📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

ชาตก-อฏฺกถา

(สตฺตโม ภาโค)

๒๒. มหานิปาโต

[๕๔๓] ๖. ภูริทตฺตชาตกวณฺณนา

นครกณฺฑํ

ยํ กิฺจิ รตนํ อตฺถีติ อิทํ สตฺถา สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถิเก อุปาสเก อารพฺภ กเถสิ. เต กิร อุโปสถทิวเส ปาโตว อุโปสถํ อธิฏฺาย ทานํ ทตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนํ คนฺตฺวา ธมฺมสฺสวนเวลาย เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา ธมฺมสภํ อาคนฺตฺวา อลงฺกตพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ โอโลเกตฺวา ภิกฺขุอาทีสุ ปน เย อารพฺภ ธมฺมกถา สมุฏฺาติ, เตหิ สทฺธึ ตถาคตา สลฺลปนฺติ, ตสฺมา อชฺช อุปาสเก อารพฺภ ปุพฺพจริยปฺปฏิสํยุตฺตา ธมฺมกถา สมุฏฺหิสฺสตีติ ตฺวา อุปาสเกหิ สทฺธึ สลฺลปนฺโต ‘‘อุโปสถิกตฺถ, อุปาสกา’’ติ อุปาสเก ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, อุปาสกา, กลฺยาณํ โว กตํ, อปิจ อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, ยํ ตุมฺเห มาทิสํ พุทฺธํ โอวาททายกํ อาจริยํ ลภนฺตา อุโปสถํ กเรยฺยาถ. โปราณปณฺฑิตา ปน อนาจริยกาปิ มหนฺตํ ยสํ ปหาย อุโปสถํ กรึสุเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา รชฺชํ กาเรนฺโต ปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ ทตฺวา ตสฺส มหนฺตํ ยสํ ทิสฺวา ‘‘รชฺชมฺปิ เม คณฺเหยฺยา’’ติ อุปฺปนฺนาสงฺโก ‘‘ตาต, ตฺวํ อิโต นิกฺขมิตฺวา ยตฺถ เต รุจฺจติ, ตตฺถ วสิตฺวา มม อจฺจเยน กุลสนฺตกํ รชฺชํ คณฺหาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ยมุนํ คนฺตฺวา ยมุนาย จ สมุทฺทสฺส จ ปพฺพตสฺส จ อนฺตเร ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา วนมูลผลาหาโร ปฏิวสติ. ตทา สมุทฺทสฺส เหฏฺิเม นาคภวเน เอกา มตปติกา นาคมาณวิกา อฺาสํ สปติกานํ ยสํ โอโลเกตฺวา กิเลสํ นิสฺสาย นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา สมุทฺทตีเร วิจรนฺตี ราชปุตฺตสฺส ปทวลฺชํ ทิสฺวา ปทานุสาเรน คนฺตฺวา ตํ ปณฺณสาลํ อทฺทส. ตทา ราชปุตฺโต ผลาผลตฺถาย คโต โหติ. สา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรณฺเจว เสสปริกฺขาเร จ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิทํ เอกสฺส ปพฺพชิตสฺส วสนฏฺานํ, วีมํสิสฺสามิ นํ ‘สทฺธาย ปพฺพชิโต นุ โข โน’ติ, สเจ หิ สทฺธาย ปพฺพชิโต ภวิสฺสติ เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต, น เม อลงฺกตสยนํ สาทิยิสฺสติ. สเจ กามาภิรโต ภวิสฺสติ, น สทฺธาปพฺพชิโต, มม สยนสฺมึเยว นิปชฺชิสฺสติ. อถ นํ คเหตฺวา อตฺตโน สามิกํ กตฺวา อิเธว วสิสฺสามี’’ติ. สา นาคภวนํ คนฺตฺวา ทิพฺพปุปฺผานิ เจว ทิพฺพคนฺเธ จ อาหริตฺวา ทิพฺพปุปฺผสยนํ สชฺเชตฺวา ปณฺณสาลายํ ปุปฺผูปหารํ กตฺวา คนฺธจุณฺณํ วิกิริตฺวา ปณฺณสาลํ อลงฺกริตฺวา นาคภวนเมว คตา.

ราชปุตฺโต สายนฺหสมยํ อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิฏฺโ ตํ ปวตฺตึ ทิสฺวา ‘‘เกน นุ โข อิมํ สยนํ สชฺชิต’’นฺติ ผลาผลํ ปริภุฺชิตฺวา ‘‘อโห สุคนฺธานิ ปุปฺผานิ, มนาปํ วต กตฺวา สยนํ ปฺตฺต’’นฺติ น สทฺธาปพฺพชิตภาเวน โสมนสฺสชาโต ปุปฺผสยเน ปริวตฺติตฺวา นิปนฺโน นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา ปุนทิวเส สูริยุคฺคมเน อุฏฺาย ปณฺณสาลํ อสมฺมชฺชิตฺวา ผลาผลตฺถาย อคมาสิ. นาคมาณวิกา ตสฺมึ ขเณ อาคนฺตฺวา มิลาตานิ ปุปฺผานิ ทิสฺวา ‘‘กามาธิมุตฺโต เอส, น สทฺธาปพฺพชิโต, สกฺกา นํ คณฺหิตุ’’นฺติ ตฺวา ปุราณปุปฺผานิ นีหริตฺวา อฺานิ ปุปฺผานิ อาหริตฺวา ตเถว นวปุปฺผสยนํ สชฺเชตฺวา ปณฺณสาลํ อลงฺกริตฺวา จงฺกเม ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา นาคภวนเมว คตา. โส ตํ ทิวสมฺปิ ปุปฺผสยเน สยิตฺวา ปุนทิวเส จินฺเตสิ ‘‘โก นุ โข อิมํ ปณฺณสาลํ อลงฺกโรตี’’ติ? โส ผลาผลตฺถาย อคนฺตฺวา ปณฺณสาลโต อวิทูเร ปฏิจฺฉนฺโน อฏฺาสิ. อิตราปิ พหู คนฺเธ เจว ปุปฺผานิ จ อาทาย อสฺสมปทํ อคมาสิ. ราชปุตฺโต อุตฺตมรูปธรํ นาคมาณวิกํ ทิสฺวาว ปฏิพทฺธจิตฺโต อตฺตานํ อทสฺเสตฺวา ตสฺสา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา สยนํ สชฺชนกาเล ปวิสิตฺวา ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ นาคมาณวิกา, สามี’’ติ. ‘‘สสามิกา อสฺสามิกาสี’’ติ. ‘‘สามิ, อหํ ปุพฺเพ สสามิกา, อิทานิ ปน อสฺสามิกา วิธวา’’. ‘‘ตฺวํ ปน กตฺถ วาสิโกสี’’ติ? ‘‘อหํ พาราณสิรฺโ ปุตฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมาโร นาม’’. ‘‘ตฺวํ นาคภวนํ ปหาย กสฺมา อิธ วิจรสี’’ติ? ‘‘สามิ, อหํ ตตฺถ สสามิกานํ นาคมาณวิกานํ ยสํ โอโลเกตฺวา กิเลสํ นิสฺสาย อุกฺกณฺิตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา สามิกํ ปริเยสนฺตี วิจรามี’’ติ. ‘‘เตน หิ ภทฺเท, สาธุ, อหมฺปิ น สทฺธาย ปพฺพชิโต, ปิตรา ปน เม นีหริตตฺตา อิธ วสามิ, ตฺวํ มา จินฺตยิ, อหํ เต สามิโก ภวิสฺสามิ, อุโภปิ อิธ สมคฺควาสํ วสิสฺสามา’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ตโต ปฏฺาย เต อุโภปิ ตตฺเถว สมคฺควาสํ วสึสุ. สา อตฺตโน อานุภาเวน มหารหํ เคหํ มาเปตฺวา มหารหํ ปลฺลงฺกํ อาหริตฺวา สยนํ ปฺเปสิ. ตโต ปฏฺาย มูลผลาผลํ น ขาทิ, ทิพฺพอนฺนปานเมว ภุฺชิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสิ.

อปรภาเค นาคมาณวิกา คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปุตฺตํ วิชายิ, สาครตีเร ชาตตฺตา ตสฺส ‘‘สาครพฺรหฺมทตฺโต’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล นาคมาณวิกา ธีตรํ วิชายิ, ตสฺสา สมุทฺทตีเร ชาตตฺตา ‘‘สมุทฺทชา’’ติ นามํ กรึสุ. อเถโก พาราณสิวาสิโก วนจรโก ตํ านํ ปตฺวา กตปฏิสนฺถาโร ราชปุตฺตํ สฺชานิตฺวา กติปาหํ ตตฺถ วสิตฺวา ‘‘เทว, อหํ ตุมฺหากํ อิธ วสนภาวํ ราชกุลสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ ตํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา นครํ อคมาสิ. ตทา ราชา กาลมกาสิ. อมจฺจา ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส สนฺนิปติตฺวา ‘‘อราชกํ รชฺชํ นาม น สณฺาติ, ราชปุตฺตสฺส วสนฏฺานํ วา อตฺถิภาวํ วา น ชานาม, ผุสฺสรถํ วิสฺสชฺเชตฺวา ราชานํ คณฺหิสฺสามา’’ติ มนฺตยึสุ. ตสฺมึ ขเณ วนจรโก นครํ ปตฺวา ตํ กถํ สุตฺวา อมจฺจานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ ราชปุตฺตสฺส สนฺติเก ตโย จตฺตาโร ทิวเส วสิตฺวา อาคโตมฺหี’’ติ ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. อมจฺจา ตสฺส สกฺการํ กตฺวา เตน มคฺคนายเกน สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา กตปฏิสนฺถารา รฺโ กาลกตภาวํ อาโรเจตฺวา ‘‘เทว, รชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ อาหํสุ.

โส ‘‘นาคมาณวิกาย จิตฺตํ ชานิสฺสามี’’ติ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปิตา เม กาลกโต, อมจฺจา มยฺหํ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตุํ อาคตา, คจฺฉาม, ภทฺเท, อุโภปิ ทฺวาทสโยชนิกาย พาราณสิยา รชฺชํ กาเรสฺสาม, ตฺวํ โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา ภวิสฺสสี’’ติ อาห. ‘‘สามิ, น สกฺกา มยา คนฺตุ’’นฺติ. ‘‘กึการณา’’ติ? ‘‘มยํ โฆรวิสา ขิปฺปโกปา อปฺปมตฺตเกนปิ กุชฺฌาม, สปตฺติโรโส จ นาม ภาริโย. สจาหํ กิฺจิ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา กุทฺธา โอโลเกสฺสามิ, ภสฺมามุฏฺิ วิย วิปฺปกิริสฺสติ. อิมินา การเณน น สกฺกา มยา คนฺตุ’’นฺติ. ราชปุตฺโต ปุนทิวเสปิ ยาจเตว. อถ นํ สา เอวมาห – ‘‘อหํ ตาว เกนจิ ปริยาเยน น คมิสฺสามิ, อิเม ปน เม ปุตฺตา นาคกุมารา ตว สมฺภเวน ชาตตฺตา มนุสฺสชาติกา. สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, อิเมสุ อปฺปมตฺโต ภว. อิเม โข ปน อุทกพีชกา สุขุมาลา มคฺคํ คจฺฉนฺตา วาตาตเปน กิลมิตฺวา มเรยฺยุํ, ตสฺมา เอกํ นาวํ ขณาเปตฺวา อุทกสฺส ปูราเปตฺวา ตาย ทฺเว ปุตฺตเก อุทกกีฬํ กีฬาเปตฺวา นคเรปิ อนฺโตวตฺถุสฺมึเยว โปกฺขรณึกาเรยฺยาสิ, เอวํ เต น กิลมิสฺสนฺตี’’ติ.

สา เอวฺจ ปน วตฺวา ราชปุตฺตํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปุตฺตเก อาลิงฺคิตฺวา ถนนฺตเร นิปชฺชาเปตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา ราชปุตฺตสฺส นิยฺยาเทตฺวา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิตฺวา นาคภวนํ อคมาสิ. ราชปุตฺโตปิ โทมนสฺสปฺปตฺโต อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ นิเวสนา นิกฺขมิตฺวา อกฺขีนิ ปุฺฉิตฺวา อมจฺเจ อุปสงฺกมิ. เต ตํ ตตฺเถว อภิสิฺจิตฺวา ‘‘เทว, อมฺหากํ นครํ คจฺฉามา’’ติ วทึสุ. เตน หิ สีฆํ นาวํ ขณิตฺวา สกฏํ อาโรเปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา อุทกปิฏฺเ วณฺณคนฺธสมฺปนฺนานิ นานาปุปฺผานิ วิกิรถ, มม ปุตฺตา อุทกพีชกา, เต ตตฺถ กีฬนฺตา สุขํ คมิสฺสนฺตี’’ติ. อมจฺจา ตถา กรึสุ. ราชา พาราณสึ ปตฺวา อลงฺกตนครํ ปวิสิตฺวา โสฬสสหสฺสาหิ นาฏกิตฺถีหิ อมจฺจาทีหิ จ ปริวุโต มหาตเล นิสีทิตฺวา สตฺตาหํ มหาปานํ ปิวิตฺวา ปุตฺตานํ อตฺถาย โปกฺขรณึ กาเรสิ. เต นิพทฺธํ ตตฺถ กีฬึสุ.

อเถกทิวสํ โปกฺขรณิยํ อุทเก ปเวสิยมาเน เอโก กจฺฉโป ปวิสิตฺวา นิกฺขมนฏฺานํ อปสฺสนฺโต โปกฺขรณิตเล นิปชฺชิตฺวา ทารกานํ กีฬนกาเล อุทกโต อุฏฺาย สีสํ นีหริตฺวา เต โอโลเกตฺวา ปุน อุทเก นิมุชฺชิ. เต ตํ ทิสฺวา ภีตา ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตาต, โปกฺขรณิยํ เอโก ยกฺโข อมฺเห ตาเสตี’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘คจฺฉถ นํ คณฺหถา’’ติ ปุริเส อาณาเปสิ. เต ชาลํ ขิปิตฺวา กจฺฉปํ อาทาย รฺโ ทสฺเสสุํ. กุมารา ตํ ทิสฺวา ‘‘เอส, ตาต, ปิสาโจ’’ติ วิรวึสุ. ราชา ปุตฺตสิเนเหน กจฺฉปสฺส กุชฺฌิตฺวา ‘‘คจฺฉถสฺส กมฺมการณํ กโรถา’’ติ อาณาเปสิ. ตตฺร เอกจฺเจ ‘‘อยํ ราชเวริโก, เอตํ อุทุกฺขเล มุสเลหิ จุณฺณวิจุณฺณํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ, เอกจฺเจ ‘‘ตีหิ ปาเกหิ ปจิตฺวา ขาทิตุํ’’, เอกจฺเจ ‘‘องฺคาเรสุ อุตฺตาเปตุํ,’’ เอกจฺเจ ‘‘อนฺโตกฏาเหเยว นํ ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ. เอโก ปน อุทกภีรุโก อมจฺโจ ‘‘อิมํ ยมุนาย อาวฏฺเฏ ขิปิตุํ วฏฺฏติ, โส ตตฺถ มหาวินาสํ ปาปุณิสฺสติ. เอวรูปา หิสฺส กมฺมการณา นตฺถี’’ติ อาห. กจฺฉโป ตสฺส กถํ สุตฺวา สีสํ นีหริตฺวา เอวมาห – ‘‘อมฺโภ, กึ เต มยา อปราโธ กโต, เกน มํ เอวรูปํ กมฺมการณํ วิจาเรสิ. มยา หิ สกฺกา อิตรา กมฺมการณา สหิตุํ, อยํ ปน อติกกฺขโฬ, มา เอวํ อวจา’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อิมํ เอตเทว กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ ยมุนาย อาวฏฺเฏ ขิปาเปสิ. ปุริโส ตถา อกาสิ. โส เอกํ นาคภวนคามึ อุทกวาหํ ปตฺวา นาคภวนํ อคมาสิ.

อถ นํ ตสฺมึ อุทกวาเห กีฬนฺตา ธตรฏฺนาครฺโ ปุตฺตา นาคมาณวกา ทิสฺวา ‘‘คณฺหถ นํ ทาส’’นฺติ อาหํสุ. โส จินฺเตสิ ‘‘อหํ พาราณสิรฺโ หตฺถา มุจฺจิตฺวา เอวรูปานํ ผรุสานํ นาคานํ หตฺถํ ปตฺโต, เกน นุ โข อุปาเยน มุจฺเจยฺย’’นฺติ. โส ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ มุสาวาทํ กตฺวา ‘‘ตุมฺเห ธตรฏฺสฺส นาครฺโ สนฺตกา หุตฺวา กสฺมา เอวํ วเทถ, อหํ จิตฺตจูโฬ นาม กจฺฉโป พาราณสิรฺโ ทูโต, ธตรฏฺสฺส สนฺติกํ อาคโต, อมฺหากํ ราชา ธตรฏฺสฺส ธีตรํ ทาตุกาโม มํ ปหิณิ, ตสฺส มํ ทสฺเสถา’’ติ อาห. เต โสมนสฺสชาตา ตํ อาทาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘อาเนถ น’’นฺติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ทิสฺวาว อนตฺตมโน หุตฺวา ‘‘เอวํ ลามกสรีโร ทูตกมฺมํ กาตุํ น สกฺโกตี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา กจฺฉโป ‘‘กึ ปน, มหาราช, ทูเตหิ นาม ตาลปฺปมาเณหิ ภวิตพฺพํ, สรีรฺหิ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา อปฺปมาณํ, คตคตฏฺาเน กมฺมนิปฺผาทนเมว ปมาณํ. มหาราช, อมฺหากํ รฺโ พหู ทูตา. ถเล กมฺมํ มนุสฺสา กโรนฺติ, อากาเส ปกฺขิโน, อุทเก อหเมว. อหฺหิ จิตฺตจูโฬ นาม กจฺฉโป านนฺตรปฺปตฺโต ราชวลฺลโภ, มา มํ ปริภาสถา’’ติ อตฺตโน คุณํ วณฺเณสิ. อถ นํ ธตรฏฺโ ปุจฺฉิ ‘‘เกน ปนตฺเถน รฺา เปสิโตสี’’ติ. มหาราช, ราชา มํ เอวมาห ‘‘มยา สกลชมฺพุทีเป ราชูหิ สทฺธึ มิตฺตธมฺโม กโต, อิทานิ ธตรฏฺเน นาครฺา สทฺธึ มิตฺตธมฺมํ กาตุํ มม ธีตรํ สมุทฺทชํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา มํ ปหิณิ. ‘‘ตุมฺเห ปปฺจํ อกตฺวา มยา สทฺธึเยว ปุริสํ เปเสตฺวา ทิวสํ ววตฺถเปตฺวา ทาริกํ คณฺหถา’’ติ. โส ตุสฺสิตฺวา ตสฺส สกฺการํ กตฺวา เตน สทฺธึ จตฺตาโร นาคมาณวเก เปเสสิ ‘‘คจฺฉถ, รฺโ วจนํ สุตฺวา ทิวสํ ววตฺถเปตฺวา เอถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา กจฺฉปํ คเหตฺวา นาคภวนา นิกฺขมึสุ.

กจฺฉโป ยมุนาย พาราณสิยา จ อนฺตเร เอกํ ปทุมสรํ ทิสฺวา เอเกนุปาเยน ปลายิตุกาโม เอวมาห – ‘‘โภ นาคมาณวกา, อมฺหากํ ราชา ปุตฺตทารา จสฺส มํ อุทเก โคจรตฺตา ราชนิเวสนํ อาคตํ ทิสฺวาว ปทุมานิ โน เทหิ, ภิสมูลานิ เทหีติ ยาจนฺติ. อหํ เตสํ อตฺถาย ตานิ คณฺหิสฺสามิ, เอตฺถ มํ วิสฺสชฺเชตฺวา มํ อปสฺสนฺตาปิ ปุเรตรํ รฺโ สนฺติกํ คจฺฉถ, อหํ โว ตตฺเถว ปสฺสิสฺสามี’’ติ. เต ตสฺส สทฺทหิตฺวา ตํ วิสฺสชฺเชสุํ. โส ตตฺถ เอกมนฺเต นิลียิ. อิตเรปิ นํ อทิสฺวา ‘‘รฺโ สนฺติกํ คโต ภวิสฺสตี’’ติ มาณวกวณฺเณน ราชานํ อุปสงฺกมึสุ. ราชา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ธตรฏฺสฺส สนฺติกา, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึการณา อิธาคตา’’ติ? ‘‘มหาราช, มยํ ตสฺส ทูตา, ธตรฏฺโ โว อาโรคฺยํ ปุจฺฉติ. สเจ ยํ โว อิจฺฉถ, ตํ โน วเทถ. ตุมฺหากํ กิร ธีตรํ สมุทฺทชํ อมฺหากํ รฺโ ปาทปริจาริกํ กตฺวา เทถา’’ติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺตา ปมํ คาถมาหํสุ –

๗๘๔.

‘‘ยํ กิฺจิ รตนํ อตฺถิ, ธตรฏฺนิเวสเน;

สพฺพานิ เต อุปยนฺตุ, ธีตรํ เทหิ ราชิโน’’ติ.

ตตฺถ สพฺพานิ เต อุปยนฺตูติ ตสฺส นิเวสเน สพฺพานิ รตนานิ ตว นิเวสนํ อุปคจฺฉนฺตุ.

ตํ สุตฺวา ราชา ทุติยํ คาถมาห –

๗๘๕.

‘‘น โน วิวาโห นาเคหิ, กตปุพฺโพ กุทาจนํ;

ตํ วิวาหํ อสํยุตฺตํ, กถํ อมฺเห กโรมเส’’ติ.

ตตฺถ อสํยุตฺตนฺติ อยุตฺตํ ติรจฺฉาเนหิ สทฺธึ สํสคฺคํ อนนุจฺฉวิกํ. อมฺเหติ อมฺเห มนุสฺสชาติกา สมานา กถํ ติรจฺฉานคตสมฺพนฺธํ กโรมาติ.

ตํ สุตฺวา นาคมาณวกา ‘‘สเจ เต ธตรฏฺเน สทฺธึ สมฺพนฺโธ อนนุจฺฉวิโก, อถ กสฺมา อตฺตโน อุปฏฺากํ จิตฺตจูฬํ นาม กจฺฉปํ ‘สมุทฺทชํ นาม เต ธีตรํ ทมฺมี’ติ อมฺหากํ รฺโ เปเสสิ? เอวํ เปเสตฺวา อิทานิ เต อมฺหากํ ราชานํ ปริภวํ กโรนฺตสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ มยํ ชานิสฺสาม. มยฺหิ นาคมาณวกา’’ติ วตฺวา ราชานํ ตชฺเชนฺตา ทฺเว คาถา อภาสึสุ –

๗๘๖.

‘‘ชีวิตํ นูน เต จตฺตํ, รฏฺํ วา มนุชาธิป;

น หิ นาเค กุปิตมฺหิ, จิรํ ชีวนฺติ ตาทิสา.

๗๘๗.

‘‘โย ตฺวํ เทว มนุสฺโสสิ, อิทฺธิมนฺตํ อนิทฺธิมา;

วรุณสฺส นิยํ ปุตฺตํ, ยามุนํ อติมฺสี’’ติ.

ตตฺถ รฏฺํ วาติ เอกํเสน ตยา ชีวิตํ วา รฏฺํ วา จตฺตํ. ตาทิสาติ ตุมฺหาทิสา เอวํ มหานุภาเว นาเค กุปิเต จิรํ ชีวิตุํ น สกฺโกนฺติ, อนฺตราว อนฺตรธายนฺติ. โย ตฺวํ, เทว, มนุสฺโสสีติ เทว, โย ตฺวํ มนุสฺโส สมาโน. วรุณสฺสาติ วรุณนาคราชสฺส. นิยํ ปุตฺตนฺติ อชฺฌตฺติกปุตฺตํ. ยามุนนฺติ ยมุนาย เหฏฺา ชาตํ.

ตโต ราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๗๘๘.

‘‘นาติมฺามิ ราชานํ, ธตรฏฺํ ยสสฺสินํ;

ธตรฏฺโ หิ นาคานํ, พหูนมปิ อิสฺสโร.

๗๘๙.

‘‘อหิ มหานุภาโวปิ, น เม ธีตรมารโห;

ขตฺติโย จ วิเทหานํ, อภิชาตา สมุทฺทชา’’ติ.

ตตฺถ พหูนมปีติ ปฺจโยชนสติกสฺส นาคภวนสฺส อิสฺสรภาวํ สนฺธาเยวมาห. น เม ธีตรมารโหติ เอวํ มหานุภาโวปิ ปน โส อหิชาติกตฺตา มม ธีตรํ อรโห น โหติ. ‘‘ขตฺติโย จ วิเทหาน’’นฺติ อิทํ มาติปกฺเข าตเก ทสฺเสนฺโต อาห. สมุทฺทชาติ โส จ วิเทหราชปุตฺโต มม ธีตา สมุทฺทชา จาติ อุโภปิ อภิชาตา. เต อฺมฺํ สํวาสํ อรหนฺติ. น เหสา มณฺฑูกภกฺขสฺส สปฺปสฺส อนุจฺฉวิกาติ อาห.

นาคมาณวกา ตํ ตตฺเถว นาสาวาเตน มาเรตุกามา หุตฺวาปิ ‘‘อมฺหากํ ทิวสํ ววตฺถาปนตฺถาย เปสิตา, อิมํ มาเรตฺวา คนฺตุํ น ยุตฺตํ, คนฺตฺวา รฺโ อาจิกฺขิตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ ตตฺเถว อนฺตรหิตา ‘‘กึ, ตาตา, ลทฺธา โว ราชธีตา’’ติ รฺา ปุจฺฉิตา กุชฺฌิตฺวา ‘‘กึ, เทว, อมฺเห อการณา ยตฺถ วา ตตฺถ วา เปเสสิ. สเจปิ มาเรตุกาโม, อิเธว โน มาเรหิ. โส ตุมฺเห อกฺโกสติ ปริภาสติ, อตฺตโน ธีตรํ ชาติมาเนน อุกฺขิปตี’’ติ เตน วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ วตฺวา รฺโ โกธํ อุปฺปาทยึสุ. โส อตฺตโน ปริสํ สนฺนิปาเตตุํ อาณาเปนฺโต อาห –

๗๙๐.

‘‘กมฺพลสฺสตรา อุฏฺเนฺตุ, สพฺเพ นาเค นิเวทย;

พาราณสึ ปวชฺชนฺตุ, มา จ กฺจิ วิเหยุ’’นฺติ.

ตตฺถ กมฺพลสฺสตรา อุฏฺเนฺตูติ กมฺพลสฺสตรา นาม ตสฺส มาตุปกฺขิกา สิเนรุปาเท วสนนาคา, เต จ อุฏฺหนฺตุ. อฺเ จ จตูสุ ทิสาสุ อนุทิสาสุ ยตฺตกา วา มยฺหํ วจนกรา, เต สพฺเพ นาเค นิเวทย, คนฺตฺวา ชานาเปถ, ขิปฺปํ กิร สนฺนิปาเตถาติ อาณาเปนฺโต เอวมาห. ตโต สพฺเพเหว สีฆํ สนฺนิปติเตหิ ‘‘กึ กโรม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘สพฺเพปิ เต นาคา พาราณสึ ปวชฺชนฺตู’’ติ อาห. ‘‘ตตฺถ คนฺตฺวา กึ กาตพฺพํ, เทว, ตํ นาสาวาตปฺปหาเรน ภสฺมํ กโรมา’’ติ จ วุตฺเต ราชธีตริ ปฏิพทฺธจิตฺตตาย ตสฺสา วินาสํ อนิจฺฉนฺโต ‘‘มา จ กฺจิ วิเหยุ’’นฺติ อาห, ตุมฺเหสุ โกจิ กฺจิ มา วิเหยาติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ.

อถ นํ นาคา ‘‘สเจ โกจิ มนุสฺโส น วิเหเตพฺโพ, ตตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสามา’’ติ อาหํสุ. อถ เน ‘‘อิทฺจิทฺจ กโรถ, อหมฺปิ อิทํ นาม กริสฺสามี’’ติ อาจิกฺขนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๗๙๑.

‘‘นิเวสเนสุ โสพฺเภสุ, รถิยา จจฺจเรสุ จ;

รุกฺขคฺเคสุ จ ลมฺพนฺตุ, วิตตา โตรเณสุ จ.

๗๙๒.

‘‘อหมฺปิ สพฺพเสเตน, มหตา สุมหํ ปุรํ;

ปริกฺขิปิสฺสํ โภเคหิ, กาสีนํ ชนยํ ภย’’นฺติ.

ตตฺถ โสพฺเภสูติ โปกฺขรณีสุ. รถิยาติ รถิกาย. วิตตาติ วิตตสรีรา มหาสรีรา หุตฺวา เอเตสุ เจว นิเวสนาทีสุ ทฺวารโตรเณสุ จ โอลมฺพนฺตุ, เอตฺตกํ นาคา กโรนฺตุ, กโรนฺตา จ นิเวสเน ตาว มฺจปีานํ เหฏฺา จ อุปริ จ อนฺโตคพฺภพหิคพฺภาทีสุ จ โปกฺขรณิยํ อุทกปิฏฺเ รถิกาทีนํ ปสฺเสสุ เจว ถเลสุ จ มหนฺตานิ สรีรานิ มาเปตฺวา มหนฺเต ผเณ กตฺวา กมฺมารคคฺครี วิย ธมมานา ‘‘สุสู’’ติ สทฺทํ กโรนฺตา โอลมฺพถ จ นิปชฺชถ จ. อตฺตานํ ปน ตรุณทารกานํ ชราชิณฺณานํ คพฺภินิตฺถีนํ สมุทฺทชาย จาติ อิเมสํ จตุนฺนํ มา ทสฺสยิตฺถ. อหมฺปิ สพฺพเสเตน มหนฺเตน สรีเรน คนฺตฺวา สุมหนฺตํ กาสิปุรํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิสฺสํ, มหนฺเตน ผเณน นํ ฉาเทตฺวา เอกนฺธการํ กตฺวา กาสีนํ ภยํ ชนยนฺโต ‘‘สุสู’’ติ สทฺทํ มุฺจิสฺสามีติ.

อถ สพฺเพ นาคา ตถา อกํสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๗๙๓.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, อุรคาเนกวณฺณิโน;

พาราณสึ ปวชฺชึสุ, น จ กฺจิ วิเหยุํ.

๗๙๔.

‘‘นิเวสเนสุ โสพฺเภสุ, รถิยา จจฺจเรสุ จ;

รุกฺขคฺเคสุ จ ลมฺพึสุ, วิตตา โตรเณสุ จ.

๗๙๕.

‘‘เตสุ ทิสฺวาน ลมฺพนฺเต, ปุถู กนฺทึสุ นาริโย;

นาเค โสณฺฑิกเต ทิสฺวา, ปสฺสสนฺเต มุหุํ มุหุํ.

๗๙๖.

‘‘พาราณสี ปพฺยถิตา, อาตุรา สมปชฺชถ;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ธีตรํ เทหิ ราชิโน’’ติ.

ตตฺถ อเนกวณฺณิโนติ นีลาทิวเสน อเนกวณฺณา. เอวรูปานิ หิ เต รูปานิ มาปยึสุ. ปวชฺชึสูติ อฑฺฒรตฺตสมเย ปวิสึสุ. ลมฺพึสูติ ธตรฏฺเน วุตฺตนิยาเมเนว เต สพฺเพสุ าเนสุ มนุสฺสานํ สฺจารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา โอลมฺพึสุ. ทูตา หุตฺวา อาคตา ปน จตฺตาโร นาคมาณวกา รโ สยนสฺส จตฺตาโร ปาเท ปริกฺขิปิตฺวา อุปริสีเส มหนฺเต ผเณ กตฺวา ตุณฺเฑหิ สีสํ ปหรนฺตา วิย ทาา วิวริตฺวา ปสฺสสนฺตา อฏฺํสุ. ธตรฏฺโปิ อตฺตนา วุตฺตนิยาเมน นครํ ปฏิจฺฉาเทสิ. ปพุชฺฌมานา ปุริสา ยโต ยโต หตฺถํ วา ปาทํ วา ปสาเรนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ สปฺเป ฉุปิตฺวา ‘‘สปฺโป, สปฺโป’’ติ วิรวนฺติ. ปุถู กนฺทึสูติ เยสุ เคเหสุ ทีปา ชลนฺติ, เตสุ อิตฺถิโย ปพุทฺธา ทฺวารโตรณโคปานสิโย โอโลเกตฺวา โอลมฺพนฺเต นาเค ทิสฺวา พหู เอกปฺปหาเรเนว กนฺทึสุ. เอวํ สกลนครํ เอกโกลาหลํ อโหสิ. โสณฺฑิกเตติ กตผเณ.

ปกฺกนฺทุนฺติ วิภาตาย รตฺติยา นาคานํ อสฺสาสวาเตน สกลนคเร ราชนิเวสเน จ อุปฺปาติยมาเน วิย ภีตา มนุสฺสา ‘‘นาคราชาโน กิสฺส โน วิเหถา’’ติ วตฺวา ตุมฺหากํ ราชา ‘‘ธีตรํ ทสฺสามี’’ติ ธตรฏฺสฺส ทูตํ เปเสตฺวา ปุน ตสฺส ทูเตหิ อาคนฺตฺวา ‘‘เทหี’’ติ วุตฺโต อมฺหากํ ราชานํ อกฺโกสติ ปริภาสติ. ‘‘สเจ อมฺหากํ รฺโ ธีตรํ น ทสฺสติ, สกลนครสฺส ชีวิตํ นตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ โน, สามิ, โอกาสํ เทถ, มยํ คนฺตฺวา ราชานํ ยาจิสฺสามา’’ติ ยาจนฺตา โอกาสํ ลภิตฺวา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา มหนฺเตน รเวน ปกฺกนฺตึสุ. ภริยาโยปิสฺส อตฺตโน อตฺตโน คพฺเภสุ นิปนฺนกาว ‘‘เทว, ธีตรํ ธตรฏฺรฺโ เทหี’’ติ เอกปฺปหาเรน กนฺทึสุ. เตปิ จตฺตาโร นาคมาณวกา ‘‘เทหี’’ติ ตุณฺเหหิ สีสํ ปหรนฺตา วิย ทาา วิวริตฺวา ปสฺสสนฺตา อฏฺํสุ.

โส นิปนฺนโกว นครวาสีนฺจ อตฺตโน จ ภริยานํ ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา จตูหิ จ นาคมาณวเกหิ ตชฺชิตตฺตา มรณภยภีโต ‘‘มม ธีตรํ สมุทฺทชํ ธตรฏฺสฺส ทมฺมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ อวจ. ตํ สุตฺวา สพฺเพปิ นาคราชาโน ติคาวุตมตฺตํ ปฏิกฺกมิตฺวา เทวนครํ วิย เอกํ นครํ มาเปตฺวา ตตฺถ ิตา ‘‘ธีตรํ กิร โน เปเสตู’’ติ ปณฺณาการํ ปหิณึสุ. ราชา เตหิ อาภตํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา ‘‘ตุมฺเห คจฺฉถ, อหํ ธีตรํ อมจฺจานํ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ เต อุยฺโยเชตฺวา ธีตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา อุปริปาสาทํ อาโรเปตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ‘‘อมฺม, ปสฺเสตํ อลงฺกตนครํ, ตฺวํ เอตฺถ เอตสฺส รฺโ อคฺคมเหสี ภวิสฺสสิ, น ทูเร อิโต ตํ นครํ, อุกฺกณฺิตกาเลเยว อิธ อาคนฺตุํ สกฺกา, เอตฺถ คนฺตพฺพ’’นฺติ สฺาเปตฺวา สีสํ นฺหาเปตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา ปฏิจฺฉนฺนโยคฺเค นิสีทาเปตฺวา อมจฺจานํ หตฺเถ ทตฺวา ปาเหสิ. นาคราชาโน ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา มหาสกฺการํ กรึสุ. อมจฺจา นครํ ปวิสิตฺวา ตํ ตสฺส ทตฺวา พหุํ ธนํ อาทาย นิวตฺตึสุ. เต ราชธีตรํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา อลงฺกตทิพฺพสยเน นิปชฺชาเปสุํ. ตงฺขณฺเว นํ นาคมาณวิกา ขุชฺชาทิเวสํ คเหตฺวา มนุสฺสปริจาริกา วิย ปริวารยึสุ. สา ทิพฺพสยเน นิปนฺนมตฺตาว ทิพฺพผสฺสํ ผุสิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ.

ธตรฏฺโ ตํ คเหตฺวา สทฺธึ นาคปริสาย ตตฺถ อนฺตรหิโต นาคภวเนเยว ปาตุรโหสิ. ราชธีตา ปพุชฺฌิตฺวา อลงฺกตทิพฺพสยนํ อฺเ จ สุวณฺณปาสาทมณิปาสาทาทโย อุยฺยานโปกฺขรณิโย อลงฺกตเทวนครํ วิย นาคภวนํ ทิสฺวา ขุชฺชาทิปริจาริกาโย ปุจฺฉิ ‘‘อิทํ นครํ อติวิย อลงฺกตํ, น อมฺหากํ นครํ วิย, กสฺเสต’’นฺติ. ‘‘สามิกสฺส เต สนฺตกํ, เทวิ, น อปฺปปุฺา เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ลภนฺติ, มหาปุฺตาย เต อยํ ลทฺธา’’ติ. ธตรฏฺโปิ ปฺจโยชนสติเก นาคภวเน เภรึ จราเปสิ ‘‘โย สมุทฺทชาย สปฺปวณฺณํ ทสฺเสติ, ตสฺส ราชทณฺโฑ ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา เอโกปิ ตสฺสา สปฺปวณฺณํ ทสฺเสตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. สา มนุสฺสโลกสฺาย เอว ตตฺถ เตน สทฺธึ สมฺโมทมานา ปิยสํวาสํ วสิ.

นครกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

อุโปสถกณฺฑํ

สา อปรภาเค ธตรฏฺํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ปิยทสฺสนตฺตา ‘‘สุทสฺสโน’’ติ นามํ กรึสุ. ปุนาปรํ ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘ทตฺโต’’ติ นามํ อกํสุ. โส ปน โพธิสตฺโต. ปุเนกํ ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘สุโภโค’’ติ นามํ กรึสุ. อปรมฺปิ ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘อริฏฺโ’’ติ นามํ กรึสุ. อิติ สา จตฺตาโร ปุตฺเต วิชายิตฺวาปิ นาคภวนภาวํ น ชานาติ. อเถกทิวสํ ตรุณนาคา อริฏฺสฺส อาจิกฺขึสุ ‘‘ตว มาตา มนุสฺสิตฺถี, น นาคินี’’ติ. อริฏฺโ ‘‘วีมํสิสฺสามิ น’’นฺติ เอกทิวสํ ถนํ ปิวนฺโตว สปฺปสรีรํ มาเปตฺวา นงฺคุฏฺขณฺเฑน มาตุ ปิฏฺิปาเท ฆฏฺเฏสิ. สา ตสฺส สปฺปสรีรํ ทิสฺวา ภีตตสิตา มหารวํ รวิตฺวา ตํ ภูมิยํ ขิปนฺตี นเขน ตสฺส อกฺขึ ภินฺทิ. ตโต โลหิตํ ปคฺฆริ. ราชา ตสฺสา สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กิสฺเสสา วิรวตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อริฏฺเน กตกิริยํ สุตฺวา ‘‘คณฺหถ, นํ ทาสํ คเหตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปถา’’ติ ตชฺเชนฺโต อาคจฺฉิ. ราชธีตา ตสฺส กุทฺธภาวํ ตฺวา ปุตฺตสิเนเหน ‘‘เทว, ปุตฺตสฺส เม อกฺขิ ภินฺนํ, ขมเถตสฺสาปราธ’’นฺติ อาห. ราชา เอตาย เอวํ วทนฺติยา ‘‘กึ สกฺกา กาตุ’’นฺติ ขมิ. ตํ ทิวสํ สา ‘‘อิทํ นาคภวน’’นฺติ อฺาสิ. ตโต จ ปฏฺาย อริฏฺโ กาณาริฏฺโ นาม ชาโต. จตฺตาโรปิ ปุตฺตา วิฺุตํ ปาปุณึสุ.

อถ เนสํ ปิตา โยชนสติกํ โยชนสติกํ กตฺวา รชฺชมทาสิ, มหนฺโต ยโส อโหสิ. โสฬส โสฬส นาคกฺาสหสฺสานิ ปริวารยึสุ. ปิตุ เอกโยชนสติกเมว รชฺชํ อโหสิ. ตโย ปุตฺตา มาเส มาเส มาตาปิตโร ปสฺสิตุํ อาคจฺฉนฺติ, โพธิสตฺโต ปน อนฺวทฺธมาสํ อาคจฺฉติ. นาคภวเน สมุฏฺิตํ ปฺหํ โพธิสตฺโตว กเถติ. ปิตรา สทฺธึ วิรูปกฺขมหาราชสฺสปิ อุปฏฺานํ คจฺฉติ, ตสฺส สนฺติเก สมุฏฺิตํ ปฺหมฺปิ โสว กเถติ. อเถกทิวสํ วิรูปกฺเข นาคปริสาย สทฺธึ ติทสปุรํ คนฺตฺวา สกฺกํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺเน เทวานํ อนฺตเร ปฺโห สมุฏฺาสิ. ตํ โกจิ กเถตุํ นาสกฺขิ, ปลฺลงฺกวรคโต ปน หุตฺวา มหาสตฺโตว กเถสิ. อถ นํ เทวราชา ทิพฺพคนฺธปุปฺเผหิ ปูเชตฺวา ‘‘ทตฺต, ตฺวํ ปถวิสมาย วิปุลาย ปฺาย สมนฺนาคโต, อิโต ปฏฺาย ภูริทตฺโต นาม โหหี’’ติ ‘‘ภูริทตฺโต’’ ติสฺส นามํ อกาสิ. โส ตโต ปฏฺาย สกฺกสฺส อุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต อลงฺกตเวชยนฺตปาสาทํ เทวจฺฉราหิ อากิณฺณํ อติมโนหรํ สกฺกสฺส สมฺปตฺตึ ทิสฺวา เทวโลเก ปิยํ กตฺวา ‘‘กึ เม อิมินา มณฺฑูกภกฺเขน อตฺตภาเวน, นาคภวนํ คนฺตฺวา อุโปสถวาสํ วสิตฺวา อิมสฺมึ เทวโลเก อุปฺปตฺติการณํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นาคภวนํ คนฺตฺวา มาตาปิตโร อาปุจฺฉิ ‘‘อมฺมตาตา, อหํ อุโปสถกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ตาต, กโรหิ, กโรนฺโต ปน พหิ อคนฺตฺวา อิมสฺมิฺเว นาคภวเน เอกสฺมึ สุฺวิมาเน กโรหิ, พหิคตานํ ปน นาคานํ มหนฺตํ ภย’’นฺติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตตฺเถว สุฺวิมาเน ราชุยฺยาเน อุโปสถวาสํ วสติ. อถ นํ นานาตูริยหตฺถา นาคกฺา ปริวาเรนฺติ. โส ‘‘น มยฺหํ อิธ วสนฺตสฺส อุโปสถกมฺมํ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, มนุสฺสปถํ คนฺตฺวา กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิวารณภเยน มาตาปิตูนํ อนาโรเจตฺวา อตฺตโน ภริยาโย อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, อหํ มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา ยมุนาตีเร นิคฺโรธรุกฺโข อตฺถิ, ตสฺสาวิทูเร วมฺมิกมตฺถเก โภเค อาภุชิตฺวา จตุรงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อธิฏฺาย นิปชฺชิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กริสฺสามิ. มยา สพฺพรตฺตึ นิปชฺชิตฺวา อุโปสถกมฺเม กเต อรุณุคฺคมนเวลายเมว ตุมฺเห ทส ทส อิตฺถิโย อาทาย วาเรน วาเรน ตูริยหตฺถา มม สนฺติกํ อาคนฺตฺวา มํ คนฺเธหิ จ ปุปฺเผหิ จ ปูเชตฺวา คายิตฺวา นจฺจิตฺวา มํ อาทาย นาคภวนเมว อาคจฺฉถา’’ติ วตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วมฺมิกมตฺถเก โภเค อาภุชิตฺวา ‘‘โย มม จมฺมํ วา นฺหารุํ วา อฏฺึ วา รุหิรํ วา อิจฺฉติ, โส อาหรตู’’ติ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อธิฏฺาย นงฺคลสีสปฺปมาณํ สรีรํ มาเปตฺวา นิปนฺโน อุโปสถกมฺมมกาสิ. อรุเณ อุฏฺหนฺเตเยว ตํ นาคมาณวิกา อาคนฺตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิตฺวา นาคภวนํ อาเนนฺติ. ตสฺส อิมินา นิยาเมน อุโปสถํ กโรนฺตสฺส ทีโฆ อทฺธา วีติวตฺโต.

อุโปสถขณฺฑํ นิฏฺิตํ.

ครุฬขณฺฑํ

ตทา เอโก พาราณสิทฺวารคามวาสี พฺราหฺมโณ โสมทตฺเตน นาม ปุตฺเตน สทฺธึ อรฺํ คนฺตฺวา สูลยนฺตปาสวาคุราทีหิ โอฑฺเฑตฺวา มิเค วธิตฺวา มํสํ กาเชนาหริตฺวา วิกฺกิณนฺโต ชีวิกํ กปฺเปสิ. โส เอกทิวสํ อนฺตมโส โคธามตฺตมฺปิ อลภิตฺวา ‘‘ตาต โสมทตฺต, สเจ ตุจฺฉหตฺถา คมิสฺสาม, มาตา เต กุชฺฌิสฺสติ, ยํ กิฺจิ คเหตฺวา คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา โพธิสตฺตสฺส นิปนฺนวมฺมิกฏฺานาภิมุโข คนฺตฺวา ปานียํ ปาตุํ ยมุนํ โอตรนฺตานํ มิคานํ ปทวลฺชํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, มิคมคฺโค ปฺายติ, ตฺวํ ปฏิกฺกมิตฺวา ติฏฺาหิ, อหํ ปานียตฺถาย อาคตํ มิคํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ธนุํ อาทาย มิคํ โอโลเกนฺโต เอกสฺมึ รุกฺขมูเล อฏฺาสิ. อเถโก มิโค สายนฺหสมเย ปานียํ ปาตุํ อาคโต. โส ตํ วิชฺฌิ. มิโค ตตฺถ อปติตฺวา สรเวเคน ตชฺชิโต โลหิเตน ปคฺฆรนฺเตน ปลายิ. ปิตาปุตฺตา นํ อนุพนฺธิตฺวา ปติตฏฺาเน มํสํ คเหตฺวา อรฺา นิกฺขมิตฺวา สูริยตฺถงฺคมนเวลาย ตํ นิคฺโรธํ ปตฺวา ‘‘อิทานิ อกาโล, น สกฺกา คนฺตุํ, อิเธว วสิสฺสามา’’ติ มํสํ เอกมนฺเต เปตฺวา รุกฺขํ อารุยฺห วิฏปนฺตเร นิปชฺชึสุ. พฺราหฺมโณ ปจฺจูสสมเย ปพุชฺฌิตฺวา มิคสทฺทสวนาย โสตํ โอทหิ.

ตสฺมึ ขเณ นาคมาณวิกาโย อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ปุปฺผาสนํ ปฺาเปสุํ. โส อหิสรีรํ อนฺตรธาเปตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ ทิพฺพสรีรํ มาเปตฺวา สกฺกลีลาย ปุปฺผาสเน นิสีทิ. นาคมาณวิกาปิ นํ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา ทิพฺพตูริยานิ วาเทตฺวา นจฺจคีตํ ปฏฺเปสุํ. พฺราหฺมโณ ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘โก นุ โข เอส, ชานิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ปุตฺต, ปุตฺตา’’ติ วตฺวาปิ ปุตฺตํ ปโพเธตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สยตุ เอส, กิลนฺโต ภวิสฺสติ, อหเมว คมิสฺสามี’’ติ รุกฺขา โอรุยฺห ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. นาคมาณวิกา ตํ ทิสฺวา สทฺธึ ตูริเยหิ ภูมิยํ นิมุชฺชิตฺวา อตฺตโน นาคภวนเมว คตา. โพธิสตฺโต เอกโกว อโหสิ. พฺราหฺมโณ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๗๙๗.

‘‘ปุปฺผาภิหารสฺส วนสฺส มชฺเฌ, โก โลหิตกฺโข วิตตนฺตรํโส;

กา กมฺพุกายูรธรา สุวตฺถา, ติฏฺนฺติ นาริโย ทส วนฺทมานา.

๗๙๘.

‘‘โก ตฺวํ พฺรหาพาหุ วนสฺส มชฺเฌ, วิโรจสิ ฆตสิตฺโตว อคฺคิ;

มเหสกฺโข อฺตโรสิ ยกฺโข, อุทาหุ นาโคสิ มหานุภาโว’’ติ.

ตตฺถ ปุปฺผาภิหารสฺสาติ โพธิสตฺตสฺส ปูชนตฺถาย อาภเตน ทิพฺพปุปฺผาภิหาเรน สมนฺนาคตสฺส. โกติ โก นาม ตฺวํ. โลหิตกฺโขติ รตฺตกฺโข. วิตตนฺตรํโสติ ปุถุลอนฺตรํโส. กมฺพุกายูรธราติ สุวณฺณาลงฺการธรา. พฺรหาพาหูติ มหาพาหุ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สเจปิ ‘สกฺกาทีสุ อฺตโรหมสฺมี’ติ วกฺขามิ, สทฺทหิสฺสเตวายํ พฺราหฺมโณ, อชฺช ปน มยา สจฺจเมว กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน นาคราชภาวํ กเถนฺโต อาห –

๗๙๙.

‘‘นาโคหมสฺมิ อิทฺธิมา, เตชสฺสี ทุรติกฺกโม;

ฑํเสยฺยํ เตชสา กุทฺโธ, ผีตํ ชนปทํ อปิ.

๘๐๐.

‘‘สมุทฺทชา หิ เม มาตา, ธตรฏฺโ จ เม ปิตา;

สุทสฺสนกนิฏฺโสฺมิ, ภูริทตฺโตติ มํ วิทู’’ติ.

ตตฺถ เตชสฺสีติ วิสเตเชน เตชวา. ทุรติกฺกโมติ อฺเน อติกฺกมิตุํ อสกฺกุเณยฺโย. ฑํเสยฺยนฺติ สจาหํ กุทฺโธ ผีตํ ชนปทํ อปิ ฑํเสยฺยํ, ปถวิยํ มม ทาาย ปติตมตฺตาย สทฺธึ ปถวิยา มม เตเชน โส สพฺโพ ชนปโท ภสฺมา ภเวยฺยาติ วทติ. สุทสฺสนกนิฏฺโสฺมีติ อหํ มม ภาตุ สุทสฺสนสฺส กนิฏฺโ อสฺมิ. วิทูติ เอวํ มมํ ปฺจโยชนสติเก นาคภวเน ชานนฺตีติ.

อิทฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ จณฺโฑ ผรุโส, อหิตุณฺฑิกสฺส อาโรเจตฺวา อุโปสถกมฺมสฺส เม อนฺตรายมฺปิ กเรยฺย, ยํ นูนาหํ อิมํ นาคภวนํ เนตฺวา มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา อุโปสถกมฺมํ อทฺธนิยํ กเรยฺย’’นฺติ. อถ นํ อาห ‘‘พฺราหฺมณ, มหนฺตํ เต ยสํ ทสฺสามิ, รมณียํ นาคภวนํ, เอหิ ตตฺถ คจฺฉามา’’ติ. ‘‘สามิ, ปุตฺโต เม อตฺถิ, ตสฺมึ คจฺฉนฺเต อาคมิสฺสามี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘คจฺฉ, พฺราหฺมณ, อาเนหิ น’’นฺติ วตฺวา อตฺตโน อาวาสํ อาจิกฺขนฺโต อาห –

๘๐๑.

‘‘ยํ คมฺภีรํ สทาวฏฺฏํ, รหทํ เภสฺมํ เปกฺขสิ;

เอส ทิพฺโย มมาวาโส, อเนกสตโปริโส.

๘๐๒.

‘‘มยูรโกฺจาภิรุทํ, นีโลทํ วนมชฺฌโต;

ยมุนํ ปวิส มา ภีโต, เขมํ วตฺตวตํ สิว’’นฺติ.

ตตฺถ สทาวฏฺฏนฺติ สทา ปวตฺตํ อาวฏฺฏํ. เภสฺมนฺติ ภยานกํ. เปกฺขสีติ ยํ เอวรูปํ รหทํ ปสฺสสิ. มยูรโกฺจาภิรุทนฺติ อุโภสุ ตีเรสุ วนฆฏายํ วสนฺเตหิ มยูเรหิ จ โกฺเจหิ จ อภิรุทํ อุปกูชิตํ. นีโลทนฺติ นีลสลิลํ. วนมชฺฌโตติ วนมชฺเฌน สนฺทมานํ. ปวิส มา ภีโตติ เอวรูปํ ยมุนํ อภีโต หุตฺวา ปวิส. วตฺตวตนฺติ วตฺตสมฺปนฺนานํ อาจารวนฺตานํ วสนภูมึ ปวิส, คจฺฉ, พฺราหฺมณ, ปุตฺตํ อาเนหีติ.

พฺราหฺมโณ คนฺตฺวา ปุตฺตสฺส ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ปุตฺตํ อาเนสิ. มหาสตฺโต เต อุโภปิ อาทาย ยมุนาตีรํ คนฺตฺวา ตีเร ิโต อาห –

๘๐๓.

‘‘ตตฺถ ปตฺโต สานุจโร, สห ปุตฺเตน พฺราหฺมณ;

ปูชิโต มยฺหํ กาเมหิ, สุขํ พฺราหฺมณ วจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ ตตฺถ ปตฺโตติ ตฺวํ อมฺหากํ นาคภวนํ ปตฺโต หุตฺวา. มยฺหนฺติ มม สนฺตเกหิ กาเมหิ ปูชิโต. วจฺฉสีติ ตตฺถ นาคภวเน สุขํ วสิสฺสติ.

เอวํ วตฺวา มหาสตฺโต อุโภปิ เต ปิตาปุตฺเต อตฺตโน อานุภาเวน นาคภวนํ อาเนสิ. เตสํ ตตฺถ ทิพฺโพ อตฺตภาโว ปาตุภวิ. อถ เนสํ มหาสตฺโต ทิพฺพสมฺปตฺตึ ทตฺวา จตฺตาริ จตฺตาริ นาคกฺาสตานิ อทาสิ. เต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวึสุ. โพธิสตฺโตปิ อปฺปมตฺโต อุโปสถกมฺมํ อกาสิ. อนฺวฑฺฒมาสํ มาตาปิตูนํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา ธมฺมกถํ กเถตฺวา ตโต จ พฺราหฺมณสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรคฺยํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เยน เต อตฺโถ, ตํ วเทยฺยาสิ, อนุกฺกณฺมาโน อภิรมา’’ติ วตฺวา โสมทตฺเตนปิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา อตฺตโน นิเวสนํ อคจฺฉิ. พฺราหฺมโณ เอกสํวจฺฉรํ นาคภวเน วสิตฺวา มนฺทปุฺตาย อุกฺกณฺิโต มนุสฺสโลกํ คนฺตุกาโม อโหสิ. นาคภวนมสฺส โลกนฺตรนิรโย วิย อลงฺกตปาสาโท พนฺธนาคารํ วิย อลงฺกตนาคกฺา ยกฺขินิโย วิย อุปฏฺหึสุ. โส ‘‘อหํ ตาว อุกฺกณฺิโต, โสมทตฺตสฺสปิ จิตฺตํ ชานิสฺสามี’’ติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาห ‘‘กึ, ตาต, อุกฺกณฺสี’’ติ? ‘‘กสฺมา อุกฺกณฺิสฺสามิ น อุกฺกณฺามิ, ตฺวํ ปน อุกฺกณฺสิ, ตาตา’’ติ? ‘‘อาม ตาตา’’ติ. ‘‘กึการณา’’ติ. ‘‘ตว มาตุ เจว ภาตุภคินีนฺจ อทสฺสเนน อุกฺกณฺามิ, เอหิ, ตาต โสมทตฺต, คจฺฉามา’’ติ. โส ‘‘น คจฺฉามี’’ติ วตฺวาปิ ปุนปฺปุนํ ปิตรา ยาจิยมาโน ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.

พฺราหฺมโณ ‘‘ปุตฺตสฺส ตาว เม มโน ลทฺโธ, สเจ ปนาหํ ภูริทตฺตสฺส ‘อุกฺกณฺิโตมฺหี’ติ วกฺขามิ, อติเรกตรํ เม ยสํ ทสฺสติ, เอวํ เม คมนํ น ภวิสฺสติ. เอเกน ปน อุปาเยน ตสฺส สมฺปตฺตึ วณฺเณตฺวา ‘ตฺวํ เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ปหาย กึการณา มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา อุโปสถกมฺมํ กโรสี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘สคฺคตฺถายา’ติ วุตฺเต ‘ตฺวํ ตาว เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ปหาย สคฺคตฺถาย อุโปสถกมฺมํ กโรสิ, กิมงฺคํ ปน มยํเยว ปรธเนน ชีวิกํ กปฺเปม, อหมฺปิ มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา าตเก ทิสฺวา ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสามี’ติ นํ สฺาเปสฺสามิ. อถ เม โส คมนํ อนุชานิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกทิวสํ เตนาคนฺตฺวา ‘‘กึ, พฺราหฺมณ, อุกฺกณฺสี’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกา อมฺหากํ น กิฺจิ ปริหายตี’’ติ กิฺจิ คมนปฏิพทฺธํ อวตฺวาว อาทิโต ตาว ตสฺส สมฺปตฺตึ วณฺเณนฺโต อาห –

๘๐๔.

‘‘สมา สมนฺตปริโต, ปหูตตครา มหี;

อินฺทโคปกสฺฉนฺนา, โสภติ หริตุตฺตมา.

๘๐๕.

‘‘รมฺมานิ วนเจตฺยานิ, รมฺมา หํสูปกูชิตา;

โอปุปฺผปทฺธา ติฏฺนฺติ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.

๘๐๖.

‘‘อฏฺํสา สุกตา ถมฺภา, สพฺเพ เวฬุริยามยา;

สหสฺสถมฺภา ปาสาทา, ปูรา กฺาหิ โชตเร.

๘๐๗.

‘‘วิมานํ อุปปนฺโนสิ, ทิพฺยํ ปุฺเหิ อตฺตโน;

อสมฺพาธํ สิวํ รมฺมํ, อจฺจนฺตสุขสํหิตํ.

๘๐๘.

‘‘มฺเ สหสฺสเนตฺตสฺส, วิมานํ นาภิกงฺขสิ;

อิทฺธี หิ ตฺยายํ วิปุลา, สกฺกสฺเสว ชุตีมโต’’ติ.

ตตฺถ สมา สมนฺตปริโตติ ปริสมนฺตโต สพฺพทิสาภาเคสุ อยํ ตว นาคภวเน มหี สุวณฺณรชตมณิ มุตฺตาวาลุกาปริกิณฺณา สมตลา. ปหูตตครา มหีติ พหุเกหิ ตครคจฺเฉหิ สมนฺนาคตา. อินฺทโคปกสฺฉนฺนาติ สุวณฺณอินฺทโคปเกหิ สฺฉนฺนา. โสภติ หริตุตฺตมาติ หริตวณฺณทพฺพติณสฺฉนฺนา โสภตีติ อตฺโถ. วนเจตฺยานีติ วนฆฏา. โอปุปฺผปทฺธาติ ปุปฺผิตฺวา ปติเตหิ ปทุมปตฺเตหิ สฺฉนฺนา อุทกปิฏฺา. สุนิมฺมิตาติ ตว ปุฺสมฺปตฺติยา สุฏฺุ นิมฺมิตา. อฏฺํสาติ ตว วสนปาสาเทสุ อฏฺํสา สุกตา เวฬุริยมยา ถมฺภา. เตหิ ถมฺเภหิ สหสฺสถมฺภา ตว ปาสาทา นาคกฺาหิ ปูรา วิชฺโชตนฺติ. อุปปนฺโนสีติ เอวรูเป วิมาเน นิพฺพตฺโตสีติ อตฺโถ. สหสฺสเนตฺตสฺส วิมานนฺติ สกฺกสฺส เวชยนฺตปาสาทํ. อิทฺธี หิ ตฺยายํ วิปุลาติ ยสฺมา ตวายํ วิปุลา อิทฺธิ, ตสฺมา ตฺวํ เตน อุโปสถกมฺเมน สกฺกสฺส วิมานมฺปิ น ปตฺเถสิ, อฺํ ตโต อุตฺตริ มหนฺตํ านํ ปตฺเถสีติ มฺามิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘มา เหวํ, พฺราหฺมณ, อวจ, สกฺกสฺส ยสํ ปฏิจฺจ อมฺหากํ ยโส สิเนรุสนฺติเก สาสโป วิย, มยํ ตสฺส ปริจารเกปิ น อคฺฆามา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๘๐๙.

‘‘มนสาปิ น ปตฺตพฺโพ, อานุภาโว ชุตีมโต;

ปริจารยมานานํ, สอินฺทานํ วสวตฺติน’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – พฺราหฺมณ, สกฺกสฺส ยโส นาม เอกํ ทฺเว ตโย จตฺตาโร วา ทิวเส ‘‘เอตฺตโก สิยา’’ติ มนสา จินฺเตนฺเตนปิ น อภิปตฺตพฺโพ. เยปิ นํ จตฺตาโร มหาราชาโน ปริจาเรนฺติ, เตสํ เทวราชานํ ปริจารยมานานํ อินฺทํ นายกํ กตฺวา จรนฺตานํ สอินฺทานํ วสวตฺตีนํ จตุนฺนํ โลกปาลานํ ยสสฺสปิ อมฺหากํ ติรจฺฉานคตานํ ยโส โสฬสึ กลํ นคฺฆตีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อิทํ เต มฺเ สหสฺสเนตฺตสฺส วิมาน’’นฺติ วจนํ สุตฺวา อหํ ตํ อนุสฺสรึ. ‘‘อหฺหิ เวชยนฺตํ ปตฺเถนฺโต อุโปสถกมฺมํ กโรมี’’ติ ตสฺส อตฺตโน ปตฺถนํ อาจิกฺขนฺโต อาห –

๘๑๐.

‘‘ตํ วิมานํ อภิชฺฌาย, อมรานํ สุเขสินํ;

อุโปสถํ อุปวสนฺโต, เสมิ วมฺมิกมุทฺธนี’’ติ.

ตตฺถ อภิชฺฌายาติ ปตฺเถตฺวา. อมรานนฺติ ทีฆายุกานํ เทวานํ. สุเขสินนฺติ เอสิตสุขานํ สุเข ปติฏฺิตานํ.

กํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ‘‘อิทานิ เม โอกาโส ลทฺโธ’’ติ โสมนสฺสปฺปตฺโต คนฺตุํ อาปุจฺฉนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๘๑๑.

‘‘อหฺจ มิคเมสาโน, สปุตฺโต ปาวิสึ วนํ;

ตํ มํ มตํ วา ชีวํ วา, นาภิเวเทนฺติ าตกา.

๘๑๒.

‘‘อามนฺตเย ภูริทตฺตํ, กาสิปุตฺตํ ยสสฺสินํ;

ตยา โน สมนุฺาตา, อปิ ปสฺเสมุ าตเก’’ติ.

ตตฺถ นาภิเวเทนฺตีติ น ชานนฺติ, กเถนฺโตปิ เนสํ นตฺถิ. อามนฺตเยติ อามนฺตยามิ. กาสิปุตฺตนฺติ กาสิราชธีตาย ปุตฺตํ.

ตโต โพธิสตฺโต อาห –

๘๑๓.

‘‘เอโส หิ วต เม ฉนฺโท, ยํ วเสสิ มมนฺติเก;

น หิ เอตาทิสา กามา, สุลภา โหนฺติ มานุเส.

๘๑๔.

‘‘สเจ ตฺวํ นิจฺฉเส วตฺถุํ, มม กาเมหิ ปูชิโต;

มยา ตฺวํ สมนุฺาโต, โสตฺถึ ปสฺสาหิ าตเก’’ติ.

มหาสตฺโต คาถาทฺวยํ วตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มณึ นิสฺสาย สุขํ ชีวนฺโต กสฺสจิ นาจิกฺขิสฺสติ, เอตสฺส สพฺพกามททํ มณึ ทสฺสามี’’ติ. อถสฺส ตํ ททนฺโต อาห –

๘๑๕.

‘‘ธารยิมํ มณึ ทิพฺยํ, ปสุํ ปุตฺเต จ วินฺทติ;

อโรโค สุขิโต โหติ, คจฺเฉวาทาย พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ ปสุํ ปุตฺเต จ วินฺทตีติ อิมํ มณึ ธารยมาโน อิมสฺสานุภาเวน ปสุฺจ ปุตฺเต จ อฺฺจ ยํ อิจฺฉติ, ตํ สพฺพํ ลภติ.

ตโต พฺราหฺมโณ คาถมาห –

๘๑๖.

‘‘กุสลํ ปฏินนฺทามิ, ภูริทตฺต วโจ ตว;

ปพฺพชิสฺสามิ ชิณฺโณสฺมิ, น กาเม อภิปตฺถเย’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ภูริทตฺต, ตว วจนํ กุสลํ อนวชฺชํ, ตํ ปฏินนฺทามิ น ปฏิกฺขิปามิ. อหํ ปน ชิณฺโณ อสฺมิ, ตสฺมา ปพฺพชิสฺสามิ, น กาเม อภิปตฺถยามิ, กึ เม มณินาติ.

โพธิสตฺโต อาห –

๘๑๗.

‘‘พฺรหฺมจริยสฺส เจ ภงฺโค, โหติ โภเคหิ การิยํ;

อวิกมฺปมาโน เอยฺยาสิ, พหุํ ทสฺสามิ เต ธน’’นฺติ.

ตตฺถ เจ ภงฺโคติ พฺรหฺมจริยวาโส นาม ทุกฺกโร, อนภิรตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส เจ ภงฺโค โหติ, ตทา คิหิภูตสฺส โภเคหิ การิยํ โหติ, เอวรูเป กาเล ตฺวํ นิราสงฺโก หุตฺวา มม สนฺติกํ อาคจฺเฉยฺยาสิ, พหุํ เต ธนํ ทสฺสามีติ.

พฺราหฺมโณ อาห –

๘๑๘.

‘‘กุสลํ ปฏินนฺทามิ, ภูริทตฺต วโจ ตว;

ปุนปิ อาคมิสฺสามิ, สเจ อตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ปุนปีติ ปุน อปิ, อยเมว วา ปาโ.

อถสฺส ตตฺถ อวสิตุกามตํ ตฺวา มหาสตฺโต นาคมาณวเก อาณาเปตฺวา พฺราหฺมณํ มนุสฺสโลกํ ปาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๑๙.

‘‘อิทํ วตฺวา ภูริทตฺโต, เปเสสิ จตุโร ชเน;

เอถ คจฺฉถ อุฏฺเถ, ขิปฺปํ ปาเปถ พฺราหฺมณํ.

๘๒๐.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, อุฏฺาย จตุโร ชนา;

เปสิตา ภูริทตฺเตน, ขิปฺปํ ปาเปสุ พฺราหฺมณ’’นฺติ.

ตตฺถ ปาเปสูติ ยมุนาโต อุตฺตาเรตฺวา พาราณสิมคฺคํ ปาปยึสุ, ปาปยิตฺวา จ ปน ‘‘ตุมฺเห คจฺฉถา’’ติ วตฺวา นาคภวนเมว ปจฺจาคมึสุ.

พฺราหฺมโณปิ ‘‘ตาต โสมทตฺต, อิมสฺมึ าเน มิคํ วิชฺฌิมฺหา, อิมสฺมึ สูกร’’นฺติ ปุตฺตสฺส อาจิกฺขนฺโต อนฺตรามคฺเค โปกฺขรณึ ทิสฺวา ‘‘ตาต โสมทตฺต, นฺหายามา’’ติ วตฺวา ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ วุตฺเต อุโภปิ ทิพฺพาภรณานิ เจว ทิพฺพวตฺถานิ จ โอมุฺจิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา โปกฺขรณีตีเร เปตฺวา โอตริตฺวา นฺหายึสุ. ตสฺมึ ขเณ ตานิ อนฺตรธายิตฺวา นาคภวนเมว อคมํสุ. ปมํ นิวตฺถกาสาวปิโลติกาว เนสํ สรีเร ปฏิมุฺจึสุ, ธนุสรสตฺติโยปิ ปากติกาว อเหสุํ. โสมทตฺโต ‘‘นาสิตามฺหา ตยา, ตาตา’’ติ ปริเทวิ. อถ นํ ปิตา ‘‘มา จินฺตยิ, มิเคสุ สนฺเตสุ อรฺเ มิเค วธิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสามา’’ติ อสฺสาเสสิ. โสมทตฺตสฺส มาตา เตสํ อาคมนํ สุตฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ฆรํ เนตฺวา อนฺนปาเนน สนฺตปฺเปสิ. พฺราหฺมโณ ภุฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ. อิตรา ปุตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, เอตฺตกํ กาลํ กุหึ คตตฺถา’’ติ? ‘‘อมฺม, ภูริทตฺตนาคราเชน อมฺเห นาคภวนํ นีตา, ตโต อุกฺกณฺิตฺวา อิทานิ อาคตา’’ติ. ‘‘กิฺจิ ปน โว รตนํ อาภต’’นฺติ. ‘‘นาภตํ อมฺมา’’ติ. ‘‘กึ ตุมฺหากํ เตน กิฺจิ น ทินฺน’’นฺติ. ‘‘อมฺม, ภูริทตฺเตน เม ปิตุ สพฺพกามทโท มณิ ทินฺโน อโหสิ, อิมินา ปน น คหิโต’’ติ. ‘‘กึการณา’’ติ. ‘‘ปพฺพชิสฺสติ กิรา’’ติ. สา ‘‘เอตฺตกํ กาลํ ทารเก มม ภารํ กโรนฺโต นาคภวเน วสิตฺวา อิทานิ กิร ปพฺพชิสฺสตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา วีหิภฺชนทพฺพิยา ปิฏฺึ โปเถนฺตี ‘‘อเร, ทุฏฺพฺราหฺมณ, ปพฺพชิสฺสามีติ กิร มณิรตนํ น คณฺหสิ, อถ กสฺมา อปพฺพชิตฺวา อิธาคโตสิ, นิกฺขม มม ฆรา สีฆ’’นฺติ สนฺตชฺเชสิ. อถ นํ ‘‘ภทฺเท, มา กุชฺฌิ, อรฺเ มิเคสุ สนฺเตสุ อหํ ตํ โปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ปุตฺเตน สทฺธึ อรฺํ คนฺตฺวา ปุริมนิยาเมเนว ชีวิกํ กปฺเปสิ.

ตทา ทกฺขิณมหาสมุทฺทสฺส ทิสาภาเค สิมฺพลิวาสี เอโก ครุโฬ ปกฺขวาเตหิ สมุทฺเท อุทกํ วิยูหิตฺวา เอกํ นาคราชานํ สีเส คณฺหิ. ตทาหิ สุปณฺณา นาคํ คเหตุํ อชานนกาเยว, ปจฺฉา ปณฺฑรชาตเก ชานึสุ. โส ปน ตํ สีเส คเหตฺวาปิ อุทเก อโนตฺถรนฺเตเยว อุกฺขิปิตฺวา โอลมฺพนฺตํ อาทาย หิมวนฺตมตฺถเกน ปายาสิ. ตทา เจโก กาสิรฏฺวาสี พฺราหฺมโณ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา หิมวนฺตปฺปเทเส ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา ปฏิวสติ. ตสฺส จงฺกมนโกฏิยํ มหานิคฺโรธรุกฺโข อตฺถิ. โส ตสฺส มูเล ทิวาวิหารํ กโรติ. สุปณฺโณ นิคฺโรธมตฺถเกน นาคํ หรติ. นาโค โอลมฺพนฺโต โมกฺขตฺถาย นงฺคุฏฺเน นิคฺโรธวิฏปํ เวเสิ. สุปณฺโณ ตํ อชานนฺโตว มหพฺพลตาย อากาเส ปกฺขนฺทิเยว. นิคฺโรธรุกฺโข สมูโล อุปฺปาฏิโต. สุปณฺโณ นาคํ สิมฺพลิวนํ เนตฺวา ตุณฺเฑน ปหริตฺวา กุจฺฉึ ผาเลตฺวา นาคเมทํ ขาทิตฺวา สรีรํ สมุทฺทกุจฺฉิมฺหิ ฉฑฺเฑสิ. นิคฺโรธรุกฺโข ปตนฺโต มหาสทฺทมกาสิ. สุปณฺโณ ‘‘กิสฺส เอโส สทฺโท’’ติ อโธ โอโลเกนฺโต นิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา ‘‘กุโต เอส มยา อุปฺปาฏิโต’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตาปสสฺส จงฺกมนโกฏิยา นิคฺโรโธ เอโส’’ติ ตถโต ตฺวา ‘‘อยํ ตสฺส พหูปกาโร, ‘อกุสลํ นุ โข เม ปสุตํ, อุทาหุ โน’ติ ตเมว ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ มาณวกเวเสน ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ.

ตสฺมึ ขเณ ตาปโส ตํ านํ สมํ กโรติ. สุปณฺณราชา ตาปสํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน อชานนฺโต วิย ‘‘กิสฺส านํ, ภนฺเต, อิท’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อุปาสก, เอโก สุปณฺโณ โภชนตฺถาย นาคํ หรนฺโต นาเคน โมกฺขตฺถาย นิคฺโรธวิฏปํ นงฺคุฏฺเน เวิตายปิ อตฺตโน มหพฺพลตาย ปกฺขนฺติตฺวา คโต, อถ นิคฺโรธรุกฺโข อุปฺปาฏิโต, อิทํ ตสฺส อุปฺปาฏิตฏฺาน’’นฺติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ตสฺส สุปณฺณสฺส อกุสลํ โหติ, อุทาหุ โน’’ติ? ‘‘สเจ น ชานาติ, อเจตนกมฺมํ นาม อกุสลํ น โหตี’’ติ. ‘‘กึ นาคสฺส ปน, ภนฺเต’’ติ? ‘‘โส อิมํ นาเสตุํ น คณฺหิ, โมกฺขตฺถาย คณฺหิ, ตสฺมา ตสฺสปิ น โหติเยวา’’ติ. สุปณฺโณ ตาปสสฺส ตุสฺสิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อหํ โส สุปณฺณราชา, ตุมฺหากฺหิ ปฺหเวยฺยากรเณน ตุฏฺโ. ตุมฺเห อรฺเ วสถ, อหฺเจกํ อลมฺปายนมนฺตํ ชานามิ, อนคฺโฆ มนฺโต. ตมหํ ตุมฺหากํ อาจริยภาคํ กตฺวา ทมฺมิ, ปฏิคฺคณฺหถ น’’นฺติ อาห. ‘‘อลํ มยฺหํ มนฺเตน, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ. โส ตํ ปุนปฺปุนํ ยาจิตฺวา สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา มนฺตํ ทตฺวา โอสธานิ อาจิกฺขิตฺวา ปกฺกามิ.

ครุฬกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

กีฬนกณฺฑํ

ตสฺมึ กาเล พาราณสิยํ เอโก ทลิทฺทพฺราหฺมโณ พหุํ อิณํ คเหตฺวา อิณสามิเกหิ โจทิยมาโน ‘‘กึ เม อิธ วาเสน, อรฺํ ปวิสิตฺวา มตํ เสยฺโย’’ติ นิกฺขมิตฺวา วนํ ปวิสิตฺวา อนุปุพฺเพน ตํ อสฺสมปทํ ปตฺวา ตาปสํ วตฺตสมฺปทาย อาราเธสิ. ตาปโส ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ มยฺหํ อติวิย อุปการโก, สุปณฺณราเชน ทินฺนํ ทิพฺพมนฺตมสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, อหํ อลมฺปายนมนฺตํ ชานามิ, ตํ เต ทมฺมิ, คณฺหาหิ น’’นฺติ วตฺวา ‘‘อลํ, ภนฺเต, น มยฺหํ มนฺเตนตฺโถ’’ติ วุตฺเตปิ ปุนปฺปุนํ วตฺวา นิปฺปีเฬตฺวา สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อทาสิเยว. ตสฺส จ มนฺตสฺส อนุจฺฉวิกานิ โอสธานิ เจว มนฺตุปจารฺจ สพฺพํ กเถสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ลทฺโธ เม ชีวิตุปาโย’’ติ กติปาหํ วสิตฺวา ‘‘วาตาพาโธ เม, ภนฺเต, พาธตี’’ติ อปเทสํ กตฺวา ตาปเสน วิสฺสชฺชิโต ตํ วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา อรฺา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ยมุนาย ตีรํ ปตฺวา ตํ มนฺตํ สชฺฌายนฺโต มหามคฺคํ คจฺฉติ.

ตสฺมึ กาเล สหสฺสมตฺตา ภูริทตฺตสฺส ปริจาริกา นาคมาณวิกา ตํ สพฺพกามททํ มณิรตนํ อาทาย นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา ยมุนาตีเร วาลุกราสิมฺหิ เปตฺวา ตสฺส โอภาเสน สพฺพรตฺตึ อุทกกีฬํ กีฬิตฺวา อรุณุคฺคมเน สพฺพาลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา มณิรตนํ ปริวาเรตฺวา สิรึ ปเวสยมานา นิสีทึสุ. พฺราหฺมโณปิ มนฺตํ สชฺฌายนฺโต ตํ านํ ปาปุณิ. ตา มนฺตสทฺทํ สุตฺวาว ‘‘อิมินา สุปณฺเณน ภวิตพฺพ’’นฺติ มรณภยตชฺชิตา มณิรตนํ อคฺคเหตฺวา ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา นาคภวนํ อคมึสุ. พฺราหฺมโณปิ มณิรตนํ ทิสฺวา ‘‘อิทาเนว เม มนฺโต สมิทฺโธ’’ติ ตุฏฺมานโส มณิรตนํ อาทาย ปายาสิ. ตสฺมึ ขเณ เนสาทพฺราหฺมโณ โสมทตฺเตน สทฺธึ มิควธาย อรฺํ ปวิสนฺโต ตสฺส หตฺเถ ตํ มณิรตนํ ทิสฺวา ปุตฺตํ อาห ‘‘ตาต, นนุ เอโส อมฺหากํ ภูริทตฺเตน ทินฺโน มณี’’ติ? ‘‘อาม, ตาต, เอโส มณี’’ติ. ‘‘เตน หิสฺส อคุณํ กเถตฺวา อิมํ พฺราหฺมณํ วฺเจตฺวา คณฺหาเมตํ มณิรตน’’นฺติ. ‘‘ตาต, ปุพฺเพ ภูริทตฺเตน ทียมานํ น คณฺหิ, อิทานิ ปเนส พฺราหฺมโณ ตฺเว วฺเจสฺสติ, ตุณฺหี โหหี’’ติ. พฺราหฺมโณ ‘‘โหตุ, ตาต, ปสฺสสิ เอตสฺส วา มม วา วฺจนภาว’’นฺติ อลมฺปายเนน สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๘๒๑.

‘‘มณึ ปคฺคยฺห มงฺคลฺยํ, สาธุวิตฺตํ มโนรมํ;

เสลํ พฺยฺชนสมฺปนฺนํ, โก อิมํ มณิมชฺฌคา’’ติ.

ตตฺถ มงฺคลฺยนฺติ มงฺคลสมฺมตํ สพฺพกามททํ. โก อิมนฺติ กุหึ อิมํ มณึ อธิคโตสิ.

ตโต อลมฺปายโน คาถมาห –

๘๒๒.

‘‘โลหิตกฺขสหสฺสาหิ, สมนฺตา ปริวาริตํ;

อชฺช กาลํ ปถํ คจฺฉํ, อชฺฌคาหํ มณึ อิม’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – อหํ อชฺช กาลํ ปาโตว ปถํ มคฺคํ คจฺฉนฺโต รตฺตกฺขิกาหิ สหสฺสมตฺตาหิ นาคมาณวิกาหิ สมนฺตา ปริวาริตํ อิมํ มณึ อชฺฌคา. มํ ทิสฺวา หิ สพฺพาว เอตา ภยตชฺชิตา อิมํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตาติ.

เนสาทพฺราหฺมโณ ตํ วฺเจตุกาโม มณิรตนสฺส อคุณํ ปกาเสนฺโต อตฺตนา คณฺหิตุกาโม ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๘๒๓.

‘‘สูปจิณฺโณ อยํ เสโล, อจฺจิโต มานิโต สทา;

สุธาริโต สุนิกฺขิตฺโต, สพฺพตฺถมภิสาธเย.

๘๒๔.

‘‘อุปจารวิปนฺนสฺส, นิกฺเขเป ธารณาย วา;

อยํ เสโล วินาสาย, ปริจิณฺโณ อโยนิโส.

๘๒๕.

‘‘น อิมํ อกุสโล ทิพฺยํ, มณึ ธาเรตุมารโห;

ปฏิปชฺช สตํ นิกฺขํ, เทหิมํ รตนํ มม’’นฺติ.

ตตฺถ สพฺพตฺถนฺติ โย อิมํ เสลํ สุฏฺุ อุปจริตุํ อจฺจิตุํ อตฺตโน ชีวิตํ วิย มมายิตุํ สุฏฺุ ธาเรตุํ สุฏฺุ นิกฺขิปิตุํ ชานาติ, ตสฺเสว สูปจิณฺโณ อจฺจิโต มานิโต สุธาริโต สุนิกฺขิตฺโต อยํ เสโล สพฺพํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺโถ. อุปจารวิปนฺนสฺสาติ โย ปน อุปจารวิปนฺโน โหติ, ตสฺเสโส อนุปาเยน ปริจิณฺโณ วินาสเมว วหตีติ วทติ. ธาเรตุมารโหติ ธาเรตุํ อรโห. ปฏิปชฺช สตํ นิกฺขนฺติ อมฺหากํ เคเห พหู มณี, มยเมตํ คเหตุํ ชานาม. อหํ เต นิกฺขสตํ ทสฺสามิ, ตํ ปฏิปชฺช, เทหิ อิมํ มณิรตนํ มมนฺติ. ตสฺส หิ เคเห เอโกปิ สุวณฺณนิกฺโข นตฺถิ. โส ปน ตสฺส มณิโน สพฺพกามททภาวํ ชานาติ. เตนสฺส เอตทโหสิ ‘‘อหํ สสีสํ นฺหตฺวา มณึ อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา ‘นิกฺขสตํ เม เทหี’ติ วกฺขามิ, อเถส เม ทสฺสติ, ตมหํ เอตสฺส ทสฺสามี’’ติ. ตสฺมา สูโร หุตฺวา เอวมาห.

ตโต อลมฺปายโน คาถมาห –

๘๒๖.

‘‘น จ มฺยายํ มณี เกยฺโย, โคหิ วา รตเนหิ วา;

เสโล พฺยฺชนสมฺปนฺโน, เนว เกยฺโย มณิ มมา’’ติ.

ตตฺถ น จ มฺยายนฺติ อยํ มณิ มม สนฺตโก เกนจิ วิกฺกิณิตพฺโพ นาม น โหติ. เนว เกยฺโยติ อยฺจ มม มณิ ลกฺขณสมฺปนฺโน, ตสฺมา เนว เกยฺโย เกนจิ วตฺถุนาปิ วิกฺกิณิตพฺโพ นาม น โหตีติ.

เนสาทพฺราหฺมโณ อาห –

๘๒๗.

‘‘โน เจ ตยา มณี เกยฺโย, โคหิ วา รตเนหิ วา;

อถ เกน มณี เกยฺโย, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

อลมฺปายโน อาห –

๘๒๘.

‘‘โย เม สํเส มหานาคํ, เตชสฺสึ ทุรติกฺกมํ;

ตสฺส ทชฺชํ อิมํ เสลํ, ชลนฺตมิว เตชสา’’ติ.

ตตฺถ ชลนฺตมิว เตชสาติ ปภาย ชลนฺตํ วิย.

เนสาทพฺราหฺมโณ อาห –

๘๒๙.

‘‘โก นุ พฺราหฺมณวณฺเณน, สุปณฺโณ ปตตํ วโร;

นาคํ ชิคีสมนฺเวสิ, อนฺเวสํ ภกฺขมตฺตโน’’ติ.

ตตฺถ โก นูติ อิทํ เนสาทพฺราหฺมโณ ‘‘อตฺตโน ภกฺขํ อนฺเวสนฺเตน ครุเฬน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา เอวมาห.

อลมฺปายโน เอวมาห –

๘๓๐.

‘‘นาหํ ทิชาธิโป โหมิ, อทิฏฺโ ครุโฬ มยา;

อาสีวิเสน วิตฺโตติ, เวชฺโช พฺราหฺมณ มํ วิทู’’ติ.

ตตฺถ มํ วิทูติ มํ ‘‘เอส อาสีวิเสน วิตฺตโก อลมฺปายโน นาม เวชฺโช’’ติ ชานนฺติ.

เนสาทพฺราหฺมโณ อาห –

๘๓๑.

‘‘กึ นุ ตุยฺหํ ผลํ อตฺถิ, กึ สิปฺปํ วิชฺชเต ตว;

กิสฺมึ วา ตฺวํ ปรตฺถทฺโธ, อุรคํ นาปจายสี’’ติ.

ตตฺถ กิสฺมึ วา ตฺวํ ปรตฺถทฺโธติ ตฺวํ กิสฺมึ วา อุปตฺถทฺโธ หุตฺวา, กึ นิสฺสยํ กตฺวา อุรคํ อาสีวิสํ น อปจายสิ เชฏฺกํ อกตฺวา อวชานาสีติ ปุจฺฉติ.

โส อตฺตโน พลํ ทีเปนฺโต อาห –

๘๓๒.

‘‘อารฺิกสฺส อิสิโน, จิรรตฺตํ ตปสฺสิโน;

สุปณฺโณ โกสิยสฺสกฺขา, วิสวิชฺชํ อนุตฺตรํ.

๘๓๓.

