตนครํ ปเวเสตฺวา ตํ สิริสยเน นิปชฺชาเปตฺวา ปิยปุตฺตํ สพฺพรตฺตึ ยาจิ ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, ตํ นิสฺสาย โสฬส วสฺสานิ นิทฺทํ อลภิตฺวา โรทมานาย เม อกฺขีนิ อุปกฺกานิ, โสเกน เม หทยํ ภิชฺชมานํ วิย อโหสิ, อหํ ตว อปีสปฺปิอาทิภาวํ ชานามิ, มา มํ อนาถํ กรี’’ติ. สา อิมินา อุปาเยเนว ปุนทิวเสปิ ปุนทิวเสปีติ ปฺจ ทิวสานิ ยาจิ.

รชฺชยาจนกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

อถ ฉฏฺเ ทิวเส ราชา สุนนฺทํ นาม สารถึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, สุนนฺทสารถิ สฺเว ปาโตว อวมงฺคลรเถ อวมงฺคลอสฺเส โยเชตฺวา กุมารํ ตตฺถ นิปชฺชาเปตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน นีหริตฺวา อามกสุสาเน จตุพฺภิตฺติกํ อาวาฏํ ขณิตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา กุทฺทาลปิฏฺเน มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อุปริ ปํสุํ ทตฺวา ปถวิวฑฺฒนกมฺมํ กตฺวา นฺหตฺวา เอหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ ฉฏฺมฺปิ รตฺตึ เทวี กุมารํ ยาจิตฺวา ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, ตว ปิตา กาสิราชา ตํ สฺเว ปาโตว อามกสุสาเน นิขณิตุํ อาณาเปสิ, สฺเว ปาโตว มรณํ ปาปุณิสฺสสิ ปุตฺตา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา มหาสตฺตสฺส ‘‘ตาต เตมิยกุมาร, โสฬส วสฺสานิ ตยา กโต วายาโม อิทานิ มตฺถกํ ปกฺโก’’ติ จินฺเตนฺตสฺส อพฺภนฺตเร ปีติ อุปฺปชฺชิ. มาตุยา ปนสฺส หทยํ ภิชฺชมานํ วิย อโหสิ, เอวํ สนฺเตปิ ‘‘มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ มาตุยา สทฺธึ นาลปิ.

อถสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปาโตว สุนนฺโท สารถิ รถํ โยเชนฺโต เทวตานุภาเวน มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน จ มงฺคลรเถ มงฺคลอสฺเส โยเชตฺวา รถํ ราชทฺวาเร เปตฺวา มหาตลํ อภิรุหิตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา เทวึ วนฺทิตฺวา เอวมาห – ‘‘เทวิ, มยฺหํ มา กุชฺฌ, รฺโ อาณา’’ติ วตฺวา ปุตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา นิปนฺนํ เทวึ ปิฏฺิหตฺเถน อปเนตฺวา ปุปฺผกลาปํ วิย กุมารํ อุกฺขิปิตฺวา ปาสาทา โอตริ. ตทา จนฺทาเทวี อุรํ ปหริตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวิตฺวา มหาตเล โอหียิ. อถ นํ มหาสตฺโต โอโลเกตฺวา ‘‘มยิ อกเถนฺเต มาตา หทเยน ผลิเตน มริสฺสตี’’ติ กเถตุกาโม หุตฺวาปิ ‘‘สเจ อหํ กเถสฺสามิ, โสฬส วสฺสานิ กโต วายาโม เม โมโฆ ภวิสฺสติ, อกเถนฺโต ปนาหํ อตฺตโน จ มาตาปิตูนฺจ มหาชนสฺส จ ปจฺจโย ภวิสฺสามี’’ติ อธิวาเสสิ.

อถ นํ สารถิ รถํ อาโรเปตฺวา ‘‘ปจฺฉิมทฺวาราภิมุขํ รถํ เปเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา รถํ เปเสสิ. ตทา มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน เทวตาวิคฺคหิโต หุตฺวา รถํ นิวตฺตาเปตฺวา ปาจีนทฺวาราภิมุขํ รถํ เปเสสิ, อถ รถจกฺกํ อุมฺมาเร ปติหฺิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘มโนรโถ เม มตฺถกํ ปตฺโต’’ติ สุฏฺุตรํ ตุฏฺจิตฺโต อโหสิ. รโถ นครา นิกฺขมิตฺวา เทวตานุภาเวน ติโยชนิกํ านํ คโต. ตตฺถ วนฆฏํ สารถิสฺส อามกสุสานํ วิย อุปฏฺาสิ. โส ‘‘อิทํ านํ ผาสุก’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา รถํ มคฺคา โอกฺกมาเปตฺวา มคฺคปสฺเส เปตฺวา รถา โอรุยฺห มหาสตฺตสฺส อาภรณภณฺฑํ โอมุฺจิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา เอกมนฺตํ เปตฺวา กุทฺทาลํ อาทาย รถสฺส อวิทูเร าเน จตุพฺภิตฺติกํ อาวาฏํ ขณิตุํ อารภิ.

ตโต โพธิสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ เม วายามกาโล, อหฺหิ โสฬส วสฺสานิ หตฺถปาเท น จาเลสึ, กึ นุ โข เม พลํ อตฺถิ, อุทาหุ โน’’ติ. โส อุฏฺาย วามหตฺเถน ทกฺขิณหตฺถํ, ทกฺขิณหตฺเถน วามหตฺถํ ปรามสนฺโต อุโภหิ หตฺเถหิ ปาเท สมฺพาหิตฺวา รถา โอตริตุํ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. ตาวเทวสฺส ปาทปติตฏฺาเน วาตปุณฺณภสฺตจมฺมํ วิย มหาปถวี อพฺภุคฺคนฺตฺวา รถสฺส ปจฺฉิมนฺตํ อาหจฺจ อฏฺาสิ. มหาสตฺโต รถา โอตริตฺวา กติปเย วาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ‘‘อิมินาว นิยาเมน เอกทิวสํ โยชนสตมฺปิ เม คนฺตุํ พลํ อตฺถี’’ติ ตฺวา ‘‘สเจ, สารถิ, มยา สทฺธึ วิรุชฺเฌยฺย, อตฺถิ นุ โข เม เตน สห ปฏิวิรุชฺฌิตุํ พล’’นฺติ อุปธาเรนฺโต รถสฺส ปจฺฉิมนฺตํ คเหตฺวา กุมารกานํ กีฬนยานกํ วิย อุกฺขิปิตฺวา รถํ ปริพฺภเมนฺโต อฏฺาสิ. อถสฺส ‘‘อตฺถิ เม เตน สห ปฏิวิรุชฺฌิตุํ พล’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ปสาธนตฺถาย จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ.

ตํขณฺเว สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘เตมิยกุมารสฺส มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, อิทานิ ปสาธนตฺถาย จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, กึ เอตสฺส มานุสเกน ปสาธเนนา’’ติ ทิพฺพปสาธนํ คาหาเปตฺวา วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต วิสฺสกมฺม เทวปุตฺต, ตฺวํ คจฺฉ, กาสิราชสฺส ปุตฺตํ เตมิยกุมารํ อลงฺกโรหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตาวตึสภวนโต โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทสหิ ทุสฺสสหสฺเสหิ เวนํ กตฺวา ทิพฺเพหิ เจว มานุสเกหิ จ อลงฺกาเรหิ สกฺกํ วิย ตํ อลงฺกริตฺวา สกฏฺานเมว คโต. โส เทวราชลีลาย สารถิสฺส ขณโนกาสํ คนฺตฺวา อาวาฏตีเร ตฺวา ปุจฺฉนฺโต ตติยํ คาถมาห –

.

‘‘กึ นุ สนฺตรมาโนว, กาสุํ ขณสิ สารถิ;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ กาสุยา กริสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ กาสุนฺติ อาวาฏํ.

ตํ สุตฺวา สารถิ อาวาฏํ ขณนฺโต อุทฺธํ อโนโลเกตฺวาว จตุตฺถํ คาถามาห –

.

‘‘รฺโ มูโค จ ปกฺโข จ, ปุตฺโต ชาโต อเจตโส;

โสมฺหิ รฺา สมชฺฌิฏฺโ, ปุตฺตํ เม นิขณํ วเน’’ติ.

ตตฺถ ปกฺโขติ ปีสปฺปี. ‘‘มูโค’’ติ วจเนเนว ปนสฺส พธิรภาโวปิ สิชฺฌติ พธิรสฺส หิ ปฏิวจนํ กเถตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. อเจตโสติ อจิตฺตโก วิย ชาโต. โสฬส วสฺสานิ อกถิตตฺตา เอวมาห. สมชฺฌิฏฺโติ อาณตฺโต, เปสิโตติ อตฺโถ. นิขณํ วเนติ วเน นิขเณยฺยาสิ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

.

‘‘น พธิโร น มูโคสฺมิ, น ปกฺโข น จ วีกโล;

อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน.

.

‘‘อูรู พาหุฺจ เม ปสฺส, ภาสิตฺจ สุโณหิ เม;

อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน’’ติ.

ตตฺถ น พธิโรติ สมฺม สารถิ, สเจ ตํ ราชา เอวรูปํ ปุตฺตํ มาราเปตุํ อาณาเปสิ, อหํ ปน เอวรูโป น ภวามีติ ทีเปตุํ เอวมาห. มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเนติ สเจ พธิรภาวาทิวิรหิตํ เอวรูปํ มํ วเน นิขเณยฺยาสิ, อธมฺมํ กมฺมํ กเรยฺยาสีติ อตฺโถ. ‘‘อูรู’’ติ อิทํ โส ปุริมคาถํ สุตฺวาปิ นํ อโนโลเกนฺตเมว ทิสฺวา ‘‘อลงฺกตสรีรมสฺส ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห. ตสฺสตฺโถ – สมฺม สารถิ, อิเม กฺจนกทลิกฺขนฺธสทิเส อูรู, กนกจฺฉวึ พาหุฺจ เม ปสฺส, มธุรวจนฺจ เม สุณาหีติ.

ตโต สารถิ เอวํ จินฺเตสิ ‘‘โก นุ โข เอส, อาคตกาลโต ปฏฺาย อตฺตานเมว วณฺเณตี’’ติ. โส อาวาฏขณนํ ปหาย อุทฺธํ โอโลเกนฺโต ตสฺส รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘อยํ ปุริโส โก นุ โข, มนุสฺโส วา เทโว วา’’ติ อชานนฺโต อิมํ คาถมาห –

.

‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

อถสฺส มหาสตฺโต อตฺตานํ อาจิกฺขิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

.

‘‘นมฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นมฺหิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

กาสิรฺโ อหํ ปุตฺโต, ยํ กาสุยา นิหฺสิ.

.

‘‘ตสฺส รฺโ อหํ ปุตฺโต, ยํ ตฺวํ สมฺมูปชีวสิ;

อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน.

๑๐.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.

๑๑.

‘‘ยถา รุกฺโข ตถา ราชา, ยถา สาขา ตถา อหํ;

ยถา ฉายูปโค โปโส, เอวํ ตฺวมสิ สารถิ;

อธมฺมํ สารถิ กยิรา, มํ เจ ตฺวํ นิขณํ วเน’’ติ.

ตตฺถ นิหฺสีติ นิหนิสฺสสิ. ยํ ตฺวํ เอตฺถ นิหนิสฺสามีติ สฺาย กาสุํ ขณสิ, โส อหนฺติ ทีเปติ. โส ‘‘ราชปุตฺโต อห’’นฺติ วุตฺเตปิ น สทฺทหติเยว, มธุรกถาย ปนสฺส พชฺฌิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต อฏฺาสิ. มิตฺตทุพฺโภติ ปริภุตฺตฉายสฺส รุกฺขสฺส ปตฺตํ วา สาขํ วา องฺกุรํ วา ภฺชนฺโต มิตฺตฆาตโก โหติ ลามกปุริโส, กิมงฺคํ ปน สามิปุตฺตฆาตโก. ฉายูปโคติ ปริโภคตฺถาย ฉายํ อุปคโต ปุริโส วิย ราชานํ นิสฺสาย ชีวมาโน ตฺวนฺติ วทติ.

โส เอวํ กเถนฺเตปิ โพธิสตฺเต น สทฺทหติเยว. อถ มหาสตฺโต ‘‘สทฺทหาเปสฺสามิ น’’นฺติ เทวตานํ สาธุกาเรน เจว อตฺตโน โฆเสน จ วนฆฏํ อุนฺนาเทนฺโต ทส มิตฺตปูชคาถา นาม อารภิ –

๑๒.

‘‘ปหูตภกฺโข ภวติ, วิปฺปวุฏฺโ สกํฆรา;

พหู นํ อุปชีวนฺติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๑๓.

‘‘ยํ ยํ ชนปทํ ยาติ, นิคเม ราชธานิโย;

สพฺพตฺถ ปูชิโต โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๑๔.

‘‘นาสฺส โจรา ปสาหนฺติ, นาติมฺนฺติ ขตฺติยา;

สพฺเพ อมิตฺเต ตรติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๑๕.

‘‘อกฺกุทฺโธ สฆรํ เอติ, สภายํ ปฏินนฺทิโต;

าตีนํ อุตฺตโม โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๑๖.

‘‘สกฺกตฺวา สกฺกโต โหติ, ครุ โหติ สคารโว;

วณฺณกิตฺติภโต โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๑๗.

‘‘ปูชโก ลภเต ปูชํ, วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ;

ยโสกิตฺติฺจ ปปฺโปติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๑๘.

‘‘อคฺคิ ยถา ปชฺชลติ, เทวตาว วิโรจติ;

สิริยา อชหิโต โหติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๑๙.

‘‘คาโว ตสฺส ปชายนฺติ, เขตฺเต วุตฺตํ วิรูหติ;

วุตฺตานํ ผลมสฺนาติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๒๐.

‘‘ทริโต ปพฺพตาโต วา, รุกฺขโต ปติโต นโร;

จุโต ปติฏฺํ ลภติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.

๒๑.

‘‘วิรูฬฺหมูลสนฺตานํ, นิคฺโรธมิว มาลุโต;

อมิตฺตา นปฺปสาหนฺติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภตี’’ติ.

ตตฺถ สกํ ฆราติ สกฆรา, อยเมว วา ปาโ. น ทุพฺภตีติ น ทุสฺสติ. มิตฺตานนฺติ พุทฺธาทีนํ กลฺยาณมิตฺตานํ น ทุพฺภติ. ‘‘สพฺพตฺถ ปูชิโต โหตี’’ติ อิทํ สีวลิวตฺถุนา วณฺเณตพฺพํ. น ปสาหนฺตีติ ปสยฺหการํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. อิทํ สํกิจฺจสามเณรวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ. ‘‘นาติมฺนฺติ ขตฺติยา’’ติ อิทํ โชติกเสฏฺิวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ. ตรตีติ อติกฺกมติ. สฆรนฺติ อตฺตฆรํ. มิตฺตานํ ทุพฺภนฺโต อตฺตโน ฆรํ อาคจฺฉนฺโตปิ ฆฏฺฏิตจิตฺโต กุทฺโธว อาคจฺฉติ, อยํ ปน อกุทฺโธว สกฆรํ เอติ. ปฏินนฺทิโตติ พหูนํ สนฺนิปาตฏฺาเน อมิตฺตทุพฺภิโน คุณกถํ กเถนฺติ, ตาย โส ปฏินนฺทิโต โหติ ปมุทิตจิตฺโต.

สกฺกตฺวา สกฺกโต โหตีติ ปรํ สกฺกตฺวา สยมฺปิ ปเรหิ สกฺกโต โหติ. ครุ โหติ สคารโวติ ปเรสุ สคารโว สยมฺปิ ปเรหิ ครุโก โหติ. วณฺณกิตฺติภโตติ ภตวณฺณกิตฺติ, คุณฺเจว กิตฺติสทฺทฺจ อุกฺขิปิตฺวา จรนฺโต นาม โหตีติ อตฺโถ. ปูชโกติ มิตฺตานํ ปูชโก หุตฺวา สยมฺปิ ปูชํ ลภติ. วนฺทโกติ พุทฺธาทีนํ กลฺยาณมิตฺตานํ วนฺทโก หุตฺวา ปุนพฺภเว ปฏิวนฺทนํ ลภติ. ยโสกิตฺติฺจาติ อิสฺสริยปริวารฺเจว คุณกิตฺติฺจ ปปฺโปติ. อิมาย คาถาย จิตฺตคหปติโน วตฺถุ (ธ. ป. ๗๓-๗๔) กเถตพฺพํ.

ปชฺชลตีติ อิสฺสริยปริวาเรน ปชฺชลติ. สิริยา อชหิโต โหตีติ เอตฺถ อนาถปิณฺฑิกสฺส วตฺถุ (ธ. ป. ๑๑๙-๑๒๐) กเถตพฺพํ. อสฺนาตีติ ปริภุฺชติ. ‘‘ปติฏฺํ ลภตี’’ติ อิทํ จูฬปทุมชาตเกน (ชา. ๑.๒.๘๕-๘๖) ทีเปตพฺพํ. วิรูฬฺหมูลสนฺตานนฺติ วฑฺฒิตมูลปาโรหํ. อมิตฺตา นปฺปสาหนฺตีติ เอตฺถ กุรรฆริยโสณตฺเถรสฺส มาตุ เคหํ ปวิฏฺโจรวตฺถุ กเถตพฺพํ.

สุนนฺโท สารถิ เอตฺตกาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสนฺตมฺปิ ตํ อสฺชานิตฺวา ‘‘โก นุ โข อย’’นฺติ อาวาฏขณนํ ปหาย รถสมีปํ คนฺตฺวา ตตฺถ ตฺจ ปสาธนภณฺฑฺจ อุภยํ อทิสฺวา ปุน อาคนฺตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ สฺชานิตฺวา ตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจนฺโต อิมํ คาถมาห –

๒๒.

‘‘เอหิ ตํ ปฏิเนสฺสามิ, ราชปุตฺต สกํ ฆรํ;

รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสี’’ติ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๒๓.

‘‘อลํ เม เตน รชฺเชน, าตเกหิ ธเนน วา;

ยํ เม อธมฺมจริยาย, รชฺชํ ลพฺเภถ สารถี’’ติ.

ตตฺถ อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ.

สารถิ อาห –

๒๔.

‘‘ปุณฺณปตฺตํ มํ ลาเภหิ, ราชปุตฺต อิโต คโต;

ปิตา มาตา จ เม ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต.

๒๕.

‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

เตปิ อตฺตมนา ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต.

๒๖.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

เตปิ อตฺตมนา ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต.

๒๗.

‘‘พหุธฺา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

อุปายนานิ เม ทชฺชุํ, ราชปุตฺต ตยี คเต’’ติ.

ตตฺถ ปุณฺณปตฺตนฺติ ตุฏฺิทายํ. ทชฺชุนฺติ สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสนฺตา วิย มม อชฺฌาสยปูรณํ ตุฏฺิทายํ ทเทยฺยุํ. อิทํ โส ‘‘อปฺเปว นาม มยิ อนุกมฺปาย คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา อาห. เวสิยานา จาติ เวสฺสา จ. อุปายนานีติ ปณฺณาการานิ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๒๘.

‘‘ปิตุ มาตุ จหํ จตฺโต, รฏฺสฺส นิคมสฺส จ;

อโถ สพฺพกุมารานํ, นตฺถิ มยฺหํ สกํ ฆรํ.

๒๙.

‘‘อนุฺาโต อหํ มตฺยา, สฺจตฺโต ปิตรา มหํ;

เอโกรฺเ ปพฺพชิโต, น กาเม อภิปตฺถเย’’ติ.

ตตฺถ ปิตุ มาตุ จาติ ปิตรา จ มาตรา จ อหํ จตฺโต. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. มตฺยาติ สมฺม สารถิ, อหํ สตฺตาหํ รชฺชํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วรํ คณฺหนฺติยา มาตรา อนุฺาโต นาม. สฺฉตฺโตติ สุฏฺุ จตฺโต. ปพฺพชิโตติ ปพฺพชิตฺวา อรฺเ วสนตฺถาย นิกฺขนฺโตติ อตฺโถ.

เอวํ มหาสตฺตสฺส อตฺตโน คุเณ กเถนฺตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชิ, ตโต ปีติเวเคน อุทานํ อุทาเนนฺโต อาห –

๓๐.

‘‘อปิ อตรมานานํ, ผลาสาว สมิชฺฌติ;

วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, เอวํ ชานาหิ สารถิ.

๓๑.

‘‘อปิ อตรมานานํ, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ;

วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, นิกฺขนฺโต อกุโตภโย’’ติ.

ตตฺถ ผลาสาวาติ อตรมานสฺส มม โสฬสวสฺเสหิ กตวายามสฺส สมิทฺธํ อชฺฌาสยผลํ ทสฺเสตุํ เอวมาห. วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมีติ นิฏฺปฺปตฺตมโนรโถ. สมฺมทตฺโถ วิปจฺจตีติ สมฺมา อุปาเยน การเณน กตฺตพฺพกิจฺจํ สมฺปชฺชติ.

สารถิ อาห –

๓๒.

‘‘เอวํ วคฺคุกโถ สนฺโต, วิสฏฺวจโน จสิ;

กสฺมา ปิตุ จ มาตุจฺจ, สนฺติเก น ภณี ตทา’’ติ.

ตตฺถ วคฺคุกโถติ สขิลกโถ.

ตโต มหาสตฺโต อาห –

๓๓.

‘‘นาหํ อสนฺธิตา ปกฺโข, น พธิโร อโสตตา;

นาหํ อชิวฺหตา มูโค, มา มํ มูคมธารยิ.

๓๔.

‘‘ปุริมํ สรามหํ ชาตึ, ยตฺถ รชฺชมการยึ;

การยิตฺวา ตหึ รชฺชํ, ปาปตฺถํ นิรยํ ภุสํ.

๓๕.

‘‘วีสติฺเจว วสฺสานิ, ตหึ รชฺชมการยึ;

อสีติวสฺสสหสฺสานิ, นิรยมฺหิ อปจฺจิสํ.

๓๖.

‘‘ตสฺส รชฺชสฺสหํ ภีโต, มา มํ รชฺชาภิเสจยุํ;

ตสฺมา ปิตุ จ มาตุจฺจ, สนฺติเก น ภณึ ตทา.

๓๗.

‘‘อุจฺฉงฺเค มํ นิสาเทตฺวา, ปิตา อตฺถานุสาสติ;

เอกํ หนถ พนฺธถ, เอกํ ขาราปตจฺฉิกํ;

เอกํ สูลสฺมึ อุปฺเปถ, อิจฺจสฺส มนุสาสติ.

๓๘.

‘‘ตายาหํ ผรุสํ สุตฺวา, วาจาโย สมุทีริตา;

อมูโค มูควณฺเณน, อปกฺโข ปกฺขสมฺมโต;

สเก มุตฺตกรีสสฺมึ, อจฺฉาหํ สมฺปริปฺลุโต.

๓๙.

‘‘กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ;

โกมํ ชีวิตมาคมฺม, เวรํ กยิราถ เกนจิ.

๔๐.

‘‘ปฺาย จ อลาเภน, ธมฺมสฺส จ อทสฺสนา;

โกมํ ชีวิตมาคมฺม, เวรํ กยิราถ เกนจิ.

๔๑.

‘‘อปิ อตรมานานํ, ผลาสาว สมิชฺฌติ;

วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, เอวํ ชานาหิ สารถิ.

๔๒.

‘‘อปิ อตรมานานํ, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ;

วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, นิกฺขนฺโต อกุโตภโย’’ติ.

ตตฺถ อสนฺธิตาติ สนฺธีนํ อภาเวน. อโสตตาติ โสตานํ อภาเวน. อชิวฺหตาติ สมฺปริวตฺตนชิวฺหาย อภาเวน มูโค อหํ น ภวามิ. ยตฺถาติ ยาย ชาติยา พาราณสินคเร รชฺชํ อการยึ. ปาปตฺถนฺติ ปาปตํ. ปติโต อสฺมีติ วทติ. รชฺชาภิเสจยุนฺติ รชฺเช อภิเสจยุํ. นิสาเทตฺวาติ นิสีทาเปตฺวา. อตฺถานุสาสตีติ อตฺถํ อนุสาสติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สตฺตีหิ ปหริตฺวา ขาราหิ ปตจฺฉิกํ กโรถ. อุปฺเปถาติ อาวุนถ. อิจฺจสฺส มนุสาสตีติ เอวมสฺส อตฺถํ อนุสาสติ. ตายาหนฺติ ตาโย วาจาโย อหํ. ปกฺขสมฺมโตติ ปกฺโข อิติ สมฺมโต อโหสึ. อจฺฉาหนฺติ อจฺฉึ อหํ, อวสินฺติ อตฺโถ. สมฺปริปฺลุโตติ สมฺปริกิณฺโณ, นิมุคฺโค หุตฺวาติ อตฺโถ.

กสิรนฺติ ทุกฺขํ. ปริตฺตนฺติ อปฺปํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺมสารถิ, สเจปิ สตฺตานํ ชีวิตํ ทุกฺขมฺปิ สมานํ พหุจิรฏฺิติกํ ภเวยฺย, ปตฺเถยฺย, ปริตฺตมฺปิ สมานํ สเจ สุขํ ภเวยฺย, ปตฺเถยฺย, อิทํ ปน กสิรฺจ ปริตฺตฺจ สกเลน วฏฺฏทุกฺเขน สํยุตฺตํ สนฺนิหิตํ โอมทฺทิตํ. โกมนฺติ โก อิมํ. เวรนฺติ ปาณาติปาตาทิปฺจวิธํ เวรํ. เกนจีติ เกนจิ การเณน. ปฺายาติ วิปสฺสนาปฺาย อลาเภน. ธมฺมสฺสาติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อทสฺสเนน. ปุน อุทานคาถาโย อคนฺตุกามตาย ถิรภาวทสฺสนตฺถํ กเถสิ.

ตํ สุตฺวา สุนนฺโท สารถิ ‘‘อยํ กุมาโร เอวรูปํ รชฺชสิรึ กุณปํ วิย ฉฑฺเฑตฺวา อตฺตโน อธิฏฺานํ อภินฺทิตฺวา ‘‘ปพฺพชิสฺสามีติ อรฺํ ปวิฏฺโ, มม อิมินา ทุชฺชีวิเตน โก อตฺโถ, อหมฺปิ เตน สทฺธึ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ คาถมาห –

๔๓.

‘‘อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, ราชปุตฺต ตวนฺติเก;

อวฺหายสฺสุ มํ ภทฺทนฺเต, ปพฺพชฺชา มม รุจฺจตี’’ติ.

ตตฺถ ตวนฺติเกติ ตว สนฺติเก. อวฺหายสฺสูติ ‘‘เอหิ ปพฺพชาหี’’ติ ปกฺโกสสฺสุ.

เอวํ เตน ยาจิโตปิ มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ อิทาเนว ตํ ปพฺพาเชสฺสามิ, มาตาปิตโร อิธ นาคจฺฉิสฺสนฺติ, อถ เนสํ ปริหานิ ภวิสฺสติ, อิเม อสฺสา จ รโถ จ ปสาธนภณฺฑฺจ อิเธว นสฺสิสฺสนฺติ, ‘ยกฺโข โส, ขาทิโต นุ โข เตน สารถี’ติ ครหาปิ เม อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน จ ครหาโมจนตฺถํ มาตาปิตูนฺจ วุฑฺฒึ สมฺปสฺสนฺโต อสฺเส จ รถฺจ ปสาธนภณฺฑฺจ ตสฺส อิณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

๔๔.

‘‘รถํ นิยฺยาทยิตฺวาน, อนโณ เอหิ สารถิ;

อนณสฺส หิ ปพฺพชฺชา, เอตํ อิสีหิ วณฺณิต’’นฺติ.

ตตฺถ เอตนฺติ เอตํ ปพฺพชฺชากรณํ พุทฺธาทีหิ อิสีหิ วณฺณิตํ ปสตฺถํ โถมิตํ.

ตํ สุตฺวา สารถิ ‘‘สเจ มยิ นครํ คเต เอส อฺตฺถ คจฺเฉยฺย, ปิตา จสฺส อิมํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘ปุตฺตํ เม ทสฺเสหี’ติ ปุน อาคโต อิมํ น ปสฺเสยฺย, ราชทณฺฑํ เม กเรยฺย, ตสฺมา อหํ อตฺตโน คุณํ กเถตฺวา อฺตฺถาคมนตฺถาย ปฏิฺํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๔๕.

‘‘ยเทว ตฺยาหํ วจนํ, อกรํ ภทฺทมตฺถุ เต;

ตเทว เม ตฺวํ วจนํ, ยาจิโต กตฺตุมรหสิ.

๔๖.

‘‘อิเธว ตาว อจฺฉสฺสุ, ยาว ราชานมานเย;

อปฺเปว เต ปิตา ทิสฺวา, ปตีโต สุมโน สิยา’’ติ.

ตโต มหาสตฺโต อาห –

๔๗.

‘‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ มํ ภณสิ สารถิ;

อหมฺปิ ทฏฺุกาโมสฺมิ, ปิตรํ เม อิธาคตํ.

๔๘.

‘‘เอหิ สมฺม นิวตฺตสฺสุ, กุสลํ วชฺชาสิ าตินํ;

มาตรํ ปิตรํ มยฺหํ, วุตฺโต วชฺชาสิ วนฺทน’’นฺติ.

ตตฺถ กโรมิ เตตนฺติ กโรมิ เต เอตํ วจนํ. เอหิ สมฺม นิวตฺตสฺสูติ สมฺม สารถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา เอหิ, เอตฺโตว ขิปฺปเมว นิวตฺตสฺสุ. วุตฺโต วชฺชาสีติ มยา วุตฺโต หุตฺวา ‘‘ปุตฺโต โว เตมิยกุมาโร วนฺทตี’’ติ วนฺทนํ วเทยฺยาสีติ อตฺโถ.

อิติ วตฺวา มหาสตฺโต สุวณฺณกทลิ วิย โอนมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน พาราณสินคราภิมุโข มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา สารถิสฺส สาสนํ อทาสิ. โส สาสนํ คเหตฺวา กุมารํ ปทกฺขิณํ กตฺวา รถมารุยฺห นคราภิมุโข ปายาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๙.

‘‘ตสฺส ปาเท คเหตฺวาน, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

สารถิ รถมารุยฺห, ราชทฺวารํ อุปาคมี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ภิกฺขเว, เอวํ วุตฺโต โส สารถิ, ตสฺส กุมารสฺส ปาเท คเหตฺวา ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา รถํ อารุยฺห ราชทฺวารํ อุปาคมีติ.

ตสฺมึ ขเณ จนฺทาเทวี สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ‘‘กา นุ โข เม ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ สารถิสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี ตํ เอกกํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อุรํ ปหริตฺวา ปริเทวิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๕๐.

‘‘สุฺํ มาตา รถํ ทิสฺวา, เอกํ สารถิมาคตํ;

อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, โรทนฺตี นํ อุทิกฺขติ.

๕๑.

‘‘อยํ โส สารถิ เอติ, นิหนฺตฺวา มม อตฺรชํ;

นิหโต นูน เม ปุตฺโต, ปถพฺยา ภูมิวฑฺฒโน.

๕๒.

‘‘อมิตฺตา นูน นนฺทนฺติ, ปตีตา นูน เวริโน;

อาคตํ สารถึ ทิสฺวา, นิหนฺตฺวา มม อตฺรชํ.

๕๓.

‘‘สุฺํ มาตา รถํ ทิสฺวา, เอกํ สารถิมาคตํ;

อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, โรทนฺตี ปริปุจฺฉิ นํ.

๕๔.

‘‘กึ นุ มูโค กึนุ ปกฺโข, กึนุ โส วิลปี ตทา;

นิหฺมาโน ภูมิยา, ตํ เม อกฺขาหิ สารถิ.

๕๕.

‘‘กถํ หตฺเถหิ ปาเทหิ, มูคปกฺโข วิวชฺชยิ;

นิหฺมาโน ภูมิยา, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

ตตฺถ มาตาติ เตมิยกุมารสฺส มาตา. ปถพฺยา ภูมิวฑฺฒโนติ โส มม ปุตฺโต ภูมิวฑฺฒโน หุตฺวา ปถพฺยา นิหโต นูน. โรทนฺตี ปริปุจฺฉิ นนฺติ ตํ รถํ เอกมนฺตํ เปตฺวา มหาตลํ อภิรุยฺห จนฺทาเทวึ วนฺทิตฺวา เอกมนฺเต ิตํ สารถึ ปริปุจฺฉิ. กินฺนูติ กึ นุ โส มม ปุตฺโต มูโค เอว ปกฺโข เอว. ตทาติ ยทา นํ ตฺวํ กาสุยํ ปกฺขิปิตฺวา กุทฺทาเลน มตฺถเก ปหริ, ตทา. นิหฺมาโน ภูมิยาติ ตยา ภูมิยํ นิหฺมาโน กึ นุ วิลปิ. ตํ เมติ ตํ สพฺพํ อปริหาเปตฺวา เม อกฺขาหิ. วิวชฺชยีติ ‘‘อเปหิ สารถิ, มา มํ มาเรหี’’ติ กถํ หตฺเถหิ ปาเทหิ จ ผนฺทนฺโต ตํ อปนุทิ, ตํ เม กเถหีติ อตฺโถ.

ตโต สารถิ อาห –

๕๖.

‘‘อกฺเขยฺยํ เต อหํ อยฺเย, ทชฺชาสิ อภยํ มม;

ยํ เม สุตํ วา ทิฏฺํ วา, ราชปุตฺตสฺส สนฺติเก’’ติ.

ตตฺถ ทชฺชาสีติ สเจ อภยํ ทเทยฺยาสิ, โส อิทํ ‘‘สจาหํ ‘ตว ปุตฺโต เนว มูโค น ปกฺโข มธุรกโถ ธมฺมกถิโก’ติ วกฺขามิ, อถ ‘กสฺมา ตํ คเหตฺวา นาคโตสี’ติ ราชา กุทฺโธ ราชทณฺฑมฺปิ เม กเรยฺย, อภยํ ตาว ยาจิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห.

อถ นํ จนฺทาเทวี อาห –

๕๗.

‘‘อภยํ สมฺม เต ทมฺมิ, อภีโต ภณ สารถิ;

ยํ เต สุตํ วา ทิฏฺํ วา, ราชปุตฺตสฺส สนฺติเก’’ติ.

ตโต สารถิ อาห –

๕๘.

‘‘น โส มูโค น โส ปกฺโข, วิสฏฺวจโน จ โส;

รชฺชสฺส กิร โส ภีโต, อกรา อาลเย พหู.

๕๙.

‘‘ปุริมํ สรติ โส ชาตึ, ยตฺถ รชฺชมการยิ;

การยิตฺวา ตหึ รชฺชํ, ปาปตฺถ นิรยํ ภุสํ.

๖๐.

‘‘วีสติฺเจว วสฺสานิ, ตหึ รชฺชมการยิ;

อสีติวสฺสสหสฺสานิ, นิรยมฺหิ อปจฺจิ โส.

๖๑.

‘‘ตสฺส รชฺชสฺส โส ภีโต, มา มํ รชฺชาภิเสจยุํ;

ตสฺมา ปิตุ จ มาตุจฺจ, สนฺติเก น ภณี ตทา.

๖๒.

‘‘องฺคปจฺจงฺคสมฺปนฺโน, อาโรหปริณาหวา;

วิสฏฺวจโน ปฺโ, มคฺเค สคฺคสฺส ติฏฺติ.

๖๓.

‘‘สเจ ตฺวํ ทฏฺุกามาสิ, ราชปุตฺตํ ตวตฺรชํ;

เอหิ ตํ ปาปยิสฺสามิ, ยตฺถ สมฺมติ เตมิโย’’ติ.

ตตฺถ วิสฏฺวจโนติ อปลิพุทฺธกโถ. อกรา อาลเย พหูติ ตุมฺหากํ วฺจนานิ พหูนิ อกาสิ. ปฺโติ ปฺวา. สเจ ตฺวนฺติ ราชานํ ธุรํ กตฺวา อุโภปิ เต เอวมาห. ยตฺถ สมฺมติ เตมิโยติ ยตฺถ โว ปุตฺโต มยา คหิตปฏิฺโ หุตฺวา อจฺฉติ, ตตฺถ ปาปยิสฺสามิ, อิทานิ ปปฺจํ อกตฺวา ลหุํ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อาห.

กุมาโร ปน สารถึ เปเสตฺวา ปพฺพชิตุกาโม อโหสิ. ตทา สกฺโก ตสฺส มนํ ตฺวา ตสฺมึ ขเณ วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต วิสฺสกมฺมเทวปุตฺต, เตมิยกุมาโร ปพฺพชิตุกาโม, ตฺวํ ตสฺส ปณฺณสาลฺจ ปพฺพชิตปริกฺขารฺจ มาเปตฺวา เอหี’’ติ เปเสสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ติโยชนิเก วนสณฺเฑ อตฺตโน อิทฺธิพเลน รมณียํ อสฺสมํ มาเปตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺานฺจ โปกฺขรณิฺจ อาวาฏฺจ อกาลผลสมฺปนฺนํ รุกฺขฺจ กตฺวา ปณฺณสาลสมีเป จตุวีสติหตฺถปฺปมาณํ จงฺกมํ มาเปตฺวา อนฺโตจงฺกเม จ ผลิกวณฺณํ รุจิรํ วาลุกํ โอกิริตฺวา สพฺเพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร มาเปตฺวา ‘‘เย ปพฺพชิตุกามา, เต อิเม คเหตฺวา ปพฺพชนฺตู’’ติ ภิตฺติยํ อกฺขรานิ ลิขิตฺวา จณฺฑวาเฬ จ อมนาปสทฺเท สพฺเพ มิคปกฺขิโน จ ปลาเปตฺวา สกฏฺานเมว คโต.

ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต ตํ ทิสฺวา สกฺกทตฺติยภาวํ ตฺวา, ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา วตฺถานิ อปเนตฺวา, รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อชินจมฺมํ เอกํเส กตฺวา ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา กาชํ อํเส กตฺวา กตฺตรทณฺฑมาทาย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตสิรึ สมุพฺพหนฺโต อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ อุทานํ อุทาเนนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรเณ นิสินฺโน ปฺจ อภิฺา อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา สายนฺหสมเย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ิตการรุกฺขโต ปณฺณานิ คเหตฺวา, สกฺกทตฺติยภาชเน อโลณเก อตกฺเก นิธูปเน อุทเก เสเทตฺวา อมตํ วิย ปริภุฺชิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา ตตฺถ วาสํ กปฺเปสิ.

กาสิราชาปิ สุนนฺทสารถิสฺส วจนํ สุตฺวา มหาเสนคุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตรมานรูโปว คมนสชฺชํ กาเรตุํ อาห –

๖๔.

‘‘โยชยนฺตุ รเถ อสฺเส, กจฺฉํ นาคาน พนฺธถ;

อุทีรยนฺตุ สงฺขปณวา, วาทนฺตุ เอกโปกฺขรา.

๖๕.

‘‘วาทนฺตุ เภรี สนฺนทฺธา, วคฺคู วาทนฺตุ ทุนฺทุภี;

เนคมา จ มํ อนฺเวนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก.

๖๖.

‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

ขิปฺปํ ยานานิ โยเชนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก.

๖๗.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

ขิปฺปํ ยานานิ โยเชนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก.

๖๘.

‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

ขิปฺปํ ยานานิ โยเชนฺตุ, คจฺฉํ ปุตฺตนิเวทโก’’ติ.

ตตฺถ อุทีรยนฺตูติ สทฺทํ มุฺจนฺตุ. วาทนฺตูติ วชฺชนฺตุ. เอกโปกฺขราติ เอกมุขเภริโย. สนฺนทฺธาติ สุฏฺุ นทฺธา. วคฺคูติ มธุรสฺสรา. คจฺฉนฺติ คมิสฺสามิ. ปุตฺตนิเวทโกติ ปุตฺตสฺส นิเวทโก โอวาทโก หุตฺวา คจฺฉามิ. ตํ โอวทิตฺวา มม วจนํ คาหาเปตฺวา ตตฺเถว ตํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิฺจิตฺวา อาเนตุํ คจฺฉามีติ อธิปฺปาเยเนวมาห. เนคมาติ กุฏุมฺพิกชนา. สมาคตาติ สนฺนิปติตา หุตฺวา.

เอวํ รฺา อาณตฺตา สารถิโน อสฺเส โยเชตฺวา รเถ ราชทฺวาเร เปตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๙.

‘‘อสฺเส จ สารถี ยุตฺเต, สินฺธเว สีฆวาหเน;

ราชทฺวารํ อุปาคจฺฉุํ, ยุตฺตา เทว อิเม หยา’’ติ.

ตตฺถ อสฺเสติ สินฺธเว สินฺธวชาติเก สีฆวาหเน ชวสมฺปนฺเน อสฺเส อาทาย. สารถีติ สารถิโน. ยุตฺเตติ รเถสุ โยชิเต. อุปาคจฺฉุนฺติ เต รเถสุ ยุตฺเต อสฺเส อาทาย อาคมํสุ, อาคนฺตฺวา จ ปน ‘‘ยุตฺตา, เทว, อิเม หยา’’ติ อาโรเจสุํ.

ตโต สารถีนํ วจนํ สุตฺวา ราชา อุปฑฺฒคาถมาห –

๗๐.

‘‘ถูลา ชเวน หายนฺติ, กิสา หายนฺติ ถามุนา’’ติ.

ตํ สุตฺวา สารถิโนปิ อุปฑฺฒคาถมาหํสุ –

‘‘กิเส ถูเล วิวชฺเชตฺวา, สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – เทว, กิเส จ ถูเล จ เอวรูเป อสฺเส อคฺคณฺหิตฺวา วเยน วณฺเณน ชเวน พเลน สทิสา หยา โยชิตาติ.

อถ ราชา ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺโต จตฺตาโร วณฺเณ อฏฺารส เสนิโย สพฺพฺจ พลกายํ สนฺนิปาตาเปสิ. ตสฺส สนฺนิปาเตนฺตสฺเสว ตโย ทิวสา อติกฺกนฺตา. อถ จตุตฺเถ ทิวเส กาสิราชา นครโต นิกฺขมิตฺวา คเหตพฺพยุตฺตกํ คาหาเปตฺวา อสฺสมปทํ คนฺตฺวา ปุตฺเตน สทฺธึ ปฏินนฺทิโต ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๗๑.

‘‘ตโต ราชา ตรมาโน, ยุตฺตมารุยฺห สนฺทนํ;

อิตฺถาคารํ อชฺฌภาสิ, สพฺพาว อนุยาถ มํ.

๗๒.

‘‘วาฬพีชนิมุณฺหีสํ, ขคฺคํ ฉตฺตฺจ ปณฺฑรํ;

อุปาธี รถมารุยฺห, สุวณฺเณหิ อลงฺกตา.

๗๓.

‘‘ตโต ส ราชา ปายาสิ, ปุรกฺขตฺวาน สารถึ;

ขิปฺปเมว อุปาคจฺฉิ, ยตฺถ สมฺมติ เตมิโย.

๗๔.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตํ, ชลนฺตมิว เตชสา;

ขตฺตสงฺฆปริพฺยูฬฺหํ, เตมิโย เอตทพฺรวิ.

๗๕.

‘‘กจฺจิ นุ ตาต กุสลํ, กจฺจิ ตาต อนามยํ;

สพฺพา จ ราชกฺาโย, อโรคา มยฺห มาตโร.

๗๖.

‘‘กุสลฺเจว เม ปุตฺต, อโถ ปุตฺต อนามยํ;

สพฺพา จ ราชกฺาโย, อโรคา ตุยฺห มาตโร.

๗๗.

‘‘กจฺจิ อมชฺชโป ตาต, กจฺจิ เต สุรมปฺปิยํ;

กจฺจิ สจฺเจ จ ธมฺเม จ, ทาเน เต รมเต มโน.

๗๘.

‘‘อมชฺชโป อหํ ปุตฺต, อโถ เม สุรมปฺปิยํ;

อโถ สจฺเจ จ ธมฺเม จ, ทาเน เม รมเต มโน.

๗๙.

‘‘กจฺจิ อโรคํ โยคฺคํ เต, กจฺจิ วหติ วาหนํ;

กจฺจิ เต พฺยาธโย นตฺถิ, สรีรสฺสุปตาปนา.

๘๐.

‘‘อโถ อโรคํ โยคฺคํ เม, อโถ วหติ วาหนํ;

อโถ เม พฺยาธโย นตฺถิ, สรีรสฺสุปตาปนา.

๘๑.

‘‘กจฺจิ อนฺตา จ เต ผีตา, มชฺเฌ จ พหลา ตว;

โกฏฺาคารฺจ โกสฺจ, กจฺจิ เต ปฏิสนฺถตํ.

๘๒.

‘‘อโถ อนฺตา จ เม ผีตา, มชฺเฌ จ พหลา มม;

โกฏฺาคารฺจ โกสฺจ, สพฺพํ เม ปฏิสนฺถตํ.

๘๓.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

ปติฏฺเปนฺตุ ปลฺลงฺกํ, ยตฺถ ราชา นิสกฺกตี’’ติ.

ตตฺถ อุปาธี รถมารุยฺหาติ สุวณฺณปาทุกา จ รถํ อาโรเปนฺตูติ อตฺโถ. อิเม ตโย ปาเท ปุตฺตสฺส ตตฺเถว อภิเสกกรณตฺถาย ‘‘ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ คณฺหถา’’ติ อาณาเปนฺโต ราชา อาห. สุวณฺเณหิ อลงฺกตาติ อิทํ ปาทุกํ สนฺธายาห. อุปาคจฺฉีติ อุปาคโต อโหสิ. กาย เวลายาติ? มหาสตฺตสฺส การปณฺณานิ ปจิตฺวา นิพฺพาเปนฺตสฺส นิสินฺนเวลาย. ชลนฺตมิว เตชสาติ ราชเตเชน ชลนฺตํ วิย. ขตฺตสงฺฆปริพฺยูฬฺหนฺติ กถาผาสุเกน อมจฺจสงฺเฆน ปริวุตํ, ขตฺติยสมูเหหิ วา ปริวาริตํ. เอตทพฺรวีติ กาสิราชานํ พหิ ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ปทสาว ปณฺณสาลํ อาคนฺตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต เอตํ วจนํ อพฺรวิ.

กุสลํ อนามยนฺติ อุภเยนปิ ปเทน อาโรคฺยเมว ปุจฺฉติ. กจฺจิ อมชฺชโปติ กจฺจิ มชฺชํ น ปิวสีติ ปุจฺฉติ. ‘‘อปฺปมตฺโต’’ติปิ ปาโ, กุสลธมฺเมสุ นปฺปมชฺชสีติ อตฺโถ. สุรมปฺปิยนฺติ สุราปานํ อปฺปิยํ. ‘‘สุรมปฺปิยา’’ติปิ ปาโ, สุรา อปฺปิยาติ อตฺโถ. ธมฺเมติ ทสวิเธ ราชธมฺเม. โยคฺคนฺติ ยุเค ยุฺชิตพฺพํ เต ตว อสฺสโคณาทิกํ. กจฺจิ วหตีติ กจฺจิ อโรคํ หุตฺวา วหติ. วาหนนฺติ หตฺถิอสฺสาทิ สพฺพํ วาหนํ. สรีรสฺสุปตาปนาติ สรีรสฺส อุปตาปกรา. อนฺตาติ ปจฺจนฺตชนปทา. ผีตาติ อิทฺธา สุภิกฺขา, วตฺถาภรเณหิ วา อนฺนปาเนหิ วา ปริปุณฺณา คาฬฺหวาสา. มชฺเฌ จาติ รฏฺสฺส มชฺเฌ. พหลาติ คามนิคมา ฆนวาสา. ปฏิสนฺถตนฺติ ปฏิจฺฉาทิตํ คุตฺตํ, ปริปุณฺณํ วา. ยตฺถ ราชา นิสกฺกตีติ ยสฺมึ ปลฺลงฺเก ราชา นิสีทิสฺสติ, ตํ ปฺาเปนฺตูติ วทติ.

ราชา มหาสตฺเต คารเวน ปลฺลงฺเก น นิสีทติ. อถ มหาสตฺโต ‘‘สเจ ปลฺลงฺเก น นิสีทติ, ปณฺณสนฺถารํ ปฺาเปถา’’ติ วตฺวา ตสฺมึ ปฺตฺเต นิสีทนตฺถาย ราชานํ นิมนฺเตนฺโต คาถมาห –

๘๔.

‘‘อิเธว เต นิสีทสฺสุ, นิยเต ปณฺณสนฺถเร;

เอตฺโต อุทกมาทาย, ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เต’’ติ.

ตตฺถ นิยเตติ สุสนฺถเต. เอตฺโตติ ปริโภคอุทกํ ทสฺเสนฺโต อาห.

ราชา มหาสตฺเต คารเวน ปณฺณสนฺถาเรปิ อนิสีทิตฺวา ภูมิยํ เอว นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ตํ การปณฺณกํ นีหริตฺวา ราชานํ เตน นิมนฺเตนฺโต คาถมาห –

๘๕.

‘‘อิทมฺปิ ปณฺณกํ มยฺหํ, รนฺธํ ราช อโลณกํ;

ปริภุฺช มหาราช, ปาหุโน เมสิธาคโต’’ติ.

อถ นํ ราชา อาห –

๘๖.

‘‘น จาหํ ปณฺณํ ภุฺชามิ, น เหตํ มยฺห โภชนํ;

สาลีนํ โอทนํ ภุฺเช, สุจึ มํสูปเสจน’’นฺติ.

ตตฺถ น จาหนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ.

ราชา ตถารูปํ อตฺตโน ราชโภชนํ วณฺเณตฺวา ตสฺมึ มหาสตฺเต คารเวน โถกํ ปณฺณกํ หตฺถตเล เปตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ เอวรูปํ โภชนํ ภุฺชสี’’ติ ปุตฺเตน สทฺธึ ปิยกถํ กเถนฺโต นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ จนฺทาเทวี โอโรเธน ปริวุตา เอกมคฺเคน อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส อสฺสมปทํ ปตฺวา ปิยปุตฺตํ ทิสฺวา ตตฺเถว ปติตฺวา วิสฺี อโหสิ. ตโต ปฏิลทฺธสฺสาสา ปติตฏฺานโต อุฏฺหิตฺวา อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ปาเท ทฬฺหํ คเหตฺวา วนฺทิตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ โรทิตฺวา วนฺทนฏฺานโต อุฏฺาย เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ ราชา ‘‘ภทฺเท, ตว ปุตฺตสฺส โภชนํ ปสฺสาหี’’ติ วตฺวา โถกํ ปณฺณกํ ตสฺสา หตฺเถ เปตฺวา เสสอิตฺถีนมฺปิ โถกํ โถกํ อทาสิ. ตา สพฺพาปิ ‘‘สามิ, เอวรูปํ โภชนํ ภุฺชสี’’ติ วทนฺติโย ตํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สีเส กตฺวา ‘‘อติทุกฺกรํ กโรสิ, สามี’’ติ วตฺวา นมสฺสมานา นิสีทึสุ. ราชา ปุน ‘‘ตาต, อิทํ มยฺหํ อจฺฉริยํ หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๘๗.

‘‘อจฺเฉรกํ มํ ปฏิภาติ, เอกกมฺปิ รโหคตํ;

เอทิสํ ภุฺชมานานํ, เกน วณฺโณ ปสีทตี’’ติ.

ตตฺถ เอกกนฺติ ตาต, ตํ เอกกมฺปิ รโหคตํ อิมินา โภชเนน ยาเปนฺตํ ทิสฺวา มม อจฺฉริยํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. เอทิสนฺติ เอวรูปํ อโลณกํ อตกฺกํ นิธูปนํ รนฺธํ ปตฺตํ ภุฺชนฺตานํ เกน การเณน วณฺโณ ปสีทตีติ นํ ปุจฺฉิ.

อถสฺส โส อาจิกฺขนฺโต อาห –

๘๘.

‘‘เอโก ราช นิปชฺชามิ, นิยเต ปณฺณสนฺถเร;

ตาย เม เอกเสยฺยาย, ราช วณฺโณ ปสีทติ.

๘๙.

‘‘น จ เนตฺตึสพนฺธา เม, ราชรกฺขา อุปฏฺิตา;

ตาย เม สุขเสยฺยาย, ราชวณฺโณ ปสีทติ.

๙๐.

‘‘อตีตํ นานุโสจามิ, นปฺปชปฺปามินาคตํ;

ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปมิ, เตน วณฺโณ ปสีทติ.

๙๑.

‘‘อนาคตปฺปชปฺปาย, อตีตสฺสานุโสจนา;

เอเตน พาลา สุสฺสนฺติ, นโฬว หริโต ลุโต’’ติ.

ตตฺถ เนตฺตึสพนฺธาติ ขคฺคพนฺธา. ราชรกฺขาติ ราชานํ รกฺขิตา. นปฺปชปฺปามีติ น ปตฺเถมิ. หริโตติ หริตวณฺโณ. ลุโตติ ลุฺจิตฺวา อาตเป ขิตฺตนโฬ วิย.

อถ ราชา ‘‘อิเธว นํ อภิสิฺจิตฺวา อาทาย คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา รชฺเชน นิมนฺเตนฺโต อาห –

๙๒.

‘‘หตฺถานีกํ รถานีกํ, อสฺเส ปตฺตี จ วมฺมิโน;

นิเวสนานิ รมฺมานิ, อหํ ปุตฺต ททามิ เต.

๙๓.

‘‘อิตฺถาคารมฺปิ เต ทมฺมิ, สพฺพาลงฺการภูสิตํ;

ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, ตฺวํ โน ราชา ภวิสฺสสิ.

๙๔.

‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺส, สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย;

กาเม ตํ รมยิสฺสนฺติ, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.

๙๕.

‘‘ปฏิราชูหิ เต กฺา, อานยิสฺสํ อลงฺกตา;

ตาสุ ปุตฺเต ชเนตฺวาน, อถ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสิ.

๙๖.

‘‘ยุวา จ ทหโร จาสิ, ปมุปฺปตฺติโก สุสุ;

รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ หตฺถานีกนฺติ ทสหตฺถิโต ปฏฺาย หตฺถานีกํ นาม, ตถา รถานีกํ. วมฺมิโนติ วมฺมพทฺธสูรโยเธ. กุสลาติ เฉกา. สิกฺขิตาติ อฺเสุปิ อิตฺถิกิจฺเจสุ สิกฺขิตา. จาตุริตฺถิโยติ จตุรา วิลาสา อิตฺถิโย, อถ วา จตุรา นาครา อิตฺถิโย, อถ วา จตุรา นาม นาฏกิตฺถิโย. ปฏิราชูหิ เต กฺาติ อฺเหิ ราชูหิ ตว ราชกฺาโย อานยิสฺสามิ. ยุวาติ โยพฺพนปฺปตฺโต. ทหโรติ ตรุโณ. ปมุปฺปตฺติโกติ ปมวเยน อุปฺปตฺติโต สมุคฺคโต. สุสูติ อติตรุโณ.

อิโต ปฏฺาย โพธิสตฺตสฺส ธมฺมกถา โหติ –

๙๗.

‘‘ยุวา จเร พฺรหฺมจริยํ, พฺรหฺมจารี ยุวา สิยา;

ทหรสฺส หิ ปพฺพชฺชา, เอตํ อิสีหิ วณฺณิตํ.

๙๘.

‘‘ยุวา จเร พฺรหฺมจริยํ, พฺรหฺมจารี ยุวา สิยา;

พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก.

๙๙.

‘‘ปสฺสามิ โวหํ ทหรํ, อมฺม ตาต วทนฺตรํ;

กิจฺฉาลทฺธํ ปิยํ ปุตฺตํ, อปฺปตฺวาว ชรํ มตํ.

๑๐๐.

‘‘ปสฺสามิ โวหํ ทหรึ, กุมารึ จารุทสฺสนึ;

นววํสกฬีรํว, ปลุคฺคํ ชีวิตกฺขยํ.

๑๐๑.

‘‘ทหราปิ หิ มียนฺติ, นรา จ อถ นาริโย;

ตตฺถ โก วิสฺสเส โปโส, ‘ทหโรมฺหี’ติ ชีวิเต.

๑๐๒.

‘‘ยสฺส รตฺยา วิวสาเน, อายุ อปฺปตรํ สิยา;

อปฺโปทเกว มจฺฉานํ, กึ นุ โกมารกํ ตหึ.

๑๐๓.

‘‘นิจฺจมพฺภาหโต โลโก, นิจฺจฺจ ปริวาริโต;

อโมฆาสุ วชนฺตีสุ, กึ มํ รชฺเชภิสิฺจสี’’ติ.

กาสิราชา อาห –

๑๐๔.

‘‘เกน มพฺภาหโต โลโก, เกน จ ปริวาริโต;

กาโย อโมฆา คจฺฉนฺติ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

โพธิสตฺโต อาห –

๑๐๕.

‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก, ชราย ปริวาริโต;

รตฺโย อโมฆา คจฺฉนฺติ, เอวํ ชานาหิ ขตฺติย.

๑๐๖.

‘‘ยถาปิ ตนฺเต วิตเต, ยํ ยเทวูปวียติ;

อปฺปกํ โหติ เวตพฺพํ, เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.

๑๐๗.

‘‘ยถา วาริวโห ปูโร, คจฺฉํ นุปนิวตฺตติ;

เอวมายุ มนุสฺสานํ, คจฺฉํ นุปนิวตฺตติ.

๑๐๘.

‘‘ยถา วาริวโห ปูโร, วเห รุกฺเขปกูลเช;

เอวํ ชรามรเณน, วุยฺหนฺเต สพฺพปาณิโน’’ติ.

ตตฺถ พฺรหฺมจารี ยุวา สิยาติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺโต ยุวา ภเวยฺย. อิสีหิ วณฺณิตนฺติ พุทฺธาทีหิ อิสีหิ โถมิตํ ปสตฺถํ. นาหํ รชฺเชน มตฺถิโกติ อหํ รชฺเชน อตฺถิโก น โหมิ. อมฺม ตาต วทนฺตรนฺติ ‘‘อมฺม, ตาตา’’ติ วทนฺตํ. ปลุคฺคนฺติ มจฺจุนา ลุฺจิตฺวา คหิตํ. ยสฺส รตฺยา วิวสาเนติ มหาราช, ยสฺส มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาลโต ปฏฺาย รตฺติทิวาติกฺกเมน อปฺปตรํ อายุ โหติ. โกมารกํ ตหินฺติ ตสฺมึ วเย ตรุณภาโว กึ กริสฺสติ.

เกน มพฺภาหโตติ เกน อพฺภาหโต. อิทํ ราชา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส อตฺถํ อชานนฺโตว ปุจฺฉติ. รตฺโยติ รตฺติโย. ตา หิ อิเมสํ สตฺตานํ อายุฺจ วณฺณฺจ พลฺจ เขเปนฺติโย เอว คจฺฉนฺตีติ อโมฆา คจฺฉนฺติ นามาติ เวทิตพฺพํ. ยํ ยเทวูปวียตีติ ยํ ยํ ตนฺตํ อุปวียติ. เวตพฺพนฺติ ตนฺตสฺมึ วีเต เสสํ เวตพฺพํ ยถา อปฺปกํ โหติ, เอวํ สตฺตานํ ชีวิตํ. นุปนิวตฺตตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ ขเณ คตํ คตเมว โหติ, น อุปนิวตฺตติ. วเห รุกฺเขปกูลเชติ อุปกูลเช รุกฺเข วเหยฺย.

ราชา มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘กึ เม ฆราวาเสนา’’ติ อติวิย อุกฺกณฺิโต ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ‘‘นาหํ ตาว ปุน นครํ คมิสฺสามิ, อิเธว ปพฺพชิสฺสามิ. สเจ ปน เม ปุตฺโต นครํ คจฺเฉยฺย, เสตจฺฉตฺตมสฺส ทเทยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ วีมํสิตุํ ปุน รชฺเชน นิมนฺเตนฺโต อาห –

๑๐๙.

‘‘หตฺถานีกํ รถานีกํ, อสฺเส ปตฺตี จ วมฺมิโน;

นิเวสนานิ รมฺมานิ, อหํ ปุตฺต ททามิ เต.

๑๑๐.

‘‘อิตฺถาคารมฺปิ เต ทมฺมิ, สพฺพาลงฺการภูสิตํ;

ตา ปุตฺต ปฏิปชฺชสฺสุ, ตฺวํ โน ราชา ภวิสฺสสิ.

๑๑๑.

‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺส, สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย;

กาเม ตํ รมยิสฺสนฺติ, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.

๑๑๒.

‘‘ปฏิราชูหิ เต กฺา, อานยิสฺสํ อลงฺกตา;

ตาสุ ปุตฺเต ชเนตฺวาน, อถ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสิ.

๑๑๓.

‘‘ยุวา จ ทหโร จาสิ, ปมุปฺปตฺติโก สุสุ;

รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสิ.

๑๑๔.

‘‘โกฏฺาคารฺจ โกสฺจ, วาหนานิ พลานิ จ;

นิเวสนานิ รมฺมานิ, อหํ ปุตฺต ททามิ เต.

๑๑๕.

‘‘โคมณฺฑลปริพฺยูฬฺโห, ทาสิสงฺฆปุรกฺขโต;

รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ โคมณฺฑลปริพฺยูฬฺโหติ สุภงฺคีนํ ราชกฺานํ มณฺฑเลน ปุรกฺขโต.

อถ มหาสตฺโต รชฺเชน อนตฺถิกภาวํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๑๖.

‘‘กึ ธเนน ยํ ขีเยถ, กึ ภริยาย มริสฺสติ;

กึ โยพฺพเนน ชิณฺเณน, ยํ ชรายาภิภุยฺยติ.

๑๑๗.

‘‘ตตฺถ กา นนฺทิ กา ขิฑฺฑา, กา รตี กา ธเนสนา;

กึ เม ปุตฺเตหิ ทาเรหิ, ราช มุตฺโตสฺมิ พนฺธนา.

๑๑๘.

‘‘โยหํ เอวํ ปชานามิ, มจฺจุ เม นปฺปมชฺชติ;

อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, กา รตี กา ธเนสนา.

๑๑๙.

‘‘ผลานมิว ปกฺกานํ, นิจฺจํ ปตนโต ภยํ;

เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.

๑๒๐.

‘‘สายเมเก น ทิสฺสนฺติ, ปาโต ทิฏฺา พหู ชนา;

ปาโต เอเต น ทิสฺสนฺติ, สายํ ทิฏฺา พหู ชนา.

๑๒๑.

‘‘อชฺเชว กิจฺจํ อาตปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.

๑๒๒.

‘‘โจรา ธนสฺส ปตฺเถนฺติ, ราช มุตฺโตสฺมิ พนฺธนา;

เอหิ ราช นิวตฺตสฺสุ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก’’ติ.

ตตฺถ ยํ ขีเยถาติ มหาราช, กึ ตฺวํ มํ ธเนน นิมนฺเตสิ, ยํ ขีเยถ ขยํ คจฺเฉยฺย. ธนํ วา หิ ปุริสํ จชติ, ปุริโส วา ตํ ธนํ จชิตฺวา คจฺฉตีติ สพฺพถาปิ ขยคามีเยว โหติ, กึ ตฺวํ มํ เตน ธเนน นิมนฺเตสิ. กึ ภริยายาติ ภริยาย กึ กริสฺสามิ, ยา มยิ ิเตเยว มริสฺสติ. ชิณฺเณนาติ ชราย อนุปริเตน อนุภูเตน. อภิภุยฺยตีติ อภิภวิยฺยติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ เอวํ ชรามรณธมฺเม โลกสนฺนิวาเส. กา นนฺทีติ กา นาม ตุฏฺิ. ขิฑฺฑาติ กีฬา. รตีติ ปฺจกามคุณรติ. พนฺธนาติ กามพนฺธนา มุตฺโต อสฺมิ, มหาราชาติ ฌาเนน วิกฺขมฺภิตตฺตา เอวมาห. มจฺจุ เมติ มม มจฺจุ นปฺปมชฺชติ, นิจฺจํ มม วธาย อปฺปมโตเยวาติ. โย อหํ เอวํ ปชานามิ, ตสฺส มม อนฺตเกน อธิปนฺนสฺส วธิตสฺส กา นาม รติ, กา ธเนสนาติ. นิจฺจนฺติ ชาตกาลโต ปฏฺาย สทา ชรามรณโต ภยเมว อุปฺปชฺชติ.

อาตปนฺติ กุสลกมฺมวีริยํ. กิจฺจนฺติ กตฺตพฺพํ. โก ชฺา มรณํ สุเวติ สุเว วา ปรสุเว วา มรณํ วา ชีวิตํ วา โก ชาเนยฺย. สงฺครนฺติ สงฺเกตํ. มหาเสเนนาติ ปฺจวีสติภยพาตฺตึสกมฺมกรณฉนฺนวุติโรคปฺปมุขาทิวเสน ปุถุเสเนน. โจรา ธนสฺสาติ ธนตฺถาย ชีวิตํ จชนฺตา โจรา ธนสฺส ปตฺเถนฺติ นาม, อหํ ปน ธนปตฺถนาสงฺขาตา พนฺธนา มุตฺโต อสฺมิ, น เม ธเนนตฺโถติ อตฺโถ. นิวตฺตสฺสูติ มม วจเนน สมฺมา นิวตฺตสฺสุ, รชฺชํ ปหาย เนกฺขมฺมํ ปฏิสรณํ กตฺวา ปพฺพชสฺสุ. ยํ ปน จินฺเตสิ ‘‘อิมํ รชฺเช ปติฏฺาเปสฺสามี’’ติ, ตํ มา จินฺตยิ, นาหํ รชฺเชน อตฺถิโกติ. อิติ มหาสตฺตสฺส ธมฺมเทสนา สหานุสนฺธินา มตฺถกํ ปตฺตา.

ตํ สุตฺวา ราชานฺจ จนฺทาเทวิฺจ อาทึ กตฺวา โสฬสสหสฺสา โอโรธา จ อมจฺจาทโย จ สพฺเพ ปพฺพชิตุกามา อเหสุํ. ราชาปิ นคเร เภรึ จราเปสิ ‘‘เย มม ปุตฺตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตุํ อิจฺฉนฺติ, เต ปพฺพชนฺตู’’ติ. สพฺเพสฺจ สุวณฺณโกฏฺาคาราทีนํ ทฺวารานิ วิวราเปตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน จ มหานิธิกุมฺภิโย อตฺถิ, อตฺถิกา คณฺหนฺตู’’ติ สุวณฺณปฏฺเฏ อกฺขรานิ ลิขาเปตฺวา มหาถมฺเภ พนฺธาเปสิ. เต นาครา ยถาปสาริเต อาปเณ จ วิวฏทฺวารานิ เคหานิ จ ปหาย นครโต นิกฺขมิตฺวา รฺโ สนฺติกํ อาคมึสุ. ราชา มหาชเนน สทฺธึ มหาสตฺตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิ. สกฺกทตฺติยํ ติโยชนิกํ อสฺสมปทํ ปริปุณฺณํ อโหสิ. มหาสตฺโต ปณฺณสาลาโย วิจาเรสิ, มชฺเฌ ิตา ปณฺณสาลาโย อิตฺถีนํ ทาเปสิ. กึการณา? ภีรุกชาติกา เอตาติ. ปุริสานํ ปน พหิปณฺณสาลาโย ทาเปสิ. ตา สพฺพาปิ ปณฺณสาลาโย วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโตว มาเปสิ. เต จ ผลธรรุกฺเข วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโตเยว อตฺตโน อิทฺธิยา มาเปสิ. เต สพฺเพ วิสฺสกมฺเมน นิมฺมิเตสุ ผลธรรุกฺเขสุ อุโปสถทิวเส ภูมิยํ ปติตปติตานิ ผลานิ คเหตฺวา ปริภุฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. เตสุ โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส มนํ ชานิตฺวา มหาสตฺโต อากาเส นิสีทิตฺวา มธุรธมฺมํ กเถสิ. เต ชนา โพธิสตฺตสฺส มธุรธมฺมํ สุตฺวา เอกคฺคจิตฺตา หุตฺวา ขิปฺปเมว อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตสุํ.

ตทา เอโก สามนฺตราชา ‘‘กาสิราชา กิร พาราณสินครโต นิกฺขมิตฺวา วนํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา ‘‘พาราณสึ คณฺหิสฺสามี’’ติ นครา นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ ปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา อลงฺกตนครํ ทิสฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห สตฺตวิธํ วรรตนํ โอโลเกตฺวา ‘‘กาสิรฺโ อิมํ ธนํ นิสฺสาย เอเกน ภเยน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตนฺโต สุราโสณฺเฑ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺหากํ รฺโ อิธ นคเร ภยํ อุปฺปนฺนํ อตฺถี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, เทวา’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ. ‘‘อมฺหากํ รฺโ ปุตฺโต เตมิยกุมาโร ‘พาราณสึ รชฺชํ น กริสฺสามี’ติ อมูโคปิ มูโค วิย หุตฺวา อิมมฺหา นครา นิกฺขมิตฺวา วนํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ, เตน การเณน อมฺหากํ ราชา มหาชเนน สทฺธึ อิมมฺหา นครา นิกฺขมิตฺวา เตมิยกุมารสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิโต’’ติ อาโรเจสุํ. สามนฺตราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา ‘‘อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตาต, ตุมฺหากํ ราชา กตรทฺวาเรน นิกฺขนฺโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, ปาจีนทฺวาเรนา’’ติ วุตฺเต อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ เตเนว ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา นทีตีเรน ปายาสิ.

มหาสตฺโตปิ ตสฺส อาคมนํ ตฺวา วนนฺตรํ อาคนฺตฺวา อากาเส นิสีทิตฺวา มธุรธมฺมํ เทเสสิ. โส ปริสาย สทฺธึ ตสฺส สนฺติเกเยว ปพฺพชิ. เอวํ อปเรปิ สตฺต ราชาโน ‘‘พาราณสินครํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อาคตา. เตปิ ราชาโน สตฺต รชฺชานิ ฉฑฺเฑตฺวา โพธิสตฺตสฺส สนฺติเกเยว ปพฺพชึสุ. หตฺถีปิ อรฺหตฺถี ชาตา, อสฺสาปิ อรฺอสฺสา ชาตา, รถาปิ อรฺเเยว วินฏฺา, ภณฺฑาคาเรสุ กหาปเณ อสฺสมปเท วาลุกํ กตฺวา วิกิรึสุ. สพฺเพปิ อภิฺาสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ชีวิตปริโยสาเน พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ. ติรจฺฉานคตา หตฺถิอสฺสาปิ อิสิคเณ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา ฉกามาวจรโลเกสุ นิพฺพตฺตึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ รชฺชํ ปหาย นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, สุนนฺโท สารถิ สาริปุตฺโต, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, มูคปกฺขปณฺฑิโต ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ’’นฺติ.

มูคปกฺขชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๙] ๒. มหาชนกชาตกวณฺณนา

โกยํ มชฺเฌ สมุทฺทสฺมินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ตถาคตสฺส มหาภินิกฺขมนํ วณฺณยนฺตา นิสีทึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต วิเทหรฏฺเ มิถิลายํ มหาชนโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ อริฏฺชนโก จ โปลชนโก จาติ. เตสุ ราชา เชฏฺปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ, กนิฏฺสฺส เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. อปรภาเค มหาชนโก กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา รฺโ อจฺจเยน อริฏฺชนโก ราชา หุตฺวา อิตรสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. ตสฺเสโก ปาทมูลิโก อมจฺโจ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, อุปราชา ตุมฺเห ฆาเตตุกาโม’’ติ อาห. ราชา ตสฺส ปุนปฺปุนํ กถํ สุตฺวา กนิฏฺสฺส สิเนหํ ภินฺทิตฺวา โปลชนกํ สงฺขลิกาหิ พนฺธาเปตฺวา ราชนิเวสนโต อวิทูเร เอกสฺมึ เคเห วสาเปตฺวา อารกฺขํ เปสิ. กุมาโร ‘‘สจาหํ ภาตุ เวรีมฺหิ, สงฺขลิกาปิ เม หตฺถปาทา มา มุจฺจนฺตุ, ทฺวารมฺปิ มา วิวรียตุ, สเจ โน เวรีมฺหิ, สงฺขลิกาปิ เม หตฺถปาทา มุจฺจนฺตุ, ทฺวารมฺปิ วิวรียตู’’ติ สจฺจกิริยมกาสิ. ตาวเทว สงฺขลิกาปิ ขณฺฑาขณฺฑํ ฉิชฺชึสุ, ทฺวารมฺปิ วิวฏํ. โส นิกฺขมิตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสิ.

ปจฺจนฺตคามวาสิโน ตํ สฺชานิตฺวา อุปฏฺหึสุ. ราชาปิ ตํ คาหาเปตุํ นาสกฺขิ. โส อนุปุพฺเพน ปจฺจนฺตชนปทํ หตฺถคตํ กตฺวา มหาปริวาโร หุตฺวา ‘‘อหํ ปุพฺเพ ภาตุ น เวรี, อิทานิ ปน เวรีมฺหี’’ติ มหาชนปริวุโต มิถิลํ คนฺตฺวา พหินคเร ขนฺธาวารํ กตฺวา วาสํ กปฺเปสิ. นครวาสิโน โยธา ‘‘กุมาโร กิร อาคโต’’ติ สุตฺวา เยภุยฺเยน หตฺถิอสฺสวาหนาทีนิ คเหตฺวา ตสฺเสว สนฺติกํ อาคมึสุ, อฺเปิ นาครา อาคมึสุ. โส ภาตุ สาสนํ เปเสสิ ‘‘นาหํ ปุพฺเพ ตุมฺหากํ เวรี, อิทานิ ปน เวรีมฺหิ, ฉตฺตํ วา เม เทถ, ยุทฺธํ วา’’ติ. ราชา ตํ สุตฺวา ยุทฺธํ กาตุํ อิจฺฉนฺโต อคฺคมเหสึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ยุทฺเธ ชยปราชโย นาม น สกฺกา าตุํ, สเจ มม อนฺตราโย โหติ, ตฺวํ คพฺภํ รกฺเขยฺยาสี’’ติ วตฺวา มหติยา เสนาย ปริวุโต นครา นิกฺขมิ.

อถ นํ ยุทฺเธ โปลชนกสฺส โยธา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสุํ. ตทา ‘‘ราชา มโต’’ติ สกลนคเร เอกโกลาหลํ ชาตํ. เทวีปิ ตสฺส มตภาวํ ตฺวา สีฆํ สีฆํ สุวณฺณสาราทีนิ คเหตฺวา ปจฺฉิยํ ปกฺขิปิตฺวา มตฺถเก กิลิฏฺปิโลติกํ อตฺถริตฺวา อุปริ ตณฺฑุเล โอกิริตฺวา กิลิฏฺปิโลติกํ นิวาเสตฺวา สรีรํ วิรูปํ กตฺวา ปจฺฉึ สีเส เปตฺวา ทิวา ทิวสฺเสว นิกฺขมิ, น โกจิ นํ สฺชานิ. สา อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา กตฺถจิ อคตปุพฺพตฺตา มคฺคํ อชานนฺตี ทิสํ ววตฺถาเปตุํ อสกฺโกนฺตี เกวลํ ‘‘กาลจมฺปานครํ นาม อตฺถี’’ติ สุตตฺตา ‘‘กาลจมฺปานครํ คมิกา นาม อตฺถี’’ติ ปุจฺฉมานา เอกิกา สาลายํ นิสีทิ. กุจฺฉิมฺหิ ปนสฺสา นิพฺพตฺตสตฺโต น โย วา โส วา, ปูริตปารมี มหาสตฺโต นิพฺพตฺติ.

ตสฺส เตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตสตฺโต มหาปุฺโ, มยา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปฏิจฺฉนฺนโยคฺคํ มาเปตฺวา ตตฺถ มฺจํ ปฺาเปตฺวา มหลฺลกปุริโส วิย โยคฺคํ ปาเชนฺโต ตาย นิสินฺนสาลาย ทฺวาเร ตฺวา ‘‘กาลจมฺปานครํ คมิกา นาม อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ, ตาต, คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ โยคฺคํ อารุยฺห นิสีท, อมฺมา’’ติ. ‘‘ตาต, อหํ ปริปุณฺณคพฺภา, น สกฺกา มยา โยคฺคํ อภิรุหิตุํ, ปจฺฉโต ปจฺฉโต คมิสฺสามิ, อิมิสฺสา ปน เม ปจฺฉิยา โอกาสํ เทหี’’ติ. ‘‘อมฺม, กึ วเทสิ, โยคฺคํ ปาเชตุํ ชานนสมตฺโถ นาม มยา สทิโส นตฺถิ. อมฺม, มา ภายิ, อารุยฺห นิสีทา’’ติ. สา ‘‘ตาต, สาธู’’ติ วทติ. โส ตสฺสา อาโรหนกาเล อตฺตโน อานุภาเวน วาตปุณฺณภสฺตจมฺมํ วิย ปถวึ อุนฺนาเมตฺวา โยคฺคสฺส ปจฺฉิมนฺเต ปหราเปสิ. สา อภิรุยฺห สยเน นิปชฺชิตฺวาว ‘‘อยํ เทวตา ภวิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. สา ทิพฺพสยเน นิปนฺนมตฺตาว นิทฺทํ โอกฺกมิ.