‘‘ตํ ภาวิตตฺตฺตรํ, สมฺมนฺตํ ปพฺพตนฺตเร;

สกฺกจฺจํ ตํ อุปฏฺาสึ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.

๘๓๔.

‘‘โส ตทา ปริจิณฺโณ เม, วตฺตวา พฺรหฺมจริยวา;

ทิพฺพํ ปาตุกรี มนฺตํ, กามสา ภควา มม.

๘๓๕.

‘‘ตฺยาหํ มนฺเต ปรตฺถทฺโธ, นาหํ ภายามิ โภคินํ;

อาจริโย วิสฆาตานํ, อลมฺปาโนติ มํ วิทู’’ติ.

ตตฺถ โกสิยสฺสกฺขาติ โกสิยโคตฺตสฺส อิสิโน สุปณฺโณ อาจิกฺขิ. เตน อกฺขาตการณํ ปน สพฺพํ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพํ. ภาวิตตฺตฺตรนฺติ ภาวิตตฺตานํ อิสีนํ อฺตรํ. สมฺมนฺตนฺติ วสนฺตํ. กามสาติ อตฺตโน อิจฺฉาย. มมาติ ตํ มนฺตํ มยฺหํ ปกาเสสิ. ตฺยาหํ มนฺเต, ปรตฺถทฺโธติ อหํ เต มนฺเต อุปตฺถทฺโธ นิสฺสิโต. โภคินนฺติ นาคานํ. วิสฆาตานนฺติ วิสฆาตกเวชฺชานํ.

ตํ สุตฺวา เนสาทพฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘อยํ อลมฺปายโน ยฺวาสฺส นาคํ ทสฺเสติ, ตสฺส มณิรตนํ ทสฺสติ, ภูริทตฺตมสฺส ทสฺเสตฺวา มณึ คณฺหิสฺสามี’’ติ. ตโต ปุตฺเตน สทฺธึ มนฺเตนฺโต คาถมาห –

๘๓๖.

‘‘คณฺหามเส มณึ ตาต, โสมทตฺต วิชานหิ;

มา ทณฺเฑน สิรึ ปตฺตํ, กามสา ปชหิมฺหเส’’ติ.

ตตฺถ คณฺหามเสติ คณฺหาม. กามสาติ อตฺตโน รุจิยา ทณฺเฑน ปหริตฺวา มา ชหาม.

โสมทตฺโต อาห –

๘๓๗.

‘‘สกํ นิเวสนํ ปตฺตํ, โย ตํ พฺราหฺมณ ปูชยิ;

เอวํ กลฺยาณการิสฺส, กึ โมหา ทุพฺภิมิจฺฉสิ.

๘๓๘.

‘‘สเจ ตฺวํ ธนกาโมสิ, ภูริทตฺโต ปทสฺสติ;

ตเมว คนฺตฺวา ยาจสฺสุ, พหุํ ทสฺสติ เต ธน’’นฺติ.

ตตฺถ ปูชยีติ ทิพฺพกาเมหิ ปูชยิตฺถ. ทุพฺภิมิจฺฉสีติ กึ ตถารูปสฺส มิตฺตสฺส ทุพฺภิกมฺมํ กาตุํ อิจฺฉสิ ตาตาติ.

พฺราหฺมโณ อาห –

๘๓๙.

‘‘หตฺถคตํ ปตฺตคตํ, นิกิณฺณํ ขาทิตุํ วรํ;

มา โน สนฺทิฏฺิโก อตฺโถ, โสมทตฺต อุปจฺจคา’’ติ.

ตตฺถ หตฺถคตนฺติ ตาต โสมทตฺต, ตฺวํ ตรุณโก โลกปวตฺตึ น ชานาสิ. ยฺหิ หตฺถคตํ วา โหติ ปตฺตคตํ วา ปุรโต วา นิกิณฺณํ ปิตํ, ตเทว เม ขาทิตุํ วรํ, น ทูเร ิตํ.

โสมทตฺโต อาห –

๘๔๐.

‘‘ปจฺจติ นิรเย โฆเร, มหิสฺสมปิ วิวรติ;

มิตฺตทุพฺภี หิตจฺจาคี, ชีวเรวาปิ สุสฺสติ.

๘๔๑.

‘‘สเจ ตฺวํ ธนกาโมสิ, ภูริทตฺโต ปทสฺสติ;

มฺเ อตฺตกตํ เวรํ, น จิรํ เวทยิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ มหิสฺสมปิ วิวรตีติ ตาต, มิตฺตทุพฺภิโน ชีวนฺตสฺเสว ปถวี ภิชฺชิตฺวา วิวรํ เทติ. หิตจฺจาคีติ อตฺตโน หิตปริจฺจาคี. ชีวเรวาปิ สุสฺสตีติ ชีวมาโนว สุสฺสติ, มนุสฺสเปโต โหติ. อตฺตกตํ เวรนฺติ อตฺตนา กตํ ปาปํ. น จิรนฺติ น จิรสฺเสว เวทยิสฺสสีติ มฺามิ.

พฺราหฺมโณ อาห –

๘๔๒.

‘‘มหายฺํ ยชิตฺวาน, เอวํ สุชฺฌนฺติ พฺราหฺมณา;

มหายฺํ ยชิสฺสาม, เอวํ โมกฺขาม ปาปกา’’ติ.

ตตฺถ สุชฺฌนฺตีติ ตาต โสมทตฺต, ตฺวํ ทหโร น กิฺจิ ชานาสิ, พฺราหฺมณา นาม ยํ กิฺจิ ปาปํ กตฺวา ยฺเน สุชฺฌนฺตีติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

โสมทตฺโต อาห –

๘๔๓.

‘‘หนฺท ทานิ อปายามิ, นาหํ อชฺช ตยา สห;

ปทมฺเปกํ น คจฺเฉยฺยํ, เอวํ กิพฺพิสการินา’’ติ.

ตตฺถ อปายามีติ อปคจฺฉามิ, ปลายามีติ อตฺโถ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ปณฺฑิโต มาณโว ปิตรํ อตฺตโน วจนํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺโต มหนฺเตน สทฺเทน เทวตา อุชฺฌาเปตฺวา ‘‘เอวรูเปน ปาปการินา สทฺธึ น คมิสฺสามี’’ติ ปิตุ ปสฺสนฺตสฺเสว ปลายิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๔๔.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปิตรํ, โสมทตฺโต พหุสฺสุโต;

อุชฺฌาเปตฺวาน ภูตานิ, ตมฺหา านา อปกฺกมี’’ติ.

เนสาทพฺราหฺมโณ ‘‘โสมทตฺโต เปตฺวา อตฺตโน เคหํ กุหึ คมิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต อลมฺปายนํ โถกํ อนตฺตมนํ ทิสฺวา ‘‘อลมฺปายน, มา จินฺตยิ, ทสฺเสสฺสามิ เต ภูริทตฺต’’นฺติ ตํ อาทาย นาคราชสฺส อุโปสถกรณฏฺานํ คนฺตฺวา วมฺมิกมตฺถเก โภเค อาภุชิตฺวา นิปนฺนํ นาคราชานํ ทิสฺวา อวิทูเร ิโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๘๔๕.

‘‘คณฺหาเหตํ มหานาคํ, อาหเรตํ มณึ มม;

อินฺทโคปกวณฺณาโภ, ยสฺส โลหิตโก สิโร.

๘๔๖.

‘‘กปฺปาสปิจุราสีว, เอโส กาโย ปทิสฺสติ;

วมฺมิกคฺคคโต เสติ, ตํ ตฺวํ คณฺหาหิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ อินฺทโคปกวณฺณาโภติ อินฺทโคปกวณฺโณ วิย อาภาสติ. กปฺปาสปิจุราสีวาติ สุวิหิตสฺส กปฺปาสปิจุโน ราสิ วิย.

อถ มหาสตฺโต อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เนสาทพฺราหฺมณํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อุโปสถสฺส เม อนฺตรายํ กเรยฺยาติ อิมํ นาคภวนํ เนตฺวา มหาสมฺปตฺติยา ปติฏฺาเปสึ. มยา ทียมานํ มณึ คณฺหิตุํ น อิจฺฉิ. อิทานิ ปน อหิตุณฺฑิกํ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. สจาหํ อิมสฺส มิตฺตทุพฺภิโน กุชฺเฌยฺยํ, สีลํ เม ขณฺฑํ ภวิสฺสติ. มยา โข ปน ปมฺเว จตุรงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ อธิฏฺิโต, โส ยถาธิฏฺิโตว โหตุ, อลมฺปายโน มํ ฉินฺทตุ วา ปจตุ วา, สูเลน วา วิชฺฌตุ, เนวสฺส กุชฺฌิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สเจ โข ปนาหํ อิเม โอโลเกสฺสามิ, ภสฺมา ภเวยฺยุํ. มํ โปเถนฺเตปิ น กุชฺฌิสฺสามิ น โอโลเกสฺสามี’’ติ อกฺขีนิ นิมีเลตฺวา อธิฏฺานปารมึ ปุเรจาริกํ กตฺวา โภคนฺตเร สีสํ ปกฺขิปิตฺวา นิจฺจโลว หุตฺวา นิปชฺชิ. เนสาทพฺราหฺมโณปิ ‘‘โภ อลมฺปายน, อิมํ นาคํ คณฺหาหิ, เทหิ เม มณิ’’นฺติ อาห. อลมฺปายโน นาคํ ทิสฺวา ตุฏฺโ มณึ กิสฺมิฺจิ อคเณตฺวา ‘‘คณฺห, พฺราหฺมณา’’ติ ตสฺส หตฺเถ ขิปิ. โส ตสฺส หตฺถโต คฬิตฺวา ปถวิยํ ปติ. ปติตมตฺโตว ปถวึ ปวิสิตฺวา นาคภวนเมว คโต.

พฺราหฺมโณ มณิรตนโต ภูริทตฺเตน สทฺธึ มิตฺตภาวโต ปุตฺตโตติ ตีหิ ปริหายิ. โส ‘‘นิปฺปจฺจโย ชาโตมฺหิ, ปุตฺตสฺส เม วจนํ น กต’’นฺติ ปริเทวนฺโต เคหํ อคมาสิ. อลมฺปายโนปิ ทิพฺโพสเธหิ อตฺตโน สรีรํ มกฺเขตฺวา โถกํ ขาทิตฺวา อตฺตโน กายํ ปริปฺโผเสตฺวา ทิพฺพมนฺตํ ชปฺปนฺโต โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา สีสํ ทฬฺหํ คณฺหนฺโต มุขมสฺส วิวริตฺวา โอสธํ ขาทิตฺวา มุเข เขฬํ โอปิ. สุจิชาติโก นาคราชา สีลเภทภเยน อกุชฺฌิตฺวา อกฺขีนิปิ น อุมฺมีเลสิ. อถ นํ โอสธมนฺตํ กตฺวา นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา เหฏฺาสีสํ กตฺวา สฺจาเลตฺวา คหิตโภชนํ ฉฑฺฑาเปตฺวา ภูมิยํ ทีฆโต นิปชฺชาเปตฺวา มสูรกํ มทฺทนฺโต วิย ปาเทหิ มทฺทิตฺวา อฏฺีนิ จุณฺณิยมานานิ วิย อเหสุํ. ปุน นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา ทุสฺสํ โปเถนฺโต วิย โปเถสิ. มหาสตฺโต เอวรูปํ ทุกฺขํ อนุภวนฺโตปิ เนว กุชฺฌิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๔๗.

‘‘อโถสเธหิ ทิพฺเพหิ, ชปฺปํ มนฺตปทานิ จ;

เอวํ ตํ อสกฺขิ สตฺถุํ, กตฺวา ปริตฺตมตฺตโน’’ติ.

ตตฺถ อสกฺขีติ สกฺขิ. สตฺถุนฺติ คณฺหิตุํ.

อิติ โส มหาสตฺตํ ทุพฺพลํ กตฺวา วลฺลีหิ เปฬํ สชฺเชตฺวา มหาสตฺตํ ตตฺถ ปกฺขิปิ, สรีรสฺส มหนฺตตาย ตตฺถ น ปวิสติ. อถ นํ ปณฺหิยา โกฏฺเฏนฺโต ปเวเสตฺวา เปฬํ อาทาย เอกํ คามํ คนฺตฺวา คามมชฺเฌ โอตาเรตฺวา ‘‘นาคสฺส นจฺจํ ทฏฺุกามา อาคจฺฉนฺตู’’ติ สทฺทมกาสิ. สกลคามวาสิโน สนฺนิปตึสุ. ตสฺมึ ขเณ อลมฺปายโน ‘‘นิกฺขม มหานาคา’’ติ อาห. มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อชฺช มยา ปริสํ โตเสนฺเตน กีฬิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อลมฺปายโน พหุํ ธนํ ลภิตฺวา ตุฏฺโ มํ วิสฺสชฺเชสฺสติ. ยํ ยํ เอส มํ กาเรติ, ตํ ตํ กริสฺสามี’’ติ. อถ นํ โส เปฬโต นีหริตฺวา ‘‘มหา โหหี’’ติ อาห. โส มหา อโหสิ, ‘‘ขุทฺทโก, วฏฺโฏ, วมฺมิโต, เอกปฺผโณ, ทฺวิผโณ, ติปฺผโณ, จตุปฺผโณ, ปฺจ, ฉ, สตฺต, อฏฺ, นว, ทส วีสติ, ตึสติ, จตฺตาลีส, ปณฺณาสปฺผโณ, สตปฺผโณ, อุจฺโจ, นีโจ, ทิสฺสมานกาโย, อทิสฺสมานกาโย, ทิสฺสมานอุปฑฺฒกาโย, นีโล, ปีโต, โลหิโต, โอทาโต, มฺชฏฺิโก โหหิ, อคฺคิชาลํ วิสฺสชฺเชหิ, อุทกํ, ธูมํ วิสฺสชฺเชหี’’ติ. มหาสตฺโต อิเมสุปิ อากาเรสุ วุตฺตวุตฺเต อตฺตภาเว นิมฺมินิตฺวา นจฺจํ ทสฺเสสิ. ตํ ทิสฺวา โกจิ อสฺสูนิ สนฺธาเรตุํ นาสกฺขิ.

มนุสฺสา พหูนิ หิรฺสุวณฺณวตฺถาลงฺการาทีนิ อทํสุ. อิติ ตสฺมึ คาเม สหสฺสมตฺตํ ลภิ. โส กิฺจาปิ มหาสตฺตํ คณฺหนฺโต ‘‘สหสฺสํ ลภิตฺวา ตํ วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ อาห, ตํ ปน ธนํ ลภิตฺวา ‘‘คามเกปิ ตาว มยา เอตฺตกํ ธนํ ลทฺธํ, นคเร กิร พหุํ ลภิสฺสามี’’ติ ธนโลเภน ตํ น มุฺจิ. โส ตสฺมึ คาเม กุฏุมฺพํ สณฺเปตฺวา รตนมยํ เปฬํ กาเรตฺวา ตตฺถ มหาสตฺตํ ปกฺขิปิตฺวา สุขยานกํ อารุยฺห มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิตฺวา ตํ คามนิคมาทีสุ กีฬาเปนฺโต อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปาปุณิ. นาคราชสฺส ปน มธุลาเช เทติ, มณฺฑูเก มาเรตฺวา เทติ, โส โคจรํ น คณฺหาติ อวิสฺสชฺชนภเยน. โคจรํ อคฺคณฺหนฺตมฺปิ ปุน นํ จตฺตาโร ทฺวารคาเม อาทึ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ มาสมตฺตํ กีฬาเปสิ. ปนฺนรสอุโปสถทิวเส ปน ‘‘อชฺช ตุมฺหากํ สนฺติเก กีฬาเปสฺสามี’’ติ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาชนํ สนฺนิปาตาเปสิ. ราชงฺคเณ มฺจาติมฺจํ พนฺธึสุ.

กีฬนขณฺฑํ นิฏฺิตํ.

นครปเวสนกณฺฑํ

อลมฺปายเนน ปน โพธิสตฺตสฺส คหิตทิวเสเยว มหาสตฺตสฺส มาตา สุปินนฺเต อทฺทส กาเฬน รตฺตกฺขินา ปุริเสน อสินา ทกฺขิณพาหุํ ฉินฺทิตฺวา โลหิเตน ปคฺฆรนฺเตน นียมานํ. สา ภีตตสิตา อุฏฺาย ทกฺขิณพาหุํ ปรามสิตฺวา สุปินภาวํ ชานิ. อถสฺสา เอตทโหสิ ‘‘มยา กกฺขโฬ ปาปสุปิโน ทิฏฺโ, จตุนฺนํ วา เม ปุตฺตานํ ธตรฏฺสฺส รฺโ วา มม วา ปริปนฺเถน ภวิตพฺพ’’นฺติ. อปิจ โข ปน มหาสตฺตเมว อารพฺภ อติเรกตรํ จินฺเตสิ. กึการณา? เสสา อตฺตโน นาคภวเน วสนฺติ, อิตโร ปน สีลชฺฌาสยตฺตา มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา อุโปสถกมฺมํ กโรติ. ตสฺมา ‘‘กจฺจิ นุ โข เม ปุตฺตํ อหิตุณฺฑิโก วา สุปณฺโณ วา คณฺเหยฺยา’’ติ ตสฺเสว อติเรกตรํ จินฺเตสิ. ตโต อฑฺฒมาเส อติกฺกนฺเต ‘‘มม ปุตฺโต อฑฺฒมาสาติกฺกเมน มํ วินา วตฺติตุํ น สกฺโกติ, อทฺธาสฺส กิฺจิ ภยํ อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ โทมนสฺสปฺปตฺตา อโหสิ. มาสาติกฺกเมน ปนสฺสา โสเกน อสฺสูนํ อปคฺฆรณกาโล นาม นาโหสิ, หทยํ สุสฺสิ, อกฺขีนิ อุปจฺจึสุ. สา ‘‘อิทานิ อาคมิสฺสติ, อิทานิ อาคมิสฺสตี’’ติ ตสฺสาคมนมคฺคเมว โอโลเกนฺตี นิสีทิ. อถสฺสา เชฏฺปุตฺโต สุทสฺสโน มาสจฺจเยน มหติยา ปริสาย สทฺธึ มาตาปิตูนํ ทสฺสนตฺถาย อาคโต, ปริสํ พหิ เปตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห มาตรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. สา ภูริทตฺตํ อนุโสจนฺตี เตน สทฺธึ น กิฺจิ สลฺลปิ. โส จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ มาตา มยิ ปุพฺเพ อาคเต ตุสฺสติ, ปฏิสนฺถารํ กโรติ, อชฺช ปน โทมนสฺสปฺปตฺตา, กึ นุ โข การณ’’นฺติ? อถ นํ ปุจฺฉนฺโต อาห –

๘๔๘.

‘‘มมํ ทิสฺวาน อายนฺตํ, สพฺพกามสมิทฺธินํ;

อินฺทฺริยานิ อหฏฺานิ, สาวํ ชาตํ มุขํ ตว.

๘๔๙.

‘‘ปทฺธํ ยถา หตฺถคตํ, ปาณินา ปริมทฺทิตํ;

สาวํ ชาตํ มุขํ ตุยฺหํ, มมํ ทิสฺวาน เอทิส’’นฺติ.

ตตฺถ อหฏฺานีติ น วิปฺปสนฺนานิ. สาวนฺติ กฺจนาทาสวณฺณํ เต มุขํ ปีตกาฬกํ ชาตํ. หตฺถคตนฺติ หตฺเถน ฉินฺทิตํ. เอทิสนฺติ เอวรูปํ มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน ตุมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย อาคตํ มํ ทิสฺวา.

สา เอวํ วุตฺเตปิ เนว กเถสิ. สุทสฺสโน จินฺเตสิ ‘‘กึ นุ โข เกนจิ กุทฺธา วา ปริพทฺธา วา ภเวยฺยา’’ติ. อถ นํ ปุจฺฉนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๘๕๐.

‘‘กจฺจิ นุ เต นาภิสสิ, กจฺจิ เต อตฺถิ เวทนา;

เยน สาวํ มุขํ ตุยฺหํ, มมํ ทิสฺวาน อาคต’’นฺติ.

ตตฺถ กจฺจิ นุ เต นาภิสสีติ กจฺจิ นุ ตํ โกจิ น อภิสสิ อกฺโกเสน วา ปริภาสาย วา วิหึสีติ ปุจฺฉติ. ตุยฺหนฺติ ตว ปุพฺเพ มมํ ทิสฺวา อาคตํ เอทิสํ มุขํ น โหติ. เยน ปน การเณน อชฺช ตว มุขํ สาวํ ชาตํ, ตํ เม อาจิกฺขาติ ปุจฺฉติ.

อถสฺส สา อาจิกฺขนฺตี อาห –

๘๕๑.

‘‘สุปินํ ตาต อทฺทกฺขึ, อิโต มาสํ อโธคตํ;

‘ทกฺขิณํ วิย เม พาหุํ, เฉตฺวา รุหิรมกฺขิตํ;

ปุริโส อาทาย ปกฺกามิ, มม โรทนฺติยา สติ’.

๘๕๒.

‘‘ยโตหํ สุปินมทฺทกฺขึ, สุทสฺสน วิชานหิ;

ตโต ทิวา วา รตฺตึ วา, สุขํ เม โนปลพฺภตี’’ติ.

ตตฺถ อิโต มาสํ อโธคตนฺติ อิโต เหฏฺา มาสาติกฺกนฺตํ. อชฺช เม ทิฏฺสุปินสฺส มาโส โหตีติ ทสฺเสติ. ปุริโสติ เอโก กาโฬ รตฺตกฺขิ ปุริโส. โรทนฺติยา สตีติ โรทมานาย สติยา. สุขํ เม โนปลพฺภตีติ มม สุขํ นาม น วิชฺชติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ตาต, ปิยปุตฺตโก เม ตว กนิฏฺโ น ทิสฺสติ, ภเยนสฺส อุปฺปนฺเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ ปริเทวนฺตี อาห –

๘๕๓.

‘‘ยํ ปุพฺเพ ปริวารึสุ, กฺา รุจิรวิคฺคหา;

เหมชาลปฺปฏิจฺฉนฺนา, ภูริทตฺโต น ทิสฺสติ.

๘๕๔.

‘‘ยํ ปุพฺเพ ปริวารึสุ, เนตฺตึสวรธาริโน;

กณิการาว สมฺผุลฺลา, ภูริทตฺโต น ทิสฺสติ.

๘๕๕.

‘‘หนฺท ทานิ คมิสฺสาม, ภูริทตฺตนิเวสนํ;

ธมฺมฏฺํ สีลสมฺปนฺนํ, ปสฺสาม ตว ภาตร’’นฺติ.

ตตฺถ สมฺผุลฺลาติ สุวณฺณวตฺถาลงฺการธาริตาย สมฺผุลฺลา กณิการา วิย. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต, เอหิ, ตาต, ภูริทตฺตสฺส นิเวสนํ คจฺฉามาติ วทติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ตสฺส เจว อตฺตโน จ ปริสาย สทฺธึ ตตฺถ อคมาสิ. ภูริทตฺตสฺส ภริยาโย ปน ตํ วมฺมิกมตฺถเก อทิสฺวา ‘‘มาตุ นิเวสเน วสิสฺสตี’’ติ อพฺยาวฏา อเหสุํ. ตา ‘‘สสฺสุ กิร โน ปุตฺตํ อปสฺสนฺตี อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ‘‘อยฺเย, ปุตฺตสฺส เต อทิสฺสมานสฺส อชฺช มาโส อตีโต’’ติ มหาปริเทวํ ปริเทวมานา ตสฺสา ปาทมูเล ปตึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๕๖.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตึ, ภูริทตฺตสฺส มาตรํ;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ภูริทตฺตสฺส นาริโย.

๘๕๗.

‘‘ปุตฺตํ เตยฺเย น ชานาม, อิโต มาสํ อโธคตํ;

มตํ วา ยทิ วา ชีวํ, ภูริทตฺตํ ยสสฺสิน’’นฺติ.

ตตฺถ ‘‘ปุตฺตํ เตยฺเย’’ติ อยํ ตาสํ ปริเทวนกถา.

ภูริทตฺตสฺส มาตา สุณฺหาหิ สทฺธึ อนฺตรวีถิยํ ปริเทวิตฺวา ตา อาทาย ตสฺส ปาสาทํ อารุยฺห ปุตฺตสฺส สยนฺจ อาสนฺจ โอโลเกตฺวา ปริเทวมานา อาห –

๘๕๘.

‘‘สกุณี หตปุตฺตาว, สุฺํ ทิสฺวา กุลาวกํ;

จิรํ ทุกฺเขน ฌายิสฺสํ, ภูริทตฺตํ อปสฺสตี.

๘๕๙.

‘‘กุรรี หตฉาปาว, สุฺํ ทิสฺวา กุลาวกํ;

จิรํ ทุกฺเขน ฌายิสฺสํ, ภูริทตฺตํ อปสฺสตี.

๘๖๐.

‘‘สา นูน จกฺกวากีว, ปลฺลลสฺมึ อโนทเก;

จิรํ ทุกฺเขน ฌายิสฺสํ, ภูริทตฺตํ อปสฺสตี.

๘๖๑.

‘‘กมฺมารานํ ยถา อุกฺกา, อนฺโต ฌายติ โน พหิ;

เอวํ ฌายามิ โสเกน, ภูริทตฺตํ อปสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ อปสฺสตีติ อปสฺสนฺตี. หตฉาปาวาติ หตโปตกาว.

เอวํ ภูริทตฺตมาตริ วิลปมานาย ภูริทตฺตนิเวสนํ อณฺณวกุจฺฉิ วิย เอกสทฺทํ อโหสิ. เอโกปิ สกภาเวน สณฺาตุํ นาสกฺขิ. สกลนิเวสนํ ยุคนฺธรวาตปฺปหฏํ วิย สาลวนํ อโหสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๖๒.

‘‘สาลาว สมฺปมถิตา, มาลุเตน ปมทฺทิตา;

เสนฺติ ปุตฺตา จ ทารา จ, ภูริทตฺตนิเวสเน’’ติ.

อริฏฺโ จ สุโภโค จ อุโภปิ ภาตโร มาตาปิตูนํ อุปฏฺานํ คจฺฉนฺตา ตํ สทฺทํ สุตฺวา ภูริทตฺตนิเวสนํ ปวิสิตฺวา มาตรํ อสฺสาสยึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๖๓.

‘‘อิทํ สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, ภูริทตฺตนิเวสเน;

อริฏฺโ จ สุโภโค จ, ปธาวึสุ อนนฺตรา.

๘๖๔.

‘‘อมฺม อสฺสาส มา โสจิ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน;

จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, เอสาสฺส ปริณามิตา’’ติ.

ตตฺถ เอสาสฺส ปริณามิตาติ เอสา จุตูปปตฺติ อสฺส โลกสฺส ปริณามิตา, เอวฺหิ โส โลโก ปริณาเมติ. เอเตหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ มุตฺโต นาม นตฺถีติ วทนฺติ.

สมุทฺทชา อาห –

๘๖๕.

‘‘อหมฺปิ ตาต ชานามิ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน;

โสเกน จ ปเรตสฺมิ, ภูริทตฺตํ อปสฺสตี.

๘๖๖.

‘‘อชฺช เจ เม อิมํ รตฺตึ, สุทสฺสน วิชานหิ;

ภูริทตฺตํ อปสฺสนฺตี, มฺเ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ อชฺช เจ เมติ ตาต สุทสฺสน, สเจ อชฺช อิมํ รตฺตึ ภูริทตฺโต มม ทสฺสนํ นาคมิสฺสติ, อถาหํ ตํ อปสฺสนฺตี ชีวิตํ ชหิสฺสามีติ มฺามิ.

ปุตฺตา อาหํสุ –

๘๖๗.

‘‘อมฺม อสฺสาส มา โสจิ, อานยิสฺสาม ภาตรํ;

ทิโสทิสํ คมิสฺสาม, ภาตุปริเยสนํ จรํ.

๘๖๘.

‘‘ปพฺพเต คิริทุคฺเคสุ, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

โอเรน สตฺตรตฺตสฺส, ภาตรํ ปสฺส อาคต’’นฺติ.

ตตฺถ จรนฺติ อมฺม, มยํ ตโยปิ ชนา ภาตุปริเยสนํ จรนฺตา ทิโสทิสํ คมิสฺสามาติ นํ อสฺสาเสสุํ.

ตโต สุทสฺสโน จินฺเตสิ ‘‘สเจ ตโยปิ เอกํ ทิสํ คมิสฺสาม, ปปฺโจ ภวิสฺสติ, ตีหิ ตีณิ านานิ คนฺตุํ วฏฺฏติ – เอเกน เทวโลกํ, เอเกน หิมวนฺตํ, เอเกน มนุสฺสโลกํ. สเจ โข ปน กาณาริฏฺโ มนุสฺสโลกํ คมิสฺสติ, ยตฺเถว ภูริทตฺตํ ปสฺสติ. ตํ คามํ วา นิคมํ วา ฌาเปตฺวา เอสฺสติ, เอส กกฺขโฬ ผรุโส, น สกฺกา เอตํ ตตฺถ เปเสตุ’’นฺติ. จินฺเตตฺวา จ ปน ‘‘ตาต อริฏฺ, ตฺวํ เทวโลกํ คจฺฉ, สเจ เทวตาหิ ธมฺมํ โสตุกามาหิ ภูริทตฺโต เทวโลกํ นีโต, ตโต นํ อาเนหี’’ติ อริฏฺํ เทวโลกํ ปหิณิ. สุโภคํ ปน ‘‘ตาต, ตฺวํ หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ปฺจสุ มหานทีสุ ภูริทตฺตํ อุปธาเรตฺวา เอหี’’ติ หิมวนฺตํ ปหิณิ. สยํ ปน มนุสฺสโลกํ คนฺตุกาโม จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ มาณวกวณฺเณน คมิสฺสามิ, มนุสฺสา เนว เม ปิยายิสฺสนฺติ, มยา ตาปสเวเสน คนฺตุํ วฏฺฏติ, มนุสฺสานฺหิ ปพฺพชิตา ปิยา มนาปา’’ติ. โส ตาปสเวสํ คเหตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ.

โพธิสตฺตสฺส ปน อชมุขี นาม เวมาติกภคินี อตฺถิ. ตสฺสา โพธิสตฺเต อธิมตฺโต สิเนโห. สา สุทสฺสนํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาห – ‘‘ภาติก, อติวิย กิลมามิ, อหมฺปิ ตยา สทฺธึ คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘อมฺม, น สกฺกา ตยา คนฺตุํ, อหํ ปพฺพชิตวเสน คจฺฉามี’’ติ. ‘‘อหํ ปน ขุทฺทกมณฺฑูกี หุตฺวา ตว ชฏนฺตเร นิปชฺชิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ เอหี’’ติ. สา มณฺฑูกโปติกา หุตฺวา ตสฺส ชฏนฺตเร นิปชฺชิ. สุทสฺสโน ‘‘มูลโต ปฏฺาย วิจินนฺโต คมิสฺสามี’’ติ โพธิสตฺตสฺส ภริยาโย ตสฺส อุโปสถกรณฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา ปมํ ตตฺถ คนฺตฺวา อลมฺปายเนน มหาสตฺตสฺส คหิตฏฺาเน โลหิตฺจ วลฺลีหิ กตเปฬฏฺานฺจ ทิสฺวา ‘‘ภูริทตฺโต อหิตุณฺฑิเกน คหิโต’’ติ ตฺวา สมุปฺปนฺนโสโก อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ อลมฺปายนสฺส คตมคฺเคเนว ปมํ กีฬาปิตคามํ คนฺตฺวา มนสฺเส ปุจฺฉิ ‘‘เอวรูโป นาม นาโค เกนจีธ อหิตุณฺฑิเกน กีฬาปิโต’’ติ? ‘‘อาม, อลมฺปายเนน อิโต มาสมตฺถเก กีฬาปิโต’’ติ. ‘‘กิฺจิ ธนํ เตน ลทฺธ’’นฺติ? ‘‘อาม, อิเธว เตน สหสฺสมตฺตํ ลทฺธ’’นฺติ. ‘‘อิทานิ โส กุหึ คโต’’ติ? ‘‘อสุกคามํ นามา’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ปุจฺฉนฺโต อนุปุพฺเพน ราชทฺวารํ อคมาสิ.

ตสฺมึ ขเณ อลมฺปายโน สุนฺหาโต สุวิลิตฺโต มฏฺสาฏกํ นิวาเสตฺวา รตนเปฬํ คาหาเปตฺวา ราชทฺวารเมว คโต. มหาชโน สนฺนิปติ, รฺโ อาสนํ ปฺตฺตํ. โส อนฺโตนิเวสเน ิโตว ‘‘อหํ อาคจฺฉามิ, นาคราชานํ กีฬาเปตู’’ติ เปเสสิ. อลมฺปายโน จิตฺตตฺถรเณ รตนเปฬํ เปตฺวา วิวริตฺวา ‘‘เอหิ มหานาคา’’ติ สฺมทาสิ. ตสฺมึ สมเย สุทสฺสโนปิ ปริสนฺตเร าโต. อถ มหาสตฺโต สีสํ นีหริตฺวา สพฺพาวนฺตํ ปริสํ โอโลเกสิ. นาคา หิ ทฺวีหิ การเณหิ ปริสํ โอโลเกนฺติ สุปณฺณปริปนฺถํ วา าตเก วา ทสฺสนตฺถาย. เต สุปณฺณํ ทิสฺวา ภีตา น นจฺจนฺติ, าตเก วา ทิสฺวา ลชฺชมานา น นจฺจนฺติ. มหาสตฺโต ปน โอโลเกนฺโต ปริสนฺตเร ภาตรํ อทฺทส. โส อกฺขิปูรานิ อสฺสูนิ คเหตฺวา เปฬโต นิกฺขมิตฺวา ภาตราภิมุโข ปายาสิ. มหาชโน ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ภีโต ปฏิกฺกมิ, เอโก สุทสฺสโนว อฏฺาสิ. โส คนฺตฺวา ตสฺส ปาทปิฏฺิยํ สีสํ เปตฺวา โรทิ, สุทสฺสโนปิ ปริเทวิ. มหาสตฺโต โรทิตฺวา นิวตฺติตฺวา เปฬเมว ปาวิสิ. อลมฺปายโนปิ ‘‘อิมินา นาเคน ตาปโส ฑฏฺโ ภวิสฺสติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ อุปสงฺกมิตฺวา อาห –

๘๖๙.

‘‘หตฺถา ปมุตฺโต อุรโค, ปาเท เต นิปตี ภุสํ;

กจฺจิ นุ ตํ ฑํสี ตาต, มา ภายิ สุขิโต ภวา’’ติ.

ตตฺถ มา ภายีติ ตาต ตาปส, อหํ อลมฺปายโน นาม, มา ภายิ, ตว ปฏิชคฺคนํ นาม มม ภาโรติ.

สุทสฺสโน เตน สทฺธึ กเถตุกมฺยตาย คาถมาห –

๘๗๐.

‘‘เนว มยฺหํ อยํ นาโค, อลํ ทุกฺขาย กายจิ;

ยาวตตฺถิ อหิคฺคาโห, มยา ภิยฺโย น วิชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ กายจีติ กสฺสจิ อปฺปมตฺตกสฺสปิ ทุกฺขสฺส อุปฺปาทเน อยํ มม อสมตฺโถ. มยา หิ สทิโส อหิตุณฺฑิโก นาม นตฺถีติ.

อลมฺปายโน ‘‘อสุโก นาเมโส’’ติ อชานนฺโต กุชฺฌิตฺวา อาห –

๘๗๑.

‘‘โก นุ พฺราหฺมณวณฺเณน, ทิตฺโต ปริสมาคโต;

อวฺหายนฺตุ สุยุทฺเธน, สุณนฺตุ ปริสา มมา’’ติ.

ตตฺถ ทิตฺโตติ คพฺพิโต พาโล อนฺธาโณ. อวฺหายนฺตูติ อวฺหายนฺโต, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อยํ โก พาโล อุมฺมตฺตโก วิย มํ สุยุทฺเธน อวฺหายนฺโต อตฺตนา สทฺธึ สมํ กโรนฺโต ปริสมาคโต, ปริสา มม วจนํ สุณนฺตุ, มยฺหํ โทโส นตฺถิ, มา โข เม กุชฺฌิตฺถาติ.

อถ นํ สุทสฺสโน คาถาย อชฺฌภาสิ –

๘๗๒.

‘‘ตฺวํ มํ นาเคน อาลมฺป, อหํ มณฺฑูกฉาปิยา;

โหตุ โน อพฺภุตํ ตตฺถ, อา สหสฺเสหิ ปฺจหี’’ติ.

ตตฺถ นาเคนาติ ตฺวํ นาเคน มยา สทฺธึ ยุชฺฌ, อหํ มณฺฑูกฉาปิยา ตยา สทฺธึ ยุชฺฌิสฺสามิ. อา สหสฺเสหิ ปฺจหีติ ตสฺมึ โน ยุทฺเธ ยาว ปฺจหิ สหสฺเสหิ อพฺภุตํ โหตูติ.

อลมฺปายโน อาห –

๘๗๓.

‘‘อหฺหิ วสุมา อฑฺโฒ, ตฺวํ ทลิทฺโทสิ มาณว;

โก นุ เต ปาฏิโภคตฺถิ, อุปชูตฺจ กึ สิยา.

๘๗๔.

‘‘อุปชูตฺจ เม อสฺส, ปาฏิโภโค จ ตาทิโส;

โหตุ โน อพฺภุตํ ตตฺถ, อา สหสฺเสหิ ปฺจหี’’ติ.

ตตฺถ โก นุ เตติ ตว ปพฺพชิตสฺส โก นุ ปาฏิโภโค อตฺถิ. อุปชูตฺจาติ อิมสฺมึ วา ชูเต อุปนิกฺเขปภูตํ กึ นาม ตว ธนํ สิยา, ทสฺเสหิ เมติ วทติ. อุปชูตฺจ เมติ มยฺหํ ปน ทาตพฺพํ อุปนิกฺเขปธนํ วา เปตพฺพปาฏิโภโค วา ตาทิโส อตฺถิ, ตสฺมา โน ตตฺถ ยาว ปฺจหิ สหสฺเสหิ อพฺภุตํ โหตูติ.

สุทสฺสโน ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘ปฺจหิ โน สหสฺเสหิ อพฺภุตํ โหตู’’ติ อภีโต ราชนิเวสนํ อารุยฺห มาตุลรฺโ สนฺติเก ิโต คาถมาห –

๘๗๕.

‘‘สุโณหิ เม มหาราช, วจนํ ภทฺทมตฺถุ เต;

ปฺจนฺนํ เม สหสฺสานํ, ปาฏิโภโค หิ กิตฺติมา’’ติ.

ตตฺถ กิตฺติมาติ คุณกิตฺติสมฺปนฺน วิวิธคุณาจารกิตฺติสมฺปนฺน.

ราชา ‘‘อยํ ตาปโส มํ อติพหุํ ธนํ ยาจติ, กึ นุ โข’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๘๗๖.

‘‘เปตฺติกํ วา อิณํ โหติ, ยํ วา โหติ สยํกตํ;

กึ ตฺวํ เอวํ พหุํ มยฺหํ, ธนํ ยาจสิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ เปตฺติกํ วาติ ปิตรา วา คเหตฺวา ขาทิตํ, อตฺตนา วา กตํ อิณํ นาม โหติ, กึ มม ปิตรา ตว หตฺถโต คหิตํ อตฺถิ, อุทาหุ มยา, กึการณา มํ เอวํ พหุํ ธนํ ยาจสีติ?

เอวํ วุตฺเต สุทสฺสโน ทฺเว คาถา อภาสิ –

๘๗๗.

‘‘อลมฺปายโน หิ นาเคน, มมํ อภิชิคีสติ;

อหํ มณฺฑูกฉาปิยา, ฑํสยิสฺสามิ พฺราหฺมณํ.

๘๗๘.

‘‘ตํ ตฺวํ ทฏฺุํ มหาราช, อชฺช รฏฺาภิวฑฺฒน;

ขตฺตสงฺฆปริพฺยูฬฺโห, นิยฺยาหิ อหิทสฺสน’’นฺติ.

ตตฺถ อภิชิคีสตีติ ยุทฺเธ ชินิตุํ อิจฺฉติ. ตตฺถ สเจ โส ชียิสฺสติ, มยฺหํ ปฺจสหสฺสานิ ทสฺสติ. สจาหํ ชียิสฺสามิ, อหมสฺส ทสฺสามิ, ตสฺมา ตํ พหุํ ธนํ ยาจามิ. นฺติ ตสฺมา ตฺวํ มหาราช, อชฺช อหิทสฺสนํ ทฏฺุํ นิยฺยาหีติ.

ราชา ‘‘เตน หิ คจฺฉามา’’ติ ตาปเสน สทฺธึเยว นิกฺขมิ. ตํ ทิสฺวา อลมฺปายโน ‘‘อยํ ตาปโส คนฺตฺวา ราชานํ คเหตฺวา อาคโต, ราชกุลูปโก ภวิสฺสตี’’ติ ภีโต ตํ อนุวตฺตนฺโต คาถมาห –

๘๗๙.

‘‘เนว ตํ อติมฺามิ, สิปฺปวาเทน มาณว;

อติมตฺโตสิ สิปฺเปน, อุรคํ นาปจายสี’’ติ.

ตตฺถ สิปฺปวาเทนาติ มาณว, อหํ อตฺตโน สิปฺเปน ตํ นาติมฺามิ, ตฺวํ ปน สิปฺเปน อติมตฺโต อิมํ อุรคํ น ปูเชสิ, นาคสฺส อปจิตึ น กโรสีติ.

ตโต สุทสฺสโน ทฺเว คาถา อภาสิ –

๘๘๐.

‘‘อหมฺปิ นาติมฺามิ, สิปฺปวาเทน พฺราหฺมณ;

อวิเสน จ นาเคน, ภุสํ วฺจยเส ชนํ.

๘๘๑.

‘‘เอวฺเจตํ ชโน ชฺา, ยถา ชานามิ ตํ อหํ;

น ตฺวํ ลภสิ อาลมฺป, ภุสมุฏฺึ กุโต ธน’’นฺติ.

อถสฺส อลมฺปายโน กุชฺฌิตฺวา อาห –

๘๘๒.

‘‘ขราชิโน ชฏี ทุมฺมี, ทิตฺโต ปริสมาคโต;

โย ตฺวํ เอวํ คตํ นาคํ, ‘อวิโส’ อติมฺติ.

๘๘๓.

‘‘อาสชฺช โข นํ ชฺาสิ, ปุณฺณํ อุคฺคสฺส เตชโส;

มฺเ ตํ ภสฺมราสึว, ขิปฺปเมส กริสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ทุมฺมีติ อนฺชิตนยโน [รุมฺมีติ อนฺชิตา มณฺฑิโต (สี. ปี.)]. อวิโส อติมฺสีติ นิพฺพิโสติ อวชานาสิ. อาสชฺชาติ อุปคนฺตฺวา. ชฺาสีติ ชาเนยฺยาสิ.

อถ เตน สทฺธึ เกฬึ กโรนฺโต สุทสฺสโน คาถมาห –

๘๘๔.

‘‘สิยา วิสํ สิลุตฺตสฺส, เทฑฺฑุภสฺส สิลาภุโน;

เนว โลหิตสีสสฺส, วิสํ นาคสฺส วิชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ สิลุตฺตสฺสาติ ฆรสปฺปสฺส. เทฑฺฑุภสฺสาติ อุทกสปฺปสฺส. สิลาภุโนติ นีลวณฺณสปฺปสฺส. อิติ นิพฺพิเส สปฺเป ทสฺเสตฺวา เอเตสํ วิสํ สิยา, เนว โลหิตสีสสฺส สปฺปสฺสาติ อาห.

อถ นํ อลมฺปายโน ทฺวีหิ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

๘๘๕.

‘‘สุตเมตํ อรหตํ, สฺตานํ ตปสฺสินํ;

อิธ ทานานิ ทตฺวาน, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา;

ชีวนฺโต เทหิ ทานานิ, ยทิ เต อตฺถิ ทาตเว.

๘๘๖.

‘‘อยํ นาโค มหิทฺธิโก, เตชสฺสี ทุรติกฺกโม;

เตน ตํ ฑํสยิสฺสามิ, โส ตํ ภสฺมํ กริสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ทาตเวติ ยทิ เต กิฺจิ ทาตพฺพํ อตฺถิ, ตํ เทหีติ.

๘๘๗.

‘‘มยาเปตํ สุตํ สมฺม, สฺตานํ ตปสฺสินํ;

อิธ ทานานิ ทตฺวาน, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา;

ตฺวเมว เทหิ ชีวนฺโต, ยทิ เต อตฺถิ ทาตเว.

๘๘๘.

‘‘อยํ อชมุขี นาม, ปุณฺณา อุคฺคสฺส เตชโส;

ตาย ตํ ฑํสยิสฺสามิ, สา ตํ ภสฺมํ กริสฺสติ.

๘๘๙.

‘‘ยา ธีตา ธตรฏฺสฺส, เวมาตา ภคินี มม;

สา ตํ ฑํสตฺวชมุขี, ปุณฺณา อุคฺคสฺส เตชโส’’ติ. –

อิมา คาถา สุทสฺสนสฺส วจนํ. ตตฺถ ปุณฺณา อุคฺคสฺส เตชโสติ อุคฺเคน วิเสน ปุณฺณา.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อมฺม อชมุขิ, ชฏนฺตรโต เม นิกฺขมิตฺวา ปาณิมฺหิ ปติฏฺหา’’ติ มหาชนสฺส มชฺเฌเยว ภคินึ ปกฺโกสิตฺวา หตฺถํ ปสาเรสิ. สา ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ชฏนฺตเร นิสินฺนาว ติกฺขตฺตุํ มณฺฑูกวสฺสิตํ วสฺสิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อํสกูเฏ นิสีทิตฺวา อุปฺปติตฺวา ตสฺส หตฺถตเล ตีณิ วิสพินฺทูนิ ปาเตตฺวา ปุน ตสฺส ชฏนฺตรเมว ปาวิสิ. สุทสฺสโน วิสํ คเหตฺวา ิโตว ‘‘นสฺสิสฺสตายํ ชนปโท, นสฺสิสฺสตายํ ชนปโท’’ติ ติกฺขตฺตุํ มหาสทฺทํ อภาสิ. ตสฺส โส สทฺโท ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสึ ฉาเทตฺวา อฏฺาสิ. อถ ราชา ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กิมตฺถํ ชนปโท นสฺสิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, อิมสฺส วิสสฺส นิสิฺจนฏฺานํ น ปสฺสามี’’ติ. ‘‘ตาต, มหนฺตา อยํ ปถวี, ปถวิยํ นิสิฺจา’’ติ. อถ นํ ‘‘น สกฺกา ปถวิยํ สิฺจิตุํ, มหาราชา’’ติ ปฏิกฺขิปนฺโต คาถมาห –

๘๙๐.

‘‘ฉมายํ เจ นิสิฺจิสฺสํ, พฺรหฺมทตฺต วิชานหิ;

ติณลตานิ โอสธฺโย, อุสฺสุสฺเสยฺยุํ อสํสย’’นฺติ.

ตตฺถ ติณลตานีติ ปถวินิสฺสิตานิ ติณานิ จ ลตา จ สพฺโพสธิโย จ อุสฺสุสฺเสยฺยุํ, ตสฺมา น สกฺกา ปถวิยํ นิสิฺจิตุนฺติ.

เตน หิ นํ, ตาต, อุทฺธํ อากาสํ ขิปาติ. ตตฺราปิ น สกฺกาติ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๘๙๑.

‘‘อุทฺธํ เจ ปาตยิสฺสามิ, พฺรหฺมทตฺต วิชานหิ;

สตฺตวสฺสานิยํ เทโว, น วสฺเส น หิมํ ปเต’’ติ.

ตตฺถ น หิมํ ปเตติ สตฺตวสฺสานิ หิมพินฺทุมตฺตมฺปิ น ปติสฺสติ.

เตน หิ นํ ตาต อุทเก สิฺจาติ. ตตฺราปิ น สกฺกาติ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๘๙๒.

‘‘อุทเก เจ นิสิฺจิสฺสํ, พฺรหฺมทตฺต วิชานหิ;

ยาวนฺโตทกชา ปาณา, มเรยฺยุํ มจฺฉกจฺฉปา’’ติ.

อถ นํ ราชา อาห – ‘‘ตาต, มยํ น กิฺจิ ชานาม, ยถา อมฺหากํ รฏฺํ น นสฺสติ, ตํ อุปายํ ตฺวเมว ชานาหี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, อิมสฺมึ าเน ปฏิปาฏิยา ตโย อาวาเฏ ขณาเปถา’’ติ. ราชา ขณาเปสิ. สุทสฺสโน ปมํ อาวาฏํ นานาเภสชฺชานํ ปูราเปสิ, ทุติยํ โคมยสฺส, ตติยํ ทิพฺโพสธานฺเว. ตโต ปเม อาวาเฏ วิสพินฺทูนิ ปาเตสิ. ตงฺขณฺเว ธูมายิตฺวา ชาลา อุฏฺหิ. สา คนฺตฺวา โคมเย อาวาฏํ คณฺหิ. ตโตปิ ชาลา อุฏฺาย อิตรํ ทิพฺโพสธสฺส ปุณฺณํ คเหตฺวา โอสธานิ ฌาเปตฺวา นิพฺพายิ. อลมฺปายโน ตสฺส อาวาฏสฺส อวิทูเร อฏฺาสิ. อถ นํ วิสอุสุมา ปหริ, สรีรจฺฉวิ อุปฺปาเฏตฺวา คตา, เสตกุฏฺิ อโหสิ. โส ภยตชฺชิโต ‘‘นาคราชานํ วิสฺสชฺเชมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วาจํ นิจฺฉาเรสิ. ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต รตนเปฬาย นิกฺขมิตฺวา สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิตํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา เทวราชลีลาย ิโต. สุทสฺสโนปิ อชมุขีปิ ตเถว อฏฺํสุ. ตโต สุทสฺสโน ราชานํ อาห – ‘‘ชานาสิ โน, มหาราช, กสฺเสเต ปุตฺตา’’ติ? ‘‘น ชานามี’’ติ. ‘‘ตุมฺเห ตาว น ชานาสิ, กาสิรฺโ ปน ธีตาย สมุทฺทชาย ธตรฏฺสฺส ทินฺนภาวํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, ชานามิ, มยฺหํ สา กนิฏฺภคินี’’ติ. ‘‘มยํ ตสฺสา ปุตฺตา, ตฺวํ โน มาตุโล’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา กมฺปมาโน เต อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา โรทิตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา มหนฺตํ สกฺการํ กาเรตฺวา ภูริทตฺเตน ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, ตํ เอวรูปํ อุคฺคเตชํ กถํ อลมฺปายโน คณฺหี’’ติ? โส สพฺพํ วิตฺถาเรน กเถตฺวา ราชานํ โอวทนฺโต ‘‘มหาราช, รฺา นาม อิมินา นิยาเมน รชฺชํ กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ มาตุลสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. อถ นํ สุทสฺสโน อาห – ‘‘มาตุล, มม มาตา ภูริทตฺตํ อปสฺสนฺตี กิลมติ, น สกฺกา อมฺเหหิ ปปฺจํ กาตุ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ตาตา, ตุมฺเห ตาว คจฺฉถ. อหํ ปน มม ภคินึ ทฏฺุกาโมมฺหิ, กถํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ. ‘‘มาตุล, กหํ ปน โน อยฺยโก กาสิราชา’’ติ? ‘‘ตาต, มม ภคินิยา วินา วสิตุํ อสกฺโกนฺโต รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา อสุเก วนสณฺเฑ นาม วสตี’’ติ. ‘‘มาตุล, มม มาตา ตุมฺเห เจว อยฺยกฺจ ทฏฺุกามา, ตุมฺเห อสุกทิวเส มม อยฺยกสฺส สนฺติกํ คจฺฉถ, มยํ มาตรํ อาทาย อยฺยกสฺส อสฺสมปทํ อาคจฺฉิสฺสาม. ตตฺถ นํ ตุมฺเหปิ ปสฺสิสฺสถา’’ติ. อิติ เต มาตุลสฺส ทิวสํ ววตฺถเปตฺวา ราชนิเวสนา โอตรึสุ. ราชา ภาคิเนยฺเย อุยฺโยเชตฺวา โรทิตฺวา นิวตฺติ. เตปิ ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา นาคภวนํ คตา.

นครปเวสนขณฺฑํ นิฏฺิตํ.

มหาสตฺตสฺส ปริเยสนขณฺฑํ

มหาสตฺเต สมฺปตฺเต สกลนาคภวนํ เอกปริเทวสทฺทํ อโหสิ. โสปิ มาสํ เปฬาย วสิตตฺตา กิลนฺโต คิลานเสยฺยํ สยิ. ตสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺตานํ นาคานํ ปมาณํ นตฺถิ. โส เตหิ สทฺธึ กเถนฺโต กิลมติ. กาณาริฏฺโ เทวโลกํ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ อทิสฺวา ปมเมวาคโต. อถ นํ ‘‘เอส จณฺโฑ ผรุโส, สกฺขิสฺสติ นาคปริสํ วาเรตุ’’นฺติ มหาสตฺตสฺส นิสินฺนฏฺาเน โทวาริกํ กรึสุ. สุโภโคปิ สกลหิมวนฺตํ วิจริตฺวา ตโต มหาสมุทฺทฺจ เสสนทิโย จ อุปธาเรตฺวา ยมุนํ อุปธาเรนฺโต อาคจฺฉติ. เนสาทพฺราหฺมโณปิ อลมฺปายนํ กุฏฺึ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ ภูริทตฺตํ กิลเมตฺวา กุฏฺิ ชาโต, อหํ ปน ตํ มยฺหํ ตาว พหูปการํ มณิโลเภน อลมฺปายนสฺส ทสฺเสสึ, ตํ ปาปํ มม อาคมิสฺสติ. ยาว ตํ น อาคจฺฉติ, ตาวเทว ยมุนํ คนฺตฺวา ปยาคติตฺเถ ปาปปวาหนํ กริสฺสามี’’ติ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘มยา ภูริทตฺเต มิตฺตทุพฺภิกมฺมํ กตํ, ตํ ปาปํ ปวาเหสฺสามี’’ติ วตฺวา อุทโกโรหนกมฺมํ กโรติ. ตสฺมึ ขเณ สุโภโค ตํ านํ ปตฺโต. ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘อิมินา กิร ปาปเกน ตาว มหนฺตสฺส ยสสฺส ทายโก มม ภาตา มณิรตนสฺส การณา อลมฺปายนสฺส ทสฺสิโต, นาสฺส ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ นงฺคุฏฺเน ตสฺส ปาเทสุ เวเตฺวา อากฑฺฒิตฺวา อุทเก โอสิทาเปตฺวา นิรสฺสาสกาเล โถกํ สิถิลํ อกาสิ. โส สีสํ อุกฺขิปิ. อถ นํ ปุนากฑฺฒิตฺวา โอสีทาเปสิ. เอวํ พหู วาเร เตน กิลมิยมาโน เนสาทพฺราหฺมโณ สีสํ อุกฺขิปิตฺวา คาถมาห –

๘๙๓.

‘‘โลกฺยํ สชนฺตํ อุทกํ, ปยาคสฺมึ ปติฏฺิตํ;

โก มํ อชฺโฌหรี ภูโต, โอคาฬฺหํ ยมุนํ นทิ’’นฺติ.

ตตฺถ โลกฺยนฺติ เอวํ ปาปวาหนสมตฺถนฺติ โลกสมฺมตํ. สชนฺตนฺติ เอวรูปํ อุทกํ อภิสิฺจนฺตํ. ปยาคสฺมินฺติ ปยาคติตฺเถ.

อถ นํ สุโภโค คาถาย อชฺฌภาสิ –

๘๙๔.

‘‘ยเทส โลกาธิปตี ยสสฺสี, พาราณสึ ปกฺริย สมนฺตโต;

ตสฺสาห ปุตฺโต อุรคูสภสฺส, สุโภโคติ มํ พฺราหฺมณ เวทยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ ยเทสาติ โย เอโส. ปกฺริย สมนฺตโตติ ปจฺจตฺถิกานํ ทุปฺปหรณสมตฺถตาย ปริสมนฺตโต ปกิริย สพฺพํ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริ ผเณน ฉาเทสิ.

อถ นํ พฺราหฺมโณ ‘‘อยํ ภูริทตฺตภาตา, น เม ชีวิตํ ทสฺสติ, ยํนูนาหํ เอตสฺส เจว มาตาปิตูนฺจสฺส วณฺณกิตฺตเนน มุทุจิตฺตตํ กตฺวา อตฺตโน ชีวิตํ ยาเจยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๘๙๕.

‘‘สเจ หิ ปุตฺโต อุรคูสภสฺส, กาสิสฺส รฺโ อมราธิปสฺส;

มเหสกฺโข อฺตโร ปิตา เต, มจฺเจสุ มาตา ปน เต อตุลฺยา;

น ตาทิโส อรหติ พฺราหฺมณสฺส, ทาสมฺปิ โอหาริตุํ มหานุภาโว’’ติ.

ตตฺถ กาสิสฺสาติ อปเรน นาเมน เอวํนามกสฺส. ‘‘กาสิกรฺโ’’ติปิ ปนฺติเยว. กาสิราชธีตาย คหิตตฺตา กาสิรชฺชมฺปิ ตสฺเสว สนฺตกํ กตฺวา วณฺเณติ. อมราธิปสฺสาติ ทีฆายุกตาย อมรสงฺขาตานํ นาคานํ อธิปสฺส. มเหสกฺโขติ มหานุภาโว. อฺตโรติ มเหสกฺขานํ อฺตโร. ทาสมฺปีติ ตาทิโส หิ มหานุภาโว อานุภาวรหิตํ พฺราหฺมณสฺส ทาสมฺปิ อุทเก โอหริตุํ นารหติ, ปเคว มหานุภาวํ พฺราหฺมณนฺติ.

อถ นํ สุโภโค ‘‘อเร ทุฏฺพฺราหฺมณ, ตฺวํ มํ วฺเจตฺวา ‘มุฺจิสฺสามี’ติ มฺสิ, น เต ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ เตน กตกมฺมํ ปกาเสนฺโต อาห –

๘๙๖.

‘‘รุกฺขํ นิสฺสาย วิชฺฌิตฺโถ, เอเณยฺยํ ปาตุมาคตํ;

โส วิทฺโธ ทูรมจริ, สรเวเคน สีฆวา.

๘๙๗.

‘‘ตํ ตฺวํ ปติตมทฺทกฺขิ, อรฺสฺมึ พฺรหาวเน;

ส มํสกาชมาทาย, สายํ นิคฺโรธุปาคมิ.

๘๙๘.

‘‘สุกสาฬิกสงฺฆุฏฺํ, ปิงฺคลํ สนฺถตายุตํ;

โกกิลาภิรุทํ รมฺมํ, ธุวํ หริตสทฺทลํ.

๘๙๙.

‘‘ตตฺถ เต โส ปาตุรหุ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

มหานุภาโว ภาตา เม, กฺาหิ ปริวาริโต.

๙๐๐.

‘‘โส เตน ปริจิณฺโณ ตฺวํ, สพฺพกาเมหิ ตปฺปิโต;

อทุฏฺสฺส ตุวํ ทุพฺภิ, ตํ เต เวรํ อิธาคตํ.

๙๐๑.

‘‘ขิปฺปํ คีวํ ปสาเรหิ, น เต ทสฺสามิ ชีวิตํ;

ภาตุ ปริสรํ เวรํ, เฉทยิสฺสามิ เต สิร’’นฺติ.

ตตฺถ สายํ นิคฺโรธุปาคมีติ วิกาเล นิคฺโรธํ อุปคโต อสิ. ปิงฺคลนฺติ ปกฺกานํ วณฺเณน ปิงฺคลํ. สนฺถตายุตนฺติ ปาโรหปริกิณฺณํ. โกกิลาภิรุทนฺติ โกกิลาหิ อภิรุทํ. ธุวํ หริตสทฺทลนฺติ อุทกภูมิยํ ชาตตฺตา นิจฺจํ หริตสทฺทลํ ภูมิภาคํ. ปาตุรหูติ ตสฺมึ เต นิคฺโรเธ ิตสฺส โส มม ภาตา ปากโฏ อโหสิ. อิทฺธิยาติ ปุฺเตเชน. โส เตนาติ โส ตุวํ เตน อตฺตโน นาคภวนํ เนตฺวา ปริจิณฺโณ. ปริสรนฺติ ตยา มม ภาตุ กตํ เวรํ ปาปกมฺมํ ปริสรนฺโต อนุสฺสรนฺโต. เฉทยิสฺสามิ เต สิรนฺติ ตว สีสํ ฉินฺทิสฺสามีติ.

อถ พฺราหฺมโณ ‘‘น เมส ชีวิตํ ทสฺสติ, ยํ กิฺจิ ปน วตฺวา โมกฺขตฺถาย วายมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๙๐๒.

‘‘อชฺฌายโก ยาจโยคี, อาหุตคฺคิ จ พฺราหฺมโณ;

เอเตหิ ตีหิ าเนหิ, อวชฺโฌ โหติ พฺราหฺมโณ’’ติ.

ตตฺถ เอเตหีติ เอเตหิ อชฺฌายกตาทีหิ ตีหิ การเณหิ พฺราหฺมโณ อวชฺโฌ, น ลพฺภา พฺราหฺมณํ วธิตุํ, กึ ตฺวํ วเทสิ, โย หิ พฺราหฺมณํ วเธติ, โส นิรเย นิพฺพตฺตตีติ.

ตํ สุตฺวา สุโภโค สํสยปกฺขนฺโท หุตฺวา ‘‘อิมํ นาคภวนํ เนตฺวา ภาตโร ปฏิปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๙๐๓.

‘‘ยํ ปุรํ ธตรฏฺสฺส, โอคาฬฺหํ ยมุนํ นทึ;

โชตเต สพฺพโสวณฺณํ, คิริมาหจฺจ ยามุนํ.

๙๐๔.

‘‘ตตฺถ เต ปุริสพฺยคฺฆา, โสทริยา มม ภาตโร;

ยถา เต ตตฺถ วกฺขนฺติ, ตถา เหสฺสสิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ ปุรนฺติ นาคปุรํ. โอคาฬฺหนฺติ อนุปวิฏฺํ. คิริมาหจฺจ ยามุนนฺติ ยมุนาโต อวิทูเร ิตํ หิมวนฺตํ อาหจฺจ โชตติ. ตตฺถ เตติ ตสฺมึ นคเร เต มม ภาตโร วสนฺติ, ตตฺถ นีเต ตยิ ยถา เต วกฺขนฺติ, ตถา ภวิสฺสสิ. สเจ หิ สจฺจํ กเถสิ, ชีวิตํ เต อตฺถิ. โน เจ, ตตฺเถว สีสํ ฉินฺทิสฺสามีติ.

อิติ นํ วตฺวา สุโภโค คีวายํ คเหตฺวา ขิปนฺโต อกฺโกสนฺโต ปริภาสนฺโต มหาสตฺตสฺส ปาสาททฺวารํ อคมาสิ.

มหาสตฺตสฺส ปริเยสนยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

มิจฺฉากถา

อถ นํ โทวาริโก หุตฺวา นิสินฺโน กาณาริฏฺโ ตถา กิลเมตฺวา อานียมานํ ทิสฺวา ปฏิมคฺคํ คนฺตฺวา ‘‘สุโภค, มา วิเหยิ, พฺราหฺมณา นาม มหาพฺรหฺมุโน ปุตฺตา. สเจ หิ มหาพฺรหฺมา ชานิสฺสติ, ‘มม ปุตฺตํ วิเหเนฺตี’ติ กุชฺฌิตฺวา อมฺหากํ สกลํ นาคภวนํ วินาเสสฺสติ. โลกสฺมิฺหิ พฺราหฺมณา นาม เสฏฺา มหานุภาวา, ตฺวํ เตสํ อานุภาวํ น ชานาสิ, อหํ ปน ชานามี’’ติ อาห. กาณาริฏฺโ กิร อตีตานนฺตรภเว ยฺการพฺราหฺมโณ อโหสิ, ตสฺมา เอวมาห. วตฺวา จ ปน อนุภูตปุพฺพวเสน ยชนสีโล หุตฺวา สุโภคฺจ นาคปริสฺจ อามนฺเตตฺวา ‘‘เอถ, โภ, ยฺการกานํ โว คุเณ วณฺเณสฺสามี’’ติ วตฺวา ยฺวณฺณนํ อารภนฺโต อาห –

๙๐๕.

‘‘อนิตฺตรา อิตฺตรสมฺปยุตฺตา, ยฺา จ เวทา จ สุโภค โลเก;

ตทคฺครยฺหฺหิ วินินฺทมาโน, ชหาติ วิตฺตฺจ สตฺจ ธมฺม’’นฺติ.

ตตฺถ อนิตฺตราติ สุโภค อิมสฺมึ โลเก ยฺา จ เวทา จ อนิตฺตรา น ลามกา มหานุภาวา, เต อิตฺตเรหิ พฺราหฺมเณหิ สมฺปยุตฺตา, ตสฺมา พฺราหฺมณาปิ อนิตฺตราว ชาตา. ตทคฺครยฺหนฺติ ตสฺมา อคารยฺหํ พฺราหฺมณํ วินินฺทมาโน ธนฺจ ปณฺฑิตานํ ธมฺมฺจ ชหาติ. อิทํ กิร โส ‘‘อิมินา ภูริทตฺเต มิตฺตทุพฺภิกมฺมํ กตนฺติ วตฺตุํ นาคปริสา มา ลภนฺตู’’ติ อโวจ.

อถ นํ กาณาริฏฺโ ‘‘สุโภค ชานาสิ ปน อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต’’ติ วตฺวา ‘‘น ชานามี’’ติ วุตฺเต ‘‘พฺราหฺมณานํ ปิตามเหน มหาพฺรหฺมุนา นิมฺมิโต’’ติ ทสฺเสตุํ อิตรํ คาถมาห –

๙๐๖.

‘‘อชฺเฌนมริยา ปถวึ ชนินฺทา, เวสฺสา กสึ ปาริจริยฺจ สุทฺทา;

อุปาคุ ปจฺเจกํ ยถาปเทสํ, กตาหุ เอเต วสินาติ อาหู’’ติ.

ตตฺถ อุปาคูติ อุปคตา. พฺรหฺมา กิร พฺราหฺมณาทโย จตฺตาโร วณฺเณ นิมฺมินิตฺวา อริเย ตาว พฺราหฺมเณ อาห – ‘‘ตุมฺเห อชฺเฌนเมว อุปคจฺฉถ, มา อฺํ กิฺจิ กริตฺถา’’ติ, ชนินฺเท อาห ‘‘ตุมฺเห ปถวึเยว วิชินถ’’, เวสฺเส อาห – ‘‘ตุมฺเห กสึเยว อุเปถ’’, สุทฺเท อาห ‘‘ตุมฺเห ติณฺณํ วณฺณานํ ปาริจริยํเยว อุเปถา’’ติ. ตโต ปฏฺาย อริยา อชฺเฌนํ, ชนินฺทา ปถวึ, เวสฺสา กสึ, สุทฺทา ปาริจริยํ อุปาคตาติ วทนฺติ. ปจฺเจกํ ยถาปเทสนฺติ อุปคจฺฉนฺตา จ ปาฏิเยกฺกํ อตฺตโน กุลปเทสานุรูเปน พฺรหฺมุนา วุตฺตนิยาเมเนว อุปคตา. กตาหุ เอเต วสินาติ อาหูติ เอวํ กิร เอเต วสินา มหาพฺรหฺมุนา กตา อเหสุนฺติ กเถนฺติ.

เอวํ มหาคุณา เอเต พฺราหฺมณา นาม. โย หิ เอเตสุ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา ทานํ เทติ, ตสฺส อฺตฺถ ปฏิสนฺธิ นตฺถิ, เทวโลกเมว คจฺฉตีติ วตฺวา อาห –

๙๐๗.

‘‘ธาตา วิธาตา วรุโณ กุเวโร, โสโม ยโม จนฺทิมา วายุ สูริโย;

เอเตปิ ยฺํ ปุถุโส ยชิตฺวา, อชฺฌายกานํ อโถ สพฺพกาเม.

๙๐๘.

‘‘วิกาสิตา จาปสตานิ ปฺจ, โย อชฺชุโน พลวา ภีมเสโน;

สหสฺสพาหุ อสโม ปถพฺยา, โสปิ ตทา อาทหิ ชาตเวท’’นฺติ.

ตตฺถ เอเตปีติ เอเต ธาตาทโย เทวราชาโน. ปุถุโสติ อเนกปฺปการํ ยฺํ ยชิตฺวา. อโถ สพฺพกาเมติ อถ อชฺฌายกานํ พฺราหฺมณานํ สพฺพกาเม ทตฺวา เอตานิ านานิ ปตฺตาติ ทสฺเสติ. วิกาสิตาติ อากฑฺฒิตา. จาปสตานิ ปฺจาติ น ธนุปฺจสตานิ, ปฺจจาปสตปฺปมาณํ ปน มหาธนุํ สยเมว อากฑฺฒติ. ภีมเสโนติ ภยานกเสโน. สหสฺสพาหูติ น ตสฺส พาหูนํ สหสฺสํ, ปฺจนฺนํ ปน ธนุคฺคหสตานํ พาหุสหสฺเสน อากฑฺฒิตพฺพสฺส ธนุโน อากฑฺฒเนเนวํ วุตฺตํ. อาทหิ ชาตเวทนฺติ โสปิ ราชา ตสฺมึ กาเล พฺราหฺมเณ สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา อคฺคึ อาทหิ ปติฏฺาเปตฺวา ปริจริ, เตเนว การเณน เทวโลเก นิพฺพตฺโต. ตสฺมา พฺราหฺมณา นาม อิมสฺมึ โลเก เชฏฺกาติ อาห.

โส อุตฺตริปิ พฺราหฺมเณ วณฺเณนฺโต คาถมาห –

๙๐๙.

‘‘โย พฺราหฺมเณ โภชยิ ทีฆรตฺตํ, อนฺเนน ปาเนน ยถานุภาวํ;

ปสนฺนจิตฺโต อนุโมทมาโน, สุโภค เทวฺตโร อโหสี’’ติ.

ตตฺถ โยติ โย โส โปราณโก พาราณสิราชาติ ทสฺเสติ. ยถานุภาวนฺติ ยถาพลํ ยํ ตสฺส อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ปริจฺจชิตฺวา โภเชสิ. เทวฺตโรติ โส อฺตโร มเหสกฺขเทวราชา อโหสิ. เอวํ พฺราหฺมณา นาม อคฺคทกฺขิเณยฺยาติ ทสฺเสติ.

อถสฺส อปรมฺปิ การณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๙๑๐.

‘‘มหาสนํ เทวมโนมวณฺณํ, โย สปฺปินา อสกฺขิ โภเชตุมคฺคึ;

ส ยฺตนฺตํ วรโต ยชิตฺวา, ทิพฺพํ คตึ มุจลินฺทชฺฌคจฺฉี’’ติ.

ตตฺถ มหาสนนฺติ มหาภกฺขํ. โภเชตุนฺติ สนฺตปฺเปตุํ. ยฺตนฺตนฺติ ยฺวิธานํ. วรโตติ วรสฺส อคฺคิเทวสฺส ยชิตฺวา. มุจลินฺทชฺฌคจฺฉีติ มุจลินฺโท อธิคโตติ.

เอโก กิร ปุพฺเพ พาราณสิยํ มุจลินฺโท นาม ราชา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา สคฺคมคฺคํ ปุจฺฉิ. อถ นํ เต ‘‘พฺราหฺมณานฺจ พฺราหฺมณเทวตาย จ สกฺการํ กโรหี’’ติ วตฺวา ‘‘กา พฺราหฺมณเทวตา’’ติ วุตฺเต ‘‘‘อคฺคิเทโวติ ตํ นวนีตสปฺปินา สนฺตปฺเปหี’’’ติ อาหํสุ. โส ตถา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต เอส อิมํ คาถมาห.

อปรมฺปิ การณํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๙๑๑.

‘‘มหานุภาโว วสฺสสหสฺสชีวี, โย ปพฺพชี ทสฺสเนยฺโย อุฬาโร;

หิตฺวา อปริยนฺต รฏฺํ สเสนํ, ราชา ทุทีโปปิ ชคาม สคฺค’’นฺติ.

ตตฺถ ปพฺพชีติ ปฺจวสฺสสตานิ รชฺชํ กาเรนฺโต พฺราหฺมณานํ สกฺการํ กตฺวา อปริยนฺตํ รฏฺํ สเสนํ หิตฺวา ปพฺพชิ. ทุทีโปปีติ โส ทุทีโป นาม ราชา พฺราหฺมเณ ปูเชตฺวาว สคฺคํ คโตติ วทติ. ‘‘ทุชีโป’’ติปิ ปาโ.

อปรานิปิสฺส อุทาหรณานิ ทสฺเสนฺโต อาห –

๙๑๒.

‘‘โย สาครนฺตํ สาคโร วิชิตฺวา, ยูปํ สุภํ โสณฺณมยํ อุฬารํ;

อุสฺเสสิ เวสฺสานรมาทหาโน, สุโภค เทวฺตโร อโหสิ.

๙๑๓.

‘‘ยสฺสานุภาเวน สุโภค คงฺคา, ปวตฺตถ ทธิสนฺนิสินฺนํ สมุทฺทํ;

ส โลมปาโท ปริจริย มคฺคึ, องฺโค สหสฺสกฺขปุรชฺฌคจฺฉี’’ติ.

ตตฺถ สาครนฺตนฺติ สาครปริยนฺตํ ปถวึ. อุสฺเสสีติ พฺราหฺมเณ สคฺคมคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โสวณฺณยูปํ อุสฺสาเปหี’’ติ วุตฺโต ปสุฆาตนตฺถาย อุสฺสาเปสิ. เวสฺสานรมาทหาโนติ เวสฺสานรํ อคฺคึ อาทหนฺโต. ‘‘เวสานริ’’นฺติปิ ปาโ. เทวฺตโรติ สุโภค, โส หิ ราชา อคฺคึ ชุหิตฺวา อฺตโร มเหสกฺขเทโว อโหสีติ วทติ. ยสฺสานุภาเวนาติ โภ สุโภค, คงฺคา จ มหาสมุทฺโท จ เกน กโตติ ชานาสีติ. น ชานามีติ. กึ ตฺวํ ชานิสฺสสิ, พฺราหฺมเณเยว โปเถตุํ ชานาสีติ. อตีตสฺมิฺหิ องฺโค นาม โลมปาโท พาราณสิราชา พฺราหฺมเณ สคฺคมคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา เตหิ ‘‘โภ, มหาราช, หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา พฺราหฺมณานํ สกฺการํ กตฺวา อคฺคึ ปริจราหี’’ติ วุตฺเต อปริมาณา คาวิโย จ มหึสิโย จ อาทาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ตถา อกาสิ. ‘‘พฺราหฺมเณหิ ภุตฺตาติริตฺตํ ขีรทธึ กึ กาตพฺพ’’นฺติ จ วุตฺเต ‘‘ฉฑฺเฑถา’’ติ อาห. ตตฺถ โถกสฺส ขีรสฺส ฉฑฺฑิตฏฺาเน กุนฺนทิโย อเหสุํ, พหุกสฺส ฉฑฺฑิตฏฺาเน คงฺคา ปวตฺตถ. ตํ ปน ขีรํ ยตฺถ ทธิ หุตฺวา สนฺนิสินฺนํ ิตํ, ตํ สมุทฺทํ นาม ชาตํ. อิติ โส เอวรูปํ สกฺการํ กตฺวา พฺราหฺมเณหิ วุตฺตวิธาเนน อคฺคึ ปริจริย สหสฺสกฺขสฺส ปุรํ อชฺฌคจฺฉิ.

อิติสฺส อิทํ อตีตํ อาหริตฺวา อิมํ คาถมาห –

๙๑๔.

‘‘มหิทฺธิโก เทววโร ยสสฺสี, เสนาปติ ติทิเว วาสวสฺส;

โส โสมยาเคน มลํ วิหนฺตฺวา, สุโภค เทวฺตโร อโหสี’’ติ.

ตตฺถ โส โสมยาเคน มลํ วิหนฺตฺวาติ โภ สุโภค, โย อิทานิ สกฺกสฺส เสนาปติ มหายโส เทวปุตฺโต, โสปิ ปุพฺเพ เอโก พาราณสิราชา พฺราหฺมเณ สคฺคมคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา เตหิ ‘‘โสมยาเคน อตฺตโน มลํ ปวาเหตฺวา เทวโลกํ คจฺฉาหี’’ติ วุตฺเต พฺราหฺมณานํ มหนฺตํ สกฺการํ กตฺวา เตหิ วุตฺตวิธาเนน โสมยาคํ กตฺวา เตน อตฺตโน มลํ วิหนฺตฺวา เทวฺตโร ชาโตติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺโต เอวมาห.

อปรานิปิสฺส อุทาหรณานิ ทสฺเสนฺโต อาห –

๙๑๕.

‘‘อการยิ โลกมิมํ ปรฺจ, ภาคีรถึ หิมวนฺตฺจ คิชฺฌํ;

โย อิทฺธิมา เทววโร ยสสฺสี, โสปิ ตทา อาทหิ ชาตเวทํ.

๙๑๖.

‘‘มาลาคิรี หิมวา โย จ คิชฺโฌ, สุทสฺสโน นิสโภ กุเวรุ;

เอเต จ อฺเ จ นคา มหนฺตา, จิตฺยา กตา ยฺกเรหิ มาหู’’ติ.

ตตฺถ โสปิ ตทา อาทหิ ชาตเวทนฺติ ภาติก สุโภค, เยน มหาพฺรหฺมุนา อยฺจ โลโก ปโร จ โลโก ภาคีรถิคงฺคา จ หิมวนฺตปพฺพโต จ คิชฺฌปพฺพโต จ กโต, โสปิ ยทา พฺรหฺมุปปตฺติโต ปุพฺเพ มาณวโก อโหสิ, ตทา อคฺคิเมว อาทหิ, อคฺคึ ชุหิตฺวา มหาพฺรหฺมา หุตฺวา อิทํ สพฺพมกาสิ. เอวํมหิทฺธิกา พฺราหฺมณาติ ทสฺเสติ.

จิตฺยา กตาติ ปุพฺเพ กิเรโก พาราณสิราชา พฺราหฺมเณ สคฺคมคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘พฺราหฺมณานํ สกฺการํ กโรหี’’ติ วุตฺเต เตสํ มหาทานํ ปฏฺเปตฺวา ‘‘มยฺหํ ทาเน กึ นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สพฺพํ, เทว, อตฺถิ, พฺราหฺมณานํ ปน อาสนานิ นปฺปโหนฺตี’’ติ วุตฺเต อิฏฺกาหิ จินาเปตฺวา อาสนานิ กาเรสิ. ตทา จิตฺยา อาสนปีิกา พฺราหฺมณานํ อานุภาเวน วฑฺฒิตฺวา มาลาคิริอาทโย ปพฺพตา ชาตา. เอวเมเต ยฺกาเรหิ พฺราหฺมเณหิ กตาติ กเถนฺตีติ.

อถ นํ ปุน อาห ‘‘ภาติก, ชานาสิ ปนายํ สมุทฺโท เกน การเณน อเปยฺโย โลโณทโก ชาโต’’ติ? ‘‘น ชานามิ, อริฏฺา’’ติ. อถ นํ ‘‘ตฺวํ พฺราหฺมเณเยว วิหึสิตุํ ชานาสิ, สุโณหี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๙๑๗.

‘‘อชฺฌายกํ มนฺตคุณูปปนฺนํ, ตปสฺสินํ ‘ยาจโยโค’ติธาหุ;

ตีเร สมุทฺทสฺสุทกํ สชนฺตํ, ตํ สาคโรชฺโฌหริ เตนาเปยฺโย’’ติ.

ตตฺถ ‘ยาจโยโคติธาหูติ ตํ พฺราหฺมณํ ยาจโยโคติ อิธ โลเก อาหุ. อุทกํ สชนฺตติ โส กิเรกทิวสํ ปาปปวาหนกมฺมํ กโรนฺโต ตีเร ตฺวา สมุทฺทโต อุทกํ คเหตฺวา อตฺตโน อุปริ สีเส สชนฺตํ อพฺภุกิรติ. อถ นํ เอวํ กโรนฺตํ วฑฺฒิตฺวา สาคโร อชฺโฌหริ. ตํ การณํ มหาพฺรหฺมา ตฺวา ‘‘อิมินา กิร เม ปุตฺโต หโต’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘สมุทฺโท อเปยฺโย โลโณทโก ภวตู’’ติ วตฺวา อภิสปิ, เตน การเณน อเปยฺโย ชาโต. เอวรูปา เอเต พฺราหฺมณา นาม มหานุภาวาติ.

ปุนปิ อาห –

๙๑๘.

‘‘อายาควตฺถูนิ ปุถู ปถพฺยา, สํวิชฺชนฺติ พฺราหฺมณา วาสวสฺส;

ปุริมํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทกฺขิณุตฺตรํ, สํวิชฺชมานา ชนยนฺติ เวท’’นฺติ.

ตตฺถ วาสวสฺสาติ ปุพฺเพ พฺราหฺมณานํ ทานํ ทตฺวา วาสวตฺตํ ปตฺตสฺส วาสวสฺส. อายาควตฺถูนีติ ปุฺกฺเขตฺตภูตา อคฺคทกฺขิเณยฺยา ปถพฺยา ปุถู พฺราหฺมณา สํวิชฺชนฺติ. ปุริมํ ทิสนฺติ เต อิทานิปิ จตูสุ ทิสาสุ สํวิชฺชมานา ตสฺส วาสวสฺส มหนฺตํ เวทํ ชนยนฺติ, ปีติโสมนสฺสํ อาวหนฺติ.

เอวํ อริฏฺโ จุทฺทสหิ คาถาหิ พฺราหฺมเณ จ ยฺเ จ เวเท จ วณฺเณสิ.

มิจฺฉากถา นิฏฺิตา.

ตสฺส ตํ กถํ สุตฺวา มหาสตฺตสฺส คิลานุปฏฺานํ อาคตา พหู นาคา ‘‘อยํ ภูตเมว กเถตี’’ติ มิจฺฉาคาหํ คณฺหนาการปฺปตฺตา ชาตา. มหาสตฺโต คิลานเสยฺยาย นิปนฺโนว ตํ สพฺพํ อสฺโสสิ. นาคาปิสฺส อาโรเจสุํ. ตโต มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อริฏฺโ มิจฺฉามคฺคํ วณฺเณติ, วาทมสฺส ภินฺทิตฺวา ปริสํ สมฺมาทิฏฺิกํ กริสฺสามี’’ติ. โส อุฏฺาย นฺหตฺวา สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต ธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา สพฺพํ นาคปริสํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อริฏฺํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อริฏฺ, ตฺวํ อภูตํ วตฺวา เวเท จ ยฺเ จ พฺราหฺมเณ จ วณฺเณสิ, พฺราหฺมณานฺหิ เวทวิธาเนน ยฺยชนํ นาม อนริยสมฺมตํ น สคฺคาวหํ, ตว วาเท อภูตํ ปสฺสาหี’’ติ วตฺวา ยฺเภทวาทํ นาม อารภนฺโต อาห –

๙๑๙.

‘‘กลี หิ ธีราน กฏํ มคานํ, ภวนฺติ เวทชฺฌคตานริฏฺ;

มรีจิธมฺมํ อสเมกฺขิตตฺตา, มายาคุณา นาติวหนฺติ ปฺํ.

๙๒๐.

‘‘เวทา น ตาณาย ภวนฺติ ทสฺส, มิตฺตทฺทุโน ภูนหุโน นรสฺส;

น ตายเต ปริจิณฺโณ จ อคฺคิ, โทสนฺตรํ มจฺจมนริยกมฺมํ.

๙๒๑.

‘‘สพฺพฺจ มจฺจา สธนํ สโภคํ, อาทีปิตํ ทารุ ติเณน มิสฺสํ;

ทหํ น ตปฺเป อสมตฺถเตโช, โก ตํ สุภิกฺขํ ทฺวิรสฺุ กยิรา.

๙๒๒.

‘‘ยถาปิ ขีรํ วิปริณามธมฺมํ, ทธิ ภวิตฺวา นวนีตมฺปิ โหติ;

เอวมฺปิ อคฺคิ วิปริณามธมฺโม, เตโช สโมโรหตี โยคยุตฺโต.

๙๒๓.

‘‘น ทิสฺสตี อคฺคิ มนุปฺปวิฏฺโ, สุกฺเขสุ กฏฺเสุ นเวสุ จาปิ;

นามตฺถมาโน อรณีนเรน, นากมฺมุนา ชายติ ชาตเวโท.

๙๒๔.

‘‘สเจ หิ อคฺคิ อนฺตรโต วเสยฺย, สุกฺเขสุ กฏฺเสุ นเวสุ จาปิ;

สพฺพานิ สุสฺเสยฺยุ วนานิ โลเก, สุกฺขานิ กฏฺานิ จ ปชฺชเลยฺยุํ.

๙๒๕.

‘‘กโรติ เจ ทารุติเณน ปุฺํ, โภชํ นโร ธูมสิขึ ปตาปวํ;

องฺคาริกา โลณกรา จ สูทา, สรีรทาหาปิ กเรยฺยุ ปุฺํ.

๙๒๖.

‘‘อถ เจ หิ เอเต น กโรนฺติ ปุฺํ, อชฺเฌนมคฺคึ อิธ ตปฺปยิตฺวา;

น โกจิ โลกสฺมึ กโรติ ปุฺํ, โภชํ นโร ธูมสิขึ ปตาปวํ.

๙๒๗.

‘‘กถฺหิ โลกาปจิโต สมาโน, อมนุฺคนฺธํ พหูนํ อกนฺตํ;

ยเทว มจฺจา ปริวชฺชยนฺติ, ตทปฺปสตฺถํ ทฺวิรสฺุ ภุฺเช.

๙๒๘.

‘‘สิขิมฺปิ เทเวสุ วทนฺติ เหเก, อาปํ มิลกฺขู ปน เทวมาหุ;

สพฺเพว เอเต วิตถํ ภณนฺติ, อคฺคี น เทวฺตโร น จาโป.

๙๒๙.

‘‘อนินฺทฺริยพทฺธมสฺกายํ, เวสฺสานรํ กมฺมกรํ ปชานํ;

ปริจริย มคฺคึ สุคตึ กถํ วเช, ปาปานิ กมฺมานิ ปกุพฺพมาโน.

๙๓๐.

‘‘สพฺพาภิภู ตาหุธ ชีวิกตฺถา, อคฺคิสฺส พฺรหฺมา ปริจาริโกติ;

สพฺพานุภาวี จ วสี กิมตฺถํ, อนิมฺมิโต นิมฺมิตํ วนฺทิตสฺส.

๙๓๑.

‘‘หสฺสํ อนิชฺฌานกฺขมํ อตจฺฉํ, สกฺการเหตุ ปกิรึสุ ปุพฺเพ;

เต ลาภสกฺกาเร อปาตุโภนฺเต, สนฺธาปิตา ชนฺตุภิ สนฺติธมฺมํ.

๙๓๒.

‘‘อชฺเฌนมริยา ปถวึ ชนินฺทา, เวสฺสา กสึ ปาริจริยฺจ สุทฺทา;

อุปาคุ ปจฺเจกํ ยถาปเทสํ, กตาหุ เอเต วสินาติ อาหุ.

๙๓๓.

‘‘เอตฺจ สจฺจํ วจนํ ภเวยฺย, ยถา อิทํ ภาสิตํ พฺราหฺมเณหิ;

นาขตฺติโย ชาตุ ลเภถ รชฺชํ, นาพฺราหฺมโณ มนฺตปทานิ สิกฺเข;

นาฺตฺร เวสฺเสหิ กสึ กเรยฺย, สุทฺโท น มุจฺเจ ปรเปสนาย.

๙๓๔.

‘‘ยสฺมา จ เอตํ วจนํ อภูตํ, มุสาวิเม โอทริยา ภณนฺติ;

ตทปฺปปฺา อภิสทฺทหนฺติ, ปสฺสนฺติ ตํ ปณฺฑิตา อตฺตนาว.

๙๓๕.

‘‘ขตฺยา หิ เวสฺสานํ พลึ หรนฺติ, อาทาย สตฺถานิ จรนฺติ พฺราหฺมณา;

ตํ ตาทิสํ สงฺขุภิตํ ปภินฺนํ, กสฺมา พฺรหฺมา นุชฺชุ กโรติ โลกํ.

๙๓๖.

‘‘สเจ หิ โส อิสฺสโร สพฺพโลเก, พฺรหฺมา พหูภูตปตี ปชานํ;

กึ สพฺพโลกํ วิทหี อลกฺขึ, กึ สพฺพโลกํ น สุขึ อกาสิ.

๙๓๗.

‘‘สเจ หิ โส อิสฺสโร สพฺพโลเก, พฺรหฺมา พหูภูตปตี ปชานํ;

มายา มุสาวชฺชมเทน จาปิ, โลกํ อธมฺเมน กิมตฺถมการิ.

๙๓๘.

‘‘สเจ หิ โส อิสฺสโร สพฺพโลเก, พฺรหฺมา พหูภูตปตี ปชานํ;

อธมฺมิโก ภูตปตี อริฏฺ, ธมฺเม สติ โย วิทหี อธมฺมํ.

๙๓๙.

‘‘กีฏา ปฏงฺคา อุรคา จ เภกา, คนฺตฺวา กิมี สุชฺฌติ มกฺขิกา จ;

เอเตปิ ธมฺมา อนริยรูปา, กมฺโพชกานํ วิตถา พหูน’’นฺติ.

ตตฺถ เวทชฺฌคตานริฏฺาติ อริฏฺ, อิมานิ เวทาธิคมนานิ นาม ธีรานํ ปราชยสงฺขาโต กลิคฺคาโห, มคานํ พาลานํ ชยสงฺขาโต กฏคฺคาโห. มรีจิธมฺมนฺติ อิทฺหิ เวทตฺตยํ มรีจิธมฺมํ. ตยิทํ อสเมกฺขิตตฺตา ยุตฺตายุตฺตํ อชานนฺตา พาลา อุทกสฺาย มคา มรีจึ วิย ภูตสฺาย อนวชฺชสฺาย อตฺตโน วินาสํ อุปคจฺฉนฺติ. ปฺนฺติ เอวรูปา ปน มายาโกฏฺาสา ปฺํ าณสมฺปนฺนํ ปุริสํ นาติวหนฺติ น วฺเจนฺติ. ภวนฺติ ทสฺสาติ -กาโร พฺยฺชนสนฺธิมตฺตํ, อสฺส ภูนหุโน วุฑฺฒิฆาตกสฺส มิตฺตทุพฺภิโน นรสฺส เวทา น ตาณตฺถาย ภวนฺติ, ปติฏฺา โหตุํ น สกฺโกนฺตีติ อตฺโถ. ปริจิณฺโณ จ อคฺคีติ อคฺคิ จ ปริจิณฺโณ ติวิเธน ทุจฺจริตโทเสน สโทสจิตฺตํ ปาปกมฺมํ ปุริสํ น ตายติ น รกฺขติ.

สพฺพฺจ มจฺจาติ สเจปิ หิ มจฺจา ยตฺตกํ โลเก ทารุ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ สธนํ สโภคํ อตฺตโน ธเนน จ โภเคหิ จ สทฺธึ ติเณน มิสฺสํ กตฺวา อาทีเปยฺยุํ. เอวํ สพฺพมฺปิ ตํ เตหิ อาทีปิตํ ทหนฺโต อยํ อสมตฺถเตโช อสทิสเตโช ตว อคฺคิ น ตปฺเปยฺย. เอวํ อตปฺปนียํ, ภาติก, ทฺวิรสฺุ ทฺวีหิ ชิวฺหาหิ รสชานนสมตฺโถ โก ตํ สปฺปิอาทีหิ สุภิกฺขํ สุหีตํ กยิรา, โก สกฺกุเณยฺย กาตุํ. เอวํ อติตฺตํ ปเนตํ มหคฺฆสํ สนฺตปฺเปตฺวา โก นาม เทวโลกํ คมิสฺสติ, ปสฺส ยาวฺเจตํ ทุกฺกถิตนฺติ. โยคยุตฺโตติ อรณิมถนโยเคน ยุตฺโต หุตฺวา ตํ ปจฺจยํ ลภิตฺวาว อคฺคิ สโมโรหติ นิพฺพตฺตติ. เอวํ ปรวายาเมน อุปฺปชฺชมานํ อเจตนํ ตํ ตฺวํ ‘‘เทโว’’ติ วเทสิ. อิทมฺปิ อภูตเมว กเถสีติ.

อคฺคิ มนุปฺปวิฏฺโติ อคฺคิ อนุปวิฏฺโ. นามตฺถมาโนติ นาปิ อรณิหตฺเถน นเรน อมตฺถิยมาโน นิพฺพตฺตติ. นากมฺมุนา ชายติ ชาตเวโทติ เอกสฺส กิริยํ วินา อตฺตโน ธมฺมตาย เอว น ชายติ. สุสฺเสยฺยุนฺติ อนฺโต อคฺคินา โสสิยมานานิ วนานิ สุกฺเขยฺยุํ, อลฺลาเนว น สิยุํ. โภชนฺติ โภเชนฺโต. ธูมสิขึ ปตาปวนฺติ ธูมสิขาย ยุตฺตํ ปตาปวนฺตํ. องฺคาริกาติ องฺคารกมฺมกรา. โลณกราติ โลโณทกํ ปจิตฺวา โลณการกา. สูทาติ ภตฺตการกา. สรีรทาหาติ มตสรีรชฺฌาปกา. ปุฺนฺติ เอเตปิ สพฺเพ ปุฺเมว กเรยฺยุํ.

อชฺเฌนมคฺคินฺติ อชฺเฌนอคฺคึ. น โกจีติ มนฺตชฺฌายกา พฺราหฺมณาปิ โหนฺตุ, โกจิ นโร ธูมสิขึ ปตาปวนฺตํ อคฺคึ โภเชนฺโต ตปฺปยิตฺวาปิ ปุฺํ น กโรติ นาม. โลกาปจิโต สมาโนติ ตว เทโวโลกสฺส อปจิโต ปูชิโต สมาโน. ยเทวาติ ยํ อหิกุณปาทึ ปฏิกุลํ เชคุจฺฉํ มจฺจา ทูรโต ปริวชฺเชนฺติ. ตทปฺปสตฺถนฺติ ตํ อปฺปสตฺถํ, สมฺม, ทฺวิรสฺุ กถํ เกน การเณน ปริภุฺเชยฺย. เทเวสูติ เอเก มนุสฺสา สิขิมฺปิ เทเวสุ อฺตรํ เทวํ วทนฺติ. มิลกฺขู ปนาติ อฺาณา ปน มิลกฺขู อุทกํ ‘‘เทโว’’ติ วทนฺติ. อสฺกายนฺติ อนินฺทฺริยพทฺธํ อจิตฺตกายฺจ สมานํ เอตํ อเจตนํ ปชานํ ปจนาทิกมฺมกรํ เวสฺสานรํ อคฺคึ ปริจริตฺวา ปาปานิ กมฺมานิ กโรนฺโต โลโก กถํ สุคตึ คมิสฺสติ. อิทํ เต อติวิย ทุกฺกถิตํ.

สพฺพาภิ ภูตาหุธ ชีวิกตฺถาติ อิเม พฺราหฺมณา อตฺตโน ชีวิกตฺถํ มหาพฺรหฺมา สพฺพาภิภูติ อาหํสุ, สพฺโพ โลโก เตเนว นิมฺมิโตติ วทนฺติ. ปุน อคฺคิสฺส พฺรหฺมา ปริจารโกติปิ วทนฺติ. โสปิ กิร อคฺคึ ชุหเตว. สพฺพานุภาวี จ วสีติ โส ปน ยทิ สพฺพานุภาวี จ วสี จ, อถ กิมตฺถํ สยํ อนิมฺมิโต หุตฺวา อตฺตนาว นิมฺมิตํ วนฺทิตา ภเวยฺย. อิทมฺปิ เต ทุกฺกถิตเมว. หสฺสนฺติ อริฏฺ พฺราหฺมณานํ วจนํ นาม หสิตพฺพยุตฺตกํ ปณฺฑิตานํ น นิชฺฌานกฺขมํ. ปกิรึสูติ อิเม พฺราหฺมณา เอวรูปํ มุสาวาทํ อตฺตโน สกฺการเหตุ ปุพฺเพ ปตฺถรึสุ. สนฺธาปิตา ชนฺตุภิ สนฺติธมฺมนฺติ เต เอตฺตเกน ลาภสกฺกาเร อปาตุภูเต ชนฺตูหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ปาณวธปฏิสํยุตฺตํ อตฺตโน ลทฺธิธมฺมสงฺขาตํ สนฺติธมฺมํ สนฺธาปิตา, ยฺสุตฺตํ นาม คนฺถยึสูติ อตฺโถ.

เอตฺจ สจฺจนฺติ ยเทตํ ตยา ‘‘อชฺเฌนมริยา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เอตฺจ สจฺจํ ภเวยฺย. นาขตฺติโยติ เอวํ สนฺเต อขตฺติโย รชฺชํ นาม น ลเภยฺย, อพฺราหฺมโณปิ มนฺตปทานิ น สิกฺเขยฺย. มุสาวิเมติ มุสาว อิเม. โอทริยาติ อุทรนิสฺสิตชีวิกา, อุทรปูรณเหตุ วา. ตทปฺปปฺาติ ตํ เตสํ วจนํ อปฺปปฺา. อตฺตนาวาติ ปณฺฑิตา ปน เตสํ วจนํ ‘‘สโทส’’นฺติ อตฺตนาว ปสฺสนฺติ. ตาทิสนฺติ ตถารูปํ. สงฺขุภิตนฺติ สงฺขุภิตฺวา พฺรหฺมุนา ปิตมริยาทํ ภินฺทิตฺวา ิตํ สงฺขุภิตํ วิภินฺทํ โลกํ โส ตวพฺรหฺมา กสฺมา อุชุํ น กโรติ. อลกฺขินฺติ กึการณา สพฺพโลเก ทุกฺขํ วิทหิ. สุขินฺติ กึ นุ เอกนฺตสุขิเมว สพฺพโลกํ น อกาสิ, โลกวินาสโก โจโร มฺเ ตว พฺรหฺมาติ. มายาติ มายาย. อธมฺเมน กิมตฺถมการีติ อิมินา มายาทินา อธมฺเมน กึการณา โลกํ อนตฺถกิริยายํ สํโยเชสีติ อตฺโถ. อริฏฺาติ อริฏฺ, ตว ภูตปติ อธมฺมิโก, โย ทสวิเธ กุสลธมฺเม สติ ธมฺมเมว อวิทหิตฺวา อธมฺมํ วิทหิ. กีฏาติอาทิ อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตํ. เอเต กีฏาทโย ปาเณ หนฺตฺวา มจฺโจ สุชฺฌตีติ เอเตปิ กมฺโพชรฏฺวาสีนํ พหูนํ อนริยานํ ธมฺมา, เต ปน วิตถา, อธมฺมาว ธมฺมาติ วุตฺตา. เตหิปิ ตว พฺรหฺมุนาว นิมฺมิเตหิ ภวิตพฺพนฺติ.

อิทานิ เตสํ วิตถภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห –

๙๔๐.

‘‘สเจ หิ โส สุชฺฌติ โย หนาติ, หโตปิ โส สคฺคมุเปติ านํ;

โภวาทิ โภวาทิน มารเยยฺยุํ, เย จาปิ เตสํ อภิสทฺทเหยฺยุํ.

๙๔๑.

‘‘เนว มิคา น ปสู โนปิ คาโว, อายาจนฺติ อตฺตวธาย เกจิ;

วิปฺผนฺทมาเน อิธ ชีวิกตฺถา, ยฺเสุ ปาเณ ปสุมารภนฺติ.

๙๔๒.

‘‘ยูปุสฺสเน ปสุพนฺเธ จ พาลา, จิตฺเตหิ วณฺเณหิ มุขํ นยนฺติ;

อยํ เต ยูโป กามทุโห ปรตฺถ, ภวิสฺสติ สสฺสโต สมฺปราเย.

๙๔๓.

‘‘สเจ จ ยูเป มณิสงฺขมุตฺตํ, ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ;

สุกฺเขสุ กฏฺเสุ นเวสุ จาปิ, สเจ ทุเห ติทิเว สพฺพกาเม;

เตวิชฺชสงฺฆาว ปุถู ยเชยฺยุํ, อพฺราหฺมณํ กฺจิ น ยาชเยยฺยุํ.

๙๔๔.

‘‘กุโต จ ยูเป มณิสงฺขมุตฺตํ, ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ;

สุกฺเขสุ กฏฺเสุ นเวสุ จาปิ, กุโต ทุเห ติทิเว สพฺพกาเม.

๙๔๕.

‘‘สา จ ลุทฺทา จ ปลุทฺธพาลา, จิตฺเตหิ วณฺเณหิ มุขํ นยนฺติ;

อาทาย อคฺคึ มม เทหิ วิตฺตํ, ตโต สุขี โหหิสิ สพฺพกาเม.

๙๔๖.

‘‘ตมคฺคิหุตฺตํ สรณํ ปวิสฺส, จิตฺเตหิ วณฺเณหิ มุขํ นยนฺติ;

โอโรปยิตฺวา เกสมสฺสุํ นขฺจ, เวเทหิ วิตฺตํ อติคาฬฺหยนฺติ.

๙๔๗.

‘‘กากา อุลูกํว รโห ลภิตฺวา, เอกํ สมานํ พหุกา สเมจฺจ;

อนฺนานิ ภุตฺวา กุหกา กุหิตฺวา, มุณฺฑํ กริตฺวา ยฺปโถสฺสชนฺติ.

๙๔๘.

‘‘เอวฺหิ โส วฺจิโต พฺราหฺมเณหิ, เอโก สมาโน พหุกา สเมจฺจ;

เต โยคโยเคน วิลุมฺปมานา, ทิฏฺํ อทิฏฺเน ธนํ หรนฺติ.

๙๔๙.

‘‘อกาสิยา ราชูหิวานุสิฏฺา, ตทสฺส อาทาย ธนํ หรนฺติ;

เต ตาทิสา โจรสมา อสนฺตา, วชฺฌา น หฺนฺติ อริฏฺ โลเก.

๙๕๐.

‘‘อินฺทสฺส พาหารสิ ทกฺขิณาติ, ยฺเสุ ฉินฺทนฺติ ปลาสยฏฺึ;

ตํ เจปิ สจฺจํ มฆวา ฉินฺนพาหุ, เกนสฺส อินฺโท อสุเร ชินาติ.

๙๕๑.

‘‘ตฺเจว ตุจฺฉํ มฆวา สมงฺคี, หนฺตา อวชฺโฌ ปรโม ส เทโว;

มนฺตา อิเม พฺราหฺมณา ตุจฺฉรูปา, สนฺทิฏฺิกา วฺจนา เอส โลเก.

๙๕๒.

‘‘มาลาคิริ หิมวา โย จ คิชฺโฌ, สุทสฺสโน นิสโภ กุเวรุ;

เอเต จ อฺเ จ นคา มหนฺตา, จิตฺยา กตา ยฺกเรหิ มาหุ.

๙๕๓.

‘‘ยถาปการานิ หิ อิฏฺกานิ, จิตฺยา กตา ยฺกเรหิ มาหุ;

น ปพฺพตา โหนฺติ ตถาปการา, อฺา ทิสา อจลา ติฏฺเสลา.

๙๕๔.

‘‘น อิฏฺกา โหนฺติ สิลา จิเรน, น ตตฺถ สฺชายติ อโย น โลหํ;

ยฺฺจ เอตํ ปริวณฺณยนฺตา, จิตฺยา กตา ยฺกเรหิ มาหุ.

๙๕๕.

‘‘อชฺฌายกํ มนฺตคุณูปปนฺนํ, ตปสฺสินํ ‘ยาจโยโค’ติธาหุ;

ตีเร สมุทฺทสฺสุทกํ สชนฺตํ, ตํ สาครชฺโฌหริ เตนาเปยฺโย.

๙๕๖.

‘‘ปโรสหสฺสมฺปิ สมนฺตเวเท, มนฺตูปปนฺเน นทิโย วหนฺติ;

น เตน พฺยาปนฺนรสูทกา น, กสฺมา สมุทฺโท อตุโล อเปยฺโย.

๙๕๗.

‘‘เย เกจิ กูปา อิธ ชีวโลเก, โลณูทกา กูปขเณหิ ขาตา;

น พฺราหฺมณชฺโฌหรเณน เตสุ, อาโป อเปยฺโย ทฺวิรสฺุ มาหุ.

๙๕๘.

‘‘ปุเร ปุรตฺถา กา กสฺส ภริยา, มโน มนุสฺสํ อชเนสิ ปุพฺเพ;

เตนาปิ ธมฺเมน น โกจิ หีโน, เอวมฺปิ โวสฺสคฺควิภงฺคมาหุ.

๙๕๙.

‘‘จณฺฑาลปุตฺโตปิ อธิจฺจ เวเท, ภาเสยฺย มนฺเต กุสโล มตีมา;

น ตสฺส มุทฺธาปิ ผเลยฺย สตฺตธา, มนฺตา อิเม อตฺตวธาย กตา.

๙๖๐.

‘‘วาจากตา คิทฺธิกตา คหีตา, ทุมฺโมจยา กพฺยปถานุปนฺนา;

พาลาน จิตฺตํ วิสเม นิวิฏฺํ, ตทปฺปปฺา อภิสทฺทหนฺติ.

๙๖๑.

‘‘สีหสฺส พฺยคฺฆสฺส จ ทีปิโน จ, น วิชฺชตี โปริสิยํ พเลน;

มนุสฺสภาโว จ ควํว เปกฺโข, ชาตี หิ เตสํ อสมา สมานา.

๙๖๒.

‘‘สเจ จ ราชา ปถวึ วิชิตฺวา, สชีววา อสฺสวปาริสชฺโช;

สยเมว โส สตฺตุสงฺฆํ วิเชยฺย, ตสฺสปฺปชา นิจฺจสุขี ภเวยฺย.

๙๖๓.

‘‘ขตฺติยมนฺตา จ ตโย จ เวทา, อตฺเถน เอเต สมกา ภวนฺติ;

เตสฺจ อตฺถํ อวินิจฺฉินิตฺวา, น พุชฺฌตี โอฆปถํว ฉนฺนํ.

๙๖๔.

‘‘ขตฺติยมนฺตา จ ตโย จ เวทา, อตฺเถน เอเต สมกา ภวนฺติ;

ลาโภ อลาโภ อยโส ยโส จ, สพฺเพว เตสํ จตุนฺนฺจ ธมฺมา.

๙๖๕.

‘‘ยถาปิ อิพฺภา ธนธฺเหตุ, กมฺมานิ กโรนฺติ ปุถู ปถพฺยา;

เตวิชฺชสงฺฆา จ ตเถว อชฺช, กมฺมานิ กโรนฺติ ปุถู ปถพฺยา.

๙๖๖.

‘‘อิพฺเภหิ เย เต สมกา ภวนฺติ, นิจฺจุสฺสุกา กามคุเณสุ ยุตฺตา;

กมฺมานิ กโรนฺติ ปุถู ปถพฺยา, ตทปฺปปฺา ทฺวิรสฺุรา เต’’ติ.

ตตฺถ โภวาทีติ พฺราหฺมณา. โภวาทิน มารเยยฺยุนฺติ พฺราหฺมณเมว มาเรยฺยุํ. เย จาปีติ เยปิ พฺราหฺมณานํ ตํ วจนํ สทฺทเหยฺยุํ, เต อตฺตโน อุปฏฺาเกเยว จ พฺราหฺมเณ จ มาเรยฺยุํ. พฺราหฺมณา ปน พฺราหฺมเณ จ อุปฏฺาเก จ อมาเรตฺวา นานปฺปกาเร ติรจฺฉาเนเยว มาเรนฺติ. อิติ เตสํ วจนํ มิจฺฉา. เกจีติ ยฺเสุ โน มาเรถ, มยํ สคฺคํ คมิสฺสามาติ อายาจนฺตา เกจิ นตฺถิ. ปาเณ ปสุมารภนฺตีติ มิคาทโย ปาเณ จ ปสู จ วิปฺผนฺทมาเน ชีวิกตฺถาย มาเรนฺติ. มุขํ นยนฺตีติ เอเตสุ ยูปุสฺสเนสุ ปสุพนฺเธสุ อิมสฺมึ เต ยูเป สพฺพํ มณิสงฺขมุตฺตํ ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ สนฺนิหิตํ, อยํ เต ยูโป ปรตฺถ ปรโลเก กามทุโห ภวิสฺสติ, สสฺสตภาวํ อาวหิสฺสตีติ จิตฺเรหิ การเณหิ มุขํ ปสาเทนฺติ, ตํ ตํ วตฺวา มิจฺฉาคาหํ คาเหนฺตีติ อตฺโถ.

สเจ จาติ สเจ จ ยูเป วา เสสกฏฺเสุ วา เอตํ มณิอาทิกํ ภเวยฺย, ติทิเว วา สพฺพกามทุโห อสฺส, เตวิชฺชสงฺฆาว ปุถู หุตฺวา ยฺํ ยเชยฺยุํ พหุธนตาย เจว สคฺคกามตาย จ, อฺํ อพฺราหฺมณํ น ยาเชยฺยุํ. ยสฺมา ปน อตฺตโน ธนํ ปจฺจาสีสนฺตา อฺมฺปิ ยชาเปนฺติ, ตสฺมา อภูตวาทิโนติ เวทิตพฺพา. กุโต จาติ เอตสฺมิฺจ ยูเป วา เสสกฏฺเสุ วา กุโต เอตํ มณิอาทิกํ อวิชฺชมานเมว, กุโต ติทิเว สพฺพกาเม ทุหิสฺสติ. สพฺพถาปิ อภูตเมว เตสํ วจนํ.

สา จ ลุทฺทา จ ปลุทฺธพาลาติ อริฏฺ, อิเม พฺราหฺมณา นาม เกราฏิกา เจว นิกฺกรุณา จ, เต พาลา โลกํ ปโลเภตฺวา อุปโลเภตฺวา จิตฺเรหิ การเณหิ มุขํ ปสาเทนฺติ. สพฺพกาเมติ อคฺคึ อาทาย ตฺวฺจ ชูห, อมฺหากฺจ วิตฺตํ เทหิ, ตโต สพฺพกาเม ลภิตฺวา สุขี โหหิสิ.

ตมคฺคิหุตฺตํ สรณํ ปวิสฺสาติ ตํ ราชานํ วา ราชมหามตฺตํ วา อาทาย อคฺคิชุหนฏฺานํ เคหํ ปวิสิตฺวา. โอโรปยิตฺวาติ จิตฺรานิ การณานิ วทนฺตา เกสมสฺสุํ นเข จ โอโรปยิตฺวา. อติคาฬฺหยนฺตีติ วุตฺตตาย ตโย เวเท นิสฺสาย ‘‘อิทํ ทาตพฺพํ, อิทํ กตฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺตา เวเทหิ ตสฺส สนฺตกํ วิตฺตํ อติคาฬฺหยนฺติ วินาเสนฺติ วิทฺธํเสนฺติ.

อนฺนานิ ภุตฺวา กุหกา กุหิตฺวาติ เต กุหกา นานปฺปการํ กุหกกมฺมํ กตฺวา สเมจฺจ สมาคนฺตฺวา ยฺํ วณฺเณตฺวา วฺเจตฺวา ตสฺส สนฺตกํ นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา อถ นํ มุณฺฑกํ กตฺวา ยฺปเถ โอสฺสชนฺติ, ตํ คเหตฺวา พหิยฺาวาฏํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.

โยคโยเคนาติ เต พฺราหฺมณา ตํ เอกํ พหุกา สเมจฺจ เตน เตน โยเคน ตาย ตาย ยุตฺติยา วิลุมฺปมานา ทิฏฺํ ปจฺจกฺขํ ตสฺส ธนํ อทิฏฺเน เทวโลเกน อทิฏฺํ เทวโลกํ วณฺเณตฺวา อาหรณฏฺานํ กตฺวา หรนฺติ. อกาสิยา ราชูหิวานุสิฏฺาติ ‘‘อิทฺจิทฺจ พลึ คณฺหถา’’ติ ราชูหิ อนุสิฏฺา อกาสิยสงฺขาตา ราชปุริสา วิย. ตทสฺสาติ ตํ อสฺส ธนํ อาทาย หรนฺติ. โจรสมาติ อภูตพลิคฺคาหกา สนฺธิจฺเฉทกโจรสทิสา อสปฺปุริสา. วชฺฌาติ วธารหา เอวรูปา ปาปธมฺมา อุทานิ โลเก น หฺนฺติ.

พาหารสีติ พาหา อสิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิทมฺปิ อริฏฺ, พฺราหฺมณานํ มุสาวาทํ ปสฺส. เต กิร ยฺเสุ มหตึ ปลาสยฏฺึ ‘‘อินฺทสฺส พาหา อสิ ทกฺขิณา’’ติ วตฺวา ฉินฺทนฺติ. ตฺเจ เอเตสํ วจนํ สจฺจํ, อถ ฉินฺนพาหุ สมาโน เกนสฺส พาหุพเลน อินฺโท อสุเร ชินาตีติ. สมงฺคีติ พาหุสมงฺคี อจฺฉินฺนพาหุ อโรโคเยว. หนฺตาติ อสุรานํ หนฺตา. ปรโมติ อุตฺตโม ปุฺิทฺธิยา สมนฺนาคโต อฺเสํ อวชฺโฌ. พฺราหฺมณาติ พฺราหฺมณานํ. ตุจฺฉรูปาติ ตุจฺฉสภาวา นิปฺผลา. วฺจนาติ เย จ เต พฺราหฺมณานํ มนฺตา นาม, เอสา โลเก สนฺทิฏฺิกา วฺจนา.

ยถาปการานีติ ยาทิสานิ อิฏฺกานิ คเหตฺวา ยฺกเรหิ จิตฺยา กตาติ วทนฺติ. ติฏฺเสลาติ ปพฺพตา หิ อจลา ติฏฺา น อุปจิตา เอกคฺฆนา สิลามยา จ. อิฏฺกานิ จลานิ น เอกคฺฆนานิ น สิลามยานิ. ปริวณฺณยนฺตาติ เอตํ ยฺํ วณฺเณนฺตา พฺราหฺมณา.

สมนฺตเวเทติ ปริปุณฺณเวเท พฺราหฺมเณ. วหนฺตีติ โสเตสุปิ อาวฏฺเฏสุปิ ปติเต วหนฺติ, นิมุชฺชาเปตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ. น เตน พฺยาปนฺนรสูทกา นาติ เอตฺถ เอโก -กาโร ปุจฺฉนตฺโถ โหติ. นนุ เตน พฺยาปนฺนรสูทกา นทิโยติ ตํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. กสฺมาติ เกน การเณน ตาว มหาสมุทฺโทว อเปยฺโย กโต, กึ มหาพฺรหฺมา ยมุนาทีสุ นทีสุ อุทกํ อเปยฺยํ กาตุํ น สกฺโกติ, สมุทฺเทเยว สกฺโกตีติ. ทฺวิรสฺุ มาหูติ ทฺวิรสฺู อหุ, ชาโตติ อตฺโถ.

ปุเร ปุรตฺถาติ อิโต ปุเร ปุพฺเพ ปุรตฺถา ปมกปฺปิกกาเล. กา กสฺส ภริยาติ กา กสฺส ภริยา นาม. ตทา หิ อิตฺถิลิงฺคเมว นตฺถิ, ปจฺฉา เมถุนธมฺมวเสน มาตาปิตโร นาม ชาตา. มโน มนุสฺสนฺติ ตทา หิ มโนเยว มนุสฺสํ ชเนสิ, มโนมยาว สตฺตา นิพฺพตฺตึสูติ อตฺโถ. เตนาปิ ธมฺเมนาติ เตนาปิ การเณน เตน สภาเวน น โกจิ ชาติยา หีโน. น หิ ตทา ขตฺติยาทิเภโท อตฺถิ, ตสฺมา ยํ พฺราหฺมณา วทนฺติ ‘‘พฺราหฺมณาว ชาติยา เสฏฺา, อิตเร หีนา’’ติ, ตํ มิจฺฉา. เอวมฺปีติ เอวํ วตฺตมาเน โลเก โปราณกวตฺตํ ชหิตฺวา ปจฺฉา อตฺตนา สมฺมนฺนิตฺวา กตานํ วเสน ขตฺติยาทโย จตฺตาโร โกฏฺาสา ชาตา, เอวมฺปิ โวสฺสคฺควิภงฺคมาหุ, อตฺตนา กเตหิ กมฺมโวสฺสคฺเคหิ เตสํ สตฺตานํ เอกจฺเจ ขตฺติยา ชาตา, เอกจฺเจ พฺราหฺมณาทโยติ อิมํ วิภาคํ กเถนฺติ, ตสฺมา ‘‘พฺราหฺมณาว เสฏฺา’’ติ วจนํ มิจฺฉา.

สตฺตธาติ ยทิ มหาพฺรหฺมุนา พฺราหฺมณานฺเว ตโย เวทา ทินฺนา, น อฺเสํ, จณฺฑาลสฺส มนฺเต ภาสนฺตสฺส มุทฺธา สตฺตธา ผเลยฺย, น จ ผลติ, ตสฺมา อิเมหิ พฺราหฺมเณหิ อตฺตวธาย มนฺตา กตา, อตฺตโนเยว เนสํ มุสาวาทิตํ ปกาเสนฺตา คุณวธํ กโรนฺติ. วาจากตาติ เอเต มนฺตา นาม มุสาวาเทน จินฺเตตฺวา กตา. คิทฺธิกตา คหีตาติ ลาภคิทฺธิกตาย พฺราหฺมเณหิ คหิตา. ทุมฺโมจยาติ มจฺเฉน คิลิตพลิโส วิย ทุมฺโมจยา. กพฺยปถานุปนฺนาติ กพฺยาการกพฺราหฺมณานํ วจนปถํ อนุปนฺนา อนุคตา. เต หิ ยถา อิจฺฉนฺติ, ตถา มุสา วตฺวา พนฺธนฺติ. พาลานนฺติ เตสฺหิ พาลานํ จิตฺตํ วิสเม นิวิฏฺํ, ตํ อฺเ อปฺปปฺาว อภิสทฺทหนฺติ.

โปริสิยํพเลนาติ โปริสิยสงฺขาเตน พเลน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ เอเตสํ สีหาทีนํ ปุริสถามสงฺขาตํ โปริสิยพลํ, เตน พเลน สมนฺนาคโต พฺราหฺมโณ นาม นตฺถิ, สพฺเพ อิเมหิ ติรจฺฉาเนหิปิ หีนาเยวาติ. มนุสฺสภาโว จ ควํว เปกฺโขติ อปิจ โย เอเตสํ มนุสฺสภาโว, โส คุนฺนํ วิย เปกฺขิตพฺโพ. กึการณา? ชาติ หิ เตสํ อสมา สมานา. เตสฺหิ พฺราหฺมณานํ ทุปฺปฺตาย โคหิ สทฺธึ สมานชาติเยว อสมา. อฺเมว หิ คุนฺนํ สณฺานํ, อฺํ เตสนฺติ. เอเตน พฺราหฺมเณ ติรจฺฉาเนสุ สีหาทีหิ สเมปิ อกตฺวา โครูปสเมว กโรติ.

สเจ จ ราชาติ อริฏฺ, ยทิ มหาพฺรหฺมุนา ทินฺนภาเวน ขตฺติโยว ปถวึ วิชิตฺวา. สชีววาติ สหชีวีหิ อมจฺเจหิ สมนฺนาคโต. อสฺสวปาริสชฺโชติ อตฺตโน โอวาทกรปริสาวจโรว สิยา, อถสฺส ปริสาย ยุชฺฌิตฺวา รชฺชํ กาตพฺพํ นาม น ภเวยฺย. สยเมว โส เอกโกว สตฺตุสงฺฆํ วิเชยฺย, เอวํ สติ ยุทฺเธ ทุกฺขาภาเวน ตสฺส ปชา นิจฺจสุขี ภเวยฺย, เอตฺจ นตฺถิ. ตสฺมา เตสํ วจนํ มิจฺฉา.

ขตฺติยมนฺตาติ ราชสตฺถฺจ ตโย จ เวทา อตฺตโน อาณาย รุจิยา ‘‘อิทเมว กตฺตพฺพ’’นฺติ ปวตฺตตฺตา อตฺเถน เอเต สมกา ภวนฺติ. อวินิจฺฉินิตฺวาติ เตสํ ขตฺติยมนฺตานํ ขตฺติโยปิ เวทานํ พฺราหฺมโณปิ อตฺถํ อวินิจฺฉินิตฺวา อาณาวเสเนว อุคฺคณฺหนฺโต ตํ อตฺถํ อุทโกเฆน ฉนฺนมคฺคํ วิย น พุชฺฌติ.

อตฺเถน เอเตติ วฺจนตฺเถน เอเต สมกา ภวนฺติ. กึการณา? พฺราหฺมณาว เสฏฺา, อฺเ วณฺณา หีนาติ วทนฺติ. เย จ เต ลาภาทโย โลกธมฺมา, สพฺเพว เตสํ จตุนฺนมฺปิ วณฺณานํ ธมฺมา. เอกสตฺโตปิ เอเตหิ มุตฺตโก นาม นตฺถิ. อิติ พฺราหฺมณา โลกธมฺเมหิ อปริมุตฺตาว สมานา ‘‘เสฏฺา มย’’นฺติ มุสา กเถนฺติ.

อิพฺภาติ คหปติกา. เตวิชฺชสงฺฆา จาติ พฺราหฺมณาปิ ตเถว ปุถูนิ กสิโครกฺขาทีนิ กมฺมานิ กโรนฺติ. นิจฺจุสฺสุกาติ นิจฺจํ อุสฺสุกฺกชาตา ฉนฺทชาตา. ตทปฺปปฺา ทฺวิรสฺุรา เตติ ตสฺมา ภาติก, ทฺวิรสฺุ นิปฺปฺา พฺราหฺมณา, อารา เต ธมฺมโต. โปราณกา หิ พฺราหฺมณธมฺมา เอตรหิ สุนเขสุ สนฺทิสฺสนฺตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ตสฺส วาทํ ภินฺทิตฺวา อตฺตโน วาทํ ปติฏฺาเปสิ. ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา สพฺพา นาคปริสา โสมนสฺสชาตา อเหสุํ. มหาสตฺโต เนสาทพฺราหฺมณํ นาคภวนา นีหราเปสิ, ปริภาสมตฺตมฺปิสฺส นากาสิ. สาครพฺรหฺมทตฺโตปิ ปิตทิวสํ อนติกฺกมิตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย สห ปิตุ วสนฏฺานํ อคมาสิ. มหาสตฺโตปิ ‘‘มาตุลฺจ อยฺยกฺจ ปสฺสิสฺสามี’’ติ เภรึ จราเปตฺวา มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน ยมุนาโต อุตฺตริตฺวา ตเมว อสฺสมปทํ อารพฺภ ปายาสิ. อวเสสา ภาตโร จสฺส มาตาปิตโร จ ปจฺฉโต ปายึสุ. ตสฺมึ ขเณ สาครพฺรหฺมทตฺโต มหาสตฺตํ มหติยา ปริสาย อาคจฺฉนฺตํ อสฺชานิตฺวา ปิตรํ ปุจฺฉนฺโต อาห –

๙๖๗.

‘‘กสฺส เภรี มุทิงฺคา จ, สงฺขา ปณวทินฺทิมา;

ปุรโต ปฏิปนฺนานิ, หาสยนฺตา รเถสภํ.

๙๖๘.

‘‘กสฺส กฺจนปฏฺเฏน, ปุถุนา วิชฺชุวณฺณินา;

ยุวา กลาปสนฺนทฺโธ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๙๖๙.

‘‘อุกฺกามุขปหฏฺํว, ขทิรงฺคารสนฺนิภํ;

มุขฺจ รุจิรา ภาติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๙๗๐.

‘‘กสฺส ชมฺโพนทํ ฉตฺตํ, สสลากํ มโนรมํ;

อาทิจฺจรํสาวรณํ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๙๗๑.

‘‘กสฺส องฺคํ ปริคฺคยฺห, วาลพีชนิมุตฺตมํ;

อุภโต วรปุฺสฺส, มุทฺธนิ อุปรูปริ.

๙๗๒.

‘‘กสฺส เปขุณหตฺถานิ, จิตฺรานิ จ มุทูนิ จ;

กฺจนมณิทณฺฑานิ, จรนฺติ ทุภโต มุขํ.

๙๗๓.

‘‘ขทิรงฺคารวณฺณาภา, อุกฺกามุขปหํสิตา;

กสฺเสเต กุณฺฑลา วคฺคู, โสภนฺติ ทุภโต มุขํ.

๙๗๔.

‘‘กสฺส วาเตน ฉุปิตา, นิทฺธนฺตา มุทุกาฬกา;

โสภยนฺติ นลาฏนฺตํ, นภา วิชฺชุริวุคฺคตา.

๙๗๕.

‘‘กสฺส เอตานิ อกฺขีนิ, อายตานิ ปุถูนิ จ;

โก โสภติ วิสาลกฺโข, กสฺเสตํ อุณฺณชํ มุขํ.

๙๗๖.

‘‘กสฺเสเต ลปนชาตา, สุทฺธา สงฺขวรูปมา;

ภาสมานสฺส โสภนฺติ, ทนฺตา กุปฺปิลสาทิสา.

๙๗๗.

‘‘กสฺส ลาขารสสมา, หตฺถปาทา สุเขธิตา;

โก โส พิมฺโพฏฺสมฺปนฺโน, ทิวา สูริโยว ภาสติ.

๙๗๘.

‘‘หิมจฺจเย หิมวติ, มหาสาโลว ปุปฺผิโต;

โก โส โอทาตปาวาโร, ชยํ อินฺโทว โสภติ.

๙๗๙.

‘‘สุวณฺณปีฬกากิณฺณํ, มณิทณฺฑวิจิตฺตกํ;

โก โส ปริสโมคยฺห, อีสํ ขคฺคํ ปมุฺจติ.

๙๘๐.

‘‘สุวณฺณวิกตา จิตฺตา, สุกตา จิตฺตสิพฺพนา;

โก โส โอมุฺจเต ปาทา, นโม กตฺวา มเหสิโน’’ติ.

ตตฺถ ปฏิปนฺนานีติ กสฺเสตานิ ตูริยานิ ปุรโต ปฏิปนฺนานิ. หาสยนฺตาติ เอตํ ราชานํ หาสยนฺตา. กสฺส กฺจนปฏฺเฏนาติ กสฺส นลาฏนฺเต พนฺเธน อุณฺหีสปฏฺเฏน วิชฺชุยา เมฆมุขํ วิย มุขํ ปชฺโชตตีติ ปุจฺฉติ. ยุวา กลาปสนฺนทฺโธติ ตรุโณ สนฺนทฺธกลาโป. อุกฺกามุขปหฏฺํวาติ กมฺมารุทฺธเน ปหฏฺสุวณฺณํ วิย. ขทิรงฺคารสนฺนิภนฺติ อาทิตฺตขทิรงฺคารสนฺนิภํ. ชมฺโพนทนฺติ รตฺตสุวณฺณมยํ. องฺคํ ปริคฺคยฺหาติ จามริคาหเกน องฺเคน ปริคฺคหิตา หุตฺวา. วาลพีชนิมุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ วาลพีชนึ. เปขุณหตฺถานีติ โมรปิฺฉหตฺถกานิ. จิตฺรานีติ สตฺตรตนจิตฺรานิ. กฺจนมณิทณฺฑานีติ ตปนียสุวณฺเณน จ มณีหิ จ ขณิตทณฺฑานิ. ทุภโต มุขนฺติ มุขสฺส อุภยปสฺเสสุ จรนฺติ.

วาเตน ฉุปิตาติ วาตปหฏา. นิทฺธนฺตาติ สินิทฺธอนฺตา. นลาฏนฺตนฺติ กสฺเสเต เอวรูปา เกสา นลาฏนฺตํ อุปโสเภนฺติ. นภา วิชฺชุริวุคฺคตาติ นภโต อุคฺคตา วิชฺชุ วิย. อุณฺณชนฺติ กฺจนาทาโส วิย ปริปุณฺณํ. ลปนชาตาติ มุขชาตา. กุปฺปิลสาทิสาติ มนฺทาลกมกุลสทิสา. สุเขธิตาติ สุขปริหฏา. ชยํ อินฺโทวาติ ชยํ ปตฺโต อินฺโท วิย. สุวณฺณปีฬกากิณฺณนฺติ สุวณฺณปีฬกาหิ อากิณฺณํ. มณิทณฺฑวิจิตฺตกนฺติ มณีหิ ถรุมฺหิ วิจิตฺตกํ. สุวณฺณวิกตาติ สุวณฺณขจิตา. จิตฺตาติ สตฺตรตนวิจิตฺตา. สุกตาติ สุฏฺุ นิฏฺิตา. จิตฺตสิพฺพนาติ จิตฺรสิพฺพินิโย. โก โส โอมุฺจเต ปาทาติ โก เอส ปาทโต เอวรูปา ปาทุกา โอมุฺจตีติ.

เอวํ ปุตฺเตน สาครพฺรหฺมทตฺเตน ปุฏฺโ อิทฺธิมา อภิฺาลาภี ตาปโส ‘‘ตาต, เอเต ธตรฏฺรฺโ ปุตฺตา ตว ภาคิเนยฺยนาคา’’ติ อาจิกฺขนฺโต คาถมาห –

๙๘๑.

‘‘ธตรฏฺา หิ เต นาคา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;

สมุทฺทชาย อุปฺปนฺนา, นาคา เอเต มหิทฺธิกา’’ติ.

เอวํ เตสํ กเถนฺตานฺเว นาคปริสา ปตฺวา ตาปสสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สมุทฺทชาปิ ปิตรํ วนฺทิตฺวา โรทิตฺวา นาคปริสาย สทฺธึ นาคภวนเมว คตา. สาครพฺรหฺมทตฺโตปิ ตตฺเถว กติปาหํ วสิตฺวา พาราณสิเมว คโต. สมุทฺทชา นาคภวเนเยว กาลมกาสิ. โพธิสตฺโต ยาวชีวํ สีลํ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา อายุปริโยสาเน สทฺธึ ปริสาย สคฺคปุรํ ปูเรสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ อุปาสกา โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ เอวรูปํ นาม สมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถกมฺมํ กรึสุเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ. เทสนาปริโยสาเน อุปาสกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ. ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, เนสาทพฺราหฺมโณ เทวทตฺโต, โสมทตฺโต อานนฺโท, อชมุขี อุปฺปลวณฺณา, สุทสฺสโน สาริปุตฺโต, สุโภโค โมคฺคลฺลาโน, กาณาริฏฺโ สุนกฺขตฺโต, ภูริทตฺโต ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสินฺติ.

ภูริทตฺตชาตกวณฺณนา ฉฏฺานิฏฺิตา.

[๕๔๔] ๗. จนฺทกุมารชาตกวณฺณนา

ราชาสิ ลุทฺทกมฺโมติ อิทํ สตฺถา คิชฺฌกูเฏ วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺส วตฺถุ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก อาคตเมว. ตํ ตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย ยาว พิมฺพิสารรฺโ มรณา ตตฺถาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตํ ปน มาราเปตฺวา เทวทตฺโต อชาตสตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มหาราช, ตว มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, มม มโนรโถ ตาว น ปาปุณาตี’’ติ อาห. ‘‘โก ปน เต, ภนฺเต, มโนรโถ’’ติ? ‘‘นนุ ทสพลํ มาเรตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ. ‘‘อมฺเหเหตฺถ กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘มหาราช, ธนุคฺคเห สนฺนิปาตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ราชา อกฺขณเวธีนํ ธนุคฺคหานํ ปฺจสตานิ สนฺนิปาตาเปตฺวา ตโต เอกตึส ชเน อุจฺจินิตฺวา เถรสฺส สนฺติกํ ปาเหสิ. โส เตสํ เชฏฺกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘อาวุโส สมโณ โคตโม คิชฺฌกูเฏ วิหรติ, อสุกสฺมึ นาม ทิวาฏฺาเน จงฺกมติ. ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ วิสปีเตน สลฺเลน วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อสุเกน นาม มคฺเคน เอหี’’ติ วตฺวา เปเสตฺวา ตสฺมึ มคฺเค ทฺเว ธนุคฺคเห เปสิ ‘‘ตุมฺหากํ ิตมคฺเคน เอโก ปุริโส อาคมิสฺสติ, ตํ ตุมฺเห ชีวิตา โวโรเปตฺวา อสุเกน นาม มคฺเคน เอถา’’ติ, ตสฺมึ มคฺเค จตฺตาโร ปุริเส เปสิ ‘‘ตุมฺหากํ ิตมคฺเคน ทฺเว ปุริสา อาคมิสฺสนฺติ, ตุมฺเห เต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อสุเกน นาม มคฺเคน เอถา’’ติ, ตสฺมึ มคฺเค อฏฺ ชเน เปสิ ‘‘ตุมฺหากํ ิตมคฺเคน จตฺตาโร ปุริโส อาคมิสฺสนฺติ, ตุมฺเห เต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อสุเกน นาม มคฺเคน เอถา’’ติ, ตสฺมึ มคฺเค โสฬส ปุริเส เปสิ ‘‘ตุมฺหากํ ิตมคฺเคน อฏฺ ปุริสา อาคมิสฺสนฺติ, ตุมฺเห เต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อสุเกน นาม มคฺเคน เอถา’’ติ.

กสฺมา ปเนส เอวมกาสีติ? อตฺตโน กมฺมสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ. อถ โส เชฏฺกธนุคฺคโห วามโต ขคฺคํ ลคฺเคตฺวา ปิฏฺิยา ตุณีรํ พนฺธิตฺวา เมณฺฑสิงฺคมหาธนุํ คเหตฺวา ตถาคตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘วิชฺฌิสฺสามิ น’’นฺติ สฺาย ธนุํ อาโรเปตฺวา สรํ สนฺนยฺหิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา วิสฺสชฺเชตุํ นาสกฺขิ. โส สรํ โอโรเปตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต ผาสุกา ภิชฺชนฺติโย วิย มุขโต เขเฬน ปคฺฆรนฺเตน กิลนฺตรูโป อโหสิ, สกลสรีรํ ถทฺธํ ชาตํ, ยนฺเตน ปีฬิตาการปฺปตฺตํ วิย อโหสิ. โส มรณภยตชฺชิโต อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ทิสฺวา มธุรสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา เอตทโวจ ‘‘มา ภายิ โภ, ปุริส, อิโต เอหี’’ติ. โส ตสฺมึ ขเณ อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, สฺวาหํ ตุมฺหากํ คุเณ อชานนฺโต อนฺธพาลสฺส เทวทตฺตสฺส วจเนน ตุมฺเห ชีวิตา โวโรเปตุํ อาคโตมฺหิ, ขมถ เม, ภนฺเต’’ติ ขมาเปตฺวา เอกมนฺเต นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา ธมฺมํ เทเสนฺโต สจฺจานิ ปกาเสตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘อาวุโส, เทวทตฺเตน อาจิกฺขิตมคฺคํ อปฺปฏิปชฺชิตฺวา อฺเน มคฺเคน ยาหี’’ติ อุยฺโยเชสิ. อุยฺโยเชตฺวา จ ปน จงฺกมา โอรุยฺห อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ.

อถ ตสฺมึ ธนุคฺคเห อนาคจฺฉนฺเต อิตเร ทฺเว ชนา ‘‘กึ นุ โข โส จิรายตี’’ติ ปฏิมคฺเคน คจฺฉนฺตา ทสพลํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา เตสมฺปิ ธมฺมํ เทเสตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘อาวุโส, เทวทตฺเตน กถิตมคฺคํ อปฺปฏิปชฺชิตฺวา อิมินา มคฺเคน คจฺฉถา’’ติ อุยฺโยเชสิ. อิมินา อุปาเยน อิตเรสุปิ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา อฺเน มคฺเคน อุยฺโยเชสิ. อถ โส ปมมาคโต เชฏฺกธนุคฺคโห เทวทตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, เทวทตฺต อหํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ชีวิตา โวโรเปตุํ นาสกฺขึ, มหิทฺธิโก โส ภควา มหานุภาโว’’ติ อาโรเจสิ. เต สพฺเพปิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธํ นิสฺสาย อมฺเหหิ ชีวิตํ ลทฺธ’’นฺติ สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. อยํ ปวตฺติ ภิกฺขุสงฺเฆ ปากฏา อโหสิ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส เทวทตฺโต กิร เอกสฺมึ ตถาคเต เวรจิตฺเตน พหู ชเน ชีวิตา โวโรเปตุํ วายามมกาสิ, เต สพฺเพปิ สตฺถารํ นิสฺสาย ชีวิตํ ลภึสู’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มํ เอกกํ นิสฺสาย มยิ เวรจิตฺเตน พหู ชเน ชีวิตา โวโรเปตุํ วายามํ อกาสิเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต อยํ พาราณสี ปุปฺผวตี นาม อโหสิ. ตตฺถ วสวตฺติรฺโ ปุตฺโต เอกราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ, ตสฺส ปุตฺโต จนฺทกุมาโร นาม โอปรชฺชํ กาเรสิ. ขณฺฑหาโล นาม พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต อโหสิ. โส รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสิ. ตํ กิร ราชา ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ วินิจฺฉเย นิสีทาเปสิ. โส ลฺชวิตฺตโก หุตฺวา ลฺชํ คเหตฺวา อสามิเก สามิเก กโรติ, สามิเก จ อสามิเก. อเถกทิวสํ เอโก อฑฺฑปราชิโต ปุริโส วินิจฺฉยฏฺานา อุปกฺโกเสนฺโต นิกฺขมิตฺวา ราชุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตํ จนฺทกุมารํ ทิสฺวา ธาวิตฺวา ตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา โรทิ. โส ‘‘กึ, โภ ปุริส, โรทสี’’ติ อาห. ‘‘สามิ, ขณฺฑหาโล วินิจฺฉเย วิโลปํ ขาทติ, อหํ เตน ลฺชํ คเหตฺวา ปราชยํ ปาปิโต’’ติ. จนฺทกุมาโร ‘‘มา ภายี’’ติ ตํ อสฺสาเสตฺวา วินิจฺฉยํ เนตฺวา สามิกเมว สามิกํ, อสามิกเมว อสามิกํ อกาสิ. มหาชโน มหาสทฺเทน สาธุการมทาสิ. ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘กึสทฺโท เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘จนฺทกุมาเรน กิร อฑฺโฑ สุวินิจฺฉิโต, ตตฺเถโส สาธุการสทฺโท’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา ตุสฺสิ. กุมาโร อาคนฺตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ ราชา ‘‘ตาต, เอโก กิร เต อฑฺโฑ วินิจฺฉิโต’’ติ อาห. ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ตาต, อิโต ปฏฺาย ตฺวเมว วินิจฺฉยํ ปฏฺเปหี’’ติ วินิจฺฉยํ กุมารสฺส อทาสิ.

ตโต ปฏฺาย ขณฺฑหาลสฺส อาโย ปจฺฉิชฺชิ. โส ตโต ปฏฺาย กุมาเร อาฆาตํ พนฺธิตฺวา โอกาสํ คเวสนฺโต อนฺตราเปกฺโข วิจริ. โส ปน ราชา มนฺทปฺโ. โส เอกทิวสํ รตฺติภาเค สุปิตฺวา ปจฺจูสสมเย สุปินนฺเต อลงฺกตทฺวารโกฏฺกํ, สตฺตรตนมยปาการํ, สฏฺิโยชนิกสุวณฺณมยวาลุกมหาวีถึ, โยชนสหสฺสุพฺเพธเวชยนฺตปาสาทปฏิมณฺฑิตํ นนฺทนวนาทิวนรามเณยฺยกนนฺทาโปกฺขรณิอาทิโปกฺขรณิรามเณยฺยกสมนฺนาคตํ อากิณฺณเทวคณํ ตาวตึสภวนํ ทิสฺวา ปพุชฺฌิตฺวา ตตฺถ คนฺตุกาโม จินฺเตสิ – ‘‘สฺเว อาจริยขณฺฑหาลสฺสาคมนเวลาย เทวโลกคามิมคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา เตน เทสิตมคฺเคน เทวโลกํ คมิสฺสามี’’ติ ขณฺฑหาโลปิ ปาโตว นฺหตฺวา ภุฺชิตฺวา ราชุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา ราชนิเวสนํ ปวิสิตฺวา รฺโ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิ. อถสฺส ราชา อาสนํ ทาเปตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๙๘๒.

‘‘ราชาสิ ลุทฺทกมฺโม, เอกราชา ปุปฺผวตียา;

โส ปุจฺฉิ พฺรหฺมพนฺธุํ, ขณฺฑหาลํ ปุโรหิตํ มูฬฺหํ.

๙๘๓.

‘‘สคฺคาน มคฺคมาจิกฺข, ตฺวํสิ พฺราหฺมณ ธมฺมวินยกุสโล;

ยถา อิโต วชนฺติ สุคตึ, นรา ปุฺานิ กตฺวานา’’ติ.

ตตฺถ ราชาสีติ ราชา อาสิ. ลุทฺทกมฺโมติ กกฺขฬผรุสกมฺโม. สคฺคาน มคฺคนฺติ สคฺคานํ คมนมคฺคํ. ธมฺมวินยกุสโลติ สุจริตธมฺเม จ อาจารวินเย จ กุสโล. ยถาติ ยถา นรา ปุฺานิ กตฺวา อิโต สุคตึ คจฺฉนฺติ, ตํ เม สุคติมคฺคํ อาจิกฺขาหีติ ปุจฺฉิ.

อิมํ ปน ปฺหํ สพฺพฺุพุทฺธํ วา ตสฺส สาวเก วา เตสํ อลาเภน โพธิสตฺตํ วา ปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ราชา ปน ยถา นาม สตฺตาหํ มคฺคมูฬฺโห ปุริโส อฺํ มาสมตฺตํ มคฺคมูฬฺหํ มคฺคํ ปุจฺเฉยฺย, เอวํ ขณฺฑหาลํ ปุจฺฉิ. โส จินฺเตสิ ‘‘อยํ เม ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺิทสฺสนกาโล, อิทานิ จนฺทกุมารํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา มม มโนรถํ ปูเรสฺสามี’’ติ. อถ ราชานํ อามนฺเตตฺวา ตติยํ คาถมาห –

๙๘๔.

‘‘อติทานํ ททิตฺวาน, อวชฺเฌ เทว ฆาเตตฺวา;

เอวํ วชนฺติ สุคตึ, นรา ปุฺานิ กตฺวานา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช สคฺคํ คจฺฉนฺตา นาม อติทานํ ททนฺติ, อวชฺเฌ ฆาเตนฺติ. สเจปิ สคฺคํ คนฺตุกาโมสิ, ตฺวมฺปิ ตเถว กโรหีติ.

อถ นํ ราชา ปฺหสฺส อตฺถํ ปุจฺฉิ –

๙๘๕.

‘‘กึ ปน ตํ อติทานํ, เก จ อวชฺฌา อิมสฺมิ โลกสฺมึ;

เอตฺจ โข โน อกฺขาหิ, ยชิสฺสามิ ททามิ ทานานี’’ติ.

โสปิสฺส พฺยากาสิ –

๙๘๖.

‘‘ปุตฺเตหิ เทว ยชิตพฺพํ, มเหสีหิ เนคเมหิ จ;

อุสเภหิ อาชานิเยหิ จตูหิ, สพฺพจตุกฺเกน เทว ยชิตพฺพ’’นฺติ.

รฺโ ปฺหํ พฺยากโรนฺโต จ เทวโลกมคฺคํ ปุฏฺโ นิรยมคฺคํ พฺยากาสิ.

ตตฺถ ปุตฺเตหีติ อตฺตนา ชาเตหิ ปิยปุตฺเตหิ เจว ปิยธีตาหิ จ. มเหสีหีติ ปิยภริยาหิ. เนคเมหีติ เสฏฺีหิ. อุสเภหีติ สพฺพเสเตหิ อุสภราชูหิ. อาชานิเยหีติ มงฺคลอสฺเสหิ. จตูหีติ เอเตหิ สพฺเพเหว อฺเหิ จ หตฺถิอาทีหิ จตูหิ จตูหีติ เอวํ สพฺพจตุกฺเกน, เทว, ยชิตพฺพํ. เอเตสฺหิ ขคฺเคน สีสํ ฉินฺทิตฺวา สุวณฺณปาติยา คลโลหิตํ คเหตฺวา อาวาเฏ ปกฺขิปิตฺวา ยฺสฺส ยชนกราชาโน สรีเรน สห เทวโลกํ คจฺฉนฺติ. มหาราช, สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ ฆาสจฺฉาทนาทิสมฺปทานํ ทานเมว ปวตฺตติ. อิเม ปน ปุตฺตธีตาทโย มาเรตฺวา เตสํ คลโลหิเตน ยฺสฺส ยชนํ อติทานํ นามาติ ราชานํ สฺาเปสิ.

อิติ โส ‘‘สเจ จนฺทกุมารํ เอกฺเว คณฺหิสฺสามิ, เวรจิตฺเตน กรณํ มฺิสฺสนฺตี’’ติ ตํ มหาชนสฺส อนฺตเร ปกฺขิปิ. อิทํ ปน เตสํ กเถนฺตานํ กถํ สุตฺวา สพฺเพ อนฺเตปุรชนา ภีตตสิตา สํวิคฺคมานหทยา เอกปฺปหาเรเนว มหารวํ รวึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๙๘๗.

‘‘ตํ สุตฺวา อนฺเตปุเร, กุมารา มเหสิโย จ หฺนฺตุ;

เอโก อโหสิ นิคฺโฆโส, ภิกฺขา อจฺจุคฺคโต สทฺโท’’ติ.

ตตฺถ นฺติ ‘‘กุมารา จ มเหสิโย จ หฺนฺตู’’ติ ตํ สทฺทํ สุตฺวา เอโกติ สกลราชนิเวสเน เอโกว นิคฺโฆโส อโหสิ. ภิสฺมาติ ภยานโก. อจฺจุคฺคโตติ อติอุคฺคโต อโหสิ, สกลราชกุลํ ยุคนฺตวาตปฺปหฏํ วิย สาลวนํ อโหสิ.

พฺราหฺมโณ ราชานํ อาห – ‘‘กึ ปน, มหาราช, ยฺํ ยชิตุํ สกฺโกสิ, น สกฺโกสี’’ติ? ‘‘กึ กเถสิ, อาจริย, ยฺํ ยชิตฺวา เทวโลกํ คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘มหาราช, ภีรุกา ทุพฺพลชฺฌาสยา ยฺํ ยชิตุํ สมตฺถา นาม น โหนฺติ, ตุมฺเห อิธ สพฺเพ สนฺนิปาเตถ, อหํ ยฺาวาเฏ กมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อตฺตโน ปโหนกํ พลกายํ คเหตฺวา นครา นิกฺขมฺม ยฺาวาฏํ สมตลํ กาเรตฺวา วติยา ปริกฺขิปิ. กสฺมา? ธมฺมิโก หิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาคนฺตฺวา นิวาเรยฺยาติ ยฺาวาเฏ วติยา ปริกฺเขปนํ นาม จาริตฺตนฺติ กตฺวา โปราณกพฺราหฺมเณหิ ปิตํ. ราชาปิ ปุริเส ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา, อหํ อตฺตโน ปุตฺตธีตโร จ ภริยาโย จ มาเรตฺวา ยฺํ ยชิตฺวา เทวโลกํ คมิสฺสามิ, คจฺฉถ เนสํ อาจิกฺขิตฺวา สพฺเพ อิธาเนถา’’ติ ปุตฺตานํ ตาว อานยนตฺถาย อาห –

๙๘๘.

‘‘คจฺฉถ วเทถ กุมาเร, จนฺทํ สูริยฺจ ภทฺทเสนฺจ;

สูรฺจ วามโคตฺตฺจ, ปจุรา กิร โหถ ยฺตฺถายา’’ติ.

ตตฺถ คจฺฉถ วเทถ กุมาเรติ จนฺทกุมาโร จ สูริยกุมาโร จาติ ทฺเว โคตมิเทวิยา อคฺคมเหสิยา ปุตฺตา, ภทฺทเสโน จ สูโร จ วามโคตฺโต จ เตสํ เวมาติกภาตโร. ปจุรา กิร โหถาติ เอกสฺมึ าเน ราสี โหถาติ อาจิกฺขถาติ อตฺโถ.

เต ปมํ จนฺทกุมารสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาหํสุ ‘‘กุมาร, ตุมฺเห กิร มาเรตฺวา ตุมฺหากํ ปิตา เทวโลกํ คนฺตุกาโม, ตุมฺหากํ คณฺหนตฺถาย อมฺเห เปเสสี’’ติ. ‘‘กสฺส วจเนน มํ คณฺหาเปสี’’ติ? ‘‘ขณฺฑหาลสฺส, เทวา’’ติ. ‘‘กึ โส มฺเว คณฺหาเปติ, อุทาหุ อฺเปี’’ติ. ‘‘ราชปุตฺต, อฺเปิ คณฺหาเปติ, สพฺพจตุกฺกํ กิร ยฺํ ยชิตุกาโม’’ติ. โส จินฺเตสิ ‘‘ตสฺส อฺเหิ สทฺธึ เวรํ นตฺถิ, ‘วินิจฺฉเย วิโลปํ กาตุํ น ลภามี’ติ ปน มยิ เอกสฺมึ เวรจิตฺเตน พหู มาราเปติ, ปิตรํ ทฏฺุํ ลภนฺตสฺส สพฺเพสํ เตสํ โมจาปนํ นาม มม ภาโร’’ติ. อถ เน ราชปุริเส อาห ‘‘เตน หิ เม ปิตุ วจนํ กโรถา’’ติ. เต ตํ เนตฺวา ราชงฺคเณ เอกมนฺเต เปตฺวา อิตเรปิ ตโย อามนฺเตตฺวา ตสฺเสว สนฺติเก กตฺวา รฺโ อาโรจยึสุ ‘‘อานีตา เต, เทว, ปุตฺตา’’ติ. โส เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘ตาตา, อิทานิ เม ธีตโร อาเนตฺวา เตสฺเว ภาติกานํ สนฺติเก กโรถา’’ติ จตสฺโส ธีตโร อาหราเปตุํ อิตรํ คาถมาห –

๙๘๙.

‘‘กุมาริโยปิ วเทถ, อุปเสนํ โกกิลฺจ มุทิตฺจ;

นนฺทฺจาปิ กุมารึ, ปจุรา กิร โหถ ยฺตฺถายา’’ติ.

เต ‘‘เอวํ กริสฺสามา’’ติ ตาสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตา โรทมานา ปริเทวมานา อาเนตฺวา ภาติกานฺเว สนฺติเก กรึสุ. ตโต ราชา อตฺตโน ภริยานํ คหณตฺถาย อิตรํ คาถมาห –

๙๙๐.

‘‘วิชยมฺปิ มยฺหํ มเหสึ, เอราวตึ เกสินึสุนนฺทฺจ;

ลกฺขณวรูปปนฺนา, ปจุรา กิร โหถ ยฺตฺถายา’’ติ.

ตตฺถ ลกฺขณวรูปปนฺนาติ อุตฺตเมหิ จตุสฏฺิยา อิตฺถิลกฺขเณหิ อุปปนฺนา เอตาปิ วเทถาติ อตฺโถ.

เต ตาปิ ปริเทวมานา อาเนตฺวา กุมารานํ สนฺติเก กรึสุ. อถ ราชา จตฺตาโร เสฏฺิโน คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๙๙๑.

‘‘คหปตโย จ วเทถ, ปุณฺณมุขํ ภทฺทิยํ สิงฺคาลฺจ;

วฑฺฒฺจาปิ คหปตึ, ปจุรา กิร โหถ ยฺตฺถายา’’ติ.

ราชปุริสา คนฺตฺวา เตปิ อานยึสุ. รฺโ ปุตฺตทาเร คยฺหมาเน สกลนครํ น กิฺจิ อโวจ. เสฏฺิกุลานิ ปน มหาสมฺพนฺธานิ, ตสฺมา เตสํ คหิตกาเล สกลนครํ สงฺขุภิตฺวา ‘‘รฺโ เสฏฺิโน มาเรตฺวา ยฺํ ยชิตุํ น ทสฺสามา’’ติ เสฏฺิโน ปริวาเรตฺวาว เตสํ าติวคฺเคน สทฺธึ ราชกุลํ อคมิ. อถ เต เสฏฺิโน าติคณปริวุตา ราชานํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ชีวิตํ ยาจึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๙๙๒.

‘‘เต ตตฺถ คหปตโย, อโวจิสุํ สมาคตา ปุตฺตทารปริกิณฺณา;

สพฺเพว สิขิโน เทว กโรหิ, อถ วา โน ทาเส สาเวหี’’ติ.

ตตฺถ สพฺเพว สิขิโนติ สพฺเพ อมฺเห มตฺถเก จูฬํ พนฺธิตฺวา อตฺตโน เจฏเก กโรหิ, มยํ เต เจฏกกิจฺจํ กริสฺสาม. อถ วา โน ทาเส สาเวหีติ อถ วา โน อสทฺทหนฺโต สพฺพเสนิโย สนฺนิปาเตตฺวา ราสิมชฺเฌ อมฺเห ทาเส สาเวหิ, มยํ เต ทาสตฺตํ ปฏิสฺสุณิสฺสามาติ.

เต เอวํ ยาจนฺตาปิ ชีวิตํ ลทฺธุํ นาสกฺขึสุ. ราชปุริสา เสเส ปฏิกฺกมาเปตฺวา เต คเหตฺวา กุมารานฺเว สนฺติเก นิสีทาเปสุํ. ตโต ปน ราชา หตฺถิอาทีนํ คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต อาห –

๙๙๓.

‘‘อภยงฺกรมฺปิ เม หตฺถึ, นาฬาคิรึ อจฺจุคฺคตํ วรุณทนฺตํ;

อาเนถ โข เน ขิปฺปํ, ยฺตฺถาย ภวิสฺสนฺติ.

๙๙๔.

‘‘อสฺสรตนมฺปิ เกสึ, สุรามุขํ ปุณฺณกํ วินตกฺจ;

อาเนถ โข เน ขิปฺปํ, ยฺตฺถาย ภวิสฺสนฺติ.

๙๙๕.

‘‘อุสภมฺปิ ยูถปตึ อโนชํ, นิสภํ ควมฺปตึ เตปิ มยฺหํ อาเนถ;

สมูห กโรนฺตุ สพฺพํ, ยชิสฺสามิ ททามิ ทานานิ.

๙๙๖.

‘‘สพฺพํ ปฏิยาเทถ, ยฺํ ปน อุคฺคตมฺหิ สูริยมฺหิ;

อาณาเปถ จ กุมาเร, อภิรมนฺตุ อิมํ รตฺตึ.

๙๙๗.

‘‘สพฺพํ อุปฏฺเปถ, ยฺํ ปน อุคฺคตมฺหิ สูริยมฺหิ;

วเทถ ทานิ กุมาเร, อชฺช โข ปจฺฉิมา รตฺตี’’ติ.

ตตฺถ สมูห กโรนฺตุ สพฺพนฺติ น เกวลํ เอตฺตกเมว, อวเสสมฺปิ จตุปฺปทคณฺเจว ปกฺขิคณฺจ สพฺพํ จตุกฺกํ กตฺวา ราสึ กโรนฺตุ, สพฺพจตุกฺกํ ยฺํ ยชิสฺสามิ, ยาจกพฺราหฺมณานฺจ ทานํ ทสฺสามีติ. สพฺพํ ปฏิยาเทถาติ เอวํ มยา วุตฺตํ อนวเสสํ อุปฏฺเปถ. อุคฺคตมฺหีติ อหํ ปน ยฺํ อุคฺคเต สูริเย สฺเว ปาโตว ยชิสฺสามิ. สพฺพํ อุปฏฺเปถาติ เสสมฺปิ สพฺพํ ยฺอุปกรณํ อุปฏฺเปถาติ.

รฺโ ปน มาตาปิตโร ธรนฺติเยว. อถสฺส อมจฺจา คนฺตฺวา มาตุยา อาโรเจสุํ ‘‘อยฺเย, ปุตฺโต โว ปุตฺตทารํ มาเรตฺวา ยฺํ ยชิตุกาโม’’ติ. สา ‘‘กึ กเถถ, ตาตา’’ติ หตฺเถน หทยํ ปหริตฺวา โรทมานา อาคนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร เอวรูโป เต ยฺโ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๙๙๘.

‘‘ตํตํ มาตา อวจ, โรทนฺตี อาคนฺตฺวา วิมานโต;

ยฺโ กิร เต ปุตฺต, ภวิสฺสติ จตูหิ ปุตฺเตหี’’ติ.

ตตฺถ ตํตนฺติ ตํ เอตํ ราชานํ. วิมานโตติ อตฺตโน วสนฏฺานโต.

ราชา อาห –

๙๙๙.

‘‘สพฺเพปิ มยฺหํ ปุตฺตา จตฺตา, จนฺทสฺมึ หฺมานสฺมึ;

ปุตฺเตหิ ยฺํ ยชิตฺวาน, สุคตึ สคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ จตฺตาติ จนฺทกุมาเร หฺมาเนเยว สพฺเพปิ ยฺตฺถาย มยา ปริจฺจตฺตา.

อถ นํ มาตา อาห –

๑๐๐๐.

‘‘มา ตํ ปุตฺต สทฺทเหสิ, สุคติ กิร โหติ ปุตฺตยฺเน;

นิรยาเนโส มคฺโค, เนโส มคฺโค หิ สคฺคานํ.

๑๐๐๑.

‘‘ทานานิ เทหิ โกณฺฑฺ, อหึสา สพฺพภูตภพฺยานํ;

เอส มคฺโค สุคติยา, น จ มคฺโค ปุตฺตยฺเนา’’ติ.

ตตฺถ นิรยาเนโสติ นิรสฺสาทตฺเถน นิรยานํ จตุนฺนํ อปายานํ เอส มคฺโค. โกณฺฑฺาติ ราชานํ โคตฺเตนาลปติ. ภูตภพฺยานนฺติ ภูตานฺจ ภวิตพฺพสตฺตานฺจ. ปุตฺตยฺเนาติ เอวรูเปน ปุตฺตธีตโร มาเรตฺวา ยชกยฺเน สคฺคมคฺโค นาม นตฺถีติ.

ราชา อาห –

๑๐๐๒.

‘‘อาจริยานํ วจนา, ฆาเตสฺสํ จนฺทฺจ สูริยฺจ;

ปุตฺเตหิ ยฺํ ยชิตฺวาน ทุจฺจเชหิ, สุคตึ สคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ อาจริยานํ วจนนฺติ อมฺม, เนสา มม อตฺตโน มติ, อาจารสิกฺขาปนกสฺส ปน เม ขณฺฑหาลาจริยสฺส เอตํ วจนํ, เอสา อนุสิฏฺิ. ตสฺมา อหํ เอเต ฆาเตสฺสํ, ทุจฺจเชหิ ปุตฺเตหิ ยฺํ ยชิตฺวา สคฺคํ คมิสฺสามีติ.

อถสฺส มาตา อตฺตโน วจนํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺตี อปคตา. ปิตา ตํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๐๐๓.

‘‘ตํตํ ปิตาปิ อวจ, วสวตฺตี โอรสํ สกํ ปุตฺตํ;

ยฺโ กิร เต ปุตฺต, ภวิสฺสติ จตูหิ ปุตฺเตหี’’ติ.

ตตฺถ วสวตฺตีติ ตสฺส นามํ.

ราชา อาห –

๑๐๐๔.

‘‘สพฺเพปิ มยฺหํ ปุตฺตา จตฺตา, จนฺทสฺมึ หฺมานสฺมึ;

ปุตฺเตหิ ยฺํ ยชิตฺวาน, สุคตึ สคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ.

อถ นํ ปิตา อาห –

๑๐๐๕.

‘‘มา ตํ ปุตฺต สทฺทเหสิ, สุคติ กิร โหติ ปุตฺตยฺเน;

นิรยาเนโส มคฺโค, เนโส มคฺโค หิ สคฺคานํ.

๑๐๐๖.

‘‘ทานานิ เทหิ โกณฺฑฺ, อหึสา สพฺพภูตภพฺยานํ;

เอส มคฺโค สุคติยา, น จ มคฺโค ปุตฺตยฺเนา’’ติ.

ราชา อาห –

๑๐๐๗.

‘‘อาจริยานํ วจนา, ฆาเตสฺสํ จนฺทฺจ สูริยฺจ;

ปุตฺเตหิ ยฺํ ยชิตฺวาน ทุจฺจเชหิ, สุคตึ สคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ.

อถ นํ ปิตา อาห –

๑๐๐๘.

‘‘ทานานิ เทหิ โกณฺฑฺ, อหึสา สพฺพภูตภพฺยานํ;

ปุตฺตปริวุโต ตุวํ, รฏฺํ ชนปทฺจ ปาเลหี’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺตปริวุโตติ ปุตฺเตหิ ปริวุโต. รฏฺํ ชนปทฺจาติ สกลกาสิรฏฺฺจ ตสฺเสว ตํ ตํ โกฏฺาสภูตํ ชนปทฺจ.

โสปิ ตํ อตฺตโน วจนํ คาหาเปตุํ นาสกฺขิ. ตโต จนฺทกุมาโร จินฺเตสิ ‘‘อิมสฺส เอตฺตกสฺส ชนสฺส ทุกฺขํ มํ เอกํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ, มม ปิตรํ ยาจิตฺวา เอตฺตกํ ชนํ มรณทุกฺขโต โมเจสฺสามี’’ติ. โส ปิตรา สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๑๐๐๙.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, หตฺถี อสฺเส จ ปาเลม.

๑๐๑๐.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, หตฺถิฉกณานิ อุชฺเฌม.

๑๐๑๑.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, อสฺสฉกณานิ อุชฺเฌม.

๑๐๑๒.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

ยสฺส โหนฺติ ตว กามา, อปิ รฏฺา ปพฺพาชิตา;

ภิกฺขาจริยํ จริสฺสามา’’ติ.

ตตฺถ อปิ นิคฬพนฺธกาปีติ อปิ นาม มยํ มหานิคเฬหิ พนฺธกาปิ หุตฺวา. ยสฺส โหนฺติ ตว กามาติ สเจปิ ขณฺฑหาลสฺส ทาตุกาโมสิ, ตสฺส โน ทาเส กตฺวา เทหิ, กริสฺสามสฺส ทาสกมฺมนฺติ วทติ. อปิ รฏฺาติ สเจ อมฺหากํ โกจิ โทโส อตฺถิ, รฏฺา โน ปพฺพาเชหิ. อปิ นาม รฏฺา ปพฺพาชิตาปิ กปณา วิย กปาลํ คเหตฺวา ภิกฺขาจริยํ จริสฺสาม, มา โน อวธิ, เทหิ โน ชีวิตนฺติ วิลปิ.

ตสฺส ตํ นานปฺปการํ วิลาปํ สุตฺวา ราชา หทยผลิตปฺปตฺโต วิย อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ โรทมาโน ‘‘น เม โกจิ ปุตฺเต มาเรตุํ ลจฺฉติ, น มมตฺโถ เทวโลเกนา’’ติ สพฺเพ เต โมเจตุํ อาห –

๑๐๑๓.

‘‘ทุกฺขํ โข เม ชนยถ, วิลปนฺตา ชีวิตสฺส กามา หิ;

มุฺเจถ ทานิ กุมาเร, อลมฺปิ เม โหตุ ปุตฺตยฺเนา’’ติ.

ตํ รฺโ กถํ สุตฺวา ราชปุตฺเต อาทึ กตฺวา สพฺพํ ตํ ปกฺขิปริโยสานํ ปาณคณํ วิสฺสชฺเชสุํ. ขณฺฑหาโลปิ ยฺาวาเฏ กมฺมํ สํวิทหติ. อถ นํ เอโก ปุริโส ‘‘อเร ทุฏฺ, ขณฺฑหาล, รฺา ปุตฺตา วิสฺสชฺชิตา, ตฺวํ อตฺตโน ปุตฺเต มาเรตฺวา เตสํ คลโลหิเตน ยฺํ ยชสฺสู’’ติ อาห. โส ‘‘กึ นาม รฺา กต’’นฺติ กปฺปุฏฺานคฺคิ วิย อวตฺถรนฺโต อุฏฺาย ตุริโต ธาวิตฺวา อาห –

๑๐๑๔.

‘‘ปุพฺเพว โขสิ เม วุตฺโต, ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวฺเจตํ;

อถ โน อุปกฺขฏสฺส ยฺสฺส, กสฺมา กโรสิ วิกฺเขปํ.

๑๐๑๕.

‘‘สพฺเพ วชนฺติ สุคตึ, เย ยชนฺติ เยปิ ยาเชนฺติ;

เย จาปิ อนุโมทนฺติ, ยชนฺตานํ เอทิสํ มหายฺ’’นฺติ.

ตตฺถ ปุพฺเพวาติ มยา ตฺวํ ปุพฺเพว วุตฺโต ‘‘น ตุมฺหาทิเสน ภีรุกชาติเกน สกฺกา ยฺํ ยชิตุํ, ยฺยชนํ นาเมตํ ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภว’’นฺติ, อถ โน อิทานิ อุปกฺขฏสฺส ปฏิยตฺตสฺส ยฺสฺส วิกฺเขปํ กโรสิ. ‘‘วิกฺขมฺภ’’นฺติปิ ปาโ, ปฏิเสธนฺติ อตฺโถ. มหาราช, กสฺมา เอวํ กโรสิ. ยตฺตกา หิ ยฺํ ยชนฺติ วา ยาเชนฺติ วา อนุโมทนฺติ วา, สพฺเพ สุคติเมว วชนฺตีติ ทสฺเสติ.

โส อนฺธพาโล ราชา ตสฺส โกธวสิกสฺส กถํ คเหตฺวา ธมฺมสฺี หุตฺวา ปุน ปุตฺเต คณฺหาเปสิ. ตโต จนฺทกุมาโร ปิตรํ อนุโพธยมาโน อาห –

๑๐๑๖.

‘‘อถ กิสฺส ชโน ปุพฺเพ, โสตฺถานํ พฺราหฺมเณ อวาเจสิ;

อถ โน อการณสฺมา, ยฺตฺถาย เทว ฆาเตสิ.

๑๐๑๗.

‘‘ปุพฺเพว โน ทหรกาเล, น หเนสิ น ฆาเตสิ;

ทหรมฺหา โยพฺพนํ ปตฺตา, อทูสกา ตาต หฺาม.

๑๐๑๘.

‘‘หตฺถิคเต อสฺสคเต, สนฺนทฺเธ ปสฺส โน มหาราช;

ยุทฺเธ วา ยุชฺฌมาเน วา, น หิ มาทิสา สูรา โหนฺติ ยฺตฺถาย.

๑๐๑๙.

‘‘ปจฺจนฺเต วาปิ กุปิเต, อฏวีสุ วา มาทิเส นิโยเชนฺติ;

อถ โน อการณสฺมา, อภูมิยํ ตาต หฺาม.

๑๐๒๐.

‘‘ยาปิ หิ ตา สกุณิโย, วสนฺติ ติณฆรานิ กตฺวาน;

ตาสมฺปิ ปิยา ปุตฺตา, อถ โน ตฺวํ เทว ฆาเตสิ.

๑๐๒๑.

‘‘มา ตสฺส สทฺทเหสิ, น มํ ขณฺฑหาโล ฆาเตยฺย;

มมฺหิ โส ฆาเตตฺวาน, อนนฺตรา ตมฺปิ เทว ฆาเตยฺย.

๑๐๒๒.

‘‘คามวรํ นิคมวรํ ททนฺติ, โภคมฺปิสฺส มหาราช;

อถคฺคปิณฺฑิกาปิ, กุเล กุเล เหเต ภุฺชนฺติ.

๑๐๒๓.

‘‘เตสมฺปิ ตาทิสานํ, อิจฺฉนฺติ ทุพฺภิตุํ มหาราช;

เยภุยฺเยน เอเต, อกตฺุโน พฺราหฺมณา เทว.

๑๐๒๔.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, หตฺถี อสฺเส จ ปาเลม.

๑๐๒๕.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, หตฺถิฉกณานิ อุชฺเฌม.

๑๐๒๖.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, อสฺสฉกณานิ อุชฺเฌม.

๑๐๒๗.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

ยสฺส โหนฺติ ตว กามา, อปิ รฏฺา ปพฺพาชิตา;

ภิกฺขาจริยํ จริสฺสามา’’ติ.

ตตฺถ ปุพฺเพติ ตาต, ยทิ อหํ มาเรตพฺโพ, อถ กสฺมา อมฺหากํ าติชโน ปุพฺเพ มม ชาตกาเล พฺราหฺมเณ โสตฺถานํ อวาเจสิ. ตทา กิร ขณฺฑหาโลว มม ลกฺขณานิ อุปธาเรตฺวา ‘‘อิมสฺส กุมารสฺส น โกจิ อนฺตราโย ภวิสฺสติ, ตุมฺหากํ อจฺจเยน รชฺชํ กาเรสฺสตี’’ติ อาห. อิจฺจสฺส ปุริเมน ปจฺฉิมํ น สเมติ, มุสาวาที เอส. อถ โน เอตสฺส วจนํ คเหตฺวา อการณสฺมา นิกฺการณาเยว ยฺตฺถาย, เทว, ฆาเตสิ. มา อมฺเห ฆาเตสิ. อยฺหิ มยิ เอกสฺมึ เวเรน มหาชนํ มาเรตุกาโม, สาธุกํ สลฺลกฺเขหิ นรินฺทาติ. ปุพฺเพว โนติ มหาราช, สเจปิ อมฺเห มาเรตุกาโม, ปุพฺเพว โน กสฺมา สยํ วา น หเนสิ, อฺเหิ วา น ฆาตาเปสิ. อิทานิ ปน มยํ ทหรมฺหา ตรุณา, ปมวเย ิตา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒาม, เอวํภูตา ตว อทูสกาว กึการณา หฺามาติ?

ปสฺส โนติ อมฺเหว จตฺตาโร ภาติเก ปสฺส. ยุชฺฌมาเนติ ปจฺจตฺถิกานํ นครํ ปริวาเรตฺวา ิตกาเล อมฺหาทิเส ปุตฺเต เตหิ สทฺธึ ยุชฺฌมาเน ปสฺส. อปุตฺตกา หิ ราชาโน อนาถา นาม โหนฺติ. มาทิสาติ อมฺหาทิสา สูรา พลวนฺโต น ยฺตฺถาย มาเรตพฺพา โหนฺติ. นิโยเชนฺตีติ เตสํ ปจฺจามิตฺตานํ คณฺหนตฺถาย ปโยเชนฺติ. อถ โนติ อถ อมฺเห อการณสฺมา อการเณน อภูมิยํ อโนกาเสเยว กสฺมา, ตาต, หฺามาติ อตฺโถ. มา ตสฺส สทฺทเหสีติ มหาราช, น มํ ขณฺฑหาโล ฆาตเย, มา ตสฺส สทฺทเหยฺยาสิ. โภคมฺปิสฺสาติ โภคมฺปิ อสฺส พฺราหฺมณสฺส ราชาโน เทนฺติ. อถคฺคปิณฺฑิกาปีติ อถ เต อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑํ ลภนฺตา อคฺคปิณฺฑิกาปิ โหนฺติ. เตสมฺปีติ เยสํ กุเล ภุฺชนฺติ, เตสมฺปิ เอวรูปานํ ปิณฺฑทายกานํ ทุพฺภิตุํ อิจฺฉนฺติ.

ราชา กุมารสฺส วิลาปํ สุตฺวา –

๑๐๒๘.

‘‘ทุกฺขํ โข เม ชนยถ, วิลปนฺตา ชีวิตสฺส กามา หิ;

มุฺเจถ ทานิ กุมาเร, อลมฺปิ เม โหตุ ปุตฺตยฺเนา’’ติ. –

อิมํ คาถํ วตฺวา ปุนปิ โมเจสิ. ขณฺฑหาโล อาคนฺตฺวา ปุนปิ –

๑๐๒๙.