อถ นํ สกฺโก ตึสโยชนมตฺถเก เอกํ นทึ ปตฺวา ปโพเธตฺวา ‘‘อมฺม, โอตริตฺวา นทิยํ นฺหายิตฺวา อุสฺสีสเก สาฏกยุคํ อตฺถิ, ตํ นิวาเสหิ, อนฺโตโยคฺเค ปุฏภตฺตํ อตฺถิ, ตํ ภุฺชาหี’’ติ อาห. สา ตถา กตฺวา ปุน นิปชฺชิตฺวา สายนฺหสมเย กาลจมฺปานครํ ปตฺวา ทฺวารฏฺฏาลกปากาเร ทิสฺวา ‘‘ตาต, กึ นาม นครเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘กาลจมฺปานครํ, อมฺมา’’ติ. ‘‘กึ วเทสิ, ตาต, นนุ อมฺหากํ นครโต กาลจมฺปานครํ สฏฺิโยชนมตฺถเก โหตี’’ติ? ‘‘เอวํ, อมฺม, อหํ ปน อุชุมคฺคํ ชานามี’’ติ. อถ นํ ทกฺขิณทฺวารสมีเป โอตาเรตฺวา ‘‘อมฺม, อมฺหากํ คาโม ปุรโต อตฺถิ, ตฺวํ คนฺตฺวา นครํ ปวิสาหี’’ติ วตฺวา ปุรโต คนฺตฺวา วิย สกฺโก อนฺตรธายิตฺวา สกฏฺานเมว คโต.

เทวีปิ เอกิกาว สาลายํ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย กาลจมฺปานครวาสี มนฺตชฺฌายโก พฺราหฺมโณ ปฺจหิ มาณวกสเตหิ ปริวุโต นฺหานตฺถาย คจฺฉนฺโต ทูรโตว โอโลเกตฺวา ตํ อภิรูปํ โสภคฺคปฺปตฺตํ ตตฺถ นิสินฺนํ ทิสฺวา ตสฺสา กุจฺฉิยํ มหาสตฺตสฺสานุภาเวน สห ทสฺสเนเนว กนิฏฺภคินิสิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา มาณวเก พหิ เปตฺวา เอกโกว สาลํ ปวิสิตฺวา ‘‘ภคินิ, กตรคามวาสิกา ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตาต, มิถิลายํ อริฏฺชนกรฺโ อคฺคมเหสีมฺหี’’ติ. ‘‘อมฺม, อิธ กสฺมา อาคตาสี’’ติ? ‘‘ตาต, โปลชนเกน ราชา มาริโต, อถาหํ ภีตา ‘คพฺภํ อนุรกฺขิสฺสามี’ติ อาคตา’’ติ. ‘‘อมฺม, อิมสฺมึ ปน เต นคเร โกจิ าตโก อตฺถี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ตาตา’’ติ. เตน หิ มา จินฺตยิ, อหํ อุทิจฺจพฺราหฺมโณ มหาสาโล ทิสาปาโมกฺขอาจริโย, อหํ ตํ ภคินิฏฺาเน เปตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตฺวํ ‘‘ภาติกา’’ติ มํ วตฺวา ปาเทสุ คเหตฺวา ปริเทวาติ. สา มหาสทฺทํ กตฺวา ตสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา ปริเทวิ. เต ทฺเวปิ อฺมฺํ ปริเทวึสุ.

อถสฺส อนฺเตวาสิกา มหาสทฺทํ สุตฺวา ขิปฺปํ อุปธาวิตฺวา ‘‘อาจริย, กึ เต โหตี’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส อาห – ‘‘กนิฏฺภคินี เม เอสา, อสุกกาเล นาม มยา วินา ชาตา’’ติ. อถ มาณวา ‘‘ตว ภคินึ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย มา จินฺตยิตฺถ อาจริยา’’ติ อาหํสุ. โส มาณเว ปฏิจฺฉนฺนโยคฺคํ อาหราเปตฺวา ตํ ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา ‘‘ตาตา, โว คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา มม กนิฏฺภคินิภาวํ กเถตฺวา สพฺพกิจฺจานิ กาตุํ วเทถา’’ติ วตฺวา เคหํ เปเสสิ. เต คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา กเถสุํ. อถ นํ พฺราหฺมณีปิ อุณฺโหทเกน นฺหาเปตฺวา สยนํ ปฺาเปตฺวา นิปชฺชาเปสิ. อถ พฺราหฺมโณปิ นฺหาตฺวา อาคโต โภชนกาเล ‘‘ภคินึ เม ปกฺโกสถา’’ติ ปกฺโกสาเปตฺวา ตาย สทฺธึ เอกโต ภุฺชิตฺวา อนฺโตนิเวสเนเยว ตํ ปฏิชคฺคิ.

สา น จิรสฺเสว สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘มหาชนกกุมาโร’’ติสฺส อยฺยกสนฺตกํ นามมกาสิ. โส วฑฺฒมาโน ทารเกหิ สทฺธึ กีฬนฺโต เย ตํ โรเสนฺติ, เต อสมฺภินฺนขตฺติยกุเล ชาตตฺตา มหาพลวตาย เจว มานถทฺธตาย จ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปหรติ. ตทา เต มหาสทฺเทน โรทนฺตา ‘‘เกน ปหฏา’’ติ วุตฺเต ‘‘วิธวาปุตฺเตนา’’ติ วทนฺติ. อถ กุมาโร จินฺเตสิ ‘‘อิเม มํ ‘วิธวาปุตฺโต’ติ อภิณฺหํ วทนฺติ, โหตุ, มม มาตรํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส เอกทิวสํ มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, โก มยฺหํ ปิตา’’ติ? อถ นํ มาตา ‘‘ตาต, พฺราหฺมโณ เต ปิตา’’ติ วฺเจสิ. โส ปุนทิวเสปิ ทารเก ปหรนฺโต ‘‘วิธวาปุตฺโต’’ติ วุตฺเต ‘‘นนุ พฺราหฺมโณ เม ปิตา’’ติ วตฺวา ‘‘พฺราหฺมโณ กึ เต โหตี’’ติ วุตฺเต จินฺเตสิ ‘‘อิเม มํ, พฺราหฺมโณ เต กึ โหตี’ติ อภิณฺหํ วทนฺติ, มาตา เม อิทํ การณํ ยถาภูตํ น กเถสิ, สา อตฺตโน มเนน เม น กเถสฺสติ, โหตุ, กถาเปสฺสามิ น’’นฺติ. โส ถฺํ ปิวนฺโต ถนํ ทนฺเตหิ ฑํสิตฺวา ‘‘อมฺม, เม ปิตรํ กเถหิ, สเจ น กเถสฺสสิ, ถนํ เต ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อาห. สา ปุตฺตํ วฺเจตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘ตาต, ตฺวํ มิถิลายํ อริฏฺชนกรฺโ ปุตฺโต, ปิตา เต โปลชนเกน มาริโต, อหํ ตํ อนุรกฺขนฺตี อิมํ นครํ อาคตา, อยํ พฺราหฺมโณ มํ ภคินิฏฺาเน เปตฺวา ปฏิชคฺคตี’’ติ กเถสิ. โส ตํ สุตฺวา ตโต ปฏฺาย ‘‘วิธวาปุตฺโต’’ติ วุตฺเตปิ น กุชฺฌิ.

โส โสฬสวสฺสพฺภนฺตเรเยว ตโย เวเท จ สพฺพสิปฺปานิ จ อุคฺคณฺหิ, โสฬสวสฺสิกกาเล ปน อุตฺตมรูปธโร อโหสิ. อถ โส ‘‘ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, กิฺจิ ธนํ เต หตฺเถ อตฺถิ, อุทาหุ โน, อหํ โวหารํ กตฺวา ธนํ อุปฺปาเทตฺวา ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, นาหํ ตุจฺฉหตฺถา อาคตา, ตโย เม หตฺเถ ธนสารา อตฺถิ, มุตฺตสาโร, มณิสาโร, วชิรสาโรติ, เตสุ เอเกโก รชฺชคฺคหณปฺปมาโณ, ตํ คเหตฺวา รชฺชํ คณฺห, มา โวหารํ กรี’’ติ. ‘‘อมฺม, อิทมฺปิ ธนํ มยฺหเมว อุปฑฺฒํ กตฺวา เทหิ, ตํ ปน คเหตฺวา สุวณฺณภูมึ คนฺตฺวา พหุํ ธนํ อาหริตฺวา รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ. โส อุปฑฺฒํ อาหราเปตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา สุวณฺณภูมึ คมิเกหิ วาณิเชหิ สทฺธึ นาวาย ภณฺฑํ อาโรเปตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺม, อหํ สุวณฺณภูมึ คมิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, สมุทฺโท นาม อปฺปสิทฺธิโก พหุอนฺตราโย, มา คจฺฉ, รชฺชคฺคหณาย เต ธนํ พหู’’ติ. โส ‘‘คจฺฉิสฺสาเมว อมฺมา’’ติ มาตรํ วนฺทิตฺวา เคหา นิกฺขมฺม นาวํ อภิรุหิ.

ตํ ทิวสเมว โปลชนกสฺส สรีเร โรโค อุปฺปชฺชิ, อนุฏฺานเสยฺยํ สยิ. ตทา สตฺต ชงฺฆสตานิ นาวํ อภิรุหึสุ. นาวา สตฺตทิวเสหิ สตฺต โยชนสตานิ คตา. สา อติจณฺฑเวเคน คนฺตฺวา อตฺตานํ วหิตุํ นาสกฺขิ, ผลกานิ ภินฺนานิ, ตโต ตโต อุทกํ อุคฺคตํ, นาวา สมุทฺทมชฺเฌ นิมุคฺคา. มหาชนา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ, นานาเทวตาโย นมสฺสนฺติ. มหาสตฺโต ปน เนว โรทติ น ปริเทวติ, น เทวตาโย นมสฺสติ, นาวาย ปน นิมุชฺชนภาวํ ตฺวา สปฺปินา สกฺขรํ โอมทฺทิตฺวา กุจฺฉิปูรํ ขาทิตฺวา ทฺเว มฏฺกสาฏเก เตเลน เตเมตฺวา ทฬฺหํ นิวาเสตฺวา กูปกํ นิสฺสาย ิโต นาวาย นิมุชฺชนสมเย กูปกํ อภิรุหิ. มหาชนา มจฺฉกจฺฉปภกฺขา ชาตา, สมนฺตา อุทกํ อฑฺฒูสภมตฺตํ โลหิตํ อโหสิ. มหาสตฺโต กูปกมตฺถเก ิโตว ‘‘อิมาย นาม ทิสาย มิถิลนคร’’นฺติ ทิสํ ววตฺถเปตฺวา กูปกมตฺถกา อุปฺปติตฺวา มจฺฉกจฺฉเป อติกฺกมฺม มหาพลวตาย อุสภมตฺถเก ปติ. ตํ ทิวสเมว โปลชนโก กาลมกาสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺโต มณิวณฺณาสุ อูมีสุ ปริวตฺตนฺโต สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย สมุทฺทํ ตรติ. โส ยถา เอกทิวสํ, เอวํ สตฺตาหํ ตรติ, ‘‘อิทานิ ปุณฺณมีทิวโส’’ติ เวลํ ปน โอโลเกตฺวา โลโณทเกน มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก โหติ.

ตทา จ ‘‘เย มาตุปฏฺานาทิคุณยุตฺตา สมุทฺเท มริตุํ อนนุจฺฉวิกา สตฺตา, เต อุทฺธาเรหี’’ติ จตูหิ โลกปาเลหิ มณิเมขลา นาม เทวธีตา สมุทฺทรกฺขิกา ปิตา โหติ. สา สตฺต ทิวสานิ สมุทฺทํ น โอโลเกสิ, ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติยา กิรสฺสา สติ ปมุฏฺา. ‘‘เทวสมาคมํ คตา’’ติปิ วทนฺติ. อถ สา ‘‘อชฺช เม สตฺตโม ทิวโส สมุทฺทํ อโนโลเกนฺติยา, กา นุ โข ปวตฺตี’’ติ โอโลเกนฺตี มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘สเจ มหาชนกกุมาโร สมุทฺเท นสฺสิสฺส, เทวสมาคมปเวสนํ น ลภิสฺส’’นฺติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อวิทูเร อลงฺกเตน สรีเรน อากาเส ตฺวา มหาสตฺตํ วีมํสมานา ปมํ คาถมาห –

๑๒๓.

‘‘โกยํ มชฺเฌ สมุทฺทสฺมึ, อปสฺสํ ตีรมายุเห;

กํ ตฺวํ อตฺถวสํ ตฺวา, เอวํ วายมเส ภุส’’นฺติ.

ตตฺถ อปสฺสํ ตีรมายุเหติ ตีรํ อปสฺสนฺโตว อายูหติ วีริยํ กโรติ.

อถ มหาสตฺโต ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘อชฺช เม สตฺตโม ทิวโส สมุทฺทํ ตรนฺตสฺส, น เม ทุติโย สตฺโต ทิฏฺปุพฺโพ, โก นุ มํ วทตี’’ติ อากาสํ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๑๒๔.

‘‘นิสมฺม วตฺตํ โลกสฺส, วายามสฺส จ เทวเต;

ตสฺมา มชฺเฌ สมุทฺทสฺมึ, อปสฺสํ ตีรมายุเห’’ติ.

ตตฺถ นิสมฺม วตฺตํ โลกสฺสาติ อหํ โลกสฺส วตฺตกิริยํ ทิสฺวา อุปธาเรตฺวา วิหรามีติ อตฺโถ. วายามสฺส จาติ วายามสฺส จ อานิสํสํ นิสาเมตฺวา วิหรามีติ ทีเปติ. ตสฺมาติ ยสฺมา นิสมฺม วิหรามิ, ‘‘ปุริสกาโร นาม น นสฺสติ, สุเข ปติฏฺาเปตี’’ติ ชานามิ, ตสฺมา ตีรํ อปสฺสนฺโตปิ อายูหามิ วีริยํ กโรมิ, น อุกฺกณฺามีติ.

สา ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา อุตฺตริ โสตุกามา หุตฺวา ปุน คาถมาห –

๑๒๕.

‘‘คมฺภีเร อปฺปเมยฺยสฺมึ, ตีรํ ยสฺส น ทิสฺสติ;

โมโฆ เต ปุริสวายาโม, อปฺปตฺวาว มริสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ อปฺปตฺวาติ ตีรํ อปฺปตฺวาเยว.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เทวเต, กึ นาเมตํ กเถสิ, วายามํ กตฺวา มรนฺโตปิ ครหโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๑๒๖.

‘‘อนโณ าตินํ โหติ, เทวานํ ปิตุนฺจ โส;

กรํ ปุริสกิจฺจานิ, น จ ปจฺฉานุตปฺปตี’’ติ.

ตตฺถ อนโณติ วายามํ กโรนฺโต าตีนฺเจว เทวตานฺจ พฺรหฺมานฺจ อนฺตเร อนโณ โหติ อครหิโต อนินฺทิโต. กรํ ปุริสกิจฺจานีติ ยถา โส ปุคฺคโล ปุริเสหิ กตฺตพฺพานิ กมฺมานิ กรํ ปจฺฉากาเล น จ อนุตปฺปติ, ยถา นานุโสจติ, เอวาหมฺปิ วีริยํ กโรนฺโต ปจฺฉากาเล นานุตปฺปามิ นานุโสจามีติ อตฺโถ.

อถ นํ เทวธีตา คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘อปารเนยฺยํ ยํ กมฺมํ, อผลํ กิลมถุทฺทยํ;

ตตฺถ โก วายาเมนตฺโถ, มจฺจุ ยสฺสาภินิปฺปต’’นฺติ.

ตตฺถ อปารเนยฺยนฺติ วายาเมน มตฺถกํ อปาเปตพฺพํ. มจฺจุ ยสฺสาภินิปฺปตนฺติ ยสฺส อฏฺาเน วายามกรณสฺส มรณเมว นิปฺผนฺนํ, ตตฺถ โก วายาเมนตฺโถติ.

เอวํ เทวธีตาย วุตฺเต ตํ อปฺปฏิภานํ กโรนฺโต มหาสตฺโต อุตฺตริ คาถา อาห –

๑๒๘.

‘‘อปารเนยฺยมจฺจนฺตํ, โย วิทิตฺวาน เทวเต;

น รกฺเข อตฺตโน ปาณํ, ชฺา โส ยทิ หาปเย.

๑๒๙.

‘‘อธิปฺปายผลํ เอเก, อสฺมึ โลกสฺมิ เทวเต;

ปโยชยนฺติ กมฺมานิ, ตานิ อิชฺฌนฺติ วา น วา.

๑๓๐.

‘‘สนฺทิฏฺิกํ กมฺมผลํ, นนุ ปสฺสสิ เทวเต;

สนฺนา อฺเ ตรามหํ, ตฺจ ปสฺสามิ สนฺติเก.

๑๓๑.

‘‘โส อหํ วายมิสฺสามิ, ยถาสตฺติ ยถาพลํ;

คจฺฉํ ปารํ สมุทฺทสฺส, กสฺสํ ปุริสการิย’’นฺติ.

ตตฺถ อจฺจนฺตนฺติ โย ‘‘อิทํ กมฺมํ วีริยํ กตฺวา นิปฺผาเทตุํ น สกฺกา, อจฺจนฺตเมว อปารเนยฺย’’นฺติ วิทิตฺวา จณฺฑหตฺถิอาทโย อปริหรนฺโต อตฺตโน ปาณํ น รกฺขติ. ชฺา โส ยทิ หาปเยติ โส ยทิ ตาทิเสสุ าเนสุ วีริยํ หาเปยฺย, ชาเนยฺย ตสฺส กุสีตภาวสฺส ผลํ. ตฺวํ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกํ วทสีติ ทีเปติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘ชฺา โส ยทิ หาปย’’นฺติ ลิขิตํ, ตํ อฏฺกถาสุ นตฺถิ. อธิปฺปายผลนฺติ อตฺตโน อธิปฺปายผลํ สมฺปสฺสมานา เอกจฺเจ ปุริสา กสิวณิชฺชาทีนิ กมฺมานิ ปโยชยนฺติ, ตานิ อิชฺฌนฺติ วา น วา อิชฺฌนฺติ. ‘‘เอตฺถ คมิสฺสามิ, อิทํ อุคฺคเหสฺสามี’’ติ ปน กายิกเจตสิกวีริยํ กโรนฺตสฺส ตํ อิชฺฌเตว, ตสฺมา ตํ กาตุํ วฏฺฏติเยวาติ ทสฺเสติ. สนฺนา อฺเ ตรามหนฺติ อฺเ ชนา มหาสมุทฺเท สนฺนา นิมุคฺคา วีริยํ อกโรนฺตา มจฺฉกจฺฉปภกฺขา ชาตา, อหํ ปน เอกโกว ตรามิ. ตฺจ ปสฺสามิ สนฺติเกติ อิทํ เม วีริยผลํ ปสฺส, มยา อิมินา อตฺตภาเวน เทวตา นาม น ทิฏฺปุพฺพา, โสหํ ตฺจ อิมินา ทิพฺพรูเปน มม สนฺติเก ิตํ ปสฺสามิ. ยถาสตฺติ ยถาพลนฺติ อตฺตโน สตฺติยา จ พลสฺส จ อนุรูปํ. กสฺสนฺติ กริสฺสามิ.

ตโต เทวตา ตสฺส ตํ ทฬฺหวจนํ สุตฺวา ถุตึ กโรนฺตี คาถมาห –

๑๓๒.

‘‘โย ตฺวํ เอวํ คเต โอเฆ, อปฺปเมยฺเย มหณฺณเว;

ธมฺมวายามสมฺปนฺโน, กมฺมุนา นาวสีทสิ;

โส ตฺวํ ตตฺเถว คจฺฉาหิ, ยตฺถ เต นิรโต มโน’’ติ.

ตตฺถ เอวํ คเตติ เอวรูเป คมฺภีเร วิตฺถเต มหาสมุทฺเท. ธมฺมวายามสมฺปนฺโนติ ธมฺมวายาเมน สมนฺนาคโต. กมฺมุนาติ อตฺตโน ปุริสการกมฺเมน. นาวสีทสีติ น อวสีทสิ. ยตฺถ เตติ ยสฺมึ าเน ตว มโน นิรโต, ตตฺเถว คจฺฉาหีติ.

สา เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ปณฺฑิต มหาปรกฺกม, กุหึ ตํ เนมี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มิถิลนคร’’นฺติ วุตฺเต สา มหาสตฺตํ ปุปฺผกลาปํ วิย อุกฺขิปิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ปริคฺคยฺห อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ปิยปุตฺตํ อาทาย คจฺฉนฺตี วิย อากาเส ปกฺขนฺทิ. มหาสตฺโต สตฺตาหํ โลโณทเกน อุปกฺกสรีโร หุตฺวา ทิพฺพผสฺเสน ผุฏฺโ นิทฺทํ โอกฺกมิ. อถ นํ สา มิถิลํ เนตฺวา อมฺพวนุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ ทกฺขิณปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา อุยฺยานเทวตาหิ ตสฺส อารกฺขํ คาหาเปตฺวา สกฏฺานเมว คตา.

ตทา โปลชนกสฺส ปุตฺโต นตฺถิ. เอกา ปนสฺส ธีตา อโหสิ, สา สีวลิเทวี นาม ปณฺฑิตา พฺยตฺตา. อมจฺจา ตเมนํ มรณมฺเจ นิปนฺนํ ปุจฺฉึสุ ‘‘มหาราช, ตุมฺเหสุ ทิวงฺคเตสุ รชฺชํ กสฺส ทสฺสามา’’ติ? อถ เน ราชา ‘‘ตาตา, มม ธีตรํ สีวลิเทวึ อาราเธตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถ, โย วา ปน จตุรสฺสปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสกํ ชานาติ, โย วา ปน สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ สกฺโกติ, โย วา ปน โสฬส มหานิธี นีหริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห. อมจฺจา ‘‘เทว, เตสํ โน นิธีนํ อุทฺทานํ กเถถา’’ติ อาหํสุ. อถ ราชา –

‘‘สูริยุคฺคมเน นิธิ, อโถ โอกฺกมเน นิธิ;

อนฺโต นิธิ พหิ นิธิ, น อนฺโต น พหิ นิธิ.

‘‘อาโรหเน มหานิธิ, อโถ โอโรหเน นิธิ;

จตูสุ มหาสาเลสุ, สมนฺตา โยชเน นิธิ.

‘‘ทนฺตคฺเคสุ มหานิธิ, วาลคฺเคสุ จ เกปุเก;

รุกฺขคฺเคสุ มหานิธิ, โสฬเสเต มหานิธี.

‘‘สหสฺสถาโม ปลฺลงฺโก, สีวลิอาราธเนน จา’’ติ. –

มหานิธีหิ สทฺธึ อิตเรสมฺปิ อุทฺทานํ กเถสิ. ราชา อิมํ กถํ วตฺวา กาลมกาสิ.

อมจฺจา รฺโ อจฺจเยน ตสฺส มตกิจฺจํ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส สนฺนิปติตฺวา มนฺตยึสุ ‘‘อมฺโภ รฺา ‘อตฺตโน ธีตรํ อาราเธตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ ทาตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ, โก ตํ อาราเธตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ. เต ‘‘เสนาปติ วลฺลโภ’’ติ วตฺวา ตสฺส สาสนํ เปเสสุํ. โส สาสนํ สุตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รชฺชตฺถาย ราชทฺวารํ คนฺตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ราชธีตาย อาโรจาเปสิ. สา ตสฺส อาคตภาวํ ตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ ขฺวสฺส เสตจฺฉตฺตสิรึ ธาเรตุํ ธิตี’’ติ ตสฺส วีมํสนตฺถาย ‘‘ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ อาห. โส ตสฺสา สาสนํ สุตฺวา ตํ อาราเธตุกาโม โสปานปาทมูลโต ปฏฺาย ชเวนาคนฺตฺวา ตสฺสา สนฺติเก อฏฺาสิ. อถ นํ สา วีมํสมานา ‘‘มหาตเล ชเวน ธาวา’’ติ อาห. โส ‘‘ราชธีตรํ โตเสสฺสามี’’ติ เวเคน ปกฺขนฺทิ. อถ นํ ‘‘ปุน เอหี’’ติ อาห. โส ปุน เวเคน อาคโต. สา ตสฺส ธิติยา วิรหิตภาวํ ตฺวา ‘‘เอหิ สมฺม, ปาเท เม สมฺพาหา’’ติ อาห. โส ตสฺสา อาราธนตฺถํ นิสีทิตฺวา ปาเท สมฺพาหิ. อถ นํ สา อุเร ปาเทน ปหริตฺวา อุตฺตานกํ ปาเตตฺวา ‘‘อิมํ อนฺธพาลปุริสํ ธิติวิรหิตํ โปเถตฺวา คีวายํ คเหตฺวา นีหรถา’’ติ ทาสีนํ สฺํ อทาสิ. ตา ตถา กรึสุ. โส เตหิ ‘‘กึ เสนาปตี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘มา กเถถ, สา เนว มนุสฺสิตฺถี, ยกฺขินี’’ติ อาห. ตโต ภณฺฑาคาริโก คโต, ตมฺปิ ตเถว ลชฺชาเปสิ. ตถา เสฏฺึ, ฉตฺตคฺคาหํ, อสิคฺคาหนฺติ สพฺเพปิ เต ลชฺชาเปสิเยว.

อถ อมจฺจา สนฺนิปติตฺวา ‘‘ราชธีตรํ อาราเธตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห, ตมฺปิ โกจิ อาโรเปตุํ นาสกฺขิ. ตโต ‘‘จตุรสฺสปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสกํ ชานนฺตสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห, ตมฺปิ โกจิ น ชานาติ. ตโต โสฬส มหานิธี นีหริตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ อาห, เตปิ โกจิ นีหริตุํ นาสกฺขิ. ตโต ‘‘อมฺโภ อราชิกํ นาม รฏฺํ ปาเลตุํ น สกฺกา, กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ มนฺตยึสุ. อถ เน ปุโรหิโต อาห – ‘‘โภ ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, ผุสฺสรถํ นาม วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏติ, ผุสฺสรเถน หิ ลทฺธราชา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นครํ อลงฺการาเปตฺวา มงฺคลรเถ จตฺตาโร กุมุทวณฺเณ อสฺเส โยเชตฺวา อุตฺตมปจฺจตฺถรณํ อตฺถริตฺวา ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ อาโรเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวาเรสุํ. ‘‘สสามิกสฺส รถสฺส ปุรโต ตูริยานิ วชฺชนฺติ, อสามิกสฺส ปจฺฉโต วชฺชนฺติ, ตสฺมา สพฺพตูริยานิ ปจฺฉโต วาเทถา’’ติ วตฺวา สุวณฺณภิงฺกาเรน รถธุรฺจ ปโตทฺจ อภิสิฺจิตฺวา ‘‘ยสฺส รชฺชํ กาเรตุํ ปุฺํ อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉตู’’ติ รถํ วิสฺสชฺเชสุํ. อถ รโถ ราชเคหํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เวเคน มหาวีถึ อภิรุหิ.

เสนาปติอาทโย ‘‘ผุสฺสรโถ มม สนฺติกํ อาคจฺฉตู’’ติ จินฺตยึสุ. โส สพฺเพสํ เคหานิ อติกฺกมิตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานาภิมุโข ปายาสิ. อถ นํ เวเคน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นิวตฺเตถา’’ติ อาหํสุ. ปุโรหิโต ‘‘มา นิวตฺตยิตฺถ, อิจฺฉนฺโต โยชนสตมฺปิ คจฺฉตุ, มา นิวาเรถา’’ติ อาห. รโถ อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺฏํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาโรหนสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ. ปุโรหิโต มหาสตฺตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘อมฺโภ เอโก สิลาปฏฺเฏ นิปนฺนโก ปุริโส ทิสฺสติ, เสตจฺฉตฺตานุจฺฉวิกา ปนสฺส ธิติ อตฺถีติ วา นตฺถีติ วา น ชานาม, สเจ เอส ปุฺวา ภวิสฺสติ, อมฺเห น โอโลเกสฺสติ, กาฬกณฺณิสตฺโต สเจ ภวิสฺสติ, ภีตตสิโต อุฏฺาย กมฺปมาโน โอโลเกสฺสติ, ตสฺมา ขิปฺปํ สพฺพตูริยานิ ปคฺคณฺหถา’’ติ อาห. ตาวเทว อเนกสตานิ ตูริยานิ ปคฺคณฺหึสุ. ตทา ตูริยสทฺโท สาครโฆโส วิย อโหสิ.

มหาสตฺโต เตน สทฺเทน ปพุชฺฌิตฺวา สีสํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺโต มหาชนํ ทิสฺวา ‘‘เสตจฺฉตฺเตน เม อาคเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปุน สีสํ ปารุปิตฺวา ปริวตฺติตฺวา วามปสฺเสน นิปชฺชิ. ปุโรหิโต ตสฺส ปาเท วิวริตฺวา ลกฺขณานิ โอโลเกนฺโต ‘‘ติฏฺตุ อยํ เอโก ทีโป, จตุนฺนมฺปิ มหาทีปานํ รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ ปุน ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ. อถ มหาสตฺโต มุขํ วิวริตฺวา ปริวตฺติตฺวา ทกฺขิณปสฺเสน นิปชฺชิตฺวา มหาชนํ โอโลเกสิ. ตทา ปุโรหิโต ปริสํ อุสฺสาเรตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อวกุชฺโช หุตฺวา ‘‘อุฏฺเหิ, เทว, รชฺชํ เต ปาปุณาตี’’ติ อาห. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘ราชา โว กุหี’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘กาลกโต เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตสฺส ปุตฺโต วา ภาตา วา นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถิ เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สาธุ รชฺชํ กาเรสฺสามี’’ติ วตฺวา อุฏฺาย สิลาปฏฺเฏ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อถ นํ ตตฺเถว อภิสิฺจึสุ. โส มหาชนโก นาม ราชา อโหสิ. โส รถวรํ อภิรุยฺห มหนฺเตน สิริวิภเวน นครํ ปวิสิตฺวา ราชนิเวสนํ อภิรุหนฺโต ‘‘เสนาปติอาทีนํ ตาเนว านานิ โหนฺตู’’ติ วิจาเรตฺวา มหาตลํ อภิรุหิ.

ราชธีตา ปน ปุริมสฺาย เอว ตสฺส วีมํสนตฺถํ เอกํ ปุริสํ อาณาเปสิ ‘‘ตาต, ตฺวํ คจฺฉ, ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทหิ ‘เทว, สีวลิเทวี ตุมฺเห ปกฺโกสติ, ขิปฺปํ กิราคจฺฉตู’’’ติ. โส คนฺตฺวา ตถา อาโรเจสิ. ราชา ปณฺฑิโต ตสฺส วจนํ สุตฺวาปิ อสฺสุณนฺโต วิย ‘‘อโห โสภโน วตายํ ปาสาโท’’ติ ปาสาทเมว วณฺเณติ. โส ตํ สาเวตุํ อสกฺโกนฺโต คนฺตฺวา ราชธีตาย ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ ‘‘อยฺเย, ราชา ตุมฺหากํ วจนํ น สุณาติ, ปาสาทเมว วณฺเณติ, ตุมฺหากํ วจนํ ติณํ วิย น คเณตี’’ติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘โส มหชฺฌาสโย ปุริโส ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ เปเสสิ. ราชาปิ อตฺตโน รุจิยา ปกติคมเนน สีโห วิย วิชมฺภมาโน ปาสาทํ อภิรุหิ. ตสฺมึ อุปสงฺกมนฺเต ราชธีตา ตสฺส เตเชน สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี อาคนฺตฺวา หตฺถาลมฺพกํ อทาสิ.

โส ตสฺสา หตฺถํ โอลมฺพิตฺวา มหาตลํ อภิรุหิตฺวา สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘อมฺโภ, อตฺถิ ปน โว รฺา กาลํ กโรนฺเตน โกจิ โอวาโท ทินฺโน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ วเทถา’’ติ อาห. เทว ‘‘สีวลิเทวึ อาราเธตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. สีวลิเทวิยา อาคนฺตฺวา หตฺถาลมฺพโก ทินฺโน, อยํ ตาว อาราธิตา นาม, อฺํ วเทถาติ. เทว ‘‘จตุรสฺสปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสกํ ชานิตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. ราชา ‘‘อิทํ ทุชฺชานํ, อุปาเยน สกฺกา ชานิตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา สีสโต สุวณฺณสูจึ นีหริตฺวา สีวลิเทวิยา หตฺเถ เปสิ ‘‘อิมํ เปหี’’ติ. สา ตํ คเหตฺวา ปลฺลงฺกสฺส อุสฺสีสเก เปสิ. ‘‘ขคฺคํ อทาสี’’ติปิ วทนฺติเยว. โส ตาย สฺาย ‘‘อิทํ อุสฺสีสก’’นฺติ ตฺวา เตสํ กถํ อสฺสุณนฺโต วิย ‘‘กึ กเถถา’’ติ วตฺวา ปุน เตหิ ตถา วุตฺเต ‘‘อิทํ ชานิตุํ น ครุ, เอตํ อุสฺสีสก’’นฺติ วตฺวา ‘‘อฺํ วเทถา’’ติ อาห. เทว, ‘‘สหสฺสถามธนุํ อาโรเปตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. ‘‘เตน หิ อาหรถ น’’นฺติ อาหราเปตฺวา โส ธนุํ ปลฺลงฺเก ยถานิสินฺโนว อิตฺถีนํ กปฺปาสโผฏนธนุํ วิย อาโรเปตฺวา ‘‘อฺํ วเทถา’’ติ อาห. ‘‘เทว, โสฬส มหานิธี นีหริตุํ สมตฺถสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ เตน วุตฺตนฺติ. ‘‘เตสํ กิฺจิ อุทฺทานํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ นํ กเถถา’’ติ อาห. เต ‘‘สูริยุคฺคมเน นิธี’’ติ อุทฺทานํ กถยึสุ. ตสฺส ตํ สุณนฺตสฺเสว คคนตเล ปุณฺณจนฺโท วิย โส อตฺโถ ปากโฏ อโหสิ.

อถ เน ราชา อาห – ‘‘อชฺช, ภเณ, เวลา นตฺถิ, สฺเว นิธี คณฺหิสฺสามี’’ติ. โส ปุนทิวเส อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺหากํ ราชา ปจฺเจกพุทฺเธ โภเชสี’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. โส จินฺเตสิ ‘‘สูริโยติ นายํ สูริโย, สูริยสทิสตฺตา ปน ปจฺเจกพุทฺธา สูริยา นาม, เตสํ ปจฺจุคฺคมนฏฺาเน นิธินา ภวิตพฺพ’’นฺติ. ตโต ราชา ‘‘เตสุ ปจฺเจกพุทฺเธสุ อาคจฺฉนฺเตสุ ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺโต กตรํ านํ คจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกฏฺานํ นาม เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตํ านํ ขณิตฺวา นิธึ นีหรถา’’ติ นิธึ นีหราเปสิ. ‘‘คมนกาเล อนุคจฺฉนฺโต กตฺถ ตฺวา อุยฺโยเชสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตโตปิ นิธึ นีหรถา’’ติ นิธึ นีหราเปสิ. อถ มหาชนา อุกฺกุฏฺิสหสฺสานิ ปวตฺเตนฺตา ‘‘สูริยุคฺคมเน นิธี’’ติ วุตฺตตฺตา สูริยุคฺคมนทิสายํ ขณนฺตา วิจรึสุ. อโถ ‘‘โอกฺกมเน นิธี’’ติ วุตฺตตฺตา สูริยตฺถงฺคมนทิสายํ ขณนฺตา วิจรึสุ. ‘‘อิทํ ปน ธนํ อิเธว โหติ, อโห อจฺฉริย’’นฺติ ปีติโสมนสฺสํ ปวตฺตยึสุ. อนฺโตนิธีติ ราชเคเห มหาทฺวารสฺส อนฺโตอุมฺมารา นิธึ นีหราเปสิ. พหิ นิธีติ พหิอุมฺมารา นิธึ นีหราเปสิ. น อนฺโต น พหิ นิธีติ เหฏฺาอุมฺมารโต นิธึ นีหราเปสิ. อาโรหเน นิธีติ มงฺคลหตฺถึ อาโรหนกาเล สุวณฺณนิสฺเสณิยา อตฺถรณฏฺานโต นิธึ นีหราเปสิ. อโถ โอโรหเน นิธีติ หตฺถิกฺขนฺธโต โอโรหนฏฺานโต นิธึ นีหราเปสิ. จตูสุ มหาสาเลสูติ ภูมิยํ กตอุปฏฺานฏฺาเน สิริสยนสฺส จตฺตาโร มฺจปาทา สาลมยา, เตสํ เหฏฺา จตสฺโส นิธิกุมฺภิโย นีหราเปสิ. สมนฺตาโยชเน นิธีติ โยชนํ นาม รถยุคปมาณํ, สิริสยนสฺส สมนฺตา รถยุคปฺปมาณโต นิธึ นีหราเปสิ. ทนฺตคฺเคสุ มหานิธีติ มงฺคลหตฺถิฏฺาเน ตสฺส ทฺวินฺนํ ทนฺตานํ อภิมุขฏฺานโต นิธึ นีหราเปสิ. วาลคฺเคสูติ มงฺคลหตฺถิฏฺาเน ตสฺส วาลธิสมฺมุขฏฺานโต นิธึ นีหราเปสิ. เกปุเกติ เกปุกํ วุจฺจติ อุทกํ, มงฺคลโปกฺขรณิโต อุทกํ นีหราเปตฺวา นิธึ ทสฺเสสิ. รุกฺขคฺเคสุ มหานิธีติ อุยฺยาเน มหาสาลรุกฺขมูเล ิตมชฺฌนฺหิกสมเย ปริมณฺฑลาย รุกฺขจฺฉายาย อนฺโต นิธึ นีหราเปสิ. เอวํ โสฬส มหานิธโย นีหราเปตฺวา ‘‘อฺํ กิฺจิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ เทวา’’ติ วทึสุ. มหาชโน หฏฺตุฏฺโ อโหสิ.

อถ ราชา ‘‘อิทํ ธนํ ทานมุเข วิกิริสฺสามี’’ติ นครมชฺเฌ เจว จตูสุ นครทฺวาเรสุ จาติ ปฺจสุ าเนสุ ปฺจ ทานสาลาโย การาเปตฺวา มหาทานํ ปฏฺเปสิ, กาลจมฺปานครโต อตฺตโน มาตรฺจ พฺราหฺมณฺจ ปกฺโกสาเปตฺวา มหนฺตํ สกฺการํ อกาสิ. ตสฺส ตรุณรชฺเชเยว สกลํ วิเทหรฏฺํ ‘‘อริฏฺชนกรฺโ กิร ปุตฺโต มหาชนโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรติ, โส กิร ปณฺฑิโต อุปายกุสโล, ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ ทสฺสนตฺถาย สงฺขุภิตํ อโหสิ. ตโต ตโต พหุํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคมึสุ, นาคราปิ มหาฉณํ สชฺชยึสุ. ราชนิเวสเน อตฺถรณาทีนิ สนฺถริตฺวา คนฺธทามมาลาทามาทีนิ โอสาเรตฺวา วิปฺปกิณฺณลาชากุสุมวาสธูมคนฺธาการํ กาเรตฺวา นานปฺปการํ ปานโภชนํ อุปฏฺาเปสุํ. รฺโ ปณฺณาการตฺถาย รชตสุวณฺณภาชนาทีสุ อเนกปฺปการานิ ขาทนียโภชนียมธุผาณิตผลาทีนิ คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปริวาเรตฺวา อฏฺํสุ. เอกโต อมจฺจมณฺฑลํ นิสีทิ, เอกโต พฺราหฺมณคโณ, เอกโต เสฏฺิอาทโย นิสีทึสุ, เอกโต อุตฺตมรูปธรา นาฏกิตฺถิโย นิสีทึสุ, พฺราหฺมณาปิ โสตฺถิกาเรน มุขมงฺคลิกานิ กเถนฺติ, นจฺจคีตาทีสุ กุสลา นจฺจคีตาทีนิ ปวตฺตยึสุ, อเนกสตานิ ตูริยานิ ปวชฺชึสู. ตทา ราชนิเวสนํ ยุคนฺธรวาตเวเคน ปหฏา สาครกุจฺฉิ วิย เอกนินฺนาทํ อโหสิ. โอโลกิโตโลกิตฏฺานํ กมฺปติ.

อถ มหาสตฺโต เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา ราชาสเน นิสินฺโนว สกฺกสิริสทิสํ มหนฺตํ สิริวิลาสํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน มหาสมุทฺเท กตวายามํ อนุสฺสริ. ตสฺส ‘‘วีริยํ นาม กตฺตพฺพยุตฺตกํ, สจาหํ มหาสมุทฺเท วีริยํ นากริสฺสํ, น อิมํ สมฺปตฺตึ อลภิสฺส’’นฺติ ตํ วายามํ อนุสฺสรนฺตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชิ. โส ปีติเวเคน อุทานํ อุทาเนนฺโต อาห –

๑๓๓.

‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.

๑๓๔.

‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.

๑๓๕.

‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.

๑๓๖.

‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;

ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.

๑๓๗.

‘‘ทุกฺขูปนีโตปิ นโร สปฺโ, อาสํ น ฉินฺเทยฺย สุขาคมาย;

พหู หิ ผสฺสา อหิตา หิตา จ, อวิตกฺกิตา มจฺจุมุปพฺพชนฺติ.

๑๓๘.

‘‘อจินฺติตมฺปิ ภวติ, จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ;

น หิ จินฺตามยา โภคา, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา’’ติ.

ตตฺถ อาสีเสเถวาติ อาสาเฉทกมฺมํ อกตฺวา อตฺตโน กมฺมํ อาสํ กโรเถว. น นิพฺพินฺเทยฺยาติ วีริยํ กโรนฺโต น นิพฺพินฺเทยฺย น อลเสยฺย. ยถา อิจฺฉินฺติ ยถา ราชภาวํ อิจฺฉึ, ตเถว ราชา ชาโตมฺหิ. อุพฺภตนฺติ นีหฏํ. ทุกฺขูปนีโตติ กายิกเจตสิกทุกฺเขน ผุฏฺโปีติ อตฺโถ. อหิตา หิตา จาติ ทุกฺขผสฺสา อหิตา, สุขผสฺสา หิตา. อวิตกฺกิตาติ อวิตกฺกิตาโร อจินฺติตาโร. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตสุ ผสฺเสสุ อหิตผสฺเสน ผุฏฺา สตฺตา ‘‘หิตผสฺโสปิ อตฺถีติ วีริยํ กโรนฺตา ตํ ปาปุณนฺตี’’ติ อจินฺเตตฺวา วีริยํ น กโรนฺติ, เต อิมสฺส อตฺถสฺส อวิตกฺกิตาโร หิตผสฺสํ อลภิตฺวาว มจฺจุมุปพฺพชนฺติ มรณํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา วีริยํ กตฺตพฺพเมวาติ.

อจินฺติตมฺปีติ อิเมสํ สตฺตานํ อจินฺติตมฺปิ โหติ, จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ. มยาปิ หิ ‘‘อยุชฺฌิตฺวาว รชฺชํ ลภิสฺสามี’’ติ อิทํ อจินฺติตํ, ‘‘สุวณฺณภูมิโต ธนํ อาหริตฺวา ยุชฺฌิตฺวา ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปน จินฺติตํ, อิทานิ เม จินฺติตํ นฏฺํ, อจินฺติตํ ชาตํ. น หิ จินฺตามยา โภคาติ อิเมสํ สตฺตานฺหิ โภคา จินฺตาย อนิปฺผชฺชนโต จินฺตามยา นาม น โหนฺติ, ตสฺมา วีริยเมว กตฺตพฺพํ. วีริยวโต หิ อจินฺติตมฺปิ โหตีติ.

โส ตโต ปฏฺาย ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรสิ, ปจฺเจกพุทฺเธ จ อุปฏฺาสิ. อปรภาเค สีวลิเทวี ธฺปุฺลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘ทีฆาวุกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. ตสฺส วยปฺปตฺตสฺส ราชา อุปรชฺชํ ทตฺวา สตฺตวสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ. โส เอกทิวสํ อุยฺยานปาเลน ผลาผเลสุ เจว นานาปุปฺเผสุ จ อาภเตสุ ตานิ ทิสฺวา ตุฏฺโ หุตฺวา ตสฺส สมฺมานํ กาเรตฺวา ‘‘สมฺม อุยฺยานปาล, อหํ อุยฺยานํ ปสฺสิสฺสามิ, ตฺวํ อลงฺกโรหิ น’’นฺติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา กตฺวา รฺโ ปฏิเวเทสิ. โส หตฺถิกฺขนฺธวรคโต มหนฺเตน ปริวาเรน นครา นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานทฺวารํ ปาปุณิ. ตตฺร จ ทฺเว อมฺพา อตฺถิ นีโลภาสา. เอโก อผโล, เอโก ผลธโร. โส ปน อติมธุโร, รฺา อคฺคผลสฺส อปริภุตฺตตฺตา ตโต โกจิ ผลํ คเหตุํ น อุสฺสหติ. ราชา หตฺถิกฺขนฺธวรคโตว ตโต เอกํ ผลํ คเหตฺวา ปริภุฺชิ, ตสฺส ตํ ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตเมว ทิพฺโพชํ วิย อุปฏฺาสิ. โส ‘‘นิวตฺตนกาเล พหู ขาทิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ‘‘รฺา อคฺคผลํ ปริภุตฺต’’นฺติ ตฺวา อุปราชานํ อาทึ กตฺวา อนฺตมโส หตฺถิเมณฺฑอสฺสเมณฺฑาทโยปิ ผลํ คเหตฺวา ปริภุฺชึสุ. อฺเ ผลํ อลภนฺตา ทณฺเฑหิ สาขํ ภินฺทิตฺวา นิปณฺณมกํสุ. รุกฺโข โอภคฺควิภคฺโค อฏฺาสิ, อิตโร ปน มณิปพฺพโต วิย วิลาสมาโน ิโต.

ราชา อุยฺยานา นิกฺขนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ อมจฺเจ ปุจฺฉติ. ‘‘เทเวน อคฺคผลํ ปริภุตฺตนฺติ มหาชเนน วิลุมฺปิโต เทวา’’ติ อาหํสุ. ‘‘กึ นุ โข ภเณ, อิมสฺส ปน เนว ปตฺตํ, น วณฺโณ ขีโณ’’ติ? ‘‘นิปฺผลตาย น ขีโณ, เทวา’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘อยํ รุกฺโข นิปฺผลตาย นีโลภาโส ิโต, อยํ ปน สผลตาย โอภคฺควิภคฺโค ิโต. อิทมฺปิ รชฺชํ สผลรุกฺขสทิสํ, ปพฺพชฺชา ปน นิปฺผลรุกฺขสทิสา. สกิฺจนสฺเสว ภยํ, นากิฺจนสฺส. ตสฺมา อหํ ผลรุกฺโข วิย อหุตฺวา นิปฺผลรุกฺขสทิโส ภวิสฺสามิ, อิมํ สมฺปตฺตึ จชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ทฬฺหํ สมาทานํ กตฺวา มนํ อธิฏฺหิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาททฺวาเร ิโตว เสนาปตึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มหาเสนาปติ, อชฺช เม ปฏฺาย ภตฺตหารกฺเจว มุโขทกทนฺตกฏฺทายกฺจ เอกํ อุปฏฺากํ เปตฺวา อฺเ มํ ทฏฺุํ มา ลภนฺตุ, โปราณกวินิจฺฉยามจฺเจ คเหตฺวา รชฺชํ อนุสาสถ, อหํ อิโต ปฏฺาย อุปริปาสาทตเล สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ปาสาทมารุยฺห เอกโกว สมณธมฺมํ อกาสิ. เอวํ คเต กาเล มหาชโน ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา มหาสตฺตํ อทิสฺวา ‘‘น โน ราชา โปราณโก วิย โหตี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๑๓๙.

‘‘อโปราณํ วต โภ ราชา, สพฺพภุมฺโม ทิสมฺปติ;

นชฺช นจฺเจ นิสาเมติ, น คีเต กุรุเต มโน.

๑๔๐.

‘‘น มิเค นปิ อุยฺยาเน, นปิ หํเส อุทิกฺขติ;

มูโคว ตุณฺหิมาสีโน, น อตฺถมนุสาสตี’’ติ.

ตตฺถ มิเคติ สพฺพสงฺคาหิกวจนํ, ปุพฺเพ หตฺถี ยุชฺฌาเปติ, เมณฺเฑ ยุชฺฌาเปติ, อชฺช เตปิ น โอโลเกตีติ อตฺโถ. อุยฺยาเนติ อุยฺยานกีฬมฺปิ นานุโภติ. หํเสติ ปฺจปทุมสฺฉนฺนาสุ อุยฺยานโปกฺขรณีสุ หํสคณํ น โอโลเกติ. มูโควาติ ภตฺตหารกฺจ อุปฏฺากฺจ ปุจฺฉึสุ ‘‘โภ ราชา, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กิฺจิ อตฺถํ มนฺเตตี’’ติ. เต ‘‘น มนฺเตตี’’ติ วทึสุ. ตสฺมา เอวมาหํสุ.

ราชา กาเมสุ อนลฺลียนฺเตน วิเวกนินฺเนน จิตฺเตน อตฺตโน กุลูปกปจฺเจกพุทฺเธ อนุสฺสริตฺวา ‘‘โก นุ โข เม เตสํ สีลาทิคุณยุตฺตานํ อกิฺจนานํ วสนฏฺานํ อาจิกฺขิสฺสตี’’ติ ตีหิ คาถาหิ อุทานํ อุทาเนสิ –

๑๔๑.

‘‘สุขกามา รโหสีลา, วธพนฺธา อุปารตา;

กสฺส นุ อชฺช อาราเม, ทหรา วุทฺธา จ อจฺฉเร.

๑๔๒.

‘‘อติกฺกนฺตวนถา ธีรา, นโม เตสํ มเหสินํ;

เย อุสฺสุกมฺหิ โลกมฺหิ, วิหรนฺติ มนุสฺสุกา.

๑๔๓.

‘‘เต เฉตฺวา มจฺจุโน ชาลํ, ตตํ มายาวิโน ทฬฺหํ;

ฉินฺนาลยตฺตา คจฺฉนฺติ, โก เตสํ คติมาปเย’’ติ.

ตตฺถ สุขกามาติ นิพฺพานสุขกามา. รโหสีลาติ ปฏิจฺฉนฺนสีลา น อตฺตโน คุณปฺปกาสนา. ทหรา วุฑฺฒา จาติ ทหรา เจว มหลฺลกา จ. อจฺฉเรติ วสนฺติ.

ตสฺเสวํ เตสํ คุเณ อนุสฺสรนฺตสฺส มหตี ปีติ อุปฺปชฺชิ. อถ มหาสตฺโต ปลฺลงฺกโต อุฏฺาย อุตฺตรสีหปฺชรํ วิวริตฺวา อุตฺตรทิสาภิมุโข สิรสิ อฺชลึ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ นมสฺสมาโน ‘‘อติกฺกนฺตวนถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อติกฺกนฺตวนถาติ ปหีนตณฺหา. มเหสินนฺติ มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทโย คุเณ เอสิตฺวา ิตานํ. อุสฺสุกมฺหีติ ราคาทีหิ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺเน โลกสฺมึ. มจฺจุโน ชาลนฺติ กิเลสมาเรน ปสาริตํ ตณฺหาชาลํ. ตตํ มายาวิโนติ อติมายาวิโน. โก เตสํ คติมาปเยติ โก มํ เตสํ ปจฺเจกพุทฺธานํ นิวาสฏฺานํ ปาเปยฺย, คเหตฺวา คจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ.

ตสฺส ปาสาเทเยว สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺส จตฺตาโร มาสา อตีตา. อถสฺส อติวิย ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ นมิ, อคารํ โลกนฺตริกนิรโย วิย ขายิ, ตโย ภวา อาทิตฺตา วิย อุปฏฺหึสุ. โส ปพฺพชฺชาภิมุเขน จิตฺเตน ‘‘กทา นุ โข อิมํ สกฺกภวนํ วิย อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ มิถิลํ ปหาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตเวสคหณกาโล มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา มิถิลวณฺณนํ นาม อารภิ –

๑๔๔.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๔๕.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, วิสาลํ สพฺพโตปภํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๔๖.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, พหุปาการโตรณํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๔๗.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๔๘.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, สุวิภตฺตํ มหาปถํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๔๙.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, สุวิภตฺตนฺตราปณํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๐.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ควาสฺสรถปีฬิตํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๑.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, อารามวนมาลินึ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๒.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, อุยฺยานวนมาลินึ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๓.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ปาสาทวนมาลินึ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๔.

‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ติปุรํ ราชพนฺธุนึ;

มาปิตํ โสมนสฺเสน, เวเทเหน ยสสฺสินา;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๕.

‘‘กทาหํ เวเทเห ผีเต, นิจิเต ธมฺมรกฺขิเต;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๖.

‘‘กทาหํ เวเทเห ผีเต, อเชยฺเย ธมฺมรกฺขิเต;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๗.

‘‘กทาหํ อนฺเตปุรํ รมฺมํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๘.

‘‘กทาหํ อนฺเตปุรํ รมฺมํ, สุธามตฺติกเลปนํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๕๙.

‘‘กทาหํ อนฺเตปุรํ รมฺมํ, สุจิคนฺธํ มโนรมํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๐.

‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, วิภตฺเต ภาคโส มิเต;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๑.

‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, สุธามตฺติกเลปเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๒.

‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, สุจิคนฺเธ มโนรเม;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๓.

‘‘กทาหํ กูฏาคาเร จ, ลิตฺเต จนฺทนโผสิเต;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๔.

‘‘กทาหํ โสณฺณปลฺลงฺเก, โคนเก จิตฺตสนฺถเต;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๕.

‘‘กทาหํ มณิปลฺลงฺเก, โคนเก จิตฺตสนฺถเต;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๖.

‘‘กทาหํ กปฺปาสโกเสยฺยํ, โขมโกฏุมฺพรานิ จ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๗.

‘‘กทาหํ โปกฺขรณี รมฺมา, จกฺกวากปกูชิตา;

มนฺทาลเกหิ สฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๖๘.

‘‘กทาหํ หตฺถิคุมฺเพ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

สุวณฺณกจฺเฉ มาตงฺเค, เหมกปฺปนวาสเส.

๑๖๙.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๗๐.

‘‘กทาหํ อสฺสคุมฺเพ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

อาชานีเยว ชาติยา, สินฺธเว สีฆวาหเน.

๑๗๑.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๗๒.

‘‘กทาหํ รถเสนิโย, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๗๓.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๗๔.

‘‘กทาหํ โสวณฺณรเถ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๗๕.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๗๖.

‘‘กทาหํ สชฺฌุรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๗๗.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๗๘.

‘‘กทาหํ อสฺสรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๗๙.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๘๐.

‘‘กทาหํ โอฏฺรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๘๑.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๘๒.

‘‘กทาหํ โคณรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๘๓.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๘๔.

‘‘กทาหํ อชรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๘๕.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๘๖.

‘‘กทาหํ เมณฺฑรเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๘๗.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๘๘.

‘‘กทาหํ มิครเถ จ, สนฺนทฺเธ อุสฺสิตทฺธเช;

ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเต.

๑๘๙.

‘‘อารูฬฺเห คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๐.

‘‘กทาหํ หตฺถาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

นีลวมฺมธเร สูเร, โตมรงฺกุสปาณิเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๑.

‘‘กทาหํ อสฺสาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

นีลวมฺมธเร สูเร, อิลฺลิยาจาปธาริเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๒.

‘‘กทาหํ รถาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

นีลวมฺมธเร สูเร, จาปหตฺเถ กลาปิเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๓.

‘‘กทาหํ ธนุคฺคเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

นีลวมฺมธเร สูเร, จาปหตฺเถ กลาปิเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๔.

‘‘กทาหํ ราชปุตฺเต จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

จิตฺรวมฺมธเร สูเร, กฺจนาเวฬธาริเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๕.

‘‘กทาหํ อริยคเณ จ, วตวนฺเต อลงฺกเต;

หริจนฺทนลิตฺตงฺเค, กาสิกุตฺตมธาริเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๖.

‘‘กทาหํ อมจฺจคเณ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;

ปีตวมฺมธเร สูเร, ปุรโต คจฺฉมาลิเน;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๗.

‘‘กทาหํ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๘.

‘‘กทาหํ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๑๙๙.

‘‘กทาหํ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๐๐.

‘‘กทาหํ สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;

ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๐๑.

‘‘กทาสฺสุ มํ หตฺถิคุมฺพา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

สุวณฺณกจฺฉา มาตงฺคา, เหมกปฺปนวาสสา.

๒๐๒.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๐๓.

‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสคุมฺพา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

อาชานียาว ชาติยา, สินฺธวา สีฆวาหนา.

๒๐๔.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๐๕.

‘‘กทาสฺสุ มํ รถเสนี, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๐๖.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๐๗.

‘‘กทาสฺสุ มํ โสณฺณรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๐๘.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๐๙.

‘‘กทาสฺสุ มํ สชฺฌุรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๑๐.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๑๑.

‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๑๒.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๑๓.

‘‘กทาสฺสุ มํ โอฏฺรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๑๔.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๑๕.

‘‘กทาสฺสุ มํ โคณรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๑๖.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๑๗.

‘‘กทาสฺสุ มํ อชรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๑๘.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๑๙.

‘‘กทาสฺสุ มํ เมณฺฑรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๒๐.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๑.

‘‘กทาสฺสุ มํ มิครถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;

ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตา.

๒๒๒.

‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหตฺเถหิ วมฺมิภิ;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๓.

‘‘กทาสฺสุ มํ หตฺถาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

นีลวมฺมธรา สูรา, โตมรงฺกุสปาณิโน;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๔.

‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

นีลวมฺมธรา สูรา, อิลฺลิยาจาปธาริโน;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๕.

‘‘กทาสฺสุ มํ รถาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

นีลวมฺมธรา สูรา, จาปหตฺถา กลาปิโน;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๖.

‘‘กทาสฺสุ มํ ธนุคฺคหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

นีลวมฺมธรา สูรา, จาปหตฺถา กลาปิโน;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๗.

‘‘กทาสฺสุ มํ ราชปุตฺตา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

จิตฺรวมฺมธรา สูรา, กฺจนาเวฬธาริโน;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๘.

‘‘กทาสฺสุ มํ อริยคณา, วตวนฺตา อลงฺกตา;

หริจนฺทนลิตฺตงฺคา, กาสิกุตฺตมธาริโน;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๒๙.

‘‘กทาสฺสุ มํ อมจฺจคณา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

ปีตวมฺมธรา สูรา, ปุรโต คจฺฉมาลิโน;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๐.

‘‘กทาสฺสุ มํ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๑.

‘‘กทาสฺสุ มํ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๒.

‘‘กทาสฺสุ มํ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๓.

‘‘กทาหํ ปตฺตํ คเหตฺวาน, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;

ปิณฺฑิกาย จริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๔.

‘‘กทาหํ ปํสุกูลานํ, อุชฺฌิตานํ มหาปเถ;

สงฺฆาฏึ ธารยิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๕.

‘‘กทาหํ สตฺตาหสมฺเมเฆ, โอวฏฺโ อลฺลจีวโร;

ปิณฺฑิกาย จริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๖.

‘‘กทาหํ สพฺพตฺถ คนฺตฺวา, รุกฺขา รุกฺขํ วนา วนํ;

อนเปกฺโข คมิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๗.

‘‘กทาหํ คิริทุคฺเคสุ, ปหีนภยเภรโว;

อทุติโย คมิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๘.

‘‘กทาหํ วีณํว รุชฺชโก, สตฺตตนฺตึ มโนรมํ;

จิตฺตํ อุชุํ กริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติ.

๒๓๙.

‘‘กทาหํ รถกาโรว, ปริกนฺตํ อุปาหนํ;

กามสฺโชเน เฉจฺฉํ, เย ทิพฺเพ เย จ มานุเส’’ติ.

ตตฺถ กทาติ กาลปริวิตกฺโก. ผีตนฺติ วตฺถาลงฺการาทีหิ สุปุปฺผิตํ. วิภตฺตํ ภาคโส มิตนฺติ เฉเกหิ นครมาปเกหิ ราชนิเวสนาทีนํ วเสน วิภตฺตํ ทฺวารวีถีนํ วเสน โกฏฺาสโต มิตํ. ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสตีติ ตํ เอวรูปํ นครํ ปหาย ปพฺพชนํ กุทา นาม เม ภวิสฺสติ. สพฺพโตปภนฺติ สมนฺตโต อลงฺกาโรภาเสน ยุตฺตํ. พหุปาการโตรณนฺติ พหเลน ปุถุเลน ปากาเรน เจว ทฺวารโตรเณหิ จ สมนฺนาคตํ. ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกนฺติ ทฬฺเหหิ อฏฺฏาลเกหิ ทฺวารโกฏฺเกหิ จ สมนฺนาคตํ. ปีฬิตนฺติ สมากิณฺณํ. ติปุรนฺติ ตีหิ ปุเรหิ สมนฺนาคตํ, ติปาการนฺติ อตฺโถ. อถ วา ติปุรนฺติ ติกฺขตฺตุํ ปุณฺณํ. ราชพนฺธุนีนฺติ ราชฺตเกเหว ปุณฺณํ. โสมนสฺเสนาติ เอวํนามเกน วิเทหราเชน.

นิจิเตติ ธนธฺนิจยาทินา สมฺปนฺเน. อเชยฺเยติ ปจฺจามิตฺเตหิ อเชตพฺเพ. จนฺทนโผสิเตติ โลหิตจนฺทเนน ปริปฺโผสิเต. โกฏุมฺพรานีติ โกฏุมฺพรรฏฺเ อุฏฺิตวตฺถานิ. หตฺถิคุมฺเพติ หตฺถิฆฏาโย. เหมกปฺปนวาสเสติ เหมมเยน สีสาลงฺการสงฺขาเตน กปฺปเนน จ เหมชาเลน จ สมนฺนาคเต. คามณีเยหีติ หตฺถาจริเยหิ. อาชานีเยว ชาติยาติ ชาติยา การณาการณชานนตาย อาชานีเยว, ตาทิสานํ อสฺสานํ คุมฺเพ. คามณีเยหีติ อสฺสาจริเยหิ. อิลฺลิยาจาปธาริภีติ อิลฺลิยฺจ จาปฺจ ธาเรนฺเตหิ. รถเสนิโยติ รถฆฏาโย. สนฺนนฺเธติ สุฏฺุ นทฺเธ. ทีเป อโถปิ เวยฺยคฺเฆติ ทีปิพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺเต. คามณีเยหีติ รถาจริเยหิ. สชฺฌุรเถติ รชตรเถ. อชรถเมณฺฑรถมิครเถ โสภนตฺถาย โยเชนฺติ.

อริยคเณติ พฺราหฺมณคเณ. เต กิร ตทา อริยาจารา อเหสุํ, เตน เต เอวมาห. หริจนฺทนลิตฺตงฺเคติ กฺจนวณฺเณน จนฺทเนน ลิตฺตสรีเร. สตฺตสตา ภริยาติ ปิยภริยาเยว สนฺธายาห. สุสฺาติ สุฏฺุ สฺิตา. อสฺสวาติ สามิกสฺส วจนการิกา. สตปลนฺติ ปลสเตน สุวณฺเณน การิตํ. กํสนฺติ ปาตึ. สตราชิกนฺติ ปิฏฺิปสฺเส ราชิสเตน สมนฺนาคตํ. ยนฺตํ มนฺติ อนิตฺถิคนฺธวนสณฺเฑ เอกเมว คจฺฉนฺตํ มํ กทา นุ เต นานุยิสฺสนฺติ. สตฺตาหสมฺเมเฆติ สตฺตาหํ สมุฏฺิเต มหาเมเฆ, สตฺตาหวทฺทลิเกติ อตฺโถ. โอวฏฺโติ โอนตสีโส. สพฺพตฺถาติ สพฺพทิสํ. รุชฺชโกติ วีณาวาทโก. กามสํโยชเนติ กามสํโยชนํ. ทิพฺเพติ ทิพฺพํ. มานุเสติ มานุสํ.

โส กิร ทสวสฺสสหสฺสายุกกาเล นิพฺพตฺโต สตฺตวสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรตฺวา ติวสฺสสหสฺสาวสิฏฺเ อายุมฺหิ ปพฺพชิโต. ปพฺพชนฺโต ปเนส อุยฺยานทฺวาเร อมฺพรุกฺขสฺส ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย จตฺตาโร มาเส อคาเร วสิตฺวา ‘‘อิมมฺหา ราชเวสา ปพฺพชิตเวโส วรตโร, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปฏฺากํ รหสฺเสน อาณาเปสิ ‘‘ตาต, กฺจิ อชานาเปตฺวา อนฺตราปณโต กาสายวตฺถานิ เจว มตฺติกาปตฺตฺจ กิณิตฺวา อาหรา’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ราชา กปฺปกํ ปกฺโกสาเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวา กปฺปกํ อุยฺโยเชตฺวา เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํเส กตฺวา มตฺติกาปตฺตมฺปิ ถวิกาย โอสาเรตฺวา อํเส ลคฺเคสิ. ตโต กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา มหาตเล กติปเย วาเร ปจฺเจกพุทฺธลีลาย อปราปรํ จงฺกมิ. โส ตํ ทิวสํ ตตฺเถว วสิตฺวา ปุนทิวเส สูริยุคฺคมนเวลาย ปาสาทา โอตริตุํ อารภิ.

ตทา สีวลิเทวี ตา สตฺตสตา วลฺลภิตฺถิโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘จิรํ ทิฏฺโ โน ราชา, จตฺตาโร มาสา อตีตา, อชฺช นํ ปสฺสิสฺสาม, สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา ยถาพลํ อิตฺถิกุตฺตหาสวิลาเส ทสฺเสตฺวา กิเลสพนฺธเนน พนฺธิตุํ วายเมยฺยาถา’’ติ วตฺวา อลงฺกตปฺปฏิยตฺตาหิ ตาหิ สทฺธึ ‘‘ราชานํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ปาสาทํ อภิรุหนฺตี ตํ โอตรนฺตํ ทิสฺวาปิ น สฺชานิ. ‘‘รฺโ โอวาทํ ทาตุํ อาคโต ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. มหาสตฺโตปิ ปาสาทา โอตริ. อิตราปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา สิริสยนปิฏฺเ ภมรวณฺณเกเส จ ปสาธนภณฺฑฺจ ทิสฺวา ‘‘น โส ปจฺเจกพุทฺโธ, อมฺหากํ ปิยสามิโก ภวิสฺสติ, เอถ นํ ยาจิตฺวา นิวตฺตาเปสฺสามี’’ติ มหาตลา โอตริตฺวา ราชงฺคณํ สมฺปาปุณิ. ปาปุณิตฺวา จ ปน สพฺพาหิ ตาหิ สทฺธึ เกเส โมเจตฺวา ปิฏฺิยํ วิกิริตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ สํสุมฺภิตฺวา ‘‘กสฺมา เอวรูปํ กมฺมํ กโรถ, มหาราชา’’ติ อติกรุณํ ปริเทวมานา ราชานํ อนุพนฺธิ, สกลนครํ สงฺขุภิตํ อโหสิ. เตปิ ‘‘ราชา กิร โน ปพฺพชิโต, กุโต ปน เอวรูปํ ธมฺมิกราชานํ ลภิสฺสามา’’ติ โรทมานา ราชานํ อนุพนฺธึสุ. ตตฺร ตาสํ อิตฺถีนํ ปริเทวนฺเจว ปริเทวนฺติโยปิ ตา ปหาย รฺโ คมนฺจ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อาห –

๒๔๐.

‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.

๒๔๑.

‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.

๒๔๒.

‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.

๒๔๓.

‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโต.

๒๔๔.

‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;

หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโต.

๒๔๕.

‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโต.

๒๔๖.

‘‘หิตฺวา สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;

อคฺคหี มตฺติกํ ปตฺตํ, ตํ ทุติยาภิเสจน’’นฺติ.

ตตฺถ พาหา ปคฺคยฺหาติ พาหา อุกฺขิปิตฺวา. สมฺปทฺทวีติ ภิกฺขเว, โส มหาชนโก ราชา, ตา จ สตฺตสตา ภริยา ‘‘กึ โน, เทว, ปหาย คจฺฉสิ, โก อมฺหากํ โทโส’’ติ วิลปนฺติโยว ฉฑฺเฑตฺวา สมฺปทฺทวี คโต, ‘‘ปพฺพชฺชาย ยาหี’’ติ โจทิยมาโน วิย ปุรกฺขโต หุตฺวา คโตติ อตฺโถ. ตํ ทุติยาภิเสจนนฺติ ภิกฺขเว, ตํ มตฺติกาปตฺตคฺคหณํ ทุติยาภิเสจนํ กตฺวา โส ราชา นิกฺขนฺโตติ.

สีวลิเทวีปิ ปริเทวมานา ราชานํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ จินฺเตตฺวา มหาเสนคุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, รฺโ ปุรโต คมนทิสาภาเค ชิณฺณฆรชิณฺณสาลาทีสุ อคฺคึ เทหิ, ติณปณฺณานิ สํหริตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ธูมํ กาเรหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ตถา กาเรสิ. สา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปาเทสุ ปติตฺวา มิถิลาย อาทิตฺตภาวํ อาโรเจนฺตี คาถาทฺวยมาห –

๒๔๗.

‘‘เภสฺมา อคฺคิสมา ชาลา, โกสา ฑยฺหนฺติ ภาคโส;

รชตํ ชาตรูปฺจ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.

๒๔๘.

‘‘มณโย สงฺขมุตฺตา จ, วตฺถิกํ หริจนฺทนํ;

อชินํ ทนฺตภณฺฑฺจ, โลหํ กาฬายสํ พหู;

เอหิ ราช นิวตฺตสฺสุ, มา เตตํ วินสา ธน’’นฺติ.

ตตฺถ เภสฺมาติ ภยานกา. อคฺคิสมา ชาลาติ เตสํ เตสํ มนุสฺสานํ เคหานิ อคฺคิ คณฺหิ, โส เอส มหาชาโลติ อตฺโถ. โกสาติ สุวณฺณรชตโกฏฺาคาราทีนิ. ภาคโสติ โกฏฺาสโต สุวิภตฺตาปิ โน เอเต อคฺคินา ฑยฺหนฺติ, เทวาติ. โลหนฺติ ตมฺพโลหาทิกํ. มา เตตํ วินสา ธนนฺติ มา เต เอตํ ธนํ วินสฺสตุ, เอหิ นํ นิพฺพาเปติ, ปจฺฉา คมิสฺสสิ, ‘‘มหาชนโก นครํ ฑยฺหมานํ อโนโลเกตฺวาว นิกฺขนฺโต’’ติ ตุมฺหากํ ครหา ภวิสฺสติ, ตาย เต ลชฺชาปิ วิปฺปฏิสาโรปิ ภวิสฺสติ, เอหิ อมจฺเจ อาณาเปตฺวา อคฺคึ นิพฺพาเปหิ, เทวาติ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘เทวิ, กึ กเถสิ, เยสํ กิฺจนํ อตฺถิ, เตสํ ตํ ฑยฺหติ, มยํ ปน อกิฺจนา’’ติ ทีเปนฺโต คาถมาห –

๒๔๙.

‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;

มิถิลา ฑยฺหมานาย, น เม กิฺจิ อฑยฺหถา’’ติ.

ตตฺถ กิฺจนนฺติ เยสํ อมฺหากํ ปลิพุทฺธกิเลสสงฺขาตํ กิฺจนํ นตฺถิ, เต มยํ เตน อกิฺจนภาเวน สุสุขํ วต ชีวาม. เตเนว การเณน มิถิลาย ฑยฺหมานาย น เม กิฺจิ อฑยฺหถ, อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺตโน ภณฺฑกํ ฑยฺหมานํ น ปสฺสามีติ วทติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิ. ตาปิสฺส สตฺตสตา ภริยา นิกฺขมึสุ. ปุน สีวลิเทวี เอกํ อุปายํ จินฺเตตฺวา ‘‘คามฆาตรฏฺวิลุมฺปนาการํ วิย ทสฺเสถา’’ติ อมจฺเจ อาณาเปสิ. ตํขณํเยว อาวุธหตฺเถ ปุริเส ตโต ตโต อาธาวนฺเต ปริธาวนฺเต วิลุมฺปนฺเต วิย สรีเร ลาขารสํ สิฺจิตฺวา ลทฺธปฺปหาเร วิย ผลเก นิปชฺชาเปตฺวา วุยฺหนฺเต มเต วิย จ รฺโ ทสฺเสสุํ. มหาชโน อุปกฺโกสิ ‘‘มหาราช, ตุมฺเหสุ ธรนฺเตสุเยว รฏฺํ วิลุมฺปนฺติ, มหาชนํ ฆาเตนฺตี’’ติ. อถ เทวีปิ ราชานํ วนฺทิตฺวา นิวตฺตนตฺถาย คาถมาห –

๒๕๐.

‘‘อฏวิโย สมุปฺปนฺนา, รฏฺํ วิทฺธํสยนฺติ ตํ;

เอหิ ราช นิวตฺตสฺสุ, มา รฏฺํ วินสา อิท’’นฺติ.

ตตฺถ อฏวิโยติ มหาราช, ตุมฺเหสุ ธรนฺเตสุเยว อฏวิโจรา สมุปฺปนฺนา สมุฏฺิตา, ตํ ตยา ธมฺมรกฺขิตํ ตว รฏฺํ วิทฺธํเสนฺติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มยิ ธรนฺเตเยว โจรา อุฏฺาย รฏฺํ วิทฺธํเสนฺตา นาม นตฺถิ, สีวลิเทวิยา กิริยา เอสา ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อปฺปฏิภานํ กโรนฺโต อาห –

๒๕๑.

‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;

รฏฺเ วิลุมฺปมานมฺหิ, น เม กิฺจิ อหีรถ.

๒๕๒.

‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;

ปีติภกฺขา ภวิสฺสาม, เทวา อาภสฺสรา ยถา’’ติ.

ตตฺถ วิลุมฺปมานมฺหีติ วิลุปฺปมาเน. อาภสฺสรา ยถาติ ยถา เต พฺรหฺมาโน ปีติภกฺขา หุตฺวา สมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺติ, ตถา วีตินาเมสฺสามาติ.

เอวํ วุตฺเตปิ มหาชโน ราชานํ อนุพนฺธิเยว. อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘อยํ มหาชโน นิวตฺติตุํ น อิจฺฉติ, นิวตฺเตสฺสามิ น’’นฺติ. โส อฑฺฒคาวุตมตฺตํ คตกาเล นิวตฺติตฺวา มหามคฺเค ิโตว อมจฺเจ ‘‘กสฺสิทํ รชฺช’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อิมํ เลขํ อนฺตรํ กโรนฺตสฺส ราชทณฺฑํ กโรถา’’ติ กตฺตรทณฺเฑน ติริยํ เลขํ อากฑฺฒิ. เตน เตชวตา รฺา กตํ เลขํ โกจิ อนฺตรํ กาตุํ นาสกฺขิ. มหาชโน เลขํ อุสฺสีสเก กตฺวา พาฬฺหปริเทวํ ปริเทวิ. เทวีปิ ตํ เลขํ อนฺตรํ กาตุํ อสกฺโกนฺตี ราชานํ ปิฏฺึ ทตฺวา คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อุรํ ปหริตฺวา มหามคฺเค ติริยํ ปติตฺวา ปริวตฺตมานา อคมาสิ. มหาชโน ‘‘เลขสามิเกหิ เลขา ภินฺนา’’ติ วตฺวา เทวิยา คตมคฺเคเนว คโต. อถ มหาสตฺโตปิ อุตฺตรหิมวนฺตาภิมุโข อคมาสิ. เทวีปิ สพฺพํ เสนาวาหนํ อาทาย เตน สทฺธึเยว คตา. ราชา มหาชนํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโตเยว สฏฺิโยชนมคฺคํ คโต.