‘‘ปุพฺเพว โขสิ เม วุตฺโต, ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวฺเจตํ;

อถ โน อุปกฺขฏสฺส ยฺสฺส, กสฺมา กโรสิ วิกฺเขปํ.

๑๐๓๐.

‘‘สพฺเพ วชนฺติ สุคตึ, เย ยชนฺติ เยปิ ยาเชนฺติ;

เย จาปิ อนุโมทนฺติ, ยชนฺตานํ เอทิสํ มหายฺ’’นฺติ. –

เอวํ วตฺวา ปุน คณฺหาเปสิ. อถสฺส อนุนยนตฺถํ กุมาโร อาห –

๑๐๓๑.

‘‘ยทิ กิร ยชิตฺวา ปุตฺเตหิ, เทวโลกํ อิโต จุตา ยนฺติ;

พฺราหฺมโณ ตาว ยชตุ, ปจฺฉาปิ ยชสิ ตุวํ ราช.

๑๐๓๒.

‘‘ยทิ กิร ยชิตฺวา ปุตฺเตหิ, เทวโลกํ อิโต จุตา ยนฺติ;

เอสฺเวว ขณฺฑหาโล, ยชตํ สเกหิ ปุตฺเตหิ.

๑๐๓๓.

‘‘เอวํ ชานนฺโต ขณฺฑหาโล, กึ ปุตฺตเก น ฆาเตสิ;

สพฺพฺจ าติชนํ, อตฺตานฺจ น ฆาเตสิ.

๑๐๓๔.

‘‘สพฺเพ วชนฺติ นิรยํ, เย ยชนฺติ เยปิ ยาเชนฺติ;

เย จาปิ อนุโมทนฺติ, ยชนฺตานํ เอทิสํ มหายฺํ.

๑๐๓๕.

‘‘สเจ หิ โส สุชฺฌติ โย หนาติ, หโตปิ โส สคฺคมุเปติ านํ;

โภวาทิ โภวาทิน มารเยยฺยุํ, เย จาปิ เตสํ อภิสทฺทเหยฺยุ’’นฺติ.

ตตฺถ พฺราหฺมโณ ตาวาติ ปมํ ตาว ขณฺฑหาโล ยชตุ สเกหิ ปุตฺเตหิ, อถ ตสฺมึ เอวํ ยชิตฺวา เทวโลกํ คเต ปจฺฉา ตฺวํ ยชิสฺสสิ. เทว, สาทุรสโภชนมฺปิ หิ ตฺวํ อฺเหิ วีมํสาเปตฺวา ภุฺชสิ, ปุตฺตทารมารณํเยว กสฺมา อวีมํสิตฺวา กโรสีติ ทีเปนฺโต เอวมาห. เอวํ ชานนฺโตติ ‘‘ปุตฺตธีตโร มาเรตฺวา เทวโลกํ คจฺฉตี’’ติ เอวํ ชานนฺโต กึการณา อตฺตโน ปุตฺเต จ าตี จ อตฺตานฺจ น ฆาเตสิ. สเจ หิ ปรํ มาเรตฺวา เทวโลกํ คจฺฉนฺติ, อตฺตานํ มาเรตฺวา พฺรหฺมโลกํ คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ. เอวํ ยฺคุณํ ชานนฺเตน ปรํ อมาเรตฺวา อตฺตาว มาเรตพฺโพ สิยา. อยํ ปน ตถา อกตฺวา มํ มาราเปติ. อิมินาปิ การเณน ชานาหิ, มหาราช ‘‘ยถา เอส วินิจฺฉเย วิโลปํ กาตุํ อลภนฺโต เอวํ กโรตี’’ติ. เอทิสนฺติ เอวรูปํ ปุตฺตฆาตยฺํ.

กุมาโร เอตฺตกํ กเถนฺโตปิ ปิตรํ อตฺตโน วจนํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ราชานํ ปริวาเรตฺวา ิตํ ปริสํ อารพฺภ อาห –

๑๐๓๖.

‘‘กถฺจ กิร ปุตฺตกามาโย, คหปตโย ฆรณิโย จ;

นครมฺหิ น อุปรวนฺติ ราชานํ, มา ฆาตยิ โอรสํ ปุตฺตํ.

๑๐๓๗.

‘‘กถฺจ กิร ปุตฺตกามาโย, คหปตโย ฆรณิโย จ;

นครมฺหิ น อุปรวนฺติ ราชานํ, มา ฆาตยิ อตฺรชํ ปุตฺตํ.

๑๐๓๘.

‘‘รฺโ จมฺหิ อตฺถกาโม, หิโต จ สพฺพชนปทสฺส;

น โกจิ อสฺส ปฏิฆํ, มยา ชานปโท น ปเวเทตี’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺตกามาโยติ ฆรณิโย สนฺธาย วุตฺตํ. คหปตโย ปน ปุตฺตกามา นาม โหนฺติ. น อุปรวนฺตีติ น อุปกฺโกสนฺติ น วทนฺติ. อตฺรชนฺติ อตฺตโต ชาตํ. เอวํ วุตฺเตปิ โกจิ รฺา สทฺธึ กเถตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. น โกจิ อสฺส ปฏิฆํ มยาติ อิมินา โน ลฺโช วา คหิโต, อิสฺสริยมเทน วา อิทํ นาม ทุกฺขํ กตนฺติ โกจิ เอโกปิ มยา สทฺธึ ปฏิฆํ กตฺตา นาม นาโหสิ. ชานปโท น ปเวเทตีติ เอวํ รฺโ จ ชนปทสฺส จ อตฺถกามสฺส มม ปิตรํ อยํ ชานปโท ‘‘คุณสมฺปนฺโน เต ปุตฺโต’’ติ น ปเวเทติ, น ชานาเปตีติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเตปิ โกจิ กิฺจิ น กเถสิ. ตโต จนฺทกุมาโร อตฺตโน ภริยาโย ตํ ยาจนตฺถาย อุยฺโยเชนฺโต อาห –

๑๐๓๙.

‘‘คจฺฉถ โว ฆรณิโย, ตาตฺจ วเทถ ขณฺฑหาลฺจ;

มา ฆาเตถ กุมาเร, อทูสเก สีหสงฺกาเส.

๑๐๔๐.

‘‘คจฺฉถ โว ฆรณิโย, ตาตฺจ วเทถ ขณฺฑหาลฺจ;

มา ฆาเตถ กุมาเร, อเปกฺขิเต สพฺพโลกสฺสา’’ติ.

ตา คนฺตฺวา ยาจึสุ. ตาปิ ราชา น โอโลเกสิ. ตโต กุมาโร อนาโถ หุตฺวา วิลปนฺโต –

๑๐๔๑.

‘‘ยํนูนาหํ ชาเยยฺยํ, รถการกุเลสุ วา,

ปุกฺกุสกุเลสุ วา เวสฺเสสุ วา ชาเยยฺยํ,

น หชฺช มํ ราช ยฺเ ฆาเตยฺยา’’ติ. –

วตฺวา ปุน ตา ภริยาโย อุยฺโยเชนฺโต อาห –

๑๐๔๒.

‘‘สพฺพา สีมนฺตินิโย คจฺฉถ, อยฺยสฺส ขณฺฑหาลสฺส;

ปาเทสุ นิปตถ, อปราธาหํ น ปสฺสามิ.

๑๐๔๓.

‘‘สพฺพา สีมนฺตินิโย คจฺฉถ, อยฺยสฺส ขณฺฑหาลสฺส;

ปาเทสุ นิปตถ, กินฺเต ภนฺเต มยํ อทูเสมา’’ติ.

ตตฺถ อปราธาหํ น ปสฺสามีติ อหํ อาจริยขณฺฑหาเล อตฺตโน อปราธํ น ปสฺสามิ. กินฺเต ภนฺเตติ อยฺย ขณฺฑหาล, มยํ ตุยฺหํ กึ ทูสยิมฺหา, อถ จนฺทกุมารสฺส โทโส อตฺถิ, ตํ ขมถาติ วเทถาติ.

อถ จนฺทกุมารสฺส กนิฏฺภคินี เสลกุมารี นาม โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ปิตุ ปาทมูเล ปติตฺวา ปริเทวิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๐๔๔.

‘‘กปณา วิลปติ เสลา, ทิสฺวาน ภาตเร อุปนีตตฺเต;

ยฺโ กิร เม อุกฺขิปิโต, ตาเตน สคฺคกาเมนา’’ติ.

ตตฺถ อุปนีตตฺเตติ อุปนีตสภาเว. อุกฺขิปิโตติ อุกฺขิตฺโต. สคฺคกาเมโนติ มม ภาตโร มาเรตฺวา สคฺคํ อิจฺฉนฺเตน. ตาต, อิเม มาเรตฺวา กึ สคฺเคน กริสฺสสีติ วิลปติ.

ราชา ตสฺสาปิ กถํ น คณฺหิ. ตโต จนฺทกุมารสฺส ปุตฺโต วสุโล นาม ปิตรํ ทุกฺขิตํ ทิสฺวา ‘‘อหํ อยฺยกํ ยาจิตฺวา มม ปิตุ ชีวิตํ ทาเปสฺสามี’’ติ รฺโ ปาทมูเล ปริเทวิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๐๔๕.

‘‘อาวตฺติ ปริวตฺติ จ, วสุโล สมฺมุขา รฺโ;

มา โน ปิตรํ อวธิ, ทหรมฺหาโยพฺพนํ ปตฺตา’’ติ.

ตตฺถ ทหรมฺหาโยพฺพนํ ปตฺตาติ เทว, มยํ ตรุณทารกา, น ตาว โยพฺพนปฺปตฺตา, อมฺเหสุปิ ตาว อนุกมฺปาย อมฺหากํ ปิตรํ มา อวธีติ.

ราชา ตสฺส ปริเทวิตํ สุตฺวา ภิชฺชมานหทโย วิย หุตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ กุมารํ อาลิงฺคิตฺวา ‘‘ตาต, อสฺสาสํ ปฏิลภ, วิสฺสชฺเชมิ เต ปิตร’’นฺติ วตฺวา คาถมาห –

๑๐๔๖.

‘‘เอโส เต วสุล ปิตา, สเมหิ ปิตรา สห;

ทุกฺขํ โข เม ชนยสิ, วิลปนฺโต อนฺเตปุรสฺมึ;

มุฺเจถ ทานิ กุมาเร, อลมฺปิ เม โหตุ ปุตฺตยฺเนา’’ติ.

ตตฺถ อนฺเตปุรสฺมินฺติ ราชนิเวสนสฺส อนฺตเร.

ปุน ขณฺฑหาโล อาคนฺตฺวา อาห –

๑๐๔๗.

‘‘ปุพฺเพว โขสิ เม วุตฺโต, ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวฺเจตํ;

อถ โน อุปกฺขฏสฺส ยฺสฺส, กสฺมา กโรสิ วิกฺเขปํ.

๑๐๔๘.

‘‘สพฺเพ วชนฺติ สุคตึ, เย ยชนฺติ เยปิ ยาเชนฺติ;

เย จาปิ อนุโมทนฺติ, ยชนฺตานํ เอทิสํ มหายฺ’’นฺติ.

ราชา ปน อนฺธพาโล ปุน ตสฺส วจเนน ปุตฺเต คณฺหาเปสิ. ตโต ขณฺฑหาโล จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา มุทุจิตฺโต กาเลน คณฺหาเปติ, กาเลน วิสฺสชฺเชติ, ปุนปิ ทารกานํ วจเนน ปุตฺเต วิสฺสชฺเชยฺย, ยฺาวาฏฺเว นํ เนมี’’ติ. อถสฺส ตตฺถ คมนตฺถาย คาถมาห –

๑๐๔๙.

‘‘สพฺพรตนสฺส ยฺโ อุปกฺขโฏ, เอกราช ตว ปฏิยตฺโต;

อภินิกฺขมสฺสุ เทว, สคฺคํ คโต ตฺวํ ปโมทิสฺสสี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ตว ยฺโ สพฺพรตเนหิ อุปกฺขโฏ ปฏิยตฺโต, อิทานิ เต อภินิกฺขมนกาโล, ตสฺมา อภินิกฺขม, ยฺํ ยชิตฺวา สคฺคํ คโต ปโมทิสฺสสีติ.

ตโต โพธิสตฺตํ อาทาย ยฺาวาฏคมนกาเล ตสฺส โอโรธา เอกโตว นิกฺขมึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๐๕๐.

‘‘ทหรา สตฺตสตา เอตา, จนฺทกุมารสฺส ภริยาโย;

เกเส ปกิริตฺวาน, โรทนฺติโย มคฺคมนุยายึสุ.

๑๐๕๑.

‘‘อปรา ปน โสเกน, นิกฺขนฺตา นนฺทเน วิย เทวา;

เกเส ปกิริตฺวาน, โรทนฺติโย มคฺคมนุยายิสุ’’นฺติ.

ตตฺถ นนฺทเน วิย เทวาติ นนฺทนวเน จวนเทวปุตฺตํ ปริวาเรตฺวา นิกฺขนฺตเทวตา วิย คตา.

อิโต ปรํ ตาสํ วิลาปคาถา โหนฺติ –

๑๐๕๒.

‘‘กาสิกสุจิวตฺถธรา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นียนฺติ จนฺทสูริยา, ยฺตฺถาย เอกราชสฺส.

๑๐๕๓.

‘‘กาสิกสุจิวตฺถธรา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นียนฺติ จนฺทสูริยา, มาตุ กตฺวา หทยโสกํ.

๑๐๕๔.

‘‘กาสิกสุจิวตฺถธรา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นียนฺติ จนฺทสูริยา, ชนสฺส กตฺวา หทยโสกํ.

๑๐๕๕.

‘‘มํสรสโภชนา นฺหาปกสุนฺหาปิตา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นียนฺติ จนฺทสูริยา, ยฺตฺถาย เอกราชสฺส.

๑๐๕๖.

‘‘มํสรสโภชนา นฺหาปกสุนฺหาปิตา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นียนฺติ จนฺทสูริยา, มาตุ กตฺวา หทยโสกํ.

๑๐๕๗.

‘‘มํสรสโภชนา นฺหาปกสุนฺหาปิตา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นียนฺติ จนฺทสูริยา, ชนสฺส กตฺวา หทยโสกํ.

๑๐๕๘.

‘‘ยสฺสุ ปุพฺเพ หตฺถิวรธุรคเต, หตฺถีหิ อนุวชนฺติ;

ตฺยชฺช จนฺทสูริยา, อุโภว ปตฺติกา ยนฺติ.

๑๐๕๙.

‘‘ยสฺสุ ปุพฺเพ อสฺสวรธุรคเต, อสฺเสหิ อนุวชนฺติ;

ตฺยชฺช จนฺทสูริยา, อุโภว ปตฺติกา ยนฺติ.

๑๐๖๐.

‘‘ยสฺสุ ปุพฺเพ รถวรธุรคเต, รเถหิ อนุวชนฺติ;

ตฺยชฺช จนฺทสูริยา, อุโภว ปตฺติกา ยนฺติ.

๑๐๖๑.

‘‘เยหิสฺสุ ปุพฺเพ นิยฺยํสุ, ตปนียกปฺปเนหิ ตุรงฺเคหิ;

ตฺยชฺช จนฺทสูริยา, อุโภว ปตฺติกา ยนฺตี’’ติ.

ตตฺถ กาสิกสุจิวตฺถธราติ กาสิกานิ สุจิวตฺถานิ ธารยมานา. จนฺทสูริยาติ จนฺทกุมาโร จ สูริยกุมาโร จ. นฺหาปกสุนฺหาปิตาติ จนฺทนจุณฺเณน อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหาปเกหิ กตปริกมฺมตาย สุนฺหาปิตา. ยสฺสูติ เย อสฺสุ. อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ, เย กุมาเรติ อตฺโถ. ปุพฺเพติ อิโต ปุพฺเพ. หตฺถิวรธุรคเตติ หตฺถิวรานํ ธุรคเต, อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวรคเตติ อตฺโถ. อสฺสวรธุรคเตติ อสฺสวรปิฏฺิคเต. รถวรธุรคเตติ รถวรมชฺฌคเต. นิยฺยํสูติ นิกฺขมึสุ.

เอวํ ตาสุ ปริเทวนฺตีสุเยว โพธิสตฺตํ นครา นีหรึสุ. สกลนครํ สงฺขุภิตฺวา นิกฺขมิตุํ อารภิ. มหาชเน นิกฺขนฺเต ทฺวารานิ นปฺปโหนฺติ. พฺราหฺมโณ อติพหุํ ชนํ ทิสฺวา ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ นครทฺวารานิ ถกาเปสิ. มหาชโน นิกฺขมิตุํ อลภนฺโต นครทฺวารสฺส อาสนฺนฏฺาเน อุยฺยานํ อตฺถิ, ตสฺส สนฺติเก มหาวิรวํ รวิ. เตน รเวน สกุณสงฺโฆ สงฺขุภิโต อากาสํ ปกฺขนฺทิ. มหาชโน ตํ ตํ สกุณึ อามนฺเตตฺวา วิลปนฺโต อาห –

๑๐๖๒.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห จตูหิ ปุตฺเตหิ.

๑๐๖๓.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห จตูหิ กฺาหิ.

๑๐๖๔.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห จตูหิ มเหสีติ.

๑๐๖๕.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห จตูหิ คหปตีหิ.

๑๐๖๖.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห จตูหิ หตฺถีหิ.

๑๐๖๗.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห จตูหิ อสฺเสหิ.

๑๐๖๘.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห จตูหิ อุสเภหิ.

๑๐๖๙.

‘‘ยทิ สกุณิ มํสมิจฺฉสิ, ฑยสฺสุ ปุพฺเพน ปุปฺผวติยา;

ยชเตตฺถ เอกราชา, สมฺมูฬฺโห สพฺพจตุกฺเกนา’’ติ.

ตตฺถ มํสมิจฺฉสีติ อมฺโภ สกุณิ, สเจ มํสํ อิจฺฉสิ, ปุปฺผวติยา ปุพฺเพน ปุรตฺถิมทิสายํ ยฺาวาโฏ อตฺถิ, ตตฺถ คจฺฉ. ยชเตตฺถาติ เอตฺถ ขณฺฑหาลสฺส วจนํ คเหตฺวา สมฺมูฬฺโห เอกราชา จตูหิ ปุตฺเตหิ ยฺํ ยชติ. เสสคาถาสุปิ เอเสว นโย.

เอวํ มหาชโน ตสฺมึ าเน ปริเทวิตฺวา โพธิสตฺตสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปาสาทํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต อนฺเตปุเร กูฏาคารอุยฺยานาทีนิ ปสฺสนฺโต คาถาหิ ปริเทวิ –

๑๐๗๐.

‘‘อยมสฺส ปาสาโท, อิทํ อนฺเตปุรํ สุรมณียํ;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๑.

‘‘อิทมสฺส กูฏาคารํ, โสวณฺณํ ปุปฺผมลฺยวิกิณฺณํ;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๒.

‘‘อิทมสฺส อุยฺยานํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๓.

‘‘อิทมสฺส อโสกวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๔.

‘‘อิทมสฺส กณิการวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๕.

‘‘อิทมสฺส ปาฏลิวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๖.

‘‘อิทมสฺส อมฺพวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๗.

‘‘อยมสฺส โปกฺขรณี, สฺฉนฺนา ปทุมปุณฺฑรีเกหิ;

นาวา จ โสวณฺณวิกตา, ปุปฺผวลฺลิยา จิตฺตา สุรมณียา;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา’’ติ.

ตตฺถ เตทานีติ อิทานิ เต จนฺทกุมารปฺปมุขา อมฺหากํ อยฺยปุตฺตา เอวรูปํ ปาสาทํ ฉฑฺเฑตฺวา วธาย นียนฺติ. โสวณฺณวิกตาติ สุวณฺณขจิตา.

เอตฺตเกสุ าเนสุ วิลปนฺตา ปุน หตฺถิสาลาทีนิ อุปสงฺกมิตฺวา อาหํสุ –

๑๐๗๘.

‘‘อิทมสฺส หตฺถิรตนํ, เอราวโณ คโช พลี ทนฺตี;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๗๙.

‘‘อิทมสฺส อสฺสรตนํ, เอกขุโร อสฺโส;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๘๐.

‘‘อยมสฺส อสฺสรโถ, สาฬิยนิคฺโฆโส สุโภ รตนวิจิตฺโต;

ยตฺถสฺสุ อยฺยปุตฺตา, โสภึสุ นนฺทเน วิย เทวา;

เตทานิ อยฺยปุตฺตา, จตฺตาโร วธาย นินฺนีตา.

๑๐๘๑.

‘‘กถํ นาม สามสมสุนฺทเรหิ, จนฺทนมุทุกคตฺเตหิ;

ราชา ยชิสฺสเต ยฺํ, สมฺมูฬฺโห จตูหิ ปุตฺเตหิ.

๑๐๘๒.

‘‘กถํ นาม สามสมสุนฺทราหิ, จนฺทนมุทุกคตฺตาหิ;

ราชา ยชิสฺสเต ยฺํ, สมฺมูฬฺโห จตูหิ กฺาหิ.

๑๐๘๓.

‘‘กถํ นาม สามสมสุนฺทราหิ, จนฺทนมุทุกคตฺตาหิ;

ราชา ยชิสฺสเต ยฺํ, สมฺมูฬฺโห จตูหิ มเหสีหิ.

๑๐๘๔.

‘‘กถํ นาม สามสมสุนฺทเรหิ, จนฺทนมุทุกคตฺเตหิ;

ราชา ยชิสฺสเต ยฺํ, สมฺมูฬฺโห จตูหิ คหปตีหิ.

๑๐๘๕.

‘‘ยถา โหนฺติ คามนิคมา, สุฺา อมนุสฺสกา พฺรหารฺา;

ตถา เหสฺสติ ปุปฺผวติยา, ยิฏฺเสุ จนฺทสูริเยสู’’ติ.

ตตฺถ เอราวโณติ ตสฺส หตฺถิโน นามํ. เอกขุโรติ อภินฺนขุโร. สาฬิยนิคฺโฆโสติ คมนกาเล สาฬิกานํ วิย มธุเรน นิคฺโฆเสน สมนฺนาคโต. กถํ นามาติ เกน นาม การเณน. สามสมสุนฺทเรหีติ สุวณฺณสาเมหิ จ อฺมฺํ ชาติยา สเมหิ จ นิทฺโทสตาย สุนฺทเรหิ. จนฺทนมุทุกคตฺเตหีติ โลหิตจนฺทนลิตฺตคตฺเตหิ. พฺรหารฺาติ ยถา เต คามนิคมา สุฺา นิมฺมนุสฺสา พฺรหารฺา โหนฺติ, ตถา ปุปฺผวติยาปิ ยฺเ ยิฏฺเสุ ราชปุตฺเตสุ สุฺา อรฺสทิสา ภวิสฺสตีติ.

อถ มหาชโน พหิ นิกฺขมิตุํ อลภนฺโต อนฺโตนคเรเยว วิจรนฺโต ปริเทวิ. โพธิสตฺโตปิ ยฺาวาฏํ นีโต. อถสฺส มาตา โคตมี นาม เทวี ‘‘ปุตฺตานํ เม ชีวิตํ เทหิ, เทวา’’ติ รฺโ ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวมานา อาห –

๑๐๘๖.

‘‘อุมฺมตฺติกา ภวิสฺสามิ, ภูนหตา ปํสุนา จ ปริกิณฺณา;

สเจ จนฺทวรํ หนฺติ, ปาณา เม เทว รุชฺฌนฺติ.

๑๐๘๗.

‘‘อุมฺมตฺติกา ภวิสฺสามิ, ภูนหตา ปํสุนา จ ปริกิณฺณา;

สเจ สูริยวรํ หนฺติ, ปาณา เม เทว รุชฺฌนฺตี’’ติ.

ตตฺถ ภูนหตาติ หตวุฑฺฒิ. ปํสุนา จ ปริกิณฺณาติ ปํสุปริกิณฺณสรีรา อุมฺมตฺติกา หุตฺวา วิจริสฺสามิ.

สา เอวํ ปริเทวนฺตีปิ รฺโ สนฺติกา กิฺจิ กถํ อลภิตฺวา ‘‘มม ปุตฺโต ตุมฺหากํ กุชฺฌิตฺวา คโต ภวิสฺสติ, กิสฺส นํ ตุมฺเห น นิวตฺเตถา’’ติ กุมารสฺส จตสฺโส ภริยาโย อาลิงฺคิตฺวา ปริเทวนฺตี อาห –

๑๐๘๘.

‘‘กินฺนุมา น รมาเปยฺยุํ, อฺมฺํ ปิยํวทา;

ฆฏฺฏิกา อุปริกฺขี จ, โปกฺขรณี จ ภาริกา;

จนฺทสูริเยสุ นจฺจนฺติโย, สมา ตาสํ น วิชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ กินฺนุมา น รมาเปยฺยุนฺติ เกน การเณน อิมา ฆฏฺฏิกาติอาทิกา จตสฺโส อฺมฺํ ปิยํวทา จนฺทสูริยกุมารานํ สนฺติเก นจฺจนฺติโย มม ปุตฺเต น รมาปยึสุ, อุกฺกณฺาปยึสุ. สกลชมฺพุทีปสฺมิฺหิ นจฺเจ วา คีเต วา สมา อฺา กาจิ ตาสํ น วิชฺชตีติ อตฺโถ.

อิติ สา สุณฺหาหิ สทฺธึ ปริเทวิตฺวา อฺํ คเหตพฺพคฺคหณํ อปสฺสนฺตี ขณฺฑหาลํ อกฺโกสมานา อฏฺ คาถา อภาสิ –

๑๐๘๙.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ขณฺฑหาล ตว มาตา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, จนฺทมฺหิ วธาย นินฺนีเต.

๑๐๙๐.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ขณฺฑหาล ตว มาตา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, สูริยมฺหิ วธาย นินฺนีเต.

๑๐๙๑.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ขณฺฑหาล ตว ชายา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, จนฺทมฺหิ วธาย นินฺนีเต.

๑๐๙๒.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ขณฺฑหาล ตว ชายา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, สูริยมฺหิ วธาย นินฺนีเต.

๑๐๙๓.

‘‘มา จ ปุตฺเต มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ขณฺฑหาล ตว มาตา;

โย ฆาเตสิ กุมาเร, อทูสเก สีหสงฺกาเส.

๑๐๙๔.

‘‘มา จ ปุตฺเต มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ขณฺฑหาล ตว มาตา;

โย ฆาเตสิ กุมาเร, อเปกฺขิเต สพฺพโลกสฺส.

๑๐๙๕.

‘‘มา จ ปุตฺเต มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ขณฺฑหาล ตว ชายา;

โย ฆาเตสิ กุมาเร, อทูสเก สีหสงฺกาเส.

๑๐๙๖.

‘‘มา จ ปุตฺเต มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ขณฺฑหาล ตว ชายา;

โย ฆาเตสิ กุมาเร, อเปกฺขิเต สพฺพโลกสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อิมํ มยฺหนฺติ มยฺหํ อิมํ หทยโสกํ ทุกฺขํ. ปฏิมุฺจตูติ ปวิสตุ ปาปุณาตุ. โย ฆาเตสีติ โย ตฺวํ ฆาเตสิ. อเปกฺขิเตติ สพฺพโลเกน โอโลกิเต ทิสฺสมาเน มาเรสีติ อตฺโถ.

โพธิสตฺโต ยฺาวาเฏปิ ปิตรํ ยาจนฺโต อาห –

๑๐๙๗.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, หตฺถี อสฺเส จ ปาเลม.

๑๐๙๘.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, หตฺถิฉกณานิ อุชฺเฌม.

๑๐๙๙.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

อปิ นิคฬพนฺธกาปิ, อสฺสฉกณานิ อุชฺเฌม.

๑๑๐๐.

‘‘มา โน เทว อวธิ, ทาเส โน เทหิ ขณฺฑหาลสฺส;

ยสฺส โหนฺติ ตว กามา, อปิ รฏฺา ปพฺพาชิตา;

ภิกฺขาจริยํ จริสฺสาม.

๑๑๐๑.

‘‘ทิพฺพํ เทว อุปยาจนฺติ, ปุตฺตตฺถิกาปิ ทลิทฺทา;

ปฏิภานานิปิ หิตฺวา, ปุตฺเต น ลภนฺติ เอกจฺจา.

๑๑๐๒.

‘‘อาสีสิกานิ กโรนฺติ, ปุตฺตา โน ชายนฺตุ ตโต ปปุตฺตา;

อถ โน อการณสฺมา, ยฺตฺถาย เทว ฆาเตสิ.

๑๑๐๓.

‘‘อุปยาจิตเกน ปุตฺตํ ลภนฺติ, มา ตาต โน อฆาเตสิ;

มา กิจฺฉาลทฺธเกหิ ปุตฺเตหิ, ยชิตฺโถ อิมํ ยฺํ.

๑๑๐๔.

‘‘อุปยาจิตเกน ปุตฺตํ ลภนฺติ, มา ตาต โน อฆาเตสิ;

มา กปณลทฺธเกหิ ปุตฺเตหิ, อมฺมาย โน วิปฺปวาเสหี’’ติ.

ตตฺถ ทิพฺพนฺติ เทว, อปุตฺติกา ทลิทฺทาปิ นาริโย ปุตฺตตฺถิกา หุตฺวา พหุํ ปณฺณาการํ กริตฺวา ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา ลภามาติ ทิพฺยํ อุปยาจนฺติ. ปฏิภานานิปิ หิตฺวาติ โทหฬานิ ฉฑฺเฑตฺวาปิ, อลภิตฺวาปีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, นารีนฺหิ อุปฺปนฺนํ โทหฬํ อลภิตฺวา คพฺโภ สุสฺสิตฺวา นสฺสติ. ตตฺถ เอกจฺจา ยาจนฺตาปิ ปุตฺเต อลภมานา, กาจิ ลทฺธมฺปิ โทหฬํ ปหาย อปริภุฺชิตฺวา น ลภนฺติ, กาจิ โทหฬํ อลภมานา น ลภนฺติ. มยฺหํ ปน มาตา อุปฺปนฺนํ โทหฬํ ลภิตฺวา ปริภุฺชิตฺวา อุปฺปนฺนํ คพฺภํ อนาเสตฺวา ปุตฺเต ปฏิลภิ. เอวํ ปฏิลทฺเธ มา โน อวธีติ ยาจติ.

อาสีสิกานีติ มหาราช, อิเม สตฺตา อาสีสํ กโรนฺติ. กินฺติ? ปุตฺตา โน ชายนฺตูติ. ตโต ปปุตฺตาติ ปุตฺตานมฺปิ โน ปุตฺตา ชายนฺตูติ. อถ โน อการณสฺมาติ อถ ตฺวํ อมฺเห อการเณน ยฺตฺถาย ฆาเตสิ. อุปยาจิตเกนาติ เทวตานํ อายาจเนน. กปณลทฺธเกหีติ กปณา วิย หุตฺวา ลทฺธเกหิ. ปุตฺเตหีติ อมฺเหหิ สทฺธึ อมฺหากํ อมฺมาย มา วิปฺปวาเสหิ, มา โน มาตรา สทฺธึ วิปฺปวาสํ กรีติ วทติ.

โส เอวํ วทนฺโตปิ ปิตุ สนฺติกา กิฺจิ กถํ อลภิตฺวา มาตุ ปาทมูเล นิปติตฺวา ปริเทวมาโน อาห –

๑๑๐๕.

‘‘พหุทุกฺขา โปสิย จนฺทํ, อมฺม ตุวํ ชียเส ปุตฺตํ;

วนฺทามิ โข เต ปาเท, ลภตํ ตาโต ปรโลกํ.

๑๑๐๖.

‘‘หนฺท จ มํ อุปคูห, ปาเท เต อมฺม วนฺทิตุํ เทหิ;

คจฺฉามิ ทานิ ปวาสํ, ยฺตฺถาย เอกราชสฺส.

๑๑๐๗.

‘‘หนฺท จ มํ อุปคูห, ปาเท เต อมฺม วนฺทิตุํ เทหิ;

คจฺฉามิ ทานิ ปวาสํ, มาตุ กตฺวา หทยโสกํ.

๑๑๐๘.

‘‘หนฺท จ มํ อุปคูห, ปาเท เต อมฺม วนฺทิตุํ เทหิ;

คจฺฉามิ ทานิ ปวาสํ, ชนสฺส กตฺวา หทยโสก’’นฺติ.

ตตฺถ พหุทุกฺขา โปสิยาติ พหูหิ ทุกฺเขหิ โปสิย. จนฺทนฺติ มํ จนฺทกุมารํ เอวํ โปเสตฺวา อิทานิ, อมฺม, ตฺวํ ชียเส ปุตฺตํ. ลภตํ ตาโต ปรโลกนฺติ ปิตา เม โภคสมฺปนฺนํ ปรโลกํ ลภตุ. อุปคูหาติ อาลิงฺค ปริสฺสช. ปวาสนฺติ ปุน อนาคมนาย อจฺจนฺตํ วิปฺปวาสํ คจฺฉามิ.

อถสฺส มาตา ปริเทวนฺตี จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๑๐๙.

‘‘หนฺท จ ปทุมปตฺตานํ, โมฬึ พนฺธสฺสุ โคตมิปุตฺต;

จมฺปกทลมิสฺสาโย, เอสา เต โปราณิกา ปกติ.

๑๑๑๐.

‘‘หนฺท จ วิเลปนํ เต, ปจฺฉิมกํ จนฺทนํ วิลิมฺปสฺสุ;

เยหิ จ สุวิลิตฺโต, โสภสิ ราชปริสายํ.

๑๑๑๑.

‘‘หนฺท จ มุทุกานิ วตฺถานิ, ปจฺฉิมกํ กาสิกํ นิวาเสหิ;

เยหิ จ สุนิวตฺโถ, โสภสิ ราชปริสายํ.

๑๑๑๒.

‘‘มุตฺตามณิกนกวิภูสิตานิ, คณฺหสฺสุ หตฺถาภรณานิ;

เยหิ จ หตฺถาภรเณหิ, โสภสิ ราชปริสาย’’นฺติ.

ตตฺถ ปทุมปตฺตานนฺติ ปทุมปตฺตเวนํ นาเมกํ ปสาธนํ, ตํ สนฺธาเยวมาห. ตว วิปฺปกิณฺณํ โมฬึ อุกฺขิปิตฺวา ปทุมปตฺตเวเนน โยเชตฺวา พนฺธาติ อตฺโถ. โคตมิปุตฺตาติ จนฺทกุมารํ อาลปติ. จมฺปกทลมิสฺสาโยติ อพฺภนฺตริเมหิ จมฺปกทเลหิ มิสฺสิตา วณฺณคนฺธสมฺปนฺนา นานาปุปฺผมาลา ปิลนฺธสฺสุ. เอสา เตติ เอสา ตว โปราณิกา ปกติ, ตเมว คณฺหสฺสุ ปุตฺตาติ ปริเทวติ. เยหิ จาติ เยหิ โลหิตจนฺทนวิเลปเนหิ วิลิตฺโต ราชปริสาย โสภสิ, ตานิ วิลิมฺปสฺสูติ อตฺโถ. กาสิกนฺติ สตสหสฺสคฺฆนกํ กาสิกวตฺถํ. คณฺหสฺสูติ ปิลนฺธสฺสุ.

อิทานิสฺส จนฺทา นาม อคฺคมเหสี ตสฺส ปาทมูเล นิปติตฺวา ปริเทวมานา อาห –

๑๑๑๓.

‘‘น หิ นูนายํ รฏฺปาโล, ภูมิปติ ชนปทสฺส ทายาโท;

โลกิสฺสโร มหนฺโต, ปุตฺเต สฺเนหํ ชนยตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา คาถมาห –

๑๑๑๔.

‘‘มยฺหมฺปิ ปิยา ปุตฺตา, อตฺตา จ ปิโย ตุมฺเห จ ภริยาโย;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตนาหํ ฆาตยิสฺสามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – กึการณา ปุตฺตสิเนหํ น ชเนมิ? น เกวลํ โคตมิยา เอว, อถ โข มยฺหมฺปิ ปิยา ปุตฺตา, ตถา อตฺตา จ ตุมฺเห จ สุณฺหาโย ภริยาโย จ ปิยาเยว. เอวํ สนฺเตปิ สคฺคฺจ ปตฺถยาโน อหํ สคฺคํ ปตฺเถนฺโต, เตน การเณน เอเต ฆาตยิสฺสามิ, มา จินฺตยิตฺถ, สพฺเพเปเต มยา สทฺธึ เทวโลกํ เอกโต คมิสฺสนฺตีติ.

จนฺทา อาห –

๑๑๑๕.

‘‘มํ ปมํ ฆาเตหิ, มา เม หทยํ ทุกฺขํ ผาเลสิ;

อลงฺกโต สุนฺทรโก, ปุตฺโต เทว ตว สุขุมาโล.

๑๑๑๖.

‘‘หนฺทยฺย มํ หนสฺสุ, ปรโลเก จนฺทเกน เหสฺสามิ;

ปุฺํ กรสฺสุ วิปุลํ, วิจราม อุโภปิ ปรโลเก’’ติ.

ตตฺถ ปมนฺติ เทว, มม สามิกโต ปมตรํ มํ ฆาเตหิ. ทุกฺขนฺติ จนฺทสฺส มรณทุกฺขํ มม หทยํ มา ผาเลสิ. อลงฺกโตติ อยํ มม เอโกว อลํ ปริยตฺโตติ เอวํ อลงฺกโต. เอวรูปํ นาม ปุตฺตํ มา ฆาตยิ, มหาราชาติ ทีเปติ. หนฺทยฺยาติ หนฺท, อยฺย, ราชานํ อาลปนฺตี เอวมาห. ปรโลเก จนฺทเกนาติ จนฺเทน สทฺธึ ปรโลเก ภวิสฺสามิ. วิจราม อุโภปิ ปรโลเกติ ตยา เอกโต ฆาติตา อุโภปิ ปรโลเก สุขํ อนุภวนฺตา วิจราม, มา โน สคฺคนฺตรายมกาสีติ.

ราชา อาห –

๑๑๑๗.

‘‘มา ตฺวํ จนฺเท รุจฺจิ มรณํ, พหุกา ตว เทวรา วิสาลกฺขิ;

เต ตํ รมยิสฺสนฺติ, ยิฏฺสฺมึ โคตมิปุตฺเต’’ติ.

ตตฺถ มา ตฺวํ จนฺเท รุจฺจีติ มา ตฺวํ อตฺตโน มรณํ โรเจสิ. ‘‘มา รุทฺที’’ติปิ ปาโ, มา โรทีติ อตฺโถ. เทวราติ ปติภาตุกา.

ตโต ปรํ สตฺถา –

๑๑๑๘.

‘‘เอวํ วุตฺเต จนฺทา อตฺตานํ, หนฺติ หตฺถตลเกหี’’ติ. – อุปฑฺฒคาถมาห;

ตโต ปรํ ตสฺสาเยว วิลาโป โหติ –

‘‘อลเมตฺถ ชีวิเตน, ปิสฺสามิ วิสํ มริสฺสามิ.

๑๑๑๙.

‘‘น หิ นูนิมสฺส รฺโ, มิตฺตามจฺจา จ วิชฺชเร สุหทา;

เย น วทนฺติ ราชานํ, ‘มา ฆาตยิ โอรเส ปุตฺเต’.

๑๑๒๐.

‘‘น หิ นูนิมสฺส รฺโ, าตี มิตฺตา จ วิชฺชเร สุหทา;

เย น วทนฺติ ราชานํ, ‘มา ฆาตยิ อตฺรเช ปุตฺเต’.

๑๑๒๑.

‘‘อิเม เตปิ มยฺหํ ปุตฺตา, คุณิโน กายูรธาริโน ราช;

เตหิปิ ยชสฺสุ ยฺํ, อถ มุฺจตุ โคตมิปุตฺเต.

๑๑๒๒.

‘‘พิลสตํ มํ กตฺวาน, ยชสฺสุ สตฺตธา มหาราช;

มา เชฏฺปุตฺตมวธิ, อทูสกํ สีหสงฺกาสํ.

๑๑๒๓.

‘‘พิลสตํ มํ กตฺวาน, ยชสฺสุ สตฺตธา มหาราช;

มา เชฏฺปุตฺตมวธิ, อเปกฺขิตํ สพฺพโลกสฺสา’’ติ.

ตตฺถ เอวนฺติ เอวํ อนฺธพาเลน เอกราเชน วุตฺเต. หนฺตีติ ‘‘กึ นาเมตํ กเถสี’’ติ วตฺวา หตฺถตเลหิ อตฺตานํ หนฺติ. ปิสฺสามีติ ปิวิสฺสามิ. อิเม เตปีติ วสุลกุมารํ อาทึ กตฺวา เสสทารเก หตฺเถ คเหตฺวา รฺโ ปาทมูเล ิตา เอวมาห. คุณิโนติ มาลาคุณอาภรเณหิ สมนฺนาคตา. กายูรธาริโนติ กายูรปสาธนธรา. พิลสตนฺติ มหาราช, มํ ฆาเตตฺวา โกฏฺาสสตํ กตฺวา สตฺตธา สตฺตสุ าเนสุ ยฺํ ยชสฺสุ.

อิติ สา รฺโ สนฺติเก อิมาหิ คาถาหิ ปริเทวิตฺวา อสฺสาสํ อลภมานา โพธิสตฺตสฺเสว สนฺติกํ คนฺตฺวา ปริเทวมานา อฏฺาสิ. อถ นํ โส อาห – ‘‘จนฺเท, มยา ชีวมาเนน ตุยฺหํ ตสฺมึ ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สุภณิเต สุกถิเต อุจฺจาวจานิ มณิมุตฺตาทีนิ พหูนิ อาภรณานิ ทินฺนานิ, อชฺช ปน เต อิทํ ปจฺฉิมทานํ, สรีรารุฬฺหํ อาภรณํ ทมฺมิ, คณฺหาหิ น’’นฺติ. อิมมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๒๔.

‘‘พหุกา ตว ทินฺนาภรณา, อุจฺจาวจา สุภณิตมฺหิ;

มุตฺตามณิเวฬุริยา, เอตํ เต ปจฺฉิมกํ ทาน’’นฺติ.

จนฺทาเทวีปิ ตํ สุตฺวา ตโต ปราหิ นวหิ คาถาหิ วิลปิ –

๑๑๒๕.

‘‘เยสํ ปุพฺเพ ขนฺเธสุ, ผุลฺลา มาลาคุณา วิวตฺตึสุ;

เตสชฺชปิ สุนิสิโต, เนตฺตึโส วิวตฺติสฺสติ ขนฺเธสุ.

๑๑๒๖.

‘‘เยสํ ปุพฺเพ ขนฺเธสุ, จิตฺตา มาลาคุณา วิวตฺตึสุ;

เตสชฺชปิ สุนิสิโต, เนตฺตึโส วิวตฺติสฺสติ ขนฺเธสุ.

๑๑๒๗.

‘‘อจิรํ วต เนตฺตึโส, วิวตฺติสฺสกิ ราชปุตฺตานํ ขนฺเธสุ;

อถ มม หทยํ น ผลติ, ตาว ทฬฺหพนฺธฺจ เม อาสิ.

๑๑๒๘.

‘‘กาสิกสุจิวตฺถธรา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นิยฺยาถ จนฺทสูริยา, ยฺตฺถาย เอกราชสฺส.

๑๑๒๙.

‘‘กาสิกสุจิวตฺถธรา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นิยฺยาถ จนฺทสูริยา, มาตุ กตฺวา หทยโสกํ.

๑๑๓๐.

‘‘กาสิกสุจิวตฺถธรา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นิยฺยาถ จนฺทสูริยา, ชนสฺส กตฺวา หทยโสกํ.

๑๑๓๑.

‘‘มํสรสโภชนา นฺหาปกสุนฺหาปิตา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นิยฺยาถ จนฺทสูริยา, ยฺตฺถาย เอกราชสฺส.

๑๑๓๒.

‘‘มํสรสโภชนา นฺหาปกสุนฺหาปิตา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นิยฺยาถ จนฺทสูริยา, มาตุ กตฺวา หทยโสกํ.

๑๑๓๓.

‘‘มํสรสโภชนา นฺหาปกสุนฺหาปิตา, กุณฺฑลิโน อคลุจนฺทนวิลิตฺตา;

นิยฺยาถ จนฺทสูริยา, ชนสฺส กตฺวา หทยโสก’’นฺติ.

ตตฺถ มาลาคุณาติ ปุปฺผทามานิ. เตสชฺชาติ เตสํ อชฺช. เนตฺตึโสติ อสิ. วิวตฺติสฺสตีติ ปติสฺสติ. อจิรํ วตาติ อจิเรน วต. น ผลตีติ น ภิชฺชติ. ตาว ทฬฺหพนฺธฺจ เม อาสีติ อติวิย ถิรพนฺธนํ เม หทยํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. นิยฺยาถาติ คจฺฉถ.

เอวํ ตสฺสา ปริเทวนฺติยาว ยฺาวาเฏ สพฺพกมฺมํ นิฏฺาสิ. ราชปุตฺตํ เนตฺวา คีวํ โอนาเมตฺวา นิสีทาเปสุํ. ขณฺฑหาโล สุวณฺณปาตึ อุปนาเมตฺวา ขคฺคํ อาทาย ‘‘ตสฺส คีวํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา จนฺทาเทวี ‘‘อฺํ เม ปฏิสรณํ นตฺถิ, อตฺตโน สจฺจพเลน สามิกสฺส โสตฺถึ กริสฺสามี’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห ปริสาย อนฺตเร วิจรนฺตี สจฺจกิริยํ อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๓๔.

‘‘สพฺพสฺมึ อุปกฺขฏสฺมึ, นิสีทิเต จนฺทสฺมึ ยฺตฺถาย;

ปฺจาลราชธีตา ปฺชลิกา, สพฺพปริสาย สมนุปริยายิ.

๑๑๓๕.

‘‘เยน สจฺเจน ขณฺฑหาโล, ปาปกมฺมํ กโรติ ทุมฺเมโธ;

เอเตน สจฺจวชฺเชน, สมงฺคินี สามิเกน โหมิ.

๑๑๓๖.

‘‘เย อิธตฺถิ อมนุสฺสา, ยานิ จ ยกฺขภูตภพฺยานิ;

กโรนฺตุ เม เวยฺยาวฏิกํ, สมงฺคินี สามิเกน โหมิ.

๑๑๓๗.

‘‘ยา เทวตา อิธาคตา, ยานิ จ ยกฺขภูตภพฺยานิ;

สรเณสินึ อนาถํ ตายถ มํ, ยาจามหํ ปติ มาหํ อเชยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ อุปกฺขฏสฺมินฺติ สพฺพสฺมึ ยฺสมฺภาเร สชฺชิเต ปฏิยตฺเต. สมงฺคินีติ สมฺปยุตฺตา เอกสํวาสา. เย อิธตฺถีติ เย อิธ อตฺถิ. ยกฺขภูตภพฺยานีติ เทวสงฺขาตา ยกฺขา จ วฑฺฒิตฺวา ิตสตฺตสงฺขาตา ภูตา จ อิทานิ วฑฺฒนกสตฺตสงฺขาตานิ ภพฺยานิ จ. เวยฺยาวฏิกนฺติ มยฺหํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตุ. ตายถ มนฺติ รกฺขถ มํ. ยาจามหนฺติ อหํ โว ยาจามิ. ปติ มาหนฺติ ปตึ อหํ มา อเชยฺยํ.

อถ สกฺโก เทวราชา ตสฺสา ปริเทวสทฺทํ สุตฺวา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ชลิตํ อยกูฏํ อาทาย คนฺตฺวา ราชานํ ตาเสตฺวา สพฺเพ วิสฺสชฺชาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๓๘.

‘‘ตํ สุตฺวา อมนุสฺโส, อโยกูฏํ ปริพฺภเมตฺวาน;

ภยมสฺส ชนยนฺโต, ราชานํ อิทมโวจ.

๑๑๓๙.

‘‘พุชฺฌสฺสุ โข ราชกลิ, มา ตาหํ มตฺถกํ นิตาเฬสึ;

มา เชฏฺปุตฺตมวธิ, อทูสกํ สีหสงฺกาสํ.

๑๑๔๐.

‘‘โก เต ทิฏฺโ ราชกลิ, ปุตฺตภริยาโย หฺมานาโย;

เสฏฺิ จ คหปตโย, อทูสกา สคฺคกามา หิ.

๑๑๔๑.

‘‘ตํ สุตฺวา ขณฺฑหาโล, ราชา จ อพฺภุตมิทํ ทิสฺวาน;

สพฺเพสํ พนฺธนานิ โมเจสุํ, ยถา ตํ อนุปฆาตํ.

๑๑๔๒.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

สพฺเพ เอเกกเลฑฺฑุกมทํสุ, เอส วโธ ขณฺฑหาลสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อมนุสฺโสติ สกฺโก เทวราชา. พุชฺฌสฺสูติ ชานสฺสุ สลฺลกฺเขหิ. ราชกลีติ ราชกาฬกณฺณิ ราชลามก. มา ตาหนฺติ ปาปราช, พุชฺฌ, มา เต อหํ มตฺถกํ นิตาเฬสึ. โก เต ทิฏฺโติ กุหึ ตยา ทิฏฺปุพฺโพ. สคฺคกามา หีติ เอตฺถ หีติ นิปาตมตฺตํ, สคฺคกามา สคฺคํ ปตฺถยมานาติ อตฺโถ. ตํ สุตฺวาติ, ภิกฺขเว, ตํ สกฺกสฺส วจนํ ขณฺฑหาโล สุตฺวา. อพฺภุตมิทนฺติ ราชา จ อิทํ สกฺกสฺส ทสฺสนํ ปุพฺเพ อภูตํ ทิสฺวา. ยถา ตนฺติ ยถา อนุปฆาตํ ปาณํ โมเจนฺติ, เอวเมว โมเจสุํ. เอเกกเลฑฺฑุกมทํสูติ ภิกฺขเว, ยตฺตกา ตสฺมึ ยฺาวาเฏ สมาคตา, สพฺเพ เอกโกลาหลํ กตฺวา ขณฺฑหาลสฺส เอเกกเลฑฺฑุปหารํ อทํสุ. เอส วโธติ เอโสว ขณฺฑหาลสฺส วโธ อโหสิ, ตตฺเถว นํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสุนฺติ อตฺโถ.

ตํ ปน มาเรตฺวา มหาชโน ราชานํ มาเรตุํ อารภิ. โพธิสตฺโต ปิตรํ ปริสฺสชิตฺวา มาเรตุํ น อทาสิ. มหาชโน ‘‘ชีวิตํ เอตสฺส ปาปรฺโ เทม, ฉตฺตํ ปนสฺส นคเร จ วาสํ น ทสฺสาม, จณฺฑาลํ กตฺวา พหินคเร วสาเปสฺสามา’’ติ วตฺวา ราชเวสํ หาเรตฺวา กาสาวํ นิวาสาเปตฺวา หลิทฺทิปิโลติกาย สีสํ เวเตฺวา จณฺฑาลํ กตฺวา จณฺฑาลวสนฏฺานํ ตํ ปหิณิ. เย ปเนตํ ปสุฆาตยฺํ ยชึสุ เจว ยชาเปสุฺจ อนุโมทึสุ จ, สพฺเพ นิรยปรายณาว อเหสุํ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๔๓.

‘‘สพฺเพ ปวิฏฺา นิรยํ, ยถา ตํ ปาปกํ กริตฺวาน;

น หิ ปาปกมฺมํ กตฺวา, ลพฺภา สุคตึ อิโต คนฺตุ’’นฺติ.

โสปิ โข มหาชโน ทฺเว กาฬกณฺณิโย หาเรตฺวา ตตฺเถว อภิเสกสมฺภาเร อาหริตฺวา จนฺทกุมารํ อภิสิฺจิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๔๔.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

จนฺทํ อภิสิฺจึสุ, สมาคตา ราชปริสา จ.

๑๑๔๕.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

จนฺทํ อภิสิฺจึสุ, สมาคตา ราชกฺาโย จ.

๑๑๔๖.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

จนฺทํ อภิสิฺจึสุ, สมาคตา เทวปริสา จ.

๑๑๔๗.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

จนฺทํ อภิสิฺจึสุ, สมาคตา เทวกฺาโย จ.

๑๑๔๘.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

เจลุกฺเขปมกรุํ, สมาคตา ราชปริสา จ.

๑๑๔๙.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

เจลุกฺเขปมกรุํ, สมาคตา ราชกฺาโย จ.

๑๑๕๐.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

เจลุกฺเขปมกรุํ, สมาคตา เทวปริสา จ.

๑๑๕๑.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, เย ตตฺถ สมาคตา ตทา อาสุํ;

เจลุกฺเขปมกรุํ, สมาคตา เทวกฺาโย จ.

๑๑๕๒.

‘‘สพฺเพสุ วิปฺปมุตฺเตสุ, พหู อานนฺทิตา อหุํ;

นนฺทึ ปเวสิ นครํ, พนฺธนา โมกฺโข อโฆสิตฺถา’’ติ.

ตตฺถ ราชปริสา จาติ ราชปริสาปิ ตีหิ สงฺเขหิ อภิสิฺจึสุ. ราชกฺาโย จาติ ขตฺติยธีตโรปิ นํ อภิสิฺจึสุ. เทวปริสา จาติ สกฺโก เทวราชา วิชยุตฺตรสงฺขํ คเหตฺวา เทวปริสาย สทฺธึ อภิสิฺจิ. เทวกฺาโย จาติ สุชาปิ เทวธีตราหิ สทฺธึ อภิสิฺจิ. เจลุกฺเขปมกรุนฺติ นานาวณฺเณหิ วตฺเถหิ ธเช อุสฺสาเปตฺวา อุตฺตริสาฏกานิ อากาเส ขิปนฺตา เจลุกฺเขปํ กรึสุ. ราชปริสา จ อิตเร ตโย โกฏฺาสา จาติ อภิเสกการกา จตฺตาโรปิ โกฏฺาสา กรึสุเยว. อานนฺทิตา อหุนฺติ อาโมทิตา อเหสุํ. นนฺทึ ปเวสิ นครนฺติ จนฺทกุมารสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา นครํ ปวิฏฺกาเล นคเร อานนฺทเภริ จริ. ‘‘กึ วตฺวา’’ติ? ยถา ‘‘อมฺหากํ จนฺทกุมาโร พนฺธนา มุตฺโต, เอวเมว สพฺเพ พนฺธนา มุจฺจนฺตู’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘พนฺธนา โมกฺโข อโฆสิตฺถา’’ติ.

โพธิสตฺโต ปิตุ วตฺตํ ปฏฺเปสิ. อนฺโตนครํ ปน ปวิสิตุํ น ลภติ. ปริพฺพยสฺส ขีณกาเล โพธิสตฺโต อุยฺยานกีฬาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺโต ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปติมฺหี’’ติ น วนฺทติ, อฺชลึ ปน กตฺวา ‘‘จิรํ ชีว สามี’’ติ วทติ. ‘‘เกนตฺโถ’’ติ วุตฺเต อาโรเจสิ. อถสฺส ปริพฺพยํ ทาเปสิ. โส ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อายุปริโยสาเน เทวโลกํ ปูรยมาโน อคมาสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มํ เอกํ นิสฺสาย พหู มาเรตุํ วายามมกาสี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ. ตทา ขณฺฑหาโล เทวทตฺโต อโหสิ, โคตมีเทวี มหามายา, จนฺทาเทวี ราหุลมาตา, วสุโล ราหุโล, เสลา อุปฺปลวณฺณา, สูโร วามโคตฺโต กสฺสโป, ภทฺทเสโน โมคฺคลฺลาโน, สูริยกุมาโร สาริปุตฺโต, จนฺทราชา ปน อหเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อโหสินฺติ.

จนฺทกุมารชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๕๔๕] ๘. มหานารทกสฺสปชาตกวณฺณนา

อหุ ราชา วิเทหานนฺติ อิทํ สตฺถา ลฏฺิวนุยฺยาเน วิหรนฺโต อุรุเวลกสฺสปทมนํ อารพฺภ กเถสิ. ยทา หิ สตฺถา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อุรุเวลกสฺสปาทโย ชฏิเล ทเมตฺวา มคธราชสฺส ปฏิสฺสวํ โลเจตุํ ปุราณชฏิลสหสฺสปริวุโต ลฏฺิวนุยฺยานํ อคมาสิ. ตทา ทฺวาทสนหุตาย ปริสาย สทฺธึ อาคนฺตฺวา ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนสฺส มคธรฺโ ปริสนฺตเร พฺราหฺมณคหปติกานํ วิตกฺโก อุปฺปชฺชิ ‘‘กึ นุ โข อุรุเวลกสฺสโป มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จรติ, อุทาหุ มหาสมโณ อุรุเวลกสฺสเป’’ติ. อถ โข ภควา เตสํ ทฺวาทสนหุตานํ เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ‘‘กสฺสปสฺส มม สนฺติเก ปพฺพชิตภาวํ ชานาเปสฺสามี’’ติ อิมํ คาถมาห –

‘‘กิเมว ทิสฺวา อุรุเวลวาสิ, ปหาสิ อคฺคึ กิสโกวทาโน;

ปุจฺฉามิ ตํ กสฺสป เอตมตฺถํ, กถํ ปหีนํ ตว อคฺคิหุตฺต’’นฺติ. (มหาว. ๕๕);

เถโรปิ ภควโต อธิปฺปายํ วิทิตฺวา –

‘‘รูเป จ สทฺเท จ อโถ รเส จ, กามิตฺถิโย จาภิวทนฺติ ยฺา;

เอตํ มลนฺติ อุปธีสุ ตฺวา, ตสฺมา น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชิ’’นฺติ. (มหาว. ๕๕); –

อิมํ คาถํ วตฺวา อตฺตโน สาวกภาวํ ปกาสนตฺถํ ตถาคตสฺส ปาทปิฏฺเ สีสํ เปตฺวา ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมี’’ติ วตฺวา เอกตาลํ ทฺวิตาลํ ติตาลนฺติ ยาว สตฺตตาลปฺปมาณํ สตฺตกฺขตฺตุํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา โอรุยฺห ตถาคตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา มหาชโน ‘‘อโห มหานุภาโว พุทฺโธ, เอวํ ถามคตทิฏฺิโก นาม อตฺตานํ ‘อรหา’ติ มฺมาโน อุรุเวลกสฺสโปปิ ทิฏฺิชาลํ ภินฺทิตฺวา ตถาคเตน ทมิโต’’ติ สตฺถุ คุณกถฺเว กเถสิ. ตํ สุตฺวา สตฺถา ‘‘อนจฺฉริยํ อิทานิ สพฺพฺุตปฺปตฺเตน มยา อิมสฺส ทมนํ, สฺวาหํ ปุพฺเพ สราคกาเลปิ นารโท นาม พฺรหฺมา หุตฺวา อิมสฺส ทิฏฺิชาลํ ภินฺทิตฺวา อิมํ นิพฺพิเสวนมกาสิ’’นฺติ วตฺวา ตาย ปริสาย ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต วิเทหรฏฺเ มิถิลายํ องฺคติ นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ ธมฺมิโก ธมฺมราชา. ตสฺส รุจา นาม ธีตา อโหสิ อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา กปฺปสตสหสฺสํ ปตฺถิตปตฺถนา มหาปุฺา อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตา. เสสา ปนสฺส โสฬสสหสฺสา อิตฺถิโย วฺฌา อเหสุํ. ตสฺส สา ธีตา ปิยา อโหสิ มนาปา. โส ตสฺสา นานาปุปฺผปูเร ปฺจวีสติปุปฺผสมุคฺเค อนคฺฆานิ สุขุมานิ วตฺถานิ จ ‘‘อิเมหิ อตฺตานํ อลงฺกโรตู’’ติ เทวสิกํ ปหิณิ. ขาทนียโภชนียสฺส ปน ปมาณํ นตฺถิ. อนฺวฑฺฒมาสํ ‘‘ทานํ เทตู’’ติ สหสฺสํ สหสฺสํ เปเสสิ. ตสฺส โข ปน วิชโย จ สุนาโม จ อลาโต จาติ ตโย อมจฺจา อเหสุํ. โส โกมุทิยา จาตุมาสินิยา ฉเณ ปวตฺตมาเน เทวนครํ วิย นคเร จ อนฺเตปุเร จ อลงฺกเต สุนฺหาโต สุวิลิตฺโต สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต ภุตฺตสายมาโส วิวฏสีหปฺชเร มหาตเล อมจฺจคณปริวุโต วิสุทฺธํ คคนตลํ อภิลงฺฆมานํ จนฺทมณฺฑลํ ทิสฺวา ‘‘รมณียา วต โภ โทสินา รตฺติ, กาย นุ โข อชฺช รติยา อภิรเมยฺยามา’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๕๓.

‘‘อหุ ราชา วิเทหานํ, องฺคติ นาม ขตฺติโย;

ปหูตโยคฺโค ธนิมา, อนนฺตพลโปริโส.

๑๑๕๔.

‘‘โส จ ปนฺนรสึ รตฺตึ, ปุริมยาเม อนาคเต;

จาตุมาสา โกมุทิยา, อมจฺเจ สนฺนิปาตยิ.

๑๑๕๕.

‘‘ปณฺฑิเต สุตสมฺปนฺเน, มฺหิตปุพฺเพ วิจกฺขเณ;

วิชยฺจ สุนามฺจ, เสนาปตึ อลาตกํ.

๑๑๕๖.

‘‘ตมนุปุจฺฉิ เวเทโห, ปจฺเจกํ พฺรูถ สํ รุจึ;

จาตุมาสา โกมุทชฺช, ชุณฺหํ พฺยปหตํ ตมํ;

กายชฺช รติยา รตฺตึ, วิหเรมุ อิมํ อุตุ’’นฺติ.

ตตฺถ ปหูตโยคฺโคติ พหุเกน หตฺถิโยคฺคาทินา สมนฺนาคโต. อนนฺตพลโปริโสติ อนนฺตพลกาโย. อนาคเตติ ปริโยสานํ อปฺปตฺเต, อนติกฺกนฺเตติ อตฺโถ. จาตุมาสาติ จตุนฺนํ วสฺสิกมาสานํ ปจฺฉิมทิวสภูตาย รตฺติยา. โกมุทิยาติ ผุลฺลกุมุทาย. มฺหิตปุพฺเพติ ปมํ สิตํ กตฺวา ปจฺฉา กถนสีเล. ตมนุปุจฺฉีติ ตํ เตสุ อมจฺเจสุ เอเกกํ อมจฺจํ อนุปุจฺฉิ. ปจฺเจกํ พฺรูถ สํ รุจินฺติ สพฺเพปิ ตุมฺเห อตฺตโน อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูปํ รุจึ ปจฺเจกํ มยฺหํ กเถถ. โกมุทชฺชาติ โกมุที อชฺช. ชุณฺหนฺติ ชุณฺหาย นิสฺสยภูตํ จนฺทมณฺฑลํ อพฺภุคฺคจฺฉติ. พฺยปหตํ ตมนฺติ เตน สพฺพํ อนฺธการํ วิหตํ. อุตุนฺติ อชฺช รตฺตึ อิมํ เอวรูปํ อุตุํ กายรติยา วิหเรยฺยามาติ.

อิติ ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ. เตน เต ปุจฺฉิตา อตฺตโน อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูปํ กถํ กถยึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๕๗.

‘‘ตโต เสนาปติ รฺโ, อลาโต เอตทพฺรวิ;

‘หฏฺํ โยคฺคํ พลํ สพฺพํ, เสนํ สนฺนาหยามเส.

๑๑๕๘.

‘นิยฺยาม เทว ยุทฺธาย, อนนฺตพลโปริสา;

เย เต วสํ น อายนฺติ, วสํ อุปนยามเส;

เอสา มยฺหํ สกา ทิฏฺิ, อชิตํ โอชินามเส’.

๑๑๕๙.

อลาตสฺส วโจ สุตฺวา, สุนาโม เอตทพฺรวิ;

‘สพฺเพ ตุยฺหํ มหาราช, อมิตฺตา วสมาคตา.

๑๑๖๐.

‘นิกฺขิตฺตสตฺถา ปจฺจตฺถา, นิวาตมนุวตฺตเร;

อุตฺตโม อุสฺสโว อชฺช, น ยุทฺธํ มม รุจฺจติ.

๑๑๖๑.

‘อนฺนปานฺจ ขชฺชฺจ, ขิปฺปํ อภิหรนฺตุ เต;

รมสฺสุ เทว กาเมหิ, นจฺจคีเต สุวาทิเต’.

๑๑๖๒.

สุนามสฺส วโจ สุตฺวา, วิชโย เอตทพฺรวิ;

‘สพฺเพ กามา มหาราช, นิจฺจํ ตว มุปฏฺิตา.

๑๑๖๓.

‘น เหเต ทุลฺลภา เทว, ตว กาเมหิ โมทิตุํ;

สทาปิ กามา สุลภา, เนตํ จิตฺตมตํ มม.

๑๑๖๔.

‘สมณํ พฺราหฺมณํ วาปิ, อุปาเสมุ พหุสฺสุตํ;

โย นชฺช วินเย กงฺขํ, อตฺถธมฺมวิทู อิเส’.

๑๑๖๕.

วิชยสฺส วโจ สุตฺวา, ราชา องฺคติ มพฺรวิ;

‘ยถา วิชโย ภณติ, มยฺหมฺเปตํว รุจฺจติ;

๑๑๖๖.

‘สมณํ พฺราหฺมณํ วาปิ, อุปาเสมุ พหุสฺสุตํ;

โย นชฺช วินเย กงฺขํ, อตฺถธมฺมวิทู อิเส.

๑๑๖๗.

‘สพฺเพว สนฺตา กโรถ มตึ, กํ อุปาเสมุ ปณฺฑิตํ;

โย นชฺช วินเย กงฺขํ, อตฺถธมฺมวิทู อิเส’.

๑๑๖๘.

เวเทหสฺส วโจ สุตฺวา, อลาโต เอตทพฺรวิ;

‘อตฺถายํ มิคทายสฺมึ, อเจโล ธีรสมฺมโต.

๑๑๖๙.

‘คุโณ กสฺสปโคตฺตายํ, สุโต จิตฺรกถี คณี;

ตํ เทว ปยิรุปาเสมุ, โส โน กงฺขํ วิเนสฺสติ’.

๑๑๗๐.

‘‘อลาตสฺส วโจ สุตฺวา, ราชา โจเทสิ สารถึ;

มิคทายํ คมิสฺสาม, ยุตฺตํ ยานํ อิธา นยา’’ติ.

ตตฺถ หฏฺนฺติ ตุฏฺปหฏฺํ. โอชินามเสติ ยํ โน อชิตํ, ตํ ชินาม. เอโส มม อชฺฌาสโยติ. ราชา ตสฺส กถํ เนว ปฏิกฺโกสิ, นาภินนฺทิ. เอตทพฺรวีติ ราชานํ อลาตสฺส วจนํ อนภินนฺทนฺตํ อปฺปฏิกฺโกสนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นายํ ยุทฺธชฺฌาสโย, อหมสฺส จิตฺตํ คณฺหนฺโต กามคุณาภิรตึ วณฺณยิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘สพฺเพ ตุยฺห’’นฺติอาทิวจนํ อพฺรวิ.

วิชโย เอตทพฺรวีติ ราชา สุนามสฺสปิ วจนํ นาภินนฺทิ, น ปฏิกฺโกสิ. ตโต วิชโย ‘‘อยํ ราชา อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ วจนํ สุตฺวา ตุณฺหีเยว ิโต, ปณฺฑิตา นาม ธมฺมสฺสวนโสณฺฑา โหนฺติ, ธมฺมสฺสวนมสฺส วณฺณยิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘สพฺเพ กามา’’ติอาทิวจนํ อพฺรวิ. ตตฺถ ตว มุปฏฺิตาติ ตว อุปฏฺิตา. โมทิตุนฺติ ตว กาเมหิ โมทิตุํ อภิรมิตุํ อิจฺฉาย สติ น หิ เอเต กามา ทุลฺลภา. เนตํ จิตฺตมตํ มมาติ เอตํ ตว กาเมหิ อภิรมณํ มม จิตฺตมตํ น โหติ, น เม เอตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. โย นชฺชาติ โย โน อชฺช. อตฺถธมฺมวิทูติ ปาฬิอตฺถฺเจว ปาฬิธมฺมฺจ ชานนฺโต. อิเสติ อิสิ เอสิตคุโณ.

องฺคติ มพฺรวีติ องฺคติ อพฺรวิ. มยฺหมฺเปตํว รุจฺจตีติ มยฺหมฺปิ เอตฺเว รุจฺจติ. สพฺเพว สนฺตาติ สพฺเพว ตุมฺเห อิธ วิชฺชมานา มตึ กโรถ จินฺเตถ. อลาโต เอตทพฺรวีติ รฺโ กถํ สุตฺวา อลาโต ‘‘อยํ มม กุลูปโก คุโณ นาม อาชีวโก ราชุยฺยาเน วสติ, ตํ ปสํสิตฺวา ราชกุลูปกํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘อตฺถาย’’นฺติอาทิวจนํ อพฺรวิ. ตตฺถ ธีรสมฺมโตติ ปณฺฑิโตติ สมฺมโต. กสฺสปโคตฺตายนฺติ กสฺสปโคตฺโต อยํ. สุโตติ พหุสฺสุโต. คณีติ คณสตฺถา. โจเทสีติ อาณาเปสิ.

รฺโ ตํ กถํ สุตฺวา สารถิโน ตถา กรึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๗๑.

‘‘ตสฺส ยานํ อโยเชสุํ, ทนฺตํ รูปิยปกฺขรํ;

สุกฺกมฏฺปริวารํ, ปณฺฑรํ โทสินา มุขํ.

๑๑๗๒.

‘‘ตตฺราสุํ กุมุทายุตฺตา, จตฺตาโร สินฺธวา หยา;

อนิลูปมสมุปฺปาตา, สุทนฺตา โสณฺณมาลิโน.

๑๑๗๓.

‘‘เสตจฺฉตฺตํ เสตรโถ, เสตสฺสา เสตพีชนี;

เวเทโห สหมจฺเจหิ, นิยฺยํ จนฺโทว โสภติ.

๑๑๗๔.

‘‘ตมนุยายึสุ พหโว, อินฺทิขคฺคธรา พลี;

อสฺสปิฏฺิคตา วีรา, นรา นรวราธิปํ.

๑๑๗๕.

‘‘โส มุหุตฺตํว ยายิตฺวา, ยานา โอรุยฺห ขตฺติโย;

เวเทโห สหมจฺเจหิ, ปตฺตี คุณมุปาคมิ.

๑๑๗๖.

‘‘เยปิ ตตฺถ ตทา อาสุํ, พฺราหฺมณิพฺภา สมาคตา;

น เต อปนยี ราชา, อกตํ ภูมิมาคเต’’ติ.

ตตฺถ ตสฺส ยานนฺติ ตสฺส รฺโ รถํ โยชยึสุ. ทนฺตนฺติ ทนฺตมยํ. รูปิยปกฺขรนฺติ รชตมยอุปกฺขรํ. สุกฺกมฏฺปริวารนฺติ ปริสุทฺธาผรุสปริวารํ. โทสินา มุขนฺติ วิคตโทสาย รตฺติยา มุขํ วิย, จนฺทสทิสนฺติ อตฺโถ. ตตฺราสุนฺติ ตตฺร อเหสุํ. กุมุทาติ กุมุทวณฺณา. สินฺธวาติ สินฺธวชาติกา. อนิลูปมสมุปฺปาตาติ วาตสทิสเวคา. เสตจฺฉตฺตนฺติ ตสฺมึ รเถ สมุสฺสาปิตํ ฉตฺตมฺปิ เสตํ อโหสิ. เสตรโถติ โสปิ รโถ เสโตเยว. เสตสฺสาติ อสฺสาปิ เสตา. เสตพีชนีติ พีชนีปิ เสตา. นิยฺยนฺติ เตน รเถน นิคฺคจฺฉนฺโต อมจฺจคณปริวุโต เวเทหราชา จนฺโท วิย โสภติ.

นรวราธิปนฺติ นรวรานํ อธิปตึ ราชาธิราชานํ. โส มุหุตฺตํว ยายิตฺวาติ โส ราชา มุหุตฺเตเนว อุยฺยานํ คนฺตฺวา. ปตฺตี คุณมุปาคมีติ ปตฺติโกว คุณํ อาชีวกํ อุปาคมิ. เยปิ ตตฺถ ตทา อาสุนฺติ เยปิ ตสฺมึ อุยฺยาเน ตทา ปุเรตรํ คนฺตฺวา ตํ อาชีวกํ ปยิรุปาสมานา นิสินฺนา อเหสุํ. น เต อปนยีติ อมฺหากเมว โทโส, เย มยํ ปจฺฉา อคมิมฺหา, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถาติ เต พฺราหฺมเณ จ อิพฺเภ จ รฺโเยว อตฺถาย อกตํ อกโตกาสํ ภูมึ สมาคเต น อุสฺสารณํ กาเรตฺวา อปนยีติ.

ตาย ปน โอมิสฺสกปริสาย ปริวุโตว เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๗๗.

‘‘ตโต โส มุทุกา ภิสิยา, มุทุจิตฺตกสนฺถเต;

มุทุปจฺจตฺถเต ราชา, เอกมนฺตํ อุปาวิสิ.

๑๑๗๘.

‘‘นิสชฺช ราชา สมฺโมทิ, กถํ สารณิยํ ตโต;

‘กจฺจิ ยาปนิยํ ภนฺเต, วาตานมวิยคฺคตา.

๑๑๗๙.

‘กจฺจิ อกสิรา วุตฺติ, ลภสิ ปิณฺฑยาปนํ;

อปฺปาพาโธ จสิ กจฺจิ, จกฺขุํ น ปริหายติ’.

๑๑๘๐.

ตํ คุโณ ปฏิสมฺโมทิ, เวเทหํ วินเย รตํ;

‘ยาปนียํ มหาราช, สพฺพเมตํ ตทูภยํ.

๑๑๘๑.

‘กจฺจิ ตุยฺหมฺปิ เวเทห, ปจฺจนฺตา น พลียเร;

กจฺจิ อโรคํ โยคฺคํ เต, กจฺจิ วหติ วาหนํ;

กจฺจิ เต พฺยาธโย นตฺถิ, สรีรสฺสุปตาปิยา’.

๑๑๘๒.

‘‘ปฏิสมฺโมทิโต ราชา, ตโต ปุจฺฉิ อนนฺตรา;

อตฺถํ ธมฺมฺจ ายฺจ, ธมฺมกาโม รเถสโภ.

๑๑๘๓.

‘กถํ ธมฺมํ จเร มจฺโจ, มาตาปิตูสุ กสฺสป;

กถํ จเร อาจริเย, ปุตฺตทาเร กถํ จเร.

๑๑๘๔.

‘กถํ จเรยฺย วุฑฺเฒสุ, กถํ สมณพฺราหฺมเณ;

กถฺจ พลกายสฺมึ, กถํ ชนปเท จเร.

๑๑๘๕.

‘กถํ ธมฺมํ จริตฺวาน, มจฺจา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ;

กถฺเจเก อธมฺมฏฺา, ปตนฺติ นิรยํ อโถ’’’ติ.

ตตฺถ มุทุกา ภิสิยาติ มุทุกาย สุขสมฺผสฺสาย ภิสิยา. มุทุจิตฺตกสนฺถเตติ สุขสมฺผสฺเส จิตฺตตฺถรเณ. มุทุปจฺจตฺถเตติ มุทุนา ปจฺจตฺถรเณน ปจฺจตฺถเต. สมฺโมทีติ อาชีวเกน สทฺธึ สมฺโมทนียํ กถํ กเถสิ. ตโตติ ตโต นิสชฺชนโต อนนฺตรเมว สารณียํ กถํ กเถสีติ อตฺโถ. ตตฺถ กจฺจิ ยาปนิยนฺติ กจฺจิ เต, ภนฺเต, สรีรํ ปจฺจเยหิ ยาเปตุํ สกฺกา. วาตานมวิยคฺคตาติ กจฺจิ เต สรีเร ธาตุโย สมปฺปวตฺตา, วาตานํ พฺยคฺคตา นตฺถิ, ตตฺถ ตตฺถ วคฺควคฺคา หุตฺวา วาตา น พาธยนฺตีติ อตฺโถ.

อกสิราติ นิทฺทุกฺขา. วุตฺตีติ ชีวิตวุตฺติ. อปฺปาพาโธติ อิริยาปถภฺชเกนาพาเธน วิรหิโต. จกฺขุนฺติ กจฺจิ เต จกฺขุอาทีนิ อินฺทฺริยานิ น ปริหายนฺตีติ ปุจฺฉติ. ปฏิสมฺโมทีติ สมฺโมทนียกถาย ปฏิกเถสิ. ตตฺถ สพฺพเมตนฺติ ยํ ตยา วุตฺตํ วาตานมวิยคฺคตาทิ, ตํ สพฺพํ ตเถว. ตทุภยนฺติ ยมฺปิ ตยา ‘‘อปฺปาพาโธ จสิ กจฺจิ, จกฺขุํ น ปริหายตี’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ อุภยํ ตเถว.

น พลียเรติ นาภิภวนฺติ น กุปฺปนฺติ. อนนฺตราติ ปฏิสนฺถารโต อนนฺตรา ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตตฺถ อตฺถํ ธมฺมฺจ ายฺจาติ ปาฬิอตฺถฺจ ปาฬิฺจ การณยุตฺติฺจ. โส หิ ‘‘กถํ ธมฺมํ จเร’’ติ ปุจฺฉนฺโต มาตาปิตุอาทีสุ ปฏิปตฺติทีปกํ ปาฬิฺจ ปาฬิอตฺถฺจ การณยุตฺติฺจ เม กเถถาติ อิมํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ายฺจ ปุจฺฉติ. ตตฺถ กถฺเจเก อธมฺมฏฺาติ เอกจฺเจ อธมฺเม ิตา กถํ นิรยฺเจว อโถ เสสอปาเย จ ปตนฺตีติ สพฺพฺุพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกมหาโพธิสตฺเตสุ ปุริมสฺส ปุริมสฺส อลาเภน ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ปุจฺฉิตพฺพกํ มเหสกฺขปฺหํ ราชา กิฺจิ อชานนฺตํ นคฺคโภคฺคํ นิสฺสิริกํ อนฺธพาลํ อาชีวกํ ปุจฺฉิ.

โสปิ เอวํ ปุจฺฉิโต ปุจฺฉานุรูปํ พฺยากรณํ อทิสฺวา จรนฺตํ โคณํ ทณฺเฑน ปหรนฺโต วิย ภตฺตปาติยํ กจวรํ ขิปนฺโต วิย จ ‘‘สุณ, มหาราชา’’ติ โอกาสํ กาเรตฺวา อตฺตโน มิจฺฉาวาทํ ปฏฺเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๘๖.

‘‘เวเทหสฺส วโจ สุตฺวา, กสฺสโป เอตทพฺรวิ;

‘สุโณหิ เม มหาราช, สจฺจํ อวิตถํ ปทํ.

๑๑๘๗.

‘นตฺถิ ธมฺมจริตสฺส, ผลํ กลฺยาณปาปกํ;

นตฺถิ เทว ปโร โลโก, โก ตโต หิ อิธาคโต.

๑๑๘๘.

‘นตฺถิ เทว ปิตโร วา, กุโต มาตา กุโต ปิตา;

นตฺถิ อาจริโย นาม, อทนฺตํ โก ทเมสฺสติ.

๑๑๘๙.

‘สมตุลฺยานิ ภูตานิ, นตฺถิ เชฏฺาปจายิกา;

นตฺถิ พลํ วีริยํ วา, กุโต อุฏฺานโปริสํ;

นิยตานิ หิ ภูตานิ, ยถา โคฏวิโส ตถา.

๑๑๙๐.

‘ลทฺเธยฺยํ ลภเต มจฺโจ, ตตฺถ ทานผลํ กุโต;

นตฺถิ ทานผลํ เทว, อวโส เทววีริโย.

๑๑๙๑.

‘พาเลหิ ทานํ ปฺตฺตํ, ปณฺฑิเตหิ ปฏิจฺฉิตํ;

อวสา เทนฺติ ธีรานํ, พาลา ปณฺฑิตมานิโน’’’ติ.

ตตฺถ อิธาคโตติ ตโต ปรโลกโต อิธาคโต นาม นตฺถิ. นตฺถิ เทว ปิตโร วาติ เทว, อยฺยกเปยฺยกาทโย วา นตฺถิ, เตสุ อสนฺเตสุ กุโต มาตา กุโต ปิตา. ยถา โคฏวิโส ตถาติ โคฏวิโส วุจฺจติ ปจฺฉาพนฺโธ, ยถา นาวาย ปจฺฉาพนฺโธ นาวเมว อนุคจฺฉติ, ตถา อิเม สตฺตา นิยตเมว อนุคจฺฉนฺตีติ วทติ. อวโส เทววีริโยติ เอวํ ทานผเล อสติ โย โกจิ พาโล ทานํ เทติ, โส อวโส อวีริโย น อตฺตโน วเสน พเลน เทติ, ทานผลํ ปน อตฺถีติ สฺาย อฺเสํ อนฺธพาลานํ สทฺทหิตฺวา เทตีติ ทีเปติ. พาเลหิ ทานํ ปฺตฺตนฺติ ‘‘ทานํ ทาตพฺพ’’นฺติ อนฺธพาเลหิ ปฺตฺตํ อนุฺาตํ, ตํ ทานํ พาลาเยว เทนฺติ, ปณฺฑิตา ปฏิคฺคณฺหนฺติ.

เอวํ ทานสฺส นิปฺผลตํ วณฺเณตฺวา อิทานิ ปาปสฺส นิปฺผลภาวํ วณฺเณตุํ อาห –

๑๑๙๒.

‘‘สตฺติเม สสฺสตา กายา, อจฺเฉชฺชา อวิโกปิโน;

เตโช ปถวี อาโป จ, วาโย สุขํ ทุขฺจิเม;

ชีเว จ สตฺติเม กายา, เยสํ เฉตฺตา น วิชฺชติ.

๑๑๙๓.

‘‘นตฺถิ หนฺตา ว เฉตฺตา วา, หฺเ เยวาปิ โกจิ นํ;

อนฺตเรเนว กายานํ, สตฺถานิ วีติวตฺตเร.

๑๑๙๔.

‘‘โย จาปิ สิรมาทาย, ปเรสํ นิสิตาสินา;

น โส ฉินฺทติ เต กาเย, ตตฺถ ปาปผลํ กุโต.

๑๑๙๕.

‘‘จุลฺลาสีติมหากปฺเป, สพฺเพ สุชฺฌนฺติ สํสรํ;

อนาคเต ตมฺหิ กาเล, สฺโตปิ น สุชฺฌติ.

๑๑๙๖.

‘‘จริตฺวาปิ พหุํ ภทฺรํ, เนว สุชฺฌนฺตินาคเต;

ปาปฺเจปิ พหุํ กตฺวา, ตํ ขณํ นาติวตฺตเร.

๑๑๙๗.

‘‘อนุปุพฺเพน โน สุทฺธิ, กปฺปานํ จุลฺลสีติยา;

นิยตึ นาติวตฺตาม, เวลนฺตมิว สาคโร’’ติ.

ตตฺถ กายาติ สมูหา. อวิโกปิโนติ วิโกเปตุํ น สกฺกา. ชีเวติ ชีโว. ‘‘ชีโว’’ติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ. สตฺติเม กายาติ อิเม สตฺต กายา. หฺเ เยวาปิ โกจิ นนฺติ โย หฺเยฺย, โสปิ นตฺเถว. วีติวตฺตเรติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ กายานํ อนฺตเรเยว จรนฺติ, ฉินฺทิตุํ น สกฺโกนฺติ. สิรมาทายาติ ปเรสํ สีสํ คเหตฺวา. นิสิตาสินาติ นิสิเตน อสินา ฉินฺทติ, น โส ฉินฺทตีติ โสปิ เต กาเย น ฉินฺทติ, ปถวี ปถวิเมว อุเปติ, อาปาทโย อาปาทิเก, สุขทุกฺขชีวา อากาสํ ปกฺขนฺทนฺตีติ ทสฺเสติ.

สํสรนฺติ มหาราช, อิเม สตฺตา อิมํ ปถวึ เอกมํสขลํ กตฺวาปิ เอตฺตเก กปฺเป สํสรนฺตา สุชฺฌนฺติ. อฺตฺร หิ สํสารา สตฺเต โสเธตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สพฺเพ สํสาเรเนว สุชฺฌนฺติ. อนาคเต ตมฺหิ กาเลติ ยถาวุตฺเต ปน เอตสฺมึ กาเล อนาคเต อปฺปตฺเต อนฺตรา สฺโตปิ ปริสุทฺธสีโลปิ น สุชฺฌติ. ตํ ขณนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการํ กาลํ. อนุปุพฺเพน โน สุทฺธีติ อมฺหากํ วาเท อนุปุพฺเพน สุทฺธิ, สพฺเพสํ อมฺหากํ อนุปุพฺเพน สุทฺธิ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิติ โส อุจฺเฉทวาโท อตฺตโน ถาเมน สกวาทํ นิปฺปเทสโต กเถสีติ.

๑๑๙๘.

‘‘กสฺสปสฺส วโจ สุตฺวา, อลาโต เอตทพฺรวิ;

‘‘ยถา ภทนฺโต ภณติ, มยฺหมฺเปตํว รุจฺจติ.

๑๑๙๙.

‘อหมฺปิ ปุริมํ ชาตึ, สเร สํสริตตฺตโน;

ปิงฺคโล นามหํ อาสึ, ลุทฺโท โคฆาตโก ปุเร.

๑๒๐๐.

‘พาราณสิยํ ผีตายํ, พหุํ ปาปํ มยา กตํ;

พหู มยา หตา ปาณา, มหึสา สูกรา อชา.

๑๒๐๑.

‘ตโต จุโต อิธ ชาโต, อิทฺเธ เสนาปตีกุเล;

นตฺถิ นูน ผลํ ปาปํ, โยหํ น นิรยํ คโต’’’ติ.