ตทา นารโท นาม ตาปโส หิมวนฺเต สุวณฺณคุหายํ วสิตฺวา ปฺจาภิฺโ ฌานสุเขน วีตินาเมตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกาเมตฺวา ฌานสุขโต วุฏฺาย ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ อุทานํ อุทาเนสิ. โส ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ ชมฺพุทีปตเล อิทํ สุขํ ปริเยสนฺโต’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต มหาชนกพุทฺธงฺกุรํ ทิสฺวา ‘‘ราชา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตปิ สีวลิเทวิปฺปมุขํ มหาชนํ นิวตฺเตตุํ น สกฺโกติ, อนฺตรายมฺปิสฺส กเรยฺย, อิทานิ คนฺตฺวา ภิยฺโยโส มตฺตาย ทฬฺหสมาทานตฺถํ โอวาทํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิทฺธิพเลน คนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อากาเส ิโตว ตสฺส อุสฺสาหํ ชเนตุํ อิมํ คาถมาห –

๒๕๓.

‘‘กิมฺเหโส มหโต โฆโส, กา นุ คาเมว กีฬิยา;

สมณ เตว ปุจฺฉาม, กตฺเถโส อภิสโฏ ชโน’’ติ.

ตสฺส ตํ สุตฺวา ราชา อาห –

๒๕๔.

‘‘มมํ โอหาย คจฺฉนฺตํ, เอตฺเถโส อภิสโฏ ชโน;

สีมาติกฺกมนํ ยนฺตํ, มุนิโมนสฺส ปตฺติยา;

มิสฺสํ นนฺทีหิ คจฺฉนฺตํ, กึ ชานมนุปุจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ กิมฺเหโสติ กิมฺหิ เกน การเณน เอโส หตฺถิกายาทิวเสน มหโต สมูหสฺส โฆโส. กา นุ คาเมว กีฬิยาติ กา นุ เอสา ตยา สทฺธึ อาคจฺฉนฺตานํ คาเม วิย กีฬิ. กตฺเถโสติ กิมตฺถํ เอส มหาชโน อภิสโฏ สนฺนิปติโต, ตํ ปริวาเรตฺวา อาคจฺฉตีติ ปุจฺฉิ. มมนฺติ โย อหํ เอตํ ชนํ โอหาย คจฺฉามิ, ตํ มํ โอหาย คจฺฉนฺตํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ าเน เอโส มหาชโน อภิสโฏ อนุพนฺธนฺโต อาคโต. สีมาติกฺกมนํ ยนฺตนฺติ ตฺวํ ปน ตํ มํ กิเลสสีมํ อติกฺกมฺม อนคาริยมุนิาณสงฺขาตสฺส โมนสฺส ปตฺติยา ยนฺตํ, ‘‘ปพฺพชิโต วตมฺหี’’ติ นนฺทึ อวิชหิตฺวา ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานาหิ นนฺทีหิ มิสฺสเมว คจฺฉนฺตํ กึ ชานนฺโต ปุจฺฉสิ, อุทาหุ อชานนฺโต. มหาชนโก กิร วิเทหรฏฺํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโตติ กึ น สุตํ ตยาติ.

อถสฺส โส ทฬฺหสมาทานตฺถาย ปุน คาถมาห –

๒๕๕.

‘‘มาสฺสุ ติณฺโณ อมฺิตฺถ, สรีรํ ธารยํ อิมํ;

อตีรเณยฺย ยมิทํ, พหู หิ ปริปนฺถโย’’ติ.

ตตฺถ มาสฺสุ ติณฺโณ อมฺิตฺถาติ อิมํ ภณฺฑุกาสาวนิวตฺถํ สรีรํ ธาเรนฺโต ‘‘อิมินา ปพฺพชิตลิงฺคคฺคหณมตฺเตเนว กิเลสสีมํ ติณฺโณ อติกฺกนฺโตสฺมี’’ติ มา อมฺิตฺถ. อตีรเณยฺย ยมิทนฺติ อิทํ กิเลสชาตํ นาม น เอตฺตเกน ตีเรตพฺพํ. พหู หิ ปริปนฺถโยติ สคฺคมคฺคํ อาวริตฺวา ิตา ตว พหู กิเลสปริปนฺถาติ.

ตโต มหาสตฺโต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ปริปนฺเถ ปุจฺฉนฺโต อาห –

๒๕๖.

‘‘โก นุ เม ปริปนฺถสฺส, มมํ เอวํวิหาริโน;

โย เนว ทิฏฺเ นาทิฏฺเ, กามานมภิปตฺถเย’’ติ.

ตตฺถ โย เนว ทิฏฺเ นาทิฏฺเติ โย อหํ เนว ทิฏฺเ มนุสฺสโลเก, นาทิฏฺเ เทวโลเก กามานํ อภิปตฺเถมิ, ตสฺส มม เอวํ เอกวิหาริโน โก นุ ปริปนฺโถ อสฺสาติ วทติ.

อถสฺส โส ปริปนฺเถ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๒๕๗.

‘‘นิทฺทา ตนฺที วิชมฺภิตา, อรตี ภตฺตสมฺมโท;

อาวสนฺติ สรีรฏฺา, พหู หิ ปริปนฺถโย’’ติ.

ตตฺถ นิทฺทาติ กปินิทฺทา. ตนฺทีติ อาลสิยํ. อรตีติ อุกฺกณฺิตา. ภตฺตสมฺมโทติ ภตฺตปริฬาโห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สมณ, ตฺวํ ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต’’ติ วุตฺเต ตุยฺหํ ปณีตํ โอชวนฺตํ ปิณฺฑปาตํ ทสฺสนฺติ, โส ตฺวํ ปตฺตปูรํ อาทาย ยาวทตฺถํ ปริภุฺชิตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรเณ นิปชฺชิตฺวา กากจฺฉมาโน นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา อนฺตรา ปพุทฺโธ อปราปรํ ปริวตฺติตฺวา หตฺถปาเท ปสาเรตฺวา อุฏฺาย จีวรวํสํ คเหตฺวา ลคฺคจีวรํ นิวาเสตฺวา อาลสิโย หุตฺวา เนว สมฺมชฺชนึ อาทาย สมฺมชฺชิสฺสสิ, น ปานียํ อาหริสฺสสิ, ปุน นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายิสฺสสิ, กามวิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสสิ, ตทา ปพฺพชฺชาย อุกฺกณฺิสฺสสิ, ภตฺตปริฬาโห เต ภวิสฺสตีติ. อาวสนฺติ สรีรฏฺาติ อิเม เอตฺตกา ปริปนฺถา ตว สรีรฏฺกา หุตฺวา นิวสนฺติ, สรีเรเยว เต นิพฺพตฺตนฺตีติ ทสฺเสติ.

อถสฺส มหาสตฺโต ถุตึ กโรนฺโต คาถมาห –

๒๕๘.

‘‘กลฺยาณํ วต มํ ภวํ, พฺราหฺมณ มนุสาสติ;

พฺราหฺมณ เตว ปุจฺฉามิ, โก นุ ตฺวมสิ มาริสา’’ติ.

ตตฺถ พฺราหฺมณ มนุสาสตีติ พฺราหฺมณ, กลฺยาณํ วต มํ ภวํ อนุสาสติ.

ตโต ตาปโส อาห –

๒๕๙.

‘‘นารโท อิติ เม นามํ, กสฺสโป อิติ มํ วิทู;

โภโต สกาสมาคจฺฉึ, สาธุ สพฺภิ สมาคโม.

๒๖๐.

‘‘ตสฺส เต สพฺโพ อานนฺโท, วิหาโร อุปวตฺตตุ;

ยํ อูนํ ตํ ปริปูเรหิ, ขนฺติยา อุปสเมน จ.

๒๖๑.

‘‘ปสารย สนฺนตฺจ, อุนฺนตฺจ ปสารย;

กมฺมํ วิชฺชฺจ ธมฺมฺจ, สกฺกตฺวาน ปริพฺพชา’’ติ.

ตตฺถ วิทูติ โคตฺเตน มํ ‘‘กสฺสโป’’ติ ชานนฺติ. สพฺภีติ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สมาคโม นาม สาธุ โหตีติ อาคโตมฺหิ. อานนฺโทติ ตสฺส ตว อิมิสฺสา ปพฺพชฺชาย อานนฺโท ตุฏฺิ โสมนสฺสเมว โหตุ มา อุกฺกณฺิ. วิหาโรติ จตุพฺพิโธ พฺรหฺมวิหาโร. อุปวตฺตตูติ นิพฺพตฺตตุ. ยํ อูนํ ตนฺติ ยํ เต สีเลน กสิณปริกมฺเมน ฌาเนน จ อูนํ, ตํ เอเตหิ สีลาทีหิ ปูรย. ขนฺติยา อุปสเมน จาติ ‘‘อหํ ราชปพฺพชิโต’’ติ มานํ อกตฺวา อธิวาสนขนฺติยา จ กิเลสูปสเมน จ สมนฺนาคโต โหหิ. ปสารยาติ มา อุกฺขิป มา ปตฺถร, ปชหาติ อตฺโถ. สนฺนตฺจ อุนฺนตฺจาติ ‘‘โก นามาห’’นฺติอาทินา นเยน ปวตฺตํ โอมานฺจ ‘‘อหมสฺมิ ชาติสมฺปนฺโน’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อติมานฺจ. กมฺมนฺติ ทสกุสลกมฺมปถํ. วิชฺชนฺติ ปฺจอภิฺา-อฏฺสมาปตฺติาณํ. ธมฺมนฺติ กสิณปริกมฺมสงฺขาตํ สมณธมฺมํ. สกฺกตฺวาน ปริพฺพชาติ เอเต คุเณ สกฺกตฺวา วตฺตสฺสุ, เอเต วา คุเณ สกฺกตฺวา ทฬฺหํ สมาทาย ปริพฺพช, ปพฺพชฺชํ ปาเลหิ, มา อุกฺกณฺีติ อตฺโถ.

เอวํ โส มหาสตฺตํ โอวทิตฺวา อากาเสน สกฏฺานเมว คโต. ตสฺมึ คเต อปโรปิ มิคาชิโน นาม ตาปโส ตเถว สมาปตฺติโต วุฏฺาย โอโลเกนฺโต โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘มหาชนํ นิวตฺตนตฺถาย ตสฺส โอวาทํ ทสฺสามี’’ติ ตตฺเถวาคนฺตฺวา อากาเส อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต อาห –

๒๖๒.

‘‘พหู หตฺถี จ อสฺเส จ, นคเร ชนปทานิ จ;

หิตฺวา ชนก ปพฺพชิโต, กปาเล รติมชฺฌคา.

๒๖๓.

‘‘กจฺจิ นุ เต ชานปทา, มิตฺตามจฺจา จ าตกา;

ทุพฺภิมกํสุ ชนก, กสฺมา เตตํ อรุจฺจถา’’ติ.

ตตฺถ กปาเลติ มตฺติกาปตฺตํ สนฺธายาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ตฺวํ เอวรูปํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโต อิมสฺมึ กปาเล รตึ อชฺฌคา อธิคโตติ ปพฺพชฺชาการณํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. ทุพฺภินฺติ กึ นุ เอเต ตว อนฺตเร กิฺจิ อปราธํ กรึสุ, กสฺมา ตว เอวรูปํ อิสฺสริยสุขํ ปหาย เอตํ กปาลเมว อรุจฺจิตฺถาติ.

ตโต มหาสตฺโต อาห –

๒๖๔.

‘‘น มิคาชิน ชาตุจฺเฉ, อหํ กฺจิ กุทาจนํ;

อธมฺเมน ชิเน าตึ, น จาปิ าตโย มม’’นฺติ.

ตตฺถ น มิคาชินาติ อมฺโภ มิคาชิน ชาตุจฺเฉ เอกํเสเนว อหํ กฺจิ าตึ กุทาจนํ กิสฺมิฺจิ กาเล อธมฺเมน น ชินามิ. เตปิ จ าตโย มํ อธมฺเมน น ชินนฺเตว, อิติ น โกจิ มยิ ทุพฺภึ นาม อกาสีติ อตฺโถ.

เอวมสฺส ปฺหํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ เยน การเณน ปพฺพชิโต, ตํ ทสฺเสนฺโต อาห –

๒๖๕.

‘‘ทิสฺวาน โลกวตฺตนฺตํ, ขชฺชนฺตํ กทฺทมีกตํ;

หฺเร พชฺฌเร เจตฺถ, ยตฺถ สนฺโน ปุถุชฺชโน;

เอตาหํ อุปมํ กตฺวา, ภิกฺขโกสฺมิ มิคาชินา’’ติ.

ตตฺถ ทิสฺวาน โลกวตฺตนฺตนฺติ วฏฺฏานุคตสฺส พาลโลกสฺส วตฺตํ ตนฺตึ ปเวณึ อหมทฺทสํ, ตํ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหีติ ทีเปติ. ขชฺชนฺตํ กทฺทมีกตนฺติ กิเลเสหิ ขชฺชนฺตํ เตเหว จ กทฺทมีกตํ โลกํ ทิสฺวา. ยตฺถ สนฺโน ปุถุชฺชโนติ ยมฺหิ กิเลสวตฺถุมฺหิ สนฺโน ลคฺโค ปุถุชฺชโน, ตตฺถ ลคฺคา พหู สตฺตา หฺนฺติ เจว อนฺทุพนฺธนาทีหิ จ พชฺฌนฺติ. เอตาหนฺติ อหมฺปิ สเจ เอตฺถ พชฺฌิสฺสามิ, อิเม สตฺตา วิย หฺิสฺสามิ เจว พชฺฌิสฺสามิ จาติ เอวํ เอตเทว การณํ อตฺตโน อุปมํ กตฺวา กทฺทมีกตํ โลกํ ทิสฺวา ภิกฺขโก ชาโตติ อตฺโถ. มิคาชินาติ ตํ นาเมน อาลปติ. กถํ ปน เตน ตสฺส นามํ าตนฺติ? ปฏิสนฺถารกาเล ปมเมว ปุจฺฉิตตฺตา.

ตาปโส ตํ การณํ วิตฺถารโต โสตุกาโม หุตฺวา คาถมาห –

๒๖๖.

‘‘โก นุ เต ภควา สตฺถา, กสฺเสตํ วจนํ สุจิ;

น หิ กปฺปํ วา วิชฺชํ วา, ปจฺจกฺขาย รเถสภ;

สมณํ อาหุ วตฺตนฺตํ, ยถา ทุกฺขสฺสติกฺกโม’’ติ.

ตตฺถ กสฺเสตนฺติ เอตํ ตยา วุตฺตํ สุจิวจนํ กสฺส วจนํ นาม. กปฺปนฺติ กปฺเปตฺวา กปฺเปตฺวา ปวตฺติตานํ อภิฺาสมาปตฺตีนํ ลาภึ กมฺมวาทึ ตาปสํ. วิชฺชนฺติ อาสวกฺขยาณวิชฺชาย สมนฺนาคตํ ปจฺเจกพุทฺธํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – รเถสภ มหาราช, น หิ กปฺปสมณํ วา วิชฺชาสมณํ วา ปจฺจกฺขาย ตสฺโสวาทํ วินา เอวํ ปฏิปชฺชิตุํ สกฺกา. ยถา ทุกฺขสฺส อติกฺกโม โหติ, เอวํ วตฺตนฺตํ สมณํ อาหุ. เตสํ ปน วจนํ สุตฺวา สกฺกา เอวํ ปฏิปชฺชิตุํ, ตสฺมา วเทหิ, โก นุ เต ภควา สตฺถาติ.

มหาสตฺโต อาห –

๒๖๗.

‘‘น มิคาชิน ชาตุจฺเฉ, อหํ กฺจิ กุทาจนํ;

สมณํ พฺราหฺมณํ วาปิ, สกฺกตฺวา อนุปาวิสิ’’นฺติ.

ตตฺถ สกฺกตฺวาติ ปพฺพชฺชาย คุณปุจฺฉนตฺถาย ปูเชตฺวา. อนุปาวิสินฺติ น กฺจิ อนุปวิฏฺปุพฺโพสฺมิ, น มยา อฺโ โกจิ สมโณ ปุจฺฉิตปุพฺโพติ วทติ. อิมินา หิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺเตนปิ น กทาจิ โอทิสฺสกวเสน ปพฺพชฺชาย คุโณ ปุจฺฉิตปุพฺโพ, ตสฺมา เอวมาห.

เอวฺจ ปน วตฺวา เยน การเณน ปพฺพชิโต, ตํ อาทิโต ปฏฺาย ทีเปนฺโต อาห –

๒๖๘.

‘‘มหตา จานุภาเวน, คจฺฉนฺโต สิริยา ชลํ;

คียมาเนสุ คีเตสุ, วชฺชมาเนสุ วคฺคุสุ.

๒๖๙.

‘‘ตูริยตาฬสงฺฆุฏฺเ, สมฺมตาลสมาหิเต;

ส มิคาชิน มทฺทกฺขึ, ผลึ อมฺพํ ติโรจฺฉทํ;

หฺมานํ มนุสฺเสหิ, ผลกาเมหิ ชนฺตุภิ.

๒๗๐.

‘‘โส โขหํ ตํ สิรึ หิตฺวา, โอโรหิตฺวา มิคาชิน;

มูลํ อมฺพสฺสุปาคจฺฉึ, ผลิโน นิปฺผลสฺส จ.

๒๗๑.

‘‘ผลึ อมฺพํ หตํ ทิสฺวา, วิทฺธสฺตํ วินฬีกตํ;

อเถกํ อิตรํ อมฺพํ, นีโลภาสํ มโนรมํ.

๒๗๒.

‘‘เอวเมว นูนมฺเหปิ, อิสฺสเร พหุกณฺฏเก;

อมิตฺตา โน วธิสฺสนฺติ, ยถา อมฺโพ ผลี หโต.

๒๗๓.

‘‘อชินมฺหิ หฺเต ทีปิ, นาโค ทนฺเตหิ หฺเต;

ธนมฺหิ ธนิโน หนฺติ, อนิเกตมสนฺถวํ;

ผลี อมฺโพ อผโล จ, เต สตฺถาโร อุโภ มมา’’ติ.

ตตฺถ วคฺคุสูติ มธุรสฺสเรสุ ตูริเยสุ วชฺชมาเนสุ. ตูริยตาฬสงฺฆุฏฺเติ ตูริยานํ ตาฬิเตหิ สงฺฆุฏฺเ อุยฺยาเน. สมฺมตาลสมาหิเตติ สมฺเมหิ จ ตาเลหิ จ สมนฺนาคเต. ส มิคาชินาติ มิคาชิน, โส อหํ อทกฺขึ. ผลึ อมฺพนฺติ ผลิตํ อมฺพรุกฺขนฺติ อตฺโถ. ติโรจฺฉทนฺติ ติโรปาการํ อุยฺยานสฺส อนฺโติตํ พหิปาการํ นิสฺสาย ชาตํ อมฺพรุกฺขํ. หฺมานนฺติ โปถิยมานํ. โอโรหิตฺวาติ หตฺถิกฺขนฺธา โอตริตฺวา. วินฬีกตนฺติ นิปตฺตนฬํ กตํ.

เอวเมวาติ เอวํ เอว. ผลีติ ผลสมฺปนฺโน. อชินมฺหีติ จมฺมตฺถาย จมฺมการณา. ทนฺเตหีติ อตฺตโน ทนฺเตหิ, หฺเต ทนฺตนิมิตฺตํ หฺเตติ อตฺโถ. หนฺตีติ หฺติ. อนิเกตมสนฺถวนฺติ โย ปน นิเกตํ ปหาย ปพฺพชิตตฺตา อนิเกโต นาม สตฺตสงฺขารวตฺถุกสฺส ตณฺหาสนฺถวสฺส อภาวา อสนฺถโว นาม, ตํ อนิเกตํ อสนฺถวํ โก หนิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. เต สตฺถาโรติ เต ทฺเว รุกฺขา มม สตฺถาโร อเหสุนฺติ วทติ.

ตํ สุตฺวา มิคาชิโน ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ รฺโ โอวาทํ ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ตสฺมึ คเต สีวลิเทวี รฺโ ปาทมูเล ปติตฺวา อาห –

๒๗๔.

‘‘สพฺโพ ชโน ปพฺยถิโต, ราชา ปพฺพชิโต อิติ;

หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา.

๒๗๕.

‘‘อสฺสาสยิตฺวา ชนตํ, ปยิตฺวา ปฏิจฺฉทํ;

ปุตฺตํ รชฺเช เปตฺวาน, อถ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ปพฺยถิโตติ ภีโต อุตฺรสฺโต. ปฏิจฺฉทนฺติ อมฺเห ฑยฺหมาเนปิ วิลุปฺปมาเนปิ ราชา น โอโลเกตีติ ปพฺยถิตสฺส มหาชนสฺส อาวรณํ รกฺขํ เปตฺวา ปุตฺตํ ทีฆาวุกุมารํ รชฺเช เปตฺวา อภิสิฺจิตฺวา ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสีติ อตฺโถ.

ตโต โพธิสตฺโต อาห –

๒๗๖.

‘‘จตฺตา มยา ชานปทา, มิตฺตามจฺจา จ าตกา;

สนฺติ ปุตฺตา วิเทหานํ, ทีฆาวุ รฏฺวฑฺฒโน;

เต รชฺชํ การยิสฺสนฺติ, มิถิลายํ ปชาปตี’’ติ.

ตตฺถ สนฺติ ปุตฺตาติ สีวลิ สมณานํ ปุตฺตา นาม นตฺถิ, วิเทหรฏฺวาสีนํ ปน ปุตฺตา ทีฆาวุ อตฺถิ, เต รชฺชํ การยิสฺสนฺติ. ปชาปตีติ เทวึ อาลปติ.

เทวี อาห ‘‘เทว, ตุมฺเหสุ ตาว ปพฺพชิเตสุ อหํ กึ กโรมี’’ติ. อถ นํ โส ‘‘ภทฺเท, อหํ ตํ อนุสิกฺขามิ, วจนํ เม กโรหี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๒๗๗.

‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยํ วากฺยํ มม รุจฺจติ;

รชฺชํ ตุวํ การยสิ, ปาปํ ทุจฺจริตํ พหุํ;

กาเยน วาจา มนสา, เยน คจฺฉสิ ทุคฺคตึ.

๒๗๘.

‘‘ปรทินฺนเกน ปรนิฏฺิเตน, ปิณฺเฑน ยาเปหิ ส ธีรธมฺโม’’ติ.

ตตฺถ ตุวนฺติ ตฺวํ ปุตฺตสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ‘‘มม ปุตฺตสฺส รชฺช’’นฺติ รชฺชํ อนุสาสมานา พหุํ ปาปํ กริสฺสสิ. คจฺฉสีติ เยน กายาทีหิ กเตน พหุปาเปน ทุคฺคตึ คมิสฺสสิ. ส ธีรธมฺโมติ ปิณฺฑิยาโลเปน ยาเปตพฺพํ, เอส ปณฺฑิตานํ ธมฺโมติ.

เอวํ มหาสตฺโต ตสฺสา โอวาทํ อทาสิ. เตสํ อฺมฺํ สลฺลปนฺตานํ คจฺฉนฺตานฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต. เทวี ปติรูเป าเน ขนฺธาวารํ นิวาสาเปสิ. มหาสตฺโตปิ เอกํ รุกฺขมูลํ อุปคโต. โส ตตฺถ รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. เทวีปิ ‘‘เสนา ปจฺฉโตว อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา ตสฺส ปจฺฉโตว อโหสิ. เต ภิกฺขาจารเวลายํ ถูณํ นาม นครํ ปาปุณึสุ. ตสฺมึ ขเณ อนฺโตนคเร เอโก ปุริโส สูณโต มหนฺตํ มํสขณฺฑํ กิณิตฺวา สูเลน องฺคาเรสุ ปจาเปตฺวา นิพฺพาปนตฺถาย ผลกโกฏิยํ เปตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺส อฺวิหิตสฺส เอโก สุนโข ตํ อาทาย ปลายิ. โส ตฺวา ตํ อนุพนฺธนฺโต ยาว พหิทกฺขิณทฺวารํ คนฺตฺวา นิพฺพินฺโท นิวตฺติ. ราชา จ เทวี จ สุนขสฺส ปุรโต คจฺฉนฺตา ทฺวิธา อเหสุํ. โส ภเยน มํสขณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิ.

มหาสตฺโต ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ สุนโข ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺโข ปลาโต, อฺโปิสฺส สามิโก น ปฺายติ, เอวรูโป อนวชฺโช ปํสุกูลปิณฺฑปาโต นาม นตฺถิ, ปริภุฺชิสฺสามิ น’’นฺติ. โส มตฺติกาปตฺตํ นีหริตฺวา ตํ มํสขณฺฑํ อาทาย ปุฺฉิตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อุทกผาสุกฏฺานํ คนฺตฺวา ปริภุฺชิตุํ อารภิ. ตโต เทวี ‘‘สเจ เอส รชฺเชนตฺถิโก ภเวยฺย, เอวรูปํ เชคุจฺฉํ ปํสุมกฺขิตํ สุนขุจฺฉิฏฺกํ น ขาเทยฺย. สเจ ขาเทยฺย, อิทาเนส อมฺหากํ สามิโก น ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, เอวรูปํ เชคุจฺฉํ ขาทสี’’ติ อาห. ‘‘เทวิ, ตฺวํ อนฺธพาลตาย อิมสฺส ปิณฺฑปาตสฺส วิเสสํ น ชานาสี’’ติ วตฺวา ตสฺเสว ปติตฏฺานํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อมตํ วิย ปริภุฺชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา หตฺเถ โธวติ. ตสฺมึ ขเณ เทวี นินฺทมานา อาห –

๒๗๙.

‘‘โยปิ จตุตฺเถ ภตฺตกาเล น ภุฺเช, อชุฏฺมารีว ขุทาย มิยฺเย;

น ตฺเวว ปิณฺฑํ ลุฬิตํ อนริยํ, กุลปุตฺตรูโป สปฺปุริโส น เสเว;

ตยิทํ น สาธุ ตยิทํ น สุฏฺุ, สุนขุจฺฉิฏฺกํ ชนก ภุฺชเส ตุว’’นฺติ.

ตตฺถ อชุฏฺมารีวาติ อนาถมรณเมว. ลุฬิตนฺติ ปํสุมกฺขิตํ. อนริยนฺติ อสุนฺทรํ. น เสเวติ -กาโร ปริปุจฺฉนตฺเถ นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ จตุตฺเถปิ ภตฺตกาเล น ภุฺเชยฺย, ขุทาย มเรยฺย, นนุ เอวํ สนฺเตปิ กุลปุตฺตรูโป สปฺปุริโส เอวรูปํ ปิณฺฑํ น ตฺเวว เสเวยฺยาติ. ตยิทนฺติ ตํ อิทํ.

มหาสตฺโต อาห –

๒๘๐.

‘‘น จาปิ เม สีวลิ โส อภกฺโข, ยํ โหติ จตฺตํ คิหิโน สุนสฺส วา;

เย เกจิ โภคา อิธ ธมฺมลทฺธา, สพฺโพ โส ภกฺโข อนวโยติ วุตฺโต’’ติ.

ตตฺถ อภกฺโขติ โส ปิณฺฑปาโต มม อภกฺโข นาม น โหติ. ยํ โหตีติ ยํ คิหิโน วา สุนสฺส วา จตฺตํ โหติ, ตํ ปํสุกูลํ นาม อสามิกตฺตา อนวชฺชเมว โหติ. เย เกจีติ ตสฺมา อฺเปิ เย เกจิ ธมฺเมน ลทฺธา โภคา, สพฺโพ โส ภกฺโข. อนวโยติ อนุอวโย, อนุปุนปฺปุนํ โอโลกิยมาโนปิ อวโย ปริปุณฺณคุโณ อนวชฺโช, อธมฺมลทฺธํ ปน สหสฺสคฺฆนกมฺปิ ชิคุจฺฉนียเมวาติ.

เอวํ เต อฺมฺํ กเถนฺตาว ถูณนครทฺวารํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺร ทาริกาสุ กีฬนฺตีสุ เอกา กุมาริกา ขุทฺทกกุลฺลเกน วาลุกํ ปปฺโผเฏติ. ตสฺสา เอกสฺมึ หตฺเถ เอกํ วลยํ, เอกสฺมึ ทฺเว วลยานิ. ตานิ อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏนฺติ, อิตรํ นิสฺสทฺทํ. ราชา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘สีวลิเทวี มม ปจฺฉโต จรติ, อิตฺถี จ นาม ปพฺพชิตสฺส มลํ, ‘อยํ ปพฺพชิตฺวาปิ ภริยํ ชหิตุํ น สกฺโกตี’ติ ครหิสฺสนฺติ มํ. สจายํ กุมาริกา ปณฺฑิตา ภวิสฺสติ, สีวลิเทวิยา นิวตฺตนการณํ กเถสฺสติ, อิมิสฺสา กถํ สุตฺวา สีวลิเทวึ อุยฺโยเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๒๘๑.

‘‘กุมาริเก อุปเสนิเย, นิจฺจํ นิคฺคฬมณฺฑิเต;

กสฺมา เต เอโก ภุโช ชนติ, เอโก เต น ชนตี ภุโช’’ติ.

ตตฺถ อุปเสนิเยติ มาตรํ อุปคนฺตฺวา เสนิเก. นิคฺคฬมณฺฑิเตติ อคลิตมณฺฑเนน มณฺฑนสีลิเกติ วทติ. ชนตีติ สทฺทํ กโรติ.

กุมาริกา อาห –

๒๘๒.

‘‘อิมสฺมึ เม สมณ หตฺเถ, ปฏิมุกฺกา ทุนีวรา;

สงฺฆาตา ชายเต สทฺโท, ทุติยสฺเสว สา คติ.

๒๘๓.

‘‘อิมสฺมึ เม สมณ หตฺเถ, ปฏิมุกฺโก เอกนีวโร;

โส อทุติโย น ชนติ, มุนิภูโตว ติฏฺติ.

๒๘๔.

‘‘วิวาทปฺปตฺโต ทุติโย, เกเนโก วิวทิสฺสติ;

ตสฺส เต สคฺคกามสฺส, เอกตฺตมุปโรจต’’นฺติ.

ตตฺถ ทุนีวราติ ทฺเว วลยานิ. สงฺฆาตาติ สํหนนโต สงฺฆฏฺฏนโตติ อตฺโถ. คตีติ นิพฺพตฺติ. ทุติยสฺเสว หิ เอวรูปา นิพฺพตฺติ โหตีติ อตฺโถ. โสติ โส นีวโร. มุนิภูโตวาติ ปหีนสพฺพกิเลโส อริยปุคฺคโล วิย ติฏฺติ. วิวาทปฺปตฺโตติ สมณ ทุติยโก นาม วิวาทมาปนฺโน โหติ, กลหํ กโรติ, นานาคาหํ คณฺหาติ. เกเนโกติ เอกโก ปน เกน สทฺธึ วิวทิสฺสติ. เอกตฺตมุปโรจตนฺติ เอกีภาโว เต รุจฺจตุ. สมณา นาม ภคินิมฺปิ อาทาย น จรนฺติ, กึ ปน ตฺวํ เอวรูปํ อุตฺตมรูปธรํ ภริยํ อาทาย วิจรสิ, อยํ เต อนฺตรายํ กริสฺสติ, อิมํ นีหริตฺวา เอกโกว สมณกมฺมํ กโรหีติ นํ โอวทติ.

โส ตสฺสา กุมาริกาย วจนํ สุตฺวา ปจฺจยํ ลภิตฺวา เทวิยา สทฺธึ กเถนฺโต อาห –

๒๘๕.

‘‘สุณาสิ สีวลิ กถา, กุมาริยา ปเวทิตา;

เปสิยา มํ ครหิตฺโถ, ทุติยสฺเสว สา คติ.

๒๘๖.

‘‘อยํ ทฺเวธาปโถ ภทฺเท, อนุจิณฺโณ ปถาวิหิ;

เตสํ ตฺวํ เอกํ คณฺหาหิ, อหเมกํ ปุนาปรํ.

๒๘๗.

‘‘มาวจ มํ ตฺวํ ‘ปติ เม’ติ, นาหํ ‘ภริยา’ติ วา ปุนา’’ติ.

ตตฺถ กุมาริยา ปเวทิตาติ กุมาริกาย กถิตา. เปสิยาติ สจาหํ รชฺชํ กาเรยฺยํ, เอสา เม เปสิยา วจนการิกา ภเวยฺย, โอโลเกตุมฺปิ มํ น วิสเหยฺย. อิทานิ ปน อตฺตโน เปสิยํ วิย จ มฺติ, ‘‘ทุติยสฺเสว สา คตี’’ติ มํ โอวทติ. อนุจิณฺโณติ อนุสฺจริโต. ปถาวิหีติ ปถิเกหิ. เอกนฺติ ตว รุจฺจนกํ เอกํ มคฺคํ คณฺห, อหํ ปน ตยา คหิตาวเสสํ อปรํ คณฺหิสฺสามิ. มาวจ มํ ตฺวนฺติ สีวลิ อิโต ปฏฺาย ปุน มํ ‘‘ปติ เม’’ติ มา อวจ, อหํ วา ตฺวํ ‘‘ภริยา เม’’ติ นาวจํ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเห อุตฺตมา, ทกฺขิณมคฺคํ คณฺหถ, อหํ วามมคฺคํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา โถกํ คนฺตฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ปุนาคนฺตฺวา รฺา สทฺธึ กเถนฺตี เอกโตว นครํ ปาวิสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒคาถมาห –

‘‘อิมเมว กถยนฺตา, ถูณํ นครุปาคมุ’’นฺติ.

ตตฺถ นครุปาคมุนฺติ นครํ ปวิฏฺา.

ปวิสิตฺวา จ ปน มหาสตฺโต ปิณฺฑตฺถาย จรนฺโต อุสุการสฺส เคหทฺวารํ ปตฺโต. สีวลิเทวีปิ เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ตสฺมึ สมเย อุสุกาโร องฺคารกปลฺเล อุสุํ ตาเปตฺวา กฺชิเยน เตเมตฺวา เอกํ อกฺขึ นิมีเลตฺวา เอเกน อกฺขินา โอโลเกนฺโต อุชุํ กโรติ. ตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘สจายํ ปณฺฑิโต ภวิสฺสติ, มยฺหํ เอกํ การณํ กเถสฺสติ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ. โส อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉติ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๘๘.

‘‘โกฏฺเก อุสุการสฺส, ภตฺตกาเล อุปฏฺิเต;

ตตฺรา จ โส อุสุกาโร, เอกํ ทณฺฑํ อุชุํ กตํ;

เอกฺจ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขตี’’ติ.

ตตฺถ โกฏฺเกติ ภิกฺขเว, โส ราชา อตฺตโน ภตฺตกาเล อุปฏฺิเต อุสุการสฺส โกฏฺเก อฏฺาสิ. ตตฺรา จาติ ตสฺมิฺจ โกฏฺเก. นิคฺคยฺหาติ นิมีเลตฺวา. ชิมฺหเมเกนาติ เอเกน อกฺขินา วงฺกํ สรํ เปกฺขติ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๒๘๙.

‘‘เอวํ โน สาธุ ปสฺสสิ, อุสุการ สุโณหิ เม;

ยเทกํ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขสี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สมฺม อุสุการ, เอวํ นุ ตฺวํ สาธุ ปสฺสสิ, ยํ เอกํ จกฺขุํ นิมีเลตฺวา เอเกน จกฺขุนา วงฺกํ สรํ เปกฺขสีติ.

อถสฺส โส กเถนฺโต อาห –

๒๙๐.

‘‘ทฺวีหิ สมณ จกฺขูหิ, วิสาลํ วิย ขายติ;

อสมฺปตฺวา ปรมํ ลิงฺคํ, นุชุภาวาย กปฺปติ.

๒๙๑.

‘‘เอกฺจ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขโต;

สมฺปตฺวา ปรมํ ลิงฺคํ, อุชุภาวาย กปฺปติ.

๒๙๒.

‘‘วิวาทปฺปตฺโต ทุติโย, เกเนโก วิวทิสฺสติ;

ตสฺส เต สคฺคกามสฺส, เอกตฺตมุปโรจต’’นฺติ.

ตตฺถ วิสาลํ วิยาติ วิตฺถิณฺณํ วิย หุตฺวา ขายติ. อสมฺปตฺวา ปรมํ ลิงฺคนฺติ ปรโต วงฺกฏฺานํ อปฺปตฺวา. นุชุภาวายาติ น อุชุภาวาย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – วิสาเล ขายมาเน ปรโต อุชุฏฺานํ วา วงฺกฏฺานํ วา น ปาปุเณยฺย, ตสฺมึ อสมฺปตฺเต อทิสฺสมาเน อุชุภาวาย กิจฺจํ น กปฺปติ น สมฺปชฺชตีติ. สมฺปตฺวาติ จกฺขุนา ปตฺวา, ทิสฺวาติ อตฺโถ. วิวาทปฺปตฺโตติ ยถา ทุติเย อกฺขิมฺหิ อุมฺมีลิเต ลิงฺคํ น ปฺายติ, วงฺกฏฺานมฺปิ อุชุกํ ปฺายติ, อุชุฏฺานมฺปิ วงฺกํ ปฺายตีติ วิวาโท โหติ, เอวํ สมณสฺสปิ ทุติโย นาม วิวาทมาปนฺโน โหติ, กลหํ กโรติ, นานาคาหํ คณฺหาติ. เกเนโกติ เอโก ปน เกน สทฺธึ วิวทิสฺสติ. เอกตฺตมุปโรจตนฺติ เอกีภาโว เต รุจฺจตุ. สมณา นาม ภคินิมฺปิ อาทาย น จรนฺติ, กึ ปน ตฺวํ เอวรูปํ อุตฺตมรูปธรํ ภริยํ อาทาย วิจรสิ. อยํ เต อนฺตรายํ กริสฺสติ, อิมํ นีหริตฺวา เอกโกว สมณธมฺมํ กโรหีติ โส ตํ โอวทติ.

เอวมสฺส โส โอวาทํ ทตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. มหาสตฺโตปิ ปิณฺฑาย จริตฺวา มิสฺสกภตฺตํ สํกฑฺฒิตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อุทกผาสุกฏฺาเน นิสีทิตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ปตฺตํ ถวิกาย โอสาเรตฺวา สีวลิเทวึ อามนฺเตตฺวา อาห –

๒๙๓.

‘‘สุณาสิ สีวลิ กถา, อุสุกาเรน เวทิตา;

เปสิยา มํ ครหิตฺโถ, ทุติยสฺเสว สา คติ.

๒๙๔.

‘‘อยํ ทฺเวธาปโถ ภทฺเท, อนุจิณฺโณ ปถาวิหิ;

เตสํ ตฺวํ เอกํ คณฺหาหิ, อหเมกํ ปุนาปรํ.

๒๙๕.

‘‘มาวจ มํ ตฺวํ ‘ปติ เม’ติ, นาหํ ‘ภริยา’ติ วา ปุนา’’ติ.

ตตฺถ สุณาสีติ สุณ, ตฺวํ กถา. ‘‘เปสิยา ม’’นฺติ อิทํ ปน กุมาริกาย โอวาทเมว สนฺธายาห.

สา กิร ‘‘มาวจ มํ ตฺวํ ‘ปติ เม’ติ’’ วุตฺตาปิ มหาสตฺตํ อนุพนฺธิเยว. ราชา นํ นิวตฺเตตุํ น สกฺโกติ. มหาชโนปิ อนุพนฺธิ. ตโต ปน อฏวี อวิทูเร โหติ. มหาสตฺโต นีลวนราชึ ทิสฺวา ตํ นิวตฺเตตุกาโม หุตฺวา คจฺฉนฺโตเยว มคฺคสมีเป มุฺชติณํ อทฺทส. โส ตโต อีสิกํ ลุฺจิตฺวา ‘‘ปสฺสสิ สีวลิ, อยํ อิธ ปุน ฆเฏตุํ น สกฺกา, เอวเมว ปุน มยฺหํ ตยา สทฺธึ สํวาโส นาม ฆเฏตุํ น สกฺกา’’ติ วตฺวา อิมํ อุปฑฺฒคาถมาห –

‘‘มุฺชาเวสิกา ปวาฬฺหา, เอกา วิหร สีวลี’’ติ.

ตตฺถ เอกา วิหราติ อหํ เอกีภาเวน วิหริสฺสามิ, ตฺวมฺปิ เอกา วิหราหีติ ตสฺสา โอวาทมทาสิ.

ตํ สุตฺวา สีวลิเทวี ‘‘อิโตทานิ ปฏฺาย นตฺถิ มยฺหํ มหาชนกนรินฺเทน สทฺธึ สํวาโส’’ติ โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ ปหริตฺวา มหามคฺเค ปติ. มหาสตฺโต ตสฺสา วิสฺิภาวํ ตฺวา ปทํ วิโกเปตฺวา อรฺํ ปาวิสิ. อมจฺจา อาคนฺตฺวา ตสฺสา สรีรํ อุทเกน สิฺจิตฺวา หตฺถปาเท ปริมชฺชิตฺวา สฺํ ลภาเปสุํ. สา ‘‘ตาตา, กุหึ ราชา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นนุ ตุมฺเหว ชานาถา’’ติ? ‘‘อุปธาเรถ ตาตา’’ติ. เต อิโต จิโต ธาวิตฺวา วิจินนฺตาปิ มหาสตฺตํ น ปสฺสึสุ. เทวี มหาปริเทวํ ปริเทวิตฺวา รฺโ ิตฏฺาเน เจติยํ กาเรตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา นิวตฺติ. มหาสตฺโตปิ หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว ปฺจ อภิฺา จ, อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ปุน มนุสฺสปถํ นาคมิ. เทวีปิ อุสุกาเรน สทฺธึ กถิตฏฺาเน, กุมาริกาย สทฺธึ กถิตฏฺาเน, มํสปริโภคฏฺาเน, มิคาชิเนน สทฺธึ กถิตฏฺาเน, นารเทน สทฺธึ กถิตฏฺาเน จาติ สพฺพฏฺาเนสุ เจติยานิ กาเรตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา เสนงฺคปริวุตา มิถิลํ ปตฺวา อมฺพวนุยฺยาเน ปุตฺตสฺส อภิเสกํ กาเรตฺวา ตํ เสนงฺคปริวุตํ นครํ เปเสตฺวา สยํ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตตฺเถว อุยฺยาเน วสนฺตี กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายณา อโหสิ. มหาสตฺโตปิ อปริหีนชฺฌาโน หุตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สมุทฺทรกฺขิกา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, นารโท สาริปุตฺโต, มิคาชิโน โมคฺคลฺลาโน, กุมาริกา เขมา ภิกฺขุนี, อุสุกาโร อานนฺโท, สีวลิเทวี ราหุลมาตา, ทีฆาวุกุมาโร ราหุโล, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, มหาชนกนรินฺโท ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ’’นฺติ.

มหาชนกชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๔๐] ๓. สุวณฺณสามชาตกวณฺณนา

โก นุ มํ อุสุนา วิชฺฌีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิร อฏฺารสโกฏิวิภวสฺส เอกสฺส เสฏฺิกุลสฺส เอกปุตฺตโก อโหสิ มาตาปิตูนํ ปิโย มนาโป. โส เอกทิวสํ ปาสาทวรคโต สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา วีถึ โอโลเกนฺโต คนฺธมาลาทิหตฺถํ มหาชนํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย เชตวนํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อหมฺปิ ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา คนฺธมาลาทีนิ คาหาเปตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วตฺถเภสชฺชปานกาทีนิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาเปตฺวา คนฺธมาลาทีหิ จ ภควนฺตํ ปูเชตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ธมฺมํ สุตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ปพฺพชฺชาย จ อานิสํสํ สลฺลกฺเขตฺวา ปริสาย วุฏฺิตาย ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา ‘‘มาตาปิตูหิ อนนุฺาตํ ปุตฺตํ ตถาคตา นาม น ปพฺพาเชนฺตี’’ติ สุตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปุน เคหํ คนฺตฺวา สคารเวน มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา เอวมาห – ‘‘อมฺมตาตา, อหํ ตถาคตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. อถสฺส มาตาปิตโร ตสฺส วจนํ สุตฺวา เอกปุตฺตกภาเวน สตฺตธา ภิชฺชมานหทยา วิย ปุตฺตสิเนเหน กมฺปมานา เอวมาหํสุ ‘‘ตาต ปิยปุตฺตก, ตาต กุลงฺกุร, ตาต นยน, ตาต หทย, ตาต ปาณสทิส, ตยา วินา กถํ ชีวาม, ตยิ ปฏิพทฺธํ โน ชีวิตํ. มยฺหิ ตาต, ชราชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลกา, อชฺช วา สุเว วา ปรสุเว วา มรณํ ปาปุณิสฺสาม, ตสฺมา มา อมฺเห โอหาย คจฺฉสิ. ตาต, ปพฺพชฺชา นาม อติทุกฺกรา, สีเตน อตฺเถ สติ อุณฺหํ ลภติ, อุณฺเหน อตฺเถ สติ สีตํ ลภติ, ตสฺมา ตาต, มา ปพฺพชาหี’’ติ.

ตํ สุตฺวา กุลปุตฺโต ทุกฺขี ทุมฺมโน โอนตสีโส ปชฺฌายนฺโตว นิสีทิ สตฺตาหํ นิราหาโร. อถสฺส มาตาปิตโร เอวํ จินฺเตสุํ ‘‘สเจ โน ปุตฺโต อนนุฺาโต, อทฺธา มริสฺสติ, ปุน น ปสฺสิสฺสาม, ปพฺพชฺชาย ชีวมานํ ปุน นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. จินฺเตตฺวา จ ปน ‘‘ตาต ปิยปุตฺตก, ตํ ปพฺพชฺชาย อนุชานาม, ปพฺพชาหี’’ติ อนุชานึสุ. ตํ สุตฺวา กุลปุตฺโต ตุฏฺมานโส หุตฺวา อตฺตโน สกลสรีรํ โอณาเมตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา เอกํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ กุมารํ ปพฺพาเชหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ตํ ปพฺพาเชสิ. ตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย มหาลาภสกฺกาโร นิพฺพตฺติ. โส อาจริยุปชฺฌาเย อาราเธตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท ปฺจ วสฺสานิ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา ‘‘อหํ อิธ อากิณฺโณ วิหรามิ, น เม อิทํ ปติรูป’’นฺติ วิปสฺสนาธุรํ ปูเรตุกาโม หุตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อุปชฺฌายํ วนฺทิตฺวา เชตวนา นิกฺขมิตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ นิสฺสาย อรฺเ วิหาสิ. โส ตตฺถ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ทฺวาทส วสฺสานิ ฆเฏนฺโต วายมนฺโตปิ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. มาตาปิตโรปิสฺส คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ทุคฺคตา อเหสุํ. เย หิ เตสํ เขตฺตํ วา วณิชฺชํ วา ปโยเชสุํ, เต ‘‘อิมสฺมึ กุเล ปุตฺโต วา ภาตา วา อิณํ โจเทตฺวา คณฺหนฺโต นาม นตฺถี’’ติ อตฺตโน อตฺตโน หตฺถคตํ คเหตฺวา ยถารุจิ ปลายึสุ. เคเห ทาสกมฺมกราทโยปิ หิรฺสุวณฺณาทีนิ คเหตฺวา ปลายึสุ.

อปรภาเค ทฺเว ชนา กปณา หุตฺวา หตฺเถ อุทกสิฺจนมฺปิ อลภิตฺวา เคหํ วิกฺกิณิตฺวา อฆรา หุตฺวา การุฺภาวํ ปตฺตา ปิโลติกํ นิวาเสตฺวา กปาลหตฺถา ภิกฺขาย จรึสุ. ตสฺมึ กาเล เอโก ภิกฺขุ เชตวนโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ตสฺส วสนฏฺานํ อคมาสิ. โส ตสฺส อาคนฺตุกวตฺตํ กตฺวา สุขนิสินฺนกาเล ‘‘ภนฺเต, กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เชตวนา อาคโต อาวุโส’’ติ วุตฺเต สตฺถุโน เจว มหาสาวกาทีนฺจ อาโรคฺยํ ปุจฺฉิตฺวา มาตาปิตูนฺจ ปวตฺตึ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ภนฺเต, สาวตฺถิยํ อสุกสฺส นาม เสฏฺิกุลสฺส อาโรคฺย’’นฺติ? ‘‘อาวุโส, มา ตสฺส กุลสฺส ปวตฺตึ ปุจฺฉา’’ติ. ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อาวุโส, ตสฺส กิร กุลสฺส เอโก ปุตฺโต อตฺถิ, โส พุทฺธสาสเน ปพฺพชิโต, ตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย เอตํ กุลํ ปริกฺขีณํ, อิทานิ ทฺเว ชนา ปรมการุฺภาวํ ปตฺตา ภิกฺขาย จรนฺตี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ โรทิตุํ อารภิ. ‘‘อาวุโส, กึ โรทสี’’ติ? ‘‘ภนฺเต, เต มยฺหํ มาตาปิตโร, อหํ เตสํ ปุตฺโต’’ติ. ‘‘อาวุโส, ตว มาตาปิตโร ตํ นิสฺสาย วินาสํ ปตฺตา, คจฺฉ, เต ปฏิชคฺคาหี’’ติ.

โส ‘‘อหํ ทฺวาทส วสฺสานิ ฆเฏนฺโต วายมนฺโตปิ มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึ, อภพฺโพ ภวิสฺสามิ, กึ เม ปพฺพชฺชาย, คิหี หุตฺวา มาตาปิตโร โปเสตฺวา ทานํ ทตฺวา สคฺคปรายโณ ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อรฺาวาสํ ตสฺส เถรสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปุนทิวเส อรฺา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน คจฺฉนฺโต สาวตฺถิโต อวิทูเร เชตวนปิฏฺิวิหารํ ปาปุณิ. ตตฺถ ทฺเว มคฺคา อเหสุํ. เตสุ เอโก มคฺโค เชตวนํ คจฺฉติ, เอโก สาวตฺถึ. โส ตตฺเถว ตฺวา ‘‘กึ นุ โข ปมํ มาตาปิตโร ปสฺสามิ, อุทาหุ ทสพล’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยา มาตาปิตโร จิรํ ทิฏฺปุพฺพา, อิโต ปฏฺาย ปน เม พุทฺธทสฺสนํ ทุลฺลภํ ภวิสฺสติ, ตสฺมา อชฺชเมว สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา ธมฺมํ สุตฺวา สฺเว ปาโตว มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามี’’ติ สาวตฺถิมคฺคํ ปหาย สายนฺหสมเย เชตวนํ ปาวิสิ. ตํ ทิวสํ ปน สตฺถา ปจฺจูสกาเล โลกํ โอโลเกนฺโต อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ อทฺทส. โส ตสฺสาคมนกาเล มาตุโปสกสุตฺเตน (สํ. นิ. ๑.๒๐๕) มาตาปิตูนํ คุณํ วณฺเณสิ. โส ปน ภิกฺขุ ปริสปริยนฺเต ตฺวา สตฺถุสฺส ธมฺมกถํ สุณนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อหํ คิหี หุตฺวา มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกมีติ จินฺเตสึ, สตฺถา ปน ‘ปพฺพชิโตว สมาโน ปฏิชคฺคิโต อุปการโก มาตาปิตูน’นฺติ วทติ. สจาหํ สตฺถารํ อทิสฺวา คโต, เอวรูปาย ปพฺพชฺชาย ปริหีโน ภเวยฺยํ. อิทานิ ปน คิหี อหุตฺวา ปพฺพชิโตว สมาโน มาตาปิตโร โปเสสฺสามี’’ติ.

โส สลากคฺคํ คนฺตฺวา สลากภตฺตฺเจว สลากยาคุฺจ คณฺหิตฺวา ทฺวาทส วสฺสานิ อรฺเ วุตฺถภิกฺขุ ปาราชิกปฺปตฺโต วิย อโหสิ. โส ปาโตว สาวตฺถิยํ ปวิสิตฺวา ‘‘กึ นุ โข ปมํ ยาคุํ คณฺหิสฺสามิ, อุทาหุ มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กปณานํ มาตาปิตูนํ สนฺติกํ ตุจฺฉหตฺเถน คนฺตุํ อยุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ยาคุํ คเหตฺวา เอเตสํ โปราณกเคหทฺวารํ คโต. มาตาปิตโรปิสฺส ยาคุภิกฺขํ จริตฺวา ปรภิตฺตึ นิสฺสาย วิหรนฺติ. โส อุปคนฺตฺวา นิสินฺนเก ทิสฺวา อุปฺปนฺนโสโก อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ เตสํ อวิทูเร อฏฺาสิ. เต ตํ ทิสฺวาปิ น สฺชานึสุ. อถ มาตา ‘‘ภิกฺขตฺถาย ิโต ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทาตพฺพยุตฺตกํ นตฺถิ, อติจฺฉถา’’ติ อาห. โส ตสฺสา กถํ สุตฺวา หทยปูรํ โสกํ คเหตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ตตฺเถว อฏฺาสิ. ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ‘‘อติจฺฉถา’’ติ วุจฺจมาโนปิ อฏฺาสิเยว. อถสฺส ปิตา มาตรํ อาห – ‘‘คจฺฉ, ภทฺเท, ชานาหิ, ปุตฺโต นุ โข โน เอโส’’ติ. สา อุฏฺาย อุปคนฺตฺวา โอโลเกนฺตี สฺชานิตฺวา ปาทมูเล ปติตฺวา ปริเทวิ, ปิตาปิสฺส ตเถว อกาสิ, มหนฺตํ การุฺํ อโหสิ.

โสปิ มาตาปิตโร ทิสฺวา สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ. โส โสกํ อธิวาเสตฺวา ‘‘อมฺมตาตา, มา จินฺตยิตฺถ, อหํ โว โปเสสฺสามี’’ติ มาตาปิตโร อสฺสาเสตฺวา ยาคุํ ปาเยตฺวา เอกมนฺเต นิสีทาเปตฺวา ปุน ภิกฺขํ อาหริตฺวา เต โภเชตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุน ภตฺเตนาปุจฺฉิตฺวา ปจฺฉา สยํ ปริภุฺชติ. โส ตโต ปฏฺาย อิมินา นิยาเมน มาตาปิตโร ปฏิชคฺคติ. อตฺตนา ลทฺธานิ ปกฺขิกภตฺตาทีนิ เตสํเยว ทตฺวา สยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลภมาโน ภุฺชติ, อลภมาโน น ภุฺชติ, วสฺสาวาสิกมฺปิ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา เตสํเยว เทติ. เตหิ ปริภุตฺตํ ชิณฺณปิโลติกํ คเหตฺวา อคฺคฬํ ทตฺวา รชิตฺวา สยํ ปริภุฺชติ. ภิกฺขลภนทิวเสหิ ปนสฺส อลภนทิวสา พหู อเหสุํ. อถสฺส นิวาสนปารุปนํ อติลูขํ โหติ.

อิติ โส มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺโตเยว อปรภาเค กิโส อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต อโหสิ. อถ นํ สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา ภิกฺขู ปุจฺฉึสุ ‘‘อาวุโส, ปุพฺเพ ตว สรีรวณฺโณ โสภติ, อิทานิ ปน กิโส อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต, พฺยาธิ เต นุ โข อุปฺปนฺโน’’ติ. โส ‘‘นตฺถิ เม, อาวุโส, พฺยาธิ, อปิจ ปน ปลิโพโธ เม อตฺถี’’ติ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อถ นํ เต ภิกฺขู อาหํสุ ‘‘อาวุโส, ภควา สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตุํ น เทติ, ตฺวํ ปน สทฺธาเทยฺยํ คเหตฺวา คิหีนํ ททมาโน อยุตฺตํ กโรสี’’ติ. โส เตสํ กถํ สุตฺวา ลชฺชิโต โอลียิ. เต เอตฺตเกนปิ อสนฺตุฏฺา ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อสุโก นาม ภิกฺขุ สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตฺวา คิหี โปเสตี’’ติ สตฺถุ อาโรเจสุํ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ สทฺธาเทยฺยํ คเหตฺวา คิหี โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ตํ กิริยํ วณฺเณตุกาโม อตฺตโน จ ปุพฺพจริยํ ปกาเสตุกาโม ‘‘ภิกฺขุ, คิหี โปเสนฺโต เก โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มาตาปิตโร เม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต สตฺถา ตสฺส อุสฺสาหํ ชเนตุํ ‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขู’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาธุการํ ทตฺวา ‘‘ตฺวํ มม คตมคฺเค ิโต, อหมฺปิ ปุพฺพจริยํ จรนฺโต มาตาปิตโร โปเสสิ’’นฺติ อาห. โส อสฺสาสํ ปฏิลภิ. สตฺถา ตาย ปุพฺพจริยาย อาวิกรณตฺถํ เตหิ ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสินครโต อวิทูเร นทิยา โอริมตีเร เอโก เนสาทคาโม อโหสิ, ปาริมตีเร เอโก เนสาทคาโม. เอเกกสฺมึ คาเม ปฺจ ปฺจ กุลสตานิ วสนฺติ. ทฺวีสุปิ คาเมสุ ทฺเว เนสาทเชฏฺกา สหายกา อเหสุํ. เต ทหรกาเลเยว กติกวตฺตํ กรึสุ ‘‘สเจ อมฺเหสุ เอกสฺส ธีตา โหติ, เอกสฺส ปุตฺโต โหติ, เตสํ อาวาหวิวาหํ กริสฺสามา’’ติ. อถ โอริมตีเร คามเชฏฺกสฺส เคเห ปุตฺโต ชายิ, ชาตกฺขเณเยว ทุกูเลน ปฏิคฺคหิตตฺตา ‘‘ทุกูโล’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. อิตรสฺส เคเห ธีตา ชายิ, ตสฺสา ปรตีเร ชาตตฺตา ‘‘ปาริกา’’ติ นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ อภิรูปา ปาสาทิกา อเหสุํ สุวณฺณวณฺณา. เต เนสาทกุเล ชาตาปิ ปาณาติปาตํ นาม น กรึสุ.

อปรภาเค โสฬสวสฺสุทฺเทสิกํ ทุกูลกุมารํ มาตาปิตโร อาหํสุ ‘‘ปุตฺต, กุมาริกํ เต อานยิสฺสามา’’ติ. โส ปน พฺรหฺมโลกโต อาคโต สุทฺธสตฺโต อุโภ กณฺเณ ปิธาย ‘‘น เม ฆราวาเสนตฺโถ อมฺมตาตา, มา เอวรูปํ อวจุตฺถา’’ติ วตฺวา ยาวตติยํ วุจฺจมาโนปิ น อิจฺฉิเยว. ปาริกาปิ มาตาปิตูหิ ‘‘อมฺม, อมฺหากํ สหายกสฺส ปุตฺโต อตฺถิ, โส อภิรูโป สุวณฺณวณฺโณ, ตสฺส ตํ ทสฺสามา’’ติ วุตฺตา ตเถว วตฺวา อุโภ กณฺเณ ปิทหิ. สาปิ พฺราหฺมโลกโต อาคตา ฆราวาสํ น อิจฺฉิ. ทุกูลกุมาโร ปน ตสฺสา รหสฺเสน สาสนํ ปหิณิ ‘‘สเจ ปาริเก เมถุนธมฺเมน อตฺถิกา, อฺสฺส เคหํ คจฺฉตุ, มยฺหํ เมถุนธมฺเม ฉนฺโท นตฺถี’’ติ. สาปิ ตสฺส ตเถว สาสนํ เปเสสิ.

อถ มาตาปิตโร เตสํ อนิจฺฉมานานฺเว อาวาหวิวาหํ กรึสุ. เต อุโภปิ กิเลสสมุทฺทํ อโนตริตฺวา ทฺเว มหาพฺรหฺมาโน วิย เอกโตว วสึสุ. ทุกูลกุมาโร ปน มจฺฉํ วา มิคํ วา น มาเรติ, อนฺตมโส อาหฏมํสมฺปิ น วิกฺกิณาติ. อถ นํ มาตาปิตโร วทึสุ ‘‘ตาต, ตฺวํ เนสาทกุเล นิพฺพตฺติตฺวาปิ เนว ฆราวาสํ อิจฺฉสิ, น ปาณวธํ กโรสิ, กึ นาม กมฺมํ กริสฺสสี’’ติ? ‘‘อมฺมตาตา, ตุมฺเหสุ อนุชานนฺเตสุ มยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. ตํ สุตฺวา มาตาปิตโร ‘‘เตน หิ ปพฺพชถา’’ติ ทฺเว ชเน อนุชานึสุ. เต ตุฏฺหฏฺา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา คามโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน คงฺคาตีเรน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ยสฺมึ าเน มิคสมฺมตา นาม นที หิมวนฺตโต โอตริตฺวา คงฺคํ ปตฺตา, ตํ านํ คนฺตฺวา คงฺคํ ปหาย มิคสมฺมตาภิมุขา อภิรุหึสุ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก โอโลเกนฺโต ตํ การณํ ตฺวา วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต วิสฺสกมฺม, ทฺเว มหาปุริสา คามา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิฏฺา, เตสํ นิวาสฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, มิคสมฺมตานทิยา อฑฺฒโกสนฺตเร เอเตสํ ปณฺณสาลฺจ ปพฺพชิตปริกฺขาเร จ มาเปตฺวา เอหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มูคปกฺขชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑ อาทโย) วุตฺตนเยเนว สพฺพํ สํวิทหิตฺวา อมนาปสทฺเท มิคปกฺขิโน ปลาเปตฺวา เอกปทิกํ ชงฺฆมคฺคํ มาเปตฺวา สกฏฺานเมว คโต. เตปิ ตํ มคฺคํ ทิสฺวา เตน มคฺเคน คนฺตฺวา ตํ อสฺสมปทํ ปาปุณึสุ. ทุกูลปณฺฑิโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทิสฺวา ‘‘สกฺเกน มยฺหํ ทินฺนา’’ติ สกฺกทตฺติยภาวํ ตฺวา สาฏกํ โอมุฺจิตฺวา รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อชินจมฺมํ อํเส กตฺวา ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา อิสิเวสํ คเหตฺวา ปาริกายปิ ปพฺพชฺชํ อทาสิ. อุโภปิ กามาวจรเมตฺตํ ภาเวตฺวา ตตฺถ วสึสุ. เตสํ เมตฺตานุภาเวน สพฺเพปิ มิคปกฺขิโน อฺมฺํ เมตฺตจิตฺตเมว ปฏิลภึสุ, น โกจิ กฺจิ วิเหเสิ. ปาริกา ตโต ปฏฺาย ปานียํ ปริโภชนียํ อาหรติ, อสฺสมปทํ สมฺมชฺชติ, สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. อุโภปิ ผลาผลานิ อาหริตฺวา ปริภุฺชิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตา ตตฺถ วาสํ กปฺปยึสุ.

สกฺโก เตสํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉติ. โส เอกทิวสํ อนุโอโลเกนฺโต ‘‘อิเมสํ จกฺขูนิ ปริหายิสฺสนฺตี’’ติ อนฺตรายํ ทิสฺวา ทุกูลปณฺฑิตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ อนฺตราโย ปฺายติ, ปฏิชคฺคนกํ ปุตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, โลกธมฺมํ ปฏิเสวถา’’ติ. อถ นํ ทุกูลปณฺฑิโต อาห – ‘‘สกฺก, กินฺนาเมตํ กเถสิ, มยํ อคารมชฺเฌ วสนฺตาปิ เอตํ โลกธมฺมํ ปุฬวกคูถราสึ วิย ชิคุจฺฉิมฺหา, อิทานิ ปน อรฺํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กถํ เอวรูปํ กริสฺสามา’’ติ. อถ สกฺโก ตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, สเจ เอวํ น กโรถ, ปาริกาย ตาปสิยา อุตุนิกาเล นาภึ หตฺเถน ปรามเสยฺยาถา’’ติ. ทุกูลปณฺฑิโต ‘‘อิทํ สกฺกา กาตุ’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉิ. สกฺโก ตํ วนฺทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต.

ทุกูลปณฺฑิโตปิ ตํ การณํ ปาริกาย อาจิกฺขิตฺวา อสฺสา อุตุนิกาเล นาภึ หตฺเถน ปรามสิ. ตทา โพธิสตฺโต เทวโลกโต จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ทสมาสจฺจเยน สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ, เตเนวสฺส ‘‘สุวณฺณสาโม’’ติ นามํ กรึสุ. ปาริกาย ผลาผลตฺถาย วนํ คตกาเล ปพฺพตนฺตเร กินฺนริโย ธาติกิจฺจํ กรึสุ. เต อุโภปิ โพธิสตฺตํ นฺหาเปตฺวา ปณฺณสาลายํ นิปชฺชาเปตฺวา ผลาผลตฺถาย อรฺํ คจฺฉนฺติ. ตสฺมึ ขเณ กินฺนรา กุมารํ คเหตฺวา คิริกนฺทราทีสุ นฺหาเปตฺวา ปพฺพตมตฺถกํ อารุยฺห นานาปุปฺเผหิ อลงฺกริตฺวา หริตาลมโนสิลาทีนิ สิลายํ ฆํสิตฺวา นลาเฏ ติลเก กตฺวา ปุน อาเนตฺวา ปณฺณสาลายํ นิปชฺชาเปสุํ. ปาริกาปิ อาคนฺตฺวา ปุตฺตํ ถฺํ ปาเยสิ. ตํ อปรภาเค วฑฺฒิตฺวา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกมฺปิ อนุรกฺขนฺตา มาตาปิตโร ปณฺณสาลายํ นิสีทาเปตฺวา สยเมว วนมูลผลาผลตฺถาย วนํ คจฺฉนฺติ. มหาสตฺโต ‘‘มม มาตาปิตูนํ กทาจิ โกจิเทว อนฺตราโย ภเวยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา เตสํ คตมคฺคํ สลฺลกฺเขสิ.

อเถกทิวสํ เตสํ วนมูลผลาผลํ อาทาย สายนฺหสมเย นิวตฺตนฺตานํ อสฺสมปทโต อวิทูเร มหาเมโฆ อุฏฺหิ. เต เอกํ รุกฺขมูลํ ปวิสิตฺวา วมฺมิกมตฺถเก อฏฺํสุ. ตสฺส จ อพฺภนฺตเร อาสีวิโส อตฺถิ. เตสํ สรีรโต เสทคนฺธมิสฺสกํ อุทกํ โอตริตฺวา ตสฺส นาสาปุฏํ ปาวิสิ. โส กุชฺฌิตฺวา นาสาวาเตน ปหริ. ทฺเวปิ อนฺธา หุตฺวา อฺมฺํ น ปสฺสึสุ. ทุกูลปณฺฑิโต ปาริกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ปาริเก มม จกฺขูนิ ปริหีนานิ, อหํ ตํ น ปสฺสามี’’ติ อาห. สาปิ ตเถว อาห. เต ‘‘นตฺถิ โน อิทานิ ชีวิต’’นฺติ มคฺคํ อปสฺสนฺตา ปริเทวมานา อฏฺํสุ. ‘‘กึ ปน เตสํ ปุพฺพกมฺม’’นฺติ? เต กิร ปุพฺเพ เวชฺชกุเล อเหสุํ. อถ โส เวชฺโช เอกสฺส มหาธนสฺส ปุริสสฺส อกฺขิโรคํ ปฏิชคฺคิ. โส ตสฺส กิฺจิ ธนํ น อทาสิ. อถ เวชฺโช กุชฺฌิตฺวา อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ภริยาย อาโรเจตฺวา ‘‘ภทฺเท, อหํ ตสฺส อกฺขิโรคํ ปฏิชคฺคามิ, อิทานิ มยฺหํ ธนํ น เทติ, กึ กโรมา’’ติ อาห. สาปิ กุชฺฌิตฺวา ‘‘น โน ตสฺส สนฺตเกนตฺโถ, เภสชฺชํ ตสฺส เอกโยคํ ทตฺวา อกฺขีนิ กาณานิ กโรหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. โส นจิรสฺเสว อนฺโธ โหติ. เตสํ อุภินฺนมฺปิ อิมินา กมฺเมน จกฺขูนิ อนฺธานิ ชายึสุ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘มม มาตาปิตโร อฺเสุ ทิวเสสุ อิมาย เวลาย อาคจฺฉนฺติ, อิทานิ เตสํ ปวตฺตึ น ชานามิ, ปฏิมคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มคฺคํ คนฺตฺวา สทฺทมกาสิ. เต ตสฺส สทฺทํ สฺชานิตฺวา ปฏิสทฺทํ กริตฺวา ปุตฺตสิเนเหน ‘‘ตาต สุวณฺณสาม, อิธ ปริปนฺโถ อตฺถิ, มา อาคมี’’ติ วทึสุ. อถ เนสํ ‘‘เตน หิ อิมํ ลฏฺิโกฏึ คเหตฺวา มม สนฺติกํ เอถา’’ติ ทีฆลฏฺึ อทาสิ. เต ลฏฺิโกฏึ คเหตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อาคมึสุ. อถ เน ‘‘เกน การเณน โว จกฺขูนิ วินฏฺานี’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ มาตาปิตโร อาหํสุ ‘‘ตาต, มยํ เทเว วสฺสนฺเต อิธ รุกฺขมูเล วมฺมิกมตฺถเก ิตา, เตน การเณนา’’ติ. โส มาตาปิตูนํ กถํ สุตฺวาว อฺาสิ ‘‘ตตฺถ อาสีวิเสน ภวิตพฺพํ, เตน กุทฺเธน นาสาวาโต วิสฺสฏฺโ ภวิสฺสตี’’ติ. โส มาตาปิตโร ทิสฺวา โรทิ เจว หสิ จ. อถ นํ เต ปุจฺฉึสุ ‘‘กสฺมา, ตาต, โรทสิ เจว หสสิ จา’’ติ? อมฺมตาตา, ‘‘ตุมฺหากํ ทหรกาเลเยว เอวํ จกฺขูนิ วินฏฺานี’’ติ โรทึ, ‘‘อิทานิ ปฏิชคฺคิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ หสึ. อมฺมตาตา, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, อหํ โว ปฏิชคฺคิสฺสามีติ.

โส มาตาปิตโร อสฺสาเสตฺวา อสฺสมปทํ อาเนตฺวา เตสํ รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ จงฺกเม ปณฺณสาลายํ วจฺจฏฺาเน ปสฺสาวฏฺาเน จาติ สพฺพฏฺาเนสุ รชฺชุเก พนฺธิ, ตโต ปฏฺาย เต อสฺสมปเท เปตฺวา สยํ วนมูลผลาทีนิ อาหริตฺวา ปณฺณสาลายํ เปตฺวา ปาโตว เตสํ วสนฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ฆฏํ อาทาย มิคสมฺมตานทึ คนฺตฺวา ปานียปริโภชนียํ อาหริตฺวา อุปฏฺาเปติ, ทนฺตกฏฺมุโขทกาทีนิ ทตฺวา มธุรผลาผลํ เทติ, เตหิ ภุฺชิตฺวา มุเข วิกฺขาลิเต สยํ ขาทิตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา มิคคณปริวุโต ผลาผลตฺถาย อรฺํ ปาวิสิ. ปพฺพตปาเท กินฺนรปริวาโร ผลาผลํ คเหตฺวา สายนฺหสมเย อาคนฺตฺวา ฆเฏน อุทกํ อาหริตฺวา อุณฺโหทเกน เตสํ ยถารุจิ นฺหาปนํ ปาทโธวนํ วา กตฺวา องฺคารกปลฺลํ อุปเนตฺวา หตฺถปาเท เสเทตฺวา เตสํ นิสินฺนานํ ผลาผลํ ทตฺวา ขาทาเปตฺวา ปริโยสาเน สยํ ขาทิตฺวา เสสกํ เปสิ. อิมินา นิยาเมเนว มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิ.

ตสฺมึ สมเย พาราณสิยํ ปีฬิยกฺโข นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. โส มิคมํสโลเภน มาตรํ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา มิเค วธิตฺวา มํสํ ขาทนฺโต มิคสมฺมตานทึ ปตฺวา อนุปุพฺเพน สามสฺส ปานียคฺคหณติตฺถํ สมฺปตฺโต มิคปทวลฺชํ ทิสฺวา มณิวณฺณาหิ สาขาหิ โกฏฺกํ กตฺวา ธนุํ อาทาย วิสปีตํ สรํ สนฺนหิตฺวา นิลีโนว อจฺฉิ. มหาสตฺโตปิ สายนฺหสมเย ผลาผลํ อาหริตฺวา อสฺสมปเท เปตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ‘‘ปานียํ อาหริสฺสามี’’ติ ฆฏํ คเหตฺวา มิคคณปริวุโต ทฺเวปิ มิเค เอกโต กตฺวา เตสํ ปิฏฺิยํ ปานียฆฏํ เปตฺวา หตฺเถน คเหตฺวา นทีติตฺถํ อคมาสิ. ราชา โกฏฺเก ิโตว ตํ ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยา เอตฺตกํ กาลํ เอวํ วิจรนฺเตนปิ มนุสฺโส นาม น ทิฏฺปุพฺโพ, เทโว นุ โข เอส นาโค นุ โข, สเจ ปนาหํ เอตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสามิ. เทโว เจ ภวิสฺสติ, อากาสํ อุปฺปติสฺสติ. นาโค เจ, ภูมิยํ ปวิสิสฺสติ. น โข ปนาหํ สพฺพกาลํ หิมวนฺเตเยว วิจริสฺสามิ, พาราณสึ คมิสฺสามิ. ตตฺร มํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ ‘อปิ นุ โข เต, มหาราช, หิมวนฺเต วสนฺเตน กิฺจิ อฉริยํ ทิฏฺปุพฺพ’นฺติ? ตตฺราหํ ‘เอวรูโป เม สตฺโต ทิฏฺปุพฺโพ’ติ วกฺขามิ. ‘โก นาเมโส’ติ วุตฺเต สเจ ‘น ชานามี’ติ วกฺขามิ, อถ ครหิสฺสนฺติ มํ, ตสฺมา เอตํ วิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

อถ เตสุ มิเคสุ ปมเมว โอตริตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา อุตฺติณฺเณสุ โพธิสตฺโต อุคฺคหิตวตฺโต มหาเถโร วิย สณิกํ โอตริตฺวา ปสฺสทฺธทรโถ ปจฺจุตฺตริตฺวา รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อชินจมฺมํ อํเส กตฺวา ปานียฆฏํ อุกฺขิปิตฺวา อุทกํ ปุฺฉิตฺวา วามอํสกูเฏ เปสิ. ตสฺมึ กาเล ‘‘อิทานิ วิชฺฌิตุํ สมโย’’ติ ราชา วิสปีตํ สรํ อุกฺขิปิตฺวา มหาสตฺตํ ทกฺขิณปสฺเส วิชฺฌิ, สโร วามปสฺเสน นิกฺขมิ. ตสฺส วิทฺธภาวํ ตฺวา มิคคณา ภีตา ปลายึสุ. สุวณฺณสามปณฺฑิโต ปน วิทฺโธปิ ปานียฆฏํ ยถา วา ตถา วา อนวสุมฺภิตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา สณิกํ โอตาเรตฺวา วาลุกํ วิยูหิตฺวา เปตฺวา ทิสํ ววตฺถเปตฺวา มาตาปิตูนํ วสนฏฺานทิสาภาเคน สีสํ กตฺวา รชตปฏฺฏวณฺณาย วาลุกาย สุวณฺณปฏิมา วิย นิปชฺชิตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ หิมวนฺตปฺปเทเส มม เวรี นาม นตฺถิ, มยฺหํ มาตาปิตูนฺจ เวรี นาม นตฺถี’’ติ มุเขน โลหิตํ ฉฑฺเฑตฺวา ราชานํ อทิสฺวาว ปมํ คาถมาห –

๒๙๖.

‘‘โก นุ มํ อุสุนา วิชฺฌิ, ปมตฺตํ อุทหารกํ;

ขตฺติโย พฺราหฺมโณ เวสฺโส, โก มํ วิทฺธา นิลียสี’’ติ.

ตตฺถ ปมตฺตนฺติ เมตฺตาภาวนาย อนุปฏฺิตสตึ. อิทฺหิ โส สนฺธาย ตสฺมึ ขเณ อตฺตานํ ปมตฺตํ นาม อกาสิ. วิทฺธาติ วิชฺฌิตฺวา.

เอวฺจ ปน วตฺวา ปุน อตฺตโน สรีรมํสสฺส อภกฺขสมฺมตภาวํ ทสฺเสตุํ ทุติยํ คาถมาห –

๒๙๗.

‘‘น เม มํสานิ ขชฺชานิ, จมฺเมนตฺโถ น วิชฺชติ;

อถ เกน นุ วณฺเณน, วิทฺเธยฺยํ มํ อมฺถา’’ติ.

ทุติยคาถํ วตฺวา ตเมว นามาทิวเสน ปุจฺฉนฺโต อาห –

๒๙๘.

‘‘โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ มํ วิทฺธา นิลียสี’’ติ.

ตตฺถ อมฺถาติ อยํ ปุริโส เกน การเณน มํ วิชฺฌิตพฺพนฺติ อมฺิตฺถาติ อตฺโถ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ มยา วิสปีเตน สลฺเลน วิชฺฌิตฺวา ปาติโตปิ เนว มํ อกฺโกสติ น ปริภาสติ, มม หทยํ สมฺพาหนฺโต วิย ปิยวจเนน สมุทาจรติ, คจฺฉิสฺสามิสฺส สนฺติก’’นฺติ จินฺเตตฺวา คนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก ิโตว ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๙๙.

‘‘ราชาหมสฺมิ กาสีนํ, ปีฬิยกฺโขติ มํ วิทู;

โลภา รฏฺํ ปหิตฺวาน, มิคเมสํ จรามหํ.

๓๐๐.

‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;

นาโคปิ เม น มุจฺเจยฺย, อาคโต อุสุปาตน’’นฺติ.

ตตฺถ ราชาหมสฺมีติ เอวํ กิรสฺส วิตกฺโก อโหสิ ‘‘เทวาปิ นาคาปิ มนุสฺสภาสาย กเถนฺติเยว, อหเมตํ เทโวติ วา นาโคติ วา มนุสฺโสติ วา น ชานามิ. สเจ กุชฺเฌยฺย, นาเสยฺย มํ, ‘ราชา’ติ วุตฺเต ปน อภายนฺโต นาม นตฺถี’’ติ. ตสฺมา อตฺตโน ราชภาวํ ชานาเปตุํ ปมํ ‘‘ราชาหมสฺมี’’ติ อาห. โลภาติ มิคมํสโลเภน. มิคเมสนฺติ มิคํ เอสนฺโต. จรามหนฺติ จรามิ อหํ. ทุติยํ คาถํ ปน อตฺตโน พลํ ทีเปตุกาโม เอวมาห. ตตฺถ อิสฺสตฺเถติ ธนุสิปฺเป. ทฬฺหธมฺโมติ ทฬฺหธนุํ สหสฺสตฺถามธนุํ โอโรเปตุฺจ อาโรเปตุฺจ สมตฺโถ.

อิติ ราชา อตฺตโน พลํ วณฺเณตฺวา ตสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉนฺโต อาห –

๓๐๑.

‘‘โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ;

ปิตุโน อตฺตโน จาปิ, นามโคตฺตํ ปเวทยา’’ติ.

ตตฺถ ปเวทยาติ กถย.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ‘เทวนาคกินฺนรขตฺติยาทีสุ อฺตโรหมสฺมี’ติ กเถยฺยํ, สทฺทเหยฺเยว เอส, สจฺจเมว ปนสฺส กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห –

๓๐๒.

‘‘เนสาทปุตฺโต ภทฺทนฺเต, สาโม อิติ มํ าตโย;

อามนฺตยึสุ ชีวนฺตํ, สฺวชฺเชวาหํ คโต สเย.

๓๐๓.

‘‘วิทฺโธสฺมิ ปุถุสลฺเลน, สวิเสน ยถา มิโค;

สกมฺหิ โลหิเต ราช, ปสฺส เสมิ ปริปฺลุโต.

๓๐๔.

‘‘ปฏิวามคตํ สลฺลํ, ปสฺส ธิมฺหามิ โลหิตํ;

อาตุโร ตฺยานุปุจฺฉามิ, กึ มํ วิทฺธา นิลียสิ.

๓๐๕.

‘‘อชินมฺหิ หฺเต ทีปิ, นาโค ทนฺเตหิ หฺเต;

อถ เกน นุ วณฺเณน, วิทฺเธยฺยํ มํ อมฺถา’’ติ.

ตตฺถ ชีวนฺตนฺติ มํ อิโต ปุพฺเพ ชีวมานํ ‘‘เอหิ สาม, ยาหิ สามา’’ติ าตโย อามนฺตยึสุ. สฺวชฺเชวาหํ คโตติ โส อหํ อชฺช เอวํ คโต มรณมุเข สมฺปตฺโต, ปวิฏฺโติ อตฺโถ. สเยติ สยามิ. ปริปฺลุโตติ นิมุคฺโค. ปฏิวามคตนฺติ ทกฺขิณปสฺเสน ปวิสิตฺวา วามปสฺเสน นิคฺคตนฺติ อตฺโถ. ปสฺสาติ โอโลเกหิ มํ. ธิมฺหามีติ นิฏฺุภามิ, อิทํ โส สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา อวิกมฺปมาโนว โลหิตํ มุเขน ฉฑฺเฑตฺวา อาห. อาตุโร ตฺยานุปุจฺฉามี’’ติ พาฬฺหคิลาโน หุตฺวา อหํ ตํ อนุปุจฺฉามิ. นิลียสีติ เอตสฺมึ วนคุมฺเพ นิลีโน อจฺฉสิ. วิทฺเธยฺยนฺติ วิชฺฌิตพฺพํ. อมฺถาติ อมฺิตฺถ.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ยถาภูตํ อนาจิกฺขิตฺวา มุสาวาทํ กเถนฺโต อาห –

๓๐๖.

‘‘มิโค อุปฏฺิโต อาสิ, อาคโต อุสุปาตนํ;

ตํ ทิสฺวา อุพฺพิชี สาม, เตน โกโธ มมาวิสี’’ติ.

ตตฺถ อาวิสีติ อชฺโฌตฺถริ. เตน การเณน เม โกโธ อุปฺปนฺโนติ ทีเปติ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘กึ วเทสิ, มหาราช, อิมสฺมึ หิมวนฺเต มํ ทิสฺวา ปลายนมิโค นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อาห –

๓๐๗.

‘‘ยโต สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;

น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรฺเ สาปทานิปิ.

๓๐๘.

‘‘ยโต นิธึ ปริหรึ, ยโต ปตฺโตสฺมิ โยพฺพนํ;

น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรฺเ สาปทานิปิ.

๓๐๙.

‘‘ภีรู กิมฺปุริสา ราช, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;

สมฺโมทมานา คจฺฉาม, ปพฺพตานิ วนานิ จ.

๓๑๐.

‘‘น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรฺเ สาปทานิปิ;

อถ เกน นุ วณฺเณน, อุตฺราสนฺติ มิคา มม’’นฺติ.

ตตฺถ น มํ มิคาติ โภ มหาราช, ยโต กาลโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, ยโต กาลโต ปฏฺาย อหํ วิฺุภาวํ ปตฺโต อสฺมิ ภวามิ, ตโต กาลโต ปฏฺาย มํ ทิสฺวา มิคา นาม น อุตฺตสนฺติ. สาปทานิปีติ วาฬมิคาปิ. ยโต นิธินฺติ ยโต กาลโต ปฏฺาย อหํ วากจีรํ ปริหรึ. ภีรู กิมฺปุริสาติ มหาราช, มิคา ตาว ติฏฺนฺตุ, กิมฺปุริสา นาม อติภีรุกา โหนฺติ. เย อิมสฺมึ คนฺธมาทนปพฺพเต วิหรนฺติ, เตปิ มํ ทิสฺวา น อุตฺตสนฺติ, อถ โข มยํ อฺมฺํ สมฺโมทมานา คจฺฉาม. อุตฺราสนฺติ มิคา มมนฺติ มมํ ทิสฺวา มิคา อุตฺราเสยฺยุํ, เกน การเณน ตฺวํ มํ สทฺทหาเปสฺสสีติ ทีเปติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มยา อิมํ นิรปราธํ วิชฺฌิตฺวา มุสาวาโท กถิโต, สจฺจเมว กถยิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๓๑๑.

‘‘น ตํ ตส มิโค สาม, กึ ตาหํ อลิกํ ภเณ;

โกธโลภาภิภูตาหํ, อุสุํ เต ตํ อวสฺสชิ’’นฺติ.

ตตฺถ น ตํ ตสาติ น ตํ ทิสฺวา มิโค ตส, น ภีโตติ อตฺโถ. กึ ตาหนฺติ กึ เต เอวํ กลฺยาณทสฺสนสฺส สนฺติเก อหํ อลิกํ ภณิสฺสามิ. โกธโลภาภิภูตาหนฺติ โกเธน จ โลเภน จ อภิภูโต หุตฺวา อหํ. โส หิ ปมเมว มิเคสุ อุปฺปนฺเนน โกเธน ‘‘มิเค วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ธนุํ อาโรเปตฺวา ิโต ปจฺฉา โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ตสฺส เทวตาทีสุ อฺตรภาวํ อชานนฺโต ‘‘ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ โลภํ อุปฺปาเทสิ, ตสฺมา เอวมาห.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘นายํ สุวณฺณสาโม อิมสฺมึ อรฺเ เอกโกว วสิสฺสติ, าตเกหิปิสฺส ภวิตพฺพํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๓๑๒.

‘‘กุโต นุ สาม อาคมฺม, กสฺส วา ปหิโต ตุวํ;

‘อุทหาโร นทึ คจฺฉ’, อาคโต มิคสมฺมต’’นฺติ.

ตตฺถ สามาติ มหาสตฺตํ อาลปติ. อาคมฺมาติ กุโต เทสา อิมํ วนํ อาคมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อุทหาโร อุทกํ อาหริตุํ นทึ คจฺฉา’’ติ กสฺส วา ปหิโตเกน ปุคฺคเลน เปสิโต หุตฺวา ตุวํ อิมํ มิคสมฺมตํ อาคโตติ อตฺโถ.

โส ตสฺส กถํ สุตฺวา มหนฺตํ ทุกฺขเวทนํ อธิวาเสตฺวา มุเขน โลหิตํ ฉฑฺเฑตฺวา คาถมาห –

๓๑๓.

‘‘อนฺธา มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรามิ พฺรหาวเน;

เตสาหํ อุทกาหาโร, อาคโต มิคสมฺมต’’นฺติ.

ตตฺถ ภรามีติ มูลผลาทีนิ อาหริตฺวา โปเสมิ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต มาตาปิตโร อารพฺภ วิลปนฺโต อาห –

๓๑๔.

‘‘อตฺถิ เนสํ อุสามตฺตํ, อถ สาหสฺส ชีวิตํ;

อุทกสฺส อลาเภน, มฺเ อนฺธา มริสฺสเร.

๓๑๕.

‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;

ยฺจ อมฺมํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโต.

๓๑๖.

‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;

ยฺจ ตาตํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโต.

๓๑๗.

‘‘สา นูน กปณา อมฺมา, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;

อฑฺฒรตฺเตว รตฺเต วา, นทีว อวสุจฺฉติ.

๓๑๘.

‘‘โส นูน กปโณ ตาโต, จิรรตฺตาย รุจฺฉติ;

อฑฺฒรตฺเตว รตฺเต วา, นทีว อวสุจฺฉติ.

๓๑๙.

‘‘อุฏฺานปาทจริยาย, ปาทสมฺพาหนสฺส จ;

สาม ตาตวิลปนฺตา, หิณฺฑิสฺสนฺติ พฺรหาวเน.

๓๒๐.

อิทมฺปิ ทุติยํ สลฺลํ, กมฺเปติ หทยํ มมํ;

ยฺจ อนฺเธ น ปสฺสามิ, มฺเ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ อุสามตฺตนฺติ โภชนมตฺตํ. ‘‘อุสา’’ติ หิ โภชนสฺส นามํ ตสฺส จ อตฺถิตาย. สาหสฺส ชีวิตนฺติ ฉทิวสมตฺตํ ชีวิตนฺติ อตฺโถ. อิทํ อาหริตฺวา ปิตํ ผลาผลํ สนฺธายาห. อถ วา อุสาติ อุสฺมา. เตเนตํ ทสฺเสติ – เตสํ สรีเร อุสฺมามตฺตํ อตฺถิ, อถ มยา อาภเตน ผลาผเลน สาหสฺส ชีวิตํ อตฺถีติ. มริสฺสเรติ มริสฺสนฺตีติ มฺามิ. ปุมุนาติ ปุริเสน, เอวรูปฺหิ ทุกฺขํ ปุริเสน ลภิตพฺพเมวาติ อตฺโถ. จิรรตฺตาย รุจฺฉตีติ จิรรตฺตํ โรทิสฺสติ. อฑฺฒรตฺเต วาติ มชฺฌิมรตฺเต วา. รตฺเต วาติ ปจฺฉิมรตฺเต วา. อวสุจฺฉตีติ กุนฺนที วิย สุสฺสิสฺสตีติ อตฺโถ. อุฏฺานปาทจริยายาติ มหาราช, อหํ รตฺติมฺปิ ทิวาปิ ทฺเว ตโย วาเร อุฏฺาย อตฺตโน อุฏฺานวีริเยน เตสํ ปาทจริยํ กโรมิ, หตฺถปาเท สมฺพาหามิ, อิทานิ มํ อทิสฺวา มมตฺถาย เต ปริหีนจกฺขุกา ‘‘สามตาตา’’ติ วิลปนฺตา กณฺฏเกหิ วิชฺฌิยมานา วิย อิมสฺมึ วนปฺปเทเส หิณฺฑิสฺสนฺติ วิจริสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทุติยํ สลฺลนฺติ ปมวิทฺธวิสปีตสลฺลโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน ทุกฺขตรํ อิทํ ทุติยํ เตสํ อทสฺสนโสกสลฺลํ.

ราชา ตสฺส วิลาปํ สุตฺวา ‘‘อยํ อจฺจนฺตํ พฺรหฺมจารี ธมฺเม ิโต มาตาปิตโร ภรติ, อิทานิ เอวํ ทุกฺขปฺปตฺโตปิ เตสํเยว วิลปติ, เอวํ คุณสมฺปนฺเน นาม มยา อปราโธ กโต, กถํ นุ โข อิมํ สมสฺสาเสยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘นิรเย ปจฺจนกาเล รชฺชํ กึ กริสฺสติ, อิมินา ปฏิชคฺคิตนิยาเมเนวสฺส มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิสฺสามิ, อิมสฺส มรณมฺปิ อมรณํ วิย ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา อาห –

๓๒๑.

‘‘มา พาฬฺหํ ปริเทเวสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;

อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเน.

๓๒๒.

‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;

อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเน.

๓๒๓.

‘‘มิคานํ วิฆาสมนฺเวสํ, วนมูลผลานิ จ;

อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเน.

๓๒๔.

‘‘กตมํ ตํ วนํ สาม, ยตฺถ มาตาปิตา ตว;

อหํ เต ตถา ภริสฺสํ, ยถา เต อภรี ตุว’’นฺติ.

ตตฺถ ภริสฺสํ เตติ เต ตว มาตาปิตโร ภริสฺสามิ. มิคานนฺติ สีหาทีนํ มิคานํ วิฆาสํ อนฺเวสนฺโต. อิทํ โส ‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโลติ ถูลถูเล มิเค วธิตฺวา มธุรมํเสน ตว มาตาปิตโร ภริสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘มา, มหาราช, อมฺเห นิสฺสาย ปาณวธํ กรี’’ติ วุตฺเต เอวมาห. ยถา เตติ ยถา ตฺวํ เต อภริ, ตเถวาหมฺปิ ภริสฺสามีติ.

อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘สาธุ, มหาราช, เตน หิ เม มาตาปิตโร ภรสฺสู’’ติ วตฺวา มคฺคํ อาจิกฺขนฺโต อาห –

๓๒๕.

‘‘อยํ เอกปที ราช, โยยํ อุสฺสีสเก มม;

อิโต คนฺตฺวา อฑฺฒโกสํ, ตตฺถ เนสํ อคารกํ;

ยตฺถ มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรสฺสุ อิโต คโต’’ติ.

ตตฺถ เอกปทีติ เอกปทมคฺโค. อุสฺสีสเกติ โย เอส มม มตฺถกฏฺาเน. อฑฺฒโกสนฺติ อฑฺฒโกสนฺตเร.

เอวํ โส ตสฺส มคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา มาตาปิตูสุ พลวสิเนเหน ตถารูปํ เวทนํ อธิวาเสตฺวา เตสํ ภรณตฺถาย อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจนฺโต ปุน เอวมาห –

๓๒๖.

‘‘นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;

อนฺธา มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรสฺสุ พฺรหาวเน.

๓๒๗.

‘‘อฺชลึ เต ปคฺคณฺหามิ, กาสิราช นมตฺถุ เต;

มาตรํ ปิตรํ มยฺหํ, วุตฺโต วชฺชาสิ วนฺทน’’นฺติ.

ตตฺถ วุตฺโต วชฺชาสีติ ‘‘ปุตฺโต โว สุวณฺณสาโม นทีตีเรวิสปีเตน สลฺเลน วิทฺโธ รชตปฏฺฏสทิเส วาลุกาปุลิเน ทกฺขิณปสฺเสน นิปนฺโน อฺชลึ ปคฺคยฺห ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทตี’’ติ เอวํ มหาราช, มยา วุตฺโต หุตฺวา มาตาปิตูนํ เม วนฺทนํ วเทยฺยาสีติ อตฺโถ.

ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. มหาสตฺโตปิ มาตาปิตูนํ วนฺทนํ เปเสตฺวา วิสฺิตํ ปาปุณิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๒๘.

‘‘อิทํ วตฺวาน โส สาโม, ยุวา กลฺยาณทสฺสโน;

มุจฺฉิโต วิสเวเคน, วิสฺี สมปชฺชถา’’ติ.

ตตฺถ สมปชฺชถาติ วิสฺี ชาโต.

โส หิ เหฏฺา เอตฺตกํ กเถนฺโต นิรสฺสาโส วิย อโหสิ. อิทานิ ปนสฺส วิสเวเคน มทฺทิตา ภวงฺคจิตฺตสนฺตติ หทยรูปํ นิสฺสาย ปวตฺติ, กถา ปจฺฉิชฺชิ, มุขํ ปิหิตํ, อกฺขีนิ นิมีลิตานิ, หตฺถปาทา ถทฺธภาวํ ปตฺตา, สกลสรีรํ โลหิเตน มกฺขิตํ. ราชา ‘‘อยํ อิทาเนว มยา สทฺธึ กเถสิ, กึ นุ โข’’ติ ตสฺส อสฺสาสปสฺสาเส อุปธาเรสิ. เต ปน นิรุทฺธา, สรีรํ ถทฺธํ ชาตํ. โส ตํ ทิสฺวา ‘‘นิรุทฺโธ ทานิ สาโม’’ติ โสกํ สทฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุโภ หตฺเถ มตฺถเก เปตฺวา มหาสทฺเทน ปริเทวิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๒๙.

‘‘ส ราชา ปริเทเวสิ, พหุํ การุฺสฺหิตํ;

อชรามโรหํ อาสึ, อชฺเชตํ ามิ โน ปุเร;

สามํ กาลงฺกตํ ทิสฺวา, นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโม.

๓๓๐.

‘‘ยสฺสุ มํ ปฏิมนฺเตติ, สวิเสน สมปฺปิโต;

สฺวชฺช เอวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสติ.

๓๓๑.

‘‘นิรยํ นูน คจฺฉามิ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย;

ตทา หิ ปกตํ ปาปํ, จิรรตฺตาย กิพฺพิสํ.

๓๓๒.

‘‘ภวนฺติ ตสฺส วตฺตาโร, คาเม กิพฺพิสการโก;

อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, โก มํ วตฺตุมรหติ.

๓๓๓.

‘‘สารยนฺติ หิ กมฺมานิ, คาเม สํคจฺฉ มาณวา;

อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, โก นุ มํ สารยิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ อาสินฺติ อหํ เอตฺตกํ กาลํ อชรามโรมฺหีติ สฺี อโหสึ. อชฺเชตนฺติ อชฺช อหํ อิมํ สามํ กาลกตํ ทิสฺวา มมฺเจว อฺเสฺจ นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโมติ ตํ มจฺจุสฺส อาคมนํ อชฺช ชานามิ, อิโต ปุพฺเพ น ชานามีติ วิลปติ. สฺวชฺช เอวํ คเต กาเลติ โย สวิเสน สลฺเลน สมปฺปิโต อิทาเนว มํ ปฏิมนฺเตติ, โส อชฺช เอวํ คเต กาเล เอวํ มรณกาเล สมฺปตฺเต กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ น ภาสติ. ตทา หีติ ตสฺมึ ขเณ สามํ วิชฺฌนฺเตน มยา ปาปํ กตํ. จิรรตฺตาย กิพฺพิสนฺติ ตํ ปน จิรรตฺตํ วิปจฺจนสมตฺถํ ทารุณํ ผรุสํ.

ตสฺสาติ ตสฺส เอวรูปํ ปาปกมฺมํ กตฺวา วิจรนฺตสฺส. วตฺตาโรติ นินฺทิตาโร ภวนฺติ ‘‘กุหึ คาเม กินฺติ กิพฺพิสการโก’’ติ. อิมสฺมึ ปน อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ โก มํ วตฺตุมรหติ, สเจ หิ ภเวยฺย, วเทยฺยาติ วิลปติ. สารยนฺตีติ คาเม วา นิคมาทีสุ วา สํคจฺฉ มาณวา ตตฺถ ตตฺถ พหู ปุริสา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อมฺโภ ปุริสฆาตก, ทารุณํ เต กมฺมํ กตํ, อสุกทณฺฑํ ปตฺโต นาม ตฺว’’นฺติ เอวํ กมฺมานิ สาเรนฺติ โจเทนฺติ. อิมสฺมึ ปน นิมฺมนุสฺเส อรฺเ มํ โก สารยิสฺสตีติ อตฺตานํ โจเทนฺโต วิลปติ.

ตทา พหุสุนฺทรี นาม เทวธีตา คนฺธมาทนวาสินี มหาสตฺตสฺส สตฺตเม อตฺตภาเว มาตุภูตปุพฺพา. สา ปุตฺตสิเนเหน โพธิสตฺตํ นิจฺจํ อาวชฺเชติ, ตํ ทิวสํ ปน ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมานา น ตํ อาวชฺเชติ. ‘‘เทวสมาคมํ คตา’’ติปิ วทนฺติเยว. สา ตสฺส วิสฺิภูตกาเล ‘‘กึ นุ โข เม ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ อาวชฺชมานา อทฺทส ‘‘อยํ ปีฬิยกฺโข นาม ราชา มม ปุตฺตํ วิสปีเตน สลฺเลน วิชฺฌิตฺวา มิคสมฺมตานทีตีเร วาลุกาปุลิเน ฆาเตตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวติ. สจาหํ น คมิสฺสามิ, มม ปุตฺโต สุวณฺณสาโม เอตฺเถว มริสฺสติ, รฺโปิ หทยํ ผลิสฺสติ, สามสฺส มาตาปิตโรปิ นิราหารา ปานียมฺปิ อลภนฺตา สุสฺสิตฺวา มริสฺสนฺติ. มยิ ปน คตาย ราชา ปานียฆฏํ อาทาย ตสฺส มาตาปิตูนํ สนฺติกํ คมิสฺสติ, คนฺตฺวา จ ปน ‘‘ปุตฺโต โว มยา หโต’ติ กเถสฺสติ. เอวฺจ วตฺวา เตสํ วจนํ สุตฺวา เต ปุตฺตสฺส สนฺติกํ อานยิสฺสติ. อถ โข เต จ อหฺจ สจฺจกิริยํ กริสฺสาม, สจฺจพเลน สามสฺส วิสํ วินสฺสิสฺสติ. เอวํ เม ปุตฺโต ชีวิตํ ลภิสฺสติ, มาตาปิตโร จ จกฺขูนิ ลภิสฺสนฺติ, ราชา จ สามสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา นครํ คนฺตฺวา มหาทานํ ทตฺวา สคฺคปรายโณ ภวิสฺสติ, ตสฺมา คจฺฉามหํ ตตฺถา’’ติ. สา คนฺตฺวา มิคสมฺมตานทีตีเร อทิสฺสมาเนน กาเยน อากาเส ตฺวา รฺา สทฺธึ กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๓๔.

‘‘สา เทวตา อนฺตรหิตา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;

รฺโว อนุกมฺปาย, อิมา คาถา อภาสถ.

๓๓๕.

‘‘อาคุํ กิร มหาราช, อกริ กมฺมทุกฺกฏํ;

อทูสกา ปิตาปุตฺตา, ตโย เอกูสุนา หตา.

๓๓๖.

‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยถา เต สุคตี สิยา;

ธมฺเมนนฺเธ วเน โปส, มฺเหํ สุคตี ตยา’’ติ.

ตตฺถ รฺโวาติ รฺโเยว. อาคุํ กิราติ มหาราช, ตฺวํ มหาปราธํ มหาปาปํ อกริ. ทุกฺกฏนฺติ ยํ กตํ ทุกฺกฏํ โหติ, ตํ ลามกกมฺมํ อกริ. อทูสกาติ นิทฺโทสา. ปิตาปุตฺตาติ มาตา จ ปิตา จ ปุตฺโต จ อิเม ตโย ชนา เอกอุสุนา หตา. ตสฺมิฺหิ หเต ตปฺปฏิพทฺธา ตสฺส มาตาปิตโรปิ หตาว โหนฺติ. อนุสิกฺขามีติ สิกฺขาเปมิ อนุสาสามิ. โปสาติ สามสฺส าเน ตฺวา สิเนหํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา สาโม วิย เต อุโภ อนฺเธ โปเสหิ. มฺเหํ สุคตี ตยาติ เอวํ ตยา สุคติเยว คนฺตพฺพา ภวิสฺสตีติ อหํ มฺามิ.

โส เทวตาย วจนํ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร ตสฺส มาตาปิตโร โปเสตฺวา สคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ สทฺทหิตฺวา ‘‘กึ เม รชฺเชน, เตเยว โปเสสฺสามี’’ติ ทฬฺหํ อธิฏฺาย พลวปริเทวํ ปริเทวนฺโต โสกํ ตนุกํ กตฺวา ‘‘สุวณฺณสาโม มโต ภวิสฺสตี’’ติ นานาปุปฺเผหิ ตสฺส สรีรํ ปูเชตฺวา อุทเกน สิฺจิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา เตน ปูริตํ อุทกฆฏํ อาทาย โทมนสฺสปฺปตฺโต ทกฺขิณทิสาภิมุโข อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๓๗.

‘‘ส ราชา ปริเทวิตฺวา, พหุํ การุฺสฺหิตํ;

อุทกกุมฺภมาทาย, ปกฺกามิ ทกฺขิณามุโข’’ติ.

ปกติยาปิ มหาถาโม ราชา ปานียฆฏํ อาทาย คจฺฉนฺโต อสฺสมปทํ โกฏฺเฏนฺโต วิย ปวิสิตฺวา ทุกูลปณฺฑิตสฺส ปณฺณสาลาทฺวารํ สมฺปาปุณิ. ทุกูลปณฺฑิโต อนฺโต นิสินฺโนว ตสฺส ปทสทฺทํ สุตฺวา ‘‘นายํ สามสฺส ปทสทฺโท, กสฺส นุ โข’’ติ ปุจฺฉนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๓๓๘.

‘‘กสฺส นุ เอโส ปทสทฺโท, มนุสฺสสฺเสว อาคโต;

เนโส สามสฺส นิคฺโฆโส, โก นุ ตฺวมสิ มาริส.

๓๓๙.

‘‘สนฺตฺหิ สาโม วชติ, สนฺตํ ปาทานิ เนยติ;

เนโส สามสฺส นิคฺโฆโส, โก นุ ตฺวมสิ มาริสา’’ติ.

ตตฺถ มนุสฺสสฺเสวาติ นายํ สีหพฺยคฺฆทีปิยกฺขนาคกินฺนรานํ, อาคจฺฉโต ปน มนุสฺสสฺเสวายํ ปทสทฺโท, เนโส สามสฺสาติ. สนฺตํ หีติ อุปสมยุตฺตํ เอว. วชตีติ จงฺกมติ. เนยตีติ ปติฏฺาเปติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ อตฺตโน ราชภาวํ อกเถตฺวา ‘มยา ตุมฺหากํ ปุตฺโต มาริโต’ติ วกฺขามิ, อิเม กุชฺฌิตฺวา มยา สทฺธึ ผรุสํ กเถสฺสนฺติ. เอวํ เม เตสุ โกโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, อถ เน วิเหเสฺสามิ, ตํ มม อกุสลํ ภวิสฺสติ, ‘ราชา’ติ ปน วุตฺเต อภายนฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ราชภาวํ ตาว กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปานียมาฬเก ปานียฆฏํ เปตฺวา ปณฺณสาลาทฺวาเร ตฺวา อาห –

๓๔๐.

‘‘ราชาหมสฺมิ กาสีนํ, ปีฬิยกฺโขติ มํ วิทู;

โลภา รฏฺํ ปหิตฺวาน, มิคเมสํ จรามหํ.

๓๔๑.

‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;

นาโคปิ เม น มุจฺเจยฺย, อาคโต อุสุปาตน’’นฺติ.

ทุกูลปณฺฑิโตปิ เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห –

๓๔๒.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.

๓๔๓.

‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;

ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุฺช ราช วรํ วรํ.

๓๔๔.

‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;

ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสี’’ติ;

ตสฺสตฺโถ สตฺติคุมฺพชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑๕๙ อาทโย) กถิโต. อิธ ปน ‘‘คิริคพฺภรา’’ติ มิคสมฺมตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สา หิ นที คิริคพฺภรา นิกฺขนฺตตฺตา ‘‘คิริคพฺภรา’’ ตฺเวว ชาตา.

เอวํ เตน ปฏิสนฺถาเร กเต ราชา ‘‘ปุตฺโต โว มยา มาริโต’’ติ ปมเมว วตฺตุํ อยุตฺตํ, อชานนฺโต วิย กถํ สมุฏฺาเปตฺวา กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๓๔๕.

‘‘นาลํ อนฺธา วเน ทฏฺุํ, โก นุ โว ผลมาหริ;

อนนฺธสฺเสวยํ สมฺมา, นิวาโป มยฺห ขายตี’’ติ.

ตตฺถ นาลนฺติ ตุมฺเห อนฺธา อิมสฺมึ วเน กิฺจิ ทฏฺุํ น สมตฺถา. โก นุ โว ผลมาหรีติ โก นุ ตุมฺหากํ อิมานิ ผลาผลานิ อาหริ. นิวาโปติ อยํ สมฺมา นเยน อุปาเยน การเณน กโต ขาทิตพฺพยุตฺตกานํ ปริสุทฺธานํ ผลาผลานํ นิวาโป สนฺนิจโย อนนฺธสฺส วิย มยฺหํ ขายติ ปฺายติ อุปฏฺาติ.

ตํ สุตฺวา ทุกูลปณฺฑิโต ‘‘มหาราช, น มยํ ผลาผลานิ อาหราม, ปุตฺโต ปน โน อาหรตี’’ติ ทสฺเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๓๔๖.

‘‘ทหโร ยุวา นาติพฺรหา, สาโม กลฺยาณทสฺสโน;

ทีฆสฺส เกสา อสิตา, อโถ สูนคฺคเวลฺลิตา.

๓๔๗.

‘‘โส หเว ผลมาหริตฺวา, อิโต อาทาย กมณฺฑลุํ;

นทึ คโต อุทหาโร, มฺเ น ทูรมาคโต’’ติ.

ตตฺถ นาติพฺรหาติ นาติทีโฆ นาติรสฺโส. สูนคฺคเวลฺลิตาติ สูนสงฺขาตาย มํสโกฏฺฏนโปตฺถนิยา อคฺคํ วิย วินตา. กมณฺฑลุนฺติ ฆฏํ. น ทูรมาคโตติ อิทานิ น ทูรํ อาคโต, อาสนฺนฏฺานํ อาคโต ภวิสฺสตีติ มฺามีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา อาห –

๓๔๘.

‘‘อหํ ตํ อวธึ สามํ, โย ตุยฺหํ ปริจารโก;

ยํ กุมารํ ปเวเทถ, สามํ กลฺยาณทสฺสนํ.

๓๔๙.

‘‘ทีฆสฺส เกสา อสิตา, อโถ สูนคฺคเวลฺลิตา;

เตสุ โลหิตลิตฺเตสุ, เสติ สาโม มหา หโต’’ติ.

ตตฺถ อวธินฺติ วิสปีเตน สเรน วิชฺฌิตฺวา มาเรสึ. ปเวเทถาติ กเถถ. เสตีติ มิคสมฺมตานทีตีเร วาลุกาปุลิเน สยติ.

ทุกูลปณฺฑิตสฺส ปน อวิทูเร ปาริกาย ปณฺณสาลา โหติ. สา ตตฺถ นิสินฺนาว รฺโ วจนํ สุตฺวา ตํ ปวตฺตึ โสตุกามา อตฺตโน ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา รชฺชุกสฺาย ทุกูลปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาห –

๓๕๐.

‘‘เกน ทุกูล มนฺเตสิ, ‘หโต สาโม’ติ วาทินา;

‘หโต สาโม’ติ สุตฺวาน, หทยํ เม ปเวธติ.

๓๕๑.

‘‘อสฺสตฺถสฺเสว ตรุณํ, ปวาฬํ มาลุเตริตํ;

‘หโต สาโม’ติ สุตฺวาน, หทยํ เม ปเวธตี’’ติ.

ตตฺถ วาทินาติ ‘‘มยา สาโม หโต’’ติ วทนฺเตน. ปวาฬนฺติ ปลฺลวํ. มาลุเตริตนฺติ วาเตน ปหฏํ.

ทุกูลปณฺฑิโต โอวทนฺโต อาห –

๓๕๒.

‘‘ปาริเก กาสิราชายํ, โส สามํ มิคสมฺมเต;

โกธสา อุสุนา วิชฺฌิ, ตสฺส มา ปาปมิจฺฉิมฺหา’’ติ.

ตตฺถ มิคสมฺมเตติ มิคสมฺมตานทีตีเร. โกธสาติ มิเคสุ อุปฺปนฺเนน โกเธน. มา ปาปมิจฺฉิมฺหาติ ตสฺส มยํ อุโภปิ ปาปํ มา อิจฺฉิมฺหา.

ปุน ปาริกา อาห –

๓๕๓.

‘‘กิจฺฉา ลทฺโธ ปิโย ปุตฺโต, โย อนฺเธ อภรี วเน;

ตํ เอกปุตฺตํ ฆาติมฺหิ, กถํ จิตฺตํ น โกปเย’’ติ.

ตตฺถ ฆาติมฺหีติ ฆาตเก.

ทุกูลปณฺฑิโต อาห –

๓๕๔.

‘‘กิจฺฉา ลทฺโธ ปิโย ปุตฺโต, โย อนฺเธ อภรี วเน;

ตํ เอกปุตฺตํ ฆาติมฺหิ, อกฺโกธํ อาหุ ปณฺฑิตา’’ติ.

ตตฺถ อกฺโกธนฺติ โกโธ นาม นิรยสํวตฺตนิโก, ตสฺมา ตํ โกธํ อกตฺวา ปุตฺตฆาตกมฺหิ อกฺโกโธ เอว กตฺตพฺโพติ ปณฺฑิตา อาหุ กเถนฺติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา เต อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ ปหริตฺวา มหาสตฺตสฺส คุเณ วณฺเณตฺวา ภุสํ ปริเทวึสุ. อถ เน ราชา สมสฺสาเสนฺโต อาห –

๓๕๕.

‘‘มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, ‘หโต สาโม’ติ วาทินา;

อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเน.

๓๕๖.

‘‘อิสฺสตฺเถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธมฺโมติ วิสฺสุโต;

อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเน.

๓๕๗.

‘‘มิคานํ วิฆาสมนฺเวสํ, วนมูลผลานิ จ;

อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเน’’ติ.

ตตฺถ วาทินาติ ตุมฺเห ‘‘สาโม หโต’’ติ วทนฺเตน มยา สทฺธึ ‘‘ตยา โน เอวํ คุณสมฺปนฺโน ปุตฺโต มาริโต, อิทานิ โก อมฺเห ภริสฺสตี’’ติอาทีนิ วตฺวา มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, อหํ ตุมฺหากํ กมฺมกโร หุตฺวา สาโม วิย ตุมฺเห ภริสฺสามีติ.

เอวํ ราชา ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, อหํ โว ยาวชีวํ ภริสฺสามี’’ติ เต อสฺสาเสสิ. เต เตน สทฺธึ สลฺลปนฺตา อาหํสุ –

๓๕๘.

‘‘เนส ธมฺโม มหาราช, เนตํ อมฺเหสุ กปฺปติ;

ราชา ตฺวมสิ อมฺหากํ, ปาเท วนฺทาม เต มย’’นฺติ.

ตตฺถ ธมฺโมติ สภาโว การณํ วา. เนตํ อมฺเหสุ กปฺปตีติ เอตํ ตว กมฺมกรณํ อมฺเหสุ น กปฺปติ น โสภติ. ‘‘ปาเท วนฺทาม เต มย’’นฺติ อิทํ ปน เต ปพฺพชิตลิงฺเค ิตาปิ ปุตฺตโสเกน สมพฺภาหตาย เจว นิหตมานตาย จ วทึสุ. ‘‘รฺโ วิสฺสาสํ อุปฺปาเทตุํ เอวมาหํสู’’ติปิ วทนฺติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อติวิย ตุสฺสิตฺวา ‘‘อโห อจฺฉริยํ, เอวํ โทสการเก นาม มยิ ผรุสวจนมตฺตมฺปิ นตฺถิ, ปคฺคณฺหนฺติเยว มม’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๓๕๙.

‘‘ธมฺมํ เนสาทา ภณถ, กตา อปจิตี ตยา;

ปิตา ตฺวมสิ อมฺหากํ, มาตา ตฺวมสิ ปาริเก’’ติ.

ตตฺถ ตยาติ เอเกกํ วทนฺโต เอวมาห. ปิตาติ ทุกูลปณฺฑิต, อชฺช ปฏฺาย ตฺวํ มยฺหํ ปิตุฏฺาเน ติฏฺ, อมฺม ปาริเก, ตฺวมฺปิ เม มาตุฏฺาเน ติฏฺ, อหํ ปน โว ปุตฺตสฺส สามสฺส าเน ตฺวา ปาทโธวนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กริสฺสามิ, มํ ราชาติ อสลฺลกฺเขตฺวา สาโมติ สลฺลกฺเขถาติ.

เต อฺชลึ ปคฺคยฺห วนฺทิตฺวา ‘‘มหาราช, ตว อมฺหากํ กมฺมกรณกิจฺจํ นตฺถิ, อปิจ โข ปน ลฏฺิโกฏิยา โน คเหตฺวา อาเนตฺวา สามํ ทสฺเสหี’’ติ ยาจนฺตา คาถาทฺวยมาหํสุ –

๓๖๐.

‘‘นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;

อฺชลึ เต ปคฺคณฺหาม, ยาว สามานุปาปย.

๓๖๑.

‘‘ตสฺส ปาเท สมชฺชนฺตา, มุขฺจ ภุชทสฺสนํ;

สํสุมฺภมานา อตฺตานํ, กาลมาคมยามเส’’ติ.

ตตฺถ ยาว สามานุปาปยาติ ยาว สาโม ยตฺถ, ตตฺถ อมฺเห อนุปาปย. ภุชทสฺสนนฺติ กลฺยาณทสฺสนํ อภิรูปํ. สํสุมฺภมานาติ โปเถนฺตา. กาลมาคมยามเสติ กาลกิริยํ อาคเมสฺสาม.

เตสํ เอวํ กเถนฺตานฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต. อถ ราชา ‘‘สจาหํ อิทาเนว อิเม ตตฺถ เนสฺสามิ, ตํ ทิสฺวาว เนสํ หทยํ ผลิสฺสติ, อิติ ติณฺณมฺปิ เอเตสํ มตกาเล อหํ นิรเย อุปฺปชฺชนฺโตเยว นาม, ตสฺมา เตสํ คนฺตุํ น ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา จตสฺโส คาถาโย อชฺฌภาสิ –

๓๖๒.

‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;

ยตฺถ สาโม หโต เสติ, จนฺโทว ปติโต ฉมา.

๓๖๓.

‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;

ยตฺถ สาโม หโต เสติ, สูริโยว ปติโต ฉมา.

๓๖๔.

‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;

ยตฺถ สาโม หโต เสติ, ปํสุนา ปติกุนฺถิโต.

๓๖๕.

‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;

ยตฺถ สาโม หโต เสติ, อิเธว วสถสฺสเม’’ติ.

ตตฺถ พฺรหาติ อจฺจุคฺคตํ. อากาสนฺตํวาติ เอตํ วนํ อากาสสฺส อนฺโต วิย หุตฺวา ทิสฺสติ. อถ วา อากาสนฺตนฺติ อากาสมานํ, ปกาสมานนฺติ อตฺโถ. ฉมาติ ฉมายํ, ปถวิยนฺติ อตฺโถ. ‘‘ฉม’’นฺติปิ ปาโ, ปถวึ ปติโต วิยาติ อตฺโถ. ปติกุนฺถิโตติ ปริกิณฺโณ, ปลิเวิโตติ อตฺโถ.

อถ เต อตฺตโน วาฬมิคภยาภาวํ ทสฺเสตุํ คาถมาหํสุ –

๓๖๖.

‘‘ยทิ ตตฺถ สหสฺสานิ, สตานิ นิยุตานิ จ;

เนวมฺหากํ ภยํ โกจิ, วเน วาเฬสุ วิชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ โกจีติ อิมสฺมึ วเน กตฺถจิ เอกสฺมึ ปเทเสปิ อมฺหากํ วาเฬสุ ภยํ นาม นตฺถิ.

ราชา เต ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺโต หตฺเถสุ คเหตฺวา ตตฺถ เนสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๖๗.

‘‘ตโต อนฺธานมาทาย, กาสิราชา พฺรหาวเน;

หตฺเถ คเหตฺวา ปกฺกามิ, ยตฺถ สาโม หโต อหู’’ติ.

ตตฺถ ตโตติ ตทา. อนฺธานนฺติ อนฺเธ. อหูติ อโหสิ. ยตฺถาติ ยสฺมึ าเน โส นิปนฺโน, ตตฺถ เนสีติ อตฺโถ.

โส อาเนตฺวา จ ปน สามสฺส สนฺติเก เปตฺวา ‘‘อยํ โว ปุตฺโต’’ติ อาจิกฺขิ. อถสฺส ปิตา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา มาตา ปาเท คเหตฺวา อูรูสุ เปตฺวา นิสีทิตฺวา วิลปึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๖๘.

‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;

อปวิทฺธํ พฺรหารฺเ, จนฺทํว ปติตํ ฉมา.

๓๖๙.

‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;

อปวิทฺธํ พฺรหารฺเ, สูริยํว ปติตํ ฉมา.

๓๗๐.

‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;

อปวิทฺธํ พฺรหารฺเ, กลูนํ ปริเทวยุํ.

๓๗๑.

‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘อธมฺโม กิร โภ’อิติ.

๓๗๒.

‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปมตฺโตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;

โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.

๓๗๓.

‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปทิตฺโตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;

โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.

๓๗๔.

‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปกุทฺโธสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;

โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสติ.

๓๗๕.

‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปสุตฺโตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;

โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.

๓๗๖.

‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ วิมโนสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;

โย อชฺเชวํ คเต กาเล, น กิฺจิ มภิภาสสิ.

๓๗๗.

‘‘ชฏํ วลินํ ปํสุคตํ, โกทานิ สณฺเปสฺสติ;

สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก.

๓๗๘.

‘‘โก เม สมฺมชฺชมาทาย, สมฺมชฺชิสฺสติ อสฺสมํ;

สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก.

๓๗๙.

‘‘โกทานิ นฺหาปยิสฺสติ, สีเตนุณฺโหทเกน จ;

สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก.

๓๘๐.

‘‘โกทานิ โภชยิสฺสติ, วนมูลผลานิ จ;

สาโม อยํ กาลกโต, อนฺธานํ ปริจารโก’’ติ.

ตตฺถ อปวิทฺธนฺติ รฺา นิรตฺถกํ ฉฑฺฑิตํ. อธมฺโม กิร โภ อิตีติ อยุตฺตํ กิร โภ, อชฺช อิมสฺมึ โลเก วตฺตติ. ปมตฺโตติ ติขิณสุรํ ปิวิตฺวา วิย มตฺโต ปมตฺโต ปมาทํ อาปนฺโน. ปทิตฺโตติ ทปฺปิโต. ‘‘ปกุทฺโธสิ วิมโนสี’’ติ สพฺพํ วิลาปวเสน ภณนฺติ. ชฏนฺติ ตาต, อมฺหากํ ชฏามณฺฑลํ. วลินํ ปํสุคตนฺติ ยทา อากุลํ มลคฺคหิตํ ภวิสฺสติ. โกทานีติ อิทานิ โก สณฺเปสฺสติ, โสเธตฺวา อุชุํ กริสฺสตีติ.

อถสฺส มาตา พหุํ วิลปิตฺวา ตสฺส อุเร หตฺถํ เปตฺวา สนฺตาปํ อุปธาเรนฺตี ‘‘ปุตฺตสฺส เม สนฺตาโป ปวตฺตติเยว, วิสเวเคน วิสฺิตํ อาปนฺโน ภวิสฺสติ, นิพฺพิสภาวตฺถาย จสฺส สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สจฺจกิริยมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๘๑.

‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;

อฏฺฏิตา ปุตฺตโสเกน, มาตา สจฺจํ อภาสถ.

๓๘๒.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, ธมฺมจารี ปุเร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๘๓.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, พฺรหฺมจารี ปุเร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๘๔.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, สจฺจวาที ปุเร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๘๕.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, มาตาเปตฺติภโร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๘๖.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, กุเล เชฏฺาปจายิโก;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๘๗.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, ปาณา ปิยตโร มม;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๘๘.

‘‘ยํ กิฺจิตฺถิ กตํ ปุฺํ, มยฺหฺเจว ปิตุจฺจ เต;

สพฺเพน เตน กุสเลน, วิสํ สามสฺส หฺตู’’ติ.

ตตฺถ เยน สจฺเจนาติ เยน ภูเตน สภาเวน. ธมฺมจารีติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมจารี. สจฺจวาทีติ หสิตวเสนปิ มุสาวาทํ น วทติ. มาตาเปตฺติภโรติ อนลโส หุตฺวา รตฺตินฺทิวํ มาตาปิตโร ภริ. กุเล เชฏฺาปจายิโกติ เชฏฺานํ มาตาปิตูนํ สกฺการการโก โหติ.

เอวํ มาตรา สตฺตหิ คาถาหิ สจฺจกิริยาย กตาย สาโม ปริวตฺติตฺวา นิปชฺชิ. อถสฺส ปิตา ‘‘ชีวติ เม ปุตฺโต, อหมฺปิสฺส สจฺจกิริยํ กริสฺสามี’’ติ ตเถว สจฺจกิริยมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๘๙.

‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;

อฏฺฏิโต ปุตฺตโสเกน, ปิตา สจฺจํ อภาสถ.

๓๙๐.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, ธมฺมจารี ปุเร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๙๑.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, พฺรหฺมจารี ปุเร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๙๒.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, สจฺจวาที ปุเร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๙๓.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, มาตาเปตฺติภโร อหุ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๙๔.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, กุเล เชฏฺาปจายิโก;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๙๕.

‘‘เยน สจฺเจนยํ สาโม, ปาณา ปิยตโร มม;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๙๖.

‘‘ยํ กิฺจิตฺถิ กตํ ปุฺํ, มยฺหฺเจว มาตุจฺจ เต;

สพฺเพน เตน กุสเลน, วิสํ สามสฺส หฺตู’’ติ.

เอวํ ปิตริ สจฺจกิริยํ กโรนฺเต มหาสตฺโต ปริวตฺติตฺวา อิตเรน ปสฺเสน นิปชฺชิ. อถสฺส ตติยํ สจฺจกิริยํ เทวตา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อห –

๓๙๗.

‘‘สา เทวตา อนฺตรหิตา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;

สามสฺส อนุกมฺปาย, อิมํ สจฺจํ อภาสถ.

๓๙๘.

‘‘ปพฺพตฺยาหํ คนฺธมาทเน, จิรรตฺตนิวาสินี;

น เม ปิยตโร โกจิ, อฺโ สาเมน วิชฺชติ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๓๙๙.

‘‘สพฺเพ วนา คนฺธมยา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, วิสํ สามสฺส หฺตุ.

๔๐๐.

‘‘เตสํ ลาลปฺปมานานํ, พหุํ การุฺสฺหิตํ;

ขิปฺปํ สาโม สมุฏฺาสิ, ยุวา กลฺยาณทสฺสโน’’ติ.

ตตฺถ ปพฺพตฺยาหนฺติ ปพฺพเต อหํ. สพฺเพ วนา คนฺธมยาติ สพฺเพ รุกฺขา คนฺธมยา. น หิ ตตฺถ อคนฺโธ นาม โกจิ รุกฺโข อตฺถิ. เตสนฺติ ภิกฺขเว, เตสํ อุภินฺนํ ลาลปฺปมานานฺเว เทวตาย สจฺจกิริยาย ปริโยสาเน ขิปฺปํ สาโม อุฏฺาสิ, ปทุมปตฺตโต อุทกํ วิยสฺส วิสํ วินิวตฺเตตฺวา อาพาโธ วิคโต, อิธ นุ โข วิทฺโธ, เอตฺถ นุ โข วิทฺโธติ วิทฺธฏฺานมฺปิ น ปฺายิ.

อิติ มหาสตฺตสฺส นิโรคภาโว, มาตาปิตูนฺจ จกฺขุปฏิลาโภ, อรุณุคฺคมนฺจ, เทวตานุภาเวน เตสํ จตุนฺนํ อสฺสเมเยว ปากฏภาโว จาติ สพฺพํ เอกกฺขเณเยว อโหสิ. มาตาปิตโร ‘‘จกฺขูนิ โน ลทฺธานิ, สุวณฺณสาโม จ อโรโค ชาโต’’ติ อติเรกตรํ ตุสฺสึสุ. อถ เน สามปณฺฑิโต คาถํ อภาสิ –

๔๐๑.

‘‘สาโมหมสฺมิ ภทฺทํ โว, โสตฺถินามฺหิ สมุฏฺิโต;

มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, มฺจุนาภิวเทถ ม’’นฺติ.

ตตฺถ โสตฺถินามฺหิ สมุฏฺิโตติ โสตฺถินา สุเขน อุฏฺิโต อมฺหิ ภวามิ. มฺชุนาติ มธุรสฺสเรน มํ อภิวเทถ.

อถ โส ราชานํ ทิสฺวา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห –

๔๐๒.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.

๔๐๓.

‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;

ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุฺช ราช วรํ วรํ.

๔๐๔.

‘‘อตฺถิ เม ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;

ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสี’’ติ.

ราชาปิ ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา อาห –

๔๐๕.

‘‘สมฺมุยฺหามิ ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;

เปตํ ตํ สาม มทฺทกฺขึ, โก นุ ตฺวํ สาม ชีวสี’’ติ.

ตตฺถ เปตนฺติ สาม อหํ ตํ มตํ อทฺทสํ. โก นุ ตฺวนฺติ กถํ นุ ตฺวํ ชีวิตํ ปฏิลภสีติ ปุจฺฉิ.

มหาสตฺโต ‘‘อยํ ราชา มํ ‘มโต’ติ สลฺลกฺเขสิ, อมตภาวมสฺส ปกาเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๔๐๖.

‘‘อปิ ชีวํ มหาราช, ปุริสํ คาฬฺหเวทนํ;

อุปนีตมนสงฺกปฺปํ, ชีวนฺตํ มฺเต มตํ.

๔๐๗.

‘‘อปิ ชีวํ มหาราช, ปุริสํ คาฬฺหเวทนํ;

ตํ นิโรธคตํ สนฺตํ, ชีวนฺตํ มฺเต มต’’นฺติ.

ตตฺถ อปิ ชีวนฺติ ชีวมานํ อปิ. อุปนีตมนสงฺกปฺปนฺติ ภวงฺคโอติณฺณจิตฺตาจารํ. ชีวนฺตนฺติ ชีวมานเมว ‘‘เอโส มโต’’ติ มฺติ. นิโรธคตนฺติ อสฺสาสปสฺสาสนิโรธํ สมาปนฺนํ สนฺตํ วิชฺชมานํ มํ เอวํ โลโก มตํ วิย ชีวนฺตเมว มฺติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต ราชานํ อตฺเถ โยเชตุกาโม ธมฺมํ เทเสนฺโต ปุน ทฺเว คาถา อภาสิ –

๔๐๘.

‘‘โย มาตรํ ปิตรํ วา, มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ;

เทวาปิ นํ ติกิจฺฉนฺติ, มาตาเปตฺติภรํ นรํ.

๔๐๙.

‘‘โย มาตรํ ปิตรํ วา, มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ;

อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, มาตาเปตฺติภรสฺส ชนฺตุโน อุปฺปนฺนโรคํ เทวตาปิ ติกิจฺฉนฺติ, อติวิย อยํ สาโม โสภตี’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจนฺโต อาห –

๔๑๐.

‘‘เอส ภิยฺโย ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;

สรณํ ตํ สาม คจฺฉามิ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ.

ตตฺถ ภิยฺโยติ ยสฺมา ตาทิเส ปริสุทฺธสีลคุณสมฺปนฺเน ตยิ อปรชฺฌึ, ตสฺมา อติเรกตรํ สมฺมุยฺหามิ. ตฺวฺจ เม สรณํ ภวาติ สรณํ คจฺฉนฺตสฺส เม ตฺวํ สรณํ ภว, ปติฏฺา โหหิ, เทวโลกคามิมคฺคํ กโรหีติ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘สเจปิ, มหาราช, เทวโลกํ คนฺตุกาโมสิ, มหนฺตํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปริภุฺชิตุกาโมสิ, อิมาสุ ทสราชธมฺมจริยาสุ วตฺตสฺสู’’ติ ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต ทส ราชธมฺมจริยคาถา อภาสิ –

๔๑๑.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๒.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๓.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๔.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๕.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๖.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเสุ ชนปเทสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๗.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๘.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑๙.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๒๐.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;

สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.

ตาสํ อตฺโถ เตสกุณชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑ อาทโย) วิตฺถาริโตว. เอวํ มหาสตฺโต ตสฺส ทส ราชธมฺเม เทเสตฺวา อุตฺตริปิ โอวทิตฺวา ปฺจ สีลานิ อทาสิ. โส ตสฺส โอวาทํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. โพธิสตฺโตปิ ยาวชีวํ มาตาปิตโร ปริจริตฺวา มาตาปิตูหิ สทฺธึ ปฺจ อภิฺา จ อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิทํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ โปสนํ นาม ปณฺฑิตานํ วํโส’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ.

ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา, สกฺโก อนุรุทฺโธ, ทุกูลปณฺฑิโต มหากสฺสโป, ปาริกา ภทฺทกาปิลานี ภิกฺขุนี, สุวณฺณสามปณฺฑิโต ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสินฺติ.

สุวณฺณสามชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๔๑] ๔. นิมิชาตกวณฺณนา

อจฺเฉรํ วต โลกสฺมินฺติ อิทํ สตฺถา มิถิลํ อุปนิสฺสาย มฆเทวอมฺพวเน วิหรนฺโต สิตปาตุกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ สตฺถา สายนฺหสมเย สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตสฺมึ อมฺพวเน จาริกํ จรมาโน เอกํ รมณียํ ภูมิปฺปเทสํ ทิสฺวา อตฺตโน ปุพฺพจริยํ กเถตุกาโม หุตฺวา สิตปาตุกมฺมํ กตฺวา อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน สิตปาตุกมฺมการณํ ปุฏฺโ ‘‘อานนฺท, อยํ ภูมิปฺปเทโส ปุพฺเพ มยา มฆเทวราชกาเล ฌานกีฬฺหํ กีฬนฺเตน อชฺฌาวุฏฺปุพฺโพ’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต วิเทหรฏฺเ มิถิลนคเร มฆเทโว นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. โส จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ กุมารกีฬฺหํ กีฬิ, จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ อุปรชฺชํ กาเรสิ, จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรนฺโต ‘‘ยทา เม สมฺม กปฺปก, สิรสฺมึ ปลิตานิ ปสฺเสยฺยาสิ, ตทา เม อาโรเจยฺยาสี’’ติ อาห. อปรภาเค กปฺปโก ปลิตานิ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ปลิตํ สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธราเปตฺวา หตฺถตเล ปติฏฺาเปตฺวา ปลิตํ โอโลเกตฺวา มจฺจุราเชน อาคนฺตฺวา นลาเฏ ลคฺคํ วิย มรณํ สมฺปสฺสมาโน ‘‘อิทานิ เม ปพฺพชิตกาโล’’ติ กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวา เชฏฺปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, รชฺชํ ปฏิจฺฉ, อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กึ การณา เทวา’’ติ วุตฺเต –

‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺหํ, อิเม ชาตา วโยหรา;

ปาตุภูตา เทวทูตา, ปพฺพชฺชาสมโย มมา’’ติ. –

วตฺวา ปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจิตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวมฺปิ เอวรูปํ ปลิตํ ทิสฺวาว ปพฺพเชยฺยาสี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา อมฺพวเน อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. ปุตฺโตปิสฺส เอเตเนว อุปาเยน ปพฺพชิตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ. ตถา ตสฺส ปุตฺโต, ตถา ตสฺส ปุตฺโตติ เอวํ ทฺวีหิ อูนานิ จตุราสีติขตฺติยสหสฺสานิ สีเส ปลิตํ ทิสฺวาว อิมสฺมึ อมฺพวเน ปพฺพชิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.

เตสํ สพฺพปมํ นิพฺพตฺโต มฆเทวราชา พฺรหฺมโลเก ิโตว อตฺตโน วํสํ โอโลเกนฺโต ทฺวีหิ อูนานิ จตุราสีติขตฺติยสหสฺสานิ ปพฺพชิตานิ ทิสฺวา ตุฏฺมานโส หุตฺวา ‘‘อิโต นุ โข ปรํ ปวตฺติสฺสติ, น ปวตฺติสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต อปฺปวตฺตนภาวํ ตฺวา ‘‘มม วํสํ อหเมว ฆเฏสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตโต จวิตฺวา มิถิลนคเร รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตฺวา ทสมาสจฺจเยน มาตุ กุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ราชา ตสฺส นามคฺคหณทิวเส เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. เต ตสฺส ลกฺขณานิ โอโลเกตฺวา ‘‘มหาราช, อยํ กุมาโร ตุมฺหากํ วํสํ ฆเฏนฺโต อุปฺปนฺโน. ตุมฺหากฺหิ วํโส ปพฺพชิตวํโส, อิมสฺส ปรโต นาคมิสฺสตี’’ติ วทึสุ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ กุมาโร รถจกฺกเนมิ วิย มม วํสํ ฆเฏนฺโต ชาโต, ตสฺมา ตสฺส ‘นิมิกุมาโร’ติ นามํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘นิมิกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกาสิ.

โส ทหรกาลโต ปฏฺาย ทาเน สีเล อุโปสถกมฺเม จ อภิรโต อโหสิ. อถสฺส ปิตา ปุริมนเยเนว ปลิตํ ทิสฺวา กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวา ปุตฺตสฺส รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา อมฺพวเน ปพฺพชิตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ. นิมิราชา ปน ทานชฺฌาสยตาย จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ จาติ ปฺจสุ าเนสุ ปฺจ ทานสาลาโย การาเปตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตสิ. เอเกกาย ทานสาลาย สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ กตฺวา เทวสิกํ ปฺจ ปฺจ กหาปณสตสหสฺสานิ ปริจฺจชิ, นิจฺจํ ปฺจ สีลานิ รกฺขิ, ปกฺขทิวเสสุ อุโปสถํ สมาทิยิ, มหาชนมฺปิ ทานาทีสุ ปุฺเสุ สมาทเปสิ, สคฺคมคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา นิรยภเยน ตชฺเชตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ตสฺส โอวาเท ิตา มนุสฺสา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุตา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ, เทวโลโก ปริปูริ, นิรโย ตุจฺโฉ วิย อโหสิ. ตทา ตาวตึสภวเน เทวสงฺฆา สุธมฺมายํ เทวสภายํ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อโห, วต อมฺหากํ อาจริโย นิมิราชา, ตํ นิสฺสาย มยํ อิมํ พุทฺธฺเณนปิ อปริจฺฉินฺทนียํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวามา’’ติ วตฺวา มหาสตฺตสฺส คุเณ วณฺณยึสุ. มนุสฺสโลเกปิ มหาสมุทฺทปิฏฺเ อาสิตฺตเตลํ วิย มหาสตฺตสฺส คุณกถา ปตฺถริ. สตฺถา ตมตฺถํ อาวิภูตํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กเถนฺโต อาห –

๔๒๑.

‘‘อจฺเฉรํ วต โลกสฺมึ, อุปฺปชฺชนฺติ วิจกฺขณา;

ยทา อหุ นิมิราชา, ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโก.

๔๒๒.

‘‘ราชา สพฺพวิเทหานํ, อทา ทานํ อรินฺทโม;

ตสฺส ตํ ททโต ทานํ, สงฺกปฺโป อุทปชฺชถ;

ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํ สุ มหปฺผล’’นฺติ.

ตตฺถ ยทา อหูติ ภิกฺขเว, ยทา ปณฺฑิโต อตฺตโน จ ปเรสฺจ กุสลตฺถิโก นิมิราชา อโหสิ, ตทา เทวมนุสฺสา ‘‘อจฺเฉรํ วต, โภ, เอวรูปาปิ นาม อนุปฺปนฺเน พุทฺธาเณ มหาชนสฺส พุทฺธกิจฺจํ สาธยมานา โลกสฺมึ วิจกฺขณา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ เอวํ ตสฺส คุณกถํ กเถสุนฺติ อตฺโถ. ‘‘ยถา อหู’’ติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ยถา อหุ นิมิราชา ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโกเยว, ตถารูปา มหาชนสฺส พุทฺธกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชนฺติ วิจกฺขณา. ยํ เตสํ อุปฺปนฺนํ, ตํ อจฺเฉรํ วต โลกสฺมินฺติ. อิติ สตฺถา สยเมว อจฺฉริยชาโต เอวมาห. สพฺพวิเทหานนฺติ สพฺพวิเทหรฏฺวาสีนํ. กตมํ สูติ เอเตสุ ทฺวีสุ กตมํ นุ โข มหปฺผลนฺติ อตฺโถ.

โส กิร ปนฺนรสีอุโปสถทิวเส อุโปสถิโก หุตฺวา สพฺพาภรณานิ โอมุฺจิตฺวา สิริสยนปิฏฺเ นิปนฺโนว ทฺเว ยาเม นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปพุทฺโธ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ‘‘อหํ มหาชนสฺส อปริมาณํ ทานมฺปิ เทมิ, สีลมฺปิ รกฺขามิ, ทานสฺส นุ โข มหนฺตํ ผลํ, อุทาหุ พฺรหฺมจริยสฺสา’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน กงฺขํ ฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ ตถา วิตกฺเกนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กงฺขมสฺส ฉินฺทิสฺสามี’’ติ เอกโกว สีฆํ อาคนฺตฺวา สกลนิเวสนํ เอโกภาสํ กตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา โอภาสํ ผริตฺวา อากาเส ตฺวา เตน ปุฏฺโ พฺยากาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๒๓.

‘‘ตสฺส สงฺกปฺปมฺาย, มฆวา เทวกุฺชโร;

สหสฺสเนตฺโต ปาตุรหุ, วณฺเณน วิหนํ ตมํ.

๔๒๔.

‘‘สโลมหฏฺโ มนุชินฺโท, วาสวํ อวจา นิมิ;

เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท.

๔๒๕.

‘‘น จ เม ตาทิโส วณฺโณ, ทิฏฺโ วา ยทิ วา สุโต;

อาจิกฺข เม ตฺวํ ภทฺทนฺเต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ.

๔๒๖.

‘‘สโลมหฏฺํ ตฺวาน, วาสโว อวจา นิมึ;

สกฺโกหมสฺมิ เทวินฺโท, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;

อโลมหฏฺโ มนุชินฺท, ปุจฺฉ ปฺหํ ยมิจฺฉสิ.

๔๒๗.

‘‘โส จ เตน กโตกาโส, วาสวํ อวจา นิมิ;

ปุจฺฉามิ ตํ มหาราช, สพฺพภูตานมิสฺสร;

‘ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํสุ มหปฺผลํ’.

๔๒๘.

‘‘โส ปุฏฺโ นรเทเวน, วาสโว อวจา นิมึ;

วิปากํ พฺรหฺมจริยสฺส, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๒๙.

‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;

มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌติ.

๔๓๐.

‘‘น เหเต สุลภา กายา, ยาจโยเคน เกนจิ;

เย กาเย อุปปชฺชนฺติ, อนาคารา ตปสฺสิโน’’ติ.

ตตฺถ สโลมหฏฺโติ ภิกฺขเว, โส นิมิราชา โอภาสํ ทิสฺวา อากาสํ โอโลเกนฺโต ตํ ทิพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตํ ทิสฺวาว ภเยน โลมหฏฺโ หุตฺวา ‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ’’ติอาทินา ปุจฺฉิ. อโลมหฏฺโติ นิพฺภโย อหฏฺโลโม หุตฺวา ปุจฺฉ, มหาราชาติ. วาสวํ อวจาติ ตุฏฺมานโส หุตฺวา สกฺกํ อโวจ. ชานํ อกฺขาสิชานโตติ ภิกฺขเว, โส สกฺโก อตีเต อตฺตนา ปจฺจกฺขโต ทิฏฺปุพฺพํ พฺรหฺมจริยสฺส วิปากํ ชานนฺโต ตสฺส อชานโต อกฺขาสิ.

หีเนนาติอาทีสุ ปุถุติตฺถายตเน เมถุนวิรติมตฺตํ สีลํ หีนํ นาม, เตน ขตฺติยกุเล อุปปชฺชติ. ฌานสฺส อุปจารมตฺตํ มชฺฌิมํ นาม, เตน เทวตฺตํ อุปปชฺชติ. อฏฺสมาปตฺตินิพฺพตฺตนํ ปน อุตฺตมํ นาม, เตน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, ตํ พาหิรกา นิพฺพานนฺติ กเถนฺติ. เตนาห ‘‘วิสุชฺฌตี’’ติ. อิมสฺมึ ปน พุทฺธสาสเน ปริสุทฺธสีลสฺส ภิกฺขุโน อฺตรํ เทวนิกายํ ปตฺเถนฺตสฺส พฺรหฺมจริยเจตนา หีนตาย หีนํ นาม, เตน ยถาปตฺถิเต เทวโลเก นิพฺพตฺตติ. ปริสุทฺธสีลสฺส ภิกฺขุโน อฏฺสมาปตฺตินิพฺพตฺตนํ มชฺฌิมํ นาม, เตน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. ปริสุทฺธสีลสฺส วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตุปฺปตฺติ อุตฺตมํ นาม, เตน วิสุชฺฌตีติ. อิติ สกฺโก ‘‘มหาราช, ทานโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน พฺรหฺมจริยวาโสว มหปฺผโล’’ติ วณฺเณติ. กายาติ พฺรหฺมฆฏา. ยาจโยเคนาติ ยาจนยุตฺตเกน ยฺยุตฺตเกน วาติ อุภยตฺถาปิ ทายกสฺเสเวตํ นามํ. ตปสฺสิโนติ ตปนิสฺสิตกา.

อิมาย คาถาย พฺรหฺมจริยวาสสฺเสว มหปฺผลภาวํ ทีเปตฺวา อิทานิ เย อตีเต มหาทานํ ทตฺวา กามาวจรํ อติกฺกมิตุํ นาสกฺขึสุ, เต ราชาโน ทสฺเสนฺโต อาห –

๔๓๑.

‘‘ทุทีโป สาคโร เสโล, มุชกินฺโท ภคีรโส;

อุสินฺทโร กสฺสโป จ, อสโก จ ปุถุชฺชโน.

๔๓๒.

‘‘เอเต จฺเ จ ราชาโน, ขตฺติยา พฺราหฺมณา พหู;

ปุถุยฺํ ยชิตฺวาน, เปตตฺตํ นาติวตฺติสุ’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ปุพฺเพ พาราณสิยํ ทุทีโป นาม ราชา ทานํ ทตฺวา มรณจกฺเกน ฉินฺโน กามาวจเรเยว นิพฺพตฺติ. ตถา สาคราทโย อฏฺาติ เอเต จ อฺเ จ พหู ราชาโน เจว ขตฺติยา พฺราหฺมณา จ ปุถุยฺํ ยชิตฺวาน อเนกปฺปการํ ทานํ ทตฺวา กามาวจรภูมิสงฺขาตํ เปตตฺตํ นาติวตฺตึสูติ อตฺโถ. กามาวจรเทวตา หิ รูปาทิโน กิเลสวตฺถุสฺส การณา ปรํ ปจฺจาสีสนโต กปณตาย ‘‘เปตา’’ติ วุจฺจนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘เย อทุติยา น รมนฺติ เอกิกา, วิเวกชํ เย น ลภนฺติ ปีตึ;

กิฺจาปิ เต อินฺทสมานโภคา, เต เว ปราธีนสุขา วรากา’’ติ.

เอวมฺปิ ทานผลโต พฺรหฺมจริยผลสฺเสว มหนฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ พฺรหฺมจริยวาเสน เปตภวนํ อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตตาปเส ทสฺเสนฺโต อาห –

๔๓๓.

‘‘อถ ยีเม อวตฺตึสุ, อนาคารา ตปสฺสิโน;

สตฺติสโย ยามหนุ, โสมยาโม มโนชโว.

๔๓๔.

‘‘สมุทฺโท มาโฆ ภรโต จ, อิสิ กาลปุรกฺขโต;

องฺคีรโส กสฺสโป จ, กิสวจฺโฉ อกตฺติ จา’’ติ.

ตตฺถ อวตฺตึสูติ กามาวจรํ อติกฺกมึสุ. ตปสฺสิโนติ สีลตปฺเจว สมาปตฺติตปฺจ นิสฺสิตา. สตฺติสโยติ ยามหนุอาทโย สตฺต ภาตโรว สนฺธายาห. องฺคีรสาทีหิ จตูหิ สทฺธึ เอกาทเสเต อวตฺตึสุ อติกฺกมึสูติ อตฺโถ.

เอวํ ตาว สุตวเสเนว ทานผลโต พฺรหฺมจริยวาสสฺเสว มหปฺผลตํ วณฺเณตฺวา อิทานิ อตฺตนา ทิฏฺปุพฺพํ อาหรนฺโต อาห –

๔๓๕.

‘‘อุตฺตเรน นที สีทา, คมฺภีรา ทุรติกฺกมา;

นฬคฺคิวณฺณา โชตนฺติ, สทา กฺจนปพฺพตา.

๔๓๖.

‘‘ปรูฬฺหกจฺฉา ตครา, รูฬฺหกจฺฉา วนา นคา;

ตตฺราสุํ ทสสหสฺสา, โปราณา อิสโย ปุเร.

๔๓๗.

‘‘อหํ เสฏฺโสฺมิ ทาเนน, สํยเมน ทเมน จ;

อนุตฺตรํ วตํ กตฺวา, ปกิรจารี สมาหิเต.

๔๓๘.

‘‘ชาติมนฺตํ อชจฺจฺจ, อหํ อุชุคตํ นรํ;

อติเวลํ นมสฺสิสฺสํ, กมฺมพนฺธู หิ มาณวา.

๔๓๙.

‘‘สพฺเพ วณฺณา อธมฺมฏฺา, ปตนฺติ นิรยํ อโธ;

สพฺเพ วณฺณา วิสุชฺฌนฺติ, จริตฺวา ธมฺมมุตฺตม’’นฺติ.

ตตฺถ อุตฺตเรนาติ มหาราช, อตีเต อุตฺตรหิมวนฺเต ทฺวินฺนํ สุวณฺณปพฺพตานํ อนฺตเร ปวตฺตา สีทา นาม นที คมฺภีรา นาวาหิปิ ทุรติกฺกมา อโหสิ. กึ การณา? สา หิ อติสุขุโมทกา, สุขุมตฺตา อุทกสฺส อนฺตมโส โมรปิฺฉ-มตฺตมฺปิ ตตฺถ ปติตํ นํ สณฺาติ, โอสีทิตฺวา เหฏฺาตลเมว คจฺฉติ. เตเนว สา สีทา นาม อโหสิ. เต ปน ตสฺสา ตีเรสุ กฺจนปพฺพตา สทา นฬคฺคิวณฺณา หุตฺวา โชตนฺติ โอภาสนฺติ. ปรูฬฺหกจฺฉา ตคราติ ตสฺสา ปน นทิยา ตีเร กจฺฉา ปรูฬฺหตครา อเหสุํ ตครคนฺธสุคนฺธิโน. รูฬฺหกจฺฉา วนา นคาติ เย ตตฺถ อฺเปิ ปพฺพตา, เตสมฺปิ อนฺตเร กจฺฉา รูฬฺหวนา อเหสุํ, ปุปฺผผลูปครุกฺขสฺฉนฺนาติ อตฺโถ. ตตฺราสุนฺติ ตสฺมึ เอวํ รมณีเย ภูมิภาเค ทสสหสฺสา อิสโย อเหสุํ. เต สพฺเพปิ อภิฺาสมาปตฺติลาภิโนว. เตสุ ภิกฺขาจารเวลาย เกจิ อุตฺตรกุรุํ คจฺฉนฺติ, เกจิ มหาชมฺพุทีเป ชมฺพุผลํ อาหรนฺติ, เกจิ หิมวนฺเตเยว มธุรผลาผลานิ อาหริตฺวา ขาทนฺติ, เกจิ ชมฺพุทีปตเล ตํ ตํ นครํ คจฺฉนฺติ. เอโกปิ รสตณฺหาภิภูโต นตฺถิ, ฌานสุเขเนว วีตินาเมนฺติ. ตทา เอโก ตาปโส อากาเสน พาราณสึ คนฺตฺวา สุนิวตฺโถ สุปารุโต ปิณฺฑาย จรนฺโต ปุโรหิตสฺส เคหทฺวารํ ปาปุณิ. โส ตสฺส อุปสเม ปสีทิตฺวา อนฺโตนิเวสนํ อาเนตฺวา โภเชตฺวา กติปาหํ ปฏิชคฺคนฺโต วิสฺสาเส อุปฺปนฺเน ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห กุหึ วสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อสุกฏฺาเน นามาวุโส’’ติ. ‘‘กึ ปน ตุมฺเห เอกโกว ตตฺถ วสถ, อุทาหุ อฺเปิ อตฺถี’’ติ? ‘‘กึ วเทสิ, อาวุโส, ตสฺมึ ปเทเส ทสสหสฺสา อิสโย วสนฺติ, สพฺเพว อภิฺาสมาปตฺติลาภิโน’’ติ. ตสฺส เตสํ คุณํ สุตฺวา ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ นมิ. อถ นํ โส อาห – ‘‘ภนฺเต, มมฺปิ ตตฺถ เนตฺวา ปพฺพาเชถา’’ติ. ‘‘อาวุโส, ตฺวํ ราชปุริโส, น ตํ สกฺกา ปพฺพาเชตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อชฺชาหํ ราชานํ อาปุจฺฉิสฺสามิ, ตุมฺเห สฺเวปิ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ. โส อธิวาเสสิ.

อิตโรปิ ภุตฺตปาตราโส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิจฺฉามหํ, เทว, ปพฺพชิตุ’’นฺติ อาห. ‘‘กึ การณา ปพฺพชิสฺสสี’’ติ? ‘‘กาเมสุ โทสํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ทิสฺวา’’ติ. ‘‘เตน หิ ปพฺพชาหิ, ปพฺพชิโตปิ มํ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ปุตฺตทารํ อนุสาสิตฺวา สพฺพํ สาปเตยฺยํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน ปพฺพชิตปริกฺขารํ คเหตฺวา ตาปสสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโตว นิสีทิ. ตาปโสปิ ตเถว อากาเสนาคนฺตฺวา อนฺโตนครํ ปวิสิตฺวา ตสฺส เคหํ ปาวิสิ. โส ตํ สกฺกจฺจํ ปริวิสิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยา กถํ กาตพฺพ’’นฺติ อาห. โส ตํ พหินครํ เนตฺวา หตฺเถ อาทาย อตฺตโน อานุภาเวน ตตฺถ เนตฺวา ปพฺพาเชตฺวา ปุนทิวเส ตํ ตตฺเถว เปตฺวา ภตฺตํ อาหริตฺวา ทตฺวา กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ. โส กติปาเหเนว อภิฺาสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สยเมว ปิณฺฑาย จรติ.