ตตฺถ อลาโต เอตทพฺรวีติ โส กิร กสฺสปทสพลสฺส เจติเย อโนชปุปฺผทาเมน ปูชํ กตฺวา มรณสมเย อฺเน กมฺเมน ยถานุภาวํ ขิตฺโต สํสาเร สํสรนฺโต เอกสฺส ปาปกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน โคฆาตกกุเล นิพฺพตฺติตฺวา พหุํ ปาปมกาสิ. อถสฺส มรณกาเล ภสฺมปฏิจฺฉนฺโน วิย อคฺคิ เอตฺตกํ กาลํ ิตํ ตํ ปุฺกมฺมํ โอกาสมกาสิ. โส ตสฺสานุภาเวน อิธ นิพฺพตฺติตฺวา ตํ วิภูตึ ปตฺโต, ชาตึ สรนฺโต ปน อตีตานนฺตรโต ปรํ ปริสริตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘โคฆาตกกมฺมํ กตฺวา อิธ นิพฺพตฺโตสฺมี’’ติ สฺาย ตสฺส วาทํ อุปตฺถมฺเภนฺโต อิทํ ‘‘ยถา ภทนฺโต ภณตี’’ติอาทิวจนํ อพฺรวิ. ตตฺถ สเร สํสริตตฺตโนติ อตฺตโน สํสริตํ สรามิ. เสนาปตีกุเลติ เสนาปติกุลมฺหิ.

๑๒๐๒.

‘‘อเถตฺถ พีชโก นาม, ทาโส อาสิ ปฏจฺจรี;

อุโปสถํ อุปวสนฺโต, คุณสนฺติกุปาคมิ.

๑๒๐๓.

‘‘กสฺสปสฺส วโจ สุตฺวา, อลาตสฺส จ ภาสิตํ;

ปสฺสสนฺโต มุหุํ อุณฺหํ, รุทํ อสฺสูนิ วตฺตยี’’ติ.

ตตฺถ อเถตฺถาติ อถ เอตฺถ เอติสฺสํ มิถิลายํ. ปฏจฺจรีติ ทลิทฺโท กปโณ อโหสิ. คุณสนฺติกุปาคมีติ คุณสฺส สนฺติกํ กิฺจิเทว การณํ โสสฺสามีติ อุปคโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๒๐๔.

‘‘ตมนุปุจฺฉิ เวเทโห, ‘กิมตฺถํ สมฺม โรทสิ;

กึ เต สุตํ วา ทิฏฺํ วา, กึ มํ เวเทสิ เวทน’’’นฺติ.

ตตฺถ กึ มํ เวเทสิ เวทนนฺติ กึ นาม ตฺวํ กายิกํ วา เจตสิกํ วา เวทนํ ปตฺโตยํ, เอวํ โรทนฺโต มํ เวเทสิ ชานาเปสิ, อุตฺตานเมว นํ กตฺวา มยฺหํ อาจิกฺขาหีติ.

๑๒๐๕.

‘‘เวเทหสฺส วโจ สุตฺวา, พีชโก เอตทพฺรวิ;

‘นตฺถิ เม เวทนา ทุกฺขา, มหาราช สุโณหิ เม.

๑๒๐๖.

‘อหมฺปิ ปุริมํ ชาตึ, สรามิ สุขมตฺตโน;

สาเกตาหํ ปุเร อาสึ, ภาวเสฏฺิ คุเณ รโต.

๑๒๐๗.

‘สมฺมโต พฺราหฺมณิพฺภานํ, สํวิภาครโต สุจิ;

น จาปิ ปาปกํ กมฺมํ, สรามิ กตมตฺตโน.

๑๒๐๘.

‘ตโต จุตาหํ เวเทห, อิธ ชาโต ทุริตฺถิยา;

คพฺภมฺหิ กุมฺภทาสิยา, ยโต ชาโต สุทุคฺคโต.

๑๒๐๙.

‘เอวมฺปิ ทุคฺคโต สนฺโต, สมจริยํ อธิฏฺิโต;

อุปฑฺฒภาคํ ภตฺตสฺส, ททามิ โย เม อิจฺฉติ.

๑๒๑๐.

‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, สทา อุปวสามหํ;

น จาปิ ภูเต หึสามิ, เถยฺยํ จาปิ วิวชฺชยึ.

๑๒๑๑.

‘สพฺพเมว หิ นูเนตํ, สุจิณฺณํ ภวติ นิปฺผลํ;

นิรตฺถํ มฺิทํ สีลํ, อลาโต ภาสตี ยถา.

๑๒๑๒.

‘กลิเมว นูน คณฺหามิ, อสิปฺโป ธุตฺตโก ยถา;

กฏํ อลาโต คณฺหาติ, กิตโวสิกฺขิโต ยถา.

๑๒๑๓.

‘ทฺวารํ นปฺปฏิปสฺสามิ, เยน คจฺฉามิ สุคฺคตึ;

ตสฺมา ราช ปโรทามิ, สุตฺวา กสฺสปภาสิต’’’นฺติ.

ตตฺถ ภาวเสฏฺีติ เอวํนามโก อสีติโกฏิวิภโว เสฏฺิ. คุเณ รโตติ คุณมฺหิ รโต. สมฺมโตติ สมฺภาวิโต สํวณฺณิโต. สุจีติ สุจิกมฺโม. อิธ ชาโต ทุริตฺถิยาติ อิมสฺมึ มิถิลนคเร ทลิทฺทิยา กปณาย กุมฺภทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาโตสฺมีติ. โส กิร ปุพฺเพ กสฺสปพุทฺธกาเล อรฺเ นฏฺํ พลิพทฺทํ คเวสมาโน เอเกน มคฺคมูฬฺเหน ภิกฺขุนา มคฺคํ ปุฏฺโ ตุณฺหี หุตฺวา ปุน เตน ปุจฺฉิโต กุชฺฌิตฺวา ‘‘สมณ, ทาสา นาม มุขรา โหนฺติ, ทาเสน ตยา ภวิตพฺพํ, อติมุขโรสี’’ติ อาห. ตํ กมฺมํ ตทา วิปากํ อทตฺวา ภสฺมจฺฉนฺโน วิย ปาวโก ิตํ. มรณสมเย อฺํ กมฺมํ อุปฏฺาสิ. โส ยถากมฺมํ สํสาเร สํสรนฺโต เอกสฺส กุสลกมฺมสฺส พเลน สาเกเต วุตฺตปฺปกาโร เสฏฺิ หุตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ อกาสิ. ตํ ปนสฺส กมฺมํ ปถวิยํ นิหิตนิธิ วิย ิตํ โอกาสํ ลภิตฺวา วิปากํ ทสฺสติ. ยํ ปน เตน ตํ ภิกฺขุํ อกฺโกสนฺเตน กตํ ปาปกมฺมํ, ตมสฺส ตสฺมึ อตฺตภาเว วิปากํ อทาสิ. โส อชานนฺโต ‘‘อิตรสฺส กลฺยาณกมฺมสฺส พเลน กุมฺภทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโตสฺมี’’ติ สฺาย เอวมาห. ยโต ชาโต สุทุคฺคโตติ โสหํ ชาตกาลโต ปฏฺาย อติทุคฺคโตติ ทีเปติ.

สมจริยมธิฏฺิโตติ สมจริยายเมว ปติฏฺิโตมฺหิ. นูเนตนฺติ เอกํเสน เอตํ. มฺิทํ สีลนฺติ เทว, อิทํ สีลํ นาม นิรตฺถกํ มฺเ. อลาโตติ ยถา อยํ อลาตเสนาปติ ‘‘มยา ปุริมภเว พหุํ ปาณาติปาตกมฺมํ กตฺวา เสนาปติฏฺานํ ลทฺธ’’นฺติ ภาสติ, เตน การเณนาหํ นิรตฺถกํ สีลนฺติ มฺามิ. กลิเมวาติ ยถา อสิปฺโป อสิกฺขิโต อกฺขธุตฺโต ปราชยคฺคาหํ คณฺหาติ, ตถา นูน คณฺหามิ, ปุริมภเว อตฺตโน สาปเตยฺยํ นาเสตฺวา อิทานิ ทุกฺขํ อนุภวามิ. กสฺสปภาสิตนฺติ กสฺสปโคตฺตสฺส อเจลกสฺส ภาสิตํ สุตฺวาติ วทติ.

๑๒๑๔.

‘‘พีชกสฺส วโจ สุตฺวา, ราชา องฺคติ มพฺรวิ;

‘นตฺถิ ทฺวารํ สุคติยา, นิยตึ กงฺข พีชก.

๑๒๑๕.

‘สุขํ วา ยทิ วา ทุกฺขํ, นิยติยา กิร ลพฺภติ;

สํสารสุทฺธิ สพฺเพสํ, มา ตุริตฺโถ อนาคเต.

๑๒๑๖.

‘อหมฺปิ ปุพฺเพ กลฺยาโณ, พฺราหฺมณิพฺเภสุ พฺยาวโฏ;

โวหารมนุสาสนฺโต, รติหีโน ตทนฺตรา’’’ติ.

ตตฺถ องฺคติ มพฺรวีติ ปมเมว อิตเรสํ ทฺวินฺนํ, ปจฺฉา พีชกสฺสาติ ติณฺณํ วจนํ สุตฺวา ทฬฺหํ มิจฺฉาทิฏฺึ คเหตฺวา เอตํ ‘‘นตฺถิ ทฺวาร’’นฺติอาทิวจนมพฺรวิ. นิยตึ กงฺขาติ สมฺม พีชก, นิยติเมว โอโลเกหิ. จุลฺลาสีติมหากปฺปปฺปมาโณ กาโลเยว หิ สตฺเต โสเธติ, ตฺวํ อติตุริโตติ อธิปฺปาเยเนวมาห. อนาคเตติ ตสฺมึ กาเล อสมฺปตฺเต อนฺตราว เทวโลกํ คจฺฉามีติ มา ตุริตฺโถ. พฺยาวโฏติ พฺราหฺมเณสุ จ คหปติเกสุ จ เตสํเยว กายเวยฺยาวจฺจทานาทิกมฺมกรเณน พฺยาวโฏ อโหสึ. โวหารนฺติ วินิจฺฉยฏฺาเน นิสีทิตฺวา ราชกิจฺจํ โวหารํ อนุสาสนฺโตว. รติหีโน ตทนฺตราติ เอตฺตกํ กาลํ กามคุณรติยา ปริหีโนติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ภนฺเต กสฺสป, มยํ เอตฺตกํ กาลํ ปมชฺชิมฺหา, อิทานิ ปน อมฺเหหิ อาจริโย ลทฺโธ, อิโต ปฏฺาย กามรติเมว อนุภวิสฺสาม, ตุมฺหากํ สนฺติเก อิโต อุตฺตริ ธมฺมสฺสวนมฺปิ โน ปปฺโจ ภวิสฺสติ, ติฏฺถ ตุมฺเห, มยํ คมิสฺสามา’’ติ อาปุจฺฉนฺโต อาห –

๑๒๑๗.

‘‘ปุนปิ ภนฺเต ทกฺเขมุ, สงฺคติ เจ ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ สงฺคติ เจติ เอกสฺมึ าเน เจ โน สมาคโม ภวิสฺสติ,โน เจ, อสติ ปุฺผเล กึ ตยา ทิฏฺเนาติ.

‘‘อิทํ วตฺวาน เวเทโห, ปจฺจคา สนิเวสน’’นฺติ;

ตตฺถ สนิเวสนนฺติ ภิกฺขเว, อิทํ วจนํ เวเทหราชา วตฺวา รถํ อภิรุยฺห อตฺตโน นิเวสนํ จนฺทกปาสาทตลเมว ปฏิคโต.

ราชา ปมํ คุณสนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. อาคจฺฉนฺโต ปน อวนฺทิตฺวาว อาคโต. คุโณ อตฺตโน อคุณตาย วนฺทนมฺปิ นาลตฺถ, ปิณฺฑาทิกํ สกฺการํ กิเมว ลจฺฉติ. ราชาปิ ตํ รตฺตึ วีตินาเมตฺวา ปุนทิวเส อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘กามคุเณ เม อุปฏฺาเปถ, อหํ อิโต ปฏฺาย กามคุณสุขเมว อนุภวิสฺสามิ, น เม อฺานิ กิจฺจานิ อาโรเจตพฺพานิ, วินิจฺฉยกิจฺจํ อสุโก จ อสุโก จ กโรตู’’ติ วตฺวา กามรติมตฺโต อโหสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๑๘.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, อุปฏฺานมฺหิ องฺคติ;

อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๑๒๑๙.

‘จนฺทเก เม วิมานสฺมึ, สทา กาเม วิเธนฺตุ เม;

มา อุปคจฺฉุํ อตฺเถสุ, คุยฺหปฺปกาสิเยสุ จ.

๑๒๒๐.

‘วิชโย จ สุนาโม จ, เสนาปติ อลาตโก;

เอเต อตฺเถ นิสีทนฺตุ, โวหารกุสลา ตโย’.

๑๒๒๑.

‘‘อิทํ วตฺวาน เวเทโห, กาเมว พหุมฺถ;

น จาปิ พฺราหฺมณิพฺเภสุ, อตฺเถ กิสฺมิฺจิ พฺยาวโฏ’’ติ.

ตตฺถ อุปฏฺานมฺหีติ อตฺตโน อุปฏฺานฏฺาเน. จนฺทเก เมติ มม สนฺตเก จนฺทกปาสาเท. วิเธนฺตุ เมติ นิจฺจํ มยฺหํ กาเม สํวิทหนฺตุ อุปฏฺเปนฺตุ. คุยฺหปฺปกาสิเยสูติ คุยฺเหสุปิ ปกาสิเยสุปิ อตฺเถสุ อุปฺปนฺเนสุ มํ เกจิ มา อุปคจฺฉุํ. อตฺเถติ อตฺถกรเณ วินิจฺฉยฏฺาเน. นิสีทนฺตูติ มยา กตฺตพฺพกิจฺจสฺส กรณตฺถํ เสสอมจฺเจหิ สทฺธึ นิสีทนฺตูติ.

๑๒๒๒.

‘‘ตโต ทฺเวสตฺตรตฺตสฺส, เวเทหสฺสตฺรชา ปิยา;

ราชธีตา รุจา นาม, ธาติมาตรมพฺรวิ.

๑๒๒๓.

‘‘อลงฺกโรถ มํ ขิปฺปํ, สขิโย จาลงฺกโรนฺตุ เม;

สุเว ปนฺนรโส ทิพฺโย, คจฺฉํ อิสฺสรสนฺติเก.

๑๒๒๔.

‘‘ตสฺสา มาลฺยํ อภิหรึสุ, จนฺทนฺจ มหารหํ;

มณิสงฺขมุตฺตารตนํ, นานารตฺเต จ อมฺพเร.

๑๒๒๕.

‘‘ตฺจ โสณฺณมเย ปีเ, นิสินฺนํ พหุกิตฺถิโย;

ปริกิริย อโสภึสุ, รุจํ รุจิรวณฺณินิ’’นฺติ.

ตตฺถ ตโตติ ตโต รฺโ กามปงฺเก ลคฺคิตทิวสโต ปฏฺาย. ทฺเวสตฺตรตฺตสฺสาติ จุทฺทสเม ทิวเส. ธาติมาตรมพฺรวีติ ปิตุ สนฺติกํ คนฺตุกามา หุตฺวา ธาติมาตรมาห. สา กิร จาตุทฺทเส จาตุทฺทเส ปฺจสตกุมาริกาหิ ปริวุตา ธาติคณํ อาทาย มหนฺเตน สิริวิลาเสน อตฺตโน สตฺตภูมิกา รติวฑฺฒนปาสาทา โอรุยฺห ปิตุ ทสฺสนตฺถํ จนฺทกปาสาทํ คจฺฉติ. อถ นํ ปิตา ทิสฺวา ตุฏฺมานโส หุตฺวา มหาสกฺการํ กาเรตฺวา อุยฺโยเชนฺโต ‘‘อมฺม, ทานํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา อุยฺโยเชติ. สา อตฺตโน นิเวสนํ อาคนฺตฺวา ปุนทิวเส อุโปสถิกา หุตฺวา กปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ มหาทานํ เทติ. รฺา กิรสฺสา เอโก ชนปโทปิ ทินฺโน. ตโต อาเยน สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ตทา ปน ‘‘รฺา กิร คุณํ อาชีวกํ นิสฺสาย มิจฺฉาทสฺสนํ คหิต’’นฺติ สกลนคเร เอกโกลาหลํ อโหสิ. ตํ ปวตฺตึ รุจาย ธาติโย สุตฺวา ราชธีตาย อาโรจยึสุ ‘‘อยฺเย, ปิตรา กิร เต อาชีวกสฺส กถํ สุตฺวา มิจฺฉาทสฺสนํ คหิตํ, โส กิร จตูสุ นครทฺวาเรสุ ทานสาลาโย วิทฺธํสาเปตฺวา ปรปริคฺคหิตา อิตฺถิโย จ กุมาริกาโย จ ปสยฺหกาเรน คณฺหิตุํ อาณาเปติ, รชฺชํ น วิจาเรติ, กามมตฺโตเยว กิร ชาโต’’ติ. สา ตํ กถํ สุตฺวา อนตฺตมนา หุตฺวา ‘‘กถฺหิ นาม เม ตาโต อปคตสุกฺกธมฺมํ นิลฺลชฺชํ นคฺคโภคฺคํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, นนุ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ กมฺมวาทิโน อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิตพฺโพ สิยา, เปตฺวา โข ปน มํ อฺโ มยฺหํ ปิตรํ มิจฺฉาทสฺสนา อปเนตฺวา สมฺมาทสฺสเน ปติฏฺาเปตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. อหฺหิ อตีตา สตฺต, อนาคตา สตฺตาติ จุทฺทส ชาติโย อนุสฺสรามิ, ตสฺมา ปุพฺเพ มยา กตํ ปาปกมฺมํ กเถตฺวา ปาปกมฺมสฺส ผลํ ทสฺเสนฺตี มม ปิตรํ มิจฺฉาทสฺสนา โมเจสฺสามิ. สเจ ปน อชฺเชว คมิสฺสามิ, อถ มํ ปิตา ‘อมฺม, ตฺวํ ปุพฺเพ อฑฺฒมาเส อาคจฺฉสิ, อชฺช กสฺมา เอวํ ลหุ อาคตาสี’ติ วกฺขติ. ตตฺร สเจ อหํ ‘ตุมฺเหหิ กิร มิจฺฉาทสฺสนํ คหิต’นฺติ สุตฺวา ‘อาคตมฺหี’ติ วกฺขามิ, น เม วจนํ ครุํ กตฺวา คณฺหิสฺสติ, ตสฺมา อชฺช อคนฺตฺวา อิโต จุทฺทสเม ทิวเส กาฬปกฺเขเยว กิฺจิ อชานนฺตี วิย ปุพฺเพ คมนากาเรนฺเตว คนฺตฺวา อาคมนกาเล ทานวตฺตตฺถาย สหสฺสํ ยาจิสฺสามิ, ตทา เม ปิตา ทิฏฺิยา คหิตภาวํ กเถสฺสติ. อถ นํ อหํ อตฺตโน พเลน มิจฺฉาทิฏฺึ ฉฑฺฑาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตสฺมา จุทฺทสเม ทิวเส ปิตุ สนฺติกํ คนฺตุกามา หุตฺวา เอวมาห.

ตตฺถ สขิโย จาติ สหายิกาโยปิ เม ปฺจสตา กุมาริกาโย เอกาเยกํ อสทิสํ กตฺวา นานาลงฺกาเรหิ นานาวณฺเณหิ ปุปฺผคนฺธวิเลปเนหิ อลงฺกโรนฺตูติ. ทิพฺโยติ ทิพฺพสทิโส, เทวตาสนฺนิปาตปฏิมณฺฑิโตติปิ ทิพฺโพ. คจฺฉนฺติ มม ทานวตฺตํ อาหราเปตุํ วิเทหิสฺสรสฺส ปิตุ สนฺติกํ คมิสฺสามีติ. อภิหรึสูติ โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ นฺหาเปตฺวา มณฺฑนตฺถาย อภิหรึสุ. ปริกิริยาติ ปริวาเรตฺวา. อโสภึสูติ สุชํ ปริวาเรตฺวา ิตา เทวกฺา วิย ตํ ทิวสํ อติวิย อโสภึสูติ.

๑๒๒๖.

‘‘สา จ สขิมชฺฌคตา, สพฺพาภรณภูสิตา;

สเตรตา อพฺภมิว, จนฺทกํ ปาวิสี รุจา.

๑๒๒๗.

‘‘อุปสงฺกมิตฺวา เวเทหํ, วนฺทิตฺวา วินเย รตํ;

สุวณฺณขจิเต ปีเ, เอกมนฺตํ อุปาวิสี’’ติ.

ตตฺถ อุปาวิสีติ ปิตุ วสนฏฺานํ จนฺทกปาสาทํ ปาวิสิ. สุวณฺณขจิเตติ สตฺตรตนขจิเต สุวณฺณมเย ปีเ.

๑๒๒๘.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน เวเทโห, อจฺฉรานํว สงฺคมํ;

รุจํ สขิมชฺฌคตํ, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๑๒๒๙.

‘‘‘กจฺจิ รมสิ ปาสาเท, อนฺโตโปกฺขรณึ ปติ;

กจฺจิ พหุวิธํ ขชฺชํ, สทา อภิหรนฺติ เต.

๑๒๓๐.

‘กจฺจิ พหุวิธํ มาลฺยํ, โอจินิตฺวา กุมาริโย;

ฆรเก กโรถ ปจฺเจกํ, ขิฑฺฑารติรตา มุหุํ.

๑๒๓๑.

‘เกน วา วิกลํ ตุยฺหํ, กึ ขิปฺปํ อาหรนฺติ เต;

มโน กรสฺสุ กุฑฺฑมุขี, อปิ จนฺทสมมฺหิปี’’’ติ.

ตตฺถ สงฺคมนฺติ อจฺฉรานํ สงฺคมํ วิย สมาคมํ ทิสฺวา. ปาสาเทติ อมฺม มยา ตุยฺหํ เวชยนฺตสทิโส รติวฑฺฒนปาสาโท การิโต, กจฺจิ ตตฺถ รมสิ. อนฺโตโปกฺขรณึ ปตีติ อนฺโตวตฺถุสฺมิฺเว เต มยา นนฺทาโปกฺขรณีปฏิภาคาโปกฺขรณี การิตา, กจฺจิ ตํ โปกฺขรณึ ปฏิจฺจ อุทกกีฬํ กีฬนฺตี รมสิ. มาลฺยนฺติ อมฺม, อหํ ตุยฺหํ เทวสิกํ ปฺจวีสติ ปุปฺผสมุคฺเค ปหิณามิ, กจฺจิ ตุมฺเห สพฺพาปิ กุมาริกาโย ตํ มาลฺยํ โอจินิตฺวา คนฺถิตฺวา อภิณฺหํ ขิฑฺฑารติรตา หุตฺวา ปจฺเจกํ ฆรเก กโรถ, ‘‘อิทํ สุนฺทรํ, อิทํ สุนฺทรตร’’นฺติ ปาฏิเยกฺกํ สารมฺเภน วายปุปฺผฆรกานิ ปุปฺผคพฺเภ จ ปุปฺผาสนปุปฺผสยนานิ จ กจฺจิ กโรถาติ ปุจฺฉติ.

วิกลนฺติ เวกลฺลํ. มโน กรสฺสูติ จิตฺตํ อุปฺปาเทหิ. กุฑฺฑมุขีติ สาสปกกฺเกหิ ปสาทิตมุขตาย ตํ เอวมาห. อิตฺถิโย หิ มุขวณฺณํ ปสาเทนฺติโย ทุฏฺโลหิตมุขทูสิตปีฬกาหรณตฺถํ ปมํ สาสปกกฺเกน มุขํ วิลิมฺปนฺติ, ตโต โลหิตสฺส สมกรณตฺถํ มตฺติกากกฺเกน, ตโต ฉวิปสาทนตฺถํ ติลกกฺเกน. จนฺทสมมฺหิปีติ จนฺทโต ทุลฺลภตโร นาม นตฺถิ, ตาทิเสปิ รุจึ กตฺวา มมาจิกฺข, สมฺปาเทสฺสามิ เตติ.

๑๒๓๒.

‘‘เวเทหสฺส วโจ สุตฺวา, รุจา ปิตร มพฺรวิ;

‘สพฺพเมตํ มหาราช, ลพฺภติสฺสรสนฺติเก.

๑๒๓๓.

‘สุเว ปนฺนรโส ทิพฺโย, สหสฺสํ อาหรนฺตุ เม;

ยถาทินฺนฺจ ทสฺสามิ, ทานํ สพฺพวณีสฺวห’’’นฺติ.

ตตฺถ สพฺพวณีสฺวหนฺติ สพฺพวณิพฺพเกสุ อหํ ทสฺสามิ.

๑๒๓๔.

‘‘รุจาย วจนํ สุตฺวา, ราชา องฺคติ มพฺรวิ;

‘พหุํ วินาสิตํ วิตฺตํ, นิรตฺถํ อผลํ ตยา.

๑๒๓๕.

‘อุโปสเถ วสํ นิจฺจํ, อนฺนปานํ น ภุฺชสิ;

นิยเตตํ อภุตฺตพฺพํ, นตฺถิ ปุฺํ อภุฺชโต’’’ติ.

ตตฺถ องฺคติ มพฺรวีติ ภิกฺขเว, โส องฺคติราชา ปุพฺเพ อยาจิโตปิ ‘‘อมฺม, ทานํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา ตํ ทิวสํ ยาจิโตปิ มิจฺฉาทสฺสนสฺส คหิตตฺตา อทตฺวา อิทํ ‘‘พหุํ วินาสิต’’นฺติอาทิวจนํ อพฺรวิ. นิยเตตํ อภุตฺตพฺพนฺติ เอตํ นิยติวเสน ตยา อภุฺชิตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภุฺชนฺตานมฺปิ อภุฺชนฺตานมฺปิ ปุฺํ นตฺถิ. สพฺเพ หิ จุลฺลาสีติมหากปฺเป อติกฺกมิตฺวาว สุชฺฌนฺติ.

๑๒๓๖.

‘‘พีชโกปิ หิ สุตฺวาน, ตทา กสฺสปภาสิตํ;

‘ปสฺสสนฺโต มุหุํ อุณฺหํ, รุทํ อสฺสูนิ วตฺตยิ.

๑๒๓๗.

‘ยาว รุเจ ชีวมานา, มา ภตฺตมปนามยิ;

นตฺถิ ภทฺเท ปโร โลโก, กึ นิรตฺถํ วิหฺสี’’’ติ.

ตตฺถ พีชโกปีติ พีชโกปิ ปุพฺเพ กลฺยาณกมฺมํ กตฺวา ตสฺส นิสฺสนฺเทน ทาสิกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺโตติ พีชกวตฺถุมฺปิสฺสา อุทาหรณตฺถํ อาหริ. นตฺถิ ภทฺเทติ ภทฺเท, คุณาจริโย เอวมาห ‘‘นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา’’ติ. ปรโลเก หิ สติ อิธโลโกปิ นาม ภเวยฺย, โสเยว จ นตฺถิ. มาตาปิตูสุ สนฺเตสุ ปุตฺตธีตโร นาม ภเวยฺยูอุํ, เตเยว จ นตฺถิ. ธมฺเม สติ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา ภเวยฺยูํ, เตเยว จ นตฺถิ. กึ ทานํ เทนฺตี สีลํ รกฺขนฺตี นิรตฺถํ วิหฺสีติ.

๑๒๓๘.

‘‘เวเทหสฺส วโจ สุตฺวา, รุจา รุจิรวณฺณินี;

ชานํ ปุพฺพาปรํ ธมฺมํ, ปิตรํ เอตทพฺรวิ.

๑๒๓๙.

‘สุตเมว ปุเร อาสิ, สกฺขิ ทิฏฺมิทํ มยา;

พาลูปเสวี โย โหติ, พาโลว สมปชฺชถ.

๑๒๔๐.

‘มูฬฺโห หิ มูฬฺหมาคมฺม, ภิยฺโย โมหํ นิคจฺฉติ;

ปติรูปํ อลาเตน, พีชเกน จ มุยฺหิตุ’’’นฺติ.

ตตฺถ ปุพฺพาปรํ ธมฺมนฺติ ภิกฺขเว, ปิตุ วจนํ สุตฺวา รุจา ราชธีตา อตีเต สตฺตชาติวเสน ปุพฺพธมฺมํ, อนาคเต สตฺตชาติวเสน อนาคตธมฺมฺจ ชานนฺตี ปิตรํ มิจฺฉาทิฏฺิโต โมเจตุกามา เอตํ ‘‘สุตเมวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สมปชฺชถาติ โย ปุคฺคโล พาลูปเสวี โหติ, โส พาโลว สมปชฺชตีติ เอตํ มยา ปุพฺเพ สุตเมว, อชฺช ปน ปจฺจกฺขโต ทิฏฺํ. มูฬฺโหติ มคฺคมูฬฺหํ อาคมฺม มคฺคมูฬฺโห วิย ทิฏฺิมูฬฺหํ อาคมฺม ทิฏฺิมูฬฺโหปิ อุตฺตริ โมหํ นิคจฺฉติ, มูฬฺหตโร โหติ. อลาเตนาติ เทว, ตุมฺเหหิ ชาติโคตฺตกุลปเทสอิสฺสริยปุฺปฺาหีเนน อลาตเสนาปตินา อจฺจนฺตหีเนน ทุปฺปฺเน พีชกทาเสน จ คามทารกสทิสํ อหิริกํ พาลํ คุณํ อาชีวกํ อาคมฺม มุยฺหิตุํ ปติรูปํ อนุจฺฉวิกํ. กึ เต น มุยฺหิสฺสนฺตีติ?

เอวํ เต อุโภปิ ครหิตฺวา ทิฏฺิโต โมเจตุกามตาย ปิตรํ วณฺเณนฺตี อาห –

๑๒๔๑.

‘‘ตฺวฺจ เทวาสิ สปฺปฺโ, ธีโร อตฺถสฺส โกวิโท;

กถํ พาเลภิ สทิสํ, หีนทิฏฺึ อุปาคมิ.

๑๒๔๒.

‘‘สเจปิ สํสารปเถน สุชฺฌติ, นิรตฺถิยา ปพฺพชฺชา คุณสฺส;

กีโฏว อคฺคึ ชลิตํ อปาปตํ, อุปปชฺชติ โมหมูฬฺโห นคฺคภาวํ.

๑๒๔๓.

‘‘สํสารสุทฺธีติ ปุเร นิวิฏฺา, กมฺมํ วิทูเสนฺติ พหู อชานํ;

ปุพฺเพ กลี ทุคฺคหิโตวนตฺถา, ทุมฺโมจยา พลิสา อมฺพุโชวา’’ติ.

ตตฺถ สปฺปฺโติ ยสวยปุฺติตฺถาวาสโยนิโสมนสิการสากจฺฉาวเสน ลทฺธาย ปฺาย สปฺปฺโ, เตเนว การเณน ธีโร, ธีรตาย อตฺถานตฺถสฺส การณาการณสฺส โกวิโท. พาเลภิ สทิสนฺติ ยถา เต พาลา อุปคตา, ตถา กถํ ตฺวํ หีนทิฏฺึ อุปคโต. อปาปตนฺติ อปิ อาปตํ, ปตนฺโตติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, สํสาเรน สุทฺธีติ ลทฺธิยา สติ ยถา ปฏงฺคกีโฏ รตฺติภาเค ชลิตํ อคฺคึ ทิสฺวา ตปฺปจฺจยํ ทุกฺขํ อชานิตฺวา โมเหน ตตฺถ ปตนฺโต มหาทุกฺขํ อาปชฺชติ, ตถา คุโณปิ ปฺจ กามคุเณ ปหาย โมหมูฬฺโห นิรสฺสาทํ นคฺคภาวํ อุปปชฺชติ.

ปุเร นิวิฏฺาติ ตาต, สํสาเรน สุทฺธีติ กสฺสจิ วจนํ อสุตฺวา ปมเมว นิวิฏฺโ นตฺถิ, สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลนฺติ คหิตตฺตา พหู ชนา อชานนฺตา กมฺมํ วิทูเสนฺตา กมฺมผลมฺปิ วิทูเสนฺติเยว, เอวํ เตสํ ปุพฺเพ คหิโต กลิ ปราชยคาโห ทุคฺคหิโตว โหตีติ อตฺโถ. ทุมฺโมจยา พลิสา อมฺพุโชวาติ เต ปน เอวํ อชานนฺตา มิจฺฉาทสฺสเนน อนตฺถํ คเหตฺวา ิตา พาลา ยถา นาม พลิสํ คิลิตฺวา ิโต มจฺโฉ พลิสา ทุมฺโมจโย โหติ, เอวํ ตมฺหา อนตฺถา ทุมฺโมจยา โหนฺติ.

อุตฺตริปิ อุทาหรณํ อาหรนฺตี อาห –

๑๒๔๔.

‘‘อุปมํ เต กริสฺสามิ, มหาราช ตวตฺถิยา;

อุปมาย มิเธกจฺเจ, อตฺถํ ชานนฺติ ปณฺฑิตา.

๑๒๔๕.

‘‘วาณิชานํ ยถา นาวา, อปฺปมาณภรา ครุ;

อติภารํ สมาทาย, อณฺณเว อวสีทติ.

๑๒๔๖.

‘‘เอวเมว นโร ปาปํ, โถกํ โถกมฺปิ อาจินํ;

อติภารํ สมาทาย, นิรเย อวสีทติ.

๑๒๔๗.

‘‘น ตาว ภาโร ปริปูโร, อลาตสฺส มหีปติ;

อาจินาติ จ ตํ ปาปํ, เยน คจฺฉติ ทุคฺคตึ.

๑๒๔๘.

‘‘ปุพฺเพวสฺส กตํ ปุฺํ, อลาตสฺส มหีปติ;

ตสฺเสว เทว นิสฺสนฺโท, ยฺเจโส ลภเต สุขํ.

๑๒๔๙.

‘‘ขียเต จสฺส ตํ ปุฺํ, ตถา หิ อคุเณ รโต;

อุชุมคฺคํ อวหาย, กุมฺมคฺคมนุธาวติ.

๑๒๕๐.

‘‘ตุลา ยถา ปคฺคหิตา, โอหิเต ตุลมณฺฑเล;

อุนฺนเมติ ตุลาสีสํ, ภาเร โอโรปิเต สติ.

๑๒๕๑.

‘‘เอวเมว นโร ปุฺํ, โถกํ โถกมฺปิ อาจินํ;

สคฺคาติมาโน ทาโสว, พีชโก สาตเว รโต’’ติ.

ตตฺถ นิรเยติ อฏฺวิเธ มหานิรเย, โสฬสวิเธ อุสฺสทนิรเย, โลกนฺตรนิรเย จ. ภาโรติ ตาต, น ตาว อลาตสฺส อกุสลภาโร ปูรติ. ตสฺเสวาติ ตสฺส ปุพฺเพ กตสฺส ปุฺสฺเสว นิสฺสนฺโท, ยํ โส อลาตเสนาปติ อชฺช สุขํ ลภติ. น หิ ตาต, เอตํ โคฆาตกกมฺมสฺส ผลํ. ปาปกมฺมสฺส หิ นาม วิปาโก อิฏฺโ กนฺโต ภวิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ. อคุเณ รโตติ ตถาเหส อิทานิ อกุสลกมฺเม รโต. อุชุมคฺคนฺติ ทสกุสลกมฺมปถมคฺคํ. กุมฺมคฺคนฺติ นิรยคามิอกุสลมคฺคํ.

โอหิเต ตุลมณฺฑเลติ ภณฺฑปฏิจฺฉนตฺถาย ตุลมณฺฑเล ลคฺเคตฺวา ปิเต. อุนฺนเมตีติ อุทฺธํ อุกฺขิปติ. อาจินนฺติ โถกํ โถกมฺปิ ปุฺํ อาจินนฺโต ปาปภารํ โอตาเรตฺวา นโร กลฺยาณกมฺมสฺส สีสํ อุกฺขิปิตฺวา เทวโลกํ คจฺฉติ. สคฺคาติมาโนติ สคฺเค อติมาโน สคฺคสมฺปาปเก สาตผเล กลฺยาณกมฺเม อภิรโต. ‘‘สคฺคาธิมาโน’’ติปิ ปาโ, สคฺคํ อธิการํ กตฺวา ิตจิตฺโตติ อตฺโถ. สาตเว รโตติ เอส พีชกทาโส สาตเว มธุรวิปาเก กุสลธมฺเมเยว รโต. โส อิมสฺส ปาปกมฺมสฺส ขีณกาเล, กลฺยาณกมฺมสฺส ผเลน เทวโลเก นิพฺพตฺติสฺสติ.

ยฺเจส อิทานิ ทาสตฺตํ อุปคโต, น ตํ กลฺยาณกมฺมสฺส ผเลน. ทาสตฺตสํวตฺตนิกฺหิสฺส ปุพฺเพ กตํ ปาปํ ภวิสฺสตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺตี อาห –

๑๒๕๒.

‘‘ยมชฺช พีชโก ทาโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ อตฺตนิ;

ปุพฺเพวสฺส กตํ ปาปํ, ตเมโส ปฏิเสวติ.

๑๒๕๓.

‘‘ขียเต จสฺส ตํ ปาปํ, ตถา หิ วินเย รโต;

กสฺสปฺจ สมาปชฺช, มา เหวุปฺปถมาคมา’’ติ.

ตตฺถ มา เหวุปฺปถมาคมาติ ตาต, ตฺวํ อิมํ นคฺคํ กสฺสปาชีวกํ อุปคนฺตฺวา มา เหว นิรยคามึ อุปฺปถํ อคมา, มา ปาปมกาสีติ ปิตรํ โอวทติ.

อิทานิสฺส ปาปูปเสวนาย โทสํ กลฺยาณมิตฺตูปเสวนาย จ คุณํ ทสฺเสนฺตี อาห –

๑๒๕๔.

‘‘ยํ ยฺหิ ราช ภชติ, สนฺตํ วา ยทิ วา อสํ;

สีลวนฺตํ วิสีลํ วา, วสํ ตสฺเสว คจฺฉติ.

๑๒๕๕.

‘‘ยาทิสํ กุรุเต มิตฺตํ, ยาทิสํ จูปเสวติ;

โสปิ ตาทิสโก โหติ, สหวาโส หิ ตาทิโส.

๑๒๕๖.

‘‘เสวมาโน เสวมานํ, สมฺผุฏฺโ สมฺผุสํ ปรํ;

สโร ทิทฺโธ กลาปํว, อลิตฺตมุปลิมฺปติ;

อุปเลปภยา ธีโร, เนว ปาปสขา สิยา.

๑๒๕๗.

‘‘ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน, โย นโร อุปนยฺหติ;

กุสาปิ ปูติ วายนฺติ, เอวํ พาลูปเสวนา.

๑๒๕๘.

‘‘ตครฺจ ปลาเสน, โย นโร อุปนยฺหติ;

ปตฺตาปิ สุรภิ วายนฺติ, เอวํ ธีรูปเสวนา.

๑๒๕๙.

‘‘ตสฺมา ปตฺตปุฏสฺเสว, ตฺวา สมฺปากมตฺตโน

อสนฺเต โนปเสเวยฺย, สนฺเต เสเวยฺย ปณฺฑิโต;

อสนฺโต นิรยํ เนนฺติ, สนฺโต ปาเปนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ.

ตตฺถ สนฺตํ วาติ สปฺปุริสํ วา. ยทิ วา อสนฺติ อสปฺปุริสํ วา. สโร ทิทฺโธ กลาปํวาติ มหาราช, ยถา นาม หลาหลวิสลิตฺโต สโร สรกลาเป ขิตฺโต สพฺพํ ตํ วิเสน อลิตฺตมฺปิ สรกลาปํ ลิมฺปติ, วิสทิทฺธเมว กโรติ, เอวเมว ปาปมิตฺโต ปาปํ เสวมาโน อตฺตานํ เสวมานํ ปรํ, เตน สมฺผุฏฺโ ตํ สมฺผุสํ อลิตฺตํ ปาเปน ปุริสํ อตฺตนา เอกชฺฌาสยํ กโรนฺโต อุปลิมฺปติ. ปูติ วายนฺตีติ ตสฺส เต กุสาปิ ทุคฺคนฺธา วายนฺติ. ตครฺจาติ ตครฺจ อฺฺจ คนฺธสมฺปนฺนํ คนฺธชาตํ. เอวนฺติ เอวรูปา ธีรูปเสวนา. ธีโร หิ อตฺตานํ เสวมานํ ธีรเมว กโรติ.

ตสฺมา ปตฺตปุฏสฺเสวาติ ยสฺมา ตคราทิปลิเวมานานิ ปณฺณานิปิ สุคนฺธานิ โหนฺติ, ตสฺมา ปลาสปตฺตปุฏสฺเสว ปณฺฑิตูปเสวเนน อหมฺปิ ปณฺฑิโต ภวิสฺสามีติ เอวํ. ตฺวา สมฺปากมตฺตโนติ อตฺตโน ปริปากํ ปณฺฑิตภาวํ ปริมาณํ ตฺวา อสนฺเต ปหาย ปณฺฑิเต สนฺเต เสเวยฺย. ‘‘นิรยํ เนนฺตี’’ติ เอตฺถ เทวทตฺตาทีหิ นิรยํ, ‘‘ปาเปนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ เอตฺถ สาริปุตฺตตฺเถราทีหิ สุคตึ นีตานํ วเสน อุทาหรณานิ อาหริตพฺพานิ.

เอวํ ราชธีตา ฉหิ คาถาหิ ปิตุ ธมฺมํ กเถตฺวา อิทานิ อตีเต อตฺตนา อนุภูตํ ทุกฺขํ ทสฺเสนฺตี อาห –

๑๒๖๐.

‘‘อหมฺปิ ชาติโย สตฺต, สเร สํสริตตฺตโน;

อนาคตาปิ สตฺเตว, ยา คมิสฺสํ อิโต จุตา.

๑๒๖๑.

‘‘ยา เม สา สตฺตมี ชาติ, อหุ ปุพฺเพ ชนาธิป;

กมฺมารปุตฺโต มคเธสุ, อหุํ ราชคเห ปุเร.

๑๒๖๒.

‘‘ปาปํ สหายมาคมฺม, พหุํ ปาปํ กตํ มยา;

ปรทารสฺส เหเนฺโต, จริมฺหา อมรา วิย.

๑๒๖๓.

‘‘ตํ กมฺมํ นิหิตํ อฏฺา, ภสฺมจฺฉนฺโนว ปาวโก;

อถ อฺเหิ กมฺเมหิ, อชายึ วํสภูมิยํ.

๑๒๖๔.

‘‘โกสมฺพิยํ เสฏฺิกุเล, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน;

เอกปุตฺโต มหาราช, นิจฺจํ สกฺกตปูชิโต.

๑๒๖๕.

‘‘ตตฺถ มิตฺตํ อเสวิสฺสํ, สหายํ สาตเว รตํ;

ปณฺฑิตํ สุตสมฺปนฺนํ, โส มํ อตฺเถ นิเวสยิ.

๑๒๖๖.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, พหุํ รตฺตึ อุปาวสึ;

ตํ กมฺมํ นิหิตํ อฏฺา, นิธีว อุทกนฺติเก.

๑๒๖๗.

‘‘อถ ปาปาน กมฺมานํ, ยเมตํ มคเธ กตํ;

ผลํ ปริยาค มํ ปจฺฉา, ภุตฺวา ทุฏฺวิสํ ยถา.

๑๒๖๘.

‘‘ตโต จุตาหํ เวเทห, โรรุเว นิรเย จิรํ;

สกมฺมุนา อปจฺจิสฺสํ, ตํ สรํ น สุขํ ลเภ.

๑๒๖๙.

‘‘พหุวสฺสคเณ ตตฺถ, เขปยิตฺวา พหุํ ทุขํ;

ภินฺนาคเต อหุํ ราช, ฉคโล อุทฺธตปฺผโล’’ติ.

ตตฺถ สตฺตาติ มหาราช, อิธโลกปรโลกา นาม สุกตทุกฺกฏานฺจ ผลํ นาม อตฺถิ. น หิ สํสาโร สตฺเต โสเธตุํ สกฺโกติ, สกมฺมุนา เอว สตฺตา สุชฺฌนฺติ. อลาตเสนาปติ จ พีชกทาโส จ เอกเมว ชาตึ อนุสฺสรนฺติ. น เกวลํ เอเตว ชาตึ สรนฺติ, อหมฺปิ อตีเต สตฺต ชาติโย อตฺตโน สํสริตํ สรามิ, อนาคเตปิ อิโต คนฺตพฺพา สตฺเตว ชานามิ. ยา เม สาติ ยา สา มม อตีเต สตฺตมี ชาติ อาสิ. กมฺมารปุตฺโตติ ตาย ชาติยา อหํ มคเธสุ ราชคหนคเร สุวณฺณการปุตฺโต อโหสึ.

ปรทารสฺส เหเนฺโตติ ปรทารํ เหเนฺตา ปเรสํ รกฺขิตโคปิเต วรภณฺเฑ อปรชฺฌนฺตา. อฏฺาติ ตํ ตทา มยา กตํ ปาปกมฺมํ โอกาสํ อลภิตฺวา โอกาเส สติ วิปากทายกํ หุตฺวา ภสฺมปฏิจฺฉนฺโน อคฺคิ วิย นิหิตํ อฏฺาสิ. วํสภูมิยนฺติ วํสรฏฺเ. เอกปุตฺโตติ อสีติโกฏิวิภเว เสฏฺิกุเล อหํ เอกปุตฺตโกว อโหสึ. สาตเว รตนฺติ กลฺยาณกมฺเม อภิรตํ. โส มนฺติ โส สหายโก มํ อตฺเถ กุสลกมฺเม ปติฏฺาเปสิ.

ตํ กมฺมนฺติ ตมฺปิ เม กตํ กลฺยาณกมฺมํ ตทา โอกาสํ อลภิตฺวา โอกาเส สติ วิปากทายกํ หุตฺวา อุทกนฺติเก นิธิ วิย นิหิตํ อฏฺาสิ. ยเมตนฺติ อถ มม สนฺตเกสุ ปาปกมฺเมสุ ยํ เอตํ มยา มคเธสุ ปรทาริกกมฺมํ กตํ, ตสฺส ผลํ ปจฺฉา มํ ปริยาคํ อุปคตนฺติ อตฺโถ. ยถา กึ? ภุตฺวา ทุฏฺวิสํ ยถา, ยถา สวิสํ โภชนํ ภุฺชิตฺวา ิตสฺส ตํ ทุฏฺํ กกฺขฬํ หลาหลํ วิสํ กุปฺปติ, ตถา มํ ปริยาคตนฺติ อตฺโถ. ตโตติ ตโต โกสมฺพิยํ เสฏฺิกุลโต. ตํ สรนฺติ ตํ ตสฺมึ นิรเย อนุภูตทุกฺขํ สรนฺตี จิตฺตสุขํ นาม น ลภามิ, ภยเมว เม อุปฺปชฺชติ. ภินฺนาคเตติ ภินฺนาคเต นาม รฏฺเ. อุทฺธตปฺผโลติ อุทฺธตพีโช.

โส ปน ฉคลโก พลสมฺปนฺโน อโหสิ. ปิฏฺิยํ อภิรุยฺหปิ นํ วาหยึสุ, ยานเกปิ โยชยึสุ. อิมมตฺถํ ปกาเสนฺตี อาห –

๑๒๗๐.

‘‘สาตปุตฺตา มยา วูฬฺหา, ปิฏฺิยา จ รเถน จ;

ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺโท, ปรทารคมนสฺส เม’’ติ.

ตตฺถ สาตปุตฺตาติ อมจฺจปุตฺตา. ตสฺส กมฺมสฺสาติ เทว, โรรุเว มหานิรเย ปจฺจนฺจ ฉคลกกาเล พีชุปฺปาฏนฺจ ปิฏฺิวาหนยานกโยชนานิ จ สพฺโพเปส ตสฺส นิสฺสนฺโท ปรทารคมนสฺส เมติ.

ตโต ปน จวิตฺวา อรฺเ กปิโยนิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. อถ นํ ชาตทิวเส ยูถปติโน ทสฺเสสุํ. โส ‘‘อาเนถ เม, ปุตฺต’’นฺติ ทฬฺหํ คเหตฺวา ตสฺส วิรวนฺตสฺส ทนฺเตหิ ผลานิ อุปฺปาเฏสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺตี อาห –

๑๒๗๑.

‘‘ตโต จุตาหํ เวเทห, กปิ อาสึ พฺรหาวเน;

นิลุฺจิตผโลเยว, ยูถเปน ปคพฺภินา;

ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺโท, ปรทารคมนสฺส เม’’ติ.

ตตฺถ นิลุฺจิตผโลเยวาติ ตตฺรปาหํ ปคพฺเภน ยูถปตินา ลุฺจิตฺวา อุปฺปาฏิตผโลเยว อโหสินฺติ อตฺโถ.

อถ อปราปิ ชาติโย ทสฺเสนฺตี อาห –

๑๒๗๒.

‘‘ตโต จุตาหํ เวเทห, ทสฺสเนสุ ปสู อหุํ;

นิลุฺจิโต ชโว ภทฺโร, โยคฺคํ วูฬฺหํ จิรํ มยา;

ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺโท, ปรทารคมนสฺส เม.

๑๒๗๓.

‘‘ตโต จุตาหํ เวเทห, วชฺชีสุ กุลมาคมา;

เนวิตฺถี น ปุมา อาสึ, มนุสฺสตฺเต สุทุลฺลเภ;

ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺโท, ปรทารคมนสฺส เม.

๑๒๗๔.

‘‘ตโต จุตาหํ เวเทห, อชายึ นนฺทเน วเน;

ภวเน ตาวตึสาหํ, อจฺฉรา กามวณฺณินี.

๑๒๗๕.

‘‘วิจิตฺรวตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

กุสลา นจฺจคีตสฺส, สกฺกสฺส ปริจาริกา.

๑๒๗๖.

‘‘ตตฺถ ิตาหํ เวเทห, สรามิ ชาติโย อิมา;

อนาคตาปิ สตฺเตว, ยา คมิสฺสํ อิโต จุตา.

๑๒๗๗.

‘‘ปริยาคตํ ตํ กุสลํ, ยํ เม โกสมฺพิยํ กตํ;

เทเว เจว มนุสฺเส จ, สนฺธาวิสฺสํ อิโต จุตา.

๑๒๗๘.

‘‘สตฺต ชจฺโจ มหาราช, นิจฺจํ สกฺกตปูชิตา;

ถีภาวาปิ น มุจฺจิสฺสํ, ฉฏฺา นิคติโย อิมา.

๑๒๗๙.

‘‘สตฺตมี จ คติ เทว, เทวปุตฺโต มหิทฺธิโก;

ปุมา เทโว ภวิสฺสามิ, เทวกายสฺมิมุตฺตโม.

๑๒๘๐.

‘‘อชฺชาปิ สนฺตานมยํ, มาลํ คนฺเถนฺติ นนฺทเน;

เทวปุตฺโต ชโว นาม, โย เม มาลํ ปฏิจฺฉติ.

๑๒๘๑.

‘‘มุหุตฺโต วิย โส ทิพฺโย, อิธ วสฺสานิ โสฬส;

รตฺตินฺทิโว จ โส ทิพฺโย, มานุสึ สรโทสตํ.

๑๒๘๒.

‘‘อิติ กมฺมานิ อนฺเวนฺติ, อสงฺเขยฺยาปิ ชาติโย;

กลฺยาณํ ยทิ วา ปาปํ, น หิ กมฺมํ วินสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ทสฺสเนสูติ ทสฺสนรฏฺเสุ. ปสูติ โคโณ อโหสึ. นิลุฺจิโตติ วจฺฉกาเลเยว มํ เอวํ มนาโป ภวิสฺสตีติ นิพฺพีชกมกํสุ. โสหํ นิลุฺจิโต อุทฺธตพีโช ชโว ภทฺโร อโหสึ. วชฺชีสุ กุลมาคมาติ โคโยนิโต จวิตฺวา วชฺชิรฏฺเ เอกสฺมึ มหาโภคกุเล นิพฺพตฺตินฺติ ทสฺเสติ. เนวิตฺถี น ปุมาติ นปุํสกตฺตํ สนฺธาย อาห. ภวเน ตาวตึสาหนฺติ ตาวตึสภวเน อหํ.

ตตฺถ ิตาหํ, เวเทห, สรามิ ชาติโย อิมาติ สา กิร ตสฺมึ เทวโลเก ิตา ‘‘อหํ เอวรูปํ เทวโลกํ อาคจฺฉนฺตี กุโต นุ โข อาคตา’’ติ โอโลเกนฺตี วชฺชิรฏฺเ มหาโภคกุเล นปุํสกตฺตภาวโต จวิตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺตภาวํ ปสฺสิ. ตโต ‘‘เกน นุ โข กมฺเมน เอวรูเป รมณีเย าเน นิพฺพตฺตามฺหี’’ติ โอโลเกนฺตี โกสมฺพิยํ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา กตํ ทานาทิกุสลํ ทิสฺวา ‘‘เอตสฺส ผเลน นิพฺพตฺตามฺหี’’ติ ตฺวา ‘‘อนนฺตราตีเต นปุํสกตฺตภาเว นิพฺพตฺตมานา กุโต อาคตามฺหี’’ติ โอโลเกนฺตี ทสฺสนรฏฺเสุ โคโยนิยํ มหาทุกฺขสฺส อนุภูตภาวํ อฺาสิ. ตโต อนนฺตรํ ชาตึ อนุสฺสรมานา วานรโยนิยํ อุทฺธตผลภาวํ อทฺทส. ตโต อนนฺตรํ อนุสฺสรนฺตี ภินฺนาคเต ฉคลกโยนิยํ อุทฺธตพีชภาวํ อนุสฺสริ. ตโต ปรํ อนุสฺสรมานา โรรุเว นิพฺพตฺตภาวํ อนุสฺสริ.

อถสฺสา นิรเย ติรจฺฉานโยนิยฺจ อนุภูตํ ทุกฺขํ อนุสฺสรนฺติยา ภยํ อุปฺปชฺชิ. ตโต ‘‘เกน นุ โข กมฺเมน เอวรูปํ ทุกฺขํ อนุภูตํ มยา’’ติ ฉฏฺํ ชาตึ โอโลเกนฺตี ตาย ชาติยา โกสมฺพินคเร กตํ กลฺยาณกมฺมํ ทิสฺวา สตฺตมํ โอโลเกนฺตี มคธรฏฺเ ปาปสหายํ นิสฺสาย กตํ ปรทาริกกมฺมํ ทิสฺวา ‘‘เอตสฺส ผเลน เม ตํ มหาทุกฺขํ อนุภูต’’นฺติ อฺาสิ. อถ ‘‘อิโต จวิตฺวา อนาคเต กุหึ นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ โอโลเกนฺตี ‘‘ยาวตายุกํ ตฺวา ปุน สกฺกสฺเสว ปริจาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ อฺาสิ. เอวํ ปุนปฺปุนํ โอโลกยมานา ‘‘ตติเยปิ อตฺตภาเว สกฺกสฺเสว ปริจาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสามิ, ตถา จตุตฺเถ, ปฺจเม ปน ตสฺมึเยว เทวโลเก ชวนเทวปุตฺตสฺส อคฺคมเหสี หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ ตฺวา ตโต อนนฺตรํ โอโลเกนฺตี ‘‘ฉฏฺเ อตฺตภาเว อิโต ตาวตึสภวนโต จวิตฺวา องฺคติรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติสฺสามิ, ‘รุจา’ติ เม นามํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘ตโต อนนฺตรา กุหึ นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ โอโลเกนฺตี ‘‘สตฺตมาย ชาติยา ตโต จวิตฺวา ตาวตึสภวเน มหิทฺธิโก เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสามิ, อิตฺถิภาวโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ อฺาสิ. ตสฺมา –

‘‘ตตฺถ ิตาหํ เวเทห, สรามิ สตฺต ชาติโย;

อนาคตาปิ สตฺเตว, ยา คมิสฺสํ อิโต จุตา’’ติ. – อาทิมาห;

ตตฺถ ปริยาคตนฺติ ปริยาเยน อตฺตโน วาเรน อาคตํ. สตฺต ชจฺโจติ วชฺชิรฏฺเ นปุํสกชาติยา สทฺธึ เทวโลเก ปฺจ, อยฺจ ฉฏฺาติ สตฺต ชาติโยติ วุจฺจนฺติ. เอตา สตฺต ชาติโย นิจฺจํ สกฺกตปูชิตา อโหสินฺติ ทสฺเสติ. ฉฏฺา นิคติโยติ เทวโลเก ปน ปฺจ, อยฺจ เอกาติ อิมา ฉ คติโย อิตฺถิภาวาน มุจฺจิสฺสนฺติ วทติ. สตฺตมี จาติ อิโต จวิตฺวา อนนฺตรํ. สนฺตานมยนฺติ เอกโตวณฺฏกาทิวเสน กตสนฺตานํ. คนฺเถนฺตีติ ยถา สนฺตานมยา โหนฺติ, เอวํ อชฺชปิ มม ปริจาริกา นนฺทนวเน มาลํ คนฺเถนฺติเยว. โย เม มาลํ ปฏิจฺฉตีติ มหาราช, อนนฺตรชาติยํ มม สามิโก ชโว นาม เทวปุตฺโต โย รุกฺขโต ปติตปติตํ มาลํ ปฏิจฺฉติ.

โสฬสาติ มหาราช, มม ชาติยา อิมานิ โสฬส วสฺสานิ, เอตฺตโก ปน กาโล เทวานํ เอโก มุหุตฺโต, เตน ตา มม จุตภาวมฺปิ อชานนฺตา มมตฺถาย มาลํ คนฺเถนฺติเยว. มานุสินฺติ มนุสฺสานํ วสฺสคณนํ อาคมฺม เอส สรโทสตํ วสฺสสตํ โหติ, เอวํ ทีฆายุกา เทวา. อิมินา ปน การเณน ปรโลกสฺส จ กลฺยาณปาปกานฺจ กมฺมานํ อตฺถิตํ ชานาหิ, เทวาติ.

อนฺเวนฺตีติ ยถา มํ อนุพนฺธึสุ, เอวํ อนุพนฺธนฺติ. น หิ กมฺมํ วินสฺสตีติ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ตสฺมึเยว อตฺตภาเว, อุปปชฺชเวทนียํ อนนฺตรภเว วิปากํ เทติ, อปราปริยเวทนียํ ปน วิปากํ อทตฺวา น นสฺสติ. ตํ สนฺธาย ‘‘น หิ กมฺมํ วินสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘เทว, อหํ ปรทาริกกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน นิรเย จ ติรจฺฉานโยนิยฺจ มหนฺตํ ทุกฺขํ อนุภวึ. สเจ ปน ตุมฺเหปิ อิทานิ คุณสฺส กถํ คเหตฺวา เอวํ กริสฺสถ, มยา อนุภูตสทิสเมว ทุกฺขํ อนุภวิสฺสถ, ตสฺมา เอวํ มา กริตฺถา’’ติ อาห.

อถสฺส อุตฺตริ ธมฺมํ เทเสนฺตี อาห –

๑๒๘๓.

‘‘โย อิจฺเฉ ปุริโส โหตุํ, ชาตึ ชาตึ ปุนปฺปุนํ;

ปรทารํ วิวชฺเชยฺย, โธตปาโทว กทฺทมํ.

๑๒๘๔.

‘‘ยา อิจฺเฉ ปุริโส โหตุํ, ชาตึ ชาตึ ปุนปฺปุนํ;

สามิกํ อปจาเยยฺย, อินฺทํว ปริจาริกา.

๑๒๘๕.

‘‘โย อิจฺเฉ ทิพฺยโภคฺจ, ทิพฺพมายุํ ยสํ สุขํ;

ปาปานิ ปริวชฺเชตฺวา, ติวิธํ ธมฺมมาจเร.

๑๒๘๖.

‘‘กาเยน วาจา มนสา, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ;

อตฺตโน โหติ อตฺถาย, อิตฺถี วา ยทิ วา ปุมา.

๑๒๘๗.

‘‘เย เกจิเม มานุชา ชีวโลเก, ยสสฺสิโน สพฺพสมนฺตโภคา;

อสํสยํ เตหิ ปุเร สุจิณฺณํ, กมฺมสฺสกาเส ปุถุ สพฺพสตฺตา.

๑๒๘๘.

‘‘อิงฺฆานุจินฺเตสิ สยมฺปิ เทว, กุโตนิทานา เต อิมา ชนินฺท;

ยา เต อิมา อจฺฉราสนฺนิกาสา, อลงฺกตา กฺจนชาลฉนฺนา’’ติ.

ตตฺถ โหตุนฺติ ภวิตุํ. สพฺพสมนฺตโภคาติ ปริปุณฺณสพฺพโภคา. สุจิณฺณนฺติ สุฏฺุ จิณฺณํ กลฺยาณกมฺมํ กตํ. กมฺมสฺสกาเสติ กมฺมสฺสกา อตฺตนา กตกมฺมสฺเสว วิปากปฏิสํเวทิโน. น หิ มาตาปิตูหิ กตํ กมฺมํ ปุตฺตธีตานํ วิปากํ เทติ, น ตาหิ ปุตฺตธีตาหิ กตํ กมฺมํ มาตาปิตูนํ วิปากํ เทติ. เสเสหิ กตํ เสสานํ กิเมว ทสฺสติ? อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. อนุจินฺเตสีติ ปุนปฺปุนํ จินฺเตยฺยาสิ. ยา เต อิมาติ ยา อิมา โสฬสสหสฺสา อิตฺถิโย ตํ อุปฏฺหนฺติ, อิมา เต กุโตนิทานา, กึ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน ลทฺธา, อุทาหุ ปนฺถทูสนสนฺธิจฺเฉทาทีนิ ปาปานิ กตฺวา, อทุ กลฺยาณกมฺมํ นิสฺสาย ลทฺธาติ อิทํ ตาว อตฺตนาปิ จินฺเตยฺยาสิ, เทวาติ.

เอวํ สา ปิตรํ อนุสาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๘๙.

‘‘อิจฺเจวํ ปิตรํ กฺา, รุจา โตเสสิ องฺคตึ;

มูฬฺหสฺส มคฺคมาจิกฺขิ, ธมฺมมกฺขาสิ สุพฺพตา’’ติ.

ตตฺถ อิจฺเจวนฺติ ภิกฺขเว, อิติ อิเมหิ เอวรูเปหิ มธุเรหิ วจเนหิ รุจากฺา ปิตรํ โตเสสิ, มูฬฺหสฺส มคฺคํ วิย ตสฺส สุคติมคฺคํ อาจิกฺขิ, นานานเยหิ สุจริตธมฺมํ อกฺขาสิ. ธมฺมํ กเถนฺตีเยว สา สุพฺพตา สุนฺทรวตา อตฺตโน อตีตชาติโยปิ กเถสิ.

เอวํ ปุพฺพณฺหโต ปฏฺาย สพฺพรตฺตึ ปิตุ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘มา, เทว, นคฺคสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส วจนํ คณฺหิ, ‘อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปรโลโก, อตฺถิ สุกฏทุกฺกฏกมฺมานํ ผล’นฺติ วทนฺตสฺส มาทิสสฺส กลฺยาณมิตฺตสฺส วจนํ คณฺห, มา อติตฺเถน ปกฺขนฺที’’ติ อาห. เอวํ สนฺเตปิ ปิตรํ มิจฺฉาทสฺสนา โมเจตุํ นาสกฺขิ. โส หิ เกวลํ ตสฺสา มธุรวจนํ สุตฺวา ตุสฺสิ. มาตาปิตโร หิ ปิยปุตฺตานํ วจนํ ปิยายนฺติ, น ปน ตํ มิจฺฉาทสฺสนํ วิสฺสชฺเชสิ. นคเรปิ ‘‘รุจา กิร ราชธีตา ปิตุ ธมฺมํ เทเสตฺวา มิจฺฉาทสฺสนํ วิสฺสชฺชาเปสี’’ติ เอกโกลาหลํ อโหสิ. ‘‘ปณฺฑิตา ราชธีตา อชฺช ปิตรํ มิจฺฉาทสฺสนา โมเจตฺวา นครวาสีนํ โสตฺถิภาวํ กริสฺสตี’’ติ มหาชโน ตุสฺสิ. สา ปิตรํ โพเธตุํ อสกฺโกนฺตี วีริยํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว ‘‘เยน เกนจิ อุปาเยน ปิตุ โสตฺถิภาวํ กริสฺสามี’’ติ สิรสฺมึ อฺชลึ ปติฏฺเปตฺวา ทสทิสา นมสฺสิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โลเก โลกสนฺธารกา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา นาม โลกปาลเทวตา นาม มหาพฺรหฺมาโน นาม อตฺถิ, เต อิธาคนฺตฺวา อตฺตโน พเลน มม ปิตรํ มิจฺฉาทสฺสนํ วิสฺสชฺชาเปนฺตุ, เอตสฺส คุเณ อสติปิ มม คุเณน มม สีเลน มม สจฺเจน อิธาคนฺตฺวา อิมํ มิจฺฉาทสฺสนํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา สกลโลกสฺส โสตฺถึ กโรนฺตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา นมสฺสิ.

ตทา โพธิสตฺโต นารโท นาม มหาพฺรหฺมา อโหสิ. โพธิสตฺตา จ นาม อตฺตโน เมตฺตาภาวนาย อนุทฺทยาย มหนฺตภาเวน สุปฺปฏิปนฺนทุปฺปฏิปนฺเน สตฺเต ทสฺสนตฺถํ กาลานุกาลํ โลกํ โอโลเกนฺติ. โส ตํ ทิวสํ โลกํ โอโลเกนฺโต ตํ ราชธีตรํ ปิตุ มิจฺฉาทิฏฺิโมจนตฺถํ โลกสนฺธารกเทวตาโย นมสฺสมานํ ทิสฺวา, ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ เอตํ ราชานํ มิจฺฉาทสฺสนํ วิสฺสชฺชาเปตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อชฺช มยา ราชธีตุ สงฺคหํ, รฺโ จ สปริชนสฺส โสตฺถิภาวํ กตฺวา อาคนฺตุํ วฏฺฏติ, เกน นุ โข เวเสน คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มนุสฺสานํ ปพฺพชิตา ปิยา เจว ครุโน จ อาเทยฺยวจนา จ, ตสฺมา ปพฺพชิตเวเสน คมิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ปาสาทิกํ สุวณฺณวณฺณํ มนุสฺสตฺตภาวํ มาเปตฺวา มนุฺํ ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา ชฏนฺตเร กฺจนสูจึ โอทหิตฺวา อนฺโต รตฺตปฏํ อุปริ รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา สุวณฺณตาราขจิตํ รชตมยํ อชินจมฺมํ เอกํเส กตฺวา มุตฺตาสิกฺกาย ปกฺขิตฺตํ สุวณฺณมยํ ภิกฺขาภาชนํ อาทาย ตีสุ าเนสุ โอนตํ สุวณฺณกาชํ ขนฺเธ กตฺวา มุตฺตาสิกฺกาย เอว ปวาฬกมณฺฑลุํ อาทาย อิมินา อิสิเวเสน คคนตเล จนฺโท วิย วิโรจมาโน อากาเสน อาคนฺตฺวา อลงฺกตจนฺทกปาสาทมหาตลํ ปวิสิตฺวา รฺโ ปุรโต อากาเส อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๙๐.

‘‘อถาคมา พฺรหฺมโลกา, นารโท มานุสึ ปชํ;

ชมฺพุทีปํ อเวกฺขนฺโต, อทฺทา ราชานมงฺคตึ.

๑๒๙๑.

‘‘ตโต ปติฏฺา ปาสาเท, เวเทหสฺส ปุรตฺถโต;

ตฺจ ทิสฺวานานุปฺปตฺตํ, รุจา อิสิมวนฺทถา’’ติ.

ตตฺถ อทฺทาติ พฺรหฺมโลเก ิโตว ชมฺพุทีปํ อเวกฺขนฺโต คุณาชีวกสฺส สนฺติเก คหิตมิจฺฉาทสฺสนํ ราชานํ องฺคตึ อทฺทส, ตสฺมา อาคโตติ อตฺโถ. ตโต ปติฏฺาติ ตโต โส พฺรหฺมา ตสฺส รฺโ อมจฺจคณปริวุตสฺส นิสินฺนสฺส ปุรโต ตสฺมึ ปาสาเท อปเท ปทํ ทสฺเสนฺโต อากาเส ปติฏฺหิ. อนุปฺปตฺตนฺติ อาคตํ. อิสินฺติ อิสิเวเสน อาคตตฺตา สตฺถา ‘‘อิสิ’’นฺติ อาห. อวนฺทถาติ ‘‘มมานุคฺคเหน มม ปิตริ การุฺํ กตฺวา เอโก เทวราชา อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ หฏฺปหฏฺา วาตาภิหฏา สุวณฺณกทลี วิย โอนมิตฺวา นารทพฺรหฺมานํ อวนฺทิ.

ราชาปิ ตํ ทิสฺวาว พฺรหฺมเตเชน ตชฺชิโต อตฺตโน อาสเน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อาสนา โอรุยฺห ภูมิยํ ตฺวา อาคตฏฺานฺจ นามโคตฺตฺจ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๙๒.

‘‘อถาสนมฺหา โอรุยฺห, ราชา พฺยถิตมานโส;

นารทํ ปริปุจฺฉนฺโต, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๑๒๙๓.

‘กุโต นุ อาคจฺฉสิ เทววณฺณิ, โอภาสยํ สพฺพทิสา จนฺทิมาว;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ, กถํ ตํ ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’’ติ.

ตตฺถ พฺยถิตมานโสติ ภีตจิตฺโต. กุโต นูติ กจฺจิ นุ โข วิชฺชาธโร ภเวยฺยาติ มฺมาโน อวนฺทิตฺวาว เอวํ ปุจฺฉิ.

อถ โส ‘‘อยํ ราชา ‘ปรโลโก นตฺถี’ติ มฺติ, ปรโลกเมวสฺส ตาว อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๒๙๔.

‘‘อหฺหิ เทวโต อิทานิ เอมิ, โอภาสยํ สพฺพทิสา จนฺทิมาว;

อกฺขามิ เต ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ, ชานนฺติ มํ นารโท กสฺสโป จา’’ติ.

ตตฺถ เทวโตติ เทวโลกโต. นารโท กสฺสโป จาติ มํ นาเมน นารโท, โคตฺเตน กสฺสโปติ ชานนฺติ.

อถ ราชา ‘‘อิมํ ปจฺฉาปิ ปรโลกํ ปุจฺฉิสฺสามิ, อิทฺธิยา ลทฺธการณํ ตาว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๒๙๕.

‘‘อจฺเฉรรูปํ ตว ยาทิสฺจ, เวหายสํ คจฺฉสิ ติฏฺสี จ;

ปุจฺฉามิ ตํ นารท เอตมตฺถํ, อถ เกน วณฺเณน ตวายมิทฺธี’’ติ.

ตตฺถ ยาทิสฺจาติ ยาทิสฺจ ตว สณฺานํ, ยฺจ ตฺวํ อากาเส คจฺฉสิ ติฏฺสิ จ, อิทํ อจฺฉริยชาตํ.

นารโท อาห –

๑๒๙๖.

‘‘สจฺจฺจ ธมฺโม จ ทโม จ จาโค, คุณา มเมเต ปกตา ปุราณา;

เตเหว ธมฺเมหิ สุเสวิเตหิ, มโนชโล เยน กามํ คโตสฺมี’’ติ.

ตตฺถ สจฺจนฺติ มุสาวาทวิรหิตํ วจีสจฺจํ. ธมฺโมติ ติวิธสุจริตธมฺโม เจว กสิณปริกมฺมฌานธมฺโม จ. ทโมติ อินฺทฺริยทมนํ. จาโคติ กิเลสปริจฺจาโค จ เทยฺยธมฺมปริจฺจาโค จ. มเมเต คุณาติ มม เอเต คุณสมฺปยุตฺตา คุณสหคตา. ปกตา ปุราณาติ มยา ปุริมภเว กตาติ ทสฺเสติ. ‘‘เตเหว ธมฺเมหิ สุเสวิเตหี’’ติ เต สพฺเพ คุเณ สุเสวิเต ปริจาริเต ทสฺเสติ. มโนชโวติ อิทฺธิยา การเณน ปฏิลทฺโธ. เยน กามํ คโตสฺมีติ เยน เทวฏฺาเน จ มนุสฺสฏฺาเน จ คนฺตุํ อิจฺฉนํ, เตน คโตสฺมีติ อตฺโถ.

ราชา เอวํ ตสฺมึ กเถนฺเตปิ มิจฺฉาทสฺสนสฺส คหิตตฺตา ปรโลกํ อสทฺทหนฺโต ‘‘อตฺถิ นุ โข ปุฺวิปาโก’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๑๒๙๗.

‘‘อจฺเฉรมาจิกฺขสิ ปุฺสิทฺธึ, สเจ หิ เอเตหิ ยถา วเทสิ;

ปุจฺฉามิ ตํ นารท เอตมตฺถํ, ปุฏฺโ จ เม สาธุ วิยากโรหี’’ติ.

ตตฺถ ปุฺสิทฺธินฺติ ปุฺานํ สิทฺธึ ผลทายกตฺตํ อาจิกฺขนฺโต อจฺฉริยํ อาจิกฺขสิ.

นารโท อาห –

๑๒๙๘.

‘‘ปุจฺฉสฺสุ มํ ราช ตเวส อตฺโถ, ยํ สํสยํ กุรุเส ภูมิปาล;

อหํ ตํ นิสฺสํสยตํ คเมมิ, นเยหิ าเยหิ จ เหตุภี จา’’ติ.

ตตฺถ ตเวส อตฺโถติ ปุจฺฉิตพฺพโก นาม ตว เอส อตฺโถ. ยํ สํสยนฺติ ยํ กิสฺมิฺจิเทว อตฺเถ สํสยํ กโรสิ, ตํ มํ ปุจฺฉ. นิสฺสํสยตนฺติ อหํ ตํ นิสฺสํสยภาวํ คเมมิ. นเยหีติ การณวจเนหิ. าเยหีติ าเณหิ. เหตุภีติ ปจฺจเยหิ, ปฏิฺามตฺเตเนว อวตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา การณวจเนน จ เตสํ ธมฺมานํ สมุฏฺาปกปจฺจเยหิ จ ตํ นิสฺสํสยํ กริสฺสามีติ อตฺโถ.

ราชา อาห –

๑๒๙๙.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ นารท เอตมตฺถํ, ปุฏฺโ จ เม นารท มา มุสา ภณิ;

อตฺถิ นุ เทวา ปิตโร นุ อตฺถิ, โลโก ปโร อตฺถิ ชโน ยมาหู’’ติ.

ตตฺถ ชโน ยมาหูติ ยํ ชโน เอวมาห – ‘‘อตฺถิ เทวา, อตฺถิ ปิตโร, อตฺถิ ปโร โลโก’’ติ, ตํ สพฺพํ อตฺถิ นุ โขติ ปุจฺฉติ.

นารโท อาห –

๑๓๐๐.

‘‘อตฺเถว เทวา ปิตโร จ อตฺถิ, โลโก ปโร อตฺถิ ชโน ยมาหุ;

กาเมสุ คิทฺธา จ นรา ปมูฬฺหา, โลกํ ปรํ น วิทู โมหยุตฺตา’’ติ.

ตตฺถ อตฺเถว เทวาติ มหาราช, เทวา จ ปิตโร จ อตฺถิ, ยมฺปิ ชโน ปรโลกมาห, โสปิ อตฺเถว. น วิทูติ กามคิทฺธา ปน โมหมูฬฺหา ชนา ปรโลกํ น วิทนฺติ น ชานนฺตีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ปริหาสํ กโรนฺโต เอวมาห –

๑๓๐๑.

‘‘อตฺถีติ เจ นารท สทฺทหาสิ, นิเวสนํ ปรโลเก มตานํ;

อิเธว เม ปฺจ สตานิ เทหิ, ทสฺสามิ เต ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ นิเวสนนฺติ นิวาสฏฺานํ. ปฺจ สตานีติ ปฺจ กหาปณสตานิ.

อถ นํ มหาสตฺโต ปริสมชฺเฌเยว ครหนฺโต อาห –

๑๓๐๒.

‘‘ทชฺเชมุ โข ปฺจ สตานิ โภโต, ชฺามุ เจ สีลวนฺตํ วทฺุํ;

ลุทฺทํ ตํ โภนฺตํ นิรเย วสนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺสํ.

๑๓๐๓.

‘‘อิเธว โย โหติ อธมฺมสีโล, ปาปาจาโร อลโส ลุทฺทกมฺโม;

น ปณฺฑิตา ตสฺมึ อิณํ ททนฺติ, น หิ อาคโม โหติ ตถาวิธมฺหา.

๑๓๐๔.

‘‘ทกฺขฺจ โปสํ มนุชา วิทิตฺวา, อุฏฺานกํ สีลวนฺตํ วทฺุํ;

สยเมว โภเคหิ นิมนฺตยนฺติ, กมฺมํ กริตฺวา ปุน มาหเรสี’’ติ.

ตตฺถ ชฺามุ เจติ ยทิ มยํ ภวนฺตํ ‘‘สีลวา เอส วทฺู, ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ อิมสฺมึ กาเล อิมินา นามตฺโถติ ชานิตฺวา ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส การโก วทฺู’’ติ ชาเนยฺยาม. อถ เต วฑฺฒิยา ปฺจ สตานิ ทเทยฺยาม, ตฺวํ ปน ลุทฺโท สาหสิโก มิจฺฉาทสฺสนํ คเหตฺวา ทานสาลํ วิทฺธํเสตฺวา ปรทาเรสุ อปรชฺฌสิ, อิโต จุโต นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, เอวํ ลุทฺทํ ตํ นิรเย วสนฺตํ โภนฺตํ ตตฺถ คนฺตฺวา โก ‘‘สหสฺสํ เม เทหี’’ติ โจเทสฺสติ. ตถาวิธมฺหาติ ตาทิสา ปุริสา ทินฺนสฺส อิณสฺส ปุน อาคโม นาม น โหติ. ทกฺขนฺติ ธนุปฺปาทนกุสลํ. ปุน มาหเรสีติ อตฺตโน กมฺมํ กริตฺวา ธนํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน อมฺหากํ สนฺตกํ อาหเรยฺยาสิ, มา นิกฺกมฺโม วสีติ สยเมว โภเคหิ นิมนฺตยนฺตีติ.

อิติ ราชา เตน นิคฺคยฺหมาโน อปฺปฏิภาโน อโหสิ. มหาชโน หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา ‘‘มหิทฺธิโก เทโวปิ อชฺช ราชานํ มิจฺฉาทสฺสนํ วิสฺสชฺชาเปสฺสตี’’ติ สกลนครํ เอกโกลาหลํ อโหสิ. มหาสตฺตสฺสานุภาเวน ตทา สตฺตโยชนิกาย มิถิลาย ตสฺส ธมฺมเทสนํ อสฺสุณนฺโต นาม นาโหสิ. อถ มหาสตฺโต ‘‘อยํ ราชา อติวิย ทฬฺหํ มิจฺฉาทสฺสนํ คณฺหิ, นิรยภเยน นํ สนฺตชฺเชตฺวา มิจฺฉาทิฏฺึ วิสฺสชฺชาเปตฺวา ปุน เทวโลเกน อสฺสาเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, สเจ ทิฏฺึ น วิสฺสชฺเชสฺสสิ, เอวํ อนนฺตทุกฺขํ นิรยํ คมิสฺสสี’’ติ วตฺวา นิรยกถํ ปฏฺเปสิ –

๑๓๐๕.

‘‘อิโต จุโต ทกฺขสิ ตตฺถ ราช, กาโกลสงฺเฆหิ วิกสฺสมานํ;

ตํ ขชฺชมานํ นิรเย วสนฺตํ, กาเกหิ คิชฺเฌหิ จ เสนเกหิ;

สฺฉินฺนคตฺตํ รุหิรํ สวนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ กาโกลสงฺเฆหีติ โลหตุณฺเฑหิ กากสงฺเฆหิ. วิกสฺสมานนฺติ อตฺตานํ อากฑฺฒิยมานํ ตตฺถ นิรเย ปสฺสิสฺสสิ. นฺติ ตํ ภวนฺตํ.

ตํ ปน กาโกลนิรยํ วณฺเณตฺวา ‘‘สเจปิ เอตฺถ น นิพฺพตฺติสฺสสิ, โลกนฺตรนิรเย นิพฺพตฺติสฺสสี’’ติ วตฺวา ตํ นิรยํ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๑๓๐๖.

‘‘อนฺธํตมํ ตตฺถ น จนฺทสูริยา, นิรโย สทา ตุมุโล โฆรรูโป;

สา เนว รตฺตี น ทิวา ปฺายติ, ตถาวิเธ โก วิจเร ธนตฺถิโก’’ติ.

ตตฺถ อนฺธํ ตมนฺติ มหาราช, ยมฺหิ โลกนฺตรนิรเย มิจฺฉาทิฏฺิกา นิพฺพตฺตนฺติ, ตตฺถ จกฺขุวิฺาณสฺส อุปฺปตฺตินิวารณํ อนฺธตมํ. สทา ตุมุโลติ โส นิรโย นิจฺจํ พหลนฺธกาโร. โฆรรูโปติ ภีสนกชาติโก. สา เนว รตฺตีติ ยา อิธ รตฺติ ทิวา จ, สา เนว ตตฺถ ปฺายติ. โก วิจเรติ โก อุทฺธารํ โสเธนฺโต วิจริสฺสติ.

ตมฺปิสฺส โลกนฺตรนิรยํ วิตฺถาเรน วณฺเณตฺวา ‘‘มหาราช, มิจฺฉาทิฏฺึ อวิสฺสชฺเชนฺโต น เกวลํ เอตเทว, อฺมฺปิ ทุกฺขํ อนุภวิสฺสสี’’ติ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๑๓๐๗.

‘‘สพโล จ สาโม จ ทุเว สุวานา, ปวทฺธกายา พลิโน มหนฺตา;

ขาทนฺติ ทนฺเตหิ อโยมเยหิ, อิโต ปณุนฺนํ ปรโลกปตฺต’’นฺติ.

ตตฺถ อิโต ปณุนฺนนฺติ อิมมฺหา มนุสฺสโลกา จุตํ. ปรโต นิรเยสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา สพฺพานิ ตานิ นิรยฏฺานานิ นิรยปาลานํ อุปกฺกเมหิ สทฺธึ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตฺวา ตาสํ ตาสํ คาถานํ อนุตฺตานานิ ปทานิ วณฺเณตพฺพานิ.

๑๓๐๘.

‘‘ตํ ขชฺชมานํ นิรเย วสนฺตํ, ลุทฺเทหิ วาเฬหิ อฆมฺมิเคหิ จ;

สฺฉินฺนคตฺตํ รุหิรํ สวนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ ลุทฺเทหีติ ทารุเณหิ. วาเฬหีติ ทุฏฺเหิ. อฆมฺมิเคหีติ อฆาวเหหิ มิเคหิ, ทุกฺขาวเหหิ สุนเขหีติ อตฺโถ.

๑๓๐๙.

‘‘อุสูหิ สตฺตีหิ จ สุนิสิตาหิ, หนนฺติ วิชฺฌนฺติ จ ปจฺจมิตฺตา;

กาฬูปกาฬา นิรยมฺหิ โฆเร, ปุพฺเพ นรํ ทุกฺกฏกมฺมการิ’’นฺติ.

ตตฺถ หนนฺติ วิชฺฌนฺติ จาติ ชลิตาย อยปถวิยํ ปาเตตฺวา สกลสรีรํ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กโรนฺตา ปหรนฺติ เจว วิชฺฌนฺติ จ. กาฬูปกาฬาติ เอวํนามกา นิรยปาลา. นิรยมฺหีติ ตสฺมึ เตสฺเว วเสน กาฬูปกาฬสงฺขาเต นิรเย. ทุกฺกฏกมฺมการินฺติ มิจฺฉาทิฏฺิวเสน ทุกฺกฏานํ กมฺมานํ การกํ.

๑๓๑๐.

‘‘ตํ หฺมานํ นิรเย วชนฺตํ, กุจฺฉิสฺมึ ปสฺสสฺมึ วิปฺผาลิตูทรํ;

สฺฉินฺนคตฺตํ รุหิรํ สวนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ นฺติ ตํ ภวนฺตํ ตตฺถ นิรเย ตถา หฺมานํ. วชนฺตนฺติ อิโต จิโต จ ธาวนฺตํ. กุจฺฉิสฺมินฺติ กุจฺฉิยฺจ ปสฺเส จ หฺมานํ วิชฺฌิยมานนฺติ อตฺโถ.

๑๓๑๑.

‘‘สตฺตี อุสู โตมรภิณฺฑิวาลา, วิวิธาวุธา วสฺสนฺติ ตตฺถ เทวา;

ปตนฺติ องฺคารมิวจฺจิมนฺโต, สิลาสนี วสฺสติ ลุทฺทกมฺเมติ.

ตตฺถ องฺคารมิวจฺจิมนฺโตติ ชลิตองฺคารา วิย อจฺจิมนฺตา อาวุธวิเสสา ปตนฺติ. สิลาสนีติ ชลิตสิลาสนิ. วสฺสติ ลุทฺทกมฺเมติ ยถา นาม เทเว วสฺสนฺเต อสนิ ปตติ, เอวเมว อากาเส สมุฏฺาย จิจฺจิฏายมานํ ชลิตสิลาวสฺสํ เตสํ ลุทฺทกมฺมานํ อุปริ ปตติ.

๑๓๑๒.

‘‘อุณฺโห จ วาโต นิรยมฺหิ ทุสฺสโห, น ตมฺหิ สุขํ ลพฺภติ อิตฺตรมฺปิ;

ตํ ตํ วิธาวนฺตมเลนมาตุรํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ อิตฺตรมฺปีติ ปริตฺตกมฺปิ. วิธาวนฺตนฺติ วิวิธา ธาวนฺตํ.

๑๓๑๓.