โส อปรภาเค ‘‘อหํ รฺโ อตฺตานํ ทสฺเสตุํ ปฏิฺํ อทาสึ, ทสฺเสสฺสามสฺส อตฺตาน’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตาปเส วนฺทิตฺวา อากาเสน พาราณสึ คนฺตฺวา ภิกฺขํ จรนฺโต ราชทฺวารํ ปาปุณิ. ราชา ตํ ทิสฺวา สฺชานิตฺวา อนฺโตนิเวสนํ ปเวเสตฺวา สกฺการํ กตฺวา ‘‘ภนฺเต, กุหึ วสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อุตฺตรหิมวนฺตปเทเส กฺจนปพฺพตนฺตเร ปวตฺตาย สีทานทิยา ตีเร, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, เอกโกว ตตฺถ วสถ, อุทาหุ อฺเปิ อตฺถี’’ติ. ‘‘กึ วเทสิ, มหาราช, ตตฺถ ทสสหสฺสา อิสโย วสนฺติ, สพฺเพว อภิฺาสมาปตฺติลาภิโน’’ติ? ราชา เตสํ คุณํ สุตฺวา สพฺเพสํ ภิกฺขํ ทาตุกาโม อโหสิ. อถ นํ ราชา อาห – ‘‘ภนฺเต, อหํ เตสํ อิสีนํ ภิกฺขํ ทาตุกาโมมฺหิ, กึ กโรมี’’ติ? ‘‘มหาราช, เต อิสโย ชิวฺหาวิฺเยฺยรเส อคิทฺธา, น สกฺกา อิธาเนตุ’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห นิสฺสาย เต โภเชสฺสามิ, อุปายํ เม อาจิกฺขถา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, สเจ เตสํ ทานํ ทาตุกาโมสิ, อิโต นิกฺขมิตฺวา สีทานทีตีเร วสนฺโต เตสํ ทานํ เทหี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพูปกรณานิ คาหาเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา อตฺตโน รชฺชสีมํ ปาปุณิ. อถ นํ ตาปโส อตฺตโน อานุภาเวน สทฺธึ เสนาย สีทานทีตีรํ เนตฺวา นทีตีเร ขนฺธาวารํ การาเปตฺวา อากาเสน อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปุนทิวเส ปจฺจาคมิ. อถ นํ ราชา สกฺกจฺจํ โภเชตฺวา ‘‘สฺเว, ภนฺเต, ทสสหสฺเส อิสโย อาทาย อิเธว อาคจฺฉถา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขาจารเวลาย เตสํ อิสีนํ อาโรเจสิ ‘‘มาริสา, พาราณสิราชา ‘ตุมฺหากํ ภิกฺขํ ทสฺสามี’ติ อาคนฺตฺวา สีทานทีตีเร นิสินฺโน สฺเว โว นิมนฺเตติ, ตสฺสานุกมฺปาย ขนฺธาวารํ คนฺตฺวา ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา ขนฺธาวารสฺส อวิทูเร โอตรึสุ. ราชา เต ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ขนฺธาวารํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเนสุ นิสีทาเปตฺวา อิสิคณํ ปณีเตนาหาเรน สนฺตปฺเปตฺวา เตสํ อิริยาปเถ ปสนฺโน สฺวาตนายปิ นิมนฺเตสิ. เอเตนุปาเยน ทสนฺนํ ตาปสสหสฺสานํ ทสวสฺสสหสฺสานิ ทานํ อทาสิ. ททนฺโต จ ตสฺมึเยว ปเทเส นครํ มาเปตฺวา สสฺสกมฺมํ กาเรสิ. น โข ปน, มหาราช, ตทา โส ราชา อฺโ อโหสิ, อถ โข อหํ เสฏฺโสฺมิ ทาเนน, อหเมว หิ ตทา ทาเนน เสฏฺโ หุตฺวา ตํ มหาทานํ ทตฺวา อิมํ เปตโลกํ อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตุํ นาสกฺขึ. มยา ทินฺนํ ปน ทานํ ภุฺชิตฺวา สพฺเพว เต ตาปสา กามาวจรํ อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา, อิมินาเปตํ เวทิตพฺพํ ‘‘พฺรหฺมจริยวาโสว มหปฺผโล’’ติ.

เอวํ ทาเนน อตฺตโน เสฏฺภาวํ ปกาเสตฺวา อิตเรหิ ตีหิ ปเทหิ เตสํ อิสีนํ คุณํ ปกาเสติ. ตตฺถ สํยเมนาติ สีเลน. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน. อนุตฺตรนฺติ เอเตหิ คุเณหิ นิรนฺตรํ อุตฺตมํ วตํ สมาทานํ จริตฺวา. ปกิรจารีติ คณํ ปกิริตฺวา ปฏิกฺขิปิตฺวา ปหาย เอกจาริเก, เอกีภาวํ คเตติ อตฺโถ. สมาหิเตติ อุปจารปฺปนาสมาธีหิ สมาหิตจิตฺเต. เอวรูเป อหํ ตปสฺสิโน อุปฏฺหินฺติ ทสฺเสติ. อหํ อุชุคตนฺติ อหํ, มหาราช, เตสํ ทสสหสฺสานํ อิสีนํ อนฺตเร กายวงฺกาทีนํ อภาเวน อุชุคตํ เอกมฺปิ นรํ หีนชจฺโจ วา โหตุ ชาติสมฺปนฺโน วา, ชาตึ อวิจาเรตฺวา เตสํ คุเณสุ ปสนฺนมานโส หุตฺวา สพฺพเมว อติเวลํ นมสฺสิสฺสํ, นิจฺจกาลเมว นมสฺสิสฺสนฺติ วทติ. กึ การณา? กมฺมพนฺธู หิ มาณวาติ, สตฺตา หิ นาเมเต กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, เตเนว การเณน สพฺเพ วณฺณาติ เวทิตพฺพา.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘กิฺจาปิ, มหาราช, ทานโต พฺรหฺมจริยเมว มหปฺผลํ, ทฺเวปิ ปเนเต มหาปุริสวิตกฺกาว, ตสฺมา ทฺวีสุปิ อปฺปมตฺโตว หุตฺวา ทานฺจ เทหิ, สีลฺจ รกฺขาหี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๔๐.

‘‘อิทํ วตฺวาน มฆวา, เทวราชา สุชมฺปติ;

เวเทหมนุสาสิตฺวา, สคฺคกายํ อปกฺกมี’’ติ.

ตตฺถ อปกฺกมีติ ปกฺกมิ, สุธมฺมาเทวสภายํ นิสินฺนเมว อตฺตานํ ทสฺเสสีติ อตฺโถ.

อถ นํ เทวคณา อาหํสุ ‘‘มหาราช, นนุ น ปฺายิตฺถ, กุหึ คตตฺถา’’ติ? ‘‘มาริสา มิถิลายํ นิมิรฺโ เอกา กงฺขา อุปฺปชฺชิ, ตสฺส ปฺหํ กเถตฺวา ตํ ราชานํ นิกฺกงฺขํ กตฺวา อาคโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ตํ การณํ คาถาย กเถตุํ อาห –

๔๔๑.

‘‘อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

ธมฺมิกานํ มนุสฺสานํ, วณฺณํ อุจฺจาวจํ พหุํ.

๔๔๒.

‘‘ยถา อยํ นิมิราชา, ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโก;

ราชา สพฺพวิเทหานํ, อทา ทานํ อรินฺทโม.

๔๔๓.

‘‘ตสฺส ตํ ททโต ทานํ, สงฺกปฺโป อุทปชฺชถ;

ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํ สุ มหปฺผล’’นฺติ.

ตตฺถ อิมนฺติ ธมฺมิกานํ กลฺยาณธมฺมานํ มนุสฺสานํ มยา วุจฺจมานํ สีลวเสน อุจฺจํ ทานวเสน อวจํ พหุํ อิมํ วณฺณํ นิสาเมถ สุณาถาติ อตฺโถ. ยถา อยนฺติ อยํ นิมิราชา ยถา อติวิย ปณฺฑิโตติ.

อิติ โส อปริหาเปตฺวา รฺโ วณฺณํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา เทวสงฺฆา ราชานํ ทฏฺุกามา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ นิมิราชา อาจริโย, ตสฺโสวาเท ตฺวา ตํ นิสฺสาย อมฺเหหิ อยํ ทิพฺพสมฺปตฺติ ลทฺธา, มยํ ทฏฺุกามมฺหา, ตํ ปกฺโกสาเปหิ, มหาราชา’’ติ วทึสุ. สกฺโก ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มาตลึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺม มาตลิ, เวชยนฺตรถํ โยเชตฺวา มิถิลํ คนฺตฺวา นิมิราชานํ ทิพฺพยาเน อาโรเปตฺวา อาเนหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รถํ โยเชตฺวา ปายาสิ. สกฺกสฺส ปน เทเวหิ สทฺธึ กเถนฺตสฺส มาตลึ อาณาเปนฺตสฺส จ รถํ โยเชนฺตสฺส จ มนุสฺสคณนาย มาโส อติกฺกนฺโต. อิติ นิมิรฺโ ปุณฺณมายํ อุโปสถิกสฺส ปาจีนสีหปฺชรํ วิวริตฺวา มหาตเล นิสีทิตฺวา อมจฺจคณปริวุตสฺส สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปาจีนโลกธาตุโต อุคฺคจฺฉนฺเตน จนฺทมณฺฑเลน สทฺธึเยว โส รโถ ปฺายติ. มนุสฺสา ภุตฺตสายมาสา ฆรทฺวาเรสุ นิสีทิตฺวา สุขกถํ กเถนฺตา ‘‘อชฺช ทฺเว จนฺทา อุคฺคตา’’ติ อาหํสุ. อถ เนสํ สลฺลปนฺตานฺเว รโถ ปากโฏ อโหสิ. มหาชโน ‘‘นายํ, จนฺโท, รโถ’’ติ วตฺวา อนุกฺกเมน สินฺธวสหสฺสยุตฺเต มาตลิสงฺคาหเก เวชยนฺตรเถ จ ปากเฏ ชาเต ‘‘กสฺส นุ โข อิทํ ทิพฺพยานํ อาคจฺฉตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘น กสฺสจิ อฺสฺส, อมฺหากํ ราชา ธมฺมิโก, สกฺเกน เวชยนฺตรโถ เปสิโต ภวิสฺสติ, อมฺหากํ รฺโว อนุจฺฉวิโก’’ติ ตุฏฺปฺปหฏฺโ คาถมาห –

๔๔๔.

‘‘อพฺภุโต วต โลกสฺมึ, อุปฺปชฺชิ โลมหํสโน;

ทิพฺโพ รโถ ปาตุรหุ, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน’’ติ.

ตตฺถ อพฺภุโตติ อภูตปุพฺโพ. อจฺฉริโยติ เต วิมฺหยวเสเนวมาหํสุ.

ตสฺส ปน มหาชนสฺส เอวํ กเถนฺตสฺเสว มาตลิ วาตเวเคน อาคนฺตฺวา รถํ นิวตฺเตตฺวา สีหปฺชรอุมฺมาเร ปจฺฉาภาเคน เปตฺวา อาโรหณสชฺชํ กตฺวา อาโรหณตฺถาย ราชานํ นิมนฺเตสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๔๕.

‘‘เทวปุตฺโต มหิทฺธิโก, มาตลิ เทวสารถิ;

นิมนฺตยิตฺถ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ.

๔๔๖.

‘‘เอหิมํ รถมารุยฺห, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

เทวา ทสฺสนกามา เต, ตาวตึสา สอินฺทกา;

สรมานา หิ เต เทวา, สุธมฺมายํ สมจฺฉเร’’ติ.

ตตฺถ มิถิลคฺคหนฺติ มิถิลายํ ปติฏฺิตเคหํ, จตูหิ วา สงฺคหวตฺถูหิ มิถิลายํ สงฺคาหกํ. สมจฺฉเรติ ตเวว คุณกถํ กเถนฺตา นิสินฺนาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อทิฏฺปุพฺพํ เทวโลกฺจ ปสฺสิสฺสามิ, มาตลิสฺส จ เม สงฺคโห กโต ภวิสฺสติ, คจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อนฺเตปุรฺจ มหาชนฺจ อามนฺเตตฺวา ‘‘อหํ นจิรสฺเสว อาคมิสฺสามิ, ตุมฺเห อปฺปมตฺตา ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรถา’’ติ วตฺวา รถํ อภิรุหิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๔๗.

‘‘ตโต ราชา ตรมาโน, เวเทโห มิถิลคฺคโห;

อาสนา วุฏฺหิตฺวาน, ปมุโข รถมารุหิ.

๔๔๘.

‘‘อภิรูฬฺหํ รถํ ทิพฺพํ, มาตลิ เอตทพฺรวิ;

เกน ตํ เนมิ มคฺเคน, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปุฺกมฺมา จ เย นรา’’ติ.

ตตฺถ ปมุโขติ อุตฺตโม, อภิมุโข วา, มหาชนสฺส ปิฏฺึ ทตฺวา อารูฬฺโหติ อตฺโถ. เยน วาติ เยน มคฺเคน คนฺตฺวา ยตฺถ ปาปกมฺมนฺตา วสนฺติ, ตํ านํ สกฺกา ทฏฺุํ, เยน วา คนฺตฺวา เย ปุฺกมฺมา นรา วสนฺติ, เตสํ านํ สกฺกา ทฏฺุํ, เอเตสุ ทฺวีสุ เกน มคฺเคน ตํ เนมิ. อิทํ โส สกฺเกน อนาณตฺโตปิ อตฺตโน ทูตวิเสสทสฺสนตฺถํ อาห.

อถ นํ ราชา ‘‘มยา ทฺเว านานิ อทิฏฺปุพฺพานิ, ทฺเวปิ ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๔๔๙.

‘‘อุภเยเนว มํ เนหิ, มาตลิ เทวสารถิ;

เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปุฺกมฺมา จ เย นรา’’ติ.

ตโต มาตลิ ‘‘ทฺเวปิ เอกปหาเรเนว น สกฺกา ทสฺเสตุํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ปุน คาถมาห –

๔๕๐.

‘‘เกน ตํ ปมํ เนมิ, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปุฺกมฺมา จ เย นรา’’ติ.

นิรยกณฺฑํ

ตโต ราชา ‘‘อหํ อวสฺสํ เทวโลกํ คมิสฺสามิ, นิรยํ ตาว ปสฺสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๔๕๑.

‘‘นิรเย ตาว ปสฺสามิ, อาวาเส ปาปกมฺมินํ;

านานิ ลุทฺทกมฺมานํ, ทุสฺสีลานฺจ ยา คตี’’ติ.

ตตฺถ ยา คตีติ ยา เอเตสํ นิพฺพตฺติ, ตฺจ ปสฺสามีติ.

อถสฺส เวตรณึ นทึ ตาว ทสฺเสสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๕๒.

‘‘ทสฺเสสิ มาตลิ รฺโ, ทุคฺคํ เวตรณึ นทึ;

กุถิตํ ขารสํยุตฺตํ, ตตฺตํ อคฺคิสิขูปม’’นฺติ.

ตตฺถ เวตรณินฺติ ภิกฺขเว, มาตลิ รฺโ กถํ สุตฺวา นิรยาภิมุขํ รถํ เปเสตฺวา กมฺมปจฺจเย อุตุนา สมุฏฺิตํ เวตรณึ นทึ ตาว ทสฺเสสิ. ตตฺถ นิรยปาลา ชลิตานิ อสิสตฺติโตมรภินฺทิวาลมุคฺคราทีนิ อาวุธานิ คเหตฺวา เนรยิกสตฺเต ปหรนฺติ วิชฺฌนฺติ วิเหเนฺติ. เต ตํ ทุกฺขํ อสหนฺตา เวตรณิยํ ปตนฺติ. สา อุปริ ภินฺทิวาลปฺปมาณาหิ สกณฺฏกาหิ เวตฺตลตาหิ สฺฉนฺนา. เต ตตฺถ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ ปจฺจึสุ. เตสุ ปชฺชลนฺเตสุ ขุรธาราติขิเณสุ กณฺฏเกสุ ขณฺฑาขณฺฑิกา โหนฺติ. เตสํ เหฏฺา ตาลกฺขนฺธปฺปมาณานิ ปชฺชลิตอยสูลานิ อุฏฺหนฺติ. เนรยิกสตฺตา พหุํ อทฺธานํ วีตินาเมตฺวา เวตฺตลตาหิ คฬิตฺวา สูเลสุ ปติตฺวา วิทฺธสรีรา สูเลสุ อาวุณิตมจฺฉา วิย จิรํ ปจฺจนฺติ. ตานิ สูลานิปิ ปชฺชลนฺติ, เนรยิกสตฺตาปิ ปชฺชลนฺติ. สูลานํ เหฏฺา อุทกปิฏฺเ ชลิตานิ ขุรธาราสทิสานิ ติขิณานิ อโยโปกฺขรปตฺตานิ โหนฺติ. เต สูเลหิ คฬิตฺวา อยโปกฺขรปตฺเตสุ ปติตฺวา จิรํ ทุกฺขเวทนํ อนุภวนฺติ. ตโต ขาโรทเก ปตนฺติ, อุทกํ ปชฺชลติ, เนรยิกสตฺตาปิ ปชฺชลนฺติ, ธูโมปิ อุฏฺหติ. อุทกสฺส ปน เหฏฺา นทีตลํ ขุรธาราหิ สฺฉนฺนํ. เต ‘‘เหฏฺา นุ โข กีทิส’’นฺติ อุทเก นิมุชฺชิตฺวา ขุรธาราสุ ขณฺฑาขณฺฑิกา โหนฺติ. เต ตํ มหาทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺตา มหนฺตํ เภรวํ วิรวนฺตา วิจรนฺติ. กทาจิ อนุโสตํ วุยฺหนฺติ, กทาจิ ปฏิโสตํ. อถ เน ตีเร ิตา นิรยปาลา อุสุสตฺติโตมราทีนิ อุกฺขิปิตฺวา มจฺเฉ วิย วิชฺฌนฺติ. เต ทุกฺขเวทนาปฺปตฺตา มหาวิรวํ รวนฺติ. อถ เน ปชฺชลิเตหิ อยพฬิเสหิ อุทฺธริตฺวา ปริกฑฺฒิตฺวา ปชฺชลิตอยปถวิยํ นิปชฺชาเปตฺวา เตสํ มุเข ตตฺตํ อโยคุฬฺหํ ปกฺขิปนฺติ.

อิติ นิมิราชา เวตรณิยํ มหาทุกฺขปีฬิเต เนรยิกสตฺเต ทิสฺวา ภีตตสิโต สงฺกมฺปิตหทโย หุตฺวา ‘‘กึ นาเมเต สตฺตา ปาปกมฺมํ อกํสู’’ติ มาตลึ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส พฺยากาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห –

๔๕๓.

‘‘นิมี หเว มาตลิมชฺฌภาสถ, ทิสฺวา ชนํ ปตมานํ วิทุคฺเค;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา เวตรณึ ปตนฺติ.

๔๕๔.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๕๕.

‘‘เย ทุพฺพเล พลวนฺตา ชีวโลเก, หึ สนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา;

เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา เวตรณึ ปตนฺตี’’ติ.

ตตฺถ วินฺทตีติ อหํ อตฺตโน อนิสฺสโร หุตฺวา ภยสนฺตโก วิย ชาโต. ทิสฺวาติ ปตมานํ ทิสฺวา. ชานนฺติ ภิกฺขเว, โส มาตลิ สยํ ชานนฺโต ตสฺส อชานโต อกฺขาสิ. ทุพฺพเลติ สรีรพลโภคพลอาณาพลวิรหิเต. พลวนฺตาติ เตหิ พเลหิ สมนฺนาคตา. หึสนฺตีติ ปาณิปฺปหาราทีหิ กิลเมนฺติ. โรเสนฺตีติ นานปฺปกาเรหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ ฆเฏนฺติ. ปสเวตฺวาติ ชเนตฺวา, กตฺวาติ อตฺโถ.

เอวํ มาตลิ ตสฺส ปฺหํ พฺยากริตฺวา รฺา เวตรณินิรเย ทิฏฺเ ตํ ปเทสํ อนฺตรธาเปตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา สุนขาทีหิ ขาทนฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ตํ ทิสฺวา ภีเตน รฺา ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๕๖.

‘‘สามา จ โสณา สพลา จ คิชฺฌา, กาโกลสงฺฆา อทนฺติ เภรวา;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กึมกํสุ ปาปํ, เยเม ชเน กาโกลสงฺฆา อทนฺติ.

๔๕๗.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๕๘.

‘‘เย เกจิเม มจฺฉริโน กทริยา, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;

หึ สนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;

เตเม ชเน กาโกลสงฺฆา อทนฺตี’’ติ.

อิโต ปเรสุ ปฺเหสุ เจว พฺยากรเณสุ จ เอเสว นโย. ตตฺถ สามาติ รตฺตวณฺณา. โสณาติ สุนขา. สพลา จาติ กพรวณฺณา จ, เสตกาฬปีตโลหิตวณฺณา จาติ เอวํ ปฺจวณฺณสุนเข ทสฺเสติ. เต กิร มหาหตฺถิปฺปมาณา ชลิตอยปถวิยํ เนรยิกสตฺเต มิเค วิย อนุพนฺธิตฺวา ปิณฺฑิกมํเสสุ ฑํสิตฺวา เตสํ ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ ชลิตอยปถวิยํ ปาเตตฺวา มหารวํ รวนฺตานํ ทฺวีหิ ปุริมปาเทหิ อุรํ อกฺกมิตฺวา อฏฺิเมว เสเสตฺวา มํสํ ลุฺจิตฺวา ขาทนฺติ. คิชฺฌาติ มหาภณฺฑสกฏปฺปมาณา โลหตุณฺฑา คิชฺฌา. เอเต เตสํ กณยสทิเสหิ ตุณฺเฑหิ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ ขาทนฺติ. กาโกลสงฺฆาติ โลหตุณฺฑกากคณา. เต อติวิย ภยานกา ทิฏฺเ ทิฏฺเ ขาทนฺติ. เยเม ชเนติ เย อิเม เนรยิกสตฺเต กาโกลสงฺฆา ขาทนฺติ, อิเม นุ มจฺจา กึ นาม ปาปํ อกํสูติ ปุจฺฉิ. มจฺฉริโนติ อฺเสํ อทายกา. กทริยาติ ปเร เทนฺเตปิ ปฏิเสธกา ถทฺธมจฺฉริโน. สมณพฺราหฺมณานนฺติ สมิตพาหิตปาปานํ.

๔๕๙.

‘‘สโชติภูตา ปถวึ กมนฺติ, ตตฺเตหิ ขนฺเธหิ จ โปถยนฺติ;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา ขนฺธหตา สยนฺติ.

๔๖๐.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๖๑.

‘‘เย ชีวโลกสฺมิ สุปาปธมฺมิโน, นรฺจ นาริฺจ อปาปธมฺมํ;

หึ สนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;

เตเม ชนา ขนฺธหตา สยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ สโชติภูตาติ ปชฺชลิตสรีรา. ปถวินฺติ ปชฺชลิตํ นวโยชนพหลํ อยปถวึ. กมนฺตีติ อกฺกมนฺติ. ขนฺเธหิ จ โปถยนฺตีติ นิรยปาลา อนุพนฺธิตฺวา ตาลปฺปมาเณหิ ชลิตอยกฺขนฺเธหิ ชงฺฆาทีสุ ปหริตฺวา ปาเตตฺวา เตเหว ขนฺเธหิ โปถยนฺติ, จุณฺณวิจุณฺณํ กโรนฺติ. สุปาปธมฺมิโนติ อตฺตนา สุฏฺุ ปาปธมฺมา หุตฺวา. อปาปธมฺมนฺติ สีลาจาราทิสมฺปนฺนํ, นิรปราธํ วา.

๔๖๒.

‘‘องฺคารกาสุํ อปเร ผุณนฺติ, นรา รุทนฺตา ปริทฑฺฒคตฺตา;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กึ มกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา องฺคารกาสุํ ผุณนฺติ.

๔๖๓.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๖๔.

‘‘เย เกจิ ปูคาย ธนสฺส เหตุ, สกฺขึ กริตฺวา อิณํ ชาปยนฺติ;

เต ชาปยิตฺวา ชนตํ ชนินฺท, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;

เตเม ชนา องฺคารกาสุํ ผุณนฺตี’’ติ.

ตตฺถ องฺคารกาสุนฺติ สมฺม มาตลิ, เก นาเมเต อปเร วชํ อปวิสนฺติโย คาโว วิย สมฺปริวาเรตฺวา นิรยปาเลหิ ชลิตอยคุเฬหิ โปถิยมานา องฺคารกาสุํ ปตนฺติ. ตตฺร จ เนสํ ยาว กฏิปฺปมาณา นิมุคฺคานํ มหตีหิ อยปจฺฉีหิ อาทาย อุปริองฺคาเร โอกิรนฺติ, อถ เน องฺคาเร สมฺปฏิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺตา โรทนฺตา ทฑฺฒคตฺตา ผุณนฺติ วิธุนนฺติ, กมฺมพเลน วา อตฺตโน สีเส องฺคาเร ผุณนฺติ โอกิรนฺตีติ อตฺโถ. ปูคาย ธนสฺสาติ โอกาเส สติ ทานํ วา ทสฺสาม, ปูชํ วา ปวตฺเตสฺสาม, วิหารํ วา กริสฺสามาติ สํกฑฺฒิตฺวา ปิตสฺส ปูคสนฺตกสฺส ธนสฺส เหตุ. ชาปยนฺตีติ ตํ ธนํ ยถารุจิ ขาทิตฺวา คณเชฏฺกานํ ลฺชํ ทตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน เอตฺตกํ วยกรณํ คตํ, อสุกฏฺาเน อมฺเหหิ เอตฺตกํ ทินฺน’’นฺติ กูฏสกฺขึ กริตฺวา ตํ อิณํ ชาปยนฺติ วินาเสนฺติ.

๔๖๕.

‘‘สโชติภูตา ชลิตา ปทิตฺตา, ปทิสฺสติ มหตี โลหกุมฺภี;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา อวํสิรา โลหกุมฺภึ ปตนฺติ.

๔๖๖.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๖๗.

‘‘เย สีลวนฺตํ สมณํ พฺราหฺมณํ วา, หึสนฺติ โรเสนฺติ สุปาปธมฺมา;

เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา อวํสิรา โลหกุมฺภึ ปตนฺตี’’ติ.

ตตฺถ ปทิตฺตาติอาทิตฺตา. มหตีติ ปพฺพตปฺปมาณา กปฺเปน สณฺิตโลหรเสน สมฺปุณฺณา. อวํสิราติ ภยานเกหิ นิรยปาเลหิ อุทฺธํปาเท อโธสิเร กตฺวา ขิปิยมานา ตํ โลหกุมฺภึ ปตนฺติ. สีลวนฺตนฺติ สีลอาจารคุณสมฺปนฺนํ.

๔๖๘.

‘‘ลุฺจนฺติ คีวํ อถ เวยิตฺวา, อุณฺโหทกสฺมึ ปกิเลทยิตฺวา;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา ลุตฺตสิรา สยนฺติ.

๔๖๙.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๗๐.

‘‘เย ชีวโลกสฺมิ สุปาปธมฺมิโน, ปกฺขี คเหตฺวาน วิเหยนฺติ เต;

วิเหยิตฺวา สกุณํ ชนินฺท, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;

เตเม ชนา ลุตฺตสิรา สย’’นฺติ.

ตตฺถ ลุฺจนฺตีติ อุปฺปาเฏนฺติ. อถ เวยิตฺวาติ ชลิตโลหโยตฺเตหิ อโธมุขํ เวยิตฺวา. อุณฺโหทกสฺมินฺติ กปฺเปน สณฺิตโลหอุทกสฺมึ. ปกิเลทยิตฺวาติ เตเมตฺวา ขิปิตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม มาตลิ, เยสํ อิเม นิรยปาลา ชลิตโลหโยตฺเตหิ คีวํ เวเตฺวา ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ โอนาเมตฺวา ตํ คีวํ สมฺปริวตฺตกํ ลุฺจิตฺวา ชลิตอยทณฺเฑหิ อาทาย เอกสฺมึ ชลิตโลหรเส ปกฺขิปิตฺวา ตุฏฺหฏฺา โหนฺติ, ตาย จ คีวาย ลุฺจิตาย ปุน สีเสน สทฺธึ คีวา อุปฺปชฺชติเยว. กึ นาเมเต กมฺมํ กรึสุ? เอเต หิ เม ทิสฺวา ภยํ อุปฺปชฺชตีติ. ปกฺขี คเหตฺวาน วิเหยนฺตีติ มหาราช, เย ชีวโลกสฺมึ สกุเณ คเหตฺวา ปกฺเข ลุฺจิตฺวา คีวํ เวเตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ขาทนฺติ วา วิกฺกิณนฺติ วา, เต อิเม ลุตฺตสิรา สยนฺตีติ.

๔๗๑.

‘‘ปหูตโตยา อนิคาธกูลา, นที อยํ สนฺทติ สุปฺปติตฺถา;

ฆมฺมาภิตตฺตา มนุชา ปิวนฺติ, ปีตฺจ เตสํ ภุส โหติ ปานิ.

๔๗๒.

‘‘ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, ปีตฺจ เตสํ ภุส โหติ ปานิ.

๔๗๓.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๗๔.

‘‘เย สุทฺธธฺํ ปลาเสน มิสฺสํ, อสุทฺธกมฺมา กยิโน ททนฺติ;

ฆมฺมาภิตตฺตาน ปิปาสิตานํ, ปีตฺจ เตสํ ภุส โหติ ปานี’’ติ.

ตตฺถ อนิคาธกูลาติ อคมฺภีรตีรา. สุปฺปติตฺถาติ โสภเนหิ ติตฺเถหิ อุเปตา. ภุส โหตีติ วีหิภุสํ สมฺปชฺชติ. ปานีติ ปานียํ. ตสฺมึ กิร ปเทเส ปหูตสลิลา รมณียา นที สนฺทติ, เนรยิกสตฺตา อคฺคิสนฺตาเปน ตตฺตา ปิปาสํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตา พาหา ปคฺคยฺห ชลิตโลหปถวึ มทฺทนฺตา ตํ นทึ โอตรนฺติ, ตงฺขณฺเว ตีรา ปชฺชลนฺติ, ปานียํ ภุสปลาสภาวํ อาปชฺชิตฺวา ปชฺชลติ. เต ปิปาสํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตา ตํ ชลิตํ ภุสปลาสํ ขาทนฺติ. ตํ เตสํ สกลสรีรํ ฌาเปตฺวา อโธภาเคน นิกฺขมติ. เต ตํ ทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺตา พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ. สุทฺธธฺนฺติ วีหิอาทิสตฺตวิธํ ปริสุทฺธธฺํ. ปลาเสน มิสฺสนฺติ ปลาเสน วา ภุเสน วา วาลุกามตฺติกาทีหิ วา มิสฺสกํ กตฺวา. อสุทฺธกมฺมาติ กิลิฏฺกายวจีมโนกมฺมา. กยิโนติ ‘‘สุทฺธธฺํ ทสฺสามี’’ติ กยิกสฺส หตฺถโต มูลํ คเหตฺวา ตถารูปํ อสุทฺธธฺํ ททนฺติ.

๔๗๕.

‘‘อุสูหิ สตฺตีหิ จ โตมเรหิ, ทุภยานิ ปสฺสานิ ตุทนฺติ กนฺทตํ;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา สตฺติหตา สยนฺติ.

๔๗๖.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๗๗.

‘‘เย ชีวโลกสฺมึ อสาธุกมฺมิโน, อทินฺนมาทาย กโรนฺติ ชีวิกํ;

ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ, อเชฬกฺจาปิ ปสุํ มหึสํ;

เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา สตฺติหตา สยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ ทุภยานีติ อุภยานิ. ตุทนฺตีติ วิชฺฌนฺติ. กนฺทตนฺติ กนฺทนฺตานํ. ผรุสา นิรยปาลา อรฺเ ลุทฺทา มิคํ วิย สมฺปริวาเรตฺวา อุสุอาทีหิ นานาวุเธหิ ทฺเว ปสฺสานิ ตุทนฺติ, สรีรํ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ ปุราณปณฺณํ วิย ขายติ. อทินฺนมาทายาติปรสนฺตกํ สวิฺาณกาวิฺาณกํ สนฺธิจฺเฉทาทีหิ เจว วฺจนาย จ คเหตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺติ.

๔๗๘.

‘‘คีวาย พทฺธา กิสฺส อิเม ปุเนเก, อฺเ วิกนฺตา พิลกตา สยนฺติ;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา พิลกตา สยนฺติ.

๔๗๙.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๘๐.

‘‘โอรพฺภิกา สูกริกา จ มจฺฉิกา, ปสุํ มหึสฺจ อเชฬกฺจ;

หนฺตฺวาน สูเนสุ ปสารยึสุ, เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ;

เตเม ชนา พิลกตา สยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ คีวาย พทฺธาติ มหนฺเตหิ ชลิตโลหโยตฺเตหิ คีวาย พนฺธิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา อยปถวิยํ ปาเตตฺวา นานาวุเธหิ โกฏฺฏิยมาเน ทิสฺวา ปุจฺฉิ. อฺเ วิกนฺตาติ อฺเ ปน ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺนา. พิลกตาติ ชลิเตสุ อยผลเกสุ เปตฺวา มํสํ วิย โปตฺถนิยา โกฏฺเฏตฺวา ปุฺชกตา หุตฺวา สยนฺติ. มจฺฉิกาติ มจฺฉฆาตกา. ปสุนฺติ คาวึ. สูเนสุ ปสารยึสูติ มํสํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปนตฺถํ สูนาปเณสุ เปสุํ.

๔๘๑.

‘‘รหโท อยํ มุตฺตกรีสปูโร, ทุคฺคนฺธรูโป อสุจิ ปูติ วาติ;

ขุทาปเรตา มนุชา อทนฺติ, ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา;

ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ, อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ;

เยเม ชนา มุตฺตกรีสภกฺขา.

๔๘๒.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิ ชานโต.

๔๘๓.

‘‘เย เกจิเม การณิกา วิโรสกา, ปเรสํ หึสาย สทา นิวิฏฺา;

เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, มิตฺตทฺทุโน มีฬฺหมทนฺติ พาลา’’ติ;

ตตฺถ ขุทาปเรตา มนุชา อทนฺตีติ เอเต เนรยิกา สตฺตา ฉาตเกน ผุฏฺา ขุทํ สหิตุํ อสกฺโกนฺตา ปกฺกุถิตํ ธูมายนฺตํ ปชฺชลนฺตํ กปฺเปน สณฺิตํ ปุราณมีฬฺหํ ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ กตฺวา อทนฺติ ขาทนฺติ. การณิกาติ การณการกา. วิโรสกาติ มิตฺตสุหชฺชานมฺปิ วิเหกา. มิตฺตทฺทุโนติ เย เตสฺเว เคเห ขาทิตฺวา ภุฺชิตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา สยิตฺวา ปุน มาสกหาปณํ นาม อาหราเปนฺติ, ลฺชํ คณฺหนฺติ, เต มิตฺตทูสกา พาลา เอวรูปํ มีฬฺหํ ขาทนฺติ, มหาราชาติ.

๔๘๔.

‘‘รหโท อยํ โลหิตปุพฺพปูโร, ทุคฺคนฺธรูโป อสุจิ ปูติ วาติ;

ฆมฺมาภิตตฺตา มนุชา ปิวนฺติ, ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา;

ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ, อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ;

เยเม ชนา โลหิตปุพฺพภกฺขา.

๔๘๕.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๘๖.

‘‘เย มาตรํ วา ปิตรํ วา ชีวโลเก, ปาราชิกา อรหนฺเต หนนฺติ;

เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา โลหิตปุพฺพภกฺขา’’ติ.

ตตฺถ ฆมฺมาภิตตฺตาติ สนฺตาเปน ปีฬิตา. ปาราชิกาติ ปราชิตา ชราชิณฺเณ มาตาปิตโร ฆาเตตฺวา คิหิภาเวเยว ปาราชิกํ ปตฺตา. อรหนฺเตติ ปูชาวิเสสสฺส อนุจฺฉวิเก. หนนฺตีติ ทุกฺกรการเก มาตาปิตโร มาเรนฺติ. อปิจ ‘‘อรหนฺเต’’ติ ปเทน พุทฺธสาวเกปิ สงฺคณฺหาติ.

อปรสฺมิมฺปิ อุสฺสทนิรเย นิรยปาลา เนรยิกานํ ตาลปฺปมาเณน ชลิตอยพฬิเสน ชิวฺหํ วิชฺฌิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา เต สตฺเต ชลิตอยปถวิยํ ปาเตตฺวา อุสภจมฺมํ วิย ปตฺถริตฺวา สงฺกุสเตน หนนฺติ. เต ถเล ขิตฺตมจฺฉา วิย ผนฺทนฺติ, ตฺจ ทุกฺขํ สหิตุํ อสกฺโกนฺตา โรทนฺตา ปริเทวนฺตา มุเขน เขฬํ มุฺจนฺติ. ตสฺมึ ราชา มาตลินา ทสฺสิเต อาห –

๔๘๗.

‘‘ชิวฺห จ ปสฺส พฬิเสน วิทฺธํ, วิหตํ ยถา สงฺกุสเตน จมฺมํ;

ผนฺทนฺติ มจฺฉาว ถลมฺหิ ขิตฺตา, มุฺจนฺติ เขฬํ รุทมานา กิเมเต.

๔๘๘.

‘‘ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา วงฺกฆสฺตา สยนฺตี’’ติ.

๔๘๙.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๙๐.

‘‘เย เกจิ สนฺธานคตา มนุสฺสา, อคฺเฆน อคฺฆํ กยํ หาปยนฺติ;

กูเฏน กูฏํ ธนโลภเหตุ, ฉนฺนํ ยถา วาริจรํ วธาย.

๔๙๑.

‘‘น หิ กูฏการิสฺส ภวนฺติ ตาณา, สเกหิ กมฺเมหิ ปุรกฺขตสฺส;

เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา วงฺกฆสฺตา สยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ กิเมเตติ กึการณา เอเต. วงฺกฆสฺตาติ คิลิตพฬิสา. สนฺธานคตาติ สนฺธานํ มริยาทํ คตา, อคฺฆาปนกฏฺาเน ิตาติ อตฺโถ. อคฺเฆน อคฺฆนฺติ ตํ ตํ อคฺฆํ ลฺชํ คเหตฺวา หตฺถิอสฺสาทีนํ วา ชาตรูปรชตาทีนํ วา เตสํ เตสํ สวิฺาณกาวิฺาณกานํ อคฺฆํ หาเปนฺติ. กยนฺติ ตํ หาเปนฺตา กายิกานํ กยํ หาเปนฺติ, สเต ทาตพฺเพ ปณฺณาสํ ทาเปนฺติ, อิตรํ เตหิ สทฺธึ วิภชิตฺวา คณฺหนฺติ. กูเฏน กูฏนฺติ ตุลากูฏาทีสุ ตํ ตํ กูฏํ. ธนโลภเหตูติ ธนโลเภน เอตํ กูฏกมฺมํ กโรนฺติ. ฉนฺนํ ยถา วาริจรํ วธายาติ ตํ ปน กมฺมํ กโรนฺตาปิ มธุรวาจาย ตถา กตภาวํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ยถา วาริจรํ มจฺฉํ วธาย อุปคจฺฉนฺตา พฬิสํ อามิเสน ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ตํ วเธนฺติ, เอวํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ตํ กมฺมํ กโรนฺติ. น หิ กูฏการิสฺสาติ ปฏิจฺฉนฺนํ มม กมฺมํ, น ตํ โกจิ ชานาตีติ มฺมานสฺส หิ กูฏการิสฺส ตาณา นาม น โหนฺติ. โส เตหิ กมฺเมหิ ปุรกฺขโต ปติฏฺํ น ลภติ.

๔๙๒.

‘‘นารี อิมา สมฺปริภินฺนคตฺตา, ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ ภุเช ทุชจฺจา;

สมฺมกฺขิตา โลหิตปุพฺพลิตฺตา, คาโว ยถา อาฆาตเน วิกนฺตา;

ตา ภูมิภาคสฺมึ สทา นิขาตา, ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตา.

๔๙๓.

‘‘ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิมา นุ นาริโย กิมกํสุ ปาปํ, ยา ภูมิภาคสฺมึ สทา นิขาตา;

ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตา.

๔๙๔.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๙๕.

‘‘โกลิตฺถิยาโย อิธ ชีวโลเก, อสุทฺธกมฺมา อสตํ อจารุํ;

ตา ทิตฺตรูปา ปติ วิปฺปหาย, อฺํ อจารุํ รติขิฑฺฑเหตุ;

ตา ชีวโลกสฺมึ รมาปยิตฺวา, ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตา’’ติ.

ตตฺถ นารีติ อิตฺถิโย. สมฺปริภินฺนคตฺตาติ สุฏฺุ สมนฺตโต ภินฺนสรีรา. ทุชจฺจาติ ทุชฺชาติกา วิรูปา เชคุจฺฉา. อาฆาตเนติ คาวฆาตฏฺาเน. วิกนฺตาติ ฉินฺนสีสา คาโว วิย ปุพฺพโลหิตลิตฺตา หุตฺวา. สทา นิขาตาติ นิจฺจํ ชลิตอยปถวิยํ กฏิมตฺตํ ปเวเสตฺวา นิขณิตฺวา ปิตา วิย ิตา. ขนฺธาติวตฺตนฺตีติ สมฺม มาตลิ, ตา นาริโย เอเต ปพฺพตกฺขนฺธา อติกฺกมนฺติ. ตาสํ กิร เอวํ กฏิปฺปมาณํ ปวิสิตฺวา ิตกาเล ปุรตฺถิมาย ทิสาย ชลิตอยปพฺพโต สมุฏฺหิตฺวา อสนิ วิย วิรวนฺโต อาคนฺตฺวา สรีรํ สณฺหกรณี วิย ปิสนฺโต คจฺฉติ. ตสฺมึ อติวตฺติตฺวา ปจฺฉิมปสฺเส ิเต ปุน จ ตาสํ สรีรํ ปาตุ ภวติ. ตา ทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺติโย พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ. เสสทิสาสุ วุฏฺิเตสุ ชลิตปพฺพเตสุปิ เอเสว นโย. ทฺเว ปพฺพตา สมุฏฺาย อุจฺฉุฆฏิกํ วิย ปีเฬนฺติ, โลหิตํ ปกฺกุถิตํ สนฺทติ. กทาจิ ตโย ปพฺพตา สมุฏฺาย ปีเฬนฺติ. กทาจิ จตฺตาโร ปพฺพตา สมุฏฺาย ตาสํ สรีรํ ปีเฬนฺติ. เตนาห ‘‘ขนฺธาติวตฺตนฺตี’’ติ.

โกลิตฺถิยาโยติ กุเล ปติฏฺิตา กุลธีตโร. อสตํ อจารุนฺติ อสฺตกมฺมํ กรึสุ. ทิตฺตรูปาติ สรูปา ธุตฺตชาติกา หุตฺวา. ปติ วิปฺปหายาติ อตฺตโน ปตึ ปชหิตฺวา. อจารุนฺติ อคมํสุ. รติขิฑฺฑเหตูติ กามรติเหตุ เจว ขิฑฺฑาเหตุ จ. รมาปยิตฺวาติ ปรปุริเสหิ สทฺธึ อตฺตโน จิตฺตํ รมาปยิตฺวา อิธ อุปปนฺนา. อถ ตาสํ สรีรํ อิเม ขนฺธาติวตฺตนฺติ สโชติภูตาติ.

๔๙๖.

‘‘ปาเท คเหตฺวา กิสฺส อิเม ปุเนเก, อวํสิรา นรเก ปาตยนฺติ;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา อวํสิรา นรเก ปาตยนฺติ.

๔๙๗.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๔๙๘.

‘‘เย ชีวโลกสฺมึ อสาธุกมฺมิโน, ปรสฺส ทารานิ อติกฺกมนฺติ;

เต ตาทิสา อุตฺตมภณฺฑเถนา, เตเม ชนา อวํสิรา นรเก ปาตยนฺติ.

๔๙๙.

‘‘เต วสฺสปูคานิ พหูนิ ตตฺถ, นิรเยสุ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยนฺติ;

น หิ ปาปการิสฺส ภวนฺติ ตาณา, สเกหิ กมฺเมหิ ปุรกฺขตสฺส;

เต ลุทฺทกมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, เตเม ชนา อวํสิรา นรเก ปาตยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ นรเกติ ชลิตองฺคารปุณฺเณ มหาอาวาเฏ. เต กิร วชํ อปวิสนฺติโย คาโว วิย นิรยปาเลหิ นานาวุธานิ คเหตฺวา วิชฺฌิยมานา โปถิยมานา ยทา ตํ นรกํ อุปคจฺฉนฺติ, อถ เต นิรยปาลา อุทฺธํปาเท กตฺวา ตตฺถ ปาตยนฺติ ขิปนฺติ. เอวํ เต ปาติยมาเน ทิสฺวา ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. อุตฺตมภณฺฑเถนาติ มนุสฺเสหิ ปิยายิตสฺส วรภณฺฑสฺส เถนกา.

เอวฺจ ปน วตฺวา มาตลิสงฺคาหโก ตํ นิรยํ อนฺตรธาเปตฺวา รถํ ปุรโต เปเสตฺวา มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ปจฺจนฏฺานํ นิรยํ ทสฺเสสิ. เตน ปุฏฺโ จสฺส วิยากาสิ.

๕๐๐.

‘‘อุจฺจาวจาเม วิวิธา อุปกฺกมา, นิรเยสุ ทิสฺสนฺติ สุโฆรรูปา;

ภยฺหิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ ปาปํ, เยเม ชนา อธิมตฺตา ทุกฺขา ติพฺพา;

ขรา กฏุกา เวทนา เวทยนฺติ.

๕๐๑.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปาปกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๐๒.

‘‘เย ชีวโลกสฺมึ สุปาปทิฏฺิโน, วิสฺสาสกมฺมานิ กโรนฺติ โมหา;

ปรฺจ ทิฏฺีสุ สมาทเปนฺติ, เต ปาปทิฏฺึ ปสเวตฺว ปาปํ;

เตเม ชนา อธิมตฺตา ทุกฺขา ติพฺพา, ขรา กฏุกา เวทนา เวทยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อุจฺจาวจาเมติ อุจฺจา อวจา อิเม, ขุทฺทกา จ มหนฺตา จาติ อตฺโถ. อุปกฺกมาติ การณปฺปโยคา. สุปาปทิฏฺิโนติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาย ทสวตฺถุกาย มิจฺฉาทิฏฺิยา สุฏฺุ ปาปทิฏฺิโน. วิสฺสาสกมฺมานีติ ตาย ทิฏฺิยา วิสฺสาเสน ตนฺนิสฺสิตา หุตฺวา นานาวิธานิ ปาปกมฺมานิ กโรนฺติ. เตเมติ เต อิเม ชนา เอวรูปํ ทุกฺขํ อนุภวนฺติ.

อิติ รฺโ มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ปจฺจนนิรยํ อาจิกฺขิ. เทวโลเกปิ เทวคณา รฺโ อาคมนมคฺคํ โอโลกยมานา สุธมฺมายํ เทวสภายํ นิสีทึสุเยว. สกฺโกปิ ‘‘กึ นุ โข, มาตลิ, จิรายตี’’ติ อุปธาเรนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘มาตลิ, อตฺตโน ทูตวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘มหาราช, อสุกกมฺมํ กตฺวา อสุกนิรเย นาม ปจฺจนฺตี’ติ นิรเย ทสฺเสนฺโต วิจรติ, นิมิรฺโ ปน อปฺปเมว อายุ ขีเยถ, นิรยทสฺสนํ นาสฺส ปริยนฺตํ คจฺเฉยฺยา’’ติ เอกํ มหาชวํ เทวปุตฺตํ เปเสสิ ‘‘ตฺวํ ‘สีฆํ ราชานํ คเหตฺวา อาคจฺฉตู’ติ มาตลิสฺส วเทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ชเวน คนฺตฺวา อาโรเจสิ. มาตลิ, ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา จิรายิตุ’’นฺติ รฺโ เอกปหาเรเนว จตูสุ ทิสาสุ พหู นิรเย ทสฺเสตฺวา คาถมาห –

๕๐๓.

‘‘วิทิตานิ เต มหาราช, อาวาสํ ปาปกมฺมินํ;

านานิ ลุทฺทกมฺมานํ, ทุสฺสีลานฺจ ยา คติ;

อุยฺยาหิ ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, อิมํ ปาปกมฺมีนํ สตฺตานํ อาวาสํ ทิสฺวา ลุทฺทกมฺมานฺจ านานิ ตยา วิทิตานิ. ทุสฺสีลานฺจ ยา คติ นิพฺพตฺติ, สาปิ เต วิทิตา. อิทานิ เทวราชสฺส สนฺติเก ทิพฺพสมฺปตฺตึ ทสฺสนตฺถํ อุยฺยาหิ คจฺฉาหิ, มหาราชาติ.

นิรยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

สคฺคกณฺฑํ

เอวฺจ ปน วตฺวา มาตลิ เทวโลกาภิมุขํ รถํ เปเสสิ. ราชา เทวโลกํ คจฺฉนฺโต ทฺวาทสโยชนิกํ มณิมยํ ปฺจถูปิกํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ อุยฺยานโปกฺขรณิสมฺปนฺนํ กปฺปรุกฺขปริวุตํ พีรณิยา เทวธีตาย อากาสฏฺกวิมานํ ทิสฺวา, ตฺจ เทวธีตรํ อนฺโตกูฏาคาเร สยนปิฏฺเ นิสินฺนํ อจฺฉราสหสฺสปริวุตํ มณิสีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตึ ทิสฺวา มาตลึ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห. อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.

๕๐๔.

‘‘ปฺจถูปํ ทิสฺสติทํ วิมานํ, มาลาปิฬนฺธา สยนสฺส มชฺเฌ;

ตตฺถจฺฉติ นารี มหานุภาวา, อุจฺจาวจํ อิทฺธิ วิกุพฺพมานา.

๕๐๕.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อยํ นุ นารี กิมกาสิ สาธุํ, ยา โมทติ สคฺคปตฺตา วิมาเน.

๕๐๖.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๐๗.

‘‘ยทิ เต สุตา พีรณี ชีวโลเก, อามายทาสี อหุ พฺราหฺมณสฺส;

สา ปตฺตกาลํ อติถึ วิทิตฺวา, มาตาว ปุตฺตํ สกิมาภินนฺที;

สํยมา สํวิภาคา จ, สา วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.

ตตฺถ ปฺจถูปนฺติ ปฺจหิ กูฏาคาเรหิ สมนฺนาคตํ. มาลาปิฬนฺธาติ มาลาทีหิ สพฺพาภรเณหิ ปฏิมณฺฑิตาติ อตฺโถ. ตตฺถจฺฉตีติ ตสฺมึ วิมาเน อจฺฉติ. อุจฺจาวจํ อิทฺธิ วิกุพฺพมานาติ นานปฺปการํ เทวิทฺธึ ทสฺสยมานา. ทิสฺวาติ เอตํ ทิสฺวา ิตํ มํ วิตฺติ วินฺทติ ปฏิลภติ, วิตฺติสนฺตโก วิย โหมิ ตุฏฺิยา อติภูตตฺตาติ อตฺโถ. อามายทาสีติ เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาตทาสี. อหุ พฺราหฺมณสฺสาติ สา กิร กสฺสปทสพลสฺส กาเล เอกสฺส พฺราหฺมณสฺส ทาสี อโหสิ. สา ปตฺตกาลนฺติ เตน พฺราหฺมเณน อฏฺ สลากภตฺตานิ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺตานิ อเหสุํ. โส เคหํ คนฺตฺวา ‘‘สฺเว ปฏฺาย เอเกกสฺส ภิกฺขุสฺส เอเกกํ กหาปณคฺฆนกํ กตฺวา อฏฺ สลากภตฺตานิ สมฺปาเทยฺยาสี’’ติ พฺราหฺมณึ อาห. สา ‘‘สามิ, ภิกฺขุ นาม ธุตฺโต, นาหํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. ธีตโรปิสฺส ปฏิกฺขิปึสุ. โส ทาสึ ‘‘สกฺขิสฺสสิ อมฺมา’’ติ อาห. สา ‘‘สกฺขิสฺสามิ อยฺยา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สกฺกจฺจํ ยาคุขชฺชกภตฺตาทีนิ สมฺปาเทตฺวา สลากํ ลภิตฺวา อาคตํ ปตฺตกาลํ อติถึ วิทิตฺวา หริตโคมยุปลิตฺเต กตปุปฺผุปหาเร สุปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา ยถา นาม วิปฺปวาสา อาคตํ ปุตฺตํ มาตา สกึ อภินนฺทติ, ตถา นิจฺจกาลํ อภินนฺทติ, สกฺกจฺจํ ปริวิสติ, อตฺตโน สนฺตกมฺปิ กิฺจิ เทติ. สํยมา สํวิภาคา จาติ สา สีลวตี อโหสิ จาควตี จ, ตสฺมา เตน สีเลน เจว จาเคน จ อิมสฺมึ วิมาเน โมทติ. อถ วา สํยมาติ อินฺทฺริยทมนา.

เอวฺจ ปน วตฺวา มาตลิ ปุรโต รถํ เปเสตฺวา โสณทินฺนเทวปุตฺตสฺส สตฺต กนกวิมานานิ ทสฺเสสิ. โส ตานิ จ ตสฺส จ สิริสมฺปตฺตึ ทิสฺวา เตน กตกมฺมํ ปุจฺฉิ. อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.

๕๐๘.

‘‘ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ, วิมานา สตฺต นิมฺมิตา;

ตตฺถ ยกฺโข มหิทฺธิโก, สพฺพาภรณภูสิโต;

สมนฺตา อนุปริยาติ, นารีคณปุรกฺขโต.

๕๐๙.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อยํ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน.

๕๑๐.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๑๑.

‘‘โสณทินฺโน คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;

เอส ปพฺพชิตุทฺทิสฺส, วิหาเร สตฺต การยิ.

๕๑๒.

‘‘สกฺกจฺจํ เต อุปฏฺาสิ, ภิกฺขโว ตตฺถ วาสิเก;

อจฺฉาทนฺจ ภตฺตฺจ, เสนาสนํ ปทีปิยํ;

อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๕๑๓.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๕๑๔.

‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;

สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.

ตตฺถ ททฺทลฺลมานาติ ชลมานา. อาเภนฺตีติ ตรุณสูริโย วิย โอภาสนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ ปฏิปาฏิยา ิเตสุ สตฺตสุ วิมาเนสุ. ยกฺโขติ เอโก เทวปุตฺโต. โสณทินฺโนติ มหาราช, อยํ ปุพฺเพ กสฺสปทสพลสฺส กาเล กาสิรฏฺเ อฺตรสฺมึ นิคเม โสณทินฺโน นาม คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส ปพฺพชิเต อุทฺทิสฺส สตฺต วิหารกุฏิโย กาเรตฺวา ตตฺถ วาสิเก ภิกฺขู จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺาสิ, อุโปสถฺจ อุปวสิ, นิจฺจํ สีเลสุ จ สํวุโต อโหสิ. โส ตโต จวิตฺวา อิธูปปนฺโน โมทตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปาฏิหาริยปกฺขนฺติ อิทํ ปน อฏฺมีอุโปสถสฺส ปจฺจุคฺคมนานุคมนวเสน สตฺตมินวมิโย, จาตุทฺทสีปนฺนรสีนํ ปจฺจุคฺคมนานุคมนวเสน เตรสีปาฏิปเท จ สนฺธาย วุตฺตํ.

เอวํ โสณทินฺนสฺส กตกมฺมํ กเถตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา ผลิกวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ อุพฺเพธโต ปฺจวีสติโยชนํ อเนกสเตหิ สตฺตรตนมยตฺถมฺเภหิ สมนฺนาคตํ, อเนกสตกูฏาคารปฏิมณฺฑิตํ, กิงฺกิณิกชาลาปริกฺขิตฺตํ, สมุสฺสิตสุวณฺณรชตมยธชํ, นานาปุปฺผวิจิตฺตอุยฺยานวนวิภูสิตํ, รมณียโปกฺขรณิสมนฺนาคตํ, นจฺจคีตวาทิตาทีสุ เฉกาหิ อจฺฉราหิ สมฺปริกิณฺณํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ตาสํ อจฺฉรานํ กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.

๕๑๕.

‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, ผลิกาสุ สุนิมฺมิตํ;

นารีวรคณากิณฺณํ, กูฏาคารวโรจิตํ;

อุเปตํ อนฺนปาเนหิ, นจฺจคีเตหิ จูภยํ.

๕๑๖.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ สาธุํ, ยา โมทเร สคฺคปตฺตา วิมาเน.

๕๑๗.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๑๘.

‘‘ยา กาจิ นาริโย อิธ ชีวโลเก, สีลวนฺติโย อุปาสิกา;

ทาเน รตา นิจฺจํ ปสนฺนจิตฺตา, สจฺเจ ิตา อุโปสเถ อปฺปมตฺตา;

สํยมา สํวิภาคา จ, ตา วิมานสฺมิ โมทเร’’ติ.

ตตฺถ พฺยมฺหนฺติ วิมานํ, ปาสาโทติ วุตฺตํ โหติ. ผลิกาสูติ ผลิกภิตฺตีสุ. นารีวรคณากิณฺณนฺติ วรนาริคเณหิ อากิณฺณํ. กูฏาคารวโรจิตนฺติ วรกูฏาคาเรหิ โอจิตํ สโมจิตํ, วฑฺฒิตนฺติ อตฺโถ. อุภยนฺติ อุภเยหิ. ‘‘ยา กาจี’’ติ อิทํ กิฺจาปิ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ, ตา ปน กสฺสปพุทฺธสาสเน พาราณสิยํ อุปาสิกา หุตฺวา คณพนฺธเนน เอตานิ วุตฺตปฺปการานิ ปุฺานิ กตฺวา ตํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปตฺตาติ เวทิตพฺพา.

อถสฺส โส ปุรโต รถํ เปเสตฺวา เอกํ รมณียํ มณิวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ สเม ภูมิภาเค ปติฏฺิตํ อุพฺเพธสมฺปนฺนํ มณิปพฺพโต วิย โอภาสมานํ ติฏฺติ, ทิพฺพคีตวาทิตนินฺนาทิตํ พหูหิ เทวปุตฺเตหิ สมฺปริกิณฺณํ. ตํ ทิสฺวา ราชา เตสํ เทวปุตฺตานํ กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.

๕๑๙.

‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, เวฬุริยาสุ นิมฺมิตํ;

อุเปตํ ภูมิภาเคหิ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ.

๕๒๐.

‘‘อาฬมฺพรา มุทิงฺคา จ, นจฺจคีตา สุวาทิตา;

ทิพฺพา สทฺทา นิจฺฉรนฺติ, สวนียา มโนรมา.

๕๒๑.

‘‘นาหํ เอวํคตํ ชาตุ, เอวํสุรุจิรํ ปุเร;

สทฺทํ สมภิชานามิ, ทิฏฺํ วา ยทิ วา สุตํ.

๕๒๒.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ สาธุํ, เย โมทเร สคฺคปตฺตา วิมาเน.

๕๒๓.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๒๔.

‘‘เย เกจิ มจฺจา อิธ ชีวโลเก, สีลวนฺตา อุปาสกา;

อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;

อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยุํ.

๕๒๕.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อทํสุ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๕๒๖.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๕๒๗.

‘‘อุโปสถํ อุปวสุํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;

สํยมา สํวิภาคา จ, เต วิมานสฺมิ โมทเร’’ติ.

ตตฺถ เวฬุริยาสูติ เวฬุริยภิตฺตีสุ. ภูมิภาเคหีติ รมณีเยหิ ภูมิภาเคหิ อุเปตํ. อาฬมฺพรา มุทิงฺคา จาติ เอเต ทฺเว เอตฺถ วชฺชนฺติ. นจฺจคีตา สุวาทิตาติ นานปฺปการานิ นจฺจานิ เจว คีตานิ จ อปเรสมฺปิ ตูริยานํ สุวาทิตานิ เจตฺถ ปวตฺตนฺติ. เอวํคตนฺติ เอวํ มโนรมภาวํ คตํ. ‘‘เย เกจี’’ติ อิทมฺปิ กามํ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ, เต ปน กสฺสปพุทฺธกาเล พาราณสิวาสิโน อุปาสกา หุตฺวา คณพนฺธเนน เอตานิ ปุฺานิ กตฺวา ตํ สมฺปตฺตึ ปตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปฏิปาทยุนฺติ ปฏิปาทยึสุ, เตสํ อทํสูติ อตฺโถ. ปจฺจยนฺติ คิลานปจฺจยํ. อทํสูติ เอวํ นานปฺปการกํ ทานํ อทํสูติ.

อิติสฺส โส เตสํ กตกมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา อปรมฺปิ ผลิกวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ อเนกกูฏาคารปฏิมณฺฑิตํ, นานากุสุมสฺฉนฺนทิพฺพตรุณวนปฏิมณฺฑิตตีราย, วิวิธวิหงฺคมนินฺนาทิตาย นิมฺมลสลิลาย นทิยา ปริกฺขิตฺตํ, อจฺฉราคณปริวุตสฺเสกสฺส ปุฺวโต นิวาสภูตํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ตสฺส กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.

๕๒๘.

‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, ผลิกาสุ สุนิมฺมิตํ;

นารีวรคณากิณฺณํ, กูฏาคารวโรจิตํ.

๕๒๙.

‘‘อุเปตํ อนฺนปาเนหิ, นจฺจคีเตหิ จูภยํ;

นชฺโช จานุปริยาติ, นานาปุปฺผทุมายุตา.

๕๓๐.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อยํ นุ มจฺโจ กึมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.

๕๓๑.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๓๒.

‘‘มิถิลายํ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;

อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;

อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.

๕๓๓.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๕๓๔.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๕๓๕.

‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;

สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.

ตตฺถ นชฺโชติ วจนวิปลฺลาโส, เอกา นที ตํ วิมานํ ปริกฺขิปิตฺวา คตาติ อตฺโถ. นานาปุปฺผทุมายุตาติ สา นที นานาปุปฺเผหิ ทุเมหิ อายุตา. มิถิลายนฺติ เอส มหาราช, กสฺสปพุทฺธกาเล มิถิลนคเร เอโก คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส เอตานิ อารามโรปนาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ปตฺโตติ.

เอวมสฺส เตน กตกมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา อปรมฺปิ ผลิกวิมานํ ทสฺเสสิ. ตํ ปุริมวิมานโต อติเรกาย นานาปุปฺผผลสฺฉนฺนาย ตรุณวนฆฏาย สมนฺนาคตํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ตาย สมฺปตฺติยา สมนฺนาคตสฺส เทวปุตฺตสฺส กตกมฺมํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.

๕๓๖.

‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, ผลิกาสุ สุนิมฺมิตํ;

นารีวรคณากิณฺณํ, กูฏาคารวโรจิตํ.

๕๓๗.

‘‘อุเปตํ อนฺนปาเนหิ, นจฺจคีเตหิ จูภยํ;

นชฺโช จานุปริยาติ, นานาปุปฺผทุมายุตา.

๕๓๘.

‘‘ราชายตนา กปิตฺถา จ, อมฺพา สาลา จ ชมฺพุโย;

ตินฺทุกา จ ปิยาลา จ, ทุมา นิจฺจผลา พหู.

๕๓๙.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อยํ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.

๕๔๐.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๔๑.

‘‘มิถิลายํ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;

อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;

อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.

๕๔๒.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๕๔๓.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๕๔๔.

‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;

สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.

ตตฺถ มิถิลายนฺติ เอส, มหาราช, กสฺสปพุทฺธกาเล วิเทหรฏฺเ มิถิลนคเร เอโก คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส เอตานิ ปุฺานิ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ปตฺโตติ.

เอวมสฺส เตน กตกมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา ปุริมสทิสเมว อปรมฺปิ เวฬุริยวิมานํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส เทวปุตฺตสฺส กตกมฺมํ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ.

๕๔๕.

‘‘ปภาสติ มิทํ พฺยมฺหํ, เวฬุริยาสุ นิมฺมิตํ;

อุเปตํ ภูมิภาเคหิ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ.

๕๔๖.

‘‘อาฬมฺพรา มุทิงฺคา จ, นจฺจคีตา สุวาทิตา;

ทิพฺยา สทฺทา นิจฺฉรนฺติ, สวนียา มโนรมา.

๕๔๗.

‘‘นาหํ เอวํคตํ ชาตุ, เอวํสุรุจิรํ ปุเร;

สทฺทํ สมภิชานามิ, ทิฏฺํ วา ยทิ วา สุตํ.

๕๔๘.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อยํ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.

๕๔๙.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๕๐.

‘‘พาราณสิยํ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;

อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;

อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.

๕๕๑.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๕๕๒.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๕๕๓.

‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;

สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.

อถสฺส ปุรโต รถํ เปเสตฺวา พาลสูริยสนฺนิภํ กนกวิมานํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ นิวาสิโน เทวปุตฺตสฺส สมฺปตฺตึ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ.

๕๕๔.

‘‘ยถา อุทยมาทิจฺโจ, โหติ โลหิตโก มหา;

ตถูปมํ อิทํ พฺยมฺหํ, ชาตรูปสฺส นิมฺมิตํ.

๕๕๕.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อยํ นุ มจฺโจ กิมกาสิ สาธุํ, โย โมทตี สคฺคปตฺโต วิมาเน.

๕๕๖.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๕๗.

‘‘สาวตฺถิยํ คหปติ, เอส ทานปตี อหุ;

อาราเม อุทปาเน จ, ปปา สงฺกมนานิ จ;

อรหนฺเต สีติภูเต, สกฺกจฺจํ ปฏิปาทยิ.

๕๕๘.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อทาสิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๕๕๙.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๕๖๐.

‘‘อุโปสถํ อุปวสี, สทา สีเลสุ สํวุโต;

สํยมา สํวิภาคา จ, โส วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ.

ตตฺถ อุทยมาทิจฺโจติ อุคฺคจฺฉนฺโต อาทิจฺโจ. สาวตฺถิยนฺติ กสฺสปพุทฺธกาเล สาวตฺถินคเร เอโก คหปติ ทานปติ อโหสิ. โส เอตานิ ปุฺานิ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ปตฺโตติ.

เอวํ เตน อิเมสํ อฏฺนฺนํ วิมานานํ กถิตกาเล สกฺโก เทวราชา ‘‘มาตลิ, อติวิย จิรายตี’’ติ อปรมฺปิ ชวนเทวปุตฺตํ เปเสสิ. โส เวเคน คนฺตฺวา อาโรเจสิ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา อิทานิ จิรายิตุ’’นฺติ จตูสุ ทิสาสุ เอกปฺปหาเรเนว พหูนิ วิมานานิ ทสฺเสสิ. รฺา จ ตตฺถ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตานํ เทวปุตฺตานํ กตกมฺมํ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ.

๕๖๑.

‘‘เวหายสาเม พหุกา, ชาตรูปสฺส นิมฺมิตา;

ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ, วิชฺชุวพฺภฆนนฺตเร.

๕๖๒.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิเม นุ มจฺจา กิมกํสุ สาธุํ, เย โมทเร สคฺคปตฺตา วิมาเน.

๕๖๓.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๖๔.

‘‘สทฺธาย สุนิวิฏฺาย, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต;

อกํสุ สตฺถุ วจนํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน;

เตสํ เอตานิ านานิ, ยานิ ตฺวํ ราช ปสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ เวหายสาเมติ เวหายสา อิเม อากาเสเยว สณฺิตา. อากาสฏฺกวิมานา อิเมติ วทติ. วิชฺชุวพฺภฆนนฺตเรติ ฆนวลาหกนฺตเร ชลมานา วิชฺชุ วิย. สุนิวิฏฺายาติ มคฺเคน อาคตตฺตา สุปฺปติฏฺิตาย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, เอเต ปุเร นิยฺยานิเก กสฺสปพุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา ปริสุทฺธสีลา สมณธมฺมํ กโรนฺตา โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกตฺวา อรหตฺตํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา ตโต จุตา อิเมสุ กนกวิมาเนสุ อุปฺปนฺนา. เอเตสํ กสฺสปพุทฺธสาวกานํ ตานิ านานิ, ยานิ ตฺวํ, มหาราช, ปสฺสสีติ.

เอวมสฺส อากาสฏฺกวิมานานิ ทสฺเสตฺวา สกฺกสฺส สนฺติกํ คมนตฺถาย อุสฺสาหํ กโรนฺโต อาห –

๕๖๕.

‘‘วิทิตานิ เต มหาราช, อาวาสํ ปาปกมฺมินํ;

อโถ กลฺยาณกมฺมานํ, านานิ วิทิตานิ เต;

อุยฺยาหิ ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก’’ติ.

ตตฺถ อาวาสนฺติ มหาราช, ตยา ปมเมว เนรยิกานํ อาวาสํ ทิสฺวา ปาปกมฺมานํ านานิ วิทิตานิ, อิทานิ ปน อากาสฏฺกวิมานานิ ปสฺสนฺเตน อโถ กลฺยาณกมฺมานํ านานิ วิทิตานิ, อิทานิ เทวราชสฺส สนฺติเก สมฺปตฺตึ ทฏฺุํ อุยฺยาหิ คจฺฉาหีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา สิเนรุํ ปริวาเรตฺวา ิเต สตฺต ปริภณฺฑปพฺพเต ทสฺเสสิ. เต ทิสฺวา รฺา มาตลิสฺส ปุฏฺภาวํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อาห –

๕๖๖.

‘‘สหสฺสยุตฺตํ หยวาหึ, ทิพฺพยานมธิฏฺิโต;

ยายมาโน มหาราชา, อทฺทา สีทนฺตเร นเค;

ทิสฺวานามนฺตยี สูตํ, อิเม เก นาม ปพฺพตา’’ติ.

ตตฺถ หยวาหินฺติ หเยหิ วาหิยมานํ. ทิพฺพยานมธิฏฺิโตติ ทิพฺพยาเน ิโต หุตฺวา. อทฺทาติ อทฺทส. สีทนฺตเรติ สีทามหาสมุทฺทสฺส อนฺตเร. ตสฺมึ กิร มหาสมุทฺเท อุทกํ สุขุมํ, โมรปิฺฉมตฺตมฺปิ ปกฺขิตฺตํ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ สีทเตว, ตสฺมา โส ‘‘สีทามหาสมุทฺโท’’ติ วุจฺจติ. ตสฺส อนฺตเร. นเคติ ปพฺพเต. เก นามาติ เก นาม นาเมน อิเม ปพฺพตาติ.

เอวํ นิมิรฺา ปุฏฺโ มาตลิ เทวปุตฺโต อาห –

๕๖๘.

‘‘สุทสฺสโน กรวีโก, อีสธโร ยุคนฺธโร;

เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิรี พฺรหา.

๕๖๙.

‘‘เอเต สีทนฺตเร นคา, อนุปุพฺพสมุคฺคตา;

มหาราชานมาวาสา, ยานิ ตฺวํ ราช ปสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ สุทสฺสโนติ อยํ, มหาราช, เอเตสํ สพฺพพาหิโร สุทสฺสโน ปพฺพโต นาม, ตทนนฺตเร กรวีโก นาม, โส สุทสฺสนโต อุจฺจตโร. อุภินฺนมฺปิ ปน เตสํ อนฺตเร เอโกปิ สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. กรวีกสฺส อนนฺตเร อีสธโร นาม, โส กรวีกโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. อีสธรสฺส อนนฺตเร ยุคนฺธโร นาม, โส อีสธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. ยุคนฺธรสฺส อนนฺตเร เนมินฺธโร นาม, โส ยุคนฺธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. เนมินฺธรสฺส อนนฺตเร วินตโก นาม, โส เนมินฺธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. วินตกสฺส อนนฺตเร อสฺสกณฺโณ นาม, โส วินตกโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. อนุปุพฺพสมุคฺคตาติ เอเต สีทนฺตรมหาสมุทฺเท สตฺต ปพฺพตา อนุปฏิปาฏิยา สมุคฺคตา โสปานสทิสา หุตฺวา ิตา. ยานีติ เย ตฺวํ, มหาราช, อิเม ปพฺพเต ปสฺสสิ, เอเต จตุณฺณํ มหาราชานํ อาวาสาติ.

เอวมสฺส จาตุมหาราชิกเทวโลกํ ทสฺเสตฺวา ปุรโต รถํ เปเสตฺวา ตาวตึสภวนสฺส จิตฺตกูฏทฺวารโกฏฺกํ ปริวาเรตฺวา ิตา อินฺทปฏิมา ทสฺเสสิ. ตํ ทิสฺวา ราชา ปุจฺฉิ, อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ.

๕๗๐.

‘‘อเนกรูปํ รุจิรํ, นานาจิตฺรํ ปกาสติ;

อากิณฺณํ อินฺทสทิเสหิ, พฺยคฺเฆเหว สุรกฺขิตํ.

๕๗๑.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิมํ นุ ทฺวารํ กิมภฺมาหุ, มโนรมํ ทิสฺสติ ทูรโตว.

๕๗๒.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๗๓.

‘‘‘จิตฺรกูโฏ’ติ ยํ อาหุ, เทวราชปเวสนํ;

สุทสฺสนสฺส คิริโน, ทฺวารฺเหตํ ปกาสติ.

๕๗๔.

‘‘อเนกรูปํ รุจิรํ, นานาจิตฺรํ ปกาสติ;

อากิณฺณํ อินฺทสทิเสหิ, พฺยคฺเฆเหว สุรกฺขิตํ;

ปวิเสเตน ราชีสิ, อรชํ ภูมิมกฺกมา’’ติ.

ตตฺถ อเนกรูปนฺติ อเนกชาติกํ. นานาจิตฺรนฺติ นานารตนจิตฺรํ. ปกาสตีติ กึ นาม เอตํ ปฺายติ. อากิณฺณนฺติ สมฺปริปุณฺณํ. พฺยคฺเฆเหว สุรกฺขิตนฺติ ยถา นาม พฺยคฺเฆหิ วา สีเหหิ วา มหาวนํ, เอวํ อินฺทสทิเสเหว สุรกฺขิตํ. ตาสฺจ ปน อินฺทปฏิมานํ อารกฺขณตฺถาย ปิตภาโว เอกกนิปาเต กุลาวกชาตเก (ชา. ๑.๑.๓๑) วุตฺตนเยน คเหตพฺโพ. กึมภฺมาหูติ กินฺนามํ วทนฺติ. ปเวสนนฺติ นิกฺขมนปฺปเวสนตฺถาย นิมฺมิตํ. สุทสฺสนสฺสาติ โสภนทสฺสนสฺส สิเนรุคิริโน. ทฺวารํ เหตนฺติ เอตํ สิเนรุมตฺถเก ปติฏฺิตสฺส ทสสหสฺสโยชนิกสฺส เทวนครสฺส ทฺวารํ ปกาสติ, ทฺวารโกฏฺโก ปฺายตีติ อตฺโถ. ปวิเสเตนาติ เอเตน ทฺวาเรน เทวนครํ ปวิส. อรชํ ภูมิมกฺกมาติ อรชํ สุวณฺณรชตมณิมยํ นานาปุปฺเผหิ สมากิณฺณํ ทิพฺพภูมึ ทิพฺพยาเนน อกฺกม, มหาราชาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มาตลิ ราชานํ เทวนครํ ปเวเสสิ. เตน วุตฺตํ –

๕๗๕.

‘‘สหสฺสยุตฺตํ หยวาหึ, ทิพฺพยานมธิฏฺิโต;

ยายมาโน มหาราชา, อทฺทา เทวสภํ อิท’’นฺติ.

โส ทิพฺพยาเน ิโตว คจฺฉนฺโต สุธมฺมาเทวสภํ ทิสฺวา มาตลึ ปุจฺฉิ, โสปิสฺส อาจิกฺขิ.

๕๗๖.

‘‘ยถา สรเท อากาเส, นีโลภาโส ปทิสฺสติ;

ตถูปมํ อิทํ พฺยมฺหํ, เวฬุริยาสุ นิมฺมิตํ.

๕๗๗.

‘‘วิตฺตี หิ มํ วินฺทติ สูต ทิสฺวา, ปุจฺฉามิ ตํ มาตลิ เทวสารถิ;

อิมํ นุ พฺยมฺหํ กิมภฺมาหุ, มโนรมํ ทิสฺสติ ทูรโตว.

๕๗๘.

‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, มาตลิ เทวสารถิ;

วิปากํ ปุฺกมฺมานํ, ชานํ อกฺขาสิชานโต.

๕๗๙.

‘‘‘สุธมฺมา’ อิติ ยํ อาหุ, ปสฺเสสา ทิสฺสเต สภา;

เวฬุริยารุจิรา จิตฺรา, ธารยนฺติ สุนิมฺมิตา.

๕๘๐.

‘‘อฏฺํสา สุกตา ถมฺภา, สพฺเพ เวฬุริยามยา;

ยตฺถ เทวา ตาวตึสา, สพฺเพ อินฺทปุโรหิตา.

๕๘๑.

‘‘อตฺถํ เทวมนุสฺสานํ, จินฺตยนฺตา สมจฺฉเร;

ปวิเสเตน ราชีสิ, เทวานํ อนุโมทนนฺติ.

ตตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ, เทวสภํ อทฺทสาติ อตฺโถ. ปสฺเสสาติ ปสฺส เอสา. เวฬุริยา รุจิราติ รุจิรเวฬุริยา. จิตฺราติ นานารตนวิจิตฺรา. ธารยนฺตีติ อิมํ สภํ เอเต อฏฺํสาทิเภทา สุกตา ถมฺภา ธารยนฺติ. อินฺทปุโรหิตาติ อินฺทํ ปุโรหิตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา ปริวาเรตฺวา ิตา เทวมนุสฺสานํ อตฺถํ จินฺตยนฺตา อจฺฉนฺติ. ปวิเสเตนาติ อิมินา มคฺเคน ยตฺถ เทวา อฺมฺํ อนุโมทนฺตา อจฺฉนฺติ, ตํ านํ เทวานํ อนุโมทนํ ปวิส.

เทวาปิ โข ตสฺสาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตาว นิสีทึสุ. เต ‘‘ราชา อาคโต’’ติ สุตฺวา ทิพฺพคนฺธวาสปุปฺผหตฺถา ยาว จิตฺตกูฏทฺวารโกฏฺกา ปฏิมคฺคํ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ ทิพฺพคนฺธมาลาทีหิ ปูชยนฺตา สุธมฺมาเทวสภํ อานยึสุ. ราชา รถา โอตริตฺวา เทวสภํ ปาวิสิ. เทวา อาสเนน นิมนฺตยึสุ. สกฺโกปิ อาสเนน เจว กาเมหิ จ นิมนฺเตสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๕๘๒.

‘‘ตํ เทวา ปฏินนฺทึสุ, ทิสฺวา ราชานมาคตํ;

สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

นิสีท ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก.

๕๘๓.

‘‘สกฺโกปิ ปฏินนฺทิตฺถ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ;

นิมนฺตยิตฺถ กาเมหิ, อาสเนน จ วาสโว.

๕๘๔.

‘‘สาธุ โขสิ อนุปฺปตฺโต, อาวาสํ วสวตฺตินํ;

วส เทเวสุ ราชีสิ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, ภุฺช กาเม อมานุเส’’ติ.

ตตฺถ ปฏินนฺทึสูติ สมฺปิยายึสุ, หฏฺตุฏฺาว หุตฺวา สมฺปฏิจฺฉึสุ. สพฺพกามสมิทฺธิสูติ สพฺเพสํ กามานํ สมิทฺธิยุตฺเตสุ.

เอวํ สกฺเกน ทิพฺพกาเมหิ เจว อาสเนน จ นิมนฺติโต ราชา ปฏิกฺขิปนฺโต อาห –

๕๘๕.

‘‘ยถา ยาจิตกํ ยานํ, ยถา ยาจิตกํ ธนํ;

เอวํ สมฺปทเมเวตํ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา.

๕๘๖.

‘‘น จาหเมตมิจฺฉามิ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา;

สยํกตานิ ปุฺานิ, ตํ เม อาเวณิกํ ธนํ.

๕๘๗.

‘‘โสหํ คนฺตฺวา มนุสฺเสสุ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;

ยํ กตฺวา สุขิโต โหติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปตี’’ติ.

ตตฺถ ยํ ปรโต ทานปจฺจยาติ ยํ ปรโต ตสฺส ปรสฺส ทานปจฺจยา เตน ทินฺนตฺตา ลพฺภติ, ตํ ยาจิตกสทิสํ โหติ, ตสฺมา นาหํ เอตํ อิจฺฉามิ. สยํกตานีติ ยานิ ปน มยา อตฺตนา กตานิ ปุฺานิ, ตเมว มม ปเรหิ อสาธารณตฺตา อาเวณิกํ ธนํ อนุคามิยธนํ. สมจริยายาติ ตีหิ ทฺวาเรหิ สมจริยาย. สํยเมนาติ สีลรกฺขเณน. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน.

เอวํ มหาสตฺโต เทวานํ มธุรสทฺเทน ธมฺมํ เทเสสิ. ธมฺมํ เทเสนฺโตเยว มนุสฺสคณนาย สตฺต ทิวสานิ ตฺวา เทวคณํ โกเสตฺวา เทวคณมชฺเฌ ิโตว มาตลิสฺส คุณํ กเถนฺโต อาห –

๕๘๘.

‘‘พหูปกาโร โน ภวํ, มาตลิ เทวสารถิ;

โย เม กลฺยาณกมฺมานํ, ปาปานํ ปฏิทสฺสยี’’ติ.

ตตฺถ โย เม กลฺยาณกมฺมานํ, ปาปานํ ปฏิทสฺสยีติ โย เอส มยฺหํ กลฺยาณกมฺมานํ เทวานฺจ านานิ ปาปกมฺมานํ เนรยิกานฺจ ปาปานิ านานิ ทสฺเสสีติ อตฺโถ.

สคฺคกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

อถ ราชา สกฺกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘อิจฺฉามหํ, มหาราช, มนุสฺสโลกํ คนฺตุ’’นฺติ อาห. สกฺโก ‘‘เตน หิ, สมฺม มาตลิ, นิมิราชานํ ตตฺเถว มิถิลํ เนหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รถํ อุปฏฺาเปสิ. ราชา เทวคเณหิ สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา เทเว นิวตฺตาเปตฺวา รถํ อภิรุหิ. มาตลิ รถํ เปเสนฺโต ปาจีนทิสาภาเคน มิถิลํ ปาปุณิ. มหาชโน ทิพฺพรถํ ทิสฺวา ‘‘ราชา โน อาคโต’’ติ ปมุทิโต อโหสิ. มาตลิ มิถิลํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ตสฺมึเยว สีหปฺชเร มหาสตฺตํ โอตาเรตฺวา ‘‘คจฺฉามหํ, มหาราชา’’ติ อาปุจฺฉิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. มหาชโนปิ ราชานํ ปริวาเรตฺวา ‘‘กีทิโส, เทว, เทวโลโก’’ติ ปุจฺฉิ. ราชา เทวตานฺจ สกฺกสฺส จ เทวรฺโ สมฺปตฺตึ วณฺเณตฺวา ‘‘ตุมฺเหปิ ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรถ, เอวํ ตสฺมึ เทวโลเก นิพฺพตฺติสฺสถา’’ติ มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ.

โส อปรภาเค กปฺปเกน ปลิตสฺส ชาตภาเว อาโรจิเต ปลิตํ สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธราเปตฺวา หตฺเถ เปตฺวา กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวา ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ปุตฺตสฺส รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปสิ. เตน จ ‘‘กสฺมา, เทว, ปพฺพชิสฺสสี’’ติ วุตฺเต –

‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺหํ, อิเม ชาตา วโยหรา;

ปาหุภูตา เทวทูตา, ปพฺพชฺชาสมโย มมา’’ติ. –

คาถํ วตฺวา ปุริมราชาโน วิย ปพฺพชิตฺวา ตสฺมึเยว อมฺพวเน วิหรนฺโต จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ. ตสฺเสวํ ปพฺพชิตภาวํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๕๘๙.

‘‘อิทํ วตฺวา นิมิราชา, เวเทโห มิถิลคฺคโห;

ปุถุยฺํ ยชิตฺวาน, สํยมํ อชฺฌุปาคมี’’ติ.

ตตฺถ อิทํ วตฺวาติ ‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺห’’นฺติ อิมํ คาถํ วตฺวา. ปุถุยฺํ ยชิตฺวานาติ มหาทานํ ทตฺวา. สํยมํ อชฺฌุปาคมีติ สีลสํยมํ อุปคโต.

ปุตฺโต ปนสฺส กาฬารชนโก นาม ตํ วํสํ อุปจฺฉินฺทิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, มาตลิ อานนฺโท, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ พุทฺธปริสา, นิมิราชา ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสิ’’นฺติ.

นิมิชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๔๒] ๕. อุมงฺคชาตกวณฺณนา

ปฺจาโล สพฺพเสนายาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา ตถาคตสฺส ปฺาปารมึ วณฺณยนฺตา นิสีทึสุ ‘‘มหาปฺโ, อาวุโส, ตถาคโต ปุถุปฺโ คมฺภีรปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ปรปฺปวาทมทฺทโน, อตฺตโน ปฺานุภาเวน กูฏทนฺตาทโย พฺราหฺมเณ, สภิยาทโย ปริพฺพาชเก, องฺคุลิมาลาทโย โจเร, อาฬวกาทโย ยกฺเข, สกฺกาทโย เทเว, พกาทโย พฺรหฺมาโน จ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวเน อกาสิ, พหุชนกาเย ปพฺพชฺชํ ทตฺวา มคฺคผเลสุ ปติฏฺาเปสิ, เอวํ มหาปฺโ, อาวุโส, สตฺถา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ปฺวา, อตีเตปิ อปริปกฺเก าเณ โพธิาณตฺถาย จริยํ จรนฺโตปิ ปฺวาเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต วิเทหรฏฺเ มิถิลายํ เวเทโห นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสกา จตฺตาโร ปณฺฑิตา อเหสุํ เสนโก, ปุกฺกุโส, กามินฺโท, เทวินฺโท จาติ. ตทา ราชา โพธิสตฺตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส ปจฺจูสกาเล เอวรูปํ สุปินํ อทฺทส – ราชงฺคเณ จตูสุ โกเณสุ จตฺตาโร อคฺคิกฺขนฺธา มหาปาการปฺปมาณา อุฏฺาย ปชฺชลนฺติ. เตสํ มชฺเฌ ขชฺโชปนกปฺปมาโณ อคฺคิกฺขนฺโท อุฏฺหิตฺวา ตงฺขณฺเว จตฺตาโร อคฺคิกฺขนฺเธ อติกฺกมิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุฏฺาย สกลจกฺกวาฬํ โอภาเสตฺวา ิโต, ภูมิยํ ปติโต สาสปพีชมตฺตมฺปิ ปฺายติ. ตํ สเทวกา โลกา สมารกา สพฺรหฺมกา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชนฺติ, มหาชโน ชาลนฺตเรเนว จรติ, โลมกูปมตฺตมฺปิ อุณฺหํ น คณฺหาติ. ราชา อิมํ สุปินํ ทิสฺวา ภีตตสิโต อุฏฺาย ‘‘กึ นุ โข เม ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต นิสินฺนโกว อรุณํ อุฏฺาเปสิ.

จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา ปาโตวาคนฺตฺวา ‘‘กจฺจิ, เทว, สุขํ สยิตฺถา’’ติ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉึสุ. โส ‘‘กุโต เม สุขเสยฺยํ ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา ‘‘เอวรูโป เม สุปิโน ทิฏฺโ’’ติ สพฺพํ กเถสิ. อถ นํ เสนกปณฺฑิโต ‘‘มา ภายิ, มหาราช, มงฺคลสุปิโน เอส, วุทฺธิ โว ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘กึ การณา อาจริยา’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาราช, อมฺเห จตฺตาโร ปณฺฑิเต อภิภวิตฺวา อฺโ โว ปฺจโม ปณฺฑิโต อุปฺปชฺชิสฺสติ, มยฺหิ จตฺตาโร ปณฺฑิตา จตฺตาโร อคฺคิกฺขนฺธา วิย, เตสํ มชฺเฌ อุปฺปนฺโน อคฺคิกฺขนฺโธ วิย อฺโ ปฺจโม ปณฺฑิโต อุปฺปชฺชิสฺสติ, โส สเทวเก โลเก อสทิโส ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘อิทานิ ปเนส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘มหาราช, อชฺช ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหเณน วา มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเนน วา ภวิตพฺพ’’นฺติ อตฺตโน สิปฺปพเลน ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺโ วิย พฺยากาสิ. ราชาปิ ตโต ปฏฺาย ตํ วจนํ อนุสฺสริ.

มิถิลายํ ปน จตูสุ ทฺวาเรสุ ปาจีนยวมชฺฌโก, ทกฺขิณยวมชฺฌโก, ปจฺฉิมยวมชฺฌโก, อุตฺตรยวมชฺฌโกติ จตฺตาโร คามา อเหสุํ. เตสุ ปาจีนยวมชฺฌเก สิริวฑฺฒโน นาม เสฏฺิ ปฏิวสติ, สุมนเทวี นามสฺส ภริยา อโหสิ. มหาสตฺโต ตํ ทิวสํ รฺา สุปินสฺส ทิฏฺเวลาย ตาวตึสภวนโต จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺมึเยว กาเล อปเรปิ เทวปุตฺตสหสฺสา ตาวตึสภวนโต จวิตฺวา ตสฺมึเยว คาเม เสฏฺานุเสฏฺีนํ กุเลสุ ปฏิสนฺธึ คณฺหึสุ. สุมนเทวีปิ ทสมาสจฺจเยน สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก มนุสฺสโลกํ โอโลเกนฺโต มหาสตฺตสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนภาวํ ตฺวา ‘‘อิมํ พุทฺธงฺกุรํ สเทวเก โลเก ปากฏํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาสตฺตสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตกฺขเณ อทิสฺสมานกาเยน คนฺตฺวา ตสฺส หตฺเถ เอกํ โอสธฆฏิกํ เปตฺวา สกฏฺานเมว คโต. มหาสตฺโต ตํ มุฏฺึ กตฺวา คณฺหิ. ตสฺมึ ปน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺเต มาตุ อปฺปมตฺตกมฺปิ ทุกฺขํ นาโหสิ, ธมกรณโต อุทกมิว สุเขน นิกฺขมิ.

สา ตสฺส หตฺเถ โอสธฆฏิกํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, กึ เต ลทฺธ’’นฺติ อาห. ‘‘โอสธํ, อมฺมา’’ติ ทิพฺโพสธํ มาตุ หตฺเถ เปสิ. เปตฺวา จ ปน ‘‘อมฺม, อิทํ โอสธํ เยน เกนจิ อาพาเธน อาพาธิกานํ เทถา’’ติ อาห. สา ตุฏฺปหฏฺา สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน อาโรเจสิ. ตสฺส ปน สตฺตวสฺสิโก สีสาพาโธ อตฺถิ. โส ตุฏฺปหฏฺโ หุตฺวา ‘‘อยํ มาตุกุจฺฉิโต ชายมาโน โอสธํ คเหตฺวา อาคโต, ชาตกฺขเณเยว มาตรา สทฺธึ กเถสิ, เอวรูเปน ปุฺวตา ทินฺนํ โอสธํ มหานุภาวํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ โอสธํ คเหตฺวา นิสทายํ ฆํสิตฺวา โถกํ นลาเฏ มกฺเขสิ. ตสฺมึ ขเณ ตสฺส สตฺตวสฺสิโก สีสาพาโธ ปทุมปตฺตโต อุทกํ วิย นิวตฺติตฺวา คโต. โส ‘‘มหานุภาวํ โอสธ’’นฺติ โสมนสฺสปฺปตฺโต อโหสิ. มหาสตฺตสฺส โอสธํ คเหตฺวา อาคตภาโว สพฺพตฺถ ปากโฏ ชาโต. เย เกจิ อาพาธิกา, สพฺเพ เสฏฺิสฺส เคหํ คนฺตฺวา โอสธํ ยาจนฺติ. สพฺเพสํ นิสทายํ ฆํสิตฺวา โถกํ คเหตฺวา อุทเกน อาโฬเลตฺวา เทติ. ทิพฺโพสเธน สรีเร มกฺขิตมตฺเตเยว สพฺพาพาธา วูปสมฺมนฺติ. สุขิตา มนุสฺสา ‘‘สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน เคเห โอสธสฺส มหนฺโต อานุภาโว’’ติ วณฺณยนฺตา ปกฺกมึสุ. มหาสตฺตสฺส ปน นามคฺคหณทิวเส มหาเสฏฺิ ‘‘มม ปุตฺตสฺส อยฺยกาทีนํ น นาเมน อตฺโถ อตฺถิ, ชายมานสฺส โอสธํ คเหตฺวา อาคตตฺตา โอสธนามโกว โหตู’’ติ วตฺวา ‘‘มโหสธกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามมกาสิ.

อิทฺจสฺส อโหสิ ‘‘มม ปุตฺโต มหาปุฺโ, น เอกโกว นิพฺพตฺติสฺสติ, อิมินา สทฺธึ ชาตทารเกหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ. โส โอโลกาเปนฺโต ทารกสหสฺสานํ นิพฺพตฺตภาวํ สุตฺวา สพฺเพสมฺปิ กุมารกานํ ปิฬนฺธนานิ ทตฺวา ธาติโย ทาเปสิ ‘‘ปุตฺตสฺส เม อุปฏฺากา ภวิสฺสนฺตี’’ติ. โพธิสตฺเตน สทฺธึเยว เตสํ มงฺคลฏฺาเน มงฺคลํ กาเรสิ. ทารเก อลงฺกริตฺวา มหาสตฺตสฺส อุปฏฺาตุํ อาเนนฺติ. โพธิสตฺโต เตหิ สทฺธึ กีฬนฺโต วฑฺฒิตฺวา สตฺตวสฺสิกกาเล สุวณฺณปฏิมา วิย อภิรูโป อโหสิ. อถสฺส คามมชฺเฌ เตหิ สทฺธึ กีฬนฺตสฺส หตฺถิอสฺสาทีสุ อาคจฺฉนฺเตสุ กีฬามณฺฑลํ ภิชฺชติ. วาตาตปปหรณกาเล ทารกา กิลมนฺติ. เอกทิวสฺจ เตสํ กีฬนฺตานํเยว อกาลเมโฆ อุฏฺหิ. ตํ ทิสฺวา นาคพโล โพธิสตฺโต ธาวิตฺวา เอกสาลํ ปาวิสิ. อิตเร ทารกา ปจฺฉโต ธาวนฺตา อฺมฺสฺส ปาเทสุ ปหริตฺวา อุปกฺขลิตฺวา ปติตา ชณฺณุกเภทาทีนิ ปาปุณึสุ. โพธิสตฺโตปิ ‘‘อิมสฺมึ าเน กีฬาสาลํ กาตุํ วฏฺฏติ, เอวํ วาเต วา วสฺเส วา อาตเป วา อาคเต น กิลมิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา เต ทารเก อาห – ‘‘สมฺมา, อิมสฺมึ าเน วาเต วา วสฺเส วา อาตเป วา อาคเต านนิสชฺชสยนกฺขมํ เอกํ สาลํ กาเรสฺสาม, เอเกกํ กหาปณํ อาหรถา’’ติ. เต ตถา กรึสุ.

มหาสตฺโต มหาวฑฺฒกึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน สาลํ กโรหี’’ติ สหสฺสํ อทาสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สหสฺสํ คเหตฺวา ขาณุกณฺฏเก โกฏฺเฏตฺวา ภูมึ สมํ กาเรตฺวา สุตฺตํ ปสาเรสิ. มหาสตฺโต ตสฺส สุตฺตปสารณวิธานํ อนาราเธนฺโต ‘‘อาจริย, เอวํ อปสาเรตฺวา สาธุกํ ปสาเรหี’’ติ อาห. สามิ, อหํ อตฺตโน สิปฺปานุรูเปน ปสาเรสึ, อิโต อฺํ น ชานามีติ. ‘เอตฺตกํ อชานนฺโต ตฺวํ อมฺหากํ ธนํ คเหตฺวา สาลํ กถํ กริสฺสสิ, อาหร, สุตฺตํ ปสาเรตฺวา เต ทสฺสามี’’ติ อาหราเปตฺวา สยํ สุตฺตํ ปสาเรสิ. ตํ วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตสฺส ปสาริตํ วิย อโหสิ. ตโต วฑฺฒกึ อาห ‘‘เอวํ ปสาเรตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ? ‘‘น สกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘มม วิจารณาย ปน กาตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. ‘‘สกฺขิสฺสามิ, สามี’’ติ. มหาสตฺโต ยถา ตสฺสา สาลาย เอกสฺมึ ปเทเส อนาถานํ วสนฏฺานํ โหติ, เอกสฺมึ อนาถานํ อิตฺถีนํ วิชายนฏฺานํ, เอกสฺมึ อาคนฺตุกสมณพฺราหฺมณานํ วสนฏฺานํ, เอกสฺมึ อาคนฺตุกมนุสฺสานํ วสนฏฺานํ, เอกสฺมึ อาคนฺตุกวาณิชานํ ภณฺฑฏฺปนฏฺานํ โหติ, ตถา สพฺพานิ านานิ พหิมุขานิ กตฺวา สาลํ วิจาเรสิ. ตตฺเถว กีฬามณฺฑลํ, ตตฺเถว วินิจฺฉยํ, ตตฺเถว ธมฺมสภํ กาเรสิ. กติปาเหเนว นิฏฺิตาย สาลาย จิตฺตกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา สยํ วิจาเรตฺวา รมณียํ จิตฺตกมฺมํ กาเรสิ. สาลา สุธมฺมาเทวสภาปฏิภาคา อโหสิ.

ตโต ‘‘น เอตฺตเกน สาลา โสภติ, โปกฺขรณึ ปน กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ โปกฺขรณึ ขณาเปตฺวา อิฏฺกวฑฺฒกึ ปกฺโกสาเปตฺวา สยํ วิจาเรตฺวา สหสฺสวงฺกํ สตติตฺถํ โปกฺขรณึ กาเรสิ. สา ปฺจวิธปทุมสฺฉนฺนา นนฺทาโปกฺขรณี วิย อโหสิ. ตสฺสา ตีเร ปุปฺผผลธเร นานารุกฺเข โรปาเปตฺวา นนฺทนวนกปฺปํ อุยฺยานํ กาเรสิ. ตเมว จ สาลํ นิสฺสาย ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺเจว อาคนฺตุกคมิกาทีนฺจ ทานวตฺตํ ปฏฺเปสิ. ตสฺส สา กิริยา สพฺพตฺถ ปากฏา อโหสิ. พหู มนุสฺสา โอสรนฺติ. มหาสตฺโต สาลาย นิสีทิตฺวา สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ การณาการณํ ยุตฺตายุตฺตํ กเถสิ, วินิจฺฉยํ เปสิ, พุทฺธุปฺปาทกาโล วิย อโหสิ.

เวเทหราชาปิ สตฺตวสฺสจฺจเยน ‘‘จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘อมฺเห อภิภวิตฺวา ปฺจโม ปณฺฑิโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ เม กถยึสุ, กตฺถ โส เอตรหี’’ติ สริตฺวา ‘‘ตสฺส วสนฏฺานํ ชานาถา’’ติ จตูหิ ทฺวาเรหิ จตฺตาโร อมจฺเจ เปเสสิ. เสสทฺวาเรหิ นิกฺขนฺตา อมจฺจา มหาสตฺตํ น ปสฺสึสุ. ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขนฺโต อมจฺโจ ปน สาลาทีนิ ทิสฺวา ‘‘ปณฺฑิเตน นาม อิมิสฺสา สาลาย การเกน วา การาปเกน วา ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา มนุสฺเส ปุจฺฉิ ‘‘อยํ สาลา กตรวฑฺฒกินา กตา’’ติ? มนุสฺสา ‘‘นายํ วฑฺฒกินา กตา, สิริวฑฺฒนเสฏฺิปุตฺเตน มโหสธปณฺฑิเตน อตฺตโน ปฺาพเลน วิจาเรตฺวา กตา’’ติ วทึสุ. ‘‘กติวสฺโส ปน ปณฺฑิโต’’ติ? ‘‘ปริปุณฺณสตฺตวสฺโส’’ติ. อมจฺโจ รฺา ทิฏฺสุปินทิวสโต ปฏฺาย วสฺสํ คเณตฺวา ‘‘รฺโ ทิฏฺสุปิเนน สเมติ, อยเมว โส ปณฺฑิโต’’ติ รฺโ ทูตํ เปเสสิ ‘‘เทว, ปาจีนยวมชฺฌกคาเม สิริวฑฺฒนเสฏฺิปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต นาม สตฺตวสฺสิโกว สมาโน เอวรูปํ นาม สาลํ วิจาเรสิ, โปกฺขรณึ อุยฺยานฺจ กาเรสิ, อิมํ ปณฺฑิตํ คเหตฺวา อาเนมี’’ติ. ราชา ตํ กถํ สุตฺวาว ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา เสนกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘กึ, อาจริย, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ลาภํ มจฺฉรายนฺโต ‘‘มหาราช, สาลาทีนํ การาปิตมตฺเตน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, โย โกจิ เอตานิ กาเรติ, อปฺปมตฺตกํ เอต’’นฺติ อาห. โส ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘ภวิตพฺพเมตฺถ การเณนา’’ติ ตุณฺหี หุตฺวา ‘‘ตตฺเถว วสนฺโต ปณฺฑิตํ วีมํสตู’’ติ อมจฺจสฺส ทูตํ ปฏิเปเสสิ. ตํ สุตฺวา อมจฺโจ ตตฺเถว วสนฺโต ปณฺฑิตํ วีมํสิ.

สตฺตทารกปฺโห

ตตฺริทํ วีมํสนุทฺทานํ –

‘‘มํสํ โคโณ คนฺถิ สุตฺตํ, ปุตฺโต โคโต รเถน จ;

ทณฺโฑ สีสํ อหี เจว, กุกฺกุโฏ มณิ วิชายนํ;

โอทนํ วาลุกฺจาปิ, ตฬากุยฺยานํ คทฺรโภ มณี’’ติ.

ตตฺถ มํสนฺติ เอกทิวสํ โพธิสตฺเต กีฬามณฺฑลํ คจฺฉนฺเต เอโก เสโน สูนผลกโต มํสเปสึ คเหตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. ตํ ทิสฺวา ทารกา ‘‘มํสเปสึ ฉฑฺฑาเปสฺสามา’’ติ เสนํ อนุพนฺธึสุ. เสโน อิโต จิโต จ ธาวติ. เต อุทฺธํ โอโลเกตฺวา ตสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉโต คจฺฉนฺตา ปาสาณาทีสุ อุปกฺขลิตฺวา กิลมนฺติ. อถ เน ปณฺฑิโต อาห ‘‘ฉฑฺฑาเปสฺสามิ น’’นฺติ. ‘‘ฉฑฺฑาเปหิ สามี’’ติ. ‘‘เตน หิ ปสฺสถา’’ติ โส อุทฺธํ อโนโลเกตฺวาว วาตเวเคน ธาวิตฺวา เสนสฺส ฉายํ อกฺกมิตฺวา ปาณึ ปหริตฺวา มหารวํ รวิ. ตสฺส เตเชน โส สทฺโท เสนสฺส กุจฺฉิยํ วินิวิชฺฌิตฺวา นิจฺฉาริโต วิย อโหสิ. โส ภีโต มํสํ ฉฑฺเฑสิ. มหาสตฺโต ฉฑฺฑิตภาวํ ตฺวา ฉายํ โอโลเกนฺโตว ภูมิยํ ปติตุํ อทตฺวา อากาเสเยว สมฺปฏิจฺฉิ. ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา มหาชโน นทนฺโต วคฺคนฺโต อปฺโผเฏนฺโต มหาสทฺทํ อกาสิ. อมจฺโจ ตํ ปวตฺตึ ตฺวา รฺโ ทูตํ เปเสสิ ‘‘ปณฺฑิโต อิมินา อุปาเยน มํสเปสึ ฉฑฺฑาเปสิ, อิทํ เทโว ชานาตู’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ? โส จินฺเตสิ ‘‘ตสฺส อิธาคตกาลโต ปฏฺาย มยํ นิปฺปภา ภวิสฺสาม, อตฺถิภาวมฺปิ โน ราชา น ชานิสฺสติ, น ตํ อาเนตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส พลวลาภมจฺฉริยตาย ‘‘มหาราช, เอตฺตเกน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, อปฺปมตฺตกํ กิฺจิ เอต’’นฺติ อาห. ราชา มชฺฌตฺโตว หุตฺวา ‘‘ตตฺเถว นํ วีมํสตู’’ติ ปุน เปเสสิ.

โคโณติ เอโก ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสี ปุริโส ‘‘วสฺเส ปติเต กสิสฺสามี’’ติ คามนฺตรโต โคเณ กิณิตฺวา อาเนตฺวา เคเห วสาเปตฺวา ปุนทิวเส โคจรตฺถาย ติณภูมึ อาเนตฺวา โคณปิฏฺเ นิสินฺโน กิลนฺตรูโป โอตริตฺวา รุกฺขมูเล นิปนฺโนว นิทฺทํ โอกฺกมิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก โจโร โคเณ คเหตฺวา ปลายิ. โส ปพุชฺฌิตฺวา โคเณ อปสฺสนฺโต อิโต จิโต จ โอโลเกตฺวา โคเณ คเหตฺวา ปลายนฺตํ โจรํ ทิสฺวา เวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ‘‘กุหึ เม โคเณ เนสี’’ติ อาห. ‘‘มม โคเณ อตฺตโน อิจฺฉิตฏฺานํ เนมี’’ติ. เตสํ วิวาทํ สุตฺวา มหาชโน สนฺนิปติ. ปณฺฑิโต เตสํ สาลาทฺวาเรน คจฺฉนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา อุโภปิ ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ กิริยํ ทิสฺวาว ‘‘อยํ โจโร, อยํ โคณสามิโก’’ติ ชานาติ. ชานนฺโตปิ ‘‘กสฺมา วิวทถา’’ติ ปุจฺฉิ. โคณสามิโก อาห – ‘‘สามิ, อิเม อหํ อสุกคามโต อสุกสฺส นาม หตฺถโต กิณิตฺวา อาเนตฺวา เคเห วสาเปตฺวา โคจรตฺถาย ติณภูมึ เนสึ, ตตฺถ มม ปมาทํ ทิสฺวา อยํ โคเณ คเหตฺวา ปลายิ. สฺวาหํ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต อิมํ ทิสฺวา อนุพนฺธิตฺวา คณฺหึ, อสุกคามวาสิโน มยา เอเตสํ กิณิตฺวา คหิตภาวํ ชานนฺตี’’ติ. โจโร ปน ‘‘มเมเต ฆรชาติกา, อยํ มุสา ภณตี’’ติ อาห.

อถ เน ปณฺฑิโต ‘‘อหํ โว อฑฺฑํ ธมฺเมน วินิจฺฉินิสฺสามิ, สฺสถ เม วินิจฺฉเย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, สามิ, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาชนสฺส มนํ คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปมํ โจรํ ปุจฺฉิ ‘‘ตยา อิเม โคณา กึ ขาทาปิตา กึ ปายิตา’’ติ? ‘‘ยาคุํ ปายิตา ติลปิฏฺฺจ มาเส จ ขาทาปิตา’’ติ. ตโต โคณสามิกํ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘สามิ, กุโต เม ทุคฺคตสฺส ยาคุอาทีนิ ลทฺธานิ, ติณเมว ขาทาปิตา’’ติ. ปณฺฑิโต เตสํ กถํ ปริสํ คาหาเปตฺวา ปิยงฺคุปตฺตานิ อาหราเปตฺวา โกฏฺฏาเปตฺวา อุทเกน มทฺทาเปตฺวา โคเณ ปาเยสิ. โคณา ติณเมว ฉฑฺฑยึสุ. ปณฺฑิโต ‘‘ปสฺสเถต’’นฺติ มหาชนสฺส ทสฺเสตฺวา โจรํ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ โจโรสิ, น โจโรสี’’ติ? โส ‘‘โจโรมฺหี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ ตฺวํ อิโต ปฏฺาย มา เอวรูปมกาสี’’ติ โอวทิ. โพธิสตฺตสฺส ปริสา ปน ตํ หตฺถปาเทหิ โกฏฺเฏตฺวา ทุพฺพลมกาสิ. อถ นํ ปณฺฑิโต ‘‘ทิฏฺธมฺเมเยว ตาว อิมํ ทุกฺขํ ลภสิ, สมฺปราเย ปน นิรยาทีสุ มหาทุกฺขํ อนุภวิสฺสสิ, สมฺม, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย ปชเหตํ กมฺม’’นฺติ วตฺวา ตสฺส ปฺจ สีลานิ อทาสิ. อมจฺโจ ตํ ปวตฺตึ ยถาภูตํ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. ‘‘โคณอฑฺฑํ นาม, มหาราช, เย เกจิ วินิจฺฉินนฺติ, อาคเมหิ ตาวา’’ติ วุตฺเต ราชา มชฺฌตฺโต หุตฺวา ปุน ตเถว สาสนํ เปเสสิ. สพฺพฏฺาเนสุปิ เอวํ เวทิตพฺพํ. อิโต ปรํ ปน อุทฺทานมตฺตเมว วิภชิตฺวา ทสฺสยิสฺสามาติ.

คนฺถีติ เอกา ทุคฺคติตฺถี นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ คนฺถิเก พนฺธิตฺวา กตํ สุตฺตคนฺถิตปิฬนฺธนํ คีวโต โมเจตฺวา สาฏกสฺส อุปริ เปตฺวา นฺหายิตุํ ปณฺฑิเตน การิตโปกฺขรณึ โอตริ. อปรา ตรุณิตฺถี ตํ ทิสฺวา โลภํ อุปฺปาเทตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ‘‘อมฺม, อติวิย โสภนํ อิทํ กิตฺตเกน เต กตํ, อหมฺปิ อตฺตโน เอวรูปํ กริสฺสามิ, คีวาย ปิฬนฺธิตฺวา ปมาณํ ตาวสฺส อุปธาเรมี’’ติ วตฺวา ตาย อุชุจิตฺตตาย ‘‘อุปธาเรหี’’ติ วุตฺเต คีวาย ปิฬนฺธิตฺวา ปกฺกามิ. อิตรา ตํ ทิสฺวา สีฆํ อุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา อุปธาวิตฺวา ‘‘กหํ เม ปิฬนฺธนํ คเหตฺวา ปลายิสฺสสี’’ติ สาฏเก คณฺหิ. อิตรา ‘‘นาหํ ตว สนฺตกํ คณฺหามิ, มม คีวายเมว ปิฬนฺธน’’นฺติ อาห. มหาชโน ตํ สุตฺวา สนฺนิปติ. ปณฺฑิโต ทารเกหิ สทฺธึ กีฬนฺโต ตาสํ กลหํ กตฺวา สาลาทฺวาเรน คจฺฉนฺตีนํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ สทฺโท เอโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อุภินฺนํ กลหการณํ สุตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา อากาเรเนว โจริฺจ อโจริฺจ ตฺวาปิ ตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ โว ธมฺเมน วินิจฺฉินิสฺสามิ, มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสาม, สามี’’ติ วุตฺเต ปมํ โจรึ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ อิมํ ปิฬนฺธนํ ปิฬนฺธนฺตี กตรคนฺธํ วิลิมฺปสี’’ติ? ‘‘อหํ นิจฺจํ สพฺพสํหารกํ วิลิมฺปามี’’ติ. สพฺพสํหารโก นาม สพฺพคนฺเธหิ โยเชตฺวา กตคนฺโธ. ตโต อิตรํ ปุจฺฉิ. สา อาห ‘‘กุโต, สามิ, ลทฺโธ ทุคฺคตาย มยฺหํ สพฺพสํหารโก, อหํ นิจฺจํ ปิยงฺคุปุปฺผคนฺธเมว วิลิมฺปามี’’ติ. ปณฺฑิโต อุทกปาตึ อาหราเปตฺวา ตํ ปิฬนฺธนํ ตตฺถ ปกฺขิปาเปตฺวา คนฺธิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอตํ คนฺธํ อุปสิงฺฆิตฺวา อสุกคนฺธภาวํ ชานาหี’’ติ อาห. โส อุปสิงฺฆนฺโต ปิยงฺคุปุปฺผภาวํ ตฺวา อิมํ เอกกนิปาเต คาถมาห –

‘‘สพฺพสํหารโก นตฺถิ, สุทฺธํ กงฺคุ ปวายติ;

อลิกํ ภาสติยํ ธุตฺตี, สจฺจมาหุ มหลฺลิกา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๑๐);

ตตฺถ ธุตฺตีติ ธุตฺติกา. อาหูติ อาห, อยเมว วา ปาโ.

เอวํ มหาสตฺโต ตํ การณํ มหาชนํ ชานาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ โจรีสิ, น โจรีสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา โจริภาวํ ปฏิชานาเปสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺตสฺส ปณฺฑิตภาโว ปากโฏ ชาโต.

สุตฺตนฺติ เอกา กปฺปาสกฺเขตฺตรกฺขิกา อิตฺถี กปฺปาสกฺเขตฺตํ รกฺขนฺตี ตตฺเถว ปริสุทฺธํ กปฺปาสํ คเหตฺวา สุขุมสุตฺตํ กนฺติตฺวา คุฬํ กตฺวา อุจฺฉงฺเค เปตฺวา คามํ อาคจฺฉนฺตี ‘‘ปณฺฑิตสฺส โปกฺขรณิยํ นฺหายิสฺสามี’’ติ ตีรํ คนฺตฺวา สาฏกํ มุฺจิตฺวา สาฏกสฺส อุปริ สุตฺตคุฬํ เปตฺวา โอตริตฺวา โปกฺขรณิยํ นฺหายติ. อปรา ตํ ทิสฺวา ลุทฺธจิตฺตตาย ตํ คเหตฺวา ‘‘อโห มนาปํ สุตฺตํ, อมฺม, ตยา กต’’นฺติ อจฺฉรํ ปหริตฺวา โอโลเกนฺตี วิย อุจฺฉงฺเค กตฺวา ปกฺกามิ. เสสํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. ปณฺฑิโต ปมํ โจรึ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ คุฬํ กโรนฺตี อนฺโต กึ ปกฺขิปิตฺวา อกาสี’’ติ? ‘‘กปฺปาสผลฏฺิเมว สามี’’ติ. ตโต อิตรํ ปุจฺฉิ. สา ‘‘สามิ ติมฺพรุอฏฺิ’’นฺติ อาห. โส อุภินฺนํ วจนํ ปริสํ คาหาเปตฺวา สุตฺตคุฬํ นิพฺเพาเปตฺวา ติมฺพรุอฏฺึ ทิสฺวา ตํ โจริภาวํ สํปฏิจฺฉาเปสิ. มหาชโน หฏฺตุฏฺโ ‘‘สุวินิจฺฉิโต อฑฺโฑ’’ติ สาธุการสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ.

ปุตฺโตติ เอกทิวสํ เอกา อิตฺถี ปุตฺตํ อาทาย มุขโธวนตฺถาย ปณฺฑิตสฺส โปกฺขรณึ คนฺตฺวา ปุตฺตํ นฺหาเปตฺวา อตฺตโน สาฏเก นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน มุขํ โธวิตุํ โอตริ. ตสฺมึ ขเณ เอกา ยกฺขินี ตํ ทารกํ ทิสฺวา ขาทิตุกามา หุตฺวา อิตฺถิเวสํ คเหตฺวา ‘‘สหายิเก, โสภติ วตายํ ทารโก, ตเวโส ปุตฺโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ปาเยมิ น’’นฺติ วตฺวา ‘‘ปาเยหี’’ติ วุตฺตา ตํ คเหตฺวา โถกํ กีฬาเปตฺวา อาทาย ปลายิ. อิตรา ตํ ทิสฺวา ธาวิตฺวา ‘‘กุหึ เม ปุตฺตํ เนสี’’ติ คณฺหิ. ยกฺขินี ‘‘กุโต ตยา ปุตฺโต ลทฺโธ, มเมโส ปุตฺโต’’ติ อาห. ตา กลหํ กโรนฺติโย สาลาทฺวาเรน คจฺฉนฺติ. ปณฺฑิโต ตํ กลหสทฺทํ สุตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา ตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต อกฺขีนํ อนิมิสตาย เจว รตฺตตาย จ นิราสงฺกตาย จ ฉายาย อภาวตาย จ ‘‘อยํ ยกฺขินี’’ติ ตฺวาปิ ‘‘มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ภูมิยํ เลขํ กฑฺฒยิตฺวา เลขามชฺเฌ ทารกํ นิปชฺชาเปตฺวา ยกฺขินึ หตฺเถสุ, มาตรํ ปาเทสุ คาหาเปตฺวา ‘‘ทฺเวปิ กฑฺฒิตฺวา คณฺหถ, กฑฺฒิตุํ สกฺโกนฺติยา เอว ปุตฺโต’’ติ อาห.

ตา อุโภปิ กฑฺฒึสุ. ทารโก กฑฺฒิยมาโน ทุกฺขปฺปตฺโต หุตฺวา วิรวิ. มาตา หทเยน ผลิเตน วิย หุตฺวา ปุตฺตํ มุฺจิตฺวา โรทมานา อฏฺาสิ. ปณฺฑิโต มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺโภ, ทารเก, มาตุ หทยํ มุทุกํ โหติ, อุทาหุ อมาตู’’ติ. ‘‘มาตุ หทยํ มุทุกํ โหตี’’ติ. ‘‘กึ ทานิ ทารกํ คเหตฺวา ิตา มาตา โหติ, อุทาหุ วิสฺสชฺเชตฺวา ิตา’’ติ? ‘‘วิสฺสชฺเชตฺวา ิตา ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘อิมํ ปน ทารกโจรึ ตุมฺเห ชานาถา’’ติ? ‘‘น ชานาม, ปณฺฑิตา’’ติ. อถ เน ปณฺฑิโต อาห – ‘‘ยกฺขินี เอสา, เอตํ ขาทิตุํ คณฺหี’’ติ. ‘‘กถํ ชานาสิ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘อกฺขีนํ อนิมิสตาย เจว รตฺตตาย จ นิราสงฺกตาย จ ฉายาย อภาเวน จ นิกฺกรุณตาย จา’’ติ. อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ? ‘‘ยกฺขินีมฺหิ สามี’’ติ. ‘‘กสฺมา อิมํ ทารกํ คณฺหี’’ติ? ‘‘ขาทิตุํ คณฺหามิ, สามี’’ติ. ‘‘อนฺธพาเล, ตฺวํ ปุพฺเพปิ ปาปกมฺมํ กตฺวา ยกฺขินี ชาตาสิ, อิทานิ ปุนปิ ปาปํ กโรสิ, อโห อนฺธพาลาสี’’ติ วตฺวา ตํ ปฺจสีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย เอวรูปํ ปาปกมฺมํ มา อกาสี’’ติ วตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. ทารกมาตาปิ ทารกํ ลภิตฺวา ‘‘จิรํ ชีวตุ สามี’’ติ ปณฺฑิตํ โถเมตฺวา ปุตฺตํ อาทาย ปกฺกามิ.

โคโตติ เอโก กิร ลกุณฺฑกตฺตา โคโต, กาฬวณฺณตา จ กาโฬติ โคตกาโฬ นาม ปุริโส สตฺตสํวจฺฉรานิ กมฺมํ กตฺวา ภริยํ ลภิ. สา นาเมน ทีฆตาลา นาม. โส เอกทิวสํ ตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปูวขาทนียํ ปจาหิ, มาตาปิตโร ทฏฺุํ คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา ‘‘กึ เต มาตาปิตูหี’’ติ ตาย ปฏิกฺขิตฺโตปิ ยาวตติยํ วตฺวา ปูวขาทนียํ ปจาเปตฺวา ปาเถยฺยฺเจว ปณฺณาการฺจ อาทาย ตาย สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค อุตฺตานวาหินึ เอกํ นทึ อทฺทส. เต ปน ทฺเวปิ อุทกภีรุกชาติกาว, ตสฺมา ตํ อุตฺตริตุํ อวิสหนฺตา ตีเร อฏฺํสุ. ตทา ทีฆปิฏฺิ นาเมโก ทุคฺคตปุริโส อนุวิจรนฺโต ตํ านํ ปาปุณิ. อถ นํ เต ทิสฺวา ปุจฺฉึสุ ‘‘สมฺม, อยํ นที คมฺภีรา อุตฺตานา’’ติ. โส เตสํ กถํ สุตฺวา อุทกภีรุกภาวํ ตฺวา ‘‘สมฺม, อยํ นที คมฺภีรา พหุจณฺฑมจฺฉากิณฺณา’’ติ อาห. ‘‘สมฺม, กถํ ตฺวํ คมิสฺสสี’’ติ? โส อาห – ‘‘สํสุมารมกรานํ อมฺเหหิ ปริจโย อตฺถิ, เตน เต อมฺเห น วิเหเนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม, อมฺเหปิ เนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺส เต ขชฺชโภชนํ อทํสุ. โส กตภตฺตกิจฺโจ ‘‘สมฺม, กํ ปมํ เนมี’’ติ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘ตว สหายิกํ ปมํ เนหิ, มํ ปจฺฉา เนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ขนฺเธ กตฺวา ปาเถยฺยฺเจว ปณฺณาการฺจ คเหตฺวา นทึ โอตริตฺวา โถกํ คนฺตฺวา อุกฺกุฏิโก นิสีทิตฺวา ปกฺกามิ.

โคตกาโฬ ตีเร ิโตว ‘‘คมฺภีราวตายํ นที, เอวํ ทีฆสฺสปิ นาม เอวรูปา, มยฺหํ ปน อปสยฺหาว ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสิ. อิตโรปิ ตํ นทีมชฺฌํ เนตฺวา ‘‘ภทฺเท, อหํ ตํ โปเสสฺสามิ, สมฺปนฺนวตฺถาลงฺการา ทาสิทาสปริวุตา วิจริสฺสสิ, กึ เต อยํ ลกุณฺฑกวามนโก กริสฺสติ, มม วจนํ กโรหี’’ติ อาห. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวาว อตฺตโน สามิเก สิเนหํ ภินฺทิตฺวา ตํขณฺเว ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา ‘‘สามิ, สเจ มํ น ฉฑฺเฑสฺสสิ, กริสฺสามิ เต วจน’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉิ. ‘‘ภทฺเท, กึ วเทสิ, อหํ ตํ โปเสสฺสามี’’ติ. เต ปรตีรํ คนฺตฺวา อุโภปิ สมคฺคา สมฺโมทมานา ‘‘โคตกาฬํ ปหาย ติฏฺ ตฺว’’นฺติ วตฺวา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ขาทนียํ ขาทนฺตา ปกฺกมึสุ. โส ทิสฺวา ‘‘อิเม เอกโต หุตฺวา มํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺติ มฺเ’’ติ อปราปรํ ธาวนฺโต โถกํ โอตริตฺวา ภเยน นิวตฺติตฺวา ปุน เตสุ โกเปน ‘‘ชีวามิ วา มรามิ วา’’ติ อุลฺลงฺฆิตฺวา นทิยํ ปติโต อุตฺตานภาวํ ตฺวา นทึ อุตฺตริตฺวา เวเคน ตํ ปาปุณิตฺวา ‘‘อมฺโภ ทุฏฺโจร, กุหึ เม ภริยํ เนสี’’ติ อาห. อิตโรปิ ตํ ‘‘อเร ทุฏฺวามนก, กุโต ตว ภริยา, มเมสา ภริยา’’ติ วตฺวา คีวายํ คเหตฺวา ขิปิ. โส ทีฆตาลํ หตฺเถ คเหตฺวา’’ติฏฺ ตฺวํ กุหึ คจฺฉสิ, สตฺต สํวจฺฉรานิ กมฺมํ กตฺวา ลทฺธภริยา เมสี’’ติ วตฺวา เตน สทฺธึ กลหํ กโรนฺโต สาลาย สนฺติกํ ปาปุณิ. มหาชโน สนฺนิปติ.

ปณฺฑิโต ‘‘กึ สทฺโท นาเมโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เต อุโภปิ ปกฺโกสาเปตฺวา วจนปฺปฏิวจนํ สุตฺวา ‘‘มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ปมํ ทีฆปิฏฺึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ โกนาโมสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ทีฆปิฏฺิโก นาม, สามี’’ติ. ‘‘ภริยา เต กา นามา’’ติ? โส ตสฺสา นามํ อชานนฺโต อฺํ กเถสิ. ‘‘มาตาปิตโร เต เก นามา’’ติ? ‘‘อสุกา นามา’’ติ. ‘‘ภริยาย ปน เต มาตาปิตโร เก นามา’’ติ? โส อชานิตฺวา อฺํ กเถสิ. ตสฺส กถํ ปริสํ คาหาเปตฺวา ตํ อปเนตฺวา อิตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุริมนเยเนว สพฺเพสํ นามานิ ปุจฺฉิ. โส ยถาภูตํ ชานนฺโต อวิรชฺฌิตฺวา กเถสิ. ตมฺปิ อปเนตฺวา ทีฆตาลํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ กา นามา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ทีฆตาลา นาม สามี’’ติ. ‘‘สามิโก เต โกนาโม’’ติ? สา อชานนฺตี อฺํ กเถสิ. ‘‘มาตาปิตโร เต เก นามา’’ติ. ‘‘อสุกา นาม สามี’’ติ. ‘‘สามิกสฺส ปน เต มาตาปิตโร เก นามา’’ติ? สาปิ วิลปนฺตี อฺํ กเถสิ. อิตเร ทฺเว ปกฺโกสาเปตฺวา มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ อิมิสฺสา ทีฆปิฏฺิสฺส วจเนน สเมติ, อุทาหุ โคตกาฬสฺสา’’ติ. ‘‘โคตกาฬสฺส ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘อยํ เอติสฺสา สามิโก, อิตโร โจโร’’ติ. อถ นํ ‘‘โจโรสิ, น โจโรสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, สามิ, โจโรมฺหี’’ติ โจรภาวํ สมฺปฏิจฺฉิ. ปณฺฑิตสฺส วินิจฺฉเยน โคตกาโฬ อตฺตโน ภริยํ ลภิตฺวา มหาสตฺตํ โถเมตฺวา ตํ อาทาย ปกฺกามิ. ปณฺฑิโต ทีฆปิฏฺิมาห ‘‘มา ปุน เอวมกาสี’’ติ.

รเถน จาติ เอกทิวสํ เอโก ปน ปุริโส รเถ นิสีทิตฺวา มุขโธวนตฺถาย นิกฺขมิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ปณฺฑิตํ ทิสฺวา ‘‘มโหสธพุทฺธงฺกุรสฺส ปฺานุภาวํ ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มนุสฺสเวเสนาคนฺตฺวา รถสฺส ปจฺฉาภาคํ คเหตฺวา ปายาสิ. รเถ นิสินฺโน ปุริโส ‘‘ตาต, เกนตฺเถนาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุมฺเห อุปฏฺาตุ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ยานา โอรุยฺห สรีรกิจฺจตฺถาย คโต. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก รถํ อภิรุหิตฺวา เวเคน ปาเชสิ. รถสามิโก ปน สรีรกิจฺจํ กตฺวา นิกฺขนฺโต สกฺกํ รถํ คเหตฺวา ปลายนฺตํ ทิสฺวา เวเคน คนฺตฺวา ‘‘ติฏฺ ติฏฺ, กุหึ เม รถํ เนสี’’ติ วตฺวา ‘‘ตว รโถ อฺโ ภวิสฺสติ, อยํ ปน มม รโถ’’ติ วุตฺเต เตน สทฺธึ กลหํ กโรนฺโต สาลาทฺวารํ ปตฺโต. ปณฺฑิโต ‘‘กึ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา เต ปกฺโกสาเปตฺวา อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา นิพฺภยตาย เจว อกฺขีนํ อนิมิสตาย จ ‘‘อยํ สกฺโก, อยํ รถสามิโก’’ติ อฺาสิ, เอวํ สนฺเตปิ วิวาทการณํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มม วินิจฺฉเย สฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, สฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ รถํ ปาเชสฺสามิ, ตุมฺเห ทฺเวปิ รถํ ปจฺฉโต คเหตฺวา คจฺฉถ, รถสามิโก น วิสฺสชฺเชสฺสติ, อิตโร วิสฺสชฺเชสฺสตี’’ติ วตฺวา ปุริสํ อาณาเปสิ ‘‘รถํ ปาเชหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ.

อิตเรปิ ทฺเว ปจฺฉโต คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. รถสามิโก โถกํ คนฺตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา ิโต, สกฺโก ปน รเถน สทฺธึ คนฺตฺวา รเถเนว สทฺธึ นิวตฺติ. ปณฺฑิโต มนุสฺเส อาจิกฺขิ ‘‘อยํ ปุริโส โถกํ คนฺตฺวา รถํ วิสฺสชฺเชตฺวา ิโต, อยํ ปน รเถน สทฺธึ ธาวิตฺวา รเถเนว สทฺธึ นิวตฺติ, เนวสฺส สรีเร เสทพินฺทุมตฺตมฺปิ อตฺถิ, อสฺสาสปสฺสาโสปิ นตฺถิ, อภีโต อนิมิสเนตฺโต, เอส สกฺโก เทวราชา’’ติ. อถ นํ ‘‘สกฺโก เทวราชาสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ตเวว ปฺาปกาสนตฺถํ ปณฺฑิตา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มา ปุน เอวมกาสี’’ติ โอวทติ. สกฺโกปิ สกฺกานุภาวํ ทสฺเสนฺโต อากาเส ตฺวา ‘‘สุวินิจฺฉิโต ปณฺฑิเตน อฑฺโฑ’’ติ ปณฺฑิตสฺส ถุตึ กตฺวา สกฏฺานเมว คโต. ตทา โส อมจฺโจ สยเมว รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, ปณฺฑิเตน เอวํ รถอฑฺโฑ สุวินิจฺฉิโต, สกฺโกปิ เตน ปราชิโต, กสฺมา ปุริสวิเสสํ น ชานาสิ, เทวา’’ติ อาห. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. โส ลาภมจฺฉเรน ‘‘มหาราช, เอตฺตเกน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, อาคเมถ ตาว วีมํสิตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ อาห.

สตฺตทารกปฺโห นิฏฺิโต.

คทฺรภปฺโห

ทณฺโฑติ อเถกทิวสํ ราชา ‘‘ปณฺฑิตํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ขทิรทณฺฑํ อาหราเปตฺวา ตโต วิทตฺถึ คเหตฺวา จุนฺทกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา สุฏฺุ ลิขาเปตฺวา ปาจีนยวมชฺฌกคามํ เปเสสิ ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กิร ปณฺฑิตา, ‘อิมสฺส ขทิรทณฺฑสฺส อิทํ อคฺคํ, อิทํ มูล’นฺติ ชานนฺตุ, อชานนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ. คามวาสิโน สนฺนิปติตฺวา ชานิตุํ อสกฺโกนฺตา เสฏฺิโน กถยึสุ ‘‘กทาจิ มโหสธปณฺฑิโต ชาเนยฺย, ปกฺโกสาเปตฺวา ตํ ปุจฺฉถา’’ติ. เสฏฺิ ปณฺฑิตํ กีฬามณฺฑลา ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตาต, มยํ ชานิตุํ น สกฺโกม, อปิ นุ ตฺวํ สกฺขิสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘รฺโ อิมสฺส อคฺเคน วา มูเลน วา ปโยชนํ นตฺถิ, มม วีมํสนตฺถาย เปสิตํ ภวิสฺสตี’’ติ. จินฺเตตฺวา จ ปน ‘‘อาหรถ, ตาต, ชานิสฺสามี’’ติ อาหราเปตฺวา หตฺเถน คเหตฺวาว ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ ตฺวาปิ มหาชนสฺส หทยคฺคหณตฺถํ อุทกปาตึ อาหราเปตฺวา ขทิรทณฺฑกสฺส มชฺเฌ สุตฺเตน พนฺธิตฺวา สุตฺตโกฏิยํ คเหตฺวา ขทิรทณฺฑกํ อุทกปิฏฺเ เปสิ. มูลํ ภาริยตาย ปมํ อุทเก นิมุชฺชิ. ตโต มหาชนํ ปุจฺฉิ ‘‘รุกฺขสฺส นาม มูลํ ภาริยํ โหติ, อุทาหุ อคฺค’’นฺติ? ‘‘มูลํ ปณฺฑิตา’’ติ. เตน หิ อิมสฺส ปมํ นิมุคฺคํ ปสฺสถ, เอตํ มูลนฺติ อิมาย สฺาย อคฺคฺจ มูลฺจ อาจิกฺขิ. คามวาสิโน ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ รฺโ ปหิณึสุ. ราชา ‘‘โก อิมํ ชานาตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน ปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต’’ติ สุตฺวา ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ ปุจฺฉิ. อธิวาเสหิ, เทว, อฺเนปิ อุปาเยน นํ วีมํสิสฺสามาติ.

สีสนฺติ อเถกทิวสํ อิตฺถิยา จ ปุริสสฺส จาติ ทฺเว สีสานิ อาหราเปตฺวา ‘‘อิทํ อิตฺถิสีสํ, อิทํ ปุริสสีสนฺติ ชานนฺตุ, อชานนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ ปหิณึสุ. คามวาสิโน อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ทิสฺวาว อฺาสิ. กถํ ชานาติ? ปุริสสีเส กิร สิพฺพินี อุชุกาว โหติ, อิตฺถิสีเส สิพฺพินี วงฺกา โหติ, ปริวตฺติตฺวา คจฺฉติ. โส อิมินา อภิฺาเณน ‘‘อิทํ อิตฺถิยา สีสํ, อิทํ ปุริสสฺส สีส’’นฺติ อาจิกฺขิ. คามวาสิโนปิ รฺโ ปหิณึสุ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

อหีติ อเถกทิวสํ สปฺปฺจ สปฺปินิฺจ อาหราเปตฺวา ‘‘อยํ สปฺโป, อยํ สปฺปินีติ ชานนฺตุ, อชานนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ วตฺวา คามวาสีนํ เปเสสุํ. คามวาสิโน อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ทิสฺวาว ชานาติ. สปฺปสฺส หิ นงฺคุฏฺํ ถูลํ โหติ, สปฺปินิยา ตนุกํ โหติ, สปฺปสฺส สีสํ ปุถุลํ โหติ, สปฺปินิยา ตนุกํ โหติ, สปฺปสฺส อกฺขีนิ มหนฺตานิ, สปฺปินิยา ขุทฺทกานิ, สปฺปสฺส โสวตฺติโก ปราพทฺโธ โหติ, สปฺปินิยา วิจฺฉินฺนโก. โส อิเมหิ อภิฺาเณหิ ‘‘อยํ สปฺโป, อยํ สปฺปินี’’ติ อาจิกฺขิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

กุกฺกุโฏติ อเถกทิวสํ ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน อมฺหากํ สพฺพเสตํ ปาทวิสาณํ สีสกกุธํ ตโย กาเล อนติกฺกมิตฺวา นทนฺตํ อุสภํ เปเสนฺตุ, โน เจ เปเสนฺติ, สหสฺสทณฺโฑ’’ติ ปหิณึสุ. เต อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส อาห – ‘‘ราชา โว สพฺพเสตํ กุกฺกุฏํ อาหราเปสิ, โส หิ ปาทนขสิขตาย ปาทวิสาโณ นาม, สีสจูฬตาย สีสกกุโธ นาม, ติกฺขตฺตุํ วสฺสนโต ตโย กาเล อนติกฺกมิตฺวา นทติ นาม, ตสฺมา เอวรูปํ กุกฺกุฬํ เปเสถา’’ติ อาห. เต เปสยึสุ.

มณีติ สกฺเกน กุสรฺโ ทินฺโน มณิกฺขนฺโธ อฏฺสุ าเนสุ วงฺโก โหติ. ตสฺส ปุราณสุตฺตํ ฉินฺนํ, โกจิ ปุราณสุตฺตํ นีหริตฺวา นวสุตฺตํ ปเวเสตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เอกทิวสํ ‘‘อิมสฺมา มณิกฺขนฺธา ปุราณสุตฺตํ นีหริตฺวา นวสุตฺตํ ปเวเสนฺตู’’ติ เปสยึสุ. คามวาสิโน ปุราณสุตฺตํ นีหริตฺวา นวสุตฺตํ ปเวเสตุํ อสกฺโกนฺตา ปณฺฑิตสฺส อาจิกฺขึสุ. โส ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มธุํ อาหรถา’’ติ อาหราเปตฺวา มณิโน ทฺวีสุ ปสฺเสสุ มธุนา ฉิทฺทํ มกฺเขตฺวา กมฺพลสุตฺตํ วฏฺเฏตฺวา โกฏิยํ มธุนา มกฺเขตฺวา โถกํ ฉิทฺเท ปเวเสตฺวา กิปิลฺลิกานํ นิกฺขมนฏฺาเน เปสิ. กิปิลฺลิกา มธุคนฺเธน นิกฺขมิตฺวา มณิมฺหิ ปุราณสุตฺตํ ขาทมานา คนฺตฺวา กมฺพลสุตฺตโกฏิยํ ฑํสิตฺวา กฑฺฒนฺตา เอเกน ปสฺเสน นีหรึสุ. ปณฺฑิโต ปเวสิตภาวํ ตฺวา ‘‘รฺโ เทถา’’ติ คามวาสีนํ อทาสิ. เต รฺโ เปสยึสุ. โส ปเวสิตอุปายํ สุตฺวา ตุสฺสิ.

วิชายนนฺติ อเถกทิวสํ รฺโ มงฺคลอุสภํ พหู มาเส ขาทาเปตฺวา มโหทรํ กตฺวา วิสาณานิ โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา หลิทฺทิยา นฺหาเปตฺวา คามวาสีนํ ปหิณึสุ ‘‘ตุมฺเห กิร ปณฺฑิตา, อยฺจ รฺโ มงฺคลอุสโภ ปติฏฺิตคพฺโภ, เอตํ วิชายาเปตฺวา สวจฺฉกํ เปเสถ, อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ. คามวาสิโน ‘‘น สกฺกา อิทํ กาตุํ, กึ นุ โข กริสฺสามา’’ติ ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ‘‘อิมินา เอเกน ปฺหปฏิภาเคน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสถ ปเนกํ รฺา สทฺธึ กถนสมตฺถํ วิสารทํ ปุริสํ ลทฺธุ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘น ครุ เอตํ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘เตน หิ นํ ปกฺโกสถา’’ติ. เต ปกฺโกสึสุ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เอหิ, โภ ปุริส, ตฺวํ ตว เกเส ปิฏฺิยํ วิกิริตฺวา นานปฺปการํ พลวปริเทวํ ปริเทวนฺโต ราชทฺวารํ คจฺฉ, อฺเหิ ปุจฺฉิโตปิ กิฺจิ อวตฺวาว ปริเทว, รฺา ปน ปกฺโกสาเปตฺวา ปริเทวการณํ ปุจฺฉิโตว สมาโน ‘ปิตา เม เทว วิชายิตุํ น สกฺโกติ, อชฺช สตฺตโม ทิวโส, ปฏิสรณํ เม โหหิ, วิชายนุปายมสฺส กโรหี’ติ วตฺวา รฺา ‘กึ วิลปสิ อฏฺานเมตํ, ปุริสา นาม วิชายนฺตา นตฺถี’ติ วุตฺเต ‘สเจ เทว, เอวํ นตฺถิ, อถ กสฺมา ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กถํ มงฺคลอุสภํ วิชายาเปสฺสนฺตี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา อกาสิ. ราชา ‘‘เกนิทํ ปฺหปฏิภาคํ จินฺติต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิเตนา’’ติ สุตฺวา ตุสฺสิ.

โอทนนฺติ อปรสฺมึ ทิวเส ‘‘ปณฺฑิตํ วีมํสิสฺสามา’’ติ ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน อมฺหากํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อมฺพิโลทนํ ปจิตฺวา เปเสนฺตุ. ตตฺริมานิ อฏฺงฺคานิ – น ตณฺฑุเลหิ, น อุทเกน, น อุกฺขลิยา, น อุทฺธเนน, น อคฺคินา, น ทารูหิ, น อิตฺถิยา น ปุริเสน, น มคฺเคนาติ. อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ ปหิณึสุ. คามวาสิโน ตํ การณํ อชานนฺตา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. โส ‘‘มา จินฺตยิตฺถา’’ติ วตฺวา ‘‘น ตณฺฑุเลหีติ กณิกํ คาหาเปตฺวา, น อุทเกนาติ หิมํ คาหาเปตฺวา, น อุกฺขลิยาติ อฺํ นวมตฺติกาภาชนํ คาหาเปตฺวา, น อุทฺธเนนาติ ขาณุเก โกฏฺฏาเปตฺวา, น อคฺคินาติ ปกติอคฺคึ ปหาย อรณิอคฺคึ คาหาเปตฺวา, น ทารูหีติ ปณฺณานิ คาหาเปตฺวา อมฺพิโลทนํ ปจาเปตฺวา นวภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ลฺฉิตฺวา, น อิตฺถิยา น ปุริเสนาติ ปณฺฑเกน อุกฺขิปาเปตฺวา, น มคฺเคนาติ มหามคฺคํ ปหาย ชงฺฆมคฺเคน รฺโ เปเสถา’’ติ อาห. เต ตถา กรึสุ. ราชา ‘‘เกน ปเนส ปฺโห าโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิเตนา’’ติ สุตฺวา ตุสฺสิ.

วาลุกนฺติ อปรสฺมึ ทิวเส ปณฺฑิตสฺส วีมํสนตฺถํ คามวาสีนํ ปหิณึสุ ‘‘ราชา โทลาย กีฬิตุกาโม, ราชกุเล ปุราณโยตฺตํ ฉินฺนํ, เอกํ วาลุกโยตฺตํ วฏฺเฏตฺวา เปเสนฺตุ, อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ. เต ปณฺฑิตํ ปุจฺฉึสุ. ปณฺฑิโต ‘‘อิมินาปิ ปฺหปฏิภาเคเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ คามวาสิโน อสฺสาเสตฺวา วจนกุสเล ทฺเว ตโย ปุริเส ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห, ราชานํ วเทถ ‘เทว, คามวาสิโน ตสฺส โยตฺตสฺส ตนุกํ วา ถูลํ วา ปมาณํ น ชานนฺติ, ปุราณวาลุกโยตฺตโต วิทตฺถิมตฺตํ วา จตุรงฺคุลมตฺตํ วา ขณฺฑํ เปเสถ, ตํ โอโลเกตฺวา เตน ปมาเณน วฏฺเฏสฺสนฺตี’ติ. สเจ, โว ราชา ‘อมฺหากํ ฆเร วาลุกโยตฺตํ นาม น กทาจิ สุตปุพฺพ’นฺติ วทติ, อถ นํ ‘สเจ, มหาราช, โว เอวรูปํ น สกฺกา กาตุํ, ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กถํ กริสฺสนฺตี’ติ วเทยฺยาถา’’ติ เปเสสิ. เต ตถา กรึสุ. ราชา ‘‘เกน จินฺติตํ ปฺหปฏิภาค’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิเตนา’’ติ สุตฺวา ตุสฺสิ.

ตฬากนฺติ อปรสฺมึ ทิวเส ปณฺฑิตสฺส วีมํสนตฺถํ ‘‘ราชา อุทกกีฬํ กีฬิตุกาโม, ปฺจวิธปทุมสจฺฉนฺนํ โปกฺขรณึ เปเสนฺตุ, อเปเสนฺตานํ สหสฺสทณฺโฑ’’ติ คามวาสีนํ เปสยึสุ. เต ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ. โส ‘‘อิมินาปิ ปฺหปฏิภาเคเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา วจนกุสเล กติปเย มนุสฺเส ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอถ ตุมฺเห อุทกกีฬํ กีฬิตฺวา อกฺขีนิ รตฺตานิ กตฺวา อลฺลเกสา อลฺลวตฺถา กทฺทมมกฺขิตสรีรา โยตฺตทณฺฑเลฑฺฑุหตฺถา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ทฺวาเร ิตภาวํ รฺโ อาโรจาเปตฺวา กโตกาสา ปวิสิตฺวา ‘มหาราช, ตุมฺเหหิ กิร ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน โปกฺขรณึ เปเสนฺตูติ ปหิตา มยํ ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกํ มหนฺตํ โปกฺขรณึ อาทาย อาคตา. สา ปน อรฺวาสิกตฺตา นครํ ทิสฺวา ทฺวารปาการปริขาอฏฺฏาลกาทีนิ โอโลเกตฺวา ภีตตสิตา โยตฺตานิ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา อรฺเมว ปวิฏฺา, มยํ เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ โปเถนฺตาปิ นิวตฺเตตุํ น สกฺขิมฺหา, ตุมฺหากํ อรฺา อานีตํ ปุราณโปกฺขรณึ เปเสถ, ตาย สทฺธึ โยเชตฺวา หริสฺสามา’ติ วตฺวา รฺาน กทาจิ มม อรฺโต อานีตโปกฺขรณี นาม ภูตปุพฺพา, น จ มยา กสฺสจิ โยเชตฺวา อาหรณตฺถาย โปกฺขรณี เปสิตปุพฺพา’ติ วุตฺเต ‘สเจ, เทว, โว เอวํ น สกฺกา กาตุํ, ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน กถํ โปกฺขรณึ เปเสสฺสนฺตี’ติ วเทยฺยาถา’’ติ วตฺวา เปเสสิ. เต ตถา กรึสุ. ราชา ปณฺฑิเตน าตภาวํ สุตฺวา ตุสฺสิ.

อุยฺยานนฺติ ปุเนกทิวสํ ‘‘มยํ อุยฺยานกีฬํ กีฬิตุกามา, อมฺหากฺจ ปุราณอุยฺยานํ ปริชิณฺณํ, โอภคฺคํ ชาตํ, ปาจีนยวมชฺฌกคามวาสิโน สุปุปฺผิตตรุณรุกฺขสฺฉนฺนํ นวอุยฺยานํ เปเสนฺตู’’ติ ปหิณึสุ. คามวาสิโน ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ. ปณฺฑิโต ‘‘อิมินาปิ ปฺหปฏิภาเคเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ เต สมสฺสาเสตฺวา มนุสฺเส เปเสตฺวา ปุริมนเยเนว กถาเปสิ.

ตทาปิ ราชา ตุสฺสิตฺวา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. โส ลาภมจฺฉริเยน ‘‘เอตฺตเกน ปณฺฑิโต นาม น โหติ, อาคเมถ, เทวา’’ติ อาห. ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ ‘‘มโหสธปณฺฑิโต สตฺตทารกปฺเหหิ มม มนํ คณฺหิ, เอวรูเปสุปิสฺส คุยฺหปฺหวิสฺสชฺชเนสุ เจว ปฺหปฏิภาเคสุ จ พุทฺธสฺส วิย พฺยากรณํ, เสนโก เอวรูปํ ปณฺฑิตํ อาเนตุํ น เทติ, กึ เม เสนเกน, อาเนสฺสามิ น’’นฺติ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ คามํ ปายาสิ. ตสฺส มงฺคลอสฺสํ อภิรุหิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อสฺสสฺส ปาโท ผลิตภูมิยา อนฺตรํ ปวิสิตฺวา ภิชฺชิ. ราชา ตโตว นิวตฺติตฺวา นครํ ปาวิสิ. อถ นํ เสนโก อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘มหาราช, ปณฺฑิตํ กึ อาเนตุํ ปาจีนยวมชฺฌกคามํ อคมิตฺถา’’ติ. ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘มหาราช, ตุมฺเห มํ อนตฺถกามํ กตฺวา ปสฺสถ, ‘อาคเมถ ตาวา’ติ วุตฺเตปิ อติตุริตา นิกฺขมิตฺถ, ปมคมเนเนว มงฺคลอสฺสสฺส ปาโท ภินฺโน’’ติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุณฺหี หุตฺวา ปุเนกทิวสํ เตน สทฺธึ มนฺเตสิ ‘‘กึ, เสนก, อาเนม ปณฺฑิต’’นฺติ. เทว, สยํ อคนฺตฺวา ทูตํ เปเสถ ‘‘ปณฺฑิต, อมฺหากํ ตว สนฺติกํ อาคจฺฉนฺตานํ อสฺสสฺส ปาโท ภินฺโน, อสฺสตรํ วา โน เปเสตุ เสฏฺตรํ วา’’ติ. ‘‘ยทิ อสฺสตรํ เปเสสฺสติ, สยํ อาคมิสฺสติ. เสฏฺตรํ เปเสนฺโต ปิตรํ เปเสสฺสติ, อยเมโก โน ปฺโห ภวิสฺสตี’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา กตฺวา ทูตํ เปเสสิ. ปณฺฑิโต ทูตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ราชา มมฺเจว ปิตรฺจ ปสฺสิตุกาโม’’ติ จินฺเตตฺวา ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, ราชา ตุมฺเห เจว มมฺจ ทฏฺุกาโม, ตุมฺเห ปมตรํ เสฏฺิสหสฺสปริวุตา คจฺฉถ, คจฺฉนฺตา จ ตุจฺฉหตฺถา อคนฺตฺวา นวสปฺปิปูรํ จนฺทนกรณฺฑกํ อาทาย คจฺฉถ. ราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘คหปติ ปติรูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีทาหี’ติ วกฺขติ, อถ ตุมฺเห ตถารูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีเทยฺยาถ. ตุมฺหากํ นิสินฺนกาเล อหํ อาคมิสฺสามิ, ราชา มยาปิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘ปณฺฑิต, ตวานุรูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีทา’ติ วกฺขติ, อถาหํ ตุมฺเห โอโลเกสฺสามิ, ตุมฺเห ตาย สฺาย อาสนา วุฏฺาย ‘ตาต มโหสธ, อิมสฺมึ อาสเน นิสีทา’ติ วเทยฺยาถ, อชฺช โน เอโก ปฺโห มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา อตฺตโน ทฺวาเร ิตภาวํ รฺโ อาโรจาเปตฺวา ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

ราชา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘คหปติ, ตวปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปจฺฉโต อาคจฺฉติ, เทวา’’ติ. ราชา ‘‘ปจฺฉโต อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา ตุฏฺมานโส หุตฺวา ‘‘มหาเสฏฺิ อตฺตโน ยุตฺตาสนํ ตฺวา นิสีทา’’ติ อาห. โส อตฺตโน ยุตฺตาสนํ ตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ อลงฺกตปฏิยตฺโต ทารกสหสฺสปริวุโต อลงฺกตรเถ นิสีทิตฺวา นครํ ปวิสนฺโต ปริขาปิฏฺเ จรมานํ เอกํ คทฺรภํ ทิสฺวา ถามสมฺปนฺเน มาณเว เปเสสิ ‘‘อมฺโภ, เอตํ คทฺรภํ อนุพนฺธิตฺวา ยถา สทฺทํ น กโรติ, เอวมสฺส มุขพนฺธนํ กตฺวา กิลฺเชน เวเตฺวา ตสฺมึ เอเกนตฺถรเณน ปฏิจฺฉาเทตฺวา อํเสนาทาย อาคจฺฉถา’’ติ. เต ตถา กรึสุ. โพธิสตฺโตปิ มหนฺเตน ปริวาเรน นครํ ปาวิสิ. มหาชโน ‘‘เอส กิร สิริวฑฺฒนเสฏฺิโน ปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต นาม, เอส กิร ชายมาโน โอสธฆฏิกํ หตฺเถน คเหตฺวา ชาโต, อิมินา กิร เอตฺตกานํ วีมํสนปฺหานํ ปฺหปฏิภาโค าโต’’ติ มหาสตฺตํ อภิตฺถวนฺโต โอโลเกนฺโตปิ ติตฺตึ น คจฺฉติ. โส ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ปฏิเวเทสิ. ราชา สุตฺวาว หฏฺตุฏฺโ ‘‘มม ปุตฺโต มโหสธปณฺฑิโต ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ อาห. โส ทารกสหสฺสปริวุโต ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวาว โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, ปติรูปํ อาสนํ ตฺวา นิสีทา’’ติ อาห. อถ โส ปิตรํ โอโลเกสิ. อถสฺส ปิตาปิ โอโลกิตสฺาย อุฏฺาย ‘‘ปณฺฑิต, อิมสฺมึ อาสเน นิสีทา’’ติ อาห. โส ตสฺมึ อาสเน นิสีทิ.