‘‘สนฺธาวมานมฺปิ รเถสุ ยุตฺตํ, สโชติภูตํ ปถวึ กมนฺตํ;

ปโตทลฏฺีหิ สุโจทยนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ รเถสุ ยุตฺตนฺติ วาเรน วารํ เตสุ ชลิตโลหรเถสุ ยุตฺตํ. กมนฺตนฺติ อกฺกมมานํ. สุโจทยนฺตนฺติ สุฏฺุ โจทยนฺตํ.

๑๓๑๔.

‘‘ตมารุหนฺตํ ขุรสฺจิตํ คิรึ, วิภึสนํ ปชฺชลิตํ ภยานกํ;

สฺฉินฺนคตฺตํ รุหิรํ สวนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ ตมารุหนฺตนฺติ ตํ ภวนฺตํ ชลิตาวุธปหาเร อสหิตฺวา ชลิตขุเรหิ สฺจิตํ ชลิตโลหปพฺพตํ อารุหนฺตํ.

๑๓๑๕.

‘‘ตมารุหนฺตํ ปพฺพตสนฺนิกาสํ, องฺคารราสึ ชลิตํ ภยานกํ;

สุทฑฺฒคตฺตํ กปณํ รุทนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ สุทฑฺฒคตฺตนฺติ สุฏฺุ ทฑฺฒสรีรํ.

๑๓๑๖.

‘‘อพฺภกูฏสมา อุจฺจา, กณฺฏกนิจิตา ทุมา;

อโยมเยหิ ติกฺเขหิ, นรโลหิตปายิภี’’ติ.

ตตฺถ กณฺฏกนิจิตาติ ชลิตกณฺฏเกหิ จิตา. ‘‘อโยมเยหี’’ติ อิทํ เยหิ กณฺฏเกหิ อาจิตา, เต ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

๑๓๑๗.

‘‘ตมารุหนฺติ นาริโย, นรา จ ปรทารคู;

โจทิตา สตฺติหตฺเถหิ, ยมนิทฺเทสการิภี’’ติ.

ตตฺถ ตมารุหนฺตีติ ตํ เอวรูปํ สิมฺพลิรุกฺขํ อารุหนฺติ. ยมนิทฺเทสการิภีติ ยมสฺส วจนกเรหิ, นิรยปาเลหีติ อตฺโถ.

๑๓๑๘.

‘‘ตมารุหนฺตํ นิรยํ, สิมฺพลึ รุหิรมกฺขิตํ;

วิทฑฺฒกายํ วิตจํ, อาตุรํ คาฬฺหเวทนํ.

๑๓๑๙.

‘‘ปสฺสสนฺตํ มุหุํ อุณฺหํ, ปุพฺพกมฺมาปราธิกํ;

ทุมคฺเค วิตจํ คตฺตํ, โก ตํ ยาเจยฺย ตํ ธน’’นฺติ.

ตตฺถ วิทฑฺฒกายนฺติ วิหึสิตกายํ. วิตจนฺติ จมฺมมํสานํ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ ฉินฺนตาย โกวิฬารปุปฺผํ วิย กึสุกปุปฺผํ วิย จ.

๑๓๒๐.

‘‘อพฺภกูฏสมา อุจฺจา, อสิปตฺตาจิตา ทุมา;

อโยมเยหิ ติกฺเขหิ, นรโลหิตปายิภี’’ติ.

ตตฺถ อสิปตฺตาจิตาติ อสิมเยหิ ปตฺเตหิ จิตา.

๑๓๒๑.

‘‘ตมารุหนฺตํ อสิปตฺตปาทปํ, อสีหิ ติกฺเขหิ จ ฉิชฺชมานํ;

สฺฉินฺนคตฺตํ รุหิรํ สวนฺตํ, โก โจทเย ปรโลเก สหสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ ตมารุหนฺตนฺติ ตํ ภวนฺตํ นิรยปาลานํ อาวุธปหาเร อสหิตฺวา อารุหนฺตํ.

๑๓๒๒.

‘‘ตโต นิกฺขนฺตมตฺตํ ตํ, อสิปตฺตาจิตา ทุมา;

สมฺปติตํ เวตรณึ, โก ตํ ยาเจยฺย ตํ ธน’’นฺติ.

ตตฺถ สมฺปติตนฺติ ปติตํ.

๑๓๒๓.

‘‘ขรา ขาโรทิกา ตตฺตา, ทุคฺคา เวตรณี นที;

อโยโปกฺขรสฺฉนฺนา, ติกฺขา ปตฺเตหิ สนฺทติ’’.

ตตฺถ ขราติ ผรุสา. อโยโปกฺขรสฺฉนฺนาติ อโยมเยหิ ติขิณปริยนฺเตหิ โปกฺขรปตฺเตหิ สฺฉนฺนา. ปตฺเตหีติ เตหิ ปตฺเตหิ สา นที ติกฺขา หุตฺวา สนฺทติ.

๑๓๒๔.

‘‘ตตฺถ สฺฉินฺนคตฺตํ ตํ, วุยฺหนฺตํ รุหิรมกฺขิตํ;

เวตรฺเ อนาลมฺเพ, โก ตํ ยาเจยฺย ตํ ธน’’นฺติ.

ตตฺถ เวตรฺเติ เวตรณีอุทเก.

อิมํ ปน มหาสตฺตสฺส นิรยกถํ สุตฺวา ราชา สํวิคฺคหทโย มหาสตฺตฺเว ตาณคเวสี หุตฺวา อาห –

๑๓๒๕.

‘‘เวธามิ รุกฺโข วิย ฉิชฺชมาโน, ทิสํ น ชานามิ ปมูฬฺหสฺโ;

ภยานุตปฺปามิ มหา จ เม ภยา, สุตฺวาน กถา ตว ภาสิตา อิเส.

๑๓๒๖.

‘‘อาทิตฺเต วาริมชฺฌํว, ทีปํโวเฆ มหณฺณเว;

อนฺธกาเรว ปชฺโชโต, ตฺวํ โนสิ สรณํ อิเส.

๑๓๒๗.

‘‘อตฺถฺจ ธมฺมํ อนุสาส มํ อิเส, อตีตมทฺธา อปราธิตํ มยา;

อาจิกฺข เม นารท สุทฺธิมคฺคํ, ยถา อหํ โน นิรยํ ปเตยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ ภยานุตปฺปามีติ อตฺตนา กตสฺส ปาปสฺส ภเยน อนุตปฺปามิ. มหา จ เม ภยาติ มหนฺตฺจ เม นิรยภยํ อุปฺปนฺนํ. ทิปํโวเฆติ ทีปํว โอเฆ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อาทิตฺเต กาเล วาริมชฺฌํ วิย ภินฺนนาวานํ โอเฆ อณฺณเว ปติฏฺํ อลภมานานํ ทีปํ วิย อนฺธการคตานํ ปชฺโชโต วิย จ ตฺวํ โน อิเส สรณํ ภว. อตีตมทฺธา อปราธิตํ มยาติ เอกํเสน มยา อตีตํ กมฺมํ อปราธิตํ วิราธิตํ, กุสลํ อติกฺกมิตฺวา อกุสลเมว กตนฺติ.

อถสฺส มหาสตฺโต วิสุทฺธิมคฺคํ อาจิกฺขิตุํ สมฺมาปฏิปนฺเน โปราณกราชาโน อุทาหรณวเสน ทสฺเสนฺโต อาห –

๑๓๒๘.

‘‘ยถา อหู ธตรฏฺโ, เวสฺสามิตฺโต อฏฺโก ยามตคฺคิ;

อุสินฺทโร จาปิ สิวี จ ราชา, ปริจารกา สมณพฺราหฺมณานํ.

๑๓๒๙.

‘‘เอเต จฺเ จ ราชาโน, เย สคฺควิสยํ คตา;

อธมฺมํ ปริวชฺเชตฺวา, ธมฺมํ จร มหีปติ.

๑๓๓๐.

‘‘อนฺนหตฺถา จ เต พฺยมฺเห, โฆสยนฺตุ ปุเร ตว;

‘โก ฉาโต โก จ ตสิโต, โก มาลํ โก วิเลปนํ;

นานารตฺตานํ วตฺถานํ, โก นคฺโค ปริทหิสฺสติ.

๑๓๓๑.

‘โก ปนฺเถ ฉตฺตมาเนติ, ปาทุกา จ มุทู สุภา’;

อิติ สายฺจ ปาโต จ, โฆสยนฺตุ ปุเร ตว.

๑๓๓๒.

‘‘ชิณฺณํ โปสํ ควาสฺสฺจ, มาสฺสุ ยุฺช ยถา ปุเร;

ปริหารฺจ ทชฺชาสิ, อธิการกโต พลี’’ติ.

ตตฺถ เอเต จาติ ยถา เอเต จ ธตรฏฺโ เวสฺสามิตฺโต อฏฺโก ยามตคฺคิ อุสินฺทโร สิวีติ ฉ ราชาโน อฺเ จ ธมฺมํ จริตฺวา สคฺควิสยํ คตา, เอวํ ตฺวมฺปิ อธมฺมํ ปริวชฺเชตฺวา ธมฺมํ จร. โก ฉาโตติ มหาราช, ตว พฺยมฺเห ปุเร ราชนิเวสเน เจว นคเร จ อนฺนหตฺถา ปุริสา ‘‘โก ฉาโต, โก ตสิโต’’ติ เตสํ ทาตุกามตาย โฆเสนฺตุ. โก มาลนฺติ โก มาลํ อิจฺฉติ, โก วิเลปนํ อิจฺฉติ, นานารตฺตานํ วตฺถานํ ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ โก นคฺโค ปริทหิสฺสตีติ โฆเสนฺตุ. โก ปนฺเถ ฉตฺตมาเนตีติ โก ปนฺเถ ฉตฺตํ ธารยิสฺสติ. ปาทุกา จาติ อุปาหนา จ มุทู สุภา โก อิจฺฉติ.

ชิณฺณํ โปสนฺติ โย เต อุปฏฺาเกสุ อมจฺโจ วา อฺโ วา ปุพฺเพ กตูปกาโร ชราชิณฺณกาเล ยถา โปราณกาเล กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ, เยปิ เต ควาสฺสาทโย ชิณฺณตาย กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ, เตสุ เอกมฺปิ ปุพฺเพ วิย กมฺเมสุ มา โยชยิ. ชิณฺณกาลสฺมิฺหิ เต ตานิ กมฺมานิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. ปริหารฺจาติ อิธ ปริวาโร ‘‘ปริหาโร’’ติ วุตฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย จ เต พลี หุตฺวา อธิการกโต ปุพฺเพ กตูปกาโร โหติ, ตสฺส ชราชิณฺณกาเล ยถาโปราณปริวารํ ทเทยฺยาสิ. อสปฺปุริสา หิ อตฺตโน อุปการกานํ อุปการํ กาตุํ สมตฺถกาเลเยว สมฺมานํ กโรนฺติ, สมตฺถกาเล ปน น โอโลเกนฺติ. สปฺปุริสา ปน อสมตฺถกาเลปิ เตสํ ตเถว สกฺการํ กโรนฺติ, ตสฺมา ตุวมฺปิ เอวํ กเรยฺยาสีติ.

อิติ มหาสตฺโต รฺโ ทานกถฺจ สีลกถฺจ กเถตฺวา อิทานิ ยสฺมา อยํ ราชา อตฺตโน อตฺตภาเว รเถน อุปเมตฺวา วณฺณิยมาเน ตุสฺสิสฺสติ, ตสฺมาสฺส สพฺพกามทุหรโถปมาย ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –

๑๓๓๓.

‘‘กาโย เต รถสฺาโต, มโนสารถิโก ลหุ;

อวิหึสาสาริตกฺโข, สํวิภาคปฏิจฺฉโท.

๑๓๓๔.

‘‘ปาทสฺมเนมิโย, หตฺถสฺมปกฺขโร;

กุจฺฉิสฺมนพฺภนฺโต, วาจาสฺมกูชโน.

๑๓๓๕.

‘‘สจฺจวากฺยสมตฺตงฺโค, อเปสุฺสุสฺโต;

คิราสขิลเนลงฺโค, มิตภาณิสิเลสิโต.

๑๓๓๖.

‘‘สทฺธาโลภสุสงฺขาโร, นิวาตฺชลิกุพฺพโร;

อถทฺธตานตีสาโก, สีลสํวรนนฺธโน.

๑๓๓๗.

‘‘อกฺโกธนมนุคฺฆาตี, ธมฺมปณฺฑรฉตฺตโก;

พาหุสจฺจมปาลมฺโพ, ิตจิตฺตมุปาธิโย.

๑๓๓๘.

‘‘กาลฺุตาจิตฺตสาโร, เวสารชฺชติทณฺฑโก;

นิวาตวุตฺติโยตฺตโก, อนติมานยุโค ลหุ.

๑๓๓๙.

‘‘อลีนจิตฺตสนฺถาโร, วุทฺธิเสวี รโชหโต;

สติปโตโท ธีรสฺส, ธิติ โยโค จ รสฺมิโย.

๑๓๔๐.

‘‘มโน ทนฺตํ ปถํ เนติ, สมทนฺเตหิ วาหิภิ;

อิจฺฉา โลโภ จ กุมฺมคฺโค, อุชุมคฺโค จ สํยโม.

๑๓๔๑.

‘‘รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, วาหนสฺส ปธาวโต;

ปฺา อาโกฏนี ราช, ตตฺถ อตฺตาว สารถิ.

๑๓๔๒.

‘‘สเจ เอเตน ยาเนน, สมจริยา ทฬฺหา ธิติ;

สพฺพกามทุโห ราช, น ชาตุ นิรยํ วเช’’ติ.

ตตฺถ รถสฺาโตติ มหาราช, ตว กาโย รโถติ สฺาโต โหตุ. มโนสารถิโกติ มนสงฺขาเตน กุสลจิตฺเตน สารถินา สมนฺนาคโต. ลหูติ วิคตถินมิทฺธตาย สลฺลหุโก. อวิหึสาสาริตกฺโขติ อวิหึสามเยน สาริเตน สุฏฺุ ปรินิฏฺิเตน อกฺเขน สมนฺนาคโต. สํวิภาคปฏิจฺฉโทติ ทานสํวิภาคมเยน ปฏิจฺฉเทน สมนฺนาคโต. ปาทสฺมเนมิโยติ ปาทสํยมมยาย เนมิยา สมนฺนาคโต. หตฺถสฺมปกฺขโรติ หตฺถสํยมมเยน ปกฺขเรน สมนฺนาคโต. กุจฺฉิสฺมนพฺภนฺโตติ กุจฺฉิสํยมสงฺขาเตน มิตโภชนมเยน เตเลน อพฺภนฺโต. ‘‘อพฺภฺชิตพฺโพ นาภิ โหตู’’ติปิ ปาโ. วาจาสฺมกูชโนติ วาจาสํยเมน อกูชโน.

สจฺจวากฺยสมตฺตงฺโคติ สจฺจวากฺเยน ปริปุณฺณองฺโค อขณฺฑรถงฺโค. อเปสุฺสุสฺโตติ อเปสุฺเน สุฏฺุ สฺโต สมุสฺสิโต. คิราสขิลเนลงฺโคติ สขิลาย สณฺหวาจาย นิทฺโทสงฺโค มฏฺรถงฺโค. มิตภาณิสิเลสิโต มิตภาณสงฺขาเตน สิเลเสน สุฏฺุ สมฺพนฺโธ. สทฺธาโลภสุสงฺขาโรติ กมฺมผลสทฺทหนสทฺธามเยน จ อโลภมเยน จ สุนฺทเรน อลงฺกาเรน สมนฺนาคโต. นิวาตฺชลิกุพฺพโรติ สีลวนฺตานํ นิวาตมเยน เจว อฺชลิกมฺมมเยน จ กุพฺพเรน สมนฺนาคโต. อถทฺธตานตีสาโกติ สขิลสมฺโมทภาวสงฺขาตาย อถทฺธตาย อนตอีโส, โถกนตอีโสติ อตฺโถ. สีลสํวรนนฺธโนติ อขณฺฑปฺจสีลจกฺขุนฺทฺริยาทิสํวรสงฺขาตาย นนฺธนรชฺชุยา สมนฺนาคโต.

อกฺโกธนมนุคฺฆาตีติ อกฺโกธนภาวสงฺขาเตน อนุคฺฆาเตน สมนฺนาคโต. ธมฺมปณฺฑร-ฉตฺตโกติ ทสกุสลธมฺมสงฺขาเตน ปณฺฑรจฺฉตฺเตน สมนฺนาคโต. พาหุสจฺจมปาลมฺโพติ อตฺถสนฺนิสฺสิตพหุสฺสุตภาวมเยน อปาลมฺเพน สมนฺนาคโต. ิตจิตฺตมุปาธิโยติ โลกธมฺเมหิ อวิกมฺปนภาเวน สุฏฺุ ิตเอกคฺคภาวปฺปตฺตจิตฺตสงฺขาเตน อุปาธินา อุตฺตรตฺถรเณน วา ราชาสเนน สมนฺนาคโต. กาลฺุตาจิตฺตสาโรติ ‘‘อยํ ทานสฺส ทินฺนกาโล, อยํ สีลสฺส รกฺขนกาโล’’ติ เอวํ กาลฺุตาสงฺขาเตน กาลํ ชานิตฺวา กเตน จิตฺเตน กุสลสาเรน สมนฺนาคโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา, มหาราช, รถสฺส นาม อาณึ อาทึ กตฺวา ทพฺพสมฺภารชาตํ ปริสุทฺธํ สารมยฺจ อิจฺฉิตพฺพํ, เอวฺหิ โส รโถ อทฺธานกฺขโม โหติ, เอวํ ตวปิ กายรโถ กาลํ ชานิตฺวา กเตน จิตฺเตน ปริสุทฺเธน ทานาทิกุสลสาเรน สมนฺนาคโต โหตูติ. เวสารชฺชติทณฺฑโกติ ปริสมชฺเฌ กเถนฺตสฺสปิ วิสารทภาวสงฺขาเตน ติทณฺเฑน สมนฺนาคโต. นิวาตวุตฺติโยตฺตโกติ โอวาเท ปวตฺตนสงฺขาเตน มุทุนา ธุรโยตฺเตน สมนฺนาคโต. มุทุนา หิ ธุรโยตฺเตน พทฺธรถํ สินฺธวา สุขํ วหนฺติ, เอวํ ตว กายรโถปิ ปณฺฑิตานํ โอวาทปฺปวตฺติตาย อาพทฺโธ สุขํ ยาตูติ อตฺโถ. อนติมานยุโค ลหูติ อนติมานสงฺขาเตน ลหุเกน ยุเคน สมนฺนาคโต.

อลีนจิตฺตสนฺถาโรติ ยถา รโถ นาม ทนฺตมเยน อุฬาเรน สนฺถาเรน โสภติ, เอวํ ตว กายรโถปิ ทานาทินา อลีนอสงฺกุฏิตจิตฺตสนฺถาโร โหตุ. วุทฺธิเสวี รโชหโตติ ยถา รโถ นาม วิสเมน รชุฏฺานมคฺเคน คจฺฉนฺโต รโชกิณฺโณ น โสภติ, สเมน วิรเชน มคฺเคน คจฺฉนฺโต โสภติ, เอวํ ตว กายรโถปิ ปฺาวุทฺธิเสวิตาย สมตลํ อุชุมคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา หตรโช โหตุ. สติปโตโท ธีรสฺสาติ ปณฺฑิตสฺส ตว ตสฺมึ กายรเถ สุปติฏฺิตสติปโตโท โหตุ. ธิติ โยโค จ รสฺมิโยติ อพฺโพจฺฉินฺนวีริยสงฺขาตา ธิติ จ หิตปฺปฏิปตฺติยํ ยุฺชนภาวสงฺขาโต โยโค จ ตว ตสฺมึ กายรเถ วฏฺฏิตา ถิรา รสฺมิโย โหนฺตุ. มโน ทนฺตํ ปถํ เนติ, สมทนฺเตหิ วาหิภีติ ยถา รโถ นาม วิสมทนฺเตหิ สินฺธเวหิ อุปฺปถํ ยาติ, สมทนฺเตหิ สมสิกฺขิเตหิ ยุตฺโต อุชุปถเมว อนฺเวติ, เอวํ มโนปิ ทนฺตํ นิพฺพิเสวนํ กุมฺมคฺคํ ปหาย อุชุมคฺคํ คณฺหาติ. ตสฺมา สุทนฺตํ อาจารสมฺปนฺนํ จิตฺตํ ตว กายรถสฺส สินฺธวกิจฺจํ สาเธตุ. อิจฺฉาโลโภ จาติ อปฺปตฺเตสุ วตฺถูสุ อิจฺฉา, ปตฺเตสุ โลโภติ อยํ อิจฺฉา จ โลโภ จ กุมฺมคฺโค นาม. กุฏิโล อนุชุมคฺโค อปายเมว เนติ. ทสกุสลกมฺมปถวเสน ปน อฏฺงฺคิกมคฺควเสน วา ปวตฺโต สีลสํยโม อุชุมคฺโค นาม. โส ตว กายรถสฺส มคฺโค โหตุ.

รูเปติ เอเตสุ มนาปิเยสุ รูปาทีสุ กามคุเณสุ นิมิตฺตํ คเหตฺวา ธาวนฺตสฺส ตว กายรถสฺส อุปฺปถํ ปฏิปนฺนสฺส ราชรถสฺส สินฺธเว อาโกเฏตฺวา นิวารณปโตทยฏฺิ วิย ปฺา อาโกฏนี โหตุ. สา หิ ตํ อุปฺปถคมนโต นิวาเรตฺวา อุชุํ สุจริตมคฺคํ อาโรเปสฺสติ. ตตฺถ อตฺตาว สารถีติ ตสฺมึ ปน เต กายรเถ อฺโ สารถิ นาม นตฺถิ, ตว อตฺตาว สารถิ โหตุ. สเจ เอเตน ยาเนนาติ มหาราช, ยสฺเสตํ เอวรูปํ ยานํ สเจ อตฺถิ, เอเตน ยาเนน. สมจริยา ทฬฺหา ธิตีติ ยสฺส สมจริยา จ ธิติ จ ทฬฺหา โหติ ถิรา, โส เอเตน ยาเนน ยสฺมา เอส รโถ สพฺพกามทุโห ราช, ยถาธิปฺเปเต สพฺพกาเม เทติ, ตสฺมา น ชาตุ นิรยํ วเช, เอกํเสเนตํ ธาเรหิ, เอวรูเปน ยาเนน นิรยํ น คจฺฉสีติ อตฺโถ. อิติ โข, มหาราช, ยํ มํ อวจ ‘‘อาจิกฺข เม, นารท, สุทฺธิมคฺคํ, ยถา อหํ โน นิรเย ปเตยฺย’’นฺติ, อยํ เต โส มยา อเนกปริยาเยน อกฺขาโตติ.

เอวมสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา มิจฺฉาทิฏฺึ ชหาเปตฺวา สีเล ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ปาปมิตฺเต ปหาย กลฺยาณมิตฺเต อุปสงฺกม, นิจฺจํ อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ โอวาทํ ทตฺวา ราชธีตุ คุณํ วณฺเณตฺวา ราชปริสาย จ ราโชโรธานฺจ โอวาทํ ทตฺวา มหนฺเตนานุภาเวน เตสํ ปสฺสนฺตานฺเว พฺรหฺมโลกํ คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ มยา ทิฏฺิชาลํ ภินฺทิตฺวา อุรุเวลกสฺสโป ทมิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –

๑๓๔๓.

‘‘อลาโต เทวทตฺโตสิ, สุนาโม อาสิ ภทฺทชิ;

วิชโย สาริปุตฺโตสิ, โมคฺคลฺลาโนสิ พีชโก.

๑๓๔๔.

‘‘สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต, คุโณ อาสิ อเจลโก;

อานนฺโท สา รุจา อาสิ, ยา ราชานํ ปสาทยิ.

๑๓๔๕.

‘‘อุรุเวลกสฺสโป ราชา, ปาปทิฏฺิ ตทา อหุ;

มหาพฺรหฺมา โพธิสตฺโต, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

มหานารทกสฺสปชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๕๔๖] ๙. วิธุรชาตกวณฺณนา

จตุโปสถกณฺฑํ

ปณฺฑุ กิสิยาสิ ทุพฺพลาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตโน ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถา มหาปฺโ ปุถุปฺโ คมฺภีรปฺโ ชวนปฺโ หาสปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ปรปฺปวาทมทฺทโน, อตฺตโน ปฺานุภาเวน ขตฺติยปณฺฑิตาทีหิ อภิสงฺขเต สุขุมปฺเห ภินฺทิตฺวา เต ทเมตฺวา นิพฺพิเสวเน กตฺวา ตีสุ สรเณสุ เจว สีเลสุ จ ปติฏฺาเปตฺวา อมตคามิมคฺคํ ปฏิปาเทสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ยํ ตถาคโต ปรมาภิสมฺโพธิปฺปตฺโต ปรปฺปวาทํ ภินฺทิตฺวา ขตฺติยาทโย ทเมยฺย. ปุริมภวสฺมิฺหิ โพธิาณํ ปริเยสนฺโตปิ ตถาคโต ปฺวา ปรปฺปวาทมทฺทโนเยว. ตถา หิ อหํ วิธุรกาเล สฏฺิโยชนุพฺเพเธ กาฬปพฺพตมุทฺธนิ ปุณฺณกํ นาม ยกฺขเสนาปตึ อตฺตโน าณพเลเนว ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ปฺจสีเลสุ ปติฏฺาเปนฺโต อตฺตโน ชีวิตํ ทาเปสิ’’นฺติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต กุรุรฏฺเ อินฺทปตฺถนคเร ธนฺจยโกรพฺโย นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. วิธุรปณฺฑิโต นาม อมจฺโจ ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสโก อโหสิ. โส มธุรกโถ มหาธมฺมกถิโก สกลชมฺพุทีเป ราชาโน หตฺถิกนฺตวีณาสเรน ปลุทฺธหตฺถิโน วิย อตฺตโน มธุรธมฺมเทสนาย ปโลเภตฺวา เตสํ สกสกรชฺชานิ คนฺตุํ อททมาโน พุทฺธลีลาย มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต มหนฺเตน ยเสน ตสฺมึ นคเร ปฏิวสิ.

ตทา หิ พาราณสิยมฺปิ คิหิสหายกา จตฺตาโร พฺราหฺมณมหาสาลา มหลฺลกกาเล กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหารา ตตฺเถว จิรํ วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย จาริกํ จรมานา องฺครฏฺเ กาลจมฺปานครํ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขาย นครํ ปวิสึสุ. ตตฺถ จตฺตาโร สหายกา กุฏุมฺพิกา เตสํ อิริยาปเถสุ ปสีทิตฺวา วนฺทิตฺวา ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา เอเกกํ อตฺตโน นิเวสเน นิสีทาเปตฺวา ปณีเตน อาหาเรน ปริวิสิตฺวา ปฏิฺํ คาหาเปตฺวา อุยฺยาเนเยว วาสาเปสุํ. เต จตฺตาโร ตาปสา จตุนฺนํ กุฏุมฺพิกานํ เคเหสุ นิพทฺธํ ภุฺชิตฺวา ทิวาวิหารตฺถาย เอโก ตาปโส ตาวตึสภวนํ คจฺฉติ, เอโก นาคภวนํ, เอโก สุปณฺณภวนํ, เอโก โกรพฺยรฺโ มิคาชินอุยฺยานํ คจฺฉติ. เตสุ โย เทวโลกํ คนฺตฺวา ทิวาวิหารํ กโรติ, โส สกฺกสฺส ยสํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน อุปฏฺากสฺส ตเมว วณฺเณติ. โย นาคภวนํ คนฺตฺวา ทิวาวิหารํ กโรติ, โส นาคราชสฺส สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา อตฺตโน อุปฏฺากสฺส ตเมว วณฺเณติ. โย สุปณฺณภวนํ คนฺตฺวา ทิวาวิหารํ กโรติ, โส สุปณฺณราชสฺส วิภูตึ โอโลเกตฺวา อตฺตโน อุปฏฺากสฺส ตเมว วณฺเณติ. โย ธนฺจยโกรพฺยราชสฺส อุยฺยานํ คนฺตฺวา ทิวาวิหารํ กโรติ, โส ธนฺจยโกรพฺยรฺโ สิริโสภคฺคํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน อุปฏฺากสฺส ตเมว วณฺเณติ.

เต จตฺตาโรปิ ชนา ตํ ตเทว านํ ปตฺเถตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน เอโก สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เอโก สปุตฺตทาโร นาคภวเน นาคราชา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เอโก สุปณฺณภวเน สิมฺพลิวิมาเน สุปณฺณราชา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เอโก ธนฺจยโกรพฺยรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. เตปิ ตาปสา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ. โกรพฺยกุมาโร วุฑฺฒิมนฺวาย ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺหิตฺวา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรสิ. โส ปน ชูตวิตฺตโก อโหสิ. โส วิธุรปณฺฑิตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานํ เทติ, สีลํ รกฺขติ, อุโปสถํ อุปวสติ.

โส เอกทิวสํ สมาทินฺนุโปสโถ ‘‘วิเวกมนุพฺรูหิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มนุฺฏฺาเน นิสีทิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ. สกฺโกปิ สมาทินฺนุโปสโถ ‘‘เทวโลเก ปลิโพโธ โหตี’’ติ มนุสฺสโลเก ตเมว อุยฺยานํ อาคนฺตฺวา เอกสฺมึ มนุฺฏฺาเน นิสีทิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ. วรุณนาคราชาปิ สมาทินฺนุโปสโถ ‘‘นาคภวเน ปลิโพโธ โหตี’’ติ ตตฺเถวาคนฺตฺวา เอกสฺมึ มนุฺฏฺาเน นิสีทิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ. สุปณฺณราชาปิ สมาทินฺนุโปสโถ ‘‘สุปณฺณภวเน ปลิโพโธ โหตี’’ติ ตตฺเถวาคนฺตฺวา เอกสฺมึ มนุฺฏฺาเน นิสีทิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ. เตปิ จตฺตาโร ชนา สายนฺหสมเย สกฏฺาเนหิ นิกฺขมิตฺวา มงฺคลโปกฺขรณิตีเร สมาคนฺตฺวา อฺมฺํ โอโลเกตฺวา ปุพฺพสิเนหวเสน สมคฺคา สมฺโมทมานา หุตฺวา อฺมฺํ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กรึสุ. เตสุ สกฺโก มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิ, อิตเรปิ อตฺตโน อตฺตโน ยุตฺตาสนํ ตฺวา นิสีทึสุ. อถ เน สกฺโก อาห ‘‘มยํ จตฺตาโรปิ ราชาโนว, อมฺเหสุ ปน กสฺส สีลํ มหนฺต’’นฺติ? อถ นํ วรุณนาคราชา อาห ‘‘ตุมฺหากํ ติณฺณํ ชนานํ สีลโต มยฺหํ สีลํ มหนฺต’’นฺติ. ‘‘กิเมตฺถ การณ’’นฺติ? ‘‘อยํ สุปณฺณราชา อมฺหากํ ชาตานมฺปิ อชาตานมฺปิ ปจฺจามิตฺโตว, อหํ เอวรูปํ อมฺหากํ ชีวิตกฺขยกรํ ปจฺจามิตฺตํ ทิสฺวาปิ โกธํ น กโรมิ, อิมินา การเณน มม สีลํ มหนฺต’’นฺติ วตฺวา อิทํ ทสกนิปาเต จตุโปสถชาตเก ปมํ คาถมาห –

‘‘โย โกปเนยฺเย น กโรติ โกปํ, น กุชฺฌติ สปฺปุริโส กทาจิ;

กุทฺโธปิ โส นาวิกโรติ โกปํ, ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเก’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๒๔);

ตตฺถ โยติ ขตฺติยาทีสุ โย โกจิ. โกปเนยฺเยติ กุชฺฌิตพฺพยุตฺตเก ปุคฺคเล ขนฺตีวาทีตาปโส วิย โกปํ น กโรติ. กทาจีติ โย กิสฺมิฺจิ กาเล น กุชฺฌเตว. กุทฺโธปีติ สเจ ปน โส สปฺปุริโส กุชฺฌติ, อถ กุทฺโธปิ ตํ โกปํ นาวิกโรติ จูฬโพธิตาปโส วิย. ตํ เว นรนฺติ มหาราชาโน ตํ เว ปุริสํ สมิตปาปตาย โลเก ปณฺฑิตา ‘‘สมณ’’นฺติ กเถนฺติ. อิเม ปน คุณา มยิ สนฺติ, ตสฺมา มเมว สีลํ มหนฺตนฺติ.

ตํ สุตฺวา สุปณฺณราชา ‘‘อยํ นาโค มม อคฺคภกฺโข, ยสฺมา ปนาหํ เอวรูปํ อคฺคภกฺขํ ทิสฺวาปิ ขุทํ อธิวาเสตฺวา อาหารเหตุ ปาปํ น กโรมิ, ตสฺมา มเมว สีลํ มหนฺต’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘อูนูทโร โย สหเต ชิฆจฺฉํ, ทนฺโต ตปสฺสี มิตปานโภชโน;

อาหารเหตุ น กโรติ ปาปํ, ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเก’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๒๕);

ตตฺถ ทนฺโตติ อินฺทฺริยทมเนน สมนฺนาคโต. ตปสฺสีติ ตปนิสฺสิตโก. อาหารเหตูติ อติชิฆจฺฉปิฬิโตปิ โย ปาปํ ลามกกมฺมํ น กโรติ ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร วิย. อหํ ปนชฺช อาหารเหตุ ปาปํ น กโรมิ, ตสฺมา มเมว สีลํ มหนฺตนฺติ.

ตโต สกฺโก เทวราชา ‘‘อหํ นานปฺปการํ สุขปทฏฺานํ เทวโลกสมฺปตฺตึ ปหาย สีลรกฺขณตฺถาย มนุสฺสโลกํ อาคโต, ตสฺมา มเมว สีลํ มหนฺต’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ขิฑฺฑํ รตึ วิปฺปชหิตฺวาน สพฺพํ, น จาลิกํ ภาสติ กิฺจิ โลเก;

วิภูสฏฺานา วิรโต เมถุนสฺมา, ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเก’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๒๖);

ตตฺถ ขิฑฺฑนฺติ กายิกวาจสิกขิฑฺฑํ. รตินฺติ ทิพฺพกามคุณรตึ. กิฺจีติ อปฺปมตฺตกมฺปิ. วิภูสฏฺานาติ มํสวิภูสา ฉวิวิภูสาติ ทฺเว วิภูสา. ตตฺถ อชฺโฌหรณียาหาโร มํสวิภูสา นาม, มาลาคนฺธาทีนิ ฉวิวิภูสา นาม, เยน อกุสลจิตฺเตน ธารียติ, ตํ ตสฺส านํ, ตโต วิรโต เมถุนเสวนโต จ โย ปฏิวิรโต. ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเกติ อหํ อชฺช เทวจฺฉราโย ปหาย อิธาคนฺตฺวา สมณธมฺมํ กโรมิ, ตสฺมา มเมว สีลํ มหนฺตนฺติ. เอวํ สกฺโกปิ อตฺตโน สีลเมว วณฺเณติ.

ตํ สุตฺวา ธนฺจยราชา ‘‘อหํ อชฺช มหนฺตํ ปริคฺคหํ โสฬสสหสฺสนาฏกิตฺถิปริปุณฺณํ อนฺเตปุรํ จชิตฺวา อุยฺยาเน สมณธมฺมํ กโรมิ, ตสฺมา มเมว สีลํ มหนฺต’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ปริคฺคหํ โลภธมฺมฺจ สพฺพํ, โย เว ปริฺาย ปริจฺจเชติ;

ทนฺตํ ิตตฺตํ อมมํ นิราสํ, ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเก’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๒๗);

ตตฺถ ปริคฺคหนฺติ นานปฺปการํ วตฺถุกามํ. โลภธมฺมนฺติ ตสฺมึ อุปฺปชฺชนตณฺหํ. ปริฺายาติ าตปริฺา, ตีรณปริฺา, ปหานปริฺาติ อิมาหิ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. ตตฺถ ขนฺธาทีนํ ทุกฺขาทิสภาวชานนํ าตปริฺา, เตสุ อคุณํ อุปธาเรตฺวา ตีรณํ ตีรณปริฺา, เตสุ โทสํ ทิสฺวา ฉนฺทราคสฺสาปกฑฺฒนํ ปหานปริฺา. โย อิมาหิ ตีหิ ปริฺาหิ ชานิตฺวา วตฺถุกามกิเลสกาเม ปริจฺจชติ, ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉติ. ทนฺตนฺติ นิพฺพิเสวนํ. ิตตฺตนฺติ มิจฺฉาวิตกฺกาภาเวน ิตสภาวํ. อมมนฺติ อหนฺติ มมายนตณฺหารหิตํ. นิราสนฺติ ปุตฺตทาราทีสุ นิจฺฉนฺทราคํ. ตํ เว นรนฺติ ตํ เอวรูปํ ปุคฺคลํ ‘‘สมณ’’นฺติ วทนฺติ.

อิติ เต สพฺเพปิ อตฺตโน อตฺตโน สีลเมว มหนฺตนฺติ วณฺเณตฺวา สกฺกาทโย ธนฺจยํ ปุจฺฉึสุ ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, โกจิ ตุมฺหากํ สนฺติเก ปณฺฑิโต, โย โน อิมํ กงฺขํ วิโนเทยฺยา’’ติ. ‘‘อาม, มหาราชาโน มม อตฺถธมฺมานุสาสโก มหาปฺโ อสมธุโร วิธุรปณฺฑิโต นาม อตฺถิ, โส โน อิมํ กงฺขํ วิโนเทสฺสติ, ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ. อถ เต สพฺเพ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ. อถ สพฺเพปิ อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา ธมฺมสภํ คนฺตฺวา ปลฺลงฺกํ อลงฺการาเปตฺวา โพธิสตฺตํ ปลฺลงฺกวรมชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา ‘‘ปณฺฑิต, อมฺหากํ กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตํ โน วิโนเทหี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาหํสุ –

‘‘ปุจฺฉาม กตฺตารมโนมปฺํ, กถาสุ โน วิคฺคโห อตฺถิ ชาโต;

ฉินฺทชฺช กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตานิ, ตทชฺช กงฺขํ วิตเรมุ สพฺเพ’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๒๘);

ตตฺถ กตฺตารนฺติ กตฺตพฺพยุตฺตกการกํ. วิคฺคโห อตฺถิ ชาโตติ เอโก สีลวิคฺคโห สีลวิวาโท อุปฺปนฺโน อตฺถิ. ฉินฺทชฺชาติ อมฺหากํ ตํ กงฺขํ ตานิ จ วิจิกิจฺฉิตานิ วชิเรน สิเนรุํ ปหรนฺโต วิย อชฺช ฉินฺท. วิตเรมูติ วิตเรยฺยาม.

ปณฺฑิโต เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘มหาราชาโน ตุมฺหากํ สีลํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ วิวาทกถํ สุกถิตทุกฺกถิตํ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘เย ปณฺฑิตา อตฺถทสา ภวนฺติ, ภาสนฺติ เต โยนิโส ตตฺถ กาเล;

กถํ นุ กถานํ อภาสิตานํ, อตฺถํ นเยยฺยุํ กุสลา ชนินฺทา’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๒๙);

ตตฺถ อตฺถทสาติ อตฺถทสฺสนสมตฺถา. ตตฺถ กาเลติ ตสฺมึ วิคฺคเห อาโรจิเต ยุตฺตปฺปยุตฺตกาเล เต ปณฺฑิตา ตมตฺถํ อาจิกฺขนฺตา โยนิโส ภาสนฺติ. อตฺถํ นเยยฺยุํ กุสลาติ กุสลา เฉกาปิ สมานา อภาสิตานํ กถานํ กถํ นุ อตฺถํ าเณน นเยยฺยุํ อุปปริกฺเขยฺยุํ. ชนินฺทาติ ราชาโน อาลปติ. ตสฺมา อิทํ ตาว เม วเทถ.

‘‘กถํ หเว ภาสติ นาคราชา, ครุโฬ ปน เวนเตยฺโย กิมาห;

คนฺธพฺพราชา ปน กึ วเทติ, กถํ ปน กุรูนํ ราชเสฏฺโ’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๓๐);

ตตฺถ คนฺธพฺพราชาติ สกฺกํ สนฺธายาห.

อถสฺส เต อิมํ คาถมาหํสุ –

‘‘ขนฺตึ หเว ภาสติ นาคราชา, อปฺปาหารํ ครุโฬ เวนเตยฺโย;

คนฺธพฺพราชา รติวิปฺปหานํ, อกิฺจนํ กุรูนํ ราชเสฏฺโ’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๓๑);

ตสฺสตฺโถ – ปณฺฑิต, นาคราชา ตาว โกปเนยฺเยปิ ปุคฺคเล อกุปฺปนสงฺขาตํ อธิวาสนขนฺตึ วณฺเณติ, ครุโฬ อปฺปาหารตาสงฺขาตํ อาหารเหตุ ปาปสฺส อกรณํ, สกฺโก ปฺจกามคุณรตีนํ วิปฺปหานํ, กุรุราชา นิปฺปลิโพธภาวํ วณฺเณตีติ.

อถ เตสํ กถํ สุตฺวา มหาสตฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘สพฺพานิ เอตานิ สุภาสิตานิ, น เหตฺถ ทุพฺภาสิตมตฺถิ กิฺจิ;

ยสฺมิฺจ เอตานิ ปติฏฺิตานิ, อราว นาภฺยา สุสโมหิตานิ;

จตุพฺภิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภูตํ, ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเก’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๓๒);

ตตฺถ เอตานีติ เอตานิ จตฺตาริปิ คุณชาตานิ ยสฺมึ ปุคฺคเล สกฏนาภิยํ สุฏฺุ สโมหิตานิ อรา วิย ปติฏฺิตานิ, จตูหิเปเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุคฺคลํ ปณฺฑิตา ‘‘สมณ’’นฺติ อาหุ โลเกติ.

เอวํ มหาสตฺโต จตุนฺนมฺปิ สีลํ เอกสมเมว อกาสิ. ตํ สุตฺวา จตฺตาโรปิ ราชาโน ตสฺส ตุฏฺา ถุตึ กโรนฺตา อิมํ คาถมาหํสุ –

‘‘ตุวฺหิ เสฏฺโ ตฺวมนุตฺตโรสิ, ตฺวํ ธมฺมคู ธมฺมวิทู สุเมโธ;

ปฺาย ปฺหํ สมธิคฺคเหตฺวา, อจฺเฉจฺฉิ ธีโร วิจิกิจฺฉิตานิ;

อจฺเฉจฺฉิ กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตานิ, จุนฺโท ยถา นาคทนฺตํ ขเรนา’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๓๓).

ตตฺถ ตฺวมนุตฺตโรสีติ ตฺวํ อนุตฺตโร อสิ, นตฺถิ ตยา อุตฺตริตโร นาม. ธมฺมคูติ ธมฺมสฺส โคปโก เจว ธมฺมฺู จ. ธมฺมวิทูติ ปากฏธมฺโม. สุเมโธติ สุนฺทรปฺโ ปฺายาติ อตฺตโน ปฺาย อมฺหากํ ปฺหํ สุฏฺุ อธิคณฺหิตฺวา ‘‘อิทเมตฺถ การณ’’นฺติ ยถาภูตํ ตฺวา. อจฺเฉจฺฉีติ ตฺวํ ธีโร อมฺหากํ วิจิกิจฺฉิตานิ ฉินฺทิ, เอวํ ฉินฺทนฺโต จ ‘‘ฉินฺทชฺช กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตานี’’ติ อิทํ อมฺหากํ อายาจนํ สมฺปาเทนฺโต อจฺเฉจฺฉิ กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตานิ. จุนฺโท ยถา นาคทนฺตํ ขเรนาติ ยถา ทนฺตกาโร กกเจน หตฺถิทนฺตํ ฉินฺเทยฺย, เอวํ ฉินฺทีติ อตฺโถ.

เอวํ เต จตฺตาโรปิ ราชาโน ตสฺส ปฺหพฺยากรเณน ตุฏฺมานสา อเหสุํ. อถ นํ สกฺโก ทิพฺพทุกูเลน ปูเชสิ, ครุโฬ สุวณฺณมาลาย, วรุโณ นาคราชา มณินา, ธนฺจยราชา ควสหสฺสาทีหิ ปูเชสิ. เตเนวาห –

‘‘นีลุปฺปลาภํ วิมลํ อนคฺฆํ, วตฺถํ อิทํ ธูมสมานวณฺณํ;

ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน ตุฏฺโ, ททามิ เต ธมฺมปูชาย ธีร.

‘‘สุวณฺณมาลํ สตปตฺตผุลฺลิตํ, สเกสรํ รตฺนสหสฺสมณฺฑิตํ;

ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน ตุฏฺโ, ททามิ เต ธมฺมปูชาย ธีร.

‘‘มณึ อนคฺฆํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, กณฺาวสตฺตํ มณิภูสิตํ เม;

ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน ตุฏฺโ, ททามิ เต ธมฺมปูชาย ธีร.

‘‘ควํ สหสฺสํ อุสภฺจ นาคํ, อาชฺยุตฺเต จ รเถ ทส อิเม;

ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน ตุฏฺโ, ททามิ เต คามวรานิ โสฬสา’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๓๔-๓๗);

เอวํ สกฺกาทโย มหาสตฺตํ ปูเชตฺวา สกฏฺานเมว อคมึสุ.

จตุโปสถกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

โทหฬกณฺฑํ

เตสุ นาคราชสฺส ภริยา วิมลาเทวี นาม. สา ตสฺส คีวาย ปิฬนฺธนมณึ อปสฺสนฺตี ปุจฺฉิ ‘‘เทว, กหํ ปน เต มณี’’ติ? ‘‘ภทฺเท, จนฺทพฺราหฺมณปุตฺตสฺส วิธุรปณฺฑิตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต อหํ เตน มณินา ตํ ปูเชสึ. น เกวลฺจ อหเมว, สกฺโกปิ ตํ ทิพฺพทุกูเลน ปูเชสิ, สุปณฺณราชา สุวณฺณมาลาย, ธนฺจยราชา ควสฺสสหสฺสาทีหิ ปูเชสี’’ติ. ‘‘ธมฺมกถิโก โส, เทวา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, กึ วเทสิ, ชมฺพุทีปตเล พุทฺธุปฺปาโท วิย ปวตฺตติ, สกลชมฺพุทีเป เอกสตราชาโน ตสฺส มธุรธมฺมกถาย พชฺฌิตฺวา หตฺถิกนฺตวีณาสเรน ปลุทฺธมตฺตวารณา วิย อตฺตโน อตฺตโน รชฺชานิ คนฺตุํ น อิจฺฉนฺติ, เอวรูโป โส มธุรธมฺมกถิโก’’ติ ตสฺส คุณํ วณฺเณสิ. สา วิธุรปณฺฑิตสฺส คุณกถํ สุตฺวา ตสฺส ธมฺมกถํ โสตุกามา หุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘สจาหํ วกฺขามิ ‘เทว, ตสฺส ธมฺมกถํ โสตุกามา, อิธ นํ อาเนหี’ติ, น เมตํ อาเนสฺสติ. ยํนูนาหํ ‘ตสฺส เม หทเย โทหโฬ อุปฺปนฺโน’ติ คิลานาลยํ กเรยฺย’’นฺติ. สา ตถา กตฺวา สิรคพฺภํ ปวิสิตฺวา อตฺตโน ปริจาริกานํ สฺํ ทตฺวา สิริสยเน นิปชฺชิ. นาคราชา อุปฏฺานเวลาย ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘กหํ วิมลา’’ติ ปริจาริกาโย ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา, เทวา’’ติ วุตฺเต อุฏฺายาสนา ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา สยนปสฺเส นิสีทิตฺวา สรีรํ ปริมชฺชนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๓๔๖.

‘‘ปณฺฑุ กิสิยาสิ ทุพฺพลา, วณฺณรูปํ น ตเวทิสํ ปุเร;

วิมเล อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา, กีทิสี ตุยฺหํ สรีรเวทนา’’ติ.

ตตฺถ ปณฺฑูติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กิสิยาติ กิสา. ทุพฺพลาติ อปฺปถามา. วณฺณรูปํ น ตเวทิสํ ปุเรติ ตว วณฺณสงฺขาตํ รูปํ ปุเร เอทิสํ น โหติ, นิทฺโทสํ อนวชฺชํ, ตํ อิทานิ ปริวตฺติตฺวา อมนุฺสภาวํ ชาตํ. วิมเลติ ตํ อาลปติ.

อถสฺส สา อาจิกฺขนฺตี ทุติยํ คาถมาห –

๑๓๔๗.

‘‘ธมฺโม มนุเชสุ มาตีนํ, โทหโฬ นาม ชนินฺท วุจฺจติ;

ธมฺมาหฏํ นาคกุฺชร, วิธุรสฺส หทยาภิปตฺถเย’’ติ.

ตตฺถ ธมฺโมติ สภาโว. มาตีนนฺติ อิตฺถีนํ. ชนินฺทาติ นาคชนสฺส อินฺท. ธมฺมาหฏํ นาคกุฺชร, วิธุรสฺส หทยาภิปตฺถเยติ นาคเสฏฺ, อหํ ธมฺเมน สเมน อสาหสิกกมฺเมน อาหฏํ วิธุรสฺส หทยํ อภิปตฺถยามิ, ตํ เม ลภมานาย ชีวิตํ อตฺถิ, อลภมานาย อิเธว มรณนฺติ ตสฺส ปฺํ สนฺธาเยวมาห –

ตํ สุตฺวา นาคราชา ตติยํ คาถมาห –

๑๓๔๘.

‘‘จนฺทํ โข ตฺวํ โทหฬายสิ, สูริยํ วา อถ วาปิ มาลุตํ;

ทุลฺลภฺหิ วิธุรสฺส ทสฺสนํ, โก วิธุรมิธ มานยิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ทุลฺลภฺหิ วิธุรสฺส ทสฺสนนฺติ อสมธุรสฺส วิธุรสฺส ทสฺสนเมว ทุลฺลภํ. ตสฺส หิ สกลชมฺพุทีเป ราชาโน ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา วิจรนฺติ, ปสฺสิตุมฺปิ นํ โกจิ น ลภติ, ตํ โก อิธ อานยิสฺสตีติ วทติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อลภมานาย เม อิเธว มรณ’’นฺติ ปริวตฺติตฺวา ปิฏฺึ ทตฺวา สาฬกกณฺเณน มุขํ ปิทหิตฺวา นิปชฺชิ. นาคราชา อนตฺตมโน สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สยนปิฏฺเ นิสินฺโน ‘‘วิมลา วิธุรปณฺฑิตสฺส หทยมํสํ อาหราเปตี’’ติ สฺี หุตฺวา ‘‘ปณฺฑิตสฺส หทยํ อลภนฺติยา วิมลาย ชีวิตํ นตฺถิ, กถํ นุ โข ตสฺส หทยมํสํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อถสฺส ธีตา อิรนฺธตี นาม นาคกฺา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา มหนฺเตน สิริวิลาเสน ปิตุ อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา, สา ตสฺส อินฺทฺริยวิการํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, อติวิย โทมนสฺสปฺปตฺโตสิ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ ปุจฺฉนฺตี อิมํ คาถมาห –

๑๓๔๙.

‘‘กึ นุ ตาต ตุวํ ปชฺฌายสิ, ปทุมํ หตฺถคตํว เต มุขํ;

กึ นุ ทุมฺมนรูโปสิ อิสฺสร, มา ตฺวํ โสจิ อมิตฺตตาปนา’’ติ.

ตตฺถ ปชฺฌายสีติ ปุนปฺปุนํ จินฺเตสิ. หตฺถคตนฺติ หตฺเถน ปริมทฺทิตํ ปทุมํ วิย เต มุขํ ชาตํ. อิสฺสราติ ปฺจโยชนสติกสฺส มนฺทิรนาคภวนสฺส, สามีติ.

ธีตุ วจนํ สุตฺวา นาคราชา ตมตฺถํ อาโรเจนฺโต อาห –

๑๓๕๐.

‘‘มาตา หิ ตว อิรนฺธติ, วิธุรสฺส หทยํ ธนิยติ;

ทุลฺลภฺหิ วิธุรสฺส ทสฺสนํ, โก วิธุรมิธ มานยิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ธนิยตีติ ปตฺเถติ อิจฺฉติ.

อถ นํ นาคราชา ‘‘อมฺม, มม สนฺติเก วิธุรํ อาเนตุํ สมตฺโถ นตฺถิ, ตฺวํ มาตุ ชีวิตํ เทหิ, วิธุรํ อาเนตุํ สมตฺถํ ภตฺตารํ ปริเยสาหี’’ติ อุยฺโยเชนฺโต อุปฑฺฒคาถมาห –

๑๓๕๑.

‘‘ตสฺส ภตฺตุปริเยสนํ จร, โย วิธุรมิธ มานยิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ จราติ วิจร.

อิติ โส กิเลสาภิรตภาเวน ธีตุ อนนุจฺฉวิกํ กถํ กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

‘‘ปิตุโน จ สา สุตฺวาน วากฺยํ, รตฺตึ นิกฺขมฺม อวสฺสุตึ จรี’’ติ.

ตตฺถ อวสฺสุตินฺติ ภิกฺขเว, สา นาคมาณวิกา ปิตุ วจนํ สุตฺวา ปิตรํ อสฺสาเสตฺวา มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมฺปิ อสฺสาเสตฺวา อตฺตโน สิริคพฺภํ คนฺตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา เอกํ กุสุมฺภรตฺตวตฺถํ นิวาเสตฺวา เอกํ เอกํเส กตฺวา ตเมว รตฺตึ อุทกํ ทฺวิธา กตฺวา นาคภวนโต นิกฺขมฺม หิมวนฺตปฺปเทเส สมุทฺทตีเร ิตํ สฏฺิโยชนุพฺเพธํ เอกคฺฆนํ กาฬปพฺพตํ นาม อฺชนคิรึ คนฺตฺวา อวสฺสุตึ จริ กิเลสอวสฺสุตึ ภตฺตุปริเยสนํ จรีติ อตฺโถ.

จรนฺตี จ ยานิ หิมวนฺเต วณฺณคนฺธสมฺปนฺนานิ ปุปฺผานิ, ตานิ อาหริตฺวา สกลปพฺพตํ มณิอคฺฆิยํ วิย อลงฺกริตฺวา อุปริตเล ปุปฺผสนฺถารํ กตฺวา มโนรเมนากาเรน นจฺจิตฺวา มธุรคีตํ คายนฺตี สตฺตมํ คาถมาห –

๑๓๕๒.

‘‘เก คนฺธพฺเพ รกฺขเส จ นาเค, เก กิมฺปุริเส จาปิ มานุเส;

เก ปณฺฑิเต สพฺพกามทเท, ทีฆรตฺตํ ภตฺตา เม ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ เก คนฺธพฺเพ รกฺขเส จ นาเคติ โก คนฺธพฺโพ วา รกฺขโส วา นาโค วา. เก ปณฺฑิเต สพฺพกามทเทติ โก เอเตสุ คนฺธพฺพาทีสุ ปณฺฑิโต สพฺพกามํ ทาตุํ สมตฺโถ, โส วิธุรสฺส หทยมํสโทหฬินิยา มม มาตุ มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา มยฺหํ ทีฆรตฺตํ ภตฺตา ภวิสฺสตีติ.

ตสฺมึ ขเณ เวสฺสวณมหาราชสฺส ภาคิเนยฺโย ปุณฺณโก นาม ยกฺขเสนาปติ ติคาวุตปฺปมาณํ มโนมยสินฺธวํ อภิรุยฺห กาฬปพฺพตมตฺถเกน ยกฺขสมาคมํ คจฺฉนฺโต ตํ ตาย คีตสทฺทํ อสฺโสสิ. อนนฺตเร อตฺตภาเว อนุภูตปุพฺพาย อิตฺถิยา คีตสทฺโท ตสฺส ฉวิอาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ อฏฺาสิ. โส ตาย ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา นิวตฺติตฺวา สินฺธวปิฏฺเ นิสินฺโนว ‘‘ภทฺเท, อหํ มม ปฺาย ธมฺเมน สเมน วิธุรสฺส หทยํ อาเนตุํ สมตฺโถมฺหิ, ตฺวํ มา จินฺตยี’’ติ ตํ อสฺสาเสนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๑๓๕๓.

‘‘อสฺสาส เหสฺสามิ เต ปติ, ภตฺตา เต เหสฺสามิ อนินฺทโลจเน;

ปฺา หิ มมํ ตถาวิธา, อสฺสาส เหสฺสสิ ภริยา มมา’’ติ.

ตตฺถ อนินฺทโลจเนติ อนินฺทิตพฺพโลจเน. ตถาวิธาติ วิธุรสฺส หทยมํสํ อาหรณสมตฺถา.

อถ นํ อิรนฺธตี ‘‘เตน หิ เอหิ, คจฺฉาม เม ปิตุ สนฺติก’’นฺติ อาเนสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๕๔.

‘‘อวจาสิ ปุณฺณกํ อิรนฺธตี, ปุพฺพปถานุคเตน เจตสา;

เอหิ คจฺฉาม ปิตุ มมนฺติเก, เอโสว เต เอตมตฺถํ ปวกฺขตี’’ติ.

ตตฺถ ปุพฺพปถานุคเตนาติ อนนฺตเร อตฺตภาเว ภูตปุพฺพสามิเก ตสฺมึ ปุพฺพปเถเนว อนุคเตน. เอหิ คจฺฉามาติ ภิกฺขเว, โส ยกฺขเสนาปติ เอวํ วตฺวา ‘‘อิมํ อสฺสปิฏฺึ อาโรเปตฺวา เนสฺสามี’’ติ ปพฺพตมตฺถกา โอตริตฺวา ตสฺสา คหณตฺถํ หตฺถํ ปสาเรสิ. สา อตฺตโน หตฺถํ คณฺหิตุํ อทตฺวา เตน ปสาริตหตฺถํ สยํ คเหตฺวา ‘‘สามิ, นาหํ อนาถา, มยฺหํ ปิตา วรุโณ นาม นาคราชา, มาตา วิมลา นาม เทวี, เอหิ มม ปิตุ สนฺติกํ คจฺฉาม, เอโส เอว เต ยถา อมฺหากํ มงฺคลกิริยาย ภวิตพฺพํ, เอวํ เอตมตฺถํ ปวกฺขตี’’ติ อวจาสิ.

เอวํ วตฺวา สา ยกฺขํ คเหตฺวา ปิตุ สนฺติกํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๕๕.

‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทนุสฺสทา;

ยกฺขํ หตฺเถ คเหตฺวาน, ปิตุสนฺติกุปาคมี’’ติ.

ตตฺถ ปิตุสนฺติกุปาคมีติ อตฺตโน ปิตุโน นาครฺโ สนฺติกํ อุปาคมิ.

ปุณฺณโกปิ ยกฺโข ปฏิหริตฺวา นาคราชสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อิรนฺธตึ ยาจนฺโต อาห –

๑๓๕๖.

‘‘นาควร วโจ สุโณหิ เม, ปติรูปํ ปฏิปชฺช สุงฺกิยํ;

ปตฺเถมิ อหํ อิรนฺธตึ, ตาย สมงฺคึ กโรหิ มํ ตุวํ.

๑๓๕๗.

‘‘สตํ หตฺถี สตํ อสฺสา, สตํ อสฺสตรีรถา;

สตํ วลภิโย ปุณฺณา, นานารตฺนสฺส เกวลา;

เต นาค ปฏิปชฺชสฺสุ, ธีตรํ เทหิรนฺธติ’’นฺติ.

ตตฺถ สุงฺกิยนฺติ อตฺตโน กุลปเทสานุรูปํ ธิตุ สุงฺกํ ธนํ ปฏิปชฺช คณฺห. สมงฺคึ กโรหีติ มํ ตาย สทฺธึ สมงฺคิภูตํ กโรหิ. วลภิโยติ ภณฺฑสกฏิโย. นานารตฺนสฺส เกวลาติ นานารตนสฺส สกลปริปุณฺณา.

อถ นํ นาคราชา อาห –

๑๓๕๘.

‘‘ยาว อามนฺตเย าตี, มิตฺเต จ สุหทชฺชเน;

อนามนฺต กตํ กมฺมํ, ตํ ปจฺฉา อนุตปฺปตี’’ติ.

ตตฺถ ยาว อามนฺตเย าตีติ โภ ยกฺขเสนาปติ, อหํ ตุยฺหํ ธีตรํ เทมิ, โน น เทมิ, โถกํ ปน อาคเมหิ, ยาว าตเกปิ ชานาเปมิ. ตํ ปจฺฉา อนุตปฺปตีติ อิตฺถิโย หิ คตคตฏฺาเน อภิรมนฺติปิ อนภิรมนฺติปิ, อนภิรติกาเล าตกาทโย อมฺเหหิ สทฺธึ อนามนฺเตตฺวา กตํ กมฺมํ นาม เอวรูปํ โหตีติ อุสฺสุกฺกํ น กโรนฺติ, เอวํ ตํ กมฺมํ ปจฺฉา อนุตาปํ อาวหตีติ.

เอวํ วตฺวา โส ภริยาย วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ตาย สทฺธึ สลฺลปิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๕๙.

‘‘ตโต โส วรุโณ นาโค, ปวิสิตฺวา นิเวสนํ;

ภริยํ อามนฺตยิตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๑๓๖๐.

‘‘‘อยํ โส ปุณฺณโก ยกฺโข, ยาจตี มํ อิรนฺธตึ;

พหุนา วิตฺตลาเภน, ตสฺส เทม ปิยํ มม’’’นฺติ.

ตตฺถ ปวิสิตฺวาติ วรุโณ ปุณฺณกํ ตตฺเถว เปตฺวา สยํ อุฏฺาย ยตฺถสฺส ภริยา นิปนฺนา, ตํ นิเวสนํ ปวิสิตฺวา. ปิยํ มมนฺติ มม ปิยํ ธีตรํ ตสฺส พหุนา วิตฺตลาเภน เทมาติ ปุจฺฉติ.

วิมลา อาห –

๑๓๖๑.

‘‘น ธเนน น วิตฺเตน, ลพฺภา อมฺหํ อิรนฺธตี;

สเจ จ โข หทยํ ปณฺฑิตสฺส, ธมฺเมน ลทฺธา อิธ มาหเรยฺย;

เอเตน วิตฺเตน กุมาริ ลพฺภา, นาฺํ ธนํ อุตฺตริ ปตฺถยามา’’ติ.

ตตฺถ อมฺหํ อิรนฺธตีติ อมฺหากํ ธีตา อิรนฺธตี. เอเตน วิตฺเตนาติ เอเตน ตุฏฺิการเณน.

โส ตาย สทฺธึ มนฺเตตฺวา ปุนเทว ปุณฺณเกน สทฺธึ มนฺเตสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๖๒.

‘‘ตโต โส วรุโณ นาโค, นิกฺขมิตฺวา นิเวสนา;

ปุณฺณกามนฺตยิตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๑๓๖๓.

‘‘‘น ธเนน น วิตฺเตน, ลพฺภา อมฺหํ อิรนฺธตี;

สเจ ตุวํ หทยํ ปณฺฑิตส, ธมฺเมน ลทฺธา อิธ มาหเรสิ;

เอเตน วิตฺเตน กุมาริ ลพฺภา, นาฺํ ธนํ อุตฺตริ ปตฺถยามา’’’ติ.

ตตฺถ ปุณฺณกามนฺตยิตฺวานาติ ปุณฺณกํ อามนฺตยิตฺวา.

ปุณฺณโก อาห –

๑๓๖๔.

‘‘ยํ ปณฺฑิโตตฺเยเก วทนฺติ โลเก, ตเมว พาโลติ ปุนาหุ อฺเ;

อกฺขาหิ เม วิปฺปวทนฺติ เอตฺถ, กํ ปณฺฑิตํ นาค ตุวํ วเทสี’’ติ.

ตตฺถ ยํ ปณฺฑิโตตฺเยเกติ โส กิร ‘‘หทยํ ปณฺฑิตสฺสา’’ติ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘ยํ เอเก ปณฺฑิโตติ วทนฺติ, ตเมว อฺเ พาโลติ กเถนฺติ. กิฺจาปิ เม อิรนฺธติยา วิธุโรติ อกฺขาตํ, ตถาปิ ตถโต ชานิตุํ ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ. ตสฺมา เอวมาห.

นาคราชา อาห –

๑๓๖๕.

‘‘โกรพฺยราชสฺส ธนฺจยสฺส, ยทิ เต สุโต วิธุโร นาม กตฺตา;

อาเนหิ ตํ ปณฺฑิตํ ธมฺมลทฺธา, อิรนฺธตี ปทจรา เต โหตู’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมลทฺธาติ ธมฺเมน ลภิตฺวา. ปทจราติ ปาทปริจาริกา.

ตํ สุตฺวา ปุณฺณโก โสมนสฺสปฺปตฺโต สินฺธวํ นยนตฺถาย อุปฏฺากํ อาณาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๖๖.

‘‘อิทฺจ สุตฺวา วรุณสฺส วากฺยํ, อุฏฺาย ยกฺโข ปรมปฺปตีโต;

ตตฺเถว สนฺโต ปุริสํ อสํสิ, อาเนหิ อาชฺมิเธว ยุตฺต’’นฺติ.

ตตฺถ ปุริสํ อสํสีติ อตฺตโน อุปฏฺากํ อาณาเปสิ. อาชฺนฺติ การณาการณชานนกสินฺธวํ. ยุตฺตนฺติ กปฺปิตํ.

๑๓๖๗.

‘‘ชาตรูปมยา กณฺณา, กาจมฺหิจมยา ขุรา;

ชมฺโพนทสฺส ปากสฺส, สุวณฺณสฺส อุรจฺฉโท’’ติ.

ตตฺถ ชาตรูปมยา กณฺณาติ ตเมว สินฺธวํ วณฺเณนฺโต อาห. ตสฺส หิ มโนมยสฺส สินฺธวสฺส ชาตรูปมยา กณฺณา, กาจมฺหิจมยา ขุรา, ตสฺส ขุรา รตฺตมณิมยาติ อตฺโถ. ชมฺโพนทสฺส ปากสฺสาติ ชมฺโพนทสฺส ปกฺกสฺส รตฺตสุวณฺณสฺส อุรจฺฉโท.

โส ปุริโส ตาวเทว ตํ สินฺธวํ อาเนสิ. ปุณฺณโก ตํ อภิรุยฺห อากาเสน เวสฺสวณสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นาคภวนํ วณฺเณตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตสฺสตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิทํ วุตฺตํ –

๑๓๖๘.

‘‘เทววาหวหํ ยานํ, อสฺสมารุยฺห ปุณฺณโก;

อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสุ, ปกฺกามิ เวหายสมนฺตลิกฺเข.

๑๓๖๙.

‘‘โส ปุณฺณโก กามราเคน คิทฺโธ, อิรนฺธตึ นาคกฺํ ชิคีสํ;

คนฺตฺวาน ตํ ภูตปตึ ยสสฺสึ, อิจฺจพฺรวี เวสฺสวณํ กุเวรํ.

๑๓๗๐.

‘‘โภควตี นาม มนฺทิเร, วาสา หิรฺวตีติ วุจฺจติ;

นคเร นิมฺมิเต กฺจนมเย, มณฺฑลสฺส อุรคสฺส นิฏฺิตํ.

๑๓๗๑.

‘‘อฏฺฏาลกา โอฏฺคีวิโย, โลหิตงฺกสฺส มสารคลฺลิโน;

ปาสาเทตฺถ สิลามยา, โสวณฺณรตเนหิ ฉาทิตา.

๑๓๗๒.

‘‘อมฺพา ติลกา จ ชมฺพุโย, สตฺตปณฺณา มุจลินฺทเกตกา;

ปิยงฺคุ อุทฺทาลกา สหา, อุปริภทฺทกา สินฺทุวารกา.

๑๓๗๓.

‘‘จมฺเปยฺยกา นาคมลฺลิกา, ภคินีมาลา อถ เมตฺถ โกลิยา;

เอเต ทุมา ปริณามิตา, โสภยนฺติ อุรคสฺส มนฺทิรํ.

๑๓๗๔.

‘‘ขชฺชุเรตฺถ สิลามยา, โสวณฺณธุวปุปฺผิตา พหู;

ยตฺถ วสโตปปาติโก, นาคราชา วรุโณ มหิทฺธิโก.

๑๓๗๕.

‘‘ตสฺส โกมาริกา ภริยา, วิมลา กฺจนเวลฺลิวิคฺคหา;

กาลา ตรุณาว อุคฺคตา, ปุจิมนฺทตฺถนี จารุทสฺสนา.

๑๓๗๖.

‘‘ลาขารสรตฺตสุจฺฉวี, กณิการาว นิวาตปุปฺผิตา;

ติทิโวกจราว อจฺฉรา, วิชฺชุวพฺภฆนา วินิสฺสฏา.

๑๓๗๗.

‘‘สา โทหฬินี สุวิมฺหิตา, วิธุรสฺส หทยํ ธนิยติ;

ตํ เตสํ เทมิ อิสฺสร, เตน เต เทนฺติ อิรนฺธตึ มม’’นฺติ.

ตตฺถ เทววาหวหํ ยานนฺติ วหิตพฺโพติ วาโห, เทวสงฺขาตํ วาหํ วหตีติ เทววาหวหํ. ยนฺติ เอเตนาติ ยานํ. กปฺปิตเกสมสฺสูติ มณฺฑนวเสน สุสํวิหิตเกสมสฺสุ. เทวานํ ปน เกสมสฺสุกรณกมฺมํ นาม นตฺถิ, วิจิตฺตกถิเกน ปน กถิตํ. ชิคีสนฺติ ปตฺถยนฺโต. เวสฺสวณนฺติ วิสาณาย ราชธานิยา อิสฺสรราชานํ. กุเวรนฺติ เอวํนามกํ. โภควตี นามาติ สมฺปนฺนโภคตาย เอวํลทฺธนามํ. มนฺทิเรติ มนฺทิรํ, ภวนนฺติ อตฺโถ. วาสา หิรฺวตีติ นาคราชสฺส วสนฏฺานตฺตา วาสาติ จ, กฺจนวติยา สุวณฺณปากาเรน ปริกฺขิตฺตตฺตา หิรฺวตีติ จ วุจฺจติ. นคเร นิมฺมิเตติ นครํ นิมฺมิตํ. กฺจนมเยติ สุวณฺณมยํ. มณฺฑลสฺสาติ โภคมณฺฑเลน สมนฺนาคตสฺส. นิฏฺิตนฺติ กรณปรินิฏฺิตํ. โอฏฺคีวิโยติ โอฏฺคีวาสณฺาเนน กตา รตฺตมณิมสารคลฺลมยา อฏฺฏาลกา. ปาสาเทตฺถาติ เอตฺถ นาคภวเน ปาสาทา. สิลามยาติ มณิมยา. โสวณฺณรตเนหีติ สุวณฺณสงฺขาเตหิ รตเนหิ, สุวณฺณิฏฺกาหิ ฉาทิตาติ อตฺโถ. สหาติ สหการา. อุปริภทฺทกาติ อุทฺทาลกชาติกาเยว รุกฺขา. จมฺเปยฺยกา นาคมลฺลิกาติ จมฺปกา จ นาคา จ มลฺลิกา จ. ภคินีมาลา อถ เมตฺถ โกลิยาติ ภคินีมาลา เจว อถ เอตฺถ นาคภวเน โกลิยา นาม รุกฺขา จ. เอเต ทุมา ปริณามิตาติ เอเต ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขา อฺมฺํ สงฺฆฏฺฏสาขตาย ปริณามิตา อากุลสมากุลา. ขชฺชุเรตฺถาติ ขชฺชุริรุกฺขา เอตฺถ. สิลามยาติ อินฺทนีลมณิมยา. โสวณฺณธุวปุปฺผิตาติ เต ปน สุวณฺณปุปฺเผหิ นิจฺจปุปฺผิตา. ยตฺถ วสโตปปาติโกติ ยตฺถ นาคภวเน โอปปาติโก นาคราชา วสติ. กฺจนเวลฺลิวิคฺคหาติ สุวณฺณราสิสสฺสิริกสรีรา. กาลา ตรุณาว อุคฺคตาติ วิลาสยุตฺตตาย มนฺทวาเตริตา กาลวลฺลิปลฺลวา วิย อุคฺคตา. ปุจิมนฺทตฺถนีติ นิมฺพผลสณฺานจูจุกา. ลาขารสรตฺตสุจฺฉวีติ หตฺถปาทตลฉวึ สนฺธาย วุตฺตํ. ติทิโวกจราติ ติทสภวนจรา. วิชฺชุวพฺภฆนาติ อพฺภฆนวลาหกนฺตรโต นิสฺสฏา วิชฺชุลตา วิย. ตํ เตสํ เทมีติ ตํ ตสฺส หทยํ อหํ เตสํ เทมิ, เอวํ ชานสฺสุ. อิสฺสราติ มาตุลํ อาลปติ.

อิติ โส เวสฺสวเณน อนนุฺาโต คนฺตุํ อวิสหิตฺวา ตํ อนุชานาเปตุํ เอตา เอตฺตกา คาถา กเถสิ. เวสฺสวโณ ปน ตสฺส กถํ น สุณาติ. กึการณา? ทฺวินฺนํ เทวปุตฺตานํ วิมานอฑฺฑํ ปริจฺฉินฺทตีติ. ปุณฺณโก อตฺตโน วจนสฺส อสฺสุตภาวํ ตฺวา ชินกเทวปุตฺตสฺส สนฺติเก อฏฺาสิ. เวสฺสวโณ อฑฺฑํ วินิจฺฉินิตฺวา ปราชิตํ อนุฏฺาเปตฺวา อิตรํ ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, ตว วิมาเน วสาหี’’ติ อาห. ปุณฺณโก ‘‘คจฺฉ ตฺว’’นฺติ วุตฺตกฺขเณเยว ‘‘มยฺหํ มาตุเลน มม เปสิตภาวํ ชานาถา’’ติ กติปยเทวปุตฺเต สกฺขึ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สินฺธวํ อาหราเปตฺวา อภิรุยฺห ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๗๘.

‘‘โส ปุณฺณโก ภูตปตึ ยสสฺสึ, อามนฺตย เวสฺสวณํ กุเวรํ;

ตตฺเถว สนฺโต ปุริสํ อสํสิ, อาเนหิ อาชฺมิเธว ยุตฺตํ.

๑๓๗๙.

‘‘ชาตรูปมยา กณฺณา, กาจมฺหิจมยา ขุรา;

ชมฺโพนทสฺส ปากสฺส, สุวณฺณสฺส อุรจฺฉโท.

๑๓๘๐.

‘‘เทววาหวหํ ยานํ, อสฺสมารุยฺห ปุณฺณโก;

อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสุ, ปกฺกามิ เวหายสมนฺตลิกฺเข’’ติ.

ตตฺถ อามนฺตยาติ อามนฺตยิตฺวา.

โส อากาเสน คจฺฉนฺโตเยว จินฺเตสิ ‘‘วิธุรปณฺฑิโต มหาปริวาโร, น สกฺกา ตํ คณฺหิตุํ, ธนฺจยโกรพฺโย ปน ชูตวิตฺตโก, ตํ ชูเตน ชินิตฺวา วิธุรํ คณฺหิสฺสามิ, ฆเร ปนสฺส พหูนิ รตนานิ, อปฺปคฺเฆน ลกฺเขน ชูตํ น กีฬิสฺสติ, มหคฺฆรตนํ หริตุํ วฏฺฏติ, อฺํ รตนํ ราชา น คณฺหิสฺสติ, ราชคหสฺส สามนฺตา เวปุลฺลปพฺพตพฺภนฺตเร จกฺกวตฺติรฺโ ปริโภคมณิรตนํ อตฺถิ มหานุภาวํ, ตํ คเหตฺวา เตน ราชานํ ปโลเภตฺวา ชินิสฺสามี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๘๑.

‘‘โส อคฺคมา ราชคหํ สุรมฺมํ, องฺคสฺส รฺโ นครํ ทุรายุตํ;

ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส.

๑๓๘๒.

‘‘มยูรโกฺจาคณสมฺปฆุฏฺํ, ทิชาภิฆุฏฺํ ทิชสงฺฆเสวิตํ;

นานาสกุนฺตาภิรุทํ สุวงฺคณํ, ปุปฺผาภิกิณฺณํ หิมวํว ปพฺพตํ.

๑๓๘๓.

‘‘โส ปุณฺณโก เวปุลมาภิรูหิ, สิลุจฺจยํ กิมฺปุริสานุจิณฺณํ;

อนฺเวสมาโน มณิรตนํ อุฬารํ, ตมทฺทสา ปพฺพตกูฏมชฺเฌ’’ติ.

ตตฺถ องฺคสฺส รฺโติ ตทา องฺคสฺส รฺโว มคธรชฺชํ อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘องฺคสฺส รฺโ นคร’’นฺติ. ทุรายุตนฺติ ปจฺจตฺถิเกหิ ทุรายุตฺตํ. มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสาติ มสกฺกสารสงฺขาเต สิเนรุปพฺพตมตฺถเก มาปิตตฺตา ‘‘มสกฺกสาร’’นฺติ ลทฺธนามํ วาสวสฺส ภวนํ วิย. ทิชาภิฆุฏฺนฺติ อฺเหิ จ ปกฺขีหิ อภิสงฺฆุฏฺํ นินฺนาทิตํ. นานาสกุนฺตาภิรุทนฺติ มธุรสฺสเรน คายนฺเตหิ วิย นานาวิเธหิ สกุเณหิ อภิรุทํ, อภิคีตนฺติ อตฺโถ. สุวงฺคณนฺติ สุนฺทรองฺคณํ มนุฺตลํ. หิมวํว ปพฺพตนฺติ หิมวนฺตปพฺพตํ วิย. เวปุลมาภิรูหีติ ภิกฺขเว, โส ปุณฺณโก เอวรูปํ เวปุลฺลปพฺพตํ อภิรุหิ. ปพฺพตกูฏมชฺเฌติ ปพฺพตกูฏอนฺตเร ตํ มณึ อทฺทส.

๑๓๘๔.

‘‘ทิสฺวา มณึ ปภสฺสรํ ชาติมนฺตํ, มโนหรํ มณิรตนํ อุฬารํ;

ททฺทลฺลมานํ ยสสา ยสสฺสินํ, โอภาสตี วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๑๓๘๕.

‘‘ตมคฺคหี เวฬุริยํ มหคฺฆํ, มโนหรํ นาม มหานุภาวํ;

อาชฺมารุยฺห มโนมวณฺโณ, ปกฺกามิ เวหายสมนฺตลิกฺเข’’ติ.

ตตฺถ มโนหรนฺติ มนสาภิปตฺถิตสฺส ธนสฺส อาหรณสมตฺถํ. ททฺทลฺลมานนฺติ อุชฺชลมานํ. ยสสาติ ปริวารมณิคเณน. โอภาสตีติ ตํ มณิรตนํ อากาเส วิชฺชุริว โอภาสติ. ตมคฺคหีติ ตํ มณิรตนํ อคฺคเหสิ. ตํ ปน มณิรตนํ กุมฺภิโร นาม ยกฺโข กุมฺภณฺฑสหสฺสปริวาโร รกฺขติ. โส ปน เตน กุชฺฌิตฺวา โอโลกิตมตฺเตเนว ภีตตสิโต ปลายิตฺวา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺวา กมฺปมาโน โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. อิติ ตํ ปลาเปตฺวา ปุณฺณโก มณิรตนํ อคฺคเหสิ. มโนหรํ นามาติ มนสา จินฺติตํ ธนํ อาหริตุํ สกฺโกตีติ เอวํลทฺธนามํ.

อิติ โส ตํ คเหตฺวา อากาเสน คจฺฉนฺโต ตํ นครํ ปตฺโต. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๘๖.

‘‘โส อคฺคมา นครมินฺทปตฺถํ, โอรุยฺหุปาคจฺฉิ สภํ กุรูนํ;

สมาคเต เอกสตํ สมคฺเค, อวฺเหตฺถ ยกฺโข อวิกมฺปมาโน.

๑๓๘๗.

‘‘โก นีธ รฺํ วรมาภิเชติ, กมาภิเชยฺยาม วรทฺธเนน;

กมนุตฺตรํ รตนวรํ ชินาม, โก วาปิ โน เชติ วรทฺธเนนา’’ติ.

ตตฺถ โอรุยฺหุปาคจฺฉิ สภํ กุรูนนฺติ ภิกฺขเว, โส ปุณฺณโก อสฺสปิฏฺิโต โอรุยฺห อสฺสํ อทิสฺสมานรูปํ เปตฺวา มาณวกวณฺเณน กุรูนํ สภํ อุปคโต. เอกสตนฺติ เอกสตราชาโน อฉมฺภีโต หุตฺวา ‘‘โก นีธา’’ติอาทีนิ วทนฺโต ชูเตน อวฺเหตฺถ. โก นีธาติ โก นุ อิมสฺมึ ราชสมาคเม. รฺนฺติ ราชูนํ อนฺตเร. วรมาภิเชตีติ อมฺหากํ สนฺตกํ เสฏฺรตนํ อภิเชติ, ‘‘อหํ ชินามี’’ติ วตฺตุํ อุสฺสหติ. กมาภิเชยฺยามาติ กํ วา มยํ ชิเนยฺยาม. วรทฺธเนนาติ อุตฺตมธเนน. กมนุตฺตรนฺติ ชินนฺโต จ กตรํ ราชานํ อนุตฺตรํ รตนวรํ ชินาม. โก วาปิ โน เชตีติ อถ วา โก นาม ราชา อมฺเห วรธเนน เชติ. อิติ โส จตูหิ ปเทหิ โกรพฺยเมว ฆฏฺเฏติ.

อถ ราชา ‘‘มยา อิโต ปุพฺเพ เอวํ สูโร หุตฺวา กเถนฺโต นาม น ทิฏฺปุพฺโพ, โก นุ โข เอโส’’ติ จินฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๓๘๘.

‘‘กุหึ นุ รฏฺเ ตว ชาติภูมิ, น โกรพฺยสฺเสว วโจ ตเวทํ;

อภีโตสิ โน วณฺณนิภาย สพฺเพ, อกฺขาหิ เม นามฺจ พนฺธเว จา’’ติ.

ตตฺถ น โกรพฺยสฺเสวาติ กุรุรฏฺวาสิกสฺเสว ตว วจนํ น โหติ.

ตํ สุตฺวา อิตโร ‘‘อยํ ราชา มม นามํ ปุจฺฉติ, ปุณฺณโก จ นาม ทาโส โหติ. สจาหํ ‘ปุณฺณโกสฺมี’ติ วกฺขามิ, ‘เอส ทาโส, ตสฺมา มํ ปคพฺภตาย เอวํ วเทตี’ติ อวมฺิสฺสติ, อนนฺตราตีเต อตฺตภาเว นามมสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๓๘๙.

‘‘กจฺจายโน มาณวโกสฺมิ ราช, อนูนนาโม อิติ มวฺหยนฺติ;

องฺเคสุ เม าตโย พนฺธวา จ, อกฺเขน เทวสฺมิ อิธานุปตฺโต’’ติ.

ตตฺถ อนูนนาโมติ น อูนนาโม. อิมินา อตฺตโน ปุณฺณกนามเมว ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา กเถติ. อิติ มวฺหยนฺตีติ อิติ มํ อวฺหยนฺติ ปกฺโกสนฺติ. องฺเคสูติ องฺครฏฺเ กาลจมฺปานคเร วสนฺติ. อกฺเขน เทวสฺมีติ เทว, ชูตกีฬนตฺเถน อิธ อนุปฺปตฺโตสฺมิ.

อถ ราชา ‘‘มาณว, ตฺวํ ชูเตน ชิโต กึ ทสฺสสิ, กึ เต อตฺถี’’ติ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๓๙๐.

‘‘กึ มาณวสฺส รตนานิ อตฺถิ, เย ตํ ชินนฺโต หเร อกฺขธุตฺโต;

พหูนิ รฺโ รตนานิ อตฺถิ, เต ตฺวํ ทลิทฺโท กถมวฺหเยสี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – กิตฺตกานิ โภโต มาณวสฺส รตนานิ อตฺถิ, เย ตํ ชินนฺโต อกฺขธุตฺโต ‘‘อาหรา’’ติ วตฺวา หเรยฺย. รฺโ ปน นิเวสเน พหูนิ รตนานิ อตฺถิ, เต ราชาโน เอวํ พหุธเน ตฺวํ ทลิทฺโท สมาโน กถํ ชูเตน อวฺหยสีติ.

ตโต ปุณฺณโก คาถมาห –

๑๓๙๑.

‘‘มโนหโร นาม มณี มมายํ, มโนหรํ มณิรตนํ อุฬารํ;

อิมฺจ อาชฺมมิตฺตตาปนํ, เอตํ เม ชินิตฺวา หเร อกฺขธุตฺโต’’ติ.

ปาฬิโปตฺถเกสุ ปน ‘‘มณิ มม วิชฺชติ โลหิตงฺโก’’ติ ลิขิตํ. โส ปน มณิ เวฬุริโย, ตสฺมา อิทเมว สเมติ.

ตตฺถ อาชฺนฺติ อิมํ อาชานียสฺสฺจ มณิฺจาติ เอตํ เม อุภยํ หเรยฺย อกฺขธุตฺโตติ อสฺสํ ทสฺเสตฺวา เอวมาห.

ตํ สุตฺวา ราชา คาถมาห –

๑๓๙๒.

‘‘เอโก มณี มาณว กึ กริสฺสติ, อาชานิเยโก ปน กึ กริสฺสติ;

พหูนิ รฺโ มณิรตนานิ อตฺถิ, อาชานิยา วาตชวา อนปฺปกา’’ติ.

โทหฬกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

มณิกณฺฑํ

โส รฺโ กถํ สุตฺวา ‘‘มหาราช, กึ นาม เอตํ วเทถ, เอโก อสฺโส อสฺสสหสฺสํ ลกฺขํ โหติ, เอโก มณิ มณิสหสฺสํ ลกฺขํ โหติ. น หิ สพฺเพ อสฺสา เอกสทิสา, อิมสฺส ตาว ชวํ ปสฺสถา’’ติ วตฺวา อสฺสํ อภิรุหิตฺวา ปาการมตฺถเกน เปเสสิ. สตฺตโยชนิกํ นครํ อสฺเสหิ คีวาย คีวํ ปหรนฺเตหิ ปริกฺขิตฺตํ วิย อโหสิ. อถานุกฺกเมน อสฺโสปิ น ปฺายิ, ยกฺโขปิ น ปฺายิ, อุทเร พทฺธรตฺตปโฏว ปฺายิ. โส อสฺสโต โอรุยฺห ‘‘ทิฏฺโ, มหาราช, อสฺสสฺส เวโค’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, ทิฏฺโ’’ติ วุตฺเต ‘‘อิทานิ ปุน ปสฺส, มหาราชา’’ติ วตฺวา อสฺสํ อนฺโตนคเร อุยฺยาเน โปกฺขรณิยา อุทกปิฏฺเ เปเสสิ, ขุรคฺคานิ อเตเมนฺโตว ปกฺขนฺทิ. อถ นํ ปทุมปตฺเตสุ วิจราเปตฺวา ปาณึ ปหริตฺวา หตฺถํ ปสาเรสิ, อสฺโส อาคนฺตฺวา ปาณิตเล ปติฏฺาสิ. ตโต ‘‘วฏฺฏเต เอวรูปํ อสฺสรตนํ นรินฺทา’’ติ วตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ‘‘มหาราช, อสฺสรตนํ ตาว ติฏฺตุ, มณิรตนสฺส มหานุภาวํ ปสฺสา’’ติ วตฺวา ตสฺสานุภาวํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๓๙๓.

‘‘อิทฺจ เม มณิรตนํ, ปสฺส ตฺวํ ทฺวิปทุตฺตม;

อิตฺถีนํ วิคฺคหา เจตฺถ, ปุริสานฺจ วิคฺคหา.

๑๓๙๔.

‘‘มิคานํ วิคฺคหา เจตฺถ, สกุณานฺจ วิคฺคหา;

นาคราชา สุปณฺณา จ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ อิตฺถีนนฺติ เอตสฺมิฺหิ มณิรตเน อลงฺกตปฏิยตฺตา อเนกา อิตฺถิวิคฺคหา ปุริสวิคฺคหา นานปฺปการา มิคปกฺขิสงฺฆา เสนงฺคาทีนิ จ ปฺายนฺติ, ตานิ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. นิมฺมิตนฺติ อิทํ เอวรูปํ อจฺเฉรกํ มณิมฺหิ นิมฺมิตํ ปสฺส.

‘‘อปรมฺปิ ปสฺสาหี’’ติ วตฺวา คาถา อาห –

๑๓๙๕.

‘‘หตฺถานีกํ รถานีกํ, อสฺเส ปตฺตี จ วมฺมิเน;

จตุรงฺคินิมํ เสนํ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๓๙๖.

‘‘หตฺถาโรเห อนีกฏฺเ, รถิเก ปตฺติการเก;

พลคฺคานิ วิยูฬฺหานิ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ พลคฺคานีติ พลาเนว. วิยูฬฺหานีติ พฺยูหวเสน ิตานิ.

๑๓๙๗.

‘‘ปุรํ อุทฺธาปสมฺปนฺนํ, พหุปาการโตรณํ;

สิงฺฆาฏเก สุภูมิโย, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๓๙๘.

‘‘เอสิกา ปริขาโย จ, ปลิขํ อคฺคฬานิ จ;

อฏฺฏาลเก จ ทฺวาเร จ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ ปุรนฺติ นครํ. อุทฺธาปสมฺปนฺนนฺติ ปาการวตฺถุนา สมฺปนฺนํ. พหุปาการโตรณนฺติ อุจฺจปาการโตรณนครทฺวาเรน สมฺปนฺนํ. สิงฺฆาฏเกติ วีถิจตุกฺกานิ. สุภูมิโยติ นครูปจาเร วิจิตฺตา รมณียภูมิโย. เอสิกาติ นครทฺวาเรสุ อุฏฺาปิเต เอสิกตฺถมฺเภ. ปลิขนฺติ ปลิฆํ, อยเมว วา ปาโ. อคฺคฬานีติ นครทฺวารกวาฏานิ. ทฺวาเร จาติ โคปุรานิ จ.

๑๓๙๙.

‘‘ปสฺส โตรณมคฺเคสุ, นานาทิชคณา พหู;

หํสา โกฺจา มยูรา จ, จกฺกวากา จ กุกฺกุหา.

๑๔๐๐.

‘‘กุณาลกา พหู จิตฺรา, สิขณฺฑี ชีวชีวกา;

นานาทิชคณากิณฺณํ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ โตรณมคฺเคสูติ เอตสฺมึ นคเร โตรณคฺเคสุ. กุณาลกาติ กาฬโกกิลา. จิตฺราติ จิตฺรปตฺตโกกิลา.

๑๔๐๑.

‘‘ปสฺส นครํ สุปาการํ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;

สมุสฺสิตธชํ รมฺมํ, โสณฺณวาลุกสนฺถตํ.

๑๔๐๒.

‘‘ปสฺเสตฺถ ปณฺณสาลาโย, วิภตฺตา ภาคโส มิตา;

นิเวสเน นิเวเส จ, สนฺธิพฺยูเห ปถทฺธิโย’’ติ.

ตตฺถ สุปาการนฺติ กฺจนปาการปริกฺขิตฺตํ. ปณฺณสาลาโยติ นานาภณฺฑปุณฺเณ อาปเณ. นิเวสเน นิเวเส จาติ เคหานิ เจว เคหวตฺถูนิ จ. สนฺธิพฺยูเหติ ฆรสนฺธิโย จ อนิพฺพิทฺธรจฺฉา จ. ปถทฺธิโยติ นิพฺพิทฺธวีถิโย.

๑๔๐๓.

‘‘ปานาคาเร จ โสณฺเฑ จ, สูนา โอทนิยา ฆรา;

เวสี จ คณิกาโย จ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๐๔.

‘‘มาลากาเร จ รชเก, คนฺธิเก อถ ทุสฺสิเก;

สุวณฺณกาเร มณิกาเร, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๐๕.

‘‘อาฬาริเก จ สูเท จ, นฏนาฏกคายิโน;

ปาณิสฺสเร กุมฺภถูนิเก, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ โสณฺเฑ จาติ อตฺตโน อนุรูเปหิ กณฺกณฺณปิลนฺธเนหิ สมนฺนาคเต อาปานภูมึ สชฺเชตฺวา นิสินฺเน สุราโสณฺเฑ จ. อาฬาริเกติ ปูวปาเก. สูเทติ ภตฺตการเก. ปาณิสฺสเรติ ปาณิปฺปหาเรน คายนฺเต. กุมฺภถูนิเกติ ฆฏททฺทริวาทเก.

๑๔๐๖.

‘‘ปสฺส เภรี มุทิงฺคา จ, สงฺขา ปณวทินฺทิมา;

สพฺพฺจ ตาฬาวจรํ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๐๗.

‘‘สมฺมตาลฺจ วีณฺจ, นจฺจคีตํ สุวาทิตํ;

ตูริยตาฬิตสงฺฆุฏฺํ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๐๘.

‘‘ลงฺฆิกา มุฏฺิกา เจตฺถ, มายาการา จ โสภิยา;

เวตาลิเก จ ชลฺเล จ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ สมฺมตาลฺจาติ ขทิราทิสมฺมฺเจว กํสตาลฺจ. ตูริยตาฬิตสงฺฆุฏฺนฺติ นานาตูริยานํ ตาฬิเตหิ สงฺฆุฏฺํ. มุฏฺิกาติ มุฏฺิกมลฺลา. โสภิยาติ นครโสภนา อิตฺถี จ สมฺปนฺนรูปา ปุริสา จ. เวตาลิเกติ เวตาลอุฏฺาปเก. ชลฺเลติ มสฺสูนิ กโรนฺเต นฺหาปิเต.

๑๔๐๙.

‘‘สมชฺชา เจตฺถ วตฺตนฺติ, อากิณฺณา นรนาริภิ;

มฺจาติมฺเจ ภูมิโย, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ มฺจาติมฺเจติ มฺจานํ อุปริ พทฺธมฺเจ. ภูมิโยติ รมณียา สมชฺชภูมิโย.

๑๔๑๐.

‘‘ปสฺส มลฺเล สมชฺชสฺมึ, โผเฏนฺเต ทิคุณํ ภุชํ;

นิหเต นิหตมาเน จ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ สมชฺชสฺมินฺติ มลฺลรงฺเค. นิหเตติ นิหนิตฺวา ชินิตฺวา ิเต. นิหตมาเนติ ปราชิเต.

๑๔๑๑.

‘‘ปสฺส ปพฺพตปาเทสุ, นานามิคคณา พหู;

สีหา พฺยคฺฆา วราหา จ, อจฺฉโกกตรจฺฉโย.

๑๔๑๒.

‘‘ปลาสาทา ควชา จ, มหึสา โรหิตา รุรู;

เอเณยฺยา จ วราหา จ, คณิโน นีกสูกรา.

๑๔๑๓.

‘‘กทลิมิคา พหู จิตฺรา, พิฬารา สสกณฺฏกา;

นานามิคคณากิณฺณํ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ ปลาสาทาติ ขคฺคมิคา. ‘‘ปลตา’’ติปิ ปาโ. ควชาติ ควยา. วราหาติ เอกา มิคชาติกา. ตถา คณิโน เจว นีกสูกรา จ. พหู จิตฺราติ นานปฺปการา จิตฺรา มิคา. พิฬาราติ อรฺพิฬารา. สสกณฺฏกาติ สสา จ กณฺฏกา จ.

๑๔๑๔.

‘‘นชฺชาโย สุปฺปติตฺถาโย, โสณฺณวาลุกสนฺถตา;

อจฺฉา สวนฺติ อมฺพูนิ, มจฺฉคุมฺพนิเสวิตา.

๑๔๑๕.

‘‘กุมฺภีลา มกรา เจตฺถ, สุสุมารา จ กจฺฉปา;

ปาีนา ปาวุสา มจฺฉา, พลชา มุฺจโรหิตา’’ติ.

ตตฺถ นชฺชาโยติ นทิโย. โสณฺณวาลุกสนฺถตาติ สุวณฺณวาลุกาย สนฺถตตลา. กุมฺภีลาติ อิเม เอวรูปา ชลจรา อนฺโตนทิยํ วิจรนฺติ, เตปิ มณิมฺหิ ปสฺสาหีติ.

๑๔๑๖.

‘‘นานาทิชคณากิณฺณา, นานาทุมคณายุตา;

เวฬุริยกโรทาโย, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ เวฬุริยกโรทาโยติ เวฬุริยปาสาเณ ปหริตฺวา สทฺทํ กโรนฺติโย เอวรูปา นชฺชาโยติ.

๑๔๑๗.

‘‘ปสฺเสตฺถ โปกฺขรณิโย, สุวิภตฺตา จตุทฺทิสา;

นานาทิชคณากิณฺณา, ปุถุโลมนิเสวิตา.

๑๔๑๘.

‘‘สมนฺโตทกสมฺปนฺนํ, มหึ สาครกุณฺฑลํ;

อุเปตํ วนราเชหิ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ ปุถุโลมนิเสวิตาติ มหามจฺเฉหิ นิเสวิตา. วนราเชหีติ วนราชีหิ, อยเมว วา ปาโ.

๑๔๑๙.

‘‘ปุรโต วิเทเห ปสฺส, โคยานิเย จ ปจฺฉโต;

กุรุโย ชมฺพุทีปฺจ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๐.

‘‘ปสฺส จนฺทํ สูริยฺจ, โอภาสนฺเต จตุทฺทิสา;

สิเนรุํ อนุปริยนฺเต, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๑.

‘‘สิเนรุํ หิมวนฺตฺจ, สาครฺจ มหีตลํ;

จตฺตาโร จ มหาราเช, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๒.

‘‘อาราเม วนคุมฺเพ จ, ปาฏิเย จ สิลุจฺจเย;

รมฺเม กิมฺปุริสากิณฺเณ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๓.

‘‘ผารุสกํ จิตฺตลตํ, มิสฺสกํ นนฺทนํ วนํ;

เวชยนฺตฺจ ปาสาทํ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๔.

‘‘สุธมฺมํ ตาวตึสฺจ, ปาริฉตฺตฺจ ปุปฺผิตํ;

เอราวณํ นาคราชํ, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๕.

‘‘ปสฺเสตฺถ เทวกฺาโย, นภา วิชฺชุริวุคฺคตา;

นนฺทเน วิจรนฺติโย, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๖.

‘‘ปสฺเสตฺถ เทวกฺาโย, เทวปุตฺตปโลภินี;

เทวปุตฺเต รมมาเน, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิต’’นฺติ.

ตตฺถ วิเทเหติ ปุพฺพวิเทหทีปํ. โคยานิเยติ อปรโคยานทีปํ. กุรุโยติ อุตฺตรกุรุ จ ทกฺขิณโต ชมฺพุทีปฺจ. อนุปริยนฺเตติ เอเต จนฺทิมสูริเย สิเนรุํ อนุปริยายนฺเต. ปาฏิเยติ ปตฺถริตฺวา ปิเต วิย ปิฏฺิปาสาเณ.

๑๔๒๗.

‘‘ปโรสหสฺสปาสาเท, เวฬุริยผลสนฺถเต;

ปชฺชลนฺเต จ วณฺเณน, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๘.

‘‘ตาวตึเส จ ยาเม จ, ตุสิเต จาปิ นิมฺมิเต;

ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ.

๑๔๒๙.

‘‘ปสฺเสตฺถ โปกฺขรณิโย, วิปฺปสนฺโนทิกา สุจี;

มนฺทาลเกหิ สฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จา’’ติ.

ตตฺถ ปโรสหสฺสนฺติ ตาวตึสภวเน อติเรกสหสฺสปาสาเท.

๑๔๓๐.

‘‘ทเสตฺถ ราชิโย เสตา, ทส นีลา มโนรมา;

ฉ ปิงฺคลา ปนฺนรส, หลิทฺทา จ จตุทฺทส.

๑๔๓๑.

‘‘วีสติ ตตฺถ โสวณฺณา, วีสติ รชตามยา;

อินฺทโคปกวณฺณาภา, ตาว ทิสฺสนฺติ ตึสติ.

๑๔๓๒.

‘‘ทเสตฺถ กาฬิโย ฉจฺจ, มฺเชฏฺา ปนฺนวีสติ;

มิสฺสา พนฺธุกปุปฺเผหิ, นีลุปฺปลวิจิตฺติกา.

๑๔๓๓.

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ, อจฺจิมนฺตํ ปภสฺสรํ;

โอธิสุงฺกํ มหาราช, ปสฺส ตฺวํ ทฺวิปทุตฺตมา’’ติ.

ตตฺถ ทเสตฺถ ราชิโย เสตาติ เอตสฺมึ มณิกฺขนฺเธ ทส เสตราชิโย. ฉ ปิงฺคลา ปนฺนรสาติ ฉ จ ปนฺนรส จาติ เอกวีสติ ปิงฺคลราชิโย. หลิทฺทาติ หลิทฺทวณฺณา จตุทฺทส. ตึสตีติ อินฺทโคปกวณฺณาภา ตึส ราชิโย. ทส ฉจฺจาติ ทส จ ฉ จ โสฬส กาฬราชิโย. ปนฺนวีสตีติ ปฺจวีสติ มฺเชฏฺวณฺณา ปภสฺสรา. มิสฺสา พนฺธุกปุปฺเผหีติ กาฬมฺเชฏฺวณฺณราชิโย เอเตหิ มิสฺสา วิจิตฺติกา ปสฺส. เอตฺถ หิ กาฬราชิโย พนฺธุชีวกปุปฺเผหิ มิสฺสา, มฺเชฏฺราชิโย นีลุปฺปเลหิ วิจิตฺติกา. โอธิสุงฺกนฺติ สุงฺกโกฏฺาสํ. โย มํ ชูเต ชินิสฺสติ, ตสฺสิมํ สุงฺกโกฏฺาสํ ปสฺสาติ วทติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘โหตุ สุงฺกํ, มหาราชา’’ติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ทฺวิปทุตฺตม ปสฺส ตฺวํ อิมํ เอวรูปํ มณิกฺขนฺธํ, อิทเมว, มหาราช, สุงฺกํ โหตุ. โย มํ ชูเต ชินิสฺสติ, ตสฺสิทํ ภวิสฺสตีติ.

มณิกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

อกฺขกณฺฑํ

เอวํ วตฺวา ปุณฺณโก ‘‘มหาราช, อหํ ตาว ชูเต ปราชิโต อิมํ มณิรตนํ ทสฺสามิ, ตฺวํ ปน กึ ทสฺสสี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, มม สรีรฺจ เทวิฺจ เสตจฺฉตฺตฺจ เปตฺวา เสสํ มม สนฺตกํ สุงฺกํ โหตู’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, มา จิรายิ, อหํ ทูราคโต, ขิปฺปํ ชูตมณฺฑลํ สชฺชาเปหี’’ติ. ราชา อมจฺเจ อาณาเปสิ. เต ขิปฺปํ ชูตมณฺฑลํ สชฺเชตฺวา รฺโ วรโปตฺถกตฺถรณํ สนฺถริตฺวา เสสราชูนฺจาปิ อาสนานิ ปฺเปตฺวา ปุณฺณกสฺสปิ ปติรูปํ อาสนํ ปฺเปตฺวา รฺโ กาลํ อาโรจยึสุ. ตโต ปุณฺณโก ราชานํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๑๔๓๔.

‘‘อุปาคตํ ราช มุเปหิ ลกฺขํ, เนตาทิสํ มณิรตนํ ตวตฺถิ;

ธมฺเมน ชิสฺสาม อสาหเสน, ชิโต จ โน ขิปฺปมวากโรหี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ชูตสาลาย กมฺมํ อุปาคตํ นิฏฺิตํ, เอตาทิสํ มณิรตนํ ตว นตฺถิ, มา ปปฺจํ กโรหิ, อุเปหิ ลกฺขํ อกฺเขหิ กีฬนฏฺานํ อุปคจฺฉ. กีฬนฺตา จ มยํ ธมฺเมน ชิสฺสาม, ธมฺเมเนว โน อสาหเสน ชโย โหตุ. สเจ ปน ตฺวํ ชิโต ภวิสฺสสิ, อถ โน ขิปฺปมวากโรหิ, ปปฺจํ อกตฺวาว ชิโต ธนํ ทเทยฺยาสีติ วุตฺตํ โหติ.

อถ นํ ราชา ‘‘มาณว, ตฺวํ มํ ‘ราชา’ติ มา ภายิ, ธมฺเมเนว โน อสาหเสน ชยปราชโย ภวิสฺสตี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ปุณฺณโก ‘‘อมฺหากํ ธมฺเมเนว ชยปราชยภาวํ ชานาถา’’ติ เตปิ ราชาโน สกฺขึ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๔๓๕.

‘‘ปฺจาล ปจฺจุคฺคต สูรเสน, มจฺฉา จ มทฺทา สห เกกเกภิ;

ปสฺสนฺตุ โนเต อสเน ยุทฺธํ, น โน สภายํ น กโรนฺติ กิฺจี’’ติ.

ตตฺถ ปจฺจุคฺคตาติ อุคฺคตตฺตา ปฺาตตฺตา ปากฏตฺตา ปฺจาลราชานเมวาลปติ. มจฺฉา จาติ ตฺวฺจ, สมฺม มจฺฉราช. มทฺทาติ มทฺทราช. สห เกกเกภีติ เกกเกภินาเมน ชนปเทน สห วตฺตมานเกกเกภิราช, ตฺวฺจ. อถ วา สหสทฺทํ ‘‘เกกเกภี’’ติ ปทสฺส ปจฺฉโต เปตฺวา ปจฺจุคฺคตสทฺทฺจ สูรเสนวิเสสนํ กตฺวา ปฺจาลปจฺจุคฺคตสูรเสน มจฺฉา จ มทฺทา จ เกกเกภิ สห เสสราชาโน จาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปสฺสนฺตุ โนเตติ อมฺหากํ ทฺวินฺนํ เอเต ราชาโน อสเน อกฺขยุทฺธํ ปสฺสนฺตุ. น โน สภายํ น กโรนฺติ กิฺจีติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ, สภายํ กิฺจิ สกฺขึ น น กโรนฺติ, ขตฺติเยปิ พฺราหฺมเณปิ กโรนฺติเยว, ตสฺมา สเจ กิฺจิ อการณํ อุปฺปชฺชติ, ‘‘น โน สุตํ, น โน ทิฏฺ’’นฺติ วตฺตุํ น ลภิสฺสถ, อปฺปมตฺตา โหถาติ.

เอวํ ยกฺขเสนาปติ ราชาโน สกฺขึ อกาสิ. ราชาปิ เอกสตราชปริวุโต ปุณฺณกํ คเหตฺวา ชูตสาลํ ปาวิสิ. สพฺเพปิ ปติรูปาสเนสุ นิสีทึสุ, รชตผลเก สุวณฺณปาสเก ปยึสุ. ปุณฺณโก ตุริตตุริโต อาห ‘‘มหาราช, ปาสเกสุ อายา นาม มาลิกํ สาวฏฺฏํ พหุลํ สนฺติภทฺราทโย จตุวีสติ, เตสุ ตุมฺเห อตฺตโน รุจฺจนกํ อายํ คณฺหถา’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ พหุลํ คณฺหิ. ปุณฺณโก สาวฏฺฏํ คณฺหิ. อถ นํ ราชา อาห ‘‘เตน หิ ตาว มาณว, ปาสเก ปาเตหี’’ติ. ‘‘มหาราช, ปมํ มม วาโร น ปาปุณาติ, ตุมฺเห ปาเตถา’’ติ วุตฺเต ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ตสฺส ปน ตติเย อตฺตภาเว มาตุภูตปุพฺพา อารกฺขเทวตา, ตสฺสา อานุภาเวน ราชา ชูเต ชินาติ. สา ตสฺส อวิทูเร ิตา อโหสิ. ราชา เทวธีตรํ อนุสฺสริตฺวา ชูตคีตํ คายนฺโต อิมา คาถา อาห –

‘‘สพฺพา นที วงฺกคตี, สพฺเพ กฏฺมยา วนา;

สพฺพิตฺถิโย กเร ปาปํ, ลภมาเน นิวาตเก. (ชา. ๒.๒๑.๓๐๘);

‘‘อถ ปสฺสตุ มํ อมฺม, วิชยํ เม ปทิสฺสตุ;

อนุกมฺปาหิ เม อมฺม, มหนฺตํ ชยเมสฺสตุ.

‘‘เทวเต ตฺวชฺช รกฺข เทวิ, ปสฺส มา มํ วิภาเวยฺย;

อนุกมฺปกา ปติฏฺา จ, ปสฺส ภทฺรานิ รกฺขิตุํ.

‘‘ชมฺโพนทมยํ ปาสํ, จตุรํสมฏฺงฺคุลิ;

วิภาติ ปริสมชฺเฌ, สพฺพกามทโท ภว.

‘‘เทวเต เม ชยํ เทหิ, ปสฺส มํ อปฺปภาคินํ;

มาตานุกมฺปโก โปโส, สทา ภทฺรานิ ปสฺสติ.

‘‘อฏฺกํ มาลิกํ วุตฺตํ, สาวฏฺฏฺจ ฉกํ มตํ;

จตุกฺกํ พหุลํ เยฺยํ, ทฺวิพินฺทุสนฺติภทฺรกํ;

จตุวีสติ อายา จ, มุนินฺเทน ปกาสิตา’’ติ.

ราชา เอวํ ชูตคีตํ คายิตฺวา ปาสเก หตฺเถน ปริวตฺเตตฺวา อากาเส ขิปิ. ปุณฺณกสฺส อานุภาเวน ปาสกา รฺโ ปราชยาย ภสฺสนฺติ. ราชา ชูตสิปฺปมฺหิ อติกุสลตาย ปาสเก อตฺตโน ปราชยาย ภสฺสนฺเต ตฺวา อากาเสเยว สงฺกฑฺฒนฺโต คเหตฺวา ปุน อากาเส ขิปิ. ทุติยมฺปิ อตฺตโน ปราชยาย ภสฺสนฺเต ตฺวา ตเถว อคฺคเหสิ. ตโต ปุณฺณโก จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราชา มาทิเสน ยกฺเขน สทฺธึ ชูตํ กีฬนฺโต ภสฺสมาเน ปาสเก สงฺกฑฺฒิตฺวา คณฺหาติ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ. โส โอโลเกนฺโต ตสฺส อารกฺขเทวตาย อานุภาวํ ตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา กุทฺโธ วิย นํ โอโลเกสิ. สา ภีตตสิตา ปลายิตฺวา จกฺกวาฬปพฺพตมตฺถกํ ปตฺวา กมฺปมานา โอโลเกตฺวา อฏฺาสิ. ราชา ตติยมฺปิ ปาสเก ขิปิตฺวา อตฺตโน ปราชยาย ภสฺสนฺเต ตฺวาปิ ปุณฺณกสฺสานุภาเวน หตฺถํ ปสาเรตฺวา คณฺหิตุํ นาสกฺขิ. เต รฺโ ปราชยาย ปตึสุ. อถสฺส ปราชิตภาวํ ตฺวา ปุณฺณโก อปฺโผเฏตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ‘‘ชิตํ เม’’ติ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิ. โส สทฺโท สกลชมฺพุทีปํ ผริ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๔๓๖.

‘‘เต ปาวิสุํ อกฺขมเทน มตฺตา, ราชา กุรูนํ ปุณฺณโก จาปิ ยกฺโข;

ราชา กลึ วิจฺจินมคฺคเหสิ, กฏํ อคฺคหี ปุณฺณโก นาม ยกฺโข.

๑๔๓๗.

‘‘เต ตตฺถ ชูเต อุภเย สมาคเต, รฺํ สกาเส สขีนฺจ มชฺเฌ;

อเชสิ ยกฺโข นรวีรเสฏฺํ, ตตฺถปฺปนาโท ตุมุโล พภูวา’’ติ.

ตตฺถ ปาวิสุนฺติ ชูตสาลํ ปวิสึสุ. วิจฺจินนฺติ ราชา จตุวีสติยา อาเยสุ วิจินนฺโต กลึ ปราชยคฺคาหํ อคฺคเหสิ. กฏํ อคฺคหีติ ปุณฺณโก นาม ยกฺโข ชยคฺคาหํ คณฺหิ. เต ตตฺถ ชูเต อุภเย สมาคเตติ เต ตตฺถ ชูเต สมาคตา อุโภ ชูตํ กีฬึสูติ อตฺโถ. รฺนฺติ อถ เตสํ เอกสตราชูนํ สกาเส อวเสสานฺจ สขีนํ มชฺเฌ โส ยกฺโข นรวีรเสฏฺํ ราชานํ อเชสิ. ตตฺถปฺปนาโท ตุมุโล พภูวาติ ตสฺมึ ชูตมณฺฑเล ‘‘รฺโ ปราชิตภาวํ ชานาถ, ชิตํ เม, ชิตํ เม’’ติ มหนฺโต สทฺโท อโหสิ.

ราชา ปราชิโต อนตฺตมโน อโหสิ. อถ นํ สมสฺสาเสนฺโต ปุณฺณโก คาถมาห –

๑๔๓๘.

‘‘ชโย มหาราช ปราชโย จ, อายูหตํ อฺตรสฺส โหติ;

ชนินฺท ชีโนสิ วรทฺธเนน, ชิโต จ เม ขิปฺปมวากโรหี’’ติ.

ตตฺถ อายูหตนฺติ ทฺวินฺนํ วายามมานานํ อฺตรสฺส เอว โหติ, ตสฺมา ‘‘ปราชิโตมฺหี’’ติ มา จินฺตยิ. ชีโนสีติ ปริหีโนสิ. วรทฺธเนนาติ ปรมธเนน. ขิปฺปมวากโรหีติ ขิปฺปํ เม ชยํ ธนํ เทหีติ.

อถ นํ ราชา ‘‘คณฺห, ตาตา’’ติ วทนฺโต คาถมาห –

๑๔๓๙.

‘‘หตฺถี ควาสฺสา มณิกุณฺฑลา จ, ยฺจาปิ มยฺหํ รตนํ ปถพฺยา;

คณฺหาหิ กจฺจาน วรํ ธนานํ, อาทาย เยนิจฺฉสิ เตน คจฺฉา’’ติ.

ปุณฺณโก อาห –

๑๔๔๐.

‘‘หตฺถี ควาสฺสา มณิกุณฺฑลา จ, ยฺจาปิ ตุยฺหํ รตนํ ปถพฺยา;

เตสํ วโร วิธุโร นาม กตฺตา, โส เม ชิโต ตํ เม อวากโรหี’’ติ.

ตตฺถ โส เม ชิโต ตํ เมติ มยา หิ ตว วิชิเต อุตฺตมํ รตนํ ชิตํ, โส จ สพฺพรตนานํ วโร วิธุโร, ตสฺมา, เทว, โส มยา ชิโต นาม โหติ, ตํ เม เทหีติ.

ราชา อาห –

๑๔๔๑.

‘‘อตฺตา จ เม โส สรณํ คตี จ, ทีโป จ เลโณ จ ปรายโณ จ;

อสนฺตุเลยฺโย มม โส ธเนน, ปาเณน เม สาทิโส เอส กตฺตา’’ติ.

ตตฺถ อตฺตา จ เม โสติ โส มยฺหํ อตฺตา จ, มยา จ ‘‘อตฺตานํ เปตฺวา เสสํ ทสฺสามี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตํ มา คณฺหิ. น เกวลฺจ อตฺตาว, อถ โข เม โส สรณฺจ คติ จ ทีโป จ เลโณ จ ปรายโณ จ. อสนฺตุเลยฺโย มม โส ธเนนาติ สตฺตวิเธน รตเนน สทฺธึ น ตุเลตพฺโพติ.

ปุณฺณโก อาห –

๑๔๔๒.

‘‘จิรํ วิวาโท มม ตุยฺหฺจสฺส, กามฺจ ปุจฺฉาม ตเมว คนฺตฺวา;

เอโสว โน วิวรตุ เอตมตฺถํ, ยํ วกฺขตี โหตุ กถา อุภินฺน’’นฺติ.

ตตฺถ วิวรตุ เอตมตฺถนฺติ ‘‘โส ตว อตฺตา วา น วา’’ติ เอตมตฺถํ เอโสว ปกาเสตุ. โหตุ กถา อุภินฺนนฺติ ยํ โส วกฺขติ, สาเยว โน อุภินฺนํ กถา โหตุ, ตํ ปมาณํ โหตูติ อตฺโถ.

ราชา อาห –

๑๔๔๓.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ ภณสิ, น จ มาณว สาหสํ;

ตเมว คนฺตฺวา ปุจฺฉาม, เตน ตุสฺสามุโภ ชนา’’ติ.

ตตฺถ น จ มาณว สาหสนฺติ มยฺหํ ปสยฺห สาหสิกวจนํ น จ ภณสิ.

เอวํ วตฺวา ราชา เอกสตราชาโน ปุณฺณกฺจ คเหตฺวา ตุฏฺมานโส เวเคน ธมฺมสภํ อคมาสิ. ปณฺฑิโตปิ อาสนา โอรุยฺห ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ ปุณฺณโก มหาสตฺตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ปณฺฑิต, ‘ตฺวํ ธมฺเม ิโต ชีวิตเหตุปิ มุสาวาทํ น ภณสี’ติ กิตฺติสทฺโท เต สกลโลเก ผุโฏ, อหํ ปน เต อชฺช ธมฺเม ิตภาวํ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๑๔๔๔.

‘‘สจฺจํ นุ เทวา วิทหู กุรูนํ, ธมฺเม ิตํ วิธุรํ นามมจฺจํ;

ทาโสสิ รฺโ อุท วาสิ าติ, วิธุโรติ สงฺขา กตมาสิ โลเก’’ติ.

ตตฺถ สจฺจํ นุ เทวา วิทหู กุรูนํ, ธมฺเม ิตํ วิธุรํ นามมจฺจนฺติ ‘‘กุรูนํ รฏฺเ วิธุโร นาม อมจฺโจ ธมฺเม ิโต ชีวิตเหตุปิ มุสาวาทํ น ภณตี’’ติ เอวํ เทวา วิทหู วิทหนฺติ กเถนฺติ ปกาเสนฺติ, เอวํ วิทหมานา เต เทวา สจฺจํ นุ วิทหนฺติ, อุทาหุ อภูตวาทาเยเวเตติ. วิธุโรติ สงฺขา กตมาสิ โลเกติ ยา เอสา ตว ‘‘วิธุโร’’ติ โลเก สงฺขา ปฺตฺติ, สา กตมา อาสิ, ตฺวํ ปกาเสหิ, กึ นุ รฺโ ทาโส นีจตรชาติโก, อุทาหุ สโม วา อุตฺตริตโร วา าตีติ อิทํ ตาว เม อาจิกฺข, ทาโสสิ รฺโ, อุท วาสิ าตีติ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘อยํ มํ เอวํ ปุจฺฉติ, อหํ โข ปเนตํ ‘รฺโ าตี’ติปิ ‘รฺโ อุตฺตริตโร’ติปิ ‘รฺโ น กิฺจิ โหมี’ติปิ สฺาเปตุํ สกฺโกมิ, เอวํ สนฺเตปิ อิมสฺมึ โลเก สจฺจสโม อวสฺสโย นาม นตฺถิ, สจฺจเมว กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มาณว, เนวาหํ รฺโ าติ, น อุตฺตริตโร, จตุนฺนํ ปน ทาสานํ อฺตโร’’ติ ทสฺเสตุํ คาถาทฺวยมาห –

๑๔๔๕.

‘‘อามายทาสาปิ ภวนฺติ เหเก, ธเนน กีตาปิ ภวนฺติ ทาสา;

สยมฺปิ เหเก อุปยนฺติ ทาสา, ภยา ปณุนฺนาปิ ภวนฺติ ทาสา.

๑๔๔๖.

‘‘เอเต นรานํ จตุโรว ทาสา, อทฺธา หิ โยนิโต อหมฺปิ ชาโต;

ภโว จ รฺโ อภโว จ รฺโ, ทาสาหํ เทวสฺส ปรมฺปิ คนฺตฺวา;

ธมฺเมน มํ มาณว ตุยฺห ทชฺชา’’ติ.

ตตฺถ อามายทาสาติ ทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาตทาสา. สยมฺปิ เหเก อุปยนฺติ ทาสาติ เย เกจิ อุปฏฺากชาติกา, สพฺเพ เต สยํ ทาสภาวํ อุปคตา ทาสา นาม. ภยา ปณุนฺนาติ ราชภเยน วา โจรภเยน วา อตฺตโน วสนฏฺานโต ปณุนฺนา กรมรา หุตฺวา ปรวิสยํ คตาปิ ทาสาเยว นาม. อทฺธา หิ โยนิโต อหมฺปิ ชาโตติ มาณว, เอกํเสเนว อหมฺปิ จตูสุ ทาสโยนีสุ เอกโต สยํ ทาสโยนิโต นิพฺพตฺตทาโส. ภโว จ รฺโ อภโว จ รฺโติ รฺโ วุฑฺฒิ วา โหตุ อวุฑฺฒิ วา, น สกฺกา มยา มุสา ภาสิตุํ. ปรมฺปีติ ทูรํ คนฺตฺวาปิ อหํ เทวสฺส ทาโสเยว. ทชฺชาติ มํ ราชา ชยธเนน ขณฺเฑตฺวา ตุยฺหํ เทนฺโต ธมฺเมน สภาเวน ทเทยฺยาติ.

ตํ สุตฺวา ปุณฺณโก หฏฺตุฏฺโ ปุน อปฺโผเฏตฺวา คาถมาห –

๑๔๔๗.

‘‘อยํ ทุตีโย วิชโย มมชฺช, ปุฏฺโ หิ กตฺตา วิวเรตฺถ ปฺหํ;

อธมฺมรูโป วต ราชเสฏฺโ, สุภาสิตํ นานุชานาสิ มยฺห’’นฺติ.

ตตฺถ ราชเสฏฺโติ อยํ ราชเสฏฺโ อธมฺมรูโป วต. สุภาสิตนฺติ วิธุรปณฺฑิเตน สุกถิตํ สุวินิจฺฉิตํ. นานุชานาสิ มยฺหนฺติ อิทาเนตํ วิธุรปณฺฑิตํ มยฺหํ กสฺมา นานุชานาสิ, กิมตฺถํ น เทสีติ วทติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อนตฺตมโน หุตฺวา ‘‘ปณฺฑิโต มาทิสํ ยสทายกํ อโนโลเกตฺวา อิทานิ ทิฏฺํ มาณวกํ โอโลเกตี’’ติ มหาสตฺตสฺส กุชฺฌิตฺวา ‘‘มาณว, สเจ โส ทาโส เม ภเวยฺย, ตํ คเหตฺวา คจฺฉา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๑๔๔๘.

‘‘เอวํ เจ โน โส วิวเรตฺถ ปฺหํ, ทาโสหมสฺมิ น จ โขสฺมิ าติ;

คณฺหาหิ กจฺจาน วรํ ธนานํ, อาทาย เยนิจฺฉสิ เตน คจฺฉา’’ติ.

ตตฺถ เอวํ เจ โน โส วิวเรตฺถ ปฺหนฺติ สเจ โส อมฺหากํ ปฺหํ ‘‘ทาโสหมสฺมิ, น จ โขสฺมิ าตี’’ติ เอวํ วิวริ เอตฺถ ปริสมณฺฑเล, อถ กึ อจฺฉสิ, สกลโลเก ธนานํ วรํ เอตํ คณฺห, คเหตฺวา จ ปน เยน อิจฺฉสิ, เตน คจฺฉาติ.

อกฺขกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

ฆราวาสปฺหา

เอวฺจ ปน วตฺวา ราชา จินฺเตสิ ‘‘ปณฺฑิตํ คเหตฺวา มาณโว ยถารุจิ คมิสฺสติ, ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย มยฺหํ มธุรธมฺมกถา ทุลฺลภา ภวิสฺสติ, ยํนูนาหํ อิมํ อตฺตโน าเน เปตฺวา อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทเปตฺวา ฆราวาสปฺหํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ นํ ราชา เอวมาห ‘‘ปณฺฑิต, ตุมฺหากํ คตกาเล มม มธุรธมฺมกถา ทุลฺลภา ภวิสฺสติ, อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน าเน ตฺวา มยฺหํ ฆราวาสปฺหํ กเถถา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา รฺา ปฺหํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชสิ. ตตฺรายํ ปฺโห –

๑๔๔๙.

‘‘วิธุร วสมานสฺส, คหฏฺสฺส สกํ ฆรํ;

เขมา วุตฺติ กถํ อสฺส, กถํ นุ อสฺส สงฺคโห.

๑๔๕๐.

‘‘อพฺยาพชฺฌํ กถํ อสฺส, สจฺจวาที จ มาณโว;

อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ, กถํ เปจฺจ น โสจตี’’ติ.

ตตฺถ เขมา วุตฺติ กถํ อสฺสาติ กถํ ฆราวาสํ วสนฺตสฺส คหฏฺสฺส เขมา นิพฺภยา วุตฺติ ภเวยฺย. กถํ นุ อสฺส สงฺคโหติ จตุพฺพิโธ สงฺคหวตฺถุสงฺขาโต สงฺคโห ตสฺส กถํ ภเวยฺย. อพฺยาพชฺฌนฺติ นิทฺทุกฺขตา. สจฺจวาที จาติ กถํ นุ มาณโว สจฺจวาที นาม ภเวยฺย. เปจฺจาติ ปรโลกํ คนฺตฺวา.

ตํ สุตฺวา ปณฺฑิโต รฺโ ปฺหํ กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๔๕๑.

‘‘ตํ ตตฺถ คติมา ธิติมา, มติมา อตฺถทสฺสิมา;

สงฺขาตา สพฺพธมฺมานํ, วิธุโร เอตทพฺรวิ.

๑๔๕๒.

‘‘น สาธารณทารสฺส, น ภุฺเช สาทุเมกโก;

น เสเว โลกายติกํ, เนตํ ปฺาย วฑฺฒนํ.

๑๔๕๓.

‘‘สีลวา วตฺตสมฺปนฺโน, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ;

นิวาตวุตฺติ อตฺถทฺโธ, สุรโต สขิโล มุทุ.

๑๔๕๔.

‘‘สงฺคเหตา จ มิตฺตานํ, สํวิภาคี วิธานวา;

ตปฺเปยฺย อนฺนปาเนน, สทา สมณพฺราหฺมเณ.

๑๔๕๕.

‘‘ธมฺมกาโม สุตาธาโร, ภเวยฺย ปริปุจฺฉโก;

สกฺกจฺจํ ปยิรุปาเสยฺย, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๑๔๕๖.

‘‘ฆรมาวสมานสฺส, คหฏฺสฺส สกํ ฆรํ;

เขมา วุตฺติ สิยา เอวํ, เอวํ นุ อสฺส สงฺคโห.

๑๔๕๗.

‘‘อพฺยาพชฺฌํ สิยา เอวํ, สจฺจวาที จ มาณโว;

อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ, เอวํ เปจฺจ น โสจตี’’ติ.

ตตฺถ ตํ ตตฺถาติ ภิกฺขเว, ตํ ราชานํ ตตฺถ ธมฺมสภายํ าณคติยา คติมา, อพฺโพจฺฉินฺนวีริเยน ธิติมา, ภูริสมาย วิปุลาย ปฺาย มติมา, สณฺหสุขุมตฺถทสฺสินา าเณน อตฺถทสฺสิมา, ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานนาณสงฺขาตาย ปฺาย สพฺพธมฺมานํ สงฺขาตา, วิธุรปณฺฑิโต เอตํ ‘‘น สาธารณทารสฺสา’’ติอาทิวจนํ อพฺรวิ. ตตฺถ โย ปเรสํ ทาเรสุ อปรชฺฌติ, โส สาธารณทาโร นาม, ตาทิโส น อสฺส ภเวยฺย. น ภุฺเช สาทุเมกโกติ สาทุรสํ ปณีตโภชนํ อฺเสํ อทตฺวา เอกโกว น ภุฺเชยฺย. โลกายติกนฺติ อนตฺถนิสฺสิตํ สคฺคมคฺคานํ อทายกํ อนิยฺยานิกํ วิตณฺฑสลฺลาปํ โลกายติกวาทํ น เสเวยฺย. เนตํ ปฺาย วฑฺฒนนฺติ น หิ เอตํ โลกายติกํ ปฺาย วฑฺฒนํ. สีลวาติ อขณฺเฑหิ ปฺจหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต. วตฺตสมฺปนฺโนติ ฆราวาสวตฺเตน วา ราชวตฺเตน วา สมนฺนาคโต. อปฺปมตฺโตติ กุสลธมฺเมสุ อปฺปมตฺโต. นิวาตวุตฺตีติ อติมานํ อกตฺวา นีจวุตฺติ โอวาทานุสาสนิปฏิจฺฉโก. อตฺถทฺโธติ ถทฺธมจฺฉริยวิรหิโต. สุรโตติ โสรจฺเจน สมนฺนาคโต. สขิโลติ เปมนียวจโน. มุทูติ กายวาจาจิตฺเตหิ อผรุโส.

สงฺคเหตา จ มิตฺตานนฺติ กลฺยาณมิตฺตานํ สงฺคหกโร. ทานาทีสุ โย เยน สงฺคหํ อิจฺฉติ, ตสฺส เตเนว สงฺคาหโก. สํวิภาคีติ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺเจว กปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกาทีนฺจ สํวิภาคกโร. วิธานวาติ ‘‘อิมสฺมึ กาเล กสิตุํ วฏฺฏติ, อิมสฺมึ กาเล วปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอวํ สพฺพกิจฺเจสุ วิธานสมฺปนฺโน. ตปฺเปยฺยาติ คหิตคหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา ททมาโน ตปฺเปยฺย. ธมฺมกาโมติ ปเวณิธมฺมมฺปิ สุจริตธมฺมมฺปิ กามยมาโน ปตฺถยมาโน. สุตาธาโรติ สุตสฺส อาธารภูโต. ปริปุจฺฉโกติ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสล’’นฺติอาทิวจเนหิ ปริปุจฺฉนสีโล. สกฺกจฺจนฺติ คารเวน. เอวํ นุ อสฺส สงฺคโหติ สงฺคโหปิสฺส เอวํ กโต นาม ภเวยฺย. สจฺจวาทีติ เอวํ ปฏิปนฺโนเยว สภาววาที นาม สิยา.

เอวํ มหาสตฺโต รฺโ ฆราวาสปฺหํ กเถตฺวา ปลฺลงฺกา โอรุยฺห ราชานํ วนฺทิ. ราชาปิสฺส มหาสกฺการํ กตฺวา เอกสตราชูหิ ปริวุโต อตฺตโน นิเวสนเมว คโต.

ฆราวาสปฺหา นิฏฺิตา.

ลกฺขณกณฺฑํ

มหาสตฺโต ปน ปฏินิวตฺโต. อถ นํ ปุณฺณโก อาห –

๑๔๕๘.

‘‘เอหิ ทานิ คมิสฺสาม, ทินฺโน โน อิสฺสเรน เม;

มเมวตฺถํ ปฏิปชฺช, เอส ธมฺโม สนนฺตโน’’ติ.

ตตฺถ ทินฺโน โนติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ, ตฺวํ อิสฺสเรน มยฺหํ ทินฺโนติ อตฺโถ. สนนฺตโนติ มม อตฺถํ ปฏิปชฺชนฺเตน หิ ตยา อตฺตโน สามิกสฺส อตฺโถ ปฏิปนฺโน โหติ. ยฺเจตํ สามิกสฺส อตฺถกรณํ นาม, เอส ธมฺโม สนนฺตโน โปราณกปณฺฑิตานํ สภาโวติ.

วิธุรปณฺฑิโต อาห –

๑๔๕๙.

‘‘ชานามิ มาณว ตยาหมสฺมิ, ทินฺโนหมสฺมิ ตว อิสฺสเรน;

ตีหฺจ ตํ วาสเยมุ อคาเร, เยนทฺธุนา อนุสาเสมุ ปุตฺเต’’ติ.

ตตฺถ ตยาหมสฺมีติ ตยา ลทฺโธหมสฺมีติ ชานามิ, ลภนฺเตน จ น อฺถา ลทฺโธ. ทินฺโนหมสฺมิ ตว อิสฺสเรนาติ มม อิสฺสเรน รฺา อหํ ตว ทินฺโน. ตีหํ จาติ มาณว, อหํ ตว พหูปกาโร, ราชานํ อโนโลเกตฺวา สจฺจเมว กเถสึ, เตนาหํ ตยา ลทฺโธ, ตฺวํ เม มหนฺตคุณภาวํ ชานาหิ, มยํ ตีณิปิ ทิวสานิ อตฺตโน อคาเร วาเสมุ, ตสฺมา เยนทฺธุนา ยตฺตเกน กาเลน มยํ ปุตฺตาทาเร อนุสาเสมุ, ตํ กาลํ อธิวาเสหีติ.

ตํ สุตฺวา ปุณฺณโก ‘‘สจฺจํ ปณฺฑิโต อาห, พหูปกาโร เอส มม, ‘สตฺตาหมฺปิ อฑฺฒมาสมฺปิ นิสีทาหี’ติ วุตฺเต อธิวาเสตพฺพเมวา’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๔๖๐.

‘‘ตํ เม ตถา โหตุ วเสมุ ตีหํ, กุรุตํ ภวชฺช ฆเรสุ กิจฺจํ;

อนุสาสตํ ปุตฺตทาเร ภวชฺช, ยถา ตยี เปจฺจ สุขี ภเวยฺยา’’ติ.

ตตฺถ ตํ เมติ ยํ ตฺวํ วเทสิ, สพฺพํ ตํ มม ตถา โหตุ. ภวชฺชาติ ภวํ อชฺช ปฏฺาย ตีหํ อนุสาสตุ. ตยี เปจฺจาติ ยถา ตยิ คเต ปจฺฉา ตว ปุตฺตทาโร สุขี ภเวยฺย, เอวํ อนุสาสตุ.

เอวํ วตฺวา ปุณฺณโก มหาสตฺเตน สทฺธึเยว ตสฺส นิเวสนํ ปาวิสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๔๖๑.

‘‘สาธูติ วตฺวาน ปหูตกาโม, ปกฺกามิ ยกฺโข วิธุเรน สทฺธึ;

ตํ กุฺชราชฺหยานุจิณฺณํ, ปาเวกฺขิ อนฺเตปุรมริยเสฏฺโ’’ติ.

ตตฺถ ปหูตกาโมติ มหาโภโค. กุฺชราชฺหยานุจิณฺณนฺติ กุฺชเรหิ จ อาชฺหเยหิ จ อนุจิณฺณํ ปริปุณฺณํ. อริยเสฏฺโติ อาจารอริเยสุ อุตฺตโม ปุณฺณโก ยกฺโข ปณฺฑิตสฺส อนฺเตปุรํ ปาวิสิ.

มหาสตฺตสฺส ปน ติณฺณํ อุตูนํ อตฺถาย ตโย ปาสาทา อเหสุํ. เตสุ เอโก โกฺโจ นาม, เอโก มยูโร นาม, เอโก ปิยเกโต นาม. เต สนฺธาย อยํ คาถา วุตฺตา –

๑๔๖๒.

‘‘โกฺจํ มยูรฺจ ปิยฺจ เกตํ, อุปาคมี ตตฺถ สุรมฺมรูปํ;

ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ ปาสาเทสุ ยตฺถ ตสฺมึ สมเย อตฺตนา วสติ, ตํ สุรมฺมรูปํ ปาสาทํ ปุณฺณกํ อาทาย อุปาคมิ.

โส อุปคนฺตฺวา จ ปน อลงฺกตปาสาทสฺส สตฺตมาย ภูมิยา สยนคพฺภฺเจว มหาตลฺจ สชฺชาเปตฺวา สิริสยนํ ปฺาเปตฺวา สพฺพํ อนฺนปานาทิวิธึ อุปฏฺเปตฺวา เทวกฺาโย วิย ปฺจสตา อิตฺถิโย ‘‘อิมา เต ปาทปริจาริกา โหนฺตุ, อนุกฺกณฺนฺโต อิธ วสาหี’’ติ ตสฺส นิยฺยาเทตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ คโต. ตสฺส คตกาเล ตา อิตฺถิโย นานาตูริยานิ คเหตฺวา ปุณฺณกสฺส ปริจริยาย นจฺจาทีนิ ปฏฺเปสุํ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๔๖๓.

‘‘ตตฺถ นจฺจนฺติ คายนฺติ, อวฺหยนฺติ วราวรํ;

อจฺฉรา วิย เทเวสุ, นาริโย สมลงฺกตา’’ติ.

ตตฺถ อวฺหยนฺติ วราวรนฺติ วรโต วรํ นจฺจฺจ คีตฺจ กโรนฺติโย ปกฺโกสนฺติ.

๑๔๖๔.

‘‘สมงฺคิกตฺวา ปมทาหิ ยกฺขํ, อนฺเนน ปาเนน จ ธมฺมปาโล;

อตฺถตฺถเมวานุวิจินฺตยนฺโต, ปาเวกฺขิ ภริยาย ตทา สกาเส’’ติ.

ตตฺถ ปมทาหีติ ปมทาหิ เจว อนฺนปาเนหิ จ สมงฺคิกตฺวา. ธมฺมปาโลติ ธมฺมสฺส ปาลโก โคปโก. อตฺถตฺถเมวาติ อตฺถภูตเมว อตฺถํ. ภริยายาติ สพฺพเชฏฺิกาย ภริยาย.

๑๔๖๕.

‘‘ตํ จนฺทนคนฺธรสานุลิตฺตํ, สุวณฺณชมฺโพนทนิกฺขสาทิสํ;

ภริยํวจา ‘เอหิ สุโณหิ โภติ, ปุตฺตานิ อามนฺตย ตมฺพเนตฺเต’’’ติ.

ตตฺถ ภริยํวจาติ เชฏฺภริยํ อวจ. อามนฺตยาติ ปกฺโกส.

๑๔๖๖.

‘‘สุตฺวาน วากฺยํ ปติโน อนุชฺชา, สุณิสํ วจ ตมฺพนขึ สุเนตฺตํ;

‘อามนฺตย วมฺมธรานิ เจเต, ปุตฺตานิ อินฺทีวรปุปฺผสาเม’’’ติ.

ตตฺถ อนุชฺชาติ เอวํนามิกา. สุณิสํวจ ตมฺพนขึ สุเนตฺตนฺติ สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อสฺสุมุขี โรทมานา ‘‘สยํ คนฺตฺวา ปุตฺเต ปกฺโกสิตุํ อยุตฺตํ, สุณิสํ เปเสสฺสามี’’ติ ตสฺสา นิวาสฏฺานํ คนฺตฺวา ตมฺพนขึ สุเนตฺตํ สุณิสํ อวจ. วมฺมธรานีติ วมฺมธเร สูเร, สมตฺเถติ อตฺโถ, อาภรณภณฺฑเมว วา อิธ ‘‘วมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อาภรณธเรติปิ อตฺโถ. เจเตติ ตํ นาเมนาลปติ, ปุตฺตานีติ มม ปุตฺเต จ ธีตโร จ. อินฺทีวรปุปฺผสาเมติ ตํ อาลปติ.

สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห อนุวิจริตฺวา ‘‘ปิตา โว โอวาทํ ทาตุกาโม ปกฺโกสติ, อิทํ กิร โว ตสฺส ปจฺฉิมทสฺสน’’นฺติ สพฺพเมวสฺส สุหทชนฺจ ปุตฺตธีตโร จ สนฺนิปาเตสิ. ธมฺมปาลกุมาโร ปน ตํ วจนํ สุตฺวาว โรทนฺโต กนิฏฺภาติกคณปริวุโต ปิตุ สนฺติกํ อคมาสิ. ปณฺฑิโต เต ทิสฺวาว สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา เชฏฺปุตฺตํ มุหุตฺตํ หทเย นิปชฺชาเปตฺวา หทยา โอตาเรตฺวา สิริคพฺภโต นิกฺขมฺม มหาตเล ปลฺลงฺกมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ปุตฺตสหสฺสสฺส โอวาทํ อทาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๔๖๗.

‘‘เต อาคเต มุทฺธนิ ธมฺมปาโล, จุมฺพิตฺวา ปุตฺเต อวิกมฺปมาโน;

อามนฺตยิตฺวาน อโวจ วากฺยํ, ทินฺนาหํ รฺา อิธ มาณวสฺส.

๑๔๖๘.

‘‘ตสฺสชฺชหํ อตฺตสุขี วิเธยฺโย, อาทาย เยนิจฺฉติ เตน คจฺฉติ;

อหฺจ โว สาสิตุมาคโตสฺมิ, กถํ อหํ อปริตฺตาย คจฺเฉ.

๑๔๖๙.

‘‘สเจ โว ราชา กุรุรฏฺวาสี, ชนสนฺโธ ปุจฺเฉยฺย ปหูตกาโม;

กิมาภิชานาถ ปุเร ปุราณํ, กึ โว ปิตา ปุรตฺถา.

๑๔๗๐.

‘‘สมาสนา โหถ มยาว สพฺเพ, โกนีธ รฺโ อพฺภติโก มนุสฺโส;

ตมฺชลึ กริย วเทถ เอวํ, มา เหวํ เทว น หิ เอส ธมฺโม;

วิยคฺฆราชสฺส นิหีนชจฺโจ, สมาสโน เทว กถํ ภเวยฺยา’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมปาโลติ มหาสตฺโต. ทินฺนาหนฺติ อหํ ชยธเนน ขณฺเฑตฺวา รฺา ทินฺโน. ตสฺสชฺชหํ อตฺตสุขี วิเธยฺโยติ อชฺช ปฏฺาย ตีหมตฺตํ อหํ อิมินา อตฺตโน สุเขน อตฺตสุขี, ตโต ปรํ ปน ตสฺส มาณวสฺสาหํ วิเธยฺโย โหมิ. โส หิ อิโต จตุตฺเถ ทิวเส เอกํเสน มํ อาทาย ยตฺถิจฺฉติ, ตตฺถ คจฺฉติ. อปริตฺตายาติ ตุมฺหากํ ปริตฺตํ อกตฺวา กถํ คจฺเฉยฺยนฺติ อนุสาสิตุํ อาคโตสฺมิ. ชนสนฺโธติ มิตฺตพนฺธเนน มิตฺตชนสฺส สนฺธานกโร. ปุเร ปุราณนฺติ อิโต ปุพฺเพ ตุมฺเห กึ ปุราณการณํ อภิชานาถ. อนุสาเสติ อนุสาสิ. เอวํ ตุมฺเห รฺา ปุฏฺา ‘‘อมฺหากํ ปิตา อิมฺจิมฺจ โอวาทํ อทาสี’’ติ กเถยฺยาถ. สมาสนา โหถาติ สเจ โว ราชา มยา ทินฺนสฺส โอวาทสฺส กถิตกาเล ‘‘เอถ ตุมฺเห, อชฺช มยา สทฺธึ สมาสนา โหถ, อิธ ราชกุเล ตุมฺเหหิ อฺโ โก นุ รฺโ อพฺภติโก มนุสฺโส’’ติ อตฺตโน อาสเน นิสีทาเปยฺย, อถ ตุมฺเห อฺชลึ กตฺวา ตํ ราชานํ เอวํ วเทยฺยาถ ‘‘เทว, เอวํ มา อวจ. น หิ อมฺหากํ เอสปเวณิธมฺโม. วิยคฺฆราชสฺส เกสรสีหสฺส นิหีนชจฺโจ ชรสิงฺคาโล, เทว, กถํ สมาสโน ภเวยฺย. ยถา สิงฺคาโล สีหสฺส สมาสโน น โหติ, ตเถว มยํ ตุมฺหาก’’นฺติ.

อิมํ ปนสฺส กถํ สุตฺวา ปุตฺตธีตโร จ าติสุหชฺชาทโย จ ทาสกมฺมกรโปริสา จ เต สพฺเพ สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตา มหาวิรวํ วิรวึสุ. เตสํ มหาสตฺโต สฺาเปสิ.

ลกฺขณกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

ราชวสติกณฺฑ

อถ เน ปณฺฑิโต ปุตฺตธีตโร จ าตโย จ อุปสงฺกมิตฺวา ตุณฺหีภูเต ทิสฺวา ‘‘ตาตา, มา จินฺตยิตฺถ, สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, ยโส นาม วิปตฺติปริโยสาโน, อปิจ ตุมฺหากํ ราชวสตึ นาม ยสปฏิลาภการณํ กเถสฺสามิ, ตํ เอกคฺคจิตฺตา สุณาถา’’ติ พุทฺธลีลาย ราชวสตึ นาม ปฏฺเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๔๗๑.

‘‘โส จ ปุตฺเต อมจฺเจ จ, าตโย สุหทชฺชเน;

อลีนมนสงฺกปฺโป, วิธุโร เอตทพฺรวิ.

๑๔๗๒.

‘‘เอถยฺโย ราชวสตึ, นิสีทิตฺวา สุณาถ เม;

ยถา ราชกุลํ ปตฺโต, ยสํ โปโส นิคจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ สุหทชฺชเนติ สุหทยชเน. เอถยฺโยติ เอถ, อยฺโย. ปิยสมุทาจาเรน ปุตฺเต อาลปติ. ราชวสตินฺติ มยา วุจฺจมานํ ราชปาริจริยํ สุณาถ. ยถาติ เยน การเณน ราชกุลํ ปตฺโต อุปสงฺกมนฺโต รฺโ สนฺติเก จรนฺโต โปโส ยสํ นิคจฺฉติ ลภติ, ตํ การณํ สุณาถาติ อตฺโถ.

๑๔๗๓.

‘‘น หิ ราชกุลํ ปตฺโต, อฺาโต ลภเต ยสํ;

นาสูโร นาปิ ทุมฺเมโธ, นปฺปมตฺโต กุทาจนํ.

๑๔๗๔.

‘‘ยทาสฺส สีลํ ปฺฺจ, โสเจยฺยํ จาธิคจฺฉติ;

อถ วิสฺสสเต ตฺยมฺหิ, คุยฺหฺจสฺส น รกฺขตี’’ติ.

ตตฺถ อฺาโตติ อปากฏคุโณ อวิทิตกมฺมาวทาโน. นาสูโรติ น อสูโร ภีรุกชาติโก. ยทาสฺส สีลนฺติ ยทา อสฺส เสวกสฺส ราชา สีลฺจ ปฺฺจ โสเจยฺยฺจ อธิคจฺฉติ, อาจารสมฺปตฺติฺจ าณพลฺจ สุจิภาวฺจ ชานาติ. อถ วิสฺสสเต ตฺยมฺหีติ อถ ราชา ตมฺหิ วิสฺสสเต วิสฺสาสํ กโรติ, อตฺตโน คุยฺหฺจสฺส น รกฺขติ น คูหติ.

๑๔๗๕.

‘‘ตุลา ยถา ปคฺคหิตา, สมทณฺฑา สุธาริตา;

อชฺฌิฏฺโ น วิกมฺเปยฺย, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๗๖.

‘‘ตุลา ยถา ปคฺคหิตา, สมทณฺฑา สุธาริตา;

สพฺพานิ อภิสมฺโภนฺโต, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ ตุลา ยถาติ ยถา เอสา วุตฺตปฺปการา ตุลา น โอนมติ น อุนฺนมติ, เอวเมว ราชเสวโก กิสฺมิฺจิเทว กมฺเม รฺา ‘‘อิทํ นาม กโรหี’’ติ อชฺฌิฏฺโ อาณตฺโต ฉนฺทาทิอคติวเสน น วิกมฺเปยฺย, สพฺพกิจฺเจสุ ปคฺคหิตตุลา วิย สโม ภเวยฺย. ส ราชวสตินฺติ โส เอวรูโป เสวโก ราชกุเล วาสํ วเสยฺย, ราชานํ ปริจเรยฺย, เอวํ ปริจรนฺโต ปน ยสํ ลเภยฺยาติ อตฺโถ. สพฺพานิ อภิสมฺโภนฺโตติ สพฺพานิ ราชกิจฺจานิ กโรนฺโต.

๑๔๗๗.

‘‘ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, ราชกิจฺเจสุ ปณฺฑิโต;

อชฺฌิฏฺโ น วิกมฺเปยฺย, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๗๘.

‘‘ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, ราชกิจฺเจสุ ปณฺฑิโต;

สพฺพานิ อภิสมฺโภนฺโต, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๗๙.

‘‘โย จสฺส สุกโต มคฺโค, รฺโ สุปฺปฏิยาทิโต;

น เตน วุตฺโต คจฺเฉยฺย, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ น วิกมฺเปยฺยาติ อวิกมฺปมาโน ตานิ กิจฺจานิ กเรยฺย. โย จสฺสาติ โย จ รฺโ คมนมคฺโค สุกโต อสฺส สุปฺปฏิยาทิโต สุมณฺฑิโต, ‘‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉา’’ติ วุตฺโตปิ เตน น คจฺเฉยฺย.

๑๔๘๐.

‘‘น รฺโ สทิสํ ภุฺเช, กามโภเค กุทาจนํ;

สพฺพตฺถ ปจฺฉโต คจฺเฉ, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๘๑.

‘‘น รฺโ สทิสํ วตฺถํ, น มาลํ น วิเลปนํ;

อากปฺปํ สรกุตฺตึ วา, น รฺโ สทิสมาจเร;

อฺํ กเรยฺย อากปฺปํ, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ น รฺโติ รฺโ กามโภเคน สมํ กามโภคํ น ภุฺเชยฺย. ตาทิสสฺส หิ ราชา กุชฺฌติ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ รูปาทีสุ กามคุเณสุ รฺโ ปจฺฉโตว คจฺเฉยฺย, หีนตรเมว เสเวยฺยาติ อตฺโถ. อฺํ กเรยฺยาติ รฺโ อากปฺปโต สรกุตฺติโต จ อฺเมว อากปฺปํ กเรยฺย.

๑๔๘๒.

‘‘กีเฬ ราชา อมจฺเจหิ, ภริยาหิ ปริวาริโต;

นามจฺโจ ราชภริยาสุ, ภาวํ กุพฺเพถ ปณฺฑิโต.

๑๔๘๓.

‘‘อนุทฺธโต อจปโล, นิปโก สํวุตินฺทฺริโย;

มโนปณิธิสมฺปนฺโน, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ ภาวนฺติ วิสฺสาสวเสน อธิปฺปายํ. อจปโลติ อมณฺฑนสีโล. นิปโกติ ปริปกฺกาโณ. สํวุตินฺทฺริโยติ ปิหิตฉฬินฺทฺริโย รฺโ วา องฺคปจฺจงฺคานิ โอโรเธ วาสฺส น โอโลเกยฺย. มโนปณิธิสมฺปนฺโนติ อจปเลน สุฏฺุ ปิเตน จิตฺเตน สมนฺนาคโต.

๑๔๘๔.

‘‘นาสฺส ภริยาหิ กีเฬยฺย, น มนฺเตยฺย รโหคโต;

นาสฺส โกสา ธนํ คณฺเห, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๘๕.

‘‘น นิทฺทํ พหุ มฺเยฺย, น มทาย สุรํ ปิเว;

นาสฺส ทาเย มิเค หฺเ, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๘๖.

‘‘นาสฺส ปีํ น ปลฺลงฺกํ, น โกจฺฉํ น นาวํ รถํ;

สมฺมโตมฺหีติ อารูเห, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๘๗.

‘‘นาติทูเร ภเช รฺโ, นจฺจาสนฺเน วิจกฺขโณ;

สมฺมุขฺจสฺส ติฏฺเยฺย, สนฺทิสฺสนฺโต สภตฺตุโน.

๑๔๘๘.

‘‘น เว ราชา สขา โหติ, น ราชา โหติ เมถุโน;

ขิปฺปํ กุชฺฌนฺติ ราชาโน, สูเกนกฺขีว ฆฏฺฏิตํ.

๑๔๘๙.

‘‘น ปูชิโต มฺมาโน, เมธาวี ปณฺฑิโต นโร;

ผรุสํ ปติมนฺเตยฺย, ราชานํ ปริสํคต’’นฺติ.

ตตฺถ น มนฺเตยฺยาติ ตสฺส รฺโ ภริยาหิ สทฺธึ เนว กีเฬยฺย, น รโห มนฺเตยฺย. โกสา ธนนฺติ รฺโ โกสา ธนํ เถเนตฺวา น คณฺเหยฺย. น มทายาติ ตาตา, ราชเสวโก นาม มทตฺถาย สุรํ น ปิเวยฺย. นาสฺส ทาเย มิเคติ อสฺส รฺโ ทินฺนาภเย มิเค น หฺเยฺย. โกจฺฉนฺติ ภทฺทปีํ. สมฺมโตมฺหีติ อหํ สมฺมโต หุตฺวา เอวํ กโรมีติ น อารุเหยฺย. สมฺมุขฺจสฺส ติฏฺเยฺยาติ อสฺส รฺโ ปุรโต ขุทฺทกมหนฺตกถาสวนฏฺาเน ติฏฺเยฺย. สนฺทิสฺสนฺโต สภตฺตุโนติ โย ราชเสวโก ตสฺส ภตฺตุโน ทสฺสนฏฺาเน ติฏฺเยฺย. สูเกนาติ อกฺขิมฺหิ ปติเตน วีหิสูกาทินา ฆฏฺฏิตํ อกฺขิ ปกติสภาวํ ชหนฺตํ ยถา กุชฺฌติ นาม, เอวํ กุชฺฌนฺติ, น เตสุ วิสฺสาโส กาตพฺโพ. ปูชิโต มฺมาโนติ อหํ ราชปูชิโตมฺหีติ มฺมาโน. ผรุสํ ปติมนฺเตยฺยาติ เยน โส กุชฺฌติ, ตถารูปํ น มนฺเตยฺย.

๑๔๙๐.

‘‘ลทฺธทฺวาโร ลเภ ทฺวารํ, เนว ราชูสุ วิสฺสเส;

อคฺคีว สํยโต ติฏฺเ, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๙๑.

‘‘ปุตฺตํ วา ภาตรํ วา สํ, สมฺปคฺคณฺหาติ ขตฺติโย;

คาเมหิ นิคเมหิ วา, รฏฺเหิ ชนปเทหิ วา;

ตุณฺหีภูโต อุเปกฺเขยฺย, น ภเณ เฉกปาปก’’นฺติ.

ตตฺถ ลทฺธทฺวาโร ลเภ ทฺวารนฺติ อหํ นิปฺปฏิหาโร ลทฺธทฺวาโรติ อปฺปฏิหาเรตฺวา น ปวิเสยฺย, ปุนปิ ทฺวารํ ลเภยฺย, ปฏิหาเรตฺวาว ปวิเสยฺยาติ อตฺโถ. สํยโตติ อปฺปมตฺโต หุตฺวา. ภาตรํ วา สนฺติ สกํ ภาตรํ วา. สมฺปคฺคณฺหาตีติ ‘‘อสุกคามํ วา อสุกนิคมํ วา อสฺส เทมา’’ติ ยทา เสวเกหิ สทฺธึ กเถติ. น ภเณ เฉกปาปกนฺติ ตทา คุณํ วา อคุณํ วา น ภเณยฺย.

๑๔๙๒.

‘‘หตฺถาโรเห อนีกฏฺเ, รถิเก ปตฺติการเก;

เตสํ กมฺมาวทาเนน, ราชา วฑฺเฒติ เวตนํ;

น เตสํ อนฺตรา คจฺเฉ, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๙๓.

‘‘จาโปวูนุทโร ธีโร, วํโสวาปิ ปกมฺปเย;

ปฏิโลมํ น วตฺเตยฺย, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๙๔.

‘‘จาโปวูนุทโร อสฺส, มจฺโฉวสฺส อชิวฺหวา;

อปฺปาสี นิปโก สูโร, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ น เตสํ อนฺตรา คจฺเฉติ เตสํ ลาภสฺส อนฺตรา น คจฺเฉ, อนฺตรายํ น กเรยฺย. วํโสวาปีติ ยถา วํสคุมฺพโต อุคฺคตวํโส วาเตน ปหฏกาเล ปกมฺปติ, เอวํ รฺา กถิตกาเล ปกมฺเปยฺย. จาโปวูนุทโรติ ยถา จาโป มโหทโร น โหติ, เอวํ มโหทโร น สิยา. อชิวฺหวาติ ยถา มจฺโฉ อชิวฺหตาย น กเถติ, ตถา เสวโก มนฺทกถตาย อชิวฺหวา ภเวยฺย. อปฺปาสีติ โภชนมตฺตฺู.

๑๔๙๕.

‘‘น พาฬฺหํ อิตฺถึ คจฺเฉยฺย, สมฺปสฺสํ เตชสงฺขยํ;

กาสํ สาสํ ทรํ พาลฺยํ, ขีณเมโธ นิคจฺฉติ.

๑๔๙๖.

‘‘นาติเวลํ ปภาเสยฺย, น ตุณฺหี สพฺพทา สิยา;

อวิกิณฺณํ มิตํ วาจํ, ปตฺเต กาเล อุทีรเย.

๑๔๙๗.

‘‘อกฺโกธโน อสงฺฆฏฺโฏ, สจฺโจ สณฺโห อเปสุโณ;

สมฺผํ คิรํ น ภาเสยฺย, ส ราชวสตึ วเส.

๑๔๙๘.

‘‘มาตาเปตฺติภโร อสฺส, กุเล เชฏฺาปจายิโก;

สณฺโห สขิลสมฺภาโส, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ น พาฬฺหนฺติ ปุนปฺปุนํ กิเลสวเสน น คจฺเฉยฺย. เตชสงฺขยนฺติ เอวํ คจฺฉนฺโต หิ ปุริโส เตชสงฺขยํ คจฺฉติ ปาปุณาติ, ตํ สมฺปสฺสนฺโต พาฬฺหํ น คจฺเฉยฺย. ทรนฺติ กายทรถํ. พาลฺยนฺติ ทุพฺพลภาวํ. ขีณเมโธติ ปุนปฺปุนํ กิเลสรติวเสน ขีณปฺโ ปุริโส เอเต กาสาทโย นิคจฺฉติ. นาติเวลนฺติ ตาตา ราชูนํ สนฺติเก ปมาณาติกฺกนฺตํ น ภาเสยฺย. ปตฺเต กาเลติ อตฺตโน วจนกาเล สมฺปตฺเต. อสงฺฆฏฺโฏติ ปรํ อสงฺฆฏฺเฏนฺโต. สมฺผนฺติ นิรตฺถกํ. คิรนฺติ วจนํ.

๑๔๙๙.

‘‘วินีโต สิปฺปวา ทนฺโต, กตตฺโต นิยโต มุทุ;

อปฺปมตฺโต สุจิ ทกฺโข, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๐๐.

‘‘นิวาตวุตฺติ วุทฺเธสุ, สปฺปติสฺโส สคารโว;

สุรโต สุขสํวาโส, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๐๑.

‘‘อารกา ปริวชฺเชยฺย, สหิตุํ ปหิตํ ชนํ;

ภตฺตารฺเวุทิกฺเขยฺย, น จ อฺสฺส ราชิโน’’ติ.

ตตฺถ วินีโตติ อาจารสมฺปนฺโน. สิปฺปวาติ อตฺตโน กุเล สิกฺขิตพฺพสิปฺเปน สมนฺนาคโต. ทนฺโตติ ฉสุ ทฺวาเรสุ นิพฺพิเสวโน. กตตฺโตติ สมฺปาทิตตฺโต. นิยโตติ ยสาทีนิ นิสฺสาย อจลสภาโว. มุทูติ อนติมานี. อปฺปมตฺโตติ กตฺตพฺพกิจฺเจสุ ปมาทรหิโต. ทกฺโขติ อุปฏฺาเน เฉโก. นิวาตวุตฺตีติ นีจวุตฺติ. สุขสํวาโสติ ครุสํวาสสีโล. สหิตุํ ปติตนฺติ ปรราชูหิ สกรฺโ สนฺติกํ คุยฺหรกฺขณวเสน วา ปฏิจฺฉนฺนปากฏกรณวเสนวา เปสิตํ. ตถารูเปน หิ สทฺธึ กเถนฺโตปิ รฺโ สมฺมุขาว กเถยฺย. ภตฺตารฺเวุทิกฺเขยฺยาติ อตฺตโน สามิกเมว โอโลเกยฺย. น จ อฺสฺส ราชิโนติ อฺสฺส รฺโ สนฺตโก น ภเวยฺย.

๑๕๐๒.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต;

สกฺกจฺจํ ปยิรุปาเสยฺย, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๐๓.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต;

สกฺกจฺจํ อนุวาเสยฺย, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๐๔.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต;

ตปฺเปยฺย อนฺนปาเนน, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๐๕.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต;

อาสชฺช ปฺเ เสเวถ, อากงฺขํ วุทฺธิมตฺตโน’’ติ.

ตตฺถ สกฺกจฺจํ ปยิรุปาเสยฺยาติ คารเวน ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกเมยฺย. อนุวาเสยฺยาติ อุโปสถวาสํ วสนฺโต อนุวตฺเตยฺย. ตปฺเปยฺยาติ ยาวทตฺถํ ทาเนน ตปฺเปยฺย. อาสชฺชาติ อุปสงฺกมิตฺวา. ปฺเติ ปณฺฑิเต, อาสชฺชปฺเ วา, อสชฺชมานปฺเติ อตฺโถ.

๑๕๐๖.

‘‘ทินฺนปุพฺพํ น หาเปยฺย, ทานํ สมณพฺราหฺมเณ;

น จ กิฺจิ นิวาเรยฺย, ทานกาเล วณิพฺพเก.

๑๕๐๗.

‘‘ปฺวา พุทฺธิสมฺปนฺโน, วิธานวิธิโกวิโท;

กาลฺู สมยฺู จ, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๐๘.

‘‘อุฏฺาตา กมฺมเธยฺเยสุ, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ;

สุสํวิหิตกมฺมนฺโต, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ ทินฺนปุพฺพนฺติ ปกติปฏิยตฺตํ ทานวตฺตํ. สมณพฺราหฺมเณติ สมเณ วา พฺราหฺมเณ วา. วณิพฺพเกติ ทานกาเล วณิพฺพเก อาคเต ทิสฺวา กิฺจิ น นิวาเรยฺย. ปฺวาติ วิจารณปฺาย ยุตฺโต. พุทฺธิสมฺปนฺโนติ อเวกลฺลพุทฺธิสมฺปนฺโน. วิธานวิธิโกวิโทติ นานปฺปกาเรสุ ทาสกมฺมกรโปริสาทีนํ สํวิทหนโกฏฺาเสสุ เฉโก. กาลฺูติ ‘‘อยํ ทานํ ทาตุํ, อยํ สีลํ รกฺขิตุํ, อยํ อุโปสถกมฺมํ กาตุํ กาโล’’ติ ชาเนยฺย. สมยฺูติ ‘‘อยํ กสนสมโย, อยํ วปนสมโย, อยํ โวหารสมโย, อยํ อุปฏฺานสมโย’’ติ ชาเนยฺย. กมฺมเธยฺเยสูติ อตฺตโน กตฺตพฺพกมฺเมสุ.

๑๕๐๙.

‘‘ขลํ สาลํ ปสุํ เขตฺตํ, คนฺตา จสฺส อภิกฺขณํ;

มิตํ ธฺํ นิธาเปยฺย, มิตํว ปาจเย ฆเร.

๑๕๑๐.

‘‘ปุตฺตํ วา ภาตรํ วา สํ, สีเลสุ อสมาหิตํ;

อนงฺควา หิ เต พาลา, ยถา เปตา ตเถว เต;

โจฬฺจ เนสํ ปิณฺฑฺจ, อาสีนานํ ปทาปเย.

๑๕๑๑.

‘‘ทาเส กมฺมกเร เปสฺเส, สีเลสุ สุสมาหิเต;

ทกฺเข อุฏฺานสมฺปนฺเน, อาธิปจฺจมฺหิ าปเย’’ติ.

ตตฺถ ปสุํ เขตฺตนฺติ โคกุลฺเจว สสฺสฏฺานฺจ. คนฺตาติ คมนสีโล. มิตนฺติ มินิตฺวา เอตฺตกนฺติ ตฺวา โกฏฺเสุ นิธาเปยฺย. ฆเรติ ฆเรปิ ปริชนํ คเณตฺวา มิตเมว ปจาเปยฺย. สีเลสุ อสมาหิตนฺติ เอวรูปํ ทุสฺสีลํ อนาจารํ กิสฺมิฺจิ อาธิปจฺจฏฺาเน น เปยฺยาติ อตฺโถ. อนงฺควา หิ เต พาลาติ ‘‘องฺคเมตํ มนุสฺสานํ, ภาตา โลเก ปวุจฺจตี’’ติ (ชา. ๑.๔.๕๘) กิฺจาปิ เชฏฺกนิฏฺภาตโร องฺคสมานตาย ‘‘องฺค’’นฺติ วุตฺตา, อิเม ปน ทุสฺสีลา, ตสฺมา องฺคสมานา น โหนฺติ. ยถา ปน สุสาเน ฉฑฺฑิตา เปตา มตา, ตเถว เต. ตสฺมา ตาทิสา อาธิปจฺจฏฺาเน น เปตพฺพา. กุฏุมฺพฺหิ เต วินาเสนฺติ, วินฏฺกุฏุมฺพสฺส จ ทลิทฺทสฺส ราชวสติ นาม น สมฺปชฺชติ. อาสีนานนฺติ อาคนฺตฺวา นิสินฺนานํ ปุตฺตภาตานํ มตสตฺตานํ มตกภตฺตํ วิย เทนฺโต ฆาสจฺฉาทนมตฺตเมว ปทาเปยฺย. อุฏฺานสมฺปนฺเนติ อุฏฺานวีริเยน สมนฺนาคเต.

๑๕๑๒.

‘‘สีลวา จ อโลโล จ, อนุรกฺโข จ ราชิโน;

อาวี รโห หิโต ตสฺส, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๑๓.

‘‘ฉนฺทฺู ราชิโน จสฺส, จิตฺตฏฺโ อสฺส ราชิโน;

อสงฺกุสกวุตฺตึสฺส, ส ราชวสตึ วเส.

๑๕๑๔.

‘‘อุจฺฉาทเย จ นฺหาปเย, โธเว ปาเท อโธสิรํ;

อาหโตปิ น กุปฺเปยฺย, ส ราชวสตึ วเส’’ติ.

ตตฺถ อโลโลติ อลุทฺโธ. จิตฺตฏฺโติ จิตฺเต ิโต, ราชจิตฺตวสิโกติ อตฺโถ. อสงฺกุสกวุตฺติสฺสาติ อปฺปฏิโลมวุตฺติ อสฺส. อโธสิรนฺติ ปาเท โธวนฺโตปิ อโธสิรํ กตฺวา เหฏฺามุโขว โธเวยฺย, น รฺโ มุขํ อุลฺโลเกยฺยาติ อตฺโถ.

๑๕๑๕.

‘‘กุมฺภมฺปฺชลึ กริยา, จาฏฺจาปิ ปทกฺขิณํ;

กิเมว สพฺพกามานํ, ทาตารํ ธีรมุตฺตมํ.

๑๕๑๖.

‘‘โย เทติ สยนํ วตฺถํ, ยานํ อาวสถํ ฆรํ;

ปชฺชุนฺโนริว ภูตานิ, โภเคหิ อภิวสฺสติ.

๑๕๑๗.

‘‘เอสยฺโย ราชวสติ, วตฺตมาโน ยถา นโร;

อาราธยติ ราชานํ, ปูชํ ลภติ ภตฺตุสู’’ติ.

ตตฺถ กุมฺภมฺปฺชลึ กริยา, จาฏฺจาปิ ปทกฺขิณนฺติ วุทฺธึ ปจฺจาสีสนฺโต ปุริโส อุทกปูริตํ กุมฺภํ ทิสฺวา ตสฺส อฺชลึ กเรยฺย, จาฏฺจ สกุณํ ปทกฺขิณํ กเรยฺย. อฺชลึ วา ปทกฺขิณํ วา กโรนฺตสฺส เต กิฺจิ ทาตุํ น สกฺโกนฺติ. กิเมวาติ โย ปน สพฺพกามานํ ทาตา ธีโร จ, ตํ ราชานํ กึการณา น นมสฺเสยฺย. ราชาเยว หิ นมสฺสิตพฺโพ จ อาราเธตพฺโพ จ. ปชฺชุนฺโนริวาติ เมโฆ วิย. เอสยฺโย ราชวสตีติ อยฺโย ยา อยํ มยา กถิตา, เอสา ราชวสติ นาม ราชเสวกานํ อนุสาสนี. ยถาติ ยาย ราชวสติยา วตฺตมาโน นโร ราชานํ อาราเธติ, ราชูนฺจ สนฺติกา ปูชํ ลภติ, สา เอสาติ.

เอวํ อสมธุโร วิธุรปณฺฑิโต พุทฺธลีลาย ราชวสตึ กเถสิ;

ราชวสติกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

อนฺตรเปยฺยาลํ

เอวํ ปุตฺตทาราติมิตฺตสุหชฺชาทโย อนุสาสนฺตสฺเสว ตสฺส ตโย ทิวสา ชาตา. โส ทิวสสฺส ปาริปูรึ ตฺวา ปาโตว นฺหตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา ‘‘ราชานํ อปโลเกตฺวา มาณเวน สทฺธึ คมิสฺสามี’’ติ าติคณปริวุโต ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต วตฺตพฺพยุตฺตกํ วจนํ อโวจ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๑๘.

‘‘เอวํ สมนุสาสิตฺวา, าติสงฺฆํ วิจกฺขโณ;

ปริกิณฺโณ สุหเทหิ, ราชานมุปสงฺกมิ.

๑๕๑๙.

‘‘วนฺทิตฺวา สิรสา ปาเท, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

วิธุโร อวจ ราชานํ, ปคฺคเหตฺวาน อฺชลึ.

๑๕๒๐.

‘‘อยํ มํ มาณโว เนติ, กตฺตุกาโม ยถามติ;

าตีนตฺถํ ปวกฺขามิ, ตํ สุโณหิ อรินฺทม.

๑๕๒๑.

‘‘ปุตฺเต จ เม อุทิกฺเขสิ, ยฺจ มฺํ ฆเร ธนํ;

ยถา เปจฺจ น หาเยถ, าติสงฺโฆ มยี คเต.

๑๕๒๒.

‘‘ยเถว ขลตี ภูมฺยา, ภูมฺยาเยว ปติฏฺติ;

เอเวตํ ขลิตํ มยฺหํ, เอตํ ปสฺสามิ อจฺจย’’นฺติ.

ตตฺถ สุหเทหีติ สุหทเยหิ าติมิตฺตาทีหิ. ยฺจ มฺนฺติ ยฺจ เม อฺํ ตยา เจว อฺเหิ จ ราชูหิ ทินฺนํ ฆเร อปริมาณํ ธนํ, ตํ สพฺพํ ตฺวเมว โอโลเกยฺยาสิ. เปจฺจาติ ปจฺฉากาเล. ขลตีติ ปกฺขลติ. เอเวตนฺติ เอวํ เอตํ. อหฺหิ ภูมิยํ ขลิตฺวา ตตฺเถว ปติฏฺิตปุริโส วิย ตุมฺเหสุ ขลิตฺวา ตุมฺเหสุเยว ปติฏฺหามิ. เอตํ ปสฺสามีติ โย เอส ‘‘กึ เต ราชา โหตี’’ติ มาณเวน ปุฏฺสฺส มม ตุมฺเห อโนโลเกตฺวา สจฺจํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ทาโสหมสฺมี’’ติ วทนฺตสฺส อจฺจโย, เอตํ อจฺจยํ ปสฺสามิ, อฺโ ปน เม โทโส นตฺถิ, ตํ เม อจฺจยํ ตุมฺเห ขมถ, เอตํ หทเย กตฺวา ปจฺฉา มม ปุตฺตทาเรสุ มา อปรชฺฌิตฺถาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ปณฺฑิต, ตว คมนํ มยฺหํ น รุจฺจติ, มาณวํ อุปาเยน ปกฺโกสาเปตฺวา ฆาเตตฺวา กิลฺเชน ปฏิจฺฉาเทตุํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ ทีเปนฺโต คาถมาห –

๑๕๒๓.

‘‘สกฺกา น คนฺตุํ อิติ มยฺห โหติ, เฉตฺวา วธิตฺวา อิธ กาติยานํ;

อิเธว โหหี อิติ มยฺห รุจฺจติ, มา ตฺวํ อคา อุตฺตมภูริปฺา’’ติ.