ตํ ตตฺถ นิสินฺนํ ทิสฺวาว เสนกปุกฺกุสกามินฺทเทวินฺทา เจว อฺเ จ อนฺธพาลา ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสิตฺวา ‘‘อิมํ อนฺธพาลํ ‘ปณฺฑิโต’ติ วทึสุ, โส ปิตรํ อาสนา วุฏฺาเปตฺวา สยํ นิสีทติ, อิมํ ‘ปณฺฑิโต’ติ วตฺตุํ อยุตฺต’’นฺติ ปริหาสํ กรึสุ. ราชาปิ ทุมฺมุโข อนตฺตมโน อโหสิ. อถ นํ มหาสตฺโต ปุจฺฉิ ‘‘กึ, มหาราช, ทุมฺมุขตฺถา’’ติ? ‘‘อาม ปณฺฑิต, ทุมฺมุโขมฺหิ, สวนเมว เต มนาปํ, ทสฺสนํ ปน อมนาปํ ชาต’’นฺติ. ‘‘กึ การณา, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปิตรํ อาสนา วุฏฺาเปตฺวา นิสินฺนตฺตา’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, มหาราช, ‘สพฺพฏฺาเนสุ ปุตฺเตหิ ปิตโรว อุตฺตมา’ติ มฺสี’’ติ. ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. อถ มหาสตฺโต ‘‘นนุ, มหาราช, ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ‘อสฺสตรํ วา เปเสตุ เสฏฺตรํ วา’ติ สาสนํ ปหิต’’นฺติ วตฺวา อาสนา วุฏฺาย เต มาณเว โอโลเกตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ คหิตํ คทฺรภํ อาเนถา’’ติ อาณาเปตฺวา รฺโ ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘มหาราช, อยํ คทฺรโภ กึ อคฺฆตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปณฺฑิต, สเจ อุปการโก, อฏฺ กหาปเณ อคฺฆตี’’ติ. ‘‘อิมํ ปฏิจฺจ ชาโต อาชานียวฬวาย กุจฺฉิมฺหิ วุฏฺอสฺสตโร กึ อคฺฆตี’’ติ? ‘‘อนคฺโฆ ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘เทว, กสฺมา เอวํ กเถถ, นนุ ตุมฺเหหิ อิทาเนว วุตฺตํ ‘สพฺพฏฺาเนสุ ปุตฺเตหิ ปิตโรว อุตฺตมา’ติ. สเจ ตํ สจฺจํ, ตุมฺหากํ วาเท อสฺสตรโต คทฺรโภว อุตฺตโม โหติ, กึ ปน, มหาราช, ตุมฺหากํ ปณฺฑิตา เอตฺตกมฺปิ ชานิตุํ อสกฺโกนฺตา ปาณึ ปหริตฺวา หสนฺติ, อโห ตุมฺหากํ ปณฺฑิตานํ ปฺาสมฺปตฺติ, กุโต โว เอเต ลทฺธา’’ติ จตฺตาโร ปณฺฑิเต ปริหสิตฺวา ราชานํ อิมาย เอกกนิปาเต คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘หํจิ ตุวํ เอวมฺสิ ‘เสยฺโย, ปุตฺเตน ปิตา’ติ ราชเสฏฺ;

หนฺทสฺสตรสฺส เต อยํ, อสฺสตรสฺส หิ คทฺรโภ ปิตา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๑๑);

ตสฺสตฺโถ – ยทิ, ตฺวํ ราชเสฏฺ, สพฺพฏฺาเนสุ เสยฺโย ปุตฺเตน ปิตาติ เอวํ มฺสิ, ตว อสฺสตรโตปิ อยํ คทฺรโภ เสยฺโย โหตุ. กึ การณา? อสฺสตรสฺส หิ คทฺรโภ ปิตาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต อาห – ‘‘มหาราช, สเจ ปุตฺตโต ปิตา เสยฺโย, มม ปิตรํ คณฺหถ. สเจ ปิติโต ปุตฺโต เสยฺโย, มํ คณฺหถ ตุมฺหากํ อตฺถายา’’ติ. ราชา โสมนสฺสปฺปตฺโต อโหสิ. สพฺพา ราชปริสาปิ ‘‘สุกถิโต ปณฺฑิเตน ปฺโห’’ติ อุนฺนทนฺตา สาธุการสหสฺสานิ อทํสุ, องฺคุลิโผฏา เจว เจลุกฺเขปา จ ปวตฺตึสุ. จตฺตาโร ปณฺฑิตาปิ ทุมฺมุขา ปชฺฌายนฺตาว อเหสุํ. นนุ มาตาปิตูนํ คุณํ ชานนฺโต โพธิสตฺเตน สทิโส นาม นตฺถิ, อถ โส กสฺมา เอวมกาสีติ? น โส ปิตุ อวมานนตฺถาย, รฺา ปน ‘‘อสฺสตรํ วา เปเสตุ เสฏฺตรํ วา’’ติ เปสิตํ, ตสฺมา ตสฺเสว ปฺหสฺส อาวิภาวตฺถํ อตฺตโน จ ปณฺฑิตภาวสฺส าปนตฺถํ จตุนฺนฺจ ปณฺฑิตานํ อปฺปฏิภานกรณตฺถํ เอวมกาสีติ.

คทฺรภปฺโห นิฏฺิโต.

เอกูนวีสติมปฺโห

ราชา ตุสฺสิตฺวา คนฺโธทกปุณฺณํ สุวณฺณภิงฺการํ อาทาย ‘‘ปาจีนยวมชฺฌกคามํ ราชโภเคน ปริภุฺชตู’’ติ เสฏฺิสฺส หตฺเถ อุทกํ ปาเตตฺวา ‘‘เสสเสฏฺิโน เอตสฺเสว อุปฏฺากา โหนฺตู’’ติ วตฺวา โพธิสตฺตสฺส มาตุ จ สพฺพาลงฺกาเร เปเสตฺวา คทฺรภปฺเห ปสนฺโน โพธิสตฺตํ ปุตฺตํ กตฺวา คณฺหิตุํ เสฏฺึ อโวจ – ‘‘คหปติ, มโหสธปณฺฑิตํ มม ปุตฺตํ กตฺวา เทหี’’ติ. ‘‘เทว, อติตรุโณ อยํ, อชฺชาปิสฺส มุเข ขีรคนฺโธ วายติ, มหลฺลกกาเล ตุมฺหากํ สนฺติเก ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘คหปติ, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย เอตสฺมึ นิราลโย โหหิ, อยํ อชฺชตคฺเค มม ปุตฺโต, อหํ มม ปุตฺตํ โปเสตุํ สกฺขิสฺสามิ, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ ตํ อุยฺโยเชสิ. โส ราชานํ วนฺทิตฺวา ปณฺฑิตํ อาลิงฺคิตฺวา อุเร นิปชฺชาเปตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา ‘‘ตาต, อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ โอวาทมสฺส อทาสิ. โสปิ ปิตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, มา จินฺตยิตฺถา’’ติ อสฺสาเสตฺวา ปิตรํ อุยฺโยเชสิ. ราชา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, อนฺโตภตฺติโก ภวิสฺสสิ, อุทาหุ พหิภตฺติโก’’ติ. โส ‘‘มหา เม ปริวาโร, ตสฺมา พหิภตฺติเกน มยา ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘พหิภตฺติโก ภวิสฺสามิ, เทวา’’ติ อาห. อถสฺส ราชา อนุรูปํ เคหํ ทาเปตฺวา ทารกสหสฺสํ อาทึ กตฺวา ปริพฺพยํ ทาเปตฺวา สพฺพปริโภเค ทาเปสิ. โส ตโต ปฏฺาย ราชานํ อุปฏฺาสิ.

ราชาปิ นํ วีมํสิตุกาโม อโหสิ. ตทา จ นครสฺส ทกฺขิณทฺวารโต อวิทูเร โปกฺขรณิตีเร เอกสฺมึ ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก มณิรตนํ อโหสิ. ตสฺส ฉายา โปกฺขรณิยํ ปฺายิ. มหาชโน ‘‘โปกฺขรณิยํ มณิ อตฺถี’’ติ รฺโ อาโรเจสิ. โส เสนกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘โปกฺขรณิยํ กิร มณิรตนํ ปฺายติ, กถํ ตํ คณฺหาเปสฺสามา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มหาราช, อุทกํ นีหราเปตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ, อาจริย, เอวํ กโรหี’’ติ ตสฺเสว ภารมกาสิ. โส พหู มนุสฺเส สนฺนิปาตาเปตฺวา อุทกฺจ กทฺทมฺจ นีหราเปตฺวา ภูมึ ภินฺทิตฺวาปิ มณึ นาทฺทส. ปุน ปุณฺณาย โปกฺขรณิยา มณิจฺฉายา ปฺายิ. โส ปุนปิ ตถา กตฺวา น จ อทฺทส. ตโต ราชา ปณฺฑิตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, โปกฺขรณิยํ เอโก มณิ ปฺายติ, เสนโก อุทกฺจ กทฺทมฺจ นีหราเปตฺวา ภูมึ ภินฺทิตฺวาปิ นาทฺทส, ปุน ปุณฺณาย โปกฺขรณิยา ปฺายติ, สกฺขิสฺสสิ ตํ มณึ คณฺหาเปตุ’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘เนตํ, มหาราช, ครุ, เอถ ทสฺเสสฺสามี’’ติ อาห. ราชา ตสฺส วจนํ ตุสฺสิตฺวา ‘‘ปสฺสิสฺสามิ อชฺช ปณฺฑิตสฺส าณพล’’นฺติ มหาชนปริวุโต โปกฺขรณิตีรํ คโต.

มหาสตฺโต ตีเร ตฺวา มณึ โอโลเกนฺโต ‘‘นายํ มณิ โปกฺขรณิยํ, ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก มณินา ภวิตพฺพ’’นฺติ ตฺวา ‘‘นตฺถิ, เทว, โปกฺขรณิยํ มณี’’ติ วตฺวา ‘‘นนุ อุทเก ปฺายตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อุทกปาตึ อาหรา’’ติ อุทกปาตึ อาหราเปตฺวา ‘‘ปสฺสถ, เทว, นายํ มณิ โปกฺขรณิยํเยว ปฺายติ, ปาติยมฺปิ ปฺายตี’’ติ วตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, กตฺถ ปน มณินา ภวิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว, โปกฺขรณิยมฺปิ ปาติยมฺปิ ฉายาว ปฺายติ, น มณิ, มณิ ปน ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก อตฺถิ, ปุริสํ อาณาเปตฺวา อาหราเปหี’’ติ อาห. ราชา ตถา กตฺวา มณึ อาหราเปสิ. โส อาหริตฺวา ปณฺฑิตสฺส อทาสิ. ปณฺฑิโต ตํ คเหตฺวา รฺโ หตฺเถ เปสิ. ตํ ทิสฺวา มหาชโน ปณฺฑิตสฺส สาธุการํ ทตฺวา เสนกํ ปริภาสนฺโต ‘‘มณิรตนํ ตาลรุกฺเข กากกุลาวเก อตฺถิ, เสนกพาโล พหู มนุสฺเส โปกฺขรณิเมว ภินฺทาเปสิ, ปณฺฑิเตน นาม มโหสธสทิเสน ภวิตพฺพ’’นฺติ มหาสตฺตสฺส ถุติมกาสิ. ราชาปิสฺส ตุฏฺโ อตฺตโน คีวาย ปิฬนฺธนํ มุตฺตาหารํ ทตฺวา ทารกสหสฺสานมฺปิ มุตฺตาวลิโย ทาเปสิ. โพธิสตฺตสฺส จ ปริวารสฺส จ อิมินา ปริหาเรน อุปฏฺานํ อนุชานีติ.

เอกูนวีสติมปฺโห นิฏฺิโต.

กกณฺฏกปฺโห

ปุเนกทิวสํ ราชา ปณฺฑิเตน สทฺธึ อุยฺยานํ อคมาสิ. ตทา เอโก กกณฺฏโก โตรณคฺเค วสติ. โส ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. ราชา ตสฺส ตํ กิริยํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, อยํ กกณฺฏโก กึ กโรตี’’ติ ปุจฺฉิ. มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, ตุมฺเห เสวตี’’ติ อาห. ‘‘สเจ เอวํ อมฺหากํ เสวติ, เอตสฺส มา นิปฺผโล โหตุ, โภคมสฺส ทาเปหี’’ติ. ‘‘เทว, ตสฺส โภเคน กิจฺจํ นตฺถิ, ขาทนียมตฺตํ อลเมตสฺสา’’ติ. ‘‘กึ ปเนส, ขาทตี’’ติ? ‘‘มํสํ เทวา’’ติ. ‘‘กิตฺตกํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘กากณิกมตฺตคฺฆนกํ เทวา’’ติ. ราชา เอกํ ปุริสํ อาณาเปสิ ‘‘ราชทาโย นาม กากณิกมตฺตํ น วฏฺฏติ, อิมสฺส นิพทฺธํ อฑฺฒมาสคฺฆนกํ มํสํ อาหริตฺวา เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตโต ปฏฺาย ตถา อกาสิ. โส เอกทิวสํ อุโปสเถ มาฆาเต มํสํ อลภิตฺวา ตเมว อฑฺฒมาสกํ วิชฺฌิตฺวา สุตฺเตน อาวุนิตฺวา ตสฺส คีวายํ ปิฬนฺธิ. อถสฺส ตํ นิสฺสาย มาโน อุปฺปชฺชิ. ตํ ทิวสเมว ราชา ปุน มโหสเธน สทฺธึ อุยฺยานํ อคมาสิ. โส ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาปิ ธนํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนมานวเสน ‘‘เวเทห, ตฺวํ นุ โข มหทฺธโน, อหํ นุ โข’’ติ รฺา สทฺธึ อตฺตานํ สมํ กโรนฺโต อโนตริตฺวา โตรณคฺเคเยว สีสํ จาเลนฺโต นิปชฺชิ. ราชา ตสฺส ตํ กิริยํ โอโลเกตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, เอส ปุพฺเพ วิย อชฺช น โอตรติ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘นายํ ปุเร อุนฺนมติ, โตรณคฺเค กกณฺฏโก;

มโหสธ วิชานาหิ, เกน ถทฺโธ กกณฺฏโก’’ติ. (ชา. ๑.๒.๓๙);

ตตฺถ อุนฺนมตีติ ยถา อชฺช อโนตริตฺวา โตรณคฺเคเยว สีสํ จาเลนฺโต อุนฺนมติ, เอวํ ปุเร น อุนฺนมติ. เกน ถทฺโธติ เกน การเณน ถทฺธภาวํ อาปนฺโนติ.

ปณฺฑิโต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘มหาราช, อุโปสเถ มาฆาเต มํสํ อลภนฺเตน ราชปุริเสน คีวาย พทฺธํ อฑฺฒมาสกํ นิสฺสาย ตสฺส มาเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ ตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘อลทฺธปุพฺพํ ลทฺธาน, อฑฺฒมาสํ กกณฺฏโก;

อติมฺติ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคห’’นฺติ. (ชา. ๑.๒.๔๐);

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. โส ยถาภูตํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘กฺจิ อปุจฺฉิตฺวาว สพฺพฺุพุทฺเธน วิย ปณฺฑิเตน กกณฺฏกสฺส อชฺฌาสโย าโต’’ติ อติวิย ปสีทิตฺวา ปณฺฑิตสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ สุงฺกํ ทาเปสิ. กกณฺฏกสฺส ปน กุชฺฌิตฺวา วตฺตํ หาเรตุํ อารภิ. ปณฺฑิโต ปน ‘‘มา หาเรหิ มหาราชา’’ติ ตํ นิวาเรสิ.

กกณฺฏกปฺโห นิฏฺิโต.

สิริกาฬกณฺณิปฺโห

อเถโก มิถิลวาสี ปิงฺคุตฺตโร นาม มาณโว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺขนฺโต ขิปฺปเมว สิกฺขิ. โส อนุโยคํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉามห’’นฺติ อาจริยํ อาปุจฺฉิ. ตสฺมึ ปน กุเล ‘‘สเจ วยปฺปตฺตา ธีตา โหติ, เชฏฺนฺเตวาสิกสฺส ทาตพฺพา’’ติ วตฺตํว, ตสฺมา ตสฺส อาจริยสฺส วยปฺปตฺตา เอกา ธีตา อตฺถิ, สา อภิรูปา เทวจฺฉราปฏิภาคา. อถ นํ อาจริโย ‘‘ธีตรํ เต, ตาต, ทสฺสามิ, ตํ อาทาย คมิสฺสสี’’ติ อาห. โส ปน มาณโว ทุพฺภโค กาฬกณฺณี, กุมาริกา ปน มหาปุฺา. ตสฺส ตํ ทิสฺวา จิตฺตํ น อลฺลียติ. โส ตํ อโรเจนฺโตปิ ‘‘อาจริยสฺส วจนํ น ภินฺทิสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อาจริโย ธีตรํ ตสฺส อทาสิ. โส รตฺติภาเค อลงฺกตสิริสยเน นิปนฺโน ตาย อาคนฺตฺวา สยนํ อภิรุฬฺหมตฺตาย อฏฺฏียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน ปกมฺปมาโน โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. สาปิ โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นิปชฺชิ, โส อุฏฺาย สยนํ อภิรุหิ. สาปิ ปุน สยนํ อภิรุหิ, โส ปุน สยนา โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. กาฬกณฺณี นาม สิริยา สทฺธึ น สเมติ. กุมาริกา สยเนเยว นิปชฺชิ, โส ภูมิยํ สยิ.

เอวํ สตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา ตํ อาทาย อาจริยํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ, อนฺตรามคฺเค อาลาปสลฺลาปมตฺตมฺปิ นตฺถิ. อนิจฺฉมานาว อุโภปิ มิถิลํ สมฺปตฺตา. อถ ปิงฺคุตฺตโร นครา อวิทูเร ผลสมฺปนฺนํ อุทุมฺพรรุกฺขํ ทิสฺวา ขุทาย ปีฬิโต ตํ อภิรุหิตฺวา ผลานิ ขาทิ. สาปิ ฉาตชฺฌตฺตา รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา ‘‘สามิ, มยฺหมฺปิ ผลานิ ปาเตถา’’ติ อาห. กึ ตว หตฺถปาทา นตฺถิ, สยํ อภิรุหิตฺวา ขาทาติ. สา อภิรุหิตฺวา ขาทิ. โส ตสฺสา อภิรุฬฺหภาวํ ตฺวา ขิปฺปํ โอตริตฺวา รุกฺขํ กณฺฏเกหิ ปริกฺขิปิตฺวา ‘‘มุตฺโตมฺหิ กาฬกณฺณิยา’’ติ วตฺวา ปลายิ. สาปิ โอตริตุํ อสกฺโกนฺตี ตตฺเถว นิสีทิ. อถ ราชา อุยฺยาเน กีฬิตฺวา หตฺถิกฺขนฺเธ นิสินฺโน สายนฺหสมเย นครํ ปวิสนฺโต ตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘สปริคฺคหา, อปริคฺคหา’’ติ ปุจฺฉาเปสิ. สาปิ ‘‘อตฺถิ เม, สามิ, กุลทตฺติโก ปติ, โส ปน มํ อิธ นิสีทาเปตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา ปลาโต’’ติ อาห. อมจฺโจ ตํ การณํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘อสามิกภณฺฑํ นาม รฺโ ปาปุณาตี’’ติ ตํ โอตาเรตฺวา หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเปตฺวา นิเวสนํ เนตฺวา อภิสิฺจิตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา. อุทุมฺพรรุกฺเข ลทฺธตฺตา ‘‘อุทุมฺพรเทวี’’ตฺเววสฺสา นามํ สฺชานึสุ.

อเถกทิวสํ รฺโ อุยฺยานคมนตฺถาย ทฺวารคามวาสิเกหิ มคฺคํ ปฏิชคฺคาเปสุํ. ปิงฺคุตฺตโรปิ ภตึ กโรนฺโต กจฺฉํ พนฺธิตฺวา กุทฺทาเลน มคฺคํ ตจฺฉิ. มคฺเค อนิฏฺิเตเยว ราชา อุทุมฺพรเทวิยา สทฺธึ รเถ นิสีทิตฺวา นิกฺขมิ. อุทุมฺพรเทวี กาฬกณฺณึ มคฺคํ ตจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปํ สิรึ ธาเรตุํ นาสกฺขิ อยํ กาฬกณฺณี’’ติ ตํ โอโลเกนฺตี หสิ. ราชา หสมานํ ทิสฺวา กุชฺฌิตฺวา ‘‘กสฺมา หสี’’ติ ปุจฺฉิ. เทว, อยํ มคฺคตจฺฉโก ปุริโส มยฺหํ โปราณกสามิโก, เอส มํ อุทุมฺพรรุกฺขํ อาโรเปตฺวา กณฺฏเกหิ ปริกฺขิปิตฺวา คโต, อิมาหํ โอโลเกตฺวา ‘‘เอวรูปํ สิรึ ธาเรตุํ นาสกฺขิ กาฬกณฺณี อย’’นฺติ จินฺเตตฺวา หสินฺติ. ราชา ‘‘ตฺวํ มุสาวาทํ กเถสิ, อฺํ กฺจิ ปุริสํ ทิสฺวา ตยา หสิตํ ภวิสฺสติ, ตํ มาเรสฺสามี’’ติ อสึ อคฺคเหสิ. สา ภยปฺปตฺตา ‘‘เทว, ปณฺฑิเต ตาว ปุจฺฉถา’’ติ อาห. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘เสนก, อิมิสฺสา วจนํ ตฺวํ สทฺทหสี’’ติ. ‘‘น สทฺทหามิ, เทว, โก นาม เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ ปหาย คมิสฺสตี’’ติ. สา ตสฺส กถํ สุตฺวา อติเรกตรํ ภีตา อโหสิ. อถ ราชา ‘‘เสนโก กึ ชานาติ, ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อิตฺถี สิยา รูปวตี, สา จ สีลวตี สิยา;

ปุริโส ตํ น อิจฺเฉยฺย, สทฺทหาสิ มโหสธา’’ติ. (ชา. ๑.๒.๘๓);

ตตฺถ สีลวตีติ อาจารคุณสมฺปนฺนา.

ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต คาถมาห –

‘‘สทฺทหามิ มหาราช, ปุริโส ทุพฺภโค สิยา;

สิรี จ กาฬกณฺณี จ, น สเมนฺติ กุทาจน’’นฺติ. (ชา. ๑.๒.๘๔);

ตตฺถ น สเมนฺตีติ สมุทฺทสฺส โอริมตีรปาริมตีรานิ วิย จ คคนตลปถวิตลานิ วิย จ น สมาคจฺฉนฺติ.

ราชา ตสฺส วจเนน ตํ การณํ สุตฺวา ตสฺสา น กุชฺฌิ, หทยมสฺส นิพฺพายิ. โส ตสฺส ตุสฺสิตฺวา ‘‘สเจ ปณฺฑิโต นาภวิสฺส, อชฺชาหํ พาลเสนกสฺส กถาย เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ หีโน อสฺสํ, ตํ นิสฺสาย มยา เอสา ลทฺธา’’ติ สตสหสฺเสน ปูชํ กาเรสิ. เทวีปิ ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘เทว, ปณฺฑิตํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, อิมาหํ กนิฏฺภาติกฏฺาเน เปตุํ วรํ ยาจามี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, เทวิ, คณฺหาหิ, ทมฺมิ เต วร’’นฺติ. ‘‘เทว, อชฺช ปฏฺาย มม กนิฏฺํ วินา กิฺจิ มธุรรสํ น ขาทิสฺสามิ, อิโต ปฏฺาย เวลาย วา อเวลาย วา ทฺวารํ วิวราเปตฺวา อิมสฺส มธุรรสํ เปเสตุํ ลภนกวรํ คณฺหามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภทฺเท, อิมฺจ วรํ คณฺหาหี’’ติ.

สิริกาฬกณฺณิปฺโห นิฏฺิโต.

เมณฺฑกปฺโห

อปรสฺมึ ทิวเส ราชา กตปาตราโส ปาสาทสฺส ทีฆนฺตเร จงฺกมนฺโต วาตปานนฺตเรน โอโลเกนฺโต เอกํ เอฬกฺจ สุนขฺจ มิตฺตสนฺถวํ กโรนฺตํ อทฺทส. โส กิร เอฬโก หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิสฺส ปุรโต ขิตฺตํ อนามฏฺติณํ ขาทิ. อถ นํ หตฺถิโคปกา โปเถตฺวา นีหรึสุ. โส วิรวิตฺวา ปลายิ. อถ นํ เอโก ปุริโส เวเคนาคนฺตฺวา ปิฏฺิยํ ทณฺเฑน ติริยํ ปหริ. โส ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา เวทนาปฺปตฺโต หุตฺวา คนฺตฺวา ราชเคหสฺส มหาภิตฺตึ นิสฺสาย ปิฏฺิกาย นิปชฺชิ. ตํ ทิวสเมว รฺโ มหานเส อฏฺิจมฺมาทีนิ ขาทิตฺวา วฑฺฒิตสุนโข ภตฺตการเก ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา พหิ ตฺวา สรีเร เสทํ นิพฺพาเปนฺเต มจฺฉมํสคนฺธํ ฆายิตฺวา ตณฺหํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต มหานสํ ปวิสิตฺวา ภาชนปิธานํ ปาเตตฺวา มํสํ ขาทิ. อถ ภตฺตการโก ภาชนสทฺเทน ปวิสิตฺวา ตํ ทิสฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา ตํ เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ โปเถสิ. โส ขาทิตมํสํ มุเขเนว ฉฑฺเฑตฺวา วิรวิตฺวา นิกฺขมิ. ภตฺตการโกปิ ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา อนุพนฺธิตฺวา ปิฏฺิยํ ทณฺเฑน ติริยํ ปหริ. โส เวทนาปฺปตฺโต ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา เอกํ ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา เอฬกสฺส นิปนฺนฏฺานเมว ปาวิสิ. อถ นํ เอฬโก ‘‘สมฺม, กึ ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา อาคจฺฉสิ, กึ เต วาโต วิชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉิ. สุนโขปิ ‘‘ตฺวมฺปิ ปิฏฺึ โอนาเมตฺวา นิปนฺโนสิ, กึ เต วาโต วิชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉิ. เต อฺมฺํ อตฺตโน ปวตฺตึ อาโรเจสุํ.

อถ นํ เอฬโก ปุจฺฉิ ‘‘กึ ปน ตฺวํ ปุน ภตฺตเคหํ คนฺตุํ สกฺขิสฺสสิ สมฺมา’’ติ? ‘‘น สกฺขิสฺสามิ, สมฺม, คตสฺส เม ชีวิตํ นตฺถี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน ปุน หตฺถิสาลํ คนฺตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. ‘‘มยาปิ ตตฺถ คนฺตุํ น สกฺกา, คตสฺส เม ชีวิตํ นตฺถี’’ติ. เต ‘‘กถํ นุ โข มยํ อิทานิ ชีวิสฺสามา’’ติ อุปายํ จินฺเตสุํ. อถ นํ เอฬโก อาห – ‘‘สเจ มยํ สมคฺควาสํ วสิตุํ สกฺโกม, อตฺเถโก อุปาโย’’ติ. ‘‘เตน หิ กเถหี’’ติ. ‘‘สมฺม, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย หตฺถิสาลํ ยาหิ, ‘‘นายํ ติณํ ขาทตี’’ติ ตยิ หตฺถิโคปกา อาสงฺกํ น กริสฺสนฺติ, ตฺวํ มม ติณํ อาหเรยฺยาสิ. อหมฺปิ ภตฺตเคหํ ปวิสิสฺสามิ, ‘‘นายํ มํสขาทโก’’ติ ภตฺตการโก มยิ อาสงฺกํ น กริสฺสติ, อหํ เต มํสํ อาหริสฺสามี’’ติ. เต ‘‘สุนฺทโร อุปาโย’’ติ อุโภปิ สมฺปฏิจฺฉึสุ. สุนโข หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา ติณกลาปํ ฑํสิตฺวา อาคนฺตฺวา มหาภิตฺติปิฏฺิกาย เปสิ. อิตโรปิ ภตฺตเคหํ คนฺตฺวา มํสขณฺฑํ มุขปูรํ ฑํสิตฺวา อาเนตฺวา ตตฺเถว เปสิ. สุนโข มํสํ ขาทิ, เอฬโก ติณํ ขาทิ. เต อิมินา อุปาเยน สมคฺคา สมฺโมทมานา มหาภิตฺติปิฏฺิกาย วสนฺติ. ราชา เตสํ มิตฺตสนฺถวํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อทิฏฺปุพฺพํ วต เม การณํ ทิฏฺํ, อิเม ปจฺจามิตฺตา หุตฺวาปิ สมคฺควาสํ วสนฺติ. อิทํ การณํ คเหตฺวา ปฺหํ กตฺวา ปฺจ ปณฺฑิเต ปุจฺฉิสฺสามิ, อิมํ ปฺหํ อชานนฺตํ รฏฺา ปพฺพาเชสฺสามิ, ตํ ชานนฺตสฺส ‘เอวรูโป ปณฺฑิโต นตฺถี’ติ มหาสกฺการํ กริสฺสามิ. อชฺช ตาว อเวลา, สฺเว อุปฏฺานํ อาคตกาเล ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส ปุนทิวเส ปณฺฑิเตสุ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘เยสํ น กทาจิ ภูตปุพฺพํ, สขฺยํ สตฺตปทมฺปิมสฺมิ โลเก;

ชาตา อมิตฺตา ทุเว สหายา, ปฏิสนฺธาย จรนฺติ กิสฺส เหตู’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๔);

ตตฺถ ปฏิสนฺธายาติ สทฺทหิตฺวา ฆฏิตา หุตฺวา.

อิทฺจ ปน วตฺวา ปุน เอวมาห –

‘‘ยทิ เม อชฺช ปาตราสกาเล, ปฺหํ น สกฺกุเณยฺยาถ วตฺตุเมตํ;

รฏฺา ปพฺพาชยิสฺสามิ โว สพฺเพ, น หิ มตฺโถ ทุปฺปฺชาติเกหี’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๕);

ตทา ปน เสนโก อคฺคาสเน นิสินฺโน อโหสิ, ปณฺฑิโต ปน ปริยนฺเต นิสินฺโน. โส ตํ ปฺหํ อุปธาเรนฺโต ตมตฺถํ อทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราชา ทนฺธธาตุโก อิมํ ปฺหํ จินฺเตตฺวา สงฺขริตุํ อสมตฺโถ, กิฺจิเทว, เตน ทิฏฺํ ภวิสฺสติ, เอกทิวสํ โอกาสํ ลภนฺโต อิมํ ปฺหํ นีหริสฺสามิ, เสนโก เกนจิ อุปาเยน อชฺเชกทิวสมตฺตํ อธิวาสาเปตู’’ติ. อิตเรปิ จตฺตาโร ปณฺฑิตา อนฺธการคพฺภํ ปวิฏฺา วิย น กิฺจิ ปสฺสึสุ. เสนโก ‘‘กา นุ โข มโหสธสฺส ปวตฺตี’’ติ โพธิสตฺตํ โอโลเกสิ. โสปิ ตํ โอโลเกสิ. เสนโก โพธิสตฺตสฺส โอโลกิตากาเรเนว ตสฺส อธิปฺปายํ ตฺวา ‘‘ปณฺฑิตสฺสปิ น อุปฏฺาติ, เตเนกทิวสํ โอกาสํ อิจฺฉติ, ปูเรสฺสามิสฺส มโนรถ’’นฺติ จินฺเตตฺวา รฺา สทฺธึ วิสฺสาเสน มหาหสิตํ หสิตฺวา ‘‘กึ, มหาราช, สพฺเพว อมฺเห ปฺหํ กเถตุํ อสกฺโกนฺเต รฏฺา ปพฺพาเชสฺสสิ, เอตมฺปิ ‘เอโก คณฺิปฺโห’ติ ตฺวํ สลฺลกฺเขสิ, น มยํ เอตํ กเถตุํ น สกฺโกม, อปิจ โข โถกํ อธิวาเสหิ. คณฺิปฺโห เอส, น สกฺโกม มหาชนมชฺเฌ กเถตุํ, เอกมนฺเต จินฺเตตฺวา ปจฺฉา ตุมฺหากํ กเถสฺสาม, โอกาสํ โน เทหี’’ติ มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา อิมํ คาถาทฺวยมาห –

‘‘มหาชนสมาคมมฺหิ โฆเร, ชนโกลาหลสงฺคมมฺหิ ชาเต;

วิกฺขิตฺตมนา อเนกจิตฺตา, ปฺหํ น สกฺกุโณม วตฺตุเมตํ.

‘‘เอกคฺคจิตฺตาว เอกเมกา, รหสิ คตา อตฺถํ นิจินฺตยิตฺวา;

ปวิเวเก สมฺมสิตฺวาน ธีรา, อถ วกฺขนฺติ ชนินฺท เอตมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๖-๙๗);

ตตฺถ สมฺมสิตฺวานาติ กายจิตฺตวิเวเก ิตา อิเม ธีรา อิมํ ปฺหํ สมฺมสิตฺวา อถ โว เอตํ อตฺถํ วกฺขนฺติ.

ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา อนตฺตมโน หุตฺวาปิ ‘‘สาธุ จินฺเตตฺวา กเถถ, อกเถนฺเต ปน โว ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ ตชฺเชสิเยว. จตฺตาโร ปณฺฑิตา ปาสาทา โอตรึสุ. เสนโก อิตเร อาห – ‘‘สมฺมา, ราชา สุขุมปฺหํ ปุจฺฉิ, อกถิเต มหนฺตํ ภยํ ภวิสฺสติ, สปฺปายโภชนํ ภุฺชิตฺวา สมฺมา อุปธาเรถา’’ติ. เต อตฺตโน อตฺตโน เคหํ คตา. ปณฺฑิโตปิ อุฏฺาย อุทุมฺพรเทวิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทวิ, อชฺช วา หิยฺโย วา ราชา กตฺถ จิรํ อฏฺาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตาต, ทีฆนฺตเร วาตปาเนน โอโลเกนฺโต จงฺกมตี’’ติ. ตโต ปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘รฺา อิมินา ปสฺเสน กิฺจิ ทิฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา พหิ โอโลเกนฺโต เอฬกสุนขานํ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘อิเม ทิสฺวา รฺา ปฺโห อภิสงฺขโต’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา เคหํ คโต. อิตเรปิ ตโย จินฺเตตฺวา กิฺจิ อทิสฺวา เสนกสฺส สนฺติกํ อคมํสุ. โส เต ปุจฺฉิ ‘‘ทิฏฺโ โว ปฺโห’’ติ. ‘‘น ทิฏฺโ อาจริยา’’ติ. ‘‘ยทิ เอวํ ราชา โว ปพฺพาเชสฺสติ, กึ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตุมฺเหหิ ปน ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘อหมฺปิ น ปสฺสามี’’ติ. ‘‘ตุมฺเหสุ อปสฺสนฺเตสุ มยํ กึ ปสฺสาม, รฺโ ปน สนฺติเก ‘จินฺเตตฺวา กเถสฺสามา’ติ สีหนาทํ นทิตฺวา อาคตมฺหา, อกถิเต อมฺเห ราชา กุชฺฌิสฺสติ, กึ กโรม, อยํ ปฺโห น สกฺกา อมฺเหหิ ทฏฺุํ, ปณฺฑิเตน ปน สตคุณํ สหสฺสคุณํ สตสหสฺสคุณํ กตฺวา จินฺติโต ภวิสฺสติ, เอถ ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ เต จตฺตาโร ปณฺฑิตา โพธิสตฺตสฺส ฆรทฺวารํ อาคตภาวํ อาโรจาเปตฺวา ‘‘ปวิสนฺตุ ปณฺฑิตา’’ติ วุตฺเต เคหํ ปวิสิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ ิตา มหาสตฺตํ ปุจฺฉึสุ ‘‘กึ ปน, ปณฺฑิต, จินฺติโต ปฺโห’’ติ? ‘‘อาม, จินฺติโต, มยิ อจินฺเตนฺเต อฺโ โก จินฺตยิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ ปณฺฑิต อมฺหากมฺปิ กเถถา’’ติ.

ปณฺฑิโต ‘‘สจาหํ เอเตสํ น กเถสฺสามิ, ราชา เต รฏฺา ปพฺพาเชสฺสติ, มํ ปน สตฺตหิ รตเนหิ ปูเชสฺสติ, อิเม อนฺธพาลา มา วินสฺสนฺตุ, กเถสฺสามิ เตส’’นฺติ จินฺเตตฺวา เต จตฺตาโรปิ นีจาสเน นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา รฺา ทิฏฺตํ อชานาเปตฺวา ‘‘รฺา ปุจฺฉิตกาเล เอวํ กเถยฺยาถา’’ติ จตุนฺนมฺปิ จตสฺโส คาถาโย พนฺธิตฺวา ปาฬิเมว อุคฺคณฺหาเปตฺวา อุยฺโยเชสิ. เต ทุติยทิวเส ราชุปฏฺานํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทึสุ. ราชา เสนกํ ปุจฺฉิ ‘‘าโต เต, เสนก, ปฺโห’’ติ? ‘‘มหาราช, มยิ อชานนฺเต อฺโ โก ชานิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ กเถหี’’ติ. ‘‘สุณาถ เทวา’’ติ โส อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –

‘‘อุคฺคปุตฺตราชปุตฺติยานํ, อุรพฺภสฺส มํสํ ปิยํ มนาปํ;

น สุนขสฺส เต อเทนฺติ มํสํ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๘);

ตตฺถ อุคฺคปุตฺตราชปุตฺติยานนฺติ อุคฺคตานํ อมจฺจปุตฺตานฺเจว ราชปุตฺตานฺจ.

คาถํ วตฺวาปิ เสนโก อตฺถํ น ชานาติ. ราชา ปน อตฺตโน ทิฏฺภาเวน ปชานาติ, ตสฺมา ‘‘เสนเกน ตาว าโต’’ติ ปุกฺกุสํ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส ‘‘กึ อหมฺปิ อปณฺฑิโต’’ติ วตฺวา อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –

‘‘จมฺมํ วิหนนฺติ เอฬกสฺส, อสฺสปิฏฺตฺถรสฺสุขสฺส เหตุ;

น จ เต สุนขสฺส อตฺถรนฺติ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๙๙);

ตสฺสปิ อตฺโถ อปากโฏเยว. ราชา ปน อตฺตโน ปากฏตฺตา ‘‘อิมินาปิ ปุกฺกุเสน าโต’’ติ กามินฺทํ ปุจฺฉิ. โสปิ อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –

‘‘อาเวลฺลิตสิงฺคิโก หิ เมณฺโฑ, น จ สุนขสฺส วิสาณกานิ อตฺถิ;

ติณภกฺโข มํสโภชโน จ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๐);

ราชา ‘‘อิมินาปิ าโต’’ติ เทวินฺทํ ปุจฺฉิ. โสปิ อุคฺคหิตนิยาเมเนว คาถมาห –

‘‘ติณมาสิ ปลาสมาสิ เมณฺโฑ, น จ สุนโข ติณมาสิ โน ปลาสํ;

คณฺเหยฺย สุโณ สสํ พิฬารํ, อถ เมณฺฑสฺส สุเณน สขฺยมสฺสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๑);

ตตฺถ ติณมาสิ ปลาสมาสีติ ติณขาทโก เจว ปณฺณขาทโก จ. โน ปลาสนฺติ ปณฺณมฺปิ น ขาทติ.

อถ ราชา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตาต, ตฺวมฺปิ อิมํ ปฺหํ ชานาสี’’ติ? ‘‘มหาราช, อวีจิโต ยาว ภวคฺคา มํ เปตฺวา โก อฺโ เอตํ ชานิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ กเถหี’’ติ. ‘‘สุณ มหาราชา’’ติ ตสฺส ปฺหสฺส อตฺตโน ปากฏภาวํ ปกาเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –

‘‘อฏฺฑฺฒปโท จตุปฺปทสฺส, เมณฺโฑ อฏฺนโข อทิสฺสมาโน;

ฉาทิยมาหรตี อยํ อิมสฺส, มํสํ อาหรตี อยํ อมุสฺส.

‘‘ปาสาทวรคโต วิเทหเสฏฺโ, วีติหารํ อฺมฺโภชนานํ;

อทฺทกฺขิ กิร สกฺขิกํ ชนินฺโท, พุภุกฺกสฺส ปุณฺณํมุขสฺส เจต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๒-๑๐๓);

ตตฺถ อฏฺฑฺฒปโทติ พฺยฺชนกุสลตาย เอฬกสฺส จตุปฺปาทํ สนฺธายาห. เมณฺโฑติ เอฬโก. อฏฺนโขติ เอเกกสฺมึ ปาเท ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ขุรานํ วเสเนตํ วุตฺตํ. อทิสฺสมาโนติ มํสํ อาหรณกาเล อปฺายมาโน. ฉาทิยนฺติ เคหจฺฉทนํ. ติณนฺติ อตฺโถ. อยํ อิมสฺสาติ สุนโข เอฬกสฺส. วีติหารนฺติ วีติหรณํ. อฺมฺโภชนานนฺติ อฺมฺสฺส โภชนานํ. เมณฺโฑ หิ สุนขสฺส โภชนํ หรติ, โส ตสฺส วีติหรติ, สุนโขปิ ตสฺส หรติ, อิตโร วีติหรติ. อทฺทกฺขีติ ตํ เตสํ อฺมฺโภชนานํ วีติหรณํ สกฺขิกํ อตฺตโน ปจฺจกฺขํ กตฺวา อทฺทส. พุภุกฺกสฺสาติ ภุภูติ สทฺทกรณสุนขสฺส. ปุณฺณํมุขสฺสาติ เมณฺฑสฺส. อิเมสํ เอตํ มิตฺตสนฺถวํ ราชา สยํ ปสฺสีติ.

ราชา อิตเรหิ โพธิสตฺตํ นิสฺสาย าตภาวํ อชานนฺโต ‘‘ปฺจ ปณฺฑิตา อตฺตโน อตฺตโน าณพเลน ชานึสู’’ติ มฺมาโน โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ลาภา วต เม อนปฺปรูปา, ยสฺส เมทิสา ปณฺฑิตา กุลมฺหิ;

ปฺหสฺส คมฺภีรคตํ นิปุณมตฺถํ, ปฏิวิชฺฌนฺติ สุภาสิเตน ธีรา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๔);

ตตฺถ ปฏิวิชฺฌนฺตีติ สุภาสิเตน เต วิทิตฺวา กเถนฺติ.

อถ เนสํ ‘‘ตุฏฺเน นาม ตุฏฺากาโร กตฺตพฺโพ’’ติ ตํ กโรนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อสฺสตริรถฺจ เอกเมกํ, ผีตํ คามวรฺจ เอกเมกํ;

สพฺเพสํ โว ทมฺมิ ปณฺฑิตานํ, ปรมปฺปตีตมโน สุภาสิเตนา’’ติ. (ชา. ๑.๑๒.๑๐๕);

อิติ วตฺวา เตสํ ตํ สพฺพํ ทาเปสิ.

ทฺวาทสนิปาเต เมณฺฑกปฺโห นิฏฺิโต.

สิริมนฺตปฺโห

อุทุมฺพรเทวี ปน อิตเรหิ ปณฺฑิตํ นิสฺสาย ปฺหสฺส าตภาวํ ตฺวา ‘‘รฺา มุคฺคํ มาเสน นิพฺพิเสสกํ กโรนฺเตน วิย ปฺจนฺนํ สมโกว สกฺกาโร กโต, นนุ มยฺหํ กนิฏฺสฺส วิเสสํ สกฺการํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘เทว, เกน โว ปฺโห กถิโต’’ติ? ‘‘ปฺจหิ ปณฺฑิเตหิ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เทว, จตฺตาโร ชนา ตํ ปฺหํ กํ นิสฺสาย ชานึสู’’ติ? ‘‘น ชานามิ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘มหาราช, กึ เต ชานนฺติ, ปณฺฑิโต ปน ‘มา นสฺสนฺตุ อิเม พาลา’ติ ปฺหํ อุคฺคณฺหาเปสิ, ตุมฺเห สพฺเพสํ สมกํ สกฺการํ กโรถ, อยุตฺตเมตํ, ปณฺฑิตสฺส วิเสสกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา ‘‘อตฺตานํ นิสฺสาย าตภาวํ น กเถสี’’ติ ปณฺฑิตสฺส ตุสฺสิตฺวา อติเรกตรํ สกฺการํ กาตุกาโม จินฺเตสิ ‘‘โหตุ มม ปุตฺตํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา กถิตกาเล มหนฺตํ สกฺการํ กริสฺสามี’’ติ. โส ปฺหํ จินฺเตนฺโต สิริมนฺตปฺหํ จินฺเตตฺวา เอกทิวสํ ปฺจนฺนํ ปณฺฑิตานํ อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา สุขนิสินฺนกาเล เสนกํ อาห – ‘‘เสนก, ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. ‘‘ปุจฺฉ เทวา’’ติ. ราชา สิริมนฺตปฺเห ปมํ คาถมาห –

‘‘ปฺายุเปตํ สิริยา วิหีนํ, ยสสฺสินํ วาปิ อเปตปฺํ;

ปุจฺฉามิ ตํ เสนก เอตมตฺถํ, กเมตฺถ เสยฺโย กุสลา วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๓);

ตตฺถ กเมตฺถ เสยฺโยติ อิเมสุ ทฺวีสุ กตรํ ปณฺฑิตา เสยฺโยติ วทนฺติ.

อยฺจ กิร ปฺโห เสนกสฺส วํสานุคโต, เตน นํ ขิปฺปเมว กเถสิ –

‘‘ธีรา จ พาลา จ หเว ชนินฺท, สิปฺปูปปนฺนา จ อสิปฺปิโน จ;

สุชาติมนฺโตปิ อชาติมสฺส, ยสสฺสิโน เปสกรา ภวนฺติ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๔);

ตตฺถ ปฺโ นิหีโนติ ปฺวา นิหีโน, อิสฺสโรว อุตฺตโมติ อตฺโถ.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อิตเร ตโย อปุจฺฉิตฺวา สงฺฆนวกํ หุตฺวา นิสินฺนํ มโหสธปณฺฑิตํ อาห –

‘‘ตุวมฺปิ ปุจฺฉามิ อโนมปฺ, มโหสธ เกวลธมฺมทสฺสิ;

พาลํ ยสสฺสึ ปณฺฑิตํ อปฺปโภคํ, กเมตฺถ เสยฺโย กุสลา วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๕);

ตตฺถ เกวลธมฺมทสฺสีติ สพฺพธมฺมทสฺสิ.

อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘สุณ, มหาราชา’’ติ วตฺวา กเถสิ –

‘‘ปาปานิ กมฺมานิ กโรติ พาโล, อิธเมว เสยฺโย อิติ มฺมาโน;

อิธโลกทสฺสี ปรโลกมทสฺสี, อุภยตฺถ พาโล กลิมคฺคเหสิ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๖);

ตตฺถ อิธเมว เสยฺโยติ อิธโลเก อิสฺสริยเมว มยฺหํ เสฏฺนฺติ มฺมาโน. กลิมคฺคเหสีติ พาโล อิสฺสริยมาเนน ปาปกมฺมํ กตฺวา นิรยาทึ อุปปชฺชนฺโต ปรโลเก จ ปุน ตโต อาคนฺตฺวา นีจกุเล ทุกฺขภาวํ ปตฺวา นิพฺพตฺตมาโน อิธโลเก จาติ อุภยตฺถ ปราชยเมว คณฺหาติ. เอตมฺปิ การณํ อหํ ทิสฺวา ปฺาสมฺปนฺโนว อุตฺตโม, อิสฺสโร ปน พาโล น อุตฺตโมติ วทามิ.

เอวํ วุตฺเต ราชา เสนกํ โอโลเกตฺวา ‘‘นนุ มโหสโธ ปฺวนฺตเมว อุตฺตโมติ วทตี’’ติ อาห. เสนโก ‘‘มหาราช, มโหสโธ ทหโร, อชฺชาปิสฺส มุเข ขีรคนฺโธ วายติ, กิเมส ชานาตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘นิสิปฺปเมตํ วิทธาติ โภคํ, น พนฺธุวา น สรีรวณฺโณ โย;

ปสฺเสฬมูคํ สุขเมธมานํ, สิรี หิ นํ ภชเต โครวินฺทํ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ.

ตตฺถ เอฬมูคนฺติ ปคฺฆริตลาลมุขํ. โครวินฺทนฺติ โส กิร ตสฺมึเยว นคเร อสีติโกฏิวิภโว เสฏฺิ วิรูโป. นาสฺส ปุตฺโต น จ ธีตา, น กิฺจิ สิปฺปํ ชานาติ. กเถนฺตสฺสปิสฺส หนุกสฺส อุโภหิปิ ปสฺเสหิ ลาลาธารา ปคฺฆรติ. เทวจฺฉรา วิย ทฺเว อิตฺถิโย สพฺพาลงฺกาเรหิ วิภูสิตา สุปุปฺผิตานิ นีลุปฺปลานิ คเหตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ ิตา ตํ ลาลํ นีลุปฺปเลหิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นีลุปฺปลานิ วาตปาเนน ฉฑฺเฑนฺติ. สุราโสณฺฑาปิ ปานาคารํ ปวิสนฺตา นีลุปฺปเลหิ อตฺเถ สติ ตสฺส เคหทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘สามิ โครวินฺท, เสฏฺี’’ติ วทนฺติ. โส เตสํ สทฺทํ สุตฺวา วาตปาเน ตฺวา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ วทติ. อถสฺส ลาลาธารา ปคฺฆรติ. ตา อิตฺถิโย ตํ นีลุปฺปเลหิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นีลุปฺปลานิ อนฺตรวีถิยํ ขิปนฺติ. สุราธุตฺตา ตานิ คเหตฺวา อุทเกน วิกฺขาเลตฺวา ปิฬนฺธิตฺวา ปานาคารํ ปวิสนฺติ. เอวํ สิริสมฺปนฺโน อโหสิ. เสนโก ตํ อุทาหรณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กีทิสํ, ตาต, มโหสธปณฺฑิตา’’ติ อาห. ปณฺฑิโต ‘‘เทว, กึ เสนโก ชานาติ, โอทนสิตฺถฏฺาเน กาโก วิย ทธึ ปาตุํ อารทฺธสุนโข วิย จ ยสเมว ปสฺสติ, สีเส ปตนฺตํ มหามุคฺครํ น ปสฺสติ, สุณ, เทวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ลทฺธา สุขํ มชฺชติ อปฺปปฺโ, ทุกฺเขน ผุฏฺโปิ ปโมหเมติ;

อาคนฺตุนา ทุกฺขสุเขน ผุฏฺโ, ปเวธติ วาริจโรว ฆมฺเม;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๘);

ตตฺถ สุขนฺติ อิสฺสริยสุขํ ลภิตฺวา พาโล ปมชฺชติ, ปมตฺโต สมาโน ปาปํ กโรติ. ทุกฺเขนาติ กายิกเจตสิกทุกฺเขน. อาคนฺตุนาติ น อชฺฌตฺติเกน. สตฺตานฺหิ สุขมฺปิ ทุกฺขมฺปิ อาคนฺตุกเมว, น นิจฺจปวตฺตํ. ฆมฺเมติ อุทกา อุทฺธริตฺวา อาตเป ขิตฺตมจฺโฉ วิย.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กีทิสํ อาจริยา’’ติ อาห. เสนโก ‘‘เทว, กิเมส ชานาติ, ติฏฺนฺตุ ตาว มนุสฺสา, อรฺเ ชาตรุกฺเขสุปิ ผลสมฺปนฺนเมว พหู วิหงฺคมา ภชนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ทุมํ ยถา สาทุผลํ อรฺเ, สมนฺตโต สมภิสรนฺติ ปกฺขี;

เอวมฺปิ อฑฺฒํ สธนํ สโภคํ, พหุชฺชโน ภชติ อตฺถเหตุ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๘๙);

ตตฺถ พหุชฺชโนติ มหาชโน.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กีทิสํ ตาตา’’ติ อาห. ปณฺฑิโต ‘‘กิเมส มโหทโร ชานาติ, สุณ, เทวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘น สาธุ พลวา พาโล, สาหสา วินฺทเต ธนํ;

กนฺทนฺตเมตํ ทุมฺเมธํ, กฑฺฒนฺติ นิรยํ ภุสํ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๐);

ตตฺถ สาหสาติ สาหเสน สาหสิกกมฺมํ กตฺวา ชนํ ปีเฬตฺวา ธนํ วินฺทติ. อถ นํ นิรยปาลา กนฺทนฺตเมว ทุมฺเมธํ พลวเวทนํ นิรยํ กฑฺฒนฺติ.

ปุน รฺา ‘‘กึ เสนกา’’ติ วุตฺเต เสนโก อิมํ คาถมาห –

‘‘ยา กาจิ นชฺโช คงฺคมภิสฺสวนฺติ, สพฺพาว ตา นามโคตฺตํ ชหนฺติ;

คงฺคา สมุทฺทํ ปฏิปชฺชมานา, น ขายเต อิทฺธึ ปฺโปิ โลเก;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๑);

ตตฺถ นชฺโชติ นินฺนา หุตฺวา สนฺทมานา อนฺตมโส กุนฺนทิโยปิ คงฺคํ อภิสฺสวนฺติ. ชหนฺตีติ คงฺคาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, อตฺตโน นามโคตฺตํ ชหนฺติ. น ขายเตติ สาปิ คงฺคา สมุทฺทํ ปฏิปชฺชมานา น ปฺายติ, สมุทฺโทตฺเวว นามํ ลภติ. เอวเมว มหาปฺโปิ อิสฺสรสนฺติกํ ปตฺโต น ขายติ น ปฺายติ,สมุทฺทํ ปวิฏฺคงฺคา วิย โหติ.

ปุน ราชา ‘‘กึ ปณฺฑิตา’’ติ อาห. โส ‘‘สุณ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถาทฺวยมาห –

‘‘ยเมตมกฺขา อุทธึ มหนฺตํ, สวนฺติ นชฺโช สพฺพกาลมสงฺขฺยํ;

โส สาคโร นิจฺจมุฬารเวโค, เวลํ น อจฺเจติ มหาสมุทฺโท.

‘‘เอวมฺปิ พาลสฺส ปชปฺปิตานิ, ปฺํ น อจฺเจติ สิรี กทาจิ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๒-๙๓);

ตตฺถ ยเมตมกฺขาติ ยํ เอตํ อกฺขาสิ วเทสิ. อสงฺขฺยนฺติ อคณนํ. เวลํ น อจฺเจตีติ อุฬารเวโคปิ หุตฺวา อูมิสหสฺสํ อุกฺขิปิตฺวาปิ เวลํ อติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ, เวลํ ปตฺวา อวสฺสํ สพฺพา อูมิโย ภิชฺชนฺติ. เอวมฺปิ พาลสฺส ปชปฺปิตานีติ พาลสฺส วจนานิปิ เอวเมว ปฺวนฺตํ อติกฺกมิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตํ ปตฺวาว ภิชฺชนฺติ. ปฺํ น อจฺเจตีติ ปฺวนฺตํ สิริมา นาม นาติกฺกมติ. น หิ โกจิ มนุโช อตฺถานตฺเถ อุปฺปนฺนกงฺโข ตํฉินฺทนตฺถาย ปฺวนฺตํ อติกฺกมิตฺวา พาลสฺส อิสฺสรสฺส ปาทมูลํ คจฺฉติ, ปฺวนฺตสฺส ปน ปาทมูเลเยว วินิจฺฉโย นาม ลพฺภตีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กถํ เสนกา’’ติ อาห. โส ‘‘สุณ, เทวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘อสฺโต เจปิ ปเรสมตฺถํ, ภณาติ สนฺธานคโต ยสสฺสี;

ตสฺเสว ตํ รูหติ าติมชฺเฌ, สิรี หิ นํ การยเต น ปฺา;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๔);

ตตฺถ อสฺโต เจปีติ อิสฺสโร หิ สเจปิ กายาทีหิ อสฺโต ทุสฺสีโล. สนฺธานคโตติ วินิจฺฉเย ิโต หุตฺวา ปเรสํ อตฺถํ ภณติ, ตสฺมึ วินิจฺฉยมณฺฑเล มหาปริวารปริวุตสฺส มุสาวาทํ วตฺวา สามิกมฺปิ อสฺสามิกํ กโรนฺตสฺส ตสฺเสว ตํ วจนํ รุหติ. สิรี หิ นํ ตถา การยเต น ปฺา, ตสฺมา ปฺโ นิหีโน, สิริมาว เสยฺโยติ วทามิ.

ปุน รฺา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ วุตฺเต ปณฺฑิโต ‘‘สุณ, เทว, พาลเสนโก กึ ชานาตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ, พาโล มุสา ภาสติ อปฺปปฺโ;

โส นินฺทิโต โหติ สภาย มชฺเฌ, ปจฺฉาปิ โส ทุคฺคติคามี โหติ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๕);

ตโต เสนโก อิมํ คาถมาห –

‘‘อตฺถมฺปิ เจ ภาสติ ภูริปฺโ, อนาฬฺหิโย อปฺปธโน ทลิทฺโท;

น ตสฺส ตํ รูหติ าติมชฺเฌ, สิรี จ ปฺาณวโต น โหติ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๖);

ตตฺถ อตฺถมฺปีติ การณมฺปิ เจ ภาสติ. าติมชฺเฌติ ปริสมชฺเฌ. ปฺาณวโตติ มหาราช, ปฺาณวนฺตสฺส สิริโสภคฺคปฺปตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปกติยา วิชฺชมานาปิ สิรี นาม น โหติ. โส หิ ตสฺส สนฺติเก สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนโก วิย ขายตีติ ทสฺเสติ.

ปุน รฺา ‘‘กีทิสํ, ตาตา’’ติ วุตฺเต ปณฺฑิโต ‘‘กึ ชานาติ, เสนโก, อิธโลกมตฺตเมว โอโลเกติ, น ปรโลก’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ, น ภาสติ อลิกํ ภูริปฺโ;

โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ, ปจฺฉาปิ โส สุคฺคติคามี โหติ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๗);

ตโต เสนโก คาถมาห –

‘‘หตฺถี ควาสฺสา มณิกุณฺฑลา จ, ถิโย จ อิทฺเธสุ กุเลสุ ชาตา;

สพฺพาว ตา อุปโภคา ภวนฺติ, อิทฺธสฺส โปสสฺส อนิทฺธิมนฺโต;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๘);

ตตฺถ อิทฺธสฺสาติ อิสฺสรสฺส. อนิทฺธิมนฺโตติ น เกวลํ ตา นาริโยว, อถ โข สพฺเพ อนิทฺธิมนฺโตปิ สตฺตา ตสฺส อุปโภคา ภวนฺติ.

ตโต ปณฺฑิโต ‘‘กึ เอส ชานาตี’’ติ วตฺวา เอกํ การณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อสํวิหิตกมฺมนฺตํ, พาลํ ทุมฺเมธมนฺตินํ;

สิรี ชหติ ทุมฺเมธํ, ชิณฺณํว อุรโค ตจํ;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ;

ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙๙);

ตตฺถ ‘‘สิรี ชหตี’’ติ ปทสฺส เจติยชาตเกน (ชา. ๑.๘.๔๕ อาทโย) อตฺโถ วณฺเณตพฺโพ.

อถ เสนโก รฺา ‘‘กีทิส’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว, กึ เอส ตรุณทารโก ชานาติ, สุณาถา’’ติ วตฺวา ‘‘ปณฺฑิตํ อปฺปฏิภานํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ปฺจ ปณฺฑิตา มยํ ภทฺทนฺเต, สพฺเพ ปฺชลิกา อุปฏฺิตา;

ตฺวํ โน อภิภุยฺย อิสฺสโรสิ, สกฺโกว ภูตปติ เทวราชา;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโ นิหีโน สิรีมาว เสยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๐);

อิทํ กิร สุตฺวา ราชา ‘‘สาธุรูปํ เสนเกน การณํ อาภตํ, สกฺขิสฺสติ นุ โข เม ปุตฺโต อิมสฺส วาทํ ภินฺทิตฺวา อฺํ การณํ อาหริตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘กีทิสํ ปณฺฑิตา’’ติ อาห. เสนเกน กิร อิมสฺมึ การเณ อาภเต เปตฺวา โพธิสตฺตํ อฺโ ตํ วาทํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตสฺมา มหาสตฺโต อตฺตโน าณพเลน ตสฺส วาทํ ภินฺทนฺโต ‘‘มหาราช, กิเมส พาโล ชานาติ, ยสเมว โอโลเกติ, ปฺาย วิเสสํ น ชานาติ, สุณาถา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ทาโสว ปฺสฺส ยสสฺสิ พาโล, อตฺเถสุ ชาเตสุ ตถาวิเธสุ;

ยํ ปณฺฑิโต นิปุณํ สํวิเธติ, สมฺโมหมาปชฺชติ ตตฺถ พาโล;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน อหํ วทามิ, ปฺโว เสยฺโย น ยสสฺสิ พาโล’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๑);

ตตฺถ อตฺเถสูติ กิจฺเจสุ ชาเตสุ. สํวิเธตีติ สํวิทหติ.

อิติ มหาสตฺโต สิเนรุปาทโต สุวณฺณวาลุกํ อุทฺธรนฺโต วิย คคนตเล ปุณฺณจนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย จ นยการณํ ทสฺเสสิ. เอวํ มหาสตฺเตน ปฺานุภาวํ ทสฺเสตฺวา กถิเต ราชา เสนกํ อาห – ‘‘กีทิสํ, เสนก, สกฺโกนฺโต อุตฺตริปิ กเถหี’’ติ. โส โกฏฺเ ปิตธฺํ วิย อุคฺคหิตกํ เขเปตฺวา อปฺปฏิภาโน มงฺกุภูโต ปชฺฌายนฺโต นิสีทิ. สเจ หิ โส อฺํ การณํ อาหเรยฺย, น คาถาสหสฺเสนปิ อิมํ ชาตกํ นิฏฺาเยถ. ตสฺส ปน อปฺปฏิภานสฺส ิตกาเล คมฺภีรํ โอฆํ อาเนนฺโต วิย มหาสตฺโต อุตฺตริปิ ปฺเมว วณฺเณนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อทฺธา หิ ปฺาว สตํ ปสตฺถา, กนฺตา สิรี โภครตา มนุสฺสา;

าณฺจ พุทฺธานมตุลฺยรูปํ, ปฺํ น อจฺเจติ สิรี กทาจี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๒);

ตตฺถ สตนฺติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ. โภครตาติ มหาราช, ยสฺมา อนฺธพาลมนุสฺสา โภครตาว, ตสฺมา เตสํ สิรี กนฺตา. ยโส นาเมส ปณฺฑิเตหิ ครหิโต พาลานํ กนฺโตติ จายํ อตฺโถ ภิสชาตเกน (ชา. ๑.๑๔.๗๘ อาทโย) วณฺเณตพฺโพ. พุทฺธานนฺติ สพฺพฺุพุทฺธานฺจ าณํ. กทาจีติ กิสฺมิฺจิ กาเล าณวนฺตํ สิรี นาม นาติกฺกมติ, เทวาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา มหาสตฺตสฺส ปฺหพฺยากรเณน ตุฏฺโ ฆนวสฺสํ วสฺเสนฺโต วิย มหาสตฺตํ ธเนน ปูเชนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน, มโหสธ เกวลธมฺมทสฺสี;

ควํ สหสฺสํ อุสภฺจ นาคํ, อาชฺยุตฺเต จ รเถ ทส อิเม;

ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน ตุฏฺโ, ททามิ เต คามวรานิ โสฬสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐๓);

ตตฺถ อุสภฺจ นาคนฺติ ตสฺส ควํ สหสฺสสฺส อุสภํ กตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตํ อาโรหนียํ นาคํ ทมฺมีติ.

วีสตินิปาเต สิริมนฺตปฺโห นิฏฺิโต.

ฉนฺนปถปฺโห

ตโต ปฏฺาย โพธิสตฺตสฺส ยโส มหา อโหสิ. ตํ สพฺพํ อุทุมฺพรเทวีเยว วิจาเรสิ. สา ตสฺส โสฬสวสฺสิกกาเล จินฺเตสิ ‘‘มม กนิฏฺโ มหลฺลโก ชาโต, ยโสปิสฺส มหา อโหสิ, อาวาหมสฺส กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘สาธุ ชานาเปหิ น’’นฺติ อาห. สา ตํ ชานาเปตฺวา เตน สมฺปฏิจฺฉิเต ‘‘เตน หิ, ตาต, เต กุมาริกํ อาเนมี’’ติ อาห. อถ มหาสตฺโต ‘‘กทาจิ อิเมหิ อานีตา มม น รุจฺเจยฺย, สยเมว ตาว อุปธาเรมี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห – ‘‘เทวิ, กติปาหํ มา กิฺจิ รฺโ วเทถ, อหํ เอกํ กุมาริกํ สยํ ปริเยสิตฺวา มม จิตฺตรุจิตํ ตุมฺหากํ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ กโรหิ, ตาตา’’ติ. โส เทวึ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ฆรํ คนฺตฺวา สหายกานํ สฺํ ทตฺวา อฺาตกเวเสน ตุนฺนวายอุปกรณานิ คเหตฺวา เอกโกว อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อุตฺตรยวมชฺฌกํ ปายาสิ. ตทา ปน ตตฺถ เอกํ โปราณเสฏฺิกุลํ ปริกฺขีณํ อโหสิ. ตสฺส กุลสฺส ธีตา อมราเทวี นาม อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนา ปุฺวตี. สา ตํ ทิวสํ ปาโตว ยาคุํ ปจิตฺวา อาทาย ‘‘ปิตุ กสนฏฺานํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. มหาสตฺโต ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนายํ อิตฺถี, สเจ อปริคฺคหา, อิมาย เม ปาทปริจาริกาย ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตสิ.

สาปิ ตํ ทิสฺวาว ‘‘สเจ เอวรูปสฺส ปุริสสฺส เคเห ภเวยฺยํ, สกฺกา มยา กุฏุมฺพํ สณฺาเปตุ’’นฺติ จินฺเตสิ.

อถ มหาสตฺโต – ‘‘อิมิสฺสา สปริคฺคหาปริคฺคหภาวํ น ชานามิ, หตฺถมุฏฺิยา นํ ปุจฺฉิสฺสามิ, สเจ เอสา ปณฺฑิตา ภวิสฺสติ, ชานิสฺสติ. โน เจ, น ชานิสฺสติ, อิเธว นํ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทูเร ิโตว หตฺถมุฏฺิมกาสิ. สาปิ ‘‘อยํ มม สสามิกาสามิกภาวํ ปุจฺฉตี’’ติ ตฺวา หตฺถํ ปสาเรสิ. โส อปริคฺคหภาวํ ตฺวา สมีปํ คนฺตฺวา ‘‘ภทฺเท, กา นาม ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, อหํ อตีเต วา อนาคเต วา เอตรหิ วา ยํ นตฺถิ, ตนฺนามิกา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, โลเก อมรา นาม นตฺถิ, ตฺวํ อมรา นาม ภวิสฺสสี’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, กสฺส ยาคุํ หริสฺสสี’’ติ? ‘‘ปุพฺพเทวตาย, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ปุพฺพเทวตา นาม มาตาปิตโร, ตว ปิตุ ยาคุํ หริสฺสสิ มฺเ’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ตว ปิตา กึ กโรตี’’ติ? ‘‘สามิ, เอกํ ทฺวิธา กโรตี’’ติ. ‘‘เอกสฺส ทฺวิธากรณํ นาม กสนํ, ตว ปิตา กสตี’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘กตรสฺมึ ปน าเน เต ปิตา กสตี’’ติ? ‘‘ยตฺถ สกึ คตา น เอนฺติ, ตสฺมึ าเน, สามี’’ติ. ‘‘สกึ คตานํ น ปจฺจาคมนฏฺานํ นาม สุสานํ, สุสานสนฺติเก กสติ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, อชฺเชว เอสฺสสี’’ติ. ‘‘สเจ เอสฺสติ, น เอสฺสา’’มิ. ‘‘โน เจ เอสฺสติ, เอสฺสามิ, สามี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ปิตา เต มฺเ นทีปาเร กสติ, อุทเก เอนฺเต น เอสฺสสิ, อเนนฺเต เอสฺสสี’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. เอตฺตกํ นาม มหาสตฺโต อาลาปสลฺลาปํ กโรติ.

อถ นํ อมราเทวี ‘‘ยาคุํ ปิวิสฺสสิ, สามี’’ติ นิมนฺเตสิ. มหาสตฺโต ‘‘ปมเมว ปฏิกฺขิปนํ นาม อวมงฺคล’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘อาม, ปิวิสฺสามี’’ติ อาห. สา ปน ยาคุฆฏํ โอตาเรสิ. มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘สเจ ปาตึ อโธวิตฺวา หตฺถโธวนํ อทตฺวา ทสฺสติ, เอตฺเถว นํ ปหาย คมิสฺสามี’’ติ. สา ปน ปาตึ โธวิตฺวา ปาติยา อุทกํ อาหริตฺวา หตฺถโธวนํ ทตฺวา ตุจฺฉปาตึ หตฺเถ อฏฺเปตฺวา ภูมิยํ เปตฺวา ฆฏํ อาลุเฬตฺวา ยาคุยา ปูเรสิ, ตตฺถ ปน สิตฺถานิ มหนฺตานิ. อถ นํ มหาสตฺโต อาห ‘‘กึ, ภทฺเท, อติพหลา ยาคู’’ติ. ‘‘อุทกํ น ลทฺธํ, สามี’’ติ. ‘‘เกทาเร อุทกํ น ลทฺธํ ภวิสฺสติ มฺเ’’ติ. ‘‘เอวํ, สามี’’ติ. สา ปิตุ ยาคุํ เปตฺวา โพธิสตฺตสฺส อทาสิ. โส ยาคุํ ปิวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตุยฺหํ มาตุ เคหํ คมิสฺสามิ, มคฺคํ เม อาจิกฺขา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา มคฺคํ อาจิกฺขนฺตี เอกกนิปาเต อิมํ คาถมาห –

‘‘เยน สตฺตุพิลงฺคา จ, ทิคุณปลาโส จ ปุปฺผิโต;

เยน ททามิ เตน วทามิ, เยน น ททามิ น เตน วทามิ;

เอส มคฺโค ยวมชฺฌกสฺส, เอตํ อนฺนปถํ วิชานาหี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๑๒);

ตสฺสตฺโถ – ‘‘สามิ, อนฺโตคามํ ปวิสิตฺวา เอกํ สตฺตุอาปณํ ปสฺสิสฺสสิ, ตโต กฺชิกาปณํ, เตสํ ปุรโต ทิคุณปณฺโณ โกวิฬาโร สุปุปฺผิโต, ตสฺมา ตฺวํ เยน สตฺตุพิลงฺคา จ โกวิฬาโร จ ปุปฺผิโต, เตน คนฺตฺวา โกวิฬารมูเล ตฺวา ทกฺขิณํ คณฺห วามํ มุฺจ, เอส มคฺโค ยวมชฺฌกสฺส ยวมชฺฌกคาเม ิตสฺส อมฺหากํ เคหสฺส, เอตํ เอวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา มยา วุตฺตํ ฉนฺนปถํ ปฏิจฺฉนฺนปถํ ฉนฺนปถํ วา ปฏิจฺฉนฺนการณํ วิชานาหี’’ติ. เอตฺถ หิ เยน ททามีติ เยน หตฺเถน ททามิ, อิทํ ทกฺขิณหตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, อิตรํ วามหตฺถํ. เอวํ สา ตสฺส มคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา ปิตุ ยาคุํ คเหตฺวา อคมาสิ.

ฉนฺนปถปฺโห นิฏฺิโต.

อมราเทวิปริเยสนา

โสปิ ตาย กถิตมคฺเคเนว ตํ เคหํ คโต. อถ นํ อมราเทวิยา มาตา ทิสฺวา อาสนํ ทตฺวา ‘‘ยาคุํ ปิวิสฺสสิ, สามี’’ติ อาห. ‘‘อมฺม, กนิฏฺภคินิยา เม อมราเทวิยา โถกา ยาคุ เม ทินฺนา’’ติ. ตํ สุตฺวา สา ‘‘ธีตุ เม อตฺถาย อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. มหาสตฺโต เตสํ ทุคฺคตภาวํ ชานนฺโตปิ ‘‘อมฺม, อหํ ตุนฺนวาโย, กิฺจิ สิพฺพิตพฺพยุตฺตกํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, สามิ, มูลํ ปน นตฺถี’’ติ? ‘‘อมฺม มูเลน กมฺมํ นตฺถิ, อาเนหิ, สิพฺพิสฺสามิ น’’นฺติ. สา ชิณฺณสาฏกานิ อาหริตฺวา อทาสิ. โพธิสตฺโต อาหฏาหฏํ นิฏฺาเปสิเยว. ปุฺวโต หิ กิริยา นาม สมิชฺฌติเยว. อถ นํ อาห ‘‘อมฺม, วีถิภาเคน อาโรเจยฺยาสี’’ติ. สา สกลคามํ อาโรเจสิ. มหาสตฺโต ตุนฺนวายกมฺมํ กตฺวา เอกาเหเนว สหสฺสํ กหาปณํ อุปฺปาเทสิ. มหลฺลิกาปิสฺส ปาตราสภตฺตํ ปจิตฺวา ทตฺวา ‘‘ตาต, สายมาสํ กิตฺตกํ ปจามี’’ติ อาห. ‘‘อมฺม, ยตฺตกา อิมสฺมึ เคเห ภุฺชนฺติ, เตสํ ปมาเณนา’’ติ. สา อเนกสูปพฺยฺชนํ พหุภตฺตํ ปจิ. อมราเทวีปิ สายํ สีเสน ทารุกลาปํ, อุจฺฉงฺเคน ปณฺณํ อาทาย อรฺโต อาคนฺตฺวา ปุรเคหทฺวาเร ทารุกลาปํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน เคหํ ปาวิสิ. ปิตาปิสฺสา สายตรํ อาคมาสิ. มหาสตฺโต นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิ. อิตรา มาตาปิตโร โภเชตฺวา ปจฺฉา สยํ ภุฺชิตฺวา มาตาปิตูนํ ปาเท โธวิตฺวา มหาสตฺตสฺส ปาเท โธวิ.

โส ตํ ปริคฺคณฺหนฺโต กติปาหํ ตตฺเถว วสิ. อถ นํ วีมํสนฺโต เอกทิวสํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อฑฺฒนาฬิกตณฺฑุเล คเหตฺวา ตโต มยฺหํ ยาคุฺจ ปูวฺจ ภตฺตฺจ ปจาหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตณฺฑุเล โกฏฺเฏตฺวา มูลตณฺฑุเลหิ ภตฺตํ, มชฺฌิมตณฺฑุเลหิ ยาคุํ, กณกาหิ ปูวํ ปจิตฺวา ตทนุรูปํ สูปพฺยฺชนํ สมฺปาเทตฺวา มหาสตฺตสฺส สพฺยฺชนํ ยาคุํ อทาสิ. สา ยาคุ มุเข ปิตมตฺตาว สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ ผริตฺวา อฏฺาสิ. โส ตสฺสา วีมํสนตฺถเมว ‘‘ภทฺเท, ยาคุํ ปจิตุํ อชานนฺตี กิมตฺถํ มม ตณฺฑุเล นาเสสี’’ติ กุทฺโธ วิย สห เขเฬน นิฏฺุภิตฺวา ภูมิยํ ปาเตสิ. สา ตสฺส อกุชฺฌิตฺวาว ‘‘สามิ, สเจ ยาคุ น สุนฺทรา, ปูวํ ขาทา’’ติ ปูวํ อทาสิ. ตมฺปิ ตเถว อกาสิ. ‘‘สเจ, สามิ, ปูวํ น สุนฺทรํ, ภตฺตํ ภุฺชา’’ติ ภตฺตํ อทาสิ. ภตฺตมฺปิ ตเถว กตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ ปจิตุํ อชานนฺตี มม สนฺตกํ กิมตฺถํ นาเสสี’’ติ กุทฺโธ วิย ตีณิปิ เอกโต มทฺทิตฺวา สีสโต ปฏฺาย สกลสรีรํ ลิมฺปิตฺวา ‘‘คจฺฉ, ทฺวาเร นิสีทาหี’’ติ อาห. สา อกุชฺฌิตฺวาว ‘‘สาธุ, สามี’’ติ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. โส ตสฺสา นิหตมานภาวํ ตฺวา ‘‘ภทฺเท, เอหี’’ติ อาห. สา อกุชฺฌิตฺวา เอกวจเนเนว อาคตา. มหาสตฺโต ปน อาคจฺฉนฺโต กหาปณสหสฺเสน สทฺธึ เอกสาฏกยุคํ ตมฺพูลปสิพฺพเก เปตฺวา อาคโต. อถ โส ตํ สาฏกํ นีหริตฺวา ตสฺสา หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตว สหายิกาหิ สทฺธึ นฺหายิตฺวา อิมํ สาฏกํ นิวาเสตฺวา เอหี’’ติ อาห. สา ตถา อกาสิ.

ปณฺฑิโต อุปฺปาทิตธนฺจ, อาภตธนฺจ สพฺพํ ตสฺสา มาตาปิตูนํ ทตฺวา สมสฺสาเสตฺวา สสุเร อาปุจฺฉิตฺวา ตํ อาทาย นคราภิมุโข อคมาสิ. อนฺตรามคฺเค ตสฺสา วีมํสนตฺถาย ฉตฺตฺจ อุปาหนฺจ ทตฺวา เอวมาห – ‘‘ภทฺเท, อิมํ ฉตฺตํ คเหตฺวา อตฺตานํ ธาเรหิ, อุปาหนํ อภิรุหิตฺวา ยาหี’’ติ. สา ตํ คเหตฺวา ตถา อกตฺวา อพฺโภกาเส สูริยสนฺตาเป ฉตฺตํ อธาเรตฺวา วนนฺเต ธาเรตฺวา คจฺฉติ, ถลฏฺาเน อุปาหนํ ปฏิมุฺจิตฺวา อุทกฏฺานํ สมฺปตฺตกาเล อภิรุหิตฺวา คจฺฉติ. โพธิสตฺโต ตํ การณํ ทิสฺวา ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ภทฺเท, ถลฏฺาเน อุปาหนํ ปฏิมุฺจิตฺวา อุทกฏฺาเน อภิรุหิตฺวา คจฺฉสิ, สูริยสนฺตาเป ฉตฺตํ อธาเรตฺวา วนนฺเต ธาเรตฺวา’’ติ? สา อาห – ‘‘สามิ, ถลฏฺาเน กณฺฏกาทีนิ ปสฺสามิ, อุทกฏฺาเน มจฺฉกจฺฉปกณฺฏกาทีนิ น ปสฺสามิ, เตสุ ปาเท ปวิฏฺเสุ ทุกฺขเวทนา ภเวยฺย, อพฺโภกาเส สุกฺขรุกฺขกณฺฏกาทีนิ นตฺถิ, วนนฺตรํ ปวิฏฺานํ ปน สุกฺขรุกฺขทณฺฑาทิเกสุ มตฺถเก ปติเตสุ ทุกฺขเวทนา ภเวยฺย, ตสฺมา ตานิ ปฏิฆาตนตฺถาย เอวํ กโรมี’’ติ.