ตตฺถ เฉตฺวาติ อิเธว ราชเคเห ตํ โปเถตฺวา มาเรตฺวา ปฏิจฺฉาเทสฺสามีติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อชฺฌาสโย เอวรูโป โหติ, โส ตุมฺเหสุ อยุตฺโต’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕๒๔.

‘‘มา เหวธมฺเมสุ มนํ ปณีทหิ, อตฺเถ จ ธมฺเม จ ยุตฺโต ภวสฺสุ;

ธิรตฺถุ กมฺมํ อกุสลํ อนริยํ, ยํ กตฺวา ปจฺฉา นิรยํ วเชยฺย.

๑๕๒๕.

‘‘เนเวส ธมฺโม น ปุเนต กิจฺจํ, อยิโร หิ ทาสสฺส ชนินฺท อิสฺสโร;

ฆาเตตุํ ฌาเปตุํ อโถปิ หนฺตุํ, น จ มยฺห โกธตฺถิ วชามิ จาห’’นฺติ.

ตตฺถ มา เหวธมฺเมสุ มนํ ปณีทหีติ อธมฺเมสุ อนตฺเถสุ อยุตฺเตสุ ตว จิตฺตํ มา เหว ปณิทหีติ อตฺโถ. ปจฺฉาติ ยํ กมฺมํ กตฺวาปิ อชรามโร น โหติ, อถ โข ปจฺฉา นิรยเมว อุปปชฺเชยฺย. ธิรตฺถุ กมฺมนฺติ ตํ กมฺมํ ครหิตํ อตฺถุ อสฺส ภเวยฺย. เนเวสาติ เนว เอส. อยิโรติ สามิโก. ฆาเตตุนฺติ เอตานิ ฆาตาทีนิ กาตุํ อยิโร ทาสสฺส อิสฺสโร, สพฺพาเนตานิ กาตุํ ลภติ, มยฺหํ มาณเว อปฺปมตฺตโกปิ โกโธ นตฺถิ, ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ตว จิตฺตํ สนฺธาเรตุํ วฏฺฏติ, วชามิ อหํ นรินฺทาติ อาห –

เอวํ วตฺวา มหาสตฺโต ราชานํ วนฺทิตฺวา รฺโ โอโรเธ จ ปุตฺตทาเร จ ราชปริสฺจ โอวทิตฺวา เตสุ สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺกุณิตฺวา มหาวิรวํ วิรวนฺเตสุเยว ราชนิเวสนา นิกฺขมิ. สกลนครวาสิโนปิ ‘‘ปณฺฑิโต กิร มาณเวน สทฺธึ คมิสฺสติ, เอถ, ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ มนฺตยิตฺวา ราชงฺคเณเยว นํ ปสฺสึสุ. อถ เน มหาสตฺโต อสฺสาเสตฺวา ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สรีรํ อทฺธุวํ, ยโส นาม วิปตฺติปริโยสาโน, อปิจ ตุมฺเห ทานาทีสุ ปุฺเสุ อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ เตสํ โอวาทํ ทตฺวา นิวตฺตาเปตฺวา อตฺตโน เคหาภิมุโข ปายาสิ. ตสฺมึ ขเณ ธมฺมปาลกุมาโร ภาติกคณปริวุโต ‘‘ปิตุ ปจฺจุคฺคมนํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺโต นิเวสนทฺวาเรเยว ปิตุ สมฺมุโข อโหสิ. มหาสตฺโต ตํ ทิสฺวา สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อุปคุยฺห อุเร นิปชฺชาเปตฺวา นิเวสนํ ปาวิสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๒๖.

‘‘เชฏฺปุตฺตํ อุปคุยฺห, วิเนยฺย หทเย ทรํ;

อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, ปาวิสี โส มหาฆร’’นฺติ.

ฆเร ปนสฺส สหสฺสปุตฺตา, สหสฺสธีตโร, สหสฺสภริยาโย, จ สตฺตวณฺณทาสิสตานิ จ สนฺติ, เตหิ เจว อวเสสทาสิทาสกมฺมกราติมิตฺตสุหชฺชาทีหิ จ สกลนิเวสนํ ยุคนฺตวาตาภิฆาตปติเตหิ สาเลหิ สาลวนํ วิย นิรนฺตรํ อโหสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๒๗.

‘‘สาลาว สมฺมปติตา, มาลุเตน ปมทฺทิตา;

เสนฺติ ปุตฺตา จ ทารา จ, วิธุรสฺส นิเวสเน.

๑๕๒๘.

‘‘อิตฺถิสหสฺสํ ภริยานํ, ทาสิสตฺตสตานิ จ;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, วิธุรสฺส นิเวสเน.

๑๕๒๙.

‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, วิธุรสฺส นิเวสเน.

๑๕๓๐.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, วิธุรสฺส นิเวสเน.

๑๕๓๑.

‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, วิธุรสฺส นิเวสเน.

๑๕๓๒.

‘‘อิตฺถิสหสฺสํ ภริยานํ, ทาสิสตฺตสตานิ จ;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺตุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.

๑๕๓๓.

‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.

๑๕๓๔.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิ.

๑๕๓๕.

‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ เสนฺตีติ มหาตเล ฉินฺนปาทา วิย ปติตา อาวตฺตนฺตา ปริวตฺตนฺตา สยนฺติ. อิตฺถิสหสฺสํ ภริยานนฺติ ภริยานเมว อิตฺถีนํ สหสฺสํ. กสฺมา โน วิชหิสฺสสีติ เกน การเณน อมฺเห วิชหิสฺสสีติ ปริเทวึสุ.

มหาสตฺโต สพฺพํ ตํ มหาชนํ อสฺสาเสตฺวา ฆเร อวเสสกิจฺจานิ กตฺวา อนฺโตชนฺจ พหิชนฺจ โอวทิตฺวา อาจิกฺขิตพฺพยุตฺตกํ สพฺพํ อาจิกฺขิตฺวา ปุณฺณกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อตฺตโน นิฏฺิตกิจฺจตํ อาโรเจสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๓๖.

‘‘กตฺวา ฆเรสุ กิจฺจานิ, อนุสาสิตฺวา สกํ ชนํ;

มิตฺตามจฺเจ จ ภจฺเจ จ, ปุตฺตทาเร จ พนฺธเว.

๑๕๓๗.

‘‘กมฺมนฺตํ สํวิเธตฺวาน, อาจิกฺขิตฺวา ฆเร ธนํ;

นิธิฺจ อิณทานฺจ, ปุณฺณกํ เอตทพฺรวิ.

๑๕๓๘.

‘‘อวสี ตุวํ มยฺห ตีหํ อคาเร, กตานิ กิจฺจานิ ฆเรสุ มยฺหํ;

อนุสาสิตา ปุตฺตทารา มยา จ, กโรม กจฺจาน ยถามตึ เต’’ติ.

ตตฺถ กมฺมนฺตํ สํวิเธตฺวานาติ ‘‘เอวฺจ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ฆเร กตฺตพฺพยุตฺตกํ กมฺมํ สํวิทหิตฺวา. นิธินฺติ นิทหิตฺวา ปิตธนํ. อิณทานนฺติ อิณวเสน สํโยชิตธนํ. ยถามตึ เตติ อิทานิ ตว อชฺฌาสยานุรูปํ กโรมาติ วทติ.

ปุณฺณโก อาห –

๑๕๓๙.

‘‘สเจ หิ กตฺเต อนุสาสิตา เต, ปุตฺตา จ ทารา อนุชีวิโน จ;

หนฺเทหิ ทานี ตรมานรูโป, ทีโฆ หิ อทฺธาปิ อยํ ปุรตฺถา.

๑๕๔๐.

‘‘อฉมฺภิโตว คณฺหาหิ, อาชาเนยฺยสฺส วาลธึ;

อิทํ ปจฺฉิมกํ ตุยฺหํ, ชีวโลกสฺส ทสฺสน’’นฺติ.

ตตฺถ กตฺเตติ โสมนสฺสปฺปตฺโต ยกฺโข มหาสตฺตํ อาลปติ. ทีโฆ หิ อทฺธาปีติ คนฺตพฺพมคฺโคปิ ทีโฆ. ‘‘อฉมฺภิโตวา’’ติ อิทํ โส เหฏฺาปาสาทํ อโนตริตฺวา ตโตว คนฺตุกาโม หุตฺวา อวจ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๑๕๔๑.

‘‘โสหํ กิสฺส นุ ภายิสฺสํ, ยสฺส เม นตฺถิ ทุกฺกฏํ;

กาเยน วาจา มนสา, เยน คจฺเฉยฺย ทุคฺคติ’’นฺติ.

ตตฺถ โสหํ กิสฺส นุ ภายิสฺสนฺติ อิทํ มหาสตฺโต ‘‘อฉมฺภิโตว คณฺหาหี’’ติ วุตฺตตฺตา เอวมาห.

เอวํ มหาสตฺโต สีหนาทํ นทิตฺวา อฉมฺภิโต เกสรสีโห วิย นิพฺภโย หุตฺวา ‘‘อยํ สาฏโก มม อรุจิยา มา มุจฺจตู’’ติ อธิฏฺานปารมึ ปุเรจาริกํ กตฺวา ทฬฺหํ นิวาเสตฺวา อสฺสสฺส วาลธึ วิยูหิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ วาลธึ คเหตฺวา ทฺวีหิ ปาเทหิ อสฺสสฺส อูรูสุ ปลิเวเตฺวา ‘‘มาณว, คหิโต เม วาลธิ, ยถารุจิ ยาหี’’ติ อาห. ตสฺมึ ขเณ ปุณฺณโก มโนมยสินฺธวสฺส สฺํ อทาสิ. โส ปณฺฑิตํ อาทาย อากาเส ปกฺขนฺทิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๔๒.

‘‘โส อสฺสราชา วิธุรํ วหนฺโต, ปกฺกามิ เวหายสมนฺตลิกฺเข;

สาขาสุ เสเลสุ อสชฺชมาโน, กาฬาคิรึ ขิปฺปมุปาคมาสี’’ติ.

ตตฺถ สาขาสุ เสเลสุ อสชฺชมาโนติ ปุณฺณโก กิร จินฺเตสิ ‘‘ทูรํ อคนฺตฺวาว อิมํ หิมวนฺตปฺปเทเส รุกฺเขสุ ปพฺพเตสุ จ โปเถตฺวา มาเรตฺวา หทยมํสํ อาทาย กเฬวรํ ปพฺพตนฺตเร ฉฑฺเฑตฺวา นาคภวนเมว คมิสฺสามี’’ติ. โส รุกฺเข จ ปพฺพเต จ อปริหริตฺวา เตสํ มชฺเฌเนว อสฺสํ เปเสสิ. มหาสตฺตสฺสานุภาเวน รุกฺขาปิ ปพฺพตาปิ สรีรโต อุโภสุ ปสฺเสสุ รตนมตฺตํ ปฏิกฺกมนฺติ. โส ‘‘มโต วา, โน วา’’ติ ปริวตฺติตฺวา มหาสตฺตสฺส มุขํ โอโลเกนฺโต กฺจนาทาสมิว วิปฺปสนฺนํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เอวํ น มรตี’’ติ ปุนปิ สกลหิมวนฺตปฺปเทเส รุกฺเข จ ปพฺพเต จ ติกฺขตฺตุํ โปเถนฺโต เปเสสิ. เอวํ โปเถนฺโตปิ ตเถว รุกฺขปพฺพตา ทูรเมว ปฏิกฺกมนฺติเยว. มหาสตฺโต ปน กิลนฺตกาโย อโหสิ. อถ ปุณฺณโก ‘‘อยํ เนว มรติ, อิทานิ วาตกฺขนฺเธ จุณฺณวิจุณฺณํ กริสฺสามี’’ติ โกธาภิภูโต สตฺตมํ วาตกฺขนฺธํ ปกฺขนฺทิ. โพธิสตฺตสฺสานุภาเวน วาตกฺขนฺโธ ทฺวิธา หุตฺวา โพธิสตฺตสฺส โอกาสํ อกาสิ. ตโต เวรมฺภวาเตหิ ปหราเปสิ, เวรมฺภวาตาปิ สตสหสฺสอสนิสทฺโท วิย หุตฺวา โพธิสตฺตสฺส โอกาสํ อทํสุ. โส ปุณฺณโก ตสฺส อนฺตรายาภาวํ ปสฺสนฺโต ตํ อาทาย กาฬปพฺพตํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘โส อสฺสราชา วิธุรํ วหนฺโต, ปกฺกามิ เวหายสมนฺตลิกฺเข;

สาขาสุ เสเลสุ อสชฺชมาโน, กาฬาคิรึ ขิปฺปมุปาคมาสี’’ติ.

ตตฺถ อสชฺชมาโนติ อลคฺคมาโน อปฺปฏิหฺมาโน วิธุรปณฺฑิตํ วหนฺโต กาฬปพฺพตมตฺถกํ อุปาคโต.

เอวํ ปุณฺณกสฺส มหาสตฺตํ คเหตฺวา คตกาเล ปณฺฑิตสฺส ปุตฺตทาราทโย ปุณฺณกสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ตตฺถ มหาสตฺตํ อทิสฺวา ฉินฺนปาทา วิย ปติตฺวา อปราปรํ ปริวตฺตมานา มหาสทฺเทน ปริเทวึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๔๓.

‘‘อิตฺถิสหสฺสํ ภริยานํ, ทาสิสตฺตสตานิ จ;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ยกฺโข พฺราหฺมณวณฺเณน;

วิธุรํ อาทาย คจฺฉติ’.

‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ยกฺโข พฺราหฺมณวณฺเณน;

วิธุรํ อาทาย คจฺฉติ’.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ยกฺโข พฺราหฺมณวณฺเณน;

วิธุรํ อาทาย คจฺฉติ’.

๑๕๔๔.

‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ยกฺโข พฺราหฺมณวณฺเณน;

วิธุรํ อาทาย คจฺฉติ’.

๑๕๔๕.

‘‘อิตฺถิสหสฺสํ ภริยานํ, ทาสิสตฺตสตานิ จ;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ปณฺฑิโต โส กุหึ คโต’.

‘‘โอโรธา จ กุมารา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ปณฺฑิโต โส กุหึ คโต’.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ปณฺฑิโต โส กุหึ คโต’.

๑๕๔๖.

สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, ‘ปณฺฑิโต โส กุหึ คโต’’’ติ.

เอวํ ปกฺกนฺทิตฺวา จ ปน เต สพฺเพปิ สกลนครวาสีหิ สทฺธึ โรทิตฺวา ราชทฺวารํ อคมํสุ. ราชา มหนฺตํ ปริเทวสทฺทํ สุตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ‘‘ตุมฺเห กสฺมา ปริเทวถา’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส เต ‘‘เทว, โส กิร มาณโว น พฺราหฺมโณ, ยกฺโข ปน พฺราหฺมณวณฺเณน อาคนฺตฺวา ปณฺฑิตํ อาทาย คโต, เตน วินา อมฺหากํ ชีวิตํ นตฺถิ. สเจ โส อิโต สตฺตเม ทิวเส นาคมิสฺสติ, สกฏสเตหิ สกฏสหสฺเสหิ จ ทารูนิ สงฺกฑฺฒิตฺวา สพฺเพ มยํ อคฺคึ อุชฺชาเลตฺวา ปวิสิสฺสามา’’ติ อิมมตฺถํ อาโรเจนฺตา อิมํ คาถมาหํสุ –

๑๕๔๗.

‘‘สเจ โส สตฺตรตฺเตน, นาคจฺฉิสฺสติ ปณฺฑิโต;

สพฺเพ อคฺคึ ปเวกฺขาม, นตฺถตฺโถ ชีวิเตน โน’’ติ.

สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปรินิพฺพุตกาเลปิ ‘‘มยํ อคฺคึ ปวิสิตฺวา มริสฺสามา’’ติ วตฺตาโร นาม นาเหสุํ. อโห สุภาสิตํ มหาสตฺเต นาคเรหีติ. ราชา เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, มา โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถ, มธุรกโถ ปณฺฑิโต มาณวํ ธมฺมกถาย ปโลเภตฺวา อตฺตโน ปาเทสุ ปาเตตฺวา สกลนครวาสีนํ อสฺสุมุขํ หาสยนฺโต น จิรสฺเสว อาคมิสฺสตี’’ติ อสฺสาเสนฺโต คาถมาห –

๑๕๔๘.

‘‘ปณฺฑิโต จ วิยตฺโต จ, วิภาวี จ วิจกฺขโณ;

ขิปฺปํ โมจิย อตฺตานํ, มา ภายิตฺถาคมิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ วิยตฺโตติ เวยฺยตฺติยา วิจารณปฺาย สมนฺนาคโต. วิภาวีติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ วิภาเวตฺวา ทสฺเสตฺวา กเถตุํ สมตฺโถ. วิจกฺขโณติ ตงฺขเณเยว านุปฺปตฺติกาย การณจินฺตนปฺาย ยุตฺโต. มา ภายิตฺถาติ มา ภายถ, อตฺตานํ โมเจตฺวา ขิปฺปํ อาคมิสฺสตีติ อสฺสาเสติ.

นาคราปิ ‘‘ปณฺฑิโต กิร รฺโ กเถตฺวา คโต ภวิสฺสตี’’ติ อสฺสาสํ ปฏิลภิตฺวา อตฺตโน เคหานิ ปกฺกมึสุ.

อนฺตรเปยฺยาโล นิฏฺิโต.

สาธุนรธมฺมกณฺฑํ

ปุณฺณโกปิ มหาสตฺตํ กาฬาคิริมตฺถเก เปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ ชีวมาเน มยฺหํ วุฑฺฒิ นาม นตฺถิ, อิมํ มาเรตฺวา หทยมํสํ คเหตฺวา นาคภวนํ คนฺตฺวา วิมลาย ทตฺวา อิรนฺธตึ คเหตฺวา เทวโลกํ คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๔๙.

‘‘โส ตตฺถ คนฺตฺวาน วิจินฺตยนฺโต, อุจฺจาวจา เจตนกา ภวนฺติ;

นยิมสฺส ชีเวน มมตฺถิ กิฺจิ, หนฺตฺวานิมํ หทยมานยิสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ โสติ โส ปุณฺณโก. ตตฺถ คนฺตฺวานาติ คนฺตฺวา ตตฺถ กาฬาคิริมตฺถเก ิโต. อุจฺจาวจา เจตนกา ภวนฺตีติ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานา เจตนา อุจฺจาปิ อวจาปิ อุปฺปชฺชนฺติ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ มเมตสฺส ชีวิตทานเจตนาปิ อุปฺปชฺเชยฺยาติ. อิมสฺส ปน ชีวิเตน ตหึ นาคภวเน มม อปฺปมตฺตกมฺปิ กิฺจิ กิจฺจํ นตฺถิ, อิเธวิมํ มาเรตฺวา อสฺส หทยํ อานยิสฺสามีติ สนฺนิฏฺานมกาสีติ อตฺโถ.

ตโต ปุน จินฺเตสิ ‘‘ยํนูนาหํ อิมํ สหตฺเถน อมาเรตฺวา เภรวรูปทสฺสเนน ชีวิตกฺขยํ ปาเปยฺย’’นฺติ. โส เภรวยกฺขรูปํ นิมฺมินิตฺวา มหาสตฺตํ ตชฺเชนฺโต อาคนฺตฺวา ตํ ปาเตตฺวา ทาานํ อนฺตเร กตฺวา ขาทิตุกาโม วิย อโหสิ, มหาสตฺตสฺส โลมหํสนมตฺตมฺปิ นาโหสิ. ตโต สีหรูเปน มตฺตมหาหตฺถิรูเปน จ อาคนฺตฺวา ทาาหิ เจว ทนฺเตหิ จ วิชฺฌิตุกาโม วิย อโหสิ. ตถาปิ อภายนฺตสฺส เอกโทณิกนาวปฺปมาณํ มหนฺตํ สปฺปวณฺณํ นิมฺมินิตฺวา อสฺสสนฺโต ปสฺสสนฺโต ‘‘สุสู’’ติ สทฺทํ กโรนฺโต อาคนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส สกลสรีรํ เวเตฺวา มตฺถเก ผณํ กตฺวา อฏฺาสิ, ตสฺส สารชฺชมตฺตมฺปิ นาโหสิ. อถ ‘‘นํ ปพฺพตมตฺถเก เปตฺวา ปาเตตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ กริสฺสามี’’ติ มหาวาตํ สมุฏฺาเปสิ. โส ตสฺส เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาเลตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ ตตฺเถว ปพฺพตมตฺถเก เปตฺวา หตฺถี วิย ขชฺชูริรุกฺขํ ปพฺพตํ อปราปรํ จาเลสิ, ตถาปิ นํ ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาเลตุํ นาสกฺขิ.

ตโต ‘‘สทฺทสนฺตาเสนสฺส หทยผาลนํ กตฺวา มาเรสฺสามี’’ติ อนฺโตปพฺพตํ ปวิสิตฺวา ปถวิฺจ นภฺจ เอกนินฺนาทํ กโรนฺโต มหานาทํ นทิ, เอวมฺปิสฺส สารชฺชมตฺตมฺปิ นาโหสิ. ชานาติ หิ มหาสตฺโต ‘‘ยกฺขสีหหตฺถินาคราชเวเสหิ อาคโตปิ มหาวาตวุฏฺึ สมุฏฺาปโกปิ ปพฺพตจลนํ กโรนฺโตปิ อนฺโตปพฺพตํ ปวิสิตฺวา นาทํ วิสฺสชฺเชนฺโตปิ มาณโวเยว, น อฺโ’’ติ. ตโต ปุณฺณโก จินฺเตสิ ‘‘นาหํ อิมํ พาหิรุปกฺกเมน มาเรตุํ สกฺโกมิ, สหตฺเถเนว นํ มาเรสฺสามี’’ติ. ตโต ยกฺโข มหาสตฺตํ ปพฺพตมุทฺธนิ เปตฺวา ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา มณิกฺขนฺเธ ปณฺฑุสุตฺตํ ปเวเสนฺโต วิย ปพฺพตํ ปวิสิตฺวา ตาเสนฺโต วคฺคนฺโต อนฺโตปพฺพเตน อุคฺคนฺตฺวา มหาสตฺตํ ปาเท ทฬฺหํ คเหตฺวา ปริวตฺเตตฺวา อโธสิรํ กตฺวา อนาลมฺเพ อากาเส วิสฺสชฺเชสิ. เตน วุตฺตํ –

๑๕๕๐.

‘‘โส ตตฺถ คนฺตฺวา ปพฺพตนฺตรสฺมึ, อนฺโต ปวิสิตฺวาน ปทุฏฺจิตฺโต;

อสํวุตสฺมึ ชคติปฺปเทเส, อโธสิรํ ธารยิ กาติยาโน’’ติ.

ตตฺถ โส ตตฺถ คนฺตฺวาติ โส ปุณฺณโก ปพฺพตมตฺถกา ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา ตตฺถ ปพฺพตนฺตเร ตฺวา ตสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ิตสฺส เหฏฺา ปฺายมาโน อสํวุเต ภูมิปเทเส ธาเรสีติ. น อาทิโตว ธาเรสิ, ตตฺถ ปน ตํ ขิปิตฺวา ปนฺนรสโยชนมตฺตํ ภฏฺกาเล ปพฺพตมุทฺธนิ ิโตว หตฺถํ วฑฺเฒตฺวา อโธสิรํ ภสฺสนฺตํ ปาเทสุ คเหตฺวา อโธสิรเมว อุกฺขิปิตฺวา มุขํ โอโลเกนฺโต ‘‘น มรตี’’ติ ตฺวา ทุติยมฺปิ ขิปิตฺวา ตึสโยชนมตฺตํ ภฏฺกาเล ตเถว อุกฺขิปิตฺวา ปุน ตสฺส มุขํ โอโลเกนฺโต ชีวนฺตเมว ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘สเจ อิทานิ สฏฺิโยชนมตฺตํ ภสฺสิตฺวา น มริสฺสติ, ปาเทสุ นํ คเหตฺวา ปพฺพตมุทฺธนิ โปเถตฺวา มาเรสฺสามี’’ติ อถ นํ ตติยมฺปิ ขิปิตฺวา สฏฺิโยชนมตฺตํ ภฏฺกาเล หตฺถํ วฑฺเฒตฺวา ปาเทสุ คเหตฺวา อุกฺขิปิ. ตโต มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อยํ มํ ปมํ ปนฺนรสโยชนฏฺานํ ขิปิ, ทุติยมฺปิ ตึสโยชนํ, ตติยมฺปิ สฏฺิโยชนํ, อิทานิ ปุน มํ น ขิปิสฺสติ, อุกฺขิปนฺโตเยว ปพฺพตมุทฺธนิ ปหริตฺวา มาเรสฺสติ, ยาว มํ อุกฺขิปิตฺวา ปพฺพตมุทฺธนิ น โปเถติ, ตาว นํ อโธสิโร หุตฺวา โอลมฺพนฺโตว มารณการณํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. เอวํ จินฺเตตฺวา จ ปน โส อฉมฺภิโต อสนฺตสนฺโต ตถา อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ธารยิ กาติยาโน’’ติ, ติกฺขตฺตุํ ขิปิตฺวา ธารยีติ อตฺโถ.

๑๕๕๑.

‘‘โส ลมฺพมาโน นรเก ปปาเต, มหพฺภเย โลมหํเส วิทุคฺเค;

อสนฺตสนฺโต กุรูนํ กตฺตุเสฏฺโ, อิจฺจพฺรวิ ปุณฺณกํ นาม ยกฺขํ.

๑๕๕๒.

‘‘อริยาวกาโสสิ อนริยรูโป, อสฺโต สฺตสนฺนิกาโส;

อจฺจาหิตํ กมฺมํ กโรสิ ลุทฺรํ, ภาเว จ เต กุสลํ นตฺถิ กิฺจิ.

๑๕๕๓.

‘‘ยํ มํ ปปาตสฺมึ ปปาตุมิจฺฉสิ, โก นุ ตวตฺโถ มรเณน มยฺหํ;

อมานุสสฺเสว ตวชฺช วณฺโณ, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ เทวตาติ.

ตตฺถ โส ลมฺพมาโนติ โส กุรูนํ กตฺตุเสฏฺโ ตติยวาเร ลมฺพมาโน. อริยาวกาโสติ รูเปน อริยสทิโส เทววณฺโณ หุตฺวา จรสิ. อสฺโตติ กายาทีหิ อสฺโต ทุสฺสีโล. อจฺจาหิตนฺติ หิตาติกฺกนฺตํ, อติอหิตํ วา. ภาเว จ เตติ ตว จิตฺเต อปฺปมตฺตกมฺปิ กุสลํ นตฺถิ. อมานุสสฺเสว ตวชฺช วณฺโณติ อชฺช ตว อิทํ การณํ อมานุสสฺเสว. กตมาสิ เทวตาติ ยกฺขานํ อนฺตเร กตรยกฺโข นาม ตฺวํ.

ปุณฺณโก อาห –

๑๕๕๔.

‘‘ยทิ เต สุโต ปุณฺณโก นาม ยกฺโข, รฺโ กุเวรสฺส หิ โส สชิพฺโพ;

ภูมินฺธโร วรุโณ นาม นาโค, พฺรหา สุจี วณฺณพลูปปนฺโน.

๑๕๕๕.

‘‘ตสฺสานุชํ ธีตรํ กามยามิ, อิรนฺธตี นาม สา นาคกฺา;

ตสฺสา สุมชฺฌาย ปิยาย เหตุ, ปตารยึ ตุยฺห วธาย ธีรา’’ติ.

ตตฺถ สชิพฺโพติ สชีโว อมจฺโจ. พฺรหาติ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน อุฏฺาปิตกฺจนรูปสทิโส. วณฺณพลูปปนฺโนติ สรีรวณฺเณน จ กายพเลน จ อุปคโต. ตสฺสานุชนฺติ ตสฺส อนุชาตํ ธีตรํ. ปตารยินฺติ จิตฺตํ ปวตฺเตสึ, สนฺนิฏฺานมกาสินฺติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ โลโก ทุคฺคหิเตน นสฺสติ, นาคมาณวิกํ ปตฺเถนฺตสฺส มม มรเณน กึ ปโยชนํ, ตถโต การณํ ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๕๕๖.

‘‘มา เหว ตฺวํ ยกฺข อโหสิ มูฬฺโห, นฏฺา พหู ทุคฺคหีเตน โลเก;

กึ เต สุมชฺฌาย ปิยาย กิจฺจํ, มรเณน เม อิงฺฆ สุโณมิ สพฺพ’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา ตสฺส อาจิกฺขนฺโต ปุณฺณโก อาห –

๑๕๕๗.

‘‘มหานุภาวสฺส มโหรคสฺส, ธีตุกาโม าติภโตหมสฺมิ;

ตํ ยาจมานํ สสุโร อโวจ, ยถา มมฺึสุ สุกามนีตํ.

๑๕๕๘.

‘‘ทชฺเชมุ โข เต สุตนุํ สุเนตฺตํ, สุจิมฺหิตํ จนฺทนลิตฺตคตฺตํ;

สเจ ตุวํ หทยํ ปณฺฑิตสฺส, ธมฺเมน ลทฺธา อิธ มาหเรสิ;

เอเตน วิตฺเตน กุมาริ ลพฺภา, นฺํ ธนํ อุตฺตริ ปตฺถยาม.

๑๕๕๙.

‘‘เอวํ น มูฬฺโหสฺมิ สุโณหิ กตฺเต, น จาปิ เม ทุคฺคหิตตฺถิ กิฺจิ;

หทเยน เต ธมฺมลทฺเธน นาคา, อิรนฺธตึ นาคกฺํ ททนฺติ.

๑๕๖๐.

‘‘ตสฺมา อหํ ตุยฺหํ วธาย ยุตฺโต, เอวํ มมตฺโถ มรเณน ตุยฺหํ;

อิเธว ตํ นรเก ปาตยิตฺวา, หนฺตฺวาน ตํ หทยมานยิสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ ธีตุกาโมติ ธีตรํ กาเมมิ ปตฺเถมิ, ธีตุ อตฺถาย วิจรามิ. าติภโตหมสฺมีติ ตสฺมา ตสฺส าติภตโก นาม อหํ อมฺหิ. นฺติ ตํ นาคกฺํ. ยาจมานนฺติ ยาจนฺตํ มํ. ยถา มนฺติ ยสฺมา มํ. อฺึสูติ ชานึสุ. สุกามนีตนฺติ สุฏฺุ เอส กาเมน นีโตติ สุกามนีโต, ตํ สุกามนีตํ. ตสฺมา สสุโร ‘ทชฺเชมุ โข เต’’ติอาทิมโวจ. ตตฺถ ทชฺเชมูติ ทเทยฺยาม. สุตนุนฺติ สุนฺทรสรีรํ. อิธ มาหเรสีติ อิธ นาคภวเน ธมฺเมน ลทฺธา อาหเรยฺยาสีติ.

ตสฺส ตํ กถํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘วิมลาย มม หทเยน กิจฺจํ นตฺถิ, วรุณนาคราเชน มม ธมฺมกถํ สุตฺวา มณินา มํ ปูเชตฺวา ตตฺถ คเตน มม ธมฺมกถิกภาโว วณฺณิโต ภวิสฺสติ, ตโต วิมลาย มม ธมฺมกถาย โทหโฬ อุปฺปนฺโน ภวิสฺสติ, วรุเณน ทุคฺคหิตํ คเหตฺวา ปุณฺณโก อาณตฺโต ภวิสฺสติ, สฺวายํ อตฺตนา ทุคฺคหิเตน มํ มาเรตุํ เอวรูปํ ทุกฺขํ ปาเปสิ, มม ปณฺฑิตภาโว านุปฺปตฺติการณจินฺตนสมตฺถตา อิมสฺมึ มํ มาเรนฺเต กึ กริสฺสติ, หนฺทาหํ สฺาเปสฺสามิ น’’นฺติ. จินฺเตตฺวา จ ปน ‘‘มาณว, สาธุนรธมฺมํ นาม ชานามิ, ยาวาหํ น มรามิ, ตาว มํ ปพฺพตมุทฺธนิ นิสีทาเปตฺวา สาธุนรธมฺมํ นาม สุโณหิ, ปจฺฉา ยํ อิจฺฉสิ, ตํ กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา สาธุนรธมฺมํ วณฺเณตฺวา อตฺตโน ชีวิตํ อาหราเปนฺโต โส อโธสิโร โอลมฺพนฺโตว คาถมาห –

๑๕๖๑.

‘‘ขิปฺปํ มมํ อุทฺธร กาติยาน, หทเยน เม ยทิ เต อตฺถิ กิจฺจํ;

เย เกจิเม สาธุนรสฺส ธมฺมา, สพฺเพว เต ปาตุกโรมิ อชฺชา’’ติ.

ตํ สุตฺวา ปุณฺณโก ‘‘อยํ ปณฺฑิเตน เทวมนุสฺสานํ อกถิตปุพฺโพ ธมฺโม ภวิสฺสติ, ขิปฺปเมว นํ อุทฺธริตฺวา สาธุนรธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตํ อุกฺขิปิตฺวา ปพฺพตมุทฺธนิ นิสีทาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๖๒.

‘‘โส ปุณฺณโก กุรูนํ กตฺตุเสฏฺํ, นคมุทฺธนิ ขิปฺปํ ปติฏฺเปตฺวา;

อสฺสตฺถมาสีนํ สเมกฺขิยาน, ปริปุจฺฉิ กตฺตารมโนมปฺํ.

๑๕๖๓.

‘‘สมุทฺธโฏ เมสิ ตุวํ ปปาตา, หทเยน เต อชฺช มมตฺถิ กิจฺจํ;

เย เกจิเม สาธุนรสฺส ธมฺมา, สพฺเพว เม ปาตุกโรหิ อชฺชา’’ติ.

ตตฺถ อสฺสตฺถมาสีนนฺติ ลทฺธสฺสาสํ หุตฺวา นิสินฺนํ. สเมกฺขิยานาติ ทิสฺวา. สาธุนรสฺส ธมฺมาติ นรสฺส สาธุธมฺมา, สุนฺทรธมฺมาติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต อาห –

๑๕๖๔.

‘‘สมุทฺธโฏ ตฺยสฺมิ อหํ ปปาตา, หทเยน เม ยทิ เต อตฺถิ กิจฺจํ;

เย เกจิเม สาธุนรสฺส ธมฺมา, สพฺเพว เต ปาตุกโรมิ อชฺชา’’ติ.

ตตฺถ ตฺยสฺมีติ ตยา อสฺมิ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘กิลิฏฺคตฺโตมฺหิ, นฺหายามิ ตาวา’’ติ อาห. ยกฺโขปิ ‘‘สาธู’’ติ นฺหาโนทกํ อาหริตฺวา นฺหาตกาเล มหาสตฺตสฺส ทิพฺพทุสฺสคนฺธมาลาทีนิ ทตฺวา อลงฺกตปฺปฏิยตฺตกาเล ทิพฺพโภชนํ อทาสิ. อถ มหาสตฺโต ภุตฺตโภชโน กาฬาคิริมตฺถกํ อลงฺการาเปตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา พุทฺธลีลาย สาธุนรธมฺมํ เทเสนฺโต คาถมาห –

๑๕๖๕.

‘‘ยาตานุยายี จ ภวาหิ มาณว, อลฺลฺจ ปาณึ ปริวชฺชยสฺสุ;

มา จสฺสุ มิตฺเตสุ กทาจิ ทุพฺภี, มา จ วสํ อสตีนํ นิคจฺเฉ’’ติ.

ตตฺถ อลฺลฺจ ปาณึ ปริวชฺชยสฺสูติ อลฺลํ ตินฺตํ ปาณึ มา ทหิ มา ฌาเปหิ.

ยกฺโข สํขิตฺเตน ภาสิเต จตฺตาโร สาธุนรธมฺเม พุชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺโต วิตฺถาเรน ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๕๖๖.

‘‘กถํ นุ ยาตํ อนุยายิ โหติ, อลฺลฺจ ปาณึ ทหเต กถํ โส;

อสตี จ กา โก ปน มิตฺตทุพฺโภ, อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถ’’นฺติ.

มหาสตฺโตปิสฺส กเถสิ –

๑๕๖๗.

‘‘อสนฺถุตํ โนปิ จ ทิฏฺปุพฺพํ, โย อาสเนนาปิ นิมนฺตเยยฺย;

ตสฺเสว อตฺถํ ปุริโส กเรยฺย, ยาตานุยายีติ ตมาหุ ปณฺฑิตา.

๑๕๖๘.

‘‘ยสฺเสกรตฺตมฺปิ ฆเร วเสยฺย, ยตฺถนฺนปานํ ปุริโส ลเภยฺย;

น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, อทุพฺภปาณึ ทหเต มิตฺตทุพฺโภ.

๑๕๖๙.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.

๑๕๗๐.

‘‘ปุณฺณมฺปิ เจมํ ปถวึ ธเนน, ทชฺชิตฺถิยา ปุริโส สมฺมตาย;

ลทฺธา ขณํ อติมฺเยฺย ตมฺปิ, ตาสํ วสํ อสตีนํ น คจฺเฉ.

๑๕๗๑.

‘‘เอวํ โข ยาตํ อนุยายิ โหติ,

อลฺลฺจ ปาณึ ทหเต ปุเนวํ;

อสตี จ สา โส ปน มิตฺตทุพฺโภ,

โส ธมฺมิโก โหหิ ชหสฺสุ อธมฺม’’นฺติ.

ตตฺถ อสนฺถุตนฺติ เอกาหทฺวีหมฺปิ เอกโต อวุตฺถปุพฺพํ. โย อาสเนนาปีติ โย เอวรูปํ ปุคฺคลํ อาสนมตฺเตนปิ นิมนฺตเยยฺย, ปเคว อนฺนปานาทีหิ. ตสฺเสวาติ ตสฺส ปุพฺพการิสฺส อตฺถํ ปุริโส กโรเตว. ยาตานุยายีติ ปุพฺพการิตาย ยาตสฺส ปุคฺคลสฺส อนุยายี. ปมํ กโรนฺโต หิ ยายี นาม, ปจฺฉา กโรนฺโต อนุยายี นามาติ เอวํ ปณฺฑิตา กเถนฺติ. อยํ เทวราช, ปโม สาธุนรธมฺโม. อทุพฺภปาณินฺติ อทุพฺภกํ อตฺตโน ภุฺชนหตฺถเมว ทหนฺโต หิ มิตฺตทุพฺภี นาม โหติ. อิติ อลฺลหตฺถสฺส อชฺฌาปนํ นาม อยํ ทุติโย สาธุนรธมฺโม. น ตสฺสาติ ตสฺส สาขํ วา ปตฺตํ วา น ภฺเชยฺย. กึการณา? มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก. อิติ ปริภุตฺตจฺฉายสฺส อเจตนสฺส รุกฺขสฺสปิ ปาปํ กโรนฺโต มิตฺตทุพฺภี นาม โหติ, กิมงฺคํ ปน มนุสฺสภูตสฺสาติ. เอวํ มิตฺเตสุ อทุพฺภนํ นาม อยํ ตติโย สาธุนรธมฺโม. ทชฺชิตฺถิยาติ ทเทยฺย อิตฺถิยา. สมฺมตายาติ ‘‘อหเมว ตสฺสา ปิโย, น อฺโ, มฺเว สา อิจฺฉตี’’ติ เอวํ สุฏฺุ มตาย. ลทฺธา ขณนฺติ อติจารสฺส โอกาสํ ลภิตฺวา. อสตีนนฺติ อสทฺธมฺมสมนฺนาคตานํ อิตฺถีนํ. อิติ มาตุคามํ นิสฺสาย ปาปสฺส อกรณํ นาม อยํ จตุตฺโถ สาธุนรธมฺโม. โส ธมฺมิโก โหหีติ เทวราช, โส ตฺวํ อิเมหิ จตูหิ สาธุนรธมฺเมหิ ยุตฺโต โหหีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ยกฺขสฺส จตฺตาโร สาธุนรธมฺเม พุทฺธลีลาย กเถสิ.

สาธุนรธมฺมกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

กาฬาคิริกณฺฑํ

เต ธมฺเม สุณนฺโตเยว ปุณฺณโก สลฺลกฺเขสิ ‘‘จตูสุปิ าเนสุ ปณฺฑิโต อตฺตโน ชีวิตเมว ยาจติ, อยํ โข มยฺหํ ปุพฺเพ อสนฺถุตสฺเสว สกฺการมกาสิ, อหมสฺส นิเวสเน ตีหํ มหนฺตํ ยสํ อนุภวนฺโต วสึ, อหฺจิมํ ปาปกมฺมํ กโรนฺโต มาตุคามํ นิสฺสาย กโรมิ, สพฺพถาปิ อหเมว มิตฺตทุพฺภี. สเจ ปณฺฑิตํ อปรชฺฌามิ, น สาธุนรธมฺเม วตฺติสฺสามิ นาม, ตสฺมา กึ เม นาคมาณวิกาย, อินฺทปตฺถนครวาสีนํ อสฺสุมุขานิ หาเสนฺโต อิมํ เวเคน ตตฺถ เนตฺวา ธมฺมสภายํ โอตาเรสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๕๗๒.

‘‘อวสึ อหํ ตุยฺห ตีหํ อคาเร, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโตสฺมิ;

มิตฺโต มมาสี วิสชฺชามหํ ตํ, กามํ ฆรํ อุตฺตมปฺ คจฺฉ.

๑๕๗๓.

อปิ หายตุ นาคกุลา อตฺโถ, อลมฺปิ เม นาคกฺาย โหตุ;

โส ตฺวํ สเกเนว สุภาสิเตน, มุตฺโตสิ เม อชฺช วธาย ปฺา’’ติ.

ตตฺถ อุปฏฺิโตสฺมีติ ตยา อุปฏฺิโตสฺมิ. วิสชฺชามหํ ตนฺติ วิสฺสชฺเชมิ อหํ ตํ. กามนฺติ เอกํเสน. วธายาติ วธโต. ปฺาติ ปฺวนฺต.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มาณว, ตฺวํ ตาว มํ อตฺตโน ฆรํ มา เปเสหิ, นาคภวนเมว มํ เนหี’’ติ วทนฺโต คาถมาห –

๑๕๗๔.

‘‘หนฺท ตุวํ ยกฺข มมมฺปิ เนหิ, สสุรํ เต อตฺถํ มยิ จรสฺสุ;

มยฺจ นาคาธิปตึ วิมานํ, ทกฺเขมุ นาคสฺส อทิฏฺปุพฺพ’’นฺติ.

ตตฺถ หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. สสุรํ เต อตฺถํ มยิ จรสฺสูติ ตว สสุรสฺส สนฺตกํ อตฺถํ มยิ จร มา นาเสหิ. นาคาธิปตึ วิมานนฺติ อหมฺปิ นาคาธิปติฺจ วิมานฺจสฺส อทิฏฺปุพฺพํ ปสฺเสยฺยํ.

ตํ สุตฺวา ปุณฺณโก อาห –

๑๕๗๕.

‘‘ยํ เว นรสฺส อหิตาย อสฺส, น ตํ ปฺโ อรหติ ทสฺสนาย;

อถ เกน วณฺเณน อมิตฺตคามํ, ตุวมิจฺฉสิ อุตฺตมปฺ คนฺตุ’’นฺติ.

ตตฺถ อมิตฺตคามนฺติ อมิตฺตสฺส วสนฏฺานํ, อมิตฺตสมาคมนฺติ อตฺโถ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๑๕๗๖.

‘‘อทฺธา ปชานามิ อหมฺปิ เอตํ, น ตํ ปฺโ อรหติ ทสฺสนาย;

ปาปฺจ เม นตฺถิ กตํ กุหิฺจิ, ตสฺมา น สงฺเก มรณาคมายา’’ติ.

ตตฺถ มรณาคมายาติ มรณสฺส อาคมาย.

อปิจ, เทวราช, ตาทิโส ยกฺโข กกฺขโฬ มยา ธมฺมกถาย ปโลเภตฺวา มุทุกโต, อิทาเนว มํ ‘‘อลํ เม นาคมาณวิกาย, อตฺตโน ฆรํ ยาหี’’ติ วเทสิ, นาคราชสฺส มุทุกรณํ มม ภาโร, เนหิเยว มํ ตตฺถาติ. ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา ปุณฺณโก ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตุฏฺจิตฺโต อาห –

๑๕๗๗.

‘‘หนฺท จ านํ อตุลานุภาวํ, มยา สห ทกฺขสิ เอหิ กตฺเต;

ยตฺถจฺฉติ นจฺจคีเตหิ นาโค, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬิฺํ.

๑๕๗๘.

‘‘นํ นาคกฺา จริตํ คเณน, นิกีฬิตํ นิจฺจมโห จ รตฺตึ;

ปหูตมาลฺยํ พหุปุปฺผฉนฺนํ, โอภาสตี วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๑๕๗๙.

‘‘อนฺเนน ปาเนน อุเปตรูปํ, นจฺเจหิ คีเตหิ จ วาทิเตหิ;

ปริปูรํ กฺาหิ อลงฺกตาหิ, อุปโสภติ วตฺถปิลนฺธเนนา’’ติ.

ตตฺถ หนฺท จาติ นิปาตมตฺตเมว. านนฺติ นาคราชสฺส วสนฏฺานํ. นฬิฺนฺติ นฬินิยํ นาม ราชธานิยํ. จริตํ คเณนาติ ตํ นาคกฺานํ คเณน จริตํ. นิกีฬิตนฺติ นิจฺจํ อโห จ รตฺติฺจ นาคกฺาหิ กีฬิตานุกีฬิตํ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ปุณฺณโก มหาสตฺตํ อสฺสปิฏฺํ อาโรเปตฺวา ตตฺถ เนสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๕๘๐.

‘‘โส ปุณฺณโก กุรูนํ กตฺตุเสฏฺํ, นิสีทยี ปจฺฉโต อาสนสฺมึ;

อาทาย กตฺตารมโนมปฺํ, อุปานยี ภวนํ นาครฺโ.

๑๕๘๑.

‘‘ปตฺวาน านํ อตุลานุภาวํ, อฏฺาสิ กตฺตา ปจฺฉโต ปุณฺณกสฺส;

สามคฺคิเปกฺขมาโน นาคราชา, ปุพฺเพว ชามาตรมชฺฌภาสถา’’ติ.

ตตฺถ โส ปุณฺณโกติ ภิกฺขเว, โส เอวํ นาคภวนํ วณฺเณตฺวา ปณฺฑิตํ อตฺตโน อาชฺํ อาโรเปตฺวา นาคภวนํ เนสิ. านนฺติ นาคราชสฺส วสนฏฺานํ. ปจฺฉโต ปุณฺณกสฺสาติ ปุณฺณกสฺส กิร เอตทโหสิ ‘‘สเจ นาคราชา ปณฺฑิตํ ทิสฺวา มุทุจิตฺโต ภวิสฺสติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ, ตสฺส ตํ อปสฺสนฺตสฺเสว สินฺธวํ อาโรเปตฺวา อาทาย คมิสฺสามี’’ติ. อถ นํ ปจฺฉโต เปสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉโต ปุณฺณกสฺสา’’ติ. สามคฺคิเปกฺขมาโนติ สามคฺคึ อเปกฺขมาโน. ‘‘สามํ อเปกฺขี’’ติปิ ปาโ, อตฺตโน ชามาตรํ ปสฺสิตฺวา ปมตรํ สยเมว อชฺฌภาสถาติ อตฺโถ.

นาคราชา อาห –

๑๕๘๒.

‘‘ยนฺนุ ตุวํ อคมา มจฺจโลกํ, อนฺเวสมาโน หทยํ ปณฺฑิตสฺส;

กจฺจิ สมิทฺเธน อิธานุปตฺโต, อาทาย กตฺตารมโนมปฺ’’นฺติ.

ตตฺถ กจฺจิ สมิทฺเธนาติ กจฺจิ เต มโนรเถน สมิทฺเธน นิปฺผนฺเนน อิธาคโตสีติ ปุจฺฉติ.

ปุณฺณโก อาห –

๑๕๘๓.

‘‘อยฺหิ โส อาคโต ยํ ตฺวมิจฺฉสิ, ธมฺเมน ลทฺโธ มม ธมฺมปาโล;

ตํ ปสฺสถ สมฺมุขา ภาสมานํ, สุโข หเว สปฺปุริเสหิ สงฺคโม’’ติ.

ตตฺถ ยํ ตฺวมิจฺฉสีติ ยํ ตฺวํ อิจฺฉสิ. ‘‘ยนฺตุ มิจฺฉสี’’ติปิ ปาโ. สมฺมุขา ภาสมานนฺติ ตํ โลกสกฺกตํ ธมฺมปาลํ อิทานิ มธุเรน สเรน ธมฺมํ ภาสมานํ สมฺมุขาว ปสฺสถ, สปฺปุริเสหิ เอกฏฺาเน สมาคโม หิ นาม สุโข โหตีติ.

กาฬาคิริกณฺฑํ นิฏฺิตํ.

ตโต นาคราชา มหาสตฺตํ ทิสฺวา คาถมาห –

๑๕๘๔.

‘‘อทิฏฺปุพฺพํ ทิสฺวาน, มจฺโจ มจฺจุภยฏฺฏิโต;

พฺยมฺหิโต นาภิวาเทสิ, นยิทํ ปฺวตามิวา’’ติ.

ตตฺถ พฺยมฺหิโตติ ภีโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปณฺฑิต, ตฺวํ อทิฏฺปุพฺพํ นาคภวนํ ทิสฺวา มรณภเยน อฏฺฏิโต ภีโต หุตฺวา ยํ มํ นาภิวาเทสิ, อิทํ การณํ ปฺวนฺตานํ น โหตีติ.

เอวํ วนฺทนํ ปจฺจาสีสนฺตํ นาคราชานํ มหาสตฺโต ‘‘น ตฺวํ มยา วนฺทิตพฺโพ’’ติ อวตฺวาว อตฺตโน าณวนฺตตาย อุปายโกสลฺเลน ‘‘อหํ วชฺฌปฺปตฺตภาเวน นํ ตํ วนฺทามี’’ติ วทนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๕๘๕.

‘‘น จมฺหิ พฺยมฺหิโต นาค, น จ มจฺจุภยฏฺฏิโต;

น วชฺโฌ อภิวาเทยฺย, วชฺฌํ วา นาภิวาทเย.

๑๕๘๖.

‘‘กถํ โน อภิวาเทยฺย, อภิวาทาปเยถ เว;

ยํ นโร หนฺตุมิจฺเฉยฺย, ตํ กมฺมํ นุปปชฺชตี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – เนวาหํ, นาคราช, อทิฏฺปุพฺพํ นาคภวนํ ทิสฺวา ภีโต, น มรณภยฏฺฏิโต. มาทิสสฺส หิ มรณภยํ นาม นตฺถิ, วชฺโฌ ปน อภิวาเทตุํ, วชฺฌํ วา อวชฺโฌปิ อภิวาทาเปตุํ น ลภติ. ยฺหิ นโร หนฺตุมิจฺเฉยฺย, โส ตํ กถํ นุ อภิวาเทยฺย, กถํ วา เตน อตฺตานํ อภิวาทาปเยถ เว. ตสฺส หิ ตํ กมฺมํ น อุปปชฺชติ. ตฺวฺจ กิร มํ มาราเปตุํ อิมํ อาณาเปสิ, กถาหํ ตํ วนฺทาธีติ.

ตํ สุตฺวา นาคราชา มหาสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๕๘๗.

‘‘เอวเมตํ ยถา พฺรูสิ, สจฺจํ ภาสสิ ปณฺฑิต;

น วชฺโฌ อภิวาเทยฺย, วชฺฌํ วา นาภิวาทเย.

๑๕๘๘.

กถํ โน อภิวาเทยฺย, อภิวาทาปเยถ เว;

ยํ นโร หนฺตุมิจฺเฉยฺย, ตํ กมฺมํ นุปปชฺชตี’’ติ.

อิทานิ มหาสตฺโต นาคราเชน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห –

๑๕๘๙.

‘‘อสสฺสตํ สสฺสตํ นุ ตวยิทํ, อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, กถํ นุ เต ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๕๙๐.

‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํกตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

อกฺขาหิ เม นาคราเชตมตฺถํ, ยเถว เต ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.

ตตฺถ ตวยิทนฺติ อิทํ ตว ยสชาตํ, วิมานํ วา อสสฺสตํ สสฺสตสทิสํ, ‘‘มา โข ยสํ นิสฺสาย ปาปมกาสี’’ติ อิมินา ปเทน อตฺตโน ชีวิตํ ยาจติ. อิทฺธีติ นาคอิทฺธิ จ นาคชุติ จ กายพลฺจ เจตสิกวีริยฺจ นาคภวเน อุปปตฺติ จ ยฺจ เต อิทํ วิมานํ, ปุจฺฉามิ ตํ นาคราช, เอตมตฺถํ, กถํ นุ เต อิทํ สพฺพํ ลทฺธนฺติ. อธิจฺจลทฺธนฺติ กึ นุ ตยา อิทํ วิมานํ เอวํ สมฺปนฺนํ อธิจฺจ อการเณน ลทฺธํ, อุทาหุ อุตุปริณามชํ เต อิทํ, อุทาหุ สยํ สหตฺเถเนว กตํ, อุทาหุ เทเวหิ เต ทินฺนํ, ยเถว เต อิทํ ลทฺธํ, เอตํ เม อตฺถํ อกฺขาหีติ.

ตํ สุตฺวา นาคราชา อาห –

๑๕๙๑.

‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํกตํ นาปิ เทเวหิ ทินฺนํ;

สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.

ตตฺถ อปาปเกหีติ อลามเกหิ.

ตโต มหาสตฺโต อาห –

๑๕๙๒.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ, อิทฺจ เต นาค มหาวิมาน’’นฺติ.

ตตฺถ กึ เต วตนฺติ นาคราช, ปุริมภเว ตว กึ วตํ อโหสิ, โก ปน พฺรหฺมจริยวาโส, กตรสฺส สุจริตสฺเสเวส อิทฺธิอาทิโก วิปาโกติ.

ตํ สุตฺวา นาคราชา อาห –

๑๕๙๓.

‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก, สทฺธา อุโภ ทานปตี อหุมฺหา;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

๑๕๙๔.

‘‘มาลฺจ คนฺธฺจ วิเลปนฺจ, ปทีปิยํ เสยฺยมุปสฺสยฺจ;

อจฺฉาทนํ สายนมนฺนปานํ, สกฺกจฺจ ทานานิ อทมฺห ตตฺถ.

๑๕๙๕.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ, อิทฺจ เม ธีร มหาวิมาน’’นฺติ.

ตตฺถ มนุสฺสโลเกติ องฺครฏฺเ กาลจมฺปานคเร. ตํ เม วตนฺติ ตํ สกฺกจฺจํ ทินฺนทานเมว มยฺหํ วตฺตสมาทานฺจ พฺรหฺมจริยฺจ อโหสิ, ตสฺเสว สุจริตสฺส อยํ อิทฺธาทิโก วิปาโกติ.

มหาสตฺโต อาห –

๑๕๙๖.

‘‘เอวํ เจ เต ลทฺธมิทํ วิมานํ, ชานาสิ ปุฺานํ ผลูปปตฺตึ;

ตสฺมา หิ ธมฺมํ จร อปฺปมตฺโต, ยถา วิมานํ ปุน มาวเสสี’’ติ.

ตตฺถ ชานาสีติ สเจ ตยา ทานานุภาเวน ตํ ลทฺธํ, เอวํ สนฺเต ชานาสิ นาม ปุฺานํ ผลฺจ ปุฺผเลน นิพฺพตฺตํ อุปปตฺติฺจ. ตสฺมา หีติ ยสฺมา ปุฺเหิ ตยา อิทํ ลทฺธํ, ตสฺมา. ปุน มาวเสสีติ ปุนปิ ยถา อิมํ นาคภวนํ อชฺฌาวสสิ, เอวํ ธมฺมํ จร.

ตํ สุตฺวา นาคราชา อาห –

๑๕๙๗.

‘‘นยิธ สนฺติ สมณพฺราหฺมณา จ, เยสนฺนปานานิ ทเทมุ กตฺเต;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, ยถา วิมานํ ปุน มาวเสมา’’ติ.

มหาสตฺโต อาห –

๑๕๙๘.

‘‘โภคี หิ เต สนฺติ อิธูปปนฺนา, ปุตฺตา จ ทารา อนุชีวิโน จ;

เตสุ ตุวํ วจสา กมฺมุนา จ, อสมฺปทุฏฺโ จ ภวาหิ นิจฺจํ.

๑๕๙๙.

‘‘เอวํ ตุวํ นาค อสมฺปโทสํ, อนุปาลย วจสา กมฺมุนา จ;

ตฺวา อิธ ยาวตายุกํ วิมาเน, อุทฺธํ อิโต คจฺฉสิ เทวโลก’’นฺติ.

ตตฺถ โภคีติ โภคิโน, นาคาติ อตฺโถ. เตสูติ เตสุ ปุตฺตทาราทีสุ โภคีสุ วาจาย กมฺเมน จ นิจฺจํ อสมฺปทุฏฺโ ภว. อนุปาลยาติ เอวํ ปุตฺตาทีสุ เจว เสสสตฺเตสุ จ เมตฺตจิตฺตสงฺขาตํ อสมฺปโทสํ อนุรกฺข. อุทฺธํ อิโตติ อิโต นาคภวนโต จุโต อุปริเทวโลกํ คมิสฺสติ. เมตฺตจิตฺตฺหิ ทานโต อติเรกตรํ ปุฺนฺติ.

ตโต นาคราชา มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา ปณฺฑิเตน พหิ ปปฺจํ กาตุํ, วิมลาย ทสฺเสตฺวา สุภาสิตํ สาเวตฺวา โทหฬํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา ธนฺจยราชานํ หาเสนฺโต ปณฺฑิตํ เปเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๖๐๐.

‘‘อทฺธา หิ โส โสจติ ราชเสฏฺโ, ตยา วินา ยสฺส ตุวํ สชิพฺโพ;

ทุกฺขูปนีโตปิ ตยา สเมจฺจ, วินฺเทยฺย โปโส สุขมาตุโรปี’’ติ.

ตตฺถ สชิพฺโพติ สชีโว อมจฺโจ. สเมจฺจาติ ตยา สห สมาคนฺตฺวา. อาตุโรปีติ พาฬฺหคิลาโนปิ สมาโน.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต นาคราชสฺส ถุตึ กโรนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๑๖๐๑.

‘‘อทฺธา สตํ ภาสสิ นาค ธมฺมํ, อนุตฺตรํ อตฺถปทํ สุจิณฺณํ;

เอตาทิสิยาสุ หิ อาปทาสุ, ปฺายเต มาทิสานํ วิเสโส’’ติ.

ตตฺถ อทฺธา สตนฺติ เอกํเสน สนฺตานํ ปณฺฑิตานํ ธมฺมํ ภาสสิ. อตฺถปทนฺติ หิตโกฏฺาสํ. เอตาทิสิยาสูติ เอวรูปาสุ อาปทาสุ เอตาทิเส ภเย อุปฏฺิเต มาทิสานํ ปฺวนฺตานํ วิเสโส ปฺายติ.

ตํ สุตฺวา นาคราชา อติเรกตรํ ตุฏฺโ ตเมว ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๖๐๒.

‘‘อกฺขาหิ โน ตายํ มุธา นุ ลทฺโธ, อกฺเขหิ โน ตายํ อเชสิ ชูเต;

ธมฺเมน ลทฺโธ อิติ ตายมาห, กถํ นุ ตฺวํ หตฺถมิมสฺส มาคโต’’ติ.

ตตฺถ อกฺขาหิ โนติ อาจิกฺข อมฺหากํ. ตายนฺติ ตํ อยํ. มุธา นุ ลทฺโธติ กึ นุ โข มุธา อมูลเกเนว ลภิ, อุทาหุ ชูเต อเชสิ. อิติ ตายมาหาติ อยํ ปุณฺณโก ‘‘ธมฺเมน เม ปณฺฑิโต ลทฺโธ’’ติ วทติ. กถํ นุ ตฺวํ หตฺถมิมสฺส มาคโตติ ตฺวํ กถํ อิมสฺส หตฺถํ อาคโตสิ.

มหาสตฺโต อาห –

๑๖๐๓.

‘‘โย มิสฺสโร ตตฺถ อโหสิ ราชา, ตมายมกฺเขหิ อเชสิ ชูเต;

โส มํ ชิโต ราชา อิมสฺสทาสิ, ธมฺเมน ลทฺโธสฺมิ อสาหเสนา’’ติ.

ตตฺถ โย มิสฺสโรติ โย มํ อิสฺสโร. อิมสฺสทาสีติ อิมสฺส ปุณฺณกสฺส อทาสิ.

ตํ สุตฺวา นาคราชา ตุฏฺโ อโหสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๐๔.

‘‘มโหรโค อตฺตมโน อุทคฺโค, สุตฺวาน ธีรสฺส สุภาสิตานิ;

หตฺเถ คเหตฺวาน อโนมปฺํ, ปาเวกฺขิ ภริยาย ตทา สกาเส.

๑๖๐๕.

‘‘เยน ตฺวํ วิมเล ปณฺฑุ, เยน ภตฺตํ น รุจฺจติ;

น จ เมตาทิโส วณฺโณ, อยเมโส ตโมนุโท.

๑๖๐๖.

‘‘ยสฺส เต หทเยนตฺโถ, อาคตายํ ปภงฺกโร;

ตสฺส วากฺยํ นิสาเมหิ, ทุลฺลภํ ทสฺสนํ ปุนา’’ติ.

ตตฺถ ปาเวกฺขีติ ปวิฏฺโ. เยนาติ ภทฺเท วิมเล, เยน การเณน ตฺวํ ปณฺฑุ เจว, น จ เต ภตฺตํ รุจฺจติ. น จ เมตาทิโส วณฺโณติ ปถวิตเล วา เทวโลเก วา น จ ตาทิโส วณฺโณ อฺสฺส กสฺสจิ อตฺถิ, ยาทิโส เอตสฺส คุณวณฺโณ ปตฺถโฏ. อยเมโส ตโมนุโทติ ยํ นิสฺสาย ตว โทหโฬ อุปฺปนฺโน, อยเมว โส สพฺพโลกสฺส ตโมนุโท. ปุนาติ ปุน เอตสฺส ทสฺสนํ นาม ทุลฺลภนฺติ วทติ.

วิมลาปิ ตํ ทิสฺวา ปฏิสนฺถารํ อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๐๗.

‘‘ทิสฺวาน ตํ วิมลา ภูริปฺํ, ทสงฺคุลี อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา;

หฏฺเน ภาเวน ปตีตรูปา, อิจฺจพฺรวิ กุรูนํ กตฺตุเสฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ หฏฺเน ภาเวนาติ ปหฏฺเน จิตฺเตน. ปตีตรูปาติ โสมนสฺสชาตา.

อิโต ปรํ วิมลาย จ มหาสตฺตสฺส จ วจนปฺปฏิวจนคาถา –

๑๖๐๘.

‘‘อทิฏฺปุพฺพํ ทิสฺวาน, มจฺโจ มจฺจุภยฏฺฏิโต;

พฺยมฺหิโต นาภิวาเทสิ, นยิทํ ปฺวตามิว.

๑๖๐๙.

‘‘น จมฺหิ พฺยมฺหิโต นาคิ, น จ มจฺจุภยฏฺฏิโต;

น วชฺโฌ อภิวาเทยฺย, วชฺฌํ วา นาภิวาทเย.

๑๖๑๐.

‘‘กถํ โน อภิวาเทยฺย, อภิวาทาปเยถ เว;

ยํ นโร หนฺตุมิจฺเฉยฺย, ตํ กมฺมํ นุปปชฺชติ.

๑๖๑๑.

‘‘เอวเมตํ ยถา พฺรูสิ, สจฺจํ ภาสสิ ปณฺฑิต;

น วชฺโฌ อภิวาเทยฺย, วชฺฌํ วา นาภิวาทเย.

๑๖๑๒.

‘‘กถํ โน อภิวาเทยฺย, อภิวาทาปเยถ เว;

ยํ นโร หนฺตุมิจฺเฉยฺย, ตํ กมฺมํ นุปปชฺชติ.

๑๖๑๓.

‘‘อสสฺสตํ สสฺสตํ นุ ตวยิทํ, อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคกฺเตมตฺถํ, กถํ นุ เต ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๖๑๔.

‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํกตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

อกฺขาหิ เม นาคกฺเตมตฺถํ, ยเถว เต ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๖๑๕.

‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํกถํ นาปิ เทเวหิ ทินฺนํ;

สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๖๑๖.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ, อิทฺจ เต นาคิ มหาวิมานํ.

๑๖๑๗.

‘‘อหฺจ โข สามิโก จาปิ มยฺหํ, สทฺธา อุโภ ทานปตี อหุมฺหา;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

๑๖๑๘.

‘‘มาลฺจ คนฺธฺจ วิเลปนฺจ, ปทีปิยํ เสยฺยมุปสฺสยฺจ;

อจฺฉาทนํ สายนมนฺนปานํ, สกฺกจฺจ ทานานิ อทมฺห ตตฺถ.

๑๖๑๙.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ, อิทฺจ เม ธีร มหาวิมานํ.

๑๖๒๐.

‘‘เอวํ เจ เต ลทฺธมิทํ วิมานํ, ชานาสิ ปุฺานํ ผลูปปตฺตึ;

ตสฺมา หิ ธมฺมํ จร อปฺปมตฺตา, ยถา วิมานํ ปุน มาวเสสิ.

๑๖๒๑.

‘‘นยิธ สนฺติ สมณพฺราหฺมณา จ, เยสนฺนปานานิ ทเทมุ กตฺเต;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, ยถา วิมานํ ปุน มาวเสม.

๑๖๒๒.

‘‘โภคี หิ เต สนฺติ อิธูปปนฺนา, ปุตฺตา จ ทารา อนุชีวิโน จ;

เตสุ ตุวํ วจสา กมฺมุนา จ, อสมฺปทุฏฺา จ ภวาหิ นิจฺจํ.

๑๖๒๓.

‘‘เอวํ ตุวํ นาคิ อสมฺปโทสํ, อนุปาลย วจสา กมฺมุนา จ;

ตฺวา อิธ ยาวตายุกํ วิมาเน, อุทฺธํ อิโต คจฺฉสิ เทวโลกํ.

๑๖๒๔.

‘‘อทฺธา หิ โส โสจติ ราชเสฏฺโ, ตยา วินา ยสฺส ตุวํ สชิพฺโพ;

ทุกฺขูปนีโตปิ ตยา สเมจฺจ, วินฺเทยฺย โปโส สุขมาตุโรปิ.

๑๖๒๕.

‘‘อทฺธา สตํ ภาสสิ นาคิ ธมฺมํ, อนุตฺตรํ อตฺถปทํ สุจิณฺณํ;

เอตาทิสิยาสุ หิ อาปทาสุ, ปฺายเต มาทิสานํ วิเสโส.

๑๖๒๖.

‘‘อกฺขาหิ โน ตายํ มุธา นุ ลทฺโธ, อกฺเขหิ โน ตายํ อเชสิ ชูเต;

ธมฺเมน ลทฺโธ อิติ ตายมาห, กถํ นุ ตฺวํ หตฺถมิมสฺส มาคโต.

๑๖๒๗.

‘‘โย มิสฺสโร ตตฺถ อโหสิ ราชา, ตมายมกฺเขหิ อเชสิ ชูเต;

โส มํ ชิโต ราชา อิมสฺสทาสิ, ธมฺเมน ลทฺโธสฺมิ อสาหเสนา’’ติ.

อิมาสํ คาถานํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

มหาสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา อติเรกตรํ ตุฏฺา วิมลา มหาสตฺตํ คเหตฺวา สหสฺสคนฺโธทกฆเฏหิ นฺหาเปตฺวา นฺหานกาเล มหาสตฺตสฺส ทิพฺพทุสฺสทิพฺพคนฺธมาลาทีนิ ทตฺวา อลงฺกตปฺปฏิยตฺตกาเล ทิพฺพโภชนํ โภเชสิ. มหาสตฺโต ภุตฺตโภชโน อลงฺกตาสนํ ปฺาเปตฺวา อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา พุทฺธลีลาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๒๘.

‘‘ยเถว วรุโณ นาโค, ปฺหํ ปุจฺฉิตฺถ ปณฺฑิตํ;

ตเถว นาคกฺาปิ, ปฺหํ ปุจฺฉิตฺถ ปณฺฑิตํ.

๑๖๒๙.

‘‘ยเถว วรุณํ นาคํ, ธีโร โตเสสิ ปุจฺฉิโต;

ตเถว นาคกฺมฺปิ, ธีโร โตเสสิ ปุจฺฉิโต.

๑๖๓๐.

‘‘อุโภปิ เต อตฺตมเน วิทิตฺวา, มโหรคํ นาคกฺฺจ ธีโร;

อฉมฺภี อภีโต อโลมหฏฺโ, อิจฺจพฺรวิ วรุณํ นาคราชานํ.

๑๖๓๑.

‘‘มา โรธยิ นาค อายาหมสฺมิ, เยน ตวตฺโถ อิทํ สรีรํ;

หทเยน มํเสน กโรหิ กิจฺจํ, สยํ กริสฺสามิ ยถามติ เต’’ติ.

ตตฺถ อฉมฺภีติ นิกฺกมฺโป. อโลมหฏฺโติ ภเยน อหฏฺโลโม. อิจฺจพฺรวีติ วีมํสนวเสน อิติ อพฺรวิ. มา โรธยีติ ‘‘มิตฺตทุพฺภิกมฺมํ กโรมี’’ติ มา ภายิ, ‘‘กถํ นุ โข อิมํ อิทานิ มาเรสฺสามี’’ติ วา มา จินฺตยิ. นาคาติ วรุณํ อาลปติ. อายาหมสฺมีติ อาโย อหํ อสฺมิ, อยเมว วา ปาโ. สยํ กริสฺสามีติ สเจ ตฺวํ ‘‘อิมสฺส สนฺติเก อิทานิ ธมฺโม เม สุโต’’ติ มํ มาเรตุํ น วิสหสิ, อหเมว ยถา ตว อชฺฌาสโย, ตถา สยํ กริสฺสามีติ.

นาคราชา อาห –

๑๖๓๒.

‘‘ปฺา หเว หทยํ ปณฺฑิตานํ, เต ตฺยมฺห ปฺาย มยํ สุตุฏฺา;

อนูนนาโม ลภตชฺช ทารํ, อชฺเชว ตํ กุรุโย ปาปยาตู’’ติ.

ตตฺถ เต ตฺยมฺหาติ เต มยํ ตว ปฺาย สุตุฏฺา. อนูนนาโมติ สมฺปุณฺณนาโม ปุณฺณโก ยกฺขเสนาปติ. ลภตชฺช ทารนฺติ ลภตุ อชฺช ทารํ, ททามิ อสฺส ธีตรํ อิรนฺธตึ. ปาปยาตูติ อชฺเชว ตํ กุรุรฏฺํ ปุณฺณโก ปาเปตุ.

เอวฺจ ปน วตฺวา วรุโณ นาคราชา อิรนฺธตึ ปุณฺณกสฺส อทาสิ. โส ตํ ลภิตฺวา ตุฏฺจิตฺโต มหาสตฺเตน สทฺธึ สลฺลปิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๓๓.

‘‘ส ปุณฺณโก อตฺตมโน อุทคฺโค, อิรนฺธตึ นาคกฺํ ลภิตฺวา;

หฏฺเน ภาเวน ปตีตรูโป, อิจฺจพฺรวิ กุรูนํ กตฺตุเสฏฺํ.

๑๖๓๔.

‘‘ภริยาย มํ ตฺวํ อกริ สมงฺคึ, อหฺจ เต วิธุร กโรมิ กิจฺจํ;

อิทฺจ เต มณิรตนํ ททามิ, อชฺเชว ตํ กุรุโย ปาปยามี’’ติ.

ตตฺถ มณิรตนนฺติ ปณฺฑิต, อหํ ตว คุเณสุ ปสนฺโน อรหามิ ตว อนุจฺฉวิกํ กิจฺจํ กาตุํ, ตสฺมา อิมฺจ เต จกฺกวตฺติปริโภคํ มณิรตนํ เทมิ, อชฺเชว ตํ อินฺทปตฺถํ ปาเปมีติ.

อถ มหาสตฺโต ตสฺส ถุตึ กโรนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๑๖๓๕.

‘‘อเชยฺยเมสา ตว โหตุ เมตฺติ, ภริยาย กจฺจาน ปิยาย สทฺธึ;

อานนฺทิ วิตฺโต สุมโน ปตีโต, ทตฺวา มณึ มฺจ นยินฺทปตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ อเชยฺยเมสาติ เอสา ตว ภริยาย สทฺธึ ปิยสํวาสเมตฺติ อเชยฺยา โหตุ. ‘‘อานนฺทิ วิตฺโต’’ติอาทีหิ ปีติสมงฺคิภาวเมวสฺส วทติ. นยินฺทปตฺถนฺติ นย อินฺทปตฺถํ.

ตํ สุตฺวา ปุณฺณโก ตถา อกาสิ. เตน วุตฺตํ –

๑๖๓๖.

‘‘ส ปุณฺณโก กุรูนํ กตฺตุเสฏฺํ, นิสีทยี ปุรโต อาสนสฺมึ;

อาทาย กตฺตารมโนมปฺํ, อุปานยี นครํ อินฺทปตฺถํ.

๑๖๓๗.

‘‘มโน มนุสฺสสฺส ยถาปิ คจฺเฉ, ตโตปิสฺส ขิปฺปตรํ อโหสิ;

ส ปุณฺณโก กุรูนํ กตฺตุเสฏฺํ, อุปานยี นครํ อินฺทปตฺถํ.

๑๖๓๘.

‘‘เอตินฺทปตฺถํ นครํ ปทิสฺสติ, รมฺมานิ จ อมฺพวนานิ ภาคโส;

อหฺจ ภริยาย สมงฺคิภูโต, ตุวฺจ ปตฺโตสิ สกํ นิเกต’’นฺติ.

ตตฺถ ยถาปิ คจฺเฉติ มโน นาม กิฺจาปิ น คจฺฉติ, ทูเร อารมฺมณํ คณฺหนฺโต ปน คโตติ วุจฺจติ, ตสฺมา มนสฺส อารมฺมณคฺคหณโตปิ ขิปฺปตรํ ตสฺส มโนมยสินฺธวสฺส คมนํ อโหสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอตินฺทปตฺถนฺติ อสฺสปิฏฺเ นิสินฺโนเยวสฺส ทสฺเสนฺโต เอวมาห. สกํ นิเกตนฺติ ตฺวฺจ อตฺตโน นิเวสนํ สมฺปตฺโตติ อาห.

ตสฺมึ ปน ทิวเส ปจฺจูสกาเล ราชา สุปินํ อทฺทส. เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – รฺโ นิเวสนทฺวาเร ปฺากฺขนฺโธ สีลมยสาโข ปฺจโครสผโล อลงฺกตหตฺถิควาสฺสปฏิจฺฉนฺโน มหารุกฺโข ิโต. มหาชโน ตสฺส สกฺการํ กตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมาโน อฏฺาสิ. อเถโก กณฺหปุริโส ผรุโส รตฺตสาฏกนิวตฺโถ รตฺตปุปฺผกณฺณธโร อาวุธหตฺโถ อาคนฺตฺวา มหาชนสฺส ปริเทวนฺตสฺเสว ตํ รุกฺขํ สมูลํ ฉินฺทิตฺวา อากฑฺฒนฺโต อาทาย คนฺตฺวา ปุน ตํ อาหริตฺวา ปกติฏฺาเนเยว เปตฺวา ปกฺกามีติ. ราชา ตํ สุปินํ ปริคฺคณฺหนฺโต ‘‘มหารุกฺโข วิย น อฺโ โกจิ, วิธุรปณฺฑิโต. มหาชนสฺส ปริเทวนฺตสฺเสว ตํ สมูลํ ฉินฺทิตฺวา อาทาย คตปุริโส วิย น อฺโ โกจิ, ปณฺฑิตํ คเหตฺวา คตมาณโว. ปุน ตํ อาหริตฺวา ปกติฏฺาเนเยว เปตฺวา คโต วิย โส มาณโว ปุน ตํ ปณฺฑิตํ อาเนตฺวา ธมฺมสภาย ทฺวาเร เปตฺวา ปกฺกมิสฺสติ. อทฺธา อชฺช มยํ ปณฺฑิตํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา โสมนสฺสปตฺโต สกลนครํ อลงฺการาเปตฺวา ธมฺมสภํ สชฺชาเปตฺวา อลงฺกตรตนมณฺฑเป ธมฺมาสนํ ปฺาเปตฺวา เอกสตราชอมจฺจคณนครวาสิชานปทปริวุโต ‘‘อชฺช ตุมฺเห ปณฺฑิตํ ปสฺสิสฺสถ, มา โสจิตฺถา’’ติ มหาชนํ อสฺสาเสตฺวา ปณฺฑิตสฺส อาคมนํ โอโลเกนฺโต ธมฺมสภายํ นิสีทิ. อมจฺจาทโยปิ นิสีทึสุ. ตสฺมึ ขเณ ปุณฺณโกปิ ปณฺฑิตํ โอตาเรตฺวา ธมฺมสภาย ทฺวาเร ปริสมชฺเฌเยว เปตฺวา อิรนฺธตึ อาทาย เทวนครเมว คโต. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๓๙.

‘‘น ปุณฺณโก กุรูนํ กตฺตุเสฏฺํ, โอโรปิย ธมฺมสภาย มชฺเฌ;

อาชฺมารุยฺห อโนมวณฺโณ, ปกฺกามิ เวหายสมนฺตลิกฺเข.

๑๖๔๐.

‘‘ตํ ทิสฺวา ราชา ปรมปฺปตีโต, อุฏฺาย พาหาหิ ปลิสฺสชิตฺวา;

อวิกมฺปยํ ธมฺมสภาย มชฺเฌ, นิสีทยี ปมุขมาสนสฺมิ’’นฺติ.

ตตฺถ อโนมวณฺโณติ อหีนวณฺโณ อุตฺตมวณฺโณ. อวิกมฺปยนฺติ ภิกฺขเว, โส ราชา ปณฺฑิตํ ปลิสฺสชิตฺวา มหาชนมชฺเฌ อวิกมฺปนฺโต อโนลียนฺโตเยว หตฺเถ คเหตฺวา อตฺตโน อภิมุขํ กตฺวา อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทาเปสิ.

อถ ราชา เตน สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๖๔๑.

‘‘ตฺวํ โน วิเนตาสิ รถํว นทฺธํ, นนฺทนฺติ ตํ กุรุโย ทสฺสเนน;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, กถํ ปโมกฺโข อหุ มาณวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ นทฺธนฺติ ยถา นทฺธํ รถํ สารถิ วิเนติ, เอวํ ตฺวํ อมฺหากํ การเณน นเยน หิตกิริยาสุ วิเนตา. นนฺทนฺติ ตนฺติ ตํ ทิสฺวาว อิเม กุรุรฏฺวาสิโน ตว ทสฺสเนน นนฺทนฺติ. มาณวสฺสาติ มาณวสฺส สนฺติกา กถํ ตว ปโมกฺโข อโหสิ? โย วา ตํ มุฺจนฺตสฺส มาณวสฺส ปโมกฺโข, โส เกน การเณน อโหสีติ อตฺโถ.

มหาสตฺโต อาห –

๑๖๔๒.

‘‘ยํ มาณโวตฺยาภิวที ชนินฺท, น โส มนุสฺโส นรวีรเสฏฺ;

ยทิ เต สุโต ปุณฺณโก นาม ยกฺโข, รฺโ กุเวรสฺส หิ โส สชิพฺโพ.

๑๖๔๓.

‘‘ภูมินฺธโร วรุโณ นาม นาโค, พฺรหา สุจี วณฺณพลูปปนฺโน;

ตสฺสานุชํ ธีตรํ กามยาโน, อิรนฺธตี นาม สา นาคกฺา.

๑๖๔๔.

‘‘ตสฺสา สุมชฺฌาย ปิยาย เหตุ, ปตารยิตฺถ มรณาย มยฺหํ;

โส เจว ภริยาย สมงฺคิภูโต, อหฺจ อนุฺาโต มณิ จ ลทฺโธ’’ติ.

ตตฺถ ยํ มาณโวตฺยาภิวทีติ ชนินฺท ยํ ตฺวํ ‘‘มาณโว’’ติ อภิวทสิ. ภูมินฺธโรติ ภูมินฺธรนาคภวนวาสี. สา นาคกฺาติ ยํ นาคกฺํ โส ปตฺถยมาโน มม มรณาย ปตารยิ จิตฺตํ ปวตฺเตสิ, สา นาคกฺา อิรนฺธตี นาม. ปิยาย เหตูติ มหาราช, โส หิ นาคราชา จตุปฺโปสถิกปฺหวิสฺสชฺชเน ปสนฺโน มํ มณินา ปูเชตฺวา นาคภวนํ คโต วิมลาย นาม เทวิยา ตํ มณึ อทิสฺวา ‘‘เทว, กุหึ มณี’’ติ ปุจฺฉิโต มม ธมฺมกถิกภาวํ วณฺเณสิ. สา มยฺหํ ธมฺมกถํ โสตุกามา หุตฺวา มม หทเย โทหฬํ อุปฺปาเทสิ. นาคราชา ทุคฺคหิเตน ปน ธีตรํ อิรนฺธตึ อาห – ‘‘มาตา, เต วิธุรสฺส หทยมํเส โทหฬินี, ตสฺส หทยมํสํ อาหริตุํ สมตฺถํ สามิกํ ปริเยสาหี’’ติ. สา ปริเยสนฺตี เวสฺสวณสฺส ภาคิเนยฺยํ ปุณฺณกํ นาม ยกฺขํ ทิสฺวา ตํ อตฺตนิ ปฏิพทฺธจิตฺตํ ตฺวา ปิตุ สนฺติกํ เนสิ. อถ นํ โส ‘‘วิธุรปณฺฑิตสฺส หทยมํสํ อาหริตุํ สกฺโกนฺโต อิรนฺธตึ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. ปุณฺณโก เวปุลฺลปพฺพตโต จกฺกวตฺติปริโภคํ มณิรตนํ อาหริตฺวา ตุมฺเหหิ สทฺธึ ชูตํ กีฬิตฺวา มํ ชินิตฺวา ลภิ. อหฺจ มม นิเวสเน ตีหํ วสาเปตฺวา มหนฺตํ สกฺการํ อกาสึ. โสปิ มํ อสฺสวาลธึ คาหาเปตฺวา หิมวนฺเต รุกฺเขสุ จ ปพฺพเตสุ จ โปเถตฺวา มาเรตุํ อสกฺโกนฺโต สตฺตเม วาตกฺขนฺเธ เวรมฺภวาตมุเข จ ปกฺขนฺทิตฺวา อนุปุพฺเพน สฏฺิโยชนุพฺเพเธ กาฬาคิริมตฺถเก เปตฺวา สีหเวสาทิวเสน อิทฺจิทฺจ รูปํ กตฺวาปิ มาเรตุํ อสกฺโกนฺโต มยา อตฺตโน มารณการณํ ปุฏฺโ อาจิกฺขิ. อถสฺสาหํ สาธุนรธมฺเม กเถสึ. ตํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต มํ อิธ อาเนตุกาโม อโหสิ.

อถาหํ ตํ อาทาย นาคภวนํ คนฺตฺวา นาครฺโ จ วิมลาย จ ธมฺมํ เทเสสึ. ตโต นาคราชา จ วิมลา จ สพฺพนาคปริสา จ ปสีทึสุ. นาคราชา ตตฺถ มยา ฉาหํ วุตฺถกาเล อิรนฺธตึ ปุณฺณกสฺส อทาสิ. โส ตํ ลภิตฺวา ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา มํ มณิรตเนน ปูเชตฺวา นาคราเชน อาณตฺโต มโนมยสินฺธวํ อาโรเปตฺวา สยํ มชฺฌิมาสเน นิสีทิตฺวา อิรนฺธตึ ปจฺฉิมาสเน นิสีทาเปตฺวา มํ ปุริมาสเน นิสีทาเปตฺวา อิธาคนฺตฺวา ปริสมชฺเฌ โอตาเรตฺวา อิรนฺธตึ อาทาย อตฺตโน นครเมว คโต. เอวํ, มหาราช, โส ปุณฺณโก ตสฺสา สุมชฺฌาย ปิยาย เหตุ ปตารยิตฺถ มรณาย มยฺหํ. อเถวํ มํ นิสฺสาย โส เจว ภริยาย สมงฺคิภูโต, มม ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺเนน นาคราเชน อหฺจ อนุฺาโต, ตสฺส ปุณฺณกสฺส สนฺติกา อยํ สพฺพกามทโท จกฺกวตฺติปริโภคมณิ จ ลทฺโธ, คณฺหถ, เทว, อิมํ มณินฺติ รฺโ รตนํ อทาสิ.

ตโต ราชา ปจฺจูสกาเล อตฺตนา ทิฏฺสุปินํ นครวาสีนํ กเถตุกาโม ‘‘โภนฺโต, นครวาสิโน อชฺช มยา ทิฏฺสุปินํ สุณาถา’’ติ วตฺวา อาห –

๑๖๔๕.

‘‘รุกฺโข หิ มยฺหํ ปทฺวาเร สุชาโต, ปฺากฺขนฺโธ สีลมยสฺส สาขา;

อตฺเถ จ ธมฺเม จ ิโต นิปาโก, ควปฺผโล หตฺถิควาสฺสฉนฺโน.

๑๖๔๖.

‘‘นจฺจคีตตูริยาภินาทิเต, อุจฺฉิชฺช เสนํ ปุริโส อหาสิ;

โส โน อยํ อาคโต สนฺนิเกตํ, รุกฺขสฺสิมสฺสาปจิตึ กโรถ.

๑๖๔๗.

‘‘เย เกจิ วิตฺตา มม ปจฺจเยน, สพฺเพว เต ปาตุกโรนฺตุ อชฺช;

ติพฺพานิ กตฺวาน อุปายนานิ, รุกฺขสฺสิมสฺสาปจิตึ กโรถ.

๑๖๔๘.