โพธิสตฺโต ทฺวีหิ การเณหิ ตสฺสา กถํ สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา คจฺฉนฺโต เอกสฺมึ าเน ผลสมฺปนฺนํ เอกํ พทรรุกฺขํ ทิสฺวา พทรรุกฺขมูเล นิสีทิ. สา พทรรุกฺขมูเล นิสินฺนํ มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘สามิ, อภิรุหิตฺวา พทรผลํ คเหตฺวา ขาทาหิ, มยฺหมฺปิ เทหี’’ติ อาห. ‘‘ภทฺเท, อหํ กิลมามิ, อภิรุหิตุํ น สกฺโกมิ, ตฺวเมว อภิรุหา’’ติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา พทรรุกฺขํ อภิรุยฺห สาขนฺตเร นิสีทิตฺวา ผลํ โอจินิ. โพธิสตฺโต ตํ อาห – ‘‘ภทฺเท, ผลํ มยฺหํ เทหี’’ติ. สา ‘‘อยํ ปุริโส ปณฺฑิโต วา อปณฺฑิโต วา วีมํสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อาห ‘‘สามิ, อุณฺหผลํ ขาทิสฺสสิ, อุทาหุ สีตผล’’นฺติ? โส ตํ การณํ อชานนฺโต วิย เอวมาห – ‘‘ภทฺเท, อุณฺหผเลน เม อตฺโถ’’ติ. สา ผลานิ ภูมิยํ ขิปิตฺวา ‘‘สามิ, ขาทา’’ติ อาห. โพธิสตฺโต ตํ คเหตฺวา ธเมนฺโต ขาทิ. ปุน วีมํสมาโน นํ เอวมาห – ‘‘ภทฺเท, สีตลํ เม เทหี’’ติ. อถ สา พทรผลานิ ติณภูมิยา อุปริ ขิปิ. โส ตํ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ‘‘อยํ ทาริกา อติวิย ปณฺฑิตา’’ติ จินฺเตตฺวา ตุสฺสิ. อถ มหาสตฺโต ตํ อาห – ‘‘ภทฺเท, พทรรุกฺขโต โอตราหี’’ติ. สา มหาสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา รุกฺขโต โอตริตฺวา ฆฏํ คเหตฺวา นทึ คนฺตฺวา อุทกํ อาเนตฺวา มหาสตฺตสฺส อทาสิ. มหาสตฺโต ปิวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ตโต อุฏฺาย คจฺฉนฺโต นครเมว สมฺปตฺโต.

อถ โส ตํ วีมํสนตฺถาย โทวาริกสฺส เคเห เปตฺวา โทวาริกสฺส ภริยาย อาจิกฺขิตฺวา อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา ปุริเส อามนฺเตตฺวา ‘‘อสุกเคเห อิตฺถึ เปตฺวา อาคโตมฺหิ, อิมํ สหสฺสํ อาทาย คนฺตฺวา ตํ วีมํสถา’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา เปเสสิ. เต ตถา กรึสุ. สา อาห – ‘‘อิทํ มม สามิกสฺส ปาทรชมฺปิ น อคฺฆตี’’ติ. เต อาคนฺตฺวา ปณฺฑิตสฺส อาโรเจสุํ. ปุนปิ ยาวตติยํ เปเสตฺวา จตุตฺเถ วาเร มหาสตฺโต เตเยว ‘‘เตน หิ นํ หตฺเถ คเหตฺวา กฑฺฒนฺตา อาเนถา’’ติ อาห. เต ตถา กรึสุ. สา มหาสตฺตํ มหาสมฺปตฺติยํ ิตํ น สฺชานิ, นํ โอโลเกตฺวา จ ปน หสิ เจว โรทิ จ. โส อุภยการณํ ปุจฺฉิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘สามิ, อหํ หสมานา ตว สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา ‘อยํ อการเณน น ลทฺธา, ปุริมภเว กุสลํ กตฺวา ลทฺธา, อโห ปุฺานํ ผลํ นามา’ติ หสึ. โรทมานา ปน ‘อิทานิ ปรสฺส รกฺขิตโคปิตวตฺถุมฺหิ อปรชฺฌิตฺวา นิรยํ คมิสฺสตี’ติ ตยิ การุฺเน โรทิ’’นฺติ.

โส ตํ วีมํสิตฺวา สุทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘คจฺฉถ นํ ตตฺเถว เนถา’’ติ วตฺวา เปเสตฺวา ปุน ตุนฺนวายเวสํ คเหตฺวา คนฺตฺวา ตาย สทฺธึ สยิตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว ราชกุลํ ปวิสิตฺวา อุทุมฺพรเทวิยา อาโรเจสิ. สา รฺโ อาโรเจตฺวา อมราเทวึ สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา มหาโยคฺเค นิสีทาเปตฺวา มหนฺเตน สกฺกาเรน มหาสตฺตสฺส เคหํ เนตฺวา มงฺคลํ กาเรสิ. ราชา โพธิสตฺตสฺส สหสฺสมูลํ ปณฺณาการํ เปเสสิ. โทวาริเก อาทึ กตฺวา สกลนครวาสิโน ปณฺณากาเร ปหิณึสุ. อมราเทวีปิ รฺา ปหิตํ ปณฺณาการํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา เอกํ โกฏฺาสํ รฺโ เปเสสิ. เอเตนุปาเยน สกลนครวาสีนมฺปิ ปณฺณาการํ เปเสตฺวา นครํ สงฺคณฺหิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺโต ตาย สทฺธึ สมคฺควาสํ วสนฺโต รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสิ.

อมราเทวิปริเยสนา นิฏฺิตา.

สพฺพรตนเถนวณฺณนา

อเถกทิวสํ เสนโก อิตเร ตโย อตฺตโน สนฺติกํ อาคเต อามนฺเตสิ ‘‘อมฺโภ, มยํ คหปติปุตฺตสฺส มโหสธสฺเสว นปฺปโหม, อิทานิ ปน เตน อตฺตนา พฺยตฺตตรา ภริยา อานีตา, กินฺติ นํ รฺโ อนฺตเร ปริภินฺเทยฺยามา’’ติ. ‘‘อาจริย, มยํ กึ ชานาม, ตฺวํเยว ชานาหี’’ติ. ‘‘โหตุ มา จินฺตยิตฺถ, อตฺเถโก อุปาโย, อหํ รฺโ จูฬามณึ เถเนตฺวา อาหริสฺสามิ, ปุกฺกุส, ตฺวํ สุวณฺณมาลํ อาหร, กามินฺท, ตฺวํ กมฺพลํ, เทวินฺท, ตฺวํ สุวณฺณปาทุกนฺติ เอวํ มยํ จตฺตาโรปิ อุปาเยน ตานิ อาหริสฺสาม, ตโต อมฺหากํ เคเห อฏฺเปตฺวา คหปติปุตฺตสฺส เคหํ เปเสสฺสามา’’ติ. อถ โข เต จตฺตาโรปิ ตถา กรึสุ. เตสุ เสนโก ตาว จูฬามณึ ตกฺกฆเฏ ปกฺขิปิตฺวา ทาสิยา หตฺเถ เปตฺวา เปเสสิ ‘‘อิมํ ตกฺกฆฏํ อฺเสํ คณฺหนฺตานํ อทตฺวา สเจ มโหสธสฺส เคเห คณฺหาติ, ฆเฏเนว สทฺธึ เทหี’’ติ. สา ปณฺฑิตสฺส ฆรทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘ตกฺกํ คณฺหถ, ตกฺกํ คณฺหถา’’ติ อปราปรํ จรติ.

อมราเทวี ทฺวาเร ิตา ตสฺสา กิริยํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อฺตฺถ น คจฺฉติ, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณนา’’ติ อิงฺคิตสฺาย ทาสิโย ปฏิกฺกมาเปตฺวา สยเมว ‘‘อมฺม, เอหิ ตกฺกํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปกฺโกสิตฺวา ตสฺสา อาคตกาเล ทาสีนํ สฺํ ทตฺวา ตาสุ อนาคจฺฉนฺตีสุ ‘‘คจฺฉ, อมฺม, ทาสิโย ปกฺโกสาหี’’ติ ตเมว เปเสตฺวา ตกฺกฆเฏ หตฺถํ โอตาเรตฺวา มณึ ทิสฺวา ตํ ทาสึ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม, ตฺวํ กสฺส สนฺตกา’’ติ? ‘‘อยฺเย, เสนกปณฺฑิตสฺส ทาสีมฺหี’’ติ. ตโต ตสฺสา นามํ ตสฺสา จ มาตุยา นามํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกา นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อมฺม, อิมํ ตกฺกํ กติมูล’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อยฺเย, จตุนาฬิก’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, อมฺม, อิมํ ตกฺกํ เม เทหี’’ติ วตฺวา ‘‘อยฺเย, ตุมฺเหสุ คณฺหนฺตีสุ มูเลน เม โก อตฺโถ, ฆเฏเนว สทฺธึ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ ยาหี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา สา ‘‘อสุกมาเส อสุกทิวเส เสนกาจริโย อสุกาย นาม ทาสิยา ธีตาย อสุกาย นาม หตฺเถ รฺโ จูฬามณึ ปเหนกตฺถาย ปหิณี’’ติ ปณฺเณ ลิขิตฺวา ตกฺกํ คณฺหิ. ปุกฺกุโสปิ สุวณฺณมาลํ สุมนปุปฺผจงฺโกฏเก เปตฺวา สุมนปุปฺเผน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ตเถว เปเสสิ. กามินฺโทปิ กมฺพลํ ปณฺณปจฺฉิยํ เปตฺวา ปณฺเณหิ ฉาเทตฺวา เปเสสิ. เทวินฺโทปิ สุวณฺณปาทุกํ ยวกลาปนฺตเร พนฺธิตฺวา เปเสสิ. สา สพฺพานิปิ ตานิ คเหตฺวา ปณฺเณ อกฺขรานิ อาโรเปตฺวา มหาสตฺตสฺส อาจิกฺขิตฺวา เปสิ.

เตปิ จตฺตาโร ปณฺฑิตา ราชกุลํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, เทว, ตุมฺเห จูฬามณึ น ปิฬนฺธถา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘ปิฬนฺธิสฺสามิ อาหรถา’’ติ ปุริเส อาห. เต มณึ น ปสฺสึสุ, อิตรานิปิ น ปสฺสึสุเยว. อถ เต จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อาภรณานิ มโหสธสฺส เคเห อตฺถิ, โส ตานิ สยํ วฬฺเชติ, ปฏิสตฺตุ เต มหาราช, คหปติปุตฺโต’’ติ ตํ ภินฺทึสุ. อถสฺส อตฺถจรกา มนุสฺสา สีฆํ คนฺตฺวา อาโรเจสุํ. โส ‘‘ราชานํ ทิสฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ราชุปฏฺานํ อคมาสิ. ราชา กุชฺฌิตฺวา ‘‘โก ชานิสฺสติ, กึ ภวิสฺสติ กึ กริสฺสตี’’ติ อตฺตานํ ปสฺสิตุํ นาทาสิ. ปณฺฑิโต รฺโ กุทฺธภาวํ ตฺวา อตฺตโน นิเวสนเมว คโต. ราชา ‘‘นํ คณฺหถา’’ติ อาณาเปสิ. ปณฺฑิโต อตฺถจรกานํ วจนํ สุตฺวา ‘‘มยา อปคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อมราเทวิยา สฺํ ทตฺวา อฺาตกเวเสน นครา นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณยวมชฺฌกคามํ คนฺตฺวา ตสฺมึ กุมฺภการกมฺมํ อกาสิ. นคเร ‘‘ปณฺฑิโต ปลาโต’’ติ เอกโกลาหลํ ชาตํ.

เสนกาทโยปิ จตฺตาโร ชนา ตสฺส ปลาตภาวํ ตฺวา ‘‘มา จินฺตยิตฺถ, มยํ กึ อปณฺฑิตา’’ติ อฺมฺํ อชานาเปตฺวาว อมราเทวิยา ปณฺณาการํ ปหิณึสุ สา เตหิ จตูหิ เปสิตปณฺณาการํ คเหตฺวา ‘‘อสุก-อสุกเวลาย อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา เอกํ กูปํ ขณาเปตฺวา คูถราสิโน สห อุทเกน ตตฺถ ปูเรตฺวา คูถกูปสฺส อุปริตเล ยนฺตผลกาหิ ปิทหิตฺวา กิฬฺเชน ปฏิจฺฉาเทตฺวา สพฺพํ นิฏฺาเปสิ. อถ เสนโก สายนฺหสมเย นฺหตฺวา อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา โพธิสตฺตสฺส เคหํ อคมาสิ. โส ฆรทฺวาเร ตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. สา ‘‘เอหิ, อาจริยา’’ติ อาห. โส คนฺตฺวา ตสฺสา สนฺติเก อฏฺาสิ. สา เอวมาห – ‘‘สามิ, อิทานิ อหํ ตว วสํ คตา, อตฺตโน สรีรํ อนฺหายิตฺวา สยิตุํ อยุตฺต’’นฺติ. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. สา นิกฺขมิตฺวา อุทกปูรํ ฆฏํ คเหตฺวา อาสิตฺตา วิย ‘‘เอหิ, อาจริย, นฺหานตฺถาย ผลกานิ อารุหา’’ติ วตฺวา ตสฺส ผลกานิ อภิรุยฺห ิตกาเล เคหํ ปวิสิตฺวา ผลกโกฏิยํ อกฺกมิตฺวา คูถกูเป ปาเตสิ.

ปุกฺกุโสปิ สายนฺหสมเย นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา โพธิสตฺตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ฆรทฺวาเร ตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. เอกา ปริจาริกา อิตฺถี อมราเทวิยา อาโรเจสิ. สา ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘เอหิ, อาจริย, อตฺตโน สรีรํ อนฺหายิตฺวา สยิตุํ อยุตฺต’’นฺติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. สา นิกฺขมิตฺวา อุทกปูรํ ฆฏํ คเหตฺวา อาสิฺจมานา วิย ‘‘เอหิ, อาจริย, นฺหานตฺถาย ผลกานิ อภิรุหา’’ติ อาห. ตสฺส ผลกานิ อภิรุยฺห ิตกาเล สา เคหํ ปวิสิตฺวา ผลกานิ อากฑฺฒิตฺวา คูถกูเป ปาเตสิ. ปุกฺกุสํ เสนโก ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ ปุกฺกุโส’’ติ. ‘‘ตฺวํ โก นาม มนุสฺโส’’ติ? ‘‘อหํ เสนโก’’ติ อฺมฺํ ปุจฺฉิตฺวา อฏฺํสุ. ตถา อิตเร ทฺเวปิ ตตฺเถว ปาเตสิ. สพฺเพปิ เต เชคุจฺเฉ คูถกูเป อฏฺํสุ. สา วิภาตาย รตฺติยา ตโต อุกฺขิปาเปตฺวา, จตฺตาโรปิ ชเน ขุรมุณฺเฑ การาเปตฺวา ตณฺฑุลานิ คาหาเปตฺวา อุทเกน เตเมตฺวา โกฏฺฏาเปตฺวา จุณฺณํ พหลยาคุํ ปจาเปตฺวา มทฺทิตฺวา สีสโต ปฏฺาย สกลสรีรํ วิลิมฺปาเปตฺวา ตูลปิจูนิ คาหาเปตฺวา ตเถว สีสโต ปฏฺาย โอกิราเปตฺวา มหาทุกฺขํ ปาเปตฺวา กิลฺชกุจฺฉิยํ นิปชฺชาเปตฺวา เวเตฺวา รฺโ อาโรเจตุกามา หุตฺวา เตหิ สทฺธึ จตฺตาริ รตนานิ คาหาเปตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา – ‘‘เทว, เสตวานรํ นาม มหาปณฺณาการํ ปฏิคฺคณฺหถา’’ติ วตฺวา จตฺตาริ กิลฺชานิ รฺโ ปาทมูเล ปาเปสิ. อถ ราชา วิวราเปตฺวา เสตมกฺกฏสทิเส จตฺตาโรปิ ชเน ปสฺสิ. อถ สพฺเพ มนุสฺสา ‘‘อโห อทิฏฺปุพฺพา, อโห มหาเสตวานรา’’ติ วตฺวา มหาหสิตํ หสึสุ. เต จตฺตาโรปิ มหาลชฺชา อเหสุํ.

อถ อมราเทวี อตฺตโน สามิโน นิทฺโทสภาวํ กเถนฺตี ราชานํ อาห – ‘‘เทว, มโหสธปณฺฑิโต น โจโร, อิเม จตฺตาโรว โจรา. เอเตสุ หิ เสนโก มณิโจโร, ปุกฺกุโส สุวณฺณมาลาโจโร, กามินฺโท กมฺพลโจโร, เทวินฺโท สุวณฺณปาทุกาโจโร. อิเม โจรา อสุกมาเส อสุกทิวเส อสุกทาสิธีตานํ อสุกทาสีนํ หตฺเถ อิมานิ รตนานิ ปหิณนฺติ. อิมํ ปณฺณํ ปสฺสถ, อตฺตโน สนฺตกฺจ คณฺหถ, โจเร จ, เทว, ปฏิจฺฉถา’’ติ. สา จตฺตาโรปิ ชเน มหาวิปฺปการํ ปาเปตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน เคหเมว คตา. ราชา โพธิสตฺตสฺส ปลาตภาเวน ตสฺมึ อาสงฺกาย จ อฺเสํ ปณฺฑิตปติมนฺตีนํ อภาเวน จ เตสํ กิฺจิ อวตฺวา ‘‘ปณฺฑิตา นฺหาเปตฺวา อตฺตโน เคหานิ คจฺฉถา’’ติ เปเสสิ. จตฺตาโร ชนา มหาวิปฺปการํ ปตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน เคหเมว คตา.

สพฺพรตนเถนา นิฏฺิตา.

ขชฺโชปนกปฺโห

อถสฺส ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา โพธิสตฺตสฺส ธมฺมเทสนํ อสฺสุณนฺตี ‘‘กึ นุ โข การณ’’นฺติ อาวชฺชมานา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘ปณฺฑิตสฺส อานยนการณํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา รตฺติภาเค ฉตฺตปิณฺฑิกํ วิวริตฺวา ราชานํ จตุกฺกนิปาเต เทวตาย ปุจฺฉิตปฺเห อาคเต ‘‘หนฺติ หตฺเถหิ ปาเทหี’’ติอาทิเก จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉิ. ราชา อชานนฺโต ‘‘อหํ น ชานามิ, อฺเ ปณฺฑิเต ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ เอกทิวสํ โอกาสํ ยาจิตฺวา ปุนทิวเส ‘‘อาคจฺฉนฺตู’’ติ จตุนฺนํ ปณฺฑิตานํ สาสนํ เปเสสิ. เตหิ ‘‘มยํ ขุรมุณฺฑา วีถึ โอตรนฺตา ลชฺชามา’’ติ วุตฺเต ราชา จตฺตาโร นาฬิปฏฺเฏ เปเสสิ ‘‘อิเม สีเสสุ กตฺวา อาคจฺฉนฺตู’’ติ. ตทา กิร เต นาฬิปฏฺฏา อุปฺปนฺนา. เต อาคนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทึสุ. อถ ราชา ‘‘เสนก, อชฺช รตฺติภาเค ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา มํ จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉิ, อหํ ปน อชานนฺโต ‘ปณฺฑิเต ปุจฺฉิสฺสามี’ติ อวจํ, กเถหิ เม เต ปฺเห’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘หนฺติ หตฺเถหิ ปาเทหิ, มุขฺจ ปริสุมฺภติ;

ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๗);

เสนโก อชานนฺโต ‘‘กึ หนฺติ, กถํ หนฺตี’’ติ ตํ ตํ วิลปิตฺวา เนว อนฺตํ ปสฺสิ, น โกฏึ ปสฺสิ. เสสาปิ อปฺปฏิภานา อเหสุํ. อถ ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ปุน รตฺติภาเค เทวตาย ‘‘ปฺโห เต าโต’’ติ ปุฏฺโ ‘‘มยา จตฺตาโร ปณฺฑิตา ปุฏฺา, เตปิ น ชานึสู’’ติ อาห. เทวตา ‘‘กึ เต ชานิสฺสนฺติ, เปตฺวา มโหสธปณฺฑิตํ อฺโ โกจิ เอเต ปฺเห กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. สเจ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา เอเต ปฺเห น กถาเปสฺสสิ, อิมินา เต ชลิเตน อยกูเฏน สีสํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ราชานํ ตชฺเชตฺวา ‘‘มหาราช, อคฺคินา อตฺเถ สติ ขชฺโชปนกํ ธมิตุํ น วฏฺฏติ, ขีเรน อตฺเถ สติ วิสาณํ ทุหิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา อิมํ ปฺจกนิปาเต ขชฺโชปนกปฺหํ อุทาหริ –

‘‘โก นุ สนฺตมฺหิ ปชฺโชเต, อคฺคิปริเยสนํ จรํ;

อทฺทกฺขิ รตฺติ ขชฺโชตํ, ชาตเวทํ อมฺถ.

‘‘สฺวสฺส โคมยจุณฺณานิ, อภิมตฺถํ ติณานิ จ;

วิปรีตาย สฺาย, นาสกฺขิ ปชฺชเลตเว.

‘‘เอวมฺปิ อนุปาเยน, อตฺถํ น ลภเต มิโค;

วิสาณโต ควํ โทหํ, ยตฺถ ขีรํ น วินฺทติ.

‘‘วิวิเธหิ อุปาเยหิ, อตฺถํ ปปฺโปนฺติ มาณวา;

นิคฺคเหน อมิตฺตานํ, มิตฺตานํ ปคฺคเหน จ.

‘‘เสนาโมกฺขปลาเภน, วลฺลภานํ นเยน จ;

ชคตึ ชคติปาลา, อาวสนฺติ วสุนฺธร’’นฺติ. (ชา. ๑.๕.๗๕-๗๙);

ตตฺถ สนฺตมฺหิ ปชฺโชเตติ อคฺคิมฺหิ สนฺเต. จรนฺติ จรนฺโต. อทฺทกฺขีติ ปสฺสิ, ทิสฺวา จ ปน วณฺณสามฺตาย ขชฺโชปนกํ ‘‘ชาตเวโท อยํ ภวิสฺสตี’’ติ อมฺิตฺถ. สฺวสฺสาติ โส อสฺส ขชฺโชปนกสฺส อุปริ สุขุมานิ โคมยจุณฺณานิ เจว ติณานิ จ. อภิมตฺถนฺติ หตฺเถหิ ฆํสิตฺวา อากิรนฺโต ชณฺณุเกหิ ภูมิยํ ปติฏฺาย มุเขน ธมนฺโต ชาเลสฺสามิ นนฺติ วิปรีตาย สฺาย วายมนฺโตปิ ชาเลตุํ นาสกฺขิ. มิโคติ มิคสทิโส อนฺธพาโล เอวํ อนุปาเยน ปริเยสนฺโต อตฺถํ น ลภติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ วิสาเณ ขีรเมว นตฺถิ, ตโต คาวึ ทุหนฺโต วิย จ อตฺถํ น วินฺทติ. เสนาโมกฺขปลาเภนาติ เสนาโมกฺขานํ อมจฺจานํ ลาเภน. วลฺลภานนฺติ ปิยมนาปานํ วิสฺสาสิกานํ อมจฺจานํ นเยน จ. วสุนฺธรนฺติ วสุสงฺขาตานํ รตนานํ ธารณโต วสุนฺธรนฺติ ลทฺธนามํ ชคตึ ชคติปาลา ราชาโน อาวสนฺติ.

น เต ตยา สทิสา หุตฺวา อคฺคิมฺหิ วิชฺชมาเนเยว ขชฺโชปนกํ ธมนฺติ. มหาราช, ตฺวํ ปน อคฺคิมฺหิ สติ ขชฺโชปนกํ ธมนฺโต วิย, ตุลํ ฉฑฺเฑตฺวา หตฺเถน ตุลยนฺโต วิย, ขีเรน อตฺเถ ชาเต วิสาณโต ทุหนฺโต วิย จ, เสนกาทโย ปุจฺฉสิ, เอเต กึ ชานนฺติ. ขชฺโชปนกสทิสา เหเต. อคฺคิกฺขนฺธสทิโส มโหสโธ ปฺาย ชลติ, ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉ. อิเม เต ปฺเห อชานนฺตสฺส ชีวิตํ นตฺถีติ ราชานํ ตชฺเชตฺวา อนฺตรธายิ.

ขชฺโชปนกปฺโห นิฏฺิโต.

ภูริปฺโห

อถ ราชา มรณภยตชฺชิโต ปุนทิวเส จตฺตาโร อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา, ตุมฺเห จตฺตาโร จตูสุ รเถสุ ตฺวา จตูหิ นครทฺวาเรหิ นิกฺขมิตฺวา ยตฺถ มม ปุตฺตํ มโหสธปณฺฑิตํ ปสฺสถ, ตตฺเถวสฺส สกฺการํ กตฺวา ขิปฺปํ อาเนถา’’ติ อาณาเปสิ. เตปิ จตฺตาโร เอเกเกน ทฺวาเรน นิกฺขมึสุ. เตสุ ตโย ชนา ปณฺฑิตํ น ปสฺสึสุ. ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขนฺโต ปน ทกฺขิณยวมชฺฌกคาเม มหาสตฺตํ มตฺติกํ อาหริตฺวา อาจริยสฺส จกฺกํ วฏฺเฏตฺวา มตฺติกามกฺขิตสรีรํ ปลาลปิฏฺเก นิสีทิตฺวา มุฏฺึ มุฏฺึ กตฺวา อปฺปสูปํ ยวภตฺตํ ภุฺชมานํ ปสฺสิ. กสฺมา ปเนส เอตํ กมฺมํ อกาสีติ? ราชา กิร ‘‘นิสฺสํสยํ ปณฺฑิโต รชฺชํ คณฺหิสฺสตี’’ติ อาสงฺกติ. ‘‘โส ‘กุมฺภการกมฺเมน ชีวตี’ติ สุตฺวา นิราสงฺโก ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมกาสีติ. โส อมจฺจํ ทิสฺวา อตฺตโน สนฺติกํ อาคตภาวํ ตฺวา ‘‘อชฺช มยฺหํ ยโส ปุน ปากติโก ภวิสฺสติ, อมราเทวิยา สมฺปาทิตํ นานคฺครสโภชนเมว ภุฺชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คหิตํ ยวภตฺตปิณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา อุฏฺาย มุขํ วิกฺขาเลตฺวา นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ โส อมจฺโจ ตํ อุปสงฺกมิ. โส ปน เสนกปกฺขิโก, ตสฺมา นํ ฆเฏนฺโต ‘‘ปณฺฑิต, อาจริยเสนกสฺส วจนํ นิยฺยานิกํ, ตว นาม ยเส ปริหีเน ตถารูปา ปฺา ปติฏฺา โหตุํ นาสกฺขิ, อิทานิ มตฺติกามกฺขิโต ปลาลปิฏฺเ นิสีทิตฺวา เอวรูปํ ภตฺตํ ภุฺชสี’’ติ วตฺวา ทสกนิปาเต ภูริปฺเห ปมํ คาถมาห –

‘‘สจฺจํ กิร, ตฺวํ อปิ ภูริปฺ, ยา ตาทิสี สิรี ธิตี มตี จ;

น ตายเตภาววสูปนิตํ, โย ยวกํ ภุฺชสิ อปฺปสูป’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๕);

ตตฺถ สจฺจํ กิราติ ยํ อาจริยเสนโก อาห, ตํ กิร สจฺจเมว. สิรีติ อิสฺสริยํ. ธิตีติ อพฺโภจฺฉินฺนวีริยํ. น ตายเตภาววสูปนิตนฺติ อภาวสฺส อวุฑฺฒิยา วสํ อุปนีตํ ตํ น รกฺขติ น โคเปติ, ปติฏฺา โหตุํ น สกฺโกติ. ยวกนฺติ ยวภตฺตํ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘อนฺธพาล, อหํ อตฺตโน ปฺาพเลน ปุน ตํ ยสํ ปากติกํ กาตุกาโม เอวํ กโรมี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถาทฺวยมาห –

‘‘สุขํ ทุกฺเขน ปริปาจยนฺโต, กาลากาลํ วิจินํ ฉนฺทฉนฺโน;

อตฺถสฺส ทฺวารานิ อวาปุรนฺโต, เตนาหํ ตุสฺสามิ ยโวทเนน.

‘‘กาลฺจ ตฺวา อภิชีหนาย, มนฺเตหิ อตฺถํ ปริปาจยิตฺวา;

วิชมฺภิสฺสํ สีหวิชมฺภิตานิ, ตายิทฺธิยา ทกฺขสิ มํ ปุนาปี’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๖-๑๔๗);

ตตฺถ ทุกฺเขนาติ อิมินา กายิกเจตสิกทุกฺเขน อตฺตโน โปราณกสุขํ ปฏิปากติกกรเณน ปริปาจยนฺโตวฑฺเฒนฺโต. กาลากาลนฺติ อยํ ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา จรณกาโล, อยํ อปฺปฏิจฺฉนฺโนติ เอวํ กาลฺจ อกาลฺจ วิจินนฺโต รฺโ กุทฺธกาเล ฉนฺเนน จริตพฺพนฺติ ตฺวา ฉนฺเทน อตฺตโน รุจิยา ฉนฺโน ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา กุมฺภการกมฺเมน ชีวนฺโต อตฺตโน อตฺถสฺส การณสงฺขาตานิ ทฺวารานิ อวาปุรนฺโต วิหรามิ, เตน การเณนาหํ ยโวทเนน ตุสฺสามีติ อตฺโถ. อภิชีหนายาติ วีริยกรณสฺส. มนฺเตหิ อตฺถํ ปริปาจยิตฺวาติ อตฺตโน าณพเลน มม ยสํ วฑฺเฒตฺวา มโนสิลาตเล วิชมฺภมาโน สีโห วิย วิชมฺภิสฺสํ, ตาย อิทฺธิยา มํ ปุนปิ ตฺวํ ปสฺสิสฺสสีติ.

อถ นํ อมจฺโจ อาห – ‘‘ปณฺฑิต, ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา ราชานํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. ราชา จตฺตาโร ปณฺฑิเต ปุจฺฉิ. เตสุ เอโกปิ ตํ ปฺหํ กเถตุํ นาสกฺขิ, ตสฺมา ราชา ตว สนฺติกํ มํ ปหิณี’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต ปฺาย อานุภาวํ กสฺมา น ปสฺสสิ, เอวรูเป หิ กาเล น อิสฺสริยํ ปติฏฺา โหติ, ปฺาสมฺปนฺโนว ปติฏฺา โหตี’’ติ มหาสตฺโต ปฺาย อานุภาวํ วณฺเณสิ. อมจฺโจ รฺา ‘‘ปณฺฑิตํ ทิฏฺฏฺาเนเยว สกฺการํ กตฺวา อาเนถา’’ติ ทินฺนํ กหาปณสหสฺสํ มหาสตฺตสฺส หตฺเถ เปสิ. กุมฺภกาโร ‘‘มโหสธปณฺฑิโต กิร มยา เปสการกมฺมํ การิโต’’ติ ภยํ อาปชฺชิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มา ภายิ, อาจริย, พหูปกาโร ตฺวํ อมฺหาก’’นฺติ อสฺสาเสตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา มตฺติกามกฺขิเตเนว สรีเรน รเถ นิสีทิตฺวา นครํ ปาวิสิ. อมจฺโจ รฺโ อาโรเจตฺวา ‘‘ตาต, กุหึ ปณฺฑิโต ทิฏฺโ’’ติ วุตฺเต ‘‘เทว, ทกฺขิณยวมชฺฌกคาเม กุมฺภการกมฺมํ กตฺวา ชีวติ, ตุมฺเห ปกฺโกสถาติ สุตฺวาว อนฺหายิตฺวา มตฺติกามกฺขิเตเนว สรีเรน อาคโต’’ติ อาห. ราชา ‘‘สเจ มยฺหํ ปจฺจตฺถิโก อสฺส, อิสฺสริยวิธินา จเรยฺย, นายํ มม ปจฺจตฺถิโก’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มม ปุตฺตสฺส ‘อตฺตโน ฆรํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา มยา ทินฺนวิธาเนน อาคจฺฉตู’ติ วเทยฺยาถา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต ตถา กตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ราชา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปณฺฑิตํ วีมํสนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘สุขีปิ เหเก น กโรนฺติ ปาปํ, อวณฺณสํสคฺคภยา ปุเนเก;

ปหู สมาโน วิปุลตฺถจินฺตี, กึ การณา เม น กโรสิ ทุกฺข’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๘);

ตตฺถ สุขีติ ปณฺฑิต, เอกจฺเจ ‘‘มยํ สุขิโน สมฺปนฺนอิสฺสริยา, อลํ โน เอตฺตเกนา’’ติ อุตฺตริ อิสฺสริยการณา ปาปํ น กโรนฺติ, เอกจฺเจ ‘‘เอวรูปสฺส โน ยสทายกสฺส สามิกสฺส อปรชฺฌนฺตานํ อวณฺโณ ภวิสฺสตี’’ติ อวณฺณสํสคฺคภยา น กโรนฺติ. เอโก น สมตฺโถ โหติ, เอโก มนฺทปฺโ, ตฺวํ ปน สมตฺโถ จ วิปุลตฺถจินฺตี จ, อิจฺฉนฺโต ปน สกลชมฺพุทีเป รชฺชมฺปิ กาเรยฺยาสิ. กึ การณา มม รชฺชํ คเหตฺวา ทุกฺขํ น กโรสีติ.

อถ นํ โพธิสตฺโต อาห –

‘‘น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ, ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ;

ทุกฺเขน ผุฏฺา ขลิตาปิ สนฺตา, ฉนฺทา จ โทสา น ชหนฺติ ธมฺม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๔๙);

ตตฺถ ขลิตาปีติ สมฺปตฺติโต ขลิตฺวา วิปตฺติยํ ิตสภาวา หุตฺวาปิ. น ชหนฺติ ธมฺมนฺติ ปเวณิยธมฺมมฺปิ สุจริตธมฺมมฺปิ น ชหนฺติ.

ปุน ราชา ตสฺส วีมํสนตฺถํ ขตฺติยมายํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘เยน เกนจิ วณฺเณน, มุทุนา ทารุเณน วา;

อุทฺธเร ทีนมตฺตานํ, ปจฺฉา ธมฺมํ สมาจเร’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๐);

ตตฺถ ทีนนฺติ ทุคฺคตํ อตฺตานํ อุทฺธริตฺวา สมฺปตฺติยํ เปยฺยาติ.

อถสฺส มหาสตฺโต รุกฺขูปมํ ทสฺเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๑);

เอวฺจ ปน วตฺวา – ‘‘มหาราช, ยทิ ปริภุตฺตรุกฺขสฺส สาขํ ภฺชนฺโตปิ มิตฺตทุพฺภี โหติ, เยหิ ตุมฺเหหิ มม ปิตา อุฬาเร อิสฺสริเย ปติฏฺาปิโต, อหฺจ มหนฺเตน อนุคฺคเหน อนุคฺคหิโต, เตสุ ตุมฺเหสุ อปรชฺฌนฺโต อหํ กถํ นาม มิตฺตทุพฺโภ น ภเวยฺย’’นฺติ สพฺพถาปิ อตฺตโน อมิตฺตทุพฺภิภาวํ กเถตฺวา รฺโ จิตฺตาจารํ โจเทนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘ยสฺสาปิ ธมฺมํ ปุริโส วิชฺา, เย จสฺส กงฺขํ วินยนฺติ สนฺโต;

ตํ หิสฺส ทีปฺจ ปรายณฺจ, น เตน เมตฺตึ ชรเยถ ปฺโ’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๒);

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ยสฺส อาจริยสฺส สนฺติกา โย ปุริโส อปฺปมตฺตกมฺปิ ธมฺมํ การณํ ชาเนยฺย, เย จสฺส สนฺโต อุปฺปนฺนํ กงฺขํ วินยนฺติ, ตํ ตสฺส ปติฏฺานฏฺเน ทีปฺเจว ปรายณฺจ, ตาทิเสน อาจริเยน สทฺธึ ปณฺฑิโต มิตฺตภาวํ นาม น ชีเรยฺย น นาเสยฺย.

อิทานิ ตํ โอวทนฺโต อิมํ คาถาทฺวยมาห –

‘‘อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ, อสฺโต ปพฺพชิโต น สาธุ;

ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี, โย ปณฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ.

‘‘นิสมฺม ขตฺติโย กยิรา, นานิสมฺม ทิสมฺปติ;

นิสมฺมการิโน ราช, ยโส กิตฺติ จ วฑฺฒตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๑๕๓-๑๕๔);

ตตฺถ น สาธูติ น สุนฺทโร. อนิสมฺมการีติ กิฺจิ สุตฺวา อนุปธาเรตฺวา อตฺตโน ปจฺจกฺขํ อกตฺวา การโก. ยโส กิตฺติ จาติ อิสฺสริยปริวาโร จ คุณกิตฺติ จ เอกนฺเตน วฑฺฒตีติ.

ภูริปฺโห นิฏฺิโต.

เทวตาปฺโห

เอวํ วุตฺเต ราชา มหาสตฺตํ สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา สยํ นีจาสเน นิสีทิตฺวา อาห – ‘‘ปณฺฑิต, เสตจฺฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา มํ จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉิ, เต อหํ น ชานามิ. จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา น ชานึสุ, กเถหิ เม, ตาต, เต ปฺเห’’ติ. มหาราช, ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา วา โหตุ, จาตุมหาราชิกาทโย วา โหนฺตุ, เยน เกนจิ ปุจฺฉิตปฺหํ อหํ กเถตุํ สกฺโกมิ. วท, มหาราช, เทวตาย ปุจฺฉิตปฺเหติ. อถ ราชา เทวตาย ปุจฺฉิตนิยาเมเนว กเถนฺโต ปมํ คาถมาห –

‘‘หนฺติ หตฺเถหิ ปาเทหิ, มุขฺจ ปริสุมฺภติ;

ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๗);

ตตฺถ หนฺตีติ ปหรติ. ปริสุมฺภตีติ ปหรติเยว. ส เวติ โส เอวํ กโรนฺโต ปิโย โหติ. กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสีติ เตน ปหรณการเณน ปิยํ กตมํ ปุคฺคลํ ตฺวํ, ราช, อภิปสฺสสีติ.

มหาสตฺตสฺส ตํ กถํ สุตฺวาว คคนตเล ปุณฺณจนฺโท วิย อตฺโถ ปากโฏ อโหสิ. อถ มหาสตฺโต ‘‘สุณ, มหาราช, ยทา หิ มาตุองฺเก นิปนฺโน ทหรกุมาโร หฏฺตุฏฺโ กีฬนฺโต มาตรํ หตฺถปาเทหิ ปหรติ, เกเส ลุฺจติ, มุฏฺินา มุขํ ปหรติ, ตทา นํ มาตา ‘โจรปุตฺตก, กถํ ตฺวํ โน เอวํ ปหรสี’ติอาทีนิ เปมสิเนหวเสเนว วตฺวา เปมํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี อาลิงฺคิตฺวา ถนนฺตเร นิปชฺชาเปตฺวา มุขํ ปริจุมฺพติ. อิติ โส ตสฺสา เอวรูเป กาเล ปิยตโร โหติ, ตถา ปิตุโนปี’’ติ เอวํ คคนมชฺเฌ สูริยํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา ปฺหํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา เทวตา ฉตฺตปิณฺฑิกํ วิวริตฺวา นิกฺขมิตฺวา อุปฑฺฒํ สรีรํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สุกถิโต ปณฺฑิเตน ปฺโห’’ติ มธุรสฺสเรน สาธุการํ ทตฺวา รตนจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา ทิพฺพปุปฺผคนฺธวาเสหิ โพธิสตฺตํ ปูเชตฺวา อนฺตรธายิ. ราชาปิ ปณฺฑิตํ ปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา อิตรํ ปฺหํ ยาจิตฺวา ‘‘วท, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ทุติยํ คาถมาห –

‘‘อกฺโกสติ ยถากามํ, อาคมฺจสฺส อิจฺฉติ;

ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๘);

อถสฺส มหาสตฺโต – ‘‘มหาราช, มาตา วจนเปสนํ กาตุํ สมตฺถํ สตฺตฏฺวสฺสิกํ ปุตฺตํ ‘ตาต, เขตฺตํ คจฺฉ, อนฺตราปณํ คจฺฉา’ติอาทีนิ วตฺวา ‘อมฺม, สเจ อิทฺจิทฺจ ขาทนียํ โภชนียํ ทสฺสสิ, คมิสฺสามี’ติ วุตฺเต ‘สาธุ, ปุตฺต, คณฺหาหี’ติ วตฺวา เทติ. โส ทารโก ตํ ขาทิตฺวา พหิ คนฺตฺวา ทารเกหิ สทฺธึ กีฬิตฺวา มาตุเปสนํ น คจฺฉติ. มาตรา ‘‘ตาต, คจฺฉาหี’ติ วุตฺเต โส มาตรํ ‘อมฺม, ตฺวํ สีตาย ฆรจฺฉายาย นิสีทสิ, กึ ปน อหํ ตว พหิ เปสนกมฺมํ กริสฺสามิ, อหํ ตํ วฺเจมี’ติ วตฺวา หตฺถวิการมุขวิกาเร กตฺวา คโต. สา คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา กุชฺฌิตฺวา ทณฺฑกํ คเหตฺวา ‘ตฺวํ มม สนฺตกํ ขาทิตฺวา เขตฺเต กิจฺจํ กาตุํ น อิจฺฉสี’ติ ตชฺเชนฺตี เวเคน ปลายนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตี ‘โจรา ตํ ขณฺฑาขณฺฑํ ฉินฺทนฺตู’ติอาทีนิ วตฺวา ยถากามํ อกฺโกสติ ปริภาสติ. ยํ ปน มุเขน ภณติ, ตถา หทเย อปฺปมตฺตกมฺปิ น อิจฺฉติ, อาคมนฺจสฺส อิจฺฉติ, โส ทิวสภาคํ กีฬิตฺวา สายํ เคหํ ปวิสิตุํ อวิสหนฺโต าตกานํ สนฺติกํ คจฺฉติ. มาตาปิสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี อนาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘ปวิสิตุํ น วิสหติ มฺเ’ติ โสกสฺส หทยํ ปูเรตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ าติฆเร อุปธาเรนฺตี ปุตฺตํ ทิสฺวา อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ คเหตฺวา ‘ตาต ปิยปุตฺตก, มม วจนํ หทเย เปสี’ติ อติเรกตรํ เปมํ อุปฺปาเทสิ. เอวํ, มหาราช, มาตุยา กุทฺธกาเล ปุตฺโต ปิยตโร นาม โหตี’’ติ ทุติยํ ปฺหํ กเถสิ. เทวตา ตเถว ปูเชสิ.

ราชาปิ ปูเชตฺวา ตติยํ ปฺหํ ยาจิตฺวา ‘‘วท, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ตติยํ คาถมาห –

‘‘อพฺภกฺขาติ อภูเตน, อลิเกนาภิสารเย;

ส เว ราช ปิโย โหติ, กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๙๙);

อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘ราช, ยทา อุโภ ชยมฺปติกา รโหคตา โลกสฺสาทรติยา กีฬนฺตา ‘ภทฺเท, ตว มยิ เปมํ นตฺถิ, หทยํ เต พหิ คต’นฺติ เอวํ อฺมฺํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, อลิเกน สาเรนฺติ โจเทนฺติ, ตทา เต อติเรกตรํ อฺมฺํ ปิยายนฺติ. เอวมสฺส ปฺหสฺส อตฺถํ ชานาหี’’ติ กเถสิ. เทวตา ตเถว ปูเชสิ.

ราชาปิ ปูเชตฺวา อิตรํ ปฺหํ ยาจิตฺวา ‘‘วท, มหาราชา’’ติ วุตฺเต จตุตฺถํ คาถมาห –

‘‘หรํ อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

อฺทตฺถุหรา สนฺตา, เต เว ราช ปิยา โหนฺติ;

กํ เตน ตฺวาภิปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๒๐๐);

อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, อยํ ปฺโห ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ สนฺธาย วุตฺโต. สทฺธานิ หิ กุลานิ อิธโลกปรโลกํ สทฺทหิตฺวา เทนฺติ เจว ทาตุกามานิ จ โหนฺติ, ตานิ ตถารูเป สมณพฺราหฺมเณ ยาจนฺเตปิ ลทฺธํ หรนฺเต ภุฺชนฺเตปิ ทิสฺวา ‘อมฺเหเยว ยาจนฺติ, อมฺหากํเยว สนฺตกานิ อนฺนปานาทีนิ ปริภุฺชนฺตี’ติ เตสุ อติเรกตรํ เปมํ กโรนฺติ. เอวํ โข, มหาราช, อฺทตฺถุหรา สนฺตา เอกํเสน ยาจนฺตา เจว ลทฺธํ หรนฺตา จ สมานา ปิยา โหนฺตี’’ติ กเถสิ. อิมสฺมึ ปน ปฺเห กถิเต เทวตา ตเถว ปูเชตฺวา สาธุการํ ทตฺวา สตฺตรตนปูรํ รตนจงฺโกฏกํ ‘‘คณฺห, มหาปณฺฑิตา’’ติ มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล ขิปิ. ราชาปิสฺส อติเรกตรํ ปูชํ กโรนฺโต อติวิย ปสีทิตฺวา เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. ตโต ปฏฺาย มหาสตฺตสฺส ยโส มหา อโหสิ.

เทวตาปฺโห นิฏฺิโต.

ปฺจปณฺฑิตปฺโห

ปุน เต จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘‘อมฺโภ, คหปติปุตฺโต อิทานิ มหนฺตตโร ชาโต, กึ กโรมา’’ติ มนฺตยึสุ. อถ เน เสนโก อาห – ‘‘โหตุ ทิฏฺโ เม อุปาโย, มยํ คหปติปุตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘รหสฺสํ นาม กสฺส กเถตุํ วฏฺฏตี’ติ ปุจฺฉิสฺสาม, โส ‘น กสฺสจิ กเถตพฺพ’นฺติ วกฺขติ. อถ นํ ‘คหปติปุตฺโต เต, เทว, ปจฺจตฺถิโก ชาโต’ติ ปริภินฺทิสฺสามา’’ติ. เต จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา ตสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, ปฺหํ ปุจฺฉิตุกามมฺหา’’ติ วตฺวา ‘‘ปุจฺฉถา’’ติ วุตฺเต เสนโก ปุจฺฉิ ‘‘ปณฺฑิต, ปุริเสน นาม กตฺถ ปติฏฺาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘สจฺเจ ปติฏฺาตพฺพ’’นฺติ. ‘‘สจฺเจ ปติฏฺิเตน กึ อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ธนํ อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ. ‘‘ธนํ อุปฺปาเทตฺวา กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘มนฺโต คเหตพฺโพ’’ติ. ‘‘มนฺตํ คเหตฺวา กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อตฺตโน รหสฺสํ ปรสฺส น กเถตพฺพ’’นฺติ. เต ‘‘สาธุ ปณฺฑิตา’’ติ วตฺวา ตุฏฺมานสา หุตฺวา ‘‘อิทานิ คหปติปุตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, คหปติปุตฺโต เต ปจฺจตฺถิโก ชาโต’’ติ วทึสุ. ‘‘นาหํ ตุมฺหากํ วจนํ สทฺทหามิ, น โส มยฺหํ ปจฺจตฺถิโก ภวิสฺสตี’’ติ. สจฺจํ, มหาราช, สทฺทหถ, อสทฺทหนฺโต ปน ตเมว ปุจฺฉถ ‘‘ปณฺฑิต, อตฺตโน รหสฺสํ นาม กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? สเจ ปจฺจตฺถิโก น ภวิสฺสติ, ‘‘อสุกสฺส นาม กเถตพฺพ’’นฺติ วกฺขติ. สเจ ปจฺจตฺถิโก ภวิสฺสติ, ‘‘กสฺสจิ น กเถตพฺพํ, มโนรเถ ปริปุณฺเณ กเถตพฺพ’’นฺติ วกฺขติ. ตทา อมฺหากํ วจนํ สทฺทหิตฺวา นิกฺกงฺขา ภเวยฺยาถาติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกทิวสํ สพฺเพสุ สมาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ วีสตินิปาเต ปฺจปณฺฑิตปฺเห ปมํ คาถมาห –

‘‘ปฺจ ปณฺฑิตา สมาคตาตฺถ, ปฺหา เม ปฏิภาติ ตํ สุณาถ;

นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, กสฺเสวาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๕);

เอวํ วุตฺเต เสนโก ‘‘ราชานมฺปิ อมฺหากํเยว อพฺภนฺตเร ปกฺขิปิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ตฺวํ อาวิกโรหิ ภูมิปาล, ภตฺตา ภารสโห ตุวํ วเทตํ;

ตว ฉนฺทรุจีนิ สมฺมสิตฺวา, อถ วกฺขนฺติ ชนินฺท ปฺจ ธีรา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๖);

ตตฺถ ภตฺตาติ ตฺวํ อมฺหากํ สามิโก เจว อุปฺปนฺนสฺส จ ภารสฺส สโห, ปมํ ตาว ตฺวเมว เอตํ วเทหิ. ตว ฉนฺทรุจีนีติ ปจฺฉา ตว ฉนฺทฺเจว รุจฺจนการณานิ จ สมฺมสิตฺวา อิเม ปฺจ ปณฺฑิตา วกฺขนฺติ.

อถ ราชา อตฺตโน กิเลสวสิกตาย อิมํ คาถมาห –

‘‘ยา สีลวตี อนฺเถยฺยา, ภตฺตุจฺฉนฺทวสานุคา ปิยา มนาปา;

นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, ภริยายาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๗);

ตตฺถ อนฺเถยฺยาติ กิเลสวเสน อฺเน น เถนิตพฺพา.

ตโต เสนโก ‘‘อิทานิ ราชานํ อมฺหากํ อพฺภนฺตเร ปกฺขิปิมฺหา’’ติ ตุสฺสิตฺวา สยํกตการณเมว ทีเปนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘โย กิจฺฉคตสฺส อาตุรสฺส, สรณํ โหติ คตี ปรายณฺจ;

นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, สขิโนวาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๘);

อถ ราชา ปุกฺกุสํ ปุจฺฉิ ‘‘กถํ, ปุกฺกุส, ปสฺสสิ, นินฺทิยํ วา ปสํสิยํ วา รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? โส กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘เชฏฺโ อถ มชฺฌิโม กนิฏฺโ, โย เจ สีลสมาหิโต ิตตฺโต;

นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, ภาตุวาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๑๙);

ตตฺถ ิตตฺโตติ ิตสภาโว นิพฺพิเสวโน.

ตโต ราชา กามินฺทํ ปุจฺฉิ ‘‘กถํ กามินฺท ปสฺสสิ, รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? โส กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘โย เว ปิตุหทยสฺส ปทฺธคู, อนุชาโต ปิตรํ อโนมปฺโ;

นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, ปุตฺตสฺสาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๐);

ตตฺถ ปทฺธคูติ เปสนการโก โย ปิตุสฺส เปสนํ กโรติ, ปิตุ จิตฺตสฺส วเส วตฺตติ, โอวาทกฺขโม โหตีติ อตฺโถ. อนุชาโตติ ตโย ปุตฺตา อติชาโต จ อนุชาโต จ อวชาโต จาติ. อนุปฺปนฺนํ ยสํ อุปฺปาเทนฺโต อติชาโต, กุลภาโร อวชาโต, กุลปเวณิรกฺขโก ปน อนุชาโต. ตํ สนฺธาย เอวมาห.

ตโต ราชา เทวินฺทํ ปุจฺฉิ – ‘‘กถํ เทวินฺท, ปสฺสสิ, รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ? โส อตฺตโน กตการณเมว กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘มาตา ทฺวิปทาชนินฺทเสฏฺ, ยา นํ โปเสติ ฉนฺทสา ปิเยน;

นินฺทิยมตฺถํ ปสํสิยํ วา, มาตุยาวิกเรยฺย คุยฺหมตฺถ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๑);

ตตฺถ ทฺวิปทาชนินฺทเสฏฺาติ ทฺวิปทานํ เสฏฺ, ชนินฺท. ฉนฺทสา ปิเยนาติ ฉนฺเทน เจว เปเมน จ.

เอวํ เต ปุจฺฉิตฺวา ราชา ปณฺฑิตํ ปุจฺฉิ ‘‘กถํ ปสฺสสิ, ปณฺฑิต, รหสฺสํ กสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ. ‘‘มหาราช, ยาว อตฺตโน อิจฺฉิตํ น นิปฺผชฺชติ, ตาว ปณฺฑิโต อธิวาเสยฺย, กสฺสจิ น กเถยฺยา’’ติ โส อิมํ คาถมาห –

‘‘คุยฺหสฺส หิ คุยฺหเมว สาธุ, น หิ คุยฺหสฺส ปสตฺถมาวิกมฺมํ;

อนิปฺผนฺนตา สเหยฺย ธีโร, นิปฺผนฺโนว ยถาสุขํ ภเณยฺยา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๒);

ตตฺถ อนิปฺผนฺนตาติ มหาราช, ยาว อตฺตโน อิจฺฉิตํ น นิปฺผชฺชติ, ตาว ปณฺฑิโต อธิวาเสยฺย, น กสฺสจิ กเถยฺยาติ.

ปณฺฑิเตน ปน เอวํ วุตฺเต ราชา อนตฺตมโน อโหสิ. เสนโก ราชานํ โอโลเกสิ, ราชาปิ เสนกมุขํ โอโลเกสิ. โพธิสตฺโต เตสํ กิริยํ ทิสฺวาว ชานิ ‘‘อิเม จตฺตาโร ชนา ปมเมว มํ รฺโ อนฺตเร ปริภินฺทึสุ, วีมํสนวเสน ปฺโห ปุจฺฉิโต ภวิสฺสตี’’ติ. เตสํ ปน กเถนฺตานฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต, ทีปา ชลิตา. ปณฺฑิโต ‘‘ราชกมฺมานิ นาม ภาริยานิ, น ปฺายติ ‘กึ ภวิสฺสตี’ติ, ขิปฺปเมว คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุฏฺายาสนา ราชานํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิเมสุ เอโก ‘สหายกสฺส กเถตุํ วฏฺฏตี’ติ อาห, เอโก ‘ภาตุสฺส, เอโก ปุตฺตสฺส, เอโก มาตุ กเถตุํ วฏฺฏตี’ติ อาห. อิเมหิ เอตํ กตเมว ภวิสฺสติ, ทิฏฺเมว กถิตนฺติ มฺามิ, โหตุ อชฺเชว เอตํ ชานิสฺสามี’’ติ. เต ปน จตฺตาโรปิ อฺเสุ ทิวเสสุ ราชกุลา นิกฺขมิตฺวา ราชนิเวสนทฺวาเร เอกสฺส ภตฺตอมฺพณสฺส ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา กิจฺจกรณียานิ มนฺเตตฺวา ฆรานิ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา ปณฺฑิโต ‘‘อหํ เอเตสํ จตุนฺนํ รหสฺสํ อมฺพณสฺส เหฏฺา นิปชฺชิตฺวา ชานิตุํ สกฺกุเณยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ อมฺพณํ อุกฺขิปาเปตฺวา อตฺถรณํ อตฺถราเปตฺวา อมฺพณสฺส เหฏฺา ปวิสิตฺวา ปุริสานํ สฺํ อทาสิ ‘‘ตุมฺเห จตูสุ ปณฺฑิเตสุ มนฺเตตฺวา คเตสุ อาคนฺตฺวา มํ อาเนยฺยาถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปกฺกมึสุ. เสนโกปิ ราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, อมฺหากํ วจนํ น สทฺทหถ, อิทานิ กึ กริสฺสถา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ คเหตฺวา อนิสาเมตฺวาว ภีตตสิโต หุตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กโรม, เสนก ปณฺฑิตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, ปปฺจํ อกตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวา คหปติปุตฺตํ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา ‘‘เสนก, เปตฺวา ตุมฺเห อฺโ มม อตฺถกาโม นาม นตฺถิ, ตุมฺเห อตฺตโน สุหเท คเหตฺวา ทฺวารนฺตเร ตฺวา คหปติปุตฺตสฺส ปาโตว อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตสฺส ขคฺเคน สีสํ ฉินฺทถา’’ติ อตฺตโน ขคฺครตนํ อทาสิ. เต ‘‘สาธุ, เทว, มา ภายิ, มยํ ตํ มาเรสฺสามา’’ติ วตฺวา นิกฺขมิตฺวา ‘‘ทิฏฺา โน ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺี’’ติ ภตฺตอมฺพณสฺส ปิฏฺเ นิสีทึสุ. ตโต เสนโก อาห ‘‘อมฺโภ, โก คหปติปุตฺตํ มาเรสฺสตี’’ติ. อิตเร ‘‘ตุมฺเหเยว อาจริย, มาเรถา’’ติ ตสฺเสว ภารํ กรึสุ.

อถ เน เสนโก ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺเห ‘รหสฺสํ นาม อสุกสฺส อสุกสฺส กเถตพฺพ’นฺติ วทถ, กึ โว เอตํ กตํ, อุทาหุ ทิฏฺํ สุต’’นฺติ? ‘‘กตํ เอตํ, อาจริยา’’ติ. ตุมฺเห ‘‘รหสฺสํ นาม สหายกสฺส กเถตพฺพ’’นฺติ วทถ, ‘‘กึ โว เอตํ กตํ, อุทาหุ ทิฏฺํ สุต’’นฺติ? ‘‘กตํ เอตํ มยา’’ติ? ‘‘กเถถ, อาจริยา’’ติ. ‘‘อิมสฺมึ รหสฺเส รฺา าเต ชีวิตํ เม นตฺถี’’ติ. ‘‘มา ภายถ อาจริย, อิธ ตุมฺหากํ รหสฺสเภทโก นตฺถิ, กเถถา’’ติ. โส นเขน อมฺพณํ โกฏฺเฏตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺส เหฏฺา คหปติปุตฺโต’’ติ อาห. ‘‘อาจริย, คหปติปุตฺโต อตฺตโน อิสฺสริเยน เอวรูปํ านํ น ปวิสิสฺสติ, อิทานิ ยเสน มตฺโต ภวิสฺสติ, กเถถ ตุมฺเห’’ติ. เสนโก ตาว อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘ตุมฺเห อิมสฺมึ นคเร อสุกํ นาม เวสึ ชานาถา’’ติ? ‘‘อาม, อาจริยา’’ติ. ‘‘อิทานิ สา ปฺายตี’’ติ. ‘‘น ปฺายติ, อาจริยา’’ติ. ‘‘อหํ สาลวนุยฺยาเน ตาย สทฺธึ ปุริสกิจฺจํ กตฺวา ตสฺสา ปิฬนฺธเนสุ โลเภน ตํ มาเรตฺวา ตสฺสาเยว สาฏเกน ภณฺฑิกํ กตฺวา อาหริตฺวา อมฺหากํ ฆเร อสุกภูมิกาย อสุเก นาม คพฺเภ นาคทนฺตเก ลคฺเคสึ, วฬฺเชตุํ ๓ วิสหามิ, ปุราณภาวมสฺส โอโลเกมิ, เอวรูปํ อปราธกมฺมํ กตฺวา มยา เอกสฺส สหายกสฺส กถิตํ, น เตน กสฺสจิ กถิตปุพฺพํ, อิมินา การเณน ‘สหายกสฺส คุยฺหํ กเถตพฺพ’นฺติ มยา กถิต’’นฺติ. ปณฺฑิโต ตสฺส รหสฺสํ สาธุกํ ววตฺถเปตฺวา สลฺลกฺเขสิ.

ปุกฺกุโสปิ อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘มม อูรุยา กุฏฺํ อตฺถิ, กนิฏฺโ เม ปาโตว กฺจิ อชานาเปตฺวา ตํ โธวิตฺวา เภสชฺเชน มกฺเขตฺวา อุปริ ปิโลติกํ ทตฺวา พนฺธติ. ราชา มยิ มุทุจิตฺโต ‘เอหิ ปุกฺกุสา’ติ มํ ปกฺโกสิตฺวา เยภุยฺเยน มม อูรุยาเยว สยติ, สเจ ปน เอตํ ราชา ชาเนยฺย, มํ มาเรยฺย. ตํ มม กนิฏฺํ เปตฺวา อฺโ ชานนฺโต นาม นตฺถิ, เตน การเณน ‘รหสฺสํ นาม ภาตุ กเถตพฺพ’นฺติ มยา วุตฺต’’นฺติ. กามินฺโทปิ อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘มํ กาฬปกฺเข อุโปสถทิวเส นรเทโว นาม ยกฺโข คณฺหาติ, อหํ อุมฺมตฺตกสุนโข วิย วิรวามิ, สฺวาหํ ตมตฺถํ ปุตฺตสฺส กเถสึ. โส มม ยกฺเขน คหิตภาวํ ตฺวา มํ อนฺโตเคหคพฺเภ นิปชฺชาเปตฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา นิกฺขมิตฺวา มม สทฺทํ ปฏิจฺฉาทนตฺถํ ทฺวาเร สมชฺชํ กาเรสิ, อิมินา การเณน ‘รหสฺสํ นาม ปุตฺตสฺส กเถตพฺพ’นฺติ มยา วุตฺต’’นฺติ. ตโต ตโยปิ เทวินฺทํ ปุจฺฉึสุ. โส อตฺตโน รหสฺสํ กเถนฺโต อาห – ‘‘มยา มณิปหํสนกมฺมํ กโรนฺเตน รฺโ สนฺตกํ สกฺเกน กุสรฺโ ทินฺนํ, สิริปเวสนํ มงฺคลมณิรตนํ เถเนตฺวา มาตุยา ทินฺนํ. สา กฺจิ อชานาเปตฺวา มม ราชกุลํ ปวิสนกาเล ตํ มยฺหํ เทติ, อหํ เตน มณินา สิรึ ปเวเสตฺวา ราชนิเวสนํ คจฺฉามิ. ราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ อกเถตฺวา ปมตรํ มยา สทฺธึ กเถสิ. เทวสิกํ อฏฺ, โสฬส, ทฺวตฺตึส, จตุสฏฺิ กหาปเณ มม ปริพฺพยตฺถาย เทติ. สเจ ตสฺส มณิรตนสฺส ฉนฺนภาวํ ราชา ชาเนยฺย, มยฺหํ ชีวิตํ นตฺถิ, อิมินา การเณน ‘รหสฺสํ นาม มาตุ กเถตพฺพ’นฺติ มยา วุตฺต’’นฺติ.

มหาสตฺโต สพฺเพสมฺปิ คุยฺหํ อตฺตโน ปจฺจกฺขํ อกาสิ. เต ปน อตฺตโน อุทรํ ผาเลตฺวา อนฺตํ พาหิรํ กโรนฺตา วิย รหสฺสํ อฺมฺํ กเถตฺวา ‘‘ตุมฺเห อปฺปมตฺตา ปาโตว อาคจฺฉถ, คหปติปุตฺตํ มาเรสฺสามา’’ติ อุฏฺาย ปกฺกมึสุ. เตสํ คตกาเล ปณฺฑิตสฺส ปุริสา อาคนฺตฺวา อมฺพณํ อุกฺขิปิตฺวา มหาสตฺตํ อาทาย ปกฺกมึสุ. โส ฆรํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา สุโภชนํ ภุฺชิตฺวา ‘‘อชฺช เม ภคินี อุทุมฺพรเทวี ราชเคหโต สาสนํ เปเสสฺสตี’’ติ ตฺวา ทฺวาเร ปจฺจายิกํ ปุริสํ เปสิ ‘‘ราชเคหโต อาคตํ สีฆํ ปเวเสตฺวา มม ทสฺเสยฺยาสี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา สยนปิฏฺเ นิปชฺชิ. ตสฺมึ ขเณ ราชาปิ สยนปิฏฺเ นิปนฺโนว ปณฺฑิตสฺส คุณํ สริตฺวา ‘‘มโหสธปณฺฑิโต สตฺตวสฺสิกกาลโต ปฏฺาย มํ อุปฏฺหนฺโต น กิฺจิ มยฺหํ อนตฺถํ อกาสิ, เทวตาย ปุจฺฉิตปฺเหปิ ปณฺฑิเต อสติ ชีวิตํ เม ลทฺธํ น สิยา. เวริปจฺจามิตฺตานํ วจนํ คเหตฺวา ‘อสมธุรํ ปณฺฑิตํ มาเรถา’ติ ขคฺคํ เทนฺเตน อยุตฺตํ มยา กตํ, สฺเว ทานิ นํ ปสฺสิตุํ น ลภิสฺสามี’’ติ โสกํ อุปฺปาเทสิ. สรีรโต เสทา มุจฺจึสุ. โส โสกสมปฺปิโต จิตฺตสฺสาทํ น ลภิ. อุทุมฺพรเทวีปิ เตน สทฺธึ เอกสยนคตา ตํ อาการํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข มยฺหํ โกจิ อปราโธ อตฺถิ, อุทาหุ เทวสฺส กิฺจิ โสกการณํ อุปฺปนฺนํ, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ อิมํ คาถมาห –

‘‘กึ ตฺวํ วิมโนสิ ราชเสฏฺ, ทฺวิปทชนินฺท วจนํ สุโณม เมตํ;

กึ จินฺตยมาโน ทุมฺมโนสิ, นูน เทว อปราโธ อตฺถิ มยฺห’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๓);

อถ ราชา กเถนฺโต คาถมาห –

‘‘ปณฺเห วชฺโฌ มโหสโธติ, อาณตฺโต เม วมาย ภูริปฺโ;

ตํ จินฺตยมาโน ทุมฺมโนสฺมิ, น หิ เทวี อปราโธ อตฺถิ ตุยฺห’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๔);

ตตฺถ อาณตฺโตติ ภทฺเท, จตฺตาโร ปณฺฑิตา ‘‘มโหสโธ มม ปจฺจตฺถิโก’’ติ กถยึสุ. มยา ตถโต อวิจินิตฺวา ‘‘วเธถ น’’นฺติ ภูริปฺโ วธาย อาณตฺโต. ตํ การณํ จินฺตยมาโน ทุมฺมโนสฺมีติ.

ตสฺสา ตสฺส วจนํ สุตฺวาว มหาสตฺเต สิเนเหน ปพฺพตมตฺโต โสโก อุปฺปชฺชิ. ตโต สา จินฺเตสิ ‘‘เอเกน อุปาเยน ราชานํ อสฺสาเสตฺวา รฺโ นิทฺทํ โอกฺกมนกาเล มม กนิฏฺสฺส สาสนํ ปหิณิสฺสามี’’ติ. อถ สา ‘‘มหาราช, ตยาเวตํ กตํ คหปติปุตฺตํ มหนฺเต อิสฺสริเย ปติฏฺาเปนฺเตน, ตุมฺเหหิ โส เสนาปติฏฺาเน ปิโต, อิทานิ กิร โส ตุมฺหากํเยว ปจฺจตฺถิโก ชาโต, น โข ปน ปจฺจตฺถิโก ขุทฺทโก นาม อตฺถิ, มาเรตพฺโพว, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถา’’ติ ราชานํ อสฺสาเสสิ. โส ตนุภูตโสโก นิทฺทํ โอกฺกมิ. เทวี อุฏฺาย คพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘ตาต มโหสธ, จตฺตาโร ปณฺฑิตา ตํ ปริภินฺทึสุ, ราชา กุทฺโธ สฺเว ทฺวารนฺตเร ตํ วธาย อาณาเปสิ, สฺเว ราชกุลํ มา อาคจฺเฉยฺยาสิ, อาคจฺฉนฺโต ปน นครํ หตฺถคตํ กตฺวา สมตฺโถ หุตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ ปณฺณํ ลิขิตฺวา โมทกสฺส อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา โมทกํ สุตฺเตน เวเตฺวา นวภาชเน กตฺวา ฉาเทตฺวา ลฺเฉตฺวา อตฺถจาริกาย ทาสิยา อทาสิ ‘‘อิมํ โมทกํ คเหตฺวา มม กนิฏฺสฺส เทหี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. ‘‘รตฺตึ กถํ นิกฺขนฺตา’’ติ น จินฺเตตพฺพํ. รฺา ปมเมว เทวิยา วโร ทินฺโน, เตน น นํ โกจิ นิวาเรสิ. โพธิสตฺโต ปณฺณาการํ คเหตฺวา นํ อุยฺโยเชสิ. สา ปุน อาคนฺตฺวา ทินฺนภาวํ อาโรเจสิ. ตสฺมึ ขเณ เทวี อาคนฺตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิ. มหาสตฺโตปิ โมทกํ ภินฺทิตฺวา ปณฺณํ วาเจตฺวา ตมตฺถํ ตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจํ วิจาเรตฺวา สยเน นิปชฺชิ.

อิตเรปิ จตฺตาโร ชนา ปาโตว ขคฺคํ คเหตฺวา ทฺวารนฺตเร ตฺวา ปณฺฑิตํ อปสฺสนฺตา ทุมฺมนา หุตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ ปณฺฑิตา มาริโต โว คหปติปุตฺโต’’ติ วุตฺเต ‘‘น ปสฺสาม, เทวา’’ติ อาหํสุ. มหาสตฺโตปิ อรุณุคฺคมเนเยว นครํ อตฺตโน หตฺถคตํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อารกฺขํ เปตฺวา มหาชนปริวุโต รถํ อารุยฺห มหนฺเตน ปริวาเรน ราชทฺวารํ อคมาสิ. ราชา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา พหิ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. อถ มหาสตฺโต รถา โอตริตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘สเจ อยํ มม ปจฺจตฺถิโก ภเวยฺย, น มํ วนฺเทยฺยา’’ติ. อถ นํ ปกฺโกสาเปตฺวา ราชา อาสเน นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ เอกมนฺตํ นิสีทิ. จตฺตาโรปิ ปณฺฑิตา ตตฺเถว นิสีทึสุ. อถ นํ ราชา กิฺจิ อชานนฺโต วิย ‘‘ตาต, ตฺวํ หิยฺโย คนฺตฺวา อิทานิ อาคจฺฉสิ, กึ มํ ปริจฺจชสี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘อภิโทสคโต ทานิ เอหิสิ, กึ สุตฺวา กึ สงฺกเต มโน เต;

โก เต กิมโวจ ภูริปฺ, อิงฺฆ วจนํ สุโณม พฺรูหิ เมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๕);

ตตฺถ อภิโทสคโตติ หิยฺโย ปมยาเม คโต อิทานิ อาคโต. กึ สงฺกเตติ กึ อาสงฺกเต. กิมโวจาติ กึ รฺโ สนฺติกํ มา คมีติ ตํ โกจิ อโวจ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, ตยา เม จตุนฺนํ ปณฺฑิตานํ วจนํ คเหตฺวา วโธ อาณตฺโต, เตนาหํ น เอมี’’ติ โจเทนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘ปณฺเห วชฺโฌ มโหสโธติ, ยทิ เต มนฺตยิตํ ชนินฺท โทสํ;

ภริยาย รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๖);

ตตฺถ ยทิ เตติ ยสฺมา ตยา. มนฺตยิตนฺติ กถิตํ. โทสนฺติ อภิโทสํ, รตฺติภาเคติ อตฺโถ. กสฺส กถิตนฺติ? ภริยาย. ตฺวฺหิ หิยฺโย ตสฺสา อิมมตฺถํ รโหคโต อสํสิ. คุยฺหํ ปาตุกตนฺติ ตสฺสา เอวรูปํ อตฺตโน รหสฺสํ ปาตุกตํ. สุตํ มเมตนฺติ มยา ปเนตํ ตสฺมึ ขเณเยว สุตํ.

ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘อิมาย ตงฺขณฺเว สาสนํ ปหิตํ ภวิสฺสตี’’ติ กุทฺโธ เทวึ โอโลเกสิ. ตํ ตฺวา มหาสตฺโต ‘‘กึ, เทว, เทวิยา กุชฺฌถ, อหํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ สพฺพํ ชานามิ. เทว, ตุมฺหากํ ตาว รหสฺสํ เทวิยา กถิตํ โหตุ, อาจริยเสนกสฺส ปุกฺกุสาทีนํ วา รหสฺสํ มม เกน กถิตํ, อหํ เอเตสมฺปิ รหสฺสํ ชานามิเยวา’’ติ เสนกสฺส ตาว รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘ยํ สาลวนสฺมึ เสนโก, ปาปกมฺมํ อกาสิ อสพฺภิรูปํ;

สขิโนว รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๗);

ตตฺถ อสพฺภิรูปนฺติ อสาธุชาติกํ ลามกํ อกุสลกมฺมํ อกาสิ. อิมสฺมึเยว หิ นคเร อสุกํ นาม เวสึ สาลวนุยฺยาเน ปุริสกิจฺจํ กตฺวา ตํ มาเรตฺวา อลงฺการํ คเหตฺวา ตสฺสาเยว สาฏเกน ภณฺฑิกํ กตฺวา อตฺตโน ฆเร อสุกฏฺาเน นาคทนฺตเก ลคฺเคตฺวา เปสิ. สขิโนวาติ อถ นํ, มหาราช, เอกสฺส สหายกสฺส รโหคโต หุตฺวา อกฺขาสิ, ตมฺปิ มยา สุตํ. นาหํ เทวสฺส ปจฺจตฺถิโก, เสนโกเยว. ยทิ เต ปจฺจตฺถิเกน กมฺมํ อตฺถิ, เสนกํ คณฺหาเปหีติ.

ราชา เสนกํ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ, เสนกา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, เทวา’’ติ วุตฺเต ตสฺส พนฺธนาคารปฺปเวสนํ อาณาเปสิ. ปณฺฑิโต ปุกฺกุสสฺส รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘ปุกฺกุสปุริสสฺส เต ชนินฺท, อุปฺปนฺโน โรโค อราชยุตฺโต;

ภาตุจฺจ รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๘);

ตตฺถ อราชยุตฺโตติ มหาราช, เอตสฺส กุฏฺโรโค อุปฺปนฺโน, โส ราชานํ ปตฺตุํ อยุตฺโต, ฉุปนานุจฺฉวิโก น โหติ. ตุมฺเห จ ‘‘ปุกฺกุสสฺส อูรุ มุทุโก’’ติ เยภุยฺเยน ตสฺส อูรุมฺหิ นิปชฺชถ. โส ปเนส วณพนฺธปิโลติกาย ผสฺโส, เทวาติ.

ราชา ตมฺปิ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ ปุกฺกุสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวา’’ติ วุตฺเต ตมฺปิ พนฺธนาคารํ ปเวสาเปสิ. ปณฺฑิโต กามินฺทสฺสปิ รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อาพาโธยํ อสพฺภิรูโป, กามินฺโท นรเทเวน ผุฏฺโ;

ปุตฺตสฺส รโหคโต อสํสิ, คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๒๙);

ตตฺถ อสพฺภิรูโปติ เยน โส อาพาเธน ผุฏฺโ อุมฺมตฺตกสุนโข วิย วิรวติ, โส นรเทวยกฺขาพาโธ อสพฺภิชาติโก ลามโก, ราชกุลํ ปวิสิตุํ น ยุตฺโต, มหาราชาติ วทติ.

ราชา ตมฺปิ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ กามินฺทา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวา’’ติ วุตฺเต ตมฺปิ พนฺธนาคารํ ปเวสาเปสิ. ปณฺฑิโต เทวินฺทสฺสปิ รหสฺสํ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อฏฺวงฺกํ มณิรตนํ อุฬารํ, สกฺโก เต อททา ปิตามหสฺส;

เทวินฺทสฺส คตํ ตทชฺช หตฺถํ, มาตุจฺจ รโหคโต อสํสิ;

คุยฺหํ ปาตุกตํ สุตํ มเมต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๓๐);

ตตฺถ ปิตามหสฺสาติ ตว ปิตามหสฺส กุสราชสฺส. ตทชฺช หตฺถนฺติ ตํ มงฺคลสมฺมตํ มณิรตนํ อชฺช เทวินฺทสฺส หตฺถคตํ, มหาราชาติ.

ราชา ตมฺปิ โอโลเกตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวินฺทา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ เทวา’’ติ วุตฺเต ตมฺปิ พนฺธนาคารํ ปเวสาเปสิ. เอวํ ‘‘โพธิสตฺตํ วธิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา สพฺเพปิ เต พนฺธนาคารํ ปวิฏฺา. โพ